@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

อิสระเสรีภาพแบบ freedom กับ independent

รายละเอียด

อาตมากำลังเขียนเกี่ยวกับประชาธิปไตย ซึ่ง คอมมิวนิสต์เป็นเชิงบังคับ แต่ประชาธิปไตยเป็นการให้อิสระเสรีภาพ อังกฤษหรืออเมริกาเขาก็ให้อิสระ แบบ freedom แต่อาตมาไม่ใช้คำว่า freedom แต่ใช้คำว่า independent เมืองไทยทุกวันนี้เป็นประชาธิปไตยสุดยอด รัฐศาสตร์ฟังแล้วก็คงจะสมเพชอาตมาหาว่าเป็นเด็กวานซืน ไม่รู้จักเรื่องประชาธิปไตยตามที่เขาเรียนกันมาศึกษากันมาบริหารกันมา ตั้งเท่าไหร่แล้ว เขาก็ทำได้ผลของเขาเราก็ทำได้ผลของเรา เราก็ทำมา 40-50 ปีแล้วก็ได้ผล ซึ่งมันยากกว่าแน่นอน เป็นประชาธิปไตยของยอดพีระมิด เป็นฐานยอด มันจึงต้องค่อยๆอธิบายกัน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2562 ( 21:26:18 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:00:40 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:32:19 )

อิสระเสรีภาพไม่มีการบังคับล่อลวง

รายละเอียด

ถ้าสงสัยอะไรมากๆ ก็เข้ามาเลย เข้ามาอยู่สักเดือนสองเดือนปีสองปีแล้วก็จะไม่สงสัย อาตมามั่นใจว่าเรามีระบบสาธารณโภคีสมบูรณ์แล้ว มันไม่คล่องไม่ขัดไม่มีปัญหา แต่มันยาก คนข้างนอกมองมาว่าอย่างไรนะ ใช่ คุณจะเดายาก จะอยู่ได้ไหม นั่นเป็นปัญหาที่คุณยังไม่พอจะอยู่ที่นี่ได้คุณก็ต้องมีปัญหาแน่ ชาวอโศกเขามาเรียนรู้ก็จะรู้ว่าเราเป็นผู้ที่ไม่มีปัญหา อย่างมาอยู่ที่นี่ถาวรยังอยู่ไม่ได้หรอกเขาก็จะรู้ของเขา  แต่ถ้าคนนี้บอกว่าอยู่ที่นี่สบายเลยพร้อมจะไม่มีรายได้เขาก็รู้ของเขา เพราะที่นี่มีอิสระเสรีภาพทุกคนตัดสินโดยไม่มีการบังคับล่อลวง ให้เข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้ง ว่า เราจะมาอยู่ที่นี่ต้องมีความพร้อมพอสมควร อยู่ดีๆมาเล่นๆหัวๆไม่ได้ เพราะฉะนั้นคนที่มาบุกรุกมาเล่นๆไม่ได้ เราไม่ได้ทำอะไร คุณก็อยู่ไม่ได้เองเป็นเรื่องตามฐานะเป็นสัจธรรมจัดสรรในตัวมันเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องมาศึกษาให้ดีๆจะได้รู้

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 09:58:40 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 11:15:25 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 21:02:41 )

อิสระแท้ต้องแก้ด้วยปัญญาไม่ใช่เฉกา

รายละเอียด

อันนี้ก็เป็นหน้าที่เป็นสิ่งที่ควรกระทำ เพราะฉะนั้นคนที่มีพฤติกรรมที่บอกว่า ปกป้องประเทศชาติหรือกำลังทำลายประเทศชาติ กำลังบ่อนเซาะประเทศชาติ กำลังจะทำให้ประเทศชาติมันผิดเพี้ยน มันอยู่ดีแล้วจะทำให้มันไม่ดี จะมาทำอย่างโง่ๆ ทำอย่างไม่ฉลาดแล้วนึกว่าตัวเองจะฉลาด พวกนี้นี่แหละมันเป็นเรื่องที่น่าสงสารเพราะเขาไม่รู้ตัว เขานึกว่า อันนี้คนที่จะตัดสินต้องมีภูมิปัญญาจริงๆ เขานึกว่าเขาจะทำดี เช่น เขาจะมาเปลี่ยนกฎหมาย มาเปลี่ยนวัฒนธรรม เปลี่ยนอะไรๆของประเทศไทยมากมายหลายอย่าง ทั้งๆที่คนไทยกำลังทุกวันนี้ พฤติการณ์ส่วนใหญ่ ของสังคมประเทศชาติ ของประเทศไทยขณะนี้กำลังอยู่ในสภาพที่ 

1.ที่อาตมาเอามาพูดว่า อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล  เพิ่มพูนการเสียสละ อาตมาไม่ได้พูดเล่นๆ มันเป็นคุณสมบัติหรือเป็นคุณธรรมอันวิเศษของมนุษย์ แล้วมนุษย์แต่ละคนมีคุณสมบัติ 7-8 คำนี้ รวมกันเป็นหมู่กลุ่มสังคมอย่างชาวอโศกเรา มนุษย์ที่เป็นชาวอโศก มีอิสระ เพราะทุกคน หนึ่งคุณจะมาที่นี่ มาศึกษาตามที่คุณฟังแล้วเข้าใจ อาตมาเทศน์อาตมาแสดงคำที่มันควรจะรู้ ความรู้ที่ควรจะรู้ แล้วคนก็เอาไปปฏิบัติให้แก่ตัวเอง เมื่อคุณฟังแล้วบอกว่าดีคุณก็มา เหมือนกับยกพระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสธรรมะของท่าน แสดงธรรมวินัยของท่าน ทั้งๆที่เป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์นะ คนที่ฟังธรรมพระพุทธเจ้าแล้วเข้าใจ ก็มาเข้ารีตของพระพุทธเจ้าทั้งๆที่เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ 

แล้วพระพุทธเจ้าท่านมีพระบารมีสูง พระเจ้าแผ่นดินแคว้นใหญ่ๆทุกแคว้น แคว้นเล็กๆทุกแคว้น ยกให้พระพุทธเจ้ามีอิสรเสรีภาพ ในทฤษฎีของท่านเลย ทฤษฎีหรือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมดเลยยกให้ เพราะท่านทำแล้วมันไม่เป็นโทษ มันเป็นประโยชน์แก่มวลประชาชน เพราะฉะนั้นพระเจ้าแผ่นดินในยุคนั้น ไม่ว่าจะแคว้นใหญ่หรือแคว้นเล็กในยุคของพระพุทธเจ้า ยกให้พระพุทธเจ้าหมด พระพุทธเจ้าก็มีอิสรเสรีภาพที่จะประกาศลัทธิ ประกาศทฤษฎีของท่าน คนก็มาเข้ารีต ก็พาหมู่ไปที่ไหนไม่ถือว่ากบฏ ไม่ถือว่าเป็นผีบุญมาดึงเอาประชาชนไปเป็นพวก ไม่ถือ เป็นศาสดาผู้ยิ่งใหญ่เลยด้วย ที่จริงถ้าผิดจะเป็นผีบุญ ถ้าถูกจะเป็นศาสดา พระพุทธเจ้าเป็นอย่างนี้ 

เหมือนกัน จะเอามาใช้กับยุคนี้ก็เหมือนกัน อาตมาเอาของพุทธเจ้ามาใช้ พวกคุณเข้าใจก็เหมือนกับยุคพระพุทธเจ้า ที่คุณเข้าใจก็มาอยู่ มุ่งมาอยู่อย่างอิสระ ไม่ได้ถูกหลอกล่อ คุณก็ต้องตัดสินเองมาเองอาตมาก็ไม่เที่ยวไปประเล้าประโลม พูดยั่วพูดแหย่ พูดเรียกร้อง..ไม่ อาตมาแสดงธรรมสดๆ แสดงความสะอาดสะอาดตรงๆไปคุณฟังเข้าใจคุณเข้ามาเอง อาตมาก็อิสระ คุณก็อิสระ คุณก็อิสระมาแล้วมาได้สัปปายะทั้ง 4 เลย พวกที่มาอยู่ที่นี่ เสนาสนะก็สัปปายะ คนอยู่ในนี้ก็สัปปายะ อาหารเครื่องอาศัยใช้สอยก็สัปปายะ ธรรมะฟังทุกวัน วันหนึ่งไม่รู้กี่เที่ยว ฟังที่จะถ่ายทอดมารีรันเทศน์ แล้วตอนเย็นก็มีการเทศน์ อาตมาไม่เทศน์องค์อื่นก็เทศน์ นอกจากจะมีเหตุการณ์จำเป็นต้องหยุดก็หยุดบ้าง เกือบทุกวัน 365 วันเทศน์ไม่หยุด ไม่ใครก็ใครไม่ที่นี่เทศน์ บวรอื่นก็เทศน์ โอ้โห.. พวกเรานี้ฟังธรรมกันจริงๆ ชีวิตดีจังเลยได้ฟังธรรมรับธรรมะ ก็สัปปายะ 4 อาหารสัปปายะ เสนาสนะสัปปายะ บุคคลสัปปายะ ธรรมะสัปปายะ  บริบูรณ์อย่างนี้เป็นต้น สุดยอดเลย 

เพราะฉะนั้นคนที่ทำกรรม โดยความฉลาด ทำกรรมด้วยความฉลาด ผู้ที่จะมีความฉลาดแล้วทำกรรมที่หมดโทษภัยหมดเลย ไม่มีภัยไม่มีโทษ มีแต่ประโยชน์เพื่อผู้อื่นเลย ก็คือผู้ทำกรรมอันฉลาด คำว่า “ฉลาด”คำนี้เป็นภาษาไทย มาจากคำว่า “ฉฬายตนะ” ภาษาบาลี ผู้ที่มี ฉฬายตนะ คือมีอายตนะ กับ ฉฬ คือ 6 

6 คือ 6 ทวารหรือ อายตนะ ฉ หรือ ฬ ก็ตาม มันหมายถึง 6 เพราะฉะนั้นคนที่มี 6 มีทวารทั้ง 6 ก็ดี มีอายตนะ 6 ก็ดี คนที่มีแล้ว มีความรู้ ความรู้ในระดับขั้นที่ใช้พยัญชนะอีกตัว เรียกว่า ปัญญา เป็นความรู้ในระดับปัญญา ซึ่งยอดเยี่ยมกว่าความรู้ความฉลาดที่ชื่อว่า เฉโก 

เฉโก นั้นคือคนที่จบอยู่ที่ ฉ ที่เป็นหนึ่งเดียว เรียกว่า เทวะ เป็น 1 คือ เฉกะ เฉ เอกะ มี 6 แต่ไม่รู้จัก 6 จบอยู่ที่ 1 ไม่รู้ทวารทั้ง 6 ไม่รู้อายตนะทั้ง 6 ไม่ได้ทำความรู้กับโลกกับอะไรเลย จมอยู่ในตัวกูของกู หนึ่งเดียว เรียกว่าเทพเจ้า เรียกว่าพระเจ้า หนึ่งเดียว แล้วมีหนึ่งเดียวตามที่กูเชื่อ กูรู้ กูเห็น กูเข้าใจ อันนี้ประกาศ อันนี้ยิ่งใหญ่ แล้วไม่มีอื่นเลยนะ ห้ามอันอื่นมาแย้งไม่ได้ มีตัวกูของกูจัดจ้านมากเลย นี่คือความเป็น เฉโก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประกาศสิทธิสำเร็จสูงสุดคือสิทธัตถะ วันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 สิงหาคม 2566 ( 17:11:36 )

อิสระแบบไม่มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติเลยเป็นเช่นใด

รายละเอียด

ยกตัวอย่างที่สุดโต่งคือ พระเชน พระมหาวีระคืออัตตาเต็มที่ อิสระเสรีที่ไม่ไปกับใครทำอะไรกับใคร อิสรเสรีแบบเต็มบ้องของอัตตา อยู่เดี่ยว แต่ไม่เบียดเบียนใครเลย แม้แต่สัตว์เล็กสัตว์น้อย สุดยอดเลย สุดโต่ง กินน้อยใช้น้อยผ้าก็ไม่นุ่ง มีภาชนะใส่อาหารอันเดียว เอาไว้ใส่สารพัดมีภาชนะอยู่ 1 ชิ้น กับไม้สำหรับปัดสัตว์เล็กสัตว์น้อยต้องระวัง นี่คืออัตตาเต็มบ้อง อิสระ แบบไม่มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติเลย อิสระแบบนั้นตายไปจากโลก โลกก็ไม่เสียดายอะไรเลย เพราะคุณไม่มีประโยชน์อะไรต่อโลกเขาเลย มีแต่ตัวเองเต็ม

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 11:34:18 )

อิสรเสรีภาพ

รายละเอียด

อิสรเสรีภาพ ทุกคนมาที่นี่มาเองทั้งนั้น หลวงปู่ไม่ได้เรียกร้องให้มา อาจจะมีพ่อแม่พี่น้องผลักดันให้มาก็เถอะ เราก็อยู่ในอาณัตินั้น ตามฐานะของเด็ก พ่อแม่ของเด็กก็ต้องมีภูมิธรรมรู้ว่าเอาเด็กมาอยู่ในนี้มันจะเสียหายอะไร มีแต่จะเจริญ ดีทั้งนั้น มันไม่มีพิษอะไร 

เพราะฉะนั้น 1.) บริหารโลก 2.) ตนเองอัตตาธิปไตย บริหารตนเอง

บริหารตนเองให้เป็นคนสูงสุดมีวรรณะ 9 เป็นคนที่เป็นอรหันต์ สรุปง่ายๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่นกับลูกๆ หลานๆ งานมหาปวารณา มหาบิ๊กคลีนนิ่ง วันอาทิตย์ที่  6 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ธันวาคม 2565 ( 12:08:31 )

