คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี
เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit
วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5
วีดีโอ Loom 1 : https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044
วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk
รายละเอียด
อาตมาก็จะพูดเน้นไปในทางเรื่องของอาหารใจ อย่างที่ท่านเดินดินว่าเน้นไปในทางเรื่องอาหารใจเป็นหลัก อาหารกายก็พอรู้กันเรียกว่า ทำกันอยู่แล้วดิ้นรนกันอยู่แล้วจัดการกันไป อาหารใจนี่แหละมันสำคัญ ถ้าเรามีปัญญาที่จะรู้จักอาหาร โดยเฉพาะ อาหารที่อาศัย
ในอาหารสูตร ท่านบอกว่า
1. การคบสัตบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ . .
2. การฟังสัทธรรมบริบูรณ์ ย่อมทำศรัทธาให้บริบูรณ์
3. ศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมทำมนสิการโดยแยบคายให้บริบูรณ์
4. การมนสิการโดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ ที่จะรู้ทันผัสสะ รู้ทันเวทนา
5. สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้ความสำรวมอินทรีย์บริบูรณ์
6. ความสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สุจริต 3 บริบูรณ์ คือ กาย วาจา ใจ เลิกทำการงานทุจริต
7. สุจริต 3 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สติปัฏฐาน 4 บริบูรณ์
8. สติปัฏฐาน 4 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้โพชฌงค์ 7 บริบูรณ์
9. โพชฌงค์ 7 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้วิชชาและวิมุติบริบูรณ์ (อวิชชาสูตร พตปฎ. เล่ม 24 ข้อ 61)
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิธรรมของศีลข้อ 1 ที่ชาวอโศกปฏิบัติได้ วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน2 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:55:30 )
รายละเอียด
อะไรเล่า เป็นอาหารให้วิริยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิดเกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้ว ให้เจริญบริบูรณ์? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความริเริ่ม ความพยายาม
ความบากบั่น มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในสิ่งเหล่านั้น นี้เป็นอาหารให้วิริย
สัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้ว ให้เจริญบริบูรณ์.
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 02 มกราคม 2563 ( 15:30:58 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:18:15 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:35:26 )
รายละเอียด
อะไรเล่า เป็นอาหารให้สติสัมโพชฌงค์ ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้ว ให้เจริญบริบูรณ์? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายเป็นที่ตั้งแห่งสติ
สัมโพชฌงค์มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหารให้สติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้ว ให้เจริญบริบูรณ์.
สติ มาจาก คำว่า สต แปลว่า 100
สติ นี้คือตื่นทั้งภายนอก ตื่นทั้งภายใน แล้วตื่นทั้งภายในนี่แหละ พวกที่นั่งหลับตาทั้งหลายเขาก็บอกว่าเขาตื่นภายใน แต่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับภายนอกเลย อันนี้ผิดไปทั้งขบวนเลย เพราะว่าชาคริยานี้จะต้องเป็นผู้ที่ตื่นออกมาข้างนอกเป็นสำคัญ
ถ้าพุทธะ นี้ตื่นทั้งนอกทั้งใน ชาคริยาคือมาตื่นข้างนอก คือ ดำเนินความรู้ให้เป็นไป ชาคะ หรือ ชาคร ให้มีธาตุรู้เดินทาง คร คือเป็นไป จะต้องให้ธาตุรู้ดำเนินไปไม่ใช่มันเกาะนิ่งไม่รู้หรือเข้าไปใส่เซฟภายใน ไม่ใช่ ให้มันออกมาให้มันมีจักษุมีปัญญา มีญาณ วิชชา อยู่กับโลกอยู่กับแสงสว่างดวงอาทิตย์ 5 ดวงก็อยู่กับดวงอาทิตย์ 5 ดวงนี้ ของโลกเรามีดวงอาทิตย์ดวงเดียวก็เอาให้ครบเถอะ ต้องออกมาอยู่ให้ครบกระบวนการที่มีทัังหมดที่คุณอยู่ในบริบทนี้ คุณต้องอยู่ให้ครบบริบทนี้ในกรอบนี้ เอาให้เป็นของแท้ให้มันรู้จบสิ้น สัมมาปฏิเวธ แทงทะลุ สัญญาเวทยิตนิโรธเคล้าเคลียเวทนาให้หมด ละเอียดลออทุกจุด ไม่มีจุดไหนๆที่จุนสีจะไม่แทรกตัวเข้าไปถึงทุกส่วนในเอกเทศทั้งหลาย
เป็นสำนวนของพระพุทธเจ้า เหมือนคุณไปแช่ในน้ำที่มีจุนสี ไม่มีเอกเทศใดที่แยกไปเหลือเป็นเอกเทศ เป็นขบถ รวมไว้ได้หมด รู้หมดทุกจุดทุกอัน จุนสีที่แทรกเข้าไปถึง ทั่วหมดไม่ให้ตกหล่น ไม่ว่าจะเป็นซอกที่ละเอียดลออขนาดไหน
พระพุทธเจ้าขยายความ แช่ในน้ำจุนสี ไม่ให้มีเอกเทศอยู่จุดหนึ่งจุดใดที่เหลือที่แตกต่าง ต้องใช่ทั้งหมด ที่แตกต่างออกไปอีก เป็น เอกเทศ หมายถึงว่าคุณแข็งข้อไม่ได้ เอามารวมกันหมดเป็นหนึ่งเดียวไม่มีใครเป็นกบฏเป็นเศษธุลีของกบฏก็ไม่ได้ เอามารวมหมด
ทั้งหมดจากนับไม่ถ้วนเป็นหนึ่งและจากหนึ่งเป็นนับไม่ถ้วนสามารถแตกสลายกลายเป็นศูนย์ได้ ถ้าคุณแตกจาก 1 เป็น 0 ได้คุณก็ทำไม่ทุกข์ได้เป็นสุขอย่างเดียวได้ แต่สุขอย่างเดียวนี้ไม่เที่ยง ถ้ามีก็ไม่เที่ยง ต้อง 0 จึงจะมีความเที่ยงที่เป็นนิรันดร
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 02 มกราคม 2563 ( 15:05:52 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:20:21 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:25:06 )
รายละเอียด
ปัจเวกขณ์ ก็พิจารณาไป ท่องก่อนฉันอาหาร แต่เสร็จแล้วไม่ได้รู้เรื่องอะไร มันน่าสงสารจริงๆ เพราะไม่เข้าใจอาหาร
มีอาหาร ในตัณหาสูตร (พตปฎ. เล่ม 24 ข้อ 62)
1.การไม่คบสัปบุรุษ เป็นอาหารของ การไม่ได้ฟังสัทธรรมที่ถูกต้อง
2.การไม่ได้ฟังสัทธรรม เป็นอาหารของ ความไม่มีศรัทธา (หรือศรัทธาผิดๆ)
3.ความไม่มีศรัทธา (ศรัทธาไม่บริบูรณ์) เป็นอาหารของ การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย (กระทำใจไม่เป็น)
4.การกระทำในใจโดยไม่แยบคาย (หรือทำใจไม่เป็น) (อโยนิโสมนสิการ) เป็นอาหารของ ความไม่มีสติสัมปชัญญะ
5. ความไม่มีสติสัมปชัญญะ (หรือทำสติไม่เป็น) เป็นอาหารของ ความไม่สำรวมอินทรีย์
6. การไม่สำรวมอินทรีย์ เป็นอาหารของ ทุจริต 3 (กาย,วาจา,ใจ ทุจริต)
7. ทุจริต 3 เป็นอาหารของ นิวรณ์ 5
8. นิวรณ์ 5 เป็นอาหารของ อวิชชา
9. อวิชชา เป็นอาหารของ ภวตัณหา
อาหารสู่วิชชา-วิมุติ
1.การคบสัตบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ หากคบ
อสัตบุรุษก็มีแต่เจ๊ง
2.การฟังสัทธรรมบริบูรณ์ ย่อมทำศรัทธาให้บริบูรณ์
มีอานิงส์ในการฟังธรรม 5 ประการ ได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อน เข้าใจในสิ่งที่เคยได้ฟังแล้ว ทิฏฐิถูกตรงมากขึ้น มีความเลื่อมใสศรัทธาเพิ่มขึ้น
ที่มา ที่ไป
เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2565 ( 14:04:07 )
รายละเอียด
อะไรเล่า เป็นอาหารให้อุทธัจจกุกกุจจะ ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้ว ให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความไม่สงบใจมีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในความไม่สงบใจนั้น นี้เป็นอาหารให้อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้ว ให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น.
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 02 มกราคม 2563 ( 14:58:48 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:21:21 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 06:38:57 )
รายละเอียด
กามกับพยาบาทข้างนอก ถีนมิทธะกับอุทธัจจะข้างใน ที่จริงมันไม่ได้แยกกันทีเดียว มันจับกลุ่มก้อนเป็น ถีนมิทธะ ถ้ามันฟุ้งกระจายก็เป็น อุทธัจจะ
กามฉันทะของคุณ จับตัวเป็นก้อนหรือฟุ้งกระจายก็ได้
พยาบาทของคุณ จับตัวเป็นก้อนหรือจะฟุ้งกระจายก็ได้
ความหมุนรอบเชิงซ้อนที่กลับไปกลับมา ถ้าคุณไม่แน่ไม่ชัดเจน ยังมีวิจิกิจฉายังไม่สมบูรณ์ที่เป็นความรู้รอบอย่างสมบูรณ์แบบอย่างชัดเจน คุณก็จะมีความไม่ละเอียดลออความไม่ครบ จึงต้องพยายามพิจารณาให้รอบให้ถ้วนให้ดี
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 02 มกราคม 2563 ( 15:19:50 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:22:08 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:39:55 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นอาตมาถึงบอกว่าเอาเถอะ ถ้าเราจำเป็นจะต้องมีอาวุธยุทธภัณฑ์ป้องกันตัวบ้าง แต่ถ้าเราสามารถสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ดีแล้ว อาหารและยาที่กินคืออันเดียวกัน อาหารคือยา ยาคืออาหาร เพราะฉะนั้นยาคือพืช พืชคือยา กินยาเป็นอาหาร กินอาหารเป็นยา
สรุปแล้วมาเหลือ 2 กินอาหารเป็นยา กินยาเป็นอาหาร ชีวิตมนุษย์ต้องกินอาหาร ยังชีพ ป่วยเจ็บก็ต้องใช้ยารักษา ก็กินพืชพันธ์ุธัญญาหาร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 49 ตอบไทยรัฐทีวีเรื่องสมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 10 กันยายน 2565 ( 14:19:06 )
รายละเอียด
จะเป็นอาหารเจได้ก็ต้องมีพืช พืชพันธุ์ธัญญาหาร มีพืชเป็นวัตถุดิบ เนื้อสัตว์เราไม่เกี่ยว เป็นพืช แม้แต่น้ำเค็ม น้ำหวาน อะไรก็จากพืชทั้งนั้น เค็มก็ไม่มีน้ำเค็มจากบูดู น้ำเค็มจากปลาแดกก็ไม่มี ถ้าปลาแดกของเราก็ปลาแดกถั่ว น้ำเค็มจากปลาแดกถั่ว
คือเราเป็นพวกมังสวิรัติ หรือว่าเจบริสุทธิ์ พืชพันธุ์ธัญญาหารที่เห็นๆ กันนี่ (ที่หน้าเวที) ลองกองมาจากศีรษะอโศก, กล้วยคาเวนดิชมาจากสวนทำกิน ของพวกเรามี “สวนทำกิน” “สวนไม่ทำ..ไม่ได้กิน” ก็มี “สวนทำกินจึงจะได้กิน” ก็มี พวกเราตั้งชื่อกันหลายสวนมาก นอกนั้นก็มีชื่อสวนอีกเยอะแยะ ส่วนมันเทศนี้จาก “สวน 204”
ก็มีอย่างนี้แหละ เรามีพืชพันธุ์ธัญญาหารกิน อาตมาว่า ทำให้มันเป็นที่ปรากฏให้ได้ว่าพืชพันธุ์ธัญญาหารนี่ มันจะเป็นธรรมาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จะเป็นธรรมาวุธที่ยิ่งใหญ่ ใครจะสร้างอาวุธให้เก่งกาจสามารถพิเศษเลิศล้ำมีอำนาจทำลาย ได้ยอดเยี่ยมขนาดไหนก็ให้เขาทำไป มันเป็นเรื่องของกรรมบาป
อาตมาไม่ได้พูดเล่นหรอก อาตมาพูดจริง มันเป็นกรรมอกุศลกรรมบาปที่เขาทำสิ่งเหล่านั้นมาเพื่อประหารชีวิต เพื่อทำลายชีวิต แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้ฆ่าโดยตรง แต่เป็นผู้สร้างมาก็ใช่แล้ว คนสร้างอาวุธเพื่อประหารคน เพื่อมาทำลาย มันก็ใช่แล้วบาป ไม่บาปไม่มี การสร้างอาวุธมาประหารคน..ไม่บาปไม่มี เพราะความบาป ความเกิดอกุศล มันเกิดจากเจตนา มโนสัญเจตนา ตั้งแต่ตัวเจตนาที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าบาปและบุญนี่ จะเกิดบุญเป็นอันมาก ส่วนมากเป็นบาป
ท่านก็อธิบายใน ชีวกสูตร (พตปฎ.เล่ม 13 "ชีวกสูตร" ข้อ 60) ชัดเจนว่าบาปไม่ใช่บุญเลยเป็นอันมาก ก็คือบาปเป็นอันมากไม่ใช่บุญเลย ใน 5 ประการ ชีวกสูตร พูดแล้วพูดอีก ย้ำแล้วย้ำอีก ยากที่คนจะเข้าใจในความลึกซึ้งเป็นที่สุด เพราะว่ามันเป็นการอธิบายถึงขั้น เจตภูต ถึงขั้นปาณะ ถึงขั้นชีวะในระดับเจตภูต ในระดับปาณะ ยังไม่ถึงขั้นสัตตะ ในมโนสัญเจตนา มันละเอียดลออไปถึงขนาดนั้น
มันเป็นแต่เพียงจิตเริ่มต้นที่มีแนวโน้มไปในทางที่ โวโรเปตุง หรืออารภนฺติ เป็นไปในทางมุ่งร้าย ที่มันมีกระแสว่าจะไปมุ่งร้ายเริ่มต้นแล้ว อย่างชีวกสูตร 5 ข้อ
ชีวกสูตร
ทำบุญแต่ได้บาป 5 ลำดับ (ย่อมประสบบาป มิใช่บุญ เป็นอันมาก)
1. ผู้นั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านทั้งหลายจงไปนำสัตว์ชื่อโน้นมา” (อุทิศ, อุททิสสะ คือ เจาะจงมุ่งหมายไปที่สัตว์ชื่อนั้น) อุทฺทิสฺส ปาณํ อารภนฺติ หรือ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตุง (สญฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตา)
บอกชื่อสัตว์ ไปเอาสัตว์นั้นมา กล่าวชื่อสัตว์ ไปเอาสัตว์นั้นมา นี่เป็นตัวมีเจตนา สัญจิจจะ แล้ว หรือ อุทิสสะ แล้ว เป็นจิตอุททิสสะ เป็นจิตมีจิตมุ่งหมาย เจาะจงไปในตัวเหมือนกัน เจาะจงว่าสัตว์ และเมื่อกล่าวชื่อสัตว์ เช่น เอาไก่ตัวนั้น เอาไอ้โต้งตัวนั้น เอาหมูตัวขาวนั้น อะไรอย่างนี้ พอลงไปปั๊บนี่มันบาปเป็นอันมาก ไม่ใช่บุญเลยทันที ยิ่งคนไปจับมันมา ข้อ 2
