@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ตัวตนแห่งพุทธะกล้าหาญท้าทายพิสูจน์ได้ท่่านยิ่งใหญ่จริงๆ!

รายละเอียด

ทั้งยืนยัน“ตัวตนของตนเองโทนโท่หลัดๆโต้งๆ”ที่มี“กรรมในกาล”อยู่ต่อหน้าต่อตามนุษย์ทั้งหลายในโลกให้ซักถาม ให้ไล่เรียง ย้อนแย้ง ซักฟอกได้ จนสุด“ปัญหา”สว่างแจ้งด้วย“ปัญญา”ของคนผู้นั้นๆ ที่สามารถเอาตนเองมาศึกษาปฏิบัติพิสูจน์ได้ด้วยตนจริงแท้ จึงรู้จักรู้แจ้งรู้จริงทั้งเป็น“ความรู้ยิ่ง”ทั้งเป็น“ความจริงยอด”ครบ“2 ภาวะ”แห่ง“เทฺว”ผู้ยิ่งใหญ่สุดๆปานใดๆได้แท้ๆซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสยืนยันว่า “สัพเพธัมมาอนิจจา ฯลฯ”นั่นคือ “ธรรมทั้งหลาย ไม่เที่ยง” สิ่งที่“ทรงอยู่”ในโลกทั้งหลายนั้น ล้วนคือ“สังขาร”ที่ปรุงแต่งกันอยู่ด้วยเหตุปัจจัย “ไม่เที่ยง“ทั้งนั้นที่กล่าวได้ว่า “เที่ยง”มีภาวะเดียวเท่านั้นคือ “อาริยสัจ 4”ศึกษาตามพระพุทธพจน์กันให้แตกฉานกันดีๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้ด้วยตรรกะไม่สัมบูรณ์หรอก ยากมากจริงๆ (ผู้สนใจตรวจอ่านได้จาก

จูฬวิยูหสุตตนิเทส 12 และมหาวิยูหสุตตนิเทส 13 พระไตรปิฎก เล่ม 29 ข้อ 519-698)

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 214 หน้า 178


เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2564 ( 11:18:06 )

ตัวสรุปที่ยิ่งใหญ่ คุณธรรมของมนุษย์

รายละเอียด

ทรัพย์ศฤงคาร คือ ความขยัน ความมีความรู้ และสมรรถนะ ความสามารถ ยิ่งใหญ่ 

ความรู้ มีปัญญาและมีสมรรถนะ ความสามารถ และขยัน เพราะฉะนั้นไม่มีหมด ขยันตัวเดียวก็เป็นเครื่องรับรองแล้วว่าไม่มีหมดง่าย แต่ไม่ใช่ขยันแล้วโง่นะ ขยันแล้วมีปัญญา อันนี้ขยันอย่างมีปัญญามีสมรรถนะด้วย เท่านี้แหละเป็นตัวสรุปที่ยิ่งใหญ่ในคุณธรรมของมนุษย์ขอให้มีจริงและเป็นจริงเถอะ ถึงใจแล้วมันจะไม่ทำ ตื่น มันจะทำอย่างนี้ตายแล้วเกิดเกิดแล้วตายก็จะทำอย่างนี้ เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นตายแล้วเกิดเป็นเรื่องเล็ก แต่สิ่งที่เป็นจริงในสัจธรรมที่ฝังรากอยู่ในอนุสัยของมนุษย์นี้ ไม่มีเปลี่ยนแปลง จะเกิดอีกกี่ชาติอยู่ในอนุสัยแล้ว เริ่มต้นเป็นพระอรหันต์ มีอนุสัยของความไม่มีตัวตน มีแต่ความเป็นประโยชน์ตลอดกาลนานและมีสมรรถนะตามฐานะของความเจริญ อรหันต์ก็เป็นพระโพธิสัตว์ที่เจริญขึ้นเรื่อยๆ ก็จะยิ่งมีคุณค่าแก่โลกกับมนุษย์ไปเรื่อยๆ นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 8 พ่อครูพบ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มกราคม 2566 ( 12:23:42 )

ตัวหนังสือให้เอาแต่พอดี

รายละเอียด

ตัวหนังสือขึ้นไปเทียบกับท่านประยุทธ์ ปยุตโตนี้ คนละโลกเลย ลายมือท่านประยุตต์นี้อาตมาอ่านได้ยากมาก ท่านเขียนถึงใครก็เขียนอย่างนั้น

ให้เอาแต่พอดี หวัดเกินไม่ดี งามเกินก็ไม่ไหว

ที่มา ที่ไป

สื่อธรรมะพ่อครู(จรณะ 15 วิชชา 8) ตอน อาหารอร่อยไม่ใช่อาหารปราณีต

วันพุธที่ 13 มิถุนายน 2561


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:32:28 )

ตัวหลักในปฏิจจสมุปบาท

รายละเอียด

ตกลงมันไปจบที่ความยึดกับไม่ยึด อุปาทาน คำว่าอุปาทานนี่แหละ เป็นตัวหลักมากเลยในปฏิจจสมุปบาท อวิชชา สังขาร วิญญาณนามรูป สฬายตนะผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ 

ตัณหา อุปาทาน ภพ สามเส้า ตัณหาคือความเคลื่อน อุปาทานคือความนิ่งหยุด ถ้าไม่รู้มันก็ปรุงแต่งกันอยู่ ความเคลื่อนกับความยึด ปรุงแต่งกันอยู่ มันก็สมบูรณ์แบบเป็น ภพ อยู่เป็นตัวที่ 3 เป็นภพเป็นชาติ 

ชาติคือตัวเกิด ภพเป็นแดนเกิด ชาติเป็นตัวสภาวะนามธรรมเกิด ภพเป็นสภาวะแดนเกิด พื้นที่สถานะให้มันเกิด ถ้ามีอยู่มันก็ โศก ปริเทว ทุกข โทมนัสอุปายาสะ ถ้าหากดับชาติได้ ผู้นี้รู้จักความเกิดความดับ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า พุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์ ครั้งที่ 46 วิญญาณกับวิญญัติ วันมาฆบูชา วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 พฤษภาคม 2565 ( 09:29:21 )

ตัวอย่างการช่วยเหลือคน ควรช่วยลักษณะใด

รายละเอียด

ก็เห็นว่ามันควรจะช่วย มันจะได้เจริญก้าวหน้ามันจะได้ดูดี เป็นไปตามที่ควรก็ทำก็ช่วย แต่เห็นว่าไม่ควรจะต้องไปแตะต้องปล่อยเขาไปตามเรื่อง ไม่ต้องไปเป็นเจ้ากี้เจ้าการจนเกินไป แล้วเราก็เป็นอยู่สุขไม่มีปัญหาอะไร คนเราอยู่ด้วยกัน คนนั้นคนนี้พอบอกได้ รู้ เห็นว่าเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็เข้าใจตามภูมิของเราว่า เขาควรจะเลิกอันนี้ เขาควรจะทำอันนี้ แนะนำกันได้ก็ทำ แนะนำกันไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ปล่อยไปเฉยๆ คนเราก็ช่วยกันเท่าที่ทำได้ 

อย่างอาตมาก็ได้แต่พูดได้แต่บอกส่วนใหญ่ ไปจับมือจับไม้ไปบังคับให้ทำอะไรไม่เอา เอาแค่นี้แหละ ก็มีคนพอเข้าใจแล้วก็ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นเป็นไปเพื่อ ละหน่ายคลายกิเลส พอฟังแล้วก็ได้เอาไปลดละกิเลส จนกระทั่งลดความทุกข์ ลดสิ่งที่มันไม่ดีไม่งาม จนกระทั่งบรรลุโลกุตรธรรมมาเป็นอย่างนี้ ทำให้เราเป็นเช่นนี้ได้ เป็นอย่างที่เราเป็นทุกวันนี้ อาตมาก็เห็นผลแล้วว่า อาตมาประสบผลสำเร็จตามธรรมะพระพุทธเจ้าแล้ว 

ซึ่งก็พูดไปหลายทีแล้ว ว่าอาตมาไม่สูญเปล่าเกิดมาในชาตินี้ เอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาเปิดเผยและมีผู้ฟังธรรมเข้าใจเอาไปทำตาม จนเกิดพฤติกรรม เกิดการประพฤติปฏิบัติ แล้วได้มรรคผล จนเสร็จแล้วก็มาใช้พฤติกรรม พฤติการณ์นี้แหละ อาศัยให้ชีวิตเป็นอยู่ทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 10:08:34 )

ตัวอย่างการปฏิวัติของโลก

รายละเอียด

ขอยืนยันว่าที่พูดนี้พูดในความหมายของวิชาการรัฐศาสตร์ ประเทศไทยนี่แหละทำได้ก็เลยประกาศศักดาเลยว่าประเทศไทยมีประชาชนปฏิวัติ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศเล็กถ้าเป็นจีนเขาก็ประกาศเลยก็ต้องยอมรับทันที หรือมีชื่อเสียงจะเป็นรัสเซียอเมริกาก็แล้วแต่เขาก็อาจจะประกาศคนอาจจะยอมรับ แต่นี่เรายังเล็กเราประกาศไปว่าเป็นความถูกต้องดีงามที่สุดเขาก็ยังไม่ยอมรับเพราะว่าอัตตาของคนเรา อัตตามานะไม่ยอมรับง่ายๆ

มันเป็นรัฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เป็นปฏิวัติรัฐประหารที่ยิ่งใหญ่ เมื่อประชาชนปฏิวัติเรียบร้อยพลเอกประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ฐานะและมันก็ลงตัวอย่างพลเอกประยุทธ์ มาเป็นผู้รักษาความสงบแห่งชาติก็มารับช่วง แล้วก็ไปทำงานต่อ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4มกราคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 19:06:46 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:48:02 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:04:09 )

