@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

เรื่องเกินกว่าที่คนจะคิด

รายละเอียด

มันเป็นเรื่องเกินกว่าที่คนจะคิด พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสรู้ว่า เราไม่รู้หรอกมันเป็นอวิชชา ตั้งแต่สังขารที่มันปรุงแต่งตั้งแต่เป็นสิ่งเล็กสิ่งน้อยเต็มไปหมดในโลก เราคิดไม่ออกหรอก เพราะฉะนั้นเราอย่าไปคิด ถ้าเราเองมัวแต่จะไปคิดว่า เอ๊ นี่มันคืออะไรแล้วไปหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนั้น วิจัยมันอยู่อย่างเดียว อะไรมันก็วิจัยยาก เอ๊!.. ไอ้ฟักทองสปาเก็ตตี้ ใครนะมาปรุงแต่งออกแบบมาให้เป็นฟักทองแบบนี้ คงเป็นฝีมือคนประกอบด้วย แต่เดิมธรรมชาติเดิมก็คงไม่เป็นฟักทองสปาเก็ตตี้แบบนี้ เสร็จแล้วคนก็มาช่วยออกแบบ ช่วยปรุงแต่ง ช่วย breed พันธุ์มันเป็นแบบนี้ ธรรมชาติเดิมคงไม่เป็นแบบนี้ เราก็ไม่รู้ว่าใคร อาจจะมีคนรู้เจ้าของที่เริ่มต้นทำ breed พันธุ์นี้ขึ้นมาเป็นได้ มันก็เกิดการปรุงแต่ง จะบอกว่าอะไรมันเป็นสังขารอย่างไรมันก็ทั่วไปหมด พระพุทธเจ้าก็บอกว่ามันคิดไม่ได้หรอก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหาระดมปัญญา-อนัตตา งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 15:45:35 )

เรื่องเด่นของ ร.5

รายละเอียด

ก็เอาเรื่องเด่นของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็เด่นมากเลยในเรื่องเลิกทาส ในเรื่องอื่นท่านก็ทรงงานได้เยอะ ด้านต่างประเทศ ด้านอื่นๆ สมกับที่ได้เป็นมหาราชองค์หนึ่งจริงๆ ไม่ใช่แต่เฉพาะเมืองไทยที่ยกย่อง ที่อื่นก็เหมือนกันที่ยกย่องพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 09:38:42 )

เรื่องเปรตจัดแถว

รายละเอียด

อธิบายกันมาเป็นปุคลาธิษฐาน เรื่องเปรตจัดแถว เปรตมองเห็นคนนอนในศาลาเป็นแถว มันไม่ได้เป็นสัดส่วนเลย ก็เลยจัดให้เท่ากัน จัดเท้าให้เท่ากันก่อน แล้วก็เดินไปทางหัว เห็นว่าหัวไม่เท่ากันก็จัดให้หัวอยู่ในระดับเท่ากันอีก แล้วก็เดินมาที่เท้า ก็เห็นว่าเท้าไม่เท่ากันอีก ก็เลยจัดที่เท้าให้เท่ากันอีก แล้วก็เดินไปจัดที่หัวอีก… เข้ากับที่จะอธิบาย ปุตตมังสสูตรให้ฟัง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ฌานวิสัยของอรหันต์และโพธิสัตว์ ศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2562 ( 15:38:52 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 07:59:20 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:21:02 )

เรื่องเปลี่ยนศาสนา

รายละเอียด

คือ  มันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็มีบ้าง คนศาสนาพุทธ ไปเข้าศาสนาอื่นก็มีเยอะแยะง่ายด้วย เพราะว่าศาสนาพุทธอิสระ เสรีภาพทุกอย่าง แต่ก็เป็นไปไม่ว่ากัน ไม่มีคอกกั้น ให้อิสรเสรีภาพมากที่สุด

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 13:23:15 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 07:59:55 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:21:25 )

เรื่องเล่าที่น่าอายของพ่อครู

รายละเอียด

อาตมาซื้อรถเอาคันที่มันเป็นคันที่เขาเอามาโชว์ คันที่เขาเอามาใช้ดีมอนสเตท อาตมาว่าของที่เอามา demonstrate มันต้องดีแน่นอนก็เลยเอาคันนี้ซื้อ แต่แล้วเขาว่าเอาแอร์ด้วยไหม มันมีแอร์เครื่องแรกของประเทศไทยนะ ถ้าเอาก็ต้องติด เขาก็ใส่เข้าไปใต้รถ เอาก็เอา ซึ่งเป็นรถติดแอร์คันแรก ไดนาโมประจำรถคันนี้เป็นรถยี่ห้อ Ford corsair แบบใหม่ออกรุ่นใหม่มา demonstrate Ford corsair อาตมาซื้อมาเป็นเครื่องแรก แอร์ก็ติดเป็นเครื่องแรก 

ติดเสร็จแล้วไปในกรุงเทพฯมันก็รถติดสิ ไดนาโมรอบก็ไม่พอ ไฟมันก็ตก เครื่องมันก็ดับ ก็ไปเข็นรถติดแอร์ ไปเข็นอยู่กลางตลาด ขายขี้หน้าเขา เป็นดาราด้วย นั่งรถแอร์ด้วย แล้วทำไมมันต้องเข็นวะ ก็มันยังไม่แพรคติคอล แอร์มันก็ปั่นไม่ทัน มันรอบช้า ของฝรั่งหรือของยุโรปสู้ไดนาโมของญี่ปุ่นไม่ได้ ยังไม่พัฒนาเรื่องไฟแต่ก่อน เขาว่าคนแก่มักเล่าเรื่องเก่า ก็อวดไปงั้น แต่ก่อนอาตมาก็เป็นอย่างโลกๆ เขา มาดูแล้วเดี๋ยวนี้เอามาเล่าไม่ใช่เรื่องเล่าโชว์นะ แต่เป็นเล่าน่าอาย เรื่องที่เคยทำขายหน้า แบบนั้น อวดโชว์อวดเบ่ง โชว์เบ่งทับเพื่อนรุ่น อั๊วะเป็นเพื่อนรุ่นขี่รถติดแอร์ ขนาดเอ็งจบด็อกเตอร์ยังไม่ได้ขี่รถอย่างนี้เลย ขี่รถรัฐบาลแต่อั๊วะขี่รถส่วนตัวติดแอร์นะ ลื้อยังขี่รถจิ๊บ เพื่อนมันจบด็อกเตอร์แต่อาตมาไม่จบ 

นี่ก็เป็นเรื่องที่เอามาเล่าประกอบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เกิดมาต้องรู้จักความเป็นคนกับสังคมจึงไม่เสียชาติเกิด วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2567 ( 11:12:40 )

เรื่องเศรษฐศาสตร์สาธารณโภคียังอีกนานที่โลกจะรู้

รายละเอียด

เรื่องเศรษฐศาสตร์สาธารณโภคียังอีกนานที่โลกจะรู้ เพราะว่าเป็นเศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถ้ากรรมการโนเบิ้ลไพรซ์ (Nobel Prize) มีปฏิภาณปัญญาเกิดรู้จักโลกุตรธรรม โอ้โห!.. เศรษฐศาสตร์บุญนิยม สาธารณโภคีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาจะรีบมาให้รางวัลโพธิรักษ์เลย แต่อาตมาว่ายาก เพราะเขาจะเข้าใจไม่ได้ ว่า อาตมาเข้าใจ ความเป็นจริงอันนี้ 

อาตมาจึงไม่เคยคิดว่าน่าจะได้ จะไปได้อย่างไรเพราะว่ากรรมการเขาไม่รู้ว่าเป็นของมีค่า แล้วจะมาตัดสินในสิ่งที่เขาไม่รู้ว่าอันนี้ยิ่งใหญ่ มันเป็นไปไม่ได้หรอก มันขัดแย้งกันอยู่ในตัวของมันเอง เราจึงไม่รู้สึกประหลาด 

อาตมาได้รับรางวัลจาก แมนเฮ เพราะเขาเข้าใจเศรษฐศาสตร์หรือสันติภาพอย่างที่อาตมาเข้าใจ ถ้าคนเขาจะรู้ว่าอาตมามีเศรษฐศาสตร์หรือสันติภาพ อาตมาทำเศรษฐศาสตร์แบบพุทธทำสันติภาพแบบพุทธ ซึ่งไม่ใช่ว่าเขาจะเข้าใจได้ง่ายๆ 

มาสรุป ความรู้ที่จะรู้ในเรื่องของ ศีลก็ดี สำรวมอินทรีย์ก็ดี สติสัมปชัญญะก็ดี และสันโดษก็ดี

เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะสามารถ จะรู้จักคุณธรรม แม้อปัณณกปฏิปทา 3 ยิ่งเป็น สัทธรรม 7 ยากมาก ยากมากที่จะเข้าใจในสัทธรรม 7 จะต้องเกิด ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหุสูตร ถ้าเกิดความรู้ รู้อะไร รู้ว่าจิตที่มีศรัทธาเป็นอย่างนี้ จิตที่มีความละอายต่อบาปอย่างนี้ ละอายอะไรละอายที่เราเคยไปถล่มทลายท่านผู้รู้ เอาขี้หมาไปข่มทองคำ พอพวกนี้สำนึกและรู้แล้ว เราจะรู้ว่าตัวเองมืดบอด มันไม่รู้อิโหน่อิเหน่ คนนี้จิตจะสำนึก ละอาย เกรงกลัวอย่างแรงกล้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 39 พุทธานุสสติ และอัมพัฏฐสูตร วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 17:36:23 )

เรื่องเสื่อมของศาสนาพุทธชัดเจนคือการทอดผ้าป่า

รายละเอียด

ยิ่งเป็นเรื่องของผ้าป่านี้เป็นเรื่องผิดวินัยมหาศาลเลยเพราะผ้าป่านี้เป็นผ้าบังสุกุล คนเก่าทิ้งแล้ว ก็เอามาใช้ ตอนนี้ให้มีคนเป็นเจ้าภาพหมดเลยมันเลอะเทอะไปหมด ทอดกฐินเดือนเดียว แต่ทอดผ้าป่าทอดกันได้ทั้งปีทั้งชาติ มันเป็นเรื่องเสื่อมของศาสนาพุทธชัดเจนเป็นเครื่องชี้บ่ง พวกเรามากอบกู้ให้ถูกธรรมวินัยเราทำได้ก็ภาคภูมิใจเถอะคนอื่นทำไม่ได้ก็ได้แต่สงสาร แต่มีเหมือนกันที่เขาก็พยายามกัน แต่จะรอดไหมนี่มีวัดไหน สำนักไหน ที่ไม่ต้องมีการทอดกฐินก็เลยทอดผ้าป่ากันเลยเพื่อหาเงินทั้งนั้นอยากจะมีไหม

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 09:22:42 )

เรื่องเหลือเกินวิสัย สุดวิสัย อจินไตย 

รายละเอียด

พิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าด้วยว่าจริง และพิสูจน์ว่าธรรมะพระพุทธเจ้าเนี่ยคนปฏิบัติตามเป็นจริงตามที่พระพุทธเจ้าสอนได้ด้วย เป็น 2 ประเด็น ซึ่งมันเป็นเรื่องเหลือเกินวิสัย เป็นเรื่องสุดวิสัย เป็นเรื่องอจินไตย 

คำว่า วิสัย ก็ไม่ง่าย อาตมาเข้าใจพยัญชนะ นิสัย วิสัย อนุสัย อาศัย มาแจก 

ทั้ง นิ วิ อา ก็ขยายความถึงอนุ ก็ขยายความตามพยัญชนะ พวกที่เขาเรียนตำราตามสูตรสมัยใหม่ ไวยากรณ์ก็ยากจะเชื่อง่ายๆ ก็เอาเฉพาะคนที่เชื่อได้ อาตมาไม่มีเจตนาร้ายไปในทางต่ำอะไรเลย มีแต่เจตนาดีถ่ายเดียว ที่จะบอกที่จะพูดขยายความจริงและพิสูจน์เอาตัวเอง พิสูจน์ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็คิดว่า ก็คงจะต้องอาศัยเวลาอีกก็ทำมาจนถึงบัดนี้ อาตมาว่าอาตมาจะตาย 72 ตอนนี้ไปถึง 84 ปีก็เป็นหนึ่งนักษัตร ถ้าไปถึง 96 ปีก็เป็น 2 นักษัตร มันก็เพิ่มความน่าเชื่อถือไปได้ ถ้าเติมไปถึง 108 ครบ 3 นักษัตร ครบสามเส้า คราวนี้ล่ะ อาตมาว่า จึงพยายามอยู่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โพชฌงค์ 7 สัปปุริสธรรม 7 โดยพิสดาร วันพุธที่ 14 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 เมษายน 2564 ( 18:43:34 )

เรื่องโควิดอย่าประมาทการ์ดอย่าตก

รายละเอียด

ก็ขอสำทับเรื่องโควิด โดยเฉพาะในชุมชนอโศกทั้งหลาย แม้แต่ในบ้านราชฯนี่ก็เถอะ พยายามรักษา พยายามระมัดระวัง พยายามที่จะต้องอย่าการ์ดตก เข้มงวดขึ้นดีๆ อย่าประมาท ประมาทไม่ได้เลย เล่นกับมันไม่ได้เลย covid ตอนนี้เมืองไทยชักสถิติตกลง ตกลงแล้วนี่ 

วันนี้ 746 คนติดเชื้อเพิ่ม ทางไปรษณีย์บอกว่าให้ระวังของที่ส่งทางไปรษณีย์ก็มีสิทธิ์ติดเชื้อตามกล่องไปรษณีย์ได้ จะต้องฉีดแอลกอฮอล์กล่องละสัก 5 รอบ อย่าเสียดายแอลกอฮอล์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 20:21:54 )

เรื่องโพธิสัตว์ 9 ระดับไม่ได้มโนเอง

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้มโนเอง หากให้อาตมามโนเอง ก็เป็นพยัญชนะที่ถูกสัจจะจริงด้วย ผู้ที่ศึกษาเรียนโพธิสัตว์ระดับ 8 ระดับ 9 ให้ได้เถิด รับรองเป็นโพธิสัตว์ไปลิ่วเหมือนอาตมา หรือเป็นพระอรหันต์ก็ได้  โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้ปัญญาคนไร้ศรัทธาต่ออโศก วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:11:40 )

เรื่องโลกุตระ คนส่วนใหญ่ในโลกไม่รู้

รายละเอียด

ไม่มีศาลไหนในโลกตัดสินว่าอาตมาผิดเมื่ออาตมาประกาศว่าตนเองเป็นอรหันต์นะ ไม่มีศาลไหนตัดสินได้หรอกว่าอาตมาพูดนี้โกหกประชาชนหรือเปล่า คุณก็ไม่รู้ มีอรหันต์ด้วยกันจริงๆเท่านั้น อย่างพวกชาวอโศกเข้าใจและรู้ว่าอาตมาเป็นอรหัน ต์จริงๆก็จะเชื่อ คนไม่เข้าใจจะเชื่อได้อย่างไร 

เออ คุณก็รู้ว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศก็โง่ เรื่องโลกุตระนี้ก็จริง คนส่วนใหญ่ในโลกไม่รู้แม้แต่ชาวพุทธ เยอะ ส่วนใหญ่ยังโง่คือยังไม่รู้คือยังไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจโลกุตระ มีเป็นส่วนมากจริงๆ คุณรู้นะว่า คนส่วนใหญ่ยังโง่อยู่ก็จริง คนส่วนใหญ่เลยไม่มากราบพระอรหันต์อย่าง ตารัก เขาว่า คนทั้งหลายแหล่โง่เป็นส่วนใหญ่ ก็ถูกสิ เขาโง่ เขาจะมากราบทำไม ก็เขาไม่รู้ความจริงว่าอาตมาเป็นอรหันต์ เขาก็ไม่มา ก็ถูกแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาสื่อสภาวธรรมโลกุตระ วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565 แรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 ธันวาคม 2565 ( 12:18:37 )

เรื่องโลกๆ ทำไมต้องพูด

รายละเอียด

ธรรมะของพระพุทธเจ้าคือธรรมะที่รู้จักโลกและรู้จักอัตตา อย่าโง่มากนัก เลิกโง่สักที ถ้าพระพุทธเจ้าไม่พูดถึงเรื่องโลกเรื่องอัตตา แล้วจะไปพูดเรื่องหมูเรื่องหมาอะไร ก็ต้องพูดถึงเรื่องคนสังคมโลก เรียกว่าโลกคือสังคมเป็นสังขารโลก แล้วก็ต้องพูดถึงอัตตาคือตัวตน ก็สอนได้ 2 อย่าง อันหนึ่งภายนอก อันหนึ่งภายใน เข้าใจธรรมะไม่พอแล้วมาว่าอาตมา อาตมาย้อนไปก็ต้องขออภัย มันจะแสบ โดนอาตมาย้อนศร มันจะแสบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2565 ( 11:44:53 )

เรื่องใดที่คนเข้าใจผิดหมดเกี่ยวกับพลเอกประยุทธ์

รายละเอียด

คุณหาว่า…รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่ใช่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลทหาร แล้วเอาอำนาจทหารมายึดอำนาจ ซึ่งคนเข้าใจผิดทั้งหมด พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ใช้อำนาจทหารไม่ได้เข้ามาปฏิวัติรัฐประหาร พลเอกประยุทธ์เป็นแต่เพียงผู้มารับไม้ต่อจากประชาชนที่เป็นผู้ทำรัฐประหารที่เป็นผู้ปฏิวัติไล่รัฐบาลออกไปตั้งหลายรัฐบาลแล้ว ขอสรุปให้ฟัง

  1. ไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ทำการปฏิวัติ แต่เป็นประชาชนไปปฏิวัติรัฐประหารมา 

  2. การยึดอำนาจขับไล่รัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้ง เอาอำนาจประชาชนหรืออำนาจประชาธิปไตยเองรวมกันเป็นล้านคนออกมาไล่

สรุปตรงนี้ว่า 1 พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่เป็นคนมาทำรัฐประหาร ไม่ได้ใช้อำนาจทหาร แต่มาขออำนาจต่อจากคุณนิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล ที่ขาดจากอำนาจแล้ว เคยเป็นผู้รักษาราชการแทน ตั้งแต่บัดนั้น พลเอกประยุทธ์ก็ได้บริหารประเทศมา ตอนแรกต่างประเทศก็จะไม่รับรอง พลเอกประยุทธ์ก็ได้พากเพียรบริหารมา จนกระทั่งมีการเลือกตั้งอีก ก็ได้พลเอกประยุทธ์ มาเป็นนายกฯอีก ก็เป็นประชาธิปไตยที่สวยงามมาก ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด บริหารประเทศผ่านมาหลายปี ต่างประเทศก็ยอมรับว่าเป็นประชาธิปไตย ยอมที่จะร่วมมือประสานงานเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น เป็นประเทศประชาธิปไตยในโลก และการบริหารก็ดีวันดีคืนสังคมดีขึ้น อยู่เย็นเป็นสุข ใช้หนี้ใช้สินไป จากรัฐบาลทักษิณทำให้เป็นหนี้ไม่รู้กี่แสนล้าน ใช้หนี้อยู่ตอนนี้ กิจการที่เคยเสียหายก็เอามาบูรณะขึ้น ที่จะสร้างใหม่ก็ให้ทันสมัยกับสังคมก็ทำขึ้นมาอีก เรียบร้อยสวยงาม 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 11:24:29 )

เรื่องใดที่พระโพธิสัตว์ 2 องค์ซาบซึ้งตรงกัน

รายละเอียด

อาตมาก็พูดไปซึ่งท่านก็ไม่เชื่อกัน อาตมาก็ว่าตนเองเป็นโพธิสัตว์ ก็ตามหาพระโพธิสัตว์ผู้พี่ผู้น้อง อยู่ที่ไหนก็บังเอิญมีอยู่องค์หนึ่ง ซึ่งท่านก็สวรรคตไปแล้ว คือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านได้ตรัสสิ่งที่ตรงกับอาตมาพูดอธิบาย ว่ามาเอาแบบคนจน มันตรงกันอาตมาก็เลยรู้ว่าในหลวงคือ พระโพธิสัตว์องค์นั้น ไม่ได้โมเมพูดเลอะ แต่มันมีหลักฐานตรงกัน มีเหตุปัจจัยยืนยันรู้ร่วมกันได้อธิบายได้ ผู้ที่มีภูมิปัญญาก็รู้ได้ชัด จะไม่มีใครซาบซึ้งในความเป็นคนจน จะไม่มีใครซาบซึ้งในการขาดทุนของเราคือกำไรของเรา ที่ในหลวงท่านตรัสแล้วเราเอามาออก ว่าประเทศไทยมีความรู้เช่นนี้เป็นของพระเจ้าแผ่นดินด้วย อาตมาไม่ได้ลอกเลียนโมเม อาตมาว่าอาตมามีความรู้ในเรื่องความจนและขาดทุนของชีวิตคืออย่างนี้ ทำสังคมให้เป็นแบบนี้ทำเศรษฐกิจของประเทศชาติให้เป็นแบบนี้ อาตมามีความเข้าใจและรู้อันนี้จริง และมีในหลวงตรัส ท่านต้องการให้เป็นแบบนี้ แต่คนเข้าใจไม่ได้ เข้าใจโลกุตรธรรมนี้ไม่ได้ จึงไม่ได้ปฏิบัติตามได้ ปฏิบัติตามตำรา ที่ในหลวงตรัสว่าให้ปิดตำราเสีย แล้วให้มาเอาตำราของพระพุทธเจ้า ให้รู้จักสัจจะที่พระพุทธเจ้าพาเป็น แต่เขาก็ไม่พยายามแสวงหา ว่าพระพุทธเจ้าสอนอย่างไร เนื้อหาสาระของแก่นสารศาสนาพุทธเป็นอย่างไร ก็ไม่มาใส่ใจที่จะรู้จักสัจธรรม หรือสัทธรรมที่แท้ของพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 10:38:31 )

