@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

อาคม

รายละเอียด

1. คำสอนที่เติมขึ้นมาภายหลัง หรือเป็นของอาจารย์รุ่นสาวกต่อ ๆ มาซึ่งมีทั้งคาถา มีทั้งคัมภีร์

2. คำขยาย หรือคำย่อที่เป็นภาษาใหม่ ซึ่งอธิบายคำสั่ง และคำสอนของศาสดาให้ลึกซึ้ง (จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 121)

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 4


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 13:15:10 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:50:04 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 14:58:42 )

อาคันตุกวัตร

รายละเอียด

กิจที่พึงปฏิบัติต่อผู้มาเยือน

หนังสืออ้างอิง

ป่ากับพุทธศาสนา หน้า 5


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 13:13:41 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:50:46 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:19:25 )

อาคันตุกะ

รายละเอียด

1. แขก , แขกจร , แขกประจำ คือกิเลส ตัณหา อุปาทาน

2. ผู้มาเยือน

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 72 , 543 ,กำไร-ขาดทุนแท้ของอาริยชน / เราคิดอะไร ฉบับ272


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 13:12:38 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:51:55 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:19:58 )

อาคันตุกะจรต้องล้างออกไปมันมาแฝงในจิต

รายละเอียด

เทวะคือธาตุ 2 ทำให้ธาตุ 2 นี้เจริญเป็นจิตสูงทำได้ แล้วจะรู้ว่าจิตสูงทำได้ต้องรู้จิตจริงคืออะไร สิ่งที่เป็นอาคันตุกะจรต้องล้างออกไปมันมาแฝงในจิต ทำให้จิตสะอาดก็เป็นมนุสโส จิตสะอาดปราศกิเลส สัตว์ประเสริฐต้องทำตัวเองให้มีจิตสูงประเสริฐ คือสะอาดจากตัวโง่อวิชชา สะอาดจากกิเลส ต้องทำให้กิเลสหมดจากจิต ไม่มีถาวรนิรันดรเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 15:20:03 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:36:06 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:00:25 )

อาคาม

รายละเอียด

ยังเวียนกลับ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 408


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 13:11:31 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:52:35 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:21:26 )

อาคามี

รายละเอียด

ผู้เข้าถึง

หนังสืออ้างอิง

(จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 21)


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 13:09:51 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:53:11 )

อาคารบวร

รายละเอียด

คือ อาคารที่สร้างไว้เพื่อที่จะให้คนมาอาศัย เพิ่มเติม เป็นตลาดประชารัฐ  ให้เป็นที่ที่คนมาอาศัยขายข้าวของทำมาหากิน  เป็นที่ทำการค้า  อาศัยสถานที่  เราก็ยินดีที่จะต้อนรับสำหรับผู้ที่ขาดแคลน  ผู้ที่จะมาพึ่งพาอาศัยกัน  ตอนนี้ ก็พยายามทำขึ้นมาปรับปรุงให้เป็นอาคารที่จะมาให้ได้ประโยชน์ร่วมกันกับผู้ที่มาสัมพันธ์กัน  ตอนช่วงตลาดอาริยะก็จะมีคนเยอะ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:10:05 )

เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 15:04:31 )

อาคารบวร

รายละเอียด

สร้างอาคารไว้เพื่อที่จะให้คนมาอาศัยเพิ่มเติม เป็นตลาดประชารัฐ ให้เป็นที่ที่คนมาอาศัยขายข้าวของมาทำมาหากิน เป็นที่ทำการค้าอาศัยสถานที่ เราก็ยินดีที่จะต้อนรับสำหรับผู้ที่ขาดแคลน ผู้ที่จะมาพึ่งพาอาศัยกัน ตอนนี้ก็พยายามทำขึ้นมาปรับปรุงให้เป็นอาคารที่จะมาให้ได้ประโยชน์ร่วมกันกับผู้ที่มาสัมพันธ์กัน ตอนช่วงตลาดอาริยะก็จะมีคนเยอะ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 09:48:46 )

อาคารบวรสร้างเพื่อให้เศรษฐกิจสะพัดสู่ประชาชน

รายละเอียด

คนอยู่ที่นี่ทำแล้วไม่ต้องมีรายได้ส่วนตัว ทำได้ให้ส่วนกลางบริหารไปเลย เป็นเศรษฐกิจที่จะสะพัดไปสู่ข้างนอก สร้างโรงเรือน อาคารบวร อาคารที่จะให้เกิดการสะพัด ให้เป็นที่จะเรียกว่า การค้าสินค้าร้านค้าขาย ประชารัฐ เราก็ทำ ไม่ได้สร้างเพื่อหาเงินหาทองให้แก่ตัวเอง สร้างเพื่อเป็นอาคารให้แก่ประชาชน ประชาชนสามารถมาค้าขายได้ อาตมามีบารมีเท่านี้ ถ้ามีบารมีมากกว่านี้จะสร้างอาคารใหญ่ในเมือง แต่บารมีอาตมาได้แค่ชายขอบ ไกลหน่อย สร้างอาคารใหญ่ 11 ไร่ จะไปสร้าง 11 ไร่ในเมืองไม่มีเงินพอ ไปสร้างอาคารใหญ่อย่างนี้ยิ่งไม่ได้ ก็เลยมีที่ตรงนี้ สร้างตรงนี้ให้เป็นตลาด เป็นที่ค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นค้าขายสินค้า สินค้าแห้งหรือสินค้าสด ทำไว้สองข้าง ก็มาจองได้ เราก็จะคัดเลือกหน่อย ว่าจะเป็นผู้มาค้าขายอาศัย ที่นี่มีเงื่อนไขข้อแม้หลักเกณฑ์บ้างเท่านั้นเอง ก็เชิญมาติดต่อ หรือว่า มาค้าขายได้เลย เพราะเราทำอาคารที่ใช้ได้แล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก

วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 12:51:34 )

อาจารย์

รายละเอียด

1. ผู้มีความประพฤติเป็นแบบอย่าง ผู้มีการกระทำที่นำทำตามนั่นเอง

2. ผู้ที่มีความประพฤติอันประเสริฐนั้น ๆ ในตนแล้ว

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 381 , ทางเอก ภาค 2 หน้า 385


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 13:08:15 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:54:12 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:20:51 )

อาจารย์ บูรพา ผดุงไทย บอกการเกิดของปัญญา

รายละเอียด

คือการบอกว่าปัญญาจะเกิดเมื่อไปนั่งหลับตาสมาธิปัญญาเกิดขึ้นเอง อย่างอาจารย์บูรพา   ผดุงไทยบอกสอนกัน  อาตมาก็บอกว่าอย่าดันทุรังทำเลยเปลี่ยนแปลงให้เป็นดันสุรังดีกว่า  มันเป็นความทุกข์ มันไม่ดีหรอก  ที่มันโผล่มา ในการนั่งหลับตาทำสมาธิ  มันไม่มีเหตุปัจจัยอื่นมาเพิ่มเติมเลย มันก็มีแต่ของเดิมที่เป็นสัญญา เอามาสังเคราะห์สังขารมันไม่มีของใหม่  คุณไม่เอาของใหม่มาเพิ่มเติม คุณหลับตาเข้าไปก็มีแต่ของเก่าคุณทั้งนั้น คุณหลับตา  ธรรมทั้งนั้น ก็มีแต่ความจำ ที่คุณจำได้แล้วจะไปนั่งหลับตา คิดไปในอนาคตใหม่มันก็ไม่มีปัจจุบันที่เป็นของจริง เป็นการเพ้อฝันโลกจินตนาการ คิด  คิดอย่างไรก็ได้อย่างเช่น แขวนขวัญนุชบนกิ่งฟ้า แล้วมันจะเป็นอย่างไร  โวหาร  นี้ฟังแล้วหลอกลิงตกต้นไม้  ฟังแล้วไม้ร่มเค้าซาบซึ้งมาก  จะไปสร้างศิลปะ   แขวนขวัญนุชบนกิ่งฟ้า  แล้วมันจะแขวนได้อย่างไรที่มาของกิ่งฟ้ามันเป็นอย่างไร   มันเป็นโวหารภาษา

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 11:57:09 )

เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 15:05:22 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:05:08 )

อาจารย์บูรพา ผดุงไทย การเกิดของปัญญา

รายละเอียด

ยิ่งบอกว่าปัญญาจะเกิดเมื่อไปนั่งหลับตาสมาธิปัญญาจะเกิดขึ้นเอง อย่างอาจารย์บูรพา ผดุงไทยสอนกัน อาตมาก็บอกว่าอย่าดันทุรังทำเลยเปลี่ยนแปลงให้เป็นดันสุรังดีกว่า มันเป็นความทุกข์มันไม่ดีหรอก ที่มันโผล่มาในการนั่งหลับตาทำสมาธิ มันไม่มีเหตุปัจจัยอื่นมาเพิ่มเติมเลย มันก็มีแต่ของเดิมที่เป็นสัญญาเอามาสังเคราะห์สังขาร มันไม่มีของใหม่คุณไม่เอาของใหม่มาเพิ่มเติม คุณหลับตาเข้าไปก็มีแต่ของเก่าคุณทั้งนั้น คุณหลับตาธรรมทั้งนั้นก็มีแต่ความจำที่คุณจำได้ แล้วจะไปนั่งหลับตาคิดไปในอนาคตใหม่มันก็ไม่มีปัจจุบันที่เป็นของจริง เป็นการเพ้อฝันโลกจินตา คิดเบาๆอย่างไรก็ได้ อย่างเช่น แขวนขวัญนุชบนกิ่งฟ้า แล้วมันจะเป็นอย่างไร โวหาร นี้ฟังแล้วหลอกลิงตกต้นไม้ ฟังแล้วไม้ร่มเค้าซาบซึ้งมาก จะไปสร้างศิลปะ แขวนขวัญนุชบนกิ่งฟ้า แล้วมันจะแขวนได้อย่างไรที่มาของกิ่งฟ้ามันเป็นอย่างไร มันเป็นโวหารภาษา 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 14:25:49 )

อาจารย์บูรพายึดมั่นในการนั่งหลับตาปฏิบัติ

รายละเอียด

อาจารย์บูรพา  ผดุงไทย  ก็เขียนเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์  เขาก็ยึดมั่น ในการนั่งหลับตาปฏิบัติ  อ.บูรพาก็น่าจะตามฟัง  สมณะโพธิรักษ์บ้าง แต่หากตีทิ้งก็คงไม่ฟัง  แต่ถ้าฟังบ้างก็ช่วยพิจารณาให้ดี ๆ ไม่อย่างนั้นจะหลงทางไปไกลมาก  อันนั้นมันมีอยู่มานานแล้ว  ของเดียรถีย์ หากไม่ออกมาก็พากันจมอยู่อย่างนั้นนานเท่านาน

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 11:26:33 )

เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 15:06:09 )

อาจารย์บูรพายึดมั่นในการนั่งหลับตาปฏิบัติ

รายละเอียด

อาจารย์บูรพา ผดุงไทย ก็เขียนเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เขาก็ยึดมั่นในการนั่งหลับตาปฏิบัติ อ.บูรพาก็น่าจะตามฟังอาตมาบ้างแต่หากตีทิ้งก็คงไม่ฟัง แต่ถ้าฟังบ้างก็ช่วยพิจารณาให้ดีๆไม่อย่างนั้นจะหลงทางไปไกลมาก อันนั้นมันมีอยู่มานานแล้ว ของเดียรถีย์ หากไม่ออกมาก็พากันจมอยู่อย่างนั้นนานเท่านาน ศัพท์บาลีบอกว่า ชานโตปัสสโตวิหรติ รู้อยู่เห็นอยู่สัมผัสอยู่เป็นปัจจุบันนั่นเทียว

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 13:59:29 )

อาจารย์บูรพายึดมั่นในการนั่งหลับตาปฏิบัติ

รายละเอียด

อาจารย์บูรพา ผดุงไทย ก็เขียนเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เขาก็ยึดมั่นในการนั่งหลับตาปฏิบัติ อ.บูรพาก็น่าจะตามฟังอาตมาบ้างแต่หากตีทิ้งก็คงไม่ฟัง แต่ถ้าฟังบ้างก็ช่วยพิจารณาให้ดีๆไม่อย่างนั้นจะหลงทางไปไกลมาก อันนั้นมันมีอยู่มานานแล้ว ของเดียรถีย์ หากไม่ออกมาก็พากันจมอยู่อย่างนั้นนานเท่านาน 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 11:19:37 )

อาจารย์มั่น ท่านประยุทธ์ปยุตโต UNCSEO รับรอง

รายละเอียด

อาจารย์มั่นนี้ UNESCOรับรอง อาตมาก็ดีใจอุ่นใจว่าเขาเริ่มเข้าใจพุทธศาสนาได้ เห็นความสำคัญเป็นบุคคลสำคัญของโลกเลย อาตมาไม่ได้ไปริษยาอาจารย์มั่น ท่านประยุทธ์ปยุตโตตอนนั้นเป็นพระธรรมปิฎกก็เป็นคนไทยคนแรกที่รับรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพยูเนสโก ปี 2537 สิกขมาตุกล้าข้ามฝันว่า ท่านเหล่านั้นเขามีกายสักขีที่คนยอมรับ แต่พ่อท่านมีแต่นามธรรมเขารับได้ยาก พ่อครูว่า…กายนี้ยากที่จะเข้าใจได้ กายวิญญัติ วจีวิญญัติอาตมาย้อนแย้งกับเขา ของท่านเรียบร้อยมาก โพธิรักษ์อย่างกับลิง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:23:20 )

เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 15:06:49 )

อาจารย์มั่น มหาบัว

รายละเอียด

คือ  ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่พระอรหันต์ตามที่คนเขายกกันว่าเป็นพระอรหันต์   เวลานี้ท่านทั้งสองเป็นภันเตของอาตมา  ท่านก็ปฏิบัติดี  ปฏิบัติชอบ  แต่มิจฉาทิฏฐิ  ไม่ถูกทางของพระพุทธเจ้า  ท่านจึงไม่ได้ผลของพระพุทธเจ้าที่เป็นพระอรหันต์แท้

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบาย รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 71


เวลาบันทึก 04 ตุลาคม 2562 ( 14:43:00 )

เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 15:07:20 )

อาจารย์มั่นฤาษีลิงดำเป็นตัวอย่างของการเล่นมโน!

รายละเอียด

ดังที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เห็น“วิญญาณเทวดามาจากเยอรมัน”ก็ดี ฤาษีลิงดำเห็นเทวดาที่เป็นวิญญาณต่างๆและเห็นวิมานเพชรวิมานทองที่เป็น“มโนมยอัตตา”หรือเป็น“นิรมานกาย”ก็ตาม และบรรดาคณาจารย์ที่ยังมิจฉาทิฏฐิงมงายอยู่ทั้งหลายก็ดี จึงพากันสร้าง“ของเก๊”หรือ“อุปาทาน”ขึ้นมา“หลงกันเอง” หลอกกันเองอยู่จริงๆทั้งนั้น ซึ่งล้วนยัง“อวิชชา”ไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงใน“ปฏิจจสมุปบาท”ที่เป็น“ปรมัตถสัจจะ”  ผู้สร้าง“ของเก๊”นี้ขึ้นมาได้สำเร็จ คือ ผู้ยังไม่รู้จัก รู้แจ้ง รู้จริงว่า“จิต-มโน-วิญญาณ”นั้นเป็น“อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา” เฉพาะอย่างยิ่งคือ ยังถูก“อุปาทาน”ครอบงำอยู่นั่นเอง

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 90 หน้า 99


เวลาบันทึก 15 มิถุนายน 2564 ( 19:12:27 )

อาจารย์มั่นหนักกว่าอาฬารดาบส อุทกกาบส

รายละเอียด

ใช่แล้วเหมือนกัน ถามว่าเท่ากันหรือไม่ อาตมาว่าดีไม่ดี อ.มั่นจะหนักกว่าอาฬารดาบส อุทกกาบส เพราะอะไร อาฬารดาบส อุทกดาบสเขาศรัทธานิ่งดิ่งแล้วก็จะจมแล้วก็จะหยุดแล้วก็จะมาได้ แต่อาจารย์มั่นมีเรื่องราวมีสตอรี่มากมายมันก็สนุกเพลินและยาวออกไปเกินกว่า อาฬารดาบส อุทกกดาบส 

ที่มา ที่ไป

รายการบ้านราช เรื่องบุคคล 7 วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 12:24:22 )

เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 15:08:04 )

อาจารย์ในมหาวิทยาลัยยังเป็นโลกีย์

รายละเอียด

ตอนนี้อาจารย์ทั้งหลายในมหาวิทยาลัยก็เป็นโลกีย์ แต่ก็พอมีปฏิภาณรู้ว่า มีแสงรำไรว่ามีโลกุตระ แต่เขาเป็นไปไม่ได้ไม่มีสิทธิ์ เขาก็ทำเป็นว่าเขาเข้าใจนะ แต่ก็เป็นคนประพฤติแบบคนไม่เปิดเผย ต้องไปอ่านบทความของเปลวสีเงิน ซึ่งจะเห็นว่าเขาเขียนถึง ว่าไม่มีปัญญา ไม่มีความเฉลียวฉลาดพอ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 19:08:33 )

อาจาระ แปลว่าอะไร

รายละเอียด

ทีนี้คำแปลของอาจาระ แปลว่า มารยาทอันบุคคลพึงประพฤติโดยเอื้อเฟื้อ คือ ความประพฤติแปลสั้นๆ จาระหรือจรณะ เป็นคำไวยพจน์ใช้แทนกันได้ จาระ จริยะ คือ ความประพฤติ ความประพฤติที่ดี ความประพฤติไม่ล่วงละเมิดทางกายวาจา 

ศีลสังวร หรือมารยาทอันดี คือ ความหมายของอาจาระ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูผู้ปราบมารเพื่อยังพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี วันพุธที่ 10 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 05:21:43 )

อาจาริยวาท

รายละเอียด

อาจารย์รุ่นหลัง

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 15:27:56 )

เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 15:08:47 )

อาจาริยวาท

รายละเอียด

คือคำสอนของอาจารย์รุ่นหลัง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2563 ( 11:37:48 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 10:50:18 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:21:05 )

