@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

คนชั้นเอก 

รายละเอียด

แล้วพวกคุณถือว่าเศรษฐกิจ ของพวกคุณดีหรือไม่ดี ดี อ้าวดียังไงแล้วมันต่ำ เพราะฉะนั้นในความเป็นจริงของคนทั้งกายและจิต กายกรรมของคุณก็ทำจริงอย่างที่ว่า แล้วคุณก็มีจิตที่เป็นวรรณะ 9 คือคลาสสิค คือคนชั้น 1 คนชั้นเอก คุณมีวรรณะ 9 เลี้ยงง่าย  (สุภระ) อยู่อย่างนี้ เลี้ยงดูง่าย เลี้ยงดูยิ่งกว่าไก่ในบ้าน ให้มันจิกหากินเอง ว่างๆ ก็โปรยเมล็ดข้าวให้มันบ้างสบายๆ หากินเอง ที่จริงปลูกสร้างเองหรือแบ่งกันกินเหลือเฟือ แจกจ่ายข้างนอกได้ด้วย เลี้ยงง่าย

บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ) ทำให้พัฒนาเจริญทางความรู้ง่ายแล้วถูกต้องด้วย โลกีย์จะให้เจริญเป็น สุโปสะ ยาก แล้วไม่ถูกต้องเพราะว่ากลายเป็นความฉลาดอย่างเฉโก เจริญอย่างโลกีย์ จะสร้างอาวุธแข่งกันไปแย่งรายได้เงินๆ ทองๆ ตัวเงินตัวทอง เขาไปแย่งจริงๆ ขออภัยเรียกเป็นตัวเงิน เดี๋ยวจะเข้าใจตัวเงินตัวทองเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง เราไม่ได้แย่งกันเลยพวกเงินๆ ทองๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เกิดมาต้องรู้จักความเป็นคนกับสังคมจึงไม่เสียชาติเกิด วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 เมษายน 2566 ( 11:26:30 )

คนชาวอเมริกันคบไม่ไหวเพราะอะไร

รายละเอียด

เห็นไหมว่าเขาไม่มีปัญญา คนอเมริกัน ไม่มีปัญญาเลยแม้แต่ว่า เอามาทำเล่นทำไมอาวุธ เอามาฆ่าคน มันฆ่ากันตาย เขากลัวคนจะล้นประเทศหรืออย่างไร ทำไมมันอำมหิตอะไรกันนักกันหนา เพราะฉะนั้นเขาจึงกลายเป็นสัตว์อำมหิต สำหรับอเมริกัน สร้างอาวุธไว้ฆ่ากัน ตัวเองก็ฆ่ากันเล่น ในประเทศก็ฆ่ากันเล่น คนอื่นก็ไปเที่ยวฆ่าเขา หาเวลาจะเจริญยาก ความคิดอย่างอเมริกัน มียกตัวอย่างชัดเจนและเป็นจริงด้วย 

เขาไม่รู้หรอกว่า ทัศนคติของคนชาวอเมริกันเป็นอย่างไร เขาไม่รู้ตัวหรอก นี่แหละเป็นอย่างที่อาตมาว่า คบไม่ไหว ไม่ใช่รังเกียจแต่น่าสงสารไม่น่าจะโง่เง่าอย่างนั้น น่าจะฉลาดกว่านี้ ฉลาดแต่สร้างอาวุธ ฆ่าคนได้เก่งกาจแล้วมันคืออะไร มันเป็นความถูกต้องหรือ แต่ว่าสร้างสิ่งที่จะช่วยชูช่วยชีวิตอย่างพืชพันธุ์ธัญญาหาร คนดีสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก ครั้งที่ 41 อาหารเป็น 1 ในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 20:30:38 )

คนชาวอโศกเป็นคนโลกุตระ

รายละเอียด

วันนี้พูดอย่างอวดดี แต่เรื่องอะไรจะอวดความชั่ว ก็ต้องอวดความดีให้กันฟัง อาตมาไม่โง่นะ ใครจะโง่อวิชชาก็อวิชชาไป อาตมาฉลาด ใครจะว่าอาตมาโง่ก็แล้วไป อาตมาเลิกอวิชชาแล้ว อาตมาฉลาดแล้วรู้ด้วยว่า โลกียะกับโลกุตระต่างกันอย่างไรแยกแยะได้ อาตมาไม่โง่แล้ว ส่วนคนโง่คือคนไม่รู้หรอกโลกุตระกับโลกียะ ก็อยากพูดแต่พูดไม่ได้ อาตมาพูดได้ แยกแยะได้ เอามาให้คนปฏิบัติได้ด้วย คนชาวอโศกเป็นคนโลกุตระ ยืนยัน มีในศาสนาพุทธ ศาสนาเดียวเท่านั้นที่มีโลกุตระ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  กาลามสูตรและเตวิชชสูตร วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2561 ที่บวรสันติอโศก

 สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล มีที่ไหนในพระไตรปิฎก


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:50:42 )

คนดี

รายละเอียด

อยู่ดีๆก็ไม่ใช่จะมาเป็น"คนดี"ก็ไปที่พูดเช่นนี้อยู่ดีๆคนเราจะมาเป็น"คนดี"ไม่ได้หรอกเป็นสัตว์เซลล์เดียวมันไม่รู้เรื่องอะไรกว่าจะมาเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ตามประสาของสัตว์จนกระทั่งค่อยๆพัฒนามาเป็นคนแล้วก็ค่อยๆศึกษา แม้เป็นโลกียก็เป็น"คนดีๆ"คือไม่เห็นแก่ตัว เขาก็พอรู้ แต่ไม่มีทฤษฎีที่จะรู้คำว่าตัวตนอัตตา แล้วค่อยมีความรู้ปัญญาสามารถฆ่าความเป็นอัตตา ศาสนาเทวนิยมได้แต่ข่มอัตตา ทำแต่ดี ข่มชั่วไว้ แต่แล้วสักวันมันก็ฟื้นขึ้นมา วนเวียนอยู่อย่างนั้นดีๆชั่วๆตกต่ำแล้วก็เจริญได้ วนเวียนอยู่อย่างนั้นนับชาติไม่ถ้วน เป็นได้ถึงศาสดาของศาสนา เจริญได้ถึงขั้นนั้นเป็นศาสดาองค์ใดองค์หนึ่งของเทวนิยมได้ ปานนั้นทีเดียวแต่น้อยคนจะได้ถึงศาสดา ผู้ที่รู้ทางออกเป็นโลกุตระแล้วก็ไม่ต้องไปเสียเวลาที่จะไปวนเวียนสามารถปฏิบัติเป็นลำดับ ได้แล้วเลิกโลกียะขั้นต่ำ มาสูงขึ้นตามลำดับ สูงขึ้นไปไม่ต้องวนเวียนซ้ำซ้อนอีกพระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าธรรมะของท่านมีลำดับอันน่าอัศจรรย์ เพราะมันจะไม่วกวนซ้ำซ้อนเสียเวลา มันเป็นลำดับไปขึ้นมา ไม่ต้องเสียเวลา ถ้าศึกษาผู้ที่ศึกษาสัมมาทิฏฐิเป็นลำดับที่ดีไม่เสียเวลา เพราะฉะนั้นสายปัญญาแท้ๆจะเร็ว เรียงลำดับเป็นลำดับได้ดี สายเจโตบ้างปัญญาบ้างจะช้า ยิ่งสลับไปสลับมา ยิ่งสายวิตกจริต หมุนเวียนซับซ้อนวนไปวนมาอันนั้นอันนี้ก็ดีเสียเวลามากกว่าเพื่อน ท่านเทียบว่า ผู้ที่จะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้ามีอยู่  3 สาย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ( 2/ 08/ 2562)


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 13:05:08 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:39:27 )

คนดีคือคนเสียสละ

รายละเอียด

คนดีคือคนเสียสละ แต่เสียสละด้วยความเต็มใจ แม้คนที่โดนเอาเปรียบโดยที่ตัวเองไม่เต็มใจ เขาก็ต้องเป็นผู้ที่เสียให้คนที่เอาเปรียบอยู่ใช่ไหม คนที่โดนเอาเปรียบโดยที่ตัวเองก็ไม่เต็มใจจะให้เขาเอาเปรียบหรอก แต่มันไม่เก่งเท่าเขา เขาเอาเปรียบได้ เราก็ต้องเป็นผู้ที่เสียให้แก่คนที่เขาเอาเปรียบนั้น ทีนี้ พวกเอาเปรียบนั้น คือคนเลว เขาได้เปรียบเขาจะเอาเปรียบแต่เราสู้เขาไม่ได้แต่คนเอาเปรียบได้ดีหรือเลว … เลว ก็คือคนเลวอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้นจะไปคิดทำไม สุดท้ายแล้วก็คือเราคือผู้เสียคือผู้สละ แม้คุณไม่เต็มใจคุณก็ได้เสีย เขาได้แล้วคุณเสียใช่ไหม ก็จบ เพราะฉะนั้นยิ่งเรารู้ด้วยปัญญา ว่า เรายอมเป็นผู้เสียเถิด เราก็จบของเราแล้ว  ส่วนทางโน้น จะได้เป็นลูกหนี้จะได้เป็นวิบากยังไงก็ช่างเขาเถอะ อาตมาไม่แคร์คนที่มาเอาเปรียบอาตมา เขามาเอาเปรียบอาตมา อาตมาไม่แคร์ แม้พวกเรามาเอาเปรียบอาตมา อาตมาก็ยังเต็มใจให้ โดยสัจจะแล้วคุณเอาเปรียบคุณก็ควรจะเอาคืนไปบ้างก็ดีกว่าใช่ไหม เพราะว่าคุณเองยังไม่จบนะ หรือแม้จะจบแล้วเป็นอรหันต์แล้วก็ยังมีกรรมวิบาก ยังไม่ตายก็ต้องอาศัยอยู่ดี รู้อะไรลึกซึ้งซับซ้อนขึ้นบ้างไหม แต่คนที่ไม่เข้าใจก็อาจจะไม่รู้เรื่องบอกว่าซ้ำ แต่พวกเราคงไม่สับสน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 22 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 11:56:30 )

คนดีต้องเมตตาคนเลวและต้องไปด้วยกันได้

รายละเอียด

นี่ก็เป็นต่างคนต่างมองต่างคนต่างเห็นแง่กันไปคนละหลายอย่าง อาตมาว่า อาตมาไม่ได้อวดดีหรอกแต่อาตมามีดี มีพลังทางการเมือง ในตัวเองที่เป็นความรู้ความสำคัญของการเมืองอยู่ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอาตมาจะต้องเอาพลังที่อาตมามีนี้มาให้เป็นประโยชน์แก่สังคมประเทศไทย เพราะอาตมาไม่ได้ทำให้ประเทศ อื่นๆใดๆ อาตมาอยู่ในประเทศไทย ก็ไม่ได้คิดจะไปทำให้ประเทศอื่นใดในชีวิตนี้คิดว่าจะอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น 

เพราะอาตมาไม่ใช่คนใจดำ ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว อาตมาไม่มีความเห็นแก่ตัวจึงกล้าจึงออกมาทำงานด้วยความจริงใจด้วยความบริสุทธิ์ใจด้วยความปรารถนาดี ด้วยความเมตตา บอกว่าทำไม่ได้หวือหวา ไม่ได้เบ่งไม่ได้กร่าง ออกมาทำอย่างที่คิดว่าเหมาะควรแล้วก็ทำไป แล้วอาตมาก็เห็นผล เห็นประโยชน์ว่าคนได้รับประโยชน์ คนเข้าใจ 

จะว่าจริงๆแล้วคนประพฤติตามที่อาตมาว่า เยอะ แล้วเมืองไทยกำลังก้าวหน้าไปได้ดี แต่อย่างที่คุณคนนี้มองยังเข้าใจไม่ได้พอ ก็แสดงออกมาด้วยความจริงใจอย่างหนึ่งว่าอย่าไปยุ่งเลย มันจะเสียมันจะเปลืองตัวเปล่าๆในความหมายของคุณคนนี้ บอกว่าพ่อท่านไปทำอย่างนี้เสียดายเปลืองตัวหรือเปล่า อาตมาว่าคุณยังมองไม่ออก มันไม่ได้เปลืองตัวหรอก มันได้ประโยชน์ นี่แหละคือรายละเอียดนัยยะลึกซึ้งที่เป็นนัยยะสำคัญที่ลึกซึ้งขึ้น ติดตามให้ดีๆ อาตมาว่าอาตมาเข้าใจที่คุณท้วง และอาตมาก็ไม่ได้หลงตัวเองหรือว่าอวดดีอวดเด่นอะไร อาตมาก็ขอบคุณที่คุณติงเป็นมุมที่น่ามอง แล้วคุณก็ติงมาก็ขอบคุณแล้วดี แต่อาตมายังเห็นว่าคุณยังเข้าใจไม่ได้ขออภัยที่อาตมามองอย่างนั้นจริงๆ แต่คุณยังเข้าใจไม่ได้อาตมาก็ว่า มาทำไมยังถูกอยู่นะยังทำได้ประโยชน์ได้ผลอยู่ยังไม่ได้เสียผล คุณกลัวจะเสียผลอาตมาเข้าใจ แต่อาตมาว่าได้ผล 

แล้วคุณก็ให้เหตุผลเยอะ บอกว่ามุ่งสู่โลกุตรธรรมอันนี้แน่นอนอยู่แล้วอาตมามุ่งสู่โลกุตรธรรมถึงขั้นอาตมาว่า อาตมาจะไปเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งเลย คุณไม่ต้องห่วงเลย อันนี้จริง โลกมันหมุนไปตามสัจธรรมและกระแสถูกต้อง ที่บอกว่าถ้าเราเอาชนะกระแสได้จริง พรรคพลังธรรมดับ ที่จริงแล้วพลังธรรมไม่ได้ดับ หมายความว่าอย่างไร พลังธรรมหยุดพักทำงานไม่ได้ติดต่อเพราะมันจะมียุคสมัยหลายอัน เราไม่ทำงานอีก เราไม่ต่อตามหลักเกณฑ์ต้องปิดต้องหยุด ก็หยุดไปเฉยๆไม่ได้ดับเพราะมันทำให้เสียหาย เพราะพลังธรรมไปทำผิดแล้วเขาก็เลยปิดพลังธรรมไม่ใช่ แต่พลังธรรมหยุดเอง 

พลังธรรมไม่ไปต่อเอง เหมือนพลเอกประยุทธ์ พลเอกประยุทธ์จะไม่ไปต่อพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เสียหายอะไรเลย พลเอกประยุทธ์ไม่ได้แพ้ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ผิด พลเอกประยุทธ์ไม่ได้เสียหาย ถ้าพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ไปต่อ มันก็เรื่องของส่วนตัวของพลเอกประยุทธ์ชั้นเดียวกันกับพลังธรรม พลังธรรมไม่ไปต่อเท่านั้นเอง แต่มาทำในนามอื่นในชื่ออื่นในบทบาทอื่น ไม่ได้ทิ้งการเมือง ทำวันนี้ไปจนกระทั่งพลังธรรมหายไป จนกระทั่งพรรคต่างๆนานาที่มีต่อมา เราก็ตั้งอีกคือพรรคเพื่อฟ้าดิน แต่มันก็หมดไปตามเหตุปัจจัยกฎเกณฑ์ของสังคมจนมาเป็นสัมมาธิปไตย ก็อยู่ในแวดวงของชาวอโศกก็ค่อยๆ ดูไปค่อยๆ ศึกษา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนดีต้องเมตตาคนเลวและต้องไปด้วยกันได้ วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 16:47:26 )

คนดีที่สุด ร้ายกาจที่สุด

รายละเอียด

คือพระพุทธเจ้าศึกษามาไม่รู้กี่ล้านๆ ชาติ  ท่านก็รู้หมดแล้วว่า เกิดเป็นคนก็มีเท่านี้เอง ร้ายกาจที่สุด  ก็อยู่ที่นี่แหละดีที่สุดก็มีอยู่ที่นี่แหละ  พระพุทธเจ้าท่านค้นพบแล้วท่านก็ได้เป็นอย่างนั้นมา  แต่ท่านไม่ได้เล่ามา  ท่านเคยเป็นสัตว์ร้าย  ท่านก็ไม่ได้เล่าแล้วท่านไม่อยากให้เราไปเสียเวลาด้วย  ท่านก็ไม่ได้ไปเล่าให้ฟัง  ท่านก็เล่าว่าท่านเคยเกิดเป็นสัตว์บางชนิด  เล่าถึงความเลวของสัตว์บ้าง  อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 12:20:08 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:40:16 )

คนดีที่สุดร้ายกาจที่สุด

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าศึกษามาไม่รู้กี่ล้านๆชาติ ท่านก็รู้หมดแล้วว่าเกิดเป็นคนก็มีเท่านี้เอง ร้ายกาจที่สุดก็อยู่ที่นี่แหละ ดีที่สุดก็มีอยู่ที่นี่แหละ พระพุทธเจ้าท่านค้นพบแล้วท่านก็ได้เป็นอย่างนั้นมาแต่ท่านไม่ได้เล่ามา ท่านเคยเป็นสัตว์ร้าย ท่านก็ไม่ได้เล่าแล้วท่านไม่อยากให้เราไปเสียเวลาด้วย ท่านก็ไม่ได้ไปเล่าให้ฟัง ท่านก็เล่าว่าท่านเคยเกิดเป็นสัตว์บางชนิด เล่าถึงความเลวของสัตว์บ้าง อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2563 ( 13:22:54 )

คนดีสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเราไปไกลถึงขั้นว่า ผู้เจริญสร้างอาหาร แต่คนชั่วช้าสามานย์ยังสร้างอาวุธ  เขาเจริญไปถึงขั้นไหนแล้ว ให้สัญญาณแก่มนุษย์โลกเขาซะ เมื่อใด ประเทศที่เขารู้จริงๆว่า อย่าเอาแรงงานไปสร้างอาวุธเลย เอาแรงงานไปสร้างอาหารดีกว่า เอาแรงงานไปสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารดีกว่า บางประเทศสร้างอาหารไม่ได้ง่ายๆหรอก บางที่เอาแรงงานไปสร้างเทคโนโลยีที่ซับซ้อนแข่งกันไป แต่ดีกว่า แทนที่จะไปสร้างอาวุธ ไปฆ่ากัน ซึ่งมันเข้าใจง่ายๆไม่ยากเลย จะไปสร้างอาวุธฆ่ากันทำไม แต่เพราะความกลัว ก็เลยต้องสร้างอาวุธมาฆ่ากัน สู้กันด้วยความหยาบๆ ซึ่งมันยังไม่เจริญ

เพราะฉะนั้น คนเจริญจะเห็นว่าเอาแรงงานไปสร้างมันทำไมอย่างนั้น ไปฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเราฆ่ากันอย่างนั้นแล้วมันจะทำร้ายกันเปล่าๆ เอามาสร้างสรรช่วยกันจะดีกว่าไหม ปฏิภาณปัญญาแค่นี้เข้าใจไม่ได้ ก็ยังโง่อยู่อีกนาน มาสร้างสรรช่วยกันให้เจริญดีกว่า ไปช่วยกันประหาร ทำลายกันให้มันย่อยยับกันไปเฉยๆทำไม จะทำลายกิเลสนั้น ทำลายเถอะทำลายเท่าไหร่ให้ย่อยยับให้หมดไปเรื่อยๆ นะดี จากตัวคนเลยดี นอกจากกิเลสแล้วจะไปทำลายชีวิตทำไมแต่ละชีวิตปรารถนาเจริญทั้งนั้น  แม้แต่สัตว์มันก็พัฒนามีชีวิต ยิ่งมาเป็นชีวะของมนุษย์ มันก็ต้องปรารถนาความเจริญทั้งนั้น ไม่มีใครปรารถนาความเสื่อม อย่าไปทำเลยสิ่งที่ค้านแย้งกับสัจธรรมพวกนี้ เอาละ พูดไปจะกว้างเกิน สรุปเข้ามา หาความจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 35  จิตวิญญาณแห่งสาธารณโภคีที่มีในชาวอโศก วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2565 ( 14:24:22 )

คนดีสร้างอาหารคนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเราคนไทยเจอแสงสว่าง อเมริกานี้สุดมืดเลย ไทยสว่างจ้า แต่อเมริกามืดสนิท สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเลย มืด เขาจะยังไม่โผล่ไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ จะยังสร้างอำนาจบาตรใหญ่ จะต้องหรูหรา จะต้องเบ่งทุกอย่างเลย แม้แต่ราคาของธนบัตรเขาจะต้องยิ่งใหญ่ ทั้งๆที่เป็นเศษกระดาษเต็มไปหมด ถ้าเอาดอลลาร์ทั้งหมดในโลกไปคืน แล้วเอาค่าราคาตามที่คุณตีราคาให้ (เมืองไทยก็ 30 บาท)มาคืน ก็ว่าไปตามเขา แล้วให้เอาสมบัติที่อเมริกามี เอามาแลกคืนเอากระดาษคืนไป เอาอะไรมาตีราคาเท่าที่ควรจะเป็นมูลค่าของคืน นี้ หมดประเทศอเมริกาหมดไม่เหลือ ดอลลาร์ที่เขาพิมพ์กระดาษเปื้อนสีออกมาทั่วโลกขณะนี้ 

อาตมาพูดนี้ไม่ใช่พูดเล่นแต่เป็นเรื่องจริงเป็นจริง แล้วเขาต้องสร้างตรงนี้เป็นอำนาจใหญ่ในโลก เศษกระดาษนี้เป็นฤทธิ์แรง เพราะฉะนั้นเรื่องสมบัติต่างๆนานาก็คือการลวงหลอกด้วยการเอากระดาษมาตีราคาแล้วไปแลกออกมาเป็นสมบัติของตัว ทำได้เขาทำได้ เป็นผู้ที่เก่งชิบหายเลย เอาเปรียบเอารัดคน ใช้อำนาจบาตรใหญ่เอาเปรียบเอารัดคน ชั้นหนึ่งเลย ตะวันออกกลางยังเอาน้ำมันมาแลกธนบัตรไป แล้วเงินเขาก็ไม่ต้องอะไรมากเหมือนอเมริกา ที่ปั่นสร้างให้มันมีตัวลวง อัตราราคาลวงๆๆ ขึ้นมา แล้วคนก็จำนน เพราะเขามีอำนาจบาตรใหญ่ในเรื่องการสร้างอาวุธ แล้วก็เก่งในทางสร้างวิศวกรรม แม้แต่เครื่องมือเทคโนโลยี เขาก็ได้คนชนิดนั้นไป ตระกูลของเขาก็ได้คนชนิดที่สร้างเทคโนโลยีเก่ง ก็เลยยิ่งใช้เทคโนโลยีนี้เป็นเครื่องมือในการเอาเปรียบเอารัดมนุษยชาติทั้งโลก 

