คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี
เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit
วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5
วีดีโอ Loom 1 : https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044
วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk
รายละเอียด
มิได้พูดด้วยความโอ่อวด ไม่ใช่อวดอ้าง ไม่ใช่มายา
หนังสืออ้างอิง
สมาธิพุทธ หน้า218
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 07:04:14 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 08:52:07 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:28:12 )
รายละเอียด
1. ตนที่มีรูป นาม ขันธ์ 5 เท่านั้น
2. ตน , ตัวเรา , กู , ข้า , ฉัน
3. อันเป็นเรา
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า158, 159, ทางเอก ภาค 2 หน้า 362 ,617
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:04:41 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 08:56:01 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:26:21 )
รายละเอียด
1. ยึดมากขึ้นกว่าตน ก็มีตัวตนของตนอยู่แล้วยังอุตส่าห์ไปหาอื่นมาเพิ่มเป็นตัวเรา เป็นของเรา
2. ความลำบาก
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 158-159
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:06:48 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 08:58:17 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:27:00 )
รายละเอียด
มีตนยังไม่พอ ไปรับเอาบทบาทอื่น รับเอาลักษณะ แสดงออกอื่นๆ เข้าร่วม ยึดครองใส่เข้าไปในขันธ์ 5 ของตนอีก
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า159
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:08:54 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 08:59:42 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:27:30 )
รายละเอียด
“อหิจฉัตตกะ”หรือ“เห็ด”
“เห็ด”นี้จึงเป็นพลังงานเริ่มจะก้าวขึ้นสู่“ชีวะ”
“เห็ด”ยังไม่นับว่า เป็น“ชีวะ”ขั้น“พืช” ยังต่ำกว่า“พืช”
ต่อจาก“เห็ด” ก็เป็นพลังงานที่เรียกว่า “ภูตคาม” จึงจะเริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็น“ชีวะ” แต่ก็ยังไม่มี“สีเขียว”
และจาก“ภูตคาม”เมื่อโผล่พ้นออกมาจากดินได้แล้วสังเคราะห์กับแสงแดด ก็จะมี คลอโรฟีล chlorophyll ก็จะเริ่มเชื่อมต่อเป็น“พีชคาม”ซึ่งจะมี“สีเขียว”
“ชีวะ”ขั้น“ภูตคาม-พีชคาม”นั้นยังไม่หลุดออกจากดินหรือเครื่องเกาะอื่นอยู่ ยังจะอาศัยเครื่องเกาะอยู่กับที่ ยังหลุดลอยเป็นอิสระเป็น“ตัวของตัวเอง”ไม่ได้
จนกว่าจะเป็นพลังงานขั้น“เจตภูต”จึงจะหลุดลอยมีอิสระเป็น“ตัวของตัวเอง”ได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศนาต้อนรับปีใหม่ 2567 เรื่องปฏิจจสมุปบาท ตอน 2 วันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567 แรม 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 มกราคม 2567 ( 20:18:16 )
รายละเอียด
มีฤทธิ์ มีอำนาจในสภาพนั้นไม่บกพร่อง
หนังสืออ้างอิง
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า177
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:09:28 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 09:01:37 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:27:52 )
รายละเอียด
ไม่มีใครรู้ใครเห็นได้ด้วยเรา
อันเป็นเราก็ของเรา ใครๆ ย่อมไม่รู้ไม่เห็นด้วยเรา
หนังสืออ้างอิง
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า242, สมาธิพุทธ หน้า 253
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:05:39 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 09:04:32 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:33:36 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 09:14:54 )
รายละเอียด
ตอนนี้ห้องที่เขาพยายามตกแต่ง ให้อาตมาเป็นห้องออกกำลังกาย มีเครื่องมือออกกำลังกาย ยังขนมาไม่หมดนะ ให้อาตมาออกกำลังกายเพื่ออายุยืนยาว คือ คนไม่อยากให้อาตมาตายจริงๆ ก็พยายาม สนองศรัทธา พยายามทำเท่าที่ควร
ทางบ้าน หากเห็นอาตมาออกกำลังกายอย่างนั้นอย่างนี้ ก็เข้าใจเจตนาก็แล้วกัน อาตมาไม่ได้อยากมีเจตนามีร่างกายให้ไปแข่งนักกล้ามหรือแข่งเป็นนักมวย มีพันชิ่งบอลกระโดดฟุตเวิร์ค เขาพยายามไม่ให้ภาพเล็ดลอดออกไป แต่ถ้ามันเล็ดลอดออกไปอาตมาก็เพียงเจตนาให้อายุขัยมี 8 อ. ที่สมบูรณ์ ออกกำลังกาย ต่างๆ นานาพวกนี้ เป็นการเสริมร่างกายให้มันได้ทั้ง รูป วัตถุ ทั้งดินน้ำไฟลมในร่างกาย ทั้งพลังงาน พลังงานที่จะช่วยเอามาสังเคราะห์สังขารดินน้ำไฟลม ให้มัน fresh up ให้มันสดใสเจริญงอกงามขึ้นได้เรื่อยๆ ให้มันเจริญก้าวหน้า อาตมาพยายามจริง ไม่ได้พยายามให้ได้ลาภยศสรรเสริญโลกียสุข ไม่ใช่ แต่พยายามเพื่อจะมีสังขารร่างกายขยายธรรมะ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 15:32:52 )
รายละเอียด
เรื่องอาหารนี่นะ ใส่เข้าไป ถ้าไม่มีพลังงานที่จะต้องการเอาอาหารพวกนี้ใส่ไว้มันไม่ขึ้นหรอก เพราะฉะนั้นถึงต้องออกกำลังกายเพื่อที่จะให้เกิดปฏิกิริยาของเซลล์ประสาทต่างๆในร่างกายมันต้องการอาหาร แล้วมันถึงจะเพิ่มได้ขึ้นมาจริงๆ ถ้าไม่มีต่อให้เอาอาหารใส่เข้าไปเท่าไหร่ก็ระบายออกหมด อย่างที่เขาพยายามเติมอาตมาอาตมาว่าแน่นๆแล้วเขาก็พยายามเติม อาตมาก็เคารพเจตนาดีก็เท่านั้นเอง อาตมาถึงได้พยายามออกกำลังกาย ทุกวันนี้พยายามออกกำลังกายอย่างตั้งใจหมุนเวียน แม้แต่ยกลูกเหล็กก็ทำเพิ่มเติมแล้ว ตอนนี้มีเทรนเนอร์มาช่วยบริหารทำ ก็ดูดีขึ้น ก็ดูต่อไปว่า มันจะเป็นอะไรแค่ไหน ตอนนี้แค่นี้ก็ไม่หย่อนไม่ต่องแต่งแล้ว แต่ก่อนถ้าแกว่งอย่างนี้ต่องแต่งแล้วนะเดี๋ยวนี้ไม่โตงเตงแล้ว ตอนต่อไปจะมีกล้ามเนื้อไบเซพไตรเซพขึ้นให้เห็น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:12:22 )
รายละเอียด
อาตมาก็ยังรู้สึกว่าสังคมมีอะไรแวบๆขึ้นมาเร็วๆนี้ สื่อสารมวลชนพูดพาดพิงถึงอาตมานิดหนึ่ง ไม่นานมานี้ เอาอาตมาไปกล่าวออกชื่อได้ กล้าหาญจริง ช่องนี้ เรื่องหนุนนายกฯตู่ อาตมาจะหนุนเต็มที่ เขาก็เอาอันนี้ไปอ้างอิง ออกข่าว พ่อท่านโพธิรักษ์เป็นอย่างนี้ๆ เอาไปขึ้นข่าว กล้าจริงๆ ต้องยกย่องชมเชย เสร็จแล้วก็เงียบ ไม่มี effect ไปหาสื่อสารต่อ มันบอกอะไร มันก็บอกว่าไม่ผิดหรอก ดีแล้ว ในสังคมประเทศนี้มันเป็นอย่างนี้ ก็น้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ได้มาก หลายคนก็อยากจะพูดบ้างแต่อย่าดีกว่า มันเสียผลประโยชน์ เรียกว่า รักษาตัวรอดเป็นยอดดีไว้ก่อน มันยังไม่ถึงขีดเขต กาละ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 15:31:06 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2561
เวลาบันทึก 31 ธันวาคม 2563 ( 12:52:20 )
รายละเอียด
ที่อาตมาเตรียมไว้จะพูดวันนี้ก็คือ ฟังที่อาตมาเขียนร่างไว้ก่อน แล้วค่อยอธิบายทีหลัง
โลก หรือ ในเอกภพ มหาจักรวาล ความหมุนวนของรูปนาม ของวัตถุ ของสสาร ของวิญญาณหมุนอยู่นี่ ร่วมกันสังขารสังเคราะห์กันไป โลกหรือ ในเอกภพ มหาจักรวาล ที่มี กาลหรือกาละ หรือมีการเคลื่อนไปอยู่ ทุกอณู ทุกปรมาณูนั้นจะมี 2 ทั้งนั้น (แม้แต่พระเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์จับให้กาละหยุด) ไม่หนึ่งเดียว
กาละ ไม่มีหนึ่งเดียว เป็น 2 ทั้งนั้น ไม่หนึ่งเดียวที่มีเป็นภาวะปรากฏอยู่ใน กาล หรือมี การเคลื่อนอยู่ทั้งสิ้น นอกจาก 0 ฟังดีๆ นะ ลึกซึ้งนะ ในสภาพคำว่า กาละ กาละนี่ คนที่อยู่ในกาละ คุณยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน คุณคือสิ่งหนึ่งในกาละ คำว่า กาละ ภาษาอังกฤษ ว่า time
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 10 ออกจากกาละได้โดยใช้ มูลสูตร10 และวิญญาณฐิติ 7 วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566 ขึ้น 2 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ
เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:52:51 )
รายละเอียด
ฉะนั้นถ้าเราไม่พยายามที่จะออกจากวัฏสงสารให้มันสูงสุดเป็นดินน้ำไฟลม คุณก็จะวนอยู่อย่างนี้ นอกจากคนจะมีคำถามไม่รู้จักจบอีกหมดปัญหาหมดคำถามและก็ยังมาถาม ก็แล้วดินน้ำไฟลมมาจับตัวกันอีก จนกระทั่งกลายมาเป็นพีชะ พืชก็กลายเป็นจิต แล้วจากจิตก็หลงวนเวียนอยู่อย่างนั้นอีกนาน กว่าจะได้มาพบสัตบุรุษ ก็แยกมาเป็นอุตุอีก แล้วอุตุก็จับตัวกันอีกจากอุตุก็จับตัวกันเป็นพืช จากพืชก็จับตัวกันไปเป็นสัตว์เป็นมนุษย์ จากมนุษย์ก็ไปแก้แค้นกันเองอีกกี่ชาติ จนกว่าจะมารู้จักโลกุตรธรรม จนกว่าจะแยกธาตุตัวเองเป็นจนกว่าจะไม่รู้เป็นอรหันต์ คุณทำได้แต่เวลาสภาพความเป็นจริงมันนับเวลาไม่ไหวหรอก มันจบแล้ว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิธีจบนิยาม 5 จบนิยายของตนอย่างนิรันดร วันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 09:21:30 )
รายละเอียด
คุณเคารพท่านพุทธทาสก็ยังดีกว่าไปเคารพเกเฬวรากที่ยิ่งกว่าท่านพุทธทาส
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ
สื่อธรรมะพ่อครู(พระวินัย) ตอน อโศกมิใช่นิกายแต่เป็นนานาสังวาส
เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:18:57 )
รายละเอียด
