@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ญาณพระโสดาบันข้อที่ 5

รายละเอียด

ญาณข้อที่ 5 จะทำประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านอยู่พร้อมกันไป ด้วยกันไปไม่แยก ไม่แยก ไม่แยก อาตมาเน้นข้อที่ 5 ชาวอโศกมีข้อนี้ ไม่บกพร่องไม่โดดเดี่ยวเดียวดายไม่แปลกแยก ร่วมกับหมู่หนักก็หนักด้วยกันเบาก็เบาด้วยกัน ดีไม่ดีหนัก พวกคนอื่นพักแล้วเราก็ยังหนักอยู่ก็ไม่เกี่ยง ไม่ไปเกี่ยงงอนกับใคร มันไม่มีตัวตน มันแสดงถึงความไม่มีตัวตนชัดเจน เป็นประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ไม่ขาดคู่ไม่ขาดมิตร ไม่ขาดเพื่อนกินเพื่อนตาย เพราะว่ามันไม่บกพร่องเลย เป็นประโยชน์ตนประโยชน์ท่านพร้อมกัน มันไม่บกพร่อง เพราะว่าเราใช้เรากิน เพื่อนกินเพื่อนใช้ แม้แต่เพื่อนจะกินอย่างตะกละ แต่เราก็ทำสร้าง เพื่อนก็ไม่ตาย เช่นว่าเขาป่วยไป เขาแก่ทำไม่ไหวหรือพิการ มันก็ช่วยกันได้ตลอดเวลา อย่างที่เราเป็นกันอยู่จริง นี่คือสุดยอดเศรษฐกิจ ที่ไม่ขาดแคลนแม้แต่ความเอื้อเฟื้อเจือจาน แม้ขาดแคลนการเลี้ยงดูพึ่งพากันเกิดแก่เจ็บตายกันได้ เป็นความลึกซึ้งในสังคมมนุษยชาติในความเป็นมนุษย์ บางทีเราไม่รู้ตัวไม่รู้เรื่องไม่สำคัญมั่นหมายกับมัน แต่มันพฤติกรรมนี้มีจริงในหมู่พวกเรา สังเกตดูเราไม่ขาดแคลนเท่ากับเขา เรายังต้องขวนขวายเจริญขึ้นต่อ เราสามารถลดลงไปอีกได้ เราทำไมไม่ขวนขวายต่อ หากไม่ทำต่อเราก็ไม่ก้าวหน้าพัฒนาต่อ ซึ่งมันสามารถเพิ่ม coefficience สัมประสิทธิ์ตัวนี้เพิ่มขึ้นได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน สามเส้าไตรสิกขา เกิดญาณ 7 โสดาบัน


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:19:45 )

ญาณพระโสดาบันข้อที่ 7

รายละเอียด

ญาณข้อที่ 7 ภาคภูมิใจ ถ้าจะใช้คำว่าปลื้มใจ เราไปใช้แบบโลกีย์แบบนรกขุมที่ 6 อตฺตมนตาโสมนสฺสํ มันเป็น Coefficient ของโลกีย์ ธัมมชโยถึงเอาไปใช้ ธรรมกายถึงมี Coefficient แบบโลกีย์ ระเบิดเถิดเทิง ร่ำรวยมหาศาล มีอัตราการก้าวหน้าตัวนี้ของเขาสูง เป็นอัตราการก้าวหน้าของความขี้โลภ กอบโกย มโหฬารมากมาย อัตราการก้าวนี้ อันนี้ถึงสูง เห็นรูปธรรมชัดเจน นี่เป็นตัวที่ 7 ตัวที่ปลื้ม แล้วเขาก็ใช้ภาษาตัวนี้ ปลื้มๆๆ Stimulation จิตของเขาก็เลยทับทวีเป็นอย่างนี้

นี่คือ คุณธรรมด้านปัญญา ความรู้เราก็จะรู้อย่างนี้ แล้วมีอยู่ครบ ถ้าเป็นโสดาบันมีความเป็นพระอาริยบุคคลระดับหนึ่งเลย มีความเฉลียวฉลาดเป็นปัญญาโลกุตระ ฉลาดแบบโลกุตระ ไม่ใช่ฉลาดแบบเฉโก ฉลาดแบบโลกุตระ จึงเหนือชั้นกว่าโลกียะเยอะ โลกียะไม่มีลำดับครบไม่มั่นใจอย่างนี้ ไม่มีตัวพลังงานจิต ที่ได้มีการศึกษาแล้วก็มีตัวความจริง เป็นความตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้จักเรื่องพลังงานทางจิต เป็นจิตวิทยาที่ยิ่งใหญ่ สมบูรณ์แบบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน สามเส้าไตรสิกขา เกิดญาณ 7 โสดาบัน


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:24:56 )

ญาณมีความวิตกกังวลว่าจะเกิดสงครามกลางเมือง

รายละเอียด

ขอยืนยันว่าไม่เกิด ประเทศไทยไม่เกิดสงครามกลางเมือง พูดก็พูดเถอะนะ ประเทศไทยทุกวันนี้คนไทยลึกซึ้งมาก จริงคนไทยเป็นนักรบ แต่ทุกวันนี้คนไทยไม่ได้เป็นนักรบอย่างแต่ก่อน เหมือนเจงกิสข่าน อเล็กซานเดอร์มหาราช ไม่แล้ว เข้าใจแล้วว่า การรบราฆ่าฟันกันเป็นความเลว การฆ่ากันเป็นความเลว คนไทยรู้แล้ว เลือดไทยวิญญาณไทยรู้หมดแล้ว การฆ่ากันเป็นคนเลว ขอยืนยันพูดดังๆเลย การไปฆ่ากันเป็นคนเลว เพราะฉะนั้นอันนี้ขึ้นไปอยู่ในอนุสัยคนแล้ว สงครามกลางเมืองไม่เกิด ปริมาณคนมากมายมันไม่ยอมทำ คนจำนวนน้อยทำมันจะเหลือหรือ คนเอาไม้จิ้มฟันจิ้มคนละอันก็ตายหมดแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 8 พ่อครูพบ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มกราคม 2566 ( 12:53:56 )

ญาณวิทยา (epistemology)

รายละเอียด

ปรัชญาที่เกี่ยวกับการกำเนิดธรรมชาติ วิธีการ และขอบเขตของมนุษย์

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 190


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 11:39:22 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:14:19 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:46:27 )

ญาณสัมปยุต

รายละเอียด

มีปัญญารู้แจ้งอยู่ด้วย

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 204


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 11:52:38 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:15:11 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:46:34 )

ญาณแท้

รายละเอียด

คือ ต้องลืมตาโพลงๆ กระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จับอาการจิตต่างๆได้ และรู้อาการนั้นๆได้ว่าเป็นกิเลสโดยจับ ปรมัตถสัจจะหรือปรมัตถธรม อ่าน อาการลิงคะนิมิต จับจิตเจตสิกของเราได้ สิ่งที่ถูกรู้ก็เป็นนามธรรม มีเครื่องหมาย มีนิมิต ให้รู้ว่า อย่างนี้กิเลสนะ กิเลสสายไหนล่ะ อ้อ นี้โลภมูล นี้โทสมูล นี้โมหมูล

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 374


เวลาบันทึก 29 ตุลาคม 2562 ( 11:57:58 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:31:25 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:46:19 )

ญาณ​ 16 อย่างย่อ

รายละเอียด

สรุปแล้วคุณเข้าใจก็ดีทำให้มันได้ คนที่เข้าใจหมดแล้วจริงๆ นั้น มีโบราณาจารย์ได้พยายามรวบรวม ญาณ ความรู้ แค่ญาณ 16 ก็เหลือกินเหลือใช้ ญาณ​16 ตั้งแต่

1.นามรูปปริจเฉทญาณ ญาณกำหนดแยกนามรูป คือปัญญากำหนดรู้เข้าใจในนามและรูป (นามรูป)

2.ปัจจัยปริคคหญาณ ญาณกำหนดจับปัจจัยแห่งนามรูป คือปัญญากำหนดรู้ทั้งในนามและรูปว่าล้วนเกิดแต่เหตุปัจจัย ทุกอย่างเป็นปัจจัยให้แก่กันและกันก็จะรู้ว่าธรรมะ 2 มันเป็นปัจจัยแก่กันและกัน ผลักก็ได้ดูดก็ได้หรือไม่ผลักไม่ดูด ภาวะกลางๆ หากเคหสิตะ ก็เป็นกลางๆ แต่เนกขัมสิตะ ถ้ากลางๆ แล้วเราทำได้โดยเป็นเจตนาให้ยาวยืน ส่วนเคหสิตะยาวยืนไม่ได้หมดอำนาจก็กลับกลายเป็นผลักหรือดูด

3.สัมมสนญาณ ญาณพิจารณานามรูปโดยไตรลักษณ์ คือมีนามรูปแล้วมีประธาน เกิด cyclic เคลื่อนที่แล้ว สามเส้า รูปกับนามเป็นสองมีอีกอันคือจิตวิญญาณของเราที่เกี่ยวข้องกันมันจัดการสังเคราะห์กันกลายเป็นความเคลื่อนที่สังเคราะห์สังขาร ผลักก็ได้ดูดก็ได้ พลังงานนิวเคลียร์มีนิวเคลียสมีพลังงานในตัวมันเอง ในนิวเคลียสไม่มีประธาน โดยวัตถุที่เป็นอุตุไม่มีประธาน แต่ถ้าตัวมันเองมีพลังงานเพิ่มเข้าไปถึงขีดก็จุดระเบิดได้ หรือ คนอื่นมาจุดพลังงานนี้เสริมให้มันระเบิดก็ได้ ในนิวเคลียส ระเบิดออกไปก็เป็นนิวเคลียร์ พุ่งออกไปเป็นนิวเคลียร์ แบ่งออกเป็น 2 ดูดกับพุ่งออกไป Fission กับ Fusion

4.อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ญาณตามเห็นความเกิดและความดับแห่งนามรูป สายเทวนิยมนั้นจะให้อยู่ไปตลอดกาลนิรันดร แต่มันไม่เที่ยงหรอกแม้มันจะไปอีกเป็นล้านปีแต่มันก็ไม่เที่ยง สุดท้ายมันก็จะเปลี่ยนแปลงไปแต่คนไม่รู้ได้เพราะมันยาวนานมากตามไปไม่ทันไม่ถึง

5.ภังคานุปัสสนาญาณ ญาณตามเห็นจำเพาะความดับเด่นขึ้นมา อะไรที่เกิดแล้วไม่ดับเป็นไม่มี มีความผูกและความยึดเท่านั้น หากยึดได้อย่างต่อเนื่องอย่างชาวเทวนิยม พระเจ้ายึดถือตัวเองแต่พระเจ้าอยู่ที่ไหน ท่านหมดแรงยึดหรือยัง แต่คุณแต่ละคนต่างหากเล่าเป็นธาตุรู้ที่คุณเอง คนสมมุติว่าพระเจ้ายังยึดถืออยู่จนบัดนี้ยังมีพระเจ้า แต่ก็มีชาวเทวนิยมนั่นแหละว่า พระเจ้าตายแล้ว เขาบอกว่าไม่มีพระเจ้าและพระเจ้าตายแล้ว เพราะอะไร ก็พระเจ้ามาออกฤทธิ์เดชกับเขาไม่ได้ เขาไม่เอาพระเจ้าพระเจ้าก็ไม่สามารถออกฤทธิ์เดชกับเขาได้ พวกเราชาวอเทวนิยม พระเจ้าก็มาทำอะไรเราไม่ได้ นี่ก็เป็นเรื่องยากว่าทำไมพระเจ้ามาทำอะไรเราไม่ได้ ก็เพราะว่าพลังงานที่เราไม่ยอมรับอันนั้นแล้ว เหมือนพวกที่ไม่ยอมรับไสยศาสตร์ ไสยศาสตร์ก็มาทำอะไรเขาไม่ได้ แต่พวกที่ยอมรับมันจะเป็นเลยไสยศาสตร์ ยอมรับกันว่าอันนี้จริงมันก็เป็นไปตามนั้นได้ คือจิตอุปาทานมันเป็นได้ แต่สุดท้ายแนวโน้มจะมาหาดับ จึงสามารถทำปรินิพพานเป็นปริยโยสานได้ ความจริงนั้นมันดับอย่างนิรันดรได้ แต่เทวนิยมนั้นธาตุจิตนั้นไม่มีทางดับ อัตภาพอาตมันไม่มีวันดับ เป็นนิรันดรเป็นอย่างนั้น เมื่อผู้ใดเห็นญาณที่โน้มไปทางดับ

6.ภยตูปัฏฐานญาณ ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ หากจะให้ไม่ดับก็เติมพลังงานยึดต่อไป มันก็ไม่ดับ แต่หากไม่เติมก็มีแต่ชรตา เสื่อมสูญ​เมื่อผู้ใดเห็นว่ายึดไม่ได้เป็นภัยโทษทุกข์ อาทีนวญาณก็เจริญต่อไป

7.อาทีนวานุปัสสนาญาณ ญาณคำนึงเห็นโทษ ด้านปัญญาความเฉลียวฉลาดจะเห็นอันนั้นมากกว่า คือเห็นโทษภัย ยกตัวอย่างให้ชัด อาตมานี่เมื่อย อยากเบื่อนะ แต่มันเบื่อไม่ลงเบื่อไม่ได้เพราะปณิธานตั้งไว้แล้ว จริงนะ เพราะฉะนั้นจึงต้องเติมพลังงาน พลังงานที่เติมอาตมาถึงสร้างพลังงานสัมประสิทธิ์ ที่เติมเข้าไปให้มันเป็นระดับคูณระดับยกกำลัง ถ้าขืนปล่อยให้มาหาระดับ + เดี๋ยวเสร็จอีด่างเลย มันไม่ได้ ตายอย่างเขียดเหยียดขาตายเลย Coefficient สัมประสิทธิ์ของอาตมาจึงต้องเติม หากว่าไม่รู้อันนี้และไม่ทำอันนี้ก็จะไปแล้ว เพราะมันน่าเหนื่อยจริงๆ ทำไมถึงขนาดนี้หนอมนุษยชาติ แต่มันจะต้องรักษาความสุดยอดของมนุษย์ที่จะเป็นไปได้คือไปเป็นพระพุทธเจ้าเป็นจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ให้ได้ หรือ คุณจะต้องเป็นจิตวิญญาณที่ถึงขั้นเป็นอรหันต์ให้ได้ หากไม่มีใครสืบสาวราวเรื่องยกยอดเอาไว้ ตีนก็หาย หากยอดนี้ไม่อยู่ ตีนนี้ก็หาย ยอดก็จะลดลงๆสุดท้ายตีนก็ไม่เหลือ พุทธถึงจะต้องเอาไว้ให้เหลือจึงจะต้องประคองเอาไว้ อันนี้เป็นหน้าที่เป็นปณิธานที่อาตมาจะต้องทำ ถ้าไม่ทำนี้มันไม่เหลือถึง 5,000 แน่นอน พุทธศาสนาพระสมณโคดมไม่ไปถึง 5,000 ปี แน่นอนเลย เพราะว่าทุกวันนี้มันผิดเพี้ยนไปหมดแล้วเลย ที่อาตมานำมาคืนนำมากล่าวยังไม่หมด แต่ก่อนนี้พูดแต่คำว่ากาย พูดแต่คำว่าบุญ พูดแต่คำว่าสมาธิ คำว่าฌาน มันได้ผิดเพี้ยนไป ตอนนี้กำลังขยายความเทวะ ที่เขาเข้าใจไม่ได้เข้าใจเทวะไม่ได้ แล้วในเทวะธรรมะ 2 จะมีนัยยะอีกหลากหลาย แต่ว่าหลากหลายนั้นก็คือองค์ประกอบ เนื้อแท้ก็คือเวทนา เวทนาในเวทนานี่แหละสำคัญ ถ้าคุณชัดเจนอันนี้แหละทำได้ก็จบคุณหมดทุกข์ เมื่อหมดทุกข์แล้ว ถ้าคุณอยู่ก็มีแต่ความเจริญ ถ้าคุณจะปรินิพพานเป็นปริโยสานก็จบไป แต่ถ้าหากไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานก็มีแต่จะเจริญขึ้นไป เพราะมันสุดยอดแล้วในความเป็นธาตุจิตของมนุษย์ เป็นธาตุจิตนิยามที่สูงสุดแล้ว จบแค่นี้แล้ว ทำได้ก็ต้องจบ ทำไม่ได้ก็ต้องทำให้ได้ต่อ

8.นิพพิทานุปัสสนาญาณ ญาณคำนึงเห็นด้วยความหน่าย ถ้าคุณจะรักษาสิ่งประเสริฐนี้ให้แก่จิตนิยามให้เจริญขึ้นได้เป็นมนุสโส ก็ต่อ แต่หากคุณจบแล้ววางได้จริงมีญาณจริง ญาณที่คุณไม่ยึดไว้แล้วปล่อย

9.มุญจิตุกัมยตาญาณ ญาณหยั่งรู้อันให้ใคร่จะพ้นไปเสีย ผู้ที่ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้เสื่อมสูญได้แล้วก็ไปได้เลย แต่ก็มีซ้ำซ้อนต่อไปอีกเพื่อทบทวน

10.ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ ญาณอันพิจารณาทบทวนเพื่อจะหาทาง ข้อต่อไปนี้ต่อไปเป็นการทบทวนวิปัสสนาญาณทั้ง 9 ก็ต้องสร้างญาณรู้ขึ้นมาอีก รู้นัยยะที่มันปรุงแต่งสังขาร สังขารแล้วจนกระทั่งยืนทำให้อุเบกขาได้อย่าง สังขารุเปกขา