อาจาริยวาทกับเถรวาท

รายละเอียด

อาจาริยวาท เป็นคำสอนของอาจารย์รุ่นหลังๆซึ่งนับไม่ถ้วน คนไหนที่เขียนในตอนหลังๆก็เป็นอาจารย์ทั้งนั้น ส่วนคำว่าเถรวาท คือคำสอนของพระเถระ รุ่นที่ติดกับพระพุทธเจ้าเท่านั้น ถ้าไม่ใช่คนเกิดในยุคพระพุทธเจ้า ก็เป็นคำสอนของเถระ อย่างวิสุทธิมรรค ของสมเด็จพุทธโฆษาจารย์คนก่อน เป็นคัมภีร์ที่ประเทศไทยนับถือมาก เอามาเป็นหลักเลยคัมภีร์วิสุทธิมรรค ซึ่งก็ยังมีเป็นส่วนเทวนิยมอยู่เยอะ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2563 ( 13:18:03 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 10:50:55 )

อาจาริยวาทอย่างพ่อครูต่างจากพุทธโฆษาจารย์

รายละเอียด

ต่อมาก็มีอรรถกถา เป็นพวกอาจาริยวาททั้งนั้น ที่ไม่ใช่พระเถระ อย่างเมืองไทย อ.พระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งไม่ใช่องค์ปัจจุบันนี้นะ เป็นตำแหน่งสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ แต่ขออภัยต้องพูดความจริง อย่างที่สมเด็จพุทธโฆษา
จารย์ทำนั้น ยังเป็นเทวนิยมอีกเยอะ ยังผิดเพี้ยนอีกเยอะ 

ส่วนอาตมาต่างจากพุทธโฆษาจารย์ เพราะอาตมาอยู่ในรุ่นพระพุทธเจ้า ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วไป จบ เพราะพูดไปมันไม่มีอะไรมายืนยันก็จบ จะพูดอย่างไร ที่เขาใช้กันเป็นคัมภีร์วิสุทธิมรรค แต่โพธิรักษ์ไม่มีสักเล่ม มากจนเอาสมัยนี้หลายเล่ม อาตมาเขียนหนังสือหลายเรื่องต้องการเป็นนักประพันธ์ สมัยก่อนเขียนเยอะ ละครเรื่องสั้นเป็นร้อยเรื่อง แฟ้มมันหายหมด ก่อนมาบวช อาตมาทิ้งหมดเลย เลยเอาให้คนอื่นๆไป 

ยังจำเรื่องสั้นที่รวบรวมเป็นละครวิทยุได้บ้าง มีเป็นแฟ้ม อันนี้มอบให้รุ่งโรจน์ ณ นคร ก่อนจะออกมาก็มาบวช ก็ทิ้งไว้ให้ เพื่อนๆตอนนี้ตายไปหลายคน เหลืออารีย์ นักดนตรี อยู่ อาตมาทำรายการมากที่สุดก่อนใครๆ

 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม ร้อยมาลัยพระอภิธรรมตามแบบพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2564 ( 21:50:18 )

อาจาริยวาทไม่ต้องใส่ใจมากเอาพุทธพจน์กับเถรวาทเป็นหลัก

รายละเอียด

อาตมาก็ต้องขออภัยท่านปยุต ว่าพอแล้ว นี่ท่านก็ยังเขียนอยู่อีก รวบรวมไว้ อาตมาว่าเอาเน้นๆเข้าหา 1. พระพุทธเจ้า พุทธพจน์ และ 2. เถรวาท เป็นหลัก อาจาริยวาทก็ดี ที่เก็บสิ่งตกหล่นไว้ คนเก็บเอาวาทะอรรถกถาจารย์ต่างๆรวบรวมมาก็ดี แต่ว่า มันเฟ้อ มันเกินมันมาก มันเป็นคำสอนที่ออกนอกเป็นความคิดความเห็นออกไปเป็นของใหม่เยอะ เพราะฉะนั้นมันก็จะไม่เข้าเป้ามันก็จะมากเกินไป อาตมากำลังวิจัยวิจารณ์พวกนี้มันมากไปในการศึกษา มันก็เลยทิ้งผล ไม่เข้าสู่การปฏิบัติให้เข้าเป้าให้ไปเป็นลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ มันไม่เป็น เริ่มต้นด้วยศีล เริ่มต้นด้วย สักกายะ ยังไม่ได้เริ่มต้นก็ไม่ได้ผลตั้งแต่ต้น สักกายะยังไม่ชัด ศีล ก็กลายเป็น สีลัพพตุปาทาน ศีลเคร่งแต่ไม่เข้าถึงอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ไม่เข้าไปสู่สภาวะ ไม่ได้อธิวิมุติ ก็เลยกลายเป็นการศึกษาที่ไม่ครบแม้แต่การศึกษา 3 ศีล สมาธิ ปัญญาก็ไม่ครบ มันก็เลย เต็มไปด้วยความรู้เท่านั้น อันนี้อาตมาก็ขออภัย ท่านเป็นภันเตแม้อายุน้อยกว่าอาตมา ก็ตอนนี้ขอให้ท่านบรรเทา อย่างไรก็ระลึกถึงท่านอยู่ อาตมาได้ประโยชน์จากสิ่งที่ท่านทำไว้ อย่างพจนานุกรมฉบับประมวลศัพท์และพจนานุกรมฉบับประมวลธรรม อาตมาได้ใช้อาศัยมากเลย ต้องขอบคุณอย่างสูงที่ให้อาตมาได้ใช้อาศัยนั้น ท่านเก็บรวบรวมไว้ดี 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2563 ( 13:21:42 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 10:52:27 )

อาชญา

รายละเอียด

เป็นความบังคับ หรือคำบอกที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ต้องไปคิดทบทวนกันมาก

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 383


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 13:04:58 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:54:51 )

อาชีพ

รายละเอียด

สิ่งที่กระทำอยู่เป็นส่วนมากในชีวิต

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 290


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 13:04:14 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:55:29 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:23:10 )

อาชีพ 5

รายละเอียด

กุหนา หยาบสุด กาย วจี ลปนาก็หยาบคำพูด เนมิตกตา ก็ไม่พูดไม่ทำแล้วแต่มีกลับไปกลับมาซับซ้อนอยู่ แต่อย่างธัมมชโยก็มีความรุนแรงฆ่าแกง เหมือนเจงกิสข่าน อเล็กซานเดอร์มหาราช หรือเหมือนกับยกตัวอย่างปัจจุบัน โดนัลด์ทรัมป์ ธัมมชโยจะไม่ทำอย่างนั้น เขาจะจมกับรายละเอียดที่ฟุ้งซ่านไปมากกว่าอีก ดีไม่ดีแล้ว โดนัลทรัมป์อาจจะบรรลุอรหันต์ได้ก่อนธัมมชโย เพราะเขาไม่ละเลียด ประวัติธัมมชโยนี้ ละเลียดใช้ภาษาใช้การปรุงแต่งต่างๆมากกว่า แต่โดนัลด์ทรัมป์นี่จะถึงจุด critical Point จุดสันดาปได้เร็วกว่าธัมมชโย 

ที่มา ที่ไป

รายการบ้านราช เรื่องบุคคล 7 วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 12:14:05 )

เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 15:09:37 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 17:32:58 )

อาชีพ สูงสุดของความเป็น คน

รายละเอียด

คือ รับใช้ “รับใช้”ไม่ใช่“รับจ้าง”นะ คุณค่าของ“สัจจะ”แห่ง 2 คำนี้ แตกต่างกันคนละฟากฟ้ากับก้นเหวทีเดียว

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1  หน้า 489


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:29:15 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:18:28 )

อาชีพที่จะช่วยคนตายให้ไปดีๆ

รายละเอียด

ฟังดีๆนะ ตอนนี้เป็นมุมกลับนิดหน่อย แม้เขาจะตาย แล้วคุณก็มีความรู้ความสามารถ หมอมโนก็จะช่วยให้เขาตายไปอย่างสงบตาเป็นอย่างดี ดร.มโนนี่นะ เขามีอาชีพนี้ อาชีพที่จะช่วยคนตายให้ไปดีๆ เห็นไหม มุมเหลี่ยมสัจธรรมของมนุษย์ชาติมีเยอะ ก็ชัดเจนแล้วคนนี้ถึงที่สุดแล้วเขาจะต้องตายแล้ว มันไม่มีทางทำให้ฟื้นมาได้ก็ส่งเสริมให้ตายอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สรุปแล้วมันจะต้องช่วยกันนี่แหละมันเป็นสุดยอดมนุษย์ 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 10:32:57 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:36:32 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 17:33:48 )

อาชีพที่เป็นบาปตลอดชีวิต

รายละเอียด

“งานลามกจกกะเปรต” ที่คนใดทำอยู่ ก็คือ “มิจฉาวณิชชา” หรือ “อาชีพที่เป็นบาปตลอดชีวิต” ข้อแรก ที่เป็นบาปอกุศลต่ำสุดใน 5 ข้อ เท่าเทียมกัน 5 อย่าง แต่สร้างอาวุธ สัตถวณิชชา เป็นข้อที่ 1 นำขบวน ก็มีนัยยะสำคัญว่าถึงแม้จะเท่าเทียมกันแต่มันก็นำขบวนนะ หัวหน้าเลวร้ายที่สุดนำขบวน 

เพราะฉะนั้น“งานลามกจกกะเปรต”ที่เลวทรามต่ำช้าที่สุด ที่คนใดทำอยู่คือ “อาชีพที่เป็นบาปตลอดชีวิต” มิจฉาวณิชชาประกอบด้วย 5 อย่างคือ 

  1. การค้าขายอาวุธ (สัตถวณิชชา) 
  2. การค้าขายสัตว์มีชีวิต  (สัตตวณิชชา) 
  3. การค้าขายเนื้อสัตว์  (มังสวณิชชา) 
  4. การค้าขายสิ่งมอมเมา  (มัชชวณิชชา) 
  5. การค้าขายสิ่งที่เป็นพิษ  (วีสวณิชชา) 

(พตปฎ.  เล่ม 22   ข้อ 177) 

นี่คือ 5 สิ่ง พระพุทธเจ้าตรัสไว้ไม่มีผิดเพี้ยนยังคงใช้ได้อยู่ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรื่องจบกิจทำกาละพ่อครูประกาศ Animal Right Watch วันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 แรม 5 ค่ำเดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2567 ( 15:11:04 )

อาชีพสุดยอดและมีความสุขมากกว่าอาชีพใดๆคือกสิกรรม

รายละเอียด

ถ้าประชาชนหรือมนุษยชาติ หันมาเข้าใจความจริงอันนี้ให้ชัดเจนเลยว่า ชีวิตผู้สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารเลี้ยงมนุษย์โลก เป็นอาชีพสุดยอดแล้ว 

แล้วก็มาผันชีวิตมา ผันมาเป็นชาวไร่ชาวนาชาวสวน สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารกัน เราดูรายการของ เปี๊ยก ตายแน่ สัมภาษณ์คนที่หันเหจากชีวิตที่เคยเป็นข้าราชการ เคยเป็นนักธุรกิจ เคยเป็นลูกจ้างนายทุน ที่หลงลาภยศสรรเสริญโลกียสุขหันเหมาสุดท้ายก็มาทำอย่างนี้ มาทำกสิกรรม มันก็มีความสุขกว่า สัมภาษณ์ออกมาแต่ละคนๆ บางคนไปใช้เวลาอยู่ทางโลกนานจนปลดเกษียณจึงรู้สึก บางคนรู้ทันก่อน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณา ครั้งที่ 39 สร้างอาหารให้กับโลก วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 12 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2564 ( 20:46:14 )

อาชีพสูงสุดยิ่ง

รายละเอียด

คือ ทำให้มวลมหาชนเป็นอันมาก เป็น“สุข”(พหุชนสุขายะ) ซึ่งคำว่า“สุข”ในที่นี้ ในศาสนาพุทธที่ เป็น“โลกุตระ”นั้น สุดลึกซึ้งยิ่ง เพราะเป็น“สุขอันสงบยิ่ง” ชนิดที่“ไม่มีสวรรค์-ไม่มีนรกสัมบูรณ์”ทีเดียว

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1  หน้า 468


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:22:28 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:19:50 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:22:49 )

อาชีพเลี้ยงตน ฟังธรรมทำลายตน

รายละเอียด

อาชีพนี้เลี้ยงตน แต่ฟังธรรมนี้ทำลายตน ยิ่งใหญ่กว่ากันเยอะ อาชีพใช้เลี้ยงตนไปตามกาละ แต่ฟังธรรมฟังแล้วเข้าใจสามารถทำลายตนเลย ไม่ใช่เลี้ยงตน แต่ทำลาย ฟังธรรมแล้วสามารถทำจิตในจิต ทำใจในใจของเรา ให้เป็นไฟฌาน เผาผลาญไฟราคะโทสะโมหะได้ เกิดบุญ การมีพลังงานจิตที่ทำลายกิเลสทำลายราคะโทสะโมหะได้ เราเรียกว่าทำบุญเป็นทำบุญได้ นี่คือนิยาม 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 26 มกราคม 2563 ( 15:30:11 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:23:15 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:06:05 )

อาชีวกสูตร พระพุทธเจ้ามีเจตนาไม่ให้ชาวพุทธกินเนื้อสัตว์

รายละเอียด

สรุปแล้ว การขอธิบายนัยต่างๆมากหลายประเด็นหลายมิติ ที่พระพุทธเจ้าเอามาอธิบาย สรุปแล้วท่านไม่ให้กินเนื้อสัตว์  ถ้าเข้าใจในสูตร อย่างที่ท่านว่า บาปเป็นอันมากไม่ใช่บุญเลยสักนิดเดียว (อาชีวกสูตร) ทำบุญแต่ได้บาป 5 ลำดับ (ย่อมประสบบาป มิใช่บุญ เป็นอันมาก)

  1. ผู้นั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านทั้งหลายจงไปนำสัตว์ชื่อโน้นมา” (อุทิศ, อุททิสสะ คือ เจาะจงมุ่งหมายไปที่สัตว์ชื่อนั้น) 

  2. สัตว์นั้นเมื่อถูกเขาผูกคอนำมา  ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัส 

  3. ผู้นั้นพูดอย่างนี้ว่า  “ท่านทั้งหลายจงไปฆ่าสัตว์นี้” 

  4. สัตว์นั้น เมื่อกำลังถูกเขาฆ่าย่อมเสวยทุกข์โทมนัส 

  5. ผู้นั้นยังตถาคตและสาวกตถาคต  ให้ยินดีไปด้วยเนื้อ   ย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก (ตถาคตํ วา   ตถาคตสาวกํ  วา   อุทฺทิสฺส   ปาณํ   อารภติ   โส  อิเมหิ    ปญฺจหิ   ฐาเนหิ  พหุง   อปุญฺญํ   ปสวตีติ)     ชีวกสูตร  ล.13   ข.60

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 09:11:19 )

อาชีวะ

รายละเอียด

1. ทำงานทำอาชีพใด ๆ อยู่ , การงานอาชีพ

2. อาชีพ , การทำงานอาชีพ

หนังสืออ้างอิง

(จากคนคืออะไร? หน้า 253 , 288) , (จากถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 138 , 139)


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 13:03:04 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:57:30 )

อาชีวะ 5

รายละเอียด

คือ

1. การโกง ทุจริต คอร์รัปชั่น (กุหนา)  มีในงานการเมือง .

2. การล่อลวง หลอกลวง (ลปนา) ในนักธุรกิจ-การเมือง .

