คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี
เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit
วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5
วีดีโอ Loom 1 : https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044
วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk
รายละเอียด
ความไม่เที่ยง คือ ในสามอาชีพกู้ชาติที่สมณะโพธิรักษ์ได้สอนไว้ กสิกรรมธรรมชาติตอนนี้เห็นผลไหม ธรรมชาติ(น้ำท่วม) เล่นงานกสิกรรมกลายเป็นขยะไปหมด ขนตอนนี้ยังไม่หมดเลย เห็นความไม่เที่ยง กสิกรรมออกดอกผลใบอย่างนี้ กลายเป็นขยะให้เราหนักเต็มไปหมดเลย นี่ยังกู้ไม่เสร็จเลย สิ่งเหล่านี้ทั้งรูปทั้งนาม
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม2562
เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 13:47:15 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:13:38 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:53:40 )
รายละเอียด
หากคุณกระทบสัมผัสอยู่ก็รู้เท่าที่มันกระทบสัมผัสและคุณก็จะรู้ ยาวไปเป็นชั่วโมงจะบ้าหรือ มันไม่เที่ยงอยู่แล้วมันก็เปลี่ยนไป จะเห็นได้ว่ามันไม่เที่ยงหรอก มันเป็นธาตุรู้เป็นสัญญากำหนดใหม่ให้เรารู้ รู้ทางตาหูจมูกลิ้นกาย ก็ให้เรารู้ ว่าในโลกนี้ เรามีสิ่งที่มี แล้วสิ่งที่มีเป็นโลกสมุทัยยังมีกิเลสอยู่ หรือเป็นโลกนิโรธ โลกที่ดับกิเลสหมดแล้ว
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31มกราคม 2563
เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:16:48 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:14:49 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:52:52 )
รายละเอียด
ทุกวินาที ทุกการเดินทางของ กาละ กาละนี้ ปึ๊บๆๆ มันไม่ได้หยุด เพราะฉะนั้นความต่างความไม่เที่ยง ความไม่คงที่ มันมีอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก มันมีอยู่ทุกการเคลื่อนที่ของมหาจักรวาล การเคลื่อนที่ของโลก การเคลื่อนที่ของเวลา เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงสรุปได้ว่า ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง ไม่คงที่ ไม่ว่ารูปและนาม นี่ยิ่งใหญ่มาก อันนี้ยิ่งใหญ่มาก
เวลา คือ อรูป อาการของจิต เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มันเป็นอาการของ นาม อาการและนิมิต มันก็ใช้พยัญชนะ สื่อสภาวธรรมแต่ละอย่าง ใช่ๆเหมือนกัน มันต้องมีลักษณะนั้นชี้บ่งหมาย เราจับนิมิต จับอาการได้
สรุปความคือเป็นวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่หยิบยกมาพูดกันแล้วใช้ปัญญาไตร่ตรองตามที่ตามสัมผัสและรู้กันได้เอามาขยายความกันได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาการ ลิงค นิมิต อุเทส ของ นาม 5 รูป 28 วันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2565 บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2565 ( 14:27:28 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 05 เมษายน 2563 ( 12:03:03 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:44:29 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:54:18 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้น ประเทศไทยมาถึงวันนี้ ได้พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ การบริหารซับซ้อน ลึกซึ้งๆๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ เพื่อที่จะบริหารประเทศไทยอย่างประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มาถึงวันนี้ มีรูปแบบที่สงบ ตั้งแต่รุ่น พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มา พยายามทำให้สำเร็จได้จากลัทธิ ลัทธิของ จะเรียกว่าแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์กับคอมมิวนิสต์
เปลี่ยนจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นคอมมิวนิสต์ โดยคอมมิวนิสต์เขาเข้าใจว่าของเขาเป็นประชาธิปไตย แต่เขาไม่รู้สึกตัว คือเขาจะเอามาให้แก่ประชาชนให้มาก แต่เขาจะต้องใช้อำนาจของหมู่กลุ่ม เป็นผู้บริหาร คอมมิวนิสต์คือการบริหารด้วยหมู่กลุ่ม ไม่ใช่ให้เผด็จการคนเดียว คอมมิวนิสต์นี่ บอกว่า เอาความคิด ลดตัวตนมาเป็นกลุ่มหมู่ตัวตน คณาธิปไตย คอมมิวนิสต์นั่นแหละคือคณาธิปไตย เขาพยายามจะทำอย่างนั้น มันก็ไม่จบ เพราะฉะนั้นทุกวันนี้ก็แก้เป็นลัทธิแก้ จนกระทั่งมาลงตัว ที่พอไปได้คือ จีนขณะนี้ รัสเซียเขาก็ต้องเบ่งอำนาจด้วยอาวุธ คอมมิวนิสต์รัสเซีย ยิ่งเกาหลีเหนือยิ่งเอาอาวุธเป็นหลักเลย อำนาจเป็นใหญ่เลยเห็นได้ชัด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศนา บำเพ็ญธรรมภาคค่ำ ว.บบบ. เตรียมงานตลาดอาริยะปีใหม่ 2566 วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 06 มกราคม 2566 ( 12:34:38 )
รายละเอียด
ที่จีนก็เห็นใจเขา เขามีเยอะก็เลยต้องใช้พลังงานลักษณะอย่างนั้นเป็นคอมมิวนิสต์คือก็ยังไม่เป็นการอิสระเสรีภาพสมบูรณ์เหมือนประชาธิปไตยแท้แบบไทย นี่เป็นความซ้อนลึกซึ้ง คอมมิวนิสต์สู้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบไม่ได้ ยิ่งเผด็จการยิ่งไม่อาจเทียบ หรือแม้คอมมิวนิสต์เป็นคณะเผด็จการหมู่ ก็ยังดีกว่าเผด็จการแบบคนเดียว บงง
แต่ซ้อนในประชาธิปไตยนั้นผู้ที่สูงส่งจริงๆท่านจะไม่เผด็จการ แต่ท่านรู้ท่านเข้าใจจริงๆเลย ท่านพูดไปแล้วคนอื่นก็เอาตามท่านไปเลย เป็นผู้ที่คนให้ความเชื่อถือเชื่อมั่น ท่านไม่บังคับใคร ท่านปล่อยอิสระเลยเอาตามก็เอาไม่เอาตามก็แล้วไป คนนี้สุดยอดไม่บังคับใคร ไม่ข่มใครเลย เห็นไหม เป็นภาวะสิริมหามายาที่ซับซ้อนสองรวมเป็นหนึ่ง
ผู้ที่ไม่ถูกกดข่มก็จะให้ผู้นี้เลย มากดเถอะ อยากให้กด เพราะเชื่อจริงๆว่าท่านบริสุทธิ์สะอาดสุดยอดเรายิ่งไม่เอาเขายิ่งให้
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 13:07:47 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:16:59 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:55:06 )
รายละเอียด
คอมมิวนิสต์เป็นลักษณะบังคับให้เอามาเสียให้มากแล้วพยายามตรวจสอบใครมีรายได้มากกว่าก็จะต้องมีอัตราการเสียภาษีให้มากกว่า อย่าไปเอาเปรียบระดับล่างมากนัก แต่คนฉลาดแกมโกงก็หาวิธีการซับซ้อนสร้างค่ายกลเครือแห สร้างบริษัทไม่รู้กี่ร้อยบริษัทของเขาที่เขาทำมันก็ได้อย่างที่เขาเป็นตัวอย่างกันพวกนายทุนหรือทุนนิยมสามานย์พวกนี้ เขาก็ทำซับซ้อนซ่อนคม ซ่อนเหลี่ยมคู ไม่ให้คนอื่นรู้ทัน แต่เขาได้มาก ด้วยความขี้โลภไม่เคยมีที่สิ้นสุด ใจเขาไม่พอ ใจเขาต้องมากๆๆเขาไม่กล้าที่จะลดน้อยลง เพราะใจเขามีความเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวอย่างแท้จริง พวกนายทุนพวกนี้ให้ตายอย่างไรเขาก็ไม่มีทาง นอกจากมาทำทีเสียสละเพื่อจะตกเอากุ้งฝอยมาตกปลากระพงเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง มันไม่จริงหรอก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติปรากฏได้ในยุคโควิด วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:37:19 )
รายละเอียด
แต่คอมมูนยังต่ำกว่าประชาธิปไตยเพราะว่ายังมีคณะบริหารบงการใช้อำนาจบาตรใหญ่กว่าประชาธิปไตยและประชาธิปไตยนะอิสระเสรีภาพกว่า แต่ของคอมมิวนิสต์ยังเอาอำนาจไว้ในหมู่กลุ่มต้องเป็นอำนาจบาตรใหญ่ของหมู่กลุ่ม อำนาจบาตรใหญ่นี้ตั้งแต่ผู้คนที่บงการฆ่าได้และต้องมีคณะช่วยคณะร่วมมือกันเลย คณะเล็กเท่าไหร่ก็ยิ่งเจริญถ้าเป็นคณะใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งไม่เจริญ ใหญ่มากๆแล้วไม่มีอำนาจเลย ใหญ่มากๆจะมีการชิงอำนาจกันจะเป็นสภาพซ้อนเพราะฉะนั้นก็ต้องมีที่ไว้ใจกันแล้วก็นับถือกันยอมกันอยู่ ถ้าไม่ยอมกันเลยนี่นะจะแย่งชิงกันเป็นหนึ่งเลย แต่ถ้ายอมกันก็อยู่กันได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก
เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:42:47 )
รายละเอียด
อาตมาพูดอย่างนี้หมายความว่า คอมมิวนิสต์ก็ตามประชาธิปไตยก็ตาม จุดหมายใหญ่เขาต้องการให้ส่วนกลางนี้ มีเงินทองทรัพย์ศฤงคารมากที่สุด เป็นวิธีการของเศรษฐศาสตร์ เขาจะต้องให้คนที่เป็นประชากรเสียภาษีเข้าไปส่วนกลางมากที่สุด ตั้งแต่คนรายได้น้อยไปถึงคนรายได้มาก แต่ที่ควรก็คือให้คนรายได้มากเสียภาษีมาก คนรายได้น้อยก็เสียภาษีน้อยตามที่ถูกต้องควรเป็นอย่างนั้น สรุปแล้วให้คนเสียภาษีรวมให้แก่กองกลางมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติปรากฏได้ในยุคโควิด วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:35:20 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2563 ( 09:58:36 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:46:04 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:55:41 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์2563
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2563 ( 09:56:45 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:47:31 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:56:20 )
รายละเอียด
ผู้มี “ปัญญา” เท่านั้น จะเจาะกระเปาะไข่ของอวิชชาออกมาได้ หัวเจาะของปัญญาคือ สาราณียะ ปิยกรณะ ครุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ คอมมูนิสต์คือเปลือกไข่ ปัญญาคือหัวเจาะ
ดังนั้น ผู้สามารถทำพุทธพจน์ 7 นั้นให้เกิดจริงเป็นจริงได้สำเร็จ ก็คือ ผู้มี “ปัญญา” เท่านั้น จะเจาะกระเปาะไข่ของอวิชชาออกมาได้ ....