ตัวอย่างของความเสื่อมหนักของศาสนาพุทธในยุคนี้

รายละเอียด

ที่ธัมมชโยทำเป็นการสร้างภาพตัวยงคนหลงงมงาย ติดเอาโลกีย์เยิ้มมาหลอก คนหลงโลกีย์ก็คลั่งไคล้จนถอดถอนไม่ได้ น่าสงสาร นี่คือตัวอย่างของความเสื่อมหนักของศาสนา เป็นการตีลังกากลับ เอาความสวยมากลบเกลื่อนความน่าทุเรศ สวยพริ้งคือการปรุงแต่ง ทุเรศ อภิมหาทุเรศ แล้วหลงผิดว่าเป็นสิ่งที่เลอเลิศประเสริฐหรู ที่เขาหลงใหลคลั่งไคล้ แม้แต่ตัวเจ้าลัทธิเองคือธัมมชโย กับลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลาย มันก็เลยเป็นภาระหนักของศาสนาพุทธในสังคมประเทศชาติยุคนี้ เป็นความเลวจัดของกลุ่มในศาสนาพุทธในยุคนี้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2561


เวลาบันทึก 21 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:44:20 )

ตัวอย่างของชีวิตคนจบ

รายละเอียด

เพราะชีวิตมันจบ อาตมานี้เป็นตัวอย่างของชีวิตคนจบ จบกิจ จบทุกอย่างจบแล้ว นอกจากจบกิจเป็นอรหันต์แล้วยังเป็นโพธิสัตว์เป็นรอบๆ ก็จบกิจไปตามลำดับด้วย แล้วก็พัฒนาโพธิกิจโพธิสัตว์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งมันจริงๆ อย่างนี้ อาตมายังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้นแหละ ยังเหลือเท่านั้น ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่มีปัญหาอะไร ยังเหลือแต่ยังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า 

งานที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ ท่านตรัสรู้อันนี้ เสร็จแล้วบอกว่าเมื่อยแล้ว เพราะท่านก็สอนมาตอนเป็นโพธิสัตว์ตอนเป็นระดับ 7 ระดับ 8 เหมือนกัน จนกระทั่งมาถึงระดับ 9 สูงสุด เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว พอแล้ว ท่านก็ ปรินิพพานเป็นปริโยสานทุกพระองค์ไปแล้ว ไม่เอาสมัย 2 สักพระองค์หรอกพระพุทธเจ้า ขอเป็นพระพุทธเจ้าสมัย 2 ไม่มี เพราะมันเมื่อยมันเบื่อมาเสียจน ถ้าจะว่าจริงๆ แล้ว ทุกวันนี้อาตมาก็แสนเบื่อแต่มันเบื่อไม่ลง มันต้องทำงานสืบทอดให้ถึง 5,000 ปีของพระพุทธเจ้าแล้วมันก็ต้องทำ 

เพราะอาตมาก็ต้องเพิ่มฐานะ เป็นโพธิสัตว์ ไม่อย่างนั้นอาตมาจะได้เป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร มันจำนน มันจะต้องเป็นเช่นนี้ มันไม่เป็นเช่นนี้ไม่ได้ มันก็เลยต้องเป็นไป มันก็เลยทำให้ ต้องลากทั้งอายุสังขาร ชีวิตที่อยู่ทำอะไร ก็ยังสอนได้อยู่ แม้จะไอก็ยังสอน ยังพูดได้อยู่ ยังไม่ใช่ว่าไอมากกว่าสอนเมื่อไร ถ้าหากไอมากกว่าสอนเมื่อไหร่ก็หยุด ตอนนี้สอนได้มากกว่าไอนะ กว่า 50% นะ ถ้าหากไอ 50% สอน 50% ก็ไม่เอาแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนา บำเพ็ญธรรมภาคค่ำ ว.บบบ. เตรียมงานตลาดอาริยะปีใหม่ 2566 วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 06 มกราคม 2566 ( 14:51:30 )

ตัวอย่างของประเทศที่สร้างความสงบ

รายละเอียด

อย่างประเทศไทยนี้ ในโลกนี้ มีตัวอย่างของประเทศที่สร้างความสงบคือ สวิตเซอร์แลนด์ มาถึงวันนี้หลายร้อยปีเต็มที่แล้ว เขาก็ดี แต่เขาอยู่ในเชิงของเขาเป็นคนสายศรัทธา ไม่ใช่สายพุทธะที่แท้ ไม่ใช่พุทธิจริต แต่เป็นพวกสัทธาจริต เขาก็ได้อย่างนั้น เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นตัวอย่างอยู่ แต่ก็ คนที่มาถึงใกล้กลียุค พลังงานด้านปัญญา ไม่ใช่พลังงานศรัทธา เช่นเดียวกันกับโลกขณะนี้ พลังงานด้านศรัทธามวลใหญ่คืออินเดีย พลังงานด้านปัญญามวลใหญ่คือจีน เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า จีนมีสิ่งที่ปรากฏ มีพฤติการณ์ให้โลกเห็นความเด่น เห็นความชัด คือสายปัญญา 

ส่วนสายศรัทธานั้น ความเด่นไม่ค่อยขึ้น แต่เขาก็อยู่ได้สงบ ทางด้านปัญญามันดูเหมือนไม่สงบแต่ที่จริงเขาสงบนะ จีนทุกวันนี้เขาสามารถสร้างความสงบได้อย่างดีมากเลย ซึ่งจะเป็นตัวอย่างของโลก แต่เขาก็ไม่ได้ลึกซึ้งที่สุดซึ่งเป็นปรมัตถธรรม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ลักษณะอันสูงสุดของมนุษยชาติ 7 ประการ วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 แรม 13 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 มกราคม 2566 ( 12:45:23 )

ตัวอย่างคนที่โง่ยิ่งกว่าคนโง่ที่สุด

รายละเอียด

พวกเราก็ศึกษาไป อย่างคุณแก้วตะวัน ศึกษาไปก็ยิ่งเข้าใจ ยิ่งเห็นจริงในความจริงเพิ่มขึ้นมา ในจุดที่เล็กๆ แคบๆ ก็ค่อยๆ เพิ่มเป็นจุดที่กว้างขึ้น สัมผัสสัมพันธ์กับอันอื่นๆมากขึ้น จนกว้างไปจนกระทั่ง นี่พูดพาดพิงไปถึงบทเรียนอันแสบเผ็ดในยุคทักษิณ แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนในชาติ อันนี้จริง ผ่านพ้นยุคทักษิณมาได้ 

ทุกวันนี้ถือว่าผ่านพ้นยุคทักษิณมา แต่ทักษิณยังไม่วางมือ ยังพยายามแล้วพยายามอีก ตั้งใจแล้วตั้งใจอีกด้วยความอุตสาหะอย่างยิ่ง แต่ก็อ่อนแรงหรือว่าสิ้นท่าลงไปเรื่อยๆๆ แต่ไม่ยอม ไม่สำนึก ไม่เข้าใจ ไม่เกิดภูมิปัญญา อาตมาเห็นอย่างนั้นเลยนะ คือโง่ไม่เสร็จ ทักษิณนี่โง่ไม่เสร็จ โง่ไม่จบ โง่ไม่สำนึก อย่างนั้นจริงๆเลยไม่ใช่ลงโทษ อาตมาก็เห็นคนโง่มานักแล้วนะ อาตมาเคยเห็นคนที่โง่กว่าคนที่โง่ที่สุดมาแล้ว แต่ทักษิณโง่กว่าคนที่โง่ที่สุด นี่อาตมาไม่ได้ใส่ความเกินเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  Neo Protest ประชาชนปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 11:40:15 )

ตัวอย่างความติดยึดในอัตตาตัวตนมีแต่ตำราไม่เข้าสู่สภาวะ

รายละเอียด

สรุปตรงนี้ก็แล้วกัน...เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นชีวะเป็นสัตว์เดรัจฉานมาจนเป็นสัตว์ชั้นสูงเจริญขึ้นมาจนกระทั่งเป็นมนุษย์ ตั้งแต่มนุษย์แคระ ทางฮินดูจะมีเรียกมนุษย์และมนุษย์หมู่มนุษย์เสือสิงห์ ขึ้นไปตามลำดับ จนมาเป็น รามะ นี่ระดับ 7 จนกระทั่งมาถึงเป็นกฤษณะ แล้วถึงเป็นพุทธะ ฮินดูนี้ถือว่าเป็นพุทธะเป็นอวตารที่ 9 ของศาสนาเขา ศาสนาของเขามี ทศาวตาร สูงสุดครบ 10 เลย ซึ่งที่จริงก็ไม่ผิด แต่ฮินดูทำไม่เป็น มีแต่ตำรา เหมือนอย่างพวก อัมพัฏฐมานพ ลูกศิษย์ของโปกขรสาติพราหมณ์ เป็นผู้ที่หลงใหลในพยัญชนะไม่เข้าสู่สภาวะก็น่าสงสาร ไม่ได้ เสียเวลาเป็นชาติชาติหลายชาตินะ เพราะความติดยึดในอัตตาตัวตนมันติดยึดจริงๆ ความติดยึดในตัวตน พูดเข้าไปเหมือนกับพูดง่ายๆ แต่ความจริงแล้วมันลึกซึ้งซับซ้อนหลายชั้นมากเลยกว่าจะ แงะ แหวะ ของตนเองออกมาได้ 