2. สัตว์นั้นเมื่อถูกเขาผูกคอนำมา ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัส
เมื่อสัตว์ถูกจับมาตามที่จิตมุ่งหมายตัวแรกและตัวต่อมาเลย เรียกว่า เป็นการพัฒนาการของจิต หรือเรียกว่าเป็นความฉิบหายของจิต หนักขึ้น จับตัวมา ผูกมา มัดมา สัตว์ได้รับทุกข์ สัตว์เป็นทุกข์แล้ว ถูกจับตัวมา แค่พูดยังไม่ได้ไปจับมันมา มันก็ยังไม่ทุกข์หรอกสัตว์ แต่เมื่อมันถูกจับ มันก็ทุกข์แล้ว เสร็จแล้วข้อที่ 3 บอก จงฆ่าสัตว์นี้
3. ผู้นั้นพูดอย่างนี้ว่า “ท่านทั้งหลายจงไปฆ่าสัตว์นี้”
ไม่บาปให้มันรู้ไปสิทีนี้ “จงฆ่าสัตว์” ผู้สั่งนี้บาปเป็นอันมาก ไม่ใช่บุญแล้ว ฟังให้ละเอียดซ้ำซากให้ดีว่า การไปแตะกับสัตว์นี้ อย่าไปพูดถึงกิน แค่กล่าวชื่อสัตว์ เจตนาจิตไม่ดี คนไปจับมานี่บาปเป็นกระพรวนร่วมกัน บาปแล้ว สั่งฆ่า ฆ่าสัตว์ตายในข้อที่ 4
4. สัตว์นั้น เมื่อกำลังถูกเขาฆ่าย่อมเสวยทุกข์โทมนัส
มันก็เห็นน้ำหนักของความเลวร้าย ความร้ายกาจของกรรมกิริยาของคน
ข้อ 5 นี้มันเหมือนไม่ใหญ่แต่มันใหญ่ที่สุด
5. ผู้นั้นย่อมยังตถาคตและสาวกตถาคต ให้ยินดีด้วยเนื้อเป็นอกัปปิยะ ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก (ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อกปฺปิเยน อสฺสาเทติ อิมินา ปญฺจเมน ฐาเนน พหุง อปุญฺญํ ปสวตีติ)ชีวกสูตร ล.13 ข.60
แล้วก็แค่เอาอาหารเนื้อสัตว์ที่คุณฆ่ามานี่แหละ เอาไปทำอาหารอย่างเป็น “ขาทโภชนียะ” ทำเป็นอาหารอย่างดี อย่างเอร็ดอร่อย ปรุงแต่งชั้นเลิศ นำมาถวายภิกษุหรือพระพุทธเจ้า ข้อ 5 นี่แหละ นี่แหละเรียกว่าเจาะจง
1. เจาะจงฆ่า เจาะจงกับสัตว์ สัตว์ตายเพราะความเจาะจง ไม่ใช่ไปเจาะจงบุคคล บุคคลนั้นไม่กินเนื้อสัตว์ ถ้าเจาะจงชื่อใครบุคคลใด บุคคลนั้นกินไม่ได้ นอกนั้นเขาไม่ได้เจาะจงชื่อกินได้หมด นี่พวกเจาะร่องให้ตัวเอง เจาะรูให้ตัวเอง เขาไม่ได้ระบุชื่อตัวเราเท่านั้น สัตว์นั้นตายด้วยการถูกฆ่าก็ไม่ถือว่าบาป กินได้หมด นี่พวกนี้เลี่ยงบาลี บาปเข้าตัว ไปช่วยกันโกหกหรือโกหกอย่างไม่รู้ ก็ยังบาปน้อยกว่า โกหกทั้งๆที่รู้นี่ จะบาปตั้งเท่าไหร่
เพราะฉะนั้น ข้อ 5 นี้เอาแต่แค่เอาอาหารเนื้อสัตว์ไปถวายเพื่อให้พระพุทธเจ้าหรือภิกษุทั้งหลายนี้ยินดีด้วยเนื้อสัตว์ ยินดีอาหารเนื้อสัตว์ แค่นั้นนะ แค่ไปเห็นดียินดี ยังไม่ทันได้กินหรอก ถ้ารับมากินเลยนี้ไม่ต้องพูดเลยนะ กรรมกิริยาจะหนาหนักตั้งเท่าไหร่
ยินดีในเนื้อสัตว์นะที่รับมา โอ้โห! เนื้อสัตว์ชั้นดีหรือ โอ้โห! น่าจะอร่อยนะ โอ้โห! ไปใหญ่เลย แค่นี้ก็บาปที่เป็น อกัปปิยะ อันไม่ควรกระทำอย่างยิ่งเลย โดยเฉพาะข้อ 5 กำกับเลยไม่ควรกระทำ
ข้อ 1, 2, 3, 4 ก็ไม่ควรจะทำ มันชัดๆ อยู่แล้ว แม้แต่แค่เอาอาหารเนื้อสัตว์ไปถวายภิกษุ ไปถวายพระพุทธเจ้านี่ ก็บาปเป็นอันมาก ไม่ใช่บุญเลย อาตมาไม่ได้เลี่ยง ไม่ได้เบี้ยวบาลี ไม่ได้พูดเลี่ยงนะ คุณดูรายละเอียดว่าความละเอียดลออ 5 ข้อที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสนี้ มีนัยสำคัญละเอียดลึกซึ้งขนาดไหน คิดให้ดีเถอะ
อาตมาก็ได้แต่พูดด้วยความเจตนาดี ไม่อยากให้คนมีวิบากบาป มากินพืชพันธุ์ธัญญาหารนี้ มันก็ดี อยู่ได้ อายุยืนด้วย กินเนื้อสัตว์นั้นมันไม่ได้อายุยืน กินเนื้อสัตว์มากไม่มีพืชก็ยิ่งอายุสั้น เช่น พวกขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ เขาไม่มีพืชจะกินเท่าไหร่ มีแต่เนื้อสัตว์ เนื้อปลาเป็นใหญ่ แล้วนอกนั้นก็เนื้อหมี จะมีสัตว์อะไรบ้าง ที่โน่นมีเพนกวิน สิงโตทะเล มันก็น้อยนะอยู่ที่นั้น เห็นแต่หมีขาวเป็นส่วนใหญ่ ส่วนมากก็กินปลา
ก็มีสถิติอยู่แล้วว่าพวกชาวขั้วโลกเหนือนี้อายุสูงสุด 40 ค่าเฉลี่ยประมาณ 25 อายุ 25 ปีตาย สูงสุด 40 เขาก็มีสถิติ มีการตรวจสอบอะไรต่ออะไรกันมาแล้ว พวกนี้หลักฐานในการยืนยัน ส่วนพวกหรรษากินพืชเป็นหลัก อายุยืนเลย 100
นี่พวกนี้ (ภาพบนจอ) พวกอิ๊กลู่ พวกอยู่บ้านน้ำแข็ง จริงๆตัวไม่อ้วนเท่าไหร่หรอก แต่เสื้อผ้าหน้าแพรหุ้มตัวไว้ เพราะมันหนาว ก็กินเนื้อกวาง กินเนื้ออะไรที่เขาเลี้ยง ดีไม่ดีเนื้อหมา ที่ใช้ลากรถอะไรอยู่ นี่ พวกนี้หลักฐานยืนยัน ซึ่งพวกเราเลือกได้ เราเป็นคนอยู่ในพื้นภูมิที่มีอะไรให้เลือกได้
พวกหรรษาหรือฮันซ่า แตกต่างจากพวกเผ่าเอสกิโม อายุสั้นอายุยืนกว่ากัน แค่อายุสั้นอายุยืนก็เหลือแหล่แล้วในมนุษยชาติ ใครอยากจะอายุสั้นล่ะ อยากอายุยืนๆกันทั้งนั้นแหละ ใครก็ปรารถนาอายุยาวยืนกัน
ก็ยังไม่ทันถึงวันงานเจเลย อาตมาก็เริ่มต้นเอาก่อนแล้ว เพิ่งจะปลายกันยายน เทศกาลกินเจเริ่ม 14-15 ตุลาคม กลางเดือนตุลาคมโน้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ จุดสำคัญที่สุดในสัจธรรมของพุทธคือสุข-ทุกข์ วันพุธที่ 27 กันยายน 2566 ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2567 ( 08:40:21 )
รายละเอียด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มโนสัญเจตนาหารจะพึงเห็นได้อย่างไรเหมือนอย่างว่า มีหลุมถ่านเพลิงอยู่แห่งหนึ่ง ลึกมากกว่าชั่วบุรุษ เต็มไปด้วยถ่านเพลิง ไม่มีเปลว ไม่มีควัน ครั้งนั้นมีบุรุษคนหนึ่งอยากมีชีวิตอยู่ ไม่อยากตายรักสุข เกลียดทุกข์เดินมา บุรุษสองคนมีกำลังจับเขาที่แขนข้างละคน คร่าไปสู่หลุมถ่านเพลิง ทันใดนั้นเอง เขามีเจตนาปรารถนาตั้งใจอยากจะให้ไกลจากหลุมถ่านเพลิง ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขารู้ว่า ถ้าเขาจักตกหลุมถ่านเพลิงนี้ ก็จักต้องตายหรือถึงทุกข์แทบตาย ข้อนี้ฉันใด เรากล่าวว่าพึงเห็นมโนสัญเจตนาหาร ฉันนั้นเหมือนกัน เมื่ออริยสาวกกำหนดมโนสัญเจตนาหารได้แล้ว ก็เป็นอันกำหนดรู้ตัณหาทั้งสามได้แล้ว เมื่ออริยสาวกกำหนดรู้ตัณหาทั้งสามได้แล้ว เรากล่าวว่าไม่มีสิ่งใดที่อริยสาวกพึงทำให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีกแล้ว ฯ
บุรุษ 2 คนที่จะช่วย แทนที่จะดึงขึ้นมาจากหลุมถ่านเพลิง ดันคร่าฉุดให้ลงหลุมถ่านเพลิงไปอีก คือโง่ด้วยกันทั้งคู่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายกาพุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 15:36:58 )
รายละเอียด
มันซับซ้อนในความรู้ความจริงตรงที่ว่า การได้อาหารที่ถูกต้องอย่างนี้ กับการมีสัมประสิทธิ์ Coefficient ที่ได้สัดส่วนกัน มันจะทำให้ชีวิตของเรายาวยืนต่อไป ชาวอโศกยังมีมาได้ไม่กี่ Generation 30 ถึง 40 ปี ถ้าถึง 100 ปี จะเห็นซ้อน
รุ่นพวกนี้จะเกิดมาใหม่แล้วจะมาต่อเชื่อมมันจะชัดเจนขึ้นอีก ถ้าอาตมาอยู่ถึง 120 จะมีประมาณ 3-4 รุ่นซ้อนขึ้นมา จะมาสนับสนุนไม่ขาดตอน ยิ่งอาตมาอยู่ 151 อาตมาว่า ต่อลูกโซ่เครือแหนี้ได้อย่างแข็งแรง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบอโศก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 21:10:38 )
รายละเอียด
นี่แหละถึงจะพาไปนิพพาน เป็นอย่างนั้นด้วย น้อยคนจะบอกว่าไม่ใช่ นั่งหลับตาไม่ใช่เลย น้อยคน มีไม่เท่าไหร่หรอก
เพราะฉะนั้น “มีทุจริต 3 ที่บริบูรณ์ ย่อมยังนิวรณ์ 5 ให้บริบูรณ์ นิวรณ์ 5 ที่บริบูรณ์ ย่อมยังอวิชชาให้บริบูรณ์ อวิชชานี้มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้ ฯ”
ย้อนตั้งแต่อาหาร อาหารตัวที่ร้ายแรง ตัวที่ร้ายกาจมากที่สุดของเงื่อนต้นพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาจึงประกาศอวิชชาเป็นเงื่อนต้นของสิ่งที่คนเรานี้ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่เห็นความสำคัญ พระพุทธเจ้ามาประกาศความสำคัญว่า ไอ้อวิชชานี่แหละ เป็นตัวทำให้คนไม่เจริญสูงสุด ไม่เป็นคนดีอย่างไม่ทำชั่วเลย ไม่เป็นคนดีจนกระทั่งพ้นความทุกข์ความสุข ไม่เป็นคนดีจนกระทั่งจบบริบูรณ์ในความเกิดมาเป็นคน จบแล้วคุณจะเกิดมาอีกกี่ชาติคุณก็เป็นคนจบแล้ว เป็นพระอรหันต์แล้วจะเกิดเป็นคนอีกกี่ชาติต่อจากนี้ไป เป็นพระอรหันต์แล้ว คุณก็เป็นคนบริบูรณ์ ไม่ติดในความทุกข์ความสุขอีกตลอดเลย
เพราะฉะนั้นอาหารของเงื่อนต้น อาหารของอวิชชาก็คือนิวรณ์ 5 ตัวนี้แหละเป็นปัจจัยตัวสำคัญตัวต้นเหง้าที่มันจะแตกไปต่างๆนานาจนบานปลาย จนกระทั่งถึงขั้นตกต่ำสุด ไม่รู้จักสัตบุรุษนี่คือคนตกต่ำที่สุด ไม่รู้จักสัปบุรุษ คบสัปบุรุษแล้วพบสัตบุรุษแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจว่าคือสัปบุรุษ แล้วยังมายืนยันว่าของตนเองถูก ของเขานั่นแหละถูก เพราะฉะนั้นเขาจะต้อง เฮ้ย อย่าเอาของผิดๆมาใส่ศาสนาฉันนะ เขาจะรักษาศาสนาของเขา เขานึกว่าศาสนาที่เขามีนี้ เขาเป็นสัตบุรุษ เขาเป็นสัตบุรุษแล้ว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือพ่อครัวผู้ปรุงอาหารโลกุตระ วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2565 ( 14:34:30 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2563 ( 11:56:07 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:45:03 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:33:13 )
รายละเอียด
เป็นเครื่องอาศัย อาหารคำข้าว ยังมีผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณอาหาร ร่วมด้วย คุณจะพิจารณาแต่เรื่องอาหารแล้วก็ลดความติดยึดก็เอา ก็อ่านอาการติดยึด ลดอาหารจนอาหารกลางๆไม่อร่อย อาหารจากแม่ครัวคนเก่า จากที่เคยบอกชอบก็เฉยๆไม่อร่อยเหมือนอย่างเก่าแล้ว คุณก็จะรู้จักการลดได้ เป็นปัจจัตตังของตัวเอง แล้วมันต้องอาศัยผัสสะอาหาร คือคำข้าว คุณไม่ได้แตะมัน คุณจะรู้ได้หรือว่ามันลดละได้ คุณต้องแตะต้องมัน อาหารคือคำข้าว ถ้าคุณจะต้องสัมผัสมัน คุณเป็นพระพุทธเจ้า คุณก็ต้องกินอาหาร เป็นพระอรหันต์ก็ต้องกินคำข้าว บางอย่างคุณไม่ต้องไปสัมผัสไม่ต้องลองหรอก ก็จะรู้โดยปริยายว่าคุณขาดได้ แต่อาหารนี่ เป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องกินอาหาร รูป รส กลิ่น เสียง อยู่ในอาหารนี่แหละ มันจะยืนยันให้คุณเป็นอรหันต์ ได้อย่างน้อยก็เป็นปัญญาวิมุติ ต้องมีกายสักขีสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกาย
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 16:57:19 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:23:12 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:38:00 )
รายละเอียด
อาหารรูป รูปที่เป็นเครื่องอาศัยเช่นตั้งแต่ กวฬิงการาหาร คือสิ่งที่กินเข้าไปเลี้ยงขันธ์ มันมีรูปรสกลิ่นเสียง สัมผัสอยู่ในนั้นเลย ที่คุณจะเรียนรู้ได้ เพราะฉะนั้น โภชเนมัตตัญญุตา จึงเป็นแหล่งที่เรียนรู้แห่งการปฏิบัติธรรมเรียนรู้รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส กิเลสอยู่ในนี้ทุกตัว เพราะฉะนั้นเรียนรู้กิเลสจากอันนี้แล้วฆ่ากิเลสแล้ว รู้จักกิเลส เข้าใจกิเลส เป็นอรหันต์ได้ในแค่การปฏิบัติ โภชเนมัตตัญญุตา ได้เลย เพราะมีรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส อันพาให้เกิดกิเลส รวมแล้วอยู่ในนี้ทั้งหมดเลย
มาจาก อาหารรูปไป เครื่องอาศัยต่างๆที่เราจะต้องเรียนรู้ ก็มีการแยกเป็นปริเฉทรูป แยกให้ออกว่าจากที่มันมีความรู้สึกกับว่างจากความรู้สึก มันเป็นความว่างๆ หรือความรู้สึกที่ว่างจากกิเลส
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 45 วันนี้วันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2566 ( 13:12:07 )
รายละเอียด
สิ่งไหนที่จะมีอะไรเป็นเหตุปัจจัยคืออาหาร อาหารรูป ตั้งแต่กวฬิงการาหาร ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณาหาร โดยเฉพาะ อาหารการกินคือคำข้าวกวฬิงการาหาร อาหารการกินเลี้ยงชีวิต คนทุกคนต้องกิน แม้จะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว เป็นพระอรหันต์แล้วก็ต้องกิน เรื่องนี้เป็นเหตุปัจจัยให้ปฏิบัติอย่างไม่ต้องไปหาที่ไหนเลย คุณต้องกินอาหารอยู่แล้ว จะรู้ได้จากอาหารรูปนี้