3. การตลบตะแลง (เนมิตตกตา)  ยังเสี่ยง-ยังไม่แน่แท้

4. การยอมมอบตนในทางผิด  อยู่คณะผิด (นิปเปสิกตา)

5. การเอาลาภแลกลาภ (ลาเภนะ  ลาภัง  นิชิคิงสนตา)

(พตปฎ. เล่ม 14   ข้อ 275  มหาจัตตารีสกสูตร)

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2562

หนังสืออ้างอิง

พระไตรปิฎก เล่ม 14   ข้อ 275  มหาจัตตารีสกสูตร


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2563 ( 15:34:39 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:25:30 )

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2563 ( 21:06:27 )

อาชีวิตภัย

รายละเอียด

ภัยในการเลี้ยงชีพ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 71


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:51:02 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:58:01 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:21:56 )

อาชีโว

รายละเอียด

ใช้เป็นกิจกรรมประจำเลี้ยงชีพ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 224


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:50:18 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 20:58:39 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:06:42 )

อาณา

รายละเอียด

1. มีขอบเขต มีอำนาจบงการ

2. คำสั่ง

3. ลมหายใจ

4. การบังคับ สั่งได้ตามนั้น

5. มีอำนาจสั่งได้ตามนั้น หรือธรรมชาติอันเป็นไปโดยยิ่งแห่งตน

6. มีการเชื่อคำสั่งของศาสดา กล่าวคือเมื่อใครเลื่อมใสศรัทธานับถือผู้-นั้นเป็นศาสดาแล้วอย่างแท้จริง ก็จะรับพระธรรม คำสอนของศาสดา-นั้นไปปฏิบัติตาม ไม่ว่าคำสั่ง พระธรรม คำสอนนั้น ๆ จะเข้าใจหรือไม่-เข้าใจ รู้ในเหตุในผลแจ้งแล้วหรือยังไม่รู้ก่อนก็นำไปปฏิบัติตามทันทีได้เพราะแน่ใจว่าศาสดาย่อมบริสุทธิ์ ย่อมไม่แนะนำใครให้ปฏิบัติแล้วไปสู่ทางต่ำ ทางชั่วแน่ ๆ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 77 , ทางเอก ภาค 1 หน้า 79 , พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 117

ทางเอก ภาค 1 หน้า 38 ,ทางเอก ภาค 1 หน้า 237 ,ทางเอก ภาค 1 หน้า 277

ทางเอก ภาค 2 หน้า 120


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:49:25 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:01:50 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:08:58 )

อาณาปาณสติ

รายละเอียด

1. รูป คือตัวถูกรู้ ตัวถูกกระทำ ตัวถูกละ ถูกถอน ถูกปล่อยออกจนเป็นวิมุตติ

2. คือ สมถะ สมาธิ (ระงับลง หรือดับ) จะเป็นส่วนได้ซึ่ง “เจโตวิมุตติ”

3. วิธีการเรียนรู้ให้แจ้งในกาย ในเวทนา ในจิต ในธรรม

4. ทำได้จริง เป็นอัตโนมัติ แต่ทำอยู่ตลอดเวลายืน เดิน นั่ง นอน

5. การนั่งเพ่งลมหายใจเข้าออก แล้วก็จะเรียนรู้รูป – นาม

6. เจโต (จิต)

หนังสืออ้างอิง

(จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 43) , (จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 43) , (จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 241)

(จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 327) , (จากหนังสือทางเอก ภาค 3 หน้า 318) ,  (จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 236)


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:46:32 )

อาณาปาณสติ กับ สติปัฏฐาน 4

รายละเอียด

อาณาปาณสติ คือ การเรียนรู้แจ้งในกาย  เวทนา  จิต  ธรรม  เพื่อเน้นให้เกิดผลที่มากยิ่งขึ้น (มหัปผลา)  และเกิดประโยชน์สูงมากขึ้น (มหานิสังสา)   เพื่อให้มี “สติ”   รู้ลดละเหตุแห่งปัญหา คือ  กิเลสตัณหา(สมุทัย) ลดละให้ได้อย่างสุขุมยิ่งขึ้น  และกระทำได้มากโอกาสยิ่งขึ้น  

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 01 สิงหาคม 2562 ( 21:41:56 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:26:48 )

อาณาปานสติ

รายละเอียด

คือ เป็นรูปวงแหวน หรือวงล้อมของธรรมจักร รองรับเสา 16 ต้น เป็นรหัสธรรมของอาณาปานสติ 16 และเจโตปริยญาณ 16 เป็นธรรมะสำหรับการใช้สติกำหนดลมหายใจ จำนวน 16 ขั้น โดยรองรับด้วย สติปัฏฐาน 4 อันได้แก่ กายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา และธัมมานุปัสสนา เพื่อฝึกสติและใช้สติ ทำให้สภาวะของจิตละเอียดขึ้น กระทั่งครบเจโตปริยญาณ 16

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า.138


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 13:22:19 )

เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2563 ( 06:48:42 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:07:49 )

อาณีสูตร

รายละเอียด

 เหมือนที่ท่านตรัสในอาณีสูตร ล.8 ข้อ

[672] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ตะโพนชื่ออานกะของพวกกษัตริย์ผู้มีพระนามว่าทสารหะได้มีแล้ว เมื่อตะโพนแตก พวกทสารหะได้ตอกลิ่มอื่นลงไป สมัยต่อมาโครงเก่าของตะโพนชื่ออานกะก็หายไป ยังเหลือแต่โครงลิ่ม แม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุในอนาคตกาล เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึกมีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ จักไม่ปรารถนาฟังจักไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อรู้ และจักไม่สำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเล่าเรียน ควรศึกษาแต่ว่าเมื่อเขากล่าวพระสูตรอันนักปราชญ์รจนาไว้ อันนักปราชญ์ร้อยกรองไว้ มีอักษรอันวิจิตร มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นของภายนอก เป็นสาวกภาษิต อยู่ จักปรารถนาฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเรียน ควรศึกษา ฯ

[673] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสูตรเหล่านั้น ที่ตถาคตกล่าวแล้วอันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม จักอันตรธานฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ พวกเราจักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้นว่า ควรเรียน ควรศึกษา ดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 2 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันอังคารที่ 6 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 13:47:42 )

อาณีสูตร

รายละเอียด

ก็มาต่อ อัมพัฏฐสูตรที่ว่าถึงจรณะและวิชชา ที่ได้มีอัมพัฏฐมานพได้ถกกับ พระพุทธเจ้า อัมพัฏฐะได้รับการถ่ายทอดเรียนรู้วิชชาจรณะจากอาจารย์มาจนตัวเองเป็นพราหมณ์ตั้งแต่หนุ่มๆ รู้ความรู้ ของความเป็นวิชชาและจรณะ แต่ไม่ได้ประพฤติไม่ได้เป็น ไม่ได้เป็นผู้ที่ประพฤติจนกระทั่งบรรลุ วิชชา สิ้นอาสวะไม่ได้เป็น ได้แต่ท่องจำได้เหมือนนกแก้วนกขุนทอง สั่งสอนคนก็มาก เป็นปทปรมบุคคล เหมือนอย่างในยุคนี้เป็น ปทปรมบุคคล ทั้งนั้นเลย 

สายหลับตาก็นึกว่าตัวเองบรรลุได้ก่อน แต่ที่ได้จริงดับมืดเป็น อสัญญีสัตว์ นึกว่าตัวเองได้นิโรธ แต่เป็นมิจฉานิโรธ 

ส่วนผู้ที่ใช้ปัญญาหรือเป็นสายปัญญาก็ยังพอรู้ว่า มันไม่ใช่นะ ก็ไม่กล้าจะพูด ก็ศึกษาไปเรื่อยๆกลายเป็นพญาครุฑ ความรู้ก็มีเยอะเลยในสายพวกศึกษา มันมาก ไม่รู้ใครต่อใครสะสมเป็นโลกจินตา เป็นความคิดของคนรอบๆมาผสมผสาน เขาก็ถือว่าเป็นความรู้หมด เลือกเฟ้น เรียกว่า สังเคราะห์เอาสิ่งที่ถูกต้องไม่เป็น ไม่เริ่มต้น ศีลสมาธิปัญญา ไม่เริ่มต้น

ศีล อปัณณกปฏิปทา 3 เกิดสัทธรรม 7 เป็นฌาน 1 2 3 4 จนเป็นวิชชา 8 วิมุต ไม่ได้ทำ 

มาถึงยุค 2,500 ปีของศาสนาพุทธ ก็คือ ศาสนาพุทธของทุกพระองค์แต่นี่ของพระสมณโคดมความเสื่อมมันเกิดจริง เสื่อมมากจนไม่เหลือแล้ว กระทำในศาสนาพุทธตามที่พระพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้ใน อาณีสูตร ไปหลงกับผู้ที่ใช้วาทะเอาอะไรมาสอนผสมกันเต็มไปหมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 39 พุทธานุสสติ และอัมพัฏฐสูตร

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 17:05:33 )

อาณีสูตร ศาสนาพุทธเหมือนกลองอานกะ

รายละเอียด

ทางเมืองไทยนี่ ก่อนอาตมาจะเกิด ศาสนาพุทธดำเนินมากกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี เสื่อมมาจนจะหมดแล้วไม่เหลือ พูดได้เลยว่าไม่เหลือเชื้อของโลกุตรธรรม เหลือแต่เปลือกปลอมๆเปลือกเก๊ๆ เก่าๆที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อาณีสูตร เหมือนกลองอานกะ 

อาณิสูตร ล. 8 ข้อ [672] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ตะโพนชื่ออานกะของพวกกษัตริย์ผู้มีพระนามว่าทสารหะได้มีแล้ว เมื่อตะโพนแตก พวกทสารหะได้ตอกลิ่มอื่นลงไป สมัยต่อมาโครงเก่าของตะโพนชื่ออานกะก็หายไป ยังเหลือแต่โครงลิ่ม แม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุในอนาคตกาล เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึกมีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ จักไม่ปรารถนาฟังจักไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อรู้ และจักไม่สำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเล่าเรียน ควรศึกษาแต่ว่าเมื่อเขากล่าวพระสูตรอันนักปราชญ์รจนาไว้ อันนักปราชญ์ร้อยกรองไว้ มีอักษรอันวิจิตร มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นของภายนอก เป็นสาวกภาษิต อยู่ จักปรารถนาฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเรียน ควรศึกษา ฯ

[673] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสูตรเหล่านั้น ที่ตถาคตกล่าวแล้วอันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม จักอันตรธานฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ พวกเราจักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้นว่า ควรเรียน ควรศึกษา ดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:01:23 )

อาณีสูตร เล่ม 16

รายละเอียด

[672] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ตะโพนชื่ออานกะของพวกกษัตริย์ผู้มีพระนามว่าทสารหะได้มีแล้ว เมื่อตะโพนแตก พวกทสารหะได้ตอกลิ่มอื่นลงไป สมัยต่อมาโครงเก่าของตะโพนชื่ออานกะก็หายไป ยังเหลือแต่โครงลิ่ม แม้ฉันใด 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุในอนาคตกาล เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึกมีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ จักไม่ปรารถนาฟังจักไม่เข้าไปตั้งจิตเพื่อรู้ และจักไม่สำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเล่าเรียน ควรศึกษาแต่ว่าเมื่อเขากล่าวพระสูตรอันนักปราชญ์รจนาไว้ อันนักปราชญ์ร้อยกรองไว้ มีอักษรอันวิจิตร มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นของภายนอก เป็นสาวกภาษิต อยู่ จักปรารถนาฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเรียน ควรศึกษา ฯ

 [673] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสูตรเหล่านั้น ที่ตถาคตกล่าวแล้วอันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม จักอันตรธาน ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ พวกเราจักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้นว่า ควรเรียน ควรศึกษา ดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ

จบสูตรที่ 7

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมืองไทยเป็นเมืองของพระพุทธเจ้า-โลกุตรธรรมจะช่วยโลกได้ วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 เมษายน 2564 ( 19:50:03 )

อาตมัน

รายละเอียด

1. ตัวตน , ตน

2. ผู้เรียนรู้ความเป็นอัตตา

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 25, รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 162


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:38:11 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:02:47 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:22:23 )

อาตมาก็กำลังศึกษาเล่าเรียนฝึกฝนปัญญา 8

รายละเอียด

อาตมาก็กำลังศึกษาเล่าเรียนฝึกฝน“ปัญญา 8” ซึ่งจริงๆอาตมาก็คือ ผู้กำลังศึกษาเล่าเรียนฝึกฝนอบรมตนเพื่อให้เกิด“ปัญญา 8” เจริญ งอกงาม ไพบูลย์​อยู่ ยังไม่“จบกิจ”ไพบูลย์ครบตามที่พระพุทธเจ้าทรงมีพระสัมมาสัมโพธิญาณ อาตมากำลังสั่งสม“พุทธภูมิ”ก็บอกตามจริงมานานแล้วว่า อาตมาเป็น“โพธิสัตว์ ระดับ 7”ก็กำลังรู้จักรู้แจ้งรู้จริง“ปัญญา 8”ไปตามลำดับ อันใดมั่นใจว่า“สัมมาทิฏฐิ”แล้วจึงเปิดเผยสาธยายออกมาตามที่รู้นั้นทุกประการ เพื่อสืบทอดพระศาสนาของพระพุทธเจ้าด้วย เพื่อยืนยัน“ความรู้-ความจริง”นั้นด้วย เพื่อผู้ศึกษาจะได้ศึกษาตามด้วย และเพื่อท่านผู้รู้อื่นได้ตรวจสอบอาตมาด้วย แล้วท่านจะได้กรุณาทักท้วงแก้ไขให้อาตมาด้วย 

อาตมากลัวจริงๆ กลัวตนเองจะสาธยายธรรมออกมา“ผิด” เพราะถ้าผิดอื่นๆใดๆ มันก็เป็น“บาปสามัญโลกีย์” มันก็ไม่กระไรหรอก แต่ถ้า“ทำให้ธรรมของพระพุทธเจ้าผิดเพี้ยนไป” มันบาปหนักหนาสาหัสร้ายแรงยิ่งกว่าทำให้“พระบาทพระพุทธเจ้าห้อเลือด” พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในพระไตรปิฎก เล่ม 12 ข้อ 442 ที่พระองค์ทรงบริภาษภิกษุสาติ ว่า เธอ“กล่าวตู่พระพุทธเจ้า (อัพภาจิกขสิ)”ด้วย “ขุดตนเอง (อัตตานัญจ ขนสิ)”ด้วย เพราะทำให้“คำสอนของพระพุทธเจ้า”ผิดเพี้ยนไป  มันก็“บาปหนักเป็นอันมาก”แท้คำว่า “ตู่พระพุทธเจ้า”ก็คือ “ทักท้วงผิดๆ-เอาสิ่งที่ผิดมายัดเยียดใส่ให้แก่พระพุทธเจ้า” 

คำว่า “ขุดตนเอง”ก็คือ “เจาะลึก-สับแหลกตนเองให้ทำลายให้เสียหายเลวร้ายอย่างโง่ๆ” คนผู้นี้ก็ไม่ได้อะไรจากพระพุทธเจ้า มีแต่ทำผิดบาป แถมทำร้ายตนเองให้ชั่วให้เลวต่ำทรามซ้ำหนาหนักอีกด้วย ตามอวิชชาที่ตนมืดบอดจริงๆ ซึ่งคนผู้“อวิชชา”มืดบอดจริงนั้น ถ้าถึงขั้นเป็น“ปทปรมบุคคล” คือ ผู้รู้พระพุทธพจน์ก็มาก ท่องจำได้ขึ้นใจก็มาก สั่งสอนผู้อื่นอยู่ก็มาก แต่ตนเองไม่ได้บรรลุธรรมเลยในชาตินี้” ก็จะหลงงมงายอยู่กับ“อวิชชา”ที่ตนเองหลงยึดมั่นถือมั่นอยู่นั้นแหละ ไม่ยอมมี“ปรโตโฆสะ” ก็ไม่มี“โยนิโสมนสิการ”เลย

“ไม่ยอมฟังผู้อื่น”หรือฟังบ้างเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่เชื่อว่า “ผู้อื่น”นั้นจะ“ถูกแท้ถูกจริง” ก็ยังหลงยึดมั่นถือมั่นอยู่ตามที่ตนยึดมั่นถือมั่นอยู่ตามที่ตนได้เชื่อแล้วอยู่ตามเดิม จึงยากมากที่จะสามารถปลุกคนผู้“ปทปรมะ”ก็ดี คนผู้หลงมืดบอดเพราะไป“หลับตา” หรือทำ“ตา”ตนเองให้บอด ทำ“หู”ตนเองให้หนวก ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎก เล่ม 14 ข้อ 853 ก็ดี ใหั“ตื่นขึ้นมารู้ใหม่”ได้ ผู้ปทปรมะนั้น คือ ผู้รู้มากสอนคนอยู่ในบ้านเมืองนี้เอง  ส่วนผู้“หลับตา”ทำให้ตนเป็นคนตาบอดหูหนวกนั้นก็คือคนที่พากัน“หลับตาปฏิบัติ” ออกป่า สู่เขาสู่ถ้ำนั้นแลแท้ๆ ก็เป็นเดียรถีย์ทั้งคู่ คือ ยังไม่มีวิชชา มีแต่อวิชชาอยู่ ซึ่งก็คือ ยังไม่มี“ปัญญา” มีแต่“ความอัปปัญญา”นั่นเอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 2

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2565 แรม 15 ค่ำเดือน 4 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2565 ( 13:43:42 )

อาตมาก็อาศัยพุทธวจนะอยู่แต่อาตมาไม่ได้หลงติดยึด

รายละเอียด

อาตมาเชื่อว่าที่อาตมาพูดนี้ตรง และพุทธวจนอาตมาก็อาศัยอยู่นะ ไม่ได้ไปทิ้งพุทธวจน แต่อาตมาไม่ได้หลงติดยึดพุทธวจนอย่างที่เขาติดยึดเลย จะเห็นได้ว่ามันต่างกันนะ เขาใช้พุทธวจนหรืออาศัยพุทธวจนอย่างขนาดไหน กับอาตมา 

เพราะอาตมาจะอนุโลมปฏิโลมกับมนุษยชาติอยู่ แต่เขานั้นเหนียวแน่น 

ใช่ ทิฏฐุปาทาน สุดยอด อาตมาก็ต้องปล่อยไปตามที่เขาเป็น แก้ไม่ได้ แตะไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ เสียเวลา ซึ่งพูดไปก็แย้งกันเปล่าๆ หรือว่า ถึงขั้นทะเลาะนั่นแหละ แต่อาตมาไม่ทะเลาะด้วย เพราะถ้ามีเหตุปัจจัยจะไปทะเลาะ อาตมาก็ไม่เริ่ม 

อาตมาจะเริ่มตำหนิหรือแย้งกับผู้ที่ทะเลาะอาตมาไม่ไหว แต่นี่อาตมาเชื่อว่าเขาจะทะเลาะกับอาตมาไหว หนักด้วย อาตมาไม่เอา ไม่สู้ ยอมแพ้ก่อน แพ้ดีกว่า ไม่เอา เพราะอาตมาไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะมาเอาแพ้เอาชนะกับใคร อาตมาเป็นผู้แพ้ดีกว่า ในชีวิตนี้อาตมาไม่คิดจะไปเอาชนะใคร อาตมาจึงไม่ไปเกี่ยวข้องกับคณะพุทธวจนะ เอาล่ะพูดแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว พูดไปจะหนักกว่านี้ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 10:55:50 )

อาตมาคือสิทธัตถะผู้หนึ่ง

รายละเอียด

สิทธัตถะ หมายความว่า ผู้มีความอยากอันสำเร็จแล้ว มันสำเร็จแล้วในเรื่องของความอยากทั้งหมด สิทธัตถะ ท่านแปลได้คมคายดีมากเลย อาตมาไม่ได้แปลเอง แต่มีท่านแปลไว้ในพจนานุกรมบาลี สิทธัตถะแปลว่า ผู้มีความอยากอันสำเร็จแล้ว อยากอะไรก็ได้หมดแล้ว จบทุกอย่าง ไม่เหลือแล้ว ชัดเจนดี เข้าใจง่าย 

จะหมายความว่าผู้ไม่มีความอยากแล้วหมายความอย่างนั้นก็ได้ เพราะมันสำเร็จความอยากทุกอย่างแล้วสิทธัตถะ จบกิจแห่งความอยาก จบแล้ว หมด ความอยากมันจบกิจแล้ว ซึ่งพยัญชนะฟังได้เข้าใจ คนจะเชื่อหรือไม่เชื่อว่า คนเรามีความอยากอันสำเร็จหมดแล้ว คือไม่มีความอยากแล้วหมดแล้ว คนจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่ผู้ที่ทำได้จริง อรหันต์ขึ้นไป อรหันต์คือโพธิสัตว์ระดับ 4 หรือพระอาริยะระดับ 4 ขึ้นไป จบเรื่องนี้จริง 

