@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

พวกเทวนิยมอยู่กับสุขทุกข์นิรันดร แต่ของพระพุทธเจ้าดับสุขทุกข์ได้

รายละเอียด

ถ้าคุณจะเอาภาษาสัมมาทิฏฐิไปเรียกพวกสายเทวนิยม คุณก็เป็น เจโต อยู่อย่างเก่าเป็นศรัทธาอยู่อย่างเก่า แต่นี่มันไม่ใช่นะ มันสายพระพุทธเจ้า สายโลกุตระ สายอัญญะ สายอื่น สายโลกลูกอื่น ดาวดวงอื่น คนละเรื่องกัน วงวนคนละวงวน เส้นโคจรคนละเส้นโคจร อยู่ในจักรวาลน้อย จักรวาลใหญ่คนละจักรวาล เทวนิยมเขาก็มีวงวนของเขาอยู่อย่างนั้น จะเป็นจักรวาลน้อยจักรวาลใหญ่ก็อยู่ของเขาอย่างนั้น แต่นี้ออกมาแล้ว เพราะอะไร 

เพราะจักรวาลน้อยจักรวาลใหญ่ของเทวนิยมนั้น ยังอยู่นิรันดร แต่ปัญญาพระพุทธเจ้านั้นออกมา ไม่มีนิรันดร สามารถสูญได้ นี่คือความแตกต่างของสิ่งใหม่ เทวนิยมยังจมอยู่ในวงวน สูงต่ำ ต่ำสูง ดีชั่วอยู่อย่างนั้น ดับสุขดับทุกข์ไม่ได้ อย่างเก่งก็เป็นสุขนิยมอยู่กับพระเจ้าเป็นเจ้าของความสุข ใครจะสุขต้องพระเจ้าเท่านั้นบันดาล บงการ คนจะสุขจะทุกข์นอกพระเจ้าไม่ได้ พระเจ้าเท่านั้นเป็นเจ้าของสุข ของพระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ ของฉันเอง อิสระเสรีภาพ ดับทุกข์ดับสุขได้ดับสูญเลยไม่อยู่นิรันดรกับคุณ นี่คือนัยยะที่แตกต่างที่สำคัญที่สุด 

เทวนิยมตะวันตก ทางยุโรป ทางอะไรพวกนี้ สรุปแล้วไม่ใช่พุทธ แม้พุทธไม่สัมมาทิฏฐิในเมืองไทยเลยไม่ต้องที่ไหนหรอก ก็ยังไม่สามารถที่จะนิพพานได้ หลงว่านิพพาน เก๊ๆ นิพพานดิบๆ ผิดๆ ไปอย่างนั้นแหละ 

ถ้าไม่มาเรียนรู้ให้สัมมาทิฏฐิจริงๆ อย่างที่อาตมาเปิดศักราชใหม่ ของโลกุตระธรรม ก็มันสูญหายไปแล้ว ตามอาณีสูตร ที่พระพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้ พระพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้ไม่มีผิดหรอก แล้วใครจะเอาเนื้อไม้ของกลองอานกะ มายืนยัน ก็โพธิรักษ์ที่พูดนี้อาศัยหลักฐานอ้างอิง ยืนยันและมีเนื้อแท้ของพวกคุณ เป็นตัวปฏิบัติ รองรับ ความจริง เป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ มีสมณะ 4 เหล่าจริงปฏิบัติตามคำสั่งสอนพระพุทธเจ้าจริง แม้จะเป็นคำสอนที่พระมหากัสสปะ สายเจโตแท้ๆเก็บมาปฏิบัติ  ก็นำแค่ของพระมหากัสสปะมายืนยันได้พอ ไม่จำเป็นจะต้องเอามาจากที่เป็นมหายานอีกที่ได้พบมากกว่านี้ ขยายผลมากกว่านี้มา แค่นี้ก็ขอยืนยันอันนี้ เท่านี้ก็พอ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาการ ลิงค นิมิต อุเทส ของ นาม 5 รูป 28 วันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2565 บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2565 ( 14:22:45 )

พวกเทวนิยมไม่รู้จักกรรมวิบาก

รายละเอียด

อย่างพวกเทวนิยมไม่รู้จักวิบาก ไม่รู้จักกรรม มีแต่คำสั่งจากพระเจ้า อะไรก็เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าหมด เป็นอะไรไปอย่างไร จะทุกข์จะสุข จะตกต่ำจะเจริญอย่างไร ก็ตามพระประสงค์ของพระเจ้าทั้งนั้น มันเลยไม่อิสระ แล้วมันก็เลยไม่มีความพากเพียร เขาพากเพียรเหมือนกันแต่พากเพียรความขี้โลภ แล้วก็อ้อนวอนพระเจ้าให้มาช่วย แล้วก็พากเพียรที่จะสะสมเอาเปรียบเอารัดอะไรไป ก็พากเพียร แต่ไม่พากเพียรที่จะเรียนรู้สัจธรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลกุตระคือสิ่งสำคัญสุดที่เกิดมาแล้วต้องเอาให้ได้ วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 พฤษภาคม 2565 ( 12:26:16 )

พวกเราจะต้องเป็นกลุ่มชนที่มีอายุ 100 ในโลก

รายละเอียด

อาตมาลุกมาก็พูดเลยว่า พวกเราจะต้องเป็นกลุ่มชนที่มีอายุ 100 ในโลก คนอายุ 100 อยู่อย่างไรจะอยู่ติดเตียง หรือว่า 100 แล้ว ปราดเปรียวแคล่วคล่องว่องไว ทำงานยังกับหนุ่มอายุ 50-60 จะมีให้เห็นมั้ยน้อ ขนาดอายุ100 ยังเหมือนอายุ 50 60 70 อย่างนี้เป็นต้น เป็นอมตบุคคล พร้อมที่จะตาย เราสามารถกำหนดปริโยสานได้ หรือยังไม่ตายปรินิพพานเป็นปริโยสานยังจะอยู่ต่อไปอีก แอบๆถามหน่อยซิ

ที่มา ที่ไป

พ่อครุเทศน์ทำวัตรเช้า วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 15:47:56 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:56:11 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:54:13 )

พวกเราดับเหตุได้

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นสรุปแล้วคำสอนของพระพุทธเจ้าเมื่อศึกษาดีๆแล้วเอามาทำให้เป็นผล มันจะกลายเป็นสังคมที่อยู่อย่างสงบสุขอย่างที่อาตมาพูดไปแล้ว ใช้คำ 8 คำนั้น เป็นสังคมที่ดับเหตุ นั่นแหละเป็นตัวที่ทำให้เราไม่เป็นอย่างนี้ได้คือดับเหตุไม่ได้

พวกเราดับเหตุได้จึงมาเป็นอย่างนี้ได้ เหตุคือกิเลส หยาบ กลาง ละเอียด ทำได้สำเร็จ

การทำสำเร็จ คนที่ทำสำเร็จจึงมีความสงบที่ไม่ใช่ความสงบอย่างพาซื่อมิจฉาทิฏฐิว่าคนที่เป็นอรหันต์คือคนนิ่งๆ ไม่ดิ้นรนอะไรมากไม่ทำมากไม่พูดมาก ช้าๆสุภาพเฉื่อยๆเนือยๆ ไม่ใช่ คนยิ่งสงบยิ่งแคล่วคล่องว่องไว กายกรรมก็แคล่วคล่องว่องไว วจีกรรมก็ แคล่วคล่องว่องไว ปราดเปรียว   บาลีว่า ปาคุญญตา มี กายปาคุญญตา คือ กายกรรม วจีกรรม คล่องแคล่ว ไม่ใช่นิ่งๆหยุดๆ 

ความสงบในความหมายของพระพุทธเจ้าจึงไม่ใช่อย่างที่ไปศึกษากันนั่งหลับตาสงบนิ่ง ไม่ใช่เลย มาเรียนรู้กิเลสในภาวะที่มีกรรมกิริยาทางกายวาจา โดยใจโง่ๆมีกิเลสดับกิเลส กายยิ่งแคล่วคล่องดับกิเลส เป็น ปาคุญญตา อย่างแท้จริง 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #18 ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณมนุษย์ และอภิวัฒน์สังคม วันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 16:04:18 )

พวกเรานี่แหละคือนักปฏิวัติ

รายละเอียด

เมื่ออาตมาทำงานออกบวช ทำงานกับประชาชนเต็มที่ ยังไม่ได้บวชก็ทำงานเลี้ยงตัวเองเห็นแก่ตัว ทำงานหาเงิน ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติของคนที่ยังโง่อยู่ เมื่อออกบวชก็หมดความเห็นแก่ตัวก็มองเห็นว่า เราควรทำงานเพื่อส่วนรวมเพื่อสังคมประเทศชาติ ก็ทำงานมาตั้งแต่บัดโน้น พากันทำจนบรรลุผลสำเร็จ พวกเรานี่แหละคือนักปฏิวัติ นักปฏิรูป นักรัฐประหาร ประหารรัฐบาล มา 4 รัฐบาล ขนาดประชาธิปัตย์ยังถูกเราขับออกเลย รัฐบาลทักษิณและนอมินีก็ถูกเราได้สำเร็จ พวกเรารัฐประหารสำเร็จ เราประหารพวกรัฐบาลขี้หมูขี้หมานี้ไปให้หมด เสร็จแล้วก็มีผู้บริหาร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:35:06 )

พวกเราพวกชาวดูไป

รายละเอียด

ประชาธิปไตยเนื้อแท้นั้นคือความจริงของบุคคล ที่ได้มีทั้งอดีตปัจจุบัน ที่มีน้ำหนักของอดีตกับปัจจุบัน มี background หรือมีภูมิหลังมีบทบาทมี ไม่ใช่พระเอกขี่ม้าขาวพรวดออกมาปั๊บ กอบกู้ประเทศขึ้นมาเป็นม้าขาวเลย อย่างนั้นมันอาจจะมีนานๆฟลุ๊คสักที แปลกจริงๆนะขี่ม้าขาวมา เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่ค่อยไว้ใจ แต่พระเอกที่มีประวัติมี background มีเรื่องราวมีเหตุปัจจัยของอดีตปัจจุบันที่เอามารวมกันแล้ว เราก็รู้ว่ามันมีเหตุมีผลอะไรต่างๆนานา ที่เป็นสิ่งที่เรายอมรับว่าอย่างนี้มันไม่ใช่พระเอกขี่ม้าขาวมาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วมาเก่ง อาจจะพระเอกจริง มันก็เลยยังไม่รู้ว่าพิธาจะเป็นพระเอกม้าขาวหรือเปล่า 

ยิ่งเอาเบื้องหลังที่เขาขุดกันมาอยู่บ้าง เบื้องหลังก็ดูไม่เละเทะจนเกินไปนะ ก็มีข้อบกพร่อง ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติชีวิต คนต้องมี Error มีผิดพลาดบกพร่องบ้างนิดๆหน่อยๆ  ซึ่งอาตมาว่าจะเอาอันนั้นมาเป็นเหตุปัจจัยตีทิ้งพิธาเขายังไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นเอาเถอะชีวิตของมนุษยชาติ ไม่ต้องห่วงหรอก อย่าเพิ่งรีบปรินิพพานเป็นปริโยสาน แม้คุณจะเป็นอรหันต์แล้วก็ดูนิยายเรื่องนี้ต่อไปก็แล้วกัน ดูไป พวกเราพวกชาวดูไป พวกเราไม่ใช่ชาวดูไบ ซึ่งไม่สามารถเก่งร่ำรวยจนกระทั่งสร้างแผ่นดินจากทะเล ทำได้ตามแปลนเลยนะ มีกิ่งก้านสาขาเป็นต้นไม้เลยนะ สร้างเองเลยยิ่งกว่าพระเจ้า ความสามารถอย่างนั้นคนจึงได้ทึ่ง 

อย่างทักษิณนี้คนทึ่งเลย ไปเป็นสมาชิกชาวดูไบ แต่ดูเหมือนไม่ได้เป็นสัญชาติดูไบนะ มีสัญชาติมอนเตรเนโกร ก็เป็นคนอาศัยต้องต่อวีซ่าต่อพาสปอร์ตต่อบัตรประชาชนอยู่ อะไรอย่างนี้ ก็เป็นไป ทุกอย่างเป็นตัวละครของบุพเพสันนิวาส เป็นตัวละครของเรื่องราวนิทานหรือนิยายของโลก โดยเฉพาะเป็นตัวสำคัญๆ อย่างทักษิณเขาก็ทำไปแล้ว ตอนนี้ก็ของพิธามารับบทแสดงก็ดูกันไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้ วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 แรม 15 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 23 พฤษภาคม 2566 ( 20:02:29 )

พวกเราพิสูจน์ มิจฉาชีพ 5

รายละเอียด

การเมืองไทยไปดี อาตมาไม่ได้พูดเล่นนะ ว่าการเมืองไทยนี้เป็นการเมืองไทยแบบโลกุตระ เป็นการเมืองสายศาสนาพุทธ แล้วพุทธนี้เป็นโลกุตระ พุทธนี้ไม่ใช่เทวนิยม มันมีนัยยะลึกซึ้งที่เยอะแยะมากเลย มันเจริญทางจิตวิญญาณ สรุปง่ายๆว่าจิตวิญญาณโลกุตระนั้นมีเมตตา กรุณา มุทิตาอุเบกขาจริง (พรหมวิหาร 4) แต่ทางเทวนิยมนั้นไม่มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา (ไม่มีพรหมวิหาร 4)จริง เพราะฉะนั้นสังคม(ทางเทวนิยม)ที่รวมกันอยู่ มันไม่มีทางที่จะมาเป็น สาราณียธรรม 6 มันจะไม่เป็น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่กันอย่าง สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ฯ (พตปฎ. เล่ม 22 ข้อ 282-283)

โดยเฉพาะสาธารณโภคี ไม่มีสิทธิ์เป็นไปได้เลย ในสังคมที่เป็นเทวนิยม มีได้ในสังคมพุทธที่เป็นโลกุตระ แม้แต่ในที่อื่นๆ เถรสมาคมควรจะทำสาธารณโภคีได้แต่ทำไม่ได้ จิตวิญญาณไม่พอ จิตวิญญาณไม่ถึง การเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้มีความโลภโกรธหลงยังสูงอยู่  แต่พวกเรามาทำอย่างนี้ได้ มันสุดยอดเป็นอุตริมนุสธรรม เป็นสาธารณโภคีได้ สาธารณโภคีเป็นงานอาชีพสูงสุด สัมมาอาชีพหรือมิจฉาชีพ 5 ผู้ที่ทำสาธารณโภคีได้ ไม่มีมิจฉาอาชีวะเลย นอกนั้นยังเป็นมิจฉาอาชีวะหมด 

มิจฉาอาชีวะ 5

1. การโกง ทุจริต คอร์รัปชั่น (กุหนา)  มีในงานการเมือง .

2. การล่อลวง หลอกลวง (ลปนา) ในนักธุรกิจ-การเมือง .

3. การตลบตะแลง (เนมิตตกตา)  ยังเสี่ยง-ยังไม่แน่แท้ 

4. การยอมมอบตนในทางผิด  อยู่คณะผิด (นิปเปสิกตา) 

5. การเอาลาภแลกลาภ (ลาเภนะ  ลาภัง  นิชิคิงสนตา) 

(พตปฎ. เล่ม 14   ข้อ 275   มหาจัตตารีสกสูตร) 

1. กุหนา โกง ทุจริต คอร์รัปชั่น นี้แน่นอนหยาบที่สุดแล้ว 

2. ลปนา ล่อลวง หลอกลวง นั้นแหละในสังคม อย่างที่ถามมาเมื่อกี้ ที่มีการถามว่าประกัน อะไรต่างๆ อาตมาไม่ได้ลงรายละเอียด พวกนั้นก็ล่อหลอกกันเอาเงินคุณทั้งนั้นแหละ เขาก็ร่ำก็รวย ส่วนคุณก็เป็นเศษเบี้ยไปเลยนะ ล่อลวง หลอกลวง นักธุรกิจ นักการเมือง อะไรๆ ทั้งนั้นนะ 

3. เนมิตตกตา การตลบแตลง หมายความว่า มันมีความรู้ขึ้นมาบ้างว่าเราจะออกจากการโกงการล่อลวง แต่มันยังทำไม่ได้จึงเรียกว่าตลบตะแลง มันยังทำไม่ได้ มันยังเสี่ยง มันไม่เก่ง แต่มันยังตั้งใจมีแล้วตั้งตัวเองขึ้นมา จนกระทั่งมาถึงข้อที่ 4 ทำได้ 

4. นิปเปสิกตา ขั้น 4 ออกจากทุจริต ออกจากความโกง ออกจากสิ่งที่เป็นความเสียหายมาได้ เป็นผู้สะอาดบริสุทธิ์ เป็นผู้ทำอาชีพที่ไม่เป็นโทษ ไม่เป็นภัย อาชีพไม่มีทุจริต ไม่มีโกง ไม่มีเอาเปรียบ ดีไม่ดีเสียสละได้เสียสละด้วย แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือ มอบตนในทางผิด นิปเปสิกตา ก็คือไปเป็นลิ่วล้อของพวกที่ทุจริตอยู่ พวกโกงอยู่ ลปนาอยู่ พวกตลบตะแลงอยู่ ยังเป็นลิ่วล้อ ยังไม่ได้เป็นอิสระ ทำไมละ ตัวเองสะอาด แต่ยังไปเป็นลูกกะโล่ของพวกที่เขาเป็นนายทุนที่ยังไม่สะอาด 

เออ พายเรือให้โจรนั้ง ก็ใช่ ไปพึ่งเขาทำไม ไปทำอย่างนั้นทำไม ไม่ใช่หยิ่งผยองแต่ควรมีศักดิ์ศรี เราสะอาดแล้วจะไปรับใช้ผู้ที่ไม่สะอาด มันยังไงนะ ข้อที่ 4 นี้ยังเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจ ตัวเองดีแล้วทำไมไม่มีศักดิ์ศรี เอาละ 3 ข้อต้นนั้นยังไม่สะอาดอยู่แล้ว แต่อาชีพข้อที่ 4 นี้ตัวเองบริสุทธิ์แล้ว อย่างพวกชาวอโศก ตัวเองก็ไม่ได้โกงทุจริตหลอกลวงหรือตลบตะแลงอะไร แต่ไปทำงานรับใช้พวกนายทุน พวกอะไรต่ออะไร ทำไมไม่มารับใช้พวกเรา ไม่ใช่ไม่มีผู้นำ อยู่ที่ตัวเขา อย่ามาโทษอาตมา ใช่ด้วย ภิกษุไปรับใช้ฆราวาส รับใช้นายทุนอะไรต่ออะไร เยอะเลย ยิ่งข้อที่ 5 นี้ 

