@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ศึกษาเรื่องสุขทุกข์เป็นเรื่องของอุปาทานอย่างไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นต้องมาเรียนรู้ว่าที่มันเป็นเรื่องอุปาทานเป็นเรื่องหลอกลวงเป็นเรื่องเท็จคืออย่างไรและเรื่องจริงคืออย่างไร 

เรื่องจริงคือเรื่องตากระทบรูป ก็รู้จักรูปตามความเป็นจริง หูกระทบเสียงก็รู้จักเสียงตามความเป็นจริง ไม่มีดีหว่า ชอบหว่า ไม่ชอบหว่า ไม่มี ชอบหรือไม่ชอบ ดีหรือไม่ดี ยึดติดกัน ไปถามพวกดนตรีหูแตกสิ เล่นเบาๆ เขาก็บอกว่าไม่ได้เรื่องต้องตีให้ดังหูแตกถึงจะดี ส่วนไอ้คนที่ไม่ชอบก็ว่าจะบ้ารึ หูจะแตกมันดังกระหึ่มเกินไปให้ไปที่อื่น ก็เท่านี้มันก็ทะเลาะกัน ยกตัวอย่างง่ายๆ หรือ ส้มโอต้องรสอันนี้ ถ้าไม่ใช่รสนี้ไม่ใช่ส้มโอ รสดี ต้องรสนี้ คุณก็ยึดของคุณเอง อย่างนี้ดีอย่างนี้ไม่ดี สีอย่างนี้ดีอย่างนี้ไม่ดี เสียงอย่างนี้ดีเสียงอย่างนี้ไม่ดี ยึดทั้งนั้น 

เพราะฉะนั้นอะไรมันเกิดเป็นอย่างนั้นๆ มันก็เป็นอย่างนั้นๆของอย่างนั้นๆ ต่างกันเท่านั้นเองก็จบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:58:56 )

ศึกษาและปฏิบัติไปตามลำดับจึงจะเจริญ

รายละเอียด

ผู้ใดฟังธรรมอาตมา จะมีหลักพระพุทธเจ้าไปตลอด ไม่ออกนอกศาสนาพุทธ คุณจะเจริญทางศาสนาพุทธไปตามลำดับ ไปเรื่อยๆ พยายามจับความเป็นความพอดีความพอเหมาะของตัวเองให้ดี คุณก็จะได้ไปอย่างราบลุ่มเหมือนฝั่งทะเล ไม่มีความขรุขระ คนนี้อยู่ในความมหัศจรรย์ ที่ได้ไปตามลำดับราบเรียบเหมือนฝั่งทะเล ที่ซัดทรายให้เรียบไป

ทรายที่ถูกพลังคลื่น น้ำปาดไป แล้วปาดลงมาก็จะเรียงเม็ดทรายเรียบเหมือนกระจกเลย ศึกษาไปตามลำดับ และปฏิบัติไปตามลำดับ ปฏิบัติแล้วก็จะมี กิริยา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:03:30 )

ศึกษาแล้วแยกอย่างไรในสังขารและวิญญาณ

รายละเอียด

เมื่อคุณยังไม่เข้าใจการปรุงแต่งเรียกว่าสังขาร แล้วจับตัวกันเป็นวิญญาณ เมื่อรู้แจ้งตัวสังขารปรุงแต่งที่เป็นตัว Static และ Dynamic แล้ว คุณเอา 2 ตัวนี้มาศึกษาแล้วแยก สังขารมันมีหลายตัวก็จับมันมาทีละ 2 ตัว เริ่มต้นตัวไหนจับได้ก่อน ตัวไหนหยาบกว่า ตัวไหนต้องรู้ก่อนตัวนี้ชอบต้องเอามาก่อน ตัวนี้เราไปเป็นทาสของมันหนักหนาสาหัสก็ต้องเอาก่อนเอาอันนี้ก่อนก็เป็น 2 เรียกว่านามรูป ตัวหนึ่งคือตัวถูกรู้ เป็น Object อีกตัวหนึ่งก็เป็นตัวผู้รู้เรียกว่า Subject เป็น 2 สภาพนามรูป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2564 ( 15:44:26 )

ศึกษาโพธิสัตวภูมิ

รายละเอียด

สม.กล้าข้ามฝัน พยายามศึกษาโพธิสัตวภูมิ ละเอียดขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนคนจะเห็นว่าเป็นคนมีกิเลสแต่ก็เจริญขึ้นเรื่อยๆ อาตมาเป็นมาก่อนรู้ดี ก็ศึกษาฝึกฝนไป พูดแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 10:37:44 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 04:05:45 )

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2563 ( 14:30:07 )

ศึกษาโลกุตระธรรมของพระพุทธเจ้าจะได้สารัตถะ

รายละเอียด

คนที่ตั้งใจศึกษาธรรมะ อาตมาเห็นว่าเป็นความคิดที่ประเสริฐเป็นความคิดที่ฉลาดจริงๆ เพราะว่าอะไรก็ไม่ดีเท่าฟังธรรมะ ในชีวิตกี่ชาติกี่ชาติก็ตาม คุณจะไปได้โลกีย์มหาศาลอย่างไรก็ไม่เทียบ มันเป็นสมบัติผลัดกันชม มันก็หลงเศษหลงติดยึด เพราะฉะนั้นมาศึกษาพบกับโลกุตระธรรมของพระพุทธเจ้า มันจะได้สารัตถะ ถ้าคุณเองจบเป็นอรหันต์ ก็พูดจนซ้ำซากแล้วเป็นอรหันต์แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งไร้สาระ มันเป็นมายาทั้งสิ้น เสร็จแล้วคุณก็รู้ว่าในโลกมนุษย์แม้แต่เป็นมายาก็ต้องอาศัย เราก็ต้องเข้าใจเขาแล้วแต่ละฐานะแต่ละบุคคลก็เข้าใจเขา ก็ทำการอนุโลมปฏิโลมอยู่แล้วก็อธิบายเขา หาฐานให้เขาตั้งอยู่ หาบันไดให้เขาขึ้นสูงไปเรื่อยๆ อย่างนี้ทำอย่างนี้ อาตมาว่าอาตมาทำอย่างนี้อยู่ตลอดเวลา เสร็จแล้วไปอยู่ที่สูงที่สุดด้วยกันนั่นแหละอรหันต์ สามัญ​สิ้นอาสวะ จนเป็นอนุโพธิสัตว์ อนิยตโพธิสัตว์ นิยตโพธิสัตว์ก็ค่อยสูงขึ้น ตอนนี้เอาคำว่า จรณะ 15 วิชชา 8 เข้าสู่ฐานการประพฤติเข้าสู่ฐานการอธิบายให้แก่คนทั่วไปและพวกเราด้วย ไปได้ ตอนนี้กำลังเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว คงจะขยายผลแน่นอน จรณะ 15 วิชชา 8 ตั้งใจให้ดี

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 28 เมษายน 2563 ( 12:51:30 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:01:55 )

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2563 ( 14:18:54 )

ศึกษาให้ดีทักษิณเป็นคนเช่นไร

รายละเอียด

อาตมานั้นใช้ทั้งสามัญสำนึกและวิสามัญสำนึก ทั้งหมดเลย ดีหมดแล้ว อาตมารู้ทั้งสามัญและวิสามัญ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 09:56:17 )

ศึกษาให้ดีทักษิณเป็นคนเช่นไร

รายละเอียด

อาตมานั้นใช้ทั้งสามัญสำนึกและวิสามัญสำนึก ทั้งหมดเลย ดีหมดแล้ว อาตมารู้ทั้งสามัญและวิสามัญ ถ้าคุณสมพร ฟัง ถ้าเข้าใจว่า ถ้าทักษิณนี้เขาจริง  เงินเขาก็มี ทนายก็เยอะพร้อมรับใช้ สู้คดี สู้ได้แน่นอน ถ้าหากทักษิณเขาสู้ไม่ได้ ขอให้ศาลต่างประเทศตัดสิน เขาสามารถเอาเรื่องไปฟ้องศาลต่างประเทศได้อีกเลย เงินเขาก็มีพอ คนเก่งๆที่จะสมัครใจทำได้ก็มี คนอย่างทักษิณไม่ใช่คนโง่เลย เป็นคนฉลาดโดยเฉพาะฉลาดแกมโกงเฉโก ฉลาดโลกียะ ฉลาดอย่างไม่มีใครจับตัวได้ง่ายๆเลยในยุคนี้ เขาสุดยอดจริงๆ แต่เขารู้แล้วว่าเขาทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ทำ เพราะเขารู้ว่าเขาทำเขาก็แพ้ เพราะลึกๆเขาฉลาด เขารู้ว่าเขาทำเขาก็แพ้ แล้วเขาจะหลอกตัวเองว่าแพ้เพราะว่า ศาลยุติธรรมของไทยนี้ไม่ดี เขาก็เลยเอาอันนี้มาตีให้แก่โลกว่าไป หากศาลนี้แพ้ก็ไปฟ้องศาลโลกอีกเขาทำได้ ไม่มีปัญหาหรอก แต่เขาไม่กล้าทำหรอกเพราะเขารู้ว่าต้องแพ้ จึงเอาอันนี้เป็นไม้สำคัญที่จะหลอกคนที่ยังหลงเชื่อศรัทธาเขา เขาจึงเอาอันนี้ไว้ คุณตีกินเลยว่าจะเอาเฉพาะที่ฉันได้อันที่ฉันไม่ได้นี้ฉันไม่เอา อันนี้จึงเรียกว่าเป็นคนเอาแต่ได้ ทักษิณนี้เป็นยอดคนเอาแต่ได้ นี่ก็คือประเด็นที่อาตมาอธิบายให้คุณได้ศึกษาให้ดีๆทักษิณเป็นคนแบบนี้ อาตมาถึงบอกว่าเป็นคนไม่สู้ความจริง ไปสู้แต่ความไม่จริง แล้วก็ไปหลอกคนไม่จริง คนโง่ด้วยกันเป็นบริวาร นี่คือทักษิณ อาตมาไม่กลัวไม่หนีทั้งนั้นเลย ผู้ที่ไม่มีชนะมีความจริงบริบูรณ์สมบูรณ์ที่สุดจะไม่มี คำว่าหนีคำเดียวนี้ก็เป็นคนไม่จริงแล้ว คนที่หนีคนที่หลบหน้าก็เป็นคนขี้ขลาดเต็มที่ ความบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะชนะทุกสิ่งทั้งโลกในที่สุด 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 09:57:32 )

ศึกษาให้ดีนี่คือ ละครความจริงของโลก

รายละเอียด

อาตมาว่าเรื่องนี้เอามาพูดในตอนนี้ช่วงนี้ มันก็ยังไม่ใช่ล้าสมัยมันก็ยังอยู่ในสมัย เพราะยังมีส่วนของ After Shock ของทักษิณ เกิดคลื่นอยู่ เราก็พูดความจริงอันนี้เพื่อให้รู้ตัวกัน ถ้าใครเห็นว่าจะช่วยกัน อย่าให้ After Shock นี้เกิดเป็นผลเสีย ก็ช่วยกันกั้น ช่วยกันต้าน มีอะไรที่จะทำให้มันระงับได้ก็ช่วยกันทำให้มันระงับ อย่าให้มันลุกลามขึ้นไปเลย มันเป็นบาปของมวลหมู่ของทักษิณนั่นแหละ 

อาตมาไม่ได้พูดความใส่ร้าย ไม่ได้ไปลงโทษ ไม่ได้ว่า แต่พูดถึงความจริงที่เป็นกรรมกิริยาที่เขาทำ อาตมาก็ไม่อยากให้เขาทำกรรมกิริยาที่เป็นอกุศล ที่เป็นบาป ที่ไม่สมควรทำ แต่คนไม่รู้เขาไม่รู้หรอกว่าที่เขาทำนี้มันเป็นบาปเป็นชั่ว คนบาปทำบาปโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ได้แต่บอกไป เผื่อจะมีคนที่พอจะมีปฏิภาณปัญญาฟังแล้วจะรู้ว่าเราไม่ควรจะไปส่งเสริมคนชั่ว ร่วมมือกับคนชั่ว 

คนที่เคยหลงผิด อย่างคุณศรัณย์วุฒินี่ โอ้โห..เป็นคนที่ตื่น น่าสรรเสริญ ออกมาแล้วมายืนยันมาพูดมาตีแผ่ แม้แต่จตุพรก็พอมีท่าที แต่ไม่แน่เหมือนศรัณวุฒิ ศรัณย์วุฒิ นี้เด็ดขาด รู้ชัดออกมาเปรี้ยง จตุพรยังกั๊กๆ ทำเป็นเก่งนะ จตุพรทำเป็นว่าฉันเป็นกลาง ฉันไม่อยู่พวกไหน ศรัณย์วุฒินั้นชัดเลยมาอยู่พรรคนี้แหละ พรรครวมไทยสร้างชาตินี่แหละ มาอยู่มาช่วยบิ๊กตู่นี่แหละ 

เปิดเผยอย่างไม่แคร์ อย่างมั่นใจ สวนจตุพรนั้นยังทำ act ยังทำมีมานะอัตตาทำเป็นเท่ ฉันรู้นะฉันจะเป็นคนตัดสินอะไรๆอยู่ ก็ทำที ก็คนละ Character คาแรคเตอร์ของจตุพรเขาก็อย่างหนึ่ง ของศรัณย์วุฒิเขาก็อีกอย่างหนึ่ง นี่เป็นตัวละครที่เราจะดูและจะศึกษา อาตมาก็เป็นตัวละครอย่างหนึ่ง ศึกษาดีๆเถอะ ในยุคนี้มีให้ศึกษาดีๆ แต่ละคนๆเป็นตัวละคร ตัวผู้ร้าย ตัวพระรอง ตัวพระเอก ตัวผู้ช่วยพระเอก ตัวผู้ช่วยผู้ร้ายมีเยอะ เอาละ นี่เป็นละครของธรรมชาติแท้ ละครความจริงของโลก ♪♬โลกนี้คือละคร บทบาทบางตอน ชีวิตยอกย้อนยับเยิน.. จริ๊งจริง จริงที่สุด เอ้าพัก การวิจารณ์วิจัยละครเรื่องนี้ฉากนี้ไปก่อน 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 19 วาระแห่งชาติ ระดมเชียร์ลุงตู่ให้อยู่ต่อ

วันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2566 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 พฤษภาคม 2566 ( 20:05:01 )

ศึกษาให้รู้จริงจะไม่กลัวตายจริงๆ

รายละเอียด

ถ้าเราจะปรินิพพานเป็นปริโยสาน จบก็ตายไปเลย แต่ถ้าไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานคุณก็ต่อชาติ คุณก็มีแต่ได้เพิ่มมีความเจริญทับทวี ปฏิภาคทวีเพิ่มขึ้น ซึ่งมันเป็นจริงนะที่พูดนี้เป็นเรื่องสัจธรรม คนที่ตายแล้วจะไปตกนรกก็จะกลัวตาย ไปนรกเมื่อไหร่จะได้ขึ้นมาแล้วจะไม่รู้เรื่องด้วย จะไปเข้าท่าอะไร แต่นี่ตายไปก็ไม่เป็นไร ตายแล้วก็ไปอยู่เป็นสุขสงบ ถึงเวลาวาระถ้าเรายังไม่ปรินิพพาน ได้เหตุปัจจัยก็กลับมาเกิดใหม่ไม่มีปัญหา ถ้ารู้อย่างเช่นอาตมารู้จะไม่มีกลัวอะไรศึกษาไปให้รู้เหมือนอย่างอาตมารู้คุณจะไม่กลัวตายจริงๆ เชื่อตัวเองเลยว่าตายแล้วไม่ตกต่ำ ตายแล้วมีแต่เจริญกับเจริญ ตายแล้วคิดทั้งบำนาญบำเหน็จทบเลย อย่างนั้นจริงๆพูดเป็นภาษาโลกนะ เพราะฉะนั้นจะไปกลัวทำไมตาย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ดับชาติ 5 ด้วยวิชชา 8
วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:34:15 )

ศึกษาไม่ถูกทาง ไม่มีทางพ้นทุกข์

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นการศึกษาที่ศึกษาไม่ถูกทาง ไม่มีทางพ้นทุกข์ มีแต่ทางจมวน กับการสร้างวิธีการสร้างระบบ เพื่อที่จะวุ่นวายในลาภยศสรรเสริญโลกียสุข พวกเรานี้ อาตมาก็ต้องมายกตัวอย่างพวกเราประกอบ ก็จะให้เปรียบเทียบเห็นความจริง คนอื่นเขาดูถูกดูแคลนชาวอโศก เขาก็ซวยไป แต่เราเรียนรู้เปรียบเทียบ ว่าอย่างนี้เป็นตัวพ้นทุกข์ อย่างนี้คือคนพ้นโลก ปรมังสุขัง สุขสำราญเบิกบานใจ

ที่มา ที่ไป

เทศน์ ทวช. วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:45:43 )

ศึกษา“สัจจะ”ย่อมเป็นไปเพื่อ“จบกิจ”เท่านั้น!