อิสรเสรีภาพการเลือกปฏิบัติ แต่ละหมู่ของศาสนาพุทธ

รายละเอียด

คือทุกวันนี้  ศาสนาพุทธไม่มี  มีแต่ของเก๊ไป บรรลุต่างๆ นานา  ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด  ก็ทำให้เกิดคนชนิดนั้น  สังคมกลุ่มนั้นที่มีทฤษฏี  มีคอนเซฟแบบนั้น ปฏิบัติแล้วก็ได้ผลแบบนั้น  กับหมู่อื่นที่ต่างกันแม้แต่อโศก  ก็มีผลต่างกัน ก็เอาคนจริงพฤติกรรมจริง  สังคมจริง พฤติกรรมที่สัมผัสดูกันได้  ถ้าไม่เต็มก็ต้องดูกันนานๆ  จิตวิญญาณอย่างไร จึงเป็นจิตที่ดี  ของใครก็คิดว่าตัวองมีจิตวิญญาณที่ดีทั้งนั้น  เมือสำเร็จเป็นสมาธิแล้ว  แบบนั้นไม่ดีเท่าแบบนี้ ก็เป็นอิสระเสรีภาพในการเลือก ต่างคนต่างมี อิสรเสรีภาพ ในการเลือกของตัวเอง  ชาวอโศกแบบว่าตรงกับพระพุทธเจ้า  แต่ของตนอื่นก็บอกว่าพระพุทธเจ้าของเขาก็เหมือนกันเป็นพระพุทธเจ้าคนละองค์    ก็เอาสัจจะแท้ๆ  ของจิตวิญญาณเจ้าตัวเองไปเลือก  ขาวอโศกที่มาอยู่ที่นี่ก็เลือกแล้วคุณไม่อยู่กับชาวอโศก  คุณไปเลือกคนอื่น  ก็ไม่มีปัญหาอะไรไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ได้ตีกัน  ข้อสำคัญ  ถ้าคนทำไม่ดี ก็ประท้วงกันได้ ด่าว่ากันได้  คุณว่าอย่างนี้ไมดี  อโศกผิดอย่างไร  ก็วิจารได้ แต่อย่าตีกันละ  จริงๆ  แล้วแม้แต่ พระอาริยะ  ก็มีปากหอก เรียกว่า  มุขสตี  มุข คือปาก สตี แปลว่า อาวุธ   สตี  ภาษาบาลี  ส่วนสันสกฤตเขียนว่า  สตรี  ยังมีทิ่มแทงกันอยู่  เป็นอิตถีภาวะ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 79 วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 15:07:48 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:02:59 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:36:04 )

อิสรเสรีภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด

รายละเอียด

อาตมาก็ไม่มีปัญหาอะไร คนไม่เชื่อ อาตมาจะข่มเขาโคขืนให้กินหญ้ามันไม่ยอม ไปบังคับกันไม่ได้ โคไม่กินหญ้า ไปข่มมันเดี๋ยวมันขวิดเอาตาย ไม่ต้อง มันจะเป็นจริง ก็เป็นจริงของมันเอง ไม่ต้องไปบังคับใคร ไม่ต้องไปง้องอนใคร ไม่ต้องไปปะเหลาะให้ใครมาเชื่อ ให้มาเข้าใจ เขาเข้าใจของเขาเอง เชื่อของเขาเอง เห็นดีเห็นจริงของเขาเอง เขายอมรับนับถือของเขาเอง นี่เป็นอิสรเสรีภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุดเลย ชัดเจน นี่คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ของพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 31 วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 20:44:35 )

อิสรเสรีภาพอย่างไรในที่ประชุมสงฆ์

รายละเอียด

สรุปแล้ว สภาต้องมีบัณฑิต เพราะฉะนั้นในที่ประชุมสงฆ์ก็ไม่ต้องไปอวดตัวตนอะไรในที่ประชุมสงฆ์ แต่ข้างนอกนี้อาตมาอวดนะ แต่ในที่ประชุมสงฆ์เมื่อท่านอนุญาตให้อาตมาแสดง อาตมาก็แสดงเต็มที่ ถ้ายิ่งมีพิธีกรจัดการว่าให้คนนั้นคนนี้พูด คือจะมีคนเป็นประธาน จะเลือกผู้รู้ผู้ใดผู้หนึ่งขึ้นเป็นประธาน ควบคุมเกม นี่ก็เป็นมาแต่ในยุคพระพุทธเจ้า เสร็จแล้วก็พยายาม ส่วนเรื่องที่จะพูดในที่สังคมอย่างนั้น ในสภาอย่างนั้น ก็ต้องพูดแต่เรื่องเป็นประโยชน์ ไม่พูดเรื่องไม่เป็นประโยชน์ใช่ไหม เพราะฉะนั้นเมื่อแสดงแล้วคนแสดงก็ให้แสดง คนไม่แสดงก็ให้สิทธิของเขา นี่คือสุดยอดแห่งอิสรเสรีภาพ ผู้ที่นิ่งคือท่านไม่พูด แม้ท่านจะเป็นผู้รู้แต่ท่านไม่อยากจะพูดก็ต้องยอมท่าน จึงเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าพระพุทธเจ้านี้สุดยอดแห่งอิสรเสรีภาพเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 3 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันพุธที่ 7 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 เมษายน 2564 ( 21:39:19 )

อิสสรนิมมานเหตุ

รายละเอียด

พระเจ้าเป็นใหญ่กว่าทุกสรรพสิ่งและมีอำนาจศักดิ์สิทธิ์เหนืออื่นใด

หนังสืออ้างอิง

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 73


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:44:54 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:25:12 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:46:37 )

อิสสรนิมมานเหตุวาท (พระเจ้าเนรมิต)

รายละเอียด

1. ความเชื่อที่ถือว่าสิ่งใดก็ตามที่ได้ประสบอยู่นั้นจะเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ตามล้วนเป็นการบันดาลของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น

2. ลัทธิที่เชื่อว่าอำนาจหรือสิทธิเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่จะบันดลบันดาลนั้นเป็นของผู้ยิ่งใหญ่หรือพระเจ้าเท่านั้น

หนังสืออ้างอิง

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 25, พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 183


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:44:02 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:26:28 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:49:07 )

อิสสา

รายละเอียด

1. ริษยา

2. ไม่อยากให้เขาได้ดี , ความผยองตนแล้วก็หาทางกดผู้อื่นลงไป

3. ความไม่อยากให้เขาถูก ไม่อยากให้เขาดี , ความอยากเห็นของตนว่าถูกว่าดีนี้เกิดขึ้น เด่นกว่า โตกว่า , ความไม่ยอมให้ใครถูก ใครดีเกิน-ตน

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 367 ,ทางเอก ภาค 3 หน้า 46 , 420 ,433 


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:42:56 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:28:14 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 21:04:02 )

อิสสา กับอิจฉา และสาเฐยยะ

รายละเอียด

อาตมารู้จักจิตอิสสานี้ มันหยาบ อิสสานี้หยาบกว่าโอ้อวดไหม ที่จริงบาลีคืออิสสา แต่อิจฉาคือต้องการธรรมดา กลางๆ แต่คนเข้าใจผิด อิสสากับอิจฉา 

อย่างโอ้อวดนี่สาเฐยยะ บางเบากว่าอิสสา แค่นี้ก็ไม่รู้ความต่างของอิจฉากับ สัญญาความต่างของสโฐ โอ้อวด แยกความแตกต่างนี้ไม่ได้ ก็เรียนรู้ลิงค ความแตกต่างของสภาวธรรมอื่นๆอีกได้ยากแค่นี้ก็ยังแยกไม่ออก มันเป็นอุปกิเลสที่ยังหยาบอยู่เลย ขั้นสาเฐยยะ (ขั้นที่10) ยิ่งริษยา หรืออิสสา (ขั้นที่ 7) 

คนที่ยังมีสัญญากำหนดหมายความหยาบความละเอียดต่างๆ เหล่านี้ ยังไม่ตรงกับสัมมาทิฏฐิคือพระอรหันต์เป็นหลัก คุณยังกำหนดตรงกับพระอรหันต์ไม่ได้ คุณก็ยังบกพร่องอยู่ คุณก็ยังไม่สมบูรณ์อยู่ตลอดกาลนาน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนรู้วิญญาณฐิติ 7 ให้ถึงอรหันต์ วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 16:11:18 )

อีกสภาวะหนึ่ง

รายละเอียด

ศาสดาแต่ละองค์มีบุคลิกภาพและคำสอนที่แตกต่าง แยกแยะราย-ละเอียดออกไปองค์ละแบบ คือ ลักษณะอาการของวิธีการที่จะไปสู่พระเจ้า หรือวิธีการเคลื่อนตัวไปสู่ความเป็นชีวิตอันยิ่งใหญ่นั่นเอง

หนังสืออ้างอิง

(จากคนคืออะไร? หน้า 341)


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:41:32 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:28:54 )

อีกหลายสิบปี กว่าคนในโลกจะรู้เรื่องโลกุตระ

รายละเอียด

อาตมาเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า ช่วงที่อาตมายังมีชีวิตอยู่นี้ สากลหรือหลักใหญ่ๆ องค์กรใหญ่ๆของโลกที่มีอิทธิพลที่จะชี้บอก ที่จะชี้ประกาศรับรอง คณะนี้คนผู้นี้ เจริญจริง ดีจริงรับรอง หรือภาษาทางโลกบอกว่าให้รางวัล มีสิ่งที่ประกาศรับรองต่อโลกเขา ให้เป็นที่รู้ขึ้นไป เขาก็ต้องมีภูมิรู้ แล้วก็ต้องมั่นใจว่าใช่ ซึ่งผิดพลาดเขาเสียหมดผิดไม่ได้ มั่นใจว่าของแท้ของจริงอย่างนี้นะได้อย่างนี้ดีจริง และไม่เปลี่ยนแปลง มั่นคงตั้งมั่นยืนยัน 

เมื่อมีองค์กรอย่างนี้รับรองประกาศ มันก็จะเป็นชื่อผู้รับรองการเป็นที่ยอมรับ สำหรับองค์กรที่เป็นที่ยอมรับแล้ว อย่างกลุ่มหมู่ในโลกนี้ยกตัวอย่างง่ายๆ ผู้ที่กำหนดให้รางวัล nobel prize คนนี้เป็นจริงเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เมืองไทยยังไม่มีใครได้รับรางวัล nobel prize จะมีกลุ่มทางยุโรปที่เขาเข้าใจได้ง่าย ภูมิธรรมใกล้กันรู้ได้ง่าย 

ยิ่งมาเป็นภูมิธรรมทางโลกุตระ ช่วงเวลาที่อาตมายังมีชีวิตอยู่เขาจะรู้ได้หรือ อาตมาก็ไม่รู้ว่าอาตมาจะอยู่ไปอีกนานเท่าไหร่ เอาสัก 10 ปี อาตมาอายุ 98 หรือ 100 ปี เขาจะพอรู้หรือ 

เราก็ไปดูถูกไปประมาทเขาไม่ได้หรอก เขาอาจจะรู้ได้ ถ้าเขาไม่แน่ใจเขาไม่รู้จริงเขาไม่เชื่อถือโดยตัวเขาเอง แล้วเขาต้องมีภูมิรับรู้ เขาก็ไม่กล้าที่จะมารับรองเราใช่ไหม เขาก็ต้องมีภูมิรู้ สามารถเข้าใจว่าจริงนะ เขาจึงจะรับรอง จะต้องมั่นใจด้วยนะ ไม่มั่นใจจะรับรองได้อย่างไร หน้าแตกตายเลย อย่างนี้เป็นต้น

ซึ่งจริงๆแล้วเราก็ไม่มีปัญหาอะไร เขารับรองเราก็ดีแหละ เราก็ไม่ได้ไปลบหลู่อะไรเขาหรอก ก็ดี แต่เขาไม่รับรองเราก็มั่นใจของเราอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร เราก็ดำเนินของเราไป 

สร้างคุณธรรมอันนี้ไปให้มันมากให้มันมีคุณสมบัติหรือคุณภาพ ที่เต็มรูปร่างเต็มมิติเต็มเหลี่ยมมุม จนกระทั่ง ชนตา เตะตา คนตาบอดเห็นได้ เอาสำนวนวาทกรรมโก้ๆ คนตาบอดเห็นได้ เอาปานนั้นเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 พาปฏิญาณศีล 8 วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2565 ( 11:10:18 )

อีคิว (Emotional Quotient)

รายละเอียด

ความฉลาดทางอารมณ์

หนังสืออ้างอิง

วิถีพุทธ หน้า 60


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:40:46 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:29:30 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:50:51 )

อุ

รายละเอียด

เกิด (อายุ  =  อาย + อุ) , เป็นไปในตน

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 410 , 501


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:39:11 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:30:33 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 21:04:23 )

อุกกาบาต

รายละเอียด

คือไม่ใช่ดาว คือก้อนอะไรในอวกาศ  วิ่งไปกระทบ  ถูกพลังงานวงโคจรต่างๆ  ดึงดูดไปเป็นดาวอาละวาด  อุกกาบาตไม่ได้เข้าวงจรของใคร เป็นตัวร้ายเลยเข้าไปแล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:27:35 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:06:00 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 21:04:46 )

อุกกาบาต

รายละเอียด

ไม่ใช่ดาว คือก้อนอะไรในอวกาศ วิ่งไปกระทบ ถูกพลังงานวงโคจรต่างๆดึงดูดไป เป็นดาวอาละวาด

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 10:03:00 )

