@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

คนที่มีนิพพานแล้วเป็นประโยชน์อย่างไร

รายละเอียด

คนที่มีนิพพานแล้วเป็นประโยชน์ 

1. ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ ตัวเองไม่ทำชั่ว ไม่ทำกรรมทำบาปตามสมมุติโลกเขาหมด ไม่ทำจริงๆ เข้าใจแล้วก็ไม่ทำได้สำเร็จ เพราะจิตมีอำนาจเหนือ จิตเป็นโลกุตระ เป็น วสวัตติโก ผู้ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ สามารถเหนือความชั่วได้ นี่เป็นหลักประกันเด็ดขาด 

2. สามารถจะเลิกจิตไปได้เลย ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เลิกธาตุจิต เลิกจิตนิยามของตัวเองเป็นดินน้ำไฟลมไปได้เลย เป็นการทำลายจิตวิญญาณ ที่เทวนิยมทั้งหมดไม่สามารถที่จะคิดออก ว่ามันสูญสลายไปเลย เพราะจิตวิญญาณของเขาจะเป็นนิรันดร เขาจะคิดไม่ออกเลย 

เพราะเขาไม่รู้กรรมวิบาก ไม่รู้จักสุญญตา ไม่มีหลักเกณฑ์ เขาไม่ได้เรียนรู้เรื่องจิตเจตสิกเลย เพราะฉะนั้น ศาสนาที่เป็นศาสนาบริบูรณ์ สมบูรณ์ ครบถ้วน คือศาสนาของพระพุทธเจ้า จริงๆแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสผ่านๆ ว่า อย่างศาสดาที่เขาเป็นกันมา ท่านเป็นมาหมดแล้ว รู้จบมาหมดทุกระดับ แล้วก็มาเป็นศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เท่าที่คนจะเป็นได้สูงที่สุด และเป็นได้สูงสุดจึงตรัสรู้ถึงความจริงว่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 ตุลาคม 2565 ( 12:05:29 )

คนที่มีบาปมากคือคนโกหกทั้งๆที่รู้ว่าตนโกหก

รายละเอียด

หากไม่ยอมรับจะยิ่งหนักในชาติต่อไป เป็นสิริมหามายา ถ้าคนหลอกก็บำเรอจิตตน ตนเองทำชั่วแล้วหลอกคนอื่นว่าเสียสละเพื่อคนอื่น คนนี้ก็ได้ชั่วเพิ่มอีก สัจจะจะเป็นอย่างไร? คนนี้จะเป็นอย่างไร จะยอมรับโดยไม่ต้องเอามาคุย ว่าฉันเองพลาดเอง หรือตีกินว่าฉันเสียสละ หากหลอกคนอื่นต่อก็ซวยซ้อน แต่หากยอมรับก็ได้ประโยชน์ตน

อย่าไปพูดต่อตีกิน เรารู้ว่าฉันผิด แต่ไปบอกคนอื่นว่าฉันเสียสละก็เสร็จ แทนที่จะรับโดยดุษฎี แต่ไปหลอกคนอื่นซับซ้อนบ้ายกกำลัง พระพุทธเจ้าถึงว่า คนที่มีบาปมาก คือคนโกหกทั้งๆที่รู้ว่าตนโกหก ไม่มีบาปอะไรจะมากกว่าคนที่โกหกทั้งๆที่รู้ว่าตนโกหก คนนี้จะทำบาปอะไรก็ได้มาก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(กรรม) ตอน สำนึกผิดดีได้ถ้าไม่ตีกิน


เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2564 ( 17:14:59 )

คนที่มีปฏิภาณปัญญาจริงจึงจะรู้และเข้าใจโลกุตรธรรม

รายละเอียด

คนจริง คนที่มี ปฏิภาณปัญญาจริงจึงจะรู้จริง คนที่พบพระพุทธเจ้า ที่น่าสงสารคือ พบพระพุทธเจ้าได้พูดคุยกับพระพุทธเจ้า ขนาดพูดคุยกันทั้งคืน ก็ยังไม่สะดุดไม่ฉุกคิดว่าองค์นี้คือพระพุทธเจ้า เขาแสวงหาธรรมนะ จิตใจก็ไม่ได้ต้านอะไร เขาก็ฟังธรรมซักไซ้ถามรื่นเริงในธรรมดีจนรุ่งเช้า สุดท้ายก็บอกว่าดีมาก ได้รับความเข้าใจความรู้ก็ว่าไป อาตมาจำรายละเอียดไม่ครบ เขาเอาไปแปลเป็นเรื่องกามนิต วาสิฏฐี 

ไม่สะดุดไม่ฉุกใจว่าเป็นพระพุทธเจ้า ทำไมท่านรู้จริงรู้มากรู้เยอะ ผู้ที่มีปฏิภาณก็จะรู้ ส่วนคนไม่รู้ ฟังพูดแล้วก็หาว่าพูดอะไร ไปกันใหญ่เลอะๆเทอะๆ พูดเพ้อเจ้อ เพราะเขาไม่เข้าใจ ที่อาตมาพูดมันเป็นโลกุตรธรรมเป็นภาษาที่ลึกซึ้ง คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น) (พตปฎ. เล่ม 9  ข้อ 34) เขาก็หาว่าพูดอะไรเลอะเทอะก็น่าสงสาร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 10 วันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2565 ( 10:59:56 )

คนที่มีปัญญาจะไม่ไปบ้าหอบฟาง

รายละเอียด

 และอีกอันที่เขาจะรู้สึกมากเลยคือ ธนบัตร Bank note  ตั๋วแลกเงินนี่ ค่ามันจะตก คนที่มีปัญญาแล้วจะรู้จักว่า ธนบัตรเงินทองข้าวของ แม้แต่เพชรนิลจินดาทองคำ มันจะมีประโยชน์คุณค่าเท่าพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่ได้ คนจะค่อยๆฉลาดรู้ความจริง ว่าที่ไปบ้าหอบฟางไม่ใช่หมาหอบแดด มันไม่ใช่ มันไม่ได้พาชีวิตรอดจริงๆหรอก มันบ้าหอบฟาง แล้วไม่ใช่วัวควายกินฟาง ฟางก็กินไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 32 ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาที่มีอยู่ประจำโลก วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2565 ( 13:59:20 )

คนที่มีภูมิธรรมอย่างไรเขาก็เข้าใจอย่างนั้น

รายละเอียด

ต่อว่า(สำหรับคุณ)ที่โง่ คนที่ไม่รู้ก็จะเห็นว่าไม่มีค่าเลย แต่คุณฉลาดไม่พอที่จะรู้ค่า แต่คุณโง่พอที่จะรู้ค่าจริงๆ คนที่บอกว่าดูออกว่าใช่หรือไม่ใช่ คุณเอาอัตโนมัติของคุณเป็นเครื่องตัดสิน คนที่มีภูมิธรรม ยังไงเขาก็เข้าใจอย่างนั้น มีปฏิภาณอย่างนั้นมากเขาก็จะยิ่งชัดเจน โจรเขาก็มีปฏิภาณอย่างโจร ว่าอย่างนี้ใช่ ฝีมือยิงปืนยังไม่ใช่อย่างนี้เก่ง ฝีมือเตรียมการโกงพิเศษยิ่งเก่ง ว่าอย่างนี้ใช่มันก็ถูกแล้วไง คนที่เอาธรรมาวุธเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ความสงบเป็นเรื่องใหญ่ว่าอย่างนี้ก็ใช่ คุณมองออกหรือไม่ว่าความสงบเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มีสักนิดนึงหรือไม่ หรือว่าการบริหารที่เป็นประชาธิปไตย คุณจะพอมองออกหรือไม่ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 11:29:52 )

คนที่มีภูมิปัญญาเชื่อกรรมเชื่อวิบากเป็นอจินไตย

รายละเอียด

เรื่องของการกินเนื้อสัตว์ ไม่กินเนื้อสัตว์ เป็นความลึกซึ้งถึงขั้น อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม เป็นความรู้ที่เป็นอจินไตย เป็นความรู้ที่เดาเอาไม่ได้ ใช้เหตุผลทั่วไปก็ไม่ได้มันลึกซึ้งซับซ้อน เพราะฉะนั้นคนที่มีภูมิปัญญาเชื่อกรรมเชื่อวิบาก เข้าใจในเรื่องกรรมวิบากเป็น อจินไตย ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจจะรู้กันง่ายๆ และไม่เชื่อกรรมวิบากไม่เชื่อกรรมเป็นของของตน กัมมัสกะ เป็นความรู้ของพระพุทธเจ้าที่ถ่ายทอดกันมาเป็นล้านๆๆๆปี ถ่ายทอดเรียนรู้กันไม่รู้กี่ล้านๆๆชาติ อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์บอกแล้วอาตมาเกิดมาไม่รู้กี่ล้านชาติ แล้วมาศึกษาสืบทอดไม่รู้กี่ล้านชาติแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 05 พฤษภาคม 2563 ( 11:07:59 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:05:22 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:31:02 )

คนที่มีภูมิปัญญาไหลหาหมู่กลุ่มที่เป็นโลกุตระ

รายละเอียด

เมื่อหลุดออกมาได้ก็มีภูมิปัญญารู้ว่าสิ่งนั้นไม่ดีหรอก ก็จะพัฒนามาอยู่ร่วมกันเป็นหมู่กลุ่ม จะไหลไปหาหมู่กลุ่มที่เป็นโลกุตระ น้ำก็ไหลไปหาน้ำ น้ำมันก็ไหลไปหาน้ำมัน ไม่ต้องกลัวหรอก เราก็มาเข้ากลุ่มไปเรื่อยๆ ขอให้มันจริงเถิด 

 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 03 มิถุนายน 2563 ( 10:34:00 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:07:38 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:09:02 )

คนที่มีรักร่วมเพศเป็นวิบากข้ามชาติ

รายละเอียด

ที่ทำอยู่นี้จะเป็นวิบากข้ามชาติ จะบอกให้ ประเด็นสำคัญตรงนี้ คนที่มีรักร่วมเพศหรือเป็นกะเทยข้ามชาติมาถึงมาเป็นคน ได้เป็นกะเทยนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นการสะสมในชาติเดียว มันสะสมเรื่องของกามวิตถาร เป็นการเสพสมสุขสมสัมผัสเสียดสี พูดลึกลงไปจะหยาบ มันเกินธรรมชาติมากวิตถาร

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 10:09:57 )

คนที่มีลักษณะจิตเป็นจิตพญานาค

รายละเอียด

เรื่องลืมตาหลับตาคงพูดกันอีกนาน เพราะว่ามีคนที่เป็นพญานาคจริงๆ คนที่มีลักษณะจิต เป็นจิตพญานาคจริงๆเลย หลับไม่รู้คู้ไม่เห็น กูมั่นใจของกูแล้ว แล้วก็ปฏิบัตินั่งหลับตาไป อยู่อย่างนั้นแหละ จะพูดอย่างไรอย่างไรไม่ฟังแล้ว เคยฟังแล้วก็ไม่ฟังแล้วก็ยังเชื่อมั่นว่า หลับตานี่แหละ มีไม่ใช่น้อยนะ เพราะอย่างนั้น มันจะต้องเหนื่อย เหนื่อยไปอีกนาน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 1 วันพุธที่ 23 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2565 ( 19:29:15 )

คนที่มีวัฒนธรรมดีของสังคม

รายละเอียด

ที่นี้เขาระมัดระวังกันธรรมดาสามัญ เรียกว่าโลกีย์ อย่าให้มันมาก อย่าให้เป็นโทษภัยจนกระทั่ง กฎเกณฑ์วัฒนธรรมของแต่ละที่แสดงออกได้เท่านั้นเท่านี้ เขาก็มีกฎเกณฑ์ไม่เท่ากันไม่เหมือนกันทีเดียว แต่ละสังคมกลุ่มหมู่ ก็ระมัดระวัง ก็ดีผู้ใดทำได้สมควรเหมาะสมกับหมู่ ที่เขามีวัฒนธรรมมีการกำหนดกันเท่านั้นเท่านี้ การแสดงออกทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ผู้ที่รักษาสภาพสมสัดส่วนได้สภาพที่ดีเสมอ ผู้นั้นก็อยู่ในฐานะของคนมีวัฒนธรรมดีของสังคม แล้วก็ยังชีพไปจนตาย เป็นคนดี ถ้ามีบกพร่องมันไม่ดี ก็ได้รับโทษตามแล้วแต่ ทั้งโทษทางสังคม โทษทางกระบิลเมือง ที่เขาตั้งไว้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ สื่อธรรมะพ่อครู ตอน บุญนิยม คืออะไร และอปันกธรรม 3 วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บ้านราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 13:50:43 )

คนที่มีวิบากดีกับที่ที่ดีที่สุด

รายละเอียด

ทำไมถามไปไกลจัง ไดโนเสาร์นี่ผ่านมาหลายล้านปีแล้ว อาตมาระลึกไปไม่ได้หลายล้านชาติแต่อาจจะเคยเกิด หรือไม่เกิดก็ได้ไม่รู้ แต่คนเราเกิดมาเป็นเซลล์ เราก็เลยไม่รู้ว่าเกิดมากี่ล้านชาติแล้ว แต่ละคนถ้าจะได้มาอยู่ในที่นี้ มาฟังโลกุตรธรรมได้ เป็นคนที่มีวิบากดีทุกคนมีวิบากดีแม้จะโดนถีบเข้ามาก็ดี ไม่ได้มาสมัครใจแต่โดนถีบเข้ามาก็เป็นกุศลของคุณแล้ว ถ้าหากยิ่งสมัครใจเข้ามาก็ดีใหญ่ เข้ามาที่นี่เป็นถิ่นฐานของคนเจริญคนดีที่สุดแล้วออกมาตั้งแต่เป็นสาวๆ อดีตไม่ต้องไปเกี่ยวข้องมันจะเป็นอะไรก็ช่างมัน เอาปัจจุบันนี่

เราได้อยู่กับมิตรสหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดี ได้พบสัตบุรุษ มีคำสอนที่ดีมีการพัฒนาตัวเองแม้แต่ในทางอาชีพการกระทำก็ได้พัฒนาดีเป็นกุศล ทางจิตวิญญาณก็ได้พัฒนาดีให้เป็นบุญ เป็นการลดล้างกิเลสด้วย นี่เป็นสิ่งประเสริฐสุดยอดแล้ว ที่นี่เป็นดินแดนของมิตรดีสหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดี ดีที่สุดแล้ว

อาตมาพูดไปแล้วเหมือนยกยอยกย่องตัวเอง อะไรก็ดีหมดที่อื่นเขาไม่ดีเลย ก็มันไม่ผิดนี่ มันก็เลยต้องพูดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ต้องขออภัยเพราะว่าอาตมาไม่รู้จะหลีกเลี่ยงอย่างไร จะบอกว่าที่อื่นดีที่นี่ไม่ดีมันก็พูดไม่ได้เพราะเป็นการโกหก อาตมาเกิดในยุคที่ความดีมีน้อยความถูกต้องมีน้อย มันมีแต่ความไม่ดีมีแต่ความผิดเสียเยอะ เพราะฉะนั้นจึงพูดทีไรดีก็มีแต่พวกมัน มันก็เลยหลีกเลี่ยงไม่ออกจำนน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(อจินไตย) ตอน พ่อท่าน สามารถระลึกชาติได้ไหม


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:53:27 )

คนที่มีศิลปะ

รายละเอียด

การใช้ชีวิต ศึกษาการใช้ชีวิตแล้วเราก็เป็นคนที่หลุดจากโลก ไม่ติดในโลก ตั้งแต่โลกอบาย โลกกาม รูปโลก อรูปโลก

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช ศิลปะในการใช้ชีวิตให้เกิดปัญญามัชฌิมา วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 17:17:25 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:56:11 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:09:48 )

คนที่มีศูนย์

รายละเอียด

คนที่ไม่มีตัวตน คือไม่มีกิเลสในตัวเอง ไม่เห็นแก่ตัวเลย จะเป็นคนรับใช้ เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนที่มีน้ำจิตน้ำใจอะไรต่างๆดีจริงๆเลย เอื้อเฟื้อเจือจานรับใช้คนอื่น นี่คือคุณลักษณะของผู้ที่ไม่มีตัวตน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 16:55:52 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:57:00 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:10:59 )

คนที่มีสติสัมปชัญญะปัญญาจึงจะฟังเข้าใจ

รายละเอียด

หากคุณ เอซุส เวสเกตุ อธิบายไม่ได้อย่างอาตมาหรอก ก็พูดเหมือนคนบ้าแต่นี่ไม่บ้า คนฟังอย่างเข้าใจมีสติสัมปชัญญะปัญญาจึงจะฟังอาตมาเข้าใจ คนที่ฟังอย่างไม่มีสติสัมปชัญญะปัญญาก็จะฟังไม่ได้ ไม่รู้เรื่อง 

คนที่แยก เคหสิตอุเบกขา กับเนกขัมสิตอุเบกขา หรือแยกได้ กระบวนการ 18 ของเคหสิตเวทนา กับกระบวนการ 18 อย่างของ เนกขัมมสิตเวทนา หรือเรียกว่า มโนปวิจาร 18

แบบนี้คือโลกุตระ แบบนี้คือโลกียะ อ่านสภาวะออก คนที่รู้อย่างนี้ได้นี่คือกรรมฐาน ที่คุณพูดมาคุณยังเมาในกรรมฐานนอกรีต เชื่อว่า คุณเอซุส เวสเกตุ  อาจจะฟังอยู่ คุณคอมเม้นท์มาก็ด้วยความปรารถนาดี อาตมาก็มีความปรารถนาดีคุณสนใจตั้งใจฟังธรรมะอาตมาเห็นอยู่ ก็น่าช่วยเหลืออย่างยิ่ง เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง คุณเป็นประโยชน์แก่อาตมาอาตมาก็ขอตอบแทนประโยชน์ให้แก่คุณ ฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา สุสูสังละภะเตปัญญัง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ แก้กรรมฐานให้ถูกพุทธ วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 07 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:10:07 )

คนที่มีส่วนร่วมตัดสินจำคุกพ่อครูจะรู้ไหมว่าเขาทำผิด

รายละเอียด

ที่จับอาตมาเข้าคุกคือ ตำรวจ ส่วนคนสั่งมีหลายคน อำนาจสั่งการหลายคน เป็นพระตายไปแล้วก็มีหลายองค์ เป็นพระเป็นภิกษุ เหลืออยู่ยังไม่ตาย ก็มี ออกความเห็น จับโพธิรักษ์อาตมาก็ถูกจับ ไปว่าความคดีเขาก็ดี เขาจะไปก็ไปสู้ความกัน ไปนอนอยู่โรงเรียนพลตำรวจบางเขนอยู่ 2 คืน มีตำรวจเฝ้าหน้าประตู เราก็นอนอยู่ในนั้นสบายๆ ไม่ต้องเฝ้าหรอกเราไม่ออกไปหรอก แต่เขาต้องทำตามหน้าที่ อยู่ 2 คืนแล้วก็ได้ประกันตัวออกมา ก็มาสู้ความสุดท้ายแพ้อีก  

ก็ไม่ต้องไปออกชื่อหรอกว่าใครบ้าง เขาจะบาปไหม คิดเอาเองก็แล้วกันอาตมาพูดไปจะหาว่าใส่ความ เขาจะบาปไหมคิดเอาเอง 

มีผู้ร่วมคิดกัน เพราะว่ามันไปขัดแย้งกับผู้ที่เป็นหมู่ใหญ่ ที่เห็นด้วยเห็นดีเห็นงามที่จะจัดการอาตมา เขาส่วนนั้น หลายคนก็ตายไปแล้วตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ไหม ก็เหลือน้อยคนแล้ว 

อาตมาไม่รู้ว่าเขารู้หรือไม่ว่าอาตมาไม่ผิด เป็นคำถามที่ อาตมาก็เคยสะกิดๆในใจเหมือนกันว่าเขาจะรู้บ้างไหมหนอ อาตมายืนยันว่าอาตมาไม่ผิด เขาผิดกัน เขาจะรู้ไหม 

