@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

เดรัจฉานวิชา

รายละเอียด

การรดน้ำมนต์ ใช้น้ำใช้ไฟเป็นสื่อ จุดธูปจุดเทียนอัคคียัน สิญจนยันต์ เพื่อสื่อติดต่อกับวิญญาณ มันยังเป็นเทวนิยมอยู่เข้าใจไม่ได้ แม้แต่การสวดมนต์ จะให้ไปถึงคนนั้นคนนี้มันไม่ไป เสียงของคนมันจะขยายเสียงไปได้แค่ไหนเท่านั้นแหละ มันไม่ไปไหนหรอก มันจะมีฤทธิ์เดชมันไม่มี ขออภัยต้องพูดให้ชัดเจน เพราะว่าต้องใช้เป็นของสังคม สวดมนต์เป็นเรื่องของสังคม ผู้ที่ชัดเจนแล้วเข้าใจดี เพราะว่าการสวดมนต์เป็นเรื่องของผู้ที่มีเชื้อเทวนิยมก็ต้องอนุโลมให้เขา เราก็ต้องรู้เรื่องอนุโลมปฏิโลม ตอนนี้กำลังพูดวิชาการอย่างบริสุทธิ์สะอาด เบื้องต้นบริสุทธิ์สะอาดแต่อนุโลมกันก็ต้องอนุโลม ไม่ได้ใจดำ นานๆก็ด่าทีไม่ได้ด่าทุกวัน คุณก็สวดทุกวัน วันละไม่รู้เท่าไหร่ อาตมาก็ไม่ได้จับมาว่าเท่าไหร่ มีแต่คุณจะไปก่อหวอดสวดเป็นล้านคนข้ามปี สร้างมิจฉาทิฏฐิให้แก่คน คุณควรจะหยุดบ้าง ไม่ต้องไปทำ เรื่องสวดมนต์มันก็ต้องยังเหลืออยู่ในโลกเป็นเรื่องอนุโลม

แม้แต่การฆ่าสัตว์ก็ตาม เราก็ต้องอนุโลมเขาที่เขาจะต้องฆ่าต้องกิน มันห้ามไม่ได้หรอกเป็นวิบาก เขาจะต้องมีวิบากฆ่าแกงกันอีกไม่รู้กี่ชาติ จะฆ่าวัวควายช้างม้าปลาปูอะไรก็ตาม มันก็เป็นเรื่องของกรรมวิบากที่เป็นอจินไตย กรรมวิบากเป็นอจินไตย 1ใน 4

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม  2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 21:36:48 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:30:13 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:10:45 )

เดรัจฉานวิชาคืออาชญวิทยาเต็มรูป

รายละเอียด

เดรัจฉานวิชาคืออาชญวิทยาเต็มรูป ซึ่งเขาไปเรียนสำเร็จอาชญาวิทยามา เขาจะเรียนมาเพื่อปราบพวกที่ทำอาชญากรรม แต่เขาเอาความรู้ที่มันจะอยู่เหนือพ่ายแพ้กันของวิชาการทฤษฎีอาชญากรรม มาพลิกใช้เป็นประโยชน์ตนเอง แทนที่จะใช้เป็นประโยชน์ประชาชนของทางการ ปราบอาชญากร กลายเป็นตัวเองเป็นอาชญากร ตัวควบคุมอาชญากรรมทั้งหลายแหล่ เป็นอาชญากรที่รู้ทันอาชญากรรมต่างๆ เป็นด็อกเตอร์ที่เป็นอาชญากรเองเลย วันนี้บอกพฤติกรรมของคุณทักษิณที่จบอาชญวิทยามาทางด็อกเตอร์นี้ชัดเจน มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลอกซับซ้อน มาพูดดีพูดเห็นแก่ประชาชน เป็นผู้ที่ทำงานไม่เพื่อตัวตน ทำเพื่อผู้อื่น แต่ตัวเองซับซ้อนทุกประการทั้งวิธีการทั้งการที่โกงเอาเงินเอาทอง ไปทำทั้งหมด แล้วตัวเองก็ไปเสวยสุขต่างๆ นานา ไม่กล้าสู้ ขี้ขลาดด้วย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 15:17:20 )

เดรัจฉานวิชาหมายถึงวิชาที่ไม่พาพ้นทุกข์

รายละเอียด

ที่ว่าการแพทย์เป็นเดรัจฉานวิชานั้น ใช่ อาตมาพูดนั้นนะ อาตมาก็ขยายความ ให้รู้ว่าเดรัจฉานวิชาหมายความว่าอย่างไร ไม่ได้บอกว่าวิชาของสัตว์เดรัจฉาน 

เดรัจฉานวิชาหมายถึงวิชาที่ไม่พาพ้นทุกข์ ไม่พาไปสู่นิพพาน เป็นวิชา เดรัจฉานแปลว่าขวางทางนิพพาน อาตมาก็ขยายความอธิบาย คนที่ไม่เข้าใจเดรัจฉาน ก็หาว่าไปว่าไปด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน อันนั้นก็เป็นคนละเจตนากับอาตมา คนละความรู้ คนละคำ คนละอย่าง เขาเข้าใจผิดไป 

แต่วันที่อาตมาไปอธิบายที่คณะแพทย์ศาสตร์ อาตมาตั้งชื่อเรื่องว่าวิชาแพทย์ศาสตร์เป็นเดรัจฉานวิชา มันเป็นแทคติกของอาตมาที่ตั้งชื่อเรื่อง โอ้โห ห้องที่อาตมาไปบรรยายวันนั้น ห้องแทบแตก ที่อาตมาไปอธิบายนั้นคนไปฟังแทบแตกเลย อย่าว่าแต่แพทย์เลย วิศวะก็มา เทคนิคการแพทย์ อะไรๆ ก็มาเต็มห้องหมดเลย หาว่าจะมาด่าวิชาแพทย์เป็นเดรัจฉานวิชาได้อย่างไร 

อาตมาก็ได้คนมาฟังเต็ม สมที่เจตนา แล้วก็ได้อธิบายให้ฟัง ก็ถ้าอาตมาอธิบายไม่ได้อาตมาออกมาไม่ได้นะ เขาเอาตายเลย ถ้าหากอาตมาแก้ไม่หลุด พูดความจริงอันนี้ให้พวกเขาเข้าใจไม่ได้ แต่คนเหล่านั้นเป็นชนชั้นปัญญาชนกัน ไม่ใช่ไม่มีปัญญาไม่มีปฏิภาณ ก็ชัดเจน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิธรรม‌ของ‌ศีล‌ข้อ‌ ‌1‌ ‌ที่‌ชาว‌อโศก‌ปฏิบัติ‌ได้‌ ‌วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 2 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:13:42 )

เดรัจฉานอภิญญา

รายละเอียด

อภิญญาแบบไม่พานิพพาน

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 263


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 07:25:28 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:35:20 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:09:41 )

เดรัจฉานอย่าไปเกี่ยวข้อง

รายละเอียด

สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง เดรัจฉานอย่าไปสู้ ไปเกี่ยวข้อง อย่าไปทำลาย อย่าไปเกี่ยวข้องกับมัน มันก็เป็นวิบากของมัน คนก็มีวิบากกรรมกับเรา เกี่ยวกับคนนี้ก็พอแล้ว นี่ศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ 

มาจัดการตัว 1. ตัวที่เป็นตัวต้านอย่างแรง ทำให้เราไม่ก้าวหน้า เราก็ต้องเก่งที่จะต้องพยายาม 1. หลีกให้พ้นไม่ให้เขาทำร้ายเราได้ 2. เผชิญโดยที่เรียกว่า ลึกซึ้งนะ เผชิญอย่างไม่ไปทำร้ายเขา แต่ให้เขาทำร้ายเราไม่ได้ ต้องอย่างนี้ 

เหมือนกันกับเราไม่ให้เด็กทำร้ายเราได้ เราก็มีแรงพอจับหัวไว้เลย แขนของเด็กมันสั้นชกเราไม่ถึงแขนเรายาวกว่า ชกไม่ถึงเราหรอก จับหัวไว้เลย อย่างอาตมาจะจับหัว เจ้าปุณย์ จะชกอย่างไรก็ไม่ถึงเรา ยกเป็นรูปธรรมให้ฟัง นั่นคือมีอำนาจแล้ว 

เราจะเห็นว่า เขาเองเขาไม่รู้ว่า เขาไม่ควรจะทำร้ายเรา ไม่ควรจะทำลายเรา เขาควรจะพึ่งพาเราด้วยซ้ำไป แต่เขาไม่รู้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนากัณฑ์พิเศษ เริ่ม 53 ปี โพธิกิจ ยังเป็นรองต้องอุตสาหะ วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 18:23:04 )

เดรัชฉานวิชา

รายละเอียด

ฟังชัดๆ คนที่ไม่ใส่ใจธรรมะ เกิดมาในชีวิตหาแต่เงินแต่ทองหาแต่ลาภยศสรรเสริญ พระพุทธเจ้าเรียกว่าเดรัจฉานวิชชา คือวิชาที่ไม่พาไปนิพพาน สรุปง่ายๆว่าเดรัจฉานวิชชา คือวิชชาที่ไม่พาไปนิพพาน ก็คือวิชชาพาไปเดรัจฉาน เห็นไหมว่ามันเป็นความตรงๆไม่ได้บิดเบี้ยวอะไร เพราะฉันเกิดมาเป็นเดรัจฉานตลอดกาลนาน ไม่ได้ข่มนะ แต่แม้เป็นเทวนิยมที่ใส่ใจธรรมะบ้างก็ยังเป็นเดรัจฉานที่เป็นคุณงามความดีเป็นสัตว์ที่ดี ยังเป็นประโยชน์อยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ใส่ใจในธรรมะเลย เกิดมาในชาติไหนก็แล้วแต่ได้แต่กิเลสๆ สวรรค์ก็กิเลส นรกก็กิเลส สรุปแล้วกิเลสนั่นแหละคือตัวนรกทั้งหมดสวรรค์ก็คือนรกนรกก็คือสวรรค์ สวรรค์ก็ยิ่งเป็นนรกหลอกซับซ้อน นรกมายา คนเราถ้าไม่ศึกษาธรรมะโดยเฉพาะโลกุตระจะไม่รู้จักสวรรค์นรก 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2563 ( 10:45:16 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:45:29 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:09:15 )

เดินจงกรมคืออะไร

รายละเอียด

จง กม  แปลว่า เดิน เป็นสันสกฤตว่า จงกรม สมาธิแบบนี้เป็นอุปการะถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ก็ได้มันเป็นเพียงตัวช่วย ถ้าไม่ต้องการตัวช่วยเราก็ไม่ต้องใช้มัน ถ้าเราใช้ได้มันเป็นอุปการะแล้วก็ใช้ 

-           จัง คือการเดิน คือธาตุรู้ อัง 

-           กม คือทำ หรือ จัง กับ ก กับ ม เป็นพยัญชนะตัวต้นตัวปลายของพยัญชนะทั้ง 5 วรรค

รากเหง้าของภาษาบาลี

วรรคที่ 1 ก ข ค ฆ ง

วรรคที่ 2 จ ฉ ช ฌ ญ

วรรคที่ 3 ฏ ฐ ฑ ฒ ณ

วรรคที่ 4 ต ถ ท ธ น

วรรคที่ 5 ป ผ พ ภ ม

เศษวรรค ย ร ล ว ส ห ฬ อํ

ชีวะชีวิตเริ่มต้น ก็มี ก ตัว กก ตัว เกิด สุดท้าย ม คือจิตวิญญาณที่จะแตกเป็นธาตุรู้อย่างอื่นไปได้สูงสุดก็ตอนนี้แหละ มม มมังการ มนะ ก็ผันไปได้สารพัด ก็รู้ก็ใช้ควบคุมจัดการได้ทุกอย่างเป็น ส่วนพลังงาน

ที่มา ที่ไป

620821_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 12:26:02 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:37:36 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:22:28 )

เดินจงกรมคืออะไร จง กม

รายละเอียด

แปลว่า เดิน เป็นสันสกฤตว่า จงกรม สมาธิแบบนี้เป็นอุปการะถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ก็ได้มันเป็นเพียงตัวช่วย ถ้าไม่ต้องการตัวช่วยเราก็ไม่ต้องใช้มัน ถ้าเราใช้ได้มันเป็นอุปการะแล้วก็ใช้ 

-           จัง คือการเดิน คือธาตุรู้ อัง 

-           กม คือทำ หรือ จัง กับ ก กับ ม เป็นพยัญชนะตัวต้นตัวปลายของพยัญชนะทั้ง 5 วรรค

รากเหง้าของภาษาบาลี

วรรคที่ 1 ก ข ค ฆ ง

วรรคที่ 2 จ ฉ ช ฌ ญ

วรรคที่ 3 ฏ ฐ ฑ ฒ ณ

วรรคที่ 4 ต ถ ท ธ น

วรรคที่ 5 ป ผ พ ภ ม

เศษวรรค ย ร ล ว ส ห ฬ อํ

ชีวะชีวิตเริ่มต้น ก็มี ก ตัว กก ตัว เกิด สุดท้าย ม คือจิตวิญญาณที่จะแตกเป็นธาตุรู้อย่างอื่นไปได้สูงสุดก็ตอนนี้แหละ มม มมังการ มนะ ก็ผันไปได้สารพัด ก็รู้ก็ใช้ควบคุมจัดการได้ทุกอย่าง ส่วนพลังงาน

ที่มา ที่ไป

ธรรมมาธิบาย  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 25 กันยายน 2562 ( 16:04:40 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:46:13 )

เดินจงกรมเป็นสมถะไม่ใช่วิปัสนา

รายละเอียด

ที่บอกว่าเดินจงกรม แต่ของชาวอโศกปลูกผักทำงาน แค่นี้พูดเองก็สอบตกแล้ว อโศก เดินธรรมดาทำงานไปนั่นมานี่ก็มีสัมผัสมีสติสัมปชัญญะปัญญารู้กับการสัมผัสแล้วก็เกิดเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือ เกิดเวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ แล้วก็มีมนสิการ นาม 5 แล้วรู้จัก รูป 28 ปฏิบัติธรรมรูปกับนามสังเคราะห์กัน มีสติธรรมะวิจัย มีอิทธิบาทชัดเจน สังเคราะห์สังขารธรรมะ ซึ่งต่างกับคุณที่เดินจงกรมย่างหนอ มันเป็นสมถะทั้งหมด แต่ของชาวอโศกนั้นลืมตาเดินอย่างมีวิปัสสนาเป็นธรรมชาติ โดยใช้ทฤษฎีของพระพุทธเจ้ามาใช้เป็นจรณะ 15 วิชชา 8 เป็นต้น อย่างนี้ 

ซึ่งมันมีนัยยะต่างกัน เดินจงกรมที่เขาว่าสัมผัสทุกอย่างได้เหมือนกับชาวอโศก แต่มันต่างกันมากคนละขั้วเลย คนหนึ่งเดินอยู่กับโลกอีกคนหนึ่งเดินอยู่ใต้บาดาลมันต่างกันคนละขั้วเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับ วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:57:41 )

เดินตามรอยพระราชารับรองว่าไปได้ดี

รายละเอียด

ตอนนี้โควิดก็มาช่วยไว้ เมืองไทยเจริญขึ้น พลเอกประยุทธ์ก็ยังทำงานต่อไปได้ดีนะอาตมาก็ยังเห็นว่าทำงานต่อไปจนกว่าจะ 80 ปีเลย ตอนนี้ 66 ปี ยังฟิต ยังแข็งแรง ไปเลย อีกตั้งกว่า จะ 70 ดูอาตมาสิ 87 ยังแจ๋วเลย ยังชกพันชิ่งบอล มันไม่ดีดใส่หน้าด้วยนะ อาตมาทัน สายตายังดี สติยังไว ตั้งอกตั้งใจอยู่ไปเพื่อมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่ว่าทำแล้วจะมีผลแต่ในประเทศไทย เพราะว่า พลเอกประยุทธ์ที่ทำอยู่นี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เป็นหลักสูตร โลกๆโลกีย์ธรรมดา แต่มีเชื้อโลกุตระ อย่างน้อยก็บอกว่า ตามรอยพระราชา แค่นี้ก็เป็นโลกุตระแล้วเพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นไอดอล มาอย่างวิเศษแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลย เดินตามรอยพระราชา รับรองว่าไปได้ดี เอาให้ชัดเจนให้ดีก็แล้วกัน อย่าออกนอกลู่นอกทาง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมืองไทยเป็นเมืองของพระพุทธเจ้า-โลกุตรธรรมจะช่วยโลกได้ วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 เมษายน 2564 ( 20:33:11 )

เดินทางผิดกับศาสนาพุทธมานาน

รายละเอียด

ก็ไม่ใช่คุณเท่านั้น มีเยอะที่เดินทางผิดนะ แม้เดี๋ยวนี้ก็มีเดินทางผิดมากกว่ามาก อาตมาไม่ได้อวดดี แต่พูดตามความเป็นจริง สงสารแต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรก็ได้แต่พูดความจริง ใครจะบอกว่าอาตมาว่าคนอื่น แล้วยกตัวว่าดีกว่า ของคนอื่นผิดหมดเลย กลุ่มใหญ่มโหฬารก็ผิด

อาตมาขอยืนยันว่ากลุ่มใหญ่นั้นผิด มีกลุ่มเล็กกลุ่มอโศกเท่านั้นที่ถูก ก็พูดความจริงอย่างซื่อๆ ไม่ได้ไปเขินไปอาย ไม่ได้ไปเหนียมอะไรหรอก ​ก็จริงใจเต็มใจพูด เนื้อสัตว์มันเป็น อกัปปิยะ เป็นสิ่งที่ไม่ควร เอาเนื้อสัตว์ไปถวายพระพุทธเจ้า หรือสาวกพระพุทธเจ้ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควร 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 18:33:01 )

เดินทางไม่ถึงฝั่งเพราะไม่รู้จักสังกัปปะ 7! เพราะไม่เริ่มที่ 3 เส้าของวิปัสสนา!

