@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

อยู่เพื่อผู้อื่น

รายละเอียด

เมื่อคราวที่บรรยายธรรมะอยู่ที่วัดมหาธาตุ พอลงมา ไอ้หนุ่มมาคุยด้วย  คุยกันไปคุยกันมา ก็มีอยู่วันหนึ่ง อยู่ไปก็อะไรไป กินข้าวไป อร่อยไหม กินข้าวก็กิน  กินไปทำไม กินไปเพื่อพวกคุณ กินเพื่อพวกผมอะไร ก็ชีวิตหลวงพี่ ชีวิตอาตมา  อาตมากินข้าวเพื่อคุณ ก็เถียงอยู่นั่นแหละ พูดได้ไงกินข้าวเพื่อคุณ ตอนแรกคิดยังไม่ทัน  ถ้าคิดทัน ...ก็พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ โลกานุกัมปายะอยู่อย่างเนี่ยๆ แต่ไอ้หนุ่มคงไม่รู้หรอก

ที่มา ที่ไป

การสนทนาธรรมกับพ่อครู สมาธิพุทธเร็วจี๋และนิ่งสนิท บ้านราช  วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:10:45 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:53:24 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 11:51:37 )

อยู่เพื่อเปิดเผยธรรมพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาเขียนหนังสือมาเป็นร้อยๆ เรื่อง พิมพ์ออกมาหลายล้านเล่ม แต่คนอ่านน้อย นอกจากอ่านน้อยแล้วอ่านไม่เข้าใจอีกต่างหาก ได้บ้าง ก็เห็นใจ ว่ามันยาก อาตมาก็พยายามให้มันง่ายที่สุด เก่งเท่านี้ไม่ได้ออมมือ พยายามสื่อให้เข้าใจง่ายที่สุด เปิดของที่คว่ำให้หงาย ก็เก่งเท่านี้

ทำงานมา 50 กว่าปี อยากทำต่ออยู่ประคองขันธ์พิสูจน์ธรรมพระพุทธเจ้า 

อาตมาจริงๆอายุขัย 72 ปีเท่านั้น ก็พยายามอิทธิบาท พยายามใช้
Co-efficient ตอนนี้อายุจะ 90 ปีแล้ว ก็มั่นใจจะว่าอยู่ไปถึง 100 ปีแน่ แต่ไม่ใช่อยู่อย่างอ่อนแอ แต่อยู่อย่างขนาดนี้คล่องแคล่วปราดเปรียว แข็งแรง แล้วจะอยู่ทำงาน อยู่เพื่อเปิดเผยธรรมพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบคุณตู่-จตุพร และทนายนกเขา ดำเนินรายการโดย คุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 20:39:48 )

อยู่เหนือต้องมีความหวังดี ต้องมีพรหมวิหาร --เหนืออย่างนี้ จึงคือ “อุตตระ”!

รายละเอียด

คำสำคัญคำหนึ่งของศาสนาพุทธคือ คำว่า“อยู่เหนือ”ที่

บาลีว่า “อุตตระ”นี้ก็ต้องอธิบายกันหนักหนาอยู่ 

“อยู่เหนือ”ไม่ใช่“ข่ม” ไม่ใช่“ปรารถนาร้าย” ไม่ใช่อยาก

เด่น แต่เป็น“ความปรารถนาดี”แท้ๆบริสุทธิ์ใจ ที่บอก หรือแม้

จะตำหนิอย่างแรงขนาดไหน ก็เป็น“ความหวังดี”โดยแท้ ที่จะ

ช่วยเขาด้วยใจจริง และไม่มีอคติในใจเลย มี“พรหมวิหาร”จริง 

เพราะเราได้ทำ“ความอยู่เหนือกิเลส”ได้แล้ว หรือ“อยู่

เหนืออารมณ์”ที่ถูกกิเลสนั้นๆ ครอบงำได้แล้วจริง เห็นผลดีจริงๆ

ของ “การหลุดพ้น”นี้มาแล้วจริงๆ จึงปรารถนาดี อยากให้ผู้ที่

ตกเป็นทาสกิเลสอยู่ “หลุดพ้น”ด้วยบ้าง

 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 105 หน้า 107


เวลาบันทึก 15 มิถุนายน 2564 ( 20:47:33 )

อยู่เหนือภพชาติ

รายละเอียด

ทำให้อยู่เหนือกาละได้ เพราะเข้าใจปฏิจจสมุปบาททั้งหมด เริ่มตั้งแต่อวิชชา เปลี่ยนเป็น วิชชา

เมื่อเป็นวิชชา เราก็รู้จักสังขาร รู้จักสังขารแล้วสามารถทำอภิสังขารได้ ทำอภิสังขาร 3 สำเร็จ วิญญาณก็สะอาด เราก็รู้จักนามรูป เพราะเราปฏิบัติต้องใช้นามรูป แม้มันจะไปสนิทกันเป็นอายตนะ รวมกันจนกระทั่งเขาเรียกว่าตัวเชื่อม อายตนะ มันเป็น 2 สภาพอยู่ด้วยกัน 

เพราะฉะนั้นในกลุ่มของสังขาร วิญญาณ นามรูป อายตนะคือกลุ่มหนึ่ง ที่อาตมาเคยอธิบายมาแล้ว 

เพราะฉะนั้นในปัจจุบันชัดเจนจริงๆ เลย ก็เป็นวิชชานะ ก็มีผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน แล้วก็เป็น ภพชาติ

เพราะฉะนั้นเมื่อมีผัสสะ มีเวทนา เรียนรู้สัมมาทิฏฐิหรือเป็นมิจฉา ก็จัดการกับตัณหาเวทนาที่มันมีตัณหาก็จัดการกับมันที่มันมีอุปาทานก็จัดการกับมันออกให้หมด ถ้ามันไม่หมดมันก็ ภพ มันก็กลายเป็นกามภพ หรือ จะเป็นรูปภพ อรูปภพอยู่

ถ้าสามารถทำได้หมด ภพก็หมดด้วย กลายเป็นวิภวภพ 

วิภวะ แปลว่า ไม่มีภพ ในขณะที่เรากำลังปฏิบัติ เรามีกามตัณหา เรามีภวตัณหา คือรูปตัณหากับอรูปตัณหา เราก็ล้างกามตัณหาให้หมด หมดแล้วก็ล้างต่อ รูปตัณหากับอรูปตัณหา หมดอีก ส่วนคำว่า วิภวะ คือ ตัณหาที่ไม่ต้องการ ภพ ก็เหลือกิเลสในรูปภพ อรูปภพกิเลสก็หมด 

กิเลสในภพต่างๆหมด จิตก็เป็นจิตวิภวตัณหา เป็นตัณหาอุดมการณ์ อาตมาเคยอธิบายจนกระทั่งบอกว่าพระพุทธเจ้าก็มีวิภวตัณหา  ตัณหาอุดมการณ์ ต้องการจะสอนคนให้ได้ดี พระโพธิสัตว์ก็มีวิภวตัณหาทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่คนเด๋อๆ ไม่อยากได้ใคร่ดีอะไรไม่ใช่ เป็นความปรารถนาดีอย่างมีพลังด้วยมี ติพพัง มีแรงมีพลัง ต้องการให้คนได้ดี 

เพราะฉะนั้นเราจะเข้าใจที่อาตมาขยายความไปบ้างแล้ว ในปฏิจจสมุปบาท จนกระทั่งอยู่เหนือภพชาติ พอบรรลุอรหันต์แล้วก็เป็นผู้ที่ไม่มีปัญหาแล้ว จะดับภพจบชาติก็ทำได้ จะยังไม่ดับภพจบชาติเราก็ทำได้ จึงเรียกว่า ผู้อยู่เหนือภพชาติ 

ส่วน โศกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาสะ พระอรหันต์ตัดทิ้งแล้วไม่มีเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนอยู่เหนือกาละต้องชนะปฏิจจสมุปบาท พุทธศาสนาตามภูมิ วันพุธที่ 3 มกราคม 2567 วันแรม 7 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 มกราคม 2567 ( 15:34:58 )

อยู่เหนือโลกด้วยปัญญา

รายละเอียด

ชัดเจนตั้งแต่เรื่องของอบายมุขต่ำหยาบ ที่รู้กันอยู่ว่าเป็นเรื่องทุจริตเป็นเรื่องเสพติดของหยาบของชั้นต้นก็ตามต่ำๆ เราก็ได้เรียนรู้แล้วเลิกมาเลย หมดกิเลส หมดเสพติดสิ่งนั้น เห็นว่าเป็นของสมบัติที่คนหลง เราหลุดพ้นแล้วหลุดพ้นจริงๆ เราก็ไม่เสพไม่ติดอะไรอีก เขาก็มีไปอยู่ในโลก มันไม่หมดไปจากโลกหรอก เราอยู่เหนือโลกพวกนั้นได้ นี่เป็นภาษาไทยที่พูดกัน ฟังให้ดีๆอยู่เหนือโลกเป็นอย่างนี้ ไม่ได้ไปข่มโลกแต่เราลอยตัวเหนือสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้แม้จะมากระทบกระแทกอย่างไรเราก็ไม่แปรปรวนไม่เป็นอะไรไปตามคุณเลย จะมาหลอกล่อจะเอาความเฉลียวฉลาดอะไรมามอมเมาครอบงำ อะไรอย่างไรอีกก็ไม่สำเร็จ อย่างไรๆก็ไม่สำเร็จอย่างนี้เป็นต้น  ความรู้นี้ที่เรียกด้วยศัพท์เต็มๆว่าปัญญา ยอดปัญญานี้อาตมากำลังเขียนหนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มหนึ่งเลย ปัญญา 8 ของพระพุทธเจ้าที่ขยายความอยู่นี้ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 15:38:30 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:54:59 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 11:52:30 )

อยู่เหนือโลกต้องมีธรรมาธิปไตยในตน!

รายละเอียด

คนผู้จะ“อยู่เหนือโลก”หรือ“หลุดพ้นอำนาจโลก 

คือ จะต้องเป็นผู้มี“ธรรมาธิปไตยในตน”แล้วจริง จึง“หลุด

พ้นอำนาจโลก” 

เรียกตามศัพท์สั้นๆว่า“อยู่เหนือ(อุตตระ)โลก” ก็คือ“โลกุตระ”

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 125 หน้า118


เวลาบันทึก 18 มิถุนายน 2564 ( 05:17:46 )

อยู่เหนือโลกต้องไม่เป็นทาส!

รายละเอียด

ผู้“อยู่เหนือ”อำนาจโลก หรือ“หลุดพ้น”อำนาจโลก 

จึงได้แก่ ผู้หมดความเป็น“ทาสโลกียะ” 

ก็คือ ไม่เป็น“ทาสลาภ,ยศ,สรรเสริญ,สุข”กันได้ชนิด

ที่“จิตใจ”หมดกิเลสที่เสพติดนั้น 

สิ้นความยึดถือ(ดับสิ้นอุปาทาน)ในความเป็นโลกียะจริงๆ 

 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 124 หน้า117


เวลาบันทึก 18 มิถุนายน 2564 ( 05:16:12 )

อยู่แต่ผู้เดียว ไม่มีเพื่อน 2

รายละเอียด

เพราะละตัณหา ปราศจากราคะโดยส่วนเดียว  ปราศจากโทสะโดยส่วนเดียว   ปราศจากโมหะโดยส่วนเดียว   ไม่มีกิเลสโดยส่วนเดียว (...)

   เป็นผู้ไม่ประมาทบำเพ็ญเพียร มีใจแน่วแน่ ตั้งปณิธาน  ละ  บรรเทา  ทำให้สิ้นสุด  ให้ถึงความไม่มีซึ่งตัณหา อันมีข่ายแล่นไปเกาะเกี่ยวในอารมณ์ต่างๆ  ภิกษุผู้มีสติรู้โทษนี้ว่า ตัณหาเป็นแดนเกิดแห่งทุกข์  แล้วพึงเป็นผู้ปราศจากตัณหา ไม่ถือมั่น  เว้นรอบ (นี้เรียกว่าอยู่แต่ผู้เดียว)

 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 30  ข้อ 595

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2562 ( 19:24:39 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:55:42 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 11:53:37 )

อยู่แบบกดข่มกรรมใครกรรมมันไม่ใช่แบบพุทธ

รายละเอียด

ไม่ถูกหรอก แบบนั้นก็คือพวกเชน พวกหนีจากโลกไปไม่เกี่ยวกับใครเลย เอาตัวเองไปทิ้งเป็นเศษขยะรอวันตายไป ก็กินน้อยนะพวกเชน กินน้อยใช้น้อย อาศัยให้ชีวิตหายใจไป อะไรก็ไม่เอาทั้งนั้น นอนบนไม้นอนพื้นดินไป เสื้อผ้าหน้าแพรไม่เอา เครื่องไม้เครื่องมือไม่ใช้ ผมก็ถอนเอา แม้แต่มีดโกนก็ไม่ใช้ เลือดโซมเลย เขาก็ทนได้ โอ้โห สุด ทุกรกิริยา ฝึกอดทนจริงๆ เลย ผ้าผ่อนไม่นุ่ง นุ่งลมห่มฟ้า

เป็นการกดข่มอดทนที่สุด ไม่ใช่วิธีการของศาสนาพุทธที่ให้เรียนรู้ตัวกิเลส ให้เกิดปัญญาเป็น อุณหธาตุ มีฤทธิ์พิเศษที่ละลายกิเลสได้จริงๆ ฉะนั้นการสร้างปัญญาพลังงานจิตให้เกิดปัญญา จึงเป็นสุดยอดของการสร้างพลังงานในโลก 

เพราะฉะนั้นพลังงานนิวเคลียร์ที่เขาใช้อยู่ทุกวันนี้ มันก็เป็นของหยาบทั้งนั้น แต่พลังงานของพระพุทธเจ้าที่ให้สร้างปัญญาเป็นของละเอียดลึกซึ้ง มีประสิทธิภาพที่ทำให้กิเลสดับได้ ลูกระเบิดปรมาณูระเบิดนิวเคลียร์ ดับกิเลสไม่ได้หรอก คิมจองอึนคิดไปได้ขนาดไหนก็ไม่รู้ ก็ไม่มีทางดับกิเลส 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาปฏิบัติเป็นลำดับอย่างไม่กดข่ม วันพุธที่ 16 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 มีนาคม 2565 ( 17:47:29 )

อยู่ในกลุ่มที่ขัดแย้งกับเราเป็นเหตุเป็นโจทย์ให้ศึกษา

รายละเอียด

หากเราตกอยู่ในกลุ่มที่ขัดแย้งกับเรา เราก็อย่าไปยึดมั่นถือมั่น เราเป็นจริงกับเขาไหม ขณะที่ในเรื่องบางครั้งบางเรื่องราวบางโอกาส มันจะมีบางโอกาส โอกาสนี้มันต้องเป็นอย่างนี้อนุโลมอย่างนี้ ถ้าไม่อย่างนี้ไม่ได้หรอกมันมีเหมือนกัน เราก็ไม่ต้องไปยึดมั่นถือมั่นอะไรหรอก รู้ไปตามจริง มันเป็นเหตุมันเป็นโจทย์ทั้งหลายแหล่มันเป็นเหตุเป็นโจทย์ให้เราได้ศึกษาทั้งนั้น จริงๆ ถ้ารู้จักสังขารโลก การปรุงแต่งของโลกแล้ว อาตมาเข้าใจอยู่กับสังขารโลก เรามีเสนาสนะมีหมู่พวกมีมิตรดีสหายดีอยู่ร่วมด้วยเป็นธรรมดาธรรมชาติ น้อยหรือมากก็แล้วแต่ อย่างเช่นอาตมาอยู่ในกลุ่มชาวอโศก อยู่ในที่นี้ เมื่อรู้ข่าวคราวทุกวันนี้ก็Globalization ข้างนอกมีอะไรเราก็รู้ถึงกันหมด มีที่อยู่ มีบุคคล มีเครื่องอาศัยสมบูรณ์แบบแล้วของเรา ยิ่งธรรมะก็ยิ่งสมบูรณ์แบบ เราก็รู้ของกลุ่มอื่นเขาที่เขาเป็นไปไม่ได้เห็นไหม ยิ่งมีเหตุผล มีโควิด กระแทกกระเทือนเรื่องของเศรษฐกิจสังคมมากระแทกให้เขาเกิดความหวั่นไหว เกิดความสะเทือนเกิดความเดือดร้อนขึ้นมา ดูเหมือนเราก็ไม่ได้เป็นอย่างเขา ไม่ได้หวั่นไหวไม่ได้กระเทือน วูบวาบอะไร ก็เป็นกลางอยู่สบายๆนิวตรอน นี่คือสัจจะที่คุณดูเถอะ อาตมาปฏิบัติตามธรรมะพระพุทธเจ้า เคยสรุปหลายครั้งว่าอาตมาประสบผลสำเร็จแล้วพวกเราเสถียรแล้ว มีที่อาศัยมีที่อยู่ได้ โลกเขาจะเป็นอย่างไรก็ไม่หวั่นไหว อยู่ที่ตัวคุณเท่านั้นจะวูบวาบไหม มันครบแล้ว แต่คุณเองยังไม่นิ่งไม่จบยังไม่รู้ว่าเราสมบูรณ์แล้วได้สมบูรณ์แล้ว แม้ว่ากิเลสเราก็ยังไม่หมดก็ยังอาศัยหมู่กลุ่ม อาศัยสถานที่ อาศัยอาหาร อาศัยธรรมะได้แล้ว ก็รู้ว่าตัวเราเองจะเหลือเศษธุลีละอองที่ต้องอาศัยหมู่ สภาพแวดล้อม หากว่าไม่มีสภาพแวดล้อมเหล่านี้ตัวเองตกอยู่ในกลุ่มอื่น เสนาสนะอื่น เครื่องอาศัยอย่างอื่นธรรมะแบบอื่นคุณก็ยากกว่านี้ เราจะเห็นสิ่งที่มันอาศัยซึ่งกันและกันได้ชัดเจน 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 14:30:56 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:56:16 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 11:54:34 )

อยู่ในถ้ำติดถ้ำจมอยู่ในความหลง

รายละเอียด

พยัญชนะก็คืออยู่ในถ้ำติดถ้ำ จมอยู่ในความหลงแค่นี้ก็หนักหนาสาหัสแล้ว เราเป็นคนอย่างนี้เชียวหรือ อย่างนั้นแหละยังมีอยู่เยอะ เห็นทางโทรทัศน์จอ SBB จอของกลุ่มมหาบัว น่าสงสาร หัวโล้นมันๆ ถ่ายภาพมาน่าสงสาร สนิทนิ่ง สงบ ศรัทธาเลื่อมใส มุ่งมั่นตั้งใจ เห็นแล้วก็น่าสงสาร ไม่รู้จะทำยังไง คนเราจะไปบีบบังคับให้คนฉลาด ให้คนรู้ตื่น มันบังคับไม่ได้ก็ได้แต่ไปอย่างนี้แหละ กระตุกอยู่เรื่อย เขย่าแทงให้รู้สึกตัวว่าตื่นๆๆ ไม่ยอมชาคริยะ ไม่ตื่น ไม่สะดุ้งสะเทือนเฉย อย่าว่าแต่แทงด้วยเข็มเลย แทงด้วยหอก 100 เล่ม เช้า กลางวัน เย็น ก็เฉย ยิ่งกว่าหินผา พูดก็เมื่อยแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ผู้ไม่รู้ตัวเองไม่รู้ทั้งหมด ผู้รู้ทั้งหมด รู้ตัวเอง วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 11:23:46 )

อยู่ในแวดวงชาวอโศกจริงแล้วคนนั้นจะอยู่ทำงานฟรี

รายละเอียด

ผู้ใดที่ไม่มอบตนในทางที่ผิด ก็คืออยู่ในกลุ่มชาวอโศก อยู่ในส่วนกลางชาวอโศกไม่ออกไปทำงานอาชีพมีรายได้เกี่ยวข้องกับข้างนอก พูดไปแล้วเหมือนกับบอกว่ามันตลบแตลง ทุกคนก็ขายของเกี่ยวกับคนข้างนอก เราอยู่ในชาวอโศกเกี่ยวข้องกับชาวข้างนอกจริง แต่ส่วนได้ส่วนเสียภายใน เรามาทำงานกับชาวอโศก ชาวอโศกจะมีส่วนตัวเพื่อที่จะเหมือนกับเป็นเงินสร้างรายได้ส่วนตัว ก็อยู่ในวงแคบครอบครัว ถ้าอยู่ในแวดวงชาวอโศกจริงแล้ว คนนั้นจะอยู่มาทำงานฟรี ในหมู่กลุ่มใหญ่เลย สำหรับแต่ละครอบครัวเรียกว่านายทุนน้อยซ้อนอยู่ในชาวอโศก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 14:42:03 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:56:40 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 11:55:30 )