5. ลาเภนะ ลาภัง นิชิคิงสนตา การเอาลาภแลกลาภไม่แลกลาภ มีในพวกชาวอโศกอย่างเดียวที่ทำงานอย่างพ้น ลาเภนลาภังนิชิคิงสนตา ทำงานอย่างไม่เอาลาภแลกลาภ ทำงานฟรี ทำงานเอาเข้ากองกลางสาธารณโภคีแม้แต่ยุคนี้พวกเราพิสูจน์ได้ พ้น มิจฉาชีพ 5 อย่างนี้ได้ นี่สุดวิเศษแล้วพวกชาวอโศก มีสัมมาอาชีพเจ้าเดียวในโลก พ้นมิจฉาชีพ 5 มีอยู่เจ้าเดียวในโลก ทำงานฟรี แล้วอยู่ได้ไหม? (เสียงตอบว่า อยู่ได้) อยู่สบายดีด้วย  เบญจวรรณ เขาบอกว่าทุกโต๊ะ มันกินอยู่ทุกโต๊ะในกรมที่ดิน เขาก็อยู่ไม่ได้ เขารังเกียจ เขาทำไม่ได้ มันเหมือนแกะดำอยู่ในแกะขาว เขาก็เลยต้องลาออกจากงาน เขาทำงานที่กรมที่ดิน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาผ่าอวิชชาหลับตาโง่ๆ วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2566 ( 13:23:54 )

พวกเรามาอยู่รวมกันได้แบบแต่ละคนมีสันตุฏฐิ อัปปิจฉะ

รายละเอียด

อย่างเช่นหน่อไม้มันก็ขึ้นของมันโตของมันเราก็เก็บมันมากินมาแจก ซึ่งคนเรามีภูมิปัญญามีความรู้ความเข้าใจ โดยที่เราไม่ไปหลงโลกเขา อ้าขาผวาปีก ว่าเราจะต้องไปรวยอย่างนั้น ระดับอย่างนั้น เราจะต้องไปได้มีอลังการ มีวัตถุแบบนั้นแบบนั้น เราเห็นแล้วว่าเราพอแล้ว ไม่ต้อง แต่ก่อนนี้เราก็ไขว่คว้า ตามคิดว่า..แหม!..เราน่าจะได้ น่าจะมี แล้วก็ได้มาบ้างไม่ได้บ้าง ก็เห็นแล้วว่ามันได้มันจะต้องได้ต่อ จนกระทั่งมาถึงวาระนี้ รู้จักพอ รู้จักหยุด รู้จักขอบเขตแล้วก็ลดลง ลดลง มีสันตุฏฐิ อัปปิจฉะ พอ น้อยลงๆๆ 

จนกระทั่งมาถึงขนาดนี้ แต่ละคนอยู่ มี สันตุฏฐิ อัปปิจฉะ มีพอ มีน้อยลงๆๆ จนกระทั่งได้ที่ แล้วก็อาศัยสิ่งที่น้อยที่เราอาศัย อาศัยสิ่งน้อยๆนี้ แค่นี้พอแล้ว จนกระทั่งพระพุทธเจ้าท่านย่นย่อเข้าไปสรุปที่ ปัจจัย 4 มีบริขาร มีองค์ประกอบบ้าง เครื่องอาศัยพอสมควร 

ทุกวันนี้เราก็พอ พอทั้ง ปัจจัย 4 ทั้งบริขารที่เป็นอยู่ บางทีบางครั้งเราก็บอกว่า เราน่าจะมีอย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ก็น่าไป เห็นว่าควรก็เอา โอ้ มันมากไป แล้วไม่ควรก็ไม่ต้อง ถ้าเป็นไปได้ก็ทำ ทำแล้วมันก็เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะตัวเราเองไม่ต้องเป็นของตัวของตนนี่นะ คนที่วางตัวนี้ได้แล้ว อย่างพวกคุณเข้ามาอยู่ในนี้ โอ้โห มันสบายแล้ว เบาแล้ว นอกนั้นก็มาช่วยกัน ดูองค์ประกอบที่ควรจะมีไป ของตัวของตนไม่ต้องไปกังวลเลย ทุกวันนี้มันพอ แค่เรามีนี้ แต่ละคนที่มีนี้ ซึ่งไม่ได้มีใครอยากจะได้อะไรมากมายเกินไปในแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นหนุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสาว ไม่ว่าจะแก่ ใช่ไหม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 10:20:40 )

พวกเราอยู่กันแบบเหลือเฟือ พวกเราคือเศรษฐี

รายละเอียด

ทุกวันนี้พวกเราจึงสบ๊ายสบาย รู้สึกว่า เราเองไม่พอหรือเราเหลือเฟือ ... โยมตอบ  เหลือเฟือ ชีวิตพวกเราจะเห็นได้เลยว่า เรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เราพอพอ ไม่พอ หรือเหลือเฟือ แค่นี้เราก็ตัดสินให้ตัวเราเองได้แล้วว่า ถ้าหากชีวิตเราเหลือเฟือ ผู้นี้เป็นเศรษฐี ใช่ไหม มีเท่านี้ก็เหลือเฟือแล้วก็คือเศรษฐี 

ถ้าหากผู้นี้มีแสนล้านอยู่ยังไม่พอ โอ้ จนชิบหายเลยผู้นี้ เห็นชัดเจนไหม ในสภาวะจิตของคนว่าคนนี้ทำไมจนไม่รู้เสร็จเลย มันมีแสนล้านแล้วนะมันยังบอกไม่พอ มันจนไม่รู้เสร็จเลยคนนี้จนไม่เสร็จ มันจะมีไปอีกเท่าไหร่ถึงจะพอ ทำไมมันจนไม่รู้จักเสร็จ เราจะเห็นว่าความโง่กับความฉลาดนี้ มันอยู่ตรงไหน ชีวิตของคน 

ใครเขาว่าพวกคุณโง่ เจ็บปวดไหม ...โยมว่า ไม่ ..ทำไม? เขาบอกโง่อยู่ชัดๆ ถ้าฉลาดก็ต้องไปหาทางรวยๆๆๆ หมื่นล้าน แสนล้าน อย่างที่เขาเป็นกันทั่ว ส่วนใหญ่เขาต้องเป็นอย่างนั้นใช่ไหม มาเป็นทำไมกับพวกส่วนน้อย ทำไมไม่ฉลาด คนฉลาดส่วนใหญ่เขาฉลาดใช่ไหม พวกโง่ ส่วนน้อย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 10:32:52 )

พวกเราอรหันต์เยอะ แต่จบไม่ลง สรุปไม่เป็น ถ้ารู้ทำได้สรุปเป็นคุณก็จบ

รายละเอียด

พวกเรานี้อรหันต์เยอะ แต่จบไม่ลง สรุปไม่เป็น ไม่ต้องไปเทียบกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เราไม่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ที่พูดคืออรูป ใช่ไหม แล้วคุณก็ติดอยู่กับอรูป เอามาเทียบไป คุณก็ทำได้หมดแล้ว รู้หมดแล้ว จะเทียบอีกเท่าไหร่ก็ได้ จับมา 2 ตัวก็เทียบได้หมดแล้ว แล้วคุณทำได้ด้วย คุณจบแล้ว เมื่อไปเทียบกับหยาบๆ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข คุณไม่เกี่ยวไม่เอาเลย อยู่อย่างนี้ได้รอแต่วันตาย เมื่อยังเป็นอยู่ เรายังเป็นอยู่ อะไรมีประโยชน์ เรายังเป็นอยู่ อย่างคนที่รู้จบทำได้แล้วด้วย อย่างที่พูดนี้ คุณยังเป็นๆอยู่ คุณจะอยู่ทำไม..ทำประโยชน์เท่านั้นเอง จนกว่าจะสลายร่างนี้ ชีวิตนี้มีไว้ทำประโยชน์เท่านั้นเอง เป็นประโยชน์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์ 4 ประการ วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กันยายน 2565 ( 13:18:37 )

พวกเราเป็นชาวโลกุตระ

รายละเอียด

สิ่งที่อาตมาพูดไปเป็นการใช้พยัญชนะใช้ภาษา พูดสื่อสภาวะของสัจธรรมในโลกให้ฟัง แล้วพวกเรานี้จะฟังภาษาพวกนี้แล้วเข้าใจสภาวะแล้วเอาไปใช้ในตัวเองจริงๆ เพราะพวกเราเป็นชาวโลกุตระ รู้ว่าได้ไปทำไม ได้ไปแล้วก็เอาไปทำที่ตน ตนก็เป็นผู้เจริญ จึงเป็นความจริงของคนไทย 

คนไทยมีโลกุตรธรรมมาตลอดที่สร้างประเทศไทยมา ตั้งแต่เริ่มสุโขทัยมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เป็นพุทธศาสนามาตลอดด้วย  แม้โลกุตรธรรมมันจะเสื่อมแล้วมันจะลึก มันก็พัฒนามาเรื่อยๆมันไม่เสื่อม นี่เป็น อจินไตย อย่างหนึ่งว่าเมืองไทยเป็นเมืองชมพูทวีปที่จะต้องสืบทอดมาจากอินเดีย มัน เลื่อนไหลมาอยู่เมืองไทยแล้ว 

เพราะพระโพธิสัตว์จะมาเกิดที่เมืองไทยหมด ตั้งแต่พ่อขุนรามมาเลย จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันนี้ ถ้ากษัตริย์องค์สุดท้ายก็คือ รัชกาลที่ 9 ที่มีพระจริยวัตรเห็นชัดๆ จนเทวนิยมเขายังมองออกเลย ซ้อนใน King ของไทย ของพระเจ้าแผ่นดินไทย เขายังมองออก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนากัณฑ์พิเศษ เริ่ม 53 ปี โพธิกิจ ยังเป็นรองต้องอุตสาหะ

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 19:37:51 )

พวกเราเป็นพวกที่จะสร้างพืชพันธ์ุธัญญาหาร 

รายละเอียด

อุตุ พีชะ จิต กรรม ธรรมะ 

อาตมาเอามาขยายความให้พวกเราทำ แล้วทำได้พวกเราจึงมีทิฐิอย่างนี้มีศีลสามัญญาตา ทิฏฐิสามัญญา จึงมาร่วมกันมีพฤติกรรมกายวาจาใจมีศีลสมาธิปัญญาอยู่อย่างนี้ก็สร้างสรรอย่างนี้ พวกเราจึงมาเป็นพวกที่จะสร้างพืชพันธ์ุธัญญาหาร เราไม่สร้างอาวุธ เราไม่สร้างสิ่งมอมเมา เราไม่สร้างสิ่งที่เป็นพิษ ยกตัวอย่างเช่น พืชชนิดหนึ่งเรียกว่ากัญชา แน่นอนพวกเราไม่เอากัญชา เพราะมันล่อแหลมที่จะเป็นพิษ มันเอียงข้างไปเป็นพิษแล้วเราไม่สร้างกัญชา 

จะบอกว่าเป็นอาหาร มันไม่ใช่ จะบอกว่าเป็นยาอยู่บ้าง ก็เข้าใจ ยามันไม่ใช่เนื้อแท้ๆที่จะไปกินมากนะ ยาก็เป็นแค่เมื่อมีสิ่งไหนบกพร่องเอาอันนั้นมาเติมนั่นเรียกว่ายา เป็นโอสถ เป็นสิ่งที่ขาดมันพร่อง มันไม่เต็มมันจะต้องอาศัยเนื้อนี้ เอาเนื้อนี้มาเติมให้มันเต็มนั่นคือยา ส่วนอาหารนั้นมันจะต้องใช้ทุกอย่าง ที่จะต้องใช้สังเคราะห์สังขารเป็นเนื้อหนังมังสาให้มีเรี่ยวแรงมีความคิด ทำงานอยู่ในโลก นั่นคืออาหาร อาหารและยาก็มีนัยยะต่างๆ เราก็อาศัยจากพืชพันธุ์ธัญญาหารมาเป็นทั้งยาทั้งอาหารและเราจะได้สร้างสิ่งเหล่านี้ อาตมาก็ขอบอกพวกเรา 

พวกเรายังมีพลังงานเหลือที่จะไปทำพืชพันธุ์ธัญญาหารได้อีก แผ่นดินเราก็ยังพอมี เหตุปัจจัยที่จะไปสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารได้มากก็ยิ่งดี ถ้ามันมีมากกว่านี้ก็ช่วยกันเผยแพร่ ช่วยกันกระจายให้คนอื่นต่อไป ถ้าเราเข้าใจอันนี้สมบูรณ์แล้วทุกคนก็มีวิริยะอุตสาหะ เป็น วิริยารัมภะ เป็นคนปรารภความเพียร เป็นคนระดมความเพียร กระตุ้นอย่าให้เป็นคนเฉย คนชา คนหยุด มันมีแรงอยู่ก็รู้พักรู้เพียร เรายังมีแรงมีโอกาสมีเหตุปัจจัยก็ช่วยกันทำ ให้เก่งเป็นกสิกรเป็นนักสร้างสรรพืชพันธุ์ธัญญาหาร อย่างเต็มที่ สร้างให้ท่วมโลกไปเลย พูดให้มันเวอร์ๆ เสร็จแล้วก็ช่วยกันเก็บส่งขยายกระจายไป เราไม่ขายเอาเปรียบ เราไปขายอย่างขาดทุนหรือแจกฟรี นี่เป็นอุดมคติอุดมการณ์ของเราเป็นความจริงใจ ไม่ใช่ดัดจริต ไม่ใช่เรื่องช่วยเขาแล้วก็จะไปเก็บกวาดเอาดอกเบี้ย เอารายได้ทีหลัง เราไม่เอา เราให้ไปสดๆให้แล้วก็ตัดบัญชีๆๆเลย เราอย่าประมาทให้จนกระทั่งเราเองไม่พอกินพอใช้เราก็แย่ แต่เราก็ทำเป็นอยู่แล้ว 

สรุปพระพุทธเจ้าว่าคนมีสมรรถนะมีความขยัน มีความรู้ความสามารถสร้างสรรพืชพันธุ์ธัญญาหาร ไม่ต้องไปสร้างอาวุธ ไม่ต้องไปสร้างสิ่งมอมเมา ไม่ต้องไปสร้างสิ่งที่เป็นพิษ สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร เรามีสมรรถนะ มีความรู้อันนี้และขยัน ให้รู้เพียร มันเพียรเต็มที่ ไม่ย่อหย่อน แล้วก็พัก อัปปติฏฐัง อนายูหัง เราไม่พักอยู่  (อัปปติฏฐัง) เท่ากับยังเพียรต่อไป  เราไม่เพียรอยู่  (อนายูหัง) เท่ากับพักหรือไม่ต่ออายุอิทธิบาท  เราเป็นผู้ข้ามโอฆสงสารได้แล้ว  (โอฆมตรินติ)  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้ วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 แรม 15 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 16:11:55 )

พวกเราเป็นสมณะไม่ใช่พระ

รายละเอียด

ก็ขออาศัยที่คุณเขียนมาอธิบายเขาว่า   พวกมึงประกาศตัวเองว่าเป็นพระ  ขออภัย พวกเราไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นพระ แค่นี้คุณก็ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอามากระเดียด เรามาประกาศตัวว่าเราเป็นสมณะ ไม่ใช่พระ เพราะว่าเราเคยร่วมอยู่กับพระเขาเขาก็ไม่ให้ใช้ก็ไม่เป็นไรเราก็ไม่เอา เราก็จะมาใช้สมณะ เขาไม่ให้ประกาศด้วยเราก็ไม่ประกาศ บางทีก็มีคนมาเรียกบ้าง อาตมาก็ฟังพวกเราก็มีคนมาเรียกพระ เราก็อนุโลมไป ซึ่งเราตกลงกับทางการแล้วว่าห้ามเรียกพวกเราว่าเป็นพระต้องมาเรียกว่าเป็นสมณะเราก็ตกลงแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 11:07:06 )

พวกเสพสุขเทวดาทั้ง 6 ชั้นแท้จริงพวกเขายังมีนรกอยู่

รายละเอียด

แม้แต่มารขั้น 1 เป็นจตุมหาราช เขาไม่นึกว่าเป็นมารหรอก เขานึกว่าเป็นเทวดาขั้นที่ 1 เทวดาอะไรมีเขี้ยวถือหอกหรือดาบด้วย เขาก็เขียนภาพนะ จตุมหาราช เขี้ยวงอกตาโปน ถือดาบถือหอก อาตมาไม่ได้หาเรื่อง แต่เขาเป็นจริง เทวดาอะไรมารุกรานคนตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อรุกรานแล้วก็เป็น ตาวติงสา เป็นอาการที่ 33 ธรรมดาคนมีอาการแค่ 32 เท่านั้น อาการที่ 33 เป็นอาการเก๊ เป็นภพเป็นชาติแล้ว เพ้อๆเอามาเสพ เทวดา ดาวดึงส์ก็คือ ภพที่คุณหลงได้สมใจ แล้วไปเสพเป็นสุขได้สมใจ ฆ่าได้แย่งได้มีภพชาติได้ก็ดีใจ เลอะเทอะ ติดภพติดชาติอยู่อย่างนั้น 

อยากให้ได้นานๆ ดาวดึงส์ก็เป็นยามา คือยาวนาน ยามหนึ่งยังไม่พอขอเป็นยามที่ 2 ขอเป็นยามที่ 3 เขาบอกว่า มันไม่ได้หรอกมันจะต้องมีพักมีหยุด ดุสิตะ แปลว่าพัก แปลว่าเย็น แปลว่าหยุด ก็ไม่เอา ดิ้นรนเข้าไปอีกเป็นนิมมานรดี กูไม่ยอมพัก กูจะเป็นนิมมานรดี ยินดีในสิ่งที่กูเนรมิต ยังไม่พอ ให้คนอื่นมาเนรมิตให้กูอีก ปรนิมมิตวสวัตตี นี่คือภพเก๊ทั้งหมดเลย คนที่หลงสวรรค์ 6 ชั้นคือพวกมีภพมีชาติทั้งนั้นเลยคือพวกโง่ทั้งนั้นเลย พวกเราไม่มีสวรรค์ไม่มีนรก หมดสวรรค์ก็คือหมดนรก ยังมีสวรรค์อยู่ก็คือมีนรก เพราะฉะนั้นพวกติดสวรรค์คือพวกที่มีนรกอยู่ทั้งนั้น แล้วเขารู้เรื่องที่ไหนว่าจะต้องหมดสวรรค์หมดนรก ก็สอนกันแต่ต้องเอาสวรรค์ ต้องเอาภูมิสุข ความสุขก็เป็นสวรรค์ความทุกข์ก็เป็นนรก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภูผู้รู้จบสัตตาวาสและวิญญาณฐีติ วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2565 ( 14:27:57 )