โลกนี้หรือโลกหน้า พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10 ว่าเป็นผู้ที่แจกโลกนี้โลกหน้า ประกาศโลกนี้โลกหน้าให้ทุกคนเข้าใจแจ่มแจ้ง สัจฉิกัตวา แจกโลกนี้โลกหน้าให้คนเข้าใจ แล้วก็ไปเปลี่ยนแปลงตนเอง โลกนี้โลกหน้าก็อยู่ในขณะนี้ ปัจจุบันชาตินี้แหละ ถ้าไปบอกว่าโลกหน้าเมื่อตายไปแล้ว คนนี้สัสสตทิฏฐิ เป็นคนไม่รู้จักปัจจุบันชาติ ไม่รู้จักกาละ ไม่รู้จักสิ่งที่ควรจะปฏิบัติ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ผู้พ้นอสุรกายจึงได้ไปอยู่โลกหน้า วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 20:03:44 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 18 มิถุนายน 2563 ( 10:13:49 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:21:54 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:46:24 )
รายละเอียด
ชัดเจนว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้ด้วยทางนั้น ไปนั่งหลับตาออกป่าทรมานอยู่อย่างนั้น มันไม่ใช่ทางปฏิบัติไม่ใช่ทางที่จะบรรลุธรรม บัดนี้เราเป็นผู้สิ้นบุญสิ้นบาป (ปุญญปาปปริกขีโณ) สิ้นอาสวะ แต่ว่าอาสวะของพระพุทธเจ้าเป็นอาสวะของประเภทระดับอนุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่แค่อาสวะระดับต้น ซึ่งมันมีหลายรอบ
คนที่ไม่รู้ก็เดา อรหันต์เดาผิดขึ้นมาเรื่อยๆ ถ่ายทอดความผิดมา จนกระทั่งถึง 2,500 กว่าปี มันผิดมาไม่รู้กี่ชั้น อรหันต์ของการเดา ซึ่งเป็น Concept ความเป็นอรหันต์ของเขานึกไม่ออกแล้วเป็นอย่างไร มันซับซ้อนเพราะเดาผิดๆ ไม่รู้ตกอยู่ใต้บาดาลถึงไหน เป็นพญาครุฑก็ไม่รู้คิดฟุ้งซ่านเอาอะไรมาผสมกับอะไร เลอะเทอะไปหมดเลย แยกไม่ออกเลยมาจากต้นอะไรผสมกันไปหมด มันก็น่าเห็นใจ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับ วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:13:26 )
รายละเอียด
แม้จะไปนั่งในป่าก็ต้องได้สมาธิก่อน 1.ไปเพื่อเช็คว่าตนเองจะติดป่าหรือไม่ ไปอยู่ป่าสงบ แล้วเราจะหลงติดป่าหรือไม่ 2.จะฟุ้งซ่านหรือไม่ ฟุ้งซ่านมาหากามหรือโลกธรรม ผู้บรรลุแล้วก็เช็คได้ แต่ถ้าแน่ใจแล้วไม่ต้องไปป่าเลย ศาสนาพุทธปฏิบัติศีลสมาธิปัญญา ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาสะกดจิต สมาธิแบบนั่งหลับตาสะกดจิตมันเป็นของเดียรถีย์ทั้งหมด ของพุทธไม่ต้องเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 10:59:27 )
รายละเอียด
แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่โลกุตระแล้ว ออกมานอกโลกแล้วก็มองเห็นโลกทุกมุม ออกมานอกโลก ก็จะเห็นโลกทุกมุม เห็นภายในโลกทั้งหมด มันเป็นอย่างนั้น จนกระทั่งเห็นโลกเป็น 0
0นี่คือ Infinity 0 นี่คือทั้งหมด หาที่สุดไม่ได้ ประมาณไม่ได้คือ 0 นี่เป็นภาษาธรรมะ เพราะฉะนั้น คนไหนที่ได้ 0 แล้ว มี 0 แล้ว พระอรหันต์มี 0 แล้ว ไม่เอาอะไรอีกแล้ว เพราะได้หมดแล้ว ฟังยากไหม? ได้อะไรหมดแล้ว
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 5 พ่อครูพบ อ.ยักษ์ วิวัฒน์ ศัลยกำธร วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 ขึ้น 12 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 12:10:15 )
รายละเอียด
คือใครที่ดูแลทางเศรษฐกิจ การศึกษา ถ้าหากเข้าใจ ยังในหลวงรัชกาลที่ 9 หรือมาเข้าใจอย่างชาวอโศก ประเทศไทยจะมีความสูงส่ง เจริญ ออกหลักสูตรการศึกษาให้เรียนกันตั้งแต่เด็กเลย หลักสูตรการศึกษาของประเทศไทยเลยให้เป็นคนมี วรรณะ 9 และมีประสบผล ตามสาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ลาภที่ได้มาโดยธรรมจากผลผลิตก็เอามารวมกัน กองกลางเป็นสาธารณโภคี แบ่งกัน กินกันใช้ ไม่ต้องซื้อไม่ต้องขายเลย นี่คือสุดยอด ไม่มีสูตรไหน ทฤษฏีไหนที่จบเท่านี้ อีกแล้ว แล้วก็มีกลักการทฤษฎี มีทิฏฐิ ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 15:16:33 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:23:15 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:50:52 )
รายละเอียด
การไหลซึมซับกันอย่างสนิทเนียนมากซึมซับเข้าไปโดยไม่รู้ตัวจึงเป็นเรื่องที่สุดยอดเลยอยู่ในบวร บ้านวัดโรงเรียนจะมีการศึกษาที่มีตลอดเวลา จะอยู่ร่วมกันเป็นบ้านจะมีธรรมะที่เรียกว่าวัดตลอดเวลา สังขารสังเคราะห์อยู่กันได้โดยไม่รู้ตัวแต่ละคนได้โดยไม่รู้ตัว
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 16:33:13 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:24:51 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:45:53 )
รายละเอียด
สรุปแล้วมาเข้าเรื่องที่เราจับประเด็นจะพูดเรื่องที่ ที่ ดร.อานนท์ พยายามชี้บ่ง ความจริงที่ถูกบิดเบือนของกษัตริย์ โดยเฉพาะกษัตริย์ของไทย เอากษัตริย์ของไทยเป็นตัวแทนเลย เป็นตัวอย่างเลย เป็นสิ่งที่เกิดจริง มีพฤติการณ์จริง มีวัตถุจริง และก็มีความจริงคืออย่างไร เอามายืนยันกันกับคนที่เขาทำผิด เขาไปเบี้ยว หรือว่าเขาไปบิดเบือน อย่างที่คุณใช้ศัพท์นี้ เขาเอาไปบิดเบือน ก็จะทำให้ถูกต้อง
อะไรก็ตามที่ทำให้ถูกต้อง คม ชัด ลึก แม่น ถูก อย่างไม่มีผิดเลย ได้ อันนั้นก็คือสิ่งที่ประเสริฐ สิ่งที่ควรทำในโลก
ความจริงที่ถูกบิดเบือนของสถาบันกษัตริย์ เกี่ยวกับงบประมาณโครงการพระราชดำริ
ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ว่า... เล่าเรื่องสนุกหน่อยนะครับ มีบทความบางบทความที่ผมเขียนเพื่อให้เขาเชิญผมไปดีเบตครับ บทความ เขียนเพราะว่าผมนี่เป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง ถนัดเขียนมากกว่าพูด แล้วก็เชื่อมั่นว่า การเขียนนี้เปลี่ยนโลกได้ ผมก็เลยเขียนบทความหนึ่ง คือความจริง 12 ประการของภาษีกู
ตอนนั้นก็มีเพื่อนอาจารย์ที่เขาทำ Social Listening คือรับฟังกระแสสังคมบนโลกออนไลน์ ปรากฏว่าประมาณร้อยละ 95 ของการใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินทองและภาษีกู เป็นเรื่องเงินทั้งหมด
ผมก็มานึกว่า ทำไมคนเราถึงถูกใส่ร้ายเรื่องเงินง่ายจัง ผมก็คิดว่า มนุษย์เราคงมีความโลภอยู่เป็นพื้นฐาน หากเห็นใครมีทรัพย์มากกว่าตัวเองก็จะเกิดความอิจฉาริษยาหรือเชื่อได้โดยง่าย ว่าคนนั้นได้ทรัพย์มาได้โดยวิธีไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น การใส่ร้ายเรื่องทรัพย์เป็นการใส่ร้ายได้ง่ายที่สุด
โดยเนื้อหาของทรัพย์นั้น อาจจะเป็นของที่มีคนโกงมากที่สุดก็เป็นไปได้ แต่ผมเขียนแล้วก็คิดว่าจะมีพิธีกรบางรายการจะเชิญผมไปออกอากาศ ผมก็เลยคิดว่า วิธีการที่จะทำให้คนได้รับรู้ความจริงก็คือว่า เราอยากได้ลูกเสือเราต้องเข้าถ้ำเสือ ถ้าเรารู้ว่าเด็กๆถูกหลอกเยอะ สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือเราต้องเข้าไปในสนามของเขา ที่เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่เราต้องได้เปรียบ โดยที่เราต้องทำตัวเป็นเหมือนธรรมดาๆ ให้เขาเชื่อว่าเรารู้ไม่มากนัก ก็เขียนไปเรื่อยๆ พอเขียนแล้วเขาได้อ่าน ก็เชิญให้ผมไปออกรายการก็เป็นที่มา ให้ผมได้ดีเบตกับน้องรุ้ง ปนัสยา และมีพิธีกรคือ คุณจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ก็เป็นบทความหนึ่งในนี้
ผมก็รู้สึกว่าการเขียนมีประโยชน์จริงๆ ทำให้ผมเชื่อในพลังการเขียน ผมก็เลยได้ทำหน้าที่ที่เกิดการดีเบตขึ้น จริงๆวันนั้นผมไปดีเบตด้วยความรู้สึก ผมทราบว่าน้องรุ้งเขาไม่ได้รู้อะไร เขาถูกผู้ใหญ่ผลักออกมา ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ที่เขาต้องไปอ่านประกาศปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ 10 ข้อ แล้วเขาก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับ BBC ไทยว่าเขาไม่ได้เขียนประกาศนั้น แล้วเขาก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วยซ้ำว่าเป็นเรื่องอะไร แต่มีผู้ใหญ่ผลักเขาให้ออกไปอ่าน
ผมก็เลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าเวทนามากเลย วันที่จะออกรายการ เขาโทรมาตอน 08:00น. ผมก็ยังนอนซึมเซาอยู่บนเตียงตอน 8:00 น. เขาก็บอกว่ามาออกรายการได้ไหม เขาก็บอกว่ายังไม่รู้ว่าเป็นใครแต่เขาก็ไล่ชื่ออาจารย์นักวิชาการผู้ใหญ่ฝั่งโน้น มาจนหมดทุกคน ผมก็บอกว่าใครก็ได้ไม่มีปัญหา ไม่มีใครอยากจะมาดีเบตกับผม ประมาณ 13:00 น เขาก็โทรมาบอกว่า ต้องเป็นเด็กแล้ว ไม่มีอาจารย์คนไหนยอมมา ผมก็คิดว่าไม่เป็นไร เราคุยกับเด็กก็ได้แต่เราต้องคุยกับเด็กด้วยเมตตา ในความที่เราเป็นครู ถ้าเราเมตตาเขา เราก็สอนเขาได้แต่ก็อาจจะเป็นวิธีการสอนที่ออกจะดุสักหน่อย ผมรู้สึกเหมือนกับ
ตอนอยู่ในรายการผมเป็นธรรมชาติมาก เหมือนผมสอนวิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่นิด้า ที่จุฬา หรือที่ธรรมศาสตร์ ไม่รู้ก็ต้องดุกันแหละ แต่ดุแล้วเราก็บอกว่า ข้อเท็จจริงคืออะไร คือไม่ใช่ดุแบบไม่มีเหตุผล แต่ดุแล้ว พยายามอธิบายว่าข้อเท็จจริงคืออะไร พยายามสอนให้เขาหาทางออกมาให้ได้ บทความนี้ก็อยู่ในหนังสือเล่มนี้ด้วย ถก!! พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ 2561(2)| ถามตรงๆกับจอมขวัญ |27 พ.ย.63[Online Exclusive]
เป็นคาแรคเตอร์ของครูอย่างหนึ่ง
มีอีกหลายเรื่องที่เป็นเรื่องเงินทอง อย่างเรื่อง โครงการพระราชดําริ 4,000 โครงการ ใช้งบประมาณไป 3 หมื่นกว่าล้าน แต่จริงๆโครงการพระราชดำริเป็นงานที่ทำเพื่อประชาชน ผมก็ชอบยกตัวอย่างเขื่อนขุนด่านปราการชล
เขื่อนขุนด่านปราการชลสร้างโดยกรมชลประทาน ตอนนี้กรมชลประทานเป็นคนถืองบเขื่อนปีหนึ่ง 50 ล้าน 100 ล้านก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่พระเจ้าอยู่หัวท่านไม่ได้ถือเงิน สำนักพระราชวังไม่ได้ถือเงินก็พอ คณะกรรมการประสานงานโครงการพระราชดำริก็ไม่ได้ถือเงินกรมชลประทานเป็นคนถือเงินและเป็นคนใช้เงิน ประโยชน์ของเขื่อนก็ตกเป็นของประชาชน
เขื่อนขุนด่านป้องกันน้ำท่วมนครนายก สระแก้ว ปราจีน แล้วไล่น้ำเสียนครนายก รวมทั้งกรุงเทพฯด้วย น้ำเค็มที่จะเข้ามาบางปะกงด้วย