อยู่ได้สบายถ้ามีภูมิธรรม

รายละเอียด

ที่นี่ก็มีครบ สถานที่ที่น่าอยู่ มีคนที่ดี มีอาหารดี มีสถานที่ดีมีธรรมะดี คือสบาย แม้ธรรมะก็สัปปายะ ไม่ได้พูดหลอกหลวงไม่ได้พูดเล่นๆแต่พูดจริง ผู้รู้เข้าใจดีก็มา ก็มาแล้วที่นี่ โอ้โห ถ้าคุณมีคุณธรรมมาได้เลย ถ้าคนไม่มีคุณธรรมจะมาอยู่ยาก ก็จะอยู่ไม่รอดหรอกเดี๋ยวก็ไป แต่ถ้าคนที่มีภูมิธรรม พอมาอยู่ได้สบาย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 12:16:23 )

อยู่ได้เพราะการแพ้ที่ไม่ผิด ใครทำผิดกับเราต้องมีวิบาก

รายละเอียด

อาการเช่นนี้มันคือนัยยะที่ดี คือดีแล้วมาลงที่ตัวเอง จะทุกข์แต่ให้คนอื่นพ้นทุกข์เป็นผู้ยอมก็ดี จะต้องทำการศึกษาที่ตัวเองทุกข์ว่าความทุกข์คืออะไร คุณไม่รู้จักความทุกข์ คุณก็ไปยึดถือความทุกข์ คุณทำดีกับเขา แล้วคุณยกตัวอย่างว่าแต่ถ้าทำให้คนอื่นเจ็บเมื่อไหร่เราก็ทุกข์ใจ มีความทุกข์มากกว่าที่เห็นเขาเจ็บ ก็เลยหลีกเลี่ยงไม่เอาชนะเขา ไม่แข่งขันกับเขา แล้วคุณไปทำให้เขาเจ็บหรือเปล่า ถ้าคุณเองไปทำให้เขาเจ็บ คุณไม่เอาชนะเขา ไม่แข่งขันเขา เราไม่ทำดีกว่าก็ดีแล้ว เพราะฉะนั้นคำว่า ยอมแพ้ คำนี้ยิ่งใหญ่มากเลย อาตมาก็บอกว่าอาตมาอยู่ได้เพราะการแพ้ นี่แหละ ชีวิตปางนี้เป็นสมณะโพธิรักษ์หรือนายรักษ์ รักพงษ์มา อยู่ได้เพราะแพ้ เราแพ้แต่ไม่เป็นผู้ผิด คนเขาจะเอาชนะเรา ก็ให้เขาชนะไป สุดท้ายเมื่อพูดความจริงแล้ว ความจริงแล้วคนผิดควรเป็นคนแพ้ใช่ไหม แต่คุณไม่ยอมรับตัวเองว่าตัวเองผิด ตัวเองจะเอาชนะๆๆๆ แล้วก็รุกรานจนจะมาทำร้ายเรา เราก็บอกว่าให้คุณชนะไปเถิด ยอมให้คุณชนะ คุณก็ชนะ ซึ่งที่จริงแล้วมันไม่ดีหรอกมันโหดร้าย แต่มันเป็นเรื่องสุดวิสัย เขาก็จะเอาชนะเพราะเขาไม่ยอมแพ้ เพราะฉะนั้น การแพ้ คำนี้กับคำว่า ผิด มันจึงมีนัยยะสำคัญ อาตมาก็บอกว่าอาตมาแพ้ได้ แต่อาตมาไม่ผิด อาตมาขอยืนหยัดยืนยันความถูกต้องความจริงอันนี้ แม้จะเอาเราตาย ยืนยันตายก็ตาย แต่เราไม่ผิด ความผิดอยู่ที่คุณ เพราะฉะนั้นความผิดโดยสัจจะมันก็เป็นสัจจะ ใครทำกับเราผิดเขาจะต้องมีวิบากไป ไม่ได้สาบแช่งอะไรนะ แต่มันเป็นสัจจะ แต่เขาก็ยึดติดเป็นอัตตาว่า ฉันชนะ ฉันดี แล้วไปเข้าใจว่า ผิดให้เป็นถูกอย่างนี้เป็นต้น มันก็จะหลงตัวเองไปอย่างนั้น มันสุดวิสัยก็ต้องจำนน อย่างที่อาตมายอมจำนนต่อเถรสมาคม สุดวิสัย แล้วก็ค่อยๆมาทำงานเพื่อขยายความถูกต้องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับอาตมามากมาย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 10:10:51 )

อย่ากระพริบตาติดตามดีๆ เรื่องการเมือง

รายละเอียด

เรื่องการเมืองก็ขอวิเคราะห์อีกนิดหนึ่งว่า ตอนนี้เราจะไปตัดสินเราจะลงมติว่าใครผิดใครถูก ใครชนะใครแพ้ อย่าง 100% ยังไม่ได้ แต่สำหรับอาตมานั้น ตัดสินสำหรับอาตมาที่มันเป็นแต่ละบริบทๆ อาตมาก็จัดแต่ละบริบท ว่าการเมืองของไทยชนะมาหลายบริบทเต็มทีแล้ว ถ้าเราจะจัดว่า ใน 10 บริบท ประเทศไทยขณะนี้ชนะไปแล้วกี่บริบท ฟังนะที่อาตมาตั้งสูตรให้ฟัง ถ้าการเมืองแบบโลกุตระเมืองไทยขณะนี้ 10 บริบทนี้ชนะมา 7-8 บริบทแล้ว ยังเหลือพวก บ๊องๆๆ อยู่อีก 1-2 บริบทเท่านั้น อย่ากระพริบตาติดตามดีๆ สนุก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนดีต้องเมตตาคนเลวและต้องไปด้วยกันได้ วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 17:09:26 )

อย่ากลัวอุปสรรค

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปกลัวอุปสรรค อุปสรรคทำให้เราเองได้มีภูมิธรรมสูงขึ้น แล้วมันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีอุปสรรคได้ง่ายๆ ขนาดบรรลุเป็นพระพุทธเจ้านะ ยังมีอุปสรรคเลย อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ยังมีอุปสรรคเพราะฉะนั้นอย่าไปกลัวอุปสรรคอาตมาเคยบอกเคยสอนเป็นโศลกว่า อุปสรรคเป็นของมัน อย่าไปกลัว ทำขั้นตอนให้ดีอย่าไปเกินตัวเอง เอาขนาดนี้ให้พอเหมาะสู้ไป ให้รู้ระดับแล้วก็พยายามพากเพียรไป ชนะได้ตามลำดับ

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 22 สงครามข่าวสารกับปรากฏการณ์จริงการเมืองไทย วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 แรม 11 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 พฤษภาคม 2566 ( 20:06:36 )

อย่างไร เรียกได้ว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จจากสัมมาสิกขา

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้สิ่งสูงสุดประเสริฐที่สุดในความเป็นคน เกิดมามีร่างกายจิตนิยามเป็นคนเป็นสัตว์สูงสุดแล้วในโลก โลกทุกโลก คนนี่สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉานหรือสัตว์อะไรทั้งหมด แล้วยังแบ่งคนออกเป็นคนในระดับโลกียะและโลกุตระ 

จริงๆ แบ่งเป็น 3

ระดับโลกีย์ชั้นต่ำ กับระดับโลกีย์ชั้นสูง เป็นโลกีย์นะ แล้วพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ความเป็นโลกุตระที่เหนือกว่าโลกีย์ ถ้าสามารถทำจิตของเราให้เป็นโลกุตระได้ด้วย นั่นแหละเป็นผู้ประสบความสำเร็จจากสัมมาสิกขาไปทีเดียว ไม่ได้ก็ต้องพากเพียรศึกษาต่อ แล้วจะรู้เองไม่ต้องไปบังคับเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูให้โอวาทพิธีรับกลด นักเรียนสัมมาสิกขา ปีการศึกษา 2562-2563

วันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 17:16:00 )

อย่างไรคือ Supra civilize หรือ supramundane

รายละเอียด

ขอสรุปว่า ที่จริงมันเป็นตัวอย่างของโลก เมืองไทยนี้ เพราะมันเป็นเมืองของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะต้องเอาธรรมะโลกุตระของพระพุทธเจ้าฟื้นขึ้นมาใช้ให้แก่โลก ช่วยโลกเข้าไว้โลกุตรธรรมจะช่วยโลกไว้ ผู้มีภูมิปัญญาแม้อยู่ในต่างประเทศก็ตาม จะค่อยๆติดตามศึกษาเหล่านี้ เพราะเป็นสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่เป็นอารยธรรมจริง เป็น Supra civilize ไม่ใช่ normal civilize เพราะฉะนั้นมันจึงต่างกัน ไม่เหมือน Normal ศิวิไลซ์ ยิ่งเป็นพวกที่ Abnormal อย่างน้อยก็ยิ่งแย่ใหญ่ อย่างพวกที่ออกมาชุมนุมอยู่ทุกวันนี้การเมือง ABnormal เป็นการเมืองตลก พิสดาร วิตถาร มันออกนอกโครงสร้างของสัจธรรม นอกโครงสร้างของ civilize แต่นี่มัน supramundane มันเหนือธรรมชาติ มันเหนือโลกีย์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมืองไทยเป็นเมืองของพระพุทธเจ้า-โลกุตรธรรมจะช่วยโลกได้ วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 เมษายน 2564 ( 20:25:48 )

อย่างไรคือ กฎไตรลักษณ์ทั่วไป

รายละเอียด

อาตมาพยายามจับความเข้าใจความหมายที่คุณตุ๊ก อัศวินหมายนี้ว่า กามคุณ กลายเป็นกามโทษได้ เพราะล้วนตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์ 

คุณพยายามทำความเข้าใจ กฎไตรลักษณ์มันเป็นธรรมดาธรรมชาติ ที่มันไม่เกี่ยวข้องกับอะไร เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นกฎตายตัวของธรรมชาติสามัญ 

แต่เราเป็นคน เราจะปล่อยตัวไปตามธรรมชาติ ตามยถากรรม ว่าแล้วแต่มันจะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คนนั้นก็ปล่อยตัว โดยที่ตัวเองยังไม่ได้ปฏิบัติอะไร ก็มีอวิชชาเป็นเจ้าเรือน มีกิเลสเป็นเจ้าเรือน กิเลสกับอวิชชามันจะพาไปตามยถากรรม พาไปตามไตรลักษณ์ ซวยๆๆ and the ซวย เท่านั้นเอง คนนั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม Neo protest ที่มีปัญญาและไม่มีตัวตน วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 มีนาคม 2564 ( 20:56:48 )

อย่างไรคือ การทำบุญและได้ส่วนบุญ

รายละเอียด

ทีนี้มาเริ่มพูดถึงเปิดยุคบุญนิยม

บุญคือ เครื่องชำระ การชำระกิเลส ต่างจากกุศล กุศลเป็นสมบัติ บุญเป็นวิบัติ ไม่ได้มีตัวตน ไม่ได้มีอาการอะไร อยู่ในปัจจุบัน ปรุงแต่งเป็นพลังงานในปัจจุบันรู้จักกิเลส บุญมีปัญญารู้จักกิเลส พอกำจัดได้บ้าง ก็เรียกว่าได้ส่วนบุญ เขาที่ไม่รู้ว่าได้ส่วนบุญคือเอาไปกองไว้ ไม่ใช่  ได้ส่วนบุญคือบุญไปกำจัดกิเลสออกได้ส่วนหนึ่งเป็นเสขบุคคล เป็นผู้รู้จักกิเลสแล้วฆ่ากิเลสได้ส่วนหนึ่ง มันแหว่งออกไปส่วนหนึ่ง ส่วนที่หายออกไปคือส่วนบุญ ไม่มีได้อะไร มีแต่กิเลสหมดไป กิเลสมันแหว่งหายไป กลายเป็นธุลีละอองไปหมด กลายเป็นอุตุไปแล้ว นั่นคือส่วนบุญ ปุญญภาค หรือปุญญาภาคิยา ส่วนบุญ

เมื่อไม่เข้าใจส่วนบุญก็นึกว่าส่วนบุญที่ได้นี้คือสมบัติคือกุศล เมื่อเข้าใจว่าส่วนบุญคือกุศลก็ซวยแล้ว คนนี้จะไม่มีทางปฏิบัติธรรมบรรลุธรรม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิห่ริย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน การทำบุญทำทานอย่างสัมมาทิฏฐิเป็นเช่นไร


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 11:02:47 )

อย่างไรคือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนถาวร

รายละเอียด

เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนถาวร แก้ปัญหาที่จิตวิญญาณให้เข้าใจอย่างถูกต้อง แล้วพวกคุณก็แม้จะขยายผลช้าไปบ้างแต่มันถาวรไงไม่เปลี่ยนแปลง มันก็จะขยายผลไปเรื่อยๆ จะมากขึ้นเรื่อยๆอีก 10 ปี 100 ปี 200 ปี 300 ปีจะมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ชาวต่างประเทศก็จะมาเรียนรู้ดีไม่ดีชาวต่างประเทศอาจจะมาเอาสูตรนี้ไปก่อนก็ได้ ผู้ที่ศึกษาเศรษฐศาสตร์จะเห็นว่ามีกลุ่มนี้ด้วย เหมือนกับพวกต่างชาติก็มีพวกอาร์มิช เป็นต้น แต่มันไม่มีทฤษฎีถาวรแบบพระพุทธเจ้าแต่ของพระพุทธเจ้าถาวรยั่งยืนซึ่งศาสนาพุทธเดี๋ยวนี้มันเพี้ยนไปนานแล้วจนมาในยุคนี้ 2,500 กว่าปีอาตมาเอาของพระพุทธเจ้ามาหยั่งลง ก็ฟื้นได้

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้เกิดปัญญาถึงอรหันต์ วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 21:12:33 )

อย่างไรคือ ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา

รายละเอียด

แล้วยิ่งบอกว่าขาดทุนของเราคือกำไรของเรามันก็ยิ่งหนัก หากขาดทุนไปๆๆ มันก็ไม่เหลือสิ แต่ความจริงมันไม่ใช่ เราไม่ได้พูดเอาแต่ได้ ไม่ได้พูดโมเม เขาคิด ทุนคืออะไรตามสากล ไม่ได้ไปคิดเองว่าทุนคืออะไร คิดหมด ค่าวัตถุดิบ ค่าโสหุ้ย ค่าแรงงาน ทางร่างกาย ทางสมองความรู้ คิดหมด เราก็เอาแต่ค่าแรงงาน คนมีความรู้มาก ทำงานได้ผลมากได้ผลดีวิเศษ ค่าแรงงานก็ต้องแพงตามหลักเกณฑ์สากล ในสัจจะ ไม่ใช่ไปตั้งเอาเอง แต่เรามาเสียสละซะ เรามามักน้อยสันโดษเรามาเอาแต่น้อย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมะสองของประชาธิปไตย  วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 12:39:57 )

อย่างไรคือ คนที่เป็นอาริยะ

รายละเอียด

คือพวกคนรวย คนได้เปรียบ จริง คุณเก่งไม่ได้ว่าคุณทุจริต คุณไม่มีความสามารถ หรือคุณไม่มีความรู้ คุณมีความรู้คุณมีความสามารถขยันหมั่นเพียรคุณเก่ง แต่คนเก่ง โดยธรรมดาธรรมชาติ คนเก่งคนสามารถ ควรช่วยเหลืออุ้มชูผู้อื่น ช่วยผู้อื่น แม่แข็งแรงกว่าลูกเก่งกว่าลูกช่วยลูก รับใช้ลูก เสียสละให้ลูก มีของ 2 ชิ้น 3 ชิ้น มี 4 ชิ้น ให้ลูก 3 ชิ้นแม่เอา 1 ชิ้น สำหรับยังชีพไปได้ ให้ลูก 3 อย่างนี้คือคน ที่เป็นอาริยะ เป็นคนฉลาด เป็นคนประเสริฐ เป็นคนดี 

เพราะฉะนั้นคนที่เก่ง ไม่ทุจริตด้วย สามารถด้วย พวกทุจริตไม่ต้องพูดเลย ใช้เล่ห์เหลี่ยมซับซ้อน ยิ่งซับซ้อนหลอกคนไม่ให้รู้ทัน มีเล่ห์เหลี่ยมซับซ้อนสร้างค่ายกล สร้างกลวิธี ระบบหุ้นเป็นต้น ระบบสารพัดที่เขามี อาตมาในชาตินี้ไม่เก่งจะไปเอาเปรียบคน อาตมายอมรับว่าอาตมาโง่ อาตมาแพ้สำหรับนายทุน แพ้ลิ่วเลย ชาตินี้เกิดมาไม่ได้เป็นนายทุนกับเขาเลย มีแต่เป็นลูกหนี้ ลูกหนี้นายทุนนี่แหละ เคยเสียเปรียบเขามาตั้งแต่เป็นฆราวาส เป็นลูกหนี้ที่ดี นายทุนเขามายกยอ เราก็ซื่อสัตย์สุจริต ส่งต้นส่งดอกไม่มีขาดไม่มีเกิน ไม่มีให้ต้องทวงเลย พอใช้หนี้หมดปั๊บ หนังสือตามมาเลย ขอขอบคุณ เชิญเป็นเพื่อนกันต่อไป ยินดีรับใช้ เขาบอกว่าเขายินดีรับใช้ มาใช้บริการหนังสือตามมาเลย 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 17:11:27 )

อย่างไรคือ คนมีกายปาคุญญตาจิตปาคุญญตา

รายละเอียด

อาตมาสุภาพที่สุดและคนพาซื่อบอกว่า อาตมาดิ้น มีมือไม้ปากคอเนื้อตัวพูดคล็อกๆๆ นี่แหละคือคนมีกายปาคุญญตา จิตปาคุญญตา มีองค์ประกอบของกาย วาจา ใจ คล่องแคล่วปราดเปรียว

โดยเฉพาะไม่มีมิจฉาในการพูดเช่นมิจฉา 4 ไม่มีมิจฉาในการกระทำทั้งหมดกัมมันตะ เป็นต้น ไม่มีปาณาติบาต ไม่มี กาเมสุมิจฉาจาร พูดไปด้วยจิตสะอาดหมด 

เรื่องอทินนาทาน ก็ไม่มีการทุจริตอะไรอยู่ในการให้การรับ อทินนาทาน ไม่มีทุจริตหยาบกลางละเอียด ปาณาติบาต อย่าว่าแต่ฆ่าหรือเบียดเบียนสัตว์ มีแต่จิตปรารถนาดีต่อสัตว์โลกทั้งหมดเลย มีความเอ็นดูปรารถนาดี มีความหวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่จริงๆ เต็มรูปของพ้นปาณาติบาต 

นี่คือธรรมะพระพุทธเจ้าที่อาตมาอธิบายย่ออย่างสั้นสังเขป ตามหัวข้อธรรมเอามาขยายความ ถ้าผู้ที่ฟังเป็นจะรู้ว่า อาตมานี้พูดภาษาธรรมะของพระพุทธเจ้า ชัด คมแม่น ทุกคำ ทุกความ ทุกปริเฉท ทุกบริบท ฟังให้ดีๆธรรมะพระพุทธเจ้า ขอขยายความและสรุปอีกที

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 21 วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2563
ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:58:12 )

อย่างไรคือ ความเป็นทิพย์ของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ถ้าไปเอาความหมายที่เวทนา 2 มี เวทนาแท้ เป็นความรู้ตรงทุกคนสัมผัสก็เห็นอย่างเดียวกัน อีกอันหนึ่งเป็นการปรุงแต่งพิเศษของส่วนตัวของใครของมันเช่น ชอบ ไม่ชอบ ก็ชอบไม่ชอบก็เป็นความเห็น ความรู้สึกที่สัมผัสอันนั้น ตาก็เห็นรูป หูก็ได้ยินเสียง จมูกก็ได้กลิ่น ลิ้นก็ได้รับรส แล้วความรู้สึกแท้ก็คือรู้ความจริงตามความเป็นจริงของมัน โดยไม่มีความชอบไม่มีความชัง นี่คือความเป็นทิพย์ของพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หมู่บ้านสาธารณโภคีมีจริงได้แม้ใกล้กลียุค วันพุธที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2564 ( 19:24:11 )