ถ้ายังอยู่เหตุปัจจัยมันก็จะเดินทางมากับกาละ 

กาละ ของศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้า กาละ ไม่ให้หนีไปอยู่เดี่ยวเหมือนเชน ไม่พบกับอะไร อยู่กับต้นหมากรากไม้ แม้แต่สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยก็ไม่เกี่ยวเลย ไม่ใช่ อันนั้นเชน มันแสนสุดโต่ง แต่พระพุทธเจ้านั้นให้อยู่แบบสามัญ อยู่กับสัตว์กับคน คนที่อวดฉลาดนั่นแหละตัวดีด้วย คนที่เป็นคนเถื่อนคนป่าก็มีปัญหามากเพราะเขาไม่รู้แม้พูดกันง่าย มีความเข้าใจแล้วก็แจกแจงให้คนพวกนี้รู้ได้ง่าย แต่เขาก็ไม่เจริญง่าย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมีความไม่มี สิทธัตถะและสิริมหามายา วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2565 ( 19:19:19 )

อาตมาฆ่ากิเลสนี้ตายก่อนในชาติก่อนแล้ว

รายละเอียด

อย่างอาตมาบอกไปนี้ ขนาดบอกไปคุณยังไม่เชื่อเลย แล้วไม่บอกมันจะไปได้อะไร อาตมาบอกว่า อาตมาไม่มีจิตอยากอวดโอ่ อาตมาไม่มี อาตมาศึกษาปรมัตถ์ อาตมาฆ่ากิเลสนี้ตายก่อนในชาติก่อนแล้ว มาพูดบอกไปในสิ่งที่เป็นสัมมาทิฏฐิพูดไปเขาก็ไม่รู้เพราะเขาโง่ คนที่ฉลาดจริงๆจึงจะรู้จักสัตบุรุษ ไม่มีใครพูดอย่างอาตมาหรอกพูดที่มีหลายมุมเหลี่ยมนี้เป็นความจริงทั้งนั้น ซื่อตรงนะ ไม่ใช่ว่าจะมาเล่นลิ้นเล่นโวหารอาตมาพูดสัจธรรมทั้งนั้น อาตมาเกิดมาในชาตินี้ตั้งแต่รู้ตัวก่อนจนมา 50 ปีแล้ว อาตมารู้ตัวอัตโนมัติทำงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่นไม่ใช่เรื่องเล่นแต่เป็นเรื่องจริงของสัจธรรมทั้งนั้น หากว่าจะมาอยู่กับลูกหลานถึงจะมีลูกเล่นตลกบ้าง แต่เมื่อแสดงธรรมอาตมาไม่มีการเล่น มีลูกเล่นบ้าง เล็กๆน้อยๆ ซึ่งก็รู้ ใครก็ดูดีลาว่าเป็นเรื่องสนุกก็สมส่วน เพราะเป็นศิลปินต้องยอมเอาสุนทรียศิลป์ใส่เข้าไปในสารศิลป์เพราะว่าศิลปะจะต้องมีศาสตร์และศิลป์ ถ้ามีแต่ศาสตร์ก็มีแต่สารคดีถ้าเป็นสุนทรีย์ไม่มีสาระเลยก็เป็นพวกฟุ้งซ่านบ้าบอ พวกศิลปะจึงมีแต่สุนทรีหาเทคนิค แค่คนติดยึดคนชอบแต่ไม่รู้จักแก่นสารสาระว่าสิ่งที่คุณสื่อสารออกไปเป็นงานชิ้นนี้ สาระแก่นสารที่คุณต้องการให้เขาได้รับคืออะไร ศิลปินทุกวันนี้ไม่รู้เรื่องนี้แล้ว ใครที่มีปฏิภาณก็ยังดีทำเรื่องที่มีแก่นสารสาระ 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 10:47:06 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:36:51 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 17:34:39 )

อาตมาตำหนิชาวพุทธด้วยกัน

รายละเอียด

อาตมาก็ไม่ได้ไปเที่ยวตำหนิศาสนาอื่นเขา แต่อาตมาตำหนิชาวพุทธด้วยกัน เพราะเป็นชาวพุทธด้วยกัน เอาความรู้ความจริงของพระพุทธเจ้าไปย่ำยีตีแหลก ทำให้ผิดทำให้ผิดเพี้ยนเสียหายไป มันต้องรีบกอบกู้ขึ้นมา มันเป็นความถูกต้องแล้วที่อาตมาทำ คุณพยายามทำความเข้าใจให้ดีๆ ให้เกิดความเฉลียวฉลาด อย่าไปมองแต่เรื่องอคติที่คุณไปรักอันนั้นแล้วไม่อยากให้เป็นตำหนิอันนั้น หรือไปคิดตามแนวคิดของคุณมันไม่ถูกต้อง อาตมาได้ยกอ้างคำของพระพุทธเจ้าและศึกษาให้ดีๆและจะชัดเจน อาตมาว่าอาตมาไม่ได้ทำผิดทำเสียหาย ทำมาเกือบ 50 ปีแล้ว อายุก็จะเต็ม 86 ปีในมิถุนายนที่จะถึงนี้

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 10:21:14 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:37:06 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 17:35:19 )

อาตมาตีค่าเป็นอบายภพ ไม่เอาเด็ดขาดถือว่าต่ำมาก

รายละเอียด

โลกอบายเราเห็นจัดจ้าน โลกของนายโดนัลด์ทรัมป์ คุณจะไปเป็นไหม หรือจะเป็นอย่างบิลเกตส์ เป็นอย่างคุณเจริญ หรืออย่างคุณธนินท์ ถ้าคุณจะต้องได้เป็นคนใดคนหนึ่ง ไม่เป็นคุณธนินท์ ก็ต้องเป็นคุณเจริญ ถ้าให้คุณเลือกคุณต้องเลือกคนหนึ่งคุณจะเลือกเป็นคนไหน? …เลือกคุณธนินท์ เพราะคุณเจริญทำสิ่งที่เลวร้ายกว่า มีที่ดินกับน้ำเมา เยอะ เป็นฐานของเขา ขออภัยขอบคุณคุณเจริญขอบคุณคุณธนิน อาตมาก็ไม่รู้ว่าเขาได้ยินได้ฟังจะอโหสิหรือไม่ แต่อาตมาก็ยอมขาดทุน เราไม่เอาเจริญแบบนั้น เจริญแบบเครือโภคภัณฑ์หรือเจริญแบบสิริวัฒนภักดีก็ไม่เอา คือ เรามีความรู้ในสันโดษ มีความรู้ในเรื่องของอบาย แม้แต่กาม อันนี้ทีเดียวแล้วแต่ใครจะตีค่า ถ้าตีค่าอบายก็ไม่เอาใหญ่ แต่ถ้าตีค่าเป็นกามภพ ไม่ใช่อบายภพก็แล้วแต่ใครจะจัด แต่อาตมาตีค่าเป็นอบายภพ ไม่เอาเด็ดขาดถือว่าต่ำมาก ส่วนใครจะตีค่าเป็น กามภพอยู่ก็แล้วแต่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:32:35 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:37:20 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:09:59 )

อาตมาต่อสูตร C ตัวติดต่อจาก E= mc2

รายละเอียด

1.องศาของพลังงานต้องตรงที่สุด 2. พลังงานต้องเหนือจากพลังงานโลก ถ้าองศาไม่ได้ก็เสีย โลกทางวัตถุทำได้แล้ว เขาจะพยายามไปให้ไกลถึงดาวอังคาร ก็ต้องแหวกพลังงานที่จะออกไปนอกโลก มันมีหลายชั้น เขาก็พยายามอยู่ อาตมาว่าให้เขาพยายามไปอาตมาไม่เอาด้วยหรอก เมื่อย อาตมาพาทำให้ผู้คนทำได้ อันโน้นจะบ้าไปเป็น Star Wars ออกไปรบกันนอกโลกสร้างดาวเทียม ฟุ้งซ่านไป อาตมาว่า จะไปฟุ้งซ่านอะไรได้ขนาดนั้น แต่ก็ห้ามเขาไม่ได้ เขาต้องทำไปตามประสาที่เขาเห็นว่า มันเขี้ยว ไอน์สไตน์เป็นตัวจุดพลังงานให้เขารู้จัก E= mc2 อาตมาต่อสูตร c ตัวจิตนี้ สามารถทำให้เกิดการต่อได้ ถ้าเราจะไม่จบ เป็นตัวสัมประสิทธิ์เป็นค่าพลังงานของจิต สัมประสิทธิ์ที่เป็นแบบวัตถุเป็นทางโลกก็มี ไอน์สไตน์คิดได้แต่นี่เป็นนามธรรม ถึงขั้นจิตวิญญาณไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อเป็นเรื่องจริง พิสูจน์ได้ อาตมาจึงพยายามที่สุดเท่าที่จะไปได้ พวกเราก็ค่อยๆเห็นอาตมาพยายาม ติดตาม จาก 84 แล้วไป 90 ก็แค่ 6 ปีก็จะได้ฉลองกัน ถ้าเป็น 96 ทีนี้ ฉลองอีกเพื่อจะให้มันออกจาก 96 ให้ได้ ให้กำลังใจ เกิน 96 เป็น 97 ไป พ้น 97 จะฉลุยออกไปอีก มันก็จะได้ต่อไปอีก ไปถึง 108 120 132 144  อาตมาอธิบายยังไม่เก่ง สิ่งที่สำคัญของศาสนาพุทธคือ Reincarnation หรือ Rebirth การเกิดแล้วตาย คนอวิชชาจะสร้างสันดานให้ทุกข์ชั่ว สันดานสะสมอกุศล บารมีสั่งสมกุศล มันมี 2 ทิศทางอย่างนี้ ผู้ที่จะจัดการแก้ไขกำจัดสันดาน จึงต้องใช้บุญ กำจัดสันดาน กำจัดแล้วก็เกิด บารมี หรือปารมี สะสม ปารมะ ขยายจาก บรม นี่แหละ ยืดมาเป็น อะ อา แล้วเติม ม คือตัวจิต เข้าไป อะ อา อิ อี นัยของพยัญชนะสระพวกนี้ขออธิบายไว้นิดหน่อย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 23 มกราคม 2564 ( 11:27:24 )

อาตมาทำงานมา 50 ปีมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

รายละเอียด

สรุปเข้าเนื้อหา ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง อาตมาทำงานมา 50 ปี ผลปรากฏทฤษฎีของพระพุทธเจ้าพวกเราเข้าใจคำว่ากาย คำว่าบุญ คำว่าสมาธิ ที่เป็นสัมมาสมาธิ เข้าใจจรณะ 15 เข้าใจ ฌาน เข้าใจอะไรต่างๆนานาที่มีบัญญัติพวกนี้แล้วพวกเราปฏิบัติจริง จึงเกิดกลุ่มชนที่เป็นโลกุตระอาริยชน แบบของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง จนกระทั่งเกิดเป็นสาราณียธรรม 6 เป็นสังคมเกิดเป็นชุมชนที่เป็น สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตามีลาภโดยธรรมเกิดมารวมกัน มีเหลือมากเข้าก็เอาไปแจกหรือขายอย่างถูก ขายยังต่ำกว่าราคาตลาดขายอย่างเท่าทุน ขายขาดทุนยิ่งดีกว่าเท่าทุนอีก เราขาดทุนได้หรือไม่ได้สิเพราะเราขาดทุนค่าตัวของเรา  ค่าตัวของคนวันละ 1,000 บาทคนกินใช้เพียง 200 บาทอีก 800 บาทก็เอามาลดเอามาแจกให้คนอื่น ในพวกเราเองเผื่อแผ่กันเองด้วย 200 เหลืออีก 600 ก็แจกจ่ายคนอื่นอีก แล้วไม่ใช่คน สองคน เป็นร้อยคนพันคน หมื่นคนแสนคน  ก็จะยิ่งเป็นจำนวนมหาศาล นัยเดียวกันเป็นคนมักน้อยสันโดษทุกคนเลี้ยงง่ายบำรุงง่ายมาจนมักน้อยจริงๆเป็นใจจริงเลย พวกเราชาวอโศกอยู่ในนี้ไม่สะสมจริงๆ แม้จะเป็นฆราวาส ก็มีเงินทำกิจกรรมได้ แต่ก็ไม่สะสมเป็นของตัวเองเลยก็มี มีก็เอาเข้ากองกลาง จะใช้ก็เบิกมาใช้สบาย ไม่ต้องเป็นภาระ เบา เป็นสัจจะที่คนไหนเขาเป็นจริงได้ ไม่ใช่ว่าเที่ยวไปฝากไว้ที่คนไหนๆ ระวังโกหกซ้อนบาปซ้อนนะ ไม่มีหรอกฉันไม่มีแต่ฝากไว้ที่ต่างๆ คนนี้ๆ ตีซ้อนนะ โกหกทั้งๆที่รู้ว่ามีทุจริตซ้อนแฝงระวัง สัจจะ กรรมเป็นอันทำไปโกงกรรมไม่ได้ กรรมซื่อสัตย์ที่สุด สัจจะพวกนี้ อาตมาเต็มใจจะพาพวกเราพิสูจน์พิสูจน์สัจจะ สัจจะที่บริสุทธิ์ที่สุดเท่านั้นจะชนะทุกสิ่งทุกอย่าง ความบริสุทธิ์เท่านั้นจะชนะทุกสิ่งทั้งโลกในที่สุด อาตมาก็พูดในแวดวงศาสนา แต่ศาสนาพระเจ้าเขาก็ดี แต่ดีตามกรอบของเขาแต่ละสำนักลัทธิศาสนา พวกเรามาทำอย่างนี้หากใครจะเสแสร้งก็ตามทำให้ได้ตลอดชีวิตเลยนะ แต่ถ้าไม่ต้องฝืนไม่ต้องเล่นลิเกก็ สบม ทมด ปกต หห จจ มชยลล ชัดเจนที่สุด อาตมาไม่มีความสงสัยในธรรมะพระพุทธเจ้าว่าสิ่งนี้แน่นอนเที่ยงแท้ไม่มีใครหักล้างได้ อสังหิรังไม่มีใครหกล้างได้ ไม่ใช้ท้าทาย แต่เป็นสัจจะมันมีธรรมฤทธิ์ในตัวของจริง ยุคนี้อาตมาประเมินแล้วเทียบแต่ละลัทธิสังคม ในโลกก็เข้าใจชัดว่ามันไม่มีอะไรดีเท่าและเขาก็ต้องมาเอาสิ่งนี้ ก็มีแต่ความจริงว่าพวกเราต้องเร่งรัดพัฒนาแต่ละคนให้เจริญอาริยธรรมสัจธรรมให้จริงศึกษาให้ดี เราบกพร่องอะไรทำไปตามลำดับ คนเราต้องผิดมาก่อนชั่วก่อนดีทั้งนั้น อันนี้ต้องหยุด ต้องสมาทาน ยึดเอามาปฏิบัติอาศัยเอามาใช้อาศัย เพื่อประโยชน์ผู้อื่น เราปฏิบัติไม่บรรลุก็สมาทานเพื่อให้ตนบรรลุ เช่น สมาทานศีล 5 ศีล 8 กรรมฐานนี้สัจจะนี้ ตั้งตบะนี้ แล้วก็ปฏิบัติ เราก็ได้ผล ก็จริง แล้วมันจะมาเป็นหนึ่งเดียวกันไม่แยกเอกภาพ จะรวมกันอย่างดีสามัคคี ไม่ทะเลาะวิวาท หยาบคาย 40 50 ปีพวกเราทำมา ใครทำหยาบคาย เหมือนออกมาจากโทรทัศน์เราไม่ทำ มันหลุดพ้นจริงๆ เป็นสัจจะ แม้แต่เราจะเป็นสังคมมีลาภธัมมิกา สาธารณโภคี เผื่อแผ่แจกจ่ายผู้อื่น แล้วเราก็ลงตัวทุกอย่างที่อาตมาพูดไป เราเป็นคนตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ไม่สะสม ขยันหมั่นเพียรสร้างสรร เราก็อาศัยอยู่กับหมู่กลุ่มสาธารณโภคี อาตมาอธิบายวนตรงนี้ ดีนะพวกเราไม่รำคาญ เป็นสิ่งอุดมสมบูรณ์พิสูจน์ต่อไปอีก เราเน้นย้ำอาการ กวฬิงการาหาร ชัดเจนว่าพืชพันธ์ุธัญญาหาร แม้แต่ประมงเราก็ไม่เกี่ยว สัตว์เราไม่เกี่ยวต่างคนต่างมีวิบาก โดยเฉพาะทางฆ่าแกงทำร้ายก็ยิ่งยากแก้แค้นกันชาติแล้วชาติเล่าเหมือนหนังจีน ไม่เอา เรื่องรักผูกพันก็ไม่เอา กรรมวิบากระดับจิตนิยาม กับสัตว์เราปล่อยไปตามยถากรรมวิบากเรามายุ่งเกี่ยวกับพืชพันธุ์ธัญญาหาร อาศัยกวฬิงการาหาร เป็นพืชหรืออุตุ เป็นเกลือเป็นแป้ง จากพืชแล้ว พืชตัดจากต้นแล้วก็เป็นอุตุ ขยายความเป็นกายกับไม่ใช่กาย หากไม่เข้าใจก็ทำไม่ได้ แล้วทำให้มันเกิดธาตุจิตคุณให้เป็นอุตุพีชะในจิตนิยามโดยกรรมนิยาม ทำได้แล้วจนแข็งแรง ทรงไว้ซึ่งธาตุอาศัยเป็นพีชะ แตกสลายเป็นอุตุ จิตคุณทำได้แล้ว จิตส่วนเหลือก็เอามาทำงานเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นได้อีกเยอะแยะ ส่วนจิตที่เป็นพีชะ อุตุได้แล้วก็สบาย 

ที่มา ที่ไป

พิธีบูชาพระรมสารีริกธาตุ วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 11:06:00 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:37:39 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:56:29 )