ทำไมเปลือกไข่เป็นคอมมิวนิสต์ เพราะคอมมิวนิสต์นั้นบังคับ ยังมีตัวตน แต่ประชาธิปไตยนั้นมีความเป็นอิสรเสรีภาพสมบูรณ์ ถึงยิ่งใหญ่มาก ไม่ใช่ธรรมดา สหรัฐอเมริกาพยายามเข้าใจแต่ไม่เข้าใจหรอก เพราะเขาไม่ได้เรียนรู้จิต เจตสิก รูป นิพพาน ไม่ได้เรียนรู้ถึงจิต แม้แต่ว่าเป็นจิตที่ต้องเป็นทาสพระเจ้า เขาก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นทาสพระเจ้า เป็นทาสผู้ปล่อยไม่ไป เป็นทาสผู้ไม่เคยมีอิสรเสรีภาพเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 แบบ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2564 ( 05:24:06 )
รายละเอียด
แต่ทุกวันนี้ปฏิวัติแล้วทำงานต่อมา ยังมีผู้ที่เห็นร่วมด้วย ยังมีมวลปริมาณที่เรียกว่า ก็คอยดู เลือกตั้งคราวนี้ก็ไม่นานหรอก ดูสิว่า 1 นายกตู่จะลงสมัครเลือกตั้งหรือไม่ 2 นายกตู่ไม่ลงสมัครเลือกตั้งแต่จะได้เป็นนายกคนนอกหรือไม่ อันนี้ตัดสินใจด้วยนายกตัวเอง ว่าจะลงพรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่ ที่จริงอาตมาไม่รู้นะว่ากฎหมายเลือกตั้งนี้ สมัครอิสระได้หรือไม่ ไม่มีพรรคไม่ได้ใช่ไหม แต่มันมีกฎหมายนายกคนนอกอยู่ แม้ไม่ได้ลงเลือกตั้งแต่ก็เป็นนายกได้ เพราะฉะนั้น จะได้เป็นหรือไม่ได้เป็น โปรดติดตามอย่ากระพริบตา อาตมาขอยกให้เชียร์นายกตู่ ไม่ลงสมัครแข่ง บอกไว้ก่อน เพราะอาตมาแก่กว่ากำลังสู้ไม่ได้ องค์ประกอบต่างๆสู้ไม่ได้ รูปรู้สึกหล่อไม่เท่านะ รวยไม่เท่า ไม่มีทรัพย์สินในแบงค์เลยสักบาท มีแต่ทรัพย์สินส่วนกลางเขาจะให้ใช้หรือไม่ใช้ ก็แล้วแต่ ตกลงตอนนี้ เราก็ดูตามกฎเกณฑ์ของประเทศชาติว่าใครเหมาะสม ตอนนี้อาตมาก็ว่านายกประยุทธ์ จันทร์โอชาเหมาะสมที่จะเป็นนายกต่อไป และกำหนดยังไม่ได้เลย ยาวไปเลย เสื่อมทรุดเมื่อไหร่ อาตมาก็จะให้สัญญาณ
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2561
เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:19:05 )
รายละเอียด
ดำเนินอยู่ เคลื่อนไปอยู่อย่างมุ่งมั่นตั้งใจที่จะให้บรรลุ
หนังสืออ้างอิง
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 151
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 06:53:28 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:47:27 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:56:45 )
รายละเอียด
คัจฉามิ แปลว่า ขอเข้าถึง ขอเข้าไปหา ความเข้าถึง เช่น พุทธังสะระณังคัจฉามิ ขอเข้าถึงพระพุทธเป็นที่พึ่ง กิเลสมานะอัตตาจะหมดก่อนโลกธรรมนั้น ขอยืนยันว่าคุณอย่ามาแย้งพระพุทธเจ้าเลย แม้แต่ในอุปกิเลส 16 มานะอัตตาก็อยู่ในข้อท้าย หมดกามก่อนอัตตามานะนั้นเป็นขั้นปลาย
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 20 กันยายน 2562 ( 10:48:22 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:23:14 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:57:15 )
รายละเอียด
คัจฉามิ แปลว่า ขอเข้าถึง ขอเข้าไปหา ความเข้าถึง เช่น พุทธังสะระณังคัจฉามิ ขอเข้าถึงพระพุทธเป็นที่พึ่ง
ที่มา ที่ไป
พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 28 สิงหาคม2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 14:55:45 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:24:54 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:57:53 )
รายละเอียด
ทิฏฐาวิกัมม์ = เป็นการแสดงความเห็น แค่เห็นแย้งหรือชี้แจงความเห็นส่วนตัว ในหมู่กลุ่มของตน แต่ไม่ได้คัดค้านหักหาญกันอย่างเต็มที่
ปฏิกโกสนา = การกล่าวคัดค้านจังๆ ไม่เห็นด้วยจังๆ กล่าวด้วยเหตุผลข่มขี่ที่มีน้ำหนักมากกว่าเท่านั้น (แต่ไม่ถึงกับ อักโกสะ = การด่า, การติเตียนด่าว่า)
ขอบเขตของการกล่าวคัดค้านและเห็นแย้งได้เต็มที่นั้น จะไม่ก้าวล่วงไปเอาผิดกันทางอธิกรณ์ หรือไม่ข้ามเขตไปลงโทษกัน จนกลายเป็น อุกโกฏนา = การที่ไม่เป็นธรรม, ไม่สามารถยุติธรรมได้
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2562 ( 21:34:28 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:26:20 )
รายละเอียด
พวกคุณคัดตัวเองมาเองแล้วมาเรียนรู้ อาตมาบรรยายสอน วันนี้ก็มีเป็นพัน น่าจะถึงพัน เมื่อวานก่อนก็นับกันถึง 900 กว่าวันนี้น่าจะถึง อ้อ ถึงพันแล้วหรือ ก็มาเรียนรู้เพื่อจบกิจทางเศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ มาเรียนรู้เพื่อจบกิจทางรัฐกิจด้วยหรือรัฐศาสตร์ มันก็จะจบกิจของความเป็นสังคมศาสตร์ไปในตัว
ที่อาตมาพูดนี้ไม่ได้โมเม ไม่ได้พูดเล่นๆ ใช้บัญญัติภาษามาร่วมสมัยในยุคนี้ คำว่าเศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์ ก็มีในยุคนี้ ยุคพระพุทธเจ้าไม่มีหรอก ยิ่งคำว่าการเมืองจะไปพูดได้อย่างไรในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไม่มีสิทธิ์พูดหรอก เป็นสังคมทาสด้วย เพราะฉะนั้น มันก็คนละยุคสมัย อาตมาพูดกับคนยุคนี้ที่ร่วมยุคร่วมสมัย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกฯ#45 วันนี้วันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2566 ( 14:05:32 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นตั้งกฎตั้งเกณฑ์ออกมาเป็นกรอบบังคับ ต้องทำแบบนี้ มีข้อบังคับอย่างนี้มันไม่ใช่อิสรเสรีภาพ มันเป็นการบังคับ ออกกรอบบังคับมีกฎเกณฑ์อย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่อย่างนี้ มันก็ผิดจากของที่นี่
ที่นี้การที่ไม่ตั้งพรรค มันจะเป็นไปตามสัจธรรม มันจะคัดเลือกตัวคนโดยธรรมชาติ ใครจะเข้ามาอยู่ในพรรคหรือในชาวอโศก มันเป็นการคัดเลือกโดยสัจธรรม โดยศีลโดยธรรมแท้ๆ ไม่ได้ไปบังคับ ไม่ได้ไปตั้งกฎเกณฑ์ ยิ่งมาอยู่ในนี้ก็ได้เลย คุณเคยสมัครไหม เลขที่เท่าไหร่ เบอร์อะไรสมัครไหม ไม่ได้มีใครสมัครเลย เห็นไหม สัจจะมันซ้อนๆอยู่
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 9 พ่อครูพบ ญาติธรรมสันติอโศก วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรสันติอโศก
เวลาบันทึก 28 มกราคม 2566 ( 12:47:28 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้น ที่มีพูดกันว่ามหาวิทยาลัยนั้นเกิดมาเพื่อเป็นปฏิปักษ์กับศาสนานั้นก็จริง ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่จริงไม่ชัดเจน สังคมทุกวันนี้มีตัวอย่าง ที่เป็นแบบอย่างต่างๆที่กล่าวพาดพิงไปถึงหลายท่านหลายคนแล้ว เป็นตัวอย่างที่เราจะได้ศึกษา แม้แต่พวกอาตมาก็เป็นตัวอย่าง แต่ผู้ที่มีปัญญาเท่านั้นที่จะเห็น พวกอาตมาชาวอโศก เป็นตัวอย่างที่จะน่าจะมาเรียนรู้ปฏิบัติตาม แต่เป็นพวกอนุวิทยาลัย ไม่ใช่มหาวิทยาลัย
จริงๆแล้วอาตมาขวนขวายเพื่อจะขอตั้งมหาวิทยาลัยนะ แต่ขวนขวายยังไงก็ไม่ได้ ก็เลยไม่เอา ไม่ตั้ง ก็ดี อาตมาเห็นแล้วว่าก็ดีเหมือนกันนะ ดีตรงไหน ดีตรงที่ว่าไม่ต้องไปแข่ง ไม่ต้องไปแย่งลูกค้า ไม่ต้องไปรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นใครที่มีภูมิปัญญา ใครที่เข้าใจ ใครที่สมัครใจมาเอง ก็เป็นการ Entrance ตรวจสอบคัดเลือก ผลการสอบคัดเลือกในตัว เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสัจจะที่ดีมากเลย ถ้าอาตมาไปตั้งมหาวิทยาลัย มันจะคัดเลือกไม่จริง แต่นี่คัดเลือกด้วยสัจจะ คัดเลือกด้วยภูมิธรรม คัดเลือกด้วย…. ทั้งหมดของชาวอโศก เป็นมหาวิทยาลัย แต่มันไม่ใช่เป็นวิทยาลัยที่ไปจดทะเบียน มันก็เลยไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัย มันก็เลยกลายเป็นอนุวิทยาลัย เหมือนกับเป็นพวกวิทยาลัยเถื่อน นอกทำเนียบแอบแฝง เหมือนกับอนุภรรยา ไม่ได้จดทะเบียน ถ้าหลวงภรรยาก็จดทะเบียน ถ้าอนุภรรยาก็ไม่ได้จดทะเบียน คล้ายๆอย่างนั้น ก็จริงๆนะ
แต่อาตมาก็ไม่ได้มีปัญหา ไม่ได้สงสัย ไม่ได้ท้อถอย ไม่ได้ท้อแท้ ไม่ได้อ่อนแรง ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องร้าย แต่เป็นเรื่องท้าทายด้วยซ้ำไป เป็นเรื่องที่เห็นจริง อาตมาอายุปูนนี้เข้าไปแล้ว ก็ยังจะพากเพียรเพื่อที่จะทำงานให้ได้นานที่สุด เพื่อพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าอย่างที่กล่าวไปแล้ว และก็ได้ทำงานต่อเนื่องไป ขออย่างเดียวเถอะ อย่าให้มีพยาธิรบกวนเท่านั้นเอง ก็ไม่ได้เป็นโรคภัยอะไรมากมายนัก แต่ความเสื่อมของสังขารนี่เห็นชัดเจน ทุกวันนี้ อาตมาต้องอาศัยพักผ่อน ต้องอาศัยนอนเยอะ กินก็กินไม่ค่อยได้เยอะเท่าไหร่ แต่เขาก็พยายามจะให้กินเยอะๆ มันก็จะขย้อนออกมา อาศัยสิ่งที่จะเข้าไปสังเคราะห์สังขารร่างกาย ก็พยายามประคองชีวิตนี้ ขันธ์นี้ไปเพื่อทำงาน เพื่อที่จะทำงาน ก็เต็มใจ ไม่ได้ท้อถอยอะไร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บุญกิริยาวัตถุ 7 ข้อที่เป็นเนื้องอกของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2565 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2565 ( 13:57:36 )
รายละเอียด
ผูกร้อย คัมภีร์ ตำรา
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 189
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 06:54:44 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:47:58 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:58:56 )
รายละเอียด
สอนธรรม เขียนตำรา เผยแพร่ธรรมที่ตนมี ตนได้ หรือผูกร้อยคำสอนขึ้นไว้สอน
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 189
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 06:55:23 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:49:18 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:59:22 )
รายละเอียด
ขั้นต้นก็เรียนปริยัติ
หนังสืออ้างอิง
จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 189
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 06:55:58 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:50:03 )
รายละเอียด
กลิ่น
หนังสืออ้างอิง
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 45
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 06:56:32 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:50:55 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 02:59:41 )
รายละเอียด
กลิ่น
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 11:07:07 )
รายละเอียด
ช่องว่าง
หนังสืออ้างอิง
ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 280
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 06:57:04 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:51:29 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:00:04 )
รายละเอียด
1. ลึกซึ้ง
2. ลึกซึ้งวิเศษ
หนังสืออ้างอิง
อีคิวโลกุตระ หน้า 81
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 136
คนคืออะไร? หน้า 538
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 06:58:32 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:52:07 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:00:29 )
รายละเอียด
ลึกซึ้ง
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 11:08:10 )
รายละเอียด
ลึกซึ้ง
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 19:16:26 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:15 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:01:09 )
รายละเอียด
1. สภาพหมุนรอบเชิงซ้อน
2. รูป – อรูป มันล้วนยังเป็นภพที่ละเอียดลึกซึ้ง ยอกย้อนซ่อนแฝงอยู่ในจิต
3. ด้วยความรู้ และความจริงที่ลึกซ้อน ชอนไชอย่างอนุโลม ปฏิโลมเป็นสภาพหมุนเชิงซ้อน ย้อนไปย้อนมา ซ้ำแล้วซ้ำอีก
4. ลึกซึ้ง มีความสุขุมเชิงซ้อน หมุนรอบจนเข้าใจได้ยากจริง ๆ
5. มีสภาพหมุนรอบเชิงซ้อน ลึกซึ้งมาก
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 5
ทางเอก ภาค 2 หน้า 61
ทางเอก ภาค 3 หน้า 111
สมาธิพุทธ หน้า 88
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 07:00:28 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:52:45 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:01:45 )
รายละเอียด
มีสภาพหมุนรอบเชิงซ้อน ลึกซึ้งมาก อย่างอนุโลม ปฏิโลมย้อนไป ย้อนมา ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 11:09:39 )
รายละเอียด
คือในความรู้เรื่องของสภาวะที่ ซับซ้อนลึกซึ้งที่สมณะโพธิรักษ์ ใช้คำว่า ภัมภีราวภาโศ หรือปฏินิสสัคคะ เป็นสภาพหมุนรอบ เชิงซ้อนหลายชั้น หลายเส้นสายไม่ค่อยจะรู้กัน จะมีคนที่มีภูมิปัญญาเข้าไปรู้ ความจริงเหล่านี้ลึกซึ้ง แล้วพูดกันรู้เรื่องมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเกิดความรู้ที่เป็นองค์รวมที่เป็นของสังคมโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากสมณะโพธิรักษ์เองอยู่ก็สร้างความรู้ และเป็นความจริง ไม่ใช่มีแต่ความรู้ต้องมีทั้งความจริง และความรู้เป็น 2 สภาพ มันจะเป็นความจริงและความรู้ที่ทำให้คนอื่นเขาศึกษาแล้วเขายอมรับความจริงในความรู้ อันนี้ได้ ในอนาคต สมณะโพธิรักษ์พูดได้แค่นี้ ขยายความได้แค่นี้
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:52:29 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:30:30 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:02:46 )
รายละเอียด
สิ่งที่เรียนรู้เป็นภาษา และเข้าใจความลึก ความละเอียดกระจายได้
หนังสืออ้างอิง
จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 382
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 06:57:37 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:53:29 )
รายละเอียด
ในที่เขาเรียนคัมภีร์วิสุทธิมรรคของพระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งท่านพุทธโฆษาจารย์เป็นเทวนิยมอยู่เยอะ ก็เลยมีกสิน 40 แบบสมถะ แบบฤาษีชีไพร ก็ยังมีส่วนถูกบ้างแต่ความผิดมีเยอะ ทำให้น่าสงสารศาสนาพุทธ