การเอาเปรียบเอารัดเป็นความเลว การเอาเปรียบเอารัดได้มากๆแล้วก็หลงว่าตัวเองเฉลียวฉลาดยิ่งใหญ่ มันก็งมงายไม่รู้เรื่องว่าตัวเองนี้กลายเป็นคนไร้ราคา เป็นคนไม่มีคุณค่าเป็นคนที่ได้แต่เอาเปรียบคนอื่นอยู่ ข่มคนอื่นเขา ซึ่งเขาจะเข้าใจยากในเรื่องโลกุตรธรรมเหล่านี้ เขาจะหลงโลกีย์ทั้งนั้นว่าเขายอดเลิศจริงๆ ฟังไม่รู้เรื่องหรอกที่อาตมาพูด เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าเขาจะมาแวะมาแว้งอาตมา เพราะเขาไม่รู้เรื่องหรอก มันพูดพาดพิงถึงเรา มันด่าเราหรือเปล่าก็ไม่รู้ เขาไม่รู้หรอกว่าเราด่าเขา จริง จะว่าโง่ก็สุดโง่เลย เพราะฉะนั้นลัทธิเลียนแบบ เกาหลีเหนือเลียนแบบ นึกว่าอำนาจนี้คืออาวุธ เกาหลีเหนือก็เลยสร้างอาวุธไว้สำหรับป้องกันตัว เพราะว่าประเทศเขาเป็นประเทศเล็ก เป็นประเทศหัวเดียวกระเทียมลีบ ก็เลยสร้างอาวุธสร้างเขี้ยวเล็บ ที่อื่นๆก็พลอยตามไป เมืองไทยไม่ต้องสร้างอาวุธเลย เจริญมาก 

“คนดีสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ” ตอบตีหัวเข้าบ้านเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า พุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 46 พญานาคเดียรถีย์ลัทธิหลับตาทำลายศาสนาพุทธ วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤษภาคม 2565 ( 08:38:54 )

คนดีอย่างประเสริฐ

รายละเอียด

คือ  เป็นคนดีอย่างอาริยะ  เพราะมีความจริงเป็นยอด   มีความจริงเป็นแก่น  มีความจริงเป็นเนื้อแสดงออกทุกอย่างมีแต่สิ่งจริง  กาย วาจา ใจ  จริงทุกลมหายใจเข้าออกแต่คนเขาไม่เข้าใจ  เขาฟังไม่ออกเพราะเขาไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะมีคนดี  ดีอย่างประเสริฐดีอย่างอาริยะ  อย่างที่สมณะโพธิรักษ์เป็น

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู จากรายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 13:31:30 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:40:57 )

คนดุต้องห่างไว้ก่อน

รายละเอียด

คนนี้ดุโว้ย ห่างๆ ก่อนคนนี้ ดุๆ เอาน่า ก็ไม่เป็นไรทนฟังอาตมาไปเรื่อยๆ นะอย่าเพิ่งทิ้งกันไม่เป็นไร อย่าเพิ่งตบจนแว่นหลุดเลย แต่ไม่เป็นไรถ้ามันไม่หักอาตมาก็เอามาใส่ใหม่ ถ้าขามันหักก็เอาไปซ่อมมาใส่ใหม่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:42:17 )

คนตาดีจึงจะมาเชื่อพระอรหันต์อย่างโพธิรักษ์

รายละเอียด

อาตมาเกิดมาชาตินี้ก็มาทำงานสืบทอดศาสนาพระพุทธเจ้า ประกาศตนเอง ยืนยันตนเอง คนเขาก็ไม่เชื่อถือเขาก็ตลก เขาเข้าใจว่าคนที่เป็นอรหันต์คือผู้ที่เป็นยอดอาจารย์ยอดฉลาดไม่ว่าจะเป็นพระป่าพระบ้าน ไปเชื่อถืออย่างนั้น อย่างโพธิรักษ์ ไม่ใช่หรอก ก็น่าสงสารนะไม่รู้จะทำอย่างไร เขาก็งมอยู่กับที่เขาเชื่อ แต่ก็ยังมีคนตาดีอย่างพวกคุณนี้มาเชื่อ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ผู้พ้นอสุรกายจึงได้ไปอยู่โลกหน้า วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 20:40:28 )

คนตาทิพย์เป็นเรื่องของอุปาทานแท้ๆ

รายละเอียด

คำว่ากายเข้าใจต่างกับอาตมา ถือว่า เทวดา สัตว์นรก มีเป็นตัวตนรูปร่าง แม้จะเป็นจิตวิญญาณก็เห็นเป็นรูปร่างสีสันได้ คนเห็นได้ถือว่าเป็นคนตาทิพย์ ซึ่งเป็นเรื่องของอุปาทานแท้ๆ อาตมาเล่นไสยศาสตร์มานัก ก่อนนี้เป็นนายรัก รักพงษ์ เล่นอยู่ 8 ปี วิญญาณร้ายอาตมาทำลาย จะเชิญพระนารายณ์พระพรหมมาบ่อย มาปราบวิญญาณต่างๆพวกนี้ เล่นอยู่ 8 ปีอาตมารู้ดี อาตมารู้ว่าเป็นเรื่องบ้าบออุปาทานก็เลิกแล้ว ก็เห็นตามอุปาทานจริงๆ เข้าทรงรูปพรหม อรูปพรหมมาทำอะไรๆ หลอกชาวบ้านเขา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 16:02:38 )

คนตายจิตวิญญาณไม่มีที่ตั้งแต่มันยังไม่สูญหายก็เป็นสัมภเวสีแท้

รายละเอียด

ตายร่างกายแตก จิตวิญญาณก็ไม่มีที่ตั้งทางตาหูจมูกลิ้นกายแล้ว แต่มันยังเป็นอัตภาพอยู่ มันยังไม่สูญหาย มันก็เป็นสัมภเวสีที่แท้จริง มันก็จะไปหาที่เกิดตามวิบาก คนที่จะไปเข้าสู่ครรภ์ก็ลงไป คนที่ยังไม่เข้าสู่ครรภ์ก็ล่องลอยลงนรกขึ้นสวรรค์ คุณจะไม่อยากได้นรกแต่คุณจะเป็นจริงตามที่มันเป็น เสร็จแล้วก็เปลี่ยนหมุนเวียนไป เกิดดับเกิดดับไปหมุนเวียนด้วยความไม่เที่ยง ดีบ้างเลวบ้างนับชาติไม่ถ้วน นับล้านชาติ สุดน่าเบื่อแล้วตัวเองก็จำไม่ได้หรอก จำได้บ้างเป็นสัญชาตญาณ ผู้ที่เก่งหน่อยก็ระลึกย้อนได้ สัญญาระลึกบุพเพนิวาสานุสติญาณ  ถ้าหากระลึกรู้ได้ลึกเกินกว่าสัญชาตญาณ ก็ได้เพราะมีความรู้ดีขึ้น ยิ่งถ้าหากระลึกได้มาก ก็ยิ่งเป็นผู้ที่มีบุพเพนิวาสานุสติญาณสูงขึ้น อย่างนี้เป็นต้น 

สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ได้ ศาสนาพุทธพิสูจน์หมดพระพุทธเจ้าพิสูจน์มาหมดก่อน อาตมามาพิสูจน์ แล้วเอามาเปิดเผยขยายความ เอามาอธิบายยืนยันพิสูจน์ ให้พวกเรารู้ตามและพวกเราก็ได้ทรัพย์จากนั้นมา ก็เกิดการพ้นทุกข์ พ้นจากการเกี่ยวเกาะติดอยู่กับโลก 

โลกอบาย โลกกามคุณ โลกธรรม 8 จนกระทั่งหมดโลกภายนอก เหลือแต่โลกภายใน ก็เหลือนิดหน่อยบางคน โลกภายในละเอียดก็ลดมันอีก ขั้นรูปราคะ ลดได้เหลืออรูปราคะ ลดได้หมดอีก ก็เป็นพระอรหันต์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติผู้กอบกู้ศาสนาพุทธในยุคกึ่งพุทธกาล วันพุธที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 05:06:40 )

คนตายที่อยู่ในภาวะพีชะ จิตยังยึดร่างที่เป็นพีชะนี้ไว้เรียกได้ว่า ยึดพีชะเป็นกายได้ไหม

รายละเอียด

ได้ ที่จริงเขาไม่มีกายแล้ว กายคือสภาวะที่ มีทั้งภายนอกภายในมีจิตเจตสิกก็ร่วมกับรูปภายนอก กาย จะต้องมีธาตุรู้ร่วม เขาเองเขาไม่รู้ภายนอกแล้ว เป็นมนุษย์พืช เขามีแต่จิตยึด ภาษาคำว่า กาย ก็คือเขาสลับสับสน ไม่มีกาย แต่เขานึกว่าเขามีกาย เป็น นิรมาณกาย ยึด และแถมยึดอยู่ที่จิตวิญญาณที่มันเกาะร่าง 

ร่างนี้ไม่ใช่กาย นะ แต่ร่างคือสรีระเพราะฉะนั้นก็เลยซับซ้อน กลายเป็นยึดร่างเป็นกาย ทั้งๆ ที่มันไม่มีกายไม่มีจิตที่ร่วมอยู่แล้ว ไม่มีภายนอกแล้วมีแต่ภายใน มันก็เลยยึดเกาะแต่เพียงภายในว่าเป็นฉันเป็นฉัน เลยกลายเป็นพืช ไม่มีเวทนา ไม่มีความรู้สึกภายนอกอยู่อย่างนั้นแหละ ถ้าได้อาหารเลี้ยงเหมือนกับพืชมันก็จะอยู่ไปนาน ถ้าหากอาหารหมดมันก็แห้งลงๆ 

การแยกอุตุ แยกพืช แยกจิตได้ เข้าใจแล้วเอาไปทำปฏิบัติการกระทำให้มันถูกต้อง กระทำตั้งแต่ภายนอกแล้วก็ทำใจในใจมนสิการให้ใจมันเป็นอุตุ ให้ใจมันเป็นพืช ให้ใจที่จิต ใจที่เป็นจิตที่ทำตนเป็นอุตุ พีชะได้ ใจก็มีญาณ วิชชา สามารถทำวงจรของจิตให้เราจนสามารถกำหนดได้ว่าอันนี้ให้เป็นอุตุ อันนี้ให้เป็นพืช  อันนี้ทำได้ให้เป็นจิต จิตก็เป็นปัญญาอยู่เหนือมีโลกุตระ อยู่เหนืออุตุกับพืช โดยใช้อุตุ พืช 

พระอรหันต์คือมนุษย์พืชที่มีสติเต็ม 100% รู้ทั้งนอกทั้งในครบบริบูรณ์ แล้วก็อยู่อย่างพืชกับอุตุแต่มีจิตเป็นปัญญา ครบรอบถ้วน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญแท้คือคนทำงานที่ไม่ไปหลงทำเงิน วันพุธที่ 26 เมษายน 2566 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2566 ( 20:44:42 )

คนตายเหลือแต่ร่างไม่มีจิตวิญญาณ

รายละเอียด

ตอนนี้ก็เป็นวาระสุดท้ายของคนทุกคนสุดท้ายชีวิตก็มาสุดสุดไม่ฝังก็เผาแล้วแต่ว่าใครจะยึดถือกันแบบไหนมันก็คือการให้แปลเปลี่ยนไปเป็นธรรมชาติที่เป็นดินน้ำลมไฟไปเป็นวาระสุดท้าย เพราะว่าจิตวิญญาณ ได้ออกจากร่างแล้วในร่างก็เหลือแต่ดินน้ำไฟลมลมมหาภูตรูปสี่ไม่มีจิตนิยามไม่มีจิตวิญญาณยึดถืออยู่ในร่างแล้วปล่อยไปไม่เป็นเราเป็นของเราแล้ว

ที่มา ที่ไป

การแสดงธรรมก่อนประชุมเพลิงหน้าศพ วันที่ 3 มกราคม 2561


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 20:35:34 )

คนตายแล้วส่วนใหญ่เปลี่ยนภูมิเป็นอะไร

รายละเอียด

สัตว์ที่จุติ*(เคลื่อน)จากมนุษย์แล้วกลับมาเกิดในภูมิแห่งมนุษย์  มีส่วนน้อย   ..ส่วนที่จุติจากมนุษย์ไปเกิดในนรก  เกิดในภูมิเดียรัจฉาน  เกิดในปิตติวิสัย (เปรต)  ย่อมมีมากกว่าโดยแท้ (*สัตว์ที่จุตินั้นหมายถึงการเกิดโดยโอปปาติกะ)
 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฏก เล่ม 20  ข้อ 206, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2562 ( 12:01:47 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:41:44 )

คนตายได้อย่างไร

รายละเอียด

บางคนหายใจไม่ได้ก็ตาย บางคนโดดน้ำตายบางคนโดดตึกตาย รถชนตายเจ็บป่วยตายมีเยอะ การตายก็คือเหตุปัจจัยชีวิตในสรีระทำหน้าที่ต่อไปไม่ได้ก็เรียกว่าตาย ก็ต้องเปลี่ยน พลังงานที่จะทำหน้าที่อยู่กับชีวิต คือพลังงานชีวิตของแต่ละคน ใช้ร่างกายนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้วก็เรียกว่าตาย เด็กอยู่ในนี้ก็ได้ซึมซับไหลเวียน osmosis มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดีเป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของพรหมจรรย์

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 12:46:50 )

คนตำหนิที่มีปัญญา

รายละเอียด

คือ การตำหนินั้นเป็นคุณค่าอย่างมาก  และคนตำหนิที่มีปัญญา  จึงเป็น คุณค่ามากที่สุด  แม้จะตำหนิยังไม่มีปัญญามาก  ยังเด็กๆ  ตำหนิเรา  ก็ยังเป็นคุณเลย  เช่นง่ายๆ  เด็กๆ  ไปว่าผู้ใหญ่  ไปว่าเขาทำไม  เขาจะสูบ  จะสูบุหรี่  เขายังสูบอยู่ทำไม  นี่เป็นผู้ใหญ่  อย่ามายุ่ง  เด็กอย่ามาสูบ  อย่างนี้ เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 05 ธันวาคม 2562 ( 10:39:56 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:42:30 )

คนติดดินนี่เป็นคนเจริญ เป็นคนมีประโยชน์ เป็นคนมีคุณค่า เป็นคนสูง

รายละเอียด

อาตมาว่าพวกเรายังฝืนไม่ชอบกสิกรรมอยู่ไม่ใช่น้อยเพราะมันถูกหลอกมานานแล้วมันชอบเป็นไฮโซ ไปทางลาภยศสรรเสริญโลกียสุข มาแต่ไหนแต่ไร โลกมันชวนติดทางโน้นเยอะ เพราะฉะนั้นต้องหันมาติดดิน พูดคำนี้ทันสมัยนะ มาเป็นคนติดดิน โก้กว่าไปอยู่หอคอยงาช้าง หากไปอยู่หอคอยงาช้างคุณจะตกยุค จริงไหม คนที่มีปฏิภาณปัญญาชัดเจนจะรู้ว่าหอคอยงาช้างคืออะไรไฮโซ มาติดดินนี่เป็นคนเจริญ เป็นคนมีประโยชน์ เป็นคนมีคุณค่า เป็นคนสูง มันกลับกัน ติดดินมันสูง แต่ไฮโซมันต่ำ นี่คือสิริมหามายา ขอย้ำว่า มาเป็น…กสิกรแข็งขลัง เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ไทยจะเรืองอำนาจ เพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 02 กันยายน 2563 ( 14:51:48 )

คนตู่ท้วงการสอนจากพระไตรปิฎก

รายละเอียด

คือ  สมณะโพธิรักษ์ สอนธรรมะจากพระไตรปิฎกมีคนตู่ท้วง  ท่านตอบตามความเป็นจริง  ท่านเชื่อคำสอนในพระไตรปิฎกจริง  ที่ว่าเอาพระไตรปิฎกมาอ้างนั้นก็จริง  แต่ท่านไม่ได้เลือกเฉพาะที่ตัวเองชอบอันไหนที่ควรจะมาเอาอธิบายก็เอามาอธิบายไม่ใช่เลือกอันที่ชอบหรือไม่ชอบ  จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม  ท่านบอกแล้วว่าท่านหมดความชอบความชังจริงๆ ท่านจิตใจเป็นกลาง  ไม่มีชอบไม่มีชัง  พูดไปอย่างนี้คุณก็อย่างเพิ่งอาเจียนฟังต่อไป  หาว่าท่านอธิบายมั่วซั่วนั้นก็ผิด  ท่านพยายามเจตนาทำให้ตรงให้ถูกต้องให้ดีงามตามที่มีภูมิ  แล้วบอกเลยว่าอธิบายธรรมะตามภูมิ  อย่างตั้งใจให้ถูกต้องที่สุดไม่ผิดเพี้ยน  และอธิบายไปแล้วมันก็ไปขัดก็ไปขัดกับที่คุณไม่เข้าใจกันที่คุณยึดถือกันทุกวันนี้  มันคนละความหมาย  คุณก็ยึดเอาความเข้าใจของคุณว่าถูกมันตรงกันข้ามกัน  มันต้านแย้งกันคุณก็ชัดว่าผิดไม่เถียงหรอก  คุณยึดถือว่าของคุณว่าถูก  ก็ซัดว่าผิด  ก็คิดว่าน่าจะพอเข้าใจนะ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2562 ( 07:27:12 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:43:15 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:51:18 )

คนต่อต้านล้มล้างแก้ด้วยสัจจะความจริงไม่มีปัญหาอะไร 

รายละเอียด

สัจจะเป็นความจริงมันไม่เปลี่ยนแปลงและไม่มีตาย สถาปนาลงไปมีแต่จะเจริญขึ้นเรื่อยๆ อาตมาจึงไม่ได้กังวลไม่ได้ตกใจอะไร จะมีคนต่อต้านจะมีคนล้มล้างก็เข้าใจเขา แล้วเราก็ทำงานไป จนทำมาถึงทุกวันนี้ 50 กว่าปีแล้ว มันก็ไม่มีปัญหา มีแต่คนมีปัญหากับอาตมา อาตมาเป็นคนมีปัญญา ก็ใช้ปัญญาแก้ไขที่เขามามีปัญหากับเราไปเรื่อยๆ จนทุกวันนี้นี่ ก็โล่งโปร่งนะอาตมาว่าเราทำงานได้ ทำงานศาสนาทำงานธรรมะไปได้ ที่จริงได้เต็มที่ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ติดกฎระเบียบกฎหมายทางโลก ทางธรรมะก็ไม่มีใครมาตอแยต่อต้าน มีแต่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็แสดงออกก็เป็นธรรมดาธรรมชาติไม่มีปัญหาอะไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการภาคค่ำ งานอโศกรำลึก 2565 กำจัดผีในตนจึงเป็นคนโลกุตระ วันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 7 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2565 ( 20:48:12 )

คนต่างจากสัตว์ที่โง่หรืออวิชชาอย่างไร

รายละเอียด

สัตว์ที่โง่สัตว์ที่อวิชชามันจะไปรู้อะไร สัตว์ที่มันอวิชชามันมีทั้งสัตว์กินแหลก กินพืชกินสัตว์ด้วยกันกินเนื้อ สัตว์ที่ไม่รู้เรื่อง กินดะ กินสัตว์กินพืชกินดินด้วย  สัตว์บางอย่างกินแต่เนื้อไม่กินพืชกินดิน สัตว์บางอย่างกินแต่พืชไม่กินเนื้อไม่กินดิน สัตว์บางอย่างกินแต่ดิน แต่คนนี้รู้ว่าเราอย่าไปกิน หรือไปผูกพันสิ่งที่มันจะเป็นวิบากกัน สัตว์มันเป็นวิบาก คนมันเป็นวิบากไปกินเนื้อคน คนติดกินเนื้อคนนี้ยุ่งจริงๆ เดี๋ยวนี้ยังมีนะคนที่ติดเนื้อคน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ปฏิบัติศีล ให้ถึงอรหัตตผลโดยลำดับ วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 13:55:36 )

คนต่างชาติมากินมาเที่ยวไทยเป็นอบายมุขหรือไม่ 

รายละเอียด

ตอบในประเด็นสำคัญนี้ก่อนว่าเป็นอบายมุข ถ้านับอย่างดีๆ นับอย่างลึกซึ้ง เป็นอบายมุข  ยังยินดีในเรื่องกินเรื่องเที่ยว ฟังดีๆนะธรรมะพระพุทธเจ้า ยังหลงใหลเสวยสุข เสวยทุกข์อยู่กับกินกับเที่ยวยังเป็นอบายมุข ระวัง.. 