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:48:24 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:24:00 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:36:26 )
รายละเอียด
เอาอาหารมารวม ๆ ปนเปกันไปหมด ไม่ว่าคาว หวาน ผลไม้ ของน้ำ ของแห้ง
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 40 , 71
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:20:20 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:52:35 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:38:20 )
รายละเอียด
จะพูดถึงเรื่อง อาหาร อาหารสูตร ล. 16 ข้อ 28 ผู้จะแสวงหาเรียนรู้ที่เกิด ตัวนี้ทำให้เรามีชาติ เกิดไม่รู้จบ ถ้าเรารู้ตัวเหตุที่ทำให้เกิด การดับเหตุ ชาติปิทุกขาดับได้จริง สมบูรณ์แบบ คุณก็ได้เป็นพระอรหันต์
1. อาหารสูตร กระบวนการเกิดทุกข์ คือ โศก ปริเทว ทุกข์ โทมนัส อุปายาสะ อโศกไม่มีโศก ไม่มีปริเทวะ คือพิรี้พิไรรำพันต่องแต่งไม่รู้จักแล้วเสียที โศกก็อยู่นั่นแหละ เมื่อไหร่จะหยุดสักที หากมีวิชชาก็ดับ โศก ปริเทว ทุกข์ โทมนัส อุปายาสะ เป็นพระอรหันต์แต่คุณก็ยังไม่ตาย ภพชาติก็จะมีอยู่ ไม่สงสัย ถ้าเกิดหรือตายอีกก็เป็นอมตะ
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ปฏิบัติธรรมกับอาหารในพระสูตรต่างๆ วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2562
หนังสืออ้างอิง
อาหารสูตร เล่ม 16 ข้อ 28
เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:12:07 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:27:04 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:39:05 )
รายละเอียด
เหมือนพวกคุณเข้าใจดีในเรื่องคุณธรรมโลกุตระ จึงมาพบอาตมาแล้วมาได้รับความรู้ ได้รับความจริง มาคบค้าสมาคมกับสัตบุรุษให้บริบูรณ์ ได้ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์ ศรัทธาก็บริบูรณ์ มีโยนิโสมนสิการที่บริบูรณ์ไปตามลำดับ สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ สุจริต 3 บริบูรณ์ ความเป็นวิชชา ความเป็นวิมุติ ความเป็นโพชฌงค์ 7 สติปัฏฐาน 4 ก็บริบูรณ์จนจบวิชชาและวิมุติไปตามอาหารสูตร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก ผลงาน 50 ปี ตามอนุสาสนีปาฏิหาริย์ของพ่อครู วันพุธที่ 18 มกราคม 2566 แรม 12 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ปี 2566 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 29 มกราคม 2566 ( 12:55:49 )
รายละเอียด
1. การคบสัตบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์
2. การฟังสัทธรรมบริบูรณ์ ย่อมทำศรัทธาให้บริบูรณ์
3. ศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมทำมนสิการโดยแยบคายให้บริบูรณ์
4. การมนสิการโดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ ที่จะรู้ทันผัสสะ รู้ทันเวทนา
5. สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้ความสำรวมอินทรีย์บริบูรณ์
6. ความสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สุจริต 3 บริบูรณ์ คือ กาย วาจา ใจ เลิกทำการงานทุจริต
7. สุจริต 3 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สติปัฏฐาน 4 บริบูรณ์
8. สติปัฏฐาน 4 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้โพชฌงค์ 7 บริบูรณ์
9. โพชฌงค์ 7 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้วิชชาและวิมุติ บริบูรณ์ (อวิชชาสูตร พตปฎ. เล่ม 24 ข้อ 61)
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 15:23:25 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2563
หนังสืออ้างอิง
อวิชชาสูตร พตปฎ. เล่ม 24 ข้อ 61
เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2563 ( 17:26:34 )
รายละเอียด
อย่าว่าแต่อาหารอร่อยเลยสิ่งเสพติดยังไม่รู้เลยอย่าง มหาบัว มันก็คือกามคุณแท้ๆเป็นรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสแท้ๆสำหรับหมากพลู เป็นสิ่งเสพติดหน้าไม่เหมือนอาหาร อาหารนี่ยังพอรู้ แต่ไม่ศึกษาอาหาร ดันไม่รู้สิ่งเสพติดที่เป็นเรื่องใหญ่กว่าคือ หมากพลู เขาก็ติดกามไม่ได้ลดละกามหรอก แต่ดันไปติดสิ่งเสพติด โง่ข้ามขั้น ไปเอาสิ่งที่โง่ที่สุดเขาเอากัน อย่างพวกนั่งหลับตาที่อาตมายกตัวอย่างมหาบัว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ของวรรณะ 9 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:33:03 )
รายละเอียด
อาหารอร่อย ใช่ว่าเป็นอาหารประณีต คุณอย่าไปถือว่าอาหารอร่อยคืออาหารละเอียดประณีต
ก็คนทานอาหารจืดไม่ต้องแสวงหาความอร่อย กับคนที่แสวงหาความอร่อยอยู่ใครเป็นกิเลสหนักกว่ากัน ก็ไปแสวงหาอยู่ก็เป็นภาระเป็นทุกข์ แล้วคุณจะเอายังไงแบบมีกิเลสกับไม่มีกิเลส ถ้าอยากจะมีกิเลสอยู่ก็ไปทานอาหารอร่อยแล้วบอกว่าเป็นอาหารประณีต ส่วนคนทานอาหารจืดและบอกว่าไม่ละเอียดประณีตได้กิเลสมันก็หมดไปหมดไปเลือกเอาอย่างหนึ่งเถอะ
ที่มา ที่ไป
สื่อธรรมะพ่อครู(จรณะ 15 วิชชา 8) ตอน อาหารอร่อยไม่ใช่อาหารปราณีต
วันพุธที่ 13 มิถุนายน 2561
เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:29:04 )
รายละเอียด
มีคนถามมาว่า จะเจริญขึ้นใหม่ จะเสื่อมไหม ไม่เสื่อมหรอก โลกุตรธรรมก็นับวันจะเจริญขึ้น ถ้าอาตมาคนเดียวก็อาจจะช้า แต่มีในหลวง ร. 9 อีกองค์หนึ่งที่ได้ทรงโลกุตตระ มันก็ไปกันได้ เพราะว่ามันอันเดียวกัน เช่น สอนให้คนมาจน แต่การเมือง สอนเศรษฐศาสตร์เศรษฐกิจ ก็พยายามประพฤติการเมืองเศรษฐกิจให้พาคนไปรวย มันโอเวอร์ต้องพาให้คนพออยู่พอกินจึงจะถูกต้อง อย่างที่ในหลวงท่านตรัสว่าเอาพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เศรษฐกิจเวอร์ๆ
เพราะฉะนั้นผู้ที่จะเข้าใจลึกๆ เข้าใจลึกซึ้ง นักเศรษฐศาสตร์ยังเข้าใจไม่ได้ยังจะทำให้คนรวย รวยทั้งประเทศ ขี้หมาแน่ะครับ มีที่ไหนจะทำให้คนรวยทั้งประเทศได้ โม้ทั้งนั้น อเมริกามีคนจนไหม ประเทศไหนที่ว่าเจริญๆมีคนจนไหม มันไม่มีหรอกคนรวยทั่วประเทศและคนจนจะมากกว่าคนรวย มีประเทศไหนคนรวยมากกว่าคนจนบอกมา ไม่มี บอกมาสิ พูดดังๆด้วยนะ ไม่กลัวมันผิดเพราะมันถูกใช่ไหม ทีนี้ถ้าเป็นนัยยะที่ทวนกระแส ให้มาเป็นคนจน เป็นนักการเมืองจนๆ เป็นนักเศรษฐศาสตร์จนๆ เป็นนักสังคมจนๆ แต่เข้าใจโลกเข้าใจอัตตาเข้าใจธรรมะ เข้าใจประโยชน์ที่เป็นไปเป็นประโยชน์แท้ เป็นประโยชน์ที่ได้ทำให้คนสุขสงบดีสบาย
เข้าใจกว้างไปถึงขนาดโลกานุกัมปายะ เข้าใจจริงๆแล้วทำอย่างนั้นจริงๆให้มันเกิดประโยชน์ ทำให้เกิดอายะ 3 ให้เกิดเป็นอธิปไตยให้เกิดเป็นพลังเป็นอำนาจ อธิปไตยคือพลัง คืออำนาจ อำนาจให้เกิด หิตะ อำนาจให้เกิดความสุข อำนาจให้เกิดช่วยเหลือเกื้อกูลมวลมนุษย์โลก ขยายออกไปถึงขั้นนอกโลกถึงขั้นนอกประเทศก็ว่าไปไม่ใช่นอกโลก เดี๋ยวมันจะไปสตาร์วอร์ นอกประเทศไทยไปช่วยเขา เพราะฉะนั้นเมื่อเราเข้าใจสาระแก่นสาร รู้จักแก่นสารสาระ หรือเรียกว่า เครื่องอาศัย ที่เป็นเครื่องอาศัยของชีวิต ปัจจัย 4 ของความเป็นมนุษย์ สำคัญที่สุดยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทอง อาวุธ หรือเครื่องประเทือง เครื่องอาศัยกินใช้ปัจจัย 4 สำคัญยิ่งกว่า ศาสนาพุทธชัดเจนมาก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาหาราธิปไตย สร้างอายะ 3 ด้วยอาหาราวุธ วันศุกร์ที่17 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 10:54:38 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นถ้าคนไทย เข้าใจว่า อ๋อ..เรามาทำพืชพันธุ์ธัญญาหารที่เป็นอาหารเป็นเครื่องอาศัย มาทำเครื่องนุ่งห่ม แต่เครื่องนุ่งห่มทุกวันนี้ก็พอเพียงแล้วง่ายแล้ว อาหารนี่ต้องกินทุกวัน กินแล้วก็หมด กินแล้วก็กลายเป็นขี้ เป็นหนึ่งในโลกอาหาร กวฬิงการาหารนี่แหละ เพราะฉะนั้นจะเป็นเครื่องนุ่งห่ม จะเป็นที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค รองทั้งนั้น กวฬิงการาหาร อาหารกินคำข้าวเป็นหนึ่ง
เรามาทำงานสร้างสิ่งเป็นหนึ่งในโลกให้ได้มากๆ ให้ได้คุณภาพดีๆ เลี้ยงโลกทั้งโลก คุณอย่าไปสร้างอาวุธ อย่าไปสร้างสิ่งมอมเมา สิ่งประเทืองอะไรมาให้เสียเวลาเลย มาทำอันนี้เถอะ ไม่ต้องขาย ผลิตขึ้นมาแล้วไล่แจกไปทั่วโลกเลย จะอยู่รอดไหม
คุณมีสิ่งนี้กินแล้วไม่มีตาย แจกเข้าไปเถอะ ไม่มีแลกเปลี่ยนเข้ามา คุณก็มีสิ่งกินแล้วนี่ ชีวิตคุณอยู่ได้แล้วนี่ ยารักษาโรคก็ใช้พืชพันธุ์ธัญญาหารนี่แหละเป็นยา แล้วก็ใช้พืชพันธุ์ธัญญาหารนี่แหละเป็นอาวุธ เรียกด้วยภาษาง่ายๆเท่ๆว่า อาหาราวุธ ไม่มีในคำพยัญชนะในบาลีหรอก โพธิรักษ์พูด อาหาราวุธ อาตมาก็เพิ่งนึกได้วันนี้เอง พวกคุณคงเพิ่งเคยได้ยินกันเดี๋ยวนี้วันนี้ อาหาราธิปไตย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาหาราธิปไตย สร้างอายะ 3 ด้วยอาหาราวุธ วันศุกร์ที่17 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 10:55:55 )
รายละเอียด
จะเห็นได้ว่า อาหารเป็นหนึ่งในโลก จบ ไม่ต้องไปง้องอนใครเลย นอกจากจะไม่ง้องอนใครแล้ว เราสร้างอาหารเป็น อาหาราวุธ อาวุธอาหาร ใช้อาหารเป็นอาวุธ ยิงอาหารใส่เข้าไป ยิงมะเขือเทศไปให้ 500 ตัน ยิงบล็อคโคลี่ไปอีก 20 ตัน ยิงลูกระเบิดใหญ่กะหล่ำปลีไปอีก 20 ตัน ไม่ใช่พิษ แต่วิธีส่งก็ยิงเอา เดี๋ยวนี้ใช้โดรน ใช้พาหนะยิง ยิ่งกว่ารถไฟหัวกระสุน แทนที่จะให้บรรทุกหัวระเบิด เราบรรทุกอาหารนี้ไปให้เขา ไม่ได้ไปทำลาย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 06:27:19 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2563 ( 12:00:44 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:47:53 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:28:36 )
รายละเอียด
อาตมาว่าชีวิตชาตินี้ อย่างไรอย่างไรก็นึกถึงตัวเองแล้วตลอดชีวิตมา ที่ได้ฟื้นขึ้นมาเห็นรู้ตัวเองว่า เราเป็นใคร เราจะต้องมาทำอะไร ได้เลิกทางโลกีย์จะไปแย่งชิงลาภยศสรรเสริญโลกียสุขเด่นดังอะไรตามโลกเขาทิ้งเลย แล้วก็มาทางนี้มาทางโลกุตระ มาตอนแรกไม่ได้เด่นดังอะไร ดังอย่างถูกด่าชนิดที่เขาจะเอาตายเลยนะ
จนพยายามทำความจริง มี “ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง” “ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” อาตมาจึงได้รอดมาจนถึงทุกวันนี้ 50 ปี นี่ก็เป็นรูปเป็นร่าง มีรูปธรรมของมนุษยชาติ ที่เข้าใจทฤษฎีนี้ ทฤษฎีโลกุตระของพระพุทธเจ้าแล้วก็เอามาประพฤติปฏิบัติ จนกระทั่งได้ตั้งแต่เด็ก อายุที่พอรู้เดียงสา 7 ขวบขึ้นไปก็ค่อยๆเข้าใจขึ้น อายุไปเรื่อยๆจนแก่เฒ่า มันก็เป็นความจริงที่ปลูกฝังยืนยันลงไปแล้ว ไม่ได้แกล้ง แต่ทำจริงๆด้วยความบริสุทธิ์ใจ แกล้งก็ได้ถ้าใครแกล้งทำได้ก็เอาสิ ใครจะแกล้งทำอย่างนี้ได้แล้วเกิดผลอย่างนี้ เอา ไม่มีปัญหาหรอก ทำให้ได้ก็แล้วกัน ทำแล้วให้เกิดเป็นจริง ซึ่งมันยาก ไม่ใช่ง่าย แต่ยากนี่แหละมันยังทำได้ อันนี้แหละมันจึงเกิดความมหัศจรรย์ สิ่งที่ยาก ยากจริงๆนะ ไม่ใช่เรื่องเล่น เป็นเรื่องมหัศจรรย์
ตั้งแต่ศีลข้อที่ 1 คนไม่ฆ่าสัตว์เนี่ย มันเป็นความมหัศจรรย์แล้ว แม้ที่สุดสัตว์มันจะทำร้ายเรา เราก็ไม่ทำร้ายตอบสัตว์ สัตว์มันทำร้ายเราจนกระทั่งบางทีเจ็บ เราก็ไม่ได้โกรธเคืองแค้นสัตว์ เพราะเรารู้ว่าสัตว์มันก็ไม่รู้เรื่องอะไร มันเป็นเดรัจฉาน เราไปโกรธสัตว์เราก็โง่กว่าสัตว์ มันไม่ได้เรื่องอะไร เราไม่แค้นพยาบาทเราเข้าใจเรื่องกรรมวิบากอย่างดี เพราะฉะนั้นผู้ที่มีโลกุตรธรรม แม้แต่ศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์กับคน แล้วยิ่งมาไม่กินเนื้อสัตว์มันยิ่งสูงส่งมหัศจรรย์ลึกเข้าไปอีก นอกจากไม่กินแล้วก็เข้าใจเรื่องกรรมวิบาก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 29 อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 พฤษภาคม 2565 ( 13:23:44 )
รายละเอียด