ที่มา ที่ไป

ธรรมะรับอรุณปีใหม่โดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 11:48:26 )

ตัวอย่างความต่างระหว่างประชาธิปไตยไทยกับอเมริกา

รายละเอียด

ตัดมาสู่ของเรา ก็ขอสรุปที่ท่านนายกฯแถลงการณ์เมื่อกี้นี้ คำแถลงการณ์อาตมาก็ไตร่ตรองไปในขณะที่พูดได้กระชับชัดเจนดี เท่าที่อาตมามีภูมิรับได้รับรู้ บอกว่า สมบูรณ์พร้อม เป็นการแสดงออกซึ่งความเป็นประชาธิปไตยที่ แหม เลิศลอย ยิ่งอาตมาเห็นว่าพฤติการณ์ที่ประเทศไทย ประพฤติกันอยู่ มันทำให้เห็นเปรียบเทียบกับทางสหรัฐอเมริกา เขาก็ทำของเขานะตอนนี้เขาก็ต่อสู้กันหนักหนาสาหัสเหมือนกัน มันคนละระดับของเรา มันเนียนลึกละเอียดสุภาพงดงามต่างกันกับอเมริกาที่ทั้งหยาบแรง ทั้งมีเล่ห์กล และก็ยังไม่ยอมกันง่ายๆหรอก มันเป็นปรากฏการณ์ของโลกที่เป็นตัวอย่างในโลก อย่างอเมริกากับไทย เขาเรียกชื่อว่าประชาธิปไตยเหมือนกัน แต่มันต่างกัน แม้แต่เริ่มต้นว่าประชาธิปไตยขาเดียวกับของเรา 2 ขานี้ และมีนัยยะละเอียดอีกเยอะ ค่อยๆศึกษากันไป อาตมาก็ไม่เก่งที่จะมาพูดให้ครบสรุปได้ง่ายขึ้น 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 21 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 14:57:14 )

ตัวอย่างความเห็นแก่ตัว

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเขาจึงเป็นตัวอย่างความเห็นแก่ตัวให้แก่โลกเห็นชัดๆ ว่าคนมันเป็นถึงขนาดนี้ได้นะ เหมือนกับมีเทวทัตในยุคพระพุทธเจ้า ปานฉะนั้น เลวร้าย กว่าเทวทัตด้วยเพราะยุคนี้เป็นยุคใกล้กลียุคแล้ว เลวร้ายกว่าเทวทัต เอาญาติโกโยติกามาฆ่าทางการเมือง เอามาฆ่าจนกระทั่งหมดแล้ว น้องเขยก็ไปแล้ว น้องสาวก็ไปแล้ว ยังเหลือลูก เราก็จะไปบอกว่าไปแล้วก็ไม่ได้เพราะยังไม่เป็น Past perfect เขายัง continuing อยู่ 

เพราะฉะนั้นลูกคนเล็กก็ยังหลงบ้า ขอใช้คำนี้ว่ายังหลงบ้าว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ให้พ่ออำมหิต พ่อเป็นยอดอำมหิตจับมาเชิดอยู่ขณะนี้ นี่อาตมาพูดเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เรื่องเบาๆ เรื่องหนักๆใหญ่ๆ ใช่ไหม ไม่ใช่เรื่องเบา คนอาจจะมีความรู้เหมือนอย่างอาตมารู้อยู่ไม่น้อย แต่เขาไม่กล้าพูดอย่างอาตมา คนที่เขาเข้าใจก็มีเข้าใจอย่างอาตมาแต่ไม่กล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ พูดในสาธารณะอย่างนี้ 

ไม่ใช่อาตมาอวดเก่งแต่ถึงคราวถึงกาละสิ่งนี้ต้องพูด อาตมาไม่ได้สร้างไม่ได้วางแผนมาก่อนในการที่จะพูด มันถึงคราวถึงวาระ แม้แต่อาตมาเขียนไว้ก่อนก็ยังไม่ได้อ่านถึงอธิบายถึงตรงนี้เลย อันนี้เขียนก่อนไปตั้งหลายอาทิตย์แล้ว เขียนเป็นเดือนๆแล้วถึงเอามาพูด เพราะฉะนั้นการเมืองก็ยังมีตัวอย่างเข้าใจ กำลังมีตัวอย่างที่แท้จริงให้ลอกเลียนมา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 3  วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 31 มีนาคม 2566 ( 12:37:17 )

ตัวอย่างชาวอโศกเป็นกายสักขีที่พ่อครูพาทำถึงสาธารณโภคีได้

รายละเอียด

มีกายสัมผัสอย่างอาตมาพาสัมผัส มีกาย มีรูปนาม มีบุคคล มีพฤติกรรม มีหลักฐานอ้างอิง คุณก็ยังไม่เชื่อ คุณก็ยังไม่เห็นไม่เข้าใจ จะเอายังไงอีก ถึงขั้นสาธารณโภคี มีวรรณะ 9 มีสาราณียธรรม 6 ยืนยันอยู่อย่างนี้ พระไตรปิฎกเล่มเดียวกัน ก็ยังไม่เชื่อว่าอาตมาคือคนจริงในยุคนี้ เป็นไก่ตัวพี่มาทำอันนี้ได้สำเร็จ 

อาตมาพูดได้อย่างเต็มปาก เพราะมันมีผลเป็นปรากฏการณ์จริงอยู่นี่เลย ใช่ไหม แหม น่าสงสารเมืองไทย คณะใหญ่ กระแสหลัก เถรสมาคม ถ้ามาเข้าใจอย่างที่อาตมาอธิบาย แล้วลงมือปฏิบัติคุณก็จะบรรลุ แต่นี่คุณไม่บรรลุ เพราะคุณยังติด มิจฉาทิฏฐิของคุณยังอยู่ จะทำอย่างไรหนอ มันสิหมดความเว่าแล่วนี่ ไม่รู้จะพูดอย่างไร เอา ตายเป็นตายสู้ๆ เชียร์อาตมาหน่อยนะ เข้าใจเพิ่มขึ้นแล้วนะว่า ผู้ที่จะเป็นกายสักขี คือ มีกายอยู่ทนโท่เลย สัมผัสอยู่ได้ภายนอกภายในยืนยันพร้อมกัน เพราะสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกาย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญาวิมุติเหนือกว่าอุภโตภาควิมุติอย่างไร วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2565 ( 14:44:30 )

ตัวอย่างฌานโลกีย์ที่พ่อครูเคยใช้

รายละเอียด

ใช่ มี อาตมามี จะใช้อย่างนั้นก็ได้ แต่ มันไม่ใช่พร่ำเพรื่อ อวด ไม่ใช่ อาตมาใช้เพราะจำเป็น เรื่องนี้ไม่มีใครสามารถติดต่อเจ้าคุณนรฯ ได้เลย ท่านมีแต่ไปทำวัตรแล้วเข้ากุฏิ ไม่มีใครติดต่อได้ ตอนฉันเขาก็เอาอาหารมังสวิรัติไปให้ ก็อยู่ในกุฏิของท่าน ฉันเสร็จก็มีคนมาล้างภาชนะ เขาก็ไปเก็บให้ ท่านไม่ได้ไปบิณฑบาตอะไรเลย ไม่ได้ทำอะไรเลย มีแต่ไปทำวัตรเท่านั้น ไม่ขาดเลยด้วย ท่านไม่รับติดต่อ ไม่พูดไม่คุยทางโลกกับใครเลย 

อาตมาเองอาตมาก็เลยลองกับท่านซิ ตามที่อาตมามีอย่างที่โลกเขามี ฤทธิ์เดชอย่างที่โลกเขามี ที่ว่าอาจารย์มั่น ฤาษีลิงดำ มันจะจริงเท่าอาตมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่อาตมาผ่านสัจจะพวกนี้เป็นตัวตนบุคคลเราเขาจริง 

ตอนนั้นไปกับคุณสรวง น้องชายของนายแพทย์เสริม อักษรานุเคราะห์ เป็นเพื่อนกัน สรวงเขาเป็นศิษย์วัดเทพศิรินทร์ เขาก็เคยบวชที่นั่น ก็เลยพอรู้จักเจ้าคุณนรฯนิดหน่อยก็รับอาสาพาไป ไปถึงก็ว่า ทำยังไงผมจะได้คุยกับท่านเจ้าคุณนรฯ มาแล้วจะได้พบหรือ ก็เลยไปดูที่กุฏิท่านซึ่งมี 2 ชั้น อาตมาก็ลองทำของอาตมา ท่านเจ้าคุณก็เปิดหน้าต่างออกมา ท่านอยู่ชั้น 2 คุณสรวงตกใจ อาตมาก็ไม่ได้อธิบาย เขาก็ไม่ได้ถามตอนนั้น บอกว่าทำยังไงให้เจ้าคุณนรฯเปิดหน้าต่างออกมาถามว่า มาทำไม 

อาตมาก็บอกว่า อยากมากราบคารวะ ก็บอกว่ากราบคารวะที่บ้านก็ได้ อาตมาก็บอกว่าอยากจะมาคุยธรรมะกับท่าน ท่านก็บอกว่าอ่านจากพระไตรปิฎกก็ได้ ท่านจะปิดประตูตอนนั้นเลย เสร็จแล้วอาตมาก็บอกว่า อาตมาได้ยินกิตติศัพท์ท่าน อยากจะมาคารวะท่าน อาตมาปฏิบัติธรรม อาตมาเป็นฆราวาสตอนนั้น อาตมาพูดไป จากนั้นท่านก็ลงมาจากชั้น 2 มาถึงข้างล่าง เปิดหน้าต่างชั้นแรก อาตมาอยู่ข้างนอกท่านก็อยู่ข้างในคุยธรรมะกันเป็นชั่วโมง 

สุดท้ายก็ลากลับ ท่านก็บอกว่าขอให้บรรลุนิพพานไวๆนะ คุณสรวงเขาก็งง อะไรวะ พระมาอวยพรให้ฆราวาสบรรลุนิพพาน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประสบการณ์พ่อครูในอิทธิปาฏิหาริย์และการออกป่า วันพุธที่ 22 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2565 ( 05:43:29 )

ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน คนมีชื่อเสียงปฏิบัติผิดๆ สังคมย่อมหลงตามมากมวล มากปริมาณ!

