@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

เป็นคนแล้วจะต้องได้วิชานี้

รายละเอียด

เกิดมาเป็นคนแล้ว ไม่มีความรู้อะไรที่เป็นความดีไปกว่าความรู้ที่จะต้องไปบรรลุนิพพาน ไปบรรลุความตรัสรู้สูงสุดที่พระพุทธเจ้าท่านพาทำ เป็นคนแล้วจะต้องได้วิชานี้ วิชชาจะระณะสัมปันโน คือต้องบรรลุวิชานี้ ปันโนคือบรรลุ วิชาใดๆก็ไม่สำคัญเท่า ก่อนอื่นคุณจบวิชาที่บรรลุอรหันต์ได้คุณอยากจะเกิดอีก คุณอยากจะเป็นนักดนตรี อยากเป็นนักค้าขายแข่งกับธนินท์ เจียรวนนท์ อยากจะเป็นนักอะไรต่ออะไรต่างๆสารพัด คุณเกิดมาได้ เพราะเราเกิดมาแล้วเราก็ทำวิชาการต่างๆอย่างไรก็ได้ คุณอยากเกิด อยากเป็นเท่าที่มนุษย์เขาเป็นได้ เป็นแชมป์เปี้ยนของทุกอย่างเลย คุณก็ไปฝึกเข้า อาศัยการเกิดการตายชาตินี้ยังไม่ดี ชาติหน้าก็มาเสริมต่อ ชาติหน้ายังไม่ดียังไม่เก่งก็ไปเสริมต่อฝึกอีกหลายชาติ มันจะไม่เก่งได้อย่างไร ฝึกเข้าสิเป็นล้านชาติไม่เก่งได้อย่างไร จะเป็นนักยิมนาสติก รับรอง จะเป็นยอดกังฟูจะเป็นยอดเดินไต่เส้นลวดข้ามเหว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 12 กรกฎาคม 2563 ( 11:54:46 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:59:26 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:57:33 )

เป็นคนไม่ติดใจอยู่กับปัจจุบันสบายที่สุด

รายละเอียด

คุณจะไปพูดใส่ความ ดูถูกอย่างนั้นก็ได้ ไอ้นี่มันสุดยอดแห่งความเจริญสูงสุด แล้วคุณก็บอกว่าเป็นคนไม่อยู่กับร่องกับรอย เป็นคนไม่ติดใจต่างหาก เป็นคนไม่ยึดมั่นถือมั่น เป็นคนไม่ติดใจ อยู่กับปัจจุบัน เหตุนั้นเหตุนี้โดยเรามี สัปปุริสธรรม 7 เรามีมหาปเทส 4 เพื่อที่จะวินิจฉัยในเหตุปัจจัยทุกปัจจุบันที่มันมา มันเกิดอะไรขึ้น แรงเบาอย่างไร มันจะมีกรรมที่จะเกิดต่อไป มันจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปข้างหน้ายังไง ดีหรือไม่ดี ก็พิจารณาเอาอันนี้ แล้วก็จัดการให้มันดีที่สุด  ก็จบแล้ว เราอย่าไปยึดอยู่ว่าจะต้องเป็นตามเราคิด เอาปัจจุบัน สบายที่สุด

ที่มา ที่ไป

เทคนิคการปล่อยวางความยึดและอยู่กับปัจจุบัน

14 ก.ค. 2561 ป้าขาว(สีพลบ)กับลูก(พิมพ์บูชา) มาพบพ่อครู


เวลาบันทึก 01 มีนาคม 2564 ( 15:46:54 )

เป็นคนไม่มีมารยาทเพราะว่ามีเวลาไม่มาก

รายละเอียด

อาตมาบอกแล้วว่าอาตมาเป็นคนไม่มีมารยาทเพราะว่าอาตมามีเวลาไม่มาก ถ้าหากลากสังขารตัวเองไปอีก 151 ปีก็อีกแค่ 60 กว่าปีที่อาตมาจะอยู่ แล้วอาตมาจะทำงานได้แค่ไหนกันเชียว ในขณะที่สิ่งที่มันได้ผิดเพี้ยนมันไม่เจริญมันจะต้องช่วยให้มันถูกต้องขึ้นมาใหม่ ใช้เวลา 50 60 ปีแต่ที่เขาทำลายไปเป็นเวลานับพันปีจนไม่เหลือเชื้อของศาสนาพุทธแล้ว ขอยืนยันว่าศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาโลกียชนธรรมดา แต่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาโลกุตระ เป็นศาสนาที่มีนิพพาน เป็นศาสนาที่พัฒนาจิตวิญญาณเป็นหลัก แล้วจิตวิญญาณเป็นประธานสิ่งทั้งปวง เจริญกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อย่างพร้อมไปด้วยเหนือชั้นด้วย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 36

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 ที่บวรราชธานือโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 04:43:24 )

เป็นคนไม่สะสม

รายละเอียด

อปจยะ นี่เป็นคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ ไม่สะสมเลย 0 ก็มีได้ อย่างชาวอโศก ซึ่งพัฒนาเป็นคนมีวรรณะ ยอดขยันด้วย ไม่สะสมเป็นของตัว ยอดขยัน ทำแล้วเอาเข้ากองกลางหมด กินใช้อยู่ร่วมกันเป็นสาธารณโภคี นี่คือเราทำได้ เป็นเนื้อแท้ของศาสนาพุทธที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ เอาหลักธรรมมาจับ เป็นไปได้ ไม่เป็นหมัน ไม่สูญเปล่า สิ่งเหล่านี้เป็นโลกุตระธรรม

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2563 ( 08:39:26 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:49:44 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 04:00:59 )

เป็นความจริงที่พิสูจน์ได้

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคำพูดและเราก็ทำได้จริงเป็นได้จริงอย่างนี้ มันเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ยืนยันได้เป็นฟีโนมีน่า เป็นปรากฏการณ์ที่จริง แล้วที่อาตมาพาทำ อาตมาเชื่อว่า อย่างนี้ชีวิตที่อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล  เพิ่มพูนเสียสละ 

อาตมาว่าคุณสมบัติ 8 คำนี้มันเป็นสุดยอดแล้ว นี่คือของขวัญปีใหม่ Axiom มันเป็นความแท้จริงที่จบรอบครบ 8 แล้ว ครบ 8 ในความเป็นโลก ถ้า 9 ก็คือความเป็นคนที่หลุดพ้นไปจากโลก อยู่เหนือแล้วก็สร้างสรรค์โลกแล้ว เป็นพระเจ้าแล้ว กล่าวคือพระเจ้าสร้างโลกแล้วทำงานช่วยให้โลกเกิด 8 จุดนี้

อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น  อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล เพิ่มพูนเสียสละ แต่ละคำๆมีความหมายและมีพฤติกรรมที่จริงและดีเยี่ยมแล้ว ทั้งตน และผู้อื่นเลย เห็นไหม มันอยู่ในตัวหมดเลยสมบูรณ์แบบ ที่เราพูดกันนี้ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ ไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีจริงด้วย ดีจริงๆ ด้วย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2566 ( 15:15:41 )

เป็นความจริงใจที่หวังว่าผู้แสวงหาจะได้ประโยชน์!

รายละเอียด

ที่สาธยายมาแล้วนั้นก็เป็น“ความจริง”ที่ผู้เขียนเจตนาบอก“ความจริงจากใจตนเอง”ที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ยิ่งสำหรับผู้แสวงหาสัจธรรม จะมี“ตัวเลือก”ตามอิสระเสรีภาพของตนๆ และขอยืนยันว่า คำสาธยายมาทั้งหมดของอาตมาคือ เรื่องของ“อาริยสัจ 4”ที่อาตมาบรรลุตามความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าอันพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงรับรองว่า“เป็นสัจจะหนึ่งเดียว”ที่เที่ยงแท้แน่นอนแล้วตาม“การกำหนดรู้ได้ด้วยตนเองในโลก”     

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 267 หน้า 212


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 13:32:26 )

เป็นความรู้ที่จะต้องให้มนุษยชาติมาใช้อาศัย

รายละเอียด

พวกเราศึกษาธรรมจากคำสอนหรือคำอธิบายของอาตมา ได้เข้าใจแนวทางความหมาย ความรู้ ความจริง แบบอาตมาพาทำความเข้าใจ ซึ่งมันเป็นความรู้ ความหมาย ความจริง ที่ไม่เหมือนของอาจารย์อื่นๆ เพราะอาตมาอธิบายนี้จะต้องพยายามทำความเข้าใจในสัจธรรมให้รอบด้านให้ครบๆ ด้าน เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ามันวนเวียน วนซ้ำไปซ้ำมา แล้วก็วนขยายความวนๆๆ เพื่อเจาะให้เข้าถึงทั้งเปลือก ถึงแก่น 

มันไม่ง่าย ธรรมะพระพุทธเจ้า มันไม่ง่าย มัน คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) . ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น)   (พตปฎ. เล่ม 9  ข้อ 34) 

นิปุณา ละเอียดลึกถึงขั้น(ผู้ที่จะบรรลุได้คือ)บัณฑิตแท้ๆ ที่ไม่ใช่บัณฑิตสอบจากมหาวิทยาลัย  เป็นบัณฑิตจริงๆ เป็นผู้ฉลาด มีความรู้ที่จะฟังธรรมะอันนี้ได้จริงๆ 

เพราะฉะนั้นธรรมะของพระพุทธเจ้าอันนี้ พูดไปแล้วนี่อาตมาว่า ในโลกทุกยุคทุกสมัย ถ้ามีพระพุทธเจ้านำเอาความรู้โลกุตระขึ้นมาประกาศ ก็เป็นความรู้ที่จะต้องให้มนุษยชาติมาใช้อาศัย แล้วมันก็จะเจริญ เจริญขึ้นถึงขีดแล้วมันก็จะเสื่อม นี่มันเสื่อมมาจนกระทั่งหมดไปครึ่งพุทธกัป 2,500 ปี อาตมาก็นำมาใส่เข้าใหม่ เอามาสถาปนาขึ้นใหม่ มันก็เจริญและจะเจริญขึ้นไปอีกในระยะหนึ่ง จากนั้นก็จะเสื่อมลงยาวนานไปอีก 2,500 ปี 

ซึ่งอาตมาก็ไม่แน่ว่าอาตมาจะยังต้องเกิดมาอีก เพราะมันไปไม่รอด 2,500 ปี ก็ต้องขึ้นมาต่อเชื้อ ก็ยังไม่แน่ ถ้าแน่ก็สบายไป ไม่ต้องมาอีก เหนื่อยนะยิ่งตอนนี้ชัดเจนเหนื่อยเพราะสังขารขันธ์ของอาตมา สังขารขันธ์มันดูดี เพราะอาตมาใช้ Co-efficient ใช้ Stimulate ผลักดันให้มัน ให้มันมีคุณภาพอันนั้นขึ้นมา อันนี้เป็นความรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นความรู้ที่อาตมาเอามาประยุกต์ใช้ในยุคนี้ ซึ่งมันเป็นคนละกาละ เทศะ ฐานะกับยุคพระพุทธเจ้า บรรยากาศก็ไม่เหมือน อาหารก็ไม่เหมือน อะไรก็ไม่เหมือนทั้งนั้น มันต่าง กาละ เทศะ ฐานะ กันมาแล้ว แต่ก็ใช้ได้จริงตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้า มาให้พวกเราเอาไปใช้ แยกเป็น 8 อ. ก็ใช้ได้ ได้ผลในพวกเราที่พากเพียรใช้จริง ไม่ให้ตกหล่น 8 อ. ทำให้อายุขัยดีอยู่ อายุขัยยังชะลอได้ดีไปนะ 

เพราะฉะนั้น ธรรมะของพระพุทธเจ้า จึงเป็นสุดยอดของความรู้ นี่พูดในหมู่พวกเราถ้าพูดไปกับคนข้างนอกเขาฟังแล้วก็จะหาเราว่าหลงตัวหลงตน ยกตัว ยกตนแท้จริงแล้วมันไม่มีความรู้อะไรในมนุษยชาติที่ดีกว่านี้เพราะพระพุทธเจ้านี่ ตรัสรู้เกินกว่าศาสดาทั้งหลาย ตรัสรู้ความเกิด ความตาย ของแท่งก้อนสรีระของคน เกิดอย่างไร ตายอย่างไร 

การรู้การเกิด การตาย การรู้ความเกิด ความตาย ของสัตว์หรือคน ตัวเรานี่แหละ แล้วก็จัดการกับความเกิดความตายของเราได้เอง ได้เองถึงขั้นจะเกิดหรือจะไม่ยอมเกิดอีกแล้ว จะสลายตัวอัตภาพ ตัวตนของเราหรือจิตนิยามของเรา สลาย เลิก ไปเป็นดิน น้ำ ไฟ ลม ไปเลย จบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูบวชมาครบ 53 ปี มีอะไรจริง พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 14:31:21 )

เป็นความเชื่อของตัวเองไม่ได้เชื่อใครคือสุดยอดของอิสรเสรีภาพ

รายละเอียด

เรื่องเหล่านี้เป็นสัจจะความจริงที่เกิดจริง เป็นจริง ในมนุษยชาติและในสังคม ในยุคนี้ก็เห็นจริงในชาวอโศก ติดตามมาศึกษากัน อาตมาไม่กลัวเลยนะว่า ชาวอโศกจะไม่มีคนรู้จัก อาตมาไม่กลัวชาวอโศกจะไม่มีคนรู้จัก คนจะรู้จักในอนาคตมากขึ้น คนที่รู้จักชาวอโศกมากจริงๆ จะต้องยอมรับนับถือ 

เพราะฉะนั้นอาตมาไม่กลัวคนไม่ยอมรับ และไม่กลัวคนไม่นับถือ เขาเห็นจริง เขายอมรับจริง เขานับถือจริงของเขาเอง อาตมาไม่ได้ไปบังคับ ไปบอกเขาว่าให้เลิกนับถือ เลิกยอมรับ เขาก็ไม่เลิก เพราะเขาเชื่อตัวเขาเอง การที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า นี่เป็นความเชื่อของตัวเองไม่ได้เชื่อใคร นี่คือสุดยอดของอิสรเสรีภาพในศาสนาพุทธ อาตมาไม่ต้องการคนที่มาเชื่อเพราะว่าเราหลอกล่อ เราหว่านล้อมประเล้าประโลมมา ไม่ต้องการ คุณเชื่อของคุณเอง คุณมา คุณมาของคุณเอง มาแล้วไล่ก็ไม่ไปด้วย นอกจากว่าคุณจะแย่จริงๆ ถึงจะไล่ไม่ไปก็ให้ตำรวจมาเอาออกไป เพราะมันไม่ไหวจริงๆ แต่ถ้าคุณยังไหวอยู่ไม่ไป ยังไงเขาก็ให้อยู่ ถ้าคุณไม่แย่จริงๆ จนกระทั่งให้เอาตำรวจมาเอาออกไป นี่เป็นสัจจะจริงๆ เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสดงธรรมรายการพุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ชาว‌อโศก‌มี‌ความ‌มหัศจรรย์‌ได้‌ตาม‌ปหาร‌าท‌สูตร‌ ‌วันพุธที่ 5 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 21:41:02 )

เป็นชาวพุทธแล้วแม้ที่สุดคนทำร้ายเราเราก็ไม่ตอบโต้

รายละเอียด

โลกยุคนี้ถึง 2500 ปีกว่าของศาสนาพุทธ โลกข้างนอกเขายังไม่เข้าใจ แม้แต่คนไทยที่เป็นชาวพุทธก็ยังเข้าใจได้ยาก เพราะฉะนั้นยิ่งเป็นคนไทยศาสนาอื่นไม่ต้องห่วงหรอก เขายังยาก เขายังรุนแรงกันอยู่อย่างนั้น 

มาเป็นชาวพุทธแล้วถึงจะเบาบางลงจริงๆ แล้วก็หมดตัวหมดตน แม้ที่สุดคนทำร้ายเราเราก็ไม่ตอบ คนทำร้ายเราเราก็ไม่โกรธเคือง ไม่ตอบโต้ คิดเสียว่ามันเป็นวิบากของเรา เราก็หลีกเลี่ยงเอา อย่าให้ใครมาทำร้ายเรามัน ใครมาทำร้ายเรามันก็ไม่ดี ยิ่งเราไม่ทำร้ายใครแล้วใครมาทำร้ายเรายิ่งเป็นความซับซ้อน ยิ่งเป็นความไม่ดีมาก 

คนที่ไปทำร้ายพระอรหันต์ พระอรหันต์ท่านไม่ทำร้ายใคร มันก็ต้องบาปมากเป็นธรรมดา คนไปทำร้ายโจร โจรไปทำร้ายโจรด้วยกันมันก็บาปไม่เท่าไหร่ แต่คนไปทำร้ายพระอรหันต์ก็บาปมากกว่าไปทำร้ายโจรด้วยกัน เป็นธรรมดา ก็พูดแล้วก็คงไม่ยากอะไร เข้าใจได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณา ครั้งที่ 39 สร้างอาหารให้กับโลก วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 12 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2564 ( 20:43:17 )

เป็นชีวะเต็มขั้น

รายละเอียด

จะมาอธิบายว่า ลักษณะของสิ่งที่มีอยู่ในโลก ตั้งแต่พลังงานที่มันไม่ใช่ชีวะ จนกระทั่งมาเป็นชีวะ จนกระทั่งมาเป็นจิตนิยาม 3 อย่างง่ายๆ 

ตั้งแต่มหาภูตรูปไม่มีชีวะ จนกระทั่งเริ่มมาเป็นชีวะ เริ่มเชื่อมต่อกัน จากมหาภูตรูปจะเชื่อมต่อมาเป็นชีวะ มันมีตัวเริ่มต่อตัวหนึ่ง

ไอ้ตัวที่เริ่มต่อตัวนั้นน่ะคือ อหิจฺฉตฺตก ต่อจากมหาภูตรูป 

อหิจฺฉตฺตก คืออะไร คือเห็ด เห็ดที่เรากินกันอยู่มากมายนี่แหละ เริ่มแล้ว เริ่มเป็นสปอร์ เริ่มเป็นธาตุเล็กๆมาก ก็เริ่มจะต่อมาเป็นชีวะ จาก อหิจฺฉตฺตก เริ่มจะรับมาเป็น ภูตคาม แล้วเป็นพีชคาม มาเป็นเจตภูต มาเป็นปาณะ มาเป็นเจตสิก เป็นสัตตะ แล้วเป็น จิตวิญญาณ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สภาวะบวร(บ้าน-วัด-โรงเรียน) ที่พ้นอัตตวาทุปาทาน 5 วันพุธที่ 20 ธันวาคม 2566 ขึ้น 8 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 มกราคม 2567 ( 13:10:29 )

เป็นญาติทางธรรม

รายละเอียด

เมื่อผู้ที่มีสัมมาทิฐิตรงกัน ปฏิบัติแล้วก็จะได้เป็นคนชนิดเดียวกัน ก็มาอยู่รวมกันก็อบอุ่น อย่างชาวอโศกนี่ อบอุ่นมากเลย ชั่วตาปีตาชาติไม่ต้องไปรบกวนตำรวจเขาเลย มีความผิดความพลาดอะไรก็พิพากษากัน แล้วก็เข้าใจกันง่ายดาย ไม่มีอะไร ใครที่เข้าใจไม่ได้ มีตัวอย่างอยู่ในชาวอโศก เข้าใจไม่ได้เขาก็กระเด็นออกไปเอง อย่างที่เป็นตัวอย่าง ฉะนั้นชาวอโศกก็อยู่เป็นสาธารณโภคี ในชุมชนหมู่กลุ่มของชาวอโศกแต่ละชุมชนเป็นสาธารณโภคีหนึ่งเดียวกัน 

คนที่พยายามเข้ามาอยู่แต่เป็นตัวปลอม เป็นตัวไม่เป็นตัวจริง กระเด็นออกไปเอง อย่างที่กระเด็นไป เพราะฉะนั้นพวกที่อยู่ก็เลยอยู่กันอย่างอบอุ่น เป็นญาติธรรม เป็นญาติทางธรรม ซึ่งเป็นศัพท์ที่ลึกซึ้งที่สุด ญาติกันหมด ไม่เกี่ยวกับ DNA ไม่เกี่ยวกับสายเลือดเลย เป็นญาติพึ่งเกิด พึ่งแก่ พึ่งเจ็บ พึ่งตายกันได้ ระลึกถึงกัน รักกัน เคารพกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สังคหะ อวิวาทะ ไม่วิวาท มีการขบๆ ขัดๆ กันบ้าง นิดๆ หน่อยๆ สามัคคียะ เอกีภาวะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ลักษณะอันสูงสุดของมนุษยชาติ 7 ประการ วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 แรม 13 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 มกราคม 2566 ( 13:01:23 )

เป็นดีเจคนแรกของประเทศไทย

รายละเอียด

อาตมาถึงเป็นดีเจคนแรกของประเทศไทย ที่นำทำอันนี้ขึ้นมา อย่างนี้เป็นต้น มาถึงโทรทัศน์ อาตมาออกโทรทัศน์มาประจำ จนทำรายการเพิ่ม จากคนเก่งรุ่นจิ๋ว คนกล้านักกีฬาน้อย และอีกหลายรายการ เป็นคนทำรายการเด็กคนแรกในประเทศไทย จนกระทั่งอาตมาเรียนจบปี 5 จากโรงเรียนเพาะช่าง จบ ปวส. 