เพราะฉะนั้นคนที่หยุดแสวงหากินอร่อย หยุดเที่ยวที่จะสนุก คนนี้ลดอบายมุข คนที่ยังไม่หยุดเที่ยว ที่ยังรู้สึกสนุกในการเที่ยว ยังเป็นอบายมุข คนที่ยังหลงแสวงหาอร่อยมาให้ตนเอง คนนั้นก็ยังมีอบายมุขยังข้องหาอบายมุข ยังท่องหานรกอยู่ 

เพราะฉะนั้นถ้าจะไปเอาผิด เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร เขาอวิชชาเต็มรูป ชาวที่ไม่ใช่พุทธ แม้แต่พุทธที่ยังไม่ประสีประสายังไม่สัมมาทิฏฐิอย่างลึกซึ้งจริงๆ ได้คิดขั้นโลกุตตระตามที่อาตมาพูดไป เขายังเป็นผู้แสวงหาความอร่อยให้แก่ตาหูจมูกลิ้นกายสัมผัส ยังแสวงหาการเที่ยวสนุกเพลิดเพลินใน ขิฑฑาปโทสิกะ ยังไปอยู่เรื่อยๆ ก็เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 18 ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณมนุษย์ และอภิวัฒน์สังคม วันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 15:40:47 )

คนต้องการธาตุอาหารต่างกัน

รายละเอียด

คนก็รู้แล้ว นักโภชนาการ นักอาหาร รู้แล้วก็เอา แยก แบ่ง เอามา เราขาดอะไรก็เอาอันนั้น วิทยาศาสตร์ ทางสรีระ ทางการแพทย์ รู้แล้วว่าคนต้องการอะไร อาจจะต่างกันโดยสรีระของแต่ละคน ธาตุอาหารที่ไปเลี้ยงขันธ์ปรุงแต่ง  มันไม่เหมือนกัน มันไม่เท่ากันเป๊ะทีเดียวสักคนหรอก ต่างกันมากน้อยมันละเอียดเกินจะพูด 

อย่างหลวงปู่ธาตุอาหารที่ปรุงแต่งแล้ว รวมแล้ว อย่างพอเหมาะพอดี ไม่มีใครสามารถรู้ได้อย่างละเอียดชัดเจนเต็มที่หรอก หลวงปู่เองก็ยังไม่มีความรู้ แต่ก็พอจะรู้คร่าวๆ แต่ก็ห้ามความปรารถนาดีที่เขาไปยึดถือในความรู้ของเขาไม่ได้ เขาก็ให้มา เอามาใส่เข้าไป บางทีเราไม่ได้ไปหาเอง เราจำเป็นก็ตามใจเขา อะไรควรเราก็ว่ากันไป อะไรไม่ควรเราก็ไม่เอา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คุณธรรมยิ่งใหญ่กว่าอาวุธ วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2564 ( 11:10:49 )

คนต้องการอะไรมาไขความกัน

รายละเอียด

คนต้องการอะไร?.. มาไขความกัน

พระพุทธเจ้าเป็นคนผู้ประสบความรู้อันนี้ก่อนเพื่อน เป็นไก่ตัวพี่ ที่จริงท่านรู้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงอันนี้มาตั้งนานแล้ว รู้แล้วท่านก็มาอุบัติขึ้นเป็นเจ้าชายสิทธัตถะคือมาเป็นแท่งรูปนามตัวตนร่างกายชีวิต คนๆ หนึ่งที่มีความสำเร็จตามความต้องการแล้ว ก็เลยได้ชื่อว่าสิทธัตถะซึ่งเป็นภาษาบาลี ภาษาไทยก็คือ ความสำเร็จตามที่ต้องการแล้ว ท่านสำเร็จมาแล้วกลับมาเป็นร่างเจ้าชายสิทธัตถะก็คือสำเร็จมาแล้ว ท่านเกิดเมื่อ 15 ค่ำเดือน 6 ปีที่เอา 80 + 2564 = 2644 ปีมาแล้ว ท่านมาอุบัติขึ้นมาเป็น ร่างกายของมนุษย์ได้ชื่อว่าเจ้าชายสิทธัตถะ ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 พาปฏิญาณศีล 8 วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2564 ( 20:42:38 )

คนต้องกินพืชเพราะพืชเป็นอาหารของคน

รายละเอียด

คุณจะกินเนื้อสัตว์หรือไม่กินเนื้อสัตว์ก็ตาม คุณต้องกินพืชเพราะพืชเป็นอาหารของคน อันนี้อาตมามั่นใจและก็เชื่อมั่นอย่างยิ่ง แม้แต่ชาวเอสกิโม เอาพืชไปให้เขากินเขาก็จะอายุยืน จริง แต่เขาไม่ชินเขาก็อาจจะไม่กิน แต่เขาเข้าใจแล้วนะก็พากเพียรฝึกกินกินพืชผักอายุจะยืน อายุเฉลี่ยของชาวเอสกิโมขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้อายุสูงสุดของเขา 40 ปีตาย พออายุ 25 ปี ก็เริ่มแก่แล้ว ถึง 30 ปี ก็แก่แล้ว 40 ปี นี้ถือว่าสูงสุด พวกชาวขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้เพราะกินสัตว์เป็นหลัก ต่างจากพวกชาวหรรษา(ฮันซา)ที่อยู่บนเขา กินพืช ตรงกันข้ามกับพวกเอสกิโม เขาอายุ 100 ปีเป็นธรรมดา สำหรับพวกหรรษา อายุ 100 ปีถือเป็นปกติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 21:18:13 )

คนต้องทำงาน

รายละเอียด

ทำไมต้องทำงาน ถ้าไม่ทำงานนี่นะ มันเป็นคนไม่ดี เป็นคนแล้วต้องทำงาน มดมันทำงานไหม?...ทำครับ ทำไปเพื่อหากิน ถ้าเราไม่ทำงานเราจะเลวกว่ามดไหม?....ไม่ไป...ทำไมไม่เลวกว่ามด ขี้โกงนี่ไม่เอาทำงานนี่หว่าไม่ทำงานไม่ดี ต้องทำงานที่ควรที่เป็นประโยชน์งานที่เราต้องกินใช้อาศัย เช็ดบ้านกวาดบ้านถูบ้านบ้าง เราจะต้องช่วยผู้ใหญ่ยกข้าวของ ที่พอจะยกได้ เราจะต้องช่วยในส่วนนั้นส่วนนี้ที่เราพอทำได้ เรียกว่าทำงาน ภูมิต้องไปพยายามทำงาน

 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:24:23 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:43:58 )

คนต้องพบแสงอรุณก่อนได้พบแสงอาทิตย์

รายละเอียด

ผู้ใดที่สามารถปฏิบัติโยนิโสมนสิการได้เข้าใจความหมายและประพฤติธรรมใจในจัดการใจในใจของเรา เป็นไปอย่างที่ภาษาได้บอก ว่ามนสิการคือทำใจในใจแล้วทำอย่างขั้นโยนิโสฯ ผู้นั้นก็จะสามารถปฏิบัติธรรมได้ โยสิโสมนสิการเป็นข้อสุดท้ายข้อ 7 ข้อสำคัญของสุริยเปยยาลสูตร ที่ท่านไล่เรียงว่า คนต้องพบแสงอรุณก่อนได้พบแสงอาทิตย์ ถ้าใครไม่สามารถเห็นแสงอรุณก่อนก็ไม่สามารถปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 ได้ท่านเปรียบเทียบมรรคมีองค์ 8 ไว้กับพระอาทิตย์ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2563 ( 08:24:40 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 08:36:57 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:56:24 )

คนต้องพิสูจน์ด้วยเวลา

รายละเอียด

ส่วนดีของ ส.ศิวรักษ์เข้าใจกันได้ แต่มาถึงวันนี้ ความเข้าใจตอนหลังมาชักเลอะเทอะ มันก็เลยกลายเป็นว่าคนก็รู้ความเห็นความจริงอันนี้ไปได้ 

ก็เป็นการได้บอกความจริงของคุณส.ศิวรักษ์ ว่ามีอย่างไร แค่ไหน เท่าไหร่ ท่านจึงบอกว่าคนนี้ต้องพิสูจน์ด้วยเวลา สำนวนไทยที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 18:55:15 )

คนต้องรับมรดกกรรมของตน

รายละเอียด

ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องให้ผู้อื่นช่วยอยู่แล้ว ช่วยไม่ได้ก็พิการ ช่วยไม่ได้ก็ตาย ก็เป็นไปตามวิบากของแต่ละคนเป็นธรรมดาธรรมชาติไม่ต้องไปคิดมากหรอก

แล้วมันไม่มีก็ไม่มาสำหรับวิบาก เป็นสัจจะไม่มีใครโกงได้หรอก มาเราก็ต้องรับ คุณไม่รับก็ไม่ได้ กรรมเป็นของๆตน กัมมทายาโท คนต้องรับมรดกกรรมของตน พระพุทธเจ้าตรัสคำไหนมันจริงทั้งนั้น ตายตัว ไม่ต้องไปทำอะไรหรอก วางใจ มาแล้วหรือ วิบากมาก็มา ก็รับไป หายแล้วก็ดี เราจะได้ทำสิ่งดีต่อไป ตราบใดที่เรายังไม่ปรินิพพานเราก็ยังต้องวนเวียนในวิบากพวกนี้ มันไม่เหมือนศาสนาเทวนิยมที่ตายไปแล้วอยู่กับพระเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(การตาย) ตอน คนต้องรับมรดกกรรมของตน


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:21:29 )

คนต้องรู้หน้าที่ เอาภาระจัดแจง ภาระสิ่งแวดล้อมพอเหมาะ

รายละเอียด

คนเราไม่เอาภาระก็สอบตกความเป็นคน เอาภาระในเรื่องของสิ่งแวดล้อม แม้ว่าเราอยู่คนเดียวก็ต้องดูสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ด้วยดินน้ำไฟลมต้นหมากรากไม้ สิงสาราสัตว์ ถ้าใครไม่รู้เรื่องเลย สิงสาราสัตว์มันจะมายังไงไปยังไงไม่ช้าไม่นานก็ตาย สิงสาราสัตว์มันเอาตาย เพราะฉะนั้นเราจะต้องรู้หน้าที่ อย่างน้อยภาระที่จะต้องจัดแจง จนกระทั่งจัดแจงมากจัดเกินควร ทุกวันนี้เกินควรอยู่เยอะ จนกระทั่งบางที่บางแห่งบางคน อยู่กับสิ่งแวดล้อมนี้แล้วอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่เป็นโรคอะไร เป็นโรคที่ทนกับสิ่งแวดล้อมไม่ได้เขาเรียกว่าภูมิคุ้มกันต่ำ คนที่ภูมิคุ้มกันต่ำคือพวก HIV โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง อะไรนิดอะไรหน่อยมาแตะต้องก็ตาย อ่อนแอ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:05:50 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:44:39 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:58:33 )

คนต้องเข้าใจให้ครบ อดีต ปัจจุบัน อนาคต

รายละเอียด

ภาคปฏิบัติจริงๆ ต้องปฏิบัติปฏิจจสมุปบาท ปฏิบัติปัจจุบันธรรม แต่ไม่ควรไปห้ามว่า ไม่รู้ว่า ชาติหน้าจะมีวิบากบาป บุญ เชื่อมต่อกันเป็นปฏิจจสมุปบาท อย่าไปห้าม อย่าไปตัด ไม่ให้คิดว่าชาติหน้าไม่มีจริงเอาแต่ปัจจุบัน นี่ก็เป็นอุจเฉททิฏฐิ ถูกตัดขาดจากชาติหน้า ซึ่งเป็นการสอนแบบอุจเฉททิฏฐิ ขออภัยที่พูดตรงๆ ท่านพุทธทาสจะค่อนไปในทาง อุจเฉททิฏฐิ ท่านพูดอย่างนั้นจริง ในความหมายที่ท่านพูดว่าควรจะมาสนใจในปัจจุบันนั้นถูกต้องไม่ผิดหรอก แต่อย่าไปตัดความคิด หรืออย่าไปตัดความเรียนรู้ความเชื่อ ความเห็นความเข้าใจที่จะต้องคำนึงถึง อนาคต ซึ่งจะมีวิบากบาปต่อ ถ้าไปตัดอย่างนั้นก็จะไม่คำนึงชาติหน้า คนก็เลยกลายเป็นอุจเฉททิฏฐิ ก็ต้องเข้าใจให้ครบ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ปัจจุบันดีที่สุดแต่ไม่ใช่ว่าอดีตไม่มี อดีตก็มีผล ไม่ใช่อดีตไม่มีผล อดีตนี้เป็นคลังสมบัติของอนุสัย วิบากบาปวิบากบุญ (บุญไม่มีวิบาก) หรือกุศลอกุศล 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2563 ( 11:13:28 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:16:32 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 12:03:13 )

คนถึงธรรมะแล้วจะเอาชีวิตเข้ามาสู่หมู่กลุ่ม

รายละเอียด

คนที่ฟังธรรมแล้วก็เข้ามาอยู่ในหมู่ในกลุ่ม เห็นจริงเลยว่าอยู่ในอโศกข้างนอก มันไม่ใช่ที่ที่เราจะอยู่ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันจะต้องเข้ามาอยู่ ต้องพยายามตัดเลยข้างนอก ชีวิตคนไม่กี่ปีก็ตาย เพราะฉะนั้นคนที่เห็นจริง มีปัญญาจริง ไม่เอาแล้วเสียเวลาอยู่ข้างนอก ประเดี๋ยวก็จะตายเปล่า แล้วพวกเรานี่ก็พร้อมดี มันเป็นสาราณียธรรม 6 พร้อมอยู่กันอย่างมีอะไรครบพร้อมอยู่แล้ว ทำตามธรรมะพระพุทธเจ้าที่อาตมาอธิบายหมดแล้ว ไม่ใช่พูดเล่นแต่เป็นจริง ไม่ได้พูดโก้ๆ เท่านั้น แต่ว่าคนที่เขาไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ แต่พวกคุณเชื่อ พวกคุณเข้าใจ เพราะฉะนั้นเอาเถอะแต่ละคน เมื่อไหร่จะเข้ามาก็มา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐิติ 7 ปฏิจจสมุปบาท และวิชชา 8 วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 วันแรม 14 ค่ำเดือนยี่ ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:43:46 )

คนถูก คนผิด ตรวจสอบ ยืนยันด้วยพระไตรปิฎก

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในยุคนี้ถ้าอาตมาผิดเขาถูก ถ้าอาตมาถูก เขาก็ต้องผิด ฉะนั้นจึงต้องเอาพระไตรปิฎกมายืนยันตรวจสอบ ตรงตามพระไตรปิฎกไหมแค่นี้ก็รู้ได้แล้ว พวกเรากลัวไหมที่จะเอาพระไตรปิฎกมาตรวจสอบพวกเรา …ไม่กลัว แล้วศาสนาพุทธกระแสหลักกล้าไหม ?

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 10:17:51 )

คนถูกคนผิด

รายละเอียด

ก็ทำอย่างที่ว่า นิคคัณเห นิคหารหัง ปัคคัณเห ปัคคหารหัง ตำหนิคนที่ควรตำหนิชมคนที่ควรชม ก็ดีแล้ว ที่เขาว่า มามันก็ถูก ถ้าคนที่รู้จริงแล้วว่า คนที่รู้ความผิดของคนผิด แล้วก็กล่าวความผิดของคนผิด คนนั้นเป็นคนที่ถูก แต่คนที่ไม่รู้ความผิดของคนผิด แล้วไปกล่าวผิดๆ คนนั้นก็คือคนผิด คนที่รู้จักคนถูกก็คือคนถูกแล้วก็ชมเชยคนถูก คนนั้นก็คือคนถูก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 14:21:57 )

คนถ้าไม่ทำงานก็เดรัจฉานธรรมดา

รายละเอียด

วันนี้วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

เอ้า..ปีนี้มีโศลกใหม่ ฟังให้ดีแล้วก็พิจารณาให้ดี 

“คน ถ้าไม่ทำงาน ก็เดรัจฉานธรรมดา” 

โปรดฟังอีกครั้ง “คน ถ้าไม่ทำงาน ก็เดรัจฉานธรรมดา” 

ทีนี้ก็มาเข้าสู่เรื่องราวที่เราจะได้ว่ากันไป ก็คือสิ่งที่ควรบอกกันสิ่งที่ควรอธิบายสาธยายกัน ที่เรากำลังอธิบายสาธยายกันอยู่ก็คือเรื่องของงาน คน ถ้าไม่ทำงาน ก็ได้เดรัจฉานธรรมดา 

 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 16:56:32 )

คนทั่วไปที่มีสัมประสิทธ์แบบโลกียะ

รายละเอียด

เขาตั้งหน้าตั้งตา แม้จะเป็นคนสุจริตก็ตาม มีความขยันหมั่นเพียรอย่างไรก็ตาม ก็จะพยายามให้มีรายได้ ให้มีผลผลิตจากแรงงานความสามารถทั้งกายวาจาใจของตน ทางความคิดความรู้ของตนแล้วก็สะสมไว้ ให้มีทรัพย์มีเงินทอง ก่อกองขึ้นให้มาก ให้เป็นคนรวย พอเป็นคนรวยก็จะมีช่องทางที่จะเอาเปรียบคนอื่นได้ ยิ่งสมัยนี้มีระบบทุนนิยม ซึ่งได้สร้างกฎเกณฑ์ สร้างแบบ ที่จะได้เปรียบก็เข้าไปสู่ระบบในสายของความเป็นคนรวย จึงได้เปรียบได้โอกาส ได้ช่องที่จะรวยมากขึ้นๆ เสร็จแล้วถึงทุจริตได้อย่างร้ายแรงและเร็วที่สุด พร้อมจะกลบเกลื่อน จะหาทางพราง แล้วก็สร้างระบบกฎเกณฑ์เพิ่มเติมขึ้นให้แก่ตัวเองรวยได้ ดีไม่ดีย่ามใจก็เลยยิ่งใช้อำนาจบาตรใหญ่ 

ตัวอย่างอย่างเช่น คุณทักษิณ เห็นชัดเจนเลยว่าหาทางให้ตัวเองได้เปรียบ จนกระทั่งมีช่องทางมีอำนาจบาตรใหญ่ เลยตะกละตะกลาม ถึงขั้นโกง อย่างที่เห็นๆ เพราะว่าคนที่ยังมีกิเลสยังไม่ได้ศึกษายังไม่ได้ลดกิเลสจริงมันอดไม่ได้ทนไม่ได้ที่จะมีการตะกละ มีความตะกละตะกลาม เมื่อมีช่องทางที่จะได้เปรียบเอาเปรียบกันได้ มันยิ่งได้ช่องทางกิเลสมันยิ่งตะกละ กิเลสมันยิ่งเพิ่ม Coefficient เพิ่มพลังงานเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ coefficient ในทางดี มันยิ่งเพิ่มพลังงานที่จะโกง ที่จะเอาเปรียบเอารัดสูงยิ่งขึ้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(พลังสัมประสิทธิ์) ตอน สัมประสิทธิ์สองทิศทางที่ต่างขั้ว


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:19:36 )

คนทั่วไปมีแต่ใจทวารเดียว

รายละเอียด

ในสามัญผลสูตรก็จะมีบอกว่า มีศีลอันเป็นอาริยะ คุ้มครองทวารอินทรีย์อันเป็นอาริยะ มีสติสัมปชัญญะอันเป็นอาริยะ สันโดษอันเป็นอาริยะ แต่คนทั่วไปเขาทำก็ไม่มีการสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 มีแต่ใจทวารเดียว มีแต่สติทางใจไม่มีสติทางกายวาจา สันโดษก็เลยไปโดดเดี่ยวอยู่ในถ้ำดำดิ่งลึก ในพระไตรปิฎกไม่เห็นมีเขาพูดกันเองบัญญัติเอง แล้วก็หลงตามอาจารย์ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 14:34:59 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:17:52 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 12:05:27 )

คนทาสของ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข

รายละเอียด

คนที่เขามีเงินใช้เงินเป็นอิทธิพลเห็นๆ กันอยู่ในโลกทุกวันนี้ คนที่ยังตกเป็นทาสของ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข 

แต่แค่ลาภ ยศ ก็เห็นชัดๆอยู่แล้วว่าเป็นทาส เป็นทาส ผู้ปล่อยไม่ไป เป็นทาสผู้ที่ วจีสังขารของอาตมามันบอกว่า เดาออกไหมว่าคำอะไร เป็นทาส อย่างปล่อยไม่ไป เป็นคำไทยชนิดหนึ่ง เป็นทาสอย่างหน้าด้าน

มันเป็นทาสลาภยศ เห็นๆ อยู่ทุกวันนี้ก็เห็นอยู่ในวงการการเมืองหรือพฤติกรรมของมนุษย์ในโลก ไม่ต้องไปพูดถึงทางด้านที่เขาเป็นเทวนิยม โอ้โห แย่งแผ่นดิน แย่งอำนาจ แย่งทรัพย์สินฆ่ากันอย่างไม่รู้สีรู้สา ไม่รู้กรรมวิบาก ไม่รู้ความเป็นชีวิตคนชีวิตมนุษย์ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปพูดถึงว่าเขาจะไม่ฆ่าสัตว์เลย ขนาดชีวิตมนุษย์นี่เขาก็ยังทำลายกัน ฆ่ากันขนาดนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พระอภิธรรมของ ฌาน และเวทนา 108 วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2567 ( 19:01:46 )

คนทำงานฟรีเสียภาษี 100% หาได้ในอโศก

รายละเอียด

ถูกต้องคนทำงานฟรีเสียภาษี 100% หาได้ในอโศกนี่แหละในโลกที่เป็นกลุ่มก้อนแค่นี้ ทำงานฟรีเสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่รวมกันเป็นหมู่กลุ่มนี่แหละ ชุมชนชาวอโศกไม่ได้มีที่เดียว คนทำงานฟรีไม่รับรายได้คืนเลยไม่ใช่มีแค่ชุมชนเดียว เรามีหลาย 10 ชุมชนในประเทศไทย จะมีมากบ้างน้อยบ้างเรียงลำดับไป ตามความเป็นจริง แต่ผู้ที่สบายแล้ว ทำงานฟรี แล้วเขาก็จะเผาให้ เราช่วยกันเผา วัฒนธรรมของเราสมบูรณ์แบบหมดแล้วไม่มีปัญหา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ สำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:18:31 )

คนทำดีแบบลุงจำลองทำไมได้มงกุฎหนาม

รายละเอียด

ตอบ สังคมที่มันวิปริต คือสังคมที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย ความดีเป็นความชั่วเห็นความชั่วเป็นความดี เห็นความทุกข์เป็นความสุข เห็นความผิดเป็นความถูกเป็นต้น มันเป็นอย่างนั้นจริงๆสังคมที่วิปริตหรือวิปลาสในยุคนี้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆไม่ได้ใส่ความ เห็นคนที่ทำดีก็ไปเข้าใจว่าทำไม่ดี คนที่ทำถูกก็เข้าใจว่าไม่ถูกเพราะว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆมันเป็นสัจธรรม แล้วก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร มันก็เป็นจริงอย่างที่ว่านั้น เพราะฉะนั้นคนที่มีปัญญามีความเฉลียวฉลาด ปัญญานี้เป็นความหมายที่ยากมากที่จะอธิบายว่า ความเฉลียวฉลาดแบบโลกุตระไม่ใช่ความเฉลียวฉลาดวนอยู่ในกรอบของโลกีย์ แต่เป็นความฉลาดที่เข้าใจทั้งโลกียะและเข้าใจทั้งโลกุตระ แล้วความเข้าใจโลกุตระเอามาใช้อนุโลมปฏิโลมกับโลกีย์เขาได้อย่างดี เรียกว่าใช้สัปปุริสธรรม 7 กับมหาปเทส 4 เป็นความตรัสรู้สุดยอดของพระพุทธเจ้าให้คนเราเรียนรู้แล้วเอามาใช้ได้ 