ถ้าเขารู้เขาก็จะต้อง มาร่วมมือกับอาตมาใช่ไหม เพราะเขารู้ว่าเขาผิด ทำเล่นไม่ได้ กรรมเป็นกรรมอันทำกรรมวิบากเป็นเรื่องจริง ไปขัดแย้งไปคัดค้านต่อสู้กับสิ่งที่ถูกต้อง เป็นกบฏต่อสิ่งที่ถูกต้องอยู่นั้น ก็เป็นคะแนนลบ ไม่ใช่คะแนนบวกแน่ ไปทำอยู่ทำไม 

ก็ความคิดของคนความเชื่อของคนแต่ละคนมันก็เป็นธรรมดา อาตมาเองอาตมาเกรงใจอยู่เหมือนกัน ไม่อยากวิเคราะห์วิจัยให้มันหนักเกินไป ขนาดไม่เกรงใจนี้ อาตมาวิเคราะห์ไม่น้อยแล้วนะ ขนาดนี้ก็คิดว่า พอสมควร ที่จะไปถล่มทลายกันเกินไปเดี๋ยวมันจะลำบาก 

เพราะว่าอาตมารู้จักองค์รวมของสถานการณ์ ในแต่ละ กาละ ที่มีบริบทของสังคม ทุกวันนี้บริบทของสังคมเป็นอย่างนี้ในด้านศาสนาก็ตาม ด้านการเมืองก็ตาม ด้านเศรษฐกิจก็ตามมันเป็นอย่างนี้ มันก็ต้องรู้ status quo แล้วทำให้มันสอดคล้อง status quo นั้นเสีย อาตมาก็ทำได้อยู่ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 1 วันพุธที่ 23 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2565 ( 19:43:54 )

คนที่มีอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา คือผู้ที่มีสมาธิ

รายละเอียด

คำว่าสมาธิ คือ สมะ +อธิ สมะ แปลว่าผู้สงบ คนที่มีอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ผู้นั้นคือผู้ที่มีสมาธิ ก็แยกขยายไปนิดหน่อย จะให้จิตที่มีสมาธิจะต้องมีจรณะ 15 วิชชา 8 ทำให้เกิดความบรรลุจิตใจก็บรรลุเป็น สจิตปริโยทปนัง ทำจิตให้สะอาดผ่องแผ้วจากกิเลส จิตที่สะอาดก็จะตกผลึกเป็น ปริสุทธา แล้วมีการสั่งสมตกผลึกเป็นปริโยทาตา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 10:58:28 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:20:55 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:11:36 )

คนที่มีอวิชชา

รายละเอียด

ไม่ได้ไตร่ตรองพิจารณาเลย วิตกวิจาร ดูพฤติกรรมของมันไม่ได้รู้เรื่อง ก็เลยไม่รู้ว่าเราตกลงแล้วจิตมันสังกัปปะ จิตมันปรุงแต่งขึ้นมา ด้วยการมีตัวแขกจร เป็นกิเลสกามก็ดี กิเลสพยาบาทก็ดีปรุงเข้าไปด้วยหรือไม่ สำหรับคนที่ไม่ได้ศึกษาเรียนรู้ฝึกฝน

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอังคารที่ 1 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 12:26:31 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:09:52 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:12:13 )

คนที่มีอานาปานสติคือคนที่ปฏิบัติศีล 5 ทุกลมหายใจเข้าออก

รายละเอียด

ทีนี้ คนที่มีอานาปานสติ คือ คนมีลมหายใจ ทุกลมหายใจเข้าออก แล้วปฏิบัติไปตามลำดับ ศีล ข้อที่ 1 2 3 ข้อ 4 และ 5 ซึ่ง 5 ข้อนี้ครบแล้ว 3 ข้อแรกเป็นหลัก ส่วนข้อที่ 4 เกี่ยวกับการพูดจา ก็เกี่ยวกับ 3 ข้อแรกเป็นหลัก ข้อ 5 เป็นเรื่องของจิตที่ไปเมาไปหลง ก็ให้มันฉลาดกับ 3 ข้อที่เรากำหนดหมาย หลักเกณฑ์ เรียกว่าหลักเกณฑ์ เกี่ยวข้องกับสัตว์กับคน 

ข้อที่ 1 ไม่ฆ่า ไม่ทำร้าย วางอาวุธ วางศาสตรา สร้างจิตให้เป็นจิตเมตตา กรุณา เอ็นดู หวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ สัตว์คนนี่แหละ ทำจิตแบบนั้น ที่เป็นศีลข้อที่ 1 

ศีลข้อที่ 2 เกี่ยวกับวัตถุและพืช มันต่างกันอย่างไร สัตว์กับวัตถุกับพืช ต่างกันเพราะว่าสัตว์ มันจองเวรจองกรรม มีวิบากบาป วิบากกุศลโยงใย เป็นหนี้เป็นพันธกิจแก่กันและกัน ไปตลอด

ส่วนพืชกับวัตถุ มันไม่มีบาป ไม่มีจองเวรจองกรรม ใครทำมัน มันไม่รู้จักที่จะไปจองเวรใคร มันไม่ไปถือ วิบากไม่มี แต่ต้องระมัดระวังทุจริต ในศีลข้อที่ 2 อันไม่ใช่ของของเรา วัตถุก็ดีพืชก็ดี ที่ไม่ใช่ของของเราเขาไม่ยินดีให้ อย่าไปเอาของของเขา แม้จะถือวิสาสะ 

ถือวิสาสะ หมายความว่าอยู่ด้วยกันก็จะเอาของกันได้ใช้ร่วมกันได้แค่นี้ก็ถือว่าได้ ซึ่งถ้าเรายังไม่แน่ใจว่า เขายึดถือของเขาอยู่นะ ก็อย่าไปเอา อย่าไปละลาบละล้วง นี่เรียกว่าถือวิสาสะ แต่ถ้าอย่างสังคมพวกเราเป็นสาธารณโภคี ช่วยกันดูแลรักษาเก็บงำ ประหยัด อย่าสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยทิ้งขว้างใช้กินร่วมกัน ให้เอาแต่ของที่เขาให้ ไปขอส่วนแบ่งจากผู้ดูแลรักษา ควรจะแบ่งแจกกันใช้ไป 

พวกเรามีรายละเอียดเยอะ ก็จะไม่อธิบายเพราะมีความละเอียดในตัวอยู่แล้ว มันก็เลยไม่ต้องพูดกันมาก เพราะปฏิบัติกันจนกระทั่งเข้าเนื้อแล้ว 50 ปีที่ผ่านมา มันเข้าเนื้อเข้าหนัง เข้ากระดูก เข้าจิตวิญญาณด้วยก็เลยกลายเป็นแบบนี้ สมบูรณ์แบบดี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาปฏิบัติเป็นลำดับอย่างไม่กดข่ม วันพุธที่ 16 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 มีนาคม 2565 ( 21:40:08 )

คนที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดคือชาวอโศก

รายละเอียด

ฟังเขาเผินๆถูกครอบงำความคิด ต้องลึกซึ้งหน่อยเราเป็นเมืองพุทธ ต้องเข้าใจ เสฏฐะหรือเสฏโฐของพระพุทธเจ้าให้ชัดเจน คนที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดคือชาวอโศก มี Gross สูง รายได้องค์รวม 0 ตลอดปีตลอดคืนตลอดวันแล้วขยันทำงานมีผลผลิตกินใช้อาศัย ไม่เบียดเบียนคนอื่น ของเราเองสร้างมาแล้วเราสามารถกระจายเผื่อแผ่คนอื่นได้ อย่างนี้คือคนเจริญ เสียสละ แจกได้ด้วย ไม่ใช่เอาเงินที่ขายได้มาเป็นสถิติว่าเจริญ ​แต่ยิ่งให้เขาได้ยิ่งเจริญ มันทวนกระแสกับเขา เข้าใจกันคนละขั้วเลย ย้ำอีกที เศรษฐศาสตร์กับเศรษฐกิจชาวอโศกเจริญมาก แม้ในประเทศไทย ก็เจริญทุกวันนี้ไม่ใช่เอาเรื่องของเงินทองเงินคงคลัง รายได้องค์รวมก็ตาม จะต้องมีตัวเลขสูงกว่าประเทศไหนๆ ไม่ใช่! วัดกันจริงๆแล้วต่ำกว่าเค้าด้วย แต่มีชีวิตอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ อุดมสมบูรณ์

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรมบ้านราช เศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกอยู่ที่นี่ วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 12:37:53 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:58:04 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:13:17 )

คนที่มีเศรษฐกิจดีที่สุดคือที่ขาดทุนให้แก่โลกได้

รายละเอียด

ซึ่งอย่างที่อาตมาพูดเป็นแบบเศรษฐกิจของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะศัพท์คำเดียวว่าแบบคนจน จนอย่างนี้เป็นการจนอย่างมีปัญญารู้จักพอเพียง รู้ว่าคนมีเศรษฐกิจดีคือคนขาดทุนได้ คนที่มีเศรษฐกิจดีคือคนที่ขาดทุนให้แก่โลกได้ แล้วประเสริฐ ดังที่ในหลวงตรัสไว้ว่า ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา ขาดทุนแปลโดยตรงก็คือการเสียสละ เสียสละให้แก่คนอื่นได้คนนั้นคือผู้มีกำไร คือผู้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอย่างไรให้เป็นคนขาดทุนได้และจะขาดทุนอย่างไรให้อยู่ได้อย่างยั่งยืนถาวร ชาวอโศกเรานี้ ขออภัยที่ต้องยกชาวอโศกเป็นโมเดลเป็นแบบอย่างไปทุกที ก็ต้องจำเป็นเพราะมันทำได้แล้วมันศึกษาได้ง่าย เอหิปัสสิโก เชิญให้มาพิสูจน์ได้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2563 ( 12:48:20 )

คนที่มีแต่โทษในสังคม คือคนที่มีกิเลสมาก

รายละเอียด

คนจะอยู่ก็ควรอยู่อย่างเป็นประโยชน์ไม่เป็นโทษ แล้วคนที่มีแต่โทษไม่เป็นประโยชน์คืออย่างไร คือ คนที่มีกิเลสมาก ราคะมาก โทสะมากหรือโลภะมาก โทสะมาก พยาบาทมาก โมหะมาก คนอย่างนี้มีแต่โทษ อยู่ในโลกอย่างไรก็มีแต่โทษ พากันสร้างโทษภัยให้แก่สังคมแก่มนุษยชาติ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 07:22:17 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:58:41 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:13:55 )

คนที่มีโทษมากที่สุดในโลกคือใคร

รายละเอียด

แต่เมื่อเป็นจิตนิยามนั้นมีทั้งตัวเองและมีทั้งไประรานคนอื่น เป็นโทษเป็นภัยแก่คนอื่นยิ่งจะชั่วหนักโง่หนัก ยิ่งจะไประรานคนอื่นยิ่งจะมีโทษมากเท่านั้น คนที่มีโทษมากที่สุดในโลกคือคนที่ร้ายแรงที่สุด ทำอาวุธฆ่าคนอื่นนี่เลวร้ายมากที่สุด และอันที่สองคือแย่งชิงเอามาเป็นของตัวเองให้มากที่สุดรวยที่สุด สองฝั่งเป็นความเลวร้ายมากที่สุดทั้งสองฝั่ง เอามาให้เป็นของตัวมากที่สุดก็ไม่เอา ทำร้ายคนอื่นให้มากที่สุดก็ไม่เอา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  กาลามสูตรและเตวิชชสูตร วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2561 ที่บวรสันติอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(พระสูตรอื่นๆที่สำคัญ) ตอน กาลามสูตร


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:44:40 )

คนที่มีโสตทิพย์ในวิชชา 8 รู้จักเสียงสองอย่างไร

รายละเอียด

รูปก็เป็นอย่างนี้เป็นรสของรูป จะเป็นสีเป็นแสงอะไรก็แล้วแต่ เสียงมันเป็นอย่างนี้ก็เป็นรสของเสียง มันดังมันค่อยอย่างไรก็แล้วแต่ ก็เป็นของเสียง แล้วก็รู้ว่าเสียงอย่างนั้นเป็นเสียงจริงๆของมันคืออะไร เสียงที่ 2 คือเสียงปลอมเสียงเก๊คืออะไร ก็ไม่ต้องให้มีเสียงสอง

คนที่มีโสตทิพย์ในวิชชา 8 ข้อที่ 4 โสตทิพย์ก็จะรู้จักเสียง 2 แล้วก็เลิกเสียง 2 

ในโสตทิพย์นั้นท่านตรัสว่า แม้แต่ได้ยินเสียงกลอง เสียงเปิงมาง เสียงอะไรก็แล้วแต่ได้ยินอย่างไกลๆอย่างแว่วๆ ก็ได้แยกแยะเสียงนี้ออก ว่าเสียงนี้เป็นเสียงกลอง เสียงเปิงมาง เสียงตะโพน เป็นต้น เพราะจิตมีตัวแยกความต่างกันของสองสิ่ง ละเอียด ท่านเทียบเป็นรูปธรรม เสียงกลอง เสียงตะโพน เสียงบัณเฑาะว์ อยู่ไกลๆก็ยังแยกได้ ได้ยินแว่วๆเบาๆตามที่ไกลก็ยังแยกได้ แสดงว่าคุณมีโสตทิพย์ มีความสามารถพิเศษมากยิ่งขึ้น 

เหมือนกับกิเลสของคุณ จะเล็กจะน้อย จะละเอียดเบาบางอย่างไร คุณก็แยกแยะได้ จนคุณสามารถอยู่เหนือความเบา คือ วิการรูป 5 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ผู้พ้นอสุรกายจึงได้ไปอยู่โลกหน้า วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 20:45:58 )

คนที่มืดบอดจุดเทียนอย่างไร เขาก็ไม่เห็น

รายละเอียด

แสดงว่าฟังแล้วเข้าใจแล้วตรึกตรองตามก็แจ้งใจ ก็ได้รับความแจ้งใจไปตามลำดับๆดีแล้ว ส่วนคนไม่รู้ก็มืดก็บอด จุดเทียนอย่างไรเขาก็ไม่เห็น ไม่มีแสงอะไรให้เขาเห็นหรอก เทียนสักกี่กระบุง กี่ตะกร้า กี่รถโกดัง ก็ไม่เห็นอะไร เพราะว่าเป็นเรื่องขององค์ประกอบของกิเลสมันมีเยอะ เราเรียกว่ากิเลส เขาก็ว่าเป็นความเห็นของเขา ก็ค่อยๆเรียนรู้กันไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมื่อเห็นค้านแย้งจากผู้สัมมาทิฏฐิย่อมคือผู้มีบาป วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2566 ( 19:03:55 )

คนที่ยังมีกิเลสคนที่ยังมีอวิชชา

รายละเอียด

เอ๊ จิตกับกิเลส อะไรมันต้องอยู่กับอะไร ผู้ที่มีกิเลสอยู่ พ่อครูจะให้จิตตั้งอยู่ที่ไหนคะ ควรทำอย่างไรกับจิตผู้มีกิเลสอยู่ ที่จริงเป็นคำถามเต็มเลยเป็นคำถามครอบจักรวาล ผู้มีกิเลส แล้วจะตั้งจิตอยู่อย่างไร ทุกคนก็ต้องมีปัญญาต้องเข้าใจว่าอันนี้เป็นอย่างนี้ คนที่ยังมีกิเลสคนที่ยังมีอวิชชา กิเลสยังไม่หมดยังไม่เป็นพระอรหันต์จะทำจิตอย่างไรควรตั้งจิตอย่างไร ควรทำกับจิตอย่างไร ความหมายคือคลุมทั้งหมดอย่างนั้น การปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าก็คืออันนี้ คืออันที่ว่า คุณจะต้องรู้จักจิตในจิต คือคุณจะต้องรู้จัก กาย เวทนา รู้จักธรรมะ จิตในจิตนี่แหละ คำว่าจิตนี่เป็นตัวหลักแล้วคุณจะต้องรู้ว่าความเป็น กาย คือส่วนอย่างไรอาการอย่างไร ความเป็นเวทนาคืออาการอย่างไรส่วนอย่างไรในจิต แล้วก็ความเป็นธรรม 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 10:48:38 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:22:13 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:15:00 )

คนที่ยังสร้างอาวุธ ฆ่ากันยังไม่ฉลาดพอ

รายละเอียด

คนที่ยังไปสร้างอาวุธฆ่ากันยังโง่ยังไม่ฉลาดพอ ยังเถื่อนถ่อย เพราะฉะนั้นสังคมมนุษยชาติอย่างใด อยู่อย่างไม่สร้างอาวุธ  อยู่อย่างสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นหลักเลย เป็นสัมมาอาชีพ เป็นผลผลิตหลักของชีวิตแต่ละคน ๆ มีความรู้ความสามารถ มีพื้นที่ทุกคนเกิดมาจน กลายเป็น DNA เลยในชีวิต เกิดมามันเป็นสัญชาตญาณ ทำพืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นหมดเลย มันติดในสัญชาตญาณเลยนะ สัญชาตญาณไม่ต้องเรียน ไม่ต้องฝึก คุณออกมาคุณก็รู้เลยว่ามันเป็นอย่างนี้ สัญชาตญาณ รู้เลยว่าสัญชาตญาณเป็นกสิกร อย่างนี้เป็นต้น 

อาตมาอยากให้ชาวอโศกคนไทยนี้เข้าใจอย่างนี้นะ ปลูกฝัง DNA นี้เลย ปลูกฝังสัญชาตญาณให้เกิดมาเป็นชาวกสิกร ใครเกิดมาก็เป็นคนที่มีความสามารถอื่นนิดหน่อย แต่อันนี้เป็นหลัก เป็นทั้งสินค้าส่งออก เป็นทั้งสิ่งที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์ เป็นทั้งสิ่งที่เป็นงานเอก แล้วก็เห็นคุณค่าเป็นงานประเสริฐด้วยอย่างนี้ 

อาตมาพูดไปคนจะหาว่าเวอร์ ไม่เห็นว่ามันน่ายกย่องเชิดชู คุณจะเห็นว่า Over ก็ไม่เป็นไร อาตมาจะเห็นจริงอย่างนั้นตามความเห็นจริงของอาตมา มันอาจจะเป็นความเห็นจริงที่ต่างกัน คุณอาจจะเห็นว่าเอาเวลาไปสร้างอาวุธเจริญกว่าเอาเวลาไปหาเงินมามากๆ เอาเปรียบเอารัดคนอื่นได้กำไรแล้วก็จะได้เงินสะสมก้อนเงิน คุณก็ต้องใช้เงินมาซื้อของเรากินหรือรับแจกจากเราไปกิน จนกระทั่งพวกเราเมื่อมีอาหารการกินมีพืชพันธุ์ธัญญาหารเลี้ยงชีพในแต่ละวัน ธนบัตรหรือแบงค์โน๊ตที่เขาเรียกว่า วัตถุสารพัดนึก ลดค่า จำเป็นน้อยลง  ลดค่าลง รู้สึกอย่างนั้นไหมเงินธนบัตรในแต่ละวัน 

ถามสามัญธรรมดา ถามว่า วันๆหนึ่ง คุณไม่ได้ใช้เงินเลยนี่ ไม่ได้ใช้เงินทุกวัน บางคน 2 วัน 3 วัน 4 วัน 5 วันไม่ได้ใช้เงินเลย ใครเป็นอย่างนี้บ้างยกมือ ...พรึ่บ นี่คือคนประเภทหนึ่งในโลก อยู่นี่ มีชีวิตอยู่เหมือนพวกคนทั้งหลายและถามสิว่าคนในกรุงเทพฯ วันๆหนึ่งเขาไม่ได้ใช้เงินเขาจะอยู่ได้ไหม ...ไม่ได้ อย่าว่าแต่กรุงเทพเลย ออกจากบ้านคุณก็ต้องใช้เงิน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังสาธยายธรรมจากคำถามของคนจริง วันพุธที่ 25 มกราคม 2566 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 กุมภาพันธ์ 2566 ( 11:59:38 )