อุกโกฏนา

รายละเอียด

คืออาฆาตต่อกัน ไม่เอา แต่ผู้ที่ยอมในที่สุดใครจะมาฆ่าก็ให้ฆ่าเหมือนพระโมคคัลลานะ สุดท้ายที่จะยอมให้เขาฆ่าตายตายไปเลยเพราะท่านรู้วิบากของท่าน ก็ยอม ท่านมีวิบากมากถึงขั้นคนต้องมาฆ่าตาย ทั้งๆที่ตนเองทำให้ตายก็ได้ แต่มันเป็นอนันตริยกรรมที่ท่านเคยฆ่าพ่อฆ่าแม่มา เป็นเรื่องซับซ้อนอจินไตยที่ยากมาก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 05 เมษายน 2563 ( 12:16:41 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 11:17:12 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 21:05:15 )

อุกโกฏนา

รายละเอียด

 คือ อาฆาตต่อกัน (แรงกว่า ปฏิกโกสนา)

ที่มา ที่ไป

630327


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2563 ( 12:37:49 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 11:17:55 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 21:05:33 )

อุคคล

รายละเอียด

สูงขึ้นเพราะปัญญา ยิ่งใหญ่ขึ้นเพราะการเรียนรู้

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 139


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:38:17 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:31:19 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 21:05:55 )

อุคคห

รายละเอียด

การเรียน , การศึกษา , การถือเอา ยึดเอา

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 507


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:37:38 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:32:17 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 21:06:20 )

อุคคหนิมิต

รายละเอียด

จิตนึกสร้างนิมิตขึ้นมา พอจะเกิดรูป เกิดแสง เกิดสีขึ้นมาได้ แต่ก็เป็นนิมิตที่ยังบังคับได้

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 251


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:36:57 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:33:11 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 21:06:38 )

อุคฆติตัญญู

รายละเอียด

ผู้ที่พ่อท่านยกหัวข้อขึ้นแสดงก็บรรลุทันที ย่อมมีได้เป็นจริงตามฐานะ ตามอินทรีย์ พละ บารมีอันมีแล้วจริง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 263


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:34:32 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:33:48 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:52:28 )

อุจจาระคนเป็นสุดยอดของปุ๋ย

รายละเอียด

อุจจาระคน ซึ่งที่จริงเป็นสุดยอดของปุ๋ยเลย สุดยอดของขยะเลยแหละ  แต่คนมันมีอุปาทานฉลาดน้อย อุปาทานโง่ มันก็เลยเป็นอย่างนั้น 

ซึ่งความจริงแล้วมันจะเป็นการหมุนเวียนอย่างดี เมื่อเอาธาตุมาสังขารกันมีการปรุงแต่งกัน พืชเราเอาไปใส่มันก็ปรุงแต่งมันก็เปลี่ยนแปลงมาเป็นธาตุ เป็นสารที่มันจะเข้าไปปรุงแต่งกันขึ้นไปเป็นพืช เอามาเป็นอาหาร ในกสิกรรมนั่นแหละ ซึ่งมันไม่มีอื่นหรอกมันเป็นของมันอย่างนั้น แต่เราไปติดใจที่มันหยาบๆ ว่ามันมาจากอุจจาระ โดยเฉพาะอุจจาระไก่ก็ไม่ถือกันแล้ว อุจจาระหมู อุจจาระอะไรที่เอามาผสมกัน ทั้งนั้นแหละของวัวควายช้างม้า แม้แต่ขี้ค้างคาวก็เอามาทำส่วนผสมปุ๋ยไม่ใช่เล่นนะ ไม่ได้รังเกียจ แต่ของคนนั้นรังเกียจ จะโง่ไปอีกกี่ชาติไม่รู้นะคนเรา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 32 วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 มีนาคม 2564 ( 21:35:58 )

อุจจาสยนะ มหาสยนา

รายละเอียด

การมุ่งหมายจะให้สูง ให้ใหญ่จนผิดรูปผิดร่าง ผิดฐานะ ผิดเพราะมันใหญ่มันสูงเกินการ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 45


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:28:56 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:34:53 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:54:35 )

อุจฉิชชติ

รายละเอียด

สูญไปเลย ไม่มีเหลืออยู่

หนังสืออ้างอิง

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 83


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:28:10 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:35:27 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:55:16 )

อุจารสมาธิ

รายละเอียด

คำว่าอุจจาระ แปลว่าใกล้ คือใกล้จะสำเร็จเป็นสมาธิเท่านี้เองก็ทำให้สำเร็จก็แล้วกัน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 17:27:10 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:13:24 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:56:44 )

อุจฺฉิชฺชติ

รายละเอียด

ขาดสูญ หรือเป็นอันถูกตัดขาด ไม่เหลืออีก

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 542


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:26:06 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:36:07 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:52:14 )

อุจเฉททิฏฐิ

รายละเอียด

คือ ความเห็นว่า คนตายแล้วสูญ ตายแล้วไม่มีอะไรสืบต่อหรือสภาพวัฏสงสารที่สืบเนื่องด้วย อดีตกรรม ปัจจุบันกรรม อนาคตกรรม ที่จะสั่งสมสืบทอดต่อไป ก็ไม่เชื่อว่ามี ทำบาป ทำกรรม ก็แค่ชาตินี้ อย่างมาก 100 ปีตาย ก็จบกัน คนเหล่านี้ จะไม่กลัวบาปกรรม จะเอาตัวรอดยอดเยี่ยมไปสบายมาก คนที่เข้าใจอย่างนี้ เป็นมิจฉาทิฏฐิ

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 115


เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 15:39:34 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 19:05:34 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:58:09 )

อุจเฉททิฏฐิ

รายละเอียด

1. ความเห็นว่าขาดสูญ, ขาดสูญ ไม่มีต่ออะไร

2. ความเห็นว่าตายแล้วสูญหรือขาดสูญ

3. ความเห็นที่เชื่อว่าขาดสูญ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 549, ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 20, คนคืออะไร? หน้า 549, หน้า 551, เปิดโลกเทวดา หน้า 177


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:27:23 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:37:30 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:59:24 )

อุจเฉททิฏฐิ

รายละเอียด

อรหันต์ตายแล้วจะสลายไป

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 14:29:13 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:14:16 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:00:24 )

อุจเฉททิฏฐิ กับสัสสตทิฏฐิ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น ผู้ที่ดับกิเลสได้เป็นพระอรหันต์แล้วคืออมตะบุคคล จะเกิดอีกก็ได้จะตายอีกก็ได้ในร่างกายนี้ ถ้าใครไปเข้าใจว่าอรหันต์ตายแล้วต้อง 0 พวกนั้นเป็นอุจเฉททิฏฐิ แล้วผู้ใดบอกว่าถ้าดับกิเลสต้องตายแล้วเที่ยงแท้เป็นพุทธเกษตร เป็นพระอรหันต์นิรันดร สูงสุดเป็นพระพุทธเจ้าอยู่พุทธเกษตร ก็เป็นลักษณะที่สัสสตทิฏฐิ เพราะฉะนั้นไม่ได้หมายถึงการเกิดการตายอันอื่นแต่หมายถึง การเกิดการตายของกิเลสเท่านั้น 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 12:45:39 )

อุจเฉททิฏฐิ เข้าใจผิดในเรื่องพระอรหันต์อย่างไร

รายละเอียด

พระอรหันต์หมดกิเลสแล้ว ตั้งปณิธานต่อเป็นโพธิสัตว์ อาตมาเป็นโพธิสัตว์มาบำเพ็ญต่อ ซึ่งในศาสนาเถรวาทบอกว่าเป็นพระอรหันต์แล้วก็ต้องตายเลยไม่สามารถกลับมาเกิดได้อีก เป็นความเข้าใจผิด ในพวกเถรวาทบอกว่าให้เป็นพระอรหันต์เป็นพระอรหันต์แล้วก็ไม่เกิดอีก ศาสนาก็เลยหมดไปอย่างรวดเร็ว เป็นพวกอุจเฉททิฏฐิ ที่ซับซ้อนน่าสงสารด้วย เป็นความเข้าใจปริวัตรต่างๆไม่ได้ มันก็เลยสั้นยาก แต่อาตมาเข้าใจทั้งที่ท่านเข้าใจไม่ได้ เข้าใจทั้งอรหันต์และโพธิสัตว์ เข้าใจทั้งมหายานและเถรวาท อาตมารู้ทั้ง 2 อย่าง 

แต่นี่เขาเข้าใจผิดไปเลยเป็นพระอรหันต์แล้ว ปรินิพพานในชาตินั้นแล้วจะต้องสูญไม่มีต่อ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องโพธิสัตว์ โพธิสัตว์ของเขาก็คือผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นปุถุชนเป็นพระอริยะไม่ได้ หนักไปเลยอย่างนั้น พระโพธิสัตว์เป็นอริยบุคคลไม่ได้ ปฏิบัติไปเรื่อยๆถึงวันดีวันคืนก็กลายเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ได้ผ่านการเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ เป็นพระพุทธเจ้าเลย เหมือนกับพระมหาบัวเป๊ะเลย ปึ๋งเป็นพระอรหันต์เลย ไม่มีลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ตามพระพุทธเจ้าสอน นี่น่าสงสารจริงๆ นัยซับซ้อนพวกนี้ฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ตอบปัญหาผ่าวิญญาณฐีติ 7 วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2563
ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:24:27 )

อุจเฉททิฏฐิ เรื่องอรหันต์ตายแล้วสูญ

รายละเอียด

เป็นอรหันต์แล้วจะเกิดอีกกี่ชาติ ศาสนาพุทธในเมืองไทยเมื่อก่อนคิดว่าอรหันต์ต้องตายแล้วสูญมาเกิดอีกได้อย่างไร เขาเป็นอุจเฉททิฏฐิ ซึ่งอาตมาก็บอกว่าถ้าพระอรหันต์ตายแล้วสูญ ไม่มีพระโพธิสัตว์ต่อภพต่อภูมิ ศาสนามันก็สั้นนิดเดียว พระอรหันต์ตายแล้วสูญหมดเลยไม่มีใครต่อภพภูมิ แล้วถ้าไม่มีพระอรหันต์ต่อภพต่อภูมิจะมีพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างไร เพราะพระ  อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ใช่อรหันต์อย่างคุณ อรหันต์อย่างคนเป็นขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า มันไม่เท่ากันไม่เหมือนกันหรอก อรหันต์ระดับ 7 ก็สูงกว่าระดับ 6 ระดับ 6 ก็สูงกว่าระดับ 5 เป็นธรรมดาอย่างนี้เป็นต้น 

 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 50 ตอบปัญหาผ่าปฏิจจสมุปบาท วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 กันยายน 2565 ( 14:59:40 )

อุจเฉทิฏฐิของชาวพุทธในเมืองไทย

รายละเอียด

ต้องท้าวความ ความเข้าใจที่เป็นมิจฉาทิฐิชนิดหนึ่งในประเทศไทย เข้าใจว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าหมดไปแล้ว พระอรหันต์ไม่มีแล้วหมดแล้วไม่มีเชื้ออรหันต์อีกต่อไป ต่อจากนี้ไปก็จะเหลือเชื้อของพระอนาคามี เพราะความเข้าใจของเขาคือเป็นพระอรหันต์แล้วต้องตายไปไม่สามารถกลับมาเกิดได้อีก จะสืบเชื้อต่อไปของพระอรหันต์ไม่ได้ นี่คือเป็นอุจเฉททิฏฐิของชาวพุทธในเมืองไทย 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 10:00:40 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 11:18:49 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:02:07 )

อุจเฉทิฏฐิของเถรวาท

รายละเอียด

ถ้าไม่มีใครสืบทอด เช่น เถรวาทเข้าใจว่าตายแล้วสูญเป็นอุจเฉททิฏฐิชนิดหนึ่ง แล้วจะมีพระโพธิสัตว์มาเกิดที่ไหนอีก เป็นอรหันต์แล้วมาเกิดอีกมันมีที่ไหน เขาก็เป็นสิ่งที่น่าเห็นใจเพราะเขาศึกษาผิด เมื่อเราพูดเขาก็งงว่าอะไรวะ ยังไม่ใช่หรอก ปิดประตูให้คนๆนี้เลยปฏิเสธพระโพธิสัตว์ 

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 25 มกราคม 2563 ( 15:24:40 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:15:13 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:02:56 )

อุจเฉทิฏฐิเป็นพวกขาดสูญไม่ปฏิบัติตามกามคุณ 5

รายละเอียด

ศีลข้อ 1 คุณต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสัตว์ โดยเฉพาะกับคน คุณจะต้องศึกษาความโกรธ  ความซื่อสัตย์ ความรัก ความชัง มีเยอะแยะในคน แต่คุณไม่ โยนทิ้งไปดื้อๆ แล้วคุณจะได้ปฏิบัติกิเลสที่หมักหมมอยู่ในใจได้อย่างไร คุณละเลยมันแล้ว ก็เสร็จสิ กลายเป็นอุจเฉททิฏฐิ เป็นพวกขาดสูญ คุณไม่ได้ปฏิบัติกามคุณ 5 ตีทิ้งไปเลย อย่างมหาบัวเป็นต้น ไม่รู้ว่าตัวเองติดในสิ่งเสพติดอื่นๆกินหมากไม่ขาดปาก ติดหนัก ก็ไม่เข้าใจมันเป็นการเสพติด ซึ่งมันไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร จนกระทั่งเขาบอกให้เลิกกันได้หลายประเทศแล้ว ในเรื่องการติดหมากพลู เมืองไทยแต่ก่อนเคี้ยวกันตั้งแต่อำดำ อำแดง สายนั่งหลับตามหาบัวกินหมากจับๆ กันทั้งนั้น เพราะว่าไม่รู้ก็เลยพากันเลอะเทอะ อาตมาก็สงสาร ฟังธรรมะดีๆ อาตมาไม่ได้ไปด่ามหาบัวหรอก แต่ตักเตือนขนาดนี้ก็ยังไม่รู้ตัว ว่าพูดเยอะแยะคนจะไปรู้ได้อย่างไร เอาสำลีไปเช็ดหนามทุเรียนมันจะไปรู้ได้อย่างไร 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 27 มีนาคม 2563 ( 12:14:11 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 11:19:55 )