จบแล้วก็ยังทำงานหาเงินมีลำไพ่ได้จากโทรทัศน์ เสร็จแล้วก็มีโรงเรียนต่างๆ เขาชอบ เพราะว่าอาตมาอยู่กับเด็กอยู่กับโรงเรียน นักเรียนกับเยาวชน โรงเรียนต่างๆ ก็ชอบ อาตมาก็มี Talent ทางด้านแต่งเพลง ก็ไปแต่งเพลงให้โรงเรียนต่างๆประกวด งานกาชาด งานศิลปหัตถกรรม เขาเอาเด็กโรงเรียนต่างๆ ประกวดได้ถ้วย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ตุลาคม 2565 ( 11:48:36 )

เป็นตัวตนเริ่มต้นจากอะไร

รายละเอียด

จะนับว่าเป็นตัวตนก็เริ่มตั้งแต่ พีชะ แต่พีชะ มันไม่รู้ตัวตน มันเริ่มเป็นตัวตน ยึด ธาตุต่างๆมาเป็นตัวตนสะสม แต่ละเผ่าพันธุ์ ข้าวโพดก็ยึดแบบของมันกะหล่ำปลีก็ยึดแบบของมัน ดาหลา ก็ยึดแบบของมัน บล็อกโคลี่หรือกล้วยก็ยึดสภาพของมัน ข้าวโพด นี่ ฝักโต ไม่มีฟันหลอเลย ถี่ยิบ เม็ดเต็ม วันนี้อาตมาก็กินเข้าไป 2 ชิ้นใหญ่ๆ ไม่ถึงฝักหรอกถ้ากินเต็มฝักนี้จุกเลย มันมีความอุดมสมบูรณ์มันมีคุณภาพ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือชาวหรรษาที่แท้จริง วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2565 ( 20:02:39 )

เป็นตัวอย่างที่ย่ำแย่

รายละเอียด

พูดชัดๆ ก็คือ ทักษิโณมิกซ์ที่ถูกประหารกันมา เป็นรัฐบาลทั้งตัวทักษิณเอง เป็นรัฐบาลตัวแทนที่เรียกกันว่า นอมินี มาตั้งแต่สมัคร มาถึงสมชาย แล้วก็มายิ่งลักษณ์ ก็ถูกรัฐประหารออกไปหมด 

นั่นแหละก็ชื่อว่าเผด็จการแน่ เผด็จการของทักษิณเขาทำได้ถึงขั้นเผด็จการในรัฐสภาเลย คือมีคะแนนเสียง ส.ส.ในพรรคเขา คือมีมาก มันเกินกว่าครึ่งไปตั้งมาก คือในกฎเกณฑ์ของกฎหมาย เขายกมือเท่านั้นชนะทุกอย่าง มันเลยเป็นเผด็จการรัฐสภา ต่อมาก็ลดลงบ้าง สุดท้ายก็ไปไม่รอด มันก็เป็นพวกมากลากไปอยู่นั่นแหละ 

พิสูจน์กันค่อยๆ ศึกษา นั่นเป็นพฤติการณ์จริงของสังคมประชาธิปไตย ค่อยๆดูไปเรื่อยๆ และอาตมาก็ขอยืนยันว่าประเทศไทยนี้จะเป็นตัวอย่างของประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ 

อื่นๆ เขาก็บอกว่าของเขาเป็นประชาธิปไตย จะเป็นประชาธิปไตยแบบอเมริกาที่หลงใหลได้ปลื้มกัน มันเป็นประชาธิปไตยที่ย่ำแย่ เป็นตัวอย่างที่ย่ำแย่ ประชาธิปไตยที่ยุโรป เขาก็มีอยู่หลายประเทศ มันคล้ายๆ กัน อธิบายเทียบเคียงกันได้ ประชาธิปไตยก็ดี เศรษฐกิจก็ดี เดี๋ยวจะมีของประเทศสวีเดนมาให้ฟัง 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม เปรียบเทียบเศรษฐศาสตร์โลกียะกับเศรษฐศาสตร์โลกุตระ วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2566 แรม 14 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 18:23:04 )

เป็นตัวอย่างหนึ่งใน อิสีติมหาสาวกที่สุดขีดสุดเขตของศาสนาพุทธ

รายละเอียด

เราก็พึ่งในสิ่งที่พระมหากัสสปะทำ แต่สิ่งที่ท่านทำมันเป็นวาสนา ให้คุณพยายามศึกษาให้ดีๆเป็นวาสนาข้อด้อยก็มี วาสนาดีก็มี แต่เรียกบารมีไปเลย วาสนาข้อด้อยไม่อยากมีหรอก แต่ติดตัวมา เหมือนพระมหากัสสปะ ท่านเป็นพระป่า หลงป่ามาไม่รู้กี่กัป กับภรรยาของท่านด้วยมาคู่กัน วาสนาทำมาเลยติด แต่ท่านมีสัมมาทิฏฐิจึงบรรลุอรหันต์ได้ แม้แต่เป็นพระอรหันต์แล้วท่านก็ขออยู่ป่า ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งใน อิสีติมหาสาวก เป็นตัวอย่างสุดขีดสุดเขตของศาสนาพุทธ แล้วก็จะไม่เถียง ถ้าไปถาม ท่านก็จะรับว่าไปอยู่ป่าไม่ดีหรอก  แต่ท่านมีจริตนิสัยอย่างนั้นจึงไปอยู่ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 13:03:02 )

เป็นธรรมชาติเป็นนานาสังวาส

รายละเอียด

พวกเราก็มีคนที่หัวหนักไปในทางการเมือง เราบอกว่าไม่ควร เขาก็จะไป เขาก็เลยจะแยกตัวออกไปอย่างนี้ก็มี มันจะต้องไปกับเขา ดีไม่ดีไปเข้าข้างอีกทางหนึ่ง แล้วหมู่ใหญ่ทางนี้ไม่เห็นด้วย คุณก็ไปทางโน้น คนนี้ก็เลยต้องออกไป ก็เป็นธรรมชาติเป็นนานาสังวาสก็ว่ากันไป 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:13:27 )

เป็นธรรมดาต่างคนต่างเลือก

รายละเอียด

ก็เป็นธรรมดาต่างคนต่างเลือก แต่อาตมาก็ขอยืนยันว่าเลือกคุณตู่

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2561


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:53:45 )

เป็นธรรมาธิฐานที่ลึกซึ้ง ทำไมพญานาคถึงศัทธาพระพุทธเจ้ามากนัก

รายละเอียด

ทำไมพญานาคถึงศรัทธาพระพุทธเจ้านัก อันนี้เป็นธรรมาธิษฐานที่ลึกซึ้ง พระพุทธเจ้าเป็นเครื่องหมายของผู้ตื่นผู้เบิกบาน แต่นาคหรืองูเป็นความหมายของผู้ที่หลับหรี่ ซึ่งตรงข้ามกัน 

เพราะฉะนั้นชีวิตของสัตว์โลกควรเป็นผู้ตื่นไม่ควรเป็นผู้หลับ ปฏิภาณสามัญของคนก็เข้าใจอยู่แล้ว คนเอาแต่หลับ คนเอาแต่ตื่น คนตื่นก็ดีกว่าคนหลับ มีประโยชน์คุณค่ารู้โลกรู้อะไร สังคมเขาอยู่ แต่หลับนี้มันหลับไม่รู้คู้ไม่เห็น มืดบอด ไม่เข้าท่า อย่างนี้เป็นต้น 

เพราะฉะนั้นยิ่งเป็นความสูงส่ง มันก็ยิ่งผู้ที่มีปฏิภาณรู้แล้ว ธรรมดาสามัญเขาก็รู้แล้ว ยิ่งเป็นปัญญาปฏิภาณที่สูงส่งก็ยิ่งต้องเคารพนับถือผู้ตื่น มากกว่าผู้ที่หลับใหล ดังนั้นจอมนาคหรือจอมพญานาค พญานาคใหญ่ก็มีปฏิภาณกว่าจึงยิ่งนับถือพระพุทธเจ้ามากเป็นธรรมดา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 30 ตำนานพญานาค ตอนที่ 1วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก  


เวลาบันทึก 31 พฤษภาคม 2565 ( 12:36:45 )

เป็นนักหลีกลี้ จะไปมีผลสำเร็จอะไร

รายละเอียด

ฌาน ซึ่งแปลว่าเป็นพลังงาน เป็นเตโชธาตุ ไฟหรือกองเพลิงแล้วมันเผาเลย เผาจริงๆ ด้วยอุณหภูมิล้านองศา เผาเลย เผากิเลส ด้วยอุณหภูมิล้านองศา ให้กลายเป็นอากาศธาตุไปเลย เป็นการเผาอย่างนั้นเลย มันมีธรรมฤทธิ์ ก็ใช้พยัญชนะอธิบายสู่ฟังอย่างนี้

เพราะฉะนั้น คุณพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติตนเอง แล้วคุณก็รู้ว่า เรารู้กิเลส แล้วเราก็พยายามสร้างพลังงานให้รู้ยิ่งขึ้นๆ ว่ามันเป็นตัวไม่จริง มันเป็นการหลอก มันเป็นตัวหลอก มันเป็นตัวไม่มีตัวตน เราไปหลงว่ามันมีตัวตนแล้วไปหลงยึดมันอยู่นี่ คุณต้องพยายามพิจารณาตามคำสอนพระพุทธเจ้า พิจารณาให้มันลึกซึ้งไปเรื่อยๆ มันก็จะเกิดความแหลมคม ความมีพลังธรรมฤทธิ์ของปัญญาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มันไม่มีวิธีสร้างอย่างอื่น ต้องเป็นวิธีที่คุณต้องเผชิญความจริง แล้วคุณก็สร้างพลังงานจริงของปัญญาให้เกิดอยู่ขณะนี้ ขณะกำลังสัมผัสอยู่นี้ กิเลสมันอยู่อย่างนี้ เราก็สร้างธรรมฤทธิ์ของปัญญาของพลังงานนี้ ให้ชนะมัน ชนะมัน คุณก็เก่งขึ้นๆ (แต่หาก)คุณไปหลับตา คุณไปหลีกลี้หนี ไม่ใช่นักรบแต่เป็นนักหลบ เป็นนักหลับ เป็นนักหลีกลี้ จะไปมีผลสำเร็จอะไรได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 37 ฌานเป็นพลังงานปัญญาล้านองศาเผากิเลส  วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 28 สิงหาคม 2566 ( 13:38:29 )

เป็นนิมิตว่างานของพ่อครูจะมาแน่นอน

รายละเอียด

มา อาตมามั่นใจตรงที่ว่า อาตมาพาทำ อาตมาบริสุทธิ์ใจแล้วอาตมาก็มั่นใจว่านี่มันเป็นสิ่งดีสิ่งประเสริฐที่สุดแล้ว อาตมาบริสุทธิ์ใจแล้วอาตมาก็มั่นใจว่านี่มันเป็นสิ่งดีสิ่งประเสริฐที่สุดแล้ว เท่าที่อาตมาเชื่อว่าเป็นของพระพุทธเจ้า บริสุทธิ์ใจจริงๆ ว่า อาตมาเป็นโพธิสัตว์ที่มีความรู้ความสามารถระดับนี้ ถ้าผู้มีภูมิปัญญารับรู้สิ่งที่อาตมาทำ แม้บางคนจะมาไม่กี่ปีก็ตาม แต่ก็สะดุด รับรู้ด้วยปัญญาว่า มีอย่างนี้ด้วยหรือ 

เช่น คนอย่าง พล.อ. ประยุทธ์ ก็มีด้วยหรือแปลกประหลาด ทำงานมา 8 ปีทักษิณเขาก็ทำงานมา 8 ปี จนกระทั่งมีนอมินีมากกว่า 8 ด้วย มากกว่าก็ตามเอามาเทียบกันเห็นๆ เลย จนกระทั่งมีนอมินีมากกว่า 8 ด้วย เทียบได้เห็นๆ เลย

โดยเฉพาะเรื่องไม่มีการโกงกินแอบแฝง และงานที่ทำก็เป็นชิ้นเป็นอัน มนุษย์ได้อาศัยใช้สอยโดยเฉพาะคนไทย หรือแม้แต่ติดต่อเชื่อมกับต่างประเทศ สิ่งที่อาตมาเห็นชัดมากที่สุดก็คือ​ ทักษิณเชื่อมโยงตะวันออกกลางไม่ได้เลย แต่ พล.อ. ประยุทธ์เชื่อมตะวันออกกลางได้ ชาวอิสลามในโลกมีเยอะ ในไทยก็มีหลักอยู่มีอยู่

เพราะฉะนั้นในการจะพัฒนาประเทศชาติเจริญต่อไป เราจะเชื่อมโยงกับทางตะวันออกกลางแล้วเนี่ย เราจะสะดวกขึ้น แม้พลเมือง อาตมาไม่รู้สถิติพลเมืองของชาวอิสลามหรือตะวันออกกลางจะมากกว่าอินเดียหรือจีนหรือเปล่า พลเมืองชาวอิสลามทั่วโลก 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 12 สัจจะยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติที่เรียกว่าการเมือง วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 17:52:06 )

เป็นบัณฑิตอย่างไรในสภา

รายละเอียด

แต่ผู้ที่ท่านเป็นปราชญ์ เป็นบัณฑิตจริงๆ ก็แน่นอนว่าย่อมแสดงตามควร เมื่อเราอยู่ในฐานะที่ควรแสดง เราก็ต้องแสดง จะไปนิ่งอมพะนําแล้วไม่พูด ก็ได้ ในวาระที่ไม่ควร เช่นในวาระที่ไม่เหมาะสมจะพูด อย่างเช่นพระพุทธเจ้าบอกว่า ไม่สอนไม่พูด ถ้าหากมีคนที่ไม่ดีอยู่ในนี้ ก็เป็นหน้าที่ของผู้รู้อย่างพระโมคคัลลานะ ตรวจดูว่าใครหว่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 3 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันพุธที่ 7 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 เมษายน 2564 ( 21:40:34 )

เป็นปัจจัตตัง 

รายละเอียด

เช่น คุณเองคุณไม่เอาแล้ว ไอ้นั่นมันหยาบ มันได้เที่ยวไปติดยึดเยอะแยะเหน็ดเหนื่อย เข้าใจแล้ว ไม่มีจริง รสชาติที่ต้องไปตามเสพอย่างนั้นมันไม่มีแล้วคุณก็จะรู้เองด้วยตัวเองเป็นปัจจัตตัง เอาใกล้ๆ เข้ามา อย่างผู้ชาย ได้สูบบุหรี่ก็เป็นสุข เมื่อเลิกแล้วบุหรี่หมดรสเฉยๆ สูขก็ได้ ที่จริงมันก็ไม่ได้อร่อยอะไรบุหรี่ มันแสบมันฉุน ไม่ได้เรื่องเลย เหมือนกับการกินหมากกินพลู มันไม่ได้ว่างๆ สบายๆ โล่งๆ มันไม่พ้น แค่ปูนแค่พลู ซัดเข้าไปเถอะ ใครไม่เคยก็ไปลองดู มันยันนะ 

ยาสูบก็เหมือนกัน ใครไม่เคยก็ลองดู เอาดีกรีสูงๆหน่อยจะรู้ง่าย โอย..แสบเลย เหล้ายาอะไรก็เหมือนกัน เอาดีกรีสูงๆ ก็จะรู้ง่าย โอ้ย.. ซ่า ร้อนนะ เพราะฉะนั้นคนที่รู้จริงแล้ว วางได้จริงแล้ว ก็จะรู้ว่า อ๋อ.. 0 มันเป็นอย่างนี้ แล้วคุณก็มาอยู่กับ 0 สบาย เบา ไม่ต้องเสียเวลาไปแสวงหา ไม่ต้องเสียแรงงานที่จะต้องไปติดตามจ่ายแรงงาน ไปเดินไปเอาไปแย่งมา ไปหาซื้ออะไรก็แล้วแต่ต้องลงแรงทั้งนั้น เวลาก็ไม่เสีย แรงงานก็ไม่เสีย ต้องไปเสียทุนรอนอะไรอีก ก็ไม่เสีย เอากลับคืนมา ได้เวลาคืนมา ได้แรงงานคืนมา ได้ความสูญเสียเงินทองข้าวของอะไรคืนมาหมด แล้วเอามาสร้างสิ่งที่ควรสร้าง 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญาโลกุตระ วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 8 ค่ำ วันพระน้อย เดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 12:36:32 )

เป็นปัจจัยข้อที่ 7 ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญา

รายละเอียด

อนึ่ง เธอเข้าประชุมสงฆ์ ไม่พูดเรื่องต่างๆ ไม่พูดเรื่องไม่เป็นประโยชน์  ย่อมแสดงธรรมเองบ้าง ย่อมเชื้อเชิญผู้อื่นให้แสดงบ้าง ย่อมไม่ดูหมิ่นการนิ่งอย่างพระอริยเจ้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยข้อที่ 7 ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญา ฯลฯ เพื่อความบริบูรณ์แห่งปัญญาที่ได้แล้ว ฯ

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2563 ( 18:23:31 )

เป็นผีดิบฆ่าไม่ตาย

รายละเอียด

อาตมาเกิดมาในชาตินี้เป็นคน อาตมาก็เลย โดน กระแสหลัก เห็นว่าเป็นผีดิบ แล้วก็ฆ่าไม่ตาย เขาฆ่านะ แต่ฆ่าไม่ตาย เถรสมาคม ตอนนี้ก็เพลามือแล้วไม่ฆ่าแล้ว 1.เข้าใจ ถูกต้องว่าอาตมาเป็นผู้มาพัฒนาศาสนาจริงๆ เพราะมันดันทำอยู่ได้ เขาก็ต่อต้านอย่างกับอะไรดี จะ 50 ปีแล้วมันก็ไม่ยอมเลิก อาตมาจะพิสูจน์อย่าว่าแต่ 50 ปีเลยอาตมาจะอยู่ทำงาน ทำงานสถิติผู้ที่อยู่ทำงานศาสนา อย่างมีพระที่บวช ทำงานศาสนามาตั้งแต่อายุ 20 จนกระทั่งอายุ 100 ก็ทำงานศาสนามา 80 ปี บางคนอายุ 100 กว่า เป็นพระ แต่เท่าที่ฟัง มีพระอายุ 130 กว่า เขาว่านะ ไปเอาหลักฐานมาให้ดูหน่อยน่า เขาว่าอยู่อุดรหรืออุบลหรืออย่างไร ก็ได้แต่ข่าวคราว ตัวจริงยังไม่เคยเห็น แต่เอาเถอะ ต่อให้สถิติมี 130 ปี เขาบวชตอนอายุ 20 ถ้าถึง100 ก็ 80​ ปีถ้าถึง 130 ปีก็ทำงาน 110 ปี ถ้าอาตมาทำงานจนถึงอายุ 151 อาตมาทำลายสถิติ เพราะอาตมาบวช 36 เอา 151-36=115 ปี

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:43:01 )

เป็นผู้ขาดทุนอย่างเข้าใจด้วยปัญญา 

รายละเอียด

ด้วยภาษาวิชาการมันหนักและยากหน่อย ก็คือมาเป็นแบบคนจน หรือมีพฤติกรรมอยู่อย่างขาดทุน อย่าไปอยู่อย่างเอาเปรียบเอารัด เอากำรี้กำไร เป็นผู้เสียสละ เป็นผู้ขาดทุน อย่างเข้าใจด้วยปัญญา 

เรามีอะไรที่จะขาดทุน เราก็ขาดทุนพืชพันธุ์ธัญญาหารให้แก่เขา ถ้าจะขายก็ขายอย่างถูกๆ ขาดทุน ยิ่งแจกเลยได้ก็แจก เราไม่เอาอาวุธไปแจก เรามีแต่พืชพันธุ์ธัญญาหารไปแจก พูดตรงนี้แล้วแว๊บไปถึงว่า จะไปจับปลาแจกนั้น อาตมาก็รู้สึกสะดุด ตาย คนเรา จะไปเอาชีวิตเขาไปให้คนอื่นเขา ตัวเองจับมาก็บาปแล้วเอาไปให้เขาฆ่าอีกแล้วก็ไปขายเอาเงินอีก จับปลาหรือเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงมันกับมือนะแล้วก็ฆ่ามันกินเอง หรือไม่ก็ขายให้เขาฆ่า เมื่อไหร่จะเข้าใจถึงสภาพ รู้สึกถึงชีวิตเขาชีวิตเรา 

ชีวิตคือชีวิต เมื่อไหร่เขาจะรู้สึก แล้วเมื่อไหร่เขาถึงจะเลิก ไม่ต้องไปอะไรมาก พระพุทธเจ้าสอนสั้นๆ พระมหากัสสปะเก็บมาละเอียดน้อยเพราะพระมหากัสสปะนี้สายตัด 

มิจฉาวณิชชา 5 อย่าค้าสัตว์เป็น 

1. การค้าขายอาวุธ  (สัตถวณิชชา) 

2. การค้าขายสัตว์มีชีวิต (สัตตวณิชชา) 

3. การค้าขายเนื้อสัตว์ (มังสวณิชชา) 

4. การค้าขายสิ่งมอมเมา (มัชชวณิชชา) 

5. การค้าขายสิ่งที่เป็นพิษ (วีสวณิชชา) 

(พตปฎ.เล่ม 22 ข้อ177) 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบพุทธ ตอน 1 วันพุธที่ 29 มีนาคม 2566 วันขึ้น 8 ค่ำเดือนห้าปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 20:40:44 )

เป็นผู้จบในความเชื่อที่สมบูรณ์

รายละเอียด

ไม่ใช่ว่าเราเป็นผู้ตรัสรู้เองก็ไม่ใช่ แต่มันเป็นผู้จบในความเชื่อนั้นแล้ว อันนี้ลึกซึ้ง เป็นความจบในความเชื่อที่เราเป็น เรามี เราสมบูรณ์ เรายืนยันพิสูจน์ ทุกอย่างอ้างอิงแล้วก็ความจริงที่มันเป็นจริงของตัวเราเอง เป็นคำตอบที่สุดยอด จนถึงขั้นศูนย์ ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ ถึงขั้นที่มนุษย์ไม่มีอัตตา

ภาษาว่า ไม่มีอัตตา คุณต้องรู้ได้ด้วยตนเอง อัตตาเป็นอย่างไร แล้วไม่มีคืออย่างไร 

ปัญญาคืออะไร ปัญญาไม่ใช่ความฉลาดเฉโกแบบโลกๆ เป็นความรู้ความฉลาดอีกแบบหนึ่ง ซึ่งค้านแย้งกับทางโลกด้วย ต้องมาพิสูจน์กันจริงๆ ก็ค่อยๆฟังไปตามลำดับ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาด้วยปัญญามุทุภูเตของพ่อครู วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 16:36:25 )

เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

รายละเอียด

เราอยู่ในร่างผู้หญิงจะทำเป็นแข็งแรงบึกบึน หรือรูปร่างเป็นผู้ชายจะทำตัวเป็นอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิงได้อย่างไร ก็ต้องทำให้พอเหมาะสมควรได้สัดส่วน อันนี้ก็ไม่รู้จะไปให้ตายตัวอย่างไร เพราะบางคนหน้าหวานก็ต้องแข็งแรงหน่อย บางคนหน้าแข็งบึกก็ทำให้อ่อนหวานหน่อยก็ต้องทำให้สมกับรูปนามลงตัว

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2563 ( 17:10:38 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:50:25 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:59:02 )

เป็นผู้ที่ไม่มีกิเลสทำได้จริงหรือ

รายละเอียด

อาตมาต้องถามว่าที่พูดนี้ทำได้จริงหรือเปล่า ทำได้จริงเป็นผู้ที่ไม่มีกิเลส สามารถที่จะให้กิเลสไม่เข้าได้จริงหรือเปล่า?  ซึ่งมันยืนยันว่าการพูดนี้ไม่ได้สักแต่ว่าพูดแล้วตัวเองเป็นได้หรือเปล่า ...ได้สิ แล้วคนที่เพ่งโทษก็หาว่าอวดตัวตน เราก็เอาสิ่งที่ทำได้รู้จริงพูดจริงทำจริงมาอธิบาย แทนที่จะบอกว่าดีจังเลย จริงๆหรือเป็นไปได้หรือ จะได้เข้ามาเรียนรู้ปฏิบัติตามบ้าง แต่ดันผ่าว่ามาอวดอะไรไม่เชื่อ คนโง่จะไปเชื่ออะไร คนโง่ไม่เชื่อหรอกว่าพระอาริยะหรือพระอรหันต์หรือผู้ที่จะรู้ความจริงพวกนี้แล้วมาประกาศตัวยืนยันว่าเป็น คนโง่ไม่เชื่อ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(โพธิปักขิยธรรม 37) ตอน ตีให้แตกแยกให้ออกในธรรมะ 2


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:51:26 )

เป็นผู้รับใช้นี่แหละ ดีเลิศสุดยอดแล้ว!