พวกโง่ได้ที่ ไม่รู้จะห้ามอย่างไร

รายละเอียด

เอาจริงๆนะ ใครกินเหล้า มันก็ปวดหัวทั้งนั้นไม่มีใครรอดแล้วไปกินมันทำไม ตลก โง่ได้ที่เลยคนเรา บุคลิกเสียนะ เงินก็เสียอะไรก็เสียหมด ไม่เข้าท่าเลย ตลกจริงๆเลยคนเรา พูดไปคนเราในโลกก็ยังมีคนโง่ ห้ามโง่ ไม่รู้จะห้ามไง อย่ามายุ่งกับกู กูจะโง่ เชิญพะยะค่ะ พวกโจรที่พระราชาให้เอาไปฆ่าด้วยหอกร้อยเล่มเช้ากลางวันเย็น 

พวกเราจะรู้ว่าคนชนิดนี้มี ไม่ต้องเอาอะไรมาก พวกนั่งหลับตาที่อาตมาแทงด้วยหอกร้อยเล่ม แทงเข้าไปเถอะไม่รู้จะหักกี่ร้อยดอก ไม่ได้เกิดสะดุ้งสะเทือนอะไรเลย 

เขาเอาพระจันทร์มาฆบูชาให้ดู น่าไปเที่ยวนะ มิน่า พวกนาซ่าถึงอยากไปกัน นี่กำลังไปจองที่พระจันทร์แล้วนะ พวกคนอเมริกาเขาจองที่ คือมันโง่ได้ที่เหมือนกัน ตลกพวกนี้มันมีสตางค์แล้วก็ทำเท่ยังไงไม่รู้ อย่างจองไปเที่ยวรอบโลก เขามีกันหรือเปล่าแล้วคนก็เอาเงินไปจองกัน (โยมว่า อีก 50 ปีจะมีทัวร์นอกโลก) อาตมายังไม่ตาย แค่ 137 ปีเอง ไม่รู้มันจะอยู่ถึงหรือเปล่านะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาวันมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 19:16:40 )

พวกโมฆบุรุษคือพวกไหน

รายละเอียด

ทีนี้ก็มาเรียนรู้ภาวะ 2 สำทับแล้วนะ ว่าถ้าตาไม่กระทบรูป หูไม่กระทบเสียง คุณไม่ได้ปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้า เพราะไม่มีจิตร่วมทำงานด้วยเลย ไม่มีกาย ไม่มีคู่ 2 ไม่มีภายนอกภายใน เพราะฉะนั้นไม่มีทางไปปฏิบัติ อธิบายกันถึงป่านนี้แล้ว พวกหลับตาปิดหูอยู่ในภวังค์ก็ยังฟังไม่รู้เรื่อง ยังไปนั่งทำ เป็นโมฆบุรุษไปเปล่าๆปลี้ๆ เกิดมาชาติหนึ่งทิ้งเปล่า น่าสงสารน่าเสียดายจริงๆ ใจอยากจะได้นิพพานนะ เยอะแยะทั้งนั้นเลย บางทีบวช เหมือนกับเด็กๆบอกว่าผมจะบวชวันนี้ วันนี้ เหมือนที่ออกคลิปกันมา อยากบวชๆ บางคนอยู่ในเถรสมาคม เป็นอาจารย์ใหญ่บวชตั้งแต่เด็กๆก็มี ตั้งแต่เป็นเณร พออายุ 20 ก็บวชเป็นพระ ก็กลายเป็นพวกหลงทิศหลงทางไป น่าสงสาร มาฟังใหม่ 

อาตมาไม่ได้ปิดบังตัวเอง เปิดเผยแล้วอาตมาว่าเป็นผู้รู้จริง เป็นธรรมิกราช ที่จะมายืนยันธรรมะนี้ สถาปนาโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าลงไป มันสูญ เสื่อมเป็นกลอง อานกะ บอกแล้ว เอาหลักธรรมพระพุทธเจ้าอ้างอิงทุกข้อ พูดไปนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติ รูป 28 ในสติปัฏฐาน 4

วันพุธที่ 21 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 ตุลาคม 2565 ( 18:30:09 )

พวกโลกียะรู้แต่ดีชั่วส่วนโลกุตระรู้จักอะไร

รายละเอียด

อาตมาพยายามวิจัยให้ฟังว่า โลกียะนั้นรู้แต่ดีชั่ว ส่วนโลกุตระนั้นรู้จักสุขทุกข์ รู้จักเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ รู้จักจิตเจตสิกต่างๆ รู้จักจิต เจตสิก รูป นิพพาน แต่ทางเทวนิยมยังไม่รู้เรื่องนี้ ไม่ใช่ไปข่มทางสายเทวนิยม แต่มันเป็นสัจธรรม ที่อาตมาจำเป็นต้องอธิบายความจริงนี้สู่กันฟัง มันเป็นความจริงที่คุณต้องศึกษา 

เทวนิยม เรื่องจิตเจตสิกเรื่องดีเรื่องชั่วนั้น โลกุตระรู้และทำได้แล้ว ผู้ทำได้แล้วจริง จึงรู้ความจริงว่า ดีชั่วเป็นเช่นนี้ โลกมีอันนี้ก่อน ละชั่ว ประพฤติดีให้เที่ยงแท้มั่นคง ไม่ทำชั่วอีกเลยสัพพปาปสอกรณัง(ไม่ทำบาปทั้งปวง) กุสลัสสูปสัมปทา(ทำกุศลให้ถึงพร้อม) สจิตตปริโยทปนัง(ชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้วจากกิเลส) เพราะว่าจิตปราศจากกิเลส ล้างกิเลสออกไป ที่เป็นตัวที่ทำให้โง่และอวิชชา มันก็หมดความโง่จริงๆ และรู้ไปอีกโลกหนึ่งเรียกว่าโลกุตระ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมีความไม่มี สิทธัตถะและสิริมหามายา วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กันยายน 2565 ( 10:37:22 )

พวกโลกุตระเป็นคนพัฒนาโลก พวกสร้างโลกเป็นพระเจ้าตัวจริง

รายละเอียด

ขยายความไปถึงว่า เรื่องที่เราพูด เป็นเรื่องของนามธรรม เป็นเรื่องของธรรมะ ถ้ามาทางโลก เราไม่ได้ทิ้งโลก เราพวกนักธรรมะโลกุตระ เป็นพวกสร้างโลก เป็นพระเจ้าตัวจริง ทำงานอยู่ในโลกจริงๆ ไม่ใช่ทำงานอยู่ที่ลึกลับ แล้วก็บันดาลอะไร จับผิดก็ไม่ได้ ไปท้วงไปต่อว่าอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ มันเรื่องจริงเป็นเรื่องโลกอยู่ตรงนี้ โลกุตระคือเรื่องโลก แล้วเราก็สามารถที่จะปรับโลกให้เห็นเป็นไปตามที่ควรจะเป็น พัฒนาไป ๆๆ เพราะฉะนั้นพวกโลกุตระนี้จึงเป็นคนพัฒนาโลก มันนำเทวนิยมไปอีกหลายสิบหลายร้อยก้าว นี่พูดไปแล้วมันก็..คนหมั่นไส้ก็จะหาว่าคุยโต โอ้อวดเก่ง 

ก็ขอสรุปลงท้ายเลยว่าประเทศไทยจะนำ เอาเถอะ สถิติต่างๆที่เขาพยายามตรวจตามความรู้ของแต่ละสำนัก แต่ละสำนัก แล้วก็พูดออกมา ไทยเราก็ถูกจัดอันดับ ยืนยันของแต่ละสำนัก ว่าอยู่ลำดับต่างๆ ตามความรู้ของเขาที่มีหลักสูตรของเขาเป็นเครื่องตัดสิน 

อาตมาก็มีของอาตมาเป็นโลกุตรธรรม มีหลักสูตรของโลกุตรธรรมของอาตมาเป็นเครื่องตัดสิน ผู้รู้ของชาวไทยที่มีโลกุตรธรรมอยู่ในจิต ก็จะตัดสินออกมาเหมือนกัน แล้วก็จะสมัครสมานกับอาตมาเพราะเป็นโลกุตระอันเดียวกันซึ่งมีน้อย เพราะฉะนั้นเมื่อสถิติของเรามีน้อยมันก็สู้สถิติของพวกเขาที่มีมากหลายสำนักโพล ของเราสำนักโพลไม่กี่สำนัก มันก็สู้ไม่ได้ เราก็ไม่ได้ไปสู้หรอกแต่ ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน แล้วก็ขอยืนยันว่า มีอจินไตยคำหนึ่ง ดูไปไม่ต้องไปดูไบ ภาษาไทยง่ายๆ ดูไปไม่ต้องไปดูไบ เข้าใจมั้ย แล้วเป็นความจริงนะภาษานี้เป็นสัจธรรม ดูไปไม่ต้องไปดูไบ แล้วจะเห็นความจริง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ต้องดูไปไม่ต้องไปดูไบ

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2565 ( 13:10:55 )

พวกใจเร็วด่วนได้ไม่รู้ต้นกลางปลาย

รายละเอียด

สติเต็ม100 อยู่ข้างใน ไปนั่งหลับตาทำอยู่ข้างใน ฝันไปเถอะ ไม่มีทางที่จะมาล้มล้างความ หยาบ ของภายนอก ทางกาย ทางวาจา คุณจะเอามีดโกนยิลเลตต์ไปฟันกับมีดอีโต้เขาได้อย่างไร มันตลก คุณจะทำด้ามยิลเลตต์อย่างไรไปสู้กับด้ามอีโต้ 

คุณมีมีดโกนยิลเลตต์ 1 ล้านชิ้นกับคนมีอีโต้ 1 ล้านชิ้น ใครจะแหลกก่อนกัน มีดโกนยิลเลตต์คมกว่านะ ขว้างใส่กันเลย กรีดพร้อมกันก็ได้ ยิลเลตต์ ก็กรีดไม่ติดต่อก็สับ ใครแหลกก่อนกัน ไม่มีทางสู้เลยระหว่างมีดโกนยิลเลตต์กับอีโต้ 

พวกที่หลงใหลได้ปลื้มกับสิ่งที่เล็กละเอียดเป็นคนมักได้มักเร็วใจเร็วด่วนได้ รู้จักรายละเอียดของต้นกลางปลาย จะเอาง่ายๆเร็วๆด่วนๆ ลัดไปเอาที่สุดเลยไม่รู้ต้นกลางปลาย น่าสงสารมาก นั่งหลับตาแล้วไปทำแต่ในจิต จบๆๆ แหม พวกนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร อาตมาก็ใช้หอกเช้า 100 เที่ยง 100 เย็น 100 หมดไม่รู้กี่หอกแล้ว หอกหักหมด

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ พ่อครูผู้ปราบมารเพื่อยังพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี

วันพุธที่ 10 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 08:38:56 )

พวกใสในสัตตาวาสข้อที่ 3

รายละเอียด

ข้อที่ 3 สัตว์มีกายอย่างเดียวกันแต่สัญญาต่างกัน เช่นพวกที่เป็นเทพอภัสรา ตกลงความใสสว่าง ลืมตาก็สว่าง หลับตาก็สว่าง ก็หลับตามันก็มืดจะไปสว่างได้อย่างไร ไม่มีแสงอาทิตย์ อาโลก คุณก็ไปทำนิมิตสร้างแสงภายใน คุณก็ได้กายของคุณใหม่ กายของคุณได้แสงสีม่วงก็หลับตาไปเห็นแสงสีม่วง เห็นแสงสีเขียว เห็นแสงสีใส แล้วยังเล่นความใกล้ความไกล เล่นการขยายออกเล็กขยายให้โต ได้เยอะแยะพวกพระกรรมฐานเขาพูดกัน อย่างสู่แดนธรรมเคยเรียนกรรมฐานมาหลายอาจารย์ก็จะเล่นกันอย่างนั้น เขาเรียกฌานกีฬา เล่นอยู่อย่างนั้น พวกฌานโลกียบุคคล จะเป็นอย่างนั้น แต่จะเป็น ฌานอย่างมิจฉาทิฏฐิ อุปาทานทั้งนั้น 

พวกที่มีกายอย่างเดียวกันสัญญาต่างกัน อย่างพวกอาภัสรา พวกติดแสงสว่างพวกใส ใส ก็แปลว่าสะอาด แต่ไม่ได้สะอาดจากกิเลส คุณไปติดแค่อาการใสสว่างของจิตใส มันก็เป็นรูปชนิดหนึ่งเป็นตัวตนชนิดหนึ่งที่คุณปั้นมายึดตัวตนอันนั้น ลืมตาก็ใสหลับตาก็ใส พวกลัทธิธรรมกายเล่นอภัสรากันทั้งนั้น ลืมตาก็ใสหลับตาก็ใส แล้วก็ไปกำหนดใสอย่างนี้เป็นพระโสดาบัน ใสอันนี้เป็นพระสกิทาคามี ใสอันนี้เป็นของพระอนาคามี ใสอันนี้เป็นของพระอรหันต์ก็กำหนดของใครของมันเอง เป็นนิรมาณกาย กายปั้นรูปนั้นมาเอง ตามเรื่อง นี่พวกใส

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนรู้วิญญาณฐิติ 7 ให้ถึงอรหันต์ 

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 15:45:49 )

พวกไกลจากวิเวก

รายละเอียด

 คือ เป็นอาการของพวกหลง  ออกป่า  เขา  ถ้ำ  คือ พวกไกลจากวิเวก  คนกิเลสหนาไม่เปิดเผยแล้วคนพวกนี้อีกนานจะบรรลุธรรม

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 16:43:13 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:56:45 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:54:35 )

พวกไกลจากวิเวกอีกนาน

รายละเอียด

เป็นผู้หยั่งลงสู่ความหลงแน่นิ่ง พวกนี้ไกลจากวิเวกอีกนาน เพราะว่าเป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ พวกมีกิเลสมากแล้วปิดบังไว้ด้วย ปิดบังกิเลสของตัวเองไว้ด้วยนรชนเมื่อตั้งอยู่ก็จงอยู่ในความหลง ฉะนั้นเมื่อคุณจะตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่ในที่หลงก็จมอยู่ในที่หลง พยัญชนะของพระพุทธเจ้าที่สั้นๆแต่ลึกซึ้ง ยิ่งโมหะหลง นรชนเช่นที่กล่าวย่อมอยู่ห่างไกลจากวิเวก ทูเรวิเวกา กายวิเวกก็ไกล จิตวิเวกก็ไกล อุปธิวิเวก แม้แต่กามเบื้องต้นก็ไม่ได้ลดละออกมา แม้กามคุณ 5 ก็เป็นของที่ไม่ใช่นรชนจะละได้ง่าย คุณยังไม่ทำเลยแล้วจะจมอยู่ในจิต กายเบื้องต้นคุณยังไม่ทำแต่คุณจะไปอยู่ในใจกลางภูเขา คุณยังไม่ทะลุนอกภูเขาเข้าไปก่อนแล้วจะเข้าไปในจนกว่าจะถึงกลางภูเขาควรจะเข้าไปถึงกลางภูเขาได้อย่างไรในเมื่อคุณไม่ทะลุข้างนอกภูเขาก่อน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 09:49:24 )

พวกไม่มีจิตวิญญาณ

รายละเอียด

คือเป็นเรื่องภายนอก เช่น เรือ รถ ชง  จอมปลวก  รัง เมือง กระท่อม ฝี หม้อ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 12:16:28 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:57:21 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:21:06 )

พวกไม่รู้สัจธรรมอธิบายรูปพรหม อรูปพรหมเป็นแสงสี

รายละเอียด

สรุปผู้ที่ไม่รู้จักสัจธรรมอย่างสัมมาทิฏฐิก็อธิบายเป็นแสงเป็นสีเป็นอะไรไปหมดเลยเป็นภพเป็นชาติไป เป็นพรหม ตั้งแต่อรูปพรหมยิ่งหยาบ ยิ่งเป็นภพชาติเละเทะ เป็นดินแดนเพ้อเจ้อ พระอรหันต์เจ้าไม่มีภพหรอก พรหม 16 ไปหลงแสงสีอะไร ผู้ที่เป็นอรหันต์อย่างแท้จริง ผู้ที่มีแสงสีอย่างนั้นอยู่ก็ยังมี เราก็ไม่ปฏิเสธว่าสิ่งที่เขามีเพราะเขาไม่รู้เราก็ต้องเข้าใจ..ไอ้น้องเอ๋ย..ยังมีภพอยู่นะ เราก็เอ็นดูเขา เราไปบังคับให้เขาไม่มีก็ไม่ได้ เขายังมีอยู่ 

เราจึงเป็น อนุปคัมมะ เราไม่มีแล้ว คนที่ยังมีอยู่ก็มี เราก็ไม่ต้องไปถือหางอยู่กับพวกไม่มี มาข่มพวกมีก็ไม่ต้อง ก็มันยังไม่ถึงคราวที่ไม่มี ไม่มีแล้วก็ไม่มีดีแล้วไม่ต้องไปยกตนข่มท่าน ก็จบ เราก็รู้มันจบของเราไม่ต้องไปข่มใคร แต่คำว่าไปข่ม อาตมาพูดเชิงเหมือนข่ม ผู้ผิดผู้ที่ไม่ถูก ผู้ที่ทำลายศาสนา ผู้ที่เป็นโจร โดยโวหารก็ข่มไม่ข่มไม่ได้ แต่คนขี้ตู่ว่าอาตมาข่ม อาตมาจะไปข่มทำไมอาตมาอยู่ของอาตมาดีๆแล้ว อาตมาแสดงธรรม เมื่อยก็ต้องแสดงธรรมก็เป็นโพธิสัตว์เป็นสัมภารวิบาก เหนื่อยเราก็ไม่เหนื่อย เมื่อยเราก็ไม่เมื่อย เราไล่ไปเรื่อยๆเราไม่เมื่อยเราไม่เหนื่อย ที่จริงแล้วเหนื่อยแทบตาย 

ไปหลงผิดติดยึด นั่งหลับตาพากันมา 2,500 กว่าปี ไม่รู้จะพูดอย่างไรว่านั่งหลับตานั้นเลิกเสียได้ออกป่าเขาถ้ำก็ให้เลิกเสีย นี่กำลังอ่าน อัมพัฏฐสูตร มันยังไม่ถึงจุดที่จะต้องยืนยันนะ ยังอ่าน ไปไม่ถึงความเสื่อม พระพุทธเจ้าตรัสกับอัมพัฏฐะมาเรื่อย ว่า พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา สถาปนาศาสนาพุทธเอาไว้ ศาสนาพุทธไม่ออกป่าไม่หลับตาปฏิบัติแต่ลืมตามีจรณะ 15 วิชชา 8 จนกระทั่งความเสื่อมเกิดขึ้นมา 