รายละเอียด

เพราะปฏิบัติไม่เป็นลำดับ ขั้นต้น-ขั้นกลาง-ขั้นปลาย ตามกระบวนการ“สังกัปปะ 7” อันมี“ตักกะ-วิตักกะ-สังกัปปะ (3 เส้าของวิปัสสนา) -อัปปนา-พฺยัปปนา-เจตโส อภินิโรปนา (3 เส้าของสมถะ) - วจีสังขารา (ผลของการปรุงแต่ง)”โดยการปฏิบัติ“3 เส้า”คือ “ตักกะ-วิตักกะ-สังกัปปะ”อันเป็นกระบวนการ“3 เส้า”ของ“วิปัสสนา” และ “3 เส้า”ของ “สมถะ” แล้วจึงเกิด “ผล” เป็น “วจีสังขาร”ความรู้จักรู้แจ้งรู้จริง ที่รู้ๆเห็นๆ ด้วย“รูปกับนาม”สัมผัส“ภาวะ 2” อันเป็น“กาย”ก็ดีและเป็น“เทฺว”ก็ดี ครบครันทุก“ส่วน 2”ของทุกสิ่งทุกอัน 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 140 หน้า 127


เวลาบันทึก 22 มิถุนายน 2564 ( 04:42:36 )

เดินสู่ความเป็นกลาง คือหมดกามหมดอัตตา

รายละเอียด

คำว่าทางสายกลาง ที่แปลมาจากคำว่ามัชฌิมาปฏิปทา มัชฌิมาแปลว่าความเป็นกลาง ปฏิปทาแปลว่าข้อปฏิบัติ เพื่อเข้ามาบรรลุความเป็นกลาง และเขาไปแปลเป็นภาษาไทยว่าทางสายกลาง แปลแล้วให้ความหมายที่ผิดไปเลย คนก็เลยไปยึดว่า คำว่ากลางไปยึดที่มัชฌิมาแปลว่ากลาง ข้อปฏิบัติเขาก็เลยไปแปลว่าเป็นทางสาย เพราะฉะนั้นเขาได้กลางแล้ว แล้วเขาไปอยู่กับทาง ทางที่มีกลางก็ต้องมีซ้ายขวา คุณได้กลางแล้วเพราะฉะนั้นทางสายกลางคุณก็เดินไปกับทางที่มันมีซ้ายมีขวา ก็แค่ไม่ไปทางซ้ายทางขวา 

และเขาก็เปรียบเหมือนกับพิณ 3 สาย มันมีสายสูง สายต่ำ สายกลาง เพราะฉะนั้น ให้ดีดสายกลางมาเปรียบเทียบ แล้วอธิบายขยายความเป็นทางสายกลาง เดินสายกลางนี้คุณต้องเดินสายกลาง คุณก็โง่เง่าเดินสายกลาง ไม่รู้จักขวา ไม่รู้จักซ้าย ไม่รู้จักกาม ไม่รู้จักอัตตา ที่มาจาก อันตา คือฝ่าย 2 ฝ่าย คือกามกับอัตตา คุณก็เดินตามืดตาบอดไปกับ กาม อัตตา ไปตลอดนิรันดร 

คุณไม่มีทางรู้ความจริงว่า กามคืออะไร อัตตาคืออะไร แล้วคุณก็ต้อง ลดเหตุที่มันเกิด กาม ลดอัตตาไป กาม ที่เป็นภายนอกต้องหมดก่อนที่จะเหลือ รูปธรรม อรูปธรรมภายใน ก็ล้างภายในอีก ก็หมดกิเลส อย่างนี้เขาจะไม่รู้เขาจะเรียนรู้ไม่ได้ เขาไม่ได้เรียนกิเลส ไม่ได้เรียนรู้กิเลส กาม อัตตา เข้าเรียนการเดิน เดินไปตามทางที่เขาเข้าใจ และทางที่เดินที่เขาเข้าใจคือเดินตรง ตรงไปในทางที่กูเข้าใจ ว่าเป็นกลาง ก็เป็นอุปาทานเท่านั้นเองของเขา แล้วเขาก็เดินไปอย่างมืดมัวไม่รู้เหตุปัจจัยเลยว่าปฏิบัติอย่างไรจะเป็นจรณะ 15 วิชชา 8 

ที่จริงเขาเดินลืมตาแต่ตาเขาบอด พวกนี้ตาบอดตาใส นานแสนนานกว่าจะรู้สึกตัวว่ากูจะเดินไปอีกกี่ล้านชาติ ทำไมโง่ขนาดนี้จึงจะรู้สึกตัว แล้วจึงจะมาค่อยๆได้ความรู้​ แล้วถึงจะรู้ถึงทางเดินที่ถูกต้อง เรื่องความเป็นกลางนี้มันยากมากที่จะเข้าสู่ทาง เรียกว่าทาง อลมริยา กว่าจะเข้าไปสู่ทางสูงสุดได้ ส่วนมากทางสายกลางก็จะบอกว่าเดินเหมือนปากกรวย  เรียกว่า นาลมริยา คือเป็นความรู้ผิดเดินทางผิด เดินทางไปสู่โลกียะอวิชชามันก็เหมือนบานเป็นปากกรวยเรื่อยๆ เป็นนรกใหญ่นรกลึกนรกโตไปเรื่อยๆ

ส่วนผู้เดินทางไป อลมริยา คือเส้นทางเดิน คือข้อปฏิบัติที่ให้เรียนรู้จัก กาม อัตตา และเมื่อรู้จักกิเลส กามอัตตา ทำให้กิเลสกามอัตตาลดไปเรื่อยๆ ก็มีหวังจะไปเข้าสู่จุดกลางที่สุดปลายที่สุด จบปลายสุดกลางที่สุดก็คือจุดศูนย์กลาง 0 นั่นเอง เราเอาคำว่า สูญ มาใช้ หรือ ถ้าจะเอาเป็นรูปธรรมก็คือ ไม่มีอะไร สูญ ขยายความอีกคือคุณต้องเรียนรู้ 2 ข้าง ความเป็นกิเลส

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบคนมืดบอดให้เห็น ผลงาน 8 ปี นายกฯลุงตู่ วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566 แรม 6 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2566 ( 10:31:32 )

เดียรถีย์

รายละเอียด

เดียรถีย์ คือ พวกที่ออกป่า ไปปฏิบัติในป่า เขา ถ้ำ คือ เป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ และเป็นผู้มีกิเลสมาก ปิดบังไว้แล้ว  การออกป่าไม่มีผู้มีวิชชา จรณะอยู่ในป่า

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 17:05:25 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:40:18 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:21:49 )

เดียรถีย์

รายละเอียด

เป้าประเด็นที่จะปฏิบัติธรรมมันอยู่ตรงนี้ จะเรียนรู้อะไรไปได้เก่ง 108 ถึงปราชญ์รู้ภาษาบาลี รู้ภาษาความรู้ทางธรรมะก็ให้มาปฏิบัติทางนี้ อย่าไปหลงใหลในความเก่งรู้มากเกิน เอาให้เข้าเป้า ตรงนี้เป้าหมายชัดเจนไม่ใช่ไปนั่งหลับตาแล้วไม่มีตาหูจมูกลิ้นกาย นั่งมืดบื้อ ไอ้นั่นมันโมฆะเลย อาตมาไม่รู้จะพูดอย่างไรศาสนาพุทธกลายเป็นเดียรถีย์นั่งหลับตาเต็มตาเหมือนตอนพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา ก็เจอเดียรถีย์นั่งหลับตาเต็มป่า ท่านก็ต้องคอยฟื้นขึ้นมา ยุคนั้นไม่มีอะไรต้องค่อยๆ ปฏิบัติเข้าถึง 

แต่ในยุคนี้อาตมาเอามารื้อฟื้นยังไม่โงไม่เงยเลย ยังยึดมั่นถือมั่นบอกว่า โพธิรักษ์ว่าอะไรมาขวางโลกเขา ครูบาอาจารย์เขาสอนมาตั้ง 2, 3, 4, 5 รุ่นแล้ว เขาหลับตาเขาออกป่า เขาออกไปไม่รู้เห็นอะไรจริงไม่รู้ครบแต่เขายืนยันว่าอย่างนั้นเป็นความถูกต้องเป็นความดับ อันที่จริงต้อง มารู้ครบแล้วรู้หมด นี่คือจุดสำคัญ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก ผลงาน 50 ปี ตามอนุสาสนีปาฏิหาริย์ของพ่อครู วันพุธที่ 18 มกราคม 2566 แรม 12 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ปี 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2566 ( 11:56:15 )

เดียรถีย์ คือแบบใด

รายละเอียด

หากว่าทำใจในใจได้เต็มถูกตรงถูกต้อง ตรงที่ความรู้สึก ตัวปฏิบัติธรรมกรรมฐานของศาสนาพุทธคือเวทนา คือความรู้สึก ไม่มีอื่น กรรมฐาน 40 เป็นการเลอะเทอะออกนอกรีตนอกทาง พระพุทธเจ้าไปแสวงบุญนอกขอบเขตพุทธไปหมดแล้ว หลงไปหาความสมถะหมด เป็นเทวนิยม เสร็จแล้วไปจบที่เดียรถีย์ ที่แปลว่าศาสนาอื่นลัทธิที่อื่น ได้มรรคผลแบบอื่น ไม่ใช่ของพุทธ เรียกว่าแบบเดียรถีย์

ที่มา ที่ไป

ธรรมะรับอรุณปีใหม่โดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 11:04:04 )

เดียรถีย์จะได้แค่อสัญญีสัตว์

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อว่ากายก็มิจฉาทิฏฐิแล้วคุณจะปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 กระดุมเม็ดแรกก็ผิดแล้ว ไปเลย ไม่เหลียวหลังเลย ไม่รู้เรื่องเลยแหละ เหมือนคนที่ฟังอาตมาพูดภาษาอีสานไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ติดต่อกัน ไม่ได้พูดถึง พูดสั่งกันก็ไม่ได้สักคำ ไม่เกิดผลอะไร 

เพราะฉะนั้นคนจึงยังเป็นสัตว์อยู่ทั้ง 9 ชนิด สัตว์ 9 ชนิดนี้เคยอธิบายมาหลายที 4 ชนิดที่เขาปฏิบัติแล้วจะเกิดฌาน เกิดประโยชน์ในการทำใจในใจได้ แต่เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็นเดียรถีย์ไปหมด หนักเข้าจนกระทั่งเข้าใจว่านิโรธคือ อสัญญีสัตว์ เขาจะได้แค่ อสัญญีสัตว์ แบบ อาฬารดาบส อุทกดาบส ไม่ว่า เดียรถีย์ คนไหนหรือไปนั่งหลับตาปฏิบัติทั้งนั้น จะได้แค่ อสัญญีสัตว์ แล้วเข้าใจไปว่า นี่แหละคือนิโรธ 

แม้นิโรธที่ได้ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิมันไม่ใช่นิโรธของพระพุทธเจ้าเลย ฌานที่ได้ ก็ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า ยิ่งไปได้สรุปว่า สัญญาเวทยิตนิโรธ หลงว่าเป็น นิโรธ ของพระพุทธเจ้าหรือนิพพานของพระพุทธเจ้าซึ่งมันไม่ใช่นิพพานเลยมันยิ่งไกล 

มันเป็นนิโรธ แปลว่า ความดับ แต่มันเป็นความดับอย่างซื่อบื้อ อย่างอวิชชา อย่างเดียรถีย์ ไปดับความนึกคิด ไปดับการทำงานการทำหน้าที่ ของธาตุสัญญาที่ทำหน้าที่กำหนดรู้ มันก็ไม่กำหนดรู้อะไรนิ่งยิ่งแข็งทื่อ กลายเป็นก้อนอิฐก้อนดินไปเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 45 วันนี้วันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2566 ( 13:25:05 )

เดียรถีย์มีอยู่ประจำโลก

รายละเอียด

“ศาสนาพุทธ”ไม่ใช่ศาสนาที่มีอยู่ประจำโลก “พญานาค”นี้คือลัทธิ“หลับตา”หลับไม่รู้คู้ไม่เห็นของศาสนาเดียรถีย์เขา เขาก็“หลับตา”ปฏิบัติของเขาไปยืนยันความเป็นเดียรถีย์ของเขา ก็เป็นธรรมดาสามัญของเขาที่เดียรถีย์“มี”อยู่ประจำโลก“พุทธที่เป็นโลกุตระ”ต่างหากที่“ไม่มีอยู่ประจำโลก”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูตอบปัญหาผ่าพญาครุฑ ฉุดพญานาค วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2565 ( 21:44:48 )

เดียรถีย์หมายถึง

รายละเอียด

เดียรถีย์หมายถึงคนนอกพุทธ คนที่ไม่ใช่พุทธที่สัมมาทิฏฐิจริงๆ คือเดียรถีย์ ทุกวันนี้ศาสนาพุทธมันเสื่อมมากจริงๆ พุทธนั้นคือโลกุตรธรรมไม่ใช่โลกียธรรมเหมือนศาสดาเทวนิยมทั้งหลาย พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อาตมาก็เคยย้ำว่ามีองค์เดียวในแต่ละยุค ยุคกาลนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้เลยว่าไม่มียุคกาลไหนที่พระพุทธเจ้าจะเกิดมาเป็นศาสดาซ้อนกัน 2 องค์ แม้แต่ในระยะเวลาอันใกล้เคียง อย่างเช่น ศาสนาพุทธเป็นกลียุค หมดกลียุคไป จนกว่าจะมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติอีก นานมาก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศก ทำแล้ว ทำอยู่ และกำลังทำโลกุตระต่อไป วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 4 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มิถุนายน 2566 ( 13:19:46 )

เดียรถีย์เป็นลัทธิประจำโลก

รายละเอียด

เพราะลัทธิ“เดียรถีย์เป็นลัทธิประจำโลก จะในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต และทุกวันนี้ก็ยัง“มี”เดียรถีย์ หรือในโลกคนผู้“อวิชชา”นั่นแหละที่ยังงมงายอยู่กับการ“หลับตา”ปฏิบัติ มันไม่หนีหายไปจากโลกหรอก มันก็ยังเป็น“โจร”แทรกเข้ามาปล้นศาสนาอยู่จนได้นั่นแหละ ผู้“หลับตา”ปฏิบัติ ที่เข้าใจ“กาย”ยังไม่“สัมมาทิฏฐิ”นั้น มันปฏิบัติเป็น“เดียรถีย์”จริงๆ เพราะมันไม่มี“ภายนอก” ไม่มี “วืิญญาณฐีติ”ให้ปฏิบัติ  มันมีแต่“วิญญาณสัมภเวสี”  

“หลับตา”ปฏิบัตินั้นมันเป็น“การปฏิบัติของเดียรถีย์” ซึ่งมันไม่ใช่ลัทธิของศาสนาพุทธ ไม่ใช่วิธีปฏิบัติของพุทธที่ “สัมมาทิฏฐิ”เลย ดังที่คนไทยชาวพุทธในยุคปัจจุบันนี้ยังหลงเชื่อกันว่า การปฏิบัติที่จะเกิด“ฌาน”ก็ดี เกิด“สมาธิ”ก็ดี แม้ที่สุดเกิด“นิพพาน”นั้นต้อง“หลับตา”ทำสมาธิเข้าไปๆ จึงจะได้ ซึ่งมันผิด นั่นไม่ใช่แบบของพุทธเลยสักนิด

ดังเรื่องเกี่ยวกับคำว่า“พญานาค”อันคือ “งู”ที่ภาษาบาลีคือ “นาค”ตามที่เล่าให้ฟังนั้นแล ชาวพุทธได้พากันหลงผิด“หลับตา”ปฏิบัติเป็นเดียรถีย์กันไป หลงมืดสนิทสนมเชื่อถือ“เดียรถีย์”กัน กระตุกกันยังไง กระแทกกระทุ้งแรงจัดขนาดไหน ก็ไม่ฉุกคิดกัน “ไม่ตื่น”ได้ง่ายๆ ก็เปรียบได้เช่นเดียวกันกับ“พญานาค”ที่นอนหลับไม่รู้คู้ไม่เห็นดับมืดมนอนธกาลอยู่ใต้ก้นบึ้งมหาสมุทรสุดลึก เฝ้า“ถาดทองของพระพุทธเจ้า”ทุกพระองค์ที่เคยอุบัติขึ้นมาในโลกแล้วล้านๆ พระองค์

   
 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 30 ตำนานพญานาค ตอนที่ 1วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก  


เวลาบันทึก 31 พฤษภาคม 2565 ( 15:11:37 )

เดียรถีย์แยกกาย แยกใจเป็นคนละเรื่อง แถมยังดึงชาวพุทธให้มาเป็นพวก!

รายละเอียด

แยก“กาย”แยก“ใจ”กัน เป็นคนละส่วน คนละเรื่อง ก็ผิดแน่ 

เห็นแจ้งชัดเจนว่า เดียรถีย์ยึดถือความเป็น“กาย”ผิดไปมั้ย?

และชาวพุทธทั้งหลายวันนี้ เข้าใจ“กาย”อย่างเดียรถีย์ ใช่มั้ย

ที่ถูก “กาย”มันคือ“ภายนอกกับภายใน..ในขณะเดียวกัน” มัน

แยกกันไม่ได้ ปัจจุบันนั้นต้องมีทั้งกายทั้งใจ แต่ต้องลงมือ“ทำที่ใจ

ในใจ(มนสิกโรติ)”นี้ทันที ที่ยังอยู่กับ“ปัจจุบัน”ที่มี“สัมผัส”นี่เอง 

ชัดมั้ยว่า “กาย”ไม่ใช่แค่ร่างภายนอก-วัตถุภายนอกเท่านั้น

“กาย”นี้ต้องเข้าใจให้“สัมมาทิฏฐิ”กันจริงๆ รู้จักรู้แจ้งรู้จริง

กันให้“ครบ” จนกระทั่ง“พ้นวิจิกิจฉาสังโยชน์”ให้ได้ก่อนอื่นเลย 

ความเป็น“กาย”สำคัญปานฉะนี้ พระพุทธเจ้าจึงกำกับไว้

ใน“สังโยชน์”ข้อที่ 2 ว่า ต้อง“พ้นวิจิกิจฉา”ในความเป็น“กาย

ของตน(สักกาย)” คือต้อง“สัมมาทิฏฐิ”ในความเป็น“กายของตน”

นี้เอง...ชัดเจนขึ้นมั้ย?

