@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

อนาคามี 5

รายละเอียด

ในอนาคามี 5 อย่าง

  1. อันตราปรินิพพายี (ผู้เพียรทำปรินิพพานในระหว่างภพ) 

  2. อุปหัจจปรินิพพายี (ผู้ทำปรินิพพานด้วยสามารถ) 

  3. สสังขารปรินิพพายี (ผู้ทำปรินิพพานโดยต้องใช้ความเพียรมาก  ประกอบปุญญาภิสังขารในภพตนให้มากๆ) 

  4. อสังขารปรินิพพายี (ผู้ปรินิพพานโดยไม่ต้องใช้การปรุงแต่งอภิสังขารให้มากนัก) 

  5. อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี (สภาวธรรมไม่เป็นสองรองใคร  หรือไม่เป็นน้องใครอีก  แล้วปรินิพพานไว) 

ในโลกต้องอาศัยคนที่มีภูมิธรรมโลกุตระธรรมแบบนี้จริงๆ เมืองไทยเรามีได้ จะว่า มาก ลึก เพราะเรามีพุทธศาสนา ในเรื่องสัจธรรมทางโลกุตรธรรม เรามีอันนี้มากและลึกกว่าใครๆในโลก เพราะในโลกทั้งนั้นเลยเขาเป็นเทวนิยมหรือไม่มีศาสนาเลยไม่เอาศาสนา เทวนิยมก็ไม่เอาศาสนาเลย บางประเทศ เกาหลีเหนืออย่างนี้ หรือประเทศไหนก็ไม่รู้ล่ะ อาตมาก็ยังไม่ค่อยเก่งประวัติศาสตร์ภูมิศาสตร์เท่าไหร่

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2563 ( 13:03:26 )

อนาคามี 5

รายละเอียด

คือผู้ละกิเลสสังโยชน์เบื้องต่ำทั้ง 5 แล้ว กําลังละสังโยชน์เบื้องสูงอยู่ จะได้ปรินิพพานไม่เวียนกลับมาเกิดอีก

1. อันตราปรินิพพายี (อนาคามีผู้จะปรินิพพานในระยะเวลายังไม่ถึงครึ่งของอายุขัย)

2. อุปหัจจปรินิพพายี (อนาคามีผู้จะปรินิพพานระหว่างอายุเกินครึ่งแล้ว จนถึงเวลาใกล้จะสิ้นอายุขัย

3. อสังขารปรินิพพายี (อนาคามีผู้จะปรินิพพานได้โดยง่ายไม่ลําบาก)

4. สสังขารปรินิพพายี (อนาคามีผู้จะปรินิพพานได้โดยยากลําบาก)

5. อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี (อนาคามีผู้จะปรินิพพานได้โดยภาวะจิตอุเบกขาบริสุทธิ์สูงสุดแล้ว)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 36 “เอกกนิทเทส” ข้อ 51-56


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 20:54:56 )

อนาคามี ถือว่าการรวยเป็นอบายภพ

รายละเอียด

อย่างความรวยนี้ ถ้าเป็นอนาคามี ไม่ใช่สกิทาคามี อนาคามี ถือว่าการรวยเป็นอบายภพ คนนี้มีเขตความพอ เรามีแค่ 100 ล้านก็มากเกินพอแล้ว เกินกว่านั้นไม่เอามีจุดที่ สันตุฏฐิ เกินกว่าร้อยไม่เอา เหมือนกับที่ปฐมอโศกตั้งกฎเกณฑ์ว่าจะมีเงินคงคลังเท่านี้ ถ้าปีนี้มันเกินกว่าเงินคงคลังก็ตัดเศษยกให้อาตมา โอ้โห.. กล้าหาญจริงๆ คงคลังเท่านี้เขาไปรอด ถ้าเกินคงคลังแต่ละปี ก็ตัดเศษให้อาตมา แต่ก่อนนี้เขามีแม้แต่ว่า หากรายได้แต่ละเดือน ถ้าเดือนนี้ไม่ได้เกณฑ์นี้มันขาดทุนไปบ้างก็ยังให้เดือนละล้าน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:34:17 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:53:58 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:45:07 )

อนาคามีกับคำว่ากาย

รายละเอียด

ไม่ใช่อรหันต์ ก็เป็นอนาคามีขึ้นไป อนาคามีหมายความว่า คนที่ตายจากร่างกายที่ต้องใช้อาศัยดินน้ำไฟลมนี้ แล้วก็มีธาตุนามธรรมของเราเข้ามาร่วม เป็นกาย กายนี้ต้องเป็น 2 มีทั้งจิตทั้งร่าง ทุกวันนี้ศาสนาพุทธเสื่อมจนกระทั่งในเมืองไทยภาษาไทยเรียกว่ากาย แต่เข้าใจเพียงแต่ว่าเป็นร่างเป็นสรีระไม่มีนามไปร่วมด้วย นี่แหละคือมิจฉาทิฏฐิ ไปไม่รอด ศึกษาธรรมะให้ตายอย่างไรก็ไม่บรรลุธรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อ‌ครู‌เทศน์‌ ‌ทำวัตร‌เช้า‌ ‌ส่ง‌ท้าย‌ปี‌เก่า‌ ‌งาน‌ ‌ว‌.‌บบบ‌ ‌เพื่อ‌ฟ้า‌ดิน‌ ‌สวด‌อภิธรรม‌ส่ง‌

ท้าย‌ปี‌เก่า‌ให้‌เข้า‌ถึง‌นิพพาน‌ วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2565 ( 12:26:45 )

อนาคามีขึ้นไปชัดเจนทั้งรูปทั้งนาม

รายละเอียด

สรุปแล้วโลกียะก็อย่างหนึ่งโลกุตระก็อย่างหนึ่ง สำหรับผู้ที่เข้ากระแสโลกุตระแล้วที่ผ่านขั้นอนาคามีขึ้นไป ชัดเจนทั้งรูปและนาม หากยังเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี ก็จะยังไม่ชัดเจน แต่ก็จะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆมีร่องรอยมากน้อยลดลง สกิทาคามีก็เห็นชัดเจนว่าคนนี้ไม่เพิ่มเติมไม่สะสมลาภยศสรรเสริญ มีแต่จะลดของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น กระแสสกิทาคามี จะชัดเจน ลดแน่ พอเข้าอนาคามี อนาคามี แปลว่า ผู้ที่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองบ้านช่องเรือนชานเป็นของตัวเอง ไม่เป็นผู้สะสมเงินทองบ้านช่องเรือนชานอยู่ในหมู่พวกเรามีเยอะ ซึ่งเห็นได้ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำเป็นเท่ เรื่องจริง อาจจะมีกิเลสอยู่ในใจที่เป็นรูปราคะอรูปราคะแต่ก็สบาย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 27 มีนาคม 2563 ( 11:37:49 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 10:13:50 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:45:55 )

อนาคามีคือใคร

รายละเอียด

อนาคามีคือผู้ไม่เวียนกลับ แม้อยู่ในโลกปัจจุบัน กามหยาบ ละเอียดคุณไม่มีแล้ว มีแต่ อุทธัมภาคิยสังโยชน์เท่านั้นภายใน คุณก็ทำงานอยู่กับโลกเขาอย่างไม่มีกิเลสเกิดจากภายนอกแล้ว แม้ว่าคุณจะไม่ทำต่อจะเลี้ยงเชื้ออันนี้เอาไว้ มาเป็นวัคซีน กลัวจะไม่เหลือวัคซีน ไม่ต้องกลัวหรอก คนทั้งหลายแหล่มันเหลือกิเลสอีกเยอะเอามาเป็นวัคซีนก็ได้ เอามาฉีดก็ได้ ไม่ต้องกลัวเชื้อโรคกิเลสจะหมดไปจากโลกหรอก มันไม่หมดไปหรอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครู เทศน์ ทวช.อโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่สันติอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 28) ตอน นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:26:05 )

อนาคามีจริงต้องไม่ไปไม่กลับอีกแล้ว

รายละเอียด

รูปราคะก็หยาบกว่าอรูป รูปราคะ ราคะคือกาม กิเลสไปติดเหนียวยึดอยู่แต่มันไม่หยาบเป็นกามข้างนอกทวาร5แล้ว มันเหลือข้างในบางกว่า แต่มันก็ไม่พ้น ภพชาติ ดีไม่ดีมันอาจจะกลับคืนมาหากามใหม่ก็ได้ ถ้าไม่ทำให้มันมีอำนาจมากจนกระทั่ง อนาคามี ไม่กลับไปอีกแล้ว พยัญชนะบอกว่าไม่เวียนกลับไปต่ำอีกแล้ว ให้ได้จริงๆ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ใช่อนาคามีจริง ยัง อาคา ยังกลับไป กลับมา ยัง อาคต อาคา ยังไปๆ มาๆ ต้อง ไม่ไปไม่กลับอีกแล้ว อนาคา แล้วก็ล้างไอ้ที่มันยังติดอยู่อีก รูปราคะหมด เหลืออรูป พยัญชนะก็คือรูปที่ถูกรู้ แต่เหลือเบาบางเล็กๆน้อยๆ ก็เรียนรู้ตัวเล็กๆน้อยพวกนี้อีก 

ส่วนที่เหลือจึงคืออัตตาเรื่อยๆ  กามข้างนอก อัตตาตัวตนข้างในไปเรื่อยๆ จนอรูปอัตตา โอฬาริกอัตตา คืออัตตาโอฬารอัตตาใหญ่ข้างนอก มโนมยอัตตาคือ มโนก็จิตใจ มยะก็ อันเป็นเรา ที่เราเองยังยึดมันเป็นอัตตาอยู่ มโนมยอัตตานี่หมดข้างนอกแล้วเข้ามาเหลือข้างใน เป็นตรงกลาง ข้างในแต่ยังหยาบอยู่ มโนมยอัตตาจริงๆคือรูปราคะ เล็กลงๆๆ เล็กลงเรื่อยๆ มโนนี่เล็กลงๆ 

เหลืออรูปราคะ เหลือ ได้ดีถือดีเป็นอุปกิเลสซ้อนอีก ไอ้นี่จะช้า จะมาเสียท่าตรงนี้ หลงดีเมื่อได้ดีแล้วเรียกว่ามานะ ติดในภพชาติ เรียกเต็มๆว่า อัตตามานะ มานะ อติมานะ มัชชะ มทะ ปมาทะ ประมาท ไม่ได้ ต้องลดลงอีกๆ 

จนกระทั่งเหลือ อุทธัจจะกุกกุจจะ เป็นธุลีละอองฝอยเหลือน้อยแล้ว ชวนให้เราติดยึด มันยังมีทุกข์ไม่สะอาดโปร่งใส ก็ล้างอีก ๆ  อุทธัจจะกุกกุจจะ จนหมดจนเกลี้ยง จนเห็นด้วยวิชชา ญาณ ปัญญา เห็นด้วยความรู้ที่ชัดเจนว่ามันหมดสะอาด ปฏิบัติ ออกไปจนกระทั่งมันสะอาดบริสุทธิ์ เรียกว่า ปริสุทธา บริสุทธิ์ ปริสุทธาจะอยู่ในฐานของ ฌานที่ 4 อุเบกขา อุเบกขานี่มีองค์ธรรม 5 ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา บริสุทธิ์สะอาด จาก กาม จากอัตตา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 54 ผู้เป็นกลางคือผู้วางกามกับอัตตา วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2565 ( 11:35:34 )

อนาคามีจะปรินิพพาน 5 วิธีใด

รายละเอียด

อนาคามีมีสิทธิ์ที่ตายทางร่างกายแล้วไม่ต้องเกิดอีกได้ แล้วแต่คนนั้นจะตายไม่มาเกิดด้วยวิธีใด 

  1. อันตราปรินิพพายี (ผู้เพียรทำปรินิพพานในระหว่างภพ) 

  2. อุปหัจจปรินิพพายี (ผู้ทำปรินิพพานด้วยสามารถ) 

  3. สสังขารปรินิพพายี (ผู้ทำปรินิพพานโดยต้องใช้ความเพียรมาก  ประกอบปุญญาภิสังขารในภพตนให้มากๆ) 

  4. อสังขารปรินิพพายี (ผู้ปรินิพพานโดยไม่ต้องใช้การปรุงแต่งอภิสังขารให้มากนัก) 

  5. อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี (สภาวธรรมไม่เป็นสองรองใคร  หรือไม่เป็นน้องใครอีก  แล้วปรินิพพานไว) 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 11:17:38 )