คนเขาไม่รู้ก็เอา ทำดีแล้วเอามงกุฎหนามมาให้ก็คล้ายๆ กับพระเยซู ได้มงกุฎหนามมา ก็เป็นธรรมดาของโลก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบการปกครองของมนุษย์ ที่สุดยอด วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 10:30:37 )

คนทำนาคือคนเลี้ยงโลก

รายละเอียด

ผู้ที่ทำนานี้ อาตมาก็ขอคารวะ ว่าเป็นผู้ที่เลี้ยงโลกไว้ ทำนาก็ดีทำสวนทำไร่ก็ดี เราถือว่าข้าวมันเป็นอาหารหลัก ถือว่าเป็นหนึ่ง พืชพันธุ์ธัญญาหารก็เป็นหนึ่ง กินแต่พืชพันธุ์ธัญญาหารไม่กินข้าวก็ได้ แต่ข้าวก็เป็นหนึ่ง ที่คนยอมรับกันทั่วโลก เป็นแป้งที่คนยอมรับนำหน้า ทำขึ้นมาแล้วเลี้ยงโลกได้ 

อาตมาก็เคยพยายามอธิบาย ว่าคนจะเก่งอย่างไรไปทำอาวุธมาฆ่าคน กับคนที่ทำอาหารให้คนกินมีอายุ อีกคนหนึ่งทำอาวุธเพื่อที่จะฆ่าอายุของคน มันคนละโลกกันเลย มันคนที่มีงานคนละขั้ว เป็นขั้วนรกกับขั้วสวรรค์ แล้วเขาไม่รู้นะ สร้างอาวุธ หลงในอำนาจบาตรใหญ่ แล้วก็ไม่เข้าใจชีวิต ชีวะ สัตว์ คน มันไม่รู้ว่า กว่ามันจะพัฒนามาเป็นชีวะ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 41 คนเจริญคือคนทำฌานจนเป็นบุญสำเร็จ วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 10 ปีเถาะ  ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2566 ( 14:48:58 )

คนทำลายศาสนาเป็นโจรที่ฆ่าไม่ตาย

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นรู้ตามพระพุทธเจ้านี่แหละ เรื่องวิญญาณนี้ เริ่มต้นด้วยนามรูปอย่างถูกต้องสัมมาทิฏฐิ คุณก็ไม่ต้องเรียนอะไร ถ้าคุณยังไม่รู้อันนี้อย่างบริบูรณ์ คุณก็เป็นคนที่ทำลายศาสนาเป็นโจรที่ฆ่าไม่ตาย ฆ่าเช้าหอกร้อยเล่มก็ไม่ตาย ฆ่าเย็นหอกร้อยเล่มก็ยังไม่ตาย ปล่อยให้ถูกคนฆ่าไปอีก กี่ล้านๆเล่มก็ว่ากันไป ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจเป็นปากเปิด ฆ่าเช้ากลางวันเย็นก็ไม่ตาย มี 3 กาละนี้ ยามเช้า ยามเที่ยง ยามเย็น เท่านี้แหละ ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ว่าฆ่าไม่ตาย ปากกรวยบานไม่รู้จักจบ หากคุณจะเอาไม่รู้จักจบก็ว่ากันไป เป็นนิรันดร คุณก็เป็นอย่างนั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 15:27:29 )

คนที่ ใจพอ

รายละเอียด

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสไว้ เอาคำว่าพอมาใช้เป็นตัวกลาง เป็นตัวสำคัญมากเลย ที่จะต้องเรียนรู้สิ่งใดของคน บางคนมีหมื่นล้านก็ยังไม่พอ มีลูก 200 คนหรืออย่างไร ก็ไม่ใช่ ใจที่รู้จักพอ มีเท่านี้เราก็พอ อยู่กับหมู่ แม้ไม่มีเราไม่ต้องสะสมเลยก็พอ แล้วมันไม่สบายหรืออย่างไร สบายจะตาย ที่จริงเราก็ควรจะดูแลรับผิดชอบบ้าง ตอนนี้เราไม่ต้องดูแลอะไรเลยตัวล่อนจ้อนมันก็มากไป ก็ต้องช่วยกันบ้าง อย่างน้อยก็ช่วยเก็บงำไม่ให้หกตกหล่น ไม่ควรจะสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยให้เอาภาระกันบ้าง หากเราไม่ช่วยกันดูแลไม่ช่วยกันเลยปล่อยลอยชายไปลอยชายมา  เราช่วยกัน เราก็เป็นคนมีกรรมเป็นกุศลความชำนาญก็เกิดประโยชน์ก็เกิดวิบากก็ดี คนที่ขยันหมั่นเพียร คุณเองคุณก็ได้ดีของคุณไม่มีใครไปแย่งคุณได้เลย ไปแย่งวิบากกันไม่ได้ วิบากกรรมวิบากมันแย่งกันไม่ได้ เราเป็นทายาทของกรรม

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 31 ธันวาคม 2562 ( 16:33:18 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:46:53 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 13:01:13 )

คนที่กินเนื้อสัตว์ทำไมหน้าแก่กว่าคนไม่กินเนื้อสัตว์

รายละเอียด

ก็เพราะว่าเนื้อสัตว์มันมีสารพิษ สัตว์มันมีความรู้เท่าคนไหม ก็ไม่ สัตว์มันก็ไม่รู้จักพิษเท่าคนฉลาด คนฉลาดไม่กินพิษ ถ้ามีความรู้กว่าคนที่มีความรู้เท่าสัตว์ก็ต้องกินเนื้อสัตว์อยู่ เนื้อตัวหน้าตาก็ต้องใสสู้คนไม่กินเนื้อสัตว์ไม่ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:56:25 )

คนที่ขาดแคลนต้องการให้ช่วยเหลือ

รายละเอียด

อย่างน้อยที่สุดในสังคมมี

1.เด็กมันทำกินทำใช้ไม่คุ้มตัว

2.คนแก่

3.คนเจ็บป่วย ก็จำเป็น

4.คนพิการก็จำเป็น คนพิการสรีระต่างๆที่ทำกินใช้ไม่คุ้มตัว พิการอัมพาตอัมพฤกษ์ หรือขาดส่วนนั้นส่วนนี้ หรือผู้พิการทางสมอง ยิ่งกินเก่งด้วยนะ พวกพิการทางสมองแต่ร่างกายใช้วัตถุอยู่มันซับซ้อนอีกที คนใน 5 จำพวกที่อาตมาช่วยตรวจสอบว่าเป็นผู้ที่จะต้องให้การช่วยเหลือจริงๆในสังคม ซึ่งมันก็มีไม่มากเหมือนคนปกติ สามัญที่ครบอาการ 32 มีมันสมองมีความรู้ความสามารถ จะขยันหรือขี้เกียจก็อยู่ที่คติ ก็จะอยู่ช่วยโลกถ้าเป็นคนที่ไม่ขี้เกียจ ไม่เห็นแก่ตัว มีความรู้ความสามารถ ขยันหมั่นเพียร มีวิริยารัมภะ สร้างสรรค์ในแต่ละวัน ไม่เมื่อยก็เพียรเมื่อยก็พัก ตามคำสอนพระพุทธเจ้าทุกอย่าง พิสูจน์ได้เลย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 05 เมษายน 2563 ( 12:00:39 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:17:53 )

คนที่คอยจับผิดหมดจะไม่เห็นความถูกที่มีอยู่แม้มาก

รายละเอียด

เออ อาตมาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร คนที่จับผิด ขี้บนน้ำก็ผิดขี้บนอากาศก็ผิดขี้บนบกก็ผิด ผิดทุกอย่าง อาตมาก็ตอบอะไรคุณได้คุณบอกว่าผิดคนที่จับผิด ก็พักเสียก็แล้วกัน

ในฐานะที่คุณเห็นความผิดของอาตมาหมด คุณก็จะไม่เห็นความถูกของอาตมาที่มีอยู่มากเลย เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ความถูกอะไรของอาตมา คุณก็ไปทางที่ชอบของคุณเถอะ ก็คุณชอบทางไหนก็ไปทางนั้น คุณมาทางนี้ไม่ได้หรอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ
สื่อธรรมะพ่อครู(พระวินัย) ตอน อโศกมิใช่นิกายแต่เป็นนานาสังวาส


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 05:01:26 )

คนที่ค่าตัวแพงเป็นคนโหด คนใจหิน ไม่เจริญ

รายละเอียด

ก็ขอขยายความอีกหน่อย ว่า เศรษฐกิจ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะต้องเข้าใจดีๆว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจไปแก้ที่วัตถุไปแก้ที่เงินทองเป็นตัวตั้ง ไปแก้ที่วัตถุ ที่เอาเงินเป็นตัวตั้งเป็นตัวชี้บ่งว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี สังคมใดตั้งแต่ครอบครัว ครอบครัวนี้เศรษฐกิจดี เพราะว่าได้เงินมาทำงานได้ค่าแรงงานหรือว่าได้ผลผลิต ได้เปรียบ สรุปง่ายๆ ครอบครัวนี้ ได้เปรียบได้ราคาดี แม้แต่ค่าตัว ค่าราคาค่าตัว ไปทำงานก็ได้ราคาแพง คนที่ทำงานแล้ว เอาค่าแรงงานแพงเป็นคนโหดเป็นคนใจหินเป็นคนไม่เสียสละเป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ ไม่ใช่คนเจริญ เป็นคนเสื่อม คนที่เอาค่าตัวของตัวเองแพง ขอแวะนิดนึง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2563 ( 12:35:20 )

คนที่จนที่สุดคือคนที่รวยที่สุด

รายละเอียด

เขาไม่เข้าใจหรอก เขาไม่ได้แกล้ง คนที่จนที่สุดคือคนที่รวยที่สุด พูดผิดพูดใหม่ได้นะ เหมือนในหลวง ร.9 ท่านตรัสว่า ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา มาเอาแบบคนจน นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า ท่านเป็นธรรมิกราชแท้ ตรัสอันนี้ แล้วอาตมาก็พูดเรื่องนี้สนับสนุนเรื่องนี้และพาทำเรื่องนี้ด้วย ในหลวงร.9 ไม่ได้พาคนมาจนแบบอาตมาหรอก แต่ท่านเข้าใจ ท่านตรัสจริง แต่ท่านไม่ได้อยู่ในฐานะที่ทำได้เหมือนอาตมา แต่อาตมานี้ทำสำเร็จ มีปรากฏการณ์จริงได้จริง พาคนมาจนได้จริง แต่ในหลวงท่านยังไม่ได้อยู่ในฐานะที่ท่านจะทำได้ 

แต่ท่านเป็นโพธิสัตว์ที่เริ่มเข้าใจแล้ว ใช่ ระดับ 7 ถึงจะเริ่มมีพลังงาน มีประสิทธิภาพ ที่จะสามารถทำความจริงอันนี้ได้ 

เพราะฉะนั้น คนเราไม่รู้จักค่าหรือราคาหรือคุณค่าที่แท้จริง ไปยินดีในรายได้การขายอาวุธ แล้วก็ได้รายได้เป็นธนบัตร Bank Note ซึ่งเป็นเศษกระดาษปั๊มตัวเลขเฉยๆ มันไม่ใช่เป็นกล้วยลูกนึง เป็นข้าวกำมือหนึ่ง ข้าวทัพพีนึง มันไม่ใช่เลย ข้าวทัพพีหนึ่ง กล้วยลูกหนึ่ง มีค่ากว่าธนบัตรใบละ 1,000 ใบละหมื่น มีค่ากว่าเยอะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การวัดคุณค่าของมนุษย์กับสิ่งสร้างขึ้นของมนุษย์ วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 ขึ้น 1 ค่ำ เดือนยี่ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 มกราคม 2566 ( 12:28:55 )

คนที่จนที่สุดอย่างมีปัญญาสมบูรณ์แล้ว เป็นคนที่รวยที่สุด 

รายละเอียด

บางคนก็บอกว่านักธรรมะอะไรวะ มาพูดวุ่นวายเรื่องทางโลกเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ เรื่องการเมือง ก็ไม่เป็นไร คุณเองคุณไม่เห็นว่าสังคมมันคืออย่างนี้ แล้วคุณก็จะให้ธรรมะไปนั่งหลับตาอยู่ในป่าในเขาก็เรื่องของคุณอาตมาไม่เห็นด้วย ก็ต่างคนต่างเห็นก็ทำกันไปอาตมาก็จะทำแบบนี้ในความเห็นของอาตมา ขออิสระให้แก่อาตมาหน่อย นี่อาตมาว่าเป็นอิสรเสรีภาพของอาตมานะ ใครจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ไม่มีปัญหาอะไร ใครจะอนุโมทนา ไม่อนุโมทนา ก็ไม่ว่าอะไร 

ข้อที่ 1. การจะทำให้คนทั้งประเทศ ไม่มีคนจนนั้น เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด โดยความแท้จริง เขาพูดไปไม่มีทางทำได้สำเร็จ อย่างน้อยก็ทำให้ชาวอโศกนี้ไม่เป็นคนจนไม่ได้ เพราะเราจนอย่างสุขสำราญเบิกบานใจจนอย่างสมบูรณ์ เพราะมีคนตั้งใจมาจน มุ่งมาจนแบบโลกุตระเลย ซึ่งอย่าว่าแต่โลกุตระเลย แม้โลกียะคุณก็ทำให้หมดความจนไม่ได้ โลกแตกอีก 8 ลูกก็ทำไม่ได้ ที่พูดกันไปโม้กันไปเลอะเทอะ คุยเขื่องกันไป 

ข้อ 2. และยิ่งจะทำให้คนทั้งประเทศเป็นคนรวยไปทั้งหมด มันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ จึงไม่ควรคิด และไม่ควรพูดเลยในโวหารหรือวาทะอย่างนี้ 

อันนี้เป็นมุมกลับ 

คนที่จนที่สุดอย่างมีปัญญาสมบูรณ์แล้ว เป็นคนที่รวยที่สุด 

ขณะนี้มีคนอยู่ในสาธารณโภคีเท่าไหร่ คุณเป็นคนมักน้อยสันโดษ เป็นคนประโยชน์สูงประหยัดสุดแล้ว ประหยัดไม่ไปฟุ่มเฟือย ไม่ได้ไปทำให้สุรุ่ยสุร่ายอะไร เอาไว้กองกลางนั่นแหละ คนอื่นจะได้ใช้ เราใช้น้อยเท่าไหร่ก็ดีไม่ต้องเปลืองไม่ต้องเสียอะไรมากเพราะเรา จะมีปฏิภาณปัญญาเข้าใจสิ่งเหล่านี้

ข้อ 3. การพูดออกไปต่อสาธารณชนว่า คุณจะเป็นผู้ทำให้คนทั้งประเทศหายจนนั้น เป็นไปไม่ได้เลยในโลก ไม่ว่าคุณจะเก่งปานใด พูดเช่นนั้นจึงเป็นการคุยโต “สร้างราคา”ให้แก่ตนเอง เท่านั้น เพราะไม่มีใครหรอกในโลกที่จะทำได้ แม้แต่พระเจ้าก็มิบังอาจจะบันดลบันดาลให้เป็นเช่นนั้นได้ ถ้าทำได้พระเจ้าคงไม่ใจจืดใจดำปล่อยให้คนในโลกมี“ช่องว่างระหว่างคนจน-คนรวยกันเต็มสังคมโลกขนาดนี้”แน่ๆ

ข้อ 4. ไม่มีใครเลยในโลกที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยทำให้คนทุกคนในประเทศหายจนไปทุกคนได้หมด มันเป็นไปไม่ได้ตามความเป็นจริง ใครๆก็เสกหรือบันดาลให้คนทั้งประเทศหายจนไม่ได้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของตนหรือของสังคมให้ดีขึ้น ก็ไม่ควรแก้ด้วยการทำให้คนหรือให้สังคมรวยขึ้นอย่างมาก จนถึงขั้นรวยๆๆๆ ชนิดไม่มีขีดจำกัดความพอ ที่เรียกว่า“พอเพียง” คนควรมีจุดแห่งความ“พอ” เมื่อถึงจุดนั้นแล้ว ต้องหยุดมีมากกว่านั้น เราสามารถขยันสร้างสรรให้มากๆได้ เมื่อมีมากกว่าตนกินใช้ก็นำออกสละเจือจานเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น ย่อมเจริญยิ่งๆแน่นอน นี่คือคนรู้จริงมีความเข้าใจในความจนความจนเป็นคนจนเป็นคนจนจริงๆความมีปัญญาความฉลาดความฉลาดชลชลทรมน

ข้อ 5. ควรแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการทำให้คนทั้งหลายเกิดปัญญารู้แจ้งรู้จริง มีความเข้าใจใน“ความจน” และคนผู้นั้นเขาตั้งใจทำตนให้เป็น“คนจน”ที่มีปัญญามีสมรรถนะอยู่ในสังคมได้ดีจริงๆ ความมีปัญญานั้นเป็นความฉลาดที่ประเสริฐพิเศษ เป็นความฉลาดของอาริยชน “ปัญญา”เป็นบัญญัติของพระพุทธเจ้าใช้เรียกความฉลาดแบบอื่น(อัญญะ)ซึ่งแตกต่างจากความฉลาดของปุถุชน อันคือ“เฉโก” 

พยายามเน้น แยกให้เห็นถึงความฉลาด เฉโกกับปัญญา มันเป็นความจริงที่อาตมาได้เอามาพูด เขามีความฉลาดแต่ เฉโก เท่านั้นมันเป็นความจริงที่เขามีออกจาก เฉโก ไม่ได้ มามี อัญญธาตุ โลกุตรธาตุอื่นยังไม่ได้ เพราะฉะนั้นชาวเทวนิยม ชาวทุนนิยม ชาวตะวันตก ชาวที่มีกรอบความรู้ทางธรรมะแบบเทวนิยม แบบพระเจ้า จะไม่มีทางใดเลยที่จะรู้จักจิตวิญญาณ รู้จักจิตเจตสิกรูปนิพพาน จะหมดกิเลส 

เขาไม่รู้จักกิเลส หยาบ กลาง ละเอียด เขาก็ไม่รู้ จะพอรู้โดยปริยายรู้โดยโลกๆ ในศาสนาของเขาคำว่ากิเลสก็ไม่มี ก็พยายามจะใช้หาภาษาอังกฤษมาเรียกกิเลส ซึ่งมันก็ไม่ตรง มันไม่รู้จักจิตเจตสิก ว่ากิเลสนี้คือ จิตเจตสิกที่มันอวิชชา จิตเจตสิกที่มันโง่ มันนึกว่าตัวเองฉลาด แล้วปฏิบัติตามที่ตัวเองนึกว่าฉลาด วนเวียนอยู่ในโลกียะ 

ข้อ 6. “ปัญญา”ที่ว่านั้นจะเห็นจริง เข้าใจจริงๆว่า ต้องเป็น“คนจน”ดีกว่าเป็นคนรวย ตนเป็นคนมักน้อยหรือกล้าจน หรือมีทรัพย์สินไว้ที่ตนน้อยๆ(อัปปิจฉะ) เพียงพอกินพอใช้ (สันโดษหรือสันตุฏฐิ) ส่วนที่เหลือที่เกินก็รีบสะพัดออกให้แก่ผู้อื่นที่ควร ที่แร้นแค้นจะได้รับไป เขาจะได้หายขาดแคลน 

เอาเข้ากองกลาง บริหารไปเผื่อผู้ที่แร้นแค้นไม่มีใช้ นี่คือนักเศรษฐศาสตร์ชั้นหนึ่งของโลก นักเศรษฐศาสตร์ชั้นหนึ่งของสังคม นักเศรษฐศาสตร์ชั้นหนึ่งของประเทศคือพวกเรานี่แหละ ใครจะบอกว่าพวกเราขี้ตู่กลางนาขี้ตาตุ๊กแกก็แล้วแต่ แต่ว่าเราใช่เราเป็นนักเศรษฐกิจ 

ทำตนอยู่ในสังคมประเทศมีเศรษฐกิจแบบหนึ่ง เราไม่ได้เป็นภาระไม่ได้เป็นปลิง ไม่ได้เป็นทากที่ไปเกาะสังคมดูดเอาเลือดจากสังคมอะไร เรามีแต่จะว่าจริงๆแล้วเรามีเลือดให้แก่สังคมด้วย บริจาคเลือดให้แก่สังคม โดยไม่ต้องให้เลือดที่เขาดูดไปสดๆ หรอก แต่นี่แหละคือเลือดแท้ๆ ของเศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ 

เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่แท้ เพราะเกิดการสะพัดออกไปสู่ผู้อื่น อปจยะ ไม่ใช่มีมากแล้ว ไม่รู้จักพอ ยังโลภกอบโกยมาเป็นของตัวไม่รู้จบ คอนเซพท์ “เห็นแก่ตัว”อย่างนั้นไม่ควรมี เพราะฉะนั้นเรามีเหลือมีเกินถึงได้แจก ทรัพย์สฤงคารเราไม่มีจะแจกเท่าไหร่หรอก เพราะมีแต่พืชพันธุ์ธัญญาหารเราเป็นคนรวยพืชพันธ์ุธัญญาหาร อยู่ในฐานะอย่างเราถือว่ารวยก็เหลือกินเหลือใช้ เราก็แจก แต่เราก็เหนื่อยเหมือนกันในการแจก เขาก็มาเอา พวกเราไม่ค่อยขยันเอาไปใส่ มันเหลือจริงๆ แต่ไม่ค่อยขยันเอาไปใส่

หมู่บ้านย่านนี้เขารู้กันดีแล้ว บางคนก็คอยดูรีบมาหอบเอาไปเลย อย่างนี้ต้องเตือนๆกันหน่อย 

(สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน ว่า… ตอนนี้ใช้วิธีไปแจกช่วง 4-5 โมงเย็นเพราะว่าคนผ่านเยอะคนงานเลิกงาน แล้วคนจ้องจะเอาเป็นกระสอบไม่ได้ 4 โมงครึ่งไปแล้ว รถกลับเยอะก็จึงเอาไปแจก )

 ดีเราจึงต้องฉลาดกับสังคม อย่างนี้แหละโพธิสัตว์ จะช่วยเขาก็ต้องฉลาดเท่าทันเขา ไม่ฉลาดเท่าเขา มันก็ไม่ทั่วถึง เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่เฉลี่ยรายได้อันมีจำกัดให้แก่คนไม่ได้ทั่วถึงพอก็ไม่ได้ ดังนั้นเศรษฐศาสตร์จะต้องเฉลี่ยสิ่งที่มีจำกัดให้แก่คนทั่วไปได้ทั่วถึง ถูกต้องตามฐานะที่ควรจะเป็น ก็เป็นการแก้ไข ยังนึกว่าพวกเราไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์เศรษฐกิจอะไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบพุทธ ตอน 1 วันพุธที่ 29 มีนาคม 2566 วันขึ้น 8 ค่ำเดือนห้าปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 20:51:45 )