รายละเอียด

คนเราได้แค่นี้แหละดีที่สุดแล้ว อย่าหลงอยากได้อะไรมาเลอะตนเองไปกว่านี้เลย 

คนที่มีชีวิตอยู่อย่างรับใช้ผู้อื่น โดยไม่ได้เอาอะไรให้แก่ตัวเองเลย อาศัยให้คนอื่นเขาเลี้ยงดู ปรปฏิพัทธา เม ชีวิกา ทุกวันนี้อาตมาสบายๆ ให้คนอื่นเขาเลี้ยงดูแลไว้ เราก็ดูแลตัวเอง พยายามทำงานรับใช้ผู้อื่นไป งานที่จะรับใช้สูงสุด ก็มาสอนความรู้ความจริงนี่แหละ พาประพฤติ พาทำด้วย อาตมาตอนนี้อายุมากแล้วก็ไม่ค่อยได้พาทำ ได้แต่พูดแต่สอน คนที่ยังมีเรี่ยวมีแรงพอรับช่วงต่อจากอาตมาได้ก็ไปช่วยทำอยู่ไปตามลำดับ ก็สืบทอดกันไปตามเวลา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เปิดยุคบุญนิยมเล่ม 2 ตอน 2 
วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2564 ( 19:22:21 )

เป็นผู้ศิวิไลซ์พิเศษยิ่งกว่า supramundane

รายละเอียด

นานาสังวาสหมายความว่าคนที่ร่วมเป็นคนร่วมกัน แต่มีความคิดเห็นต่างกัน จบเลย มันเป็นธรรมชาติ และอยู่กันให้ได้ อย่าให้มันเกิดนิกายแตกแยกกัน เอ็งกับข้าฟาดฟันกันคนละหมู่คนละกลุ่ม เอ็งไม่ใช่กายของข้า ต่างคนต่างปฏิเสธ นิกาย มันก็อยู่กันอย่างไม่สงบ ไม่อบอุ่น ไม่สามัคคี อยู่ด้วยกันให้ได้แม้เป็นศัตรู เขาจะฆ่าเรา เราให้อาหารเขา เขาเจ็บป่วยเรารักษา ฆ่าก็ตาย เพราะเราไม่ฆ่าใคร ฆ่าเราก็ตาย เราก็ยอมตายก็ไม่มีปัญหาอะไร นี่เป็นเรื่องจริง แต่เป็นเรื่องลึกที่คนจะเข้าใจและถึงตรงนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องทำได้ เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องจริงและเป็นเรื่องเป็นไปได้ 

ที่อาตมาพูดตรงนี้ มันลึกซึ้งเป็นปรมัตถ์ คนที่ไม่กลัวตาย คนที่รู้จักวัฏสงสาร ตายเกิด เกิดตาย นอกจากคุณจะตายแล้วไม่เกิด คือ ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นพระอรหันต์ ตายอย่าง สุญญตนิพพาน อนิมิตนิพพาน อัปนิหิตตนิพพาน ตายอย่างนิพพาน 3 ก็จบ จิตวิญญาณก็เป็นดิน น้ำ ไฟ ลม ไปหมดเลย เหมือนพระพุทธเจ้าทรง ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นดิน น้ำ ไฟลม ไปแล้ว หรือพระอรหันต์ที่จะ ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ก็จบจิตนิยามของคนผู้นั้นตายแล้วเป็นศูนย์ เป็นสัจจะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อาตมาเปิดเผยและพวกเราทำความเข้าใจเอาไปปฏิบัติจนกระทั่งกลายเป็นอาริยบุคคล เป็นผู้เจริญที่แท้จริง เป็นผู้ศิวิไลซ์พิเศษ ยิ่งกว่า supramundane อย่างที่ว่า จบดื้อๆ

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบคุณตู่-จตุพร และทนายนกเขา ดำเนินรายการโดย คุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 21:32:48 )

เป็นผู้สำเร็จผล

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นที่พูดไปเมื่อกี้นี้ว่าต้องพากเพียรให้สัมมาทิฏฐิในเหตุ ให้เกิดผล ให้มีผล ให้เกิดสำเร็จขึ้นให้ได้ ทีนี้ อะไรจะเกิด อะไรจะมี อะไรจะเป็นผลขึ้นมา สำเร็จขึ้นมา มันคืออะไร ฟังความ ง่าย ไม่ยากหรอก

ก็เกิดการกำจัดกิเลสสำเร็จ มันชัดๆง่ายๆ เกิดการกำจัดกิเลสสำเร็จหรือว่ามีจิตสะอาดบริสุทธิ์ผ่องใสเลย เกิดการกำจัดกิเลสนั่นแหละสำเร็จผล มีจิตสะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส เป็นอรหันต์ นี่แหละชื่อว่าเป็นผู้มีภาวนามัย เป็นผู้สำเร็จผลคือสำเร็จด้วยภาวนาสำเร็จแล้ว ด้วยผลที่เกิด ภาวนาคือเกิดผลสำเร็จจบอยู่ในตัว เพราะว่า ภาวนามยะ มยะ แปลว่า สำเร็จหรือเป็นผลขึ้นมาแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์วันมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 47  วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 15:39:02 )

เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์อย่างไร 

รายละเอียด

ทีนี้ ในฐานะ ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวอโศก มีวิสัยทัศน์อย่างไร 

ก็ต้องแสดงวิสัยของตัวเอง ตามความเห็น ตามทัศนะ หรือมีทิฏฐิ ความเห็นของอาตมาเป็นเช่นนี้ ยืนยันว่านี่เป็นความเห็น เป็นทัศนะของตัวเองที่มั่นใจว่า ถูก แล้วเอามาประกาศลงในปางนี้ ในยุคนี้ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดแล้ว ก็ต้องอาศัยพระโพธิสัตว์ คนที่เป็นไก่ตัวพี่อาตมาก็ประกาศว่าอาตมาเป็นไก่ตัวพี่ ไม่ได้ไปมดเท็จ ไม่ได้อวดดี ก็พูดความจริง ขยายความจริงสู่ฟัง ก็หาว่าอวดตัวอวดตน คนเพ่งโทษก็เป็นธรรมชาติของเขา ก็ไม่มีปัญหา อาตมาก็ยืนอยู่ในฐานความจริง พูดไปไม่รู้กี่ทีแล้ว ยิ่งแสดงธรรมนี้ไม่มีที่จะเอาสิ่งที่ไม่จริงมาพูด  แสดงธรรมก็ยิ่งเอาจริงเอาจังในการแสดงธรรม เวลาไม่แสดงธรรมก็เล่นหัวบ้างเล็กน้อย แต่เป็นคนจริง 

แล้วอาตมาก็อยู่ในฐานะของผู้ประกาศธรรมะเป็นไก่ตัวพี่ ในแต่ละยุคที่ไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติ ไก่ตัวพี่ก็ต้องเป็นผู้สืบทอด  เป็นผู้นำธรรมะพระพุทธเจ้าไป ตัวเองต้องฝึกฝนความเจริญที่จะงอกงามไพบูลย์ขึ้นไปสู่ความเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ก็เป็นธรรมชาติอย่างนี้ นี่เรียกว่า วิสัยที่อาตมาต้องทำตามทัศนะที่อาตมาเข้าใจ อย่างนี้แหละ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิสัยทัศน์ของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 ตุลาคม 2565 ( 12:46:23 )

เป็นพญานาคเอาไหม คือจมลงในที่หลงไม่มีตื่น

รายละเอียด

เพราะแม้แต่ได้ยินเสียงถาดทองคำพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาแล้ว ขออภัยต้องใช้คำนี้ มันก็ไม่ไปเอาการศึกษาของพระพุทธเจ้าไป ตื่นไปรับมันก็นอนหลับต่อ จนรอพระพุทธเจ้าอีก กริ๊ก แล้วก็ตื่นอีกตื่นตอนได้ยินเสียงถาดทองคำพระพุทธเจ้า แล้วเสียงดังนี้สุดดัง บันลือสีหนาท จนคนที่หลับไม่รู้คู้ไม่เห็นเหมือนพญานาคยังได้ยินขนาดนั้นก็แล้วกัน แต่ก็ได้ยินเท่านั้น ไม่มีเสียงอะไรเกินกว่านี้แล้วในมหาจักรวาลที่จะทำให้ ไอ้สัตว์เดรัจฉานพญานาค คืองูที่นอนกิน อืดอยู่ เขาเปรียบเทียบพญานาคเป็นงูใหญ่ที่นอนกินพุงกางอืดอยู่ไม่กระดุกกระดิกเลย นานจนกระทั่งพระพุทธเจ้าแต่ละองค์เกิดขึ้นทีนึง ค่อยรู้สึกตัวทีนึง แล้วจะรู้สึกตัวก็เพราะว่าได้ยินเสียงว่า พระพุทธเจ้าเกิดแล้วนะตื่นเสียทีมาศึกษาเสียทีซิ ตื่นๆ พญานาคขึ้นมารับรู้แล้วก็หลับต่อไปอีกจนกว่าจะมีพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง มากริ๊กอีก ตื่น แล้วก็หลับต่ออีก นิรันดร...  เอาไหม?.. เป็นพญานาคเอาไหม? 

แล้วก็เอาพญานาคไปหากิน แล้วมันตื่นที่ไหนล่ะ นี่คือตำนานเปรียบเอาไว้ คือจมลงในที่หลง ไม่มีตื่น พวกนี้ไม่มีชาคระ ไม่มีตื่น หลับตลอดกาลนาน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 22:08:51 )

เป็นพระมาลัยที่เข้าไปโปรดสัตว์ ลงนรกไปอยู่กับสัตว์นรก เป็นเหมือนชาวสัตว์นรก แต่ไม่ได้เป็นอย่างชาวสัตว์นรก

รายละเอียด

เหมือนพ่อแม่มาเล่นหม้อข้าวหม้อแกงกับลูกได้ เราก็อยู่กับสมมุติเหมือนกันกับเขาได้แต่จิตใจของเรานั้นรู้แล้วว่าเราเองไม่มีจิตแบบนั้นจริง จิตใจจริงๆของเรานั้นพ้นแล้วหลุดพ้นแล้ว สามารถที่จะสะสมจิตหลุดพ้นนี้ ตกผลึกให้ยิ่งแข็งแรงมากขึ้นด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นเป็นพระมาลัยที่เข้าไปโปรดสัตว์ ลงนรกไปอยู่กับสัตว์นรก เป็นเหมือนชาวสัตว์นรก แต่ไม่ได้เป็นอย่างชาวสัตว์นรก คนจะดูพระอรหันต์พระโพธิสัตว์จริงๆดูไม่ออกง่ายๆหรอก ก็เดาไปตามประสา จนกว่าเขาจะมีจิตตัวนี้ มีจิตใจที่เป็นพระอริยะชั้นสูงขนาดนี้ได้จริง อ่านโฆษณาต่อ…โดยพิมพ์ค้นหาในเฟสบุคว่า “อโศกอักษร” แล้วเข้าไปที่ร้านค้าของเพจนี้ มีหนังสือธรรมะ ที่เขียนโดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ และนักเขียนท่านอื่นๆ มีหนังสือธรรมะเบาๆ บทกวีธรรมะ และหนังสือสุขภาพ มีทั้งของอาจารย์หมอเขียว ดร.ใจเพชร กล้าจน และผู้รอบรู้อีกหลายท่าน ผู้ที่สนใจซื้อหนังสือของพ่อครูและอาจารย์หมอเขียว เข้าเฟสบุค “อโศกอักษร” แล้วไปเยี่ยมชมร้านหนังสือในเพจได้เลยค่ะ พิเศษนะคะที่อยากประชาสัมพันธ์ในงานอโศกรำลึกครั้งนี้ เป็นหนังสือเล่มใหญ่สุดของพ่อครู คือ หนังสือทางเอก ภาค 1 ภาค 2 และภาค 3 ที่พ่อครูแจกแจงจรณะ 15 และวิชชา 8 อย่างละเอียด หาอ่านที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว พบกันในร้านหนังสือออนไลน์ในเพจ”อโศกอักษร” ทางเฟสบุคค่ะ ฝากทุกท่านช่วยกันกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ด้วยนะคะ จะได้ช่วยกันเผยแพร่ธรรมะค่ะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 15:58:38 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 13:20:30 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:59:59 )

เป็นพระมาหาเสียงช่วยลุงตู่ได้หรือ

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้เป็นพระ คุณก็ไม่เข้าใจ แหมมองอาตมาก็มองไม่ออกว่าเป็นอะไร อาตมาไม่ได้เป็นพระ คุณจะบอกว่าคุณมีพระของคุณ แล้วคุณก็กำหนดว่าพระของคุณนั้นไปหาเสียงไม่ได้ ต้องให้อยู่เงียบๆ อยู่อย่างผู้เป็นคนใบ้ไม่มีเสียง อย่าไปหาเสียง ก็เรื่องของคุณ แต่ทีนี้เสียงคืออะไร เสียงของคุณก็คือเงื่อนไขว่าต้องช่วยเหลือด้วย พูดความช่วยเหลือก็มีอันเดอร์สตูทไว้ว่าช่วยเหลืออะไร นี่คงเป็นการช่วยเหลือลุงตู่ เอาให้ชัดๆ ง่ายๆ 

จะได้หรือ ซึ่งคุณเองคุณเห็นของคุณ มันก็ถูกของคุณ พระของคุณ คุณก็มองว่า ถ้าพระของคุณนี้มาหาเสียง คุณว่าได้เลย แต่อาตมาไม่ได้เป็นพระแบบที่คุณหมาย อาตมาก็มาหาเสียงช่วยเหลือลุงตู่อยู่จริง ได้หรือไม่ได้ ก็ทำอยู่เต็มที่เลยไม่ได้ยังไง ได้ ไม่ผิดกฎหมายด้วย เป็นประชาธิปไตยด้วย ตำรวจไม่จับ นี่ตอบครบๆไง เขาถามว่าทำได้หรือซึ่งก็ได้ อิสรเสรีภาพไม่ผิด เป็นแต่เพียงความยึดถือความเห็นเท่านั้นที่ต่างกัน คุณกับอาตมาก็เป็นนานา ความเห็น นานาทิฏฐิ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมื่อเห็นค้านแย้งจากผู้สัมมาทิฏฐิย่อมคือผู้มีบาป วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2566 ( 19:21:00 )

เป็นพระหรือนิกายหรือเปล่าที่ลงไปประท้วง

รายละเอียด

ยังมีอยู่เยอะ พวกนี้เป็นพวกประท้วงอย่างม็อบ ไม่ใช่โปรเทสต์ ม็อบ คือการประท้วงอย่างมีอคติ ถ้าเป็นโปรเทส เป็นการประท้วงอย่างโลกุตระเลย อย่างพวกเรา ใช้ภาษาว่าเป็นนีโอโปรเทส 

โปรเทสมันก็ไม่เหมือนม็อบอยู่แล้ว แล้วเราก็บอกว่านีโอด้วยเป็นแบบใหม่ ยังไม่เคยมีใครมาประท้วงแบบนี้ อาตมาก็นำไป โดยบัญญัติภาษาขึ้นเองว่า Neo protest ด้วยแล้วก็ไปทำจนสำเร็จผลมา ไปประท้วงไปประหารรัฐบาลช่วยให้สำเร็จลงไป เป็นปฏิวัติเลยประชาชนปฏิวัติรัฐประหารเลย 

ประชาชนก็ไม่ได้ไปกระดี๊กระด๊าที่จะไปรับช่วง เช่น ประชุมเสร็จแล้วก็ให้พลตรีจำลอง ศรีเมือง ขึ้นไปรับหน้าที่นายกฯ ก็ไม่ทำ ประชาชนพวกเราก็ไม่มีใครไปรับ 

ส่วนพลเอกประยุทธ์ที่อยู่ในหน้าที่ ก็ตั้งหลายรัฐบาลมาแล้ว จนกว่าจะมารับไม้ต่อเอาไป พวกเราก็ไม่ได้ไปประท้วงอีกทุกวันนี้ก็ส่งเสริมด้วยซ้ำ ยิ่งตอนนี้เป็นโรคไข้ เบอร์ 22 โรคไข้ประยุทธ์ รู้จักโรคไข้ไหม Fever เป็นโรคเห่อ อาตมาได้กระทำมา Neo protest การชุมนุมประท้วงแนวใหม่ 

ประเทศไทยเราสงบ รบด้วยไม่มีอาวุธ ความจริง เอาความสงบความรู้ความจริงเป็นอาวุธ ไม่เหมือนประเทศอื่นที่รบราฆ่าฟันกัน แต่ประเทศไทยไม่ได้รบแบบนั้น โดยเฉพาะสงครามกลางเมืองสงครามพวกกันเองในประเทศไม่ได้รบอย่างนั้น เรารบอย่างเป็นวิธีรบ Neo protest รบอย่างมีคุณภาพสูงสุดแล้ว

ไม่ได้เป็นพระแต่เป็นสมณะ ไม่ใช่นิกาย แต่เป็นนานาสังวาส คุณต้องมาศึกษาให้ดีๆแล้วจะรู้ความละเอียดลออธรรมะเหล่านี้ อาตมาขอใช้เวลากับคุณเท่านี้ก่อน อาตมาไม่ได้เป็นพระอาตมาเป็นสมณะ แล้วอาตมาก็ไม่ได้เป็นนิกาย ที่ไปลงประท้วงอาตมาไม่ได้เป็นนิกาย ประท้วงอย่างเป็นนานาสังวาส อย่ามาขี้ตู่อาตมาว่าเป็นนิกาย เพราะผู้ทำนิกายเป็นอนันตริยกรรม คุณต้องไปศึกษาดีๆ อาตมาไม่ทำ 

ใครจะบอกว่าอาตมาเป็นนิกาย อาตมาไม่ยอมรับ มันจะเป็นพวกที่ อสังวาสกับ สังวาส แล้วสังวาสมี สมานสังวาสกับนานาสังวาส 

สังวาสคือ เห็นร่วมกันอยู่ แต่อสังวาส คือพวกปาราชิก แล้วมีเยอะอยู่ในกลุ่มใหญ่ เน่าในเละเทะกันอยู่ในนั้นเยอะเลย ซูเอี๋ยกัน ปาราชิก ไม่ว่าจะเป็นข้อเงินทอง อวดอุตริมนุสธรรม จะมีข้อฆ่าคนกับข้อเมถุนเท่าไหร่ อาตมาไม่รู้ หมักหมมเน่าในกันอยู่อย่างนี้ อาตมาก็ว่าอาตมาไม่ได้เป็นอย่างนั้น อาตมาลาออกมาประกาศเป็นนานาสังวาสตามพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ทางด้านผู้ไม่รู้นานาสังวาสก็ทำเลอะเทอะ ทำอาบัติไปเลอะเทอะ อาตมาไม่พูดต่อแล้ว ไปหาอ่านเอา อาตมาเคยพูดแล้วบันทึกไว้เป็นหนังสือ ประนีประนอมกันด้วยนานาสังวาส 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปลุกพลังเงียบช่วยกันทำให้การเมืองเจริญ วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 14 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 19:17:39 )

เป็นพระอย่าไปยุ่งหรือออกความเห็นเลย

รายละเอียด

ขออภัย อาตมาไม่ให้คุณหรอก คุณขอก็ไม่ให้ ขออะไร ขอว่าอย่าให้ไปยุ่งการเมือง อาตมาก็ขอ อาตมาขอคุณเหมือนกันว่า อาตมาขอยุ่งการเมืองเถอะ แต่จริงๆอาตมาไม่ได้เข้าไปยุ่งการเมือง อาตมากำลังเข้าไปทำการเมืองที่มันยุ่งๆ ให้หายยุ่ง ไปช่วยให้หายยุ่ง นี่ไม่ได้เล่นลิ้นนะ ไม่ได้ใช้คารมโวหารอะไร เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะฉะนั้นถึงวันนี้อาตมาจึงให้พวกชาวอโศกตั้งพรรคการเมืองชื่อว่า พรรคสัมมาธิปไตย และอาตมาก็ออกแบบโลโก้ให้ เป็นแบบที่คนทางโลกๆ โลกโลกีย์หรือคนที่ไม่เข้าใจทางโลกุตรธรรม ดูแล้วจะงงว่าโลโก้อะไรมีแต่ตัวเลข มีเลข 0 เลข 1 เลข 2 อยู่ในใบโพธิ์ 

สัมมาธิปไตยคือ อธิปไตยที่เป็นสัมมานั่นแหละ 

0 1 2 มีความหมายอะไร ใบโพธิ์ก็คือความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า หมายถึงความตรัสรู้เป็นโพธิ 

0 ก็คือสุญญตา 1 ก็คือความเป็นเอกธรรม เป็นจิตที่ทำให้เป็น 1 ได้ อยู่เหนือ 2 

ส่วน 2 คือความเป็นเทวะ ความเป็นสภาพคู่ของทุกสิ่งทุกอย่างในมหาจักรวาลนี้ เริ่มตั้งแต่อุตุนิยาม ตั้งแต่พลังงานสสารก็มีพลังงานบวกลบ เป็น 2 ไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงขั้นเป็นชีวะ เป็นพืช เป็นสัตว์มีพลังงาน 2 เป็นคู่ที่ทำงานตลอดเวลา เพราะฉะนั้นความรู้ของผู้ที่รู้ความเป็น 2 และจัดการปรุงแต่งกันระหว่าง 2 ให้เกิดเป็นสภาพ 3 

สภาพ 3 ถ้าเป็นสภาพปรุงแต่งกัน สภาพที่สามารถคุมการปรุงแต่งของ 1 2 ได้ อันนั้นก็เรียกว่าประธาน คุมไม่ได้ก็เรียกว่าอวิชชาเรียกว่าโง่ เพราะฉะนั้นสังขารก็เป็นนายของตัวอัตตาส่วนผู้ที่สามารถคุมได้ การคุมสภาพ 2 ได้ ก็เป็นโลกุตระ คุมไม่ได้ก็เป็นอวิชชา หรือพระเจ้า คุม 2 ไม่ได้ ได้แต่ยึด 2 เป็น 1 เทวนิยมหรือพระเจ้าศาสนาเทวนิยมยึด 2 เป็น 1 แล้วใช้อำนาจยึด เป็นศาสนาบังคับ เป็นศาสนาใช้อำนาจ อำนาจของพระเจ้า ทุกคนต้องเป็นทาสของพระเจ้า อย่างนี้เป็นต้น แต่ของพระพุทธเจ้านั้นอิสรเสรีภาพ ไม่มีทาสไม่มีนาย อันนี้นี้จะลึกซึ้งมาก อธิบายไปได้อีกกี่วันก็ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 27 ตอบปัญหาให้ถึงสัมมาธิปไตย วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2566 ( 18:44:49 )

เป็นพระอรหันต์สติเต็ม อวัยวะที่เป็นวาสนาที่จะเป็นพระอรหันต์ก็เต็มไม่มีเสื่อม

รายละเอียด

คุณก็ต้องรู้ตัวเอง พระอรหันต์ต้องรู้ตัวเอง มีสติเต็มเป็นอัลไซเมอร์ไม่ได้ อรหันต์ จบบริบูรณ์แล้ว สติเต็ม ตรัสรู้แล้วแล้วก็ถามว่า แล้วหลังจาก เป็นพระอรหันต์แล้ว สรีระก็เสื่อม เป็นอัลไซเมอร์ ถามว่าได้ไหม ก็ตอบว่าไม่ได้ 

ยิ่งเป็นพระอรหันต์แล้ว สติยิ่งเต็ม อวัยวะที่เป็นวาสนา ที่จะเป็นพระอรหันต์ก็เต็ม คุณคิดเอาเองเท่านั้นว่า แล้วมันก็จะเสื่อม ความเสื่อมของพระอรหันต์ไม่มีอะไรเสื่อมทั้งรูปและนาม คุณก็เดาเอาสิ เหมือนกับคนไปถามพระพุทธเจ้าว่า ถึงนิพพานแล้ว เลยนิพพานเป็นอะไร พระพุทธเจ้าก็บอกว่าเธอถามเลยปัญหาไปแล้ว 

ไปถามพระพุทธเจ้าถึงความเป็นพระอรหันต์แล้วเลยจากพระอรหันต์คืออะไร พระพุทธเจ้าก็บอกว่าเธอถามเลยปัญหา เลยความจริง ความจริงมันจบแล้ว แล้วจะไปมีได้ยังไงจะไปเสื่อมอะไรอีกมันไม่เสื่อมแล้ว มันเต็มแล้วมันก็วนไปในตรรกะ เอาตรรกะมาถาม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้สภาวะของรูป 28 สู่ความเป็นอรหันต์ วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 18:57:35 )

เป็นพระอรหันต์สบายอย่างไร

รายละเอียด

พระผู้เป็นอรหันต์แล้วอย่างชาวอโศก มีผู้เป็นอรหันต์ก็สบาย เป็นอาชีพที่เลี้ยงตนเองอย่างไม่มีวิบากใดๆ บุญก็ไม่มีเป็นอรหันต์แล้ว ไม่มีบาปไม่มีบุญ หมดบุญ อรหันต์เป็นผู้หมดบุญ หมดบาป ปุญญปาปปริกขีโณ เป็นผู้ที่สิ้นบุญสิ้นบาปแล้ว ไม่มีบุญไม่ต้องมีบุญ

