@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

สมาปัชชนะ

รายละเอียด

เข้าฌานหรือเข้าถึงความเป็นฌานได้แคล่วคล่องเจริญขึ้น ดีขึ้นๆ

หนังสืออ้างอิง

กำไร-ขาดทุนแท้ของอาริยชน / เราคิดอะไร ฉบับ 265


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:06:20 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:19:57 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:09:32 )

สมาหิต , สมาหิตะ

รายละเอียด

1. จิตเป็นสมาธิก็รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ

2. จิตได้ฝึกฝนจนตั้งมั่นด้วยสัมมาสมาธิแล้ว

3. จิตที่มีพร้อมทั้งกุศลประโยชน์ทั้งตั้งมั่น ก็รู้ว่าตนมีจิตเช่นนั้นแล้ว

4. สัมมาสมาธิ , จิตเป็นสมาธิสมบูรณ์ ก็รู้ว่าจิตเป็นสมาธิสมบูรณ์

5. จิตตั้งมั่นแล้ว

6. จิตมีมรรคผลสมบูรณ์แน่แท้จนตั้งมั่นแล้ว

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า153

คนคืออะไร? หน้า 275 ,556)

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 111 , 112 

อีคิวโลกุตระ หน้า 228,229

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 65

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 104


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:11:18 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 15:35:12 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:25:32 )

สมาหิตจิต

รายละเอียด

คือ จิตที่กิเลสระงับ ตั้งมั่นแข็งแรงอยู่เหนือโลกียะได้ กระทบสัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุขเสพสมใดๆก็อยู่เหนือ โดยที่ไม่มีอวิมุติจร

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 375


เวลาบันทึก 29 ตุลาคม 2562 ( 12:02:59 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:50:13 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:23:43 )

สมาหิตจิต

รายละเอียด

คือ เป็นจิตที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลคนอื่นได้ ถึงขั้นที่จะไปกระทบสัมผัสเกี่ยวข้องกับคนอื่น แล้วมีประโยชน์เกื้อกูลคนอื่น

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 90


เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 14:35:13 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:49:38 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:24:05 )

สมาหิตจิต

รายละเอียด

1. ยังคงเป็นจิตสงบจากกิเลสนั้น ๆ อยู่นั่นเอง

2. สัมบูรณ์แล้วด้วยจิตที่ตั้งมั่น

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 188

เปิดโลกเทวดา หน้า 43


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:12:23 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:24:35 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:24:28 )

สมาหิตจิต

รายละเอียด

13. สมาหิตจิต (จิตตั้งมั่นเป็นประโยชน์ดีแล้ว)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มีปัญญารู้ตนด้วยเจโตปริยญาณ 16 วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2566 ( 14:06:07 )

สมาหิตจิต กับวิมุตตจิต ทำงานเป็นอนุตตรังจิตตัง

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นจิตของเราเจริญจนกระทั่งทำให้จิตของเรา 

1. อยู่กับมัน หลุดพ้นมัน ไม่ได้หนีนะอยู่กับมันนี่แหละแต่เราหลุดพ้น หลุดพ้นได้จิตใจของเราก็แข็งแรงเป็นของตัวเองมีพลังงานเป็นตัวเป็นตน ที่จริงไม่ใช่ตัวตนขอยืมภาษามาใช้ เป็นตัวเราที่มีอำนาจในตัวเราสูงขึ้นๆ เรียกว่าสมาธิ ภาษากลางๆทางโลกก็เรียกว่าสมาธิเป็นความเป็นหนึ่งตั้งมั่น ได้มากยิ่งขึ้นมากยิ่งขึ้น ถ้าของพระพุทธเจ้าแล้วจะต้องปฏิบัติธรรมด้วยจรณะ 15 แล้วก็เกิดวิชชา 8 เป็นอธิจิต อธิปัญญา ช่วยกันทำจนกระทั่งเกิดดีที่สุด 

เพราะจิตตั้งมั่นเสร็จเรียกว่าตั้งมั่นแล้ว ภาษาบาลีเรียกว่า สมาหิโต หรือ
สมาหิตะ หลุดพ้นแล้วเรียกว่าวิมุติ หลุดพ้นแล้ว ตั้งมั่นแล้วเป็นคู่สุดท้าย เป็นหนึ่งตัวตั้งอีกหนึ่งเป็นตัววิ่ง 

ตัววิ่งคือตัวหลุดพ้น ตัวตั้งคือตัวสมาหิตะ 2 ตัวทำงานเป็นเทวะคู่ใหญ่ บริบูรณ์สูงสุดไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะดีกว่านี้เรียกว่า อนุตตรังจิตตัง ไม่มีอะไรเหนือกว่านี้อีกแล้ว นี่คือเจโตปริยญาณ 16 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 28 วันจันทร์ที่ 15  กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 20:42:47 )

สมาหิตจิตกับอสมาหิตจิต

รายละเอียด

ก็ตรวจสอบอีกว่าหลุดพ้นแล้วหรือไม่หลุดพ้นเป็นวิมุต อวิมุติ สุดท้ายจะเป็น สมาหิตังกับวิมุติ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2563 ( 11:30:02 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:26:14 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:10:00 )

สมาหิตะ 

รายละเอียด

ผู้สามารถทำได้ถึงขั้นจิตหลุดพ้นจากกิเลสเป็นวิมุตแล้วก็ตกผลึกๆ มีจิตตั้งมั่นเรียกว่า สมาหิตะ คือ ความเป็นสมาธิของพระพุทธเจ้า ความตั้งมั่นของจิตพระพุทธเจ้า ซึ่งคำว่าสมาธินั่นแหละ เป็นคำเก่าแต่มันเพี้ยนไปเหมือนคำว่าปัญญาของพระพุทธเจ้า สมาหิตะ 

สมาธิของพระพุทธเจ้าก็เคยใช้แต่มันเพี้ยนไปท่านก็เลยตั้งใหม่ว่า สมาหิตะ เสร็จแล้วผู้ที่สามารถทำให้เป็นจิตตั้งมั่นเพราะจิตมันหลุดพ้นจากกิเลสตั้งมั่นได้อย่างถาวร นิจจัง (เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง(ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ) เป็นตัวประธาน เป็นจิตสะอาดบริสุทธิ์ ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา เป็นตัวเจตสิกตัวสำคัญตัวสุดท้ายของฌาน 4 อุเบกขา ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา หรือขยายมากกว่านั้นก็ได้ ปริสุทเธ ปริโยทาเต มุทุภูเต กัมมนิเย ถีเต อเนญชัปปัตเต มีจิตตั้งมั่นจิตไม่หวั่นไหวก็ขยายได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาหาราธิปไตย สร้างอายะ 3 ด้วยอาหาราวุธ วันศุกร์ที่17 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 10:42:39 )

สมาหิตะหรือสมาหิโต

รายละเอียด

คำว่าสมาธินี้เป็นอจินไตย แค่ฌานวิสัย ก็เข้าใจไม่ได้แล้วอันนี้เป็นสมาธิอธิบายกลายเป็นจากฌานจากบุญอีกนะ สมาธินี้เป็นคำกลางๆ คำนี้จึงเรียก สมาหิตะหรือสมาหิโต จิตตัวนี้มันลึกกว่าสมาธิธรรมดาเยอะเลย เพราะฉะนั้นคุณจะรู้จักสมาธิง่ายๆนี้มันไม่ง่ายหรอกคุณเอ๋ย พูดกันไปทุกวันนี้ ฟังดีๆนะ จะเห็นความต่างกันไหมเมื่อเคยเข้าใจมาก่อนกับที่อาตมาอธิบายนี้มันต่างกันไหม แค่เข้าใจแค่นี้คุณเข้าใจได้แล้วคุณต้องไปทำจริงๆสะสมจิต สะอาดตัวนี้ คุณธรรม 5 ประการของอุเบกขา ไม่ใช่อุเบกขาด้วยนะ มันละเอียดกว่าอุเบกขา แยกเป็นปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 11:39:28 )

สมาหิตะหรือสมาหิโตคืออะไร

รายละเอียด

คือผลจากความสะอาดของจิตที่ไม่มีกิเลสแล้วอย่างรอบด้าน จึงตกผลึกมาผนึกกันเข้า ควบแน่นกันเข้า เป็นจิตตั้งมั่น เรียกโดยศัพท์ของพระพุทธเจ้าว่า สมาหิตะหรือสมาหิโต 

อันนี้ คำว่าสมาหิตะหรือสมาหิโต อยู่ในเจโตปริยญาณ 16 เป็นคู่ อสมาหิตะหรือสมาหิตะ เป็นคู่ที่เกือบจะสุดท้ายแล้ว เป็นคู่ที่ 7 คู่ที่ 8 ก็เป็นวิมุติ อวิมุติ

แม้แต่ใน เจโตปริยญาณ 16 ก็เป็นมาตรสำหรับตรวจสอบว่า จิตของเราเจริญขึ้นตามลำดับหรือไม่ จนกระทั่งถึงสูงสุดเป็นสมาธิกับวิมุติ ท่านเรียกสมาหิตะกับอสมาหิตะ ส่วนวิมุติ เรียกตามอันเดิมเขา อาตมาขอตอบรวมๆ ให้คุณพรสิทธิ์ฟังไปก่อนก็แล้วกัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญาแยกแยะนามรูปได้เป็นเช่นไร วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2564 ( 21:07:30 )

สมาหิตัง

รายละเอียด

สัมบูรณ์เสร็จจบ

หนังสืออ้างอิง

(จากค้าบุญคือบาป หน้า297)


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:13:00 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:28:04 )

สมาหิโตเป็นวิมุติสุดยอดอย่างไร

รายละเอียด

ฉะนั้นผู้ที่สามารถสูงสุดได้ สมาหิโต เป็นวิมุติสุดยอด แม้ว่าตั้งมั่นแล้ว ทำให้วิมุติ อวิมุติ เป็น 2 ตัวสุดท้ายอีก ก็ต้องตรวจแล้วตรวจอีกว่าแน่แล้วหรือไม่นะ เหลืออีกเศษเล็กเศษน้อยหรือเปล่า ที่เอามาตั้งมั่นสะสม

เพราะฉะนั้นจิตที่เป็นสมาธิของพระพุทธเจ้าคือจิตที่หมดอาสวะ สิ้นอาสวะ จิตตัวที่จะมาตกผลึกสะสมลงเป็นสมาหิตัง เป็นจิตตั้งมั่น เป็นจิตที่สิ้นอาสวะ ไม่ใช่ไปนั่งกดข่ม จิตจะมีกิเลสหรือไม่มีกิเลสก็ไม่รู้ กดไว้ให้แน่นเข้าๆ อย่างที่สายเจโต สายศรัทธา สายที่เขาปฏิบัติกันอยู่ หรือสายพระป่าที่ มิจฉาทิฏฐิ เป็นเดียรถีย์เขาทำกันอยู่ จึงใช้ไม่ได้ เขาใช้อยู่ เขาใช้ของเขาได้ แต่มันไม่สมบูรณ์แบบ 

มันจะสมบูรณ์แบบจะต้องไล่ละเอียดมาอย่างที่อาตมาอธิบาย โดยเอาหลักวิชาเจโตปริยญาณ 16 มาไล่ สู่ฟัง เพราะฉะนั้นจิตในจิต ถ้าดูตำราแล้ว กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์แม้เป็นอัลไซเมอร์ก็ไม่มีพฤติกรรมกามเมถุน วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 07:31:11 )

สมาหิโตเป็นสมาธิที่ตรวจค้นดีกรีของราคะโทสะโมหะ

รายละเอียด

ระดับนี้มันก็ดีขึ้นกว่า ราคะ โทสะ โมหะ เคยมีเต็มที่ เราก็ได้แล้ว แต่มันยังไม่เก่งมันยังมีลักษณะ 2 กระจายอยู่ แน่นเกิน กระจายมากเกิน แน่นเกิน ยังไม่ลงตัวยังไม่ได้สัดส่วนที่สวยงาม ก็ทำให้ดี ทำให้เจริญกว่านั้น สังขิตฺตํจิตตํ ก็ทำให้มันดีขึ้น ให้มันคลายขึ้น วิกขิตฺตํจิตตํ รวมลงมา ที่มันไม่ดีนั้นทำให้มันดีได้ทั้ง 2 มุม ถ้าทำได้ดีก็เป็น 

9. มหัคคตจิต (จิตเจริญยิ่งใหญ่ขึ้น) ยังทำไม่ได้ก็เป็น  10. อมหัคคตจิต (จิตไม่เจริญขึ้น) เป็นคู่ที่ 5 คุณก็ต้องทำให้เป็น มหัคคตะให้ได้ มหะคือมาก อัคคะก็ยิ่งใหญ่ คุณทำได้ก็ไป มหัคตะ แล้วก็ทำให้มันดียิ่งขึ้นกว่านั้นอีกมากยิ่งขึ้นกว่านั้นอีก ประเสริฐเลิศเลอกว่านั้นอีกขึ้นมา ทำให้ได้ คุณทำได้ขึ้นมาอีก ก็เรียกว่า 

11. สอุตตรจิต (จิตมีดีแต่ยังมีดียิ่งกว่านี้-ยังไม่จบ)  เราจะรู้เองเราจะมีปฏิภาณรู้เองว่ามันดีนะแต่มันยังไม่จบ มันจะรู้ด้วยไหวพริบ ผู้ที่มีปฏิภาณปัญญาจะรู้จักสัจธรรมพวกนี้ ถ้ากิเลสออกได้ มันเป็นปัญญาจริงๆ มันเฉลียวฉลาดจริงๆ ที่รู้จักปรมัตถ์ รู้จักจิต เจตสิก รูปนิพพาน มันเป็นสัจธรรมที่เป็นโลกุตระแท้จริงๆเลย 

เพราะฉะนั้นคุณจะต้องมาทำให้ เป็น 12. อนุตตรจิต (จิตไม่มีจิตอื่นสูงยิ่งกว่า) จิตที่ดีกว่านี้ไม่มีอีก จนกระทั่งคุณทำไป ตัดสินได้ว่าดีจริงๆ ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สภาวะ ฌาน สมาธิ ของพระอรหันต์เป็นเช่นไร วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 สิงหาคม 2565 ( 14:41:53 )

สมุจเฉท

รายละเอียด

คือ ผู้บรรลุแล้วในเรื่องนั้นได้แล้ว จะเฉยเองได้ทันที ทุกทีที่สัมผัส และมีปัญญารู้ประกอบพร้อมเสมอด้วยอารมณ์ไม่ยึดมั่นถือมั่นจริงๆเพราะเข้าใจการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นของจริงเป็นเรื่องแน่แท้

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 215


เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 12:59:49 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:48:48 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:20:14 )

สมุจเฉท

รายละเอียด

1. แน่นอนเด็ดขาด, เด็ดขาดถาวร

2. มีความตัดขาดอยู่เสมอ หมายถึงความตัดกิเลสมีในตนอยู่ทีเดียว

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 209,218 ,สมาธิพุทธ หน้า197


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:13:50 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:31:14 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:24:16 )

สมุจเฉทปหาน

รายละเอียด

พ้นทุกข์เด็ดขาด จะไม่กลับมาทุกข์อีก จิตถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องกันอย่างแท้เที่ยงถาวร ตัดขาดกิเลส ตัณหา อุปาทานทั้งปวงอย่างแน่นอน ประหารกิเลส ตัณหา อุปาทานได้สิ้นแล้วเด็ดขาด