อุชุ

รายละเอียด

1. ให้ประพฤติให้งามเป็นเบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย ให้ถูกให้ดีให้ตรง

2. ถูกตรง, ถูกตรงแล้ว

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 86, ทางเอก ภาค 3 หน้า 314, สมาธิพุทธ หน้า 439 


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:25:06 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:38:54 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:05:42 )

อุฏฐาต

รายละเอียด

ความหมั่นขยัน

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 486


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:24:13 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 22:39:28 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:06:18 )

อุฏฐาน

รายละเอียด

1. ยิ่งจะเป็นผู้ตั้งความเพียร เป็นผู้พยายามยิ่ง ๆ ขึ้นในการกอปรก่อสิ่งที่มีคุณค่า

2. ฐานที่เกิด ที่ตั้งของความเกิด คือมีบทบาท มีการงานอยู่ของจิตแท้ๆ

3. เพ่งเพียร ฝึกทำขึ้นมาก ๆ

4. ความเพียรในงานที่ควรเพียร

5. ขยัน หมั่นเพียร ทำตนให้เป็นผู้สร้าง ทำตนให้เป็นผู้กอปรก่อเสมอ

6. การดำเนินชีวิตด้วยการมีทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม สร้างสรร ขยันเพียร

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 315, ทางเอก ภาค 3 หน้า 17, หน้า 306, หน้า 334, จากหนังสือสมาธิพุทธ หน้า 280


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:23:02 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:00:24 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:08:37 )

อุฏฐานสัมปทา

รายละเอียด

ถึงพร้อมด้วยความขยัน

หนังสืออ้างอิง

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 165


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:20:31 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:01:25 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:09:26 )

อุดมการณ์ค้าขายของชาวอโศก

รายละเอียด

คนไม่เคยคนไม่ชอบก็พยายาม พวกที่ไม่ติดดิน ไม่ชอบเลย ไม่อยากทำ ให้พยายามเถอะ มันไม่ตกต่ำอะไร ไม่เสียหายอะไรเลย มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุดที่เราสามารถสร้างอาหารที่เป็นหนึ่งในโลกนี้ให้มนุษย์ได้อาศัยใช้สอย โดยวิธีขายหรือแจก แจกเป็นดีที่สุด แจกไม่ได้ก็ขายในราคาต่ำที่สุด ต่ำไม่ไหวก็แพงขึ้นบ้างแต่อย่าไปเกินทุน ไม่ไหวจริงๆจะเกินทุนก็เกินนิดหน่อย แต่อย่าไปเกินกว่าราคาตลาดเป็นอันขาด นี่คืออุดมการณ์อุดมคติของพวกเรา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:28:13 )

อุดมการณ์อโศกคือการสร้างคนจนพันธุ์ใหม่!

รายละเอียด

ในประเทศไทยมี“คนจน”ชนิดนี้เกิดจริงกันแล้ว และเป็นได้ถึงขั้นเกิดสังคมชุมชนหมู่บ้าน“คนจน”กระจายอยู่ประปรายทั่วไปในประเทศไทย แต่ก็ยังไม่มากนักหรอก ถึงปานนั้นก็มีปรากฏภาวะจริงนี้ได้จริงๆ เชิญตรวจสอบพิสูจน์กันได้ มันเป็นเรื่องดีนะ!นั่นคือ คนกลุ่มที่เรียกกันในสังคมว่า “ชาวอโศก”นี่เอง “ชาวอโศก”เป็น“คนจน”ที่มีคุณลักษณะพิเศษ หากสนใจก็เชิญติดตามหาอ่านได้จากหนังสือของชาวอโศก หรือจาก“อีบุ็ค(E-book) จากสื่อสารสนเทศที่บันทึกในรูปแบบต่างๆ ในเว็ปไซต์“บุญนิยม”เป็นต้น แล้วเชิญเดินทางไป“สัมผัส”ความจริงนี้ได้  

หนังสืออ้างอิง

เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 หน้า 409 ข้อ 554


เวลาบันทึก 02 มิถุนายน 2565 ( 13:58:20 )

อุดมคติ

รายละเอียด

การเกิดที่สูงสุด , การดำเนินไปของความดีเลิศ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 347


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:19:45 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:02:47 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:10:15 )

อุดมสมบูรณ์แบบไม่ต้องสะสม

รายละเอียด

อุดมสมบูรณ์ไม่ต้องสะสม ถ้าสมมุติว่าแผ่นดินของเรามันมีทองมีแร่ทองคำอยู่ในนี้ แร่ทองคำก็สะสมทองคำต่อไป มันมีแร่ดีบุกก็สะสมความเป็นดีบุกต่อไป แม้แต่ดินน้ำไฟลมก็อยู่กันอย่างอิสระของมันสร้างตัวเองพัฒนาตัวเองโดยธรรมชาติ แล้วพืชพันธุ์ธัญญาหารมันก็ทำความเจริญของมันเอง ถึงบอกว่าวันนี้ชัดเจน ต้นไม้ต้นไร่ทำไมที่นี่ถึงงาม ต้นใหญ่ต้นอวบต้นสูงเนื้อดีดอกสวยใบสวย มันเหมือนแกล้งสวยให้เราดู แกล้งงอกงามให้เราดู เดินไปทางไหนก็มี มีแต่บักหุ่ง ไปทางไหนก็รุ่งเรืองไปหมด เต็มไปหมดเยอะเหลือเกิน มันเป็นเหมือนนิมิตเหมือนสัญญาณ เหมือนมันบอกเราว่านี่เป็นแดนคนอุดมสมบูรณ์ นี่ถ้าเผื่อไปข้างนอกต้องไปหาซื้อ จะได้ดอกไม้เหลือง ดอกไม้แดง ดอกไม้ขาว ดอกไม้น้ำเงิน ที่มาประดับตกแต่งต้องไปเดินหาซื้อหลายตลาด กว่าจะได้มาพอสมควรมาทำเป็นประดับ ดอกเป็นสีธงชาติปูอยู่ทามกลางสีเหลืองอร่าม ประดับ ไม่ต้องซื้อมาหลายตลาด แต่ที่นี่ได้ครบเลย อยากได้สีธงชาติอยากได้สีเหลืองไม่ต้องไปหาซื้อตามร้านขายสีเลย เอาสีธรรมชาติมาทำ สวยสดงดงาม อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 15:20:02 )

อุตตมัตถะ

รายละเอียด

ผลอันสุดยอด

หนังสืออ้างอิง

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 108, หน้า 109


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:19:02 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:03:49 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:11:21 )

อุตตระ (จากในมูลสูตร)

รายละเอียด

ยิ่ง , ยิ่งกว่า , เหนือกว่า

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 64, หน้า 78


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:18:16 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:04:32 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:12:23 )

อุตตระ , อุตริ , อุตตริ (อ่านว่า อุด – ตะ – ริ)

รายละเอียด

1. ธรรมที่สูงขึ้น หรือเหนือมนุษย์ธรรมดา

2. ยิ่งกว่าโลกียะ

3. เหนือขึ้นไป , เหนือไปกว่านั้น , เหนือยิ่ง , กว่านั้น , ข้างบน , ส่วน-ยอด , ยอดเยี่ยม , ยิ่งยวด

หนังสืออ้างอิง

ทางเอกภาค 1 หน้า 143, อีคิวโลกุตระ หน้า 104 , รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 152


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:17:23 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:06:11 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:52:48 )

อุตตริมนุสสธรรม คือ “คนเหนือคน”

รายละเอียด

ที่ชื่อว่าอุตตริมนุสสธรรมได้แก่ 1.ฌาน  2.วิโมกข์  3.สมาธิ  4.สมาบัติ  5.ญาณทัสสนะ  6.มัคคภาวนา  7.การทำให้แจ้งซึ่งผล  (ผลสัจฉิกิริยา คือ โสดาฯ  สกิทาฯ  อนาคาฯ  อรหัตฯ)   8.การละกิเลส (กิเลสัปปหานันติ  คือ  ละราคะ  โทสะ โมหะ)   9.ความเปิดจิต (วินีวรณตา จิตตัสสาติ)   10.ความยินดียิ่งในเรือนอันว่างเปล่า  (สุญญาคาเร  อภิรติ  คือยินดีในฌาน 1, 2, 3, 4)

ที่ชื่อว่าฌาน ได้แก่ปฐมฌาน ทุติยฌาน  ตติยฌาน จตุตถ-ฌาน   ที่ชื่อว่าวิโมกข์ ได้แก่  สุญญตวิโมกข์  อนิมิตตวิโมกข์ อัปปณิหิตวิโมกข์   ที่ชื่อว่าสมาธิ ได้แก่  สุญญตสมาธิ  อนิมิตตสมาธิ  อัปปณิตสมาธิ

ที่ชื่อว่าสมาบัติได้แก่ สุญญตสมาบัติ  อนิมิตตสมาบัติ อัปปณิหิตสมาบัติ 

ที่ชื่อว่า ญาณทัสสนะ ได้แก่  วิชชา 3

ที่ชื่อว่ามัคคภาวนาได้แก่ สติปัฏฐาน 4  สัมมัปปธาน 4  อิทธิบาท 4  อินทรีย์ 5  พละ 5  โพชฌงค์ 7  อริยมรรคมีองค์ 8

ที่ชื่อว่า การทำให้แจ้งซึ่งผล  ได้แก่การทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล  การทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล   การทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล  การทำให้แจ้งซึ่งอรหัตตผล

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม1  ข้อ 236

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2562 ( 19:39:04 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:18:27 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:48:12 )

อุตตริมนุสสธรรม,อุตริมนุสธรรม (อ่านแบบบาลีอ่านว่า อุด – ตะ – ริ – มะ – นุด – สะ – ทำ)

รายละเอียด

1. คุณวิเศษ

2. ธรรมะอันยิ่งยวดเหนือขึ้นไปกว่ามนุษย์ปุถุชนสามัญทั่วไป

3. ธรรมล้ำมนุษย์เหนือมนุษย์

4. คุณวิเศษเหนือมนุษย์สามัญ

5. คุณวิเศษอันเป็นภูมิธรรมเหนือที่เหนือสามัญมนุษย์

6. คุณวิเศษ ซึ่งหมายถึงมรรคผลที่เป็นโลกุตรธรรม

หนังสืออ้างอิง

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 82 , 152 ,  159

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 133 ,พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า  ,ค้าบุญคือบาป หน้า 172


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:16:03 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:08:43 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 04:09:32 )

อุตระคือเหนือโลก เหนือความเป็นจริงที่ชาวโลกจะเป็นได้ง่ายๆ

รายละเอียด

ตั้งแต่สมัยก่อนแล้วอาตมาตอบคำถามธรรมะก็จะตอบไปตามปฏิภาณทันทีเลย เป็นวิธีแปลกใหม่คนก็ชอบ ไม่ใช่เรื่องเล่นลิเกเล่นละคร แต่เป็นเรื่องใหม่ที่แปลกใหม่ แต่ว่าก็เป็นสาระที่เป็นภาษาที่บอกเนื้อหาสาระอีกแบบนึง เช่นมาจนดีกว่ามารวยเป็นต้น ไม่ต้องไปติดรสชาติแบบนั้นดีกว่า คนทั่วไปเขาไม่เป็นอย่างนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่หลวงปู่พูด คนทั่วไปเป็นอย่างที่เขาติดกันส่วนใหญ่เลยอยู่ในโลกีย์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่มาเป็นอย่างนี้จึงมาเป็นเรื่องใหม่เป็นเรื่องพิเศษ เรียกว่า อุตระ คือเหนือโลก เหนือความเป็นจริงที่ชาวโลกจะเป็นได้ง่ายๆแต่มันเป็นแล้วมันเป็นความประเสริฐ ไม่ต้องทุกข์ไม่ต้องวอรี่ไม่ต้องดิ้นรนอะไร สารพัดที่จะเป็นความละเอียดของความประเสริฐขึ้นมา ไม่ต้องดิ้นรนเดือดร้อนแย่งชิงมันดีกว่า คนที่มีปฏิภาณปัญญาจะเข้าใจ แต่คนที่ไม่มีสติปัญญาก็จะบอกว่าไม่อยากเป็นแบบนั้น อย่างที่เขาว่า ถ้าถูกด่าอย่างนี้ไม่โกรธก็ไม่ใช่คนแล้ว เราก็ถูกด่าแล้วเราไม่โกรธเราก็ไม่ใช่คนก็ใช่ เราเหนือกว่าคน สูงกว่าคน มันเลิศคน เป็นคนเหนือคนอีกชั้นหนึ่งแล้ว พูดไปก็จะหาว่าอวดอีก 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 22 กันยายน 2563 ( 18:32:43 )

อุตริ (อุด – ตะ – หริ)

รายละเอียด

1. วิตถาร , แผลง ๆ

2. ออกนอกลู่นอกทางพุทธ , นอกรีต , นอกคอก

หนังสืออ้างอิง

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 120 , 152


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:12:46 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:09:54 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:53:33 )