พอเสื่อมมาก็ออกป่า โดยเข้าใจว่าผู้ที่มีสมบัติ จรณสมบัติ วิชชาสมบัติคือพระที่อยู่ป่า ซึ่งมันเป็นมิจฉาทิฐิอย่างสนิทเลย วิชชาจรณะ ถ้าจะว่าแล้วอยู่ป่าหรือไม่อยู่ป่าอยู่บ้านไม่อยู่บ้านถ้ามีจรณะ 15 วิชชา 8 แล้ว ศาสนาพุทธเป็นศาสนาเมือง ไม่ใช่ศาสนาคนป่า เป็นศาสนาสอนคนเมือง ศาสนาอยู่ที่สังคม ไม่ได้เป็นศาสนาที่ไร้สังคม ศาสนาของอาริยกะ ไม่ใช่ศาสนาของมิลักขะ อาตมาก็พูดมาหมดแล้ว ปฏิบัติธรรมศาสนาพุทธต้องมี อปัณณกปฏิปทา 3 เป็นคนตื่นอยู่กับสังคม ตาหูจมูกลิ้นกาย ตื่นๆ 

สรุปว่า ต้องมาลืมตาปฏิบัติ เลิกหลับตาปฏิบัติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  วิชชาจรณสมบัติ และพรหม 20 ชั้น วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2565 ( 14:46:25 )

พวกไม่เข้าใจอิทัปปัจจยตา

รายละเอียด

ตั้งแต่เป็นกฎหมายเล็กๆ เช่น ไปรับเงินจากการโฆษณาตอนเป็นนายกฯ ชิมไปบ่นไป ก็เลยต้องออกจากนายกก็ถูกแล้วมันเป็นกฎหมาย แม้แต่เล็กน้อยเท่านั้น แล้วคนก็บอกว่ามันไม่ใช่กำลังประชาชนมันเป็นการทำผิดกฎหมายของนายก นี่ก็คือพวกที่ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุอันนี้จึงมีอันนี้เป็นอิทัปปัจจยตาเขาไม่เข้าใจหรอก ผลที่สุดก็คือคุณก็ต้องออกไป แต่อำนาจของเมืองไทยประชาชนคนไทย จึงเป็นตัวอย่างของโลกที่ประชาชนทำรัฐประหารปฏิวัติไล่รัฐบาลที่เป็นรัฐบาลทรราชย์ ตั้งหลายรัฐบาล อย่างถูกต้องสวยงาม สำเร็จผลสูงสุด 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 11:13:15 )

พหิทธะ , พหิทธัง , พหิทธา

รายละเอียด

1. นอกภายนอก

2. ภายนอก

3. ภาวะภายนอก

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 251

ทางเอก ภาค 3 หน้า 358

 ค้าบุญคือบาป หน้า 130

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 74

 


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 20:48:17 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 08:30:22 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:55:16 )

พหิทธา จ สัพพนิมิต เตหิ จิตตัง วิวิตตัง โหติ

รายละเอียด

จากการยืนยันอยู่กับเหตุเค้ามูล เครื่องหมายทั้งหลาย รู้กันได้เป็นภายนอกด้วยทีเดียวว่าจิตเป็นผู้สงัด

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 358


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 20:49:13 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:34:16 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:55:39 )

พหิทธารูปานิ

รายละเอียด

รูปทั้งหลายภายนอก

หนังสืออ้างอิง

ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 274


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 20:50:35 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:34:58 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:56:10 )

พหิทธารูปานิ ปัสสติ

รายละเอียด

1. รูปภายนอกที่เห็นอยู่

2. การกำหนดรู้จนกระทั่งเห็นรูปภายนอก

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 58, หน้า 246, 247


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 20:51:54 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:37:19 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:31:17 )

พหิทากับอัชฌัตตัง

รายละเอียด

ศาสนาทุกวันนี้แหว่งไม่ครบนอกและใน ไม่ครบ พหิทา (นอก) กับใน (อัชฌัตตัง) มีรูป อรูป ซึ่งจะมีนามธรรมประกอบ ภายนอกภายในทั้งหมด เป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้งสัมพันธ์กันขาดกันไม่ได้ อาตมาก็พยายามประมวลให้ครบ ขนาดนั้นบางอันก็หลุดพร่องไปไม่เต็ม พยายามไม่ให้ผิด อันไหนผิดคนท้วงก็จะได้แก้ไข ก็พึ่งกัน ผู้รู้ทุกคนก็พึ่งกัน ช่วยกันคนละไม้คนละมือ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:42:35 )

พหุ

รายละเอียด

คือ แปลว่า  สารถี แปลว่า  ผู้ขับ นำพาคนไปได้  เป็นสารถี เป็น สารถี เป็นสารถีผู้ฝึก บุรุษที่ควรฝึก  หากว่า คุณได้ธรรมะ ขั้นพหุ ที่คุณจะได้เป็น สารถี  ที่จะไปขับรถ นำพาคนอื่นไปสู่ที่เจริญได้   คำว่า พหูสูต เป็นความจริงของสัจธรรมในระดับ โอ้โห เป็นผู้ที่มีแล้ว  นำพาคนอื่นเป็นคนสอนผู้อื่น  นำพาคนอื่นไป่สู่ที่เจริญได้ นำผู้อื่นไปได้เลย   สารถีหรือผู้ที่จะนำพา  ผู้อื่นไม่ได้ สูงกว่าผู้แค่บอกกล่าว ผู้ชี้ทาง  ผู้ที่ได้ตำแหน่งสารถี  คือ พหุ แปลว่า สารถี  อย่างนี้เป็นต้น  สัทธรรม 7  ศรัทธา  หิริ  โยตตัปปะ  พหูสูต วิริยะ  สติ ปัญญา  วิริยะ  สติ ปัญญา เป็นองค์ธรรมแห่งพลังงาน สามเส้า ที่จะสำคัญมากเลย เป็นยาดำ อยู่ไหน วิชชา 8 จะแทรกซึม ช่วย ปฏิบัติศีลอย่างไร  อปัณณกปฏิปทา เครื่องกิน  เครื่องอยู่  ใช้สอย  อยู่ในโลก  เป็น  โภชเนมัตตัญญุตา  น่าจะต้องอยู่อย่างตื่น ไม่ใช่อยู่อย่างหลับ อปัณณกปฏิปทา  ถ้าไม่มีแล้วก็ผิด

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2562 ( 13:26:56 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:58:24 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:57:51 )

พหุ

รายละเอียด

คือ  แปลว่า สารถี  พาธรรมะพระพุทธเจ้า  ศาสนาพระพุทธเจ้า  ขับเคลื่อนไปได้  พหูสูตรเขาแปลว่า รู้มาก  ก็ไม่ผิด  แต่ในบาลีมี แปล  พหุ  ว่า สารถีด้วย  บางเล่มก็ไม่ได้แปล แต่บางเล่มก็เก็บมาได้อย่างนี้

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 82 วันจันทร์ที่ 25พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 14:23:28 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:13:47 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:59:24 )

พหุ

รายละเอียด

แปลว่า  สารถี แปลว่า  ผู้ขับ นำพาคนไปได้  เป็นสารถี เป็น สารถี เป็นสารถีผู้ฝึก บุรุษที่ควรฝึก  หากว่า คุณได้ธรรมะ ขั้นพหู ที่คุณจะได้เป็น สารถีที่จะไปขับรถ นำพาคนอื่นไปสู่ที่เจริญได้   คำว่า พหูสูต เป็นความจริงของสัจธรรมในระดับ  เป็นผู้ที่มีแล้ว  นำพาคนอื่น เป็นคนสอนผู้อื่น  นำพาคนอื่นไป่สู่ที่เจริญได้ นำผู้อื่นไปได้เลย   สารถีหรือผู้ที่จะนำพา  ผู้อื่นไปได้ สูงกว่าผู้แค่บอกกล่าว ผู้ชี้ทาง  ผู้ที่ได้ตำแหน่งสารถี  คือ พหุ แปลว่า สารถี  อย่างนี้เป็นต้น  สัทธรรม 7  ศรัทธา  หิริ  โอตตัปปะ  พหูสูต วิริยะ  สติ ปัญญา  วิริยะ  สติ ปัญญา เป็นองค์ธรรมแห่งพลังงาน สามเส้า ที่จะสำคัญมากเลย เป็นยาดำ อยู่ไหนวิชชา 8 จะแทรกซึมช่วย ปฏิบัติศีลอย่างไร  อปัณณกปฏิปทา  เครื่องกินเครื่องอยู่  ใช้สอยอยู่ในโลก  เป็นโภชเนมัตตัญญุตา  น่าจะต้องอยู่อย่างตื่น ไม่ใช่อยู่อย่างหลับ อปัณณกปฏิปทา  ถ้าไม่มีแล้วก็ผิด

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก วันศุกร์ที่   22พฤศจิกายน  2562


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2562 ( 19:56:09 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:35 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:41:03 )

พหุ

รายละเอียด

แปลว่าสารถี  พาธรรมะพระพุทธเจ้า  ศาสนาพระพุทธเจ้าขับเคลื่อนไปได้  พหูสูตรเขาแปล แค่ว่า รู้มากก็ไม่ผิด  แต่ในบาลีมีแปลพหุว่าสารถีด้วย  บางเล่มก็ไม่ได้แปล แต่บางเล่มก็เก็บมาได้อย่างนี้

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่  25พฤศจิกายน  2562


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2562 ( 19:54:37 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:30:51 )

พหุชนสุขายะ

รายละเอียด

1. เป็นไปเพื่อความสุข สันติแท้แก่ปวงมหาชนโดยจริง

2. นำปวงชนทั้งหลายไปสู่ที่ดีแท้

3. ความสุขต่อมวลมนุษยชาติเป็นอันมาก

4. สร้างความสุขแก่มวลชนเป็นอันมาก , ทำความสุขให้เกิดแก่มวลมนุษยชาติเป็นอันมาก

5. เป็นสุขต่อมวลชนในโลก

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 562

คนคืออะไร? หน้า 532

อีคิวโลกุตระ หน้า 179

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 51, หน้า 176

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 38


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 20:54:30 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:40:13 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:32:06 )

พหุชนสุขายะ

รายละเอียด

คือ ช่วยมวลมหาชนให้เป็นสุข สงบ สบาย

หนังสืออ้างอิง

คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1  หน้า 333


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 14:11:40 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:33:01 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:33:25 )

พหุชนสุขายะ

รายละเอียด

พหุชนสุขายะ สุขมาเน้นอธิบายว่าเป็นลักษณะความสุข แล้วสุขที่ลึกด้วย เป็นสิ่งที่ว่างเบา นิ่ม มุทุตา อ่อน ซึ่ง สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ท่านแปลมุทุว่า นิ่ม อ่อน ละเอียด เป็นพลังงานที่เล็กละเอียดแววไวปราดเปรียวและมี 2 มีสภาพ 2 อย่างอยู่ในนี้ 

อะ อิ อุ เป็นลักษณะสระ ที่รวมสามเส้า แข็งแรงด้วยพลังเจโตด้วย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 15:06:26 )

พหุชนสุขายะ

รายละเอียด

พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) ขอเอาคำว่าสุขมาใช้ เป็นกลางๆที่มนุษย์ต้องอาศัยใช้ไปก่อน ส่วนผู้ที่จะไม่มีสุขไม่มีทุกข์ หมดความสุขความทุกข์ค่อยว่ากันอีกที ทำให้ประชาชนเป็นอยู่สุข สุขอย่างสงบอบอุ่นสุขอย่างอุดมสมบูรณ์ พหุชนสุขายะเป็นอายะที่ 2

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 19:26:48 )

พหุชนสุขายะ คือ

รายละเอียด

ประชาชนส่วนมากได้รับประโยชน์คือ พหุชนหิตายะ 

พหุชนสุขายะ คือประชาชนส่วนมากมีความสุข โลกานุกัมปายะ  เป็นลัทธิหรือศาสนาที่ไม่ทำแคบๆอยู่แค่พวกของตน เอื้อเฟื้อเจือจานเกื้อกูลให้มนุษย์ทั้งโลก มาได้รับประโยชน์แบบนี้ มามีความสุขแบบนี้ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ใครปฏิบัติเรียนรู้พิสูจน์ได้ไปหมดเลย ไม่ต้องเสียภาษี ไม่ต้องเอาสตางค์แลกเปลี่ยนกลับ ไม่ต้องเอาอะไรแลกเปลี่ยนกลับ ทำให้ฟรีๆเลย นี่คืออธิปไตยของประชาชนในยุคพระพุทธเจ้า ถ้าเข้าใจอธิปไตย 3 กับ อายะ 3 ที่อาตมาขยายความไปแล้ว นี่แหละรวมแล้วคือสมัยนี้เขาเรียกด้วยภาษาที่รู้กันทั่วโลกแล้วก็คือประชาธิปไตย จะมีภาษาของแต่ละชาติเขาเรียกกันไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 1

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2566 ( 12:50:09 )

พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย พหุชนอัตถาย

รายละเอียด

พระอรหันต์ ก็คือคนเป็น ๆ ที่มีการงานเพื่อตัวเองน้อยที่สุด (และที่แท้ก็ไม่ใช่เพื่อตัวเองเลย ถ้าผู้นั้นรู้แจ้งสัมพัทธภาพได้จริง ๆ) แต่มีการงานเพื่อผู้อื่นมากที่สุด มีค่าที่สุด

หนังสืออ้างอิง

ทางเอกภาค 3 หน้า 371


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 20:55:25 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:02:01 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:33:48 )

พหุชนหิตายะ

รายละเอียด

1. สร้างประโยชนแก่ปวงมหาชน

2. เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ปวงมหาชนโดยแท้

3. สร้างประโยชน์เกื้อกูลมวลมนุษย์ทั้งหลาย  ปวงประชาทั้งมวล

4. เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่มวลมนุษย์ทั้งหลาย

5. เต็มใจขวนขวายเกื้อกูลก่อประโยชน์เพื่อมวลมนุษยชาติ

6. มีประโยชน์คุณค่าต่อผู้อื่น ต่อมนุษยชาติทั้งหลาย

7. ทำประโยชน์เป็นอันมากแก่ปวงชนทั้งหลาย

8. เป็นประโยชน์คุณค่า เสียสละเกื้อกูลแก่มวลมนุษยชาติ

9. ประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติอันมาก

10. สร้างประโยชน์แก่มวลชนเป็นอันมาก

11. เป็นประโยชน์ต่อมวลชนในโลก

12. มีประโยชน์ต่อสังคมได้เป็นอันมาก

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 257

ทางเอก ภาค 2 หน้า 562

สมาธิพุทธ หน้า 188, หน้า 314, หน้า 316

คนคืออะไร? หน้า 257, หน้า 532

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 51

อีคิวโลกุตระ หน้า 166, หน้า 197

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 38

ป่ากับพุทธศาสนา หน้า 18

 


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 20:56:29 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:48:39 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:35:02 )

พหุชนหิตายะ

รายละเอียด

คือ ผู้มี“ปัญญา”จริงเท่านั้นจะหยุด“แย่ง”อย่างแท้จริง และจะเป็นผู้มีแต่“ช่วยมวลมหาชนให้ได้ประโยชน์

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 333


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 14:10:49 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:35:32 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:35:30 )

พหุชนหิตายะ

รายละเอียด

พหุ แปลว่า มาก มันชัดเจนกว่าคำว่าประชาชนเฉยๆ ประชาชนก็คือคนทั้งหลายคนเฉยๆ ประชาก็คน ชนก็คน ส่วนพหุแปลว่ามากมาย ชนหรือชนะก็คือคน แทนที่จะเป็นประชาชนอย่างเดียว แต่อันนี้เป็นพหุชน มันชัดเจนกว่า แปลว่ามาก คนทั้งหลายมากมาย ประโยชน์เพื่อคนทั้งหลายมากมาย พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 19:25:36 )

พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ โลกานุกัมปายะ

รายละเอียด

คือ เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ทั้งหลาย และ ให้ความสุขแก่มวลมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้อนุเคราะห์โลกอยู่

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 468


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:21:21 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:37:00 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:36:01 )

พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ โลกานุกัมปายะ

รายละเอียด

งานที่อาตมาทำชาตินี้ภาคภูมิใจที่ทำงานนี้มาได้ 50 ปีแล้วเราก็ไม่เสียชาติเกิด เกิดมาชาตินี้มีประโยชน์ พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) จนเกิดคนเป็นคนวรรณะ 9 มา เอาภาษาธรรมะพุทธเจ้ามาสื่อสภาวะ คำสอนของพระพุทธเจ้าสอนให้คนเป็นเช่นนี้ 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 15:27:44 )

พหุชนอัตถายะ

รายละเอียด

นำปวงชนทั้งหลายไปสู่สารสัจจะที่แท้

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 532


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:03:12 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:49:31 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:36:19 )

พหุชนะหิตายะ

รายละเอียด

พหุชนะ คือ ประชาชน มวลประชาชนเป็นอันมาก คนจำนวนมาก หิตะ แปลว่าประโยชน์ ผลได้ กำไร เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมา เป็นปฏิลาโภ เป็นส่วนได้ จะเรียกเป็นภาษาน่าเกลียดว่าเป็นกำไรก็ได้ เรียกว่ารายได้ก็ได้ ประโยชน์ก็ได้ เป็นสิ่งที่เกิดเป็นคุณค่าขึ้นมาเรียกว่า หิตะ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนโดยตรง อายะ นี่แหละ ยืนยันคำว่า รายได้ ประโยชน์

คำว่า Gross ก็คือ องค์รวม รายได้องค์รวม ใน GDP 

ของประชาชน นี่ เป็นประโยชน์เป็นรายได้ทั้งหมดของมวลประชาชน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมี ประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 15:05:31 )

พหุธา

รายละเอียด

ทำให้เป็น ทำให้ได้หลายจิตมากๆ จิตตามที่เห็นดี

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 93


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:03:57 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:50:26 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:36:56 )

พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ

รายละเอียด

เกิดธรรม 2 ที่สามารถทำให้เป็นธรรม 1

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 381


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:04:41 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:52:01 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:41:35 )

พหุลีกัมมัง

รายละเอียด

พหุลีกัมมัง คือ  ทำอีกๆๆ ทำให้มากๆๆ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 12:47:32 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:38:33 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:42:02 )

พหุลีกัมมัง

รายละเอียด

1. ทำมาก ๆ

2. การทำให้มาก ๆ เมื่อได้พิสูจน์แล้วว่าทำอย่างนี้ได้มรรคผล

หนังสืออ้างอิง

อีคิวโลกุตระ หน้า 166

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 131


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:06:01 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:53:09 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:40:23 )

พหุสัจจะ

รายละเอียด

ความรู้แท้จริง รู้ในสัจจะมากขึ้น แทงทะลุในสัจธรรมทั้งหลายมากยิ่งขึ้นไปให้ได้เรื่อย ๆ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 3


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:06:51 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:53:51 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:42:23 )

พหูสูต 5

รายละเอียด

ผู้มีความรู้และบรรลุพุทธธรรมไปตามขั้นตอนลักษณะพหูสูต 5  (พาหุสัจจะ) 