บุญ คำนี้แม้แต่ศาสนาพุทธทุกวันนี้ คำว่าบุญบาปเป็นของศาสนาพุทธศาสนาอื่นไม่มีหรอก แต่ชอบพูดทุกวันนี้ก็เข้าใจคำว่าบุญไม่ได้แล้ว ไปเข้าใจคำว่าบุญเป็นกุศล ทำแล้วจะต้องได้ สาเปกโขมา แล้วก็ได้ ปฏิพัทธจิตโต 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันที่ 2 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มกราคม 2564 ( 08:11:02 )

เป็นพระอรหันต์แล้วจะรู้ว่าควรจะเกิดอีกหรือไม่เกิดอีก 

รายละเอียด

เอาเลย เอาเลย ตั้งใจดีๆ พากเพียรศึกษาดีๆ มองเห็นความเหน็ดเหนื่อยเมื่อย มีภาระเยอะ ก็คงจะเป็นเช่นนั้น ไม่เป็นไร ใครที่เห็นว่า เอาอรหันต์ให้ได้ก็แล้วกัน พอถึงตอนเป็นอรหันต์ก็จะบอกตัวเองได้ อาตมาเคยพูดไปแล้วคนที่จะเป็นแค่อรหันต์นี่แหละ เมื่อได้อรหันต์แล้วจิตมันเป็นจริงมันจะบอกเอง ที่บอกว่าจะไม่ต่อก็เถอะ ผู้ที่จะเป็นอรหันต์แล้ว แล้วตายปรินิพพานเป็นปริโยสานจริงๆ คืออรหันต์สมสีสี ชนิดนี้ ตายและตรัสรู้ในเวลาที่เป็นอรหันต์ ตรัสรู้กับตายพร้อมกัน นอกนั้นตรัสรู้แล้วยังไม่ตาย ยังมีชีวิต มันจะเข้าใจอะไรดีมากเลย 

อาตมาเคยพูดเชิงชั้นให้ฟังว่า พระอรหันต์ จบแล้วจะรู้เลยว่าชีวิตเป็นชีวิตที่พ้นทุกข์ เป็นชีวิตที่ไม่มีทุกข์ ประสบอะไรต่ออะไรสัมผัสเหตุการณ์อะไร เหตุการณ์รุนแรงมันก็ไม่มีทุกข์ มันก็สบายๆ แล้วพระอรหันต์ก็ต้องมีปฏิภาณปัญญาด้วย แล้วมันก็จะเห็น ต่างๆ นานามันจะรู้โลก รู้สังคม รู้การสัมพันธ์ในสังคมอะไรพวกนี้ สังคมที่เป็นอยู่แต่ละหมู่กลุ่มล้วนแล้วแต่อวิชชาอยู่เยอะ 

มันจะมีความสงสารและจะมีความเมตตา และมันจะมีความกตัญญูกตเวที อยู่ในตัวของคนเจริญคนดี มันมีอยู่จริงๆเป็นสัจจะ ว่าจะตอบแทนพระพุทธเจ้า ตอบแทนบุญคุณของศาสนา ที่เราอุตส่าห์ได้บรรลุอรหันต์ แล้วจะเห็นมนุษย์ตาดำๆน่าสงสาร น่าเมตตา น่าช่วยเหลือจริงๆ แล้วเราก็จะไม่ตายก็ได้พระอรหันต์ จบอรหันต์จริงๆ แล้วเป็นอมตบุคคล ผ่านวิมุติแล้ว จะยังไม่ตายหรือจะตายก็ได้ ตายก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานก็ได้ หรือจะยังไม่ตายก็ได้ หรือจะตายแล้วเกิดอีก บำเพ็ญต่อไปอีก เพื่อจะไปสู่พุทธภูมิ สู่สัมมาสัมพุทธเจ้าอีกก็นับเป็นล้านๆ ชาติก็ยังได้ อย่างนี้เป็นต้น 

ซึ่งเรื่องเหล่านี้อาตมาพูดไม่ได้เอามาจากตำรา อาตมาจริงใจตามภูมิของอาตมาเอง เปิดเผยสู่ฟัง พูดไปแล้วผู้จำได้ก็จะตามพิสูจน์ ผู้ที่มีภูมิถึงบ้างแล้วก็ไม่มีปัญหาไม่สงสัย ผู้ที่เป็นโพธิสัตว์ในระดับหนึ่งฟังแล้วจะรู้ หรือบางทีท่านก็จะรู้อย่างที่อาตมารู้ เป็นโพธิสัตว์ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเกิดมาหากไม่ได้โลกุตระ เท่ากับชิงหมาเกิด วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 แรม 3 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 11:48:33 )

เป็นพระอรหันต์แล้วมาหลงความสวยจริงหรือ

รายละเอียด

นี่โอ้โห ต่างๆนานานี้ ตั้งใจเอาไว้ให้โชว์ใช่ไหมอยู่ใกล้มื้อนี้ มันเป็นดอกไม้ที่ชื่อว่า เฮลิโคเนีย หรือธรรมรักษา ที่จริงเขาเรียกก้ามปู ภาษาอังกฤษเขาเรียก Crab claw บางคนเขาเรียกเบิร์ดออฟพาราไดซ์ ซึ่งที่จริงแล้วมันไม่ใช่ เบิร์ดออฟพาราไดซ์มันจะมีดอกโค้งเป็นเถาออกมา ไอ้นี่มันเหมือนก้ามปู ไม่ใช่เหมือนนก แต่สีมันจัดจ้าน เอามาจากไหนเนี่ย …มีคนบอกว่าซื้อมาก้านละ 100 บาท นึกว่าของเรา หลายคนว่าอาตมาบอกว่าเป็นพระอรหันต์แล้วมาหลงความสวยงามอะไร ก็ไม่เป็นไรเขาจะว่า อาตมาก็พูดตามสมมุติโลกที่เขาเป็นกันอย่างนั้นอย่างนั้น ส่วนอาตมาจะมีจิตของอาตมาจะไปติดยึด ยินดีปรีดาอยากได้อยากมีอยู่หรือไม่ มันเป็นเรื่องของจิตอาตมา คนที่เขาจะเพ่งโทษก็เพ่งกันได้ทั้งนั้น 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2563 ( 17:52:20 )

เป็นพระอรหันต์ได้ในวิญญาณฐิติที่อากิญจัญญายตนะฌาน

รายละเอียด

วิญญาณต้องปฏิบัติอย่างมีวิญญาณฐีติ วิญญาณฐิติ 7 เป็นต้น ปฏิบัติไปถึงอากิญจัญญายตนะก็จบเลย ลืมตาปฏิบัตินะ ปฏิบัติอากาสาวิญญาณัญจาก็ต้องลืมตา ไม่ใช่หลับตาแต่อย่างใด บรรลุธรรมแล้วมีนิโรธอยู่ในนั้นเสร็จสรรพ 

อากิญจัญญายตนะนั่นแหละนิโรธอยู่ในนั้นเสร็จสรรพ ไม่มี นิดนึงน้อยนึงของกิเลสก็ไม่มี ก็อรหันต์จบ แล้วไม่ต้องมีปัญหาอะไรอีกเพราะทำถึงขั้นอรูปฌาน อากาสา คือรูป วิญญานัญจาคือนาม แล้วรูปนาม 2 อย่างนี้แหละกิเลส คืออย่างไรอย่างละเอียดก็จบ ก็จบในวิญญาณฐิติ เป็นพระอรหันต์ได้ในวิญญาณฐิติส่วนจะลึกละเอียดลงไปถึงระดับอนุสัยต่อเป็น อุภโตภาควิมุติ ก็ว่าไปสิ เป็นพระอรหันต์ได้แล้ว คุณปรินิพพานเป็นปริโยสานได้เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเอกีภาวะประชาธิปไตยโลกุตระ วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:03:59 )

เป็นพระแต่มายุ่งกับการเมืองทำไม

รายละเอียด

คนที่เขารู้อยู่แล้วว่า เป็นพระเขาไม่โกหกเขารู้แล้วว่าอาตมาไม่โกหกเขารู้แล้วแต่คุณทำไมยังไม่รู้ เอ้อ เขารู้หมดแล้วล่ะแต่คุณยังไม่รู้มิน่าจึงมาห้ามอาตมาว่าอย่าไปยุ่งกับการเมือง ความคิดอย่างคุณนี่แหละนักการเมืองถึงได้ปู้ยี่ปูยำบ้านเมืองไปหมด เพราะความคิดอย่างคุณนี่แหละ ว่านักธรรมะอย่าไปยุ่งกับการเมืองปล่อยให้นักการเมืองปู้ยี่ปูยำประเทศการเมืองก็ชิบหายสิ อาตมาไม่ได้เป็นคนใจดำไม่ได้เป็นคนโง่อย่างที่คุณคิดอาตมาเป็นคนฉลาดอาตมาจะต้องช่วยบ้านเมือง นักการเมืองเขาเป็นคนโง่คนบ้าทำอย่างนั้นคุณก็รู้ว่านักการเมืองไม่ดี แต่คุณก็ยังปล่อยให้นักการเมืองไม่ดีปู้ยี่ปูยำบ้านเมืองคุณใจดำจังเลยรู้ไว้ซะด้วย ใจดำเองไม่พอยังมาห้ามอาตมาอีกให้ใจดำอย่างคุณ อาตมาไม่เชื่อคุณหรอกไม่เอาตามอย่างคุณ อาตมาจะไม่ใจดำอาตมาจะช่วยบ้านเมือง เพราะนักการเมืองทำให้การเมืองมันยุ่งมันวุ่น เราก็ต้องไปจัดการให้คนที่ยุ่งที่วุ่นๆออกไป การเมืองจะได้เรียบร้อย คนดีๆจะได้ทำการเมือง นี่ต่างหาก ความคิดอย่างนี้แหละมันยากเป็นสิริมหามายา พยายามพิจารณาสัจจะสาระให้แม่น ไม่งั้นคุณจะสับสน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 09:34:43 )

เป็นพระโพธิสัตว์ต้องทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ?

รายละเอียด

ให้ขยายความ ประเด็นว่าโพธิสัตว์ต้องทำขนาดนี้เชียวหรือ ทำขนาดนี้ขนาดไหน ขนาดไหนก็หมายถึงสิ่งที่สัมผัสไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ ไฟ ลมประกอบขึ้นเป็นองค์ประกอบต่างๆ เป็นธรรมชาติ เป็นภูเขา ลำธาร แม่น้ำ ต้นหมากรากไม้ องค์ประกอบต่างๆ อาตมาก็ทำให้มีที่ทั้งให้ผู้ใหญ่ได้มาพักผ่อนได้อาศัย ทั้งให้เด็กๆ ได้มีที่พักผ่อนอาศัย เพราะว่าเท่าที่เห็นเท่าที่เป็นไป สวนสาธารณะ คือสถานที่มันเป็นสาธารณะให้แก่ย่านนี้ ย่านวาริน ย่านเมืองอุบลก็ตาม ย่านที่จะมีองค์ประกอบอย่างที่ว่านี้ มีสนามหญ้ามีภูเขา มีหิน มีต้นไม้ มีแม่น้ำไหล ใสเย็นอะไรต่างๆ เด็กก็เล่นน้ำได้ ผู้ใหญ่ก็เล่นน้ำได้ 

ซึ่งมันเป็นที่ที่มนุษย์ได้อาศัย เป็นชีวิตธรรมดาธรรมชาติ มันมีแล้วเราก็ไม่ได้ไปคิดตังค์ ไม่ได้ไปหาเงินหาทอง ทำไปเหมือนที่สาธารณะแต่เราก็ดูแล เป็นที่ๆ เราจะต้องอยู่ในสายหูสายตา ไม่ให้ใครมาทำไม่เข้าที อย่างเช่นภาพที่ออกไป เด็กๆ ก็ได้เล่นน้ำใส สนุกเย็นสบาย ปลอดภัย ไม่ลึกเท่าไหร่มีคนช่วยดูแลอยู่ ส่วนของผู้ใหญ่ก็มีบ้าง มันไม่กว้างเท่าของเด็ก ก็คงจะมีคนไปเล่น ในบุ่งก็เล่นได้ แต่ผู้ใหญ่ไม่ค่อยจะมาเล่นเท่าไหร่ ผู้ใหญ่เขาก็จะว่าไม่อิสระจริง มันอยู่ในสายหูสายตาของเรา ไม่เหมือนชายหาด ชายทะเล เขาก็เลย เหนียมๆ อยู่ แต่เด็กๆ ไม่มีปัญหามากันเต็ม มากันเยอะ 

อย่างนี้แหละอาตมาว่า มันเป็นเรื่องของสังคมดูแล้วก็อบอุ่น ทุกคนก็มีความสุขสำราญเบิกบานใจ มันดูดี อาตมาคิดเห็นอย่างนี้ก็เลยทำอย่างนี้กัน เพื่อที่จะได้มีสังคมมีมนุษยชาติมาใช้ประโยชน์ ไม่ได้เป็นเรื่องที่บังคับหรือมีกฎเกณฑ์อะไรมากมาย เป็นอิสระ สบายสงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล เพิ่มพูนความเสียสละ อะไรอย่างนี้ ที่เราก็ขยายความให้เห็นว่า มันมีเจตนาและก็เป็นไปได้ตามที่พูดที่หมาย ไม่ใช่พูดคุยโก้ ไม่ใช่พูดคุยอวด โอ่อะไร แต่พูดให้เห็นว่า มนุษย์ควรมีใจเกื้อกูลกันและทำแบบนี้ ไม่ใช่มนุษย์มีแต่เรื่องที่จะมากอบโกย มาโกงกัน มาหาทางขูดรีดกัน เอาเปรียบเอารัดกัน ดีไม่ดี เบียดเบียน แก่งแย่งฆ่าแกงกัน 

ทำไมไปคิดหาเรื่องทำกันเช่นนั้นหนอ ที่จริงพูดไปเขาก็เข้าใจนะว่าอย่างนี้แหละดี แต่ทำไมไม่มาทำดีๆ มันจริงๆ นะคนเรา ไม่ใช่ไม่รู้นะ อาตมาว่ามาจับเข่าคุยกันถามเขาก็เข้าใจ และรู้ ไม่ใช่จะโง่เง่าจนไม่รู้เรื่อง แต่ไม่ทำ นี่เห็นไหมว่า กิเลสมันซับซ้อน มันเล่นงานคน แต่ก็ไม่ปฏิบัติธรรมให้รู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี 

“เป็นโพธิสัตว์ต้องทำขนาดนี้เชียวหรือ” คนที่มองเห็นว่ามันมีอะไรมากมายทำขนาดนี้เชียวหรือ คนที่มองไม่เห็น ก็มองไม่เห็น อาตมาทำอะไร เขาก็มองไม่เห็น นอกจากมองไม่เห็นแล้วก็จะมองเพ่ง บอกว่าทำแล้วก็เอามาโชว์ ทำแล้วเอามาอวด ไปนู่นอีก ทั้งๆ ที่เราไม่ได้คิดอยากอวดอยากโอ่อะไร คนฟังเข้าใจได้ก็เข้าใจ คนฟังไม่ได้เพ่งโทษก็ว่ากันไป 

ตอบอีกทีว่า พระโพธิสัตว์ต้องทำขนาดนี้แหละ วันนี้ทำได้ก็จะทำแต่อาตมาทำได้เท่านี้ ถ้าทำได้มากกว่านี้ก็จะทำ ใครทำได้มากกว่าอาตมาก็ดีอนุโมทนาสาธุ ไม่ใช่ออมมือ อาตมาเคยพูดแล้วไม่ได้ออมมือ ทำได้ดีกว่านี้ก็จะทำ ไม่รู้ ไม่ได้ระลึกชาติไปถึงขนาดนั้น 

คนเขาก็สร้างกัน อย่างเช่น สวนนงนุช เขาก็สร้างโอ้โห หรูหรา วิลิศมาหรา แต่ไม่เหมือนเราเลยนะ เขาร่ำรวยมหาศาล พันล้าน หมื่นล้าน เขาทำรวย ของเรานี่จน แต่เราก็ทำของเราไปตามประสา มันคนละทิศ คนละฐานะ ของเขาก็เก็บเงิน แต่ของเราฟรี มันไม่เหมือนกัน ก็จะเห็นได้ว่า มันมีเปรียบเทียบกันอยู่ เข้าใจได้ ก็ไม่ได้ไปว่าเขาหรอก เขาต้องทำไปตามประสาเขา โพธิสัตว์ทำมากขนาดไหน คุณมองเห็นก็มองเห็น คนมองไม่เห็นก็มองไม่เห็น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  ประชาธิปไตย 3 อย่าง ในโลกวันพุธที่ 4 มกราคม 2566 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2566 ( 12:38:47 )

เป็นพราหมณ์มหาศาลหรือต่ำกว่านั้นอีก

รายละเอียด

ดูกรอัมพัฏฐะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เธอกับอาจารย์เมื่อไม่บรรลุวิชชาสมบัติและจรณสมบัติอันเป็นคุณยอดเยี่ยมนี้แหละ หาบบริขารดาบสเข้าไปสู่ราวป่าด้วยตั้งใจว่า จักบริโภคผลไม้ที่หล่น บ้างหรือไม่? ข้อนี้ไม่มีเลย พระโคดมผู้เจริญ.ดูกรอัมพัฏฐะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เธอกับอาจารย์เมื่อไม่บรรลุวิชชาสมบัติและจรณสมบัติอันเป็นคุณยอดเยี่ยมนี้ และไม่สามารถจะหาผลไม้ที่หล่นบริโภคได้ จึงถือเสียมและตะกร้าเข้าไปสู่ราวป่า ด้วยตั้งใจว่า จักบริโภคเหง้าไม้รากไม้และผลไม้บ้างหรือไม่?ข้อนี้ไม่มีเลย พระโคดมผู้เจริญ.ดูกรอัมพัฏฐะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เธอกับอาจารย์เมื่อไม่บรรลุวิชชาสมบัติและจรณสมบัติอันเป็นคุณยอดเยี่ยมนี้ ไม่สามารถจะหาผลไม้ที่หล่นบริโภคได้ และไม่สามารถจะหาเหง้าไม้รากไม้และผลไม้บริโภคได้ จึงสร้างเรือนไฟไว้ใกล้ๆ บ้านหรือนิคม แล้วบำเรอไฟอยู่ บ้างหรือไม่?ข้อนี้ไม่มีเลย พระโคดมผู้เจริญ.ดูกรอัมพัฏฐะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เธอกับอาจารย์เมื่อไม่บรรลุวิชชาสมบัติและจรณสมบัติอันเป็นคุณยอดเยี่ยมนี้ ไม่สามารถจะหาผลไม้ที่หล่นบริโภคได้ ไม่สามารถจะหาเหง้าไม้รากไม้และผลไม้บริโภคได้ และไม่สามารถจะบำเรอไฟได้ จึงสร้างเรือนไฟที่มีประตูสี่ด้านไว้ที่หนทางใหญ่สี่แพร่ง แล้วสำนักอยู่ด้วยตั้งใจว่า ผู้ใดที่มาจากทิศทั้ง 4 นี้ จะเป็นสมณะหรือพราหมณ์ก็ตาม เราจักบูชาท่านผู้นั้นตามสติกำลัง บ้างหรือไม่?ข้อนี้ไม่มีเลย พระโคดมผู้เจริญ.ดูกรอัมพัฏฐะ เธอกับอาจารย์เสื่อมจากวิชชาสมบัติและจรณสมบัติอันเป็นคุณยอดเยี่ยมนี้ด้วย และคลาดจากทางเสื่อมของวิชชาสมบัติและจรณสมบัติอันเป็นคุณยอดเยี่ยม 4 ประการนี้ด้วย. สรุปว่าแม้ความเสื่อมทั้ง 4 อย่างคุณก็ยังไม่ปฏิบัติเลย ที่คุณเป็นพราหมณ์มหาศาลหรือยังต่ำกว่านั้นอีก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 11:44:18 )

เป็นพลังงานแค่ไฟกับลม

รายละเอียด

บุญคือสภาวะพลังงานที่เป็นพลังงาน อะ อิ อุ เป็นสามเส้า พวกนี้สร้างขึ้น อะ อิ อุ เป็นเส้าหนึ่ง เป็นวงวนหนึ่งพลังงานลม กับไฟ มีประสิทธิภาพ อุณหธาตุ สามารถ ล้าง ราคะโทสะโมหะ ได้ มันไม่ใช่จิตดี บุญไม่ใช่จิต วันนี้จะบอกว่า เป็นอุตุก็ไม่ใช่ ดินไม่ใช่น้ำ เป็นพลังงานแค่ ไฟ กับลม เป็นพลังงานที่เอามาทำงานแป๊บเดียว แล้วสลายทันที ลมคือแรง ไฟคือร้อน มันมีประสิทธิภาพของมัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:31:53 )

เป็นพืชที่ตื่นเต็ม เช่นไร

รายละเอียด

อันนี้ขยายไปอีกซึ่งมันเป็นประโยชน์ เพราะฉะนั้นทำตนให้เป็นพืช และเป็นพืชที่มีชีวะ ไม่ใช่เป็นพืชที่เหมือนคนที่เป็นมนุษย์พืช นอนนิ่งกระดุกกระดิกอะไรไม่ได้ มีแต่ชีวะอยู่ในตัว ไม่ใช่ แต่เป็นมนุษย์ที่เป็นพืชชีวะ เป็นพืชที่ตื่นเต็ม เป็นพืชที่มีลีลากายกรรม วจีกรรม มโนกรรมอันสมบูรณ์บริบูรณ์ เป็นมนุษย์พืชที่มีสติสัมปชัญญะปัญญาเต็ม เป็นมนุษย์พืชที่รู้จักมูลสูตรครบ 10 เป็นพืชที่มีปัญญาอันยิ่ง ของมูลสูตร 10 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 60 ยากที่สุดในโลกนี่แหละคือความเป็น 2 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2565 ( 12:44:47 )

เป็นพุทธเต็มตัวทั้งเลือดและวิญญาณ

รายละเอียด

ถามว่าเป็นพุทธหรือไม่ ก็ตอบว่าเป็นพุทธเต็มตัวทั้งเลือดและวิญญาณ อาตมาขอยืนยันว่า พุทธที่อาตมาพยายามอธิบายมาและพยายามยืดอายุตัวเองจนกระทั่งอาตมามั่นใจว่าอาตมามีพลังงานพิเศษที่เรียกว่าสัมประสิทธิ์ที่จะต่ออายุ อาตมาต่ออายุตัวเองอยู่และพยายามให้พวกเราทำตาม สูตร 8 อ. ที่ร่วมด้วยทั้งรูปธรรมและวิญญาณจริงๆ นำพาต่ออายุไปให้ได้ อาตมาก็คิดว่า.. ติดตามดูตอนนี้อายุ 87 ปีต่อไปต่อไปเดี๋ยว 90 ปี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การเกิดคือชาติ 5 ในปฏิจจสมุปบาท วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:43:41 )

เป็นมนุษย์ต้องฉลาดด้วยการทำความหลุดพ้น

รายละเอียด

ต้องใช้สำนวน สวัสดีปีใหม่ แต่ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว วันนี้ก็เป็นวันพิเศษที่บ้านราชฯ เราได้รับอะไรเข้ามา ซึ่งเป็นเรื่องสากลมาก แล้วเราก็ไม่ได้อยากจะนิยมสากลอย่างที่ไม่น่านิยม แต่สุดท้าย มันเก่งจริงๆ covid มาจนได้ จริงๆ ไปโทษโควิดไม่ได้ เราไปหามันมาเอง เราไม่ระมัดระวังตัวอันนี้ไปโทษ covid ไม่ได้ มันไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร พวกเรานี้เป็นคน เป็นมนุษย์ จะต้องเฉลียวฉลาด ต้องทำความหลุดพ้น หลุดพ้นในอะไรต่างๆ ที่ควรหลุดพ้น ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ความหลุดพ้นนี้สุดยอดมหัศจรรย์สูงสุด เป็นความมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสดงธรรมรายการพุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ชาว‌อโศก‌มี‌ความ‌มหัศจรรย์‌ได้‌ตาม‌ปหาร‌าท‌สูตร‌ ‌วันพุธที่ 5 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 21:01:55 )

