@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ทุนนิยมสามานย์คือศัตรูตัวร้ายของสาธารณโภคี

รายละเอียด

เราสร้างได้ 100 เราใช้ 20 อีก 80 ให้ผู้อื่นไป อันนี้โก้แล้ว สาธารณโภคี แต่ทางโลก สร้างได้ 10 แล้วเขาก็เอามาเป็นของตน ล้านๆ หรือไม่ได้สร้างเลย ตัวเองได้แต่ใช้ บริวาร ใช้คนอื่นสร้างแล้วตัวเองก็ได้ โลภคือลักษณะของทุนนิยมสามานย์ที่เลวร้ายที่สุด เป็นระบบวิธีทุนนิยมสามานย์เลวร้ายสุด เป็นศัตรูตัวร้ายของสาธารณโภคี สุดคนละขั้ว 

เคยมีคนพูดไว้ว่า อาตมานี้ มาต่อสู้กับเถรสมาคม กับศาสนาคณะใหญ่ อาตมาว่าเปล่า นิดหน่อย อาตมาสู้กับทุนนิยมสามานย์คือคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ ‌ทุนนิยม‌คือ‌ ‌Infinity‌ ‌แต่‌บุญ‌นิยม‌​‌นี้‌ ‌0‌ ‌ยิ่ง‌กว่า‌ ‌0‌ วันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2565 ( 11:05:40 )

ทุนนิยมหรือคนรวยซวยอย่างไร

รายละเอียด

พวกเราทำงานสร้างสรรแล้วไม่เอาค่าจ้างแรงงาน ทำงานสร้างสรรอะไรได้เอาไปขายให้ถูกหรือแจกฟรี พวกนี้มันซับซ้อนทางเศรษฐศาสตร์ ทางทุนนิยมเขาซับซ้อนที่จะบวกเพิ่มเข้าไปไม่รู้กี่ชั้น คนรู้ไม่ทันก็ไปเป็นเหยื่ออยู่นั่นแหละ แล้วความขี้โลภเขามากเท่าไหร่เขาทำได้มากก็นึกว่าเจริญ ร่ำรวยมหาศาล ซึ่งโดยทางธรรมโลกุตระนั้น ซวยๆ แม้คุณจะสุจริต จริงๆแล้วคนรวยมันไม่สุจริตหรอก มันขี้โลภอย่างมีความฉลาด ฉลาดสร้างวิธีโกงให้คนอื่นไม่รู้เท่าทัน แล้วก็เอามาให้ โดยหลอกว่าฉันทำเพื่อคุณ ฉันช่วยเหลือคุณนะ อะไรต่างๆนานา ที่แท้เขาก็โลภเอาๆ 

การเอาไปเป็นสมบัติของตัวมากๆนี้ คนอื่นก็ขาดแคลน ในโลกนี้มีสมบัติกองกลาง ในโลกทั้งโลกมีสมบัติกองกลาง ในโลกลูกนี้ลูกเดียว ใช่ไหม เพราะฉะนั้นอะไรมันจะเกิดขึ้นมาในโลก สมมุติว่าคุณทำงานอะไรไม่เป็นเลย เกิดมาก็กินธรรมชาติ ต้นหมากรากไม้งอกขึ้นมาก็แย่งกันกิน แล้วทุนนิยมก็คือคนที่มีวิธีการแย่งได้มากโดยที่คนอื่นสู้ไม่ได้ เอาวิธีการซับซ้อนแบบทุนนิยม นั่นแหละ คุณก็เป็นคนได้มากมีมาก ไม่ว่าจะเอาเป็นพืชพันธุ์ธัญญาหาร จะเอาแร่เอาน้ำมันจะเอาฟอสซิล จะเอาแก๊สเอาอากาศเอาอะไรก็แล้วแต่คุณเอาได้จากโลกนี้ แล้วคนจะต้องใช้ แม้ในที่สุดมันเอาความร้อนแสงสีเสียงแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ในอากาศ มันมีวิธีเอาได้แล้วคุณต้องซื้อมันหมด เห็นไหมนี่คือความร้อนแสงเสียงแม่เหล็กไฟฟ้าในอากาศ อินเทอร์เน็ต คุณจ่ายทั้งนั้น ใช้มันก็ต้องจ่ายไฟ นายทุนเอาไปกินหมด อย่านึกว่าใช้ฟรีนะ เขาบอกว่าใช้ฟรีไม่ต้องจ่ายตังค์ มันเป็นอย่างนี้หรือ คุณเคาะโป๊กๆอะไรในมือคุณไม่ต้องจ่ายตังค์หรือ 

เห็นไหมว่าความซับซ้อนของพวกนายทุนที่หลอกเอาเงินทุกอย่าง เคาะกู (กูเกิล-Google) มันเอาเงินคุณทั้งนั้นทุกเคาะ แล้วสุดท้ายเราก็จำนน มันต้องเคาะ แต่อาตมาไม่เคาะ อาตมาไม่ใช้หรอก ใช้เหมือนกันให้คนอื่นเขาใช้ ถ้าเราต้องการรู้…ไหนดูซิอะไรมันมีอย่างไร? เรื่องพวกนี้มันเป็นความซับซ้อนของมนุษย์ที่กินเนื้อกินในกินไส้กินตับกัน 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันที่ 2 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2564 ( 13:28:20 )

ทุนนิยมหรือคนรวยให้โทษแก่สังคมเป็นคนอวรรณะ 6

รายละเอียด

เราก็ทำอย่างนั้นจริง โดยตัวเราเองไม่สะสมไม่เห็นแก่ตัว ไม่โลภโมโทสัน ต่างกับทุนนิยม ทุนนิยมโลภเอาให้แก่ตัวไม่รู้จักพอ คนอื่นก็ต้องขาดแคลน เสร็จแล้วก็สร้างค่ายกลเอาเปรียบให้ได้มากๆ เหมือนอย่างบริษัทใหญ่ๆ แม้แต่ในเมืองไทย ก็มีเครือข่ายบริษัทก็มีคนงาน แต่เขาเอาเปรียบ เขาไปเอาไปกองกับเขาได้เยอะๆขึ้นเยอะขึ้น แล้วคุณก็เอาไว้ให้ลูกหลานคุณเท่านั้น ลูกหลานคุณก็ผลาญไป อาตมาได้ข้อมูลว่า อย่างลูกสาวของคนร่ำรวยตระกูลหนึ่งในประเทศไทย คนงานมาเล่าให้ฟังว่า สร้างบ้านเสร็จแล้วไม่เอาก็รื้อทิ้ง หลายครั้ง จนคนงานบอกว่าไม่อยากได้แล้วเงินคนๆนี้ จู้จี้จุกจิกไม่รู้จักแล้ว ทั้งที่มันก็ได้เงินมาก แต่มันทนกับความจู้จี้จุกจิกเอาแต่ใจตัวของเขาไม่ได้ เป็นคนเลี้ยงยากบำรุงยาก ทุพภระ ทุปโปสะ มักมาก ตรงกันข้ามกับพระพุทธเจ้าเลย เป็นคน “อวรรณะ 6” เป็นคนชั้นต่ำ

 

อวรรณะ 6 (คนรวยไม่รู้จักพอเพียง คือ  คนให้โทษแก่สังคม)

1. เลี้ยงยาก  (ทุพภระ) 

2. บำรุงยาก  (ทุปโปสะ) 

3. มักมาก  (มหิจฉะ) 

4. ไม่รู้จักพอ  (อสันตุฏฐิ) 

5. เกียจคร้าน  (โกสัชชะ) 

6. คลุกคลีหมู่คณะ(คลุกกองกิเลส) (สังคณิกา) 

(พตปฎ. เล่ม 1 ข้อ 20)  ตรงข้ามกับ วรรณะ 9

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจนสาธารณโภคีที่เหาะได้ทั้งชุมชน วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 17:35:21 )

ทุนนิยมเสรี

รายละเอียด

คือขอพูดด้วยภาษาก่อนว่า  ทุนนิยม  ไม่มีเสรี มีแต่ความเห็นแก่ตัว  เป็นแต่แก่พวกพ้อง  ตามระดับของความรัก 10 มิติ เห็นแก่ตัวตั้งแต่สองคนเท่านั้น  เห็นแก่ตัวน้อยลง ก็ขยายไปให้ลูก  มิติที่สูงมันไปก็ไปหาญาติ  แล้วมิติที่สูงขึ้นไปก็เพื่อสังคม  นี่ก็เป็นการเห็นแก่ตัวที่น้อยลง เห็นแก่ผู้อื่นมากขึ้นๆๆ  มันก็ไม่ได้เป็นผู้ที่หมดความเห็นแก่ตัวหรอก  ขยายไปถึงเป็นแก่ประเทศตัวเอง  เป็นชาตินิยม เป็นรัฐนิยม  เห็นแก่จักวาลนิยม  หรือทั่วไปไม่ได้กำหนดเป็นชาตินี้ประเทศนี้  แต่เผยแผ่ไปหมดให้ทั้งโลก  ทั่วจักรวาลอย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:43:26 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:45:52 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:03:03 )

ทุนนิยมเสรี

รายละเอียด

ขอพูดด้วยภาษาก่อนว่า ทุนนิยม ไม่มีเสรีมีแต่ ความเห็นแก่ตัว เห็นแต่แก่พวกพ้อง ตามระดับของความรัก 10 มิติ เห็นแก่ตัวตั้งแต่สองคนเท่านั้น เห็นแก่ตัวน้อยลงก็ขยายไปให้ลูก มิติที่สูงขึ้นไปก็ไปหาญาติแล้วมิติที่สูงขึ้นไปก็เพื่อสังคม นี่ก็เป็นการเห็นแก่ตัวที่น้อยลง เห็นแก่ผู้อื่นมากขึ้นๆๆ มันก็ไม่ได้เป็นผู้ที่หมดความเห็นแก่ตัวหรอก ขยายไปถึงเห็นแก่ประเทศตัวเอง เป็นชาตินิยม เป็นรัฐนิยม เห็นแก่จักรวาลนิยม หรือทั่วไปไม่ได้กำหนดเป็นชาตินี้ประเทศนี้ แต่เผื่อแผ่ไปหมดให้ทั้งโลก ทั่วจักรวาลอย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 10:17:35 )

ทุนนิยมโลกียะประชาธิปไตยสามานย์

รายละเอียด

 พวกหนึ่งใช้อำนาจทุนรอนแต่ประชาธิปไตยของรัฐบาลเป็นโลกุตระ เพราะฉะนั้นเสียงปริ่มน้ำนี่แหละจะสนุก เหมือนกับดูมวย รองแชมป์นั้นฝีมือพอๆกับ Champion เลยมัน มันส์ดี แต่แชมป์รักษาแชมป์ให้ดี ไม่ต้องชนะน็อคหรอก จะชนะคะแนนแต่ละหมัดไปนี้ จนคะแนนเต็ม ถ้ากรรมการตาดีนะ คุณดูมวย รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำนี่แหละเอาให้ดีพลเอกประยุทธ์ให้กำลังใจมีให้หมดเทให้หมดอยู่แล้ว แล้วคนหาว่าเชียร์เกินไป พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ทำงานคนเดียว พลเอกประยุทธ์ทำงานเป็นทีม เป็นประชาธิปไตยมีไม่รู้กี่ระดับ ตอนนี้ขนาดคัดโฆษกขึ้นมา คนก็รู้สึกชมนะ อื่นๆก็เหมือนกัน อาตมาว่ามันจะเป็นตัวอย่างของประชาธิปไตยที่ละเอียดลออ มีรายละเอียดที่เป็นวิชาการ มีรายละเอียดที่เป็นเนื้อหาสาระที่สุดยอดเลย ก็เป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในส่วนกระบวนการแม้จะอยู่ห่างๆแต่ส่งความเข้มข้นเข้าไปอยู่นะ ผู้ที่รับฟังความเข้มข้นได้เขาก็รับไป แม้จะไม่เจตนารับแต่เขาก็ได้เพราะว่าพ่อครูเป็นหมอที่พยายามแทรกโอสถทิพย์เข้าไปในขุมขน พ่อครูเจตนาทำเช่นนั้น คนไม่รู้ตัวแต่พ่อครูไม่หยุด พ่อครูเป็นหมอที่ขยัน ทำงานอยู่ทุกวันนี้ พ่อครูไม่ปล่อยวางมือง่ายๆหรอกเพราะมันเป็นเรื่องของประชาชนคนไทยและเป็นตัวอย่างของประชาธิปไตยที่สูงสุดในโลก หนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย 

 

“หนึ่งเดียว”ในโลกคือประชาธิปไตยไทย

 

            (1) ไทยเปลี่ยนระบอบใช้        “ประชา- ธิปไตย”   

                  แปดสิบเจ็ดปีมา            ตราบนี้

                  การเมืองย่อมพัฒนา        เจริญ“รูป- นาม”แฮ

                  “พุทธศาสตร์”ชัดช่วยชี้        บ่งให้โลกเห็น

   

            (2) เป็นศาสตร์รู้จบแจ้ง         ทุกนัย

                   ทั้ง“อัตตาธิปไตย”            ชัดแท้

                 “โลกาธิปไตย”ไข              ได้หมด สิ้นเฮย   

                 “อธิปไตย”จึ่งใช้แก้            “เทฺว”ได้โดย“ธรรม”  

              

            (3) รู้“กรรม”จึงชัดถ้วน         “ธรรมะ” 

                   รู้“อำนาจ”โลกุตระ           วิเศษไซร้   

                  ทั้ง“โลก”ทั้ง“อัตตะ”         ครบเทฺวะ “2”รา 

                  จึง“สยบ”ด้วย“สงบ”ได้     เด่นด้าวโดยธรรม   

   

            (4) กำราบความชั่วร้าย            สำเร็จ       

                   ด้วย“สัจจเทฺวะ”เสร็จ         ถูกถ้วน

                  “มวลชน”ร่วมกัน“เผด็จ-    การ”จบ ลงแฮ

                  “ทหาร”ช่วยระวังล้วน        ถูกต้อง“เทฺวธรรม”

 

            (5) กำจัดทรราชแล้ว               โดยประชา           

                   ทหารจึ่งยื่นมือมา               ต่อไม้

                   สืบทอดร่วมรักษา              ระเบียบ ระบบ      

                  ใช่“เผด็จการทหาร”ได้        ชื่อผู้ลงมือ

           

            (6) ซื่อบื้อกันสู่รู้                         ดีนัก       

                   หลงเปลือกบ่รู้จัก                 แก่นแท้                           

                   ไทยประพฤติสิทธิศักดิ์        ตรงพุทธ- ศาสตร์เลย   

                    เป็น“รัฐประหาร”แก้           วิกฤติได้ประชาทำ

 

            (7) สำเร็จ“พฤติภาพ”นี้              ของไทย                    

                   ชื่อ“ประชาธิปไตย”             วิศิษฏ์ชี้                    

                   ไทยปฏิบัติวิสุทธิ์ใจ             ซึ่งสัมผัส ได้จริง    

                    ยืนหยัด“ไทย”ก่อนกี้           ตราบท้าวปัจจุบัน      

         

            (8) สำคัญต้อง“สัมผัส”ถ้วน        จากไทย   

                   เป็น“ประชาธิปไตย”             ต่างหล้า

                  “ตัวอย่าง”สุดประเสริฐใน      โลก“หนึ่ง- เดียว”เฮย   

                  เด่น“เดี่ยว”แกร่งเกินกล้า         แก่นแท้“กายสักขี”

                                           “สไมย์ จำปาแพง”

                                            19 ส.ค. 2562

              [นัยปก “เราคิดอะไร” ฉบับ 350 ประจำเดือนกันยายน 2562]

 

ที่มา ที่ไป

620821_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 15:46:28 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:48:00 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:12:22 )

ทุนนิยมไม่ใช่เงินนิยม

รายละเอียด

ทุนนิยม รวมทั้ง เงินและวัตถุอื่นด้วยที่เป็นทรัพย์สิน ส่วนเงินนั้นก็เป็นเฉพาะตัวเงิน ต่างกันตรงนี้แหละ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2563 ( 08:51:44 )

ทุนสามานย์

รายละเอียด

เอื้อนายทุนพลังงาน ขอไขความหน่อย นายทุนมีพลัง ความเป็นนายทุนมีอำนาจมีพลัง มันมีตั้งแต่ไหนแต่ไรมาตั้งแต่ประชาธิปไตยทุนนิยม ประชาธิปไตยในทุนสามานย์ เกิดมาตั้งแต่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าโลก เป็นหัวเรือใหญ่ของนายทุนสามานย์ ทั้งเศรษฐกิจก็ทุนสามานย์ ทั้งการเมืองก็ทุนสามานย์ มาเรื่อยจนถึงบัดนี้ ตอนนี้อเมริกากำลังอ่อนแอ กำลังล้มเหลวระเนระนาด ทางด้านเศรษฐกิจก็ดี แม้ทางด้านการเมืองก็ตาม 

อเมริกายังพอกู้หน้ากู้ตาได้ คือยังพอมีความรู้ในการสร้างอาวุธ อันนี้อันเดียวที่ค้ำไว้ และไม่ได้หมายความว่าประเทศอื่นจะไม่ได้มีความสามารถสร้างอาวุธเท่าเทียมอเมริกา เกาหลีเหนืออาจจะเกินหน้าก็ได้ รัสเซียก็ตาม จีนก็เถอะ ทำเป็นเล่นไปแม้แต่อินเดียก็เถอะ อาจจะมีอาวุธที่ยังไม่ได้เปิดเผย ยังไม่ได้ขี้โม้ขี้อวด ประสิทธิภาพเป็นอย่างไร ทุกวันนี้มันรู้กันแล้วของใครมีอำนาจขนาดไหน แล้วก็สร้างเอาไว้ ยังไม่รู้อะไรของใครเท่าไหร่ จริงๆยังไม่รู้หรอก 

แต่ขณะนี้บอกได้เลยว่าอเมริกายังยืนหลักอยู่อย่างเดียวคืออำนาจความรู้ความสามารถต้องยอมรับเขาจริงๆ เขามีคนที่มีความคิดในการสร้างอาวุธ สร้างเครื่องมือฆ่า เครื่องมือประหาร ยังมีประสิทธิภาพสูงอย่างเดียวที่ค้ำจุนเขาไว้ได้ นอกนั้นล้มหมดแล้ว อำนาจของดอลลาร์ก็พังไปแล้ว อำนาจของอำนาจต่างๆที่เขาจะควบคุมความเชื่อถือต่างๆเอาไว้ ก็ละลายลงไปเรื่อยๆ 

โดยเฉพาะคุณธรรมโลกุตระ อเมริกาไม่มี อันนี้ยังยากที่จะเข้าใจกันได้ เพราะฉะนั้นก็ยังเหลือพลังทางโลกียะ ซึ่งลดน้อยลงเรื่อยๆ ที่ค้ำจุนเขาไว้บ้าง สำนวนโบราณคือบุญเก่าที่จริงก็คือพลังงานที่ค้ำจุนเขาไว้มันลดลงๆแล้ว

แล้วคุณคนนี้บอกว่า ลุงตู่ไปช่วย สว.ทรงเอ ค้ายา ริดรอนสิทธิผู้อื่น ถ้าหากเป็นโพธิสัตว์จะไม่ทำเช่นนี้ ความเห็นของคุณคนนี้มองถูก โดยคุณบอกว่าลุงตู่นี้ไปเอื้อนายทุน เมื่อกี้อธิบายไปแล้วว่า นายทุนไม่ได้มีแค่ลุงตู่มารับผิดชอบ มันใหญ่มันมากมายจนกระทั่งทุกวันนี้ ที่ไปใส่ความว่าลุงตู่เอื้อนายทุนนั้น ไม่ใช่ พลังนายทุนมันยังมีฤทธิ์อยู่เท่านั้นเอง ที่จริงปราบปรามไปได้เยอะแล้ว ลดค่าของอำนาจนายทุนลงไปเยอะแล้วในประเทศไทย ที่บอกว่าไปช่วยทรงเอค้ายานี้น่าจะใส่ความเกินไป บอกว่าริดรอนสิทธิผู้อื่นอีก ก็ต่างคนต่างมองก็แล้วกันนะ 

แหม.. ดีจังเลย ความเห็นของแต่ละคนแต่ละคนมันย้อนแย้งละเอียดลออลึกซึ้ง ซับซ้อน หลายชั้น เพราะฉะนั้นก็ต้องศึกษากันดีๆ แล้วจะเห็นความจริง จะรู้รายละเอียดของความสำคัญ นัยสำคัญของสิ่งต่างๆ เหล่านี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนดีต้องเมตตาคนเลวและต้องไปด้วยกันได้ วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 17:07:11 )

ทุปโปสะ

รายละเอียด

บำรุงยาก คือคนที่ไม่ศึกษาฝึกฝน ดื้อดึง พัฒนายาก

หนังสืออ้างอิง

วิถีพุทธ หน้า 82


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 12:33:31 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:18:40 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:03:32 )

ทุพภระ

รายละเอียด

เลี้ยงยาก คือกินยาก อยู่ยาก ไปยาก มายาก นั่งยาก นอนยาก เป็นคนติดมากยึดมาก เจ้ายศเจ้าอย่าง เรื่องมาก อะไรก็ไม่ค่อยถูกใจเลือกนั่นเลือกนี่วุ่นวายไปหมด..