เปรียญนี้เขาว่าไม่ได้เรียนพระไตรปิฎกหรอก แต่ไปเรียนคัมภีร์วิสุทธิมรรค ศาสนาพุทธจึงเป็นศาสนาวิสุทธิมรรคของพุทธโฆษาจารย์ เขาถืออันนั้นเป็นคัมภีร์เอก แล้วคัมภีร์วิสุทธิมรรคของพระพุทธโฆษาจารย์ยังมีเทวนิยมอีกเยอะ กว่าครึ่ง มีบ้างที่พอเข้าท่าถูกบ้าง ก็ไม่ใช่ไม่มี อาตมาบังอาจ แม้แต่พระพุทธโฆษาจารย์ ที่เป็นผู้เขียนวิสุทธิมรรค ยังไปข่มเขาเลย ขออภัยพูดเป็นภาษาง่ายๆของอาตมาตรงๆ อาตมาไม่ใช่ผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดินอะไร แต่อาตมาละเอียดในเชิงละเอียด แต่นำละเอียดมาพูดเชิงหยาบให้ฟัง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 16:24:30 )
รายละเอียด
ศาสนาพุทธที่ไปถือเอาคัมภีร์วิสุทธิมรรคเป็นหนังสือหลักของศาสนา สังคมศาสนาพุทธจึงฉิบหาย พูดอย่างไม่ได้เกรงใจ มานานมาแล้วหลาย 10 ปีจะเกือบ 50 ปีแล้ว ถึงไม่ได้พูดเลี่ยงเหลาะแหละ พูดชัดๆเลย ใครที่คิดว่าเป็นสัจจะก็เอา ใครที่คิดว่าไปล้มล้างก็ไม่เป็นไรก็ไปล้มล้างสิ่งที่ผิดนี่แหละก็ต้องสถาปนาสิ่งที่ถูก สิ่งที่ผิดจะเอาไว้ทำไม ต้องล้มล้างไปเลย สิ่งที่ถูกก็ต้องสถาปนากันขึ้นเป็นธรรมชาติ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:16:30 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:32:00 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:03:48 )
รายละเอียด
ที่ดินเราขณะนี้ แม้ที่ดินรอบบ้านราชฯก็มากพอที่จะมาร่วมกัน อาตมาว่าจะฝันค้างหรือเปล่า ว่า มันน่าจะถึง 700 คน ใครที่พอรู้ตัวเองว่า เราน่าจะมาเป็น 1 ใน 700 ยกมือซิ เอาน่าไม่สิ้นหวัง
ที่มา ที่ไป
รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 สู่แดนทองฉลอง 50 ปีโพธิกิจ วันที่ 1 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:18:09 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 16:21:57 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:07:15 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2563 ( 11:53:30 )
รายละเอียด
อาตมาเป็นผู้ที่กล่าวเองว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นพระโพธิสัตว์ อาตมากล่าวพระโพธิสัตว์ 2 คนก่อน คือ คานธีกับไอน์สไตน์
อย่างไอน์สไตน์ บอกว่าเป็นโพธิสัตว์คนเขาก็ไม่ค่อยเชื่อ ส่วน คานธี บอกว่าเป็นโพธิสัตว์ก็ยังพอเชื่อ คนที่ไปติดยึดว่า โพธิสัตว์ต้องมีแต่ในศาสนาพุทธ ศาสนาอื่นไม่มี ยังไม่ใช่ มันต้องเอาที่สาระสัจจะเอาเนื้อแท้ว่าโพธิสัตว์คืออย่างไร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12 ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันที่ 18 มีนาคม 2561
เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:29:21 )
รายละเอียด
สภาพที่ยังไม่ลงตัวบริสุทธิ์บริบูรณ์ มันยังวน ๆ ยังจับไม่มั่นคั้นไม่แท้
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 549
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 07:02:06 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:54:02 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 04:00:19 )
รายละเอียด
ควรมีความเคารพยำเกรงใน 6 ประการนี้
1. เครารพยำเกรงพระพุทธเจ้า
2. เคารพยำเกรงพระธรรม
3. เครารพยำเกรงพระสงฆ์
4. เครารพยำเกรงการศึกษา
5. เคารพยำเกรงความไม่ประมาท
6. เคารพยำเกรงการปฏิสันถาร
ที่มา ที่ไป
พระไตรปิฎกเล่ม 11 "สังคีติสูตร" ข้อ 313
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก
เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2562 ( 12:51:27 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:58:36 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 04:00:40 )
รายละเอียด
ควรมีความเคารพยําเกรงใน 6 ประการนี้
1. เคารพยําเกรงพระพุทธเจ้า(พุทธคารวตา)
2. เคารพยําเกรงพระธรรม(ธัมมคารวตา)
3. เคารพยําเกรงพระสงฆ์(สังฆคารวตา)
4. เคารพยําเกรงการศึกษา(สิกขาคารวตา)
5. เคารพยําเกรงความไม่ประมาท(อัปปมาทคารวตา)
6. เคารพยําเกรงการปฏิสันถาร(ปฏิสันถารคารวตา)
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 11 “สังคีติสูตร” ข้อ 313
เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2565 ( 05:08:27 )
รายละเอียด
ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งจิตปฏิญาณ ในงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 45 นี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย จะขอบำเพ็ญธรรม ประพฤติตน อยู่ในศีล 8 อันได้แก่
1. ปาณาติปาตา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดการฆ่าสัตว์ เว้นขาดความโหดร้ายรุนแรง เว้นขาดการเบียดเบียนใดๆ จะพยายามสร้างเมตตาธรรม
2. อทินนาทานา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดการขโมย เว้นขาดการเอาของผู้อื่น ด้วยเชิงเอาเปรียบ ด้วยการโกง จะพยายามสร้างสัมมาอาชีพ ขยันสร้างสรร เสียสละ ละเลิกความโลภ ละเลิกความเห็นแก่ตัว
3. อพรหมจริยา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดเรื่องเมถุนธรรม เว้นขาดเรื่องกามคุณ จะเป็นผู้ละเลิกราคะ จะเป็นผู้กำหนดรู้เท่าทันในกาม
4. มุสาวาทา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดการพูดปด เว้นขาดการพูดหยาบ เว้นขาดการพูดส่อเสียด เว้นขาดการพูดเพ้อเจ้อ จะพยายามพูดเป็นสารัตถะเป็นธรรม
5. สุราเมรย มัชชะ ปมาทัฏฐานา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดการเสพติดมัวเมา มีอบายมุขทั้งหลายเป็นต้น มีกามต่อมา มีโลกธรรม 8 อีก และจะเว้นขาดการยึดภวอัตตภาพทั้งปวง
6. วิกาลโภชนา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดจากอาหารและเครื่องใช้ ที่ควรเว้นควรเลิก จะกินจะใช้ตามที่กำหนด จะเป็นผู้พยายามเป็นผู้มักน้อยและสันโดษ
7. นัจจะคีตะ วาทิตะ วิสูกะทัสนา มาลาคันธะ วิเลปนะ ธารณะ มัณฑนะ วิภูสนฐานา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดจากท่าทางอันไม่สมควร คำพูดที่มีเสียงสำเนียงอันไม่สมควร เช่น ฟ้อนรำ ดนตรี เป็นต้น เว้นขาดจากดอกไม้ของหอม เครื่องตกแต่งพอกทา เครื่องประดับประดาประดิษฐ์ประดอย เว้นขาดจากฐานะแห่งการแต่งงามประดิษฐ์ประดอย
8. อุจจาสยนะ มหาสยนา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดจากที่นั่งที่นอนใหญ่ เว้นขาดจากการรับของใหญ่ เว้นขาดจากการสะสมของใหญ่ ที่สุดเว้นขาดการหลงติดความใหญ่
ศีลทั้งหลายเหล่านี้ หากข้าพเจ้าทั้งหลาย ไม่ตั้งใจประพฤติ ข้าพเจ้าทั้งหลายย่อมไม่เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายย่อมไม่ได้ผล ถ้าหากข้าพเจ้าทั้งหลายตั้งใจประพฤติ ก็ย่อมได้ ตามธรรมสมควรแก่ธรรม คำกล่าวนำปฏิญาณอุโบสถศีล
[พากล่าวคำ นโมตัสสะ ภควโต ฯ 3 จบ ก่อน]
ดังนั้น ข้าพเจ้าทั้งหลาย จักตั้งใจศึกษาฝึกฝน พากเพียรบำเพ็ญ ตามที่หมู่คณะ ได้นำพาช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันด้วยดี ให้สุดความสามารถ
ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งใจปฏิญญาณไว้ ณ โอกาสนี้ ...ดังนี้ สาธุ สาธุ สาธุ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ นำปฏิญาณศีล 8 งานปลุกเสกฯ#45 ราชธานีอโศก วันพุธที่ 5 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 05:37:36 )
รายละเอียด
[พากล่าวคำ นโมตัสสะ ภควโต ฯ 3 จบ ก่อน]
ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งจิตปฏิญาณ ในงานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46
ข้าพเจ้าทั้งหลาย จะขอบำเพ็ญ ประพฤติตน อยู่ในศีล 8 อันได้แก่
1.ปาณาติปาตา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดการฆ่าสัตว์ เว้นขาดความโหดร้ายรุนแรง เว้นขาดการเบียดเบียนใดๆ จะพยายามสร้างเมตตาธรรม
2.อทินนาทานา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดการขโมย เว้นขาดการเอาของผู้อื่นด้วยเชิงเอาเปรียบ จะพยายามสร้างสัมมาอาชีพ ขยันสร้างสรร เสียสละ ละเลิกความโลภ ละเลิกความเห็นแก่ตัว
3.อพรหมจริยา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดจากเรื่องเมถุนธรรม เว้นขาดเรื่องกามคุณ จะเป็นผู้ละเลิกราคะ จะเป็นผู้กำหนดรู้เท่าทันในกาม
4.มุสาวาทา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดการพูดปด เว้นขาดการพูดหยาบ
เว้นขาดการพูดส่อเสียด เว้นขาดการพูดเพ้อเจ้อ จะพยายามพูดเป็นสารัตถะเป็นธรรม
5.สุราเมรย มัชชะ ปมาทัฏฐานา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดการเสพติดมัวเมา มีอบายมุขทั้งหลายเป็นต้น มีกามต่อมา มีโลกธรรม 8 อีก และจะเว้นขาดการยึดภวอัตตภาพทั้งปวง
6.วิกาลโภชนา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดจากอาหารและเครื่องใช้ ที่ควรเว้นควรเลิก จะกินจะใช้ ตามที่กำหนด จะเป็นผู้พยายาม เป็นผู้มักน้อยและสันโดษ
7.นัจจะคีตะ วาทิตะ วิสูกะทัสนา มาลา คันธะ วิเลปนะ ธารณะ มัณฑนะ วิภูสนฐานา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติ เว้นขาดจากท่าทางอันไม่สมควร คำพูดที่มีเสียงสำเนียงอันไม่สมควร เช่น ฟ้อนรำ ดนตรี เป็นต้น เว้นขาดจากดอกไม้และของหอม เครื่องตกแต่งพอกทา เครื่องประดับ ประดิดประดอย เว้นขาดจากฐานะแห่งการแต่งงามประดิษฐ์ประดอย
8.อุจจาสยนะ มหาสยนา เวรมณี จะตั้งใจประพฤติเว้นขาดจากที่นั่งที่นอนใหญ่ เว้นขาดจากการรับของใหญ่ เว้นขาดจากการสะสมของใหญ่ ที่สุด เว้นขาดการหลงผิดติดความใหญ่
ศีลทั้งหลายเหล่านี้ หากข้าพเจ้าทั้งหลายไม่ตั้งใจประพฤติ ข้าพเจ้าทั้งหลายย่อมไม่เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายย่อมไม่ได้ผล ถ้าหากข้าพเจ้าทั้งหลายตั้งใจประพฤติ ก็ย่อมได้ตามธรรมสมควรแก่ธรรม
ดังนั้น ข้าพเจ้าทั้งหลายจักตั้งใจศึกษาฝึกฝน พากเพียรบำเพ็ญ ตามที่หมู่คณะได้นำพาช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันด้วยดี ให้สุดความสามารถ
ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งใจปฏิญญาณไว้ ณ โอกาสนี้.
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์เปิดงานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 พาปฏิญาณศีล 8 วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2565 ( 12:19:45 )
รายละเอียด
อันนี้เป็นกุศล ใครจะชมหรือไม่ชมก็ไม่เป็นไร ถ้าหากว่าทำแล้วใครไม่ชมไม่เอาอย่างนี้ไม่ดี ถ้าหากอาตมาทำงานเอาแต่คำชมป่านนี้หยุดไปนานแล้ว ไปอาศัยแต่คำชม เรื่องคำชม คำสรรเสริญเราก็เอาคำตรัสของพระพุทธเจ้าอธิบายกันแล้วว่ามันเป็นคำต่ำ คำชมนี่ มันทำให้หลงเหลิงเป็นความเสื่อม ท่านตรัสไว้ใน จูฬวิยูหสูตร คำชมนี่แหละท่านตำหนิและคำตำหนิและท่านสรรเสริญ ข้อสำคัญต้องเกิดปัญญารู้ให้ชัดเจนที่จะต้องรู้ความจริงว่ามันคืออะไรให้แม่น
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 04 กันยายน 2563 ( 14:56:37 )
รายละเอียด
มันเป็นสัจธรรมที่ตรงสัจจะ แต่เป็นสัจจะเชิงดี เป็นเชิงบวก เชิงชม เชิงยก ฟังดีๆนะ ตรงนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อพูดเชิงยกมันก็ไม่เป็นกลาง เขาก็บอกว่าทำไมไม่ห้ามเขาเมื่อไม่เป็น กลาง ข่ม อาตมาก็ไม่ได้ห้าม ยกอาตมาก็ไม่ได้ห้าม อาตมาเป็นกลางแล้ว เขาตำหนิอาตมา อาตมาก็ไม่ได้ห้ามเขา ยังบอกเลยว่าตำหนิมาเถอะ อาตมาจะได้เอามาพิจารณาความจริง คำตำหนิถือว่าเป็นประโยชน์ คำสรรเสริญยกย่องพระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นคำไม่มีค่าเลย เป็นคำต่ำ คำชั่ว ไม่มีค่าจะทำให้คนเจริญหรือตรัสรู้เลย แต่คำตำหนินี่ทำให้คนเจริญและตรัสรู้ ฟังความนี้ให้ชัด
คำตำหนิทำให้คนตรัสรู้ คำชมไม่ทำให้คนตรัสรู้ มีแต่ทำให้คนหลงตัวเอง บอกความจริงเป็นครั้งคราวว่าคนนี้ดีอย่างนี้จะเรียกว่าชม บางทีก็ไม่ได้ไปใช้สำเนียงสำนวนอะไร ดีก็พูดมีน้ำหนักบ้างอะไรก็แล้วแต่ ก็อย่าพยายามพูดมากในการชม ตำหนิเข้าไปเถอะ อย่าให้เกิดการรบราฆ่าฟันกันก็แล้วกัน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมในงานพิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2564 วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2564 ( 16:13:20 )
รายละเอียด
ข้าพเจ้าขอกราบเรียนชี้แจงว่า ข้าพเจ้าสำนึกและปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีตลอดมา ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและด้วยความจงรักภักดี ด้วยสำนึกในหน้าที่และประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนสูงสุดเหนือสิ่งอื่นใด
.....ข้าพเจ้าเชื่อเช่นกันว่าคนที่มีอำนาจเด็ดขาดจะทำให้ผู้นั้นทุจริตได้อย่างไม่มีข้อจำกัดถ้าปล่อยให้มีคนที่มีอำนาจโดยเด็ดขาดเป็นระยะเวลายาวนานเกินไป ก็เท่ากับปล่อยให้ผู้นั้นสามารถทุจริตโดยไม่มีข้อจำกัด และข้าพเจ้าเชื่อเช่นกันอีกด้วยว่าคนที่มีอำนาจเหนือคนอื่น มีแนวโน้มที่จะทุจริตหรือใช้อำนาจในทางที่มิชอบได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าเป็นอำนาจในการเป็นผู้นำประเทศก็ย่อมมีโอกาสก่อผลเสียต่อประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ของประเทศชาติอย่างรุนแรงได้ และเมื่อเป็นเช่นนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศหรือสาธารณะจะต้องตกเป็นผู้รับผลร้ายนั้นในที่สุด ดังเช่นที่มีตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมในประเทศของเราเมื่อไม่นานมานี้ ข้าพเจ้าจึงยึดมั่นที่จะใช้อำนาจการเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ของประเทศชาติสูงสุด เพื่อมิให้เกิดผลร้ายแก่ประชาชนเช่นที่เกิดขึ้นมาแล้วในประเทศของเราเมื่อไม่นานมานี้
ดังนั้น ไม่ว่าข้าพเจ้าจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นระยะเวลาเท่าใด ตราบใดที่ข้าพเจ้ามิได้ประพฤติปฏิบัติตนในลักษณะที่เป็นเหตุให้เสียหายต่อประโยชน์ของประเทศหรือประโยชน์สาธารณะของประชาชนแล้ว ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของข้าพเจ้าก็มิได้ขัดต่อหลักมาตรฐานสากลและเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา 158 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 แต่อย่างใด...