เป็นมนุษย์เจริญสุดยอด อย่างไร

รายละเอียด

จะบอกว่าดีไหม ก็ดีแน่นอน แน่นอน รักษาธรรมบทพระพุทธเจ้าไว้ ดีแน่นอน จะมีความประเสริฐทำให้เหาะเหิน เดินน้ำ ดำดิน ทำให้ร่ำรวยหรือไม่ ไม่มีไม่เกี่ยว เอาไปปฏิบัติตามคำสอนต่างหากให้ลดกิเลสให้ได้ ก็จะเป็นอยู่สุข สมบูรณ์แบบ เป็นมนุษย์ประเสริฐ เป็นมนุษย์เจริญ สุดยอดก็คือพ้นทุกข์ พ้นสุข เป็นพระอรหันต์ นั่นคือเป้าหมายหลักของพระพุทธเจ้าอันเป็นความหลุดพ้นเป็นวิมุติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตย 3 อย่างในโลก

วันพุธที่ 4 มกราคม 2566 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2566 ( 12:51:41 )

เป็นมนุษย์เหาะได้แต่คนไม่เห็น

รายละเอียด

เป็นมนุษย์เหาะได้ แต่คนไม่เห็น คนในโลกยุคนี้ แม้แต่ชาวพุทธเองปราชญ์ผู้รู้ทางศาสนาพุทธ ตามืดตาบอดไปจากโลกุตรธรรม เลยไม่เห็นคนเหาะ การไม่เห็นคนเหาะก็ไม่น่ากลัวอะไร แต่ไปดันเห็นคนที่เขาโกหกว่าเขาเหาะได้ คนตามืดตาบอดที่ว่านี้เป็นชาวพุทธ มีคนโกหกว่าเขาเหาะได้ ยังโง่ หลงตามเขาอีกแน่ะ เชื่อว่าคนเหาะได้ ที่เป็นคนเหาะได้เก๊ๆ ไม่เหาะได้จริง เพราะคนเหล่านั้น เขามีวิธีการ ครอบงำคนให้ตกอยู่ในอำนาจสะกดจิต แล้วก็สั่ง นี่นะ ฉันเหาะได้ คนถูกสะกดจิตแล้วเชื่อ สะกดจิตยังไง หลับตา ฟังที่สอนอย่างเดียว ฟังที่เขาว่าหลับๆนี่แหละผู้ที่หลับมาก่อนคืออาจารย์นะ เป็นอาจารย์ใหญ่เหาะเก่งนะ เห็นไหมนี่ อาจารย์เหาะแล้วอาจารย์เหาะแล้ว อยากได้ตามไหมก็เชื่อนั่งหลับตานั่งหลับตาสะกดจิตเข้าไปสะกดจิตเข้าไป ออกป่าเขาถ้ำ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกนี้ทิ้งเลย โลก ลาภ ยศ สรรเสริญไม่เอา อะไรอย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจนสาธารณโภคีที่เหาะได้ทั้งชุมชน วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 13:52:58 )

เป็นลูกพระพุทธเจ้าโดยแท้

รายละเอียด

ความรู้สึกก็เป็นความรู้สึกดีๆ อาตมาน่ะ เป็นลูกพระพุทธเจ้าโดยแท้ ไม่ได้เป็นลูกพระพุทธเจ้าอย่างเปลือกๆ หรือขี่ม้ารอบค่าย หรือว่ากระเด็นกระดอนอยู่ข้างนอก ไม่ใช่ แต่อาตมาเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมจริง ได้มรรคได้ผลของธรรมะพระพุทธเจ้าจริง ก็เลยมีความจริงที่จิตใจของอาตมา ไม่ได้เป็นจิตใจที่หวั่นไหว ไม่เป็นจิตใจที่ไม่มีปัญญา

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบคุณตู่-จตุพร และทนายนกเขา ดำเนินรายการโดย คุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 11:45:46 )

เป็นลูกโจรถือว่าเป็นกรรมทายาทโจรไหม

รายละเอียด

ไม่เรียกว่ากรรมทายาท พ่อเป็นโจรก็จริงแต่เราไม่ได้เป็นโจร ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แต่ถ้าเราไปเป็นโจร มันก็ไม่ใช่กัมมะทายาท มันเป็นเรื่องคุณโง่เอง คุณก็ไปรับถ่ายทอดมาทำไม กรรมที่เป็นโจรที่พ่อคุณทำ เราก็รู้ว่าเป็นกรรมที่ไม่ดี คุณจะทำตามทำไม คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่ทำตาม เห็นมั้ยสำคัญนะกรรม คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่ทำตามจริงๆได้ด้วย แม้ว่าคุณจะมีจิตอยากจะเป็นโจรอยู่บ้าง คุณก็ฝืนแก้ปรับปรุง แล้วเรียนรู้สัจธรรมของพระพุทธเจ้าล้างกิเลสพวกนี้ให้ออกไป คุณก็ไม่เป็นโจรเลยได้ ถ้าไม่เช่นนั้นมันแก้ไม่ได้เลย พ่อเป็นโจรลูกก็ต้องเป็นโจรต่อไปเรื่อยๆ แล้วจะไปแก้ไขอย่างไร เปลี่ยนแปลงได้ไหม มันก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้สิแบบนี้ มันไม่ใช่ มันเปลี่ยนแปลงได้ด้วยกรรม เห็นความยิ่งใหญ่ของกรรมมั้ย นี่ไม่ใช่กรรมพันธ์ุ แต่เป็นสรีระพันธุ์เท่านั้น มันไม่ใช่กรรมพันธุ์ พ่อมีลูก ลูกไม่ต้องไปรับกรรมจากพ่อ ถ่ายทอดกรรมจากพ่อไม่ได้ กรรมของพ่อก็เป็นของพ่อ กรรมของคุณก็เป็นของคุณ กรรมนั้นสืบทอดมาจากสรีระไม่ได้ และกรรมของใครของมันก็ถ่ายทอดให้ใครไม่ได้ คุณถ่ายทอดให้ใครไม่ได้ ใครก็ถ่ายทอดให้คุณก็ไม่ได้ จบแล้วนะของคุณ ใครให้คุณก็ไม่ได้ คุณให้ใครก็ไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:09:49 )

เป็นวัตรแต่ไม่เป็นศีล

รายละเอียด

เป็นวัตรแต่ไม่เป็นศีลเป็นไฉน? ธุดงค์ 8 คือ อารัญญิกังคธุดงค์ 1 ปิณฑปาติกังคธุดงค์1 ปังสุกุลิกังคธุดงค์ 1 เตจีวริกังคธุดงค์ 1 สปทานจาริกังคธุดงค์ 1 ขลุปัจฉาภัตติกังคธุดงค์1 เนสัชชิกังคธุดงค์ 1 ยถาสันตติกังคธุดงค์ 1 นี้เรียกว่าเป็นวัตร แต่ไม่เป็นศีล. (พ่อครูว่า…เดือนนี้มีการทำพิธีชักผ้าบังสุกุลทอดผ้าป่า ก็ทำเป็นแบบผิดธรรมวินัยไปหมด ทั้งพระทั้งโยม เพราะผ้าบังสุกุลคือผ้าที่เขาไม่ใช่แล้วเขาทิ้งแล้วจึงนำมาใช้เป็นจีวร แต่นี่ไม่ใช่ทำอย่างนั้นเลยเดี๋ยวนี้ ผ้า 3 ผืนของภิกษุ คือ อันตรวาสก (สบง คือ ผ้านุ่ง) อุตราสงค์ (จีวร คือ ผ้าห่ม) และสังฆาฏิ (ผ้าทาบ), เรียกสั้น ๆ ว่า ผ้าไตร หรือ ไตร ) สปทานจาริกังคธุดงค์ 1  อันนี้ยังเถียงกันอยู่ บ้างก็ว่า เดินบิณฑบาตเป็นแนวเดียวไม่ข้ามฝั่งถนน การบิณฑบาตเป็นการไปแสดงธรรม ไม่ให้แสดงจะมีความโลภความอยากได้ความเห็นแก่ได้ ถ้าไปบิณฑบาตก็ต้องไปแสดงความมักน้อยสันโดษไม่แสดงความโลภ กระหาย อยากได้อะไร ต้องแสดงความเป็นผู้มักน้อยสันโดษได้เพียงรู้จักพอ เอาตามที่ควรได้ อาตมาก็ขยายความไว้หมดอยู่ในหนังสือศาสตร์และศิลป์แห่งการบิณฑบาต อาตมาให้เป็นหนังสือถ้าหากผู้ที่จะมาบวชอยู่ที่นี่จะบิณฑบาตเลี้ยงตนตั้งแต่เป็นเณรจะต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ก่อน ให้จบ ว่าเราจะต้องใช้การบิณฑบาตเลี้ยงตนต้องรู้จักศาสตร์และศิลป์ของการบิณฑบาตให้ดี ไม่เช่นนั้นก็จะผิดพลาดแล้วก็จะเป็นวิบากกรรม ขลุปัจฉาภัตติกังคธุดงค์1 คือมีความพอรับอาหารแล้วไม่รับเพิ่มจากนี้อีก ห้ามภัต ว่าพอแล้ว ถ้าคุณกล่าวว่าอันนี้พอแล้ว หรือว่ารับประเคนแล้วบอกพอแล้วๆ ใครจะมาประเทศอะไรอีกก็ต้องไม่รับไม่เอาอีกแล้ว ผู้ถือวัตรปฏิบัติเช่นนี้จะต้องถือเช่นนี้ หรือบอกแต่ละอย่าง อันนี้ก็เอาเท่านี้นะก๋วยเตี๋ยวชามเดียวก็พอ แต่อย่างอื่นไม่เกี่ยวเติมได้ บางอันก็ปัจเวกอาหารแล้วก็ไม่รับอีก  เนสัชชิกังคธุดงค์ เป็นผู้ที่นอนหลับโดยไม่ให้หลังแตะพื้น ยถาสันตติกังคธุดงค์ 1 มีชีวิตอยู่ตามมีตามได้ เป็นธุดงควัตร 8 แต่ไม่ใช่ศีล อันนี้เป็นความสมัครใจของท่าน ธุดงควัตรค่อนข้างจะเข้ม ธูตะ แปลว่าศีลเคร่งสำหรับแต่ละคน แต่ละคนถ้าจะสมาทานวัตรปฏิบัติเช่นนี้ วัตร จึงมีนัยยะไม่ทั่วไป เป็นเฉพาะของแต่ละบุคคลไม่เป็นเหมือนศีล แม้การสมาทานความเพียร ก็เรียกว่าเป็นวัตร ไม่เป็นศีล กล่าวคือ พระมหาสัตว์ทรงประคองตั้งพระทัยว่าจงเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น กระดูก ก็ตามที เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือดแห้งไปเถิดผลใดอันบุรุษพึงบรรลุด้วยเรี่ยวแรงของบุรุษ ด้วยกำลังของบุรุษ ด้วยความเพียรของบุรุษ ด้วยความบากบั่นของบุรุษ การไม่บรรลุผลนั้นแล้วหยุดความเพียรเสียจักไม่มี ดังนี้ แม้การสมาทานความเพียรเห็นปานนี้ ก็เรียกว่าเป็นวัตร ไม่เป็นศีล. ภิกษุประคองตั้งจิตว่าเมื่อลูกศรคือตัณหาเรายังถอนไม่ได้แล้ว เราจักไม่กิน จักไม่ดื่ม จักไม่ออกจากวิหาร ทั้งจักไม่เอนข้าง [ไม่นอน] ดังนี้.แม้การสมาทานความเพียรเห็นปานนี้ ก็เรียกว่าเป็นวัตร ไม่เป็นศีล. พระมหาสัตว์ทรงประคองตั้งพระทัยว่า เราจักไม่ทำลายบัลลังก์นี้จนตลอดเวลาที่จิตของเราจักไม่หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ถือมั่น ดังนี้ แม้การสมาทานความเพียรเห็นปานนี้ ก็เรียกว่าเป็นวัตรไม่เป็นศีล. ภิกษุประคองตั้งจิตว่า จิตของเราจักไม่หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ถือมั่นเพียงใด เราจักไม่ลุกขึ้นจากอาสนะนี้เพียงนั้น จิตของเราจักยังไม่หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ถือมั่นเพียงใด เราจักไม่ลงจากที่จงกรม จักไม่ออกจากวิหาร จักไม่ออกจากเรือนมีหลังคาแถบเดียว จักไม่ออกจากปราสาท จักไม่ออกจากเรือนโล้น จักไม่ออกจากเพิง จักไม่ออกจากถ้ำ จักไม่ออกจากกุฏิ จักไม่ออกจากเรือนยอด จักไม่ออกจากป้อม จักไม่ออกจากโรงกรม จักไม่ออกจากเรือนที่มีเครื่องกั้น จักไม่ออกจากศาลาที่บำรุง จักไม่ออกจากมณฑปจักไม่ออกจากโคนต้นไม้ เพียงนั้น ดังนี้ แม้การสมาทานความเพียรเห็นปานนี้ ก็เรียกว่าเป็นวัตร ไม่เป็นศีล. ภิกษุประคองตั้งจิตว่า ในเวลาเช้านี้แหละ เราจักนำมา จักนำมาพร้อมจักบรรลุ จักถูกต้อง จักทำให้แจ้ง ซึ่งอริยธรรม ดังนี้ แม้การสมาทานความเพียรเห็นปานนี้ก็เรียกว่าเป็นวัตร ไม่เป็นศีล. ภิกษุประคองตั้งจิตว่า ในเวลาเที่ยงนี้แหละ ในเวลาเย็นนี้แหละในกาลก่อนภัตนี้แหละ ในกาลภายหลังภัตนี้แหละ ในยามต้นนี้แหละ ในยามหลังนี้แหละในฤดูร้อนนี้แหละ ในตอนวัยต้นนี้แหละ ในตอนวัยกลางนี้แหละ ในตอนวัยหลังนี้แหละเราจักนำมา จักนำมาพร้อม จักบรรลุ จักถูกต้อง จำทำให้แจ้งซึ่งอริยธรรม ดังนี้ แม้การสมาทานความเพียรเห็นปานนี้ ก็เรียกว่าเป็นวัตร ไม่เป็นศีล. นี้ชื่อว่าความบริสุทธิ์แห่งศีลและวัตร. ภิกษุพึงเป็นผู้ประกอบด้วยความบริสุทธิ์แห่งศีลและวัตรเช่นนี้ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เธอพึงเป็นผู้มีศีลและวัตรอย่างไร?

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 13:43:15 )

เป็นวิบาก 11 ประการไหมหากฟังธรรมแล้วจำไม่ได้

รายละเอียด

ไม่เป็นหรอก ฟังแล้วเข้าใจง่ายตามไม่ทันจะเป็นวิบาก 11 ประการได้อย่างไร ไม่เป็น ไม่เกี่ยว ตรวจสอบตัวเองก็ดีแล้วล่ะ อย่าไปหาเรื่องใส่ตัวเองโดยที่มันไม่จริง จะโทษตัวเองมากเกินไป แต่ระมัดระวังไว้ สังวรไว้นั่นแหละดี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญคือคนที่เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 20:08:02 )

เป็นศีลไม่เป็นวัตร

รายละเอียด

ศีลและเป็นวัตรเป็นไฉน? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวม ด้วยความสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร เป็นผู้เห็นภัยในโทษทั้งหลายมีประมาณน้อยสมาทานศึกษาในสิกขาบททั้งหลาย ความสำรวม ความระวัง ความไม่ก้าวล่วงในสิกขาบททั้งหลายนั้น นี่เป็นศีล. ความสมาทาน ชื่อว่าเป็นวัตร. เพราะอรรถว่า สำรวม จึงชื่อว่า ศีล.เพราะอรรถว่า สมาทาน จึงชื่อว่า วัตร. นี้เรียกว่าศีลและวัตร.

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 13:40:03 )

เป็นสกทาคามีบุคคล

รายละเอียด

เป็นสกทาคามีบุคคล  คือ  มีจิตสงัดจากกามราคสังโยชน์  ปฏิฆสังโยชน์   กามราคานุสัย  ปฏิฆานุสัย  อย่างหยาบ  และจากกิเลสที่ตั้งอยู่ในเหล่าเดียวกันกับกามราคสังโยชน์อย่างหยาบ

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2562 ( 08:38:47 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:50:52 )

เป็นสยังอภิญญาในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10

รายละเอียด

อาตมาพูดเสมอว่าอาตมาเป็นไก่ตัวพี่ เกิดมายุคนี้เป็นสยังอภิญญาในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10 ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้อาตมาเป็นคนที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในยุคนี้  สยังอภิญญาคือ ผู้ที่ไม่มีอาจารย์ ผู้ที่รู้ด้วยตัวเอง อาตมาพูดตอนแรกเขายังหาว่าอาตมาเป็นพระพุทธเจ้าหรือรู้ด้วยตัวเอง อาตมาก็บอกว่าไม่ สยังอภิญญาไม่ใช่พระพุทธเจ้าเนื้อความบอกไว้ชัดเจนว่าเป็นสมณพราหมณ์ สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ  ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง  เพราะรู้ยิ่งด้วย ตนเอง  ในโลกนี้  มีอยู่  (อัตถิ  โลเก   สมณพราหมณา   สัมมัคคตา  สัมมาปฏิปันนา  เย  อิมัญ จ โลกัง   ปรัญ จ  โลกัง   สยัง อภิญญา   สัจฉิกัตวา  ปเวเทนตีติ) ใครไม่พบสยังอภิญญา ขณะที่ยังมีอยู่ตอนนี้หรือคุณรู้คนเห็นคุณก็ยังไม่เชื่อก็แสดงว่าคุณไม่ได้ข้อนี้ พบแต่คุณไม่เชื่อก็เหมือนกับข้อที่ไม่พบ เหมือนกับกามนิตนอนคุยกับพระพุทธเจ้าทั้งคืน เสร็จแล้วก็บอกว่านอนคุยกับท่านสนุกมากก็ต้องขอลาท่านเพราะว่าต้องลาไปหาพระพุทธเจ้า น่าสงสารไหม คุยกับพระพุทธเจ้าทั้งคืน ช่วงเช้าขึ้นมาบอกว่าสนุกมาก ขอบคุณมาก ผมจะต้องทำหน้าที่ต่อไปจะต้องเดินตามหาพระพุทธเจ้าต่อ (สมณะฟ้าไทว่า ทำไมเขาไม่ถามว่าท่านคือใคร) พ่อครูว่า…มารบังตา หรือถึงบอกเขาก็ไม่เชื่ออย่างที่อาตมาบอกนี่แหละ เพราะเขามีความยึดถืออีกอย่างหนึ่ง อาตมาทำงานไม่ได้อยากได้ลาภยศหรือคนมานับถือ แต่มันเป็นไปตามธรรมชาติเอง ของพระพุทธเจ้าเขามีการพยากรณ์ไว้อยู่แล้ว แต่ของอาตมาเขาบอกไว้ว่าจะมีโพธิสัตว์มาเกิดแต่เขาก็ไม่รู้ว่าโพธิสัตว์คืออะไร อาตมาก็มาประกาศตนเองเป็นโพธิสัตว์ ก็อาตมาไม่มีใครมาเป็นอาจารย์ใครเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนักมีอาจารย์องค์เดียวกันเอามายืนยันก็ไม่มีใครยืนยัน อาตมาก็พูดด้วยความจริงใจ ว่าอาตมาเป็นสยังอภิญญา มีของเก่ามาเอง หากว่ามีคนถูกกว่าก็มาแย้ง หากเขาถูกอาตมาก็ผิด แต่หากอาตมาถูกเขาก็ผิด แต่เขาไม่ยอมรับอีก หรือจำนนแต่ก็ตกกระไดพลอยโจน ไม่รู้จะทำอย่างไร เขายอมรับว่าอาตมาถูกต้องแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรอีกแล้วมันจำนนตกกระไดพลอยโจน มันแก้ไม่ออกแล้ว อันนี้อาตมาเห็นใจเข้าใจ และแม้ว่าสมมุติ เถรสมาคม ยอมรับผิด เลิกเลย ให้โพธิรักษ์ไปบริหาร… อาตมาก็รับไม่ได้ เพราะว่าอาตมาไม่มีองค์ประกอบเพียงพอที่จะไปพูดให้เขาเข้าใจเขาเชื่อ ฆราวาสจะไปบังคับความเชื่อเขาได้อย่างไร แต่ฆราวาสบางส่วนเขาก็จะยอมรับ มันมีความซับซ้อน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 20:13:58 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 08:19:09 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 04:03:17 )

เป็นสัตบุรุษที่บริบูรณ์เองได้อย่างไร

รายละเอียด

แต่เพราะอวิชชา จึงมีอาหารคือนิวรณ์ 5 เป็นอาหารของอวิชชา เพราะจิตเป็นทุจริต 3 เพราะอะไรเพราะไม่สำรวมอินทรีย์ 6 ตาหูจมูกลิ้นกายใจ สะเปะสะปะ ไม่มีความรู้เลยเป็นปุถุชน แม้มาเรียนเป็นเสขบุคคล รู้ในทางปฏิบัติ มีการสำรวมอินทรีย์มีการปฏิบัติก็ต้องพากเพียร สัมผัสให้รู้ ตาหูจมูกลิ้นกาย ก็ต้องมีสติสัมปชัญญะ บริบูรณ์

เมื่อมีสัมผัสบริบูรณ์ มีสติสัมปชัญญะ บริบูรณ์ ก็ทำใจในใจให้บริบูรณ์ คือมีสติสัมปชัญญะ มีธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์ มีอินทรีย์ 5 พละ 5 เกิดเป็นผล

ศรัทธา ก็เกิด สัทธินทรีย์ สัทธาพละ บริบูรณ์ด้วย สติสมาธิปัญญา สัทธรรมก็บริบูรณ์ คุณก็สามารถเป็นสัตบุรุษที่บริบูรณ์เอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานเพื่อฟ้าดิน เพื่อฟ้าดิน สร้างคนจนสุขสำราญฯ ตอน4 วันที่ 1 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 17:00:41 )

เป็นสัตว์ เริ่มมีกรรม มีวิบาก

รายละเอียด

ทีนี้มาเป็นสัตว์แล้วเริ่มมีกรรม มีวิบาก อันนี้เป็น อจินไตย กรรมวิบากเป็น อจินไตย เป็นเรื่องที่คิดเอาไม่ได้ ตรรกะเอาไม่ได้ จะใช้เรียนด้วยพยัญชนะไปจนตายก็ไม่ได้ คุณต้องมาเรียนรู้เพื่อจะหยั่งให้ถึงจิต เจตสิก รูป นิพพาน มาเรียนรู้ถึงเรื่องปรมัตถสัจจะหรือปรมัตถธรรม 

สัมผัสเข้าไปถึงอาการของจิต อาการของรูป และก็นาม รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นี่เป็นขันธ์ที่รวมตัวแล้ว นามขันธ์และรูปขันธ์ครบ 5 พระพุทธเจ้าก็มาแจกรูปธรรมออกเป็น 28 แยกนามไปเป็น 5 ให้ศึกษา รูป 28 มันจะละเอียดเอาไว้ก่อน แต่ต้องรู้นะ ไม่รู้ไม่ได้ คุณจะทำความละเอียดครบครันไม่ได้ ส่วนนาม 5 เอามาแจกก่อน

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 60 ยากที่สุดในโลกนี่แหละคือความเป็น 2 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2565 ( 13:17:08 )

เป็นสัตว์ที่มีวิจิกิจฉา 

รายละเอียด

พวกหลับตานี้จะจบอยู่ที่ อสัญญีสัตว์ ส่วน อากาสานัญจายตนะ วิญญานัญจายตนะ แล้วแถม อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ อีก เก๊ทั้งหมด 4 อันนี้ ที่เป็นอรูปฌาน อรูปฌานเก๊เพราะอสัญญีสัตว์มันก็เป็นมิจฉาทิฏฐิแล้ว เพราะฉะนั้น ดันทุรังไปอีก 4 อรูปฌาน ซึ่งสอนกันพวกสายหลับตา มีอรูปฌาน 4 เก๊ เพราะของศาสนาพุทธจริงนั้น พอจบที่ฌานที่ 4 อสัญญีสัตว์ ไม่มี เหลืออรูปฌาน ก็มี 3 