คนที่จนที่สุดแต่รวยพืชพันธ์ุธัญญาหารเป็นคนอยู่ในชมพูทวีป

รายละเอียด

เมืองไทยสามารถปลูกพืช เราไม่เก่งทางวิศวกรรมทางวัตถุ อุตสาหกรรม เพราะจริงๆแล้ววัตถุมันยังชีพไม่ได้เหมือนกับพืช พื้นภูมิประเทศเราก็เหมาะสมที่จะทำพืชพันธุ์ธัญญาหาร มากกว่าที่จะทำพวกนั้น เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ต้องไปโง่ เราทำเป็นบ้างก็ทำ ใครถนัดใครชอบก็พออาศัย อาศัยไม่ได้ก็ซื้อเขา ซื้อไม่ได้ก็เอาพืชพันธุ์ธัญญาหารไปแลกเปลี่ยนเอา เขาก็ต้องให้อยู่ดี เพราะว่าเรามีอันนี้มากแล้วก็ดีด้วย คุณภาพสูงด้วย อะไรพวกนี้ไร้สารพิษก็ดี มีธาตุอาหารอีกเยอะแยะ 

สรุปลงแล้ว เรา เป็นมนุษย์อยู่กับพืชพันธุ์ธัญญาหาร สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารนี่แหละให้มีคุณภาพดีสุด มากเยอะแยะ แล้วก็คนคนละโลก ก็คุณต้องกินอันนี้ต้องอาศัยอันนี้ กินนะไม่ใช่เป็นการใช้อุปโภค แต่เป็นการบริโภค คุณอาศัยกินมากกว่าอาศัยใช้ สัตว์เดรัจฉานมันใช้เครื่องใช้น้อย มันต้องกิน เพราะเป็นสัตว์ คุณก็เป็นสัตว์คนก็เป็นสัตว์ สุดท้ายมันก็เป็นตรงนั้น 

เพราะฉะนั้นเรามามีความรู้ความสามารถที่จะสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารให้ได้ดีได้มาก จบเลย แล้วเกื้อกูลเลี้ยงโลก เราก็อาศัยกินใช้ในนั้นซึ่งมันพอ ยิ่งมีมากคนคนละไม้คนละมือต่างคนต่างเก่งต่างคนต่างขยัน ที่จะสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร ที่ดินของเรายังมีมากพอจะสร้างได้อีกเหลือแหล่เลย ทำให้เต็มที่นี่อาตมาว่า ที่ของชาวอโศก แม้แต่ที่ของบ้านราช ทำไปเต็มที่เลย อาศัยกินใช้อาศัยกินเป็นหลัก บริโภคเป็นหลักกว่าใช้ สร้างให้มากเลย เพราะคนต้องกินต้องใช้ 

เพราะฉะนั้นเราจน สิ่งที่เป็นธนบัตร ทองคำ เพชรนิลจินดา อะไรที่โลกเขาติดยึดหรือแม้แต่ของสมมุติ ขี้หมาทาสีอะไรขึ้นมาก็ว่าราคาแพง สีทากระดาษสีทาผ้าใบแพง เราไม่ต้องไปหลงใหลได้ปลื้มแบบโง่เง่าเหล่านั้น เราเอาสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับมนุษย์โลกคืออาหาร กินเข้าไปสังเคราะห์ นี่แหละ ทำอันนี้เป็นที่หนึ่ง คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ 

เป็นวิบาก บารมีของคน ชาวเอธิโอเปียก็ดี ชาวตะวันออกกลางก็ดี ชาวตะวันออกกลางเขากินน้ำมันไม่ได้หรอก น้ำมันดิบหรือน้ำมันสุกก็ตาม กินไม่ได้ กินได้ก็อย่างที่พูดไปแล้วหรือจะกินแบบเบนซิน มันจะอายุยืนยาวได้อย่างไร ซึ่งมันไม่ใช่ธาตุที่จะไปสังเคราะห์ร่างกายได้ 

อันนี้จึงดีที่สุด เราจนที่สุดในสิ่งที่คนทั้งโลกเขาหลงใหล แต่เรารวยที่สุดในสิ่งที่เป็นพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันเป็น 2 ขั้ว ขั้วหนึ่งขั้วรวย อีกขั้วหนึ่งขั้วจน คนที่จนที่สุด แต่รวยพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันถึงที่จบได้แล้ว รวยพืชพันธุ์ธัญญาหารแล้วรู้จักสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารที่ดีมีคุณภาพ ยอดเยี่ยมสุด มาเป็นอันนี้กัน แล้วเราก็อยู่ในนี้ด้วย เป็นบารมีของเรานะ ได้เป็นคนมาอยู่ในชมพูทวีปนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 27 จนเป็นที่ 1 ในโลก แต่สร้างอาหารช่วยโลก วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 พฤษภาคม 2565 ( 15:07:59 )

คนที่จนอย่างมีปัญญา คือคนที่สูงและเด่นที่สุด

รายละเอียด

มีความฉลาดโลกีย์ทั้งหมดอย่างไรคือดีของโลกีย์ อย่างไรคือชั่วของโลกีย์ โลกุตระรู้หมดแล้วทำได้ด้วย แล้วยังมีความฉลาดมากกว่านี้ ตรงที่ว่า เข้าใจว่าดีและชั่วเราไม่ยึดติดในความดีความชั่ว โลกจะสมมุติว่าคนจนคือคนที่ต่ำ คำไวยพจน์ว่า จนคือต่ำกระจอกไม่เจริญ​คนไม่สูง ต้อยต่ำ แต่ที่จริง คนที่จนอย่างมีปัญญาคือคนที่สูงและเด่นที่สุด นี่คือสภาวะมันเป็นอย่างนั้นสัจจะมันเป็นอย่างนั้น แต่คนเข้าใจไม่ได้ เพราะฉะนั้นในวรรณะ 9 ที่พระพุทธเจ้าตรัส นี่คือคนชั้นสูง เพราะฉะนั้นเขาอธิบายไม่ออกเขาก็เอามาขยายความแล้วพาให้คนมีวรรณะ 9 ไม่ได้ แต่อาตมายืนยันว่าพวกเรามีวรรณะ 9 เป็นคนเลี้ยงง่าย ไม่ยากไม่เย็นอะไรเช้าก็มาเข้าแถวกินข้าวเหมือนหมู เอาอาหารใส่รางเลื่อนมา ทั้งสมณะทั้งฆราวาสเหมือนกัน ใส่ล้อมา เลื่อนแล้วก็แบ่งกันกินสบาย เลี้ยงง่าย ไม่แย่งกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 14:53:00 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:36:14 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 13:55:07 )

คนที่จบความเจริญเหลือแต่ตั้งอยู่กับเสื่อมไป

รายละเอียด

คนที่จบความเจริญก็เหลือแต่ตั้งอยู่กับเสื่อมไป ไม่มีเจริญอีกแล้ว มีแต่ตั้งอยู่และเสื่อมไป อาตมาชี้สภาวะนี้แบบมันก็เป็นอย่างนั้น มันไม่ได้เกิดการเจอสามเส้า หรือ จะให้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป หรือจะให้ดับไปโดยไม่ต้องตั้งอยู่ไม่ต้องเกิด หรือจะให้เกิดอย่างยาวนานตั้งอยู่ไม่ดับ ยาวเท่าไหร่ ยาวเป็น 4 เป็น 6 เป็น 9 ยาวไปเท่าไหร่ก็อยู่ในอาณัติ อยู่ในคำสั่ง ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ ถึงขั้นนั้นเลย วสวัตติโก เป็นผู้ที่ยังจิดให้เป็นไปในอำนาจได้สำเร็จ แบ่งเป็นขั้นๆ ขั้นรอบ 3 รอบ 4 ขั้นรอบ 5 ขั้นรอบ 6 ขั้นรอบ 7 ขั้นรอบ 8 ขั้นรอบ 9 ขั้นรอบ 10 จะต่ออีกไหมจะต่อไปก็เป็น 11-12 ไปถึง 20 ถ้าถึง 20 ก็ไปเป็น 100 ก้าวหน้าทบต้นไปอย่างนั้นก็จะเป็น 100 จาก 100 ก็จะเป็น 100 * 100 ก็เป็น 10,000 ก็จะเพิ่มไปเรื่อยๆ

ความคิดของคนที่ต่อจากพระพุทธเจ้านั้นก็ไม่เป็นความจริง ความจริงมันก็เป็นครั้งเดียวจบแล้ว 

ใช่ เป็นโพธิสัตว์ก็เหนื่อยสอนอยู่มากแล้ว ถ้าเกิดมาอีกครั้งก็ต้องทำเป็นอย่างนี้แหละ เป็นครั้งที่ 2 ซ้ำซากไปอีก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 22:35:12 )

คนที่จบแล้วหมดปัญหา เพราะตัณหาดับ

รายละเอียด

ก็เป็นคำวินิจฉัยที่คุณว่ามาแล้ว คุณก็สรุปง่ายๆว่าถ้ามาอยู่กับชาวอโศกแล้วจะเป็นมะเร็ง ท่านทั้งหลายระวังมะเร็งจะกินหมดเลย ข้อสรุปของคุณเดชา อัมพร ก็สม.ทองพราย มีดีเยอะแยะเลย พวกคุณจะไม่เป็นมะเร็งหรือ..  สวยก็ไม่สวยเท่า 

อาตมาว่า คุณเดชา อัมพร นี่ มีปัญหายังไม่จบด้วยปัญญาก็จะต้องมี 2 แล้วก็จะจ้องถาม ปัญหาจะมี 2 ปัญญาคำนี้ไม่ใช่ปัญญาแต่จะเป็นปัญหา เป็นอย่างนี้อยู่ตลอดไปเป็น 2 จะต้องถามอยู่ร่ำไป เพราะฉะนั้นขอตอบให้ฟังนิดนึงว่า คนที่จบแล้วเขาจะหมดปัญหา คนที่จบแล้วเราจะหมดปัญหา เพราะว่าตัณหามันได้ดับไปแล้ว จะรับฟังถ่ายเดียวแต่คนที่ไม่จบปัญหาจะตั้งใจถามอย่างเดียว ฟังไว้คุณเดชา จะหาแง่มุมมาถาม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม หนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 13:08:39 )

คนที่จะกลับมาเกิดเป็นคนอีกเท่ากับมือที่จิ้มลงที่ดินแล้วติดเล็บ

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าตรัสว่าคนเราเกิดมาแล้วตายไปจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกนั้นยากกว่ายาก ส่วนมากแล้วตกนรก คนที่เกิดมาเป็นคนแล้วแต่ละชาติ ส่วนที่จะได้เกิดมาเป็นคนอีกเท่ากับมือที่จิ้มลงที่ดินแล้วติดเล็บมา นั่นคือจำนวนคนที่จะได้เกิดมาเป็นคนอีก นอกนั้นเหมือนกับแผ่นดินไม่ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก จะต้องไปใช้หนี้วิบาก ก็คือไปตกนรกนั่นแหละ ท่านตรัสไม่ได้เกินความจริง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 01 กุมภาพันธ์ 2563 ( 14:33:14 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:47:38 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 13:55:52 )

คนที่จะทำงานเศรษฐศาสตร์จึงต้องไม่เห็นแก่ตัว

รายละเอียด

คนที่จะทำงานเศรษฐศาสตร์จึงจะต้องไม่เห็นแก่ตัวไม่มีอคติ แล้วรู้จักทรัพย์สิน รู้จักสิ่งที่เกิดสิ่งที่มีสิ่งที่เป็น ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตทางอะไรก็แล้วแต่ เครื่องกินเครื่องใช้ วัตถุอะไรก็แล้วแต่ แล้วก็เฉลี่ยแจกจ่ายสะพัดให้ถึงมือผู้ที่ควรได้ควรเป็นให้ถูกสัดส่วน คนก็มีกินมีใช้ได้พอเหมาะพอดีสุขภาพก็ดี การดิ้นรนเบียดบังทะเลาะวิวาทก็น้อยลง 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2563 ( 09:59:21 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:49:47 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 13:56:28 )

คนที่จะทำบุญได้ ต้องมีกิเลสอยู่เท่านั้น

รายละเอียด

ใช่ คนนี้เข้าใจพูดด้วยสำนวนของเขาเอง ชัดเจนเขาบอกถึงความเข้าใจของเขามา คนนี้เข้าใจดี แหม อาตมาก็สบายใจนะ มาเผยแพร่ธรรมะพระพุทธเจ้า คนฟังเข้าใจได้ อย่างนี้ อันนี้สื่อภาษาก็สื่อออกมา เป็นภาษาของเขาแล้วก็สื่อความเข้าใจของเขาออกมาเป็นสภาวะจริงของเขา อาตมาฟังแล้วก็ได้  อาตมาถึงบอกว่าได้ผล อาตมาทำงานได้ผล 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมให้เกิดปัญญาเพื่อสละตัวตน วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 ธันวาคม 2565 ( 11:33:37 )

คนที่จะมารู้จักความจริงคือคนที่จะมาจน

รายละเอียด

คนรวยไม่ใช่คน คนมีแรงสร้างได้ทั้งประโยชน์และโทษ

ผู้ที่รู้จักความจริง อาตมาสรุปคนที่รู้จักความจริงคือคนที่รู้จักความจน คนที่รู้จักความจริงคือคนที่ไม่กลัวความจน คนที่จะมารู้จักความจริงคือคนที่จะมาจน คนที่จะมาจนได้คือคนชั้น 1 คือคนชั้นเอก คือคนคลาสสิคแมน เหนือชั้นกว่า Superman นะ เป็นคนชั้น 1 เป็นคนชั้นเอก เป็นคนคลาสสิคโดยแท้ 

คนรวยคือคนชั้นรอง ไม่ได้ไปดูถูกเขานะ ไม่ได้ไปข่มเขานะ แต่พูดสัจธรรมสู่ฟัง คนรวยไม่ใช่คนคลาสสิค แต่เป็นคนหลง หลงชั้น วรรณะ เรียกตัวเองว่าเป็นคนไฮคลาส ยังไม่ใช่คนคลาสสิค เป็นคนชั้นรวยเป็น เป็นคนชั้นรอง เป็นคนชั้น 2 ไม่ใช่คนชั้น 1 

คนรวยนั้นไม่ติดอยู่กับคน คนรวยนั้นไม่แตะติดอยู่กับคน ไม่เห็นคนสำคัญเป็นหนึ่งเท่ากับความเป็นเงิน ฉีกหน้าคนรวยมาให้ดู ไม่ได้เห็นความเป็นคนสำคัญเท่ากับเงินทองทรัพย์สมบัติ เพราะฉะนั้นคนรวยยังติดหนึบติดหนักอยู่กับเงินทองทรัพย์สมบัติ ยิ่งกว่าการอยู่กับคน คนรวยจึงห่างจากความเป็นคน ตามสภาพความจริง สรุปง่ายๆคือคนรวยไม่ใช่คน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 20 คนที่ไม่รู้จักกายคือคนพิการ วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 15:34:11 )

คนที่จะมีบารมีมาเอาโลกุตระได้ ก็ชักหมดบุญบารมีแล้ว

รายละเอียด

แต่มันไม่มีปัญหาหรอกทำงานไปในชาตินี้ ช่วยคนอย่างที่จะมาเป็นอย่างนี้ได้ ได้แล้วได้อีกก็ได้ไป ตอนนี้ก็ชักตื้อๆ แล้ว คนที่จะมีบารมีสามารถมาเอาอย่างนี้ ชักหมดบุญหมดบารมีแล้ว ไม่สามารถจะลดกิเลสได้กว่านี้เขามาไม่ได้ มันเป็นขีดหนึ่งเขตหนึ่ง ไม่ต้องเอาใครหรอก เอาในจังหวัดอุบลอำเภอวาริน ไม่ได้ห่างจากจังหวัดนะ อยู่ติดกับจังหวัดใหญ่นี่แหละ ใครเป็นชาวอุบลมาฟังธรรมบ้างยกมือขึ้น ชาวอุบลไม่ใช่สมาชิกในนี้ วันนี้มาฆบูชาก็เลยมาฟังคำในที่นี้ยกมือขึ้น ...อุตส่าห์มีได้คนนึง เจ้าประคุณเอ๋ย ..คนว่า 5 คน โอ้โห ได้ตั้ง 5 คนเชียวหรือ รวยจังเลย วันนี้ได้คนข้างนอกมาฟังมาฆบูชา 5 คน ….แล้วที่ไม่ใช่สมาชิกชาวอโศกวันนี้มาฟังธรรมะวันมาฆะบูชา ที่ไม่เคยมาเลยเพิ่งมาครั้งแรก ...มี 3 คน ได้ 3 คน เจ้าประคุณเอ๋ยจาก 76 จังหวัด นอกนั้นหน้าเก่าๆ ทั้งนั้นเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาวันมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 19:02:35 )

คนที่จะรู้ความจริงเหมือนยอดพีระมิด

รายละเอียด

ตาเปิดๆ มีปัจจุบันมีครบหมดเลย ทั้งตาเปิด มีแสงสว่างของพระอาทิตย์ กระทบสัมผัสตื่นลืมตา ไม่ใช่อยู่ในภวังค์ ไม่ใช่อยู่ในภพ ไม่ใช่อยู่ในใจคนเดียว ทุกคนพูดรู้เรื่องกัน สัมผัสด้วยกันได้ แล้วชี้บอกอธิบาย ยืนยันกันได้ จึงจะถือว่าเป็นความจริง 

หากว่าสมมุติอยู่ในจินตนาการของตนเอง คนอื่นไม่รู้ด้วย ไม่ครบทั้งภายนอกภายในด้วย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีตัวตน มีชีวิตร่างกาย มีชีวะร่างกายด้วย มีจิตวิญญาณครบด้วย ไม่ครบ 2 ข้าง 2 อันแบบนี้ไม่ถือว่า ครบความจริง ถือว่า ยังขาดพร่อง 

เช่น เทวนิยม พระเจ้าสัมผัสไม่ได้เลย เป็นความจริงไม่ได้ ในมนุษยชาติ มันยืนยันความจริงกันไม่ได้ แต่คนที่ไม่รู้เป็นชาวเทวนิยมคนที่ยังไม่เข้าใจจะมีมากกว่าเหมือนฐานพีระมิด 

คนที่จะรู้ความจริงเหมือนยอดพีระมิด ตัดมาส่วนไหน เอาขีดส่วนไหนของพีระมิด เกินครึ่งฐานลงมาแล้ว ก็จะมีจำนวนมากแต่เป็นไปไม่ได้ โลกุตรบุคคลจะต้องมีตั้งแต่ครึ่งพีระมิดขึ้นไปหาปลาย ไม่มีมากเกินเลยฐานครึ่งนึงของพีระมิดลงมาหาล่าง 

เลยครึ่งพีระมิดลงมาหาล่างคือ คนไม่รู้ยังเป็นอเวไนยสัตว์  เวไนยสัตว์คนที่สอนได้คือคนที่อยู่ครึ่งของพีระมิดไปหาปลายยอดจำนวนนั้นตัดเคิร์ฟตรงกลาง 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทำไมสายศรัทธาจึงช้าและยากกว่าสายปัญญา วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2565 ( 18:28:47 )

คนที่จะหลุดออกมาเป็นโลกุตระได้มีประมาณเท่าใด

รายละเอียด

คนที่จะหลุดออกมาเป็นโลกุตระ เอามือจิ้มเข้าไปที่พื้น ดินติดเล็บมานี่แหละ เทียบกับพื้นดินในโลกทั้งโลก เท่านี้แหละ กี่ปางกี่ชาติก็ตาม อาจจะมากขึ้นหน่อยแล้วลดลง ก็คือยอดปิรามิด ไม่มีสิทธิ์จะลงไปเป็นฐานของพีระมิดได้เลย โลกุตระ นิรันดร 

คนที่ยังโง่แบบนั้น ก็สงสารตัวเองรู้ตัวเองว่า จมในสังสารวัฏกับโลกีย์เขาไปกี่ชาติ นับชาติไม่ถ้วน พอมารู้ว่าต้องออกจากสิ่งเหล่านี้ สมเพชเวทนาตัวเองละอายตัวเอง กูทำไมมันโง่ๆๆ ละอายตัวเอง ละอายอย่างแรงกล้า 

อาตมาไม่ได้พูดเกินไปเลยนะ พยายามอธิบายสภาวะให้เข้าใจ พอเห็นชัดขึ้นไหม แต่คุณยังไม่ชัดเท่าอาตมา ใช่ไหม แล้วคุณคิดดูสิว่า อาตมาจะละอายขนาดไหน เป็นอย่างนี้จริงๆเลย ไปโง่งมงายอยู่ได้อย่างไร แล้วคิดดูสิว่าคนจะโง่อย่างนี้อีกกี่ล้านปี เป็นสิ่งครองโลกเลย แล้วคนที่จะมาเข้าใจอย่างนี้ได้ มีจำนวนนิดนึง

พวกเราอยู่ท่ามกลางทุนนิยมจัดจ้านเน่าเฟะอย่างนี้ พวกคุณก็ยังหลุดมาได้ ไม่ใช่น้อย ไม่ใช่ธรรมดา ..จริงไหม...จริง ชมตัวเอง หลงตัวเอง

อาตมาเอาของพระพุทธเจ้ามาพูด พวกคุณก็ฉลาดฟังเข้าใจ อาตมาไม่ได้เป็นของอาตมาเองหรอก อาตมาควรเก่งกว่านี้อีกไหม? อย่าเพิ่งชม เพราะยังมีสิ่งที่ยิ่งกว่านี้อีก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 19:14:11 )

คนที่จะได้เกิดเป็นคนเท่ากับดินที่ติดในขี้เล็บ

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าบอกว่าเอานิ้วไปจิ้มลงไปที่ดิน คนที่จะได้เกิดเป็นคนเท่ากับดินที่ติดในขี้เล็บ นอกนั้นไม่ได้เกิดมาเป็นคนอีกทั้งโลก โลกุตระมีเท่านี้ เทียบกับพลโลกเจ็ดพันล้าน มีเท่านี้ ยังดีนะ ท่านขี้เล็บทั้งหลาย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2563 ( 11:30:27 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:53:19 )