เรื่องไม่กินเนื้อสัตว์พูดมามากแล้วให้ลูกๆ พูดบ้าง

รายละเอียด

จริง ไม่พูดซ้ำซากมากแล้ว อาตมาพูดมาจนเมื่อยแล้วเรื่องการไม่กินเนื้อสัตว์ ตอนนี้ใกล้เทศกาลกินเจเขาก็เลยเอามาพูดกันบ้าง อาตมาก็ไปตามเขาว่ามา ก็ดี อาตมาก็ใช้การรณรงค์ไม่กินเนื้อสัตว์เป็นธรรมะบทแรก ที่บุกเบิกทำงานศาสนามาจนได้ผลทุกวันนี้ แต่ตอนหลังนี่มาชะงัก ไปธรรมะปรมัตถ์ขั้นสูงไปเรื่อยๆ ธรรมะต้นๆ ก็เลยไม่มีใครเอาถ่าน พวกลูกๆ ทั้งหลายแหล่ก็ต้องพยายามช่วยกันบ้างนะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 55 ธรรมิกราชแจกแจงสังขารในปฏิจจสมปบาท วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2565 ( 17:56:27 )

เร็วยิ่งกว่าวินาที มันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

รายละเอียด

การเกี่ยวเนื่องอยู่กับธาตุ 2 ธาตุก็คือพระเจ้าแต่พระเจ้าไม่รู้ตัวเอง พระเจ้านึกว่าเป็นหนึ่ง นึกว่าตัวเป็นนิรันดร ตีไม่แตกแยกไม่ได้และเป็นผู้สร้างทุกอย่างด้วย พระเจ้าจึงหมดความฉลาด เพราะท่านฉลาดสูงสุดหมดความฉลาดแล้ว ผู้ที่หมดสิ้นความฉลาดแล้วคือผู้ที่รู้จักความ ไม่เที่ยง ทุกอย่างไม่เที่ยงทุกอย่างไม่แน่นอน ทุกอย่างคืออดีต ปัจจุบัน อนาคตกับสิ่งที่เป็นไปตามกาละ ของอดีต ปัจจุบัน  อนาคต ซึ่งไม่ได้อยู่คงเดิม ไม่ได้เป็นไปตามเดิม 

โลกมันหมุนอยู่ จักรวาลมันเคลื่อนที่อยู่ ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ทุกอย่างมีอยู่ 2 ทิศทาง ปรุงแต่งขึ้นใหม่กับเสื่อมไป ปัจจุบันเป็นจุดนิดนึงของสิ่งที่จะยึดไว้ให้มันมีอยู่ แต่หลายอย่างที่มันยึดกันอยู่ไว้ บางทีก็เป็นแสนปีแสง มันทรงอยู่กว่ามันจะเป็นรูปจนกระทั่งเห็นว่ามันเปลี่ยน บางทีเป็นล้านปีแสง บางอย่างแวบเดียว คุณไม่ทันเห็นว่ามันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เร็วยิ่งกว่าวินาที มันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว คุณเห็นมันไม่ทันหรอก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 53 ประโยชน์อันสูงสุดจากศาสนาที่มนุษย์พึงได้ วันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2565 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 12:41:01 )

เร่งปฏิบัติตนให้พ้นกิเลสดีกว่ามัวไปถามว่าใครเป็นอรหันต์บ้าง

รายละเอียด

เออ ก็น่าคิด ถามอาตมายังไม่ชัด ต้องไปถามหมอเขียวเองว่าบรรลุอรหันต์หรือยัง อะไรอย่างนี้นะ อาตมาก็พูดได้ตามหลักการ ก็ผู้ที่คบคุณก็พอบอกได้ แทนที่คุณจะถามอาตมานะ คุณตั้งใจฟังธรรม ตั้งใจเรียนรู้ตาม น่าสนใจไหมล่ะ หมอเขียวสอน หมอเขียวอธิบายน่าสนใจไหมล่ะ น่าสนใจติดตามศึกษาและปฏิบัติตามดู แล้วคุณจะรู้เองว่า อ๋อ หมอเขียวก็อธิบายไม่นอกไปจากอาตมาเท่าไร อธิบายคล้ายกันไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มรู้กันไปตามลำดับแล้วว่ากาย หมายความถึงอย่างนี้ สามารถเข้าใจกายได้ ก็พ้นสังโยชน์ข้อที่ 1 เป็นสัมมาทิฏฐิจริง 

ผู้ที่พ้น สักกายทิฏฐิ ไม่มีวิจิกิจฉาเลยว่า กายเป็นอย่างนี้ กายมีภายนอกอย่างเดียวไม่ได้ กายต้องมีภายนอกและภายในด้วย นี่เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นของคำว่ากาย ซึ่งกายยังมีนัยยะสำคัญอีกหลายแง่มุมหลายประเด็นมากเลย ให้คุณศึกษาตามไปแล้วก็จะรู้ อ๋อ แล้ว ศีล ก็สามารถปฏิบัติได้ไหม พ้น สีลัพพตปรามาส ไหม นี่พ้น สังโยชน์ 3 เป็นพระโสดาบัน ยิ่งพ้น สังโยชน์ข้อที่ 4 ข้อ 5 กามก็ดี ปฏิฆะก็พ้นได้ จนพ้น มานะ อุทธัจจะ พ้นอาสวะก็จะรู้ แล้วคุณก็จะได้ทำตาม แทนที่จะเอาแต่ถามอาตมา ก็จะได้แค่พยัญชนะภาษา ตั้งใจศึกษาติดตามให้ดีๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของพระธรรมวินัยข้อที่ 1 กับข้อที่ 8 วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2564 ( 04:21:26 )

เลข

รายละเอียด

1. ถ่ายทอด บอกสอนสืบเนื่องกันต่อๆ มา

2. มีการสืบต่อ มีการต่อทอด สืบสาย ถ่ายทอดต่อและต่อ ๆ กันไปเรื่อย ๆ ถ่ายเทคุณธรรม ดำเนินรอยตามแนวทางของศาสดา นำสาระแก่นแท้ของศาสดาให้ต่อ ๆ ทอด ๆ ยืนยาวมากออกไป

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1หน้า 68,ทางเอก ภาค 2 หน้า 121


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2562 ( 08:10:31 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:37:58 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:21:53 )

เลข 7

รายละเอียด

เลข7  ในพุทธศาสนาคือ ตัวเลข 7 เป็นพลังงานเที่ยงแท้  หรือพลังงานที่จริง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก  วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 ตุลาคม 2562 ( 12:37:20 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:03:06 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:22:30 )

เลข7 เป็นสิริมหามายา

รายละเอียด

ที่จริงไม่อยากพูดหรอกมันจะท้อเอา แต่มันก็ท้อไม่ได้ก็มีทางเดียวเท่านั้น ที่เขาสงสัยเรื่องเลข 7 อาตมาก็ไม่เก่งที่จะอธิบายพอ มันเป็นสภาพสิริมหามายา มันเร็วจนกระทั่งคนอื่นดูเหมือนว่าจะหลอกแต่ที่จริงมันเร็วมาก อาตมานี่ไม่ได้หลอกใคร เป็นเลข 7 เป็นสิริมหามายา บอกตรงๆบอกซื่อๆว่าเป็นนั่นเป็นนี่ก็บอกตรงๆ แล้วคนก็ไม่เชื่อหาว่าพวกนี้มันนักมายากล 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 03 มิถุนายน 2563 ( 10:39:34 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:50:50 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:23:08 )

เลข7เป็นเลขตั้งหลักที่ก่อให้เกิดสิ่งประเสริฐสูงสุด

รายละเอียด

เลข 7 เป็นเลขที่ อจินไตย จะเรียกว่ายิ่งใหญ่ก็ยิ่งใหญ่ เป็นเลขที่ตั้งหลัก ตั้งหลักที่จะก่อเกิดสิ่งที่ประเสริฐสูงสุดแล้ว เมื่อถึงฐานที่ 7 8 9 ก็สูงสุด วัฏฏะ 1 ก็สามเส้า มีประธานมีบวกมีลบ สามเส้า 1 cyclic 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 03 มิถุนายน 2563 ( 10:00:46 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:51:38 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:23:28 )

เลขคู่ 4

รายละเอียด

วันนี้วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้อาตมาเห็นถึงความสดจริงๆเลย เป็นไปตามสัจธรรม เขาเตรียมแผนไว้เหมือนกัน วางแผนอย่างโน้นอย่างนี้ไม่ได้เข้าตามแผนที่วางเลย ทุกอย่างมันก็ดำเนินไปเรียบร้อยของมันเองแต่ก็ไม่มีอุปัทวเหตุ เข้าสู่จุดสำคัญได้อย่างดี ปีนี้ เป็นปีที่เป็นพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ครั้งที่ 44 เลขคู่ 4 เลข 4 เป็นเลขที่แหวกเจาะกระเปาะไข่ออกมาได้เป็นอันแรก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์วันมาฆบูชา บ้านราช เนื้อแท้ประชาธิปไตยพุทธ 5 ประการ วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:50:36 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:00:57 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:24:05 )

เลขคู่ที่ยิ่งใหญ่ 

รายละเอียด

 881 คือ 89  (เสียงฮาา) อ้าว…ลงเลข 89 ยิ่งใหญ่ไหม เป็นเลขคู่ที่ยิ่งใหญ่ 

ยิ่งใหญ่อย่างไร อาตมามีแต่การก้าวหน้า จาก 7 มาสู่ 8 บอกแล้วว่าตัวเลข 9 เป็นตัวเลขที่เจริญที่สุด เลยไปแล้วก็เป็น 0 เลย อธิบายไปแล้ว เอาตัวเลขอธิบายสภาวธรรมเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นอาตมายังอยู่ในภาวะก้าวหน้าๆๆ ส่วน ในหลวง ร. 9 ท่านก็จะเพิ่มขึ้นมาอีก ท่านก็จะเพิ่มลงมา 7 แล้วขึ้น 8 ลงมาหา 9 ก็จะเป็นอย่างนั้น ในสามเส้า เพราะท่านอยู่ในวงวน ของรอบสุดท้ายแล้วเป็นรอบ นิยตะ คือรอบ 7 8 9 แล้ววนในรอบนิยตะ คือรอบ 7 8 9 มันจะเป็นอย่างนั้น อาตมาไม่พูดต่อไม่ขยายความต่อพูดไว้เท่านี้ คนที่ยังไม่เข้าใจไม่เป็นไร 

วันนี้ได้พูดอะไรที่เป็น อจินไตย เยอะมากมายหลายอย่างเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องที่ยังเข้าใจกันยากอยู่เรียกว่า อจินไตย เข้าใจกันไม่ได้ง่ายๆ ไม่ใช่เดา คุณจะรู้ก็ต่อเมื่อคุณขึ้นไปเป็นคนที่มีภูมินั้น คุณมีภูมิอรหันต์คุณก็จะเข้าใจอรหันต์ คุณเจริญไปบรรลุเป็นโพธิสัตว์ระดับ 5 คุณก็จะเข้าใจ คุณเจริญจริงมีของจริงไปเป็นระดับ 6 คุณก็จะเข้าใจระดับ 7 คุณจะเข้าใจหรือระดับ 8 ระดับ 9 จนกระทั่งหมุนเวียนอยู่ใน เส้าของ 7 8 9 วน จนกระทั่งสุดรอบ ไปเป็นพระพุทธเจ้า ก็จะเป็นจริงไปตามสภาวธรรมนั้น 

สำหรับวันนี้ก็อบอุ่น พวกเราก็มาฟังธรรมกันเต็มศาลาเลย ไฟเราก็ไม่ค่อยดี เรื่องไฟฟ้า เราจะต้องเอาไฟฟ้าหรือไฟแดดมาใช้ เราจะต้องเป็นลูกพระอาทิตย์ อาศัยพ่อ อย่าไปอาศัยพญานาค หรือไปอาศัยใต้บาดาลอะไรมากมาย อาศัยฟ้า อาศัยพระอาทิตย์ อาศัยไฟแดด นี่ก็พยายามจะให้ไฟแดดมีมากๆ ก็ยังไม่เจริญเท่าไหร่ 

ให้สังเกตตรงนี้ ถ้าบ้านราชรุ่งเรืองสว่างไสว แม้แต่ตอนกลางคืนก็มีโซล่าเซลล์รุ่งเรืองสว่าง มันมืดอาตมาก็ได้แต่บ่น ผู้มีความรู้ก็ช่วยกันอยู่ คงสุดฝีมือของท่านเท่านี้ ก็อาศัยไปคนที่จะมีความรู้ความสามารถจะมาช่วยกันเรื่อยๆ จนกว่าราชธานีอโศก ในเวลากลางคืนแล้ว ก็จะสว่างไสวรอบราชธานีอโศก เมื่อนั้นเป็นที่สังเกตว่า นี่แหละคือ จุดรุ่งเรืองของราชธานีอโศกแล้ว จบ สำหรับการพูดวันนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 มกราคม 2566 ( 13:04:43 )

เลวที่สุดในแผ่นดินคือหากินบนคำว่า ช่วยเขา

รายละเอียด

นี่แหละที่อาตมาใช้โศลกหรือม็อตโต้ว่า เลวที่สุดในแผ่นดินคือหากินบนคำว่า ช่วยเขา ... นี่แหละผู้ที่บอกว่าฉันจะช่วยเธอแล้วจะสร้างอำนาจบาตรใหญ่ให้ เช่น นักการเมืองกำลังจะใช้นโยบายบอกว่าเอาฉันไปมีอำนาจ ฉันจะช่วยทำอย่างนั้นอย่างนี้ อยู่ในเกมที่อาตมาว่านี้ เลวที่สุดในแผ่นดินคือหากินบนคำว่า ช่วยเขา 

ลักษณะนี้สังเกตดีๆ คนที่สัญญิงสัญญาว่าจะให้อย่างนู้นอย่างนี้แล้วก็ทำไม่ได้หรอก คุยได้คุยโม้ แต่คนที่ไม่พูดว่าจะให้ อาจจะบอกโครงการอาจจะบอกคร่าวๆ ต้องการกันอีกไหม ก็ไม่ได้มาเซ้าซี้ทำเป็นโฆษณาว่าเป็นเรื่องที่ฉันจะทำให้ เลือกฉันสิเอาฉันไปเป็นผู้มีอำนาจ ฉันจะใช้อำนาจทำให้ นี่คือความละเอียดลึกซึ้งตรงนี้ โดยเฉพาะในเรื่องนักการเมือง ศึกษาดีๆเถอะเรื่องนี้ละเอียดละออมาก เสร็จแล้วก็กลายเป็นเรื่องล้มเหลวกลายเป็นเรื่องทำลายกลายเป็นเรื่องสร้างอำนาจบาตรใหญ่ให้แก่ตัวเองเฉยๆ เหมือนอย่างพวกไม่มีความรู้ในโลกธรรม ประเทศไหนก็แล้วแต่ อย่างนี้ทั้งนั้นเป็นความรู้เทวนิยมมีอยู่แค่นี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2566 พิธีน้อมกตัญญูบูชา วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2566แรม 2ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2566 ( 15:44:38 )

เลวที่สุดในแผ่นดินคือหากินบนคำว่าช่วยเขา

รายละเอียด

นี่คือเรื่องของคน เรื่องของมนุษยชาติ เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องของความเป็นมนุษย์ ไอ้ไปอยู่เหนือกัน ฆ่ากันแกงกัน มีอำนาจบาตรใหญ่เป็นเจ้าโลกนั้นมันเก่าโบราณแล้ว มันตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์มาตั้งแต่ผีตองเหลืองก็ยังไม่ดุไม่ฆ่ากัน ต้องเป็นยุคคนเถื่อน จนกระทั่งนึกว่ามันเจริญมาแย่งมาฆ่ามาแสดงอำนาจสมัยเจ็งกิสข่าน สมัยอเล็กซานเดอร์มหาราชล่าอาณาจักร ล่าเมืองขึ้น ไอ้นั่นมันเก่าแก่แล้ว เดี๋ยวนี้ก็ยังเก่าแก่จะล่าเมืองขึ้น เป็นแต่เพียงวาทกรรมเปลี่ยนแปลงว่าฉันช่วยคุณอาตมาถึงบอกว่า เลวที่สุดในแผ่นดินคือหากินบนคำว่าช่วยเขา ขี้หมาเน่าๆไงครับ มันไม่ได้เรื่องเลย มันก็ใช้แต่วาทกรรมโวหารภาษาพูดไป ว่าไอ้เรื่องภาษาโวหารนี้ อาตมามีสำนวนหนึ่งว่า เขาพูดมาเอา 5 หาร ถ้าหารไม่ลงตัวโยนทิ้ง ก็ไม่รู้ความหมายเก่าๆเป็นอะไร เขาพูดมาเอา 5 หาร หารไม่ลงตัวก็โยนทิ้ง ไม่รู้หมายความว่าอะไรเหมือนกัน 

คือเอามาไตร่ตรองวิจัยแยกแยะดูให้ชัดเจน ว่าไอ้ที่พูดมานั้นมันหมายถึงอะไรกันแน่ละเอียดลออ แล้วมันซับซ้อนลึกซึ้งอยู่ในนั้นอย่างไร มาดูดีๆมันมีอะไรซ่อนกลซ่อนเชิงอยู่ในนั้น คนเรานี่นะมีอะไรซ่อนกลหรือซ่อนเชิงอยู่ โดยรู้ตัวก็ดีเจตนาจะซ่อน โดยไม่รู้ตัวก็ดีก็คิดว่าจะเอาเปรียบเอารัด มันเห็นแก่ตัวจะเป็นอย่างนั้น โดยไม่รู้ตัวก็ต้องเอาเปรียบให้ได้ก็มี เพราะฉะนั้นคนที่รู้แล้วไม่เอาเปรียบ รู้ตัวอย่าไปทำ เสียสละดีกว่าประเสริฐกว่า เอาเปรียบเลว เกื้อกูลผู้อื่น ดี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงาน ปฏิญาณศีล 8 งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 47 วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566 ที่บวรปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 23 เมษายน 2566 ( 19:18:41 )

เลิกกินเนื้อสัตว์ก็เป็นอธิมุติอย่างหนึ่ง

รายละเอียด

อาตมาว่าถ้าใครตั้งใจฟังอาตมาอธิบายให้ดีๆ นะ เขาจะเลิกกินเนื้อสัตว์ คุณเลิกไม่กินเนื้อสัตว์นี้ก็เป็นอธิมุติอย่างหนึ่งของคุณ จิตมันโน้มไปเป็นวิมุติหลุดพ้น คุณเลิกกินเนื้อสัตว์ เข้าใจชัดคุณก็หลุดพ้นวิมุติอย่างหนึ่ง หมดวิบากที่จะไปเกี่ยวข้องกับสัตว์อีกแล้ว แต่ก่อนไม่รู้ก็ไปมีวิบากไปกินไปเกี่ยวพันไปสร้างพันธกิจกับมันมา แม้คุณจะไม่ฆ่าเองก็ไปกินที่คนอื่นเขาฆ่าก็เป็นพันธกิจเกี่ยวโยง คุณก็มีเท่าที่คุณมีไปแล้ว จากนี้ไปคุณก็ไม่มีพันธกิจไม่มีอะไรจะสืบต่อ ไม่มีวิบากกับสัตว์ใดๆ อีกเพิ่มเลย ก็หลุดพ้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน ไตรสิกขาของนาม5 รูป28


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:37:28 )

เลิกกินเนื้อสัตว์ได้เป็นความเจริญ

รายละเอียด

คนเราเกี่ยวกับการกิน อาหารเป็นหนึ่งในโลก ที่พูดไปนี้อยู่ในหลักการของศาสนา โภชเนมัตตัญญุตา อาหารคือคำข้าว กวฬิงการาหาร ต้องสอนกันซ้ำซาก กวฬิงการาหาร ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร วิญญาณาหาร เป็นอาหาร 4 

อาหารอันที่ 1 คือคำข้าวที่กินนี่แหละ เลิกเนื้อสัตว์เลย เหลือแต่พืชกับดินกับธาตุวัตถุ กินเท่านี้แหละ ไม่ตายๆ ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ สบาย ซึ่งยกตัวอย่างพูดแวดล้อมสิ่งที่เป็นจริงเอามายกอ้างยืนยัน 