ทีนี้การโกหกก็คือพูดความจริงครึ่งเดียวแล้วก็เอาไปรวม ใช้คำว่า อักขระ คือเอาอักขระที่มีคำว่าเฉลิมพระเกียรติ พระราชดำริ ใส่กวาดเข้ามาให้หมดเลย ซึ่งมันก็ไม่ถูกต้องเพราะว่าโครงการพระราชดำริสุดท้ายก็เป็นงานของราชการ อะไรอย่างนี้เป็นต้น
ผมก็รู้สึกว่า หนังสือนี้ก็ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองพอสมควร จากการดีเบตครั้งนั้น แม้ว่า จะมีคนที่อาจรู้สึกว่า ผมดุ น้องรุ้งมากไปหน่อย หรืออาจดุคุณจอมขวัญมากไปสักนิดนึงด้วย แต่ก็เป็นความดุที่อยู่บนพื้นฐานของความเมตตาที่ครูคนหนึ่งจะสอน หรือว่า ให้ความรู้กับสังคมหรือสาธารณะครับ
เพราะว่า ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่จริงหรือไม่ถูกต้อง เราก็มีหน้าที่จะต้องดุ โดยเฉพาะคนที่กำลังหลงผิดคือเข้าใจผิดอย่างหนัก เราก็มีหน้าที่ต้องดุหรือชี้ทางสว่างนะครับ ผมไม่กล้าใช้คำเท่าพ่อท่านที่บอกว่า ข่มคนที่ต้องข่ม นิคคัณเห นิคคหารหัง
เป็นคำของพระพุทธเจ้า
ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ว่า... ผมไม่กล้าที่จะไปข่มเขา แต่ก็พยายามจะดุและก็สอน ก็เป็นอย่างที่เห็นออกมา ใครอยากจะรู้ว่าที่มาของการดีเบตระหว่างรุ้ง แล้วก็ที่จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ เป็นพิธีกร มาอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ มีอยู่ 2-3 บทความซึ่งเป็นที่มาของการดีเบตครั้งนั้น ก็อยู่เบื้องหลัง เล่าให้ฟังนะครับ
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 6 พ่อครูพบ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2565 แรม 4 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 23 ธันวาคม 2565 ( 14:53:09 )
รายละเอียด
อิสระ คือไม่ให้ความรู้สึกหรือเวทนาของตนเกี่ยวเกาะ กับการสัมผัสอยู่ เราสัมผัสอยู่แต่เราไม่ให้เวทนาหรือความรู้สึกของเราเกี่ยวเกาะกับภาวะความรู้สึกหรือเวทนานั้นๆ ผู้นั้นแหละคือผู้ที่เป็นอมตะสำเร็จแล้วสมบูรณ์
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 10 ออกจากกาละได้โดยใช้ มูลสูตร10 และวิญญาณฐิติ 7 วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566 ขึ้น 2 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2566 ( 13:05:55 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 11:48:09 )
รายละเอียด
สุดยอดเลยคำถามใครคิดให้นี่ หรือคิดเอง (คิดเองค่ะ) สุดยอดเลย อะไรมีอะไรที่ดีอย่างเดียวไม่มีเสียเลย อะไรที่เสียอย่างเดียวไม่มีดีเลย โอ้โห ก็อาจจะยากนิดนึง อะไรที่มีแต่ดีอย่างเดียวไม่มีเสียเลย อาจจะยากหน่อย สิ่งที่ดีอย่างเดียวไม่มีเสียเลยนั้นคือ นิพพาน นิพพานคืออะไร? นิพพานคือ คนเรียนรู้ รู้จักกิเลสของตนเอง กิเลสเป็นนามธรรม คนที่มีญาณปัญญา มีธาตุรู้ที่เรียกว่าปัญญา จะอ่านนามธรรมที่ไม่มีรูปร่าง ไม่มีตัวตนนี้ แต่มีอาการ มีเครื่องหมายให้รู้ได้ ว่า มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี กิเลสเป็นสิ่งที่ไม่ดี เรียกต้นภาษาว่า กลิ มาเป็นกิเลส มันไม่ดี อ่านอาการไม่ดีนี้ออก แล้วก็มีวิธีทำ เรียกว่า มรรควิธี อาริยมรรค ของพระพุทธเจ้าสอนมาทั้งนั้น จรณะ 15 วิชชา 8 ศีล สมาธิ ปัญญา มาเป็นโพธิปักขิยธรรม 37 ก็สามารถเข้าใจในทฤษฎีต่างๆแล้วก็ปฏิบัติ กิเลสถูกกำจัด จริงๆ เมื่อกิเลสถูกกำจัดแล้วกิเลสหมด เรียกว่าเป็นหนึ่งในโลก การกระทำของคนสามารถทำให้กิเลสหมดได้นี้เป็นหนึ่งในโลก ไม่มีอะไรเทียบได้เลย อันอื่นของศาสนาไหนก็มีคู่ 2 ทั้งนั้น มีนิพพานอย่างเดียวแล้วก็ทฤษฎีที่จะทำให้เกิดนิพพาน นี่คือหนึ่งเดียว เอกัง หิ สัจจัง มีอันนี้อันเดียวเท่านั้นนอกจากอันนี้ไม่มี นี่คือดีอย่างเดียวไม่มีสองเลย ทีนี้เสียอย่างเดียวไม่มีดีนี้ หายาก หลวงปู่ตอบไม่ได้ เสียอย่างเดียวไม่มีเสียอีกเลย ไม่มีใครดักดานถึงขนาดนั้นหรอก คนที่เลวขนาดไหนสามารถจะดีขึ้นได้ แต่คนที่ดีที่สุดไม่เลวอีกเลยนี้คืออรหันต์ขึ้นไป ดีที่สุดจบไม่มีเลวอีกเลย นี่คือดีอย่างเดียวไม่มีเลวเลย สัพพปาปัสสอกรณัง ไม่ทำชั่วไม่ทำบาปอีกเลย กุสลัสสูปสัมปทา ทำแต่ดีอย่างเดียว เพราะว่าจิตใจนั้นบริสุทธิ์ถึงความเป็นอรหันต์แล้ว
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 12:07:38 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563
เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 13:22:07 )
รายละเอียด
ฉะนั้นมันจึงเป็นผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยในกระบวนการของทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้กิเลสหมดแล้วก็จบ แล้วไอ้กิเลสหมด จึงเห็นอนัตตา 0 ได้จริงๆ มันก็เกิดจากกระบวนการของการปรุงแต่งของเหตุและปัจจัย ของสังขาร ของทีละคู่ๆ จากสังขารทั้งนั้น อธิบายจาก 2 เป็น 3 อธิบาย 2 แล้วอธิบายการสังขารปรุงแต่งเป็น 2 เป็น 3 กี่ 3 กี่ 3 ไปแล้วล่ะ
3 ของอดีต อนาคต ปัจจุบัน กาละ 3 เพราะฉะนั้นผู้ที่จะรู้ส่วนอดีตเต็ม รู้ส่วนของอนาคตเต็ม แล้วรู้ได้ว่าอดีตกับอนาคตยังไม่จบ ต้องทั้งอดีตและอนาคตตัวที่ 7 มันเป็น 0 จึงจะจบเป็นตัวที่ 7 ของอวิชชา ที่จบ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เจโตปริยญาณ 16 และ
ปฏิจจสมุปบาทโดยพิสดาร วันพุธที่ 21 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 เมษายน 2564 ( 04:55:35 )
รายละเอียด
พระอานนท์ถาม : "บรรดาสุขทั้งหลาย สุขชนิดไหนเป็นยอด บรรดาสัญญาทั้งหลาย สัญญาชนิดไหนเป็นยอด บรรดาภพทั้งหลาย ภพชนิดไหนเป็นยอด ฯ"
พระโสภัททชิตอบ "เทพสุภกิณหะมีอยู่ เทพเหล่านั้นยินดีเฉพาะสิ่งที่มีอยู่ ย่อมเสวยสุข การเสวยสุขนี้เป็นยอดของความสุขทั้งหลาย
การเข้าถึงอากิญจัญญายตนภพ นี้เป็นยอดของสัญญาทั้งหลาย
การเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนภพ นี้เป็นยอดของภพทั้งหลาย ฯ
พระอานนท์แก้ว่า : "ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ย่อมเป็นยอดของความสุขทั้งหลาย
ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ย่อมมีในลำดับแห่งบุคคลผู้มีสัญญาตามเป็นจริง นี้เป็นยอดของสัญญาทั้งหลาย
ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ย่อมมีในลำดับแห่งบุคคลผู้เป็นอยู่แล้วตามเป็นจริง นี้เป็นยอดของภพทั้งหลาย ฯ
ที่มา ที่ไป
ภัททชิสูตร เล่ม22 ข้อ170 ,ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2562 ( 20:56:49 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:25:44 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:47:42 )
รายละเอียด
สรณะ มรณะ อรณะ
มรณะคือ ตายแล้วตายเล่า จิตก็ยังไม่ยอมตาย แทงด้วยหอกเช้า 100 เล่ม เที่ยงอีก 100 เล่ม เย็นอีก 100 เล่ม ก็ยังไม่ตาย นั่นแหละคือมรณะ สงครามมรณะ ไม่มีวันจบ จิตไม่ตาย ฆ่าอย่างไร จิตก็หนังเหนียว ฆ่าไม่ตาย โง่อยู่อย่างเก่า กูก็จะทำ ไม่เปลี่ยนแปลง สัตบุรุษจะให้เลิกก็ไม่ฟัง ยึดถือสิ่งเก่ามรณะแล้วมรณะเล่า สงคราม สรณะ
อะไรคือสงครามที่ชนะแท้ อะไรคือสงครามที่แพ้แท้ ก็ต้องแยกกิเลสออก คุณจะแยกกิเลสได้ก็จะต้องแยกธรรมะ 2 แยกเทวะได้ เป็นนาม รูป จิตวิญญาณ ผู้ไม่รู้ อวิชชา ก็จะเกิดการปรุงแต่งเป็นสังขาร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 19:29:15 )
รายละเอียด
สมบัติของส่วนตัวแต่ละคนคือความรู้กับความสามารถ และความขยัน ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้อยู่กับเราไปตลอด ตายไปกี่ชาติกี่ชาติก็ไม่มีสูญหายไปไหน ความรู้ความสามารถและความขยัน เป็นสมบัติทางนามธรรม ไปด้วยข้ามชาติตลอดกาลนาน นี่เป็นความรู้ความฉลาดที่ไม่ใช่ เฉโก เฉกา แต่นี่เป็นอัญญะ
อัญญา เป็นอีกโลกหนึ่ง สรุปแล้วเป็นคำว่าปัญญานั่นเอง ปัญญาเป็นของศาสนาพุทธ คนอื่นหรือศาสนาอื่นนำไปใช้ในทางที่ผิดก็ได้ แต่มันไม่ใช่ความจริง มันหลอกมนุษย์
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12
ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561
เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:11:38 )
รายละเอียด
กายคำเดียว กายคำแรก สังโยชน์ข้อที่ 1 กายแล้วก็ของตน สักกาย ความเห็น ความรู้เรียกว่าทิฏฐิ พระพุทธเจ้าให้เรียนรู้ก่อนแยกกายแยกจิต แล้วก็รู้ของตนให้ได้ จัดการกับของตนนี่แหละ อย่าไปยุ่งกับของคนอื่นเขา คุณมีหน้าที่บอกคนอื่นบ้างเป็นโพธิสัตว์ก็ค่อยว่าแต่ทำของตนให้ได้ก่อนเถอะ ทำกาย แล้วก็ของตนให้มันได้ดีได้จริงได้เด็ดขาดด้วยนะ ไม่สับสนแล้ว แค่สักกะกับ กายะก็สับสนแล้ว อะไรเป็นกาย อะไรเป็นของตน แค่นี้ก็สับสนได้
กายคือรูปนาม ของตนก็คือรูปนาม คือวิญญาณ เป็นความซับซ้อนวนเวียน มันใกล้ชิดกันสลับกันไปมา ซึ่งเป็นสภาพที่หลอกตัวเองเป็นมายา ความโง่ก็คือเป็นมายา อวิชชาคือมายา หลอกตนเองสับสน ไม่รู้อะไรชัดเจนแน่นอน จึงเป็นวิปลาส กำหนดไม่ได้มั่นแม่นกำหนดไม่ได้ตรง จึงต้องมาศึกษาดีๆให้รู้ชัดเจนแล้วก็ทำสัญญาให้กำหนดแม่นๆให้ได้ พระพุทธเจ้าถึงเรียนรู้สุดท้ายด้วย กายและสัญญา เรียนรู้ความเป็นสัตว์ที่ตัวเองยังตกอยู่ในความเป็นสัตว์ จิตวิญญาณมันเป็นสัตว์โอปปาติกะสัตว์ มีสัตตาวาส 9 ที่พระพุทธเจ้าสอน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 2 วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 03 กรกฎาคม 2564 ( 18:56:29 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 13:08:17 )
รายละเอียด
ยิ่งอาตมาอธิบายสัจจะมีหนึ่งเดียว อะไรๆต่างๆไม่ใช่สัจจะทั้งนั้น แต่สัจจะนั้นมีหนึ่งเดียวก็คือนิพพาน ผู้ที่รู้จักความจางคลายผู้ที่รู้จักความละหน่ายทำให้กิเลสตับไปได้ทำให้เป็นนิโรธทำให้เป็นนิพพานได้ หมดนั่นแหละเป็นตัวที่ปฏิบัติทั้งมรรคและผลของศาสนาพุทธ ผู้ใดทำได้บรรลุสูงสุดตั้งแต่เป็นอรหันต์ขึ้นไป สัจจะมีเป็นหนึ่งเดียวตรงกันหมดทั้งพระอรหันต์ธรรมดา พระอรหันต์ไม่ได้มีความอลังการอะไรเลย เป็นแต่เพียงสามารถที่จะรู้จักสัจจะอันนี้สัจจะที่เป็นปรมัตถ์สัจจะโลกุตระ สามารถตายปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ เหมือนกัน อรหันต์ธรรมดากับอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทำได้เหมือนกัน เป็นสัจจะที่เป็นจริง