11.สังขารุเปกขาญาณ ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางต่อสังขาร สามารถจะยืนหยัดได้ คนก็ยังเหลือเชื้อ

12.สัจจานุโลมิกญาณ ญาณเป็นไปโดยควรแก่การหยั่งรู้อริยสัจจ์ คุณจะอนุโลมจะอยู่หรือไม่อยู่ มันก็มีภาวะที่เกิดกับดับ อุปจยะ กับชรตาสองอัน หากคุณจะอยู่ต่อก็ยังโคตรเอาไว้ให้ได้ ยังตระกูลไว้ให้ได้

13.โคตรภูญาณ ญาณครอบโคตร หรือญาณอันเกิดแต่ปัญญาที่เป็นหัวต่อระหว่างภาวะปุถุชนและภาวะอาริยบุคคลยังตระกูลไว้ให้ได้ ต้องมี มรรคญาณ ผลญาณ

14.มรรคญาณ ญาณอันสำเร็จให้เป็นอาริยบุคคลต่อไป

15.ผลญาณ เมื่อมรรคญาณเกิดขึ้นแล้ว ผลญาณก็เกิดขึ้นเป็นลำดับถัดไปจากมรรคญาณนั้นๆในชั่วมรรคจิต ตามลำดับแต่ละขั้นของอาริยบุคคล

16.ปัจจเวกขณญาณ ญาณที่เกิดขึ้นเพื่อพิจารณามรรค ผล กิเลสที่ละแล้ว กิเลสที่ยังเหลืออยู่ และพิจารณานิพพาน (เว้นพระอรหันต์ไม่มีการพิจารณากิเลสที่ยังเหลืออยู่) เป็นอันจบกระบวนการบรรลุมรรคผลในขั้นหนึ่งๆคืออริยบุคคลขั้นหนึ่งๆ หรือถึงพระนิพพาน ไปทำการทบทวนแล้วทุกคน ทวนแล้วทวนอีกนี่ 16 ญาณ หากคุณรู้ชัดเจนและทำสภาวะได้เป็นจริงตามนั้นแน่นอน ไม่มีปัญหาเลยสิ่งเหล่านี้จบ

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม สิ้นยุคประชาธิปไตย-เผด็จการ วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(ญาณ 16) ตอน ญาณ 16 อย่างย่อ


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:05:36 )

ญาตปริญญา

รายละเอียด

1. ความรู้รอบในสิ่งนั้น สภาพนั้นโดยครบถ้วน

2. ความหยั่งรู้ในความเป็นธาตุรู้ที่เกิดที่เป็นนั้น ๆ ของตน

3. รู้รอบสิ่งที่จะต้องรู้นั้นครบองค์รวมแล้ว

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 50

อีคิวโลกุตระ หน้า 68

ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 265


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 11:55:42 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:16:15 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:45:47 )

ญาติดีหรือไม่ญาติดีอย่างไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่รู้เลยนี่ก็เป็นจริง เขาก็ไม่รู้แล้วเราก็ต้องพยายามให้เขารู้ คำว่า รังเกียจ คำว่า ชัง คำว่า ไม่ญาติดี โดยเฉพาะกับสัตว์ใดๆ เราเลิกเลย เราญาติดีได้ แต่ไอ้ที่เราจะต้องจัดขั้นตอน สัตว์เดรัจฉาน สัตว์พาล เรายังไม่ญาติดีหรอก สัตว์ที่เลิกพาลแล้วพอสอนได้ก็เอาหรืออยู่ในเกณฑ์ที่เป็นเวไนยสัตว์สอนโลกุตรธรรมได้ เรายิ่งต้องทำงานกับเขาแต่ตอนนี้ทางที่เป็นพาลชน เราก็ต้องปล่อยทิ้งให้เขาอยู่ตามวิบาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ปฏิบัติศีลให้ถึงอรหัตตผลโดยลำดับวันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 14:01:40 )

ญาติทางธรรมสูงส่งยิ่งใหญ่กว่าญาติทางสายเลือด

รายละเอียด

ญาติธรรม หรือญาติทางธรรมนี่ยิ่งกว่าที่พากันไปหานิพพาน แต่ว่าญาติทางโลกนี้บางทีดึงลงไปสู่โลกอีก จะตัดหรือจะต้องต่อบ้างตามวิบากก็ของใครของมันเพราะว่าตายแล้วก็จะเหลือแต่เชื้อกรรมวิบากเป็นตัวพาเป็นไป เรื่องทางสายเลือดไม่สูงส่งอะไรหรอก แต่ญาติทางสายธรรมสูงกว่าเยอะ นำพากันไปจนกว่าจะเป็นพระพุทธเจ้านั่นแหละ ยิ่งใหญ่กว่า ญาติธรรมนั้นยิ่งใหญ่กว่า พูดอย่างนี้แล้วญาติทางสายเลือดจะหาว่าอาตมาใจดำ แต่มันเป็นสัจจะจึงจำเป็นต้องพูดความจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาคุยกับเทวดาเอากิเลสล้างกิเลส วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2564 แรม 7 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2564 ( 16:14:34 )

ญาติธรรม

รายละเอียด

ญาติธรรม เป็นญาติทางจิตวิญญาณ  เป็นปู่ย่าตาทวด ลูกหลานเหลนกันอย่างแท้จริง โดยเฉพาะมีสาธารณโภคี มีทรัพย์สินรวมกันเป็นส่วนกลางทั้งหมด วัตถุ เป็นเศรษฐศาสตร์ที่สมบูรณ์สุดแล้วสำหรับพวกเราชาวอโศกที่ปฏิบัติตามธรรมพระพุทธเจ้า และก็มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ปรากฏการณ์จริง phenomenology ไม่ใช่เป็นของที่มีแต่ตรรกะเหมือนยูโทเปียของโทมัส มอร์ 

นี่เป็นเรื่องจริงเป็นเรื่องที่สำเร็จเป็นหลักสูตรทฤษฎีสำคัญของพระพุทธเจ้า ที่อาตมานำมาสถาปนาลงไปในยุคที่ศาสนาพุทธเสื่อมสุดแล้ว ไม่มีคำสอนพระพุทธเจ้าที่เป็นโลกุตระ ไม่มี เพราะฉะนั้นพระพุทธศาสนาในหมู่ใหญ่จึงไม่มีลักษณะอย่างพวกเรา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาต้อนรับปีใหม่ 2567 เรื่องปฏิจจสมุปบาท ตอน 2 วันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567 แรม 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 มกราคม 2567 ( 19:21:51 )

ญาติธรรม อาราธนาให้สมณะโพธิรักษ์ อายุ 151 ปี

รายละเอียด

คือก็เป็นเจตนาเดี่ยวกันสำหรับ  คนที่รู้ค่าไม่มีปัญหาอะไร ท่านก็ไม่ได้เป็นคนสะดิ้ง เล่นตัว ไม่ใช่หรอก ก็เข้าใจและพยายามอยู่ แต่บางที่มันก็ต้องแสดงว่า  บ่นๆ ออกมาบ้าง มันมีอาการมันเปลี้ย มันเพลียหน่อย ก็ตั้งใจอยู่

หนังสืออ้างอิง

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 11:33:42 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:02:59 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:45:20 )

ญาติธรรมสาธารณโภคี

รายละเอียด

ถ้าเรามีมวล 2,000 3,000 มันจะมีความฉลาดความลึกซึ้งทางปัญญา เป็นญาติธรรม ชุมชนชาวอโศกไม่ว่าจะที่ไหนๆ มันก็เป็นบ้านเราที่เราเป็นสาธารณโภคี นี่ก็เป็นความลึกซึ้ง เราจะไปพักที่ไหนไปอยู่ที่ไหนกินที่ไหน สาธารณโภคี พี่น้องเราทั้งนั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:26:57 )

ญาติธรรมอาราธนาให้สมณะโพธิรักษ์อายุ 151 ปี

รายละเอียด

ก็เป็นเจตนาเดียวกันสำหรับคนที่รู้ค่า ไม่มีปัญหาอะไร อาตมาก็ไม่ได้เป็นคนสะดิ้งเล่นตัว ไม่ใช่หรอก ก็เข้าใจและพยายามอยู่ แต่บางทีมันก็ต้องแสดงว่า บ่นๆออกมาบ้าง มันมีอาการมันเปลี้ยมันเพลียก็บ่นนิดหน่อย ก็ตั้งใจอยู่ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 11:27:45 )

ญาติปริวัตตังปหายะ

รายละเอียด

ญาติปริวัตตังปหายะ  คือ  สละญาติ  สละญาติโกโยติกาออกมา  ไม่รับผิดชอบญาติทางโลก  เลิกมามีแต่ญาติทางธรรม  เป็นญาติธรรม  เป็นญาติจริงๆ

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2562 ( 06:58:45 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:20:47 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:44:40 )

ญาติพลี

รายละเอียด

พลีคือการยอมเสียสละ  เสียทรัพย์สิน เสียสละ กำลังแรงงานหรือเสียสละอะไรก็แล้วแต่ แม้แต่เสียสละภาษีให้แก่รัฐก็เป็นการพลี พลีจะมีจิตวิญญาณร่วมด้วย มีความพอใจ มีความเต็มใจที่จะสละ พลี ถ้าคุณไม่มีจิตเต็มใจให้เขาไม่เรียกพลี  เพราะฉะนั้นคนที่พลีชีวิต เขาถึงยกย่องกัน แม้แต่ศาสนาอื่นก็ยกย่อง พลีชีวิตเพื่อพระเจ้า พลีชีวิตเพื่อมนุษย์ชาติ ก็จะได้รับความยอมรับ นับถือในทุกชนชาติ ตรงกันหมดอันนี้ พลีชีวิตเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ญาติพลี ผู้พลี ยอมเสียสละแก่ญาติก็ดีประมาณหนึ่ง  ก็เผื่อแผ่ญาติ แต่ถ้ายิ่งกว่าญาติ คนอื่นๆที่เราควรพลี ควรจะช่วยเหลือเขา เพราะเรามีความรู้ความสามารถมากกว่า อติถิพลี

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 14:58:35 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:25:19 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:44:10 )

ญาติยิ่งกว่าญาติทางสายเลือด

รายละเอียด

ความสุขสงบเป็นโลกุตระเรียบร้อย แล้วมีหมู่มวล อย่างน้อยก็มีสามีช่วยกันเลี้ยงดูครอบครัว คุณก็จะได้อะไรต่ออะไรมันมีความสามัคคี มีหมู่กลุ่มมีเอกภาพเพิ่มขึ้น มันสำเร็จอย่างนี้เป็น สังฆะ มีสังคณิกะที่เจริญ มีหมู่คณะขึ้นมา 

อสังคณิกะ เขาแปลว่าไม่คลุกคลีด้วยหมู่ คือไม่คลุกคลีด้วยหมู่คนพาล หมู่คนโลกๆ แต่สังคณิกะ ควรจะคลุกคลีคือมิตรสหายดี เป็นสัมปวังโก เป็นมวลหมู่ใหญ่จาก 2 คนเป็นมวลหมู่ใหญ่อย่างพวกเรามีพี่น้องมากมาย ยิ่งกว่าลูกหลานยิ่งกว่าพ่อแม่ยิ่งกว่าปู่ย่าตายาย เป็นญาติธรรม เป็นญาติยิ่งกว่าญาติทางสายเลือด ญาติธรรม พึ่งเกิดพึ่งเแก่พึ่งเจ็บพึ่งตายกันได้ยิ่งกว่า พวกคุณรู้สึกรู้จักอันนี้ไหม พวกคุณยังไม่ญาติดีกับญาติทางสายเลือดเท่าไหร่เลย มาอยู่ทางนี้พูดชัดๆ เลยนะ มันเป็นจริง 

พวกคุณจะรู้สึกเลยว่า ไปช่วยเขาก็ลำบาก เขาก็ยังโลกๆหนัก มาอยู่ที่นี่เบา บางคนก็จำเป็น เขาหนักจนจะต้องไปช่วย บางคนก็ต้องแวะไปช่วย แต่คนที่ไม่ต้องไปช่วยแล้ว ไปเถอะแล้วก็ตัดปลงภาระ วิบากของเขา เขาก็เป็นไป ถ้ามันน่าสงสารจริงๆ น่าเวทนาจริงๆ ก็ต้องไปช่วยเขาเป็นธรรมชาติ 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูตอบปัญหาผู้ชมทางบ้าน วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 14:00:00 )

ญานพระโสดาบันข้อที่ 2

รายละเอียด

ทำให้มากทำให้เกิดผล อาเสวนา ภาวนา พหุลีกัมมัง ทำซ้ำสิ่งที่ถูกต้อง ทำการฆ่ากิเลสไปได้ แต่ถ้าฆ่าผิด ถ้าสิ่งที่ไม่เป็นกิเลส ก็ตายๆๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ในสิ่งที่ไม่เป็นกิเลส ก็แถกเอาเนื้อตัวเองไปๆๆๆ ไม่ช้าไม่นานก็ตาย เพราะอัตราการก้าวหน้านั้นเก่งด้วยนะ โลกีย์เก่งสู้ไม่ได้ด้วยในภาวะการกระทำ เมื่อทำอันที่สองแล้วชัดเจน สะสมให้เร็วเป็นฐานตกผลึกให้แน่นให้สูง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 42 ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน สามเส้าไตรสิกขา เกิดญาณ 7 โสดาบัน


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:12:18 )

ฐหันต

รายละเอียด

ไม่ตั้งอยู่

หนังสืออ้างอิง

จากรู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 121


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 11:57:08 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:16:53 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:47:24 )

ฐานกับยอดปีรามิดเทียบกับคนกลุ่มไหน

รายละเอียด

แต่คนในโลกมันมีผู้ไม่รู้(อวิชชา)”จำนวนเทียบกับ“ฐานปีรามิด”นั้นย่อมมากกว่า “ผู้รู้(วิชชา)”ที่เป็นส่วน“ยอดของปีรามิด” มันก็เป็นธรรมดาสามัญแท้ๆตามสัจจะ  ใครๆก็เห็นได้ เข้าใจได้ ไม่ใช่“ความลึกลับ”ไปจากปกติโลกกันตรงไหน  เพียงแต่“จิตผู้เป็นกลาง”ของ“ความเป็นกลาง” ไม่ชอบ-ไม่ชังฝ่ายใดนี้เป็น“อจินไตย”ที่จะใช้“ตรรกะ”หรือ“เดา”ไม่ได้

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตำนานพญานาค ตอนที่ 2 

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 พฤษภาคม 2565 ( 20:50:38 )

ฐานของชาวอโศกเป็นฐานของอนาคามี

รายละเอียด

พวกคุณอยู่กันอย่างไม่ได้ กดข่มเสแสร้ง หากว่ากดข่ม อยู่ไม่ได้นานหรอก สักวันก็ต้องออกไป แต่พวกคุณอยู่กันได้อย่างสบาย ฐานของชาวอโศกซึ่งเป็นฐานของอนาคามี เพราะว่ามีกามน้อยมาก เป็นรูปราคะ อรูปราคะ เหลืออยู่ภายใน มันก็อยู่ได้ทนได้ ยิ่งคนเหลืออรูปราคะก็ยิ่งอยู่สบาย คนหมดเลยก็เป็นพระอรหันต์ ง่ายไหม…

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 18:34:08 )

ฐานคิดของพ่อครูในการให้อโศกจน

รายละเอียด

ฐานคิดนั้นได้มาจากประสบการณ์จริงจากชีวิตหลวงปู่นี่แหละผ่านมาไม่รู้กี่ชาติแล้ว แล้วก็ได้ศึกษา สรุปหลวงปู่เคยพูดแล้ว พระพุทธเจ้าไม่ได้ศึกษาอะไรนอกจากศึกษามนุษย์กับสังคม ครบแล้วนะ เท่านั้นแหละ เอาสิ่งนี้ไปคิดให้ดี

เรื่องของสังคมมนุษยชาติกี่ชั้นวรรณะ ท่านศึกษามาหมด ทำได้แล้วจะชัดเจนทุกอย่าง หลวงปู่พูดก็จากที่เราทำมา มาจนถึงชาตินี้เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ก็ทำอย่างนั้นมาจริงๆแล้ว ไม่ได้เอามาจากไหนเอาจากที่ทำมาเองจริงๆ แล้วก็อย่านึกว่าหลวงปู่ไม่เคยจน ทุกคนเคยจนมาแบบนั้นแล้ว หนักกว่านั้นก็เป็นไปได้จนกว่านั้นก็ยิ่งได้ อยากรู้ไปอ่าน สัมภารวิบากของพระโพธิสัตว์ให้ดี

คนที่ทุกข์ทรมานต่างๆแม้แต่อ่านชาดกก็ได้ ชาดกห้าร้อยชาติก็ยังน้อย ยังมีอีกเยอะแยะ เราคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่ามีด้วยหรือ มนุษย์ต้องเป็นขนาดนี้ เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ทรมานน่าเกลียดน่าชังขนาดนี้ เรื่องดีๆไม่ต้องพูดถึงหรอก แต่เรื่องแย่ๆขนาดนั้น ชีวิตสัตว์โลกชีวิตมนุษย์ น่ากลัว ก็อย่าประมาทความชั่วแม้มีประมาณน้อยอย่าทำดีกว่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:37:21 )