1. ได้ยินได้ฟังมาก (พหุสสุตา) 
2. ทรงไว้ได้มาก (ธตา) 
3. คล่องปาก (วจสา ปริจิตา) 
4. เจนใจ (มนสานุเปกขิตา)  
5. แทงตลอดอย่างดีด้วยทฤษฎี หรือด้วยความเข้าใจ (ทิฏฐิยา สุปฏิวิทธา) 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 22  ข้อ 87

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 47


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:07:30 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:55:29 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:43:52 )

พหูสูตต่างจากปทปรมบุคคล

รายละเอียด

ท่านเรียกกันว่าพหูสูต คือผู้รู้มาก learned man ผู้ที่ศึกษามาก เรียนรู้มาก ท่องจำได้มากเป็น ปทปรมบุคคล เท่านั้น ไม่ใช่ ปทปรมบุคคลคือ คนที่เรียนรู้มาก ท่องจำได้มาก เอามาสอนคนอื่นก็มาก แต่ตัวเองไม่ได้บรรลุธรรม คนทุกวันนี้ที่เสื่อมก็ไปติดอยู่แค่ปทปรมะ ท่องจำพระพุทธพจน์ก็มาก สวดสาธยายก็มาก สอนคนอื่นเขามากๆแต่ตัวเองไม่ได้บรรลุธรรม 

อาตมาทำงานมาตั้ง 50 ปี กว่าจะยืนยันว่าตัวเอง พูดว่าเป็นอรหันต์ แล้วยืนยันว่าท่านเหล่านั้นท่านไม่รู้ ท่านยังหลงติดอยู่ในแค่บัญญัติภาษา ยังไม่เข้าถึงสภาวะ แม้แต่คำว่า กาย

ยังไม่พ้นสังโยชน์ข้อที่ 1 กายที่อยู่ในตนของตน คุณยังไม่เข้าถึงตน สักกะ คุณยังแยกรูปนามที่เป็น 2 สภาพ กาย ไม่ออก ไม่รู้จักสภาวะสองที่เป็นเทวะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์ตีตราด้วยปัญญา 8 ประการ วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 23 พฤษภาคม 2564 ( 12:53:26 )

พหูสูตในปัญญาข้อที่ 5

รายละเอียด

สรุปว่าได้แล้วคุณก็จะได้เป็นพหูสูตในข้อที่ 5 จากผลการปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญาหรือการปฏิบัติศีล อปัณณกปฏิปทา 3 เกิดสัทธรรม 7 

ปฏิบัติให้กิเลสมันลดลงสั่งสมลงเป็นพหูสูตเป็นผู้ได้ความรู้มาก ความรู้ไม่ใช่ความรู้โลกียะเป็นความรู้สัมโพชฌงค์ เป็นความรู้ที่ตรัสรู้โดยพระพุทธเจ้า พหูสูต คือ รู้มาก สูต คือรู้ พหุ คือมาก มันยังไม่มากก็ต้องใช้วิริยะสติปัญญาเป็นตัวเสริม ศรัทธา วิริยะ หิริโอตตัปปะ พหูสูต 

5. เธอเป็นพหูสูต ทรงจำสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมากทรงจำไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยข้อที่ 5 ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญาฯลฯ เพื่อความบริบูรณ์แห่งปัญญาที่ได้แล้ว ฯ

สูต เป็นพหูพจน์ สุตะคือเอกพจน์ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้ยินได้ฟังมากทรงจำไว้คล่องปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ เพราะฉะนั้นคุณฟังคุณจำคุณเอามาปฏิบัติแก้ไขจนถึงปฏิเวธแทงตลอดด้วยดี ด้วยทิฏฐิสมบูรณ์แบบเพ็ญแจ้งทั้งหลายในธรรมอันงามในเบื้องต้นท่ามกลางในที่สุดประกาศพรหมจรรย์ ที่สุดแล้วก็ประกาศความบริสุทธิ์พรหมจรรย์ของเราได้ ประกาศไปทั้งพยัญชนะ คำพูดบัญญัติภาษาทั้งสภาวะ ทั้งอัตถะคือเนื้อหา ทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์ สิ้นเชิง ครบถ้วน เต็ม 

เพราะฉะนั้นคุณทำให้เกิดพหูสูตเจริญๆๆ ก็ได้ปัญญาเรื่อยไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 3 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันพุธที่ 7 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 เมษายน 2564 ( 21:30:13 )

พอ

รายละเอียด

ใจพอ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 62 วันจันทร์ที่ 12สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:46:02 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:41:53 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:44:39 )

พออยู่ พอกิน

รายละเอียด

ประเทศใดก็แล้วแต่ที่เป็นประเทศที่เป็นเศรษฐกิจดี คือ เป็นประเทศที่เศรษฐกิจจน ในบ้านนั้นเมืองนั้นประเทศนั้นจน ที่จนเพราะไม่สะสม ที่จนเพราะเป็นประเทศที่พออยู่พอกินแล้วก็มีอยู่มีกินอย่างอุดมสมบูรณ์เหมือนชาวอโศกนี้ เพราะฉะนั้นสร้างผลผลิตได้ก็สะพัดออกแจกจ่ายออกให้อยู่ในฐานจน จึงเป็นประเทศที่มีประโยชน์ต่อโลก เศรษฐกิจของประเทศไทยถ้าเป็นอย่างที่อาตมาว่าได้เหมือนชาวอโศก 1. ไม่เป็นหนี้ 2. ทำงานการมีความรู้ความสามารถพึ่งตนเองรอด 3. ทำให้เหลือให้เกินให้มาก 4.สะพัดแจกจ่ายออก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:52:16 )

พออยู่พอกิน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นความสงบก็ดี ที่นี้มาพูดถึงความจน ที่ในหลวงบอกว่า เราไม่จำเป็นต้องรวยแต่เราก็รวยพอตัวนะ เราจะดีกว่าคนรวยที่สุดในโลก เราจะเป็นหนึ่งในโลกในข้อนี้ แล้วรู้สึกว่าที่หนึ่งในโลกในข้อนี้จะดีกว่าผู้อื่น จะดีกว่าคนที่รวยที่สุดในโลก จะดีกว่าคนที่เก่งในทางอะไรก็ตามที่สุดในโลก ถ้าเรามีความสงบมีความสบาย ความมั่นคงที่สุดในโลกนั้น รู้สึกจะไม่มีใครสู้เราได้…. 

นี่ท่านไม่ได้เอาเรื่องความจนมาเกี่ยวด้วย เพราะว่าท่านจะไม่ได้ตรัสว่า จะมาจนที่สุด มีแต่ความสงบความสบายความมั่นคง แต่ท่านไม่ได้เอาคำว่ามาจนที่สุดในโลก เพราะประเทศที่จนกว่าเราก็มี แต่ประเทศของเรานี้จน เปรียบเทียบกันในโลกถือว่าเป็นประเทศที่จน มันมีความคิดทำสถิติซับซ้อน ว่าประเทศไทยนี้ รวยหรือจนเมื่อเทียบกับต่างประเทศประเทศต่างๆ ประเทศไทยก็รวยกว่าหลายประเทศ โดยค่าเฉลี่ย จะจนก็ต่างประเทศมากกว่า เทียบกับ 200 กว่าประเทศ ประเทศไทย ก็รวยกว่าเขาอยู่ ไม่ใช่น้อย แต่จนนี้ ค่าเฉลี่ยของความจนนี่ ไทยจน ไม่ได้จนอย่างสิ้นไร้ไม้ตอกเหมือนอย่างหลายประเทศ จนอย่างมีเศรษฐกิจ พออยู่พอกินถึงขั้นอุดมสมบูรณ์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สบายสงบและมั่นคงที่ 1 ในโลกคือประเทศไทย วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 7 ค่ำเดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2565 ( 12:49:25 )

พอเป็นตัวกลางของในหลวงรัชกาลที่ 9

รายละเอียด

เราสามารถเป็นคนที่ ใจพอ ในหลวงรัชกาลที่ 9 คำว่าพอมาใช้เป็นตัวกลาง เป็นตัวสำคัญมากเลย ที่จะต้องเรียนรู้สิ่งใดของคน บางคนมีหมื่นล้านก็ยังไม่พอ มีลูก 200 คนหรืออย่างไร ก็ไม่ใช่ ใจที่รู้จักพอ มีเท่านี้เราก็พอ อยู่กับหมู่ แม้ไม่มีเราไม่ต้องสะสมเลยก็พอ แล้วมันไม่สบายหรืออย่างไร สบายจะตาย ที่จริงเราก็ควรจะดูแลรับผิดชอบบ้าง ตอนนี้เราไม่ต้องดูแลอะไรเลยตัวล่อนจ้อนมันก็มากไป ก็ต้องช่วยกันบ้าง อย่างน้อยก็ช่วยเก็บงำไม่ให้หกตกหล่น ไม่ควรจะสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยให้เอาภาระกันบ้าง หากเราไม่ช่วยกันดูแลไม่ช่วยกันเลยปล่อยลอยชายไปลอยชายมา  เราช่วยกัน เราก็เป็นคนมีกรรมเป็นกุศลความชำนาญก็เกิดประโยชน์ก็เกิดวิบากก็ดี คนที่ขยันหมั่นเพียร คุณเองคุณก็ได้ดีของคุณไม่มีใครไปแย่งคุณได้เลย ไปแย่งวิบากกันไม่ได้ วิบากกรรมวิบากมันแย่งกันไม่ได้ เราเป็นทายาทของกรรม 

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 พ่อครูบวชมาย่าง 50 ปี มีผลอะไร 1 วันศุกร์ที่ 27ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 16:23:22 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:47:17 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:46:07 )

พอเพียง

รายละเอียด

พอเหมาะพอดี

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 19:50:25 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:48:27 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:40:48 )

พอแล้ว

รายละเอียด

       พอแล้ว คือ อย่าเกินกว่านี้สิ พอแล้วก็ไม่เอาต่อ แม้แต่ความคิดพอแล้วก็ต้องมีคิดต่อไม่ปรุงต่อ รสขนาดนี้หวานพอแล้ว เปรี้ยวพอแล้ว อะไรก็แล้วแต่เสียงเท่านี้พอแล้ว แรงกว่านี้จัดกว่านี้ไม่เอาแล้ว ก็ต้องรู้เขตอะไรที่มันจัดมันเกินกว่านั้นและคุณก็ต้องพอ ไม่อย่างนั้นคุณจะกำหนดความพอได้อย่างไรมันต้องพอให้น้อยลงน้อยลงจนน้อยที่สุดมากที่สุด

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2562 ( 12:01:45 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:49:37 )

พอใจและใจพอ

รายละเอียด

คำว่าพอ คำเดียวนี้แหละยิ่งใหญ่อีกในยุคนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสคำว่าพอ ซึ่งเอามาจากคำว่า สันตุฏฐิ หรือสันโดษ ของพระพุทธเจ้า แปลว่า ใจพอ อาตมาบัญญัติคำภาษาไทยคำว่าใจพอ คำว่าพอใจเขาก็ใช้กันมา แม้แต่มหาบัวก็ใช้ พอใจๆๆ มันบำเรอกิเลสนะพอใจ ภาษาไทยคำว่าใจพอกับพอใจคนละอย่างกันใช่ไหม ถ้าใจพอมันจะหยุด ไวยากรณ์มันชัดเจน ใจมันพอ แต่พอใจ นี่มันบำเรอกิเลส พอคำนี้ ไม่มีความหมายเป็นชื่นใจสมใจบำเรอใจ เราพอใจยินดี มันมีปิติ พอใจชอบใจ แต่ใจพอนี้เฉยๆว่างๆใจพอไม่ชอบไม่ชังไม่ดูดไม่ผลักใจหยุดใจพอใจนิ่ง พยัญชนะที่เราเข้าใจความหมายลงตัว เข้าใจความหมายที่ถูกลักษณะแท้ของมันได้ สื่อสารกันให้เข้าใจแล้วเอาไปปฏิบัติได้ เราก็จะรู้เองเป็นปัจจัตตัง ลักษณะพอลักษณะไม่มีลักษณะว่าง 

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 สู่แดนทองฉลอง 50 ปีโพธิกิจ วันที่ 1 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:21:44 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:50:48 )

พอใจในเสนาสนะป่าคือเช่นไรในอปริหานิยธรรม

รายละเอียด

ข้อที่อาจจะสับสน คือ พอใจอยู่ในเสนาสนะป่า เป็นข้อที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง อาตมาอธิบายว่าศาสนาพุทธนั้น พระพุทธเจ้าไม่ได้ส่งเสริมให้ไปอยู่ป่า แต่ถ้าฟังอย่างนี้แล้วเหมือนเป็นศาสนาที่ส่งเสริมให้ไปอยู่ป่า ที่จริงเขาก็พยายามแปลเข้าข้างตัวเองให้มีร่องรอยว่า จะพอใจอยู่ในเสนาสนะป่า(ป่าคือความสุขจากกิเลส)แต่พวกเราวงเล็บว่า พอใจในเสนาสนะป่า แปลว่ายินดีพอใจในเสนาสนะป่า อาตมาก็เป็นผู้ที่มีใจยินดีในเสนาสนะป่า แต่อาตมาไม่ได้ยินดีในเสนาสนะป่าที่เป็นป่าคอนกรีตหรือเมืองที่วุ่นวายไม่ได้ยินดี คำว่าเสนาสนะป่าในความหมายของพระพุทธเจ้าก็หมายถึงว่า ถิ่นที่สงบ หรือแม้จะหมายถึงป่าจริงๆก็ไม่เป็นไร แต่หมายถึงว่าจิตยินดี ไม่ใช่ว่าเอาตัวตนไปอยู่ป่า อาตมานิใจยินดีกับเสนาสนะป่า ไปอยู่ที่ไหนก็สร้างป่า ขนาดอยู่ในกรุงเทพฯสันติอโศกก็สร้างป่า อยู่ที่ไหนก็สร้างป่าทั้งนั้น แต่ไม่จำเป็นจะต้องไปอยู่ป่า คำว่า ป่า คำนี้ไม่ได้หมายถึงว่า ป่าช้าป่าชัฏป่ารก  แต่ป่าคือ สวนต้นไม้ มีต้นไม้มากๆหน่อยร่มเย็น นี่เรียกว่าป่าเป็นที่สงบสงัด ไม่ใช่แบบป่าคอนกรีตหรือมีแต่วัตถุสร้างวัตถุเต็มไปหมด ทุกวันนี้อาตมาก็สร้างธรรมชาติ ป่าหมายถึงว่าธรรมชาติ ทุกวันนี้แม้แต่ราชธานีอโศกก็ยังสร้างไม่เสร็จยังปลูกต้นไม้ต้นยางนี่ อีกสัก 10 ปี 20 ปีต้นยางต้นหว้าต้นตาล จะขึ้นกัน จะเห็นชัดเลยมาบ้านราชฯ แต่ก่อนมาบ้านราชฯมีแต่น้ำท่วมและพุ่มไม้ อุ่มไม้ นอกนั้นไม่มีต้นไม้ใหญ่หรอกหัวแดงเลย เรามาอยู่ก็ปลูกต้นไม้ใหญ่ขึ้นมาเอง ปลูกต้นไทรปลูกต้นฉำฉาปลูกต้นอะไรต่างๆนานาจนกระทั่งปลุกต้นยาง ก็พยายามเลี้ยงมันมาจนเป็นป่ายาง เราไม่ใช่สร้างแต่ต้นไม้เราสร้างลำธารขุดลอกบุ่งให้ดี ทำลำธารถอยหลังเข้าครรลอง อย่างนี้เป็นต้น เราก็ทำ ปลูกต้นหมากรากไม้ จะสร้างเป็นคอนโดภูเขา ผาแหงน จะสร้างภูเขาตะนาวศีล นี่จะสำเร็จหรือเปล่าก็ไม่รู้

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 13:08:00 )

พัฒนาการของธาตุถึงระดับเทวนิยม คือเรียนรู้ดีชั่ว 

รายละเอียด

แล้วไอ้ความต่างนี้ถ้ามันร่วมกัน ปรุงแต่งกันให้เกิดประโยชน์ ให้เกิดคุณค่า ตั้งแต่มีดินน้ำไฟลม จนกระทั่งมาเป็นพืชมาเป็นสัตว์มันก็ต่างกันไปเรื่อยๆ ปรุงแต่งเนียนๆๆ ละเอียดขึ้นไป จนกระทั่งสามารถที่จะแยกได้ว่า ไอ้จิต หรือว่าตัวธาตุรู้ มันรู้ละเอียดไปเรื่อยๆตั้งแต่ดินน้ำไฟลมมาเป็นพืช มาเป็นสัตว์ สัตว์ก็มีความต่าง จากการปรุงแต่ง แต่ละคนๆ สัตว์มันเรียนรู้ไม่ได้ สัตว์เดรัจฉานมาเป็นคน คนในระดับที่อเวไนยสัตว์มันก็เรียนรู้ไม่ได้ ไม่มีภูมิรู้เพียงพอที่จะศึกษา บารมียังไม่พอ เขาก็เรียนรู้ได้ พัฒนาได้ทางระดับเทวนิยม เรียนรู้ดีเรียนรู้ชั่ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สังขารกับการเวียนว่ายตายเกิด


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 15:07:05 )

พัฒนาการของสังคมเศรษฐกิจดี

รายละเอียด

1.ตนเองรู้เข้าใจดีพร้อม (ในการลดละ) แต่ยังทำไม่ได้
2.มีผู้รู้ตาม ศรัทธาเชื่อมั่นตาม แต่ตนยังทำไม่ได้
3.มีผู้รู้ตาม เชื่อมั่นตาม แต่ยังทำไม่ได้  มีมวลกระจาย  ทั่วไปมากขึ้นๆ
4.ตนเองรู้เข้าใจดีพร้อมและทำตามได้สำเร็จ
5.มีผู้รู้ตาม ศรัทธาเชื่อมั่นตามและทำได้สำเร็จมากขึ้น  แต่ยังกระจายกันอยู่

6.มีผู้รู้ตาม เชื่อมั่นตาม และทำได้สำเร็จมากขึ้น  รวมกันอยู่เป็นกลุ่ม  มีระบบระเบียบ 
7.มีผู้รู้ตาม เชื่อมั่นตาม  และทำได้สำเร็จมากขึ้น  เพิ่มกลุ่มมากขึ้นเป็นเครือข่าย 
8.มีผู้รู้ตาม  เชื่อมั่นตาม และทำได้สำเร็จมากขึ้น  เพิ่มมากกลุ่มหนาแน่นขึ้น ซับซ้อนสานกันเป็น "เครือแห" อย่างเป็นระบบ 
9.กลุ่มเครือแหทั้งหลาย รวมกันเป็นสังคมสาธารณโภคี อย่างมีระบบ หยาบ-กลาง-ลึกล้ำ สัมพันธ์สานกันอยู่อย่างเข้าใจกันดี

10.สังคมสัมบูรณ์เป็นเอกภาพ โตขึ้นเป็นปีระมิด เพิ่มความสูงและมีฐานกว้าง เจริญขึ้นๆ ไปอย่างได้สัดส่วน  แข็งแรง  ยั่งยืน  สุขสำราญ. 