คนที่ยังไม่มีศีล 5 ยังไม่ใช่มนุสโส ยังไม่ใช่คนเจริญ

รายละเอียด

เนกขัมมะคือออกจากสุข ออกจากทุกข์ ท่านไปบอกว่าออกจากกาม ก็กามนั่นแหละมันใคร่อยาก อยากได้สมใจก็สุข ไม่สมใจก็ทุกข์

“ใคร่อยาก”เป็นเหตุของสุขทุกข์ออก ได้เนกขัมมะข้อแรก ออกจากสุขทุกข์ ตั้งแต่เริ่มต้นกาม ออกจากกามก็ไม่ได้เรียนรู้จริง ไม่ได้มาปฏิบัติจริง พวกเรามีบารมีเรียนมา ยังมีคนที่เพิ่งเริ่มต้นที่ติดตามฟังอาตมาอย่างน้อยไม่มีอคติ แต่ก็ถูกเถรสมาคมไปครอบงำไว้ว่าโพธิรักษ์ไม่ใช่ศาสนาพุทธ เป็นพวกทำลายศาสนาพุทธ อย่าไปฟังอย่าไปนับถือ ก็ถูกเขาครอบงำง่ายๆก็ไปเชื่อเขา ก็ไม่ได้ฟังธรรมอาตมาหรือฟังก็เพ่งโทษ ไม่มีความยินดี ไม่มีความพอใจที่จะฟัง แต่ถ้าคุณฟังด้วยฉันทะ ฟังแล้วมนสิการไป ทำใจในใจตามที่อาตมาแนะนำโดยมีผัสสะเป็นปัจจัยเป็นสมุทัย มีเวทนาเป็นที่ประชุมลง แล้วคุณก็ปฏิบัติเป็นสมาธิได้ สติคุณก็จะใหญ่ขึ้น ปัญญาคุณก็จะอยู่เหนือ คุณมีแก่นวิมุติ สุดท้ายคุณก็เป็นอรหันต์ เป็นอมตะ ก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ นี่คือมูลสูตร เป็นรากเหง้าของสัจจธรรม 10 หลัก 

คำสอนพระพุทธเจ้านี่หลักเกณฑ์ต่างๆที่ได้อธิบายแล้วฟังดีๆพวกเราจะเข้าใจ อาตมาขยายความให้เข้าใจดีๆ พูดทวนพูดซ้ำ ได้ใหม่ขึ้นมาอีก พวกเราจะได้อนิสงฆ์ 5 ประการในการฟังธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า นี่เขาเอาของมหาบัวมาพูดมาเผยแพร่เหมือนของมหาบัวเอง มีการไปออกอากาศอยู่โดยไม่บอกว่าของพระพุทธเจ้านะ บอกว่าของมหาบัว

พวกเราฟังธรรมแล้วเข้าใจก็จะได้ปฏิบัติประพฤติจริงๆ พวกคุณเป็นคนเจริญ เป็นอริยบุคคลจริงๆที่อาตมาพูดอย่างนี้ ไม่ใช่มายกย่องป้อยอยอเล่นๆ มันเป็นคนรู้จักสัจจะ  เป็นผู้มีปฏิภาณปัญญาชัดเจน ชีวิตนีเนอะแต่ก่อนก็ไปหลงบ้าๆบอๆอยู่ทางโน้น อย่างญาดาคนนี้ก็เป็นไฮโซ ไปหมดทุกวงการ เสร็จแล้วก็มาอยู่อย่างนี้ ผมเผ้าก็ไม่ย้อมแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนแล้วก็ หงอกได้ที่ไหน ย้อมเจ้าซะเลย เดี๋ยวนี้ก็ไม่หัวซาแล้ว ผมจะหงอกก็ช่างผม มันก็เป็นไปตามธรรมของมัน ผู้ที่ได้เข้าใจทิศทางความเป็นจริงของชีวิต เลิกไปหลงเทวดา เลิกไปหลงเป็นผี มาเป็นมนุสโส คนที่ยังไม่มีศีล 5 ยังไม่ใช่มนุสโสยังไม่ใช่คนเจริญ ยังไม่ใช่อริยกะ อย่างพวกสร้างอาวุธฆ่าคน ฆ่าอะไรอยู่สร้างสิ่งที่มอมเมา ยังงมงายอยู่ในเรื่องของสัตว์เป็น สิ่งที่เป็นพิษ สิ่งที่ปรุงแต่งมอมเมากัน เห็นแล้วอาตมาก็ว่ายากจริงๆ อย่างรายการโทรทัศน์นี่ชวนกันปรุงแต่งไปกิน “ชีพจรลงพุง” Eater อาตมาแปลว่าจอมแดก แสวงหากิน มันอร่อย มันสุดยอด มันมัวเมา มอมเมาสุดยอด หลงรูปรสสัมผัส ศีลข้อ 3 ไม่เคยรู้สึก ไม่เคยสังวร แม้แต่บวชเป็นพระเป็นเจ้าแล้ว “อาหารวันนี้อร่อยโยม” ตายๆๆๆ ไม่ได้เข้าใจ ไม่ได้รู้เรื่อง บวชมามันน่าละอาย ไม่มีความละอายเลยแม้แต่เรื่องรสอาหาร นี่ก็วิจารณ์ให้ฟังถึงเรื่องสัจธรรมต่างๆ ก็เป็นการตำหนิ พูดให้รู้เรื่อง ให้สังวร ให้ระวัง พูดให้เนกขัมมะ เป็นฆราวาสก็เนกขัมมะได้ ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ละกาม ละปฏิฆะ ละกิเลสไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับ วันพุธที่ 21 มิถุนายน 2566 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2567 ( 20:43:46 )

คนที่ยิ่งไม่เอามาเป็นเราเป็นของเรา มันยิ่งเป็นของเรา

รายละเอียด

สรุปอีกทีนึง เกิดมาเป็นคน มาเรียนรู้ สิ่งที่เป็นเราเป็นของเรา แล้วรู้ให้ได้ว่ามันไม่ใช่ของเรา ภาษามันง่ายๆพูดพล่อยๆโก้ๆเท่ๆได้ แต่มันจะเป็นจริงไม่ใช่ง่าย แล้วมันมีสภาวะซ้อน ซ้อนมากๆเลย คนที่ยิ่งไม่เอามาเป็นเราเป็นของเรา มันยิ่งเป็นของเรา คือเขาจะยิ่งยกให้ ยิ่งเราไม่เอาเขายิ่งยกให้ ถ้ายิ่งอยากได้เขายิ่งจะแย่งเอาไป ยิ่งแย่งกันยิ่งแย่งกันใหญ่เลย

จริงไหม? ...จริง ถ้าผู้ใดไม่เอา ให้ออกไปๆ หมดตัวหมดตน คนเอามาให้หมดเลย ง่ายไหม? ...ง่าย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ ‌ทุนนิยม‌คือ‌ ‌Infinity‌ ‌แต่‌บุญ‌นิยม‌​‌นี้‌ ‌0‌ ‌ยิ่ง‌กว่า‌ ‌0‌ วันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2565 ( 13:47:50 )

คนที่ยึดมั่นถือมั่นก็เหมือนกับคนตาบอด

รายละเอียด

คนที่ยึดมั่นถือมั่นก็เหมือนกับคนตาบอดที่บอดแล้วบอดเลย จะพูดให้สวยอย่างไรก็ไม่รู้ว่าฟ้าเป็นอย่างไร เพราะเขาตาบอดสนิทแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 10:08:06 )

คนที่ยืนอยู่บนฐานของความเสียเปรียบทั้งๆที่รู้นั่นคือคนเจริญ 

รายละเอียด

คนที่ยังยืนอยู่บนฐานของความได้เปรียบ นั่นคือคนชั้นต่ำ 

คนที่ยืนอยู่บนฐานของความเสียเปรียบทั้งๆที่รู้ นั่นคือคนเจริญ 

ยินดีเสียเปรียบ ยินดีให้ ยินดีช่วย นี่คือคนเจริญ 

คนเสียเปรียบ อย่างเสียรู้ เขาก็ได้กุศลของเขาแล้ว แต่เขายังไม่มีปัญญารู้ว่าตนเองเริ่มเจริญแล้ว หากว่าตนเองยังจะเอาคืนนึกว่าของกูๆอยู่ เป็นจิตนิยามที่ยึดว่าเป็นตัวกูของกู เท่านั้นเอง 

เพราะฉะนั้นคนที่บริบูรณ์ในความชัดเจนบริบูรณ์ด้วยความรู้ ไม่สับสนไม่สงสัยไม่งง ไม่สลับไปสลับมาไม่กลับกลอก เสียก็เสียสิ ได้ก็ได้สิ จะไปได้มาทำไม เราเองพึ่งตัวเองก็รอดอยู่แล้ว แม้ที่สุดตนเองไม่ต้องทำกิน คนที่อยู่ร่วมกันก็ช่วยกันทำ มากินมาใช้เป็นของกลางเผื่อแผ่แจกจ่ายกันเยอะ เผื่อแจกจ่ายออกนอกในกลุ่มได้เลย โดยไม่ได้ขัดข้องไม่ได้เดือดร้อน ทำอย่างเต็มใจที่จะแจกจ่ายคนอื่นไป

ที่มา ที่ไป

พิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2565 วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 21:31:32 )

คนที่ระลึกชาติได้คือคนที่ยังยึดติดกับอดีตใช่หรือไม่

รายละเอียด

ไม่ใช่ คนที่ระลึกชาติได้หากคนยังติดยึดอยู่ พระพุทธเจ้าก็ยังระลึกชาติได้ตั้งเยอะแยะ หลวงปู่ก็ระลึกได้บ้างตามภูมิ มันจะไปติดทำไมมันเข็ดด้วยซ้ำไป คนรวยนี้ไม่เข็ด คนทุกข์ดีกว่านะ มันเข็ด แต่คนรวยนี้หลุดยาก คนจนนี้หลุดง่ายกว่า ต้องชัดเจนในประเด็นเหล่านี้จะไปติดทำไม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:39:50 )

คนที่รังเกียจพ่อครูยิ่งน่าสงสารอย่างไร

รายละเอียด

อาตมามั่นใจว่ามีความจริง คนที่จะรังเกียจอาตมาก็ยิ่งน่าสงสาร มันยิ่งกว่าเด็กยิ่งกว่าคนดื้อดึงดื้อด้าน มันไม่มีอะไร มันมีอันนั้นจริงๆ ดื้อดึงดื้อด้านไม่เชื่อฟัง ทั้งด่าทอ มันก็ต้องเป็นจริง ยิ่งเห็นยิ่งน่าสงสาร ดื้อด้านดึงดันแล้วแทนที่จะตั้งใจฟังยินดีที่จะรับฟัง กลับมาฟาดฟันเราอีก มันยิ่งกว่าเด็กที่ไม่ประสีประสาเลย มันเป็นธรรมชาติอย่างนั้นจริงๆ เห็นแล้วยิ่งน่าสงสาร เมื่อไหร่จะโตสักทีน้อ.. เด็กเอ๋ย! อาตมาเห็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ค่อยๆทำไป อาตมาก็คงจะต้องอยู่ไปอีกนานพอสมควร ตายแล้วจะเกิดอีกหรือไม่ ก็ยังเชื่ออยู่ว่าน่าจะต้องเกิดอีก เพราะว่าขนาดนี้มันก็ยังยากอยู่เลย น่าจะต้องเกิดอีก แต่อย่าประมาทนะ พวกเรา พูดอย่างนี้แล้ว ต้องพากเพียรพยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่ อย่าปล่อยปละละเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ เป็นโลกุตระได้เพราะเหนือมนุษย์โลก วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 19:45:48 )

คนที่รับหรือคนที่รู้ว่าตัวเองโง่

รายละเอียด

คนที่รับหรือคนที่รู้ว่าตัวเองโง่คนนั้นเริ่มฉลาด ถ้าคนใดที่ยังไม่รู้จุดโง่ของตัวเองนะไม่มีทางฉลาด แล้วคิดว่าตัวเองฉลาด ตัวเองรู้ถูกด้วยนะ ถ้าอย่างนั้นโง่ดักดานเลย

เพราะฉะนั้นจิตคนหรือว่าปัญญาปฏิภาณที่จะรู้ว่า เฮ้ย เราโง่อยู่ตั้งนานด้วย จริงๆแล้วโง่เลยนะนั่นน่ะ ไอ้ที่เราโง่คือเราไม่รู้ ไม่รู้คือโง่นั่นแหละ เราเพิ่งรู้ว่าที่ถูกเป็นอย่างนี้ผิดไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ตอน 3 วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 แรม 9 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2567 ( 15:03:49 )

คนที่รู้จริงมีปัญญาจริง ไม่เป็น“ทาส”เงินทอง

รายละเอียด

ซึ่งคน“ขี้โลภ” คนผู้ไม่มีปัญญารู้จัก“ทุกข์”เท่านั้นที่ต้องจมอยู่กับ“ทุกข์”จึงยัง“ขี้โลภ”แย่งเงินทอง กอบโกยเงินทอง ขี้เหนียวเงินทองเป็น“ชีวิต” เป็น“จิตวิญญาณ” เป็น"อัตตา” เป็นตัวกูของกู เชิดชู“เงินทอง”คือ“พระเจ้า”         

“วิญญาณ”หรือ“ธาตุรู้”หรือ“จิตวิญญาณ”หรือ “ความรู้-ความฉลาด”ของคนปุถุชนคนโลกียะเทฺวนิยมทั่วไปนั้น จะไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริง“พระเจ้า”ที่ชื่อว่า “เงินๆทองๆ”คือ ผี มาร ซาตาน งูร้าย ได้ จนกระทั่ง มีภูมิปัญญาจริงแล้วอยู่ “อยู่เหนือ(อุตตระ)”มัน​ เพราะเรามีสิ่งที่เป็นสาระแก่นสาร สิ่งที่กินใช้อยู่อาศัย ที่ตรงแล้วเป็นชั้น 1 เงินทองมันไม่ใช่ชั้น 1 เลย ถ้าว่ากันจริงๆแล้ว จะว่าชั้น 2 ก็ยังโก้ไป มันแย่กว่านั้นด้วยซ้ำ 

ฉะนั้นคนที่รู้จริงมีปัญญาจริงจึง ไม่เป็น“ทาส”เงินๆทองๆกันสำเร็จเสร็จ“จบกิจ”จริงจบกิจจริงๆเลย ใครลองสำรวจตรวจตัวเองดูซิว่าเรื่องเงินๆทองๆเราหมดปัญหาเลยนะ วันๆหนึ่งไม่ต้องไปกังวลอะไร ไม่ต้องไปหา ไม่เหมือนแต่ก่อนนี้ ไม่เหมือน มันจบกิจแล้วเงินๆทองๆ ใครรู้สึกแบบนั้นบ้างยกมือขึ้นซิ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 16 ตรวจสอบความจบกิจเป็นอรหันต์ในเรื่องเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2566 ขึ้น 6 ค่ำเดือน 5 หน้าร้อน ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2566 ( 12:51:41 )

คนที่รู้จักกรรมวิบากจะไม่กินเนื้อสัตว์

รายละเอียด

เริ่มต้น ตั้งแต่ศีล เกี่ยวข้องกับบุคคลกับสัตว์ ในชีวิตของคนเกี่ยวข้องกับสัตว์และบุคคล นี้สำคัญที่สุด ถ้าหากคุณเข้าใจเนื้อหาสาระสัจจะความเป็นอยู่ของชีวิตเราสัมผัสเกี่ยวข้องกัน กับสัตว์มนุษย์นี่แหละเป็นตัวหลัก สัตว์เดรัจฉานอย่าไปยุ่งกับมัน มันเกิดมาตามวิบากของมันก็ปล่อยมันไปตามวิบากของแต่ละสัตว์ แล้วอย่าไปยุ่งเกี่ยวเอามากินเราก็ไม่ต้องไปกินไปเกี่ยว ไม่ต้องกินสัตว์เลยกินแต่พืช ไม่ต้องไปเกี่ยวกับสัตว์เพราะเราเป็นผู้ที่รู้จักกรรมวิบาก คนที่รู้จักกรรมวิบากจะไม่กินเนื้อสัตว์ หากคนไม่รู้จักกรรมวิบากก็จะกินเนื้อสัตว์ จะไปกินมันทำไม มันมีเยื่อใยของจิตวิญญาณที่ลึกซึ้งที่จะต้องไปเกี่ยวเกาะมาทำไม กินพืชมีชีวิตก็สมบูรณ์แบบแล้ว เพราะว่าศาสนาพุทธสอนให้กินพืช สอนให้กินเนื้อสัตว์ที่ไหน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 15 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2563 ( 11:50:22 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:16:02 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:15:57 )

คนที่รู้จักจบคือคนที่รู้จริงว่ามีความเป็น 2

รายละเอียด

สัจจะมีหนึ่งเดียวเท่านั้น อะไรที่มันแย้งกันโดยที่ไม่รู้ตัวมันก็แย้ง ถ้ามันรู้ตัวแล้วว่าเราแย้ง เราก็จะจบ อันนั้นมันแย้งกันก็ไม่จบ รู้แล้วคนนี้ก็จะจบ คนที่รู้จักจบนี่แหละคือคนที่รู้จริงว่ามีความเหมือนกับความไม่เหมือน หรือมีความมีกับความไม่มี หรือ มีความเป็น 2 

คนนี้แหละ ที่รู้ว่ามีความเป็น 2 มีความเหมือนกับความไม่เหมือน หรือมีความมีกับความไม่มี คนนี้แหละคือคนที่รู้แล้วว่ามันมี 2 แต่คนที่ไปยึด 2 นี้เป็นหนึ่งโดยไม่รู้ตัวเองว่าเป็น 2 ตัวเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็น 2 นะ แล้วหลงว่าตัวเองเป็น 1 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 3 วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 08:28:18 )

คนที่รู้จักแก่นแท้แล้วจะเข้ามารวมตัวกับชาวอโศก

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น คนที่รู้จักแก่นแท้แล้วจะเข้ามารวมตัวกับชาวอโศก ผู้ที่มีปฏิภาณปัญญา เราเสียเวลาเปล่าๆ ไปพริ้วพรายอยู่กับข้างนอก มันฟ่าม มันกว้าง ไม่ได้เนื้อ ไม่เข้ามา วิมังสา มาเอาเนื้อ แก่นๆ วิมังสา พยัญชนะว่า วิมังสา มังสาแปลว่าเนื้อ วิ แปลว่ายิ่ง แต่ยังโง่ วิมัง

วิ แปลว่าไม่ ก็ได้ ไม่ได้เนื้อเลย เขามีคำพังเพยว่า เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง  แล้วแต่เอากระดูกมาแขวนคอ ก็เป็นชาวเถื่อนชาวป่า เขาชอบเอากระดูกมาห้อยคอเต้น ทึ้งๆๆ.. ที่เป็นสัตว์จะเป็นรูปธรรมที่อาตมาอธิบายสู่ฟัง คุณอย่าไปหลงเรื่องของพวกที่เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ลึกซึ้งนะไปฟังดีๆ คุณยังเป็นคนชนิดนั้นอยู่เนี่ย ชาวอโศกเป็นพวกที่มีเนื้อ มีหนัง มีแก่น มีสาระสมบูรณ์แบบแล้ว ไม่เข้ามาอยู่กับเนื้อกับหนัง ไปเป็นชาวกระดูกแขวนคอ เต้นเร่าๆ อยู่ที่ไหนๆๆๆ มันก็จะไปอีกนาน หยุดเถิด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนา บำเพ็ญธรรมภาคค่ำ ว.บบบ. เตรียมงานตลาดอาริยะปีใหม่ 2566 วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 06 มกราคม 2566 ( 13:33:46 )