ฐานจิตมีบารมี

รายละเอียด

คนที่มีฐานจิตมีบารมี มีต้นทางของจิตที่มีเหตุปัจจัยก่อขึ้นมาพร้อมที่จะมารู้สิ่งนี้ด้วย พอมาถึงเหตุปัจจัยอันนี้เติมเข้ามาโอ้โห มันเข้าใจมันอื้อหือ เป็นพลังงานแรงที่รู้ชัดรู้จริง มันต้องพลังงานศรัทธา เต็มรูปมันเกิด มันต้องเอาเลย ก็ค่อยๆศึกษาไป 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 11:00:08 )

ฐานที่จะปฏิบัติได้คือเวทนา

รายละเอียด

สรุปแล้วพระพุทธเจ้าสรุปฐานที่จะปฏิบัติได้คือเวทนา แล้วพระพุทธเจ้าตรัสรู้ศึกษาอันนี้มันเหนือชั้นกว่าที่ศาสดาทุกศาสนาเขารู้ เนื่องจากเขาไปงมงายอยู่กับเรื่องดีและชั่วเท่านั้น ศาสนาพุทธไม่ได้ปฏิเสธเรื่องดีและชั่วต้องทำให้ได้ก่อน จนกระทั่งเป็นคนไม่ทำชั่วทำแต่ดี สัพพปาปัสสะ อกรณัง(ไม่ทำบาปทั้งปวง) กุสะลัสสูปะสัมปะทา(ทำกุศลให้ถึงพร้อม) สะจิตตะปะริโยทะปะนัง(ชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้วจากกิเลส) สำคัญคือทำให้จิตสะอาดผ่องใส 

จิตสะอาดผ่องใส คือ จิตที่หมดกิเลสที่เป็นเหตุใหญ่ เมื่อกิเลสออกจากจิตหมด จิตก็สะอาดผ่องใส จิตก็เป็นอุเบกขา ซึ่งมีองค์ธรรม 5 ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา 

อาศัย ตั้งแต่ ต้องรู้จักนามรูป คู่ 2 ที่จะต้องรู้ เรียน ถ้าคุณรู้นามรูปเป็น คุณก็จะเรียนรู้จักวิญญาณได้ คุณจะรู้จักวิญญาณได้คุณต้องเรียนจาก กวฬิงการาหาร เรียนจากเวทนา เรียนจากที่มันมีตัณหาตั้งแต่กามตัณหา 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม พ่อครูพบอาจารย์หมอเขียวและทีมงานแพทย์วิถีธรรม วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2565 แรม 6 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2565 ( 19:38:49 )

ฐานธรรมะของตะวันตกเป็นเทวนิยม 100 เปอร์เซ็นต์

รายละเอียด

ถ้ายังตัดสินไม่ได้ แต่อาตมาว่าความคิดของจีนไม่น่าจะเป็นความคิดอย่างนี้ ขออภัยต้องพูดให้ชัดขึ้นไปอีกว่า ถ้าเป็นความคิดของอเมริกาอาตมาไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นความคิดของจีนอาตมาเชื่อแน่ว่าทางเอเชียไม่มีความคิดเช่นนี้ มันเป็นฐานธรรมะ ฐานธรรมะของเอเชียกับทางธรรมะของตะวันตก ทางตะวันตกเป็นฐานของเทวนิยม 100% จะมีคนที่นับถือศาสนาเทวนิยมมากกว่าอยู่ตลอด ส่วนโลกุตระทางเอเชียเป็น อเทวนิยมแต่เป็นโลกุตระและไม่เป็นโลกุตระ โลกุตระมันจะมีน้อยกว่าโลกียะ เทวนิยม ยุคไหนๆก็เหมือนกัน เหมือนธรรมดาคุณเป็นสัตว์เซลล์เดียวกับสัตว์ที่มีเซลล์จำนวนมากในมนุษย์อันไหนน้อยกว่ากัน พวกอเวไนยสัตว์สอนไม่ได้ก็มีมากกว่าแล้ว จะเป็นเวไนยสัตว์จึงเหลือน้อยกว่ามาก พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าเมื่อจิ้มลงไปในดินได้ติด ขี้เล็บมาคนที่จะรู้โลกุตระก็มีเท่านี้ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 22 เมษายน 2563 ( 14:19:21 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 05:09:41 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:49:14 )

ฐานนิพพานคืออุเบกขา

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น ฐานธรรมะพระพุทธเจ้าฐานนิพพานนั้นคืออุเบกขา

อุเบกขา 5 ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา

ปฏิบัติธรรมนั้นต้องมีนามธรรม 5 ทำใจในใจ มีเนกขัมมสิตอุเบกขาเวทนา แข็งแรงขึ้นไป มีจิตอุเบกขาสมบูรณ์แบบได้แล้ว ยิ่งแข็งแรง นิจจัง(เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง(ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครู เทศน์ ทวช.อโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ

วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่สันติอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 28) ตอน นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:30:50 )

ฐานพัฒนาของชีวิต

รายละเอียด

ทีนี้เรามาเข้าสู่สิ่งที่อาตมาบรรยาย ฐานการพัฒนาของชีวิตโดยการศึกษาสาม ศีล สมาธิ ปัญญา หรือ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา แล้วมีอธิโมกข์ อธิมุติ ไปตามลำดับ

ก่อนจะอธิบายจะมีตัวอย่างของ ถ้าเราพัฒนาแล้วมันจะเกิดศีล พัฒนาการเป็นอธิศีล แล้วเกิดจิต ผลของจิต ค่อยๆเกิดไปตามลำดับ จิตมันจะนำด้วย KAP นำด้วยความรู้ธาตุรู้ ซึ่งเป็นธาตุรู้ต้น เรามีแล้วคืออัญญธาตุ เป็นธาตุรู้โลกุตระมีปัญญาแล้ว มันก็เป็น Knowledge ที่ก้าวหน้า แล้วสร้างเพิ่มขึ้นอีก เป็นการดำเนินการทางปัญญาเรียกว่า Attitude เจตคติหรือทัศนคติ แล้วเราก็ทำอยู่ ไม่ใช่ว่าได้แค่คิดได้แค่รู้ แต่เราทำ Practice เป็นสามเส้าของตัวที่จะมีการเจริญตลอดเวลา ถ้าหากเป็นแต่นักคิดนักรู้เอาแต่รู้มีเยอะ ไม่ถึงขั้น Practice ลงมือปฏิบัติไม่ค่อยมี

ศีล สมาธิ ปัญญา สามเส้า มันจะเกิด nucleus ที่มีผู้จัดการมีการจัดการให้ก้าวหน้า progression อย่างเนียน ญาณของพระโสดาบัน 7 ประการ เป็นธาตุรู้ที่เกินกว่าโลกียะ

โลกียะ อยู่ในกรอบการก้าวหน้าที่ไม่เป็นปฏิภาคทวี ไม่มีการก้าวหน้าซับซ้อนไม่เกิด แต่ของโลกุตระนี้มี ญาณ 7 นี้เกิดได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน สามเส้าไตรสิกขา เกิดญาณ 7 โสดาบัน


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:00:42 )

ฐานภูมิธรรมของคุณลุงจำลอง ศรีเมือง

รายละเอียด

อันนี้ ก็ขอเปิดเผยหน่อย เหตุเกิดวันนี้เอง คุณจำลอง ศรีเมือง ตัวเองเป็นอาริยะแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอาริยะ วันนี้ก็มาถามทำอย่างไรผมจะได้เป็นพระโสดาบัน 

อาตมาก็บอกโอ้นะ มันยาก คือ คุณจำลองเป็นสาย เจโต ต้องมาเพิ่มปัญญา 

ปัญญาคือ เรียนเก่งได้เป็นหัวหน้ามาตลอด แต่ก็ทำได้ขนาดนี้ ถ้าฉลาดกว่านั้นคุณจำลองจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีและหลายสมัยกว่านั้น แต่นี่บารมียังไม่ถึงขั้นนั้นเท่านั้น ไม่ใช่บารมีความดีไม่ถึงนะ บารมีความดีนั้นถึง แต่บารมีที่ครบพร้อมทั้ง เจโตและปัญญา ยังไม่พร้อม เท่านั้นเอง

ชาตินี้มาสะสมบารมีกุศล ต่อไปชาติหน้าบารมีทางกุศลจะทำให้เกิดความเข้าใจแล้วยิ่งมาคบคุ้นกับพวกเรา พวกเราก็บอกว่าคุณไปอยู่ที่บ้านราชฯ คุณจะรู้ว่าคุณเป็นพระโสดาบันแล้วที่จริงคุณสูงกว่าพระโสดาบันแล้ว ก็ไม่อยากจะขยายความไป โสดาบัน ยังไม่ค่อยจะเข้าใจทั้งที่ตัวเองเป็นพระโสดาบันแล้วเป็นพระสกิทาคามีแล้ว ก็ไม่อยากขยายต่อ ก็ค่อยๆเป็นไป ก็ไม่ได้ไปบังคับให้เกิดปัญญา แต่ให้เกิดความเข้าใจเอง ซึ่งอันนี้ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่อาตมาพบแล้วก็มี จะว่าเป็น คือก็ต้องเป็นผู้ที่ไปด้วยกัน คุณจำลองอายุน้อยกว่าประมาณ 1 ปี 1 เดือน คุณจำลองเกิดปีกุน อาตมาเกิดปีจอ คุณจำลองเกิดกรกฎาคมวันที่ 5 อาตมาเกิด 5 มิถุนายนอย่างนี้เป็นต้น ก็ลากจูงกันไปช่วยเหลือกันไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:05:34 )

ฐานสูตร

รายละเอียด

ดูกรภิกษุทั้งหลาย  มนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีป . ประเสริฐกว่าเทวดาชั้นดาวดึงส์และพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป  ด้วยฐานะ 3ประการ    คือ  ไม่มีทุกข์1 (อมโม)  ไม่มีความหวงแหน1 (อปริกขโห)   มีอายุแน่นอน1 (นิยตายุโก)

ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปประเสริฐกว่า พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์และพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป  ด้วยฐานะ 3 ประการนี้แล ฯ 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวดาชั้นดาวดึงส์ ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีป และพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป ด้วยฐานะ3 ประการ 3 ประการเป็นไฉน 

 คือ  อายุทิพย์ 1วรรณะทิพย์ 1สุขทิพย์ 1   ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวดาชั้นดาวดึงส์ ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีป และพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีปด้วยฐานะ 3ประการนี้แล ฯ .

ที่มา ที่ไป

เล่ม.23  ข้อ.225 ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2562 ( 14:17:59 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:30:23 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:52:38 )

ฐานอนาคามีขึ้นไปสู่อรหันต์ในอโศกมีเยอะ

รายละเอียด

อาตมาพูดไปว่าพวกเรานี้มีอรหันต์ในนี้ แม้แต่ละคนพวกคุณ หลายคนตรวจดูฐานอนาคามี อนาคามีมันเต็มแล้วหรือยัง มันเต็มจนกระทั่งมันเป็นอรหันต์ อรหัตตมรรค คุณก็ยังงมงายอยู่กับมรรคอยู่กับผลที่มันซ้ำซาก แล้วก็ไม่รู้จักตัดสินไม่รู้จักอ่านจิตอ่านใจของตัวเอง ถ้าใครยังหยาบอยู่ ยังมีกามรูปธรรมจัด คุณก็ยังเกิดอยู่ คุณก็ได้ฐานนั้น

แต่ฐานที่เป็นอนาคามีขึ้นไปสู่อรหันต์ในอโศกมีเยอะ ไปตรวจอ่านจิตเจตสิก อ่านเวทนา 108 ทุกปัจจุบันที่สัมผัส นั่นแหละคือฐานปฏิบัติ ฐานปฏิบัติอยู่ในพระไตรปิฎกเล่ม 10 ข้อ 60 ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ )  นี่คือหัวใจศาสนาพุทธ ปฏิบัติที่เวทนา แยกเวทนาเป็น 2 ตรวจอ่านตรงนี้แล้วทำ 2 ให้เป็น 1 อาตมาก็อธิบายสาธยายแยกแล้วแยกให้ออก สัมผัสเมื่อใด สัมผัสต่างๆทางตาหูจมูกลิ้นกาย มันเกิดสองรส เลิกรสที่มันปลอม รสเก๊ มันจำนนตรงที่เรายังมีชีวิต มันก็ต้องมีรสตามจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ผู้พ้นอสุรกายจึงได้ไปอยู่โลก  หน้า วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 20:42:42 )

ฐานอบายมุขที่หยาบที่สุด

รายละเอียด

หมาก พลู  บุหรี่  เหล้ายา  คือว่า เป็นฐานอบายมุขที่หยาบสุดแล้ว แค่นี้ก็ยังไม่รู้ความเสพ  เพราะฉะนั้นจะไปรู้กิเลส กลาง ละเอียด ไม่ได้เลย  ขออภัยที่ต้องพูดคนไปนับถือ  มหาบัวเป็นอรหันต์  ขออภัย  แต่มันไม่ได้  หากคนไปนับถือแบบนั้นว่าเป็น  พระอรหันต์  คุณจะซวยมันเป็นของเก๊ ของปลอม  ที่คนละเรื่องเลย   ยังเสพติดหยาบๆ  ปลอมๆ อยู่แล้วมาหลอก  ไม่มีจรณะ  15ไม่รู้เรื่องเลย  ได้แต่นั่งหลับตาปิ๊งปั้ง  ว่ากิเลสตาย  อธิบายไปแล้ว   ไม่มีสภาวะชี้บ่งว่าเป็นการปฏิบัติหยาบ  กลาง ละเอียด  ไม่มีเลย  ไม่ได้แกล้งว่าแต่ไปศึกษาให้ดี ๆ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:21:23 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:06:37 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:53:00 )

ฐานอบายมุขที่หยาบสุด

รายละเอียด

หมากพลูบุหรี่เหล้ายาถือว่าเป็นฐานอบายมุขที่หยาบสุดแล้ว แค่นี้ก็ยังไม่รู้ความเสพ เพราะฉะนั้นจะไปรู้กิเลส กลาง ละเอียดไม่ได้เลย ขออภัยที่ต้องพูด คนไปนับถือมหาบัวเป็นอรหันต์ ขออภัย แต่มันไม่ได้ หากคนไปนับถือแบบนั้นว่าเป็นพระอรหันต์ คุณจะซวยมันเป็นของเก๊ของปลอมที่คนละเรื่องเลย  ยังเสพติดหยาบๆปลอมๆอยู่แล้วมาหลอก ไม่มีจรณะ 15 ไม่รู้เรื่องเลย ได้แต่นั่งหลับตาปึ๊งปั๊งว่ากิเลสตาย อธิบายไปแล้วไม่มีสภาวะชี้บ่งว่าเป็นการปฏิบัติหยาบ กลาง ละเอียด ไม่มีเลย ไม่ได้แกล้งว่าแต่ไปศึกษาให้ดีๆ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 09:59:30 )

ฐานอรหันต์

รายละเอียด

แล้วเมื่อรู้สุขรู้ทุกข์ รู้จิตวิญญาณ รู้จิตนิยาม ชัดเจนแล้วว่ามันคืออะไร จะให้มันไม่เป็นจิตนิยาม ไม่ให้เป็นจิตเลย ทำตั้งแต่ตอนเป็นๆนี่ ทำให้มันเป็นแค่ลักษณะของพืช พืชนี่คือไม่สุขไม่ทุกข์แล้ว ไม่มีบาปไม่มีบุญแล้ว นี่คือฐานอรหันต์ ทำจิตให้เป็นพีชะ ให้เป็นพืช นี่คือฐานอรหันต์ แต่มันมีจิต จิตนั้นคือปัญญา เพราะฉะนั้นก็เลยทำจิตของตนเองให้เป็นพืช ไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่บาปไม่บุญ มีแต่ประโยชน์อย่างเดียว เหมือนกับพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันไม่มีโทษหรอก มีแต่ประโยชน์ให้แก่สัตว์ทั้งหลาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 47  วันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 แรม 2 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2566 ( 19:35:38 )

ฐานอาศัย

รายละเอียด

คุณสมบัติหรือโทษสมบัติ โทษก็คือไม่เอา คุณสมบัติก็คือมีไว้ มันเป็นลักษณะโลกียะ มันต้องอาศัยโลกีย์คือความมี มีก็ต้องมีสิ่งที่ดี สิ่งที่ประเสริฐ สิ่งที่มนุษย์พึงได้พึงมีพึงเป็น ใช้สำหรับ ฐานอาศัย จนกว่าจะปรินิพพานเป็นปริโยสาน ถึงจะแตกสลาย แยก ล้มเลิกกุศลธรรม ธรรมคือสิ่งที่ทรงอยู่ เลิก ไม่ต้องมีกรรมอีกแล้ว เพราะเราแตกแยกตายแล้ว ตาย กายแตกก็หมดกรรมไม่ต้องทำอะไร ธรรมะ สิ่งที่ทรงไว้รวมกันอยู่ เป็นของคุณ เป็นอัตตา

อ ต ต นี่แหละ คืออัตตา ไม่ลงลึกไปขยาย อ กับ ต ต เคยขยายแล้ว แล้วพ้นจากนี้ จะอธิบายเรื่องเศรษฐกิจ อาตมาก็อธิบายแยกพยัญชนะพวกนี้อยู่ ตอนนี้ขอผ่านไปก่อน จะเน้นเรื่องกายให้เข้าใจดีๆ ในช่วงงานปลุกเสกนี้ ให้เข้าใจชัดๆ เพราะมันสำคัญ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ นำปฏิญาณศีล 8 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 45 วันพุธที่ 5 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 06:00:40 )

