@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

เหตุต้องตำหนิ 

รายละเอียด

เหตุต้องตำหนิ  คือ  ในยุคนี้มีคนชั่วมากกว่าคนดี  ต้องมาแก้ยุคนี้หากไม่มีคนดีก็แหลกราญหมด  แต่ดีไม่พอหรอก  ต้องสอนคนให้ดีกว่านี้  แล้วสังคมจะดีขึ้นกว่านี้ อาตมาทำอย่างนี้จึงได้คนอโศกขึ้นมากลุ่มหนึ่ง  ถ้าคนที่เป็นผู้สอนเป็นศาสดาเป็นผู้ที่สอนคนทางธรรมะเหมือนอาตมาเขาก็จะสอนอย่างอาตมา  เขาก็จะได้คนอย่างนี้เป็นหมู่กลุ่ม ปึกแผ่น  เราเป็นปึกแผ่น เหนียวแน่น เป็นคุณสมบัติตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็น  เอกีภาวะ  เป็นสาราณียะ  ปิยกรณะ คุรุกรณะ  สังคหะ  อวิวาทะ  สามัคคียะ  เอกีภาวะ  มันจะเป็นคุณลักษณะตามที่พระพุทธเจ้าว่าไว้หมด  อย่าง  สาราณียะ  พวกเราระลึกถึงกันมากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่ตามสมควร ปิยกรณะ  รักกัน คุรุกรณะ เคารพกัน สังคหะ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  อวิวาทะ  สังคมอโศกไม่มีการทะเลาะวิวาท มีง๊องแง๊ง นิดหน่อยมีความสามัคคีพร้อมเพรียงร่วมมือ  ร่วมการ  ร่วมใจทำงานเป็นเนื้อเดียวกัน

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 13:53:18 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:41:52 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:01:05 )

เหตุทำให้อายุยืน 5

รายละเอียด

1. เป็นผู้ทำความสบายแก่ตนเอง 
2. รู้จักประมาณในสิ่งที่สบาย (สปายะ)
3. บริโภคสิ่งที่ย่อยง่าย 
4. มีศีล (หรือเป็นที่ผู้เที่ยวในกาลสมควร) 
5. มีมิตรดีงาม (หรือประพฤติพรหมจรรย์) 
 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 22   ข้อ 125-126


เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2562 ( 14:49:43 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:42:41 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:01:28 )

เหตุที่คนทำชั่วได้ง่าย แต่ก็จะได้บาปเป็นอันมาก

รายละเอียด

มันเป็นการเกิดอยู่หลัดๆ หัวใจคนไทยกำลังมีสภาพอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวนี้ คิดดูเถอะขณะนี้ สำหรับผู้ที่ได้ช่วยเอื้ออวยเกื้อกูลผู้ที่ไม่ควรเอื้ออวยเกื้อกูล ฟังให้ออก คุณร่วมบาป ไม่ใช่บุญเลยเป็นอันมาก กุศลก็ไม่ใช่ มีแต่บาป ไม่ต้องไปพูดเรื่องกุศล มันไม่ใช่แน่นอน มีแต่บาป พยายามศึกษาธรรมะให้ดีๆ ยิ่งผู้ที่อยู่ในวงการที่ทำงานเหล่านี้ เช่นข้าราชการ เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนารายการ ปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูเล่าความหลังเมื่อตอนอยู่ในวงการบันเทิง วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 แรม 11 ค่ำ เดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 24 มกราคม 2567 ( 15:59:29 )

เหตุที่คนเลวได้รับการยกย่องและคนดีถูกตำหนิ

รายละเอียด

โดยธรรมชาติสังคม สังคมที่มันโง่ลงโง่ลงมันก็ไปยกย่องคนเลว ตำหนิคนดี มันเป็นธรรมดาเขาไม่รู้ ก็เป็นไปตามกาละ เทศะ ฐานะ ของยุคสมัย มันก็เป็นแค่นั้น อย่างอาตมา เกิดมาในชาตินี้ปางนี้อาตมาไม่ได้แปลกใจเพราะเป็นยุคของความเสื่อม มันไม่รู้ อาตมาก็ไม่เคยไปถือสา ไม่เคยไปโกรธเคืองคนที่มาจัดการอาตมา เอาอาตมาแรงๆร้ายๆ ขนาดไหน อาตมาก็ไม่เคยไปโกรธไปผูกไปเคือง จริงๆความโกรธความเคือง อาตมาไม่มีอยู่แล้ว ก็รู้ตามจริงว่าเขาไม่รู้ เขาก็เหมือนเด็กๆเหมือนลูกเหมือนหลาน ตีเด็กๆ ตีก็ตายเปล่าไม่รู้เรื่องหรอก ถ้ารู้เรื่องมันก็ไม่ทำในสิ่งไม่ดี แต่นี่มันไม่รู้ วัยของเขาก็ยังไม่ถึงวาระที่จะเป็นไปได้ด้วย มันก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 50 ตอบปัญหาผ่าปฏิจจสมุปบาท วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 กันยายน 2565 ( 14:47:25 )

เหตุที่คนเสื่อมจากศาสนาพุทธ

รายละเอียด

ผู้ที่ไม่เรียนรู้และที่หลับหลับตา ไม่เปิดตาหูจมูกลิ้นกาย หลับตาจึงเป็นโจรทำลายศาสนาพุทธ เพราะว่าขบถ​ ไปจากศาสนาพระพุทธเจ้าหมดเลยไปเอาแบบ เดียรถีย์ ไม่ได้ใส่ความ ไม่ได้ไปว่า ไม่ได้ไปหาเรื่องอะไรเลย แต่มันเสื่อมไปแล้ว คนเสื่อมจากศาสนาพุทธไปจนกลายเป็นความผิดเพี้ยน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 33 ไม่มีความไม่จริงในสิ่งที่พ่อครูพูดเรื่องโลกุตระ วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2565 ( 09:01:54 )

เหตุที่ชาวโลกไม่คิดแสวงหามาเป็นชาวโลกุตระ

รายละเอียด

มหัศจรรย์อย่างไร? มหัศจรรย์อย่างที่ชาวโลกเขาไม่ได้มาคิดอย่างนี้  ไม่แสวงหาอย่างนี้ ไม่พยายามเป็นอย่างนี้ด้วย เขากลับพยายามจะไปมีทรัพย์สินมากๆ โลภมากๆ มียศชั้นสรรเสริญมีอำนาจในโลก มียศอำนาจอยู่ในโลกใหญ่ๆสูงๆ เขาทิ้งไม่ได้ 

พระพุทธเจ้ามียศ มีอำนาจ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ท่านทิ้งออกมาเลยไม่ใยดี แต่คนทุกวันนี้ แม้แต่กระแสหลัก ทิ้งได้ที่ไหนก็แย่งกันอยู่ เทิ่งๆ ให้คนว่าได้ เอาละไม่หลงยศก็หลงสรรเสริญ คนจะติเตียนนี้ไม่ได้ จะต้องรักษามาด รักษาท่าทีอย่าให้ติเตียน คนนิยมอย่างไรสมมุติที่จะไม่ให้ติเตียนก็เอาตามสมมุติไม่เอาเข้าหาปรมัตถ์เลย แต่ อาตมาเข้าหาปรมัตถ์ อย่าว่าแต่ติเตียนเลย จะด่าก็ด่า อาตมาเข้าหาปรมัตถ์ ตั้งแต่ต้นมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ได้แยแส กับคำสรรเสริญหรือนินทาว่าร้าย ยืนหยัดอยู่ที่ความจริงความดีงามความถูกต้องที่ควรจะเป็นตามพระพุทธเจ้า ไม่ได้แคร์กับสรรเสริญ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสรรเสริญมันไม่ดี มันก็ดี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 25 ปาฏิหาริย์ของคนจนมหัศจรรย์ วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 พฤษภาคม 2565 ( 13:49:37 )

เหตุที่ต้องประกาศนานาสังวาสกับเถรสมาคม

รายละเอียด

อย่างแต่ก่อนนี้อาตมาบวชอยู่กับมหาเถรสมาคม ก็พยายามทำไป ก็พอรู้แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายก็ต้องทำตามพระธรรมวินัยคือประกาศนานาสังวาสแยกตนเองออกมาตามหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า 

เถรสมาคมก็ตามความรู้ของกระแสหลักก็ตามไม่รู้หลักนานาสังวาส อาตมาทำอย่างถูกต้องก็มีผู้รู้อยู่บ้างจนสำเร็จผล ตั้งแต่ พ.ศ. 2518 วันที่ 6 สิงหาคม เราก็ประกาศยืนยันตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า เข้าไปตรวจสอบตามหลักพระธรรมวินัยแล้วก็ต้องเห็นว่าถูกต้อง แต่ด้วยความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวเองใหญ่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 พาปฏิญาณศีล 8 วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2565 ( 10:49:05 )

เหตุที่ต้องเป็นสมณะ 

รายละเอียด

ตอนนั้นก็มีสมเด็จมีคณะของเถรสมาคมต่อโทรศัพท์กันอยู่เลย ให้จรวยมาเผชิญหน้ากับอาตมาตกลงกัน จนสุดท้ายก็ตกลงกันได้ว่า เราก็ผิดตามกฎหมายของคุณ ไม่ให้เราเป็นภิกษุ ไม่ให้เราเป็นพระ ไม่ให้เราเป็นนักพรตนักบวช ในคำที่อยู่ในกฎหมายแล้วจะให้เราเป็นอะไร เราปฏิบัติธรรมะของพระพุทธเจ้าในศาสนาพุทธ ก็ต้องเป็นคนพุทธสิ 

พูดกันไปพูดกันมาก็ตกลงกันว่า สมณพราหมณ์มันไม่มีในกฎหมาย เราก็บอกว่าเราเป็นสมณะพราหมณ์ก็ได้ เราไม่เป็นพระ ไม่เป็นภิกษุไม่เป็นนักพรต นักบวช ตามกฎหมายของฝ่ายคุณ เรามาเป็นสมณะ ก็ตกลงกันได้ตรงนี้ ตั้งแต่บัดนั้นเราก็กลายมาเป็นสมณะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 พาปฏิญาณศีล 8 วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2565 ( 10:59:07 )

เหตุที่ทรงบัญญัติวินัย

รายละเอียด

พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติวินัย ปรับอาบัติลงโทษ

เพราะอาศัยอำนาจแห่งประโยชน์ 10 ประการ คือ

เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ 1 

  เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ 1

เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก 1 

เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก 1

เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิดในปัจจุบัน 1

เพื่อกำจัดอาสวะ อันจักบังเกิดในอนาคต 1

เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส 1

เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว 1

เพื่อความดำรงมั่นแห่งพระสัทธรรม 1

เพื่ออนุเคราะห์พระวินัย 1

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 01 สิงหาคม 2562 ( 21:54:02 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:44:34 )

เหตุที่ทำให้ยังหลงวนเวียนอยู่ในกรอบโลกโลกีย์ โง่ซวย รวยเด่นอยู่

รายละเอียด

ความรู้ชนิดโลกุตรธรรมต้องสั่งสม อัญญธาตุ คือธาตุโลกุตรธรรมที่จะเข้ามาสู่อีกโลกอีกโลกหนึ่ง คนจะค่อยๆ สะสม ถ้าผู้ใดไม่ได้ฟังธรรมะจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า หรือไม่ได้ฟังจากผู้ที่เป็นสัตบุรุษ คือผู้ที่มีความรู้ที่สืบทอดมาจากพระพุทธเจ้า หรือ สยังอภิญญา หรือผู้มีความรู้ที่อยู่ในฐานะครูที่สัมมาทิฏฐิ ที่สอนสัมมาทิฏฐิได้ แต่ตัวเองไม่บรรลุ รู้ได้ถูกต้อง สอนได้ถูกต้อง แต่ตัวเองไม่ได้บรรลุธรรม เป็น สีลัพพตปรามาส คือรู้แล้ว สัมมาทิฎฐิแต่ตัวเองไม่ได้ปฏิบัติที่ไม่เอาถ่านในตัวเอง นี่คือคนระดับ 1 

ถ้า สีลพตุปาทาน คือ คนอีกระดับหนึ่ง คือ คนนับถือศีล ตามจารีตประเพณีที่เขาพาปฏิบัติอย่างโน้นอย่างนี้แต่ไม่สัมมาทิฏฐิเลย มีแต่จารีตประเพณีเป็นกันไป อย่างทุกวันนี้ถือศีลตามจารีตประเพณี บอกได้เลยทางเถรสมาคมปฏิบัติศีลมีแต่จารีตประเพณีไม่เคยเข้าถึงจิตไม่มี อปัณณกปฏิปทา 3 ไม่มีสัทธรรม 7 ไม่เกิดฌานจริงเลย ไม่เข้าสู่จรณะ 15 เพราะไม่มีปัญญา 

ปัญญาตัวแรกเข้าใจตามสัตบุรุษ มันก็ไม่เกิด พระพุทธเจ้าไม่ได้เกิดในยุคนี้ ไม่มีสัตบุรุษมาเกิด ก็ไม่ได้เข้าใจตามสัตบุรุษ เห็นสัตบุรุษเป็นพวกนอกรีตผิดไปอีก กลับ อย่างนั้นด้วยน่าสงสาร จริงๆ เขาเข้าใจผิดน่าสงสารเพราะเขายังหลงวนเวียนอยู่กับโลกเก่าๆ ที่ไม่สัมมาทิฏฐิ ออกจากกรอบโลกโลกีย์ที่มันโง่ซวยไม่ได้เลย อย่างเก่งก็วนอยู่ใน รวยเด่น ซึ่งเป็นอารยธรรมของมนุษยชาติเป็นกัลยาณชนธรรมดา ในกรอบของโลกีย์เท่านั้น ยังไม่เข้าขั้นสัมมาทิฏฐิแม้แต่คำว่า กาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 41คนโง่ซวย รวยเด่น และเป็นกลาง วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2565 ( 13:51:11 )

เหตุที่บริบูรณ์โดยตัวมันเองจึงขอยึดอำนาจ

รายละเอียด

ซึ่งขณะนั้นจะว่าไปแล้ว ไม่มีอำนาจอะไรของรัฐบาลเหลือแล้ว แม้กระทั่งผู้รักษาการคือนิวัฒน์ ธํารงบุญทรงไพศาล ก็ไม่มีอำนาจแล้ว เพราะโดยกฎหมายขาดจากตำแหน่งหน้าที่ทุกอย่างหมดแล้ว เป็นแต่เพียงว่า มันมีชื่อสุดท้าย อยู่เท่านั้นเอง พลเอกประยุทธ์ก็ไปต่อรูปแบบชื่อสุดท้ายว่า ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอยึดอำนาจ ซึ่งจริงๆในโลกนี้มีได้หรือ เข้าไปแล้วก็บอกหัวหน้าคณะรัฐบาลว่า ถ้าอย่างนั้นผมขอยึดอำนาจ แล้วหัวหน้ารัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้ ง่ายๆอย่างนี้มันมีด้วยหรือในโลก ใช่ไหม ถ้ามันไม่มีเหตุที่บริบูรณ์โดยตัวมันเอง อาตมาไม่ใช่นักรัฐศาสตร์ พูดภาษาวิชาการการเมืองไม่ค่อยเก่ง ขอให้นักรัฐศาสตร์ทั้งหลายศึกษาให้ดีๆ ไปศึกษาเหตุปัจจัยที่มันมีให้ดีๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 14:39:23 )

เหตุที่ปสาทรูปมี 5 แต่โคจรรูปมี 4 ในอุปาทายรูป 24

รายละเอียด

สัมผัส ต่างกับรูป หูก็ต้องสัมผัสเสียง จมูกก็สัมผัสกลิ่น ลิ้นก็สัมผัสรส ซึ้งลิ้นมันอยู่ข้างในๆ โผฏฐัพพะ รวมหมดทั้ง 4 ซึ่งเป็นภายนอกนะ มีใจร่วมด้วย ก็เป็น 5 ก็เลยอธิบาย อุปาทายรูป 24 อันนี้เหลือ 9 มันไม่เป็น 10 เพราะมันร่วมกันที่ โผฏฐัพพะกับใจ ใจมันรวมกันตรงนี้แหละ ก็เลยหักออกเหลือ 9 คนก็เข้าใจไม่ได้หักออกไปอย่างไร มันก็ต้องหัก เพราะการรู้ มันต้องมีรูปนาม 2 เขาบอกว่าต้องเป็น 10 สิ ท่านตัดให้เหลือ 9 เพราะว่าตาหูจมูกลิ้น มันก็เป็นกายอยู่แล้ว ไม่ต้องนับ โผฏฐัพพะ เป็นกายอีก ก็เลยตัดเหลือ 9

มันต้องมีนามร่วมด้วย ไปตัดได้อย่างไร ถ้าไม่มีใจร่วมด้วยจะไปรู้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นมันจึงต้องหัก 2 หักรูปกับนาม เพราะฉะนั้นถ้าคุณเอาโผฏฐัพพะ ถ้ารวมกับใจอีกหนึ่งก็เป็น 11 คุณต้องหักรูปนามออกคู่นึงมันก็เหลือ 9 อยู่ดี ซึ่งเป็นเรื่องยากไม่ใช่เรื่องเล่น ถ้าไม่รู้จริงจะเมา วนอยู่นั่นแหละ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ต้องดูไปไม่ต้องไปดูไบ วันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2565 ( 12:49:20 )

เหตุที่ปัจจุบันคนไม่เข้าใจการปฏิบัติธรรม

รายละเอียด

เหมือนกันกับทุกวันนี้คนไม่เข้าใจการปฏิบัติธรรมแล้วโดยเฉพาะเรื่องกาย เขาไม่นึกว่ากายนี้จะมีจิตเป็นหลัก คำว่ากายมีจิตเป็นใหญ่ กายหมายถึงจิต มโน วิญญาณ แต่ทิ้งข้างนอกไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นไปหลับตาก็เป็นโมฆะ เพราะไม่เอาภายนอก พวกหลับตาปฏิบัติโมฆะไปหมดทั้งยวง

[163] ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ จรณะนั้นเป็นไฉน วิชชานั้นเป็นไฉนเล่า.

ดูกรอัมพัฏฐะ พระตถาคตเสด็จอุบัติในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลกเป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม

พระตถาคตพระองค์นั้น ทรงทำโลกนี้ พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เองแล้ว ทรงสอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตามทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง คฤหบดี บุตรคฤหบดี หรือผู้เกิดเฉพาะในตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ย่อมฟังธรรมนั้น ครั้นฟังแล้วได้ศรัทธาในพระตถาคต เมื่อได้ศรัทธาแล้ว ย่อมเห็นตระหนักว่า ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี บรรพชาเป็นทางปลอดโปร่ง การที่บุคคลผู้ครองเรือนจะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริบูรณ์ให้บริสุทธิ์ โดยส่วนเดียวดุจสังข์ขัด ไม่ใช่ทำได้ง่าย ถ้ากระไร เราพึงปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ออกบวชเป็นบรรพชิต สมัยต่อมาเขาละกองโภคสมบัติน้อยใหญ่ ละเครือญาติน้อยใหญ่ปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ออกบวชเป็นบรรพชิต เมื่อบวชแล้วสำรวมระวังในพระปาติโมกข์อยู่ ถึงพร้อมด้วยมารยาทและโคจร มีปกติเห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อยสมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ประกอบด้วยกายกรรมวจีกรรมที่เป็นกุศล มีอาชีพบริสุทธิ์ถึงพร้อมด้วยศีลคุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นผู้สันโดษ.

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 38 อัมพัฏฐสูตรและกายในกาย วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 31 สิงหาคม 2565 ( 15:13:18 )

เหตุที่ผู้ที่รู้จักรู้จริงรู้แจ้งแล้วต้องมีการอนุโลมปฏิโลมต่อผู้ที่ยังติดยึด

รายละเอียด

ผู้ที่ยังติดยึดอาศัย สิ่งนั้นเป็นชีวิตก็ต้องอาศัย ส่วนคนที่รู้จักรู้จริงรู้แจ้งแล้ว เราก็ต้องเข้าใจเห็นใจผู้ที่ยังติดอยู่ ส่วนประเภทที่ไม่อนุโลมปฏิโลมเลยตีทิ้ง ก็เลยไม่มีเพื่อน ไม่มีผู้จะเชื่อมจะต่อเชื้อเพิ่มต่ออะไรกับเราเลย เราก็เลยเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบ อยู่ไหนตัวเองก็เป็นสังคมที่แคบ ตัวเองก็แคบไปในอวิชชาของตัวเอง อย่าทำตัวเองเช่นนั้น เราเองเราไม่ติดไม่ยึดเราเข้าใจดีแล้วมีสาระหรือไม่มีสาระมากหรือน้อย เราก็รู้ขั้นตอนลำดับของมันทุกอย่างแล้ว คนอื่นเขาก็ติดยึดไปตามความติดยึดของเขา มันก็เป็นธรรมดาธรรมชาติก็ต้องเข้าใจ เขายังไม่เดียงสา เขายังอ่อนเยาว์ เขายังเป็นคนพาลคนโง่ ก็ต้องช่วยกัน เราเจริญแล้วเราหลุดพ้นแล้วก็ดีแล้ว ก็อย่าไปตัดทิ้งเขาหมดเลย เดี๋ยวจะเหลือตัวเองคนเดียว หัวเดียวกระเทียมลีบไม่มีใครเลย แบบนี้ก็อยู่ในโลกที่ไม่มีใครยอมรับ มันไม่เจริญ พัฒนาอะไรให้เป็นประโยชน์ไม่ได้ เพราะตีเขาทิ้ง จะเอาให้ได้อย่างเรา อย่างเรา คนอื่นอนุโลมไม่ได้ มันก็ไม่ได้เรื่องอะไร

ต่างคนก็ต่างความเห็นกันต่างกันไป คนที่รู้มากก็ยากนาน เพราะเขาก็ไปอยู่ในตระกูลคนรู้มาก คนรู้น้อยก็พลอยรำคาญ ก็ให้รู้พอสมควรแล้วทำให้เสร็จไปเป็นลำดับลำดับ เป็นลำดับลำดาไปเรื่อย ต้องชัดเจนอย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 30 ตำนานพญานาค ตอนที่ 1 วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก  


เวลาบันทึก 31 พฤษภาคม 2565 ( 12:46:24 )

เหตุที่ผู้ปฏิบัติธรรมแบบหลับตาหมดสิทธิ์จะเป็นอภิภู

รายละเอียด

อภิภายตนะ 8 ข้อที่ 1 นั้น ผู้ที่เป็นอภิภู ถือว่ายิ่งใหญ่นะ คือ ปฏิบัติธรรมที่ยิ่งใหญ่นะ ผู้ปฏิบัติธรรมแบบหลับตานั้น หมดสิทธิ์จะเป็นอภิภู หมดเลย เพราะไม่มีอายตนะ ไม่มีผัสสะ  ไม่มีเวทนา หลับตาจึงโมฆะๆๆ จะอธิบายขยายความขนาดไหน ให้เขาฉุกคิด สะดุ้งสะเทือนสำหรับพวกนั่งหลับตา แต่เขาไม่ฟังอาตมา แต่ผู้ที่แสวงหาและไม่มีอคติมากก็ฟัง แล้วสะดุดใจบ้าง แล้วพวกนี้มีหวัง จะเกิดสัมมาทิฏฐิแล้วพัฒนาตนเอง 

ส่วนพวกที่ตีทิ้งอาตมาไม่ฟังแล้ว ก็จบเห่ จมอยู่ในนรกและเดรัจฉาน 2 คติ ไปไหนไม่ได้ พอมีกายแล้ว จึงจะเรียนรู้เวทนาต่อเนื่องกัน ถ้าคุณไม่เรียนรู้กาย คุณไม่ครบภายนอกภายใน ไม่มีสัจจะ ไม่มีทิฏฐธรรม 