คนอยู่ขั้วโลกเหนือ มันไม่มีพืชพันธุ์ธัญญาหารให้กิน มันต้องกินเนื้อสัตว์กินเนื้อปลา ดีไม่ดีต้องกินเนื้อหมี อายุสั้น คนอยู่บนป่าบนภูเขา เขาไม่ไปจับสัตว์มากินหรอก มันมีเนื้อมีสัตว์ต่างๆเขาก็กินพืชอย่างง่ายๆ เพราะว่ากินพืชที่ปลูกหรือไม่ปลูกก็ตามเดินไปเด็ดมากิน มันไม่วิ่งหนีเหมือนเนื้อสัตว์หรอก ง่ายดี มีสารพัดพืชผลหมากรากไม้กินดอกก็ยังได้ กินทั้งดอกมันกินทั้งใบมัน กินทั้งกิ่งก้านมัน กินหัวมัน ใต้ดินบนดินกินหมด ก็เหลือแหล่แล้วที่จะเป็นอาหารเลี้ยงชีพ เท่านี้ก็เป็นความเจริญ ไม่เป็นคนเสื่อมคนต่ำคนอำมหิต คนที่ยังกินเนื้อสัตว์ยังไม่พ้นความเถื่อน ไม่พ้นความต่ำความอำมหิต

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของศีลที่พ่อครูเอามาสถาปนา วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 7 ค่ำเดือน 3 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:18:56 )

เลิกที่จะมีเรื่องของการร่วมเพศเรื่องของกามจึงจะมาหานิพพาน

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ เพศก็รู้เพศสามัญ แต่เป็นเรื่องที่ต้องวนเวียนในวัฏสงสารยาวนาน พระพุทธเจ้าก็ให้เรียนรู้เหตุปัจจัยของจิต เจตสิก ตัวนี้เป็นตัวที่จะต้องติดยึดก็ล้างความติดยึดออกไป จนมันจางคลาย จนมันดับไปได้ก็เลิก เลิกที่จะมีเรื่องของการร่วมเพศ มีเรื่องของกาม เลิกได้จบ อันนี้จึงจะมาหานิพพาน เพราะฉะนั้นอาตมาอธิบายสั้นๆย่อๆ แค่ที่พูดนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นเรื่องเยอะ ผู้ที่จะบอกว่าไปนิพพานง่ายๆพูดอย่างชุ่ยๆ ตื้นๆ ยกตัวอย่างสายนั่งหลับตาขออภัยอีกที อย่างมหาบัว

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 10:13:50 )

เลิกนั่งหลับตาสะกดจิตได้แล้ว

รายละเอียด

ภาวนาแปลว่าการเกิดผล ภาวะ มีสภาวะ ซึ่งปรากฏจริง แต่ก็ไปติดอยู่ในบัญญัติ อยู่ในพิธี อยู่ในภาษา อยู่ในเปลือก ก็เลยงมงายกันอยู่ตรงนั้น และก็ไปเข้าใจผิดต่ออีกว่า ภาวนาคือต้องไปนั่งหลับตาสะกดจิต ซึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิในการปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นก็ขอพูดย้ำตีหัวตะปู จนกระทั่ง บี้หมดเลย ก็ให้เลิกนั่งหลับตาสะกดจิตได้แล้ว ชาวพุทธเอ๋ย อาตมาพูดแรงพูดตัด สมัยพระพุทธเจ้าท่านพูดตัดไม่ได้ เพราะว่าท่านจะต้องมีมวล เพราะว่านั่งหลับตากันทั้งป่ากันทั้งเมืองเลย มันอยู่ป่ามาก่อนก็เป็น เดียรถีย์ ทั้งนั้น ท่านก็ต้องประนีประนอมกันก่อน เสร็จแล้วท่านก็ค่อยๆได้จากหมู่นั้นมาเป็นมวล 

แต่สมัยนี้ เป็นชาวพุทธแล้ว มันเข้าใจกันคนละ กาละ เทศะ ฐานะ พูดกันคนละบริบทคนละ กาละ เทศะ ฐานะ คนละเวลาคนละภูมิธรรม ภูมิธรรมระดับลูกศิษย์ ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้าท่านบุกเบิก อาตมาไม่ใช่ผู้บุกเบิก แล้วพูดกับชาวพุทธด้วย เหมือนกับพี่พูดกับน้อง ต้องแรงๆ เลย เพราะฉะนั้นก็เลยไม่เหมือนกัน 

บุญกิริยาวัตถุ 10 ข้อ

1. ทานมัย (บุญสำเร็จด้วยการให้ - การสละออก) 

2. ศีลมัย (บุญสำเร็จด้วยการชำระล้างกิเลสออก) 

3. ภาวนามัย (บุญสำเร็จด้วยการทำผลเจริญให้จิต) 

4. อัปปัจจายนมัย (บุญสำเร็จด้วยการอ่อนน้อม) 

5. เวยยาวัจจมัย  (บุญสำเร็จด้วยการช่วยขวนขวาย เอาภาระการงาน) 

6. ปัตติทานมัย (บุญสำเร็จด้วยการเข้าถึง  ที่เป็น ส่วนแห่งบุญให้ผลแก่ขันธ์ ยิ่งขึ้นๆ) ท่านผู้รู้แปลว่า “บุญสำเร็จด้วยการแบ่งส่วนแห่งความดีให้แก่ผู้อื่น” 

7. ปัตตานุโมทนามัย  (บุญสำเร็จด้วยการยินดี

ที่ได้ชำระกิเลสหรือได้บุญแล้ว  แม้ผู้อื่นกระทำ) 

8. ธัมมัสสวนมัย (บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม) 

9. ธัมมเทสนามัย (บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม) 

10. ทิฏฐุชุกัมม์ (การทำความเห็นให้ถูกตรง) 

(3 ข้อแรกมีใน พตปฎ. เล่ม 23 ข้อ 126) 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บุญกิริยาวัตถุ 7 ข้อที่เป็นเนื้องอกของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2565 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2565 ( 12:53:51 )

เลิกบ้าหลงสุขกับสมมุติโลกแล้วจะเป็นอรหันต์

รายละเอียด

เรามาอยู่กับโลก เราไปอยู่กับสมมุติโลกที่หลงว่าเป็นความสุข เราเห็นความจริงอย่างนี้แล้วก็อย่าไปแย่งกับเขา อย่าไปอะไรกับเขาเลย เรามีเรี่ยวแรงมีความรู้ความสามารถก็ทำสร้างจริง กินใช้เป็นสัตว์โลก ก็ทำกินทำใช้ไป สัตว์โลกทั่วไปมันก็ใช้กับธรรมชาติเท่านั้น แต่คนนี่ไม่ใช่แค่แย่งธรรมชาติแต่ฆ่าแกงกันยึดพื้นที่ ยึดสัตว์ยึดพืช ยึดวัตถุมาเป็นของกูยังไม่พอปรุงแต่งเองอีกสร้างอันนี้ขึ้นมา  แม้ที่สุดสร้างอาวุธขึ้นมาฆ่ากัน สร้างสิ่งมาหลอกเสริมกันอีกสร้างรูปมาหลอก สร้างรสมาหลอก อะไรมาหลอกกันอีกเลย บ้ากันทั้งโลกเลย นี่ไม่ได้ว่าเขา  อาตมาพูดความจริง เห็นชัดเจนไหม แล้วเคยบ้าอย่างนั้นไหม...เคย 

กว่าคนจะเลิกบ้าได้ พวกเรานี้ตื่นขึ้นมาหรือยัง เลิกบ้าขึ้นมาบ้างหรือยัง เลิกเป็นคนบ้าแล้วคุณก็จะเป็นอรหันต์ ง่ายจะตายไป เห็นไหม จริงไหม ?

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 4 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44  วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 19:19:49 )

เลิกฟุ้งซ่าน

รายละเอียด

เป็นปัญหาโลกแตกจริงมันยาก ก็ต้องพยายามมาถือศีลตั้งใจปฏิบัติธรรม ตั้งแต่ศีลข้อที่ 1 เรื่องเกี่ยวกับสัตว์ก็อย่าไปรังแกสัตว์ สัมผัสกับสัตว์ก็ให้ระมัดระวังให้ความเอ็นดูให้ความเมตตามันหวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ช่วยเหลือมัน สัมผัสกับของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุไม่ว่าจะเป็นพืช เราก็อย่าทุจริต ไม่ใช่ของของเราอย่าไปเอามาเป็นของของเรา อย่าไปอยากได้ของคนอื่น เอาแต่ของที่เขาให้ หรือเอาของที่เรามี อย่าไปทุจริต ข้อที่ 2 นี้ไม่ได้มากมายเลย ใช้แต่ของที่ได้โดยธรรม แต่อยากได้ก็อย่าไปทำทุจริต ต้องทำอย่างสุจริต และไม่ไปโลภมาก มีให้น้อยก็พอ ส่วน ศีลข้อที่ 3 เกี่ยวกับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ตาหูจมูกลิ้นกาย กามคุณ 5 มันจัดจ้าน เล่นอันนี้นี่แหละ เรียนจนกระทั่ง ศีลข้อที่ 1 เจอกับสัตว์ก็สบาย เครื่องข้าวของ ก็ค่อยๆลดลงไปจนกระทั่งของทุกอย่างอยู่กับเราก็เราสบาย เหลือราคะ มันลดลงๆ จนหมด ขั้นสกิทาคามี ขั้นอบายขั้นโสดาบันแล้วก็สกิทาคามีจึงหมดกามคุณ 5 ไม่ได้ง่ายนัก 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:16:38 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:05:51 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:24:49 )

เลิกมอมเมาเพื่อนมนุษย์ หยุดได้ไหม

รายละเอียด

เศรษฐี คือผู้มีเสฏฐะ คือ ความประเสริฐความเจริญ ความเจริญไม่ใช่ความรวย คนรวยไม่ใช่คนเจริญ แม้จะชื่อเจริญก็ไม่ใช่ นี่ขอพูดเลย คืออาตมาเห็นว่า ทำไมถึงไม่เข้าใจความเป็นจริง หยุดได้ไหม คุณรวยอย่างนี้คุณเลิกเลย ที่คุณมอมเมาคนแล้วก็ได้เงินจากการมอมเมาคน คนก็ตายเพราะอาชีพของคุณนี้เท่าไหร่ พิการด้วย เสียหายเท่าไหร่ แค่ตื้นๆ แค่นี้ เลิกได้ไหม ไปทำงานอื่น จะไปค้าที่ดินคุณก็ค้าอยู่แล้ว กิจการคุณมีแหลกเลย แต่เรื่องน้ำเมาคุณเลิกเลย ใครจะแย่งสัมปทานไปก็แล้วไป อาตมาว่าทำไมหนอไม่มีความเฉลียวฉลาดในสิ่งประเสริฐสิ่งดีนี้บ้างเลย มันความโลภมันจัดจ้าน จนไม่รู้อะไร อาตมาว่ามันไม่ใช่สิ่งประเสริฐ อาตมาก็พูดอ้างอิงสิ่งจริงตัวบุคคลกิจกรรมพฤติกรรม ก็ขออภัยที่อาตมาพาดพิงตัวบุคคล อาตมาจำเป็นต้องยกตัวอย่างอ้างอิงเพื่อประกอบในการอธิบายสัจธรรม อาตมาว่า อาตมาอธิบายธรรมะนั้นมันยากมากต้องขออภัย อาตมาจึงจำเป็นต้องขออาศัยหน่อย ขอบคุณ ไม่ให้อาศัยอาตมาก็ขอละลาบละล้วง เพราะมันเป็นเรื่องที่ยากมาก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:08:56 )

เลิกสันดานของมนุษย์ด้วยการทำฌานทำปัญญา 

รายละเอียด

นี่เป็นสุดยอดความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ที่รู้ความจริงของสันดานมนุษย์ พระพุทธเจ้าถึงหาวิธีที่จะเลิกสันดานของมนุษย์ วิธีที่จะเลิกก็คือวิธีทำฌาน ทำปัญญา 

ฌาน 4 จบฌาน 4 มือสุดท้ายของการประหารกิเลส ฌานคือไฟเผาผลาญประหารกิเลส หรือ เพชฌฆาตฟันคอกิเลสขาด 

บุญเท่ากับเพชฌฆาตมือสุดท้ายฟันคอกิเลสมือสุดท้าย 

ฌาน 4 จะฆ่ามารตายอย่างไรก็ตาม ตายไม่เด็ดขาดสะเด็ด มาถึงมือบุญเบอร์สุดท้ายนี้ ชั๊วะต้องทำหน้าที่ ตายมาแล้วต้องฟันอีก ฆ่าเป็นมือสุดท้าย เป็นแน่นอนเลยว่า ถ้าเจอมือบุญแล้ว กิเลสตายเด็ดขาดไม่มีฟื้น นี่คือความหมายที่ลึกซึ้ง คำว่าบุญ เดี๋ยวนี้ศาสนาพุทธเสื่อม คำว่าบุญไปหมายถึงกุศล หมายถึงโลกียะ หมายถึงสมบัติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 จรณะและวิชชาคือพุทธคุณภาคปฏิบัติ วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2565 ( 19:04:51 )

เลิกสาดน้ำสงกรานต์ได้ก็เจริญ

รายละเอียด

การสาดน้ำสงกรานต์นี้ฉวยโอกาส Covid นี้ให้ปิดการสาดน้ำสงกรานต์ไปอย่างถาวรเลยได้ไหม ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องของความบ้า การสาดน้ำเล่น ประเด็นสำคัญคือหน้าแล้งน้ำไม่มีใช้ แล้วมันดันเอาน้ำมาสาดกันเล่นมันจะบ้าหรือเปล่า

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 24 เมษายน 2563 ( 14:41:27 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:52:48 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:25:11 )

เลิกสุขทุกข์ได้อย่างไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเมื่อไม่งมงายแล้วจึงจะมาเลิกความสุขความทุกข์ ก็ต้องรู้อาการของจิตของเรา อาการที่มันเป็นสุขคืออาการอย่างไร อาการที่มันเป็นทุกข์เป็นอาการอย่างไร ก็เป็นอาการที่ตรงกันข้ามกัน อ่านอาการนี้ให้ได้ แน่นอนอาการทุกข์คนก็ไม่ชอบ ก็ล้างอาการทุกข์ก่อนให้รู้ถึงเหตุแห่งทุกข์ เมื่อล้างอาการของเหตุแห่งทุกข์หมดไป ก็เหลือแต่อาการของสุข ที่เรียกในภาษาว่า สุขด้วยความว่าง ทำจิตว่างๆ สบายๆ เหมือนอย่างท่านติชนัทฮันท์หรือท่านพุทธทาส ทำจิตอย่าให้มีความไม่สบายใจ เป็นความหมายตื้นๆแล้วก็ทำเอา โดยไม่เข้าใจเหตุของมันที่มาที่ไปของ ตัวตนสภาวะที่มีอาการเข้าไปยึดถือ อุปาทาน เป็นอาการอย่างไร อาการเข้าไปยึด พระพุทธเจ้าก็ใช้ภาษาวนมาว่า อย่าไปยึดทำให้จิตมันว่าง แล้วก็ทำได้เท่าที่ตัวเองประมาณ ตัวเองสัญญากำหนดหมายว่า อย่างนี้คือจิตว่างๆ แล้วก็ประมาณว่า มันไม่สุขไม่ทุกข์ มันเป็นอย่างนี้ มันว่างๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูผู้ปราบมารเพื่อยังพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี วันพุธที่ 10 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 08:29:44 )

เลิกหลับตามาศึกษาจรณะ 15 วิชชา 8 

รายละเอียด

ไม่ใช่แทงอะไรมากหรอก แทงประเด็นว่า เลิกหลับตา มาลืมตาศึกษาจรณะ 15 มาเรียนรู้ศีล สมาธิ  ปัญญา  นี่ ให้เข้าใจเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา หรือ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ให้สัมมาทิฏฐิ ให้ถูกต้อง ที่คุณเรียนกันมันไม่ถูกต้อง มันไม่เข้าหลักเกณฑ์ของจรณะ 15 วิชชา 8 

ศีล เป็น 1 จรณะอีกตั้งแต่ ข้อ 2 ไป ยันข้อ 15 นี่คือจิต อธิจิต อีก 8 เป็นวิชชา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 05:04:20 )

เลิกหลับตาได้ประเด็นเดียวหยุดเลย

รายละเอียด

อาตมาพูดเอาประเด็นเดียวคือเลิกหลับตาได้ประเด็นเดียวหยุดเลย ออกป่า หลับตา เลิก! มาศึกษาอย่างมีทวาร 5 ทวาร 6 มีผัสสะเป็นปัจจัยนี่แหละ แล้วค่อยๆศึกษาได้ตามหลักศีล, สมาธิ, ปัญญา หรือศีล, อปันกธรรม 3, สัทธรรม 7, แล้วก็เกิดฌาน 1 2 3 4 ไปเรื่อยๆๆๆ จนกระทั่งสิ้นอาสวะ มาศึกษาตามจรณะ 15 วิชชา 8 นี่เถิด ยังไม่ตื่นไม่ชาคริยา หลับอยู่ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ไม่ใช่แค่หลับแต่ตกอยู่ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ควานหาก็ยังไม่เจอ จะช่วยกันอย่างไรเจ้าประคุณเอ๋ย! เอาน่า อาตมาเชื่อว่า พวกคุณคงยังไม่จมอยู่ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าแต่จมในมุมใดมุมหนึ่งของโลก ออกมาจากมุมใดมุมหนึ่งของโลกเถิดลืมตามาฟังให้ดีๆ 

ลองแง้มใจว่า โพธิรักษ์ นี้ น่าจะเป็นสัตบุรุษจริงหนอ แง้มใจมาสัก 10 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าอาตมาเป็นสัตบุรุษสัก 10% อันนี้อาตมาก็พอใจแล้ว แต่นี่ไม่แง้มใจเลย ปิดประตูลั่นดานใส่โซ่ล็อคกุญแจ 10 รอบเอาไปใส่ใต้มหาสมุทรอีก แล้วมันจะออกได้ไหมนี่ ฮูดินี่ ถูกรัดเอาใส่ถังซ้อนกัน 10 ใบ เอาโซ่รัดล้อม เอากุญแจใส่อีก 20 ดอก แล้ว เอากุญแจขว้างในน้ำทะเลเสร็จแล้ว ฮูดินี่ก็ไขกุญแจออกมาได้ โผล่ออกจากถังได้เลย นี่คือนักเล่นกลที่ยิ่งใหญ่ชื่อฮูดินี่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ้นความโง่อวิชชากับ
ปฏิจจสมุปบาท วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 มีนาคม 2564 ( 19:24:58 )

เลิกอ่าน sms พวกมารที่ไม่เชื่อไม่ฉลาดดีไหม

รายละเอียด

ไม่เลิกหรอกเขามีมุมมองที่เป็นประโยชน์กับเราเหมือนกันนะ ถ้าไปตัดทิ้งแล้วก็เสียผลต่อเรา คนเราหากว่าความชั่วของเราไม่มีใครบอกเลยเอาแต่พูดถึงความดี ความชั่วอย่าพูด มันลืมมันกลบเกลื่อนมันเผลอมันไม่รู้ ต้องบอกความชั่วให้มากด้วยเพราะความชั่วมันเป็นเรื่องเสียมันไม่ดีมันอยู่ในตัวเอง 1 วินาทีก็ชั่ว 1 วินาทีกับคุณ 1 ชั่วโมงมันก็ชั่วหนึ่งชั่วโมงอยู่กับคุณ 5 ปีมันก็ชั่วกับคุณ 5 ปี คุณไม่รีบรู้ไม่เอาออกมันก็ยิ่งพอกมันยิ่งโตมันยิ่งอ้วนงอกงามไพบูลย์ ความชั่วมันงอกงามไพบูลย์นะ แล้วมันจะเข้าท่าหรือ เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวัง 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจนสาธารณโภคีที่เหาะได้ทั้งชุมชน วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 17:08:56 )

เลิกเถิดการนั่งหลับตาสมาธิมันไม่ใช่ทางของพุทธ

รายละเอียด

ไม่ใช่อาตมาไปว่าไปด่า ไม่ใช่ไปหาเรื่องนะ แต่นี้เป็นอุทาหรณ์เป็นสิ่งสมมติที่เอามาเปรียบเทียบเพื่อให้คุณฟังได้ดี ฟังด้วยดีย่อมได้ปัญญา เลิกเถิดการนั่งหลับตาสมาธิมันไม่ใช่ทางของศาสนาพุทธ มันเป็นทางเดียรถีย์ พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาก็นั่งหลับตากันเต็มป่า  ท่านก็ต้องค่อยๆสอน จะตีทิ้งเหมือนอย่างอาตมาไม่ได้ พระพุทธเจ้ากับอาตมาต่างกัน อาตมาเป็นลูกพระพุทธเจ้ามีศาสนาพุทธมาแล้ว เขานั่งหลับตาเป็นเดียรถีย์ก็ช่างเขา อาตมาต้องตีพวกคุณ เพราะว่าเป็นลูกพระพุทธเจ้าเหมือนกัน พวกคนละพันธุ์ปล่อยไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การศึกษาที่ไม่ลดกิเลสกู้ประเทศไม่ได้ วันพุธที่ 6 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 11:17:52 )