อรูปฌาน ก็คือจะรู้จักวิญญาณ รู้จักอากาศ อากาสานัญจายตนะ วิญญานัญจายตนะ และรู้ที่จบ อากิญจัญญายตนะ มันจบแล้ว มันหมดกิเลสแล้ว มีวิญญาณฐีติ 7 เท่านั้นเอง ไม่มีเนวสัญญานาสัญญายตนะเด็ดขาดเลย เนวสัญญานาสัญญายตนะ แปลว่าจะรู้ก็ไม่ใช่ ไม่รู้ก็ไม่ใช่ ก็มันยังไม่จบ มันมีวิจิกิจฉา เป็นสัตว์ที่มีวิจิกิจฉา แต่วิญญาณฐิติ 7 หมดวิจิกิจฉา ไม่มี ชัดเจนจบที่ อากิญจัญญายตนะ นิดหนึ่งน้อยหนึ่งก็ไม่มี เพราะมันรู้ชัดมันมีปัญญาญาณครบบริบูรณ์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 มกราคม 2566 ( 19:35:08 )

เป็นสัมภวะ ก็เลยเป็นภวะ

รายละเอียด

แล้วคุณติดอะไรมัน คุณติดว่า แหม มันสุข ต้องใช้คำว่าสุข สุ ขะ, ข คือว่าง สุ คือดี สุขเป็นผีหลอก ตัวลึกมากเลย สุขนี่ พยัญชนะคือ สุ กับ ข คือว่าง มันไม่มีอะไรเลยแต่คุณไปสมมุติว่ามันมีตัวตน มันมีอะไร  มีตัวกูของกู มีตัวอร่อย มีตัวเป็นแดนที่แสนชอบ 

แดนที่แสนชอบเป็นสัมภวะ เป็นแดนเกิดอันแสนชอบ สัมภวะ ก็เลยเป็นภวะ เป็นภพ เป็นสัมภวะ หรือ ปภวะ หาที่เกิด สัมภวะหรือปภวะ ใช้พยัญชนะไม่มีอะไรจะสื่อแล้ว ต้องใช้ภาษาอธิวจนสัมผัสโส ต้องรู้กันได้ด้วยการสัมผัสแล้ว ไม่ใช่สภาวะปฏิฆสัมผัสโส คือ นามธรรมที่ยังไม่ตั้งชื่อ มันสื่อกันไม่ได้แล้วก็ขอใช้ อธิวจนสัมผัสโส ที่จริงแล้ว ปภวะกับสัมภวะ ปภวะนี่หยาบกว่าสัมภวะ 

สัมภวะนี้ละเอียดกว่าปภวะ ตัวตน ปภวะมากว่าตัวตนของสัมภวะ สัมภวะเป็นตัวตนที่ละเอียดอ่อนกว่าหรือน้อยกว่า ปภวะ เป็นตัวตนที่หยาบกว่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 60 ยากที่สุดในโลกนี่แหละคือความเป็น 2 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2565 ( 13:05:13 )

เป็นสัมมาสิกขาได้พัฒนาเป็นคนดี

รายละเอียด

เด็กพูดมาด้วยความจริงใจของเขาเอง ก็มีเจตนาเช่นนี้แหละ คนที่เข้ามาแรกๆก็จะไม่รู้ว่าที่นี่คืออะไรก็เหมือนกับโลกๆที่มอมเมากัน เมื่อเข้ามาแล้วก็จะได้สัมผัส เด็กที่มีปัญญามีความเฉลียวฉลาดที่ดีเมื่อเข้ามาแล้วก็จะรู้ว่าที่จริงที่นี่ดี นอกจากว่าเด็กบางคน เข้าใจเหมือนกันว่าที่นี่จะทำให้คนดีแต่กิเลสเขามาก เขาทนไม่ไหว เขาก็ต้องออก ทั้งๆที่เขาก็ต้องร้องไห้นะ หลายคนอยู่ไม่ได้ทนไม่ได้ กิเลสของเขามีสูง แต่ลึกๆแล้วเขารู้ดี ส่วนคนที่โง่อวิชชาจริงๆเข้ามาที่นี่แล้วไม่เอาเขาจะไปชั่ว อันนั้นก็จะมีเหมือนกัน เด็กที่ไม่โง่เง่านะ มีปฏิภาณปัญญาพอสมควรมาอยู่ที่นี่แล้วจะเข้าใจอย่างนี้ เพราะฉะนั้นที่นี่จึงมีคนอยู่ แต่ละปีแต่ละปีตั้งมา สามสิบกว่าปีแล้ว ทำได้อยู่ตลอดเวลาเลย มีคนไปคนมาเรียนตลอด

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 11:39:19 )

เป็นส่วนแห่งบุญ

รายละเอียด

ชำระกิเลสไปได้เรื่อย ๆ

หนังสืออ้างอิง

ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 265


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:51:33 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:18:31 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:44:03 )

เป็นหมู่กลุ่มคนจนที่จบกิจเป็นเช่นไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในเมืองไทยไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ว่าทางด้านการเมืองนำหน้าประเทศอื่นเขาอยู่ เพราะเป็นโลกุตรธรรม เขาบอกว่าเศรษฐกิจมันเดือดร้อนอย่างนั้นอย่างนี้ ไปเอาตัวเลขง่ายๆมาตีความ เหตุปัจจัยมันโยงใยกันทั่วโลก ตัวเลขของราคาสินค้ามันขึ้น มันไม่ได้หมายความว่าเป็นความตกต่ำหรือว่าเป็นความไม่เจริญ ไม่ได้ชี้บ่งความชัดเจนเลย ผ้าขาวม้าผืนหนึ่ง สมัยอาตมานั้นผืนละ 1 บาท สูงสุดผ้าขาวม้าชั้นดี ผ้าขาวม้าไหมผืนละ 10 บาท ผ้าขาวม้าผ้าฝ้ายผืนละ 2-3 บาท ผืนละบาท เดี๋ยวนี้ผืนหนึ่งเท่าไหร่ 100 หรือ 200 ต่อให้ผ้าขาวม้าไหมผืนละ 500 มันก็ไอ้ผ้าขาวม้าเหมือนกันกับยุคโน้น ดีไม่ดีทอได้ดีกว่ายุคโน้นด้วย แต่ตัวเลขมันขึ้นไปตามประสา 

สมัยอาตมาเป็นเด็ก กินก๋วยเตี๋ยวชามละ 2 สตางค์ หรือ 3 สตางค์ เดี๋ยวนี้ก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่ง 500 บาท ไฮโซหน่อย มันก็ไอ้ก๋วยเตี๋ยวเหมือนๆ กันนั่นแหละ อาจจะปรุงแต่งสีสันโน่นนี่ ชามงามๆ มีผ้าปูโต๊ะแจ๋วๆ ห้องแอร์เย็น เท่านั้นเอง ปรุงแต่งเพื่อประเทืองหลอกคนไปอย่างนั้น ให้ไปจ่ายเงิน พวกที่ทำห้องเย็นขายก๋วยเตี๋ยว มีผ้าปูโต๊ะสวยๆ มันคิดค่าใช้จ่ายพวกนั้นหรือเปล่า คิด เศรษฐกิจที่พวกคนสังคมไฮโซเขาทำคือพวกถูกหลอกถูกขูดรีดจากความฉลาดของคนซ้ำซ้อน เอาเงินของคุณออกมาเพื่อที่จะสะพัดให้คนระดับอื่น เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบเอาจากคนโง่ที่รวยมาเฉลี่ยให้คนจนบ้าง ก็เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบง่ายๆ มันต้องสอนให้คนรู้จักสัจจะสาระแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ให้คนรู้จักว่า ชีวิตนี้มีปัจจัยสี่ง่ายๆถูกๆไม่ต้องไปเดือดร้อน อย่างพวกเราแก้ปัญหาเศรษฐกิจจบสบาย มาเป็นคนจน ไม่มีปัญหาเศรษฐกิจ ไม่มีปัญหาการเมือง มันไม่ดีหรืออย่างไร แต่คนรวยมีปัญหาเศรษฐกิจปัญหาการเมืองคุณก็แย่งกันไป สาระประเด็นแห่งความสำคัญเท่านี้ มองให้ออก แล้วก็ทำให้ชีวิตมันอยู่อย่าง อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูนเสียสละ 

จนกระทั่งถึงขั้นใจเกื้อกูลก็เข้าใจว่า พวกเรามีใจเกื้อกูลจริงๆ เพิ่มพูนการเสียสละ มันมีคุณสมบัติแบบนั้นได้ด้วยนะคน มันพัฒนาเจริญมาถึงขั้นเป็นคนเพิ่มพูนการเสียสละ เพราะเราเหลือกินพอกินพอใช้ เสียสละได้อีกมากเท่าไหร่นี่คือยิ่งเจริญ เอาเปรียบเอารัดได้มากขึ้นเท่าไหร่คือความโง่เขลา คือ มิลักขะ พวกเรานี่ อาริยกะ เห็นสัจจะความจริง อาตมาพูดไม่ได้มายกย่องตัวเองแต่เอาพฤติกรรมจริงมาอธิบาย พวกคุณเป็นอย่างที่อาตมาอธิบายไหม พฤติกรรม พฤติกรรมของทางโลกเขาเป็นอย่างนั้น อาตมาอธิบายชี้แจงความจริง ไม่ได้ยกเราข่มเขา พูดความจริง เพราะฉะนั้นในมนุษยชาตินี้จุดสำคัญของความเป็นคนกับความเป็นสังคม ถ้าเข้าใจแก่นสารสาระของชีวิตแล้ว 

พระพุทธเจ้าเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ถ้าบริหารแผ่นดินไปต่อ ท่านเกิดในแคว้นเล็กถ้าบริหารต่อ ท่านจะเป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ พระเจ้าปเสนทิโกศล พระเจ้าพิมพิสารก็จะแบ่งให้อีกครึ่งหนึ่งเลย ท่านมีกู๊ดวิล มี Favorite ถึงขนาดนั้น พระเจ้าแผ่นดินแคว้นใหญ่ พระเจ้าปเสนทิโกศล พระเจ้าพิมพิสาร แคว้นใหญ่ 2 แคว้นในอินเดียสมัยนั้น ยอมรับหรือนับถือพระพุทธเจ้าเลย ถ้าบริหารแล้วประชาชนเป็นสุข ประชาชนดีเอาไปครึ่งหนึ่งให้บริหารยกให้ ไม่ต้องไปแย่งชิง ไม่ต้องไปรบราฆ่าฟัน แผ่นดินใหญ่ยังยกให้เลย เพราะในยุคนั้นพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าปเสนทิโกศลมีพระปัญญาธิคุณสูง ว่าถ้าบริหารอย่างพระพุทธเจ้าทำให้ประชาชนเป็นสุข เพราะฉะนั้นเอาไปเลยครึ่งหนึ่งท่านบริหารเลย ยินดีเลย นี่คือสัจจะที่มันมีมาแล้วตั้งแต่ในสมัยพระพุทธเจ้า แต่ในยุคนี้อาตมาเอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาทำ เขาไม่ให้ คนไม่มา เขาไม่ให้ด้วยแล้วคนก็ไม่เข้าใจไม่ค่อยมา มีพวกคุณแหละ มา จะบอกว่าหน้าโง่หรือหน้าฉลาดก็ไม่รู้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เกิดมาต้องรู้จักความเป็นคนกับสังคมจึงไม่เสียชาติเกิด วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 เมษายน 2566 ( 13:23:36 )

เป็นอจินไตยที่เด็กๆ ได้มาเรียนในแดนโลกุตระ

รายละเอียด

อยากจะพูดกับเด็กๆ ให้เด็กๆทั้งหลายได้ฟังแล้วเข้าใจจริงๆเลยว่า มันเป็นเรื่องของ อจินไตย เป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้ ว่าทำไมพวกเราถึงเข้ามาอยู่ในนี้ เข้ามาอยู่ในนี้ไม่ใช่เรื่อง จับพลัดจับผลู ผีจับยัดเข้ามา ไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องความจริงเป็นสัจจะที่เราได้มาอยู่ในนี้ เป็นแดนสุดยอด เป็นแดนศิวิไลซ์สุดยอด เป็นดินแดนอาริยะจริงๆ เพราะฉะนั้นจงรู้ตัวแม้ว่ามันจะทุกข์อย่างไร ก็ต้องศึกษาให้ดีๆ พยายามทนให้ได้ พยายามรู้ให้ได้ว่า โอ้โห! อันนี้ไม่ใช่เรื่องสามัญ คนอยู่ในประเทศไทย 60 ถึง 70 ล้านคน มีพวกเราอยู่หยิบมือ เท่านั้นเอง ที่ได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ในนี้ มาได้อบรม ฝึกฝน ศึกษา ซึ่งไม่ใช่เรื่องฟลุ้คๆ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่ใช่เรื่องผีจับยัดเข้ามา ไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องบารมีของพวกเราเองจริงๆ 

ถ้าไม่มีบารมีจริงๆ มันไม่ได้มาอยู่หรอก ไม่ได้มาอยู่จริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ มันต้องเกิดต้องเป็นอย่างนี้ของพวกเรา วิบากของเรามีอย่างนี้ เราจะต้องเกิดมาเป็นอย่างนี้ เราต้องเป็นอย่างนี้ มันจึงมาเป็นอย่างนี้ได้ เพราะฉะนั้นอาตมาจึงไม่ได้เป็นเรื่องยาก ไม่ใช่เป็นเรื่องลำบากอะไรมากมายนักที่จะสอนพวกเรา เพราะพวกเราเป็นคนที่ สัจจะคัดสรรแล้ว ให้เข้ามา อาตมาไม่ต้องไปเที่ยวได้  โอ้โห!ต้องสมัคร ต้องคัดเลือกสอบไล่เข้ามา ไม่ต้องมากมาย พวกเราสอบพอเป็นพิธี มาสอบเข้าที่นี่ 

สมมุติว่าสมัครปีนี้ 100 คน จะตกอย่างเก่งก็ไม่เกิน 5 คน ยากนะไม่ใช่ง่ายนะ ตกอย่างเก่งไม่เกิน 5 คน ถ้าอย่างนั้นก็มาวนเวียนขอเข้ามาอีก ถ้าชอบจริงๆก็ได้มาอยู่จริงๆ ถ้าผู้ที่มีปฏิภาณปัญญารู้ตัวเองว่า อยากจะมาอยู่ที่นี่ อยากจะมาเรียนที่นี่ คนนั้นมีบารมี ยังไงๆ ก็ได้อยู่ พากเพียรเข้ามาเถอะ จะได้อยู่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 31 วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 01 มิถุนายน 2565 ( 14:39:55 )

เป็นอนาคามี จะไม่ทุกข์ไม่สุข

รายละเอียด

ข้อ 1574 จะเป็นผู้อยู่กับสังคมที่มี“เศรษฐกิจ”แม้มันจะอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็มี“ปัญญา”ที่จะอยู่กับสภาพนั้นๆ ชนิดที่“ไม่ทุกข์-ไม่เดือดร้อน-ไม่ตกนรก”ตามฐานานุฐานะของความเป็นอาริยบุคคลแต่ละคนนั้นๆ เป็นอนาคามีจะไม่ทุกข์ไม่สุขกับการขึ้นลงของเศรษฐกิจเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มีปัญญารู้ตนด้วยเจโตปริยญาณ 16 วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2566 ( 13:30:10 )

เป็นอนาคามีบุคคล

รายละเอียด

เป็นอนาคามีบุคคล  คือ มีจิตสงัดจากกามราคสังโยชน์  ปฏิฆสังโยชน์อย่างละเอียด  กามราคานุสัย  ปฏิฆานุสัย อย่างละเอียด  กามราคานุสัย  ปฏิฆานุสัย  อย่างละเอียด  และจากกิเลสที่ตั้งอยู่ในเหล่าเดียวกันกับกามราคสังโยชน์ อย่างหยาบ

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2562 ( 08:39:34 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:51:14 )

เป็นอยู่อย่างกัมมัญญา

รายละเอียด

เราศึกษาธรรมะรู้โลกาธิปไตยอัตตาธิปไตยโดยมีธรรมาธิปไตย เรามีรายการหนึ่งชื่อว่า เป็นอยู่อย่างกัมมัญญา คือ การเป็นอยู่กับพฤติกรรมสังคมอย่างมีปัญญาแล้ว กัมมะ + อัญญา (ปัญญา) ซึ่งเป็นปัญญาโลกุตระไม่ใช่ปัญญาโลกียะด้วย เราก็อยู่กับกรรมกิริยาของ อัญญา เป็นตัวดูแลควบคุม แปลกัมมัญญาว่า ผู้มีการงานอันเหมาะสมควรหรือว่าผู้มีการกระทำอันเหมาะควร ก็มีการงานการกระทำอย่างเหมาะสมควรกับโลกเขา ไม่เกิดภัยเกิดโทษแก่โลกและควรจะเป็นประโยชน์คุณค่าต่อโลกเขาด้วย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 18 มิถุนายน 2563 ( 10:07:01 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:59:45 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:45:49 )

เป็นอย่างไรก็ตัดสินเอาเอง 

รายละเอียด

ก็คงมีคนมองอย่างคุณคนนี้ในสังคม แต่คงยังไม่มีใครกล้าที่จะเอาไปขยายผลหรือขยายความเอาไปวิจารณ์ อะไรบ้างอะไรบ้าง แม้แต่คุณเปลวสีเงินก็ยังไม่กล้าเอาไปอธิบายขยายผล ทั้งๆที่เขาเป็นคนกล้านะ แต่เขายังไม่ค่อยกล้าแตะอาตมาเท่าไหร่ ก็ทำไปอาตมาก็จริงใจตามภูมิ ทำสุดฝีมือ ไม่ได้ออมมือเลย 

จริงนะ เรื่องนี้พูดไปก็เหมือนกับชมตัวเองยกตัวเอง แต่ที่จริงไม่ใช่ตัวอาตมาเอง อาตมาเอามาจากทฤษฎีของพระพุทธเจ้า เอามาสอนแนะนำพวกเรา พวกเราก็เกิดจริง ทำจริงด้วยจิตใจไม่ได้บังคับไม่ได้จ้างวาน แต่ทำด้วยน้ำใจทั้งนั้นนี่เป็นเรื่องจริงที่ประเสริฐ เพราะฉะนั้นก็ดูเอาอะไรที่มันเป็นอย่างไรก็ตัดสินเอาเอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเกิดมาหากไม่ได้โลกุตระ เท่ากับชิงหมาเกิด วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 แรม 3 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 14:57:18 )

เป็นอรหันตบุคคล

รายละเอียด

เป็นอรหันตบุคคล  คือ  มีจิตสงัดจากรูปราคะ  อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา  มานานุสัย  ภวราคานุสัย  อวิชชานุสัย  กิเลสที่ตั้งอยู่ในเหล่าเดียวกันกับรูปราคะและจากสังขารนิมิตทั้งปวงภายนอก

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2562 ( 08:40:18 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:51:47 )

เป็นอรหันต์ เป็นเช่นใด

รายละเอียด


เริ่มต้นคุณปฏิบัติธรรม ปฏิบัติไปเป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ อรหันต์คือ รู้จักกิเลสอาสวะ แล้วมีปัญญารู้ว่า กิเลสอาสวะ จนเกิด ฌาน เกิดกำลังของจิตเป็นพลังงานที่เก่ง ฌานที่เก่ง เป็นพลังงานที่เหนือกว่า สราคะ สโทสะ สโมหะ พลังงานฌาน จนเผาผลาญตามบารมี ถ้าฌาน แก่กล้าก็เผาราคะ โทสะ โมหะ ได้เร็ว แรง เกลี้ยง ก็ต้องบำเพ็ญสั่งสมพลังงานนั้นด้วยการปฏิบัติเรียนรู้ไป ไปซื้อตามร้านขายยา ห้างสรรพสินค้าไม่มีขาย ต้องเรียนรู้ฝึกฝนอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งให้ได้เอง แล้วมาสร้างพลังงานฌานเผา เป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ พอได้เป็นอรหันต์ก็บำเพ็ญโพธิสัตว์

โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ระดับ 9 จึงเป็นสัมมาสัมพุทโธ เป็นพระพุทธเจ้า ตรัสรู้เองโดยชอบ อรหันต์จะเริ่มมีคุณสมบัติที่รู้อัตตา ดับอัตตาได้ มีคุณธรรมของตนเองดับตนเองได้ เป็นอันดับที่ 1

อรหันต์ลำดับต่อไปเป็น โพธิสัตว์ระดับ 5 ก็เรียนรู้จากของคนอื่นๆ ดีไม่ดีต้องไปเกิดอย่างคนอื่นเป็น แม้ที่สุด ไปเป็นเดรัจฉานบางตัว เพื่อจะรู้ว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร โพธิสัตว์จึงมีสัมภารวิบาก เกิดเป็นใครต่อใคร ตามที่ตัวเองยังข้องใจ ไม่ได้หมายความว่ารู้เฉพาะอ่านตำราแล้วนึกคิดเอาเอง แต่ต้องเป็นต้องมีเอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิชชาจรณสมบัติ และพรหม 20 ชั้น วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2565 ( 13:24:08 )

เป็นอรหันต์ขึ้นไปจะมีเวทนาแท้ เวทนาเดียว

รายละเอียด

แต่ถ้าเป็นพระอรหันต์ขึ้นไปจะมีเวทนาเดียว คือเวทนาแท้ ส่วนเวทนาเทียมไม่มีเลยในอรหันต์ แต่เป็นพระอาริยะสูงขึ้น ก็มีเวทนาเทียมเหลือน้อยลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่มีเวทนาเทียมเลย มีแต่เวทนาแท้ คุณก็อาศัยเวทนาแท้ และที่สุดคุณก็จะชัดเจน ศึกษาไปว่าแม้แต่เวทนาก็ไม่ใช่ตัวเรา ของเรา เวทนาก็ไม่ใช่ ก็เป็นอนัตตาอีก ก็ศึกษาไปเป็นขั้นตอน เป็นลำดับก็แล้วกัน 

เพราะฉะนั้น กาย คือสภาวะทรงไว้จากการปฏิบัติ เวทนา และจิตก็คือ เป็นภาษาที่ใช้แทนกันได้ เป็นซินโนนีมของ วิญญาณ แยกไปเป็น เจตสิกอีก เพื่อเรียน จิต เจตสิก รูปนิพพาน นี่คือสภาพที่จะต้องเรียนหลักการใหญ่ของอภิธรรมก็คือ จิตแยกเป็น เจตสิกต่างๆ และเรียนรู้เรื่องรูป จนถึงขั้นนิพพาน 4 คำ จิต เจตสิก รูป นิพพาน คุณจะต้องรู้เจตสิกต่างๆ คืออาการของจิตอีกที เจตสิก แจกไปอีกที พระอภิธรรมก็แจกไปเป็น 121 ตัว เป็น 68 หรือ 69 ตัว อะไรอย่างนี้ ก็ได้สำหรับผู้รู้เอามาแจกไว้ แต่คุณรู้สภาวะไหม ถ้าคุณไม่รู้สภาวะก็มีแต่ภาษาบัญญัติ ก็ทำให้บรรลุไม่ได้ ก็พยายามทำให้ถึงทั้งสภาวะ นี่เป็นหลัก ไม่ใช่รู้แต่พยัญชนะเท่านั้น 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาไม่ดับสัญญาแต่ดับกิเลส วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ตุลาคม 2565 ( 12:22:56 )