รายละเอียด

“สัจจะ”นั้นคือ“อาริยสัจ 4” ได้แก่ “ทุกข์-เหตุแห่งทุกข์-

ความดับทุกข์-มรรคที่ปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์”

ในศาสนาพุทธ“สัจจะ”อย่างเดียวนี้เท่านั้น ที่ศาสนาพุทธ

ศึกษาและปฏิบัติกันให้สำเร็จก็“จบกิจ” หาก“จบกิจ”ใน“สัจจะ”นี้

ก็เป็นอันสมบูรณ์แบบแล้วในความเป็นคน ไม่มีอื่นเลย

ดังนั้น สรุปได้ว่า “สัจจะหนึ่งเดียว”นั้นคือ “อริยสัจ 4”

ศาสนาพุทธจึงได้แก่ ศาสนาที่“ทุกสรรพสิ่ง ล้วนมาแต่เหตุ

(สมุทัย) ดับเหตุเสียได้ ทุกสรรพสิ่งก็ดับ”

 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 198 หน้า 168


เวลาบันทึก 26 มิถุนายน 2564 ( 19:57:34 )

ศูทร

รายละเอียด

เป็นผู้ลงมือ ขุดปลูก ทำออกมา เป็นหลักเป็นแกนแท้ๆ ชัดๆ เด่นมาก รัดรอบ ไม่แผ่ ไม่ฟั่นเฝือกับใครมาก

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 3 หน้า 194


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:48:20 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:48:38 )

ศูนย์ (0)

รายละเอียด

คือ นปุงสกลิงค์หรือสุญญตา

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1หน้า 217


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 15:44:31 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 15:32:35 )

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2563 ( 09:04:02 )

ศูนย์กับหาประมาณไม่ได้เป็นอันเดียวกัน

รายละเอียด

กาย ก็พอได้ว่ากันไป เรียนรู้กันไป คือมันเป็นการแยกแยะ อันนี้เทียบกับอันนี้ เทียบจากสองนี่แหละ มันมี 1 2 หรือมี 3 ก็ขยายไปจากจุดเริ่มต้นคือ 1 2 ของทางโลกไป 1 2 3 4 5 แต่ทางโลกเขาไม่รู้จัก0 ทำ 0 ไม่เป็น เขาทำได้แต่ 1 และ 1 ไม่รู้จักจบ ไม่มี 0 1 2 3 4 5 6 7 8 นะประมาณไม่ได้แต่ของพระพุทธเจ้าท่านรู้จบหมดเลย ประมาณไม่ได้ก็ได้เป็น 0 ก็ได้ และสรุปได้เลย ที่จริง 0 กับหาประมาณไม่ได้เป็นอันเดียวกัน เทวนิยมฟังแล้วก็หัวตีพื้นเลยว่าพูดอะไรของเอ็ง เขาจะไม่รู้เรื่องเลย เพราะเทวะ พระเจ้าเขาไม่มี 0 นิรันดร มันก็เลยยาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาอย่างอวดตัวแต่ถ่อมตน ด้วยความจริง วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 แรม 7 ค่ำ เดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2564 ( 21:03:37 )

ศูนย์คือหมดสภาวะของจิตวิญญาณและชีวะ

รายละเอียด

เมื่อทำ 2 เป็น 1 ได้ก็ทำ 0 กับ 1 ให้เป็น 0 ได้ พูดชัด พูดง่าย เรียนให้จริงแล้วง่ายเหมือนกัน ทำได้ 

เป็น 0 ก็คือหมดสภาวะของจิตวิญญาณ หมดเลย หมดสภาวะของชีวะด้วย เราเรียนมาแล้วธรรมนิยาม 5 เป็นอุตุธาตุ เป็นพืชเลย มีชีวิตชีวาใสสดใสเหมือนพืช ของเรานี่งอกงามมันสอดคล้องกันกับชีวิตพวกเรา โอ้โห! อาตมาเห็นหัวหอม อาตมาเกิดมาจนอายุ 80 ปียังไม่เคยเห็น หอมหัวใหญ่ขนาดนี้สวยงามใสผ่อง เขาบอกว่าหัวละ 0.5 กก.ก็มี ใสผ่องนะ ถ่ายภาพออกไปไม่เท่ากับดูของจริงหรอก ของจริงมีแสงส่องกระทบด้วย มันผ่อง วาววาม เหลื่อมมาบๆเลย ภาษาอีสาน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนอัตถิราคสูตรให้หมดสุขหมดทุกข์แท้จริง วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:32:48 )

ศูนย์หมายถึงอุเบกขาหรือธรรมะ 0

รายละเอียด

คนนี้ถามมา ถ้าธรรมะนี้อาตมาจะไม่ค่อยใช้คำว่าธรรมะ 0 จะใช้คำว่า 0 ใช้คำว่าธรรมะ 2 ธรรมะ 1 และ 0 ศูนย์หมายถึงสิ่งที่หายไปสิ่งที่ไม่มีอยู่แล้วไม่ทรงอยู่ คำว่า ธรรมะศูนย์เราก็ไม่ค่อยใช้ เราก็ใช้ 0 สิ ธรรมะมันต้องทรงอยู่

สภาวะธรรมะ 0 ลึกซึ้งโดยสภาวะ แต่ธรรมะมันแปลว่าทรงอยู่ ผู้ที่บรรลุสูงสุดแล้วธรรมะคือสิ่งที่ไม่มี ถ้ายังมีอยู่ก็ไม่ใช่ธรรมะ ก็กลายเป็นอธรรม ที่มีอยู่นี่คืออธรรม ตอนนี้ฟังให้ดีนี่คือสิริมหามายาซับซ้อนไปเหมือนนักเล่นกลกลับไปกลับมา

สิ่งที่มีอยู่ผู้ทีไม่ยึดแล้วก็ไม่มี นั่นคือสูงสุด ถ้ายังยึดถือว่ามีอยู่ก็ยังเป็นอธรรม ก็เหมือนคนพูดตลบแตลงเล่นกล เดี๋ยวมีเดี๋ยวไม่มี

คนที่มีสภาวะจริงแล้วพูดกลับไปกลับมาตลบแตลงอย่างไรก็ไม่หลงทาง จับไม่มั่นคั้นไม่ตาย

อุเบกขาเป็นการอธิบาย กลางๆวางเฉยแต่สภาพยังมีอยู่นะ อุเบกขานี้ยังมีอยู่ถ้าศูนย์นี้ไม่มีแล้ว คุณคนนี้ใช้คำว่าธรรมะ 0 ถ้า 0 แล้วไม่มีธรรมะ ธรรมะ 1 ธรรมะ 2 ธรรมะ 3 จนไปถึงธรรมะเป็นล้านก็คือสิ่งที่มีที่แตกตัวออกไป ท่านก็ใช้ธรรมะ 1 ถ้า 0 แล้วไม่ใช้คำว่าธรรมะเพราะศูนย์ไม่มีอะไรทรงไวแล้ว 0 คือสิ่งที่ไม่มีแล้ว

อุเบกขาขยายความสิ่งที่สูง เป็น องค์ธรรม 5 ประการ ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:57:03 )

รายละเอียด

กับ , เป็นไปกับ , มี , ประกอบด้วย , เหมือนกับ , เป็นไปกับภาวะนั้นภาวะนี้ที่ประชุมกันเข้าเกิดภาวะ “ตนเอง” ออกฤทธิ์ให้แก่ตนเอง [ซึ่งทุกความหมายก็มีภาวะ “ของตน” หรือ “ตัวเอง”]

หนังสืออ้างอิง

จากยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 78


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:51:14 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:50:32 )

ส (ส +อันต = สันต)

รายละเอียด

ประกอบด้วย

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 3 หน้า 21


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:51:49 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:50:59 )

ส. ศิวรักษ์ สนับสนุนให้ตั้งพรรคการเมืองหรือ? 

รายละเอียด

ส่วนที่ว่า คุณ ส.ศิวรักษ์ เป็นกัลยาณมิตรและสนับสนุนให้อาตมาตั้งพรรคการเมือง 

พรรคการเมืองอาตมาไม่ได้ตั้งเลย พรรคพลังธรรมคุณจำลองเป็นคนตั้ง เมื่อตั้งเสร็จมีโลโก้เสร็จก็ค่อยมาบอกอาตมา ตอนนั้นเป็นพวกรวมพลัง ตั้งแต่เป็นผู้ว่า กทม. สมัยแรก แล้วใช้กลุ่มชื่อว่า รวมพลัง หาเสียงใช้ฝาเข่ง ใช้กระดาษกล่องเขียนติดเป็นป้ายอะไรต่ออะไรบ้างแบบกระจอกๆ เสร็จแล้วก็ได้รับเลือกเป็นผู้ว่า กทม. พอได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่า กทม.ก็ดำเนินเป็นผู้ว่า กทม.1 สมัย เสร็จแล้วเลือกตั้งอีก ก็ได้อีก เป็นผู้ว่าอีกเป็นสมัยที่ 2 

อาตมาก็เคยพูดเลยว่า เป็นผู้ว่านี่แหละ ดีไม่ดีครบ 3 สมัยเลย แล้วจะรู้เอง จะเห็นผลเองว่า ซึ่งอาตมาก็บอกลึกๆว่า อาตมาใช้ภาษากับคุณจำลองว่า Bangkok is Thailand Thailand is Bangkok บอกว่าอย่างนี้แหละคือโครงสร้างของเมืองไทย การเมืองของกรุงเทพฯ กฎหมายก็เป็นกฎหมายพิเศษ เป็นจังหวัดที่ได้รับสิทธิพิเศษ บริหารอย่างไม่ได้อยู่ตามกฎหมายทั่วไป ซึ่งคุณจำลองทำไปก็ไม่รู้คิดยังไง  อยากไปทำระดับชาติเลย ก็ไปตั้งพรรคการเมือง เป็นพรรคการเมืองชื่อ พลังธรรม จดทะเบียน มีโลโก้เรียบร้อยเป็นรูปพนมมือ แล้วมาบอกอาตมาว่า ขออนุญาตตั้งพรรค มีโลโก้เรียบร้อยแล้ว อาตมาก็ หมดคำเว่า 

อาตมาไม่ได้คุยไว้ก่อน ไม่ได้ส่งเสริม บอกว่าทำงานไปเถอะ แต่พูดอย่างที่ว่า Bangkok is Thailand Thailand is Bangkok อาตมาก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ แต่ที่อาตมาเข้าใจคือแล้วจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเอง นั่นคือเจตคติของอาตมา ที่รู้ที่เข้าใจ แต่คุณจำลองก็ไปทำซะอย่างนั้น ไปเป็นผู้ว่า 1 สมัย  แล้วต่อเป็นผู้ว่าสมัยที่ 2 ไม่เต็มสมัย โดดเข้าสู่การเมืองระดับชาติ ตั้งพรรคพลังธรรมขึ้นมา เสร็จแล้วเลือกตั้งก็ไปได้พอสมควร ก็มีผู้สนับสนุนอะไรต่ออะไรไปได้พอสมควร สรุปไม่ขยายความต่อ ก็ไปได้แค่นั้น สุดท้ายคุณจำลองสูงสุดก็ได้เป็นแค่รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ขึ้นถึงเป็นนายกรัฐมนตรี นั่นก็เป็นเรื่องเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว 

ที่บอกว่าเง็กเซียนฮ่องเต้ให้มาทำการเมือง คุณเดชา อัมพร ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด อาตมาไม่ใช่เทวนิยม ไม่ได้มีเง็กเซียนฮ่องเต้ ไม่ได้มีพระเจ้า ไม่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์อะไรมาสั่งอาตมาหรอก อาตมาเปรียบเปรย แต่ไม่ได้พูดอย่าางที่คุณเดชาเข้าใจหรือหมายเอา เป็นคำเปรียบเปรยซึ่งอาตมาก็จำไม่ได้แล้วตอนนั้น ที่ว่า เง็กเซียนฮ่องเต้ส่งให้มา ที่ สู่แดนธรรมขยายความก็ถูกต้องแล้ว อันนั้นก็เป็นความเข้าใจที่ยังไม่รอบถ้วนของคุณเดชา อัมพร ก็พยายามต่อไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ต้องดูไปไม่ต้องไปดูไบ

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2565 ( 14:36:24 )

ส.ศิวรักษ์ โง่หรืออัตตา

รายละเอียด

ตอบทางวิชาการเลยก็เป็นทั้งสองอย่าง ตอบทางวิชาการนะ ท่าน ส.ศิวรักษ์จะฟังจะมาพูดจะถือสาก็ถือสาเอง ถ้าไม่ถือสาฟังเอาสภาวะวิชาการก็เป็นเรื่องวิชาการ ถ้าไปถือสา มีตัวมีตนก็เป็นเรื่องของ ส.ศิวรักษ์เองนั่นแหละ 

สมัยตอนนั้นทำหนังสือแสงสูญ เราทำแล้วก็เอาบทความของทางด้านคุณ ส.ศิวรักษ์เอาไปใช้เราก็เห็นว่าดี เอามาลงในหนังสือแสงสูญ เขาก็มีหนังสือร้องเรียนมาว่าล่วงละเมิดลิขสิทธิ์ จะต้องเสียค่าเสียหาย ตอนนั้นอาจารย์อาภรณ์ พุกกะมาน เป็นบรรณาธิการอยู่ เราเห็นแล้วก็ตอบจดหมายไปเลย ว่า โดยบอกไปว่า ประเด็นสำคัญคือ บอกไปเลยว่า แหม ขออภัยนะ ท่านอาจารย์ ส. เราก็นึกว่าท่านเข้าใจเรื่องบุญนิยมดีแล้ว แต่เราคาดผิดถนัดว่า ตกลงท่านยังไม่เข้าใจบุญนิยมเลย ก็เลยติดใจที่จะเอาค่าลิขสิทธิ์ กรุณาบอกราคามาก็แล้วกันเราจะให้ เท่านั้นแหละเงียบเลย ทีนี้เราเอาอะไรมาอีกก็ไม่พูดอะไร เราจริงใจที่จะเผยแพร่ให้ เราไม่ได้เอาไปค้าขายได้เงินทองโฆษณาอะไร เราไม่มี เราทำงานเผยแพร่ให้ ที่จริงมันเป็นกุศลด้วยซ้ำ ช่วยคุณด้วยซ้ำไป เผยแพร่ของคุณนี่แหละต่อไปอีกให้คนรู้ เราไม่ได้ยึดถือเป็นของเรา เราเอามาแพร่ต่อ เราเห็นว่าดี ถ้าไม่ดีเราไม่เอานะ เราไม่ช่วยแพร่ให้นะ แต่นี่มันดี ไปคิดอย่างนี้ได้อย่างไร นี่ก็เล่าให้ฟัง ขออภัยเล่าความหลัง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 13:46:25 )

สก ใหญ่สุด สว รอง สย สุดท้าย

รายละเอียด

ที่อาตมาจะพูดคือ มีตัว ส.เสือ ตัว ก ตัว ย จึงเกิด สก สว สย

ก เป็นตัวต้นรากของหนังสือเลย ก ข ค ฆ ง 

ส่วน ว กับ ย เป็นตัวเศษวรรค 

ว คือตัวที่ 4 

ย คือตัวที่ 1 ของเศษวรรค เพราะฉะนั้นมันจะต้องวิ่งเร็วกว่า สั้นกว่า น้อยกว่า 

สย จะเป็นตัวน้อยที่สุดและเร็วที่สุดสั้นที่สุด ลัดคัดสั้นที่สุด สุดลัดสุดสั้นตัดออกมา

สว เป็นตัวกลาง เพราะฉะนั้น อาสวะ ซึ่งเป็นตัวกลางของสิ่งที่จะสูงสุด 

ถ้า สย สุดกว่า สว ยิ่งเป็น อาสวะ ก็ยิ่งยาวกว่าแน่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 3 

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 07:42:03 )

สกคาทามีกับเอกพีชี

รายละเอียด

พระโสดาบันก็เข้าใจว่าสูงสุดช้าที่สุดกว่าจะเป็นพระอรหันต์ นานที่สุดก็แค่ 7 ชาติ บางทีก็ 6 ชาติ โกลังโกละ บางทีก็ 4 ชาติ 5 ชาติ 3 ชาติ 2 ชาติ ก็คือโกลังโกละ ถ้าเกิดมาเพียงชาติเดียวแล้วเป็นพระอรหันต์ก็เรียกว่าเอกพีชี เกิดมาชาตินั้นก็บรรลุอรหันต์เลย เขาเข้าใจไม่ได้ว่า สกทาคามีก็แปลว่าเกิดอีก 1 ชาติ ก็บรรลุอรหันต์ เอกพีชีก็ 1 ชาติก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ ก็แปลเหมือนกันเกิดมาอีกชาติเดียว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 09:37:15 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:23:00 )