อาตมาบรรลุ ตั้งแต่เป็นฆราวาส

รายละเอียด

อาตมาขอสรุปตัวเองเป็นคนชื่อคนตรงเป็นใครก็บอกว่าเป็นใครไม่ได้มีอคติ ไม่ได้มีอกุศลไม่มีการอยากอวด ไม่มีกิเลส ไม่มีการอยากอวดโอ่อะไร พูดตรงๆว่าอาตมาบรรลุ ตั้งแต่เป็นฆราวาส อาตมาก็มาอย่างจริงๆตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ก็ยังยืนยันอย่างนี้ แล้วก็ไม่ตามศึกษากัน แต่พวกคุณตามศึกษาและมีหลายคนที่ตอนแรกก็ไม่เชื่อ พอต่อมาได้มาศึกษาแล้วมาเป็นชาวอโศก ก็ดีที่ไม่ปิดกั้นมิจฉาทิฏฐิถาวร ปฏิเสธถาวร ผู้ที่ปฏิเสธถาวรก็น่าสงสาร ก็พิสูจน์กันด้วยเวลา พิสูจน์กันด้วยของจริงที่พวกเราพากันปฏิบัติไป กว่าเขาจะเข้าใจว่าพวกนี้ดี ไม่ค่อยมีความโกรธความโลภ นอกจากพวกตื้อๆในหมู่เขาเขาเชื่อกันเป็นส่วนใหญ่ที่ไม่มีความรู้ แม้จะศึกษาเปรียญ 9 ดร.ทางศาสนาแต่ไม่มีความรู้ความจริง รู้ได้แต่บัญญัติภาษาที่เรียนกัน แต่ไม่เข้าไปหาสภาวะไม่เข้าหาจิตเจตสิกรูปนิพพาน ไม่เข้าไปหาปฏิบัติ อย่างไรมันก็ไม่เข้าไปหาจิตเจตสิกรูปนิพพาน โดยเฉพาะศึกษาพยัญชนะภาษาที่ผิด แปลผิดๆ สมาธิ ฌาน กาย บุญ ก็แปลไปอย่างนั้น ซึ่งมันผิด อาตมาก็ต้องมาแก้ให้ เขาก็ไม่เชื่อ เขาก็เชื่ออย่างนั้นที่เขาเรียนกันที่เขาสอนกัน ถ้าคุณหมายว่า มาศึกษาศาสนาจะได้ความถูกต้องจะได้มรรคผล ไม่ใช่ไปหลงยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ผิดตลอดกาลมันก็ซวยตาย อาตมาก็บอกแล้ว ว่า ถ้ามันถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิแล้วเป็นสัมมาปฏิบัติ คุณปฏิบัติไปตามลำดับตั้งแต่ศีลสมาธิปัญญา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 10:04:52 )

อาตมาบอกว่าสังคมไทยเป็นสังคมอาริยบุคคล

รายละเอียด

ก็ขอสรุปว่า อาตมาเกิดมาในชาตินี้ เอาธรรมะพระพุทธเจ้ามารื้อฟื้นมาเปิดเผย โลกุตรธรรมจนกระทั่งทำให้คนรับรู้ ฟื้นโลกุตรธรรมขึ้นมาได้ จนกระทั่งเกิดโลกุตรธรรม โลกุตรธรรมเป็นคำรวม คำใหญ่ เป็นธรรมะขั้นโลกุตระ ปฏิบัติได้มรรคได้ผลด้วย เป็นอารยธรรมหรือเป็นโลกุตรธรรม นี่ มาเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ในสังคมชาวอโศก 

ซึ่งอาตมาบอกว่าสังคมไทยเป็นสังคมอาริยบุคคล คนที่เขายังไม่มีภูมิไม่มีความรู้ เขาไม่เชื่อหรอก โน่น เขาไปเชื่อว่าสังคมของมหาบัวโน่น เป็นอรหันต์กัน แต่ มหาบัว ไม่มีชุมชนนะ ไม่มี โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ แม้แต่ในพระเขาก็แยกแยะไม่ได้ว่าใครเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ แต่ของพวกเรานี้แจกแจงกันได้ อันนี้ก็เป็นความต่างแล้วก็ยืนยันกันได้ด้วย 

คุณแต่ละคนจะปฏิญาณตนว่าเป็นโสดาบัน ปฏิญาณตนว่าเป็นสกิทาคามี ปฏิญาณตนว่าเป็นอนาคามี ยังไม่แม่น ยังไม่กล้า ยังไม่ชัดเจน ยังไม่ยืนยันให้แก่ตัวเองได้ ก็เถอะ คุณก็ยังพอรู้ว่า เอ้อ โสดาบัน มีหลักเกณฑ์ของพระโสดาบันขนาดไหน รู้จัก สักกายทิฏฐิ ปฏิบัติศีล 5 เราเอา ศีล 5 มาเป็นเครื่องตรวจสอบ แล้วจิตของเราก็เป็นปกตินะ กับเรื่องสัตว์ เรื่องของ สัตว์ เราก็มีจิตใจที่เอ็นดูเป็นเพื่อนทุกข์ หวังประโยชน์แก่กันและกันอยู่ 

มีข้าวมีของ เราก็ไม่ทุจริตแล้ว ของเขาก็ของเขา ของเราก็ของเรา ถือวิสาสะกันบ้างก็ต้องระมัดระวัง มีรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ก็สังวรระวัง ยิ่งเป็นอนาคามีสบาย รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสก็สบายแล้ว ไม่มีเรื่องที่จะเป็นทุกข์เป็นสุขกับรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ไม่มีแล้ว ก็เป็นอนาคามีจริง ยิ่งหมดรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ก็อยู่ด้วยกันสบาย ข้าวของก็ไม่มีทุจริต รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสก็ไม่มีกิเลสอะไรเลย เข้าใจหมด หลุดพ้น อย่างน้อยก็อนาคามีขึ้นไป เหลือเศษที่คุณสรุปไม่ได้เท่านั้นที่จะเป็นอรหันต์ ที่อาตมาพูดแล้วพูดอีกว่า พวกเรานี้เป็นอรหันต์แต่สรุปไม่เป็น สรุปไม่ลง ถ้าสรุปลงเป็นอรหันต์กันเยอะไม่ใช่เล่นนะ อรหันต์ก็มีขั้นตอนเหมือนกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 12:08:17 )

อาตมาผ่านประสบการณ์อย่างนี้มาแล้ว ต้องหมั่นเทียบเคียง!

รายละเอียด

สำหรับอาตมานั้น ขอยืนยันว่า อาตมาทำได้ทั้ง“2 แบบ” ทั้งที่เรียนรู้กัน ทั้งที่ปฏิบัติกัน จึงรู้จักรู้แจ้งรู้จริงทั้ง“2 แบบ” จึงสามารถเทียบ“ความจริง 2 แบบ”นี้ได้ด้วย“ความเกิด-ความเป็น”ของ“ความรู้สึก”อันได้แก่ “เวทนา 108”ที่เป็น“ฐาน”แห่งการปฏิบัติแท้จริงของตนเองแท้ๆ แล้วเราก็“ตัดสิน”ได้ด้วยตนเอง ขออภัย ที่พูดนี้คือ ความจริงใจ ไม่ได้มีความอยากอวดตัวอวดตน ไม่ได้หลงตัวหลงตนอะไรเลย แต่พูดตามที่เป็นจริงประสงค์จะให้ท่านทั้งหลายที่หลง“ยึดมั่นถือมั่น”กันอยู่ ทั้ง“ปริยัติบัญญัติภาษา” ทั้ง“การปฏิบัติการประพฤติ” ตามที่ยึดมั่นอยู่ แล้วดูถูกดูแคลนอาตมานั้น เปิดใจ และมี“ปรโตโฆสะ”ลองมาเรียนรู้“การทำใจในใจ(มนสิการ)”แบบอาตมาดูบ้างซิจะได้เกิด“ผล” 2 แบบ ให้ตัดสินได้จริงๆว่า อันไหนแท้ อันไหนไม่ถูกต้อง อย่าหลงมิจฉาทิฏฐิยึดมั่นแต่“เทฺวนิยม”กันอยู่นักเลย หันมาเปิดใจ รับฟัง“อเทฺวนิยม”ที่ขอเสนอนี้กันดูบ้างเถิด

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนืยม เล่ม 2 ข้อ 160 หน้า 141


เวลาบันทึก 22 มิถุนายน 2564 ( 11:00:28 )

อาตมาฝึกบุรุษที่สมควรฝึก ผู้หญิงที่มาเรียนมีปุริสสภาวะในตัว

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นความจริงหรือความถูกต้องตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า อโศกหรืออาตมาพาทำ อาตมายืนยันว่า มันเป็นเนื้อแท้ของศาสนาพระพุทธเจ้า ขอพูดตรงๆอย่างนี้ เถรสมาคมหรือสายโน้นที่ ไม่เคารพศรัทธาอาตมาเลย ฟังแล้วจะหมั่นไส้ ก็ขออภัย 

เป็นผู้ฝึกบุรุษ ซึ่งไม่มีใครยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าจริงๆ อาตมาชาตินี้ก็พยายามฝึกบุรุษที่สมควรฝึก ผู้หญิงที่มาเรียนกับอาตมา มีปุริสสภาวะอยู่ในตัว ถ้าเป็นอิตถีภาวะ ก็จะอยู่ไม่ได้นาน 

เพราะฉะนั้นจึงได้รับการฝึก ได้ง่ายได้ดี เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นอาจารย์ ศาสดา เป็นผู้สอนธรรมะของเทวดาและมนุษย์ เทวะหรือเทวตา  ตาเป็นปัจจัยเสริมให้คำว่าเทวะเป็นคำนาม ไม่ใช่คำกิริยา คำว่าเทวะเดี่ยวๆก็เป็นได้ทั้งคำนามและคำกิริยา แต่ถ้าเอาตามาใส่ก็บอกสภาวะของนามธรรม หรือเป็นสภาวธรรมแท้ๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิชชาจรณสมบัติ และพรหม 20 ชั้น วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2565 ( 13:51:02 )

อาตมาพยายามสร้างคุณภาพ

รายละเอียด

อาตมาทำนี้อาตมาเสียจริงๆแล้ว ไม่มีใครอยากให้คนไม่ชอบหรอก ไม่ศรัทธาเลื่อมใส แล้วใครจะไปอยากได้ แต่ต้องทำเพราะว่ามันจะต้องได้สิ่งหนึ่งเสียสละสิ่งหนึ่ง อาตมายอมเสียสละ คนที่เขาศรัทธาเลื่อมใสแล้วไม่เข้าใจอาตมา อาตมาเสียแล้วนะ ใช่ไหมเขาไม่เข้าใจอาตมา เขาไม่ศรัทธาเราแต่เขาไปศรัทธาท่านมหาบัว อาตมาก็ขาดทุนอยู่ตลอดเวลา ใช่ไหม แต่อาตมาก็ยอมเสียเพื่อคนที่เขาแสวงหา คนที่เขาพยายามทำความเข้าใจไม่มีอคติ ไม่ติดยึด กำลังจะเจริญก้าวหน้า คนเรามี จะได้ ได้คนเหล่านี้ 1 คนต่ออาตมาว่าคนที่เขาไม่ศรัทธาอาตมา ร้อยคนพันคน อาตมาก็คุ้ม อาตมาจึงยอมเสีย ยอมแลก นี่เป็นสัจจะ ถ้าจะพูดกันด้วยปริมาณ อาตมาพูดไปก็ขาดทุนโดยปริมาณตลอดเวลา แต่อาตมาต้องพยายามสร้างคุณภาพ ไม่ต้องไปสร้างปริมาณ สร้าง Quality ส่วนเรื่องของQuantityไม่เป็นไร 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 18:46:55 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 08:01:47 )

อาตมาพาทำ ทั้งรูปธรรมและนามธรรม

รายละเอียด

ส่วนอาตมานั้น พาทำ ทั้งรูปธรรมและนามธรรม จนเกิดความจริงของคน ในด้านเศรษฐศาสตร์ก็ถึงขั้นสาธารณโภคี มีสาราณียธรรม 6 มีกลุ่ม มนุษย์ชน ที่อยู่กันเป็นหมู่กลุ่มชุมชน กระจายอยู่เป็นชุมชนชาวอโศกทั่วประเทศ ก็มีได้ประมาณนี้ มีมากประมาณนี้แหละ ซึ่งก็เป็นไปได้จริง เป็นชุมชนสาธารณโภคี สาราณียธรรม 6 อยู่กันได้ด้วย สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา  ที่แท้จริง พิสูจน์คำสอนเป็นปาฏิหาริย์ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คำสอนของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติได้จริง เป็นเอหิปัสสิโก อกาลิโก แม้ปัจจุบันนี้พิสูจน์ได้เป็นสวากขาตธรรม

อาตมาไม่ใช่คุยตัวไม่ได้อวดอ้าง เป็นการบอกยืนยันความจริงว่า ของพระพุทธเจ้านั้นไม่ใช่ปากเปล่า ตราบใดที่โลกยังมีผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว โลกไม่ว่างจากพระอรหันต์ นี่ก็เป็นการพิสูจน์ความจริง ว่าชาวอโศกยังมีพระอรหันต์อยู่ในยุคนี้แท้ๆ แต่เขาไม่เชื่อแล้วว่าพระอรหันต์คืออะไร เขาไม่เชื่อ เขาไม่เข้าใจ เขาจะเชื่อได้อย่างไร

เขาไปเข้าใจอรหันต์เก๊ๆ อรหันต์ผิด ก็ต้องอย่างนี้แหละ เราพูดไม่ตรงกับความเชื่อของเขา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 ตุลาคม 2565 ( 15:30:54 )

อาตมาพาพวกเราให้เกิดความเต็มคืออรหันต์

รายละเอียด

ทีนี้ จิตวิญญาณ ที่อาตมาเอามาอธิบายเอามาสอนเอามาเปิดเผยให้เรียนรู้แล้วให้ปฏิบัติ จนได้ความจริงของจิตวิญญาณ ได้มาก ขั้นต้น โสดาบัน ขั้นต่อมาสกิทาฯ ขั้นต่อมาอนาคามี ขั้นต่อมาอรหันต์ ได้ขั้นอรหันต์ถือว่าเต็มแล้ว เพราะฉะนั้นอาตมาก็จะต้อง พาพวกเราปฏิบัติให้เกิดความเต็ม คืออรหันต์ นี่คือวิสัยทัศน์ของอาตมา 

จะต้องมาทำให้คนอื่น ถ่ายทอดสอนพาปฏิบัติจนเกิดผลแล้วก็ย้ำ ทวนให้รู้ว่าคุณได้แล้วหรือคุณยังไม่ได้ให้ชัดเจน แม้จบแล้วก็บอกแล้วว่า พวกเราสรุปไม่เป็น เพราะว่าอาตมาสอนมาก รู้มาก มันเลยเยอะหน่อย ก็เลยบางคนสรุปไม่เป็น อ่านสภาวะจิตกับเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง แล้วสรุปไม่เป็นว่า จริงๆเราปฏิบัติแล้ว ผัสสะ ในปัจจุบัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิสัยทัศน์ของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 ตุลาคม 2565 ( 12:01:12 )

อาตมาภาคภูมิใจในพวกเราที่มีสังคหะ

รายละเอียด

ในสิ่งที่อาตมาพากันทำ อาตมาภาคภูมิใจในพวกเราที่มีสังคหะ แปลว่าการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น พวกเรานี้ได้ทำ ผู้ใดที่รู้สึกตัวว่า เราไม่ค่อยได้ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นยังต่ำอยู่ยังไม่ประเสริฐ ยังเป็นคนที่ไม่มีสิ่งที่ดีไม่มีสิ่งที่ประเสริฐเป็นต้น จงพยายามขวนขวาย เราควรจะได้ช่วยผู้อื่นในมุมนั้นมุมนี้ คนที่เจ็บป่วยคนลำบากก็ยิ่งช่วยได้ คนที่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้วหรือมีผู้ช่วยคนอื่นๆช่วยมากแล้ว ก็ไม่ต้องไปแย่ง คนที่เขาไม่มีคนช่วยก็คอยช่วยเขาอย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 10:34:04 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:37:54 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:09:40 )

อาตมามั่นใจในเศรษฐศาสตร์พระพุทธเจ้าที่ทำมาจนกระทั่งมีรูปธรรม มีแก่นแกนแล้ว

รายละเอียด

ก็แล้วแต่ ใครที่เขาคิด เขามีหนทางก็ทำ แต่เราอาตมาภูมิใจที่พวกเราทำ เงินธนบัตรเราก็ไม่ได้ดูถูกดูแคลน ใช้เป็น แต่เราอาศัยสิ่งที่เป็นแก่นสารสาระของชีวิต ในขณะนี้ พูดได้เลยว่าชาวอโศกมีเงินคงคลังไม่เท่าไหร่หรอก รวบรวมได้เลยทั้งประเทศ เงินของชาวอโศก หมุนเวียนได้พอสมควรแล้วเราก็สร้าง เราก็ไม่ได้เน้น เราผลิตผล ผลิตสินค้าได้จะต้องเอาไปขายให้ได้ส่วนเกินได้เปรียบตามค่านิยมทุนนิยมเขา เราไม่ทำเราถือว่ามันบาปด้วย ถือว่าเป็นสิ่งที่ชั้นไม่สูง  แล้วก็ปฏิบัติอย่างที่เราเข้าใจแล้วอยู่รอด การจะพิสูจน์เรื่องเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ อาตมามั่นใจในเศรษฐศาสตร์พระพุทธเจ้าที่ทำมาจนกระทั่งมีรูปธรรม มีแก่นแกนแล้ว ไม่ใช่ทำแล้วไม่มีแก่นแกน แต่แก่นแกนพวกเราแข็งแรงแล้ว ยังเหลือแต่ว่าจะทำน้ำหนักให้มันเพิ่มขึ้น มีขยันมีสมรรถนะเพิ่มขึ้น  ผลิตเพิ่มขึ้น กิเลสเราก็น้อยลง ตัวตนเราน้อยลงเสียสละได้มากขึ้น เราก็สบายเบาภาระ เป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อน คัมภีราวภาโส หรือปฏินิสสัคคะ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 10:32:17 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:38:09 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:15:54 )