อาตมาว่าชีวิตชาตินี้ อย่างไรอย่างไรก็นึกถึงตัวเองแล้วตลอดชีวิตมา ที่ได้ฟื้นขึ้นมาเห็นรู้ตัวเองว่า เราเป็นใคร เราจะต้องมาทำอะไร ได้เลิกทางโลกีย์จะไปแย่งชิงลาภยศสรรเสริญโลกียสุขเด่นดังอะไรตามโลกเขาทิ้งเลย แล้วก็มาทางนี้มาทางโลกุตระ มาตอนแรกไม่ได้เด่นดังอะไร ดังอย่างถูกด่าชนิดที่เขาจะเอาตายเลยนะ
จนพยายามทำความจริง มี “ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง” “ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” อาตมาจึงได้รอดมาจนถึงทุกวันนี้ 50 ปี นี่ก็เป็นรูปเป็นร่าง มีรูปธรรมของมนุษยชาติ ที่เข้าใจทฤษฎีนี้ ทฤษฎีโลกุตระของพระพุทธเจ้าแล้วก็เอามาประพฤติปฏิบัติ จนกระทั่งได้ตั้งแต่เด็ก อายุที่พอรู้เดียงสา 7 ขวบขึ้นไปก็ค่อยๆเข้าใจขึ้น อายุไปเรื่อยๆจนแก่เฒ่า มันก็เป็นความจริงที่ปลูกฝังยืนยันลงไปแล้ว ไม่ได้แกล้ง แต่ทำจริงๆด้วยความบริสุทธิ์ใจ แกล้งก็ได้ถ้าใครแกล้งทำได้ก็เอาสิ ใครจะแกล้งทำอย่างนี้ได้แล้วเกิดผลอย่างนี้ เอา ไม่มีปัญหาหรอก ทำให้ได้ก็แล้วกัน ทำแล้วให้เกิดเป็นจริง ซึ่งมันยาก ไม่ใช่ง่าย
แต่ยากนี่แหละมันยังทำได้ อันนี้แหละมันจึงเกิดความมหัศจรรย์ สิ่งที่ยาก ยากจริงๆนะ ไม่ใช่เรื่องเล่น เป็นเรื่องมหัศจรรย์ ตั้งแต่ศีลข้อที่ 1 คนไม่ฆ่าสัตว์เนี่ย มันเป็นความมหัศจรรย์แล้ว แม้ที่สุดสัตว์มันจะทำร้ายเรา เราก็ไม่ทำร้ายตอบสัตว์ สัตว์มันทำร้ายเราจนกระทั่งบางทีเจ็บ เราก็ไม่ได้โกรธเคืองแค้นสัตว์ เพราะเรารู้ว่าสัตว์มันก็ไม่รู้เรื่องอะไร มันเป็นเดรัจฉาน เราไปโกรธสัตว์เราก็โง่กว่าสัตว์ มันไม่ได้เรื่องอะไร เราไม่แค้นพยาบาทเราเข้าใจเรื่องกรรมวิบากอย่างดี เพราะฉะนั้นผู้ที่มีโลกุตรธรรม แม้แต่ศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์กับคน แล้วยิ่งมาไม่กินเนื้อสัตว์มันยิ่งสูงส่งมหัศจรรย์ลึกเข้าไปอีก นอกจากไม่กินแล้วก็เข้าใจเรื่องกรรมวิบาก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 29 อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 พฤษภาคม 2565 ( 13:34:15 )
รายละเอียด
อาตมาพูดซ้ำซาก พวกหลับตาตื่นได้ มาเรียนรู้จรณะ 15 วิชชา 8 ตามที่พวกอาตมาพาทำนี่ มาเอากรรมฐานของการกิน อยู่ หลับนอน อปัณณกปฏิปทา 3 เรียนรู้กิเลสจริงในปัจจุบันธรรม เป็นสัจจะจริง ไม่ต้องไปฝันเพ้อพกอะไรอยู่อย่างนั้น อาตมาว่าอาตมาอธิบายง่ายแล้วนะ พระพุทธเจ้า แปล อปัณณกปฏิปทา 3 ว่า ข้อปฏิบัติที่ไม่ผิดของศาสนาพุทธ มันต้องมีความตื่น ไม่ใช่ไปหลับ ไปกดข่ม หยุดดับ มันต้องมีอินทรีย์ มีการสำรวมสังวร มันต้องมีโดยเฉพาะ โภชเนมัตตัญญุตา มันรวบรวมกิเลสเอาไว้ อาหารการกินนี่แหละ มันครบอยู่ในนั้นเลยนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในอาหาร
และคนไทยนี้เป็นตัวคนรู้และเป็นตัวคนหลง ปรุงอาหารเก่งฉิบหายเลย ก็คนไทยนี่แหละ หลอกชาวบ้านชาวโลกเขา แล้วคนรู้ทันอาหาร โภชเนมัตตัญญุตา ลดละกิเลสก็เป็นอรหันต์ได้ ก็เป็นเรื่องอาหารนี่แหละ เห็นไหมว่าอาหารเป็น 1 ในโลกในประเด็นนี้ เพราะฉะนั้นเรียนรู้อาหาร 4 กวฬิงการาหาร ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณาหาร คุณเรียนรู้อาหารเครื่องอาศัยของชีวิต เรียนรู้มันตั้งแต่
กวฬิงการาหาร เป็นกาม
ผัสสาหาร เป็นตัว เวทนา
มโนสัญเจตนาหาร เป็นตัณหา
วิญญาณาหาร เป็น นามรูป
อาตมาพยายามอธิบายให้ถึงสภาวะจริง เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมด้วยการกิน กวฬิงการาหาร ด้วยการอ่านนี่แหละ ตัวนี้แหละ โภชเนมัตตัญญุตา ตัวนี้แหละหลุดพ้นเป็นอรหันต์ได้ เรียนรู้ให้ดีๆ
มันมีผัสสะทางตาก็น่ากิน ทางหูก็น่ากิน แต่ก่อนนี้ประเทศนั้นเขาไม่รู้หรอกทุเรียนอร่อย ได้ยินข่าวมาว่าเดี๋ยวนี้โซเชียล โอ้โห มันส่งข่าวคราวมาบอกว่า เป็นอาหารชั้น 1 เลยทุเรียนเป็นผลไม้ชั้น 1 ซื้อได้ถึงขั้น มันขายทุเรียนกันลูกละแสน ขายได้ทำได้ อยู่ในโซนเดียวกันทำได้ อีกหน่อยเถอะตะวันออกกลางเอาทุเรียนไปปลูกได้ อีกหน่อยเขาพัฒนาก็สู้ได้ ไม่มีอะไรเหนือกว่าคนหรอก คนนี้ยอดเยี่ยมแล้ว
เพราะฉะนั้น ตาก็ดี หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รวบรวมความโง่ไว้เต็มประตู เสร็จแล้วก็ไปผัสสะมัน ถ้าไม่ผัสสะมันก็ไม่จริง ต้องมีผัสสะ มันถึงจะจริง จริงแล้วก็จะเกิดตัณหา คุณยังมีเชื้อตัณหาอยู่ในจิต สัมผัสแล้วก็เกิดอาการ คุณก็ติดมันอยู่อย่างนั้นแหละ วนเวียนอาศัยมันอยู่ หรือ คุณก็จะล้างมันได้จริง ไม่ติดก็คือล้างได้ ลดได้ๆๆ ล้าง จนกระทั่งสัมผัสอยู่ คุณก็ไม่เกิดตัณหาสัมผัสอยู่ เมื่อกิเลสมันตายสนิทมันไม่ฟื้น มันไม่เกิดแล้ว คุณก็อยู่เหนือมัน เป็นโลกุตระแน่นอน
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 37 ฌานเป็นพลังงานปัญญาล้านองศาเผากิเลส วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 สิงหาคม 2566 ( 13:43:19 )
รายละเอียด
เราแข่งกันทำพืชพันธ์ุธัญญาหารให้งามให้มีคุณค่าทางอาหาร ไร้สารพิษเป็นอาหารเป็น กวฬิงการาหาร เป็นเครื่องบริโภคของชีวิต ชีวิตเราจะอาศัยสิ่งเหล่านี้ไปจนตาย ชีวิตมีสิ่งเหล่านี้อยู่อุดมสมบูรณ์มีพออยู่พอกิน เหลือกินแจกกันอยู่อย่างนี้แหละ อาตมาว่าเป็นที่สุดของชีวิตดีที่สุดแล้วชีวิตแบบนี้ ใครจะไปหลงใหลสร้างอาวุธเข่นฆ่ากันแกงกันก็เรื่องของเขา หรือใครจะไปมีหน้าที่สร้างเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆก็อาศัยบ้าง แต่อาหารเป็นหนึ่งในโลก อาหารที่เป็น กวฬิงการาหาร เป็นหนึ่งในโลก พระพุทธเจ้าตรัสไว้ยืนยันและก็จริงที่สุดเลย เพราะฉะนั้นเราอยู่กับสิ่งที่เป็นหนึ่งในโลก เราทำให้สิ่งที่เป็นหนึ่งในโลกนี่แหละเจริญงอกงามไพบูลย์มากมายเหลือเฟือให้คนอื่นๆ คนทุกคนไม่ว่าชาติไหนศาสนาไหน อาศัย กวฬิงการาหาร อาศัยพืชพันธุ์ธัญญาหาร
มีคนอีกเยอะที่ไม่อาศัยเนื้อสัตว์กินมังสวิรัติกินเจมีอยู่ในโลกนี้เยอะไม่ใช่น้อย แต่พืชพันธุ์ธัญญาหารต้องกินทุกคน แม้คุณจะหลงกินแต่เนื้อสัตว์ เช่นคนในขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ หาพืชพันธุ์ธัญญาหารกินไม่ได้ กินเนื้อสัตว์ ชีวิตคุณก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะว่าคนไม่ใช่สัตว์กินเนื้อ อายุไม่ยืน อายุคนขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้เฉลี่ยแล้ว 20 กว่าปี มีอายุยืนยาวสูงสุด 40 ปีเอง อายุค่าเฉลี่ย 25 ปีตาย และคิดดูสิเป็นคนเกิดมาอายุ 25 ปีตาย พวกเรากำลังหนุ่มแน่นหนุ่มสาวกันเลย ถ้าจะเจริญวัยไปอีก 80 ปีก็ได้ เพราะฉะนั้นอันนี้จึงแสดงชี้บ่งให้เห็นว่าอาหารของมนุษย์คือพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่ใช่ไปหลง หรือว่าจำเป็นต้องไปตกอยู่ในขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ก็ได้กินแต่เนื้อสัตว์เพราะไม่มีพืชอยู่มีแต่น้ำแข็ง ก็เลยกินแต่เนื้อสัตว์กินปลากินเนื้อหมี มีสัตว์อื่นบ้างหรือไม่ก็ไม่รู้ อาตมาเห็นมีหมีขาวด้วยนะ เขากินปลากันตลอดเวลา
ปลาอายุยืนกว่ากินเนื้อสัตว์อื่นนะ กว่าเนื้อสัตว์ 4 ขาเนื้อสัตว์ต่างๆกินปลานี้อายุยืนกว่าด้วยซ้ำ ขนาดอายุยืนก็แค่เฉลี่ย 40 ปี นี่คือสัจจะไม่ใช่ไปใส่ความ เพราะฉะนั้นพวกเราเกิดมาไม่ได้เป็นพวกที่ถูกบังคับหรือจำนนจะต้องเป็นคนขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ เราเป็นคนอยู่ในภูมิประเทศที่เลือกได้ และก็อยู่ในภูมิประเทศที่อุดมด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารและเราก็ปลูกเป็น ทำเป็น นี่แหละทำอยู่ทำกิน ชีวิตหนอพออยู่พอกิน โอ้ เป็นคำอุทานที่ซาบซึ้งทรวงในเหลือเกินแล้วเราก็ทำสำเร็จแล้วทุกคน ยังเหลือแต่ว่าพวกที่ยังลงดินไม่ได้ ก็พยายามลงบ้างมาเป็นคนติดดินมาเป็นกสิกรแข็งขันกระดูกสันหลังของชาติ ใครก็รู้ดีว่ากสิกรผู้ปลูกผักพืชเป็นกระดูกสันหลังของชาติ
กระดูกสันหลังของชาติเป็นแกนนะ เป็นแกนของร่างกายของชีวิตด้วย และประสาทสำคัญอยู่ในนี้ ถ้ามันบกพร่องก็กลายเป็นคนพิการไป ดีไม่ดีตายได้ง่ายๆ ไปถึงสมองหัวใจอะไรอย่างนี้ตายง่าย ได้ข่าวว่ากลุ่มศรีโคตรบูรณ์จะมาปลูกแตงโมให้แล้ว ดีปลูกมาแจกกันกินเอาไปปันสุข ปลูกที่เรา ปลูกกันเป็นหลายสิบไร่บางทีเป็นร้อยไร่ปลูกแตงโม เรากินที่เดียวไม่หมดหรอก เราก็ไม่ค่อยได้ขายเราไม่ใช่นักขายเท่าไหร่เราขายบ้าง แต่ไม่ได้เลี้ยงชีพด้วยการขายพืชพันธุ์ธัญญาหารเลี้ยงชีพ มันไม่พอเลี้ยงชีพหรอก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังสาธยายธรรมจากคำถามของคนจริง วันพุธที่ 25 มกราคม 2566 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 กุมภาพันธ์ 2566 ( 13:13:43 )
รายละเอียด
อาหารนี้เป็นพระคุณ อาวุธเป็นพระเดช เราไม่สร้างอาวุธให้เสียเวลาเสียแรงงานเสียแรงกายเสียสมอง เราสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารให้ดีให้มีคุณภาพดี นอกจากคุณภาพดีแล้ว เรายังไม่หวงแหน แต่เราเอาไปแจก ใครจะเอาอะไรตอบแทนตามสิ่งที่ควร ไม่มีอะไรก็เอา Bank Note เอามาคืนก็แล้วแต่ ที่เรียกกันโดยสากลว่าการซื้อขาย ก็เอา ราคาแล้วแต่จะให้
ถ้าหากประเทศไทยเจริญถึงขนาดนั้นไม่ไปกำหนดเอาราคาคืน หรือเราเลือกจากประเทศไหนประเทศที่เราควรจะแจก ประเทศนี้ควรได้เท่านี้ ควรแจกเท่านี้ แล้วเราก็มีข้าราชการ มีผู้จัดสรรประเทศก็รับซื้อมาแล้วก็แจกเขา โอ้โห ถ้ามีพฤติกรรมอย่างนี้ประเทศไทยทำได้ขนาดนั้น สุดยอดเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 12 พฤศจิกายน 2564 ( 21:00:58 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นชีวิตที่จะต้องมีอยู่มันก็จะต้องมีความเป็น 1 ชีวิตคนที่ต้องยังชีพอยู่ต่อไป สาระก็ต้องเป็นสาระอันดับ 1 เป็นคนชั้น 1 จะเอาอย่างไรอีกล่ะ เห็นไหม นี่แหละพูดชัดๆ ที่พูดนี้จริงไหม ...จริง.. พวกเราเข้าใจกันได้
แต่ก่อนนี้เราไม่เข้าใจต้องไปนึกว่าไปหาธนบัตรต้องเป็นหนึ่ง ไปหาเพชรทองเงินก็เป็นหนึ่ง เดี๋ยวนี้ใครไม่มีเพชรยกมือ ...ยกมือกันมากเกือบหมด
ใครธนบัตรน้อยที่สุดยกมือ...(ยกมือกัน)
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก ครั้งที่ 41 อาหารเป็น 1 ในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 19:44:59 )
รายละเอียด
สัตว์ทั้งปวงดำรงอยู่ได้ เพราะอาหาร
ที่มา ที่ไป
พระไตรปิฎกเล่ม 25 "สามเฌรปัญหา" ข้อ 4
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก
เวลาบันทึก 14 มิถุนายน 2562 ( 15:39:03 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 19:11:34 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:29:12 )
รายละเอียด
สัตว์ทั้งปวงดํารงอยู่ได้ เพราะอาหาร (สัพเพ สัตตา อาหารัฏฐิติกา)
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 25 “สามเณรปัญหา” ข้อ 4
เวลาบันทึก 11 มีนาคม 2565 ( 20:18:09 )
รายละเอียด
อาหารเป็นหนึ่งในโลก อุตสาหกรรมเครื่องใช้ก็มีส่วนสำคัญเหมือนกัน เป็นปัจจัยสี่จำเป็นแก่ชีวิต แต่อาหารเป็นหนึ่งปัจจัย 4 อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย อาหารเป็น 1
ที่มา ที่ไป
วิถีอาริยธรรมบ้านราช วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 13:04:20 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:17 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:29:39 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 24 เมษายน 2563 ( 13:51:48 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:45:17 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:30:04 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 05 พฤษภาคม 2563 ( 12:07:37 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:45:31 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:31:04 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 23 มิถุนายน 2563 ( 09:18:59 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:45:58 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:40:46 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 02 กันยายน 2563 ( 14:38:52 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561