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2563 ( 15:19:14 )

สกทาคามิผลจิต

รายละเอียด

แม้ยังจะต้องทนก็ทนได้โดยไม่ยาก  แม้ยังต้องอดกลั้นก็อดกลั้นได้โดยไม่ลำบาก แม้ยังต้องเคร่งก็เคร่งอย่างไม่หนักหนา ไม่ตึงเต็ม  อยู่ง่ายแล้ว เบาแล้ว สบายขึ้นกว่าก่อนแล้ว

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 18


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:52:33 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:51:41 )

สกทาคามิมัคคจิต

รายละเอียด

จิตที่ได้พยายาม หรือได้มีเพียรอยู่ ได้ระลึกรู้พรั่งพร้อมอยู่ที่จะตั้งหน้าก้าวขึ้นได้สูง

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค1 หน้า 17


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:53:25 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:52:14 )

สกทาคามิมัคคบุคคล

รายละเอียด

ผู้เข้าถึงได้แล้วจริงในตอนนั้นเวลานั้นทีเดียว

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 17


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:54:12 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:52:39 )

สกทาคามี , สกิทาคามี

รายละเอียด

1. ความยังไม่สิ้นสุดจริง ยังไม่ดับสนิทจริง หรือความหมายในขั้นบุคลาธิษฐานว่า ผู้ยังไม่หมดสิ้น ยังจะต้องมีเกิดอีกชาติหนึ่งทำให้สูง[จิตทำ จิตเกิดงาน] 

2. ต้องเรียนศีล ปฏิบัติให้เป็นสมาธิ และเพิ่มภูมิ เพิ่มปัญญา บรรลุเป็นโสดาบัน สกิทาคามี 

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 18, จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 372


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:55:26 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:53:19 )

สกสัญญา

รายละเอียด

ความกำหนดหมายตามที่ตนเป็นตนมีกิเลสอยู่

หนังสืออ้างอิง

จากชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 278


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:55:56 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:54:36 )

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2563 ( 15:20:23 )

สกิทาคามี

รายละเอียด

ภูมิโสดาบันสูงขึ้นก็เป็นสกิทาคามี จะอ่านจิตในจิตของตนเป็น อ่านจิตเจตสิกของตนเป็นจึงเป็น พระอริยะของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 31 ตุลาคม 2562 ( 04:31:56 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:24:19 )

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2563 ( 15:21:33 )

สกิทาคามี

รายละเอียด

คือ ผู้ที่หมดอัตตาเรื่องการแต่งตัวสวยงามแล้ว แต่งเรียบๆ ง่ายๆ เชยๆ ไม่ตามสมัยนิยม ก็จะไม่เก้อเขินเลย จะประสานเข้ากับเขาได้สนิท แม้กิริยาภายนอกก็ไม่มีความเก้อเขิน เพราะใจไม่มีกิเลส จึงไม่พาเก้อเขิน ถ้ามีปัญญาพร้อมก็สามารถอธิบายตอบใครๆได้ ไม่กลัวเกรง หวั่นไหว เพราะไม่ได้ทำชั่วอะไร

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า119


เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 15:51:24 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 15:31:53 )

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2563 ( 15:24:35 )

สงครามการลดกิเลสในศีลข้อที่ 1

รายละเอียด

คนนี่เกิดมีความพยาบาทมีความรักความชังเกิดขึ้น จึงต้องเกิดการรบ  สรณะ ประกาศสงครามตลอด คนอยู่ด้วยกันทำสงครามตลอด คนรู้จักว่าสงครามอะไรดีก็คือสงครามการลดกิเลส อยู่ในเหตุปัจจัยที่เป็นนักรบมีข้าศึก คนนี้กระทบสัมผัสกับเรา เขาก็เป็นข้าศึกทำให้เราเกิดกิเลส เราก็รบกับกิเลสของเราอย่าไปรบกับเขา คนเขาทำให้เราเกิดกิเลสก็ขอบคุณ เรารู้กิเลสก็ฆ่ากิเลสเรา ถ้าไม่มีคนนี้กิเลสเราไม่เกิดนะ คนนี้ยั่วยวนให้เกิดกิเลส ดีชะมัดขอบคุณเขา เสร็จแล้วเราก็ล้างกิเลสของเราไป คนฉลาดก็ต้องมองให้ออกว่าเป็นกิเลสของเราเองเป็นโอกาสของเราเอง

เพราะฉะนั้นผู้ที่สามารถรู้จักธรรมะ 2 ก็ทำอย่างที่อาตมาว่า เป็นผู้ที่มีดวงตาเป็นคนได้ประโยชน์อยู่ในสังคมอยู่ในการสัมผัสกับคนกับสัตว์กับพืช ก็ได้ประโยชน์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(การตาย) ตอน ทำอย่างไรจะหายกลัวตาย


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:25:38 )

สงครามของคนศรัทธาศาสนา

รายละเอียด

ในเรื่องของสัทธรรมต่างๆที่อาตมาทำงานมาแล้ว วันนี้อธิบายถึง 2515 พันตำรวจตรีอนันต์ตีหนักอาตมาก็ไม่ได้ตกใจอะไร จนสุดท้าย พันตำรวจตรีอนันต์ก็ติดคุก อาตมาก็บอกพวกเราให้ช่วยส่งอาหารให้เขาหน่อย พวกเราก็เอาอาหารไป สุดท้ายอันนั้นก็เขียนกระดาษมาว่า “ข้าวแดงของท่านมียาง” ผ่านยุค 13-25 มา ปลอดพ้นมาก็มีสงครามมาเรื่อยๆมีการต่อต้าน พรุ่งนี้จะเข้าสู่กองทัพมหาเถรสมาคม พ.ศ.25-37 สงครามหนักๆก็พ.ศ.’32 รบหนัก โอ้โหเอาหนัก ทั้งๆที่ช่วงที่อาตมาประกาศ 2518 ก็เป็นนานาสังวาสแล้ว ท่านก็ปล่อยให้อาตมาแสดงธรรม ฟังดี เพราะว่า ทางเถรสมาคมไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน แต่เมื่อพันตำรวจตรีอนันต์ เสนาขันธ์ โวยวายขึ้นมา เขาโวยวายกับท่านพุทธทาสก่อน พันตำรวจตรีอนันต์ตีท่านพุทธทาสก่อนมาตีเรา เขาอวดรู้ ตีจนแหลกราญ ทำประกาศทำหนังสือเขียนค้านแย้งต่างๆนานาเดี๋ยวนี้ก็ยังมีหนังสือเป็นหลักฐานอยู่ จริงๆแล้วเขาก็ศรัทธาศาสนา ทั้งเถรสมาคมและพันตำรวจตรีอนันต์ เสนาขันธ์ อาตมาแน่นอนก็ต้องศรัทธาศาสนา มันเป็นสงครามของคนศรัทธาศาสนาทั้งนั้น ต่างก็มีจุดมุ่งถือว่าจะต้องเอาให้ถูก แต่คนละถูก ถูกกันคนละแยก เลยมีมากแยกเลยวงเวียนกรกฎา มี 5 แยก ต่างคนต่างแยกแล้วยึดถือของตนจึงเกิดเป็นสังคมสงครามศาสนาพุทธ เป็นธรรมดาไม่เห็นจะแปลกๆ ที่จริงมันก็มีย่อยแต่เขาไม่มีแรงแสดงตัวออกมา แต่ละสำนักเขาก็เป็น สรุปแล้วมันจะมีสำนักที่

  1. สำนักนั่งหลับตา

  2. นั่งเรียนพยัญชนะ

  3. อโศก

เอาแค่นี้ก็แล้วกัน เอาสามสำนักใหญ่ สำนักมหาเถรสมาคมนั้นเอาทั้ง 1 และ 2 รวมไว้รวมทั้งนั่งหลับตา รวมทั้งเรียนพยัญชนะ เอาทั้งสองสำนักมาสู้กับอโศก พูดนี้เป็นธรรมชาติของพฤติกรรมมนุษย์ ก็อธิบายมาสู่ฟัง

ที่มา ที่ไป

ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 12:39:14 )

สงครามนี้ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ 

รายละเอียด

ที่จริงก็ไม่อยากจะพูดหรอกอันนี้ เช่น ถ้าพวกชุมนุมนี้มีกลุ่มชุมนุมขึ้นมาเขาก็แสดงท่าทีลีลาเขาเต็มที่ ผู้ที่ทำหน้าที่ ตำรวจก็ดี ทหารก็ดี ไปทำแล้ว มันก็รู้สึกว่ามันยังไม่พอ คุณมีเวลาก็ไปชุมนุมแข่งเขาได้อีก เขามาชุมนุมประท้วงมีสักประมาณ 500 คน เราไปชุมนุมกันพันคนหมื่นคน พวกเขาก็แหย เท่านั้นเอง ที่จริงไม่ได้ยุนะ อาตมาคิด ว่ากำลังตำรวจทหารพอจะป้องกันได้ เพราะฉะนั้นมีขีดเกณฑ์การชนะกันก็คือใครอย่าแสดงอาการรุนแรงออกมา ใครแสดงก่อนแพ้ ขีดนี้ มัน sensible มาก เพราะฉะนั้นดูสงครามนี้ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 28 วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 21:30:21 )

สงครามปากหอก

รายละเอียด

คนเข้าใจสัจจะเข้าใจศาสตร์ เป็นวิชาการแล้วก็เป็นศาสตร์เป็นอาวุธสงคราม สงครามปากหอก รบด้วยปากหอก กายกรรมไม่ไปทำร้ายใคร แม้แต่จะไปตบตีไปแตะต้องอะไร ไม่มี มึงมาพาโวย ในเรื่องกายกรรมไม่มี มีแต่เรื่องปากชี้ความจริง มันแรงตรงที่มันเป็นสัจจะ ไปพูดความทุจริตความไม่ดีไม่งาม ความเป็นอกุศล ความเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ก็ไปถูกบุคคลที่เขาทำจริง 

ถ้าเราพูดสิ่งที่ออกไปว่ามันดีอย่างนี้มันเลวอย่างนี้มันชั่วอย่างนี้ แต่คนเขาไม่ได้ทำคนไม่ได้ปฏิบัติอย่างที่เราพูดเลย มันก็ไม่ถูกใคร เราก็บ้าอยู่คนเดียว แต่เราพูดนั้น มันมีจริงเป็นจริงมันถูกเปรี้ยงเปรี้ยงๆๆมันก็เลยแรง คนก็เลยมาว่าคนที่ไปปราบ ว่าไปทำอะไรรุนแรง มันก็เลยย้อนแย้งอยู่ในที ที่จริงแล้วมันแรงในอกุศลกรรมที่เขาทำมันอยู่ในตัว แต่เราไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายเลยเรามีแต่ปากพูด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 26 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:08:20 )

สงครามโลกครั้งที่ 3 จะไม่เกิด

รายละเอียด

สมณะโพธิรักษ์ กล้าพูดตรงนี้อีกอย่างว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 จะไม่เกิด และพวกเรานี่แหละ แล้วคนในโลกกำลังแสวงหาสิ่งที่เป็นความเจริญเป็นอารยธรรม เป็นโลกุตระ แบบนี้แต่เขาไม่รู้ เพราะเขามีภูมิปัญญา สามารถที่จะรู้ว่าอย่างนี้ใช่แล้ว คนเหล่านี้ ก็จะมารวมกันไม่ว่าจะเป็นชาติไหน

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 14:46:52 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:26:43 )

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2563 ( 14:17:54 )

สงฆ์ชาวอโศกไม่มีเงินทอง

รายละเอียด

สงฆ์ชาวอโศกไม่มีใครสะสมเงินทอง หากสะสมเป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ มันต้องสละออกไปแล้วจึงจะบริสุทธิ์ สามารถร่วมลงปาฏิโมกข์ได้ แต่ไม่ใช่สละแค่ในกระเป๋านะอยู่ในแบงค์อีก 30 ล้านมันไม่ได้สละอะไรหรอก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 12:07:38 )

สงฆ์สมมุติ

รายละเอียด

คือ การปฏิบัติธรรมที่ไม่เข้ามรรค ไม่เข้าผล ไม่ใช่สงฆ์จริง (ยังไม่เข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) เพียงแค่การเปล่งกล่าว ขอเข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บางคนเปล่งกล่าวตั้งแต่อายุน้อยๆ จนกระทั่งแก่อายุกว่า 80 แต่ไม่รู้ว่า มรรคผลคืออะไร ได้ปฏิบัติจริงหรือไม่ เข้ามรรค ได้ผลหรือเปล่า รู้มรรคชัดเจนถูกต้องจริงหรือไม่ ก็ไม่รู้เรื่อง ไม่มีทิฏฐิ ไม่มีปัญญาตรวจสอบ ตามทฤษฏีของพระพุทธเจ้า ก็เป็นได้แค่สงฆ์สมมุติ เป็นสงฆ์เก๊ไม่ใช่ของจริง

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 219


เวลาบันทึก 29 ตุลาคม 2562 ( 10:20:36 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 15:31:20 )

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2563 ( 15:29:56 )

สงฆ์สาวก

รายละเอียด

คือ ผู้ปฏิบัติธรรมที่เข้ามรรค เข้าผล ถึงมรรค ถึงผล รู้มรรค รู้ผล รู้พระธรรมคำสอน แล้วนำเอามาปฏิบัติ จนเกิดผลลดละหน่ายคลายกิเลสได้ เข้าสู่ทางเดินที่บรรลุผลได้มากขึ้นๆเป็นผู้ทรงธรรม อันบรรลุได้ผลจริง เกิดจริง เป็นจริง ขึ้นในตนจริง ผู้นั้นจึงเป็นสงฆ์สาวกที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 219


เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 13:03:44 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 15:30:26 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:12:26 )

สงฆ์หมู่ใหญ่เอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติมาใช้

รายละเอียด

แล้วก็ไปอาศัยศาลที่เป็นฆราวาสขึ้นมาตัดสินเรา เราก็ต้องแพ้ เอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติมาใช้ คือ กฎหมายสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาเอาผิดเรา ข้อสำคัญก็คือว่าสังฆราชมีพระบัญชาสั่งให้สึกภายใน 7 วัน ไม่สึกผิดกฎหมาย อันนี้บัญญัติเองไม่ใช่บัญญัติพระพุทธเจ้า 

เสร็จแล้วเอามาเล่นงานเรา เราก็ไม่มีปัญหาเราประกาศนานาสังวาสแล้วก็ไม่ว่าอะไร จะอัปเปหิก็ไม่ว่าอะไร ใช้ศัพท์คำว่าอัปเปหิไปข่มขู่เรา บอกว่าเราถูกขับออกจากหมู่ใหญ่ แต่ที่จริงเราลาออกมาอย่างผู้ดี อยู่มาตั้งนานแต่วันร้ายคืนร้าย พ.ศ.2532 ก็เกิดเรื่องราวขึ้นโรงขึ้นศาล สุดท้ายศาลตัดสินให้ผิด ผิดกฎหมายที่ว่าสมเด็จสังฆราชสั่งให้สึกภายใน 7 วันแล้วไม่สึก กฎหมายก็ลงโทษให้รอลงอาญา เราก็อยู่นอกคุกไม่ได้เข้าคุก เราไม่ได้นุ่งห่มเหลืองไม่ได้นุ่งห่มผ้าจีวรของพระ เราก็นุ่งห่มขาวมา จนกระทั่งถึงเวลาที่เขากำหนด เราก็มาเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนชุดเป็นผ้าสีกรักเราครองผ้า ไม่เหมือนธรรมยุต ไม่เหมือนมหานิกาย เดี๋ยวเขาจะหาว่าลอกเลียนแบบภิกษุ เราก็มีแบบการห่มผ้า แบบของเรามาตั้งแต่บัดนั้น เรื่องมันก็เป็นมาด้วยประการฉะนี้ท่านผู้ชม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 19:01:07 )

สงฆ์อโศกไม่มีลัทธิเจ้าอาวาส

รายละเอียด

ของเราไม่มีลัทธิเป็นเจ้าอาวาส ของเราไม่มีลัทธิเจ้าอาวาส มีแต่อยู่กันอย่างผู้ช่วยกัน เมื่อเวลาเข้าสภาประชุมอยู่ในสภาใครสมควรได้เป็นผู้นำในด้านนั้นด้านนี้ อันที่สมควรก็ทำกันไปตาม กาละ ไม่มียศศักดิ์ที่จะติดยึดกัน ไม่มีเจ้าอาวาส คุณจะเสนอก็ขอบคุณ สัจจะอันไหนมันสมควรก็เป็นไปตามธรรม พวกเราไม่ได้ไปติดยึด ผู้ที่ควรเป็นเจ้าอาวาสได้ เราก็ไม่ติดยึด แต่ก็ทำหน้าที่ได้ จะให้เป็นก็เป็น แต่ไม่ติดยึด ไม่เป็นก็ไม่มีใครจะมาเป็นแทนใน กาละที่ควร ก็ไม่เป็นปัญหา 

ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส เขาพูดแว้งมาหาอาตมา เขาเห็นว่า 3 ท่านนั้นเหมาะเป็นเจ้าอาวาสมากกว่าอาตมา เพราะอาตมาพูดไปกระทบกระเทือนสายป่า คุณไม่ต้องพูดหรอก อาตมาก็รู้ว่าคุณประจักษ์ หางของคุณเป็นอย่างไร อาตมาเห็นหางของคุณ ที่บอกว่า อาตมาแรงไปหน่อย เบาไปหน่อยนะอาตมาว่า ขุดไม่ขึ้นเลยนะพระป่า พระสายที่นั่งหลับตา อาตมาว่าแทงด้วยหอกร้อยเล่มเช้า แทงด้วยหอกร้อยเล่มกลางวัน แทงด้วยหอกร้อยเล่มเย็น พระป่านี่ก็ยังไม่รู้สึกตัว ยิ่งกว่าหัวตอ ฟังดีๆเถอะอาตมาว่าน้อยไป ไม่ใช่แรงไป ขนาดนี้ยังไม่รู้สึกตัวเลย 

ฟังธรรมะให้ดีๆอาตมาไม่ได้พูดเองนะ อาตมาเอาธรรมะของพระพุทธเจ้ามาพูดมาใช้ ว่าถ้าทำอย่างนี้แล้ว นี่คือผู้ที่ฆ่าศาสนาที่พระราชาให้เอาไปฆ่าให้ตายตอนเช้าด้วยหอกร้อยเล่ม คนที่ปฏิบัติผิดๆนั่งหลับตายิ่งกว่าหัวตอ แทงเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึก ยิ่งกว่าหัวตอ  แทงด้วยหอกร้อยเล่มหัก เช้าหักหมด กลางวันหักหมด เย็นหักหมด แทงเท่าไหร่ก็ยังหัวตออยู่อย่างนั้น คุณฟังธรรมะให้ดีนะ อาตมาพูดนี่ยังไม่แรงไปเลย แรงไม่ถึงขั้นที่จะมีผลเกิดความรู้สึก เกิดตื่น เกิดรู้ตัว เกิดสำนึกว่า โอ้โห เกิดสำนึก ละอายอย่างแรงกล้าเกรงกลัวอย่างแรงกล้า ยังไม่เลย ไม่กระเตื้องเลยคุณเอ๋ย อาตมาเหนื่อยจริงๆกับหัวตอ 

ตกลงให้ท่านเดินดิน ท่านบินบน ท่านเพาะพุทธ ขึ้นแทนอาตมาไหม ...ขอมติโยมว่า..ไม่ ไม่มีใครเห็นด้วยกับคุณเลย คุณยังเข้าใจอะไรยากอยู่ คุณยึดติดพระป่า ที่อาตมาว่าเป็นหัวตอ อาตมายืนยันว่าไม่ได้พูดผิด คุณติดยึดหัวตอมากไปแล้วคุณประจักษ์ ศึกษาให้ดีๆ อาตมาไม่ได้ไปว่า ไม่ได้ไปข่ม ไม่ได้ไปดูถูกดูแคลน อาตมาพูดสัจธรรม เขาไม่ตื่นสักที เขายิ่งกว่าหัวตอ 

อาตมาจะพูดบรรยายให้กระเทือน ให้รู้สึกตัวให้เปลี่ยนแปลง ให้มีการเข้าใจตัวเอง อธิบายธรรมะอาตมาไม่ได้พูดเท่านี้ อาตมาอธิบายเนื้อหาธรรมะพระพุทธเจ้า เอาพระไตรปิฎกมาเปิดบรรยาย แล้วพาทำด้วย ซึ่งมันต่างกับพระป่า พระหัวตอ พระหลับตา ชาวอโศกนี่ต่างกันคนละโลกเลย อันนั้นเป็นโลกียะไปอยู่ในเมืองพญานาค นั่งหลับตาเมืองพญานาค ส่วนพระบ้านของทางเถรสมาคมก็ไปเป็นพญาครุฑ อาตมาก็อธิบายขยายความไปหมดแล้ว ก็เลยไม่ได้เรื่องอะไรเลยกลายเป็นพญากันหมด ขอมติลูกศิษย์แล้ว ตกลงอาตมาก็ยังทำหน้าที่เดิมได้ 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 28 สังคมอโศกคือสังคมสาราณียธรรมที่มีสภาวะจริง วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม 2566 แรม 1 ค่ำเดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 สิงหาคม 2566 ( 14:50:23 )

สงฆ์อโศกไม่ได้แต่งกายเลียนแบบพระ

รายละเอียด

ไม่ได้แต่งกายเลียนแบบเราแต่งไม่เหมือน ดูดีๆดูรายละเอียดอาตมาไม่ได้ลอกเลียนแบบเลย ไม่ได้ผิดกฎหมายแล้วกฎหมายก็รู้ แต่งเครื่องแบบลอกเลียนเถรสมาคมนั้นกฎหมายคุ้มครอง เขาจับนะ นี่พวกอาตมาเขาไม่จับ เขาชัดเจนทุกอย่างแล้วว่าพวกอาตมาไม่ได้ลอกเลียนแบบ แล้วอาตมาก็ไม่ใช่พระสงฆ์อาตมาเป็นสมณะ ไม่ได้ลอกเลียนแบบพระสงฆ์ อาตมาแต่งแบบสมณะ ในพุทธศาสนา และคำว่าเถื่อนกับคำว่าอาริยะ เถื่อนคือคำว่า มิลักขะ อาริยะคือผู้เจริญ คุณศึกษาดีๆคำว่า อาริยะกับคำว่ามิรักขะ คุณศึกษาดีๆใครเถื่อน ใครเจริญกันแน่ 

และที่ว่าทำให้ศาสนาเสื่อม คนที่ทำให้ศาสนาเสื่อมนี่แหละ ที่อาตมาก็สงสารจริงๆ เพราะเขาทำให้ศาสนาเสื่อมมันเป็นบาป แล้วเขาก็ไม่รู้ตัว เขาสร้างนรกให้แก่ตนเองไปอยู่เรื่อย อาตมาก็ได้แต่สงสารก็ช่วยกันเตือน ก็มีพวกที่ค่อยๆรู้ตัว อยู่ในเถรสมาคมนี่แหละ ค่อยๆตื่นค่อยๆรู้ตัวขึ้นมา สำหรับคนที่ไม่ได้มีอคติไม่ได้มีอัตตาถือดิบถือดีอะไรกันมากมายนัก ฟังโพธิรักษ์แล้วท่านก็เข้าใจแล้วก็ปรับปรุงตัวเอง แม้จะอยู่ในเถรสมาคมนั่นแหละ ก็เปลี่ยนแปลงไปตามลำดับตามภูมิที่ท่านมี มีภูมิปัญญา มีปฏิภาณ สามารถรับรู้สามารถฟังแล้วได้ประโยชน์จากธรรมะ แม้ปรโตโฆษะ ฟังอาตมาที่เป็นคนละพวกก็เข้าใจ ได้รับสาระสัจจะที่แท้จริง เอาไปปฏิบัติแก้ไขตัวเองก็อนุโมทนาสาธุ 

ส่วนคนที่มืดบอดสนิทแล้วก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แสงสว่างแค่ไหนก็ไม่มีไม่สามารถส่องไปถึงได้ ก็ต้องเข้าใจเขา ปล่อยไป แล้วก็ชัดเจนตรงนี้เองว่าคุณเป็นพวกทักษิณนี่เอง เอาละถ้าทักษิณดีคุณก็ตามไปอยู่กับทักษิณต่างประเทศไม่มีที่อยู่นะ เขาอยากจะเข้ามาเลี้ยงหลาน แล้วใครทำให้ ทักษิณเอ๋ย ทำตัวเอง เป็นเวราณุเวรเอง ก็ว่ากันไป นี่เป็นสัจจะศึกษาให้ดีแล้วจะมองออกว่าใครถูกใครผิด เขาจะมองกันได้มองกันออกสำหรับคนที่มีดวงตา คนที่ไม่มีดวงตาก็มืดก็บอดไป ตามความมืดความบอดของแต่ละคน 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 21 ตอบปัญหาใครคือเผด็จการใครคือประชาธิปไตย วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2566 แรม 4 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2566 ( 13:36:27 )

สงบ

รายละเอียด

 คือ  จิต หมายถึงเข้าไปหาจิต  สงบไปทางจิตมากกว่า สงัด เช่นที่นี่สงัด ไม่มีเสียงคน เสียงนก  เสียงหมาเห่า   สงัดเงียบ สงบก็เข้าหานามธรรมมากกว่าภาษาไทย พยัญชนะน้อย สู้บาลีไม่ได้  เอาไทยมาแปลบาลีจึงไม่ได้มาก

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 16:36:57 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:13:30 )

สงบ

รายละเอียด

1. ไม่มีอาการของอกุศลเกิดขึ้นในจิต 

2. ความเป็นผู้หมดโลภะอย่างละเอียดยิ่งขึ้น

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 514 ทางเอก ภาค 2 หน้า 311


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:56:52 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:55:27 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:14:05 )

สงบ

รายละเอียด

สงบ คำนี้สูงสุดคือ สันตา มันหมายถึง กิเลสออกไปจากจิต กิเลสมันไม่มากวนจิตเลย จิตมันก็อิสรเสรี จิตมันก็มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ได้หมายความว่าสงบคือทำให้จิตมันนิ่ง ให้หยุดการเคลื่อนไหว จนมาบังคับให้กายไม่เคลื่อนไหวกลายเป็นคนเฉื่อย กลายเป็นคนช้าๆ มันไม่แคล่วคล่องว่องไว ไม่ปราดเปรียวว่องไว ซึ่งเป็นความเข้าใจของความสงบแบบเดียรถีย์ มันค้านแย้งกันในตัว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ในยุคนี้ต้องมาเรียนกับพ่อครูจึงจะบรรลุอรหันต์ได้ วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 ขึ้น 6 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:00:27 )

สงบ 3 อย่าง

รายละเอียด

เมื่อพูดแล้วก็อธิบายต่อในประเด็นที่ว่า ความสงบ ความสงบนี้ลึกซึ้ง ไม่ใช่ความสงบง่ายๆ ตื้นๆ แค่ไปนั่งหลับตาแล้วก็หยุด หยุดเฉยๆ อยู่นิ่งๆ ไม่ใช่ ความสงบอย่างนั้น มีความสงบซื่อบื้อ ความสงบพาซื่อ ความสงบของโลกียะธรรมดาๆ แต่ความสงบของพระพุทธเจ้านั้น มันมีปัญญา มันมีภูมิธรรม 

ความสงบมันมีอยู่ 3 อย่างง่ายๆ 

อย่างที่ 1 คือ สัทธานุสารี อีกอย่างหนึ่ง คือ ธัมมานุสารี อีกอย่างหนึ่ง คือ ปัญญาวิมุติ สงบสัทธานุสารีนั้น คือ อินเดีย สงบอย่างธัมมานุสารี คือ จีน สงบแบบปัญญาวิมุติคือประเทศไทย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  สบายสงบและมั่นคงที่ 1 ในโลกคือประเทศไทย วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 7 ค่ำเดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2565 ( 12:14:25 )

สงบ สันตา สันติภาพ

รายละเอียด

จุดหมายปลายทางที่เราใช้มาตั้งแต่เริ่มต้น…ตอนนี้ไม่ค่อยพูดกันเท่าไหร่ เบิกบานแจ่มใสเราก็มีกัน มัธยัสถ์เป็นผู้มักน้อยสันโดษ สุภาพเป็นภาวะเป็นพฤติกรรมต่างๆที่ดีที่สุภาพ สงบ คำว่าสงบคำนี้เป็นคำยิ่งใหญ่ เมื่อคืนนี้คุยกับเทวดาเหมือนกัน ว่า คำว่า สันดุสิตเทวราช สันดุสิต กับ สันตะ สันตะ สันตา สันติ สันตุ สันตู พวกนี้ ถ้าจะขยายความด้วยพยัญชนะต่างๆก็เยอะ สันตะ หรือ สันตุสิตะ  สิตะ แปลว่า เย็น สันตุ แปลว่าสงบ สงบเป็นภาษาไทยง่ายๆตื้นๆ ความยิ่งใหญ่ของศาสนาพุทธ  มีคำว่า สันตา ไม่ใช่สงบแค่สมถะแต่เป็นสงบที่มี สะ กับ อันตา ความสงบที่สุดยอดเลย เป็นเรื่องเล็กซึ้งพอๆกับอาสวะและอนุสัย เป็นความสงบอยู่เหนือความวุ่นวายได้เลยคือสันตะ ฉะนั้นเอาไปใช้คำว่า สันติภาพนี้หมายความว่ามีอำนาจสู่ความสงบ ฤทธิ์แรงเยอะ สามารถที่จะอยู่เหนือวุ่นวายของโลกสังคมที่กว้างมีสารพัดความยุ่ง แต่อยู่ได้ สันติ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 09:51:51 )

สงบ 

รายละเอียด

สงบ  คือ  สมถะ เนื้อแท้ของสมถะ คือ จิตแข็งทื่อ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก  วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 ตุลาคม 2562 ( 12:31:59 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:32:10 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:14:35 )

สงบกายแบบสัมมาทิฏฐิ

รายละเอียด

วันนี้เราได้ปัญญาข้อที่ 3 ขยายความต่างเล็กน้อยของกายว่า สงบกายแบบมิจฉาทิฏฐิ กับ สงบกายแบบสัมมาทิฏฐิ คืออย่างไร 

สงบกายของสัมมาทิฏฐิก็คือ จิตใจที่เป็นตัวปลอม มีกิเลส เป็นจิตเก๊ หมดไปหายไปมันหมดแรงหมดฤทธิ์ไปจากจิตของเรา มีแต่จิตที่สะอาด นี่คือความสงบ ที่พยายามอธิบาย ใช้พยัญชนะภาษาอธิบาย หมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 1 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 11:48:13 )

สงบของพระพุทธเจ้าคือ สันตา

รายละเอียด

ใช่มันไม่ผิดหรอกมันคือความสงบ แต่ความสงบอย่างนั้นมัน มะรื่อทื่อ สงบ สงบของพระพุทธเจ้านั้นคือ สันตา ยิ่งสงบจิตใจยิ่งคล่องแคล่ว ยิ่งสงบจิตยิ่งปราดเปรียว จิตยิ่งแหลมคมจิตยิ่งทำงานได้ปราดเปรื่องมาก ไม่ใช่จิตอยู่นิ่งนิ่งไม่รู้จักคิดอะไรเลย เวทนาก็หมด สัญญาก็ไม่ทำงาน เวทนาก็ไม่ทำงาน ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย แหม น่าสงสารศาสนาพุทธ พวกที่ท่านหลงใหลผิด เสียดายแรงงาน เงิน เรี่ยไรกันอยู่นั่นแหละ แล้วหยุดสอนเสียทีอย่างที่ผิดๆอย่างนั้นแหละ ขออภัยที่พูดเหมือนไปใช้อำนาจบาตรใหญ่หยุดเขา อาตมาก็ได้แต่สงสาร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยสัจ 4) ตอน ความเป็นกลางคือหมดสิ้นอันตา


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:17:33 )

สงบของพระพุทธเจ้าคืออะไร วิเวกคืออะไร 

รายละเอียด

สงบของพระพุทธเจ้าคืออะไร วิเวกคืออะไร 

วิเวกนี่คือความสงบไปตามลำดับ คนจะสงบ สงบของพระพุทธเจ้านั้นไม่ใช่หยุดนิ่ง สงบของพระพุทธเจ้านี้ยิ่งแคล่วคล่องว่องไว กายกรรมก็ว่องไว วจีกรรมก็ว่องไว เหมือนโพธิรักษ์ Active ปราดเปรียว ยิ่งนิ่งกิเลสยิ่งตาย คือความสงบ กิเลสคือตัวรวน ตัววุ่นวาย เลอะเทอะ จับกิเลสฆ่ากิเลสให้ตาย จิตยิ่งคล่องแคล่ว ก็จะควบคุมร่างกายได้คล่องแคล่วเรียกว่า กายปาคุญญตา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน โจรปล้นศาสนาที่ฆ่าด้วยหอกหลายร้อยเล่มก็ยังไม่ตาย


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 11:44:12 )