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 54 ผู้เป็นกลางคือผู้วางกามกับอัตตา วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 14:31:23 )
รายละเอียด
นี่ อาตมาพูดธรรมะไม่ได้ด่าไปว่าอะไร ใครที่ไม่เป็นก็ไม่ถูกด่า แต่คนที่เป็นคนจะรับคำด่าแล้วเอาไปแก้ไขปรับปรุง คำด่าเป็นสัจธรรม ซึ่งก็แปลว่าตำหนินั่นเอง
ตำหนิก็คือ นิคคัณหะ อาตมาก็อยู่ในหลักไม่ได้ออกนอกรีตนอกรอย ตำหนิคุณ คุณควรตำหนิ มันเป็นสิ่งที่ควรตำหนิอยู่ใช่ไหม แล้วจะไม่ให้ตำหนิ คุณอย่ามาห้ามเสียให้ยาก อาตมาฟังแต่อาตมาไม่ทำตาม อาตมาไม่ทำสิ่งที่ไม่เข้าท่า
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 19:18:38 )
รายละเอียด
“ปัญญา 8”นี้ คือ ความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ทั้งหมดนั้นคือ คำตรัสของพระพุทธเจ้า ที่“นิยาม”ความเป็น“ปัญญา”ก็คือ“ธาตุรู้”แต่เป็น“ความรู้-ความฉลาด” อันมีที่ไปที่มาชัดเจนว่า เป็นของมนุษย์ที่มนุษย์ด้วยกันสามารถ“สัมผัส”จับต้องร่างกายตัวตนกันได้
และคำสอนก็เกิดจากพระโอษฐ์ของผู้เป็นมนุษย์จริงๆที่ตรัสออกมาให้ผู้คนทั้งหลายในโลกได้ยินได้ฟังพร้อมกันมากมายหลายคน ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่ได้ยินได้ฟังกันเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นคนในผู้มีชีวิตอยู่ร่วมกันอยู่ในโลก เป็นความโจ่งแจ้ง เปิดเผย ไม่ใช่คำตรัส“ลึกลับ” ที่“พระศาสดาเพียงคนเดียวเท่านั้นได้ยินได้ฟังมาจากพระเจ้า” แล้วพระศาสดาองค์นั้นค่อยนำมาประกาศต่อโลก อีกทีหนึ่งเหมือนชาว“เทฺวนิยม”
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 1 วันพุธที่ 23 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2565 ( 20:46:08 )
รายละเอียด
อนึ่ง เพื่อนพรหมจรรย์ย่อมสรรเสริญภิกษุรูปนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอายุผู้นี้ เป็นผู้มีศีล... สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ท่านผู้มีอายุผู้นี้ ย่อมรู้สิ่งที่ควรรู้ย่อมเห็นสิ่งที่ควรเห็น เป็นแน่แท้ แม้ธรรมข้อนี้ก็เป็นไปเพื่อความรัก... เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ฯ
อนึ่ง เพื่อนพรหมจรรย์ย่อมสรรเสริญภิกษุรูปนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอายุผู้นี้ เป็นพหูสูต... แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ท่านผู้มีอายุผู้นี้ ย่อมรู้สิ่งที่ควรรู้ ย่อมเห็นสิ่งที่ควรเห็น เป็นแน่แท้ แม้ธรรมข้อนี้ก็เป็นไปเพื่อความรัก... เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ฯ
อนึ่ง เพื่อนพรหมจรรย์ย่อมสรรเสริญภิกษุรูปนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอายุผู้นี้ ปรารภความเพียร... ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย ท่านผู้มีอายุผู้นี้ ย่อมรู้สิ่งที่ควรรู้ ย่อมเห็นสิ่งที่ควรเห็น เป็นแน่แท้ แม้ธรรมข้อนี้ก็เป็นไปเพื่อความรัก... เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ฯ
อนึ่ง เพื่อนพรหมจรรย์ย่อมสรรเสริญภิกษุรูปนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอายุผู้นี้ เข้าประชุมสงฆ์... ไม่ดูหมิ่นความนิ่งอย่างพระอริยเจ้า ท่านผู้มีอายุผู้นี้ ย่อมรู้สิ่งที่ควรรู้ ย่อมเห็นสิ่งที่ควรเห็น เป็นแน่แท้ แม้ธรรมข้อนี้ก็เป็นไปเพื่อความรัก... เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ฯ
อนึ่ง เพื่อนพรหมจรรย์ย่อมสรรเสริญภิกษุรูปนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอายุผู้นี้ ย่อมพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปในอุปาทานขันธ์ 5 ... ความดับแห่งวิญญาณเป็นดังนี้ ท่านผู้มีอายุผู้นี้ ย่อมรู้สิ่งที่ควรรู้ ย่อมเห็นสิ่งที่ควรเห็น เป็นแน่แท้ แม้ธรรมข้อนี้ก็เป็นไปเพื่อความรัก ความเคารพ ความสรรเสริญเพื่อการบำเพ็ญสมณธรรม เพื่อความเป็นหนึ่งใจเดียวกัน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุ 8 ประการ ปัจจัย 8 ประการนี้แล ย่อมเป็นไป เพื่อได้‘ปัญญา’อันเป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ที่ยังไม่ได้ เพื่อความงอกงาม ไพบูลย์ เจริญ บริบูรณ์แห่ง‘ปัญญา’ที่ได้แล้ว ฯ
หมดจบคำตรัสของพระพุทธเจ้าใน“ปัญญาสูตร”
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 1 วันพุธที่ 23 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2565 ( 20:43:41 )
รายละเอียด
จะใช้ภาษาเรียกว่าเป็นระบอบการเมืองเป็นรัฐศาสตร์เป็นประชาธิปไตยก็เป็นอย่างนี้แหละ เป็นคนที่เสียสละและเอาไว้น้อยที่สุด จะเรียกว่าเป็นระบอบเศรษฐกิจก็ให้หมด จะเรียกว่าเป็นระบอบสังคมการเมือง ก็เป็นสังคมอย่างนี้ อยู่กันอย่างท่ามกลางโลกีย์ที่จัดจ้านพวกคุณเป็นอย่างนี้ก็ไม่เดือดร้อน แล้วมีหมู่พวกที่มีความรู้แล้วว่า ทุกคนมีวรรณะ 9
วรรณะ 9 นี้สุดยอดเป็น The Classical เป็นมนุษย์ชั้นสูงที่สุด เป็นมนุษย์คลาสสิค
วรรณะ คือชั้น class ชั้นสูงอย่างไร ความหมายชัดทั้ง 9 ตัว
เช่น วรรณะ 9 เลี้ยงง่าย (สุภระ) บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ) มักน้อย, กล้าจน (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ) ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ตรงข้าม อวรรณะ9 ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ)
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 19:04:48 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:38:30 )
รายละเอียด
เราควรมองผู้มีปัญญาใดๆ ที่คอยชี้โทษ คอยกล่าวคำตำหนิ (นิคฺคัยหวาทิง เมธาวิง) ขนาบ อยู่เสมอไปว่า.. คนนั้นแหละ คือ ผู้ชี้ขุมทรัพย์ ควรคบบัณฑิตที่เป็นเช่นนั้น เมื่อคบหากับบัณฑิตชนิดนั้นอยู่ ย่อมมีแต่ดีถ่ายเดียว ไม่มีเลวเลย (เพราะว่าเมื่อคบบัณฑิตเช่นนั้น มีแต่คุณที่ประเสริฐ โทษที่ลามกย่อมไม่มี - เสยฺโย โหติ น ปาปิโย) (พตปฎ. เล่ม25 ข้อ 16)
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 21 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 08:03:51 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:36:22 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:08:47 )
รายละเอียด
จะมาพูดแต่คำตำหนิเขาเขาก็ไม่ชอบใจ ผู้ที่ฉลาดผู้ที่มีไหวพริบก็บอกว่าคนนี้ช่างดีจังเลยพูดแต่คำที่เป็นปิยวาจา ผู้ที่พูดแต่คำที่น่ารักสรรเสริญนั้นเป็นคนไม่น่ารัก ผู้ที่มีคำตำหนิอย่างบริสุทธิ์จริงใจ มีความรู้ในการตำหนิ มีเจตนาที่เป็นกุศล มีเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขา เป็นคำตำหนิด้วยเมตตา อาตมาเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่พูดไปแล้วคนก็ไม่เข้าใจที่อาตมาพูดความจริงตรงนี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตำหนิให้เขาดื่มได้คือหน้าที่ของผู้ทำงานศาสนา วันพุธที่ 28 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2564 ( 19:37:32 )
รายละเอียด
คุณผู้ที่ตำหนิมานี้ก็ดีขอบคุณ สิ่งที่มันจะมีเอียงไปข้างไหนก็แล้วแต่ อย่างที่คุณเดชาพูดมา เป็นได้ มากหรือน้อย เราก็ดู โต๊ะหรือว่าเวทีกว้างขนาดนี้เราก็แต่งเต็มที่เหมือนกันนะ แต่มีนัยยะซ้อน
สิ่งที่ตกแต่งในที่นี้ เราไม่ได้ไปจ่ายเงินจ่ายทองมา เป็นของพวกเราทั้งนั้น ทำเองปลูกเองสร้างเอง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแต่ละวันๆ แล้วก็ขยันทำ มันแสดงถึงความเอาใจใส่ แสดงถึงความขยันพากเพียรในการทำ ไม่ได้ไม่จ่ายแรงงาน ไม่ได้จ่ายความเหน็ดเหนื่อย แต่ต้องจ่ายแรงงานจ่ายความเหน็ดเหนื่อย คุณเอาแต่นั่งตำหนิๆๆ ก็ดี ตำหนิจนตาย ตายแล้วเกิดมาก็ต้องติต่อ ถ้าติแล้วจะได้ดีก็เป็นไป แต่เขามีมาก็แก้ไขปรับปรุงบ้าง ก็ยังเห็นว่าไม่เกินอะไรไป ไม่เห็นจะต้องไปจ่ายเงินจ่ายทอง ของที่นี่ทั้งนั้นเท่าที่มี มันก็หลากหลายดี โดยที่เราไม่ได้เปลืองผลาญอะไรมาก มันก็มีอยู่ หลายอย่างไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรแต่ก็มาทำไป
อย่างเช่นอันนี้ ลูกตาว หรือลูกเต่าร้าง เอามาตกแต่ง คนก็เตือนบอกว่ามันคันนะ ก็จริง แต่มันไม่ร้ายแรงเหมือนโควิดหรอกอยู่ระยะห่างตั้งเมตรกว่าไม่เป็นไร มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ลูกเต่าร้าง เอามาตกแต่งก็ใช้ประโยชน์ได้อย่างนี้เป็นต้น หลายๆอย่างนี่ บางทีก็ไม่มีอะไร ดอกกุหลาบที่จริงก็กินได้ แต่คนไม่นิยมกินกันเท่าไหร่ ก็เหี่ยวทิ้ง ออกดอกมาก็เอามาทำประโยชน์ตกแต่ง ดอกอัญชันกินได้ก็กินบ้างก็เหลือเฟือ ดอกอะไรต่างๆนานา หรือใบอะไรต่างๆนานา ก็ของเราสร้างเองเราอุดมสมบูรณ์ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของบ้านนี้เมืองนี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 22 ยุคนี้สมาธิชาวอโศกเกิดจากจรณะ 15 วิชชา 8 วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 08 มกราคม 2565 ( 21:23:32 )
รายละเอียด
ซึ่งคำด่านั้นจะต้องเป็นคำหยาบคาย คำไม่ถูกต้อง จึงเรียกว่าคำด่า คำด่าคือคำไม่ถูกต้อง เป็นคำที่เกิดจากอกุศลจิต โกรธบ้าง ราคะหรือโลภแรงบ้าง เป็นคำที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริงนี่คือคำด่า
อาตมาไม่เคยด่าใคร แต่ตำหนิแน่นอน ตำหนิเก่งด้วย ตำหนิแรงด้วย แต่ไม่ได้บริภาษไม่ได้ด่า นิคฺคเณฺห นิคฺคหารหํ ปคฺคเณฺห ปคฺคหารหํ ควรข่มคนที่ควรข่ม ยกย่องคนที่ควรยกย่อง ไม่ได้พูดแก้ตัวนะ ต้องฟังธรรมให้เป็น แล้วจะเข้าใจ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 21 ตอบปัญหาให้พ้นความสุขคือความโง่ วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2564 ( 20:36:34 )
รายละเอียด
อาตมาพอรู้ตัวเองว่าคำยกยอยกย่อง อาตมาจะยินดีด้วยคำยกยอยกย่องหรือ ถ้าอาตมายินดีในคำยกยอยกย่องนั้นอาตมาก็เป็นขบถ ขบถต่อพระพุทธเจ้า อย่างแน่แท้
ในพรหมชาลสูตร...พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรมติพระสงฆ์ ในคำที่เขากล่าวตินั้น คำที่ไม่จริง เธอทั้งหลายควรแก้ให้เห็นโดยความไม่เป็นจริงว่านั่นไม่จริง แม้เพราะเหตุนี้ นั่นไม่แท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้นั่นก็ไม่มีในเราทั้งหลาย และคำนั้นจะหาไม่ได้ในเราทั้งหลาย คนเขาอยากจะทราบเราก็เปิดเผยให้ดูให้เห็น เปลือยให้เห็นเลย ไม่ใช่คำหยาบนะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรมชมพระสงฆ์ เธอทั้งหลายไม่ควรเบิกบานใจ ไม่ควรดีใจ ไม่ควรกระเหิมใจในคำชมนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์ ดูกรภิกษุทั้งหลายถ้าเธอทั้งหลายจักเบิกบานใจ จักดีใจ จักกระเหิมใจในคำชมนั้น อันตรายจะพึงมีแก่เธอทั้งหลายเพราะเหตุนั้นเป็นแน่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม หรือชมพระสงฆ์ ในคำชมนั้น คำที่จริง เธอทั้งหลายควรปฏิญาณให้เห็นโดยความเป็นจริงว่า นั่นจริงแม้เพราะเหตุนี้ นั่นแท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้คำนั้นก็มีในเราทั้งหลาย และคำนั้นจะหาได้ในเราทั้งหลาย.