ทิฏฐธรรม มีปัจจุบันชาติ ความจริงอยู่ที่ปัจจุบันเท่านั้น อดีตไม่ใช่ความจริงเพราะผ่านไปแล้ว อนาคตยังมาไม่ถึงก็ไม่ใช่ความจริง แค่นี้ก็เข้าใจให้ได้เพราะฉะนั้นคนที่ปฏิบัติธรรมแล้วไม่ได้อยู่กับความจริง ปฏิบัติธรรมอยู่กับอดีต ปฏิบัติธรรมอยู่กับอนาคต แล้วคุณจะได้ความจริงอย่างไร เท่านี้ก็เข้าใจให้ได้เถอะ อย่าไปงมงายโง่เง่า 

เพราะฉะนั้น หลับตา ฟังให้ดีๆ พวกโมฆะบุรุษ เอาหนักนะ เมื่อกายสัมผัสแล้วจึงเกิดเวทนา ขณะที่มีกายด้วย มีเวทนาด้วย เป็นผู้ที่เป็นอภิภู เป็นผู้ที่มีอภิภายตนะ มีทั้งนอกทั้งใน สัมผัสนอกและในก็รู้พร้อมกัน แล้วก็เป็นผู้รู้ รูปภายนอกภายใน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 38 อัมพัฏฐสูตรและกายในกาย วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 กันยายน 2565 ( 14:31:29 )

เหตุที่พญาครุฑเห็นทุกข์ได้ยากกว่าพญานาค

รายละเอียด

ใช่ พญาครุฑ สนุกไปเรื่อย จดบันทึกกับความรู้เพลิดเพลินไปกับความสุข เพราะฉะนั้นก็ไปเตือนสติไม่ค่อยได้ง่ายๆหรอกเพราะว่าไม่ได้เห็นความทุกข์ง่ายๆ ส่วนพวกนั่งหลับตาเห็นความทุกข์ง่ายกว่า มันจะมีเหตุผลของมันอีกเยอะแยะหลายอย่าง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 33 ไม่มีความไม่จริงในสิ่งที่พ่อครูพูดเรื่องโลกุตระ วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2565 ( 15:29:48 )

เหตุที่พระพุทธเจ้าตีทิ้งพระป่าไม่ได้

รายละเอียด

นัยยะที่ละเอียดลออตามที่อาตมาสาธยายตามลำดับจนถึงปัจจุบัน ที่คุณคนนี้

คุณโพธิ์เฮียกว่ามา จะบอกว่าพระป่าเกิดมาพร้อมกับพระพุทธเจ้า เขาก็เกิดมาก่อน แล้วพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาเจอพระป่า แล้วท่านก็มาอธิบายชัดเจนทีหลัง เมื่อท่านเลิกจากลิงลมอมข้าวพอง เป็นตัวของท่านเองแล้ว ท่านถึงจะมาอธิบาย 

ที่สำคัญคือท่านไม่เหมือนโพธิรักษ์ เพราะท่านจะมาตีทิ้งพระป่าเหมือนโพธิรักษ์ไม่ได้เลย ถ้าท่านตีทิ้งก็ไม่มีใครมารับธรรมะ ไม่มีเลย ท่านก็ต้องประนีประนอมไว้ แต่โพธิรักษ์เกิดมาในยุคที่พระพุทธเจ้าได้เกิดมาแล้วศาสนาพุทธเกิดมาจนเสื่อมแล้ว พ. ศ. 2500 กว่าปีแล้ว อาตมาจึงไม่เหมือนพระพุทธเจ้า จึงตีซัดเลย เอาพระไตรปิฎกมายืนยันเลยว่า อันนั้นมันไม่ใช่..จึงไม่เหมือนกัน 

เพราะฉะนั้นอย่าเอาอาตมาไปเทียบกับพระพุทธเจ้าเลย คนละกาละเทศะฐานะ มันย่อมไม่เหมือนกัน ศึกษาให้ดีจะเกิดปัญญา 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับ วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:28:34 )

เหตุที่พระพุทธเจ้าให้อุปัชฌาย์สอนผู้บวชใหม่ให้แยกกายแยกจิต

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าถึงสอน แม้แต่ มาบวชปุ๊บ ให้ อุปัชฌาย์สอนให้แยกกายแยกจิตให้ชัดๆ เป็นธรรมนิยาม 5 ให้ได้ 

ถ้าไม่รู้จักการแยกกายแยกจิตอย่างชัดเจนแล้ว ว่า แยกอย่างไร 

แยกให้รู้ว่า เมื่อใดองค์ประชุมนั้นเป็นอุตุนิยาม เมื่อไหร่เหลือพีชนิยาม เมื่อใดเหลือจิตเป็นจิตนิยาม จึงจะปฏิบัติกรรมนิยาม ธรรมนิยาม ต่อไปได้ 

ถ้าเข้าใจว่า แยกอุตุ แยกพีชะ แยกจิตไม่ได้ มาปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้า ไม่บรรลุอรหันต์หรอก ไปไม่รอด ไปไม่ได้ อุปัชฌาย์บวชให้ก็บวชมาแค่นั้น ถ้าไม่เข้าใจ 

เพราะฉะนั้นแม้แต่อุปัชฌาย์เองทุกวันนี้ก็ไม่ได้เข้าใจ แยกอุตุ แยกพีชะ แยกจิตไม่ได้ ล้มเหลวไปทั้งกระบวน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ 8 ประการในชาวอโศกบุญนิยม วันพุธที่ 12 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2565 ( 21:36:12 )

เหตุที่พ่อครู อยากยังไม่ตาย

รายละเอียด

อยากยังไม่ตาย ถ้าได้ตายมันก็จะว่างกว่า อย่างที่พูดไปแล้วมันอยากจะตาย แต่มันยังตายไม่ได้ ตายไม่ลง เห็นตาดำๆ ก็ฝืนไป มันเป็นการพิสูจน์สัมประสิทธิ์ของพระพุทธเจ้าด้วยว่า จะพยายามใช้อิทธิบาท อยากอยู่ยืดอายุขัยไปอีก ที่พระพุทธเจ้าบอกว่าอานนท์ เราจะยืดอายุขัยไปอีก ถึงกัปหรือเกินกว่ากัปก็ได้ แต่เราพอแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 33 ไม่มีความไม่จริงในสิ่งที่

พ่อครูพูดเรื่องโลกุตระ วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2565 ( 14:45:37 )

เหตุที่พ่อครูต้องบอกว่าเป็นผู้บรรลุธรรม เป็นสยังอภิญญา เป็นอรหันต์ เป็นพระโพธิสัตว์

รายละเอียด

อาตมาอธิบายไปหลายทีแล้วว่า อาตมาจำเป็นต้องบอกว่าอาตมาเป็นผู้บรรลุธรรม เป็นสยังอภิญญา เป็นอรหันต์ เป็นโพธิสัตว์ จำเป็นต้องพูดเพราะศาสนาพุทธเดี๋ยวนี้เขาไม่รู้เรื่องเหล่านี้แล้ว เขาไม่รู้จักการบรรลุธรรม เขาไม่รู้จักการเป็นอรหันต์ เขาไม่รู้จักการเป็นโพธิสัตว์ เขาไม่เชื่อด้วยซ้ำไปว่าจะมี ยิ่งมาอธิบายว่าเป็นทั้งอรหันต์ เป็นทั้งโพธิสัตว์ เขายิ่งไม่รู้เรื่องใหญ่ เพราะมันเสื่อมไปจริงๆ เลยศาสนาพุทธ อาตมาต้องพูด ต้องบอกว่า ตัวเองนี่แหละ มีธรรมะอรหันต์โพธิสัตว์ มีจริงๆ แล้วยืนยันอธิบายเอาพระไตรปิฎกมาขยายความมายืนยันด้วยหลักฐานอ้างอิง แล้วพาพวกคุณปฏิบัติ บรรลุธรรมเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ยืนยันจริงๆ อรหันต์ มีแต่ในชาวอโศกนี่แหละ ที่อื่นไม่มี ที่อื่นมีแต่อรหันต์เก๊

ขออภัยที่พูดความจริง ตั้งใจฟังด้วยดีจะเกิดปัญญา สุสูสัง ลภเต ปัญญัง ไม่งั้นก็จะมีแต่ เฉโก ความฉลาดแบบโลกโลกีย์ซึ่งปัญญานั้นเป็นความฉลาดแบบโลกุตระ อธิบายไปมากมายก็ยังยากที่จะเข้าใจ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 42 อรหันต์คือมนุษย์พืชที่มีกายแต่ไม่มีกาย วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 กรกฎาคม 2565 ( 08:58:54 )

เหตุที่พ่อครูต้องประกาศนานาสังวาส

รายละเอียด

อย่างทักษิณตอนนี้ถ้าแน่จริงแล้วทำไมต้องหลบลี้หนีหาย ตนเองกลัวที่จะต้องมาเปิดเผย รับวิบากตนเอง แม้แต่ทางการเมืองก็ถูกพิพากษาลงโทษติดคุกไปแล้ว เหมือนกันเลยสำหรับเส้นทางพี่ชายและน้องสาว ทางด้านธัมมชโยก็เป็นรูปรอยเดียวกัน เป็นแต่เพียงเขาชะลอไว้เท่านั้นเอง ก็คงจะเกรงใจมากกว่าเห็นว่าเป็นพระเป็นเจ้า ที่จริงเป็นปาราชิกไปแล้ว โลกทุกวันนี้มันสับสนจริงๆ สิ่งที่มันไม่ถูกต้อง เละเทะ แล้วก็อยู่กับความเละเทะ อาตมาบอกตรงๆว่าสะอิดสะเอียนจริงๆ ก็เลยบวชแล้วอยู่ด้วยกับทางเถรสมาคมไม่ไหว ก็เพราะมันเน่า ก็เลยลาออกมาด้วยความจริงใจ อาตมารู้ตัวว่าไปทำอะไรในวงการศาสนากระแสหลักของเถรสมาคม อาตมาถ้าอยู่ต่อไปทำงานไม่ได้ มาบวชแล้วทำงานไปพอสมควร 4 ถึง 5 ปี บวช 2513 พอ พ.ศ.2518 ก็ประกาศแยกตัว เป็นนานาสังวาสแล้ว แต่เพราะความขี้โกงของเถรสมาคม ก็เลยฟ้องร้องเราทำให้เสียเวลาอีก แต่อาตมาก็ทำงานต่อสู้ไปด้วยสัจจะ เอาความจริงเข้าต่อสู้ จนกระทั่งทุกวันนี้ถือว่า สบายแล้ว ทำงานไปได้ตลอด จนกว่าจะตาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 11:18:41 )

เหตุที่พ่อครูต้องพูด แรง ชัด เข้มแข็ง จริงจังมั่นใจ

รายละเอียด

อาตมาอธิบายหรือพูดอะไรพวกนี้แรงชัดเข้มแข็ง จริงจังมั่นใจ เพราะฉะนั้นจะไม่เหมือนกับคนที่ไม่เข้มแข็งยังไม่ชัดเจนไม่หนักแน่น จะไม่เหมือน คนที่มีลักษณะจริงจังจริงใจหนักแน่น เปรี้ยงๆๆแล้ว จะเป็นลักษณะอย่างที่อาตมา แต่คนที่ยังไม่มั่นใจยังไม่ค่อยเต็มที่ยังไม่ค่อยจะคมแม่นเต็ม ก็ไม่ออกมาอย่างอาตมา มันเป็นธรรมชาติธรรมดา แต่คุณจะพูดในเชิงชมก็ว่าไป แต่อาตมาว่าทำอย่างนี้ดี มันแน่นหนักเปรี้ยงๆ มันชัดเจนดี แต่คุณไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ก็ขออภัยที่ทำสิ่งที่คุณไม่ชอบใจ 

 อายตนะ  ต เป็นตัวต้น ของวรรค ต ถ ฐ ท ธ น  

น เป็นตัวปลายของวรรค ต 

ตน ก่อนจะมาเป็นตนะ เป็นตัวครึ่งๆยังไม่เต็มคำ  ฏ ฐ ฑ ฒ ณ 

รากเหง้าของภาษาบาลี 

วรรคที่ 1 ก ข ค ฆ ง

วรรคที่ 2 จ ฉ ช ฌ ญ

วรรคที่ 3 ฏ ฐ ฑ ฒ ณ

วรรคที่ 4 ต ถ ท ธ น

วรรคที่ 5 ป ผ พ ภ ม

เศษวรรค ย ร ล ว ส ห ฬ อํ

 วรรค ก เป็นพยัญชนะบอกสภาวะเริ่ม อะไรก็เริ่มมาก็มีสิ่งที่มี เรียกว่า ก 

ข คือ ว่าง ถ้าไม่ว่างก็เริ่มต้นมีต่อ ก็คือ ค

ค ก็คือดำเนินไป โคจร คมนาคม ออกไป ก็เป็นเรื่องของการดำเนิน เคลื่อนไหว เป็น dynamic

ฆ เป็นตัวจับตัว ไม่ใช่เคลื่อนไหว เป็น static 

ง ทั้งโง่ งอน แง่น งก ทั้งงาม เงื่อน สารพัดความดัดจริต กระบวนท่าอะไร อยู่ใน ง.งู หมด 

วรรค ต ครบครันในกระบวนการมนุษยชาติ 

วรรคที่ 2 จ ฉ ช ฌ ญ คือธาตุรู้ คือปัญญา คือความสว่างไสว จ ฉ ช ฌ ญ เริ่มต้นกระบวนแถว 1 แล้ว แถว 2 คือ ธาตุรู้ ความมีปัญญา เป็นอาการของมนุษยชาติที่มีรูปนาม มีจิตนิยาม เป็นธาตุรู้ มีตัวนี้เป็นตัวชี้บ่ง จ ฉ ช ฌ ญ 

ฉ แปลว่า 6 คือ 6 ทวาร

จ ก็แจ้งๆ กระจะกระจ่างนี่แหละ 

ช คือรู้ ปรีชา คือรู้รอบ ปริ  ชานติ รู้ 

ฌ คือรู้อีกเหมือนกัน ล้างสิ่งไม่รู้ออก ให้รู้กระจ่างๆ ให้รู้สะอาดๆ สิ่งที่เกิดจาก ฌาน เป็นธาตุรู้ที่เผาความไม่รู้ออกไป 

ญ คือ ปัญญา ญาณ รู้ ถึงค่อยมาหยั่งลง ครึ่งหนึ่งก็คือ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ 

พอเต็มตัวก็คือ วรรคที่ 4 ต ถ ท ธ น เลย

เสร็จแล้วก็เต็มที่เลยทีนี้ เมื่อเกิดแล้ว จนกระทั่งมีปัญญา จนมาตั้งลงมั่นเลย ต.เต่าก็ดำเนินไป

วรรคที่ 5 ป ผ พ ภ ม 

ม คือจิตธาตุเต็มตัวเลย ป คือเริ่มต้น ตั้ง เป็นธาตุรู้เป็นตัวตนอยู่ในนี้ 

ผ คือโผฏฐัพพะ หรือผัสสะ ที่จะรับกระทบปฏิกิริยา 

พ คือ พฤติ พฤติการณ์ ประพฤติ

ภ คือเจริญ

ม รวมเป็นจิตธาตุเต็มที่เลย มนะ มโน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ งานอโศกรำลึก 2565 อภิภายตนะ 8 ตอน สังคมสาราณียธรรมที่จริงยิ่งกว่ายูโทเปีย วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2565 ( 13:35:04 )

เหตุที่พ่อครูต้องย้ำยืนยันความเป็นอรหันต์หรือโพธิสัตว์

รายละเอียด

อาตมาบอกว่าเป็นอรหันต์ เป็นโพธิสัตว์ระดับไหน ยิ่งใหญ่ขนาดไหนอย่างไร อาตมาย้ำยืนยันเพราะว่า ต้องการให้รู้ครบทั้งภาษาหยาบ ทั้งภาษาละเอียด และแสดงออกตามความเป็นจริงของอาตมา และให้ครบๆ เลยว่า แรงก็แรงด้วยให้เห็นเลยว่าแรง แต่แรงออกไปนี้ไม่มีจิตอกุศลเลย จิตอกุศลแม้แต่เล็กแต่น้อยก็ไม่มี ซึ่งมันเป็นสภาพย้อนแย้งว่า แสดงออกก็แรง ธรรมะพระพุทธเจ้าจะต้องไม่แรง แรงไม่ได้ ซึ่งไม่จริงหรอก แรงก็คือแรง มันตรง ถ้าอันนี้มันแรงก็แสดงออกอย่างแรงให้เห็น อันนี้มันกลางๆ ก็แสดงออกกลางๆให้เห็น ถ้าอันนี้มันเบาก็แสดงออกเบาให้เห็น ตรงทั้งนอกทั้งในทั้งตัวมันเอง มันจะได้ไม่งง ไม่สับสน ทุกอย่างตรง อาตมาเป็นคนตรง มันยากตรงนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 31 วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 20:53:14 )

เหตุที่พ่อครูต้องแยกออกมาเป็นนานาสังวาส

รายละเอียด

ยิ่ง นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะฉะนั้น อาตมาบวชกับเขาจึงอยู่ร่วมไม่ได้จึงขอแยกออกมาเป็นนานาสังวาส เพราะว่ามันยิ่งกว่าสิ่งหมักหมมเน่าเหม็นที่อยู่กัน ขออภัยที่พูดความจริง อาตมาอยู่ร่วมไม่ได้ นี่เป็นสัจจะ จึงต้องขอแยกออกมา ทั้งที่ไม่ได้อยากจะแยกเลย อยากจะให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวกันแต่ความจริงมันยังไม่เป็น ก็ต้องยอมรับความเป็นจริงมันเป็นอย่างนั้น ไม่อยากให้ฉีกเนื้อความเป็นไทยร่วมกันให้ออกไปเลย แต่เมื่อมันเป็นแผลมีความเน่ามันเสียแล้ว จำเป็นต้องตัดเอาเนื้อเน่าเสียออก ไม่งั้นจะมาลุกลาม เราก็จะเน่าเสียไปด้วย ทำเนื้อแท้ไปไม่ถึงไหน ก็จำเป็นต้องประกาศนานาสังวาสในวันที่ 6 สิงหาคม 2518 บวชมาได้ 5 ปี บวชพ.ศ. 2513 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 39 พุทธานุสสติ และอัมพัฏฐสูตร วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 17:27:00 )

เหตุที่พ่อครูเห็นใจท่านประยุทธ์

รายละเอียด

แต่นี่ท่านเป็นกระแสหลัก อย่างพระพุทธเจ้าในยุคของท่านก็เป็นโลกุตระกระแสหลัก สังคมสงฆ์ไม่มีใครมี ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เสพโลกียสุข อย่างที่เป็นทุกวันนี้เลย 

พูดไปแล้วก็เห็นใจเหมือนกันนะ อาตมาก็เห็นใจท่านอยู่ว่า แหม ท่านก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ท่านที่เข้าใจก็เข้าใจจริงๆ แต่มันสุดวิสัยที่จะแก้ ที่จะเปลี่ยนแปลง จะทำอะไรได้  

ผู้ที่ท่านไม่มีอคติฟังอาตมาพูดแล้วก็รู้สึกตัวอยู่ แต่ว่ามันไม่รู้จะทำยังไง ส่วนที่ท่านเห็นแย้ง ท่านก็แย้งๆๆ โอ้โห แย้ง 

ผู้ที่แย้งอย่างแสดงออกมามากที่สุด ทั้งแสดงออกต่างๆนานา ทั้งเขียนเป็นหลักฐานก็คือท่านมหาประยุทธ์ หรือสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ในบัดนี้ ท่านทำ

มีคนเอาไปถ่ายเอกสาร หนังสือที่ท่านเขียน 4-5 เล่มมาให้อาตมา เพิ่งได้มา อาตมาก็ลองมาอ่านทวนดู โอ้โห อ่านแล้วก็เออ เห็นใจท่าน ท่านเข้าใจจริงๆอย่างนั้น ถึงเห็นใจท่านเลย ท่านเข้าใจ ท่านยึดถืออย่างนั้นจริงๆ 

จะบอกว่า ท่านไม่หลง ท่านก็ไม่หลงหรอก ท่านรักสนิท รักแนบแน่นกับที่ท่านเข้าใจ ที่ท่านเชื่อถือ  แต่เราก็เห็นว่าท่านไปหลง เหมือนกับผู้ชายคนหนึ่งมีเมียสองคนก็ไปหลงมีอีกคนนึง ขออภัยเปรียบเทียบที่ไม่ค่อยน่าดู น่าเกลียดหน่อย มันปฏิภาณไม่ดี คิดอุทาหรณ์เปรียบเทียบอย่างอื่นยังไม่ทัน  เอ้า ผ่าน 

เห็นแล้วก็น่าสงสารท่าน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อาตมาก็พยายามทำแล้วก็พิสูจน์ตามหลักฐานพระพุทธเจ้าที่ตรัสเตือนเอาไว้ เช่น กลองอานกะ ในอาณีสูตร เป็นต้น พระพุทธเจ้าพยากรณ์ว่าศาสนาพุทธจะเสื่อมลงไป โลกุตระที่ท่านตรัสไว้จะหายไป แต่จะมีคำสอนใหม่ที่ไพเราะน่าฟัง มีเหตุผลอะไรต่างๆนานา อย่างที่ท่านเรียบเรียงตำรา พยายามแปลไป ท่านแปลของท่าน ท่านก็ว่าถูกแล้ว ท่านก็ว่าอาตมาแปลผิด ต่างคนต่างชี้หน้าว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิด 

ก็เห็นใจท่าน แล้วท่านเป็นส่วนมาก คนที่เข้าใจกันขนาดอย่างท่าน ระดับอย่างท่าน ความหมายอย่างท่าน มันเป็นโลกๆ เป็นโลกียะ มันก็เข้าใจง่ายสิ 

โลกุตระมันเข้าใจยาก คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) . ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น)   (พตปฎ. เล่ม 9  ข้อ 34) 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้โลก 9 แบบ จนเป็นมนุษย์พืชมหัศจรรย์ วันพุธที่ 19 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2565 ( 04:45:15 )

เหตุที่พ่อครูเอาเพลง Imagine มาใช้

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มาศึกษาสัจธรรม ที่สุดยอดของมนุษย์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว มันไม่คลี่คลาย ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอยู่อย่างนั้น แต่ถ้ามาศึกษาดีๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากเบื้องต้น-ท่ามกลาง-บั้นปลาย ไปตามลำดับดีๆ ต้องเรียนรู้ เบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย

ต้องเรียนรู้ เบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย นี้ก็สำคัญๆ ผู้ที่ไม่บรรลุธรรมทุกวันนี้ ก็ไปหลงเอาแต่ยอด ไม่มีเบื้องต้น ไม่มีท่ามกลาง จะไปเอายอดๆ แล้วก็ไม่รู้ตัว ยอดภูเขาเอเวอเรสต์ ต้องการพิชิตมัน แต่ไม่รู้ต้นและกลาง มันต้องสมบุกสมบันยากเข็ญแค่ไหนก็ไม่เอา คิดเอาหวานๆ เหมือน Imagine จินตนาการ จะเอาแต่ยอดๆๆ ฝันเพ้อ เพราะฉะนั้นคนที่ฝันเพ้อนี่ เยอะ 

อาตมาเอาเพลงนี้มา เพราะจะเอามากระตุกพวกฝันเพ้อ เอาแต่อยู่กับฝันเฟ้อๆ นี้ รู้มาก รู้สวย เข้าใจอะไรเยอะ แต่ตัวเองไม่ลงมือ ไม่ประพฤติให้มันถึง เป็นเบื้องต้น ละลดไอ้สิ่งที่มันเป็นเรื่องต้นๆ ลาภ ยศ สรรเสริญ

ลาภ ยศ สรรเสริญ นี้ มันเป็นอันตรายแสบเผ็ด แม้พระขีณาสพเผลอไม่ได้ อันนี้เตือนพระขีณาสพเลย เผลอไม่ได้ เผลอมันเล่นงานเอาแสบเผ็ดจริงๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลก 10 แบบ ที่ไม่ใช่แค่ Imagine ตอนที่ 1 วันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 พฤษภาคม 2565 ( 08:57:02 )