เลิกเลี้ยงสัตว์หันมาปลูกพืชกันดีกว่า

รายละเอียด

ในประเทศไทยอาตมาพยายามให้เป็นเจ้าในเรื่องพืชพันธุ์ธัญญาหารให้ได้เป็นเจ้าโลกเลย พูดกันใหญ่ๆหน่อย อาตมาพาพวกเราก็ทำได้เท่านี้แหละ ก็ได้ดี พยายามชี้ชวนเอามาพูดย้ำซ้ำซาก ก็มาโชว์ให้ดูสวยงาม กะหล่ำปลีงาม หอมงาม มะยงชิดงาม อะไรงามๆ บนโต๊ะประดับประดาทั้งข้างบนข้างล่างเต็มไปด้วยผลหมากรากไม้ เพื่อที่จะเอามาปลุกเร้าให้พวกเราได้ยินดีแล้วมันเป็นอาหารที่กินของมนุษย์ ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องสัตว์เนื้อสัตว์อะไรมันเป็นวิบากกรรม ส่วนพืชมีอธิบายแล้วอธิบายอีก พีชนิยาม มันไม่มีวิบากแก่กันและกัน ส่วนสัตว์มันเป็นวิบากแก่กันและกัน เป็นความทุกข์ยากลำบาก เลิกเรื่องสัตว์ เรื่องการเลี้ยงสัตว์อย่าไปยุ่งกับมันเด็ดขาด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ดับชาติ 5 ด้วยวิชชา 8 วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:28:25 )

เลิกโง่เสียทีลืมตาได้แล้ว

รายละเอียด

ฆ่าไม่ตาย เป็นโจรที่ถูกฆ่าไม่ตาย นิรันดร ใครจะเอายกมือขึ้น เป็นโจรที่ไม่แก้ไขเลย จะเป็นโจรให้หนักมากขึ้น นิรันดร ยกมือขึ้น ….ใครมันจะเอา 

แต่ไม่เอาก็อย่าโง่ เลิกโง่เสียที นะ อาตมาถึงบอกว่าเมื่อไหร่เขาจะลืมตาได้ ถ้าเผื่อว่าพวกนั่งหลับตานี้นะ โดยเฉพาะอาจารย์ใหญ่ๆ เป็นหัวหน้าเผ่า พระพุทธเจ้าท่านสอน หัวหน้าชฎิล 3 พี่น้องก็ได้บริวารทีละ1,000 พรวดๆ ก็มาเป็นปฏิภาคทวี แต่อาตมาไม่มีบารมีขนาดนั้นพยายามไปหาเผ่าไหนเขาก็ไม่รับ หน้าไม่หล่อ พ่อไม่รวย ยศศักดิ์ไม่มี อาภัพจริงๆ แต่ไม่เป็นไรหรอกอาตมาสู้ อาตมาไม่ถดถอย เพราะอาตมารู้ความลงตัวว่า เออ เราจะต้องอุตสาหะวิริยะ มันไม่ขาดทุนหรอกนะ อาตมาไม่ขาดทุน อุตสาหะวิริยะ แม้จะเหน็ดเหนื่อยอย่างไร และพยายามฝืนสังขารร่างกายให้มัน อย่าเพิ่งตายๆ พยายามอยู่นี่ ก็พยายามจริงๆ ไม่ใช่พยายามเล่นๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 15:28:53 )

เลี่ยงไม่ได้ก็เป็นวิบากกรรม

รายละเอียด

ก็กรรมเป็นอันทำ กรรมของใครก็ของใคร กรรมเขาทำไม่ดีก็ของเขา เราเลี่ยงได้ก็เลี่ยงหากเลี่ยงไม่ได้ก็เป็นวิบากกรรมไป 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2563 ( 09:09:17 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:55:04 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:25:27 )

เลี้ยงง่าย

รายละเอียด

 นี่ความหมายไม่ใช่เล่นนะ คนเราทุกวันนี้เลี้ยงยาก จะกินก็ต้องทุกข์ใจจะอยู่ก็ต้องถูกใจจะไปจะมาก็ต้องถูกใจเป็นตัวตนที่เป็นกิเลสเยอะ เอาตามกิเลสเป็นหลักก็เลยยาก แต่คนที่เลี้ยงง่ายคือคนที่มีกิเลสตัวตนน้อย มีอะไรก็สบายๆ อยู่กับหมู่ก็ไม่มีปัญหามาก 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2563 ( 08:30:17 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:06:48 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:25:50 )

เลี้ยงลูกด้วยมังสวิรัติ

รายละเอียด

เมืองไทยคนบ้านนอกธรรมดา เลี้ยงลูกด้วยมังสวิรัติคือข้าวกับกล้วยเคี้ยวแล้วก็เอาไปป้อนลูกเป็นอย่างนั้นจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2563 ( 12:01:40 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:59:59 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:26:07 )

เลี้ยงลูกให้รู้จักโต

รายละเอียด

อธิบายสภาวะของตัวเองก็ดี อุตส่าห์มาบวชนะ แต่ฆราวาสมาบวชในนี้ก็หมดห่วง แต่ว่านักบวชนั้นมีห่วง ก็ลูกๆโตหรือยัง...โตกันหมด เรียนจบหมดอาตมาเคยบอกว่าเลี้ยงลูกให้รู้จักโต เลี้ยงพ่อแม่ให้รู้จักตาย ลูกโตแล้วก็รับผิดชอบตัวเอง เมื่อ คนบรรลุนิติภาวะของฝรั่ง เขาก็ให้ไปเลย แต่ทางคนไทยสายเอเชีย ยิ่งจีน ไม่มีตัดขาดเลย คนไทยทางเอเชียก็พลอยเป็นอย่างนั้นด้วย ทางตะวันตกเขาสบายเรื่องนี้ ถือว่าอาศัยกันมาเกิดเท่านั้นรับผิดชอบตัวเองกันไป มันก็ดูไม่ดี เมื่อคนต่างประเทศสองผัวเมียตายายมาเที่ยวเมืองไทยแล้วเห็นการดูแลเลี้ยงดูกันอย่างดีของคนไทย ก็เลยร้องไห้ เห็นว่าอย่างนี้มันอบอุ่นแต่อย่างเขามันว้าเหว่ มีเงินมีทองก็ไปเที่ยวกันเท่านั้น ระบบสวัสดิการของเราไม่ดีแต่มันดี ถ้าขืนมันดีจะกลายเป็นแบบนั้นอีก เพราะฉะนั้นดีแล้วล่ะระบบมันไม่ดี แต่ว่าวัฒนธรรมมันจะดี จริงๆนะมันจะเป็นอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องวัตถุขาดจิตวิญญาณ จะเป็นการขัดแย้งกันแล้วไปกันคนละด้านเสมอ ทางด้านเอเชียเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ครั้งที่ 29 วันรัฐธรรมนูญ ที่บ้านราชฯ  

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน เลี้ยงลูกให้รู้จักโต วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2561

 


เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:30:26 )

เลี้ยงลูกให้รู้จักโต เลี้ยงพ่อแม่ให้รู้จักตาย

รายละเอียด

สามัญธรรมดา แม่อายุยาวกว่าก็ตายก่อน  ตายเกิดเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต  ในช่วงที่พ่อแม่ยังไม่ตาย เราก็ช่วยอุปการะพ่อแม่ให้เจริญดี  ช่วยในตอนเป็นๆ นี่แหละตายไปแล้วช่วยไม่ได้หรอก  กรรมวิบากของใครของใครก็จัดสรรเอง  ตายไปแล้วช่วยไม่ได้เลย  ถ้าหากตายไปแล้วพระพุทธเจ้าก็ช่วยได้  ก็สบายสิ  อย่างธัมมชโยจะไปช่วยคนตายขึ้นสวรรค์  ก็มีแต่ขี้โม้  ก็เลยมีคนจับเท็จธัมมชโย คนเขียนจดหมายว่าพ่อตายแล้ว ตนก็ส่งเงินมาทำทาน  ธัมมชโยก็บอกว่าไปขึ้นสวรรค์  ชั้นนั้นชั้นนี้ จากการที่มาทานที่นี่  อยู่สวรรค์เฟสต่างๆ  พูดออกอากาศเลย  เสร็จแล้ว คนนี้ที่เขียนจดหมายก็บอกว่าพ่อยังอยู่ ยังไม่ตาย  ที่พูดออกมานี้มีแต่ขี้โม้ขี้โกหก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช  วันจันทร์ที่  11  พฤศจิกายน 2562             


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 20:02:54 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:11:29 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:26:47 )

เลี้ยงลูกให้รู้จักโต เลี้ยงพ่อแม่ให้รู้จักตาย

รายละเอียด

จะต้องทำงานเลี้ยงตนให้รอด เพราะเราดีกว่าสัตว์ มนุษย์ต้องดีกว่าสัตว์ที่มันก็เลี้ยงตัวเองรอดมันก็หาอาหารกินเอง นอกจากตัวลูกที่หาอาหารไม่ได้พ่อแม่ก็เลี้ยง เมื่อลูกโตขึ้นมามันก็เลิกไม่หาอาหารให้ลูก มันรู้จักเลี้ยงลูกให้รู้จักโต เลี้ยงพ่อแม่ให้รู้จักตาย แต่คนนั้นเลี้ยงลูกไม่รู้จักโตเลี้ยงพ่อแม่ไม่รู้จักตาย พ่อแม่ตาย ก็จะได้ระลึกถึงสิ่งที่ดีจะได้ประพฤติตาม ไม่เอาสิ่งเลวร้ายเสียหายอะไรมาพูด พูดถึงก็เป็นความดีงาม เอาความดีงามมาพูดถึง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:30:02 )

เลี้ยงสัตว์เป็นการเพิ่มวิบาก

รายละเอียด

เรื่องไม่ให้เลี้ยงหมาแมว..อาตมาเคยบอกว่าอย่าไปเลี้ยงสัตว์ มันมองคนละมุมกันนี่แหละสิริมหามายา คนที่จะเข้าใจความจริงที่จริง ว่าการเป็นวิบากซึ่งกันและกันระหว่างคนกับสัตว์ คนมีวิบากของคน สัตว์ก็มีวิบากของสัตว์ มันร่วมกันมาเยอะแล้วไม่รู้กี่ชาติ เพราะฉะนั้นสัตว์ใดที่มันจะมีวิบากมาใกล้เรา มันก็มีวิถีของวิบากของมันมาหาเรา เราก็จะต้อง อย่าให้มีวิบากแก่กันและกันอีกเลย สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อยู่กันไปของใครของมัน อันนี้เรื่องจริง ผู้หญิงก็มีสามีเป็นหมาได้ นี่ก็คือเรื่องที่ฟังแล้วพูดแล้วก็แหม น่าสะอิดสะเอียน สรุปง่ายๆว่า กรรมที่ร่วมกันแค่มารู้จักกัน แค่มาพบกันก็เป็นกรรมวิบาก เมื่อมาพบกันแล้ว มีใจศรศิลป์จะกินกันถูกโฉลกกันหรือคบกันแล้วไม่ชอบ ดีไม่ดีมันไม่ชอบใจกันถึงขนาดไม่อยากจะให้อยู่ร่วมโลกด้วยกันเลย มันก็เป็นได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเราทำให้จิตเป็นกลาง ทั้งไม่รักทั้งไม่ชัง ทั้งไม่ผลักทั้งไม่ดูด เราทำของเราจบที่เรา เราไปบังคับให้คนอื่นเป็นอย่างเราไม่ได้ บอกกันได้ แต่เขาจะทำหรือไม่ทำเขาจะทำได้หรือไม่ได้ก็อยู่ที่เขา เรามีหน้าที่ทำนาของเราอย่าไปวุ่นนาคนอื่น สัตว์แต่ละสัตว์เมื่อเราเองเกิดมาแล้ววิบากเราก็ยังไม่หมด มันยังมีวิบากของเราอีกตั้งเยอะแยะ แล้วจะต้องให้มามีปฏิกิริยากันไปกันมาอีกทำไม อย่างน้อยเขามีข้างเดียวเราวางอโหสิ เราปล่อยไป เธอก็อยู่ตามยถากรรมเราก็ไปอยู่ตามเรา มันก็เป็นการปลดปล่อย แล้วมันเลี่ยงไม่ได้ สัตว์กับคน โดยเฉพาะคนกับคน หรือแม้แต่สัตว์เดรัจฉานที่จะใกล้ชิดเช่นช้างม้าวัวควายก็ใกล้ชิด ก็อย่าไปสร้างวิบากมาอีก ก็ปล่อยมันไปตามยถากรรม ยิ่งสัตว์ห่างๆอย่าไปเอามาวุ่นวาย ไม่ต้องไปแสวงหา ดีไม่ดีก็ไปสร้างวิบากไปฆ่ามันเล่นหรือไปเอามันมาเลี้ยง โอ๊ แบบนี้มันแปลก ไปเอามาจากป่าอเมซอน ไปซื้อมาก็ตามเอามาเลี้ยงมันแปลก ไม่เคยมีวิบากกันมาคุณก็ไปสร้างวิบาก นี่คือความไม่รู้ของคน วิบากมันมีอยู่ระหว่างสัตว์กับสัตว์ สัตว์กับคนมันมีมหาศาล ผู้ที่จะหวังไปนิพพานจริงๆอย่าไปต่อวิบาก อาตมาก็รู้สึกว่า ตัวเองอธิบายมาหลายทีก็ยังไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ก็คงจะพอเข้าใจเพิ่มขึ้นอีกนะ เพราะฉะนั้น เรื่องของการสัมพันธ์กัน คำความว่าเป็นสัตว์นี่ พระพุทธเจ้ายกให้เป็นศีลข้อที่ 1 ในจุลศีลก็มีบอกไว้อีกเยอะ ว่า สัตว์นี่ อย่าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ ท่านจัดหมวดของสัตว์ไว้ 

  1. แพะ แกะ 

  2. ไก่  สุกร

  3. ช้าง โค ม้า ลา

มี 3 หมวด แพะแกะ เขาเลี้ยง เอานม เอาขนมัน อาศัยจากตัวมัน ขนหรือนมก็เป็นสิทธิของมัน คุณเข้าไปเอาเปรียบไปเบียดเบียน ไก่ กับ สุกร นี่ล่อเนื้อมันเลย โค ม้า ลา เล่นแรงงาน นี่คือนัยที่ต่างกัน ทำไมต้องแยก 3 ข้อ 

18. เธอเว้นขาดจากการรับแพะและแกะ.

19. เธอเว้นขาดจากการรับไก่และสุกร.

20. เธอเว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา.

ไม่ได้หมายถึงว่าที่เอ่ยชื่อสัตว์นี้เท่านั้นแต่ตัดที่เข้ากระบวนการเหล่านี้ ที่ต้องอาศัยส่วนต่างๆของมันมาใช้ หรือไปกินเนื้อมัน ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ อะไรที่เข้า นัย อย่างนี้ ก็อย่าไปเกี่ยวข้อง สรุปแล้วทั้ง 3 อย่างนี้ สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่ามีเวรแก่กันและกันเลย แล้วคุณไปหาเวรใส่ตัวเองทำไม ท่องอยู่นั่นแหละบ่นอยู่นั่นแหละไปหาสิ่งที่พัวพันไม่หลุดเกี่ยวข้องไปเพิ่มขึ้นอีก เราตัดแล้ว แต่เขาไม่ตัด สัตว์ไม่ตัดก็ไม่เป็นไร แบบนี้ยิ่งไปทำให้ผูกพันมากขึ้นอีก แล้วเมื่อไหร่คุณจะไปนิพพาน นี่ลึกซึ้งอย่างนี้เป็นต้น ที่คัดสิ่งที่เขาติเตียน ข่มมานี้ดี จะได้อธิบาย ที่เป็นคำชมไม่ต้องก็ได้ คำชมนี้เป็นคำร้ายด้วยซ้ำ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ที่อาตมาให้เอาไปโผดก็คือให้ปล่อยในที่ที่มันจะอยู่ได้ ไม่ใช่ทำให้มันตาย ปล่อยให้มันอยู่ร่วมกันในฝูงของมันจะเหมาะที่สุด 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 14:20:52 )

เลี้ยงโลกด้วยหลักเศรษฐกิจบุญนิยม

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเรามีองค์ประกอบของสถานที่ มีองค์ประกอบโซนของอากาศต่างๆนานาดินน้ำไฟลม แม้แต่ฤดูกาล อะไรต่างๆ มันอยู่ในโซนที่สมบูรณ์พร้อม ที่เราจะเป็นแหล่งผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหารเลี้ยงโลก
แดนที่เขามีหิมะเยอะ แผ่นดินไม่เหมาะสมปลูกพืชผัก สู้เราไม่ได้ มีเยอะ เพราะฉะนั้นด้านตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เรามีอยู่ จะมีแผ่นดินเท่าไหร่ก็ตาม เราทำให้มากเลยเลี้ยงโลก แล้วมีปัญญาความเฉลียวฉลาด เข้าใจถึงหลักเศรษฐกิจ เศรษฐกิจของบุญนิยมเศรษฐกิจอันประเสริฐ เศรษฐกิจที่ไม่เห็นแก่ได้ไม่เห็นแก่เอาเปรียบ เศรษฐกิจที่เห็นแก่การเสียสละ เศรษฐกิจที่ไม่มีความเห็นแก่ตัว เศรษฐกิจที่มีความฉลาดโลกุตระ มันจะทำให้โลกนี้เจริญอยู่กันอย่างอยู่เย็นเป็นสุขทั่วโลกเลย ซึ่งอาตมายังไม่ตาย อาตมาจะเข็นเรื่องนี้เข้าไป​ ตั้งแต่ทำงานด้านศาสนามาก็เข็นเข้าไปแล้วจะ 50 ปีแล้วจะทำต่อไปจนกว่าจะตาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 32 วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 มีนาคม 2564 ( 21:25:46 )

เลือกกินกับกินเลือก ต่างกันอย่างไร

รายละเอียด

เลือกกิน อาตมาว่า จะสื่ออย่างไรก็ได้ เลือกกินกับกินเลือก อธิบายกลับไปกลับมาได้ 

เลือกกินนี้เลือกตามกิเลส กินเลือกก็เลือกตามกิเลสได้ เลือกกินก็เลือกให้ตรงที่ชอบที่จะกินก็ได้ คำว่า “เลือก” จึงอยู่ที่ใครจะสัมมาทิฏฐิหรือไม่สัมมาทิฐิ คุณต้องมีเจตนาเลือกกินเพื่อที่จะกิน อย่าให้เป็นกิเลสไปบำเรอกิเลสของเรา เลือกกินคือต้องรู้จักเลือกว่าอย่าบำเรอกิเลสตน เลือกที่ตนติดมากๆออกหน่อย เอาที่ติดน้อยๆมาเพื่อปฏิบัติตน หากเลือกกินบำเรอกิเลส ก็เลือกที่ตนชอบๆ มากิน ข้อสำคัญต้องรู้ที่เจตนาของตนเองให้ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเอกีภาวะประชาธิปไตยโลกุตระ วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:24:22 )

เลือกคอมมูนด้วยอิสระ เสรีภาพ

รายละเอียด

ส่วนสาธารณโภคีนั้นกว้างกว่า รวบรวมได้ ซึ่งมีจิตตัวเองเป็นตัวกำหนดความเป็นอิสระเสรีภาพ ที่จะมารวมกับ คอมมูนไหน กลุ่มรวมกลุ่มไหน ตัวคุณมีสิทธิ์ของตัวเอง จะเลือกเอาไม่มีใครบังคับ หรือใครหลอกคุณก็ถูกหลอกคุณก็โง่ ถ้าคุณไม่ถูกหลอกเลยคุณก็เลือกด้วยความบริสุทธิ์ของคุณเอง ก็เลือกเอา อย่างสาธารณโภคี มีอิสระเสรีภาพสูงสุด มีปัญญา มีธาตุรู้ที่เยี่ยมยอดที่สุด เลือกได้อย่างอิสระเสรีภาพ เสร็จแล้วก็มาเป็นสาธารณโภคี มีแต่ให้เป็นทาน มีกรรมกิริยาที่ทำงานขยันหมั่นเพียรสร้างสรรค์ช่วยเหลือคนอื่นอยู่ตลอดเวลา อนุกัมปา สุดท้ายก็ไม่มีตัวตนอนัตตา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2563 ( 10:00:13 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:13:19 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:27:16 )

เลือกงานที่เป็นสัมมา เลิกมิจฉาจะได้เลิกทุกข์

รายละเอียด

การที่จะเป็นลูกจ้างก็ตาม เราต้องเลือกงานที่เป็นสัมมาไม่มีมิจฉา จริงๆแล้ว การขายสินค้า สินค้ามีสารพัด เราเลิกขายได้น่า ทำไมเจาะจงขายเนื้อสัตว์อยู่ อื่นๆอีกมากมายมันขายไม่ได้หรือ อาตมาก็ว่าไม่จนทางหรอก

อันอื่นที่รายได้ดีมีอีกมาก เราทำอันที่ควรดีกว่า เลิกมิจฉาฯ จะได้ลดทุกข์ไง ทำอย่างนี้ต่อไปมันไม่ลดทุกข์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยบุคคล) ตอน ยังค้าขายเนื้อสัตว์จะเป็นโสดาบันได้ไหม


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:18:32 )