เวลาบันทึก 23 มกราคม 2564 ( 10:39:57 )
รายละเอียด
สังคมทุกวันนี้สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารนี่แหละ การคมนาคมของโลกก็ดีมากแล้วก็สร้างไป ขนไป เผื่อแผ่โลกไป การรักษาถนอมอาหารก็เก่ง ทุกวันนี้รู้วิธีการถนอมอาหาร วิธีการขนส่ง ขนส่งกันไปแพร่กันไป เพราะสิ่งเหล่านี้ สำคัญที่สุด อาหารเป็นหนึ่งในโลก กวฬิงการาหาร เป็นหนึ่งในโลกก่อนอื่น
ที่มา ที่ไป
ธรรมะรับอรุณโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันพฤหัสบดีที่ 31ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:59:31 )
รายละเอียด
อาตมามาถึงยุคนี้ ก็ยิ่งเห็นความชัดเจนว่า อาหารนี่แหละเป็นหนึ่งในโลก ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสจริงๆ มันเป็นเรื่องของมนุษยชาติ ที่จะต้องเลือกเฟ้นแล้วก็สร้างสรรค์เอามาพึ่งพาตนเองเลี้ยงตนเอง พึ่งพาแต่ธรรมชาติไม่พอ ธรรมชาติก็เกิดเองได้ แต่ว่าไม่ทันคนกิน คนนี่เป็นนักสวาปาม กินจริงๆ ไม่ทันไม่พอคนกิน คนไม่ทำมันเยอะกว่าคนทำ
เมืองไทยนี้ แต่เดิมมาเป็นกสิกรรม เป็นนักกสิกรรม เป็นกสิกร แต่เดี๋ยวนี้ไปเป็นอาชีพที่ตามโลกเขา Export มา เขาสั่งมา ไปมีอาชีพตามเขา ต่างๆเยอะแยะหลากหลาย แต่คนมาทำกสิกรรมในเนื้อที่แผ่นดินไทย ซึ่งยังมีอีกเยอะนะที่จะทำกสิกรรมต่างๆขึ้นมาให้อุดมสมบูรณ์ เลี้ยงโลกได้ เพื่อเลี้ยงประชากรโลกได้อย่างดี แต่คนก็ยังไม่เห็นความสำคัญ
ถ้าเมื่อใด คนไทย ชาวไทยเห็นความสำคัญของกสิกรรม มันยิ่งใหญ่มาก แล้วก็เปลี่ยนอาชีพ ที่แม้แต่เป็นนางฟ้า อย่างเช่น นี่นางฟ้าพิมพ์เพชรรุ้ง เป็นชาวฟ้าเป็นแอร์โฮสเตส ก็ลงมายินดีในเรื่องกสิกรรม แล้วตอนนี้สารภาพเองว่า ตอนนี้ตัวเองลงมาทำสวนทำไร่ทำนาทำพืชพันธุ์ธัญญาหาร กับหมู่กับฝูงพวกเรา
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้โลก 9 แบบ จนเป็นมนุษย์พืชมหัศจรรย์ วันพุธที่ 19 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2565 ( 04:58:41 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 14:22:13 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:46:11 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:36:37 )
รายละเอียด
ดี คือ ความรู้สึกของคน ปัญญา ความเฉลียวฉลาดของคน รู้อะไรคือความมีค่า อะไรคือความประเสริฐ คนที่รู้สาระสัจจะแท้ๆ ของชีวิต โดยชีวิตของความเป็นคน พระพุทธเจ้าตรัสว่าอาหารเป็นหนึ่งในโลก โดยเฉพาะกวฬิงการาหาร คือ สิ่งที่กินเข้าไปเลี้ยงขันธ์ เป็นหนึ่งในโลก เพราะฉะนั้นคนประเสริฐ คนที่มีภูมิปัญญาดีจะรู้ว่าชีวิตของมนุษย์นี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ คำข้าว คือสิ่งที่จะกิน พืชพันธุ์ธัญญาหาร นี่คือยอดทรัพย์สินของมนุษย์ สัตว์เดรัจฉานสัตว์โลก เสือก็กวางเป็นอาหารยอดของมันคือสัตว์กินสัตว์ งูก็ต้องกินเขียดสัตว์เล็กสัตว์น้อย แต่คนนี้กินพืช พืชเป็นทรัพย์จริงๆเลย พระพุทธเจ้าตรัสว่าข้าวเปลือก คือ พืช ไม่ใช่สัตว์ ข้าวเปลือกเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง อาหารเป็นหนึ่งในโลก
ท่านเน้นยอดของพืชคือข้าว คนกินข้าวเป็นหลัก ในพืชพันธุ์ธัญญาหารก็มีข้าวเป็นหลัก มันจะมีธาตุอาหารครบมากกว่าอะไร ข้าวเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง ท่านไม่ได้บอกว่าทองคำเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง หรือว่ายุคนี้ท่านไม่ได้บอกว่า ธนบัตรเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง ไม่ใช่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 24 วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 17:48:26 )
รายละเอียด
สำทับ คนที่กินที่ใช้ได้มีกินมีใช้ก็อย่าเห็นแก่ตัวเอาแต่แบมือขอรับกินรับใช้จากผู้ที่เขาเฉลี่ยให้ถึงมือ ให้เป็นคนเจริญบ้างเป็นคนประเสริฐเป็นคนมีคุณค่าบ้าง คนมีคุณค่าคือเป็นคนที่สร้างสรรเป็นคนที่ลงมือทำ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ปลูก ผลิตทำสิ่งที่กินใช้เป็นหนึ่งในโลกอาหารเป็นหนึ่งในโลก อะไรก็ช่วยไม่ได้ทองคำก็สู้ไม่ได้ เพชรนิลจินดาก็สู้ไม่ได้อาวุธหรือน้ำมัน เทคโนโลยีราคาแพงต่างๆมันก็สู้อาหารพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่ได้ สู้ไม่ได้
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 10:57:56 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:46:24 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:32:09 )
รายละเอียด
เมืองไทยมีแดดมีฝนมีลมอากาศที่พร้อมต่อกสิกรรม เราจึงทำสิ่งที่ลงตัวต่อภูมิประเทศของเรา คนไทยมาเป็นชาวกสิกรรมกันเถิด มาเป็นผู้สร้างผลผลิตทางพืชพันธุ์ธัญญาหารให้ดีให้ได้มาก ส่งแจกจ่ายชาวโลกกินใช้ ชีวิตก็ไปได้แล้ว ส่วนเรื่องของเครื่องใช้เทคโนโลยี เราไม่เก่งก็ไม่เป็นไร เราก็เป็นไปพอได้อาศัยเขาไป แต่อันนี้มันเป็นความสำคัญ อาหารเป็นหนึ่งในโลกยิ่งกว่าอุตสาหกรรม พวกเราถูกต้องแล้วที่มาทำ
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 10:08:34 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:29:09 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:33:38 )
รายละเอียด
เมืองไทยหลายๆอย่าง แต่อันนี้จะยอดเลย อาตมายิ่งเห็นไปในข้างหน้าเลย พระพุทธเจ้าตรัสว่าอาหารเป็นหนึ่งในโลก มันจริงที่สุด สัจจะความจริงที่เลี่ยงไม่ได้ ใครจะมาล้มล้างเปลี่ยนไปจากความจริงนี้ไม่ได้เลย อาหารเป็นหนึ่งในโลก โดยเฉพาะความเป็นมนุษยชาติ ต้องมีปัญญารู้อันนี้จริงๆ พยายามทำอาหารให้เป็นธรรมาวุธก็ได้ เรียกอาวุธก็ได้ ขึ้นมาให้แก่โลกเลย แล้วเรายิ่งศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้า ยิ่งจิตใจไม่มีตัวตน ไม่หวง ไม่แหน มีแต่จิตใจเกื้อกูล เอื้อเฟื้อเจือจาน ช่วยเหลือ เป็นจริง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โพชฌงค์ 7 สัปปุริสธรรม 7 โดยพิสดาร วันพุธที่ 14 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 เมษายน 2564 ( 18:33:57 )
รายละเอียด
โอ้โห! นี่เจ้าผักกาดใช่ไหมนี่ ผักกาดหอมหรือนี่ หัวมันใหญ่กว่ากะหล่ำปลีอีก
พูดถึงเรื่องพืชพันธุ์ธัญญาหาร อาตมาก็ชื่นชมชื่นใจว่า พวกเรารู้จักว่าอาหารเป็นหนึ่งในโลก แล้วก็สำคัญในสิ่งที่สำคัญ รู้จักสาระในสิ่งที่เป็นสาระ ก็ช่วยกันทำขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้มันเหมือนประชด ปลูกอะไรก็งาม ปลูกอะไรก็สวยหัวใหญ่หัวโตใบใหญ่ใบโต มันดูง่ายๆไปหมดเลยนะ คนไม่เคยปลูกก็สวยเมื่อมาปลูกที่นี่ แต่ปลูกที่บ้านไม่ได้อย่างนี้นะ ปลูกที่นี่พืชพันธุ์ธัญญาหารแต่ละอย่างมันอุดมสมบูรณ์มันสดมันสวยมันใหญ่มันงามมันโต ทุกอย่างมันน่ากินไปหมด นั่นก็เป็นเรื่องของผู้ที่รู้แล้วมาเห็นความสำคัญมาร่วมมือกัน อย่าว่าแต่ต้นใบพืชพันธุ์ธัญญาหารที่กินเลยนะ แม้แต่ไม้ที่ต้องมีดอก แม้แต่ที่สุดไม้ดอกที่ลูกมันไม่ได้เอาไว้กิน อย่างดอกมะลิดอกกุหลาบที่เอามาประดับก็งามใช้ได้ แต่พวกเราไม่ค่อยเอาเรื่องเอาราว มีบ้างคนที่เอามาปักปลูกบ้างนิดหน่อย ก็เลยมีบ้าง ก็ไม่เป็นไร คนที่อาศัยเรื่องนี้มีเล็กน้อย อาตมาทุกวันนี้เขาเอาดอกกุหลาบโรยข้าวแช่มาก็กิน อาตมาก็ฉัน ดอกดาวเรืองอาตมาก็ยังเคยฉันเลยมันเหม็นเขียว กุหลาบมันไม่เหม็นเหมือนอย่างดอกดาวเรือง ดอกเหลืองไม่หยุดดอกทองอุไรอาตมาก็กิน เอามาก็กิน เขาลองกันก่อนว่าฉันได้จึงเอามาให้อาตมา แต่ไม่รู้ว่ามีที่ให้อาตมาลองก่อนไม่ได้เดี๋ยวเจอไซยาไนด์ แต่คงจะไม่มี บารมีคงจะไม่ซวยถึงขนาดนั้นหรอกนะ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศนาวันมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 15:12:19 )
รายละเอียด
อาตมาพยายามอธิบายให้พิสดารลึกซึ้งซับซ้อนให้เห็นชัดเจน อาหาร 4 นี้ ถ้าเรียนอาหาร 4 นี้เป็นอรหันต์ ไม่ต้องเอากรรมฐานอื่นให้มากกว่า เรียนรู้ในอาหาร 4 แท้ๆก็คืออาหารกินข้าว คำข้าว อาหารที่เคี้ยวกลืนกินทุกวัน ถ้าเป็นนักบวชก็ได้กินวันละ 1 มื้อได้พิจารณาวันละครั้ง แต่เป็นฆราวาสนี้จะทนดูไปได้ตลอดเลย มันเป็นอุปกรณ์ในการปฏิบัติธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนมีทุกคนจะต้องเผชิญทุกคนไม่มีใครละเว้นไม่มีใครจะไม่มีการไม่กินอาหาร ต้องกินอาหาร แม้คุณบรรลุอรหันต์แล้วคุณก็ยังต้องกินอาหารเลย แต่หมดกิเลส
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้ อาหาร ให้บรรลุถึง อรหันต์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:46:22 )
รายละเอียด
เครื่องอาศัยพวกนี้ หรือจะขยายให้ยาวไปเลย ในอวิชชาสูตร
นิวรณ์เกิดจากอวิชชา
1. อวิชชา มีอาหารอาหารของอวิชชา คือ นิวรณ์ 5
2. นิวรณ์ 5 มีอาหาร คือ ทุจริต 3
3. ทุจริต 3 มีอาหาร คือ การไม่สำรวมอินทรีย์
4. การไม่สำรวมอินทรีย์ มีอาหาร คือความขาดสติสัมปชัญญะ
5. ความขาดสติสัมปชัญญะ มีอาหาร คือความขาดโยนิโสมนสิการ
6. ความขาดโยนิโสมนสิการ มีอาหาร คือความขาดศรัทธา
7. ความขาดศรัทธา มีอาหาร คือการไม่ได้สดับสัทธรรม
8. การไม่ได้สดับสัทธรรม มีอาหาร คือการไม่ได้เสวนาสัตบุรุษ
การไม่ได้เสวนาสัตบุรุษอย่างบริบูรณ์ย่อมยังการไม่ได้ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้ อาหาร ให้บรรลุถึง อรหันต์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:15:52 )
รายละเอียด
อันนี้จะยิ่งใหญ่ อาหาร ภาษาบาลีว่า อาหาระหรืออาหาร แปลว่า เครื่องอาศัย
อาหารคำข้าวที่กินเคี้ยวเข้าไป เรียกว่า กวฬิงการาหาร กินเข้าไปเลี้ยงขันธ์ร่างกายชีวิตเราให้เจริญ ให้มันอยู่ได้ เรียกว่า กวฬิงการาหาร
อาหารเรียกว่าเครื่องอาศัยที่เป็นวัตถุ บ้านช่องเรือนชาน เครื่องนุ่งห่ม
อาหารอีกอย่างแม้ว่าเป็นยารักษาโรค ที่กินด้วย ทาด้วย เดี๋ยวนี้มีทุกอย่างฉีดด้วย มีอบด้วยก็ได้ เยอะแยะสารพัด ก็คือยาที่จะช่วยรักษาชีวิตให้อยู่ดี หรือสิ่งที่อาศัย อาหารรวมถึงเครื่องอาศัยอื่นๆ คอมพิวเตอร์ก็เป็นอาหาร แว่นตาก็เป็นอาหาร สำหรับความเหมาะสมความจำเป็น กระดาษ ปากกา ถ้วยโถโอชาม
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 26 ทำปาฏิหาริย์ให้ชีวิตมีค่า สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ วันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:44:17 )
รายละเอียด
คุณเข้าใจถูกต้องแล้วดีมาก ขยายความแทนอาตมาไปได้อย่างดีมากทีเดียว เพราะฉะนั้นผู้ที่ฟังอยู่ก็คงมีปฏิภาณปัญญาพอจะเข้าใจได้ดีว่า ผลผลิตที่เราเอามาโชว์ เป็นเจตนาโชว์จริงๆ เจตนาแสดงออกให้เห็นว่านี่แหละเป็นของที่ควรทำ แล้วอาตมาก็พยายามเร่งรัดพัฒนา พยายามที่จะส่งเสริม พยายามจะปลุกเร้ากัน ให้ทำกสิกรรมธรรมชาติ กสิกรรมไร้สารพิษ ให้เจริญ ให้ล้น ให้เกิน ให้เหลือเฟือเลยในประเทศไทย แล้วเราจะได้แจกจ่ายออกไป
เพื่อจะพิสูจน์คำว่า อาหารเลี้ยงโลก อาหารนี่แหละเป็นหนึ่งในโลก ที่คนมีอาหารเป็น กวฬิงการาหาร ต้องจำกัดความตรงนี้ด้วยเพราะมันจะมี ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณาหาร จะไม่ลงลึกในอาหาร 4
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนถือศีล 5 ได้ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 มกราคม 2565 ( 10:52:30 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 15:25:26 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:03:41 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:35:08 )
รายละเอียด
อาหารที่อาตมาปรุง เป็นพ่อครัว อาหารที่อาตมาปรุงให้พวกเรารับประทานทุกวันนี้ มันเป็นอาหารที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้แล้วค้นพบ ที่แท้จริง เป็นอาหารที่ยิ่งใหญ่ อาหารนี้ อาตมาระลึกถึงอยู่แค่ 2 สูตร
สูตรหนึ่งคือ ปุตตมังสสูตร ซึ่งแบ่งอาหารเป็น 4 กับอีกสูตรหนึ่งก็คือ อวิชชาสูตร ก็มีอยู่ 10 เหตุปัจจัย