เหตุที่พ่อครูไม่แปลกใจที่คนไม่รู้ว่าท่านมาทำอะไรให้แก่มนุษยชาติอยู่

รายละเอียด

อาตมาเองอาตมาไม่แปลกใจที่คนไม่รู้ว่าอาตมาทำอะไรอยู่ พาทำอะไร อาตมาขอยืนยันว่าพาทำในสิ่งที่ดี สิ่งที่วิเศษ แต่เขาไม่รู้ว่าวิเศษอย่างไรวะ ไม่เห็นรู้เรื่อง ไม่เห็นเข้าใจ มันก็เป็นอย่างนั้น อาตมาไม่ได้แปลก ไม่ได้ประหลาดใจ ไม่ได้งง ไม่ได้สงสัยว่าทำไมเขาไม่รู้ ก็จะไปบังคับเขาได้อย่างไรเขายังรู้ไม่ถึง พูดไปแล้วก็เหมือนกับยกตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นความจริงอย่างนี้ เพราะฉะนั้นแม้จะไม่มีคนรับรองว่าอาตมาทำสิ่งที่ดีสิ่งที่ประเสริฐ มันก็ไม่แปลก คนเขาไม่รู้ว่าอันนี้ดีหรือไม่ดี เขาไม่เข้าใจ แต่พวกคุณเข้าใจ คุณก็มาเอาๆ ไล่ก็ไม่ไป นอกจากคุณจะเลวมาก ไล่ก็ไม่ไป จนต้องเอาตำรวจมาเอาออกไป แบบนั้นมันก็มีไม่มาก คนดื้อด้านดึงดันขนาดนั้นจนเราต้องอาศัยตำรวจมาดึงออกไป มันก็ไม่มีนะ 

มันซ้อน คนดีเท่านั้นที่จะมาอยู่ในนี้ เพราะฉะนั้นคนที่มีสำนึกประมาณหนึ่ง เข้ามาในนี้เขารู้ว่าเขาไม่ดีพอเขาก็จะไปเอง ไม่ต้องถึงขั้นเอาตำรวจมาไล่มาลากออกไป เพราะปฏิภาณปัญญาของเขาจะสูงพอที่จะไม่ทำถึงขนาดนั้น มันน่าอาย ฉะนั้นคนที่จะอยู่ได้ อย่างอดทน ถึงขนาดดึงดันดื้อด้านต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจทางสังคมมาดึงออกไป ไม่ต้องถึงขนาดนั้นในสังคมชาวอโศก ยังไม่มีกรณีถึงขนาดนั้น เป็นสภาวะที่ซับซ้อนลึกซึ้ง ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นสิ่งที่ประเสริฐสิ่งที่สูงส่ง จะมีธรรมะคุ้มครองตน ธัมโมหะเวรักขะติธัมมะจาริง ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ไม่มีภัยจะเข้าถึงตัวเขาได้ง่ายๆหรอก ไม่มีความไม่ดีหรือความเลวร้ายเข้ามาถึงตัวได้ง่ายๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 35 จิตวิญญาณแห่งสาธารณโภคีที่มีในชาวอโศก วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2565 ( 14:42:54 )

เหตุที่มนุษย์ต้องฆ่ากัน

รายละเอียด

เมื่อมาเข้าใจได้ลึกซึ้งขึ้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆทีเดียวนะ พูดไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่คนจะเข้าใจ เขายังหลงทำอยู่ เขายังถอดถอนตัวเองเลิกทำไม่ได้ ยิ่งไปบอกพวกคิม จอง อึน หรือบอกพวกสหรัฐอเมริกา แม้แต่รัสเซียก็ตาม ส่วนจีนเขาก็ไม่อวดศักดาเท่าไหร่ อินเดียไม่เลย ถ้าขืนอินเดียกับจีนแข่งกันสร้างอาวุธกันอย่างเต็มที่เหมือนอย่างเกาหลีเหนือ เหมือนอย่างสหรัฐ คนเป็นพันล้าน มันสร้างขึ้นมาก็หาเรื่องใช้ หาเรื่องขาย หาเรื่องให้คนทะเลาะกันจะได้ขายอาวุธ คิดดูสิ มันเป็นเหตุให้มนุษย์จะต้องฆ่ากัน อาวุธเมื่อไม่ได้เอามาใช้จะขายออกได้อย่างไร ซึ่งมันเป็นเหตุเป็นผลกันทั้งนั้นเลยมนุษย์ชาติ 

เพราะฉะนั้นสังคมใดที่เข้าใจและเลิกมาได้อย่างสังคมพวกเรา ชัดเจน ไม่ต้องเสียเวลาแรงงานความรู้ความสามารถที่จะต้องไปสร้างอาวุธพวกนี้เลย สร้างแค่มีดมาปลูกผักปลูกพืช ใช้มีดพร้ากระท้าขวานสำหรับทำงานเป็นเครื่องใช้กินใช้ เท่านั้นก็หนักหนาสาหัส ยังเอามีดพร้ากระท้าขวานไปฆ่ากันตายเลย ทั้งๆที่ไม่ได้ไปสร้างให้เอาไว้ฆ่ากันนะ มันก็เอาไปฆ่ากันแทนไม้หน้าสามบ้าง แทนหลาวแหลน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของศีลที่พ่อครูเอามาสถาปนา วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 7 ค่ำเดือน 3 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 18:30:14 )

เหตุที่ยังมีการทะเลาะกันอยู่

รายละเอียด

เพื่อนกันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง ทะเลาะกันไม่รุนแรง ผู้ใหญ่จึงพยายามสอนอย่าให้ทะเลาะกัน มีการกระทบกระเทือนกระทบกระทั่งกันบ้างนิดๆหน่อยๆเป็นธรรมชาติ เพราะว่าคนเรายังมีกิเลส ยังถือเนื้อถือตัว ถือศักดิ์ศรีถือความคิดความเห็นอะไรก็แล้วแต่ ก็จะต้องมีความถือดี แย่งกัน ทะเลาะกันนิดๆหน่อยๆเป็นธรรมดา ถ้าไม่บรรลุสูงสุดเป็นพระอรหันต์ก็ยังจะมีการทะเลาะกับคนอื่นอยู่ แม้แต่เป็นอนาคามีก็ยังมีเล็กๆน้อยๆ แต่ก็น้อย อนาคามี สกิทาคามี ยิ่งถ้าเป็นพระโสดาบันก็ปากออกเยอะ จิ้มคนนั้นคนนี้อีกเยอะเป็นธรรมชาติ ก็มาเรียนรู้ลดกิเลสแล้วจะได้ไม่ทะเลาะกัน ดีแล้วล่ะมาอยู่ที่นี่และได้ศึกษาเรื่องนี้ ศึกษาและปฏิบัติตนเราจะได้ไม่ทะเลาะ อยู่ด้วยกันอบอุ่น ยังชาวอโศกอยู่ด้วยกันแม้จะมีทะเลาะกันก็เล็กๆน้อยๆไม่เหมือนข้างนอกเขาทะเลาะกันเอากันตาย ทะเลาะกันรุนแรงแต่ชาวอโศกไม่ แต่เขารู้สึกว่ายังมีการทะเลาะกัน นี่คือความรู้สึกของพวกเรามันยังไม่สงบ ยังมีการทะเลาะกัน แสดงว่าเรามีปัญญา 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 10:34:31 )

เหตุที่ยุคนี้สงฆ์ยึดวินัย 227 แทนยึดศีลในพรหมชาลสูตร

รายละเอียด

นี้อาตมาก็อ้างของพระพุทธเจ้ามาแต่ต้น จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังอ้างอยู่ ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่เรื่องตื้นๆ 

ในพรหมชาลสูตร ท่านบอกว่า ศีลเป็นขั้นต่ำ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนจะเข้าใจศีลได้ง่ายๆอย่างนี้เป็นต้น แล้วก็ปฏิบัติศีลกันไม่รอด ทุกวันนี้ก็ไม่มีศีลแล้ว ยึดได้แค่วินัย 227 อย่างนี้เป็นต้น ก็เป็นหลักฐานยืนยันอยู่ จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล หากไม่มียืนยันในพระไตรปิฎกอาตมาก็ตาย ถูกฆ่าตายไปแล้ว 

แต่ยังมีหลักฐานร่องรอยของศาสนาว่า ศีล จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล คือศีลของเธอประการหนึ่งภิกษุทั้งหลาย ท่านก็แปลไว้ในพระไตรปิฎกเอง เป็นสำนวนของท่านก็ชัดเจนอยู่ 

มาไล่มาเรียงกัน โดยเฉพาะมหาศีล ผิดกันหมด เป็นเดรัจฉานวิชา ท่านก็ไม่รู้จักเดรัจฉานวิชา เอาง่ายๆ ที่ท่านไปเรียนดอกเตอร์ ทางวิชาพุทธศาสนา มาจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เป็นดอกเตอร์ จบปริญญาเอกทางพุทธศาสนาจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เป็นเทวนิยม หรือจะมีบางคนเป็นอเทวนิยมหรือแบบพุทธก็ตาม ก็เขาอยู่ในแดนของเทวนิยมแม้จะเป็นอาจารย์ก็ตาม มันก็ได้มาอย่างที่เรียกว่า คนเขาไม่ได้เป็นเนื้อแท้ ซึ่งมันไม่ใช่ตื้นๆ เอาฉาบๆ เอาความรู้นั้นมาสอน แล้วก็ไปได้ปริญญาเอกมา ก็นึกว่าเป็นผู้ที่รู้จักศาสนาพุทธดี เขาจบด็อกเตอร์นะ ปริญญาเอกนะ จากมหาวิทยาลัยใหญ่ของโลกเชียวนะ ซึ่งมันง่ายที่ไหนอย่างนี้เป็นต้น 

ถ้าจบดอกเตอร์จากประเทศไทย มหาวิทยาลัยสงฆ์ของไทย เออ ยังพอทำเนา แต่ก็เถอะ อาตมาว่า น่าจะมาจบดอกเตอร์ที่ชาวอโศกนี่ แต่เราก็ไม่ได้ตั้ง ปริญญาตรีเราก็ยังตั้งไม่ค่อยสำเร็จเลย แม้แต่แค่วิทยาลัย มหาวิทยาลัย ปริญญาตรีก็ยังประสาทไม่ได้เลย เราก็พยายามอยู่ แต่มันไม่ได้ เราก็ไม่ได้ขวนขวายอะไรต่อไป ช่างมันเถอะ ไม่เป็นไร เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมาย แต่เราเอาเนื้อแท้ความรู้ความจริงที่ปฏิบัติบรรลุได้ในพวกเรา อาตมาก็พอใจอย่างนี้ อาตมาก็ไม่ขวนขวายหรอกเรื่องนั้น เรื่องที่จะต้องไปเป็นสถาบันประสาทปริญญาตรีโทเอก 

ไม่ขวนขวาย เพราะพวกเรามีไปเรียนปริญญาตรีโทเอกในแขนงต่างๆ หรือแม้แต่แขนงพุทธก็ตามจากที่ท่านสอน ได้ปริญญาตรีโทเอกกันมา เรียนได้มาแล้วก็เอาประดับไว้ ให้รู้ว่าอย่างที่ท่านรู้นั้น เราก็ไปเรียนมา ไม่ใช่ว่าเราเองหมาเห็นองุ่นเปรี้ยว คงไม่รู้จักองุ่นเปรี้ยว ไม่เคยลิ้มลองรสองุ่นเปรี้ยวเลย ก็เลยไปว่าองุ่นของเขาว่ามันเปรี้ยว ซึ่งที่จริงองุ่นเขาหวานนะ เหมือนหมาเห็นองุ่นเปรี้ยว มันก็ไม่ใช่ เราเคยกินองุ่นมาจนท้องกางแล้ว รสองุ่นเป็นอย่างไร เราก็ไม่ใช่หมาเห็นองุ่นเปรี้ยวซะหน่อย  

นี้แหละ ในโลกนี้ ก็มี 2 อย่างสุดท้าย คนหนึ่งมองเห็นดวงดาวอยู่พราวพราย อีกคนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คำพังเพยเต็มว่า “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนหนึ่งตาแหลมคมเห็นดวงดาวอยู่พราวพราย” มันก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ 

ส่วนใครจะเข้าใจอย่างไร ก็อยู่ที่แต่ละบุคคลจะเข้าใจเอง ตัดสินเอง รู้เอง เป็นเจ้าของความรู้ เห็นอันใดเป็นธรรมวาที สุดท้ายมันก็มี 2 ความ ให้ฟังความทั้งสองฝ่ายอย่างดีแล้วเอาไปปฏิบัติพิสูจน์เลย สุดท้ายตัดสินเอง เห็นอะไรเป็นธรรมวาที เห็นคำพูดคำสอนว่ามันเป็นธรรม เราก็เลือกเอาเองอันนั้น ส่วนอีกอันหนึ่งมันไม่ใช่ เราก็เข้าใจเอาว่ามันไม่ใช่ อย่างนี้เป็นต้น 

วันนี้มาเรียนเรื่องโลก 9 แบบ ไม่ได้เรียงชั้นแต่มันมีแตกต่างกัน 9 แบบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้โลก 9 แบบ จนเป็นมนุษย์พืชมหัศจรรย์ วันพุธที่ 19 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2565 ( 04:50:31 )

เหตุที่ศาสนาพุทธเสื่อม

รายละเอียด

ศาสนาพุทธเสื่อมเพราะไปติดบัญญัติภาษาพยัญชนะ ติดความรู้ ไม่ลงไปถึงความจริง ที่เข้าไปถึงจิต เจตสิก รูป นิพพาน แยกเจตสิกโดยเฉพาะไปถึงแยกเวทนา 

เวทนาเจตสิก ซึ่งเป็นตัวเจตสิกตัวแรก จากรูป มาเป็นนาม นามก็คือจิต เจตสิก นามตัวแรกคือ เวทนา แต่ก็ลงไม่ถึง สัญญาก็ยังไม่เข้าใจถูกต้องเท่าไหร่ สังขารก็ยังเข้าใจไม่ถูกต้องเท่าไหร่ ยิ่งวิญญาณยิ่งไม่รู้เรื่องเลย 

จะรู้จักวิญญาณต้องรู้จักตั้งแต่สภาพ 2 ตื่นรู้จักนามรูป ก็ไม่รู้ ความเป็นสองความเป็นนามรูปก็ไม่รู้ 

ขยายความความเป็นสองจิตวิญญาณคือกาย กายคือ รูปนอกรูปในก็ไม่รู้ หลงผิดไปเอาแต่จิต จิตเป็นประธาน ก็เรียนแต่รูปใน รูปนอกไม่เอา งมงายอยู่แต่ในรูปใน เป็นสัมภเวสีไปอีก อาตมาจึงเหนื่อย ยังเหลือแต่จะหน่ายเท่านั้น ถ้าหน่ายเมื่อไหร่ก็ไม่เอาเลิกแล้ว แต่ตอนนี้ก็พยายามไม่ไปถึงตรงนั้น เหนื่อยก็พัก พยายาม นี่อย่างตอนที่เดินเข้ามาตรงนี้ทางโน้นก็บอกว่าสู้ๆ เราก็สู้ๆ มีผู้เชียร์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลก 10 แบบ ที่ไม่ใช่แค่ Imagine ตอนที่ 1 วันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 พฤษภาคม 2565 ( 09:18:12 )

เหตุที่เกิดศาสนาเดา

รายละเอียด

สรุปว่า เพราะไปเข้าใจผิดว่าผู้บรรลุแล้วบอกตัวเองว่าบรรลุไม่ได้ จนกระทั่งมีปราชญ์ในเมืองไทยบอกไว้ว่า ผู้ที่บอกว่าตัวเองบรรลุ ผู้นั้นไม่บรรลุ บอกว่าอย่างนี้เลยซึ่งขัดแย้งกับคำสอนพระพุทธเจ้าที่กล่าวใน โลหิจสูตรหรือ อภิณหปัจเวกขณ์ ข้อที่ 10 ซึ่งมันตรงกันข้ามไปหมด เมื่อมีความเข้าใจผิดกันมา และเป็นความซับซ้อนของคน คือ คนที่ไม่บอกไม่อยากให้ใครมาบอกว่าตัวเองบรรลุหรอก เพราะฉะนั้น มันจะมีข้อเปรียบเทียบขึ้นมา เราก็ทำทีว่าเราเป็นอรหันต์ แล้วบอกว่าผู้บรรลุแล้วไม่บอกใครหรอก เพราะว่าบอกว่าพูดแล้วจะเกิดการเปรียบเทียบ บอกว่าตัวเองเป็นอรหันต์ 

ทีนี้อย่างอาตมาบอกว่าตัวเองเป็นอรหันต์ กับผู้ไม่กล้าบอกว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ก็เพราะว่าท่านไม่กล้า ท่านจึงพูดว่าพูดกันว่าเป็นอรหันต์แล้วบอกไม่ได้ เพราะคนบอกว่าตัวเองเป็นอรหันต์แล้ว ปาราชิกเลยนะ แม้จะมีคุณธรรมเป็นอรหันต์จริง ก็บอกไม่ได้ บอกอ้างไปในพระวินัยเลย ขืนบอกกับฆราวาส บอกกับอนุปสัมบัน แล้วผู้นี้เข้าใจอนุปสัมบันแค่ตื้นๆว่า ผู้บวชเพียงพิธีกรรม ไม่เข้าใจอนุปสัมบันว่า ผู้ไม่มีภูมิธรรมจะรับได้ต่างหาก เช่น ไปบอกว่า เราบรรลุอรหันต์กับเด็กๆ กับผู้ที่ไม่ประสีประสา พูดไปทำไม ผู้ที่มีภูมิธรรมสามัญก็รู้อยู่แล้วว่าพูดไปทำไม มันเหมือนพูดกับเด็กๆ พูดกับคนไม่รู้เรื่อง อวดตัว ว่าตัวเองเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ แล้วเด็กเขาไม่รู้เรื่องเลย ว่า มันสูงส่งขนาดไหน มันดีอย่างไร พูดไปให้เสียแรงเสียเวลาเสียน้ำลายไปเปล่าๆก็เท่านั้นพูดไปทำไม แค่ปฏิภาณไหวพริบแค่นี้เขาก็ไม่เข้าใจ 

เพราะฉะนั้นเมื่อเข้าใจผิดแล้วว่าผู้บรรลุแล้วบอกใครไม่ได้ จึงเกิด ศาสนา เดา ศาสนาพุทธ จึงกลายเป็นศาสนาเดา เดากันเอา เพราะท่านบรรลุเป็นอรหันต์แล้วบอกใครไม่ได้ต้องเดาเอา บอกไม่ได้ เมื่อเข้าใจอย่างนี้จึงพูดแค่เลี่ยงๆว่า เรานี่ เราหันรีหันขวาง เราสิ้นทุกข์แล้วเราไม่ได้เป็นอะไร เราไม่มีอะไร เราไม่เอาอะไร ก็ไม่กล้าตอบว่า เราเป็นอรหันต์ จะพูดแต่ภาษาให้คนอื่นเขาคิดว่า ลักษณะอย่างนั้นมันเป็นอย่างไร ก็ให้อ่านเอาเอง ซึ่งอ่านเอาเองมันก็ไม่ได้ง่าย บอกตรงๆว่าเป็นอรหันต์ก็จะเข้าใจง่ายกว่า แล้วขยายความละเอียดของจิตที่เป็นอรหันต์ 

อาตมาก็อธิบายจิตที่เป็นอรหันต์ด้วยภาษาทุกอย่าง อ้างอิงเทียบเคียงยืนยันกับพระไตรปิฎกตามคำสอนพระพุทธเจ้ามาตลอด ละเอียดลออความพระไตรปิฎกว่ากันจริงๆ เพราะ ฉบับนี้เป็นของพระมหากัสสปะเป็นประธาน เป็นพระไตรปิฎกที่รวบรวมไว้นิดเดียว แบบเข้มข้นค่อนไปในทางพระป่าด้วย ซึ่งอาตมาไม่ใช่สายพระมหากัสสปะ อาตมาสายธัมมานุสารี มันคนละขั้ว มันต่างกันด้วยสัจจะ อาตมาพูดความจริงที่ตัวเองมีตัวเองเป็น แล้วพูดเป็นเชิงออกจะข่มๆพระมหากัสสปะด้วย เพราะท่านเป็นสายสัทธานุสารี อาตมาสายธัมมานุสารี สายปัญญาวิมุตติ ซึ่งท่านยากจะออกไปสู่ ปัญญาวิมุติ

สรุปแล้ว คุณวีรศักดิ์ ควรไปศึกษาให้ดี ยังเข้าใจอาตมาไม่ได้ ไม่ใช่ว่าอาตมารังเกียจไม่สบายใจเพราะคุณไม่เชื่ออาตมา อาตมาก็ยังสบายใจ ให้ติดตามกันไปให้ชัดเจน ยิ่งถ้าเข้ามาอยู่ในหมู่กลุ่มชาวอโศกได้ยิ่งที่คุณสนใจในธรรมะ อาตมายินดีกับคุณมากเลยที่สนใจศึกษาติดตาม ค้นความถูกความผิดของธรรมะพระพุทธเจ้าให้ดีๆ อาตมาขออนุโมทนาอย่างยิ่ง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 41คนโง่ซวย รวยเด่น และเป็นกลาง วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2565 ( 14:44:02 )

เหตุที่เขารับศาสนาพุทธไม่ได้

รายละเอียด

อย่างอาตมานี่ อยู่ในกรอบของศาสนาพุทธ เกิดมาในชาตินี้แม้พุทธศาสนาเอง เคยมีมากกว่านี้ พระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สมณโคดม จะมีบริวารมาก มากที่สุดก็ไม่รู้หรอกว่าองค์ไหน จนกระทั่งน้อยลงๆ มาถึงพระสมณโคดมตามยุคกาลใกล้กลียุค ไม่ได้โทษพระพุทธเจ้าแต่เป็นไปตามยุคสมัย คนรับไม่ได้ ในยุคใกล้กลียุค โดยเฉพาะศาสนาพุทธเขารับไม่ได้ เขาไม่มีทางเป็นอเวไนยสัตว์ เขาเรียนรู้ได้แต่เรียนรู้อย่างเผินๆ พวกนักการศาสนาศึกษาศาสนาต่างๆ แต่เขาเป็นเทวนิยม เขาก็มาศึกษาพุทธแต่ศึกษาเพื่อรู้ เขาไม่ได้ศึกษาอย่างศรัทธาเลื่อมใส มีเหมือนกัน ผู้ที่เป็นศาสนานอกจากพุทธมาศึกษาศาสนาพุทธแล้วก็รู้สึกว่ายอดกว่า ก็เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ มี ก็มีเหมือนกัน แต่ไม่มากนักหรอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน บุญนิยม คืออะไร และอปันกธรรม 3


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 14:12:38 )

เหตุที่เขาใช้บุญและปัญญาผิดเพี้ยนไป

รายละเอียด

คำว่าบุญคำเดียวจึงยากมาก บุญเป็นภาษาของศาสนาพุทธเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ผิดเพี้ยนไปเอาไปใช้เละเทะเลย เหมือนกับคำว่าฉลาด ฉลาดที่เป็นปัญญานี่แหละ เอาไปใช้เป็นเฉโกเละเทะ ธรรมะพระพุทธเจ้าจึงเละเทะไปหมดเลยทุกวันนี้ แล้วผู้ไม่รู้อธิบายกันเละเทะ ปนเปกันไป เพราะเขาไม่มีสภาวะจริง ไม่มีภูมิธรรมที่จะรู้ความจริง 

อาตมาทุกวันนี้บรรยายธรรมะ บังอาจมากเลย กวาดทิ้งผู้รู้อื่นไป ก็จำเป็น อาตมาก็แก่วัดแล้ว บวชมาตั้ง 50 ปี ถือว่าเป็นผู้รัตตัญญูแล้ว บวชมานาน ทำงานด้านนี้มานาน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 4 วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564 แรม 2 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2564 ( 11:24:33 )

เหตุที่เถรวาทบรรลุสูงสุดไม่ได้

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคำว่า ธรรมนิยาม 5 จึงเป็นยอดสุดแห่งความรู้ ในพระไตรปิฎก ฉบับเถรวาท ภูมิของพระกัสสปะไม่ถึง ทำการสังคายนาฉบับของพระกัสสปะ ไม่มี 