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 11:17:25 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:32:14 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นผู้ที่มีแนวคิดแบบนี้อยู่ ก็ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีขี้หมากองหนึ่งเกิดขึ้นข้างถนน คนใจดีเห็นเข้า เดี๋ยวคนจะมาเหยียบ ก็เอาใบไม้ เอาเศษไม้อะไร เศษดอกไม้ก็ตาม ไปกลบขี้หมาเอาไว้ คนอื่นมาเห็นเข้าอีก เห็นว่ามีขี้หมาอยู่ก็เอาไปกลบอีก คนนี้ฉลาดให้คนอื่นไม่ได้เหยียบขี้หมา คนนั้นคนนี้มาเห็นว่ากองนี้ เขามีการเอาเศษไม้ ใบไม้ ดอกไม้มากลบตรงนี้ มันคงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็เอาดอกไม้มา แสดงคารวะเคารพอีก เอาน้ำแดงมาถวายน้ำเหลืองมาถวาย นี่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องเก๊ๆ นะ แล้วก็งมงายกันไปอย่างนั้น
ฉันเดียวกัน ถ้าเข้าใจโดยปัญญาแล้วว่า พลังงานระดับพระเจ้า พลังงานระดับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หมายถึงจิตวิญญาณที่เป็นชั้นสูงแล้วประสบผลสำเร็จและด้วย ธาตุรู้หรือจิตวิญญาณหรือภูมิปัญญา เออ อันนี้ น่ากราบไหว้บูชายกย่อง เรียนรู้ปฏิบัติตามในนามธรรมนั้นได้คนนั้นมีปัญญาที่จะรู้จักสาระ กระทั่งงมงายเป็นสิ่งลึกลับ เป็นสิ่งที่บันดลบันดาล เป็นสิ่งที่จะมีอำนาจปัจจัย ที่ต้องกลัว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์รายการภาคค่ำ งานอโศกรำลึก 2565 กำจัดผีในตนจึงเป็นคนโลกุตระ วันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 7 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2565 ( 21:10:03 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 11:59:18 )
รายละเอียด
ท่านอาจจะไม่ได้เด่นในการที่ท่านจะลาภมากมาย แต่ท่านเองก็สบายท่านต้องการเท่าไหร่ก็ได้ ลาภมีคน Support แล้วท่านก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่ายอะไร ท่านมีแต่จะเอามาพิมพ์หนังสือ มีแต่เรื่องการศึกษาพวกนี้ทั้งนั้นแหละ ที่ท่านจะใช้จ่ายเอามาช่วยทำเพื่อเผยแพร่ไปให้ผู้อื่น แต่ยศ สรรเสริญ ท่านไม่รู้ตัวหรอก ยศสรรเสริญนี่แหละ อันตรายอันแสบเผ็ด
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ลึกเป็นอันตรายอันแสบเผ็ด แม้แต่พระขีณาสพ ท่านว่าถึงขนาดนี้ ซึ่งอธิบายซับซ้อนเป็นสิริมหามายา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่รู้จะทำอย่างไร มันเป็นวิบากของท่านจริงๆ ท่านมีวิบากนั้นก็เลยต้องเป็นอย่างนั้น ก็เป็นไป จนกว่าท่านจะหมดวิบากและถอนทิฏฐิแล้วจะฟังอาตมา มีปรโตโฆษะ ฟังอย่างเข้าใจ มีมนสิการ
ท่านก็เข้าใจมนสิการแบบของท่านว่าเป็นพิจารณาเท่านั้นเอง แต่อาตมาเน้นไปในทางมนสิการไม่ได้เน้นโยนิโส โยนิโสเป็นเรื่องของความรู้ แต่มนสิการเป็นการทำใจเป็นฐานจิต ท่านไม่เข้าหามนสิการท่านทำมนสิการไม่เป็น เพราะฉะนั้นในมูลสูตร มนสิการ เป็นตัวที่ 2 มนสิการ จึงเป็นตัวที่ยิ่งใหญ่มาก
มูลสูตร มีฉันทะเป็นมูล มีมนสิการเป็นแดนเกิด ผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาเป็นที่ประชุมลง มีสมาธิเป็นประมุข มีสติเป็นอธิปไตย มีปัญญาเป็นอุตตระ มีวิมุติเป็นสาระ มีอมตะเป็นที่หยั่งลง จากอมตะเป็นปรินิพพานเป็นปริโยสานเป็นรากของความรู้ทั้ง 10 นี้สุดยอดจริงๆ ถ้าอาตมาเขียนเรื่องมูลสูตร 10 ก็ได้อีกหลายพันหน้า
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูตอบปัญหาผ่าพญาครุฑ ฉุดพญานาค วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2565 ( 10:57:44 )
รายละเอียด
สยัง แล้วยังมีอภิภู ระดับ 8 นี่ อภิภู อาตมานี่มันแค่ สยังอภิญญา เป็นผู้รู้เอง สยังอภิญญาก็แปลว่าผู้รู้เอง อยู่แล้ว
..เอาอาหารสูตร ในพระไตรปิฎก อวิชชาสูตร พระไตรปิฎก เล่ม 24 ข้อ 61 พระพุทธเจ้าตรัสเริ่มต้นว่า อวิชชาไม่ใช่ไม่มีอาหาร อวิชชามีอาหาร อะไรคืออาหารของอวิชชา นิวรณ์ 5
1.การไม่คบสัปบุรุษ เป็นอาหารของ..การไม่ได้ฟังสัทธรรมที่ถูกต้อง
2.การไม่ได้ฟังสัทธรรม เป็นอาหารของ.. ความไม่มีศรัทธา (หรือศรัทธาผิดๆ)
3.ความไม่มีศรัทธา (ศรัทธาไม่บริบูรณ์) เป็นอาหารของ.. การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย (กระทำใจไม่เป็น)
4.การกระทำในใจโดยไม่แยบคาย (หรือทำใจไม่เป็น) เป็นอาหารของ.. ความไม่มีสติสัมปชัญญะ .
5.ความไม่มีสติสัมปชัญญะ (หรือทำสติไม่เป็น) เป็นอาหารของ.. ความไม่สำรวมอินทรีย์
6.การไม่สำรวมอินทรีย์ เป็นอาหารของทุจริต 3 (กาย,วาจา,ใจ ทุจริต)
7.ทุจริต 3 เป็นอาหารของ.. นิวรณ์ 5
8. นิวรณ์ 5 เป็นอาหารของ.. อวิชชา
9. อวิชชา เป็นอาหารของ ภวตัณหา
(พตปฎ. เล่ม 24 ข้อ 62)
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ที่สุดแห่งพุทธศาสนาคือปัญญาอันปราศจากกิเลส วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2565 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2565 ( 13:31:41 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 12:34:29 )
รายละเอียด
“เป้าหมายหลักของพระพุทธเจ้าต้องมาสร้างพระพุทธศาสนาให้สำเร็จ” เออ ก็เข้าท่าเหมือนกันเนาะ ต้องประกาศศาสนา ต้องสร้างศาสนาขึ้นมาในโลก เป็นศาสนาของพระองค์ให้สำเร็จ โดยที่จะต้องมีผู้รับศึกษารู้ความ แล้วก็เอาไปปฏิบัติได้ บรรลุมรรคผลและมีผู้ที่สืบทอด ขยายผลของความรู้หรือของธรรมะหรือพุทธธรรมนี้ยาวต่อไป เป็นประโยชน์แก่ประชาชน จนกระทั่งถึงกัปป์ของแต่ละพระองค์ อย่างพระสมณโคดมนี้ พุทธกัปป์ของพระองค์ก็ 5,000 ปี จะต้องยืนยาวไปถึงขนาดนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นสัจจะที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นจริง เป็นอจินไตย มีคนเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ
จะบอกว่าเป้าหมายหลักคือการสร้างความรู้ สร้างความจริง ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ความรู้ความจริง แล้วก็เอาความรู้ความจริงที่พระองค์ได้นี้มาประกาศลงไป ในขณะที่ท่านยังไม่ประกาศออกมา ท่านสั่งสม เหมือนอย่างอาตมานี้ อาตมาเป็นผู้ที่ศึกษาตาม แล้วก็ตั้งใจจะไปเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ก็จะทำหน้าที่คล้ายๆ พระพุทธเจ้าทุกองค์ในยุคใดยุคหนึ่ง ก็สะสมความรู้ สะสมความจริงนั้นไป แล้วก็เอาความรู้ความจริงนั้นไปประกาศลงไปให้แก่มนุษยชาติในยุคที่มนุษยชาติไม่มีความรู้ความจริงอันยิ่งใหญ่อันประเสริฐนี้ มีแต่ความรู้และความเลวหรือความหลอกลวง ความไม่เป็นประโยชน์ เป็นโทษเป็นภัยด้วย ในสังคมมนุษยชาติ ซึ่งมันก็เลยไม่มีความสงบ ไม่มีความสบาย ไม่มีสิ่งที่จะเกิดคุณค่าประโยชน์อย่างแท้จริงแก่กันและกัน ในความเป็นมนุษย์ในสังคมนะ นี่เป็นเรื่องที่รู้ยาก
ขออภัยต้องพูดจริงๆ กล่าวความจริง ชาวเทวนิยม ศาสนาพระเจ้า ไม่ได้รู้ความรู้ความจริงที่บริบูรณ์ รู้ความจริงความรู้ที่มีแต่ส่วนโลกียะมีดีกับชั่ว ก็พยายามสร้างให้คนทำความดี ก็ไม่เสียหลายหรอกแต่ว่ามันวน แล้วมันก็ไม่ได้เกิดความสงบสุขอันสมบูรณ์แบบอะไร อย่างที่เป็นกันอยู่ทั่วโลก ที่ความรู้เป็นเทวนิยม แม้มาได้พระพุทธศาสนาแล้ว มีศาสนาพุทธตราลงไปในประเทศแต่ละประเทศ แต่ก่อนเกิดที่อินเดีย ขยายผลไปสู่ประเทศนั้นประเทศนี้จนกระทั่งอินเดียไม่เหลือแล้ว กลายเป็นเทวนิยมแบบฮินดู แบบอะไรๆ ไปแบบเดิมๆ มันเสื่อมกลับไปเป็นอย่างนั้น
ก็เหลืออยู่ทางเอเชีย ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็มีประเทศไทยรับไว้ได้ ที่มีแก่นโลกุตรธรรมอยู่ทุกวันนี้ ที่มีนี่ ในยุคนี้ 2,500 ปีผ่านมา ที่มีแก่นโลกุตรธรรมอยู่ในประเทศไทย อยู่ได้นี้ก็เพราะพระผู้มีแก่นเอาแก่นมาประกาศลงไปอีก ประเทศไทยในยุค 2,500 ปีนี้จึงมีโลกุตรธรรมขึ้นมาเป็นแก่น ส่วนใครเป็นผู้เอามาประกาศนั้น อาตมาไม่บอกว่าเป็นใคร ก็ไปสืบสาวหาความรู้เอา ใน Google ก็คงบอกไม่ได้ Google นี้บอกได้สารพัด แต่เรื่องนี้อาตมาว่า Google บอกไม่ได้ ไม่มีภูมิพอ
สรุปแล้วเป้าหมายหลักนั้นคือสิ่งที่รู้แจ้งความรู้และความจริงอันยิ่งใหญ่ ในความเกิดดับของจิตวิญญาณ สรุปเข้าเป้าอย่างนี้
ศาสนาพุทธรู้จักจิตวิญญาณที่เป็นประธานชีวิต ชีวิตของคนทุกคน และจัดการกับจิตวิญญาณนี้ได้สมบูรณ์แบบ สรุปจบตรงนี้
สมบูรณ์แบบก็ขอขยายความอีกนิดก่อนจะจบ
1. ขั้นสามัญ รู้จักดีชั่วตามสมมติสัจจะ แล้วก็พาให้ปฏิบัติประพฤติจนเป็นคนดี ไม่ชั่วอีกเลยอย่างเที่ยงแท้นิยตะ
2. รู้จักสุขรู้จักทุกข์ แล้วก็ไม่เป็นทาสสุขทุกข์ เป็นอรหันต์
3. เป็นมนุษย์ที่จะนำความรู้นี้ รู้โลก รู้อัตตา รู้สิ่งที่รวมกันอยู่ใน ทุกสิ่งอย่าง รูปกับนามนี้ แล้วก็เอามาประกาศละเอียดไป ขยายความไปถึงกรรมและสิ่งที่มันเกิดอยู่ในกาละ จนสุดท้ายรู้ทุกสิ่งทุกอย่างของโลกและอัตตาที่จะจัดการโลกและอัตตา ไปตามกาล จนกระทั่งจากกาละไปเลย สมบูรณ์แบบ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือผู้สถาปนาโลกุตระปัญญา ล้างอวิชชาในยุคนี้ วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2567 ( 17:06:07 )
รายละเอียด
ซื่อบื้อกันสู่รู้ ดีนัก
หลงเปลือกบ่รู้จัก แก่นแท้
ไทยประพฤติสิทธิศักดิ์ ตรงพุทธ- ศาสตร์เลย
เป็น“รัฐประหาร”แก้ วิกฤติได้ประชาทำ