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า110


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:14:29 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:33:47 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:25:03 )

สมุจเฉทวิมุตติ

รายละเอียด

1. ถ้าจิตของผู้ใด ผู้นั้นสามารถจัดการปิดประตู สังขาร ห้ามกิเลสตัณหาได้เด็ดขาด แน่ลงเมื่อใดก็เรียกว่าถึงซึ่ง “สมุจเฉทวิมุตติ” เมื่อนั้น

2. ทำได้เด็ดขาด เที่ยงแท้ แน่จริง

3. พ้นทุกข์เด็ดขาด จะไม่กลับมาทุกข์อีก

4. วิมุตติได้บริบูรณ์แล้วอย่างเด็ดขาด

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 83- 110-515 ,ทางเอก ภาค 3 หน้า225

 


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:15:54 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:42:01 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:26:03 )

สมุทัย

รายละเอียด

1. ต้องค้นหาเหตุในเหตุ

2. ตัวเหตุแห่งทุกข์ หรือเหตุแห่งความเลวร้ายในจิต ในเวทนา

3. เหตุสำคัญ

5. เหตุเกิด[ความหมายตามมูลสูตร]

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 100 ,อีคิวโลกุตระ หน้า68

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 96 ,ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 64


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:17:17 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:44:15 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:27:10 )

สมุทัย(ปัจจัย)

รายละเอียด

ตัวเหตุต่าง ๆ

หนังสืออ้างอิง

(จากคนคืออะไร? หน้า517)


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:18:51 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:47:07 )

สมุทัย(ในมูลสูตร)

รายละเอียด

เหตุในการปฏิบัติว่าต้องมีสัมผัสในการปฏิบัติเสมอจึงจะครบความเป็นกาย ครบความเป็นวิญญาณ[ไม่ใช่สมุทัยตามอาริยสัจอันคือเหตุแห่งทุกข์ซึ่งได้แก่กิเลส ตัณหา อุปาทาน]

หนังสืออ้างอิง

ค้าบุญคือบาป หน้า 131


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:18:04 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:48:47 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:28:06 )

สมุทัยอริยสัจ , สมุทัยอาริยสัจ

รายละเอียด

1. รู้ถึงขั้นอุปาทานขันธ์ วางเดี๋ยวนี้ก็ว่างเดี๋ยวนี้ทันที ในขณะลืมตาโพลง ๆ ทำงานอื่นอยู่ได้ด้วย

2. ตัวตนของเหตุอาริยสัจ

3. เหตุแห่งทุกข์ , เหตุอาริยสัจ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า341 ,พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 107

วิถีพุทธ หน้า 109,119


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:20:01 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:52:24 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:30:40 )

สมุทัยแห่งทุกข์

รายละเอียด

คือ กิเลส ตัณหา อุปาทานที่ผู้ปฏิบัติต้องกำจัดให้ได้ ด้วยการปฏิบัติตาม สัมมาอาริยมรรค อันประกอบด้วยองค์ 8 หรือปฏิบัติ ศีลพรต ตามหลักไตรสิกขา จึงเจริญเข้าถึง ความพ้นทุกข์ได้

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 215


เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 12:48:46 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:48:13 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:31:57 )

สมุนไพรอย่างเดียวกัน บางกาลทำหน้าที่ต่างกัน

รายละเอียด

สมุนไพรหรือพืชพันธุ์ธัญญาหาร อันเดียวกัน เรามาเรียกคล้ายๆกันว่า สมุนไพรเป็นยา อาหารคือ กวฬิงการาหาร เข้าไปเลี้ยงขันธ์ ทำร่างกายให้เจริญ ส่วนสมุนไพรนั้น เป็นยาที่เอามารักษาโรคที่เรามีโรค ถ้าโรคไม่มีก็ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องใช้สมุนไพร ใช้แต่อาหารอย่างเดียว เพราะฉะนั้นชีวิตของคน ใครจะปฏิเสธว่าเราจะไม่ป่วย เราไม่ต้องไปหาโรคมาให้ตัวเองเลย มันก็เป็นโรคได้เพราะโรคมันมาหาเราและมันมาติดต่อเรา รุกรานเราด้วย เราไม่อยากให้มันมาถึงตัวเราเลย มันก็รุกรานเราด้วย ก็ต้องป้องกันต้องระมัดระวัง 

เมื่อเป็นก็ต้องรักษาด้วยยาหรือด้วยสมุนไพร แต่ถ้าเข้าใจแล้ว ยาหรืออาหารก็อันเดียวกันเป็นเพียงหน้าที่ ยาทำให้ความเจ็บป่วยหาย ส่วนอาหารนั้นทำให้สรีระเจริญ ทำให้ร่างกายเจริญ แยกหน้าที่แยกความหมายมันก็เป็นคู่ แต่ละอย่างก็เป็นคู่ ยากับอาหารก็เป็นคู่กัน สมุนไพรกับพืชพันธุ์ธัญญาหารก็เป็นคู่กันอย่างนี้เป็นต้น ช่องไทยรัฐอยากจะได้ความหมายของสมุนไพรก็ดีแล้ว อาตมาก็ขยายความให้ฟังว่าสมุนไพรก็คือพืชพันธุ์ธัญญาหาร เพราะฉะนั้นคำว่าสมุนไพร คุณมาในสายที่คุณอยากจะรู้ลึกของคุณ Concept ของคุณก็คือ ยา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 49 ตอบไทยรัฐทีวีเรื่องสมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 10 กันยายน 2565 ( 15:21:42 )

สมเด็จปู่วิชิตอวิชชา 

รายละเอียด

สมเด็จปู่วิชิตอวิชชา  คือ  เป็นพระพุทธรูปอีกปางหนึ่งของชาวอโศกที่ดำริสร้าง  บริเวณที่จะสร้างที่บ้านราชนั้น น้ำบริเวณนั้นท่วมสูง 4 เมตร อาตมาบอกว่าจะไปแคร์ทำไม หลวงปู่สูงกว่ามาก  ไม่ถึงฐานด้วยซ้ำ  แต่คิดว่าคงเป็นแต่ความฝันมันคงไม่เกิด  เจตนาไม่เอาโลหะด้วยจะเอาหินอย่างน้อยหินทราย  จนเดี๋ยวนี้ได้แค่นี้ก็เอาแค่นี้ (ชี้ไปที่สมเด็จปู่วิชิตอวิชชาในห้องส่ง)  ก็ไม่อยากจะไปดิ้นรนขวนขวายมาก ใครจะเห็นควรทำก็ทำ

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการสำมะปี๋ซี่วิต


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2562 ( 17:16:35 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 15:49:27 )

สมเด็จพุทธโฆษาจารย์ท่านหลงความรู้มากเกินไป

รายละเอียด

ขออภัย ขอกราบขออภัยเจ้าคุณประยุทธ์ ท่านประยุทธ์ สมเด็จพุทธโฆษาจารย์ ท่านหลงความรู้ ท่านเสียเวลามาก ท่านไม่สบายมากเลยนะตอนนี้ ขออภัยนะ อาตมาพูดนี้ไม่ได้ตำหนิติเตียนไม่ได้ลบหลู่ไม่ได้ดูถูก แต่ให้ท่านฟังอาตมาเอาไปคิดบ้างและท่านจะได้สงบ ท่านจะได้อยู่กับสิ่งที่จริง ท่านไม่สบายเยอะแล้วให้หยุดเถอะ มันก็บอกว่าจะต้องทำต่อ ควรพักไวด้แล้ว ท่านก็บอกเรื่องนั้นเรื่องนี้ยังไม่จบอีก ยิ่งท่านคิดอีกว่าจะตายก่อนเดี๋ยวมันไม่เสร็จ ความรู้ที่ท่านทำไว้อาตมาขอบคุณเป็นอย่างยิ่งมันมากแล้ว อาตมาก็ได้อาศัย พอที่จะสำเร็จเป็นอรหันต์ได้ อาศัยสิ่งที่ท่านทำไว้ บางอย่างเราไม่เหมาะที่จะใช้ก็ไม่ใช้เราก็ใช้ที่เหมาะเท่าที่อธิบายมาแล้วหรือที่เก็บรวบรวมมา เป็นพระคุณอย่างยิ่ง สมเด็จพุทธโฆษาจารย์ ท่านพักได้แล้ว พักได้แล้วจะสบาย ขออภัยขอตำหนิท่านอีกหน่อยว่าท่านติดความรู้มากเกินไปอันเป็นวิปัสสนูปกิเลสชนิดหนึ่ง เพราะฉะนั้นท่านก็พยายามรู้ความเหมาะควรจะได้อะไรที่ดี ท่านอาจจะแข็งแรงอาจจะหายจากโรคนี้ ขอโทษทีวันนี้อาตมาดูท่านแสดงธรรม ก็ยังรู้สึกสดชื่น แต่ที่ท่านออกแถลงการณ์มา ท่านเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก อาตมาว่าท่านจะไปฝืนเกินไปหรือเปล่า ถ้าหากพักเสียแล้วอยู่กับสิ่งนี้ได้อาตมาก็ว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับท่านนะ อย่างน้อยอาตมาก็คิดว่ามันก็น่าจะช่วยเป็นพลังงานที่จะช่วยตัวเราเอง พลังงานถ้าเราใช้เกินไป พลังงานที่จะช่วยรักษาร่างกายของตัวเองมันก็ไม่พอ ถ้าเผื่อว่าพักเสียบ้างอาตมาก็ว่าจะดี ก็ขออภัยที่ออกความเห็น แล้วแต่จะเป็นอย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 05 พฤษภาคม 2563 ( 11:45:52 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:26:33 )

สมเด็จพุทธโฆษาจารย์มีบารมีช่วยให้เกิดความขาวกับความดำ

รายละเอียด

ซึ่งเรื่องของการหลงในฎีกาจารย์ก็เคยเตือนกัน ว่าไม่ควรจะไปหลงวิปัสสนูปกิเลส ที่เป็นตัวความรู้ญาณปัญญาอยู่ในนั้น อุปกิเลสที่เป็นความรู้มันเกินไป มันเฟ้อมันล้น มันไม่ต้องเสียเวลาอีก ต้องใช้ความรู้ไปเจาะให้ถึงสภาวะจะไปถึงเป้าหมายเริ่มตั้งแต่ ศีล สมาธิ ปัญญา เริ่มต้นให้เป็นลำดับมันก็จะไล่จากพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ตามลำดับได้ดีทีเดียว อาตมาก็พูดโดยวิชาการสัจจะความจริง ไม่ใช่ว่าอาตมาบังอาจไปสอนท่าน แต่อาตมาต้องพึ่งพาความรู้จากท่าน อาตมาจะไปสอนได้อย่างไร ท่านก็เป็นพระบวชก่อนอาตมาแม้ว่าท่านจะอายุน้อยกว่า แต่ท่านเป็นภันเตท่านบวชตั้งแต่เป็นเณร อาตมามาบวชตอนอายุ 36 ปี ดูเหมือนท่านจะอายุน้อยกว่าประมาณ 5-6 ปี อาตมาอายุ 36 มาบวช เลย 20 มาตั้ง 16 ปี 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2563 ( 12:56:33 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:26:46 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 12:52:19 )

สมเด็จพุทธโฆษาจารย์เป็นมะเร็งอย่าให้ทรมานมากมาย

รายละเอียด

ก็ดูข่าวคราวท่านสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ก็เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ดูท่านออกทีวีก็ดูท่านสดใสดี ก็ขอให้สบายๆ อย่าให้มันทรมานมากมาย หรือให้หายจากโรคภัยได้เลยก็ดี ผู้แนะนำมาก็แนะนำด้วยดี 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2563 ( 13:01:04 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:26:59 )

สย

รายละเอียด

1. หลับ  มืดมัว  ยึดอยู่  ความประกอบขึ้นเป็นตัวตนแล้วก็ยังไม่รู้

2. ตนเอง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3หน้า 416

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 276


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:23:30 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:54:30 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:26:06 )

สย สว สก 3 ตัวตนที่ต่างกัน

รายละเอียด

ส่วนตัวต่อมาเรียก อาสวะ มี สย สว สก ตัว สย เล็กละเอียดที่สุด สว ตัวกลาง สก ตัวใหญ่สุด 3 ตัวตนนี้ คุณก็ต้องรู้ว่ามันต่างกันนะ มีความต่างกันเล็กกลางใหญ่ ตามที่พยัญชนะท่านกำหนดให้มา หากหมด สย ก็หมดอนุสัย

แต่หากหมด สว คือหมดอาสวะ  

ถ้า สก คือ สักกาย จะเป็นตัวตนเต็มรูปเลย ถ้า สว ก็กึ่งๆ ถ้า สย ตัวปลายเลย คนที่บรรลุสูงสุดจะอยู่กับ สย คืออนุสัย หมด สว และหมดสักกาย แน่นอน หากสักกายะไม่หมด คุณจะมาทำอาสวะให้หมดไม่ได้ หมดอาสวะแล้วคุณจะต้องมาหมด สยะ อีก แต่ในความจำนนคุณยังไม่ตายยัง ไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน คุณก็ยังต้องมีอนุสัย ต้องตาม สย นี้ไป จนกว่าคุณจะปิดฉาก อนุ แปลว่า ตาม แปลว่า เล็ก คุณจะต้องอยู่กับอันนี้ไปตามเป็นจริง ตามที่คุณต้องอาศัยมันอยู่ ยังมีอาสยะอยู่ ยังมีอาศัยอยู่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 1 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 11:44:46 )

สย สว สก ต่างกันอย่างไร

รายละเอียด

สัย หรือ สย แปลว่า เป็นตนทั้งนั้น เป็นพลังงานสุดท้าย เอา ย กับ ส มาใช้ ส ตัวที่ 5 ของเศษวรรคกับตัวที่ 1 ของเศษวรรค สย เป็นตัวตน ซึ่งเป็นตัวที่บางเบาหรือว่าละเอียดกว่า สว สย ละเอียดกว่า สว เพราะ สย มันเป็นตัวที่ 1 ใน ย ร ล ว ส ห ฬ อํ หาก สว ก็ตัวที่ 5 ของเศษวรรค มันผสมกันหลายหน่วยกว่า สย ยิ่ง สก เป็นตัวต้นของพยัญชนะตัวที่ 1 เลย สก ก็ยึดมาก แบ่ง 3 ส ก็ชัดเจนแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ ‌ทุนนิยม‌คือ‌ ‌Infinity‌ ‌แต่‌บุญ‌นิยม‌​‌นี้‌ ‌0‌ ‌ยิ่ง‌กว่า‌ ‌0‌ วันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2565 ( 10:48:31 )

สยกตะ

รายละเอียด

ทำด้วยตนเอง

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า77


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:24:13 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:56:24 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:27:06 )

สยชาติ

รายละเอียด

เกิดจากตนเอง

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 77


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:24:52 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:58:39 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:27:30 )

สยตัตตะ

รายละเอียด

สำรวมตนเอง , ควบคุมตนเอง

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 77


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:25:30 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:59:51 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:27:50 )

สยัง

รายละเอียด

ของตนเอง

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 15:09:14 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 15:50:11 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:28:06 )