ฐานะ 4 แบบพุทธ ระดับชนชั้นได้ฐานะโดยธรรม

รายละเอียด

1. ฐานะนักบุญ (ปุโรหิตผู้ทรงธรรม เป็นที่ปรึกษาสังคม)

2. ฐานะนักบริหาร (นักปกครอง บริหาร  อาสาช่วยสังคม)

3. ฐานะนักบริการ (ผู้หมุนเวียนผลผลิตไปบริการสังคม จึงรับค่าตอบแทนส่วนตัวน้อยลง  ไม่ต้องสะสมกักตุนทรัพย์มาก)

4. ฐานะนักผลิต (กสิกร-กรรมกรผู้ออกเรี่ยวแรง ที่มีรายได้ของตนมากกว่าฐานะอื่น ได้มากจริงตามกิจของตน)

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2562 ( 21:13:47 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:03:22 )

ฐานะ 5

รายละเอียด

คือ สภาพที่ทุกๆคนในโลกเลี่ยงไม่พ้นฐานะเหล่านีี้

1. เรามีความแก่เป็นธรรมดา

2. เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา

3. เรามีความตายเป็นธรรมดา

4. เรามีการผลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น

5. เรามีกรรมเป็นของตน (กัมมัสสโกมหิ) เราเป็นทายาทแห่งกรรม (กัมมทายาโท) มีกรรมเป็นกำเนิด (กัมมโยนิ) 

มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ (กัมมพันธุ) กรรมเป็นที่พึ่ง (กัมมปฏิสรโน) ทำดี ทำชั่ว เราเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม  22 "ฐานสูตร"  ข้อ  57

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2562 ( 12:34:39 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:32:34 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:51:41 )

ฐานะ 5

รายละเอียด

คือสภาพที่ทุกๆคนในโลกเลี่ยงไม่พ้นฐานะเหล่านี้

1. เรามีความแก่เป็นธรรมดา

2. เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา

3. เรามีความตายเป็นธรรมดา

4. เรามีการพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น

5. เรามีกรรมเป็นของตน (กัมมัสสโกมหิ)

เป็นทายาทแห่งกรรม (กัมมทายาโท)

มีกรรมเป็นกําเนิด (กัมมโยนิ)

มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ (กัมมพันธุ)

มีกรรมเป็นที่พึ่ง (กัมมปฏิสรโน)

ทําดี ทําชั่ว เราเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 22 “ฐานสูตร” ข้อ 57


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 19:12:37 )

ฐานะ 5 ระดับ ชนชั้นฐานะโดยธรรม

รายละเอียด

1. ฐานะนักบวช (ชนชั้นที่ปรึกษา ปุโรหิตผู้ทรงธรรม จนที่สุด)

2. ฐานะนักบริหาร (ชนชั้นนักบริหารผู้อาสาช่วยสังคม ชีวิตจนๆ)

3. ฐานะนักบริการ (ชนชั้นพ่อค้าถ่ายโอนการผลิตสินค้า รับค่าตอบแทนส่วนตัวน้อยลงจึงไม่ต้องสะสมกักตุนทรัพย์สินเงินทองให้ตนเองมีมาก)

4. ฐานะนักผลิต (ชนชั้นนักผลิตออกเรี่ยวแรง ที่สมควรมีรายได้เพื่อตนเองมากกว่าฐานะอื่น มีได้มากจริงตามกิจของตน)

5.  นักเรียน-นักศึกษา  ยังไม่มีการงานมีรายได้

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2562 ( 21:15:33 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:03:46 )

ฐานะของการงานก็คือเวทนาเป็นกรรมฐานของพุทธ

รายละเอียด

เวลาปฏิบัติจริงๆมีกรรมฐานเป็นที่ตั้งคือเวทนา หรือว่ากรรมฐาน กรรมฐานของศาสนาพุทธคือเป็นฐานะของการงานก็คือเวทนา ในพรหมชาลสูตรพระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ถ้าอ่านพระไตรปิฎกแตกฉานจะเข้าใจ ไม่อย่างนั้นมันจะเยอะเหลือเกินจิตเจตสิกต่างๆก็เยอะ ท่านยอมให้เรียนรู้ที่เวทนาในเวทนาให้เต็ม 100 อาศัยแล้วก็เป็น 0 ได้ ดังที่พระพุทธเจ้าสอนให้แยกกายแยกจิต 

ถ้าอยากให้เป็น 0 ก็เป็นอุตุไปเลย ถ้าเป็น1 ก็เป็นพีชะได้ พ้นทุกข์แล้ว ไม่มีเวทนาไม่มีสัญญาก็พ้นทุกข์แล้ว ถ้ายังเป็นจิตอยู่ก็ยังเป็นอวิชชา ก็ไม่สามารถทำจิตให้เป็น พีชธาตุได้ ก็ยังมีทุกข์มีสุขอยู่ เป็นพระอรหันต์แล้วก็ไม่มีทุกข์มีสุข

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ฌานของพุทธต้องเกิดจากจรณะ 15 วิชชา 8 วันพุธที่ 13 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 11:14:45 )

ฐานะสมณะโพธิรักษ์สมัยพุทธกาล

รายละเอียด

อาตมาก็เคยบอก บอกไปแล้วก็ไม่อยากบอก เพราะว่าบอกไปแล้วคนไม่เชื่อและทำให้ศรัทธาตก อาตมาก็ไม่มีปัญหาหรอกเชื่อหรือไม่เชื่อ ปัจจุบันนี้อาตมาเป็นโพธิรักษ์ แล้วอาตมาก็ทำงานทางศาสนาพุทธเต็มที่ คุณก็ติดตามฟังดูตรวจสอบตามพระไตรปิฎก ที่เป็นหลักฐานสูงสุด ยิ่งรู้ภาษาบาลีเป็นภาษาที่ตายแล้วดิ้นไม่ได้ ท่านแปลเป็นภาษาไทยมา ฉบับที่ท่านแปลมาก็ดี ไม่ว่าจะเป็นฉบับจุฬาลงกรณ์ฯ มหามกุฏฯก็ใช้ได้ อาตมาใช้ฉบับหลวงเป็นหลัก ออกตีพิมพ์เป็นครั้งแรกพศ. 2500รัฐบาลช่วยกันทำเลยเรียกว่าเป็นฉบับหลวง อาตมาก็ใช้ฉบับนั้นเป็นหลักตรวจสอบดีๆ จะบอกไปอีก ว่าอาตมาอธิบายความเป็นพระสารีบุตร และอาตมาก็เคยอธิบายยืนยันเคยบอกกับคนว่า มีคนถามว่าท่านเป็นพระสารีบุตรมาเกิดใช่ไหม อาตมาก็บอกว่าใช่ อาตมาก็ขยายความพระสารีบุตรด้วยอธิบายอย่างชัดเจน หลายนัยเลย นัยยะหนึ่งอาตมาบอกว่าเป็นสารีบุตร แต่ใครอย่ามาเข้าใจว่าอาตมาเป็นพระสารีบุตรเพราะว่าพระสารีบุตรตายไปแล้วตั้งแต่ยุคพระพุทธเจ้าโน่น ตายก่อนพระพุทธเจ้าด้วย เพราะฉะนั้นมาเกิดในร่างนี้ไม่ใช่พระสารีบุตร ร่างนอนตายไปแล้ว หรือแม้แต่จะเป็นนามธรรมของพระสารีบุตรมาเกิดเป็นอาตมา ก็ไม่ใช่นามธรรมของพระสารีบุตรองค์นั้น ถ้าใครว่าอาตมาเป็นพระสารีบุตรพระองค์นั้น บอกว่าเป็นนามธรรมของพระสารีบุตรแท้ๆเต็มๆเลยมาเกิด คุณดูถูกอาตมา ว่าอาตมาไม่เจริญเลย คิดดูสิ ถ้าเกิดตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้วตั้งแต่ตอนโน้นจนถึงตอนนี้ เกิดมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วไม่เจริญเลย ยังเป็นพระสารีบุตรอย่างเดิมอยู่ คุณดูถูกอาตมามากซึ่งมันไม่ใช่อาตมาไม่ใช่พระสารีบุตรอันนั้น นี่คือรายละเอียดของสัจจะ เพราะฉะนั้นอย่าไปศึกษาอย่างนั้น เราทำความเข้าใจเป็นแต่เพียงเป็นฐานศึกษาปฏิบัติ ว่าทุกอย่างปฏิบัติมาแต่เหตุและต่อเนื่องกันไปหมด ถ้ายึดมั่นเป็นอันเดิม คุณปรินิพพานไม่ได้

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 9ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2562 ( 20:07:45 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:20:16 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:50:22 )

ฐานะแต่ละบุคคล บารมีไม่เท่ากัน วิบากไม่เท่ากัน เอาสาระแท้ๆที่แต่ละคนจะต้องมี

รายละเอียด

องค์ประกอบของเวลา ยุคกาล ความแตกต่างของสิ่งแวดล้อมต่างๆ องค์ประกอบต่างๆ เทศะ ภูมิประเทศ มนุษย์ต่างๆ มนุษย์ต่างๆ นั้นก็จะต่างกันโดยฐานะ ฐานะแต่ละบุคคล บารมีไม่เท่ากัน วิบากไม่เท่ากัน ฝาแฝดตั้งแต่ 2 คน 3 คน 4 คน 5 คน 8 คนก็ไม่เท่ากัน ปรมาณู 2 ตัวเริ่มมี 2 ไม่มีอะไรเท่ากัน มีเท่ากันอยู่อย่างเดียว เริ่มไปหา 2 ไปหา 3 ไปหา 4 มันก็ยิ่งแตกแยก ต่างกันไปเรื่อยๆ ถ้า 2 นี้มารวมเป็น 1 มันก็จะรวมเป็น 1 ยิ่งลงไปหา 0 เหมือนกันจนหายไปเลย ยิ่งไปเป็น 0 มันยิ่งไปเป็น 0 มันยิ่ง หายไปเลย ไม่รู้จะเปรียบกันยังไงมันผ่องแผ้วเหมือนกัน กลม 0 เหมือนกันเลยเป๊ะเลยนะ ต้อง 0 เท่ากัน นั่นแหละเป็นที่สุด แห่งที่สุด

ที่เรานับด้วยสังขยาเลขว่า 0 1 2 สามเส้า นี่ก็แตกต่างกันแล้ว 0 1 2 ยิ่งเป็น 3 เป็น 4 เป็น 5 ออกไปอีกกรอบนึง สามเส้า เรียกว่า 1 วงวน 1 วงกลม จะบรรจุไว้ด้วยสามเส้า มี 1. ประธาน 2. มีบวกกับลบ บวกกับลบเป็นตัวหลัก แล้วก็มีประธาน เป็นภาษาอังกฤษเขาก็มีตัว I คือประธาน แล้วมีตัว S กับ H

S ก็ She ตัว H ก็ He สามเส้า ภาษาอังกฤษอาตมาไม่ได้เอาพยัญชนะมาอธิบาย มีแต่ภาษาบาลี ถ้าบาลีก็จะนำเอามา ประกอบนำมาอธิบายได้ แต่ก็ยังไม่ได้มาก เอามาใช้พอสมควร แล้วอาตมาก็คิดว่า ผู้จะมารู้พยัญชนะก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเท่า เอาเนื้อหา เอาสาระแท้ๆ ที่แต่ละคนจะต้องมี แล้วใช้อาศัยจริงๆ เอาอันนี้มาขยายความ อธิบายอันนี้ดีกว่า อาตมาก็เลยมาเน้นอันนี้ ไม่ไปเสียเวลากับพยัญชนะมากนัก พยัญชนะยิ่งลงไปลึกมันก็สนุกแบบพยัญชนะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงาน ปฏิญาณศีล 8 งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 47 วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566 ที่บวรปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 13 เมษายน 2566 ( 20:18:16 )

ฐานโส

รายละเอียด

ตั้งอยู่ในชั่วขณะ

หนังสืออ้างอิง

กำไร-ขาดทุนแท้ของอาริยชน / เราคิดอะไร ฉบับ 270


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 11:58:26 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:17:28 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:49:10 )

ฐานโสดาบัน

รายละเอียด

คนที่มีภูมิสูงกว่าโสดาบันแล้ว ก็ต้องพยายามรู้รายละเอียดของ ก็ต้องเข้าใจกลไกรายละเอียด พูดมาเป็นพยัญชนะของความเป็นโสดาบัน เช่นเรามีศีล 5 ได้ มีญาณ 7 รู้อาริยสัจ 4 จิตเข้ากระแส โสตาปันนะ อวินิปาตธรรม นิยตะ สัมโพธิปรายนะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานอโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่บวรสันติอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 28) ตอน นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:42:45 )

ฐานโสดาบันเมื่อถึงขั้นวิมุติ

รายละเอียด

ฐานโสดาบันนี่ มันไม่ใช่ฐานที่ใหญ่ที่โตอะไรเลย มันมีเนื้อแท้ของจิต

1. ยินดี ตามมูลสูตรข้อที่ 1

ข้อที่ 2 ทำใจในใจเป็น มนสิการ 

3. มีสัมมาทิฏฐิ ที่ต้องรู้ว่าตัวเองต้องผัสสะ เป็นมูลสูตรข้อที่ 3 ต้องมีผัสสะในการปฏิบัติธรรม (มูลสูตร 10 : พคปฎ. เล่ม 24 "มูลสูตร" ข้อ 58)

เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีฐานข้อที่ 1 2 3 นี้เป็นโสดาบันแล้ว

ต่อจากนั้นคุณก็ปฏิบัติให้เพิ่มโสดาคุณ มากขึ้นด้วย

มันก็จะเติมเวทนาให้เจริญขึ้นๆๆ เวทนาขึ้นได้ขีดหนึ่ง ก็เป็นสมาธิ 

สมาธิยิ่งแข็งแรงเป็นอินทรีย์ เป็นพละได้เท่าไหร่ สติปัญญาก็จะเจริญขึ้นเรื่อยๆ วิมุติ

ก็เป็นผลตามมา เมื่อคุณถึงขั้นวิมุติ คุณก็เป็นอรหันต์ทุกคน เป็นอมตะบุคคล เป็นวิมุติจบแล้ว

จบกิจ จิตหมดกิเลสวิมุตหลุดพ้นหมดกิเลส คุณก็เป็นอมตบุคคล

เพราะฉะนั้นคุณจะเกิดหรือคุณจะดับคุณก็ทำได้เอง 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 40 พ่อครูเล่าความหลังเมื่อตอนอยู่ในวงการบันเทิง วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 แรม 11 ค่ำ เดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2567 ( 17:04:58 )

ฐิต

รายละเอียด

ตั้งมั่น

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 111


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 11:59:54 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:17:59 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:48:47 )

ฐิเต

รายละเอียด

มีฐานเป็นทุน , มั่นคง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 78


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 12:01:23 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:18:29 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:48:30 )

ฐีต  

รายละเอียด

1. ตั้งมั่น
2. ทำให้ช่ำชอง แข็งแรง มั่นคง ทรงตัวให้ได้

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 269

อีคิวโลกุตระ หน้า 228


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 12:03:36 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:19:47 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:48:13 )

ฐีติ

รายละเอียด

1. ตั้งมั่น มั่นคง ถาวร ยั่งยืน ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่หวั่นไหว

2. ความตั้งอยู่ ความทรงอยู่ ความเป็นอยู่ ความหยุดอยู่

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค3 หน้า 154 , 390

 


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 12:07:04 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:20:19 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:47:54 )

ฐีติขณะ

รายละเอียด

ตั้งอยู่

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 281


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 12:08:30 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:20:51 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:47:38 )

ฐีติธาตุ

รายละเอียด

ธาตุจิตตัวนี้เกิดเป็นอาการของ "ความตั้งมั่น-ความมีพลังงานลักษณะชนิดนั้นๆมั่นคง

หนังสืออ้างอิง

นิยามแห่งชีวิต หน้า 78


เวลาบันทึก 06 มกราคม 2563 ( 14:37:50 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:33:07 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:47:20 )

ฐีติบุคคล

รายละเอียด

ไม่เสื่อม ไม่ทรุดต่ำลงกว่าเก่า แต่ก็เป็นได้แค่ผู้ “ทรงอยู่” หรือผู้ “หยุดอยู่” ที่เก่าเท่าเก่า ไม่มีจิตเจริญตัวใหม่ผลิเพิ่มขึ้นอีกเลย

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 29


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 12:09:40 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:21:31 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:47:03 )

ฑูต คือกระท่อมแบ่งปัน

รายละเอียด

ฑูต คือกระท่อมแบ่งปัน ปันสุข จะไปซ้อนกับคำว่าสุขอีก เอาแบ่งปันนั้นดีแล้ว กวฬิงการาหาร พืชพันธุ์ธัญญาหารนี่แหละ สร้างเถอะ สรุปแล้วสร้างให้มาก คมนาคม ทุกวันนี้ก็ส่งได้ดีมากส่งได้เร็วไวไม่เสียไม่ทันเน่า ไม่ทันเสียอะไรเลย การจัดถนอมอาหารก็เก่งพอสมควรแล้วด้วย ไม่ทันเสียไม่ทันเน่า ไม่ทันแห้ง ไม่เสียคุณภาพอะไรหรอกยังสดอยู่ อาจจะลดคุณภาพบ้างเล็กน้อยแต่ทันการ ไม่ยืดยาดเกินไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คุณธรรมยิ่งใหญ่กว่าอาวุธ 