คำตรัสพระพุทธเจ้าในพารากราฟนี้มีแค่นี้ อาตมาทำตามคำสอนพระอนุสาสนีย์ของพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น คนชมอาตมา อาตมาก็ฟัง อ้อ มี ก็จบในตัว ไม่คัดค้านจะชมก็ชมไป เขาติ มีในเราอันใด เราก็แก้เสีย ปรับปรุงตัวเสียขอบคุณเขา กราบเขาเลยเขาติเราถูกมันเป็นคุณค่าประโยชน์แก่เราเหลือเกิน เราโง่ ไม่รู้ตัวให้เขามาบอกให้เขามามองให้ ก็กราบขอบคุณเขาที่เขาติ เพราะฉะนั้นคำติจึงเป็นคุณค่าอย่างยิ่ง คำชมนั้นพระพุทธเจ้าบอกว่า เป็นคำเลวร้ายไม่เกิดความเจริญอะไรแก่เราเลย คิดดูสิเป็นความจริง คำติเป็นความจริงมีคุณค่า คำชมเป็นคำไร้ค่า แต่คนไปชอบคำชมคำสรรเสริญยกย่องจึงซวย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์เปิดงาน ปฏิญาณศีล 8 งานพุทธาภิเษกฯครั้งที่ 47 วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566 ที่บวรปฐมอโศก
เวลาบันทึก 23 เมษายน 2566 ( 19:40:04 )
รายละเอียด
ดช.ธัมโม... ถามมาว่า เวทนาคืออะไรครับ
ดช.ธัมโมฟัง เวทนา คือ เรานี่แหละ เราเองนี่ เกิดอารมณ์ เกิดความรู้สึก ฟังรู้จักความรู้สึกไหมล่ะเด็กชายธัมโม เรารู้สึกในใจของเรานี่ เรียกว่า เวทนา เวทนาคืออันนี้ รู้สึกด้วยใจ รู้สึกโกรธ รู้สึกไม่ชอบใจ รู้สึกชอบใจ นั่นแหละคือเวทนา ชอบใจก็เป็นเวทนา ไม่ชอบใจก็เป็นเวทนา เป็นเวทนาทั้งคู่ ความรู้สึกอย่างนั้นแหละ อาการที่มันรู้สึกอย่างนั้น เราก็รับรู้ อ่านอาการของเรา เมื่อมันเกิด เกิดอารมณ์อย่างนี้เมื่อไหร่ เอ่อ…เราก็รู้อารมณ์ของเราทัน ทำไมอารมณ์เราต้องไม่ชอบหรือชอบ
ไม่ชอบหรือชอบนี้มันโง่ อย่าไปชอบหรือไม่ชอบ นี่ฉลาดขึ้น ให้รู้ความจริงแล้วก็พิจารณาความจริงว่า เห็นควรหรือไม่ควรสิ่งเหล่านี้ นั่นคือความจริงที่ควรจะรู้ควรจะทำ
ชอบหรือไม่ชอบเป็นอาการของจิตผลักหรือดูด ไม่ชอบก็ผลักชอบก็ดูดเอา มันก็เป็นอาการอย่างนั้น ไหวไหมนี่ดช.ธัมโม ค่อยๆอธิบายไปเรื่อยๆเขาก็ซึมซับ อย่างน้อยก็ Absorb อย่างลึกก็เป็น Osmosis
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเอื้อไออุ่น งานตลาดอาริยะ 2566 วันศุกร์ที่ 14 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 16:36:01 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 11:11:47 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563
เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 11:03:16 )
รายละเอียด
คำว่า “กาย” ก็มิจฉาทิฏฐิกันไปสนิทสนม
แล้ว เข้าใจว่า “กาย”มีแค่“สรีระ(ร่าง,ซากศพ)” หรือคำว่า “บุญ”
ยิ่งสับสนไปเข้าใจว่า เป็นแค่“กุศล”กันจริงๆจังๆกันไปหมด
หรือคำอื่นๆ “ฌาน”ก็ดี “สมาธิ”ก็ดี “สมาบัติ”ก็ตาม “สัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกาย”ก็ดี มันไม่ใช่ปัญญาที่จะเข้าใจกัน
ต่างเข้าใจผิด ขัดแย้งกัน เห็นตรงข้ามกัน หันหลังให้กัน แล้วต่างคนต่างเดินของตนไป ตามความเชื่อถือของตน
นั่นคือ ต่างคนต่างสื่อกัน ต่างก็กำหนดรู้กันไปคนละทิศ คนละทาง คนละอย่าง คนละความถูกต้องกันแล้ว
ดังนั้น “อวิชชาสวะ 8”จึงมิจฉาทิฏฐิกันสมบูรณ์แบบ
เริ่มตั้งแต่“อวิชชาสวะ 4 ข้อต้น” ได้แก่ ไม่รู้“ทุกข์-สมุทัย-นิโรธ-มรรค” ผู้ยังมี“อวิชชา” จึงไม่หมดสิ้น“อาสวะ”
แม้ทำให้“อาสวะ”บางส่วนสิ้นไปได้
จนกว่าจะเป็น“ผู้มี”สัมมาทิฏฐิ”ในคำว่า “กาย”และปฏิบัติกระทั่งมีมรรคผลใน“อาริยสัจ 4”
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศนาต้อนรับปีใหม่ 2567 เรื่องปฏิจจสมุปบาท ตอน 2 วันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567 แรม 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 มกราคม 2567 ( 20:16:11 )
รายละเอียด
คือ คำทุกคำที่ท่านเอามาสอนนั้นมาจาก ความตรัสรู้เองโดยชอบ ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ท่านศึกษาฝึกฝนเรียนรู้สั่งสมใช้เวลากว่าจะได้เป็นเจ้าของธรรมะ หรือ ธรรมสามี จึงเป็นของพระพุทธเจ้าเองไม่ได้มาจากไหน ที่เรียกว่าเป็นของพระพุทธเจ้าเองนี้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าองค์ใดก็แล้วแต่ตั้งแต่องค์แรกองค์ก่อนมาได้ค้นพบสัจธรรมแล้วนำมาสอนเกิดคำสอนขึ้น
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม2562
เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 12:39:37 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:39:25 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:10:30 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
เทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 15:39:22 )
รายละเอียด
ที่พูดนี้พูดเครื่องกำจัดกิเลสแล้วให้เกิดจิตที่สบาย พวกคุณปิดหมดเลยแต่อาตมาทะลุทะลวงเพื่อเปิดจิต เพื่อให้เลิกยึดถือเสียอันนั้นแหละเบื่อหน่าย ไปยึดอยู่นั่นแหละเบื่อหน่ายซะที เพื่อจะได้คลายกิเลสกำหนัดต่างๆ จะได้ดับ เพื่อความดับความสงบจากกิเลส ทำสงบโดยมานั่งแข็งมานั่งไม่พูดมานั่งไม่คิดไม่ใช่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชธานีอโศก ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 14:38:34 )
รายละเอียด
ขออภัยเถอะคุณห้ามผิด ไม่พูดถึงไม่ได้ ถ้าไม่พูดถึงแล้วก็พูดลอยลงไป คนจะเข้าใจยากเพราะไม่มีตัวอย่าง แบบนี้ไปว่าไปแล้วมีคนเป็นอย่างที่ว่าหรือเปล่ามันก็ไม่ได้เรื่อง เพราะฉะนั้นคนที่พูดแล้วอธิบายถูก เมื่อเห็นคนผิด ก็จะต้องนำมาเพื่อที่จะยืนยัน มีคำสอนอยู่อันนึงบอกว่า อย่าพูดกระทบตนกระทบท่าน อันนี้เป็นคำพูดที่โมฆะ เพราะคุณพูดถึงความถูกความผิด มันก็ต้องกระทบคนทั้งคู่ พูดความถูกก็กระทบคนถูก พูดความผิดก็กระทบคนผิด นอกจากไม่มีคนถูก คุณพูดอย่างไรก็ไม่มีกระทบเพราะคนถูกไม่มี เมื่อคนถูกไม่มีจะพูดอย่างไรก็ไม่มีทางกระทบคนถูก เพราะคุณผิดอยู่ คุณก็พูดแต่ผิดๆ
ส่วนถ้ามีคนถูก คนถูกก็จะพูด ก็จะต้องพูดถูก แล้วจริงๆคำพูดคนถูกนั้นอย่างน้อยก็มีของตัวเราเอง ตัวของผู้ถูก เมื่อเกิดคนถูกขึ้นมา เช่น อาตมาเป็นคนถูก เกิดมาในยุคนี้มันไม่มีใครถูกในเรื่องโลกุตระ อาตมาเอามาพูดโลกุตระจึงต้องพูดทั้งถูกและผิด ส่วนคนผิดที่มีกันอยู่เก่า มันไม่มีแล้วคนรู้โลกุตระ คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะพูดถูก ก็ไปพูดแต่คนผิด ไปกระทบกับคนผิด คนผิดก็พูดกระทบกับคนผิดไป แล้วก็รู้ว่าใครผิดมากผิดน้อยลงตัวว่าไม่ผิด
ผู้ผิดมากอาจจะบอกคนผิดน้อยว่าผิดมากก็ได้ ผู้ที่ผิดน้อยอาจจะพูดกับคนที่ผิดน้อยว่ามากก็ได้ ก็มันโง่ คนผิดที่รู้ความไม่จริงก็ผิดมันก็ตู่กันไปตู่กันมาเท่านั้นเอง ฟังธรรมะดีๆ แล้วก็ตามให้ถึงที่เลย พิสูจน์กันให้ถึงเนื้อแท้เลย ว่าทำแล้วมันเป็นได้ไหม มันยาก มันทวนกระแสได้ไหม เอาคำสอนพระพุทธเจ้ามาเทียบเอาพระสูตรไหน เอาพุทธพจน์เข้าไหนข้อไหนเอามายืนยันกันไป อันไหนมันเข้ากับเรื่องราวเหตุการณ์รูปนามนั้นๆ มันก็รู้กันได้
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #26 เป็นอรหันต์แล้วจึงหมดผีปอบ วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2566 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2566 ( 19:17:01 )
รายละเอียด
ผู้ศรัทธาอาตมา มีปัญญาลึก จึงเจตนาพูดออกมาให้คนอื่นรู้ เช่น พูดว่าด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง เป็นการส่อเจตนาเขา อาตมาไม่เคยไปแนะนำให้เขาพูดว่าเคารพอย่างสูงยิ่ง ไม่ได้มีวิธีการอย่างนี้เลย แต่จิตลึกๆของเขา เขาเข้าใจของเขา เขาเชื่อมั่นของเขาจริง พูดคำๆนี้ มันเป็นสัจจะอันเกิดจริงเป็นจริงตามความเป็นจริงที่เขารู้สึกที่เขาเองเขาเกิด เกิดความเป็นจริงของจิตเขา เพราะฉะนั้นเขาศรัทธาในผู้นำ ใช่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรม รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 41คนโง่ซวย รวยเด่น และเป็นกลาง วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2565 ( 15:00:18 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 11:28:30 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 12:19:02 )
รายละเอียด
คำว่า กาย มันลึกซึ้ง เป็นทั้งเริ่มต้นและเรื่องจบ เช่น ผู้ที่ศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าจะมาบวช พระพุทธเจ้าท่านมีวินัยเลย ต้องสอนแยกกายแยกจิตให้ได้ มันแยกไม่ได้แต่ต้องแยกให้ได้ ถ้าแยกไม่ได้ก็ไม่รู้ คือ กายกับจิต นี้ มันแยกกันไม่ออก กายคือจิต จิตคือกาย แต่ต้องแยกให้ออกว่ามันมีความต่างกัน ลิงค มันเป็นเพศที่จะต้องอยู่ร่วมกัน และอยู่กันอย่างแยกกัน แม้ภาษาก็พูดยากแล้ว สังโยชน์ 10 ข้อแรกก็ต้องพ้นมิจฉาทิฏฐิในเรื่องของกาย และต้องรู้ความหมายของกาย ต้องรู้ความหมายของสักกายะ ต้องรู้ที่จิตและกายของตนเองให้ได้ เป็นข้อแรก ปฏิบัติธรรมโลกุตระของพระพุทธเจ้าข้อแรกก็ต้องปฏิบัติ กายในกาย คุณไม่พิจารณา กายในกาย แต่ไปพิจารณาแต่ จิตในจิต ก็เป็นโมฆบุรุษทางศาสนาพุทธ ไม่มีทางบรรลุธรรม
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประเด็นโลกุตระจากงานศพอาจารย์สมเกียรติ วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2564 ( 11:44:03 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 13:15:55 )
รายละเอียด
เอาที่จิตสิ ความอยากนอนคำนั้นไม่ได้เป็นกิเลส ถีนมิทธะ มันเป็นความเหมาะสมจะต้องให้พักให้มันนอนพักผ่อน พอหมดแล้วมันหมด ไม่มี ซึ่งอาตมาพูดนี้ อวดอุตตริมนุสสธรรมเลย มันไม่มีจิต ถีนมิทธะ มันมีแต่ทำงานมากมันก็เปลี้ย บางทีทำงานมาก คนก็ทักว่าควรจะพักได้แล้ว ตาโรยๆแล้ว เขาก็บอก เพราะบางทีมันสนุกทำงาน ยิ่งคิดยิ่งเขียนอะไรพวกนี้ โอ้โห อาตมาเขียนหนังสือจะลืมไปเลย พระพุทธเจ้าเข้าทรง มันไม่รู้วันเวลาผ่านไปเร็วมาก เดี๋ยวคนก็บอกว่าถึงเวลานั้นเวลานี้แล้ว จริงๆมันสนุกนะธรรมะโลกุตระ เบิกบานร่าเริงไม่มีซึมเศร้าเหงาง่วงจะเห็นได้ว่าอาตมาไม่มี โศก ไม่มีซึมเศร้าเหงาง่วง มีแต่ไอ...