มีอยู่ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคของพระพุทธโฆษาจารย์ จึงเห็นชัดเจนว่าเถรวาทบรรลุสูงสุดไม่ได้ เพราะไม่รู้จักธรรมนิยาม 5 เพราะฉะนั้นทางสายกัสสปะหรือเถรวาทจึงยาก 

เถรวาทหมายความว่า ลัทธิเถรวาททุกวันนี้ ที่เป็นลูกน้องพระกัสสปะ จึงยากที่จะบรรลุอรหันต์เพราะไม่รู้ธรรมนิยาม 5 แยกธาตุจิตให้เป็นธาตุอุตุไม่ได้ ไม่เป็น ทำให้เป็น พีชะ อาศัยในชีวิตนี้ตอนเป็นๆจะได้หมดทุกข์หมดสุข เพราะพลังงานในระดับพีชะ ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ไม่มีบาปไม่มีบุญ ไม่มีวิบากอะไรแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือชาวหรรษาที่แท้จริง วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 พฤษภาคม 2565 ( 19:46:11 )

เหตุที่เถรสาคมไม่มีเนื้อแท้ของศาสนาพุทธ

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าท่านตรัสอย่างนี้ ในมหาเถรสมาคมบอก มี เรียนกันอยู่ สติปัฏฐาน 4 ก็เรียน สัมมัปปธาน 4 ก็เรียน อิทธิบาท 4 ก็เรียน ท่องสอบเปรียญ 9 กันได้เต็มครืนๆ ได้พุทธศาสนาบัณฑิต เป็นด๊อกเตอร์ด๊อกแต้อะไรกันเยอะ มีทั้งนั้นนะ

 แต่แท้จริงแล้วไม่มีเนื้อแท้ สติปัฏฐาน4 แค่กายในกาย พิจารณาคำว่า กาย ก็ยังไม่สัมมาทิฐิพ้นสังโยชน์ข้อที่ 1 เลย

ที่อาตมาพูดอยู่ตรงนี้ ย้ำซ้ำๆ อาตมาพูดตีหัวเข้าบ้านเลย 

คำว่า กาย คำเดียว ก็ยังไม่สัมมาทิฐิ แล้วจะพิจารณากายในกายสำเร็จ ไม่มีทางหรอก  เพราะเขา เข้าใจผิดไปไกลตรงที่ว่า กายนี้คือ สรีระ กายนี้หมายถึงร่างภายนอก คนไทยเข้าใจอย่างนั้นนะ คำว่ากายนี้

ไปถามสิ ปริญญาตรีทั้งหลาย ไม่ว่าจะจบปริญญาตรีในทางธรรมะด้วย ปริญญาเอกด้วยเอ้า ไปถามสิ กาย คืออะไร เขาจะบอกว่าหมายถึงสรีระ หมายถึงภายนอก ทั้งๆ อาตมายังรู้สึกว่าธรรมะพระพุทธเจ้ายังคงกระพัน ในพจนานุกรมก็ยังดีนะ เขาก็ยังแปล กายว่า คือ องค์ประชุมของเจตสิกทั้งหลาย องค์ประชุมของเวทนา-สัญญา-สังขาร เอ้อ! อาตมาดูแล้ว ก็ยังดีนะ ในพจนานุกรมยังเหลือ กาย นี้ เขาก็ยังชัดเจนอยู่ กาย นี้แปลว่า กอง หมู่ ฝูง องค์ประชุมของหมวดเจตสิก คือเวทนา สัญญาและสังขาร 

พจนานุกรมก็ยังถูกต้องอยู่ แต่เขาไปเข้าใจว่า กาย คือสรีระ ไปเปิดพจนานุกรมดูสิ สรีระตรงไหนคำว่ากาย คือกอง คือฝูง คือหมู่ คือองค์ประชุม ไม่ได้เดี่ยวๆ นะ 

สรีระก็มี ที่จริงมีอยู่ในนี้ ในเวทนา สัญญา สังขาร ไม่ได้ทิ้งรูป ไม่ได้ทิ้งสรีระ มนุษยชาติมีสรีระด้วย และมีเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณในขันธ์ 5 

เพราะฉะนั้นถ้าเข้าใจไม่ได้ พวกคุณก็ไม่เข้าใจได้ว่า กาย คืออะไร กาย คือ รูป เวทนาสัญญา สังขาร วิญญาณ รวมองค์ประชุมทั้งหมด คือกาย พิสดารมาก

ก็ยังสอนตามพระธรรมวินัยที่บังคับไว้อยู่ แต่ไม่ได้รู้จริง ไม่ได้เข้าไปถึงสภาวะที่แท้ นี่เป็นสัจจะที่ล้มเหลว มันเสื่อมสิ้นไปแล้ว ศาสนาพุทธ อย่าเถียงอาตมาเลย ถ้าอาตมาเปิดตำราสู้คุณ เปิดพระไตรปิฏกสู้ คุณจะจบเปรียญ 9 จบด็อกเตอร์มาอย่างไรก็อาตมาเปิดตำราสู้คุณ คุณเรียนมาเถอะ คุณก็เรียนมาอย่างผิวๆ เผินๆ อธิบายกันผิดเพี้ยนออกไป แล้วไม่มีผลสำเร็จ 

เพราะฉะนั้นมันจึงกลายเป็นมหาสมุทรที่รวมน้ำเน่า ที่เต็มไปด้วยซากศพและขยะ คนขี้ทูดกุดถังกองกันอยู่ในนั้นเต็มไปหมด ขออภัยที่อาตมาพูดหนักไป ต้องขออภัยจริงๆ อาตมาพูดโดยสัจจะมันเป็นอย่างนั้น 

เพราะฉะนั้นอาตมาถึงบอกว่า บวชแล้วก็ร่วมอยู่กันไม่ได้ ถึงต้องประกาศนานาสังวาส แล้วก็เกิดเรื่องกัน อาตมาก็ไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บอะไรต่อ จนกระทั่งสุดท้ายก็สำเร็จผล เพราะอาตมาก็เป็นของอาตมา แล้วอาตมาก็อยู่ของอาตมา ไม่ได้มีมหาสมุทรเน่าๆ อย่างนั้น อาตมาก็อยู่ในวังน้ำใส ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ชัดเลย อะไรบ้าง 

มีปลาต่างๆ นี้หมายถึงอะไร ปลาต่างๆ นี่หมายถึง พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ ปลาต่างๆ ที่เป็นปลาใหญ่ หมายถึงอย่างนั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ 8 ประการในชาวอโศกบุญนิยม วันพุธที่ 12 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2565 ( 21:42:26 )

เหตุที่โง่หรืออวิชชาคืออย่างไร

รายละเอียด

สรุปแล้วคนไม่เรียน มีธรรมะพระพุทธเจ้าก็ไม่เรียนธรรมะที่รู้ถึงเวทนาในเวทนา แล้วมีเหตุที่โง่ เหตุก็คือความโง่คืออวิชชา จึงเป็นกิเลสโง่เพราะอะไรเพราะไม่รู้จักกิเลส ทำให้กิเลสมันมาปรุงแต่งมันก็เลยเกิดความชอบความชัง เกิดราคะเกิดโทสะ มันเกิดก็ไม่รู้เพราะไม่ได้ศึกษา ก็ไปเรียน การเกิดราคะเขาก็เรียนรู้นะ ราคะ เขาก็รู้โดยปริยายว่าอย่าไปแสดงออกง่ายๆมันน่าเกลียด แต่ก็ต้องแสดงออก ถึงขั้นบอกว่า การแสดงเรื่องเพศมันก็เป็นเรื่องของคนเรื่องของสัตว์มันมีอยู่จะไม่ให้มันแสดงอย่างไร มันจะพยายามอธิบายความหน้าด้านของตัวเอง ให้ตัวเองแสดงออก เออ เป็นผู้หญิงแท้ๆมาพูดเรื่องลามกจกเปรตกลางที่สาธารณะ มันไม่มียางอายเลย มันเหลือเกินน่ะ นี่มันเสื่อมมากเลยอาการของคน โดยเฉพาะคนไทยมันไปกันใหญ่ ทั้งสถานที่ทั้งแสดงออกทั้งตัวเองเป็นเพศที่ไม่ควรจะแสดง 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 10:45:38 )

เหตุที่ใช่คำว่าดาวดึงส์ในบุคคลาธิษฐาน

รายละเอียด

ผู้ที่เป็นสารีบุตรจึงรู้เรื่องว่านี่หมายถึงอันนี้ บุคลาธิษฐานก็รู้จักสาระธรรมาธิษฐานว่าคืออะไรชัดเจน ไม่ใช่ตัวตนอะไรเลย พระพุทธเจ้าก็สอนธรรมะอยู่ 3 เดือนนั่นแหละให้ภิกษุทั้งหลายแหล่ที่เป็นแม่ที่จะไปเผยแพร่ไปออกลูกโลกุตระบุคคลต่อไปต่อไปๆอีก ตลอด 3 เดือน
ใช้คำว่า ดาวดึงส์เพราะเป็นแดนที่ดีที่สุด เป็นแดนสวรรค์ที่คนต้องการดีที่สุดเป็นอาการ 33 ตาวติงสา อาการ 33เป็นอาการพิเศษ ถ้าคนโง่ก็จะกลายเป็นแดนสวรรค์ ที่จริงเป็นแดนนรก สวรรค์กับนรกคืออันเดียวกันเป็นสุขเป็นทุกข์ คนไม่เข้าใจก็ไปหลงว่ามันเป็นแดนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ คนที่รู้แล้วก็ไม่เอาดาวดึงส์เราไม่สร้างของปลอม สัจจะของมันมี2เท่านั้น ไม่เอาดาวดึงส์อย่างนี้เป็นต้น คือชัดเจนหมดทุกอย่างแล้วก็ทำชีวิตจนกระทั่งรู้รอบรู้หมดแล้ว รู้ถ้วน อาตมาพูดอะไรไปพวกคุณเข้าใจได้เอาไปปฏิบัติ ถ้าใครฟังได้เข้าใจดีจับเอาสาระสัจจะที่เป็นธรรมาธิษฐานได้ทั้งหมดเลย ใครได้มาก ยกมือ เคยฟังที่อาตมาพูดนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องยกมือ ไม่มีเลยหรือ ทำไมฉลาดกันหมดเลย 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 15:38:01 )

เหตุที่ไม่ห้ามเด็กมาเล่นในขณะฟังธรรม

รายละเอียด

เป็นการออสโมซิสที่คนรู้ได้ยาก เป็นเรื่องอจินไตย เขาไม่เจตนาแต่มันเข้าหู เหมือนกับเราเคาะในแป้นคอมพิวเตอร์ เราเคาะเข้าไปมันก็อยู่ในนั้น คุณใช้ไม่เป็นบางทีก็เป็นเศษเสียหายได้ แต่ที่เราพูดนี่มันเป็นของดีใช่ไหม อันนี้มันจะไปตกค้างในฮาร์ดดิสก์ ของเขา คือมันไม่ได้เสียหายเราไม่มีอะไรเสียหาย พูดอะไรทำอะไรได้บันทึกอยู่ในฮาร์ดดิสก์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 29 วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 19:43:30 )

เหตุที่ไม่เชื่อเพราะยังทำได้ไม่สมบูรณ์

รายละเอียด

ซึ่งอาตมาก็เห็นว่า โลกทั้งโลกเข้าใจ ความหมายอย่างที่อาตมากล่าวสรุปไปสั้นๆ เข้าใจกันแล้วเดี๋ยวนี้ เป็นแต่เพียงว่าเขายังไม่ยอมเชื่อสนิท เพราะเขายังทำไม่ได้สมบูรณ์ ถ้าคนที่สามารถเข้าใจได้ แล้วทำได้บ้างก็เชื่อถือจนกระทั่งเข้าใจสมบูรณ์ขึ้นมา หรือเข้าใจขึ้นมาเป็นรอบๆๆ จากหยาบกลางละเอียดได้มรรคผลมาจึงจะเชื่อจริง ตามความเป็นจริงที่ตัวเองปฏิบัติบรรลุผลนั้นได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาด้วยปัญญามุทุภูเตของพ่อครู วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 16:25:56 )

เหตุปัจจัย

รายละเอียด

องค์ประกอบ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 217


เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2562 ( 16:39:56 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 15:49:48 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:02:24 )

เหตุปัจจัยของกรรมที่ไม่มีผลต่อตัวเรา

รายละเอียด

คนตายแล้วก็แล้วแต่จะเชื่อ เชื่อว่าไปอยู่กับพระเจ้าก็คือโยนให้กับพระเจ้า ความจริงแล้วศาสนาพุทธพระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ใช่ กรรมนี้ดำเนินไปตลอดนิรันดร คุณไม่สามารถรู้แจ้งจบได้จนกว่าจะสามารถทำให้เหตุปัจจัยของกรรมทั้งหลาย ไม่มีผลต่อตัวเราอีกแล้ว คือมันไม่มีผลที่จะทำให้ตัวเราเองตกต่ำอีกแล้ว มีแต่ดี แล้วเราก็ไม่ยึดดีนี้เป็นของเราอันนี้สูงสุด ถ้าเรายังมี have เรานี่แหละเป็นเจ้าของมี Behavior ขึ้นมาเมื่อไหร่ของเราเองหมด เราทำเองเป็นของเราเอง ไม่มีใครได้แบ่งให้เราได้เลย นี่คือศาสนาพุทธ แล้วจะออกผลต่อคุณเองจนกระทั่งคุณจะปรินิพพานเป็นปริโยสาน แยกธาตุ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูพบคณะผู้บริหารสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) NIDA

วันพุธที่ 30 มกราคม 2562 อุบลราชธานี


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 21:11:32 )

เหตุปัจจัยของชีวิตคืออะไร

รายละเอียด

ย้อนมาจากเหตุว่า กว่าจะมาเป็นธนบัตร ของแต่ละชาติแต่ละประเทศ ที่คนมายึดติดยึดถือเป็นสิ่งที่สำคัญจากสังคม มันก็เกิดจากสมมุติจากความต้องการของกิเลส เกิดจากการไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วสาระของชีวิตที่เป็นเหตุปัจจัยของชีวิตนั้น มันคืออะไร แล้วตนเองสร้างตรงเลย สร้างเหตุปัจจัยที่ชีวิตอาศัย เช่น ข้าว ผ้า ยา บ้าน ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ตั้งแต่เงินยังไม่มีอำนาจบาตรใหญ่เท่าทุกวันนี้ ท่านตรัสรู้แล้ว สอนไว้แล้ว 

เพราะฉะนั้นผู้ที่เห็นความสำคัญของชีวิตก็จะไม่ต้องไปหลงใหลได้ปลื้มกับธนบัตรแบงค์ กระดาษชำระที่ใช้กัน เราไม่ไปเป็นคนชั้น 2 ที่ต้องอาศัยเงิน เราเป็นคนชั้น 1 ที่ตรงไปข้าวผ้ายาบ้านเลยสร้างเองแจกกันหรือแลกกันกินใช้ ชีวิตจะไม่ต้องไปอยู่ในวงโคจร ของพวกที่หลงใหลใช้อำนาจเล่ห์เหลี่ยมในนั้นสารพัด อยู่ที่ตัวเองโง่ไปหลงอยู่กับตัวเลขราคาสมมุติของธนบัตรทั้งๆที่เป็นกระดาษแผ่นๆพอๆกัน ของประเทศนี้ค่ามันสูงกว่าประเทศนี้ทั้งที่กระดาษพอๆกัน เขียนตัวเลขสมมุติเอาไว้ หัวปั่นเลย เชื่อตาม หลงใหลได้ปลื้ม มีความมั่นใจถ้าเรามีธนบัตรของเจ้านี้เดี๋ยวนี้โลกเขารับรองมาก เงินอันนี้อันนี้ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้จะเป็นเงินอยู่ในอากาศ เรียกว่าเงิน เงินดิจิตอล เขียนตัวเลขสมมุติกันไปลอยลม 

อีกหน่อยอาตมาว่าในอนาคตจะเห็นเลยว่า พวกที่หลงใหลกับตัวเลขที่สมมุติกัน คนที่ยึดหลงใหลไปสะสมนั้น จะอยู่ยาก คนที่รู้แล้วว่า ไม่จำเป็นจะต้องไปแย่งไปชิง ไม่จำเป็นจะต้องไปหัวหมุนอยู่กับตัวเลขกระดาษ หรือว่าค่าที่แม้จะเป็นดิจิตอลก็แล้วแต่ อะไรที่เป็นสาระแก่นสารของชีวิต ที่อาศัยใช้ในชีวิต กินด้วยใช้ด้วยนี่แหละมีเพียงพอแล้ว หรือจะเป็นบริขารมีเครื่องประกอบที่จะต้องเอามาใช้บ้าง เป็นแว่นตา เป็นถ้วยชาม เป็นกระดาษ เป็นอะไรที่มันพอจะต้องอาศัยใช้สอย ก็สำคัญน้อยลงไปกว่าอาหารที่เป็นหนึ่งในโลก ที่กินที่อาศัย ก็จะรู้ก็จะมีปัญญารู้ในสิ่งเหล่านี้ ก็ไม่ไปหลงใหลได้ปลื้มกับตัวเลข ไม่ไปอิงตัวเลขอยู่ในอากาศ สมมุติกัน ผู้ฉลาดมีปัญญาก็จะรู้ทันก็จะไม่ไปบ้ากับสิ่งเหล่านี้ ชีวิตก็จะสบาย 

ผู้ใดที่ยิ่งติดหนักเลย ว่า แหม.. อย่างนี้ ฉันมีหุ้นอยู่นะ ฉันเทขายไป อะไรต่ออะไร แล้วเขาก็จริงจังกันนะแล้วรวยกันไปเป็นชาติๆ  แล้วก็ยังรุ่งเรืองกันอยู่ในโลก ทุกวันนี้ หลายร้อยปีมาแล้วพวกนี้ คนที่เข้าใจแล้วบอกว่า โอ้! มันไม่เที่ยงแล้วนะมันล้มง่ายๆ มันรับรองกันประเดี๋ยวเดียวมันก็กลายเป็นกระจอกเลยนะ รวยๆ นี่ปุบปับๆ มันยิ่งไม่เที่ยงอย่างสำคัญเลย ถ้าเรามีฝีมือ มีความรู้ มีสังคมที่ ชีวิตนี้ คุณจะมีอะไรไม่มีอะไร เราเห็นความสำคัญน้อย แต่ความสำคัญในสิ่งสำคัญพวกนี้ เรามีอุดมสมบูรณ์พร้อมเพียง ช่วยกันทำช่วยกันสร้าง ทำไปเหลือกินเหลือใช้แจกจ่ายคนอื่นด้วย นี่คือผู้ที่รวยจริง ผู้ที่อุดมสมบูรณ์จริง ผู้ที่รู้ค่าของชีวิตจริง 

เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าชีวิตที่เผินๆ ชีวิตที่มันไม่รู้จักสาระแก่นสารแท้กับชีวิตของคนที่รู้จักแก่นสารแท้คืออะไร

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 18 ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณมนุษย์ และอภิวัฒน์สังคม วันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 15:48:58 )

เหตุปัจจัยของอุ๊งอิ๊งไม่สมประกอบจะเป็นนายกฯ

รายละเอียด

นี่เป็นการเสนอสิ่งที่ได้กระทำแล้วก็เอามารายงานสู่กันฟัง นี่คือการทำงานของพลเอกประยุทธ์ที่เป็นนายก อาตมาก็ดูรายละเอียดของสิ่งที่นำเสนอแล้วก็คือสิ่งที่เป็นจริงที่ได้เกิดขึ้นเอามารายงาน ทำไปแล้วแล้วก็มีผลจริง ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ นี่เป็นม็อตโต้ของพลเอกประยุทธ์

ก็ทำให้เห็นว่าอุ๊งอิ๊งแคนดิเดตนายกขณะนี้ แหม อาตมาเคยพูดกับพวกเราเล่นๆ มันไม่ค่อยสมประกอบ อุ๊งอิ๊ง มันไม่ค่อยสมประกอบ แม้แต่ประเด็นง่ายๆ ขณะนี้ท้องโต 6-7 เดือน ต่อไปเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม ก็คลอด  9 เดือนคลอดใช่ไหมล่ะ ไม่เดือนหน้า ก็เดือนโน้นคลอด นี่เดือนมีนาคมแล้ว พอคลอดแล้ว อุ๊งอิ๊งจะมาบริหารประเทศอย่างไร คุณก็จะต้องอยู่กับลูกก่อน จะยังไง จะออกมาบริหารประเทศอย่างไร นี่ก็ประเด็นเล็กๆ ไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไร 

แล้วเวลาที่ผ่านไปผ่านไปจะให้รอคุณเลี้ยงลูกจนโตจึงมาบริหารได้ มันทำได้ไหมล่ะ แค่นี้ก็เห็นชัดเจนแล้ว เออ มันไม่ค่อยลงตัวมันไม่ค่อยสมประกอบที่พูดผ่านมานี้ มันดูไม่ค่อยสมประกอบด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ 

แล้วผลงาน ถ้าเอาเบื้องหลังมาตั้งแต่เริ่มมาอีก โอ้โห ภูมิปัญญาของอุ๊งอิ๊ง อาตมาเห็นตั้งแต่นั่งเบะหน้าอยู่ในศาล ที่ผู้พิพากษาตัดสินแล้วก็เบะหน้าให้แก่ผู้พิพากษา คุณไม่ยอมรับคำตัดสินของผู้พิพากษา เบะหน้าแสดงว่าคุณปฏิเสธ เพราะไปตัดสินให้พ่อ ให้อา ให้ญาติโกโหติกาของพวกตนเอง ผิดจนกระทั่งต้องหนีออกไปจากประเทศไทยเพราะกลัวติดคุก 

อาตมาเห็นแล้วว่านั่นคือการแสดงภูมิธรรม สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล มันพอเห็น พอรู้กันได้ 

แม้แต่ในเบื้องหลัง Background ที่สอบผ่านมาก็ไม่ได้ซื่อสัตย์อะไรต่างๆอย่างนี้เป็นต้น Background ของอุ๊งอิ๊ง อาตมาว่าแค่ Background ที่เทียบเคียงกันแล้วมันไกลกันลิบ แล้วยังฝีมือในการทำงาน เขายังไม่ปรากฏ..เอาล่ะยังไม่ดูถูกก็ได้ แต่เหตุปัจจัยต่างๆมันไกลๆ นี่ก็เป็นหลักฐานต่างๆในอดีต อุ๊งอิ๊งบอกข้อสอบรั่วแล้วไงยังไงก็เรียนจบ คือไม่ได้เรียนจบอย่างสง่าอะไรเลย ลากไส้โกงข้อสอบข้อสอบรั่ว เอาละ เดี๋ยวจะหาว่าไปทับถมมากเกินไป ก็ขอผ่านไปก่อน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ แสดงธรรมโดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์แนวคิดเศรษฐกิจของชาวโศกที่ทำจริงมีผลสำเร็จจริง วันพุธที่ 1 มีนาคม 2566 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 4 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 18:37:17 )

เหตุปัจจัยทำให้ได้ปัญญา 8 ข้อที่ 2

รายละเอียด

2.เธออาศัยพระศาสดา หรือเพื่อนพรหมจรรย์รูปใดรูปหนึ่ง ผู้ตั้งอยู่ในฐานะครู ซึ่งเป็นที่เข้าไปตั้งความละอาย ความเกรงกลัว ความรัก และความเคารพไว้อย่างแรงกล้านั้นแล้ว เธอเข้าไปหาอีกแล้วไต่ถาม สอบถามเป็นครั้งคราวว่าข้าแต่ท่านผู้เจริญ ภาษิตนี้เป็นอย่างไร เนื้อความแห่งภาษิตนี้เป็นอย่างไร ท่านเหล่านั้นย่อมเปิดเผยข้อที่ยังไม่ได้เปิดเผย ทำให้แจ้งข้อที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง และบรรเทาความสงสัยในธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยหลายประการแก่เธอ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยข้อที่ 2 ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญา ฯลฯ เพื่อความบริบูรณ์แห่งปัญญาที่ได้แล้ว ฯ