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 248 หน้า 201


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 13:01:58 )

เด็กกับการมีโทรศัพท์

รายละเอียด

เด็กนี่ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะไม่ได้ใช้โทรศัพท์,สำหรับเด็ก ที่ยังไม่มีภูมิพอก็ไม่ควรใช้ เพราะโทรศัพท์มันยั่วยุให้เกิดกิเลสอย่างเก่ง เด็กยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอยังไม่ให้ใช้เป็นส่วนตัว หากจะใช้ในสิ่งที่เป็นสาระก็ให้ขอผู้ใหญ่ เพราะโทรศัพท์มันผีเยอะก็เลยต้องป้องกัน เป็นเรื่องที่จะไม่ให้ถูกทำร้ายเหมือนกับผู้ใหญ่ไม่ให้เด็กใช้มีดเพราะใช้มีดยังไม่เป็น เหมือนกับมีโทรศัพท์ใช้ไปเดี๋ยวมันบาดมือเดี๋ยวมันไปทำเสีย มันทำร้าย ควบคุมยังไม่ได้ยังไม่เป็น เขาก็ยังไม่ให้ ผู้ใหญ่ทำได้ โตแล้วเราสามารถป้องกันพิษภัย ผีหลอกในโทรศัพท์ก็ค่อยใช้ ไม่ต้องกลัวหรอกอยู่ที่นี่ 6ปีไม่ได้ใช้โทรศัพท์เลยจะไปแล้วรับรองว่าคุณใช้เป็นไม่เสียไม่เป็นไรรับรองเลยไม่ช้าไปหรอกปิดเทอมก็แอบไปใช้ที่บ้านอยู่แล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 17:27:59 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:50:58 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:18:23 )

เด็กคือผู้ยังไม่เดียงสา

รายละเอียด

เราไม่ยุ่งฟากไหนอยู่แล้วตามที่คุณต้องการ ที่คุณออกชื่อมาคือฝ่ายอิสลาม แล้วคุณก็เชื่อว่าอิสลามจะกินประเทศอยู่แล้ว และอีกฝ่ายหนึ่งคนก็ไม่ได้ออกชื่อไม่ได้กล่าวถึงให้มันชัดขึ้นมา พูดยังคลุมเครือว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ไหว รับไม่ได้ แต่ไม่ไหวรับไม่ได้คืออะไร เราก็ดูตามสถานการณ์ปัจจุบัน staus quo คือพวกที่เย้วๆๆอยู่ขณะนี้ ก็คือฝ่ายปลดแอก ไปปลุกเร้าเอาเด็กเอานักเรียน มีคนหัวหงอกไม่เท่าไหร่หรอก นี่ก็งมงาย และมีเด็กอีก เด็กคือผู้ยังไม่เดียงสาในภาษาที่พวกสากลคนไทยก็พอฟังรู้เข้าใจว่าไม่เดียงสา คืออะไร

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 มกราคม 2564 ( 09:16:22 )

เด็กดื้อที่ตาบอดหูหนวกคือพวกสายหลับตา

รายละเอียด

พูดถึงสายหลับตาทีไรแล้วก็น่าสงสาร ไม่รู้จะทำอย่างไรเขาไม่ประสีประสาเหมือนเด็กดื้อ นอกจากดื้อแล้วยังตาบอดหูหนวกอีก พูดทีไรก็ไม่ได้ยิน ทำให้ดูอย่างไรก็ไม่เห็นแล้วก็งมงายอยู่กับที่ตัวเอง ยึดอย่างเดิม มันน่าสงสาร ไม่รู้จะทำอย่างไรพวกหลับตาปฏิบัตินี้ จะได้ตื่นขึ้นมา มีมรรคผลมีธรรมะมีสิ่งที่ตัวเองก็ต้องการ เสียเวลาเป็นชาติๆ หลายคนก็มาตั้งแต่เด็กจนแก่ จริงๆ น่าสงสารจริงๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร นี่พูดด้วยใจจริงนะไม่ได้เกลียดชังเลย เห็นเป็นคนดี เจตนาดี ปรารถนาธรรมะจะไปชังได้อย่างไร แต่ดื้อก็น่าสงสาร ก็ได้แต่พูดซ้ำซากจ้ำจี้จ้ำไช อยู่นั่นแหละ ก็ไม่รู้จะทำยังไงได้แค่นี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 13:31:13 )

เด็กที่มาอยู่ที่นี่เป็นเด็กที่มีบุญบารมีมาก

รายละเอียด

ตอนนี้ หลวงปู่ก็พูดกับผู้ใหญ่ที่มีความเป็นปัจจุบัน กำลังมีอะไรควรจะต้องให้สัญญาณพอจะบอกกันให้รู้ให้เข้าใจได้เร็วๆไม่อย่างนั้นไม่ทันการ ทุกวันนี้อะไรก็เร็วไปหมด หากช้าไปเหตุการณ์บ้านเมืองจะลำบากมาก บางทีก็จำเป็นก็ต้องขอเวลา เด็กๆ มาอยู่ที่นี่ไม่ต้องห่วงหรอก พัฒนาไปให้ดีๆ เด็กก็ตามที่ได้มาอยู่ในที่นี้แล้ว เป็นเด็กที่มีบุญมากมีบารมีมีบุญมาก เข้ามาได้ เข้ามาอยู่ในที่นี้ สามารถจะได้ฟังสิ่งเหล่านี้ เด็กข้างนอกไม่มีโอกาสจะได้ฟังหรอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ธรรมะสองของประชาธิปไตย  วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 11:09:51 )

เด็กมาฟังธรรมมาเล่นในศาลาก็ได้ซึมซับธรรมะ

รายละเอียด

อาตมาเคยพูดว่า เด็ก ลูกของเราหรือหลานของเราตัวเล็กที่มากับเรา เรามาฟังธรรมแล้วเด็กมันก็วิ่งเจี๊ยวจ๊าว พวกเราก็ปรามกันไปตามประสา อาตมาก็บอกว่าเด็กมันฟังไม่รู้เรื่องแต่มันได้ซึมซับ โดยบัญญัติโดยภาษาโดยอะไรก็แล้วแต่ มันก็ซึมซับเข้าไป ถึงขั้นออสโมซิส มันซึมลึกเข้าไป มันไม่เสียหลายหรอก เพราะฉะนั้นอาตมาถึงไม่ค่อยจะไปต้านว่า อย่าเอาเด็กเข้ามา ไม่เคยไปห้าม นอกจากมันจะซนมากก็พยายามบอกกันพวกเราก็รู้ ก็พยายามไม่ให้มันเป็นเช่นนั้น มันก็ไม่ค่อยดี อย่างนี้เป็นต้น 

ก็อย่างที่ค่อยๆ เป็นมา ค่อยๆ รู้ว่าเราควรจะประพฤติอย่างไร ปฏิบัติอย่างไรแม้แต่กับเด็กเล็กเด็กโต 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนอยู่เหนือกาละต้องชนะปฏิจจสมุปบาท วันพุธที่ 3 มกราคม 2567 วันแรม 7 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2567 ( 18:48:34 )

เด็กอโศกต้องแข็งแรง

รายละเอียด

หลวงปู่พยายามทำให้ราชธานีอโศกเป็นถิ่นที่ทั้งเด็กก็ตามทั้งผู้ใหญ่ก็ตาม ก็เป็นคนเจริญ เด็กเราก็จะเป็นตัวอย่างของที่อื่นเขาด้วย เป็นตัวอย่างนำพาคนอื่นให้คนอื่นเขาเข้ามา ถ้าเรามีมวลมีหมู่กลุ่ม เด็กๆ เป็นคนเจริญเป็นคนแข็งแรงดี เด็กข้างนอกเข้ามา ก็จะมาถูกพวกเราเป็นน้ำหนักที่เป็นเนื้อแท้แข็งแรง มีรังสีแผ่ซ่านไพศาลออกไปช่วยคนอื่นเขามาเป็นอย่างที่เราเป็นได้ ไม่ใช่ว่าเราเป็นอย่างนี้แล้วอ่อนแอ คนอื่นเขาเอาแบบไม่ดีเข้ามา เพราะเราก็ถูกสลายกลายเป็นไม่ดีเหมือนเขา เราก็เลยเจ๊งเลย เราก็ต้องแข็งแรงมั่นคงแน่นหนา ไม่แปรปรวนเป็นไปตามเขา มีแต่จะเปลี่ยนเขามาเป็นเรา ไม่ใช่เราสลายเปลี่ยนแปลงไปตามเขา เพราะเขาเองเขาแย่เขาไม่ดี เราต้องคงมั่นเราต้องยืนหยัด ความดีของเราให้แข็งแรงมั่นคง ต้องฝึกฝน พูดเอาไม่ได้หรอก ต้องฝึกฝนให้เป็นคนดีที่แข็งแรงที่เจริญแน่นหนาๆมั่นคงตั้งมั่น เพื่อที่จะช่วยผู้อื่นได้ เราเองช่วยตัวเองได้แล้วก็สบาย เราก็ช่วยผู้อื่นต่อไปอีก มันก็จะเป็นสภาพที่ซับซ้อนเจริญงอกงามแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ที่มา ที่ไป

รายการพ่อครูให้โอวาทเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2562  ที่บ้านราช วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:29:14 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:57:57 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:19:49 )

เด็กโลกุตระ

รายละเอียด

ตอบเด็กชายธัมโมนะ ไม่ใช่ตอบทั่วไปกว้างๆ โลกุตระคืออะไรครับ โลกุตระ คือ จะต้องฟังผู้ใหญ่ เชื่อฟังผู้ใหญ่ อย่าดื้อ แต่เห็นว่าสนใจฟังธรรมอยู่ก็ดีแล้ว ฟังธรรมไปเรื่อยๆให้เข้าใจ แล้วทำตนเองให้เป็นคนดี เป็นเด็กดี เป็นเด็กดีให้ได้ โดยเฉพาะอยู่กับครูตุ๊ก ครูติ้ว ตอบ ฟังดีๆ ครูตุ๊ก ครูติ้วสอนหรือแม้แต่ ลุงหริก็ตาม สอนอยู่ในนั้นด้วย ก็ต้องเชื่อฟังคำสอนอย่างนี้เป็นโลกุตระ เอาแค่นี้ก่อน

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม เปรียบเทียบเศรษฐศาสตร์โลกียะกับเศรษฐศาสตร์โลกุตระ วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2566 แรม 14 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 18:12:09 )

เด็กๆ ก็ตั้งใจฟังเพื่อเอามาใช้ได้ในอนาคต

รายละเอียด

เด็กๆ ก็ตั้งใจฟังบ้าง หลวงปู่คงจะต้องพูดถึงเรื่องใหญ่ เรื่องการเมือง ก็ตั้งใจฟัง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็ได้บันทึกไว้ ในจิตใจเรามันมีความพิเศษที่บันทึกไว้ตลอดเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ บางทีเราไม่รู้เรื่องเอาออกไปใช้ไม่เป็นแต่มันก็อยู่ในฮาร์ดดิสก์นั้น จนเมื่อเราโตขึ้นมา พอจะดึงขึ้นมาได้ หรือ เราจะรู้เส้นสายเส้นทางของสิ่งเหล่านี้ อยู่ในกระเป๋าไหน พอจะรู้เส้นทางที่จะดึงออกมาใช้ได้ในอนาคต อะไรทุกอย่างไม่มีอะไรอยู่โดดเดี่ยวมันจะมีสิ่งสัมพันธ์ ต่อเนื่องเป็นสายโซ่ สั้นบ้างยาวบ้าง ขาดช่วงบ้าง มันเป็นธรรมดาธรรมชาติ ก็ไม่เสียหายอะไร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ธรรมะสองของประชาธิปไตย  วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 11:08:05 )

เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

รายละเอียด

บทความโดยผศ.เอกพงษ์ ตรีตรง ก็เป็นผู้ที่มองไปข้างหน้า อาตมาก็เห็นพ้องตามที่อาจารย์ท่านนี้เสนอมา เมืองไทยเรายังมีอะไรดีๆที่จะนำเสนอไปกับสังคมโลก จริงๆเราก็ไม่เจตนาจะเบ่งใหญ่ ไปกับโลกเขาหรอกเราก็ทำตามประสาเรา อย่างเช่นอโศกเราก็ทำไปตามประสาแต่มันก็มีผลเชื่อม สามารถที่จะมี relation Relative ไปกับสังคม เป็นผลปฏิสัมพันธ์กันไป ตามที่เป็นจริง ยังไงๆมันก็เป็นจริงเพราะทุกอย่างมันเชื่อมกันหมดเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วจะเล็กจะน้อยสักเท่าไหร่ แต่ก็มีผล relation ของมันมีผลแน่นอนเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว มากหรือน้อยก็แล้วแต่เราก็ทำสุดกำลังของเราทำเต็มที่ ดาราเห็นว่าสิ่งที่เราทำนี้มันเป็นสิ่งที่ดีเรามีเรื่องแรงเวลามีโอกาสที่จะทำมีกลุ่มที่จะทำ มีเหตุปัจจัยมีองค์ประกอบที่จะทำเราก็ทำไปอย่างไม่ได้หยุดหย่อน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2563 ( 09:32:34 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:46:33 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:20:42 )

เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

รายละเอียด

ที่พูดมานั้นเป็นสภาพสภาวะต่างๆเอามารวมกันอย่างย่อๆ ทั้งชีวิตมนุษย์พืชพันธุ์ธัญญาหาร ทั้งสิ่งที่เกิดทางคุณธรรมหรือเกิดโทษ เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อว่า พฤติกรรมของมนุษย์ เป็นสำคัญเป็นตัวกลาง มีพฤติกรรมที่เป็นโทษมันก็จะก่อให้มันเกิดทุกอย่าง ทางพืชพันธุ์ธัญญาหารและชีวิตมนุษย์ทั้งสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ดวงดาวพระอาทิตย์อะไรก็แล้วแต่ มันจะเป็นผลกระทบ ถ้าทุกอย่างเป็นอิทับปัจจยตา ทุกอย่างเชื่อมกันหมด ในมหาจักรวาลไม่มีอะไรที่จะขาดจากกัน เขียนเส้นรูปให้ดูไม่ไหว ทุกอย่าง เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว อย่างนี้เป็นต้น อันใดอันหนึ่งเปลี่ยนแปลงกระทบ โดยเฉพาะอันที่เปลี่ยนแปลงนั้นเป็นตัวที่มีฤทธิ์มาก ก็จะกระทบกระเทือนไปกับอย่างอื่นไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เช่น Big bang เกิด ทุกอย่างมันกระจายเกิดอะไรอีกนานเยอะแยะ อย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้น ใครก็แล้วแต่ ที่ยิ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจมีฤทธิ์สูงๆ เป็นชั้นบน เคลื่อนตัวอะไรต่างๆนานาเคลื่อนไหว ก็จะทำให้เกิดการเคลื่อนตามเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ขยายไปมาก เพราะฉะนั้นถ้าเป็นมุมที่ดี มันก็จะดีกระจายไป แต่ถ้ามุมที่ชั่วมันก็จะชั่วกระจายไป เพราะฉะนั้นเราจึงเลือกที่จะอยู่ในโลก หรือจักรวาล ที่เป็นจักรวาลดี จักรวาลที่ร้อนที่ร้ายแรงก็ห่างไป เราอยู่แต่จักรวาลที่อยู่ที่ดี แล้วจักรวาลที่จะมารวมกันอยู่กันอย่างเย็นอบอุ่นหรืออบอุ่นแล้วเย็น มีประโยชน์เข้าหากัน ระยะเวลามันนาน เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะสัมพันธ์กันเป็นสิ่งที่ดีก็จะอยู่ร่วมกันเป็นประโยชน์แก่กันยาวนาน กาละ มันตอบยาก เราสามารถที่จะทำ กาละอย่างอาตมาสามารถยืดกาละให้ตนก็ทำได้ เราจะยืดองค์ประกอบที่เราอยู่ร่วมกัน ในมวลนี้ จะรักษาให้ชีวิตทั้งมวลให้ยืดยาวหรือให้เจริญขึ้น มันก็ ทำได้ถ้าเรามีพลังงานพอ มีความร่วมมือกันพอ มีความรู้ความสามารถมากพอ ก็ทำได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจริงที่มันเป็นสภาวะ ที่มันมีความรู้แล้วก็สามารถที่จะปฏิบัติพิสูจน์ได้ อาตมาพูดไปแล้วก็ยังรู้สึกว่าอธิบายไม่ค่อยเก่ง อธิบายได้ประมาณนี้ ที่จริงมันมีละเอียดกว่านี้อีกเยอะ คิดว่าก็คงพอฟังรู้เรื่องสำหรับผู้ที่มีปฏิภาณช่วยอาตมา มีปฏิภาณฉลาด อาตมาพูดแค่นี้คุณก็เข้าใจได้เองในตัวได้

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 10:34:46 )

เตภิญโญ

รายละเอียด

มีความเก่งเด่นพิเศษในอภิญญา 3 อย่าง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 325


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 08:03:28 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:36:16 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:23:07 )

เตรียมความพร้อมเพื่อะเปิดบ้านช่วยเหลือผู้คน

รายละเอียด

ได้สิ ... ได้เลยเราจะทำสถานที่เพื่อที่จะเตรียมตัวจะได้เปิดบ้านช่วยเหลือผู้อื่น นี่เราก็จะทำตลาดอาริยะ ตอนนี้เดือนพฤศจิกายนแล้ว ถ้าน้ำลดลงพอสมควรให้ผู้ที่จองจะมาตั้งร้านค้าร้านขายจะได้เปิดตั้งแต่เดือนนี้ บอกกันไปเขาจะได้เตรียมตัวแล้วก็เปิดแต่ก่อนเลย ใครจะมาก่อนก็อาจจะขายยากหน่อย คนยังไม่เข้ามาเท่าไหร่ ถ้าเดือนธันวาคมแล้วคงจะมากันมากกว่านี้ ทยอยกันมา น้ำก็ลด คนก็จะเริ่มกันแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ลักษณะประชาธิปไตยสุดยอด 11 ประการ วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2565 แรม 1 ค่ำเดือน 12 ปี ขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2565 ( 10:20:54 )

เตวิชชสูตร

รายละเอียด

ในเตวิชชสูตร

[380] ดูกรวาเสฏฐะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ท่านเคยได้ยินพราหมณ์

ผู้เฒ่าผู้แก่ เป็นอาจารย์และปาจารย์กล่าวว่ากระไรบ้าง พรหมมีเครื่องเกาะคือสตรีหรือไม่มี?

         ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ไม่มี.

          มีจิตจองเวรหรือไม่มี?

          ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ไม่มี.

          มีจิตเบียดเบียนหรือไม่มี?

          ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ไม่มี.

          มีจิตเศร้าหมองหรือไม่มี?

          ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ไม่มี.

          ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้หรือไม่ได้?

          ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ได้.

          ดูกรวาเสฏฐะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน พราหมณ์ผู้ได้ไตรวิชชา มีเครื่องเกาะคือสตรีหรือไม่มี.

          ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ มี.

          มีจิตจองเวรหรือไม่มี?

          ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ มี.

          มีจิตเบียดเบียนหรือไม่มี?

          ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ มี.

          มีจิตเศร้าหมองหรือไม่มี?

          ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ มี.

          ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้หรือไม่ได้?(สัมประสิทธิ์ Coefficient )

          ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ไม่ได้.