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พญานาคมีจริง พญานาคไม่มีจริง วันพุธที่ 8 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 10 ธันวาคม 2564 ( 20:34:00 )
รายละเอียด
ภาษาบาลีคำว่าบุญหรือคำว่ากาย ไม่มีคำไหนในภาษาอื่นใช้แทนได้ ปัญญา คำนี้ก็เป็นของพระพุทธเจ้าบัญญัติ เอาไว้ใช้ แต่เอาไปเรียกเลอะ เหมือนกับคำว่าบุญเอาไปเรียกเลอะ จนกระทั่งตั้งคำว่านักบุญในศาสนาเทวนิยม เหมือนกับเอาลิงไปใส่มงกุฎ
ที่มา ที่ไป
รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 สู่แดนทองฉลอง 50 ปีโพธิกิจ วันที่ 1 มกราคม2563
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:15:49 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:41:48 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:12:11 )
รายละเอียด
คำว่า ปะ ย่อมาจาก ปฏิบัติไปสู่ความเป็นนักบวช คือผู้ปฏิบัติของชาวอโศกเพื่อจะก้าวเข้าสู่ความเป็นนาคหรือกรักต่อไป ผู้ชายก็เป็นนาค ผู้หญิงก็เป็นกรัก ต่อจากนาคก็เป็นเณรก็เป็นสมณะ ส่วนผู้หญิงนั้นก็เป็นผู้ปฏิบัติแล้วก็เป็นกรัก ก็คือนาคนี่แหละสวมผ้าสีกรัก โกนหัว แล้วก็เป็น สิกขมาตุ ต่อไป อย่างนี้เป็นต้น
ก็เป็นการระลึกได้ในสิ่งที่ได้เกิดแก่กันและกัน บอกกันปฏิบัติกันรู้สึกซาบซึ้งใจกัน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ในยุคนี้ต้องมาเรียนกับพ่อครูจึงจะบรรลุอรหันต์ได้ วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 ขึ้น 6 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 กุมภาพันธ์ 2566 ( 11:56:55 )
รายละเอียด
15 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ พอดีวันนี้มันฤกษ์งามยามดีมาประจวบงาน จัดไปจัดมา ตรงกับวันวิสาขบูชาของปีนี้ และก็เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระราชินี องค์ปัจจุบันของเราด้วย ก็เลยผนวกกันไป งานเราก็เลยเป็นงานที่มีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้มาร่วมผนวกกันเข้าไปอย่างดียิ่งเลย
คำว่า วิสาขะ นี่ ความหมายของมันคือ สาขา สาขะ เป็นสิ่งที่เป็นกิ่ง เป็นสิ่งที่แยกออกจากสาขา มีกิ่งแยกออกไปเรียกว่า วิสาขะ มีคำว่า ติ คำนี้แปลว่า 3 ก็มี 3 กิ่ง สามกิ่งสำคัญนั้นก็คือ
1 ประสูติ 2 ตรัสรู้ 3 ปรินิพพาน
เป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ตัวเลขก็คือ 15 ค่ำเดือน 6 ซึ่งเป็นวิสาขะของจันทรคติ เป็นดิถีวิสาขปุณมี เรียกว่าอย่างนั้น ซึ่งก็เป็นเดือนที่ระหว่างเมษายนกับพฤษภาคม ตอนนี้มันเลยมาถึงมิถุนายน วันนี้วันที่ 3
วิสาขะหรือวิสาขา เป็นชื่อของดาวฤกษ์ดวงหนึ่ง ที่เป็นดาวอยู่ในจักรวาล ซึ่งพวกเราอยู่ในโลกลูกหนึ่งจักรวาลนี้เป็นจักรวาลน้อยมี 9 ดวงด้วยกัน แต่ดาวฤกษ์อยู่นอก 9 ดวง อยู่โลกเรามองออกไปจะเห็นแสงสว่างทุกข้างขึ้น เต็มดวงเมื่อ 15 ค่ำ แล้วก็ค่อยๆ มืดลงเป็นแรม 15 ค่ำก็มืดสนิท
เพราะฉะนั้นในความหมายของพยัญชนะก็ดี ในความหมายของตัวเลขก็ตาม ในความหมายของ เทศะ ฐานะต่างๆของกาละต่างๆ ก็ตาม มันจะประจวบเหมาะระหว่าง 3 ใน 1 และ 1 ใน 3
คำว่า 3 ใน 1 ก็มีสภาวะ 3 อย่างคือประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานอย่างนี้เป็นต้นเป็นสามเส้า อยู่ในวงกลมวงวน หรือในองค์ประกอบหนึ่งที่เรียกว่าโลกหรือวงวน ที่จะหมุนเวียนสลับซับซ้อนอยู่ในนี้ มันจะมีเริ่มต้นจากสามเส้า และใน 3 ใน 1 และ 1 ใน 3 นี้ จะเกิดเรื่องราวอะไรต่ออะไรขึ้นไปเยอะแยะมากมาย
ที่มา ที่ไป
พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2566 วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ที่บวราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2566 ( 16:19:43 )
รายละเอียด
คือ สมะ สมถะ วิเวก สันตะ ก็แปลว่า ความสงบ สันติ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 79 วันจันทร์ที่11 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 14:54:33 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:43:43 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:13:35 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 09:52:51 )
รายละเอียด
มาที่ปริเฉทรูป แต่ละปริเฉท ก็มีอะไรรวมในนั้น แต่ละปริเฉท ก็รวมเป็น มันมีตัวอยู่ข้างนอก 2 ก็คือ กายวิญญัติ กับ วจีวิญญัติ เพราะฉะนั้นตัวนี้มันก็ต้องเรียนรู้ความต่างของกายกับวาจา แล้วคุณก็ต้องเรียนรู้ความต่าง คำว่า กายอีก ตัวนี้จะต้องเรียนอย่างสำคัญมาก
กายภายนอก กายภายใน แล้วยังมีกายที่เป็นสภาวจิต ไปอีก
สภาวกายภายนอกก็ไปปรุงแต่ง กายอะไรต่างๆนานาเยอะแยะเลยใหญ่ไม่ต้องไปเรียนมาก มันเหมือนกัน มันเป็นคู่ที่ต่างกัน ต่างกันอย่างหยาบ แต่ให้มาเรียนรู้ที่มันมาสัมผัสเรา เรียกว่า กายวิญญัติ วจีวิญญัติ วจีคือ คำพูดภายนอก มันก็คือ กายนั่นแหละ
กายก็คือตัวคู่ 2 รูปนาม จับกายมาเรียน มารู้ภาวะ 2 ของมันคือรูปนาม
ในรูปนามของกาย ก็เรียนรู้ความหยาบกับความละอียดเล็กไปเรื่อยๆ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ จบรูป 28 สู่เรือนาวาบุญนิยมพาพ้นไฟโลกีย์ วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 27 สิงหาคม 2565 ( 22:09:18 )
รายละเอียด
ดังนั้น ผู้เริ่มต้นสับสน กำหนดผิดทั้ง“ภาษา”ที่ว่า “กาย”
และผิดทั้ง“สภาวะธรรม”ในความเป็น“กาย”
ผู้นี้ก็จัดการ“กาย”กันแต่แค่ส่วนใดส่วนเดียวเท่านั้น
“ภายนอก”ส่วนเดียวความเป็น“กาย”ไม่เชื่อมโยงเข้ามาถึง
“ส่วน 2”คือ“ใจภายใน”เลย
ก็ได้แต่พิจารณาก็ดี จัดการก็ดี ก็ทำกันกับแต่“สรีระ”เท่านั้น
ก็ผิดแน่!
เพราะ“กิเลส”ที่เป็น“ตัวการสำคัญ”ที่ต้องกำจัดนั้น มันไม่ใช่“สรีระ”
แต่มันเป็น“จิตใจ”หรือ“นามขันธ์”ต่างหาก
หนังสืออ้างอิง
หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 137 หน้า 125
เวลาบันทึก 22 มิถุนายน 2564 ( 04:34:04 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2563
เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 09:42:54 )
รายละเอียด
เอาละ คิดว่าคุณไพทูรย์ก็คงจะเข้าใจ กายคำนี้ชัดเจน ต้องปฏิบัติเข้าใจและมีสภาวะความจริงเป็นความรู้ความจริงที่ลึกซึ้ง คำว่ากายนี้ยิ่งใหญ่ ทรงไว้ซึ่งการเป็นผู้ที่มีกาย อธิบายได้รอบทิศ ที่ยิ่งใหญ่ อาตมาจึงได้ขยายความคำว่ากายนี้ในหนังสืออีกหลายเล่ม ขยายคำว่ากาย คำว่าบุญ คำว่าเทวะ คำว่าฌาน คำว่าสมาธิ คำว่าปัญญา ต้องอธิบายสู่กันฟังกันอีกเยอะ เพราะมันผิดเพี้ยนไปจากศาสนาพุทธไปมากแล้ว มันจึงยากมากที่จะต้องพูดกันอธิบายกันจริงๆ
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 11:25:57 )
รายละเอียด
อาตมาตั้งใจอธิบายเรื่องกาย สัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกาย เป็นบุคคล 7 เมื่อกี้พูดถึง 9 แล้ว 2 อันยกไว้คือของพระพุทธเจ้ากับพระปัจเจก ก็เอาตั้งแต่ อุภโตภาควิมุติ จนถึงสัทธานุสารี บุคคล 7
ผู้ที่เรียนรู้บุคคล 7 นี้ได้แล้วรู้ว่า เราเองเราอยู่ในตระกูลศรัทธาหรือปัญญา แล้วได้ปฏิบัติจนกระทั่งถึง กายสักขี
กายสักขี สามารถรู้จักกายแล้วจึงสามารถทำอาสวะสิ้นได้ ทิฏฐิปัตตะก็เริ่มนับ แต่ยังไม่เด่นชัดถึงขั้นมีกาย กาย จะมีทั้งภายนอกภายใน ทิฏฐิปัตตะ จะมีแต่ภายในหรือมีแต่ภายนอกยังไม่สมบูรณ์แบบ เมื่อเป็นกายสักขี ก็ครบทั้งภายนอกภายในว่ามีวิมุติ วิมุติ เป็นอย่างนี้
เพราะฉะนั้นเมื่อมีปัญญาอันยิ่ง จึงทำได้ครบหมดเลยเป็นปัญญาวิมุติ ก็จบกิจเป็นอรหันต์ได้ ในบุคคลที่ 6 เท่านั้น ส่วนสายศรัทธานั้นต้องเติมปัญญา อีกอันหนึ่ง อุภโตภาควิมุติ เป็น 2 ศรัทธาพอได้แต่ยังไม่ถ้วนไม่รอบ จะต้องมีสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกาย ครบรอบมีกายสมบูรณ์แบบทั้งภายนอกภายใน จึงจะเป็น อุภโตภาควิมุติ
จริงๆแล้ว อุภโตภาควิมุติ กับ ปัญญาวิมุตินั้น ปัญญาวิมุติสูงกว่า บุคคลที่ 6 สูงกว่าบุคคลที่ 7 ไม่ต้องเสียเวลาจบได้ก่อนทันทีเลย อันโน้น อุภโตภาควิมุติ จะต้องครบ 2 ของพระพุทธเจ้าสายธัมมานุสารี ทิฏฐิปัตตะ ปัญญาวิมุติ
ส่วนสายสัทธานุสารี ต้องมาเป็นสัทธาวิมุติ แล้วจนกว่าจะเป็นทิฐิปัตตะ จนกว่าจะเป็นกายสักขีแล้วจนกว่าจะเป็นปัญญาวิมุติ มีปัญญาวิมุติจึงจะเรียกว่าเป็น อุภโตภาควิมุติ จึงต้องเก็บละเอียดเข้าไปอีก เข้าใจความซับซ้อนอันนี้ไหม
เพราะฉะนั้นคำว่ากายนี้ในบุคคล 7 นี้ ต้องสมบูรณ์แบบ ทำอาสวะสิ้นได้หมด เด็ดขาด ก็เป็นอรหันต์ เมื่อเป็นอรหันต์แล้ว ทีนี้ก็จะทำกายแตกตาย รู้จักกายแล้ว กายคือ องค์รวมของ ธาตุ ดินน้ำไฟลมแล้วมีจิตใจเป็นตัว อยะ เป็นตัวยางเหนียว รวมไว้