เลือกตั้งที่ไหนจะสุจริตบริบูรณ์ได้

รายละเอียด

ประชาธิปไตยใดที่เอาคำว่าเลือกตั้งมาเป็นคีย์สำคัญ เขาหมดทางแล้วก็ต้องบังคับให้คนมาเลือกตั้ง แล้วมีเลือกตั้งที่ไหนจะสุจริตบริบูรณ์ได้ มีที่ไหน? บอกได้ไหม มีที่ในอโศก …แต่เราไม่อ้าขาผวาปีก ทำประชาธิปไตยเพื่อเราจะได้เป็นนายกฯ หรือเป็น รัฐมนตรี.เลย ชาวอโศกไม่มีใครไปแย่งตำแหน่ง แต่เราก็ทำงานมาหลายปีดีดัก เราทำเพื่อให้สังคมเกิดประชาธิปไตยขึ้นมา เขาเสนอมา เราก็ยังไม่เอาเลย ใครที่เหมาะควรจำเป็นก็ทำ เราไม่ได้ไปเบ่งว่าเราเก่ง เราก็ให้เกียรติกันทุกคน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 09:44:03 )

เลือกตั้งเป็นการแสดงบทบาทพฤติกรรมสังคม

รายละเอียด

เลือกตั้งคราวนี้จะเป็นการแสดงบทบาทพฤติกรรมสังคม สมมุติ พรรคฝ่ายทักษิณกับคสช.สองอันนี้ สมมุติว่า ฝ่ายทักษิณได้คะแนนเสียงมาก เขาก็จะมีส.ส.ในสภาเยอะ เขาก็จะโหวตเลือกใครเป็นนายกฯ แต่ละพรรคก็เสนอชื่อได้ เลือกเสร็จแล้วออกมา สมมุติว่า ได้ ฝ่ายทักษิณมาเป็นนายกฯ อาจเป็นคุณพานทองแท้ ไม่แน่ตัวเลือกมันน้อยแล้ว ไปหมดแล้วนี่ ตัวเองก็ไปแล้ว น้องสาวก็ไปแล้ว เป็นสมชาย ยิ่งลักษณ์ก็ไปหมดแล้วได้คดีติดตัวไป เข้าประเทศไม่ได้ มันเป็นของจริง สิ่งแสดงสิ่งยืนยันความจริงเช่นนั้น

แต่ถ้าเป็นคสช.ชนะ ก็ไม่มีปัญหา เขาก็เอานายกฯตู่ก็ทำงานต่อไปเลย เดินเรื่องสบายทุกคนก็มั่นใจ เจ้าหน้าที่ก็ยิ่งชัดเจน ยิ่งมีน้ำหนัก รัฐบาลจะทำได้เป็นกอบเป็นกำไม่วอกแวก เป็นเรื่องขันชะเนาะ พลังการสร้างสรรก็ยิ่งชัดเจนเข้าใจ แนวลึกของการเมือง แนวลึกของการบริหารประเทศมีภาวะซับซ้อนมาก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน ประชาธิปไตยไทยในช่วงใกล้เลือกตั้ง 2561


เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2564 ( 16:29:46 )

เลือกทำแต่สิ่งที่เกิดประโยชน์คุณค่าขึ้นเท่านั้น

รายละเอียด

การเข้าใจมุมที่เป็นโทษกับมุมที่เป็นคุณให้ชัด แล้วก็เลือกปฏิบัติประพฤติ ประพฤติในส่วนที่จะเกิดผลดี ผลร้ายผลแรงอะไร ผลที่จะให้เกิดความเสียหายเราหลีกเว้นได้ ผู้ที่ฉลาดและผู้ที่รู้ความจริงนี้แล้ว ก็จะไม่พยายามให้เกิดอะไรที่จะเป็นกายกรรม วจีกรรม ผ่านมโนกลั่นกรองออกมา จะไม่ทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ จะทำแต่สิ่งที่เกิดประโยชน์คุณค่าขึ้นเท่านั้น ถ้าเสียประโยชน์ ไม่เกิดประโยชน์แล้วไม่ทำเสียเลย อันนี้เป็นสัจจะความจริงของผู้รู้ ผู้รู้จริงๆ จะไม่ทำ ไม่มีการเจ็บใจแก้แค้นด้วย ไม่มี คนที่ยังมีอยู่ก็คือเรื่องของผู้ที่มียังพอตอบแทนได้ จะต้องด่าตอบตอบโต้ทำร้ายคืนอย่างนี้คนมีกิเลสก็ทำ แต่หากเราแม้จะกระทบอย่างแรงอย่างเบาก่อให้เกิดประโยชน์คุณค่ามีแต่ประมาณเอาอย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:01:31 )

เลือกเป็นพระพุทธเจ้าต่างจากเป็นจอมจักรพรรดิอย่างไร

รายละเอียด

ดีใจนะผู้ที่ขวนขวายรู้ว่าอะไรคือสาระของชีวิต ควรจะเสาะแสวงหาแล้วก็พยายามใช้เวลาเสียสละเวลามาเอาสิ่งนี้ เพราะจริงๆแล้วมันเป็นสิ่งสำคัญที่อาตมาย้ำ แล้วก็พูดหลายๆครั้งให้เข้าใจ แต่คนไม่เข้าใจได้ชัดเจน เช่นที่อาตมาย้ำทุกที บอกว่า พระพุทธเจ้าท่านก็เป็นคนเหมืนอเราทุกอย่าง ท่านพยายามบำเพ็ญศึกษามาทุกรูปแบบ จนกระทั่งตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็มีพร้อมทุกอย่างจะเอาอะไรทางโลก ท่านเป็นจอมจักรพรรดิถ้าอยู่ทางโลก  เขาพยากรณ์เลยว่าถ้าอยู่ทางโลกก็เป็นจอมจักรพรรดิ จะได้หมดเลยทั้งโลกทุกคนจะสยบแก่ท่านหมด แล้วก็ไม่ได้สยบแบบเจงกิสข่านหรืออเล็กซานเดอร์มหาราช ที่เขาใช้อาวุธไปข่มขี่ แต่จะเป็นจอมจักรพรรดิที่ด้วยคุณธรรมเป็นโลกุตรธรรม ท่านถึงไม่เอา ท่านจึงทิ้งเลยทางโลกีย์ จะได้บริวารอย่างที่ไม่ต้องยากไม่ต้องไปข่มขี่มันจะมีความดีซ้อน ชนะเขาด้วยความดีเป็นโลกียะด้วย ซึ่งเอาโลกุตร ะเป็นตัวนำแล้วก็เกิดโลกียะคนอื่นเขาจะยอมตาม ยอมสยบให้คุณงามความดี คนที่มาเป็นบริวารจะเข้าใจโลกุตระแต่เขายอมสยบว่าเป็นคนดี นี่คือเป็นโลกีย์มันเป็นความซับซ้อน ได้ในร่างของฆราวาสจะได้คุณธรรมโลกีย์ ยอมสยบด้วยคุณงามความดี แต่ไม่ใช่เขาได้ถึงปรมัตถ์ยอมสยบเพราะเขาละกิเลสได้ รู้จักกิเลสได้ แล้วปฏิบัติลดละกิเลสได้เข้ามาสู่คนจำนวนน้อย ส่วนความดีนั้นเป็นคนจำนวนมาก เพราะฉะนั้นนี่มันลึกซึ้งอย่างนี้แหละธรรมะโลกียกับโลกุตระ อยู่ทางโลกจะได้เป็นคนดีมากเลยนะ แต่ไม่ใช่เป็นคนที่วางปล่อยโลกีย์ ลดที่จะไปสะสมเรื่อง ลาภยศสรรเสริญ หาใช่โลกุตระไม่ ก็จะเป็นคนรวยเป็นคนดีมีทาน แต่ก็จะทานอย่างไรฉันก็จะต้องรวยฉันก็ต้องยิ่งใหญ่  ก็ต้องเลือกเอา เมื่อกี้นี้พูดถึงตรงนี้แหละท่านเป็นพระพุทธเจ้าที่จะอยู่ทางโลกได้ ท่านก็ไม่เอาทิ้งหมดเลยแล้วก็มาเอาโลกุตระ พระพุทธเจ้ามักน้อยกว่าอาตมา ฉลองพระบาทก็ไม่ใส่ จีวรก็สามผืนจริง ที่อยู่ก็ไม่ติดยึด เขาทำให้ก็ไม่ยึดติด อยู่ไปเรื่อยๆ เหมือนคนบำเพ็ญมักน้อยสันโดษแต่ที่จริงท่านจะอนุโลมแค่ไหนกับใครก็ได้ แต่ท่านก็ต้องปลูกฝังอย่างนั้นให้มีบริเวณที่เป็นไปตามลำดับเป็นสภาพซับซ้อน คัมภีราวภาโส เป็นการหมุนรอบเชิงซ้อน 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2563 ( 16:40:21 )

เลือกเฟ้นให้ได้ อย่าไปสนับสนุนสิ่งที่ไม่ควรสนับสนุน

รายละเอียด

ซึ่งมันห้ามไม่ได้หรอก ตราบใดที่ยังมีพระ สมัยนี้ มีพระ มีวัด ที่ยังไม่จัดการอย่างเข้มงวด มันก็คงจะแก้ไม่ได้หรอก มันคงจะต้องเป็นเน่าๆ เฟะๆ กันอย่างนี้ไปตลอดกาลนาน 

เพราะฉะนั้น ผู้ฉลาดก็ดูพิจารณาเอาเอง  เลือกเฟ้นให้ได้ อย่าไปสนับสนุนสิ่งที่ไม่ควรสนับสนุน อะไรที่ควรสนับสนุน ก็มาสนับสนุน อะไรไม่ควรสนับสนุนก็ควรเลิก หรือช่วยกัน บอกกล่าวกัน วิพากษ์วิจารณ์กัน หรือว่าพูดข่ม พูดให้เห็นชัดเจนว่ามันผิด ไม่ควรไปส่งเสริม 

คำว่า เป็นบาป ส่งเสริมบาปนั้นเป็นภาษาศัพท์ แต่ก็คือเป็นกรรมวิบากที่แท้จริง ที่ในมนุษย์กรรมเป็นอันทำ ทำจริงตั้งแต่คิด หรือพูด หรือลงมือกระทำสมบูรณ์แบบ ครบทุกอย่าง ก็ยิ่งเป็นกรรมที่สมบูรณ์แบบ ก็เป็นเรื่องที่ คนเราไม่เข้าใจเรื่องกรรมวิบาก ซึ่งเป็นอจินไตย เป็นเรื่องที่คิดเอาไม่ได้ง่ายๆ เป็นเรื่องลึกซึ้งซับซ้อนมาก ในเรื่องของจิตนิยาม ในเรื่องของมนุษยชาติ เรื่องของสัตว์โลก เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 

ที่อาตมาก็พยายามนำความจริงอันนี้มาขยาย มาเปิดเผย มาบอกกล่าวอธิบาย แล้วก็นำพาพิสูจน์ให้เห็นว่า เรื่องของจิตวิญญาณเป็นประธานสิ่งทั้งปวง จริงๆ ก็เกิดผล เกิดความเป็นจริง เกิดมนุษยชาติที่บรรลุธรรม จนกระทั่งเอาชีวิต มาเป็นมามีอย่างที่ชาวอโศกเป็น มาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มชนสังคมมนุษยชาติ มีวัฒนธรรม มีวิธีประพฤติปฏิบัติ แล้วก็อยู่กันอย่างทิฏฐิสามัญญตา ศีลสามัญญตา อย่างที่เป็นอยู่นี่แหละ ก็พูดไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกันตอนนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรื่องง่ายที่แสนยากของการเพาะพันธุ์จิตอรหันต์ วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 ธันวาคม 2565 ( 12:31:59 )

เลือดระดู 

รายละเอียด

เลือดระดู  คือ  เลือดระดูอันนี้เป็นอุตุ  เมื่อยังไม่ออกจากร่าง มันไม่มีไข่แล้ว ไข่ฝ่อแล้วเลือดระดูเป็นอุตุ  ไม่ใช่จิต หรือ พีชะ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอารยธรรม  บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 13:01:22 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:14:07 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:27:35 )

เลือดเป็นวิญญาณของสรีระ

รายละเอียด

 เรื่องเกี่ยวกับความรัก มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ที่เรียกว่าหัวใจ มันเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ที่เรียกว่าสมอง เพราะว่าสมองเป็นอุปกรณ์ให้จิตวิญญาณทำงาน ส่วนหัวใจนั้นเป็นอุปกรณ์ให้เลือด เลือดนี้เป็นเหมือนวิญญาณของสรีระ แยกเป็นรูปกับนาม นามคือวิญญาณของสมอง ส่วนรูปก็ หัวใจ เรียนรู้ไป

 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 27 มีนาคม 2563 ( 11:54:00 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 13:01:52 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:28:12 )

เล็กของพลังงานยิ่งเล็กกว่าสสาร

รายละเอียด

ยิ่งเล็กละเอียดเท่าไรคุณยิ่งรู้ยากใช่ไหม ยิ่งเล็กละเอียดยิ่งรู้ยากใช่ไหม 

ขนาดทางสสาร เล็กสสาร ทุกวันนี้ ที่ไม่ใช่พลังงานเป็นสสารก็ยังยากแล้ว ยิ่งเป็นพลังงานยิ่งเล็ก แน่นอน เล็กของพลังงานก็ยิ่งเล็กกว่าสสารมาก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูปฐมนิเทศ พาปฏิญาณศีล 8 งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ปี 2564 ครั้งที่ 45 ออนไลน์วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน  อจินไตยของฌานวิสัย


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 20:42:03 )

เล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่

รายละเอียด

แม้ว่าพวกเราเป็นไม้จิ้มฟัน แต่อาตมาก็จะรวมพวกเราไม้จิ้มฟันนี่แหละไปสู้กับระเบิดปรมาณูนิวเคลียร์ได้

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน อธิปไตย จักเกิดจาก ธรรมาภิบาล  


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:45:11 )

เล็บ

รายละเอียด

เล็บ คือ ตัดเล็บส่วนที่ยื่นออกมานอก  แม้เป็นชีวะอยู่แต่ไม่ใช่กายเราแล้ว ไม่มีเวทนา  ไม่ใช่วิญญาณ  เป็นชีวะเหมือนพืชตัดออกไปได้  ไม่มีความสุขความทุกข์อะไร  แต่เป็นชีวะ  คุณก็จะเข้าใจว่าชีวิตของจิตนิยาม  ถ้าทำจิตของเราให้เป็นพีชะ  ไม่มีความสุขความทุกข์ ไม่มีบาปไม่มีบุญ  ต้องเข้าใจอาการอย่างนี้แล้วทำจิตให้มีอาการอย่างนี้ได้คุณจึงจะเป็นอรหันต์  คนที่ทำจิตให้เป็นพีชะไม่ได้  เป็นพระอรหันต์ไม่ได้ จะมาบอกว่าไม่ให้พูดเรื่อง อุตุ พีชะ เราจะไปสอนให้เป็นอรหันต์ได้อย่างไร เป็นมูลกรรมฐาน 5  แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้เรื่องแล้ว  อุปัชฌาย์บอกว่าให้กรรมฐานอันนี้  กลายเป็นพิจารณาเกิดขึ้น  ตั้งอยู่  ดับไป ไตรลักษณ์  ซึ่งมันไม่ใช่ทำให้แยกกายแยกจิต แยกนิยาม 5 ศาสนาพุทธเนื้อแท้หายไปหมดแล้ว  แล้วเอาไตรลักษณ์มาพิจารณาแทนธรรมนิยาม 5 ผิดหมดเลย

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 05:17:21 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:17:19 )

เล็บ ผม ขน ฟัน หนัง

รายละเอียด

คุณจะไปแยกกายแยกจิตที่ลำไส้ จะไปแยกกายแยกจิตที่ตับ ก็ยาก ต้องผ่าตับออกมา จะต้องมาที่เล็บ ผม ขน ฟัน หนัง มันถึงจะแยกได้ มันถึงจะมาพิสูจน์ความจริงได้ง่าย แม้แต่อุจจาระมันยังไม่ออกมา เป็นอาหารเก่าอาหารใหม่ คุณจะแยกอาหารใหม่ ยังมีความรู้สึก เชื่อมโยงเป็นพีชะ อาหารใหม่มันยังไม่ขาดจากอาหารเก่า มันก็ยาก ยากมากเลย มันก็จะแยกกายแยกจิตเหมือนกันพระพุทธเจ้าจึงบอกว่าเอา 5 อย่างนี้แหละที่มันมีอยู่ในร่างกายเรา มาพิจารณาแยกกายแยกจิตให้ชัด เมื่อใดคุณแยกกายแยกจิตไม่ชัด คุณก็ไม่มีทางพ้นทุกข์ ไม่มีทางสลายร่าง สลายความเป็นตัวคุณทั้งตัวเลย ให้มันหมดจบ ไม่กลับมาเป็นตัวตนของเราอีกตลอดนิรันดร คุณก็ทำไม่ได้ คุณต้องเข้าใจถึงจะทำได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการกายนี้คือวิญญาณ วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2563 ( 10:58:03 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:41:31 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:29:29 )

เล็บของคนคือ nail เล็บของสัตว์กินพืช

รายละเอียด

เอาเล็บมาอธิบาย เล็บของคนเป็นเล็บชนิดสัตว์กินพืช คือ nail ไม่ใช่เล็บ claw ที่เป็นเล็บของสัตว์กินเนื้อ นี่ก็เป็นสิ่งยืนยันให้เห็นว่าเป็นส่วนของการบอกลักษณะว่าคนเป็นสัตว์กินพืชไม่ใช่สัตว์กินเนื้อ บางคนก็บอกว่าคนกินทั้งสัตว์ทั้งพืช

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 26 มกราคม 2563 ( 16:32:04 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:42:09 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:29:50 )

เล็บที่ตัดออกไปแล้ว

รายละเอียด

คือ เป็นเล็บที่ตัดออกไปแล้วไม่ใช่กาย ที่ตัดขาดออกไปจากตัวเองจึงเป็นอุตุ

 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชธานีอโศก วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 15 ตุลาคม 2562 ( 14:42:35 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:42:41 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:30:06 )

เล็บเป็นได้ทั้งอุตุและพีชะ

รายละเอียด

ทีนี้มันเป็นชีวะ แต่มันไม่เป็นเวทนามันไม่มีความรู้สึก เล็บเรายาวออกมาเป็นชีวะนะ มีอาหารเลี้ยงมันก็ยังยาวออกไปพร้อมกันและฟันหนัง มี cytoplasm มี protoplasm มีองค์ประกอบเป็นเซลล์ออกมาเรื่อยๆ มันยังโตได้ แต่ไม่มีความรู้สึกไม่มีเวทนา ไม่มีกรรมไม่มีวิบาก ไม่มีบาปไม่มีบุญ ตัดทิ้งก็ได้ เป็นอุตุไป แต่ไม่ตัดก็เป็นพีชะเป็นพืช เล็บเราที่ยังไม่ตัดออกเป็นชีวะยาวออกไป คนติดเล็บก็เอาไป paint หรือพวกไว้เล็บยาวๆ เคยเห็นไหม? เขาถือว่าวิเศษใครมาแตะไม่ได้จะร้องไห้ตายเลย คือหลง นึกว่าเป็นของวิเศษ ทรมานทรกรรมตัวเอง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 08 มีนาคม 2563 ( 08:37:29 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:44:08 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:30:36 )

เล็บและผมเมื่อใดเป็นอุตุ เมื่อใดเป็นพีชะ

รายละเอียด

เล็บที่ไม่รู้สึก ส่วนที่ไม่รู้สึกแล้วมันไม่ใช่วิญญาณ ไม่มีเวทนามันไม่รู้สึก ไม่เจ็บอะไร ตัดมันก็ไม่เจ็บ ตัดมันก็หลุดออกมา พอตัดหลุดออกมาจากร่างกาย มันเป็นดินน้ำไฟลมแท้ๆ มันเป็นธาตุอุตุ เป็นธาตุสสารเป็นธาตุวัตถุ 100% หมดชีวะ แยกให้ได้ หากตัดเล็บขาดจากชีวะ แล้ว แต่จิตของคุณยังบอกว่าเล็บของฉัน ผู้หญิงเล็บที่ไว้สวยๆหัก ใจจะขาด เล็บของฉันๆ ที่จริงมันเป็นอุตุไปแล้ว คุณเอามาต่ออีกอย่างไรคุณก็ไม่ติด เล็บนี่เหมือนผม ตัดออกไปแล้ว ต่ออย่างไร มันก็ไม่มีอาหารมาเลี้ยง แต่ธาตุพวกนี้มันทนนะไม่เปื่อยง่าย หากแยก ให้รู้ว่าเมื่อใดมันเป็นอุตุ เมื่อใดมันเป็นพืช 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาความเข้าใจเรื่องกายของอ.แปลง วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2564 ( 14:51:00 )

เล่กลของคนในโลกโกงซับซ้อน

รายละเอียด

อาตมาขอบคุณคุณคอยใครที่ให้สัญญาณ เดี๋ยวนี้มันมีความซับซ้อนใช้เล่ห์เหลี่ยมให้เห็นถึงความสงสารและอาศัยคุณธรรมของคน คนที่มีคุณธรรมก็จะเร็วไว มีคุณธรรมจะปฏิบัติตามสัญญาไม่ตามเป้าทันก็จะเสียท่าเขา โลกทุกวันนี้มันสุดยอดเลยนะ เล่กลมันสุดยอด ถ้าเป็นสมัยก๋วยเจ๋ง กิมย้งก็ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ แต่ขนาดนั้นก็ซับซ้อนพอได้ หนังจีนเขาคุณงามความดีซับซ้อนหรือแม้แต่ความคิดโกงซับซ้อน เป็นสงครามของคุณธรรม แต่ในยุคโน้นกับยุคนี้ ยุคนี้ลึกซึ้งกว่ามากเลย ถ้าเราจะทำหนังกำลังภายในมันลึกซึ้งซับซ้อนมาก จนกระทั่งบางที สื่อออกมามันจะไม่หยาบไม่รุนแรง มันจะรู้ยาก แต่ถ้าจะปรุงให้หยาบ ก็ต้องมีอะไรต่อไปเพื่อให้เขารู้เป็นอะไรที่เป็นการสื่อ ก็จะยาวมากเรื่องก็ค่อยๆศึกษากันไป

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 10:55:03 )

เล่ม 24 ข้อ 61 อวิชชาสูตร

รายละเอียด

1. การไม่ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้บริบูรณ์ 

2. ความไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์ 

3. การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์ 

4. ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์ 

5. การไม่สำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังทุจริต 3 ให้บริบูรณ์ 

6. ทุจริต 3 ที่บริบูรณ์ ย่อมยังนิวรณ์ 5 ให้บริบูรณ์ 

7. นิวรณ์ 5 ที่บริบูรณ์ย่อมยังอวิชชาให้บริบูรณ์ 

8. อวิชชานี้มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้ ฯ

เพราะฉะนั้นทุจริต 3 คือกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต คุณมีกรรม 3 กายวาจาใจ ตลอด หากอวิชชาคุณก็ทำทุจริตกรรม 3 ตลอด ทำกิเลสใส่จิตตลอดเวลาเลยจึงเรียกว่าทุจริต การทำใจในใจไม่แยบคาย คืออโยนิโสมนสิการ หากโยนิโสมนสิการไม่เป็นคุณปฏิบัติธรรมไม่ได้เลย โยนิโสมนสิการเป็นองค์ที่ 7 ของสุริยเปยยาลสูตร โยนิโสมนสิการเป็นคู่ของปรโตโฆษะ ที่ทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิ 

ในปัญญาวุฒฑิ 4 ก็มี

1. สัปปุริสสังเสวะ (รู้จักคบบัณฑิต  คบหาสัตบุรุษ) .