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:37:13 )

เตวิชโช

รายละเอียด

การนั่งหลับตาแต่ใช้เตวิชโชอุปการะมาก คือการตรวจสอบภูมิธรรมที่เราปฏิบัติแล้ว เหมือนการลงบัญชีเราได้อะไรเกิด อะไรดับ ดับสนิท หรือไม่ดับสนิท ยังเหลือ ส่วนเหลืออยู่เท่าไหร่ ก็ตรวจสอบความจริง จนอาสวะหมด หมดเท่านั้น เท่านี้ ตอนนี้เป็นพระโสดาบัน ตอนนี้ เป็นพระสกิทาคามี โสดาบันยังไม่ได้ดับอนุสัย สกิทาคามีก็เริ่มดับอนุสัยได้บางอย่าง มาอนาคามี ก็ดับอนุสัยได้มาก เป็นภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย จนมาเป็นอรหันต์ มานานุสัย กับภวราคานุสัย เป็นอนุสัย ข้อที่ 5กับ 6 อันสุดท้าย คือ อวิชชานุสัย ที่เรียงลำดับในอนุสัย 7อนุสัย 7 ไม่ได้เรียงเหมือนสังโยชน์ 10

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 16:19:48 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 14:05:13 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:24:20 )

เตวิชโช

รายละเอียด

1. วิชชาทั้งสาม(เต = 3 , วิชโช = วิชชา) คือบุพเพนิวาสานุสติญาณ  จุตูปปาตญาณ  อาสวักขยญาณ 

2. การตรวจสอบโดยดึงเอาอดีตของ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัย มารู้แจ้งความจริงให้ละเอียดลออ ว่าอะไรเกิด อะไรดับอย่างไร เราปฏิบัติผ่านไปด้วยดี สำเร็จบริบูรณ์หรือยัง 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 311

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 58,268


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 08:04:32 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:37:23 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:25:14 )

เตวิชโช

รายละเอียด

คือ เพื่อตรวจสอบ“อดีต” (ปุพเพนิวาสานุสติญาณ) ว่า เราได้ทำ“เกิด(อุปปัติ)”ทำ“เคลื่อนไป สู่ที่สูง(จุติ)”หรือ“เคลื่อนไปถึงจุดดับ(จุติ)”(จุตูปปาตญาณ) เราได้ ปฏิบัติมาบรรลุผลแล้วครบจนสิ้น“อาสวะ”หรือยัง

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 423


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:02:38 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 14:10:59 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:26:07 )

เตวิชโช

รายละเอียด

เตวิชโชก็คือการตรวจสอบ เหมือนการลงบัญชี เราทำงานมาแล้วก็จัดการบุพเพนิวาสานุสติญาณ ตรวจสอบว่ามันเป็นอย่างไร เราแพ้หรือชนะได้ผลหรือไม่ได้ผล ได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ ก็ลงบัญชี สำทับกับตนเองว่า ได้ผลถูกต้องไหม อันนี้จบแล้ว สิ้นอาสวะแล้ว ไม่ต้องไปวุ่นวายแล้วก็เอาอันใหม่ขึ้นมาทำต่อ จนกว่าจะเป็นพระอรหันต์ เป็นจริงไหม ก็ตรวจสอบใช้พวกนี้ เราก็จะรู้ประโยชน์ เตวิชโชนี้จะต้องใช้ ไม่ใช้ในวาระใด คุณต้องใช้ทุกคน คุณก็ต้องรู้รายละเอียด หากคุณไม่ใช้เลยจะไปตรวจสอบตัวเองได้ครบได้มากอย่างไร เอาแต่ปัจจุบันเท่านั้นมันไม่พอหรอก หรือจริงๆโดยอัตโนมัติมันก็ตรวจสอบตัวเองอยู่ในตัวว่าอันนี้ดีหรือไม่ มันก็มีอยู่ใช่ไหม เป็นธรรมดาธรรมชาติไม่ใช่เรื่องยากอะไร ถ้าเรารู้ทฤษฎีนี้แล้วเราก็เอาไปใช้ ทฤษฎีในการทำมันก็เสริมให้เราทำได้ดี ได้เร็ว ได้ชัด ได้ครบขึ้น 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 07 กันยายน 2563 ( 09:43:28 )

เตวิชโช วิปัสสนา นัยยะเดียวกันหรือไม่

รายละเอียด

ไม่ ไม่ใช่นัยยะเดียวกัน แต่มันก็เป็นการสร้างความรู้แล้วเกิดความรู้ทั้งคู่ วิปัสสนา กับเตวิชโช ก็เป็นอยู่ในวิชชา 8​

วิปัสสนา เป็นข้อที่หนึ่งของวิชชา 8 ซึ่งมีวิปัสสนาอยู่เป็นยาดำทั้ง 8 ข้อ 

วิปัสสนา แปลว่า รู้เห็นแจ้งยิ่ง ตั้งแต่ตัวต้นจนถึงตัวจบ วิ แปลว่าวิเศษ ปัสสนะ แปลว่าการรู้เห็นเข้าไปในเนื้อ (นะ) 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่นชาวสันตินาคร วันพุธที่ 17 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก 


เวลาบันทึก 22 มีนาคม 2564 ( 11:04:55 )

เตวิชโช เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจบัญชี

รายละเอียด

เตวิชโช เป็นกลุ่มหนึ่งของ วิชชา เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจบัญชี ส่วน 5 ในวิชชา5 เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจบัญชี วิชชา 3 เป็นวิชชาที่รู้จักกิเลส แล้วก็ล้างกิเลสได้หมด เพราะฉะนั้นตัวคุณเป็นพ่อค้าเป็นผู้ทำต้องลงบัญชีทั้งหลายแหล่อยู่ คุณต้องจัดการทำของคุณให้มันถูกต้อง ให้มันมีเนื้อแท้ ให้มันมีความจริงครบครัน ผู้ตรวจบัญชีจะได้มาตรวจ ผิดเขาก็จับได้ ถูกเขาก็จะจับได้ตรงนี้แหละ ได้เท่าไรก็จะรวมยอดให้ตรงนี้แหละ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 07:42:42 )

เตวิชโชตรวจเป้าสมบูรณ์สุดคือกิเลสหมดด้วยบุญ

รายละเอียด

ตรวจตราด้วยเตวิชโชเป็นผู้ตรวจบัญชี ตรวจความจริงตรวจความผิดความถูก ความลงตัวความสมบูรณ์แบบของผลที่ได้ ที่ต้องการ คือผลที่คาดว่าจะได้ เช่นใน 5 ปีนี้ผลที่คาดว่าจะได้ของโครงการจะได้ 2000 ล้าน ทำเข้าเป้าไหม

ที่เราก็ตรวจสอบเหมือนกัน นี่เกินเป้านะ นี่เลยเป้าแล้ว เกินเป้า ก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นความเลยเถิด เป้าของมันสมบูรณ์สุดก็เรียกว่ากิเลสหมด กิเลสหมดแล้ว กุศลยังอยู่ เพราะฉะนั้นคำว่าบุญเป็นตัวตัดเส้นสุดท้าย ทำให้กิเลสหมดแล้วเลิกจบ มีหน้าที่ทำให้กิเลสหมดเผากิเลส เป็นตัว ปุญญะ เป็นตัวบอกว่า จบแล้วนะ กิเลสหมดแล้วนะ เสร็จกิจแล้วนะ 

เพราะฉะนั้น ขอลา บุญก็ขอลา เลิกจบ ก็ไม่มีบุญกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 08:07:21 )

เตวิชโชสามารถระลึกสิ่งที่ได้ที่มีมาแล้วไม่ได้เพิ่มอะไรขึ้นใหม่

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้ใหม่ แต่เป็นสัมมาสัมโพธิญาณเก่าทั้งนั้น แม้กระทั่งการทบทวนอยู่ใต้ต้นโพธิ์ในคืนวันเพ็ญเดือน 6 แต่ก็เป็นเตวิชโชของท่านเอง แต่คนไปเข้าใจว่าเป็นการปฏิบัติ ถ้าคนไม่มีภูมิธรรม คุณจะไปนั่งระลึกชาติอย่างไรก็ได้แต่ชาติเก่าๆที่คุณไม่บรรลุ คุณสามารถบรรลุได้เท่าไหร่ก็เท่ากับที่คุณได้บรรลุมาแล้ว การนั่งเตวิชโชไม่ได้เพิ่มอะไรขึ้นมาหรอก หากคุณยังไม่เก่งก็ระลึกได้ไม่ครบ แต่สามารถระลึกสิ่งที่คุณได้คุณมีได้บ้างแล้วก็ระลึกได้ไปเรื่อยๆ มันไม่ได้เก่งแบบพระพุทธเจ้าที่ระลึกใช้เวลาแค่ 3 ยาม เท่านั้น ขนาดพระพุทธเจ้าต้องใช้เวลาตั้ง 3 ยามถึงจะระลึกได้ แล้วยังใช้เวลาอีก 49 วันในการทบทวน อาตมาบอกไว้ก่อน ว่าอาตมายังไม่หมดของเดิมจะเอาออกมานะ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 09:41:04 )

เตวิชโชเป็นการระลึกถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว

รายละเอียด

แล้ว เตวิชโช ไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตาเลยใช่ไหม…ก็ใช่อีก เตวิชโชเป็นการระลึกถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว คุณจะลืมตาอยู่ก็ระลึกถึงได้ เรานึกถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้ว โดยธรรมชาติเราก็จะนึกถึงของเก่าที่ผ่านไปแล้วโดยสบาย แล้วเอาไปเปรียบเทียบกันตลอดเวลา ถ้าคุณไม่มีสิ่งที่เป็นของเก่า เปรียบเทียบคุณจะไม่รู้เรื่องคุณจะไม่เข้าใจอะไรเลย สภาวะความเข้าใจเกิดขึ้นได้จากสภาวะ 2 ที่มีการเปรียบเทียบ ถ้าไม่มีสภาวะ 2 เปรียบเทียบแล้วก็มีแต่ 1 คุณจะไม่รู้เรื่องอะไรคุณจะไม่ฉลาดขึ้น คุณจะไม่เข้าใจอะไรเลย เพราะฉะนั้นสภาวะที่จะไปศึกษาให้มันเกิดแต่เดี่ยวมันคือการทำตนให้โง่ โง่และโง่และโง่ ไม่มีการฉลาดขึ้นเลย ต้องมี 2 ขึ้นไปจึงจะมีการวิเคราะห์วิจัย แล้วผู้ที่ฉลาดจะต้องเปรียบเทียบทีละคู่ เปรียบเทียบคู่แล้วก็เป็นอันที่ 3 ก็จะทำงานสังขารเป็นcyclic order เสมอ เตวิชโช เหมือนกับการทำการค้าแล้วตรวจสอบบัญชีเราได้เสียอะไร ก็ต้องตรวจสิ่งที่กระทำไปแล้วว่าได้ผลหรือเสียผลอะไรมากอะไรน้อย อะไรควรจะเพิ่มอะไรควรจะลดอย่างไรคุณก็ต้องตรวจอย่างนั้น ถ้าไม่อย่างนั้นคุณจะไปก้าวหน้าอะไร 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 05 พฤษภาคม 2563 ( 11:39:34 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:48:20 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:28:13 )

เตวิชโชเพื่ออะไร

รายละเอียด

มันต้องมีผัสสะทั้งภายนอกภายในเป็นปัจจุบัน คนที่จะไประลึกไตร่ตรองทบทวนมันเป็นบุพเพนิวาสานุสติญาณจุตูปปาตญาณ ทบทวนว่าหมดอาสวะ คุณไม่ต้องทำอะไรแล้วคุณต้องมีสิ่งที่ได้ผ่านมาแล้วจึงเรียกว่าบุพเพนิวาสานุสติญาณในข้อ 1 ก็เป็นของเก่ามันผ่านมาแล้วบุพเพนิวาฯ คุณยังไม่ได้ผ่านมาคงจะทำเตวิชโชนั่งสมาธิหลับตาแล้วนึกทบทวนทำข้างในทำไมเล่า ถ้าคุณไม่เคยได้ปฏิบัติมาแล้วคุณจะเอาอะไรมาทบทวน ตรวจสอบความเป็นวิมุติของตัวเองจริงๆในนัยต่างๆ คุณปฏิบัติไปแล้วจะได้หรือไม่ได้ก็ไปแต่ต้องทุกวันคุณจะรู้ว่าเราปฏิบัติมาหรือยังไม่ได้ปฏิบัติ ปฏิบัติมาแล้วยังไม่ได้อะไรต่ออะไรอยู่ บางทีก็ได้บ้างยังไม่หมดทบทวนความจริงตามที่เราได้ปฏิบัติมา ถ้าคุณยังไม่ได้ปฏิบัติเลยคุณจะไปนั่งทบทวนไตร่ตรองอยู่ข้างในเป็นสัญญามันไม่มีอะไรไปทบทวนหรอกนอกจากจะฟุ้งซ่านไปเอง คุณก็ฟุ้งซ่านกับความจำ เรียกว่าอดีต 18 ฟุ้งซ่านกับอนาคตที่ฝันเพ้อใหม่เป็น 44 สัญญากำหนดรู้แล้วตามด้วยจิต แล้วก็เป็นทิฏฐิ เป็นทฤษฎีเป็นหลักการเป็นความเข้าใจ เกิดสัมมาทิฏฐิที่แล้วจากสมาธิก็เป็นผล 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 12:34:08 )

เตวิชโชแบบลืมตาขณะนั่งฟังธรรม

รายละเอียด

ถ้าปฏิบัติดีจริงๆ เลยไม่ต้องหลับตาเลย เตวิชโชก็ใช้แบบลืมตาได้ ขณะที่คุณนั่งฟังอาตมา คุณก็มีปฏิภาณ มุทุธาตุ เตวิชโช  ก็มีอยู่แล้ว คุณนั่งฟังอาตมา เตวิชโช มุทุธาตุ ของคุณก็ทำงานอยู่ตลอดเวลา มีผู้ที่บรรลุธรรมขณะฟังธรรมได้ เป็นพระอรหันต์ได้ เพราะว่า มุทุธาตุของคุณเร็ว มุทุธาตุของคุณสำคัญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เจโตปริยญาณ 16 และ
ปฏิจจสมุปบาทโดยพิสดาร วันพุธที่ 21 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 เมษายน 2564 ( 21:22:48 )

เตวิชโชไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตาทำ

รายละเอียด

ตอบอันท้ายเลยว่า เตวิชโช แท้จริง ไม่ต้องนั่งหลับตาเลยใช่หรือ …ได้ ใช่เลย เตวิชโช หมายความว่า เต แปลว่า 3 วิชโช คือ ความรู้ เป็นความรู้ของพระพุทธเจ้าที่เป็นวิชชา จะระลึก เต 3 ระลึกอะไร 

  1. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ (การย้อนระลึกถึงการเกิดกิเลสเก่าก่อน  มารู้อริยสัจจะจนหายโง่จากอวิชชา) 

  2. จุตูปปาตญาณ (รู้เห็นการเกิด-การดับของจิตที่ดับเชื้อกิเลส แล้วเกิดเป็นสัตว์เทวดา หรืออาริยะสัตว์) . 

  3. อาสวักขยญาณ (ญาณที่รู้การหมดสิ้นอาสวะของตน) 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 09:50:38 )

เตวิชโชไม่ใช่แค่ตรรกะแต่เข้าถึงเนื้อหาธรรมะอย่างไร

รายละเอียด

เรื่องของตรรกการระลึกสิ่งที่เป็นไปได้มาแล้วมันไม่ใช่แค่ตรรกะ แต่เป็น เตวิชโช เป็นของเก่าบุพเพนิวาสานุสติญาณ  จุตูปปาตญาณ  อาสวักขยญาณ แต่เขาไปคิดถึงเป็นตัวตนบุคคลเราเขาเป็นสัตว์บุคคลไป ไม่เข้าถึงเนื้อหาธรรมะ สิ่งที่เราเคยได้เคยมีเคยเป็นมาก่อนเราก็เอามารื้อฟื้น แต่เขาไม่เอาเนื้อหาสัจธรรม เขาเอาบุคคลตัวตนเราเขาไป มันก็เลยไม่เป็นธรรมะก็น่าสงสาร ไม่ว่าจะเป็นวิชชา 3 บุพเพนิวาสานุสติญาณก็เข้าใจเป็นตัวตนบุคคลเราเขา ไม่เข้าใจปัญหาสภาวะหรอก ระลึกเป็นมีเรื่องราวมีตัวบุคคลมีละครอะไรต่างๆนานาไปก็ค่อยๆอธิบายกันไป

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 12:17:14 )

เตสัง วูปสโม สุโข

รายละเอียด

ความสงบระงับจากการปรุงให้เป็นอารมณ์กามมาเสพสมแล้วเป็นสุข

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 253


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 08:05:22 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:38:07 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:25:19 )

เติมปัญญาในสายศรัทธาเติมศรัทธาในสายปัญญา

รายละเอียด

จึงต้องเติมปัญญาเข้าไปในสายศรัทธา สายปัญญาต้องเติมศรัทธาให้ได้สมดุลไม่เอียงไม่โต่ง นี่ก็เป็นเรื่องที่ต้องรู้ของตัวเอง บังคับกันไม่ได้ ทำแทนกันไม่ได้ ใครจะฉลาดแทนกันไม่ได้ แบ่งกันไม่ได้  ก็ต้องฝึกด้วยตัวเอง 

ที่มา ที่ไป

รายการบ้านราช เรื่องบุคคล 7 วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 11:17:25 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:43:46 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:24:59 )

เติมสิ่งที่บกพร่อง ซ่อมแซมสิ่งที่ชำรุด

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นการบูรณะสิ่งต่างๆ บูรณะคือเติมสิ่งที่บกพร่อง ซ่อมแซมสิ่งที่ชำรุดขึ้นเรื่อยๆ ให้มันเต็ม ให้มันสมบูรณ์ ให้มันบริบูรณ์ อยู่เรื่อยๆ เพราะทุกอย่างไม่เที่ยง มันมีความเสื่อมเป็นธรรมดา มีคนทำให้เสื่อมเป็นธรรมดาก็เพิ่มเติมไป 

เพราะฉะนั้นสุดท้ายจริงๆที่เราจะต้องทำงานคือต้องมาบูรณะสิ่งที่เสื่อมสิ่งที่คนทำเสื่อม กับมันเสื่อมโดยธรรมชาติ เราก็ต้องบูรณะไปเป็นที่สุด 

เพราะฉะนั้นเพลงบูรณภาพที่หลวงปู่แต่งเป็นเพลงสุดท้ายแล้ว เลิกแต่งเพลงแล้ว บูรณภาพเป็นตัวจุดสุดแล้ว เป็นผู้ที่มาซ่อมแซมมาทำให้เต็มทำให้สมบูรณ์ ทำให้เกิดการบูรณะให้บริบูรณ์ให้ได้อยู่ตลอด เพราะเรารู้ว่าสิ่งที่บกพร่องสิ่งที่ต้องซ่อมแซมโดยธรรมชาติหรือโดยมนุษย์นี้ทำให้มันเสื่อม ทำให้ฉิบหายลงไป เราก็จำเป็นที่จะต้องบูรณะ ซ่อมแซม ปรับปรุงให้มันสมบูรณ์ ให้มันบริบูรณ์ 

ก็เป็นกิจที่เราจะต้องคอยเสียสละ ต้องเป็นผู้มาเก็บส่วนที่มันเสื่อมที่มันเสียหาย โดยธรรมชาติเราก็สุดวิสัย โดยคนนี้แหละก็ต้องสอนคน บอกให้คนรู้ว่า เอ็งนั้นแหละมาทำให้มีความเสื่อม ธรรมชาติก็ทำความเสื่อมอยู่แล้วแต่เอ็งนี้มีกรรมกิริยากายวาจา ด้วยจิตโง่ๆมาทำให้เสื่อมอีกมันไม่ดีหรอก โดยปรมัตถสัจจะเป็นหนี้ ซึ่งในกรรมวิบากพวกนี้เป็น อจินไตย เทวนิยมเรียนรู้จบ
ด็อกเตอร์มาไม่รู้กี่ใบก็ไม่ได้เรียนรู้กรรมวิบาก 

ไม่ได้ดูการแก้ปัญหาให้จบให้เสร็จ เขาเรียนรู้ไม่จบไม่ว่าจะเป็นรัฐกิจ สังคมกิจเขาไม่มีจุดจบ ตัดสินว่าจบแล้วอย่างไรแค่ไหน ไม่มี และไม่มีวิธีการรายละเอียดจะทำอย่างไรให้มันจบกิจได้ 

คุณจะอธิบายกับโลกในด้านเศรษฐกิจก็ตาม หลวงปู่นี้พาพวกเราทำได้ เศรษฐกิจในสิ่งที่มีอย่างพอเหมาะจำกัดหรือมีเท่านี้แบ่งกันกินแบ่งกันใช้กัน ชาวอโศกมีแบ่งกินแบ่งใช้ สร้างขึ้นมาเองไม่ได้ไปเป็นภาระ ไม่ได้ไปแย่งชิงมาจากใคร เป็นน้ำพักน้ำแรงของเรา เหลือกินเหลือใช้ แจกก็ได้ เราก็มาเป็นเจ้าหนี้นี่แหละคือเจ้าโลกเป็นเจ้าหนี้ ขออภัยเราไม่เป็นลูกหนี้แต่เราเป็นเจ้าหนี้ด้วย เพราะเราไม่ได้ไปเอาของใครมีแต่เราได้ให้ ได้เสียสละ ชีวิตสุดยอดแล้ว 

คนที่ไม่ได้เป็นลูกหนี้ เป็นแต่เจ้าหนี้ คนขี้โลภ คนที่กอบโกยเอาของคนอื่นด้วยวิธีการได้เปรียบใดๆมาแล้วกอบโกยเอาสิ่งที่เป็นทุนของเราไปหาทางออกดอกออกผลทำให้มันเกิดความโลภขึ้นไปอีก คนพวกนี้เป็นหนี้ไม่จบ เป็นหนี้ข้ามชาติ น่าสงสารไม่จบกิจในการเป็นหนี้ไม่จบกิจในการหมดความโลภความเห็นแก่ตัว 

เห็นแก่ได้ เขาจะทุกข์ทรมานไม่รู้หยุดไม่รู้จบ แต่พวกเรารู้ยุติรู้จบรู้สงบรู้สบายชีวิตเกิดมา ตัวเองเราก็เป็นแล้วเราก็สงบได้ ไม่มีแย่งชิงสร้างสรร กินอยู่ตามสภาพนั้นของคน มีอยู่มีกินสร้างสรรเกินอยู่เกินกิน มีเหลือก็เผื่อแผ่กัน ยังเหลือแจกอื่นๆ เขาได้อีก 

อธิบายไป วนแล้ววนเล่า มันไม่มีที่จะอธิบายต่อไปอีกแล้ว เพราะพวกเรามีจุดจบ จบกิจสมบูรณ์ไม่ว่าจะทางเศรษฐศาสตร์หรือรัฐศาสตร์ การดูแลเลี้ยงดูบริหารกัน การสร้างอยู่สร้างกินกันก็สบาย การมีชีวิตอยู่เกิดแก่เจ็บตายก็อยู่กันไปได้ สุดท้ายที่สุดชีวิตก็ไม่มี เสร็จแล้วก็สลายไปเลย เป็นขี้เถ้าขาวๆ เลย มีดำๆ บ้าง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูให้โอวาท พิธีรับกลด ปี 2566 รุ่นใจเกื้อกูล เพิ่มพูนเสียสละ วันอังคารที่ 11 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 15:26:32 )

เตือนกันไว้ถึงจะ“สัมมาทิฏฐิ”แล้วก็ยังมีโอกาส “หลงทาง” เสมออย่าประมาท!