หนังสืออ้างอิง

วิถีพุทธ หน้า 82


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 12:35:31 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:19:13 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:03:58 )

ทุรนุโพธ , ทุรนุโพธา

รายละเอียด

1. รู้ตามไม่ได้ง่าย ๆ

2. พึงเห็นได้ยาก

3. รู้ตามได้ยาก

4. รู้กันได้ยากยิ่ง

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 355, 538

อีคิวโลกุตระ หน้า 81

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 22 , 124

 พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 136

 


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 12:38:40 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:21:10 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:11:22 )

ทุรนุโพธา

รายละเอียด

บรรลุตามได้ยาก

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 19:18:57 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:48:40 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:04:17 )

ทุรพล

รายละเอียด

คือ ความอ่อนแอ พ่ายแพ้ ท้อแท้แล้ว

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 317


เวลาบันทึก 29 ตุลาคม 2562 ( 11:10:58 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:08:14 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:04:41 )

ทุเรียนแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพวกเรา

รายละเอียด

เราก็มีอะไรจะให้ยิ่งกว่าทุเรียนอีกนะ แต่เราให้ก็มีขีดจำกัดของมัน ให้เท่านี้เท่าที่จะแจกกันได้ ถ้าเรามีมากกว่านี้ก็แจกได้มากกว่านี้ เรากินบ้างแจกบ้าง 

ที่จริงว่ากันไปแล้วพวกเราก็ไม่กินกันเต็มที่ทั่วถึงเท่าไหร่หรอก คนเป็นหลายร้อยอยู่ แต่เราก็ต้องฝึกแจกด้วย พวกเราบางทีก็ต้องหัดลดหัดอดอะไรบ้างก็ว่ากันไป หมุนเวียนกันไป เพราะมันมีหมุนเวียนมาเรื่อยๆ กว่าจะหมดฤดูกาล เป็นร้อยลูก ก็พอถูไถ เฉลี่ยแล้วก็คงจะถึง 500 ลูก ได้กินกันคนละลูก เพราะว่าคนอยู่ประมาณ 500 คนขนาดนี้ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อานาปานสติอย่างพุทธ ไม่มี
นัตถิกทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 สิงหาคม 2565 ( 18:19:02 )

ทูตกรรม

รายละเอียด

ผู้ทำการงานอันมีหน้าที่เชื่อมโยงสัมพันธ์ หรือผู้เป็นตัวแทนทำหน้าที่

หนังสืออ้างอิง

คนจะมีธรรมะได้อย่างไร / เราคิดอะไร ฉบับ 286 หน้า 46


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 12:40:46 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:21:54 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:05:13 )

ทูตกรรมและการรับใช้

รายละเอียด

ส่วน การเมือง นั้น เป็นงานของพลเมือง ผู้ที่รับใช้ประชาชนพลเมืองเป็นคนประเสริฐ ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือเป็นสมณะภิกษุก็ตาม คำว่ารับใช้ไม่ใช่รับจ้าง ทำอะไรจ้างนั้นทำงานเพื่อต้องการได้ค่าตอบแทนหรือสิ่งตอบแทน แต่การรับใช้นั้นคือการทำงานให้โดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน แต่ถ้าเขาจะมาตอบแทนก็เป็นได้ แต่ไม่ได้เป็นการยื่นหมูยื่นแมวแลกเปลี่ยนกัน แต่เป็นเรื่องของน้ำใจของคนที่เห็นคุณค่า เขาจะไม่ทดแทนด้วยของมีค่ามีราคาหรือเงินทองก็ทดแทนด้วยการใช้แรงงานรับใช้ก็เหมือนกัน ฆราวาสหรือผู้ที่ได้รับประโยชน์จากภิกษุหรือจากสมณะผู้ที่ทำประโยชน์ให้เขาก็ตอบแทน ไม่ใช่สิ่งแลกเปลี่ยน นี่คือความลึกซึ้งในอิริยาบถของมันเซชั่นของสังคมมันมีอย่างนี้ มันซับซ้อน อาตมาเห็นใจคนที่พยายามจะแปลทูตกรรมและการรับใช้คำว่าทูต คือ ผู้ที่ไปสอดส่องไปช่วย หรือว่าไปหาผู้ที่ไปช่วยเขา ไม่ใช่คนรับจ้างไม่ใช่คนไปสอดแนมดูว่ามีประโยชน์อะไรที่เราจะได้จากเขา อย่างเช่นทูต จะไปเป็นที่ประเทศในๆเพื่อจะได้ประโยชน์ทางวัตถุหรือได้อำนาจทางอะไรก็แล้วแต่นั้นไม่ใช่ แต่ทูต คือผู้ที่จะไปให้แก่เขาไม่ใช่เป็นผู้ที่จะไปเอาอะไรจากเขา คำว่าทูต ก็ดี คำว่ารับใช้ก็ดี เพราะฉะนั้นผู้ที่จะเป็นธรรมทูตจึงจะต้องเป็นผู้ที่มีภูมิปัญญาลึกซึ้งมาก ไม่ใช่จะเข้าไปเอาประโยชน์จากที่ไหน ส่งทูตไป คือผู้ที่จะต้องไปให้ไม่ใช่ผู้ที่จะไปสอดแนมคอยเป็นจารบุรุษ เราจะได้ไม่เสียเปรียบเขา แต่จริงๆแล้ว เราจะไปเสียเปรียบด้วยซ้ำไปไปดูซิว่าเราจะไปเสียสละไปให้อะไรเขาได้ ไม่ใช่ว่าเราจะไปเอาเปรียบเขามีแต่เราจะไปทางเสียสละให้แก่เขา นี่คือทูตที่แท้ ผู้รับใช้ที่แท้นี่สิเป็นสิ่งลึกซึ้ง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 11:10:33 )

ทูรังคมัง

รายละเอียด

ไกลแสนไกลถึงไหนต่อไหน

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 177


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 12:43:23 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:22:41 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:05:49 )

ทูเร  นิพพาเน 

รายละเอียด

ทูเร  นิพพาเน  คือ ห่างไกลจากนิพพาน

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:19:28 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:49:19 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:10:55 )

ทูเร  วิเวกา 

รายละเอียด

ทูเร  วิเวกา  แปลว่า  ไกลจากวิเวกคนไกลจากวิเวก

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการวิถีอารยธรรม วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 01 ตุลาคม 2562 ( 17:48:39 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:50:06 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:06:08 )

ทฺวยนิสสิโต

รายละเอียด

เครื่องอาศัย 2 อย่าง

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 347


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 08:30:45 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:23:19 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:07:01 )

ทเวหรือเทวะ

รายละเอียด

แปลว่า 2 อวิชชาคือตี 2 นี้ไม่แตก พอคนที่แยก 2 นี้ออกได้ จึงเป็นรูปเป็นนามเป็นกาย แยกออกแล้วเป็น กายะ เป็นรูปเป็นนาม 

รูปนามก็คือเราเอง 

1. สิ่งที่ถูกรู้ 

2. ตัวรู้ตัวประธาน 

พ่อครูว่า...คุณจะมีคู่นามรูป พระพุทธเจ้าท่านสรุปเอาไว้ในอาหาร 4 วิญญาณาหาร คุณแยกวิญญาณไม่ได้ คุณทำจิตในจิตของคุณให้เป็น 2 เป็นนามกับรูป นามกับรูปนี้ของคุณนะ รูปวัตถุแม้แต่รูปพีชะ เช่น อาหารข้างนอก มันไม่มีจิตนิยามมันไม่รู้ตัวมัน วัตถุดินน้ำไฟลมมันก็ไม่รู้ตัวมัน มันไม่มี 2 แม้จะเป็น พีชะ มันก็ไม่มีนามไม่มี 2 เป็นธาตุรู้ในระดับพืช มันรู้ในตัวมันเท่านั้น มันรู้ออกนอกไม่ได้เลย รู้ออกภายนอกไม่ได้ รู้ได้แต่ตัวมันเอง ถ้าเป็นจิตนิยามแล้วถึงจะรู้นอกรู้ใน มีทั้งนอกและใน เมื่อเป็นจิตนิยามมีนอกมีในจึงมีกายภายนอกและมีกายในกาย แล้วก็แยกกันไม่ออกนะ ทิ้งกันไม่ได้ด้วย หากแยกได้ นี่เป็นภาษาสิริมหามายา แยกกันไม่ออกแต่แยกกันได้ด้วย แยกรู้ แยกดู ดูกลับไป ดูกลับมา ดูสองหน่วย ดูสองข้าง สูงที่สุดต้องรู้ 2 ข้าง ข้างนี้กับข้างนี้ 2 ข้างก็ชัดเจน พอแยกเป็น 3 ข้างก็จะเป็น 2 เหมือนกัน 4 ข้าง จะเป็นคู่เหมือนกัน คุณรู้ 2 แล้วก็รู้ 3 รู้ 4 รู้ 5-6 แต่ให้รู้ทีละ 2 แล้วคุณจะชัดเจน แล้วก็จะรู้ 3 4 5 6 7 8 9 รู้เลยไป หากคุณไม่จับคู่ก็จะไม่รู้หมดเลย ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็เอ๋อเลย ก็จะไม่รู้อะไรของมันวะ เพราะฉะนั้นคุณต้องรวบมารู้ทีละ 2 ถ้าคุณไม่รู้ทีละ 2 ให้ชัดเจนว่านี่แหละคือ 2 แยกเป็น 2 ชัดเจน จะบอกดำขาวดีชั่วสูงต่ำใหญ่เล็กอะไรก็แล้วแต่ก็เป็น 2 คุณก็จะชัดเจนทุกอย่างในทุกอย่าง หรือมากที่สุดเท่าที่คุณจะมากได้ เท่าที่คุณจะมีภูมิธรรม ไม่อย่างนั้นก็รู้ไม่ได้ 

 

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 02 มกราคม 2563 ( 15:23:39 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:53:00 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:07:47 )

ท่องสวดเพื่อรักษาธรรมบท

รายละเอียด

การท่องสวดรักษาไว้ โดยรักษาธรรมบท คือคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่าเอาไปท่องสวดเล่นหรือที่สำคัญคือ เอาธรรมบท หัวใจของธรรมะ กุสลาธัมมาอกุสลาธัมมา เอาไปท่องสวดหากิน..ไม่ได้ แต่ให้ท่องเอาไว้เพื่อรักษาธรรมบทเหมือนการท่องสูตรคูณท่องบทอาขยาน ท่องในหมู่คุณ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 07 กันยายน 2563 ( 10:10:03 )

ท่านจะไปว่าใครได้เพราะท่านไม่รู้เรื่อง

รายละเอียด

เขาว่า ประชาชนก็รู้ใครก็รู้...ที่ว่าท่านไม่ได้ว่าใคร ท่านจะไปว่าใครได้ เพราะท่านไม่รู้เรื่องเป็นยังไง ท่านไม่รู้เรื่องธรรมะพระพุทธเจ้าเลยจะไปว่าใครได้ แต่อาตมานั้นรู้ลึกซึ้งจึงว่าได้ ยังหยิบเอาความละเอียดมาว่าได้อีกนะ อาตมารู้ก็ว่าได้ แต่ท่านไม่รู้จะเอาอะไรมาว่าเขาได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 11:34:15 )

ท่านตรัสรู้ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติธรรมแต่จากการระลึกย้อน

รายละเอียด

29 ปีท่านก็ไม่ได้ปฏิบัติธรรม พอปฏิบัติธรรมอีก 6 ปี อายุ 35 ปี ก็ไม่ใช่ปฏิบัติที่สัมมาทิฏฐิ บำเพ็ญทุกรกิริยา สรุปแล้วท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมเลย 35 ปี แม้ว่าจะเรียกว่าปฏิบัติธรรมก็เป็นมิจฉาทิฏฐิแบบ เดียรถีย์ อีก 6 ปี เสร็จแล้วท่านมาระลึกรู้ว่าท่านมีความเป็นพระพุทธเจ้าแล้วความเป็นสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ความเป็นจริงอันนั้นมันก็ปรากฏในความเป็นจริงของท่านก็ขึ้นมาสู่ท่าน ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ว่า เราเป็นพระพุทธเจ้าสำเร็จสัมมาสัมโพธิญาณมาแล้ว อ๋อ! เรานี่หรือคือพระพุทธเจ้าแท้ ตามที่นักพยากรณ์สำคัญในยุคนั้น เรียกว่าแม่นสุดแม่น ไม่มีใครแม่นเกิน 8 รูปนี้หรอก พราหมณ์ ที่เป็นโหราจารย์ในยุคนั้น ท่านก็เป็นจริงตามนั้น เสร็จแล้วท่านก็รู้แล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แผนผังการกอบกู้โลกุตระของพ่อครู วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 18:23:26 )

ท่านต้องทนให้อาตมาทั้งพูด ทั้งทำ ท่านก็พยายามที่จะทำตามบ้าง ตัวอย่างเอาแบบคนจน

รายละเอียด

ในบริบทสังคมยุคนี้ จะยกโพธิรักษ์ไม่ได้ ไม่ใช่อยู่ในกาละเทศะฐานะที่จะยกได้ ซึ่งอาตมาก็ไม่มีปัญหาอะไร อาตมาไม่ได้เดือดร้อนก็ทำงานตามหน้าที่อาตมาได้ เพราะอาตมารู้ความจริงนี้ยิ่งกว่ารู้ รู้สิ่งที่ในหลวงทรงรู้ อาตมาก็รู้ เพราะฉะนั้นจึงเห็นพระทัยท่าน ว่าท่านต้องทนให้อาตมาทั้งพูด ทั้งทำ ท่านก็พยายามที่จะทำตามบ้าง ได้ตามมาบ้าง อย่างน้อยก็เอาแบบคนจนอย่างที่อาตมานำไป ส่วนรายละเอียดอันอื่นๆท่านไม่อยู่ในฐานะที่จะมาอธิบายธรรมะ ท่านก็พาประพฤติในชีวิตสามัญเท่านั้นเองเป็นใหญ่ ดำเนินไปในทางพฤติกรรมทางการยังชีพ แต่ว่าเรื่องธรรมะนั้นท่านก็ปล่อยให้อาตมาเป็นผู้ที่ดำเนินไป 

นี่เป็นสัจจะที่อาตมาพออธิบายได้ สรุปแล้วที่ข้องใจที่ สม.เทียนคำเพชร ข้องใจว่า กษัตริย์คือจิตหรือวิญญาณของสังคมประเทศ ประชาชนเป็นกายของสังคมประเทศ ประชาชนก็เป็นคนต้องมีกาย ก็ต้องมีจิตและร่าง คนเป็นจิตนิยาม มีธาตุรู้ที่ต้องรู้ ส่วนกษัตริย์นั้นต้องรู้มากกว่าประชาชน แล้วจะต้องให้ประชาชนเขาเข้าใจเรื่องของสภาพ 2 ที่เป็นรวมหนึ่ง พยายามให้เข้าใจ ทั้งพระองค์ทรงเอง ทั้งพระองค์ให้ความรู้ อาตมาจะต้องหนักแน่ในการให้ความรู้เรื่องนี้มาก เป็นราชประชาสมาสัย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ กษัตริย์คือจิตประชาชนคือกายของประเทศ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กันยายน 2565 ( 14:44:56 )

ท่านพุทธทาสทิ้งสิ่งที่เป็นยอดหัวใจศาสนาพุทธ

รายละเอียด

อาตมานี่อวดดีไม่ได้อวดเก่ง อาตมาเทียบนั้นเพราะอาตมาเป็นผู้เที่ยง ของท่านพุทธทาสคุณก็ศึกษาเอาเถอะ ส่วนของอาตมาก็มั่นใจว่าชัดเจนในตัวอาตมา อาตมาเองอธิบายได้ มากกว่าท่านพุทธทาส อธิบายได้ละเอียดกว่าท่านพุทธทาส อาตมาไม่ได้ตีทิ้งอภิธรรมด้วย เพราะท่านพุทธทาสไม่มีอภิธรรมเข้าใจพระอภิธรรมไม่ได้ เพราะว่าพระอภิธรรมเป็นสุดยอดธรรมะของพระพุทธเจ้า อธิบายจิตเจตสิกอย่างอาตมาท่านอธิบายไม่ได้ แล้วท่านก็เลยตีทิ้งเพราะท่านไม่รู้เรื่อง แค่นี้ก็หมายถึงว่าท่านพุทธทาสนั้นไม่ได้สามารถที่จะเป็นพระอาริยะขั้นที่เข้าถึงอรหันต์ อาจจะพอรู้ในความหมายของสัจธรรมศาสนาระดับหนึ่ง จะบอกว่ามีขั้นตอนก็มีขั้นตอน อาตมาไม่เปรียบเทียบ แต่จะบอกคนอื่น ว่าท่านพุทธทาสนั้นเป็นพระโสดาบันเท่านั้น เป็นผู้ที่ศรัทธาศาสนาพุทธดีและก็เป็นผู้ที่ชัดเจนในความไม่ยึดมั่นถือมั่นจนเลยเถิด มีความชัดเจนแต่เลยเถิด ไม่ยึดมั่นถือมั่นก็เลยไม่ได้อะไร แต่ได้ที่ว่าศาสนาพุทธมีวิธีอย่างนี้มีอนัตตามีจิตว่าง มีความสุญญตาเข้าใจแต่เข้าไม่ถึงสภาวะจริง ไม่รู้รายละเอียดเวทนาในเวทนาไม่รู้ในเวทนา 108 ทำจิตในจิตทำเวทนาในเวทนา โดยเฉพาะมโนปวิจาร 18 ทำไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเมื่อท่านตีทิ้งสิ่งที่เป็นยอดหัวใจศาสนาพุทธ แล้วท่านจะเอาความเป็นพุทธไว้ตรงไหน ท่านก็ได้แต่พื้นฐานที่ศรัทธาศาสนาพุทธ

แต่สักกายะทิฐิท่านพุทธทาสก็ยังไม่รู้ กาย คืออะไร ธรรมกายท่านพุทธทาสเข้าใจถูกหรือยัง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ คนจนจริงจึงทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมจริง วันพุธที่ 30 มกราคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(สัมมาทิฎฐิ 10) ตอน คำสอนจากสยังอภิญญาพาบรรลุจริง


เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2564 ( 19:55:54 )

ท่านพุทธทาสท่านรู้ยังไม่ครบ

รายละเอียด

มีกลอนที่ท่านพุทธทาสได้แต่งไว้...เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงเลือกเอาสิ่งที่ดีเขามีอยู่ เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย

ชั่วกับดีมันเป็นธรรมะ 2 จะไปห้ามให้คนไม่รู้ได้อย่างไร คุณจะรู้สิ่งเดียวโดยไม่มีการเปรียบเทียบคนก็โง่ตายเลย มันเป็นไปไม่ได้ด้วยและไม่มีการฉลาดขึ้นเลย สรุปแล้วก็คือท่านรู้ยังไม่ครบ ท่านพุทธทาสท่านรู้ยังไม่ครบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  กาลามสูตรและเตวิชชสูตร วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2561 ที่บวรสันติอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 28) ตอน ธรรมะ 2 ให้เป็น 0 ได้ต้องยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:05:31 )

ท่านพุทธทาสมีธรรมะในระดับใด

รายละเอียด

ท่านพุทธทาสมีธรรมะในระดับเริ่มเข้าใจภาษาแต่ยังไม่เข้าถึงสภาวธรรม ท่านพุทธทาสมีหูเข้าหู ธรรมะเข้าหูแน่นอน เข้าใจเข้าถึง นั้นมี 3 ระดับ ท่านพุทธทาสมีแต่เข้าหูและเข้าใจเบื้องต้น เข้าถึงนั้นยังไม่ถึง บรรลุธรรมยังไม่ถึง ฟังดีๆนะต้องขออภัยอย่างยิ่งจริงๆเลย

ท่านพุทธทาสดูเก่งดูมีความรู้ท่านมีความรู้สังคมศาสตร์มีความรู้ปรัชญา พยายามจะเข้าหาขั้นญาณวิทยา ส่วนเข้าถึงขั้นปรากฏการณ์วิทยายังไม่มี อาตมาอธิบายมันยาวพวกนี้ อธิบายได้เป็นเดือนๆแต่ก็จะขอสรุป

ท่านพุทธทาสมีความรู้ด้านสังคมศาสตร์ปรัชญาคำคม ของท่านพุทธทาสมาใช้อยู่ อาตมาเห็นด้วย ไม่มีปัญหา ความหมายของสังคมศาสตร์ใช้ได้ เพราะสังคมศาสตร์ขึ้นอยู่กับกาละสิ่งแวดล้อมที่มันไม่เที่ยง มันเปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นจะอธิบายธรรมะที่มันไม่เที่ยงเหล่านั้นให้เป็นหลักแหล่งตายตัวอธิบายไม่ได้หรอก ขึ้นอยู่กับกาลเวลาองค์ประกอบต่างๆสารพัด

สังคมศาสตร์ก็เป็นเช่นนั้น ท่านพุทธทาสอธิบายสังคมศาสตร์คนก็จะเข้าใจง่าย เมื่อมาถึงปรัชญาก็เข้าใจยากหน่อย เมื่อถึงขั้นญาณวิทยา Epistemology พยายามเข้าหาธรรมชาติ พยายามเข้าหาสภาวะจริงของดินน้ำไฟลม อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยามไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นปรากฏการณ์วิทยา

สังคมศาสตร์ ปรัชญา ญาณวิทยา ปรากฏการณ์วิทยา สี่ขั้นนี้

ท่านพุทธทาสไม่รู้ความหมายของอภิธรรมปรมัตถ์ที่เป็นจิต เจตสิก รูป นิพพาน แม้แต่คำว่า ธรรมะคือธรรมชาติ นี่ก็เป็นความรู้ของท่านพุทธทาสเป็นความรู้ที่ผิด ก็ธรรมชาติวิชาคณิตสมการ ธรรมะคือธรรมะ เอาคำว่าชาติไปใส่ x = x แล้ว x = xy ได้อย่างไร ธรรมะ =ธรรมชาติ

ชาติ แปลว่าเกิด ศาสนาพุทธรู้จักความเกิดและทำดับได้ ท่านพุทธทาสท่านทำความดับไม่เป็น ขอยืนยัน ขออภัยที่พูดเน้น-แข็ง-แรง! เหมือนข่ม แต่พูดเนื้อนะ อาตมาเคารพท่านพุทธทาสจริงๆท่านเป็นองค์กรตามธรรมวินัยพระพุทธเจ้า ท่านมีคุณประโยชน์ให้อาตมาท่านเปิดคำว่าโลกุตระ ให้แก่อาตมา 2 ท่านรู้จักอบายมุขพอสมควร และท่านไม่มีอบายมุข ท่านมีความรู้โลกุตระเริ่มต้น อาตมาจึงจัดอันดับท่านพุทธทาสอยู่ในโสดาปัตติมรรค เริ่มต้นมีผลนิดๆหน่อยๆ

สักกายะท่านไม่รู้ ท่านไม่เข้าใจธรรมะสองของกาย เอาบันทึกท่านพุทธทาสมาดูสิขอยืนยันว่าไม่มี พูดไปเหมือนข่มแต่เป็นการอธิบายวิชาการเพื่อให้เรียนรู้ อย่าไปยึดติดในตัวบุคคลเท่านั้น ต้องเอาเนื้อหาสาระเป็นหลัก พูดอย่างตรงๆไม่ได้ลำเอียงพูดอย่างเคารพ ท่านพุทธทาสมีประโยชน์ในด้านสังคมศาสตร์ในด้านปรัชญา แต่ในด้านญาณวิทยา ปรากฏการณ์วิทยาท่านยังเข้าไม่ถึง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(สมาธิพุทธ) ตอน เข้าหู เข้าใจ เข้าถึง


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:50:12 )

ท่านพุทธทาสมีส่วนดีที่กราบได้

รายละเอียด

ไม่เห็นเป็นไรท่านพุทธทาสก็มีส่วนดีที่กราบได้ แล้วอาตมาก็วิจารณ์ส่วนที่ผิดของท่านพุทธทาส อาตมาก็ไม่มีอคติอะไรสิ่งที่ควรติก็ควรตีสิ่งที่ไม่ควรติจะชมเราก็ชม นิคคัณเห นิคหารหัง ปัคคัณเห ปัคคหารหัง คุณไปยึดถือว่าอาจารย์ของคุณไม่ควรจะมีใครไปติมันก็เป็นความยึดถือของคุณเอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ตีแตกเทวะด้วยคอมเม้นท์ที่เห็นต่างจากพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 13:35:40 )

ท่านพุทธทาสยังไม่บรรลุธรรมหรือยังไม่เข้าถึงแก่นอย่างไร

รายละเอียด

ความเหมายแค่สามเส้า เข้าหู เข้าใจท่านมีนิดหน่อย มีความรู้เริ่มต้นแต่บรรลุหรือเข้าถึง ยังไม่ถึง ยังไม่บรรลุธรรม

เพราะฉะนั้นท่านพุทธทาสจึงไม่เข้าใจ เข้าหูเท่านั้น โดยเฉพาะยังไม่เข้าถึงแก่น

ขอขยายคำว่าแก่น

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าศีลคือสะเก็ด สมาธิคือเปลือก ปัญญาคือกระพี้ วิมุต เป็นเนื้อแท้ วิมุตติญาณทัสสนะเป็นแก่น

ศีล ท่านพุทธทาสไม่เอามาใช้ เช่น จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล

สมาธิ ท่านก็เป็นสมถะทั้งนั้น เป็นสมาธิเดียรถีย์นั่งหลับตาสะกดจิตทั้งนั้น อาตมาจึงอธิบายสมาธิได้ยากนัก ปัญญาก็ยิ่งยาก ปัญญานั้นไม่ใช่แค่ เฉโก ที่แปลว่าความฉลาดทางโลกีย ปัญญาเป็นความฉลาดทางโลกุตระ เริ่มต้นตั้งแต่ อัญญธาตุ มีอัญญาเป็นพหูพจน์แล้วถึงเป็นกัญญา ชัญญา ปัญญา ก็ติดตามฟังให้ดี

สรุปแล้วท่านพุทธทาสยังมีศีลไม่เป็นโล้เป็นพาย ท่านพุทธทาสไปหลงปัญญา ไม่ใช่หรอกท่านมีแต่ เฉโก ปัญญา นี้ ใช้พยัญชนะเริ่มต้นจากอัญญา แล้วขยายเป็น กัญญา ชัญญา อะไรอีกเยอะ รับรองว่าท่านจะอธิบายไม่ได้ อาตมาเองแม้อธิบายได้ก็ยังไม่เก่งทีเดียวพอไปได้ยังไม่สมบูรณ์ทีเดียว

อาตมานอบน้อมท่านพุทธทาสอยู่นะ เมื่อสมัยท่านยังมีชีวิตอาตมาก็ไปกราบท่านอยู่หลายที อาตมาไม่เคยมีความพยาบาทต่อท่านพุทธทาส ไม่ได้มีจิตอย่างนั้น ผู้ใดตั้งใจฟังด้วยดี สุสูสังละภะเตปัญญังก็คงได้ปัญญา อาตมาเอาปรากฏการณ์จริงมาอธิบายให้ฟังก็คงจะได้ประโยชน์กัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(สมาธิพุทธ) ตอน เข้าหู เข้าใจ เข้าถึง


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:54:14 )

ท่านพุทธทาสไม่ได้มีภูมิโลกุตระ

รายละเอียด

จะให้เอาอย่างท่านพุทธทาส อาตมาจะไปทำอย่างท่านพุทธทาสทำไม ถ้าทำอย่างนั้นอย่างน้อยอาตมาก็ต้องมีร่างกายอ้วนอย่างนั้น ท่านพุทธทาสอายุ 85 ก็นั่งรถเข็นแล้ว อาตมาทำอย่างแข็งแรงจะไปทำอย่างท่านพุทธทาสทำไม 

ท่านพุทธทาสมีภูมิรู้ทางศาสนามากกว่ามหาบัว เพราะมาทางด้านสัจธรรม แต่ท่านพุทธทาสก็รู้ทางสัจธรรมผิวเผินแบบโลกียะ แต่ไปกล่าวภาษาโลกุตระ แต่โดยสภาวะแล้วตัวเองยังไม่รู้โลกุตระ

เอาอะไรยืนยัน ก็คำว่า ธรรมะคือธรรมชาติก็ไม่ใช่แล้ว ไปตีทิ้งพระอภิธรรมอีก แล้วแสดงว่าท่านพุทธทาสไม่ได้มีภูมิโลกุตระ เข้าใจภาษาโดยปฏิภาณปัญญาโลกียะ เข้าใจว่า โลกุตระนั้นสูงกว่าโลกียะ พูดโก้เท่านั้นแต่เข้าใจไม่ได้จริง ถ้าเข้าใจก็จะไม่ตีทิ้งอภิธรรม ที่เป็นจุดหัวใจศาสนาพุทธที่แยก ธรรมะสองของ เนกขัมสิตะกับเคหสิตเวทนาได้ ในเวทนา 108 แต่ท่านพุทธทาสไม่รู้

ขออภัยอาตมาเห็นใจลูกศิษย์ลูกหาของท่านมีเยอะ ท่านมหาบัวก็มีลูกศิษย์เยอะอาตมาวอนหัวแตกนะ อย่าโกรธอาตมาเลย โกรธไม่ดีมันทกุข์ มาโกรธอาตมาก็ผิดด้วย อาตมาไม่ใช่คนที่คุณควรจะมาโกรธ 

อาตมาทำอย่างอาตมาที่ควรทำนี่แหละ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ แก้กรรมฐานให้ถูกพุทธ วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 07 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:32:42 )

ท่านพุทธโฆษาจารย์ท่านก็เก่งในความรู้ แต่ไม่เข้าถึงความจริง

รายละเอียด

อาตมาเตรียมหลักฐานมา หนังสือที่ท่านประยุทธ์ท่านเขียนตอนท่านเป็นพระเทพเวที เขียนออกมา 3 เล่ม อาตมาก็เจอหลักฐานเพียง 2 เล่มอีก 2 เล่มยังไม่เจอ ก็ขอสรุปตรงนี้ว่า ความรู้ความเข้าใจของท่านพุทธโฆษาจารย์ ท่านเก่งในการศึกษา อาตมาให้เกียรตินิยมท่าน ที่ท่านเป็นนักศึกษาจริงๆ Learned man เป็นผู้คงแก่เรียนจริงๆ ท่านศึกษาจริง ทั้งชีวิตท่านศึกษา ท่านจึงไม่ได้มีคณะไม่ได้มีงานที่จะปลูกฝังสร้างคนสร้างสังคม ท่านไม่ทำ มีคนสร้างที่อยู่ให้แก่ท่านบ้างเท่านั้นเอง อย่างอาตมานี้สร้างที่อยู่ให้เข้ารูปเข้าร่าง ตามที่อาตมาเห็นว่าควรจะเป็น อย่างที่เห็น บวรราชธานี หรือแม้แต่ที่สันติอโศกก็ตาม ก็จะไม่เหมือน Concept ของท่าน เพราะฉะนั้นในความเข้าใจของท่านพุทธโฆษาจารย์ท่านก็เก่งในความรู้ แต่ไม่เข้าถึงความจริง ความจริงที่เข้าถึงนี้ขออภัยที่อาตมาต้องพูดคำนี้หรือว่าตอนนี้อย่างนี้ สังโยชน์ข้อที่ 1 สักกายทิฏฐิ ท่านยังเข้าใจคำว่ากาย ขอยืนยันว่าท่านยังไม่ชัดเจนว่า กายต้องเน้นจิต มโน วิญญาณ แต่ท่านจะเน้นกาย ก็จะไม่เกิดการปฏิบัติเพื่อหน่ายคลาย แล้วหน่ายคลายอะไรก็หน่ายคลายจิต หน่ายคลายทางวัตถุนั้นมันไม่ยากหรอก กายคือ จิต มโน วิญญาณ ล.16 ข. 230 เรื่องของร่างกายนั้นมันเห็นไตรลักษณ์ได้ง่าย แต่เรื่องของ จิต มโน วิญญาณ นั้นเห็นได้ยาก ฉันเดียวกับท่านประยุทธ์ ที่บอกว่า ผู้ใดบอกว่า ตัวเองบรรลุผู้นั้นคือผู้ไม่บรรลุ อยู่ในหนังสือที่ท่านเขียน ต้องขออภัยท่านมหาประยุทธ์หรือท่านพุทธโฆษาจารย์ที่กล่าวพาดพิงถึงท่านมาก อาตมาจำเป็นต้องพูดถึงเรื่องวิชาการ เรื่องความรู้ เรื่องสัจธรรมให้คนเข้าใจได้ แต่มันไปเกี่ยวข้องกับท่าน ที่มันเกี่ยวข้องกันจริงซึ่งจะต้องเกี่ยวข้องกันไม่มีปัญหาหรอก ในอนาคตก็จะดีขึ้น เรื่องก็จะดีขึ้น ไม่มีปัญหาอะไร เป็นเพียงตอนนี้เป็นวิบากที่เป็นสัมภาระวิบากที่ต้องเจอเท่านั้นเอง เพราะอาตมาไม่มีอกุศลเจตนา ไม่มี มักขะ ปลาสะ อิสสา มัจฉริยะ จนถึงมายา สาเฐยยะ ตั้งแต่ต้นขั้ว ตั้งแต่ อภิชาวิสมโลภะ โกธ อุปนาหะ พยาปาทะ อาตมาไม่ได้มีเลยในจิต นับถือท่าน อาตมานับถือท่าน จริงๆเลย ไม่ใช่เล่นลิ้นนะ แต่สัจจะที่มันผิดก็ต้องรับผิด สิ่งที่มันถูกก็ต้องว่าถูก อาตมาหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาตมาไม่พูดความจริงอันนี้ไม่ได้ มันหลีกเลี่ยงไม่ออกต้องพูด แต่ความเคารพนั้นอาตมาเคารพอยู่จริงๆ ทุกวันนี้อาตมาก็อาศัยหนังสือของท่านที่ท่านรวบรวมไว้เยอะ เป็นประโยชน์มากเลย หนังสือท่านนี้นะ ท่านส่งหนังสือพจนานุกรมประมวลศัพท์ประมวลธรรม 2 เล่มสำคัญของท่าน ท่านพิมพ์อยู่ในครั้งหนึ่ง ท่านพิมพ์ครั้งใหม่ตรวจสอบใหม่ท่านก็ส่งหนังสือ 2 เล่มของท่านให้อาตมาโดยเขียนหนังสือ ด้วยลายมือของท่าน ว่าด้วยความระลึกถึง แล้วก็เซ็นลายเซ็นของท่าน อาตมาเก็บไว้อย่างดี ไม่ได้ใช้นะ เก็บไว้เป็นที่บูชาเคารพ ส่วนเล่มที่ใช้นั้นเอาเล่มอื่น ซึ่งมีคนหามาให้ อาตมามีหลายเล่มของท่าน แม้แต่เล่มที่เป็นรุ่นใหม่อาตมาก็เอามาใช้ เพราะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เอามาใช้ได้หลายอย่าง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2563 ( 10:03:18 )

ท่านพุทธโฆษาจารย์น่าสงสารอย่างไร

รายละเอียด

ท่านเก่งท่านอุตสาหะวิริยะ ต้องยกย่องท่านจริงๆ ท่านรวบรวมความรู้ พยัญชนะต่างๆมา แต่น่าสงสารที่ท่านไม่รู้จักจับสภาวะแล้วก็ลดให้หมดไปทีละอย่าง เป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ โดยรู้สภาวธรรมเต็มๆให้ได้ 

แม้แต่สังโยชน์ข้อที่ 1 ท่านจะสัมมาทิฏฐิแล้วหรือยัง สักกายทิฏฐิ ท่านรู้คำว่า กายอย่างสัมมาทิฏฐิสมบูรณ์แบบหรือยัง ถ้าท่านยังไม่รู้สักกายทิฏฐิ อ่านความเป็นกาย เป็นธรรมะ 2 รูปนามของตนให้ได้ แยกให้ออก คำว่า กาย เป็นเทวะ แยกเป็นรูปนามก็ดี ภายนอกภายในก็ดีแยกเป็น 2 ระหว่างโลกียะโลกุตระก็ได้ จับคู่กันไปตั้งแต่ความหยาบ ไล่ทีละคู่ๆไป พระพุทธเจ้าท่านสอนตามศีล ตั้งแต่เกี่ยวกับสัตว์ เกี่ยวกับข้าวของ เกี่ยวกับตาหูจมูกลิ้นกายทางทวาร 5

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ถอดรหัส นายทุน-ศักดินา-นักวิชา-ข้าราชการ-พาลชน วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 6 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มิถุนายน 2564 ( 18:39:06 )

ท่านพุทธโฆษาจารย์หลงวิปัสสนูปกิเลสไม่เข้าหาจิต

รายละเอียด

คือ หมายความว่าเราต้องรู้จบถ้าคนใดไม่รู้จบอย่างคุณเดชา อัมพร ยังไม่คิดจะรู้จบ ขออภัย ขอพูดพาดพิงไปถึงท่านประยุทธ์ ปยุตโต ท่านพุทธโฆษาจารย์ ท่านรักความรู้คล้ายกับคุณเดชา อัมพร 

ที่เรียกเป็นภาษาสรุปทางวิชาการว่า วิปัสสนูปกิเลส หลงในวิปัสสนูปกิเลสมันจะมีทุกอย่างมากมายก่ายกองหมดเลย ในวิปัสสนูปกิเลส 10 ท่านโบราณาจารย์สรุปไว้หมด มันเป็นทุกอย่างทั้งความรู้ ความสว่าง ความแจ้ง ความจริง ความแท้ทั้งภูมิปัญญา ปฏิภาณอยู่ในนั้นหมดเลย มันเป็นความวิจิตรพิสดารทั้งนั้นเลย ท่านก็ไปชื่นใจกับสิ่งเหล่านี้ ท่านก็เลยไม่เข้าหาจิต ที่เราจับกิเลสในแต่ละเรื่อง ตีกรอบตั้งแต่พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์แต่ละเรื่อง 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาที่เลยปัญหาของคนหลงความรู้มาก วันพุธที่ 31 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 20:32:20 )