2. สัทธัมมัสสวนะ (ฟังสัทธรรม)  

3. โยนิโสมนสิการ (กระทำลงในใจโดยแยบคาย) . .  

4. ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ (ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม)  

 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ปฏิบัติธรรมกับอาหารในพระสูตรต่างๆ วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2562

หนังสืออ้างอิง

พระไตรปิฎก เล่ม 21 ข้อ 248


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:22:45 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:46:41 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:31:41 )

เล่ห์เหลี่ยมในการทำทานที่เป็นอกุศลคืออย่างไร

รายละเอียด

เท่าที่นักปรุงแต่งจะสร้างวิธีในการทำทาน เพื่อที่จะได้มามากๆ ได้มาซึ่งวัตถุ ทำทานแล้วจะได้วัตถุได้มาเป็นลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข เหมาหมดเลย ได้ลาภเป็นชิ้นเป็นอัน ได้ยศเป็นตำแหน่ง ได้คำสรรเสริญว่าคนนี้ให้ทานคนยกย่องเชิดชู แต่คุณมีเล่ห์เหลี่ยมมากมายมหาศาล 

ขอยกตัวอย่างเช่น มหาบัว มีเล่ห์เหลี่ยมซับซ้อนไม่เอาเงินตัวเองนะ เรี่ยไรคนอื่นหมด เสร็จแล้วไปทาน ยิ่งใหญ่ แล้วบอกว่าเป็นการกอบกู้ประเทศชาติ เสร็จแล้วก็มีตัวตน มีตัวตนเป็นความภูมิใจในตัวเองโดยที่ตัวเองไม่ได้เข้าใจหรอกโอโห..ฉันทำยิ่งใหญ่ จะไปเข้าใจว่าฉันทำสิ่งที่ดีสิ่งที่ประเสริฐ มันยั่วยวนนะ มันไม่ใช่ไม่ดีมันดี เงินนี้เป็นสิทธิ์ของเรานะ เงินเขาเอามาบริจาคให้เรานะ แต่เราไม่เอามาเป็นส่วนตัวเลยมันซ้อน เอาไปช่วยสังคมให้ประเทศชาติ 

เพราะฉะนั้นความมีพบมีชาติในการที่สร้างลาภยศสรรเสริญโลกียสุข ใส่ในจิตของตัวเอง โดยไม่รู้จักภพชาติเป็นภพชาติให้แก่ตัวเองนี้ นี่แหละคือเป็นอกุศลเป็นความไม่ถูกต้อง คุณทำอกุศลกับกุศลนี่ด้วยทั้ง 2 อย่าง มันก็เป็นจริงๆกับจิตของคุณที่ไม่ดี จะมากหรือน้อยก็เป็นอกุศล ทั้งกุศลและอกุศลทั้ง 2 อย่าง   

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 1 วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564 ขึ้น 2 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2564 ( 20:02:13 )

เล่าประวัติช่วงแต่งเพลงและพิธีกรโทรทัศน์และน้องแดง

รายละเอียด

ก็เปิดให้น้องแดงเป็นพิธีกร ทีนี้ จะไม่เอาอาตมาก็ไม่ได้ เงื่อนไขจะต้องให้เอาอาตมาไปช่วย ตอนแรกอาจารย์สมจิตรจะให้ช่วยอยู่นอกจอ น้องแดงก็บอกว่าไม่ได้ จะให้เข้าไปช่วยในจอ อาจารย์สมจิตรก็ไม่ได้ศรัทธาอาตมาเลย อาตมาก็เลยตามใจ เสร็จแล้วก็ให้เข้าไปช่วยกัน น้องแดงก็เป็นพิธีกรอยู่ 1 ครั้ง 2 ครั้ง แค่นั้นเอง บอกว่าไม่ไหวหรอกพี่รัก พี่รักเอาไปเถอะ อาจารย์สมจิตรก็ไม่ยอมอีกแหละ เขาก็รู้อาตมาแต่งเพลงผู้แพ้ แต่งเพลงชมรม เพลงดรุณวอลซ์ อาตมาแต่งส่งเพลงเข้ามาก่อน ตัวยังไม่เข้ามา โดยอาตมาใช้นามปากกาว่า เกื้อปรียา โดย อ.องุ่นมีชื่อว่า ปรียา อาตมาเลยเอาไปเป็นนามปากกา เขาก็ใช้เพลงอาตมาร้องไป เสร็จแล้วเขาก็อยากจะเจอตัวผู้แต่ง อาตมาก็เลยถึงวาระ ชมรมวันใดวันหนึ่ง อาตมาก็เลยไปปรากฏตัวอยู่ในชมรม ที่เขานัดเป็นเวลากัน อาตมาก็ไปปรากฏตัวตอนอายุ 21 ปีแล้ว ก็โข่งแล้ว น้องแดงก็ 17 

ไปปรากฏตัว อาตมาก็ยังนุ่งกางเกงขาสั้นใส่เสื้อเชิ้ตไปธรรมดา ใส่แว่น คนเขาก็ ยอมรับนับถืออยู่เหมือนกัน เสร็จแล้วก็อยู่ในชมรมนั้น จนกระทั่งอาจารย์สมจิตรไปเจอ แล้วพาน้องแดงมา อาตมาก็ติดมาด้วย ทำได้ 2 ครั้งน้องแดงก็ไม่สบาย บอกว่าทำไม่ไหวแล้วพี่รักทำ อาตมาก็บอกอาจารย์สมจิตร อาจารย์สมจิตรก็ยังไม่ยอมให้อาตมาเป็นอีก ก็ไปเอาพี่อู๊ด หม่อมราชวงค์พิศวาส นาควานิช แม่ของ ผบ.ทบ. ก็ให้พี่อู๊ดมาเป็นแทนน้องแดง อาตมาก็ยังเป็นผู้ช่วยอยู่เช่นเดิม พี่อู๊ดเขาก็ไม่ถน้ด อาจารย์สมจิตรสิ้นทางเลี่ยงไม่ออกก็เลยให้อาตมาเป็นพิธีกรเอง จัดการเอง คนเดียวเลย อยู่ในรายการ อาตมา one man show เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ตุลาคม 2565 ( 11:24:16 )

เล่าสู่กันฟังเรื่องที่ผ่านมาสมัยเป็นนักเขียน 

รายละเอียด

นามปากกาของอาตมาอันหนึ่งชื่อว่าโบราณ สนิมรัก ใช้คำว่า “รัก” ด้วยนะ เป็นรักขึ้นสนิม ต่อมาก็เลยเปลี่ยนเป็นโบราณ นวทัศน์ แต่ว่าต้องไปแปลคำว่านวทัศน์อีก ก็เลยเปลี่ยนไปเป็น โบราณใหม่เสมอ อาตมามีนามปากกาเยอะแยะ เขียนเรื่องสั้นเป็น 100 เรื่อง เขียนเรื่องสั้นออกอากาศทางวิทยุ 

ตอนเริ่มต้นร่วมกันเขียน 3 คน (นักเขียนละครวิทยุ) ตอนแรกแบ่งให้อาตมา 2 วันต่อสัปดาห์ คุณสำราญอีก 1 วันต่อสัปดาห์ อีกคนหนึ่ง 2 วันต่อสัปดาห์ เสร็จแล้วอยู่มาสำราญบอกไม่ไหว สัปดาห์ละ 2 เรื่องเริ่มไม่ไหว อาตมาก็เลยต้องรับมาเป็น 3 เรื่องสำราญใช้นามปากกาว่าหลวงเมือง ต่อมาอีกคนนึงบอกว่าไม่ไหวก็เลยยกให้อาตมาอีก ยกมาให้อาตมาอีก สุดท้ายอาตมาก็บอกว่าไม่ไหว คนหนึ่งเหมา 5 เรื่องต่ออาทิตย์นี้ไม่ไหวนะ อาตมาจำได้เลย นั่งส้วมก็ต้องมาดูหนังสือพิมพ์เอาตรงไหนที่จะมาผูกเรื่อง จนกระทั่งยังจำได้เลย มีอยู่ในเรื่องข่าวคราวหนังสือพิมพ์ 

มีเจ๊กคนหนึ่งถูกจับเป็นข่าวเพราะว่ามันไปจับนมคนใช้ คนใช้มาถูบ้าน ไอ้นี่ก็.. กามมันขึ้นแรงอดไม่ได้ก็ไปจับนมคนใช้ก็เลยถูกจับเป็นข่าว อาตมาก็จับเอามาเป็นพล็อตเรื่อง ถึงขนาดนั้น มันลามกหน่อยๆ ก็อุตส่าห์เอามาเป็นพล็อตเรื่องเขียนเพราะมันไม่ทัน นี่ก็เล่าสู่กันฟังเรื่องที่ผ่านมา 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 18:17:48 )

เวทคู

รายละเอียด

ผู้บรรลุความรู้

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 173


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 07:52:13 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:39:05 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:31:58 )

เวทนา

รายละเอียด

คือ ความรู้สึกหรืออารมณ์

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 43


เวลาบันทึก 08 พฤศจิกายน 2562 ( 13:42:28 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:05:47 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:32:21 )

เวทนา

รายละเอียด

คือ ฐานปฏิบัติของศาสนาพุทธ  พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดว่า  ไม่มีผัสสะ 6  ไม่มีเวทนาเกิด ไม่มีที่ตั้ง  ไม่มีกรรมฐานให้ปฏิบัติ

เป็นความรู้สึก พระพุทธเจ้าว่าเป็นตัวสำคัญที่ต้องเรียนรู้เป็นกรรมฐาน ท่านก็แยกเวทนาออกอย่างละเอียดเป็น 108 คนที่สามารถแยกจิตให้เป็น 1 เป็น 0 ได้  ไม่มีชีวะแม้แต่ 1กลายเป็นอุตุไปหมดเลยชีวะหายไป สูญจากชีวะ  เหลือแต่อชีวะ  หรือ  ดิน  น้ำ  ไฟ  ลม  หรือจะพิเศษ เหลือพีชะนิดหน่อยก็รวมกันไม่ติด  พระพุทธเจ้าตรัส...ดูก่อนภิกษุทั้งหลายพวงมะม่วงเมื่อขาดจากขั้วแล้ว  ผลใดผลหนึ่งที่ติดขั้วอยู่ย่อมติดขั้วไปฉันใด  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพชาติแล้วก็เหมือนฉันนั้นยังดำรงอยู่  เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมเห็นตถาคตยังดำรงอยู่  ต่อเมื่อกายแตกสิ้นชีวิตแล้ว  เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจะไม่เห็นตถาคต  แยกนามไม่ให้มีพลังรวมเป็นอัตตา  ทุกอย่างก็แยกไปหมด  เมือนพวงมะม่วงแตก  กระจาย  กลายเป็นอุตุไปหมด

คือ จะมีสภาวะตามปกติ คือ 2 เทวธัมมา ทุกอย่างที่เป็นคนมีจิตวิญญาณมีสองเท่านั้น คำว่า เทวะ  คือ สองจึงยิ่งใหญ่ที่สุด  คนแยกธรรมะ 2 ไม่ออกก็จมกับเทวนิยม พวกนั่งหลับตา ไม่มีเวทนา  เพราะไม่มีผัสสะ ไปนั่งหลับตา  แล้วปิดประตูศาสนาพุทธ ไม่มีเวทนาให้ปฏิบัติ  จะทำจิตเป็นเวทนา 2 เป็นเวทนา 1 ไม่ได้

1. ความรู้สึกขั้นแรก ความรับรู้ 

2. ความรับรู้และบอกแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ตามความเป็นจริงเท่านั้น

3. รู้ 

4. ความรับรู้

5. รู้สึก , ความรู้สึก 

6. อารมณ์ , ความรู้สึก 

7. ความละเอียดในอารมณ์

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู จากรายการพุทธศาสนาตามภูมิ

ธรรมาธิบายราย การสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 71  30 กันยายน  พ.ศ. 2562

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 62,90, 91, 551, ทางเอก ภาค 3 หน้า 18, ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 114, อีคิวโลกุตระ หน้า 59,61 , รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 101 


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 07:54:35 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:51:19 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:34:05 )

เวทนา

รายละเอียด

ความรู้สึกหรืออารมณ์ เวทนาที่มันยังเป็น 2 คือ ยังมี 2 ความรู้สึก หรือ 2 อารมณ์ เราก็จัดการให้เป็น 1 ให้ได้จนสำเร็จ (เอกสโมสรณา ภวันติ) ในความเป็นธรรม 2 นั่นคือ อารมณ์หรือความรู้สึกที่มันมี 2 อารมณ์ หรือความรู้สึก 2 นั้น มันมีอารมณ์เก๊อยู่ 1 และมีอารมณ์หรือความรู้สึกจริงอยู่อีก 1 เราก็ต้องจัดการ (อภิสังขาร) ทำอารมณ์เก๊หรือความรู้สึกเก๊ นั้นให้หมดไปจากจิตใจเรา

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 261


เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 13:11:56 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:07:05 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:34:38 )

เวทนา

รายละเอียด

ความรู้สึก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 17:00:58 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:52:12 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:34:53 )

เวทนา

รายละเอียด

เป็นฐานการปฏิบัติธรรมถ้าหากไม่มีสัมผัสภายนอกเวทนาไม่เกิด หากไม่มีเวทนาในปัจจุบันก็มีแต่อดีตกับอนาคตมีแต่สัญญา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 17:15:21 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:52:51 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:35:17 )

เวทนา

รายละเอียด

คือ “กรรมฐานหลัก”ของพุทธ ที่จะต้อง เรียนรู้ปฏิบัติกับ“ภาวะนี้” ก็จะ“ดับทุกข์-ดับสุข”กันอย่างเป็น ของจริง เว้น“เวทนา”ก็ไม่มี“ฐาน”ให้เรียนรู้“ของจริง”กันแท้ เพราะ“สุข”หรือ“ทุกข์”ของจริงคือ“เวทนา(ความรู้สึก)” ผู้จะมี“เวทนา”ก็จะต้องมี“ผัสสะ”เป็นเหตุเป็นปัจจัย จึงจะมี“ภาวะจริง”ให้เราศึกษาของจริง จึงจะมี“อาการ”ของ “ตัณหา”ที่เป็นปัจจัย และภาวะของ“อุปาทาน”ที่เป็นปัจจัย กันและกันให้เราได้ศึกษา“ของจริง” และสามารถทำ“0”ได้แท้

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 319


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 13:55:24 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:53:44 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:35:46 )

เวทนา

รายละเอียด

ที่ยึดอยู่นั้นมี“3 เวทนา” ได้แก่ “สุขเวทนา ทุกข์เวทนา อุเบกขาเวทนาหรือไม่สุขไม่ทุกขเวทนา” “เวทนา”จึงคือ“ภาวะแท้ตรงตัว”เป็น“กรรมฐาน”จริง ที่จะต้องใช้ศึกษาให้“รู้จักรู้แจ้งรู้จริง”ในภาวะท่ี่เป็นสุข-เป็น ทุกข์-เป็นอุเบกขาหรือไม่สุขไม่ทุกข์” แล้วทำให้เป็น“เนกขัม มสิตอุเบกขา”ที่เป็น“โลกุตรธรรม”จึงจะสัมมาทิฏฐิ ซึ่งมันมี“ตัณหา”นั่นเอง เป็นเหตุเป็น“ปัจจัย”สำคัญ และมี“ความรู้สึก(เวทนา)สุข-ทุกข์-ไม่สุขไม่ทุกข์”ให้ ศึกษากันจริงๆ จึงจะเป็น“อาริยสัจ” ที่จัดการได้ถูกต้องแท้เพราะ“เวทนา 3”นี้เป็นได้ทั้ง“โลกียะ”หรือ“โลกุตระ”

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1  หน้า 502-503


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:53:10 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:54:45 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:36:37 )

เวทนา 108

รายละเอียด

เวทนา 108

คือสภาวะของอารมณ์ความรู้สึกต่างๆแบ่งเป็น....