เพราะฉะนั้นจะทำให้กายแตก ก็สามารถที่จะทำให้เป็นอุตุไปได้เลย แยกเป็นดินน้ำไฟลมไปได้หมด
นี่แหละคือคนจบกิจสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างในเรื่องของพุทธศาสตร์ หรือธรรมะโลกุตระ เป็นศาสตร์ขั้นโลกุตระ จบทุกอย่าง ไม่มีในที่ไหนนอกจากศาสนาพุทธ ในโลกนี้ไม่มี มีอยู่แห่งเดียวในศาสนาพุทธ แล้วมันมีสัมมาทิฏฐิที่สุดอยู่ที่อโศกนี้ ศรีไสววิไลตา อยู่หว่างกลางพนา คืออยู่ระหว่างป่าทั้งหมด แต่อโศกนี้ศรีไสววิไลตา อยู่ท่ามกลางทั้งหมดยังเป็นป่า แต่ที่นี่เป็นเมือง ที่นี่เป็นสังคมผู้เจริญ สังคมอาริยะ นอกนั้นยังป่ายังเถื่อนยังเป็นมิลักขะอยู่ นี่ไม่ได้ไปดูถูกเขานะ ยิ่งเป็นศาสนาเทวนิยมนี้ยังเถื่อนอยู่มาก เขาจึงได้แย่งอำนาจแย่งทรัพย์สิน แย่ง GDP อะไรกันอยู่อย่างนั้น อีกนานนนน.. อีกนาน กว่าเขาจะรู้ เพราะฉะนั้นอยู่ในเมืองไทยนี้ ศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่กว่าศาสตร์ใดคือพุทธศาสตร์ อย่าไปหลงเมืองนอกมากนัก เรียนพุทธศาสตร์ให้เป็นโลกุตระให้ได้โลกุตระ ไม่มีก็เข้ามาเรียนในชาวอโศกนี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกฯ#45 วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน 2566 แรม 1 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 10 เมษายน 2566 ( 13:14:25 )
รายละเอียด
กาย คำเดียวนี่แหละ ยิ่งใหญ่ที่สุด กาย ต้องมีสภาวะ 2 สภาวะเดียวไม่ได้ เพราะฉะนั้นในคนไทยทุกวันนี้ เข้าใจว่ากายมีอย่างเดียวคือสรีระภายนอกเท่านั้น พอบอกว่ากายนี้หมายถึงจิต ไปเน้นตามที่พระพุทธเจ้าท่านเน้นเลย บอกว่า กายนี้ตถาคตเรียกว่าคือจิต มโน วิญญาณ พระไตรปิฎกเล่ม 16 ข้อ 230 ไม่ได้เน้นกายว่าคือสรีระ ท่านก็พูดผ่านว่ากับสรีระก็พิจารณาบ้าง มันไม่ยากหรอก แต่นี่เขาตัดลัดเข้าไปหาจิตเลย มันซับซ้อน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรม รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 38 อัมพัฏฐสูตรและกายในกาย
วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 01 กันยายน 2565 ( 13:58:47 )
รายละเอียด
อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 แล้วพอรู้บ้างแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าพระพุทธเจ้าเท่านั้น อาตมาทำให้โลกนี้ คือ โลกที่เราเกิดในปัจจุบันที่เราเป็นอยู่มีชีวิตมีร่างกาย มีจิตวิญญาณอยู่ในนี้ แล้วก็อยู่กับโลกที่มีแสงสว่าง เปิดจักษุ มีอาโลก แสงสว่างเปิดๆ แล้วก็ศึกษากันอย่างเรียนรู้ โลกเปิด ลืมตา ไม่ใช่ไปนั่งหลับตา คำว่า จักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา อาโลก คนที่มีปฏิภาณปัญญาจะรู้ว่าการรู้แจ้งต้องลืมตาปฏิบัติไม่ใช่หลับตาปฏิบัติ หลับตาบรรลุไม่ได้เพราะต้องมี จักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา อาโลก ผู้ที่มีปฏิภาณฟังแล้วจะรู้ว่าเราไปหลงหลับตาปฏิบัติมานาน แล้วจะเกิด หิริ อย่างแรงกล้าจะเกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าจะเกิดความรักเคารพอย่างแรงกล้า
ทำไมต้องละอายเกรงกลัว รักเคารพอย่างแรงกล้า เพราะตัวเองเคยได้หลงงมงายนั่งหลับตา แล้วได้เคยเถียงแย้งกับผู้ที่ลืมตาที่มีสัมมาทิฏฐิ เมื่อมารู้ก็จะเกิดความละอายที่เคยไปว่าไปละลาบละล้วงท่านไว้ ผู้ที่มีสำนึกจริงจะละอาย แต่ผู้ที่ไม่สำนึก จ้างให้ก็ไม่ละอายมันก็เป็นสัจจะของมันอย่างนั้น ไม่สำนึกเพราะเขาไม่รู้ เพราะเขามีอัตตามานะถือดี ไม่แจ้งไม่โล่งไม่โปร่ง ยึดมั่นกับสิ่งที่ผิดของตัวเอง
ผู้ที่ศึกษาปริยัติศึกษาบัญญัติเป็นเปรียญ 9 เป็นด็อกเตอร์ แต่ยังเชื่อยังศรัทธายังเข้าใจอยู่ว่า ถ้าปฏิบัติ ฌาน สมาธิ หรือ ปฏิบัติให้เกิดปรมัตถธรรมทางจิตวิญญาณต้องหลับตาปฏิบัติจึงจะเกิด ฌานเกิดสมาธิ หรือเกิดวิมุติ
ถ้าใครยังเชื่ออยู่อย่างนั้นก็ยังมิจฉาทิฏฐิ คุณจะเรียนเปรียญ 9 จะเรียน ดร.ปริยัติ อย่างไร ศึกษาของพระพุทธเจ้าของอาจาริยวาทมากมายเท่าไรก็ตาม แต่คุณก็ยังเชื่อว่าการปฏิบัติที่จะบรรลุ ฌาน สมาธิ วิมุติ ต้องหลับตา คนนี้ก็ยังมิจฉาทิฏฐิอยู่ เพราะฉะนั้นยกทิ้งไปได้เลยการนั่งหลับตาสมาธิ แต่หลับตาสมาธิมีอุปการะมาก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้สภาวะของรูป 28 สู่ความเป็นอรหันต์ วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 18:39:25 )
รายละเอียด
คือหมายถึงความขาดแคลน ความไม่มี ความแห้งแล้ง
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 14:13:57 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:46:47 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:15:00 )
รายละเอียด
ใช่ ไม่เอาอะไรมาสะสมเลย ไม่ยึดไว้เลย ในสภาวะจริง แต่มันซ้อนที่เราไม่มีแต่เรามี เรามีสวล.มีบารมี จะเป็นทรัพย์ เป็นพลเมืองประชากร ที่ยินดีรับใช้เราตายแทนเราเป็นสัจจะของเขา เขายินดีทำ ด้วยซื่อสัตย์จริงใจว่าคุ้ม เป็นสิ่งดี
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 30 สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน จนอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561
เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2564 ( 16:53:54 )
รายละเอียด
อาตมากำลังขยายความ คำว่าฉลาด มีสองคำ
หนึ่งคำว่าเฉโกหรือเฉกา ธรรมะความฉลาดแบบปุถุชนคือฉลาดแบบเฉโก ประกอบด้วยอวิชชา ประกอบด้วยกิเลส กิเลสไม่ลดลง ยังไม่มีอัญญะ อัญญา ความฉลาดแบบใหม่ แบบโลกุตระที่เป็นธาตุรู้ เป็นธาตุพลังงานทางนามธรรม มันมีธาตุตัวนี้ อาตมานำหลักฐานตำนานประกอบว่า ศาสนาพุทธพระสมณโคดม มีโกณทัญญะ ตั้งแต่แรกเริ่ม ปัญจวัคคีย์ 5 รูปที่ฟังธรรมพระพุทธเจ้า มีอัญญาโกณทัญญะ เป็นคนแรกที่ฟังแล้วก็เกิดธาตุตัวนี้ อัญญะนี้ภาษาบาลีแปลว่าอื่น อื่นคือไม่ใช่ตัวเก่า เป็นตัวอื่น แบบอื่น ถ้าของโลกีย์ก็จะวนแบบเดิม ไม่มีความแตกต่างไปจากเดิม ที่อยู่ในวงวนเก่า แต่ธาตุรู้ตัวนี้ มีคุณสมบัติคุณวิเศษใหม่ ที่มีความรู้จักลดตัวตน มีธาตุรู้ตัวใหม่ที่รู้จักตัวตน
ตัวตน = อายตนะ ตน คือตัวตน ภาษาไทยกับบาลีมีรากเดียวกัน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12 ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันที่ 18 มีนาคม 2561
เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:16:04 )
รายละเอียด
คำว่า ญาติธรรม ยิ่งใหญ่มาก เป็นพี่เป็นน้องเป็นตระกูลเดียวกัน พระพุทธเจ้าเป็นเหมือนพ่อใหญ่ อาตมาเหมือนแม่ ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า สารีบุตรกับโมคคัลลานะคือแม่ เราเป็นพ่อ ท่านบอกว่า สารีบุตรเป็นแม่เลี้ยง โมคคัลลานะเป็นแม่นม ซึ่งเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องลึกซึ้งเป็นเรื่องปรมัตถ์เป็นเรื่องกรรมวิบาก เป็นเรื่องความลึกซึ้งถึงขั้น พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องกรรมวิบากที่บอกว่า อจินไตย
ใครไม่มีวิบากไม่ได้เข้ามาอยู่สุขสบายอยู่ที่นี่ อย่าว่าแต่ได้มาอยู่เลย มีสิทธิ์เข้ามาใกล้ยังไม่ใกล้เลย คนในโลกนี้ 7พันกว่าล้าน จะรู้จักชาวอโศก ขนาดคนในประเทศไทยไม่รู้จักอโศก ชุมชนอโศก เพราะฉะนั้นป่วยการจะกล่าวไปไยถึงคน 7พันกว่าล้านในโลก ไม่ได้รู้จักง่ายๆหรอกในโลก บอกว่าพวกนี้เป็นพวกโลกุตระ เขาบอกว่าอะไร มะระหรือ ? ไม่รู้หรอก
พูดไปเหมือนดูถูกดูแคลนเขา แต่เป็นเรื่องจริง เป็นสัจจะที่สุดยอด อาตมาภาคภูมิใจนะที่เกิดมาในยุคนี้ที่เป็นยุคที่เสื่อม ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ อาณิสูตร เรื่องกลองอานกะ โลกมันหมดแล้วโลกุตระ ในสังคมพุทธนี่แหละมันเสื่อมจนกระทั่งไม่มีแล้วโลกุตรธรรม
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 31 วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 01 มิถุนายน 2565 ( 11:57:11 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นถ้าผู้ที่สัมมาทิฏฐิกับมิจฉาทิฏฐิเท่านั้น ในคำว่าต่างกันของที่ให้ศึกษากายกับสัญญานี้ กายกับสัญญามันมีคำ 2 คำ
1. สัตว์บางพวก มีกายต่างกัน สัญญาต่างกัน เช่น พวกมนุษย์ พวกเทพบางเหล่า พวกสัตว์วินิปาติกะบางเหล่า
2. สัตว์บางพวก มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน เช่น เหล่าเทพจำพวกพรหม ผู้เกิดในภูมิปฐมฌาน เป็นต้น .
3. สัตว์บางพวก มีกายอย่างเดียวกัน แต่มีสัญญาต่างกัน เช่นพวกเทพสว่าง อาภัสราพรหม (ว่าง ใส สว่าง แผ่กว้าง) .
4. สัตว์บางพวก มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน เช่น พวกเทพมืด สุภกิณหพรหม (ได้นิโรธมืดเป็นโชค) .