คนที่รู้ที่จะเกิดแล้วต้องเกิดในแดนสัปปายะ 4

รายละเอียด

คนที่รู้จักแดนเกิด รู้จักที่ที่จะเกิดแล้ว ต้องเกิดในแดนที่เป็นสัปปายะ 4 นี้ อย่างไรๆ เขาก็อุ้มคุณไปแล้ว ไม่อุ้มก็ลากถูลู่ถูกังกันไป อย่างน้อยมาปฏิบัติธรรมหน้านองน้ำตาอยู่ ไม่ใช่หลงระเริงกับโลกียะก็หนาเปรอะเต็มไปด้วยโลกีย์เขลอะไปเรื่อยๆ อย่างน้อยมาอยู่ในนี้ ถูกลากไปถลอกปอกเปิกก็ยังดี ไม่อย่างนั้นมันก็หนาแน่น แม้หน้านองน้ำตาอยู่ อัดอั้นตันใจไป ก็ยังดีกว่าที่จะไปเสียเวลาอยู่กับอันนั้น สรุป สัมภเวสีคือแสวงหาที่เกิด ถ้ารู้ที่เกิดชัดแล้วอย่าเสียเวลา นี่พูดเท่าไหร่ก็ยังไม่เต็ม 777 เรามีเกิน 5 คนอยู่แล้ว 500 ก็ยังพอได้ รวมกันทีๆหนึ่ง วันนี้ถึง 500 ไหม ก็ถึงอยู่นะ

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 พ่อครูบวชมาย่าง 50 ปี มีผลอะไร 1 วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 15:36:14 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:00:28 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:16:53 )

คนที่รู้โลกุตระ มีโลกุตระจริง

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนที่รู้โลกุตระ มีโลกุตระจริง จึงเอาโลกุตระมาบอกจึงเอาโลกุตระมาพูด เอาโลกุตระมาให้พิสูจน์ เมื่อพูดให้ฟังแล้วเห็นว่าเข้าท้า พิสูจน์ได้จริง จึงเกิดมนุษย์มารวมกัน ชาวอโศกจึงมีคนจริงที่เป็นโลกุตระขึ้นมา จริง หมู่ใหญ่ก็เรียกว่าพุทธ อาตมาเอามาประกาศแล้วก็พาคนมาปฏิบัติจนเป็นกลุ่มเป็นก้อน จนเป็น สาราณียธรรม 6 เกิดชุมชน สาราณียธรรม 6 ตรงนี้แหละจะเป็นตัวคำตอบชี้บ่งถึงสัจธรรม ว่า เป็นพุทธแท้ พุทธแท้ตรงใจกลางข้อที่ 4 ของ สาราณียธรรม 6 (ดูภาคผนวก)

ข้อ 4 ว่ามีลาภโดยธรรม ลาภธัมมิกา เมื่อได้ลาภโดยธรรม แล้วเอามารวมกันเรียกว่าสาธารณะ แล้วก็โภคี บริโภคร่วมกันเป็นส่วนกลาง สาธารณะคือส่วนกลาง ต่างคนต่างไม่ยึดถือว่าเป็นของตัวของตน เราก็จะมักน้อยสันโดษ มีคุณสมบัติ วรรณะ 9 ที่สำคัญ  เลี้ยงง่าย  (สุภระ) บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ)  มักน้อย, กล้าจน   (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส  มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) มีอาการน่าเลื่อมใส  (ปาสาทิกะ)ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ตรงข้าม อวรรณะ ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ) 
(พตปฎ. เล่ม 1 "ปฐมปาราชิกกัณฑ์" ข้อ 20)ธูตะ ข้อปฏิบัติที่

เป็นหัวใจของมนุษยชาติเลย ไม่หวงแหนเป็นเราเป็นของเรา ได้ลาภมาโดยธรรม เป็นสิทธิ์ของเราด้วยนะแต่เราเอาเข้ากองกลาง ไม่ยึดถือว่าเป็นเราเป็นของเรา เราก็กินใช้อยู่ในนั้นโดยเรามีคุณธรรมเป็นคนวรรณะ 9 คนเลี้ยงง่ายบำรุงง่ายมักน้อยสันโดษจนกระทั่งครบหมด เลี้ยงง่าย  (สุภระ) บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ)  มักน้อย, กล้าจน (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส  มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ)  ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ)  ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ)  

สํานวนระดมความเพียรเป็นสำนวนของท่านประยุทธ์ปยุตโต แปลมาจากบาลีว่า วิริยารัมภะ เป็นคนขยันที่ขยันจริงๆ ไม่ได้แกล้งเต๊ะท่าดราม่าว่าขยัน แต่มันเป็นสัจจะ เป็นในตัวเป็นสัญชาตญาณของเขา ขยัน แล้วก็ไม่สะสม ขยันไม่สะสม สร้างสรรสิ่งที่ดีงาม ทำแต่สิ่งที่ดี ไม่ทำสิ่งที่ไม่ดี สร้างสรรสิ่งที่ดีงามที่ตัวเองถนัด มีสมรรถนะความสามารถ ก็สร้าง ๆๆ  แล้วก็ไม่สะสม กระจายแบ่งแจกเกื้อกูล อันนี้แหละเป็นทั้งเศรษฐศาสตร์ เป็นทั้งรัฐศาสตร์ เป็นทั้งสังคมศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลย ในโลกมนุษย์ เพราะฉะนั้นก็มาพิสูจน์กัน ว่า โลกุตรธรรม

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 35 ที่สุดแห่งที่สุดที่จะเกื้อกูลโลกได้คือโลกุตรธรรม วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2566 แรม 6 ค่ำเดือน 8(2) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 สิงหาคม 2566 ( 18:52:43 )

คนที่วนเวียน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นความรู้ที่เรียนรู้สุขทุกข์คือโลกุตระ ความรู้ที่เรียนรู้แค่ดีและชั่วคือโลกียะ ผู้ที่สอนกันบอกว่า มาทำดีอย่าทำชั่ว ก็สอนแค่โลกียะ ตะวันตกเทวนิยมก็สอนแต่ดีชั่ว ไม่ได้สอนเรื่องสุข และทุกข์ แม้แต่พระเจ้าก็เป็นสุขนิยม ไม่ได้พ้นสุขพ้นทุกข์ ไม่ได้มีนิพพาน พระเจ้า ไม่รู้เรื่องสุขไม่เรื่องทุกข์ เพราะไม่ได้รู้จักจิต เจตสิกรูป นิพพาน เพราะฉะนั้นก็จะวนเวียนอยู่กับสุขๆทุกข์ๆ ทุกข์ๆสุขๆ  ไม่รู้เรื่องกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม ไม่รู้เรื่อง พอเบื่อสิ่งที่พอใจซึ่งไม่ตรงกัน อะไรพอใจตัวเองได้สมใจ ได้สัมผัสก็เป็นสุขก็เท่านั้นเอง ก็ไม่รู้สุขทุกข์ ก็บำรุงสุขแล้วก็เป็นกิเลสไป ไม่เอาทุกข์เอาแต่สุข คุณก็สะสมกิเลสไป 

องค์ประกอบที่จะไม่ให้คุณทุกข์ คุณก็จะต้องมีสารพัดนึก มีทรัพย์ศฤงคารมีอำนาจบาตรใหญ่ที่จะทำตามที่คุณต้องการ ทำตามกิเลสตัณหาแล้วก็เอามาได้สมใจ ถือว่าสุดยอดแล้วมนุษย์สูงสุด ความต้องการอันยิ่งใหญ่บำเรอใจ แล้วก็หลงเป็นสิ่งที่บำเรอใจเป็นกิเลสสะสมไปเรื่อยๆ หนาขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีความจบของความหนา หรือ ปุถุ คือความหนา ความใหญ่ ความมาก ความโต ภาษาบาลีเรียก ปุถุ

คนไม่เลิกเป็นปุถุชน มาเป็นอาริยชน เป็นคนเจริญ มาเป็นอาริยกะ คนเป็นอาริยกะ ไม่ได้คือคนที่วนเวียนกับ มิลักขะ คนเถื่อนคนบาป คนโง่ แม้คุณจะบอกว่าคุณเจริญแต่คุณก็ยังมาสร้างระเบิดสร้างปืนมาฆ่ากัน แย่งอำนาจ แย่งยศศักดิ์ แย่งภูมิประเทศกัน แย่งความคิดที่ฉันได้เหนือกว่า ได้เปรียบกว่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เกิดมาต้องรู้จักความเป็นคนกับสังคมจึงไม่เสียชาติเกิด วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 เมษายน 2566 ( 13:04:05 )

คนที่สมบูรณ์แบบตามทฤษฎีของพระพุทธเจ้าเป็นเช่นใด

รายละเอียด

เขาก็ยังไม่มีทฤษฎีที่จะฝึกตนให้คนเป็นอาริยบุคคลโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามีอรหันต์ได้จริง ทฤษฎีที่จะให้คนมีคุณสมบัติ คุณวิเศษ คุณธรรม ที่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ คือทฤษฎีของพุทธเจ้านี้ เมื่อบรรลุจิตวิญญาณ ที่หมดกิเลส แบบทฤษฎีพระพุทธเจ้าแล้วจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบด้วยรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ที่เป็น 3 ศาสตร์ใหญ่ของมนุษยชาติ คนต่างประเทศก็รู้ดีทั้งนั้นรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ 3 ศาสตร์นี้ยิ่งใหญ่ที่สุดสมบูรณ์แบบที่สุด เอาตรงนี้ก่อน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 11:51:16 )

คนที่สอนได้เป็นเวไนยสัตว์

รายละเอียด

โลกเรา อยู่ในจักรวาลน้อยที่มีดาวนพเคราะห์ 9 ดวง เป็นจักรวาลที่เล็กที่สุดแล้ว มีดวงดาว 9 ดวง มีพระอาทิตย์ดวงเดียว โลกอื่นเขามีพระอาทิตย์ดวงเดียว แต่มีจักรวาลน้อยหลายจักรวาลด้วย ยิ่งมีพระอาทิตย์หลายดวงมีจักรวาลน้อย สานกันอยู่อีกเยอะไม่ต้องไปพูดต่อเลย เกินกว่าที่เราจะไปจำเป็นจะต้องรู้ มันอยู่ของมันเป็นธรรมชาติ เป็นเรื่องของจักรวาลเราไม่ต้องไปเกี่ยวหรอก ไปทำอย่างไรกับมันไม่ได้ เราไม่มีฤทธิ์แก้ไขจักรวาลของมันเลย มีแต่พระเจ้าอวดดีว่าเป็นผู้สร้างจักรวาล ท่านทำก็ให้ท่านเก่งไป ท่านทำได้ก็ทำไป เราไม่รับหน้าที่นั้น เรามารับหน้าที่ดูแลคน แม้แต่คนก็เอาที่อาริยบุคคล เอาคนที่สอนได้เป็นเวไนยสัตว์ อเวไนยยสัตว์ก็ปล่อยไปตามกรรม งานของเราที่เอาเวไนยสัตว์มาสอนมันก็เหนื่อยแสนเหนื่อย ยากแสนยากแล้ว คุณว่าไม่ยากช่างเถอะ แต่อาตมาว่าช่างยาก ใครเห็นด้วยกับอาตมาว่ายากบ้าง ก็เข้าใจนะมีคนเห็นใจอยู่ ขันจอหว่อ เห็นใจเถิดเห็นใจบ้าง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 1 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 05:32:30 )

คนที่สอนได้เป็นโลกียชนมีหลายระดับ

รายละเอียด

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 03 มิถุนายน 2563 ( 10:24:50 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:17:10 )

คนที่สุดยอด ต้องอย่างนี้

รายละเอียด

เลี้ยงง่าย มีอยู่มีกินแค่นี้ก็เลี้ยงง่าย อยู่สบาย ไม่เดือดไม่ร้อน ไม่ดิ้นรน ไม่หาเรื่องหาราว

สอนให้เจริญ สุโปสะ ง่าย 

มีน้อยๆก็เอา กล้าจน อัปปิจฉะ พอ น้อยๆ ก็พอ จิตพอด้วย มากไม่เอา 

สันตุฏฐิ สันโดษคือมากไม่เอา เอาแต่น้อย มีมากสะพัดออก

ขัดเกลาตนเอง สัลเลขะ อะไรที่มีตัวตนก็ลดลง โดยหลักปฏิบัติของพระพุทธเจ้า 

ธูตะ ข้อปฏิบัติขัดเกลาตนเอง

จนกระทั่งมีอาการน่าเลื่อมใส ผู้รู้ผู้ที่มีปัญญาจะเห็นว่าน่าเลื่อมใส 

ไม่สะสม อปจยะ แล้วยอดขยัน วิริยารัมภะ ขยันเสมอ ปรารภความเพียรอยู่เสมอ คนที่สุดยอด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 11:24:31 )

คนที่หลงตัวเอง

รายละเอียด

คนที่หลงตัวเองว่าเป็นพระอรหันต์จริงๆพระพุทธเจ้าไม่ปรับอาบัติ แต่ถ้าคนนั้นรู้ทั้งรู้อยู่ว่าตัวเองไม่ใช่หรอกแต่เรานี่หน้าด้านหลอกคนอื่นว่าฉันเป็นพระอรหันต์ก็ศึกษากันไป

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 12:28:38 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:01:42 )

คนที่หลงตัวเองว่าฉลาดที่สุด นี่คือโง่ที่สุด..

รายละเอียด

ซาตานก็เก่งกว่าพระเจ้าสิ เป็นคู่แข่งของพระเจ้า หรือจริงๆก็คือ สูงที่สุดเลย อาตมารู้ แต่พูดไปแล้วคนเข้าใจยาก แหม พูดไปมันจะไม่ดี.. ขอพูดบ้าง นิดหน่อย.. “ความฉลาดที่สุดนี่คือความโง่ที่สุด” คนที่หลงตัวเองว่าฉลาดที่สุดนี่คือโง่ที่สุด.. คนที่คิดว่าตัวเองฉลาดที่สุด แบบทักษิณ คือคนโง่ที่สุด นี่คือตัวอย่าง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 ตุลาคม 2565 ( 12:02:22 )

คนที่หลงรวยหลงยิ่งใหญ่หลงกอบโกยไม่รู้ตัวเองเป็นผี

รายละเอียด

วิญญาณนี้คือ อัตตา หากมีอวิชชา เขาจะแสดงตัวเป็นผีอยู่ตลอดเวลาแต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นผี เขานึกว่าเขาเป็นเจ้าโลก เป็นคนชนะ เป็นคนยิ่งใหญ่ 

ตั้งแต่ง่ายๆ ก็คือ ยิ่งใหญ่ เพราะฉันมี ลาภเยอะ รวยเหนือกว่าใครเลย เป็นเจ้าโลกเพราะรวย รวยทรัพย์สินมีเงินทองข้าวของทรัพย์ศฤงคารอะไรก็แล้วแต่ ยิ่งใหญ่ นั่นแหละผีหลอกตัวเอง นึกว่าตัวเองเป็นเจ้า นึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของสุขเจ้าของทรัพย์สินใหญ่ที่หลงเอาอันนี้เป็นตัวตั้ง ทรัพย์ศฤงคารเงินทองข้าวของ เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้ก็ตั้งหน้าตั้งตาแย่งโลก กอบโกยเอาทรัพย์ศฤงคาร ตั้งหน้าตั้งตา เอาอันนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกระทั่งไม่รู้ว่าไปแย่งเอาจากเขาด้วยความรุนแรง เบียดเบียนเขา ฆ่าแกงรบรา เพื่อจะแย่งเอาทรัพย์ศฤงคารพวกนี้มาให้แก่ตัวเองได้เยอะๆ เขาก็ทำมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แย่งกันมา จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็พอมีความรู้ขึ้นมา ก็แย่งอย่างมีท่าทีไม่ให้รู้ว่าฉันแย่งนะ แต่เขาก็รู้ทั้งนั้นแหละไม่ต้องไปทำเป็นอำพรางไปทำกลบเกลื่อนอะไรหรอก 

แย่งลาภแล้วก็แย่งยศชั้นเป็นอำนาจใหญ่ แม้จะทำทีไม่มียศ แต่ไม่มีประเทศใดไม่มียศ มียศทุกประเทศ ตั้งยศตำแหน่งกัน เสร็จแล้วก็เป็นสรรเสริญ 

จะสรรเสริญเพราะมี ลาภมาก สรรเสริญ เพราะมียศตำแหน่งมากก็สรรเสริญกันแต่ไม่ได้รู้ตัวเองว่าตัวเองติดยึด เขาให้ก็รับ เขาเอาตำแหน่งมาให้เอายศมาให้ก็รับ ก็อยู่กับยศตำแหน่งนั้นไม่ยอมปลดปล่อย ไม่ยอมปฏิเสธ แต่ก็มีแน่นอนเขาให้ตำแหน่งแต่ตัวเองไม่รู้ว่าตัวเองเสพอยู่อย่างพอมีปฏิภาณรู้ว่าอย่าไปแสดงออกว่าเรายินดีนะ แต่คุณก็มียศนั่นแหละ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการภาคค่ำ งานอโศกรำลึก 2565 กำจัดผีในตนจึงเป็นคนโลกุตระ วันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 7 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2565 ( 20:56:29 )

คนที่หลงสุภะเป็นคนวิปลาสหนึ่งในวิปลาส 4

รายละเอียด

คนที่หลงสุภะ ก็เป็นคนวิปลาสในวิปลาส 4 เป็นคนวิปลาส เป็นคนสำคัญผิดในวิปลาส 4

1. เห็นความไม่เที่ยงว่าเที่ยง 

2. เห็นความทุกข์เป็นความสุข 

3. เห็นความไม่ใช่ตัวตนว่าเป็นตัวตน 

4. เห็น อสุภะเป็นสุภะ สิ่งที่ไม่น่าได้ไม่น่ามีไม่น่าเป็นเห็นว่าเป็นสิ่งที่น่าได้น่ามีน่าเป็น 

วิปลาสทั้งนั้น เพราะฉะนั้นผู้ที่จบแล้วเป็นพระอรหันต์ ทุกอย่างนั้นก็เป็นภาระ ที่ต้องอาศัยมัน มันไม่น่าได้น่ามีน่าเป็นอะไรเลย ถ้าไม่เข้าใจแล้วไม่ปล่อยวางมันอยากตายมากกว่า เพราะฉะนั้นพระอรหันต์รุ่นแรก ก็มีฆ่าตัวตายไปเยอะเลย ก็เพราะเห็นว่าไม่มีอะไรน่าได้น่ามีน่าเป็นเลยก็เลยฆ่าตัวตายไปเสียเยอะ มีในประวัติอยู่ มันเบื่อหน่าย 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:03:30 )

คนที่หาได้ยาก 3

รายละเอียด

บุคคลที่หาได้ยากในโลก ก็คือ

1. พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

2. ผู้แสดงธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว

3. ผู้กตัญญูกตเวที (รู้คุณและตอบแทนคุณ)

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 20 "ทุลลภสูตร" ข้อ 555

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก หน้า 19


เวลาบันทึก 15 มิถุนายน 2562 ( 14:39:24 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:46:59 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:18:41 )

คนที่หาได้ยาก 3

รายละเอียด

บุคคลที่หาได้ยากในโลก ก็คือ

1. พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

2. ผู้แสดงธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว

3. ผู้กตัญญูกตเวที (รู้คุณและตอบแทนคุณ)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 20 “ทุลลภสูตร” ข้อ 554


เวลาบันทึก 11 มีนาคม 2565 ( 20:50:46 )

คนที่อยากมาอยู่กับชาวอโศก ต้องทิ้งทางโลก

รายละเอียด

คือท่านสมณะโพธิรักษ์พูดถึงเรื่องความจน เน้นมาพวกเราก็คงเข้าใจกันดี เข้าใจกันใช้ได้ มาประพฤติ ปฏิบัติ เป็นคนจนอย่างสบายใจ แล้วไม่ได้คิดไปแย่งชิง ไปร่ำรวยอะไรกับเขานะ อยู่กันอย่างนี้แหละอยู่กับหมู่ฝูง อย่างนี้แหละ คนที่อยู่ที่นี่แล้วไม่มีปัญหา คนที่ยังไม่อยู่กำลังจะย้ายมาอยู่มีใครบ้างยกมือขึ้นซิ เหนื่อยจริงๆ มันไม่มีเสน่ห์หรืออย่างไร  คนที่จะอยากมาอยู่ที่นี่ต้องทิ้งทางโลก โลกที่มี แสง สี มีรูป รส กลิ่น เสียง มีสิ่งที่ยั่วยวน ยั่วเย้า ข้างนอกมันมีอยู่เยอะ แล้วก็ติดยึดกันอยู่