สยัง อภิญญา

รายละเอียด

สมณพราหมณ์ เป็นผู้เห็นเอง รู้เอง ที่เป็นสาวกภูมิ เข้าใจสิ่งนี้ รู้แจ้งสิ่งนี้รู้จริงสิ่งนี้และยืนยันว่า สิ่งนี้เป็นสัจธรรม เป็นผู้ที่มีลักษณะของปัจเจกส่วนตัว มีความรู้ยิ่งของตนด้วยตนเอง (สยัง อภิญญา) สามารถที่จะอธิบายประกาศโลกนี้ – โลกหน้า ให้รู้แจ้งเห็นจริง คนอื่นๆก็รู้แจ้ง เห็นจริงตามได้

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4”  “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า16 และ หน้า 61


เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 12:19:06 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:47:21 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:28:43 )

สยัง อภิญญา คือ

รายละเอียด

“สยัง อภิญญา”คือ คนผู้ที่ได้บรรลุ“โลกุตรธรรม”มี“คุณวิเศษขั้น‘อรหันต์’ในตนเองมาแล้ว” ถึง 3 ขั้นแล้ว กำลังบำเพ็ญอยู่ในความเป็น“โพธิสัตว์”ขั้นที่ 7 

นั่นคือ (1)ขั้น“โสดาบันโพธิสัตว์” (2)ขั้น“สกิทาคามีโพธิสัตว์(3)ขั้น“อนาคามีโพธิสัตว์” (4)ขั้น“อรหันตโพธิสัตว์” (5)ขั้น“อรหันตอนุโพธิสัตว์” (6)อรหันตอนิยตโพธิสัตว์ (7) ก็คือ “อรหันตนิยตโพธิสัตว์” และ(8) ก็“อรหันตมหาโพธิสัตว์”

ถ้าจะนับความเป็น“โพธิสัตว์”ก็มี“(8)ขั้นเท่านี้ขั้นที่(9)ก็เป็น“อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า”คือ“โพธิ”ที่เต็ม“โพธิ”เป็น“สัมมาสัมโพธิญาณ”เลย แต่หากนับรอบของ“อรหันต์”ก็ได้ 5 อรหันต์ 

(1) “อรหันต์”รอบแรกข้นต้น (2) อรหันตอนุโพธิสัตว์ (3) อรหันตอนิยตโพธิสัตว์ (4) อรหันตนิยตโพธิสัตว์ (5) อรหันตมหาโพธิสัตว์  สูงสุดเข้าสู่ขั้น (6) ก็เป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า“อรหันต์”คือ “ความเป็นที่สุด” ซึ่งมี“ที่สุด”ในแต่ละรอบของอรหันต์ ซึ่ง“อรหันต์”นั้นยังมีอีกหลายกรอบในความเป็นอรหันต์แต่ละรอบๆ ที่เป็น“อรหันต์”ขั้นสูงขึ้นๆ

ความเป็น“อรหันต์”จึงไม่ใช่มีแค่อรหันต์ขั้นเดียวเท่านั้น  ยังมี“ความจริงของ‘โลก’ของ‘อัตตา’ของ‘ธรรม’ที่ลึกล้ำละเอียดวิจิตรยิ่ง “อรหันต์”จึงมีอีกมากมายหลายหลาก“ขั้นชั้น” ดังที่ได้สาธยายมานั้นแล้วส่วน“โพธิสัตว์”เป็น“โพธิ”หมายถึง“ความตรัสรู้”ที่สามารถจะสูงส่งสูงสุดตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าได้ถึงขั้นสุดสูง สุดแห่งที่สุดก็พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์โพธิสัตว์ไม่ใช่สัตว์ใต้ต้นโพธิ์ ที่บางลัทธิบอกว่าเป็นปุถุชนที่สั่งสมบารมีไปเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งไม่ใช่เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ธัมมิกราษฎร์ประกาศโลกุตรธรรม งานอโศกรำลึก 2566
สื่อธรรมะพ่อครู ตอน ประกาศธัมมิกราษฎร์ต้องมีองค์ประกอบครบ
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 แรม 6 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 กรกฎาคม 2566 ( 10:38:49 )

สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา

รายละเอียด

เห็นของตนเอง แจ้งด้วยตนเอง

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 218


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:28:18 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:01:13 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:29:00 )

สยังกต

รายละเอียด

ทำได้ด้วยตนเองแล้ว

ที่มา ที่ไป

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189

หนังสืออ้างอิง

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189


เวลาบันทึก 11 ธันวาคม 2562 ( 14:14:20 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:46:40 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:29:31 )

สยังกร

รายละเอียด

ผู้ทำเอง

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 77


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:29:19 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:02:26 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:29:53 )

สยังกร

รายละเอียด

ผู้ทำเอง

ที่มา ที่ไป

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189

หนังสืออ้างอิง

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189


เวลาบันทึก 11 ธันวาคม 2562 ( 14:12:49 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:46:10 )

สยังชาต

รายละเอียด

เกิดจากตนเอง

ที่มา ที่ไป

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189

หนังสืออ้างอิง

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189


เวลาบันทึก 11 ธันวาคม 2562 ( 14:13:31 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:45:31 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:30:45 )

สยังปภ

รายละเอียด

รุ่งเรืองจนเกิดรัศมีในตนเอง

ที่มา ที่ไป

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189

หนังสืออ้างอิง

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189


เวลาบันทึก 11 ธันวาคม 2562 ( 14:15:16 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:45:01 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:31:06 )

สยังปส

รายละเอียด

จิตผู้นี้มีอัญญะเกิด

ที่มา ที่ไป

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 188

หนังสืออ้างอิง

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 188


เวลาบันทึก 11 ธันวาคม 2562 ( 14:10:01 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:44:30 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:31:24 )

สยังวร

รายละเอียด

ผู้เลือกเอง

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 77


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:37:52 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:03:56 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:31:42 )

สยังวร

รายละเอียด

เป็นผู้เลือกเอง

ที่มา ที่ไป

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189

หนังสืออ้างอิง

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 189


เวลาบันทึก 11 ธันวาคม 2562 ( 14:12:13 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:43:45 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:32:04 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

อาตมาเคยเป็นพระเถระในยุคนั้นมา ในยุคนี้อาตมาเป็นสยังอภิญญา อาตมาไม่ได้อุตริมนุสธรรมที่มีในตน ขอยืนยันว่ามีในตนเอามายืนยันประกาศ มาพูด อาตมาขอยืนยันว่าอาตมาเป็นสมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้ โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในโลกนี้มีอยู่ (อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ) มีหลักฐาน คือ อาตมาอธิบายสัมมาทิฏฐิ 10 นี้ได้ และพาพวกคุณปฏิบัติตามสัมมาทิฏฐิด้วย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 14:08:44 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 15:51:47 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:33:30 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

คือ  ผู้ที่มาเกิดในชาตินี้  เป็นผู้รองจากพระพุทธเจ้า  เกิดมาในชาตินี้มีความรู้ของตัวเองมาจากชาติก่อน ไม่ต้องมีครูบาอาจารย์มาสอนอีก ในชาตินี้มาทำความแจ่มแจ้งให้แก่ผู้อื่นได้ ให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม  สมณะแบบนี้มีในโลกยุคนี้หรือไม่ ถ้าเห็นมีก็มีแล้วเป็นจริงไหมก็คือ  อัตถิ โลเก สมณพราหมณา  สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จโลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกตวา  ปเวเทนตีติ  รู้ได้ด้วยตนเอง

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู จากรายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 01 มิถุนายน 2562 ( 15:43:45 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 15:53:12 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

คนทั้งหลายที่ยังไม่ใช่สยังอภิญญาจนถึงสยัมภู สยัมภูคือระดับพระพุทธเจ้า รองลงมาเป็นพระโพธิสัตว์มีความรู้ไปสยังอภิญญา มีความรู้ของตัวเองข้ามชาติมา มาถึงชาตินี้ ไม่มีใครที่จะรู้หรือมีเองเท่า หรือมีแม้ไม่เท่า แต่ก็รู้ของตัวเอง สยังอภิญญาจะอุบัติแต่ละยุคกาละจะไม่ซ้อน 2 คนกันเท่าไหร่ มีซ้อนก็จะรู้ว่าไม่ควรจะแทรก จะรู้ว่าตัวเองมีภูมิสูงหรือต่ำกว่า เป็นพระอรหันต์ เป็นโพธิสัตว์แล้วก็ไม่มีตัวตนที่จะอวดโอ่ ถ้าไม่แน่จริงว่าตัวเองไม่มีใครเทียบ ขนาดอาตมาตัวเองในยุคนี้ก็ยังรู้ว่าไม่มีใครจะมาเทียบ แต่ก็แสดงตัวว่าถ้ามีพี่ที่เหนือกว่าก็โปรดแสดงตัว 

การจะฟังธรรมต้องฟังจากมิตรดีที่มีภูมิพอจะสอนคนเป็นครูคนได้ จึงเรียกว่าผู้ที่ตั้งอยู่ในฐานะของครู ศาสนาพุทธจะต้องรับฟังถ้าไม่ใช่จากพระพุทธเจ้า ก็ต้องจากสัตบุรุษที่รู้จริง หรือจากสยังอภิญญาคือผู้ตั้งอยู่ในฐานะครูอย่างแท้จริง ต้องได้รับฟังธรรมจากท่าน คิดเองไม่ได้รู้เองไม่ได้ ศาสนาพุทธไม่มีรู้เอง จะรู้เองก็อยู่ในตำแหน่งสยังอภิญญาขึ้นไปหรือตั้งอยู่ในฐานะครูเป็นสัตบุรุษจริง ยกไว้ก็คือพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะสามีเป็นเจ้าของศาสนา นอกนั้นก็ยังไม่แน่นอน เป็นลูกศิษย์ของท่านแต่ข้ามชาติมา สั่งสมมาจนกระทั่งมีในตัวเองเพียงพอ ที่จะแสดง อาตมาประกาศแสดงมาเกือบ 50 ปีแล้วก็ยังไม่มีอะไรมาหักล้างหรือมาเปลี่ยนแปลง หรือว่ามีเหตุปัจจัยหลักฐานต่างๆมาล้มล้างความเป็นจริงอันนี้ ยังเห็นว่าเป็นจริง อาตมาไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นนะ ถ้ามันไม่จริงก็ไปยึดมั่นถือมั่นก็จะบ้าเอา ก็ต้องยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่จริง ถ้ามาล้มล้างสิ่งนี้แล้วได้เราก็เลิกยึดมั่นถือมั่น ก็ไปยึดมั่นถือมั่นอันใหม่ที่จริงกว่า ถ้ามีการเปรียบเทียบแล้วว่ามีอันใหม่ที่ดีกว่า แล้วจะไปยึดถืออันเก่ามันก็โง่ ก็คงทำไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2562 ( 12:06:17 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 15:57:02 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:35:10 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

อาตมาก็มายืนยันว่าอาตมาเป็น สยังอภิญญาผู้นี้ ผู้ใดล่ะที่มีธาตุองค์รวมต่างๆยืนยันแสดงได้ว่าเป็น สยังอภิญญาผู้นี้ ก็ไม่เห็นมีใครกล้ายืนยันนอกจากอาตมา แล้วอาตมายืนยันว่าต้องการอวดหรือไม่ อาตมาก็บอกว่าอาตมาอ่านใจตัวเองเป็น อาตมาไม่มีใจที่เป็นสาเฐยจิตตัวนี้ ที่ต้องการอวดโชว์ ยืนยันความจริง แต่ขนาดยืนยันความจริงด้วยความซื่อสัตย์จริงใจป่านฉะนี้เขายังไม่เชื่ออาตมาง่ายๆ ก็ดี ไม่เชื่อง่ายนั้นดีอยู่ แต่ไม่เชื่อเลยนั่นสิ อาตมาก็ว่าเสียประโยชน์นะ ก็คงต้องใช้ภูมิปัญญาของแต่ละคน เห็นดีเห็นงามอะไรก็เอาอันนั้น ไม่ต้องมาโชว์ตัวไม่ต้องบอกว่าเห็นดีกับอาตมา จะมาบอกว่าเป็นลูกศิษย์อาตมาก็ไม่ต้อง ไม่มีปัญหาหรอก อาตมาไม่ได้เดือดร้อนอะไร มีอิสรเสรีภาพ 100% ไม่มีอะไรเรียกร้อง เรียกร้องผู้ที่ได้แล้วไม่มานี่สิ ผู้ที่ไม่ได้นั้นไม่มาก็ไม่เป็นไร แต่ที่ได้แล้วไม่มานี่สิซับซ้อน ที่จริงไม่ได้เรียกไปบังคับอะไรเป็นแต่เพียงเปรยปรายว่ามานะ ดีไม่ดีก็แต่งเพลง มีศิลปะให้ฟัง อย่างมีมารยาทสุภาพเรียบร้อย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช กายนี้คือวิญญาณ วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:41:14 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 15:59:40 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:35:48 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

ก็สูงมาเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี ขึ้นมา มีปัจเจกของตัวเองมากขึ้นจึงจะมาเป็น สยังอภิญญา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 09:25:38 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 16:01:12 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:36:03 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

เมื่อมาเป็นคนที่มีธรรมะของพุทธ แคบเข้าไปอีกโดยเฉพาะโลกุตระ เป็นความรู้โลกุตระผู้ที่มีแล้วในตน ถ้ายังไม่มากยังไม่แน่น ก็จะระลึกเอาคืนมายาก จนกระทั่งมีมากพอสมควร หากมีมากๆก็จะระลึกขึ้นมาได้ง่ายขึ้น ในชาติปัจจุบันขณะปฏิบัติ อย่างอาตมามาประกาศตัวว่าเป็น สยังอภิญญา เป็นผู้ที่มีความรู้ธรรมะเองในชาตินี้ ไม่มีครูบาอาจารย์ไม่มีศิษย์พี่ศิษย์น้องไม่มีสำนัก เกิดมา เป็นหัวหน้าสำนักเป็นเจ้าสำนัก ความรู้นี้อาตมาเป็นต้นธรรมเป็นไก่ตัวพี่ ออกมาจากอาตมา

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 09:56:31 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

เพราะอาตมาไม่ได้มีสำนักมีครูบาอาจารย์สืบทอดมา โผล่มาบอกว่าตัวเองรู้ดีมาจากชาติก่อนๆ มันก็ไม่มีใครรับรอง มาชาตินี้อาภัพ ไม่มีใครรับรอง แต่อาตมาก็ยืนยันว่าอาตมารู้มาเองเป็น สยังอภิญญา ตามหลักธรรมพระพุทธเจ้ามีอยู่แล้วรู้มาเองข้ามชาติ สยังอภิญญา ก็เข้าใจคำว่า สยังอภิญญา ไม่ได้ พอเราบอกเรารู้เองก็มายัดเยียด ประชดประชันเราว่าเป็นพระพุทธเจ้าหรือยังไงรู้ด้วยตัวเอง ก็บอกว่าไม่ใช่ สยังอภิญญา ไม่ใช่สยัมภู พากเพียรไปเป็นอภิภู ซึ่งเขาจับความแตกต่างรายละเอียดพวกนี้ไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 วิญญาณกับวิญญัติ วันมาฆบูชา วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 พฤษภาคม 2565 ( 16:30:40 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