สงบของพระพุทธเจ้านั้นต้องรู้จักกิเลส

รายละเอียด

คุณพูดถูก และต้องพยายามทำให้ถูก ทำให้ถูกคืออะไร คุณต้องทำใจในใจของคุณนี้ต้องทำให้ถูก คุณพูดง่ายๆว่าเข้าใจ แต่คุณยังไม่ได้ทำให้เข้าถึงใจ หรือเข้าใจจิตใจไม่ได้ เข้าใจสภาวะยังสับสน ยังเป็นมิจฉาทิฐิอยู่ เช่นคนที่ทำใจในใจ การนั่งหลับตาก็เป็นการสะกดแล้วเขาเข้าใจว่านี่แหละคือความสงบด้วยสมถะ ไม่ใช่สมถะด้วย หลงว่าเป็นสมาธิแบบพุทธด้วย แต่ไม่ใช่ สงบของพระพุทธเจ้านั้นต้องรู้จักกิเลส ต้องรู้จัก อุปธิ อุปธิ ง่ายๆ

1. รู้กิเลส

2. รู้ขันธ์ 5 และ

3. รู้จักอภิสังขาร 

คนที่เข้าใจกิเลสไม่ได้ไม่รู้จักกิเลสก็โมเมก็เดาไปเรื่อย กิเลสจะต้องเป็นสภาวะของจิตที่มันเกิด แล้วถ้าปฏิบัติกับกิเลสตัวจริงได้จริงจะเป็นผลจริงก็คือตัวที่เป็นปัจจุบันสัมผัสอยู่เดี๋ยวนี้เป็นปัจจุบันมีตาหูจมูกลิ้นกายภายนอก มีองค์ประกอบ ปัญญา ญาณ วิชชา อาโลก แสงสว่าง เปิดรับทวารทั้ง 5 ตาหูจมูกลิ้น กายและโผฏฐัพพะ ตัวจริงที่จะไปก่อกิเลสหลักคือตาหูจมูกลิ้น ใจร่วมกับ โผฏฐัพพะเป็น 1 เรียกว่ากาย รูปนามรวมเป็น 1 ในภาวะ 2 ภาวะของรูปที่จะต้องเป็นสิ่งที่ถูกรู้ชัดเจนด้วยนาม แยกนามไว้เป็นตัวรู้จึงมีแค่ 9 รวมแล้วเป็นอุปาทายรูป 9 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2562 ( 19:59:00 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:34:26 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:15:47 )

สงบจากกิเลสคือสงบที่ไม่ต้องหยุด

รายละเอียด

อาตมาเป็นพระอาริยะเป็นโพธิสัตว์ ตามแบบของพระพุทธเจ้าทฤษฎีพระพุทธเจ้าถูกต้องสัมมาทิฏฐิ ไม่ใช่พวกฤาษีเดียรถีย์ที่ไปนั่งสงบ หยุดอะไรๆไปหมด ธรรมะที่สงบนั้นเกิดจากจิตของอาตมาสงบจากกิเลส คือสงบที่ไม่ต้องหยุด สงบของพระพุทธเจ้านั้น เวทนา สัญญา สังขารยิ่งจะคล่องแคล่ว ปาคุญญตา จิตยิ่งมีกายกัมมัญญตา เวทนา สัญญา สังขารยิ่งจะคล่องแคล่ว ไม่ใช่หนืดเฉื่อยเนือย ไม่ใช่ ยิ่งจะปราดเปรียวคล่องแคล่ว เพราะไม่มีตัว loss ด้วยกิเลสที่เป็น resistance จะมาขัดสีเสียดสีไม่มี ไม่มีการเสียดสีมีแต่ความแคล่วคล่อง เหมือนกับลูกข่างกินน้ำจั้น เหมือนรถโฟล์คที่เครื่องอยู่ท้าย ยิ่งวิ่ง คาร์บูเรเตอร์ของมันจะยิ่งเย็น ยิ่งวิ่งไปไกลยิ่งเย็น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ GDP แบบโลกียะกับแบบโลกุตระ วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 06:10:34 )

สงบทั้งจิตทั้งกาย

รายละเอียด

ภายนอกกายก็ กายปาคุญญตา จิตก็ จิตปาคุญญตา สอดคล้องกันจึงไม่ขัดแย้งกัน อย่างอาตมาเป็นผู้สงบทั้งจิตทั้งกาย สงบจากกิเลส ไม่ใช่สงบคือการไม่เคลื่อนไหว ไปนั่งทำจิตให้หยุดๆๆ เคลื่อนไหว กายก็หยุดเคลื่อนไหวปากไม่พูด หายใจให้เบาลง หรือเวลาจะเคลื่อนไหวก็ย่างหนอ ก้าวหนอ ซึ่งมันผิดเพี้ยนไปหมดเลย ศาสนา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มาฝังชิปโลกุตระใส่จิตวิญญาณตนจนเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 วันขึ้น 14 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 ธันวาคม 2565 ( 11:46:54 )

สงบสุข เรียบร้อย ราบรื่น ง่ายงาม

รายละเอียด

อาตมาพาทำให้ชาวอโศกสงบสุขเรียบร้อยราบรื่นง่ายงาม พวกเราเอาชีวิตเข้ามา วางปล่อยโลกีย์ แต่ก่อนก็แย่งชิงกับเขา สุขอันเผาไหม้ดิ้นรน นึกว่ามันอร่อยนักหนา คุณก็วางเลิกโลกียนั้นมา จนหลายคนมา แล้วจะไปจากอันนี้ไหม …ไม่ไป

อยู่อย่างจนนะ แล้วยากนะ เพราะว่าเราเองต้องทำงานสร้างสรรช่วยคนอื่นเขา ไม่ไปแย่งชิงมา แต่จะเสียเปรียบ แต่จะให้เขา อย่างที่ในหลวงตรัสว่า เราเสียนั่นแหละคือเราได้ เราก็มาตั้งหน้าตั้งตาสร้างสรรเพื่อเสีย พูดให้เต็มก็คือ เสียสละให้แก่โลก

ที่มา ที่ไป

วิธีอาริยธรรม  บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 10:38:20 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:37:04 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:16:32 )

สงบอย่างไทย

รายละเอียด

มันจะยุ่งยาก คนจะทำร้ายทำแรงอะไรก็ตาม อย่านึกว่าในยุคนี้คนทำร้ายทำแรงเบานะ ทำหนักทำสาหัสนะ ทำร้ายทำแรงทุกวันนี้ ร้ายแรงสาหัส ยกตัวอย่างตั้งแต่เป็นรูปธรรม เกาหลีเหนือเขาก็ประกาศว่าของเขานี้ประสิทธิภาพ ยิงถึงเลย เพราะฉะนั้นเขาจะรู้เลยว่าเขาจะหันทิศทางไปไหนไว้เตรียม ประเทศไหนประเทศไหน นี่แหละคือคู่ต่อสู้ตัวสำคัญของข้า เขารู้หมดแล้ว เขารู้แล้วทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นเหมือนที่อาตมาว่า นักแม่นปืน 2 คน มันก็ตายกันหมดนั่นแหละ มันไม่รู้ตัวหรอก แล้วตายไม่จบด้วยนะ เพราะว่ากรรมวิบากเขามี มันจะเกิดมาจองเวรจองกรรมต่อกันหนักกว่าเก่า นี่คือความไม่จบของจิตวิญญาณของความรู้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้อันนี้แล้ว ไม่เป็น 

เพราะฉะนั้นคนที่เข้าใจโลกุตระ หรือตอนนี้ยกตัวอย่างเช่น ประเทศจีน เริ่มมีอันนี้เป็นรอยไรๆ และมีพลเมืองที่มากที่สุดในโลกจำนวนหนึ่ง ฟากหนึ่งที่มันมีของจริงอยู่ ในโลกขณะนี้ก็มีประเทศอินเดียกับประเทศจีนที่มีมวลประชาชนมากที่สุด แล้วเขาก็มีความเข้าใจความรู้กันในสังคมแบบของเขา อินเดียก็เข้าใจแบบอินเดีย จีนก็เข้าใจแบบจีน เขาก็เป็นอยู่สงบ อินเดียก็สงบอย่างอินเดีย จีนก็สงบอย่างจีน เทียบกับไทยก็สงบอย่างไทย ซึ่งไทยเข้าใจอินเดีย ไทยเข้าใจจีน เป็นกลาง อย่างโต่งไปทางอินเดียก็ไม่โต่ง โต่งทางจีนเราก็ไม่โต่ง แต่เราสายปัญญา แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มี เจโต พวกเรา อุภโตภาควิมุติ มีวิมุติทั้งเจโตปัญญาช่วยกัน แต่ปัญญานำเจโต ยิ่ง ยุคนี้เป็นยุคปัญญา ไม่ใช่ยุคเจโต ยุคนี้เป็นยุคปัญญา ความซับซ้อนของสิริมหามายา คือ ปัญญากับ เจโต เจโตมีมากกว่าปัญญาในปริมาณ มวล ไม่ว่าในยุคไหน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ลักษณะอันสูงสุดของมนุษยชาติ 7 ประการ วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 แรม 13 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 มกราคม 2566 ( 11:20:44 )

สงบเสมือนลูกข่าง

รายละเอียด

ยิ่งนิ่งยิ่งหมุนเร็วยิ่งนิ่ง นึกออกไหมลูกข่าง ยิ่งหมุนเร็วเท่าไหร่ยิ่งนิ่งเท่านั้น นี่คือสภาพ 2ใน1 สงบ แต่เร็วไวมากเลย  ใช่ ความเร็วที่เร็วมากเหมือนลูกข่างที่ว่านี่ เร็วมากจนกระทั่งมันไม่กระดิกเลย มันนิ่ง นี่แหละเป็นความซ้อน 2 สภาพอยู่ใน 1 

มีทั้งความเคลื่อนและความนิ่ง มีทั้ง Static และ Dynamic รวมกันแล้ว มุทุภูตธาตุ อันนี้ มีทั้งพลังงานสูงเร็วแรงมากมาย มีทั้งความนิ่งๆๆ ใครทำอะไรไม่ได้เลย  นั่นแหละคือเอาพลังงานเท่านั้นมาทำทางวัตถุแยกกันอย่างได้ที่จัดสรรเหตุปัจจัยต่างๆออกมา ก็เหมือนกันกับที่เขาสร้างเทคโนโลยีทุกวันนี้ต่างๆนานาขึ้นมา ก็ใช้พลังงานใช้ความรู้อันนี้ เป็นความรู้ทางอุตุธาตุ อุตุนิยาม เป็นพลังงานของวัตถุ ดินน้ำไฟลม มันก็ทำได้ง่ายกว่าที่จิต

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สบายสงบและมั่นคงที่ 1 ในโลกคือประเทศไทย วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 7 ค่ำเดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2565 ( 12:30:13 )

สงบแบบพระพุทธเจ้าเรียกว่า

รายละเอียด

แต่ถ้าเป็นความสงบแบบพระพุทธเจ้าแล้วจะเรียกว่า ปัสสัทธิ ไม่ใช่สมถะ ปัสสัทธิเป็นความสงบ วิปัสสนาเป็นความมีปัญญา ปัสสัทธิคือความสงบ วิปัสสนาคือมีปัญญา เพราะฉะนั้นมาปฏิบัติธรรมของพุทธแล้วก็จะมีปัญญา มาปฏิบัติเรียกว่าวิปัสสนากรรมฐาน เขาเรียกกันเผินๆว่าคือการใช้การพินิจพิจารณาต่างๆแล้วคุณก็จะทำให้กิเลสลดได้ คุณก็จะเกิดปัสสัทธิ เกิดจิตที่มันสงบ ส่วนวิปัสสนานั้นคือจิตที่มีปัญญา 

เพราะฉะนั้นความเข้าใจทุกวันนี้ยังไม่ละเอียด รอปฏิบัติสมถะวิปัสสนา พูดอย่างนี้ก็แสดงว่า คนนี้ไม่เข้าใจศาสนาพุทธ ยังปนๆกันอยู่ ปฏิบัติก็จะไม่ถูกไม่สัมมาทิฏฐิ เพราะแม้แต่ใช้ภาษาความหมายของสภาวธรรม ซึ่งภาษามันก็สื่อสภาวธรรม ผู้ปฏิบัติแล้วไม่เข้าถึงสภาวธรรม มันก็ไม่มี พูดก็พูดยังไม่ถูกเราก็รู้แล้ว มันยังไม่ได้ เมื่อพูดไม่ถูกเข้าใจไม่ถูกก็ปฏิบัติไม่ถูก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิโดยพ่อครู GDPแบบพุทธที่ต่างจากนักเศรษฐศาสตร์เทฺวนิยม วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 แรม 14 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 14:55:34 )

สงบแบบโลกุตระจะหมดเห็นแก่ตัวเห็นแก่หมู่ ชาวตะวันตกไม่รู้เรื่อง

รายละเอียด

แม้แต่นักรัฐศาสตร์ที่จบ ดร.ทางเทวนิยมทั้งหลายยังไม่เข้าใจโลกุตระ ทางตะวันตกเขาไม่มีโลกุตระ เขาไม่รู้เรื่องหรอก ต่อให้สถาบันที่ใหญ่ขนาดไหน สหประชาชาติก็ตาม กรรมการ Nobel prize ก็ตาม เขาไม่รู้จักโลกุตระ เขาจะมายกย่องเชิดชูไม่ได้หรอก ก็เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้ดีสิ่งนี้ถูกต้องกว่า เขาก็มีกรอบความรู้บริบทที่เขาเข้าใจความดีความถูกต้องตามแบบเขา เขาไม่ได้เข้าใจมากกว่านั้นหรอก อยู่ในวงกะลาครอบของเขาเท่านั้น 

อันนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันไปอีกนาน กว่าจะพอมีคนรู้และเป็นผู้รู้ที่มีอิทธิพล ที่เป็นเทวนิยม ที่พอรู้ได้ว่าอันนี้มันเลิศเลอกว่า ที่เขาว่าเขายิ่งใหญ่ เขาก็ยอมว่าโลกุตระนั้นสูงกว่าโลกียะ มันหมดตัวตนไม่เห็นแก่ตัว เห็นแก่หมู่ ซึ่งเขาก็พอจะรู้บัญญัติ รู้ว่าความไม่เห็นแก่ตัวมันดี เห็นแก่คนอื่นดี ประชาธิปไตยคือเห็นแก่คนอื่นทั้งหมด ตัวเราไม่มี เขาพอเข้าใจ แต่ยังไม่ถึงขั้นกับจิตมันเป็น จิตมันยังไม่เข้าถึง 

แม้แต่ในคนไทยนี้เข้าถึงกันบ้างแล้ว ยังมีรูปธรรมที่ยังไม่ชัดเท่าไหร่ คนอื่นเขายังดูไม่เห็นได้ เพราะมวลน้อย และแม้แต่ความหมายก็ยังไม่เข้าใจว่า อย่างนี้เหรอเหนือกว่า ไม่มีตัวตนนี้เหนือกว่า ความสงบมีฤทธิ์อย่างนี้หรือ ชนะความรุนแรง ทั้งๆที่เราแสดงออกไปตั้ง 4-5 รัฐบาล เขาก็ดูไม่ออก แม้แต่คนไทยเองก็ไม่มีใครเข้าใจว่า ประชาชนปฏิวัติไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ปฏิวัติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังวรศีล สำรวมอินทรีย์ สติ สันโดษอันเป็นอาริยะ วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2565 ( 14:56:27 )

สงบแล้วสยบผู้อื่นได้

รายละเอียด

สงบที่มีอิทธิฤทธิ์มากแต่ไม่ทำร้ายใคร ไม่รุนแรง สงบแล้วสยบผู้อื่นได้ โดยไม่มีความรุนแรงเลย เป็นความสงบที่สยบความรุนแรงได้ โดยที่ความรุนแรงยอมให้ความสงบสยบเอา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 16:03:59 )

สงสัยว่าทำไมพ่อครูไม่เอาเวลาไปหลับตาภาวนาเพื่อให้จิตมันหยุด 

รายละเอียด

ก็ภาวนามันมิจฉาทิฏฐิ อาตมาจะไปทำทำไม อาตมาเคยผ่านมาแล้วทำได้อย่างที่พวกคุณทำ ไม่ได้อวดอุตริมนุสธรรมแต่เป็นของจริง อย่างนั้นอาตมาก็เคยหลงผิดไปทำมาแล้ว ทำได้แต่มันผิดแล้วอาตมาจะต้องมาบอกพวกคุณว่า มันผิด เลิกเสีย มาทำอย่างนี้ มันถึงจะบรรลุอรหันต์ อย่างโน้นไม่มีทางบรรลุอรหันต์ก็จะเป็นอย่าง อาฬารดาบส อุทกดาบส อ้าว…บอกอีก คุณอยากเป็น อาฬารดาบส อุทกดาบส จะเป็นดาบสอยู่อย่างนั้นนิรันดร์กาล จนกระทั่งพระพุทธเจ้าบอกว่า ฉิบหายแล้วหนอ ช่วยไม่ไหวแล้ว ก็เอาสิ คุณจะเป็นคนอย่างนั้น ตัวอย่างก็มี มีหลักฐานยืนยันคุณจะเอา อาฬารดาบส ไปนั่งหลับตายังงั้น ก็เอา คุณเลือกแล้วคุณก็ได้ แต่ของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนี้ คุณจะเอาอย่างนี้ไหมล่ะ ไม่เอาอย่างนี้ คุณจะไปเอาอย่างโน้น จะไปบังคับได้อย่างไร นานาสังวาส สุดท้ายแล้ว นานาสังวาส