คนที่จิตบริสุทธิ์สะอาดมันมีจริง และจะไม่สะดุ้งสะเทือนเมื่อถูกรุมขย้ำ

รายละเอียด

จะว่าอย่างนี้ก็ใช่ มันเป็นจิตโง่สนิทเลย อวิชชาว่า ในโลกนี้อย่าไปฝันเลยว่าจะมีคนพูดความจริง อย่าไปฝันเลยจะมีคนจริง มีแต่คนเข้าข้างตัวเอง เห็นแก่ตัว พูดยกตัวอย่างตัวเองทั้งนั้น เขาเข้าใจว่าอย่างนั้นไปเขาไม่เชื่อว่าความบริสุทธิ์สะอาดของจิตบริสุทธิ์สะอาดของคน คนที่จิตบริสุทธิ์สะอาดมันมีจริง เขาไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่า มีด้วยเหรอในโลกนี้ที่คนจะมีจิตบริสุทธิ์สะอาด มีแต่ความจริงใจ พูดอะไรก็มีแต่ความจริงทั้งนั้น ไม่มีความไม่จริงสักนิดเลย มีด้วยเหรอในโลกนี้มีด้วยหรือ เขาไม่เชื่อ เมื่อไม่เชื่อก็บอกความจริงให้ฟัง เขาก็หาว่าอวดโอ่ ยกตัวยกตนอีก ไม่ได้ยก อาตมาไม่ต้องยกตัวเองเลย อาตมารู้ตัวเองดีว่าอาตมาสูงหรือต่ำ ใครจะว่าอาตมาต่ำ อาตมาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ใครจะว่าอาตมาสูงอาตมาก็ไม่ได้ฟองฟูอะไรใจเลย จริงๆ 

อาตมาไม่เคยสะดุ้งสะเทือนเลยในการที่ออกมาทำงานศาสนาแล้ว ถูกเถรสมาคมทั้งหมดเลยรวมกันเลย ทั้ง ธรรมยุตและมหานิกายออกมารวมกันเป็นหมู่เลย  เข้ามาขย้ำอาตมา เขี้ยวหักกันไปเยอะ หมาพิตบูลรุมขย้ำเขี้ยวหักไปเลย ตอนนี้เขาไม่รู้จะมาขย้ำอย่างไร เพราะเขี้ยวเขาไม่มีแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 33 ไม่มีความไม่จริงในสิ่งที่ พ่อครูพูดเรื่องโลกุตระ วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2565 ( 14:24:07 )

คนที่จิตสะอาดแล้วเหลือธาตุ 2 คืออากาศกับวิญญาณ

รายละเอียด

จากนั้นไปก็เป็น อากาสานัญจายตนะ ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ก็เป็นวิญญาณสะอาด เรียกว่า วิญญาณัญจายตนะ คนที่จิตสะอาดแล้ว เหลือธาตุ 2 คืออากาศกับวิญญาณ สะอาดทั้ง 2 อย่าง อากาศก็สะอาด วิญญาณก็สะอาด 

เราไม่อาศัยอากาศที่มีเชื้อโรค คนที่ฉลาดแล้วไม่ไปอาศัยอากาศที่มีเชื้อโรค เหมือนตอนนี้มี covid เราก็อยู่ในบ้านราชฯ ที่ยังไม่มีโควิด อย่าเอาเข้ามานะ ใครเอาเข้ามาก็บาปหนัก ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองติด covid ก็รีบหนีไปที่อื่น อย่าเอาเข้ามาในนี้นะ อาตมาไม่อยากคบเชื้อ covid เพราะพูดกับมันไม่รู้เรื่อง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คุณธรรมยิ่งใหญ่กว่าอาวุธ วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2564 ( 10:59:01 )

คนที่ฉลาดที่สุด

รายละเอียด

เมืองไทยนี้เมื่อจุดชนวนการแบ่งปันแล้วแตกโคบๆเลย( ภาษาอีสาน) แตกไปทั่วประเทศเลย เหมือนข้าวโพดคั่วแตก เห็นโลกที่มีแต่การแบ่งปัน ไม่ขี้เหนียวไม่หวงแหน มีน้อยก็แบ่งปันมีมากก็แบ่งปัน ไม่ใช่ว่าเอาแต่กอบโกยใส่ตัวเองให้ได้มากๆ  คนที่ฉลาดที่สุดคือตัวเองไม่สะสม (อปจยะ) (วิริยารัมภะ) ยอดขยัน เสร็จแล้วทำงานสร้างสรรค์ แล้วไม่สะสม เกื้อกูล ไม่กลัวว่าตัวเองจะไม่มีกินมีใช้ เพราะเชื่อว่าตัวเองมีคงคลัง คืออะไร คือสมรรถนะกับความขยัน เพราะฉะนั้น เรามีสมรรถนะกับความขยันในตัวเรา ทำด้วยไม้ด้วยมือ คนอ้างว่าไม่มีที่ทำกิน จะทำได้ไง ขยันก็ตามแต่ไม่มีที่ดิน ที่จริงแล้วอยู่ที่ไหนก็ได้ ดินที่ไหนเป็นสาธารณะก็ใส่กระถางทำคอนโดขึ้นมา มีเสาเดียวห้อยก็ได้ แต่บ้านคุณมีตั้ง 4 เสาก็ห้อยไว้เต็มไปหมด ปลูกไปกี่คอนโด 10 Condo ห้อย 4 ทิศ ปลูกผักสารพัด แต่ละกระถางรดน้ำกระถางบน ลงกระถางล่างเสร็จ ลดเวลาเยอะเลย เก็บกินไปตลอดทั้งวัน เมื่อเก็บอันนี้เสร็จ ก็ปลูกใหม่ ก็กินสลับกันไปหมุนเวียนไปมา ไม่เห็นจะจนแต้มตรงไหนเลย อาตมามองบางคนบอกไม่มีที่ทำกิน อย่างนั้นเป็นความรู้ที่โง่ อาตมาพูดไปจะเห็นได้ว่าทำได้ ไม่เห็นจะจนแต้มตรงไหน มันมีอะไรนิดๆหน่อยๆ คุณต้องมีบ้านอยู่ ไม่มีบ้านตัวเองก็เป็นบ้านเช่า รับรองปลูกได้ไม่เกี่ยงหรอก เอาเม็ดยัดริมกำแพงบ้านยังขึ้นเลย ปลูกผักสารพัด ดินที่ไหนเป็นสาธารณะ ก็ใส่กระถางทำคอนโดผักขึ้นมา มีเสาเดียวห้อยก็ได้ แต่ละกระถางรดน้ำกระถางบนลงกระถางล่างเสร็จ ลดเวลาเยอะเลย เก็บกินไปตลอดทั้งวัน

*พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ 15 พ.ค. 2563 ราชธานีอโศก*...

ที่มา ที่ไป

*พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ 15 พ.ค. 2563 ราชธานีอโศก*...


เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2563 ( 05:01:26 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:55:42 )

คนที่ชอบข้างนอกชุมชนราชธานีอโศก

รายละเอียด

เขาก็ยังชอบข้างนอกอยู่ หรือผู้ที่รู้ว่าดีแล้วแต่เขายังเข้ามาไม่ได้ จะมาไม่ได้ด้วยวิบากของเขาดึงเขาไว้ หรือจะมาไม่ได้เพราะเขาเองเขาก็ยังไม่เต็มที่ มันยังไม่ถึงขีดที่จะมา เขาอาจจะมีเหตุผลว่ามันจะจริงหรือ... มันสวนกระแสกับโลกเขา มันเหมือนกับคนกระจอกๆมักน้อยสันโดษ แล้วยังแถมจะมาทำเก๋อีก จนแล้วยังจะมาเสียสละช่วยคนอื่นเขาอีก ยังมาให้คนอื่นเขาอีก มันยังไง 

เพราะว่ามันไม่กลมกลืนสอดคล้องไปอย่างเดียวกัน มันทวนกระแส มันก็เป็นจริง เพราะฉะนั้นก็ต้องทำไปอีก อาตมาก็เลยได้รู้จักน้ำหนักของคุณธรรมที่มันพึงมีในตัวของพวกคุณทุกคน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พระอภิธรรมของ ฌาน และเวทนา 108 วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2567 ( 17:26:00 )

คนที่ชี้ขุมทรัพย์

รายละเอียด

คนเป็นคนมองแต่คนอื่น ไปให้คนอื่น ตัวเองไม่รู้ตัวนาตัวเองไม่ทำ แต่ไปทำนาให้คนอื่น ไปชี้ขุมทรัพย์ให้แก่คนอื่น คนนี้เอาแต่ชี้ขุมทรัพย์ให้คนอื่น ก็คือนาตัวเองไม่ทำไปบอกให้คนอื่นทำนาแต่นาตัวเองไม่ทำ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 16:47:28 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:48:20 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:01:43 )

คนที่ช่วยเหลือผู้อื่นได้มากเท่าไหร่ก็เป็นพระเจ้าใหญ่มากเท่านั้น

รายละเอียด

คนช่วยเหลือคนได้ทั้งโลกคนนั้นคือพระเจ้า คนที่ช่วยได้มากเท่าไหร่ก็เป็นพระเจ้าใหญ่มากเท่านั้นตามความเป็นจริง พ่อแม่ช่วยลูก ช่วยครอบครัวได้ก็เป็นพระเจ้าในครอบครัว คนที่มีกลุ่มสังคมเป็นหัวหน้าช่วยเหลือหัวหน้าหมู่กลุ่มดี ก็เป็นพระเจ้าของกลุ่มนั้น เช่นพระเจ้าแผ่นดิน ช่วยประชาชนช่วยพลเมืองของท่าน ได้ดีได้มากก็เป็นพระเจ้าของประชากรของประเทศนั้น เป็นเรื่องจริงคนมีภูมิปัญญาจะเข้าใจ อย่างในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นพ่อของประเทศจริงๆ แล้วท่านก็เป็นพ่อไปตั้ง 70 ปี ทรงงานทำหน้าที่พ่ออย่างดี พวกเราก็เข้าใจ คนต่างประเทศก็เข้าใจ มันเป็นสัจจะอันเดียวกัน คนต่างประเทศเข้าใจแต่เขามาเอาไม่ได้ อย่างประเทศไทยที่มีสมเด็จพ่อเดิมเป็นพระเจ้าในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ยกตัวอย่างเป็นของจริงเขาทำไม่ได้เขาก็ได้แต่ยกย่อง เขาอยากได้อยากให้ผู้นำอยากให้โดนัลด์ทรัมป์มาเป็น ตอนนี้ไม่รู้นายทรัมป์หรือว่าไบเดนจะได้ก็ไม่รู้ พูดไปพูดมาก็อดแวะถึงเขาไม่ได้ ตอนนี้มันก็กำลังลุ้นกันอยู่ เป็นปัจจุบันธรรม คําสอนพระพุทธเจ้า รวมหมดเลยทั้งมนุษยชาติทั้งสังคม ดีที่สุด 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 09:41:26 )

คนที่ซื้อบุหรี่มาใช้กับผู้ผลิตมาขาย ใครโง่กว่ากัน

รายละเอียด

โอ้โห.. ดญ.ใสกลางเพ็ญ ดญ.น้ำมนต์ถาม คนซื้อบุหรี่มาใช้ก็คือซื้อมาสูบ กับผู้ผลิตขาย ใครโง่กว่ากัน ตอบประเด็นนี้ก่อน โง่ด้วยกันทั้งคู่ก่อน ทีนี้ใครโง่มากก็โง่น้อย โง่ด้วยกันทั้งคู่ซึ่งไม่ควรทำทั้ง 2 อย่าง ทั้งใช้ก็ไม่ควร ทั้งผลิตขายก็ไม่ควรทำ เพราะมันเป็นคนโง่ แค่นี้ก็จบแล้วที่จริง 

เอ้าทีนี้ ใครมากใครน้อยกว่ากันประเด็นที่อยากรู้ ใครโง่มากใครโง่น้อยกว่ากัน จริงๆแล้วนี่นะ คนที่สูบบุหรี่นี่เขาสูบนะ แล้วเขาก็ได้ผล เขาสูบ เขาก็รู้ว่าเป็นความสุข เป็นความได้ประโยชน์จากการสูบ ส่วนคนที่ผลิต และสูบด้วย แน่นอน แสดงว่าคนนี้ เขาโง่มากกว่าแน่ ทั้งผลิตทั้งสูบทำให้คนหนักเข้าไปใหญ่ บาปหลายชั้น 

ทีนี้อีกคนหนึ่ง คนที่รู้ รู้ดีเลยว่าไม่ดี บุหรี่นี่ และตัวเองก็ไม่สูบด้วย แต่ทำบุหรี่ขาย ตอบอาตมาซิว่า คนนี้โง่หนักกว่าคนเหล่านั้นหรือเปล่า... ทั้งโง่หนักทั้งเลวด้วย 

คนที่รู้ว่าไม่ดี ตัวเองก็ไม่ทำ เหมือน คนที่รู้ว่าเหล้าไม่ดีแล้วตัวเองก็ไม่ดื่ม แต่ตัวเองทำขายจนรวย นี่แหละ โง่ชิบหายเลย โง่ใจดำ โง่เลวด้วย ตัวเองก็รู้ว่าไม่ดี แล้วตัวเองก็ไม่ดื่มแต่สร้างขึ้นมาเพื่อเอาเงินเอาทองเอาร่ำเอารวย ให้คนชิบหาย ให้คนติดให้คนยึด เป็นอะไรไป ใจทั้งดำทั้งเลวด้วย ไม่ว่าจะไปสร้างบุหรี่ ไม่ว่าจะไปสร้างเหล้า สร้างสิ่งเสพติดอะไรก็แล้วแต่ 

นี่จะฟังบ้างไหมคนที่เขาทำอยู่ จะสะดุ้งสะเทือนบ้างไหม แล้วความผิดความชั่วพวกนี้ มันคือนรกตามกรรมวิบากของศาสนา ทำแล้วไม่เป็นอันทำไม่ได้ มันเป็นอันทำ คุณต้องรับกรรมรับวิบาก ชาตินี้คุณดูเหมือนได้เงินได้ทองได้ลาภได้ยศจากอันนี้ แล้วคุณก็ยิ่งเหลิงลอยเลยว่า เราได้ส่งเสริมจากอันนี้ให้ได้ลาภยศ คุณยิ่งโง่หนักไปหลงลาภยศสรรเสริญหนักหนาสาหัส ทั้งที่มันเป็นความเลวความเสพติดความฉิบหายวายป่วงของมนุษย์ 

กินเหล้ากันแล้วทำให้คนตายเพราะคนเมาแล้วประสาทเสียไปขับรถขับรา แม้แต่มีปืนมีมีด ก็ทำกัน คิดดูสิ เกิดกรณีอะไรถึงขั้นอาชญากรรมกันเลอะเทอะ เหตุปัจจัยจากสิ่งที่กดประสาทพวกนี้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นศาสนาอิสลามเขาถึงไม่ให้มีเหล้า เขาเข้ม แต่ถ้าอย่างว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาให้อิสรเสรีภาพ ให้เกิดสำนึก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหาให้ปัญญาค่ายยุวชนอโศกสัมพันธ์ พุทธศาสนาตามภูมิ วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 05:45:10 )

คนที่ดื้อด้านดึงดันโง่ซับโง่ซ้อนอย่างไร

รายละเอียด

ขนาดนั้นพวกดื้อด้านดึงดัน จนกระทั่งมีผู้เห็นว่าดื้อด้านดึงดันจะไปตาย ก็ยังไม่ยอมทีเดียว ตัวกิเลสนะ คนเรามันดึงดันดื้อด้านจริงๆ ก็ไม่เป็นไร คนเราไม่เข็ดไม่หลาบก็เป็นไป คนที่ยิ่งดื้อด้านดึงดัน ยิ่งไปให้กำลังของกิเลส กิเลสก็ยิ่งแข็งแรง กิเลสของตัวใครตัวมันนะ กิเลสของตัวเอง มันก็ยิ่งแข็งแรงๆ มันก็เล่นงานตัวเองนั่นแหละ โง่ซับโง่ซ้อน ทำไปไม่รู้ว่าเติมกิเลสให้ตัวเอง แล้วกิเลสไปเล่นงานใคร ก็เล่นงานตัวเองนี่แหละ ทำไมถึงไม่ฉลาดนะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 19:21:58 )

คนที่ดูถูกพ่อครูนอกจากไม่ดีแล้วไม่ได้ประโยชน์จริงๆ

รายละเอียด

มันเป็นเหตุปัจจัยเกี่ยวข้องกันและกัน อธิบายเป็นสภาวะอยู่ในตัวของมันจับพยัญชนะมันก็ง่ายมันสะดวก นี่คือความจริงที่อาตมามี อาตมารู้เอามาขยายให้ฟังอาตมาเป็นอรหันต์อาตมาเป็นโพธิสัตว์ ที่พูดนี้ไม่ได้อวดตัวอวดตน ย้ำให้รู้ว่าฟังดีๆ อาตมามีแต่ความจริง ไม่ได้พูดโกหก ไม่ได้พูดเหลาะแหละอะไร คนที่มาดูถูกอาตมา ฟังแล้วเหมือนดูถูกคนอื่น มันก็จริงก็ดูถูกเขาได้ แต่ดูถูกอาตมานั้นมันไม่ดีหรอก มันไม่ได้ประโยชน์ ดูถูกอาตมาคุณจะเสียประโยชน์เยอะ เพราะว่ามันไม่ได้ประโยชน์จริงๆ อย่ามาดูถูกอาตมาเลย ควรฟังอาตมาอย่างตั้งใจ อาตมาพูดจริงๆว่า อาตมาเป็นสยังอภิญญา เป็นอรหันต์ เป็นโพธิสัตว์ แม้แต่มากอบกู้ศาสนาในยุคนี้ ก็เป็นความจริงหมดทุกอย่าง ไม่ได้โกหก ไม่ได้เป็นบาปเป็นภัยอะไรเลย อาตมาจะไปทำบาปทำไมอาตมาจะเป็นอรหันต์ก็รู้เรื่องบาป เป็นโพธิสัตว์รู้เรื่องบาปเรื่องกรรมต่างๆ กรรมเป็นบาปเป็นบุญหรือกรรมเป็นกุศล อกุศล อาตมาก็รู้จริงๆเข้าใจจริงๆแล้วจะไม่ทำสิ่งนั้นที่ไม่ควรทำ ก็ทำแต่สิ่งที่ควรทำ ฟังที่อาตมาอธิบายพยัญชนะ มันคือสภาวะอะไร มันละเอียดลออชัดเจนทุกอย่างนะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 12:24:32 )

คนที่ตกในข่ายแหดิ้นรนคือตัวตัณหา

รายละเอียด

ยุคนี้มันบีบคั้นโง่หนักซับซ้อน จนตัวเองไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขี้โลภ มันได้มีมากมายเป็นล้านๆ คนรวยเป็นล้านๆ ส่วนคนจนติดลบเลย เป็นหนี้ ก็เป็นผู้ที่ต้องเสียดอกเบี้ยให้คนรวยล้านๆ มีผู้ไม่ต้องเป็นทาสของโลกโลกีย์ ที่เขามีวิธีให้คนติดข่ายแหของเขา นั้น เราหลุดออกจากข่ายนั้นออกมาได้สุดยอดจริงๆ แล้วคนที่อยู่ในข่ายนั้น จะพูดให้ดีอย่างไรจะแก้ตัวยังไงก็ไม่พ้นหรอก พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ชัดเจนว่า คนที่ตกอยู่ในข่าย(ชาละ)แหที่ครอบ ดิ้นออกไม่ได้เหมือนกับลิงติดแห คนที่ติดในข่ายได้แต่ดิ้นรน การดิ้นรนนี่คือตัวตัณหา แล้วตัณหานี้ พระพุทธเจ้าไขความว่า ผู้ที่มีตัณหาเป็นความแส่หาดิ้นรนของตัณหา (ตัณหา คตานัง ปริตัสสิตัง วิปผันทิตเมวะ) เป็นความไม่รู้ เป็นความไม่เห็น เป็นเพียงความแส่หาของตัณหา พวกนี้เป็นพวกอชานตัง อปัสสตัง ไม่รู้ไม่เห็นมีแต่ตัณหาเป็นความดิ้นรนแส่หา (สู่แดนธรรมว่า เขามีตัณหาแส่หาได้เอง โดยปราศจากผัสสะอันก่อให้เกิดตัณหา)

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 05 เมษายน 2563 ( 11:57:49 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:19:46 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:02:56 )

คนที่ตั้งใจหลอกมันโง่ โง่ที่ทำกรรมวิบากใส่ตนเอง

รายละเอียด

เริ่มต้นต้องฉลาดทันความหลอกของคน เพราะฉะนั้นแม้รู้ว่าถูกหลอกก็ไม่ต้องเสียใจ ยิ่งมีปัญญา รู้ว่าเขาหลอกก็เป็นกรรมของเขา กรรมที่ไปหลอกคน เหมือนอย่างนักหลอกๆทั้งหลายแหล่ เช่น ทักษิณ เป็นต้น ไปชวนน้องมาหลอก กำลังชวนลูกมาหลอกอีก แล้วใครต่อใครที่ถูกทักษิณหลอก สมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ ล้วนแล้ว จะถูกหลอกให้มาครอบงำมนุษยชาติ เดี๋ยวนี้เขารู้ทันแล้วก็ชักไม่ค่อยออก ยังจะดัน ลูกสาวมาหลอกอีก คนอะไรใจร้ายจังเลย ที่จริงมันไม่ใจร้ายหรอก แต่มันโง่ ทักษิณนี่ ขออภัยที่พูดชัดเจน โง่ที่ทำกรรมวิบากใส่ตัวเองในสิ่งที่ไม่ฉลาด เป็นกรรมวิบากของเขา นี่พูดสัจธรรมวิชาการ ชาตินี้เสียชาติเกิดจริงๆ เพราะชาตินี้ทั้งชาติกระทำความชั่ว ทำความหลอก ทำความโกง ก็โกงบ้านโกงเมือง ไปไม่รู้กี่แสนล้านเดี๋ยวนี้ก็ยังกินดอก ดอกแกหลายนะทุกวันนี้ เพราะแกเอาต้นไปฝากแบงค์ข้างนอกลงทุนไว้ แกก็ได้เพราะว่ามีความรู้ความชำนาญในการลงทุนและได้ผลวิธีการแบบทุนนิยมเลวร้าย บาปมหาศาล แกจบ ดร.ทางอาชญวิทยา ก็เลยเอาความรู้ทางอาชญวิทยาไปทำเลวร้ายไปทำผิดซวยมหาซวย แล้วตัวเองก็โง่ที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองได้มา ทั้งเรียนรู้วิชาการที่เลวร้าย อาชญวิทยา เขาเอามาปราบคนที่เป็นอาชญากร แต่ตัวเองเอาไปทำอาชญากรรมเสียเอง ไม่รู้จะโง่ซับโง่ซ้อนเท่าไหร่ แต่ตัวเองไปเป็นยิ่งกว่าอาชญากรสามานย์เสียอีก ทักษิณหนอ…น่าสงสารจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หากเลิกหลับตาปฏิบัติได้ประเทศไทยเจริญ วันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 สิงหาคม 2565 ( 14:18:44 )