อนาคามีจะมั่นใจสูงสุดไม่ต้องมีของตัวเองเลย

รายละเอียด

แต่อาริยบุคคลที่ยังไม่สูงก็ยังซ่อนแฝง สกิทาฯก็มีแฝงอยู่ อนาคาริกะ จึงจะไม่สะสมบ้านช่องเรือนชาน สกิทาคามีก็หลงมีแบงค์ติดกระเป๋าอยู่บ้าง ยังไม่ปิดบัญชี สกิทาคามีสูงขึ้นจะหมดตัวจากสมบัติภายนอก มั่นใจในหมู่มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดีพึ่งพาได้ ไม่จำเป็นจะต้องมีของตัวเอง มันจะมั่นใจ มั่นใจเป็นอนาคามีจะมั่นใจสูงสุดไม่ต้องมีของตัวเองเลย นอกจากวิบาก เราเป็นหมาหัวเน่าไม่ค่อยถูกเกื้อกูล ก็รับวิบากไป แต่หากวิบากไม่มาก ก็พิสูจน์ไปในนี้เลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ธรรมะสองของประชาธิปไตย  วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 12:57:22 )

อนาคามีตายแล้วก็เป็นภพชาติ

รายละเอียด

พุทธเองแท้ๆยังไม่รู้จักสวรรค์นรก ไม่รู้จักโลกุตระ แล้วไม่ทำตนให้เป็นพระอรหันต์ แม้ว่าทำตนไม่เป็นพระอรหันต์ เป็นอนาคามีก็ยังมีภพชาติ ตายแล้วก็เป็นภพชาติ แต่เป็นภพชาติที่สงบ อย่างเช่น อาฬารดาบสอุทกดาบสมันไม่ใช่สวรรค์ แต่มันเป็นภพของสุภกิณหา เป็นภพดำมืด นั่งสะกดจิตไปอยู่ในความดำมืด เรียกว่าสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เข้าไปอยู่ในความดำความมืด ทำจิตให้เป็น อสัญญี คือไปดับสัญญาซึ่งไม่ใช่การล้างกิเลสออกหมด ผู้ที่ล้างกิเลสออกหมดของศาสนาพุทธเป็นพระอรหันต์ เมื่อล้างกิเลสออกหมดแล้ว เวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ พอตายแล้วปรินิพพานเป็นปริโยสาน เวทนาก็หายไปสัญญาก็หายไป สังขารก็หายไป วิญญาณก็หายไป รวมกันก็เป็นอุตุ ดินน้ำไฟลมหมด แต่ของศาสนาเทวนิยม มันไม่มีหมด มีแต่จะพอกเพิ่ม ๆ ยิ่งไม่รู้จักจิต เจตสิก รูป นิพพานนี้ ไม่มีทางทำให้จิตมันหายไปได้หรอก 

ที่มา ที่ไป

 เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันที่ 2 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2564 ( 09:39:19 )

อนาคามีภูมิ

รายละเอียด

         อนาคามีภูมิ คนลดกามคุณ 5 มีรูปภพ อรูปภพก็เป็นอนาคามีภูมิ ยืนยันได้ปฏิบัติได้ ตราบใดยังมีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตราบนั้นโลกไม่ว่างจากพระอรหันต์ จนล้างรูปภพ อรูปภพได้  ผู้ไม่เหมือนชาวบ้าน มีแต่ความเป็นกายของภวภพที่เป็นแดนแห่งจิตที่เหลืออกุศลจิตในส่วนสังโยชน์ขั้นสูงที่เป็นองค์ประกอบของจิต(นามกาย)อยู่เท่านั้น

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

ค้าบุญคือบาป หน้า 237


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 07:57:04 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 04:59:01 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:46:17 )

อนาคามีภูมิ 5

รายละเอียด

1.  อันตราปรินิพพายี (ผู้เพียรทำปรินิพพานในระหว่างภพ)  พ่อครูอธิบายตามภูมิว่าอันนี้หยาบสุด คือในระหว่างภพภูมิมีระริกระรี้ คุณก็ปล่อยให้มันหมดเอง สุดท้ายมันก็หายเองได้ นานมาก ระหว่างเมื่อใดเมื่อหนึ่ง

2.  อุปหัจจปรินิพพายี (ผู้ทำปรินิพพานด้วยสามารถ) แม้จะมีน้อยอย่างไรก็ใช้ความสามารถดับได้

3.  สสังขารปรินิพพายี (ผู้ทำปรินิพพานโดยต้องใช้ความเพียรมาก  ประกอบปุญญาภิสังขารในภพตนให้มากๆ)

4.  อสังขารปรินิพพายี (ผู้ปรินิพพานโดยไม่ต้องใช้การปรุงแต่งอภิสังขารให้มากนัก)

5.  อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี (สภาวธรรมไม่เป็นสองรองใคร  หรือไม่เป็นน้องใครอีก  แล้วปรินิพพานไว)

ที่มา ที่ไป

560708_รายการเรียนอิสระตามสำนึก


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 19:15:41 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:58:29 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:46:49 )

อนาคามียังกลัวผีอย​ู่หรือไม่

รายละเอียด

จริงๆแล้ว คำว่าอนาคามีก็กลัวผีอยู่ ถ้าเผื่อว่ายังไม่มีปัญญาไม่เข้าใจคำว่าผีคืออะไร คำว่าผีคืออุปาทาน อนาคามีกับอุปาทาน

อนาคามี คือผู้ที่อยู่เหนือสิ่งสัมผัสภายนอก ตาหูจมูกลิ้นกายภายนอกสัมผัสแล้วเกิดกิเลสในจิต ที่จะต้องทนไม่ได้จะต้องมีความผลักหรือดูด รักหรือชังมีความโกรธแสดงออกภายนอก อนาคามีไม่มีแล้ว โกรธอย่างไรก็ไม่มีทาง กายกรรมไม่มี ทางวจีกรรมไม่มี อนาคามีไม่ทำ

คำว่าผี เป็นอุปาทานภายนอก เห็นเปลี่ยนรูปร่างเป็นตัวตนเห็นวิญญาณเป็นตัวตนซึ่งมันไม่มี แต่คนที่มีอุปาทานเห็นได้เป็นรูปร่างตัวตนก็ได้ แม้มันไม่มีก็ปั้นที่เป็นรูปร่างผีได้

เรื่องผีที่สมมุติกันเป็นเรื่องหยาบ คำว่าผีคือกิเลส อนาคามีจะไม่กลัวแล้ว เรื่องหยาบภายนอกไม่กลัวแล้ว ผีหลอกเป็นรูปร่าง หากสัมมาทิฏฐิจริง โสดาบันก็จะเริ่มเข้าใจอาจจะมีกลัวผีอยู่บ้าง สกิทาคามีก็ค่อยมาเรียนรู้ความจริง มันเป็นสัญญาจะมาติดมาก็จะต้องล้างออกไปซึ่งไม่ง่าย เมื่อเป็นอนาคามีขึ้นไปแล้วก็จะไม่กลัวอะไรหรอก ผีมันไม่มี ที่เป็นรูปร่างตัวตนมาหลอกหลอน พวกเรานี้เอาศพมาตั้งก็เห็นมานอนกันอยู่เต็มไปหมด ชาวอโศกแม้แต่เด็กเล็กๆไม่ได้กลัวผี แต่คนเขาครอบงำทางความคิดก็เลยกลัวกันไปหมดแล้วเชื่อว่ามันมี แต่นี่มันไม่มี แม้แต่จะยังหลงอยู่ในจิตมีสัญญาอยู่ มันก็น้อยลงเรื่อยๆจนกระทั่ง พวกเราแม้แต่เด็กก็ไม่ได้กลัวผีอะไร

ผีคือศพที่ตายไปแล้วจะมีวิญญาณหลอกหลอนมันไม่มีหรอก แล้วก็หลงงมงายกัน ผีคือกิเลสคือจิตที่มันหลงผิด อวิชชาก็ผีทั้งนั้น อนาคามีก็มีผีในตัว รูปราคะ อรูปราคะ มานะ

ส่วนเทวนิยมก็รู้เป็นภาษาว่ายังมีธรรมะ 2

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ครั้งที่ 29 วันรัฐธรรมนูญ ที่บ้านราชฯ  

สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยบุคคล) ตอน อนาคามียังกลัวผีอย​ู่หรือไม่ วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:12:29 )

อนาคามียังถูกหลอกอยู่

รายละเอียด

ผู้ที่ยังเป็นอนาคามีก็ยังมีสิ่งที่ถูกหลอกอยู่ ยังไม่รู้ได้ด้วยตนสมบูรณ์แบบยังไม่เป็นอรหัตผล แม้ว่าเป็นอนาคามีก็ยังมีเหลือเศษ ยังไม่รู้แจ้งพ้นอวิชชาสมบูรณ์แบบ ผู้ศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้ามีความละเอียดลึกซึ้งดี จบการรู้ที่มีช่องว่างอยู่ จบอย่างไม่มีช่องว่าง ไม่มีเศษเหลือเลย ก็ค่อยๆบอกกันไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมืองไทยเป็นเมืองของพระพุทธเจ้า-โลกุตรธรรมจะช่วยโลกได้ วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 เมษายน 2564 ( 18:59:36 )

อนาคามีเรียกเป็นชื่อพรหมก็ได้ 

รายละเอียด

อนาคามีเรียกเป็นชื่อพรหมก็ได้ 

1. อันตราปรินิพพายี (ผู้เพียรทำปรินิพพานในระหว่างภพ) 

2. อุปหัจจปรินิพพายี (ผู้ทำปรินิพพานด้วยสามารถ) 

3. สสังขารปรินิพพายี (ผู้ทำปรินิพพานโดยต้องใช้ความเพียรมาก  ประกอบปุญญาภิสังขารในภพตนให้มากๆ) 

4. อสังขารปรินิพพายี (ผู้ปรินิพพานโดยไม่ต้องใช้การปรุงแต่งอภิสังขารให้มากนัก) 

5. อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี (สภาวธรรมไม่เป็นสองรองใคร  หรือไม่เป็นน้องใครอีก  แล้วปรินิพพานไว) 

ให้สนใจปฏิบัติตั้งแต่ศีลข้อที่ 1 แล้วปฏิบัติตามจิตให้เป็น มาเรียนฟังอาตมาอธิบาย อาตมาจะเริ่มต้นอธิบายไปในจรณะ 15 เริ่มต้นใหม่ จนเกิดฌาน 4 ฌานกับปัญญาอันเดียวกัน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้ปัญญาคนไร้ศรัทธาต่ออโศก วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:16:18 )

อนาคามีไม่เสพภายนอกแต่แอบเสพภายในเป็นคนธรรพ์

รายละเอียด

แต่แท้จริงเป็นเพียงอนาคามี ไม่มีกายวิญญัติ วจีวิญญัติ ไม่มีการเสพภายนอก มีแต่แอบเสพภายในเป็นคนธรรพ์ แอบเป็นเล็น แฝงในขนพญาครุฑ แอบไปเสพ เอาเศษจากพญาครุฑไปเสพ

พญาครุฑไปเสพกามกับกากี คนธรรพ์ก็ไปแอบเสพส่วนที่เหลือ เป็นเล็นเป็นหมัดอยู่ที่ขนพญาครุฑ เรียกว่าคนธรรพ์แฝงอยู่ เป็นชีวิตที่แฝงทรงไว้ แอบเสพ มันแฝงในจิตเป็นรูปราคะ อรูปราคะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายกาวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบอโศก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 21:50:02 )

อนาคาริกชน

รายละเอียด

คนผู้ไม่มีบ้านช่อง ไม่มีทรัพย์ศฤงคาร

หนังสืออ้างอิง

วิถีพุทธ หน้า 72


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 07:57:42 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 04:59:40 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:47:06 )

อนาคาริกะ

รายละเอียด

เป็นผู้ไม่มีบ้าน ไม่มีเรือน เป็นผู้สละแล้วจริงๆ

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 138


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 07:58:22 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 05:00:18 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:47:27 )

อนาคโต ผัสโส

รายละเอียด

สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับอนาคต

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 50


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 07:53:13 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 05:01:08 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:47:45 )

อนายูหะ

รายละเอียด

1. สภาพที่ไม่มีอายุเป็นที่สุด 

2. เราไม่เพียรก็คือเรารู้จักเวลา ควรผ่อนจริงๆ ก็ผ่อน ควรพักก็พักอย่างรู้จริงรู้แจ้ง สิ้นความเห็นแก่ตัวสะเด็ด เพราะธรรมดาคนดีนั้นย่อมขวนขวายในบุญกิริยาอยู่ ย่อมเพียร ย่อมขยันเป็นปกติ เมื่อจะพักจะไม่เพียรแล้ว ก็ย่อมรู้จักเวลา 

3. เราไม่เพียร 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 283, หน้า 482,สมาธิพุทธ หน้า 259

 


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 07:59:41 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 05:02:20 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:48:09 )

อนาสวจิตฺตัสส

รายละเอียด

ผู้สิ้นอาสวะ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 238


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:00:28 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 05:03:27 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:48:27 )

อนาสวะ

รายละเอียด

1. อรหัตผลของแต่ละเรื่อง แต่ละเหตุ แต่ละปัจจัย

2. สภาพของการหมดอาสวะแล้วโดยสิ้นเขิง

3. ความไม่มีอาสวะแล้ว 

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 339 หน้า 414, รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 58