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 10 ออกจากกาละได้โดยใช้ มูลสูตร10 และวิญญาณฐิติ 7 วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566 ขึ้น 2 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:07:50 )

สงสาร

รายละเอียด

1. วนทุกข์วนสุข , วนเวียนอยู่ในทุกข์ – สุขเก๊

2. หลงวนอยู่กับการติดอยู่กับการเสพ 

3. วนเวียนอยู่กับนรก – สวรรค์โลกีย์ , เวียนวนตกนรก – ขึ้นสวรรค์เก๊อยู่ในวัฏฏะ 

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 371, หน้า 388, หน้า 390


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 08:58:13 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:56:37 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:17:02 )

สงสาร เข้าใจ เห็นใจ ต้องช่วยกัน

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้เกลียดชังคนที่ยกตัวอย่างมาที่เขาทำผิดๆนะ ไม่ว่าจะเป็นทักษิณหรือธัมมชโยหรือหลวงตาบัว หรือพูดถึงหลวงพ่อเกษมอย่างนี้เป็นต้น ไม่ได้ไปชิงชัง แต่สงสาร เข้าใจ เห็นใจ ก็ต้องช่วยกัน จะตำหนิก็ต้องตำหนิสิ่งที่ผิด 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 18:29:50 )

สงสารกลุ่มนั่งหลับตาสะกดจิตที่ยึดติดหลงโง่จม

รายละเอียด

คนเรายึดติดหลงโง่จม กว่าจะฟื้นมาเป็นได้อย่างพวกเรา ไม่ได้มาแกล้งชมนะ กว่าจะได้มามีมรรคผลอย่างนี้ยาก ก็สงสารกลุ่มนั่งหลับตาสะกดจิต อย่างมหาบัว เห็นว่าศาสนาพุทธก็ยังอยู่ แต่คนของศาสนาพุทธเสื่อมไปจากศาสนาพุทธ จนไปเข้าใจสิ่งที่ผิดว่าถูก ของเดียรถีย์พระพุทธเจ้าท่านตีทิ้งแต่ไปยึดว่าเป็นของยอด ทำความเข้าใจให้ดีๆ เลิกเสีย ปล่อยวาง อย่าไปยึด อย่างนั้นมันยึดอย่างโง่เง่า มันมืดบอด มันหลง จมในที่หลง ติดอยู่ในถ้ำแล้วมีกิเลสอันมากปิดบังไว้แล้ว มันตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้จริงๆให้เห็น เราจะสามารถพูดว่าเราเป็นอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสได้ไหม? เขาว่าไม่ได้ เขาว่าพวกเราหลง แต่ที่จริงเราเอาออก ใช่ไหม วัตถุสมบัติตั้งแต่ ลาภ ยศ สรรเสริญ จนกระทั่งถึง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส วัตถุต่างๆ แม้แต่ที่สุด สภาพ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส กามคุณ 5 เราก็สังวรระวัง ลดละจนกระทั่งมาเป็นอนาคามีขึ้นไป หาอรหันต์กันเยอะแล้ว เป็นเรื่องยืนยันกันได้จริงๆเลย พวกเรา เหลือรูปราคะ อรูปราคะก็อ่อน บางคนก็เป็นอรหันต์ไปแล้ว อรหันต์ในรูปราคะ อรูปราคะ หมด ก็ไปซัดกันตาม มานะ อุทธัจจะ อวิชชากันเข้าไปไม่เมื่อยก็ซัดกันต่อไป เรารู้ตัวเองว่าเราอะไรแค่ไหน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 2 วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 กรกฎาคม 2564 ( 19:21:06 )

สงสารที่ไม่รู้แล้วไปหลงกามคุณ 5

รายละเอียด

เรื่องอาหารถึงบอกว่าเป็นสิ่งที่กิน เมื่อคุณไม่ติดไม่ยึด ไม่ได้หลงรสหลงชาติหลงกลิ่น หลงกามคุณ 5 ในอาหารแล้ว โอ้โห อย่างมหาบัวนี่ อย่าพูดถึงอาหารเลยแค่เป็นสิ่งเสพติดมหาบัวยังไม่รู้รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสเลย ติดอยู่นั่นแหละทั้งวัน แล้ว บอกว่าเป็นอรหันต์ นี่พูดให้ฟังท่านทั้งหลายที่เป็นลูกศิษย์ลูกหามหาบัวฟังให้ดีๆ อาตมาไม่ได้ไปรังเกียจรังงอน อาตมาไม่ได้ไปข่มอะไรหรอก สงสารที่ไม่รู้แล้วไปหลง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของศีลที่พ่อครูเอามาสถาปนา วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 7 ค่ำเดือน 3 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:41:57 )

สงสารผู้ที่ด่าพ่อครู

รายละเอียด

ได้รับคำชม ระวังนะคำชมนี้เป็นคำเสื่อม คำต่ำทรามนะ ตั้งหลักดีๆกับคำชมเชยเพราะมันเป็นคำต่ำทราม รู้จริงตามความเป็นจริง อย่าไปเที่ยวได้หลงเป็นอันขาด มันเป็นความลำบากเลยนะ ถ้าถูกชมเยอะๆ ระวังยาก ถ้าถูกติเยอะๆ โอ้โห! ตั้งรับดีๆจะได้กำไร อาตมานี่ โอ้โห! ชาตินี้เกิดมาดีจังเลย มีแต่คนด่ามีแต่คนตำหนิตั้งรับดีจังเลย ได้ประโยชน์เยอะเลย ที่เคยพูดถึงว่าได้อ่านคอมเม้นท์ เขาด่าทั้งนั้นเลย อ่านจนเมื่อยเป็นชั่วโมง ทำไมมันเยอะมันเเยะ แสดงให้เห็นว่า สังคมมนุษย์ทุกวันนี้ เป็นชาวพุทธหรือชาวอะไรก็ตาม เขาไม่รู้โลกุตรธรรม 

อาตมาพูดโลกุตรธรรมเขาไม่รู้เขาก็ด่าเอาด่าเอา ก็มีคนที่มีความรู้อย่างเช่น ชาวอโศกหรือไม่ใช่ชาวอโศกที่เขามีความรู้ ก็มีบ้าง แต่คนไม่รู้มีเยอะมากกว่า แสดงให้เห็นว่าในยุคนี้มันเสื่อมโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้า ตามอาณีสูตร  ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้จริงมาก ไม่มีจิตต่อต้าน จิตไม่ชอบใจ ไม่มี  ก็เป็นจิตที่เข้าใจตามความเป็นจริง เห็นใจเขาด้วย สงสารเขาด้วย  เขายิ่งด่าเท่าใดยิ่งสงสารผู้ที่ด่า นี่เป็นสัจจะ อาตมาไม่ได้พูดความเท็จ  อาตมาพูดความไม่จริงไม่เป็น 

ขอบคุณ สาธุ ก็จนกว่าน้ำท่านจะลดไปให้ ถ้าน้ำท่านไม่ลดไปให้เราก็แช่น้ำอย่างนี้แหละ ลดลง พูดแล้ว อีกไม่นานก็คงจะลดหมด เป็นอย่างนี้แหละก็ขึ้นๆลงๆเป็นธรรมดาธรรมชาติ แต่ปีนี้มันเยอะกว่าปี 62 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมให้เกิดปัญญาเพื่อสละตัวตน วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 ธันวาคม 2565 ( 12:26:55 )

สงสารผู้ที่แสวงหาแก่นของพุทธ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นผู้ที่แสวงหาแก่นของศาสนาพุทธจริงๆ โดยไม่มีอคติว่า ใครจะพูด ไม่อคติกับอาตมา จะเข้าใจ จะรู้ได้ว่า ศาสนาพุทธทุกวันนี้ มันไม่เหลือแล้วในประเทศไทย เพราะเขาไปหลงอยู่ที่ กิ่งใบดอกผล อร่ามงาม อยู่บนต้น ไม่ได้ลงมาหาต้นเลย ลอยลมเฟ้อฟ่องอยู่บนต้นยอด เอาดอกใบกิ่งผล ซึ่งมันยั่วใจ จะมาถึงต้นที่ดูเหมือนมีแต่สะเก็ด เปลือกกระพี้ไม่เอา แต่ไปหลงพริ้งเพราแต่ใบดอกผล น่าสงสาร

อาตมาพูดเหมือนกับผู้ใหญ่ที่สงสารเด็ก อย่างนั้นจริงๆ น่าสงสาร ไม่รู้ทำยังไง ไม่รู้เมื่อไหร่จะเดียงสา เมื่อไหร่จะฟังอาตมารู้เรื่อง เมื่อไหร่จะพอมีปฏิภาณปัญญา มีวัยวุฒิ วุฒิอะไรที่จะพอรู้เรื่องที่อาตมาพูดนี้บ้าง น่าสงสารจริงๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 2 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันอังคารที่ 6 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 13:41:08 )

สงสารพวกที่เป็นพลังงานของศาสนามีมากในเมืองไทย

รายละเอียด

เป็นวิบากเหมือนกัน เขาไม่เข้าใจเขาก็บอกว่า ไปว่าเขาทำไม เขาก็ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเหมือนกัน แต่อาตมาก็สงสาร เพราะเป็นพลังงานของศาสนา มีมากในเมืองไทย ขณะนี้ก็ยังมาก ไปนั่งหลับหูหลับตา เถรสมาคมตาบอดตาใสนะ เรียนพุทธศาสนาบัณฑิตเป็นด็อกเตอร์เปรียญ 9 ทางศาสนากันเต็มเยอะแยะ แต่ไม่เข้าถึงจิต ก็ยังยึดว่า จิตต้องสัมผัสหลับตา ซึ่งพระพุทธเจ้าบอกว่า ไม่มีอปันกปฏิปทา 3 อาตมาจะต้องพูดซ้ำซากเรื่องอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่หนอ เอ้า ทนๆๆ โพธิรักษ์ทนเอา อย่าเบื่อๆ ช่วยเขาหน่อย มันทำไงได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูปฐมนิเทศ พาปฏิญาณศีล 8 งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ปี 2564 ครั้งที่ 45 ออนไลน์วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน วิบากของอรหันต์ที่อภิญญาน้อย


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 17:31:08 )

สงสารศาสนาพุทธที่ทำทานกันก็มีแต่กิเลส

รายละเอียด

ก็ขอสรุปลงไปอีกนิดหนึ่งว่าอาตมาจะยังทำงานอยู่อีก ยังไม่ยอมตาย มีคนอนุโมทนาสาธุ แต่อย่านึกว่าอาตมาสามารถที่จะลากขันธ์ไปได้เองง่ายๆ ที่จะต้องเป็นไปตามวาจาสัตย์ที่จะไม่ตายนะอาตมาไม่ได้เป็นคนเก่งกาจถึงขนาดนั้น อาตมาตายไปจะไม่รู้ตัวต้องระวัง ต้องฟังเพลงของนายโอ๋ ที่เขาร้องว่า จะรอให้พ่อตายไปแล้วหรือ เพลงหรือจะรอให้พ่อสิ้น คำร้องเป็นของท่านเด่นตะวัน จะรอให้พ่อท่านตายก่อนหรือ อันนี้จริงนะ อาตมาก็ว่า อย่าทำเป็นเล่นไป อย่างน้อยไม่เข้ามาก็ใส่ใจฟังธรรม พยายามบ้าง แม้อาตมาเองจะอธิบายธรรมะ ที่มันสูง มันละเอียด มันลึกซึ้งขึ้นฟังยากก็ตาม แต่อาตมาจำเป็นที่จะต้องทำ ก็มีพวกเราที่ย่อยที่ทำให้เป็นระดับต้นระดับกลางเชื่อมโยงกันอยู่มี แม้แต่ฆราวาสด้วยกัน ก็พูดตามประสาฆราวาสด้วยกันก็มี 

แต่แน่นอนมันเป็นโลกุตรธรรมทั้งนั้นในพวกเราที่พูดกัน มันจึงยากที่จะเข้าใจ มันไม่ใช่เป็นโลกียะที่เป็นการปะเหลาะเอาลาภยศ ทุกวันนี้อาตมาสงสารศาสนาพุทธที่ทำทานกันก็มีแต่กิเลส ไปปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรมก็มีแต่กิเลส ไม่ใช่ใส่ความนะ มีแต่กิเลสมีแต่เสริมกิเลส ยกตัวอย่างง่ายๆการทำทาน ทำทาน ก็จะต้องไม่ทำใจของเราเองให้อยากได้ ทานแปลว่าให้ แต่กลับไปเอา เขาใช้ภาษาคำว่าบุญไปเอาบุญ ซึ่งมันก็ผิดไปไกลเลยที่จริงแล้วบุญไม่ใช่ของเอา บุญนี้ต้องเอาออกจากตัว เราไม่ต้องใช้บุญ บุญนี้มันไม่มีหรอกที่จริงมันจะต้องพัฒนาขึ้นมาให้อภิสังขารขึ้นมาให้เป็น ปุญญาภิ
สังขาร ต้องทำใจในใจให้เป็นอาวุธที่ฆ่ากิเลสเป็นพลังงานฌาน เป็นพลังงานบุญ 

ซึ่งเดี๋ยวนี้มันไม่เป็นกันแล้ว ผู้รู้ไม่มีกันแล้ว ฌานก็ไม่ได้เป็นพลังงานไฟที่จะไปเผากิเลส บุญก็ไม่ใช่พลังงานไฟที่จะไปเผากิเลส ไม่ได้เป็นเลย หรือจะเป็นอาวุธตัดคอกิเลสก็ไม่ได้เป็นเลย บุญเขาแปลแต่ว่าอยากได้อยากได้อยากได้ เห็นไหมว่า คุณศึกษาธรรมะคุณหอบเอาแต่กิเลสมาให้แก่ตัว ทั้งๆที่พยัญชนะบอกให้คุณปฏิบัติอย่างหนึ่ง คุณก็ไปเอาพยัญชนะนั้นที่ให้ปฏิบัติอย่างหนึ่งเอามาเป็นของตัวอีก ทานต้องให้ไม่ใช่เอา บุญให้ละกิเลส เอากิเลสมา อาตมาสุดสงสาร แต่อาตมามีหน้าที่เป็นโพธิสัตว์ถึงขั้นนี้แล้วอาตมาจึงจำเป็นต้องทำ มันต้องทำเพราะอาตมาไม่มีอะไรอื่น อาตมายืนยันตั้งแต่มีชีวิตเป็นอย่างนี้ตลอดกาลมาแล้ว เพราะฉะนั้นอาตมาจึงหนักหนาสาหัสอย่างไรก็สู้ ๆๆ เอา ไม่ต้องถึง 20:00 น ก็ได้ ฝนก็ตกไป อาตมาก็พยายามจะว่าไป อาตมาพยายามตั้งใจจริงๆ จะพยายามลากขันธ์ไปให้อายุ 100 ปีอย่างน้อย มันจะสมใจ มันจะเป็นอย่างไร อาตมาก็บอกแล้วว่าอาตมาขันธ์ของอาตมาถึง 72 ปีอาตมาลากไปถึง 90 ปีนี้ก็ จริงๆนะ มันมากแล้ว เอาละพอทีสำหรับวันนี้ ขอจบเพียงเท่านี้ก็แล้วกันเจริญธรรมทุกคน

 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 34 ปฏิบัติธรรมไม่เริ่มต้นที่ศีลก็เหมือนผีหัวขาด วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 8 หนที่ 2 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2566 ( 12:07:09 )

สงสารหมายถึงอะไร

รายละเอียด

อาตมาอธิบายให้คุณฟังคงจะเข้าใจยากว่าสงสารหมายถึง สงสารคือ คุณยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารหมุนอยู่ในวัฏสงสารก็เห็นจมอยู่อย่างนั้น ไม่งอกเงยไม่ออกมาไม่หลุดพ้นออกมา นี่คือความหมายง่ายๆ ของสงสาร มองเห็นสงสารที่คุณยังวนเวียนอยู่ในนั้น 