อาตมามาบำเพ็ญโพธิสัตว์ต่อในยุคนี้ที่ความรู้ของคนเพี้ยนผิดไปจากโลกุตระจึงน่าสงสารคนที่เขาปิดประตูเชื่อ

รายละเอียด

เราพูดกันนี่ อาตมาพูดพวกคุณก็ฟัง ฟังว่า อาตมาบอกว่า อาตมามาบำเพ็ญโพธิสัตว์ แต่ละชาติมา มาชาตินี้ก็มาบำเพ็ญโพธิสัตว์ต่อ พวกเราก็ฟังแล้วเข้าใจเชื่อ แต่พวกคนที่เขาฟังแล้วก็อะไรของมันวะ หรือแม้แต่คนที่ศึกษาศาสนาพุทธมีความรู้ทางศาสนาพุทธได้ยินอาตมาพูด เขาก็ยังว่าหน้าอย่างนี้หรือโพธิสัตว์ นี่อายุป่านนี้แล้ว อายุ 36 ก็มาประกาศตนเป็นโพธิสัตว์ ความคิดของเขาโพธิสัตว์จะต้องมีอะไรส่อเค้าตั้งแต่เล็กๆสิ แต่นี่ดีไม่ดี ออกมาจากจอมายา แล้วมาสาธยายธรรมะโลกุตระด้วย มันมีหลายชั้นที่ทำให้เขาคิดไม่ถึง ตามสามัญที่ควรจะเป็น มันเป็นวิสามัญ อาตมาในยุคนี้เรียกว่าวิสามัญ เพราะว่าความรู้ของคน มันเพี้ยนผิดไปจากโลกุตระ นอกจากไม่รู้จักแล้วยังไปหลงขี้หมูขี้หมาอะไรก็ไม่รู้เป็นโลกุตระ เขาถือว่านิพพาน เลยโลกุตระด้วยนะ เขาไปหลงอะไรไม่รู้แล้วก็บอกว่าขี้หมูขี้หมานี่แหละจะพาไปนิพพาน เชื่อด้วยว่าคนนี้บรรลุนิพพานคนนี้เป็นพระอรหันต์ อาตมาเห็นแล้วก็น่าสงสาร อาตมาเป็นโพธิสัตว์จริงเป็นอรหันต์จริง เป็นสยังอภิญญาจริง ไม่ได้พูดเล่น อวดดี ทำเบ่งไม่ใช่ อาตมามาทำงานจริง เกิดมาเพื่อมาสืบสานศาสนาพระพุทธเจ้า แต่น่าสงสารคนที่เขาปิดประตูเชื่อ เพราะเขามีมิจฉาทิฐิที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีแล้ว ครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดกันมาก็น่าเห็นใจเขา แล้วเขาก็มีมรรคผลของเขา นิพพาน นิโรธ วิมุติ เป็นฌานเป็นสมาธิ ตามความคิดเห็นตามความยึดถือของเขา แล้วอาตมามาในรูปอัปลักษณ์ไม่เข้าอยู่ในแนวที่เขาคิดเลยไม่มาตามครรลอง เหมือนขอมดำดินโผล่ขึ้นมาแล้วบอกว่า ข้านี่แหละโลกุตระ เขาก็ว่าอะไรวะ โผล่มาจากไหนโลกุตระ หากอาตมาไม่มีพระไตรปิฎกช่วยประคับประคองมาอ้างอิงไว้ อาตมาป่านนี้ไม่รู้จะเป็นฝุ่นเละไปหมดแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:52:45 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:38:27 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:11:09 )

อาตมามีแต่ความจริงใจทำสิ่งที่จริงใจที่เป็นความประเสริฐที่สุดสำหรับความเป็นมนุษย์แล้ว

รายละเอียด

ขอบคุณที่ยกย่อง ก็เป็นการยกย่องที่ไม่ใช่เรื่องไม่จริง หรือมามุขสร้างขึ้นมาให้โลกรู้หรือสมมุติมาเล่นๆ มันเป็นเรื่องจริง พูดไปก็เหมือนยกย่องตนเอง ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็มาพิสูจน์ด้วยตัวเอง อาตมามีแต่ความจริงใจทำสิ่งที่จริงใจที่เป็นความประเสริฐที่สุดสำหรับความเป็นมนุษย์แล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 09:44:41 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:38:39 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:16:36 )

อาตมายังหลงใน สักการะสรรเสริญหรือเปล่า

รายละเอียด

สังขารมันยอบแยบแย่กว่านี้ ที่จริงอาตมานอนพัก 3 ชั่วโมงตอนบ่ายก่อนมาลุกมานี่อาตมาไม่ได้ทำอะไรหรอก นอนมา แล้วก็ลุกมาบรรยาย 

อาตมาไม่ได้ประมาทนะ พยายามอยู่ ไม่ได้มาทำงานอย่างสมบุกสมบัน ทำเป็นอวดดีไม่ ที่จริงไม่ได้ขี้เกียจ ขยันเกิน อาตมาก็ไม่ได้ขยันเกิน ขี้เกียจก็ไม่มี ก็คิดว่าพอเหมาะพอดี พอเหมาะพอดีพอสม 

เพราะเราไม่ได้ขึ้นต่อลาภยศสรรเสริญโลกียสุขอะไร ทำงาน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของโลกียะ ไม่ไปกังวลได้หรือไม่ได้ จะเสื่อม ไม่ได้กังวลเสื่อมหรือไม่เสื่อม ไม่กังวลไม่มี ไม่ได้ขึ้นกับโลกียธรรมเลย อาตมาทำงานตามเหตุปัจจัยที่คิดว่าเหมาะสม 

แต่อย่างว่าแหละอาตมายอมรับเลยว่า พูดไปแล้วพวกคุณก็ฟังแล้วไม่ค่อยสนุก คืออาตมาฝืนขันธ์ ฝืนอายุขัย ก็พูดไปไม่รู้กี่ที นั่นมันเรื่องจริง มันเรื่องจริง 

อาตมาก็ต้องดูจริงๆว่า เอ๊.. มันจะไปขัดแย้งกันในตัวหรือเปล่า เช่น รูปขันธ์ของอาตมา อาตมาอายุ 90 รูปขันธ์มันไม่ได้ไปเหมือนคนอายุ 90 นะ อาตมาว่านะ นี่อาตมาหลงตนหรือเปล่า อาตมาว่าไม่ได้หลงตน อาตมาว่าอาตมาอายุ 90 ย่างมาแล้ว เนื้อหนังมังสาส่วนต่างๆนานา มันก็ไม่ใช่นะ กระดูกกระเดี้ยวเอ็น เอ็น Elasticity ต่างๆนานา เอ๊..มันก็ จะเต้นจะดีดให้มันเกินวัยก็ทำได้อยู่ แต่มันจะน่าเกลียดเท่านั้นเอง มันไม่ได้เต้นอะไร ดี

อันนี้อาตมาเห็นผลของธรรมะพระพุทธเจ้าที่เป็นการใช้ อิทธิบาท พยายามบูรณะ 8 อ. ทุกอย่าง 8 อ.พยายามจริงๆเลย ไอ้ตัวขี้เกียจที่สุดก็คงจะเป็นออกกำลังกาย อาตมาว่าใน 8 อ.ตัวที่ขี้เกียจที่สุดก็คงจะเป็นตัวออกกำลังกาย นอกนั้นก็ไม่กระไรใน 8 อ. ก็ไม่ได้บกพร่อง อาตมาว่าอาตมาออกกำลังกายอยู่ก็ไม่ได้บกพร่องอะไร ก็พอเป็นไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรื่องจบกิจทำกาละพ่อครูประกาศ Animal Right Watch วันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 แรม 5 ค่ำเดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2567 ( 11:04:03 )

อาตมารับผิดชอบศาสนาพระพุทธเจ้ามาในยุคนี้

รายละเอียด

เออ ใครว่าไง อาตมาสอนธรรมะครึ่งหรือเต็มมือ…(โยมว่าเต็มมือ) พ่อครูว่า..ขณะที่สอนอาตมาสอนเต็มที่ คำว่าเต็มมือที่คนถามคงหมายถึงว่ามีทั้งหมดแล้วเอามาสอนหมดหรือยัง ? อาตมาเอง ถ้าบอกว่าเต็มมือก็ทุกขณะที่อาตมาสอนก็เต็มที่ แต่ที่มีทั้งหมดอาตมายังสอนไม่หมดหรอก สอนขนาดนี้ก็สอนไปหลายอย่างแล้ว ยังไม่มีใครสอนขนาดนี้อย่างที่อาตมาสอนหรอกแต่พวกเราเข้าใจได้ รับได้ ผู้ที่เขาไม่รู้เขารับไม่ได้เลยก็ต้องขออภัยน่าสงสารเขาแต่อาตมาจำเป็น จำเป็นที่จะต้องสอนสิ่งที่มันละเอียดลึกซึ้งของธรรมะพระพุทธเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะเอาใส่ลงไปให้ได้ไม่เช่นนั้นมันไม่เต็มสูตรของศาสนาพุทธ อาตมาก็คงทำเต็มที่ เพราะว่าอาตมารับผิดชอบพูดตรงๆว่า อาตมารับผิดชอบศาสนาพระพุทธเจ้ามาในยุคนี้ พูดตรงๆอย่าเพิ่งหมั่นไส้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:12:29 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:38:53 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:13:42 )

อาตมาอธิบายพยัญชนะที่เป็นบาลีไปหาสภาวะ

รายละเอียด

อาตมาจึงมาพูดได้ละเอียดลออตามที่พูดนี้ ไม่ใช่เอาจากตำราไหนมา ตำราพระไตรปิฎกก็เป็นหลักฐานที่เข้าใจยาก อาตมาก็เอามาขยายความเป็นภาษาไทยให้เข้าใจได้ และพวกคุณก็เข้าใจได้เป็นภาษาไทยเป็นสภาวะไทย แล้วเอาไปปฏิบัติจนได้ตาม หากว่าอาตมาพูดแต่ภาษาบาลี ป่านนี้พวกคุณไม่ได้มามากเท่านี้หรอก ไม่ได้อะไรหรอก ก็จะไปเด่นทางภาษาบาลี แล้วก็ไปให้ปริญญา ไปให้ใบรับรองต่างๆ หากว่าไปเป็นภาษาบาลี แต่สภาวะจริงอย่างพวกคุณไม่เป็นแล้ว ไม่เกิดแล้ว อาตมาให้มาเกิดเป็นพยัญชนะเท่านั้นไว้อาศัย แต่ต้องเข้าใจ อาตมาก็มาอธิบายพยัญชนะที่เป็นบาลีไปหาสภาวะ ที่มันเป็นจริงอย่างไร

แต่ที่ต้องอ้างบาลีเพราะเขาถือว่าบาลีเป็นรากเหง้าของภาษา พระพุทธเจ้า จึงต้องอ้างอิงบ้าง ถ้าไม่อ้างอิงเลยไม่เอาอันนั้นมายืนยัน ว่ามันมาจากไหนเขาก็จะหาว่าพูดเอาเอง ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า นอกจากไม่เป็นแล้วเขาจะมีธาตุรู้ได้อย่างไร เพราะเขาไม่มีความรู้มาเก่าแล้วไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน บาลี เป็นภาษาของพระพุทธเจ้าก็ยืนยันว่า พระพุทธเจ้ายืนยันบาลี แต่โพธิรักษ์ไม่เอาเลย เอาแต่ตัวเอง เขาจะไปเชื่อน้ำหน้าอะไร 

มันตรงกับที่อาตมาอธิบาย สัจจะมีหนึ่งเดียว คุณจะอธิบายไปมุมไหน เหตุปัจจัยมายืนยัน สัจจะมันก็หนึ่งเดียว สุดท้ายมันจะมี 2 แล้วก็เหลือ 1 หนึ่งเดียว สุดท้ายมันจะมาหา 2 สุดท้ายคู่เอกเลยจะมี 2 รองแชมป์กับแชมป์ ตกลงรองแชมป์จะขึ้นเป็นแชมป์หรือยัง หรือว่ารองแชมป์จะอยู่แค่รอง ไม่ได้ขึ้นเป็นแชมป์สักที ก็เท่านั้นเอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ กษัตริย์คือจิตประชาชนคือกายของประเทศ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2565 ( 13:27:02 )

อาตมาอธิบายพรหมธรรม 4 ไม่เหมือนเขาอธิบาย

รายละเอียด

ถ้าใครเข้าใจจะรู้ว่า เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อาตมาก็อธิบายพรหมธรรม 4 ไม่เหมือนที่เขาอธิบายกัน เมตตาคือ ความเห็นใจคน อยากให้เขาพ้นทุกข์ อยากให้เขาได้บรรลุ อย่างน้อยก็เป็นสุขก็ยังดี เห็นคนเขาเป็นทุกข์ อยากให้เขามีสุข ก็อยากให้เขาพ้นทุกข์ อยากให้เป็นสุขก็ยังดี สูงกว่านั้นคือไม่สุขไม่ทุกข์ เป็นโลกุตระก็พ้นสุขพ้นทุกข์เลย ก็อยากช่วย กรุณา คือลงมือช่วย กรณะ แปลว่ากระทำ เมตตะคือจิต มัตตะ เกิดแต่จิตขึ้นมาก่อนเสร็จแล้ว กรณะ ลงมือทำ ลงมือช่วย ช่วยให้ตามประสงค์ ช่วยให้บรรลุธรรมตามที่ประสงค์แล้ว 

มุทิตา คือ ยินดีด้วย อนุโมทนา ยินดีด้วยที่คุณได้เจริญขึ้นตามประสงค์ ตามที่ได้พากัน ช่วยกันไปแล้วก็ได้กันไป อุเบกขา คือ วางจิต ไม่ยึดติดในความดี ความมีบุญคุณ ไม่ จบ ทำงานสักแต่ว่าทำงาน เป็นการประพฤติพรหมจรรย์ มิใช่เพื่อหลอกลวงให้คนมาเคารพนับถือ “ภิกษุทั้งหลาย !  พรหมจรรย์เราประพฤติ มิใช่เพื่อ... 

หลอกลวงคนให้มาเคารพนับถือ (น ชนกุหนัตถัง) 

มิใช่เพื่อเรียกคนมาเป็นบริวาร (น อิติ มังชโน) 

มิใช่เพื่ออานิสงส์เป็นลาภสักการะและเพื่อเสียงสรรเสริญ มิใช่เพื่อจะได้เป็นเจ้าลัทธิ หรือค้านลัทธิอื่นใดให้ล้มไป มิใช่เพื่อให้มหาชนเข้าใจว่า.. เราได้เป็นผู้วิเศษอย่างนั้น ก็หามิได้ 

ภิกษุทั้งหลาย ! ที่แท้ พรหมจรรย์นี้เราประพฤติเพื่อสำรวม เพื่อละ, เพื่อคลายกำหนัด, เพื่อดับทุกข์สนิท ฯ (พรหมจริยสูตร พตปฎ.เล่ม 21 ข้อ 25)”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณลักษณะของไก่ตัวพี่ที่มาสืบสานศาสนา วันพุธที่ 7 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 กันยายน 2565 ( 15:04:00 )

อาตมาอ้างอิงอดีตชาติมาอ้างอิงบ้างว่าเคยเป็นกษัตริย์เพื่ออะไร

รายละเอียด

ที่ว่า ยังติดสรรเสริญ มี ทิฏฐิพระ มานะกษัตริย์นั้น ถ้าอาตมาต้องการเอาอดีตชาติที่เคยเป็นกษัตริย์ เป็นอะไรใหญ่ๆมาก่อนมาพูดแล้ว ทำไมจะต้องพูดชมหรือโชว์ตัวเองบ่อยๆ อาตมาก็ไม่ได้เจตนาจะทำ ไม่ค่อยได้ทำ แต่ก็มีอ้างอิงบ้าง บางครั้งบางคราว เพื่อประกอบการศึกษาว่า ทุกอย่างมันเป็นเรื่องที่จะต้องเป็นเรื่องที่จะเป็นจริง อาตมาจะไม่พูดความไม่จริง อาตมาจะพูดความจริงเท่านั้น ไม่ต้องการที่จะมาครอบงำทางความคิด หรือว่าใช้พยัญชนะ ใช้ภาษา พูดย้ำซ้ำซากเพื่อจะให้เชื่อ

ใครจะเชื่อว่า อาตมาเคยเกิดเป็นกษัตริย์ อันนั้นอันนี้ที่เคยยกอ้างเป็นผู้ที่สำคัญที่ผ่านมาในอดีต ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ อาตมาว่าเป็นองค์ประกอบ คุณเอาปัจจุบันนี้สิ อาตมามีความจริง อาตมามีความรู้ คุณต้องเพ่งเข้าไปที่ความจริงและความรู้นี่แหละ เป็นเรื่องของพฤติกรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สภาพ 2 ของกฎหลักเกณฑ์กับพฤติกรรมจริง วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 29 กันยายน 2565 ( 13:36:43 )

อาตมาเกิดมาในยุคนี้ ปางนี้ เป็นสยังอภิญญา

รายละเอียด

อาตมาบอกตัวเองว่า อาตมาเป็นใคร เกิดมาในยุคนี้ปางนี้ เป็นสยังอภิญญา มากอบกูโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้า เพราะโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้ามันเสื่อมไปหมดแล้วตามหลักใน อาณีสูตร หรือกลองอานกะที่ผิดเพี้ยนไปแล้ว แต่คนไปยึดกลองอันที่มันเป็นของเทียมของเก๊ ให้เลิก มาเอากลองอานกะ พระพุทธเจ้าของแท้ดั้งเดิมที่อาตมาเอามานำเสนอนี้ อันนั้นมันเป็นของปลอม ยืนยันอย่างนี้แหละ 

ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลง หมดหวัง ไอ้หวังตายแน่ ตายแน่ไอ้หวัง อาการน่าเป็นห่วง ไม่รอด ไม่รอดๆ ใครๆ เขาก็เตือน ไม่มีใครเตือนมากเท่ากับอาตมา อาตมานี่แหละเตือนมาก จริงๆนะ จิตในจิต อธิบาย เจโตปริยญาณ 16 ถ้าคุณไม่รู้จิตเจตสิกต่างๆ ในเจโตปริยญาณ 16 คุณก็ไม่มีแผนที่ ไม่มีทิศทาง คุณก็ไม่มีอะไรที่จะไปทำให้เป็นขั้นตอน เป็นลำดับ คุณก็ทำอย่างเละเทะปนเป ได้หัวได้หางได้กลางอะไรก็ไม่รู้ สับสนปนเปไปหมด ไปเอาหาง บอกว่าหัวสับยัง สับหัวอีก แล้วสับกลางหรือยัง สับหางอีก มันไม่จบไม่เป็นลำดับมันไม่ได้อะไร 

อาตมาไม่ได้ไปดูถูกดูแคลนพวกคุณ แต่มันน่าสงสาร เห็นใจเข้าใจ ผู้ที่สอนมันไม่ถูกไม่มีผู้สอนถูกมาเก่า พาผิดออกไปไกลก็เลยดึงกลับคืนมาเท่านั้น ที่พูดนี้ไม่ได้โขกสับ ไม่ได้ดูถูกดูแคลน อะไรนะ พูดบอกว่า คุณยังไม่ประสีประสา เอาชัดๆ ก็ยังโง่อยู่ มันไม่ฉลาดพอที่จะมาฟังธรรมพระพุทธเจ้าที่ถูกนี้ มาฟังบ้างสิ ตั้งใจดีๆ ฟังด้วยดีจะเกิดปัญญา ถ้าฟังแบบเพ่งโทษ ไม่ได้หรอกปัญญา เพราะฉะนั้นใครที่เขียนแย้งมาใน sms ไม่ได้ปัญญาหรอก มีแต่จะหาข้อแย้งวนหัวไปหาหาง สับสนอยู่อย่างนั้นแหละ เพราะไม่ตั้งใจฟังด้วยดี คือเพ่งโทษ ถ้าไม่หยุดเพ่งโทษไม่ฟังด้วยดี ไม่ได้ เพราะธรรมะพระพุทธเจ้าละเอียดลึกซึ้งนะ มันต้องตั้งใจดีๆจริงๆไม่อย่างนั้นไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติ รูป 28 ในสติปัฏฐาน 4

วันพุธที่ 21 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 ตุลาคม 2565 ( 18:14:24 )

อาตมาเป็นคนแห้งมาแต่ไหนแต่ไร 

รายละเอียด

อาตมาไม่ใช่เป็นคนบวม หรือเป็นคนท้วม เป็นคนแห้งมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งหนุ่ม จนกระทั่งผ่านอายุหนุ่มมา ก็แห้งๆมาอย่างนี้ตลอด จนมาถึงทุกวันนี้ พยายามจะทำตัวเองให้อ้วนได้ถึง 60 กิโลกรัม มีอยู่ครั้งเดียวในชีวิต ทำให้น้ำหนักขึ้นได้ถึง 60 กิโลกรัม เสร็จแล้วไม่นานมันก็กลับไปอยู่ในฐานที่เราเองเป็น ก็เท่านั้น ก็ไม่เห็นมันจะดีเด่อะไรเราก็คล่องแคล่วปราดเปรียวอย่างที่เราเป็น เป็นแต่เพียงว่าทุกวันนี้ออกกำลังกายเพื่อจะสร้างกล้ามเนื้อ หรือว่าเนื้อหนังสรีระต่างๆ มันค่อนข้างจะเหลว ค่อนข้างจะไม่แน่นเหมือนเดิมก็พยายามเติมสาร เติมพลังงาน โดยการออกกำลังกายเสริม เรื่องอาหารเขาก็ว่าไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:10:12 )

อาตมาเป็นผู้ที่ศึกษาเป็นโพธิสัตว์ตัวจริงที่ไม่มีใครรู้เท่า

รายละเอียด

ก็ขอยืนยันกับพวกเรา อาตมาเป็นผู้ที่ศึกษาเป็นโพธิสัตว์ตัวจริง เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ที่ไม่มีใครรู้เท่า ตอนนี้เป็นไก่ตัวพี่ ในยุคนี้ อาตมามาเอง สยังอภิญญา มารับช่วงศาสนาพระพุทธเจ้าเพื่อจะสืบสานสารัตถะของศาสนาพระพุทธเจ้าให้ยืนยาวไปถึง 5,000 ปี เป็นเรื่องอจินไตย…ที่วันที่ 5 มิถุนายนเป็นวันชาวนาไทย เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก และเป็นวันอโศกรำลึกด้วย จะพูดถึงโควิดบ้าง พูดถึงสังขารธรรมที่ปรุงแต่ง ศาสนาพุทธในยุคนี้ถ้าจะมาไม่เอาเรื่องกายมาพูดก็สูญไปแล้ว เรื่องบุญ เรื่องสมาธิก็ตามไม่ต้องพูดถึงเรื่องนิโรธ เรื่องนิพพาน สูญหมดเลย หากอาตมาไม่เกิดมาในยุคนี้ไม่มีใครเอามาพูด กาย ผิดไปคำเดียวก็หมดทางไปแล้วศาสนาพุทธ ก็เป็นศาสนาในโลกโลกีย์ธรรมดาจะไม่มีโลกุตระเลยถ้าเข้าใจคำว่ากายไม่ได้ ย้ำอีกที …ฟังแบบถ้วยว่างเปล่าเทน้ำออกจากถ้วยให้หมด ฟังดีๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 09:57:30 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:39:07 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:12:06 )

อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาพุทธภูมิเป็นพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาพุทธภูมิเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ร่างนี้ตายชาตินี้ กายสเภทาปรัมปรณา หลังจากตายอาตมาก็ยังไม่สูญ ยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ยังจะกลับมาเกิดอีก ยังไม่ตายอย่างนิพพาน 3 แบบ คือ ตายอย่างสุญญตนิพพาน อนิมิตนิพพาน หรือ อปนิหิตตนิพพาน

  1. สุญญตานิพพาน คือ ตายอย่างทำสูญเลย 

  2. อนิมิตนิพพาน คือ ไม่สร้างนิมิตใดๆไว้เลย ไม่มีนิมิตใดเหลือไว้เลย

  3. อปนิหิตตะ คือไม่มีตั้งจิต ปล่อยไป สูญไปหมดทั้งรูปทั้งนามหมดเลย ไม่มีอะไรอีกเลย 

ก็ตายอย่างปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นนิพพาน 3 อย่างนี้

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 10:46:05 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:39:20 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 03:17:11 )

อาตมาเริ่มต้นบุกเบิกอะไรใหม่ๆ เหลายๆ อย่าง

รายละเอียด

อาตมาทำอะไร เป็นคนบุกเบิกเริ่มต้นใหม่ๆเยอะหลายอย่างมากทีเดียว อาตมาเป็นดีเจคนแรกของประเทศไทย ก็ไม่มีใครรู้หรอก ตั้งแต่สมัยวิทยุ วิทยุพึ่งมี 1 วิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ช่องวิทยุ 1 ปณ 3 วิทยุรักษาดินแดนเกิดขึ้นอีก ห้องส่งอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

เสร็จแล้วอาตมา คลุกคลีทางด้านนี้ ทำวิทยุทำละครวิทยุ ลุงเหงี่ยมพี่เป็นผอ.อยู่วิทยุ อาตมายังเด็กอยู่นะ ตอนนั้นยังไม่ถึง 20 ปีจนกระทั่งถึง 20 กว่า เขาก็เชื่อมืออาตมา อาตมาจะทำละครวิทยุให้ก่อนทั้งนั้น จนกระทั่งรักษาดินแดนเกิดขึ้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ตุลาคม 2565 ( 11:37:54 )

อาตมาเสนอข้อมูลไปแล้ว หากจะปฏิบัติ อย่าลืมสร้าง “ฉันทะ” ก่อน!

รายละเอียด

ซึ่งอาตมาก็ได้แต่เสนอแหละนะ! ทุกคนมีอิสระเป็นของตนที่จะเลือกเรียนรู้นับถือปฏิบัติของตนๆ ก็“จบ”ด้วย“ความอิสระ”ของเราสุดๆ สูงสุดเป็นที่สุดแล้วไม่มี“ความสุดใดๆ”ของ“ความจริง”ที่จะ“สุด”กว่านี้อีกแล้ว สำคัญยิ่งจริงๆก็คือ ใครจะปฏิบัติพิสูจน์นั้นจะต้องมี“จิตยินดี”คือ มี“จิตฉันทะ”เป็น“ต้นเค้าในใจ(มูลกา)”กันจริงๆ ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน“มูลสูตร 10”(พระไตรปิฎก เล่ม 24 ข้อ 58) หากไม่มี“ความยินดีเต็มใจจริงๆ”ที่จะมาปฏิบัติพิสูจน์ให้เห็นดำเห็นแดงกันจริงๆละก็ มันก็จะยากมาก ดีไม่ดี“ล้มเหลว”กันเลยก็ได้ เพราะ“ความยินดี”หรือ“ฉันทะ”นี้ เป็นเบื้องต้นที่สำคัญยิ่งใหญ่จริงๆ ของความสำเร็จต่างๆทั้งหลายทั้งปวงโดยเฉพาะ“โลกุตรธรรม”ถ้าไม่มี“ความยินดี”หรือ“ฉันทะ”เป็น“รากเค้า”เบื้องต้นกันจริงจังละก็“ไม่มีความสำเร็จมรรคผล”แน่ยิ่งกว่าแน่

 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนืยม เล่ม 2 ข้อ 161 หน้า 142


เวลาบันทึก 22 มิถุนายน 2564 ( 11:03:48 )

อาตมาแค่นิยตโพธิสัตว์

รายละเอียด

อรหัตตผลของโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ อนุโพธิสัตว์ อนิยตโพธิสัตว์ นิยตโพธิสัตว์ อาตมาก็ไม่พูดต่อ เพราะอาตมาแค่นิยตโพธิสัตว์ ใครที่สูงกว่าอาตมาก็มาพูดต่อ ยืนยันในสภาวะและพยัญชนะทุกอย่าง แม้แต่โพธิสัตว์ 9 ระดับ ถึงสัมมาสัมพุทธะ 10 ระดับ ก็ไม่มีใครมาบัญญัติ อาตมานี่แหละบัญญัติ ไม่ได้เห็นใครบัญญัติไว้นะแต่ก็น่าจะมี พระอรรถกถาจารย์ที่ใหญ่กว่าอาตมาก็มี ไม่ใช่ไม่มี แต่มันจะเหลือไหม มีสิ่งเหล่านั้นเหลือมาอ้างอิงยืนยันไหม เมื่อมันไม่มีก็เอาสิ่งที่มี สิ่งที่มีคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัส อาตมาก็หยิบมายืนยันแม้แต่สัมมาทิฏฐิ 10

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2561


เวลาบันทึก 31 ธันวาคม 2563 ( 12:24:06 )

อาตมาได้ขยายความพยัญชนะเข้าถึงแก่นจึงแตกต่างจากองค์อื่นๆ

รายละเอียด

สัจธรรมที่ใช้พยัญชนะบัญญัติต่างๆ เอามาสื่อ เราก็พยายามอธิบายสภาวะกับพยัญชนะมาตลอด อาตมาก็พยายามขยายความมาตลอด ทุกวันนี้ก็ขยายความได้เยอะ จนกระทั่งพวกเรารู้ละเอียดลออขึ้นไปมาก 

ขออภัยต้องขอกล่าวความจริงว่า ไม่มีใครมาขยายได้ละเอียดลออมากมายเท่าอาตมาในยุคนี้ นอกนั้นเขาเอาตำรามาพูด เอาตำราของอรรถกถาจารย์ของคนนั้นคนนี้ อาจาริยวาทมาพูดมารวม อย่างท่านมหาประยุทธ์ ท่านก็รวมเอาของอรรถกถาจารย์มารวมเก่ง อาตมาสู้ไม่ได้หรอก แต่อาตมาเป็นคนไม่รวมไม่รู้จัก ไม่ได้มีการศึกษามาก อาตมามีแต่ความจริงออกมาทั้งหมด เท่าไหร่มีแต่ความจริงออกมา ที่ไม่ต้องไปเอาของคนนั้นคนนี้มาให้เลอะเทอะ ที่จะขัดแย้งกันในตัวบ้างไม่ใช่ เอาของตัวเองสอดคล้องกันไปด้วยกันมาด้วยกัน เป็นเอกีภาวะสำหรับของอาตมา อย่างนี้มันจะแสดงคนละอย่าง 

อย่างท่านพุทธโฆษาจารย์ ท่านมหาประยุทธ์ แสดงกันคนละอย่างกับอาตมา คนละสไตล์ ก็แล้วแต่ที่คนจะมีจริตนิสัยชอบอย่างไร ชอบอย่างอาตมามาเอา ไม่ชอบอย่างอาตมาชอบทางโน้นก็ไป ทางโน้นเยอะนะ แล้วไม่จบง่ายๆหรอก แต่ของอาตมามีจบ มีจบ ไม่มากเท่า ขอยืนยันว่าไม่มากเท่า มีแต่เนื้อๆ อันโน้น มีอะไรเยอะแยะต้องมาคัดออก เยอะกว่าจะเข้าถึงแก่น แต่ดูจะยังไม่ถึงแก่นเท่าไหร่ ได้แต่ผลใบไม้ดอก เปลือกก็ยังไม่ค่อยได้ สะเก็ด คือศีล ก็ยังไม่ค่อยได้ ศีลยังไม่เป็นอานิสงฆ์ 10 ประการ สมาธิคือเปลือก ก็ยังไม่ค่อยได้ หรือจะว่าไม่ได้เลยก็ได้ สะเก็ดก็ไม่เป็นสะเก็ด เป็น สีลพตุปาทาน สมาธิไม่ต้องพูดถึงเลย ปัญญาก็ไม่เข้าแก่นของปัญญา เอาปัญญา 8 อธิบายก็ไม่ถึงแก่น อย่าไปหวังเลยว่าจะมีวิมุติ ได้แต่ใบ ดอกผลงาม คือลาภสักการะ สรรเสริญเต็ม จริงไหม สภาวะที่กระแสหลักของสังคม ศาสนาพุทธเป็นอยู่นี้จริงไหม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภูผู้รู้จบสัตตาวาสและวิญญาณฐีติ วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2565 ( 14:01:06 )

อาตมาได้ตั้งปณิธานเป็นพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่า กายนี้ ตถาคตเรียกว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง หากอาตมาไม่ขุดอันนี้จากพระไตรปิฎกเขาจะอ่านผ่านไปเลย จบเปรียญ 9 จบด็อกเตอร์พระสูตรนี้เขาจะไม่สะดุดเลย ตอนนี้คงจะสะดุดบ้างถ้ามาฟังอาตมาบ้าง หากสะดุดก็จะตามติดเลยอย่างน้อยก็เงี่ยโสตสดับอาตมาบ้าง ใครที่มีบารมีมากก็จะรับได้มากใครที่มีบารมีน้อยก็จะรับได้น้อย หากเขาเป็นผู้แสวงหาก็จะพยายามอย่างพวกคุณถือว่าเป็นผู้ที่มีความแสวงหา ชีวิตเกิดมาชีวิตนึงแล้ว สรุปอีกทีมันไม่มีอะไรดีกว่านิพพาน คุณได้นิพพานแล้วคุณเป็นอรหันต์แล้วคุณอยากจะอยู่ในโลกนี้ไปอีกกี่นานเท่านาน คุณอยู่ไปสิ เพราะว่าพระพุทธเจ้าสอนความรู้ที่สุดยอดแล้ว คุณจะเกิดเป็นคนอีกก็หมดความเป็นพิษภัยหมดความเป็นโทษหมดความไม่ดีแล้ว คุณจะไม่มีแล้วไม่ทำความไม่ดีทางกายวาจาใจ คุณไม่ทำอีกแล้ว ชาตินี้คุณก็ไม่ทำชาติหน้าคุณก็ไม่ทำจะเกิดอีกกี่ล้านชาติถ้าคุณจะยังอยู่ พระผู้เป็นอรหันต์แล้วเป็นอมตะบุคคลจะตายก็ได้ไม่ตายก็ได้คุณจะตายเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อาตมาจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ ปรินิพพานเป็นปริโยสานเมื่อไหร่ก็ได้ แต่อาตมายังไม่ยอมตาย อาตมารู้ อาตมายังจะทำงานนี้จะตายก็ต่อเมื่อเป็นพระพุทธเจ้า อาตมาได้ตั้งปณิธานเป็นพระพุทธเจ้า ตอนนี้ยังไม่ได้เป็น ยังเป็นแค่โพธิสัตว์ระดับ 7 อาตมาพูดไม่ได้หลงตัวหลงตนอะไร อาตมาไม่ได้บอกว่าเป็นระดับ 9 จะเป็นพระพุทธเจ้าในยุคนี้ อาตมาไม่เคยหลงตัวอย่างนั้น ต่อให้ชาตินี้ก็เป็นไม่ได้ ยังไม่ได้เป็นระดับ 8 ระดับ 9 นี่เป็นสัจจะที่อาตมาพูดความจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 10:02:27 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:39:33 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:13:11 )

อาตมาไม่มีรสอร่อย มีแต่รับรู้รสตามความเป็นจริง 

รายละเอียด

อันนี้ทุกคนต้องเรียนรู้ ผู้จะเป็นอรหันต์ต้องเรียนรู้ ไม่มีรสอร่อย มีแต่รสแท้รสจริง อร่อยมันไม่มี มันมีแต่รสหวานก็หวาน เค็มก็เค็ม เปรี้ยวก็เปรี้ยว หรือจะเรียกผสมส่วนเรียกว่านัว (ภาษาอีสาน) มันได้สมส่วนได้ที่ มันนัวเลย มันเข้ากันอย่างดี ได้สัดส่วนพอดีเหมาะใจของใครของมัน เราก็รู้ความจริงตามความเป็นจริง อาการของความอร่อยที่เสริมขึ้นมานี่แหละสำคัญ ตัวนี้คือตัวตัดสินของความเรียนรู้ การเรียนรู้ทางสัจธรรมเรียกว่าเวทนาเก๊ มันจะมี 2 เวทนาค้นหาเวทนาจะมีรสอร่อย รสชังหรือรสชอบ ไม่อร่อยกับอร่อย ค่อนข้างเฉยๆคุณจะไม่รับเลย ถ้าค่อนข้างเฉยๆคุณไม่รับเหมือนน้ำล้างชาม จืดๆไม่เอา ถ้าไม่ชอบก็ไม่เอา ถ้าชอบมากก็เอามาก กินมากหรือน้อยเท่านั้นเอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:16:44 )