อาตมาเป็นระดับ 7 คือเกิดเองเป็นเอง แล้วเรียกว่าเป็น สยังอภิญญา คือมีอยู่ในตัวเองแล้ว อาตมาเกิดมาในชาตินี้ไม่มีอาจารย์ไม่มีสำนักไม่มีใคร สอน อาตมาเป็นเองมีเองตั้งแต่ชาติก่อนแล้วมาพูด แล้วก็ค้านแย้งกับที่เขาพูดกันด้วย และขอยืนยันว่าของตัวเองถูก ถ้าไม่ถูกอาตมาทำงานมาป่านนี้จะไม่มีสาราณียธรรม 6 ไม่สามารถที่คนจะเข้าใจวรรณะ 9 ได้ ไม่มี แต่พวกคุณเข้าใจและมีสภาวะไปตามลำดับ แม้เป็นอรหันต์ยังไม่ถึงขั้นโพธิสัตว์สูงขึ้นไประดับที่ 5 6 7 ก็จะยังไม่รู้เหมือนที่อาตมาพูด แต่อาตมาก็อธิบายให้รู้ หมดทุกขั้น

พระพุทธเจ้าสมณะโคดม ท่านสอนใบไม้กำมือเดียว สอนความเป็นอรหันต์ขั้นต้น ท่านไม่สอนโพธิสัตว์เลย ท่านปล่อยให้อาตมามาหนักอยู่คนเดียว ท่านทำมาหนักแล้วพระพุทธเจ้าสอนมาเยอะแล้ว ท่านก็ปล่อยให้พวกโพธิสัตว์ที่จะต่อภพภูมิ รับช่วงต่อ อย่างอาตมาก็มารับช่วงต่อ ก็รู้อยู่ว่าศาสนาผ่านมา 2,500 กว่าปีมันเสื่อมมากแล้วและก็จะต่อไปถึง 5,000 ปี ก็จึงต้องมาทำงานหนักอยู่นี่ ก็พูดมาหมดแล้ว 

เพราะฉะนั้น ผู้ที่ฟังอาตมาพูดกันอยู่นี้ พอจะจับสภาวะของตนๆได้ไหม ได้บ้าง กี่บั้ง สิบตรีสิบโทสิบเอก จ่า ได้กี่บั้ง ได้3 บั้งก็เก่งนะ สิบเอก เดี๋ยวเป็นจ่าก็ได้ดาว เป็นนายร้อยแล้ว นี่ก็พูดให้มันเบาๆ บ้าง มีอะไรประกอบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐิติ 7 ปฏิจจสมุปบาท และวิชชา 8 วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 วันแรม 14 ค่ำเดือนยี่ ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2566 ( 11:52:42 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

อาตมาเริ่มมีธรรมะที่เป็นโลกุตรธรรมติดตัวเองมาแล้ว เท่าบารมีของอาตมาติดมาแล้ว ข้ามชาติตามข้ามชาติจากชาติไหนๆมาก็ตาม มันก็มีโลกุตรธรรมอันเป็นสัมมาทิฏฐินั้นมาแล้ว ไม่ต้องมีอาจารย์ไม่ต้องมีคนสอนเป็นของตนเอง สยังเองตนเอง เป็นอภิญญาเป็นความรู้ของพระพุทธเจ้านี่แหละ ของพุทธศาสนานี่แหละมาแล้ว แล้วก็นำมาพูด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ตอน 3 วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 แรม 9 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2567 ( 14:37:06 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

หลักฐานมีความจริงปรากฏพระพุทธเจ้าตรัสไว้ แม้อาตมายืนยันว่า อาตมาเป็น สยังอภิญญา ท่านก็ตรัสไว้เป็นผู้ที่รู้จักโลกนี้โลกหน้าจะมาประกาศ ปเวเทนตีติ สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ  ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วย ตนเอง  ในโลกนี้ มีอยู่ (อัตถิ  โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ)  

ก็ท้าพิสูจน์ยืนยันกันมา 40-50 ปีป่านนี้ ยืนยันทั้งหลักฐานทางพฤติกรรมที่พาทำทั้งความรู้ความเห็น ที่บอกทั้งพวกเรารับรู้เข้าใจได้เอาไปประพฤติเกิดมรรคเกิดผลที่แท้จริง จนกระทั่งมีรูปธรรมของ สาราณียธรรม 6 เป็นกลุ่มมนุษย์ที่มาอยู่รวมกันเป็นชุมชนที่เป็นชุมชน สาราณียธรรม 6 อยู่ด้วยกันอย่าง สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม 

และอยู่กันอย่างระบบสาธารณโภคี ลาภที่ได้โดยธรรม ก็หมายถึงสิ่งที่เป็นรายได้วัตถุก็ตาม ที่สร้างขึ้นหรือไปขายมาเป็นเงินทอง  ซึ่งค่าจ้างพวกเราก็ไม่ไปหาเงินทอง ค่าจ้างแรงงานพวกเราก็ไม่มีรายได้ของค่าจ้างแรงงาน นอกจากได้เงินทองที่แลกกลับจากการขาย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พระอภิธรรมของ ฌาน และเวทนา 108 วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2567 ( 17:45:12 )

สยังอภิญญา

รายละเอียด

สยังอภิญญา คือความรู้โลกุตรธรรม มีในตัวเอง ไม่ต้องเอาจากใครอีก มีในตัวเองแล้วเจริญในตัวเองถึงขั้นสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ 

เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็น นิยตโพธิสัตว์จึงไม่ต้องมีอาจารย์อีกแล้ว จะเกิดอีกกี่ชาติไม่ต้องมีอาจารย์อีกเลย เป็นพระพุทธเจ้าได้ นี่คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้า เที่ยง นิยตะเที่ยงด้วย

นี่อธิบายกันถึงขั้นมหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้านะ พวกเราก็ฟังไป ฟังไปประดับบารมี ประดับความรู้ไป ยังไม่ถึงก็ เพราะฉะนั้นยังไม่ต้องพูดถึงผู้ที่มาเข้าใจสภาวธรรมโลกุตระอย่างพวกเราเข้าใจ เขาจะไม่มีรสชาติ ฟังแล้วไม่เกิดรสชาติ เพราะเขาไม่รู้ เหมือนเด็กๆ ไร้เดียงสา เราไปพูดธรรมะที่เด็กๆรับรู้ไม่ได้ อย่างนี้ไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวก็หลับ ไม่รู้เรื่อง ไปบังคับความไม่รู้ในคนที่มันไม่มีทางจะรู้ ไปบังคับไม่ได้ มันไม่รู้เรื่องหรอก คนไม่มีภูมิที่จะรู้จริงๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 46 บุญกับฌาน มีพลังงานต่างกันอย่างไร วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ขึ้น 1 ค่ำเดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2567 ( 19:38:22 )

สยังอภิญญา คือ

รายละเอียด

สยังอภิญญาคือผู้รู้ความจริงในความเป็นจริงที่สัมมาทิฎฐิ 9 ข้อนั้น ข้อที่ 10 ระบุไว้ว่าท่านคือ สยังอภิญญา จะเป็นผู้เปิดเผยความจริงที่รู้แจ้งด้วยตนไม่ว่าโลกนี้โลกหน้า อย่างไร หรือความละเอียดลออ ของสัจธรรมก็จะสัจฉิกัตวา เอาความจริงที่รู้แล้วมาเปิดเผยให้กระจ่างแจ้ง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2566 พิธีน้อมกตัญญูบูชา วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2566 แรม 2 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2566 ( 19:23:01 )

สยังอภิญญา คือใคร

รายละเอียด

สยังอภิญญา คือ หมายความว่ารู้มาข้ามชาติ ถ้ามาในชาตินี้ยังไม่มีความ สยังอภิญญา คุณก็ต้องมาฟัง สยังอภิญญา คนอื่น คิดเองรู้เองขึ้นมาไม่ได้คุณต้องได้ฟังจากผู้ที่ได้ฟังจากพระโอษฐ์พระพุทธเจ้ามาแล้ว หรือได้มาเป็นสิ่งที่เป็นอนุสัยติดตัวมาแล้ว อย่างเช่นอาตมานี้ คุณต้องไปฟังจากอาตมา เพราะฉะนั้นตรงนี้แหละเป็นประเด็น ผู้ที่ยังไม่รู้ยากจะรู้ธรรมะจากเถรสมาคมศึกษามามากมายแต่ไม่เป็นโลกุตระ อาตมามาเอามาประกาศเป็นโลกุตระเป็นโพธิสัตว์เป็นผู้ที่ตรัสรู้  บอกว่าเป็นอรหันต์เป็นโพธิสัตว์ แต่เขาไม่เชื่อ เขาก็ไม่มีปรโตโฆษะจากอาตมา เขาก็ทำใจในใจมีการทำใจในใจมนสิการตามที่เขามีภูมิทิฐิของเขา เขาก็ไม่เปลี่ยนไม่แก้เขาก็เป็นอย่างนั้น  เช่น นั่งหลับตาปฏิบัติ ฌานก็ดี สมาธิก็ดี ไม่ได้ทำจรณะ 15 วิชา 8 บุญก็ดี กายก็ดี เขาเข้าใจนอกรีต 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 13:33:40 )

สยังอภิญญา สัมมาปฏิปัณณาคือใคร

รายละเอียด

อาตมาเองไม่กระดากกระเดื่องว่าอาตมาอวดตัวตน เป็นอันนั้นอันนี้ เปิดไปจนไม่เหลืออะไรแล้ว สยังอภิญญา สัมมาปฏิปัณณาคืออาตมา ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นสยังอภิญญาคืออาตมา ข้ามชาติมาก็อาตมานี่แหละ พูดอย่างจริงใจไม่ได้อวดตัวตนไม่กระมิดกระเมี้ยน ไม่สะเทิ้น ไม่สะท้าน มันสนิทมันจริงมันมั่นใจ เรามีความจริงที่เรามั่นใจ ไม่ได้มานั่งหลอก แต่พูดซ้ำซ้อนบอก ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้มาเอาอะไร เอามาให้พิสูจน์กันยังชีพกันไปช่วยกันทำไป พูดไปแล้วอบอุ่น มีคนจะให้ต่ออายุไปถึง 200 ปี มันน่าอยู่เหมือนกันนะ ดูก่อน ถ้าเนื้อหนังมังสา ใช้สัมประสิทธิ์ Coefficient ทำให้เกิดความ Fresh up มากยิ่งขึ้น protoplasm cytoplasm ก็เจริญขึ้น ก็น่าอยู่ต่อ 200 ก็ 200 ตอนนี้ยังไม่ขึ้น 85 ปีเลย เดือนมิถุนายนนี้จะขึ้น 85 ปี อยู่ให้ถึง 90 ก่อน ถ้า 90 ได้เราก็หวังว่า ถ้าจะเข็นให้ถึง 96 ถ้าไม่ต้องเข็นนี่คงดี แต่ต้องเข็นกันไหม ถ้ายังไม่ตายก็ต้องเข็นกันอยู่ดี เข็นกันไป ให้ถึง 96 เมื่อ 96 แล้วก็เข็นต่ออีก อยู่ไปพากเพียรไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:21:28 )

สยังอภิญญา แยกโลกนี้โลกหน้าให้เข้าใจได้

รายละเอียด

คุุณยังไม่ตาย แต่ว่าอุตุธาตุมันเป็นธาตุที่ตายแล้ว ในร่างของคุณเองก็มีธาตุของอุตุ แม้ในจิตคุณก็ถือว่าเป็นอุตุได้ เพราะฉะนั้นถ้าจิตที่ตายแล้ว นี่คือจิตตาย โลกที่เขาเป็นอยู่กับโลกสนุกสนาน แต่เราเห็นโลกนั้น สำหรับเรานี้โลกนั้นตายไปจากเรา นี่แยกโลก เป็นผู้แยกโลกสยังอภิญญา แยกโลกนี้โลกหน้าให้เข้าใจได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:30:44 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:27:13 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:37:35 )

สยังอภิญญา ในสัมมาฏิฐิ ข้อ 10

รายละเอียด

หากไม่มีอาตมาอธิบายต่อ ศาสนาของพระสมณโคดมไปไม่ถึง 5000 หรอก ต้องมีโพธิสัตว์มาอย่างนี้มาศึกษามันเป็นสัจจะ ท่านได้มอบหมายแล้วอาตมาจึงเป็น สยังอภิญญา ที่ในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10 สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ  ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในโลกนี้มีอยู่ (อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ)

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:57:10 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 16:00:35 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:36:53 )

สยังอภิญญา ไม่ใช่สยัมภู

รายละเอียด

ของตนเอง สยัง ในความรู้ยิ่ง อภิญญา ความรู้ที่เป็นโลกุตรธรรม เป็นโลกโลกุตระไม่ใช่โลกโลกียะ ขยายโลกโลกุตระไม่ใช่ขยายแค่โลกียะ เป็นความรู้ของตนเอง แต่ไม่ใช่สยัมภูนะ เคยบอกอธิบายชัดเจน ว่าอย่าเข้าใจสยังอภิญญาว่าเป็นสยัมภู ดีถูกต้องแล้วตามมรรค ปันนะหรือปัตตะก็คือบรรลุ เป็นผู้บรรลุแล้ว แล้วผู้นี้เป็นพุทธมาเชื่อมต่อศาสนา เป็นผู้มาสืบสานศาสนา แต่ไม่ใช่เป็นพระพุทธเจ้า คนที่ไปเข้าใจว่า สยังอภิญญา คือพระพุทธเจ้านั้นไม่ใช่ ไม่ใช่สยัมภู ทำไมชื่อว่า สยังอภิญญา ก็รู้เองเกิดมาชาตินี้ไม่มีครูบาอาจารย์ นอกจากไม่มีครูบาอาจารย์แล้วยังแย้งกับครูบาอาจารย์ที่เขายอมรับกันทั่วไปด้วย แล้วยืนยันว่าที่ตัวเองพูดไม่เป็นของตัวเอง ยืนยันว่าอันนี้ถูกอันนั้นผิด ของท่านมันผิด ของเรานี้ถูก พูดตรงๆมิจฉาทิฏฐิ อวิชชา วิปลาส 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมในงานพิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2564 วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2564 ( 15:38:54 )

สยังอภิญญา 

รายละเอียด

สยังอภิญญา  คือ การรู้ได้ด้วยตนเองไม่มีครูอาจารย์เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 01 ตุลาคม 2562 ( 17:42:59 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 16:01:51 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:37:10 )

สยังอภิญญาของสมณะโพธิรักษ์

รายละเอียด

อาตมาจึงชัดเจนในตัวเองว่าตัวเองเป็น สยังอภิญญา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เป็นภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่จะได้มาประกาศโลกนี้โลกหน้าที่รู้ได้ด้วยตนเอง รู้ได้ด้วยตนเองภาษาบาลีคือ สยังอภิญญา ไม่ใช่รู้ได้ด้วยตัวเองอย่าง สยัมภู ที่เป็นแบบพระพุทธเจ้าเป็นเจ้าของธรรมะโลกุตระ เป็นธรรมะสามีเป็นเจ้าของ แต่อาตมานี้เป็นเจ้าของในระดับโพธิสัตว์ คือมีมาด้วยตนเองในตนเอง คำว่าโดยตนเองในตนเอง คำว่าตนเองนี้