อาตมานึกดีตรงที่ว่า คุณมาอยู่ในกะลาครอบไม่เห็นผลอะไรกับเขาเลย เห็นคุณว่ายอยู่ในกะลาที่มีน้ำ วนอยู่ในนั้น เห็นอย่างนั้นจริงๆ ก็น่าสงสารเมื่อไหร่จะออกจากกะลานี้ได้ คุณเปิดใจฟังอาตมานี้ดี ตรงที่คุณยังไม่อยู่แต่ในกะลาครอบไม่เห็นฟ้าเห็นฝนเลย หงายกะลาออกมา คุณก็ว่ายวนในกะลา อาตมาเห็นแล้วก็สงสารคุณวนอยู่ตรงนั้นออกไม่ได้ คุณออกไม่ได้นี่แหละน่าสงสาร ออกไม่ได้จากที่เก่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  เจโตปริยญาณ 16 มาตรวัดจิตสมาธินิมิต วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:47:17 )

สงสารอเมริกากับอินเดียเป็นความสุดโต่งในยุคนี้

รายละเอียด

มันก็น่าสงสารจริงๆเนาะ น่าสงสารคนที่เขาอวิชชาคนที่เขาไม่รู้ อาตมาก็ไม่ได้พูดอย่างเล่นๆคารม พูดอย่างเป็นความเข้าใจ เป็นความรู้สึกจริงในจิต สงสาร น่าสงสาร ใช้ความหมายภาษาไทยน่าสงสาร ลึกๆในภาษาปรมัตถ์คือเห็นเขาจมอยู่ในวงวนที่เขาดิ้นไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นแบบอเมริกาหรือแบบอินเดีย ที่มีพฤติกรรมให้เราเห็นอยู่เป็นปรากฏการณ์จริงแท้ๆเป็นปัจจุบันธรรม ศึกษาจากความจริงจากความรู้ความหมายที่เราอธิบาย เอาคำอ้างอิงจากผู้รู้ผู้ที่เป็นปราชญ์เอกของโลกเป็นศาสดาเอกของโลก ศาสดาเอกของโลกคือพระพุทธเจ้าเอามาอ้างอิงยืนยันประกอบไปตลอดเวลา เพื่อที่จะได้เห็นความจริงตามความเป็นจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทเริ่มอธิบายที่ชาติ 5 วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 13:15:24 )

สงสารเพราะเป็นชาวพุทธด้วยกัน

รายละเอียด

เป็นสังวาสเดียวกันเป็นชาวพุทธด้วยกัน อาตมาสงสารนะที่พูดนี่คือความจริง อาตมาไม่ได้พูดเล่นประจบประแจงไม่ใช่ แต่พูดด้วยใจจริง เมื่อไหร่ท่านจะรู้สึกกันสักที ลืมตาขึ้นมาสักที ชาคริยา ซึ่งชาคริยาแปลว่าตื่นๆๆ แต่หลับไม่รู้คู้ไม่เห็น จมลงในความหลงอยู่ในถ้ำมืด เอามาขยายความ แต่ท่านเข้าใจไม่ได้หรอก มันหลายซ้ำซ้อน มันเข้าใจไม่ได้ก็ไปจมอยู่อย่างที่ท่านว่านี้คุหัฏฐกสูตรบอกว่าจมอยู่ในความหลง เขาไม่สะดุ้งไม่สะดุดไม่สัมผัสไม่รู้สึกรู้สา กระแทกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ทั้งทุบถองเตะถีบ ก็ไม่รู้สึกรู้สา แล้วท่านก็ไม่มี ปรโตโฆษะ เอาล่ะ ที่พูดนี้ก็สงสารท่านก็ต้องขออภัย แต่เขาก็ว่าเราเจตนาอยากว่าอยากข่ม ไม่ใช่ พวกเราสำหรับพวกเราอาตมาพูดไปก็ซ้ำซากมีแต่จะขยายละเอียดกันไปอีก 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 11:10:44 )

สงัด

รายละเอียด

 สงัด  คือ เงียบ สงัด หมายถึง สภาวะภายนอกวัตถุมากกว่าสงบ

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 16:36:14 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:38:25 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:17:25 )

สงัด

รายละเอียด

สงัด คือ เงียบจากสิ่งรบกวนภายนอก เรียกว่า กายวิเวก เน้นภายนอก

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2562 ( 08:24:05 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:39:16 )

สงัด กับ ปัสสัทธิ

รายละเอียด

 สงัด คือ ห่างพราก จากสิ่งที่มันวุ่นวาย มันกวน กายวิเวกเขาเลยเอากายออกไป จิตวิเวกเขาก็ไปนั่งหลับตาสะกดจิตไม่มีภายนอก ก็เลยไม่มีทางรู้กิเลสไม่รู้ขันธ์ 5 ทำอภิสังขารปุญญาภิสังขาร รู้กิเลสกำจัดกิเลสก็ไม่ได้ อุปธิวิเวกไม่มีเลย นิพพานไม่มี เพราะงั้นพวกนี้จึงไกลจากวิเวก แม้ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ไกลจากวิเวก เพราะเอากาย ร่างทั้งร่างออกไปป่า ก็เป็นความหลงผิดเหมือนกับพวก เดียรถีย์สมัยก่อน ศาสนาพุทธไม่ต้องเอาร่างออกจากหมู่บ้าน ไม่ต้อง แต่แปลกายวิเวก ว่าจิตสงัดจากกาม หากพรากออกจากการสัมผัสไม่ได้ปฏิบัติลดกิเลส สงัดจากกาม เอากายตาหูจมูกลิ้นกาย สัมผัสสามัญในปกติชีวิตประจำวัน ไปอยู่ในป่าก็มีการปรุงแต่งน้อย ก็ไม่ได้มีการปฏิบัติจริงตามธรรมชาติ ผิดแล้วยังไม่พอไปนั่งหลับตาไม่มีภายนอกอีก จิตวิเวกก็แล้วยิ่งไปกันใหญ่ สงัดจากกามตัวแรกเริ่มต้น  เบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย คุณก็ยังไม่มีเลย เพราะฉะนั้นอาตมาถึงบอกว่าไม่รู้จะทำอย่างไรถึงความที่เขาหลงผิดไปไกลแสนไกล ท่านจึงบอกว่าอันนี้คือความข้องอยู่ในถ้ำ ติดอยู่ในอันนี้ พูดอย่างไรก็ไม่กลับกันเลย ในอาหารข้อที่ 4วิญญาณาหาร ปฏิบัติให้รู้จักรูปนาม แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติให้รู้รูปนามซึ่งเหมือนกับคุณ ที่พระราชาบอกคนเอาไปฆ่าให้ประหารด้วยหอกร้อยเล่มในตอนเช้ามันก็ยังไม่ตาย ตอนกลางวัน ก็ยังไม่ตาย เอาไปฆ่าอีกตอนเย็นก็ไม่ตายอีก เพราะฉะนั้นคุณจะมาลดกิเลสให้จิตมันสูญ มันดับ มันตาย ดับกิเลส ไม่มีทางเลย คุณไม่รู้จักนามรูป ไม่รู้จักวิญญาณ เพราะฉะนั้นไม่มีสิทธิ์จะตายแม้จะฆ่าด้วย หอก100 เล่มอีกกี่ครั้ง เช้า กลางวัน  เย็น หรือค่ำๆเอาไปฆ่าอีกละกัน สงัด นี่เริ่มต้น สงัดจากกาม คุณไม่ได้เริ่มต้นไม่มีเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลาย เป็นลำดับอันน่าอัศจรรย์ของศาสนาพุทธ ปัสสัทธิ แปลว่า สงบ, สงัด ก็คือทำให้เงียบไปห่างไปจากความวุ่นวาย อันนี้เป็นรูปธรรม ความจริงแล้วต้องสงัดจากกาม ต้องให้เพลาลงจากกาม จนกระทั่งถ้าเรียนรู้ถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิก็จะเกิดเป็นปัสสัทธิ จะสงบ ไม่ใช่แค่ สงัด มีนัยต่างกันพอสมควร ถ้ารู้รายละเอียด เราก็เรียนรู้ สงัดจากกามแล้วลดกามลงมา ขั้นหยาบ แล้วมาลดรูปราคะอรูปราคะไปตามลำดับ ก็เข้าหาสงบปัสสัทธิไปตามลำดับ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 16:18:58 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:42:07 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:19:29 )

สงัด 

รายละเอียด

สงัด  คือ  พยัญชนะบาลีว่า “วิเวก”  วิเวกมีทั้งลึกและกว้าง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต  สันติอโศก  วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 ตุลาคม 2562 ( 12:31:27 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:44:18 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:20:01 )

สงัดจากกาม

รายละเอียด

คือ  กามนี้มีภายนอกไหมตัวภายนอกแท้เลย เริ่มต้นควรจะมีฌาน ต้องสงัดจากกาม แล้วคุณก็ปลีกเอาตัวร่างกายหนี หรือนั่งหลับตาก็ปฏิบัติไม่มีวิเวกแล้วมีจิตวิเวกที่ไหน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:38:10 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:47:32 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:20:33 )

สงัดจากกาม

รายละเอียด

กามนี้มีภายนอกไหมตัวภายนอกแท้เลย เริ่มต้นควรจะมีฌาน ต้องสงัดจากกาม แล้วคุณก็ปลีกเอาตัวร่างกายหนี หรือนั่งหลับตาก็ปฏิบัติไม่มีวิเวกแล้วมีจิตวิเวกที่ไหน

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 20:43:48 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:02:31 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:21:06 )

สงัดจากกามแบบหลงผิด

รายละเอียด

ที่บอกว่าสงัดจากกาม เขาไปหลงผิดว่า หลับตาเข้าไปอยู่ในภวังค์แล้วก็ไม่เห็นอะไรก็ไม่มี พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าโมฆะ ในอินทรียภาวนาสูตรที่เขาสอนกันว่า ปฏิบัติอย่างไร เขาก็บอกว่าปฏิบัติตาอย่าได้เห็นรูป หูอย่าได้ยินเสียง พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านยิ่งใหญ่ท่านตัดแล้วคนก็ยอมรับ และรู้สึกตัวว่าตัวเองไม่ถูก ส่วนโพธิรักษ์ก็พูดเหมือนกัน แทนที่เขาจะนั่งนิ่งซบเซาคอตก เขาก็ไม่รู้ เขาก็ด่าเลย เขาก็สอนก็มาเป็นครูบาอาจารย์สอนกันมาตั้งแต่เท่าไหร่แล้วเอ็งมาจากไหน อาตมาไม่ได้มาจากไหนอาตมามาจากที่เป็นลูกพระพุทธเจ้ามาหลายชาติแล้ว ชาตินี้ก็เอามาสอนยืนยันก็ต้องพูดอย่างนี้ให้พูดอย่างนี้จะให้พูดอย่างไร ก็ต้องยืนยัน จะบอกว่ามาจากสำนักไหน ก็ไม่ได้มาจากใคร จากสำนักไหน ไม่มีครูบาอาจารย์ ยิ่งไปบอกว่าไม่มีครูบาอาจารย์เขายิ่งขึ้นใหญ่เลย ใครสงสารอาตมาบ้าง ขันจอหว่อ เห็นใจอาตมาไหม 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2563 ( 13:11:55 )

สจิตต ปริโยทปนัง , สจิตตปริโยทปนัง

รายละเอียด

1. ทำแล้ว ทานความดีให้หมดใจ ไม่หลงยึดหลงติดความดีจนสมบูรณ์จึงจะถึงความสะอาด ความขาวผ่อง บริสุทธิ์ใจเป็นสูงสุด

2. จิตจะบริสุทธิ์ขาวรอบ 

3. การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว 

4. จิตที่ได้ทำให้สะอาดจริง 

5. จิตตนเองบริสุทธิ์สัมบูรณ์ 

6. จิตใจปราศจากกิเลสบาป 

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 165, หน้า 361 

ค้าบุญคือบาป หน้า 280, 299,300  

คนคืออะไร? หน้า 282 

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 301


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 09:00:19 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:58:28 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:24:01 )

สจิตตปริโยทปนัง

รายละเอียด

เพราะ สจิตตปริโยทปนัง เพราะท่านได้ทำจิตให้สะอาดบริสุทธิ์ขาวรอบ บรรลุพระอรหันต์แล้วนั้นเอง แม้แต่ทำกุศลก็ไม่ได้ยึดติดว่าเป็นเราเป็นของเรา ไม่สำคัญมั่นหมายว่าเป็นเราเป็นของเราจึงเรียกว่า สจิตตปริโยทปนัง

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2563 ( 10:57:25 )

สจิตตะปริโยทปนัง

รายละเอียด

ทำจิตให้บริสุทธิ์สะอาดแข็งแรง จึงเป็นนิจจัง (เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง (ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง (ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง (ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง (ไม่กลับกำเริบ) ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีการผิดพลาด เพราะฉะนั้นผู้นี้เป็นที่รับรองได้เลยว่าเขาเป็นพระอรหันต์

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 15:15:58 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:48:58 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:27:05 )

สฐาน

รายละเอียด

ฐานแท้ ฐานแรก

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 373


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 09:01:11 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:59:00 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:27:25 )

สตรี

รายละเอียด

คือภาวะไม่เรียบร้อยสมบูรณ์แบบ ยังมีพิษอยู่ไม่หมด  ไม่เหมือนสุภาพบุรุษ หมดพิษ  สตรีมีพิษอยู่ แต่พวกเสมอภาค  ก็จะเถียงว่า ไปว่าสตรี  เขาทำไม   พวกศาสนาเทวนิยม ก็จะคิดแบบนี้  พูดแบบนี้  แต่มันเป็นเรื่องสัจจะมันยังไม่ได้  สตรีก็ย่อมมีจุดด้อยกว่าบุรุษ พระเจ้าก็สร้างมาไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว  เขาก็แย้ง   อาตมาก็ท้วงไป  คุณรู้จักประวัติการสร้างคนของพระเจ้าหรือไม่

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 79 วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 15:10:00 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:51:53 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:28:01 )

สตรี

รายละเอียด

ภาวะไม่เรียบร้อยสมบูรณ์แบบ ยังมีพิษอยู่ไม่หมด  ไม่เหมือนสุภาพบุรุษ หมดพิษ  สตรีมีพิษอยู่ แต่พวกเสมอภาค  ก็จะเถียงว่า ไปว่าสตรีเขาทำไม พวกศาสนาเทวนิยม ก็จะคิดแบบนี้ พูดแบบนี้ แต่มันเป็นเรื่องสัจจะมันแย้งไม่ได้  สตรีก็ย่อมมีจุดด้อยกว่าบุรุษ พระเจ้าก็สร้างมาไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว  เขาก็แย้ง   อาตมาก็ท้วงไป  คุณรู้จักประวัติการสร้างคนของพระเจ้าหรือไม่

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช  วันจันทร์ที่  11 พฤศจิกายน 2562          


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 19:18:56 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:04:31 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:28:45 )

สตะ

รายละเอียด

สตางค์คือ 100 คำว่าสตะ แปลว่า 100 เพราะฉะนั้นสติเขาไม่เต็มร้อยที่จริงบอกว่าไม่เต็มบาท บาทคือร้อยสตางค์ แต่จิตเขาไม่เต็มร้อยสตางค์ เศษหนึ่งส่วนสี่ของสตางค์คือสลึง ที่พูดภาษาสื่อสภาวะให้เข้าใจ คนตั้งใจฟังให้ดี ก็ได้รับสิ่งดี คนที่ถูกกระทบแล้วไม่ชอบใจก็คือคนโง่ คุณยังเข้าใจผิดอยู่ เป็นธรรมดา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:18:34 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:52:50 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:29:12 )

สติ

รายละเอียด

คือ ความเป็นอธิปไตย รู้พร้อมเต็มเรียกว่ามีสติ สติ มาจากสตะ แปลว่า 100 ครบพร้อมไม่บกพร่องทั้งภายนอกภายในรู้ตื่นเต็ม 

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 ผู้ข้องอยู่ในถ้ำอันไกลจากวิเวก วันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:06:24 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:54:19 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:29:38 )

สติ

รายละเอียด

มาจากพยัญชนะว่า สตะ แปลว่า 100 ครบ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:45:33 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:05:02 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:29:58 )

สติ

รายละเอียด

สติ เป็นอธิปไตย ไม่หลบไม่หลีกไม่รี้

สตะ คือ ร้อย สติทำงานหมุนสามเส้าเต็มร้อย แล้วก็จะมีปัญญาช่วย สามารถที่จะอยู่เหนืออันนี้ได้สบายๆ อย่างไร เรามีอำนาจเหนือได้จริงๆ เลย สติสมาธิปัญญา ทำเข้าก็หลุดพ้นมีแก่น เป็นวิมุติเป็นสาระ มากเข้าๆ จนเป็นผู้ที่หลุดพ้นเป็นอรหันต์เป็นต้นไปเป็นอมตะบุคคล ถ้าเกิดจะตายเองได้ แยกธาตุให้เป็นอุตุนิยาม หรือว่าจะเกิดอีกก็ได้