อาตมาไม่มีโลกธรรมอย่างเขา

รายละเอียด

อาตมาเห็นชัดเจนว่าถ้าอาตมาไม่มาต่อศาสนาพุทธมันก็สูญไปแล้ว เนื้อหาสาระมันไม่มีแล้ว มีแต่ในเดรัจฉานวิชามีแต่สวดมนต์ บานทะโร่ไปหมดแล้ว ขออภัยว่าไปก็เหมือนกระทบคนอื่น ที่เขามีศักดิ์ศรียศชั้นมากกว่าอาตมาเยอะแยะ เขามีโลกธรรมสูงอาตมาไม่มีโลกธรรมอย่างเขาเลย สรุปอีกที ขอโอกาสหน่อยนะ หากคุณไม่ชอบใจก็ผ่านไป

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2561


เวลาบันทึก 31 ธันวาคม 2563 ( 12:17:29 )

อาตมาไม่รู้สึกหิวหรือกระหาย 

รายละเอียด

อันนี้ฟังแล้วน่าหมั่นไส้แต่อาตมาก็พูดความจริง อาตมาไม่กล้าพูดคำโกหก ถ้าโกหกมันบาปจริงๆ อาตมาไม่ได้พูดโกหก แล้วอาตมาต้องดูด้วยว่าอาการหิวกระหายของคนเป็นอย่างไร คนธรรมดาก็ต้องมีแล้วอาตมาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าอาการหิวหรือกระหายคืออย่างไร แล้วมันไม่มีจริงๆอาตมาก็พูดความจริงให้ฟังอันนี้จึงเป็นเรื่องอจินไตยที่ลึกซึ้ง ไม่หิวไม่กระหาย ไม่ต้องเอาอะไรมากหรอก ร่างกายมันต้องการก็ได้ แต่คุณไม่หิวไม่กระหาย เช่น คุณเพลินกำลังสู้กับสิ่งนี้อยู่ เรียกว่าสมาธิจดจ่อสมาธิโลกๆ เขม็งติดยึดอยู่ จดจ่ออยู่กับอันนี้เวลาก็เดินทางผ่านไปเรื่อยๆ ร่างกายก็ไม่ต้องการอะไรแล้วมันลืมไปเลย ไม่หิวไม่กระหาย อย่างนี้ก็เคยกันมาทั้งนั้นมากน้อยก็แล้วแต่ มันก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ อาการไม่หิวไม่กระหายอย่างนั้นแหละอาตมามี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:07:01 )

อาทะ

รายละเอียด

ยึดเอา ถือเอา

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 155


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:36:27 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:03:34 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:24:24 )

อาทาน

รายละเอียด

1. ยังยึดยังถือเอา

2. การยึดถือ

3. การยึดเอา , การถือเอา

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 366 , รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 100 


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:26:21 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:04:49 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:25:02 )

อาทาน

รายละเอียด

คือ ยึด ผู้มีปัญญามีภูมิธรรม จะใช้อาทานเป็น สมาทาน (ยึดอย่างอาศัย) คนอวิชชา จะอาทาน แบบ อุปาทาน 

ที่มา ที่ไป

630604 โสเหล่โลกุตระ


เวลาบันทึก 05 มิถุนายน 2563 ( 15:37:44 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:39:52 )

อาทิสมาณกาย

รายละเอียด

เขาแยกกายแยกจิตกัน แยกกายต้องนั่งหลับตาแล้วก็ถอดจิต ออกไปให้ได้ จิตของเขาก็จะเป็นอีกอัน แล้วเขาจะเห็นกายเขานั่งอยู่ นี่คือเขาสอนเรื่องถอดจิตถอดกาย มันเป็นอุปาทานเขาเห็นแต่ก็คืออุปาทานจริง กายที่เขาเห็นคือนิรมาณกาย เนรมิตขึ้นมาจากจิตเขาเองใครไม่เห็นได้ด้วยหรอก อาทิสมาณกาย แต่คนโง่ด้วยกันจะบอกว่าใช่ เราก็ทำได้มีสัมโภคกายร่วมกัน พูดกันรู้เรื่องแต่ต่างคนต่างทำ ไม่เห็นของกัน อาทิสมาณกาย ต่างคนต่างเนรมิตกายตนเองทั้งนั้น แล้วเขาก็จมในเรื่องนี้ นั่งหลับตาถอดจิตถอดกายบอกว่าท่านให้พิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เมื่อใดเป็นกาย อันไหนไม่เป็นกาย เล็บที่ตัดออกจากตัวเราเป็นอุตุไปแล้ว เล็บที่ติดกับเราไม่มีเวทนาไม่ใช่กาย ตัดออกไปได้ไม่เจ็บไม่ปวดมันไม่ใช่กาย ไม่ได้เป็นชีวะเมื่อตัดขาดไปแล้วเป็นวัตถุแล้วเป็นอุตุนิยาม แต่เล็บที่ไม่ได้ตัดออกไปมีชีวะมีน้ำเลี้ยงอาหารเลี้ยง เล็บที่ยาวออกไปไม่รู้สึกเจ็บปวดคือพืช ตัดได้หรือฟันภายนอกกรอออกได้ไม่เจ็บปวดไม่ทุกข์ไม่สุขอะไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 15:23:40 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:40:08 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 17:36:11 )

อาทิสมานกาย

รายละเอียด

 อาทิสมานกาย คือ ต่างคนต่างสมมุติไปเองว่าไม่มีตัวตน  แค่บัญญัติแต่ต่างคนต่างไม่เห็นของใครของใคร จึงเรียกว่า “อาทิสมานกาย”

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 09:38:03 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:27:55 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:14:24 )

อาทิสมานกาย

รายละเอียด

คือไม่เห็นไม่รู้ของใครหรอก ใครไม่รู้ด้วยของใคร แต่ละคนของตัวเองทั้งนั้นไหนว่าเหมือนจะคุยกันรู้เรื่องเลย  แต่ก็อุปาทานกันไป

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 81 วันจันทร์ที่ 18พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 13:54:29 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:47 )

อาทิสมานกาย

รายละเอียด

ไม่เห็นไม่รู้ของใครหรอก ใครไม่รู้ด้วยของใคร แต่ละคนของตัวเองทั้งนั้นไหนว่าเหมือนจะคุยกันรู้เรื่องเลย  แต่ก็อุปาทานกันไป

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต  ปฐมอโศก  วันจันทร์  18  พฤศจิกายน  2562


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 18:30:26 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:29:39 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:15:02 )

อาทีนว , อาทีนวะ

รายละเอียด

1. เป็นผลร้าย

2. โทษ

3. ความไม่ดี , ผลร้าย

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 51 , ทางเอก ภาค 2 หน้า 494

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 317


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:24:44 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:06:12 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 17:36:44 )

อาทีนวะ

รายละเอียด

อย่าให้มันเกิด ไม่ใช่คำพูดไปบังคับ แต่เราต้องทำให้มันไม่เกิด ไม่เกิดคือต้องรู้ รู้ว่าอาการทางจิต นิมิตอย่างนี้ หากมันดูดก็ให้มันคลายจาง วิราคะ เพราะเราจะรู้เป็นเบื้องต้นว่ามันไม่เที่ยง มันไม่อยู่ถาวร มันไม่อยู่นิรันดร มันไม่เที่ยง แม้คุณจะพยายามให้มันเที่ยงอย่างไรมันก็ไม่เที่ยงหรอก แม้ตัวมันเองมันก็ไม่เที่ยง หลงไปพยายามเสริมให้มันเที่ยงก็ใส่พลังงานเข้าไป ใส่สาระใส่อุปาทานเข้าไป มันก็เที่ยง แต่เราไม่ไปใส่อุปาทานเข้าไป มันก็ไม่เที่ยงให้เห็นแล้ว ยิ่งเรามีวิธีการตามที่พระพุทธเจ้าท่านพาทำ มองให้มันเห็นเป็นโทษ อาทีนวะ เมื่อปัญญามันเห็นเป็นโทษ มันก็ละหน่ายคลาย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แผนผังการกอบกู้โลกุตระของพ่อครู วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 19:10:06 )

อาธานคาหิ

รายละเอียด

เป็นผู้หลงตนจัด ดื้อด้าน แก้ยาก

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 15


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:20:57 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:06:52 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:16:27 )

อานา

รายละเอียด

1. ลมหายใจ

2. ลมหายใจเข้า

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 277,ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 287


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 12:19:41 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 21:08:01 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:15:57 )

อานาปานสติ

รายละเอียด

ตามประวัติศาสตร์ พระพุทธเจ้าออกบวช พอออกบวช ท่านก็ออกบวชตามแบบ ลิงลมอมข้าวพอง ตามแบบที่สังคมพาเป็นไป ตอนแรกท่านก็ออกไปตามนั้น ออกบวชคือออกไปทิ้งบ้านช่องเรือนชาน ไปอยู่กับหมู่ปฏิบัติธรรมซึ่งเขาก็อยู่ในป่า ไม่ใช่ปฏิบัติแล้วก็อยู่ในบ้านในวังของตัวเอง แต่เดินออกไปอยู่ป่า มันเหมือนกับชาวโลกที่เขาเข้าใจเช่นนั้น เขาเชื่อว่าการปฏิบัติธรรมของศาสนาพุทธต้องออกป่า พระพุทธเจ้าตอนแรกก็เป็นลิงลมอมข้าวพอง เห็นว่าเขาเป็นอย่างนี้ก็ออกไปแล้วเป็นไปตามเขาด้วย เขาพาทำทุกรกิริยาต่างๆนานาสารพัด ท่านก็เป็นลิงลมอมข้าวพอง คือความรู้เดิมของพุทธที่เป็นโลกุตระยังไม่เต็มที่ แต่พระพุทธเจ้าก็คงจะรู้อยู่บ้าง แต่จำเป็นที่ท่านจะต้องอนุโลม ท่านรู้หรอกว่าไม่ใช่ทำเช่นนั้น แต่ถ้าจะอยู่บ้านจะปฏิบัติธรรมประกาศศาสนานั้นมันเป็นไปไม่ได้ เพราะคนในสังคมเมืองไม่ได้เอาธรรมะ ไม่ได้ใส่ใจ แล้วก็ต้องจะไปพูดอธิบายปฏิบัติอยู่ร่วมกับพวกที่เขาใส่ใจปฏิบัติธรรมะ คือพวกที่ออกป่าท่านก็เลยต้องอนุโลมออกป่ากับเขา  แล้วก็ค่อยๆสอนค่อยๆอธิบาย เข้าปฏิบัติจนกระทั่งบอกว่าอานาปานสติคือนั่งคู้บัลลังก์หยุดนิ่งร่างกายตรงดำรงสติคงมั่น ซึ่งไม่มีในมรรคมีองค์ 8 ไม่มีโพชฌงค์ 7 ไม่มีโพธิปักขิยธรรม 37 ในวิชชาจรณสัมปันโนก็ไม่มี ศีล สมาธิ ปัญญาก็ไม่มี จะไปเข้าใจว่าปฏิบัติสมาธิคือไปนั่งอย่างนี้ ไม่มีไตรสิกขา อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา เขาเข้าใจว่าอธิจิตคือไปนั่งหลับตา แต่ถ้าปฏิบัติตามพุทธแล้ว อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา มีวิมุติ จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ ความสงบของพุทธเป็นสมาธิ คือ กิเลสไม่รบกวน จิตใจก็แข็งแรงอยู่ได้สบาย แต่ของที่ไม่ใช่พุทธ จิตสงบเพราะว่าหลีกหนี หลีกเร้น ไม่ให้มาเกี่ยวข้อง ดีไม่ดี หลับตาอีก ไม่ให้กระทบสัมผัสอะไรเลย ตรงกันข้ามแบบ 180 องศา มันก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดกับคนพวกนี้ยาก เพราะว่าสองพันกว่าปีมาแล้ว ศาสนาพุทธเสื่อมมาเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ เพี้ยนจนหาของเดิมไม่เจอ เหมือนกับตอนพระพุทธเจ้าประกาศศาสนาแรกๆ เขาก็มีมิจฉาทิฏฐิเหมือนกันอย่างนี้เลย จนกระทั่งไปเข้าใจเอาว่า นักปฏิบัติธรรมของพุทธนั่งหลับตานั่นแหละจะบรรลุพระอรหันต์ อาตมาก็พูดอย่างไม่เกรงใจว่าอย่างนั้นเป็นอรหันต์เก๊ทั้งนั้น อย่างนี้เป็นต้น

ศาสนาทุกวันนี้ ที่ ปฏิบัติอานาปานสตินั้น อาตมาก็เคยอธิบายเคยพูดว่า ตราบที่คนมีลมหายใจเข้าและลมหายใจออก คือมีอานา ปานะ คุณก็ปฏิบัติธรรม ให้เกิดความรู้ โดยไม่จำเป็นจะต้องไปนั่งหลับตาอยู่กับที่ แต่ยืน-เดิน-นั่ง-นอนมีสัมมาวาจา สัมมาอาชีวะมีการกระทำต่างๆกัมมันตะ พูดจามีสัมมาวาจาคิดนึกว่าเป็นสัมมาสังกัปปะ อย่างนี้ คือทางปฏิบัติของพระพุทธเจ้าและจิตก็จะเป็นสัมมาสมาธิได้ 

นี่คือการปฏิบัติอานาปานสติ จิตใจก็มีญาณปัญญา เห็นความไม่เที่ยง อนิจจานุปัสสี เรารู้ว่าตัวเองปฏิบัติก็ทำได้ เห็นความจางคลายของกิเลส วิราคานุปัสสี เป็นผลของอานาปานสติ ที่ปฏิบัติถูกต้อง แล้วก็จะเห็นนิโรธ นิโรธานุปัสสี แล้วก็จะรู้ว่าตัวเองได้ปฏิบัติทบทวนซ้ำซ้ำ อาเสวนา ภาวนา พหุลีกัมมัง จนเป็น ปฏินิสสัคคานุปัสสี ทวนซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งที่สุดก็ขาดสะเด็ด กิเลสก็ไม่มี ท่านแปลว่าสลัดคืน สลัดกิเลสออกจากจิตได้

การปฏิบัติอานาปานสตินั้น ก็คือพิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรมนั่นแหละ ขาดกายไม่ได้ แม้อานาปานสติก็ขาดกายไม่ได้ แต่ไม่เข้าใจอ่านพระไตรปิฎกไม่แตก ขาดไม่ได้ ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านใช้คำว่าสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกาย 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2562 ( 11:21:48 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:31:53 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:12:18 )

อานาปานสติ

รายละเอียด

สติให้ดี ลืมตาปฏิบัติในขณะมีลมหายใจเข้าลมหายใจออก แล้วก็พยายามเรียนรู้กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม อ่านแยกแยะกิเลสให้ออกแล้วล้างกิเลสให้ได้ด้วยกระบวนการของ สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 แล้วจะเกิดผลเป็นอินทรีย์ 5 พละ 5 ด้วยหลักของโพชฌงค์ 7 และมรรคมีองค์ 8

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 66  วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 19:30:46 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:33:29 )

เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2563 ( 15:17:29 )

อานาปานสติ

รายละเอียด

ไม่ได้หมายความว่าให้นั่งอยู่กับที่ อานาปานสติ แปลว่า ในช่วงชีวิตที่คุณยังมีลมหายใจเข้าลมหายใจออกเรียกว่า อานาอาปานะ คุณก็ต้องมีสติ แล้วเรียนรู้ตัวเองทุกอิริยาบถ กายคตาสติ ไปจนกระทั่งถึงจิต ไปจนกระทั่งถึงกิเลส อ่านกิเลสออก แล้วลดกิเลสได้ทุกเวลา

ที่มา ที่ไป

630403


เวลาบันทึก 07 เมษายน 2563 ( 12:07:10 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 10:54:18 )

อานาปานสติ

รายละเอียด

สัญญาข้อสุดท้ายคือ อานาปานสติ อาตมาจะตั้งข้อสังเกตให้ฟัง อานาปานสติไม่ได้ไปตีกินนั่งหลับตา แล้วตีความอานาปานสติว่าลมหายใจเข้า ลมหายใจออกแล้วไปกำหนดลมหายใจเข้าลมหายใจออก ไม่ใช่เลย มันเท่ากับคนชุบมือเปิบหรือคนตีกิน ไปเอาอานาปานสติมาเป็นการนั่ง กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก คุณไม่ได้มีสัญญาอีก 9 ข้อข้างบนมาเลย ไม่เคยศึกษาสัญญาทั้ง 10 ก่อนจะเป็นข้อที่ 10 ต้องมี 9 ข้อก่อน คุณไม่ได้ศึกษาตั้งต้นตั้งแต่สัญญาข้อที่ 1 มาเลย 

เพราะฉะนั้น คุณมาตีกินเป็นของปลอม อานาปานสตินั่งหลับตาสะกดจิต แถมหลับตาด้วย ที่จริงไม่มีคำว่า หลับตา ในพระไตรปิฎกก็ไม่มีให้หลับตา เพ่งอ่านลมหายใจเข้าออกแล้วก็ทำจิตตามนั้น สัญญากำหนดรู้จิต ความจริงแล้วทุกลมหายใจเข้าออก คุณได้ฝึกสัญญา 9 อย่างมาตามลำดับ จนกระทั่งสัญญาข้อที่ 10 คืออานาปานสติ มันแข็งแรงสมบูรณ์ด้วยสัญญาทั้ง 9 และ 10 เต็ม โดยการเจริญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มาฝังชิปโลกุตระใส่จิตวิญญาณตนจนเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 วันขึ้น 14 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 ธันวาคม 2565 ( 11:37:05 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์