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:35:45 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 17:10:20 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:38:03 )

สยังอภิญญาคือผู้ได้รับถ่ายทอดโลกุตรธรรมจากพระพุทธเจ้าจนมีในตัวเอง

รายละเอียด

ปุถุชน“รู้”แบบ“ปัญญา”ขึ้นมาเองไม่ได้  ไม่มีใคร“รู้เอง”ได้…

สุตมยปัญญา จินตามยปัญญา เป็นโลกีย์ แต่ถ้าภาวนามยปัญญา มันไม่ใช่ปัญญาแต่เป็น เฉโก ก็ไม่ใช่โลกุตระ 

ปุถุชนรู้แบบมีปัญญาขึ้นมาเองไม่ได้ พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่เป็น“เจ้าของปัญญาที่เป็นโลกุตรธรรม” และได้นำมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นรู้ตาม มีในตนเองตาม จนกระทั่งเป็น“สยังอภิญญา” ชื่อว่าผู้มี“ความรู้โลกุตระในตนเอง”ซึ่งก็ได้จากพระพุทธเจ้า“มีในตนเองมาแล้ว”ข้ามมาชาติจากชาติแต่ปางก่อน โดยเกิดมาชาตินี้ไม่ต้องมีครูบาอาจารย์ จึงชื่อว่า เป็น“สยัง อภิญญา”คือ “ผู้มีเอง”ขั้นสัมมาสัมพุทธสาวก

อาตมาชาตินี้ก็ไม่ได้เรียนรู้ธรรมะจากใคร แต่มีภูมิธรรมโลกุตระของตนเองมาแต่ชาติก่อนๆ ซึ่งอาตมาเป็นพุทธสาวกได้รับธรรมะจากพระพุทธเจ้ามา ชาตินี้ก็มีธรรมโลกุตระเป็นของตนเองมา เขาฟังแล้วก็ไม่เชื่อ อาตมาเห็นเขาเป็นอย่างนั้นก็น่าสงสาร คือวนเวียนในวัฏฏสงสารเก่า น่าสงสาร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลกุตระปัญญาต้องได้มาจาก สัตบุรุษ วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มิถุนายน 2564 ( 19:29:37 )

สยังอภิญญาต้องเป็นนิยตโพธิสัตว์

รายละเอียด

ในสมาธิข้อที่ 1-10 ข้อที่ 1 ข้อที่ 10 ข้อที่ 10 นั้นสำคัญ ต้องมีมิติสหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดีที่ชื่อว่า สยังอภิญญา เป็นผู้สัมมาปฏิปัณณา ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ถึงขั้น เป็นสยังอภิญญา พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ก็เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แม้แต่อนุโพธิสัตว์ก็ยังไม่เป็นสยังอภิญญา อนิยตโพธิสัตว์ก็ยังไม่เข้าขั้น สยังอภิญญา เพราะยังไม่เข้าขีด 7 ซึ่งเป็นผู้ที่มีของแท้ของตัวเองข้ามชาติมาเป็นนิยตโพธิสัตว์ มันมีนัยยะซับซ้อนลึกซึ้ง อาตมาพูดถึง แม้ในพยัญชนะหลักฐานในพระไตรปิฎกข้อที่ 10 อาตมาก็เอามาประกาศเปิดเผยธรรมะ แม้แต่ที่สุด อาตมาอธิบายถึงขั้นว่า อาตมารับมอบหมายหน้าที่มาจากพระพุทธเจ้า ที่ท่านปรินิพพานไปแล้วก็เหลือให้โพธิสัตว์ผู้ที่จะสืบทอดได้รับหน้าที่ ท่านก็จึงมอบให้ หากท่านไม่มอบก็ไม่มีพินัยกรรมทำทิ้งไว้ แต่สมัยโบราณไม่ต้องไปเขียนพินัยกรรมหรอก ก็เป็นเพียงรู้กัน อาตมาพูดประกาศออกไป หากมากเกินไปคนบางคนก็รับไม่ได้ มาถึงวาระนี้ อาตมาก็ทำงานและก็ไม่ได้อยากอวดตัวอวดตนอะไร อวดไปแล้ว ยิ่งผู้รู้ท่านก็จะปฏิเสธรังเกียจที่จะฟัง อวดมีสาเฐยจิต แต่อาตมาไม่มีจิตสาเฐยจิต แต่เขาก็หาว่าโอ้อวด ก็เลยละเว้นไว้ไม่พูด เอาแต่พิสูจน์เนื้อหาสาระธรรมะ ใครนะ จะอธิบายกายให้เข้าใจกายคืออะไร   ใครจะอธิบายแยกกายแยกจิต อย่างที่อาตมาอธิบายได้ ใครจะแยก แม้กระทั่งอย่างนี้เป็นกายอย่างนี้ไม่ใช่กายแล้ว อย่างนี้ไม่ใช่กายแต่ยังมีชีวะ ไม่มีบาปไม่มีบุญ อย่างนี้ กายของอินทผาลัมนี้ช่างสวยเหลือเกินนะ นี่ของบ้านราชฯเองเลยนะ อยู่หน้าอาคารบวร ต่อไปจะมีอินทผาลัมของพวกเราให้กินมากขึ้นเรื่อยๆ เราปลูกไว้เยอะ อันนี้ กายส้มโอ กายแตงกวา มันเป็นชีวะเป็นพืชนะ แต่ไม่ใช่กาย พระพุทธเจ้าให้แยกกาย ผม ขนเล็บ ฟันหนัง หากเราเข้าใจ ก็ทำจิตเราให้เป็นอุตุได้ อย่างขี้ไคลเราทำให้เป็นอุตุได้ หรือเล็บเราก็ยาวออกมาที่จริงไม่ใช่กายแล้ว ตัดมันก็ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่มีเวทนา สุข ทุกข์ ตัดออกได้อย่างนี้มันก็ไม่มีทุกข์แล้ว เพราะเราทำจิตให้เป็นพีชะได้แล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 1 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:37:28 )

สยังอภิญญาต้องเรียนอภิภูกันให้สมบูรณ์แบบ

รายละเอียด

พยายามมองมุมต่างลิงคะ อันนี้สุดยอด ลิงคะ หรือเพศ มันจะแตกต่างกันไปถึงที่สุดแห่งที่สุดที่ละเอียด เอาอภิภูมาแยก ความแตกต่างระหว่าง กายกับสัญญา เอาวิญญาณฐีติ 7อธิบาย สัตตาวาส 9 อธิบาย อาตมาก็กำลังเอาอภิภูมาอธิบาย อภิภายตนะ 8 แยกความต่างที่ละเอียดลึกซึ้งเข้าไป เป็นรายละเอียดที่ลึกซึ้งสมบูรณ์แบบเลย จากอภิภูก็เป็นสยัมอภู (สยัมภูคือใคร?…พระพุทธเจ้า) สยังอภิญญาต้องเรียนอภิภูกันให้สมบูรณ์แบบ อาตมาก็พยายามพากเพียรเรียนในความละเอียดละออในนัยยะที่ต่างกันในอภิภู 8 ประเด็นนี้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2563 ( 10:51:34 )

สยังอภิญญาผู้มาสืบทอดพระพุทธศาสนาในยุคนี้

รายละเอียด

นี่เป็นความรู้ที่เยี่ยมยอด แล้วสามารถทำได้ด้วย อาตมาพูดเพราะว่าอาตมารู้และก็ทำได้จึงเอามาพูด ไม่มีใครพูดอย่างอาตมาหรอก ในยุคนี้ไม่มี ขอยืนยัน แต่มีองค์อื่นที่ท่านรู้พอๆหรือรู้ยิ่งกว่าอาตมา ก็พูดได้เพราะก็เป็นความจริงที่รู้กันหมด แต่ในยุคนี้ไม่มี มีแต่อาตมาเอามาพูด พูดไปแล้วก็หาว่าอวดดี แล้วจะให้เราอวดความชั่วก็โง่ตาย มีดีก็ต้องอวดดี เอาดีมาอวด จะให้อวดแต่โง่อวดแต่ชั่วได้อย่างไร นี่ก็พูดจริงๆ 

อาตมาพูดความไม่จริงไม่เป็น พูดความจริงก็หาว่ายวน อาตมาเป็นคนไทย

อาตมาทำงานทุกวันนี้อาตมามีปณิธานที่จะต้องพยายาม ทำงานไป สะสมสัมภารวิบากไป จนกว่าจะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า ยังไม่ถึงก็ทำไป มันก็เป็นประโยชน์ 

ยิ่งได้รับปากกับ พระพุทธเจ้า พูดเป็นภาษาง่ายๆ ว่าจะต้องมาเป็นผู้สืบทอดอันนี้ คนฟังแล้วก็บอกว่าคุยโม้ จะจริงหรือ อาตมาก็ยืนยันหลักฐานต่างๆนานาหลายอย่างแล้ว 

ยกตัวอย่างง่ายๆว่า อาตมาเป็นบุคคลในข้อที่ 10 ในสัมมาทิฏฐิ 10 ว่า สยังอภิญญา เป็นคนอย่างนี้ เป็นผู้รู้เอง รู้มาแต่ชาติก่อนแล้วมาประกาศธรรมะพระพุทธเจ้า มาแยกแยะโลกนี้โลกหน้าให้คนอื่นรู้ตามได้ 

เป็น สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเองในโลกนี้มีอยู่ (อัตถิโลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ)  

ยืนยันได้อย่างไรว่าเป็นคนนี้ ก็คนนี้รู้สัมมาทิฏฐิตั้งแต่ข้อ 1 ยันข้อ 9 แล้วขยายความให้พวกเรารู้จักแล้วก็ทำตาม สัมมาทิฏฐิ 10 นี้ สัมมาทิฏฐิทั้ง 9 นี้ อาตมาเป็นผู้ที่ 10 ก็แล้วกัน อีก 9 อันนั่นแหละ สามเส้า 

สัมมาทิฏฐิ 10 ที่ยังจัดการอาสวะอยู่
เป็นส่วนแห่งบุญ(ปุญญภาคิยา)  ให้ผลวิบากแก่ขันธ์(อุปธิเวปักกา). 

1. ทานที่ให้แล้ว มีผล(ให้กิเลสลด)  (อัตถิ . ทินนัง) ผลคือผลโลกุตระ 

2. ยัญพิธี (พิธีการปฏิบัติ) ที่บูชาแล้ว  มีผล  (อัตถิ  ยิฏฐัง) 

3. สังเวย(เสวย)ที่บวงสรวงแล้ว  มีผล  (อัตถิ  หุตัง) 

ผู้ที่เป็น สยังอภิญญา สามารถแจกแจงอธิบายสัมมาทิฏฐิทั้ง 9 ข้อได้ อธิบายแล้วผู้ฟังเข้าใจ ยินดี ซาบซึ้ง ปฏิบัติตาม ได้มรรคผลตาม

ทานมีผล สีลพรตมีผลแล้ว การเสวยผลเป็นอย่างไร หุตัง

อาตมาก็อธิบายขยายความไว้หมดแล้ว ผู้ที่ติดตามฟังอาตมาจริงๆโดยไม่มีอคติ จะรู้ว่าคนผู้นี้ อธิบายไม่เหมือนใคร อธิบายแล้ว ปฏิบัติแล้ว ทานที่ให้ ยืนยันในพระไตรปิฎก อาตมาก็เอาทานสูตรมายืนยันอธิบาย ทานที่ให้แล้วมีผลคือ ทานที่ให้ไปแล้ว อย่ามี สาเปกโข อย่างนี้เป็นต้น ทำอย่างนี้ได้สำเร็จเลย ทานไม่ต้องการที่จะหวังว่าจะได้อะไรตอบแทน 

คุณต้องทำใจในใจของคุณ เป็นเช่นนั้นจริง ไม่ใช่ไปทำทานแล้ว อิมินาสักกาเรนะ อย่างนั้น เมื่อไหร่จะหมดภพชาติกันเล่า อาตมาก็สอนทำทานแล้วไม่ต้องมีสาเปกโข ไม่ต้องเอาอะไรตอบแทนเลย ไม่ต้องมีจิตที่หวังอะไรตอบแทนเลย เป็นทานอย่างสูญ ให้แล้วให้เลยสุดไปเลย จบ ไม่มีบุญคุณอะไรทั้งนั้น อย่างนี้เป็นต้น 

ล.23 ข.49 ทานสูตร เทวดา 6 อย่าง พรหม 1 อย่าง

อันที่ 1 จาตุมหาราชิกา(ท้าวกุเวร ท้าววิรุฬหก ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์) คือ ทำทานแล้ว

1. ยังมีความหวังให้ทาน สาเปกฺโข(มุ่งหวัง) ทานํ เทติ

2. มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ปฏิพทฺธจิตฺโต(ผูกพัน) ทานํ เทติ

3. มุ่งการสั่งสมให้ทาน สนฺนิธิเปกฺโข(สั่งสม) ทานํ เทติ

4. ให้ทานด้วยคิดว่า เราตายไปจักได้เสวยผลทานนี้ ปริภุญฺชิสฺสามีติ(ให้ข้ามภพชาติ) ทานํ เทติ 

อันที่ 2 ดาวดึงส์ คือ ทำทานเพราะว่าเห็นว่าเป็นความดี

อันที่ 3 ยามา คือ ทำทานเพราะเพื่อเป็นประเพณี

อันที่ 4 ดุสิต คือทำทานเพราะเห็นว่า สมณะหุงหาอาหารเองไม่ได้

อันที่ 5 นิมมานรดี คือทำทานเพราะทำตามฤาษีใหญ่ๆ

อันที่ 6 ปรนิมมิตวสวัตตี ทำทานเพราะว่า อยากได้ปลื้มใจ(อตฺตมนตาโสมนสฺสํ)

อันที่ 7 สหายแห่งพรหม คือทำทานอย่างมี จิตฺตาลงฺการ จิตฺตปริกฺขารํ (ต้องทำปุญญาภิสังขาร ทำทานเพื่อลดกิเลส) 

ตายแล้วก็ไม่รู้ว่าต้องวนกลับมาแต่คิดว่าจะไปอยู่กับพระเจ้า บนสวรรค์มีพระเจ้าเป็นเจ้าของความทุกข์ไม่มี ซาตานไม่มี แต่เขาก็มีซาตาน เขาก็พูดถึงซาตานแต่ก็ไม่เรียนรู้ชะตาเลย ซึ่งที่จริงแล้วซาตานกับพระเจ้าอันเดียวกัน พระเจ้าเมื่ออวิชาขึ้นเมื่อไหร่ก็เป็นซาตานเมื่อนั้น พระเจ้าที่มีอวิชชาก็คือซาตานดีๆนั่นแหละ นี่ไม่ได้ว่านะแต่พูดสัจธรรมสู่ฟัง ความจริงอันนี้อาตมาก็พูดไปอย่างพาซื่ออย่างจริงใจปรารถนาดี ที่จะต้องสาธยายให้เข้าใจให้รู้ความจริงชัดๆ 

อาตมาว่าชาตินี้อาตมามาเปิดเผย เปิดตัว เปิดสัจธรรม โป๊ จนเรียกว่าเปลือยสุดยอด นู๊ดไม่มีอะไรเหลือ พูดความจริงไปหมด 