ประชาชนเป็นคนลงมือแก้วิกฤติ เป็นคนทำรัฐประหารเอง ผู้ไม่รู้แก่นแท้ประชาธิปไตย ก็เอาผิวเปลือกอะไรมายืนยัน แต่อันนี้คือแก่นแท้ประชาธิปไตยคือ ประชาชนโดยประชาชน เพื่อประชาชน รวมหมดเลย ถูกต้องหมดและทำรัฐประหารอย่างวิเศษที่สุด รัฐประหารที่สวยงามเลิศประเสริฐ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม หนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก
เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 16:11:59 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2561
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 18:25:45 )
รายละเอียด
เป็นตัวอย่างของโลกที่อาตมาก็ว่าคนเขาว่าอาตมาหลง หลงชาติตัวเองหลงพฤติกรรมพฤติการณ์ของบุคคลไทยเอง ยกว่าเป็นใหญ่เป็นหนึ่งอะไรในโลก ไม่มีใครเหมือน อาตมาว่าไม่มีใครเหมือน อาตมาว่าไม่ผิดหรอก แต่คนเขายังไม่ยอมรับ เพราะว่าพวกเรายังเป็นประเทศเล็ก ถ้าไปคิดสัดส่วนของประชาชนแล้วก็ออกไปปฏิบัติการทางการเมืองกัน เทียบกับโลกเขาเทียบกับประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเทียบกับเมืองจีนเป็นพันๆ คน อินเดียเขายังไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้แต่จีนเขามีหลาย นี่ก็ช่างเขา ปรับมาได้เป็นอย่างนี้แล้วก็ดีแล้ว
หรือประเทศอื่นๆ เดี๋ยวนี้นี่ประเทศสหรัฐก็ยังประท้วงกันอยู่ หมู่เล็กหมู่น้อยมันเป็นปกิณกะ เป็นกระปริดกระปรอย ก็ทำกันอยู่เขาถือว่าเป็นสิทธิก็ถือว่าเป็นเรื่องที่จะต้องทำได้เขาก็ทำกันไป แต่เมืองไทยนี่แม้จะมีการประท้วงมันก็เป็นเศษ เรื่องของ Error ของสังคมประเทศ มันมีบ้าง มันไม่มีฤทธิ์ไม่มีอำนาจไม่มี ผล ไม่มีผลที่จะไปล้มล้างกระเทือนอะไรได้เลย แต่เขาก็ยังงมงายยังหลงตัวเอง ยังมีอวิชชา ยังมีความมุ่งมาดปรารถนาที่จะล้มล้าง ที่จะมองอย่างเป็นอคติไปหมดเลย
ว่านายกคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งเสื่อม ยิ่งอยู่ยิ่งทรุด อะไรต่ออะไรต่างๆนานาพูดไป ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ไปคิดกันจริงๆสิ คณะบริหารประเทศ ผู้ที่เขาไม่ได้เล่นการเมืองกัน เขาก็มีหน้าที่ที่จะตรวจสอบสถิติว่า อันนี้นี่ด้านนี้ด้านเศรษฐกิจ ด้านรัฐกิจอันนี้มันเจริญอย่างไรมันก้าวหน้าอย่างไรตามหลักวิชาการตามสากล เขาก็มีรายงานออกมานะ แต่พวกตามืดตาบอดมันไม่เอา มันก็มุ่งแต่จิตที่มันอคตินั่นแหละถล่มทลายไป พูดกัน ไม่ได้เอาความจริงเข้าว่า ไม่ได้เอาหลักฐานเข้าว่าเลย ตั้งหน้าตั้งตาที่จะถล่มทลายกันอย่างเดียว คนเราไปห้ามเขาไม่โง่ไม่ได้นะ เราไม่รู้จะห้ามได้ยังไงคนที่โง่เขาก็แสดงออก คนเขาก็มองดู
คนเขาหาว่าอาตมาลำเอียง อคติ ไปหลงพลเอกประยุทธ์ เข้าข้างประยุทธ์ เอาเถอะเราก็ไม่ได้ไปบังคับให้เขาเข้าใจว่าเราไม่ได้มีอคติอย่างนั้น เรามีคติตรงอยู่ ไม่ได้มีทุคติอย่างนั้นเลยไม่ได้มีอคติอย่างนั้น อาตมามีสัมมาคติ มีคติหรือความคิดการดำเนินไปในทางความคิดของอาตมาว่าอาตมาไม่ได้ลำเอียงอะไรไม่ได้ไปรักไปชังอะไร อะไรดีอาตมาก็ว่าดี แล้วต้องส่งเสริม คนเป็นกลางจะต้องเข้าข้างหรือส่งเสริมคนดี อย่างที่ในหลวงท่านก็ตรัสต้องส่งเสริมคนดีต้องช่วยเหลือคนดี ให้บ้านเมืองได้อยู่เป็นสุข เพราะฉะนั้นต้องเข้าข้างคนดีต้องช่วยคนดีส่งเสริมคนดี เราจะไปอมพะนำอยู่ เขาจะดีจะชั่วช่างหัวเขาอย่างท่านพุทธทาสว่า มันไม่ได้ มันต้องช่วยคนดี ผู้เป็นกลางนี้ต้องมีปัญญา
ผู้เป็นกลางนี้อคติไม่ได้ ผู้มีอคติเป็นกลางไม่ได้ ผู้ที่ไม่มีอคติจริงๆจึงจะเป็นกลางได้ เพราะฉะนั้นคนเป็นกลางก็จะต้องเข้าข้างคนดี ส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้กระทำดีสะดวก ให้ทำดีได้มีพลัง ให้ทำดีได้เกิดขึ้นเป็นประโยชน์แก่สังคมมนุษยชาติ ต้องเข้าใจสัจธรรมพวกนี้ให้ชัดๆแม่นๆ แล้วสังคมประเทศมันถึงจะอยู่ได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การเมืองและเศรษฐกิจแบบโลกุตระ พรรคสัมมาธิปไตย วันพุธที่ 15 มีนาคม 2566 แรม 9 ค่ำเดือน 4 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2566 ( 19:33:14 )
รายละเอียด
ตอบสั้นๆ เหมือนกัน ความเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย ความเป็นผู้อยู่กับหมู่แล้วฟังหมู่ ฟังครูบาอาจารย์ ตั้งใจศึกษาดีๆ อย่างนี้คือคุณอยู่กับหมู่แล้วทำให้หมู่เจริญได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เกเรกับหมู่ เที่ยวไปประท้วงอยู่อย่างนั้นมันไม่เป็นความเจริญของหมู่หรอก ถ้าไปทำอย่างนั้นทำให้หมู่เจริญไม่ได้ แต่มันมีซ้อนลึกอยู่เหมือนกัน เราพยายามท้วงติงตรวจสอบ อย่างพอเหมาะพอดี อันนี้แหละสำคัญ อันนี้พาให้หมู่เจริญได้ด้วย
หมู่จะทำอย่างไรเราก็เออออห่อหมกเลย มันก็ไม่พาเจริญเหมือนกันนะ ถ้าพาให้ลงนรกด้วยกันมันก็ไปด้วยกันหมดเลย ไม่ใช้ปฏิภานปัญญาของตนเองช่วยบ้างเลย เสียหายหมด เพราะฉะนั้นเราเป็นคนคนหนึ่งก็ดูอย่างพอเหมาะพอดี อันนี้ ท้วงบ้างได้ไหม เราอาจจะท้วงผิดก็ได้ เราอาจท้วงถูกก็ได้ ท้วงอย่างพอเหมาะ ท้วงแล้วหมู่มีนักวิเคราะห์วิจัยกันแล้ว ไม่เอาด้วยก็ทิ้งไป แต่ถ้าท้วงแล้วหมู่เอาไปวิเคราะห์วิจัยแล้วพบว่าอันนี้แหลมคมดี ของคุณถูก ใช้ได้ แต่อย่าไปยึดมั่นถือมั่นว่า ฉันจะต้องใหญ่ ฉันจะต้องชนะ ฉันจะต้องถูกทันทีเท่านั้นเองเป็นเรื่องใหญ่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 1 วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 01 กรกฎาคม 2564 ( 10:58:14 )
รายละเอียด
ซึ่งในนัยยะจริงแล้ว หมู่น้อยที่มีปัญญาแน่นอนต้องมีหมู่น้อย เหนือกว่าหมู่มาก Minority rights ส่วนน้อย เป็นสิทธิก็ได้หรือเป็นความถูกต้องก็ได้ ส่วนน้อยเป็นสิทธิของเขาแล้วที่จริงเขาจะถูกด้วยนะ อันนั้นก็เป็นเพียงตามกฎระเบียบวินัยแบบแผนสมมติสัจจะ เป็นส่วนใหญ่ Majority Rule เป็นกฎหลักวินัยแบบแผนอะไรก็แล้วแต่ แล้วก็เอาไปตัดสินอาศัยทั้ง 2 อย่างนี่แหละ อะไรที่จะเอาไว้อาศัยตามกาละเทศะฐานะที่เป็นปัจจุบันที่สุด จึงต้องศึกษาตามธรรมพระพุทธเจ้า มีสัปปุริสธรรม 7 เป็นองค์ประกอบที่รวบรวมมาแล้วตัดสิน สูงกว่านั้นก็ใช้มหาปเทส 4
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:17:27 )
รายละเอียด
ผู้ที่ไม่เข้าใจอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีปัญญารู้ว่า คุณอยู่กับปัจจุบัน อะไรที่เป็นความสำคัญในชีวิตที่จะตั้งอยู่ อาหาร เป็นหนึ่งสำคัญ นอกนั้นก็เป็นเครื่องอาศัย
เครื่องอาศัยที่ว่านี้ไม่ใช่เป็นเครื่องอาศัยที่จะใช้ เป็นเครื่องมือในการเอาเปรียบ แต่เป็นเครื่องมือในการเสียสละ เราจะใช้งานนี่ กระดาษแผ่นหนึ่งเขียนแล้วก็บันทึก สิ่งที่ทำยังไงเราจะประพฤติเสียสละให้แก่สังคม ไม่ใช่เอามาบันทึกว่าทำอย่างนี้เราจะได้เปรียบสังคม
เพราะฉะนั้นความเจริญของมนุษย์ จึงอยู่ที่ความได้เสียสละ ชีวิตเราสามารถพึ่งตนเองรอด เราสร้างสรร แม้เราไม่ได้สร้างสรรโดยตรง เช่น เราไม่ได้ปลูกข้าวโดยตรง เราไม่ได้ปลูกพืชผักเข้ามาอาศัยกินโดยตรง ไม่ได้สร้างเสื้อผ้าโดยตรง ไม่ได้สร้างยารักษาโรคโดยตรง ไม่ได้สร้างบ้านเรือนโดยตรง หรือไม่ได้สร้างสิ่งที่เป็นบริขารคือสิ่งที่จำเป็นต้องเอามาใส่ใช้สอยประกอบชีวิต
แต่ เราก็มีความรู้ความสามารถในด้านอื่นที่จำเป็น มนุษย์ต้องอาศัยใช้สอยในยุคนี้ แม้ที่สุดสร้างขึ้นมาเป็นสิ่งที่บาป เป็นสิ่งที่ ทำลายชีวิตเป็นสิ่งไร้ค่า ทำลายชีวิตและมอมเมามนุษย์ ผู้มีปัญญาก็เข้าใจว่าเราไม่ควรไปสร้าง สิ่งที่สร้างขึ้นมาแล้วฆ่าทำลายชีวิต สร้างขึ้นมาเป็นสิ่งมอมเมาเป็นสิ่งเป็นพิษต่อชีวิต
ชีวิตเราเกิดมามีเวลาเหมือนกันเท่ากันเอาไปสร้างทำไมแบบนั้น กรรมเป็นอันทำด้วย ไร้ค่าเป็นบาปให้แก่ชีวิตอีก ผู้ที่รู้ลึกซึ้งไปถึงขั้นบาปไม่ทำ รู้จักกรรมวิบาก เทวนิยม ยังไกลมากเลย ที่เขาไม่เชื่อไม่รู้จักกรรมวิบาก เพราะฉะนั้นเขาจะสร้างอาวุธขึ้นมาฆ่าชีวิต สร้างสิ่งมอมเมามามอมเมามนุษย์ สร้างสิ่งที่เป็นพิษมาให้แก่ชีวิตมนุษย์ เขาไม่รู้
เพราะศาสดาหรือพระเจ้าไม่ได้สอนเขา แต่ศาสนาพุทธสอนเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นผู้รู้จริงอย่างชาวอโศกจะไม่ไปสร้างอาวุธ จะไม่ไปสร้างสิ่งที่เป็นพิษ จะไม่ไปสร้างสิ่งที่มอมเมา
สร้างแต่สิ่งที่เป็นสาระ แต่ละเวลากับกรรมของเรา Kama and time of continuum สันตติ ที่มันดำเนินไปเป็น continuing ชีวิตเราจึงมีกรรมที่มีค่าไปแต่ละกาละของชีวิต รู้จักพักรู้จักเพียร
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่18 ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณมนุษย์ และอภิวัฒน์สังคม วันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 15:53:06 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561
เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 11:24:11 )
รายละเอียด
ก็อธิบายกันไปได้ นิพพานของพระอรหันต์เท่านั้นเป็นสัจจะหนึ่งเดียว นอกจากนิพพานของพระอรหันต์แล้วไม่มีอะไรเป็นอย่างเดียวแย่งกันได้ทั้งนั้นถ้าเข้าใจอย่างนี้นะ จะไม่แย้งว่าอาตมาแย้งใครๆ จะไม่แย้งอาตมาเลย
เพราะว่าผู้นั้นจะเข้าใจ จูฬวิยูหสูตร เข้าใจสัจจะมีหนึ่งเดียวคือนิพพาน พระอรหันต์ที่บรรลุนิพพานแล้วจะมีนิพพานหนึ่งเดียวตรงกัน นอกนั้นอะไรที่ไม่ใช่นิพพานแล้วแย้งกันได้หมดต่างกันหมด นี่ท่านอธิบายง่ายๆ
เพราะฉะนั้นการเห็นต่างกันแย้งกันอาตมาไม่แปลกใจ ไม่พูดอะไรที่ไม่ใช่นิพพานมันแย้งได้หมด พูดขี้หมูรา ก็ไม่ใช่ขี้หมาแห้งอย่างนี้เป็นต้น
อาตมาก็ไม่ว่าไง ...อาตมาชัดเจนว่าที่เขาเปรียบนั้น แม่โง่ มีอวิชชา ยังไม่ได้บรรลุนิพพาน เพราะผู้ที่ไม่สัมมาทิฏฐิปฏิบัติจนเข้าทางจริงๆ แล้วยังโง่อยู่ทุกคน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฌานของพุทธต้องเกิดจากจรณะ 15 วิชชา 8 วันพุธที่ 13 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 10:29:16 )
รายละเอียด