เป็นอรหันต์จริงจึงสามารถบอกได้ว่าตนเองเป็นอรหันต์อย่างไร 

รายละเอียด

มันเป็นสัจจะ เมื่อศาสนาพุทธโลกุตรธรรมมันเสื่อม มันก็เสื่อมจริงๆอย่างที่เห็นอาตมาพูดความจริง ว่าอาตมาเป็นอรหันต์จริงเป็นโพธิสัตว์จึงเป็นผู้รู้โลกุตรธรรมจริงสาธยายมา 50 กว่าปีแล้ว เขาก็ยังไม่ค่อยกระเตื้องเท่าไหร่เพราะเขาไม่ค่อยฟัง เขาไม่เชื่อ เขาถูกทางสายผิด อาจารย์ที่เป็นผู้ที่ผิดมิจฉาทิฐิ ครอบงำทางความคิดไปแล้ว ก็ไปเชื่อกันทางนั้นไม่ว่าจะเป็นสายหลับตา สายเหตุผลตักกะ พยัญชนะ เขาก็ไปเข้าใจอย่างนั้น 

แล้วเขามองผู้ที่เป็นอรหันต์ผู้ที่บรรลุธรรมจริงเขามองไม่ทะลุหรอก เขาไม่รู้ถึงจิตเจตสิกต่างๆ จิตเจตสิกรูปนิพพาน เขาไม่รู้จริง ถ้าเขารู้จริงเขาจะรู้ว่าอาตมาพูดอย่างใจจริงที่ไม่มีกิเลส แม้จะอยากโอ้อวด สักนิดก็ไม่มี จริง สักนิดก็ไม่มี แสดงด้วยความจริงอย่างผู้รู้ อาตมาสาธยายธรรมะถ้าไม่มีอคติหนักมากในอาตมา มันพอจะฟังเข้าใจ มันชักจะเอ๊ โพธิรักษ์อธิบายได้ละเอียดลออนะ มี อิทัปปัจจยตาต่างๆ อธิบายเหตุนี้จึงเป็นผลนี้ เป็นปฏิจจสมุปบาทได้ดี เขาน่าจะพอ สะดุดใจ แต่เพราะว่ามีอคติ ไม่เชื่อ ก็ไปเชื่ออาจารย์ที่ครอบงำทางความคิดผิดๆอันเก่าๆ แม้ว่า สายบัญญัติหรือสายหลับตา ก็น่าสงสาร 

อย่างพวกคุณชาวอโศก คุณทั้งหลาย มีบุญเก่าด้วยบุญใหม่ด้วย มีกุศลเก่ากุศลใหม่ด้วยมาได้ฟังธรรมะอาตมา ฟังแล้วก็เข้าใจ มันก็เป็นกุศลยิ่งจริง และกุศลที่ว่านี้ถึงขั้นเป็นบุญ เป็นขั้นที่พอรู้จักกิเลส ทำให้กิเลสหมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้ถึงปัญญาวิมุติ

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2566 ( 12:20:36 )

เป็นอรหันต์หรือไม่พิจารณาอย่างไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเมื่อพระอรหันต์จริงๆ บอกเขาจึงไม่เชื่อว่าใช่ อาตมาก็เลยอยากจะให้สติ ให้ปฏิภาณ สักนิดนึงว่า..ผู้ที่จะเป็นอรหันต์ หรือไม่เป็นอรหันต์ จะรู้จักธรรมะของพระพุทธเจ้าเท่าไร? ผู้ที่ไม่เป็นอรหันต์ก็น่าจะรู้จักธรรมะพระพุทธเจ้า แม้จะไม่เก่งภาษาทางศาสนา ก็น่าจะพูดเรื่องสาระของสัจธรรมธรรมะพระพุทธเจ้าที่เป็นอาริยธรรมต่างๆ เอาพระไตรปิฎกข้อนั้นข้อนี้มา ขยายความ สัมพันธ์กัน ผู้ที่อธิบายได้ ขยายความได้ดีๆ ก็น่าจะเป็นภูมิ ยิ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้ศึกษาปริยัติอย่างที่เขาเรียน แต่อธิบายได้อย่างนี้ ก็น่าจะสนใจว่าทำไมอธิบายได้ อธิบายธรรมะได้อย่างหลากหลาย เอาพระไตรปิฎกมายืนยันเทียบเคียงพระสูตรนั้น พระสูตรนี้ เดี๋ยววันนี้จะเอาพระสูตรเรื่องศีลมาพูด 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับ วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:53:32 )

เป็นอรหันต์แล้วน่าจะปล่อยวางสังขารร่างกายให้เป็นไปตามธรรมชาติ

รายละเอียด

คุณเหมือนมารที่ว่าพระพุทธเจ้า บอกว่าเมื่อบรรลุแล้วตายเสียสิ เหมือนเปี๊ยบเลย คุณเองทำไมช่างเหมือนมารเลย ใช่ตัวมารจริงๆ เป๊ะเลย พูดกันอย่างเดียวกับมาร เชิญคุณทำตามที่คุณว่าเลย อาตมาไม่ทำแบบคุณ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบการปกครองของมนุษย์ ที่สุดยอด วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 10:36:23 )

เป็นอรหันต์แล้วไม่มีความอายแม้แต่มังกุ

รายละเอียด

อีกคำหนึ่งบอกว่า ทำไมไม่อาย ผู้ที่เป็นอรหันต์แล้วไม่มีความอาย ไม่ใช่หน้าด้านนะ ไม่มีแม้แต่มังกุ มังกุไม่ใช่หิริ ไม่ใช่โอตตัปปะ ซึ่งโอตตัปปะคือละอายอย่างแรง หิริ ละอายอย่างเบา มังกุนี้ เขาแปลว่าไม่เก้อยาก มันก็ยากที่จะเข้าใจ คือไม่เก้อไม่เขิน ไม่ลำบากเลยในการไม่เก้อเขิน คำว่าไม่เก้อยาก ไม่ลำบากธรรมดา ไม่มีมังกุแล้ว สบายเป็นปกติ ไม่อายไม่เก้อเขิน ไม่ใช่คุณสมบัติของธรรมดาสามัญคนที่จะมีได้ คนธรรมดาจะต้องอายต้องรู้จักเป็นบวกเป็นลบอยู่ เป็นสองฝ่ายมีอันตา ยังมีสองฝ่ายยังไม่กลางจริงๆยังไม่สูญมันก็จะมีอาการเช่นนี้ แต่ถ้ามันสูญจริงๆ มันเป็นกลาง มันก็ไม่มีอะไรไปอะไรมา ไม่มีอันตา ไม่มีข้าง ไม่มีฝ่ายอะไรขึ้นมา ไม่มีกระดิก ซึ่งเป็นเรื่องอจินไตยลึกซึ้ง ถึงขั้นมีเอง จะชัดในตนเองไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องถามใคร ว่าลักษณะอย่างนี้เรามี ผู้ใดมีลักษณะอย่างที่ว่านี้ไม่มีมังกุแล้ว ในอภิณหปัจเวกขณ์ ข้อที่ 10 ใครจะมาถามก็บอกได้ว่าเป็นอรหันต์ ถามว่าเราเป็นอรหันต์แล้วก็บอกว่าใช่ เราไม่มีจิตเอียงไปทางไหนเลยตรงๆ กลางๆ เราเป็นอรหันต์ บอกว่าเราเป็นอรหันต์ก็บอกว่าตรงๆ ไม่มีมังกุ ไม่มีเอียงไม่มีข้างอะไรเลย มีหนึ่งเดียวเท่านั้น พูดไปแล้วก็เป็นหนึ่งเดียวตรงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้เข้าใจง่ายๆ ไม่อาย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมในงานพิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2564 วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2564 ( 15:32:44 )

เป็นอรหันต์ไม่ได้ยาก

รายละเอียด

ถ้าคุณฟังคำด่าของเขาเช่น ไอ้หน้าดำ ไอ้หน้าขาว เขาจะด่าอย่างไรล่ะ ไอ้หมา เราก็บอกว่าคำด่าของเขาหมายความว่าอย่างไร เราเป็นตามภาษาที่เขาว่านั้นไหม ถ้าเราเป็นคนหน้าดำ เขาด่าถูก เขาไม่ชอบหน้าดำเขาเลยด่าคนหน้าดำ เอ๊ แต่เราดูหน้าเขาก็หน้าดำเหมือนกันก็ถูกเขาเหมือนกันนะ แต่ถ้าเขาขาวเขาด่าเราหน้าดำเราก็เข้าใจความเป็นจริงตามความเป็นจริง หรือมันจะลึกซึ้งกว่านี้ก็ตาม ความหมายของพยัญชนะจะลึกละเอียดกว่านั้นก็ตามเป็นนามธรรม คุณก็เข้าใจตามนั้น คุณจะบอกว่าไม่ใส่ใจในคำด่าคุณก็โง่ เป็นพยัญชนะที่ไม่รู้สมมติสัจจะ คุณต้องรู้สมมติสัจจะและก็รู้ปรมัตถสัจจะคือจิตเจตสิกต่างๆว่าจิตใจเราเกิดอาการความโกรธความโลภความหลงอะไรเราไม่มีเราชัดเจน ตามพยัญชนะที่เขาด่าว่ามันก็มีจริงตามที่เขาว่าเราก็เข้าใจสภาวะนั้น รู้โลก รู้สมมุติ รู้ธรรม รู้จิตเรา เราทำให้จิตเราเข้าใจแล้ว จิตเราก็ว่างกลางๆเฉยๆนี่คือฐานนิพพานอุเบกขา ใครทำจิตนิพพานอย่างนี้ได้เสมอต่อโลก ต่อการสัมผัสเกี่ยวข้องกับอะไรเรื่อยๆแล้วเข้าใจทั้งสมมุติและปรมัตถ์ทำได้จริง อรหันต์เป็นอย่างนั้น ฉะนั้นเป็นอรหันต์ไม่ได้ยาก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:35:23 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:52:18 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 04:07:01 )

เป็นอัจฉริยะ เป็นถึงศาสดา ก็ใช่ว่าจะเข้าถึงโลกุตระ!

รายละเอียด

ต่อให้ศึกษาด้วยตนเองอย่างสุดยอดอุตสาหะวิริยะปานใดๆ จนกระทั่งเป็น“อัจฉริยะ”ขั้นสูงส่ง ได้เป็น“ศาสดา”องค์ใดองค์หนึ่งของศาสนา“เทฺวนิยม”ขึ้นมาในโลก ศาสนาใดศาสนาหนึ่งปานนั้นก็ตาม ก็ยังไม่ใช่“ความรู้-ความฉลาด”แบบ“โลกุตระ”

หรือแม้“ความรู้”นั้นจะได้รับมอบมาจาก“พระเจ้า”และเราได้เป็น“ศาสดา”ผู้ถ่ายทอดคำสอนของ “พระเจ้า” สร้างศาสนาขึ้นมาในโลกได้จริง “ความรู้-ความฉลาด”นั้นก็ยังเป็น“โลกียธรรม”อยู่นั่นเอง  อันไม่ใช่“โลกุตรธรรม”กันเลยจริงๆ

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 5 หน้า 47


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 12:24:24 )

เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระพรหม

รายละเอียด

คือ อาตมามาเป็นพ่อ มาเป็นผู้ที่พยายามจะสร้าง สัตว์โอปปาติกะ สร้างจิตวิญญาณของมนุษยชาติให้มาเป็นคน เป็นพรหม มหาบิดา อาตมามาในสายนั้นเครือนั้น DNA นั้นของพระเจ้า ของพ่อ นี่พูดโดยวิชาการนะ เป็นการศึกษาไม่ได้พูดหลงตัวเอง ยกตัวเอง เป็นการอธิบายสัจธรรม มาทำหน้าที่นี้จริงๆ มาสร้างโลก มาสร้างสัตว์โอปปาติกะให้เป็นลูก ให้ไปเป็นพระพรหม ให้เป็นจุดสุดยอด เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระพรหมนั่นแหละ ให้มีจิตวิญญาณที่มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาให้สูงสุด ให้มีจิตนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยสัจ 4) ตอน ความเป็นกลางคือหมดสิ้นอันตา


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:22:22 )

เป็นอิสรเสรีภาพของมนุษย์ทุกคน

รายละเอียด

เราห้ามไม่ได้หรอกว่า คนจะมีพรรคมีพวกอย่างพวกแดง อย่างพวกเพื่อไทยที่เขาชอบทักษิณ ความเห็น ความคิด แนวคิดอย่างไรก็แล้วแต่ แบบ ทักษิณ แน่นอนเขาก็แสดงออกหาพรรคหาพวกช่วยกัน มันก็ช่วยกันธรรมดานี่เป็น กฎเกณฑ์หรือเป็นหลักธรรมชาติของมนุษยชาติ เพราะฉะนั้นชาวอโศกเราก็มีนัยยะอย่างนั้นเหมือนกัน เขาก็ทำกันเปิดเผย แต่ที่จริงมันไม่ได้ผิดอะไร มันเป็นธรรมดาธรรมชาติของสังคมที่ทำอะไรเป็นหลักเกณฑ์ด้วย เป็นอิสรเสรีภาพของมนุษย์ทุกคนด้วย ที่จะมีสิทธิ์แสดงความเห็นว่าเราชอบอันนี้ เราไม่เห็นด้วย อย่างนี้แสดงสิทธิที่ไม่ผิดกฎหมาย 

แต่ที่อาตมาพูดไปนี้ อาตมาไม่ได้อยู่ในเถรสมาคม อาตมาไม่ได้อยู่ในกฎเกณฑ์ของเถรสมาคม อาตมาก็เป็นนักบวช เป็นสมณพราหมณ์ ที่เป็นนานาสังวาสกับมหาเถรสมาคม แน่นอนอาตมาไม่มีกฎเกณฑ์ ตามที่มหาเถรสมาคมเขากำกับ จะเรียกว่าบังคับก็คือบังคับ นักบวชของเขาเป็นอย่างนั้น แต่เขาไม่มีสิทธิ์จะมาบังคับนักบวชพวกเรา พวกชาวอโศกนี้ได้ อาตมาก็ถือว่าเป็นอิสรเสรีภาพที่อาตมามีสิทธิที่จะทำได้ ที่จะพูดกับชาวอโศก ให้ได้รับประโยชน์อันนี้ 

เพื่อที่จะทำให้ความเห็นหรือความรู้หรือแนวคิด ของพรรคสัมมาธิปไตยที่เราเห็นด้วยกัน เห็นสอดคล้องกัน เป็นแนวเดียวกันที่เราเรียกกันว่า แนวสัมมา เพราะฉะนั้นจะเป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมามรรค สัมมาผล หรือ สัมมาประพฤติ สัมมาปฏิบัติก็ตาม มันก็ต้องสอดคล้องส่งเสริมกันไป ก็แสดงออกมาตามความ บริสุทธิ์ใจ อิสรเสรีภาพ เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบนะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การเมืองและเศรษฐกิจแบบโลกุตระ พรรคสัมมาธิปไตย วันพุธที่ 15 มีนาคม 2566 แรม 9 ค่ำเดือน 4 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 เมษายน 2566 ( 14:10:47 )

เป็นเจ้าโลกโดยไม่ต้องเป็นเจ้าโลก เช่นไร

รายละเอียด

อย่างประเทศไทย คนไทยมีธรรมะที่เป็นพุทธ แม้ว่าจะยังไม่มีโลกุตรธรรมกว้าง แต่ก็รับกระแสของอัญญธาตุโลกุตรธรรมไปได้เรื่อยๆ ซึมซับกระจายไปเรื่อยๆ ซึ่งอาตมายกตัวอย่างเมืองจีน เมืองจีนไม่ใช่เมืองพุทธ แต่มันเป็นธรรมะชนิดหนึ่งที่เขาแสวงหา แล้วถึงคราว ถึงครา ที่มันจะถึงยุคของมัน ที่ทำได้ 

ถ้าสีจิ้นผิง เข้าใจตรงนี้แล้วรักษาสภาพนี้ โดยมองมาที่ไทย เอาโลกุตตรธรรมจากเมืองไทยเข้าไป ถ้าสีจิ้นผิงศึกษาแล้วเมืองจีนจะรักษาอันนี้ได้มีโลกุตรธรรม อัญญธาตุ เจริญเป็นอัญญา (พหูพจน์ของ อัญญธาตุ ) จึงเกิดเป็นปัญญา ถ้าเมืองจีนพลเมืองพันกว่าล้านมีปัญญาเหมือนคนไทยชาวอโศกที่มีปัญญา 8 นี้ โอ้โหจะเป็นมหาอำนาจยืนยาวนานเลย แล้วจะยิ่งใหญ่มากที่สุดเป็นเจ้าโลกโดยไม่ต้องเป็นเจ้าโลก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สบายสงบและมั่นคงที่ 1 ในโลกคือประเทศไทย วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 7 ค่ำเดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2565 ( 12:44:21 )

เป็นเทวนิยมแยกกายแยกจิตไม่ได้ 

รายละเอียด

ถ้าคุณแยกกายแยกจิตจาก ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ตั้งแต่ข้างนอก คุณก็เข้าใจกันกระทบสัมผัสแล้วคุณจะแยกกายแยกจิตเป็นคนไม่มีกาย พระอรหันต์คือคนเป็นคนที่ไม่มีกาย เป็นคนที่มีจิตอยู่ในระดับ พีชนิยาม ขึ้นไปจนถึงเป็นอุตุนิยาม 

เป็นพีชะ คือไม่มีกาย เมื่อไม่มีกาย ก็ไม่มีสุขทุกข์ ไม่มีเวทนาไม่มีวิญญาณ เหมือนกับพืช มีแต่สัญญากับสังขาร 

สิ่งเหล่านี้ไม่มีอธิบายในพระไตรปิฎก อาตมาเป็นคนไม่อ่านอรรถกถาจารย์เลย อรรถกถาจารย์ส่วนใหญ่เรียนเอามาจากวิสุทธิมรรค ซึ่งยังเป็นเทวนิยมอีกเยอะ ก็เลยยากมากเลย ตรงที่ว่า แยกกายแยกจิตไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 4 วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564 แรม 2 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2564 ( 12:11:56 )

เป็นเรื่องของธรรมฤทธิ์

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าท่านจบ ท่านสมบูรณ์แบบ แต่ว่าในยุคของท่านเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคของทาส เป็นยุคที่คนยังไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชนของแต่ละคน มีนายทาสเป็นเจ้าของลูกทาส จะฆ่าแกงก็ได้เหมือนสัตว์เดรัจฉาน พระพุทธเจ้าก็เลยทำออกสังคมกว้างไม่ได้ แต่ก็ทำในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ก็ทำไปถึงฆราวาสไม่ได้ ท่านทำได้แต่ในวงการพระสงฆ์ของท่าน ซึ่งสุดยอดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินใหญ่ขนาดไหน พระเจ้าปเสนทิโกศล พระเจ้าพิมพิสาร ก็ยอมให้แก่ท่าน ยกย่องธรรมวินัยในศีลของพระพุทธเจ้า ใครจะมาเข้ารีตธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า คนของพระเจ้าปเสนทิโกศล หรือพระเจ้าพิมพิสารจะมาเข้ารีตของพระพุทธเจ้า เขาก็ยกให้เลย ไม่ถือว่าเป็นคนมากบฏ มาแย่งชิงประชาชนของพระองค์เลย ยอม ยกให้อย่างเต็มใจด้วย ซึ่งเป็นเรื่องของธรรมฤทธิ์ สัจธรรมอันวิเศษยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า แต่ทางรัฐศาสตร์ ทางการเมือง ทางสังคมเขายังเข้าใจไม่ถึง มันเป็นคุณวิเศษหรือคุณสมบัติ ของมนุษยชาติที่ยิ่งใหญ่มากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วก็เอามาให้ขยายไว้ใช้มาตั้งแต่ในยุคโน้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 17 มกราคม 2566 ( 12:34:07 )

เป็นเรื่องของภูมิธรรมของโพธิสัตว์แท้ๆ

รายละเอียด

อาตมาทำงานโลกุตรธรรมมาตั้งแต่ พ.ศ 2513 ทำมาทำมาแล้ว ในหลวง ร. 9 เห็นร่วม เริ่มตั้งแต่ 2527 มาเรื่อยๆ ในหลวงเริ่มเห็นด้วยเริ่มตรัส สิ่งที่ท่านก็เป็นพระเจ้าแผ่นดิน จะตรัสอะไรก็ต้องมั่นพระทัยว่าตรัสออกมาแล้วสู่สาธารณชน ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ 

เช่น จะตรัสว่าแบบคนจน หรือมาขาดทุนของเราคือกำไรของเรา มันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เราเห็นท่านตรัสตามหลักฐานที่มีใน พ.ศ 2534 แต่อาตมาว่าท่านเริ่มตั้งแต่ พ.ศ 2527 มาเรื่อยๆ มาถึง 2534 ท่านถึงเต็มรูป ตรัสออกมาด้วยภาษาต่อสาธารณชนเลยว่า บริหารแบบคนจน ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา ต่อมา อะไรอย่างนี้เป็นต้น 

ซึ่งมันเป็นเรื่องของภูมิธรรมของโพธิสัตว์แท้ๆ มันพูดเล่นไม่ได้หรอกในระดับในหลวงหรือสาธารณชนทั่วโลก พูดเล่นไม่ได้ แต่คนเข้าไม่ถึง อย่างข้าราชบริพารไม่มีปัญญารับช่วงต่อ มันก็เลยยากไปไม่ออก 

ทีนี้มาพวกเรานี่แหละรับไม้ หรือจริงๆก็ทำอยู่แล้ว พวกเราเป็นโลกุตระอยู่แล้ว รับทำอยู่แล้ว เมื่อในหลวงมาตรัสอย่างนี้อีกก็เลยยิ่งโอ้โห.. แทบจะถือว่า ถ้าไม่มีธรรมะหน่อยนี่จะผยองเลยนะ รีบคว้ามาถือว่าทำอย่างคะนอง ทำอย่างผยองเลย ซึ่งอาตมาก็ต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างมากเลย เราก็ไม่ถึงขั้นคะนอง ไม่ถึงขั้นผยอง แต่ก็ทำตนเป็นผู้น้อย เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นผู้แพ้อยู่ไป 

แต่พยายามเสนอเนื้อแท้ๆๆ ให้ปรากฏทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งรูปธรรม นามธรรม ให้เต็มส่วน ให้เต็มสภาพเสมอๆ ก็เกิดขึ้นมาได้เรื่อยๆๆๆ มาตลอด ถ้าจะว่าจริงๆ แล้วเปอร์เซ็นต์ที่มีแม้แต่อยู่ในประเทศไทย ก็ยังไม่ได้อยู่ในเขตขีดที่ถือว่า น่าจะมั่นใจหรือว่าน่าจะปล่อยได้ว่างั้นเถอะ ปล่อยเดี่ยวได้ ยังไม่ถึงขั้นนั้น 

มันจะต้องช่วยอุดหนุน ช่วยทุ่มแรงไปอยู่เรื่อยๆ อาตมาถึงบอกว่า มันน่าจะตายแล้วก็ยังตายไม่ลง ยิ่งทุกวันนี้ไอแรง มันมีเหมือนน้ำพิษออกมา มันบอกไม่ถูกรสชาติมันก็ทรมาน มันไม่ใช่น้ำกรดทีเดียวนะ มันเป็นน้ำพิษที่มันขื่นมันขมมันจะอ้วกมันจะไอออกมาสารพัดเลย มันไม่มีในสารบบ เลยไม่รู้จะบอกด้วยภาษาอย่างไรมันเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องขจัดออกไม่พึงต้องการ เพราะฉะนั้นจึงต้องไอขจัดอย่างแรงให้รีบเอาออกจึงทรมาน มันลึกซึ้งซับซ้อน พูดไปพวกคุณก็จะเห็นใจเปล่าๆ ปล่อยอาตมาไปเถอะ ตามวิบากไม่มีปัญหาอะไร ..ชาตินี้มีวิบาก.. 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปลุกพลังเงียบช่วยกันทำให้การเมืองเจริญ วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 14 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 17:08:58 )