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:01:52 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 05:04:36 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:48:50 )

อนาสวะ สาสวะ อาสวะ

รายละเอียด

อนาสวะคือ ไม่มีแล้วกิเลส  อาสวะคือการหมักหมมกิเลส ตกตะกอนยิ่งเน่ายิ่งหมักดองเหมือนตัวจุลินทรีย์ กิเลสมันเล็กละเอียดกว่าจุลินทรีย์ สะสมหมักดองเน่าในเป็นอาสวะ  สาสวะคือ ผู้ที่เริ่มมีสัมมาทิฏฐิแล้วเริ่มปฏิบัติธรรมลดอาสวะมาได้เรื่อยๆเป็นเสขบุคคลเรียกว่า สาสวะ ทำให้กิเลสหมักดองลดลง แต่เหลืออาสวะอยู่ ได้บางส่วนเรียกว่า เป็นผู้ที่มีส่วนแห่งบุญ เป็นผู้ลดกิเลสได้บางส่วนแห่งบุญ บุญกำจัดอาสวะได้บางส่วน ได้ส่วนแห่งบุญคือเสียกิเลสไป บุญไม่ได้ได้อะไรมามีแต่ฆ่ากิเลสตะพึด บุญคืออาวุธฆ่า เขาเข้าใจคำว่าบุญผิดไปไกลคนละโยชน์เลย ตอนนี้อาตมากำลังอธิบายปุญญะ ในหนังสือคนจะมีธรรมะได้อย่างไร หรือเปิดยุคบุญนิยมก็อธิบายไว้ อนาสวะคือหมดอาสวะ สาสวะเป็นตัวกลาง อาสวะคือกิเลสเต็มๆ ก็เท่านั้นเองสามขั้นตอน แต่มีรายละเอียดจะเหลือมากเหลือน้อยอย่างไรก็เป็นรายละเอียดของสาสวะ เหลือมากเหลือน้อยหรือลดกิเลสได้มากกิเลสน้อยลงๆ จนไม่เหลือกิเลส หมดอนาสวะไม่มีอาสวะแล้วสิ้น

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 31 มีนาคม 2563 ( 09:46:57 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:58:55 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:49:29 )

อนิจจตา

รายละเอียด

ความไม่เที่ยง ไม่ยืนยงคงที่ ไม่แน่นอนจริงๆ ยึดมั่นเอาไม่ได้

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 281


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:02:55 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 05:05:39 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:49:46 )

อนิจจตาอยู่ท้ายสุด อยู่สุดท้าย!

รายละเอียด

ทฤษฎีของพระพุทธเจ้าที่ว่านั้นก็คือ ทรงยืนยันไว้ในหมวด “ลักษณรูป 4” บัญญัติไว้ชัดว่า“อนิจจตา”เป็น”ตัวท้าย-สุดท้าย” ตัวที่ 28 ของ“รูป 28”กันทีเดียว ศึกษาให้รู้จริงและปฏิบัติให้ถึง“ภาวะจริง”กันเถิด จะได้แม่นชัดตรงกันเป๊ะๆไม่มีปัญหาเสียที

แจ่มแจ้งยิ่งจริงครบแล้วนะว่า ตัว“ท้ายสุด”ของ“รูป 28”นั้นคือ “อนิจจตา” จุดนี้ก็ชี้บ่งยืนยัน“ความอิสระเสรี”สุดๆของพุทธศาสนาอีก ว่า ความเป็นพุทธนั้นมีได้ทั้ง“2 นัย”บริบูรณ์ถ้วนความเป็น“เทฺว”คือ ชี้ให้เห็นถึงการมี “ภาวะ 2” ทั้งตาม พยัญชนะที่แปลว่า“2” และทั้ง“สภาวธรรม”ก็เป็น“2”ตรงตาม“คำสอน (dotrine)”อันจับต้องสัมผัสด้วยทวาร 6 ของคนทั้งหลายในโลกได้ 

แต่ภาวะที่เป็นตาม“คำสั่ง (command,dictate)”ของ“ God นั้นก็ยืนยันชัดเจนยิ่งว่า ไม่มี“ปรินิพพาน” โดยเฉพาะไม่มี“ปรินิพพานเป็นปริโยสาน” มีแต่ยืนยันว่า “จิตวิญญาณ”นั้นมีอยู่นิรันดร 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 316 หน้า 239


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 14:57:01 )

อนิจจสัญญา

รายละเอียด

1. เจริญอนิจจัง เมื่อใดผู้ใดเห็นจริงก็จะลดความยึดถือ เกาะเกี่ยว ไม่เอาเป็นเอาตายกับสิ่งที่ตนติด ตนหลงอยู่สำเร็จได้

2. ความไม่เที่ยง 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 49, หน้า 230


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:05:14 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 05:06:54 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:50:06 )

อนิจจสัญญา 

รายละเอียด

 รู้จักความไม่เที่ยง อนิจจสัญญา รู้จักอนัตตา ความไม่ใช่ตัวตน 

และรู้จักความน่ารังเกียจหรือความไม่น่าได้ ไม่น่าเป็น อสุภะ เห็นความเป็นโทษ มันก็จะเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเลย เมื่อเห็นมันไม่เที่ยงมันก็ไม่ใช่ตัวตน แล้วจะไปยินดี น่าได้น่ามีน่าเป็นทำไม มันเป็นโทษต่างหาก เพราะฉะนั้นก็จะประหาร สัญญาตัวประหาร ก็จะประหาร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มาฝังชิปโลกุตระใส่จิตวิญญาณตนจนเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 วันขึ้น 14 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 ธันวาคม 2565 ( 11:38:58 )

อนิจจสัญญากับถิระสัญญา

รายละเอียด

อนิจจสัญญา คือการกำหนดรู้ความไม่เที่ยง ถิระสัญญาคือการกำหนดความเที่ยงและเสถียร

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 10:01:22 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:59:25 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:50:25 )

อนิจจัง

รายละเอียด

คือ ความไม่เที่ยงของจิต – เจตสิก

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 76


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 12:14:13 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:35:47 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:50:48 )

อนิจจัง

รายละเอียด

1. มีกลับไปกลับมา ไม่จริงจัง 

2. ความไม่คงอยู่ ความไม่สม่ำเสมอ ความไม่ยึดมั่นคงอยู่ได้ ความแปรปรวน ความยึดเอาแน่ๆ แท้ๆ ไม่ได้เลย

3. ไม่โง่ อยู่เท่าเก่า หรือเหมือนเดิม และไม่ชั่ว หรือไม่มีฐานะต่ำอยู่อย่างเก่า อย่างเดิมแล้ว มีการพัฒนาจริงๆ เริ่มตั้งแต่จิต ตั้งแต่ความเห็น ความเข้าใจ(ทิฏฐิ) อาจจะกลับมาเห็น ตลอดจนอื่นๆ อีก ก็ยิ่งถือว่าอนิจจังชัด และจะต้องเดินทางสู่สุญญภาพด้วย

4. ความไม่อยู่ในสถานภาพที่คงที่ของสรรพสิ่ง

5. ความไม่เที่ยงไม่แท้ 

6. ไม่เที่ยง , ความไม่เที่ยง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 154, 212, ทางเอก ภาค 2 หน้า 19,ทางเอก ภาค 3 หน้า 216, คนคืออะไร? หน้า 371,

อีคิวโลกุตระ หน้า 215 , ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 19


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:07:00 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 05:08:23 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:51:43 )

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าสอนไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พยัญชนะก็รู้กันทั้งนั้น แต่สภาวะล่ะ สภาวะที่เป็นวัตถุมันไม่เที่ยงมันไม่คงที่มันเปลี่ยนแปลงไป ก็เห็นได้ง่าย บางอันก็อยู่นานกว่าจะละลาย เราตายไปแล้วมันก็ยังอยู่ อยู่เป็นพันปีหมื่นปี วัตถุบางอย่าง เราตายหลายรอบแล้วมันก็ยังไม่ละลายหายไปก็ได้ แต่ที่บอกว่าจะต้องอ่านให้เห็นความไม่เที่ยงจริงก็คือในจิตเรา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:54:48 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:00:12 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:52:42 )

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

รายละเอียด

เมื่อรู้ของเก๊ เราก็รู้ว่าตัวเก๊ ไม่มีตัวจริงเป็นตัวอนัตตาเป็นตัวมายาหลอก ให้เราหลงตามอยู่อย่างนั้น มันไม่จริงหรอก มันเป็นเหตุแห่งทุกข์ด้วย เอาสุขมาหลอก สุขก็ไม่ใช่ตัวจริง มันหลอกอยู่ทั้งนั้นแหละ นอกจากไม่ใช่ตัวจริงแล้วพวกนี้ไม่มีอะไรอยู่นานหรอก เดี๋ยวก็เปลี่ยนไปเดี๋ยวก็เคลื่อนไปตามภาวะของสิ่งที่กำหนดว่ามันมีเท่านั้นเองในตามกาละ จริงๆ ในกาละมันไม่มี มันเป็นอนัตตา คุณก็มาลดสภาวะนี้ให้หมด คำว่าหมดไปจากจิต มันหมดจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 20:05:55 )

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ต้องเข้าถึงสภาวะจริง

รายละเอียด

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เขาท่องคล่องปาก ใครก็ฟังมาหูแฉะ แต่จะเข้าถึงสภาวะอนิจจังเข้าถึงสภาวะทุกครั้ง แล้วคุณจะยังเป็นทุกขังอยู่หรือเปล่า มีหนังสือที่อาตมาเขียนชื่อ รู้คนขังสุข รู้ทุกข์ขังสัตว์ อาตมาเขียนหนังสือธรรมะเป็นร้อยเรื่องพิมพ์เป็นล้านเล่มแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ทำไมพ่อครูพาชาวอโศกลงสู่สนามการเมือง วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กุมภาพันธ์ 2564 ( 05:24:40 )

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นภาษาที่ยิ่งใหญ่มาก

รายละเอียด

ยิ่งเป็นเรื่องโลกุตระ ก็คือ สามารถรู้จักจิต เจตสิก รูป นิพพาน สามารถอ่านอาการของจิตที่เป็นความโลภโกรธหลง หรืออาการจิตที่มันเป็นกิเลสแท้ๆได้ แล้วก็มีวิธีที่จะศึกษาตั้งแต่ กดข่ม วิกขัมภนปหาน หรือว่ามีวิธีที่จะพิจารณาทำความรู้โดยปัญญาอันยิ่ง ให้รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นธาตุที่ไม่เที่ยง เป็นธาตุที่เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตนเอะไรเลย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นภาษาที่ยิ่งใหญ่มาก ผู้ใดรู้ความจริงทำความจริงได้ว่ามันไม่เที่ยงมันเป็นความยึดถือไม่ได้เลย แต่มันมีอยู่มันก็เป็นตัวเหตุแห่งทุกข์ มันมีอยู่นี่คือตัวทุกข์ ภาราหเวปัญจขันธา รูปนามขันธ์ 5 มันมีอยู่ก็เป็นเหตุแห่งทุกข์ ผู้ที่เป็นอรหันต์ไปแล้วจึงรู้ว่าทุกข์นี้มันหมดไปไม่ได้หรอก เป็นทุกข์ที่เลี่ยงไม่ได้ 6 ชนิด เพราะฉะนั้นที่มาศึกษาของพระพุทธเจ้าคือ จบได้คือทุกข์ที่เลี่ยงได้ 4 ชนิด อีก 6 ชนิดเลี่ยงไม่ได้

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2563 ( 11:34:21 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:01:08 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:53:10 )

อนิจจังเป็นตัวสุดท้ายของลักษณะ 4

รายละเอียด

อนิจจัง เป็นตัวสุดท้ายของลักษณะ 4 ของ อุปจยะ สันตติ ชรตา อนิจจตา เป็น 4 ข้อสุดท้ายของลักษณะ 4 ของรูป 24 อุปาทายรูป หรือรูป 28 ถ้ารวมทั้งดินน้ำไฟลม ไปด้วย อันสุดท้ายจะเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นสัจจะที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ยังไม่ขาดหกตกหล่นอะไรมากหรอก แม้ จะกระจายไป เช่น ธรรมนิยาม 5 ไม่ได้มีในพระไตรปิฎกชุดนี้เลย ของพระมหากัสสปะ เพราะว่าความรู้ของชุดบริวารของพระมหากัสสปะที่ทำสังคายนานี้ไว้ มันแคบ ก็เก็บได้แค่นี้ 