อย่างไรคือ ความไม่มีตัวตนของการปฏิวัติโดยประชาชน

รายละเอียด

กำจัดทรราชแล้ว โดยประชา

ทหารจึ่งยื่นมือมา ต่อไม้

สืบทอดร่วมรักษา ระเบียบ ระบบ      

ใช่“เผด็จการทหาร”ได้ ชื่อผู้ลงมือ

ประชาชนปฏิวัติแล้วเป็นยังไง  ประชาชนปฏิวัติแล้วไม่ปรากฏตัวหัวหน้าปฏิวัติเลย ไม่มีตัวตนเลย นี่แหละคือประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทำสำเร็จแล้ว เป็นอนัตตาเลย เป็นประชาธิปไตยที่ผู้เป็นหัวหน้าปฏิวัติในประชาชนนี้ไม่ได้ไปรับตำแหน่งเลย ไม่มีหัวหน้าปฏิวัติไปรับตำแหน่งเลย
พลเอกประยุทธ์จะเป็นตัวแทนของประชาชนในตำแหน่งหัวหน้าคสช.ขณะนั้น เขามารับไม้ต่อประชาชนก็ไม่ปฏิวัติพลเอกประยุทธ์ แต่ส่งเสริมสนับสนุนเพราะเขาทำได้ดีเหมาะสมก็เป็นความเป็นประชาธิปไตยของประชาชนให้แก่พลเอกประยุทธ์อยู่อย่างเดิม จึงเป็นประชาธิปไตยที่สวยงามต่อเนื่องไปหมดเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม หนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 16:01:14 )

อย่างไรคือ คำพูดที่เป็นอุปวาโท อนูปวาโท

รายละเอียด

อาตมาไม่ทำ แม้บางที คนไม่เข้าใจ อาตมา มีภาษาไปตำหนิ ไปว่าอันโน้นอันนี้ไปวิจารณ์อย่างนั้นอย่างนี้ ก็หาว่าอาตมาพูดเป็นอุปวาโท เป็นภาษาที่ไปทำร้ายทำลายคนอื่น มันไม่ใช่ อาตมามีแต่ อนูปวาโท มีแต่คำพูดที่ไม่มีหวังร้าย ไม่ได้มีความร้ายความเลวอะไร มีแต่ความปรารถนาดีที่จะวิพากษ์วิจารณ์ จะตำหนิติเตียน ถึงขั้นจะใช้คำว่าบริภาษ หรือ คำด่า อยากจะแปลคำพูดของอาตมาเป็นคำด่าก็แล้วแต่ ซึ่งอาตมาก็ไม่ได้ใช้คำหยาบคาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 21 ตอบปัญหาให้พ้นความสุขคือความโง่ วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2564 ( 20:34:04 )

อย่างไรคือ ค้นหาบุคคลไม่ได้ด้วยปรมัตถ์

รายละเอียด

ก็หมายถึง จิต เจตสิก รูปนิพพาน ไม่ใช่ตัวตนบุคคลเราเขา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 14:07:12 )

อย่างไรคือ จิตที่เป็นสมาธิ

รายละเอียด

สมาธิเป็นจิตที่รวมตัวตั้งมั่น เป็นจิตที่ปราศจากกิเลสร่วมด้วย เป็นจิตตั้งมั่น เป็นจิตที่หมดอาสวะแล้ว ทวนอีก จนกระทั่งถึงวิมุตติญาณทัสสนะว่าสะอาด เป็นวิมุติหลุดพ้นสะอาดจริงนะสะอาดแล้วจึงตกผลึกลงเป็น ปริสุทธา

จิตที่บริสุทธิ์เป็น ปริสุทธา กว่าจะมาถึงปภัสสรา 

ปภัสราเป็นความบริสุทธิ์ที่สั่งสมตกผลึกลงไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ตกผลึกเป็นปริสุทธา จิตใจบริสุทธิ์สะอาดตกผลึกตั้งมั่น ท่านจึงมีคำศัพท์ใหม่ว่าเป็น สมาหิตะหรือสมาหิโต ของพระพุทธเจ้า

เพราะฉะนั้นจิตที่เป็นจิตตกผลึกลงเป็นสมาธิของพระพุทธเจ้า จึงไม่ใช่สมาธิของโลกีย์ที่ลวกๆทำตื้นๆ ทั้ง 2 แบบ กดข่ม เหมือนกับอาฬารดาบส อุทกดาบส หรือสั่งสมความสงบแค่ตรรกะ ไม่ใช่ แต่เป็นจิตที่มีกรรมวิธีของพระพุทธเจ้าที่สุดยอดจริงๆ เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โพชฌงค์ 7 สัปปุริสธรรม 7 โดยพิสดาร วันพุธที่ 14 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 เมษายน 2564 ( 19:42:00 )

อย่างไรคือ จิตสงสารของโพธิสัตว์ระดับ 7

รายละเอียด

ใช่ๆ การเกลียด นี่ เป็นความโง่ที่สุด อาตมาวิจารณ์ข่ม เช่น ข่มมหาบัว ธัมมชโยก็ตาม อาตมาไม่ได้เกลียดไม่ได้ชัง แต่อาตมาสงสาร เป็นจิตตัวสงสาร สงสารแบบโลกๆ จะมี Concept การสงสารอย่างไรก็ใช่ทั้งนั้น แม้ที่สุดอาตมาสงสาร ก็ไม่ได้มี Concept อย่างที่คนคิดว่าอยากจะช่วยเหลือเกิน ก็อยากช่วยเหลือนั่นแหละ แต่ไม่ได้อยากจนกระทั่ง มากเกินไป ช่วยได้ก็ช่วย ก็พยายามช่วย อย่างเช่นอาตมาช่วยมหาบัว ช่วยธัมมชโย ช่วยนะ อาตมาไม่ได้ข่มเบ่ง แต่มันเลี่ยงไม่ออก เราช่วยคือให้เขารู้ตัวว่าอันนี้มันไม่ได้ผลนะ มันควรเลิกควรละ ควรจะตื่นรู้ได้ว่า เราไปเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ ‌ทุนนิยม‌คือ‌ ‌Infinity‌ ‌แต่‌บุญ‌นิยม‌​‌นี้‌ ‌0‌ ‌ยิ่ง‌กว่า‌ ‌0‌ วันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 05:18:45 )

อย่างไรคือ จิตสะอาด

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นจิตสะอาดจึงมีทั้งตัวพลังงานสร้างสรร มีทั้งพลังงานหยุด พลังงานจบพลังงานสงบ มีทั้งสองสภาพตกผลึกลงๆ เป็นมุทุภูตธาตุ 

จิตสะอาดเรียกว่า ปริสุทธา คือบริสุทธิ์ จิตที่บริสุทธิ์สะอาดจากกิเลสแล้วเกิดจากจรณะ 15 วิชชา 8 จึงเกิดจิตปราศจากกิเลสอาสวะ ตัวสุดท้ายของจรณะ 15 ตัวสุดท้ายของวิชชา 8 

เพราะฉะนั้นอาสวะเป็นตัวกิเลส เป็นตัวโจร เป็นตัวต้องดับให้ได้ หมดอาสวะแล้ว จึงเป็นจิตสะอาด จิตสะอาดแล้วจึงเป็น ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โพชฌงค์ 7 สัปปุริสธรรม 7 โดยพิสดาร วันพุธที่ 14 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 เมษายน 2564 ( 19:40:01 )

อย่างไรคือ จุตูปปาตญาณ

รายละเอียด

ตัวที่ 2 คือจุตูปปาตญาณ ญาณ ที่มีทั้งตัวดับ เคลื่อนไป ยังเคลื่อนอยู่หรือดับได้แล้ว จุติ มีทั้งเคลื่อนและหยุด จุ จากสามตัวแสงสว่าง ติ หมายถึงตัวตั้ง ต ตัวตั้ง จ ตัวสว่าง 

จุตู ก็สว่างสามตัว ที่จริง จตุ นี้ คือ 4  นี้จุ ตินี้อิ ตัว อุ พลังงานมากกว่า พลังงานสว่างมากกว่าพลังงานตัวตั้ง ทำงานตัวสว่างมีตั้ง 3 4 5 จุตู อะอาอิอีอุอู มีตั้งพลังงาน 5 ครบกว่า 

จ คือสว่างตัว Dynamic ตัวเคลื่อนตัววิ่ง ต คือตั้ง ตัว Static 

จุตูปปาตญ คำว่า ปาตะ แปลว่าหล่นลง ก็เอามาดู ดูทั้งจุ ทั้ง ติ ที่มันเกิดขึ้นมา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 08:02:57 )

อย่างไรคือ ชมพูทวีป

รายละเอียด

ชมพูทวีป คือทวีป หรือแดนเกิด แดนแผ่นดินที่จะมีคนอาริยะ คนโลกุตระ อยู่จำนวนมาก 

สุรภาโว สติมันโต อิธพรหมจริยวาโส นี่แหละ ถิ่นนี้แหละ เป็นภูมิประเทศที่คนมีสติ มี สุรภาโว มีสติสมบูรณ์แบบ มีความรู้เรื่องความเป็นสติ จะยังไม่ขยายความเรื่องสติ คือมีธาตุรู้ทางกายวาจาจิตตื่นรู้รับรู้อะไรได้ละเอียดมากมาย รอบถ้วน กว่าคนที่ไม่มีสติ ส่วนคนไม่มีสติกับคนมีสตินั้น มันรู้เนื้อรู้ความอะไรกว่ากัน คนไม่มีสติจะไปรู้อะไร คนมีสติก็จะรู้ดีกว่า 

เพราะฉะนั้นมีสติเต็ม สตินี้แปลว่า 100 มาจากคำว่า สตะ ฉะนั้นคนที่ควบคุมพลังงาน 100 ของตัวเองได้ดี แล้วสตินี้เป็นอำนาจ เป็นพลังแรง เป็นฤทธิ์ เป็นอำนาจ ควบคุมได้ วสวัตตีโก จึงสามารถควบคุมตัวเองกับสิ่งที่แวดล้อมในโลกได้ อย่างลอยตัวหรืออย่างเหนือ อุตระ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คุณธรรมยิ่งใหญ่กว่าอาวุธ วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2564 ( 11:22:43 )

อย่างไรคือ ชาติ และสัญชาติ

รายละเอียด

ชาติ เป็นคำรวมใหญ่ การเกิดรวม สัญชาติ คือการเกิดที่มาจากธาตุรู้ สัญญะ สัญญา แล้วก็นำติดตัวมาเป็นสัญชาติ เพราะฉะนั้นผู้ที่เกิดมา จิตวิญญาณติดตัวมา ที่เป็นความจำเก่าแล้วก็กำหนดหมายรู้ของตนเองเก่าได้ติดตัวมา พอมาเกิดปุ๊บ ก็มีการรู้ตัวทันที เรียกว่ามีสัญชาตญาณ เป็นญาณที่รู้ติดการเกิดของตนเองมา สัตว์เดรัจฉานก็ตาม คนก็ตาม มีสัญชาติ ติดตัวมา เรียกว่าการเกิดของสิ่งที่เกิดติดตัวมา ท่านแปลสรุปง่ายๆ ว่า เป็นความบังเกิด 

บังเกิดคือยังไม่ชัด บังๆ อาตมาว่าอาตมาแปลได้ชัดกว่า คือเกิดติดตัวมา ถ้าให้อาตมาเป็นผู้แปลบาลี 

ชาติคือ ความเกิดทั้งหมดรวมลงในชาติ 

สัญชาติ คือ ความเกิดที่ติดตัวมาระลึกรู้ได้ แล้วก็เอามาใช้เรียกว่า สัญชาติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ชาติ 5 โดยพิสดาร วันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 เมษายน 2564 ( 12:33:10 )

อย่างไรคือ ชาวประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่สุดของโลก

รายละเอียด

ชาวเมืองเรือ เพื่อประชาธิปไตย ก่อนจะแวะมาอ่านอันนี้ก็จบด้วยว่าเรื่องประชาธิปไตย เป็นความหมายของสมัยใหม่ของสังคมบริหารจัดการสมัยใหม่ แต่เนื้อหาสาระอันเดียวกันตั้งแต่ยุคพระพุทธเจ้าจนถึงปัจจุบันองค์รวมของสังคม ก็ทำสำเร็จตั้งแต่พระพุทธองค์ท่านแล้วแม้จะเป็นยุคทาสยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ยุคที่คนไม่รู้จักสิทธิมนุษยชน เป็นพหุชนหิตาย พหุชนสุขายะ โลกานุกัมปายะ รู้จักโลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย แล้วอยู่กับสังคมอย่างรับใช้ประชาชนเพื่อมวลชนเป็นอันมาก พระพุทธเจ้าก็ทำมาแล้วเราก็ทำมาแล้ว ชาวอโศกคือชาวประชาธิปไตยที่สมบูรณ์สุดของโลกเลยพูดดูใหญ่ แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้เพ้อเจ้อหลงเลอะ แต่มีสติสัมปชัญญะอย่างแท้จริงมันเป็นความจริงที่โลกต้องการ แต่ อย่าไปแสวงหามาอีกครั้งความสวยความเจ็บความไม่อยู่เป็นสุขประชาธิปไตยแบบดีมากเลยเข้าใจได้ดีๆก็ดีนะ จรณะ 15 วิชา 8 สมาธิให้มีในพิจารณา คำว่าสัมมาสมาธิทุกกิจกรรม ตักบาตร สมาธิจากการปฏิบัติ เมื่อปฏิบัติ เขายังเข้าใจ Concept ประชาธิปไตยอันสมบูรณ์แบบไม่ได้เหมือนเรา ของเรามันสมบูรณ์แบบมีสาราณียธรรม 6 เป็นมนุษย์วรรณะ 9 จิตใจมีพุทธพจน์ 7 ได้อย่างเรียบร้อย จึงเกิดสังคมมนุษยชาติอันนี้ได้ ไม่ใช่ไปซื้อตามร้านขายยาเอามาได้เลยตามห้างสรรพสินค้าเอามาได้..ไม่ใช่ มันต้องสร้างคนสร้างจิตวิญญาณขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ ชาวเมืองเรือ เพื่อประชาธิปไตย กวีของคุณอโศกสัมปวังโก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 09:13:45 )

อย่างไรคือ ดูความจริงที่เป็นความจริงเป็นฟีโนมีนอน

รายละเอียด

ความเป็นเผด็จการไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ เพราะว่าพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ทำการรัฐประหาร เพียงแต่มารับอำนาจต่อ รับไม้ต่อจากประชาชน ประชาชนเป็นผู้ปฏิวัติ ที่บอกว่า สุดท้ายก็มาเข่นฆ่าประชาชน คุณดูความจริงที่เป็นความจริง เป็นฟีโนมีนอน เป็นปรากฏการณ์จริงที่เกิดอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลประยุทธ์ พยายามจะฆ่าประชาชนหรือพยายามที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรงตลอดมา จนกระทั่งวินาทีนี้ ขอยืนยัน คนที่ออกมาพูดๆๆ ว่ารัฐบาลจะฆ่าประชาชน เป็นคนโกหกใส่ความหาเรื่อง คนหาเรื่องพูดต่างหาก พฤติกรรมจริงของพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ฆ่าประชาชน ต่างกันกับรัฐบาลทักษิณคนละเรื่องเลย เลี่ยงที่สุดพยายามที่จะเห็นชัดเจน แต่ตาคุณก็บอด งมงายอยู่อย่างนั้น ว่า จะไปฆ่าประชาชนๆ เขาจะไปฆ่าที่ไหน พวกเอ็งต่างหากเตรียมการ นี่ยังไม่รู้นะลึกๆแล้ว ว่าพวกนี้ซ่อนอาวุธได้หรือเปล่า อาตมาว่า เขาก็คงจะต้องพยายามทำรุนแรง คำว่า ฆ่า ประชาชนต้องดูพฤติกรรมจริงๆ ทั้งจิตเจตนาจริง รัฐบาลนี้อาตมารับรองพันเปอร์เซ็นต์ว่าไม่มีเจตนาจะให้เลือดตกยางออกเลย อย่าว่าแต่ฆ่าประชาชนเลย แม้แต่ให้ประชาชนเลือดตกยางออกก็ป้องกันที่สุดเลย เซฟที่สุด ขอยืนยันเลยอันนี้ คุณเป็นคนใส่ความหาเรื่องหาราวต่างหาก ประชาชนจะตายจาก covid เขาก็ยังป้องกันเลย นี่จะไปฆ่าแกงไม่เกิดหรอก เป็นปรากฏการณ์สัจจะที่จะต้องดูกันไป เป็นพวกหาเรื่องใส่ความกัน คุณจะใส่ความว่า เทวทัตรออยู่ ก็ดูที่สัจจะก็แล้วกัน ไม่พูดต่อไป 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 10:13:15 )

อย่างไรคือ ตรีตา

รายละเอียด

จะรู้ได้ต้องมีตาปัญญา ตาปัญญาก็สามารถรู้ด้วยตาเนื้อ ตาทิพย์ สามตา ตรีตา ตาเนื้อก็คือตาทั้งหลายแหล่ที่เขาใช้ลูกตาเห็น เขาเห็นอย่างไร เราก็เห็น ก็เข้าใจตรงกันกับเขาได้หมด เขาสมมุติอย่างไร เราก็สมมุติตรงกับเขาได้ เรียกว่า ตาเนื้อ

ตาทิพย์ เห็นพิเศษ ตาเนื้อเห็นอย่างนี้ยังมีตาทิพย์เห็นซ้อนอีก

ตาทิพย์ซ้อนเป็นได้ทั้งมิจฉาและสัมมา เพราะเขาเล่นไสยศาสตร์ เล่นเดรัจฉานวิชา เล่นตาทิพย์แบบงมงายโลกีย์ เขาไม่เห็นก็เรียกว่า ซิกเซ้นอะไรของเขา

เพราะฉะนั้นตาทิพย์ก็ยังแย้งเป็นมิจฉาเป็นสัมมาได้ ตาเนื้อ พูดกันยืนยันที่ตาเนื้อ เห็นร่วมกันได้หมด 

ส่วนตาปัญญาเป็นเรื่องพิเศษ คนที่มีปัญญาตรงกันก็เห็นร่วมกันได้หมด ส่วนคนไม่มีปัญญาตรงกัน ยังมีความเพี้ยนยังไม่ครบปัญญายังเป็นสัญญา ก็กำหนดหมายรู้ไปในสัญญา ท่านใช้ ส.เสือ เป็นเศษวรรค ส่วนปัญญา เป็นตัวอักษรในวรรค ครบเลย ตัวต้น หัวแถวของ ม ของจิต ตัว ป เป็นตัวรู้เต็ม ประสบ ประจักษ์ ประสิทธิ์ รู้หมด จบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์ตีตราด้วยปัญญา 8 ประการ วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 23 พฤษภาคม 2564 ( 12:09:44 )

อย่างไรคือ ตีตรา

รายละเอียด

“ตีตรา” คือ stamp ส่วน “ตีตา” นี่คือ ตีให้ตาแตกตายเลย ถ้าตีบนต้นตาลก็ตกต้นตาลตอตาลตำตูดตาย ภาษาไทยนี่สนุกนะมีแง่มุม มีสัมผัส

ตีตรา คือ ผู้ที่ยึดมั่นถือมั่น ผู้ที่มืดบอดสนิท ไม่เปลี่ยนแปลงเป็น 1 อย่างไม่โงหูโงหัว เป็น 1 อย่างโง่เง่างมงาย พวกนี้นี่ไม่เปลี่ยนแปลง ก็ต้องขออภัยอย่างพวกเทวนิยม เป็นหนึ่งเดียวไม่มีเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนใหญ่ของมนุษย์โลก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์ตีตราด้วยปัญญา 8 ประการ วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 23 พฤษภาคม 2564 ( 11:56:28 )