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2564 ( 11:43:13 )

ดราม่าทำดี

รายละเอียด

ก็หุ้นขึ้นไทยเรา พอเจอเจ้าฟ้าชายชาร์ลแสดงอาการเช่นนี้ก็ดีใจ หุ้นขึ้นก็ดี  สิ่งที่มันเกิดขึ้นมาในสังคมโลกไม่ใช่ความบังเอิญไม่ใช่ความเสแสร้ง จะมีการเสแสร้งก็ได้เขาบอกว่าดราม่าทำดี อาตมาก็ว่าให้คุณเสแสร้งทำให้จริงไปตลอดตายเลย เสแสร้งทำดีนะให้กายกรรมวจีกรรมที่ทำจะเป็นการดัดจริตดีก็ทำดีต่อไปไม่ให้บกพร่องเลย ดัดใหมัน สุ เลย หากไม่ดัดมันก็ไม่ดี  คนไม่ดัดจริตตัวเองเลยจริตทุตลอดกาลก็เลยไม่ดีตลอดกาล

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 31 มีนาคม 2563 ( 09:48:13 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:21:30 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:56:57 )

ดวงชะตาของคนอยู่ที่เราเลือกจะเป็นไป

รายละเอียด

ดีๆๆ เข้าใจถูกแล้ว ดวงชะตาของเรามันขึ้นอยู่กับเราเลือกจะเป็น ไม่ใช่มี
ดวงชะตาใครมากำหนด หรือพระเจ้ามากำหนด คนนั้นคนนี้มากำหนด ไม่ใช่ เราเลือกจะเป็น เช่น เราจะเลือกมาเป็นคนแบบชาวอโศก เราเลือกจะเป็น เห็นดีว่ามาเป็นอย่างนี้ดีแล้วก็มา หากเรายังเป็นอย่างชาวอโศกไม่ได้เต็มตัว เราก็เรียนรู้ปฏิบัติ ทำอย่างไรมันจะเป็น ก็ระลึกรู้ว่าเราไปติดทางโลกเขาเพราะเป็นทางโง่อย่างที่พูดผ่านมา ก็รู้ว่านี่ ชาวอโศกเขาเลิกกันแล้วเราก็มาเลิก เราเลิกได้เราก็รู้สึกว่าดีนะเลิกแล้วสบายดี แต่ก่อนขาดไม่ได้มันจะเป็นจะตาย แต่เมื่อปฏิบัติเลิกได้แล้ว มันเบาว่างง่ายสบายไม่หนักไม่หนาไม่เปลือง ไม่ต้องเสียเวลาทุนรอนแรงงาน เราก็เอาเวลาคืนมาได้จากที่เคยไปสูญเสียเปล่าๆ เอาทุนรอนที่เคยลงไปอย่างนั้นคืนมาได้ เอาแรงงานคืนมาได้ 

นี่มันคือเศรษฐศาสตร์บทยิ่งใหญ่เลยนะ กอบกู้คนขึ้นมาได้ พวกเราจึงเป็นเศรษฐีเงินถัง แต่สตางค์ไม่มี นี่เป็นเศรษฐีตัวจริง เสฏฐะ เสฏโฐ เศรษฐีแปลว่าความประเสริฐ แต่ว่าเขาไปแปลผิดว่าเป็นคนรวย ที่จริงคนรวยมาจากคำว่ากฎุมพี แต่เศรษฐีจริงๆเป็นคนจน คนประเสริฐพระพุทธเจ้าท่านเกิดในกองทรัพย์สิน ท่านออกมาเลย ทิ้งไม่เหลียวแลเลย แล้วมาเป็นคนจน อยู่กับคนจนตลอดพระชนม์ชีพเลย ไม่ต้องหันหน้าไปใช้เงินทองอีกเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก ผลงาน 50 ปี ตามอนุสาสนีปาฏิหาริย์ของพ่อครู วันพุธที่ 18 มกราคม 2566 แรม 12 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ปี 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2566 ( 11:19:27 )

ดอกบัว 4 บุคคล 4

รายละเอียด

1. บัวพ้นน้ำ จะบานในวันนี้ อุคฆฏิตัญญู (ผู้ฟังหัวข้อธรรม ก็บรรลุมรรคผล)

2. บัวปริ่มน้ำ จะบานในวันพรุ่งนี้ วิปจิตัญญ (ผู้ฟังอธิบายธรรมพิสดารก็บรรลุมรรคผล)

3. บัวในน้ำ จะขึ้นมาบานในวันมะรืน เนยยะ (ผู้หมั่นฟังธรรม ไต่ถาม พิจารณาแยบคาย คบหามิตรดี ก็บรรลุมรรคผล)

4. บัวใต้น้ำ จมโคลนตมไม่อาจพ้นน้ำขึ้นมาบาน ปทปรมะ (ผู้ฟังพุทธพจน์ก็มาก บอกสอนก็มาก แต่ไม่บรรลุมรรคผลในชาตินี้)

 

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 12 “ปาสราสิสูตร” ข้อ 323 พระไตรปิฎกเล่ม 36 “จตุกกนิทเทส” ข้อ 108


เวลาบันทึก 12 มีนาคม 2565 ( 20:25:17 )

ดอกบัว 4 / บุคคล 4

รายละเอียด

1. บัวพ้นน้ำ จะบานในวันนี้  อุคฆฏิตัญญู (ผู้ฟังหัวข้อธรรม ก็บรรลุมรรคผล)

2. บัวปริ่มน้ำ จะบานในวันพรุ่งนี้  วิปจิตัญญู (ผู้ฟังบรรยายธรรมพิสดาร ก็บรรลุมรรคผล)

3. บัวในน้ำ จะขึ้นมาบานในวันมะรืน  เนยยะ (ผู้หมั่นฟังธรรม ไต่ถาม พิจารณาแยบคาย คบหามิตรดี ก็บรรลุมรรคผล)

4. บัวใต้น้ำ จมโคลนตมไม่อาจพ้นน้ำขึ้นมาบาน  ปทปรมะ (ผู้ฟังพุทธพจน์ก็มาก บอกสอนก็มาก แต่ไม่บรรลุมรรคผลในชาตินี้)

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 12 "ปาสราสิสูตร" ข้อ 323 

พระไตรปิฎกเล่ม 36 "จตุกกนิทเทส" ข้อ 108

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 18 มิถุนายน 2562 ( 22:25:07 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:06:41 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:59:03 )

ดอกฟ้ากับหมาวัด

รายละเอียด

คืออาตมาแต่งเป็นเพลงเลย เยกว่าเพลงดอกฟ้ากับหมาวัดต้องเอื้อมเอาศีลมาปฏิบัติให้เกิด  อธิศีล  อธิจิต  อธิปัญญา  อธิวิมุติ เป็นความเจริญ  เป็นความรู้ของพระพุทธเจ้า ได้มรรคผล  ศีล  สมาธิ ปัญญา เจริญจริงๆ  ขอยืนยันรับรองเลย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 82 วันจันทร์ที่ 25พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 14:54:25 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:27:11 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:00:49 )

ดอกฟ้ากับหมาวัด

รายละเอียด

อาตมาแต่งเป็นเพลงเลย แยกว่าเพลงดอกฟ้ากับหมาวัดต้องเอื้อมเอาศีลมาปฏิบัติให้เกิด  อธิศีล  อธิจิต  อธิปัญญา  อธิวิมุติ เป็นความเจริญ  เป็นความรู้ของพระพุทธเจ้า ได้มรรคผล  ศีล  สมาธิ ปัญญา เจริญจริงๆ  ขอยืนยันรับรองเลย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราชฯ วันจันทร์ที่  25พฤศจิกายน  2562


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2562 ( 20:19:50 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:31:22 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:01:32 )

ดอกฟ้าที่คนควรเอื้อมถึงอันแรกคือการมีศีล 

รายละเอียด

ต้องไปฟังเพลงดอกฟ้าที่หมาวัดต้องเอื้อม มันเริ่มต้นด้วยคำว่า ศีล คนทุกวันนี้ทิ้งศีลแม้แต่ภิกษุ ไปได้แต่แค่วินัย 227 ศีล จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล เป็นศีลอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเขาไม่รู้จักกันแล้ว 

ในพระไตรปิฎกพระสูตรเล่มแรกเลย พระพุทธเจ้าท่านตรัสเรื่องศีลเป็นตัวสำคัญ สำคัญยิ่งใหญ่เลย หนังสือปัญญา 8 ที่อาตมาเขียนนี้ถึงเล่ม 3 มันต้องเป็นเล่ม 4 แน่ เพราะตอนนี้ปาเข้าไป 800 หน้าแล้ว เขียนอยู่ยังไม่จบสิ้นเลย มันจะต้องเรียนรู้จริงๆ 

คุณเริ่มด้วยศีลข้อแรกๆ มันจะเป็นเรื่องง่าย จะเริ่มไปได้ตามลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในปหาราทสูตร เป็นความอัศจรรย์ในศาสนาพุทธที่ยิ่งใหญ่ มันเริ่มต้นง่ายๆแต่มันน่าอัศจรรย์ เพราะฉะนั้นใครไม่เห็นความสำคัญในศีล ลงทะเลยะเยือกเย็นเลย ถูกไซโคลนถูกสลาตันมันพัดเละเทะไปหมดเลย ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย 

ศีลจึงมีตั้งแต่ต้นจนจบในชีวิต เพราะศีลที่คนปฏิบัติได้แล้วจะเป็นความเป็นปกติ สามัญของชีวิต จึงเรียกว่าคนมีศีล ศีลแปลว่าปกติเขาก็แปลกันแต่เขาเข้าใจไม่ได้ ปกติคือสามัญของชีวิตตั้งแต่ลืมตาจนถึงนอนหลับตาจนถึงตายก็เป็นสามัญชีวิต 

ผู้ที่บรรลุสิ้นแล้วควรจะไม่ฆ่าอีกเลยจนตาย แม้สัตว์มันจะมาฆ่าเรา เราก็ให้สัตว์มันฆ่าเราเสีย เราจะไม่ทำชั่วไปฆ่าสัตว์ เราไปฆ่าเขาเขาก็ฆ่าเราเป็นวิบากซ้ำซ้อนมันเป็นหนี้กันอยู่อย่างนั้นตลอดกาลนาน เพราะฉะนั้นเราจะไม่ทำ เราไม่ต่อวิบากไปอีกชาติหน้าชาติไหน พอ เราจบเมื่อเราจะเป็นผู้จบ คนอื่นก็ตบมือข้างเดียว ไม่มีผลอะไรกับเรา คุณก็ตบไปสิ เพราะเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมือที่จะไปตบกับคุณ คุณก็ตบลมๆแล้งๆของคุณไปเอง ดีไม่ดีก็ไปตบเอาปากงูเห่า ไปตบเอาหนามทุเรียนของคุณไป เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปท้อ ให้ไปฟังเพลงดอกฟ้าที่หมาวัดต้องเอื้อม คุณสุเทพ วงศ์กําแหงร้องไว้ คนอื่นไม่ได้ร้องไว้เลยมีเวอร์ชั่นเดียวเพลงนี้ของอาตมามีเวอร์ชั่นเดียว 

แต่ก่อนนี้สุเทพอัดแผ่นเสียงไว้ เดี๋ยวนี้มันตกยุคแล้วแผ่นเสียงอัลบั้ม เดี๋ยวนี้มันอยู่ในกล่องน้อยๆนี่หมดเลย อย่าไปท้อแท้ อย่าไปพูดอย่างนั้น คุณภาพชีวิตอยู่ที่การตั้งค่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 49 ตอบไทยรัฐทีวีเรื่องสมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 กันยายน 2565 ( 14:48:28 )

ดอกฟ้าที่คนควรเอื้อมถึงอันแรกคือการมีศีล 

รายละเอียด

ดอกฟ้าที่คนควรเอื้อมถึงอันแรกคือการมีศีล ต้องไปฟังเพลงดอกฟ้าที่หมาวัดต้องเอื้อม มันเริ่มต้นด้วยคำว่า ศีล คนทุกวันนี้ทิ้งศีลแม้แต่ภิกษุ ไปได้แต่แค่วินัย 227 ศีล จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล เป็นศีลอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเขาไม่รู้จักกันแล้ว ในพระไตรปิฎกพระสูตรเล่มแรกเลย พระพุทธเจ้าท่านตรัสเรื่องศีลเป็นตัวสำคัญ สำคัญยิ่งใหญ่เลย 

หนังสือปัญญา 8 ที่อาตมาเขียนนี้ถึงเล่ม 3 มันต้องเป็นเล่ม 4 แน่ เพราะตอนนี้ปาเข้าไป 800 หน้าแล้ว เขียนอยู่ยังไม่จบสิ้นเลย มันจะต้องเรียนรู้จริงๆ คุณเริ่มด้วยศีลข้อแรกๆ มันจะเป็นเรื่องง่าย จะเริ่มไปได้ตามลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในปหาราทสูตร เป็นความอัศจรรย์ในศาสนาพุทธที่ยิ่งใหญ่ มันเริ่มต้นง่ายๆแต่มันน่าอัศจรรย์ เพราะฉะนั้นใครไม่เห็นความสำคัญในศีล ลงทะเลยะเยือกเย็นเลย ถูกไซโคลนถูกสลาตันมันพัดเละเทะไปหมดเลย ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย 

ศีลจึงมีตั้งแต่ต้นจนจบในชีวิต เพราะศีลที่คนปฏิบัติได้แล้วจะเป็นความเป็นปกติ สามัญของชีวิต จึงเรียกว่าคนมีศีล ศีลแปลว่าปกติเขาก็แปลกันแต่เขาเข้าใจไม่ได้ ปกติคือสามัญของชีวิตตั้งแต่ลืมตาจนถึงนอนหลับตาจนถึงตายก็เป็นสามัญชีวิต ผู้ที่บรรลุสิ้นแล้วควรจะไม่ฆ่าอีกเลยจนตาย แม้สัตว์มันจะมาฆ่าเรา เราก็ให้สัตว์มันฆ่าเราเสีย เราจะไม่ทำชั่วไปฆ่าสัตว์ เราไปฆ่าเขาเขาก็ฆ่าเราเป็นวิบากซ้ำซ้อนมันเป็นหนี้กันอยู่อย่างนั้นตลอดกาลนาน เพราะฉะนั้นเราจะไม่ทำ เราไม่ต่อวิบากไปอีกชาติหน้าชาติไหน พอ เราจบเมื่อเราจะเป็นผู้จบ คนอื่นก็ตบมือข้างเดียว ไม่มีผลอะไรกับเรา คุณก็ตบไปสิ เพราะเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมือที่จะไปตบกับคุณ คุณก็ตบลมๆแล้งๆของคุณไปเอง ดีไม่ดีก็ไปตบเอาปากงูเห่า ไปตบเอาหนามทุเรียนของคุณไป เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปท้อ ให้ไปฟังเพลงดอกฟ้าที่หมาวัดต้องเอื้อม คุณสุเทพ วงศ์กําแหงร้องไว้ คนอื่นไม่ได้ร้องไว้เลยมีเวอร์ชั่นเดียวเพลงนี้ของอาตมามีเวอร์ชั่นเดียว แต่ก่อนนี้สุเทพอัดแผ่นเสียงไว้ เดี๋ยวนี้มันตกยุคแล้วแผ่นเสียงอัลบั้ม เดี๋ยวนี้มันอยู่ในกล่องน้อยๆนี่หมดเลย อย่าไปท้อแท้ อย่าไปพูดอย่างนั้น คุณชีวิตอยู่ที่การตั้งค่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 49 ตอบไทยรัฐทีวีเรื่องสมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กันยายน 2565 ( 16:43:31 )

ดอกไม้จะบาน มันก็บานของมันเอง 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นพวกเทวนิยมสายพระเจ้าจึงไม่สามารถรู้ความสุขความทุกข์ด้วยปัญญา เขาจะรู้ความสุขของเขาแบบ เฉโก เขาไม่รู้ว่าสุขทุกข์เป็นมายาเป็นธาตุคู่ แล้วเป็นทาสด้วย เป็นทาสความสุขความทุกข์ยังติดยึดในความสุขความทุกข์เป็นทาสด้วย มันก็จะไม่ประสีประสา 

แค่สัมมาทิฏฐิชาวเทวนิยมก็ไม่สามารถรู้ให้เป็นสัมมาทิฐิ เพราะฉะนั้นการจะทำให้มวลมนุษยชาติหรือว่าสังคม ที่เขาเรียกตัวเองว่าสังคมประชาธิปไตยจะให้เกิดมีความรู้ตามความรู้ความฉลาดแบบเทวนิยมมาเป็นอเทวนิยมหรือเป็นโลกุตระนั้น จึงไม่ได้ ยังยาก เพราะภูมิธรรมจิตความรู้ความฉลาดของเขาจริงๆ เขายังออกมาจากกรอบของโลกียะไม่ได้ มันบังคับไม่ได้ ไปบีบบังคับ เหมือนจะบีบบังคับกล้วยดิบ บีบให้มันสุกๆมันก็เละเลย ไม่มีทางบีบได้หรอก ต้องบ่มมันให้เวลามันให้มันทำของมันเอง ดอกไม้มันจะบานมันก็บานของมันเอง ดอกไม้อยากให้มันบาน ก็ไปฉีกกลีบของมันออกมันก็พังหมด มันจะบานก็บานของมันเอง นี่เป็นสัจจะนะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 1

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2566 ( 13:25:49 )