-เวทนา 2

1. กายิกเวทนา (ความรู้สึกที่รับรู้ทางกาย) อาศัยมหาภูตรูป

2. เจตสิกเวทนา (ความรู้สึกที่รับรู้ทางใจ)  อาศัยอุปาทายรูป

-เวทนา 3

1. สุขเวทนา (ความรู้สึกสุข)

2. ทุกขเวทนา (ความรู้สึกทุกข์)

3. อทุกขมสุขเวทนา (ความรู้สึกไม่ทุกข์ไม่สุข)       

-เวทนา 5

1. สุขินทรีย์ (รู้สึกกายสุข)  เป็นเวทนาภายนอก

2. ทุกขินทรีย์ (รู้สึกกายทุกข์)  เป็นเวทนาภายนอก

3. โสมนัสสินทรีย์ (รู้สึกจิตดีใจ)  เป็นเวทนาภายใน

4. โทมนัสสินทรีย์ (รู้สึกจิตเสียใจ)  เป็นเวทนาภายใน

5. อุเบกขินทรีย์ (รู้สึกจิตเฉย ๆ)  เป็นเวทนาภายใน      

-เวทนา 6

1. จักขุสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางตา)

2. โสตสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางหู)

3. ฆานสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางจมูก)

4. ชิวหาสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางลิ้น)

5. กายสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางกาย)

6. มโนสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางใจ)

-เวทนา 18

1. สุขเวทนาแบบ โสมนัสสูปวิจาร 6  เป็นความรู้สึกดีใจ 6 ประการ ที่เกิดจากเวทนา 6 กับเวทนา 3 ร่วมกัน  (6 ทวาร+โสมนัส)

1.1 ตา  กระทบ   รูป  แล้วรู้สึกดีใจ

1.2 หู    กระทบ   เสียง  แล้วรู้สึกดีใจ

1.3 จมูก  กระทบ  กลิ่น  แล้วรู้สึกดีใจ    

1.4 ลิ้น  กระทบ  รส  แล้วรู้สึกดีใจ          

1.5 กาย  กระทบ  สัมผัส  แล้วรู้สึกดีใจ    

1.6 ใจ  กระทบ  กระทบ  แล้วรู้สึกดีใจ

2. ทุกขเวทนาแบบ โทมนัสสูปวิจาร 6 เป็นความรู้สึกเสียใจ 6 ประการ ที่เกิดจากเวทนา 6 กับ เวทนา 3 ร่วมกัน (6

ทวาร+โทมนัส)

2.1 ตา  กระทบ  รูป   แล้วรู้สึกเสียใจ                  

2.2 หู  กระทบ  สียง  แล้วรู้สึกเสียใจ                             

2.3 จมูก  กระทบ  กลิ่น  แล้วรู้สึกเสียใจ                          

2.4 ลิ้น  กระทบ  รส  แล้วรู้สึกเสียใจ                              

2.5 กาย  กระทบ  สัมผัส  แล้วรู้สึกเสียใจ                        

2.6 ใจ  กระทบ  อารมณ์  แล้วรู้สึกเสียใจ    

3. อารมณ์เฉย ๆ ที่เป็น อุเปกขูปวิจาร 6  เป็นความรู้สึกเฉย ๆ 6 ประการ   ที่เกิดจากเวทนา 6 กับ เวทนา 6 ร่วมกัน  (6 ทวาร+อุเบกขา)               

3.1 ตา  กระทบ  รูป  แล้วรู้สึกเฉย ๆ                   

3.2 หู  กระทบ  สียง  แล้วรู้สึกเฉย ๆ                              

3.3จมูก  กระทบ  กลิ่น  แล้วรู้สึกเฉย ๆ                          

3.4 ลิ้น  กระทบ  รส  แล้วรู้สึกเฉย ๆ                               

3.5 กาย  กระทบ  สัมผัส  แล้วรู้สึกเฉย ๆ                         

3.6 ใจ  กระทบ  อารมณ์  แล้วรู้สึกเฉย ๆ                 

-เวทนา 36  1. เคหสิตเวทนา 18 (เป็นความรู้สึกอย่างชาวบ้าน ที่เกิดจากเวทนา 18 นั่นเอง) – วนอยู่กับโลกีย์(โลกนี้)

1.1เคหสิตโสมนัส 6 (รู้สึกดีใจอย่างชาวบ้าน 6 อย่าง)      

1.2 เคหสิตโทมนัส 6 (รู้สึกเสียใจอย่างชาวบ้าน 6 อย่าง)  

1.3เคหสิตอุเบกขา 6 (รู้สึกเฉย ๆ อย่างชาวบ้าน 6 อย่าง)

2. เนกขัมมสิตเวทนา 18 (เป็นความรู้สึกอย่างนักบวช ที่เกิด-จากเวทนา 18 นั่นเอง) – ตรงสู่โลกุตระ(โลกหน้า)

2.1เนกขัมมสิตโสมนัส 6 (รู้สึกดีใจอย่างนักบวช 6 อย่าง)

2.2 เนกขัมมสิตโทมนัส 6 (รู้สึกเสียใจอย่างนักบวช 6 อย่าง)

2.3 เนกขัมมสิตอุเบกขา 6 (รู้สึกเฉยๆอย่างนักบวช 6 อย่าง

-เวทนา 108

1. เวทนา 36 ที่เป็นอดีต (ก็สูญแล้ว)

2. เวทนา 36 ที่เป็นปัจจุบัน (ก็สูญอยู่)

3. เวทนา 36 ที่เป็นอนาคต (ก็สูญอีก)

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 18 “อัฏฐสตปริยายสูตร” ข้อ 431-437

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก หน้า 228-232


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2562 ( 22:21:42 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:04:39 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:38:55 )

เวทนา 108

รายละเอียด

เวทนา 108 ประกอบไปด้วย

1.เวทนา 36 ที่เป็นอดีต

2.เวทนา 36 ที่เป็นปัจจุบัน

3.เวทนา 36 ที่เป็นอนาคต

คำอธิบาย

เวทนา 36 ประกอบไปด้วย

1.เคหสิตเวทนา 18 (ความรู้สึกแบบปุถุชน)

1.1 เคหสิตโสมนัสเวทนา 6 (ดีใจแบบปุถุชน)

1.2 เคหสิตโทมนัสเวทนา 6 (เสียใจแบบปุถุชน)

1.3 เคหสิตอุเบกขาเวทนา 6 (รู้สึกเฉยๆแบบปุถุชน)

2.เนกขัมมสิตเวทนา 18 (ความรู้สึกของอาริยะชน)

2.1 เนกขัมมสิตโสมนัสเวทนา 6 (ดีใจแบบอาริยะชน)

2.2 เนกขัมมสิตโทมนัสเวทนา 6 (เสียใจแบบอาริยะชน)

2.3 เนกขัมมสิตอุเบกขาเวทนา 6 (รู้สึกเฉยๆแบบอาริยะชน)

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 18 "อัฏฐสตปริยายสูตร" ข้อ 431-437

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก หน้า 228-232


เวลาบันทึก 11 มิถุนายน 2562 ( 14:38:40 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:56:30 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:39:31 )

เวทนา 108

รายละเอียด

อันนี้เป็นการรักษาผลปฏิบัติในเวทนา 108 ปฏิบัติกับกระบวนการของ 18 เคหสิตะ กับ ของเนกขัมมสิตะเวทนา สัมผัสแล้วเกิดความสุขความทุกข์ไม่สุขไม่ทุกข์  ต้องเรียนรู้ถ้าคุณไม่เรียนรู้มันก็เกิดตามธรรมชาติของคุณ อันนี้มันแต่ก่อนอร่อยแต่ตอนนี้มันเซ็งๆเฉยๆ บางครั้งมันก็พักยกมันก็เฉยได้เป็นได้แบบเคหสิตะ ตั้งใจสะกดจิตจนสัมผัสอย่างไรมันก็ไม่ขึ้นด้วยวิธีสมถะก็ได้ ทำได้ เป็นเคหสิตะ คุณต้องชัดเจนว่าเป็นแบบโลกีย์เป็นแบบของทางโลก แต่ของพระพุทธเจ้าต้องสัมผัสทางตาหูจมูกลิ้นกายใจเป็นลำดับมาตั้งแต่กามละเอียดทำตั้งแต่เรื่องของกาม หมดแล้วก็เป็นรูปอะไรรูปชัดเจนทุกขั้นตอนแล้วก็แถมซ้ำทำให้มากทำให้บ่อยทำให้ซ้ำ ยังมีของโลกที่เขามีอยู่แล้วเราก็มีความอยู่เหนือโลกเป็นเนกขัมมะ 18 ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ 6 ทวารกับความสุขความทุกข์ไม่สุขไม่ทุกข์ ตากระทบรูปมันสุขก็ได้ไม่สุขก็ได้ มันเป็นทุกข์ก็ได้ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ได้ เฉยๆ นี่คือ 3 แง่ 3 Choice ของสุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ เวทนา 3 คุณก็ทำต่อไป มันยังมีมากมีน้อยก็เป็นเวทนา 5 ยังมีความแรงมีความสุขทุกข์กับภายนอกเลย หรือไม่ไม่สุขไม่ทุกข์แล้วกับภายนอก มันอยู่ภายในเป็นโสมนัสโทมนัส ก็คือความสุขความทุกข์นั่นแหละ นั่นเหลือข้างในมันเบาบางกว่า มันเป็นคนละเรื่องมันเป็นของรูปจิต อันนั้นเป็นของกามจิต โสมนัสโทมนัสเป็นเรื่องของ รูปจิต คุณก็ยังเหลือจนหมดความโสมนัสโทมนัสเป็นอุเบกขา อินทรีย์ 5​ มี โทมนัสโสมนัส จนมันเฉยไม่รู้ตัวมันก็ยังเฉยปฏิบัติอยู่ในชีวิตสามัญนี่แหละคุณก็อ่านให้ชัดเจน ให้มากๆๆๆๆจึงให้ทำปัจจุบันทั้ง 36 เคหสิตะ 18 เนกขัมมสิตะ 18​ เป็น 36 คุณรู้ความจริงตามความเป็นจริงและก็เรียนรู้เนกขัมมะ มีเนกขัมมสิตอุเบกขาเป็นฐานตัวที่สุดท้ายตัวที่ 18 ของเนกขัมมะ เคหสิตอุเบกขา ก็มีของโลกีย์ ต่างกันอย่างไรกับของพุทธ แบบนี้คำว่าอุเบกขาคุณก็ต้องรู้ความต่าง ลิงค ในอาการ ลิงค นิมิต ตามที่อาตมาอุเทส คือสอนอธิบายไปอย่างนี้คุณก็ไปปฏิบัติดูนิมิตของมันดูความต่างของมัน ลิงค หรือเพศ มันต่างกันนะระหว่างเนกขัมมะกับเคหะสิตะ เหลือมากหรือน้อยมันก็ต่างกัน มีกับไม่มีมันหมดแล้วกับไม่หมดก็ต่างกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 18:10:59 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 08:10:35 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:40:37 )

เวทนา 108

รายละเอียด

ทำทุกปัจจุบันเวทนา 36 สั่งสมเป็นอดีต 36 อนาคตอีก 36 มาอีกเมื่อไหร่ทุกปัจจุบันก็หมดอีก จนแน่ใจว่าทุกปัจจุบันกิเลสไม่เกิดอีก เพราะฐานของอดีตแข็งแรงพอและปัจจุบันก็แข็งแรงพอ ในสามเส้าสองเส้าแรกสมบูรณ์แบบ ส่วนอนาคตจะมาเมื่อไหร่ จึงเป็นผู้รู้จักส่วนอดีต ส่วนอนาคต เพราะได้ทำทุกปัจจุบันให้หมด

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:04:22 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 04:03:20 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:40:58 )

เวทนา 108

รายละเอียด

เวทนา 2 ก็คือเวทนากายกับใจ

เวทนา 3 คือสุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์

เวทนา 5 คือเวทนานอกและเวทนาใน ก็มีทุกข์กับสุข(นอก) และโทมนัสโสมนัส(ใน) และก็มีอุเบกขาอีก แล้วมีสุข มาก กลาง น้อย ก็เป็นเวทนา 5 ชนิด

เวทนา 6 คือเวทนาที่เกิดจาก ทวารทั้ง ุ6

เวทนา 18 คือเวทนาทั้ง ุ6 มีทั้งแบบ สุข ทุกข์ อุเบกขา ในแต่ละทวาร รวมเป็น 18

เวทนา 36 คือ เวทนา 18 ที่แบ่งเป็น เนกขัมสิตเวทนา และเคหสิตเวทนา

ถ้าจะเป็นอาริยบุคคลต้องอ่านเวทนา เนกขัมมะและเคหสิตะออก แยกแยะออก

เวทนา 108 คือเวทนา 36 ที่แบ่งเป็นอดีต ปัจจุบัน อนาคต รวมเป็น 108

ที่มา ที่ไป

560923


เวลาบันทึก 06 มีนาคม 2563 ( 14:47:40 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:55:26 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:42:24 )

เวทนา 108

รายละเอียด

ในเวทนา 108 จะมี ปัจจุบัน 36 อดีต 36 อนาคต 36  36 คืออะไร คือ 18 กับ 18 สองอัน คือรู้ทั้งเคหสิตะ18 ที่เป็นมโนปวิจารของโลก แล้วเราก็ทำเป็น เนกขัมมะ 18 ที่เป็นของโลกุตระ จับคู่กันว่าอันนี้เป็นตัวพระเอกกับโจร จับคู่กันทำให้เป็น 0 ในปัจจุบันคือ เนกขัมมะ 18 และเคหสิตะ 18 ก็ทำให้เป็น 0 ได้ทุกครั้งในปัจจุบัน ทำ 0 ทุกครั้งทุกปัจจุบันให้เป็นอดีตที่เป็น 0 ทุกๆปัจจุบันจนเป็น 0 อดีตอีก 36 ที่แข็งแรง ตกลงมีอดีต 36 กับปัจจุบัน 36 จับคู่กัน อีก 36 อนาคตมาเลย 2 ต่อ 1 อนาคตก็ไม่มีทางที่จะไปทำอะไรได้ เพราะฉะนั้นปัจจุบันมาถึงก็จะ 0 เพราะฉะนั้นทั้งปัจจุบันทั้งอดีตทั้งอนาคตก็ 0 , 0 , 0 เป็น 108 คือ 36 ทั้ง3 ตัว ตั้งแต่เวทนา 2 คือ กายิกเวทนา เจตสิกเวทนา เวทนา 3 สุขทุกข์และไม่สุขไม่ทุกข์ เวทนา 5 คือ ภายนอกเป็นสุข หมดภายนอกเหลือภายในเป็นโสมนัสเวทนา แล้วก็อีกอันนึงเป็นอุเบกขาเวทนา นี่เป็น 5 เราก็รู้อาการทั้ง 5 ชนิดนี้ ทำอย่างหยาบ หมดเหลือโสมนัสและโทมนัส ทำให้เป็นอุเบกขา เป็นฐานนิพพาน เวทนา 6 คือ จาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้ง 6 ทวาร เวทนา 18 เวทนาจากทวารทั้ง 6 ก่อให้เกิดความสุขความทุกข์และไม่สุขไม่ทุกข์ได้ เวทนา 36 ก็คือ ฝั่งเคหสิตเวทนา 18 กับ เนกขัมสิตเวทนา 18 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 24 มิถุนายน 2563 ( 11:16:08 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 13:04:43 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:43:22 )

เวทนา 108

รายละเอียด

คือสภาวะของอารมณ์ความรู้สึกต่างๆแบ่งเป็น...

เวทนา 2

1. กายิกเวทนา (ความรู้สึกทางกาย)

2. เจตสิกเวทนา (ความรู้สึกทางใจ)

เวทนา 3

1. สุขเวทนา(ความรู้สึกสุข)

2. ทุกขเวทนา (ความรู้สึกทุกข์)

3. อทุกขมสุขเวทนา (ความรู้สึกไม่ทุกข์ไม่สุข)

เวทนา 5

1. สุขินทรีย์ (รู้สึกกายสุข)

2. ทุกขินทรีย์ (รู้สึกกายทุกข์)

3. โสมนัสสินทรีย์ (รู้สึกจิตดีใจ)

4. โทมนัสสินทรีย์ (รู้สึกจิตเสียใจ)

5. อุเบกขินทรีย์ (รู้สึกจิตเฉยๆ)

เวทนา 6

1. จักขุสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางตา)

2. โสตสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางหู)

3. ฆานสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางจมูก)

4. ชิวหาสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางลิ้น)

5.กายสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางกาย)

6.มโนสัมผัสสชาเวทนา (รู้สึกจากสัมผัสทางใจ)

เวทนา 18

1. โสมนัสสูปวิจาร 6(เป็นความรู้สึกดีใจ 6 ประการ ที่เกิดจากเวทนา 6 กับเวทนา 3 ร่วมกัน)

1.1 ตา กระทบ รูป แล้วรู้สึกดีใจ

1.2 หู กระทบ เสียง  แล้วรู้สึกดีใจ

1.3 จมูก กระทบ กลิ่น  แล้วรู้สึกดีใจ

1.4 ลิ้น กระทบ รส แล้วรู้สึกดีใจ

1.5 กาย กระทบ สัมผัส แล้วรู้สึกดีใจ

1.6 ใจ กระทบ อารมณ์  แล้วรู้สึกดีใจ

2. โทมนัสสูปวิจาร 6 (เป็นความรู้สึกเสียใจ 6 ประการ ที่เกิดจากเวทนา 6 กับ เวทนา 3 ร่วมกัน)

2.1 ตา กระทบ รูป แล้วรู้สึกเสียใจ

2.2 หู กระทบ เสียง แล้วรู้สึกเสียใจ

2.3 จมูก กระทบ กลิ่น  แล้วรู้สึกเสียใจ

2.4 ลิ้น กระทบ รส แล้วรู้สึกเสียใจ

2.5 กาย กระทบ สัมผัส แล้วรู้สึกเสียใจ

2.6 ใจ กระทบ อารมณ์ แล้วรู้สึกเสียใจ

3. อุเปกขูปวิจาร 6 (เป็นความรู้สึกเฉยๆ 6 ประการ ที่เกิดจากเวทนา 6 กับ เวทนา 3 ร่วมกัน)

3.1 ตา กระทบ รูป แล้วรู้สึกเฉยๆ

3.2 หู กระทบ เสียง แล้วรู้สึกเฉยๆ

3.3 จมูก กระทบ กลิ่น แล้วรู้สึกเฉยๆ

3.4 ลิ้น กระทบ รส แล้วรู้สึกเฉยๆ

3.5 กาย กระทบ สัมผัส แล้วรู้สึกเฉยๆ

3.6 ใจ กระทบ อารมณ์ แล้วรู้สึกเฉยๆ

เวทนา 36

1. เคหสิตเวทนา 18 (เป็นความรู้สึกอย่างชาวบ้านที่เกิดจากเวทนา 18 นั่นเอง)

1.1 เคหสิตโสมนัส 6(รู้สึกดีใจอย่างชาวบ้าน 6 อย่าง)

1.2 เคหสิตโทมนัส 6(รู้สึกเสียใจอย่างชาวบ้าน 6 อย่าง)

1.3 เคหสิตอุเบกขา 5(รู้สึกเฉยๆอย่างชาวบ้าน 6 อย่าง)

2. เนกขัมมสิตเวทนา 18 (เป็นความรู้สึกอย่างนักบวช ที่เกิดจากเวทนา 18 นั่นเอง)

2.1 เนกขัมมสิตโสมนัส 6(รู้สึกดีใจอย่างนักบวช 6 อย่าง)

2.2 เนกขัมมสิตโทมนัส 5(รู้สึกเสียใจอย่างนักบวช 6 อย่าง)

2.3 เนกขัมมสิตอุเบกขา 6(รู้สึกเฉยๆอย่างนักบวช 6 อย่าง)

เวทนา 108

1. เวทนา 36 ที่เป็นอดีต

2. เวทนา 36 ที่เป็นปัจจุบัน

3. เวทนา 36 ที่เป็นอนาคต

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 18 “อัฏฐสตปริยายสูตร” ข้อ 431-437


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2565 ( 17:35:08 )

เวทนา 108

รายละเอียด

โลกียะคือ เคหสิตะเวทนา เพราะมันหลงสุขหลงทุกข์ เทวนิยมไม่ต้องพูดเลยเขาไม่มีทางหมด แม้แต่ชาวพุทธที่แยก มโนปวิจาร 18 ของเวทนาของตนไม่ได้ สัมผัสแล้วก็แยกเวทนาไม่ออกแล้วก็ไม่รู้จักว่าการทำออกคือเนกขัมมะ ก็ 18 ตัวเหมือนกันคือทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กับ ทุกข์สุขไม่สุขไม่ทุกข์ 

แต่อันนี้เป็นโลกุตระเอากิเลสออก จิตก็ใสสะอาดขึ้นมาเรื่อยๆๆๆ จนสุดท้าย จิตสะอาดบริสุทธิ์บริบูรณ์ด้วยเนกขัมมะ

ซึ่งในเวทนา 108 อันนี้จาก 18 กับ 18 เป็น 36 พระพุทธเจ้าให้ปฏิบัติตรวจสอบกาละ 3 อดีต 36 ปัจจุบัน 36 อนาคต 36 ซึ่งอธิบายผ่านมาเมื่อกี้นี้ ผ่านมา ปัจจุบันเป็นตัวยืนยันความจริง ปัจจุบันถึงจะเป็นความจริง ถ้าไม่มีผัสสะไม่มี ทิฏฐธรรม ปัจจุบันชาติหรือปัจจุบันกาล ขณะที่ ตากระทบรูป หูกระทบเสียง มันเป็นเรื่องอดีตเป็นเรื่องอนาคต เป็นเรื่องจิตอยู่ในภพ อยู่ในภวังค์ 

ขณะที่ตาคุณไม่กระทบสัมผัสข้างนอก คุณหลับตา มันจะมีความจริงตรงไหน กิเลสมันไม่ได้เกิด มันไม่ใช่กิเลสแท้แต่เป็นกิเลสสมมุติ กิเลสสัญญาไอ้กิเลสที่จำได้ไปคิดนั้นมันกิเลสจำได้ คิดในอนาคตคุณก็ปั้นกิเลสเข้าไปสิ คุณจะปั้นยังไงก็ได้ กิเลสในอนาคตมันก็ฟุ้งซ่านไปได้สารพัด มันไม่มีกิเลสจริงนี่ 

เพราะฉะนั้น คนหลับตาปฏิบัตินั้น โมฆะจากศาสนาพุทธ มันไม่มีทางจะบรรลุอรหันต์กันหรอก เพราะฉะนั้นเสื่อมชัดเจนศาสนาพุทธในเมืองไทย ไปนึกว่าพวกหลับตาปฏิบัตินั่นแหละคืออรหันต์อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนอยู่เหนือกาละต้องชนะปฏิจจสมุปบาท วันพุธที่ 3 มกราคม 2567 วันแรม 7 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 มกราคม 2567 ( 15:49:28 )

เวทนา 108

รายละเอียด

รูปที่ถูกรู้เป็นรูป 28 หรือรูป 24 อุปาทายรูปที่ 24 ก็มีลักษณะต่างๆ ถ้าจะอธิบายไปอีกมันก็จะลึก อุปาทายรูป 24 

ที่เราจะรู้จักรูปพวกนี้นี่ เราจะต้องปฏิบัติ ให้มีเวทนา 108 ถ้าคุณปฏิบัติธรรมแล้วมีเวทนาปฏิบัติแล้วเวทนานี้จะแยกออกถึง 108 แล้วน่ากลัว ฟังแล้วมันจะยากจังเลย มันไหวหรือ คนที่ฟังแล้วโอ้โห มันยากจังเลยตายๆๆ นี้มันไม่ไหวท้อเลย เวทนาตั้งร้อยแปด ฟัง 108 ก็มึนแล้ว แค่จะไปจำภาษาตั้ง 108 ชนิด มันจะไหวเหรอ 

ไหวสิ มันมีหมวดหมู่ให้เข้าใจง่ายๆ 

ท่านแจกเป็นหลักๆ แล้วเป็นหมวดหมู่ ถ้ามีสภาวะก็ไม่ยาก แล้วสภาวะที่มีมันจะนำมาให้เรารู้จักพยัญชนะ เพราะอาตมาจะพูดซ้ำพูดซากไปเรื่อยๆ 