ไม่ใช่ว่าคุณจะรู้จบรู้ครบเลยทันที ยังจะมีอีกมาก เข้าไปถามปัญหาเหล่านั้นท่านก็จะเปิดเผย บางทีอาตมาต้องอาศัยพวกคุณถาม ถ้าไม่ถามก็นึกถึงไม่ออก แต่ถ้าถามแล้วตอบได้นะ 

แม้ขณะนี้ทุกวันนี้พวกคุณถามมาอาตมาก็ไม่เห็นขัดข้องก็ตอบไปทั้งนั้น แล้วก็ยังเชื่อว่าตอบได้หมด คุณเองไม่มีภูมิเท่าอาตมา คุณไม่มีคำถามที่อาตมาไม่มีปัญญาตอบ คำถามของคุณยังด้อยกว่าปัญญาที่อาตมาจะตอบได้ เชื่อไหม ...เชื่อ 

แล้วนี่มันเรื่องจริงนะ ที่อาตมาพูดได้ เพราะว่าในยุคนี้อาตมา เป็นไก่ตัวพี่ จริงๆ อาตมามีความจริงอันนี้ถึงยืนยันและกล้าพูด พูดไปนี้ไม่ได้ไปอยากใหญ่โตอะไรหรอกไม่ได้เบ่ง ไม่ได้ข่มใคร แต่เป็นเรื่องสัจจะทั้งนั้น 

เพราะฉะนั้นเมื่อเปิดเผยความจริง ที่ยังไม่ได้เปิดเผยก็เปิดเผยทำให้แจ้ง 

ถึงแม้คุณจะได้ศึกษาแล้ว ได้รู้แล้วแต่มันไม่ได้จบง่ายๆ ยังมีนัยยะมิติต่างๆประเด็นต่างๆ อีกเยอะ ฟังแล้วก็ดูวิจิตรพิสดารละเอียดลออไปเรื่อยๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 ประการ 3 ข้อแรก โดยพิสดาร วันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2565 ( 21:39:51 )

เหตุปัจจัยทำให้ได้ปัญญา 8 ข้อที่ 3

รายละเอียด

3.เธอฟังธรรมนั้นแล้ว ย่อมยังความสงบ 2 อย่าง คือ ความสงบกายและความสงบจิต ให้ถึงพร้อม ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยข้อที่ 3 ย่อมเป็นไปเพื่อได้ปัญญา ฯลฯ เพื่อความบริบูรณ์แห่งปัญญาที่ได้แล้ว ฯ

สงบกายก็อย่างหนึ่ง สงบจิตก็อย่างหนึ่ง สงบทั้งกายและจิตถึงพร้อม คนที่เข้าใจว่า กาย โดยบัญญัติ โดยเข้าใจอย่างมิจฉาทิฏฐิ ว่า กาย คือร่างข้างนอกเท่านั้น อาการสงบก็เป็นแบบโลกียะ คือไปเข้าใจว่าความสงบนั้นคือ การเคลื่อนไหวเรียกว่า วิญญัติ

เขาไปนึกว่าการสงบเคลื่อนไหวน้อยลงจนไม่เคลื่อนไหวเลยนั่นแหละคือสงบ เพราะเคยติดไปนั่งหลับตานั้นก็นึกว่า กายสงบ คือ ร่างกายไม่เคลื่อนไหวเมื่อไหร่คือสงบ ยิ่งลมหายใจเข้าออกน้อยเท่าไหร่ นึกคิดอะไรก็ไม่นึกคิดเลย นั่นแหละคือ สงบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 ประการ 3 ข้อแรก โดยพิสดาร วันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2565 ( 21:45:06 )

เหตุปัจจัยที่ครบพร้อมได้ต้องเกิดจากอะไร

รายละเอียด

เป็นความอยาก อภิชัปปา คนอื่นก็คิดอยากอย่างคุณได้ แต่ความจริงมันไม่ใช่เหตุปัจจัยที่ครบพร้อมมันก็เป็นไปไม่ได้ ก็ต้องให้เหตุปัจจัยครบพร้อม เหตุปัจจัยจะครบพร้อมก็ต้องเกิดจากเรา 1 คนนี้แหละต้องรีบทำ คนอื่นๆที่รู้ด้วยกัน ช่วยกันคนละไม้คนละมือรีบทำกรรมของตัวเองให้มันเป็นโลกุตรธรรมมากขึ้นๆ มันก็จะเป็นหลักแล้วรวมกันเกิดการพัฒนา ทุกอย่างเกิดจากกรรมทั้งนั้น อย่างที่ได้เข้าใจอย่างนี้ก็ดีแล้วแต่ละคนอย่าดูดาย พระพุทธเจ้าท่านไม่สรรเสริญความเนิ่นช้า ความเฉื่อย ปปัญจารามตา ท่านสรรเสริญความเร็วหรือความครบพร้อมเต็มที่ ถ้าเรื่อยๆเฉื่อยๆไม่ดี พระพุทธเจ้าไม่ส่งเสริม มันไกลกันเลยที่ถาม

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 25 กันยายน 2563 ( 18:55:43 )

เหตุปัจจัยที่จะทำให้สมณะโพธิรักษ์แข็งแรง

รายละเอียด

คือ การที่จะทำให้พ่อท่านแข็งแรงบรรดาพวกเราด้วยกันต้องทำให้ตัวเอง  แข็งแรงจะได้มาช่วยงานพ่อท่าน  (สมณะเพาะพุทธ)   เราต้องเรียนรู้ความจนทาง วัตถุ  พฤติกรรม และจิตวิญญาณ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 12:42:04 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:45:14 )

เหตุปัจจัยที่ช่วยยังสังขารร่างกายเราให้ดีมีอะไร

รายละเอียด

ที่พูดไปนี้มันก็ทำให้เรา ยัง สังขารร่างกายเราไปได้ดี มันไม่แก่มันไม่เสื่อมมันไม่โรยรามันก็อยู่ด้วยดี ถ้ามันแก่หง่อม เป็นไปตามธรรมดาธรรมชาติของโลกห้ามไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ที่จริงแล้วมันเป็นทั้งความพยายามที่เราจะพยายาม ให้มันปรุงแต่งดินน้ำไฟลม สังขาร โดยมีจิตเป็นประธานช่วยด้วย แล้วมีวิบากของแต่ละคนด้วยมันเป็น อันนี้แหละ เป็นธรรมะที่อาตมาว่า จะใช้กับมนุษย์ ในชาวอโศกนะว่าจริงๆแล้ว คนแก่อายุมากๆ 60 70 80 ปี นี้มีเยอะ แต่ก็ไม่เหมือนข้างนอกเขา ข้างนอกเขา 70 80 ปี ก็นั่งวีลแชร์ สามขา สี่ขา หกขา เดินไป หรือนอนติดเตียงกันไปแล้วเยอะ แต่พวกเรานี้คนแก่เยอะ เดินไปโรงครัว เฮือนหยังกินเช้าๆโอ้โห นั่งเด็ดผัก อายุมากกันทั้งนั้น 60 70 80 ปี เต็มกัน เขาถือว่าเป็นหน้าที่ของคนแก่ทำให้กิน คนหนุ่มคนสาวไปทำอย่างอื่นกำลังมันแรงกว่า พวกเราก็รู้ มีคนชอบจริงๆ หนุ่มสาวที่ชอบทำอาหารก็พอมีบ้าง (โยมว่า ชื่อกลุ่ม วัย 555 กลุ่มนิสิต ว.นบ.) นี่เราก็จัดสรรกันตามความเหมาะสม

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 28 ธันวาคม 2563 ( 14:30:38 )

เหตุปัจจัยที่ถูกฆ่า

รายละเอียด

เหตุปัจจัยที่ถูกฆ่า คือ ผู้ที่พระเจ้าอโศกมหาราชฆ่าคนสมัยอดีตชาติ ก็ไม่ได้เป็นบาปของท่านเสียทีเดียว แต่เป็นวิบากที่เขาต้องถูกฆ่า  ไม่ได้หมายความว่าเป็นความโหดเหี้ยมหรือบาป  แต่ท่านต้องมาแสดงเป็นตัวละครที่ต้องมาฆ่าคนที่มีวิบากเหล่านี้  ต้องมาทำงานนี้ เพราะมันเป็นบาปของคนที่ถูกฆ่า  เพราะเขาทำลายศาสนา  เขาบาป เหมาะสมถูกฆ่าด้วยก็มีเหตุปัจจัยของมัน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 12:34:09 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:46:08 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:04:06 )

เหตุปัจจัยที่สมัยพระพุทธเจ้าทำสาธารณโภคีได้แต่ในกลุ่มนักบวช

รายละเอียด

ลาภธัมมิกา เอามารวมกันเป็นสาธารณโภคี ร่วมกันกินร่วมกันใช้ ซึ่งยอดและยาก ทั้งฆราวาสก็เป็นได้  สมัยพระพุทธเจ้าทำได้แต่ในกลุ่มของสงฆ์นักบวช ไม่สามารถทำได้ถึงระดับฆราวาส เป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไม่ใช่ว่าอาตมาเก่งกว่าพระพุทธเจ้า แต่เป็นที่เหตุปัจจัยตอนนั้นยังไม่ครบ เป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคของสังคมทาส ยังมีลูกทาส นายทาส แต่ละคนไม่รู้จักเรื่องสิทธิของตนเองสิทธิมนุษยชน สิทธิในการพูดการแสดงออก สิทธิตามกฎหมายสิทธิต่างๆ เป็นวัฒนธรรม ตามสัจธรรมต่างๆ ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรสำหรับคนในยุคนั้น ไม่มีความรู้และไม่ได้สอนกัน ไม่มีใครสามารถที่จะมาแจกแจงให้ทุกคนเข้าใจเรียนรู้ แล้วก็ปฏิบัติตนเป็นคนหลุดพ้นจากความเป็นทาส มีสิทธิส่วนตน ไม่มีในยุคโน้น 

แล้วทรัพยากรในโลกยุคโน้น ก็ยังไม่อัตคัดขาดแคลนเหมือนในยุคนี้ ยุคนี้มันร่อยหรอลง เพราะโลกพร่องอยู่เป็นนิจ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า โลกพร่องอยู่เป็นนิจ ของกินของใช้มันก็ร่อยหรอลง ซึ่งมันน่าจะเจริญขึ้นมากขึ้นได้ แต่มันกลับร่อยหรอลง ธรรมชาติเสียหายลงไป พืชพันธุ์ธัญญาหารที่เกิดเองตามธรรมชาติ ก็ร่อยหรอลงน้อยลงน้อยลง คนจึงต้องช่วยหรือคนต้องช่วยตัวเอง ต้องปลูกเองขึ้นมากินมาใช้ อาศัยธรรมชาติไม่พอ อย่างนี้เป็นต้น นี่คือสิ่งที่มันเกิดจริงเป็นจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณา ครั้งที่ 39 สร้างอาหารให้กับโลก วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 12 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2564 ( 11:05:15 )

เหตุปัจจัยที่หลุดจากโลกโลกีย์มาสู่โลกใหม่โลกุตระ

รายละเอียด

เหตุปัจจัยที่หลุดจากโลกโลกีย์มาสู่โลกใหม่โลกุตระ  คือ สิ่งที่เราไปติดยึดเหนี่ยวเกาะก็วนอยู่กับโลก  คนติดเหล้าก็วนอยู่กับเหล้า คนติดบุหรี่ก็วนอยู่กับบุหรี่ เดี๋ยวก็ควักมาสูบ  คนติดหมากพลู ติดยาดม ยาอม ยาหอม ก็แล้วแต่ที่จริง สิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยจะใช้ในชีวิตมันมีไม่มากหรอก  จะติดอะไรต่ออะไรมากก็ต้องเสียเวลา ทุนรอน  แรงงาน  ต่อสิ่งนั้นมากไป  พิจารณาดีไม่ดี ก็เป็นพิษภัยทำให้ร่างกายเสีย  เสียเงิน เสียทองด้วย  อะไรที่มันเกินควร เกินเข้ามา เกินพอดี เราจะรู้ว่าสิ่งที่เราไปติดให้แก่ตัวเองแต่ก่อนเพราะเราโง่  อะไรก็น่าได้ น่ามี น่าเป็น น่าเสพติด น่าอร่อย น่าสัมผัส  รูปก็น่าสัมผัส เสียงก็น่าสัมผัส กลิ่นก็น่าสัมผัส  รสทางลิ้นก็น่าสัมผัส กายก็น่าสัมผัส

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่  2 ตุลาคม  2562


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2562 ( 14:00:22 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:47:56 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:04:46 )

เหตุปัจจัยหลอกคนให้หลงเชื่อ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นอย่าไปเอาตัวอย่าง อย่างขณะนี้มันเป็นตัวอย่างของสังคม ที่เขาเองเขาพยายามใช้คำพูด กับวิธีการสื่อสาร กับการแสดงออกว่าเขาจะมาเป็นตัวผู้เก่งกาจ จะมาทำ จะมาแบกภาระรับใช้สังคม นี่เป็นคำขี้โม้นะ ไม่รู้ทำอะไรเป็นแค่ไหน แล้วก็มาคุยโม้ โอ้โหจะทำเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ ยกตัวอย่างง่ายๆ จะให้รายได้แต่ละคนนี้แจกเลยคนละ 3,000 บาท แจกเลยคนละ ค่าแรงงานวันละ 450 อะไรต่างๆ นานา คนอายุ 16 ปีขึ้นไปแจก 10,000 บาทเลย ขี้หมาแน่ะครับ 

คือมันหลอก หลอกให้นึกว่าตัวเองเก่ง ตัวเองจะเนรมิต ตัวเองจะทำได้โดยเอาความโลภของคน ความอยากได้ความต้องการขี้โลภ มาเป็นเหตุปัจจัยหลอกคนให้หลงเชื่อว่าฉันนี่แหละเป็นพระเจ้าเป็นผู้เนรมิตเลยนะ ทำอันนี้ให้ หลอกบำเรอความโลภบำเรอกิเลสทั้งนั้น อย่าไปโง่หลงคนที่มาหลอกบำเรอกิเลสเราด้วยคำพูดคำโม้ จริงๆ เขาก็ทำไม่ได้หรอก 

ถึงแม้จะทำได้จริงคุณจะไปแบมือรับจากคนที่เขาให้หรือคุณจะสร้างสรรด้วยน้ำมือคุณแล้วก็มีสิ่งที่เป็นประโยชน์เอาไปขายมาเป็นเงินของตนเองเป็นสิทธิของเราด้วย มันไม่เท่กว่าไปรับเหมือนขอทานจากรัฐบาลจากคนนั้นให้คนนี้ให้ จากนายกฯเป็นผู้บัญชาให้ โธ่เอ๋ย มีเกียรติกว่านั้นหน่อยได้ไหม มีศักดิ์ศรีกว่านั้นหน่อยได้ไหม ฟังธรรมะดีๆ ที่อาตมากำลังบรรยายให้ฟังอย่าไปถูกหลอกง่ายๆตื้นๆ ด้วยคารมหว่านล้อม อาตมาขอยืนยันว่าอาตมาไม่ได้ดูถูกแต่อาตมากำลังพูดนี้ถูก 

คนที่กำลังโม้ กำลังพูดกำลังทำสัญยิงสัญญากับสังคม ว่าเอาฉันให้มีอำนาจ ฉันจะสร้างอันนี้ให้ ฉันจะทำอันนี้ให้ ขี้โม้ทั้งนั้น โดยเข้าใจถึงโลกที่โง่ๆ ถูกคารมหว่านล้อมระหว่างภาษากับเครื่องมือสื่อสารให้หลงเชื่อว่า ฉันนี่แหละจะเป็นคนเก่ง เป็นคนเนรมิต เป็นคนมีอำนาจจะสร้างให้คุณได้ดังประสงค์จะเนรมิตให้ทุกอย่าง มันสร้างรูปนี้ทั้งนั้นเลย ในการเมืองของโลกบอกให้เลย เขาใช้อย่างนี้เลย แล้วก็พยายามที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์อิทธิเดช ว่าฉันทำได้นะ เช่นฉันสร้างปืน ฉันสร้างลูกระเบิด สร้างเครื่องมือฆ่าคนได้นะ แจกไปเลยให้ไปเลยเห็นไหม มันซับซ้อน คุณสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารแจกสิ  ชั่วช้าสามานย์คือสร้างอาวุธ 

คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ แค่นี้เขาก็ไม่รู้ จะสร้างอาวุธฆ่ากันเก่งให้ตายอย่างไรก็ไม่ใช่คนเจริญ แต่เป็นคนเสื่อมคนสามานย์ แต่สร้างอาหารนี้จะให้โง่ให้ตาย อย่างไรสร้างอาหารขึ้นมาให้คนได้กินได้อาศัย จะเป็นคนโง่ เขาจะหาว่าโง่ไม่ฉลาดอย่างไรก็ตามเถอะ สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารให้ได้ ให้คนอื่นได้เหลือให้คนอื่นได้กินได้ใช้ไป เขาว่าไม่เจริญก็ให้มันรู้กันไป 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 24 ศึกษาความผูกพัน-ความสัมพันธ์ กรณี บี-ประทับใจ วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2566 ( 12:46:52 )

เหตุปัจจัยใดจึงจะทำให้เกิดการปฏิบัติมรรคมีองค์ 8

รายละเอียด

มรรคมีองค์ 8 ก็คือพระอาทิตย์ จะได้เห็นพระอาทิตย์จะต้องมีแสงอรุณก่อน อยู่ๆจะไปเห็นพระอาทิตย์ก่อนแสงอรุณ ไม่มีแสงนำมาที่จะเห็นพระอาทิตย์ มันเป็นไปไม่ได้เลย สามัญสำนึกคนก็ดูออกแล้ว สุริยเปยยาล มีหมู่มิตรดี พระพุทธเจ้าตรัสว่าเรานี่แหละเป็นมิตรดีของเธอ ท่านเป็นตัวตั้งต้นของโลกุตรธรรม ต้องพบผู้ที่มีสัจจธรรมโลกุตรธรรมในตัวเองหรืออย่างน้อยผู้นั้นต้องอยู่ในฐานะของครูที่มีสัมมาทิฏฐิที่จะให้ได้จึงจะได้รับโลกุตรธรรม โลกุตรธรรมรู้เองไม่ได้ ไม่มีใครรู้ได้เอง ต้องได้รับการถ่ายทอดมาจากพระพุทธเจ้า หรือ ผู้ที่รับมาจากพระพุทธเจ้าแล้ว หรืออย่างน้อยต้องเป็นผู้อยู่ในฐานะของครูที่มีความรู้ในเรื่องของสัมมาทิฏฐิเรื่องของโลกุตรธรรม จึงจะได้รับการถ่ายทอดมาอย่างถูกต้องไม่เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาตนให้รู้ความเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:32:18 )

เหตุปัจจัยในการศึกษาจากพฤติกรรม

รายละเอียด

ก็วกเข้าหามาหาจิตวิญญาณที่เรายังมีความลำบาก ความโง่ มีความผูกพันเกินไป ยังผูกพันกับบี เขาตายไปแล้ว จิตเขาก็ไปสู่สุคติอยู่แล้วไม่ต้องห่วงเขาหรอก เรานั้นไปเป็นทุกข์ ทุกข์อย่างไรมันก็ไม่มีประโยชน์ มันโง่เปล่าๆ มีความทุกข์เพราะไปอาลัยอาวรณ์ ไปห่วงหาเขา มันตัดไม่ขาด เขาตาย จิตวิญญาณเขาก็พาเป็นไปสู่สุคติ แล้วจะไปเกิดไปเป็นอะไรต่อ ซึ่งเรารู้ไม่ได้ตามกรรมวิบากเขา แต่เขาก็จะมาเกิดอยู่ในแวดวงของพวกเรานี่แหละ แล้วก็จะช่วยกันไปดำเนินกันไปสัมพันธ์กันไปอีกในอนาคต มันไม่ใช่เรื่องที่แปลก ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เข้าใจ อาตมาอธิบายสิ่งที่เข้าใจสิ่งที่รู้จริงให้ฟัง เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปงงไปสงสัย ฟังดีๆ แล้วติดตามความจริงนี้ไปด้วยชีวิตของเรา 

ศึกษาชีวิตจริง เราเอาแต่พฤติกรรมความดีงาม บีเขามีความดีงามอะไร เรียนรู้แล้วทำแล้วฝึกตาม กายกรรมดีงาม วจีกรรมดีงามมโนกรรมดีงาม เรียนรู้ แล้วก็ปฏิบัติตนให้ได้ดีงาม อะไรไม่ดีของบีเขาเราก็รู้ว่าไม่ดี เราก็ไม่เอา เราจะตัดสินเองว่าไม่ดี เราก็ไม่เอา อะไรตัดสินว่าดีก็เอา เราก็จะยิ่งมีปฏิภาณปัญญาฉลาด รู้ดีที่ละเอียดลออ ดีที่สูงขึ้นสูงขึ้น แล้วเราก็มาเป็นคนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เป็นประโยชน์ เป็นประโยชน์แก่กันและกัน เป็นตัวอย่างแก่กันและกันให้เราได้เรียนรู้ความจริงจากพฤติกรรม จากการประพฤติการปฏิบัติ 

ไม่ใช่เรียนรู้โดยมีแต่ตัวหนังสือ มีแต่พยัญชนะ แต่นี่มีกรรมกิริยา มีคนจริง มีการประพฤติ มีการสัมพันธ์กัน มีผลต่อกันและกัน เรามีโรงเรียนของเรา ห้องเรียนของเรานี้มันสุดยอดเลย เป็นบวร เป็นบ้านวัดโรงเรียนที่มีการศึกษาที่มีอะไรครบ สมบูรณ์แบบ เป็นโรงเรียนหรือเป็นมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่มาก แล้วเราจะได้รู้จักว่า อันนี้คือเหตุปัจจัยในการเรียน เหตุปัจจัยในการศึกษาจากพฤติกรรม จากทั้งตั้งแต่วัตถุ การใช้วัตถุ การเกี่ยวพัน การสัมพันธ์ การประพฤติ การคิด ความฉลาดเฉลียว เอามาใช้สร้างสรร ชีวิตเราก็เจริญพัฒนาขึ้นไป นี่เป็นประโยชน์แก่กันและกัน 

ชีวิตของผู้ที่ยังไม่จบ จบในเรื่องหนึ่ง จบในกรอบหนึ่ง โสดาบัน สกิทาคามีจบ อนาคามีจบ อรหันต์จบ เป็นโพธิสัตว์ระดับ 5 6 7 จบไปเป็นขั้นๆ มันก็มีกรอบแห่งความจริงให้เราศึกษาไปตามลำดับ เพราะฉะนั้นทุกอย่างเป็นความจริงที่พวกเรามีตัวอย่าง มีตัวอย่างประพฤติให้เราเข้าใจ ให้เราเห็นความจริง เป็นตัวอย่างให้ศึกษา นี่แหละสุดยอดแล้ว เป็นโรงเรียนหรือเป็นมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด บวร บ้านวัดโรงเรียน ศึกษาดีๆ เถอะ แล้วเราจะได้ 

แล้วเราจะลดความทุกข์ บรรเทาทุกข์ เข้าใจความจริงว่า อ๋อ.. เขาตายจากไป อย่างไรเขาก็ไม่ฟื้นกลับมา แต่ที่จะเหลืออยู่ก็คือพฤติกรรมที่เราจำได้ ความเคยเกี่ยวพันสัมพันธ์กัน เราก็เอากรรมกิริยาอะไรที่เราเห็นดี อันนี้ควรทำอย่างนี้ นั่นต่างหากที่มันเป็นสิ่งที่จะได้ที่เราจะเอามาประพฤติตาม แล้วก็ทำให้เป็นตามดีตาม สิ่งดีๆอะไรของบีเขามีเยอะ เด็กๆทุกคนเคยอยู่ด้วยกันมาเข้าใจ เก็บเอาสิ่งดีๆของพี่บีเขา ของอาบีเขาหรือว่าของครูบี เอามา เรียนรู้ปฏิบัติประพฤติให้ได้ประโยชน์อันนั้น 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 24 ศึกษาความผูกพัน-ความสัมพันธ์ กรณี บี-ประทับใจ วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2566 ( 12:35:26 )