วิปัสสนาจริงๆ แล้วคือความรู้ความเห็นแจ้ง มโนมยิทธิคือจิตที่สามารถทำสำเร็จ เป็นตัวทำสำเร็จ เพราะฉะนั้นผู้ที่ทำได้สำเร็จก็คือผู้ที่เกิดวิปัสสนา ผู้ที่วิปัสสนาได้ก็เอาไปทำสำเร็จเมื่อทำสำเร็จแล้วก็เป็นสภาวะ เมื่อเป็นสภาวะแล้วจะพลิกเอาตัวไหนมาเรียก
จริงๆจะเรียกว่าวิปัสสนามาก่อนหรือมโนมยิทธิมาก่อน สายเจโตจะเป็นมโนมยิทธิก่อน สายปัญญาจะวิปัสสนาก่อน จะรู้เห็นก่อนชัดเจนก่อนวิปัสสนา แล้วจึงทำมโนมยิทธิ ส่วนสายเจโตนั้นทำก่อน โดยปัญญามันลึกๆๆ ไม่ค่อยรู้ตัว สัญญาเป็นตัวนำ ไม่ใช่ปัญญาเป็นตัวนำ สายเจโตนี่สัญญาเป็นตัวนำ ลึก ไม่ค่อยรู้ตัว พอทำได้แล้วค่อยมารู้ทีหลัง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 1 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 10:26:05 )
รายละเอียด
บุญ คือ เครื่องมือฆ่ากิเลส แหม ไม่รู้จะพูดอย่างไร มันไม่ใช่กุศล บุญไม่ใช่กุศล แต่เป็นอาวุธร้ายซึ่งไม่ควรจะมี ไม่ควรจะเป็นเลยมนุษย์ แล้วไปสะสมทำไม สะสมอาวุธกันฆ่า แล้วไม่ใช่ฆ่าอื่นด้วย ฆ่ากิเลสอย่างเดียว one way Traffic มันทำหน้าที่ฆ่ากิเลสอย่างเดียวจบไม่มีอะไรเหลือเลยจบหน้าที่แล้วก็จบกัน ไม่มีอะไรตกค้าง ไม่มีอะไรจะมาสะสมรองรับกันอยู่ที่ตัวเราเลย ไม่มี ถ้ามีมันก็ไม่หมดสิ้นไม่สูญสิ้นไม่สิ้นเรื่องไม่เป็นนิพพานไม่สูญหาย
บุญไม่มีอะไรต่อ เป็นเอกังสะ โดยส่วนเดียว ทางเดียวเป็น one way Traffic ทำหน้าที่เดียวแล้วก็หายไปเลย จะสำเร็จไม่สำเร็จก็ไปเรื่อยเลย มีแต่ไปอย่างเดียว ไม่มีโค้ง ไม่มีงอกลับมาเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 5 ธรรมิกราชแจกแจงสังขารในปฏิจจสมุปบาท วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2565 ( 17:28:39 )
รายละเอียด
นี่คือสัจจะของพวกวิทยาศาสตร์ที่โลกเขารู้กันไม่ได้ผิดเพี้ยนอะไร เพราะฉะนั้นจะบอกว่า 1.มันเป็นโลหะ 2.มันเป็นดินน้ำลมไฟ หินมันก็ไม่ใช่โลหะทีเดียว ส่วนทองคำนั้นก็เป็นโลหะ ซึ่งเป็นของอยู่ในนี้แหละเอามาใช้ ไม่ใช่ของที่ไปยึดถือว่ามันมีราคามีค่าอะไรมากมาย
คุณมีคุณธรรมสิ มีทศพิธสิ มีคุณธรรม 10 ประการนี้ยิ่งใหญ่กว่าทองคำ ยิ่งใหญ่กว่าหินที่กอง นี่มันลูกนิมิตเล็กนะ มันน่าจะลูกโตกว่านี้อีก แล้วก็ไปปิดทองลูกนิมิตให้โต ให้เป็นทองคำเลย เอาทั้งโลหะ เอาทั้งดินน้ำไฟลม หินก็คือดินน้ำไฟลมที่จับตัวกัน แล้วก็โลหะ ปิดเข้าไป ที่จริงน่าจะเอาเพชรมาติดทอง ได้ทั้งคาร์บอนได้ทั้งถ่าน เอามาปิดทองทั้งเพชร แล้วก็เอาทองคำปิดเข้าไปในเพชรเลย ถ้าเพชรก้อนเท่านี้ก็เจ้าเอ๋ย ไม่เหลือหรอก รับรอง มันยกเครื่องบินจากประเทศไหนมาปล้นแน่นอน ถ้ามีเพชรก้อนขนาดนี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2565 ( 12:37:26 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2563 ( 08:48:49 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:26:34 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:46:55 )
รายละเอียด
อาตมาพยายามทำความเข้าใจสำนวนของคุณนะ พยายามที่จะเอาอะไรมาวัดเป็นบรรทัดฐาน ความดี เอาความดีวัดกับบรรทัดฐานอะไร เรามาเข้าใจแบบไทยๆว่า บรรทัดฐานการวัดความดีนั้นเอาอะไรวัด ก็เข้าใจอย่างนี้นะ อาตมาเข้าใจอย่างนี้ ก็ขอตอบว่าบรรทัดฐานในการวัดความดี มันเป็นสมมุติ ความดีความชั่วเป็นสมมุติ แต่ละกลุ่มชุมชน แต่ละสังคม กลุ่มชุมชนแต่ละสังคมหมู่กลุ่ม ก็จะมีบรรทัดฐานของตัวเอง ยกตัวอย่างอย่างหยาบๆ ศาสนาหนึ่งก็มีบรรทัดฐานของคัมภีร์หรือคำสอนของพระศาสดาเป็นบรรทัดฐาน ย่อยลงมาแม้แต่ในศาสนาเดียวกันก็ยังมีนิกาย มีพวกที่ย่อยๆแต่ละความเห็น แต่ละกลุ่ม แต่ละสังคมก็แยกแตกต่างกันไป ถือเป็นบรรทัดฐานแยกไปอีก ก็เป็นสมมุติมันไม่เที่ยงมันแล้วแต่สมมุติยึดถือ นับถือ ยอมรับกันเป็นบรรทัดฐาน
ที่นี้ของอาตมาเอาอะไรเป็นบรรทัดฐาน อาตมาเอาบรรทัดฐานของตัวเอง เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานของตัวเอง ขอยืนยันว่าอาตมาเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าอย่างนี้ คนอื่นเขาก็จะพูดอย่างนี้เหมือนกันว่าเขาเอาความเข้าใจของพระพุทธเจ้าอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเขาก็เอาของพระพุทธเจ้าเหมือนกันอาตมาก็ขอบอกความจริงอย่างนี้เพราะมันแย้งกันแน่ เพราะความเห็นความเข้าใจที่อาตมาเอาความเห็นอาตมาเป็นบรรทัดฐานนี้ อาตมาเปิดเผยความจริงว่าอาตมาทำงานศาสนาอาตมาเอาธรรมะของอาตมามาเอง อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์ แม้จะเรียกว่าเป็นพุทธศาสนาด้วยกัน อาตมายืนยันอาตมาเป็นพุทธแล้วพุทธมีแต่เดิมด้วย อาตมาก็เอาความเห็นของอาตมาตามที่อาตมาเข้าใจนี้มาแสดงออก ซึ่งขัดแย้งเลยกับของส่วนใหญ่กับของที่เขายอมรับนับถือกันจนเป็นเรื่องขัดแย้งกันจนกระทั่งจะเอาอาตมาตาย
จนสุดท้าย อาตมาก็เข้าใจของอาตมาอย่างนี้ ท่านก็เข้าใจของท่านเป็นอย่างนั้นก็เป็นนานาสังวาส แต่ท่านเข้าใจว่าของอาตมาไม่เป็นพุทธแต่ของท่านเป็นพุทธ นี่คือท่านแยกนิกายโดยความเห็นของท่านความเข้าใจของท่าน แต่อาตมาไม่ได้ไปว่าท่านไม่เป็นพุทธ อาตมาก็ถือว่าท่านเป็นพุทธ แต่ท่านมีความเห็นต่างกันกับอาตมา นี่คือความหมายของนานาสังวาส ที่อาตมาเห็นอย่างนั้นและถืออย่างนั้น อาตมาไม่เห็นว่าท่านเป็นนิกายเพราะอาตมาไม่อยากแยก อาตมาก็ไม่เห็นว่าท่านคิดแยก ท่านก็ว่าท่านนับถือพระพุทธเจ้า อาตมาก็นับถือพระพุทธเจ้า อันนี้อาตมาเชื่อจริงๆ ของท่านและอาตมาก็จริงใจของอาตมา อาตมานับถือพระพุทธเจ้า
แม้ว่าในทิฐิ Concept นับถือพระพุทธเจ้า อาจจะพระพุทธเจ้าคนละองค์ก็แล้วแต่ อันนู้นคือตามสมมุติ แต่สัจจะมันคือเนื้อหาของความเข้าใจ เนื้อหาของปัญญาที่แท้ ของอาตมานั้นอย่างหนึ่ง ของท่านที่แตกต่างกับอาตมานั้นอีกอย่างหนึ่ง นี่คือบรรทัดฐาน ที่ใช้ อาตมาก็ใช้อย่างนี้ด้วยความจริงใจ ทำงานนี้มาก็ยังอยู่ในบรรทัดฐานที่อาตมาเชื่อมั่นของอาตมา ทำงานมา 50 กว่าปีแล้วและก็มั่นใจอยู่ว่ายิ่งดี ยิ่งถูกต้อง ยิ่งยืนยันตามจริง อาตมาก็ถือบรรทัดฐานบัญญัติของพยัญชนะในพระไตรปิฎก อาตมาก็ว่ายังโชคดี ท่านสังคมหมู่ใหญ่ ท่านก็ถือพระไตรปิฎกเล่มนี้ ฉบับของพระกัสสปะ ฉบับสยามรัฐนี้ พยัญชนะอันเดียวกันแต่ความเห็นต่างกัน เท่านั้นเอง ก็ยังดีมีหลักฐานอันเดียวกันให้ยึดถือก็ต่างคนต่างเข้าใจหรือต่างคนต่างอธิบาย มันเป็นสุดท้าย
อาตมาอธิบายอย่างอาตมา ใครฟังแล้วเห็นว่าเป็นธรรมวาทีเป็นคำพูดคำกล่าวอธิบายแล้วเห็นว่าเป็นธรรมะก็เอา ใครจะเห็นว่าไม่เป็นธรรมะ เป็นอธรรม ก็ไม่เอา ก็ไปเห็นอีกอย่างหนึ่งที่ต่างจากอาตมา ก็เห็นอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นธรรมวาที ก็เห็นของอาตมาเป็นอาธรรมทวาที มันไม่ใช่ธรรมะ พูดอย่างนี้ไม่ใช่ธรรมะตามที่เขาเห็นเขาเชื่อก็ต่างคนต่างเห็น ถ้ามีอะไรที่เห็นไม่ตรงกัน อันนี้บังคับไม่ได้ มันเป็นอิสรเสรีภาพของบุคค พระพุทธเจ้าถึงแยกให้เป็นนานาสังวาส ต่างคนต่างมีความเห็นความเข้าใจต่างกันแล้วก็ต่างคนต่างทำตามที่เราเห็นเราเชื่อ นี่เป็นสุดยอดแห่งอิสรเสรีภาพ ไม่ได้บังคับใคร
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 33 ถ้าไม่เรียนรู้สุขทุกข์ ก็สั่งสมบาปอยู่ทุกลมหายใจ วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8(2) ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2566 ( 14:00:44 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 11:55:17 )
รายละเอียด
เรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องของโลกุตระที่เรียกว่าสุขว่าทุกข์ ศาสนาโลกียะศาสนาเทวนิยมสอนแต่ดีกับชั่ว ไม่ได้สอนเรื่องสุขเรื่องทุกข์ เขาเข้าใจสุขทุกข์ไม่ได้ เพราะสุขทุกข์เป็น โลกุตระ
สุข ทุกข์ คือมายา เขาไม่รู้แต่เขาจะอยู่กับมายา มายาตัวไหน เขาจะอยู่กับสุข ศาสนาพุทธจึงไม่มีสุขไม่มีทุกข์ อทุกขมสุข จิตไม่มีกิเลส จิตสะอาดจากกิเลสแล้ว ไม่ทุกข์ไม่สุขแล้ว
ที่มา ที่ไป
เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2565 ( 14:54:41 )
รายละเอียด
อาตมาพูดไปอย่างนี้พวกเถรวาทหรือพวกชาวไทย เขาฟังแล้ว ก็อาจงง หากอาตมาเกิดในแดนมหายาน จะถูกประคบประหงมไม่ได้เรื่องหรอก จะได้รับการสรรเสริญ การได้รับการสรรเสริญนี้ มันเป็นเรื่องต่ำทราม คำตรัสของพระพุทธเจ้านี้ก็สุดยอด ไม่มีค่าควรแก่การให้เกิดการละหน่ายคลายอะไร จริงไหม?... จริง คมเสียจนไม่รู้จะคมอย่างไร มันคม อย่าไปแตะเชียวนะ เข้าไปใกล้ก็บาดแล้ว คมสุดยอดจริงๆ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประเด็นโลกุตระจากงานศพอาจารย์สมเกียรติ วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2564 ( 11:38:11 )
รายละเอียด
1. พระราชาใดชนะคนที่ไม่ควรชนะ พระราชานั้นไม่ชื่อว่าเป็น “พระราชา”
2. ผู้ใดเอาชนะเพื่อน ผู้นั้นไม่ชื่อว่าเป็น “เพื่อน”
3. ภรรยาใดย่อมไม่กลัวเกรงสามี ภรรยานั้นไม่ชื่อว่า เป็น “ภรรยา”
4. บุตรเหล่าใด ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดาผู้แก่แล้ว บุตรเหล่านั้นไม่ชื่อว่าเป็น “บุตร”
5. ในที่ประชุมใดไม่มีสัตบุรุษ ที่ประชุมนั้นไม่ชื่อว่า “สภา” (น สา สภา ยัตถะ น สันติ สันโต)
6. ชนเหล่าใดไม่พูดเป็นธรรม ชนเหล่านั้นไม่ชื่อว่าเป็น “สัตบุรุษ” (น เต สันโต เย น ภณันติ ธัมมัง)
7. คนผู้ละราคะ โทสะ โมหะ ได้แล้ว พูดเป็นธรรมนั่นแล ชื่อว่าเป็น “สัตบุรุษ” (ราคัญจะ โทสัญจะ ปหายะ โมหะ ธัมมะ ภณันตาวะ ภวันติ สันโต)
บัณฑิตผู้อยู่ปะปนกับคนพาล เมื่อไม่พูด ใครๆ ก็ไม่รู้ว่าเป็นบัณฑิต แต่ว่าบัณฑิตเมื่อพูด แสดงอมตธรรม ใครๆ จึงจะรู้ว่าเป็นบัณฑิต เพราะเหตุนั้น บัณฑิตพึงกล่าวธรรมให้กระจ่าง พึงยกธงของพวกฤๅษี ฤๅษีทั้งหลายมีคำสุภาษิตเป็นธง ธรรมเหล่านั้นแลเป็นธง(หรือเครื่องหมาย)ของฤๅษีทั้งหลาย.