อุตริมนุสธรรม ที่สามารถรู้เรื่องปรมัตถ์และแยกวิเคราะห์ได้

รายละเอียด

ขอเกริ่นนำก่อนว่า อาตมาเองยังหนุ่มแน่น ตั้งอกตั้งใจที่จะยังไม่ยอมตาย ง่ายๆ จะพากเพียรไปให้ถึงที่สุด โดยอาตมาจะพยายามจริงๆ ไม่ได้เพ้อเจ้อ คิดฝันเฟื่องไปเอง อาตมาว่าอาตมาศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้ารู้จักพลังงานทางจิตรู้จักอาการ ลิงค นิมิต อุเทส ในการเคลื่อนไหวของจิต มโนวิญญัติ อาการที่มันเคลื่อนอย่างนี้แตกต่างจากลักษณะจิตที่บริสุทธิ์ กับไม่บริสุทธิ์ อาการไม่บริสุทธิ์ที่แทรกมานั้นเป็นอาการที่เรียกว่าราคะ อาการนี้เรียกว่าโทสะ เราก็เห็นลิงคหรือเพศต่างกัน อ่านชัดเข้าใจได้จริง และเราก็มีอุบายวิธีเครื่องออก หรือเรียกโดยศัพท์ชัดๆ ว่า การกำจัด ฆ่าหรือทำลายอาการอกุศล ราคะโทสะ โมหะ นี้มีจริงๆ มีจริงๆ และทำได้จริงๆ รู้วิธีที่สร้างเรียกว่าอภิสังขาร  สร้างพลังงานที่เป็นพลังงานที่จะเรียกด้วยภาษาว่าฌาน หรือบุญ ฌาน ก็เป็นภาษาที่เกิดก่อ เป็นพลังงานที่เราเรียกอุณหธาตุ หรือเรียกว่าธาตุไฟ ราคะโทสะก็เป็นธาตุไฟ แต่อันนี้ก็เป็นธาตุไฟ ที่เป็นไฟที่เหนือกว่าเป็นไฟวิเศษพิเศษยิ่งกว่า จึงสามารถสลายกำจัดไฟราคะโทสะโมหะได้จริง ไม่ได้เพ้อเจ้อฝันเฟื่อง แต่เราพิสูจน์ความจริงนี้ อาตมาก็ได้พิสูจน์ทำให้ราคะโทสะโมหะหมดไป ทำแล้วก็ยืนยาว พิสูจน์มา มีสภาวะรองรับจริง เป็นอุตริมนุสสธรรม ที่สามารถรู้เรื่องปรมัตถ์ รู้จิตเจตสิก แยกวิเคราะห์ที่พระพุทธเจ้าตรัส ตั้งแต่สองสภาพ ตัวหนึ่งเป็นตัวรู้อีกตัวหนึ่งเป็นตัวที่ถูกรู้เรียกว่า กาย กายก็คือจิต แยกเป็นอกุศลจิตหรือราคะ โทสะแล้วเราก็มีปัญญารู้ ใช้พลังงานปัญญาหรือญาณ หรืออัญญานี้ เป็นพลังงานอุณหธาตุที่อภิสังขารขึ้นใหม่ สามารถที่จะมีประสิทธิภาพสลาย อุณหธาตุอกุศลได้จริง ศึกษาให้ดีแล้วเราจะรู้ เอาพยัญชนะนี้มาเรียกสภาวะอันนี้อย่างนี้ แม้แต่จะละเอียดมากขนาดไหนก็ตามบารมีภูมิธรรมเราจะสามารถรู้ได้

ที่มา ที่ไป

เอื้อไออุ่นวิถีแพทย์ วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 09:02:07 )

อุตริมนุสธรรมของชาวอโศก

รายละเอียด

พวกเรานี่เลยไปจากนั้นมันเป็นไปได้เป็นอุตริมนุสธรรม เป็นคุณวิเศษที่เลยคำสามัญของคน ความจนคือความมีน้อย พวกเราก็รู้ ทางโลกเขาจะให้มีทรัพย์ศฤงคารน้อย ข้าวของนั้นมีมากๆ แต่พวกเรานั้นเห็นเป็นของเฟ้อของเกิน เงินทองทรัพย์สินข้าวของ 

เรามีปัจจัย 4 ข้าว ผ้า ยา บ้าน กับบริขารบ้าง จอโทรทัศน์  คอมพิวเตอร์อะไรพวกนี้ เป็นบริขารสมัยใหม่ แม้แต่แว่นตาก็เป็นบริขารสมัยใหม่ จำเป็น ก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ เราก็ไม่ได้ขาดแคลน 

เราเป็นคนจนที่อุดมสมบูรณ์ตามปรมัตถ์ สมมุติเราก็เป็นจริงตามเขา เขาบอกว่าคนจนลดลง แต่พวกเรานี้เป็นพวกทวนกระแส เราจนยิ่งขึ้น แต่ละคนที่มาปฏิบัติธรรมกับชาวอโศกแต่ก่อนนี้ฐานะดีกว่านี้ รวยกว่านี้ มาเป็นชาวอโศกก็จนลง มาถึงขีดสุดก็คือ ไม่มีเงินทองทรัพย์ศฤงคารเลย มีแต่ปัจจัย 4 และบริการเครื่องใช้อาศัยใช้สอย จำเป็นก็เบิกกองกลาง ขาดเหลือก็เบิกกองกลาง อย่างที่พูดไปแล้ว ซึ่งมันจบเลยนะ ในด้านการดำเนินชีวิตที่เรียกด้วยภาษาว่าเศรษฐกิจ หรือเศรษฐศาสตร์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชีวิตหนอพออยู่พอกิน เพราะมีอาหาร 4 วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 แรม 10 ค่ำเดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2565 ( 20:33:36 )

อุตริมนุสธรรมที่มีในตน

รายละเอียด

ภาษาคำนี้ อาตมาก็ตอบเลยว่าอาตมายังอวดอุตริมนุสธรรมที่มีในตน อาตมาเป็นคนอวดอยู่แต่ไม่มีจิตอยากอวด แต่พอสิ่งที่มี อาตมามีอุตริมนุสธรรมมีธรรมะที่เหนือมนุษย์เหนือโลก นี่พูดเป็นภาษาวิชาการนะเดี๋ยวจะฟังซ้อนเป็นอวดอีก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 22 ยุคนี้สมาธิชาวอโศกเกิดจากจรณะ 15 วิชชา 8 วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2565 ( 21:39:08 )

อุตสาหะเอาใจใส่ย่อมทำได้

รายละเอียด

เอาน่าอุตสาหะหน่อย อาจจะเป็นเรื่องที่เรายังไม่ได้เอาใจใส่ คงไม่ยากเท่าไหร่หรอกลองดู เด็กๆเขาก็ทำได้ เดี๋ยวนี้มีกล่องง่ายๆ ตอนนี้กล่องมันทำออกมาทีหนึ่งแล้วยังไม่ดีนักก็ยังปรับปรุงกันใหม่ออกมาใหม่ก็น่าจะดี กล่องนี้ไม่กี่ตังค์ 400-500 บาท ติดเสียงติดจอก็ดูได้เลย ทั้งวันทั้งคืนก็ดูได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 14:02:18 )

อุตะ พีชะไม่มีกายต้องจิตนิยามจึงจะมีกาย

รายละเอียด

กายนั้นคือจิต หากไม่ใช่กายแล้วนั่นคืออุตุ แม้แยกกายแยกจิตไม่ใช่เป็นอุตุ เป็นแค่พีชะ ก็ไม่มีกาย พีชะคือพืชถือว่าไม่มีกาย ต้องจิตนิยาม จึงจะมีกาย แล้วจึงจะสามารถจัดการกับกรรมวิบาก พีชะไม่มีกรรมวิบาก ไม่มีเวทนาไม่มีความรู้สึก ต้องเข้าใจพวกนี้ ถ้าไม่เข้าใจพวกนี้แล้วการปฏิบัติธรรมให้เป็นโลกุตระธรรมนั้นทำไม่ได้ โมฆะเลย สำคัญมาก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 10:05:50 )

อุตุ

รายละเอียด

อุตุ  คือ ธาตุที่ไม่มีชีวิตแล้ว  ผู้ที่ศึกษาศาสนาพุทธต้องทำจิตให้เป็นอุตุ  ไม่ฟื้นอีกแล้ว โอปปาติกโยนิไม่เกิดอีกแล้ว  ตายเป็นอุตุธาตุแล้ว  ร่างกายเราสิ่งที่เป็นวัตถุแต่ต้องมีชีวะหากไม่มีชีวะทิ้งไปได้เลย  แต่ถ้าไม่ทิ้ง เช่น ผิวหนังมีขี้ไคลก็ต้องเอาทิ้งไปได้ ผม ขน เล็บ ที่ไม่มีชีวะแล้วก็ต้องทิ้งไป  เล็บก็ตัดส่วนที่ไม่ใช่กาย  ฟันก็ไม่กรอทิ้งเดี๋ยวไม่ได้เคี้ยวอาหาร  ถ้าคนแยกกาย  แยกพีชะ  แยกจิตไม่ได้คนนั้นไม่สามารถเป็นอรหันต์  ผู้ที่จะบวชนั้นอุปัชฌาย์จะต้องสอนให้แยกกายแยกจิตในมูลกรรมฐานได้  ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นลึกซึ้งคัมภีรภาพ

1. การระงับกายสังขาร วจีสังขาร มโนสังขารลง อันมีส่วนปรุงของดิน น้ำ ไฟ ลม นั่นเอง

2. พลังงานและองค์ประกอบอื่นที่ปรุงแต่งกันเป็นสมบัติทางฟิสิกส์หรือเคมี จะมีฤทธิ์ยิ่งใหญ่ น้อยนิดปานใดก็ยังเป็น “อชีวะ” [ไม่ใช่ความเป็นชีวิต]

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 279, เปิดโลกเทวดา หน้า 12


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:11:51 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:11:39 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:15:43 )

อุตุ

รายละเอียด

ธาตุ หมดชีวะแล้ว อย่างเลือดระดู ของผู้หญิงออกมาแล้ว บาลีเรียกอุตุ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:17:39 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:19:17 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:17:44 )

อุตุ

รายละเอียด

คือ พลังงานและองค์ประกอบอื่นที่ปรุงแต่งกันเป็นสมบัติทางฟิสิกส์หรือเคมี เช่น อุณหภูมิ ความร้อน แสง เสียง แม่เหล็กไฟฟ้า วัตถุธาตุนานา เวลา อากาศ ฤดูกาล เลือดรดู ล้วนคือสิ่งที่มีพลังงานอยู่ในตัวระดับ "อชีวะ"

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 12


เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 13:02:52 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 19:04:52 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:18:32 )

อุตุ

รายละเอียด

อุตุ คือ สิ่งที่ยังไม่เป็นชีวะ เป็นสสารวัตถุพลังงาน ดินน้ำไฟลม พลังงานแสง เสียง แม่เหล็ก ไฟฟ้า 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 01 กุมภาพันธ์ 2563 ( 14:35:09 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:19:59 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:19:33 )

อุตุ

รายละเอียด

อุตุไม่ใช่ชีวะ ดินน้ำไฟลม แม้พลังงาน สสารพลังงาน ความร้อน แสง เสียง แม่เหล็ก ไฟฟ้าก็ยังเป็นอุตุ 

ที่มา ที่ไป

รายการบ้านราช กายนี้คือวิญญาณ วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:34:59 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:20:29 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:51:51 )

อุตุ

รายละเอียด

อุตุมันคือเป็นธาตุพลังงาน มันไม่ใช่ชีวะ มันไม่มีสุขไม่มีทุกข์ มันไม่มีเศร้าไม่มีหมอง คุณกลัวเศร้าหมอง มันไม่มีแล้ว ทำจิตให้เป็นอุตุได้คุณก็ไม่มีปัญหา ไม่เป็นอะไร คุณก็ยังทำไปได้เรื่อยๆ ทำเป็นพีชะ ก็ไม่สุขไม่ทุกข์ อย่างพวกพืชที่มันไปเกี่ยวกับโลกนี้ คุณก็เป็นอุตุ โลกอบายนี้ เป็นอุตุแล้วไม่มีสุขไม่มีทุกข์ ไม่ไปยุ่งด้วย แม้จะไปเป็นพืชเราก็ไม่ไปยุ่งด้วย คุณทำได้พลังงานอย่างนี้ คุณจะรู้เอง ถ้ายังเป็นจิตอยู่ก็หยาบ กลาง ละเอียด เท่าที่คุณทำได้ก็หมดสุขหมดทุกข์ 

นอกจากหมดสุขหมดทุกข์ แล้วหมดการเกิด การตาย ที่จะอยู่ใน กาละ พระอรหันต์ที่หมดสุขหมดทุกข์แล้วกว่าจะเข้าใจ กาละอย่างละเอียดสำคัญ อย่างที่อธิบายไปแล้ว อย่างจบกิจดีชั่ว จบกิจเป็นอรหันต์ จบกิจเป็นอรหันต์โพธิสัตว์ที่ยิ่งลึกไปเรื่อยๆ รู้จัก กาละ ทำกาละ จัดการกับกาละที่เราจะเกี่ยวข้องกับกาละ เราจะอยู่กับกาละอีกนานหรือไม่นาน มันเป็นสิทธิของเรา อยู่เหนือกาละ ตรงที่เราจะอยู่กับกาละหรือไม่ แต่เราไม่ไปทำลายกาละในมหาจักรวาล เอกภพนั้นทำไม่ได้ ไม่มีใครทำได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ จบกิจทั้ง 4 อย่างมีปาฏิหาริย์ของพุทธ วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2566 ขึ้น 10 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 มกราคม 2567 ( 14:22:01 )