เป็นเรื่องของโลกที่เราจะต้องเรียนรู้กันไป

รายละเอียด

สิ่งที่มอมเมา สิ่งที่สร้างค่าว่า ถ้าคุณมีเสื้อ ตัวนี้สวยกว่าตัวนี้นะราคาแพงกว่านะ ก็หลงใหลไปตามค่าที่โลกเขาสมมุติ อย่าว่าแต่เสื้อตัวนี้ราคามันแพงเลย มีค่านิยม เสื้อตัวนี้ ถ้าได้ใช้ จากคนนี้เป็นคนผลิต คนนี้คิดขึ้นมาตีราคา ธรรมดาเสื้อ 1 ตัว 100 บาทแต่นี่ราคาตั้ง 50,000 บาท ถ้าใครได้อันนี้มาใส่แล้วเหาะได้เลยนะ มันก็บ้าซื้อแล้วมันก็เหาะไม่ได้หรอก แต่มันเหมือนคนเหาะได้เลยนะเดินลอยหลง อันนี้มันก็เป็นสมมุติที่รู้กันอยู่ คนที่ฟังแล้วเข้าใจจะเห็นได้ว่าโลกมันจะสมมุติ มันไม่ต่างกันเลยเสื้อคลุมกายนี่ สมมุติว่าแค่เสื้อมีแขนบ้างไม่มีแขนบ้าง มีคออย่างโน้นอย่างนี้มีโน่นมีนี่ก็แล้วแต่ ทำให้มันต่างกันไปหน่อยแต่ก็สมมุติ ถ้าเจ้านี้สมมุติว่าเป็นเจ้าแห่งแฟชั่น เป็นแบรนด์เนมอันนี้ โอ้โห.. รู้สึกว่ามันฟ่องฟู ฟูฟอง มันอื้อหือ.. ผู้หญิงทั้งหลายที่นั่งอยู่ที่นี่ใครเคยบ้าอย่างนี้มาบ้าง นั่นน่ะ เดี๋ยวนี้หายบ้าแล้วหรือยัง ตอบได้ จริงหรือเปล่า...จริง 

แต่ก่อนนี้โง่จริงๆ จะเห็นได้ว่าเราถูกสังคมหลอกมอมเมาครอบงำ เพราะฉะนั้นคนไหนที่หยุดโง่แล้วหายโง่แล้ว พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเสื้อผ้าหน้าแพรคือสิ่งที่กันร้อนกันหนาว กันแมลงสัตว์กัดต่อย กันความอุจาด ก็เท่านั้นเอง ก็อาศัยใช้สอยไป รู้สาระของมัน ไม่ใช่เรื่องหลอกมอมเมากันสารพัด จนกระทั่งไปตีราคาและไปใช้ธนบัตรกระดาษชำระหนี้ได้ตามกฎหมายมา แลกมาซื้อมา อะไรต่างๆนานากว่าจะได้ ต้องไปหาธนบัตรกระดาษชำระหนี้ได้ตามกฎหมายมา เพื่อจะไปซื้ออันนี้ๆ เหน็ดเหนื่อยมาก นี่แหละ เป็นเรื่องของโลกที่เราจะเรียนรู้กันไปหมด 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 18 ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณมนุษย์ และอภิวัฒน์สังคม วันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 15:50:29 )

เป็นเรื่องจริงที่ประชาชนปฏิวัติรัฐบาลสำเร็จ

รายละเอียด

มาย้อนทวนที่ว่า เป็นประชาชนเข้าไปชุมนุมประท้วงแบบประชาชนปฏิวัติ ไม่ใช่ทหารปฏิวัติ แล้วคุณก็มาบอกว่าอาตมาปฏิวัติเพื่อให้ทหารออกมาปฏิวัติ ทหารไม่ได้ปฏิวัติ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ได้ทำการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ประชาชนทำรัฐประหารเสร็จแล้ว พลเอกประยุทธ์มีตำแหน่งหน้าที่รักษาความมั่นคงของประเทศเป็นหัวหน้า ก็เข้ามารับงานจากประชาชนไปทำ ก็เป็นการสูกแล้วเขามีหน้าที่ที่จะต้องทำงานและเชื่อมโยงต่อไป พลเอกประยุทธ์ก็บริหารประเทศในขณะที่ไม่มีการเลือกตั้ง บริหารประเทศเข้าตาประชาชน จนอาตมาาตาขานรับว่าบริหารประเทศได้เป็นประชาธิปไตยดีมากกว่า นายกฯที่ผ่านมา เป็นเรื่องจริงที่ประชาชนปฏิวัติรัฐบาล พวกเราชาวประชาชนที่มีกองทัพธรรมเป็นแหล่งที่จะยืนเป็นหลักทำอาหารแจก ปักหลักเป็นปี ปฏิวัติ รัฐบาล ทักษิณ สมัคร สมชาย จนปฏิวัติยิ่งลักษณ์สำเร็จหมด

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 11:11:27 )

เป็นเรื่องที่ต้องตำหนิอย่างไร

รายละเอียด

ที่อาตมาพูดไม่ใช่อวดดิบอวดดีอะไร ไม่ใช่พูดไปข่ม ไปดูถูก ไปว่า ไปตำหนิอะไรเขาเฉยๆเล่นๆ ไม่ใช่ เป็นเรื่องที่ต้องตำหนิ เป็นเรื่องน่าตำหนิที่ไปหลงใหลกันได้ถึงปานนั้นได้อย่างไร หลงใหล หลงผิด หลงเพ้อ หลงละเมอ หลงติดยึดกัน งมงายจนไม่รู้จะงมขึ้นมาได้อย่างไร ส่วนใหญ่นะน่าสงสารเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้ อาหารให้บรรลุถึง อรหันต์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:43:15 )

เป็นเรื่องสุดวิสัยบังคับไม่ได้

รายละเอียด

มันยาก พวกเราบวชเป็นสมณะชาวอโศกแล้ว สุดท้ายก็ต้องขอแยกออกไปเลย เรียกว่าสึกออกจากสมณะชาวอโศก ตอนนี้ไม่รู้ว่าบวชเป็นภิกษุทางโน้นหรือไม่ อาตมาไม่ขอกล่าวชื่อออกไป มันก็เป็นเรื่องสุดวิสัย บังคับไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร มันเป็นเรื่องสุดวิสัย ก็น่าสงสาร แม้กระทั่งแม่ของสมณะ ก็ยังอยู่ในชาวอโศก เมื่อพูดถึงลูกก็อยากจะร้องไห้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ลูกเราบังคับกันไม่ได้ ก็ลูกมีความเห็นต่าง อยู่กับชาวอโศกจนกระทั่งอายุ ยังไม่ 60 ก็บวชมา 26 ปีแล้ว ก็เป็นเรื่องเอาตัวตนบุคคลจริงๆมาอ้างอิงยืนยันอธิบายสัจธรรมสู่ฟัง สรุปก็คือบังคับจิตใจไม่ได้ คนเราบังคับจิตใจกันไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 12:39:48 )

เป็นเรื่องเกินคิด

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ไม่ได้มาปฏิบัติธรรมอะไร เพราะว่าท่านถ้วน ท่านเต็มมา เป็นแต่เพียงว่าชาติที่ท่านเกิดมานั้นท่านอุบัติขึ้นมาเพื่อประกาศศาสนา ท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมอะไร เพราะทุกอย่างท่านเต็มมาแล้ว เป็นโพธิสัตว์ ผ่านขั้น 8 มาเป็นขั้น 9 เต็มมาแล้ว เหมือนอย่างที่อาตมาเคยอธิบายให้ฟังว่า 

พระพุทธเจ้าหรือไม่ใช่พระพุทธเจ้า เป็นโพธิสัตว์ใหญ่บางองค์ บำเพ็ญไปถึงขั้น 9 มีสัมมาสัมโพธิญาณเท่าเทียมกับพระพุทธเจ้าท่านบำเพ็ญได้แล้ว แต่ท่านไม่ปรากฏตัว ท่านปรินิพพานเป็นปริโยสานไปส่วนตัว ไม่มีใครรู้ด้วย เพราะท่านไม่ได้ประกาศ แล้วก็ไม่มีใครที่สูงกว่าท่านที่จะมารู้ท่านอีก จึงไม่มีใครรู้ท่าน แล้วท่านก็ ปรินิพพานเป็นปริโยสานไป มีไม่น้อย 

เพราะฉะนั้น ผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์ที่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ผู้ใดประกาศต่อโลก จึงเป็นจึงปรากฏเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งขึ้นมา ส่วนผู้ที่ไม่ได้ประกาศตนเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีเยอะ เพราะจริงๆแล้ว คนพื้นๆ คนปุถุชนก็จะคิดว่าก็เป็นพระพุทธเจ้าแล้วได้ตำแหน่งแล้วทำไมไม่ประกาศเล่า เสียดายของตายชัก คุณก็ไปคิดอย่างคุณ พระพุทธเจ้าท่านไม่มีเลย คุณจะไปคิดว่ามันเป็นยศ เป็นศักดิ์ เป็นฐานะ มันเป็นอะไรที่น่าเลื่อมใส น่าติดใจ น่าจะต้อง แหม จะต้องยืนยันว่าข้าพระพุทธเจ้านะจ๊ะ อะไรอย่างนี้ คุณว่าท่านมีไหม ท่านก็ไม่มี ท่านไม่เหมือนกับที่คุณคิด นี่คุณไปคิดแทน 

เป็นแต่เพียงท่านพิสูจน์เพื่อที่จะรู้ของท่านเองเท่านั้นเอง ส่วนท่านจะทำหน้าที่ ท่านจะทำอย่างนั้นๆ ก็เรื่องของท่าน ไอ้นี่เป็นเรื่องเกินคิด เป็นอจินไตย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สำนึกรู้เพื่อเข้าสู่โลกที่ดีที่สุด คือโลกโลกุตระ วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2566 แรม 14 ค่ำ เดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2567 ( 15:25:21 )

เป็นเรื่องเลวร้ายมากในประเทศที่มีการเล่นหวยเล่นหุ้น

รายละเอียด

หวยก็ตาม จริงๆ แล้วยิ่งเรื่องเล่นหุ้นยิ่งเป็นเรื่องขายขี้หน้ามาก เพราะมันเป็นเรื่องของคนเอาเปรียบ เป็นระบบนายทุนที่ยิ่งใหญ่ มันมีภาวะซับซ้อน มีอำนาจอยู่ในเรื่องพวกนี้ 

อำนาจของความรวย อำนาจของหมู่กลุ่ม อำนาจของความขี้โลภ อำนาจความขี้โลภนี่มันร้ายแรง ทำให้คนไม่เก่งฆ่าตัวตายไปเยอะ ไอ้คนที่เก่งเฉโก ฉลาดแกมโกงก็รวยไป ซึ่งเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากในประเทศที่มีการเล่นหวยเล่นหุ้น หวยนี่ยิ่งหยาบ หุ้นเขาว่าผู้ดี แต่ที่จริงเป็นผู้ร้ายซ้ำซ้อน ใช้ความฉลาดกลบเกลื่อน หนักหนาสาหัสกว่าหวย เพราะเล่นกันไม่รู้กี่ล้านต่อกี่ล้าน หนักหนาสาหัส 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 10:58:56 )

เป็นเร็วตายเร็วคืออย่างไร

รายละเอียด

คือมันจะเร็วจะช้าอย่างไรก็พอได้ เป็นเร็วตายเร็วก็กำหนดให้เร็วให้ช้าอะไรพอได้ ตามประสิทธิภาพของอาตมานี่แหละ แต่ว่าอาตมาทำได้ประมาณหนึ่ง อย่างที่จะตัดสินทางจิต จะตัดจะต่อ ก็เร็ว เพราะฉะนั้นแสงเสียงอาตมาดูโทรทัศน์ทีละ 3-4 จอไม่มีปัญหาหรอกเพราะแสงเดินทางช้ากว่าจิตอาตมาเยอะ จะตัดอันนั้นต่ออันนี้ ช่องไหนช่องไหน รับอันไหนมันทัน มันไม่เสียหายอะไร ดูจอนี้ ไม่เอา เอาจอโน้น เพราะว่าจริงๆแล้วคนเราจะรู้ได้ทีละหนึ่งเท่านั้นมันจะรู้ซ้อนกัน 2 อันไม่ได้หรอก แต่มันเร็วจนกระทั่งเหมือนกับอันเดียวกันเลย ซึ่งธรรมดาประสาทหรือว่าความเร็วความช้าของคนทั่วไปสากลธรรมดาปุถุชน ยังช้ากว่าความเร็วของพิเศษ โดยเฉพาะจิตใจที่ได้ฝึกฝนแล้วมันมีคุณสมบัติที่เร็ว ที่ไกลกว่าที่คิด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:26:46 )

เป็นเวทนาผีหรือเวาทนาหลอก

รายละเอียด

นี่หมายถึงสภาวะนะ ปรุงแต่งเป็นเทวดา เป็นเทพปุตมารมาหลอกเรา คุณต้องจับตัวนี้ให้ได้ หากคุณจับไม่ได้มันก็กินไปเรื่อยๆมันก็หลอกคุณว่าเป็นเทวดา แต่ถ้าคุณสามารถจับได้ เอ็ง จริงๆมันสอง ตัวหลอกเรา เอาหน้าเทวดามาหลอก แต่เราก็จับสภาพมารในตัวเวทนาได้ เป็นสองในหนึ่ง ฆ่าตัวมารให้ได้ แล้วก็หมดทุกข์

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:13:38 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:52:52 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 04:04:46 )

เป็นเศรษฐกิจแบบชาวอโศกมากๆประเทศไทยจะรุ่งเรือง

รายละเอียด

คิดอย่างนั้นเหมือนน้ำเน่า ถ้ามาเปลี่ยนเป็นแบบชาวอโศกมากเท่าไรๆประเทศไทยจะรุ่งเรือง จะมีการวัดค่าเศรษฐกิจแบบที่ไม่เหมือนกับสากลโลก อาตมาว่ามันไม่ง่ายที่เขาจะเข้าใจ เราจะวัดที่ตัวเงินทรัพย์สินเงินทองวัตถุเป็นเครื่องชี้บ่ง ว่าคนเป็นอยู่สุข มีเศรษฐกิจดี หรือจะวัดที่จิตใจหรือพฤติกรรม อย่างชาวอโศกเรา มีกรรมกิริยาทางสัมมาอาชีพ กรรมกิริยาทางกัมมันตะ ทางวาจา ทางจิต มรรคองค์ 8 อย่างดีเลย

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรมบ้านราช เศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกอยู่ที่นี่ วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 12:45:04 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:53:35 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 04:03:53 )

เป็นเศรษฐศาสตร์ที่สุดยอดที่สุด

รายละเอียด

สุดยอดแล้ว พวกเราขยันทำงานกินข้าววันละมื้อ ทำงานทั้งวัน ถึงเวลาพักก็พักถึงเวลาเพียรก็เพียร คนพูดเขาก็ฟังเข้าใจหมด เขาบอกว่าหน้าโง่ มารับใช้ไม่ได้อะไรเลย ความสามารถก็มี ความรู้ก็มี จบด็อกเตอร์ก็มี อะไรก็มี แล้วมาจมอยู่ทำไม โง่ๆ 

อาตมาพยายามให้พวกเราไปเรียนปริญญาโท ปริญญาเอก เรียนมา เสร็จแล้วก็ไม่ได้เอาไปหากินอะไรเลย มาอยู่นี่ ก็มาทำงานฟรีอยู่ในนี้ Doctor ทำงานฟรีไม่ได้ขั้นได้ตอน ทำงานฟรีไม่ได้ยศถาบรรดาศักดิ์ แต่เราเรียนเพื่อให้รู้โลกเขา แล้วก็ให้เห็นว่า อย่างนั้นเราก็เรียนได้เราก็รู้กับเขาได้เป็นได้อย่างที่เขาเป็น แต่ว่าเราไม่ไปหลงกับเขาหรอก เอาไปตีราคาลาภ ยศสรรเสริญ สุขไม่เอา เรามาทำงานอยู่กับหมู่ ที่เป็นกลุ่มหมู่ที่ควรอยู่ด้วย อยู่ด้วยกัน เป็นสามัคคียะ เอกีภาวะ ที่ควรอยู่เป็น เสนาสนะสัปปายะ บุคคลสัปปายะ อาหารสัปปายะ ธรรมะสัปปายะอยู่นี่ เจริญที่สุดแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 11:26:34 )

เป็นเส้นทางหลุดพ้นจาก “สุขโลกีย์”!

รายละเอียด

หรือสามารถจัดการ“กรรมนิยาม”กับ“ธรรมนิยาม”ให้“จิตนิยาม”เป็น“พีชนิยาม”และเป็น“อุตุนิยาม”ได้ด้วย“ปัญญาอันยิ่ง” ตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าที่ว่า “เทฺว ธัมมา ทฺวเยน เวทนาย 

เอกสโมสรณา ภวันติ” ที่ท่านแปลไว้ว่า “ธรรมสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง”(พระไตรปิฎก เล่ม 10 ข้อ 60)

ซึ่งพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ “ภาวะ 2”ของ“เทฺว”นั่นเอง ถ้าผู้ใดสามารถตีแตกแยกแยะได้ และจัดการทำ“ภาวะ 2”อันคือ “เทฺว”นั้น

แล ให้เป็น“ภาวะ 1”ได้สำเร็จ เราก็จะ“พ้นทุกข์” ทั้งๆ ที่เราก็ยังอยู่กับ“ภาวะ 2”นั้นๆ อยู่ แต่เราไม่มี“สุขโลกีย์”นั้นแล้ว 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 335 หน้า 249


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 15:35:38 )

เป็นเหมือนพลังงานไร้สภาพ

รายละเอียด

อจินไตย ของกรรมวิบาก มันอธิบายยากมากมันจะเป็นผลของวิบาก วิบากคือผลของกรรม มันจะออกฤทธิ์ออกเดชให้เราอาศัย 

ยกตัวอย่างง่ายๆ อาตมาเคยยกตัวอย่างมามาก หลายทีแล้ว มันเป็นเหมือนพลังงานไร้สภาพ ไม่เห็น ไม่มีรูปร่าง ไม่มีตัวตน ไม่มีสภาพตัวตน แต่มีฤทธิ์ 

มีฤทธิ์ทั้งสิ่งที่คนเคารพนับถือบูชา มีฤทธิ์ทั้งคนมาทำร้ายปองร้าย ได้ยากขึ้นๆ จนไม่ได้ ทำไม่ได้ ฟัง 2 ประเด็นนี้ง่ายๆ

อาตมาคงมีศัพท์ ศัพท์บาลี แต่มันยังนึกไม่ออก 2 คำนี้ ลักษณะ 2 ลักษณะนี้ น่าจะมีแต่อาตมายังนึกไม่ออก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ นำปฏิญาณศีล 8 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 45 วันพุธที่ 5 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 05:59:18 )

เป็นแค่ตัว ยังไม่ใช่ตัวตน

รายละเอียด

ใช่เริ่มมีตัวตนได้ มันไม่ใช่ตัว แต่มันยังไม่ใช่ตน ตัว นี้ภาษาไทย ตน ก็ภาษาไทยได้ แต่มาจากพยัญชนะบาลีเลย ตะ นะ เลย แต่ ตัวนี้ก็มาจากภาษาบาลีเหมือนกัน ตะ วะ แต่ว่า ตะวะกับตะนะ ตะนะ เป็นตัวตนที่แข็งแน่น ใช้พยัญชนะวรรค ส่วน ตัว ใช้ ว ตุวังๆ ตว แยกกัน ตุวังๆ มึงๆ กูๆ แยกกัน มาใช้เศษวรรค ย ร ล ว เป็นตัวที่ 4 ออกนอกของ 3 เส้า เป็นพลังงานที่แยกตัวตนออกไป เริ่มแแยกตัวตนออกไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 60 ยากที่สุดในโลกนี่แหละคือความเป็น 2 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2565 ( 12:00:20 )

เป็นโพธิสัตว์ต้องรู้โลกรู้คนอื่นๆ รู้มนุษยชาติทุกจริต

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นต้องมีจิตวิญญาณอยู่ก็ต้องมี 2 สภาพนี่แหละ ใครยึดกับสุขกับทุกข์ ยึดอย่างไรก็ตามสมมุติ ทุกข์กับสุขไม่เหมือนกันด้วยนะ คนบางคนให้กินแตงโมมีความทุกข์ยาก ไม่ไหว กินแตงโมนี่มันเย็นๆ ไม่กินต้องซดน้ำร้อน สุข อย่างนี้ก็ได้เป็นเรื่องของเขา สมมุติไปคนละอย่าง

เพราะฉะนั้นสุขทุกข์นี้เป็นสุดยอดแห่งอารมณ์ของจิตวิญญาณที่ตนเอง แต่ละคนจะอยู่ มันนึกว่าโลกนี้อยู่ไปมันก็สุขหรืออรหันต์รู้แล้วว่าทุกข์กับสุขมันไม่มีหรอก มันไม่ทุกข์ไม่สุขอะไร มันไม่ยึดไม่ติด แต่เรารู้แล้วเราจะแยกสลายตาย ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เลิกก็ได้ ไม่เลิก เราจะสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม ช่วยพูดให้พ้นทุกข์พ้นสุข รู้จักวิธีที่จะแยก จิตนิยามของเราให้สลายเป็นดินน้ำไฟลมไปเหมือนเราให้ได้ ก็เป็นโพธิสัตว์ต่อไปอีก 

จนกระทั่งเป็นพระพุทธเจ้ารู้โลกรู้คนอื่นๆ รู้มนุษยชาติทุกจริต ทุกความยึดติดของเขาหรือไม่ทุกคน ก็เอามากเท่าที่ประมาณไม่ได้เลย ก็เป็นพลังงานที่เป็นประโยชน์ต่อการเกิดมาเป็นมนุษย์ 1 คน มีอัตภาพหรือมีอัตตาสูงสุดจบสุดแล้วเป็นพระพุทธเจ้านี้จบจิตเป็นอรหันต์เลิกได้ ไม่ต้องเกิดมาอีกได้ ไม่ต้องมีร่างที่ต้องมารับภาระอย่างนี้อีก เป็นโพธิสัตว์ก็ช่วยคนอื่น จนสูงสุดเป็นพระพุทธเจ้า สัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก็สุดยอดอยู่ตรงนั้น  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูให้โอวาท พิธีรับกลด ปี 2566 รุ่นใจเกื้อกูล เพิ่มพูนเสียสละ วันอังคารที่ 11 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 15:21:09 )

เป็นโพธิสัตว์ผ่านมาทุกหน้าที่

รายละเอียด

คือ จริงๆแล้วนี่อาตมามีความรู้ที่เป็นอจินไตย อาตมาก็บรรยายยาก อาตมาผ่านสังคมเกิดสังคมเป็น ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายมาไม่รู้กี่ชาติเป็นพระโพธิสัตว์ปฏิบัติมาแล้ว อาตมาผ่านด้านการบริหารประเทศมาแล้วด้วย ไม่ใช่ว่าอาตมามาทำแต่ธรรมะ แต่ผ่านมา เป็นโพธิสัตว์ผ่านมาทุกหน้าที่ ทุกงาน รบเลือดนองก็ผ่านมาแล้ว บริหารอย่างดีอย่างสงบก็ผ่านมาแล้ว เสร็จแล้วใกล้กลียุคมันก็เลยเลวร้ายถึงขนาดนั้น แม้แต่ในประเทศไทย ผ่านยุคที่สงบเรียบร้อย มีพระเจ้าแผ่นดินที่บริหารประเทศให้สงบเรียบร้อยมา จนกระทั่งมาถึงวันนี้อาตมาก็ไม่ได้เดา ไม่ได้ตรรกะ ไม่ได้ศึกษามาจากตำรา แต่อาตมารู้ด้วยของอาตมา เป็นสยังอภิญญา เป็นอภิภู เป็นผู้เป็นเองผ่านเอง เกิดเอง มาเอง มาถึงวันนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 54 ผู้เป็นกลางคือผู้วางกามกับอัตตา วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 14:37:49 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์