รายละเอียด

เพราะมันเป็นที่แพร่หลายอยู่ในประชาชนคนไทย ที่พากันไป“หลงผิด”งมงายกันอยู่จริง ลูกศิษย์ลูกหาท่านก็กินหมากกินพลูไปทั่วถ้วน มันก็น่าสงสารที่แค่นี้ก็ยังไม่สามารถรู้จักรู้แจ้งรู้จริงกัน 

แม้แต่เรื่อง“กาม-โทษของกาม” อันเป็นเรื่องเบื้องต้นของ

“พุทธธรรม”แท้ๆ ซึ่งเป็น“อนุปุพพิกถา” คือการแสดงธรรมไปตามลำดับตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ว่ามีกันอย่างไร ก็ต้องเรียนรู้ ปฏิบัติกันให้เป็นลำดับตามนั้น ท่านก็ยังไม่รู้ไม่ได้ปฏิบัติตามเลยท่านก็ยังพากัน“มิจฉาทิฏฐิ”อยู่ไม่ถอดถอน ตามที่เป็นอยู่ก็เห็นๆ

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 376 หน้า 274


เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 12:33:49 )

ตัวอย่างที่เป็นไปได้

รายละเอียด

อาร์เจนติน่าล้มละลายจนเงินตกขนาดนี้ มันเป็นตัวอย่างที่เป็นไปได้ อะไรจะขนาดนั้น อย่างนี้เป็นต้น ก็ดูจะมีตัวอย่างในประเทศอื่นโดยเฉพาะอเมริกากำลังทำท่าทีว่า เงินดอลลาร์นี้เขาจะพยายามรักษาค่าให้ได้ อาตมาก็ยังไม่รู้ลึกๆนะว่าในอเมริกานี้เขามีน้ำมันหรือเขามีทองคำมากพอหรือเปล่า ในประเทศอเมริกาขณะนี้ เขาไม่ได้เปิดเผยว่ามีทองคำหรือมีคงคลังเท่าไหร่ มีการสะพัดเท่าไหร่ ประเทศไทยเปิดเผยนะ แต่อเมริกายังไม่ยอมเปิดเผย คนเขาก็พอรู้ไต๋ได้ เพราะว่ามันมีพฤติการสัมพันธ์กับสังคมอยู่ เขาก็เอาสิ่งนั้นมาประมวลตัดสินบอกราคา ตีค่าของอเมริกาได้ 

เขาก็ปิดข่าวไม่ให้รู้ ดูว่าเขาจะทำได้นานแค่ใด เพราะจริงๆแล้วเขาเอง เขาก็จะต้องลงทุนสร้างเครื่องไม้เครื่องมือที่เขามีความเก่งตรงนี้ สามารถสร้างอาวุธสามารถ สร้างเทคโนโลยีต่างๆเอามาอยู่ ซึ่งเขาต้องใช้เงินทุนซ้อน ถ้าเขาหมดแล้วหรือเขาเป็นหนี้วัตถุดิบที่จะเอามาสร้าง คนอื่นเขาไม่ให้แล้ว คุณมีเองพอไหมมีวัตถุดิบ มีโลหะ มีสิ่งที่จะเอามาเป็นเหตุปัจจัยในการสร้างเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ แล้วเอาสิ่งเหล่านี้มาขายได้เงินให้เลี้ยงพลเมืองในประเทศตนเองจะไหวไหม 

ถ้าไม่ไหว เหตุปัจจัยมันไม่สมดุลพอมันก็ต้องคว่ำให้เห็น มันก็จะล้มละลายให้เห็นแน่นอน เพราะฉะนั้นสิ่งนี้มันก็จะต้องดูไป ดูกันจริงๆ มันยังไม่จบทีเดียวเพราะเขายังไม่ยอมวางมือ ยังไม่ยอมแพ้ เหมือนกันกับทักษิณ มันยังไม่ยอมแพ้ ยังไม่ยอม ตอนนี้ไม่ได้เป็นตัวพระเอกขอเป็นพระรองก็แล้วกันขอเล่นบทนี้ เอาก็เอาว่ะ เรียกด้วยศัพท์ของสังคมว่าขอโหนไปก็ยังดีนะ เกาะไปโหนไปก่อน ยังไม่ได้ที่ 1 ทีเดียว สักวันหนึ่งเถอะ ถ้าจะรอให้หัวหน้าตัวเองก่อน หรือได้ทีก็คว่ำหัวหน้าลง เราไม่รู้ได้อันนี้เราไม่กล้าไปตัดสิน แต่อาตมาดูท่าทีเขาก็ทำอยู่อย่างนี้ 

สรุปแล้วมันเป็นเหตุผลหรือเหตุปัจจัยที่คนละเรื่อง เรื่องที่เขาทำนี้อาตมาว่า เป็นวิธีการ แล้ววิธีการที่ทำมันก็จะออกผลอย่างนี้ ส่วนเรามีวิธีการอีกอย่างหนึ่งทำแล้วผลมันจะออกมาอีกอย่างหนึ่ง นี่มีนัยยะรายละเอียดที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะไปตัดสินกันทีเดียวไม่ได้ ถ้าเอาภาษามาเรียกให้ตัวเองภาษาง่ายๆว่า พวกคอนเซอร์เวทีฟกับพวก Progressive

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้ วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 แรม 15 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 16:17:30 )

ตัวอย่างท่านปยุตโตยังหลงยึดติดโลกธรรมเพราะไม่เข้าใจสภาวธรรม

รายละเอียด

คนหลงยศเป็นสุข มียศ มีตำแหน่ง มีบั้ง มีเบอร์ คนก็หลง คนหลงสรรเสริญเยินยอยกย่องเป็นสุขเนียนเข้ามาในตัวเอง เป็นสุข มากน้อยจากลาภยศสรรเสริญอะไรก็แล้วแต่ มันไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะมาเรียนรู้แล้วว่า ปัดโธ่เอ๊ย สิ่งเหล่านี้ เราอย่าไปหลงใหลได้ปลื้มอะไรกับมันเลย อัตตมนตาโสมนัสสัง ปลื้มใจ ไปหลงยึด 

ซึ่งพูดไปก็เป็นพยัญชนะ ถ้ามันเข้าใจพฤติการณ์สภาวธรรมไม่ได้  ขออภัยพูดชัดๆ แจ้งๆ ท่านประยุทธ์ ปยุตโต ท่านมาเรียนรู้สภาวธรรมให้ดี ความรู้ของท่านมันมากเกินที่จะปฏิบัติ บรรลุอรหันต์ได้ไม่รู้กี่ล้านเที่ยวแล้ว ความรู้ของท่านเยอะ แต่ท่านไม่ได้ปฏิบัติ ไม่ได้มาเรียนรู้สภาวะ ท่านก็เลยยังติดอยู่อย่างนั้น ไม่งั้นจะออกมาสอนอย่างอาตมา ท่านจะไม่หลงติดอยู่กับเถรสมาคมอย่างนั้น ต้องอาศัยเถรสมาคม มอบตนในทางผิดอยู่เลย มอบตนในทางที่ผิดยังไม่หมดในสัมมาอาชีวะข้อ 1 นะ อาตมายกฐานะให้ท่านว่าเข้าใจตนเองแล้วและท่านก็ไม่มีกิเลสที่จะไปติดยึดพวกนี้แล้ว แต่ท่านยังมอบตนในทางที่ผิดอยู่ในเถรสมาคม ยังไม่พ้นมิจฉาอาชีวะข้อที่ 4 ท่านไม่เข้าใจสภาวะพวกนี้ถ้าท่านเข้าใจท่านจะไม่อยู่ด้วย 

อาตมาเปรียบเทียบ อย่าว่าแต่ไปอยู่ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งของเถรสมาคม พระพุทธเจ้าท่านดำรงตำแหน่งอยู่ในพระเจ้าแผ่นดินนะ ท่านยังไม่เอาเลย ท่านยังออกมาทิ้งหมดเลย เดินพระบาทเปล่า มาสอนธรรมะอย่างเดียว ไม่เอาเลย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ทรัพย์ศฤงคารไม่เอาทั้งนั้น มาสอนธรรมะ อยู่ให้ประชาชนเลี้ยงไว้ เห็นไหมว่าท่านไม่รู้สภาวธรรมเลย ท่านติดจมอยู่อย่างนั้น ไม่ใช่แค่เถรสมาคม ติดตํารา ติดพยัญชนะ ติดภาษาความรู้ อะไรก็น่ารู้ไปหมด เป็น ปทปรมบุคคล

ขออภัย วันนี้เอาหนักหน่อย รู้พระพุทธพจน์ก็มาก ท่องจำได้ก็มาก สอนคนอื่นอยู่ก็มากแต่ตัวเองไม่บรรลุธรรมเลย นี่ท่านเป็นปทปรมบุคคล​  แล้วมันได้แก่ใคร ท่านประยุทธ์ ปยุตโต เอาแรงหน่อย ก็ต้องขออภัยท่านจริงๆ เพราะท่านเป็นภันเต ท่านบวชก่อน  อาตมาจะต้องขอคารวะ นานๆ ที ไม่เหมือนท่านมหาบัวบ่อยๆ 