อย่างไรคือ ทำตัวเป็นสะใภ้ใหม่

รายละเอียด

สะใภ้ใหม่ นั้นคือ ดีดี๊ดีใหม่ๆ แม่ผัวพ่อผัวชื่นชมดี พอเก่าไปชักออกลาย คำว่าสะใภ้ใหม่ คือทำดี จนพ่อผัวแม่ผัวหลงชื่นชม ก็ทำให้ดีสิ เหมือนตอนมาใหม่ พอเก่าออกลาย ก็แย่สิ เป็นสะใภ้ใหม่ตลอดไปทำดีให้ถาวรต่อไปคือเป็นคนดี จนพ่อผัวแม่ผัวชื่นชมยกย่องเลย ต่อเนื่อง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เตวิชชสูตร ตอน1 วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:17:40 )

อย่างไรคือ ทำลายพระพุทธเจ้าถึงราก

รายละเอียด

คือ ทำลายพระพุทธเจ้าถึงราก (ขุดเรา) ภิกษุสาติมีทิฏฐิอันลามกเห็นปานนี้เกิดขึ้นว่า "เราย่อมรู้ทั่วถึงธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ว่าวิญญาณนี้นั่นแหละ ย่อมท่องเที่ยว แล่นไป ไม่ใช่อื่น” 

ภิกษุเหล่านั้นปรารถนาจะปลดเปลื้องภิกษุสาติจากทิฏฐินั้น จึงซักไซ้ ไล่เลียงสอบสวนว่า ท่านอย่ากล่าวอย่างนี้ ท่านอย่ากล่าวตู่พระผู้มีพระภาค การกล่าวตู่พระผู้มีพระภาค ไม่ดีเลย เพราะพระผู้มีพระภาคมิได้ตรัสอย่างนี้เลย ดูกรท่านสาติ วิญญาณอาศัยปัจจัยประชุมกันเกิดขึ้น พระผู้มีพระภาคตรัสแล้วโดยปริยายเป็นอเนก ความเกิดแห่งวิญญาณเว้นจากปัจจัยมิได้มี. (มหาตัณหาสังขยสูตร พตปฎ. ล.12  ข.440)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 14:22:42 )

อย่างไรคือ ทำให้หายก็ได้ ทำให้ปรากฏก็ได้ 

รายละเอียด

เหมือนการอนุโลม อย่างอาตมาไม่มีกิเลสแต่ทำเหมือนมีกิเลส ทุกวันนี้พยายามจะฟื้นขึ้นมา กินอาหารให้มันอร่อย พยายาม เลยบอกว่าปรุงมาเลยทำอร่อยมา ทุกวันนี้อาตมาเมื่อยจริงๆ กินอาหารเหมือนเข้าสนามรบ จริงๆแล้วมันมีเหตุปัจจัยเยอะ จริงๆร่างกายอาตมามันไม่ต้องการอาหารแล้ว มันต้องการตายแล้ว แต่อาตมาเข็นมัน แม้แต่อยู่ทุกวันนี้ฝืนกินให้สังขารขันธ์ปรุงแต่งอาหาร กวฬิงการาหารไว้ หากเอาผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณาหาร อาตมาเบื่อจนไม่รู้จะเบื่ออย่างไรแล้ว เพราะฉะนั้นก็ประคองเอาไว้เท่านั้นเอง มีขันธ์ 5 มีผัสสะ ก็มีมโนสัญเจตนา ก็มีวิญญาณอยู่ด้วยนั่นแหละ ก็ต้องกินอาหารประคองขันธ์ไว้ 

อรหันต์ใหม่ๆยังพูดอย่างอาตมาไม่ได้ ไม่กล้าพูดหรอก ต้องเป็นโพธิสัตว์แข็งแรงพอสมควรจึงจะพูดอย่างอาตมาได้ 

อรหันต์เก๊ ทุกวันนี้ ปัดโธ่เอ๋ย ไม่ต้องอ้าปากหรอก อาตมามองข้างนอกก็เห็นลิ้นไก่แล้ว ขออภัยคุยตัวเกิน ไม่อ้าปากมองทะลุเข้าไปได้อย่างไร ทำให้ปรากฏก็ได้ ทำให้หายก็ได้ ก็คือทำกิเลสนี่แหละ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 4 วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564 แรม 2 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2564 ( 12:41:01 )

อย่างไรคือ ทิฏฐิปัตตะในบุคคล 7 

รายละเอียด

สภาพของผู้อุภโตภาควิมุติ สายปัญญา ธัมมานุสารี จะรู้จักเรื่องอนุสัย แต่สายสัทธานุสารี ยากที่จะรู้จักอนุสัย ต้องเริ่มจาก สัทธาวิมุติ ไปทิฏฐิปัตตะ จนกว่าจะมีญาณมีปัญญา ถึงขั้นสัมมาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิที่บริบูรณ์จึงจะสามารถเต็มทิฏฐิปัตตะ 

ทิฏฐิปัตตะ จึงจะสามารถทำอาสวะสิ้นได้ ก่อนสัทธาวิมุติ นี่ไล่ บุคคล 7 

สัทธานุสารี ธัมมานุสารี สัทธาวิมุติ ทิฏฐิปัตตะ ซึ่งทิฏฐิปัตตะเป็นอันที่ 4 ออกมานอกสามเส้า 

สัทธานุสารี ธัมมานุสารี สัทธาวิมุติ นี่อยู่ในกรอบโลกียะ สัทธาวิมุติ จะเรียกว่าเป็นโลกุตระก็ยังไม่ได้ ต้องหลุดพ้นออกจากกรอบมาเป็น ทิฏฐิปัตตะ จะเริ่มรู้จัก กาย บุญ รู้จักกายกลิ แล้วจะไปรู้จักจิตกลิ จะไปรู้จักจิตกลิก่อนไม่ได้ ต้องรู้ทีหลัง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 05:19:19 )

อย่างไรคือ ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์

รายละเอียด

นัยสำคัญที่จะชี้คือ คำว่า“วิจัย”นั้นมีนัยที่แตกต่างกันกับคำว่า “ธรรมวิจัย” และคำว่า “ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์” 

ยิ่งกับคำว่า “ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์” ก็ยิ่งไม่เหมือนกันกับคำว่า “วิจัย”อย่างมีนัยลึกซึ้งที่จะต้องทำความเข้าใจกันดีๆ 

ซึ่ง“การทำวิจัย”แม้ธรรมของพระพุทธเจ้า ของพุทธศาสนาเขาก็“วิจัย”กันออกเยอะแยะ แต่คน“วิจัย”ยังไม่มี“ภูมิ” เข้าขั้น“สัมโพชฌงค์”เพราะยังไม่มี“อัญญธาตุ” หรือยังไม่สัมมาทิฏฐิขั้นเป็น“ปัญญา” ก็“วิจัย”ไม่เข้าขั้น“โลกุตระ”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมวิจัยให้รู้ความต่างในวิญญาณฐิติ 7 วันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 21:06:08 )

อย่างไรคือ ธูตะ

รายละเอียด

เคร่งได้เป็นปกติ เรียกธูตะ แต่เคร่งนี้ผู้เคร่งได้แล้วนั้นจะรู้สึกสบาย แต่ผู้ที่ยังไม่ได้ก็จะรู้สึกว่าสุดโต่ง ที่จริงแล้วมีสูงกว่านี้อีก ธูตะ คือ ศีลที่เคร่งศีลที่สำเร็จแล้ว องค์แห่งศีลเคร่ง ธูตะ ที่ขยายความว่าพระกัสสปะมีความเป็นศีลเคร่ง มันโต่งไปทางเดียรถีย์ นอกพุทธ  แต่เขาเอามายึดถือเป็นตัวอย่าง เช่น ธุดงควัตร 13 ข้อ ซึ่งเป็นบอร์เดอร์ไลน์ของพวกนอกรีต พวกชอบนอกเขต ถ้าเลยของพระกัสสปะไป ตกออกนอกเขตพุทธเลย เคร่งสุดขอบคือแบบของพระมหากัสสปะคือมันเคร่งเกินทั้ง 13 ข้อ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2563 ( 15:20:21 )

อย่างไรคือ นรชนเมื่อตั้งอยู่ก็หยั่งลงในที่หลง

รายละเอียด

คำว่า นรชนเมื่อตั้งอยู่ ก็หยั่งลงในที่หลง มีความว่า คำว่า นรชน เมื่อตั้งอยู่ก็เป็นผู้กำหนัด ย่อมตั้งอยู่ด้วยสามารถความกำหนัด เป็นผู้ขัดเคือง ย่อมตั้งอยู่ด้วยความสามารถความขัดเคือง เป็นผู้หลง ย่อมตั้งอยู่ด้วยความสามารถความหลง เป็นผู้ผูกพัน ย่อมตั้งอยู่ด้วยสามารถความถือตัว เป็นผู้ยึดถือ ย่อมตั้งอยู่ด้วยความสามารถความเห็น เป็นผู้ฟุ้งซ่านย่อมตั้งอยู่ด้วยสามารถความฟุ้งซ่าน(วิกฺเขปคโต) เป็นผู้ไม่แน่นอน ย่อมตั้งอยู่ด้วยสามารถความสงสัย เป็นถึงความมั่นคง ย่อมตั้งอยู่ด้วยสามารถกิเลสที่นอนเนื่อง เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า นรชนเมื่อตั้งอยู่แม้ด้วยประการอย่างนี้.

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 1 วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 กรกฎาคม 2564 ( 11:14:23 )

อย่างไรคือ นิพพัตติ

รายละเอียด

ส่วนศาสนาพระพุทธเจ้ามาแยกแยกความรู้ว่า มันมีการเกิดที่พิเศษอีกเรียกว่า นิพพัตติ คือ การเกิดที่จะไปนิพพาน การเกิดที่จะมีความดับ การเกิดที่รู้จักความดับ รู้จักเหตุแห่งความดับ รู้จักเครื่องทำให้เป็นอุบายเครื่องออก เครื่องทำให้เหตุที่มันไม่ให้ดับ เหตุที่มันจะต้องต่อไปอยู่เรื่อยๆ ดับเหตุตัวนั้นได้ ก็จึงสร้างตัวทำความดับ สร้างพลังงานทางจิตขึ้นมา เป็นพลังงาน ธาตุที่สามารถทำให้ความเกิดของกิเลสมันดับลงได้ เรียกว่ามันจางคลายจนถึงดับ ทำให้ธาตุเหตุที่มันไม่ยอมตาย มันมีแต่สั่งสมการเกิดมีแต่ชาติๆๆ มันไม่ตาย ไม่ตายจริง พระพุทธเจ้าค้นพบสิ่งที่ทำให้เกิดปัญญาหรือความเฉลียวฉลาด ทำให้พลังงานของการเกิดลดลงๆ จางคลายไป จนสามารถทำถึงขั้นดับได้ 

เกิดความรู้ขึ้นมาจริงๆสามารถทำให้เกิดความรู้ ความเกิด ความดับ นิพพัตติ จึงเป็นการรู้ความเกิดความดับและสามารถทำให้ความเกิดความดับนั้น ต้องการดับสิ่งที่ดับ แล้วก็ทำให้ดับได้จริงๆ จนจบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ชาติ 5 โดยพิสดาร วันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 เมษายน 2564 ( 12:38:17 )

อย่างไรคือ นิรมาณกาย สัมโภคกาย

รายละเอียด

ที่เขาว่ามานี้เป็นการปั้นนิรมาณกาย แล้วก็เอามาพูดกันให้เกิดจินตนาการร่วมกัน เป็นสัมโภคกาย เป็นมโนมยาอัตราเป็นสิ่งที่ปลอมแปลงขึ้นมาทั้งนั้นแล้วคนที่มีทิฐิเดียวกันก็จะเห็นร่วมกันแล้วก็บริโภคร่วม เรียกว่าเป็นอุปทานหมู่ จริงๆจริงๆ ยอมรับกัน สำนองยอมรับกันเลย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 11:38:40 )

อย่างไรคือ ประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ดีมากเลย ก็ย้ำ มันดีมาก ประชาธิปไตยคืออะไร ถ้าใครฟังแล้ว อาตมาพูดอีก ก็จะซ้ำเก่า ก็จะรู้เพิ่มขึ้น ประชาธิปไตย ของพระพุทธเจ้านั้น ต้องมีนัยสำคัญว่า มีเงื่อนไขว่าเป็นประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ประชาธิปไตยของโดนัลทรัมป์ หรือแม้แต่ประชาธิปไตย ของอังกฤษ ก็ไม่ใช่ ไม่ใช่คืออย่างไร ประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้านั้นอธิบายตามภูมิของอาตมา ประชาธิปไตยคือลักษณะที่เป็นอิสรเสรีภาพ ภราดรภาพ สันติภาพ สมรรถภาพ บูรณภาพ

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:14:11 )

อย่างไรคือ ประชาธิปไตยแบบไทยนิยม

รายละเอียด

อาตมาผ่านประชาธิปไตยไทยนิยมคือไฉน ไขความไปเล็กน้อยแล้วว่าใครนิยมคือประชาธิปไตยแบบพุทธศาสนาไทยนิยมประชาธิปไตยแบบพุทธศาสนาซึ่งพุทธศาสนานั้นเป็นโลกุตระธรรมนั้นเป็นเรื่องเหนือโลกจริงเป็นจิตที่ไม่ใช่เรื่องโลกีย์ที่มันอยู่ใต้อำนาจของลาภยศสรรเสริญโลกียสุข หรือใต้อำนาจโลกใต้อำนาจอัตตา สรุปคร่าวๆจบด้วยตรงประโยคที่ว่าไทยนิยมนั้น คมชัดด้วยความจนและก็วรรณะ 9 ซึ่งมีพระราชาของประเทศไทยเป็นพุทธมามกะ เป็นพุทธศาสนิกชนพุทธมามกะในประเทศไทย และการบริหารประเทศไทยและก็มีการสืบสานในเรื่องนี้มาทั้งสืบสานทางด้านสายศาสนา สืบสานมาทางด้านของระบบบริหารเป็นประชาธิปไตย 2 ดวงตา อาจจะมา 2 ขา 2 ดวงตา ดูสวยกว่าประชาธิปไตยตาเดียว ประชาธิปไตยเอาแต่เลือกตั้งประธานาธิบดี หน้าเลือกตั้งก็เป็นหมาหลงหิ้วกระเป๋าเงินถุงเงินถังมาถึงปั๊บ ก็จัดการสร้างโครงการซื้อคนทำเลยได้เป็น ได้แค่นี้ก็ไม่ทำแค่นั้นหรอก ปลูกฝังมันเลยอย่างทำเนียบโดนัลด์ทรัมป์ปลูกฝังมาตั้งแต่เขาเป็นนักนายทุนนักธุรกิจ ที่นี่ยังนะยังไม่มีใครกล้าที่จะเปิดเผยความจริงออกมาทั้งหมดนะ อาตมาว่าตรงกับของนายทัมป์ เดี๋ยวจะรู้ว่าจะมีอะไรออกมาอีกละทิ้งไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 12:10:56 )

อย่างไรคือ ปาราชิก อสังวาส และสังฆาทิเลส

รายละเอียด

คดีทางโลกของเราก็จบ สรุปที่เรายอม เพราะเขาออกกฎหมายพ.ศ.2505 ว่าสมเด็จพระสังฆราชสั่งให้สึกได้ ซึ่งขัดแย้งกับคำสอนพระพุทธเจ้าที่บอกว่า ใครไม่สามารถสั่งการให้ใครสึกได้ ถ้าเขาคนนั้นไม่มีความผิดถึงขั้นสึก ความผิดถึงขั้นจะต้องสึกมีอย่างเดียวคือปาราชิก ไม่สึกก็ต้องขาดจากความเป็นสมณะเรียกว่า “อสังวาส” ไม่เป็นสมณะร่วมกันแล้ว แต่ถ้ายังแค่สังฆาทิเสสไป ก็ไปสึกเขาไม่ได้ ถ้าเขาไม่สึกก็สึกเขาไม่ได้ ใครก็บังคับให้สึกไม่ได้ ธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าว่าเอาไว้อย่างนั้นเลย สึกเขาไม่ได้ ปาราชิกถือว่าขาดจากการเป็นศาสนาพุทธด้วยกันไปเลยเท่านั้นเอง แต่ถ้าไม่ถึงขนาดปาราชิก 4 สังฆาทิเสสก็ยังถือว่าเป็นพุทธร่วมกันเป็นสังวาสเดียวกัน แต่เขามีความเห็นต่าง ถ้าถูกกล่าวหาแล้วถ้าเขาไม่ผิดสังฆาทิเสส เขาก็ไม่ได้ผิดไม่ได้บาป แต่ถ้าผิดเขาก็บาปเอง คนนี้จะลงโทษหรือไม่ลงโทษก็เป็นวิบากของเขา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:15:15 )

อย่างไรคือ ปโหติ

รายละเอียด

ป ห ต ป คือ พฤติกรรมที่จะต้องทำเป็นบทบาทลีลา เป็น Dynamic ห คือ ความจริงแท้ ต คือ ตัวตั้ง Static ปโหติ ปะคือเต็มที่อยู่แล้ว โหคือ สุดยอดของความจริง สระ โอ นี้สูงสุดแล้ว ปโหติ คือสามเส้า ครบองค์เป็น Cyclic order เป็นผู้ที่มีสัปปุริสธรรม 7 ประมาณอย่างได้สัดส่วนสูงสุด พอเหมาะพอดี แม้ที่สุดมีมหาประเทศ 4 ก็สามารถรู้จัก กาละ แม้พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่าอนุญาตหรือว่าห้ามก็ตัดสินได้เอง ใช้มหาปเทส 4 ยังได้สัดส่วนพอเหมาะพอดีลงตัวที่สุด จึงเป็นคนมีประโยชน์คุณค่า ไม่มีตัวตน ไม่เห็นแก่ใครๆไม่ลำเอียงด้วยอคติใดๆ บริสุทธิ์ซื่อสัตย์เสมอภาคชัดเจน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 11:56:26 )

อย่างไรคือ ผลการไม่ใช้สมมุติเพื่อสื่อวิมุติ

รายละเอียด

ถ้าคุณเข้าใจว่าสมมุติกับวิมุติไม่อาศัยกัน คุณไม่ใช่สมมติเพื่อจะสื่อวิมุติ คุณก็จะไม่มีวันรู้กันได้ก็จะมีแต่นิรมาณกาย สัมโภคกายและอาทิสมานกาย เป็นผู้ที่มีแต่กายที่อยู่ในตัวเอง แต่ละคนแต่ละคน ต่างคนต่างสมมุติกันไปแล้วก็มาพูดกันก็เลยนึกว่าต่างคนทางเหมือนกันก็เป็นสัมโภคกาย เหมือนตอนที่อาตมาเข้าชมพูดภาษาโคบอล พูดอะไรก็ไม่รู้แต่บอกว่าเข้าใจกันมันเป็นมายา เป็นสมมติของเขา แล้วต่างคนต่างเข้าใจ คนนี้เขาคิดว่าก็ถูกของเขาคนเดียว เขามีแต่ภาษาบัญญัติแต่ไม่มีสภาวะ คนที่มีสภาวะตรงกันจะไม่แย้งกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 10:39:05 )

อย่างไรคือ ผิดศีลข้อที่ 2

รายละเอียด

ศีลข้อที่ 2 ไม่ลักทรัพย์ ไม่เอาของคนอื่นที่ไม่ใช่ของของเรา ด้วยการขโมยหรือการทุจริต จะโกงมาหรือว่าจะใช้เล่ห์เหลี่ยมใช้อะไรต่ออะไรก็แล้วแต่ หรือว่าไปปล้นจี้ฆ่าเจ้าของแล้วเอามาก็ตามนั่นแหละยิ่งโหดเหี้ยม แม้แต่หลอกลวงให้คนอื่นเขาหลงผิดแล้วเอามาให้เราก็ผิด ไม่ใช่ของเรา แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอยากจะให้ แต่ไปหลอกล่อให้เขาหลงและเขาก็ให้ อย่างนี้ก็ผิด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 26 ทำปาฏิหาริย์ให้ชีวิตมีค่า สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ วันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:04:30 )

อย่างไรคือ ผู้ข้อง

รายละเอียด

คนที่ข้องอยู่ก็ไกลจากวิเวก และยิ่งไกลจากปัสสัทธิ ที่เป็นความสงบอย่างเห็นแจ้ง รู้สว่าง รู้ครบ รู้ละเอียดลออด้วย 

คำว่า ผู้ข้อง คือข้องอยู่ เกี่ยวเกาะอยู่ ไม่หลีกออก ไม่ปล่อยวาง ไม่หลุดพ้น จึงยังเป็นสัตว์ สัตตะหรือสัตวะ ยังคงความเป็นสัตว์อยู่ ยังไม่เป็นมนุษย์ ยังไม่เป็นผู้เจริญ ยังไม่เป็นเทวดา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 1 วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 กรกฎาคม 2564 ( 11:04:09 )

อย่างไรคือ ผู้ข้องอยู่ในถ้ำ

รายละเอียด

คำว่า เป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ คือ ข้อง เกี่ยวข้อง ข้องทั่วไป ติดอยู่ พันอยู่ เกี่ยวพันอยู่ในถ้ำ เหมือนสิ่งของที่ข้อง เกี่ยวข้อง ข้องทั่วไป ติดอยู่ พันอยู่ เกี่ยวพันอยู่ที่ตะปู ซึ่งตอกติดไว้ที่ฝา หรือที่ไม้ขอ ฉะนั้น.

สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ความพอใจ(ฉันโท) ความกำหนัด(ราโค) ความเพลิน(นันทิ) ความปรารถนาในรูป ความเข้าไปถือ ความเข้าไปยึดในรูป อันเป็นความตั้งมั่น ความถือมั่น และความนอนตามแห่งจิต บุคคลมาเกี่ยวข้องอยู่ในความพอใจเป็นต้นนั้น เพราะฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์ คำว่า สัตว์เป็นชื่อของผู้เกี่ยวข้อง 

เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ คำว่าผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้ว คือ ผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้ว คือ ผู้อันกิเลสเป็นอันมาก ปิดบังไว้แล้ว(พหุนาภิฉนฺโนติ) คือ อันความกำหนัด ความขัดเคือง ความหลง ความโกรธ ความผูกโกรธ ความลบลู่ความตีเสมอ ความริษยา ความตระหนี่ ความลวง ความโอ้อวด ความดื้อ ความแข่งดี ความถือตัว ความดูหมิ่น ความเมา ความประมาท ปิดบังไว้แล้ว อันกิเลสทั้งปวง อันทุจริตทั้งปวงอันความกระวนกระวายทั้งปวง อันความเร่าร้อนทั้งปวง อันความเดือดร้อนทั้งปวง อันอภิสังขารคืออกุศลธรรมทั้งปวง บ้งไว้ คลุมไว้ หุ้มห่อไว้ ปิดไว้ ปิดบังไว้ ปกปิดไว้ ปกคลุมไว้ครอบงำไว้แล้ว  เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า เป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ เป็นผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 1 วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 กรกฎาคม 2564 ( 11:05:49 )

อย่างไรคือ ผู้ทำตนให้อัตตสัมมาปณิธิ

รายละเอียด

ผู้ที่ทำตนให้ อัตตสัมมาปณิธิ คือ คนที่ปฏิบัติธรรมจิตให้จิตมันตั้งลงไปแล้วก็เป็นตนที่ดี ยังเป็นอัตภาพ ยังเป็นมนุษย์ที่จะเวียนตายเวียนเกิดอีกกี่ชาติก็ตาม มีหลักประกันตรงหยุดทำบาปทั้งปวงอย่างชัดเจน กรรมที่มีมีแต่กุศล แล้วก็รับใช้หรือ ทำประโยชน์เพื่อคนอื่นเพราะมันเป็นความจริงที่ตัวเองไม่เห็นแก่ตัว ตัวเองก็กินใช้แค่น้อยเลี้ยงง่าย ไม่สะสม จนกระทั่งกลายเป็นคนที่ขยันหมั่นเพียรสร้างสรร เป็นแต่คนมีประโยชน์ พหุชนหิตายะ(เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) เป็นคนประเสริฐจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิธีจบนิยาม 5 จบนิยายของตนอย่างนิรันดร วันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 04:54:23 )

อย่างไรคือ ผู้มีจิตวิญญาณที่เป็น วสวัตตีโก

รายละเอียด

ศาสนาพุทธนี้สอนให้คนมีความรู้ มีจิตวิญญาณที่เป็น วสวัตตีโก เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณที่ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ ก็สามารถที่จะเอาตัวเหตุที่มันทำให้จิตของเราอ่อนแอ ตกอยู่ในอำนาจของมันคือกิเลสออกให้หมด เมื่อเอากิเลสออกหมด หรือ เอากิเลสลดลงไปได้เราก็จะมีอำนาจเป็นตัวเอง  เป็นตัวเรา เป็นจิตที่มีพลังงาน เป็นจิตที่อิสระเสรีภาพ ปัญญาก็จะแจ่มใส รู้จักความจริงตามความเป็นจริง เป็นปัญญาที่ไม่ถูกหลอก ไม่ถูกกิเลสครอบงำหลอกไปเป็นโลกีย์ เป็นตัวเองที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง  เป็นอรหันต์ขึ้นไป เป็นผู้ที่มีดวงตาบริบูรณ์ เห็นอะไรกันเรื่องถูกต้องเป็นจริงสมบูรณ์แบบ ไม่มีอะไรพราง ลวง โลกหลอกไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะไม่ตกอยู่ใต้อำนาจโลกหลอกเด็ดขาด แล้วก็มาช่วยมนุษย์โลก

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันที่ 2 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มกราคม 2564 ( 07:57:27 )

อย่างไรคือ ผู้มีปุพเพกตปุญญตา

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนนี้ได้ปฏิบัติมา ปุพเพกตปุญญตา เป็นคนปฏิบัติมาแล้วมีผลสำเร็จ มี กตญาณ คือมีผลสำเร็จเสร็จแล้ว สั่งสมลง ตั้งแต่กี่ชาติมา ปุพเพ โดยรู้จักบุญ โดยได้จัดการโดยบุญ สร้างพลังงานให้เกิดบุญ กำจัดตัวมารร้ายตัวเหตุโง่ที่ทำให้เป็นคนฉลาดแกมโกง เป็นคนที่เอาเปรียบเอารัด เป็นคนขี้โลภ เป็นคนที่เป็นพิษภัยต่อผู้อื่น ต่อสังคม ต่อโลกมากๆเป็นคนรวยเป็นคนมีแต่มหัปปิจฉะ เป็นคนขี้เกียจ กุสีตะ โกสัชชะ เป็นคนมี อวรรณะ 6

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิธีจบนิยาม 5 จบนิยายของตนอย่างนิรันดร วันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 04:55:53 )

อย่างไรคือ ผู้อยู่ไกลจากวิเวก

รายละเอียด

วิเวกแปลว่าสงัด หลีกเร้น เช่น พระพุทธเจ้าท่านทรงปลีกวิเวก หลีกเร้น พักผ่อน ไม่ใช่แปลว่าจบสงบ จบดับ จบหยุด จบ 0 ไม่ใช่ แต่ไปพัก

แต่แค่วิเวกคุณก็ยังไกล เพราะคุณหยั่งลงในที่หลงไม่ออกจากถ้ำ ถ้ำคือคูหะของตนเอง ไม่ต้องออกป่าหรอก ยิ่งออกป่า ถ้ำคือตนเอง หอบไปอยู่ป่าด้วยก็ยิ่งจมและจม จมหนัก

ทุกวันนี้พวกออกป่าเขาถ้ำเป็นเดียรถีย์ อาตมาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ก็ให้สติเตือนอยู่ เอาตำราพระไตรปิฎกมาอธิบาย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 3 วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 กรกฎาคม 2564 ( 19:33:26 )

อย่างไรคือ พระพรหม

รายละเอียด

เรานี่ก็เป็นเทวะใหญ่ที่สุดในเทวทั้งหลาย คือพรหม ผู้บริสุทธิ์จากสุขทุกข์ หมดจากกิเลส สะอาดหมด มีแต่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เพราะตัวเองจบแล้ว เป็นผู้เป็นใหญ่ เป็นใหญ่คืออะไร เป็นเจ้าของจิตวิญญาณ เป็นพระพรหมที่เป็นเจ้าของจิตวิญญาณในศาสนาพุทธสามารถจะสลายจิตวิญญาณให้เป็นอุตุธาตุ ปรินิพพานเป็นปริโยสาน แต่พระพรหมเป็นพระเจ้าในศาสนาเทวนิยมก็เป็นนิรันดร เป็นปรมาตมันนิรันดร ก็แยกได้โลกียะกับโลกุตระของพระพุทธเจ้าเป็นอเทวนิยม Adheism เป็นอันเดียว ถ้าไม่เข้าใจจรณะ 15 ไปนั่งหลับตาเอาฌาน ไม่ปฏิบัติศีล ไม่ปฏิบัติอปัณกธรรม ไม่มี สัทธรรม 7 เป็นฌาน ที่เผากิเลสไปตามลำดับ เป็นจรณะ ข้อที่ 11 เป็นฌาน 1 (ตัวเลข 7 + 4 ก็เป็น 11) 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 28 ธันวาคม 2563 ( 15:21:49 )

อย่างไรคือ พระมหาศาล

รายละเอียด

สมัยโบราณใช้คำว่าพราหมณ์ กับไม่ได้ยืนยันว่าพุทธ ใช้พราหมณ์กับสมณะ พอมาสมัยนี้คำว่าสมณะหายไปใช้คำว่าพระแทน สมัยนั้นผู้ที่เป็นพราหมณ์ มียศตำแหน่งมีที่ดินมีอะไรต่ออะไรท่านเรียกว่าพราหมณ์มหาศาล พอมาถึงยุคนี้ คำว่าพราหมณ์ก็กลายเป็นพระ พระในยุคนี้ก็ได้เป็นพระมหาศาล คือเต็มไปด้วยเงินทองลาภยศทางโลก มีตำแหน่งมีเงินเดือนทางโลก ขออภัยที่พูดนี้เถรสมาคมโดนไปเต็มๆอย่างนั้นเลย มันเป็นอันเดียวกันกับสมัยพระพุทธเจ้า ที่มาจากการเปลี่ยนแปลงที่ผิดออกไป เดี๋ยวนี้คนก็ไปหลงกลุ่มของเถรสมาคมที่อวยลาภยศสรรเสริญโลกียสุขจนกระทั่งผู้มีตำแหน่ง มีนิตยภัต มีตำแหน่ง มีเงินเดือน มีอภิสิทธิ์ต่างๆ แม้แต่กฎหมายก็รับรองด้วย มันแก้ไม่ได้แล้วถึงต้องไปทำอันใหม่เลย มันหมดทางแก้ก็เลยต้องจำนน เป็นไปไม่ได้ จะบอกว่าแอบเอาคำสอนพระพุทธเจ้ามา ก็คือเขาแอบเอาคำสอนพุทธเจ้ามาใช้แล้วผิดเพี้ยน เราก็เลยเอาอันเดิมที่ถูกของพระพุทธเจ้ามาคืน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 10:26:07 )

อย่างไรคือ พฤติกรรมของมนุษย์ส่วนตัว และเป็นมนุษย์ส่วนรวม

รายละเอียด

ไปปฏิบัติมิจฉาทิฏฐิยึดถือแบบเทวนิยมไปหมดไม่เหลืออเทวนิยม อาตมาก็ต้องมาฟื้น เทวะ อเทวะ เป็นสภาพสอง ตอนนี้พยายามแยกแยะให้รู้สภาพเทว หรือ สภาพของ กายเป็นหลัก แยกเป็นรูปนาม ภายในภายนอก ภายนอกภายใน ต้องมีคู่กัน แต่แยกไม่ได้ แยกมาเพื่อรู้ว่า ตอนไหนจะใช้ตอนไหนไม่ใช้ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้อย่างเร็ว อย่างหนักอย่างเบา อย่างสูงอย่างต่ำ มีมุมเหลี่ยม อย่างนั้นที่พูดนี้ยังไม่ครบนะ ต้องอนุโลมปฏิโลมกับผู้อื่นอย่างสงบเรียบร้อยเป็นสุขไม่ทะเลาะวิวาทกันเกื้อกูลกันเต็มไปด้วยสาราณียธรรมหรือพุทธพจน์ 7

อย่างคิดถึงกันไม่มีความร้ายจะไม่รังแกกัน ระลึกถึงกัน ปรารถนาดีต่อกัน ปิยกรณะ เคารพกัน ไม่ว่าจะด้วยศักดิ์ศรี ความรู้ ฐานะ ความจริง ที่ยอมรับกันต่างๆนานาอย่างจริงจัง 

นี่เป็นพฤติกรรมของมนุษย์ส่วนตัวและเป็นมนุษย์ส่วนรวม แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สามารถเข้าใจร่วมกันได้ เราเข้าใจแล้ว แต่เรายังเป็นไม่ได้ ทำไม่ได้ หรือว่าเราประพฤติอยู่แล้วแต่เราไม่รู้ว่าเราได้ เราไม่รู้ว่าเราเป็น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:03:21 )

อย่างไรคือ พลังงาน Coefficient

รายละเอียด

โดยอาตมาค้นพบพลังงานสัมประสิทธิ์ Coefficient มีอัตราการก้าวหน้าที่จะทำให้เกิดการก้าวหน้าของพลังงาน หมุนเวียนซับซ้อน ตัวแปรที่ทำให้เซลล์ร่างกาย หรือว่าความเพิ่มขึ้น พลังงานเพื่อจะทำให้เกิดความคงทน ยืนหยัดของเซลล์ของระบบ ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบองคาพยพ ไปจนกระดูก กระทั่งยืนหยัดยืนยันทุกอย่าง  ตั้งแต่น้ำตาน้ำเหงื่อ ก็พยายามจัดสรรให้มันลงตัวให้มันพอเป็นไปได้ที่จะมี cyclic order เป็นระบบที่มีพลังงานทด ที่เป็นตัวแปรที่ก้าวหน้า ทำให้เรารักษาสภาพนี้ ทรงอยู่ได้ไม่เสื่อมชำรุดง่าย ก็พูดขยายความไม่เก่งก็ได้ขนาดนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ GDP แบบโลกียะกับแบบโลกุตระ วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 07:38:15 )

อย่างไรคือ พวกนอกคำสอนของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

นอกจากคุณจะบอกว่า ตกลงคุณไม่ยอมไปเป็นเดียรถีย์แต่คุณจะอยู่นี่แหละ คุณก็อยู่ของคุณเป็นนานาสังวาส อาตมาไม่ไปว่าคนละศาสนาหรอก คุณก็ยืนยันว่าคุณเป็นพุทธอาตมาจะไปว่าอะไรได้ แต่คุณก็คือพวกนอกคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำคำสอนพระพุทธเจ้าเรียนคำสอนพระพุทธเจ้าไม่ถูกไม่ตรง ไม่เข้าเป้าเลยแม้แต่แค่ กรรม 4 สังกัปปะ วาจา กัมมันตะ อาชีวะ ก็ทำมิจฉากันอยู่ มิจฉาอาชีพ 5

ชาวอโศกพ้นมิจฉาอาชีวะ 5 ได้ 

1. การโกง ทุจริต คอร์รัปชั่น (กุหนา)  มีในงานการเมือง .

2. การล่อลวง หลอกลวง (ลปนา) ในนักธุรกิจ-การเมือง .

3. การตลบตะแลง (เนมิตตกตา)  ยังเสี่ยง-ยังไม่แน่แท้ 

4. การยอมมอบตนในทางผิด  อยู่คณะผิด (นิปเปสิกตา) 

5. การเอาลาภแลกลาภ (ลาเภนะ  ลาภัง  นิชิคิงสนตา) 

(พตปฎ. เล่ม 14  ข้อ 275  มหาจัตตารีสกสูตร) 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 14:39:11 )

อย่างไรคือ พิจารณากายในกาย

รายละเอียด

คำว่า “กาย” คำนี้ยิ่งใหญ่ ทุกวันนี้ไม่เข้าใจคำว่ากาย แล้วในศาสนาพุทธเขาไปเข้าใจเพียงแค่กายคือสรีระร่างวัตถุภายนอกเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับนามธรรม อาตมาอธิบายว่ากายไม่แยกกับจิต จิตไม่แยกกับกาย กายหมายถึงภายนอกที่เชื่อมกันอยู่กับภายใน ที่ท่านสอนสติปัฏฐาน 4 พิจารณากายในกายก็คือคุณต้องมีภายนอกนั่นแหละแต่คุณจะต้องตามมาหาพิจารณาภายในคือจิต เพราะกิเลสไม่ได้อยู่ที่ภายนอกวัตถุหรือผิวข้างนอก ถ้าคุณไปแยกออกไปเลยไม่มีจิตไปร่วม คุณก็ปฏิบัติธรรมไม่ได้ เพราะว่ากายไปหมายถึงภายนอกแล้วมันไม่มีกิเลสหรือดินน้ำไฟลม มีร่างเฉยๆคนตายไม่มีจิต ไม่มีธาตุรู้ไปร่วมแล้ว จะให้คนตายมาปฏิบัติล้างกิเลส คนตายมีแต่ซากศพมันไม่มีกาย แม้แต่คนไม่มีพลังงานจิตพลังงานจิตมันตกลงมามันจบลงมาเป็น พีชะ มันก็ไม่ใช่กายแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 23 วันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 09:52:25 )

อย่างไรคือ ภราดรภาพที่ยิ่งใหญ่

รายละเอียด

ภราดรภาพ ยิ่งใหญ่มาก ในความเป็นพี่เป็นน้อง fraternity เป็นครอบครัวใหญ่ ชาวอโศกเป็นครอบครัวใหญ่กินข้าวหม้อเดียวกันทรัพย์สินกองเดียวกัน เป็นอะไรก็เป็นไปด้วยกัน อะไรมันเดือดร้อนก็ช่วยกัน ให้เป็นอยู่สุขร่วมกัน ยิ่งกว่าหนังจีน มีสุขร่วมเสพย์ มีทุกข์ร่วมต้าน ทุกรูปแบบเลย เป็นภราดรภาพที่ยิ่งใหญ่ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:19:56 )

อย่างไรคือ ภาวะ 2

รายละเอียด

ทั้งๆที่“พระเจ้า”กับ“พระบุตร”ก็คือ “ภาวะ 2”แล้ว หรือ“พระเจ้า”กับ“โลกเอกภพมหาจักรวาล”ก็เป็น “ภาวะ 2”แล้ว หรือ“วัตถุ”กับ“จิต”ก็‘ภาวะ 2”อยู่แท้ๆ  อันมีคู่คือ “เทฺว”หรือ“ภาวะ 2” และที่สำคัญยิ่งยวดก็คือ มีทั้ง“คำเรียกขาน”และทั้ง“สภาวะแท้”ให้เปรียบเทียบ “ความแตกต่างกัน”ของทุกสรรพสิ่งตั้งแต่“0 กับ 1”ก็เป็น“ภาวะ 2”แล้ว

หรือแม้แต่“ภาวะ 2”คือ“0 กับ 0”ก็เทียบกันได้แล้วว่า เป็น“ภาวะ 2 ที่เป็น 1 เดียวกันแล้ว”หรือ“ภาวะ 2”คือ““0”กับ“1”ก็เทียบกันได้แล้วว่าเป็น“ภาวะ 2 ที่ไม่เป็น 1 เดียวกันแล้ว”ไม่ว่าจะเป็น“0” หรือเป็น“1” หรือเป็น“2” หรือเป็นคู่ ความเป็น“คู่”ย่อมเปรียบเทียบกันได้ทั้งนั้น 

ยิ่งเป็น“ภาวะ 2”อันเป็น“ธาตุรู้(วิญญาณ)”กับ“สสาร”หรือ“จิต”กับ“วัตถุ”ก็ยิ่งเทียบกันได้ว่า“แตกต่างกัน”ชัดเจน หรือ“ความมี”กับ“ความไม่มี”ย่อมแตกต่างกันแน่ หรือ“ความลึกลับ”กับ“ความเปิดเผยกระจ่างแจ้ง”นั้นย่อมแตกต่างกัน“พระเจ้า”กับ“พระพุทธเจ้า”ก็แตกต่างกันที่ยืนยัน “ความจริงได้”อย่างมีนัยสำคัญ ต้องศึกษากันดีๆทีเดียว