ท่านพุทธโฆษาจารย์เป็นบุคคลผู้เป็นสัทธานุสารี

รายละเอียด

สรุปว่าเขายืนยันว่าเอาพระไตรปิฎกเป็นหลัก แต่ท่านที่เรียนบาลีจากอรรถกถาจารย์เป็นหลัก โดยเฉพาะวิสุทธิมรรค ซึ่งเป็นของท่านพุทธโฆษาจารย์ที่ยังไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นบุคคลผู้เป็นสัทธานุสารี ตามหาสัมมาทิฏฐิของพระพุทธเจ้าท่านพยายามสร้างปัญญาแต่ท่านเป็นสายเจโต ก็ได้อย่างนั้น ศึกษาตามมา อาตมาก็พูดตามที่ควรพูด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 10:44:34 )

ท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ รับรองพ่อครูเป็นอรหันต์

รายละเอียด

ท่านเคยมาคุยกับอาตมาเมื่อตอนที่อาตมาบวชใหม่ๆ ที่ห้องภาพสุวรรณมาขอพบเลยตัวต่อตัว อาตมาก็นั่งทำหนังสือกันอยู่ที่ห้องภาพสุวรรณ แล้วก็มานั่งโต๊ะ layout ท่านก็ซักไซ้ไล่เลียงคุยกันชั่วโมงกว่า ท่านก็สนใจธรรมะ ท่านต้องเอาคำสอนท่านพุทธทาสไปสอนศาลฎีกา ออกจากนั้นท่านก็ไปพูดกับใครอาตมาก็ไม่รู้ แต่มีข้อมูลข่าวสารว่า ท่านไปรับรองอาตมาว่าเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้รับรองอาตมาว่าองค์นี้เป็นอรหันต์ แต่ก็ไม่ได้แพร่หลายมาก จากนั้นอาตมาก็โดนเถรสมาคมขึ้นมา ท่านก็ไม่กล้าจะแสดงตัวอะไรมากมาย มันก็ยิ่งไปกันใหญ่เลย พ.ศ. 2525 พันตำรวจตรีอนันต์ เสนาขันธ์  ก็มาเล่นงานอาตมา จากนั้น.. ขออภัยท่านประยุทธ์ ปยุตโตก็ซัดอาตมา เถรสมาคมก็เลยร่วมมือกันซัดอาตมาใหญ่ เอาทั้งธรรมยุตและมหานิกายร่วมกัน บ้อม! อาตมาใหญ่ ลูกระเบิดไม่ใช่ Little Boy นะ ชื่อ Little Boy แต่ที่จริงไม่เล็กเลยบรรลัยจักรตายกันเป็นแสน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 21:27:47 )

ท่านสื่อสารมวลชนทั้งหลาย หันมาส่งเสริมข่าวทางธรรมะกันเถิด

รายละเอียด

นายกฯท่านก็เป็นคนขึ้นง่ายแต่ก็ลงง่ายนะ ไปอารมณ์ขึ้นตรงที่ว่าไม่มีใครช่วยเพราะมันเหนื่อย อะไรอะไรก็นายกฯ ขี้ไม่ออกเยี่ยวไม่ออกก็นายกฯ จะเป็นจะตายอะไรก็นายก ไม่ค่อยจะช่วยกันไม่ค่อยจะแชร์ ช่วยอันนั้นอันนี้บ้าง โดยเฉพาะนักข่าว นักข่าวนี่มันน่าหยิก นักข่าวหรือพวกบรรณาธิการ คณะกองบรรณาธิการ อาตมาเคยพูด เป็นกองหาเรื่อง มันจะแหย่ให้เกิดเรื่องทะเลาะกันส่อเสียด จะมาว่ากองบรรณาธิการ ถ้าเขาไม่หาเรื่องเขาก็จะไม่มีเรื่องมาเขียนขาย ถ้ามีแต่ความเรียบร้อยสงบสบาย เขียนไปไม่เท่าไหร่มันก็หมดแล้ว ต้องแหย่ให้ทะเลาะมุมต่างๆทะเลาะอยู่ตลอด เขาก็ได้เรื่องเขียน คนก็ชอบฟังไอ้ที่คนทะเลาะกันเสียด้วย เขาก็เลยเลี้ยงตนเองด้วยอย่างนั้น ให้เพลาเถิดท่านสื่อสารมวลชนทั้งหลาย มาส่งเสริมข่าวทางธรรมะ มาส่งเสริมข่าวทางธรรมะ ละข่าวทางนั้นทางนี้บ้าง ข่าวอาชญากรรม ข่าวกีฬาข่าวบันเทิงเริงรมย์ ข่าวเมาทั้งหลายแหล่ คุณออกจังเลย เดี๋ยวไม่กี่นาทีข่าวกีฬา ไม่กี่นาทีข่าวบันเทิง ทำอยู่ได้ เอาเถิดชาวทุนนิยมที่เขาจะได้อะไรก็แล้วไปเถิด มันก็ยังมีเพราะอาศัยอะไรบ้าง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การศึกษาที่ไม่ลดกิเลสกู้ประเทศไม่ได้ วันพุธที่ 6 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 10:34:14 )

ท่านอัญญเดียรถีย์ในเถรสมาคมปฏิบัติอย่างไร

รายละเอียด

ฟังดีๆ เดียรถีย์ แปลว่า นักบวชนอกพุทธ ท่านทั้งหลายเป็นนักบวชนอกพุทธ แต่ชาวอโศกเป็นนักบวชศาสนาพุทธ ไม่มีใครไปจัดการท่าน แต่ท่านปฏิบัติผิดเองก็เลยออกนอกขอบเขตพุทธกันไปจริงๆ นี่เป็นสัจจะ 

เอ้า เชิญท่านอัญญเดียรถีย์ทั้งหลายในเถรสมาคม ฟัง 

อาริยมรรคมีองค์ ​8 มี สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ  สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ 

ปฏิบัติให้พ้น มิจฉาอาชีวะ 5 ปฏิบัติกัมมันตะให้พ้นมิจฉา 3 ปฏิบัติสัมมาวาจาให้พ้นมิจฉา 4 ปฏิบัติสังกัปปะ 7 ให้พ้นมิจฉาสังกัปปะ 3 แม้ท่านศึกษา แต่ท่านไม่ได้มีการรู้จักรู้แจ้งการศึกษา ท่านได้แต่บัญญัติภาษา ท่านไม่ชัดเจนถึงความหมาย เมื่อรู้ความหมายแล้วก็ต้องเอาไปปฏิบัติให้ถึงสภาวะจิต เจตสิก รูป นิพพานจริง ท่านทำไม่ได้

เพราะแม้แค่นี้ ท่านก็ปิดประตู อาชีวะคือหลับตา กัมมันตคือหลับตา วาจาคือปิดปากหลับตา สังกัปปะคือดับจิตหยุดนึกคิด

นี่คือการปฏิบัติอย่างอาจารย์เสาร์ อาจารย์มั่น สายหลับตาทั้งหลาย คือเดียรถีย์

แต่สายพระบ้านที่เข้าใจว่า ปฏิบัติอย่างหลับตาทั้งหลายเป็นเรื่องถูกต้องก็เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 10:57:01 )

ท่านเสวยวิมุติสุข 49 วัน ด้วยการทบทวนฟื้นฟูความรู้แล้วจึงออกเผยแพร่

รายละเอียด

พอรู้แล้ว ตรัสรู้ว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็เสวยวิมุติทบทวน ฟื้นฟูความรู้ที่ตัวเองมีอยู่แล้วขึ้นมาอีก 49 วัน เขาเรียกกันว่า เสวยวิมุติ ที่จริงท่านทบทวนของท่าน 49 วัน 49 คือ  7x7 เป็น 49 เป็น อจินไตย เมื่อครบแล้วก็ระลึกถึงผู้ที่จะไปอธิบายธรรมะให้ฟัง ระลึกถึง อาฬารดาบส อุทกดาบส ที่เคยเป็นอาจารย์ทางธรรม ก็ตอนนั้น ก็เหมือนอัมพัฏฐสูตร ที่ อัมพัฏฐะเชื่อว่าอาจารย์ที่มีจรณะ 15 วิชชา 8 จะอยู่ในป่า ก็ได้แต่ตรรกะสอนคนอื่นมาก แต่ตัวเองไม่ได้ปฏิบัติ 

เมื่อพระพุทธเจ้าเสวยวิมุติแล้ว ก็นึกถึงผู้ที่จะไปโปรด ก็นึกถึง อาฬารดาบส อุทกดาบส ก็ตรวจสอบ พบว่าตายแล้ว ก็อุทานว่าตายๆๆฉิบหายแล้ว เพราะ อาฬารดาบส อุทกดาบสเป็นมิจฉาทิฐิหนัก ปฏิบัติธรรมนั่งหลับตาแบบ เดียรถีย์ แล้วก็ทำได้เก่งอย่างแน่นหนา อาฬารดาบสก็แพ้อุทกดาบสอยู่ขั้นเดียว ฌาน 7 แบบเดียรถีย์ สะกดจิตทั้งคู่ ตายไปแล้วทั้งคู่ก็ต้องจมอยู่ในแดนสะกดจิต ซึ่งมันไม่รู้เรื่องอะไรแบบนิ่งไม่รับรู้อะไร มันก็ได้แต่นิ่ง ๆๆ จมอยู่ในความไม่มีอะไรไม่รู้อะไร นานไม่มีใครไปปลุก ไม่มีใครทำให้ตื่น ไม่มีใครไปทำให้รู้ แต่หลงนึกว่าไอ้นี่เป็นของจริง 

อาฬารดาบส อุทกดาบส อาฬารดาบส จึงจมอยู่ในภพนั้นไม่รู้จะเอาอะไรเรียกในระยะยาวนาน ไม่มีอะไรไปสะกิดให้รู้ตัวเลย แล้วตัวเองก็เชื่อมั่นว่านี่แหละคือแดนสุดยอดที่ฉันบรรลุ มันก็เลยจมอยู่อย่างนั้นเลย 

จากนั้นพระพุทธเจ้าก็ระลึกถึงพราหมณ์ทั้ง 5 ที่เคยร่วมปฏิบัติมาที่เคยเชียร์พระพุทธเจ้า เพราะตอนนั้นศาสนาพุทธยังไม่เกิด ก็เชียร์ให้ปฏิบัติตามเดียรถีย์ สุดท้ายพระพุทธเจ้าก็รู้ว่าแบบนั้นมันเป็น เดียรถีย์สมบัติ ปฏิบัติแบบ เดียรถีย์ มันจะไปบรรลุได้อย่างไร ก็มานั่งตรวจสอบถึงได้รู้ว่านั่นมันไม่ใช่มันเป็น เดียรถีย์สมบัติ เป็นเดรัจฉานวิชชาเป็นวิชชาที่ไม่ได้พาบรรลุนิพพาน แล้วท่านก็พบ ระลึก วิชชาจรณะได้สำเร็จ ระลึกแต่ว่ามันต้องมีวิชชาจรณะ มีศีล อปัณณกปฏิปทา 3 มีสัทธรรม ฌาน 4 วิชชา 8 มันต้องอย่างนี้ 

พอได้แล้วจะไปประกาศ อาฬารดาบส อุทกดาบส ก็ตายไปแล้วก็เลยนึกถึงปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ที่เคยมาเชียร์เชิดฉิ่งช่วย แล้วก็ทั้ง 5 คนก็นึกว่าพระพุทธเจ้าไม่พากเพียรปฏิบัติต่อแล้ว ล้มเลิกการปฏิบัติแล้วมาลืมตาไม่มานั่งสะกดจิตแบบเดียรถีย์ ไม่ทำทุกรกิริยา ต่างๆแล้ว เพราะท่านรู้ตัวเองแล้วว่าอย่างนั้นมันไป อวิชชา ไม่เป็น จรณะ 15 วิชชา 8 ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครมาอธิบาย สัจธรรมโลกุตรธรรมยังไม่เคยมีปรากฏ 

พระพุทธเจ้าระลึกของตัวเองที่บำเพ็ญมาจนได้สัมมาสัมโพธิญาณแล้ว อาตมาเห็นใจนะว่ามันอัดอั้นอยากจะระบายให้คนรู้ มันต้องหาคนระบาย แล้วใครจะอยู่ในฐานะที่จะรับรู้โลกุตรธรรมนี้ได้ ก็ต้องหาคนที่อยู่ในฐานะที่จะรับได้ ไปเอาคน กเฬวราก ที่ไหนก็ไม่รู้มาจะไปรับได้อย่างไร ก็ระลึกถึง ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เดินทางมาอีก 2 เดือนจากแม่น้ำเนรัญชรา มาถึงอิสิปตนมฤคทายวัน มาถึงที่ปัญจวัคคีย์อยู่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แผนผังการกอบกู้โลกุตระของพ่อครู วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 18:30:18 )

ท่ามกลางความตาย มีชีวิต ท่ามกลางความไม่จริง มีความจริง ท่ามกลางความมืด มีแสงสว่าง

รายละเอียด

คนเรานี้ถ้าเผื่อว่าไม่รู้สัจธรรม สัจธรรมสูงสุดพระพุทธเจ้า พูดไปก็เหมือนจะไปยกข่มศาสนาอื่น คือเป็นศาสนาที่รู้จัก เอาสัจธรรม สิ่งที่ทรงอยู่ทรงไว้ตั้งแต่ 0 จนกระทั่ง .0000001 แล้วก็ .0001 จนถึง .1 มีตัวตนมากขึ้นๆๆ

ผู้ที่สามารถที่จะรู้จัก สภาวธรรม พูดไปด้วยพยัญชนะ อะไรศาสตร์ก็แล้วแต่ เอามาใช้แทนสภาวะเรียกอันนั้นอันนี้ก็แล้วแต่ ถ้าหากเข้าใจสภาวะนั้นแล้ว แล้วก็รู้จักการเกิดการตาย ที่ มหาตมะคานธีสรุปเอาไว้ “ท่ามกลางความตาย มีชีวิต ท่ามกลางความไม่จริง มีความจริง ท่ามกลางความมืด มีแสงสว่าง”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยสัจ 4) ตอน ความเป็นกลางคือหมดสิ้นอันตา


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:31:21 )

ท่าเรือ

รายละเอียด

อาตมาก็ยังอยากจะขยายท่าเรือทำท่าเรือ ให้เกิดการคมนาคมหมุนเวียน มีเรือแพขนานยนต์ข้ามไปมา คิดเงินถูกๆ พอที่จะทำได้ ทำให้เกิดความเจริญหมุนเวียน คิดต่อไปหากราชธานีอโศกมีผลผลิตดีมากพอ ก็จะเกิดการหมุนเวียนมาซื้อหา แต่ทีนี้เราก็ไม่ค่อยมีฝีมือเท่าไหร่ก็ทำได้ขนาดนี้แหละ แต่ก็มีพอสมควรไม่มากพอแม้ว่าเขาเชื่อถือแล้วแต่ปริมาณยังไม่มากพอ ​เชื่อว่าไร้สารพิษมีประโยชน์คุณค่า เหลือเราก็ขายหรือแจก เรามีใจจริง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2562 ( 09:51:54 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:54:44 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:08:27 )

ท้าทายให้มาพิสูจน์

รายละเอียด

พูดแล้วเกรงใจคนทั้งโลก ว่าเขาจะบอกว่าหลงแต่ตัวเองยกแต่ตัวเอง อาตมาเลี่ยงความจริงไปไม่ได้ที่จะพูดความจริง เอาอันอื่นมาพูดก็ไม่ได้ รู้สึกเกรงใจจริงๆว่า เราพูดตนเองเอาตนเองมายืนยัน แต่มันไม่มีอันอื่นจะเอามายืนยันความจริงที่จริงได้ เพราะฉะนั้นจึงเหมือนท้าทายให้มาพิสูจน์ เอหิปัสสิโก ยืนยันมาให้ตรวจสอบ เชิญให้มาตรวจสอบได้ เหมือนท้าทายให้มาพิสูจน์ ว่ามันจริงไหม มาดูความจริง เพราะฉะนั้น ถ้าเผื่อว่าตราบใด คนไทยเองชาวพุทธไทยเอง ก็ยังมองไม่ออกว่าอโศกนี้ทำความสงบที่ยิ่งใหญ่ของโลกุตรธรรมได้แล้ว อาตมาว่า เอ๊.. ข้างนอกเขาจะสว่างก่อน รู้ก่อน มันจะอย่างนั้นเชียวหรืออาตมานึกไม่ออก 

แต่จริงๆแล้วอาตมาดูรายละเอียดกระแสของความยอมรับ ในประเทศไทย กระแสการยอมรับคือตัวสงบ ตัวเงียบ ตัวไม่ย้อนแย้งไม่เถียงมา มันเป็นการวัดค่าได้อยู่ เพราะอาตมาก็ปากแรงปากหนักปากจัดจ้านอยู่นะ ใช่ไหม อาตมาไม่ได้ไปข่มไปดูถูกอะไรหรอก แต่คำพูดนี้มันคมมันบาดมันแรงอะไรก็แล้วแต่ มันก็ไปกระทบเขา เพราะเขาเองเขาจะต้องถูกข่ม นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ  ควรข่มคนที่ควรข่ม  ไม่ต้องเอาอะไรหรอก เอาแต่แค่เลิกหลับตามาลืมตาปฏิบัติซะ ไอ้หลับตามันโมฆะ มันไม่มีกายตัวเดียวก็โมฆะแล้ว มาเรียนรู้ลืมตาจรณะ 15 วิชชา 8 เข้าใจ อปัณณกปฏิปทา 3 ให้บริบูรณ์และจะเข้าใจสัมมัปปธาน 4 ชัดเจน แล้วจะเข้าใจสติปัฏฐาน 4 ชัดเจน ว่าจะต้องมีกาย จะต้องมีการสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 จึงจะ ปหานปธานได้ ถ้าไม่มีกายไม่มีเวทนาไม่มีจิตมีธรรม 4 สภาพนี้ครบอยู่ มันไม่บริบูรณ์ มันทำไม่สำเร็จ 

แค่ขาดเวทนา ขาดกาย คุณอย่าไปฝันเลยเรื่องจิตเรื่องธรรมะ หรือ ไม่มาสำรวมอินทรีย์ 6 แล้วคุณถึงจะได้ประหารกิเลส ถึงจะเกิดผลเป็นภาวนาปธาน แล้วถึงจะได้สะสมผลอนุรักขณาปธาน คุณไม่สำเร็จตั้งแต่สำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 คุณก็ไปสำรวมอินทรีย์เดียวอยู่ในภพจิตอย่างเดียว แล้วมันจะได้เรื่องอะไร อาตมาก็พูดซ้ำย้ำอยู่ตรงนี้ ยืนยันหลักฐานของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญาโลกุตระ วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 8 ค่ำ วันพระน้อย เดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 13:52:36 )

ท้าวสักกะความหมายทางธรรมาธิษฐานแท้ๆคือของตนเอง

รายละเอียด

อาตมาขออธิบายส่วนตัว ท้าวสักกะตามความรู้ของอาตมา ท้าวสักกะ เป็นบุคลาธิษฐานขึ้นมาแทนเพื่อสำหรับคนที่ยังต้องอาศัยตัวตนบุคคล ถ้าหากเรานามธรรมแท้ๆมันจะยากเขาจะไม่เข้าใจก็ต้องใช้สิ่งเหล่านี้แทน ซึ่งท้าวสักกะ ความหมายทางธรรมาธิษฐานแท้ๆ นัยยะ คือของตนเอง ของใครก็ตาม เช่นเป็นธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นธรรมะที่มาอธิบายแบบบุคคลเป็นบุคลาธิษฐาน แบบเป็นรูปร่างเป็นเรื่องที่ฟังแล้วก็เข้าใจเป็นตัวตนให้รู้ไปก่อน สำหรับคนที่ต้องอาศัยแบบนี้ หากใช้ธรรมาธิษฐานไปหมดก็ป่วยการเขาไม่เข้าใจ ก็ต้องอาศัยแบบนี้ เช่นคำว่าสักกะ แปลว่าเป็นใหญ่ก็คือเป็นใหญ่ในตัวตนของตัวเอง หรือของคนอื่นก็เปรียบเทียบไป เช่นพระพุทธเจ้าก็เป็น ท้าวสักกะของพวกคุณแน่ สรุปแล้ว ท้าวสักกะคืออันเดียวกับพระเจ้า ของศาสนา God ถ้าอยู่ในตัวเองก็คือ ท้าวสักกะของตน คืออำนาจหรือพลังงานจิตของเราที่เป็นใหญ่อยู่ในตัวเรา คืออะไรอย่างไร สัมมาทิฏฐิมีการทำได้มีอำนาจมีน้ำหนักเท่าไหร่ ของจริงในจิตวิญญาณเรา จริงๆแล้วตัวตนในรูปร่างหน้าตาของท้าวสักกะไม่มีหรอก เป็นนามธรรม 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2563 ( 12:57:14 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:39:44 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:09:11 )