เหตุปัจจัยไม่เหมือนกันไม่เท่ากัน

รายละเอียด

เราจะช่วยคนได้ประมาณหนึ่ง พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ พระพุทธเจ้าในยุคที่มีคนในโลก เกิดในยุคกัปที่จะเกิด จะกัปไหนก็แล้วแต่ มันมากนับไม่ถ้วนล้านๆๆๆ ปี พระพุทธเจ้าบางองค์ท่านจะช่วยคนได้มากเลย บรรลุอรหันต์แล้วก็มาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายในวันมาฆบูชา บางองค์มีมาฆบูชาเป็นสิบๆครั้ง มีพระอรหันต์มารวมกันโดยไม่ได้นัดหมายเป็นล้านองค์ ต่างกับพระสมณโคดมที่อยู่ในภัทรกัปปลาย แล้วจึงมีพุทธันดร แล้วจึงจะไปมีพระศรีอาริยเมตไตรย เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ซึ่งมันอีกนาน พูดไปแล้วก็อีกนาน แต่ไม่ได้หมายความว่าพระพุทธเจ้าสมณโคดม ต่ำหรือแย่กว่า พระพุทธเจ้าองค์ที่ช่วยคนได้เป็นล้านๆๆ มาฆบูชา มีพระอรหันต์มาพร้อมกันตั้งเป็นล้าน แล้วก็มีมาฆบูชาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง สำหรับองค์องค์นั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าพระพุทธเจ้าองค์นั้นเก่งกว่าเหนือกว่าพระพุทธเจ้าสมณโคดม ไม่ใช่! เท่ากัน แต่เป็นเหตุปัจจัยของโลก คนในยุคนี้มันโง่พูดให้ชัดให้ง่ายๆ พระพุทธเจ้าสมณโคดมเมื่ออุบัติขึ้นมาจะไม่สอนด้วยซ้ำ พอตรวจโลกมนุษย์เสร็จพบว่าคนกิเลสมันหนามากเกินไปจะเสียเวลาเปล่า ถ้าไม่ตั้งใจจะปรินิพพานเป็นปริโยสานก็ค่อยเกิดมาอีก ถ้าหากท่านประกาศอย่างนั้นก็จะเป็นอย่างนั้นแต่ท่านไม่ทำหรอก พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ผ่านเป็นโพธิสัตว์สอนมาหนักหนาสาหัส ทุกองค์ อาตมาผ่านมาจึงเข้าใจ เท่ากันทั้งนั้นสำหรับพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ แต่เหตุปัจจัยไม่เหมือนกันไม่เท่ากัน นี่อาตมาก็อธิบายได้ประมาณนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การศึกษาที่ไม่ลดกิเลสกู้ประเทศไม่ได้ วันพุธที่ 6 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 11:40:19 )

เหตุปัจจโย มหาปัฏฐาน

รายละเอียด

เข้าใจในเหตุในผลถึงการเกิดของความยาก ความลำบากนั้นๆ ดีว่ามีเหตุอย่างไร ปัจจัยอย่างไร

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า173


เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2562 ( 16:39:11 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 15:51:16 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:05:09 )

เหตุผล 2 ข้อที่พ่อครูท้อไม่ได้

รายละเอียด

1.สิ่งที่ยากนี้เป็นโพธิสัตว์ก็ต้องทำ อาตมามีเป้าหมายเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งให้ได้ ถ้าหากท้อก็เป็นไม่ได้แน่นอน 

2.รับปากพระพุทธเจ้ามาแล้วด้วยว่าจะต้องมาสืบสานศาสนาต่อ อันนี้สำคัญ ดีนะ แล้วมีอะไรอ้างอิงว่าอาตมารับปาก ก็ชี้แล้วไงที่เป็นข้อที่ 10 ของสัมมาทิฏฐิ สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ  ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วย ตนเอง  ในโลกนี้ มีอยู่ (อัตถิ  โลเก สมณพราหมณา   สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา  เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ  โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา  ปเวเทนตีติ) 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 11:42:19 )

เหตุผลการมอบสถานที่เดิมของอโศกเคยดูแลให้คนอื่น

รายละเอียด

พ่อท่านยกภูผาให้หมอเขียวดูแล ก็คือว่า หากที่อื่นไม่ได้เรื่องก็มารวมกันที่นี่หรือไม่ ไม่ได้เรื่องก็ยกให้คนอื่นไปเลย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 01 กุมภาพันธ์ 2563 ( 12:58:35 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:48:33 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:05:36 )

เหตุผลที่พ่อครูยังไม่คิดจะจบคิดจะอยู่เพื่ออะไร

รายละเอียด

อย่างอาตมานี่ ยังไม่คิดจะจบ คิดจะอยู่ อยู่เพื่อที่จะเป็นผู้ที่รู้ ขนาดอาตมาก็รู้ไม่ใช่น้อยแล้ว อาตมาจะพยายาม มันก็มีเหตุผลเยอะ 

เหตุผลจะต้องช่วยศาสนา เหตุผลที่จะพยายามช่วยรื้อขนสัตว์ทั้งหลายแหล่ที่น่าสงสาร เหตุผลที่ตัวเองต้องพยายามไปให้ถึงที่สุดเมื่อได้เกิดมาเป็นอัตภาพแล้ว อัตภาพที่สุดยอดคือเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องเป็นให้สุด เป็นสุดให้ได้สิ เกิดมาทั้งที มีอัตภาพทั้งที ไปให้สุดให้ได้ ใครไม่คิดก็ช่างเขา ใครจะเอาแต่แค่อรหันต์และปรินิพพานเป็นปริโยสาน พระพุทธเจ้า ก็ไม่ได้ปิดบัง ได้แค่อรหันต์แล้วจะปรินิพพานไป เลิกเลยปริโยสานก็ของใครของมัน ไม่ทะยานอยากแบบอาตมา อาตมาถ้าอยากจะเป็นพระพุทธเจ้าก็ทำไป ชาตินี้ก็มีวิบากไม่ใช่น้อย แต่วิบากก็ตามบารมีของอาตมา ไม่หนักหนาเท่าไหร่ แต่ก็หนักหนาอย่างนั้น อย่างหนักแบบโลกๆ ที่ว่าจริงๆ ก็แค่ถูกแก๊สน้ำตา ไม่เคยถูกไม้หน้าสาม รถชนด้วยนับด้วยก็ได้ ขนาดนั้น อะไรอย่างนี้เป็นต้น 

ชีวิตแต่ละชีวิตของแต่ละคน มาดูชีวิตของเรา เราก็ไม่มีวิบากอะไรที่จะหยาบๆคาย ๆในชาตินี้ไม่เคยโดนคนเตะคนถีบสักที ไม่เคยเจอ ที่พูดนี่ไม่ได้ไปแสวงหานะ พูดอธิบายสัจธรรมสู่ฟัง ไม่ใช่ไปยีไปยวนไปท้าทายใคร มันบอกไม่เคย เอาสักที ขออภัยแต่อย่าดีกว่าไม่สนุกหรอก มันไม่ดีด้วยมันบาป ที่พูดไปก็เป็นอจินไตย 

ทำไมอาตมาไม่เคยถูกเตะ ถูกถีบสักทีในชาตินี้ มันก็เป็นอจินไตย เป็นเรื่องที่คิดเอาไม่ได้หรอก มันต้องลงตัวอย่างนี้ มันต้องได้ขนาดนี้อย่างนี้ ทั้งที่ยียวนไม่ใช่เล่น ก็ว่าไปนะ แล้วก็ให้เขาด่าแล้วด่าอีกพอสมควร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนอัตถิราคสูตรให้หมดสุขหมดทุกข์แท้จริง วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:21:24 )

เหตุผลสมณะโพธิรักษ์กล่าวถึงความดีตนเอง

รายละเอียด

ความชั่วของเราเองก็ต้องตรวจสอบ แต่ความชั่วอันเก่าของอาตมานั้นไม่ค่อยได้เข้ามาพูดเพราะว่า ของคนอื่น พูดกันชั่วกว่านี้เยอะแยะแล้วเราก็เลยได้แต่พูดความดี พวกคุณบางอย่างเป็นความดีที่พวกคุณอ่านไม่ออกเป็นความลึกซึ้งก็เลยต้องพูดให้ฟัง ให้รู้ว่าดีอย่างนี้ก็มี คุณก็จะได้ติดตามแล้วค่อยๆดูความลึกของความดีงามนี้ ซึ่งเป็นไปได้ยาก 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช ทานและบุญที่ฆ่าตัวตนและของๆตน วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2562 ( 19:40:32 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:49:09 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:06:10 )

เหตุพาเกิดมนุษยชาติชาวอโศก

รายละเอียด

อาตมาก็รู้สึกว่าอธิบายอย่างนี้มาซ้ำซากก็ยังไม่เก่ง แต่คนนำไปปฏิบัติได้จนเกิดมนุษยชาติชาวอโศกขึ้นมา เป็นกลุ่มหมู่จริงๆ เลย อันนี้เป็นความมหัศจรรย์ ที่แต่ละคนมีภูมิธรรมด้านโลกุตระ เป็นปัญญา รู้จักกิเลส อาจจะอธิบายไม่ได้อย่างอาตมาแน่นอน แต่จับสภาวธรรมได้ ตามศรัทธา เป็นน้ำหนักของศรัทธา ทำให้กิเลสลดได้จึงมากันได้ คนที่มีปัญญาก็จะรู้รายละเอียดของกิเลสตนเองแล้วทำให้กิเลสลด แล้วก็จะรู้และพูดบอกคนอื่นได้ จึงมีผู้รู้ทั้งปัญญาและศรัทธา ทั้งปัญญาโลกุตระ มาช่วยอาตมาบรรยาย มาช่วยอาตมาขยายผล จนเกิดมาป่านนี้ ทำงานศาสนามา 50 ปี 

ตั้งแต่มาออกบวชก็คิดว่าจะทิ้งเรื่องเพลงไปหมดแล้ว เสร็จแล้วมาคิดอีกทีว่ามันก็เป็นศิลปะอันเป็นมงคลอันอุดมได้ อย่างที่เคยพูดอธิบายไปหลายทีแล้ว ก็เลยดึงกลับคืนมาเอามาทำดู ก็ดั่งที่มันได้เกิดมา อาตมาก็เลยต้องแต่งขึ้น เป็นเพลงโลกุตระมาตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ เพลงเก่าๆก็เป็นเพลงราคะก็อายที่จะนำออกมาเปิดเผย แต่ราคะไม่ร้ายแรง และก็ไม่ได้ดังมากมาย 

มันก็เป็นสัจธรรม ถ้าหากเพลงโลกๆอาตมาดังมันก็จะติดลม ก็ไม่ดัง ก็มาดังอย่างเพลงสิ้นแสงตะวัน เพลงผู้แพ้ เพลงผกาดั่งนารี ผู้ครองรัก อันนี้ก็เกี่ยวเนื่องกับความรักอยู่แต่รักอย่างบริสุทธิ์แข็งแรง อย่างที่เรียกว่าไม่เหลาะแหละไม่มีความเลวเลยอะไรอย่างนี้ ก็ยังกึ่งๆเพลงรักๆใคร่ๆ ชื่นรัก ก็เป็นเพลงรักๆใคร่ๆ อยู่ แต่เพลงฟ้าต่ำแผ่นดินสูงอธิบายเป็นเชิงรักก็ได้ เป็นเชิงโลกียะก็ได้ อธิบายเป็นโลกุตระก็ได้ อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 29 อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤษภาคม 2565 ( 13:13:00 )

เหตุหนึ่งที่ตายไม่ลง 

รายละเอียด

ปัญญา 18 ปัญญา 13 มีอะไรอีกมาก แค่ปัญญาก็น่าอธิบายอย่างยิ่งทั้งสรุปทั้งขยายความมีองค์ประกอบ อาตมาว่าพวกเราเรียนมาแล้วมีของพอสมควรจะชัดเจนจะได้ ประโยชน์ อีกมาก มันมีอย่างนี้ก็เลยตายไม่ลง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เจโตปริยญาณ 16 มาตรวัดจิตสมาธินิมิต วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:23:30 )

เหตุเจโตวิมุติแก่กล้าย่อมไม่ใช่อยู่แต่ผู้เดียว

รายละเอียด

พระเมฆิยะขอหลีกไปบำเพ็ญในป่ามะม่วง แล้วเกิดวิตก 3 (กาม พยาบาท เบียนเบียน)  ภ.ตรัสว่า  ดูกรเมฆิยะ  ธรรม 5 ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อความแก่กล้าแห่งเจโตวิมุติที่ยังไม่แก่กล้า 5 ประการเป็นไฉน ดูกรเมฆิยะ  ภิกษุในธรรมวินัยนี้

  1. เป็นผู้มีมิตรดี  มีสหายดี  มีเพื่อนดี  นี้เป็นธรรมประการที่1  ย่อมเป็นไปเพื่อความแก่กล้าแห่งเจโตวิมุติที่ยังไม่แก่กล้า ฯ (แล้วเพราะเหตุนี้จึงเกิดผลตามมาอีกคือ...)

  2. ย่อมเป็นผู้มีศีล สำรวมระวังในพระปาติโมกข์  ถึงพร้อมด้วยอาจาระแลโคจร มีปกติเห็นภัยในโทษมีประมาณเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย  (เหตุนี้ได้ผลอีกคือ..)

3. ย่อมเป็นผู้ได้ตามความปรารถนาได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก  ซึ่งกถาเครื่องขัดเกลากิเลส  เป็นไปเพื่อเป็นที่สบายในการเปิดจิต  เพื่อเบื่อหน่ายโดยส่วนเดียว  เพื่อคลายกำหนัด  เพื่อความดับ  เพื่อเข้าไปสงบ  เพื่อความรู้ยิ่ง  เพื่อความตรัสรู้  เพื่อนิพพาน  กถาเหล่านั้น คือ...

(กถาวัตถุ 10) . 

  อัปปิจฉกถา   สันตุฏฐิกถา  ปวิเวกกถา  อสังสัคคกถา 

  วิริยารัมภกถา  ศีลกถา  สมาธิกถา  ปัญญากถา 

  วิมุตติกถา  วิมุตติญาณทัสสนกถา (เพราะเหตุนี้ได้ผลอีกคือ..)

4. เป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อความเกิดขึ้นแห่งกุศลธรรม  เป็นผู้มีกำลัง  มีความบากบั่นมั่นคง    ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม

(เหตุนี้จึงได้ผลอีกคือ..)

  5. เป็นผู้มีปัญญา  ประกอบด้วยปัญญาเครื่องพิจารณาความเกิดและความดับอันเป็นอริยะ  ชำแรกกิเลสให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ (อุทยัตถคามินิยา  ปัญญายะ  สมันนาคโต  อริยายะ  นิพเพธิกายะ  สัมมาทุกขักขยคามินิยา  อปริปักกายะ)  นี้เป็นธรรมประการที่ 5  ย่อมเป็นไปเพื่อความแก่กล้าแห่งเจโตวิมุติที่ยังไม่แก่กล้า ฯลฯ   

ที่มา ที่ไป

เมฆิยสูตร เล่ม 23  ข้อ 85 - 89  ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2562 ( 13:37:33 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:51:05 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:07:25 )

เหตุแห่งการบรรลุธรรม วิมุติ 5

รายละเอียด

1. วิมุติด้วยการฟังธรรมจากศาสดา หรือฟังผู้รู้ในฐานะครู 
2. วิมุติด้วยการแสดงธรรมโดยพิสดารเท่าที่ฟังมา   
3. วิมุติด้วยการสาธยายธรรมให้พิสดารเท่าที่ฟังมา  
4. วิมุติด้วยการตรึกตรองใคร่ครวญธรรมที่ได้ฟังมาด้วยใจ 
5. วิมุติด้วยสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่ง  เธอเล่าเรียนมาด้วยดี ทำไว้ในใจด้วยดี  ทรงไว้ด้วยดี  แทงตลอดด้วยดี  ด้วยปัญญา 
 

ที่มา ที่ไป

วิมุตติสูตร  พระไตรปิฎก  เล่ม 22  ข้อ 26, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2562 ( 14:51:48 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:51:57 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:07:56 )

เหตุแห่งการบรรลุธรรมยาก

รายละเอียด

สงสัยอย่างนี้บรรลุยาก เป็นวิตักกจริต แทนที่จะบรรลุใน 20 หรือ 40 อสงไขย แต่ก็เป็น 80 อสงไขยนะ วิตักกจริตอย่างนี้ไม่จบง่ายหรอก สวรรค์มีจริงในสัจธรรม แต่ในรูปธรรมมันไม่มี สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ ตายไปแล้วก็ในอกในใจคนตายนั่นแหละ มันก็มีวิญญาณของคุณมันไม่สูญมันก็อยู่ในอกในใจของวิญญาณที่ยังไม่ศูนย์นั่นแหละ นรกสวรรค์มีจริง จนคุณสามารถดับนรกสวรรค์ในใจได้มันก็ไม่มี แต่นรกสวรรค์มีจริงสำหรับคนที่ยังไม่บริบูรณ์ยังไม่จบยังต้องแสวงหาสวรรค์ แน่นอนคุณไม่เอานรกหรอก แต่นรกสวรรค์แยกกันไม่ได้คุณเอาสวรรค์อยู่นรกก็ต้องมี มีจริงหรือไม่ก็มี แล้วมันคืออะไร คติคือทางดำเนินแห่งจิต ก็คือจิตไปตั้งภพชาติอุปาทานว่าสวรรค์นรกคืออะไรไม่ไปทำความเข้าใจอย่างแท้จริงว่าสวรรค์คืออะไรนรกคืออะไร สวรรค์คือความสุขนรกคือความทุกข์ ย่นย่อมาง่ายๆ เพราะฉะนั้นอารมณ์เวทนาคือความสุข คนโง่ก็จะเอาแต่ความสุข แต่คนก็จะขาดความทุกข์ไม่ได้ เพราะว่าความสุขความทุกข์มันแยกไม่ออก เหมือนกระดาษมี 2 หน้า คุณไม่สามารถแยกออกกันได้ แม้ว่ากระดาษจะบางเท่าไหร่ก็ยังมี 2 หน้า ศาสนาพุทธก็เลยดับมันทั้งคู่เลยจบไม่ทุกข์ไม่สุข ไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่มีทั้งสุขและทุกข์ก็อ่านอาการสุขอาการทุกข์ อาการทุกข์อ่านง่ายแต่อาการสุขมันยอดมหาอภิบรมหลอก ละเอียดลึกซึ้งซับซ้อนมาก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2562 ( 20:37:55 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:53:59 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:08:55 )

เหตุแห่งการบรรลุธรรมได้ 5 ประการ

รายละเอียด

ไม่มีปัญหาบรรลุได้ในการฟังธรรม เขาไม่บรรลุจริงก็เพราะว่าเขาไม่ถึงสัจธรรมจริง แต่ถ้าถึงสัจธรรมจริงการฟังธรรมนี้แหละก็บรรลุธรรมไม่ต้องไปนั่งหลับตาหรอก การปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้านั้นมีเหตุแห่งการบรรลุธรรมได้ 5 ประการ 

  1. วิมุติด้วยการฟังธรรม จากศาสดาหรือผู้อยู่ในฐานะครู .  

  2. วิมุติด้วยการฟังธรรมจากภิกษุแสดงธรรม โดยพิสดาร 

  3. วิมุติด้วยการฟังการท่องบ่นจากภิกษุเท่าทร่ได้ฟังมา เล่าเรียนมาโดยพิสดาร  

  4. วิมุติด้วยการตรึกตรองใคร่ครวญธรรมที่ได้เล่าเรียนมาให้เข้าใจ  

  5. วิมุติด้วยสมาธินิมิต อย่างใดอย่างหนึ่ง เล่าเรียนมา ทำไว้ในใจด้วยดี ทรงไว้ด้วยดี แทงตลอดโดยปัญญา 

(พตปฎ.  เล่ม 22  ข้อ 26) สมาธิ บาลีคำนี้แปลว่าจิตตั้งมั่น ถึงไม่ได้หมายความว่าไปนั่งสงบหลับตาให้จิตมันสงบ แต่สมาธินี้ยิ่งมีความรู้ ทำไว้ในใจจะมีการไตร่ตรองเหมือนกับการบรรลุธรรม 5 ประการ เกิดธรรมะทรงไว้ด้วยดี ธรรมะก็ยิ่งเจริญ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 สิงหาคม 2563

หนังสืออ้างอิง

พตปฎ.  เล่ม 22  ข้อ 26


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2563 ( 09:36:58 )

เหตุแห่งความไม่สงบคือ...