ตั้งแต่อาหาร ที่คนเรารับประทานเข้าไปคืออวิชชา โดยความไม่รู้ อวิชชาแปลว่าความไม่รู้ แล้วก็รับประทานอวิชชาเป็นความไม่รู้กันไปตลอดเวลา รับประทานในแต่ละวันๆ มีแต่อวิชชา พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ผู้ที่ได้อวิชชา อวิชชามันยังมีอาหาร ไม่ใช่ไม่มีอาหาร ท่านตรัสอย่างนั้นเลย
อาหารของอวิชชาคือนิวรณ์ 5 นิวรณ์ 5 เป็นอาหารอันเอร็ดอร่อยของ อวิชชา เจ้านี่ รับประทานอาหาร รับประทานนิวรณ์ 5 เป็นอาหาร สำคัญแต่ละวันแต่ละวันรับประทานแต่นิวรณ์ 5
นิวรณ์ 5 ก็มีอาหารอีก อาหารของนิวรณ์ 5 คือทุจริต 3 กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เป็นอาหารของนิวรณ์ ง่ำๆ กินอาหารแต่ละวันทั้งกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต อาหย่อยๆ
ทุจริต 3 ก็มีอาหาร คือการไม่สำรวมอินทรีย์ 6 ไม่รู้จักอินทรีย์ 6 ไม่สำรวมอินทรีย์ 6 นี่เป็นอาหารของทุจริต 3 สำคัญนะการไม่สำรวมอินทรีย์ 6 อยู่ใน อปัณณกปฏิปทา 3 ก็สำรวมอินทรีย์ 6 หากไม่สำรวมอินทรีย์ 6 โภชเนมัตตัญญุตากับชาคริยานุโยคะก็เสร็จ
หรืออยู่ในสัมมัปปทาน 4
1. สังวรปธาน 2. ปหานปธาน 3. ภาวนาปธาน 4. อนุรักขนาปธาน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้โลก 9 แบบ จนเป็นมนุษย์พืชมหัศจรรย์ วันพุธที่ 19 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2565 ( 04:37:12 )
รายละเอียด
ปัญญาพระพุทธเจ้าทั้งแยกเป็น 2 ข้อเลยนะ คบสัตบุรุษแล้วคุณก็ทำเฉยเมยไม่เข้ามาใกล้ ไม่เข้ามาไต่ถามเหมือนปัญญาข้อที่ 2 คุณก็ไม่บริบูรณ์ด้วยองค์นั้น พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่า การคบสัตบุรุษโดยบริบูรณ์ ก็จะได้ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์
1. การคบสัตบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์
2. การฟังสัทธรรมบริบูรณ์ ย่อมทำศรัทธาให้บริบูรณ์
3. ศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมทำมนสิการโดยแยบคายให้บริบูรณ์
4. การมนสิการโดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ ที่จะรู้ทันผัสสะ รู้ทันเวทนา
5. สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้ความสำรวมอินทรีย์บริบูรณ์
6. ความสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สุจริต 3 บริบูรณ์ คือ กาย วาจา ใจ เลิกทำการงานทุจริต
7. สุจริต 3 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สติปัฏฐาน 4 บริบูรณ์
8. สติปัฏฐาน 4 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้โพชฌงค์ 7 บริบูรณ์
9. โพชฌงค์ 7 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้วิชชาและวิมุติบริบูรณ์ (อวิชชาสูตร พตปฎ. เล่ม 24 ข้อ 61)
มันเป็นเหตุเป็นปัจจัยกันจริงๆ เลย ชัดเจนมาก นี่อาหารในอวิชชาสูตร ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัส
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชีวิตหนอพออยู่พอกิน เพราะมีอาหาร 4 วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 แรม 10 ค่ำเดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2565 ( 21:01:18 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 05 พฤษภาคม 2563 ( 11:52:04 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:46:37 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 06:39:31 )
รายละเอียด
สรุปแล้วอาหารของคนไทยเป็นอาหารง่ายๆ นอกจากกินง่ายแล้วสารพัดการปรุงแต่งอะไรก็ปรุงแต่งมาเป็นอาหารได้ง่ายๆไม่น่าเชื่อว่า ปาปาย่าป๊อกป๊อก ส้มตำนี้จะเป็นอาหารหลักใหญ่ที่จะเป็นอาหารดังไปทั่วโลกหรือส้มตำมะละกอ มะละกอนะไม่ใช่เอา ส้ม ตำ มะละกอนะ ส้มตำอย่านึกว่าเอาลูกส้มเขียวหวานส้มโอมาตำแต่นี่เอามะละกอมาตำ แล้วเขาวิจัยแล้วด้วยนะ ส้มตำนี้เป็นอาหารที่มีคุณค่าอาหารครบพร้อมในความจำเป็นของร่างกายดีมากเลยอันนี้เพราะฉะนั้นจึงได้กระจายไปทั่วโลกง่าย
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 10:45:55 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:46:52 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:34:28 )
รายละเอียด
เจริญอาหารปฏิกูล ต้องพยายามเตือนตนให้ใช้สติปรุงปัญญาให้เห็น-แจ้งในอาหารเป็นของไม่น่าชื่นชม ไม่ใช่สิ่งเอร็ดอร่อยอะไร มันเป็นเพียงธาตุ
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 229
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:18:55 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:53:19 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 06:39:53 )
รายละเอียด
พรั่งพร้อมแล้ว , กองแล้ว , ติดแล้ว , เป็นแล้ว
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 155
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:18:02 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:54:06 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:41:12 )
รายละเอียด
ผู้ควรแก่ของคำนับ [มีคุณงามความดีสมควรแก่การเคารพการนับถือเชิดชูบูชา ควรแก่การที่ประชาชนจะนำของมาถวายแม้จะยากลำบาก จะต้องเดินทางมาจากทางไกล]
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 173
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:17:09 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:54:55 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:41:38 )
รายละเอียด
อาเทศนาปาฏิหาริย์ก็เก่งมหาศาลอีกนั่นแหละ แต่ไม่ใช่คน ใช้เครื่องพวกนี้ จิ้มๆ โอ้โห เป็นสิ่งที่ละเอียด ลอยไปกับอากาศปุ๊บปั๊บ ทั้งเร็วทั้งไว บันทึกก็ไว นิดเดียวบันทึกไว้เต็มโลกเลย เรียกว่า อาเทศนาปาฏิหาริย์ เป็นเรื่องที่ไม่เห็นเป็นรูปธรรมเหมือนอิทธิปาฏิหาริย์ เดี๋ยวนี้ก็เก่งกันมาก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 25 ปาฏิหาริย์ของคนจนมหัศจรรย์ วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 26 พฤษภาคม 2565 ( 18:07:26 )
รายละเอียด
มหัศจรรย์ทางด้านความเป็น อาเทศนาปาฏิหาริย์ เป็นนามธรรมเป็นอรูป ถ้าจะเอานามธรรมจริงๆ ต้องเอาอย่างอนุสาสนีปาฏิหาริย์ อาเทศนาปาฏิหาริย์เป็นอรูป ที่เรานึกไม่ถึง มันเป็นไปได้ อย่างคนที่มีอาเทศนาปาฏิหาริย์หยั่งรู้คนที่ทำของหาย คนนี้มีอะไรลึกลับอะไรก็ทายถูกต่างๆนานาพวกนี้เรียกว่า อาเทศนาปาฏิหาริย์ มันก็เก่ง คนเป็นไม่ได้ง่ายๆ แต่มันมีคนที่ทำได้น้อย ส่วนมากเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องหลอกกัน อิทธิปาฏิหาริย์ทำไม่ได้เลยเหาะเหินเดินบนน้ำ ดำดิน เนรมิตอะไรเป็นรูปธรรมมันเป็นไปไม่ได้แล้ว นอกจากจะเก่งอย่างอื่นใช้พลังงานวัตถุอย่างแท้จริง
ส่วนจิตหรืออรูปนั้น ก็โกหกเสียเยอะ จะมารู้รายละเอียดลึกลับอะไร ทายของหาย ทายวิญญาณ ทายนู่นทายนี่ หลอกกันเสียเยอะ ด้วยความไม่รู้ก็หลอกกันเต็มไปหมด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 25 ปาฏิหาริย์ของคนจนมหัศจรรย์ วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 26 พฤษภาคม 2565 ( 18:15:31 )
รายละเอียด
1. ผู้มีความเก่งทางใจ ดักรู้ความคิดของผู้อื่นว่าเขาคิดยังไง
2. การสามารถทายใจผู้อื่นได้เป็นอัศจรรย์ เป็นความสามารถหยั่งรู้-จิตใจของผู้อื่น ล่วงรู้ใจคนอื่น
3. การทายใจ การหยั่งรู้ใจของคนอื่น
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 462 ,อีคิวโลกุตระ หน้า 28,29
อีคิวโลกุตระ หน้า 223 ,ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 108
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:23:24 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:56:35 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:42:55 )
รายละเอียด
ส่วนอาเทสนาปาฏิหาริย์นั้นเป็นนามธรรม สามารถที่จะทายของหายก็ได้ สามารถที่จะใช้อำนาจทางจิต (เสกตะปูเข้าท้อง เป็นอิทธิปาฏิหาริย์ )คือ รู้ของหายก็ได้ ทายใจคนก็ได้ ทายใจสัตว์ก็ได้ รู้แต่สิ่งลึกลับที่เป็นนามธรรม นี่เรียกว่า อาเทสนาปาฏิหาริย์
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนถือศีล 5 ได้ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 มกราคม 2565 ( 14:04:00 )
รายละเอียด
1. ทำความคุ้นเคย หรือทำซ้ำ ๆ
2. เสพ
3. การติดตาม , การอยู่ร่วม , การคบคุ้น
4. ซ้ำไปซ้ำมา หรือเสพคุ้นในการฝึกฝน
หนังสืออ้างอิง
อีคิวโลกุตระ หน้า 253 , ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 131 , อีคิวโลกุตระ หน้า 170
อีคิวโลกุตระ หน้า 166 , ป่ากับพุทธศาสนา หน้า 67
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:24:11 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:58:35 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:42:15 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 27 มีนาคม 2563 ( 12:20:16 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 11:06:13 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 06:40:48 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2561
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 19:12:12 )
รายละเอียด
เมื่อกี้จะอธิบายคำว่า อาเสวนา ภาวนา พหุลีกัมมัง อาเสวนา แปลว่า คบคุ้น ต้องไปหากัน ไปคุยกัน แล้วก็ต้องปฏิบัติให้เกิดผล ด้วยความภาวนา เขาผิดเพี้ยนคำว่า ภาวนา แปลว่าการปฏิบัติ ที่จริงภาวนาแปลว่า ผล ทำให้เกิดผล มีผล ทำให้เกิดผลและก็มีผลเกิด เรียกว่า ภาวนา เป็นภาวะเป็นการปรากฏ เป็นปรากฏการณ์ที่มันเกิดจริง อาเสวนา ภาวนา คบคุ้นสิ่งที่เราเห็นว่าดีแล้ว แล้วเอามาศึกษาปฏิบัติก็คือภาวนา ปฏิบัติให้เกิดผล
แล้วเขาเข้าใจผิดคำว่าภาวนา ไปภาวนาคือไปนั่งหลับตา ก็จบเห่เลย และแถมพหุลีกัมมังคือทำให้มาก เขาก็นั่งหลับตาให้มากๆๆ เขาก็เลยไปจมอยู่ในมิจฉาทิฏฐิเป็นมิจฉาผล ถึงน่าสงสารดึงไม่ออกเลย อาตมาเช้าแทงด้วยหอก 100 เล่ม กลางวันแทงด้วยหอก 100 เล่ม เป็นหอกปาก ของอาตมา ตอนเย็นแทงอีก 100 เล่ม เขาก็เฉย ฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย ชีวิตของผู้ทำลายศาสนา ผู้มีโทษผู้มีความผิดที่พระราชาให้เอาไปฆ่าเสีย อยู่ก็เป็นบาปมาทำลายศาสนา เอาไปฆ่าให้ตายเสียหมด ฆ่าด้วยหอก 100 เล่มด้วยปากหอกเขาก็เฉย ฆ่าด้วยหอก 100 เล่ม กลางวันด้วยปากหอกเขาก็เฉย แล้วตอนเย็นอีก 100 เล่มเขาก็เฉย สู้ๆ โพธิรักษ์ ไม่ยอมจำนนหรอก อาตมา หอกหมดเท่าไหร่ก็ทำหอกออกมาใหม่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้ถึงปัญญาวิมุติ
วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 14 มกราคม 2566 ( 11:17:44 )
รายละเอียด
อาเสวนา คือ การทำซ้ำที่ทำได้ เพื่อให้เกิดผลเป็นโลกุตระอย่างเคยได้
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562
เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 12:46:54 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:29:50 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:43:19 )
รายละเอียด
สสารที่เหลว และไหลไปมา ไม่ใช่หมายถึงแต่เพียงน้ำจริง ๆ แท้ ๆ ที่เราใช้อาบ ใช้ดื่มเท่านั้น
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 54
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:13:51 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:59:31 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:43:40 )
รายละเอียด
1. น้ำ
2. ธาตุน้ำ
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 5 ,ทางเอก ภาค 2 หน้า 48 ,ทางเอก ภาค 3 หน้า 107
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:12:29 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:00:55 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:44:17 )
รายละเอียด
แสงสว่าง
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 143