อุตุ พีชะ

รายละเอียด

อุตุหมายความว่าแยกธาตุไปหมด ถ้าจิต พืชหรือ พีชะ ก็หมายความว่าไม่ทุกข์ไม่สุข ไม่มีเวทนาทุกข์สุขแล้วมีแต่สัญญากับสังขารเป็นต้น หรือองค์รวมแล้วทำเป็น อุตุได้ พีชะได้ ด้วยกรรม แล้วทรงไว้เป็นธรรมะ รักษาสภาพของสิ่งที่ทรงไว้สิ่งที่ทำได้

โดยแยกอาการที่เกี่ยวข้องกับโลกเป็นอุตุ หมายความว่าเราก็อาศัยมันดิน น้ำ ไฟ ลม แต่มันไม่เป็นชีวะอะไร มาเป็นชีวะไม่ทุกข์ไม่สุขเป็นพืช แล้วเราก็เป็นชีวะขั้นจิตนิยาม ที่ไม่มีทุกข์ไม่มีสุขได้แล้ว คุณก็เป็นอรหันต์ ด้วยกรรมด้วยธรรมะทั้งนั้น ที่ทำ ที่ประพฤติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ ปลุกธรรม ตอบปัญหาผ่ามิจฉาอาชีวะ 5 วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 แรม 12 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2567 ( 19:25:59 )

อุตุ พีชะ จิต กรรม ธรรมะ

รายละเอียด

อุตุไม่มีนาม พีชะก็ยังไม่เป็นนาม เป็นอรูป พีชะก็ยังไม่สัมผัสกับนาม จิตเพิ่งจะเริ่มสัมพันธ์กับนามจิตที่รู้จักกรรม ธรรมะจึงมีนามสัมผัสกับกรรมกับธรรมะ ส่วนพีชะไม่ใช่นาม สัมพันธ์กับชีวะคือ พีชะหรือพืชเป็นชีวะแล้วที่มีชีวะในตัวมันเองมีอัตภาพที่เป็นตัวมันเอง ISH สามเส้า พลังงานตัวมันเอง บวก ลบ ให้มีการหมุนเวียนอยู่ได้ด้วยตัวเอง พีชธาตุเป็นสิ่งที่จะต้องสร้างตัวเองทำงานของตัวมันเอง แต่พลังงานของมันอยู่ในระดับแค่พืช พีชธาตุ จะไม่มีความทุกข์ไม่มีความสุขไม่มีความเจ็บปวดไม่มีบาปไม่มีบุญ ไม่มีการจองเวรจองกรรมข้ามชาติไม่มีพลังงานอัตตาถึงการข้ามชาติ อาตมาอธิบายสภาวะธรรมเหล่านี้เป็นเรื่องยากไม่ใช่เรื่องง่าย อธิบายได้เพราะว่าอาตมามีภูมิธรรมที่รู้สิ่งเหล่านี้ นี่ไม่ใช่การอวดตัวตน คนไม่มีภูมิธรรมพูดเอาเองขยายเอาเองจากสภาวะที่มีเองไม่ได้หรอก นอกจากอ่านตำราเอง หมดตำราเท่าที่จำได้ ดีไม่ดีสับสนจากในตำราด้วย แต่อาตมานี้ไม่ได้สับสน เช่น การไม่เข้าใจคำว่าบาปกับบุญเป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:21:49 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:21:33 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:21:24 )

อุตุ พีชะ จิต

รายละเอียด

เป็นธาตุ 3 อย่าง จิตนิยามเป็นทาสของสัตว์จนถึงมนุษย์ มนุษย์ที่สูงสุดเป็นมนุษย์อริยะ มนุษย์โลกุตระ สามารถที่จะรู้กรรมและสั่งสมกรรมให้ตั้งอยู่เรียกว่าธรรมะทรงอยู่ แล้วก็อาศัยธรรมะ นั้นทำความเจริญให้แก่ชีวิต จนกระทั่ง รู้จบ รู้แจ้ง รู้จัก อุตุรู้จักพีชะ รู้จักจิตแล้วก็ทำจิตให้เป็นพีชะ ได้อย่างแท้จริง ก็พ้นทุกข์ ทำจิตจากพีชะให้เป็นอุตุได้ ก็เป็นนิพพานธาตุ เป็นอมตะ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 14:14:02 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:22:51 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:30:56 )

อุตุ พีชะ จิต ให้แยกให้ได้ ถ้าแยกไม่ได้ก็ปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้าไม่ได้ ไม่มีทางบรรลุธรรม

รายละเอียด

แบบนั้นเป็นการพิจารณาร่างผิวหนังโครงกระดูก ที่หยาบๆ ส่วนหยาบข้างนอกเท่านั้น แยกไป มันเสื่อมจากความครบ กายต้องมีใจด้วย แต่มันเสื่อมจากใจ ไปหาเปลือกข้างนอก เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าถึงได้สอนให้อุปัชฌาย์สอนสัทธิวิหาริก สอนให้แยกกายแยกจิตให้เป็น ไม่อย่างนั้นปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้าไม่ได้ ลึกซึ้งมาก ถ้าแยกกายแยกจิตเป็นแล้ว ก็จะสามารถแยกได้ถึงขั้นว่าเป็นอุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม แล้วก็กรรมนิยาม ธรรมนิยามได้ โดยเฉพาะเป็นอุตุ พีชะ จิต ให้แยกให้ได้ ถ้าแยกไม่ได้ก็ปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้าไม่ได้ ไม่มีทางบรรลุธรรม แยกให้เป็นอุตุ ให้เข้าใจความหมายของคำว่า อุตุ โดยท่านให้เริ่มแยกจากผม ขน เล็บ ฟัน หนัง อาตมาก็ถนัดเอาคำว่า นขา ที่แปลว่าเล็บ ผมมันเล็กไป ฟันมันก็เข้าไปแยกยาก ไม่เห็นข้างในฟัน ผิวหนังก็ละเอียดเกินไป พิจารณาอะไรเป็นกายอะไรไม่ใช่กาย อะไรเป็นพืช พืชนั้นไม่มีเวทนาไม่มีวิญญาณ มีแต่สัญญากับสังขาร เป็นธาตุพืชเป็นธาตุชีวะ แต่ไม่ใช่ธาตุจิต ลดสถานะของธาตุรู้มาเป็นแค่มีสัญญากับสังขาร ไม่เจ็บไม่ปวด ไม่รักไม่ชัง ไม่มีวิบาก ไม่จองเวรจองกรรม ไม่ดูดไม่ดึง มีแต่ตายแล้วก็สูญไป หายไปเป็นดิน น้ำ ไฟ ลม ปรุงแต่งมาเป็นพืชตายแล้วก็สูญไป แต่ถ้าพลังงานนั้นมันมีความร้อน แสง เสียง แม่เหล็กไฟฟ้า พลังงานทางฟิสิกส์ มันมีในตัวของมัน แล้วมันก็ควบคุมตัวมันเองได้ รู้จักกำหนดรู้เรียกว่าสัญญา ให้เป็นมังคุด ให้เป็นฟักทอง ให้เป็นใบไม้ชนิดต่างๆได้ เป็นพืชชนิดต่างๆ มันก็กำหนดตัวมันเองได้ มันก็ทำตามหน้าที่ของมัน ตามตระกูลของมัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 15:02:21 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:49:04 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:34:04 )

อุตุกับพีชะ

รายละเอียด

จิตของเรามีความเป็นอุตุ มันก็ไม่มีภาวะจิตแล้ว จิตของเรามีภาวะอุตุ แต่อุตุ มันไม่มีความเป็นจิตเมาไหม งงไหม สับสนไหม?อุตุมันไม่ใช่จิต แต่จิตทำให้เป็นอุตุได้ แต่อุตุไม่บังอาจจะเป็นจิต อุตุ ก็ยังไม่ใช่แค่พีชะ ต้องเห็นความแตกต่างของอุตุ กับพีชะเป็นพีชะได้ ก็ยังไม่มีสมรรถนะเป็นจิต พีชะก็เป็นชีวะ มีตัวควบคุมตัวเอง แตงโมมะเขือเทศกะหล่ำปลีพืชพันธุ์ต่างๆ พืชต่างๆที่มีความแตกต่างจาก จิต สำคัญที่สุดก็ตรงที่ว่ามันไม่มีความสุขไม่มีความทุกข์ ประธานของมันมีประสิทธิภาพไม่เท่าจิต ประสิทธิภาพของจิตเก่งกว่าพีชะ รู้รอบกว่า มีความทุกข์ความสุข แต่มันไม่มีความรักความชัง มีพลังงานแสงเสียงแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ในตัว พีชะ ซึ่งมันไม่ง่ายหรอก ในการแจกแจงธรรมนิยาม 5 ยิ่งไปแจกแจงบุญกับกุศลก็ยิ่งยาก

ที่มา ที่ไป

รายการกายนี้คือวิญญาณ วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2563 ( 10:33:03 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:24:01 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:36:27 )

อุตุตอนเป็นๆ

รายละเอียด

คุณต้องเข้าใจให้ได้ทำได้แม้แต่ตอนเป็นๆ สังขารที่ปรุงแต่งมันไม่มีชีวิตชีวา มันจืดสนิท เหมือนกับผู้ชายเห็นลิปสติกแล้วจืดสนิทเลย สำหรับผู้ชาย ยกเว้นผู้ชายที่มีนิสัยกะเทยนะ แต่ผู้ชายจริงๆนั้นจืดสนิท 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2563 ( 13:41:46 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:24:29 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:37:51 )

อุตุธาตุ

รายละเอียด

ถ้ายังมี 1 ก็ต้องมี 2 ถ้ามี1ก็ต้องมี2 มี 1 ขึ้นมาแล้วไม่มี 2 ก็คือ อุตุธาตุ ถ้ามี 1 ไม่มี 2 คือไม่มีธาตุรู้ คืออุตุ ที่จริง อุตุ มันก็มีดินน้ำไฟลมอีกเยอะแยะ แต่มันไม่รู้ มันไม่มีธาตุรู้ ไม่มีชีวธาตุเลย มีเหตุปัจจัยพลังงานในโลกที่มันผลักกันไปกระทบกันมาไปตามแรง ไม่เป็นตัวตนของตน แต่มันมีตัวมัน แต่ไม่มีตัวตนของตน

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 10:04:42 )

อุตุนิยาม

รายละเอียด

อุตุนิยาม คือ ธาตุที่มันเลิกที่จะมารวมตัวเป็นชีวะแล้ว ในขณะเป็นๆทำให้เกิดสภาพอุตุธาตุในสังขารของเรา ในจิตเราที่ปรุงแต่ง แล้วจะปรุงแต่งสิ่งนี้โดยเด็ดขาดเลยว่า มันปรุงแต่งอย่างไรให้เป็นอุตุ ได้ไหม? ได้ ยืนยันได้ อย่างอาตมานี่ขอยกตัวอย่าง ในชีวิตมีอบาย รูปธรรมเลย เล่นไพ่ เล่นบิลเลียด กินเหล้า อาตมาว่าอาตมาลิงลมอมข้าวพอง ไปเล่นกับเขาตามประสาโลก พยายามฝึกอย่างไงๆ ปรุงแต่งอย่างไรสุดท้ายไม่ขึ้น ตายอย่างสนิท โลกเลวๆ ตายอย่างสนิท อาตมาทำอย่างไรก็ตาย นี่คือเป็นอุตุไปหมดแล้ว ตั้งแต่ชาติก่อนๆ มาชาตินี้ไม่รู้ไปปลุกอย่างไรมันก็ไม่ขึ้น เอาชีวะไปใส่ให้มันมันก็ไม่ขึ้น คุณมีไหม หลายอย่างที่โลกเขาไปติดยึดแต่คุณไม่ คุณไม่ติดยึดด้วย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2563 ( 13:40:31 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:27:34 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:39:58 )

อุตุนิยาม

รายละเอียด

ในโลกที่มีจิตวิญญาณขึ้นมาก็จะรู้ ไอ้ตัวที่มันเป็นสสารพลังงานมันไม่รู้ พลังงานมาเป็นบวกเป็นลบ คนก็เข้าใจมีจิตวิญญาณมาเรียนรู้ ดินน้ำลมไฟ มารวมกันเกาะตัวกัน ออกซิเจนเกาะตัวกันกับไฮโดรเจน เป็นธาตุน้ำ วิทยาศาสตร์ก็รู้ มันเป็นอากาศแท้ๆมารวมกันมันก็เป็นหยดน้ำ อาโปธาตุ อะไรต่ออะไรก็มารวมกลุ่มกัน

ที่มา ที่ไป

พ่อ‌ครู‌เทศน์‌ ‌ทำวัตร‌เช้า‌ ‌ส่ง‌ท้าย‌ปี‌เก่า‌ ‌งาน‌ ‌ว‌.‌บบบ‌ ‌เพื่อ‌ฟ้า‌ดิน‌ ‌สวด‌อภิธรรม‌ส่ง‌

ท้าย‌ปี‌เก่า‌ให้‌เข้า‌ถึง‌นิพพาน‌ วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2565 ( 10:54:56 )