เพราะอาตมามีความจริง และมีความจริงใจ เพราะอาตมาไม่ได้ปรารถนาร้ายต่อท่าน อาตมาพูดสิ่งนี้ที่เป็นความจริง ไม่เช่นนั้นเหมือนคนใจดำเหมือนกัน ทำไมไม่บอกท่าน ซึ่งจะไม่มีใครกล้าเตือนท่านนะอาตมาพูดอย่างเกรงใจมาก นี่เตือนไป ก็ถือว่าอาตมาก็ไม่ใช่เล่นนะ จริงๆ ก็กล้าอยู่ไม่ได้กลัวอะไร แต่เอาน่า ไปว่าท่านบ่อยๆนักท่านก็จะเมินหมางเลย ไม่ฟังเลยตีทิ้งไปเลยไม่คบกันเลยก็ไม่ดี ก็ นานๆ ทีท่านก็เป็นผู้ที่มีปฏิภาณไหวพริบเยอะอยู่พอสมควร เอ้า..พอ สำหรับท่านประยุทธ์ ปยุตโต 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 12:03:06 )

ตัวอย่างธัมมวิจัยเวทนาเก๊จนเห็นจริงตามความเป็นจริง

รายละเอียด

เช่น ส้มโอลูกนี้ คุณสัมผัสด้วยตา ก็จะเห็นเหมือนกัน มันมีรูปร่างผิวพรรณสีสันอย่างนี้ ถ้ามันมีกลิ่นก็จะรู้กลิ่นเหมือนกัน สัมผัสรสชาติก็จะเหมือนกัน ที่มันเป็นจริง ไอ้จริงนั้นคือเหมือนกันทุกคน อันนั้นคือเวทนาจริง แต่คุณรู้สึกว่า พอสัมผัสแล้ว มันไม่สวย มันไม่น่าดู รสชาติไม่เข้าท่า กลิ่นไม่ถูกใจหรือว่าถูกใจ กลิ่นดี รสดี สีดี รูปดี ก็แต่ละคนไม่เหมือนกันเลยอันนั้น เป็นเรื่อง เก๊ เวทนาเก๊ เวทนาปลอม เวทนาผีหลอก เราก็เพ่งตัวผีหลอก เอ็งเป็นสองนะ มายา มาหลอกข้านานมาแล้ว ฉะนั้นเราต้องฆ่าผี หรือจอมมายาให้มันหายไป พอเราเห็นความจริงว่ามันไม่เที่ยงหรอก ตัวนี้มันมาหลอก ถ้าเราไปติดมันก็ได้สุข มันก็คู่กับความทุกข์ เดี๋ยวไม่ได้มันก็จะทุกข์ หรือได้มาไม่สมใจมันก็จะเกิดความทุกข์ ไม่ได้มาก็จะโหยหา เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเป็นสุขเป็นทุกข์หรอก มันมีก็คือมี มันไม่มีก็คือไม่มี และกิเลสตัวนี้ พอเราปฏิบัติไปจริงๆแล้ว มันจะไม่เกิดในจิตเรา ถึงขั้นจิต เวทนาเก๊ ไม่เกิด แม้เราสัมผัสส้มโอ จะลูกเดียวหรือกี่ลูกมาสัมผัสก็ไม่เกิดกิเลสเลย ไม่มีความผลักหรือดูด เห็นความจริงตามความเป็นจริง จะเป็นรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัสอย่างไรก็เป็นอย่างนี้ ไม่มีอาการของเวทนา 2 เกิดเลยมีเวทนาเดียว เอกสโมสรณา รวมได้เป็นเอกหนึ่งเดียว ไม่เกิดเวทนา 2 ไม่เกิดผีหลอกตัวนี้เลย ก็อยู่ในองค์รวมของ เทวะ ตากระทบรูปก็เป็นภาวะ 2 จมูกได้กลิ่นก็2 ลิ้นรับรสก็2 ที่แปลในพระไตรปิฎกว่า ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ )  ล.10 ข.60 คนที่ศึกษาแต่ภาษาไม่มีสภาวะก็ไปท่องสอบเปรียญ 5 แต่ลักษณะจริงจะเป็นอย่างไร ก็ไม่รู้เรื่องหรอก ไม่เข้าใจสภาวะของแท้ ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ )  ล.10 ข.60 เขาแปลไม่ผิด แต่มันไม่ได้ขยายความอย่างที่อาตมาขยายความให้เป็นสภาวะอย่างนี้ รวมเป็นอันเดียวกับเวทนา  เอกสโมสรณา คำว่า เทวะ สอง จึงเป็นความยิ่งใหญ่ที่สุดเลย ต้องตีแตกแยกทีละคู่จนเหลือ 1 ทำให้รวมเป็นหนึ่งได้สำเร็จ ภวันติ สำเร็จเรียบร้อยแล้วมันก็ยังมีสองอยู่นั่นแหละ ตากับรูป สองในภาวะของโลก ที่เราไม่มีเราก็รู้ ในแบบโลกโลกีย์ แต่คนโลกๆ คนอื่นเขามี เขายังติดอยู่ เขาก็ยังมีรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสที่เป็นเวทนา 2 เวทนาหลอก เขาก็มีอยู่เราก็รู้ เราจะไม่งง กับความมีและความไม่มี ส่วนเราเอง ไม่มีแล้ว แล้วเราก็รู้ว่าเราอยู่กับคนอื่นที่เขามีเวทนาตัวที่ 2 ซึ่งเป็นเวทนาเก๊ แล้วเราสัมผัสกับสิ่งที่เป็นเหตุที่สัมผัสกับตัวเรา กับสิ่งเหล่านี้ในโลก เรายังไม่ตายยังไม่ปรินิพพานเป็นรอปริโยสาน เราก็ต้องมีการสัมผัสอยู่กับโลกกับองค์ประกอบรอบล้อม เราสัมผัสแต่ต้องเกิดเห็น เกิดได้ยิน เกิดได้กลิ่น เกิดได้รับเสียงได้สัมผัสอยู่อย่างนี้ แต่ตัวสำคัญคือ กิเลสหรือเวทนาเก๊มันไม่มีแล้ว มันไม่มีตัวตนจริงๆเลย ยืนยันเมื่อไหร่สัมผัส จะทีเผลอมันก็ไม่เกิดจะรู้ตัวมันก็ไม่เกิด มีสติสัมปชัญญะรู้ แม้ไม่รู้ตัวทีเผลอ ตอนนั้นตอนนี้ก็แข็งแรงตั้งมั่นหมดเลย จิตใจมีลักษณะ นิจจัง(เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) เป็นคุณสมบัติวิเศษที่สำเร็จแล้วเที่ยงแท้มั่นคงแล้ว ไม่เป็นอื่นแล้ว อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง(ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ) สิ่งเหล่านี้ค่อยๆศึกษาไป ก็จะรู้สภาวะต่างๆเหล่านี้ได้ มันไม่น่าเบื่อหรอกมันเป็นเรื่องรื่นเริงในธรรม ถ้าเข้าใจในสภาวะดีๆแล้ว แม้ต่อให้คุณเป็นอรหันต์หมดแล้วก็จะฟังได้ เหมือนกับคุณชอบฟังเพลง ชอบฟังเพลงนี้ เมื่อไหร่ฟังมันก็ดี ฟังเมื่อไหร่มันก็เพราะ ไม่มีปัญหาอะไร คนอื่นร้องหรือเราเองร้องมันก็ชอบ มันก็ยินดีอย่างนี้เป็นต้น มันก็เป็นไปได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2563 ( 17:20:47 )

ตัวอย่างนี้เกิดขึ้นอยู่ในประเทศไทย

รายละเอียด

ตัวอย่างเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่ในประเทศไทย มีอยู่ในหมู่ชาวอโศกแล้ว แต่แม้ชาวพุทธเอง ได้เสื่อมความรู้ ไม่สามารถเข้าใจความจริงพวกนี้ได้ ทั้งๆที่เกิดให้เห็นมีได้ทั้งหมู่กลุ่มบุคคลพฤติกรรม เอาหลักธรรม ของพระพุทธเจ้ามายืนยันอ้างอิงเข้าไปเท่าไหร่ๆ อาตมาก็ไม่รู้นะ เขาจะเชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง หรือไม่เชื่อเลย หรือจะบอกว่ามันจริงหรือ จะไปได้สักกี่น้ำ แต่คนเหล่านั้นตายไปซะก่อนแล้ว ตายไปก่อนที่อโศกจะล้มเหลว 

อโศกไม่ล้มเหลวหรอก อโศกไม่ล้มเหลวง่ายๆ เพราะอาตมาพาทำ พาพิสูจน์ไป อาตมาจะนำพิสูจน์ไปอีกอย่างน้อย 2 พันกว่าปี ศาสนาพุทธนี้ ถึงจะหมดเชื้อโลกุตรธรรม ซึ่งไม่ใช่ไม่มีที่สุดนะ อาตมาไม่ได้อวดดีที่จะไปได้นิรันดร ไม่ใช่ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แล้วก็ทำตามที่ท่านผู้รู้ผู้อื่นๆ ว่าไปก่อนนั่นแหละว่า 5,000 ปี เหลืออีก 2,000 ปี อาตมาก็รู้มาก่อนแล้วตั้งแต่อาตมามาทำหน้าที่ชาตินี้ ซึ่งอาตมาก็บอกว่าอาตมาเป็นไก่ตัวพี่ รับหน้าที่นี้มาจากพระพุทธเจ้า ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ ไม่มีปัญหา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 54 ผู้เป็นกลางคือผู้วางกามกับอัตตา วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 14:17:08 )