ซึ่งธรรมนิยาม 5 ไม่มีในพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ ที่ใช้กันอยู่นี้ ไม่มี แต่อาตมาไปเจอในของพุทธโฆษาจารย์ ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ว่า โอ้! อันนี้เป็นของพระพุทธเจ้านี่ ก็มหากัสสปะ เจโต ก็ได้ของท่านแค่นั้น อาตมาไม่เหมือนพระกัสสปะ อาตมารู้ เป็นสายปัญญาตรง ท่านกัสสปะเป็นสายศรัทธาตรง อาตมาก็เอามาใช้อธิบาย ถ้าไม่มีธรรมนิยาม 5 ไม่มีทางบรรลุอรหันต์ แต่ทำไมสายพระกัสสปะบรรลุอรหันต์ เจโต ก็จะมีได้แต่ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ทำไปโดยได้รับคำสอนก็ทำไปๆ ก็ได้บรรลุเป็นสาย เจโต ศรัทธา อาตมายังขยายให้ละเอียดลออไม่ได้ ก็ฝากไว้ก่อนโอฬาร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 29 อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤษภาคม 2565 ( 14:14:17 )

อนิจจานุปัสสี

รายละเอียด

1. ตามรู้ตามเห็นอนิจจัง 

2. มีญาณเห็นแจ้งในอนิจจังที่ยังไม่ลดละจางคลาย

3. ตามเห็นความไม่เที่ยง 

4. สภาพเกิดปัญญาสัมผัส เห็นมันแท้ว่าไม่เที่ยงแท้ ไม่แน่นอน ไม่จีรัง ยั่งยืน มันพึ่งพิง ยึดถือเป็นหลักแก่น หลักแกน ตลอดนิรันดรได้ที่ไหนกัน 

5. ตามเห็นความไม่เที่ยงของอกุศลจิต

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 371, 456,อีคิวโลกุตระ หน้า 244 , ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 128 , วิถีพุทธ หน้า 50,

ทางเอก ภาค 2 หน้า 6, ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 307


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:09:47 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 13:35:36 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:54:38 )

อนิจจโต

รายละเอียด

1. ไม่เที่ยง 

2. ด้วยความเป็นของไม่เที่ยง 

3. โดยความเป็นของไม่เที่ยง 

หนังสืออ้างอิง

อีคิวโลกุตระ หน้า 209, หน้า 209, หน้า 222 ,ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 93 , ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 194, วิถีพุทธ หน้า 50


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:04:23 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 13:47:29 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:55:01 )

อนิจเจ นิจจสัญญิโน

รายละเอียด

วิปลาสในของที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 337


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:10:40 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 13:54:45 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:55:23 )

อนิฏฐารมณ์

รายละเอียด

1. ภาวะที่ได้อารมณ์อันไม่น่าปรารถนา

2. ไม่ชอบ 

หนังสืออ้างอิง

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 159, กำไร-ขาดทุนแท้ของอาริยชน / เราคิดอะไร ฉบับ 272


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:12:45 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 14:00:33 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:55:49 )

อนิทัสสน

รายละเอียด

เห็นไม่ได้ รู้ได้เยี่ยงสามัญ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 539


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:13:38 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:26:25 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:56:09 )

อนิทัสสนัง

รายละเอียด

1. ไม่ใช่จะรู้ จะเห็นกันได้ง่ายๆ

2. ไม่ใช่จะรู้ จะเห็นกันได้ง่ายๆ  แม้ได้รู้แล้วผู้รู้นั้นก็ยังไม่อาจจะนำมาชี้แจงบอกใครได้ง่ายๆ เสียอีกด้วย ไม่มีใครชี้ให้ใครดูได้ง่ายๆ รู้ได้ด้วยตนเท่านั้น 

3. เป็นสิ่ง เป็นเรื่องที่ให้รู้ ให้แจ้งได้ยากเหลือเกิน

4. บอกแจ้งให้ใครๆ รู้แจ้งตามไม่ได้ 

5. เห็นไม่ได้ หรือการไม่อธิบาย ซึ่งก็คือไม่สามารถมองเห็น ไม่อาจรู้ได้ด้วยการเห็น หรือแม้ผู้รู้จริงจะให้ผู้อื่นรู้ด้วยการอธิบายก็ยาก

6. ไม่สามารถจะรู้จักรู้แจ้งรู้จริงได้ด้วยการอธิบายชี้แจง หรือเห็นไม่ได้ด้วยตาเนื้อ 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 5 , 27, ทางเอก ภาค 2 หน้า 48 – 49, สมาธิพุทธ หน้า 219, อีคิวโลกุตระ หน้า 183,

เปิดโลกเทวดา หน้า 158, หน้า 197


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:15:25 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 14:17:21 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:56:43 )

อนิมิต

รายละเอียด

อนิมิต คือ ไม่สั่งนิมิตต่อไปแล้ว ไม่สร้างอะไรต่อ ไม่ให้ไปตั้งอยู่ใน ณ ที่ไหน  อนิมิต ไม่มี ไม่มีสภาพอะไรที่เป็นเครื่องหมายอีกเลย ไม่มีการต่อโพธิสัตว์อีกเลิกไปเลย เหมือนเราตอนเป็นๆเราก็สัมผัสสัมพันธ์อยู่ เราไม่ได้คบหาเลย แต่อยู่ในโลก เราก็เห็น บางทีมันอยู่ไกลเราก็ไม่เกี่ยวข้อง แต่ก็เห็นบางทีมีข่าวคราวโฆษณากันเต็มไปเลยในตลาดโทรทัศน์ อยู่ในมือถือก็เยอะอีกไม่ใช่น้อย แต่เราเห็นแล้วเราก็เห็นโลกเขาบ้าบอไปแต่เราไม่เกิดอะไรเลย ดีไม่ดีจิตที่จะไปไม่ดีจะมีการชังเขาด้วย จะไปข่มเขาด้วยว่าเป็นไอ้โง่ อันนี้จิตเราก็ยังไม่สมบูรณ์เราก็ยังไปข่มไปดูถูกดูแคลนเขา เราก็ต้องทำจิตของเราอย่าให้เป็นอย่างนั้นเราก็ต้องเป็นไปตามนั้นของเขาเราก็ต้องสงสารเมตตา ยังไม่ถึงคราวที่เราจะช่วยได้ก็ปล่อยกันไปก่อน แต่ถ้าถึงคราวที่เราจะช่วยได้ก็ต้องทำจี้จ้ำไช ช่วยกันไปด้วยความเมตตากรุณากัน มีน้ำใจที่จะช่วยเหลือคนอื่น อนุกัมปายะ ก็ต้องมีตลอด

 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 24 มีนาคม 2563 ( 13:55:48 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:01:36 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 20:57:19 )

อนิมิตตนิพพาน

รายละเอียด

คือ หมายถึง ผู้สามารถทำ“สุญญตา”ให้แก่จิตตนได้แล้วจริงคือ มี“สุญญตนิพพาน”แล้ว ในชีวิต และเมื่อจะดับชีวิต ตายลงในบัดใดก็ไม่ตั้งจิตต่อ ภพภูมิใดอีกเลย ตายด้วย“อนิมิตตนิพพาน” นั่นคือ ตาย ลงแบบ“ปรินิพพานเป็นปริโยสาน” เป็นการตายหายสูญไป จากวัฏฏสงสารกันเลย หมดนิมิตใดๆสิ้นเกลี้ยงสูญสุดโดยแท้

หนังสืออ้างอิง

คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1  หน้า 367


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 14:46:49 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:02:18 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:23:32 )

อนิมิตตนิพพาน , อนิมิตนิพพาน

รายละเอียด

อรหันต์ที่ไม่เหลือทั้งฝันไม่เหลือทั้งนิมิต

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 293


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:16:28 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 02:48:12 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:40:59 )

อนิมิตตวิโมกข์

รายละเอียด

ความหลุดพ้นจากกิเลสโดยทำลายนิมิตที่ติดยึดลงได้ หรือถอนเครื่องหมายนั้นๆ ออกได้

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 529


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:23:09 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:32:11 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:41:19 )

อนิมิตตะ

รายละเอียด

ไม่มีเครื่องหมาย , ไม่มีลักษณะ

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 162


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:23:53 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 02:48:32 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:41:42 )

อนิมิตโต ผัสโส

รายละเอียด

สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับสภาพที่ไม่มีอะไรมาทำให้แปดเปื้อน

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 50


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:25:18 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:42:51 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:42:01 )

อนิยตโพธิสัตว์

รายละเอียด

ผู้ตั้งจิตปรารถนาจะเป็นโพธิสัตว์ คือจะไต่เต้าขึ้นเป็นพระพุทธเจ้านั่นเอง

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 147


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:26:01 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:38:01 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:42:21 )

อนิยตโพธิสัตว์

รายละเอียด

“อนิยตโพธิสัตว์” หมายถึง คนผู้มีภูมิธรรมโลกุตระสูงเกินกว่า“อนุโพธิสัตว์” ที่เป็น“อรหันต์”แล้ว จึงคือ ผู้“อรหันตอนิยตโพธิสัตว์”เป็น“โพธิสัตว์ระดับ 6” และ“อนิยตโพธิสัตว์”ก็คือ ผู้ยัง“ไม่เที่ยงแท้”ที่จะสามารถตรัสรู้เป็น“พระพุทธเจ้า”ได้ จึงยังชื่อว่า “อนิยตโพธิสัตว์” อนิยตะ นั้นแปลว่า ยังไม่เที่ยงแท้  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ธัมมิกราษฎร์ประกาศโลกุตรธรรม งานอโศกรำลึก 2566
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 แรม 6 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน ประกาศธัมมิกราษฎร์ต้องมีองค์ประกอบครบ


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2566 ( 11:11:28 )

อนิวัตตโสดาบัน

รายละเอียด

พระโสดาบันที่ไม่มีวันเวียนกลับไปสู่ที่ต่ำใดๆ ได้อีกอย่างเด็ดขาด แม้เพียงชาติเดียว หรือพระโสดาบันที่จะไม่มีจิตเกิดยึดภพยึดชาติอีกเลยแม้แต่ดวงจิตเดียว

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 29


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:26:43 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:44:50 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:42:47 )

อนุ

รายละเอียด

1. เล็ก ละเอียด ไม่รู้ได้ง่าย เป็นไม่เต็มตาม

2. เศษน้อย , ตามติดอยู่ 

3. เล็กๆ น้อยๆ 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 268, ทางเอก ภาค 3 หน้า 404, หน้า 416


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:27:47 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:47:47 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:43:29 )

อนุกัมปัง โลกัมปายะ

รายละเอียด

เป็นประโยชน์เกื้อกูลโลก

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 257


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:28:29 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:49:23 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:43:48 )

อนุกัมปายะ

รายละเอียด

ก็หมายความว่า เป็นผู้อนุเคราะห์หากมีโลกก็เป็นโลกานุกัมปายะ คืออนุเคราะห์กว้าง เอื้อมเอื้อเกื้อกว้างสู่มนุษยชาติ ต้องมีธรรมฤทธิ์มากขึ้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์วันมาฆบูชา วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:43:53 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:03:00 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:44:08 )

อนุตตร , อนุตฺตร , อนุตตระ

รายละเอียด

1. จิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า 

2. จิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า เรามีอำนาจเหนือกิเลสนั้นแน่นอน กิเลสนั้นๆ ไม่มีอำนาจยิ่งกว่าเราอีกเป็นอันขาด 

3. รู้แท้รู้ชัดในจิตตนว่าจิตอื่นที่จะเป็นไปได้ยิ่งกว่านี้ สะอาดยิ่งกว่านี้ สบาย ง่าย เบา โปร่งยิ่งกว่านี้ จะแข็งแรงมั่นคงเท่านี้ๆ ก็มั่นใจปักใจแล้วจะดียิ่ง เยี่ยมยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

4. จิตดีเยี่ยมเป็นที่สุดแล้ว ก็รู้ว่าจิตดีกว่านี้ไม่มีอีก

5. จิตที่ไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ว่าจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า

6. จิตเป็นโลกุตระชนิดไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ว่าจิตเป็นโลกุตระชนิดไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า

7. ใจที่ไม่มีใจอื่นยิ่งกว่าแล้ว 

8. จิตที่ดีเยี่ยมเสิศ ไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่าอีกแล้ว

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 134,  145,  153, คนคืออะไร? หน้า 275, หน้า 556,ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 112 ,

 


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:30:23 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:55:09 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:45:24 )

อนุตตรจิต

รายละเอียด

สัมบูรณ์ที่สุด ไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่าอีกแล้ว

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 43


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:31:22 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:59:22 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:45:48 )

อนุตตรจิต

รายละเอียด

อนุตตรจิต (จิตไม่มีจิตอื่นสูงยิ่งกว่า) เป็นที่สุดไม่มีอะไรจบกว่านี้อีกแล้ว อีกคู่หนึ่ง ทีนี้ก็มีอีก 2 คู่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มีปัญญารู้ตนด้วยเจโตปริยญาณ 16 วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2566 ( 14:04:47 )

อนุตตรังจิตตัง

รายละเอียด

อนุตตรังจิตตัง คือ ดี ไม่มีดีกว่านี้อีกแล้ว สูงสุด 

ที่มา ที่ไป

630524


เวลาบันทึก 26 พฤษภาคม 2563 ( 17:32:58 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:05:03 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:46:16 )

อนุตตริยะ

รายละเอียด

1. ความมีภาวะยอดเยี่ยมสูงสุด มีทั้งความยอดเยี่ยม 3 ประการ และความยอดเยี่ยม 6 ประการ 

2. เหนือไม่มีเหนือกว่านี้อีก 

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 412, ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 275


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:32:20 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:02:24 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:46:48 )

อนุตตริยะ 6 อย่างที่ควรรู้ยิ่ง

รายละเอียด

1. ทัสสนานุตตริยะ  [ควรได้การเห็นอันยอดเยี่ยม]

2. สวนานุตตริยะ .  [ควรได้การฟังอันยอดเยี่ยม]

3. ลาภานุตตริยะ  [ควรได้การได้ผลอันยอดเยี่ยม]

4. สิกขานุตตริยะ  [ควรยินดีการศึกษาอันยอดเยี่ยม]

5. ปาริจริยานุตตริยะ  [ควรตั้งการบำเรออันยอดเยี่ยม]

6. อนุสสตานุตตริยะ  [ควรเจริญการระลึกถึงอันยอดเยี่ยม] .