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 15:25:21 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:02:33 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:21:13 )

คนที่อยู่เหนือทรัพย์ศฤงคารไม่ได้ยากที่จะไปนิพพาน

รายละเอียด

มันเต็มโลกเลยนะเอาเงินที่ไหนมาจ้าง เจ็บแค่มดกัดเท่านั้นเองก่อนตายเก็บเงินมา พอล้านในบัญชีมีประโยชน์อะไร พ่อครูว่า..น่าคิดเหมือนกันนะคนเรามีชีวิตสะสมไปพยายามอยากมีเงินล้านมันก็ไม่ถึงล้านได้ง่ายๆเลยนะ เห็นใจ คนระดับล่างมีเยอะ เงินล้านไม่ใช่เงินต่ำๆ ถึงยุคนี้ค่าเงินตกเยอะ ก็ยิ่งไม่ง่าย ยิ่งสมัยยุคอาตมาก็ยิ่งไกลลิบ สมัยนี้เงินล้านก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้วแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วคนเราก็หาเงิน ซอกๆๆ แล้วก็นึกว่าชีวิตจะอยู่กับโลกที่เป็นก้อนล้านๆ มันจะทำให้ชีวิตเราเจริญทำให้ชีวิตเราประเสริฐทำให้ชีวิตเราดีขึ้น อาตมาว่ามันไม่ใช่ ถ้าใช่แล้ว พระพุทธเจ้าก็ผิดตั้งแต่ต้นที่มีสมบัติพัสถาน ผิดตั้งแต่ต้นเลย ท่านทิ้งอย่างไม่แยแสเลย อาตมาก็เหมือนกัน อาตมาเดินออกมาจากทางโลก ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับกองเงินกองทองทางโน้นเลย ตัดขาดมาอยู่ทางนี้ แล้วก็จะมีอะไรใช้จ่ายอยู่กับทางนี้อยู่กับทางธรรมะหมดไม่เคยไปยุ่งกับทางโลกอีกเลย ทรัพย์ศฤงคารอะไรก็ไม่ยุ่ง ซึ่งคนเราถ้าเผื่อว่าเข้าใจความเป็นจริงของทรัพย์ศฤงคาร แล้วรู้จักว่ามันเป็นเรื่องความตื้นมาก เรื่องหยาบ ถ้าแค่นี้ คนยังเข้าใจไม่ได้ว่า อยู่เหนือหรือโลกุตระนี่ อยู่เหนือมันให้ได้จริงๆ ยากในชีวิตมนุษย์ที่จะไปนิพพาน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 10:56:44 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:23:25 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:22:53 )

คนที่อวิชชาสมบูรณ์แบบ จะมีอุปาทานหมดทุกอย่าง

รายละเอียด

เป็นพรหมลูกฟัก แข็งทื่อ ยกขึ้นมาก็เป็นท่านั้น กลิ้งไปกลิ้งมาก็อยู่ท่านั้นเรียกว่าพรหมลูกฟัก จริงเดี๋ยวจะพูดพาดพิงถึงบ้าง สมาธิ หมายเอาคนเข้าสมาธิแน่วแน่เหมือนท่อนไม้ แล้ว มันจะมีความหมายไปทำอะไร เอาไปทำฟืนก็ไม่ได้ เอาไปทำโต๊ะทำตั่งนั่งก็ไม่ได้ เอาไปทำอะไร คือเป็นความอีเดียดเต็มที่เลย คิดดีดีเถอะ ความเข้าใจของสายที่มิจฉาทิฏฐิ ฟังแล้วมันสุดสังเวชใจ สลดก็สลด สุดสังเวชใจ แล้วก็เป็นไปได้ด้วยนะเพราะเป็นอุปาทานยึดมั่นถือมั่นแล้วมันก็เป็น เหมือนข่าวกำลังออก พระบิดา ลัทธิพระบิดา กินเสลด กินขี้ กินเยี่ยว กินขี้ไคลของพระบิดา ก็แสดงให้เห็นถึงความมีอุปาทาน มีอุปาทาน ที่ยึดมั่นถือมั่นอย่างสนิท

คนที่ยึดมั่นถือมั่นสายหลับตาเขาก็ยึดมั่นถือมั่นอย่างนั้น เขาก็เชื่อว่าเป็นจริงอย่างนั้น คนที่ไปศรัทธาเลื่อมใสพระบิดาก็มี ซึ่งพระบิดาก็ยืนยันว่าเขาเป็นพระบิดาของทุกศาสนา นี่ ใหญ่ คนที่ฟังแล้วก็เคลิ้ม เชื่อถือก็มีอุปาทาน เราได้พบผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่ยิ่งใหญ่กว่าผู้ยิ่งใหญ่อีกนะ ศรัทธาจนไม่ลืมหูลืมตาอะไรเลย ให้กินขี้ก็กิน กินเยี่ยวก็กิน กินเสลดก็กิน เอาเสลดมาลูบหน้าลูบตา ไม่ต้องซื้อยาผิวเนียนตามตลาดมาเลย เป็นเรื่องของอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นทั้งนั้น แล้วมันก็เชื่อไปอย่างนั้นแล้วก็เกิดอาเทสนาปาฏิหาริย์ เป็นได้จริงอย่างนั้นเลย 

เช่น คนเล่นไสยศาสตร์ อยู่ยงคงกระพัน หนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า มันก็ไม่เข้าเพราะเป็นอุปาทานได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตั้งแต่ศรัทธาเลื่อมใสเข้าทรง แล้วดิ้น คนอยู่ดีๆไม่ได้ดิ้นหรอก นึกว่าการดิ้นคือการได้แล้ว การเข้าถึงวิชชาที่เขายึดถือแล้ว ที่จริงอวิชชาก็ต้องดิ้นร้องทำท่าทางอะไรต่างๆนานา แล้วแต่ใครจะมีอุปาทานมีแง่แตกต่างกันไปสารพัด มากท่าหลายหลากท่ามากเลย

เพราะฉะนั้น คนเข้าทรงไม่รู้กี่ท่าต่อกี่ท่า รุนแรงก็มีอ่อนช้อยก็มี สนุกสนานรื่นเริงก็มี สารพัด ซึ่งเป็นเรื่องอุปาทานทั้งสิ้น อาตมาผ่านสิ่งเหล่านี้ศึกษาสิ่งเหล่านี้มา ที่จริงผ่านมาหลายชาติแล้ว แม้ชาตินี้ ก็ยังไปลองอยู่บ้าง แล้วเราไปผ่านสิ่งเหล่านั้นมา อาตมาเล่นไสยศาสตร์ในชาตินี้อยู่ 8 ปีซึ่งไม่ใช่น้อยๆ เล่นก็ลองสารพัด อย่างที่เขาทำกัน 

เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่มานึกคิดตรรกะเอาไม่ใช่ อาตมาผ่านมาจริงๆทั้งนั้น จึงเข้าใจเรื่องอุปาทานว่ายิ่งใหญ่ที่สุด อุปาทานคือ Static ของตัณหา ตัณหาคือ Dynamic ตัณหาแสดงออกมาแล้วตกผลึกลงไปเป็นอุปาทาน ตกไปเป็นภพ เป็นชาติ ตาม ปฏิจจสมุปบาท อาตมาขยายความรายละเอียดของธรรมะ ต่างๆนานา อย่างในปฏิจจสมุปบาท 11-12 หลัก ความไม่รู้คืออวิชชา คุณไม่รู้คืออวิชชา คุณก็มีหมดทั้งนั้นแหละในอุปาทาน คนที่อวิชชาสมบูรณ์แบบ อุปาทานมีหมดทุกอย่าง ใครจะจูงไปไหนไปได้หมด คนไหนที่ฉลาดเหนือกว่าก็ครอบงำทางความคิดจูงกันไปเป็นบริวารเขาไปหมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 37 อภิภายตนสูตร ตอนที่ 1 วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 15:47:45 )

คนที่อวิชชาเป็นเช่นไร

รายละเอียด

ทุกข์ที่ปรุงแต่งจัดจ้านแล้วคุณก็หลงว่าเป็นสุข เหมือนคนที่ชอบรสจัด ไม่ว่าจะเป็นรสทางหูทางลิ้น ทั้งรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ชอบรสจัดขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา นั่นแหละคือคนที่อวิชชา ที่แปลเป็นไทยว่าโง่ โง่ดักดาน โง่ไม่โง่เงยไม่เปลี่ยนแปลง เพราะไม่มาเรียนรู้ตามลำดับอย่างลาดลุ่ม มีเบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยว่า อะไรคือทุกข์ อะไรคือสิ่งที่มันหลง เป็นสภาพ 2 ก็เลยอยู่กับสภาพ 2 นี้ปรุงแต่งกันไปอย่างงมงาย หลอกตัวเองไป มีแต่มายา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ผู้พ้นอสุรกายจึงได้ไปอยู่โลกหน้า วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 20:35:52 )

คนที่อวิชชาแล้วหลงอยู่ภายใต้ความสุขเป็นของเก๊

รายละเอียด

ศาสนาพุทธรู้ความจริงของความรู้สึกที่เรียกว่าเวทนาที่รู้สึกสุขรู้สึกทุกข์ คนที่อวิชชาแล้วหลงอยู่ภายใต้ความสุข ศาสนาที่ไม่ใช่โลกุตรธรรมที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธที่แท้จริงตกอยู่ใต้อำนาจของความสุขที่เป็นความลวง เป็นของเก๊นิรันดร พวกเทวนิยมที่ไม่ได้มีสัมมาทิฏฐิ หรือแม้แต่ชาวพุทธที่ไม่ได้มีสัมมาทิฏธิจะไม่ได้รู้สึกเลยว่าความสุขเป็นของเก๊ ความสุขไม่ใช่ของจริง คนที่ยังมีความสุขอยู่ก็คือคนที่ยังมีความทุกข์ เพราะความทุกข์กับความสุขเป็นเทวะ อันนี้ขออภัยที่ต้องพูดความจริง ไม่มีใครมาอธิบายหรอกถ้าไม่ใช่อาตมามาเกิดแล้วมาอธิบายในยุคนี้ไม่มีใครมาอธิบายได้ แยกไม่ออกหรอกเทวะสุขทุกข์ ซึ่งเป็นสภาวะ 2 แล้วมันก็ลวงคน ให้ติดในความสุข แล้วก็แยกไม่ออกทำให้เป็นหนึ่งเดียวอยู่อย่างนั้น มันก็ยังเป็นสภาพมีกิเลส มีภพมีชาติ ไม่ปรินิพพานไม่สูญไม่เลิกติดสุข เพราะไม่ได้เรียนรู้ถึงอาการจิต ที่แบ่งแยกละเอียดเรียกว่าเป็นเจตสิก และเรียกชัดลงไปที่ตัวเวทนาความรู้สึกหรืออารมณ์ ถ้าเรียนรู้สัมผัสความเป็นจริงของอารมณ์หรือความรู้สึกที่เรียกว่าเวทนา รู้อย่างแท้จริงเลยมีธาตุรู้มีปัญญา ที่สัมผัสธาตุรู้นี้ของพระพุทธเจ้าสอน ที่เรียกว่าปัญญาธาตุ  มันเป็นความรู้ที่ลึกซึ้งมากเกินกว่าโลกีย์ เกินกว่าศาสดาใดๆในโลกจะรู้จัก นึกเอาเองไม่ได้ ต้องมาเรียนรู้เบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลายไปเรื่อยๆเป็นลำดับ ถึงจะรู้ชัด ว่าที่แท้จริงสุขทุกข์เป็นของเก๊ แล้วสุดท้ายศาสนาพุทธจึงเลิกความสุขและความทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ อทุกขมสุข หรือเรียกพยัญชนะไวพจน์กันว่า อุเบกขา สูญจากความสุขความทุกข์ เป็นกลางๆ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2563 ( 13:51:36 )

คนที่อวิชชาไม่รู้จักสุขอย่างไร

รายละเอียด

คำว่า “สุข” นี่ คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าเอามาศึกษาเป็นแกนของโลกุตระ ต้องเรียนรู้สุขนี่แหละอะไรที่สุขอะไรเป็นทุกข์ สุขกับทุกข์มันเป็นมายา โดยเฉพาะตัวสุขมันเป็นมายาหลอก แต่ที่จริงมันเป็นตัวทุกข์ มันตัวเดียวกันแต่มันหลอกอยู่ในโลก โดยคนไม่รู้เท่าทันก็ไม่รู้ มันมี 2 ส่วน “สุข” กับ “ทุกข์’ คู่กันตลอดเวลาคนที่อวิชชาก็ไม่รู้จักสุข รู้ว่า ฉันต้องการสุขแต่ไม่รู้ว่าสุขนี้มันมีตัวสนิทอยู่ด้วยกันฉีกไม่ออกเหมือนกระดาษแผ่นเดียว เขาไม่รู้เขาจะหลงเอาหน้าความสุขแต่ความทุกข์มันก็มาด้วย ไม่รู้กี่ชาติก็วนเวียนอยู่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ของวรรณะ 9 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก  


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:51:38 )

คนที่ออกมาจากฟองไข่ไม่ได้เปรียบกับกบว่ายในกะลา

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบอันนี้ไว้กับฟองไข่ คนที่ออกมาจากฟองไข่ไม่ได้ ไม่รู้ยิ่งกว่า กบว่ายในกะลาหงาย ไก่ที่ยังไม่ได้เจาะกระเปาะไข่ ก็จะเน่าไป ดีไม่ดีเป็นไข่หินแข็งอยู่อย่างนั้นไม่ได้ออกมา เพราะฉะนั้นพยายามฟักออกมาให้ได้ เจาะกระเปาะไข่ออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นคุณจะจมอยู่ในฟองไข่

ถ้าออกมาตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ในฟองไข่แล้ว แต่คุณยังเป็นกบในกะลาน้ำว่ายวนในนั้น เห็นแสงสว่างมาถึงบ้าง อาตมายกอุทาหรณ์ให้คุณฟัง ขออภัยนี้เป็นการแสดงธรรมไม่ได้ด่า ไม่ได้ว่าคุณ ไม่ได้ข่มคุณ แต่เห็นว่าคุณเข้าใจอย่างนั้นน่าสงสาร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เจโตปริยญาณ 16 มาตรวัดจิตสมาธินิมิต วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:50:26 )

คนที่เกิดมาแล้วสิ่งที่ควรได้คือ“โลกุตรธรรม” 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น คนที่เกิดมาแล้ว สิ่งที่ควรได้คือ “โลกุตรธรรม” ถ้าคุณไม่ได้โลกุตรธรรม คุณก็มี “โลกียธรรม” อย่างดีที่สุดของโลกียธรรม ก็คือ ได้ความดีและสร้างสะสมความดี ศาสนาพุทธก็ไม่ได้ปฏิเสธมุมนี้ ประเด็นนี้ ก็ทำความดีตามสมมุติโลก ก็ทำด้วย ทำให้ได้ ก็ทำความดีตามสมมุติโลกก็ทำด้วย ทำให้ได้ ทำอย่างแน่นอนมั่นคง เพราะพระพุทธเจ้ามีหลักประกันว่า เกิดมากี่ชาติก็ไม่ทำชั่วอีกเลย ทำดีในทุกกรรม สัพพปาปสอกรณัง(ไม่ทำบาปทั้งปวง) กุสลสูปกำลังสัมปทา(ทำกุศลให้ถึงพร้อม) สจิตตปริโยทปนัง(ชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้วจากกิเลส) 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเกิดมาหากไม่ได้โลกุตระ เท่ากับชิงหมาเกิด วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 แรม 3 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 15:45:05 )

คนที่เกิดมาในโลกไม่ใช่สัตว์เดี่ยว

รายละเอียด

ขอวิจัยประเด็นนี้หน่อยหนึ่ง คนเราที่พึ่งตนเองไม่ได้ ไม่มีฐานการพึ่งตัวเอง แน่นอน ถ้าคนไม่ศึกษาธรรมะดีๆ ทำตนเอง ไม่เห็นหมู่กลุ่ม ไม่เห็นคนไม่เห็นสังคม ที่เราควรเชื่อมโยงสัมผัสสัมพันธ์แม้แต่เพื่อนหมู่กลุ่มมิตรดีสหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดี อวดดีแต่ตัวคนเดียวจะเป็นอย่างที่คุณ อาชัยว่า ก็จะโดดเดี่ยว ตัวเองก็ไม่พึ่งสังคมอยู่แล้ว แล้วตัวเองก็พึ่งตัวเองล้มเหลว ตัวเองก็ตาย เพราะฉะนั้นคนเราไม่เห็นความสัมพันธ์ของสังคมเป็นสิ่งสำคัญ ในโลกเกิดมาคนไม่ใช่สัตว์เดี่ยว อยู่ตัวเดียวไม่เกี่ยวกับโขลงกับหมู่ ไม่ใช่ แล้วเป็นสัตว์โขลงที่สัมพันธ์กับมนุษย์อย่างไม่มีเหตุไม่มีการกั้น globalization อย่างนั้นเลยคน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 24 เมษายน 2563 ( 13:44:02 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:19:48 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:24:37 )

คนที่เก่งพยัญชนะมีเหตุมีผลคุณจะนึกอย่างไรก็ไม่ผิด แต่คำแต่ละคำนั้นเข้าไปถึงสภาวะไหม ตั้งแต่ ศีล สมาธิ ปัญญา

รายละเอียด

คนที่วนอยู่กับเหตุผลพยัญชนะนั้นมีเยอะเป็น ดร.ก็ต้องตอบตามเหตุผลให้อาจารย์ให้คะแนน แต่จะเข้าถึงสภาวะจิตเจตสิกรูปนิพพาน จะเข้าถึงสภาวะนั้นมั้ย..อันนี้สำคัญ คนที่เก่งพยัญชนะมีเหตุมีผล คุณจะนึกอย่างไรก็ไม่ผิด แต่คำแต่ละคำนั้นเข้าไปถึงสภาวะไหม ตั้งแต่ ศีล สมาธิ ปัญญา สภาวะของสมาธิหรืออธิจิต คุณเข้าถึงหรือยัง ศีลเป็นหลักเกณฑ์ข้อปฏิบัติ แล้วคุณปฏิบัติให้เข้าถึงจิต เจตสิก รูป นิพพาน โดยเฉพาะเวทนาในเวทนา โดยเฉพาะอริยสัจ 4 ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ คุณเข้าถึงสิ่งเหล่านี้หรือยัง ถ้าปฏิบัติไม่ได้เข้าถึงเวทนาตัวที่รู้สึกสุข รู้สึกทุกข์ อาการที่เป็นเจตสิก ที่มันให้ความรู้สึกสุข รู้สึกทุกข์ ถ้าคุณไม่สัมผัสตัวนี้ รู้สึกเอง รู้สึกจริง แล้วตามหาเหตุที่มันรู้สึกสุขรู้สึกทุกข์ ซึ่งความรู้สึกสุขกับทุกข์มันอันเดียวกันอันนี้ยังเข้าใจกันไม่ได้ง่ายๆ ความสุขความทุกข์มันเป็นมายาเป็นสิริมหามายา แต่คนไปหลงด้านสุข ไม่ศึกษาด้านทุกข์​ เป็นศาสนาสุขนิยมเป็นเทวนิยมกันข้างนอก จิตคุณก็ยังไม่ได้แล้วปัญญาจะมาเข้าใจอย่างที่อาตมาพูดนั้น…เมินเสียเถิดอย่าคิดถึง ยังไม่ได้หรอกคุณ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 10:14:57 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:22:26 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:25:54 )