ตัวอย่างประชาธิปไตย 2 แบบ

รายละเอียด

ต่อมาขออธิบายให้ละเอียด โดยมีตัวอย่าง เป็นประชาธิปไตย 2 แบบ

ก็ขอยกตัวอย่าง คือแบบทักษิณ ชินวัตร กับแบบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบทักษิณก็เห็นลายอยู่แล้ว พอมีของพลเอกประยุทธ์ขึ้นมา ซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งอย่างที่ทักษิณชูป้ายเลย แบบทักษิณเป็นประชาธิปไตยขาเดียว เป็นศิษย์อเมริกา เป็นด็อกเตอร์อเมริกา ก็เลยเป็นทาสความคิดแบบอเมริกา เต็มที่สูงสุดได้แค่ทักษิณนี่แหละ

ทีนี้ พลเอกประยุทธ์ก็เป็นอีกสายหนึ่ง เป็นประชาธิปไตย 2 ขา เป็นประชาธิปไตยที่รู้จักประชาธิปไตยดีกว่า โดยที่เรียกว่า ก็เข้าใจแบบเลือกตั้งมีผู้แทน ก็เข้าใจแต่ก็ยังเห็นว่า ตอนนี้ต้องทำแบบนี้ ยังไม่ใช่เวลาที่จะไปเลือกตั้ง ทำด้วยความมั่นใจตั้งใจที่จะช่วย แต่มันก็มีมวลประชาชนที่ยังถือหางจะต้องเลือกตั้ง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมะสองของประชาธิปไตย  วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 12:08:31 )

ตัวอย่างผู้ติดยึดจนน่าสงสาร แพ้ไม่รู้จักแพ้

รายละเอียด

มันต้องลดจริงๆเพราะมันติดจริงๆ มันก็จะบำเรอตนอย่างนั้น ยิ่งสร้างสิ่งเหล่านี้ให้ติดยึดแล้วก็จะน่าสงสาร อย่างเช่นโดนัลดั๊ก รู้จักไหม เป็นเป็ดง่อย โดนัลด์ทรัมป์ เดี๋ยวนี้เขาก็ยังอีกนานคนนี้ ขออภัยที่เอาโดนัลทรัมมากล่าวอธิบายสัจธรรม นี่เป็นตัวจริงเหมือนกับทักษิณ ชินวัตร แพ้ไม่รู้จักแพ้ แพ้ไม่เป็น แพ้แท้ๆแล้วก็ไม่รู้จักแพ้ ทักษิณเขาไม่หยุดนะ แต่มาไม่ได้ ถ้ามาได้มานะ เขาก็ยังไม่ยอมหยุด ยังงมงายอยู่แต่จะชนะเอาอำนาจบาตรใหญ่ ทุกวันนี้มันก็ร่อยหรอไม่เหมือนเก่า แต่ก็ยังไม่ยอม เหมือนอย่างโดนัลด์ทรัมป์ทุกวันนี้ จำนนเพราะว่ามันไปไม่ได้ประชาชนเขาไม่ยอม กฎหมายต่างๆมันกันไว้หมด หาทุกอย่างที่จะเอาชนะ จนกระทั่งหมดเนื้อหมดตัวหมดทุกอย่างก็ชนะไม่ได้ เห็นไหมนี่คือตัวอย่างที่แสดงให้เราเห็นว่า จิตมนุษย์นี้ไซร้ยากแท้หยั่งถึง มันติดมันยึด นี่เป็นสัจจะที่เราเรียนรู้ ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปด่าว่า ไม่ได้ข่มอะไรเขาหรอก แต่มันเป็นตัวอย่างที่ทำให้เราได้เรียนรู้ จะว่าขอบคุณก็ขอบคุณ ที่ให้เราได้ใช้เป็นตัวอย่างศึกษา โดยสมมติสัจจะเราก็ขอบคุณเหมือนอย่างชาวโลกเขา เราจะได้ศึกษาและเราจะได้ไม่เอาเป็นแบบอย่าง คำพูดของจริงว่าเราก็รังเกียจฉันด้วย เราชัดเจนว่าอย่างนี้เราไม่เอา ชัดเจนแล้วจำให้ได้เลยนะ ต้องรู้ตัวเอง ว่าตัวเองจะเป็นอย่างนี้แล้วนะ ต้องรู้ให้ได้นะกรรมกิริยา ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองให้ระวัง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 11:04:03 )

ตัวอย่างผู้ที่รู้จักประโยชน์

รายละเอียด

_ซึ้งซื่อ วิเชียร ครับ . ขอกราบนมัสการพ่อท่านด้วยสุดเศียรสุดเกล้าครับ ต้นเดือน ธ.ค. นี้ลูกจะขอบินไปราชธานีอโศก เพื่อไปกราบเท้าพ่อท่าน และสมณะสิกขมาตุที่เคารพ พร้อมทั้งไปพบหมู่มิตรดี และผมมีความปีติยินดีที่พ่อท่านได้ฝืนทำ(coefficient)ได้สำเร็จอีกครั้ง ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไปกับพ่อท่าน และผมจะปฏิบัติศีลและอปัณณกปฏิปทา 3 โดยทำเรื่องอาหารให้ดีที่สุดและสัทธรรม 7 จนกระทั่งถึงฌาน 4 และวิชา 8 ต่อไปไม่หยุดยั้ง และที่คืนวันพุธที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น พ่อท่านได้กรุณาชี้ขุมทรัพย์ให้แก่ผม วิเศษมากเลยครับ ลูกคนนี้จะไม่ทำให้พ่อผิดหวังจะปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องทั้งกายใจให้จบกิจเป็น 0 ให้จงได้ครับขอกราบขอบพระคุณพ่อท่านอย่างสูงยิ่ง

อาตมานึกว่าคุณโดนไปหมัดนี้ จะนอน(ให้กรรมการบนเวทีมวย)นับ หรือจะหยอดน้ำข้าวหรือเปล่า แต่กลับดี เอา ดีมาก ตั้งใจดี โดนตำหนิโดนว่าอะไรไปก็เข้าใจ แล้วก็รู้สึกว่านั่นแหละคือผู้ชี้ขุมทรัพย์ ได้รับขุมทรัพย์แล้ว ถูกกระหนาบแล้วกระหนาบอีก ก็เลยยังรู้สึกสบาย ยังชอบใจ ก็แสดงว่าเป็นผู้ที่รู้จักประโยชน์ ไม่ไปเข้าใจผิดจนกลายเป็นโทษเป็นภัยอะไรๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือผู้สถาปนาโลกุตระปัญญา ล้างอวิชชาในยุคนี้ วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2567 ( 21:00:08 )

ตัวอย่างผู้กล่าวเช่นนี้จะเกิดผล?

รายละเอียด

ขยายความให้ฟัง คือ ผู้ที่รู้ตัว สำนึกผิด เห็นว่าเราเคยละลาบละล้วง คุณจะไปละลาบละล้วงศีล ละลาบละล้วงคำสอนพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะละลาบละล้วงบุคคล ไปดูถูกดูแคลนข่ม แต่เสร็จแล้วตัวเองผิด ตัวเองไม่ใช่ผู้ถูก ไปละลาบละล้วงผู้ที่สูงกว่า พอเกิดปัญญาเห็นจริงแล้วมันต้องละอายจริงๆเลย ตายๆๆๆ เรา ละอาย จนกระทั่งบางทีไม่กล้าที่จะสารภาพเลย ว่าเราได้ผิดแล้ว จนตายไปจากชาตินี้เลย ชาติต่อๆ ไป ก็หาทางที่จะแก้ไข เพราะว่ามันเป็นสิ่งเกิดจริง เป็นสัจธรรมที่เป็นความจริง มันก็จะแก้กลับ แต่ชาตินี้บางทีละอายจนไม่แก้กลับทั้งชาติ จะมาสารภาพผิด ก็เหมือนกับตัวเองมีอาบัติแล้วก็ไม่ปลงอาบัติ มันก็ไม่ได้เป็นความเจริญอะไร พัฒนาไม่ออก ไม่สารภาพต่อความผิดกับหมู่กลุ่มรับรอง ถ้ามาสารภาพหรือปลงอาบัติ ทุกอย่างให้หมู่กลุ่มรู้เรื่อง ผู้ที่ถูกละลาบละล้วงก็รับทราบก็หมดที่จะเข้าใจผิดกัน มันก็ละลายสิ่งที่มันจะขัดข้องไปหมดเลย 

แต่นี่ถ้าไม่ทำ คาราคาซังข้ามชาติไปอีกจะยิ่งหนัก สิ่งเหล่านี้ ถ้ามีภูมิธรรมมีปฏิภาณปัญญาจริงๆ จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ แต่เข้าใจไม่ได้ จึงไม่ทำตามอย่างที่อาตมาว่า มันก็ยิ่งชัดเจนว่า ผู้นั้นยังไม่สำนึก ยังไม่รู้สึก ยังไม่จริง ถ้ารู้จริงๆแล้วชาตินี้จะสารภาพ แต่ถ้าชาตินี้รู้แล้วแต่ไม่สารภาพ ก็อย่างที่อาตมาอธิบาย มันจะใช้ภาษาไทยว่า มันละอายเกินกว่าความละอายที่จะสารภาพ ที่จะเปิดเผยยอมรับต่อสังคม มันละอายเกินกว่าละอาย มันเปิดเผยไม่ออกเพราะไม่กล้าเปิดเผย หมายความว่ามันมีความละอายแล้วล่ะ แต่มันไม่กล้าเปิดเผยหมายความว่าอย่างไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ต้องดูไปไม่ต้องไปดูไบ วันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2565 ( 15:07:18 )