เช่น 108 ฟังดีๆ หลายๆ คนแล้วสภาวะยังไม่เต็ม แต่อาตมาจะพูดพยัญชนะและตัวหลักพวกนี้ไป จะออกไปได้เลยพวกเรานี่แหละ เรียนก็ศึกษาอย่างเราได้ 

1. เวทนา 2 

2. เวทนา 3 

3. เวทนา 5 

4. เวทนา 6 

5. เวทนา 18 

6. เวทนา 36 

7. เวทนา 108 

มี 7 หลักง่ายๆ.. เวทนา 2 มี กายิก กับเจตสิกะ คือ กายกับจิต 

เวทนา 3 มีสุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์มี 3 

เวทนา 5 มีทุกข์ มีสุข มีโทมนัส มีโสมนัส มีอุเบกขา 

เวทนา 6 เกิดจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กาย 5 คู่ พอหมดกิเลสภายนอก 5 แล้วก็เหลือใจอีกคู่หนึ่ง ก็เป็น 6 คู่ เวทนา 6 

ที่นี้เวทนา 6 นี้ ตามันกระทบรูป มันก็สุขก็ได้ทุกข์ก็ได้ ไม่ทุกข์ไม่สุขก็ได้ หูก็เหมือนกันกระทบแล้วมันสุขก็ได้ทุกข์ก็ได้ไม่ทุกข์ไม่สุข ก็ได้ จมูก ลิ้น กาย สัมผัสหรือแม้แต่ใจกับใจก็มีทั้งหมด 

3 กับ 6 ทั้ง 6 ทวารนี้มันจะสุขหรือทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ก็ได้ มันก็รวมเป็น 18 

มันไม่รู้เป็นชาวโลกโลกียะ 18 เรียกว่า มโนปวิจาร 18 

ไม่รู้มันก็เป็นชาวโลกๆหลงกับสุขกับทุกข์จริงจังอยู่กับสุขทุกข์ไม่สุขไม่ทุกข์ จะไปล้างเป็นไม่สุขไม่ทุกข์แบบสะกดจิตก็ได้เป็นแบบโลกีย์อยู่ พวกนั่งสะกดหลับตาสะกดจิตหลับตา ได้แค่ เคหสิตเวทนา เป็นเคหสิตอุเบกขาเวทนา ตัวที่ 18 ของ เคหสิตเวทนา เท่านั้นไม่ออกมาเป็นเนกขัมมะ ไม่ได้มาเป็นโลกุตระเลย

เพราะฉะนั้นจะไม่ได้ลดกิเลสสุขทุกข์ หมดข้างนอกเหลือโสมนัสโทมนัสลดข้างในอีกจนเหลืออุเบกขา เป็น เนกขัมสิตอุเบกขา มี 18 เหมือนกัน แต่มันออกจากกิเลส หรือทำกิเลสออกได้หมดกิเลสได้ปฏิบัติจริงทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 

คุณก็กระทบสัมผัสเกิดกิเลสแล้วปัญญามีพลัง ปัญญามันก็มีฤทธิ์มีธรรมฤทธิ์ มันทำให้กิเลสลดได้จริงๆ 

กิเลสหยาบ ตั้งแต่กามภายนอก แล้วกามภายนอกที่เราทำได้แล้วเป็นอนาคามี หมดกามก็ไม่ได้หมายความว่าเราหลับตา เราไม่ได้มองเห็น หูก็ไม่ได้ยิน จมูกก็ไม่ได้กลิ่นไม่ใช่ ยังเห็นอยู่นั่นแหละแต่อยู่เหนือมัน ยิ่งมีฤทธิ์เหนือมันตลอดมากยิ่งขึ้นยิ่งขึ้น 

ลดได้ ในรูปาวจร เหลือภายใน หากไปลดภายในเลย ไม่ได้ ต้องลดภายนอกก่อน เหมือนกับกินทุเรียนทั้งเปลือก ซัดตั้งแต่หนามเข้าไป ปากเจ่อเลือดไหลแน่ อาตมาชอบยกตัวอย่างนี้ มันชัดดี ต้องปอกเปลือกออกก่อน ต้องทำลายเปลือกก่อน หรือทำลายกิเลสหยาบภายนอกก่อน หมดแล้วจึงจะเข้าไปหาข้างใน แล้วจึงจะทำกับข้างในขั้นรูป ขั้นอรูปได้ 

แล้วมันก็อยู่เหนืออย่างไม่ได้ข่ม ไม่ได้หนี ไม่ได้ข่มจิต เห็นอยู่รู้อยู่แต่กิเลสมันทำอะไรเราไม่ได้ มันไม่ทำ พยัญชนะมันก็พูดได้แค่นี้สภาวะของใครที่มีเองจริง เราจะรู้เลยว่ามันจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พระอภิธรรมของ ฌาน และเวทนา 108 วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2567 ( 18:13:08 )

เวทนา 108

รายละเอียด

เวทนา 108 นี่แหละมีปัจจุบันเป็นตัวสัจจะ ปัจจุบันเป็นตัวความจริง ผ่านเป็นอดีตแล้วไม่เป็นความจริง ยังมาไม่ถึง ก็ไม่เป็นความจริง 

เพราะฉะนั้นตัวปัจจุบันชาติ ถ้ายิ่งมีปัจจุบันชาติ 36 ที่มีพลังธรรมฤทธิ์แข็งแรง พลังของอดีต 36 ก็แข็งแรง อเนญชา สั่งสมลงไปอีกเป็นฐานที่ตั้งอย่างแข็งแรง เป็นฐานพีระมิด ช่วยกับปัจจุบัน อนาคตมันจะมายังไง หนึ่งมันจะมาสู้ 2 ไม่ได้หรอกปัจจุบันกับอดีตช่วยกัน 36 + 36 เป็น 72 กับ 36 แล้ว 36 มันจะมาสู้ 72 ได้ยังไง 

เพราะฉะนั้นมันก็ต้องมีโอกาสชนะ ชนะๆๆ เพราะฉะนั้นอนาคตจะหนักหนาสาหัสมาเท่าใดเท่าใดก็ยังยากที่จะชนะ 36  2 หมู่ เป็น 72 36 มาเท่าไหร่ก็ยาก 

เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นปัจจุบันชาติมีธรรมะที่เป็นตัวสัจธรรมแข็งแรงตัวนี้ มันจึงเป็นฐานอาศัย ที่พิสูจน์ได้ยืนยันได้เลยว่ามันไม่ล้ม  มันไม่กลับกำเริบ มันไม่มีอะไรหักล้างได้ อสังหิรัง อสังกุปปัง แน่นอนที่สุด คุณธรรมของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พระอภิธรรมของ ฌาน และเวทนา 108 วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2567 ( 18:20:41 )

เวทนา 108 สมบูรณ์แบบ

รายละเอียด

เวทนา รู้จักเวทนาอย่างแจ้งสว่างเลย แล้วก็มีเวทนาอันไร้กิเลส  เวทนา 108 สมบูรณ์แบบ สัญญากำหนดรู้เวทนาอย่างชัดเจน สัญญาเคล้าเคลียอารมณ์ เป็น สัญญาเวทยิตังนิโรธังโหติ สัญญาเวทยิตังนิโรธังโหติ บรรลุนิโรธด้วยการมีตัวสัญญา กำหนดรู้แทรกซ้อนเค้าเคลียอารมณ์ มีผู้รู้เขาแปลไว้อย่างนั้นด้วย มีผู้รู้เขาแปลเอาไว้เก่ามี คือ แทรกซ้อน รู้จักเวทนาครบ โดยเฉพาะเวทนา 108 นั่นแหละมันบริบูรณ์แล้ว วันนี้ก็ไม่ลงรายละเอียดของเวทนา 108 หรอก เพราะฉะนั้น ความมีฌานของศาสนาพุทธ ฌานวิสัยเป็น อจินไตย ไอ้ที่รู้กัน ที่เดากัน มันไม่ใช่ฌานของพุทธเลย ฌานของพุทธเป็นอยู่เกิดได้ทุกวินาทีที่คุณเรียนรู้ด้วยจรณะ 15 วิชชา 8 

คุณก็ทำไปตั้งแต่ศีลข้อที่ 1 คุณก็ปฏิบัติ อปัณณกปฏิปทา 3 แล้วคุณก็จะเกิดการรู้ สัทธรรม 7 ก็จะรู้ว่า เราไม่รู้นะ นี่เรายึด ว่ามันควรได้ ควรมี ควรเป็น คุณก็ละอาย คุณก็เกรงกลัวอันนี้ คุณก็เลิกก็ละ คุณก็ได้มา มี ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหุสัจจะ วิริยะ สติ  ปัญญา ชัดเจนในธาตุรู้ที่สมบูรณ์ ด้วยริริยะ รู้แล้วก็เพียร แล้วให้เต็มสติ ให้เต็มปัญญา ก็เต็มทั้งอธิปไตย เต็มทั้ง อุตระ สมบูรณ์แบบ มันก็จึงค่อยๆเป็นฌาน ฌาน พลังงานที่สร้าง สัมผัสแตะต้องแล้วก็เกิดการลดละจากเจตสิก สิ่งที่ควรเลิก สิ่งเป็นอกุศลเจตสิก คุณก็ลดลงๆๆๆ  ดับลงได้ ทีละขั้น ทีละอัน ทีละอย่าง ฌาน ก็เป็นฌาน 1 2 3 4 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 37 ฌานเป็นพลังงานปัญญาล้านองศาเผากิเลส วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 28 สิงหาคม 2566 ( 13:27:53 )

เวทนา 108 เป็นเครื่องเช็คอรหันต์

รายละเอียด

วิจัยจากอาหารสูตร พตปฎ. ล.16  ข.7 นาม 5 รูป 28 จึงเรียกว่านามรูป ให้คุณศึกษาวิญญาณ 

มีนาม 5 แล้วปฏิบัติเรียนรู้ด้วยรูป 28 คุณจึงจะรู้จักวิญญาณครบจึงจะปฏิบัติวิญญาณได้ตัวปฏิบัติคือฐานปฏิบัติคือเวทนา จึงจะปฏิบัติเวทนา 108 ได้ ถ้าคุณไม่ได้ปฏิบัติเวทนา 108 กระบวนการ 108 อย่างครบบริบูรณ์ทำตั้งแต่ต้นจนจบ อดีต ปัจจุบัน อนาคต 36 36 เป็นศูนย์ได้หมด คุณไม่จบ คุณไม่ได้เป็นอรหันต์ เพราะฉะนั้นใครที่มาอ้างว่าเป็นอรหันต์ อาตมาเอาเวทนา 108 เป็นเครื่องเช็ค คุณพูดกับอาตมา อาตมาจะถามคุณ ปุจฉาฯ คุณก็วิสัชนามา ลองดู 

ปุจฉาด้วยเวทนา 108 ถ้าคุณไม่ได้ปฏิบัติมโนปวิจาร 18 ต้องมีสัมผัส 6 ต้องมีตาหูจมูกลิ้นกายใจ สัมผัสทางภายนอกภายใน เมื่อสัมผัสแล้วจึงจะเกิดเวทนาสุขทุกข์ไม่สุขไม่ทุกข์ให้คุณปฏิบัติ ดับสุขดับทุกข์ได้ เหลือโสมนัสโทมนัส  คุณก็ดับโสมนัสโทมนัสก่อนที่เกิดก่อนได้ ในสำนวนที่ท่านแปลไว้ดับก่อนได้ ได้หมดก็หมด เหลืออุเบกขา แม้ได้อุเบกขาแล้ว แยกเนกขัมมะกับเคหสิตะ เป็นเนกขัมมสิตอุเบกขา ซึ่งต่างจากเคหสิตอุเบกขา ต่างกันอย่างไรปฏิบัติเมื่อไหร่ ปฏิบัติออกได้เป็นชั้นๆ จากสุขภายนอกหรือภายใน ถึงจะเป็นความสงบปราศจากกิเลสอุเบกขาที่มีองค์คุณ 5 อาตมาพูดสภาวะคุณจะรู้เรื่องกับอาตมาเลย พระอรหันต์ด้วยกันจะรู้กันเลย แม้ว่าคุณไม่รู้พยัญชนะ แต่ก็จะเอาภาษาไทยที่พูดกันรู้เรื่องมาพูดกัน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้ อาหาร ให้บรรลุถึง อรหันต์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:41:14 )

เวทนา 108 โดยกาละทั้งสาม

รายละเอียด

คือ  1. เวทนามโนปวิจาร ที่เป็นอดีต 36 ก็สูญแล้ว

       2. เวทนามโนปวิจาร ที่เป็นปัจจุบัน 36 ก็สูญแล้ว

       3. เวทนาโนปวิจาร ที่เป็นอนาคต 36 ก็สูญแล้ว

ทำได้อย่างไร้เทียมทานเลย  จะมาอีกไม้ไหนมาก็ทำได้อย่างไร้เทียมทาน  จนฝีมือไม่มีใครที่จะมาล้มล้างได้ อสังหิรัง  เด็ดขาด  อย่างนี้ถือเป็นจบ  จิตทำได้อย่างนี้แหละ  สภาพที่ทำแล้วกลับไปทำอีกก็เป็นสภาพหมุนรองเชิงซ้อนทำทุก ปัจจุบัน 36 สั่งสมเป็นอดีต 36  ทำ 0 0 0 สำเร็จเรียบร้อย 0 ทุกปัจจุบัน 0 0 0 ในอวิชชา 8 ส่วนอดีต ส่วนอนาคต  และทั้งส่วนอดีต และอนาคต

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562

หนังสืออ้างอิง

พระไตรปิฎก เล่ม 18 ข้อ 412-424 ปัญจกังคสูตร

 


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 14:09:20 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 04:06:31 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:44:33 )

เวทนา 108 ในพระไตรปิฎกไม่ได้แจกแจงอย่างพ่อครู

รายละเอียด

การรู้จิตในจิต เวทนาในเวทนา เวทนา 108 อาตมาพูดกับเขาไม่รู้เรื่องหรอก เพราะกระบวนการของเวทนา 108 เวทนา 2 เวทนา 3 เวทนา 5 เวทนา 6 เวทนา 18 เวทนา 36 เวทนา 108 พวกคุณก็ได้ฟังอาตมาก็อธิบายแจกแจงมีในตำรา พระไตรปิฎกไม่ได้แจกแจงอย่างนี้นะ ที่บันทึกไว้ก็มีแต่พยัญชนะตัวเลข ไม่รู้ว่าที่เขาสอนอภิธรรมจะแตกแยกแยะอย่างไร แต่เขาคงจะไม่เข้าใจถึงสภาวะ 

  1. เขาอาจจะรู้ กายิกเวทนาและเจตสิกเวทนา เวทนาที่ประกอบด้วยสัมผัสนอก กับพัฒนาที่ปรุงแต่งกันภายในเป็นเจตสิกเวทนา เขาต้องเรียนกันแน่ จะมากน้อยก็แล้วแต่ 

  2. สุขทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ เวทนา 3 เขาก็ต้องเรียนเขาก็ต้องรู้อยู่แล้ว ยังไม่ได้พูดว่าศาสนาพุทธตรัสรู้อะไร พระพุทธเจ้านั้นดีชั่วก็ต้องรู้เหมือนเขา ซึ่งความดีความชั่วมันไม่เที่ยงหรอก ความดีของเทวนิยมจริงๆก็คล้ายกัน คล้ายกันก็มีเยอะแต่ยึดว่าดี 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 09:15:37 )

เวทนา 18

รายละเอียด

เวทนา 18 คือ ตั้งแต่โสมนัส โทมนัส และอุเบกขา ทั้ง 6 ทวาร คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ  จะเป็นความทุกข์ ความสุข  ความไม่ทุกข์ไม่สุข มี 3 ทาง ทวารทั้ง 6 ก็เลยเป็น 18 ต้องอ่านอาการลิงค นิมิต อุเทส ของสภาวธรรมเหล่านี้ออก 1.

ได้แก่ มโนปวิจาร 18  (คือ เวทนา 3 ร่วมกับอายตนะ6)

1. สุขเวทนาแบบโสมนัสสูปวิจาร  (6ทวาร+โสมนัส)  

2. ทุกขเวทนาแบบโทมนัสสูปวิจาร  (6ทวาร+โทมนัส)  

3. เฉยๆ ที่เป็นอุเบกขูปวิจาร   (6 ทวาร+อุเบกขา) ทำให้หมดสุขหมดทุกข์เป็นเนกขัมมสิตอุเบกขา ซึ่งต่างจากเคหสิตอุเบกขาเวทนา ปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้าต้องแยก 2 อย่างนี้ให้ได้ด้วยอาการ ลิงค นิมิต อุเทส ต้องรู้อาการ แยกความแตกต่างของอาการ ปฏิบัติให้เกิดลงตัว เป็นเนกขัมสิตอุเบกขาสำเร็จ เกิดภาวนาปธานให้เกิดอุเบกขาตกผลึกเป็นอเนญชา ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว นี่คือสมาธิ สมาธิไม่ได้เกิดจากไม่มีกระบวนการแต่เกิดจากเวทนา 108 นี้อย่างสำคัญเลย มีความรู้และปฏิบัติได้พูดได้ ปฏิบัติได้ตรงนี้แหละเป็นหัวใจแท้ๆสามารถทำเวทนาในเวทนา

 

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 05:29:04 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 04:15:45 )

เวทนา 18 ทางโลกีย์

รายละเอียด

ที่มีนี้มาทาง 6 ทวาร ตา หูจมูก ลิ้น กาย ใจ 6 ทวารก็เกิดความสุขความทุกข์หรือไม่สุขไม่ทุกข์ก็ได้ ก็เป็น เวทนา 18 ทางโลกีย์ เคหสิตเวทนาก็ 18 แต่สะสมใส่อาสวะอนุสัย ก็เขาไม่รู้เขาเสพแล้วก็ติดยึดสั่งสมใส่คลังแห่งอนุสัย อาสวะ ใส่คลังโลกียสมบัติ ก็ยิ่งหน้ามืดไปเรื่อยๆเพราะกิเลสมันยิ่งหนาไปเรื่อยๆ เวทนายิ่งจัดจ้านไปนานเท่านาน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:29:00 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:58:27 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:45:48 )

เวทนา 18 โลกุตระ

รายละเอียด

แต่ในโลกุตระ มันยิ่งจางคลาย สุข ลดลง ทุกข์น้อยลง โทมนัสน้อยลง โสมนัสน้อยลง อุเบกขาก็ยิ่งจริงๆ ยิ่งละเอียด มันเป็นตัวเล็กที่สุดอย่างไร เล็กๆๆๆๆ จึงได้ใช้พยัญชนะบอกว่า ปริสุทธา ปริโยทาตา เป็นตัวเคลื่อน มุทุ เป็นตัวกลาง ทั้งเร็วทางปัญญา ทางเจโต คล่องยิ่งเร็ว กัมมัญญา กับปภัสสราเป็นตัวเคลื่อน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:30:30 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:59:01 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:47:38 )

เวทนา 2

รายละเอียด

เวทนา 2 คือ

     1. เวทนาที่มีกายเป็นเหตุ (กายิกเวทนา อาศัยมหาภูตรูป + นาม) เน้นภายนอกแต่ไม่ขาดจากจิต

     2. เวทนาที่มีใจเป็นเหตุ (เจตสิเวทนา อาศัยนามรูป) เน้นมาหาจิต ในขณะที่สามารถสัมผัสข้างนอกแล้ว มีกายิกเวทนา เจตสิกเวทนาก็ซ้อนในกาย แต่ถ้าไม่มีกาย  เจตสิกก็ไม่มีได้  ต้องเป็นคู่กันเสมอ  คุณเข้าใจอย่างนี้ไม่ได้ก็ไปแยกกาย  ไม่ต้องมีดับไปหมดเลย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ภายนอก เอาแต่ภายในแบบนี้เป็นโมฆะ  กลายเป็นสูญแล้ว ศาสนาพุทธไม่มีทางไปนิพพานไปลดกิเลสได้เลย เพราะมันไม่มีปัจจุบัน  ปัจจุบันต้องมีภายนอก ถ้าไม่มีภายนอกก็มีแต่อดีตกับอนาคตเพราะฉะนั้น  หลับตาปฏิบัติเป็นเจโตสมาธิในพรหมชาลสูตร  นั่งหลับตาก็จะได้แค่ ภพอดีต 18 ภพ อนาคต 44

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 05:30:13 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 04:16:44 )

เวทนา 2

รายละเอียด

เวทนา 2 คือสภาพเคหสิตเวทนากับเนกขัมสิตเวทนา นี่คือคู่สำคัญ ตั้งแต่กายิกเวทนากับเจตสิกเวทนา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธ 5 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:25:15 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 03:59:24 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:49:47 )

เวทนา 2

รายละเอียด

 คือ  1. เวทนาที่มีกายเป็นเหตุ  (กายิกเวทนา  อาศัยมหาภูตรูป + นาม)

       2. เวทนาที่มีใจเป็นเหตุ (เจตสิกเวทนา  อาศัย นามรูป)

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 13:44:01 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 04:17:49 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 07:48:29 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์