 

ที่มา ที่ไป

มีรายละเอียดในอนุตตริยสูตร  เล่ม 22  ข้อ 301 (สามคือ ล.11/321) , ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2562 ( 16:06:00 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:04:32 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:48:11 )

อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ

รายละเอียด

เป็นสารถีฝึกคนที่ฝึกได้ไม่มีใครยิ่งกว่า

หนังสืออ้างอิง

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 122


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:32:55 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:04:54 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:48:36 )

อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ

รายละเอียด

เสร็จแล้วก็เป็นผู้ที่อยู่เหนือโลกเหนือกิเลส แล้วก็มาสอนผู้อื่น เป็นอนุตฺตโร  อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ มีความรู้เหนือ และเป็นสารถีฝึกคนที่ฝึกได้ไม่มีใครยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นบุรุษที่ไม่ควรจะฝึก ไม่ควรจะสอน ไม่ควรจะเอามาฝึกให้เป็นให้ได้ก็จะไปฝึก ฝึกมันก็สูญแรงเปล่า เสียเวลาเสียแรงงาน มันฝึกยังไงก็ฝึกไม่ได้ปล่อยให้เต่าปลากินไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 จรณะและวิชชาคือพุทธคุณภาคปฏิบัติ วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2565 ( 19:08:54 )

อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ

รายละเอียด

อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ มีความรู้เหนือ และเป็นสารถีฝึกคนที่ฝึกได้ไม่มีใครยิ่งกว่า สตฺถา เทวมนุสฺสานํ เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ในยุคนี้ ขออภัยที่ต้องพูดความจริง ก็อาตมามีความสามารถทั้งบอกทั้งสอนทั้งพาทำและมาเป็นได้อย่างพวกเรามาเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ มีตัวยืนยันมีบุคคลยืนยันจริงๆได้ มีอาตมานี่แหละ แล้วก็มีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นผู้ช่วย ถ้าจะว่าแล้วก็เท่าๆกับ เป็นผู้นำทาง เปิดให้อาตมา อาตมาก็จะได้เดินได้อย่างสะดวกเต็มที่ เป็นนายทวาร อาตมาก็มาได้เต็มที่ คือมาทำ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 จรณะและวิชชาคือพุทธคุณภาคปฏิบัติ วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2565 ( 19:22:55 )

อนุบุพพวิหาร 9

รายละเอียด

คือ ธรรมเครื่องอยู่ที่ประณีตต่อกันขึ้นไปโดยลำดับ - progressive abidings; mental states of gradual attainment) ได้แก่... 
รูปฌาน 4 (the Four Absorptions  of  the  Form-Sphere) 
อรูปฌาน 4 (the Four Absorptions of the Formless Sphere) 
สัญญาเวทยิตนิโรธ (สมาบัติที่ดับสัญญาและเวทนา - extinction of perception and feeling) เรียกอีกอย่างว่า  นิโรธสมาบัติ (attainment of extinction) 

สมาบัติข้อที่ 9 นี้ เฉพาะแต่พระอนาคามีและพระอรหันต์ผู้ชำนาญในสมาบัติ 8  ข้างต้นแล้วเท่านั้น     จึงจะเข้าได้ 
อนุบุพพวิหารนี้  เรียกอีกอย่างว่า  อนุบุพพนิโรธ (graded stages of cessation) เพราะต้องดับขั้นต้นๆ และขั้นไปตามลำดับ  จึงจะเข้าถึงขั้นสูงที่อยู่ถัดขึ้นไป
 

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2562 ( 21:26:16 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:06:07 )

อนุปคัมมะ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นต้องหมดตัวตน หมดตัวตนเป็นภาษาพยัญชนะและมีสภาวะจริงๆเลย เป็น อนุปคัมมะ รู้สิ่งที่มี มีอะไร มีสิ่งที่มีกับไม่มี แล้วเราก็ไม่เข้าข้างมีกับไม่มี แต่ถ้าเรายังอยู่ เราก็จะเข้าข้างตามที่ควร ควรเข้าข้างไหนโดยไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าเข้าข้างไหน เอาตามเหตุการณ์ปัจจุบันและเหตุปัจจัย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 22 ยุคนี้สมาธิชาวอโศกเกิดจากจรณะ 15 วิชชา 8 วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2565 ( 21:58:09 )

อนุปคัมมะ กับ Empty

รายละเอียด

ผู้ที่รู้การส่งเสริมกับผู้ที่รู้การทำลาย นี่มีภาษาใบ้ช่วยด้วยนะ คือผู้รู้ครบทั้ง 2 อย่างนี่แหละคือ อนุปคัมมะ แล้วก็ไม่เข้าไปใกล้ทั้งสองอย่างนี้ ไม่เข้าไปมีทั้งสองอย่างนี้ เมื่อไม่มีทั้งสองอย่างนี้ อันนี้ก็คือ Empty ของคุณนั่นแหละ ว่าง ไม่มีบวก ไม่มีลบ ไม่มีอะไรมี ไม่มีอะไรไม่มี ภาษาว่าไม่มีคือปลายสุด ที่มันจะต้องใช้แล้ว แต่ผู้ที่รู้ความไม่มีแล้ว แต่ยังมีชีวิตอยู่ ก็รู้ว่าความไม่มี เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเข้าหาความไม่มีอีก เพราะฉะนั้นตายโดยไม่เข้าไปหาความมี ไม่เข้าไปหาความไม่มีเลย หายไปเลย มีก็ไม่มี ไม่มีก็ไม่มี หายไปเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 20:55:33 )

อนุปคัมมะ คือบุคคลเช่นใด

รายละเอียด

นี่คือพยัญชนะที่ตั้งบัญญัติขึ้นมาของบาลี เพื่อแทนสภาวะต่างๆ เพื่อใช้ให้รู้สภาวะต่างๆ 

เพราะฉะนั้นคนเราเกิดมาไม่รู้จัก ตนะ ตัวที่ตั้งลงไปแล้ว ที่จริงมันไม่มี น คือไม่มี แต่เมื่อมันมี มันก็เลยอยู่เป็นสภาพ 2

ต ถ้าผู้ที่รู้ความตั้งอยู่ ก็เป็น วิชชา ใครยังไม่มีความรู้ น มันก็จะตั้งอยู่ เป็นตน เป็นตนะ ผู้ที่มีวิชชาแล้วก็ไม่มี ตนะ ไม่มีแล้ว ตน รู้ตัวตน ได้รู้ความจริงที่เป็นความจริงอย่าง ‘อนุปคัมมะ’ 

อนุปคัมมะ คือบุคคล ผู้รู้หมดแล้วทั้งความมีและความไม่มี เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่เราก็รู้ความมีความไม่มีนี้ ก็ไม่เข้าไปยุ่งไม่เข้าใกล้ แต่ถ้าเผื่อว่า จะมีทำงาน มีการร่วมกันให้เกิดผล เราก็ไปร่วมกับสิ่งมี เมื่อสิ่งที่มีนั้นเป็นองค์ประกอบที่ดีแล้ว เป็นความควร เป็นความมีที่ดี หรือเป็นความมีที่เป็นไปเพื่อละกิเลส เพื่อล้างในสิ่งที่ไม่ควรมี

เมื่อเกิดเป็นวิญญาณก็เป็นวิญญาณที่ปราศจากกิเลส ต้องมาแยกกิเลสออก สิ่งที่มีอยู่ก็คือจิตธาตุก็ต้องให้มันมีอยู่ เพราะเรายังไม่ได้ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นชีวิตสะอาดจากกิเลสก็ต้องมีให้ได้ ไม่ต้องมีให้ได้หรอก มันต้องมีอยู่ มันยังไม่ตาย ยังไม่คิดจะตาย ไม่ได้ทำให้ตาย มันก็ต้องมีอยู่ ก็ต้องรู้เป็นสัจจะ มันยังมีอยู่ มันยังไม่ได้ทำตาย จะทำตายก็ต่อเมื่อเราทำกิเลสให้มันหมดเกลี้ยงเลย เหลือแต่จิตสะอาด จะตายก็ตายด้วยจิตสะอาด แล้วจะไม่เกิดอีก ก็จะรู้เลยว่า อ๋อ.. จิตมันคือธาตุดินน้ำไฟลมกับชีวะยึดกันเท่านั้น 

เรารู้จักชีวะ ระดับพืช ระดับจิตก็รู้ ไม่เป็นทั้งพืชทั้งจิต เลิก คุณก็ กายสเภทา ปรัมมรณา หลังจากกายแตกแล้วก็เป็นดินน้ำไฟลมเป็นอุตุธาตุไปหมดเลย จิตธาตุหายไปเลยนี่เป็นความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า สลายจิตธาตุ เป็นปรินิพพานเป็นปริโยสาน ฟังอาตมาอธิบายดีๆนี่เป็นการอธิบายสมบูรณ์แบบครบถ้วนรอบ ชัดเจนแล้ว ถ้ารู้แล้วทำได้อย่างนี้คุณเป็นพระอรหันต์ ความเป็นอรหันต์ไม่ใช่สิ่งลึกลับ ไม่ใช่แบบเทวนิยมที่พระเจ้ารับไปหมด มั่วซั่วไปหมดไม่รู้ว่าพระเจ้าอยู่ตรงไหนที่ไหน โมๆเมๆ ตายไปแล้วอยู่กับพระเจ้า ทำชั่วจะตายชักบอกว่าตายแล้วไปอยู่กับพระเจ้า ก็ไม่รู้ชัดเจน ชั่วก็ไม่ชัด ดีก็ไม่ชัด รู้มะลำมะเลืองไปอย่างนั้น 

ศาสนาพุทธนี่รู้ชัดเจนความสุขความทุกข์ก็รู้ชัดเจน สุดท้ายจะปรินิพพานเป็นปริโยสานก็ชัด คนมาถามอาตมาว่า มาอวดตัว เป็นพระอรหันต์รู้ได้อย่างไร ก็รู้อย่างที่พูดนี่ไง รู้ว่าจะมีก็มี รู้ว่าจะไม่มีก็ไม่มี แล้วทำสำเร็จได้ด้วย ทำได้จริงด้วย จึงพูดอย่างที่พูด จึงจริงอย่างที่พูด พูดได้แล้วพูดความจริง ไม่ได้เอาจากของใครมาพูด มีใครมาพูดอย่างอาตมา ไม่มี ไม่มีแล้วอาตมาจะเอามาจากไหน ก็ต้องเอาจากของตัวเองใช่มั้ย เอาของตัวเองมาพูด เพราะฉะนั้นถามอีกว่าอรหันต์เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างที่พูด พูดอย่างที่เป็นนี่แหละ ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที นี่แหละอย่างนี้ พระพุทธเจ้าก็ยืนยัน ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที พูดอย่างไรทำได้อย่างนั้น ทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น นี่ไม่ได้พูดเล่น พูดความจริงทั้งนั้น ก็เป็นอย่างนี้ ส่วนคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ใครจะไปบังคับคุณ ใครจะไปจัดการคุณ คุณจะไม่เชื่อก็ไม่ใช่เรื่องของอาตมาเลย คุณจะเชื่ออาตมาก็ไม่ใช่เรื่องของอาตมา คุณเชื่อแล้วเป็นประโยชน์ไหมล่ะ รับไปเป็นอายตนะไหม ของอาตมากับคุณ รับไปปั๊บ ก็มีอายตนะ 