รายละเอียด

การปฏิบัติธรรมนั้นแม้จะ“สัมมาทิฏฐิ”ในเบื้องต้นแล้ว ในการปฏิบัติไปตามลำดับ ยังสามารถ“หลงทาง”หรือ“หลงติด”ในระหว่างทางก็ได้ แต่ละช่วงตอนของการปฏิบัติที่ยังไม่บรรลุอรหันต์จบกิจ 

ผู้ที่เรียนรู้และสามารถปฏิบัติได้อย่างราบเรียบ ไม่สะดุดเลยได้เยี่ยมยิ่งเท่าใดๆ ก็เป็นความน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งเท่านั้นๆ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน“ปหาราทสูตร”(พระไตรปิฎก เล่ม 23 ข้อ 109)

ดังนั้น “การหลงเสพติด“ในอารมณ์ต่างๆ ถึง 62 ทิฏฐินี้ จึงครบถ้วนสิ้นแล้วในเรื่องของ“อารมณ์,ความรู้สึก”หรือ“เวทนา”ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ครบแล้ว และตรัสไว้ให้คนเรียนรู้กัน แล้วปฏิบัติให้“หลุดพ้น”จาก“เวทนา”หรือ“ความรู้สึก”ทั้งหมดนั้นมาให้ได้

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 297 หน้า 228


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 14:35:20 )

เตือนชาวอโศกให้สรุปเข้าเป็นเรื่องๆ อย่ามัวหลงปัญญา

รายละเอียด

คุณก็จะมีแต่ดี แต่มีปฏิภาณหรือว่ายังไม่จบ ดีกว่านี้ก็ยังมีอีก ยังๆไม่จบคุณจะรู้ อันนี้แหละอาตมาเตือนชาวอโศก เพราะมันรู้มาก สรุปเข้าเป็นเรื่องๆไปบ้าง อาตมาก็ไม่รู้จะอธิบายเป็นภาษาอย่างไรบอกอีกที พวกเราสรุปได้จะเป็นพระอรหันต์ อาตมาเห็นอยู่หลายคนว่าจะเป็นอรหันต์แล้วนี่ มันก็เฟอะๆ ฟะๆ มันรู้มากไป ส่วนคนที่เป็นเจโตมาได้ความรู้ปัญญาก็หลงไปกับความรู้ ส่วนปัญญาตัวเองมีเก่าก็หลงไปกับปัญญา ตัวเจโตศรัทธามาได้ปัญญาก็หลงปัญญานั่นแหละเลยมีแต่หลงกับหลง เลิกเสียทีสิเจ้าหลง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 07:58:37 )

เตือนพวกนั่งหลับตายกตัวอย่างดาบสทั้ง 2

รายละเอียด

เลิกซะเถิด นั่งหลับตา อาตมาเตือนด้วยความปรารถนาดี ไม่อยากให้ไปเสียเวลาจมอยู่กับแบบ อาฬารดาบส อุทกดาบส จนกระทั่งพระพุทธเจ้าต้องมาอุทานว่า ชิบหายแล้วหนอ พระพุทธเจ้าทุกองค์ จะมีแบบ อาฬารดาบส อุทกดาบส ในพระพุทธเจ้าองค์ไหนก็แล้วแต่ เสร็จแล้ว พระพุทธเจ้าเกิดมา เขาก็ตายก่อน อาฬารดาบส ก็ตายก่อน อุทกดาบส ก็ตายก่อน แล้วก็ไปสู่นรกจกเปรตที่ไกลแสนไกล แล้วพระพุทธเจ้าก็เกิดมาไม่ทันสักที มันจะช่วยได้อย่างไร มันไปไกลเอามากๆเลยนะ ฟังแล้วน่าหวาดเสียวไหม ถ้าคุณไปนั่งหลง ฌาน 7 ฌาน 8 กันอยู่อย่างนี้ ถ้าไม่ตื่นรู้ตัว คุณก็จะไปแบบ อาฬารดาบส อุทกดาบส พระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้ แล้วมันจะวนเวียนอีกนานแค่ไหนในวัฏสงสาร 

ช่วยไม่ได้ จนกว่าคุณจะเข็ด คนนี้ มันเข็ดจริงๆ จนกระทั่งรู้ว่า โอ้โห เรานี้แสวงหา แต่ทำไมโง่นานเหลือเกิน ไม่รู้กี่กัปต่อกี่กัป มันน่าสงสารไหม สงสารเพราะคุณจมอยู่ในวัฏสงสาร มันไม่รู้กี่ล้านๆๆๆ ปี น่ากลัวนะ ไม่เชื่อก็หลับตาต่อไป สาปส่งเสียเลย มันไม่มีทางจริงๆ ถ้าไม่ฟื้นมาฟังที่อาตมาพูดนี้เสีย กลับตัวเสีย ไม่ไปติดหลับตาอีกต่อไป คุณมีโอกาส ไม่ต้องไปเป็นอย่าง อาฬารดาบส อุทกดาบส 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ชาติ 4-5-10 วันพุธที่ 17 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 กันยายน 2565 ( 21:12:29 )

เตือนสติผู้ที่ไปหลงใหลเข้าใจผิดเลิกงมงายมันน่าสงสาร

รายละเอียด

ก็ความรู้ว่าเป็นสิ่งเสพติด แค่นี้ไม่รู้แล้วจะไปมีมรรคมีผลอะไร ที่อาตมาพูดซ้ำซากยกตัวอย่างก็เพราะว่ามันผิดอย่างมันไม่รู้จริงๆ ในภาษาไทยก็แปลว่าโง่  มันโง่หนักโง่หนา มันไม่รู้จริงๆ มันโง่ ไม่รู้จะพูดอย่างไร อาตมาก็ต้องพูดเตือนสติคนที่ไปหลงใหลไปเข้าใจผิด ไม่อยากจะให้งมงายผิดกันต่อไปเพราะมันน่าสงสาร ที่พูดคำว่าสงสารนี่พูดออกมาจากใจจริง อาตมาเห็นใจคนที่ปรารถนาดีอยากได้นิพพาน อาตมาก็นำนิพพานมาเสนอ ซึ่งต่างกันกับของมหาบัวคนละโลก อันนั้นมันเป็นเดียรถีย์ มันไม่มีนิพพานหรอกเป็นมิจฉานิพพาน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของพระธรรมวินัยข้อที่ 1 กับข้อที่ 8 วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2564 ( 04:52:43 )

เตือนสติพวกสายหลับตา

รายละเอียด

ก็พูดย้ำซ้ำ เตือนสติ ให้เอาไปพิจารณาคิด ให้เอาไปวิจัยให้ดีๆพวกที่นั่งหลับตา มันไม่ใช่เพิ่งเป็น มันมีมาประจำโลก มันมีอยู่ประจำโลก เพราะฉะนั้นผู้ใดอยู่ประจำโลกก็ประจำไป คุณสมัครใจจะอยู่เป็นเทวนิยม จะอยู่ประจำโลก จะเป็นสายอัตตาก็ว่าไป การเจริญก็เจริญได้เจริญสายอัตตาได้เป็นศาสดาองค์ใดองค์หนึ่งของเทวนิยม สร้างศาสนาเทวนิยมศาสนาโลกีย์เสร็จแล้วก็วน ตัวเองนั่นแหละไม่มีหายไม่มีศูนย์เที่ยงแท้ก็วนลงต่ำ มีนรก มีสวรรค์ไปตามเรื่องตามราว แล้วแต่ว่าตัวเองจะเข้าใจในวิบาก เข้าใจในกรรม แล้วระมัดระวังกรรมของตัวเองจริงๆ อย่าซับซ้อนให้ตัวเอง ซับซ้อนให้ตัวเองโง่ คือไปหลอกคนอื่นตัวเองไม่ดีแต่หลอกให้คนอื่นเห็นว่าดี บังพรางไม่ให้คนอื่นเห็น มันก็เป็นกรรมทั้งนั้นแล้วเป็นกรรมที่มีราคาแพงด้วยหลอกคนอื่น โดยที่ตัวเองก็รู้ว่าหลอก ทำผิด โกหกโดยที่รู้ว่าตัวเองทำผิดพระพุทธเจ้าตรัสว่าคนนี้ไม่มีความชั่วใดๆ ที่เขาทำไม่ได้ เลวร้ายถึงขนาดนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ปฏิบัติศีลให้ถึงอรหัตตผลโดยลำดับ วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 13:42:27 )

เตือนสติอย่างไรเมื่อรู้ว่าตนกำลังจะตาย

รายละเอียด

ตอนที่เป็นอยู่ยังไม่ถึงเวลาตายหรือตอนจะตายก็เหมือนกัน ต้องรู้เท่าทันสิ่งที่มาสัมผัสกับตัวเรา อะไรมาสัมผัสกับตัวเราก็ต้องเป็นผู้ที่ตื่นรู้ สิ่งที่มาสัมผัสกับตัวเราเสร็จแล้วก็ก่อให้เกิดกิเลสราคะโทสะหรือโมหะคือสิ่งสับสนไม่รู้ แต่เอาที่กำหนดรู้ว่านี่เป็นโทสะหรือราคะ เราก็มีสติเมื่อรู้สิ่งนี้แล้วก็มีปัญญามีความรู้ว่า เราจะลดกิเลสอย่างไร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(การตาย) ตอน เตือนสติอย่างไรเมื่อรู้ว่าตนกำลังจะตาย


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:31:08 )

เตือนสายนั่งหลับตาเป็นโจรใหญ่ที่ฆ่าไม่ตาย

รายละเอียด

สายศรัทธาไม่ชัดเจนเพราะไม่มาเรียนรู้ภายนอกมันจะช้านาน เหมือนอย่างที่อาตมาเตือนพวกนั่งหลับตาสมาธิ ไม่เอาอ่าวรูปธรรม ไม่เอาอ่าวเรื่องลดกาม คือเป็นจริตของเขา มันไม่ชอบ ก็จม มันสบายดี นั่งจมไม่ยุ่งกับใครมันก็ยิ่งเสียเวลายิ่งช้า ผู้ใดชัดเจนอย่างอาตมาเรียนสายปัญญาอธิบายได้ชัดและครบจึงได้เตือนไป เมื่อยแสนเมื่อยเลย เขาเป็นโจรใหญ่ที่ฆ่าด้วยหอกร้อยเล่มเช้ากลางวันเย็น ก็ยังไม่ตาย ฆ่าไม่ตายคือ ไม่สามารถปรินิพพานได้ มันโง่ ที่จริงเขาจะเป็นอมตะบุคคลเป็นผู้ตายหรือยังไม่ตายได้ แต่นี่มันยังไม่เป็นเพราะมันยังไม่มีวิมุตสมบูรณ์แบบ ได้แต่สัทธาวิมุตเท่านั้น อาสวะบางอย่างหมดไปได้แต่ไม่หมดสิ้น มาเป็นอมตะบุคคลไม่ได้ตามมูลสูตร 10 

ที่มา ที่ไป

รายการบ้านราช เรื่องบุคคล 7 วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 11:21:58 )

เตือนอธิบายเหตุผลความผิดที่คนเข้าใจกัน

รายละเอียด

อย่างมหาบัวมีมานะ อติมานะ มาก ทำดีหาเงินทองเข้ากองคลังได้เยอะมากอย่างไม่มีใครเท่าเทียม แล้วก็หลงยึดความดีเป็นอติมานะยิ่งใหญ่มากผยองอีก เพราะฉะนั้น 2 ตัวนี้เข้าไปเต็มที่ อุปกิเลสทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนกระทั่งตัวนี้เลยครบเลย เสร็จแล้วก็เป็นผู้ที่มี มทะ เมาในมานะของตนเอง อติมานะของตนเอง จึงอยู่ด้วยความประมาท ทำความประมาทหลอก จริงๆโง่อวิชชานึกว่าตนเป็นอรหันต์ก็เลยหลอกคนว่าเป็นอรหันต์ แล้วตนเองก็หลงเชื่อ ตนเองเป็นคนในนรก แล้วก็บอกว่ามาลงนรกด้วยกันโดยหลงว่าเป็นสวรรค์ ก็เป็นเรื่องน่าสลดใจ ขออภัยอาตมาไม่ได้มาว่ามหาบัวอย่างผิดๆ มาถล่มทลายมหาบัว แต่ได้ออกมาเปิดเผยให้ลูกศิษย์มหาบัวเข้าใจ ต้องรู้จักประเด็นที่อาตมาทำ อาตมาอธิบายในประเด็นที่หมายถึงความชั่วไม่ได้ทำชั่วอย่างที่คุณคิด ไปข่มไปด่าไปว่า ไม่ใช่ อาตมาอธิบายเหตุผลความผิดที่คนเชื่อกัน เอามาเตือน เอามาให้ขยายความบอกอธิบายทุกอย่าง อ้างเหตุผลหลักฐานต่างๆนานา เอาธรรมะมายืนยันประกอบเพื่อให้รู้ว่ามันผิด ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็ไม่รู้ตัวไม่มีใครจะมาพูด แล้วก็มาห้ามอาตมาที่เป็นผู้ถูกต้องและคุณจะเป็นอย่างไร คุณก็จมไปในถ้ำจมลงสู่ความหลงหยั่งลงสู่ความหลง ก็ปิดบังไว้ ก็แล้วใครจะมาช่วย 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 11:06:07 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:44:51 )

เตโช (ไฟ)

รายละเอียด

ความร้อน ความอุ่น ความเย็น หรือสิ่งที่ให้อุณหภูมิทั้งหลายมีฤทธิ์ สามารถแปรเปลี่ยนสภาพสสารอื่น ๆ ได้ดีกว่าธาตุอื่น

ที่มา ที่ไป

คนคืออะไร? หน้า 23


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 08:01:48 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:38:40 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:23:46 )

เตโชธาตุ

รายละเอียด

ไฟ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 5 , ทางเอก ภาค 2 หน้า 48


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 08:02:57 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:39:32 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:23:16 )

เต็มใจจน

รายละเอียด

คือ คนจน ไม่มั่งมีด้วยทรัพย์ส่วนตัวแล้ว ทำงานให้แก่สังคม “ส่วนกลาง” ทั้งหมด เมื่อมี “ส่วนกลาง” ตนก็สบายใจ กินใช้ อาศัยของส่วนกลางเป็นหลักประกัน “ส่วนตัว” ทุกคนก็มีชีวิตเป็น “คนจน” ตลอดกาล

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 53


เวลาบันทึก 08 พฤศจิกายน 2562 ( 14:52:26 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:21:58 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:22:29 )

เต็มใจทำงานทางธรรมไม่แย่งอำนาจโลกีย์หรือทางธรรม

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในเรื่องรัฐทั้งหลายแหล่ ที่อาตมาหยิบเอามายืนยันเอามาพูด ใช้ศึกษาเถอะแล้วจะรู้ความซับซ้อนอีกเยอะมากในมนุษยชาติ อาตมาเองอาตมาไม่ยุ่งเกี่ยวจะไปแย่งอำนาจโลกีย์ หรือแม้แต่อำนาจทางธรรมก็ไม่แย่ง แต่อาตมาเต็มใจทำงานทางธรรม โลกีย์นั้นตัดทิ้งเลย ไม่แย่งไม่อะไรทั้งนั้น ไม่ไปออกฤทธิ์ออกแรงอะไรทั้งนั้น มีตามบารมี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 19:03:43 )

เต็มใจที่จะทำงานนี้อย่างสุดชีวิตสุดหัวใจสุดจิตวิญญาณจริงๆ

รายละเอียด

อาตมา เต็มใจ ที่จะทำงานนี้อย่างสุดชีวิตสุดหัวใจสุดจิตวิญญาณจริงๆ เป็นแต่เพียงว่าสังขารเราเท่านั้นเองที่จะฝืนได้ อาตมาฝืนนะ พยายามทำแต่ฝืน ก็สำเร็จก็ได้ความรู้ ที่สามารถที่จะอยู่เหนืออำนาจความตาย อยู่เหนือเหตุปัจจัยที่มันสมควรตาย แต่เราก็ยังไม่ตาย หรอก….มาร! เรายังไม่ตาย….มาร เพราะเรายังมีงานที่สำคัญที่จะต้องทำแก่โลกนี้อีกอย่างนั้นจริงๆ มารก็มาไม่หนักหนาเท่าไหร่ ไอ แต่ไม่เจ็บคอ ไม่ทุกข์ทรมานอะไร แต่มันก็น่ารำคาญ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทเริ่มอธิบายที่ชาติ 5 วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 13:22:00 )