อุตุนิยาม พีชนิยาม

รายละเอียด

เราก็จะรู้ว่า อุตุนิยามเป็นอย่างไร พีชนิยามเป็นอย่างไร พีชนิยามนี้มีชีวิตอยู่แต่ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ แต่อุตุนิยามนี้ตายเลย ไม่สุขไม่ทุกข์แล้วเลิกสูญเลย แต่พีชนิยามนี้ยังเป็น 1 ไม่มีสุขไม่มีทุกข์แล้วได้ อาจจะเข้าใจสุขไม่บริบูรณ์ ก็เลยอาศัยพอเป็นพอไปยังมีนิดๆหน่อยๆ มีเชื้อของสุขอยู่ก็เป็นพีชะ ไม่เป็นทุกข์แล้วระงับได้ ผู้ที่มีจิตนิยามจะต้องเรียนรู้ทำจิตให้เป็นอุตุทำให้เป็นพีชะได้ นี่คือหน้าที่ของศาสนาพุทธ โลกุตรธรรม ถ้าแยกจิต แยกกาย แยกพีชะ อุตุไม่ได้ จิตของคุณสัมพันธ์กามาวจร กระทบสัมผัสภายนอกและคุณก็เรียนรู้จิตของคุณหมดอาการของชีวะแม้แต่อบายมุข ในกาม หมด กระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ภายนอกคุณก็เฉยๆไม่มีรสชาติไม่มีแรงดึงดูดของเราที่จะไปยุ่งกับมันได้อีก ก็เป็นอนาคามีเหลือแต่ รูปภพ อรูปภพภายในคุณก็อ่านจิตตัวเองโดยรู้จักฐานะของตัวเอง ปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าต้องรู้ยิ่งเห็นจริง ไม่ใช่ปฏิบัติธรรมอะไรก็ไม่รู้ เหมือนกับมหาบัวสู้มันกิเลสคู่มันจนตายเป็นคนจริงฆ่ามัน ก็ไม่รู้ฆ่าอะไรแม้แต่กิเลสอย่างหยาบ ติดหมากก็ยังไม่รู้ เพราะว่าปฏิบัติธรรมหลับตาแบบฤาษี กามข้างนอกติดก็ไม่รู้ ภพภายในก็ไม่รู้ นึกว่าตัวเองใหญ่หาเงินเข้าคลังหลวงได้มาก เป็น มานะ อติมานะไม่รู้ทั้งคู่ กามก็ใหญ่อัตตาก็ใหญ่ ไม่รู้เรื่องสำหรับมหาบัว

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจนทร์ที่ 30 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 10:51:08 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 11:23:39 )

อุตุนิยาม 

รายละเอียด

อุตุนิยาม  คือ เรื่องของพลังงานของวัตถุ  แล้วพลังงานของวัตถุนี้มันควบคุมตัวมันเองไม่ได้นอกจากตัวมันเอง  มีลักษณะหรือประสิทธิภาพของธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุแสง เสียง แม่เหล็ก ไฟฟ้า แม่เหล็กก็ดึงดูด ผลักกัน ตามที่มันมีประสิทธิภาพของแต่ละธาตุ แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมองค์ประกอบ  พัดไปมา ดันไปดันมา กลิ้งไปมา เคลื่อนไหวไปมาจนกลายเป็นลูกโลกทั้งโลก  ก้อนเบ้อเร่อวิ่งอยู่ในมหาจักรวาลซึ่งมันน่าอัศจรรย์มันมีมากมายแต่ไม่ชนกัน  มันมีเซ็นเซอร์นะ  มันใกล้กันก็จะออกจากกัน  ไม่อย่างนั้นระเบิดตูมตาม เรื่องของสมมุติสัจจะก็เป็นจริงของมันเราศึกษาเอามาใช้ได้

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 09 ตุลาคม 2562 ( 08:23:30 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:49:20 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:40:46 )

อุตุนิยามมีแต่พลังงานบวก ลบ ส่วนพีชะนิยามพัฒนาเพิ่มธาตุรู้เข้ามา

รายละเอียด

DYNAMIC VS STATIC ใน นิยาม 5

อุตุนิยาม วัตถุ มันไม่มีธาตุรู้ มันมีแต่พลังงานของมัน พลังงานของมันมี 2 เหมือนกันแต่มันเป็นบวกลบ มันไม่เป็นชีวะ สิ่งที่ไม่มีชีวิต ไม่มีธาตุรู้ พอเริ่มมีธาตุรู้ในตัวเองขึ้นมาก็เรียกว่า พีชะ พระพุทธเจ้าตรัสรู้สิ่งนี้แล้วนำมาอธิบาย วิทยาศาสตร์ทั่วไปในโลกนี้ของไอน์สไตน์เป็นต้น ก็เป็นความรู้ยอดของภาวะ 2 ของสภาวะอุตุนิยาม ก็ไม่ได้เน้น พีชะเท่าไหร่ มีความรู้บ้าง

เริ่มขึ้นมาทางชีวะเขาเรียกว่า BIOLOGY แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ไม่เก่ง ก็เลยไม่ค่อยจะเน้นกันแม้แต่ไอน์สไตน์ก็ไม่เน้น เน้นแต่เรื่องวัตถุ แล้วก็ใช้ทางวัตถุตลอด ใช้พลังงานที่แตกต่างกันของวัตถุ มาทำประโยชน์ ส่วนของพีชะ ก็เริ่มรู้ขึ้นไปบ้างก็พยายามพัฒนารู้ภาวะของพืชที่จะต้องมีธาตุอะไรขึ้นมา ก็เลยพัฒนาขึ้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สภาพ 2 ของกฎหลักเกณฑ์กับพฤติกรรมจริง วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 29 กันยายน 2565 ( 14:36:34 )

อุตุนิยามและชีวะนิยาม

รายละเอียด

“อุตุนิยาม”ยังไม่เป็น“ชีวะ” มันไม่มีทุกข์ไม่มีสุขแน่ เพราะมันเป็นวัตถุดินน้ำไฟลม

แม้แต่“พีชนิยาม”ซึ่งเริ่มเป็น“ชีวะ” คือ “พืช” ก็ยังไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข ชีวะขั้น“พืช”ยังไม่มี“กรรม” ไม่มี“วิบาก” ยังรักไม่เป็น ยังชังไม่เป็น ก็ยังไม่จองเวรจองกรรมกัน เพราะพืชยังไม่มีรักกัน พืชยังไม่มีชังกัน พืชมีแต่ผสมพันธุ์กันได้ แต่ไม่สุข ไม่ทุกข์ ไม่มี“กาม”

พืช จึงเป็น“ชีวะ”ที่มันไม่สุข ไม่ทุกข์

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:57:26 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:28:47 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:41:35 )

อุตุนี

รายละเอียด

หญิงมีไข่พร้อม (ยังไม่ได้สลายเป็นน้ำระดู)

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 424


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:10:49 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:12:34 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:54:51 )

อุทกขมสุข

รายละเอียด

สุขกับทุกข์จริงๆเป็นตัวเดียวกันเป็นสิริมหามายาแยกกันไม่ออก เหมือนกระดาษที่มี 2 หน้าแยกกันไม่ออก เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธชัดเจนในเรื่องสุขทุกข์ไม่ไปหลงความสุข สุดท้ายก็ดับทั้งความสุขความทุกข์เป็น อทุกขมสุข แล้วทำให้ไม่มีสุขไม่มีทุกข์เหนือชั้นไปถึงขั้นอุเบกขา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:11:41 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:29:24 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:58:39 )

อุทกดาบสอาฬารดาบส คืออาจารย์ใหญ่ทางสมถะ Meditation

รายละเอียด

สมมุติว่าคุณมั่นใจแต่แท้จริงคุณยังไม่หมดคุณก็จะได้เท่าที่คุณได้ ถึงวาระที่หมดบารมีแล้วมันก็มากลับมาเกิดอีก คุณก็จะรู้ว่าเราหมดแล้วนะแต่เรายังเกิดอีก คุณก็จะรู้ด้วยตัวคุณเอง เพราะฉะนั้นมันก็จะเข็ดหลาบว่า โอ้โห ชาติที่แล้ว เรานึกว่าเราหมดแล้วนะ หนอย ไปกบดานเหมือนอุทกดาบสอาฬารดาบส อีกไม่รู้กี่ล้านชาติ เราก็ไม่เอาแล้วแบบนั้นมาเอาแบบโลกุตระดีกว่า อุทกดาบสอาฬารดาบส คืออาจารย์ใหญ่ทางสมถะ Meditation ยังอีกนาน พระพุทธเจ้าถึงได้อุทานเมื่อจะไปโปรด อุทกดาบสอาฬารดาบส เขาตายก่อน ท่านถึงอุทานว่า ชิบหายแล้ว เพราะไปช่วยไม่ได้เลย ตายก็ต้องไปตกค้างอยู่ในสวรรค์เก๊ ในภพชาติที่ยังไม่มาเกิดอีก บัดนี้ก็ยังไม่มาเกิด ช่วงอายุพระพุทธเจ้า 2,000 กว่าปีเองนิดเดียว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ สำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:51:22 )

อุทธ

รายละเอียด

อยู่เหนือ , เบื้องบน , ทิศบน

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 564


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:08:13 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:13:31 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:54:31 )

อุทธัจจกุกกุจจจิต

รายละเอียด

จิตฟุ้งซ่าน รำคาญ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 99


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 16:07:20 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:14:19 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:55:58 )

อุทธัจจกุกกุจจะ คือความคิดฟุ้งซ่าน

รายละเอียด

ใช่ ความคิดฟุ้งซ่านไปแล้วไม่กำหนด ไม่ไปกำหนดรู้อะไร จะเป็นไปก็ปล่อยมันก็เคยชิน มันก็ยิ่งกลายเป็นคนฟุ้งซ่านอยู่อย่างนั้น ไร้สาระเสียเวลา ฉะนั้นจะต้องรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่เสมอๆ แล้วถึงจะสามารถที่จะใช้จิตทำประโยชน์ คิด พูด ทำ อะไรที่มันเป็นอยู่ ในกรรมกิริยาที่เราควรจะเป็น ควรจะทำได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหาระดมปัญญา-อนัตตา งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธครั้งที่ 44 วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 15:42:56 )

อุทธัจจสังโยชน์

รายละเอียด

เศษธุลีละอองสุดท้าย

หนังสืออ้างอิง

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 199


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:36:16 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:15:02 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:55:10 )

อุทธัจจสัมปยุตตัง

รายละเอียด

ทั้งสงสัยไม่ชัดแจ้ง ทั้งไม่มีพลังมั่นเพราะยังมีเหตุแห่งความฟุ้งซ่านของจิตบ้าง ความเก้อเขิน สะทกสะท้านบ้าง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 204


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:34:41 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:17:01 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:55:37 )

อุทธัจจะ

รายละเอียด

คือ อาการเก้อเขิน ไม่ราบรื่น สัมพันธ์กับโลก ไม่สนิทเนียน

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 119


เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 15:49:33 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 19:04:06 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:56:26 )

อุทธัจจะ

รายละเอียด

ความฟุ้งซ่าน กระจัดกระจาย รู้ยาก

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:23:16 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:30:15 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:57:00 )

อุทธัจจะ

รายละเอียด

1. อาการของความฟุ้งซ่าน ความซัดส่าย ความปั่นป่วน ความวุ่นวาย ความรำคาญ ความหงุดหงิด ความไม่สบายใจนิด ๆ

2. ความรู้สึกกระเพื่อมวาบไหว

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 513 , 516


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:33:29 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:18:17 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:57:36 )

อุทธัจจะ

รายละเอียด

ความฟุ้งซ่าน กระจัดกระจาย รู้ยาก

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 14:23:19 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:49:56 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:57:51 )

อุทธัจจะ ตรวจเพื่อที่จะให้รู้จบอุทธัมภาคิยสังโยชน์

รายละเอียด

ใช่ คือไม่เหลือเศษเล็กเศษน้อย ทั้งเศร้าหมองและระริกระรี้ (อโศกะ วิรชะ) เป็นภาษาสิริมหามายา ไม่โศกเศร้าและไม่มีเชิงชอบ เชิงกาม เชิงดูด โศกะเชิงผลัก รชะ เชิงดูด 

ความหมายของสิริมหามายา พยัญชนะคือไม่มีแล้วโศก ไม่มีแล้วผลัก ไม่มีแล้วดูด เกษม แต่ทีนี้การตรวจ ก็คือตรวจว่ามันมีไหม มันมีส่วนเศษส่วนเหลือไหม นั่นแหละคือการตรวจ อุทธัจจะ ตรวจเพื่อที่จะให้รู้จบ อุทธัจจะ เมื่อรู้จบว่าไม่มีๆๆ ก็คือวิชชา รู้รอบ รู้ครบ รู้จบ รู้สิ้น อวิชชาก็ไม่มี ก็คือการทำอุทธัจจะ ตรวจสอบ รู้รอบ รู้ครบ รู้หมด ทวนแล้วทวนอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก ในการมีเหตุปัจจัยสัมผัสความจริงอยู่มากพอสมควร นานพอสมควร ไม่มีล้ม ไม่มีตั้งไข่ล้มต้มไข่กิน ไม่มีหกล้มหกลุกอีกแล้ว ไม่มีพลาดพลั้งอีกแล้ว เด็ดขาดแข็งแรง มั่นคงยั่งยืนตลอดกาล นิจจัง (เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร)
สัสตัง (ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง (ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง (ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง (ไม่กลับกำเริบ) ครบเลย ก็ตอบตัวเองได้ว่า เราจบกิจ

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 21:02:32 )

อุทธัจจะกุกกุจจะ

รายละเอียด

อุทธัจจะกุกกุจจะ ก็เป็นความฟุ้ง ฉันรู้มากฉันสอนธรรมะอยู่มากท่องจำได้ก็มาก โอ้โห สอนอยู่มาก มีคนยอมรับนับถือฟุ้งไปเรื่อย คนยกย่องสรรเสริญเป็นผู้รู้เป็นปราชญ์เอก ฟ่องลอย เหลิง เป็นพวกพญาครุฑ พวกพญานาคก็ดับๆ นี่แหละคำศัพท์ของพวกโง่สมบูรณ์แบบมี 2 ทิศทางคือพวกฟุ้งซ่านกับพวกจมบาดาล 

ที่มา ที่ไป

 

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก ผลงาน 50 ปี ตามอนุสาสนีปาฏิหาริย์ของพ่อครู วันพุธที่ 18 มกราคม 2566 แรม 12 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ปี 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 31 มกราคม 2566 ( 12:12:45 )