เพราะฉะนั้น คำว่าอายตนะ 8 ซึ่งผู้ที่ยิ่งใหญ่ อภิภู จึงจะรู้อายตนะ 8 ที่เป็นคุณสมบัติพิเศษ เป็นคุณวิเศษของคนที่มีอายตนะ 8 เป็นคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่ คุณสมบัติแบบนี้ละเอียดมากจนกระทั่งพวกคุณฟังแล้วเหมือนเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่มันเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้งที่คนสามัญแม้รู้ก็ยังไม่ได้ คนที่ลึกซึ้งจริงๆที่จะรู้ความจริงของสภาวะธรรม ความเป็นอายตนะ 8 นี้ แม้อายตนะข้อที่ 1 อภิภายตนะ ไม่ใช่อายตนะธรรมดา คนธรรมดามีอายตนะ ไม่สามารถมีอภิภายตนะได้ง่ายๆ  อภิภายตนะต้องเป็นคนระดับอภิภู คือระดับ 8 อาตมาเอาระดับ 8 มาพูด เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ที่จะมีคุณสมบัติของจิต แล้วไม่งงไม่สงสัยว่าจิตของคนทำงานก็ต้องมีการกระทบสัมผัส รู้ตื่น รู้อยู่ ถ้าหลับอยู่ก็คือจิตไม่เต็ม ถ้าตื่นขึ้นมารับรู้ทางโลกและอัตตาก็รับรู้อยู่ครบ สว่างไสว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ งานอโศกรำลึก 2565 อภิภายตนะ 8 ตอน สังคมสาราณียธรรมที่จริงยิ่งกว่ายูโทเปีย วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2565 ( 13:42:26 )

อนุปคัมมะ คือไม่เข้าไปทั้งความมีและความไม่มี

รายละเอียด

คำว่า ความมีกับความไม่มี พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าอาศัยสิ่ง 2 อย่างนี่แหละ อาศัย 2 ส่วน 2 อย่างนี้คือความมีกับความไม่มี สรุปแล้วในโลกนี้มีความมีกับความไม่มีเป็นสิ่งอาศัย ผู้ที่เห็นความมีกับความไม่มีได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แล้วไม่เข้าไปมีกับความมี ไม่เข้าไปมีทั้งความไม่มี พระพุทธเจ้าก็ชี้ว่าสภาพนี้เป็นสภาพ อนุปคัมมะ หมายความว่าเป็นผู้ที่ไม่เข้าไปมีแล้ว มีก็รู้แล้วว่ามี ไม่มีก็รู้แล้วว่าความไม่มี แล้วไม่เข้าไปทั้ง 2 อย่าง อนุปคัมมะ คนที่ไม่เข้าไปทั้ง 2 อย่างนี่แหละคือผู้ที่เป็นกลาง 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 13:30:07 )

อนุปคัมมะ ต่างกันกับมัชฌิมาปฏิปทา อย่างไร

รายละเอียด

ต่างกันคือ อนุปคัมมะ คุณธรรมของผู้ปฏิบัติที่เป็นผลแล้ว เป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เหนือสิ่งแวดล้อม โดยไม่เข้าไปใกล้อะไรสักอย่าง เรียกว่า อนุปคัมมะ แต่รู้ว่าเขามีแล้ว ซึ่งเป็นคุณวิเศษของศาสนาพุทธ เห็นเขาจนเห็นเขารวย เราก็รู้ เห็นเขามีอำนาจบาตรใหญ่ เห็นเขาไม่มีอำนาจบาตรใหญ่ เห็นเขารักเห็นเขาชังรู้หมด ในโลกมันมีสภาพแตกต่างกัน มากน้อยต่างกันอย่างไรเท่าไหร่รู้เห็น แต่ท่านไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักอย่าง เข้าใจผิดกันไปไกลแล้วไม่ได้บรรลุธรรมของพระพุทธเจ้า มัชฌิมาปฏิปทา มาจาก 2 คำ คือ มัชฌิมากับปฏิปทา 

มัชฌิมาคือความเป็นกลาง หรือ คนที่เป็นกลางแล้วคือคนที่ อนุปคัมมะ แล้ว คือคนเป็นกลางแล้ว ปฏิปทาแปลว่าข้อปฏิบัติหรือข้อประพฤติเพื่อจะให้ไปเป็นคนที่เป็น อนุปคัมมะ เป็นคนที่มีคุณสมบัติ วิเศษ ที่รู้อะไรทุกอย่างแต่ไม่ได้ไปเข้าข้างอะไรไม่ได้ไปหลงตกอยู่ในฝ่ายไหนเลย 

เพราะฉะนั้นข้อปฏิบัติที่จะไปเป็นมัชฌิมาหรือไปเป็น อนุปคัมมะ จึงคือหลักประพฤติ เพื่อจะมาเป็นบุคคลผู้เป็น อนุปคัมมะ ชัดเจนนะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 23 ความมหัศจรรย์ของการแยกกายแยกจิตได้ วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 มกราคม 2565 ( 10:40:14 )

อนุปคัมมะ รู้ทั้ง 2 อย่าง

รายละเอียด

ใช่ๆ จิตกลางเป็น อนุปคัมมะ รู้ทั้ง 2 อย่าง มันมีความจริงอย่างไรก็รู้อย่างนั้น ไม่มีอารมณ์กิเลสแฝง เป็น 1 อย่างเดียว ไม่มี 2 อธิบายธรรมะด้วยภาษาธรรมดาง่ายๆได้แล้วก็ไปปฏิบัติจริงๆ จะได้เป็นของจริง เพราะฉะนั้น คนที่ไม่มี 2 มีแต่ 1 เป็นอรหันต์ ไม่ใช่เรื่องลึกลับ อรหะ ไม่ใช่เรื่องลึกลับ อรหัน อรหะ เป็นความชัดเจน กระจ่างแจ้ง 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล


เวลาบันทึก 19 ธันวาคม 2565 ( 13:53:14 )

อนุปคัมมะ เป็นผู้มัชฌิมะอย่างไร

รายละเอียด

ในโลกเขาก็มีเป็นโลกีย์ เป็นอบายมุข เป็นกาม เป็นรูป ในโลกคนอื่นเขา แต่ผู้เป็น อนุปคัมมะ เป็นผู้มัชฌิมะ  เป็นคนผู้เป็นกลาง ยืนอยู่แล้วก็เห็นรู้อันนี้อยู่ ยิ่งกว่าพระเจ้า รู้ได้หมด ควบคุมด้วย จัดแจงได้ด้วย สำหรับตนเองนะ ไม่ใช่เที่ยวได้ไปจัดการคนอื่น จัดการตน แต่สามารถบอกคนอื่น อธิบายคนอื่น ให้เข้าใจให้เป็นอย่างที่ตนเองเป็นได้ ให้ไปทำตามได้ จริง สามารถถึงอย่างนั้น 

แล้วที่สุดแห่งที่สุดสามารถที่จะรู้เลยว่า จิตนิยามทำให้เป็นอุตุ ทำให้เป็นดินน้ำไฟลม ชนิดเลิกที่จะมารวมตัวกันติดๆเลย กายสเภทาปรัมมรณา หลังจากการตายนั้น จบไม่มีชีวะอีกเป็นพืชก็ยังไม่เป็นเลย เป็นอุตุ เรียกว่า ปรินิพพานเป็น ปริโยสานตายสิ้นรอบ เป็นครั้งสุดท้ายจบ พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สามารถปรินิพพานเป็นปริโยสานได้แล้ว แต่ยังไม่ทำให้แก่ตน ยังพัฒนาเป็นโพธิสัตว์ต่อๆๆๆไป เพิ่มพุทธภูมิไป จนกว่าจะไปถึงสุดท้ายเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง หรือเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วท่านก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาอย่างอวดตัวแต่ถ่อมตน ด้วยความจริง

วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 แรม 7 ค่ำ เดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2564 ( 20:56:28 )

อนุปคัมมะ เป็นผู้รู้แล้วรู้ความเป็น 0

รายละเอียด

แล้วความเที่ยงคืออะไร คือ 0  สูญ อย่างผู้รู้เป็น อนุปคัมมะ เป็นผู้รู้แล้วรู้ความเป็น 0 รวมความไม่มี แล้ว เราก็ยังไม่ดับสูญเรายังมีชีวะ เราก็รู้ก็เห็นแต่เราเหนือมัน แล้วก็เข้าใจเห็นใจพวกที่มีด้วย เขายังมีอย่างอยากใหญ่ก็เห็นใจ เข้าใจเขา ช่วยได้ก็ช่วย ผู้ที่ยังช่วยไม่ได้ก็ให้ไปตามวิบากก่อนนะ เพราะพูดอย่างไรคุณก็ไม่รู้เรื่องโลกุตระ มันเป็นสัจจะของคนที่ยังไม่มีภูมิถึง ก็ต้องปล่อยเขาไป ดีไม่ดีอย่าไปยุ่งกับเขา เขาจะเอาเราตาย อาตมาระมัดระวัง อย่าไปแตะเข้าเดี๋ยวตาย ตายก็ไม่ได้ทำหน้าที่เท่านั้นเอง เราก็ไม่ได้ไปพยาบาทเขาหรอก เพราะเขาไม่รู้ เขานึกว่าไปแตะต้องสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่เขายึดถือ ไม่ได้หรอกเขาเอาตายเลย ไปเอาหัวใจเขามาไม่ได้ ไปแตะให้หัวใจบอบช้ำ ให้หัวใจเขากระเทือน เขาก็ไม่ยอมอย่างนี้เป็นต้น เราก็ต้องรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางบ้าง แล้วก็ทำอย่างพอสมควรที่พอเหมาะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติผู้กอบกู้ศาสนาพุทธในยุคกึ่งพุทธกาล วันพุธที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 07:01:35 )

อนุปคัมมะ ไม่เข้าไปยึดทั้งความมีและความไม่มี

รายละเอียด

ได้การยึด พอเริ่มยึดก็เริ่มเป็นงูขึ้นมาแล้ว ยึดมากเข้าก็เป็นพญา พญางู พญานาค จริงๆแล้วยึดนี้เป็นเรื่องสุดยอดยิ่งใหญ่ในศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่รู้จักความจริง ความจริงในโลกมีสมมติสัจจะกับปรมัตถสัจจะ ความจริงของสมมติมันมีแตกต่างกันไปมากมาย เราจะไปยึดเอาอันใดๆนั้นมันไม่หวาดไม่ไหวมันมาก ส่วนความจริงของปรมัตถ์นั้นมันมีขั้นตอน ของพระพุทธเจ้ามีจิตเจตสิกรูปนิพพาน สามารถศึกษาเป็นลำดับไป สุดท้าย รวมเป็นหนึ่งและที่สุดเป็น 0 จบได้ ปรมัตถสัจจะที่สูงสุดเป็นอย่างนั้น 

ที่นี้ปรมัตถสัจจะ หมายความว่า เขาไปถึงจิต ทำจิต ทำจิตในจิตทีเดียว เขาก็ทำได้ สายศรัทธา สายเทวนิยม แม้แต่ชาวพุทธที่ยังไม่เข้าขั้นมีปัญญาแท้ สามารถที่จะแยกแยะจิตแยกแยะกายได้อย่างสัมมาทิฏฐิจริง ซึ่งไม่ใช่จะแยกกันได้ง่ายๆ แล้วไม่ใช่จะรู้จักความเป็นกายได้สัมมาทิฏฐิสมบูรณ์แบบได้ง่ายๆ ก็ไม่สามารถจะเข้าถึงสภาพทำให้เป็น 1 หรือเป็น 0 เป็นอนัตตาได้สำเร็จอย่างแท้จริง คนผู้ที่ทำได้ขนาดไหนอย่างไร เขาก็ยึดของเขา อย่างนั้นๆ จนกว่าจะเป็นผู้ที่มาเรียนรู้การไม่ยึด ตั้งแต่ตนเองยึดสิ่งที่หยาบใหญ่ตั้งแต่ต้น แล้วก็วางเป็น แล้วก็วางอันที่ 2 อันที่เหลือต่อไป 3 4 5 6 7 8 9 10 วางแล้วจึงเห็นว่า อ๋อ.. ความมีมันมีอยู่ในโลกเป็นสมมติสัจจะ เพราะเราไปยึดมันเอง มันก็เลยกลายเป็นความยึด จนในที่สุดผู้ที่ไม่ยึดได้สูงสุดเป็นพระอรหันต์ ก็เห็นว่า อ้อ.. มันมีก็มีไป เราทำความไม่มีหรือความไม่ยึดได้แล้ว ก็เป็นเรื่องของเรา 

เสร็จแล้วเราก็รู้ทั้ง 2 อย่าง เป็นผู้ที่อยู่ลอยตัวเป็น อนุปคัมมะ ไม่เข้าไปยึดทั้ง 2 อย่าง เพราะในโลกมันมีสภาวะ 2 อย่าง เป็นอนุปคัมมะ คือผู้ที่มี มัชเฌนธรรม คือธรรมะที่เป็นกลางอย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ที่มีความรู้อย่างนี้จึงเป็นผู้ที่มันไม่ ที่จริงแล้วไม่มีภาษาจะพูด แต่พยายามพูดโดยเอาภาษาไทยมาขยายความ สุดท้าย ตายไปด้วย ความมีก็ไม่ใช่ ไม่มีก็ไม่ใช่ เพราะถ้ามีหรือไม่มีก็คือธาตุรู้ที่ยึดมี หรือยังยินดีในมี ในไม่มีก็คือยึดนั่นแหละ แต่ผู้ที่ตายผู้นี้ ไม่เป็นทั้งมีที่ไปยึดอยู่ หรือไม่มีไม่ยึดก็ไม่มี เพราะฉะนั้นธาตุรู้หายไปเลย ตายอย่างดินน้ำไฟลม ไม่เหลือธาตุรู้ จึงมีทั้งมี จึงมีทั้งไม่มี และไม่มีทั้งมี และไม่มีทั้งไม่มี 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 31 วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 31 พฤษภาคม 2565 ( 15:32:26 )

อนุปคัมมะ 

รายละเอียด

ถึงแม้มันมีในโลก คนอื่นเขามีให้เห็นตำตาอย่างไร เราก็เห็นว่าคนเขายังมีอยู่ คนอื่นเขาต้องมีอยู่แน่ เพราะเขาไม่ได้ล้างอย่างเรา เราก็รู้ความมีกับความไม่มี โดยไม่เข้าไปยึดถือความมีหรือความไม่มี ในขณะที่เรายังมี ไม่เข้าไปมี ไม่เข้าไปใกล้ ไม่เข้าไปยึด ไม่เข้าไปเป็นในความมีกับความไม่มี 2 อย่างนี้ ในขณะที่เรายังมีความรู้อยู่เป็นๆนี่ เรียกว่า อนุปคัมมะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมจากโสดาบัน 4 ไปถึงความมี ไม่มี และอภิภู รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 24 วันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:18:11 )

อนุปคัมมะคือ...