เถรวาท

รายละเอียด

คือลักษณะของธรรมะ เป็นลักษณะธรรมที่เป็นแกนของประเทศไทยมานาน สังคมไทยจึงเชื่อถือและเข้าใจตามลักษณะธรรมของเถรวาท เถรวาทก็จมไปด้วยเทวนิยม กลายเป้นสายที่อยู่ในเรื่องลึกในเรื่องไสยศาสตร์ เดรัจฉานวิชา ในเรื่องของความลึกลับงมงาย สายเจโต เถรวาท ซื่อๆ ทึมๆ อึด ตีไม่ค่อยแตก แต่เล่ห์ไม่มาก เพราะไม่มีปัญญา เถรวาท มีพระไตรปิฎก ดีตรงที่ว่า เก็บเอาหลักฐานเนื้อหาแท้จริงตั้งเดิมไว้ได้ครบครันมีแปลกปลอมน้อย

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า.94 และ หน้า.95


เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 14:40:14 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:21:27 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:29:38 )

เถรวาท

รายละเอียด

คือคำสอนของพระเถระ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2563 ( 11:38:30 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:45:43 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:28:19 )

เถรวาทที่อวิชชาถาวร

รายละเอียด

เถรวาทหรือว่าพวกที่อวิชชากันถาวร เขาไม่รู้กันหรอก เขาไม่รู้ว่าคุณจะต้องมี ธาตุ ที่รู้ที่เป็นโพธิ ธาตุ ที่ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าสอนรู้ ตามพระพุทธเจ้าตรัส เป็นโลกุตรธรรม ก็คือเข้าไปรู้ตัวอาการของจิต แล้วแยกจิตกับกิเลสออกได้ แล้วก็มีวิธีไปสร้างพลังงานเป็นปัญญา 

พอสร้างพลังงานจิตตัวเองที่เป็นปัญญาได้ ว่าเจ้ากิเลสที่อยู่ในจิตเรามาเจอปัญญาแล้วมันถอย มันมีอำนาจมีฤทธิ์อย่างนั้น เรียกภาษาว่า กำจัดหรือฆ่า มันก็เป็นกิริยาหรือคำพูดให้ชัดเจน แค่มันรายละเอียดเป็นรายละเอียดพลังงานกิเลสเจอพลังงานปัญญา สลายตัวเองไปในตัวเลย นี่ใช้ภาษาขยายความพลังงานพวกนี้ด้วยสภาพธรรมพวกนี้ให้ฟังได้แค่นี้ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าทำได้จริง เพราะฉะนั้นปัญญา 8 ที่อาตมาพยายามขยายความ ถึงเป็นยอดหัวใจที่จะต้องทำความเข้าใจ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 จรณะ 15 พัฒนาปัญญา 8 ประการ วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 พฤษภาคม 2565 ( 15:21:00 )

เถรวาทหมายความว่าเช่นไร

รายละเอียด

“เถรวาท” หมายความว่า เป็นคำพูดของพระเถระรุ่นเดียวกันกับพระพุทธเจ้า พระสารีบุตรพระกัจจายนะ พระอานนท์ นั่นแหละเป็นคำพูดของพระเถระในรุ่นที่เกิดในยุคเดียวกันกับพระพุทธเจ้าบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกเป็นต้น ในพระไตรปิฎกเองที่รวบรวมเอาไว้แล้ว เป็นเถรวาทะ เป็นคำตรัสของพระพุทธเจ้ากับพระเถระต่างๆ ดูเหมือนจะมีของพระอานนท์มากที่สุด ของพระสารีบุตร ท่านจำของพระพุทธเจ้าท่านก็จำไว้ ท่านก็เป็นผู้ที่มาร่วมสังคายนารุ่นพระมหากัสสปะถือว่าสมบูรณ์ที่สุดแม้จะไม่ครบก็ตาม 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม ร้อยมาลัยพระอภิธรรมตามแบบพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2564 ( 21:46:28 )

เถรวาทะ คือ

รายละเอียด

คำว่า เถรวาทะ คือ มันเป็นเฉพาะวาทะของพระเถระที่เกิดร่วมยุคกับพระพุทธเจ้าเท่านั้น เป็นพระเถระหรือพระเถรี ผู้หญิง ผู้ชาย เพราะฉะนั้น ผู้ที่ไม่ได้เกิดร่วมในยุคพระพุทธเจ้าจึงไม่ได้เป็นพระเถระเถรี คำสอนของผู้ที่ไม่ได้เกิดในร่วมยุคพระพุทธเจ้าจึงเรียกว่า อาจาริยวาท เป็นแค่ขั้นอาจารย์หรือ อรรถกถา ไม่ใช่ขั้นเถรวาททีเดียว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การถืออยู่ป่าของพระป่าเป็นสิ่งผิดตามธุดงควรรคที่ 6 วันพุธที่ 5 กรกฎาคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 สิงหาคม 2566 ( 19:37:35 )

เถรวาทเป็นคำบันทึกของพระเถระที่อยู่ในรุ่นเดียวกับยุคของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

เป็นของอรรถกถาจารย์ ต่างจากเถรวาท ซึ่งเถรวาทที่บันทึกมา เป็นคำของพระเถระที่อยู่ในรุ่นเดียวกันยุคเดียวกันของพระพุทธเจ้า เช่นพระมหากัสสปะพระอานนท์พระสารีบุตรพระโมคคัลลานะพระมหากัจจายนะอย่างนี้เป็นต้น หรือพระธัมมทินนา หรือใครต่อใครในยุคนั้น ในยุคเกิดร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้า เอาคำของพระเถระเถรีไม่ใช่คำของพระพุทธเจ้า เหล่านี้ในยุคพระพุทธเจ้าบันทึกให้เราอ่านนั่นแหละเรียกว่าเถรวาท หลังจากนั้นคำสอนเรียกว่าอาจาริยวาททั้งนั้น เพราะฉะนั้นในอรรถกถาจารย์ทั้งหลายแหล่ ส่วนใหญ่เลย แทบทั้งหมดเลยเป็นอาจาริยวาท ถ้าอยากได้ของเถรวาทจริงๆก็จะมีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎก 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2563 ( 12:54:28 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:48:44 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:31:04 )

เถรวาทเรื่องโพธิสัตว์เขาไม่รู้เรื่อง

รายละเอียด

มันเป็นความจริง เป็นความจริงที่อาตมาเป็นอย่างนั้น หลวงปู่ฝึกฝนตัวเองมาจนกระทั่งมาในยุคนี้ก็บอกเปิดเผยตัวเองว่าเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ซึ่งก็ทำได้มาแล้ว 

โพธิสัตว์ระดับ 7 นี้เลยพระอรหันต์มาแล้วถึง 3 ชั้น อรหันต์เป็นโพธิสัตว์ระดับ 4 เลยจากพระอรหันต์ระดับ 4 มาอีก 3 เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7  

ความรู้พวกนี้หลวงปู่เป็นคนนำมาเปิดเผยในยุคนี้ คนไม่รู้เรื่อง อย่างชาวพุทธของไทยมันเป็นเถรวาท เรื่องโพธิสัตว์เขายิ่งไม่รู้เรื่องใหญ่เลย เขาก็หาว่าพูดไปเขาไม่รู้เรื่อง เขาเรียนกันมาสูงๆ เขาก็ไม่รู้เรื่อง เขาก็เลยไม่สนใจกัน ก็ไม่เป็นไร คนที่ไม่ติดยึดไม่มีอคติ สนใจ ก็ได้ประโยชน์ อย่างพวกเราก็ได้ประโยชน์ เกิดมาในยุคนี้ก็ได้ประโยชน์จากศาสนาพุทธ จากธรรมะ นอกนั้นเขาก็ไปเป็นเรื่อง ลาภ ยศ โลกีย์ ก็ไปสะสมลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่มันลึกซึ้งมาก สุขมันไม่รู้เรื่อง เสพสุขด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ เนียนขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งสรรเสริญยิ่งเนียน หลงสรรเสริญไม่รู้เรื่อง ติดสรรเสริญ หรือแม้แต่สุขในสุข ในโลกียสุขที่ละเอียดลึกไม่รู้ได้กันง่ายๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่นกับลูกๆ หลานๆ งานมหาปวารณา มหาบิ๊กคลีนนิ่ง วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2565 ( 20:55:08 )

เถรวาทไม่รู้โพธิสัตว์และปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง

รายละเอียด

คำว่า โพธิสัตว์ พระพุทธเจ้าตรัสว่าเมื่อเรายังเป็นโพธิสัตว์อยู่ ยังไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เราก็ถือว่ายังเป็นผู้ไม่ตรัสรู้ เขาก็ถือว่าโพธิสัตว์นี้ก็คือคนยังไม่บรรลุอรหันต์ ยังไม่ได้เป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มันก็ตรัสไว้ไม่ผิด พระโพธิสัตว์อย่างไรสูงขนาดไหน เถรวาทเขาไม่เข้าใจเขาไม่ค่อยรู้ลำดับของโพธิสัตว์ อาตมาในชาตินี้ต้องมาพูดให้เถรวาทเข้าใจ โพธิสัตว์ 9 ระดับ บรรลุเป็นพระพุทธเจ้าเลย ลำดับที่ 9 ส่วนลำดับที่ 8 ก็สูงสุดเป็นมหาโพธิสัตว์ กว่าจะเป็นลำดับ 9 แม้ที่สุดอธิบายไปหมดแล้ว บรรลุเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธะเป็น สยัสภู เท่ากับพระพุทธเจ้า แต่ท่านไม่ได้ประกาศศาสนาเป็นของตัวเอง จึงได้ชื่อว่าปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้แต่สัมมาสัมโพธิญาณของท่าน แต่พวกเถรวาทไปเข้าใจว่าปัจเจกนั้นสอนคนไม่ได้ ซึ่งจริงแล้วแม้แต่พระโสดาบันโพธิสัตว์ก็สอนคนแล้วผ่านมา กว่าจะมาเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สอนคนมาตั้งเท่าไหร่แล้ว เหน็ดเหนื่อยมากมายจนพระโพธิสัตว์พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละองค์ที่ท่านไม่คิดจะสร้างศาสนาเป็นของตัวเองสัก 1 ศาสนาขึ้นทำเนียบไว้ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งในโลกให้โลกรับรู้ ทั้งๆที่ท่านเองก็มีคุณธรรมเท่าเทียมมีสัมมาสัมโพธิญาณเท่าเทียมกันกับพระพุทธเจ้า แต่ท่านไม่ประกาศศาสนาก็ไม่มีใครรู้ว่าท่านบรรลุ สยัมภู แต่ท่านก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานหายไปเลย คำว่าพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก็มีความหมาย องค์ใดองค์หนึ่งในทำเนียบ การที่ท่านไม่ประกาศตนเองเป็นพุทธเจ้าก็ไม่มีใครรู้จักท่านว่าเป็นพระพุทธเจ้า ท่านเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วท่านก็ไม่ได้แคร์อะไร ใครจะนับท่านเข้าทำเนียบหรือไม่นับท่านก็ไม่ติดใจอะไร ท่านไม่อยากจะประกาศให้คนได้รู้จะด้วยเหตุปัจจัยอะไรก็ตามใจ อย่างนี้ก็เป็นเรื่องอจินไตย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 11:14:35 )

เถรสมาคม จมอยู่กับอาบัติที่ไม่รู้จักอาบัติ

รายละเอียด

สัทธรรม 7 มีความเชื่อ มีความเห็น ศรัทธาที่มีปัญญา ปัญญาเข้าใจว่าสิ่งนี้ควรละอาย เถรสมาคม ไม่ละอายที่ตัวเองเต็มไปด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข เต็มไปด้วยสิ่งที่เสพ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เต็มไปด้วยเดรัจฉานวิชา เต็มไปด้วยสิ่งที่อาบัติอยู่ 

เถรสมาคมไม่รู้ จมอยู่กับอาบัติที่ไม่รู้จักอาบัติ แม้แต่อาบัติปาจิตตีย์จนไปถึงอาบัติปาราชิก เขารู้กันว่าปาราชิก หลายคนช่วยกันปิดบังด้วยซ้ำไป เพราะต่างคนต่างปาราชิก 

ปาราชิกข้อที่เป็นกันมากคือ เรื่องเงิน บกพร่องเอาจริงๆ ละเอียดเข้าเรื่องเงินนี้ปาราชิกกันเกือบหมดแหละ จะเรียกว่าหมดก็แทบจะได้นะ ยกเว้นพระที่เด็ดเดี่ยวจริงๆ ไม่เล่นกับเงินเลย ก็ไม่ปาราชิก ไม่มีนิสสัคคิยปาจิตตีย์ อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 19:17:04 )

เถรสมาคม เจริญด้วยดอกใบผล

รายละเอียด

เขาเชื่ออย่างที่เขายึด แล้วเขาก็เสวยผลอย่างที่เขายึดถือนั้น ไพศาลด้วยลาภยศสรรเสริญ ว่าเป็นปราชญ์ ไพศาลด้วยสุข ก็เสพสุขโลกีย์ตลอดกาลนาน เป็นดอก เป็นใบพืชผลของต้นไม้ ไม่รู้แม้กระทั่งกระพี้ สะเก็ด ไม่รู้แม้แต่สะเก็ดคือศีล 

สะเก็ดคือศีล เปลือกคือสมาธิ กระพี้คือปัญญา แก่นคือวิมุติ พระพุทธเจ้าก็สอนไว้ เขาก็อยากได้แก่นอยากได้วิมุติ ก็พยายามไปแสวงหาแก่นแต่เขาก็ได้แค่ดอกใบผลอย่างนั้น เต็มเถรสมาคม เกิดจนตาย ก็เห็นอยู่ชัดเจน เถรสมาคม เจริญด้วยดอกใบผล แล้วเขาก็มาสอนคนว่า นี่แก่นเป็นอย่างนี้ กระพี้เป็นอย่างนี้ เปลือกเป็นอย่างนี้ สะเก็ดเป็นอย่างนี้ เขาสอนนะ เอาพยัญชนะ เหมือนอัมพัฏฐมานพ สอน ท่องจำได้มาก เก่งพระเวท เก่งความรู้พระพุทธเจ้าท่องจำ เอาไปสอบให้เขารับรองได้เป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นผู้รู้ต่างๆ และได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สุขอยู่ นั่นเป็นฝ่ายเถรสมาคม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน โจรปล้นศาสนาที่ฆ่าด้วยหอกหลายร้อยเล่มก็ยังไม่ตาย


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 11:24:07 )

เถรสมาคมทั้งพระป่าพระบ้านต่างก็อยู่กับ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข

รายละเอียด

เถรสมาคมไม่ว่าจะเป็นพระป่า พระบ้านก็ตาม อยู่กับลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข ลาภไม่เป็นลาภโจ่งแจ้ง ประเภทเป็นวัตถุ เป็นธนบัตร เป็นทองคำเป็นเพชรนิลจินดาอะไรต่ออะไร มันก็มีวัตถุ ซ้อนๆ อยู่ในนั้นทั้งนั้นแหละ เป็นแต่เพียงว่าเป็นความฉลาดสลับซับซ้อน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 34 ปัญญา สมาธิและสันติภาพแบบพ่อครู วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 กรกฎาคม 2565 ( 08:29:33 )

เถรสมาคมทำบาปไว้ธรรมะพระพุทธเจ้าโลกุตระธรรมไม่กระจายไป

รายละเอียด

ซึ่งอาตมาว่าลักษณะนี้ ถ้าไม่มีเถรสมาคมที่คุมพลังวัฒนธรรมครอบไว้นี่นะ รับรองว่า ลักษณะของชุมชนชาวอโศก ในประเทศไทยจะออกไปอีกเยอะเลย เพราะฉะนั้น เถรสมาคมทำบาปไว้ทำให้ธรรมะพระพุทธเจ้าโลกุตรธรรมไม่กระจายไป นี่ไม่ได้ใส่ความเถรสมาคม แต่ก็เข้าใจผิดก็น่าสงสารเขามีอวิชชาไม่รู้ แต่ว่าหลายองค์ที่เป็นสมณะเป็นพระก็เข้าใจแล้ว ไม่มีคนจะมาต่อต้านประท้วงอะไรแล้ว หรือ เขาอาจจะมองว่าปล่อยมันเถอะ แก่แล้วอายุ 86 เข้าไปแล้วจะอยู่อีกไม่กี่ปีก็ตาย อย่าไปรังควานคนแก่อย่างนั้นก็ได้นะ อย่านึกว่าอาตมาแก่นะ ใครจะตายก่อนใครคนที่ว่าอาตมาแก่ ดูดีๆ จริงๆแล้วอาตมาไม่ใช่พูดเล่น พูดจริง อาตมาอายุขัยไม่ใช่ถึงขนาดนี้ ใครจะเห็นด้วยเห็นด้วยเห็นตามหรือไม่ก็แล้วแต่ อาตมาอายุ 72 ปีก็จะไปแล้ว แต่เห็นว่ามันก็ยังไม่ได้ก็เลยต่ออายุขัย พากเพียรต่ออายุได้จนถึงอายุ 86 ปี

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 15 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2563 ( 11:18:54 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:49:22 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:29:07 )

เถรสมาคมบัญญัติในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ

รายละเอียด

อย่างเรา อาตมามาทำงานศาสนา ก็พยายามจะทำตามพระวินัย แต่เขาก็มีข้อหาว่า ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งก็ผิดกฏ ซึ่งขัดกับหลักวินัยพระพุทธเจ้า ของเถรสมาคมบอกว่าต้องมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งจะไปเที่ยวเร่ร่อนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งนั้นมันผิด ออกมาเป็นกฎหมายเป็นวินัยของเถรสมาคมได้ซึ่งเป็นการบัญญัติในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ หลายอย่างเป็นการกลับตาลปัตรไปก็เห็นใจเขาเหมือนกัน ถ้าเขาปล่อยให้เละเทะ

1.ไม่ตรวจสอบเลยก็พังเพราะเขาไม่มีความสามารถ 

2.จิตวิญญาณของมนุษย์ ภิกษุที่มาออกบวชเขาไม่ได้มาบวชแบบนี้ มาบวชแบบอาศัยผ้าเหลืองให้มีอภิสิทธิ์ เมื่อโกนหัวนุ่งห่มจีวรก็มีอภิสิทธิ์แล้ว บิณฑบาตหากินได้หรือมีคนให้เงินทองอนุเคราะห์ต่างๆ นานาสารพัด 

ศาสนาที่เป็นอยู่จริงทุกวันนี้มันซับซ้อน หลายอย่างมันพิลึก กลับตาลปัตรซับซ้อนจนกระทั่งไม่รู้ว่าอะไรผิดหรือถูกก็ยาก เราก็ค่อยๆทำไปจนกระทั่งให้เข้าใจถึงจุดหมายจริงของเจตนารมณ์พระพุทธเจ้าแล้วก็ปฏิบัติประพฤติจนกระทั่งได้ที่เข้าใจจริงๆ ลึกซึ้งมาได้ประมาณนี้ก็ดี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 33 วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 20:44:05 )