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2562 ( 21:03:32 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:27:30 )

พัฒนาการจากพืชจนถึงมนุษย์

รายละเอียด

พืชนี้สังเกตได้มันจะเกาะอยู่กับที่กับพื้นดินหรือตรงนั้นตรงนี้ พอหลุดจากที่เคลื่อนย้ายได้เป็นสัตว์ ตั้งแต่สัตว์เล็ก จนเป็นสัตว์ใหญ่เคลื่อนที่ไปเองไม่อยู่กับที่ จากน้ำไปบกแล้วก็สามารถบินไปในอากาศ ก็ได้กว่าจะมาเป็นจิตนิยามที่เป็นสัตว์ที่เรียกว่า มนุษย์ มันหลายเชิงชั้นปรุงแต่งจนกว่าจะมาเป็นมนุษย์การได้เกิดเป็นมนุษย์จึงยากแสนยาก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 21ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 11:38:15 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:29:17 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:42:26 )

พัฒนาการจากพืชมาเป็นสัตว์จากชีวะมาเป็นจิต

รายละเอียด

คุณสุทัศน์จะต้องศึกษาไปอีกพอสมควร พืชเป็นชีวะ ถ้าเป็นจิตก็เป็นสัตว์ตั้งแต่สัตว์เซลล์เดียวมันข้ามรอบของพืชออกมาเป็นสัตว์อธิบายตัดรอบตรงนี้ต่อรอบตรงนี้ข้ามขั้นตรงนี้ จากตระกูลของพืชมาเป็นตระกูลของสัตว์นี้ ไม่รู้อาตมาจะอธิบายอย่างไรเพราะไม่รู้จะใช้ภาษาอย่างไรดี มันเป็นพัฒนาการที่ถ้าคุณเข้าใจแล้วคุณจะรู้หาพยัญชนะยังไม่ได้ อาจจะมีภาษาบาลีภาษาอภิธรรมอาตมาก็ยังไม่ได้ศึกษา 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 11:58:13 )

พัฒนาของสัทธานุสารีสู่ธัมมานุสารีตามลำดับ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นผู้ที่จะนั่งหลับตา เรียนแต่ภายใน พระพุทธเจ้าท่านใจดีบอกว่าผู้ที่อาสวะบางอย่างก็คือสายหลับตา จนกระทั่งไปบรรลุกายสักขี ตั้งแต่สัทธานุสารี มาเป็นสัทธาวิมุติ พอเริ่มมีปัญญาทำไปถึง ธัมมานุสารี พอธัมมานุสารี ที่เป็นสายของศรัทธา กับธัมมานุสารีของสายปัญญา สายศรัทธาจะรู้ได้ยากได้ช้ากว่าเมื่อได้รับปัญญา เพิ่มขึ้น สายศรัทธาไม่ใช่สายปัญญาแม้จะได้รับปัญญามาแต่ก็ยังไม่เก่งพอ เพราะไม่ถูกกับจริตของตนเอง แต่ก็ต้องพยายามให้ได้ปัญญา แม้ได้มาแล้ว ธัมมานุสารี ก็จะเป็นพระอรหันต์ได้ ศรัทธาอยู่ที่ไหนปัญญาต้องอยู่ที่นั่น หากไม่เติมปัญญาแรก อัญญธาตุ ก็จะวนแค่ สัทธานุสารี สัทธาวิมุติ อีกนานเท่านาน สัตว์เซลล์เดียว กว่าจะมาเป็นอาริยะนั้นนาน มากจึงมีจำนวนน้อยกว่าโลกียะ โลกุตระเป็นส่วนหนึ่งส่วนน้อยเท่านั้นเมื่อไหร่ก็เป็นส่วนน้อย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 08:07:32 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 15:19:07 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:49:12 )

พัฒนาความสันโดษ

รายละเอียด

พวกเรายิ่งพัฒนา Sufficiency ความสันโดษ ความพอเพียง ความรู้จักพอ แต่สมรรถนะของเราเพิ่ม ดีไม่ดีไม่ใช่พอนะ ลดลงๆด้วย เพราะกิเลสมันตะกละ มันจะค่อยๆให้น้อยลงๆ ตัวเราจะต้องเหลือ support ตัวเองได้ถูกๆน้อยไม่ต้องมากแต่ก็สมบูรณ์ไม่ขาดแคลนได้เต็มที่ ไม่ scacity ไม่เดือดร้อนไม่ run short อะไร นี่คือสภาพที่พวกเรากำลังพัฒนาให้ก้าวหน้าไปตามลำดับ ด้วยลำดับของการปฏิบัติสามเส้า

สามเส้านี้ทางโลกก็รู้มี Knowledge Attitude Practice คือ KAP มีความรู้แล้วมีการพัฒนาขึ้น มีเจตคติ และมีการพัฒนาการปฏิบัติให้เกิดผล

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เพิ่มสัมประสิทธิ์เพื่อสะพัดสู่ผู้ขาดแคลน


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:40:57 )

พัฒนามรณะด้วยสรณะเป็นอรณะ 

รายละเอียด

เรามาทวน อาตมาเทศน์มาฆบูชาปีนี้ ก็มีเวลาแค่นั้น โดยอาตมาหยิบเอา ปฏิจจสมุปบาทมาไล่ ตั้งแต่อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป อายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหาอุปทาน ภพชาติ ชรา มรณะ โศก…

จนกระทั่งสามารถเข้าใจคำว่า ชาติ สมบูรณ์แบบ คำว่าชาติ มันก็ซ้อน ในตัวท้ายของปฏิจจสมุปบาทก็คือ จับเอาตัวคำว่าชาติ หลังจากชาติก็คือชรามรณะซึ่งเป็นโลกียะวนเวียน ซึ่งคุณก็จะตกอยู่ในสภาพของ โศกปริเทวะ ทุกข โทมนัสอุปายาสะ ไม่มีสิ้นซากไอ้พวกนี้หรอก

ถ้าไม่รู้จักชรา มรณะ การเกิด การตาย โดยการทำมรณะนี้ การทำคือต้องพยายามพัฒนา มรณะด้วยสรณะ ด้วยการทำสงคราม ส คือประกอบขึ้น ประกอบสงคราม สงครามที่ทำให้เราต้องมรณะแล้วมรณะเล่า สงครามทีไรก็เป็นสงครามตัวแพ้ทางจิต จิตเราก็ถูกฆ่าทุกชาติ แล้วก็ไม่เคยชนะสักที จนให้เราสามารถที่จะไม่ถูกฆ่า จิตของเราไม่ถูกฆ่า กิเลสถูกฆ่า แล้วเราชนะเรียกว่า อรณะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 19:27:01 )

พัฒนามาเป็นจิตตั้งแต่สัตว์เซลล์เดียว

รายละเอียด

เมื่อพัฒนาขึ้นมาเป็นจิต ขอแถมให้ มาเป็นจิตแล้วตั้งแต่สัตว์เซลล์เดียวก็จะวิวัฒนาการจนกระทั่งมาเป็นมนุษย์ ในทางฮินดูจะเป็นมนุษย์แคระ แล้วก็เป็นมนุษย์สิงห์ขึ้นมาค่อยๆพัฒนาขึ้นมาจนเป็นอเวไนยสัตว์ มนุษย์ที่สอนไม่ได้จะอยู่นานมากวนเวียนอยู่ในนรกสวรรค์นานมาก เป็นเทวนิยมโลกียะนาน จนกว่าสามารถ ถ้าได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าหรือสัตบุรุษก็จะเข้าใจ จะสามารถมาสู่โลกุตระ จิตนิยามเป็นเวไนยสัตว์สอนโลกุตรภูมิได้ไปได้เร็วขึ้น 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 07:46:45 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 15:19:37 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:49:49 )

พัฒนาสร้างตนเองให้มีวิบากที่ดี

รายละเอียด

เรื่องของวิบากกรรมในชีวิตเป็น อจินไตย เป็นเรื่องที่คิดเอาตื้นๆง่ายๆไม่ได้ ต้องมาศึกษาและประพฤติปฏิบัติจริงจนเรารู้ เราเกิดระลึกชาติได้ การระลึกชาติได้ไม่ใช่การระลึกเป็นตัวตนเรื่องราวเป็นสตอรี่เลย ว่าจริงๆแล้วเราเคยเกิดเป็นชื่อนี้คนนี้ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสเป็นภาษาที่หยาบๆชัดๆ แต่ยากที่คนจะระลึกขึ้นมาแล้วเขาก็รู้ความจริงอันนี้ได้ทั้งหมด แต่จะมีคุณธรรมที่สามารถระลึกได้เรียกเป็นคำต้นว่า สัญชาติญาณ การเกิดมาแล้วก็มีสัญญะ สัญญา จำได้มาเกิดในชาตินี้ และที่เป็นความจำเก่า มันก็เกิดอัตโนมัติมาให้เราเป็นอย่างนี้ 

สัญชาติญาณสัตว์โดยมากมันก็รู้ว่า มันเป็นสัตว์ เช่น ลูกจิงโจ้มันเกิดมา มันก็รู้ว่าจะต้องไปหาที่อยู่มัน มันก็พยายามเดินเข้าหากระเป๋าหน้าท้องของแม่ แล้วก็มาเจอพักอยู่ในหน้าท้องจนโต กว่าจะออกจากกระเป๋าฟักตัวอยู่ในกระเป๋าหน้าท้องของแม่ อาศัยแม่ กินนมแม่ อย่างนี้เป็นต้น
หรือสัตว์อื่นๆก็ตามแม้แต่คนก็มีสัญชาตญาณคน เลี้ยงดูกันได้ มีความแตกต่างกันไม่เหมือนกับสัตว์อีกหลายชนิด สัตว์คนนี้ ถ้าแม่ไม่เอาใจใส่ก็ตาย สู้สัตว์อื่นอีกหลายชนิดไม่ได้ที่มันอยู่กับแม่เกาะติดเลยอย่างเช่น ลิง เป็นต้น กินนมแม่ก็ไม่ลงจากตัวแม่เลยด้วยซ้ำ อย่างนี้เป็นต้น จนโตหลายชนิดมันก็จะเห็นได้ 

เพราะฉะนั้นในสภาพของสัจธรรมพวกนี้ คนเราเกิดตาย ตายเกิดเกิดตายศึกษาเรียนรู้ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่อาตมาพูดแล้วพูดอีกไม่รู้กี่ที ท่านไม่ได้เรียนรู้อะไรยิ่งใหญ่เท่าเรียนรู้เรื่องความเป็นคน กับความเป็นสังคมมนุษยชาติ 2 คำนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดจนกระทั่งสุดท้าย ท่านตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านก็ไม่ไปทำงานอื่น นอกจากงานที่ทำกับมนุษยชาติ สอนให้พัฒนาสร้างตนเองให้มีวิบากที่ดี มีวิบากที่เป็นกุศลและเรียนรู้เรื่องสัจธรรมที่เป็นอาริยสัจ 4 ดับทุกข์อาริยสัจให้ได้สูงสุด นี่คือสัจธรรมที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ค้นพบ เป็นสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจบแบบนี้ นี่แหละคือหลักใหญ่ที่สุด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 4 วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 10 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 12:52:27 )

พัฒนาอัตภาพให้ได้สูงสุดเป็นพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

สรุปว่าอาตมาพัฒนาอัตภาพมา จนให้ได้สูงสุด เป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ได้ก็ไปต่อ ไปในขั้นที่อาตมาตอนนี้สอบได้เป็น นิยตโพธิสัตว์ สอบเข้ามหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้าได้แล้ว ตั้งแต่ชั้นประถมมัธยม ตอนนี้ขึ้นอุดมศึกษา เป็นโรงเรียนอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยพุทธเจ้า ขั้น 7 ขั้นต้น ขั้น 8 ในขั้นสูง จบขั้น 8 นี้ก็จบเลยเป็นผู้รับปริญญาสัมมาสัมพุทธะเลย ก็ยังรู้สึกว่ายังจะไปต่อไม่ท้อแท้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 11:21:52 )

พัฒนาเศรษฐกิจแบบโลกุตระเป็นเช่นใด

รายละเอียด

อาตมานำเสนอต่อสังคม คนอาจจะเห็นว่า อวดดีอวดเก่งอะไร แต่อาตมาก็ขอนำเสนอความจริงอีกแบบที่เป็นโลกุตระ ให้มาพัฒนาเศรษฐกิจให้แก่สังคมประเทศชาติ เอาแบบขาดทุนให้แก่เขา อย่าไปเอาเปรียบหรือเอากำไรจากคนอื่น เท่าที่เราจะอยู่ได้ ทุกวันนี้ ไม่ว่าด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองสังคม ของเมืองไทย มันก็ยืนยันชัดเจนที่สุดแล้ว คนอื่นมองมาก็ยืนยันว่า เมืองไทยนี้ทุกข์น้อยที่สุดหรือสุขที่สุดในโลก 4 ปีซ้อนแล้ว แม้จะมีลดหรือเพิ่มบ้าง แต่ก็มีคนมาดิสเครดิตรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ก็บอกว่าเศรษฐกิจกำลังชิบหายกำลังจะพังใหญ่แล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:52:03 )

พัฒนาให้คนไปรวยมากๆจึงเบียดเบียนกัน

รายละเอียด

ในความรู้ของเศรษฐศาสตร์ ผู้ที่จะพัฒนาประเทศจะต้องทำให้คนร่ำรวยไปหมด คนนี้ยังเป็นคนไม่มีความรู้ทางเศรษฐศาสตร์จริง การบริหารประเทศจะไปสร้างให้คนร่ำรวยนั้นผิดมันทะเลาะกัน แย่งกัน ใครมันก็อยากรวยใช่ไหม แล้วคนเข้าใจอย่างนั้นจริงๆ มุ่งจะไปพัฒนาให้คนไปรวยมากๆมันก็เบียดเบียนกัน เบียดเบียนกันในประเทศเองไม่พอก็ไปเบียดเบียนกันในต่างประเทศอีก เบียดเบียนต่างประเทศไม่พอก็รุกรานเลย ดีไม่ดีฆ่าเขาเลย คนอวิชชา มีอำนาจบาตรใหญ่ไปฆ่าเขาเล่นๆ เอาระเบิดไปทิ้งประเทศเขา ตายไปทีละเป็นแสนหลายแสนอย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 แบบ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2564 ( 10:34:59 )

พันธบัตรรัฐบาล

รายละเอียด

มันซับซ้อนในเรื่องของการกู้ เช่น พันธบัตรของแต่ละประเทศ พันธบัตรคือประเทศกู้หนี้จากประชาชน โดยเอากระดาษหรือตั๋วสัญญาที่ให้ประชาชนไปถือว่าเป็นเจ้าหนี้รัฐบาล ใช่รัฐบาลไม่ลบ ประเทศไม่ลบหรอก แล้วคุณก็ตายไปจากประเทศก่อน แล้วเงินดอกที่ออกมาก็คือเงินภาษีของพวกคุณเองนั่นแหละ หมุนไป ยิ่งกว่าแชร์แม่ชม้อย นี่คือความซับซ้อนเรื่องหนี้และลูกหนี้ มันใช้อากาศ สมมุติลมๆแล้งๆกับระยะเวลา เวลาไปนานๆ สุดท้ายก็แทงเป็น NPL เป็นหนี้สูญ มันก็แทงเป็นหนี้สูญกันไปอย่างนี้ จบที่ไหน จบแทงที่เป็นหนี้สูญ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2563 ( 09:33:48 )

พากเพียรตื่นจากกิเลส

รายละเอียด

ศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าท่านให้พยายามพากเพียรตื่นจากกิเลส แม้ว่าในจิตคุณจะมีกิเลส แต่ในข้อปฏิบัติ อปัณณกปฏิปทา 3 สังวรอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะ 

อันนี้ยอดคือพากเพียรที่จะตื่นให้ได้  ตื่นเพื่อที่จะให้คนมีความรู้ทัน รู้ทันในผัสสะต่างๆ ในการกระทบสัมผัสกับอะไรต่างๆ รู้ทันแล้วจะต้องมีปฏิภาณปัญญา มีสติสัมโพชฌงค์ มีธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ มีวิริยสัมโพชฌงค์พากเพียรเพื่อที่จะรู้ใจ วิจัยสิ่งที่ผัสสะนั้น ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ เป็นตัวงานที่ยิ่งใหญ่ วิจัย วิจัยอะไร วิจัยกายในกาย วิจัยเวทนาในเวทนา วิจัยจิตในจิต วิจัยธรรมในธรรม ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิดีแล้วจะวิจัยธรรมในธรรมได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 17 มกราคม 2566 ( 12:41:16 )

พากเพียรต่ออายุไขใช้สัมประสิทธิ์ 8 อ.