“พระเจ้า”นั้นเห็นจริงได้ยากยิ่งกว่า“พระพุทธเจ้า” เพราะ“ภาวะ 2”นี้มี“ความจริง”ที่สัมผัสได้ กับสัมผัสไม่ได้ เป็นต้น หรือในมิติอื่นก็สามารถพิสูจน์ยืนยันได้อีกมากมิติ ซึ่งเป็น“ภาวะ 2”ที่มีความเป็น“เทฺว”ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 1 วันพุธที่ 23 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2565 ( 21:03:12 )

อย่างไรคือ ภาษาแตกต่าง แต่สาระที่ประพฤติไม่แตกต่างกัน

รายละเอียด

สรุปแล้วพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เป็นเผด็จการเลย ไม่ได้เป็นคนทำรัฐประหารเลย ทั้งชื่อ ทั้งพฤติการณ์ของพลเอกประยุทธ์ไม่มีเลย มีแต่ประชาชนเป็นผู้ทำรัฐประหาร ถ้าบอกว่าเผด็จการก็ต้องบอกว่าประชาชนเป็นเผด็จการ คำว่าประชาธิปไตยเผด็จการคอมมิวนิสต์ก็คือภาษา แต่เนื้อหาก็อันเดียวกัน เผด็จการคือประชาชนรวมกันทั้งหมดเป็นเผด็จการ คอมมิวนิสต์ก็คือประชาชนคณะหนึ่งไปเผด็จการ ประชาชนก็คือประชาชนทั้งหมด เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเข้าไปมีอำนาจ ประชาธิปไตยประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ นี่พูดง่ายที่สุดแล้วนะ มันเข้าใจยาก มีเนื้อหาสาระต่างๆเป็นรายละเอียดอีกมากมาย ปัญญาเขายังไม่ถึง ทำแล้วจะฉีกรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็ได้ ที่จริงมันติดนิสัยว่าผู้ที่ทำรัฐประหารแล้วก็ต้องฉีกรัฐธรรมนูญเป็นธรรมเนียม ที่คำว่าเผด็จการ กับคำว่ารัฐประหารหรือคำว่าประชาธิปไตย จึงต้องทำความเข้าใจสาระแท้ๆ ของความเป็นจริงๆ สารัตถะคือ อันเดียวกัน จะเป็นประชาชนก็เป็นประชาชนทั้งหมดเป็นเผด็จการ ประชาชนทั้งหมดเป็นคอมมิวนิสต์ ประชาชนทั้งหมดเป็นประชาธิปไตย ภาษาว่าคอมมิวนิสต์เผด็จการประชาธิปไตย แท้จริงก็คืออำนาจของประชาชน ที่ภาษาว่าประชาธิปไตย เป็นอำนาจ ภาษาแตกต่างแต่สาระที่ประพฤติไม่แตกต่างกัน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 10:08:57 )

อย่างไรคือ มีสันโดษอันเป็นอาริยะ

รายละเอียด

ต่ออัมพัฏฐสูตร…..ดูกรอัมพัฏฐะ อย่างไร ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้สันโดษ? ดูกรอัมพัฏฐะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง เธอจะไปทางทิศาภาคใดๆ ก็ถือไปได้เอง ดูกรอัมพัฏฐะ นกมีปีกจะบินไปทางทิศาภาคใดๆ ก็มีแต่ปีกของตัวเป็นภาระบินไป ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นแล เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง เธอจะไปทางทิศาภาคใดๆ ก็ถือไปได้เอง ดูกรอัมพัฏฐะด้วยประการดังกล่าวมานี้แล ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้สันโดษ เป็นผู้สันโดษคือ 

1.เป็นผู้ที่ไม่มีของมาก ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ที่อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายอ้างว้าง  ไม่ใช่!     สันโดษคือผู้ที่มี ใจพอ สันตุฏฐิ คือใจมันพอ เพราะฉะนั้นเราเองเรามีน้อยมีสมบัติน้อย มันก็สะดวกจะไปไหนก็คล่องแคล่ว ไม่ต้องห่วง เพราะฉะนั้นคนที่ไม่ติดอะไรมาก ไม่ต้องมีอะไรมาก มีแต่สิ่งที่เป็นบริขารสำคัญ บริขารคือเครื่องอาศัย เครื่องอาศัยในชีวิต ยิ่งมาเป็นภิกษุแล้ว มีบริขาร 8 แต่ทุกวันนี้ไปไหนต้องสะพายคอมพิวเตอร์ไปด้วย หรือต้องมีแว่นตาไปด้วย อาตมาไม่ใช้แว่นตาก็ไม่ได้แล้ว หรือสิ่งสำคัญที่เราต้องใช้ให้เกิดประโยชน์คุณค่า ไม่ใช่เอาไปใช้เป็นเครื่องมือหากิน หรือหาเงิน เพราะฉะนั้น ความมีน้อยไม่เป็นภาระกว่าความมีมาก 

2.รายได้ สิ่งได้ หรือของควรได้ ในหลวงท่านตรัสว่า คือ Gain ภาษาบาลีคือ ปฏิลาโภ คือสิ่งที่ได้ โดยสิ่งที่ได้เราก็ไม่เอาไว้กับตัว สิ่งที่ได้เป็น ลาภธัมมิกา เป็นลาภโดยธรนม เป็นสิ่งที่ได้มาโดยสุจริตและเป็นค่าแรงงานหรือค่าความรู้ความคิด ค่าวัตถุก็ตาม เราก็ไม่เอาค่าเหล่านั้น ไม่เอามา ทำงาน ให้ฟรีเลย แล้วยิ่งเรามีระบบสาธารณโภคี ที่อาตมาเอาของพระพุทธเจ้ามา ทำขณะนี้ ในเมืองไทย ให้พวกเราปฏิบัติ ชาวอโศกมีสาธารณโภคี ไม่ใช่ว่าของ บ้านราชฯก็เป็นของบ้านราชฯ ที่อื่นเอาไปใช้ไม่ได้  หวงแหนของใครของมันก็ไม่ใช่ ไม่ได้หวงแหน แต่ดูแลรักษา ถ้าเผื่อว่ามันสมควรจำเป็น ให้คนนั้นคนนี้ ก็ไปแจกหรือให้เฉลี่ยกันไปใช้ได้ ไม่ได้หวงแหน มันหมดก็หมดด้วยกัน มันมีก็มีด้วยกัน คนไหนเดือดร้อนก็จะเลยไปหาคนเดือดร้อน ให้ทั่วถึง นี่คือหลักเศรษฐศาสตร์

อาตมาว่าอาตมาขยายความไม่เก่งแม้จะมีหลักฐานก็ยังขยายความไม่เก่ง สักวันคนที่เก่งกว่าก็จะอธิบายสาธยายให้ได้ดีกว่านี้อีก อาตมาก็ทำตัวจริงไปได้เรื่อยๆ ต้องอาศัยเวลา ทำดียังไม่ได้ดี เพราะทำดียังไม่มากพอ ต้องทำดีให้มากกว่านี้ เรื่องสันโดษนอกจากจะเป็นเรื่องที่พอ พอด้วยวัตถุ ใจมันพอ เอาแค่นี้พอ มีแค่นี้พอ อย่างพวกคุณพอ เราไม่ต้องการรายได้เลยก็พอ ทำงานก็เอาเข้ากองกลาง จะใช้ก็เบิกกองกลางเขาให้ใช้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ต้องการมากกว่านี้แต่เขาไม่ให้ก็แค่นี้ก็พอ เราก็อาศัยกินใช้ มันลึกซึ้ง ใจคุณพอ คุณกินอาหารพอไหม คุณมีเสื้อผ้าพอไหม แค่นี้ก็พอแล้ว คุณมีที่พักที่อาศัยพอไหม คุณมียารักษาโรคที่คนเจ็บป่วยไปแล้ว ก็อาศัยส่วนกลางนี่แหละก็พอแล้วล่ะ ใช้ได้ ไม่ได้หวงแหนหรือลำเอียงก็ช่วยกันได้หรือจะมีบริขาร เพิ่มเติมมากกว่าปัจจัย 4 มันก็พอ เราก็ไม่ได้ต้องการมากกว่านี้ คนสันโดษเป็นอาริยะ คือ เป็นคนที่มีน้อยเท่าไหร่ก็พอ ของภิกษุ มีแต่บาตรกับจีวรสถานที่ก็ไม่เอา ทิ้งบ้านเรือน อาคารที่พักอาศัยก็ไม่เอา มีแต่บาตรเป็นเครื่องบริขารเลี้ยงชีพ และมีผ้านุ่งห่มกันอุจาดไม่ให้มันน่าเกลียด แบบพวกเชน เดินโทงๆ พระพุทธเจ้าก็ไม่เอา มันเกินไป เราก็มีเครื่องนุ่งห่มพอเพียง บางคนมีแค่ 3-4 ชุด 5 ชุดก็เกินไปไม่เอา อย่างสมณะนี่ เดี๋ยวคนนั้นคนนี้ก็เอามาถวาย ระบายออกแทบไม่ทันเลย อย่างอาตมาก็ไม่ต้องดูเลย ปัจฉาคอยดูแล บางที่ปะชุนก็ใช้ได้ เอาไว้กันแมลงสัตว์กัดต่อย กันอุจาด 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 13:15:03 )

อย่างไรคือ ยินดีพอใจที่เป็นฉันทะ

รายละเอียด

พวกเรานี่ยินดีในสิ่งที่เรายังยินดีอาศัย ไม่ใช่ยินดีเพราะดูดดึงชื่นชอบ ยินดีเป็นความพอใจที่เป็นฉันทะ เป็นความยินดีในเกณฑ์ที่อาศัย 

อาศัย ถ้าไม่มีความยินดีเป็นมูลกา เป็นต้นรากเลย ปฏิบัติศาสนาพุทธไม่ได้ ต้องมีฉันทะ มีความยินดี ยินดีในเนื้อหาสาระยินดีในโลกุตรธรรม ยินดีในการปฏิบัติธรรมกับหมู่ แล้วก็มีหมู่มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาวันมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 14:43:11 )

อย่างไรคือ ยินดีในเสนาสนะอันสงัด

รายละเอียด

คำว่า ยินดีในเสนาสนะอันสงัด อาตมายินดีในเสนาสนะอันสงัด อยู่กรุงเทพฯก็สร้างเสนาสนะอันสงัด อยู่ปฐมอโศกก็สร้าง อยู่ที่ไหนก็สร้างทั้งนั้น ไม่ไปบุกรุกป่าเขา ไม่เคยมีคดีความบุกรุกป่า บุกรุกที่ดินที่ไม่ใช่ของเราไม่มีสิทธิ ไม่ใช่ มีแต่สิทธิถูกต้องไม่เคยมีคดีพวกนี้อาตมาชีวิตชาตินี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 21:45:16 )

อย่างไรคือ รัฐประหาร

รายละเอียด

คำว่าเผด็จการก็ดีคำว่าประชาธิปไตยแท้ๆก็ดี ซึ่งยังเข้าใจคำว่ารัฐประหาร คำว่ารัฐประหาร แปลว่า ประหารรัฐบาล เพราะฉะนั้น ผู้ที่ประหารรัฐบาลลงไป ผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้ทำรัฐประหาร เช่นทักษิณบริหารอยู่ก็มีพลเอกสนธิไปทำรัฐประหารให้ทักษิณออกไป ก็ถือว่านั่นคือทหารทำรัฐประหาร พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ยึดอำนาจจากรัฐบาล ต่อมาก็ดำเนินการใหม่ เมื่อบริหารต่อมา ทักษิณก็ยังแสดงแบ่งอำนาจนอมินี เอาสมัครขึ้นมา เขาส่งเสาไฟฟ้ามาเลือกตั้งก็ได้ เป็นเผด็จการทางรัฐสภา ได้สมัครมา ทีนี้ไม่ใช่ทหารไปทำรัฐประหาร แต่ประชาชนไปทำรัฐประหาร เอาสมัครลง แต่สมัครบริหารไม่ได้หมดอำนาจเพราะประชาชน สมัครต้องลงจากความเป็นนายกด้วยผิดกฎหมาย ไปออกอากาศเอาเงินค่าทำรายการออกโทรทัศน์ เลยต้องออกจากการเป็นนายก คนก็เลยยังไม่ชัดเจนว่าประชาชนทำรัฐประหาร ต่อมาเป็นสมชาย เข้ามาก็ไม่ได้เข้าทำเนียบอีก เป็นนายกที่ไม่ได้เข้าทำเนียบ ประชาชนก็ได้ทำรัฐประหารอีก นอกจากรัฐประหาร มีรัฐบาลของอภิสิทธิ์มาคั่น ประชาชนก็ออกไปไล่อีก จากนั้นก็เป็นการเลือกตั้งได้ยิ่งลักษณ์มา แค่ 49 วันก็ได้เป็นนายกฯ แล้ว ไม่รู้ไปขุดมาจากไหน บริหารไปก็ออกฤทธิ์เดชขนาดนั้น โกงกินตั้งไม่รู้กี่คดี ไม่รู้กี่แสนล้าน จนต้องออกไปจากประเทศ ไม่กล้าสู้ ให้ นิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล เป็นตัวแทน แต่ยิ่งลักษณ์หนีไปแล้ว สุดท้ายก็ถูกรัฐประหาร 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 10:02:01 )

อย่างไรคือ รัฐศาสตร์ความเป็นประชาธิปไตย

รายละเอียด

มันไปลงที่ประชาชนเป็นหนึ่งเดียว ที่เป็นประชาชนทั้งหมดร่วมกัน ไม่ใช่ประชาชนคนเดียว เผด็จการเขาถือว่าเป็นเผด็จการฟาสซิสต์มีคนเดียวมีอำนาจ อย่างแท้จริงก็เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่ถ้าเป็นคอมมิวนิสต์ก็เป็นคณะ คณาธิปไตย ส่วนประชาชนก็คือเอาความเห็นของประชาชนทั้งหมด ที่พูดไปก็เป็นรัฐศาสตร์ที่คนทั้งโลกจะได้เข้าใจว่าประชาธิปไตยคืออะไร คุณบอกเองว่า ไปสนับสนุนการเมืองฝ่ายเผด็จการนั้นมันเป็นความคิดเห็นของคุณต่างกันกับของอาตมา ที่อาตมาไม่ได้ไปสร้างลำต้นเผด็จการพัฒนาสังคมประชาธิปไตย แต่คุณเข้าใจผิดว่าพฤติกรรมจริงที่เป็นประชาธิปไตยคุณไปเข้าใจว่าเป็นเผด็จการนี้เป็นมายา ไม่ใช่สิริมหามายา คุณเข้าใจอย่างคนเล่นกลเป็นมายา ไปหลงมายากลของ สัจจะ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 10:10:38 )

อย่างไรคือ รู้ความจริงตามความเป็นจริง

รายละเอียด

ฟังให้ดีนะ คุณรู้ความจริงตามความเป็นจริงว่า อันนี้คืออันนี้ รู้ทางตา รู้ทางหูจมูกลิ้นกาย รู้แล้วก็มีความรู้นั้นและคุณก็รู้สึก รู้สึกไม่รู้สึกอะไรก็คือความรู้สึกตามเป็นจริงสิ ไอ้นี่เขียวก็เขียว ไอ้นี้เหลืองก็เหลือง ไอ้นี่แดงก็แดง บอกว่าทำไมมันแดง ก็แดงมันดีก็เป็นสิ่งที่คุณไม่จำเป็นต้องไปวิจารณ์ ทำไมต้องแดง มันไม่น่าแดงเว้ย อ้าว คุณไปยุ่งอะไรกับมัน 

เพราะฉะนั้นคนที่รู้จักสิ่งใดก็แล้วแต่เป็นสิ่งที่เป็น 1.ไม่มีอะไรเป็น 2  ทั้งๆที่มันเป็น 2 

1. สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่คุณไปเกี่ยวกับเขา ไปสัมผัสเขา แล้วก็ไปทำเป็นรู้เขา ก็เลยมีสิ่งที่ถูกรู้กับตัวเรารู้มันมีสอง คุณจะรู้สิ่งนั้นก็รู้ว่ามันเป็นอันใดอันหนึ่ง แต่ตัวคุณนั้นเสือก เอ๊ ทำไมอย่างนี้วะ ทำไมเป็นอย่างนั้นวะ เฮ้ย มะม่วงทำไมมันเป็นมะม่วงวะ  มะม่วงมันก็บอกว่าคุณเสือกแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหาระดมปัญญา-อนัตตา งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 16:07:16 )

อย่างไรคือ ลดกิเลส

รายละเอียด

ฟังประเด็นนี้ชัดๆ ลดกิเลสคือทำลายกิเลสหมดลงไปได้ด้วยปัญญาด้วยฌาน เป็นฌานแบบลืมตาไม่ใช่ฌานสะกดจิต มันเผากิเลสจนหายไป แล้วจะไม่มีกิเลสอีก เป็นพระอรหันต์แล้วไม่มีกิเลส หมดแล้วหมดเลยไป ตายชาติหน้าเกิดมาเป็นโพธิสัตว์อีกสืบทอดต่อพุทธภูมิ กิเลสก็ไม่มี แต่จะมีลิงลมอมข้าวพองได้ แม้แต่ชาติที่เป็นพระพุทธเจ้าท่านก็ดูเหมือนตอนแรกจะมีกิเลสอย่างโลกๆ เขา ต้องแต่งงานต้องมีอะไรต่างๆ นานา เหมือนยังมีโลภโกรธหลงแต่ที่จริงมันลึกซึ้งมาก มันเป็นเรื่องถูกครอบงำทางสังคมเท่านั้นเอง ไม่ช้าไม่นานก็สลัดได้ อันนี้อาตมารู้ดี เพราะอาตมาเป็นเองจึงบอกได้ 

ศึกษาไปดีๆ พูดไปก็เหมือนคนหลงใหลเชิดชูยกย่องพระพุทธเจ้าเกินไป จนกระทั่ง อาตมาก็ได้ยกย่องชมเชยมาไม่น้อยแล้วก็รู้สึกเกรงใจ ที่จริงมันไม่หมดไม่พอหรอกที่จะยกย่อง ค่อยว่ากันไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:10:20 )

อย่างไรคือ ลักษณะกิเลสถือดีมีมานะ

รายละเอียด

ลักษณะการถือดี คือ มานะ คำว่ามานะ มีสองนัย คำ มานะกิริยาคือ ความพากเพียรอุตสาหะ ตั้งอกตั้งใจจะทำให้ดีอย่างที่เรารู้ เราต้องการ จะต้องทำดีนี้ให้ได้ เรียกว่ามานะอุตสาหะ พากเพียรเพื่อจะทำดีนั้นสำเร็จให้ได้ 

เมื่อได้ผลสำเร็จดีแล้ว ก็ยึดถือดีนี้เป็นตัวเป็นตน ยึดดีนี้เป็นเราเป็นของเรา ยึดดีนี้เป็นอำนาจ ยึดดีนี้ถือว่าใหญ่ว่ายิ่งก็หลง ก็ ยึดดีนี้เป็นลักษณะ ดีไม่ดีก็เอาดีนี้แหละ ไปข่มคนอื่นเลย จะแสดงออกข่มทางอำนาจบาตรใหญ่ ทางกายกรรมหรือทางวาจา ก็ตาม ก็คือยิ่งหยาบ ยิ่งเป็นการถือดี เป็นกิเลสแสดงออกภายนอก ที่ถามมาไม่ใช่ลักษณะหยาบอย่างนั้นแล้ว เป็นลักษณะภายใน มันรู้สึกตัวเองถือดี เข้าใจถูกต้องตรงหรือเปล่าว่าลักษณะอาการถือดี มันมีดีนั้นแล้ว แล้วเราก็ยึดถือตัวดีนี้เป็นอำนาจในตัวเรา ถ้าแสดงออกหยาบก็อย่างที่อธิบายไป ถ้าไม่แสดงออกภายนอกก็อยู่ภายในลักษณะเล็กๆน้อยๆ ก็มีอยู่ตามจริง จะไปแสดงออกภายนอกมันไม่เท่ เอาภายในดีกว่าหรือบรรลุอรหันต์เลยก็ได้ ก็ดี เป็นการกดข่ม 

แต่ต้องรู้ด้วยปัญญา รู้ด้วยความเฉลียวฉลาดปัญญาทางธรรม รู้ว่าลักษณะพวกนี้ต้องแยกให้ออกว่าดีมันดีแล้ว แต่อย่าเอาดีเป็นเราหรือยึดดีเป็นของเรา แล้วก็เอาดีของเรานี้ไปเที่ยวได้ข่มคนอื่นเขา ไปบังคับคนอื่นเขา ไปใช้เบียดเบียนผู้อื่น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 31 วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 20:48:26 )