เถรสมาคมบาปซ้ำบาปซ้อนอย่างไร

รายละเอียด

ก็เป็นความสำเร็จนะ เป็นความสำเร็จของอาตมาที่ทำงานนี้สำเร็จในชาตินี้ แม้ว่ามันจะได้มวลปริมาณของผู้มาปฏิบัติธรรมได้มาประมาณนี้เท่านี้ มันก็ถูกแล้ว เพราะคนไม่สามารถที่จะเข้ามาได้ มาไม่ได้ มี เขาอยากมา แต่มาไม่ได้ จม พวกจมไม่ลง จนกระทั่งฟื้นไม่ได้ เขาก็มาไม่ได้ ผู้ที่เข้าใจผิดเลย จะมาทำไม อโศกพวกไม่ถูกต้อง พวกอะไรต่ออะไร แล้วก็หลอกชาวบ้านชาวเมือง ต่อให้เขาเข้าใจผิดว่าอโศกนี้เป็นพวกผิดหรือเป็นพวกมาทำลายศาสนา บาปซ้ำบาปซ้อนเห็นมั้ย  ตัวเขาเองบาปโง่ไม่รู้เรื่อง แม้รู้แล้ว ก็ไม่ยอมรับ แล้วโกหกต่อ เพราะฉะนั้น นรกอเวจีเป็นของเขาไปทั้งหมดเลย รู้แล้วว่าเราถูกก็ยังโกหกต่อว่าผิด ผิดๆ เพราะมันได้ประกาศอย่างนั้นไปแล้ว น่าสงสาร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ผู้พ้นอสุรกายจึงได้ไปอยู่โลกหน้า วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 20:25:10 )

เถรสมาคมบาปมากที่ออกกฎระเบียบห้ามฟังหรือคบหาโพธิรักษ์

รายละเอียด

อาตมาพูดนี้เขาไม่ฟังหรอก พวกที่หลับตา นอกจากไม่ฟังแล้วออกกฎระเบียบด้วยว่า เถรสมาคมห้ามฟังโพธิรักษ์ เขาบาปมากเลยนะ ห้ามคบหา เขาทำบาปขนาดไหน เขาปิดประตู โง่ตัวเองไม่ว่า ตัวเองอยู่ในนรกไม่ว่า แล้วไปบอกคนอื่นว่า อย่าไปออกจากนรกนะ ให้อยู่ในนรกด้วยกัน อย่าไปมองสวรรค์ มองสวรรค์มันบาปนะ ที่จริงเรียกสวรรค์มันก็ไม่ถูก เพราะว่าศาสนาพุทธไม่มีทั้งสวรรค์และนรก อันนี้ก็ไม่มีใครเอามาพูดหรอกในศาสนาพุทธทุกวันนี้ เขาก็จะไปสวรรค์ทำทานก็จะไปสวรรค์ ปริภุญชิตสามีติ ทำทานแล้วจะต้องได้เสวยในชาติต่อไป ส่งให้ผู้ตายได้อีก อยู่ไหนก็ไม่รู้ทั้งที่กรรมเป็นของของตน ทำอย่างงมงายเต็มไปหมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 13:18:32 )

เถรสมาคมปฏิบัติผิดหลักธรรมวินัยและผิดหลักคณปูรกะ

รายละเอียด

จนกระทั่งมีผู้ที่เป็นปราชญ์เป็นผู้รู้รื้อฟื้นสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ของเถรสมาคมแล้วก็มาเอาเรื่องกับเราอีก ทั้งๆที่ วันที่ 6 สิงหาคม 2518 เราประกาศแล้วสำเร็จไปแล้ว วันที่ 7 เราก็เป็นอิสรเสรีมา 

จนกระทั่งมาถึงปี 2532 ผ่านมา 14 ปี เราก็อยู่สุขสบาย ทำกิจการของเรามาได้เรื่อยๆ วันร้ายคืนร้าย เถรสมาคม รวมกันทั้งธรรมยุตและมหานิกาย รวมตัวกันขึ้นมาเอาเรื่องเรา คณะธรรมยุตและมหานิกายเป็นฝ่าย แม้ว่าเป็นนานาสังวาสก็รวมกันทำสังฆกรรมไม่ได้เลยแล้ว ก็ไปผิดหลักธรรมวินัย ผิดหลักคณปูรกะ รวมกันทำสังฆกรรมไม่ได้  เข้าไปรวมกันประกาศนีย
กรรมสมณะโพธิรักษ์ ดูแล้วมันก็ตลกเหมือนเด็กเล่นลิเกละครไม่ถูกต้องตามหลักธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าเลย เขาก็ทำไปได้อย่างไม่อายผู้รู้ ก็ทำจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 พาปฏิญาณศีล 8 วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2565 ( 10:51:30 )

เถรสมาคมมีขยะคนเน่าที่รับไม่ไหวอย่างไร

รายละเอียด

เถรสมาคม มีผู้รู้ตั้งเยอะยังทำไม่ได้อย่างอาตมา อาตมาหัวเดียวกระเทียมลีบ ยืนยันโลกุตระ ยืนยันว่านี่แหละคืออาริยชนของพระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่สามารถรู้จักอริยสัจ 4 รู้จัก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค แล้วละลดกิเลสจนกระทั่งสบายอย่างนี้ มีวรรณะ 9 มีสาราณียธรรม 6 เป็นจริงนะ 

แต่เพราะเขามีอัตตามานะ รู้ เอ็งทำได้จริง ถ้าข้าจะไปเป็นลูกน้องเอ็งข้าก็หมดสิทธิ์สิ ต้องยุบทางโน้นมาขึ้นทางนี้ได้อย่างไร ใช่ไหม เขาทำไม่ได้ ถึงจะอย่างนั้นจริงๆ สมมุติเล่นๆ ที่จริงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด สมมุติว่า เถรสมาคมรู้ตัวจริงๆ ไม่เอาแล้ว เลิกแล้ว มาเอาอย่างโพธิรักษ์พาเป็นหมดเลยนะ คุณจะรับไหวไหม ...ไม่ไหว ขยะทั้งนั้นมา ขยะที่เป็นพลาสติก แม้แต่เป็นขยะน้ำเน่า ดินเน่า อาหารเน่าอะไรยังพอทน แต่ขยะคนเน่า แล้วเน่าด้วยอะไรรู้ไหม เน่าด้วยโลภ โกรธ หลง รับไม่ไหวหรอก ตายแน่ๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาวันมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 18:45:58 )

เถรสมาคมยังถูกอกุศลถูกสิ่งที่ไม่ดีครอบงำอยู่

รายละเอียด

ยกตัวอย่างไม่ว่าจะเป็นสายหลับตาอภัสรา หรือหลับตาแบบสุภกิณหา หรือหลับตาแบบสายธรรมกาย ธัมมชโย ซึ่งเขาเป็นสมีแท้ๆ ปาราชิกสองอย่าง 1.โกงเงินทองมากกว่าห้ามาสก จับได้ ศาลพิพากษาแล้วซูเอี๋ยกันไป 2.อวดอุตตริมนุสสธรรมที่ไม่มีในตน ก็ปราชิก 2 ประเด็นนี้ ส่วนการฆ่าคนกับการเสพเมถุนนั้นเราไม่รู้ เราไม่ได้ไปตามจับผิดหรอก เพราะเขาทำเองจนเปิดเผยไปทั่ว ขนาดพระสังฆราชมีพระลิขิตถึง 5 ครั้ง เขาก็ยังใช้เป็นอิทธิพลที่สูงจริงๆยอดเยี่ยมจริงๆ แสดงว่า เถรสมาคมทั้งเถรสมาคมยังไม่โงหัวเลย ยังถูกอกุศลถูกสิ่งที่ไม่ดีครอบงำอยู่ อาตมาพูดนี้ไม่ได้ด่า แต่พูดให้รู้ความจริงตามความเป็นจริงจะได้ไปปรับปรุงแก้ไขมันจึงจะเจริญขึ้น เมืองไทยจะได้เป็นเมืองที่พึ่งพาทางโลกุตรธรรมให้แก่โลกได้ดีขึ้น ไม่อย่างนั้นก็จมเน่าอยู่อย่างนี้มันจะใช้ได้อย่างไร ที่พูดนี้ไม่มีเจตนาร้ายอะไรแต่เจตนาดี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก และบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ปี 2564 วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2564 แรม 10 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2564 ( 20:48:07 )

เถรสมาคมยังไม่สัมมาทิฏฐิในความจนแบบโลกุตระ

รายละเอียด

เราไม่หยุดพัฒนาหรอก ยังเห็นเลยว่าเมืองไทยไปอาศัยเรียนจากประเทศนอกที่เป็นเทวนิยม ที่ยังไม่เข้าใจความจนแบบโลกุตระของพระพุทธเจ้า ตำราของพระพุทธเจ้าศึกษาให้สัมมาทิฏฐิเถอะ แม้แต่เถรสมาคมก็ไม่สัมมาทิฏฐิ ไม่ได้เข้าใจอย่างที่อาตมาพูด 

ถ้าเถรสมาคมเข้าใจอย่างที่อาตมาพูดแค่ครึ่งเดียว ไม่ต้องเอาถึง 100% ครึ่งเดียวเท่านั้นแหละ ประเทศไทยจะไปเจริญยอดเยี่ยมมากกว่านี้ ไม่ต้องดูใคร ดู พส. 2 คน มหาสองคน ที่เป็นตัวปฏิกิริยาอยู่ในสังคมขณะนี้ หลงเงินเพื่อเงิน อยู่อย่างนั้น สุดท้ายก็ยังไม่รู้ว่าตกลงเป็นอย่างไร ตกลงเงินที่บวชอยู่ คุณศรีสุวรรณจรรยา บอกว่าตามกฎหมาย ในขณะที่บวชอยู่ สึกไปแล้วเงินต้องเป็นของวัดไม่ได้เป็นเจ้าของเจ้าตัว เอาไปเอามา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน 3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 11:51:04 )

เถรสมาคมยังไม่เข้าใกล้ธรรมะพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ขออภัยที่ต้องพูดอย่างแข็งขันยืนหยัดยืนยัน เพราะว่าครึ่งทศวรรษแล้ว 50 ปีอาตมาก็ยกระดับการเป็นผู้ใหญ่ ถือว่าเป็นรัตตัญญูแล้ว เป็นผู้อายุยาวทางธรรม ถึงขั้นนี้แล้ว เข้ารัตตัญญู ก็ต้องตามจริงพูดยืนยันความจริงอย่างผู้ใหญ่ อย่างเมตตาเอ็นดูเด็กๆ ที่ยังพาล ยังเยาว์ ยังไม่เดียงสา 

เถรสมาคมทั้งเถรสมาคม ท่านยังเยาว์ ยังพาล ยังไม่เดียงสา ยังไม่เข้าใกล้ธรรมะพระพุทธเจ้า หลงติดอยู่ในลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุขทั้งนั้น 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 10:51:27 )

เถรสมาคมสร้างบาป

รายละเอียด

ศาสนาเทวนิยมไม่สามารถทำให้สังคมสงบสุขให้เลิกเบียดเบียนกัน ให้มามีสังคมที่สร้างสรรช่วยเหลือมนุษยชาติอย่างไม่เบียดเบียนใครเลยไม่ได้ ขนาดพวกเราชาวอโศก อาตมาว่า ความเบียดเบียนผู้อื่นสัตว์อื่นน้อยที่สุดแล้วนะ ก็ยังเบียดเบียนน้ำใจกันเบียดเบียนด้วยวาจา กายกรรมไม่มีหยาบอะไรมากมาย หากศึกษาธรรมะให้ละเอียด พิสูจน์ยืนยันในปัจจุบันได้เลย ชาวอโศกศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าแล้วมันเป็นความสงบอบอุ่นเป็นความเกื้อกูลเป็นสิ่งที่มีคุณค่ากับโลกกับมนุษยชาติ ศาสนาพุทธในกระแสหลักหากสอนให้เข้าเป้า ให้คนเข้าใจ หากอาตมาไม่ถูกทางเถรสมาคมดิสเครดิต หาว่าไม่ใช่พุทธจะได้มวลมากกว่านี้ แต่เถรสมาคมสร้างบาปเสียเอง มาต้านอาตมา ก็เลยได้แค่นี้ก็เป็นวิบากของโลก ของสังคมไป  ก็ไม่มีปัญหาอาตมาพอเข้าใจ เป็นเรื่องที่อาตมาต้องมาเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ เพื่อที่จะพิสูจน์ว่า คนจะรับสัจจธรรมที่เป็นธรรมะของพุทธเจ้าแท้ๆนี้ได้หรือไม่ ยากแน่แต่ก็ต้องทำ อาตมาเป็นผู้ที่มาสืบทอดธรรมะพระพุทธเจ้าจริงๆ ใครจะหาว่าอวดดีก็ไม่เป็นไรเพราะเขาก็อวดความชั่วกันเยอะแยะ ถ้ามีความดีจะให้พวกชั่วเขาอวดอยู่ฝ่ายเดียวทำไม 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 85 วันจันทร์ 6 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 16:11:14 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 14:15:37 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:28:04 )

เถรสมาคมเป็นผู้ดีเป็นผู้ที่มีภูมิธรรม

รายละเอียด

ถ้าคณะใหญ่มีกฎหมายที่จะปราบเราให้สิ้นไปเลย ถ้าเป็นคณะที่อันธพาล มหาเถรสมาคมเป็นอันธพาลเขาก็จัดการเราได้ จัดการแล้ว แต่ว่าเถรสมาคมไม่ได้เป็นอันธพาล เถรสมาคมเป็นผู้ดีเป็นผู้ที่มีภูมิธรรม เป็นผู้ที่รู้จักอะไรดีอะไรไม่ดี แต่เขาจำนน อันนี้ก็ต้องปล่อยเขาเพราะว่ามันมีนัยยะลึกของเขา พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าเราต้องพิสูจน์อย่างมีที่อ้างอิงมีหลักฐานเขาก็มีพระไตรปิฎกอ้างอิงมีหลักฐาน เพราะฉะนั้น จึงแย้งกัน มันหักล้างกันไม่ได้ เรามีหลักฐานอ้างอิงยืนยัน แต่สุดท้ายความเห็น 2 อย่างมันหักล้างกัน มันซ้อนที่ว่า ของเราเป็นอย่างนี้แล้วมันก็มีลักษณะจริงหรือว่า แล้วที่เราเป็นนี้ 1 เรามาจนกับคุณไปรวยนี้ คนที่มีปฏิภาณไหวพริบก็จะรู้ว่าคนที่ไปรวยยังกอบโกยอยู่มันถูกสัจธรรมของศาสนาพุทธหรือไม่ ภิกษุรวยกับภิกษุจนไม่มี อันนี้เป็นสามัญสำนึกธรรมดา เขาก็รู้กันก็ตัดสินได้แค่นี้จบ แล้วเราก็อยู่อย่างแบบนี้ เราก็ไม่ได้ไปรุกรานเขา เราตำหนิไหม..เราตำหนิ ตำหนินี้เราตำหนิด้วย เพราะว่าพระพุทธเจ้าบอกว่าให้ตำหนิ ปฏิกโกสนา คือคัดค้านอย่างจัง คัดค้านอย่างเต็มที่เลย  กล่าวด้วยเหตุผลข่มขี่ที่มีน้ำหนักมากกว่าแต่ไม่ถึงกับ อักโกสะ คือไปด่า เป็นคำหยาบคาย หรือหาความ ต้องทำด้วยความจริงเต็มที่เลย คือตำหนิคัดค้านอย่างเต็มที่เลยได้ อยากจะเสียงดังจนคอแตกก็ได้แต่ว่าไม่ผิดสัจจะก็แล้วกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:22:03 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 08:07:05 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:26:56 )

เถรสมาคมและสายหลับตาเป็นเดียรถีย์

รายละเอียด

เถรสมาคม พระที่บริหารศาสนาพุทธอยู่ในเมืองไทย คือกลุ่มเถรสมาคมหรือคณะใหญ่นี้ กับทางพระปฏิบัติคือสายหลับตาทั้งหลาย ไม่ใช่เฉพาะสายอาจารย์มั่น สายอื่นก็สายหลับตา แต่ถือว่าอาจารย์มั่นเป็นอาจารย์ใหญ่มาก ซึ่งพากันออกเป็นเดียรถีย์ กันหมดแล้ว 

ก็ท่านจมวนอยู่ในวัฏสงสารที่ยังไม่ผุดไม่เกิด ยังจมอยู่ในวังวนโลกียะต่ำ โลกียะลงนรกมืดด้วย เรียกว่าอเวจี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น
จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 11:06:42 )

เถรสมาคมใช้หลักกฏหมายตัดสินพระชาวอโศกแทนการใช้หลักธรรมวินัยตัดสิน

รายละเอียด

จากอนันต์ เสนาขันธ์ ตีไปแล้ว ก็มีคนเห็นว่ามีกำลัง มีผู้บุกเบิก พอ พ. ศ. 2532 มีหัวหอกคือ ท่านประยุทธ์ ปยุตโต เขียนหนังสือซัดมาอีก 3 เล่ม แล้วยังบอกว่าจะมีเรื่องต่อไปอีกนะ พวกคณะที่เห็นพ้องกันอยู่แล้ว เพราะมันค้านแย้งเขา ไปทำลายความรู้ความเห็นของเขา มันทวนกระแสกัน คณะเถรสมาคมคณะใหญ่ก็รวมตัวกันใหญ่เลย ทั้งธรรมยุตและมหานิกายรวมตัวกันใหญ่เลย รวมตัวกันจัดการอาตมา 

จนกระทั่ง จัดการด้วยธรรมะก็ไม่รู้จะให้ใครตัดสิน ทางเถรสมาคมก็ไปฟ้องร้องทางโลก ไปให้ผู้พิพากษาซึ่งเป็นฆราวาสมาตัดสินอาตมา เขาก็ต้องเอากฎหมายเป็นหลัก แล้วก็มีกฎหมายที่บัญญัติเองขึ้นมาว่า เท่าที่จำได้เป็นมาตรา 18 ของกฎหมาย 2505 มาตรานั้นบอกไว้ว่า สังฆราชสั่งให้สึกภายใน 7 วันต้องสึกตามนั้น สังฆราชตอนนั้นก็เลยออก ปฏิบัติตามกฎหมายสั่งให้อาตมาสึกภายใน 7 วัน ซึ่ง 7 วันอาตมาก็ไม่สึก 7 ปีก็ไม่สึก จะอยู่ไปให้ได้ 70 ปี ตอนนี้อยู่มาได้ 50 ปีแล้วนะ อีก 20 ปีเท่านั้น ไม่ยอมสึก 

เมื่อไม่ยอมสึกก็ผิดกฎหมาย ผู้พิพากษาตัดสิน ท่านก็ตัดสินตามหลักกฎหมาย ไม่ได้เอาตัดสินตามหลักธรรมวินัย เพราะผู้พิพากษาเป็นฆราวาสจะเอาธรรมวินัยมาตัดสินได้อย่างไร เอากฎหมายมันก็ผิด เพราะว่าบัญญัติขึ้นเองว่าสังฆราชสั่งให้สึกได้ เราก็ผิดเราก็ยอมรับตามกฎหมายโลกในยุคนี้กาละเทศะนี้ บริบทนี้เขาเป็นอย่างนั้นก็ต้องยอมเขา ที่เรียกว่าอนุวัติตามโลก พระพุทธเจ้าก็สอนไว้เราก็ไม่ได้ขัดขวางเขา 