1. การระลึกรู้ตัว , การระลึกรู้ตัวอยู่เสมอ ๆ  มันคอยรู้คอยเห็น คอยรู้สึกดูตัวเองอยู่ไม่ให้คลาดคลา และเพียรพยายามปฏิบัติตนเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะให้พ้นทุกข์พ้นบาปอกุศล

2. ตัวที่จะทำการเพ่งรู้เพ่งแจ้ง 

3. เต็มที่หรือครบถ้วน คือสภาวะอะไรที่กำหนดเต็มเท่าใดก็ต้องมีสภาวะนั้นเต็มที่ ถ้านับเอาร้อยเป็นรู้สูงสุด ก็จะต้องรู้ให้ชัดเจนเต็มร้อยอยู่กับสิ่งนั้น 

4. ร้อย  รอบ  รู้อย่างไม่สะลึมสะลือ  รู้ชัดเจน

5. ความรู้ตัวทั้งภายนอกภายในอยู่เสมอ

6. ความระลึกรู้

7. ความระลึกได้

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 264 , 282

ทางเอก ภาค 1 หน้า 41

ทางเอก ภาค 2 หน้า 49

ทางเอก ภาค 3 หน้า 372

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 78, 

เปิดโลกเทวดา หน้า 95, 


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 09:03:24 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:00:50 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:31:11 )

สติ

รายละเอียด

พลังงานตื่นรู้ จะรู้สิ่งกระทบสัมผัส ก็รู้ๆเห็นแล้วก็อ่านใจด้วย ใจมันจะมีอาการต่างๆนานา จนกระทั่งมันไม่มีตลอด แม้จะมาทีเผลอ ไม่ได้ตั้งสติเลยก็ไม่มี ไม่เกิดกิเลส เป็นไปเอง ตถตา เป็นเองโดยไม่ต้องสังวรระวังเลย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 19:55:10 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:06:04 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:32:11 )

สติ

รายละเอียด

ต้องเป็นตัวช่วย  มีสติรู้  แล้วมีอัตโนมัติของการกดข่ม  วิกขัมภนปหาน กดข่มกิเลสไว้แม้ไม่ได้เรียนธรรมะเลย  สามัญสำนึกใครก็ไม่ปล่อยกิเลสออกมาเพ่นพานหมด  อย่างอิสรเสรีชนมันโกรธก็ออกมาหมด  โลภก็ออกมาหมด  ราคะก็ออกมาหมด บ้าเท่านั้นเอง  เขาก็จับไปโรงพยาบาลเลย มันก็เป็นธรรมดา  ธรรมชาติเช่นกัน  ส่วนใหญ่ด้วย  คนที่ทนไม่ไหวก็ละเมิด  ผิดกฎหมายเขาก็จับคุณ  ไม่ผิดกฎหมาย  ผิดวัฒนธรรมคนอื่นเขาก็เหล่คุณเท่านั้นเอง เป็นธรรมดาธรรมชาติ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช  วันจันทร์ที่  11 พฤศจิกายน 2562          


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 19:30:17 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:06:52 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:32:54 )

สติ

รายละเอียด

คือต้องเป็นตัวช่วย  มีสติรู้  แล้วมีอัตโนมัติของการกดข่ม  วิกขัมภนปหาน กดข่มกิเลสไว้แม้ไม่ได้เรียนธรรมะเลย  สามัญสำนึกใครก็ไม่ปล่อยกิเลสออกมาเพ่นพานหมด  อย่างอิสรเสรีชนมันโกรธก็ออกมาหมด  โลภก็ออกมาหมด  ราคะก็ออกมาหมดบ้าเท่านั้นเอง  เขาก็จับไปโรงพยาบาลเลย มันก็เป็นธรรมดา  ธรรมชาติเช่นกัน  ส่วนใหญ่ด้วย  คนที่ทนไม่ไหวก็ละเมิด  ผิดกฎหมายเขาก็จับคุณ  ไม่ผิดกฎหมาย  ผิดวัฒนธรรมคนอื่นเขาก็เหล่คุณเท่านั้นเองเป็นธรรมดา ธรรมชาติ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 79 วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 11:00:18 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:07:47 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:33:16 )

สติ

รายละเอียด

ความตื่นรู้ ปกติคือการจะต้องมีทั้งภายนอกและภายใน มีทั้งสัมผัสแล้วก็รู้ แม้เราไม่รู้ห่างไกลก็ยังไม่ต้องคำนึงถึง ต้องคำนึงถึงสิ่งที่สัมผัสแล้วก็ต่อเนื่องไปให้เรารู้ รู้ให้ครบจะรู้แค่นี้ก็เอาแค่นี้ก่อนยังไม่ต้องเอามาก คือ ตื่นรู้ ในคือ ตัวรู้ นอกคือตัวต้องร่วมรู้ สติ คือทั้งนอกและในร่วมรู้กันในปัจจุบัน เราฝึกแล้วจะแข็งแรงขึ้น เก่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แล้วก็จะมีความวิจิตรพิสดารมากยิ่งขึ้น

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 17:30:31 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:08:32 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:34:17 )

สติ

รายละเอียด

สตินี้เป็นเรื่องยากที่จะไม่ให้ขาด สติเป็นอธิปไตย เป็นใหญ่ คุณจะเข้าใจเลยทำไมพระพุทธเจ้าสุดยอด 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 12 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2563 ( 09:41:15 )

สติ กับธัมมวิจัย คู่เอกของโพชฌงค์ 

รายละเอียด

แล้วมาไล่ทบทวนตรงนี้ ขยายความเป็นโพชฌงค์ 

3 ตัวแรก สติ กับธัมมวิจัย คู่เอก เหมือน ลมกับไฟคู่เมื่อกี้นี้ สติ คือ 100 พลังงานนิ่ง static คือแกน ส่วนธัมมวิจัยคือ ตัวเคลื่อน สองอันนี้ทำงานร่วมกันมาตลอด ขาดกันไม่ได้เลย สติกับธัมมวิจัย ศาสนาพุทธเจริญก็เพราะมีธัมมวิจัย หากไม่มีธัมมวิจัย ก็ไม่รู้ทั้งการขยายและสรุปรวม วิจัยไม่ออก นิ่งตายแน่นอยู่ที่ 1111 

แล้วลัทธิเทวนิยมไปต่อไม่ออกก็ไปตายที่ 1 สูงสุดได้เท่าไหร่ก็ตายอยู่แค่นั้น เทวนิยมสูงสุดโดยเป็นเทวะ แล้วยึดเป็น 1 แล้วก็มีความรู้เท่านั้น สรุปแล้วเป็นโลกีย์ออกมาสู่โลกุตระไม่ได้ สรุปที่จะทำลายเลิกอัตตา ไม่วนเวียนอีก (โลก) อัตตาก็ไม่เหลือ จบทั้งโลกทั้งอัตตาก็เพราะว่า ท่านชัดเจนในความรู้โลกและอัตตา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โพชฌงค์ 7 สัปปุริสธรรม 7 โดยพิสดาร วันพุธที่ 14 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 เมษายน 2564 ( 19:16:21 )

สติกัลยาณชน

รายละเอียด

1. สติขั้นดีกว่าปุถุชนสามัญแต่ยังชื่อว่า “กัลยาณปุถุชน” เพราะยังไม่ถึงขั้นปรมัตถธรรม จิตยังไม่พ้นความเป็นโลกียะเพราะยังไม่รู้จักวัฏฏะของความเป็นโลก หรือวงจรแห่งความเป็นโลก

2. สติที่ระลึกรู้อยู่พร้อมกับการสังวรตนให้ทำดีทางกาย วาจา ใจให้ได้มากที่สุดเสมอ จึงเป็นสติที่ดี มีความเป็นจิตมุ่งมั่น มีสำนึกที่ดีกว่าสามัญยถากรรม เป็นสติอยู่ในระดับของนักปฏิบัติธรรมในทุกศาสนาและแม้ในชาวพุทธที่ยังไม่สัมมาทิฏฐิ ถ้ามีผลดี ทำคุณงามความดีก็เป็นได้แค่กุศลทั้งนั้น นับเป็นสติที่ทำให้เกิดบุญยังไม่ได้

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 81

ค้าบุญคือบาป หน้า 263


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 09:07:44 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:01:28 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:35:51 )

สติกัลยาณชน

รายละเอียด

คือ  ปรารถนาดี  ทำดี  ให้ดีที่สุด  ตามที่เขามุ่งหมาย  แต่มันเป็นแค่โลกีย์วนเวียน  เกิดดับ  ไม่มีปรินิพพาน  มีแต่นิรันดร  ศาสนาพุทธยืนยันว่าไม่จริง  คุณสามารถทำให้มันอยู่ได้นาน ด้วยวิธีการแต่ละศาสนา ให้เป็นอยู่ได้นานๆ  ได้ หมดพลังงานแล้วก็มีวิบาก  หมดพลังงานกดข่มไว้  ก็วิบากตามมา  ไปตามวิบากอีกวนเวียน  ไม่รู้จักจบสิ้นจึงเรียกว่า นิรันดรชนิดไม่จบสิ้น

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 13:15:47 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:47:34 )

สติกัลยาณชน

รายละเอียด

สติกัลยาณชนก็กดข่ม  คนดี ถ้าปุถุชนไม่กดข่ม  ดีไม่ดีกิเลสอยากแสดงออกด้วย  สังคมมันจะฉิบหาย  ก็อย่างนี้แหละ  โลกีย์  กัลยาณชนกดข่มก็ใช้ได้ แต่ไม่รู้จักกิเลส สลายกิเลส ไม่ได้สร้างพลังงานให้เกิดบุญ  เป็นพลังงาน  อุณหธาตุเป็นไฟที่ไปสลายไฟราคะ  ไฟโทสะ  ไฟโมหะ ได้เป็นพลังงานชนิดเดียวกันแต่เหนือชั้นกว่าไฟฌาน ไฟบุญ  ของพระพุทธเจ้า รู้จักพลังงานจิต  สร้างพลังงานจิต รู้จักพลังงานจิตที่เป็นราคะ  โทสะ  โมหะ  ที่เป็นตัวร้าย เป็นไฟเผาร้อน  ไอ้นี่ก็เหนือชั้นกว่าไฟ  เหนือชั้นปราบราคะ  โทสะ  โมหะได้  จึงเรียกว่าไฟของศาสนาพุทธ  ราคะ  โมหะ  โทสะ เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง  ไม่ใช่สสาร  เมื่อเราดับไป  ฆ่ามันไปก็ตาย  มันก็ไม่รู้มันหมดฤทธิ์ไปจากเรา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช  วันจันทร์ที่  11 พฤศจิกายน 2562                   


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 19:31:59 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:09:24 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:48:38 )

สติกัลยาณชน

รายละเอียด

คือสติกัลยาณชนก็กดข่ม  คนดี ถ้าปุถุชนไม่กดข่ม  ดีไม่ดีกิเลสอยากแสดงออกด้วย  สังคมมันจะฉิบหาย  ก็อย่างนี้แหละ  โลกีย์  กัลยาณชนกดข่มก็ใช้ได้ แต่ไม่รู้จักกิเลส สลายกิเลสไม่ได้ สร้างพลังงานให้เกิดบุญ  เป็นพลังงาน  อุณหธาตุเป็นไฟที่ไปสลายไฟราคะ  ไฟโทสะ  ไฟโมหะ ได้เป็นพลังงานชนิดเดียวกันแต่เหนือชั้นกว่าไฟฌาน ไฟบุญ  ของพระพุทธเจ้า รู้จักพลังงานจิต  สร้างพลังงานจิต รู้จักพลังงานจิตที่เป็นราคะ  โทสะ  โมหะ  ที่เป็นตัวร้าย เป็นไฟเผาร้อน  ไอ้นี่ก็เหนือชั้นกว่าไฟ  เหนือชั้นปราบราคะ  โทสะ  โมหะได้  จึงเรียกว่าไฟของศาสนาพุทธ  ราคะ  โมหะ  โทสะ เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง  ไม่ใช่สสาร  เมื่อเราดับไป  ฆ่ามันไปก็ตาย  มันก็ไม่รู้มันหมดฤทธิ์ไปจากเรา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 79 วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 11:02:20 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:57:11 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:34:59 )

สติของปุถุชน

รายละเอียด

คือเขาจะไปปล้นจี่ก็ต้องมีสติเต็ม  ทำตามแผนที่เขาวางไว้  หากสติเบลอจะทำสำเร็จได้อย่างไร  สติของปุถุชนก็มีเต็มที่ได้  แต่มีคุณภาพแค่ปุถุชน

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 13:12:51 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 15:00:51 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:49:22 )

สติคืออะไร

รายละเอียด

อธิบายสรุปสรุปอย่างที่คุณว่าแบบย่อ เอาคำว่า “สติ” คำเดียวเป็นเรื่องหลักก็แล้วกัน สติคือธาตุรู้ เป็นธาตุรู้ที่มีเงื่อนไข หรือมีตัวชี้บ่งว่ามันเป็นลักษณะสติคืออย่างไร สติคือธาตุรู้ความตื่น ความตื่นนี้ภาษาบาลีว่า ชาคระหรือชาคริยะ ความตื่น พระบาลี คำบาลีแปลว่า ความตื่น แปลเป็นไทยว่าความตื่น

ตื่นก็คือ ไม่ใช่เรื่อง หรี่ๆหลับๆ มันเป็นการเต็มความรู้สึก ความรู้ รับรู้ ความรู้ ความรับรู้ ความรู้สึก มันตื่นเต็มร้อย มาจากรากศัพท์คำว่า สตะ แปลว่า 100 ตื่นเต็ม 100 อาตมาก็เคยขยายความแล้วว่ามันเต็มร้อยทั้งทางกายกรรม ก็ต้องตื่นเต็มร้อยถึงจะเรียกว่ามีสติ เพราะฉะนั้นไปหลับตาไม่มีกายข้างนอกทางกายกรรม วจีกรรม วจีกรรมก็เต็ม 100 มโนกรรมก็เต็ม 100

แต่ในเมื่อมันหลับตา กายกรรมเต็ม100 คุณก็ต้องลด ไม่มีกายข้างนอก วจีกรรมข้างนอกคุณก็ไม่ได้พูดอะไร มันก็ต้องลด มันก็มีแต่สติภายใน เพราะฉะนั้นผู้ที่ไปปฏิบัติธรรมหลับตาแล้วมีแต่สติภายในก็คือคนไม่เต็มคน คนไม่มีสติเต็มร้อย มันมีแต่สติภายในแล้วเขาก็ไปพยายามพากเพียรให้ตื่นเต็มภายใน ตื่นอย่างไรมันก็ตื่นอยู่ในภพ อยู่ในภวังค์ อยู่ในองค์ของภพ มันไม่ได้ออกมาเต็มคนที่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย อย่างนั้นมันบกพร่อง มันพิการ 

ก็สรุปไม่รู้กี่ทีแล้วว่าไปหลับตา ปฏิบัตินั้นมันไม่ได้เต็มคน มันไม่เป็นทิฏฐธรรม ไม่เป็นทิฏฐกาละ มันไม่มีปัจจุบันชาติ ที่จะตื่นมี จักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา อาโลก (แสงสว่าง) ตื่นเต็ม เพราะฉะนั้นสตินี้ต้องตื่นเต็ม 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 29 พ่อครูฝืนสังขารเพื่อต้องการลูกๆได้ PI(โพธิรักษ์ Intelligence)วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566 แรม 8 ค่ำเดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2566 ( 16:22:11 )

สติคือเต็มร้อยอย่างไร 

รายละเอียด

สตะ แปลว่า 100 ส่วน สติ เป็นตัว 3 อะ อา อิ สระอิ เป็นตัวที่ 3 

ติ คือสังขยาเลข 3 ติ คือตัวตั้งมั่นตั้งอยู่ สามอันผนึกเข้าไปเป็นตัว 100 สาม 100 สามเส้า ก็เป็นกรอบของวัฏฏะที่เป็น 100 นี่แหละ สาม cyclic ในนี้ สติคือเต็มร้อย ธาตุรู้เต็มทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม สมบูรณ์เลยทั้ง 3 กายวาจาใจเต็มร้อย กายก็ร้อย วจีก็ร้อย มโนก็ร้อยหรือกายก็สามร้อย วจีก็สามร้อย มโนก็สามร้อย อย่างนี้เป็นต้น นี่คือสติตื่นเต็ม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 29 วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 20:04:53 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์