รายละเอียด

อาตมาย่างอายุ 87 ในวันที่ 5 มิถุนายน 2563 เต็ม 86 ในวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ผ่านมาตั้งหลายนักษัตร อายุ 36 สามนักษัตร ออกมาทำงานศาสนาตั้งแต่บัดนั้นจนวันนี้ 36 ผ่านไป ทบไป 36 ผ่านเต็มก็อายุ 72 เลยจาก 72 มาเป็น 86 เลยมาอีก 14 ปี หากว่าไปถึง 96 ปีก็จะเลยไปถึงอีกหนึ่งนักษัตร อาตมาพยายามให้ตัวเลขอายุ 100 ตัวเลข 151 เป็นตัวเลขตกกระไดพลอยโจน ก็หมออารีย์ แกบอกว่าแกจะอายุยืน 150 ปี อาตมาก็เลยบอกว่าจะเอา 151 ตัวเลข 151 ก็เกิดมาด้วยประการฉะนี้ ซึ่งอาตมาพูดจริงๆอาตมาไม่เชื่อว่าอาตมาจะอายุ 151 ได้หรอก ทุกวันนี้มาถึงทุกวันนี้ยิ่งรู้สึกว่า ต้องไปอีกเท่าไหร่ อีก 65 ปี เจ้าประคุณเอ๋ย เพื่อนรักคนหนึ่งก็ตายไปแล้ว สุเทพ วงศ์คำแหง อายุเท่ากัน เพราะฉะนั้นอาตมาก็เห็นว่า ถ้าหากอาตมาอยู่ได้ถึง 100 ปี อาตมารู้ว่าอายุขัยของอาตมาแค่ 72 ปี แต่ก็ต่ออายุขัยมาพยายามพากเพียรต่ออายุไขใช้สัมประสิทธิ์ มี 8 อ.ช่วยกันทั้งจิตทั้งกายก็ทำได้มาพอสมควร เพื่อจะพิสูจน์สัมประสิทธิ์ เพื่อพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 10:36:23 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 15:20:31 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:50:29 )

พาณิชย์บุญนิยม

รายละเอียด

หลักการของพาณิชย์บุญนิยม

1.สร้างเครดิต เหนือ เครดิต(จ่ายสด งดเชื่อ)
2.หากต้องยืม ก็เป็นไปอย่างเกื้อ ไม่มีดอกเบี้ย
3.มีความซื่อสัตย์ จริงใจ มีน้ำใจ
 

หนังสืออ้างอิง

สรรค่าสร้างคน


เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2562 ( 13:51:48 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:19:49 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:42:45 )

พาณิชย์บุญนิยม

รายละเอียด

การสะพัดแจกจ่ายออก ยิ่งสะพัดโดยไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องขาย ให้ แจกฟรี หรืออาตมาขยายไว้หมดแล้ว แม้จะขายอย่างจำเป็นก็ขายให้ต่ำกว่าราคาตลาดหรือเท่าทุนหรือต่ำกว่าทุนหรือแจกฟรี ก็ขยายไว้แล้ว มีระดับของการพาณิชย์บุญนิยม ซึ่งได้แจกแจงไว้หมดแล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:53:16 )

พาน

รายละเอียด

1. ข้อง  ติด  วน

2. ข้อง  เครื่องร้อยรัด

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 633

ทางเอก ภาค 3 หน้า 300


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:08:30 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:51:06 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:54:50 )

พามาจนแล้วเจริญได้อย่างไร

รายละเอียด

ที่อาตมาติงทางสังคมไปนี่ก็ปรารถนาดี เพื่อความมั่นใจในความจริงใจของตนเอง

ก็ถ้าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการพาให้คนไปรวย ในหลวงเราก็ไม่ตรัสบอกว่าไม่ให้พาคนไปรวย เอาจน ไม่ต้องเก่งก้าวหน้า การรวย ในหลวงก็ตรัสไว้ชัดเจน จะเรียกว่ารวยมันก็พออยู่พอกิน มีเหลือแจกจ่ายคนอื่นได้ด้วย มีสมรรถนะมีความขยัน ไม่งอมืองอเท้าไม่เบียดเบียนเป็นภาระใคร เราก็ทำได้ก้าวหน้าแม้แต่วัตถุ ทั้งมวล ปริมาณ คุณภาพเจริญขึ้นทั้งนั้น คุณภาพก็ดีขึ้น ไร้สารพิษมีวิตามินต่างๆ เพราะเรามีความรู้และพิสูจน์กันมานานจนใช้ได้ มันก็ชอบเลยไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี คะน้า หัวหอม มะเขือเทศ อะไรต่างๆพวกนี้

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องซับซ้อน การเจริญนี่พามาจนนะ ชาวโลกีย์เขาฟังแล้วก็จะบอกว่าเป็นไปได้ยังไง พามาจนแล้วเจริญได้อย่างไร แต่เราจนอย่างมีภูมิปัญญามีความรู้ช่วยเหลือคนอื่น คนจนนี่แหละจะช่วยเศรษฐีไว้ ฟังแล้วน่าหมั่นไส้ แต่ไม่ได้พูดเล่น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:09:37 )

พาลบัณฑิตสูตร

รายละเอียด

นัยละเอียดพวกนี้ เป็นภาษาบาลี อาตมาแปลเป็นภาษาไทย ถ้าเข้าใจไม่ถูกเป็นสภาวะ กำหนดสภาวะ เรียกว่า ทำนิมิต สร้างนิมิต มันไม่ตรงกับสภาวะจริงๆเลย อาการอย่างไรมันต่างกันอย่างไร รายละเอียดพวกนี้ ค่อนข้างยาก ถ้าศึกษาไม่สัมมาทิฏฐิดีๆ มันกำหนดไม่ถูก โดยเฉพาะคำว่า สัญญา สัญญากำหนดคู่ คือ กาย กำหนดสภาวะคู่คือ กาย กำหนดไม่ได้ กำหนดไม่ถูก กำหนดไม่ตรงกับความจริง ก็ผิดไป 

เพราะฉะนั้นการกำหนดหรือสัญญากำหนดก็รู้ กาย ทางสายหลับตา ก็ไปกำหนดรู้ กายใน กายในกาย มันไม่มีกายนอก ที่จริงเรียกภาษาว่ากาย แต่ว่าไม่มีภายใน เป็นภาษา สิริมหามายา เอาคำว่ากาย ซึ่งมันไม่มีหรอก กายที่ไม่มีภายนอกด้วย สภาพไม่มีภายนอกไม่เรียกกาย ต้องมีภายนอก-ภายใน คู่ จึงเรียกว่า กาย ไปหลงแต่ภายในเรียกว่า กาย 

พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้หลงกายแต่เพียงภายในเป็นคนพาล คนโง่ ในพระไตรปิฎก พาลบัณฑิตสูตร ล.16 ตายไปแล้วก็ยังมีกายอยู่ ตายไปแล้วไม่มีตาหูจมูกลิ้นกายก็เป็นจิตสัมภเวสี สัมภเวสีกับวิญญาณฐิติที่มีกายกับสัญญา วิญญาณฐิติมีกายกับสัญญาเป็นคู่ตรวจสอบสุดท้ายเลยวิญญาณฐิติข้อที่ 7 ตรวจสอบ เขาไม่รู้ก็ไม่มีวันที่จะบรรลุอรหันต์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า พุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริแห่งพุทธ ครั้งที่ 46 วิญญาณกับวิญญัติ วันมาฆบูชา วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 พฤษภาคม 2565 ( 16:20:20 )

พาหุสัจจะ หรือ พหูสูตร

รายละเอียด

ผู้บรรลุสัจจะ ไม่ใช่แค่รู้ปริยัติ แต่เป็นความรู้ขั้นปฏิบัติ ที่เกิดผล บรรลุธรรมนั้นๆ หมายถึง ผู้ลดกิเลสได้จริง ขอให้ลดกิเลสได้ ก็ถือว่าเป็นพหูสูตร

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 48


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:09:46 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:57:43 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:51:47 )

พาหุสัจจะกับพหูสูตรความรู้กับความจริง

รายละเอียด

พาหุสัจจะ เอาคำว่าสัจจะมาเป็นตัวยืนยันความจริง พหุ หรือพหูแปลว่ามาก สูต แปลว่า ความรู้ แต่ความรู้กับความจริงที่คุณจะเอาอันไหน…ก็เอาความจริงกัน อธิบายไป เอาตามหลักฐานซักไซ้ไล่เรียงไป

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 09:28:53 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:59:02 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:52:15 )

พิการ

รายละเอียด

มันเกินการ  มันไม่เข้าการ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 461


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:10:28 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:58:38 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:52:37 )

พิจารณาการพลัดพรากจากสิ่งที่เรารักอย่างไร

รายละเอียด

คุณตรวจสอบสิ่งที่คุณเคยผ่านมาในชีวิตสิ แต่ก่อนเคยรักมีบ้างไหม แม้สิ่งที่เคยรักมากแล้วมันก็พรากไปแล้ว แม้ไม่เคยรักมากแต่ก็พรากไปแล้ว หรือรักนิดนึง แต่ตอนนี้มันก็ไม่มีแล้วมันก็พรากไปแล้ว อย่างหยาบกลางละเอียดเลย รักแรงรักมากรักหนัก ในชีวิตนี้มีไหม อย่างเด็กเขารักตุ๊กตาของเขา ตุ๊กตาของฉันตุ๊กตาของหนู ใครเอาไปไม่ได้เป็นตายฆ่ากันเลย มันมีไหม อะไรที่คุณเคยรักมาก หรือรักไม่มากก็แล้วกันก็พราก ไม่มีอะไรที่จะไม่พรากจากกันพระพุทธเจ้าตรัสเป็นคำตายไว้ คุณก็ต้องตรวจดู โอ๊..จริงนะ มันพรากจากกัน หรือเอาชัดๆเลย อาหารคำนี้คุณกินเข้าไปอร่อย รสอร่อยมันก็อร่อย พอเลิกกินปั๊บรสอร่อยอยู่ที่ไหนบอกอาตมาซิ เมื่อกี้นี้ซาบซึ้งจะตายจะเป็น กับรสอร่อยนะ แล้วตอนนี้หยิบมาดูซิอยู่ที่ไหน อยู่ในความจำ คุณจำไม่ลืมๆๆๆๆ อาตมาเคยแต่งเพลงไม่ลืมบางมด ให้สำนักเทคโนบางมด ไม่ลืมๆๆๆ ซาบซึ้งใจที่ควรคำนึงถึง…อะไร จำไม่ได้แล้ว เขาว่าเขาชอบเพลงแม่มูล แล้วเขาก็จะให้คล้ายๆเพลงนี้ สุนทราภรณ์ไปร้อง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2563 ( 11:25:04 )

พิจารณามูลกรรมฐาน 5 อย่างสัมมาทิฏฐิ

รายละเอียด

ร่างไม่มีกาย เป็นอย่างไร ท่านก็สอนมูลกรรมฐาน 5 แต่เข้าใจกันไม่ได้ ไปเข้าใจแค่ว่าผมขนเล็บฟันหนัง มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันไม่ใช่ตัวตน แต่มันไม่ใช่อย่างไร? ผมมันก็อยู่กับคุณจนตาย เล็บมันก็อยู่กับคุณจนตาย ฟันมันก็อยู่กับคุณจนตาย

ให้พิจารณา ไม่ใช่แค่ว่า มันไม่เที่ยงมันเป็นทุกข์มันไม่มีตัวตน แต่ให้พิจารณาว่ามันคืออะไรมันคือกายอย่างไร ให้พิจารณารู้กายรู้จิต ในห้าอย่างนี้ จะเข้าใจความเป็นกายทั้งภายนอกและภายในได้อย่างลึกซึ้ง ปฏิบัติวิโมกข์ 8 ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 15:56:12 )

พิจารณาอย่างไรในรสจึงจะเลิกบ้า 

รายละเอียด

อย่างเช่น รสมะม่วง เราก็พิจารณาว่ารสมันก็คืออย่างนี้ เราจะไปยินดีกับรสอย่างนี้ มะม่วงลูกนี้มะม่วงพันธุ์นี้มันแตกต่างกัน มันก็แตกต่างกันเป็นคนละพันธ์ เปรี้ยวมากหวานมากหอมมากเหม็นมากอะไรก็ต่างกันไป มันก็เป็นของมัน เราจะไปขึ้นลงตามมัน หวานมากหวานน้อย หอมมากหอมน้อย นิ่มมากนิ่มน้อยอะไรอย่างนี้ คุณบ้าไปกับมันทำไม คุณก็จบรู้ความจริงตามความเป็นจริงเท่านั้นเอง มันก็เป็นของมันอย่างนั้น เราไปวูบวาบกับมัน เราชอบหวานมากหวานน้อย หวานมากหวานน้อยชอบอย่างไร มันก็คนเลือกทั้งนั้น  คุณยึดทั้งนั้น มันจะเป็นยังไงก็เป็นของมันเป็น คุณไปบ้ากับมันทำไม เลิกบ้าได้ก็จบ ง่ายจะตาย รู้ความจริงตามความเป็นจริงก็เลิกบ้า ฟังความนี้ไปคิดให้ดีแล้วไตร่ตรองให้ดี เลิก รู้จักความจริงตามความเป็นจริงแล้วเลิกบ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ผู้พ้นอสุรกายจึงได้ไปอยู่โลกหน้า วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 21:17:48 )

พิจารณาอย่างไรให้ชนะกิเลส

รายละเอียด

นี้ก็พยายามที่จะเห็นโทษกิเลสตัวเอง ก็ดี คุณก็ต้องรู้สิว่าไปแพ้กิเลสมันดีนักเหรอ ก็ชนะมันให้ได้สิ มันอยู่ที่ตัวคุณ คุณจะมาถามอาตมาได้ไง ก็รู้สิว่ากิเลสมันไม่ดี โทสะมันไม่ดี คุณก็ต้องสร้างความเห็น สร้างความรู้ สร้างความฉลาด สร้างปัญญาให้มันมีธรรมฤทธิ์อย่างที่อาตมาอธิบายธรรมะไปแล้ว ปัญญามันเป็นพลังงานทางจิตที่มีสิ่งที่เป็นธรรมฤทธิ์ กิเลสมันเห็นหน้าปัญญาแล้วมันไม่รอหน้า ก็พูดไปซ้ำๆซากๆ โอ๊ย..ปัญญามาแล้ว กิเลสมันวิ่งหนีหูตูบเลย พูดเป็นพยัญชนะ เป็นภาษาให้ฟังได้แค่นี้ คุณต้องสร้างความเห็นจริงว่า เฮ้ย..โทสะมันจะอยู่กับเราทำไม 

เกิดอาการโทสะเมื่อไหร่ คุณก็ต้องพยายามเข้าใจว่า อารมณ์หรือว่าเวทนา ถึงได้บอกว่าอยู่ที่เวทนาเป็นกรรมฐานเป็นที่ตั้งของการปฏิบัติ คุณก็รู้เวทนาในเวทนาให้ได้ว่า ให้เวทนามันคือความรู้ความจริงตามความเป็นจริง เป็นเวทนาแท้ ไอ้ที่มันเป็นโทสะ มันเป็นเวทนาเก๊ แล้วคุณจะให้เวทนาเก๊นี้อยู่เป็นเพื่อนกับเวทนาจริงนี้ไปอีกนานเท่าไหร่จ๊ะ อาการของจิตที่มันโกรธ เสียใจ น้อยใจ เว้าใจ แหว่งใจ มันเป็นอาการของตัวเองทั้งนั้นเลย คุณหัดฝึกมันจริงๆเลยว่า คุณรู้สึกตัวให้ได้ ถ้าโกรธก็ เฮ้ย! มันไม่ดี เราจะทำใจในใจอย่างไร ทำเวทนาในเวทนาอย่างไร อย่าไปมีอาการนี้ คุณก็เอาสัญญากำหนด อาการ ลิงค นิมิต อาการไม่โกรธ อาการใจว่างๆ ใจกลางๆ  อาการใจดีหรืออาการใจไม่โกรธ นี่คือพยัญชนะ อาการใจดีคุณเป็นไหมล่ะ ใจว่างๆใจดีๆ ไม่ต้องใจโกรธนี่ เคยเป็นไหม ก็ทำอย่างนั้นนะ 

ที่ทำให้มันเป็นอาการไม่ดีแล้วคุณก็ไม่ชอบ แล้วคุณทำสิ่งที่ตัวเองก็ไม่ชอบนี้ ก็ถือว่าดีแล้วนะ รู้แล้วไม่หลงผิด  อาการอย่างนี้นี่ใจตัวเองมันไม่ดี แล้วคุณไปทำอยู่ทำไม เนี่ย โง่ อวิชชา ก็เท่านั้นเอง ใจของคุณ คุณจะน้อย คุณจะเสีย คุณจะทุกข์ คุณจะยาก คุณจะดีหรือคุณจะไม่ดี คุณทำเองทั้งนั้น รู้มันให้ได้ว่ามันไม่ดี แล้วก็อย่าไปทำมันสิ รู้ให้ถูกต้องก็แล้วกันอย่างนี้ อย่าไปเห็นสุขเป็นทุกข์ อย่าไปวิปลาส เห็นความไม่ใช่ตัวตนว่าเป็นตัวตน เห็นความไม่เที่ยงว่าเป็นความเที่ยง อะไรพวกนี้ อย่าไปวิปลาสก็แล้วกัน ไปเห็นสุขเป็นทุกข์ ไปเห็นทุกข์เป็นสุข เห็นความไม่น่าได้ ไม่น่ามี ไม่น่าเป็นว่า เป็นสิ่งที่น่าได้ น่ามี น่าเป็น คุณก็ต้องรู้วิปลาส 4 ให้ชัด อธิบายเอาหลักวิชามาพูดหมดแล้ว 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #38 เจาะลึกเทวทัตยุคดิจิตอลที่หาความเลวเพิ่มไม่ได้อีก วันนี้วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2566 ( 21:04:34 )

พิจารณาโลก 6

รายละเอียด

พึงพิจารณาโลก (กายกับใจ) เป็นของสูญ (สุญญโต)ด้วยอาการ 6 อย่าง คือ 1. เห็นโลกนี้ตนไม่เป็นใหญ่ (อนิสสริยโต)

2. โลกนี้ทําตามความชอบใจไม่ได้ (อกามการิยโต)

3. โลกนี้เป็นที่ตั้งแห่งความไม่สบาย (อผาสุนียโต)

4. โลกนี้ไม่เป็นไปในอํานาจ (อวสวัตตนโต)

5. โลกนี้เป็นไปตามเหตุ (ปวัตติโต)

6. โลกนี้เป็นไปโดยความว่างเปล่า (วิวิตตโต)

 

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 30 “โมฆราชมาณวกปัญหานิทเทส” ข้อ 505


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2565 ( 05:17:08 )

พิจารณาโลก 6

รายละเอียด

พึงพิจารณาโลก (กายกับใจ) เป็นของสูญ (สุญญโต) ด้วยอาการ 6 อย่าง คือ

1. เห็นโลกนี้ตนไม่เป็นใหญ่ (อนิสสริยโต)

2. โลกนี้ทำตามความชอบใจไม่ได้ (อกามการิยโต)

3. โลกนี้เป็นที่ตั้งแห่งความไม่สบาย (อผาสุนียโต)

4. โลกนี้ไม่เป็นไปตามอำนาจ (อวสวัตตนโต)

5. โลกนี้เป็นไปตามเหตุ (ปวัตติโต)

6. โลกนี้เป็นไปโดยความว่างเปล่า (วิวิตตโต)

 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม   30 "โมฆราชมาณวกปัญหานิทเทส"  ข้อ  505

หนังสืออ้างอิง

หนังสือธรรมพุทธสุดลึก 


เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2562 ( 14:04:05 )

พิจารณาให้รู้ความจริงตามความเป็นจริง

รายละเอียด

มันมีมาหาเรื่องก็เลยก่อให้เกิดจากเหตุปัจจัยมีกรรมวิบากเฉยๆ เพราะฉะนั้นต้องพิจารณาให้รู้ความจริงตามความเป็นจริง ไอ้นี่เกิดเรื่องขึ้นมาเราสัมผัสแล้ว เรื่องราวนี้เป็นอย่างนี้ มีเหตุอย่างนี้มีปัจจัยอย่างนี้ เราก็ดูเหตุปัจจัยที่มันปรุงแต่งเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาก็แค่นั้น จิตใจเราอย่าไปผลักหรือดูดอะไร ทุกอย่างต้องเกิดตามเหตุปัจจัย 2 คนมันก็มีการเกี่ยวข้องสัมผัสกันเขาก็ทะเลาะกัน เหตุปัจจัยของเขาเราก็ดูไป หรือแม้แต่เขามาเกี่ยวข้องกับเราแล้วเขามาโวยวายกับเรา เราก็รู้ว่าคนนี้ช่างโวยวาย  คนนี้มา 1ดูดเรา  2 มาผลักเรา เราก็รู้เขาว่าดูดอะไรของเรา ดูดมาทำไมเห็นว่าดีก็เอาตามเราเถอะอย่าไปดูดอะไร เห็นว่าไม่ดีก็ไม่ต้องเอา ไม่ต้องมาผลักอะไรเรา ถ้าเราไม่ดีบอกเราบ้างเราก็ขอบคุณ จะได้รู้ว่าอันนี้ไม่ดีเราจะได้เลิกทำ ถ้าไม่บอกก็แล้วไป ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ คุณจะชั่วก็ช่างคุณ คุณจะอย่างไรก็ช่างคุณก็แล้วแต่ก็มีเยอะไป ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(ไตรลักษณ์) ตอน ลักษณะของไตรลักษณ์