ตัวอย่างพญาครุฑในประเทศไทย

รายละเอียด

นี่แหละคือพญาครุฑตัวอย่างในประเทศไทย คือพระมหาประยุทธ์พระพุทธโฆษาจารย์นี่แหละ ท่านมีลักษณะอย่างนี้จบไม่ลง จนอาตมานี่ ขออภัยที่พูดความรู้สึกจริงว่าน่าสงสารท่าน ตรงนี้ท่านไปยึดอย่างนี้ ก็เลยกลายเป็น ปทปรมบุคคล รู้พระพุทธพจน์ก็มาก สอนคนอื่นก็มาก ทรงจำได้มากแต่ตนเองไม่ได้บรรลุธรรมในชาตินี้ โอ้โห เห็นแล้วน่าสงสารจริงๆ ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะช่วยไม่ได้เพราะท่านไม่ได้ศรัทธาอาตมา ท่านไม่ได้เชื่ออาตมา มันก็เลยยิ่งไปกันใหญ่ 

เพราะจริงๆ ขออภัย ต้องพูดอีก เพราะอาตมาเป็นคนที่ถูกต้องจริงๆท่านเข้าใจไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านยังไม่มีความเข้าใจ ไม่มีศรัทธาตัวต้นกับอาตมา มันจึงทำให้ท่านต้องเป็นอยู่เช่นนี้ ท่านจึงได้จมอยู่กับความรู้อย่างนี้ ท่านจึงตายไม่ลงที่จะต้องอยู่กับความรู้และเอามาบันทึกบรรยายให้คนอื่นได้รู้ ท่านจมอยู่ในตรรกศาสตร์ 

อาตมาว่า ขยายความยังไม่ละเอียดพอ ยังไม่เก่งแต่คงพอเข้าใจอย่างนี้เป็นต้น น่าสงสารท่านจริงๆ ท่านรู้มาก จึงยากนานจริงๆ เจาะเข้าไปสู่ปรมัตถ์ 

ศีลแต่ละข้อ ที่จะรู้ว่าผู้ปฏิบัติศีลแล้วจิตจะเกิดอธิจิต แล้วจะมีปัญญาชัดเจน เข้าใจๆทำให้เกิดวิมุติ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา อธิมุติ จนเป็นวิมุตติญาณทัสสนะ แต่ไม่มีคุณลักษณะพวกนี้ไปด้วยกันไม่เป็นลำดับ ไม่มีอย่างนี้ท่านก็ไปกับความรู้ที่เป็นเหตุผลตรรกศาสตร์ ก็ได้ตรรกศาสตร์กับปรัชญา อย่างนี้เป็นต้นไปมากมายก่ายกอง 

ท่านเป็นภันเตอาตมา เพราะท่านบวชก่อน แต่ท่านอายุน้อยกว่าอาตมา เท่านั้นเองมันก็สลับกันบ้าง นี่แหละมันถึงว่ายาก มันก็มีมานะอัตตาหลายๆอย่าง เช่นท่านเองท่านได้ศึกษามามีผู้รับรองมีปัญญามีบัณฑิตต่างๆนานา ท่านได้ดุษฎีบัณฑิต ได้รับการยอมรับจากใครต่อใครต่างๆ กว่า 10 ใบนะ ดุษฎีบัณฑิตของท่าน อาตมานี่ อย่าว่าแต่ดุษฎีเลย ปริญญาจัตวา ปริญญาตรีก็ไม่ได้แม้แต่ใบเดียว มันหลายอย่าง มันทำให้คนไม่เข้าใจในรายละเอียดพวกนี้เพราะฉะนั้นท่านก็ออกมาไม่ได้หรอก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูตอบปัญหาผ่าพญาครุฑ ฉุดพญานาค วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2565 ( 10:52:11 )

ตัวอย่างมหาปเทศ 4 เรื่องเนื้อสัตว์

รายละเอียด

ยกตัวอย่างอาตมาเห็นว่า เนื้อสัตว์เป็นสิ่งไม่สมควรกิน พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามตรงๆ ไว้เลย ว่าสิ่งนี้ไม่ให้กิน ไม่ได้ห้ามโดยตรงแต่ห้ามโดยนัย มีเยอะ ยกตัวอย่าง ท่านห้ามพุทธศาสนิกชน อย่าฆ่าสัตว์ ภิกษุก็ตาม ศีลพื้นฐานคืออย่าฆ่าสัตว์ แต่หากไม่เอาใจใส่ศีลไม่ต้องการความเจริญ หากใครต้องการความเจริญก็ปฏิบัติตั้งแต่ศีลข้อที่ 1

และพระพุทธเจ้าห้ามค้าขายเนื้อสัตว์ สัตว์เป็น

มีสองอันนี้ คือไม่ให้ฆ่า เนื้อสัตว์ก็ไม่ให้ขาย คุณก็ต้องไปเอาเดนสัตว์มากิน

ทีนี้ อาตมาเห็นว่าสิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้น เข้าพวกกับสิ่งที่ไม่ควร คุณก็ใช้วิจารณญาณของคุณ เมื่อไม่ห้ามตรงๆ ก็ต้องใช้วิจารณญาณให้เข้ากัน กับสิ่งที่ควร ไม่ขัดกับสิ่งไม่ควร

อย่างอาตมาบอกว่า เนื้อสัตว์เป็นสิ่งที่ไม่ควรกิน มันขัดกับการกินพืช กินพืชนี้หาง่ายกว่าสัตว์เยอะ เอามากินง่ายกว่า หากคุณเห็นด้วย ว่ากินเนื้อสัตว์ไม่ควร หากคุณเห็นด้วยกับสิ่งไม่ควร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน มหาปเทส 4 มีหลักอย่างไร


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:45:28 )

ตัวอย่างมหาปเทศ 4 เรื่องเห่อฟุตบอล

รายละเอียด

ยกตัวอย่างคนที่กำลัง เห่อฟุตบอล ท่านห้ามไว้โดยปริยายว่าห้ามอบายมุข เป็นการละเล่นการกีฬาการบันเทิงเริงรมย์ แต่ก็ไม่นำพากัน ยังหลงงมงายกันว่าเป็นความเจริญความเท่แม้สิ่งนี้ ต้องดูว่าท่านห้ามหรือไม่ หรือว่าอนุญาตหรือไม่ ต้องดูว่าควรหรือไม่ควรด้วยต่อไป

เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยหมู่ด้วย ไม่อย่างนั้นก็เอกเทศไม่รู้จะตัดสินอย่างไร มีหมู่กลุ่มที่เหมาะควรก็ช่วยกันตัดสิน

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน มหาปเทส 4 มีหลักอย่างไร


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:48:58 )

ตัวอย่างมหาไพรวัลย์ ดร.ทักษิณรู้มากรวยมากแต่หาสาระชีวิตไม่ได้

รายละเอียด

พูดไปแล้วนึกถึง พระมหาไพรวัลย์ เดี๋ยวนี้แต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วรู้มาก เปรียญ 9 นะ ไม่รู้จะจบปริญญาเอกหรือยัง รู้มาก สาระอะไรของเขาชีวิต นุ่งผ้าถุงหรา เขาก็สบายใจเขาเป็นสุขนะพวกนี้เขาชอบกระดุ๊กกระดิ๊ก แล้วมันสาระอะไรของเขา เป็นสาระอะไรในชีวิต นั่นแหละ เรียนมาไม่ใช่น้อย เก่งนะอายุไม่ถึง 30 ปีหรือ 30 แล้ว ประมาณนั้น จบมาหมดแล้ว เก่งเฉลียวฉลาด นี่เป็นตัวอย่างให้เรา ก็น่าสงสาร นี่แหละมนุษย์มนาไร้สาระกันอย่างนี้ 

นี่ก็เป็นตัวอย่างชนิดหนึ่ง อย่างดร.ทักษิณจบทางอาชญวิทยา ก็เอาความรู้มาทำจนชิปหายวายป่วงจนกระทั่งกลายเป็นนักโทษหนีคุก แต่ก็ยังแสดงตัวเองกร่าง ตัวเองแท้ๆเป็นนักโทษหนีคุกแท้ๆ ทักษิณ นี่ไม่ได้หาเรื่องไม่ได้ใส่ความเลยนะ ยังมีอีกหลายคดีด้วย เข้ามาจะได้ว่าความตัดสินคดีอื่นๆอีก จะได้เป็นนักโทษอีกกี่ปี ที่ตัดสินไปแล้วนี้เป็นนักโทษแท้ๆ แล้ว ก็หนีคุก มาอีกก็ได้โทษอีกแน่นอน จึงไม่กล้าเข้ามา จบอาชญวิทยา ด๊อกเตอร์ ไร้สาระแท้ๆ เลย ทำโทษทำภัย 

ก็ไปหลงแท้ๆเงินทองโกงไปมหาศาลใช้ก็สบาย คุณรู้ไหมคุณสบายกิเลสคุณยิ่งหนาคุณเสพสุข คุณหลงอำนาจ อำนาจเงิน คุณจะจมกับความหลงที่มันติดยึดไปอีกกี่ชาติ คุณทักษิณเอ๋ย คุณไม่รู้เลยว่าสิ่งเหล่านี้ มันเป็นความโง่มันเป็นอวิชชา มันเป็นความหลงที่คุณไม่รู้ตัวเลย ยิ่งไปนึกว่ามันมีมันเป็นที่พึ่งอันเกษมของเรา ไม่ว่าอำนาจเงินอำนาจแห่งอำนาจ ไม่ว่าอะไรที่เป็นโลกธรรม เต็มหูเต็มหัวไปหมด อาตมาเห็นแล้วสงสารไม่รู้จะทำอย่างไร ถึงจะตื่นถึงจะฟื้นขึ้นมา นี่ก็เป็นตัวอย่างของคนจริงที่หยิบขึ้นมา 