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:37:47 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:01:31 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:44:34 )
รายละเอียด
แปลว่า แสงสว่าง
ที่มา ที่ไป
630809
เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 15:10:25 )
รายละเอียด
คือมีแสงสว่างของโลกอยู่
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2562 ( 13:28:24 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:30:33 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:44:51 )
รายละเอียด
คือ “โลก”ที่มีแสงสว่างของพระอาทิตย์ ซึ่งคน ใน“โลก”ตามที่ว่านี้ได้ใช้สอยแสงพระอาทิตย์นี้เห็นอะไรๆทำ ประโยชน์ได้ จึงเรียกว่า“อาโลก” หรือหมายถึงว่าเป็น“โลก”อีก ชนิดหนึ่ง ที่มีแง่แตกต่างกันไปเป็น“โลก”อื่น เป็นมิติอื่นๆ เช่น ถ้าเป็นนามธรรมก็หมายถึง ความเห็นแจ้ง ถ้าเป็นคนก็หมายถึง เปิดตาเห็นได้ ไม่ใช่ตาบอดเลย
หนังสืออ้างอิง
คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 422
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:01:21 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:31:31 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:45:14 )
รายละเอียด
อาโลก หมายถึงแสงสว่างโลกที่ครบบริบูรณ์ คนที่ไม่มีแสงสว่างจะรับรู้โลกไม่เต็มที่ ถ้าเรามีแสงสว่างมีการรับรู้ได้ก็จะศึกษาได้เต็ม พระพุทธเจ้าสอนว่าจะต้องมีจักษุญาณปัญญาวิชชาแสงสว่างต้องมีอาโลก แต่เขาก็งมงายหลอกหลับตาหนีจากคำสอนพระพุทธเจ้าไปไกลจากวิเวก ไปงมงายจมอยู่ในถ้ำ
อาโลก คือแสงสว่างเปิดหูเปิดตารับรู้และปฏิบัติศึกษาอย่าไปหลับตา นั่น เท่านั้นแหละ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 13:39:27 )
รายละเอียด
โลกที่มีอากาศกว้างใหญ่ไพศาล มีชีวิต มีวิญญาณซ้อนแฝงในโลก มี-ลักษณะรับรู้สัมผัสว่าเป็นอย่างนี้ คือพวกทิ้งวัตถุปกรณ์เด็ดขาด ไม่มีรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสกายจริง ๆ เป็นพวกทำความรู้สึกอยู่กับความไม่มี
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 455
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:35:35 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:02:23 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:45:39 )
รายละเอียด
Force คือ อำนาจจากการกดขี่ ข่มเหง บีบบังคับ ใช้อำนาจแบบยัดเยียด
Authority คือ อำนาจจากการสร้างความดีขึ้นมาใช้เป็นอำนาจที่ผู้คนยินยอมยกให้โดยสาธุการ
Kenetic คือ พลังงานเคลื่อนไหว ให้อำนาจตรง
Potential คือ พลังงานแฝง ให้อำนาจเสริมที่นิ่งมั่น
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2562 ( 21:45:02 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:32:08 )
รายละเอียด
คนที่เกิดมาทุกวันนี้ไม่รู้โลก ไม่รู้ทันโลก แล้วจะอยู่เหนือโลกอย่างไรไม่รู้ จะอาศัยอาหารอย่างไรถ้ามีความรู้ว่าเราอาศัยอย่างนี้จะได้ดี คนนั้นก็อยู่รอดอยู่ดี อยู่อย่างเจริญอยู่อย่างประเสริฐ แต่ถ้าไม่รู้ก็อยู่อย่างไม่ดีไม่เจริญไม่ประเสริฐ ยิ่งเข้าใจผิด อย่างคุณทักษิณอย่างธัมมชโยก็เข้าใจผิด หรืออย่างโดนัลด์ทรัมป์ เข้าใจว่าจะมีอำนาจจะร่ำรวยที่สุดในโลก จะยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ก็เลยไปกันอย่างที่เห็น หลงทาง หรือคนที่มุ่งหมายไปร่ำรวยไปแย่งชิงไปเอาเปรียบเอารัด รวย รวย รวย ก็คือไม่รู้ว่าตัวเองทำกรรมที่มันเป็นกรรมชั่ว เขาก็ปฏิบัติประพฤติไปในทางชั่ว ฟังดีๆ ฟังภาษาไทยแล้วใครยังเป็นยังรู้สึกว่าเรายังมีอาการอย่างนั้นลักษณะพฤติกรรมอย่างนั้นให้รู้สึกตัว แล้วเลิกลดละ สะพัดออก มีชีวิตเป็นคนจน เหมือนอย่างพระพุทธเจ้า เกิดมาก็มีบัลลังก์เป็นลูกกษัตริย์ก็ไม่เอา ทิ้งมาเลยทันที ท่านมีบารมีขนาดนั้น ถ้าเราไม่มีบารมีขนาดนั้นคงจะทิ้งได้ยาก แต่คนที่มีบารมีแล้วก็สบายๆไม่ได้ติดยึดอะไร
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 25 มกราคม 2563 ( 11:50:59 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:32:55 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 17:02:43 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 05 เมษายน 2563 ( 12:04:23 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 11:07:50 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 06:41:23 )
รายละเอียด
คือ คำว่ากาย ต้องมีภายนอก ขาดภายนอกไม่ได้ แต่นามเป็นหลักคำว่า กายนี้ ขาดธาตุรู้ไม่ได้เลย แต่ต้องมีภายนอก มี สอง ต้องร่วมกับภายนอก แต่นามเป็นหลัก เป็นใหญ่ เป็นประธาน นามเก่งที่สุด จะควบคุม ทางวัตถุทั้งหมดเลย ซึ่งศาสนามีจิตวิญญาณเป็นใหญ่ เราสามารถควบคุมและสร้างจิตวิญญาณของเราให้มีอำนาจ วสวัตตีโก ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ และมีเจตนาดี ไม่เป็นไปนางร้ายเลย เป็นจิตที่ได้สร้างไว้ดีที่สุด เป็นธาตุจิตของมนุษยชาติ เป็นพระอรหันต์ขึ้นไป ก็จะทำได้ และจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ อาตมาเองก็ยังจะต้องทำให้สูงขึ้นไปได้อีก เป็นโพธิสัตว์ระดับ 8 และ ระดับ 9 อาตมาระดับ 7 จึงสามารถอธิบายประสิทธิภาพของวสวัตตีโก ได้เท่าที่มีความรู้ อาตมาก็ไม่ได้หลงระเริงว่าตัวเองก่ง ขนาดควบคุมจิตได้เก่ง หมดแล้ว นี่ไม่ได้ถ่อมตัวนะ แต่พูดตามความเป็นจริง เรียกตามพยัญชนะว่า โคจระ หรือ วิสยะ มี 5 อย่าง เกิดจาก ปสาทรูป กับ อวัยวะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย กับ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ข้างนอก มาสัมผัสภายนอก กับจิต ต้องรวมกันกับกาย แยกกันไม่ได้ แยกกันไม่รู้เรื่อง
ที่มา ที่ไป
พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2562 ( 12:35:50 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:34:07 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:37:41 )
รายละเอียด
ยังไม่เคยมีมาในโลกเลยที่ประชาชนจะปฏิบัติได้อย่างสงบซื่อสัตย์จริงใจ เอาความจริงเข้ามา ยาวให้เป็นเย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆทั้งหมด นอนกลางถนนมาเป็นปี มีแต่พวกนั้นที่มายิงมาทำร้าย พวกเราไม่ได้ไปยิงไปทำร้ายเขาเลย มีพวกเราบางคน มือปืนป๊อปคอร์น ก็มาช่วยในวาระนั้น ก็เลยต้องรับวิบากไป ก็น่าสงสารเขา เขาก็มาช่วยพวกเราไม่ได้ไปช่วยรัฐบาลแต่ด้วยหลักเกณฑ์อะไรก็ถือว่าเป็นวิบากของเขาแต่ก็ถือว่าเขาได้ทำดี โดยวิบากกรรมไม่ได้เสียหาย เป็นความซับซ้อนที่ไม่เคยมีมาเลย
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2562
เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 19:05:56 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:35:02 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:38:49 )
รายละเอียด
อำนาจของลาภ หรือ ข้าวของเงินทองในโลก
ลาภ คือสิ่งที่ได้มา พอได้มา เป็นข้าวของเงินทองเรื่องของความหยาบ คนก็หลงมัวเมาอยู่ในข้าวของเงินทองในโลกอย่างเช่นธัมมชโย หลงลาภ ข้าวของเงินทอง เสียเวลาให้คนมาหลงแล้วก็ใช้เงินทองนี้บำเรอตัวเองตามชอบ เอาไปปู้ยี่ปู้ยำ ทำไปเรื่อยสารพัด ก็ ไม่รู้ว่าตัวเองสอนอะไร สอนเฟ้อหลงงามหลงใหญ่มโหฬารเป็นเจ้าโลกจะแพร่หลายไปทั่วโลกเพื่อจะดูดเงินมาและถ้าเผื่อธัมมชโยอายุสัก 500 ปีแล้วไม่ถูกสกัดไปก่อน ก็คงจะสร้างให้มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ ยิ่งกว่าสตาร์วอร์ ยิ่งกว่า Harry Potter จะเป็นพวกวิตถารประหลาดอะไรไป Star Wars ออกไปนอกโลกเจอมนุษย์เจอสัตว์ต่างๆ คิดไปฝันเพ้อไป ทางด้าน Harry Potter ก็ไปต่างๆนานามีคาถาอาคม ฤทธิ์เดชเลอะเทอะไป เขาคิดได้อย่างนั้นแล้วคนคนนี้ก็ไปชอบแฮรี่พอตเตอร์ไม่ชอบ Star Wars เดี๋ยวนี้ไปถึงไหนแล้วไม่รู้ยิ่งกว่า Star Wars มันก็โง่งมงายหนักไปเรื่อยโดยไม่รู้ตัว ดูซินี่ JK rowling เดี๋ยวนี้รวยเละเลย ทางอเมริกามีค่าลิขสิทธิ์สูงมาก นี่แหละทำเรื่องเดี๋ยวนี้เลย จนแก่ตายแกก็กินไม่หมด คนมันโง่งมงายจริง
อาตมาสอนเรื่องสัจจะสาระไม่สนใจจะไปสนใจ Harry Potter สนใจ Star wars คนเรามันโง่ได้ระดับ ขออภัยที่ไปว่าเขาจริงๆแต่ว่าไม่ผิดหรอกขออภัย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 13:37:51 )
รายละเอียด
เข้าเป้าที่ว่า อำนาจของเงินกับอำนาจของอาหาร เอาง่ายๆอย่างนี้ ให้มีสงครามรบระหว่างพวกที่ล่าเงินกับพวกที่ไม่ต้องล่า แต่สร้างอาหารและแจกอาหาร ไม่ใช่ล่ามา โลภมา เพราะไม่ต้องโลภ สร้างอาหารแล้วแจกอาหาร ง่ายที่สุดเลย
คุณมีเงินคุณมีธนบัตร ให้เก่งอย่างไรก็กินแทนข้าวไม่ได้ แทนอาหาร กวฬิงการาหาร แล้วชีวิตอยู่ไม่รอด ต่อให้ธนบัตรหรือเงินมีค่าสูงเท่าไหร่คุณก็กินยังชีพไม่ได้ ตาย ๆ แต่ถ้ามีอาหาร ไม่ต้องไปแย่งชิง ไม่ต้องไปรบราฆ่าฟัน ไม่ต้องมีอำนาจ แจกจ่าย แย่งเงิน คุณจะเอาเงินไป เราแจกอาหาร คุณเสร็จเราหมด
คุณเอาเงินเป็นอำนาจ เราไม่เอาเงิน ไม่แย่งเงิน แต่เราแจกอาหารคุณด้วยซ้ำ มันจะปั้มเงินมาเท่าไหร่ก็ปั๊มไปสิ ปั๊มให้ท่วมโลก เราก็ไม่เอา แต่เราสร้างอาหารเท่าที่จะมากได้ แล้วก็แจกอาหารๆ ดูซิ 2 คำนี้ใครชนะ ปั้มเงินมาหว่านให้ทั่วโลกเลย กับคนที่สร้างอาหารและแจกอาหาร เงินคุณยิ่งปั๊มมาก ยิ่งเฟ้อ ยิ่งไร้ค่า ยิ่งตกต่ำ ยิ่งกลายเป็นเศษขยะ แล้วมันจะได้อะไร
ขณะนี้มันเป็นอำนาจครอบงำ อย่างเงินดอลลาร์ อาตมาบอกได้เลยว่าทุกวันนี้มันเฟ้อสุดเฟ้อ แต่มันสร้างอำนาจไว้ข่มคนอื่น เพื่อฆ่าเขา ให้เขายอมรับค่าของดอลลาร์ในโลก ที่จริงค่ามันไม่จริง ดอลลาร์มันไม่ได้มีค่าจริงอย่างที่มันมีเลย อาตมาเคยถามพวกเราว่า ขณะนี้ ใครมีเงินดอลลาร์อยู่ในกระเป๋าบ้าง สู่แดนธรรมยกมือ นอกนั้น ไม่มีใครมีดอลลาร์ เอาไว้ดูต่างหน้า ไม่ได้เอาไปใช้ไปสอยอะไรเลย
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 8 พ่อครูพบ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 05 มกราคม 2566 ( 12:30:21 )
รายละเอียด
ก็เลยถูกครอบงำทางจิต อุปาทานจิตนี้ เป็นไปได้สารพัด ถูกสะกดจิตแล้วจะเห็นได้อย่างนั้น เพราะฉะนั้นอำนาจทางจิต จึงทำกันได้ทั้งที่เป็นอิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ แบบโลกียะ ทำได้ และที่สำคัญก็คือ หลอกได้ หลอกให้เชื่อได้ อันนี้สำคัญกว่า คนที่เขาเหาะได้จริง ลอยขึ้นจริง เขาหยั่งรู้เป็นอิทธิปาฏิหาริย์ ฤาษีคันธารี ฤาษีมัลลิกา ชาวพุทธของพระพุทธเจ้าก็เหาะได้จริง อย่างพระปิณโฑล พระโมคคัลลานะก็เหาะไปเอาบาตรที่พราหมณ์เขาบอกว่า ถ้าเป็นพระอรหันต์ก็เหาะได้จริงสิ ก็บอกว่าเหาะได้ พระปิณโฑลก็เหาะไปเอาบาตรมา เมื่อพระพุทธเจ้ารู้ ก็บอกว่ามานี่ๆๆๆบิดหูเลย นี่เป็นสำนวนของโพธิรักษ์นะ พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ทำอย่างนั้นหรอก แต่ท่านว่า ใครสอนเธออย่างนั้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจนสาธารณโภคีที่เหาะได้ทั้งชุมชน วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 13:55:33 )
รายละเอียด
โดยเฉพาะความเป็นสาระสัจจะ ที่โลกียธรรมจะมีความเป็น ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข นี่เป็น โลกียธรรมที่คนติดยึดแย่งชิงกอบโกยหอบหวงและเอามาเบ่งมาข่มกัน เอา ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข มาเบ่งมาข่มกัน ใช้อันนี้เป็นตัวยืนยัน
ฟังดีๆฟังเข้าใจดีๆจะชัดเจน แต่พวกเราไม่สะสม ไม่เอาอำนาจของ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข ไปเป็นอำนาจอธิปไตยอะไรเลย เราเอาความตรงกันข้ามกัน ไม่ใช้อำนาจ ลาภ ยศ สรรเสริญ เราได้รับคำตำหนิคำลบหลู่ด้วยซ้ำ แต่อาตมาก็ว่ามันมีภาวะลึกซ้อน ว่ามันมีความจริงที่ไม่ใช้จริงๆ ไม่ใช้อำนาจ ลาภ ยศ สรรเสริญ แม้แต่อำนาจสุข ก็ไม่ใช้