คนที่ตายแล้วไม่รู้จักตายยึดถือร่างกายเป็นมิจฉาทิฏฐิ

รายละเอียด

คนตายแล้วไม่เน่า คนตายที่เล็บยังงอกอยู่เป็นคนที่ยึดถืออัตตาตัวกูของกูยังไม่ไปเกิด อันนี้เป็นมิจฉาทิฐิอย่างหนัก คนที่ไปบูชาเคารพอาจารย์ พระอาจารย์ที่ตายแล้วไม่เน่า เล็บก็ยังยาวผมก็ยังยาวอย่างนี้ พวกนี้โง่ด้วยกันทั้งคู่ อาจารย์ก็โง่แล้วก็สอนลูกศิษย์โง่ ก็เลยโง่ตามอาจารย์โง่ ตายไปแล้วนึกว่ายังขลัง ทั้งๆที่ตายแล้วก็ไม่รู้จักตาย ก็ยังยึดถือร่างกายตัวเองอยู่ไม่ไปไหน เป็นการยึดมั่นถือมั่นอยู่อย่างนั้น พวกนี้ก็ไม่มีทางจะบรรลุอรหันต์ได้หรอก มันเป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 09:53:13 )

คนที่ตายไปแล้วไปอยู่คนเดียวกรรมวิบากมันจะมาเต็มอยู่ตรงนั้น

รายละเอียด

แต่จริงแล้วไปอยู่คนเดียว เดี่ยวๆนี่แหละ กรรมวิบากมันจะมาเต็มอยู่ตรงนั้นเลย ความทุกข์ความสุขนรกสวรรค์ที่คุณสั่งสมมาแล้วมันก็ขึ้นมาเป็นจริง เพราะฉะนั้นตายแล้วมันตกนรกจริงๆขึ้นสวรรค์จริงๆ 

ขึ้นสวรรค์ก็คือหลงคิดว่านั่นเป็นสวรรค์ จริงๆแล้วสวรรค์นั้นไม่มีอยู่เลย มันเป็น สุขัลลิกะ มีแต่ความหลอกความไม่จริง แต่นรกนี้เป็นอาริยสัจ เป็นสัจจะ ที่อาริยะเท่านั้นที่จะรู้ มันมีทุกข์ให้เห็นเลย สวรรค์เป็นของเก๊ สุขัลลิกะ มันไม่มีจริงหรอก มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป 

เข้าใจอีกที สวรรค์ไม่มีจริงมีแต่ความเก๊ ดับสุขตัวเดียวสวรรค์เก๊ๆก็หายไป ดับทุกข์จริงๆหมดไปแล้วจบ ความสุขความทุกข์ก็หายสวรรค์นรกก็ไม่มี ศาสนาพุทธไม่มีสวรรค์ไม่มีนรก ผู้ที่ยังมีสวรรค์นรกอยู่ยังมีสวรรค์ 6 ชั้น หรือหลงพรหม อีก 16 ชั้น คือพวกที่ยังมิจฉาทิฏฐิไปสร้างภพชาติ มี พรหมปริตตา อัปปมาณาภา ปุโรหิตพรหม ฯ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้สภาวะของรูป 28 สู่ความเป็นอรหันต์ วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 18:46:12 )

คนที่ติเราเขามองผิดก็ได้ เขามองถูกก็ยิ่งดี

รายละเอียด

อย่างอาตมานี่ก็สบายใจ ไม่ว่าคนจะด่าจะว่าอะไร เราไม่ใช่มานั่งมากดข่ม อย่าไปโกรธเขาอย่าไปโกรธเขาไม่ใช่ เรารับรู้ความจริงเสมอ แล้วเอามาตรวจสอบตัวเอง มันมีเล็กน้อยมีละเอียดก็ได้นะ ที่เรายังไม่รู้จริงที่เขาตำหนิเขาท้วง ตรวจสอบอย่างอย่างไม่มีอคติเข้าข้างตัวเอง ตรวจแล้วเจอก็ต้องขอบคุณเขา แล้วก็แก้ไขๆๆ คนที่ติให้เรานี่นะ เขามองผิดก็ได้เขามองถูกก็ยิ่งดี เราก็ตรวจจริงๆเท่าที่เราจะมีภูมิปัญญาไม่ลำเอียงเข้าข้างตัวเอง เอาให้จริงเลย มันเจริญถ่ายเดียว

อาตมาก็จริงใจนะ ไม่ใช่ทำเป็นแบบคารมคมคาย เขาตำหนิมาก็ทำเป็นขอบใจที่ตำหนิมา แต่ด้วยใจจริงๆ ว่าคนติเตียนมาเราก็ได้ประโยชน์ พระพุทธเจ้ากล่าว สรรเสริญนี้เป็นเรื่อง อันตรายอันแสบเผ็ด คำหยาบช้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 13:54:22 )

คนที่ถูกกิเลสครอบงำ เป็นคนไม่ดีอย่างไร

รายละเอียด

ทีนี้ ผู้ที่ศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าศึกษาลดกิเลสตัวปลอมตัวเก๊ ตัวที่เปลี่ยนให้เรามีจิตที่ไม่อิสระ ไม่ฉลาดเต็มที่ ก็จะเป็นคนที่ไม่ดี เป็นคนที่ถูกกิเลสครอบงำน้อยหนึ่ง เช่น ผู้ที่ยังไม่บรรลุอรหันต์ เป็นอรหัตมรรค ก็ยังถูกกิเลสครอบงำเหลือนิดนึงก็ตาม ยิ่งถูกกิเลสครอบงำเยอะเป็นอนาคามี ก็เป็นคนที่ไม่ดีตามนั้น ก็จะเป็นคนที่ยังมีมิจฉาชีพ มิจฉากัมมันตะ มิจฉาวาจา มิจฉาสังกัปปะอยู่ ตามที่ตนเองมีกิเลส ที่เหลือที่มันยังมีฤทธิ์อยู่ในจิตเรา ก็จะเป็นคนทำงานทำกรรม การงานเลี้ยงชีพเรียกว่าอาชีวะ การงานทุกอย่างเรียกว่ากัมมันตะ การงานทางวาจาเรียกว่า วาจา มันก็ถูกกิเลสทำ

เพราะฉะนั้นกรรมที่ออกไปเป็นกรรมที่ไม่บริสุทธิ์ เพราะมันมีความคิด สังกัปปะถูกกามครอบงำ ถูกพยาบาทครอบงำ หรือวิหิงสาครอบงำ ส่วนที่เหลือก็ไม่ตรง จนกว่าจะเป็นพระอรหันต์ชื่อว่าผู้ที่ล้างกิเลสหมดอาสวะสิ้น จึงจะเป็นผู้ที่ทำกรรมกิริยาทุกอย่าง ตรงทั้งคิด พูดทำการงานทุกอย่างจนกระทั่งถึงอาชีพเลี้ยงตน 

ที่มา ที่ไป

 เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันที่ 2 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มกราคม 2564 ( 08:06:14 )

คนที่ทำชั่วทั้งๆ ที่รู้ว่าชั่ว

รายละเอียด

คือ คนทำผิดทั้งๆ ที่รู้ว่ามันผิดเป็นบาปยกกำลังนะ ไม่ใช่แค่บวก อย่าทำ ถ้าทำอยู่อีกก็โง่ไปจะโง่ไปถึงไหน  ไม่รู้จักหยุด ทำชั่วทั้งๆที่รู้ว่าชั่ว ไปทำทำไม ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าชั่วไม่รู้ว่าผิดยังน่าให้อภัย เขานึกว่ามันไม่ผิดนะเขาก็ทำไป  ทำอย่างจริงใจ เขาไม่รู้ว่าเป็นสิ่งชั่วก็เลยทำ อย่างนี้น่าให้อภัย ส่วนคนที่รู้ว่าชั่วและผิดแต่ก็ยังไปทำอยู่ไม่น่าให้อภัย

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบาย รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 71


เวลาบันทึก 04 ตุลาคม 2562 ( 14:58:20 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:48:52 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:24:19 )

คนที่ทำดีไม่ทำชั่วนี่แหละ ไม่กลัวตาย

รายละเอียด

ก็ไม่ต้องแปล ก็ไม่ยากอย่างของ”คุณอโศก สัมปวังโก” อันนี้ง่าย เข้าใจ  

“หลังความตายวายชีวาช่างน่ากลัว” คนที่ทำไม่ความดี ทำความชั่ว ที่รู้ตัวเองได้ว่าเราทำไม่ดีเยอะ เข้าใจ ยอมรับตัวเองว่าตัวเองทำไม่ดี ทำชั่วเยอะ คนรู้ความจริงอย่างนี้ รู้จักกรรมวิบากก็จะกลัวตาย ไม่อยากตาย เพราะว่าตายไปแล้ววิบากมันต้องตามเรา อย่างน้อยมันต้องไปใช้วิบาก จะในภพสัมภเวสีหรือมาเกิดใหม่ก็ตาม หลังไปรับนรกในสัมภเวสีหรือเกิดมาใหม่เป็นนรกใหม่ก็หมายถึงนรกในร่างคนหรือในร่างสัตว์ 

บางทีวิบากบาปของเรา เราตาย เอาละ สัมภเวสีก็ไม่ต้องอธิบายคือวิญญาณ ก็เป็นวิญญาณในจิต  สัมภเวสีคือ ยังไม่เกิดมามีกายมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ยังไม่เกิดมาเป็นสัตว์โลก เพราะฉะนั้นการเกิดมาเป็นสัตว์ มันก็อาจจะไม่เกิดมาเป็นคน วิบากบาปมันเยอะ กลับมาเกิดอีกทีมันไม่เป็นคนแล้วทีนี้ มันต้องมาใช้วิบากไปเป็นสัตว์ ดีไม่ดีก็ไปเป็นสัตว์ที่ไปรับทุกข์ทรมาน

จริงๆแล้ว สัตว์ที่ไปรับทุกข์ทรมานนี้ มันก็จะรู้สึกว่า แหม ชีวิตนี้ ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นดับไป สัตว์มันไม่รู้เหมือนที่อาตมาพูดหรอก แต่มันก็จะรู้สึกในตัวว่า “โอ้โห! เกิดมานี้ มันทุกข์ๆๆ” ตามสัจธรรม มันจะรู้สึก

เพราะฉะนั้นสัตว์ที่มันได้ไปเกิดมาเป็นสัตว์ เอาล่ะ คุณเวียนกลับมาเกิดเป็นสัตว์ แต่คุณไม่ได้ไปรับทุกข์หรอก คุณได้ไปรับถูกประคบประหงม กำไรหรือขาดทุน? (เสียงตอบว่า ขาดทุน) เออ! พวกเราชัดเจนดีนะ เกิดมาเป็นสัตว์แล้วได้ถูกประคบประหงมเอาไปเลี้ยงดู ไปทำอะไรให้เหลิงติดความเป็นสัตว์ ชื่นใจชอบใจในความเป็นอยู่อย่างนี้ มันบำเรอกิเลส ติด สัตว์นี้จะตายไปแล้วเกิดมาอีก ดีไม่ดีจะมาเกิดเป็นหมาตัวนี้อีกหรือดีไม่ดีเป็นสัตว์เลี้ยงอีก แต่ทีนี้วิบากบาปของตัวเองจะได้เกิดมาสบายเหมือนอย่างนี้อีกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย นี่คือรายละเอียดของเรื่องกรรมวิบากที่อธิบายไม่หวาดไม่ไหว อจินไตย ต่างๆ นานา

สรุปแล้ว คนที่ทำดี-ไม่ทำชั่ว นี่แหละ ไม่กลัวตาย แต่ถ้าคนทำชั่วจะกลัวตาย อาตมาก็ขอบอกว่า เอาเถอะ คุณจะทำชั่วทำดีคุณจะตั้งใจปฏิบัติดี ละชั่วให้ได้มากๆ เท่าที่เราทำได้ อย่าไปกังวล อย่าไปกลัวในการที่จะต้องตาย แล้วจะต้องไปรับวิบากอีก เพราะยังไงๆคุณก็จะต้องไปตามวิบาก ไม่มีอะไรที่จะไปกบฏหรือจะไปผิดเพี้ยนจากกรรมวิบากที่คุณทำ ได้เท่านี้ ผลสรุปออกมาได้เท่านี้หน่วย แล้วใครจะมาเปลี่ยนแปลง ใครจะมาโกงอะไรต่อสัจธรรม ทำได้มั้ย? ทำไม่ได้ มันบวกลบคูณหารได้เท่าไหร่ คุณก็ต้องรับกรรมนั้นเท่านั้น ไม่มีใครที่จะไปกบฏต่อสัจธรรมได้เลยในโลก

เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปกังวล คุณทำเหตุให้เต็มที่ ผลออกมาจริงตามที่เราทำเหตุบริบูรณ์ เราพากันทำแทบทุกมิติ ทุกนัยยะ ให้มันเป็นสัจธรรม เป็นกุศล เป็นบุญ บุญคือชำระกิเลส เป็นกุศลคือคุณงามความดี เราพากันทำทั้งสองด้าน 2 อย่าง ทั้งคุณธรรมทั้งบุญ เราก็ทำ 

การทำบุญนั้นมันไม่ใช่สมบัติ มันเป็นวิบัติ นี่ก็อธิบายยาก แต่พวกเราเข้าใจกันหรือยัง เข้าใจแล้ว บุญมันเป็นวิบัติ ไม่ใช่สมบัติ กุศลมันเป็นสมบัติ เราได้ทั้งกุศล สมบัติเราก็ได้ วิบัติเราก็ได้ บุญเราก็ได้ฆ่ากิเลสไปในตัวได้จริงๆ จึงเป็นอรหันต์ไปได้จริง นี่เป็นสัจธรรมที่พูดในพวกเรา พวกเรามีความรู้ สามารถรับความรู้ที่อาตมาสาธยายพวกนี้ได้ แต่ข้างนอกเขายังห่างยังไกลมากเลย

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ผู้จบกิจ 4 ประการเป็นผู้อยู่เหนือกาละได้ วันพุธที่ 25 ตุลาคม 2566 วันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 04:16:03 )

คนที่ทำนาคนอื่น

รายละเอียด

คนไม่รู้ตัวไม่รู้ตัว ไปเที่ยวชี้คนอื่นไปทำกับคนอื่นไปว่าคนอื่นเขา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 16:46:22 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:49:17 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:25:52 )

คนที่ทำสิ่งที่มีคุณค่าเมื่อยังมีชีวิตอยู่คนจะไม่ค่อยเห็นค่า

รายละเอียด

อันนี้ไม่ใช่เฉพาะคนไทยทางโลกก็จะเป็นอย่างนั้น คนที่ยังมีชีวิตอยู่เขาจะไม่ค่อยเห็นค่า แต่คนทำสิ่งที่มีค่านี้ตายไปแล้ว ทีหลัง อันนี้เป็นจริงแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะโลกุตรธรรม เพราะคนจะเข้าใจโลกุตรธรรมไม่ได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นยิ่งยุคนี้ เป็นยุคของศาสนาพุทธเสื่อมที่สุด เพราะมันกึ่งพุทธกาล

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ  วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:33:11 )

คนที่ทำหน้าที่ตำหนินี้ เสี่ยง เสียสละ

รายละเอียด

เป็นลูกพระพุทธเจ้า ต้องพูดให้เข้าหลักเข้าเกณฑ์พระพุทธเจ้า อาตมาทำถูกแล้ว อาตมาตำหนินี้ คุณพูดประเด็นของคนโลก ถูก..พูดไปก็มีแต่คนไม่ชอบ คนที่ไม่ชอบคำตำหนินี้ไม่มีความเจริญหรอก พูดไปก็มีแต่คนไม่ชอบ คนโลกๆเขาจะโง่ใครไปตำหนิเขา เขาจะไม่ชอบทั้งที่ตำหนิผิดหรือถูก เขาก็ไม่ชอบตำหนิถูกด้วยซ้ำเขาก็ไม่ชอบ ตำหนิผิดเขายิ่งไม่รู้เรื่องยิ่งปัดออก คนที่ทำหน้าที่ตำหนินี้ เสี่ยง เสียสละ คนที่ไม่ชอบอย่างที่คุณพูดมันเป็นคนโลกๆ ถูกต้องคนเรานี้ควรจะให้คนเขาชอบหรือให้คนเขาไม่ชอบ …ให้ชอบ แล้วคนเราก็พยายามจะสร้าง มุมอะไรที่ทำให้คนชอบ ส่วนใหญ่คนจะสร้างท่าลีลามุมเหลี่ยม สร้างให้ตัวเองให้คนอื่นเขาชอบ เพราะฉะนั้นคนที่ทำแล้วคนเขาไม่ชอบนี่เป็นคนเสียสละ 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 10:26:42 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:57:50 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:26:33 )

คนที่นำพาคนอื่นไปสู่ที่เจริญได้ เรียกว่าเป็นครู

รายละเอียด

พอเกิดมาเป็นคนมีจิตวิญญาณมีธาตุรู้ ก็กำหนดรู้และเอามาใช้ ดีไม่ดีก็เอามาทำลาย ทำลายก็ยังไม่เท่าไหร่ เอามาทำร้ายทำเลว มันก็มีอย่างนี้ ภาษาสื่อเป็นภาษาไทยให้รู้สภาพที่คนมีกรรมกิริยา กระทำอย่างนั้นๆ มันควรหรือไม่ควร มันดีหรือมันชั่ว 

ถ้าคนไม่มาศึกษามาสำเหนียกสำนึกบ้างเลย มันก็ทำไป อยากทำอะไรตามกิเลส อยากทำอย่างนี้ ชั่วดีไม่รู้ กูก็ทำ กรรมกิริยานี้ดี กรรมกิริยานี้ก็ไม่รู้ อยากทำชั่วเท่าไหร่ก็ทำทำเลวเท่าไหร่ก็ทำ ทำร้ายเท่าไหร่ก็ทำ มันก็เป็นคนที่ไม่เอาไหนเลย เกิดมาไม่รู้จักกรรมวิบาก ทำแต่กรรมชั่วตลอดชีวิต 

เพราะฉะนั้น คนก็สอนกันมาแนะนำกัน พ่อแม่ก็สอนลูก พี่น้องสอนกันเพื่อนฝูงสอนกัน ครูบาอาจารย์สอนลูกศิษย์ไป เพื่อจะนำพากันไปสู่ที่เจริญ 

คนที่นำพาคนอื่นไปสู่ที่เจริญได้ เรียกว่าเป็นครู ภาษาไทย ซึ่งก็เอามาจากภาษาบาลี ว่า คุรุ เรียกว่าเป็น ปุโรหิต เป็นผู้สอน เป็นผู้ให้ความรู้ต่อ จะได้พัฒนาขึ้นมา คนก็มีการก้าวหน้าพัฒนาขึ้นมา รักษาสภาพที่จะเป็นคนดี ทำดีไม่ทำชั่ว ทำดีไม่ทำชั่ว แต่เขาไม่ได้เรียนรู้จิตเจตสิกรูปนิพพาน

ที่มา ที่ไป

พ่อ‌ครู‌เทศน์‌ ‌ทำวัตร‌เช้า‌ ‌ส่ง‌ท้าย‌ปี‌เก่า‌ ‌งาน‌ ‌ว‌.‌บบบ‌ ‌เพื่อ‌ฟ้า‌ดิน‌ ‌สวด‌อภิธรรม‌ส่ง‌ ท้าย‌ปี‌เก่า‌ให้‌เข้า‌ถึง‌นิพพาน‌ วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2565 ( 10:59:07 )

คนที่บรรลุอรหันต์ส่วนใหญ่ต่อพุทธภูมิ

รายละเอียด

เมื่อเป็นอรหันต์แล้ว ความทุกข์มันก็ไม่มีความรู้มันก็น่าเรียนรู้ เพราะฉะนั้นคนที่บรรลุเป็นอรหันต์แล้วจะไม่ต่อพุทธภูมิเป็นโพธิสัตว์มีน้อยต่อน้อยนัก ส่วนใหญ่เป็นพวก สมสีสี มันรู้แล้วตายเลย แต่นอกนั้นก็จะต่อ เหมือนคุณไปเจอเพชรแล้ว ได้เม็ดเดียวแล้วก็เลิก แต่หากคุณได้ เม็ดเดียวแล้ว คุณก็จะไม่รีบหนีหรอกดีไม่ดีก็จะค้นต่อไปอีกมันมีอีกหรือไม่ รับรองว่าจะขนไปอีกไม่รู้กี่วันกี่เดือนกี่ปี 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 22 เมษายน 2563 ( 14:13:23 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:00:58 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:27:02 )

คนที่บำเพ็ญตนมีปัญญามีจิตอุเบกขาไม่ทำร้ายตอบใครแม้ถูกฆ่า

รายละเอียด

สังคมคน กว่าจะมีปัญญารู้และบำเพ็ญตนให้เป็นผู้บริสุทธิ์ เรียกว่าพรหม มีจิตเมตตากรุณา มุทิตา อุเบกขา คำว่า อุเบกขา ไม่ทำร้ายตอบใคร ใครจะมาทำร้ายเรา  แม้ที่สุดเขาจะมาฆ่าเราก็ยอมให้เขาฆ่า และให้เขาฆ่าตาย เราก็ไม่ได้ให้ง่ายๆหรอก เราก็หนีสุดฤทธิ์ แต่มันหลบไม่พ้นเลี่ยงไม่ได้ มันก็เก่งไล่ฆ่าเราจนได้ จนเราตาย ก็ไม่จองเวรจองกรรมไม่พยาบาทต่อเลย แม้กระทั่งจะมาฆ่าเรา เราก็อโหสิ ไม่จองเวรจองกรรมให้เกิดภาระเวรกรรมกันต่อไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก ครั้งที่ 41 อาหารเป็น 1 ในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 20:37:47 )