รายละเอียด

ผู้ที่จบแล้ว อนุปคัมมะ จะไม่เข้าไปติดทั้งความมีและไม่มี อย่างไม่ได้กดข่ม อย่าง อาฬารดาบส หรือ อุทกดาบส อย่างสายอาจารย์มั่น ที่กดข่มได้ ชาติเดียวอาจจะกดข่มได้ แต่ชาติต่อไปกิเลสอาสวะไม่สิ้น มันก็ขึ้นมาใหม่ แล้วคุณจำชาติไม่ได้หรอก เกิดมาอีกคุณจำชาติไม่ได้หรอก คุณจำคุณธรรมที่คุณจะมีกิเลสหรือไม่มีกิเลส คุณจำไม่ได้ ระลึกชาติ อนุสาสนีปาฏิหาริย์คือมีกิเลสหรือไม่มีกิเลส ไม่ใช่ไประลึกชาติแบบเป็นนาย ก. นาย ข. นาย ค. ตัวตนบุคคลเราเขา ไม่ใช่ แต่ระลึกชาติอนุสาสนีปาฏิหาริย์ ระลึกเนื้อหาธรรมะอย่างที่อาตมาอธิบายอย่างนี้ อาตมาก็ดึงเอาของเก่าที่เรียนรู้จากพระพุทธเจ้ามาบรรยายทั้งนั้น และต่างกันกับที่เถรสมาคมและปราชญ์ทางศาสนาพุทธในยุคนี้เขาเข้าใจ ซึ่งย้อนแย้งกับเขา อาตมาต้องมาตีย้อนแย้ง ปฏินิสสัคคะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ประสบการณ์พ่อครูในอิทธิปาฏิหาริย์และการออกป่า วันพุธที่ 22 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2565 ( 04:51:53 )

อนุปคัมมะคือคนเป็นกลางหรือมัชฌิมา

รายละเอียด

คนพวกนี้ก็จึงเป็น อนุปคัมมะ ไม่เข้าไปมีกับเขาแหละ เข้าไปมีกามก็ไม่มี เข้าไปมีอัตตาก็ไม่มี มนุษย์ที่ยังมีอวิชชาอยู่ เขาก็ต้องมีมากน้อยก็แล้วแต่ จนกว่าจะเป็นอรหันต์ เป็นอนาคามีก็ยังมีเหลืออัตตา จนหมดไม่มีกามไม่มีอัตตาแล้ว คุณก็บรรลุสูงสุดแล้ว เป็นคนเป็นกลาง 

เพราะฉะนั้นคนเป็นกลางถึงเรียกว่ามัชฌิมา คนผู้เป็นกลาง แต่ท่านไปแปล ตีขลุมรวม มัชฌิมาปฏิปทาว่า เป็นข้อปฏิบัติเพื่อให้ไปเป็นคนเป็นกลาง แต่ท่านก็ไปรวมกันซะ ว่า ข้อปฏิบัติกลางๆ ก็ให้ปฏิบัติตามข้อปฏิบัตินี้ไป อย่าไปแวะข้างทาง อย่าเรียนรู้เรื่องกาม เรื่องอัตตา ซึ่งเป็นอันตาสองข้าง อันตา คือที่สุด 2 ฝั่ง ไม่ให้เรียน เรียนรู้แต่ตัวกลางๆแล้วก็เดินไปกลางๆ อาตมาพยายามอธิบายสภาวะจากที่ท่านเข้าใจตามภาษาที่ท่านยึดติด น่าสงสาร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ โฮมแฮงกันซัดหอกเพื่อฆ่าโจรทำลายศาสนา วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2564 ( 11:00:06 )

อนุปคัมมะคืออย่างไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นผู้ที่ตรัสรู้ตามของพระพุทธเจ้าแล้ว รู้ความมีความไม่มี จึงสามารถที่จะอยู่กับความมีหรือความไม่มีทั้ง 2 อย่างนี่แหละแล้วมายึดในฝั่งไหน ไม่ยึดทั้งความมีและความไม่มี เรียกว่า อนุปคัมมะ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎก เรื่องอภิภายตนะ 8 ค่อยๆอธิบายกัน เป็นเรื่องสูง พระโพธิสัตว์ที่จะรู้จักอภิภายตนะ เรื่อง อภิภายตนะ 8 มันยิ่งกว่า สยังอภิญญา ที่เป็นระดับ 7 แต่อภิภูนี้ไต่ระดับ 8 แล้ว ก็ค่อยๆอธิบายไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 2

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2565 แรม 15 ค่ำเดือน 4 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2565 ( 19:03:32 )

อนุปคัมมะคืออะไร

รายละเอียด

อนุปคัมมะ มันคือคุณสมบัติหรือคุณวิเศษ ของผู้ที่ชื่อว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เรียกด้วยศัพท์ว่า อภิภู ซึ่งรองจาก สยัมภู คือพระพุทธเจ้า อภิภู คือผู้ยิ่งใหญ่สูงใกล้พระพุทธเจ้าเข้าไปแล้ว ซึ่งมีอภิภายตนะ 8 

ส่วนคุณสู่แดนธรรมอธิบาย อนุปคัมมะคือ ไม่เข้าไปใกล้ทั้งสองฝ่าย ได้ถูกต้องแล้ว อธิบายแทนอาตมาแล้ว ขอบคุณมาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน

วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 20:10:29 )

อนุปคัมมะคือใคร

รายละเอียด

อาตมาบรรยายไปเวลาจะหมดแล้ว ก็ขอตีเข้าเป้า อนุปคัมมะ ผู้เป็นกลาง มีความรู้มีความเป็นได้ ไม่มีกิเลส เป็นคนมี แต่มีความเป็น อนุปคัมมะ คือยังเป็นคนมีชีวิตยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน จึงเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือความมีและความไม่มี ไม่ติดทั้งความมีและไม่ติดทั้งความไม่มี แต่ช่วยคนมี มีคุณธรรมบ้างแล้ว หรือคนไม่มีคุณธรรมบ้างเลยก็ช่วยได้ ช่วยได้ทั้งสองฝ่าย อนุปคัมมะ นี่ อย่างอาตมานี่เป็นตัวอย่าง ช่วยได้ทั้งคนที่สนใจและมาศึกษา แต่คนที่ยังไม่สามารถมี อัญญธาตุ เลยก็ยาก ที่จะมาฟังธรรมะอาตมารู้เรื่อง ก็ตามศึกษาเถอะ อาตมาพยายามต่อชีวิต จะไม่พยายามตายง่ายๆ กำลังเจรจากับยมบาลอยู่เท่านั้น พยายามพากเพียร พูดเป็นเรื่อง Magic นิดหน่อย แต่ที่จริงไม่ได้ไปสู้กับยมบาลจริงหรอก พยายามรักษาทั้งด้านรูปและนาม เพื่อให้ชีวิตมันยั่งยืนยาวนานไปได้ สำหรับจิต อาตมาก็รับผิดชอบตัวเอง สำหรับรูป คนอื่นเขาช่วยด้วยอะไรต่างๆ อีกเยอะ สำหรับจิตก็มีพลังใจจากคนอื่นพยายามเอาใจช่วย ก็มีพลังของคนอื่น เอาใจช่วย ไม่อยากให้อาตมาตายก็พยายามพูดแสดงความจริงใจ อวยพร 88 ปีแล้ว นี่กำลังขึ้น 89 แล้ว ย่าง เข้าไป 89 มาได้ 8 วันแล้ว อาตมาอายุ 88 ปี 8 วันในวันนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 41คนโง่ซวย รวยเด่น และเป็นกลาง วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2565 ( 14:31:29 )

อนุปคัมมะมีสภาวจิตอย่างไร

รายละเอียด

พวกเรานี้ฟังธรรมกันเก่งนะ รู้เรื่องไหมเนี่ย...รู้...สุดยอด มันรู้เรื่องแล้วมันต้องรู้สภาวจิตของเรามีอะไร กิเลสกับไม่เป็นกิเลส นี่แหละเป็นการตัดสิน อาการของกิเลสเป็นอาการอย่างไร อ๋อ.. เรามีชีวิต อาการจิตของเราไม่มีกิเลสแล้ว ก็คือ มันไม่มี อ๋อ.. อาการกิเลสหมดไปแล้ว แต่เรามาดูเราว่าเรายังมีชีวิต แต่เราก็ไม่มี สุดท้ายเราก็ยังมีชีวิต เราก็มีธาตุรู้ที่จะรู้ว่า รู้อะไร รู้ความไม่มีในความไม่มี เรามีชีวิตอยู่เราก็มีสิ เมื่อเรามีเราก็รู้ว่าสิ่งที่คนเขายึดเขาติดต่างๆ แต่เราไม่ติดไม่ยึด เราเป็นอนุปคัมมะ ไม่เข้าไปมีกับเขาเลยทั้ง 2 อย่าง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พญานาคมีจริง พญานาคไม่มีจริง วันพุธที่ 8 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 ธันวาคม 2564 ( 20:57:56 )

อนุปคัมมะรู้เห็นความมีความไม่มีเพื่อใช้อาศัยศึกษาแต่อย่าไปยึดติด

รายละเอียด

ได้อะไรไหนลองเอามาดู ได้ความไม่มี รวมไปลงที่ความไม่มี พระพุทธเจ้าถึงตรัสไว้ชัดเจน อาศัยความไม่มีกับความมีนี่แหละเป็นสิ่งที่ อาศัยศึกษา ในพระไตรปิฎกเล่มที่เท่าไหร่ เล่ม 16 ข้อ 43เมื่อเห็นความมีความไม่มีแล้ว แล้วก็เป็นผู้ที่รู้แล้วว่าอะไรมีอะไรไม่มี ก็ไม่ไปเข้ายึดถือ ไม่ไปยึดถือทั้งความมี ไม่ไปยึดถือทั้งความไม่มีเรียกว่าฉตราบใดที่ยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานก็เป็นผู้ที่มี อนุปคัมมะ รู้จักมัชเฌนธรรม หรือเป็นอภิภู รู้จักสภาพ 2 แล้วเป็นอายตนะอย่างเป็นอภิภายตนะด้วย รู้ไปสูงยิ่งกว่านั้น รู้ว่าสามารถที่จะปรุงแต่งกันให้เป็นอภิภายตนะ 8 ด้วย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภูผู้รู้จบสัตตาวาสและวิญญาณฐีติ วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2565 ( 13:24:31 )

อนุปคัมมะเป็นความสูงกว่า สยังอภิญญา 

รายละเอียด

เรื่องความมีและความไม่มีใครเข้าถึงทำได้ก็เป็นความจบของการปฏิบัติธรรมเป็น อนุปคัมมะ ซึ่ง เป็นความสูงกว่า สยังอภิญญา 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 9 พ่อครูพบญาติธรรมสันติอโศก วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2566 ( 12:32:11 )

อนุปริธาวติ

รายละเอียด

ห้อมล้อม

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 354


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:34:16 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:07:01 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:49:28 )

อนุปริวัตตันติ

รายละเอียด

เป็นไปตาม

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 354


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:36:47 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:09:37 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:49:47 )

อนุปวาท

รายละเอียด

การไม่พูดร้าย

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 374


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:37:41 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:11:04 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:50:07 )

อนุปสัมบัน

รายละเอียด

คือ ฆราวาสทั้งหลายที่ยังไม่มีภูมิรู้ ในเรื่อง โลกุตรธรรม

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 135


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 13:41:55 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:37:22 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:50:29 )