ยิ่งปัญญา 8 ที่อาตมาเขียนอยู่นี่ เล่ม 1 ก็ยังทวนอยู่ ยังไม่เสร็จเลยยังไม่ได้ครึ่งเลย เขาก็ต้องการเอาไปทำเป็นเล่มพิมพ์ออกมา อาตมาก็ไม่รู้จะทำยังไง มันรู้สึกว่าทำแล้วหน้าขยายความให้ละเอียดอีกก็ทำ ยังคิดว่า เอาน่า พอนะ แต่มันก็ยังไม่พอ อยากให้ละเอียดชัดๆเข้าไปอีก ก็ยังคงต้องประมาณนึงก็พอ 

ตอนนี้ก็พูดถึงตัวเองบ้างว่ามันอ่อนแรงมาก เมื่อยก็ง่าย แต่ถ้าได้เขียนหนังสือนี้ไม่เมื่อยง่ายๆเลย ได้เขียนหนังสือธรรมะบันทึกลงไปไม่เมื่อยง่ายๆเลย ไม่มีปวดหลังปวดเอวในการเขียนหนังสือ ไม่เคย นั่งไปเถอะ 3 ชั่วโมง 4 ชั่วโมง 5 ชั่วโมง แต่ 8 ชั่วโมงเดี๋ยวนี้เขาไม่ให้แล้วแต่ก่อนนี้ทำ เดี๋ยวนี้เขาไม่ให้ทำ 3 4 ชั่วโมง แต่ 5 ชั่วโมงไม่ให้แล้ว คนคอยดู ให้ลุกเดินให้นอนพักบ้าง เดี๋ยวนี้ผู้ควบคุมดูแลมี ทั้งปัจฉาฯ ทั้งผู้ที่ดูแลพยาบาล 

ท้องไม่ผูก สบายท้องไส้ ได้เวลา อุจจาระก็สบาย คือ มันสร้างสังขาร อวัยวะเจ้าการต่างๆ มันมีคุณภาพ มันดี 

สู่แดนธรรม... นิมนต์พ่อท่าน เขียนหนังสือเยอะๆเลยครับ 

พ่อครูว่า... ไม่นิมนต์ก็เขียนอยู่แล้ว เขียนไปให้มากที่สุดเท่าที่เราจะลากสังขารยืนยาวไปอีกได้เท่าไหร่ เพราะมันมีอะไรต่ออะไรที่จะบันทึกลงไป เพื่อให้เข้าใจให้ได้รู้อะไรเอาไว้ จะว่าหลงก็ไม่ใช่หลง ก็คิดว่ามันเป็นสัจจะ ที่ไม่มีใครเข้าใจได้อย่างนี้ แล้วมันดีไหม เอ๊.. ผู้ที่เขารู้เขาเข้าใจก็ว่าดี นอกจากคนอ่านไม่รู้เรื่องก็ว่าไม่ดีไม่รู้เรื่อง ก็จะไปห้ามเขาได้อย่างไรเขาก็ไม่รู้เรื่อง แต่คนรู้เรื่องก็โอ้โห.. สุดยอดๆ อย่างนี้สุดยอด เพราะฉะนั้นคนที่รู้ดีเขาก็ยอมรับ ก็เป็นธรรมชาติ คนที่เขาไม่รู้ เขาจะไปยอมรับได้อย่างไรว่าดี เขาไม่รู้ เขาไม่มีปัญญาตัดสิน เขาไม่มีความรู้ที่จะมาตัดสินอะไรได้ แต่คนที่รู้จริงๆก็ต้องยอมรับ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือชาวหรรษาที่แท้จริง วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2565 ( 19:56:26 )

สยังอภิญญาผู้มาสืบทอดเผยธรรมะพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ไม่อยากจะตอบคุณคนนี้ หากตอบไปมากอาสวะเขาก็จะเจริญ​ อาตมาก็ขอบอกง่ายๆสุภาพว่า อาตมาเป็นผู้ที่มาสืบทอดศาสนาพระพุทธเจ้ามา บอกตรงๆว่าได้รับปากอาตมาเป็นคนหนึ่งที่เกิดในยุคของพระพุทธเจ้าสมณโคดมใกล้ชิดและท่านได้มอบหมายให้อาตมามาเป็นผู้สืบทอดอันนี้ยืนยันอยู่ในพระไตรปิฎกในสัมมาทิฎฐิ 10 ข้อที่ 10 ว่า  สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วย ตนเอง ในโลกนี้ มีอยู่ (อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ) ผู้ที่เป็นสยังอภิญญา คือ ความรู้ของตนเอง มีมาแล้วของตนเอง คำว่าของตนเองไม่ได้หมายถึงสยัมภูที่เป็นของตัวเองของพระพุทธเจ้า แต่ของอาตมานั้นเป็นแค่ของตัวเองขั้น สยังอภิญญา พอมายุคนี้อาตมามาเกิดเป็นไก่ตัวพี่ เจาะกระเปาะไข่ออกมาได้ก่อนใคร มายืนยันเปิดเผยธรรมะพระพุทธเจ้า ไม่มีใครเป็นไก่ตัวพี่กว่าอาตมาเป็น พระพุทธเจ้าท่านใช้คำว่าไก่ตัวพี่ในยุคของท่านที่ท่านตั้งศาสนา ในยุคนั้นท่านก็เป็นไก่ตัวพี่แต่สำหรับในยุคนี้อาตมาก็เป็นไก่ตัวพี่ที่เป็นพระโพธิสัตว์ไม่ใช่เป็นพระพุทธเจ้า ที่อาตมาสอนนี้เป็นธรรมะของพระพุทธเจ้าที่มีของตัวเองด้วยความจริงใจ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 10:18:50 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 07:53:14 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:38:59 )

สยังอภิญญาผู้สืบทอดศาสนาพุทธให้ถึง 5,000 ปี

รายละเอียด

อาตมาเอามาเองข้ามชาติ จากของพระพุทธเจ้าสืบทอดมาจนมาในชาตินี้ก็เป็น สยังอภิญญา เป็นของตัวเองไม่มีใครมาเป็นอาจารย์ ไม่ได้ไปเรียนมาจากสำนักไหน คือเขาไม่เชื่อหรือเขาฉลาดไม่พอเข้าใจไม่ได้ อาตมาจะพูดอย่างไรคุณก็จะเข้าใจเช่นเดิม จะไปบังคับโคให้กินหญ้าไม่ได้หรอก คุณเป็นผู้เข้าใจผิดก็เลยงง ตั้งใจหน่อย โยนเข้าใจเก่าของคุณทิ้งถังผงทิ้งทะเลไปเลย…เอาไปทิ้งแม่น้ำโขงให้มันไหลไปไหลไป ตั้งใจฟัง คุณกุ๊ก มันไม่ขาดหรอกยังต่อกันมา เป็นการพูดกันอยู่ในผู้รู้พระพุทธเจ้าก็ตรัสเป็นนัยไว้ พระอรรถกถาจารย์ที่มีภูมิธรรมรู้ก็เอามาพูดต่อว่าพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าศาสนาพุทธจะอยู่ไปถึง 5,000 ปีก็มาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงวันนี้มันก็ถึงครึ่งหนึ่งของ 5,000 ปีศาสนาพุทธก็เสื่อมลงไปเกือบหมด อาตมาเป็นผู้สืบทอดอยู่รู้ดีรู้ชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้นแล้วมันก็จริงอาตมาก็มาทำงานหนักอย่างแท้จริงในยุคนี้ซึ่งมันหายไปหมดแล้วมันไม่เหลือเชื้อมาก็เอาของตัวเองนี่แหละมาก็มาพยายามปลูกฝังลงไปต่อเชื้อยากเพราะว่าอาตมาเป็นคนมาพิสูจน์ธรรมะโดยตัวเอง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 10:02:38 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 07:55:02 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:39:50 )

สยังอภิญญาผู้มากอบกู้ศาสนาพุทธ

รายละเอียด

อาตมาก็พยายามจะปลุกพวกที่ไปหลงนั่งหลับตาสมาธิ ย้ำแล้วย้ำอีกเพราะสงสารเขาว่ามันไม่ใช่ของพุทธเลย อย่าไปงมงาย เลิกได้แล้ว อย่าไปหลงผิดคิดว่าเป็นพระอรหันต์กัน ติดหลงใหลตามกันมาตั้ง 2,500 กว่าปีแล้วเสื่อมหนัก อาตมาก็มาปลุกขึ้น แต่เขาไม่เชื่ออาตมา ผู้ที่เชื่อแล้วชักตื่นขึ้นมาบ้างก็ดี 

เพราะอาตมาอธิบายไม่ได้อธิบายนอกรีต ทางโน้นอธิบายไม่ได้อย่างอาตมาหรอก ทางนั่งหลับตา แม้แต่จะเรียนพยัญชนะเก่งพระอภิธรรม ขออภัยไม่ได้ไปทักท้วงอะไร เขาก็อธิบายไม่ได้อย่างอาตมา เพราะเขาจะอธิบายตามพยัญชนะ ถ้าใครไปซักถามพยัญชนะเก่งๆให้เป๋นะ เข้าป่าเลย แต่ถ้าอาตมา ถ้ามาซักคำพยัญชนะ อาตมาไม่เข้าป่า เพราะมีสภาวะแล้ว ถ้าจะดึงให้เข้าป่า คุณพาอาตมาออกป่าทำไม อาตมาก็จะดึงเขากลับเท่านั้นแหละ 

ก็ไม่ใช่เรื่องอวดดี  แต่เป็นเรื่องที่จริงใจ  เป็นเรื่องที่พูดทุกอย่างเปิดเผยตัวเองว่าอาตมาขึ้นมากอบกู้ศาสนาพุทธเอาโลกุตรธรรมคืนมา ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่านี่คือความเสื่อม โลกุตระจะหายไปแล้วก็จะมี สยังอภิญญา ขึ้นมากอบกู้ สยังอภิญญา คือผู้รู้จักสัมมาทิฏฐิ 10

รู้จักว่าทานมีผล ยัญพิธีมีผล สังเวยบวงสรวงมีผล กรรมมีผล โลกนี้มีโลกหน้ามี พ่อมีแม่มี สัตว์โอปปาติกะมี และ สยังอภิญญา ก็ต้องมี แล้วใครล่ะ ออกมายืนยันว่าตัวเองเป็น สยังอภิญญา ก็ นายรัก รักพงษ์ไง ออกมาบวชแล้วก็ยืนยันว่าตัวเองเป็น สยังอภิญญา พูดเหมือนเล่นๆแต่ที่จริงพูดจริง ไม่ได้พูดเล่น 

อาตมามาทำหน้าที่นี้จริงๆ ก็ยืนยันไปหมดแล้ว แล้วไม่ใช่ยืนยันธรรมดา อธิบายสาธยายขยายความนัยยะสำคัญของสภาวะต่างๆ คนที่มีปฏิภาณไหวพริบฟังก็จะรู้ อันนี้ถึงอย่างไรก็ฟังแล้วมีคำอธิบาย​ มันก็น่าทึ่งว่า อธิบายได้อย่างไร เป็นเหตุเป็นปัจจัยกันและกัน ต่อเนื่องกันและกัน ไม่ได้อธิบายแล้วก็ขาดๆวิ่นๆ แล้วไปยังไงมายังไงต่อ ไม่ใช่ จะรู้ตัวเหตุตัวผล ตัวเหตุปัจจัยไปเรื่อยๆตลอด เป็นเช่นนั้น 

เอ้า ติดตามฟังไปดีๆอาตมาทำงานมา 50 กว่าปีแล้ว คนไหนยังไม่ตื่น ยังไม่รู้ ยังไม่เชื่อเลยก็สุดวิสัยที่จะช่วยเขา อาตมาก็ช่วยแล้ว ช่วยไม่ได้ก็ต้องปล่อยไป แล้วทำไมก็บอกว่าคุณน่ะรู้ตัวเถอะ ออกนอกรีตนอกทางเป็นเดียรถีย์ แล้วจะมีน้ำหน้ามาช่วยเขา คุณเข้าใจไหม ถ้ามีก็ต้องเข้าใจเขา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาถลกหนังพญานาคจอมหลับตา วันพุธที่ 26 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 22 พฤษภาคม 2565 ( 09:32:57 )

สยังอภิญญามาขยายความเรื่องสัมมาทิฏฐิ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นแม้แต่สัมมาทิฏฐิข้อแรกก็ผิด สอนไม่ได้เข้าร่องเข้ารอยของพระพุทธเจ้าเลย นี่แหละอาตมาเป็นสยังอภิญญา แล้วมาขยายความเรื่องนี้ หากอาตมาไม่ใช่สยังอภิญญา อาตมาก็ไม่รู้ คนไม่ใช่สยังอภิญญาก็อธิบายให้เหมือนที่อาตมาอธิบายได้ ศีลพรตก็เช่นกัน ข้อปฏิบัติเพื่อไปนิพพาน แต่เขาทำกันสีลัพพตุปาทานไม่ได้เข้าแม้สีลพรตปรามาส ยังทำกันมิจฉาทิฏฐิกันอยู่คือยังไม่รู้จักความเป็นกาย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 10:28:49 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 07:55:58 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:41:40 )

สยังอภิญญามีจริงเป็นจริงได้อย่างไรในยุคนี้

รายละเอียด

อภิภู นั้น ยังภูมิต่ำกว่า สยัมภู สยังอภิญญา ยังภูมิต่ำกว่า อภิภู สยังอภิญญา คือผู้ดำเนินไปสู่ อภิภู 

สยังอภิญญา คือ ผู้ที่มีแล้วของตนเอง ข้ามชาติมา อย่างอาตมานี่ชัดเลย ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ชัดเลยในสัมมาทิฏฐิ 10 ข้อที่ 10 สยังอภิญญา สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ  ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วย ตนเอง ในโลกนี้ มีอยู่ (อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ)  อาตมาเป็นคนนั้นระบุเป็นบุคคลจริงตัวตนจริงในยุคนี้ แล้วอาตมาก็ยืนยันว่าใช่คนนี้ แล้วคนที่เขาไม่เชื่อมันก็น่าสงสารไป แต่คนที่เข้าใจแล้ว ก็โอ้โห แล้วมันมีจริงเป็นจริงได้อย่างไร 

เป็นจริงก็คือ 1 รู้ธรรมะในขั้นโลกุตระ รู้โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ สูงกว่าอรหันต์ อย่างน้อยก็ขั้นที่ 7 ขึ้นไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภู คือผู้นำพาคนไปสู่ความจนอันประเสริฐ วันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 ธันวาคม 2564 ( 15:50:24 )

สยังอภิญญามีในพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

รายละเอียด

ถูกต้องก็ขอเสริมว่า สยังอภิญญามีในพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั้นก็ใช่ แต่ว่า สยังอภิญญานี้ต้องเป็นไก่ตัวพี่ หรือในระดับเถรวาท ต่างจากอาจาริยวาท อาจารย์นั้นเป็นผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์สอนเยอะแยะแตกต่างกันมากมาย เป็นพหูพจน์ ไม่กำหนดเฉพาะเลย แต่ถ้าเป็นเถรวาท เป็นเอกพจน์ เถรวาท หมายถึงผู้ที่มีวาทะของเถรคือผู้เป็นเถระ แล้วพระเถระนี้มีนิยามชัดเจนว่า ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในยุคของพระพุทธเจ้าแต่ในยุคใดก็แล้วแต่ จะเป็นพระโมคคัลลานะพระอานนท์พระกัจจายนะ แม้แต่พระกัสสปะก็ตามในยุคของพระสมณโคดมมีทั้งนั้นองค์อื่นก็ตาม เป็นผู้ที่เกิดขึ้นในยุคพระพุทธเจ้ายิ่งเป็นอิติสาวกเลย คือมีเอตทัคคะ เป็นผู้ที่ได้รับการกำหนดเป็นพิเศษของพระสมณโคดมก็มี 80 กว่ารูป ชำนาญถนัดทางต่างๆ และพูดชัดเจนมีความรู้ความสามารถจริงไม่ใช่ของปลอมไม่ใช่ของเสแสร้งมันไม่ได้ มันต้องเป็นของจริงออกมา เพราะฉะนั้นในยุคนี้เป็นยุคที่ศาสนาพุทธจะกระเตื้องขึ้นเรื่อยๆ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 22 เมษายน 2563 ( 14:29:20 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:27:27 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:40:34 )

สยังอภิญญารู้เองพูดเอง

รายละเอียด

โชคดีที่ ชฏิลทั้งหลาย ไม่เหมือนคุณคนนี้ คุณเข้าใจไม่ได้หรอกว่าอาตมามีธรรมะมาเอง ในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10 เป็นผู้รู้เองสยังอภิญญา แล้วอาตมาก็บอกว่าอาตมาเป็นคนนั้น คนที่เชื่อ เข้าใจดีก็ไม่ปฏิเสธ

ข้อ 10 นี้ท่านบอกว่า...สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ  ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง  เพราะรู้ยิ่งด้วย ตนเอง  ในโลกนี้  มีอยู่  (อัตถิ  โลเก   สมณพราหมณา   สัมมัคคตา  สัมมาปฏิปันนา  เย  อิมัญ จ โลกัง   ปรัญ จ  โลกัง   สยัง อภิญญา   สัจฉิกัตวา  ปเวเทนตีติ) คนไหนตาดีก็จะเห็น อัตถิโลเก ก็จะเห็น

ถ้าอาตมาไม่พูดแล้วใครจะมาพูดแทนอาตมา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ คนจนจริงจึงทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมจริง วันพุธที่ 30 มกราคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(สัมมาทิฎฐิ 10) ตอน ศาสนาพุทธจะไม่มีการหลอกลวง


เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2564 ( 19:52:03 )

สยังอภิญญาหรือไก่ตัวพี่คือใคร

รายละเอียด

นอกจากผู้มีสยังอภิญญาได้สั่งสมภูมิธรรมมาเต็มแล้วตั้งแต่ชาติก่อน มาถึงชาตินี้ แม้จะไม่มีผู้รู้ผู้สัมมาทิฏฐิ ผู้เป็นครูเลยก็ตาม สยังอภิญญาผู้นี้ก็สามารถนำโลกุตรธรรมมาเปิดเผยเป็นไก่ตัวพี่ได้ จึงเรียกผู้นั้นว่าสยังอภิญญา

อาตมาก็ประกาศตนเองเป็นสยังอภิญญา ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในสัมมาทิฏฐิ 10 เป็นผู้ที่อธิบายสัมมาทิฏฐิทั้ง 9 และเอามาให้พวกเราปฏิบัติได้เกิดมรรคผลเป็นโลกุตรธรรมจนเกิดผลนั้นทำให้พวกเรามารวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นเอกีภาวะ เป็นสังคมรวมอยู่กันอย่างสามัคคี ไม่วิวาทกัน อยู่กันอย่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ระลึกถึงกัน รักกันเคารพกัน นี่เป็นสัจธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เอาไว้ เอามายืนยันได้หมด ตรงกันหมด ก็ตรวจสอบเอา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ผู้ไม่รู้ตัวเองไม่รู้ทั้งหมด ผู้รู้ทั้งหมด รู้ตัวเอง วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 10:49:27 )

สยังอภิญญาเป็นคนอย่างไร 

รายละเอียด

อาตมาขอยืนยัน แล้วสยังอภิญญาจะเป็นคนอย่างไร สยังอภิญญา ก็คือเป็นคนที่อธิบายโลกนี้ โลกหน้า โลกที่กำลังพูดกันอยู่นี้กำลังแยกมาแค่ 9 แล้วขยายเป็น 10 คนที่ไม่มีอคติฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา สุสูสังลภเตปัญญัง คนที่ ทุสูสังก็อวิชชา เพราะฉะนั้นอาตมาก็ยืนยันว่าอาตมาเป็น สยังอภิญญา อย่างพวกคุณนี้เชื่อก็มาปฏิบัติตาม อาตมาก็พาปฏิบัติศีลสมาธิปัญญา อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลก 10 แบบ ที่ไม่ใช่แค่ Imagine ตอนที่ 1 วันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 พฤษภาคม 2565 ( 20:26:23 )

สยังอภิญญาเป็นบุคคลในสัมมาทิฎฐิข้อที่ 10

รายละเอียด

คือพูดไปแล้วจริงๆ ขออภัยต้องพูดเรื่องนี้ อาตมาเกิดมาในยุคนี้ เป็นยุคที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้จริงๆเลยว่าเป็นยุคที่โลกุตรธรรมมันสูญไปหมดแล้วเหมือนกลองอานกะ 

นี่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่อาตมามุกขึ้นมาแต่เป็นเรื่องจริง พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าต่อไปในอนาคตข้ามชาติมาเกิดชาตินี้เป็นพยานพยานเป็นบุคคลในสัมมาทิฎฐิ 10 หลักจะเป็นคนอย่างเราโลกุตระจะเสื่อมสูญ ไม่มีแล้ว กลองอานกะ ไม่เหลือเนื้อมีแต่ชื่อกลองก็คือชื่อโลกุตระภาษายังอยู่เป็นโลกุตระ แต่มันไม่มีเนื้อแท้เลย 

อาตมาพูดบอกแต่ต้นว่าอาตมาเป็น สยังอภิญญา เป็นผู้ที่มีโลกุตรธรรมมาแต่ชาติปางก่อน มาข้ามชาติมาเกิดชาตินี้เป็น สยังอภิญญา เป็นบุคคลในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10 ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎก ดีที่มีหลักฐานยืนยันเอาไว้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลก 10 แบบ ที่ไม่ใช่แค่ Imagine ตอนที่ 1 วันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 พฤษภาคม 2565 ( 09:27:57 )

สยังอภิญญาเป็นปัจเจกในระดับ 7 มีความรู้ข้ามชาติได้

รายละเอียด

เมื่อผู้ที่ได้มีชีวิตข้ามชาติถึงขั้นชื่อว่า สยังอภิญญา ซึ่งต้องเกิดเป็นปัจจัตตังมาก่อนแล้ว มีของตนมาก่อนแล้ว มีภูมิสูงถึงขั้นปัจเจกบุคคลขั้นต้น จากปัจเจกขั้นต้นจึงจะเจริญสูงขึ้นเป็นสยังอภิญญา ขีดสยังอภิญญาจึงเป็นปัจเจกในระดับ 7 มีความรู้ข้ามชาติได้โดยไม่ต้องมีครูบาอาจารย์ ซึ่งผู้ที่เป็น สยังอภิญญา หากไม่ได้ยินจากโอษฐ์ จากปากพระพุทธเจ้า อย่างน้อยก็ต้องได้อ่านจากพระไตรปิฎกหรือตำราของสัตบุรุษ หรือผู้ที่รู้จริง สัมมาทิฏฐิจริงเขียนไว้ จะรู้เองโดยที่ว่าไม่ได้มีเชื้อจากสัตบุรุษ จากพระพุทธเจ้าไม่ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม จักร 4 คือธรรมะของโลกุตรบุคคล

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2564 ( 12:51:16 )

สยังอภิญญาเอาสัจธรรมพระพุทธเจ้ามาแก้ไข

รายละเอียด

วันที่พระพุทธเจ้าบอกกับพระอานนท์ว่าเราจะอายุยืนยาวจนถึง 1 กัปหรือเกินกว่านั้นก็ได้ เพราะฉะนั้นจบกิจของท่านก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้แล้ว ก็ปล่อยให้อาตมาหนักอยู่นี่แหละ ก็ทำเพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสัจจะ อาตมาไม่ใช่พูดเล่นไม่ใช่พูดอะไรที่เป็นบาป บอกว่าตัวเองเป็นสยังอภิญญา เอาสัจธรรมพระพุทธเจ้ามาแก้ไข หยั่งลง ซึ่งมันได้ผิดเพี้ยนไปมากแล้ว ไปไกล แค่คำว่า บุญ แค่คำว่า สมาธิ คำว่า ฌาน มันออกนอกของพระพุทธเจ้าไปแล้ว จริงๆแล้วคำว่าสมาธิคำว่า ฌาน ไม่ใช่เข้าใจได้ง่ายๆมันเป็น อจินไตย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 15 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2563 ( 11:22:34 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:28:11 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:41:04 )

สยังอภิญญาในสัมมาทิฏฐิข้อ 10

รายละเอียด

ที่ต้องบอกว่า สยังอภิญญาในข้อ 10 คือผู้รู้เอง ไม่มีใครสอน แล้วรู้เองมาจากไหน มาจากชาติก่อนๆที่ได้เรียนรู้มาจากพระพุทธเจ้าเรียนรู้ได้มาแล้วแน่นอน ในยุคนี้พระพุทธเจ้าไม่มีแล้วหรือไก่ตัวพี่ที่สอนอาตมาก็ไม่มี นี่คือรู้เองในขณะที่เป็น สยังอภิญญา ไม่ใช่สยัมภูที่เป็นพระพุทธเจ้าที่รู้เอง บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ อาตมาไม่ใช่ อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ระดับ 8 ก็ยังไม่ใช่ อาตมาพูดจริง ยืนยันจริง ขออภัย คนโง่เท่านั้นจะไม่เชื่ออาตมา หากไม่โง่จะฟังแล้วรู้เลยว่าถ้าไม่ใช่ของจริงจะไม่พูดอย่างนี้ไม่มีอย่างนี้มาพูดหรือไม่กล้าพูดเช่นนี้ คนที่ไม่ฟังอาตมานั่นแหละคือคนที่ นัตถิ  โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา  เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา  ปเวเทนตีติ คือไม่มี ผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ  ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วย ตนเอง  ในโลกนี้ นี่ไงที่มาพูดอยู่นี่ แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามี พูดชัดๆดังๆด้วยไม่ได้พูดให้เบาแว่วได้ยิน ก็ไม่เชื่อไม่รู้ไม่เห็น นัตถิโลเก ตามืดบอด  อาตมาพูดหมดเปลือกพูดไม่เหลือพูดไม่บันยะบันยัง พูดไม่ปิดบัง  พูดไม่ไว้หน้า พูดอย่างเหลือนาทีเดียว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 11 มีนคม 2563


เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2563 ( 10:13:56 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 07:57:45 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:42:24 )

สยัมภู

รายละเอียด

1. ปานพระพุทธเจ้า

2. ยิ่งใหญ่ ตรัสรู้เองโดยชอบ และสร้างศาสนาได้

3. พระพุทธเจ้าผู้มีภูมิตรัสรู้ได้เอง โดยไม่มีใครสั่งสอน

4. พระผู้เป็นเอง มีเอง(ธรรมที่เป็นพุทธทั้งหมดทั้งปวงนั้นมีในพระองค์เองมาแล้วโดยไม่ต้องเอามาจากใคร) คือตรัสรู้ได้เองโดยไม่มีใครสั่งสอน ซึ่งก็คือพระพุทธเจ้า

5. ผู้สูงกว่าพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ ซึ่งคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า219-259

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 72

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า90

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 121, 141,142


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:40:28 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:10:33 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:43:06 )

สยัมภู หรือ ตถาคต

รายละเอียด

คือ การตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ต้องสั่งสมบำเพ็ญบุญบารมีหลายชาติ ได้เรียนรู้กับพระอาริยเจ้ามาหลายชาติ ได้พบพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆมาแล้ว แต่ชาติก่อนๆ ได้สั่งสมบำเพ็ญบุญบารมีมาจริง ได้พัฒนาตนเองอย่างสูงสุดแห่งที่สุดแล้วในความเป็นมนุษย์ ที่พึงมีพึงเป็นของมหาเอกภพ พระพุทธเจ้าเกิดมาจึงรู้เองเห็นเอง พึ่งตนเอง เป็นเอง จนไม่ต้องพึ่งไม่ต้องอาศัยจากใคร เป็นผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์ของพระพุทธเจ้า ตรัสรู้ มรรคองค์ 8 อริยสัจ 4 มาหลายชาติแล้ว จึงมีของพระองค์เอง ไม่ต้องมีใครสอน ตรัสรู้ได้เองเป็นปัจเจกบุคคล ปัจเจกพุทธะ

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 200


เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 12:21:42 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:43:13 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:43:41 )

สยามแปลแบบคนจีน

รายละเอียด

คนจีนเขาบอกว่า สยามแปลว่าคนป่า " เสียมนั้ง" คนป่าไม่ใช่คนเจริญ เหมือนกับทางฮินดู เรียก "อาริยกะ" กับ " มิลักขะ"  พวกมิลักขะพวกคนเถื่อนคนป่า ส่วนอาริยกะคือคนเจริญ ทีนี้มีคนแปลสยาม แปลมาก็เป็นชั้นได้ความสุขเลยดาวดึงส์ อยู่ยามา เป็นท้าวสุยามา ดูแลสวรรค์ชั้นยามา ก็แล้วแต่จะตีความไป 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 10:02:48 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:56:49 )

สยามแปลแบบพยัญชนะ

รายละเอียด

ถ้าเอาอาตมาตีความ" สยะ" แปลว่าเป็นเรา  เป็นเรามีคำว่า" สก สย สว สย" เป็นตัวตนที่กลางๆ  สก คือตัวตนที่มากใหญ่  สว เป็นพยัญชนะตัวที่ 4 ย ร ล ว ส  ทีนี้ สย คือใช่ตัวเรา ใช่แล้วตัวเรา นี่แปลอย่างโพธิรักษ์ ไม่ได้แปลตามที่เขาเรียนตำราไวยากรณ์มานะ ทำไมมาอยู่กับไทย สยาม เคยได้ยินคำว่า สยัมภูไหม ใกล้เคียงกันไหม ผู้รู้สูงสุดเป็นผู้รู้ได้ด้วยตนเอง สยังอภิญญา คือผู้รู้ที่รู้ได้ด้วยตนเอง อาตมาประกาศตัวเองว่าเป็น สยังอภิญญา เพราะว่าในชาตินี้มีความรู้ที่รู้ธรรมะพระพุทธเจ้าเอาของตัวเองมาพูดเอามาอธิบายไม่เหมือนของที่เขารู้กัน และบอกด้วยว่า...ของเขาผิดของอาตมาถูก พูดอย่างนี้ด้วย ยืนยันถึงขนาดนั้นแล้วอาตมาก็ยังมั่นใจว่าอาตมาไม่ได้พูดตลบตะแลงพูดอวดดีอะไร ก็ขอยืนยันว่าอาตมาพูดความจริง ใครจะรู้สึกหมั่นไส้ว่าเป็นพวกอวดดีก็แล้วแต่ แต่ต้องพูดความจริง จำเป็นที่จะต้องยืนยันความจริงเท่านั้นเอง ใครจะคิดอย่างไรอาตมาห้ามไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 10:04:41 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 13:02:44 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:33:47 )