คนที่เก่งในการปรุงแต่งหลอกล่อมนุษยชาติเท่าใดบาปหนาเท่านั้น

รายละเอียด

คนที่คิดปรุงแต่งซับซ้อนผสมพันธุ์มากขึ้น ปรุงแต่งคือการผสมพันธุ์นั่นแหละ คนที่ปรุงแต่งซับซ้อนมากขึ้นนั้นถือว่าเก่ง เหมือนพวกกะเทยนี้ปรุงแต่งซับซ้อนได้มากได้เก่ง ยิ่งชิบหาย ยิ่งเก่งยิ่งชิบหาย มันตรงกันข้ามกัน  เก่งในการปรุงแต่ง เก่งในการทำความหลอกล่อมนุษยชาติมากยิ่งขึ้นๆ นักแฟชั่น นัก Creation หลอกโลกเขารวยเงินทอง แต่นรกกินหัวหนักขึ้นหนักขึ้นหนักขึ้น พวกดีไซเนอร์ Creative ต่างๆพวกนี้ เขาไม่รู้จักกรรมวิบาก ปรุงแต่งคือร่วมกันสังเคราะห์ขึ้นมา ถ้าสังเคราะห์ขึ้นมาเป็นไปเพื่อความละหน่ายคลาย เป็นความล้างกิเลสเป็นความไม่ติดในภพชาติในอัตตา อย่างนี้เป็นโลกุตระ แต่ปรุงแต่งในการเพิ่มอัตตาในโลกโลกีย์ซับซ้อนเพิ่มขึ้นนั่นแหละคือบาปหนาๆๆเข้าไป น่าสงสารคนพวกนี้ อาตมาพูดไปเขาโกรธก็ว่า อาตมาก็ไม่อยากให้เขาโกรธ แต่เขาไม่ชอบใจเพราะเขาโดนว่า เขามีอัตตาเขาก็เลยโกรธ แต่เราก็จำเป็นต้องพูด มันจะมีอัตตาอย่างไรต้องให้เขารู้ตัวแต่เรายังไม่เก่งเท่านั้นเอง

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 11:18:49 )

คนที่เข้าใจว่าอรหันต์ตายแล้วสูญ พวกนี้เป็นมิจฉาทิฐิ

รายละเอียด

คนที่เข้าใจว่าอรหันต์ตายแล้วสูญ พวกนี้เป็นมิจฉาทิฐิ ทำให้ศาสนาพุทธสั้น ถ้าหากเป็นอรหันตแล้วสูญหมด ไม่มีใครสืบต่ออีกเลย ก็จะไม่มีใครสืบต่อเป็นอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะจบในรอบเดียว ตื้นๆซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ธรรมะพระพุทธเจ้าสุดยอดสูงสุด เถรวาทในประเทศไทยไม่พูด แต่อรหันต์ของทางมหายาน นั้นพูด พูดเฟ้อไปจนกลายเป็นอมตะเอง มีพุทธเกษตร มีพระพุทธเจ้าไม่รู้กี่พระองค์ เต็มอยู่ในพุทธเกษตรอีก มีพระพุทธเจ้าอมิตาภะ เต็มไปหมด ก็ยังเป็นความไม่สูญ สูญไม่เป็น นิรันดรเป็นเทวนิยมอีก วนไปผิดเพี้ยน สุดโต่งได้อีก เพราะฉะนั้นก็เลยสัมมาทิฏฐิสูญไปมันก็เลยยาก อาตมานำกลับมา ฟังดีๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 18 มกราคม 2566 ( 11:39:33 )

คนที่เข้าใจและเชื่อมั่นในระบบสาธารณโภคีจะเป็นอย่างไร

รายละเอียด

เราทำได้ เรามีจริงให้คนมาพิสูจน์เขาก็ยังยาก 1 ไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง บางคนก็เห็นว่าจริง แต่ก็บอกว่า มันจะไปได้กี่น้ำ ถามพวกคุณจะไปนานเท่าไหร่ ...ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า ตลอดชีวิต 

เพราะที่นี่ พึ่งเกิดพึ่งแก่พึ่งเจ็บพึ่งตายกันได้จริงๆ มี เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรมเมตตามโนกรรมกันจริงๆ ไม่ใช่บอกว่าแผ่เมตตาไปเรื่อยๆ แต่นี่มีพฤติกรรมเมตตาจริงๆ ไม่ต้องไปแผ่ แต่มันก็ออสโมซิสกันไปในตัวเลย ไม่ใช่ พึ่งตนเองรอด ไม่ต้องพึ่งคุณ แต่ดีไม่ดีคุณต้องพึ่งเราด้วย เราเป็นคนจนที่ให้คนรวยพึ่ง เพราะคนรวยโลภไม่เสร็จ 

เขาจะรวยไม่เสร็จเพราะเขาไม่ยอมจนไม่ยอมหมดเนื้อหมดตัว คนจะหมดเนื้อหมดตัว อยู่คนเดียวไม่ได้ต้องมาอยู่เป็นกลุ่ม เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่และเป็นคนชนิดเดียวกันคือเป็นคนเข้าใจและเชื่อมั่นในระบบสาธารณโภคี แล้วเรียนรู้ตัวเองว่าเรายังมีความเห็นแก่ตัวอีกเท่าไหร่ เลิกนะ อายนะ อย่านะ คุณก็จะมาฝึกตนเอง ลดละความเห็นแก่ตัว ลดละความอยากได้ ลดละความอยากมีมาเพื่อตัวแต่ทำเพื่อคนอื่นนี่ มันสุดยอดแล้ว เรามาทำเพื่อตัวเราเองนี่มันจะได้เรื่องอะไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 49 ตอบไทยรัฐทีวีเรื่องสมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 10 กันยายน 2565 ( 15:01:58 )

คนที่เข้าใจในความรู้แต่อธิบายไม่ได้

รายละเอียด

ก็จริงๆนะ คนที่เข้าใจแล้วไม่ใช่จะอธิบายได้ง่ายๆ แม้เข้าใจแล้วจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ใช่ง่ายๆ คนที่เข้าใจอย่างอาตมา มี ในระดับผู้ที่มีความเข้าใจความรู้ แต่ว่าอธิบายไม่ได้อย่างอาตมา ที่พูดนี้ไม่ได้อวดเก่งอวดดี แต่พูดในสัจจะความจริง เขาก็รู้แต่อธิบายไม่ได้เหมือนอาตมา ผู้ที่รู้ได้ยิ่งกว่าอาตมามี แต่อธิบายสู้อาตมาไม่ได้ อาตมาก็ได้จะได้กำไรได้กุศลอธิบายไปได้เยอะกว่า 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่น ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 17:25:10 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:18:49 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:26:38 )

คนที่เนกขัมมะ

รายละเอียด

คือ คนที่ต้องรู้จัก จิต เจตสิก รูป นิพพาน อ่านจิตตนเองเป็น แยกจิตตนเองเป็น แยกกิเลสแยกจิตได้ แล้วมีวิธีทำให้กิเลสลดได้ เนกขัมมะคือคนที่ทำกิเลสลดได้ คือคนที่ทำฌานไปทำให้กิเลสลดได้ แม้เป็นส่วนๆไม่ได้ดับหมดสิ้นอาสวะ แต่ทำได้เป็นส่วนๆก็คือผู้มีส่วนสำเร็จส่วนแห่งบุญ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562 


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:17:27 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:03:10 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:27:21 )

คนที่เปรียบเทียบกับสิ่งที่ไม่ตายคืออวิชา

รายละเอียด

อาตมาเอาปุตตมังสสูตร ถึงอาหารตัวที่ 4 วิญญาณาหาร มากล่าว คนเปรียบเทียบกับสิ่งที่ไม่ตาย คือความโง่ ความโง่มันไม่ตาย อวิชชานี่มันไม่ตาย เทียบกับพระราชาอยากจะให้อวิชชานี้มันตาย ก็ให้เจ้าพนักงานเอาอวิชชาไปฆ่า เจ้าพนักงานเอาไปฆ่าด้วยหอกร้อยเล่ม ก็ไม่ตาย ฆ่าตอนกลางวัน ตอนเย็นอีกก็ไม่ตาย แสดงว่าอวิชชานี่ยังไงก็ฆ่าไม่ตาย สุดยอดเลย มันโง่เง่า ทำอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนแปลงความโง่เง่า ไม่สูญสลายความโง่เง่าไม่ระเหิดไม่ระเหยความโง่เง่า นอกจากไม่ระเหยแล้วยังอวิชชาหนาขึ้นอีก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 22 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:15:41 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:06:52 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:28:07 )

คนที่เป็นเทวนิยมศึกษาแค่ดีกับชั่วไม่ศึกษาธาตุจิตที่ถึงขั้นสุขกับทุกข์

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนที่เป็นเทวนิยมศึกษาแค่ดีกับชั่ว ไม่มาศึกษาธาตุจิตที่ถึงขั้นสุขกับทุกข์ คนไหนที่เข้าใจสุขทุกข์เป็นสุดยอดมายา หลอกมนุษย์ให้มีอัตภาพหรืออยู่ในโลก อ๋อ! ถ้าผู้สะดุดและรู้ทันนี้ แล้วก็มาเรียนรู้อันนี้ มาล้างความติดสุขติดทุกข์ ลงไปตามลำดับ คนนี้ก็จะจบอัตภาพจบชีวิต รู้รอบเลยว่า จิตนิยามคืออะไรเลิกจบ 

หรือตั้งแต่ยังไม่เลิกจิตนิยามตรัสรู้เป็นอรหันต์แล้ว จะอยู่ก็อยู่แต่ช่วยคนอื่นให้รู้อย่างที่ตัวเองรู้ตนเองได้ เอื้อมเอื้อเกื้อกว้าง  ให้คนอื่นได้รู้จัก เพราะถ้าเรารู้แล้วเราเป็นโพธิสัตว์เราไม่เชื่อมต่อ ศาสนาพุทธถ้าไม่มีโพธิสัตว์ป่านนี้สูญไปแล้ว มีแต่อรหันต์ตายไปแล้ว เมื่อบรรลุอรหันต์ตายแล้วสูญ เป็นอุจเฉทิฏฐิ อย่างที่เถรวาทเข้าใจ ป่านนี้ไม่ถึง 2,500 ปีหรอกหมดไปตั้งนานแล้วเดี๋ยวนี้ก็ไม่มีโลกุตระ อาตมาต้องสถาปนาโลกุตระลงไปอีก ก็ยังดียังเหลืออยู่ 

อย่างพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาในโลกแล้วก็ตรวจฐานมนุษย์ เอ๊ จะพอรู้โลกุตรธรรมได้หรือไม่หนอ ตรวจแล้ว อ้อ! คนแค่นี้หรือจะรู้ได้ ไม่คุ้มเลย ท่านก็ไม่ประกาศตัว เอายุคใหม่ที่จะมีคนพอได้คุ้มหน่อย หรือว่าท่านจะปรินิพพานเป็นปริโยสานไปเลยก็เรื่องของท่าน ท่านยังไม่ประกาศก็เป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานสักวาระหนึ่งยุคหนึ่งท่านก็ประกาศตนเพื่อที่จะต่อภพภูมิเป็นพระพุทธเจ้า องค์ใดองค์หนึ่งขึ้นในทำเนียบโลก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า พุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 46 จรณะ 15 พัฒนาปัญญา 8 ประการ วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 พฤษภาคม 2565 ( 15:07:24 )

คนที่เริ่มต้นมีปัญญาจะแง้มเห็นความจริงเช่นไร

รายละเอียด

โลกที่มันไปยึดถือโลกีย์มากจนกระทั่งหลงยึด มืดบอดเลย พระพุทธเจ้าก็เลยตรัสว่าคนที่เริ่มต้นมีปัญญา แง้มเห็นแสงรำไรอยู่ปลายอุโมงค์เห็นว่า ความฉลาดเป็นจริงอย่างลงตัวและเป็นปัญญามันตรงกันข้ามกับที่ตัวข้าเคยหลงอยู่อย่างนี้ เป็นมาไม่รู้กี่ชาติ ที่จริงแล้วมันผิดมันตรงกันข้ามเลย 

คนนี้พอเริ่มต้นได้ยินโลกุตรธรรม เมื่อได้ฟัง อาศัยพระศาสดาเพื่อนพรหมจรรย์ที่อยู่ในฐานะของครู พอได้ยินก็เข้าไปตั้งความละอายเลย ว่าทำไมเราถึงโง่ดักดานขนาดนี้ เพิ่งจะมาแง้มเห็นความจริงความฉลาดเดี๋ยวนี้เองเนาะ ผ่านมากี่ล้านชาติแล้ว ที่โง่มาอย่างนั้น เดี๋ยวนี้คนเรานั้นเขาก็ยังยึดยังเห็นกันอยู่อย่างนั้น แต่เรานี่เริ่มมาทางนี้ได้เมื่อมองตัวเอง เราก็เคยโง่เหมือนเขาโง่ ไม่พูดต่อนะว่าเขาก็จะโง่ต่อไปอีก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 19:12:55 )

คนที่เลือกไปรวยเป็นคนโง่อย่างไร

รายละเอียด

ยกตัวอย่างให้ชัดอย่างพวกที่ขายชีวิตให้ทักษิณก็เช่นกัน พวกที่รวมอำนาจได้อย่างสูงสุดอย่างทักษิณมันก็โกงได้ก็รวยสิ ใช้สภาพซ่อนเร้นบริหารต่างๆนานา หรือโกงอย่างดื้อๆก็มี พวกที่เขาทำไม่ถูกต้องเขาจะรวยเท่าไหร่ไป มันก็ไม่ใช่เรื่องดี คนที่คิดด้วยคือคนที่โง่แล้ว อาตมาพูดด้วยความจริง คุณว่าเจ้าชายสิทธัตถะท่านเลือกเอาความรวยหรือความจน ท่านก็เลือกเอาความจน ท่านมีสมบัติพัสถานอำนาจปัจจัยท่านก็ไม่เอาแล้วทิ้งมาเป็นคนจน ดำเนินพระบาทเปล่า ทรัพย์สินเงินทองทุกอย่างท่านทิ้งหมด มีจีวรบริขารกาย 3 ผืนมีบาตรบริขารท้อง บริขารพอสมควรเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องคนยิ่งใหญ่คนที่มีภูมิปัญญาอย่างชาวอโศกก็เลือกความเป็นคนจน นี่เป็นคนยิ่งใหญ่เป็นคนมีปัญญา คนไปเลือกความรวยนั้นเป็นคนโง่ พูดตรงๆอย่างนี้อาตมาไม่ชอบพูดโค้ง เข้าใจได้ยาก อันนี้เข้าใจได้ง่าย และอาตมามั่นใจว่าไม่ได้พูดผิด เหน็ดเหนื่อยจะตายชักแล้วจะไปเอาด้วย มาเอาความจนนี้ง่ายจะตายชัก คนที่มันมาไม่ได้มันจะตายชักเหมือนกัน มาจน แต่คนที่จะมาจนได้โดยที่มันไม่ยากและมันก็ไม่ชักหรอกมันสบาย สบม. คนจะไปรวยนี้จะตายชักทั้งขึ้นทั้งล่อง ต่อให้เก่งหรือไม่เก่งก็ตาม ชีวิตก็มาง่ายๆสิไม่ใช่มักง่าย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 11:27:28 )

คนที่เศรษฐกิจดี

รายละเอียด

เข้าสู่สิ่งที่คิดว่าควรจะพูด ที่เป็นไปตามยุคสมัยเขา ตอนนี้ทั้งโลกก็คือโควิด ไม่มีใครตื่นรู้โควิดไม่ได้ ถึงอย่างไรไม่รู้เดี๋ยวมันก็ไปเอาที่ตัวเอง ทีนี้โควิด อาตมาเห็นว่าโควิดทำให้สังคมโลกเกิดเศรษฐกิจดี เศรษฐกิจดีคือนายทุนล่มสลายไป อาตมาถือว่าเศรษฐกิจดีนะ พัฒนาสังคมประเทศใดที่นายทุนล่มสลายลงไปแล้วก็เกิดการเฉลี่ย เป็นคำว่าเศรษฐศาสตร์เศรษฐกิจ มันเกิดการเฉลี่ยมาให้ระดับของคนจนคนรวยใกล้กันมาเรื่อยๆนี่คือเศรษฐกิจดี แต่มันมาเท่ากันไม่ได้ง่ายๆหรอก แต่มันเกิดเหตุการณ์ที่จะลดลงมาหากันช่องว่างระหว่างคนรวยคนจน คนรวยมันจนลง คนจนจะให้รวยขึ้นนั้นมันยาก จะให้คนรวยนั้นจนลงมาหาคนจนนี่คือเศรษฐกิจดี คนที่เศรษฐกิจดีที่สุดคือคนจน คนจนที่ชาญฉลาด คนจนที่ไม่มีกิเลส คนจนที่ปฏิบัติตามทฤษฎีของพระพุทธเจ้าได้สำเร็จ นี่คือคนที่เศรษฐกิจดี 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 17:26:43 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:19:35 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:28:56 )

คนที่เห็นแย้งให้ตั้งใจฟังต่อไปเรื่อยๆ

รายละเอียด

อาตมาพูดอย่างมีข้อเท็จจริงเพราะสนใจข้อเท็จจริง และพูดอย่างไม่เลอะเทอะไม่ผิดเพี้ยนไม่เปื้อน พูดแม่นๆตรงๆเลย และแน่นอนพูดไปเรื่อยๆพูดสัจจะไปเรื่อยๆ ต่างคนต่างเห็นแย้งกันได้ดีแล้ว ตั้งใจฟังต่อไปเถอะ แล้วคุณยังมาอาตมาขอบคุณที่ยังมาตั้งใจฟังไปเรื่อยๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 09:35:55 )

คนที่เอาอาหารเนื้อสัตว์ไปถวายสาวกพระพุทธเจ้ากับถวายพระพุทธเจ้าบาปเป็นอันมาก

รายละเอียด

ชีวิตแต่ละชีวิตก็มีกรรมวิบากของตัวเองอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับสัตว์ใดๆ ซึ่งมีความละเอียดลึกซึ้ง ข้อ 5 นี่โง่สุดยอดไปเอาเขามาเป็นอาหาร ปรุงแต่งสารพัดที่จะโง่ปรุงไป ให้เป็นอาหารชั้นดี ตัวเองโง่เอามาทำแล้วเสร็จแล้วยังไม่พอเอาไปถวายไปแนะนำ สาวกพระพุทธเจ้า ไปถวายพระพุทธเจ้า มนุษย์จะโง่ถึงขั้นไหน ตัวโง่มืดบอดจาก4 ข้อเต็มรูปแล้ว ไปชวนให้ผู้ที่ท่านปราศจากความโง่พวกนี้ทั้ง 4 ข้อนั้น ให้ท่านยินดีกับตนเองว่า เห็นไหมฉันถูกแล้วนะ ได้สิ่งที่วิเศษมาถวายแล้วนะ 

หากพระอริยสงฆ์ที่ชัดเจนก็จะบอกว่าคนนี้มันทำอะไร มันบาปตัวเอง 4 ข้อไม่พอ มันจะมาชวนให้ฉันบาปด้วย ให้มีจิตยินดีในเนื้อสัตว์ที่จะกินเป็นอาหาร มันเป็นอกัปปิยะ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรเลยจะโง่อย่างนั้น เราเป็นภิกษุเป็นสงฆ์สาวกพระพุทธเจ้าแล้วไม่โง่ถึงขนาดจะกินเนื้อสัตว์ จะไปปรุงมาเอร็ดอร่อยอย่างไร ที่จะมาหลอกมาล่อมาทำให้ยินดีในเนื้อสัตว์ ผู้เป็นอริยะแล้วก็จะไม่ตกหลุมตกบ่อ ไม่ไปหลงตามคารมตามวิธีของพวกที่พยายาม ตัวเองโง่ไม่พอแล้วจะมาทำสิ่งที่โง่ๆ ทำสิ่งที่ไม่ควร อกัปปิยะ ไม่ควรเลย 