เป็นอำนาจที่ทวนกระแส ไม่มีคำพูดแล้วทีนี้ เป็นอำนาจที่ ปฏิโสตัง เป็นอำนาจที่ทวนกระแสกันคนละเรื่อง เขาไปทางนี้ เราไปทางนี้ อธิบายได้เท่านี้ เพราะมันเป็นเรื่องของทิศทาง เป็นเรื่องของกระแส เป็นเรื่องของความรู้ เป็นเรื่องของความจริงที่มันสวนกระแสกัน ปฏิโสตัง มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้หยุดอยู่มันพัฒนาไปเรื่อยๆ มีสิ่งที่มนุษยชาติจะเห็นว่ามันเกิดจริงเป็นจริงได้ มันก็จะไปเรื่อยๆ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 4 วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันแรม 10 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 11 เมษายน 2566 ( 20:22:24 )
รายละเอียด
ดังนั้น “ธรรมมีอำนาจ”แบบที่เป็น“โลกียธรรม”ก็ย่อมเป็น“อำนาจ”ที่ยัง“อวิชชา”อยู่ ยังไม่“พ้นอธรรม”ไปได้ง่ายๆเลยมิหนำ“ยิ่งหนักเป็นอำนาจที่ซับซ้อนซ่อนเชิงหลอกผู้อื่น”ซ้ำเติมอีก แม้จะเป็นผู้มี“อำนาจ”มากเท่าใดก็เป็นเพียงผู้มี“ลาภ ยศ สรรเสริญสุข”มากเท่านั้น แล้วก็นำมาใช้เป็น“นาย”ข่มผู้อื่น
ใช้“ลาภยศสรรเสริญสุข”ทำร้ายผู้อื่น แม้แต่ทำร้าย“ตนเอง”อยู่นั่นเอง ตนเองจึงยังเป็น“ผู้ร้าย” ตามที่มี“อวิชชา”นั้นๆ จึงต้องเป็นผู้“พ้นอวิชชา”ถึงจะมี“วิชชา”ที่“หลุดพ้น”จากอำนาจ“โลก”และอำนาจ“อัตตา” เป็นผู้“อยู่เหนือโลก-อยู่เหนืออัตตา”อย่างเป็นความจริง ด้วยการมี“โลกุตรธรรม” ไม่เช่นนั้้นก็จะมีแต่“โลกียธรรม”เป็น“ผู้อยู่เหนือ”ชนิดที่เป็น“การอยู่เหนือ”ด้วย“อำนาจลาภยศสรรเสริญสุข”แล้วก็ใช้ข่มกันอยู่นั่นเอง ข่มผู้อื่น ทำร้ายผู้อื่น ด้วย“อธรรม”สุดชาญฉลาดยอดเยี่ยมที่เรียกกันด้วยศัพท์บาลีว่า“เฉโก”นี่เอง
หนังสืออ้างอิง
หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 108 หน้า 109
เวลาบันทึก 15 มิถุนายน 2564 ( 20:54:25 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการบ้านราช เรื่องบุคคล 7 วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 10:25:29 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นเราต้องลดทั้งคู่ กามก็ลด โลกียะก็ลด โลกธรรมต่างๆก็ลด ยศ โดยธรรม กับยศ โดยโลก อำนาจ เบ่งข่ม อำนาจบาตรใหญ่ อำนาจบาตรใหญ่ ไม่ใช่บาทที่แปลว่าเท้านะ แต่คือบาตร คำว่าบาทนี้หยาบ เท้าใหญ่ แต่บาตรใหญ่ หมายความว่าตะกละ ใช้กันคนละเบอร์เท่าไหร่ ไปบิณฑบาตก็รับเละเลย หากบาตรใหญ่ จึงใช้คำว่าอำนาจบาตรใหญ่ แต่ถ้าบาทนี้ มันคือตีน ทึบเลย ดูหยาบกว่า จึงใช้ บาตร คนที่มีเทคนิคแทคติกมากก็ใช้บาตรใหญ่ คนไม่เล่นเทคนิคแทคติกก็ใช้บาตรน้อย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบอโศก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 21:59:37 )
รายละเอียด
พระพุทธเจ้าถึงแยกอำนาจยิ่งใหญ่ไว้ถึง 3 โลกคือ
โลกาธิปไตย ธรรมาธิปไตย อัตตาธิปไตย
อธิปไตยคืออำนาจ อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือผู้มีอำนาจโดยธรรม แล้วไม่แสดงอำนาจบาตรใหญ่ ผู้ที่แย่ที่สุดคือมีอำนาจที่ไม่ใช่อำนาจโดยธรรม แต่เป็นอำนาจโดยอธรรม แล้วแส่แสดงอำนาจบาตรใหญ่อันไม่เป็นธรรมยกตัวอย่างคือโดนัลด์ทรัมป์
เพราะอะไร เพราะว่าฝังหลุมศพความเลวของตัวเองไว้เยอะไม่รู้ต่อกี่หลุม เมื่อหมดอำนาจแล้วเขาก็จะขุดหลุมแห่งความชั่วของตัวเองขึ้นมา ทักษิณเขาก็มีนัยยะเดียวกัน หนีเลยไม่ให้ขุด เขาก็ไม่อยากให้อะไรมากมาย หนีก็ต้องลำบาก เพราะเจ้าตัวยังไม่อยู่ก็เลยยังไม่ตัดสินอะไรมากมายเดี๋ยวจะไม่ดี ก็ไม่ขอพูดต่อ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การเกิดคือชาติ 5 ในปฏิจจสมุปบาท วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 19 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:34:31 )
รายละเอียด
อาตมาทำแบบโลกุตระ ไม่ได้ทำอย่างโลกียะ โลกียะต้องใช้แรงอำนาจบาตรใหญ่ต้องใช้วัตถุ แต่ของเรานี่ยิ่งไม่มีวัตถุยิ่งมีแต่คุณธรรมนามธรรมที่เบา ลหุตา มากขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ใช้ประสิทธิภาพสูงสุด มุทุตา คือพลังงานนิวเคลียส พลังงานบวกลบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด บวกกับลบของแต่ละคนมี มุทุภูตธาตุ ที่สูงสุดของแต่ละคน มีพลังงานที่ร่วมกันเป็นระเบิดใหญ่ที่แรงสูงสุด เป็นพลังงานสูงสุดของบวกลบจับตัวกันแล้วแสดงประสิทธิภาพ ออกไปทำงาน จะเป็นการสร้างสรรหรือเป็นการทำลายก็แล้วแต่ มีประสิทธิภาพทั้ง 2 ด้าน ประสิทธิภาพทั้งการทำลายหรือสร้างสรร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 40
ปี 2564 วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 01 สิงหาคม 2564 ( 20:47:21 )
รายละเอียด
อำนาจลำดับที่ 1 คือ อำนาจของประชาชน ออกมาประท้วงยืนยันคะแนนเสียง 1 คน 1 เสียง
อำนาจลำดับที่ 2 คือ พระมหากษัตริย์ ผู้เป็นรัฐาธิปัตย์ตาม Supreme law
(อำนาจลำดับที่ 1 ร่วมกับอำนาจลำดับที่ 2 เป็น ราชประชาสมาสัย)
อำนาจลำดับที่ 3 คือ พระมหากษัตริย์ใช้อำนาจนั้นผ่าน 3 สถาบันคือ สถาบัน
อำนาจลำดับที่ 4 คือ ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามกฎหมาย
อำนาจลำดับที่ 5 คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.)
อำนาจลำดับที่ 6 คือ นายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการเลือกจาก สส.
อำนาจลำดับที่ 7 คือ คณะรัฐมนตรี ที่นายกฯเป็นผู้เลือกมาทำงาน
อำนาจลำดับที่ 8 คือ ข้าราชการ
ที่มา ที่ไป
เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 13:28:54 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:39:04 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:39:29 )
รายละเอียด
อำนาจในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 8 ลำดับขั้น
อำนาจลำดับที่ 1 คือ อำนาจของประชาชน ออกมาประท้วงยืนยันคะแนนเสียง 1 คน 1 เสียง
อำนาจลำดับที่ 2 คือ พระมหากษัตริย์ ผู้เป็นรัฐาธิปัตย์ตาม Supreme law (อำนาจลำดับที่ 1 ร่วมกับอำนาจลำดับที่ 2 เป็น ราชประชาสมาสัย) อันนี้สำคัญเพราะมีนิติราชประเพณีแต่โบราณ และขนบธรรมเนียมประเพณีของราษฎร ที่กลมกลืนกัน บังเอิญคณะราษฎร์ขัดกับพระมหากษัตริย์ ไม่เป็นราชประชาสมาสัย จึงดำเนินการเป็นประชาธิปไตยไม่สำเร็จ
อำนาจลำดับที่ 3 คือ พระมหากษัตริย์ใช้อำนาจนั้นผ่าน 3 สถาบันคือ สถาบัน นิติบัญญัติ (รัฐสภา) บริหาร(ครม.) และตุลาการ(ศาล) อันนี้เป็นลัทธิตะวันตก ซึ่งถือว่าอำนาจแต่ละอำนาจต้องแยกกันและถ่วงกัน ของไทยปนเปกันหมด สักแต่อ้างกษัตริย์ แต่อำนาจกษัตริย์ตามทฤษฎีและประเพณีประชาธิปไตยตะวันตก รัฐบาลและกฎหมายกับลิดรอนอำนาจกษัตริย์ไปเสียอย่างชิ้นเชิง
อำนาจลำดับที่ 4 คือ ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามกฎหมาย ในประเทศประชาธิปไตยส่วนใหญ่ไม่บังคับ แต่ส่วนน้อยก็มีบังคับให้ไปเลือกตั้ง
อำนาจลำดับที่ 5 คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) ในประเทศประชาธิปไตยต้องไม่บังคับสังกัดพรรค
อำนาจลำดับที่ ุ6 คือ นายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการเลือกจาก สส. ในประเทศประชาธิปไตยไม่มีประเทศใดกำหนด ส่วนใหญ่ก็อนุโลมกัน โดยเฉพาะประชาธิปไตยที่มีระบบพรรคเข้มแข็ง ถึงกระนั้นกษัตริย์อังกฤษคือราชินีอลิซาเบธ ก็เลือกคนนอก คือเซอร์ดักกลาส ฮูมมาเป็นนายกฯเมื่อปี 1965
อำนาจลำดับที่ 7 คือ คณะรัฐมนตรี ที่นายกฯเป็นผู้เลือกมาทำงาน ในประเทศประชาธิปไตย พรรคกำหนดตัวมาให้นายกเลือกตั้งแต่ยังไม่เลือกตั้ง คือผู้นำนโยบายสำคัญต่างๆที่แข่งขันกันขึ้นมาในพรรค ไม่ต้องเอาว่าคนนั้นคนนี้ เพราะส่วนใหญ่เป็นไปตามสูตร ข้อยกเว้นมีแต่มีย้อย
อำนาจลำดับที่ 8 คือ ข้าราชการ ที่ต้องเป็นกลไกที่เป็นกลาง และมีความสามารถในการนำนโยบายการเมืองมารับใช้ราษฎร มิใช่หากินกับราษฎรและเอาราษฎรไปรับใช้หรือเป็นเบี้ยล่างการเมือง
ที่มา ที่ไป
เวลาบันทึก 01 มีนาคม 2563 ( 14:56:47 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:37:58 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:39:48 )
รายละเอียด
อาตมาพูดอิงหลัก อิงธรรม อิงคำสอน ขยายความ แยกอุเทศ อธิบายให้ฟังให้ชัดๆๆๆ ฟังธรรมให้ดีๆ สุสูสัง จะได้ความเฉลียวฉลาดจะได้ปัญญาที่แท้จริง เพราะฉะนั้นคนที่มี ฌาน จะมี ฉฬายตนะ จะมีความฉลาด แต่คนที่ไปหลับตานั้นไม่มีฉฬายตนะ ไม่มีความฉลาดทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย มีแต่ เอกะ เฉกะ ฉะ ไปทำเป็นเฉกะ มีเอก มีหนึ่งเดียว มี 6 ทำให้เป็นเอก เป็น 1 มีรู้อยู่เพียงทวารเดียว มันผิดมนุษย์มนา มันเป็นคนตาบอดหูหนวก มันเป็นคนไม่รู้จักโลก เฮ้อ! จะพูดอย่างไรถึงจะรู้ถึงความเสื่อมเสียต่ำต้อยของความเข้าใจผิด แล้วก็หลงทิศหลงทางนี้
เพราะฉะนั้น ตื่นกันได้แล้ว มาฟังธรรมะ นี่มันยิ่งแสดงให้เห็นความเสื่อมของโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้า มันเสื่อมจนกระทั่งอาตมาทำงานมา 53 ปีย่างเข้าแล้ว พูดปากเปียกปากแฉะ จนกระทั่งอาตมาพยายามตายไม่ลง มันควรตายแล้วแต่ก็พยายามกระเสือกกระสนอยู่ ไม่ยอมตายลงไป พยายาม ก็ยังพูดซ้ำซากหลายทีแล้วว่า ไม่ใช่ไม่อยากตาย ไม่ใช่กลัวตาย ไม่กลัวหรอก อาตมาไม่สงสัยเรื่องตายเกิด
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 37 ฌานเป็นพลังงานปัญญาล้านองศาเผากิเลส วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 สิงหาคม 2566 ( 13:17:38 )
รายละเอียด
ความต้องการ ความปรารถนา
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 420
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:16:13 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:03:01 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:46:40 )
รายละเอียด
ภวตัณหาอันตัดขาดแล้ว
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 284
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:15:24 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:03:51 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:46:57 )
รายละเอียด
1. ภาวะที่ได้อารมณ์อันน่าปรารถนา
2. ชอบใจ
หนังสืออ้างอิง
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 159 , กำไร-ขาดทุนแท้ของอาริยชน / เราคิดอะไร ฉบับ272
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:14:41 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:05:11 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:47:26 )
รายละเอียด
คือ สิ่งที่คนอยากได้ อยากครองไว้ บำเรอใจให้สุข
ในแง่กามคุณ 5 ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ ที่น่ารักใคร่ น่าพึงใจ น่าชอบใจ (อัสสาทะ)
ในแง่โลกธรรม ได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ และโลกียสุข (ตรงข้ามกับ อนิฏฐารมณ์ คือ อารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา)
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2562 ( 20:41:04 )
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:39:51 )
รายละเอียด
1. ถึงแล้ว
2. ย้ำยืนยันเอาความมี ความเป็นที่เห็น ๆ อยู่ สัมผัสอยู่ รับรู้อยู่ เป็นความมีแล้วจริง เป็นแล้วจริง ถึงแล้วจริง
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 98 , 233
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:13:38 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:06:22 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:48:06 )
รายละเอียด
ภาวะที่ยังไม่ดีสุด
หนังสืออ้างอิง
ค้าบุญคือบาป หน้า 191
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 21:11:07 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:06:58 )
เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 20:48:26 )
Facebook : test
Youtube : Name
Twitter : Name
Line : Name
Telegram : Name
Wechat : Name
Skype : Name