สยํ อภิญญา , สยัง อภิญญา

รายละเอียด

1. สมณพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้ โลกหน้าให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเองมีอยู่

2. รู้ด้วยตนเอง

3. คนผู้มีความรู้ระดับโลกุตรภูมิที่ตนได้มาเป็นของตนถึงขั้นนิยต หรือแน่นอนเที่ยงแท้แล้ว

4. ผู้สูงกว่าปัจเจกบุรุษ

5. ผู้มีภูมิโลกุตรธรรมของตนเองมากพอถึงขั้นเกิดมาแต่ละชาติในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง เป็นผู้มีของตนเองได้จริงมาแล้ว และสามารถถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่นได้ในยุคนั้นสมัยนั้นโดยไม่ต้องพึ่งอาริยะองค์อื่น มีอภิญญาสูงกว่าปัจเจก

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 198 ,  259

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 72

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 141

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 47


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:27:35 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:14:50 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:44:32 )

สรณ

รายละเอียด

สรณ  คือ การรบ แปล สรณะ ว่าคือที่พึ่ง  แต่พึ่งแต่การรบ  คนไม่ได้รบกิเลส กิเลสมันก็รบกับคุณ กดหัวคุณตลอดเวลา  คุณไม่ได้เป็นนักรบ แพ้กิเลสตลอดเวลาเลย เป็นทาสผู้ปล่อยไม่ได้ หงอให้กิเลสเป็นนายตลอดกาล

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต  สันติอโศก ครั้งที่ 69  วันจันทร์ที่ 16 กันยายน  2562


เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 08:45:55 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 16:03:20 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:34:20 )

สรณะ

รายละเอียด

1. เครื่องยึดถือ หรือสิ่งที่เราพึ่งพาอาศัยเป็นเครื่องเหนี่ยวนำตัวเราให้ไปสู่สุข สู่ความเกษมสำราญ มีการต่อสู้ หรือมีสงคราม หรือมีข้าศึก หรือเป็นไปพร้อมกับบาป แต่เราต้องทำให้บาป หรือสงครามนั้นน้อย-ลง ๆ

2. เป็นแบบเป็นอย่าง เป็นหลักยึด เป็นที่พึ่ง

3. ที่พึ่ง , ที่ระลึก , บ้าน , เครื่องป้องกัน , ที่กำบัง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 56 ,ทางเอก ภาค 3 หน้า 231 ,ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 96


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:42:02 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:16:32 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:35:28 )

สรณะ

รายละเอียด

ส คือ ประกอบ รณะ คือการรบหรือสงคราม สรณะ ก็แปลว่าที่พึ่งที่อาศัย มันอาศัยอยู่

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:57:46 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 16:04:06 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:36:23 )

สรภัญญะ

รายละเอียด

คือ ความเป็นแห่งการกล่าว หริอภาษาพูด คำกล่าว คำพูด ไม่มี่ทำนอง(คีต) หมายความว่า จงกล่าวให้เป็นคำพูด คำกล่าวตรงตามสาระที่กำหนดไว้ (รัสสะหรือทีฆะ) แม้สระเสียงยาว (ทีฆะ) ก็ตามขอบเขต ซึ่งไม่ใช่กล่าวลากยาวจนเกินกำหนด คือการกล่าว การพูด คำกล่าว คำพูด ไม่ใช่เพลง ไม่ใช่คำเอื้อนอันยาวไปจากที่กำหนดด้วยสระ พระพุทธเจ้าท่านอนุญาตสรภัญญะ ท่านห้ามการสวดที่มีทำนอง หรือห้ามการสวดที่ลากเสียงอันยาว

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1หน้า.153- 154

การสวดมนต์ของพระพุทธศาสนา หน้า 28


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 13:51:14 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:42:04 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:37:47 )

สรภัญญะคือคำกล่าวให้ตรงกับเสียงสระสั้นยาว

รายละเอียด

ท่านห้ามใส่ทำนองแต่เขาก็ใส่ทำนองก็ไม่เข้าใจ พอมาถึงข้อ 21 เราอนุญาตสรภัญญะ เขาก็ไปตีความว่า สรภัญญะว่า  ท่านอนุญาตให้มีทำนอง เวรจริงๆ สระ คือเสียงสระ ภัญญะคือคำกล่าวก็กล่าวให้ตรงกับเสียงสระสั้นยาว รัสสระ ทีฆสระ เช่น นะ ก็สั้น โม ก็ยาว ตัสสะ ก็สั้น ภะคะวะ ก็สั้น โตก็ยาวหน่อย ก็เท่านี้ แต่นี่บอกว่า ท่านอนุญาตสรภัญญะคือให้มีทำนองเสนาะ เป็น นามัว ตัสสา ภาคาวาโต…เละเลย ลากเสียงยาวเอื้อนแข่งกันอีก อาตมาพูดไปเขาก็ไม่หยุดหรอก ห้ามไม่อยู่ด้วย พระพุทธเจ้าท่านให้กล่าวคำโดยภาษาถิ่น ภาษาไทยก็ออกสำเนียงภาษาไทย 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2563 ( 14:53:00 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 07:59:04 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:38:31 )

สรภัญญะหมายถึง

รายละเอียด

สรภัญญะก็หมายถึงว่า สระกับภัญญะ ภัญญะคือคำกล่าว สระคือการออกเสียง สระออกเสียง อนุญาตตามเสียง เสียงสั้นเสียงยาว ทีฆสระหรือรัสสระ กับคำกล่าว ภัญญะ กับสระภัญญะ คำกล่าวมันบอกว่าอย่างไร มันมีเสียงสั้นหรือเสียงยาว ก็ให้ได้ตามนั้น อย่าไปให้มันเกินนั้น โดยเฉพาะอย่าให้ยืดเกิน ยาวก็อย่ายาวเกิน สั้นก็แน่นอนอย่าไปยาว และอย่าใส่ทำนอง 

แต่ไปแปลกันว่า ทำนองสรภัญญะ นั่นแน่ มีเพลงๆหนึ่งชื่อว่าเพลงสรภัญญะ มีทำนอง มีเมโลดี้ด้วยนะ เจ้าประคุณเอ๋ย เบี้ยวกันไปถึงไหน ก็ไม่รู้เลย เบี้ยวบาลีกันไปตามความโง่ของตัวเอง พูดชัดๆ นี่เป็นเรื่องที่ก็แรงหน่อย อาตมาพูดชัดๆ มันก็แรง พูดกันเต็มที่นะ   

อย่างพวกเรานี้รักษาสภาพพวกนี้ไว้ได้ พวกเราก็อนุโลมตามเขาบ้าง ก็มีมาสวด เช่นมีการสวด นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต เป็นการสวดไตรสรณคมน์ เราก็สวดกันไป สวดแสดงความเคารพนับถือ ก็ใช้อย่างสั้นๆ 

อย่างชาวอโศกมีอันนี้แน่ และก็มีสวดบทอื่นๆบ้าง ไม่กี่บทที่สวดกันอยู่ พาหุง กับ มหากา อาตมาเองเห็นว่า เอาเถอะ อนุโลมกับเขาไปก่อน ก็มาสวดกัน แต่ก็ไม่ได้ใส่ทำนอง ไม่ได้ใส่เสียงยืดเสียงยาว ไม่ได้ใส่ทำนอง สวดพาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ก็สวดกันอย่างนี้ หรือมหากาก็สวดธรรมดา ไม่ได้ออกเสียงอย่างที่เขาสวดๆกันทุกวันนี้ ทุกวันนี้สวดไปก็อนุโลมตามเขาบ้าง หรืออนุโลมพวกเราที่ยังติดยังยึดอยู่ ว่า เอ้อ ! อะไร ศาสนาไม่มีการสวดมนต์เลย ก็เอา ให้บันไดเขานิดหนึ่ง บันไดขั้น 1 ขั้น 2 ก็เหลือแหล่แล้ว 

เพราะฉะนั้นเราจะสวดอยู่ก็มีพาหุงกับมหากา แล้วก็อธิบาย คำอธิบายของมหากา sinvคำอธิบายของพาหุง อาตมาก็เคยอธิบาย พิมพ์เป็นเล่มออกมาด้วย ในบทพาหุง แต่มหากาไม่ได้อธิบายเป็นเล่ม แต่พาหุง 8 อาตมาเคยเขียน เคยอธิบาย อ้าวผ่านอันนั้นไปก่อน 

สรุปอีกทีหนึ่งว่า สวดมนต์นั้น ศึกษาดีๆ ไม่งั้นคุณก็งมงายเสียเวลาเปล่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฌานโลกีย์กับฌานโลกุตระ สภาวะต่างกันเช่นไร วันพุธที่ 13 ธันวาคม 2566 ขึ้น 1 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2567 ( 15:48:48 )

สรรพสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเราให้ไปเลย

รายละเอียด

ยิ่งเราให้ อย่างไม่มีตัวตน คนอื่นก็ยิ่งจะเข้าใจ เขามีปัญญารู้ว่าอย่างนี้สิคือไม่มีตัวตน แต่หากคุณปากว่าไม่เอาแต่พฤติกรรมกลับเอาคืนอย่างซับซ้อนหรือยิ่งนานไปยิ่งไม่มีไม่เอาแต่คนปากว่าไม่มีไม่เอา แต่ยาวนานไปกลับเอาๆ มันจะฟ้องเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน จนอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ


เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2564 ( 16:55:03 )

สรรเสริญ

รายละเอียด

เป็นเสียงแซ่ซ้อง เป็นนามธรรมที่ฟุ้งกระจายไป เป็นคุณงามความดี หรือเป็นความใหญ่ความโตที่ยังไม่ได้ตั้งขึ้นจนเรียกได้ว่า ยศชั้น จนชื่อว่าฐานะ จนเป็นศักดิ์ เป็นศรีที่แน่นอนกระทั่งเป็นรูปธรรมก็ตาม

หนังสืออ้างอิง

(จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 165)


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:42:47 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:18:34 )

สรรเสริญทิ้งยากที่สุด

รายละเอียด

โลกีย์คือหลงลาภยศสรรเสริญสุข เสร็จแล้วเขาก็ต้องการปฏิบัติ จึงเข้าใจผิวเผินว่าต้องทิ้งลาภยศสรรเสริญ ทิ้งลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ออกป่า มักน้อยสันโดษ ไม่เอายศสรรเสริญ อันนี้ยาก ทิ้งไม่ได้ง่ายๆ มันหลงสรรเสริญ ​ที่อาตมาบอกว่ามหาบัวหลงสรรเสริญ​แต่ไม่รู้ตัวเองว่าหลงสรรเสริญ​ หลงว่าตัวเองเก่งมีบารมี เอาเงินเข้าประเทศเยอะ เป็นผู้ที่คนยกย่องสรรเสริญเชิดชูแม้แต่สถาบันก็ยกย่อง ก็เลยหลง แม้แต่กินเนื้อบุตรยังไม่รู้เลย ในกามฉันทะ ติดรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสสิ่งเสพติดคือหมาก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 22 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2563 ( 19:56:29 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 16:07:42 )

สรรเสริญสวรรค์

รายละเอียด

การสรรเสริญสวรรค์อยู่ อาตมาตีสวรรค์ทิ้งอยู่นี่ ผู้ที่ยังหลงว่าสวรรค์มันมียังเป็นอยากได้ ท่านยังมีสรรเสริญสวรรค์ อาตมาก็ต้องบอกให้พวกเราเข้าใจจะไปหลงสรรเสริญทำไมต้องเข้าใจว่าจิตที่เราไปสร้างอุปาทาน ไปยึดถือว่า มันเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ สวรรค์นรก คุณอยู่กับปัจจุบัน คุณไม่มีสวรรค์ ไม่มีนรก แม้ปัจจุบันมันก็มีสวรรค์หลอก นรกหลอก คุณทำความเข้าใจสวรรค์นรกตรงนี้ให้ได้คือสุขทุกข์เท่านั้นเองแล้วไม่มีสุขไม่มีทุกข์ คุณจะมีปัจจุบันที่ไม่มีสุขไม่มีทุกข์แล้วจบกิจเลย แล้วคุณทำให้ได้นะ จิตของคุณไม่สุขไม่ทุกข์เลย คุณเป็นพระอรหันต์ทันที ง่ายจะตายพระอรหันต์ คุณทำปัจจุบันให้ไม่สุขไม่ทุกข์ได้จริงๆด้วย เวทนาคุณ อ่านให้ออกสิแล้วก็ทำให้ได้ซิ อาตมาไม่ได้พูดเล่นนะนี่ ทำได้จริงแล้วคุณก็ต่อเนื่องเลยไปไม่ขาดสายเลย นิรันดร ถ้าคุณไม่ขาดสาย ไม่มีทิ้งช่วงที่จะไปมีที่ระหว่างความสุขความทุกข์แทรก..ไม่มี นิรันดรเลย คุณก็เป็นอรหันต์เดี๋ยวนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ตอน 3 วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 แรม 9 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2567 ( 15:36:38 )

สราค , สราคะ

รายละเอียด

จิตมีราคะ ก็รู้ว่าจิตมีราคะ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า274,55 , อีคิว-โลกุตระ หน้า 35,228 ,ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 111


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:43:24 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:20:43 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:40:08 )

สราคะ

รายละเอียด

สราคะ คือการเกี่ยวข้องอยู่กับ ราคะ กาม เป็นกามาวจร เป็นการอวจร อยู่ในทางตาหูจมูกลิ้นกาย ไม่ใช่ไปหลับตาไม่มีตาหูจมูกลิ้นกาย และจิตก็ไปเป็นสัมภเวสีอยู่ในภพ ไม่ใช่ อย่างนั้นไม่ใช่ศาสนาพุทธเลย หรือวิธีการปฏิบัติ และ ถ้าไปหลับตาปฏิบัตินั้น ลดกิเลสกามไม่ได้ นอกจากลดกิเลสกามไม่ได้แล้ว ก็จะไม่เข้าใจต่อไปอีกว่าเมื่อลดกิเลสกามได้แล้ว ก็ไม่ได้หลับตา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมส่งท้ายปีเก่า 2565 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 มกราคม 2566 ( 14:21:37 )

สรีรพันธุ์ (gene)

รายละเอียด

1. การสืบทอด(ดีเอ็นเอ,ยีน)ของพ่อแม่ทางสายเลือดหรือเผ่าตระกูล-สืบ ๆ กันมา

2. ความหมายเช่นเดียวกับคำว่า “กรรมพันธุ์” ตามที่เข้าใจกันทั่ว ๆ ไป

3. เชื้อพันธุ์ที่เกิดจากดินน้ำไฟลมประกอบกันขึ้นเป็นสรีระหรือร่างกาย

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 184 ,วิถีพุทธ หน้า 78 , ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 278


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 21:48:01 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:24:17 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 14:41:44 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์