ท้าวสักกะเทวราชคือผู้ใหญ่ในโลกของจิตวิญญาณ

รายละเอียด

อันนี้ก็เกินภูมิอาตมาเหมือนกัน ตอบพอได้แต่ไม่ยืนยันว่าจะตอบถูกหมด อาตมาตอบได้ว่าท้าวสักกะเทวาธิราชเป็นอย่างไร แต่ไม่ขอยืนยันว่าถูกหมด แต่ว่าอาตมาอธิบายบุญอธิบายกายนั้นขอยืนยันว่าถูกหมด อาตมาเข้าใจอย่างนี้ สักกะ โดยพยัญชนะ สักกะคือตัวตน ตัวเราของเรา สักกายะ กายคือรูปนามคือภาวะคู่ รูปนาม เป็นองค์ประกอบที่จะเป็นตัวตน เอารูปนามสองสภาพมาจับตัวตน มาแยกธาตุรู้กับอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะรู้สัมผัส สัมพันธ์ กันแล้วจะค่อยมีองค์ประกอบมีการขยายตัวต่อไปมีการสังขารกันไปเรื่อยๆ ทีนี้ ท้าวสักกะเทวราชคือผู้ที่เป็นใหญ่ในโลกของจิตวิญญาณ เทวราช คือ เทวะ ของราชาที่ชื่อว่า สักกะ เป็นพระราชาของเทวะทั้งหลาย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 05 พฤษภาคม 2563 ( 11:48:01 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:41:58 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:09:50 )

ท้าวสักกะเทวราชคือเช่นไร

รายละเอียด

คุณมาศึกษาปฏิบัติให้รู้เทวะ คุณก็จะรู้เทวะของตัวเองที่เป็น สักกะเทวราช ความเป็นเทวะของตัวเอง แยกสองแล้ว ศึกษาความจริงอย่าไปหลงใน 2 ดีไม่ดีปรุงแต่งเป็น 3 4 5 นับไม่ถ้วน ไม่มีจบ เทวะ นั้น ให้เข้าใจ 2 ให้ชัดแล้วทำ 2 ให้เป็น 1 เป็น 1 เพื่อที่จะหยุดกิเลสที่พาให้เป็น 2 3 4 5 6 คุณก็ล้างกิเลสไปทีละคู่ คุณฟังขณะนี้ จับตัวกิเลสไม่ได้ไง แล้วคุณจะไม่สงสัยว่าเทวะมันก็มีแค่ 2 ตัวหนึ่งถูกฆ่ามันก็ไม่ใช่เทวะเหลือเอกะคือ 1 แล้ว เป็น จิต เป็นใหญ่ของตัวเอง ตั้งแต่ตัวอย่างแรกเลย เรื่องอะไรที่ติดที่เป็นอบายมุขขี้หมาอะไร เลิกล้างมาแล้ว จิตหลุดพ้น แล้วเราก็ยังไม่ตาย เราก็เห็นว่ามันมีในโลกแต่มันทำอะไรเราไม่ได้ เราไม่ได้เป็นทาสของมันเลย มีแต่สงสาร จะช่วยเขาหากอยู่ในฐานะที่จะช่วยก็ช่วยได้ คุณก็จะได้เป็นท้าว สักกะเทวราชเอง วันนี้ได้ฟังความเข้าใจเรื่องท้าวสักกะเทวราชมากขึ้นใช่ไหม ก็หมายถึงตนเอง สักกะ แล้วก็มาเรียนรู้ สักกายของตน 2 ก็คือเทวะคือ 2 แยกอาการ 2 แล้วทำให้มันเป็นหนึ่ง เอกสโมสรณาให้ได้ โดยเอาตัวเวทนาในเวทนาเป็นฐานหลัก อโศกสัมปวังโก ฟังมาจนหนวดงามขนาดนี้แล้วสักวันจะส่งประกวด หนวดงาม 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 10:58:54 )

ทําบุญได้บาป 5

รายละเอียด

ผู้ใดฆ่าสัตว์อุทิศแก่ภิกษุสงฆ์ ผู้นั้นย่อมได้บาป มิใช่บุญเป็นอันมาก คือ

1. ได้บาป เพราะผู้นั้นกล่าว “จงไปนําสัตว์นั้นมา”

2. ได้บาป เมื่อสัตว์นั้นต้องทุกข์โศก เพราะถูกผูกคอลากมา

3. ได้บาป เพราะผู้นั้นกล่าว “จงฆ่าสัตว์นี้”

4. ได้บาป เมื่อสัตว์กําลังถูกฆ่าได้รับทุกข์ทรมาน

5. ได้บาป เพราะทําให้ภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ยินดีฉันเนื้อสัตว์ที่ไม่สมควร (อกัปปิยะ)

 

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 13 “ชีวกสูตร” ข้อ 60


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 19:20:52 )

ธง

รายละเอียด

คือ 1. จุดหมายปลายทาง 2. ธงคือสิ่งที่ต้องยึดถือไว้แล้วต้องดำเนินไปต้องถือธงไปด้วยนะ ชูธงไปจนกว่าจะเอาไปปักถึงที่หมายสุดท้าย 

ธ. ธง นี้หมายถึงพระเจ้าแผ่นดิน หมายถึงทุกอย่างที่เป็นความทรงอยู่ในเราคือจะอาศัย แม้ที่สุดเป็นพระอรหันต์แล้วยังต้องมีธงยังจะต้องอาศัย ถ้าเคลื่อนไหวก็เป็น ธมมฺ หรือ ธรรมะไป 

ธรรมะเป็นคำบาลีมี ม.ม้า 2 ตัว ถ้าเป็นสันสกฤตก็มี ร.เรือ 2 ตัว

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 02 มกราคม 2563 ( 14:43:43 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:55:38 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:20:20 )

ธง ที่พ่อครูต้องการคือ โลกุตระ

รายละเอียด

ธง ที่อาตมาต้องการคือโลกุตระ คนยังไม่รู้จักโลกุตระได้ง่ายๆเลย หรือจะเรียกว่าอารยะธรรม มันก็เฟ้อ แต่โลกุตตระที่เขาไม่พูดถึง เพราะเขาไม่รู้ มันเป็นคำใหญ่ เขาเป็นโลกียะกันแล้วเขาก็ไม่รู้ตัวว่าโลกุตระคืออะไร มันเป็น 2 เป็นเทวในโลก ยิ่งใหญ่ โลกุตรธรรมกับโลกียธรรม ยิ่งใหญ่ที่สุด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 18 มกราคม 2566 ( 12:25:43 )

ธนบัตร

รายละเอียด

โลกที่สมมุติธนบัตร ที่เป็นกระดาษมาเขียนตัวเลขใส่ สมัยโบราณเรียกว่าตั๋วแลกเงิน เช่นสมมุติว่าเรามีเงิน 100 บาท คุณก็เอากระดาษให้คนอื่นมาทวง 100 บาทนี้ได้ เงินธนบัตรในประเทศเช่นเงินดอลลาร์ พิมพ์ออกไปแต่ละฉบับ ใครถือเอาไว้ก็ไปทวงเอาเงินจากประเทศอเมริกาได้ ถ้าหากคนในโลกนี้เอาเงินดอลลาร์ไปทวงเอาเงินคืนจากอเมริกาขณะนี้ ถามว่าอเมริกาจะมีเงินให้แก่คนเหล่านั้นครบไหม (ไม่)

ในประเทศจะต้องมีหลักฐานมีทรัพยากรของประเทศ ทรัพยากรของรัฐ จะเป็นทองคำจะเป็นทองดำ จะเป็นอะไรที่มันมีค่าก็แล้วแต่เป็นทรัพยากรหลักของรัฐ ที่มีค่ามากก็เป็นหลักประกันของประเทศ ถ้าคุณจะเอาเศษกระดาษมาคืนเราก็เอาสิ่งเหล่านี้คืนให้คุณได้เพราะฉันมี แต่ทีนี้ไม่มี มีแต่อะไรมีแต่ขี้ขยะ ดีไม่ดีจะมีหนี้สินซ้ำซ้อน อเมริกามีหนี้สินมากที่สุดในโลก

อาตมาจึงไม่รู้สึกว่าโลกนี้มันสุจริตเลย เงินดอลลาร์อเมริกา เป็นเงินดอลล่าร์เป็นเศษกระดาษเช็ดก้นที่ไร้ราคาที่สุด แต่เขารักษากัน เมืองไทยยังขนาดว่า 1 ดอลลาร์เท่ากับ 30 กว่าบาท ประเทศอื่นก็ยังยอม เอาอัตราของดอลลาร์มาเป็นอัตรากลางพูดกัน ทั้งที่มันล้มเหลวแล้วธนบัตรเปื้อนตัวเลข เป็นตัวแลกเงินที่ไร้ค่า แต่เขาก็สามารถสร้างภาพลวงอันนี้ในโลก รักษาสถานะอยู่ได้ นี่คือโลกที่ล้มเหลว โลกที่โง่เง่า

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 16 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:27:08 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:56:57 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:21:30 )

ธนบัตร หรือ เงิน

รายละเอียด

การเดินทางของแรงงานทางกายทางสมองตีราคาเป็นกระดาษชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย คุณก็เอากระดาษชำระมาเป็นตัวกลางเป็นตัวแทนไปสะพัด ก็ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องใช้ในมนุษยชาติ ใครจะไปตีทิ้งธนบัตรมันตีทิ้งไม่ได้ จนคนฉลาดแกมโกงอย่างสหรัฐอเมริกา ได้พิมพ์กระดาษชำระออกมาเรียกมันว่าดอลลาร์ มันเป็นกระดาษชำระ ถ้าเผื่อว่าคนในโลกปัจจุบันนี้เอากระดาษชำระที่ชื่อว่าดอลล่าร์นี้ คืนไปแลกเอาค่าของมันจากประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศสหรัฐก็ขายประเทศทั้งประเทศมาให้ก็ไม่พอ เพราะมันไม่มีค่าอะไรเลย แล้วสิ่งที่เป็นหลักประกันของธนบัตร พูดจริง ของสหรัฐตอนนี้กลวง ไม่มีทุนรับประกัน เช่นทองคำ หรือบ่อน้ำมันเป็นต้น หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะเป็นทรัพย์สมบัติของประเทศจริงๆ มันไม่มี มันพิมพ์กระดาษเงินดอลลาร์โดยใช้อิทธิพลในสังคม ให้อัตราเงินดอลลาร์มันไม่มีค่านั้นจริงแต่มันเก่งสามารถสร้างอำนาจทำให้ราคาเงินดอลลาร์สูงได้ อาตมาว่าพวกเรานี่ต่อไป ดูการจัดการของเงินหยวนกับเงินดอลลาร์ เงินบาทเราไม่ต้องไปแข่งเขาหรอก บาทเราเป็นผู้น้อย ขึ้นภูดูเสือกัดกัน เงินนี่นะ มันทำให้เกิดงาน และเกิดการแลกสิ่งที่กินใช้ ให้แก่ชีวิต เท่าที่คนโง่มากจะบำรุงกิเลสตนเองให้อ้วน ก็ซวยเองเท่านั้นแหละ มันเป็นสิ่งแทนอันหนึ่ง ถ้าคนโง่กับมัน มันจะทำให้คุณซวย แต่ถ้าเข้าใจว่ามันคือกระดาษที่บอกราคาเป็นตั๋วแลกเงิน บอกค่าราคาที่คุณเทียบอัตราราคา ใช้ในประเทศ ค่าของเงินโดยสภาวะจริงๆไม่เท่ากันแม้แต่ในแต่ละจังหวัดแต่ละประเทศ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 31 ตุลาคม 2562 ( 08:19:47 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:57:35 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:22:07 )

ธนบัตรคือสมมุติ

รายละเอียด

ธนบัตรนี้คือกระดาษเขียนตัวเลขใส่เข้าไปเท่านั้น แต่ก่อนไม่มีธนบัตรก็เอาเบี้ยเอาหอย สมมุติว่าขนาดนั้นขนาดนี้ พอฉลาดขึ้นมาก็ทำธนบัตร ก็ปั๊มตัวเลขใส่เป็นเท่านั้นเท่านี้ ก่อนนั้นมีเหรียญเป็นรูจนกระทั่งพัฒนาเป็นกระดาษเบาขึ้น เดี๋ยวนี้ก็ยังใช้อยู่บ้างแล้วก็ลดลงก็ใช้กระดาษเป็นหลัก ปั๊มได้ก็เป็นตั๋วแสดงค่าของเงินๆทองๆ 

ที่จริงแล้ว“เงินทอง”นั้นไม่ใช่“เนื้อแท้”ที่จะ“กิน”เข้าไปได้ “อาหาร”ทำให้สังเคราะห์“ชีวิตสังขาร”ของเราได้เลย เงินๆทองๆนี้คุณจะมีหอบไว้เท่าไหร่ก็เถอะก็ไม่ใช่ นี่แหละคือความฉลาดหรือความโง่ ตรงนี้เขาก็คิดว่าเงินๆทองๆนี้ฉันเอาไปซื้ออาหารได้ ก็จริงอยู่ในสังคมที่คนยังโง่ด้วยกัน มันยังต้องพึ่งพากัน ถ้าเป็นในสังคมที่คนฉลาดคนที่มีปัญญาแท้จริง แล้วคนที่รู้จักสาระเหตุปัจจัยของชีวิตที่ดี แล้วก็ไม่เป็นทาสไอ้ตัวเลขจำนวนเงิน จำนวนตัวเลข ซึ่งเป็นกระดาษกินไม่ได้ เขาจะรู้ว่าไอ้ของกินได้นี้สำคัญกว่ากระดาษนั้น กินได้ทันที กระดาษกินไม่ได้ทันที แต่ของแท้นี้กินได้ทันทีเขาก็จะรู้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 16 ตรวจสอบความจบกิจเป็นอรหันต์ในเรื่องเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2566 ขึ้น 6 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2566 ( 11:46:43 )

ธนบัตรเป็นแค่ตั๋วแลกของ ถ้าพวกพืชพันธ์ธัญญาหารบอยคอร์ดตายอย่างเขียด

รายละเอียด

แต่พวกนี้เราให้ด้วยซ้ำ barter เอาของแลกของ ธนบัตรเป็นตั๋วแลกของ ตั๋วแลกเงิน ดีไม่ดีแลกกันไปแลกกันมากลายเป็นการเล่นเงิน ถ้าเผื่อว่าไม่มีอาหารจริงๆ มีแต่เงินมากๆ เล่นแต่เงินมันกินไม่ได้ เป็นเรื่องเผิน เป็นเรื่องตีนไม่ติดดิน ตาย ถ้าพวกพืชพันธ์ธัญญาหารบอยคอร์ด พวกเงินเยอะๆ ก็ตายอย่างเขียดเหยียดขาตายบนขื่อเลย ไม่ได้กินอะไรอยู่บนหอคอยงาช้างตาย นึกว่าตัวเองสูง นี่คือความเข้าใจผิดของสัจธรรมในสังคมมนุษยชาติ นึกว่าพวกมีเงินเยอะๆ คือพวกสูง พวกที่ทำไร่ทำนาทำสวนเป็นพวกกรรมกร เป็นพวกรับใช้รับจ้าง 

แล้วอาหารต่างๆ นานานี้ขายแพงเหมือนกับอาวุธก็ไม่ได้ มันรู้กันทั่วโลกมันก็เลยกดราคากัน เพราะแต่ละประเทศก็มีคนจนทั้งนั้น ถ้าขืนขายแพงคนจนตาย เป็นเรื่องจำนน คนก็มีปฏิภาณรู้ เพราะฉะนั้นอาหารที่จะขายกันนั้น พวกที่ไปทำของกิน อาหารการกินให้แพง เป็นพวกโง่ดักดาน ความฉลาดสามัญของคนเขาไม่ทำอาหารให้มันราคาแพงหรอก แต่ความฉลาดขี้โกง ความฉลาดโง่ๆ ถึงไปโกงไปทำให้เครื่องกินอาศัยเลี้ยงชีพนี้ราคาแพงพวกนี้โง่จริงๆ ยิ่งทำยิ่งโง่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก ครั้งที่ 41 อาหารเป็น 1 ในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 20:49:25 )

ธนาธร กับพลเอกประยุทธ์ คู่ชกการเมืองไทยขณะนี้

รายละเอียด

แต่อาตมาดูแล้วคู่ชกในเมืองไทยโดยเฉพาะการเมืองประชาธิปไตยไทยขณะนี้ คู่ชกมันคนละรุ่นคนละน้ำหนัก มันคนละเบอร์ อะไรต่างๆนานา 

แม้ที่สุด ธนาธร กับพลเอกประยุทธ์อยู่ในสภาเขาจะเลือกใครเขาก็ผ่านนะ สภาก็เลือกพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เลือกธนาธร ที่สุดธนาธรออกมาดิ้นต่างๆนานาก็ทำผิดเองถูกศาลตัดสินเอง ไม่ให้ทำเขาก็ยังฝืนทำ ทำให้แพ้ผิดกฎหมาย พยายามก่อตั้งคณะอะไรอีก นี่เขายังไม่อยากเอาผิดรุนแรง เขายังประนีประนอมอยู่บ้าง มันก็เลยเขาก็ยังหลงตัวเองว่าไม่กล้าทำเขาหรอก อาตมาว่ามันซับซ้อนเขายิ่งหลงตัวเอง อาตมาว่าเงินมันยังไม่หมด สักวันหนึ่งเถอะ จะรู้สึก เงินมันยังไม่หมด ขี้เหนียวเก่งนะ ยอดขี้เหนียวเลยธนาธร บอกว่าทักษิณขี้เหนียวแล้วแต่ธนาธรนี้ยิ่งกว่าเดดซี รู้จักเดดซีไหม สุดเค็ม(ทะเลเดดซี) ใครตกลงไปลอยได้เลย สู้ความหนาแน่นของทะเลเดดซีไม่ได้เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติปรากฏได้ในยุคโควิด

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:31:33 )

ธรรม

รายละเอียด

คือ สังขตธรรมและอสังขตธรรมหรือสังขาร และวิสังขารทั้งปวง ไม่ใช่ตน (สัพเพ ธัมมา อนัตตา)

หนังสืออ้างอิง

“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1หน้า 75


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 12:10:56 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:08:38 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:22:36 )

ธรรม

รายละเอียด

1. ทรงอยู่

2. สภาพที่ทรงอยู่นั้น ๆ หรือสภาพที่กล่าวถึงนั้นมีอยู่ – เป็นไปได้

3. ภาวะที่ยังมี , ภาวะที่ยังทรงไว้ , ภาวะที่ยังทรงอยู่ และต้องเป็นฝ่ายดีเท่านั้น

คำอธิบาย

ธรรม หมายถึง "สิ่งที่ทรงไว้เป็นแก่นชีพหรือสมบัติ หรือเป็นคุณค่าในตัวเรา"

(หนังสือคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? เล่ม 1 หน้า 45) 

หนังสืออ้างอิง

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 121

คนคืออะไร? หน้า 471

ค้าบุญคือบาป หน้า 274

คนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? เล่ม 1 หน้า 45 


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 12:54:46 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:24:21 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:23:39 )

ธรรม

รายละเอียด

คือ ความยังแสดงความมีอยู่ ซึ่งบอกนัยะ ของความเป็น“สภาวะ”ว่า มีหรือไม่มี,ทรงอยู่หรือไม่ทรงอยู่

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1  หน้า 490


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:33:39 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 04:59:10 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:23:59 )

ธรรม 10 ประการที่เป็นหลักประกันของผู้บริหารปกครอง

รายละเอียด

ซึ่งเราเกิดมาเป็นชีวิต ถ้าเราเกิดมาเจริญ แม้ที่สุดความเจริญนี้ เจริญได้เที่ยงแท้ หมายความว่าเจริญไม่มีตกต่ำ สัพพปาปัสอกรณัง(ไม่ทำบาปทั้งปวง) กุสลสูปสัมปทา(ทำกุศลให้ถึงพร้อม) นี่เป็นหลักธรรมพระพุทธเจ้าเลย ปฏิบัติได้แล้วสำเร็จ คือเป็นคนที่เจริญได้ ไม่ตกต่ำ ไม่ทำสิ่งที่ไม่ดีอีกเลย สัพพะปาปัสสอกรณัง

ถ้าเรายังมีชีวิตมีกรรมกิริยาอยู่ในโลกยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปจาก กาละ แยกธาตุ สลายเป็นดินน้ำไฟลมไปเลย เป็นปรินิพพานเป็นปริโยสาน ยังวนเวียนอยู่ในกาละ จิตวิญญาณยังไม่ตายด้วย ยังไม่สลายด้วยนิพพาน 3 สุญญตนิพพาน อนิมิตนิพพาน อัปนิหิตตนิพพาน คนผู้นั้นจะเวียนตายเวียนเกิดอยู่ในกาละตลอดกาละนาน 

ถ้าทำตัวเองให้มีหลักประกันของจิตวิญญาณของเรา จะตายจะเกิดอีกเท่าไหร่ก็ไม่มีวันทำชั่วอีกเลย เป็นหลักประกันเด็ดขาด แน่นอน ของพระพุทธเจ้า เป็นคนที่รับประกันได้เลย จะเป็นคนมีทศพิธ เต็มๆก็เรียกทศพิธราชธรรม 10 ข้อนี้ ไม่ว่าจะเกิดชาติไหนจะเป็นคนมีทศพิธราชธรรมตลอดกาลนาน คือจะเป็นคนมีทาน มีศีล บริจาคสละออก สละออกเต็มที่ ไม่สะสม บริ รอบเลย บริจาคเต็มรอบ ปริจาคะ ให้ไปโดยไม่ยักไว้ ไม่กั๊กไว้ ไม่สะสม เต็มที่ ตามรอบ รอบเล็กรอบใหญ่รอบโต อย่าง 3 ข้อแรกเป็นคนมีประโยชน์แล้ว 

3 ข้อต่อมา อาชวะ มัทวะ ตัปปะ เป็นคนมีความซื่อตรง คำว่าความซื่อตรงคำเดียวนี้ก็สุดยอดแล้วในความเป็นมนุษย์ อย่างประเทศไทยนี้ มีพลเอกประยุทธ์เป็นนายก มีความซื่อตรง ดีมากเลย หลักเดียวนี้ก็เหลือกินแล้ว ซื่อตรงต่อประเทศชาติ ซื่อตรงต่อการงาน ซื่อตรงต่อ 3 สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สุดยอดแล้ว พฤติกรรมที่ซื่อตรง เป็นเหตุใหญ่ของชีวิต พฤติกรรมหรือการกระทำกรรมของตนเองก็จะเยี่ยมยอดแล้ว มีความอ่อนโยน มีความเพียรเผากิเลส-ตปะ มัทวะ-อ่อนโยน อีก 3 ข้อต่อไป

อโกธะ อวิหิงสา ขันติ เป็นผู้ที่ไม่ค่อยโกรธ อันนี้ คนยังไม่ค่อยเชื่อ แต่ผู้ที่มีจิตสูงแล้วเป็นอรหันต์แล้ว ขออภัย อย่างอาตมานี่ ไม่เคยโกรธ แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว อาตมานึกถึงอดีตตั้งแต่เด็กจนถึงโตไม่เคยโกรธ อาการโกรธเป็นอย่างไรในจิตวิญญาณมนุษย์ แล้วก็แสดงออกทางกาย วาจา เป็นอย่างไร อาตมาไม่เคยโกรธตั้งแต่เด็กจนโต พูดอย่าพูดแรง แรงด้วยสัจจะด้วยธรรมะ อาตมาพูดแรงมาแต่ไหนแต่ไร แต่พูดหยาบพูดแรง ที่ออกไปอย่างมีอิสระ มีความโกรธออกไปนั้นไม่เคยตั้งแต่เด็กจนโต มีแต่คนมาแรงกับเรา หยาบกับเรา เราไม่เคยหยาบ

อย่างพูดมึงกับกู เพื่อนสนิทเขาก็พูดมึงพูดกูกับอาตมา แต่อาตมาไม่เคยมึงกูกับเขาตอบ อาตมาก็พูดว่า ลื้อ อั๊ว พูดเอ็ง พูดข้า ไม่เคยพูดมึงกูกับใครเลย ไม่ต้องยกตัวอย่างใคร สุเทพ วงศ์คําแหง นี่เพื่อนสนิทกัน เขาก็มึงกูกับอาตมา แต่อาตมาก็ อั๊ว ลื้อ เอ็ง ข้า อย่างนี้เป็นต้น ไม่เคยไปพูดอะไรหยาบ นี่ ระลึกดู ตรวจสอบตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งโตมาขนาดนี้ กำลังจะย่างเข้า 90 คนอายุ 90 นี่ เขาต้องเรียกว่าคนแก่ แต่อาตมาว่า ยังไม่แก่นะ 

รู้สึกว่าเราจะยังกลางคนๆอยู่ ที่สุดข้อสุดท้าย ไม่ประพฤติผิดธรรมเลย อวิโรธนะ ทศพิธคือ10 อย่าง ทศะ กับ พิธ 10 อย่างต่างๆ เป็นธรรมะที่มนุษยชาติควรจะระลึกถึง ขออภัยต้อย อาตมาขอต่ออีกนิด ถ้ามนุษย์ มีคุณธรรม 10 อย่างนี้ เป็นหลักประกันของพระพุทธเจ้าว่าสุดยอดมนุษย์แล้ว 

เพราะฉะนั้น พระราชาที่มี 10 อย่างนี้ เป็นหลักประกันในชีวิต เป็นผู้ใหญ่ที่ดีตลอดกาลนาน เป็นผู้ใหญ่ ผู้บริหารปกครองที่ดีตลอดกาลนาน เพราะฉะนั้น ในศาสนาพุทธ ในพระเจ้าแผ่นดินของประเทศไทย เป็นพุทธมามกะทุกพระองค์ จะมีทศพิธราชธรรม เพราะอยู่ในกฎมณเฑียรบาล จะมีพวกนี้ ให้ทรงศึกษา จะมีมากมีน้อยก็แล้วแต่ แต่ละพระองค์ เป็นหลักประกันเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 8 พ่อครูพบ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 มกราคม 2566 ( 13:10:18 )

ธรรม 5 ที่ทำให้อยู่ผาสุก

รายละเอียด

1. ถึงพร้อมด้วยศีล  ไม่ติเตียนผู้อื่นเพราะอธิศีล (ต้องมีอธิศีลเรื่องนั้นๆแล้ว จึงจะติได้)
2. เพ่งดูกรรมของตนเอง  ไม่เพ่งโทษผู้อื่น 
3. ไม่มีชื่อเสียง  ย่อมไม่สะดุ้ง*เพราะไม่มีชื่อเสียงนั้น( *ไม่สะดุ้ง = โน ปริตสฺสติ)
4. ได้โดยไม่ยาก โดยไม่ลำบาก  ซึ่งฌานทั้ง 4
5. กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ  ปัญญาวิมุติ  อันหาอาสวะมิได้

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 22 ข้อ 106, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2562 ( 14:01:35 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 05:00:00 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:24:28 )

ธรรม คือภาวะทรงไว้จากการปฏิบัติ

รายละเอียด

ธรรม คือภาวะทรงไว้จากการปฏิบัติ กาย เวทนา จิต จนทรงไว้ได้จากการปฏิบัติ  

ใช่ ธรรมะนี่แปลว่า สภาวะที่ทรงไว้หรือทรงอยู่ ที่มีอยู่ สัมผัสได้ ของเรานี่ ธรรมะคือองค์รวม ถ้าธาตุนี่คือสภาพที่จะแยกมาเป็นตัวๆ 2 ธาตุเป็น 1 ธรรม อะไรอย่างนี้ หรือ 3 ธาตุ 4 ธาตุ 5 ธาตุ เป็นหลักธรรม เป็นองค์รวม ธาตุเป็นตัวแยกย่อย ธาตุคือตัวหนึ่ง ตัวธาตุแยกเป็นตัวสุดท้ายคือธาตุ ต้นธาตุคือหนึ่งเลย ส่วนต้นธรรม คือองค์ประชุมไปเรื่อยๆ แล้วก็จะมีในตัวเรา เรียกว่า ทรงอยู่ ทรงไว้ เรียกว่า ธรรมะ หรือธาตุที่เรารู้ เราก็มีธาตุพวกนั้นผสมกันอยู่ในชีวิตจิตใจของเรา เพราะงั้น ธรรมะคือภาวะทรงไว้จากการปฏิบัติกาย เวทนา จิต ใช่ กายก็ผสมอยู่ เวทนาก็พยายามทำให้เป็น 1 หรือแม้ที่สุด ทำให้เวทนาไม่เป็น 1 ให้ความรู้สึกนี้ ที่จริงเวทนามันก็มีอยู่ ถ้าไม่มีเลยก็คือ ทำให้เวทนาที่ไม่ใช่เวทนาแท้ให้มันเป็น 0 ไป แต่ถ้าคุณยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน คุณก็ต้องมีเวทนาอยู่ ต้องมีธาตุรู้ที่ยังรู้สึก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาไม่ดับสัญญาแต่ดับกิเลส วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 ตุลาคม 2565 ( 18:56:33 )

ธรรมกถึก

รายละเอียด

ผู้แสดงธรรม , ผู้เทศนา , ผู้สอนธรรม , ผู้สืบทอดเนื้อหาธรรมที่เป็นพุทธ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 48,144


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 12:57:30 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:25:00 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:24:45 )

ธรรมกับธาตุต่างกันอย่างไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น สภาวะ 2 ตั้งแต่ท่านแยกอันแรก ท่านยังไม่แยกคำว่า ปัญญา ท่านใช้คำว่าธรรมะ 

ธรรมะคือสิ่งที่ปรุงแต่งตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไป ถ้าธาตุ ก็คือ 1 ถ้าเป็นธรรมะก็ 2 จะไม่อธิบายลงรายละเอียดถึงพยัญชนะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 51เป็นผู้แพ้ผู้รับใช้ได้ไม่ยาก ด้วยฌานทั้ง 4 วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2565 ( 14:31:58 )

ธรรมกาย

รายละเอียด

กายของพระพุทธเจ้าคือธรรมกาย มีคุณธรรมทุกอย่างหมายถึงอย่างนี้ คนนี้ทำให้แตกต่าง ต่างไปจนกระทั่งแยกคนละเรื่องตรงกันข้ามกันเลย ดีไม่ดีเป็นปฏิปักษ์ต่อกันเลย แตกต่างกันจนเป็นปฏิปักษ์ต่อกันเลย อันนี้คนนี้ฝ่ายนี้เห็นอย่างนี้ว่าถูก ฝ่ายนี้เห็นอย่างเดียวกันนี้แต่บอกว่าไม่ถูก ขัดแย้งกันเลยอย่างนี้เป็นต้น ถึงเรียกว่ากาย มันแยกกันแล้วมันไม่เป็นกายเดียวกัน ไม่ใช่เป็นพุทธกายหรือธรรมกาย พระพุทธเจ้าบอกว่าท่านเป็นธรรมกายหรือพรหมกาย เพราะฉะนั้นใครทำการแตกอันนี้เป็นอนันตริยกรรม เป็นบาปตกนรกหมกไหม้นานมากเลย อนันตริยกรรม คือบาปมันมาก เพราะเป็นความผิดที่แรงร้าย 

ที่มา ที่ไป

รายการกายนี้คือวิญญาณ วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2563 ( 10:47:58 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:07:28 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:25:08 )

ธรรมกาย , พรหมกาย

รายละเอียด

1. ผู้ตื่น  ตื่นจากฝัน

2. ผู้มีกายอันเป็นธรรมสูงสุด หรือพรหมสูงสุด

3. กาย คือองค์ประชุมของรูปนามที่สะอาดบริสุทธิ์จากกิเลสจริง

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 240

คนจะมีธรรมะได้อย่างไร / เราคิดอะไร ฉบับ 287หน้า 44


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 12:59:26 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:25:53 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:25:59 )

ธรรมกาย พรหมกายเป็นเช่นไร

รายละเอียด

เรียนรู้สภาวะของรูป 28 สู่ความเป็นอรหันต์ ในหนังสือยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ อาตมาได้เขียนไว้ตอนหนึ่ง...

ตื่นจากฝัน เพราะสัมมาสมาธินั้น เป็นสมาธิที่ยืนอยู่บนฐานของความจริง ทั้งสมมติสัจจะและปรมัตถสัจจะครบถ้วน ยืนยันได้ทั้งองค์ประกอบของรูปและนามพิสูจน์ความเป็นกายที่สัมบูรณ์ด้วยธรรมาธิปไตย หรือธรรมกาย ก็เรียก พรหมกายก็เรียกอย่างลัทธิธรรมกาย ธัมมชโย บาปกินหัว เอาธรรมกายมาเรียกของตัวเอง แล้วออกนอกรีตนอกทางเลอะเทอะ ไปเป็นสวรรค์วิมานเลอะเทอะไปหมดเลย ทำลายธรรมพระพุทธเจ้าทำลายความเป็นกาย ของพระพุทธเจ้าไม่รู้จะบาปยังไงแล้ว 

ผู้มีกายเป็นธรรมะหรือกายเป็นพรหมคือผู้มีองค์ประชุม กายคือองค์ประชุมไม่ใช่ธาตุเดี่ยวไม่ใช่เอกังสะ กายเป็นธาตุสองขึ้นไป คือองค์ประชุมของรูปนามที่เป็นภูมิสูงสุดสัมบูรณ์ ดังที่ พระพุทธเจ้าตรัสว่า คำว่าพรหมกายหรือธรรมกายคือ กายของผู้ที่มีฐานะสูงสุดหรือพรหมสูงสุด ผู้ที่เป็นสาวกภูมิจึงไม่ควรบังอาจเอาไปเรียกตัวเอง พล่อยๆ ถ้าอย่างน้อยผู้ใดมีภูมิถึงพระอรหันต์แล้ว จะเรียกว่าตนคือผู้ที่เป็นธรรมกายก็ยังพอฟัง พอรับได้ สมควรที่จะเรียกได้เพราะเป็นผู้ที่มีพุทธธรรมเต็มครบรอบแห่งความเป็นคน เป็นมนุษย์จริงแล้ว รอบหนึ่ง เป็นอนุพุทธ อรหันต์คืออนุพุทธ อนุพุทธคือส่วนหนึ่งส่วนน้อย อนุคือน้อย เป็นส่วนน้อยของคนผู้นี้ก็มีภูมิธรรมเต็มความเป็นพุทธสมบูรณ์แบบแล้วในความเป็นคนขั้นต้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้สภาวะของรูป 28 สู่ความเป็นอรหันต์ วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 19:03:37 )

ธรรมกายหรือพรหมกายเป็นนามของตถาคต

รายละเอียด

ทีนี้ธรรมกาย สิ่งที่ทรงอยู่เกิดจากสภาวะที่เรียนรู้ 2 อันคือ กาย คำว่า กาย จึงเป็นตัวต้นที่ใช้เรียนใช้ความเป็นเหตุปัจจัยธรรมะ 2 เมื่อได้แล้วทำได้แล้ว ทรงไว้ก็คือธรรมะ ผู้ใดรู้จักกายและรู้จักธรรมะตั้งแต่ สักกายะ จนถึงกายสูงสุด เป็นพรหมกาย เป็นกายที่แสดงสภาวะที่ป็นพรหม เป็นความบริสุทธิ์สะอาดเป็นพระเจ้าเรียกว่าพรหมกาย พรหมกาย เป็นนามของตถาคต ธรรมกายเป็นนามของตถาคต คำว่าธรรมกายหรือคำว่าพรหมกายซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ใดเห็นธรรมผู้ใดเห็นความสะอาด พรหม กับ ธรรมะที่รู้จักกายอย่างสัมมาทิฏฐิ ผู้ใดเห็นธรรมกายเท่ากับเห็นพระพุทธเจ้า เป็นนามธรรมล้วนๆเลยเป็นคนวิเศษที่ยอดเยี่ยม 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 11:22:10 )

ธรรมกายหรือพรหมกายเป็นไฉน

รายละเอียด

วิญญาณ มีรูปนามต้องมีกายพร้อม พระพุทธเจ้าเรียกธรรมกายท่านตรัสของท่านเองว่าธรรมกายนี้คือเรา หรือพรหมกายคือเรา

คำว่า “ธรรมกาย” มาเป็นพรหมกาย ชัดขึ้นเลย “ธรรมกาย” คือสภาพทรงไว้เต็มที่ของรูปและนามสูงสุด “พรหม” คือความสะอาดบริสุทธิ์ของรูปนาม ถือเอาจิตเป็นตัวบริสุทธิ์สูงที่สุด ของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมกายหรือพรหมกาย

หากเป็นกายที่สมบูรณ์ด้วยธรรม สมบูรณ์ด้วยพรหมก็เรียกธรรมกายได้ 

พวกเราพูดคุยถามธรรมะกัน น่าสงสารข้างนอกเขา คือเราพูดสิ่งละเอียดทั้งพยัญชนะและสภาวธรรม นิพพานังปรมังวะทันติพุทธา ไม่นิพพาน ไม่ยอมจบพวกเรานี้ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระออนไลน์ ครั้งที่ 24 วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 17:46:55 )

ธรรมของคนดีที่มีสัมมาทิฏฐิ คือสัทธรรม 7

รายละเอียด

สัทธรรม 7 มีปัญญา เป็นตัวที่ 7 “สัทธรรม 7” มีศรัทธา, หิริ, โอตตัปปะ,  พหูสูต,  วิริยะ, สติ, ปัญญา

สัทธรรม 7 คือธรรมของคนดีที่มีสัมมาทิฏฐิ

1. ศรัทธา (ความเชื่อมั่นอย่างสัมมาทิฏฐิ)

2. หิริ (ละอายต่อการกระทำผิด)

3. โอตตัปปะ (เกรงกลัวต่อการกระทำผิด)

4. พหูสูต (ฟังมาก รู้มาก ปฏิบัติธรรมแทงตลอดได้มาก)

5. วิริยารัมภะ (ปรารภความเพียร)

6. สติ (ระลึกรู้ตัวไม่เผลอใจ)

7. ปัญญา (รู้แจ้งชำแรกกิเลสได้)

(พระไตรปิฎกเล่ม 11 “สังคีติสูตร” ข้อ 330)

 

ในสัทธรรม 7แบ่งเป็นหมู่.. หมู่ศรัทธา, หิริ, โอตตัปปะ ... หมู่พหูสูต ... แล้วก็ วิริยะ, สติ, ปัญญา อีกหมู่หนึ่ง 