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมวิจัยให้รู้ความต่างในวิญญาณฐิติ 7 วันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 21:10:31 )
รายละเอียด
บาปคือกรรมที่ทำลงไปประกอบด้วยกิเลส กิเลสที่ประกอบด้วยกรรม เรียกว่ากรรมสำเร็จเป็นบาป บาปเป็นวิบากของกรรม เป็นผลของกรรมที่ทำแล้วมีกิเลสร่วม ก็เลยเป็นบาป บาปคือผลของกรรม ถ้ากรรมที่ทำแล้วไม่มีกิเลสร่วม การกระทำไม่มีกิเลสร่วมไปกับกรรมนั้น กรรมนั้นก็ไม่มีวิบากไม่เป็นบาปเป็นบุญ มันดีที่สุด ไม่เป็นบาปไม่เป็นบุญโดยไม่มีกิเลสร่วม
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 13:16:26 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561
เวลาบันทึก 23 มกราคม 2564 ( 10:30:08 )
รายละเอียด
คำว่า บุญ คำนี้ขอแทรกเข้าไปเพื่อให้คนเอาไปศึกษาคำว่าบุญมันต่างกับคำว่าทุนคนละขั้ว มันไม่ใช่ความมีนะ เป็นเครื่องมือในการประหารกิเลสสำหรับตนเองเท่านั้น ไม่ใช่ไปเที่ยวระรานใคร บุญ บุญไม่ไประรานใคร ไม่ไปทำร้ายใคร บุญทำร้ายกิเลสตัวเองให้หมดเกลี้ยงแล้วก็จบ เพราะใครก็ตามแหละ จะไปฆ่ากิเลสให้คนอื่นมันฆ่าไม่ได้หรอก มันต้องตัวเองฆ่ากิเลสของตัวเองเท่านั้น คนอื่นใดๆไม่มีสิทธิ์ที่จะไปฆ่ากิเลสของคนอื่น บอกได้แนะนำศึกษาภาษาได้
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญาโลกุตระ วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 8 ค่ำ วันพระน้อย เดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 11:28:41 )
รายละเอียด
คนที่เข้ากระแสแล้ว ถ้าประมาท ต่ำๆได้ อวินิปาตธรรมหลุดแน่
ถ้าแบ่งเป็น 4 ส่วน 25 เปอร์เซ็นต์ใน 100 เป็น 1 ควอเตอร์ คุณยังไม่ถึงขั้น 25% ก็หลุดแน่มีหวังหลุด หากมาถึงเกิน 25% จนถึง 50% ก็เรียกว่าพวกพ้นฝั่งขึ้นมาจากน้ำแล้ว จนกระทั่งไม่ตกต่ำแล้ว ทีนี้คือเกิน 50% เป็นนิยตะ ถึงเที่ยง แต่ถ้าส่วน 50 และอาจตีลังกาได้แล้วแต่ยังไม่ไปไหน จะกลับมาได้ แต่ถ้าหลุดลงไปก็จะเสียเวลา หลุดลงไปอ่อนแอ ถูกเสือคาบไปกิน หมางาบไปกิน กว่าจะขึ้นมาได้อีกก็ต้องเสียเวลาอีกยาวนาน เพราะฉะนั้นอย่าประมาท อย่าให้เสียถ้าตกลงไป มันต้องไปให้ได้จนถึงขั้น 75% เป็นนิยตะ ก็ honor แล้วระดับ 1 ระดับ 2 ระดับ 3 ไปเรื่อยๆเกิน 75 เปอร์เซ็นต์ เกินนิยตะถึงเรียกว่า สัมโพธิปรายนะ ถ้าถึงนิยตะนี้ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา ไม่เวียนกลับเป็นอาคามีแน่นอน เป็นอนาคามีไปแน่นอน
เพราะฉะนั้นความประมาทของคุณก็จะน้อยลงจนไม่ประมาทเลย ถ้าถึง 75 เปอร์เซ็นต์ก็จะไม่เอาแล้วประมาท ถ้าประมาทแล้วไม่ดี รู้ฤทธิ์เดชของความประมาท ในอุปกิเลส 16 ปมาทะ อัปปมาทะ นี้ไม่ได้ประมาทมันไม่ได้เลย ตัวปลายเลยนะ พระพุทธเจ้าก็สรุปว่า คำว่าประมาทนี้เป็นธรรมะที่ใหญ่เหมือนกับรอยเท้าของช้างรวมเท้าของสัตว์ไว้ทั้งหมดเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:14:06 )
รายละเอียด
คือฝี คือความไม่บริบูรณ์ของผิวหนัง มันก็เลยมีการต้องขจัดออก จนเป็นหนองเป็นน้ำเหลืองอยู่นี่ ดั่งปวดเจ็บ ฝีต้องมีเจ็บปวด แต่พระพุทธเจ้าสอนให้รู้ความจริง ตามความเป็นจริง ว่ามันต้องเจ็บ มันต้องปวด คุณต้องวางใจ ถ้าคุณไม่สามารถแก้ไขทำให้มันหายได้มันก็จะเกิดวนเวียน มันเป็นตรีทุกข์ แต่อันอื่นเป็นหม้อ รังจอมปลวกมันหายไปได้ง่าย แต่ฝีนี่ มันเป็นสิ่งที่เป็นวิบาก และเป็นของของคุณ กัมมัสกะของคุณทิ้งไม่ได้ ถ้ามันถึงคุณแล้ว จะต้องทนอยู่กันมันให้ได้ ถ้าใช้สมถะให้มันไม่เจ็บปวดก็ได้ ถ้าจะใช้ปัญญาก็ทำอย่างไรให้ฝีมันหายไปได้ให้หมดความเป็นโรคนี้ มันเป็นโรคพยาธิทุกข์โบราณมีโรคฝีในท้องคือวัณโรค
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 12:17:51 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:48:52 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:17:30 )
รายละเอียด
ก็ขออวยพรคำว่าพรเป็นสิ่งที่ประเสริฐไม่ใช่พูดไปแล้วก็ลูบหัวให้ซึมใส่หัวเข้าไปได้ คุณฟังให้เข้าใจก่อนแล้วเอาไปปฏิบัติตามคำพรคำประเสริฐให้ได้ให้เป็นประโยชน์ให้เป็นอานิสงส์ของคำที่พูด เช่นให้ไปปฏิบัติศีลให้เกิดอธิจิตให้เกิด อธิปัญญา เกิดอธิศีลในศีลข้อที่ 1 2 3 เป็นต้น ตามที่ได้อธิบาย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 37 วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2561
เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:18:11 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้น คำว่ามีและไม่มี สองคำนี้จึงเป็นสัจจะที่ยิ่งใหญ่ ฟังชัดเจนไหม คำว่ามีกับไม่มี สองคำนี้ยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นคนที่ไม่มีสวรรค์ ไม่มีนรกแล้วคืออรหันต์ขึ้นไป ระดับโสดาบัน มีสวรรค์นรกพอสมควร ระดับสกิทาคามี ก็ลดลง อนาคามี ลดอีก อรหันต์ ก็หมดเลย ไม่มีแล้วนรกสวรรค์ สวรรค์ 6 ชั้น นั้นเป็นของเก๊ทั้งนั้น ฟังให้ดี พวกคุณทำใจให้ชัดเจนเลย สวรรค์คืออะไร ยกตัวอย่างเช่น เมื่อกี้เขาบอกว่า ยังชอบขนมหวานอยู่ นั้่นเป็นสวรรค์
ที่คำว่า ไม่มี นั้น อาตมากินอาหารไม่อร่อย รสอร่อยมันหายไปหายไปจนกระทั่งเอาคืนมาไม่ได้เลย เพราะมันไม่มี รสอร่อยมันไม่มี มันไม่มีจริงๆ รสอร่อย เอาคืนมาไม่ได้เลย มีแต่รสธรรมดาตามความเป็นจริงของมัน ประสาทลิ้นของเราไม่ได้บกพร่อง มันก็รู้รสจริงตามที่มันมี แต่อร่อยมันไม่มี
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาผ่าอวิชชาหลับตาโง่ๆ วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2566 ( 18:03:57 )
รายละเอียด
ศาสนาทุกวันนี้เป็นศาสนาที่น่าสงสารมาก ได้แต่พูดคำว่าสงสาร หมายความว่าเราพูดโดยเห็นเขาวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏ ในวัฏสงสาร วนเวียนอยู่ในโลกีย์ วนเวียนอยู่ในความผิด วนอยู่ในความหลง ตามคุหัฏฐกสูตร
คำว่า กาย คำเดียวเขาก็ยังไม่รู้ เขาไม่รู้คำว่า กาย อย่างสัมมาทิฏฐิ แล้วเขาก็ไม่รู้อัตตาตัวตนที่เรียกว่า สักกะ ยังเข้าถึงตัวตนไม่ได้ ยังยึดได้แค่อัตตวาทุปาทาน ยึดได้แค่วาทะ ตัวตนแต่เขายังไม่เข้าถึงอัตตา
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น
จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 15:26:15 )
รายละเอียด
ที่จริงใช้ศัพท์คำเดียวกันว่าสมาธิ เราก็พยายามจะแยกสัมมาสมาธิกับมิจฉาสมาธิ แต่คนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจฟังไม่ค่อยเชื่อ ก็ต้องมาศึกษาให้ดี
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562
เวลาบันทึก 12 มกราคม 2563 ( 16:52:12 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:50:36 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:26:11 )
รายละเอียด
ก็เท่านั้นเองที่พูดนี้ก็พูดไปด้วยความจริงใจทั้งนั้น ซึ่งอาตมาขอบอกได้เลยนะว่าอาตมาไม่ได้มีจิตที่หลงในคำยกยอคำสรรเสริญยกย่อง พระพุทธเจ้าท่านตรัสแล้วก็อาตมาเห็นจริงท่านตรัสคำว่าสรรเสริญเยินยอเป็นความต่ำทราม ไม่พอแก่การบรรลุธรรม ท่านตรัสอย่างนั้นเลย คำตำหนิเท่านั้นเป็นคำที่ดีที่น่ายกย่อง แล้วจะพาให้บรรลุธรรมได้ ส่วนคำสรรเสริญนั้น
พระไตรปิฎก เล่ม 29 ข้อ 606
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ปฐมอโศก ระบอบการปกครองของมนุษย์ ที่สุดยอด
วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก
เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 11:53:24 )
รายละเอียด
คือจึงเป็นคำศัพท์ที่รวมความเป็นสาธารณะเชื่อมโยงขยายผลจากสิ่งที่ข้นที่สุดจากคนที่ไม่มีตัวตนไม่มี ของของตัวเลย จนกระทั่งมีบ้างนิดๆ หน่อยๆ อย่างชาวอโศก มุบมิบไว้เป็นส่วนตัวบ้าง เพราะว่าติดยังไม่กล้าที่จะไม่มีเป็นของส่วนตัวเลยเขาก็จะมีบ้างยิ่งคนที่จะมีของตัวเองมาก ต้องห่วงกังวลก็จะห่างออกไป มันก็จะเป็นระดับ เชื่อมโยงเป็นเครือแหสลับซับซ้อนอีก ในนัยของความหมาย ก็เพราะอย่างนี้ถึงจะสะสมไว้เพราะอย่างนี้ ถึงไม่กล้าให้จนหมดเป็นความเห็นแก่ตัว หรือว่าตัวเองไปสร้างอะไรที่เห็นแก่ตัวของของตัว เห็นแก่พวกของตัว เห็นแกภาระของตัว อะไรก็แล้วแต่ คนก็จะมีเยอะ ก็จะเหลือไว้เยอะ ก็ต้องสะสมไว้เยอะแต่คนที่บอกว่าไม่มีแล้ว ภาระส่วนตัว ของส่วนตัว เอาไปข้าวของส่วนกลางหมด เพราะเราเชื่อมั่นใน ความสำคัญของสาธารณโภคี ในส่วนกลาง แล้วทุกคนก็มีความรู้ ความจริงใจ ตรงกันที่มาอยู่ร่วมกันเนี่ย ไม่ใช่เรื่องพูดเล่นแต่เป็นเรื่องจริงของชาวอโศกที่มาปฏิบัติ สมณะโพธิรักษ์ว่ามันไม่ได้เข้าใจง่ายๆ อธิบายยากมากเลย ยิ่งคนต่างชาติ ต่างประเทศที่ไม่ใช่ชาวอโศก ไม่ชาวชาวพุทธที่มีภูมิปัญญาพุทธธรรมโลกุตระยากมาก ขนาดคนไทยชาวพุทธโลกุตระยังยากประมาณนี้เลย ขนาดเป็นอโศกยังมีหลายระดับ ยังไม่เป็นระดับเดียวกัน 0 หมายเลยไม่ได้ บางที่เขาก็อาจจะเข้าใจไปว่าให้มา 0 หมดเลยมันเป็นไปไม่ได้ เราก็ไม่เคยคิดว่าให้โลกทั้งโลกมาเป็น 0 หมดไม่ได้ มันจะได้ยังไงมันต้องมีระดับ เป็นชั้นๆ ไป แล้วเชื่อมโยงกันอยู่แล้ว แต่ละคนที่มาทำ ก็ปฏิบัติความเห็นแก่ตัว ความเป็นของตัว ให้ลดลง ก็จะเลื่อนขึ้นมาจนไม่มีความเห็นแก่ตัว แล้วก็มาอยู่กับส่วนกลาง สร้างส่วนกลางให้ได้มากที่สุดแล้วจะได้ เอื้อมเอื้อเกื้อกว้างเผื่อแผ่คนที่เห็นแก่ตัว โลภโมโทสัน ไม่มีพอไม่มีหยุด ไม่มียั้ง มีพันล้านหมื่นล้านแสนล้านก็ไม่หยุด พวกนี้มีฤทธิ์ดูดดึง เอาจากสังคมเป็นของตัวเองมีแรงมาก เยอะมากด้วย เราจึงต้องมีพลังงานอันนี้ช่วย มาช่วยส่วนที่ถูกเขาดึงไป เขาไม่หยุดในการแย่งในการดูดนะพวกไอ้ตัวดูดนี่ไม่หยุดดูด รวยฉิบหาย รวยมากเลย เป็นแสนล้าน ล้านๆมันก็ไม่หยุดแล้วมันทำได้ด้วย ไปหยุดยั้งเขาก็ไม่ได้เป็นกิเลสของเขา เราก็ต้องช่วยพวกที่เขาสู้ไม่ได้ก็พึ่งทางเรา เพราะทางโน้นมันพึ่งพาไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นความอำมหิต พวกที่ดูดยังไม่จบนี่ เป็นพวกอำมหิตเขาไม่รู้จักกรรมวิบาก เขาไม่รู้จักความเลวความดี เขาก็ทำอย่างหน้ามืด ตาบอดทั้งนั้น ซึ่งมันมีหลายชั้น มันมีความรู้ ความไม่รู้นี้หลายชั้นมาก ต้องมีอะไรมาหลอกคนอื่น เขาเองจะต้องมีมากๆ แล้วเขาก็ไม่รู้เขาก็หาทางบอกว่าเผื่อคนอื่น หลอกตัวเองให้ตัวเองมีมาก เสร็จแล้ว อายุตัวเองจะยืนยาวแค่ไหน ไม่ถึง200 ปีหรอก
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:15:02 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 13:52:49 )
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 03:35:17 )
รายละเอียด
อาริยะ กับ อริยะ แตกต่างกันคือ อริยะหมายถึงคนที่ ปฏิบัติแบบนึง ซึ่งไปนั่งหลับตาปฏิบัติ ไปปฏิบัติแบบโบราณ แบบฤาษีพาผิดๆออกไป แต่ก่อนคำว่าอาริยะ พระพุทธเจ้าพาปฏิบัติแบบถูกต้อง แต่มาถึงยุคนี้มันผิด หลวงปู่เลยเอาคำว่า อาริยะ ที่เป็นคำเดียวกันนั่นแหละแต่มันต่างกันที่สระอากับสระอะ ให้มันเป็นภาษาพยัญชนะที่ต่างกัน เพื่อมายืนยันว่า
ผู้ที่ปฏิบัติธรรมแล้ว บรรลุธรรม ลดกิเลสได้จริง ถูกต้อง เพราะทุกวันนี้ อริยะ มันเพี้ยนมันผิดไปแล้วใช้ไม่ได้ ทุกวันนี้ เรียกคนอริยะ คือ คนบรรลุธรรมชนิดผิดไปแล้ว หลวงปู่เลยเอาคำว่าอาริยะมา ให้เป็นคำที่เรียกใหม่ คนก็ท้วงว่าพูดเอาเอง
อาริยะคือของใหม่ มาจากคำว่าพระศรีอาริยเมตไตรย นี่ไง อาริยะ เป็นของใหม่ ศาสนาก่อนมีพระพุทธเจ้าองค์ก่อนนี้เข้าใจ อริยะ อย่างนั้น คนที่เสื่อมไปจากของพระพุทธเจ้า อาตมาก็นำมาใหม่ อาตมาเปิดศักราชของพระศรีอาริยเมตไตรย จึงนำคำว่า อาริยะ มาเรียกคุณสมบัติหรือคุณวิเศษที่พระพุทธเจ้าท่านสอน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 21 ตอบปัญหาให้พ้นความสุขคือความโง่ วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2564 ( 21:46:22 )
รายละเอียด
สรุปแล้วคำว่าเทวคำว่า 2 ยิ่งใหญ่ที่สุดในความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ ) ล.10 ข.60
นี่เป็นหัวใจของศาสนาพุทธแล้วมาเรียนรู้ตรงที่เวทนาเรียนรู้ที่ความรู้สึกของแต่ละคน แยกเวทนาให้เป็น แยกตัวเวทนา ให้ถูกต้องเลยเวทนาเป็นถึงร้อยแปด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม กาลามสูตรและเตวิชชสูตร วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2561 ที่บวรสันติอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 28) ตอน ธรรมะ 2 ให้เป็น 0 ได้ต้องยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้
เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:16:30 )
Facebook : test
Youtube : Name
Twitter : Name
Line : Name
Telegram : Name
Wechat : Name
Skype : Name