ที่มา ที่ไป
มหาสุตโสมชาดกที่ 5 พตปฎ.เล่ม 28 ข้อ 393
ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2562 ( 20:35:07 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:28:17 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:55:46 )
รายละเอียด
“หลับตา”ปฏิบัตินั้น ไม่มี“อปัณณกปฏิปทา 3”นี้เลย“กวฬิงการาหาร”ก็ไม่มี“ผัสสาหาร”ก็ไม่มี “มโนสัญเจตนาหาร”ก็ไม่มี ไม่มี“กระบวนการ(process)”ที่เป็น“เหตุ”ให้ศึกษาปฏิบัติสักข้อ รวมทั้ง“อปัณณกปฏิปทา 3 (สำรวมอินทรีย์ 6-โภชเนมัตตัญญุตา-ชาคริยานุโยคะ)”ก็ไม่มี
หนังสืออ้างอิง
หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 181 หน้า 157
เวลาบันทึก 26 มิถุนายน 2564 ( 19:10:40 )
รายละเอียด
1. แท่งแกน , เพลา , ลูกบาศก์ , อินทรีย์ , ร่างกาย
2. อินทรีย์ , อวัยวะแห่งความรู้สึก
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 241, หน้า 460
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:14:58 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 09:07:21 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:48:46 )
รายละเอียด
อะ อิ อุ ก็สื่อสภาวะของสระ พยัญชนะก็สื่อสภาวะของพยัญชนะ แม้แต่เศษวรรคก็สื่อสภาวะของเศษวรรค
พยัญชนะ เศษวรรค จะเกี่ยวกับพลังงานเป็นหลัก ส่วนพลังงานวรรคทั้ง 5 จะเป็นทั้งพยัญชนะหรือสระ หรือเป็นรูปนามหรือเป็นตัวตน
สระ จะเป็นพลังงานที่เบาบางกว่าเศษวรรค แล้วสระคี่ จะเป็นสระสื่อสภาวะที่เต็มแน่น static กว่าสระคู่ dynamic
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:07:43 )
รายละเอียด
มันละเอียดลึกซึ้งนะอันนี้อาตมาก็ไม่อยากจะฝืนคืนความรู้อันนี้ขึ้นมาพูดให้มันวุ่นวายกันเปล่าๆ เพราะพยัญชนะที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ก็มีพอใช้ ก็ใช้ไปตามที่เขาเอามาใช้แล้ว แล้วบางทีก็ไม่ได้ใช้กันแล้วที่เติมขึ้นมามันก็มากเกินจนกระทั่งไม่ติดตลาด เช่น ฃ.ขวด ไม่ใช้แล้ว ก็ไม่ติดตลาด
ด.เด็ก คิดขึ้นมาแล้วติดตลาดคุณก็ใช้ก็แล้วกัน
ค.คน ก็เช่นกัน คุณจะนิยมใช้ก็ใช้ตามเขา ไม่นิยมก็ไม่ใช้ เข้าใจกันอยู่แล้วใช้ ค.ควาย ตัวเดียวก็ได้
ษ หรือ ศ ก็ใช้กันอยู่แล้วในคนไทย บางที่ เป็นอักษรของภาษาสันสกฤต ของบาลีมี ส.เสือ อันเดียว แต่สันสกฤตไปแยก ศ.ศาลา กับ ษ.ฤาษี คำว่า ศ.ศาลา กับ ษ.ฤาษี มันเป็นภาษาไทย แล้วก็เอาใช้ให้ความหมายต่างกัน จากคำเดียวกันแยกเป็นภาษาสันสกฤตบ้างภาษาไทยบ้าง แล้วไทยก็ให้มีความหมายต่างกันเล็กน้อย บางอันต่างกันมากเลยนะ เอ้าก็ดี มันเป็นพัฒนาการของภาษา มีคำมากขึ้นใช้แทนกันได้ คุณเข้าใจตามนั้นก็ใช้กับเขาได้ ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกันให้มากหรอก รู้ว่าเขาเองหมายถึงอะไร ก็ใช้ให้ตรงกับที่จะใช้สื่อให้รู้กันเท่านี้เอง เราก็ใช้ จะต้องไปคิดเปรียบเทียบกันทำไม เขาคิดมาให้ใช้กันแล้ว เหมือนเขาทำชาม ทำช้อน ทำตะเกียบ คุณไม่ต้องคิดหรอกว่าเขาคิดมาอย่างไร คุณใช้ก็แล้วกันก็ใช้การ ใช้ช้อน ใช้ตะเกียบ ใช้มีดพร้า ก็ใช้ไปเถอะ เขาใช้อย่างนี้ถูกหน้าที่ของมัน ถูกลักษณะของมัน มีดพร้าเอาไว้สำหรับฟันแรงหน่อย ยาวไปสักหัวกะโหลกคนก็แล้วกัน ไม่ใช่หน้าที่มันเป็นบาป ก็ทำให้มันถูกต้องหน้าที่ก็ใช้ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นมันคิดเกินไปเรียกว่าฟุ้งซ่าน ดีไม่ดีเป็นโทษ ใช้ไม่ได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 13:46:35 )
รายละเอียด
อักโกธะ (ความไม่โกรธ) ใครเคยเห็นอาตมาโกรธบ้าง อาตมาไม่ได้โกรธ ไม่เคยโกรธ โดยเฉพาะมาทางธรรมแล้วรู้ตัวแล้ว ลิงลมอมข้าวพอง จะมีเล็กๆน้อยๆเป็นสิ่งที่จะต้องอยู่กับโลกเขาไป ถูกโลกครอบงำก็เลยไปตามโลกเขา ตามอย่างโง่ๆ แต่ไม่เคยโกรธแรงมาก ไม่เคยพยาบาทใคร ไม่เคยมีโกรธ อุปนาหะ ไม่ผูกโกรธ ไม่มีโทสะแรง เป็นคนที่ไม่โกรธ อโกธะ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2565 ( 12:28:00 )
รายละเอียด
1. เลิศสุดยอด
2. ครั้งก่อน , ก่อนอื่นหมด , ปลาย , ยอด , สุดยอด , เลิศ , ประเสริฐ , ยอดเยี่ยม , สูงสุด , ล้ำเลิศ , ส่วนหน้า , ส่วนดีที่สุด , ความมุ่งหมาย , ธงชัย , เด่น , เยี่ยม , เบื้องต้น , ที่สุด , สำคัญที่สุด ,จุดหมาย, ที่สูงสุด ,ความดีเลิศ , ความดีวิเศษ
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 456, รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 80
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:15:52 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:38:39 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:49:34 )
รายละเอียด
คือ เลิศ สูงสุด ยอดเยี่ยม วิเศษ ประเสริฐ
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 254
เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 13:08:04 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:51:47 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:50:01 )
รายละเอียด
เยี่ยมยอด , ยิ่งใหญ่
หนังสืออ้างอิง
ป่ากับพุทธศาสนา หน้า 146
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:16:52 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:39:31 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:50:17 )
รายละเอียด
คือ เลิศ ยิ่งใหญ่ ยอดเยี่ยม ส่วนดีที่สุด
หนังสืออ้างอิง
คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 291
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 13:29:37 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:28:58 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:50:37 )
รายละเอียด
1. ใช้ไฟเป็นสื่อพิธีกรรม
2. ทำพิธีบูชาไฟ
3. พิธีบูชาด้วยไฟ
หนังสืออ้างอิง
อีคิวโลกุตระ หน้า 203,ทางเอก ภาค 3 หน้า 166, ป่ากับพุทธศาสนา หน้า 53
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:17:38 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:41:11 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:50:58 )
รายละเอียด
คือ การบูชาด้วยไฟ จุดไฟให้เป็นควัน ให้เป็นเปลว เพื่อติดต่อกับเทวดา เพ้อๆ ฝันๆ ยังเป็นเทวนิยมอยู่
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 275
เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 14:44:06 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:52:32 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:51:26 )
รายละเอียด
อังคาต คือ ถวายอาหารพระสงฆ์พระพุทธเจ้า
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 68 วันจันทร์ที่ 9 เดือนกันยายน 2562
เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 14:12:43 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:29:59 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:51:54 )
รายละเอียด
มีความเพียรจัดไป เป็นสภาพสุดโต่ง
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 243
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:19:09 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:44:24 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:52:13 )
รายละเอียด
ความฉลาด
หนังสืออ้างอิง
จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 157
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:19:44 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:45:36 )
รายละเอียด
อัจฉริยะเก่งสะสมวิบาก กรรมวิบากเป็นอจินไตย วิบากแปลว่าผลของการกระทำ คือกรรม เพราะฉะนั้นถนัดทางไหนชอบทางไหนก็สั่งสมมาไม่รู้กี่ชาติ มีแต่กรรมวิบาก ศาสนาทางเทวนิยมส่วนมากเป็นศาสนาพระเจ้าเยอะเลยในโลก ก็ไม่รู้จักเรื่องกรรมวิบาก ไม่เรียนรู้เกิดชาติเดียวไปกับพระเจ้า ตายไปแล้วก็ไปอยู่กับพระเจ้า..แล้วแต่พระเจ้ามีประสงค์จะให้ลงนรกขึ้นสวรรค์อ้อนวอนประจบประแจงพระเจ้าไว้ สอนให้ละชั่วประพฤติดีเหมือนกัน ผู้ที่ประพฤติดีละชั่วก็ได้อยู่บนสวรรค์กับพระเจ้า มันก็ตกนรกส่วนใหญ่ ขึ้นสวรรค์เท่าขี้เล็บ ตกนรกซะส่วนใหญ่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การศึกษาที่ไม่ลดกิเลสกู้ประเทศไม่ได้ วันพุธที่ 6 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 10:42:50 )
รายละเอียด
เดี๋ยวนี้
หนังสืออ้างอิง
จากหนังสือทางเอก ภาค 3 หน้า 447
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:20:16 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:47:20 )
รายละเอียด
1. ในภายใน
2. ภายใน
3. ภาวะภายใน
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 521, ค้าบุญคือบาป หน้า 130, ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 74
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:21:13 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:49:02 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:52:47 )
รายละเอียด
1. อรูปธรรมแห่งนามธรรมในภายใน
2. อรูปภายในที่กำหนดรู้เห็นจริงอยู่ , การกำหนดรู้กระทั่งเห็นนามภายในถึงขั้นอรูป
3. อรูปภายในก็สามารถกำหนดรู้ , มีความรู้สึกขั้นอรูปในภายใน
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 195, ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 58,247 ค้าบุญคือบาป หน้า 177,222
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:22:23 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:53:17 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:53:12 )
รายละเอียด
ผู้ควรแก่การกราบไหว้
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 174
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:23:03 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:54:49 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:53:47 )
รายละเอียด
อัญญ คือ อื่น
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 17 กันยายน 2562 ( 15:21:49 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:32:32 )
รายละเอียด
อัญญธาตุ คือ การเริ่มต้นเข้าสู่กระแสของโลกุตรธรรม ศาสนาที่มีอัญญธาตุเข้าสู่กระแสเรียนรู้ความสุข ความทุกข์
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 17 กันยายน 2562 ( 15:21:10 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:33:02 )
รายละเอียด
ธาตุจิตที่รู้โลกใหม่รู้โลกโลกุตระ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 14:46:58 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:33:34 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:54:26 )
รายละเอียด
เป็นธาตุตัวแรกที่เป็นอัญญา เป็นความรู้ ธาตุตัวนี้เป็นธาตุตัวใหม่ที่ต่างจากตัวเก่าที่เป็นตัวเดิมโลกียะ มันเป็นความเป็นจริงของตัวเอง เป็นความรู้ความเห็นความเชื่อว่ามีอย่างนี้ด้วยหรือเป็นธาตุและรู้ที่เป็นตัวชัดเจน
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซีวิต ที่บวรปฐมอโศก ครั้งที่ 65 วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:58:15 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:34:55 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:54:51 )
รายละเอียด