แต่ก็ยังมีความปราณีว่า ติดคุกแต่รอลงอาญา 2 ปี เราก็เลยเป็นนักโทษไม่ได้เข้าคุก ก็จบสิ้นลง จบสิ้นลงแล้วทีนี้ทางกฎหมายเขาก็จบแล้วสิ จบลงโดยที่เรียกว่า ทนายทองใบบอก ให้ฎีกาต่อ อาตมาบอกว่าไม่ต้องหรอก จบที่ศาลอุทธรณ์นี่แหละจบ เขาชนะให้เขาชนะไป คำพิพากษาแล้วว่ารอลงอาญา 2 ปีก็จบ เราก็รอลงอาญา 2 ปีตามที่เขาตัดสิน ตามกฎหมายทุกอย่างมันก็หมดแล้วนี่ เราก็รอลงอาญาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ให้คนมาคอยควบคุมพฤติกรรม คนควบคุมก็มาแค่ 2-3 ครั้งก็ไม่มาอีก เพราะเขาเห็นแล้วจะมาควบคุมอะไรมีแต่จะมาศึกษาจากเรา เขาก็มาศึกษาจากเรา ไปกินมังสวิรัติเลยคนควบคุมเราน่ะ อย่างนี้เป็นต้น นี่คือธรรมะจัดสรรทั้งนั้นเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 40 ทางเสื่อมวิชชาและจรณะ 4 ประการ วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 14:26:44 )

เถรสมาคมไม่ได้เรียนสภาวะเก่งโก้แต่พยัญชนะ

รายละเอียด

อาตมาไม่อยากลงลึกถึงพยัญชนะ มันจะยาก อาตมาสามารถแยก วิญญาณ กับจิต ในวรรค จ แต่ไม่เอามาแยก เพราะมันยาก คนจะไปยุ่งในรายละเอียดเปล่าๆ เอาสภาวะมาก่อน คุณได้สภาวะแล้วก็เอามาแปะชื่อทีหลังได้ เพราะงั้นมาเรียนรู้สภาวะก่อน ทางโลกีย์ ทางเถรสมาคม เขาไม่ได้เรียนสภาวะ เขาเก่งโก้พยัญชนะ เอาพยัญชนะมาข่มขู่อาตมา เอ้าข่มก็ข่มไป อาตมาก็ว่าให้คุณชนะก็แล้วกัน แต่อาตมาเอาสภาวะมาพูดให้คนรู้เรื่อง คนเห็นอาตมามีสภาวะจริงกว่าพยัญชนะก็มาเอาสภาวะ แต่คนหลงยึดในพยัญชนะก็ให้เอาแต่พยัญชนะไป ซึ่งก็น่าสงสาร ผู้ติดพยัญชนะ จนกระทั่งไม่รู้จบไป พยัญชนะของเรื่องนั้นเรื่องนี้ก็พาไปเป็นโลกจินตายาวไกล หลงโลกจินตา หลงความคิดโลกๆ พยัญชนะบอกสภาวะของโลก ไปกับโลกไกลเกิน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 19:38:56 )

เถระคือผู้ที่เกิดมาในสมัยของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาเป็นเถระ คือ ผู้ที่เกิดมาในสมัยของพระพุทธเจ้า อาตมายืนยัน คำพูดอาตมาถึงเป็นเถรวาทไม่ใช่อาจาริยวาท ยืนยันที่คำพูดของอาตมาแตกต่างจากเขา เช่นคำว่าฌาน ไม่ได้เกิดจากการนั่งหลับตาแต่เกิดจากจรณะ 15 เกิดจากศีล สมาธิ ปัญญาไตรสิกขา ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาแบบเดียรถีย์  อย่างนั้นพระพุทธเจ้าท่านตีทิ้ง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 15 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2563 ( 11:39:50 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:50:02 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:25:50 )

เถระหมายถึง

รายละเอียด

ถูกต้อง เข้าใจถูกหมดทุกอย่างแล้ว เรียนรู้รายละเอียดไปเรื่อยๆ ตามไปเรื่อยๆ พัฒนาตามไป อาตมาก็อบอุ่นดีนะ ที่บรรยายธรรมะ ไป ลึกซึ้งขึ้นยากขึ้นก็ต้องทำ เพราะมันต้องบรรยายไว้ ต้องพูดไว้ ถ้าอาตมาไม่พูด ก็มีอยู่ในพระไตรปิฎกซึ่งเข้าใจยาก มีในอรรถกถาจารย์ ก็แยกไปแย้งกัน มันก็ต่างกันไปตามภูมิธรรมไปต่างๆ นานา 

ถ้าจะพูดแล้วอาตมาก็คืออรรถกถาจารย์องค์หนึ่ง แต่อาตมาเป็นอรรถกถาจารย์ที่ขอยืนยันว่า อาตมาเป็นเถรวาท อาตมาเป็นพระเถระ ขอยืนยันอีก เถระ วาทะ หรือเถรวาท พระเถระหมายถึง พระหรือภิกษุที่ได้เกิดร่วมยุคพระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่มาเกิดยุคนี้ ฟังให้ดีนะตรงนี้ พระเถระนี่คือผู้ที่เกิดในยุคพระพุทธเจ้า แล้วมาอุบัติ อย่างอาตมานี้เป็นพระเถระเกิดในยุคพระพุทธเจ้า และมีความรู้เก่ามาจากอันนั้น จะมีอีกศัพท์หนึ่งก็คือ อาจาริยวาท เป็นคำสอนของอาจารย์หรืออรรถกถาจารย์ส่วนใหญ่ อรรถกถาจารย์เป็นคำสอน คำที่อรรถกถา เป็นเนื้อหาของกถา คำพูด คำสอน ของอาจารย์ต่างๆ อรรถกถาจารย์ ซึ่งบอกไม่ได้ว่าเป็นเถระ หรือไม่เป็นเถระ

เถระ บอกแล้วนิยามชัดว่า เกิดในยุคพระพุทธเจ้า ร่วมในยุคพระพุทธเจ้า แล้วมาเกิดในยุคนี้ นอกนั้นไม่ใช่เถระจริงหรอก ทีนี้ก็เอาเถระมาแปลงว่า เป็นผู้ที่มาบวชนาน ผ่านนวกะ ผ่าน 10 ปีขึ้นไป นับเป็นเถระ ผ่าน 20 30 ก็นับเป็นมหาเถระไปเรื่อยๆ ตั้งเอง มาตั้งกันในยุคนี้ นับกันที่บวชนาน ไม่ได้นับกันที่คุณธรรม ไม่ได้นับที่สภาวะจริงอะไรต่ออะไรพวกนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ที่สุดแห่งพุทธศาสนาคือปัญญาอันปราศจากกิเลส วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2565 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2565 ( 12:23:13 )

เทคนิคการปล่อยวางความยึด

รายละเอียด

ที่เกิดอาการทุกข์นั่นอยู่ที่ใจ ทีนี้พระพุทธเจ้าท่านลึกลงไปอีก ต้องมองเหตุก่อนว่าเราไปยึด ยึดอย่างนั้น ยึดอย่างนี้ เราก็อย่าไปยึดซะมันก็จบ

ถ้าไปยึดมันก็ทุกข์ ถึงยึดยังไงมันก็ไม่เที่ยง ยึดยังไงเดี๋ยวมันก็เปลี่ยนไป อย่างน้อยที่สุดในกาละเวลานี้ เรายึดปุ๊บ เดี๋ยวมันก็จะมีเหตุอื่นละ มันก็จะไม่อยู่กับอันนี้อีกแล้ว ก็เปลี่ยนไปแล้ว แล้วเราก็จะไปมัวทำจิตสั่งสมลงไป เอ้ย ไอ้นี่ไม่ได้นะ แตะปั๊บข้าจะต้องอย่างนี้ แตะปั๊บข้าจะต้องอย่างนี้  แล้วก็ไปอันอื่นก็ไปติดใจอย่างนั้นอีก ไอ้นี่ก็แตะปั๊บข้าอย่างนี้ แตะปั๊บอย่างนี้ ตกลงมันมีข้ามากมายแล้วคุณจะทุกข์หนักขนาดไหนล่ะ

ที่มา ที่ไป

เทคนิคการปล่อยวางความยึดและอยู่กับปัจจุบัน 14 ก.ค. 2561 ป้าขาว(สีพลบ)กับลูก(พิมพ์บูชา) มาพบพ่อครู


เวลาบันทึก 01 มีนาคม 2564 ( 15:43:52 )

เทคนิคสมัยใหม่ขยายเป็นจอโทรทัศน์ได้

รายละเอียด

ทำไมคนอายุเยอะก็ดูได้ ขยายไปที่จอโทรทัศน์ได้ อย่าว่าแต่จอโทรทัศน์เลย จอ LED ใหญ่ขนาดไหนก็ยังได้เลย เพราะฉะนั้นมันไม่จำกัดว่าเราเปลี่ยนไปไม่เอาดาวเทียมแล้ว เราก็ใช้เทคนิคใหม่สมัยใหม่ ก็น่าจะถือว่า Complete แล้วนะ ไม่ Perfect นักก็แล้วแต่ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 27 มีนาคม 2563 ( 11:29:32 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:47:38 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:32:05 )

เทคโนโลยีเจริญมากแสดงถึงความเสื่อมของมนุษย์

รายละเอียด

เทคโนโลยีในสมัยพระพุทธเจ้าไม่มีความเจริญอย่างนั้น เทคโนโลยีที่เจริญแสดงถึงความเสื่อมชนิดหนึ่งโดยเฉพาะเทคโนโลยีทางอาวุธยุทธภัณฑ์ และเทคโนโลยีเชิงได้เปรียบ เทคโนโลยีที่เป็นเชิงได้เปรียบของคนที่มีทุนรอนมากๆ มีเงินเยอะๆ ก็ซื้อเทคโนโลยีนี้ไปอำนวยความสะดวกและอำนวยความได้เปรียบของตน นี่ก็เป็นเรื่องที่เลวร้าย ฟังให้ดีนะอาตมาไม่ได้ไปใส่ความไม่ได้ไปว่าอะไร มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เทคโนโลยีที่มันมีมากๆ อย่างที่คุณตั้งข้อสังเกตนี้ในยุคพระพุทธเจ้า ถ้าพระพุทธเจ้าจะอุบัติ เทคโนโลยียังไม่เจริญถูกแล้ว เพราะพูดไปแล้วเมื่อกี้ เทคโนโลยีเจริญนี้คือยุคเสื่อมของมนุษยชาติ 

เราห้ามไม่ได้นะ เทคโนโลยีเจริญแล้วเอามาใช้เป็นประโยชน์ เอามาใช้แต่ทางที่เป็นคุณค่า ห้ามไม่ได้ มันเอาไปใช้ทางเป็นโทษ เป็นภัย อย่างที่มันเป็นมันร้ายแรงมากเลย สุดท้ายมันจะใช้เทคโนโลยีนี่แหละที่ว่าเจริญ นี้แหละล้างโลกเลย ที่จะพูดกันนี้ 

ทุกวันนี้ถ้าจะพูดกันจริงๆ แล้วแต่ละประเทศ กดปุ่มพร้อมกันนี่หมดเลยโลกนี้จะแตกหรือไม่แตกก็ไม่รู้โลก มันระเบิดกันไม่รู้มีคนละกี่สิบกี่พันกี่ร้อยกี่พันลูกกัน นี่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นะไม่ใช่ว่าพูดเล่น นี่คือเทคโนโลยีเจริญสมัยใหม่ เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อว่าพระพุทธเจ้าเกิดมาในยุคนี้ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำอะไรได้ ก็ได้แต่ให้โพธิสัตว์อย่างอาตมาเมื่อยอย่างนี้พูดไปเถอะ ผู้ที่มีปัญญาฟังแล้วรู้เรื่องได้ประโยชน์ก็มาเอา ชีวิตนี้ก็ไม่ใช่ไปงมงายอยู่กับไอ้เรื่องเหล่านั้น 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ในยุคนี้ต้องมาเรียนกับพ่อครูจึงจะบรรลุอรหันต์ได้ วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 ขึ้น 6 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:01:57 )

เทน้ำชาออกจากถ้วยบ้าง

รายละเอียด

ท่านทั้งหลายเลยพวกนั่งหลับตายังไม่เจอทางออกอย่างนี้ มืดแล้วมืดอีกมืดหนักเข้าไปใหญ่ จนเต็มไปอยู่ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ได้ฟังได้ยินแล้วก็สะดุดใจ มาฟังธรรมะอาตมา มี ปรโตโฆษะบ้าง ฟังด้วยดี สุสูสังลภเตปัญญัง  เทน้ำชาออกจากถ้วยบ้างไม่งั้นก็จะมีแต่ของเก่าไม่มีใหม่เลย แล้วมันก็จะเสียเวลาจมไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 ธันวาคม 2565 ( 13:55:54 )

เทพ 3

รายละเอียด

เทพหรือเทวดา คือ ผู้ที่มีจิตใจสูง

1. สมมุติเทพ (ผู้มีจิตใจสูงโดยสมมุติ, คนที่มีสภาวะจิตเสพโลกียสุขได้สมใจ) ผู้นำ พระราชา ฯลฯ

2. อุบัติเทพ (ผู้มีจิตใจสูงโดยหมั่นปฏิบัติดีให้เกิดผล, คนที่มีสภาวะจิตเกิดความเป็นอาริยะ) ผู้ปฏิบัติธรรม คนทำดี ฯลฯ

3. วิสุทธิเทพ (ผู้มีจิตใจสูงโดยถึงความบริสุทธิ์ได้แล้ว, คนที่มีสภาวะจิตบริสุทธิ์ขั้นอรหัตตผล) ผู้บรรลุธรรม อาริยบุคคล ฯลฯ

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 30 "โสฬสมาณวกปัญหานิคมนิเทส" ข้อ 655, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 15 มิถุนายน 2562 ( 16:17:22 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:20:47 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:33:02 )

เทพ 3

รายละเอียด

เทพหรือเทวดา คือ ผู้ที่มีจิตใจสูง

1. สมมติเทพ (ผู้ที่มีจิตใจสูงโดยสมมติ)ผู้นํา พระราชา ฯลฯ

2. อุปปัตติเทพ(ผู้มีจิตใจสูงโดยหมั่นปฏิบัติดีให้เกิดผล)ผู้ปฏิบัติธรรม คนทําดี ฯลฯ

3. วิสุทธิเทพ (ผู้มีจิตใจสูงโดยถึงความบริสุทธิ์ได้แล้ว)ผู้บรรลุธรรม อาริยบุคคล ฯลฯ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 30 “โสฬสมาณวกปัญหานิคมนิเทส” ข้อ 654


เวลาบันทึก 11 มีนาคม 2565 ( 21:03:43 )

เทพ คือ เทวดา มี 3 ระดับ

รายละเอียด

เทพ คือ เทวดา มี  3  ระดับ  คือ  1) สมมุติเทพ     2) อุบัติเทพ     3) วิสุทธิเทพ

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการวิถีอารยธรรม วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน  2562


เวลาบันทึก 01 ตุลาคม 2562 ( 17:55:40 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 14:23:22 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:33:35 )

เทพขั้นดุสิต คืออย่างไร

รายละเอียด

คำว่าดุสิตเป็นพยัญชนะ สมมุติที่เป็นสถานที่ ที่จริงสถานที่ไม่มีหรอก สถานที่แดนดุสิตไม่มี มันเป็นสภาวธรรมที่จิตคุณอาศัย เพราะฉะนั้นแดนดุสิตคือแดนสงบที่มีผู้เป็นใหญ่ในแดนดุสิต คือสันตุสิเทวะ สิตะแปลว่าเย็น สงบ สันตุสิตเทวราช ก็ยิ่งสงบ เพราะฉะนั้นอยู่ในความสงบของจิต จิตนิ่งจิตอยู่เป็นตัวสภาวะนิ่ง เหมือนอย่างนี้สายเจโตธรรมดา อาฬารดาบส อุทกดาบสฝึกจิตตัวเองให้สงบก็แข็งแรงด้วยความสงบและจิตใจมันก็นิ่งไม่คิดไม่นึก เหมือนพวกสายฤาษีเขาเล่นกัน ก็นั่งสมาธิสงบแล้วหายใจน้อยมาก อ่อนมาก กินพลังงานน้อย แล้วก็ขนาดไม่กินอาหาร แม้กระทั่งเขาเอาใส่กล่อง อากาศอยู่ในกล่องเท่านั้นแล้วเอาไปฝังดิน 26 วัน (อาตมาจำตัวเลขตัวนี้จะผิดพลาดหรือไม่ก็ไม่รู้) ก็ไปขุดขึ้นมาก็ยังไม่ตาย ยังอยู่ได้ กินอาหารทางอากาศเท่านั้นนิดหน่อย แล้วก็อยู่ได้ อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งก็เป็นผู้ที่ สงบ อย่างนั้นยกเป็นรูปธรรม ยิ่งเป็นนามธรรมที่สงบได้ก็เป็นร้อยปีพันปี เป็นกัป อย่าง อาฬารดาบส อุทกดาบส ไปแล้วเหลือแต่จิตนั้นอยู่ได้เป็นล้านๆปีเลย มันก็ไม่ได้เป็นอะไรออกมาอยู่ในภพของจิตมันไม่มีอะไร ตายไปแล้วไม่มีอะไรกระทบสัมผัสเลย คุณนั่งสมาธิดับหลับตา อย่าว่าแต่ไม่มีอะไรกระทบสัมผัสเลย คุณทิ้งข้างนอก อะไรกระทบสัมผัสข้างนอกเมื่อเวลามันดับดิ่งสนิทแล้ว มันไม่รับรู้เลย เอาไฟจุดยังไม่รู้เรื่องเลย เพราะฉะนั้นผู้ที่นั่งสงบเก่งๆ อย่างพระของญวน ถูกเผาก็ไม่รู้สึกนิ่งสนิทเลย สรุปก็ดุสิต คือสถานที่จิตพักสงบเท่านั้นเอง เหมือนหทยรูป จิตคุณจับอาการจิตได้ตรงไหนก็เป็นหทยรูปตรงนั้น

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2563 ( 08:46:49 )

เทพหรือเทวดา

รายละเอียด

เทวดาหรือเทพเจ้าหรือพระเจ้านี้ ต้องเป็น "จิต" หรือ "วิญญาณ" เท่านั้น

นอกจาก "จิตวิญญาณ" แล้ว จะไม่มีอะไรเป็นเทพหรือเทวะหรือเทวดาหรือเทพเจ้าหรือพระเจ้าได้เป็นอันขาด

มีคุณสมบัติเป็น "นามธรรม" ไม่ใช่ "วัตถุธรรม"

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 7


เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 12:09:50 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:49:19 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:34:29 )

เทพหรือเทวดา 3 ประเภท

รายละเอียด

1."สมมุติเทพ" คือเทวดาโดยสมมุติ หรือเทวดาตามที่รู้ๆร่วมกันอยู่ทั่วไป

2."อุบัติเทพ" คือเทวดาโดยการเกิด หรือเทวดาที่เกิดจากเหตุที่ยึดว่า "ดี" พาเกิด

3."วิสุทธิเทพ" คือเทวดาโดยความบริสุทธิ์ หรือเทวดาที่บริสุทธิ์จากกิเลสสัมบูรณ์

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 16


เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 15:02:10 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:48:10 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:35:22 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์