เหมือนเราเป็นโจร เป็นโจรอย่างโง่ๆไม่พอ ไปชวนคนอื่นมาเป็นโจรด้วย ไปโชว์ความเป็นโจรให้คนอื่น บอกว่าเป็นโจรนี้ดีนะดีนะ อย่างนั้นน่ะ มันโง่จนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโจรมา 4 ข้อ แล้วยังจะมาหลงว่ามันดี มาชวนให้คนอื่นยินดี มาคนโง่กับเรา 4 ข้ออย่างนี้แหละมาๆๆ 

คนที่เอาอาหารเนื้อสัตว์ไปถวายพระสงฆ์ถวายสาวกพระพุทธเจ้ากับถวายพระพุทธเจ้า โง่ คือบาปนี่แหละโง่ กิเลสหนาปึกเลย บาปเป็นอันมาก ไม่ใช่บุญเลย จนบาปหมดเนื้อหมดตัวเลย ไม่มีเหลือบุญไม่มีเหลือกุศลเลย โอ้โห…สุดยอด สุดยอดปึ๊กขนาด ภาษาอีสาน ปึ๊กขนาด ปึกแปลว่าโง่ ปึ๊กขนาดเลย ไม่รู้จะให้เอาความฉลาดแทรกไปตรงไหน มันโง่จนไม่มีช่องให้เอาความฉลาดแทรกเข้าไปได้เลย นี่ก็ขยายความตามประสาอาตมานะ ขยายความให้ฟัง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลกุตระคือสิ่งสำคัญสุดที่เกิดมาแล้วต้องเอาให้ได้ วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 พฤษภาคม 2565 ( 11:59:05 )

คนที่แก้ปัญหาสังคมแก้ความยากจนสำเร็จคืออโศก

รายละเอียด

การจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ทุกคนในประเทศรวยนั้นเป็นไปไม่ได้ ถ้าตัวเองรวยก็คือทำให้คนมีเงินมากกันทั่วถึงทุกคน แล้วแต่ละคนนั้นทุกคนต้องการรวย แล้วขีดคำว่ารวยของแต่ละคนมีไหม แล้วเมื่อไหร่มันจะรวย ขีดของความรวยที่เขาจะพอหรือเขาถือว่าเขารวยพอแล้วมันมีไหม มันไม่มีหรอก เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาที่กล่าวพูดมานี้ เขาพยายามให้เขารู้สึกว่าคนในประเทศได้มากเพิ่มขึ้น จึงต้องไปแย่งเอาจากประเทศอื่นมา คนในประเทศเขาถึงจะบอกว่ารวยแล้วหายจนแล้ว ก็ต้องไปโกงจากประเทศอื่นมาให้มากขึ้นโดยวิธีใดก็แล้วแต่ ในที่สุดก็ปล้นจี้เอา เหมือนอย่างที่เขาล่าอาณาจักร ตั้งแต่ประเทศอังกฤษทำ หรือประเทศฝรั่งเศสเยอรมันก็ทำมาทั้งนั้น มันเป็นสามัญสำนึกของมนุษย์ เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาความยากจนแบบโลกีย์ที่เขียนวันนี้ จึงเป็นการแก้ปัญหาที่พูดได้เลยว่าไม่มีทางสำเร็จ คุณทำให้ตายก็ตาม มันมีแต่สมบัติผลัดกันชมเท่านั้น คนที่แก้ปัญหาสังคม แก้ความยากจนสำเร็จ คือ อโศก 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2563 ( 09:07:43 )

คนที่แต่งยถาสัพพีแล้วมาท่องกันเพื่อมอมเมาบาปอย่างไร

รายละเอียด

พวกเราสอนกันพูดกัน เอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาขยายความลึก ที่พูดนี้พูดตามทานสูตร ครบบริบูรณ์เลย เดี๋ยวนี้ทานข้อแรกของสัมมาทิฏฐิผิดหมด เป็นมิจฉาทิฏฐิหมด พูดได้เลยว่าหมด ไม่ตัดภพตัดชาติ ทานของเขา มีแต่ต่อภพชาติทั้งนั้นเลย ดีไม่ดีก็แต่งบทบาลีใหม่เลย จะต้องมียถาวารีวหา มีคำพระพุทธเจ้าไว้หน่อยนึงก็แต่งเติมต่อไปเป็นคำขยายความเบี้ยวๆผิดๆให้เกิดภพเกิดชาติ คนที่แต่งยถาสัพพีแล้วมาท่องกันเพื่อมอมเมากัน บาปไม่รู้จักเท่าไหร่ บาปเพราะทำลายธรรมะความหมายพระพุทธเจ้าให้ผิดเพี้ยนไป ยถาสัพพีนี่แหละ แค่นี้ก็บาปแล้ว แต่เขากลับบอกว่าเป็นกุศลนักหนา เป็นคำให้พรเป็นคำประเสริฐ ซึ่งมันทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ ยิ่งมีบาป 

อาตมาพูดอย่างนี้หลายคนก็อาจจะรู้สึกว่าเอาอะไรมาพูด นักปราชญ์ราชบัณฑิตทั้งหลายแหล่เขาเทิดทูนสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น โพธิรักษ์แน่อย่างไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 1 วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564 ขึ้น 2 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2564 ( 19:15:08 )

คนที่แพ้ไม่เป็นก็เป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่

รายละเอียด

อย่างเช่นทักษิณ ยังไม่พ้นจากความเป็นสัตว์เดรัจฉาน คนที่แพ้ไม่เป็นคือคนที่มีตัวตน เด็กๆรู้เรื่องไหม แพ้ให้เป็นนะ ถ้าแพ้ไม่เป็นก็เป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่ ถ้าหากแพ้เป็น รู้ว่าอันนี้ควรแพ้ควรหยุด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราผิด บางทีเราไม่ผิดหรอก เราถูกด้วย แต่เราจะไปแย้งทำไม แย้งไปก็ไม่ใช่เรื่อง แย้งไปเขาก็ไม่รู้ เขาไม่มีภูมิรู้พอที่เราจะแย้งแล้วทำให้เขาเข้าใจว่าเขานั่นแหละผิด เรานี่แหละถูก 

ที่มา ที่ไป

พ่อ‌ครู‌เทศน์‌ ‌ทำวัตร‌เช้า‌ ‌ส่ง‌ท้าย‌ปี‌เก่า‌ ‌งาน‌ ‌ว‌.‌บบบ‌ ‌เพื่อ‌ฟ้า‌ดิน‌ ‌สวด‌อภิธรรม‌ส่ง‌

ท้าย‌ปี‌เก่า‌ให้‌เข้า‌ถึง‌นิพพาน‌ วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2565 ( 18:28:02 )

คนที่แพ้ไม่เป็นแพ้ไม่ได้ไม่ยอมแพ้คือคนฉลาดน้อย

รายละเอียด

มีง่ายๆให้ไปง่ายๆ มีแล้วไม่มีมันง่าย แล้วก็อยู่ง่ายๆอย่างนี้ ไม่ไปขัดแย้งกับคนอื่นเขาไม่เป็นปฏิปักษ์ ไม่เป็นตัวต้านทาน เป็นผู้แพ้ก็ได้ เป็นเบี้ยล่างของเขาก็ได้ไม่เป็นไร สบาย ซึ่งคนที่ถือศักดิ์ศรีจะบอกว่าไปเป็นเบี้ยล่างเขาได้อย่างไร แพ้เขาได้อย่างไร เสียศักดิ์ศรีได้อย่างไร เขาก็เป็นคนอย่างนั้นจริงๆแบบทักษิณ แพ้ไม่ได้ ผมสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น เดี๋ยวนี้เขาก็ยังไม่ยอมแพ้นะ ถ้าทักษิณบอกว่าพอเถอะยอมแพ้เถอะ ประเทศไทยจะลอยตัวไปอีกมากแต่นี่ไม่รู้เขาจะทำไปทำไม คนเรามันเป็นอย่างนี้คือมันฉลาดน้อย อยู่อีกตลอดกาลนานซึ่งมันยาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 19:07:14 )

คนที่แยกเทวะไม่ออก

รายละเอียด

ติดยึดแข็งทื่ออยู่กับ“เทฺว” ขยายเป็น“ความรู้”ในความเป็น“2 (เทฺว)”กันไม่ได้ แยก “ความเป็น 2 (เทฺว)”ออกเป็น“1”ก็ไม่ได้ เขามี“เทฺว”อยู่แค่“บัญญัติ” อยู่แค่“พยัญชนะ” เข้าไม่ถึง“สภาวะ” แยกสภาวะไม่ออก ตีไม่แตก จึงจำนนต้องอยู่กับ“เทฺว”ที่เป็น“ธรรมะ 2”นิรันดร ด้วย“ความยึดมั่นถือมั่น(อุปาทาน,อภินิเวส)” เป็น“อวิชชา”ที่ไม่รู้ปฏิจจสมุปบาทอยู่

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:37:35 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:08:12 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:30:56 )

คนที่แสวงหาติดตามธรรมะมีน้อยเมื่อเทียบกับที่เขาแต่ง

รายละเอียด

คนที่แสวงหาติดตามธรรมะมีอยู่แม้จะมีน้อย แน่นอนเลย คนบอกว่าไปดูในเน็ต คนเปิดดูในยูทูป ไปเทียบกับเพลงที่เขาแต่งขึ้นมากับที่อาตมาเทศน์ เทียบได้เลย ของเราขึ้นเลข 2 ตัวก็ดีแล้ว แต่ของเขาขึ้นเลขล้าน 7 หลัก ของเรา 2 หลักก็ดีแล้ว ขนาดไม้ร่มยัง 70,000 เลย ของอาตมาก็หลักร้อย หลักพัน 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 13 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 14:05:09 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:24:00 )

คนที่แสวงหามีอยู่ และในอนาคตสัจธรรมเพิ่มพูนขึ้น

รายละเอียด

ที่จริงแล้วมีผู้แสวงหาผู้ที่ตั้งใจที่พยายามจะได้สิ่งที่เป็นประโยชน์มีคุณค่าอยู่เหนือกันติดตามอยู่ก็ได้ แต่ตามลำดับไปพอสมควร อาตมาเชื่อมั่นอยู่ว่า คนที่แสวงหามีอยู่ และในอนาคตสัจธรรมเพิ่มพูนขึ้น คนมาเอาเพิ่มขึ้น ก็จะเกิดมวลเพิ่มขึ้นมันยาก จึงทำอย่างตะกละตะกลามไม่ได้ใจร้อนไม่ได้ ต้องทำอย่างใจเย็น ยาวให้เป็นเย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆ หมดๆ เป็นม๊อตโต้สำคัญเลย พยายามทำไปแล้ว ก็จะเกิดการพัฒนา

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน2562


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2562 ( 19:25:12 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:09:39 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 14:34:03 )

คนที่โกหกผู้อื่นทั้งๆที่รู้ว่าตนโกหก คนนั้นไม่มีความชั่วใดๆที่เขาจะทำไม่ได้ 

รายละเอียด

โอเค เอาประเด็นนี้ก่อน น้อยใจอาตมานี้ ก็เป็นหมาน้อยตัวหนึ่ง ถ้างั้น อาบุญก็เลยเป็นหมาน้อยตัวหนึ่ง เพราะว่ามาน้อยใจอาตมา 

อาตมาตำหนิมหาบัวนั้น อาตมาขอยืนยันว่า อาตมาตำหนิถูก เพราะมหาบัวยังผิดอยู่ ยังไม่เป็นความจริง มหาบัวเป็นคนผิด เป็นคนที่ไม่มีความจริง เป็นคนเอาความไม่จริงไปหลอกคนอื่นว่า เป็นผู้บรรลุธรรม เป็นผู้บรรลุอรหันต์ อาตมาพูดด้วยความจริงใจตามภูมิของอาตมาเด็ดเดี่ยวเลยว่า มหาบัวไม่ได้เป็นอรหันต์เด็ดขาด มหาบัวแม้แต่แค่กามคุณ 5 ซึ่งเป็นภายนอก รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เป็นเบื้องต้นของพรหมจรรย์ กามคุณ 5 นี้พระพุทธเจ้าตรัสตรงๆว่าเป็นเบื้องต้นของพรหมจรรย์ มหาบัวเขายังไม่รู้เบื้องต้นนี้เลย แล้วมันจะเป็นอรหันต์ได้อย่างไร ยังเสพติดรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส นี้อยู่ 

คือกินหมากกินพลูคือรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เป็นกามคุณ 5 เต็มรูป แล้วติดจนกระทั่งตาย เสพรสนี้ กระทั่งตายแล้วหลอกคนอื่นอยู่ ว่าเป็นเรื่องของธาตุขันธ์ ไม่ใช่เรื่องของกิเลส มหาบัวจะรู้จริงๆว่าเป็นกิเลส แต่หลอกคนอื่นต่อหรือไม่ หรือท่านหลงจริงๆเลยว่า รูป รส กลิ่นเสียง สัมผัสอันนี้มันไม่ใช่กิเลส ถ้ายิ่งหลงผิด คือ ความไม่รู้จริงหลงผิดเลย ว่ารูป รส กลิ่นเสียง สัมผัสที่เกิดจากการสัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย 5 ทวาร มันไม่เป็นกิเลส ทั้งที่ตนเองติดแท้ๆมันไม่เป็นกิเลส แล้วคุณจะเป็นอรหันต์ได้อย่างไร แค่นี้ไม่รู้ แล้วยิ่งรู้แล้วไปหลอกคนอื่นว่าไม่ใช่ บาปต่อไหม บาปทับถมหนายิ่ง ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า คนที่โกหกผู้อื่นทั้งๆที่รู้ว่าตนโกหก คนนั้นไม่มีความชั่วใดๆที่เขาจะทำไม่ได้ 

แล้วจะให้อาตมาไปยกย่องมหาบัวเป็นอรหันต์ โยมบุญ อาตมาก็ขอเรียกโยมก็แล้วกัน จะเรียก อาบุญก็ได้ นับถือเป็นน้องพ่อก็คงพอได้ แต่น้องพ่ออาตมาก็คงจะห่างกันมากหน่อยเพราะว่าพ่ออาตมาก็คงจะอายุห่างกว่าอาตมาอีกต่อหนึ่ง ถ้าอยู่ก็ 100 กว่าแล้ว แต่นี่เขาอายุ 70 กว่าเอง มันไกลกันเป็น 100 ปี เขาอายุ 72 ก็เป็นน้องอาตมา อาตมากำลังย่างเข้า 89 ปี อันนี้เป็นประเด็นที่ 1 ว่า มหาบัวนี้ อาตมาต้องตำหนิ โยมบุญก็ฟังดีๆ พยายามตั้งใจฟังจริงๆ อย่ายึดมั่นถือมั่นในครูบาอาจารย์มาก พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นแม้แต่เป็นครูบาอาจารย์ของตน ในกาลามสูตร ยิ่งยึดอย่างหลงใหล มืดเมาโมหะ มันก็ยิ่งเละ โดยไม่แยกแยะ ไม่ดูเห็นชัดเจนไม่ดูความเป็นจริงไม่พิจารณาทั้งหมดว่า 

จริงๆแล้วอาจารย์เราผิดหรือถูก อาจารย์เราดีหรือชั่ว ก็ต้องพิจารณาความจริงนั้นให้ถึงที่ อาตมาก็ขอยืนยันว่า มหาบัว อาตมาไม่อยากจะพูดลงไปนะ มันจะไปกระทบใจคนมากเกินไปว่า มหาบัวคือคนชั่ว อาตมาไม่อยากจะพูด แต่ขอพูดว่าเป็นคนโง่ เป็นคนไม่รู้ มหาบัวเป็นคนอวิชชา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาโยมบุญ ให้รู้จักทำบุญอย่างถูกพุทธ วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565 แรม 6 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 12:13:45 )

คนที่โง่ที่สุด เป็นคนที่มีกิเลสมากที่สุด

รายละเอียด

ถูกแล้ว กิเลสมันเรื่องของความโง่ เป็นความมืดบอด ใช้ศัพท์ซ้อนกันเท่านั้นเอง อาตมามีประเด็นที่จะอธิบายเยอะ ลิสต์มานับไม่ถ้วนแล้วจะตายลงหรือ แต่ทำไมมันไอจังเลย

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  Neo Protest ประชาชนปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 12:07:52 )

คนที่ไกลจากวิเวก

รายละเอียด

คือ  นรชนทุกวันนี้คือผู้ข้องทั้งนั้นแล้วข้องอยู่ในไหนก็คือ คุหะยัง คือ ถ้ำ คำว่ากาย เรียกว่าถ้ำ จบเลยนะ ข้องนี้แปลว่าผู้ไม่หลุดพ้น เพราะอะไร เพราะมีกิเลสมาก ปิดบังไว้แล้ว แล้ว ก็ยัง ขออภัยแปลให้ชัดๆหน้าด้านนั่งอยู่ได้ นั่งทับอยู่ตรงนั้นแหละ ตรงที่หลุมนรกของเน่าของหมักหมม   ไม่พอหยั่งลงในที่หลง ตัวจิตยังทิ้งดิ่งในที่เน่านี้อีก  นี่คือ คำขยาย คนที่ไกลจากวิเวก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 13:33:15 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:10:49 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:37:21 )

คนที่ไกลจากวิเวก

รายละเอียด

 คือ คนที่เอาร่างกายไป ป่า เขา ถ้ำ  เขาว่าเขาได้วิเวก  แต่แท้จริงเขาเป็นคนที่ไกลจากวิเวก  ยังไม่พอ อยู่แต่ผู้เดียว  เดินผู้เดียว กินผู้เดียว บิณฑบาตผู้เดียว  แล้วนึกว่าตนเองเป็นผู้วิเวก  แต่แท้จริง ตนเองเป็นคนไกลแสนไกลจากวิเวก

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 16:33:19 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:11:44 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:38:46 )

คนที่ได้ธรรมะโลกุตระลดกิเลส

รายละเอียด

จากอาตมาหนึ่งเดียว ก็สามารถมีคนที่ได้ธรรมะโลกุตระละกิเลส เป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี มาได้หลายคน ทำให้หลาย พหุทาปิ พหุทาแปลว่ามากมายหลากหลาย ให้มาเป็นหนึ่งเดียว พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ หลายๆหรือจะเอาเป็นคนๆนั้นก็คือคุณธรรมของเขา มากกว่าหลายคนก็มารวมตัวกันเป็นธรรมะโลกุตระหนึ่งเดียว เป็นธรรมะที่รู้จักเอโกธัมโม แบบเดียวกันรู้จักกิเลสลดกิเลสได้ให้เป็นศูนย์เหมือนกันหลายคนของใครของมันแต่ 0 เหมือนกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2563 ( 10:24:43 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:25:07 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:41:03 )

คนที่ไปทำบุญทอดกฐินจะบาปหรือไม่

รายละเอียด

ตอบให้รู้จ้า คนไปทอดกฐินทุกวันนี้ร่วมกันได้บาปจ้า พูดอีก คนไปร่วมกันทอดกฐินทุกวันนี้ได้บาปจ้า ได้บาปอะไร ได้บาปคือร่วมกันทำจารีตประเพณีที่เน่าเฟะ จารีตประเพณีที่เต็มไปด้วยกิเลส จารีตประเพณีที่คนอวิชชาร่วมหัวกัน ใช้เป็น กโลบาย ขอเรียกคำว่า กโลบาย ไม่เรียก กุศโลบาย กโลบายคือกลอุบาย เป็นกลยุทธ์ กลวิธีชนิดหนึ่ง ของคนยุคนี้ คนยุคนี้ โดยเฉพาะ..ขออภัยที่ต้องพูด พระนี่แหละตัวดี ใช้เรื่องทอดกฐินนี่ เป็นเรื่องหาเงินให้แก่ตัวเอง ดีนะที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ว่า กฐินนี้ 1 วัด ปีหนึ่งทอดได้ครั้งเดียว ภายในเดือนเดียวด้วย ถ้าหากพ้นเดือนนึงไปแล้วนี่ ทอดกฐินไม่ได้นะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ที่สุดแห่งพุทธศาสนาคือปัญญาอันปราศจากกิเลส วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2565 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2565 ( 11:45:12 )