อุทธัมภาคิยสังโยชน์ (สังโยชน์เบื้องสูง)

รายละเอียด

สังโยชน์ 5 เบื้องปลาย

1. รูปราคะ (ความติดใจอยู่ในรูปภพ -ในอุปาทายรูป)  
2. อรูปราคะ  (ความติดใจอยู่ในอรูปภพ) 
3. มานะ  (ความถือตัวถือตนในความดีของตน) 
4. อุทธัจจะ  (ความฟุ้งซ่าน กระจัดกระจาย  รู้ยาก)  
5.อวิชชา  (ความหลง-ไม่รู้ อันเป็นเหตุไม่รู้จริง) 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฏก เล่ม 11   ข้อ 285, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 362


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:32:17 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:20:14 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:42:03 )

อุทธัมภาคิยสังโยชน์ 5 สังโยชน์เบื้องสูง 5

รายละเอียด

คือกิเลสละเอียดที่ผูกมัดจิตใจไว้กับทุกข์

1.รูปราคะ(ความติดใจอยู่ในอารมณ์ที่เป็นรูป 

2.อรูปราคะ(ความติดใจอยู่ในอารมณ์ที่ไม่เป็นรูป)

3.มานะ(ความถือดี)

4.อุทธัจจะ(ความฟุ้งซ่าน)

5.อวิชชา(ความเขลาไม่รู้แจ้งในอาริยสัจ 4)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 11 “สังคีติสูตร” ข้อ 285


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 21:10:54 )

อุทาน

รายละเอียด

เมื่อฟังอีกก็จะมีสิ่งใหม่ ๆ สิ่งแปลกขึ้น หรือจะได้รับคำขยายความใหม่-ขึ้นทีละเล็กละน้อย จะได้รับสิ่งใหม่ หรือบางทีจนแปลกเพิ่มขึ้น

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 157


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:30:04 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:21:11 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:58:14 )

อุทาหรณ์กินเนื้อบุตรเป็นเช่นไร

รายละเอียด

อุทาหรณ์ของพระพุทธเจ้านี้จริงๆ เลย จิตใจของคนมันโง่ มันลืม มันเลือน ก็ฆ่าด้วยมือ ฆ่าลูกตัวเองด้วยมือ แล้วก็ทำเป็นเนื้อเค็มเอาไว้ พกเอาไว้กินเพื่อจะเดินทางไปสู่นิพพานว่างั้นเถอะ ไปในทางทุรกันดาร ไปเรื่อย ก็ยังไม่รู้ทิศรู้ทางนะ ไปอยู่ในทางกันดาร ยังไม่รู้ทางจะไปจริงๆ เลย เสร็จแล้วก็จะไปๆ จนกระทั่งไป โอ้โห! อุทาหรณ์พระพุทธเจ้านี้สุดลึกซึ้งที่สุด ครบบริบูรณ์จริงๆ เลยว่าคนมันโง่ได้ระดับจริงๆ คนมันโง่มันโง่จริงๆ นะ ขออภัยอย่างทักษิณนี้เขาไม่รู้จะฉลาดขึ้นมาบ้างหรือยัง มันคิดไม่ออกเลยอะไรนิดอะไรหน่อย 

แม้แต่ โถ..คุณจะไปอภิสิทธิ์ทำไม ไปเอาอภิสิทธิ์ คุณนึกว่าคุณได้ แต่ที่แท้คุณยิ่งฉิบหาย คุณยิ่งเติมสิ่งที่โง่หนักเข้าไปอีก คุณยิ่งเติมนรกให้ตัวเองซ้ำเข้าไปอีก เป็นวิบากซ้ำซ้อนเข้าไปอีก แล้วก็นึกว่าฉันได้เสวยสวรรค์ สวรรค์นั่นแหละนรก สวรรค์ยิ่งซ้อนเท่าไหร่ ลึกเท่าไหร่ นึกว่าสวรรค์สูงหรือสวรรค์เก่งหลงสวรรค์ว่า ชั้นวิเศษเท่าไหร่ มันยิ่งเป็นนรกที่.. ฟังดีๆ นะ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ พูดแล้วก็น่าสงสารจริงๆ อีกด้วยซ้ำไป 

อาตมาก็ได้แต่พูดสัจธรรมนี้ไป จะพอไปถึงหูเขา มีใครขยายอธิบายให้ฟังบ้าง พอจะแง้มใจออกมาได้สักน้อยไหมนี่ นะเอา 

เพราะฉะนั้นคุณสว่างแสงก็มีลูก ก็คงจะสะท้อนใจพอเห็นสูตรนี้แล้ว ว่างๆ มาพูดทวนอีกในอาหาร 4 โดยเฉพาะอาหารที่ข้อแรกกินแล้วก็หลงในกาม จนกินเนื้อลูก ฆ่าลูกกินอะไรนี่ โอ้โห! สุดยอด 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ จุดสำคัญที่สุดในสัจธรรมของพุทธคือสุข-ทุกข์ วันพุธที่ 27 กันยายน 2566 ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2567 ( 11:26:59 )

อุทาหรณ์ของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

กามฉันทะ คือข้อแรกที่กินเนื้อบุตรข้อที่ 2 เวทนา ไม่รู้จักเวทนาไม่รู้จักผัสสะก็ไม่ได้อ่านอาการอารมณ์ความรู้สึก ข้อที่ 3 ไม่รู้จักเจตนา เมื่อมันไม่มีผัสสะคุณก็ไม่มีทางค้นหา ก็ไม่รู้จักเจตนา ก็เหมือนคนดื้อด้าน วิ่งลงนรกอเวจี คนก็ช่วยกันดึงขึ้นมา เขาก็วิ่งลงๆอยู่นั่นแหละ มันสุดยอดอุทธาหรณ์ ข้อที่ 4 อันสุดท้าย เป็นไอ้โจรใหญ่ ร้ายกาจ พระราชาบอกให้เอาไปประหาร เอาไปฆ่าเช้าด้วยหอกร้อยเล่มก็ไม่ตาย เอาไปฆ่าอีกกลางวันด้วยหอกร้อยเล่มอีก เย็นพระราชาเจอพนักงานก็ถามอีกว่าตายเรียบร้อยแล้วหรือ? ก็ยังอีก ก็เอาไปฆ่าด้วยหอกร้อยเล่มอีก พรุ่งนี้เช้ากลางวันเย็นก็ถามอีก ก็ฆ่าด้วยหอกอีก 600 เล่ม 900 เล่ม 1200 เล่มก็ยังอยู่เลย ทำไม ยึดมั่นถือมั่นอยู่อย่างนั้น มิน่าถึงชื่อ อ.มั่น ยึดมั่นถือมั่นขนาดหนักกันจริง ลูกศิษย์ลูกหาก็ยึดมั่นถือมั่น ไม่ต้องพูดถึงธัมมชโย ตาบอดตาใส หลอกโลกเขาอีกว่าตัวเองตาดี ซ้อนไปอีกไปใหญ่เลย นี่คือสัจธรรมที่เมื่อเข้าใจได้รู้ได้เห็นแล้วจึงเห็นว่า พระพุทธเจ้านี้สุดยอดจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:21:02 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:32:42 )

อุทาหรณ์ของอาหารข้อที่ 3 มโนสัญเจตนาหาร

รายละเอียด

เหมือนคนที่จะวิ่งลงอเวจี อาตมาอธิบายย้อนศร อธิบายง่ายๆตื้นๆ ว่า คนที่ลงอเวจีคนก็เห็นว่าไม่ถูกหรอก สองคนนี้ก็ดึงคนที่จะลงอเวจีขึ้นมา 

แต่อาตมาอธิบายอีกว่า สองคนนี้จะดึงลงอเวจีแล้วคนนี้อยากออกจากอเวจี อาตมาอธิบายอย่างนั้น คนนั้นจะไม่อยากลงอเวจีจะดึงก็สู้แรง 2 คนนั้นไม่ได้ 2 คนก็ดึงลงอเวจีไปด้วยทั้ง 3 คน โลกมันเป็นอย่างนี้ต่างหากที่มันเป็นไปไม่รอด ใช่ไหม อย่างนี้เป็นต้น 

นี่คือพระพุทธเจ้าท่านยกอุทาหรณ์ ตัวอย่าง เอาไว้ในอาหาร ข้อที่ 3 ข้อที่เป็นมโนสัญเจตนา ที่ 2 คนกับผู้ที่จะลงอเวจี ดึงรั้งกัน ใครเป็นใครนี่ ที่อาตมาอธิบายให้เห็นความซับซ้อนที่มันกลับไปอีกมุมนึงให้เห็น ว่าคนดึงลงนี้จริงๆมันคือคนปรารถนาดี แต่โง่ ก็เลยลงไปด้วยกันทั้งสองแรงก็ต้องแพ้คนที่มันไม่เอาไม่ลงอเวจี มันไม่อยากลงอเวจีก็ดึง 2 แรงก็ดึงลงไปทั้ง 3 คน แล้วก็ลงไปด้วยกันทั้ง 3 คนนี่คือโลกอเวจีที่มันไม่งอกเงย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ้นความโง่อวิชชากับ
ปฏิจจสมุปบาท วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 มีนาคม 2564 ( 19:18:55 )

อุทาหรณ์จากเรื่องเล่าหลวงปู่มั่นออกจาริก

รายละเอียด

น่าเสียดายอย่างยิ่งที่วิญญาณที่มีจิตแน่วแน่นี้ ช่างมีเวลาน้อยเหลือเกิน เขาเที่ยวเพียรตามหาหลวงปู่เป็นเวลาหลายปีกว่าจะได้เจอกลับมีกรรมต้องตายเสียก่อน จึงได้เจอหลวงปู่เพียง 7 วันเท่านั้น แต่เป็น 7 วันที่มีค่า ทำให้หลวงปู่ต้องไปตามมาจากยมโลกแม้จะเหลือแค่วันเดียว จึงเป็นอุทาหรณ์ที่ดียิ่ง อยากทำอะไรไม่ยอมทำ เมื่อหมดเวลาแล้วต้องเสียใจที่ใช้ชีวิตอย่างไม่คุ้มค่า ชีวิตนี้น้อยนัก อีกไม่นานพวกท่านก็ต้องตาย จงใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดเถิด

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:09:29 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:33:53 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:43:23 )

อุทาหรณ์วัวไม่มีหนัง

รายละเอียด

วัวที่ไม่มีหนัง คิดดู เนื้อแดงๆน้ำเหลืองเยิ้มๆแดงๆ จะแสบร้อนขนาดไหน นึกถึง พันตำรวจโทรุ่งโรจน์ เรืองฤทธิ์ ไปเสียสละผิวหนังที่หน้าขาให้เขาคนไฟไหม้ คนที่แก๊สระเบิด สละหนังออกจะแสบขนาดไหน เพราะฉะนั้นคนที่เป็นทุกข์เพราะความแสบเผ็ด ที่เมื่อถูกกระทบสัมผัสคือผัสสะนั่นเอง อย่างนี้เป็นความทุกข์อยู่แต่ไม่รู้ตัว ไม่เปลี่ยนแปลงก็สลบแล้วสลบอีกตายไปเพราะพิษบาดแผล ก็เกิดมาอีกตายไปอีก 5 ตลบ10 ตลบเป็นวัวไม่มีหนังจะไหวหรือ มันเป็นทุกข์แต่ไปหลงว่าเป็นสุข ไม่รู้จักความทุกข์ ความสุขกับความทุกข์เป็นตัวเดียวกันแต่มันเป็นมายาหรอก แล้วก็ติดอยู่อย่างนี้ ไม่มีเวทนาไม่มีผัสสะก็ไม่รู้สภาวะทั้งของความสุขความทุกข์ ทั้งที่มีความหลงว่าเป็นสุขแท้จริงมันเป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าทรงบอกว่ามันเหมือนวัวไม่มีหนัง แสบเผ็ดทุกข์แต่ก็หลงว่าสุข ก็เลยเฉย อุปาทานจะหลอกให้คนเห็นว่าเจ็บแต่ไม่เจ็บแสบคันไม่แสบ มันจะเป็นอย่างนั้น เฉยๆ หน้าตาเฉย เสพทุกข์ก็หลงว่าเสพสุข เฉย มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:56:00 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:34:54 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:48:59 )

อุทาหรณ์เรื่องการกินเนื้อลูก

รายละเอียด

เดี๋ยวฉันจะไปกินข้าวแล้วนะ จะไปกินแกงวัว แกงควาย แกงไก่ แกงเป็ด แกงปู แกงปลา กินกันอยู่นั่นแหละ เพื่อนกินเพื่อน

พระพุทธเจ้าถึงมีอุทาหรณ์เรื่องการกินเนื้อลูก คนเป็นความงมงายของคนขนาดนั้น กินเนื้อลูก ฆ่าลูกกินแล้วก็ไม่รู้ไม่ชี้ แล้วบอกว่าลูกน่ารักของเราหายไปไหน ก็บ้า ทำเป็นเนื้อเค็มกินก็ยังถามว่าลูกไปไหน คือ มันโง่งมงายจนไม่รู้ว่ากรรมที่ฆ่าลูกตัวเองกินอยู่หลัดๆ อุทาหรณ์ของพระพุทธเจ้านั้นสุดแสบจริงๆ มันจะโง่ไปถึงขนาดไหนมนุษย์มนา อย่างนี้เป็นต้น (อาหาร 4 พตปฎ.เล่ม 16 “ปุตตมังสสูตร” ข้อ 240-241)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิธรรม‌ของ‌ศีล‌ข้อ‌ ‌1‌ ‌ที่‌ชาว‌อโศก‌ปฏิบัติ‌ได้‌ ‌วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 2 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:01:02 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์