ดอกไม้จะบานมันก็บานของมันเอง

รายละเอียด

ก็ค่อยๆบอกกันไป เขาเรียกภาษาฝรั่งว่า error ตกหล่นบ้าง ค่อยๆพูดไป ไม่ต้องหนักใจหรอก ก็มีเล็กๆน้อยๆบ้าง ค่อยๆพูดด้วยดี พวกนี้จริงๆลึกๆเขาก็รู้ แต่มันเสพติดกิเลสมาก คนเรามันทนได้ยากก็ละเมิด แล้วเขาไม่จริงจังกับธรรมะอะไรมากมาย เขายังไม่เห็นโทษจนคิดจะเลิก แต่เขายังเกรงใจไปสูบหลังห้องน้ำ เราค่อยๆรู้ไป ค่อยๆเป็นไป อย่าใจร้อน ดอกไม้มันจะบาน มันก็บานของมันเอง อย่าไปบีบไปบี้มัน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 16:41:18 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:40:14 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:04:14 )

ดอกไม้จะบานให้บานเอง

รายละเอียด

พูดตามหลักธรรมพระพุทธเจ้าเลยถ้ายังไม่มีฉันทะเป็นมูล อย่าไปคะยั้นคะยออย่าไปบีบเค้น ดอกไม้จะบานก็ให้ดอกไม้มันบานเอง ผลไม้มันสุกอย่าไปบีบให้มันสุกมันก็จะสุกของมันเอง อาตมาไม่ได้และเล็มเลียบเคียง หลายคนเข้าใจผิดว่าที่เรามีโทรทัศน์นั้นเป็นการโฆษณา แต่มันเป็นการสื่อสารสนเทศ แล้วมาหาว่าเราโฆษณา ก็เป็นเทคโนโลยีที่เราได้ใช้ให้เป็นประโยชน์เท่านั้นเอง แปลว่าโฆษณา ก็ว่าไป แล้วมันดีไหมล่ะ ดี ไม่ได้เอาอะไรแลกเปลี่ยนมาเลย เราทำให้โดยบริสุทธิ์ใจ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 08:14:31 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:43:37 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:03:24 )

ดอกไม้บูชาพระ

รายละเอียด

มันเป็นพีชะ ไม่ได้เป็นจิตนิยามหรอก ก็ดีที่คิดได้แต่ถ้าไม่ให้คนมีสิ่งเหล่านี้ เลยก็จะไม่มีฐานให้เขาพักอาศัย ก็เหมือนกับจิ๊กซอว์โดมิโนให้ต่อกันไปบ้าง มันเป็นธรรมชาติต้องมีลำดับขั้นตอนต่อไป ใครที่รู้ว่าเราอยู่ในชั้นที่สุดเจริญเข้าเขตว่าพ้น จากสิ่งไร้สาระมาได้คนนั้นก็มีปฏิภาณปัญญา ฉลาดรู้จักสิ่งมีสาระเอาสาระได้ ผู้ที่รู้จักสาระว่าเป็นสาระ คือผู้ที่มีสาระ ผู้ที่ไม่เห็นสิ่งสาระว่าเป็นสิ่งมีสาระผู้นั้นไม่รู้จักสาระ คนทุกวันนี้จะเข้าใจสาระตรงกับ ความเป็นสาระจริงๆมันยาก สาระแปลว่าเนื้อแท้ของมันเข้ากลุ่มสัจจะ ไม่ใช่เข้าใจผิด เอาเปลือกกระพี้มาเป็นแก่นก็ต้องเข้าใจให้ตรง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 12:31:21 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:50:20 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:02:51 )

ดอยรายปลายฟ้า ยังไม่ใช่พุทธสถาน เป็นอาวาสสถาน

รายละเอียด

ดอยรายปลายฟ้า ยังไม่ใช่พุทธสถาน เป็นอาวาสสถาน แล้วยังมีที่ที่เป็นของดอยรายปลายฟ้าอีกที่ อยู่บนดอยอีกเยอะ เป็นสัดส่วนสวยมากเลยอีกด้วย ผู้ใดที่ชอบอย่างนั้นและจะไปทำให้เป็นประโยชน์ขึ้นมา สนใจก็ไปร่วมกันที่สถานที่ดอยรายปลายฟ้าได้ ผู้ที่ชอบมีที่ดินอยู่บนยอดเขา ไม่ใช่ยอดเขาที่ทำขึ้นมาเอง นี่อาตมากำลังจะทำเป็นเขา ตะนาวศีล ไม่ใช่ตะนาวศรีนะ อันนี้ก็สร้างเองเป็นมนุษย์ทำ แต่อันนั้นเขาเป็นธรรมชาติของเขา 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 18:22:25 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 07:10:45 )

ดอลล่าร์คือเศษกระดาษ

รายละเอียด

หลักเกณฑ์การตั้งอัตราเงิน จริงๆอัตราเงินดอลลาร์ไม่น่าจะมีค่ามากกว่าเงินบาท เพราะว่าเขาใช้อำนาจทางอาวุธ ประเทศไทยไม่สามารถสร้างอาวุธสู้เขาได้เลย ใช้เป็นตั๋วแลกเงินสำหรับตีราคา 30บาทต่อ 1ดอลลาร์ เป็นอำนาจบาตรใหญ่ที่เขาทำ เจ้าไหนก็แล้วแต่ พยายามสร้างสกุลเงินใหม่ เงินยูโร นายMark Zuckerberg ก็จะตั้งระบบเงินของเขา libra คนก็ยอมตามก็รักษาสถานะนี้ในโลกได้ แต่ทุกวันนี้แท้จริงดอลล่าร์คือเศษกระดาษ ไม่มีหลักประกันค้ำได้เลย สมบัติที่โลกเขาถือว่าเป็นราคากลางเช่นทองคำด้วยน้ำมัน ทั่วโลกให้ความสำคัญเขาไม่มีสิ่งเหล่านี้เป็นที่รองรับ เขาไม่ประกาศเขาไม่บอกเลย แล้วก็ใช้อำนาจกระจายไป แต่หากเอาเงินดอลลาร์ไปคืนเพื่อเอาทองคำ แล้วคุณมีให้เขาหรือ ถ้าหากทั่วโลกเก็บเงินดอลลาร์ไปให้คุณมีพอไหม ไม่ได้คืนหรอก ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นหนี้จีนอยู่เท่าไหร่ กลายเป็นหนี้เสียจนจำนนแล้ว ประธานาธิบดีที่มาแล้วก็สร้างหนี้ไว้แล้วก็ไปไม่รู้กี่คนต่อกี่คนก็กลายเป็นหนี้เสีย เขาก็จะใช้อำนาจบาตรใหญ่รบราฆ่าฟันเอาชนะแล้วก็ล้างหนี้ไว้หมดเลยแต่ก่อน แต่เดี๋ยวนี้ทำไม่ได้แล้วไม่เหมือนกัน คนมันไม่มีทางออกไม่มีทางรอด ก็จมกับความไม่รู้ การเสพ ลาภยศสรรเสริญสุข 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2562 ( 09:42:42 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:54:50 )

ดักดานจมลึกเหน็ดเหนื่อย!

รายละเอียด

จิตเป็น“ทาสธรรมชาติ”ไม่มี“ปัญญาอยู่เหนือ(อุตตร)ธรรมชาติ”

โดยการ“ทำใจในใจ”ของตนเอง ให้“หลุดพ้น”ด้วย“วิชชา 8”

คนผู้นี้ก็จะเห็นว่า “ธรรมะคือธรรมชาติ”อยู่นั่นเอง 

ยังไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริง“ธรรมะ”คืออะไร?และ“ธรรมชาติ”

ตามทีมันเป็นอยู่นั้นคืออะไร? 

“ธรรม”แตกต่างจาก“ธรรมชาติ”อย่างไร? 

ยังเข้าใจ“ธรรมะ”ก็ดี “ธรรมชาติ”ก็ดี ไม่ได้ ว่า คือ อะไร?

ประกอบไปด้วยอะไร? มีฤทธิ์มีแรงอย่างไร? แค่ไหน? 

และจะดับความเป็น“ชาติ”กันตรงไหน? อย่างไร?

ผู้รู้จักรู้แจ้งรู้จริงใน“ชาติ” ใน“ธรรม” จึง“ดับชาติ” และ

อยู่กับ“ธรรม”หรือ“ทรงธรรม” แล้วเป็นอยู่ด้วย“ปัญญา”

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 95 หน้า 101


เวลาบันทึก 15 มิถุนายน 2564 ( 19:36:04 )

ดันสุรัง

รายละเอียด

ความรู้ของอาตมานี้แหละพอมาเกิดในชาตินี้ เอาความรู้ของตัวเองมาประกาศมาพูดมาบอก มันก็ไปขัดแย้งกับคณะใหญ่ คณะที่รู้กันทั่ว ในเถรสมาคมก็ตาม มันเสื่อมไปแล้วมันมีความถูกต้องไม่มีโลกุตระ อาตมาได้เอาโลกุตระมาพูดมันก็ เขาก็รับไม่ติด เขาก็ขัดแย้ง อาตมาก็ตั้งหน้าตั้งตามุ่งมั่นไม่ยอมหยุด เขาก็เลยเห็นว่าไอ้นี่มันดันทุรัง แต่ที่จริงไม่ใช่ อาตมาดันสุรัง อาตมาไม่ได้ดันอย่างผิดๆ อาตมาเอามาประกาศ ก็ค้านแย้งกับที่เขายึดถือกันแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ก็ยังยึดมั่นถือมั่น พยายามตีให้แตก อาตมาฆ้อนหักไปมากมายแล้ว แต่ไม่ท้อ

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 09:57:41 )

ดับความคิดโง่ดักดานผิดถนัด

รายละเอียด

คุณจะมืดไปอีกนาน หากคุณไปดับความคิดและไม่รู้ความจริงตามความเป็นจริงอะไรเลย สวรรค์นรกอะไรคุณก็ไม่รู้ ชั่วก็ไม่รู้ดีก็ไม่รู้ ฉลาดหรือโง่ก็ไม่รู้ แต่เฉพาะความทุกข์ความสุข คุณก็ไม่รู้จักความสุขความทุกข์อะไรเลย ศาสนาพุทธนั้นตรัสรู้ในเรื่องความสุขความทุกข์ ความสุขเป็นของเก๊ความทุกข์เป็นเรื่องของความลึกซึ้งที่คนหลงสะสมไว้ในอาสวะอนุสัย ก็มาเรียนรู้ที่ความทุกข์ที่มีเหตุแห่งทุกข์ก็มีธรรมะ 2 คือเทวะ แล้วก็ตีธรรมะ 2 ให้แตก จนกระทั่งรู้ว่าความสุขมันคืออาการอย่างนี้ความทุกข์มันคืออาการอย่างนี้

ทั้งสุข ทุกข์ เทวะ มันเป็นเรื่องติดยืดทั้งสิ้น คนที่หมดเทวะก็ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ จึงจะรู้แจ้งรู้จริง ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาไม่นึกไม่คิดอะไรเลย มันก็โง่ดักดาน ดานดัก ดักดานอีกไม่รู้กี่กัปป์ ไม่คิดไม่เรียนรู้อะไรเลยก็ผิดถนัด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ
สื่อธรรมะพ่อครู(พระวินัย) ตอน อโศกมิใช่นิกายแต่เป็นนานาสังวาส


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:55:30 )

ดับความเป็นกายได้คืออย่างนี้!

รายละเอียด

ดังนั้น เมื่อ“ตายทำกายแตกทำลายเป็นที่สุด” เราจึงสามารถ“ทำที่สุดของ‘การตาย’ขั้นปรินิพพานเป็นปริโยสาน”ได้จริง ด้วยความสำเร็จจริงที่สามารถ“ดับความเป็นกาย”ได้แท้นี้เอง เพราะ“กาย”คือ “ความเป็น“จิต-มโน-วิญญาณ”นั้นเราสามารถศึกษาสัมผัสจนกระทั่งรู้จักรู้แจ้งรู้จริงภาวะจริงหรือความเป็นจริงนั้นๆ ได้ด้วยตนเองแท้ๆ ไม่ต้องเชื่อใครเลยด้วยปัญญาอันยิ่ง  ก็ด้วยความเป็น“กาย“นี้แหละที่จะไขให้แจ้งความจริงทั้งหลายของสัจธรรม โดยเฉพาะความเป็น“อัตตา”หรือ“เทฺว”ทั้งปวง

หนังสืออ้างอิง

เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 หน้า 431 ข้อที่ 589


เวลาบันทึก 08 มิถุนายน 2565 ( 14:28:24 )

ดับตัณหา

รายละเอียด

จะดับตัณหาดับที่เวทนา จะให้ไม่มีอาการต้องทำให้วิญญาณไม่หยั่งลง ต้องทำให้นามรูปไม่มี วิญญาณไม่หยั่งลงก็ไม่มีอะไรเกิด ในปรมัตถ์ในภาษาจิตของเราก็ว่างจากกิเลส อะไรเกิด ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาสะ จิตวิญญาณที่เป็นปฏิจจสมุปบาท ต้องเรียนนามรูป ต้องมีการกระทบ จึงเกิดผัสสะ เวทนา ในเวทนามีตัณหา อุปาทานตัณหาเป็นตัว dynamic เป็นตัวเคลื่อน ส่วนตัว อุปาทานเป็นตัว static ตัวนิ่ง เป็นธรรมะ2ธรรมะ 2เหล่านี้ในข้อ 60มี 3ชุด คือ 1. ผัสสะ 2. นามรูป 3. วิญญาณผัสสะ คือ การกระทบของนามกับรูป นามกับรูปคือ สิ่งที่รู้กับสิ่งที่ถูกรู้ วิญญาณก็คือ เวทนา กับ ผัสสะ หากไม่มีผัสสะก็ไม่ได้ ต้องมีผัสสะ หากไม่มีผัสสะ เวทนาก็ไม่เกิด วิญญาณก็ไม่เกิด นามรูปก็ไม่เกิด

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31มกราคม 2563


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:23:29 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:02:33 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:01:48 )

ดับตัณหาอุปาทานได้หมดสิ้น จึงดับชาติ ชรา มรณะได้ด้วย

รายละเอียด

สรุปแล้ว ตัวเวทนาที่มีตัวการคือตัณหากับอุปาทาน ตัณหาคือพลังงานเคลื่อนที่ อุปาทานคือใช้พลังงาน static ตัวนิ่ง อยู่กับที่ เมื่อเคลื่อนที่ก็เป็นตัณหา อุปาทานกับตัณหา ฆ่าตัวไหนก็ฆ่า แต่ไปฆ่าตัวอุปาทานมันนิ่ง มันไม่ค่อยเห็นตัว ถ้าหากมันเคลื่อนก็เห็นตัวง่ายกว่า อุปาทานเป็นตัวไร้สภาพ มองไม่เห็น จัดการยาก

ผู้ที่สามารถรู้จักตัณหาอุปาทาน แล้วดับตัณหาอุปาทานได้หมดสิ้น ชาติ ชรา มรณะก็หมดสิ้น จบตัวชาติ ไม่มีเกิดและไม่มีเสื่อม ชาติไม่เกิดชราก็ไม่มี ดับที่ชาติไม่เหลือชราหายไปด้วย ถ้าชาติยังมีอยู่ ชรามันก็ยังมี อย่างไรอย่างไรมันก็ต้องมีเสื่อมแล้วก็ค่อยๆสูญสลาย คุณจะเสื่อมได้เร็วเท่าไหร่มันก็ดี จะได้หมด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2564 ( 15:55:49 )

ดับตัณหาได้ อุปาทานก็ดับ จุดจบสำคัญคือคำว่า มี หรือ ไม่มี

รายละเอียด

อุปาทานคือสภาพ static ตัณหาคือสภาพไดนามิกเป็นคู่ เพราะฉะนั้น Dynamic หรือตัณหา เราก็ล้างตัณหาจน หยาบ กลาง ละเอียด มันก็หมด หากจะไปดับที่อุปาทานซึ่งมันไม่กระดุกกระดิก ตีไม่แตก แยกไม่ออก มันดับไม่ได้หรอก มันยาก เพราะฉะนั้นให้ดับตัณหานี่แหละไปเรื่อยๆจนกระทั่งก็เท่ากับดับอุปาทาน ดับความติดยึด มันก็ไม่ติด ไม่ยึด มันก็ไม่เสพ ไม่ติด ไม่ยึด ไม่มีรส สัมผัสแล้วก็สามัญปกติ 

เราต้องเทียบเคียงอารมณ์ที่เราสัมผัสกับสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้ว แล้วเราไม่ได้เสพ ไม่ได้ติดนะแต่เราทำงานร่วมกันเป็นคุณค่าเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติต่อใครต่อใครได้ แล้วเราก็ไม่ได้ติดใจ ไม่ได้เสพ ไม่ได้สุขอะไร แต่เรารู้คุณค่าว่าอันนี้มันเกิดอะไร มันเกิดการสร้างสรรมันเกิดการอาศัย มันเกิดประโยชน์ เกิดอะไรขึ้นมา จนเราได้ร่วมแรงร่วมมือ ได้กระทำร่วม ได้สร้างสรรร่วม เอาแต่แค่คิด มันก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นมาก คิดว่าวันนี้เราได้ไปช่วยกันหรือยัง ไปช่วยแล้วก็ตอบว่าได้ แต่คิดอยู่ในความคิดไปช่วยละ แล้วมันเป็นไหมนี่ มันเป็นกิเลสซ้อนด้วย คุณตีกินเอาอย่างนี้หรือ มันก็ต้องไปทำจริงแล้วเราก็อ่านในจิตด้วยว่าเราไม่ได้มีการยึดติดว่าเป็นเรา เป็นของเราอะไร มันก็จะเห็นความจริงว่าจิตเรานี้ไม่ได้มีตัว มีตนอะไร หยาบ กลาง ละเอียด มันก็ต้องมีตั้งแต่ โอฬาริกอัตตา มโนมยอัตตา อรูปอัตตา มีอัตตา 3 ไม่เหลือแม้กระทั่ง อรูปอัตตา อรูปไม่เหลือปล่อยวางว่างเฉย แต่สิ่งที่จริงมีเกิด 