รายละเอียด

ความสงบคือปัญญา ความสงบคือธาตุรู้ที่ยิ่งใหญ่ ที่รู้เหตุแห่งความไม่สงบคือตัวกิเลส หยาบ กลาง ละเอียด เอามาบำเรอตัวตนเป็นหลัก อย่างนั้นต่างหาก ล้างกิเลสพวกนี้ให้ได้ตั้งแต่เราเกี่ยวข้องกับสังคม กว้างได้เท่าไหร่ก็เอาประมาณเท่านั้น แล้วเราก็รู้ว่าถ้าเราประมาณจำนวนคนเท่านี้เราดูแลกันหรือช่วยเหลือกัน ทำให้อยู่ด้วยกันอย่างอิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ลงท้ายด้วย ใจเกื้อกูล และทุกคนก็หมดตัวตนเสียสละไม่มีความเห็นแก่ตัว เพิ่มพูนเสียสละ นี่เป็นตัวจบที่ยิ่งใหญ่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปลุกพลังเงียบช่วยกันทำให้การเมืองเจริญ วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 14 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 19:40:26 )

เหตุแห่งทุกข์

รายละเอียด

ที่จริงส่วนมากแล้วเป็นปุถุชน หลงสุขไปทำเหตุแห่งทุกข์ไว้มาก หลงสุขจึงทำเหตุแห่งทุกข์มาบำเรออัตตาตัวเอง ใช่ไหม คุณก็ไปเสพสุขเพราะคุณหลงการเสพสุข คุณจึงไปหาเหตุแล้วก็ไปเบียดเบียนโลก เบียดเบียนตั้งแต่ เอาตั้งแต่มนุษย์ ที่ไปกระทบสัมผัสเกี่ยวข้อง แล้วโง่ไปแย่งสมบัติ วัตถุ โง่ไปแย่งแม้แต่แย่งแผ่นดิน โง่ไปแย่งอำนาจบาตรใหญ่ โง่ แย่งทั้งนั้นจะได้เป็นผู้ที่มีมากมีอำนาจ ทุกอย่างเป็นของข้าหมด ข้าจะเอามาเมื่อไหร่ก็ได้ง่ายๆ มันหลงถึงขนาดนั้นขี้โลภ ไม่มีที่สิ้นที่สุด 

พระพุทธเจ้ามารู้ว่า โอ้ มันไม่จบมันไม่มีที่สิ้นสุด หยุดอยากได้เถอะตั้งแต่ของที่มันต้องลำบากหนักหนาต่างๆ หยุดเถอะความไร้สาระหยุดเอามาก่อน เพราะฉะนั้นความฉลาดที่รู้จักละเลิกจากสิ่งที่สังขารปรุงแต่งเป็นสังขารโลก ลดลงมาลดลงมา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาหาราธิปไตย สร้างอายะ 3 ด้วยอาหาราวุธ วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 เมษายน 2566 ( 15:14:37 )

เหตุแห่งทุกข์คือความโง่ความหลงสุข

รายละเอียด

จะฆ่าทุกข์ เพราะมันมีเหตุคือความโง่ ไปทำอยู่ทำไมให้เกิดความทุกข์ หรือก็คือความหลงความสุขนั่นแหละ ก็ต้องฆ่าเหตุที่ให้เกิดความทุกข์ ที่จริงคุณต้องการความสุขเพราะถูกหลอก คุณต้องการสุขอยู่ทำไม ก็ฆ่าเหตุนั้น หากฆ่าเหตุนั้นตายหมด สุข ทุกข์ก็หายหมด เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธไม่มีสุขไม่มีทุกข์ อันนี้แหละยากมาก 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2563 ( 11:53:40 )

เหตุแห่งทุกข์คือตัณหาและอุปาทาน 

รายละเอียด

เอาสภาวะจริงๆ มาอธิบายให้ฟังชัดๆ เมื่อศึกษารู้ตัวการใหญ่ที่มันควบคุม ที่มันอวิชชา แล้วไปปรุงแต่งกันใหญ่ จนกระทั่งไปหลงเวทนามันมีสอง คือสุขกับทุกข์ เป็นมารใหญ่ ซาตานใหญ่ เป็นตัวปลอมไม่มีตัวจริงเลย แล้วมันแยกกันไม่ออกก็ควบคุมเวทนา คนก็โง่ไปกับเวทนา อยู่กับสุขทุกข์จริงๆๆๆเลย แต่เขาไม่เรียนทุกข์ เขาก็ไปหลงจะเอาแต่สุข แต่วิธีดับเหตุแห่งทุกข์เขาไม่ได้เรียนเลย มีพระพุทธเจ้าค้นพบว่า สุขกับทุกข์แยกกันไม่ออกเหมือนกระดาษแผ่นเดียวกัน มันตอแหล เอาสุขมาโชว์แต่ที่จริงมันทุกข์ ก็ดับทุกข์ ฆ่าทุกข์ จับเหตุแห่งทุกข์คือตัณหา คืออุปาทาน 

ตัณหา อุปาทาน คือกิเลส กิเลสตัวนอนนิ่งคืออุปาทาน ตัวเคลื่อนไหวคือ ตัณหา จัดการดับได้ก็ดับภพชาติที่โง่ ดับอวิชขาได้ก็มีแต่สังขารความจริงตามความเป็นจริงในโลก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตำหนิให้เขาดื่มได้คือหน้าที่ของผู้ทำงานศาสนา วันพุธที่ 28 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2564 ( 19:06:11 )

เหตุแห่งฝัน 4

รายละเอียด

1. ธาตุกำเริบ (ธาตุโขภะ)

2. เคยเสพมาก่อน (อนุภูตปุพพะ)

3. เทวดาดลใจ (เทวโตปสังหาระ)

4. ลางบอกเหตุ (ปุพพนิมิต)

ที่มา ที่ไป

อรรถกถาแปล เล่ม 66   "ตุวฏกสุตตนิทเทส"  หน้า 429

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 20 มิถุนายน 2562 ( 12:24:33 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:43:07 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:09:16 )

เหตุแห่งฝัน 4

รายละเอียด

1. ธาตุกําเริบ (ธาตุโขภะ)

2. เคยเสพมาก่อน (อนุภูตปุพพะ)

3. เทวดาดลใจ (เทวโตปสังหาระ)

4. ลางบอกเหตุ (ปุพพนิมิต)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,อรรถกถาแปล เล่ม 66 “ตุวฏกสุตตนิทเทส” หน้า 429


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 12:02:50 )

เหตุแห่งวิมุต 5

รายละเอียด

เหตุที่ทำให้บรรลุหลุดพ้นกิเลส (วิมุต) ได้

1. หลุดพ้นด้วยการฟังธรรม

2. หลุดพ้นด้วยการแสดงธรรม

3. หลุดพ้นด้วยการท่องทบทวนธรรม

4. หลุดพ้นด้วยการตรึกตรองใคร่ครวญธรรม

5. หลุดพ้นด้วยการตั้งจิตมั่นในนิมิต (สมาธินิมิต)

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม  22  "วิมุตติสูตร"  ข้อ  26

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก 


เวลาบันทึก 24 มิถุนายน 2562 ( 23:05:59 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:42:06 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 12:09:37 )

เหตุแห่งวิมุต 5

รายละเอียด

เหตุที่ทําให้บรรลุหลุดพ้นกิเลส (วิมุต) ได้

1. หลุดพ้นด้วยการฟังธรรม

2. หลุดพ้นด้วยการแสดงธรรม

3. หลุดพ้นด้วยการท่องทบทวนธรรม

4. หลุดพ้นด้วยการตรึกตรองใคร่ครวญธรรม

5. หลุดพ้นด้วยการตั้งจิตมั่นในนิมิต (สมาธินิมิต)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฏกเล่ม 22 “วิมุตติสูตร” ข้อ 26


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 20:42:29 )

เหตุแห่งวิมุต 5

รายละเอียด

เหตุที่ทําให้บรรลุหลุดพ้นกิเลส (วิมุต) ได้

1. หลุดพ้นด้วยการฟังธรรม

2. หลุดพ้นด้วยการแสดงธรรม

3. หลุดพ้นด้วยการท่องทบทวนธรรม

4. หลุดพ้นด้วยการตรึกตรองใคร่ครวญธรรม

5. หลุดพ้นด้วยการตั้งจิตมั่นในนิมิต (สมาธินิมิต)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฏกเล่ม 22 “วิมุตติสูตร” ข้อ 26


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 20:46:00 )

เหตุแห่งวิมุติ 5 เป็นอย่างไร

รายละเอียด

เหตุแห่งวิมุติ 5 เป็นผลต่อจิตภิกษุผู้ไม่ประมาทได้บำเพ็ญเพียรมีใจเด็ดเดี่ยวมาก่อนแล้ว ทั้ง 5 ข้อล้วนแล้วแต่เป็นการบรรลุธรรมเพราะเหตุแห่งการได้ฟังธรรมจากพระศาสดาหรือสัตบุรุษผู้อยู่ในฐานะครู แล้วจิตท่านได้เจโตวิมุติมาก่อนแล้ว ขาดแต่การลงบัญชี จากการฟังธรรมเท่านั้น จึงไม่ใช่การเกิดคิดค้นเดาเอาตามตรรกะตามที่มีผู้ถามมา เรื่องนี้ก็ขอแจกแจงให้ฟัง การสั่งสมบารมีผู้ที่เกิดในยุคพระพุทธเจ้าเป็นคนมีบารมีฟังธรรม 4 ประโยคก็บรรลุอรหันต์แล้ว อย่างพระพาหิยะทารุจริยะ หรือพระยสะก็ฟังธรรม 2 กัณฑ์ก็บรรลุพระอรหันต์ เป็นผู้ที่มีทั้งเจโต และมีทั้งปัญญาเก่า แต่ว่าปัญญายังไม่ถ้วนเท่านั้น แต่มีเจโตมาแล้ว พอฟังปัญญาเข้าใจอีกนิดเดียวก็บรรลุได้ เพราะฉะนั้นคนแต่ละคนจึงมีบารมีสั่งสมมาไม่เท่ากัน คนเหมือนกัน คุณไพศาล พืชมงคลเคยถามอาตมาเหมือนกันว่า ทำไมผมอ่านพระไตรปิฎกตั้งมากมายทำไมไม่บรรลุพระโสดาบันเหมือนพระยสะสักที เคยตอบไปแล้วว่าสั่งสมบารมีต่างกันคนที่มีบารมีแล้วนิดเดียวก็บรรลุ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 12:11:49 )

เหตุโลกียะดีแต่ไม่มีความรู้ทางโลกุตระเป็นอย่างไร

รายละเอียด

บางทีเหตุโลกียะดี แต่ไม่มีความรู้ทางโลกุตระ ความดีทางโลกุตระนี้มีความซับซ้อน ทำให้เรามีความสั่งสมวิบากจากกรรมที่เราได้ดี แล้วใช้ความดีนั้นไม่เป็น เช่น วิบากนี้ทำให้เรารวยมีเงินมาก พอเกิดมาแต่ไม่มีคุณธรรมทางโลกุตระ 1.ไม่รู้ว่าดีชั่วเป็นอย่างไร 2. ไม่รู้ความเป็นโลกุตระ ก็เลยได้แต่แบบโลกๆ เลยทำให้ตัวเอง ยิ่งสะสมวิบากที่เป็นโลกหนักเข้าไปใหญ่เลย เช่น หลงความสนุกสนานร่าเริง จนสนุกสนานหนักเข้าจึงกลายเป็นโทษต่อคนอื่น เป็นภัยต่อคนอื่น ตัวเองก็เลยต้องมีวิบากมากๆ เพราะว่าตัวเองนี้เป็นคนเอาแต่ใจตัว เป็นคนใช้อำนาจ เช่น รวยก็เอาอำนาจรวย ไปเบียดเบียนไปฆ่าไปเอาเปรียบคนอื่นไปทำร้ายคนอื่น พวกนี้ หรือแม้แต่ไปแข่งเอาชนะคนอื่นก็ยังมีวิบากชั่ว แต่แข่งอย่างชนะโลกๆ มันชั่ว ไปแข่งชนะโลกีย์มันชั่ว ต้องแข่งทางโลกุตระ ลดละตัวตน กิเลสอย่างนี้ดี ถ้าแข่งเพิ่มอัตตา เป็นชั่ว แข่ง ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข ศักดิ์ศรีอะไรต่างๆ มันก็จะชั่ว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 18:45:33 )

เหตุใด 0 จึงเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

รายละเอียด

ของพุทธเข้าใจยากที่สิ่งที่เป็นหนึ่งเดียวไม่ขัดแย้งลงตัวเป็นหนึ่งเดียวก็เท่ากับสิ่งหยุดสิ่งไม่เคลื่อนไม่ต้องมีสอง หนึ่งนี้มันจะคือครบทั้งหมด คือ 0

คำว่า 0 คำนี้ จึงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเลย รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้ที่ตรัสรู้จะมีความรู้สึกอย่างนั้น พอรู้สึกว่าตัวเองรู้จบ รู้เป็น 0 รู้ครบ มันเป็นอจินไตย พอรู้แล้วจะรู้สึกว่า มันจะมีอะไรที่เราไม่รู้อีกหรือ มันจะมีความรู้สึกนี้ ในพวกเรานี้ผู้ที่เกิดอาการอย่างนี้มี

มีคนหนึ่งที่เกิดอาการนี้แล้วแสดงออกมาเลย แสดงพยัญชนะภาษา แสดงจริงใจเลย อาตมาได้รับพอดีที่ท่านแสดงอาการนี้ออกมา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ครั้งที่ 29 วันรัฐธรรมนูญ ที่บ้านราชฯ  

สื่อธรรมะพ่อครู(ธรรมะ 2) ตอน ทำไมคนเราต้องปฏิบัติธรรม วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม  2561


เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:23:43 )

เหตุใด 50 ปีโพธิกิจจึงเป็นทองคำแพงแท้จริงๆ

รายละเอียด

อาตมาทำงานมา 50 ปีก็สำเร็จเรียกว่าเป็นทองคำได้ และเป็นทองคำที่เรียกว่าแพง ก็เพราะว่ามันเป็นทองแท้ ไม่เป็นของจริงราคาก็ควรแพง มันเป็นของแท้จริงๆ คือ มันถูกต้องตามธรรมพระพุทธเจ้า อาตมาให้คะแนนเองนะว่ามันถูกต้องจริงๆ ให้คะแนนเพราะอะไร เพราะมีคนมาฟังเข้าใจได้แล้วมาปฏิบัติได้ตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้า จรณะ 15 วิชชา 8 ก็อธิบายได้ สาราณียธรรม 6 ก็อธิบายได้ครบ สาธารณโภคีได้ลาภโดยธรรมก็เอามาเข้ากองกลางอันนี้แหละมันยิ่งใหญ่เป็นการยืนยันธรรมะพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะในยุคไหนก็ตาม แม้แต่ในยุคนี้เขาก็ต้องการสาธารณะ คอมมิวนิสต์ก็ต้องการสาธารณะ ประชาธิปไตยก็ต้องการ เผด็จการเท่านั้นแหละมันไม่ยอม มันจะเอาเป็นของอั๊วะวคนเดียว เป็นอำนาจใหญ่ เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่เอาแล้วแบบนี้ เดี๋ยวนี้เผด็จการตกกระป๋องไปแล้ว

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 09:43:43 )

เหตุใด Bloomberg จึงใช้คำว่าเมืองไทยทุกข์น้อยที่สุด

รายละเอียด

อาตมาก็ดูรายงานที่เขาตรวจสอบ Bloomberg บอกว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่ทุกข์น้อยที่สุดเป็นเบอร์ 1 ของโลก เขาไม่พูดว่าความสุขเลย แสดงว่าเขารู้แล้วว่า อริยสัจ มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป สุขมันเป็นความตอแหลเป็นความโกหก มันไม่มีจริงหรอกสุข เป็นภาษาที่หลอกล่อความรู้สึกอย่างหนึ่งที่เป็น อุปาทาน ภาษาที่เขาใช้ก็ส่อแสดงว่ารู้สึกว่าจะใช้ภาษานี้ดีกว่า

จริงๆคำว่าทุกข์กับสุข ถ้าในโลกในสังคมทั่วไปเขาก็ใช้คำว่าสุขมากกว่า ดีกว่า เขาก็ทักทายกันว่า มีสุขดีไหม How are you? ก็แปลว่าสบายดีไหม พระพุทธเจ้าตรัสทักทายกันว่า เป็นยังไงพอทนทุกข์กันได้ดีอยู่ไหม ท่านไม่ใช่คำว่าสุขดีอยู่ไหม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:58:22 )

เหตุใด ส.ศิวรักษ์ จึงได้รับฉายาว่าปัญญาชนสยาม

รายละเอียด

ที่ได้ฉายาว่า ปัญญาชนสยาม ก็เป็นการยกย่องยกยอกันไป เป็นเรื่องของสังคมยกย่องกัน ถ้าจะมองให้ดีแล้วปัญญาชนสยามจะเป็นคำยกย่องหรือคำประชดก็ได้ว่า ช่างอวดรู้ทำเป็นผู้รู้ ปัญญาชนสยาม เข้าใจว่าเป็นคำยกย่องก็ไม่เป็นไรไม่เสียหาย ถ้าเราเองไม่หลงระเริงไม่หลงผิดไป แทนที่จะหลงระเริงยึดมั่นถือมั่น

ส.ศิวรักษ์เขามีสิทธิ์ ความคิดเห็นของเขาเอง อาตมาว่า เขาเป็นคนเคารพตัวเองได้มาก มากจนเกินเลย เขารักตัวเองได้ดี ดีจนเกินเลย ความดีจนเกินเลยจึงได้รับฉายาว่าปัญญาชนสยาม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 18:51:37 )

เหตุใดกรรมของพระอรหันต์จึงเป็นกุศลทั้งนั้นไม่ใช่บุญ

รายละเอียด

กรรมของผู้กระทำ อธิบายไปหลายทีแล้ว อันแรกท่านเข้าใจคำว่าบาปขั้นที่ 2 ท่านใช้คำว่ากุศล กุศลคู่กับกุศล บาปต้องคู่บุญ อันนี้คนเข้าใจยาก บาปคือสิ่งที่อนุโลมเรียกว่าเป็นอกุศลได้ด้วย หรือสิ่งที่เป็นกิเลสนั้นเป็นบาปทั้งนั้น กรรมใดที่เป็นกิเลสก็คือบาปทั้งนั้น ผู้ที่เป็นพระอรหันต์แล้วจึงทำกรรมที่ไม่มีกิเลสอีก จึงเรียกว่า สัพพปาปสอกรณัง เพราะฉะนั้นกรรมของพระอรหันต์ที่จะทำต่อไป พระอรหันต์ที่บรรลุแล้วยังไม่ตายชีวิตก็ต้องมีการกระทำกรรม เพราะฉะนั้นกรรมของท่านที่ท่านบรรลุแล้วไม่ทำบาปทั้งปวงแล้ว กรรมของท่านจึงเป็นกุศลทั้งนั้น ไม่ใช่บุญ ท่านถึงใช้คำว่ากุศลในโอวาทปาติโมกข์ หากเข้าใจว่าบุญคือกุศลท่านต้องใช้คำว่าทำบุญสิ แต่ไม่ใช่..ท่านใช้คำว่ากุศล นี่คือหลักฐาน พยัญชนะ โอวาทปาติโมกข์ 3 กลุ่มเดียวกันนี้นะ เพราะฉะนั้นคำว่าบาปกับคำว่ากุศลจึงมีนัยยะที่ต่างกัน ผู้รู้จริงๆจึงอธิบายได้ ผู้ที่เข้าใจไม่ถูก อธิบายไม่ถูก ก็จะไปแปลว่า ละชั่ว ประพฤติดี ทำจิตให้ผ่องใส อันนี้แบบโลกีย์ เข้าใจไม่ถูกต้อง แต่ของพระพุทธเจ้านั้นบาปบุญเป็นโลกุตระ คือ ไม่ทำสิ่งที่เป็นกิเลส เมื่อไม่ทำ สัพพปาปสอกรณัง บาปทั้งหลายไม่ทำแล้วจบ กรรมที่ท่านจะทำต่อไปนี้ผู้นี้จึงมีแต่กุศล กรรมของท่านจะไม่มีอกุศลอีกเลย แน่นอน บาปไม่มีแล้ว เพราะฉะนั้นข้อที่ 2 จึงมีแต่กุศลมีความดีงามทั้งนั้นที่เป็นโลกียนะ แต่เรื่องบาปบุญเป็นเรื่องโลกุตระ กุศลเป็นโลกุตระด้วย

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2563 ( 10:54:27 )

เหตุใดกามทั้งหลายในโลกไม่เป็นอันนรชนละได้โดยง่าย

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคำว่า กามทั้งหลายในโลกไม่เป็นอันนรชนละได้โดยง่าย มันตีความรวมไปหมดเลยว่า ผู้ที่ไม่เข้าใจเรื่องกาม ไม่ปฏิบัติละกามเป็นเบื้องต้นก่อน จริงๆเขาเข้าใจผิดอันหนึ่ง คำว่า กาม คำว่า กาย

เขาเข้าใจ กาย นี้ผิด ผิดตรงที่ว่า ครึ่งหนึ่งเขาเข้าใจคำว่า กาย คือข้างนอก แต่มันไม่ใช่ข้างนอกอย่างเดียว กายมันมีข้างในด้วย แล้วเขาเข้าใจผิดด้วย เขาไปกำหนดหมายเอาแต่ข้างนอกอย่างเดียว มันซับซ้อนหลายชั้น 

เข้าใจ กาย ผิด ก็เลยไม่รู้เรื่อง เพราะกายไม่มีวิญญาณ 

คำว่า กาย คำว่า กาม คำว่า จิต 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 4 วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564 แรม 2 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2564 ( 12:07:52 )

เหตุใดการตำหนิติเตียนจึงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น เรื่องการตำหนิติเตียนนี้ จึงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ พระพุทธเจ้าตรัสเลยว่า คำสรรเสริญนี้เป็นคำต่ำทราม ฟังให้ดีนะ นี่อาตมาไม่ได้พูดเล่นพูดเองนะ คำสรรเสริญพระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นคำต่ำทราม ไม่มีส่วนที่จะทำให้เกิดเรื่องละหน่ายคลายอะไรได้จากคำสรรเสริญ 

แต่การตำหนินี้ทำให้เกิดความละหน่ายคลายได้ นี่ก็เป็นความลึกซึ้งของความรู้อย่างพระพุทธเจ้า ที่เอามาสอนมนุษย์ คิดเล่นๆ ตื้นๆ มันไม่ออก ไม่ทัน ไม่ได้อย่างพระพุทธเจ้าท่านตรัสหรอก พระพุทธเจ้าตรัสนี้เป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก

เพราะฉะนั้น เรื่องมหัศจรรย์ ข้อ 1 ความเป็นลำดับ อย่าไปเที่ยวได้ตัดลัดเล่น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ 8 ประการในชาวอโศกบุญนิยม วันพุธที่ 12 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2565 ( 19:34:20 )

เหตุใดการทำใจในใจหรือการทำสมาธิแบบหลับตาจึงนอกทางพุทธ

รายละเอียด

จะทำใจมนสิการได้อย่างไร เขาไปนั่งหลับตาสมาธิ เขาก็ทำใจในใจเป็นวิธีของเขา ทำให้เป็นสมาธิแบบเดียรถีย์แบบนอกทางพุทธ เขาก็ทำ มนสิการ แต่มันไม่ได้ถ่องแท้ไม่ได้เข้าไปถึงที่เกิด ไม่ถึงสัมภวะ คือสมุทัย ในมูลสูตร

มีมนสิการ เป็นแดนเกิด มีผัสสะเป็นเหตุเกิด(สมุทัย) มีเวทนาเป็นที่ประชุมลง แล้วก็จัดการที่เวทนา ปฏิบัติกันที่เวทนาจิตจึงจะบริบูรณ์ บรรลุสมาธิได้  มีโยนิโสมนสิการได้ 

ถ้าไม่ทำที่เวทนาไม่รู้จักเวทนาเป็นฐานที่ตั้งแห่งการปฏิบัติเรียกว่ากรรมฐาน ในพรหมชาลสูตรว่าไว้ ก็อ่านพระไตรปิฏกไม่แตก แล้วไปเอากรรมฐานเป็นสมถะ เช่นกสิณ 40 มาเป็นกรรมฐาน นี่ออกนอกรีตไปไกลๆเลย เป็นการสะกดจิต เอาจิตไปเกาะไว้ ตั้งแต่เกาะในบัญญัติพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เกาะศีลต่างๆ 10 อย่างหรือมากกว่า 40 อย่าง เป็นพันเป็นหมื่นอย่างก็ได้ที่ให้จิตไปเกาะอยู่เป็นสมถะ 

เป็นการทำใจในใจแบบเขา ไม่ใช่การทำใจในใจอย่างถูกต้อง อย่างแยบคายที่มี อปัณณกปฏิปทา 3 หรือมีศีล มี อปัณณกปฏิปทา 3 มีสัทธรรม 7 มีฌาน 4 จึงเกิดฌานของพุทธ แต่นี่ฌาน ไปนั่งหลับตาปี๋ แล้วจะเกิด ฌาน ก็เป็นความผิดของเดียรถีย์ เขาก็ต้องเป็นอย่างนั้น เป็นของพระพุทธเจ้าก็จะรู้ว่าสัมมาทิฏฐิเป็นสัมมาทิฏฐิ มิจฉาทิฏฐิเป็นมิจฉาทิฏฐิ 

รู้ถูกแล้วก็ต้องพากเพียร มีวิริยารัมภะ หรือมีชาคริยานุโยคะ อนุยุตโตพากเพียร มีอารัภภะ แต่ไม่ค่อยเข้าใจ ซึ่งก็น่าเห็นใจเหมือนกัน เพราะไม่มีใครไม่อยากไม่เข้าใจ ทุกคนอยากเข้าใจสิ่งที่ถูกต้องสิ่งที่ดีทั้งนั้นแหละ แต่เขาได้แค่นั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 10 วันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:29:37 )

เหตุใดการสะสมบุญข้ามชาติจึงมิจฉาทิฏฐิ

รายละเอียด

เอาล่ะ ทีนี้ มาต่อเรื่อง“บุญ”กันอีก“บุญ”มีแต่ใน“ปัจจุบัน” นี่ก็ย้ำๆซ้ำๆ “บุญ”จึงไม่มีใน“อดีต” คนผู้ที่หลงพากัน“สะสมบุญ”ไปข้ามชาติ ว่าไป“มีบุญ”ใน“ชาติหน้า”นั้น จึง“มิจฉาทิฏฐิ”แท้ๆ ทีเดียว  

ผู้หลงสะสม“บุญ” แล้วจะหอบบุญ “ข้ามชาติ”นั้น จึงไม่มีสิทธิ์บรรลุมรรคผล เพราะ“มิจฉาทิฏฐิ”สมบูรณ์แบบผู้“ตัดกิเลส”หรือ“กิเลสถูกชำระออกจากจิต”ได้ “จิต”ของคนผู้นี้ไม่มีกิเลสนั้นๆ คนผู้นี้จิต“มีผล”นี้ หากคนผู้นี้ยังจะเป็นคนสืบต่อ(สันตติ)อยู่ จึงเกิด“ข้ามชาติ”ที่เป็นคน 