คนที่ไม่มีทวาร 5 ภายนอกนั้นไม่สามารถจะมีความจริงได้เลย

รายละเอียด

สรุปตรงนี้เลย คนที่ไม่มีทวาร 5 ภายนอกนั้น ไม่สามารถจะมีความจริงได้เลย มีแต่ความเก๊ เก๊ๆ แอ่นเดอะเก๊ทั้งนั้น แล้วความจริงนั้นจะต้องมีผู้รู้ร่วมที่มีตาหูจมูกลิ้นกายด้วยกัน เริ่มรับรู้รับรองกันตั้งแต่ 2 ขึ้นไป ยิ่ง 3 ก็ครบ 3 เส้า ยิ่ง 4 5 6 7 8 9 10 ยิ่งเป็นล้านคน ยิ่งนั่นแหละคือความจริง 

ความจริงคือสิ่งที่รับรองกันระหว่างคน ที่มีสติสัมปชัญญะ มีตาหู จมูก ลิ้น กาย เปิดรับรู้ร่วมกันได้ ยิ่งจำนวนคนมากเท่าใด ก็ยิ่งคือความจริง จะเรียกว่าประชาธิปไตยก็ได้ อันนี้แหละคือความจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์แม้เป็นอัลไซเมอร์ก็ไม่มีพฤติกรรมกามเมถุน วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 05:32:12 )

คนที่ไม่มีศรัทธาโพธิรักษ์เป็นผู้ที่มีอวิชชา

รายละเอียด

คุณจะไม่มีสิทธิ์โยนิโสมนสิการ คุณจะทำการ อโยนิโสมนสิการตลอดเลยเพราะไม่ศรัทธาโพธิรักษ์ คุณไม่คบอาตมาตีทิ้งอาตมาก็เจ๊งแล้ว อาตมาเอาพระไตรปิฎกมาประกอบการอธิบาย บางคนก็ฟังโพธิรักษ์แต่ฟังอย่างจับผิด ไม่มีสัมผัส อาบน้ำกลัวเปียก พวกนี้จะไม่รู้ว่าอาตมากล่าวถึงมูลสูตรอย่างไร จะไม่ get ไม่เข้าใจ มูลสูตร 10 เป็นต้นทางจริงๆ ไม่มีฉันทะไม่มีทางปฏิบัติธรรมได้เลย หากมีฉันทะ 10% อีก 90% ผิดจะไปปฏิบัติผัสสะก็ผิด ยิ่งเวทนาก็จะเอาแต่สุข ข้องในถ้ำ ไกลห่างวิเวก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ปฏิบัติธรรมกับอาหารในพระสูตรต่างๆ วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:24:41 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:13:16 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:43:01 )

คนที่ไม่มีอคติฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา

รายละเอียด

ขออภัยคนที่มีอคติจะหมั่นไส้ แต่คนที่ไม่มีอคติฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา สุสูสัง ลภเตปัญญัง

คุณฟังอาตมามีอคติก็ไม่มีฉันทะ ฟังไม่เข้าใจ เพราะว่าโลกุตรธรรมเป็นเรื่องลึกซึ้ง เป็นของยากที่จะเข้าใจได้ง่าย ต้องฟังอย่างเปิดเลยไม่มีอะไรต้าน ต้องมีฉันทะมีความยินดีพอใจที่จะฟัง ถ้าไม่เช่นนั้นไม่มีทางที่จะรู้ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ตีแตกเทวะด้วยคอมเม้นท์ที่เห็นต่างจากพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(สัมมาทิฎฐิ 10) ตอน สมณพราหมณ์ผู้มาเปิดเผยสัมมาทิฏฐิของพุทธ


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 12:34:59 )

คนที่ไม่ยอมรับในคำสอนพระเถระในพระไตรปิฎก

รายละเอียด

คนที่ไม่ยอมรับในคำสอนพระเถระในพระไตรปิฎก  คือ  พวกหยิ่ง ผยอง  อหังการ  เกินไป  สู่รู้  อวดเก่ง  อวดดี  แม้เลือกเอาแต่พระวจนะ  แต่ตีทิ้งอย่างอื่น  จะตีความ ทำความเข้าใจเอง  พระวจนะ ตีความแทนพระเถระอีก  สมณโพธิรักษ์ว่า อวดดีเกินไป จองหอง ที่เขาทำกันในประเทศไทยขณะนี้  คือ ความไม่รู้ของผู้นั้น ทำแล้ว น่าเกลียด  ยกตนเก่งกว่าพระเถระ  จะเอาแต่พุทธวจนะ คุณเก่งมาจากไหน  แต่พระอรหันต์เถระ  500  รูป  บันทึกมาในพระไตรปิฎก  ก็พูดให้รู้สึกบ้าง

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการสำมะปี๋ซี่วิต


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2562 ( 16:44:48 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:13:53 )

คนที่ไม่ยอมเพราะเขาไม่รู้จักอัตตา

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าท่านจะไปยอมทำไม ท่านถูกทุกอย่าง เข้าใจทุกอย่าง แต่ท่านก็ยังต้องยอม แล้วอาตมาเป็นใคร พระพุทธเจ้าเองก็ยังต้องยอม อาตมาก็ต้องยอม เพราะฉะนั้นคำว่า ยอม คำนี้จึงยิ่งใหญ่มาก ใครสามารถที่จะทำได้ เช่น ถ้าโลกขณะนี้ โดนัลทรัมป์ ยอม ไม่เป็นอย่างที่โดนัลด์ทรัมป์เป็น โอ้โห โลกนี้จะสงบเยอะเลย หรือว่าคิมจองอึน ยอม ไม่ไปดึงดันอย่างที่เขาพูดนี้ เอาสองคนนี้ก็พอ โอ้โห โลกจะสงบขึ้นมากว่านี้มากเลย เพราะฉะนั้นเขาไม่ยอมเขาไม่รู้จักอัตตา ไม่รู้จักตัวกูของกูเขาจะต้องเป็นใหญ่เขาจะต้องเป็นหนึ่งเขาจะต้องเป็นเลิศเขาจะต้องยิ่งใหญ่อะไรของเขา มันเป็นความไม่รู้ของเขาจริงๆ ก็นึกว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ มันไม่ใช่มันต้องใช่ เหมือนกันกับทักษิณชินวัตร นี่เขาแพ้นะแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ยอมแพ้ ผมสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น แต่ก็จริงของเขา จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยัง อาตมาดูแล้ว ละครเรื่องนี้ให้ทมยันตีไปผูกเป็นเรื่องเขียนดีเลยจะสนุก ตาดูดาวเท้าติดดิน ที่อาตมาจะพูดนี้ก็คือคุณหญิงอ้อมันเหมือนเด็กๆ เขาต้องทำเหมือนเด็กไม่เดียงสาแต่มันไม่มีทางออก เขาฉลาดที่สุดแล้ว แล้วก็ได้ผลประโยชน์ของเขา ก็ดี เขาลดอัตตาของเขามาได้ ไม่รู้ปรึกษาทักษิณหรือเปล่า กราบเดียวสะท้านโลก ปรึกษาทักษิณหรือเปล่าไม่รู้ นี่คือละครของโลกที่เราดูแล้วจะเอาเงินมากี่ล้านๆๆๆ เท่าที่ทักษิณพจมานมีเอามาซื้อก็ทำแบบนี้ไม่ได้อีก ไปจ้างเขาก็ไม่ทำหรอก แล้วที่จะทำของเขาคือมันสุดๆแล้วนะ โอ้โห ยิ่งกว่าหนังจีน Hollywood บวกกับ Bollywood 3 ผู้กำกับใหญ่มารวมกันสร้างเลยสุดยอด 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2563 ( 11:07:59 )

คนที่ไม่รู้จักวิชชาจะหาความสุขที่พลิกแพลงไปเรื่อยไม่จบ

รายละเอียด

บางคนสนุกจัดจ้านมันชอบนักสนุกเพลิดเพลินมีรสชาติทางความสุข ความสุขอะไรที่มันจัดจ้านต่างๆนานาเขาจะปรุงแต่งอารมณ์อย่างนั้นอารมณ์จัดจ้าน ถือว่ายังไม่พอยังจะปรุงแต่งให้พิสดาร ให้มีความแปลกประหลาดให้มีความแตกต่างไปสารพัด คนที่ไม่รู้จักวิชชา ก็จะหาความสุขที่พลิกแพลงไปเรื่อยๆ ก็ไม่จบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 25 วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 03:43:29 )

คนที่ไม่รู้ตัวเองว่าเป็นโสดาบันจะเป็นโสดาบันได้หรือไม่

รายละเอียด

ยังไม่สมบูรณ์ ผู้จะเป็นอริยบุคคลระดับ 1, 2, 3, 4 ก็ตาม โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ตนเองต้องเป็นผู้รู้ เป็นด้วย ที่ถามมาเมื่อกี้มีประเด็นตรงที่ว่า เป็นแล้วล่ะปฏิบัติได้ บรรลุศีล 5 ข้อมาได้จริง แต่ไม่รู้จักบัญญัติ ไม่มีปัญญาหยั่งรู้ อ่านรู้ในสภาพธรรมต่างๆ ก็ถือว่ายังไม่บริบูรณ์ ยังไม่เป็นเต็มตัวยังไม่เป็นแท้ ผู้ที่จะถือว่าเป็นโสดาบันแท้ก็ต้องรู้ตัวเองว่าตัวเองเป็น คนที่จะถือว่าเป็นสกิทาคามีแท้ ก็ต้องดูว่าตัวเองเป็น อนาคามีก็เช่นกันก็ต้องรู้ว่าตัวเองเป็น เป็นเช่นใด มีหลักเกณฑ์อะไรถึงเป็นได้จึงถือว่าเป็น หรือว่าเป็นอรหันต์ก็ต้องรู้ตัวเองว่าทำไมเป็นอรหันต์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 31 วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 20:39:53 )

คนที่ไม่สำรวมเลยก็เหมือนกับสัตว์เดรัจฉาน

รายละเอียด

ทีนี้เมื่อไม่โมหะแล้ว มันเป็นราคะมากไปก็ไม่ดีนะ โดยไม่ได้ราคะแรง แต่มันไม่ควรต่อหน้าต่อตาสาธารณชน มันก็ไม่ควรจะแสดงออกเลย อันนี้ก็เป็นสามัญสำนึกก็มีอยู่เป็นธรรมดาธรรมชาติอัตโนมัติ ไม่ว่าโกรธ ไม่ว่าราคะหรือโลภ ถ้ามันมีมากก็ตาม เราก็ต้องยับยั้งไว้บ้าง ไม่เรียนก็ทำบ้างอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นก็จะหยิบฉวยไปหมด สัมผัสอะไรต้องการอะไรก็ทำไปหมด ตายเลย ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ก็แย่พอดี คนที่ไม่สำรวมเลยก็เหมือนกับสัตว์เดรัจฉาน ยังมีพวกฮิปปี้อิสรเสรี ฉันต้องการฉันก็ทำหมด อยากสมสู่อยู่ที่ไหนก็สมสู่กัน อยู่ตามถนนหนทางก็สมสู่กันไปหมด ฮิบปี้ อิสระเสรีเต็มที่เคยมีอยู่หน่อยนึง ช่วงหนึ่ง เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ข่าวคราว นอกนั้นก็เป็นส่วนบุคคลที่มันไม่รู้สาระพวกนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ สื่อธรรมะพ่อครู ตอน บุญนิยม คืออะไร และอปันกธรรม 3 วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 13:49:38 )

คนทุกคน บรรลุเป็นสิทธัตถะ บำเพ็ญบารมีเป็นสิริมหามายาได้

รายละเอียด

คุณพูดถึงความลึกซึ้งซับซ้อนมากในเรื่องบารมีของกรรมวิบากของมนุษยชาติอย่างลึกซึ้ง แต่คุณพูดอย่างเข้าใจอย่างเจโตคนทุกคน บรรลุเป็นสิทธัตถะ บำเพ็ญบารมีเป็นสิริมหามายาได้อย่างเป็นสภาวะธรรม ซึ่งไม่ใช่เป็นตัวตนบุคคลเหล่านั้น แต่เป็นสภาวะธรรมเลย ถ้าจะไปรอเป็นตัวตนบุคคล มันก็ผ่านไปหมดแล้ว พระนางสิริมหามายาสิ้นพระชนม์แล้ว เจ้าชายสิทธัตถะหรือเป็นพระพุทธเจ้าก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปแล้ว ก็ได้แต่พูดถึงตำนานเท่านั้น เรื่องนี้จะพิสูจน์กันยาก แต่การพิสูจน์สัจธรรมที่เป็นสภาวธรรมปัจจุบันนั้นทำได้ พิสูจน์ตรงกัน แม้จะไม่ใช่พระพุทธเจ้าแต่เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 อย่างอาตมาก็ตาม จะมีสภาวะธรรมที่ร้อยเรียงตามคำสอนมาเป็นลำดับๆ แน่นอน ศึกษาให้ดีๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรม รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 41 คนโง่ซวย รวยเด่น และเป็นกลาง วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2565 ( 14:47:16 )

คนทุกคนมีความทุกข์อยู่แล้วแต่ไม่รู้จักความทุกข์

รายละเอียด

ธรรมดาคนเราก็มีความทุกข์แต่ไม่รู้ว่าเป็นความทุกข์ คนทุกคนนั้นมีความทุกข์อยู่แล้วแต่ไม่รู้จักความทุกข์ คนจะรู้จักความทุกข์ต้องเป็นคนที่ประเสริฐเป็นอาริยะ จึงจะรู้ทุกข์อาริยสัจ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2563 ( 09:54:07 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:23:49 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:49:35 )

คนทุกศาสนาตกนรกที่เดียวกันหรือเปล่า

รายละเอียด

นรกหรือสวรรค์มันตกของแต่ละคนเอง คือจิต จิตตกนรก ถ้าหากอธิบายหยาบๆ ตายไปแล้วตกนรก ก็อัตภาพเราที่ยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ตายไปก็ตกนรกของคุณ จะไปแย่งนรกคนอื่นไม่ได้ หากทำชั่วมากก็ตกนรกแรงมากร้ายมากตามที่คุณทำกรรมกิริยาเลวร้ายก็ตกนรกเอง ซึ่งมันเป็นจริง จิตคุณไม่เรียนรู้เรื่องนรกสวรรค์ก็ไม่สามารถทำให้หมดนรกสวรรค์ ถ้าหากไม่ตกนรกก็หลงว่าอยู่ในสวรรค์ คุณอาจปั้นวิมานสวรรค์เอาไว้ ตายไปก็ขอยึดเอาไว้ แต่มันไม่ได้ยาวนานหรอก กรรมวิบากเหมือนหมาไล่เนื้อ มันจะดึงให้คุณออกมาสู่นรกจนได้ เพราะตายไปแล้วไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ไม่มีกำลัง ไม่มีสติ โดยเฉพาะปัญญาก็ไม่มี สติที่จะเหนี่ยวรั้งอะไรก็ไม่มี จมอยู่กับสิ่งที่คุณทำชั่วที่ฝังในอนุสัย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(เทวดา นรก สวรรค์) ตอน คนทุกศาสนาตกนรกที่เดียวกันหรือเปล่า


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:54:03 )

คนทํางานฟรีในชาวอโศก

รายละเอียด

คือ  ชาวอโศกไม่เป็นหนี้พึ่งตนเองรอดทำให้มากให้เหลือแล้วสะพัดแก่สังคมภายนอก เราทำมาตลอดแต่เราไม่ได้มีสถิติให้แก่คนอื่นเขา แต่เราทำทันทีอย่างคนทํางานฟรี  ทำแต่ละหน้าที่ก็ต้องมีผลผลิตจากแรงงานที่ทำพฤติกรรม สังคมที่ผลิตแรงงานสร้างอันนี้ให้กับสังคมแล้วก็ออกไป หรือแม้แต่ให้เป็นความรู้ คนที่มาอยู่ในชาวอโศก 1. ปฏิบัติศีลเพื่อให้เกิดอธิจิต ซึ่งจะสั่งสมลงเป็นสมาธิในที่สุดสมาธิเป็นเรื่องลึกซึ้ง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:50:49 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:14:52 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:54:07 )

คนธรรมดามีแต่สังขารด้วยอวิชชา

รายละเอียด

ผู้ศึกษาอุปธิ กิเลสขันธ์ 5 อภิสังขาร ก็ล้างกิเลสจากขันธ์5 ด้วยอภิสังขารหมด คุณก็เข้าสู่นิพพาน ตัวอุปธิวิเวกก็คือกิเลสขันธ์ 5 ก็อภิสังขารเป็นความสำคัญของสังขาร ธรรมดาคนจะไม่มีอภิสังขาร มีแต่สังขารธรรมดาด้วยอวิชชา มันก็เกิดสังขารก็ต้องมาเรียนรู้ว่าจะทำสังขาร จะปรุงแต่งจัดการกับจิตกับกายอย่างไรจัดการได้ด้วยอภิสังขารจัดการอะไร จัดการรู้ตัวเลว ตัวกลิ ตัวกิเลส กำจัดตัวนี้ให้ได้ กำจัดอย่างไรก็ต้องมีอุบายเครื่องออกในการกำจัดเอาล่ะขยายความแค่นี้ก่อน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 31 มีนาคม 2563 ( 09:41:45 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:26:16 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 05:03:21 )

คนธรรมดาสามัญไม่รู้จักกิเลส

รายละเอียด

การศึกษาธรรมะที่ศึกษาได้ดีสัมมาทิฏฐิจะเห็นกิเลสตัวเองได้ดี คนธรรมดาสามัญไม่รู้จักกิเลสหรอก ปล่อยให้กิเลสมันข่มหัว แต่นี่ยิ่งศึกษาไปจะรู้ว่าตัวเองมีกิเลสมาก คุณไม่ได้ศึกษาธรรมะกิเลสคุณก็มีมาก่อนแล้ว แต่ตอนนี้ตามันดี มันมีดวงตาก็เลยเห็นกิเลสตนเยอะเลย บางทีมันแรงด้วยนะ จะเกิดปัญญาเห็นจริง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 24 เมษายน 2563 ( 14:25:16 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:25:04 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 05:05:04 )

คนธรรมดาสามัญไม่สามารถอธิบายได้

รายละเอียด

อาตมาตอบได้ว่าอาตมาเป็นอรหันต์ ใช่ คุณก็ตรวจสอบตามศึกษาให้ดี 

พระพุทธเจ้ามาเกิดในร่างของเจ้าชายสิทธัตถะในปางที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าสมณโคดมท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมของศาสนาพุทธ ท่านปฏิบัติศาสนาพุทธบรรลุมาแล้วขึ้นแท่นแล้วพร้อมลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิตลงมาตรัสรู้โปรดโลกมนุษย์ ท่านพร้อมแล้ว ถ้าไม่ได้มาปฏิบัติธรรมอะไรมีแต่มาใช้หนี้เป็นลิงลมอมข้าวพองใช้หนี้ในสิ่งที่ท่านได้ละเมิดมาท่านก็พูดไปแล้ว

นี่อาตมาเป็นคนอธิบายความจริงพวกนี้ ถ้าธรรมดาสามัญไม่สามารถอธิบายอย่างที่อาตมาพูดนี้ได้หรอก ฟังดูบางคนจะหาว่าอาตมาไปลบหลู่พระพุทธเจ้า ไปตำหนิพระพุทธเจ้า ซึ่งก็เป็นความจริงที่อาตมาบอกว่าอันนี้คือสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์มันก็เป็นสิ่งที่ผิดพลาดอยู่ สิ่งที่สมบูรณ์คืออะไรอาตมาก็ขยายความให้ฟัง ให้ฟังด้วยดีจะเกิดปัญญา 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:26:57 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์