หมู่แรก 3 พหูสูต (ศรัทธา, หิริ, โอตตัปปะ) เป็นตัวกลาง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 21:46:13 )

ธรรมคุ้มครองโลก 2

รายละเอียด

ธรรมฝ่ายขาว 2 อย่างนี้ย่อมคุ้มครองโลก

1. ความละอายต่อการกระทำผิด

2. ความเกรงกลัวต่อการกระทำผิด

หากไม่มีธรรม 2 อย่างนี้คุ้มครองโลก โลกจะถึงความสำส่อนกันเยี่ยงดิรัจฉาน

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 20 "ปฐมปัณณาสก์" ข้อ 255

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 15 มิถุนายน 2562 ( 04:33:17 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:09:01 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:27:46 )

ธรรมคุ้มครองโลก 2

รายละเอียด

ธรรมฝ่ายขาว 2 อย่างนี้ย่อมคุ้มครองโลก

1. หิริ (ความละอายต่อการกระทําผิด)

2. โอตตัปปะ (ความเกรงกลัวต่อการกระทําผิด) หากไม่มีธรรม 2 อย่างนี้คุ้มครองโลก โลกจะถึงความสําส่อนกันเยี่ยงดิรัจฉาน 

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 20 “ปฐมปัณณาสก์” ข้อ 255


เวลาบันทึก 11 มีนาคม 2565 ( 20:38:55 )

ธรรมจักษุ

รายละเอียด

1. ตาทิพย์

2. ดวงตาแห่งธรรม

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 300 

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 18


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 13:01:59 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:26:45 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:26:31 )

ธรรมชาติ

รายละเอียด

คำว่า ธรรมชาติมีการเกิดของชาติอยู่ในนี้ด้วย อาตมาเคยวิเคราะห์ข้อนี้ ท่านพุทธทาสบอกว่าธรรมะคือธรรมชาติ อาตมาก็บอกว่า แค่พยัญชนะนั้น ท่านก็บอกว่า x = x y ธรรมะกับธรรมชาติ ธรรมะคือ x ธรรมชาติ คือ X กับ Y มันจะอันเดียวกันได้ยังไงถ้าโมเมบอกว่าธรรมะคือธรรมชาติ X = x y นี่แหละคือยังไม่เข้าใจ มันก็จะไปสรุปกันได้ยังไง มันได้ยังไง  1 ก็คือ 1 สิ 2 ก็คือ 2 สิ แยกให้ออก นี่หมายถึงอะไร ถ้าจะอธิบายว่ามันมารวมกันเป็น 2 ก็ทำยังไงมันจะเป็น เคยอธิบายแล้วทำเวทนา 2 ให้เป็น 1 ของศาสนาพระพุทธเจ้าก็ ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ )  ล.10 ข.60 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ ปลุกธรรม ตอบปัญหาผ่ามิจฉาอาชีวะ 5 วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 แรม 12 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2567 ( 20:08:24 )

ธรรมชาติ 5

รายละเอียด

คือ พระพุทธเจ้าท่านสอนภิกษุที่มาบวชใหม่จะมีมูลกรรมฐาน 5 ให้พิจารณาก่อนอุปัชฌาย์จะสอนให้แยกกาย แยกจิต

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 68 วันจันทร์ที่ 9 เดือนกันยายน 2562


เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 14:32:38 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 05:01:28 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:28:10 )

ธรรมชาติ  

รายละเอียด

1. สภาพที่มีอยู่ คือยังไม่สูญ ยังมิใช่สภาพไม่มี
2. ธรรมะที่หมายถึงสภาพที่ยังมีอยู่ ยังไม่ดับสนิท
3. ชาติที่มีอยู่ในธรรม

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 471,497

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 31
 


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 13:04:26 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:27:54 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:27:05 )

ธรรมชาติกับวิทยาศาสตร์

รายละเอียด

ถาดขนมครกสมัยก่อนเขาปั้นด้วยดิน ถาดดิน เวลาให้ความร้อนมันจะอีกลักษณะหนึ่ง หุงข้าวหม้อดินกับหุ้งหม้อสเตนเลสก็จะคนละกลิ่น น่าจะมีความลึกซึ้งเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เรื่องนี้ หุงด้วยฟืนหุงด้วยแก๊สกับไฟฟ้ามันจะไม่เหมือนกัน เป็นพลังงานไปเป็นตัวปฏิกิริยา เพราะฉะนั้นขนมครกนี่ก็เหมือนกัน ขนมครกทุกวันนี้เป็นถาดเหล็ก ก็จะออกมาไม่เหมือนกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 12:21:35 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 05:02:36 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:35:16 )

ธรรมชาติก็มีสิ่งที่ให้เรียนรู้

รายละเอียด

ทั้งปลวก ผึ้ง มด มีทั้งนั้น สัตว์โขลง ตามธรรมชาติมันมีทั้งนั้น แต่พวกนี้เขาไม่เชื่อธรรมชาติ ต้องมีหัวหน้า จริงๆเขาเองก็อยากจะขึ้นเป็นหัวหน้า ทั้งนั้นแหละพวกนี้ แล้วก็มาบอกว่านี่เป็นอภิสิทธิ์ เป็นศักดินา แต่เมื่อตัวเองขึ้นไปก็หลงเหลิง เอาไปเอามาก็เหมือนกับคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งเหมือนเกาหลีเหนืออย่างนั้นแหละ เขารู้ตัวที่ไหน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มาฝังชิปโลกุตระใส่จิตวิญญาณตนจนเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 วันขึ้น 14 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 ธันวาคม 2565 ( 12:02:40 )

ธรรมชาติก็สำคัญ อาหารก็สำคัญ

รายละเอียด

แล้วเราไม่ได้เอาอันนั้น ธรรมชาติก็สำคัญ อาหารก็สำคัญ เราก็เน้นมาทำอาหารให้สำคัญกว่าด้วยซ้ำไป ก็คนจำนวนหนึ่งที่ไปช่วยสร้างภูเขาลำธารอยู่พวกนี้ แต่คนที่เป็นหลัก อย่างชาวอโศกนี่ยังไม่ค่อยเต็มที่ด้วย ก็ขอย้ำมากๆหลายทีแล้ว ว่าถ้าใครเลือดนักกสิกรรมขึ้นสมองเต็มที่แล้ว ทำ วันๆต้องได้ทำกสิกรรม ช่วยกันปลูก โอ้โห.. มันจะขนาดไหน

ขนาดทุกวันนี้ชาวอโศก ปลูกอยู่ปลูกกินก็ยังพอกินมีเหลือ ถ้าน้ำไม่ท่วมไม่มีปัญหาเลยราชธานีอโศก น้ำท่วม หมดเกลี้ยงเลยหมดจริงๆ 2 3 เดือนมันท่วมเรียบร้อยเลย ต้นไม้ทนไม่ไหวตายกันด้วย กินผลกินหมากกินใบก็ไม่เหลือ ต้องปลูกขึ้นใหม่หมดเลย แต่ปลูกขึ้นใหม่ไม่ทันไร เราก็ปลูกยาวไปถึงถนนข้างนอกแล้ว ให้คนเก็บกินได้เลย ผักอีตู่ พริก มะละกอ ปลูกไล่ไปเรื่อย คือคนอีสานกินของพวกนี้ เราก็ปลูกให้เขากินไป เขาเอาครก เอาปลาแดกมาก็พอ พริกก็มีมะเขือก็มี มะละกอก็มี สบายแล้วกินได้เลย 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 8 พ่อครูพบ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มกราคม 2566 ( 12:52:21 )

ธรรมชาติของ 2 สิ่งในมหาจักรวาลคือบวกกับลบ

รายละเอียด

ก็เป็นเหตุการณ์ที่มันขยับตัวหนึ่ง  อีกตัวหนึ่งมันก็ต้องขยับอีกตัวหนึ่ง ถ้าหากในกระดานหมากรุกไม่ขยับเลยมันก็จะนิ่ง แต่ถ้าขยับตัวหนึ่งเริ่มตั้งแต่ตัวเบี้ย ตัวอื่นก็ต้องขยับ ขยับซ้อนกันไปมันเป็นโดยธรรมชาติ ธรรมชาติของ 2 สิ่งในมหาจักรวาลคือบวกกับลบ บวกคือตัวนิ่ง ลบคือตัวเคลื่อน แล้วก็ทำหน้าที่นะ 

บวกนี่ ไม่ได้หมายความว่านิ่งๆๆ หนึ่งเดียวเฉยๆนะมันดูเหมือนหนึ่ง แต่มันหนึ่งๆๆๆ นิ่ง บวกนี่ เพราะฉะนั้นบวกจึงมี 2 ขีด แล้ว 2 ขีดเข้าไปให้ดูเห็นว่ามันเป็นอย่างนี้นะ แต่ถ้าจริงๆก็คือ 0 ตัวศูนย์นี้ยิ่ง 00000 นั่นคือบวกหรือ 1 

ส่วน ลบ นี้แทนด้วยขีดเดียว นี่เป็นความขัดแย้งกันในที ซึ่งแต่ไหนแต่ไรแล้วแต่คนจะเรียก สมมติสร้างเครื่องหมายบวกกับลบ สร้างความเป็น 2 ขึ้นมา แยกเป็นคู่มา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก เอื้อไออุ่นชาวสันตินาคร 

วันพุธที่ 17 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก 


เวลาบันทึก 22 มีนาคม 2564 ( 12:40:51 )

ธรรมชาติของสิ่งที่มี ไม่มีเป็นหนึ่ง มันเป็นหนึ่งในสอง

รายละเอียด

ธรรมชาติของสิ่งที่มีมันก็ต้องสอง ธรรมชาติของสิ่งที่มี มันต้องเป็นสอง

ไม่มีเป็นหนึ่ง มันเป็นหนึ่งในสอง ทเวธัมมา ทวเยนะ เวทนายะ เอกสโมสรณา ภวันติ   มันต้องมีธรรมะสอง แล้วก็จัดการให้ไปเป็นสอง ในส่วนสอง โดยส่วนสอง มันต้องมีส่วนสองอยู่เป็นหนึ่งในส่วนสอง  คุณไม่รู้สอง แล้วคุณก็ไม่รู้หนึ่ง  คุณต้องรู้ว่าคุณกับเรา สอง และคุณกับเรา เราหนึ่ง เขาหนึ่ง ก็อยู่ด้วยกันก็จบ ก็คุณกับเรามันก็คือคุณกับเรา บวกกะลบ คุณจะไปให้บวกมาเป็นลบ คุณจะให้ลบมาเป็นบวกยังไง

ที่มา ที่ไป

ธรรมะ 2 รวมเป็นเวทนา 1 โดยส่วน 2 ภาคประสานงาน

สื่อธรรมะพ่อครู(ปฏิจจสมุปบาท) ตอน ธรรมะ 2 รวมเป็นเวทนา 1 โดยส่วน 2 ภาคประสานงาน วันที่ 13 กรกฎาคม 2561


เวลาบันทึก 01 มีนาคม 2564 ( 14:58:15 )

ธรรมชาติความเห็นต่าง

รายละเอียด

ก็มันเป็นธรรมดาธรรมชาติความเห็นต่าง พระพุทธเจ้าอยู่ทั้งพระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ทั้งพระองค์ ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีความเห็นต่างจากพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเองยังมีพระชนม์ชีพอยู่นะในยุคพระพุทธเจ้า ก็เห็นอยู่ในประวัติในพระไตรปิฎกมีเยอะแยะ เห็นต่างและรวนอยู่และป่วนอยู่ ตั้งแต่พระเทวทัต พวกฉัพพัคคีย์ หรืออะไรต่างๆนานาอยู่ในนั้น ก็มาป่วนก็มารวนอะไรอยู่ 

มีพระพุทธเจ้าทั้งองค์ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ แล้วอาตมาเป็นใครจะไปเก่งกว่าพระพุทธเจ้าที่จะห้ามได้ จะไม่ให้มีได้ มันห้ามไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นก็ดูที่ตัวเรา เห็นคนอื่นที่เขาเห็นแตกต่างกันไปหากว่าพอสนิทกัน พอที่จะคิดว่า เตือนเขาให้สติเขาบ้างได้ ก็ให้บ้าง ถ้าเห็นว่ามันสุดวิสัย มันเหนือวิสัยที่จะไปเอาไม้สั้นไปรันขี้เปล่าๆก็ไม่เข้าท่าอะไร ก็ต้องปล่อยให้เป็นไป 

เพราะไปห้ามไม่ได้หรอกในความรู้ความเห็น สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่นานาสังวาส 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมื่อเห็นค้านแย้งจากผู้สัมมาทิฏฐิย่อมคือผู้มีบาป วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 พฤษภาคม 2566 ( 13:10:57 )

ธรรมชาติทุกอย่างมีรวมตัวกับแตกตัว

รายละเอียด

ในธรรมชาติทุกอย่างก็มีรวมตัวกับแตกตัวเท่านั้นแหละ เพราะฉะนั้นในพลังงานในสเปซในอวกาศต่างๆ มีอะไรรวมตัวกัน จนกระทั่งเป็นสสารพลังงานมารวมตัวกันเข้า ก็เป็นเนบิวลา เป็นก้อนรวม พอรวมเสร็จใหญ่จนกระทั่งไม่มีอะไรดูดดึงได้มันก็ระเบิดแตกออกไปอีกเรียกว่าบิกแบง เป็นธรรมดาธรรมชาติ แม้ว่าจิตวิญญาณก็เช่นเดียวกัน อยู่ชั่วนิรันดร์กัลป์ อวสานประมานประเมิน มันมีอย่างนี้ตลอดกาลนานใดก็เป็นอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิธีจบนิยาม 5 จบนิยายของตนอย่างนิรันดร วันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 09:18:31 )

ธรรมดาของความเห็นแยกที่แตกต่างรอการพิสูจน์ 

รายละเอียด

อาตมาก็เห็นต่างกับเขา ส.ศิวรักษ์อาจจะเห็นอีกอย่าง ก็พิสูจน์กันไปเรื่อย คุณ ส.ศิวรักษ์ก็ไม่ได้แกล้งอะไร เขาก็เป็นความจริงของเขา เขาก็เห็นอย่างนั้นว่าน่าจะทำ อย่างนี้ ถึงครั้งนี้คราวนี้อายุ 88 แล้ว ก็ยังเห็นว่าควรออกไป แม้กระทั่งจะต้องถือไม้เท้าก็ไปเดินทะลุฟ้ากับเขาก็เอา เพื่อยืนยันเพื่อช่วย น้ำหนักของฝ่ายที่เขาเห็นด้วยควรเป็นเช่นนั้นมันก็เป็นความเห็นที่แยกที่แตกต่างเป็นธรรมดา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 18:49:38 )

ธรรมดาของสัจธรรม

รายละเอียด

ธรรมดาของสัจธรรม คือ มีความเป็นหนึ่งเดียว ดูเหมือนยกตัวตน แต่ก็คือสัจธรรมที่นำเสนอว่าอันนี้ดีขั้นไหน ก็แยกให้รู้ไปวันนี้ชื่อขั้นไหนก็ว่าไปแจกแจงให้รู้ทั้งลำดับขั้นตอนความมากความน้อยความต่ำความสูง  ความเจริญความเสื่อมหากไม่เพ่งโทษว่าไปพูดยกตนข่มคนอื่นก็เป็นธรรมชาติธรรมดาของสัจธรรมพูดความดีก็ต้องเหนือกว่าความชั่วเหนือกว่าความชั่วมากต้องข่มเยอะ  เหนือกว่าสูงก็ต้องข่มมาก  เลี่ยงไม่ออกที่จะต้องสื่อสัจจะ ทุกวันนี้ สมณะโพธิรักษ์ยากมากที่ต้องพูดตรงๆ พูดแฝงยิ่งยากก็เห็นใจท่านผู้ฟัง  คนเรามีสามัญสำนึกว่าอย่าไปอวดสิ่งที่ตัวเองมีตัวเองดีมันเป็นคุณธรรมชั้น 1 ระดับหนึ่ง อย่าไปอวดให้คนอื่นเห็นเอง  รู้เอง ซึ่งมันก็จริงในระดับหนึ่ง  แต่มันดีจนกระทั่งขนาดบอกแล้วบอกอีก  คนที่เข้าใจยังไม่เข้าใจไม่ดีแม้แต่คนที่เข้าใจแล้วบอกไปแล้วนี่  คนเขาเข้าใจแล้วนะก็ยังไม่เชื่อ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 14:20:44 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 05:03:26 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:29:00 )

ธรรมดาธรรมชาติของจิตวิญญาณมนุษย์ต้องมี 2

รายละเอียด

มันมีอยู่สองขั้ว เจโตกับปัญญา หรือศรัทธากับปัญญา ต่างกันอย่างไรบ้าง มันลึกซึ้งซับซ้อนละเอียดมาก แล้วต้องมี 2 สายนี้เป็นธรรมดาธรรมชาติของจิตวิญญาณมนุษย์ อาตมาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร มันเป็นแก่นแกน แกนเจโตคือแกนศรัทธาก็เป็นลักษณะหนึ่ง แกนปัญญาก็อีกลักษณะ มีลักษณะของมันอีกเยอะอาตมาก็ไม่เก่งจะอธิบายให้ละเอียดละออได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2563 ( 11:47:50 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:42:35 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:30:45 )

ธรรมทาน

รายละเอียด

ทานที่ไร้เครื่องล่อ

หนังสืออ้างอิง

จากคนคืออะไร ? หน้า 399


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 13:05:15 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:28:31 )

ธรรมทาน ยิ่งใหญ่ที่สุด 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น ผู้ที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจกลุ่มของสังคมตนเองจบกิจแล้วก็ไม่เดือดร้อน พออยู่พอกินเหลือเฟือแบ่งแจกได้ก็ทำกัน มันจะเป็นเรื่องปรากฏการณ์จริง เป็นพฤติกรรมจริงทำกันจริงๆ เห็นๆ ไม่ได้พูดเล่น เป็นสิ่งที่เป็นสัจธรรมพิสูจน์ได้ ยืนยันได้ จับต้องได้ เพราะฉะนั้นเรื่องทานจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เป็นเรื่องเริ่มต้นและเป็นเรื่องกลางและเป็นเรื่องปลายสุด เรื่องทาน

แม้ที่สุดชีวิตจบเป็นอรหันต์ เป็นโพธิสัตว์ก็มีแต่เรื่องทานเรื่องเดียว เริ่มต้นเป็นอรหันต์ ก็สมบูรณ์แบบแล้วในเรื่องการทาน ก็จะทานได้หลายอย่าง ทานทั้งวัตถุ ทานพลังงาน แรงงาน แรงกาย ทานทั้งความรู้ ทานทั้งคุณธรรมต่างๆโลกียธรรม โลกุตรธรรมเป็นธรรมทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะฉะนั้น ผู้ที่เป็นโพธิสัตว์จะเข้าใจเรื่องนี้แม้แต่ในความเป็นทาน อย่างดีที่สุดละเอียดลออวิจิตรพิสดารในเรื่องการทาน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2566 พิธีน้อมกตัญญูบูชา วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2566แรม 2ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2566 ( 15:42:24 )

ธรรมทำให้ผาสุก 5

รายละเอียด

เหตุ 5 อย่างที่ทำให้เป็นอยู่ผาสุกร่วมกัน

1. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล ไม่ติเตียนผู้อื่นด้วยอธิศีล (ศีลขั้นสูง)

2. เป็นผู้เพ่งดูตน ไม่เพ่งโทษผู้อื่น

3. เป็นผู้ไม่มีชื่อเสียง ย่อมไม่สะดุ้งเพราะความไม่มีชื่อเสียง

4. เป็นผู้ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ซึ่งฌาน 4

5. เป็นผู้กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุต ปัญญาวิมุต อันหาอาสวะ (กเิลสที่หมักหมมในสันดาน ) มิได้

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม  22 "อานันทสูตร"  ข้อ  106