คนนะ!..ที่เกิด“ข้ามชาติ” มิใช่“บุญ” (คนคือเครื่องปรุงที่ประกอบด้วย ดินน้ำไฟลม+วิญญาณ)บุญ“ข้ามชาติ”! ไม่มีใน“สารบบ”พุทธกำหนดสภาวะ และภาษาให้แม่นๆ “บุญ”ที่คนผู้นี้ทำแล้ว มันไม่มีแล้ว มันจบ“ปัจจุบัน”แห่งการเป็น“บุญ”แล้ว“บุญ”ข้ามชาติ ไปเป็น“อนาคต”ไม่ได้“บุญไม่เกิดนอกปัจจุบัน”เลย ตรงนี้สำคัญมากๆๆๆ “นอกปัจจุบัน”ไม่มีบุญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561
ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู (สมาธิพุทธ) ตอน บุญคือ อธรรม มิใช่ ธรรมะ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:00:52 )

เหตุใดการหลับตาปฏิบัติจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

รายละเอียด

หากว่า ถ้าหลับตาปฏิบัติเป็นสิ่งที่ถูกต้อง พระพุทธเจ้าท่านจึงตรัสไว้ใน อินทริยภาวนาสูตร บอกว่าให้ทำลายตาทำลายหูทำลายทวารทั้ง 5 เสียก็ถือว่าบรรลุอย่างนั้นหรือ มันก็ไม่ใช่หรอก

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม สิ้นยุคประชาธิปไตย-เผด็จการ วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(ญาณ 16) ตอน ญาณ 16 อย่างย่อ


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:14:32 )

เหตุใดการเมืองประชาธิปไตยต้องมีฝ่ายค้าน

รายละเอียด

เนื้อหาเนื้อแท้ของประชาธิปไตย เพื่อประชาชน เนื้อหาเนื้อแท้มิใช่ เลือกตั้ง…การเมืองมุ่งเป้าประชาชนต้องเลย ต้องอะไร ต้องการเมืองมีต้องมุ่งเป้าประชาชนนะโดยประชาธิปไตยคือทุกคนร่วมสร้างมุ่งเป้าที่ประชาชน โดยประชานี่แหละร่วมกันสร้างทุกคนมิใช่แค่พรรค เท่านั้นเองไม่ใช่แค่พรรคพล ส่วนหนึ่ง บอกว่าพรรคใดจะมาสร้างประชาธิปไตยเนี่ยขี้หมานะครับ ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่งอย่ามาทำเก่ง อย่ามาสร้างประชาธิปไตยอื่น  ด้วยการค้านนี้จะทำความเห็นแย้งกันจริง ความเห็นไม่ตรงกันจริง แต่คุณจะต้องรวมกันประชาธิปไตยใน จริงๆคือต้องรวมพรรคทุกพรรค แม้ฝ่ายค้าน การเมืองประชาธิปไตยไม่มีค้าน ไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะจะต้องร่วมด้วยฝ่ายค้านก็จะต้องคุยกันมา ต้องเอาชิ้นเนื้อหาสาระอะไร ทำไมต้องทานบกพร่องอย่างไรเสียหาย คุณก็แสดงความเห็นค่าในตัวคุณเอง คุณเป็นพวกฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายบริหารคนก็พูดกับเขาว่ามาอย่างนี้ มันไม่ดีอย่างนี้ ก็บอกเออเราเห็นว่าอย่างนี้ดีๆนี้ก็เอาที่ปลายใจกันของฝ่ายค้านก็ถูกแค่ได้ประโยชน์เหมาะสมทุกอย่าง อภิปรายกันแล้ววิจัยวิจารณ์กันแล้วก็เอาของฝ่ายค้านมาทำอีกอันนี้คุณทานได้ชนะได้ถูกต้องตามรัฐธรรมอ๊อฟรัฐบาลอภิปรายและวิจารณ์วิจารณ์ครับฝ่ายรัฐบาลถูก ก็ต้องยอม จะเอาแต่ชนะคะคานกันเพื่อที่จะเอาชนะคะคานเฉยๆ เป็นระดับประชาธิปัตย์ต่ำไม่ใช่ประชาธิปไตย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 09:28:51 )

เหตุใดการเลือกตั้งจึงไม่ใช่แก่นสารของความเป็นประชาธิปไตย

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นพวกที่ยังมะงมมะงาหลากับประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งควรจะตื่นเสียที แดดออกแล้วฟ้าก็งามดุจเปลวทอง เพลงของสุรพล โทณะวณิก ไม่ตื่นเสียทีงมงายกับการเลือกตั้ง มันเป็นกะผลีกนิดนึง เรื่องเลือกตั้งมันไม่ใช่เรื่องแก่นสารเนื้อหาของความเป็นประชาธิปไตย ประชาธิปไตยเป็นเรื่องเพื่อประชาชน คนที่ทำงานเพื่อประชาชนตั้งแต่หัวหน้า ตั้งแต่ผู้ที่เป็นรัฏฐาธิปัตย์ จนกระทั่งสมาชิกผู้ร่วมบริหารอภิบาลปกครอง ล้วนแล้วแต่ทำเพื่อประชาชนจริง ยืนยันได้ตรวจสอบได้พิสูจน์ได้ วิจัยได้ ตรงนี้ต้องมีความเฉลียวฉลาดเพียงพอต้องมีภูมิปัญญาที่เรียนรู้สัจจะความจริงพวกนี้อาตมาว่าอาตมาพอมีภูมิมีความรู้ จึงเอามาพูดอย่างนี้ ก็ยังอยู่ในกรอบของเหตุปัจจัยข้อมูลที่จำนนว่าอาตมายังไม่มีมวลมากพอ ยังไม่มีคนมากพอ ถ้าคนมากพอเมื่อไหร่จะมาก็จะไปร่วม ไม่ใช่อวดดีหรอก จะไปร่วมทำให้ประเทศให้มวลชนประชาชนไทยดีขึ้นในโลก ไม่ได้ไปเบ่งข่มอำนาจบาตรใหญ่ เหมือนนักประชาธิปไตยแบบโดนัลด์ทรัมป์ ที่เป็นตัว activist อยู่เต็มที่ขนาดนี้ อย่างอาตมา ไม่ใช่เป็นนักประชาธิปไตย บวมๆอย่างนั้นหรอก หรือพวกคอมมิวนิสต์อาตมาก็ไม่ใช่แน่ๆอยู่แล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 12:04:53 )

เหตุใดกินพืชจึงปลอดภัยจากกรรมวิบาก

รายละเอียด

วิญญาณนี้คือจิตนิยาม พลังงานที่พัฒนาจากอุตุนิยามมาเป็น พีชนิยาม เป็นชีวะที่ไม่มีเวทนาไม่มีวิญญาณ พลังงานยังไม่มีคุณภาพประสิทธิภาพถึงวิญญาณ หรือเรียกว่าเวทนาก็ยังไม่ได้ เพราะว่า พีชะจะมีความรู้แค่สัญญากับสังขารกับรูป จะมี 3 เส้า รูป สัญญา สังขาร นี่คือ พีชะยังไม่มีเวทนา ยังไม่มีวิญญาณจึงได้ชื่อว่าเป็นพลังงาน เป็นชีวะ หรือเรียกว่า อุปาทินกสังขาร เป็นสังขารที่ไม่มีวิญญาณครอง ไม่มีกรรมวิบาก เราจึงกินพืชได้อย่างปลอดภัย ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มันไม่มีเวทนาไม่รู้จักสุขจักทุกข์ไม่จองเวรจองกรรมกับใคร 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณกินข้าวได้ไหม อย่างไรคือสัมมาทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2564 ( 18:48:16 )

เหตุใดคนจึงกลัว

รายละเอียด

คนที่กลัว กลัวอะไรก็แล้วแต่ คือคนนั้นยังไม่รู้ว่าอันนั้นคืออะไร ถ้าเรารู้ว่าอันนั้นดีก็ได้เราจะไม่กลัว น้องบัวต้องศึกษาจากเพื่อนๆจากพี่ๆน้องๆจากพ่อแม่จากสมณะ  สิกขมาตุ แล้วเราจะรู้ว่าความตายคืออะไร เมื่อรู้ว่าความตายคืออะไร แล้วน้องบัวจะไม่กลัวความตาย เพราะคนเราต้องตาย เกิดมาต้องตาย ไม่มีใครไม่ตาย เพราะฉะนั้นเราก็จะรู้ว่า อ๋อ เราต้องตายเนาะ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 11:04:04 )

เหตุใดคนจึงเสื่อม

รายละเอียด

คนถ้าไม่มีหลักเกณฑ์อะไรมาเป็นเครื่องสำนึกฝึกฝน ให้เจริญขึ้น คนก็จะเสื่อมว่ากิเลส คนเกิดมามีอวิชชามีกิเลส ถ้าไม่มีเครื่องมือ ไม่มีอะไรจะมาช่วยพยุงประคอง ขัดเกลา ฝึกฝนอบรมให้เจริญขึ้น มันก็ต้องเสื่อมแน่นอน เพราะฉะนั้นคนที่ปล่อยตัวไปตามยถากรรมนี้น่าสงสารทุกคน ไม่คำนึงถึงธรรมะไม่คำนึงถึงศีลธรรมอะไร ตื่นเช้ามาก็จะได้ลาภอะไร ลาบเป็ดลาบไก่หมูวัว แย่งชิง รับยศสรรเสริญสุข ที่เยิ้มไปด้วยกาม เยิ้มไปด้วยอัตตา แย่ง ได้มาสมใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสก็เป็นสุข ได้สมใจในอัตตาก็เป็นสุข หากไม่มาเข้าใจธรรมะพุทธเจ้าแล้วก็จะไม่สังวรสิ่งเหล่านี้ มีแต่จะเพิ่ม ต้องการอยากได้โลกธรรมทั้งหลายและตามใจกิเลส กิเลสมันอยากได้ก็ส่งเสริมมัน เพิ่มพลังสัมประสิทธิ์ให้กิเลส เอ็งอยากได้ก็เอาตามอยากได้นี่แหละ ไปแสวงหา ลาภยศสรรเสริญถึงขั้นจะฆ่าแกงกัน ก็ทำกันให้เห็นๆ ไม่เคยมีสำนึกสังวรไม่รู้เรื่องรู้ตัวอะไรเลย ไปแย่งชิงเอา ทั้งๆที่ตัวเองโกงไปได้เอาไปได้เยอะแยะแล้ว ไปสวาปามในลาภยศสรรเสริญโลกียสุขก็ไม่พอ มันควรจะหยุดยั้งได้แล้วเขาได้ขับออกจากประเทศแล้ว ถูกพิพากษาให้ติดคุกก็ไม่ยอม หน้าด้านอย่างเห็นๆ แล้วหลอกคนโง่ๆให้หลงใหลยกย่องสรรเสริญ คนเดียวไม่พอยังให้น้องมาลอกเลียนรูปแบบทำให้หนักกว่าอีก จะถูกพิพากษาติดคุกหนักกว่าอีก ก็ยังไม่เห็นไม่ชัดไม่รู้อีก คนน่ะ มันไม่รู้จะโง่ซ้ำซ้อนกว่านี้อีก เป็นตัวอย่างของคนที่แสดงพฤติกรรมต่ำทรามชั่วให้คนได้รู้ได้เห็น ขออภัยที่ยกตัวอย่างจริงเอามาเป็นแบบเป็นตัวอย่างเอามาประกอบการอธิบายสัทธรรมก็ขอบคุณไม่ให้ก็จะเอาเขาไม่อนุญาตหรอก

ที่มา ที่ไป

ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 11:44:38 )

เหตุใดคนจึงไม่เลื่อมใสในคุณวิเศษของพ่อครู

รายละเอียด

อย่างอาตมาปางนี้ชาตินี้ไม่ได้เรียนจากใคร อาตมาก็บอกว่าอาตมามีสยังอภิญญา ไม่มีใครมีภูมิปัญญาเข้าใจตรงนี้ พอพูดตอนแรกๆเขาก็หาว่าประกาศตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าเหรอไม่มีครูบาอาจารย์ตรัสรู้เองเลยเหรอ อาตมาไม่เคยประกาศเป็นพระพุทธเจ้าสักที ก็ประกาศบอกเป็นพระโพธิสัตว์ระดับ 7 บอกตำแหน่งด้วยไม่ได้บอกว่าเป็นระดับ 8 ด้วย แต่คนที่ไม่ค่อยเข้าใจไม่ได้ศึกษาเขาก็ว่าไปที่ เขาไม่เข้าใจไม่เลื่อมใสอาตมาเพราะว่าเขาไปยึดถือความรู้ความเข้าใจในทิฐิหรือทฤษฎีที่เขาได้เป็นมิจฉาทิฐิไป แล้วพอฟังอาตมามันก็ขัดแย้งกันเพราะเป็นสัมมาทิฏฐิ เขายึดถือว่าอย่างนั้นเป็นเรื่องถูกต้องแล้วปฏิบัติต่อกันมานานหลายร้อยปีมาแล้วจนจะเป็นพันปีแล้ว พออาตมาพูดขึ้นมามันก็ค้านแย้งเพราะอันนึงผิดอันนึงก็ต้องถูกใช่ไหม เขาก็ว่าของอาตมาผิดของเขาถูกมันก็เป็นธรรมดาไม่ได้สงสัยอะไร มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแหละ มันยิ่งยืนยันชัดเจนว่าถ้าอาตมาประกาศสิ่งที่ถูกแล้วไม่ขัดแย้งกับสิ่งที่ผิด อาตมาก็เข้าใจผิดสิ ใช่ไหม ก็อาตมามั่นใจว่าของอาตมาถูกแล้วมันแย้งไม่เหมือนกันกับของคุณมันแย้ง ก็แสดงชัดเจนว่าของคุณมันผิดไม่เห็นจะมางงอะไรเลยมันก็ยืนยันความจริงอยู่ ใช่ ถ้าเขามาเห็นด้วยกับอาตมารับรองประเทศไทยมันจะเจริญขนาดไหน คุณพูดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่าคิดเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 12:14:51 )

เหตุใดคนที่ไปเกี่ยวข้องกับสัตว์จึงเป็นคนโง่

รายละเอียด

เกี่ยวกับสัตว์นั้นไม่ต้องเอามันมาเลี้ยงเลยไม่ต้องเอามันมาเกี่ยวข้องเลย คนโง่นั้นไปเกี่ยวกับสัตว์ คนที่จะไปเกี่ยวข้องกับสัตว์ สัตว์ก็ปล่อยให้เขาอยู่ของเขาไป โดยเฉพาะสัตว์เดรัจฉาน คนก็คือสัตว์ แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้วรับลูกกับคนก็จะตายอยู่แล้ว ดีไม่ดีจะไปหาวิบากกับสัตว์มาเพิ่มทำไม นี่คือคนที่ไม่รู้จักตัดประเด็นที่จะให้ชีวิตสบายขึ้นมา  เมื่อไม่ตัดประเด็นคุณก็เสียเวลาไปหาวิบากเพิ่มเติมเท่านั้น ถ้าหากฟังอาตมาพูดเข้าใจ ชีวิตคุณจะง่ายคุณจะสบายขึ้น ยิ่งมาถึงขั้นปฏิบัติธรรม

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 12:04:37 )

เหตุใดคนสมัยนี้ไม่เห็นว่าพ่อครูแสดงดีที่สุด

รายละเอียด

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของสัจธรรม ขอพูดต่อตรงนี้นิดนึง อาตมาแสดงแล้วเหมือนกับสิริมหามายามันกลับไปกลับมา อาตมาแสดงสิ่งที่ดีที่สุด แต่คนเข้าใจว่าอาตมาแสดงสิ่งที่แย่ที่สุด มันเป็นสิริมหามายาอย่างนี้ อาตมาแสดงสิ่งที่ดีที่สุด แต่เพราะคนสมัยนี้ 1. เข้าใจสิ่งที่ดีที่สุดไม่ได้ง่ายๆหรอก แต่เขาจะรู้จักสิ่งที่ไม่ดีได้ง่าย สิ่งที่ดีที่สุดนี้มันเกินความคิดของเขาที่จะรู้ได้ และ 2. เขาเข้าใจว่าสิ่งที่ดีที่สุดแต่ไม่เชื่อน้ำหน้าว่าจะเป็นได้หรอก เข้าใจแล้วแหละแต่ไม่เชื่อน้ำหน้าเอ็งหรอกเพราะฉะนั้นมันก็ต้องพิสูจน์ อาตมาก็รู้ความจริงอันนี้ว่าท้อไม่ได้ ต้องพิสูจน์ๆๆๆ อาตมาพิสูจน์แล้ว อาตมาทำกรรมกิริยายืนยันให้เกิดประโยชน์ในเรื่องความจริง ให้คนเข้าใจ ให้คนมาปฏิบัติตามให้คนบรรลุธรรมได้ มันก็ดี ทำงานยังไม่ได้เสียหายอะไร เป็นแต่เพียงว่าอาตมาจะไหวหรือไม่ วันนี้ก่อนจะลงมาก็มีอาการอยู่พอสมควร หมอที่เขาเคยนวดเคยดูแลก็ถามว่าจะไหว …อาตมาก็ว่าไหว ก็ลงมา

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 11:45:20 )

เหตุใดคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อเมื่อพ่อครูประกาศตนเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7

รายละเอียด

อาตมาเป็นผู้หนึ่งที่สั่งสม มุทุภูตธาตุ ปางนี้ สั่งสมมาเป็นโพธิสัตว์ปาง 7 ปางหน้าเป็นปาง 8 จึงขึ้นจาก 8 เป็น 9 เป็นพระพุทธเจ้า ก็สะสมไปอย่างนี้ ตามความเป็นจริงประกาศตนประกาศตัวว่าตนเองเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ประกาศอย่างมั่นใจจริงใจบริสุทธิ์ใจไม่มีอะไรเคลือบแฝงเลยในการประกาศ ไม่มีอยากอวดโอ่ อยากให้คนหลงนับถือ อยากให้คนมายอมสยบ ไม่มี ประกาศความจริงตามความเป็นจริงออกไปใครรับฟังแล้วจะไปคิดอย่างไรก็เรื่องของแต่ละคน 

ซึ่งคนจะไม่เชื่อเป็นอย่างมาก ที่ไม่เชื่อเพราะเข้าใจศาสนาพุทธผิด เข้าใจสมาธิก็ผิด ฌานก็ผิด วิมุติก็ผิด ศีลยังเข้าใจผิดเลย เขาก็ไปถือเอาอย่างผิด ยึดถือคำสอนผิดเป็นคำสอนว่าถูก เมื่ออาตมาเอาอย่างที่ถูกมาประกาศ แล้วเขาจะเข้าใจจะมาเชื่อมั่นจะเป็นไปได้อย่างไร มันก็เป็นไปไม่ได้เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ 

ที่อาตมาพูดจริงพูดทุกคำแต่คนก็หาว่าอาตมาพูดไม่ถูก ซึ่งคุณต่างหาก..ขออภัยเข้าใจไม่ได้ ภาษาไทย ภาษาบาลีก็คืออวิชชา แปลเป็นไทยอีกทีก็คือยังโง่อยู่ ยังเข้าใจไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบการปกครองของมนุษย์ ที่สุดยอด วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 11:41:09 )

เหตุใดคนเราจึงอยู่กับความเพียรเป็นหลัก

รายละเอียด

เอาละก่อนจะจบ ก็จำโศลกอีกที “คน ถ้าไม่ทำงาน ก็เดรัจฉานธรรมดา” จำไว้ อโศก ตั้งแต่ 2564 ไปนี่ จะพัฒนาอันนี้ 

เราอยู่ร่วมกันต้องพัฒนา มีอาหารปริเยฏฐิงทุกข์ มันเป็นทุกข์ แต่เป็นทุกข์ที่เลี่ยงไม่ได้ ต้องแสวงหาการงานเป็นเครื่องอาศัย แม้แต่พระพุทธเจ้าตื่นเช้าขึ้นมาก็นึกว่าจะไปทำงานโปรดใครดี ไปช่วยใครดี ขนาดพระพุทธเจ้ายังต้องมีสิ่งนี้ หางานทำ อาตมาก็ดีใครก็ดี มันเป็นหิริโอตัปปะ เพราะมันมีศรัทธามีปัญญาชัดเจน มันจึงต้องระลึกถึงอันนี้เพราะเป็นคนต้องมีงาน เมื่อเวลาทำงาน หมดแล้วก็ควรพัก แต่ไม่พักก็ควรจะเพียร ถึงเวลาพักพอเหมาะพอควรแล้วก็เพียร คนเราจึงอยู่กับความเพียรเป็นหลัก จึงเรียกว่า 

เราไม่พักอยู่ (อัปปติฏฐัง) เท่ากับยังเพียรต่อไป 

เราไม่เพียรอยู่ (อนายูหัง) เท่ากับพักหรือไม่ต่ออายุอิทธิบาท 

เราเป็นผู้ข้ามโอฆสงสารได้แล้ว (โอฆมตรินติ) 

คนที่มีอายุจึงมีความเพียรเป็นเครื่องแสดง คนนี้ยังไม่ตาย ชัดเจนขึ้นไหม 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 18:35:48 )

เหตุใดคนโลกียะจึงยากจะเข้าใจธรรมะโลกุตระ

รายละเอียด

คืออาตมาสรุปแล้ว ในชีวิตอยู่ในสังคมในโลก โดยเฉพาะเราอยู่ในถิ่นที่ สัปปายะ 4 อาหารสัปปายะ เสนาสนะสัปปายะ บุคคลสัปปายะ ธรรมะสัปปายะ 

โดยเฉพาะเรามีธรรมะของพระพุทธเจ้าที่สัปปายะ ซึ่งก็ยากที่คนโลกียะจะเข้าใจซึ่งมันบังคับเขาไม่ได้หรอก ยาก ก็ต้องรอจนกว่าเขาจะมีภูมิธรรม มีความฉลาด มีความรู้เพียงพอ ที่จะสามารถรับรู้ได้ ก็จึงจะรู้ว่า อันนี้ประเสริฐ วิเศษ เห็นคุณค่าที่สุดยอด เราก็พูดด้วยความเป็นจริง คนอื่นจะหาว่าอวดโอ่ เราก็พูดความจริงด้วยความจริงใจไปสู่ผู้ที่ได้ควรรับรู้ ว่านี่คือความจริงที่ยิ่งยอด ที่เป็นความรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกพระองค์ที่ตรัสรู้แล้ว เป็นธรรมะอย่างเดียวกันหมดไม่ว่าในยุคไหนเป็นโลกุตระอย่างเดียวกัน 

เพราะฉะนั้นคนที่ไม่มีภูมิธรรมจริงจะรับไม่ได้ บังคับอย่างไรเขาก็รับไม่ได้ ยัดเยียดยังไงก็ยัดเยียดไม่ได้ มันต้องมีเหตุปัจจัยที่เพียงพอจริงๆถึงจะรับได้ เพราะความเป็นโลกุตระนั้นมันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องที่สุดยอด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเปิดตาพญานาคลงสู่การเมืองไทย วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2565 ( 18:56:59 )

เหตุใดควรเลิกทานเนื้อสัตว์

รายละเอียด

พูดอธิบายไปหมด ทำไมต้องอธิบาย

1. เพราะมันเป็นวิบาก เรื่องนี้ ประเด็นนี้แหละยิ่งใหญ่เพราะว่ามันเป็นวิบาก 

2. ติด เป็นกิเลสคุณนะ จะไปบำเรอมันทำไมกิเลส มันติดแล้วควรเลิกสิ ติดแล้วไปบำเรอมันอยู่แล้วจะไปเลิกเมื่อไหร่ ฝืนอย่างไรต้องฝืนเพราะมันติด ฝืนสิ เลิกมา มันติด แต่ไม่ให้มันติดหรอก เข้าใจไปตีความว่าไม่ติดแต่เนื้อสัตว์เป็นอาหารที่ควรกิน พระพุทธเจ้าตรัสที่ไหนว่ามัน กัปปิยะ ควรเอาไปถวายพระพุทธเจ้า 

มีหรือที่ พระพุทธเจ้าตรัสว่า กัปปิยะ ของที่ควรกินของที่เอาถวายสงฆ์ถวายพระพุทธเจ้านะ ใครสอนเอ็ง ที่จริงแล้วมันเป็นของไม่ควรเลย นี่เป็นรายละเอียดต่างๆ ที่อาตมาเจาะลึกให้ฟัง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของศีลที่พ่อครูเอามาสถาปนา วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 7 ค่ำเดือน 3 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:09:17 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์