คือ ธาตุจิตที่เกิดใหม่ เป็น“ตัวอื่น”อันแตกต่างจากธาตุรู้เดิมแบบ โลกีย์เก่าๆ ที่หลงงมงายยึดอยู่นั่นแล้ว
หนังสืออ้างอิง
คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 315
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 13:45:42 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:35:43 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:55:12 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการกายนี้คือวิญญาณ วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2563 ( 10:17:44 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:36:06 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:55:42 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 14:23:02 )
รายละเอียด
จะต้องเกิดอัญญธาตุ ธาตุใหม่ธาตุอื่นที่แตกต่างจากโลกียธาตุ จะเป็นอันอื่น ที่เราใช้เป็นศัพท์บาลีว่า อัญญธาตุ
พระพุทธเจ้าท่านใช้กับ อัญญาโกณฑัญญะ 1 ในปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ท่าน เทศนาไปแล้วโกณฑัญญะเกิดเข้าใจได้เป็นโลกุตรธรรม พระพุทธเจ้าถึงได้อุทานว่า อัญญาสิ วตโภโกณฑัญโญ มีคนรู้ได้เข้าใจได้แล้ว มันยากจริงๆนะที่โลกโลกียธรรมดาจะมารู้อันนี้ได้ เพราะในยุคนี้เป็นยุคเสื่อม 2,500 กว่าปีแล้ว คนได้เสื่อมจากศาสนาแล้ว ศาสนาไม่ได้เสื่อมหรอก ชาวพุทธได้เสื่อมไปจากศาสนา จนกระทั่งพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เอาไปเอามาจนกระทั่งผู้ที่พูดโลกุตระยังถูกจัดการเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 2 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันอังคารที่ 6 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 13:46:20 )
รายละเอียด
แต่ก็ยังมีผู้ที่มีธุลีในดวงตาน้อย สามารถจะเกิดอัญญธาตุ คือธาตุอื่นธาตุใหม่ ที่ยังไม่เคยเกิดมาในโลกียปุถุชน ไม่เคยมี ในโลกทุกโลก โลกทุกใบ ที่มีมวลมนุษยชาติอยู่ ที่เป็นโลกมนุษยชาติเจริญจนถึงขั้นมีโลกุตรธรรม ซึ่งไม่ได้มีมากในมหาจักรวาล เอกภพนี้มีโลกอย่างนี้อยู่ อาตมาบอกตรงๆ ว่าอาตมารู้แต่ตรรกะ อาตมาไม่สามารถที่จะตามไปดูโลกที่ห่างไปไม่รู้กี่ล้านๆๆๆ ปีแสง ที่มีดวงดาวโลก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 1 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 05:30:03 )
รายละเอียด
“อัญญธาตุ” เป็นของอื่นของใหม่ การอธิบายโลกนี้โลกอื่น
โลกนี้โลกอื่นในสัมมาทิฏฐิ 10 จะมีตัวที่ 4 “กรรม”, ตัวที่ 5 “โลกนี้”, ตัวที่ 6 “โลกหน้า หรือโลกอื่นโลกใหม่” ที่ต่างจากโลกนี้ๆๆ ไม่เปลี่ยนเป็น 2 เลยไม่เปลี่ยนเป็นอื่น เพราะฉะนั้นคนที่จะมาอธิบายขยายความในโลกนี้กับโลกอื่น
มันมีโลกหน้าโลกใหม่ที่แตกต่าง จนกระทั่งถึงขั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง เพราะคุณไปมีอย่างหาที่สุดไม่ได้ แต่อันนี้ไม่มี ไม่มี และ 0 สุดเลย และรู้ถึงความมีอย่างไม่มีที่สุดด้วย แต่ทางโน้นรู้อย่างเดียวและไม่รู้ที่สุดของตัวเองด้วย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาติ 5 แยกวิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วันพุธที่ 27 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:35:42 )
รายละเอียด
คำว่า กาย ผู้มีปัญญาได้รับสืบทอดจากพระพุทธเจ้าก็ดี เป็นผู้รู้แจ้งรู้จริงในสัมมาทิฏฐิ จะสามารถเข้าใจปัญญาข้อที่ 3
ปัญญาข้อที่ 1 ได้ฟังจากผู้รู้ ปัญญาข้อที่ 2 เข้าไปไต่ถามปัญหาซักถาม อีกตั้งเยอะกว่าจะมีปัญญาเข้าขีด อัญญธาตุ ถึงขั้น 50 หน่วย ถ้าถึง 100 หน่วยก็มี อัญญธาตุ 100 เต็ม ก็จะต้องมีถึง 75 หน่วย สามในสี่จึงจะถือว่าเป็น อัญญธาตุ ที่เที่ยงแท้มีโลกุตระที่จริงที่จะบรรลุได้ ที่จะมี สัมโพธิปรายนะ จะบรรลุไปสู่ที่สูงที่สุดของศาสนาพระพุทธเจ้าได้ ดังที่ พระพุทธเจ้าอุทานกับพระอัญญาโกณฑัญญะว่า อัญญาสิวตโภโกณฑัญโญ อัญญธาตุ ได้เกิดขึ้นที่จิตของอัญญาโกณฑัญญะแล้วหนอ
อัญญธาตุ ที่พระพุทธเจ้าท่านอุทานกับคนคนแรกของศาสนาพุทธ ของพระพุทธเจ้าสมณโคดม เริ่มเปิดเผยธรรมะโลกุตรธรรม ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรพระสูตรแรก โกณฑัญญะก็เข้าใจเลย ถึงเป็นคนแรกของศาสนาพุทธสมณโคดมที่เกิด อัญญธาตุ อัญญะแปลว่าอื่น ต่างจากโลกียะทั้งหมด ที่เป็นโลกอื่นจากโลกีย์ แยกมา จนเป็นหน่วยที่อาตมาขยายความ ถึง 75 หน่วยเข้าขั้น นิยตะ ถ้าเลย 50 ก็ไปเข้าเขตของผู้รู้จริงแล้วแต่ก็ยังไม่เชื่อว่าเที่ยง ยังยึกยัก แต่ถ้า ไปถึง 75 % 3 ใน 4 แล้วก็มีความเที่ยงไปสู่ที่สูงที่สุด ไปสู่สัมโพธิปรายนะได้
การใช้ศัพท์ไทยๆง่ายๆ ผู้ที่ฟังแล้วเข้าใจ มีสิทธิ์แล้ว จะรู้จักความจริงที่เรียกว่า อัญญธาตุ สั่งสม อัญญธาตุ จนกระทั่งถึงหน่วยที่จะแสดงออกให้คนอื่นเขารู้ได้ ขนาดพระพุทธเจ้าจะรู้ได้นี้ โกณฑัญญะต้องมีหน่วย อัญญธาตุ มีหน่วยของโลกุตรธรรมถึง 50 60 ถึง 75 % ขึ้นไป คิดดูสิมันไม่ง่าย คนที่ยังไม่มี อัญญธาตุ เกิดเลยยังไม่มีหน่วยกิตของโลกุตรธรรม หน่วย 1 ก็ยังไม่เกิด 2 หน่วย 5 หน่วย 10 หน่วย 20 หน่วยยังไม่เกิดเลย ยังวนเวียนอยู่ในโลกีย์ตลอดเวลา ก็ยาก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 41คนโง่ซวย รวยเด่น และเป็นกลาง วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2565 ( 14:02:24 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้น โลกุตระกับโลกียะตั้งแต่หยาบ จนกระทั่งแยกละเอียดต้องจับให้ดี ต้องรู้ให้ดี ตามศึกษาโดยการฝึกฝนปฏิบัติให้ได้สภาวะ ถ้าไม่ได้สภาวะมันเป็น อจินไตย ไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดเอา อจินไตยคือไม่มีสิทธิ์จะคิดออกด้วยการคาดคะเนเอา จะต้องมีความจริง มีสภาวธรรมในจิตสั่งสมกันเป็นอัญญธาตุ จึงเป็นกรอบของความรู้ความจริงที่สั่งสมไปทีละหน่วย พอถึงสมมุติมาเต็ม 100 คุณก็ต้องสะสมไปถึง 50 หน่วยใน 100 หน่วย 51 หน่วยก็เริ่มมี อัญญธาตุตัวที่จะเริ่มเข้ากระแสจริงๆ
ถ้าโลกียะคือฝั่งนี้ ฝั่งโลกุตระก็คือฝั่งโน้น ก็ต้องเลยขีด 50 เป็น 51 ถ้าไป 52 53 54 จะไปนับเป็นโลกุตระแท้ๆก็ยังไม่ได้ ต้องไปถึงอีก 25 รวมแล้วเป็น 75 ถึงค่อยเข้าท่าหน่อย เลย 75 ไปแล้ว มันถึงจะค่อยๆ สู่ที่สุดที่สูง สัมโพธิปรายนะ ถ้าแบ่งเป็น 4 ส่วน 25 50 75 100
ใช้สังขยา พวกนี้มาอธิบายแยก แบ่งรายละเอียดเอาตัวเลขสังขยา ก็ทำให้อธิบายได้ดีเป็นคณิตศาสตร์บ้าง ก็ไม่ต้องละเอียดลอออะไร เมื่อรู้สภาวะแล้ว คณิตศาสตร์ก็จะใช้น้อย สภาวะมันเป็นตัวจริงกว่าตัวเลข ตัวเลขมันเป็นเครื่องหมายให้รู้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 3
วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 08:23:07 )
รายละเอียด
มีพยัญชนะคือ สิกขา กิริยา และปฏิปทา เป็นวิธีปฏิบัติ จนกระทั่งเป็นปฏิเวธ
มีอัญญปฏิเวทะ อัญญะคือธาตุรู้ของศาสนาพุทธ อันอื่นจากโลกีย์
อัญญะ จะเรียกว่าเป็นธาตุรู้ก็ยังไม่ใช่ แต่มันเป็นธาตุรู้แล้ว เป็นเริ่มต้นจะเป็นธาตุรู้ ซึ่งมันไม่เหมือนกับธาตุรู้ที่เคยรู้มา แบบเฉกาหรือเฉโก เป็นความรู้แบบโลกีย์มาตลอดเวลาก็วนเวียนเฉกาอยู่นั่นแหละ แต่นี่มันเป็นธาตุรู้ที่คนละทิศเลย หันหลังร้อยแปดสิบองศาเลย ทางโน้นเป็นกระแสโลกีย์ ทางนี้เป็นกระแสโลกุตระ ออกนอกโลกมาได้แล้ว นิดหนึ่งเรียกว่า อัญญะ เป็นตัวอื่นแล้ว พออัญญะ เป็นพหูพจน์ ก็เป็นอัญญา มี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:07:15 )
รายละเอียด
จากผู้รู้แจ้งทั่วถึง
หนังสืออ้างอิง
จากหนังสือสมาธิพุทธ หน้า 455
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 08:25:10 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:56:09 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:35:12 )
รายละเอียด
คือ ความรู้อย่าง “อื่น” ที่ทวนกระแสโลกีย์แท้จริงแท้ เจริญพัฒนาถึงขั้น “ปัญญา” จริงๆ
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 93
เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 13:15:35 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:53:09 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 14:17:10 )
รายละเอียด
คือ ผู้ที่มีความฉลาดแบบอื่น ที่แตกต่างจากอวิชชาธาตุ ของคนสามัญในโลกที่เป็น “โลกีย์” ชนิดที่เป็นคนละโลก หันหลังชนกันจึงมองเห็นทิศจะมุ่งไปตรงกันข้ามเลยทีเดียว
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 71
เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 12:02:46 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:53:52 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:37:10 )
รายละเอียด
คือ แปลว่าอื่น ที่มันต่างจากโลกีย์เดิม เหมือนภาษาต่างดาว แต่ผู้ใดยังไม่ก็คือมาจากดาวคนละดวง พูกันคนละภาษา ก็จะรู้กันได้อย่างไร
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 11:52:54 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:36:48 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:57:09 )
รายละเอียด
คือ ธาตุรู้ตัวแรก ตัวใหม่ ที่ต่างจากโลกียะ เป็นความรู้โลกุตระ เอามาใช้งาน มาเป็น อัญญา มาเป็นปัญญา เป็นความรู้ สมบูรณ์ แบบของโลกุตระ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 81 วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 14:09:14 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:38:14 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:58:28 )
รายละเอียด
ธาตุรู้ตัวแรก ตัวใหม่ ที่ต่างจากโลกียะ เป็นความรู้โลกุตระ เอามาใช้งาน มาเป็น อัญญา มาเป็นปัญญา เป็นความรู้ สมบูรณ์ แบบของโลกุตระ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต ปฐมอโศก (วันจันทร์ 18 พฤศจิกายน 2562)
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 18:43:50 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:38:55 )
รายละเอียด
คือ ความหมายความรู้ของโลกุตระ
อัญญะโดยพยัญชนะ แปลว่า อื่น, ต่างหากไปเลย
แล้วโลกียะเขาไม่ใช้คำว่าอัญญะ หากมันแตกต่างจากตัวเขา เขาไม่เอา แต่อันอื่นที่ว่านี้ อัญญะแปลว่าอื่น แต่ไม่ใช่อื่นของทิ้ง แต่อื่นของพิเศษ ของวิเศษ เป็นอุตระเหนือโลก ความรู้อัญญธาตุ ที่อาตมาอธิบายให้ฟังว่า ในประดาคนของพระพุทธเจ้า สมณะโคดมท่านเริ่มประกาศศาสนากับปัจจวัคคีย์ โกณฑัญญะสามารถรู้ได้คนแรก เพราะว่ามีธาตุรู้ที่นอกเหนือจากโลกียธาตุ อันนี้เป็นของใหม่ เป็นความรู้ต่างโลก คนละดวงดาว ความรู้ความเข้าใจในธรรมะ
ที่มา ที่ไป
630228
เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 15:55:58 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:39:25 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 14:00:06 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 21 เมษายน 2563 ( 12:31:55 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 15:39:57 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 13:37:59 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 14:21:22 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2563
เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2563 ( 11:48:58 )
Facebook : test
Youtube : Name
Twitter : Name
Line : Name
Telegram : Name
Wechat : Name
Skype : Name