เพราะฉะนั้นการหลงความหลอกที่เกิด ที่มี ที่เป็นนี่แหละ แล้วมันก็วางไม่ได้ ไม่ยึดว่าเป็นเรา ก็เรานั่นแหละ ดีไม่ดีเราไปสร้างเต็มมือเลย คนเดียวสร้างด้วย มันก็เป็นของเราสิ แต่จิตเราไม่ยึดว่าเป็นของเราแล้วจริงๆ คุณก็ต้องรู้ของคุณเอง จิตใจคุณปล่อย คุณวาง คุณว่าง คุณไม่มี พระพุทธเจ้าถึงใช้คำจบที่คำว่า มี หรือคำว่า ไม่มี อัตถิ หรือ นัตถิ หรือ โหติ กับ นโหติ พยัญชนะใช้ 2 คำนี้ในพระไตรปิฎกเล่ม 16 ข้อ 43 นี่คือจุดสำคัญจบอย่างนี้สบาย ธรรมะที่อธิบายไปแล้วคืออธิบายเรื่องเกิด อธิบายเรื่องดับหรืออธิบายเรื่องปล่อยวาง เรื่องหมดไม่มี เป็นสุดยอดของธรรมะแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความเป็นแม่ที่ให้กำเนิดโลกุตรจิต วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 8(2) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2566 ( 20:00:44 )

ดับทุกข์ดับสุข

รายละเอียด

คนไม่ศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าก็ไม่รู้ว่าต้องดับทั้งสุขและทุกข์ เขาจะดับแต่ทุกข์ แล้วเขาหลง เขาไม่รู้ว่าสุขทุกข์คือตัวเดียวกัน ศาสนาพุทธจึงแยกกันไม่ได้ ต้องดับทั้ง 2อย่างคือสุขและทุกข์ สมณะฟ้าไทว่า…ทุกข์คือสิ่งที่เจริญตาเจริญใจในโลกนั่นแหละ แสดงว่ามันคือสุขนั่นแหละ พ่อครูว่า…ต้องแยกนามแยกรูปให้ได้ แยกทุกข์แยกสุขให้ได้ แล้วทำกันให้ถูก จิตที่ถูกรู้คือกิเลสถูกทำลายไป ก็เหลือติด จิตสะอาดต้องรู้ให้ได้ว่าคือธาตุรู้ที่รู้ความจริงตามความเป็นจริง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31มกราคม 2563


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:15:42 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:07:54 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:01:18 )

ดับภพดับชาติ ดับนรกสวรรค์ จบกิจอยู่ตรงนี้ 

รายละเอียด

แม้ที่สุดมี “ปัญญา” รู้แจ้งรู้จบใน “เวทนา” ในความรู้สึก ถึงที่สุด ให้ที่มันไม่สุขไม่ทุกข์เพราะมันไม่มี “ตัณหา”ใน “เวทนา” มันไม่มีแล้ว หรือ ไม่มีอุปาทานในเวทนาเลย มันไม่มีแล้วความยึดมั่นถือมั่นมัน ไม่มีอาการอยาก อาการยึดมั่นถือมั่นเป็นอย่างไร คุณไม่มีแล้ว คุณก็สัมผัสกับสิ่งนั้นอยู่คุณก็สบาย กลางๆ เป็นอุเบกขาเฉยๆ อทุกขมสุข สบาย สบายๆ เรียกว่าสัปปายะ ไม่ใช่อบาย อบายแปลว่านรก 

แต่มันสบาย จบด้วยสบาย นี่คือดับอบายหรือดับนรก ที่ไปเรียนนรกสวรรค์แล้วก็เป็นวิมานภพชาติ อะไรต่ออะไร มันปฏิบัติไม่ได้สำเร็จหรอกอย่างนั้นน่ะ มาฟังอาตมาอธิบายเข้ามาหาตัวเอง  จัดการนี่แหละ คือวิทยาศาสตร์ทางจิต ดับภพดับชาติ ดับนรกสวรรค์ จบกิจอยู่ตรงนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เรื่องง่ายที่แสนยากของการเพาะพันธุ์จิตอรหันต์ วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 ธันวาคม 2565 ( 21:17:15 )

ดับมารร้ายชั้นฟ้าได้ คือคุณวิเศษยิ่งใหญ่มหาศาล!

รายละเอียด

“ดับทุกข์-ดับสุข”ได้บริบูรณ์​ หรือดับ“ภาวะ 2” ซึ่งก็คือ 

“ดับเทฺว”คู่สำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของ“วิญญาณ”นี้แหละ ที่เป็น“คุณวิเศษ”อันมี“ประสิทธิภาพ”เกินกว่าสามัญของคนโลกีย์หรือแม้แต่ของ“ศาสดาทางโลกีย์”หรือ“เทฺวนิยม”จะรู้จักรู้แจ้งรู้จริง เพราะ“เทฺวนิยม”ของโลกีย์ไม่ได้ศึกษา“เทฺว”หรือ“อัตตา”อันเป็น“ตัวตนของตน”  จึงไม่สามารถตีแตกแยกแยะความเป็น“เทฺว”อันคือ“ตัวตน(อัตตา)”หรือ“วิญญาณ”นี่เอง ซึ่งมีทั้ง“รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร”ประชุมกันอยู่เป็น“วิญญาณขันธ์”ได้

ก็ไม่สามารถรู้จักรู้แจ้งรู้จริงความเป็น“เวทนา”อันเป็น“ตัวธาตุแห่งความรู้สึกตัวแท้เอง”ในตนได้ จึงรู้จักรู้แจ้งรู้จริงที่เป็น“ความจริง”นี้ไม่ได้ ..เห็นชัดเจนดีขึ้นมั้ย?

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 337 หน้า 250


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 15:37:47 )

ดับสังขารโลกในปฏิจจสมุปบาทได้อย่างไร 

รายละเอียด

อาตมาตั้งใจว่าจะอธิบายเรื่องปฏิจจสมุปบาทให้ฟังดีๆในวันมาฆบูชานี้ ก็ลองฟัง เรื่องปฏิจจสมุปบาท 

ปฏิจจสมุปบาทเป็นความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ถ้าพระพุทธเจ้าไม่ตรัสรู้ไม่อุบัติความเป็นปฏิจจสมุปบาทไม่เกิด พระพุทธเจ้าตรัสรู้จึงมีปฏิจจสมุปบาทในโลกหรือมี อริยสัจ 4 เป็นห่วงโซ่ที่เป็นปัจจัยแก่กันและกัน เริ่มต้นด้วยอวิชชา แปลว่าไม่รู้ คนที่ไม่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง มันมีสภาวะของ 11 อย่างนี้แหละ เกิดอยู่ เริ่มต้นด้วยคุณอวิชชาเป็นอันแรกเลย เป็นความไม่รู้ ไม่รู้ในการปรุงแต่งเรียกว่าสังขาร ไม่รู้ในการปรุงแต่งของสรรพสิ่ง 

ความปรุงแต่งในสรรพสิ่งเริ่มต้น หยาบๆท่านเรียกว่ากายสังขาร ปรุงแต่งเป็นวจีสังขาร อยู่ในมโนสังขารหรือจิตสังขาร แต่ไม่รู้ว่ามันปรุงแต่งสังขารอยู่ คนเรียนรู้สังขารการปรุงแต่งแล้วสามารถมีโพชฌงค์ 7 มีสติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์แยกธรรมะ 2 ออก แยกกายแยกจิตแยกรูปแยกนาม แยกธรรมะ 2 แยกละเอียดไปถึงเวทนาในเวทนาเป็นต้น หรือแยกตัณหาออกจากเวทนาได้ แล้วก็รู้ว่า เวทนาก็เป็นสามัญของมนุษย์ที่มันมีตัณหาเป็นเจ้าเรือน มีตัณหาเป็นตัวที่เข้ามาปรุงแต่งสังขารปรุงแต่งจนกระทั่งกลายเป็นสังขารที่มี กาม กายสังขารที่มีปฏิฆะ แล้วก็เรียนรู้กิเลสกามกิเลสปฏิฆะ ล้างออกไปจนมันลดลง เหลือเป็นระดับกลาง ปลาย จนมันตายสิ้นเกลี้ยงได้ไม่เหลือเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาวันมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 15:14:01 )

ดับสุขดับทุกข์ด้วยปัญญาในปัจจุบันคือพระอรหันต์

รายละเอียด

 เกิดมาเป็นชีวะเป็นคน เป็นสัตว์ ตั้งแต่เซลล์เดียว จนเป็นปัจจุบันนี้ของทุกคน ถ้าคุณไม่สามารถที่จะดับความสุขความทุกข์ได้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ด้วยสามารถปัจจุบันนี้เลย แล้วก็ทำจนกระทั่ง ทุกอย่างที่จะมาสัมผัส เกี่ยวข้องกับเรา เราสามารถไม่ให้เกิดความทุกข์ความสุขได้ ทุกอย่างเลยเท่าที่คุณจะอยู่ในโลกนี้ กี่ชาติที่คุณต้องพิสูจน์ ที่จะมาเกี่ยวข้องกับเรา เราก็หมดความสุขความทุกข์ได้ คุณจึงจะชื่อว่าอรหันต์ หมดความสุขความทุกข์ที่อยู่กับโลกเขาสัมผัสกับตัวเราก็ไม่สุขไม่ทุกข์ได้ทุกสิ่งที่สัมผัสกับเรา อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 4 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2563 ( 13:10:53 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:31:07 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:00:23 )

ดับอวิชชาได้แล้วก็อยู่กับอภิสังขาร

รายละเอียด

แต่ในความเป็น 2 ที่สัมผัสกันนี่แหละ มันเลยเกิดสังขารเกิดเวทนา คุณก็ศึกษาสังขารนี้ ซึ่งมีเวทนาอยู่ในสังขาร ในเวทนามีเหตุ ตัวร้ายคือ ตัณหา อุปาทาน 

ตัณหาคือตัวกิเลสที่เคลื่อนที่ อุปาทานคือกิเลสที่เป็น static เป็นตัวนิ่ง  เมื่อคุณรู้เหตุตัวนี้ได้ คุณไม่สามารถทำให้กิเลสตัวนี้มันดับ มันก็เหลือเป็นภพ เป็นชาติ หมุนเวียนเป็นปฏิจจสมุปบาทอยู่ตลอดกาลนาน แต่ถ้าคุณดับ สามารถทำให้กิเลสหมดลงไปได้ ภพหมดชาติดับ คุณก็เต็มไปด้วย วิชชา รู้เท่าทันสังขาร รู้เท่าทันเวทนา ดับตัวโง่ อวิชชา ก็เลยรู้ว่าเพราะสังขารมันก็ปรุงแต่งกันมาตามเหตุปัจจัย ไม่โง่แล้ว ไม่อวิชชาแล้ว ก็อยู่กับอภิสังขาร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาถลกหนังพญานาคจอมหลับตา วันพุธที่ 26 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 22 พฤษภาคม 2565 ( 14:44:22 )

ดับอาสวะอนุสัยยังไม่ได้ไม่ได้ทำนิพพาน 3

รายละเอียด

สุญญตนิพพาน นิมิตนิพพาน อปนิหิตตนิพพานถ้าคุณตายรู้แล้วรู้จักทำศูนย์ไม่ตั้งจิต อปนิหิตต(จิต) ไม่ตั้งนิมิต(รูป) คนนี้ตายแล้วปรินิพพานเป็นปริโยสาน คนนี้ตายแล้วสูญจริง เพราะทำนิพพาน 3 นี้เป็น ถ้าคนที่ทำ 3 นิพพานนี้ไม่เป็น ก็ยังไม่เป็น ยังไม่สูญ คนธรรมดาตายแล้วก็ไม่อยากเกิดเยอะ แต่มันไม่สนหรอกเพราะคุณทำจิตในจิตของคุณยังไม่เป็น ทำจิตในจิตให้สูญจริงๆ ดับอาสวะอนุสัยยังไม่ได้ไม่ได้ทำนิพพาน 3 นี้ไม่มีทางศูนย์ อยากสูญก็ไม่มีทางศูนย์ เขาว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายจะเกิดอีกเป็นครั้งสุดท้ายแต่ว่าปากยังเคี้ยวหมากอยู่ ยังติดหมากอยู่ไม่มีทางทำได้หรอก ผู้ที่หลงอรหันต์กินหมากไม่ขาดปาก แค่สิ่งเสพติดแค่ตื้นแค่นี้ ยังติดหมากเหมือนติดเหล้าติดเบียร์ยังตื้นๆอยู่ มันไม่ใช่สิ่งละเอียดลออเลยสิ่งเสพติดพวกนี้

คุณคนนี้ถามมา ..คุณต้องมีความรู้ 3 อย่างนี้แล้วทำจิตตัวเองได้เป็น นิพพานทั้ง 3 อย่างนี้ อรหันต์จะรู้จิตตั้งจิตต่อได้ แม้คุณไม่อยากเกิดไม่ตั้งจิตเกิด แต่กิเลสยังมีมันก็จะเกิดมาอีก อย่างมหาบัวนี้ ไม่อยากเกิดมันก็ต้องเกิดอีก ขออภัยที่ต้องยกตัวอย่าง เพราะมันเป็นปรากฏการณ์จริงในเมืองไทยที่ต้องเรียนรู้กัน จะช้านานกว่าอาจารย์มั่น ยกมหาบัวก็ชัดกว่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:02:02 )

ดับเทวะ ทำภาวะ2 ให้เป็น 0 ต้องมีปัญญา 8

รายละเอียด

ปัญญา 8 นี้

ข้อ 1 ต้องได้ยินจากพระโอษฐ์หรือได้ยินจากผู้อยู่ในฐานะครู ได้ยินอย่างไม่ปิดบังไม่ลึกลับเปิดเผยเลยจากพระโอษฐ์ให้เข้าหู สัตบุรุษก็มีตัว จริง เพราะฉะนั้นพวกคุณยอมรับว่าอาตมาเป็นสัตบุรุษพวกคุณก็ได้ คนที่เขาไม่เชื่อว่าอาตมาเป็นสัตบุรุษ เขาก็ไปเชื่ออะไรลึกลับของเขา ขัดแย้งกับที่อาตมาพูดด้วยเขาก็ยังงมงายอยู่กับที่เขาเชื่อ มาพูดเขาก็ไม่เชื่อ เพราะมันขัดแย้งกับที่เขาเชื่อ ก็จะงมโข่งอยู่อย่างนั้นภูมิธรรมของคนเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นไป 

เพราะฉะนั้นผู้รู้ที่อาตมาขยายความว่า ถ้าจะดับเทวะเป็น 2 ให้เป็น 1 ก็ได้ อาศัยไม่มี 2 ได้ จะให้ถาวรก็ดับทั้งสองเลยทั้ง 2 และ 1 นี่ออกภาษาตัวเลขอธิบาย ความจริง 

และ“การดับเทฺว”นี้ ผู้ยังไม่มี“ปัญญา”รู้จักรู้แจ้งรู้จริงในความเป็น“เทฺว” ยังหลงยึดมั่นถือมั่นว่า “เทฺว”เป็น “อัตตา”เป็นตัวตนของตนเอง ซ้ำมิหนำก็จะหลงผิดว่า “ผู้ดับเทฺว”นั้นไปละลาบละล้วงความเป็น“เทฺว”ที่เขาหลงยึด ทั้งที่ยึดว่า เป็น“พระเจ้า”ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครไป“ดับท่านได้” ทั้งที่หลงยึดมั่นถือมั่นว่า “เทฺว”เป็น“ตัวตนของตน(อัตตา)นิรันดร  ไม่มีสูญหายไปจากกาลเป็นเด็ดขาด

จึงไม่สามารถจะรู้จักรู้แจ้งรู้จริงเรื่อง“กรรม” เรื่อง “วิบาก”อย่างถ่องแท้แยบคายบริบูรณ์ได้เลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 2

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2565 แรม 15 ค่ำเดือน 4 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2565 ( 14:20:07 )

ดับเหตุ ทุกอย่างดับ

รายละเอียด

ผู้ทำดับได้ แล้วก็ต้องรู้ว่าดับคืออะไร คือนิโรธ ดับ ถ้าจะดับ นิโรธ คุณอย่าไปดับตัวนิโรธ พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ดับตัวอื่น แต่ให้ดับตัวเหตุสำคัญ แล้วมันจะตาย ไม่มีเหตุปัจจัยมันก็สูญ ท่านให้ดับเหตุ ดับเหตุ ทุกอย่างดับ เหตุนี่มันไม่ใช่ตัวตรงเป็นอีกอันหนึ่ง แต่ไม่แยกกัน เหตุไม่แยกจากผล พระพุทธเจ้าฉลาดจะฆ่าคุณแต่ไม่ฆ่าคุณหรอก แต่ไปฆ่าชีวิตินทรีย์ พอชีวิตทรีย์คุณหายตายไปคุณก็ไม่เหลือแล้ว ตัดเสบียงอาหาร มันจึงเหลือสิ่งที่เหลือ สิ่งที่ร้ายหมดไป เมื่อคุณเกิดเป็นมนุสโส คือผู้มีจิตสูง จิตดี มีมาร เทวดา มนุษย์ หรือพรหม มนุษย์คือมีเทวะที่สูง แต่มารคือมีเทวะที่ต่ำ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 15:18:03 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:04:26 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:59:58 )