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2562 ( 13:28:07 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:09:30 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:29:22 )

ธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 2

รายละเอียด

ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ ไม่ล้นฝั่ง ฉันใด สาวกทั้งหลายของเราก็ฉันนั้นเหมือนกัน ไม่ล่วงสิกขาบทที่เราบัญญัติไว้แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต ดูกรปหาราทะ ข้อที่สาวกทั้งหลายของเราไม่ล่วงสิกขาบทที่เราบัญญัติไว้แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 2 ในธรรมวินัยนี้ ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ

ผู้ที่เห็นความสำคัญของพระธรรมวินัยว่าไม่ต้องไปละเมิด เห็นโทษเห็นภัยเห็นความไม่ควร ก็ไม่ต้องไปละเมิดจริงๆเพราะเป็นสิ่งที่ท่านห้าม พระพุทธเจ้าท่านห้ามเพราะเห็นว่ามันไม่ควร พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ ซึ่งเป็นสุดยอดแห่งความรู้แล้ว เท่าที่บรรดาคนเกิดมาเป็นคน จะสามารถมีความรู้ที่เข้าไปถึงความจริงได้สุดยอดที่สุดแล้วในประดาคน 

และไม่ได้ขึ้นอยู่กับพระพุทธเจ้าเท่านั้นด้วย ยังมีเปิดไว้ เป็นปลายเปิดว่ามี มหาปเทส 4 แต่ละยุคสมัยองค์ประกอบกาละเทศะฐานะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้ายุคนี้ควร เช่น 

ยุคพระพุทธเจ้า เป็นสาธารณโภคีถึงขั้นฆราวาสไม่ได้เพราะมีข้อจำกัดซึ่งได้พูดไปหมดแล้ว จะไม่ทบทวน แต่ในยุคนี้ ข้อจำกัดนั้นหมดไปแล้ว เป็นได้ สาธารณโภคีถึงขั้นฆราวาสด้วย อย่างนี้ก็เป็นเรื่องของ มหาปเทส ไม่ใช่เรื่องเกินเลยหรือเก่งกว่าพระพุทธเจ้า 

ก็พูดไปแล้วอธิบายไปแล้ว ถ้าฟังธรรมะของอาตมามีภูมิอยู่แค่นั้นว่าอาตมาเป็นคนวัดรอยเท้าพระพุทธเจ้า หรือเดินตามรอยพระบาทพระพุทธเจ้า แค่นี้ คุณก็ไม่เข้าใจแล้วคุณจะเข้าใจอะไร ในความรู้ธรรมะพระพุทธเจ้า แค่นี้คุณก็เข้าใจไม่ได้  

คนอย่างอาตมานี่หรือวัดรอยเท้าพระพุทธเจ้า แต่เดินตามรอยเท้าอย่างเชิดชูยกย่อง ไม่ได้ไปวัดรอยเท้า ไม่ได้ไปเป็นทรพีอะไร แค่นี้คุณก็เข้าใจไม่ได้ก็ยังมาเพ่งโทษอาตมา​ ขี้ตู่อาตมา คุณก็เป็นนักขี้ตู่เป็นนักเพ่งโทษที่

ถ้าฟังอาตมาตั้งแต่ต้นไม่เคยเลยอาตมาจะลบหลู่พระพุทธเจ้า อย่าว่าแต่วัดรอยเท้า วัดรอยเท้าเป็นความอหังการยิ่งกว่าละลาบละล้วงพระพุทธเจ้านะ วัดรอยเท้า จะไปตีตนเสมอจะไปลบหลู่เลย จะเป็นนักเพ่งโทษก็อย่าเพ่งโทษให้ผิดเพี้ยน​ มันขายหน้า มันแสดงภูมิของตัวเองออกมาว่าเป็นภูมิที่มันไม่ถูกต้อง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์จากพ่อครูผู้ตามรอยบาทพระศาสดา วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤษภาคม 2565 ( 11:36:40 )

ธรรมที่เป็นอาริยธรรม คือสัทธรรม 7

รายละเอียด

ปฏิบัติ 3 ข้อนี้จะเกิด สัทธรรม 7 ธรรมที่เป็นอาริยธรรม คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหูสูต แล้ว แล้วก็จะเกิดวิริยะ สติ ปัญญาอีก 3 ข้อเสริมหนุนกัน

 สัทธรรม 7 คือธรรมของคนดีที่มีสัมมาทิฏฐิ

1. ศรัทธา (ความเชื่อมั่นอย่างสัมมาทิฏฐิ)

2. หิริ (ละอายต่อการกระทำผิด)

3. โอตตัปปะ (เกรงกลัวต่อการกระทำผิด)

4. พหูสูต (ฟังมาก รู้มาก ปฏิบัติธรรมแทงตลอด

ได้มาก)

5. วิริยารัมภะ (ปรารภความเพียร)

6. สติ (ระลึกรู้ตัวไม่เผลอใจ)

7. ปัญญา (รู้แจ้งชำแรกกิเลสได้)

(พระไตรปิฎกเล่ม 11 “สังคีติสูตร” ข้อ 330)

ศรัทธาความเชื่อความเข้าใจความรู้ เป็นความรู้ความเข้าใจมันจะเข้าใจขึ้น ปฏิบัติแล้วก็จะสัมผัสกิเลสได้ อย่างนี้เองโอ้โห แต่ก่อนนี้เราไม่รู้เลยนะ อันนี้อร่อยจัง เดี๋ยวนี้ไม่กล้าพูดแล้วมันน่าอายปฏิบัติธรรมแล้วอร่อยๆ รู้สึกหรือยัง มีไหม มี นี่คือคุณกำลังมีสัทธรรม 7 มีอยู่จริง ไม่รู้ว่าอร่อยอย่างโน้นอย่างนี้ไปชื่นชมกับ กาม กับปฏิฆะ อะไรต่างๆนานา มันเข้าใจไม่ถูก อย่างนั้นไม่ใช่อาริยชนอย่างนั้นเป็นคนโลกๆ เข้าใจดีก็เกิดอธิจิต อธิปัญญา สัมผัสเกี่ยวข้องกับอะไร 

แต่ก่อนมันเคยไปยินดี เสริมหนุนกิเลสให้แก่ตัวเองอีก อาย สูงขึ้น จากหิริ ไปเป็นโอตตัปปะ มีสติปฏิบัติทางกายวาจาใจเต็ม ก็  เป็น โอตตัปปะ รู้ตัว เป็นการเจริญของ อธิจิต อธิปัญญา อธิมุติก็สูงขึ้น แต่ก่อนแค่ละอาย แต่ตอนนี้กลัว มันเจริญขึ้นอีก จิตก็จะเก่งขึ้น มันรู้เร็ว กลัวไม่เอาไม่ทำ

คุณทำอย่างนี้แหละ แค่สามข้อมีศรัทธา หิริ โอตตัปปะ 

ศรัทธาความเชื่อถือความเข้าใจก็ยิ่งสูงขึ้นปฏิบัติธรรมไปคุณธรรมก็ยิ่งเจริญ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา อธิมุติ เป็นวิมุติ โน้มไปสู่ความเจริญที่สูงขึ้นเป็นวิมุตติญาณทัสสนะ 

เพราะว่ามีวิริยะ สติ ปัญญา มีสติตื่นเต็มมีความเพียร ปฏิบัติต้องมีสติทั้งกายวาจาใจเต็ม ปฏิบัติมีสัมผัสเป็นปัจจัย สำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 มีโภชเนมัตตัญญุตา มีชาคริยานุโยคะเป็นคนตื่นไม่ใช่คนหลับ 

ขออภัย ตีทิ้งหลับตาปฏิบัติ มันออกนอกเขตเทศบาลพุทธ ไปโผด คือการเอาไปปล่อยไกลๆ

อาตมาอธิบายธรรมจากศีล ขยายความให้พิสดาร ถ้ารู้จักขั้นตอนของสาระธรรมของศาสนาอธิบายให้พิสดาร เมื่อคุณสามารถทำได้เป็นวิมุติ คุณก็เป็นพหูสูต ไม่ใช่เป็นแค่ผู้คงแก่เรียน เป็นผู้รู้อ่านตำราศึกษา แล้วเอามา สอนคนอื่น แจ้วๆ เป็นปทปรมบุคคล ไม่ใช่ พหูสูตเป็นผู้รู้จริงรู้แจ้งบรรลุธรรม วิริยะก็เจริญ สติก็เจริญ ปัญญาก็เจริญ เป็นสัทธรรม 7

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับ

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:01:06 )

ธรรมที่เป็นเหตุให้อยู่ร่วมกันอย่างมีเอกภาพ

รายละเอียด

เมื่อทำได้แล้วมาอยู่เป็นหมู่กลุ่มอยู่กันไปอย่างมีความสุข มีเมตตา กรุณา มุทิตาอุเบกขา กายกรรมเมตตา วจีกรรมเมตตา มโนกรรมเมตตา ได้ลาภยศสรรเสริญข้าวของมารวมกับกองกลางแบ่งกันกินตามสาธารณโภคี  สิ่งที่สร้างได้แต่ละคนเอามารวมกันใช้กินร่วมกันเป็นสาธารณโภคี แล้วก็ปฏิบัติตนไปตามศีลสามัญญตา ทิฏฐิสามัญญตา โสดาบันเสมอโสดาบัน สกิทาคามีเสมอสกิทาคามี อนาคามีเสมออนาคามี อรหันต์เสมออรหันต์ เสมอสมานกันอยู่เป็น “สาราณิยธรรม 6”สมบูรณ์แบบ 

สาราณิยธรรม 6  (ธรรมเป็นเหตุให้อยู่ร่วมกันอย่างมีเอกภาพ) 

1. เข้าไปตั้งกายกรรมประกอบด้วยเมตตา ทั้งลับ-แจ้ง 

2. เข้าไปตั้งวจีกรรมประกอบด้วยเมตตา ทั้งลับ-แจ้ง  

3. เข้าไปตั้งมโนกรรมประกอบด้วยเมตตา ทั้งลับ-แจ้ง  

4. แบ่งปันลาภผลให้กับเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย  (ลาภา ธัมมิกา - มีลาภตามธรรมแห่งสาธารณโภคี) 

5. มีศีลเสมอสมานกันกับเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย (สีลสามัญญตา)  

6.มีความเห็นเสมอสมานกันกับเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย 

(ทิฏฐิสามัญญตา) (ล.22  ข. 282-283)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ของวรรณะ 9 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก  


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:35:24 )

ธรรมทําให้ผาสุก 5

รายละเอียด

เหตุ 5 อย่างนี้ทําให้เป็นอยู่ผาสุกร่วมกัน

1. เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลไม่ติเตียนผู้อื่นด้วยอธิศีล (ศีลชั้นสูง)

2. เป็นผู้เพ่งดูตน ไม่เพ่งโทษผู้อื่น

3. เป็นผู้ไม่มีชื่อเสียง ย่อมไม่สะดุ้ง เพราะความไม่มีชื่อเสียง

4. เป็นผู้ได้โดยไม่ยาก ไม่ลําบาก ซึ่งฌาน 4

5. เป็นผู้กระทําให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติอันหาอาสวะ (กิเลสที่หมักหมมในสันดาน) มิได้

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 22“อานันทสูตร” ข้อ 106


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 19:25:57 )

ธรรมนิยาม

รายละเอียด

ความเป็นไปอันมีระเบียบแน่นอนของธรรมชาติ ซึ่งแบ่งได้เป็น อุตุ พีชะ จิต กรรม ธรรม

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 12


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 13:06:00 )

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 16:29:04 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:29:44 )

ธรรมนิยาม

รายละเอียด

ความเป็นไปอันมีระเบียบแน่นอนของธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่า ธรรมนิยาม ในมหาจักรวาลนี้ แบ่งได้เป็น 5 ประการ คือ อุตุ พีชะ จิต กรรม ธรรม

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 12


เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 12:57:01 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:09:51 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:30:01 )

ธรรมนิยาม

รายละเอียด

ธรรมนิยามก็คือทรงไว้ ด้วยจิตนิยามของคุณที่ทำกรรมได้แล้ว คุณจะทำจิตนิยามให้เป็น พีชะ คุณก็ทำได้แล้วไม่สุขไม่ทุกข์ หรือแม้แต่เป็นอุตุก็ไม่สุขไม่ทุกข์เหมือนกันยิ่งแยกเป็นดินน้ำไฟลมไปเลย ก็เป็นธาตุที่ยิ่งห่างไปจากชีวะอีกระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้น คุณสามารถทำ เมื่อกี๊อ่านไปบ้างแล้ว 1 2 หรือ 0 ถ้า 2 มันก็ประชุมกันเป็นจิตนิยาม หรือเป็น พีชะ หรือประชุมกันเป็นอุตุ เป็นพลังงานกับสสาร 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 10 ออกจากกาละได้โดยใช้ มูลสูตร10 และวิญญาณฐิติ 7 วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566 ขึ้น 2 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:56:42 )

ธรรมนิยาม 3

รายละเอียด

คือ ไตรลักษณ์โลกีย์ (การเกิดขึ้น การตั้งอยู่ การดับไป = สามัญลักษณ์ของโลกีย์) ที่เป็นสามัญของคนชาวโลกีย์ธรรมดาเท่านั้น

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 71


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 12:04:13 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:10:09 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:30:24 )

ธรรมนิยาม 4

รายละเอียด

1. ตถตา (ตนได้เป็นเช่นนั้นๆ ได้อย่างอัตโนมัติแล้ว หรือได้ความว่างเป็นสัจธรรมเช่นนั้นเองในตัวแล้ว) 
2. อวิตถตา (ความจริงที่เที่ยงแท้แล้วไม่กลับกลาย) 
3. อนัญญถตา (เป็นไปอย่างนั้นแน่จริงชนิดไม่มีสิทธิ์เป็นอื่นอีกแล้วอย่างนิรันดร์) 
4. อิทัปปัจจยตา (เพราะเป็นสิ่งนั้นได้จริงแล้ว  จึงสืบต่อเชื้อความจริงในสิ่งนั้นได้.. อย่างมีของแท้จริงเกิดขึ้นสืบทอดให้กันและกันจริง) 
 

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2562 ( 13:10:25 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 05:07:43 )

ธรรมนิยาม 4 ต้องเป็นจริงเช่นนี้

รายละเอียด

มันเป็นสิ่งที่เป็นตถตา สิ่งที่เป็นเช่นนี้ ต้องเป็นเช่นนี้ เป็นอื่นไม่ได้ มันเกิดแล้วจริงๆ มันต้องเป็นเช่นนี้ สิ่งที่เป็นเช่นนี้ต้องเป็นเช่นนี้ จะเป็นอื่นไปไม่ได้ เป็นความจริงเช่นนี้จริงๆตรงๆเป็นสัจจะเลย เป็นตถตา อิวิตถตา อนัญญตถตา อิทัปปัจจยตา ธรรมนิยาม 4  ต้องเป็นจริงเช่นนี้อย่างนี้เป็นอย่างอื่นไม่ได้หรอก 

1. ตถตา (ตนเป็นเช่นนั้นๆ ได้อย่างอัตโนมัติแล้ว หรือได้ความว่างเป็นสัจธรรมเช่นนั้นเองในตัวแล้ว) 

2. อวิตถตา (ความจริงที่เที่ยงแท้แล้ว-ไม่กลับกลาย) 

3. อนัญญถตา (เป็นไปอย่างนั้นแน่จริงชนิดไม่มีสิทธิ์เป็นอื่นอีกแล้วอย่างนิรันดร์) 

4. อิทัปปัจจยตา (เพราะเป็นสิ่งนั้นได้จริงแล้ว  จึงสืบต่อเชื้อความจริงในสิ่งนั้นได้.. อย่างมีของแท้จริงเกิดขึ้นสืบทอดให้กันและกันจริง) 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ผู้พ้นอสุรกายจึงได้ไปอยู่โลกหน้า

วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 20:28:41 )

ธรรมนิยาม 5

รายละเอียด

คือ อุตุนิยาม พีชะนิยาม จิตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม (การเกิดขึ้น การตั้งอยู่ การดับไปของสรรพสิ่ง ที่เป็นสรรพสิ่งโลกียะ ทั้งสรรพสิ่งโลกุตระ)

หนังสืออ้างอิง

“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า78


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 12:19:00 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:10:30 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:34:05 )

ธรรมนิยาม 5

รายละเอียด

ความเข้าใจพลังงานในระดับอุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม นี่เป็น 3 นิยามที่มีพลังงานแตกต่างกัน ผู้ที่มีความเป็นจิตนิยามเช่นมนุษย์เช่นคน ได้เรียนได้ศึกษาจะเข้าใจอุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยามนี้ จะแยกออก โดยจะเข้าใจสภาพความเป็นจริงว่าอาการของพลังงาน อุตุนิยาม เป็นพลังงานเหมือน ความร้อนแสงเสียงแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นเรื่องของวัตถุธาตุ ดินน้ำไฟลมที่มันสังเคราะห์กันเป็นพลังงาน วิทยาศาสตร์เขาก็เรียนรู้กันอยู่ ในคนที่เป็นจิตนิยามมีพลังงานอย่างนี้อยู่แน่ และพลังงานที่เป็นชีวะปรุงแต่งขึ้นไป พีชนิยาม ซึ่งธรรมนิยาม 5 นี้ วิทยาศาสตร์สากลทั่วไปในโลกไม่สามารถรู้ได้ แม้แต่ศาสดาของเทวนิยมก็ไม่สามารถมีความรู้ที่จะรู้จักพลังงาน 5 นี้

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 66  วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 18:54:53 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 05:08:44 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:31:50 )

ธรรมนิยาม 5

รายละเอียด

เป็นสุดยอดของความรู้ไม่ว่าจะเป็นเชิงวิทยาศาสตร์หรือพุทธศาสตร์หรือศาสนาต่างๆ สุดยอดธรรมะสุดยอดวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างในมหาจักรวาลแยกได้ 5 อย่างนี้ทั้งนั้น อุตุ พีชะ จิต สามอย่างนี้ ถ้ารู้ 3 ขั้นนี้ ว่าคุณสมบัติของ 3 อย่างตั้งแต่

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 01 กุมภาพันธ์ 2563 ( 12:19:34 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 05:10:17 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:34:49 )

ธรรมนิยาม 5

รายละเอียด

มี“จิตนิยาม”นี้แลที่เป็น“ระดับกลาง”ของ“ธรรมนิยาม 5”ทีเดียว

ซึ่ง“จิตวิญญาณ”นี้แหละที่สามารถรู้จักรู้แจ้งรู้จริงอุตุนิยาม-พีชนิยาม และกรรมนิยาม-ธรรมนิยามได้ และจัดการกับทั้ง 4 นิยามนั้นได้อย่างเก่งกาจ สุดฉลาดควบคุมบริหารจัดการ“อยู่เหนือ” 4 นิยามนั้นได้จริงๆ

อุตุนิยามก็ดี พีชนิยามก็ดี ที่เป็นเรื่องของดินน้ำลมไฟ วัตถุธรรมทั้งหลาย หรือแม้จะเป็นชีวะขั้นพืช ทุกวันนี้คนสุดฉลาดเฉลียวควบคุมบริหารจัดการเป็น“นาย”มันกันไปได้ทั้งโลกอย่างเป็นเรื่องสามัญสาธารณะแล้ว

แต่“กรรมนิยาม”กับ“ธรรมนิยาม”นั้น เป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้งยิ่งใหญ่มากสุดๆ ซึ่งมีศาสนาพุทธนี้แหละที่สามารถรู้จักรู้แจ้งรู้จริงในความเป็น“กรรม”เป็น“วิบาก” และจัดการ

กับ“กรรม”และเรื่อง“ธรรม” เป็นเรื่องเอกในศาสนาทีเดียว [“กรรมวิบาก”นี้เป็นอจินไตยเชียวนะ]

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:45:29 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 05:12:08 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:32:38 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์