อย่างไรคือ ลักษณะของธรรมะที่จะเป็นบาปจะเป็นหนี้

รายละเอียด

แล้วในลักษณะของธรรมะจะเป็นบาปจะเป็นหนี้ คนที่ต้องพึ่งพาคนอื่นมากที่สุดนั้นคือคนเป็นหนี้เป็นบาปที่จะต้องเกิดมาใช้หนี้คนอื่นเขาอีกกี่ชาติกี่ชาติ

คนใดที่จะต้องให้คนอื่นเขาช่วยมากๆ คนนั้นจึงเป็นหนี้ คนใดที่ได้ช่วยคนอื่นได้คนนั้นก็เป็นเจ้าหนี้ สัจธรรมก็ต้องอธิบายทีละคู่ต้องเข้าใจได้อย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:36:06 )

อย่างไรคือ วัฏฏภิรตะโสดาบัน

รายละเอียด

“วัฏฏภิรตะ” แปลว่า ยินดีในวัฏฏะ เสพในวัฏฏะ ก็ไม่ยอมขึ้น เรียกว่าเทวดาติดแป้น ไม่คิดจะเพิ่มภูมิเลยจมอยู่อย่างนั้น ก็ให้อย่าติดแป้น ปปัญจรามตา อย่าไปยินดีในความเนิ่นช้าหากว่าคนติดแป้นก็ยินดีในความล่าช้า

อาตมาไม่รู้ว่ามีหลักฐานพระพุทธเจ้าตรัสไว้หรือเป็นอรรถกถาจารย์ 

วัฏฏภิรตะ ผู้ที่ยินดีในความเนิ่นช้าเป็นพวกติดแป้นยินดีในโลกกาม เป็นกามเทพอยู่อย่างนั้น ติดแป้นอยู่อย่างนั้น ติดมากติดน้อยก็แล้วแต่ กาม ก็จมอยู่อย่างนั้นไม่เคลื่อนที่ ไม่พยายามพัฒนาให้สูงขึ้นเจริญขึ้น วัฏฏภิรตะ โสดาบันคือผู้ที่เนิ่นช้า จมอยู่ในฐานเสพกามคุณ เขาใช้เรียกนางวิสาขา นางวิสาขาเป็นคนรวยพรั่งพร้อมไปด้วยบริวารทรัพย์ศฤงคารก็เลยเสพติดเรื่องนี้ เขาก็เลยอธิบายเอาภาษามาเรียก เอาแต่เสพติดไม่เลื่อนชั้นไปไหนนานแล้วไม่เกิดอีก เป็นคนติดแป้น ไปยินดีในความเนิ่นช้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 23 วันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 09:50:54 )

อย่างไรคือ วิตก วิจาร 

รายละเอียด

ขั้นแรกต้องเรียนรู้อย่างมากทั้งวิตก ทั้งวิจาร 

วิตก แปลว่า ตัวดำริขึ้นมาแล้วแยกแยะออกมาที่ตัวกิเลสให้ได้ พอแยกแยะออกมาแล้วก็รู้ตัวพฤติกรรมของจิตที่มันสะอาดหรือกำลังทำให้สะอาด แล้วจนสะอาดหมด ก็เห็นอาการของมัน เรียกว่าจาระ คือ วิจาระ เห็นพฤติของมัน หรือจรณะ ก็เห็นมันจนกระทั่ง มันสะอาดหมดกิเลสแล้วก็จบ ทำให้กิเลสหมดก็จบ วิจาร ที่วิเศษแล้ว สั่งสมตกผลึก เป็นสมาธิ ซึ่งใช้ภาษาเรียกว่า สมาหิตะ 

ฐานแรกท่านก็เรียก อัปปนา ที่ไปใช้กับฌาน สายหลับตาก็เอาไปใช้ แต่เอาไปอธิบายไม่ได้ต่อจากนั้นเป็น พยัปปนา เจตโสอภินิโรปนา พวกหลับตาอธิบายไม่ได้ จะไม่กล่าวถึงเพราะไม่รู้รายละเอียด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 37 อภิภายตนสูตร ตอนที่ 1 วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2567 ( 11:44:56 )

อย่างไรคือ ศีลสามัญญตา

รายละเอียด

ศีลสามัญญตา คือ โสดาเสมอโสดา สกิทาเสมอสกิทา อนาคาเสมออนาคา อรหันต์เสมออรหันต์ ไม่ใช่ว่า 5 เหมือนกันหมด แม้แต่ศีล 5 ก็มีนัยต่างกัน น้อยมากอ่อนหนัก ในศีล 8 ก็มีต่างกัน คนที่ทำได้เข้มข้นกับคนที่ทำไม่ได้เข้มข้นเป็นต้น จุลศีลมัชฌิมศีล มหาศีล ก็เช่นกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 12:42:50 )

อย่างไรคือ สงบกาย สงบจิต

รายละเอียด

สงบกาย คืออย่างไร สงบจิต คืออย่างไร

สงบกาย กับสงบจิต สงบกายก็ต้องรู้กาย หากไปเข้าใจผิดว่ากายคือวัตถุ ไม่มีจิต คนนี้ก็จะไปงมอยู่แต่กับวัตถุว่าเป็นกาย ไม่เกี่ยวกับจิตหรอก หมากพลู มันก็เป็นของธรรมดา เอาไว้ให้คนเคี้ยว ก็เคี้ยวไปสิจะทำไม  ไม่ได้ติด อาตมาไม่ได้ติดหมากติดพลูอะไร อาตมาเคี้ยวเฉยๆ เคี้ยวให้คางยานเฉยๆ ไม่ต้องใช้แคลอรี่อะไร ของอาตมาเอง ใครอย่ามายุ่ง เปลืองหมากพลู ก็ญาติโยมเอามาให้ เขายินดีมาถวาย เขาก็ได้บุญ อาตมาก็ฉันไป ติดอย่างไรอาตมาก็ไม่รู้ ก็ฉันต่อไปจนตาย อาตมาก็ไม่รู้ว่าตายแล้ว มีคนใส่ตระกร้าใส่กองฟอนให้หรือเปล่า? … 

พูดถึงเงินปากผี ใส่ในปากให้แล้ว ยังตามไปเอามาอีกทีหลัง เอาไปทำของขลัง

กายสงบ ท่านใช้คำว่า วูปกา อุปกา แปลว่า เป็นการปฏิบัติ ทำให้มันเกิด ทำให้มันเกิดความสงบ โดยรู้ด้วยปัญญาว่า ความสงบนั้นไม่ได้หมายถึงเอาความหยุดของรูป ของนาม แต่หมายถึงเอาความหยุดของกิเลส เอาความตายของกิเลสให้มันตายอยู่นิ่งหายไปเลยไม่ใช่ไปหยุดรูปนาม แต่รูปนามยิ่งแคล่วคล่อง ยิ่งกายปาคุญญตา จิตปาคุญญตา มันยิ่งคล่องแคล่วทั้งคู่ เป็นสิริมหามายา ยิ่งสงบกายยิ่งสงบจิต ยิ่งคล่องแคล่ว เห็นไหม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 1 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 11:01:25 )

อย่างไรคือ สมรมประชาธิปไตยสำนวนของคุณสุทิน วรรณบวร

รายละเอียด

สมรมประชาธิปไตยสำนวนของคุณสุทินนี่ มันก็เท่ากับคือประชาธิปไตยที่มีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ใช่ประชาธิปไตยเลือกตั้ง แบบผู้แทน แต่เป็นความจริงใจของประชาชนที่เขามีปัญญาเขามีความใช้สิทธิเสรีภาพอิสระเสรีภาพของเขาเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างแท้จริง ขณะนี้เป็นเช่นนั้น เพราะฉะนั้นขณะนี้อาตมาว่านายก ทำงานอยู่นี่ได้ใจประชาชน แน่นอน พวกเสียงนกเสียงกาเสียงร้องเสียงดังอะไรมันเป็นธรรมดาธรรมชาติต้องเอาต้องมี ถ้าสังคมประชาธิปไตยไม่มีฝ่ายค้าน เสร็จเลย ไม่ใช่ประชาธิปไตย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2561


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:40:37 )

อย่างไรคือ สมรรถนะของประชาธิปไตย

รายละเอียด

แม้แต่สันติ ก็เป็นประชาธิปไตยอย่างที่อธิบายไปแล้ว ก็มีสมรรถนะมีความสามารถมีความรู้ แต่ละคนๆ จะมีความสามารถอะไรก็ทำได้ เป็นความสามารถที่สร้างสรร ไม่ใช่ความสามารถทางอบายมุขเอาไปทำสิ่งเละเทะ เอาไปสร้างอาวุธฆ่ากันไม่มีเลยไม่มีความคิดเลวชั่วอย่างนั้นเลย คิดสร้างอาวุธได้เก่ง เก่งได้ขนาดไหนก็เป็นความคิดที่เลวร้ายที่ชั่วที่บาป เพราะฉะนั้น สมรรถนะของสิ่งที่เป็นประชาธิปไตย จึงไม่ใช่ของคนที่สร้างอาวุธเก่งๆแล้ว ข่มคนอื่น ให้คนอื่นกลัว ไม่ใช่ เอาคุณงามความดีเป็นสมรรถนะ เอาสิ่งไม่เบ่งข่ม ให้เกียรติผู้อื่น ทั้งหมดนี่แหละเป็นสิ่งที่เป็นสมรรถนะ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:23:14 )

อย่างไรคือ สมาธิของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

สมาธิของพระพุทธเจ้านั้นก็คือ จิตมันจะสะอาดจากกิเลส แล้วก็เกิดจิตสะอาดนี่ สะอาด เริ่มสะอาด สะอาดมากขึ้นๆ ก็จะค่อยๆตกผลึก จิตสะอาดตกผลึก ผนึกกันแน่นเข้า เรียกว่า จิตตั้งมั่น ถ้ามันไม่ถูกตั้งแต่จะทำให้จิตสะอาด มันก็ไม่รู้ว่าจิตสะอาดจากอะไร สะอาดจากกิเลส แล้วทำให้กิเลสสลายเด็ดขาดจากจิต แล้วจิตสะอาดตกผลึกเป็นจิตตั้งมั่น เป็นสมาหิโต อยู่ในจรณะ 15 วิชชา 8 ซึ่งเป็นวิชชาจรณสัมปันโนของพระพุทธเจ้า ซึ่งไม่มีคำว่าสมาธินะ อันนั้นเป็นฌาน กิริยาเผากิเลส ไฟราคะ  โทสะ โมหะ ถูกสลายไป จิตก็สะอาด หากไม่ทำเป็นจิตสะอาด ที่รวมกัน1 2 3 4 5 รวมกันก็ไม่เกิดเป็นสิ่งตั้งมั่นเป็นมวล ทุกวันนี้เรียนกันแบบปลอมๆเก๊ๆ ทำสมาธิชั่วคราว เป็นอาฬารดาบส อุทกดาบส จะรู้ปรมัตถธรรมของพระพุทธเจ้านั้นยากมาก คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) . ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น)   (พตปฎ. เล่ม 9  ข้อ 34)

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:11:11 )

อย่างไรคือ สมาหิโต หรือสมาหิตะของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ศีลสมาธิปัญญาวิมุตติวิมุตติญาณทัสสนะ จิตสะอาดจากนั้น ถึงมาเป็นจิตที่จะบริสุทธิ์ ปริสุทธา แล้วจะค่อยๆเสริมขึ้นมาอีกเพิ่มขึ้นอีกเพิ่มขึ้นอีก ต้องจิตสะอาดบริสุทธิ์ อาสวะสิ้นอย่างแข็งแรงถึงจะมาสะสม ไม่เอาจิตอ่อนแอมาสะสม แต่เอาจิตแข็งแรงตั้งมั่นนะ ไม่เอาจิตอ่อนแอมาสะสมมันจะเป็นภาระ เอาจิตแข็งแรงมาสะสมจึงเกิด อัปปนา พยัปปนา เจตโสอภินิโรปนา จึงจะ แน่วแน่ แนบแน่น ปักมั่นได้

มันยากที่เขาแปลเป็นภาษาไทยแล้วไม่ได้วงเล็บบาลีไว้ อาตมาก็ต้องเอาบาลีมาเป็นหลักขยายความพวกนี้ โดยอาศัยพยัญชนะของที่เขาแปลไว้บ้าง 

สมาธิก็ดี ฌานก็ดี ฌานคือจิตที่กำลังทำงานล้างกิเลส พอถึงฌาน 3 กิเลสสะอาด พอถึงฌาน 4 จิตสะอาดกิเลสหมดเกลี้ยง จิตสะอาดดี ว่างดี สุ ดี ข ว่าง สะอาดแล้วว่างแล้วจึงจะเลยไปเป็น เอกัคคตา เป็นตัวอุเบกขาสมบูรณ์แบบที่ฌาน 4 สะอาดแล้วก็ต้องทบทวน อาเสวนาภาวนาพหุลีกัมมัง ด้วยอรูปฌาน 4 อากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ 

ตรวจ อาเสวนาภาวนาพหุลีกัมมัง จิตสะอาดจึงจะสั่งสมลงเป็นสมาธิ เจริญอย่างไม่เปลี่ยนแปลง นิจจังไม่ยึกยัก ได้บ้างไม่ได้บ้างไม่เอา แต่เอาที่ได้แล้วสะสม เป็นสมาหิโต ไม่ได้เรียกสมาหิตานะ จิตตั้งมั่นของพระพุทธเจ้าเป็นเอกพจน์นะมีแต่ 1 1 1 1 1 ไม่มี 2 นะมีแต่แน่นอย่างเดียวแยกไม่ได้ สมาหิโต หรือสมาหิตะ ของพระพุทธเจ้านะ 

คำนี้ ไม่ใช่จะได้ฟังขยายความกันง่ายๆ มีแต่ในเจโตปริยญาณ 16 ของพระพุทธเจ้า อสมาหิตะหรือสมาหิตะ ให้ทบทวนว่ามันตั้งมั่นหรือเปล่าหลุดพ้นจริงหรือเปล่าเป็นตัวสุดท้าย จริงๆ แล้วจิตสุดท้ายคือ สมาหิตะ แต่วิมุติ อวิมุติ คือตัวที่ท่านทิ้งปลายเปิดไว้เหมือนกับท่านทิ้ง อนิจจตาไว้ที่ลักขณรูป 4 อปจยะ สันตติ ชรตา อนิจจตา ที่จริงควรจะเป็น นิจจตา แต่มันไม่ได้ต้องเป็น อนิจจตา ต้องทำนิจจังให้ครบทั้งรูปและนามที่เป็นศูนย์ ในรูป 28 ที่จะจบตัวสุดท้ายด้วย อนิจจตา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาพาตีทิ้งการนั่งหลับตาปฏิบัติ วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ 


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 22:00:22 )

อย่างไรคือ สักกาย ในสังโยชน์ข้อที่ 1

รายละเอียด

สายเจโตหรือสายศรัทธาที่ยังอวิชชา มิจฉาทิฏฐิ ยังเข้าใจไม่ได้แม้กระทั่งคำว่า กาย ยังไม่พ้นสังโยชน์แม้ข้อที่ 1 สักกาย สักกะตัวตน กายะ ก็กาย ยังไม่พ้นมิจฉาทิฏฐิข้อนี้ สักกะ ยังไม่แม่น กา ยะ ก็ยังไม่แตกฉาน ยังแยกไม่ออกว่ากายมี 2 นะคือภายนอกกับภายในและมีรายละเอียดของ 2 นี้อีกเยอะในคำว่า กาย 

คำว่า สักกะ คือตัวตน หรือประกอบกันอยู่ สังขารกันอยู่ อะไรมันสังขารกันอยู่ ก็ต้องย้อนไปอธิบายตั้งแต่อวิชชา 

ไม่รู้อะไร ไม่รู้สังขาร สังขารมี กายสังขาร วจีสังขาร จิตสังขาร สังขาร 3

จิตเป็นประธาน เมื่อจิตอวิชชา มิจฉาทิฏฐิ มันก็เข้าใจว่า กายคือวัตถุ กายคือหนึ่งเดียว กายคือไม่มีจิตร่วม นี่แหละคือ มิจฉาทิฏฐิอย่างสมบูรณ์แบบ ใครเข้าใจว่า กายนี้คือวัตถุ ดิน น้ำ ไฟ ลม ไม่มีจิตเข้าไปร่วมเลย โมฆะตลอดกาลคนนี้ ปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้าไม่มีวันที่จะบรรลุธรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 1 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 11:25:40 )

อย่างไรคือ สังคณิกา

รายละเอียด

คณะผู้ที่ยังไม่บรรลุธรรมยังไม่เจริญ มีกองกิเลสหนาเยอะแยะ คนมักมากเฟ้อ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยฟุ่มเฟือย ไปคบคนอย่างนี้มันก็มีแต่ตกต่ำ ต้องรู้จักหมู่คนที่เป็นบัณฑิตกลุ่มคนพาล เราก็จะต้องชัดเจน แล้วก็จะต้องมาอยู่กับหมู่บัณฑิตไม่ใช่ไปอยู่กับหมู่พาล ไม่ใช่ไม่คลุกคลีกับใครอยู่เดียวไม่คลุกคลีกับคณะ จะมี 2 คน 3 คนก็เป็นคณะไม่ได้ต้องไปอยู่เดี่ยวเดี๋ยวจะได้เป็นอรหันต์ งั้นก็เป็นมิจฉาทิฐิออกนอกลู่นอกทางไปหมด ทั้งๆ ที่มันขัดแย้งกันที่ว่ามีมิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี ที่เป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของพรหมจรรย์ ท่านสรุปถึงขนาดนั้น ก็ยังตะแบงไปหาอยู่คนเดียวๆๆ โง่ไม่เสร็จจริงๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิธีจบนิยาม 5 จบนิยายของตนอย่างนิรันดร วันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 04:58:26 )

อย่างไรคือ สังคหะ

รายละเอียด

ผู้ที่จะเรียนรู้ ทาน คือการให้ผู้อื่น การเกื้อกูลผู้อื่น การช่วยเหลือผู้อื่นก็คือสังคหะนั่นเอง 

การเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นนั่นคือสังคหะนั่นเอง เพราะฉะนั้นคุณเกิดมาถ้าชีวิตมีพฤติกรรม ที่เรียกว่าทานก็คือเป็นผู้ที่มีอัตถจริยา เป็นการประพฤติที่มีแก่นสารสาระอัตถะ มีประโยชน์ เป็นผู้ที่มีวิธีปฏิบัติ มีการปฏิบัติที่ได้ผล เกิดเป็น สีลสัมปทา ศรัทธาสัมปทา ปัญญาสัมปทา มีการประพฤติได้ มีจริยาที่เข้าเนื้อหาสาระ แล้วก็อยู่อย่างที่คนอื่นเขามีอัตตากันก็พยายามให้คนอยู่ร่วมกันอย่างดีปรองดองกัน สมานกัน มันพยายามจะมีตัวตน มันมีตัวตนมันก็พยายามจะทำให้ตัวตนเป็นใหญ่เป็นเลิศ เป็นผู้ได้เปรียบ ตัวตนข่มคนอื่นได้ นั่นเป็นกิเลสอัตตา ธรรมดาธรรมดา อัตตาโลกีย์ ก็มาช่วยกันก็มีหน้าที่มาสมานอัตตา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตำหนิให้เขาดื่มได้คือหน้าที่ของผู้ทำงานศาสนา วันพุธที่ 28 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2564 ( 19:32:57 )