ดับเหตุที่จิตได้อย่างไร

รายละเอียด

จากเกิดมาเป็นจิต เหตุที่ทำให้เกิดมาเป็นจิต จึงมีทุกข์มีสุข เหตุเกิดให้ไม่เป็นจิต ดับเหตุที่เป็นจิตได้ อ๋อ.. เป็นชีวะที่ไม่สุขไม่ทุกข์ เป็นชีวะที่เป็นแต่คุณไม่เป็นโทษ แต่ตัวโทษมันก็เป็นอยู่บ้างสำหรับคนไม่รู้ เช่นพืชที่มันมีปรุงแต่งกันด้วยธาตุที่มันแรงร้าย เรียกว่า เป็นพิษ มันก็มี 

และดินน้ำไฟลมพืชพันธุ์ธัญญาหารถึงสัตว์ มันอาศัยซึ่งกันและกัน เอามาปรุงแต่งกันเรียกว่ากิน เรียกว่าดูดเอาธาตุมาปรุงแต่งสังขาร ดินน้ำไฟลมมันก็ดูดเอามาได้ประมาณนึง เป็นพืชก็เอามารวมตัวกันสังขารได้ประมาณนึง เป็นสัตว์ก็ได้ประมาณหนึ่งอย่างหนึ่ง ก็รู้ว่าจะทำสังขารให้อยู่ในฐานะที่ดีที่สุดให้ได้ ก็แยกจิตแยกพืช แยกอุตุดินน้ำไฟลม เมื่อมันเกิดมาแล้ว มันก็จะต้องอยู่ ก็อยู่ให้ดีที่สุด อยู่ให้สุขที่สุด หรืออยู่ให้สงบที่สุด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

พระอรหันต์เป็นผู้มีความรู้เรื่องอาหารดีกว่าคนโลกีย์


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 15:54:01 )

ดับเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ได้อย่างไร

รายละเอียด

ก็จับประเด็นสำคัญก็คือ ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป เพราะฉะนั้นดับทุกข์ก็ดับตรงไหน ดับเหตุคือความโง่ ดับเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ไม่ใช่ไปดับทุกข์เฉยๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 14:41:55 )

ดับเหตุเสียได้ทุกอย่างก็ดับ

รายละเอียด

ก็ถ้าอาตมาจะสนองคำที่คุณพูดมาอีกว่าถูกต้องจริงๆ ถ้าไม่มีอาตมาแล้ว คนจะพ้นทุกข์อาริยสัจ ตามที่พระพุทธเจ้าสอนต้องมีคำว่าอาริยสัจ คือทุกข์ที่เป็นสัจจะของคนฉลาด คนที่มีปฏิภาณปัญญาแท้จริงเป็นอาริยะ คนประเสริฐจริงๆ คนไม่ประเสริฐจริง ประเสริฐเก๊ ประเสริฐลำลองมีเยอะ คนประเสริฐจริง มีสัจจะอาริยะนั้นจะพ้นทุกข์จริง จะมีทุกข์ จะรู้จักทุกข์ที่จริงๆเกิดจากเหตุปัจจัยอย่างโน้นอย่างนี้ ดับเหตุเสียได้ทุกอย่างก็ดับ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เป็นคำสั้นๆง่ายๆอย่างนี้เราได้ยินมากันทั้งนั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ชนะมารอย่างไร้สารพิษ สุจริตแท้ ด้วยพหุงฯ8 วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2566 ( 13:02:20 )

ดับเหตุแห่งทุกข์ความสุขก็ดับด้วยเพราะเหตุใด

รายละเอียด

ขอยืนยันเรื่องนี้ถ้าอาตมาไม่พูดขึ้น ก็จะเป็นอย่างที่ สู่แดนธรรมพูด ไม่ว่าอาจารย์สำนักไหนเขาจะไม่รู้ว่าความสุขกับความทุกข์มันเป็นอันเดียวกัน ความสุขมันเป็นมายาของความทุกข์เท่านั้นเอง มันเป็นตัวหลอก ที่จริง สุข ทุกข์ มันตัวเดียวกัน คุณจะดับความสุข ความทุกข์มันก็หาย แต่จะไปดับความสุขมันยาก พระพุทธเจ้าไม่ไปทำสิ่งที่ยากก่อน แต่เอาสิ่งที่เป็นไปได้และง่ายกว่า ก็คือเรียนรู้อาการของความทุกข์ แล้วตามเหตุแห่งทุกข์แล้วดับมัน เมื่อดับเหตุแห่งทุกข์ความสุขมันก็ดับไปด้วย เพราะมันเป็นอันเดียวกัน ความสุขมันเป็นมายาเท่านั้น 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 14:54:49 )

ดับเหตุให้ดับตลอดกาล

รายละเอียด

เพราะผู้ที่ไม่รู้จักกรรมวิบาก ไม่รู้จักการเกิดการตาย การเวียนเกิดเวียนตาย แล้วมีเหตุมีปัจจัยของกรรมของวิบากปรุงแต่งกันอยู่ ท่านก็รู้ว่า อ๋อ.. จิตวิญญาณนี้มันลึกซึ้งละเอียดมันยึดถือยึดติดอะไรมาปรุงแต่งกัน แยกเป็นดีกับชั่ว แยกเป็นเกิดกับดับ อ้อ.. ดีชั่ว เป็นสมมุติในโลก แต่เกิดดับนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าทำอย่างนี้ก็เกิดอยู่ ถ้าทำอย่างนี้ก็ดับ ดับได้นานจนกระทั่งลืม แต่ไม่ดับเหตุให้ดับตลอดกาล พระพุทธเจ้าตรัสรู้อันนี้ อ๋อ.. ดับเหตุให้มันดับตลอดกาลเลย ท่านก็แยกเทวะนี้ออกได้เลย ดับเหตุที่ไม่ให้เกิด 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

ดีชั่วเป็นสมมุติ สุขทุกข์เป็นปรมัตถ์


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 15:52:02 )

ดับเหตุได้จบเทวะไม่สุขไม่ทุกข์ 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นผู้ที่จะมีความฉลาดพอ เห็นความแตกต่างของคำว่า กุศลกับอกุศล กับเห็นความต่างของคำว่า บาปกับบุญ ได้ 

บาปบุญเป็นความสามารถที่รู้เหตุที่ให้เกิดบาปให้เกิดอกุศล แล้วสามารถดับเหตุ กำจัดเหตุที่ให้ทำชั่วด้วย จนไม่มีเหตุให้ทำชั่วมีแต่ทำแต่ดีได้ จนกระทั่งถึงเหตุทำให้เกิดเวทนาทุกข์เวทนาสุข ก็สามารถเรียนรู้ความจริงถึงขั้นรู้เหตุที่ทำให้โง่ หลงในอารมณ์สุขอารมณ์ทุกข์นี่เอง ก็เลิกดับเหตุได้ ก็จบเทวะ ดับเหตุนั้นได้ก็เหลือแต่แค่ว่าไม่สุขไม่ทุกข์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

พระอรหันต์เป็นผู้มีความรู้เรื่องอาหารดีกว่าคนโลกีย์


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 15:59:53 )

ดับโลกของความวนได้คือไม่เกิดไม่ตาย

รายละเอียด

ความมีคือความวน โลกคือความวน ก็เลยเกิดความไม่มีของความวนแล้ว ความมีในโลกย่อมไม่มีความวนในโลก ย่อมไม่มีเรียกว่าดับโลก โดยโวหารเรียกดับโลก คนนี้ดับโลกได้ ดับความวนได้ ดับอะไร ดับควมเกิด เกิดแล้วก็ตายตายแล้วก็เกิดเป็นโลก พระพุทธเจ้าดับความวน เกิดแล้วก็ตาย ตายแล้วก็เกิด ก็เป็นไม่เกิดไม่ตาย นี่คือความสามารถความรู้ที่ยอดของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ชาติ 5 โดยพิสดาร วันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 เมษายน 2564 ( 14:01:42 )

ดับโลกหมดโลกทั้ง 4

รายละเอียด

คือ ไม่หมุนเวียน ไม่หมุนไปกับโลกไหน  เมื่อพ้นมาตั้งแต่โลกอบาย โลกกามคุณ  โลกธรรม  โลกอัตตา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 22:16:37 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:04:54 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:59:19 )

ดับไม่รับรู้แล้วบอกว่าจบ

รายละเอียด

แม้ตัวแรกก็มีศีลเป็นตัวตั้ง คุณก็ไม่เอา ทิ้งไปเลยศีล ไปหลับตาปฏิบัติแล้วศีลจะบริสุทธิ์เอง เก่งเกินพระพุทธเจ้า ไม่ลืมตามีข้อ 1 2 3 เลย ข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ สัตว์มันก็อยู่ส่วนสัตว์ เราก็หลับตาไป ศีลข้อที่ 2 เกี่ยวกับของกับพืช เราจะไปยุ่งกับมันทำไม เราก็หลับตา ถึงเวลาก็ตื่นมากิน กินมังสวิรัติด้วยนะ กินพืชด้วย ไม่กินสัตว์ด้วย อะไรอย่างนี้ คือแหม มันเลี่ยงไปหมด ยิ่ง ตาหูจมูกลิ้นกาย รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสก็ไม่มีแล้ว ปิดตา ดับหู จมูกไม่เกี่ยว ดับแล้วจบแล้ว มันดับเอาง่ายๆอย่างนี้เหรอ ดับไม่รับรู้แล้วบอกว่าจบ เขาเข้าใจอย่างนั้นยึดถืออย่างนั้นจึงพูดกัน เมื่อไหร่จะคลายความยึดมั่นถือมั่นอย่างนี้สักทีนะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูม เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 15:10:01 )

ดาบอาญาสิทธิ์ให้หมู่ยึดไปหมดแล้ว

รายละเอียด

ตกลงผมก็จะบอกที่นี้ว่า ใครมาขอก็หยุด จบ ไปที่หมู่ อย่ามาที่อาตมา อาตมาเลิกแล้ว อาตมาไม่มีดาบอาญาสิทธิ์ ดาบอาญาสิทธิ์ให้หมู่ยึดไปหมดแล้ว

ให้เขาเชื่อมั่นหมู่ เอางั้นเลย เป็นปัญหาเหลือเกิน

ที่มา ที่ไป

610613 ความสามัคคีคือความขัดแย้งอันพอเหมาะ(พ่อครูมอบดาบอาญาสิทธิ์ให้หมู่) วันที่ 13 มิถุนายน 2561 สื่อธรรมะพ่อครู(อัตตา) ตอน สามัคคีคือขัดแย้งอันพอเหมาะ 


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:07:46 )

ดาราเป็นดาวแสง คนมีออร่า

รายละเอียด

ต้องรู้ว่าดาราเป็นดาวแสง ดาวที่มีแสงในตัวเองเรียกว่าดาวฤกษ์ ดาวที่รับแสงจากดาวฤกษ์เรียกว่าดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์ดวงใดมีแสงมาก ดาวเคราะห์ดวงน้อยมีแสงน้อยก็ว่ากันไป ไปเรียกตามสมมุติ ตามรูปธรรม ตามสิ่งที่เป็นจริง ไม่ใช่ชีวะไม่ใช่ชีวิต เมื่อเทียบกับคน คนมีออร่า มีรังสีมีแสง แสงแห่งนามธรรม แสงแห่งคุณธรรม แสงแห่งจิตวิญญาณ เอาศัพท์คำว่าแสงมาเรียก เป็นพลังงานมีรังสีที่เปล่งออกมาได้ มันเป็นจริง มาศึกษาให้ดีเราจะได้รู้จัก ดาราก็ตาม นักร้องก็ตาม

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 12:00:24 )

ดาวดวงใดไม่มีสัตว์ที่เจริญขึ้นเป็นคน ดวงดาวนั้นจะไม่มีภูมิพูดกันได้

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าเป็นคนเหมือนเรา ท่านได้ตามศึกษาค้นคว้าความรู้ที่สุดยอดเท่าที่คนจะมีได้ ไม่รู้กี่ล้านชาติ สั่งสมกรรมวิบาก เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด ศึกษาตามองค์ความรู้นี้ จนรู้เลยสรุปสุดยอด รู้แล้ว เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้แล้ว ว่าสุดยอดในความรู้คืออะไร คือเรื่องกายกับจิต และกายกับจิตมันแตกเหตุปัจจัย สังขารปรุงแต่งกันไป จนกระจายลงไปเป็นโลกทั้งโลก เช่น ดวงดาวดวงใดยังไม่มีสัตว์ โดยเฉพาะยังไม่มีคน ก็คือดวงดาวนั้นไม่ต้องพูดอะไร จนกว่าจะเป็นดวงดาวดวงใดที่มีสัตว์เจริญขึ้นเป็นคน ในดาวดวงนั้น จึงจะมีภูมิทางจิตวิญญาณที่พูดกันได้ กระนั้นก็ยังมีกรอบของ โลกุตระกับโลกียะ นี่แหละเป็นสุดยอดที่พระพุทธเจ้าท่านค้นพบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ กษัตริย์คือจิตประชาชนคือกายของประเทศ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กันยายน 2565 ( 14:49:56 )

ดาวดึงส์

รายละเอียด

อาการ 33

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 247


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 12:11:10 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:22:06 )

ดาวดึงส์

รายละเอียด

คือเป็นภพเก๊ หรือชาติเก๊ ไม่ไช่ ภพ – ชาติ ที่เกิดมา อาการ อันเป็นอาการจริงแท้ของมนุษย์ คือ อาการ 32 มันเป็นอาการเกินกว่า อาการ 32 ( ทวัตติงสาการ) ของมนุษย์มนาจริงๆ   มันเป็นรสของอุปาทาน พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า สุขัลลิกะ ที่แปลว่าสุข เท็จ (สุข+อลิกะ) ก็คือเท็จ แปลว่าเท็จ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 11:21:20 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 16:12:07 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:55:57 )

ดาวดึงส์

รายละเอียด

“ดาวดึงส์”นั้นเป็น“ภพเก๊”หรือ“ชาติเก๊” ไม่ใช่“ภพ-ชาติ”ที่เกิดจาก“อาการ”อันเป็นอาการจริงแท้ของมนุษย์คือ อาการ 32 มันเป็น“อาการ”เกินกว่า“อาการ 32” (ทวัตติงสาการ)ของมนุษย์มนาจริงๆ มันเป็น“รส”ของ“อุปาทาน” พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า“สุขัลลิกะ” ที่แปลว่า “สุขเท็จ”(สุข+อลิกะ)ซึ่ง“อลิกะ”ก็คือเท็จแปลว่า“เท็จ”

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 13:51:37 )

ดาวหาง

รายละเอียด

คือคาวเคราะห์นั้นจะมีกี่ดวงก็แล้วแต่  จะมีวงโคจรของตัวเอง ซ้อนอยู่ในกาแล็กซี่ต่างๆ  วิ่งไปไม่เป็นวงกลม เป็นวงรี แหกคอกจะไม่เข้าวง โคจรของใคร จนตัวเองจะสลายไป  ถ้าไม่สลายตัวเองไปก็ต้องเข้ากับหมู่ดาวเคราะห์ใดวงโคจรในวงโคจรใดหนึ่งๆ  เรื่องนี้เป็นเรื่องของดาราศาสตร์  เป็นเรื่องของวัตถุ  สมณะโพธิรักษ์จะเปรียบเทียบทางวัตถุกันเรื่องนามธรรมยังไม่เก่ง ก็ขอผ่าน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:30:26 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:17:07 )

ดาวหาง

รายละเอียด

นี่ก็ไม่เข้ากับหมู่ไหน มีวงโคจรของตัวเองซ้อนอยู่ในกาแล็กซีต่างๆ วิ่งไปไม่เป็นวงกลมเป็นวงรี แหกคอก จะไม่เข้าวงโคจรของใครจนตัวเองจะสลายไป ถ้าไม่สลายตัวเองไปก็ต้องเข้ากับหมู่ดาวเคราะห์ใดวงโคจรในวงโคจรใดหนึ่งๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของดาราศาสตร์เป็นเรื่องของวัตถุ อาตมาจะเปรียบเทียบทางวัตถุกับเรื่องนามธรรมยังไม่เก่งก็ขอผ่าน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 10:05:14 )

ดาวเคราะห์

รายละเอียด

คือดาวเคราะห์นั้นจะมีกี่ดวงก็แล้วแต่  จะมีวงโคจรอยู่กันอย่างเป็นระบบ  ดาวเคราะห์ จะรวมตัวกันอย่างน้อย 9ดวง เต็ม รูป ภาพ  อย่าง 3  ดวง 6ดวง ไม่ถือวาเป็นระบบดาวเคราะห์ ถ้าเป็นดาวเคราะห์จะรวมกันอย่างน้อย  3 3 3  เป็นวงจรของดวงดาวกลุ่มหนึ่ง  ที่มากกว่าดาวเคราะห์ก็เป็น  กาเล็กซี่  เป็นจักรวาลน้อย  จักรวาลใหญ่ ซ้อม  3  9 ไปอีกหลายชั้น

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:29:31 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:25:04 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:54:30 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์