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:03:33 )

พิจารณาไตรลักษณ์

รายละเอียด

นนี้แหละจะต้องพิจารณาไปตามคำสอนพระพุทธเจ้าให้ชัดเจนเลยว่า มันเป็นไตรลักษณ์ มันไม่เที่ยง มันเป็นเหตุแห่งทุกข์ มันไม่ใช่ตัวตนมันไม่มีตัวจริง เพราะฉะนั้น รสอร่อยหรือรสอาหารที่เป็นอัสสาทะแล้วมันไม่เที่ยงมันไม่คงที่ บางทีเขาชั่งตวงวัดมาเลยอย่างเก่า แต่ทำไมวันนี้มันถึงไม่ค่อยอร่อย หรือปรุงเองด้วยซ้ำ มันก็เกี่ยวกับจิตของคุณเองที่ไปยึดถือบางทีมันก็เซ็ง กินมันก็ไม่อร่อย อะไรก็ได้ทำให้เซ็ง มันเป็นเหตุปัจจัยมันไม่เที่ยงมันไม่ใช่ของแท้ มันเป็นเหตุแห่งทุกข์ ความลึกซึ้งอันนี้ลึกซึ้งมากเลย เพราะถ้าคุณสมใจคุณก็สุขคุณไม่สมใจคุณก็ทุกข์ นี่สรุปเข้าเป้า แล้วสุขทุกข์มันไม่มีจริง มันมายา เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธจึงดับทุกข์ดับทุกข์หมดเลย รู้เลย แล้วไม่ใช่ไปอยู่ป่าแล้วไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่ใช่ แต่อาการเวทนาความรู้สึกของคุณไม่มีอาการสุขไม่มีอาการทุกข์ ไม่มีอาการโสมนัสไม่มีอาการโทมนัส ไม่มีเลยจริงๆ จิตของคุณต้องเป็นอาการกลางอย่างนั้นจริงๆเลย ไม่ใช่ไปนั่งมันเป็นมันมีแต่คนไม่รู้ว่ามันมีมันเป็นเข้าใจไม่ได้ ไม่ใช่ คุณต้องเข้าใจให้ได้ว่ามันมีนะ แล้วเดี๋ยวนี้ทำให้มันไม่มีได้ คุณจะเปรียบเทียบเองได้ แต่ก่อนมันมีคืออย่างนี้ แล้วตอนนี้มันไม่มี มันต่างกันของคุณเอง ลิงค หรือเพศ ที่มันไม่เหมือนกัน คำว่าเพศ หรือลิงคะ ทำความแตกต่าง ลิงค เป็นภาษาบาลี เพศ ก็เป็นภาษาบาลี มันต่างกัน ความต่างกันคือมันไม่เป็นอันเดียวกัน จนมันไม่มีเลย หรือมันมีเหลือนิดนึง มันก็แยกกันยาก ก็เคยอธิบายพูดมาไม่รู้กี่ที คุณต้องอ่านอาการที่เป็นนามธรรมละเอียดลออพวกนี้ให้ชัดเจนไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ต้องไป ฮึดฮัดว่าเราไม่รู้ ให้เรียนรู้ไปจากของจริงที่คุณเกี่ยวข้องในชีวิตสามัญ แล้วคุณก็มีสติสัมปชัญญะ รับรู้ และศึกษามีธรรมะวิจัย ว่าเราลดลงแล้วนะ ตัวธาตุรู้คือ ปัญญานี่ มันมีฤทธิ์เข้าใจ ว่าแต่ก่อนมันมี แต่ตอนนี้มันจางคลาย ก็จะเป็น วิราคานุปัสสี จนมันดับ นิโรธานุปัสสี อ่านในปัจจุบัน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่สัมผัสอยู่ในเหตุในปัจจัยนั้น ตอนนี้มีแตงโมลูกนี้อยู่กินยังไม่หมดลูกเลย ขนาดลูกนี้แท้ๆทำไมชิ้นนี้มันหวานทำไมชิ้นนี้มันจืด ชิ้นนี้มันฉ่ำดีเช่นนี้ไม่ฉ่ำเลย ชิ้นนี้มันขาวแดงๆนี่มันแดงแจ๊ด แม้แต่ในลูกเดียวกัน คุณก็รู้ในรายละเอียดพวกนั้นเลยมันก็เป็นอย่างที่มันเป็น คุณก็รู้ความจริงตามความเป็นจริงนี้ แล้วจิตใจคุณก็ไม่วูบวาบไม่ผลักไม่ชัง จิตของคุณนิ่งกลาง คุณจะสามารถอ่านอาการจิตที่คุณเป็นกลาง ในจิตนี้ จิตของคุณไม่ไปไม่มา ไม่มีอันตา ไม่ไปข้างนี้ ไม่ไปข้างนั้น เป็นอาการนิ่งอยู่ตรงกลาง ไม่ไปทางกาม ไม่ไปทางอัตตา เลย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 20:04:18 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 07:45:04 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:54:25 )

พิจารณาไม่ใช่วิปัสสนา 

รายละเอียด

วิปัสสนะคือการรู้ๆที่ตาเปิด เห็นมีการกระทบของรูปนาม มีภายนอกภายในกระทบกัน มีสภาวะ 2 ไม่ใช่มีแต่สภาวะอย่างเดียวภายในซึ่งเขาเข้าใจผิดว่าอยู่แต่ข้างใน ไปเข้าใจวิปัสสนาเป็นการพิจารณา ซึ่งผิด พิจารณาไม่ใช่วิปัสสนา 

ปัสสะ แปลว่า เห็น จารณะ แปลว่าพฤติกรรม การเคลื่อนที่บทบาท ปัสสะ แปลว่าเห็น แค่พยัญชนะก็ต่างกันแล้ว พิจารณากับวิปัสสนา 

นัยยะของสภาวะกับพยัญชนะ มันเถียงกันหูแตก ตาบอด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก เอื้อไออุ่นชาวสันตินาคร วันพุธที่ 17 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก 


เวลาบันทึก 22 มีนาคม 2564 ( 11:05:56 )

พิธาแปลว่าเศษ เก่งกว่าทุกประเทศคือเปรตแท้

รายละเอียด

พิธานี่แปลว่า เศษ หลากหลาย ลงตัว คำว่า พิธะ พิธา พิธะ นี่เอกพจน์ พิธาพหูพจน์ เศษฝุ่นละอองทั้งหลาย หลายๆฝุ่นละออง เศษธุลีละอองของเศษผงที่มันกระจายขึ้นมา อาตมาก็จะดูว่าจริงๆพิธาจะได้เป็นนายกคนที่ 30 ของประเทศไทยไหม แล้วก็มีเหตุการณ์ที่เอาลอตเตอรี่หางเลข 30 มาให้เขาซื้อ ใครจะเป็นนายกคนที่ 30 แล้วหวยมันก็ออกเบอร์ 30 อาตมาก็ว่ามันอะไรวะ ทำไมมันถึงขนาดนี้ โอ้โห..เห็นไหม มันมีอะไรที่พิลึกว่าต้องเชื่อนะว่ามันมีอะไรต่ออะไรขลัง พิเศษ พิสดาร ที่มันซ้อนๆเหมือนกับเรื่อง magical อะไรที่มันลึกลับแต่ซับซ้อน มันเชิงกล เป็นเรื่องไสยศาสตร์ ทำไมมันมาลงตัวอะไรได้ขนาดนี้ มันหลอกให้คนหลง มันมีอะไรซับซ้อนมาเป็นเรื่องที่หลอกคน นี่ไง สุดยอดไหม อะไรอย่างนี้ 

นี่ก็ยังดูไปว่าจะเป็นยังไงหรือแม้แต่ที่สุด พิธาได้เป็นนายก เขาก็โม้ไว้เยอะ แหมนโยบาย เลวที่สุดในแผ่นดินคือหากินบนคำว่า ช่วยเขา จะช่วยอย่างนี้ จะช่วยอย่างนี้ ขี้โม้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสามัญของสังคมโลกเลย หาเสียงโม้ตัวเองให้คนอื่นเขาเชื่อ สารพัดที่จะสัญญิงสัญญา ติดสินบน อวดเก่งจะทำอย่างนี้ จะช่วยอย่างนี้ จะเป็นอย่างนี้อย่างนี้ ดูแล้วโอ้โหหลากหลายมหาศาล เป็นพระอินทร์มาเนรมิตได้หรืออย่างไร มันเป็นสามัญของโลก เขาก็หลอกด้วยวิธีอย่างนั้น เลวที่สุดในแผ่นดินคือหากินบนคำว่าช่วยเขา อาตมาก็รวบรวมมาได้อีกว่า เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศคือเปรตแท้ แพร่กระจายขยายข้อมูลข่าวสาร ประหารศัตรูคู่แข่ง แอ้งแม้งได้ยอดสุด ก็ขยายความให้ชัดๆมันเป็นเช่นนี้แหละท่านผู้ชม มันเป็นเช่นนี้จริงๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมะพ่อครูไม่เหมือนใครตรงที่...คนทำตามบรรลุได้จริง วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2566 ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2566 ( 11:04:03 )

พิธีการปฏิบัตินอกรีต

รายละเอียด

เขาไปมีวิธีมากมาย กลายเป็นรัฐพิธี ออกนอกรีตไปไกล อาตมาสงสาร ไปฟังพระสวดมนต์เป็นนายกฯ องคมนตรีก็นั่งให้พระสวดไปเถิด บางคนก็ผงกแล้วผงกอีกเห็นใจสงสาร พาออกนอกรีตทรมานทรกรรมกันจริงๆ สงสารศาสนาพุทธที่ทำการทรมานมนุษย์จะรู้ตัวจะลดละเลิกรากันบ้างไหม มาเป็นชาวอโศกนี่ สบม ธมด ปกต หห จจ มชยลล

 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 11 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2563 ( 10:02:55 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 15:21:26 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:43:20 )

พิธีน้อมกตัญญูบูชาพ่อครู

รายละเอียด

สมณะเดินดิน ติกขวีโร นำพาลูกๆ กล่าวคำบูชาพ่อครู 

เริ่มด้วย ขอกราบคารวะพ่อครูและหมู่สงฆ์ ด้วยความเคารพอย่างสูงจากนั้น  จึงเกริ่นกล่าว
ตั้งนะโม (3 จบ)...ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ซึ่งเป็นแสงสว่างของโลก ผู้ทรงประทานเส้นทาง  แห่งความพ้นทุกข์ ให้แก่มวลมนุษยชาติ ด้วยการประกาศอาริยสัจ 4 และมรรคมีองค์ 8 ซึ่งมีสัมมาทิฎฐิ 10 เป็นเข็มทิศนำทาง   ไปสู่ความหลุดพ้น   จากทุกข์ทั้งปวง
ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้ก้าวพ้นความสงสัย และมีความเชื่อมั่นกันว่า
อัตถิ ทินนัง ทานมีผลจริง
อัตถิ ยิตถัง ยัญพิธีมีผลจริง
อัตถิ หุตัง พิธีปฏิบัติ จนเกิดผลที่จิตมีจริง
อัตถิ สุกฏ   ทุกฏานัง กัมมานัง ผลัง วิปาโก การทำดีทำชั่ว  มีผลดลบันดาลได้จริง
อัตถิ อยังโลโก โลกโลกีย์นี้มีจริง
อัตถิ ปโรโลโก โลกหน้า คือโลกโลกุตระ มีจริง
อัตถิ มาตา อัตถิปิตา แม่และพ่อ    ผู้ให้กำเนิด  ทางจิตวิญญาณ  ของข้าพเจ้าทั้งหลาย  มีจริง
อัตถิ สัตตา โอปปาติกา  การก่อเกิดทางจิตวิญญาณมีจริง
อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญจ โลกัง ปรัญจ โลกัง สยัง อภิญญา   สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ 

สมณพราหมณ์ผู้รู้แจ้ง  โลกนี้ โลกหน้า ด้วยตัวเอง แล้วประกาศ ให้ผู้อื่นได้รู้ตามมีจริง
และบัดนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ก็ได้มีที่พึ่ง ที่อาศัย  ในสมณพราหมณ์ ที่เป็นผู้รู้แจ้ง  ทั้งโลกนี้ โลกหน้า ด้วยตัวเอง คือพ่อครู สมณะโพธิรักษ์ ผู้นำสัมมาปฏิบัติ จนส่งผลให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เกิดแสงสว่างในชีวิต  อันมีสัมมาทิฏฐิ 10 และสัมมามรรค สัมมาผล ตามธรรม  สมควรแก่ธรรม
ในวาระครบรอบ 88 ปี ของพ่อครู ในการกอบกู้ศาสนาที่ผ่านมา พ่อครูได้ทุ่มเท ทั้งแรงกายแรงใจ ด้วยเลือดทุกหยด และเหงื่อทุกหยาด เพื่อประโยชน์และความสุข ของมวลมนุษยชาติ  มาตลอด
จวบจนวาระสำคัญในโอกาสนี้ ที่พ่อครูจะมีอายุ ขึ้นปีที่ 89 ข้าพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นลูกๆที่ได้ชีวิตใหม่ ได้กำเนิดขึ้นใหม่ ทางจิตวิญญาณ ขอปฏิญาณตน ร่วมกันว่า…

ข้าพเจ้าทั้งหลาย จะเข้าไปตั้ง ความละอายอย่างแรงกล้า ความเกรงกลัวอย่างแรงกล้า ความรักอย่างแรงกล้า และความเคารพไว้อย่างแรงกล้า ต่อพ่อครูผู้เป็นสัตบุรุษ จะเป็นผู้ไม่ประมาทในโทษภัยอันมีประมาณน้อย ทั้งต่อหน้าและลับหลัง สัจจาธิษฐาน ที่เป็นปิตุบูชา ของข้าพเจ้าทั้งหลายนี้ จะเกิดจริงเป็นจริงได้ ก็เพราะการมุ่งมั่น เอาจริง และความเพียร พยายามอย่างแรงกล้า ของข้าพเจ้าทั้งหลายนั่นเอง ... สาธุ

 

ที่มา ที่ไป

พิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2565 วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 20:47:27 )

พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ วันที่ 9 มิถุนายน ของทุกปี

รายละเอียด

ต่อไปเราก็จะได้พาบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งนะโมสามจบ

คำกล่าวบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก

อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ

วิชชาจรณสัมปันโน สุคโต โลกวิทู อนุตตโร

ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ

ขอนอบยอบหมอบกราบคารวะ

ด้วยสุดเกล้าสุดเศียรสุดกระหม่อม ของเหล่าข้าน้อยนี้

เกลือกถูรองรับอยู่ใต้ละอองผงคลีแห่งธุลีฝ่าพระบาทของสมเด็จพ่อ

ผู้เป็นพระอนุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้มี “พุทธคุณ” ดังกล่าวข้างต้น

อย่างสุดเทิดสดบูชายิ่ง

เหล่าข้าน้อยทั้งหลาย ขอน้อมบูชา

เทิดทูนพระคุณอันหาที่สุดมิได้

ณ วาระศุภสมัยนี้ เหล่าข้าน้อยทั้งหลาย

ขอตั้งปณิธานต่อพระมหาบรมสารีริกธาตุ ต่อพระพุทธาภิธรรมนิมิต

ณบัดนี้ว่า… เลือดและวิญญาณของเหล่าข้าน้อยทั้งหมดนี้

ขอถวายอุทิศแด่พระพุทธศาสนาไปตราบดินสิ้นฟ้า

จนกว่าข้าน้อยแต่ละคนจะปรินิพพาน

ขอได้โปรดรับปณิธานนี้

ด้วยสุดเกล้าสุดเศียรสุดกระหม่อม

เหล่าข้าน้อยเถิดเทอญ

สาธุ-สาธุ-สาธุ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 37 วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2561 


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:18:26 )

พิษความรู้

รายละเอียด

ถ้าเผื่อว่าเข้าใจแล้วประเทศเราไม่ค้าขายอาวุธไม่ค้าขายเนื้อสัตว์ ไม่ค้าขายสัตว์เป็น สัตตวณิชชา เขาไปเบี้ยวบาลีอย่างอื่น เนื้อสัตว์ก็ไม่ใช่สัตว์เป็นด้วย ท่านละเอียดชัดหมดแล้วทุกอย่างเลย แล้วคุณจะเอาเนื้อที่ไหนมากิน เป็นเนื้อ บังสุกุล สัตว์ตายเองกับเดนสัตว์กิน แล้วมันจะเอามากินได้มากที่ไหนก็แย่งกันตาย 

สิ่งมอมเมา สิ่งที่เป็นพิษนั้นก็กว้าง ทุกวันนี้สิ่งมอมเมานี้ เจ้าประคุณ ราคาสิ่งมอมเมาแพงขึ้นด้วย เช่นการละเล่น การบันเทิง โอ้โห ค่าตัวนักเตะทุกวันนี้แพงลิบลิ่วเลย ค่านางเอกนางเอิกพระเอก แพงลิบลิ่วเลยคืออบายมุขเหล่านี้สิ่งมอมเมาที่เขาไม่รู้ เป็นพิษความรู้

สิ่งที่เป็นพิษ มันเป็นพิษทั้งยาพิษที่กินเข้าไปแล้วเป็นพิษ ทั้งยาเสพติดที่เป็นพิษ ทำอะไรต่ออะไรที่เป็น ในเรื่องของของกินของใช้ก็ผนวกกันผสมผเสกับสิ่งมอมเมาเป็นพิษ ไม่ใช่ตายทันที แต่เป็นพิษตายทันทีก็มี กินขนาดหนึ่งก็ตายไปเลยก็ใช่ แล้วสิ่งมอมเมาก็เป็นสิ่งที่เป็นพิษเหมือนกันมันสะสม แล้วมันลึกซึ้งยาว ดีไม่ดีมันติดไปในจิตวิญญาณ ติดอยู่ในอุปาทานตัณหา ข้ามชาติไปอีกไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบพุทธ ตอน 1 วันพุธที่ 29 มีนาคม 2566 วันขึ้น 8 ค่ำเดือนห้าปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 20:41:49 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์