อนุปสัมบัน , อนุปสัมปัน

รายละเอียด

1. ผู้มีภูมิจิตยังมากไปด้วยกิเลสอยู่ หรือมีฐานะอันยังไม่เหมาะสมกับคำกล่าวคำสอนนั้น 

2. ผู้ได้ปล่อยแล้ว วางแล้วบ้างตามระดับขั้นของตน แต่ก็ยังไม่สูงเพียงพอที่จะได้รับฟังอุตตริมนุสธรรมอันที่ยังไม่เหมาะควร อันสูงเกินฐานะของตน 

3. ผู้ที่ภูมิยังไม่ถึง 

4. ผู้ที่ไม่มีภูมิพอจะรับรู้ได้ หรือไม่ใช่นักบวช

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 34, ทางเอก ภาค 2 หน้า 372, อีคิวโลกุตระ หน้า 197, พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 82


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:39:06 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:15:15 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:51:17 )

อนุปสัมบันคือใคร ทำไมพ่อครูจึงเทศน์เผื่อแผ่เขาด้วย

รายละเอียด

ออกสื่อไปอาตมาเป็นโลกุตตรธรรมจริง และหาว่าอาตมา อวดอุตริมนุสธรรมกับอนุปสัมบัน แต่ขอยืนยันว่า อนุปสัมบัน ไม่มาเปิดดูช่องนี้หรอก เขาเปิดผ่านไปเท่านั้นแหละ แต่คนที่จะมาดูช่องนี้เป็นผู้ที่เป็น อุปสัมบัน เป็นผู้ใส่ใจ เป็นผู้มีภูมิความรู้พอที่จะรับได้ ส่วนอนุปสัมบันเขาไม่มาเปิดดูหรอก อาตมาพูดไม่รู้กี่ทีก็ยังไม่เข้าใจ เขาก็ขี้ตู่กับอาตมานั่นแหละ

อนุปสัมบันคือ ผู้ไม่มีภูมิพอจะรับธรรมะโลกุตรธรรมได้ อย่าไปเทศน์กับเขาเลย อย่าไปสนอย่าไปบรรยาย แต่มันก็ต้องเริ่มจาก อนุปสัมบันนี่แหละ ถ้าไม่เริ่มให้เขาได้ยินเลยมันจะได้อะไรขึ้นมา ต้องเริ่มให้มีหน่วยของโลกุตรธรรมเป็น อัญญธาตุ เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆหรือเขาก็ต้องพากเพียรฟัง คุณอย่าไปตัดรอนคนที่เขาควรจะได้ หรือคุณจะตัดรอนตัวคุณเอง เลยไม่ฟังอาตมา ไม่ฟังโลกุตรธรรม เพราะซื่อสัตย์ต่อธรรมะพระพุทธเจ้าอย่างมิจฉาทิฏฐิอยู่ว่า อวดอุตริมนุสธรรมออกสื่อบอกสอนต่ออนุปสัมบันทำไม มันผิดจากคำสอนพระพุทธเจ้า 

ฟังเข้าใจชัดขึ้นไหม เพราะฉะนั้นอย่ามาขี้ตู่ว่าอาตมาอวดอุตริมนุสธรรมกับอนุปสัมบัน ซึ่ง อนุปสัมบัน เขาไม่มาฟังอาตมาหรอกเขาก็เปิดผ่านเท่านั้น เขาไม่รู้หรอก อาจจะดูมาจับผิดบ้าง หรือจะดูอย่างตลกบ้าง หรือดูอย่างมนุษย์อาบน้ำกลัวเปียกแล้วมันจะได้อาบน้ำไหม 

ฟังเข้าใจไหมว่าอาตมาพูดอุตตริมนุสสธรรมกับ อนุปสัมบัน ว่าจริงหรือไม่จริง คุณต้องเข้าใจองค์ประกอบว่ามันเกิดมาได้อย่างไร อาตมาอยากให้ อนุปสัมบัน ฟัง เขาไม่ฟังหรอก ผู้สนใจฟังมีแต่ อุปสัมบันทั้งนั้นแหละแต่ ท่านก็ไปแปลว่า อุปสัมบันคือ ผู้ที่ผ่านการบวชนุ่งห่มจีวรมาเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่หรอก ฆราวาสก็เป็นผู้ที่เป็นอุปสัมบันได้ เขาว่าแสดงอุตริมนุสธรรม ต้องแสดงกับผู้อุปสัมบันเท่านั้น คือผู้ที่บวชตามพิธีเท่านั้น ไปแสดงกับฆราวาสไม่ได้ ซึ่งก็เข้าใจกันคนละอย่าง แล้วอาตมาไม่ผิดบัญญัติ ไม่ผิดธรรมวินัยพระพุทธเจ้าด้วย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 42 อรหันต์คือมนุษย์พืชที่มีกายแต่ไม่มีกาย วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2565 ( 09:30:00 )

อนุปัสสี

รายละเอียด

ตามรู้ตามเห็นของจริง

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 259


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:39:54 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:16:40 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:51:39 )

อนุปัสสี 4

รายละเอียด

คือการพิจารณาตามเห็นกิเลสภายในจิต

1. อนิจจานุปัสสี พิจารณาตามเห็นความไม่เที่ยงของกิเลส, ตามเห็นความไม่เที่ยงของกิเลสตัณหา

2. วิราคานุปัสสี พิจารณาตามเห็นความคลายกำหนัด, ตามเห็นความจางคลายของกิเลส

3. นิโรธานุปัสสี พิจารณาตามเห็นความดับกิเลส, ตามเห็นความดับของสัตว์กิเลสตัณหา

4. ปฏินิสสัคคานุปัสสี พิจารณาตามเห็นความสละคืน (สลัดทิ้ง) กิเลส, เห็นการย้อนทวนกลับไปสลัดคืน

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 14  "อานาปานสติสูตร"  ข้อ 288

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 20 มิถุนายน 2562 ( 12:37:14 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:39:34 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:52:13 )

อนุปัสสี 4

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าท่านสอนถึงความจางคลายความเป็นขั้นตอนของการดับ

1. อนิจจานุปัสสี

2. วิราคานุปัสสี

3. นิโรธานุปัสสี

4 ปฏินิสสัคคานุปัสสี

ทำซ้ำทำทวน อาเสวนา ภาวนา พหุลีกัมมัง ทำอย่างนิโรธานุปัสสี ทำซ้ำอีก ปฏินิสสัคคานุปัสสี ทำจนหมดเกลี้ยงไม่ต้องทำอีกจิตไม่มีกิเลสเข้ามาอีกแล้วไม่ต้องทำอีกแล้วไม่ต้องมีบทบาทของกิเลสมาอีกแล้ว อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครู เทศน์ ทวช.อโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่สันติอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 28) ตอน นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:29:38 )

อนุปัสสี 4

รายละเอียด

คือการพิจารณาตามเห็นกิเลสภายในจิต

1. พิจารณาตามเห็นความไม่เที่ยงของกิเลส(อนิจจานุปัสสี)

2. พิจารณาตามเห็นความคลายกําหนัด(วิราคานุปัสสี)

3. พิจารณาตามเห็นความดับกิเลส(นิโรธานุปัสสี)

4. พิจารณาตามเห็นความสละคืน(สลัดทิ้ง)กิเลส(ปฏินิสสัคคานุปัสสี)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 14 “อานาปานสติสูตร” ข้อ 288


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 12:17:49 )

อนุปัสสี4

รายละเอียด

อนุปัสสี4 คือ การพิจารณาตามเห็นกิเลสภายในจิต  ไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นอะไร 4 ข้อ

     1. อนิจจานุปัสสี  (ตามเห็นความไม่เที่ยงของกิเลสตัณหา)

     2. วิราคานุปัสสี (ตามเห็นความจางคลายของกิเลส)

     3. นิโรธานุปัสสี (ตามเห็นความดับของกิเลสตัณหา)

     4. ปฏินิสสัคคานุปัสสี (เห็นการย้อนทวนกลับไปสลัดคืน) (พระไตรปิฎก เล่ม 14 ข้อ 288)

เห็นความไม่เที่ยงของอาการมันจะค่อยๆ ลดลง ไม่เพิ่มอีก จนกระทั่งไม่มีหยุดไม่มีหยุดก็ตายเลย  คนที่มีความสุขสนุกสนานมากมาย  พวกเต้น พวกนักกีฬาเตะเข้าโกลทำท่าทีแต่บางทีดูเจ็บแต่ก็ทนได้  นักฟุตบอลทำสถิติตัวเองไว้เลยว่าแต่เขาโกงไปเท่าไหร่แล้ว  รสอร่อยนี้ต่างกับไม่อร่อย อาการมันลดลงไปตามเวลาสุดท้ายดับได้   ตามอนุปัสสี4  ดับแล้วบางทีฟื้นได้บ้าง  มีแวบมาอีกได้  ถ้าพลังปัญญาสูงจะดับแล้วดับเลย หรือ ใช้เจโตสะกดไว้  อาจสะกดไว้ได้นานจนกว่าไม่มี  แต่คุณก็ตายก่อน  เกิดชาติใหม่หรือหลายชาติก็ขึ้นมาใหม่เพราะพลังงานที่ยึดติดมันมาหลายชาติ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก  วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 ตุลาคม 2562 ( 12:23:57 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:08:01 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:53:44 )

อนุปาทา

รายละเอียด

1. ไม่ยึดมั่นถือมั่น 

2. ไม่ยึด

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 129, พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 68


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:40:44 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:18:25 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:54:04 )

อนุปาทาปรินิพพานสูตร

รายละเอียด

สิ่งเหล่านี้มันเป็นลำดับ อธิบายสังโยชน์ อนุสัย สังสารวัฏอาจยืดยาว อธิบายวิชชาวิมุติ ญาณทัสนะ วิมุติญาณทัสนะ

แล้วท่านก็สรุปว่า...อนุปาทาปรินิพพานสูตรข้อปฏิบัติเพื่ออนุปาทาปรินิพพาน

[126] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก พึงถามเธอทั้งหลายอย่างนี้ว่า ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระสมณโคดม เพื่อประโยชน์อะไร เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงชี้แจงแก่พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้ว่า ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย เราทั้งหลายอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค เพื่ออนุปาทาปรินิพพาน.

[127] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ถ้าพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกพึงถามเธอทั้งหลายอย่างนี้ว่า ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ก็ทางมีอยู่หรือ? ข้อปฏิบัติเพื่ออนุปาทาปรินิพพานมีอยู่หรือ? เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงชี้แจงแก่พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้ว่า ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ทางมีอยู่ ข้อปฏิบัติเพื่ออนุปาทาปรินิพพานมีอยู่.

 [128] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทางเป็นไฉน? ข้อปฏิบัติเพื่ออนุปาทาปรินิพพานเป็นไฉน? อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8 นี้แล คือ ความเห็นชอบ ฯลฯ ความตั้งใจชอบนี้เป็นข้อปฏิบัติเพื่ออนุปาทาปรินิพพาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงชี้แจงแก่พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้.

จบ สูตรที่ 8 จบ อัญญติตถิยวรรคที่ 5

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 16:00:24 )

อนุปาทินกสังขาร

รายละเอียด

1. สังขารที่ไม่เรียกว่าจิตมีวิญญาณครอง

2. สังขารที่ไม่มีวิญญาณครอง , สังขารที่กรรมไม่ยึดครอง ได้แก่ต้นไม้ พืชพันธุ์ต่างๆ ที่ยังไม่มีความรู้สึกหรือไม่มีอารมณ์ และสัตว์ชั้นต่ำที่ยังไม่มีอารมณ์ หรือไม่มีความรู้สึก 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 54, เปิดโลกเทวดา หน้า 13


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:41:37 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:22:33 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:54:40 )

อนุปาทินกสังขาร

รายละเอียด

คือ  เป็นสังขารที่ไม่มีวิญญษณครอง

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน  2562


เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2562 ( 12:36:43 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 08:08:40 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:55:15 )

อนุปาทินนา

รายละเอียด

ไม่ยึดมั่นแล้ว

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 366


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:42:54 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:24:30 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:55:34 )

อนุปาทิเสสนิพพาน

รายละเอียด

1. นิพพานจริงๆ แท้ทั้งนั้น 

2. พระอรหันต์ตาย , การตายสิ้นลมปราณของพระอรหันต์

3. นิพพานชนิดที่คนผู้ได้สอุปาทิเสสนิพพานสิ้นลม(ตาย)

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า   335 , 352, 398, 473


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 08:44:19 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 17:28:47 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 03:56:51 )

อนุปาทิเสสนิพพาน

รายละเอียด

เป็นธาตุนิพพานที่ไม่เหลือเศษ

ที่มา ที่ไป

(630923) พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันพุธ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2563 ( 13:18:10 )

อนุปาทิเสสนิพพาน

รายละเอียด

เป็นธาตุนิพพานที่ไม่เหลือเศษ

ที่มา ที่ไป

(630923) พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันพุธ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2563 ( 13:18:11 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์