คนที่ปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้าแล้วจะเป็นคนเช่นไร

รายละเอียด

คนที่ปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้าแล้วจะเป็นคนที่ อิสรเสรี แล้วก็เป็นคนดี เรียกภาษาง่ายๆตื้นๆว่าเป็นคนดี แล้วก็จะรู้จักการงานที่ควรทำ ไม่ไปทำมิจฉากัมมันตะ งานการที่ไม่ได้เรื่องไม่ประกอบอาชีพมิจฉาชีพ พูดก็ไม่พูดไปตามที่เขาพูดกัน พูดในมิจฉา 4 ไปพูดโกหก ส่อเสียด หยาบคาย เพ้อเจ้อ พูดแต่ดีๆ อาตมาไม่พูดหยาบคาย เพ้อเจ้อ พูดแต่สาระ ไม่พูดส่อเสียด ส่อเสียดพูดอย่างไร คือพูดให้คนนี้อย่างนี้ ให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน ให้ไม่เป็นสุขสงบ ทำให้คนเกิดไม่โกรธก็หลงกัน ไม่โกรธ ก็ไปโลภแก่กันและกัน

ที่มา ที่ไป

 เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันที่ 2 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มกราคม 2564 ( 07:59:55 )

คนที่พอช่วยได้ก็ช่วยกันไป 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นมันจะมี พลิ้วๆแผ่วๆ ของกามอย่างไรก็ต้องเอาให้หมด มันหยาบกว่ากามภายนอก แม้เหลืออัตตา ก็ยังรู้ว่ามันยังเหลือต้องเอาให้หมดๆๆ ไปเรื่อยๆ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ ลดลงไปเรื่อยๆ กามฝั่งหนึ่ง อัตตาฝั่งหนึ่ง ในโลกเขามีอยู่เป็นธรรมดา เราอยู่เหนือมันแล้วเป็นโลกุตระแล้ว ก็ไม่ได้หนีจากมัน คนอวิชชาก็ปรุงกามปรุงอัตตากันเต็มโลกเราไปห้ามเขาไม่ได้หรอก พยายามบอกเขาช่วยเขา เขาก็ไม่ค่อยฟัง เพราะฉะนั้นคนไหนที่พออยากจะให้เราช่วยเราก็ช่วย คนไหนไม่อยากให้ช่วย เราก็ปล่อยไปตามยถากรรมของเขา รับวิบากของเขาไปเอง คนที่พอช่วยได้ก็ช่วยกันไป 

เพราะฉะนั้นผู้ที่ได้รับผลช่วยกันได้ ก็มารวมกลุ่มกันเป็นมิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี แล้วก็ ปฏิบัติตามศีล แล้วก็ยินดี ปฏิบัติตามศีลแต่ละข้อได้มรรคได้ผล ก็มีฉันทะ มีความยินดี ตามสุริยเปยยาลสูตร 7 ยินดีปรีดา เพราะรู้จักอัตตา เข้าใจอัตตา ลดอัตตา ไปตามลำดับ โอฬาริกอัตตา มโนมยอัตตา อรูปอัตตา เข้าใจอัตตา อย่างสัมมาทิฏฐิ  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 54 ผู้เป็นกลางคือผู้วางกามกับอัตตา วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2565 ( 11:39:48 )

คนที่ฟังสมณะโพธิรักษ์จะเป็นเพื่อนสหธรรมิกทั้งนั้น

รายละเอียด

คือ คนที่ไม่มีภูมิเขาไม่ฟังอาตมาหรอก  เปิดดูแล้ว เขาก็ไม่ดูต่อหรอก  มันจะมีว่า อาตมาเทศน์อวดไป  คนที่ฟังแล้วรับไม่ได้จะไม่ฟังต่อหรอก ไม่อาบัติปาจิตตีย์หรอก  แต่คนที่เปิดดูอาตมานั้นจะเป็นเพื่อนสหธรรมิกทั้งนั้นแหละ คนที่รู้เรื่องแล้ว แต่คนที่เขาไม่ฟังเขาเป็นคนที่ไม่รับอยู่แล้วถ้าอาบัติปาจิตตีย์ก็จริง ถ้ามีอุตริมนุสธรรมที่มีจริงในตนก็หากอวดไปปลงอาบัติกับเพื่อนสหธรรมิก  ที่จริงไม่ได้มีจิตอยากอวด แต่เป็นการแสดงออกธรรมดาให้คนอื่นได้รับรู้ด้วย  อาตมาจะไม่อาบัติ อาตมาไม่ใช่อาริยะธรรมดา แต่อาตมา เป็นอรหันต์ อวดให้ตายก็ไม่มีอาบัติ คนก็จะยิ่งหมั่นไส้หนักไปอีก  อาตมาไม่รู้จะทำอย่างไร ก็พูดความจริงสู่ ฟังแม้ไม่อยาก แต่อาตมาอวดไปคนฟัง อธิบายแล้วว่า เขาไม่ฟังหรอก   พอได้ยินว่า อาตมาเป็นอรหันต์เขาเปลี่ยนช่องเลย แต่ถ้าสมัยโบราณ หากคุณนั่งตรงหน้านี้ แล้วท่านจะแสดงอรหันต์   คุณไม่ชอบใจก็เดินหนีได้ พระอรหันต์ยกเว้นได้ ยกสติวินัยไม่มีอาบัติหรอกท่านใจบริสุทธิ์ ท่านประมาณแล้วอรหันต์บางองค์ก็คะนองทำอะไรเวอร์ๆได้ เรื่องนี้อาตมาเข้าใจทำไมต้องทำเวอร์ๆไว้ ถ้าคุณเข้าใจ มันจะมีนัยละเอียดลึกซึ้งมากเลย มีคนอธิบายว่า ดาราแสดงละครจะต้องทำเวอร์ๆไว้ ต้อง overactingให้หน่อย ไม่อย่างนั้น คนไม่ชัดเจน ถึงแม้เขาจะคิดว่า คนที่แสดงเป็นธรรมชาติไม่เวอร์เลย  แต่ต้องเวอร์ เพราะต้องการเน้นสภาวะจริง ไม่เช่นนั้น มันจะจืด ไม่เนียน ไม่ชัด จะเน้นอะไร จะเน้นลักษณะใด นี่เป็นรายละเอียดของศิลปะ สิกขมาตุกล้าข้ามฝันว่า อรหันต์ คนจะชอบที่รูปที่เหมือนพระอัสสชิ แต่จะชอบสภาวะที่เหมือนพระสารีบุตร

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 82 วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 14:26:38 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:51:59 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:07:56 )

คนที่มองพ่อครูไม่ออกคือคนเช่นไร

รายละเอียด

ฟังธรรมะให้ดีอาตมาอธิบายครบทั้งพยัญชนะและสภาวะ มีคนตำหนิว่าอาตมามีแต่พยัญชนะไม่มีสภาวะ แต่คุณต่างหากตามไม่ถึงสภาวะที่อาตมาพูดเป็นพยัญชนะออกไป

นี่เขาก็บอกมาเขาก็น่าสงสารเขาหัวเราะเยาะอาตมามา คนที่มองอาตมาไม่ออกคือคนที่ …..นัตถิ  โลเก   สมณพราหมณา   สัมมัคคตา  สัมมาปฏิปันนา  เย  อิมัญ จ โลกัง   ปรัญ จ  โลกัง   สยัง อภิญญา   สัจฉิกัตวา  ปเวเทนตีติ

คือคุณเกิดมาในโลกนี้แล้วไม่เห็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เหมือนกามนิตที่คุยกับพระพุทธเจ้าทั้งคืนที่บ้านช่างปั้นหม้อ บอกว่าศาสนาพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่แสดงตัว จนรุ่งเช้าก็บอกว่าคุยธรรมะเมื่อคืนนี้ดีจังเลยที่ได้คุยกับท่าน โอกาสครั้งหน้าพบกันอีก ยังจะขอลาท่านไปหาพระพุทธเจ้าก่อน นี่คือกามนิต ที่แปลว่าผู้มีกามตลอดกาล นิจจัง น่าสงสาร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ตีแตกเทวะด้วยคอมเม้นท์ที่เห็นต่างจากพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(สัมมาทิฎฐิ 10) ตอน สมณพราหมณ์ผู้มาเปิดเผยสัมมาทิฏฐิของพุทธ


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 12:42:36 )

คนที่มาจนอย่างมีปัญญาโลกุตระคือคนเจริญที่แท้จริง 

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องทุกข์และสุข สำคัญกว่าเรื่องดีชั่ว เหนือกว่าดีชั่ว เรื่องสุขเรื่องทุกข์ เรื่องสุดยอดของจิตนิยามที่งมงายที่สุด ศาสนาเทวนิยมไม่ศึกษาเรื่องสุขเรื่องทุกข์และหลงความสุขด้วย เป็นสุขนิยมด้วย พระเจ้าเป็นเจ้าของความสุข พยายามเอาใจพระเจ้าและจะได้อยู่สวรรค์กับพระเจ้าเป็นสุข 

เพราะฉะนั้นเรื่องสุขเรื่องทุกข์นี้ มันขึ้นอยู่กับความจนความรวยหรือเปล่า ?...ไม่ พวกเราตอบได้ ดีมากถูกต้อง 

ความสุขความทุกข์มันไม่ได้เกิดขึ้นกับความรวยความจนเลย  ที่คนงมงายอยู่กับความรวยความจนแล้วก็ไปสุขกับความรวย มีความทุกข์กับความจน นั่นก็ยิ่งโง่หนัก โง่หนัก เป็นภาวะต้นภาวะตื้นๆด้วย ที่เป็นแค่ ความจนความรวยก็ทำให้ตัวเองวุ่นวาย ลำบากลำบน

เรื่องจนเรื่องรวยนั้น ผู้ที่ศึกษาอย่างพวกเราชาวอโศก จนสุขสำราญเบิกบานใจ คนที่สะสมกอบโกยมันก็รวย แต่ถ้าขยันหมั่นเพียรสร้างสรรค์ ไม่ต้องรวยแต่มันสุขได้ไหม 

สุขได้ สบม ทมด ปกต หห จจ  ปกต หห จจ มชยลล สบายมาก หายห่วง

เพราะฉะนั้นเรื่องคนจนเป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นโลกุตระเพราะฉะนั้นเรื่อง คนจนเป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นโลกุตระ พระพุทธเจ้าเคยมีสมบัติเงินทองก็มาเป็น คนจน มีแต่ปัจจัยและบริขารเลี้ยงชีวิตไป 45 ปี ตลอดพระชนม์ชีพของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นปรมัตถธรรม 

ความจนคือเครื่องชี้ ความประเสริฐ คนประเสริฐ คนฉลาด คนเจริญที่แท้จริง ความจน

คนที่มาจนอย่างมีปัญญาโลกุตระ คือคนเจริญที่แท้จริง 

ความเป็นคนจนที่มีปัญญาโลกุตระคือ คนเจริญ เป็นอาริยชน เป็นคนศิวิไลซ์ อย่างแท้จริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เป็นคนจนสุดประเสริฐได้เพราะรู้แจ้งในอาหาร 4 วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2565 ( 17:54:25 )

คนที่มิจฉาทิฏฐิเขาก็ทำอาการของอุเบกขาเหมือนกัน

รายละเอียด

คือเขาทำด้วยวิธีสะกดจิต สะกดแล้วไม่ได้แยกออกเลยว่า อารมณ์จริงของความสุข  อารมณ์จริงความทุกข์เป็นอย่างไร  เขาสะกดไม่ให้มันมีให้เกิดกลางเฉยๆ เขาสะกดให้มันดับส่วนมาก ก็จะหลับตาปฏิบัติ หลับตาแล้วก็ดับ  เขาเรียกว่าทำฌานทำสมาธิ  เขาก็แยกกันไม่ออก  ระหว่างฌานและสมาธิ  เขาบอกว่ายกสติขึ้น  รู้นิ่งเฉย  แล้วให้รู้ความจริงนั้น  รู้ความจริงที่มันเฉย ๆ กลางๆ  อยาก ก็บังคับให้อย่าคิด  แต่มันเป็นอุปาทาน เขาสร้างภพว่างๆเก่งจน กระทั่งลืมตา เขาก็สัมผัสแล้ว ทำให้จิตของเขามีอุปาทาน  คือยึดติดสูญๆว่างๆ ไว้เหมือนกัน แต่เขาไม่ได้รู้ความจริงว่า  อาการสุข อาการทุกข์ ไม่ให้มันเหลือในจิตเลยโดยไม่ต้องไปบังคับ ไม่ต้องไปกดข่ม แต่ทำได้จริงอย่างรู้จริง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 12:37:06 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:53:23 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:28:12 )

คนที่มิจฉาทิฏฐิเขาก็ทำอาการของอุเบกขาเหมือนกัน

รายละเอียด

เขาทำด้วยวิธีสะกดจิต สะกดแล้วไม่ได้แยกออกเลยว่า อารมณ์จริงของความสุขอารมณ์จริงของความทุกข์เป็นอย่างไร เขาสะกดไม่ให้มันมีให้เกิดกลางเฉยๆ เขาสะกดให้มันดับส่วนมากก็จะหลับตาปฏิบัติ หลับตาแล้วก็ดับ เขาเรียกว่าทำฌานทำสมาธิเขาก็แยกกันไม่ออก ระหว่างฌานและสมาธิ เขาบอกว่ายกสติขึ้น รู้นิ่งเฉย แล้วให้รู้ความจริงนั้น รู้ความจริงที่มันเฉยๆกลางๆ อย่าคิดก็บังคับให้อย่าคิด แต่มันเป็นอุปาทาน เขาสร้างภพว่างๆ เก่งจนกระทั่งลืมตาเขาก็สัมผัสแล้วทำให้จิตของเขามีอุปาทาน คือยึดติดสูญๆว่างๆไว้ได้เหมือนกัน แต่เขาไม่ได้รู้ความจริงว่าอาการสุขอาการทุกข์ไม่ให้มันเหลือในจิตเลยโดยไม่ต้องไปบังคับไม่ต้องไปกดข่ม แต่ทำได้จริงอย่างรู้จริง 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 09:20:47 )

คนที่มี หิริ โอตตัปปะ

รายละเอียด

คนที่มี หิริ โอตตัปปะ เป็นคนที่รู้จักละอายต่อสิ่งที่ถูกต้อง ละอายต่อสัจธรรมที่ประเสริฐจะมีญาณปัญญารู้ความจริงว่าอันนี้เป็นสิ่งประเสริฐ ผู้นี้คนนี้เป็นคนประเสริฐ เช่น

ยกตัวอย่างบางคนเห็นว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนประเสริฐ ไม่ใช่คนเจริญแต่เป็นคนมิจฉาทิฏฐิด้วยเคยเห็นอย่างนั้น จนกระทั่งศึกษาไปตัวเองเจริญขึ้น มีปัญญา  มีความรู้  มีศรัทธา มีปัญญาอันเจริญ จนกระทั่งรู้ว่าเราเข้าใจผิดรู้ว่าคนคนนี้เป็นอาริยะ เป็นอรหันต์ เป็นสัตบุรุษที่น่าเคารพนับถือแล้วเราเข้าใจผิดได้อย่างไร โอ้โห! ละอายตัวเอง หิริโอตตัปปะ เห็นเลยว่าตัวเองนี่มันโง่ ไปเห็นสิ่งประเสริฐเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน แล้วเคยปฏิบัติประพฤติกดขี่ ย่ำยีด้วยจะละอายตัวเองอย่างมาก ความรู้สึกละอายที่ว่าหิริโอตตัปปะจึงเป็นเทวธรรมที่ยิ่งใหญ่ คนเกิดจริงรู้สึกจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 33 วันจันทร์ที่ 29  มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 20:51:50 )

คนที่มีกิเลสมาก

รายละเอียด

มีกิเลสมาก ปิดบังไว้แล้ว หยั่งลงสู่ความหลง คนนี้จะไม่สามารถทำให้ตัวเองสงบสงัดจากความหลง หรือสงบสงัดจนวิเวก เลิกสิ่งที่คุณยึดติดไปได้ง่ายๆ ไกลแสนไกล คนที่ยังจมอยู่กับกิเลสมากแล้วปิดบังไว้แล้ว แล้วตั้งอยู่ และยังแถมจมสู่ความหลงอีกว่า อันนั้นเป็นความดีอะไรคือกิเลสมาก เป็นของดี กิเลสมากเป็นความสุข แล้วคุณก็ไปบำเรอความสุข สมใจตลอดเวลา คุณไม่ได้รู้ง่ายๆเลย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 15:50:49 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:54:13 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:29:05 )

คนที่มีคุณสมบัติจะแก้ปัญหาความจนในตัวเรา

รายละเอียด

คือ แม้ว่าวัตถุมันจะมีน้อย แต่ความขยันเรามี ความรู้ ความสามารถ เรามีเยอะ ก็ชนะ ความรู้ ความสามรถ สมรรถภาพของเราเยอะ แล้วยังขยันอีก ทำไปมันก็เกิดผลผลิต ความรู้เราก็มีแล้ว เราควรจะขยันทำ ทำสร้างขึ้นมามันก็เกิดผลผลิต บนโต๊ะมีฟักทองหน้าตาแปลกๆ ใครชิมแล้วเป็นอย่าไร เนื้อดีเท่าฟักทองไทยไหม เนื้อมันกรอบไม่มันเท่าไหร่  มะนาวก็ลูกโต เราก็เอาสิ่งที่เรากินเราอาศยใช้น้ำมือ น้ำแรง เราสร้างขึ้นมากินมาใช้เผื่อแผ่เกื้อกูลกัน

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 11:17:40 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:55:19 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:30:35 )

คนที่มีจิตอุเบกขาแล้วโลกธรรมไม่มี

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น คนที่มีจิตอุเบกขาแล้ว โลกธรรมไม่มี จึงอยู่เหนือลาภ ยศ สรรเสริญโลกียสุข ลาภ ยศสรรเสริญ โลกียสุข ทำอะไรชาวพุทธที่บรรลุอรหันต์นี้แล้วไม่ได้

อาตมาอยู่เหนือลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข พูดความจริง แต่อาศัยพยัญชนะสื่อสารให้เป็นสัจธรรม อาตมาไม่ได้เอาตัวตนไปเกี่ยวข้องเพราะไม่มีตัวตนแล้ว พูดแต่ธรรมะเพียวๆ

อาตมาไม่มีโลกธรรมแล้วเงินทองมาหาอาตมาก็ทำตามควร อะไรควรรับหรือไม่รับ คนจะเอาเงินมาบริจาค มาทำทานกับอาตมา เป็นคนที่ไม่รู้จักอาตมาเท่าไหร่หรอก คนที่จะมาบริจาคต้องรู้กติการู้จักอาตมาดี ไม่ต้องห่วงหรอกว่าอาตมาจะไปแย่งลาภยศสรรเสริญโลกียสุข

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ
สื่อธรรมะพ่อครู(จรณะ 15 วิชชา 8) ตอน ไฟฌานทำลายกิเลสได้อย่างไร


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:57:30 )

คนที่มีดวงตาจะดูเพชรแท้ออก

รายละเอียด

มันจะคัดเลือกคนที่มีดวงตา คนที่มีดวงตาจะเห็นว่า โอ้โห! นี่เป็นเพชรแท้ๆ ถ้าคนไม่มีดวงตาก็จะต้องอาศัยว่านี่มันเพชรมันแท้หรือไม่ แต่คนที่มีดวงตาที่ดูเพชรแท้ออก เขาเห็นทันที หรือคนที่พอมีดวงตาบ้างไม่ฝ้าฟางนัก ดูซ้ำซ้อนอีกนิดหน่อยก็ชัดเจนเขาก็จะเห็น สรุปคือต้องมาพิสูจน์ตัวเองอย่างเพียวๆ เดี่ยวๆโดดๆไม่ต้องอาศัยตัวช่วยเลย แล้วเราจะได้คนที่มีดวงตาจริงมาเห็น อาตมาก็ได้มา อาตมาจึงสบายใจ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2563 ( 13:14:19 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:02:31 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:08:35 )

คนที่มีตามองเห็นผีได้คือคนซวย ไม่ใช่บุญเลย

รายละเอียด

ซวยๆ ถ้าตาคุณเคยเห็นผี รูปเห็นผี มีรูปร่างให้เห็นคือคนจมอยู่ในอุปาทาน รูปร่างผีที่คุณเห็นมันเป็นอุปาทานจนเป็นรูปเป็นร่าง จะซวยหนักมาก ก็ธรรมดาคนเราไม่เห็นผีได้ง่ายๆหรอก มันไม่มีอุปาทานเลอะเทอะหยาบคายขนาดนั้น ผี คือ ธาตุวิญญาณ ธาตุนามธรรม ไม่มีรูป ไม่มีร่าง ไม่มีกาย ไม่มีดินน้ำไฟลม ไม่มีเลย ผีที่ว่านี้มันหมายถึง อรูป ด้วยซ้ำ มันเป็นนามธรรมตามที่คุณเข้าใจ นามธรรมกับอรูปก็ต่างกัน นามธรรมมีชีวะ ชีวิต แต่อรูปไม่มีชีวะ แล้วผีที่เดินอยู่ย่องมันก็เป็นชีวะเป็นนามธรรม แต่มันไม่ใช่มันไม่มี มันมีเพราะคุณสร้างมันขึ้นมา เนรมิตขึ้นมาเอง ตามอุปาทานที่คุณยึดติด 

ผู้ที่มีอุปาทานยึดติดมีตัวตนทั้งนั้น มีรูปร่างตัวตน ตัวตนที่เห็นเป็นของหลอก ที่เป็นนิรมาณกาย ที่คุณสร้างขึ้นมาเอง แล้วก็มีหมู่กลุ่มที่หลงผิดด้วยกับคุณเรียกว่าสัมโภคกาย สามารถสร้างด้วยกันเหมือนกันก็เลยมีพวกก็เลยเชื่อ แต่จริงๆแล้วแต่ละคนอทิสมานกายหมด ไม่มีใครเห็นของใครเพ้อขึ้นมาคนเดียวของตัวเอง แต่ละคนทั้งสิ้น แต่ว่ามันตรงกันเนาะก็พูดกัน เหมือนภาษาโคบอล พูดอะไรกันก็ไม่รู้ แต่รู้กันหมดเลย ภาษาโมเม แล้วรู้กันหมดเลยยิ่งกว่าภาษาใบ้ รู้กันหมด เพราะฉะนั้น ยังอีกลึก แหม ชื่อบุญเสียด้วย บ.ใบไม้เหมือนมหาบัว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาโยมบุญ ให้รู้จักทำบุญอย่างถูกพุทธ วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565 แรม 6 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 12:48:45 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์