อย่างไรคือ สังวรปธาน

รายละเอียด

สังวรปธานต้องลืมตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบสัมผัสแล้วก็ต้องอ่านเวทนาเป็นตัวสำคัญ อ่านอาการหรืออ่านอารมณ์ แล้วแยกอาการแยกอารมณ์ แยกให้รู้ชัดแล้วรู้เหตุที่มาร่วมกับจิตของเราที่ผสมกัน แล้วปรุงแต่งเป็นแบบโลกโลกีย์ อันนี้เป็นตัวตนของโลกีย์ รสชาติโลกีย์ เป็นความหลง เป็นสิ่งที่น่าได้น่ามีน่าเป็นที่เป็นโลกีย์ เราเรียนรู้แล้วเราก็ตามหาเหตุมัน  หลงอะไร หลงว่ามันทุกข์ หลงว่ามันสุข คนหลงว่าสุขนั่นแหละเป็นธรรมดา คนหลงยึดทุกข์แล้วชอบใจชอบความรุนแรงชอบความเหี้ยมโหดชอบเตะต่อยตบ พวกนี้คบยากเป็นมาโซคิส เราไม่เอาด้วย เรามาเป็นคนที่มีเมตตามีความช่วยเหลือกัน จะไปเป็นคนที่ไปเบียดเบียนกันทำร้ายกันทำไม หากเป็นผู้ประเสริฐฉลาดแล้วก็จะรู้ทิศทาง จะมาเอาในแนวทางที่ไม่ไปในทางรุนแรงเบียดเบียน สรุปก็คือภาษาอังกฤษเรียกว่าซาดิสม์ เราไม่เอาความรุนแรงต้องการความเรียบร้อยที่ถูกสภาพจะรุนแรงก็ต้องมีผลดี

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน 2561


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2564 ( 11:05:13 )

อย่างไรคือ สัจจะมีหนึ่งเดียวจริงๆ คือผู้รับอาริยสัจ 4

รายละเอียด

จริง อาตมาก็เห็นด้วย ก็ไม่ขอต่อความยาวสาวความยืดประเด็นนี้หรอก คิดว่า อาตมาก็เข้าใจอาจารย์สศิวรักษ์พอสมควรตามภูมิของอาตมา เป็นเรื่องจริงใหญ่ ที่ว่า สัจจะมีหนึ่งเดียวไม่มีสอง ผู้ที่จะเห็นสัจจะมีแบบเดียวหมดความขัดแย้งกันได้มันมีหนึ่งเดียวจริงๆคืออริยสัจ 4 ที่ผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ขึ้นไปแล้วจบในเรื่องทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไม่มีเถียงกันแล้ว มีหนึ่งเดียวเท่านี้นอกนั้นไม่มีอะไรที่จะไม่แย้งกัน มันแย้งกันได้ทุกอย่าง นอกจากอาริยสัจ 4 พระโพธิสัตว์หรือพระอรหันต์ ถ้าเอาเรื่องอื่นมาพูดก็ แย้งกันได้หมด แล้วอรหันต์ท่านมีที่จบท่านรู้ว่าอะไรคือคุณคือโทษ อะไรคือสุขคือทุกข์ อะไรคืออุบายเครื่องออกจากสุขทุกข์หรือออกจากคุณออกจากโทษ แล้วก็ทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ ออกจากคุณจากโทษ จากดีจากชั่ว เป็นเรื่องของโลกีย์ออกจากสุขออกจากทุกข์เป็นเรื่องของโลกุตระ พระอรหันต์จบ เรื่องดีไม่แย้งไม่เถียง นอกนั้นแย้งกันได้หมด ส่วนเรื่องสุขเรื่องทุกข์เป็นเรื่องของปรมัตถ์เป็นเรื่องของโลกุตระ ถ้าใครยังยึดสุขยึดทุกข์อยู่ ก็เป็น 2 ถ้าใครไม่ยึดถือในสุขไม่ทุกข์ได้ก็เป็น 0 ได้ เป็น1ได้หยุดจบ ตัวเองมี 0 แล้วอาศัย 1 สบายจบ มีหนึ่งเดียว ก็จบ เพราะฉะนั้นอยู่อาศัยหนึ่งเพราะมีศูนย์ อาศัย 1 อยู่สบาย มีอริยสัจ 4 เป็น 1 ก็จบทุกข์สมุทัย นิโรธ มรรค มีนิโรธเรียบร้อย ก็มีหนึ่งอาศัยพระอรหันต์ไม่เถียงกันเลยในเรื่องอริยสัจ 4 แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องอริยสัจ 4 พระอรหันต์ก็แย้งกันได้ นอกจากนี่เป็นสุดยอดเลยในคำตรัสของพระพุทธเจ้า มีสิ่งที่เป็นสัจจะหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ไม่มี 2 คือ ผู้จบอาริยสัจ 4 นี่แหละ ผู้หมดสุขหมดทุกข์แล้วก็มีนิโรธ มีวิธีการดับแห่งทุกข์ ผู้ที่จบอันนี้ได้แล้ว อันนี้เรื่องนี้หนึ่งเดียวในโลก มีในศาสนาพุทธศาสนาเดียว นอกนั้นแย้งกันหมด เพราะนอกนั้นไม่ใช่อริยสัจ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2563 ( 10:43:03 )

อย่างไรคือ สัจจะหนึ่งเดียว เอกังหิสัจจัง

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนจะรู้ได้ก็ต้องมาอ่านเวทนา เวทนานี่แหละเป็นแกนที่คุณจะต้องอ่านอารมณ์หรือความรู้สึกตัวนี้ เป็นตัวที่จะรู้เทวะ ที่ว่ามีความสุขความทุกข์ มันไม่มีที่อื่น ไม่มีตัวอื่น ไม่มีอาการอื่น พยัญชนะบอกว่าเวทนา ถ้าไม่มีเวทนาไม่มีฐานที่ตั้งแห่งการปฏิบัติ จะมีแต่ความแส่หาของตัณหา สัจจะมีหนึ่งเดียวคืออันนี้ นี่เป็นความหน่ายคลาย เป็นฐานนิพพาน นี่แหละหมดความสุขความทุกข์ นี่แหละคือสัจจะหนึ่งเดียว เอกังหิสัจจัง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 10:38:31 )

อย่างไรคือ สัจธรรมที่เรียกว่าประชาธิปไตย

รายละเอียด

ที่อาตมาพูดไปนี้นักรัฐศาสตร์ทั้งหลายก็จะฟังแล้วไม่เห็นด้วย ว่าประชาชนรัฐประหารอย่างไร จะเอาอะไรมารัฐประหารกองทัพ รัฐประหารรัฐบาลที่มีอำนาจกองทัพอำนาจสั่งการข้าราชการ ประชาชนจะเอาอำนาจอะไรไปรัฐประหารเขา เขาก็ยังเข้าใจไม่ได้เพราะมันซับซ้อน นี่มันเป็นสัจธรรมที่เรียกว่า ประชาธิปไตย อำนาจของประชาชนจริงๆ แล้วเป็นอำนาจที่สุดยอด ไม่ใช้อาวุธไม่ใช้กำลังไม่ใช้ความรุนแรง ใช้ความสงบสุภาพเรียบร้อยที่สุด เอาความจริงมายืนยันว่ารัฐบาลเอ๊ย รัฐบาลนั้นผิดนะรัฐบาลปฏิบัติบริหารไม่ได้ความแล้ว ใช้ไม่ได้ควรออกไป พูดอย่างสุภาพ แต่ก็มีภาษาโวหารซุ่มเสียงสำเนียงท่าทีลีลาแสดงออกให้รัฐบาลรู้ตัว ถึงขั้นถูกว่า แต่ไม่ได้เอาอาวุธไปกระทบตีรันฟันแทงใส่รัฐบาลอะไร ทางรัฐบาลกลับมาทำร้ายประชาชนด้วยซ้ำไป ทำประชาชนไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงกับทางรัฐบาลเลย จนสามารถรัฐประหารได้สำเร็จไม่ใช่รัฐบาลเดียวด้วย เป็นเรื่องรัฐศาสตร์ที่จะต้องตามศึกษา อาตมาตายไปแล้วนักรัฐศาสตร์ในยุคข้างหน้าประมาณ 50 ถึง 100 ปีข้างหน้าอาจจะเข้าใจดีก็ได้ หรือไม่ถึงอย่างนั้นเขาอาจจะเข้าใจดีกว่าก็อาจจะเป็นได้ แต่ก็ไม่ได้คิดหวังอะไร แต่อาตมาเชื่อมั่นในสัจธรรมมันเป็นเรื่องจริง

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 12:55:56 )

อย่างไรคือ สัญญายนิจจานิ โลเก

รายละเอียด

สัญญายนิจจานิ โลเก ในโลกนี้กำหนดอันนี้อันเดียวเท่านั้นที่มีจริง ถ้าจะบอกว่าอาจจะมีหนึ่งเดียวในโลกนั้นมีจริงอันนี้แหละ ถ้าหากผู้ใดได้ปรมัตถธรรมอันนี้ได้สภาวะธรรมอันนี้ก็หนึ่งเดียวตรงกันหมดไม่มีอะไรเป็น 2 ถ้า 2 ก็เถียงกันถ้ายังไม่ใช่อันหนึ่งอันเดียวกันก็ไม่ต้องเถียงกันเลยรู้จักกันนี่ด้วยกันแล้วเป็น 2 ทั้งนั้น แย้งกันทั้งนั้น มากหรือน้อยก็แล้วแต่เพราะมันเป็นสอง แต่ถ้ามันเป็นจริงอันเดียวกัน นี่คือสัจจะมีหนึ่งเดียวแล้วกำหนดรู้ได้ด้วยสัญญา สัญญาตัวนี้ก็เป็นสัญญาที่เป็นปัญญาซับซ้อนอยู่ในตัวเอง สัญญาซึ่งเป็นปัญญาสัญญากำหนดรู้ เป็นตัวที่ทำในปัจจุบัน ในปัจจุบันที่ตรัสรู้ด้วยสัญญาเวทยิตนิโรธก็ตาม เป็นสัญญายนิจจานิก็ตาม ก็คือตัวสัญญาที่กำหนดรู้และใช้งาน มันเป็นตัวสุดท้ายทั้งเริ่มต้นและตัวสุดท้ายสำหรับการใช้สัญญานี้ เพราะฉะนั้นท่านถึงไม่ใช้คำว่าปัญญาแต่ใช้คำว่าสัญญา 

ที่มา ที่ไป

รายการพทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 11:18:52 )

อย่างไรคือ สันติภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

รายละเอียด

สันติภาพ สงบ สงบอะไร สงบที่ปราดเปรียวคล่องแคล่วว่องไว พลังยิ่งใหญ่ เสียงดัง มีสงบ สงบกิเลสตัวเลว ตัวทำให้พลังงานที่ออกไป ไม่ว่าจะเสียงดัง  แข็งแรงเต็มที่อย่างไรก็ไม่มีโทษภัย ไม่มีกิเลสไปร่วมเลยมีแต่สิ่งดีเพื่องานสร้างสรรดี และแรงมากๆเยอะๆ เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นหมดไม่มีตัวตนด้วย เพราะฉะนั้นจึงเป็นภราดรภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพราะกิเลสไม่เข้าไปกวน คำว่า สงบ คำนี้ก็ยิ่งใหญ่ ไม่สงบคือเงียบไม่กระดุกกระดิกไม่ใช่เลย กายปาคุญญตา จิตปาคุญญตา ทั้งกายทั้งจิต คล่องแคล่วปราดเปรียวแรงสูง เต็มที่เพื่อสร้างสรรประโยชน์ที่ไม่เพื่อตัวตน แต่เพื่อมวลมนุษยชาติ นี่คือเนื้อหาของประชาธิปไตย 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:21:32 )

อย่างไรคือ สาธารณโภคี

รายละเอียด

สรุปรวมที่สาธารณโภคี สาธารณโภคีคือสมบัติเป็นของกลางหมดเลยไม่ยึดเป็นของตัวตนและก็ใช้กับกองกลาง เท่าที่เราจะมีสิทธิ์หรือเท่าที่เขาจะให้ใช้ไม่ยึดถือเป็นเราเป็นของเรา เขาให้ใช้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ต้องไปยึดถือ ถ้าเราทำได้จริงดีจริงเขาก็ให้เบิก ถ้าเขารู้ว่าคุณไม่ได้เอาไปเสียหาย โดยเฉพาะไม่ได้ไปบำเรอตนใครจะไปหวงไว้ คุณเอาไปใช้ก็เป็นประโยชน์ทั้งนั้นเลย แล้วคุณทำได้อย่างไม่เสียของด้วยใครก็ต้องให้ทำ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภุมิ บ้านราช วันพุธที่ 2 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 11:45:25 )

อย่างไรคือ สาระแก่นสารของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาอธิบายสื่อสารไป คุณก็ว่าอาตมาอธิบายลึกซึ้งแล้ว นี่เจาะลึกเข้าไปอีก อาตมามาทำงานเกิดมาชาตินี้ทำงานสื่อสารตลอดเวลา เหนื่อยๆ กับสาระ ซึ่งคนก็ไม่เอาสาระ เอาแต่เปลือกมายาผิวๆสะเก็ด ไม่เอาถ่านเลย อาตมาเห็นสัจจะพระพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ ว่าโลกนี้ไม่มีแล้วสาระแก่นสารของพระพุทธเจ้า ไม่มีแม้แต่แค่ศีล ซึ่งเป็นสะเก็ดของต้นไม้ เทียบต้นไม้ทั้งต้น สะเก็ดก็แค่ เปลือกที่ผุกร่อนก็ยังไม่มี เปลือกคือสมาธิไม่มีแน่นอน แม้สะเก็ดนอกสุดยังไม่มี มีแต่สมาธินอกรีต ไม่ใช่สมาธิพุทธ ศีลเขาไม่เกี่ยวเลย ไม่ต้องพูดถึงปัญญาที่เป็นกระพี้ วิมุติเป็นแก่นไม่มีเลย ทั้งสะเก็ด เปลือก กระพี้ แก่นไม่มีเลย  ตกลงต้นไม้ทุกวันนี้เป็นต้นไม้พลาสติก ไม่มี ทั้งสะเก็ด เปลือก กระพี้ แก่น แต่ดอกใบผล คือโลกียะ บานสะพรั่ง เอ๊..ที่นี่มีดอกปลอมหรือเปล่า อโศกมันไม่มี หาของปลอมไม่ได้เลย นี่อุตส่าห์หาของปลอมมาให้โชว์ มันมีแต่ของจริง อาตมาเกิดมาชาตินี้มาทำงานศาสนา มาเสนอความจริง ตั้งแต่ศีล ที่เป็นองค์ประกอบของชีวะ คือต้นไม้ ก็ไม่เอาถ่านเลย สมาธิก็พูดไปเถอะ สมาธินี่ ไม่มีเลย สมาธิของพระพุทธเจ้ามีแต่สมาธินั่งหลับตาสะกดจิต ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:09:49 )

อย่างไรคือ สิริมหามายาในความไม่มีไหวพริบเพียงพอ

รายละเอียด

ภูมิธรรมของเรา เราเห็นว่าอันนี้แหละถูก คนที่เขามาขจัดเราก็ต้องเห็นต่างจากเราใช่ไหม ถ้าเราแน่ใจว่าอันนี้ถูกก็ยืนยันของเรา เราจะแพ้อย่างไรเราก็ยืนอยู่กับถูกนี่แหละ เขาจะชนะอย่างไรก็ชนะไปแต่เขาผิด คุณยิ่งทำไปมากคุณก็ทำผิดไปมากๆ เราทำถูก คุณจะมา กดข่มห้ามกั้นเราไม่ให้เราทำถูก แต่เราทำถูก มันเสียตรงไหน? มันยิ่งทำให้ผิด เขานี่แหละยิ่งผิดยิ่งบาปร้ายเสียหายเพราะมาต้านกั้นความถูกทำไม นี่คือความสิริมหามายาว่า เขาไม่มีไหวพริบเพียงพอ 1.เขาไม่รู้ตัวว่าตัวเองผิด 2. แม้จะรู้ตัวแต่ก็ไม่ยอมผิด 3. เอาเถอะ แม้จะผิดจะถูกอย่างไร ข้าก็จะต้องทำอย่างนี้ เพราะไม่อย่างนั้นข้าก็ไม่มีที่ยืน เขาก็ต้องทำ อัตตาของเขาไม่ยอม ที่จะหลบไปเลยแพ้ไปเลย เขาไม่มีที่ยืนเขาก็ไม่เอา เหมือนกับทักษิณ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 2 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 11:17:42 )

อย่างไรคือ สีลัพพตปรามาส กับสีลัพพตุปาทาน

รายละเอียด

สีลัพพตปรามาส กับสีลัพพตุปาทาน

สีลัพพตุปาทานยังไม่มีสัมมาทิฏฐิอะไร ยึดถือไปตามครูบาอาจารย์ที่ผิด ที่ทำที่เคยเป็นกันมา มันไม่ได้เป็นสัมมาทิฏฐิก็จมกันอยู่อย่างนั้นแหละเรียกว่า สีลัพพตุปาทาน ยึดอย่างอุปาทานที่เขายึดกันมาเก่าๆ ถือตามๆ กันมา เป็นประเพณี เป็นจารีต เป็นลัทธิ เป็นศาสนาแบบเดียรถีย์ไม่งอกไม่เงย จนมารู้อุบายเครื่องออกวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิ อย่างถ่องแท้ พ้นวิจิกิจฉาแล้วจึงปฏิบัติด้วยสูตรที่สำเร็จที่ได้เรียนมาแล้ว แล้วเป็นอุบายเครื่องออก อย่าทำเหลาะๆ แหละๆ ลูบๆ คลำๆ เล่นหัวไม่เอาจริง จะต้องเอาจริงจึงจะพ้น สีลัพพตปรามาส เมื่อเอาจริงก็จะได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 3 วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 กรกฎาคม 2564 ( 20:22:45 )

อย่างไรคือ สุดยอดนักเศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์

รายละเอียด

สรุปคือมีชีวิตที่ไม่สะสมอะไรเลย อปจยะ แต่ขยันพากเพียรปรารภความเพียร วิริยารัมภะ แต่ไม่สะสมอะไรเลยในชีวิต ไม่ต้องมีอะไร เป็นคนตัวเปล่าว่างเปล่าแต่สร้างสรรอุดมสมบูรณ์มากมายอย่างนี้ สร้างสรรมาแล้วไม่ต้องยึดถือเป็นเราเป็นของเราเลย เอาไปแบ่งแจกกันกินกันใช้อุดมสมบูรณ์ ซึ่งมันเป็นเศรษฐศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยของพระพุทธเจ้า เป็นเศรษฐศาสตร์ชั้นหนึ่งเลย ผู้ที่รู้จักวรรณะ 9 นี่แหละคือผู้ที่ปฏิบัติตนบรรลุธรรมอันนี้และเป็นสุดยอดนักเศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ของวรรณะ 9 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก  


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:33:31 )

อย่างไรคือ สุดยอดแห่งความเป็นมนุษย์และสังคม

รายละเอียด

คำว่า วรรณะ 9 หากอาตมาไม่เกิดในยุคนี้ไม่มีใครเอามาพูดหรอก เป็นสุดยอด แห่งความเป็นมนุษย์และสังคม เป็นคุณวิเศษเลยนะ วรรณะ 9 เลี้ยงง่าย  (สุภระ) บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ)  มักน้อย, กล้าจน (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส  มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ)  ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ตรงข้าม อวรรณะ9  ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ) อปจยะ ก็กำกับไว้ว่าไม่สะสม แต่สร้างๆๆ สร้างแล้วทานมัย สำเร็จด้วยการให้ สร้างแล้วก็ให้ๆ มันเป็นไปได้อย่างไร มีคุณธรรม 9 ข้อนี้สุดยอด อาตมาเอามาอธิบายแล้วพวกเราซาบซึ้ง เอาตัวเองมาปฏิบัติ จนเกิดผล คนละเล็กละน้อยคนละมากมารวมกัน เป็นชาวชนวรรณะ 9 ก็เลยอยู่กันอย่างสาราณียธรรม 6 อยู่อย่าง สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา(ลาภที่ได้โดยธรรม) ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา อยู่กันอย่างอยู่เย็นเป็นสุข เป็นเอกีภาวะตาม พุทธพจน์ 7 สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ เป็นปึกแผ่นแน่นเหนียวหนึ่งเดียวกันสมบูรณ์แบบพวกคุณมาด้วยอิสระด้วยปัญญา อาตมาไม่ได้หว่านล้อมโฆษณา พูดสัจจะให้ฟัง พวกคุณฟังแล้วเกิดปัญญาก็มา ทางโลกจะไปแข่งเด่นดังอะไรก็ทำได้แต่ไม่เอาแล้ว ใจมันพอ ไม่ไปทางโลกีย์มาโลกุตระเลย มันเป็นสัจจะยืนยันความจริงได้แม้ยุคนี้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 09:18:36 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์