ไม่ได้พูดถึงอย่างกระหน่ำย่ำยีอะไรหรอกแต่พูดอย่างเป็นตัวอย่าง เอามาเป็นตัวอย่างเพื่อจะใช้ศึกษา หยิบขึ้นมาพูดถึง ขยายความอธิบายพฤติกรรมของคน เกิดมาจากตัวจิตที่เป็นประธาน จิตตัวนั้นมีตัวกิเลส เขารู้หรือไม่รู้อย่างไรตัวนั้นมันก็บัญชาการเขา ให้เขามีพฤติกรรมของตัวเองออกมาในโลก อย่างที่เห็นอย่างที่เป็นๆ กัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุดยอดวิชาที่เป็นความจริงแท้ๆของพุทธ วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กันยายน 2565 ( 15:07:17 )

ตัวอย่างรูปธรรมของการพึ่งตนเองด้านอาหารในคนเมืองที่มีพื้นที่น้อย

รายละเอียด

ก็เอากระถางห้อย เรียงลงมาเป็นชั้นๆห่างกันชั้นละสักสองฟุต จะกี่ชั้นก็ได้ แล้วต้นไม้ล้มลุกพวกนี้ไม่โตเลยสองฟุตเท่าไหร่หรอก คุณราดน้ำจากชั้นบน มันจะไหลมาหาด้านล่างไม่เปลืองน้ำเลย คุณทำสัก 4-5 สาย เมื่อหมดแล้วก็เพาะเมล็ดเอาไปปลูกใส่ต่อวนเวียนกิน รับรองว่าวนเวียนกินทัน ไม่ต้องไปซื้อผักที่ตลาดเลย ใครทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วเราจะได้ทำเป็นสกู๊ปออกอากาศให้คนอื่นดู เป็นตัวอย่าง แต่ของเรามีพื้นที่มากมายก็เลยไม่ได้ทำแบบนั้น แหม อาตมาอยากให้ทำ ใครทำแล้วจะได้ไปทำสกู๊ปมาออกโทรทัศน์เลย เมื่อไหร่หนอ พูดไปแล้วใครที่ฟิตๆก็น่าจะทำเป็นตัวอย่าง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติปรากฏได้ในยุคโควิด วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:18:19 )

ตัวอย่างสิริมหามายาของสหเจโตศรัทธาถึงขั้น 7 แล้วต้องมาเติมปัญญาวิมุติ

รายละเอียด

คุณมีแต่เจโต ศรัทธา ไปถึงขั้น 7 ก็ต้องมาเติมปัญญาวิมุติ คุณถึงจะบรรลุ อาสวะสิ้น เห็นไหม นี่คือ สิริมหามายา ภาษามันไม่มีตัวแทนสภาวะ ก็ต้องเอาภาษาอันล่างมาเรียกอันบน อันบนมาเรียกอันล่าง อันที่หยาบที่สุดคือละเอียดที่สุด อันที่ละเอียดที่สุดคือหยาบที่สุด เอาหัวมาเรียกหาง เอาหางมาเรียกหัว เอาต้นมาเรียกปลาย เอาปลายมาเรียกต้น กลับไปกลับมา เรียกว่า ปฏิ ทวนไปทวนมา อนุโลมปฏิโลม จึงชื่อว่า สิริมหามายา 

เหมือนนักเล่นกล นี่หลังมือนะ นี่ฝ่ามือนะ สลับไปมา เร็วนะ ดูทันไหม เร็วยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ นักเล่นกล สิริมหามายาบอกว่า นี่ฝ่ามือนะ นี่หลังมือนะ หรือ คุณจะเร็วเท่าไหร่ ความเร็วของสิริมหามายาก็ไล่ทันหมด จับฝ่ามือ จับหลังมือได้แม่นยำทุกอัน เพราะความเร็วของสิริมหามายามาก จึงบรรลุ ทำให้เกิดปัญญาได้ ปัญญาคือ สิทธัตถะ พยัญชนะคือ สิทธัตถะ สภาวะคือ ตัณหาที่หมดสิ้นแล้ว เป็นผู้ที่มีตัณหาอันหมดสิ้นแล้ว คือ สิทธัตถะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญาวิมุติเหนือกว่าอุภโตภาควิมุติอย่างไร วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2565 ( 15:01:41 )

ตัวอย่างหลวงปู่แสงหลับตาปฏิบัติกิเลสแสดงออกตอนอายุจะเป็น 100

รายละเอียด

อย่างเช่นไปหลับตาปฏิบัติไม่ถูกสัมมาทิฏฐิอย่างหลวงปู่แสง เป็นต้น เราไม่รู้รายละเอียดของหลวงปู่แสงที่มีเก็บหลักฐานไว้ แต่มันแสดงออกตอนอายุจะเป็น 100 ที่มีคลิปออกมา หมอปลาเอามาเปิดโปง มีคลิปเป็นภาพไปล้วงไปกอดไปดมไปหอมเขาได้อย่างไร อายุตั้งเป็น 100 แล้ว แล้วบำเพ็ญมาปฏิบัติมาตั้ง 60 80 พรรษา กิเลสอย่างกามแค่นี้ แค่กามลามกแค่นี้ 

มันสูงกว่านี้ถึงขั้น รูป อรูป ยังมีอีกนะ แค่กามแค่นี้  แล้วกามผู้หญิงผู้ชาย กามหยาบๆแค่นี้ ยังพ้นไม่ได้ นี่แหละ คือผู้ที่หลับตาปฏิบัติ นี่คือสายหลับตาจริงๆ เลิกเสียเถอะ มาตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติจรณะ 15 วิชชา 8 ฌานแบบพระป่านั้นไม่ยากหรอก มันต้องทำอยู่บ้าง คุณทำเตวิชโช คุณทำฌาน แบบนั้นทั้งนั้นมันเป็นอัตโนมัติ แต่มันไม่ตั้งมั่นยาวนาน แบบนั่งหลับตาปฏิบัติ แบบนั้นมันก็ทำได้แบบวิกขัมภนะ ก็ทำได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์แม้เป็นอัลไซเมอร์ก็ไม่มีพฤติกรรมกามเมถุน วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 09:13:29 )

ตัวอย่างหิริโอตตัปปะในสัทธรรม 7

รายละเอียด

“ลูกได้เห็นความโง่ที่ออกมาจากอำนาจกิเลสของลูกค่ะ ” เห็นไหมนี้ ความโง่ ที่หิริ โอตตัปปะ ที่รู้ว่าตัวเองได้แสดงออกความโง่ออกไป เห็นไหมเข้าหลัก”หิริ โอตตัปปะ พหูสูต”-ขึ้นเรื่อยๆ นี่แหละปฏิบัติธรรมะ มันจะเข้าหลักเนื้อหาธรรมะของพระพุทธเจ้า มีสัทธรรม 7 เกิดชัดเจนที่ตัวเองไปแสดงออก นี้”บุพเพสันนิวาสานุสติญาณ” ระลึกได้ว่าตัวเองกระทำผ่านมา มันน่าละอาย หิริ โอตตัปปะ อย่างนี้แหละคือเข้าหลักธรรมพระพุทธเจ้าทั้งนั้น  ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาสะกดจิต ไม่ได้วิจัยอะไรไม่รู้เรื่องอะไรแล้วเมื่อไหร่มันจะรู้จักกิเลส เมื่อไหร่มันจะเกิดปัญญา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ถือศีลให้รู้รูปนาม ให้เกิดปัญญาจนอวิชชาหายไป วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2566 แรม 2 ค่ำเดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 มีนาคม 2567 ( 19:04:52 )

ตัวอย่างอรหันต์เก๊

รายละเอียด

ไม่ใช่ยิ่งเป็นพระอรหันต์ยิ่งเป็นผู้ที่สูงขึ้นไปก็ยิ่ง เต๊ะท่า ยิ่งเฉื่อยอืด หลับใหล ทื่อ เหมือนอาจารย์เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ อะไรที่ลำปาง นั่งหลับตา แขกมาใครมาก็นิ่ง ซึ่งมันไม่ใช่อรหันต์ เป็นอรหันต์ที่ผิด อรหันต์ที่ติดยึดเอาแต่หลับหรี่ ถีนมิทธะ ตกผลึกเป็นสมถะนิ่งสงบมันสุดโต่งเลยเถิดก็ยังไม่รู้กัน นี่ยกตัวอย่างหลายทีแล้ว 

หรือยิ่งปราดเปรียวคล่องแคล่วเกินไปมีภาวะฉลาดเฉลียว เฉโก เหมือนอย่างธัมมชโยนี่ก็ร้ายแรงมากไม่รู้ทันเลยนะ เดี๋ยวนี้คนที่หลงใหลก็ยังไม่รู้เท่าทัน ตอนนี้หายตัวไม่รู้ตายหรือดีอย่างไร ไม่ได้ว่าเขาตายนะ หรือยังไม่ตายก็ไม่รู้ เก่งจังหายตัวได้ แต่พวกสาวก เขาก็คงรู้ว่าไม่ได้หายตัวหรอก แต่พวกข้างนอกยิ่งลือกัน เห็นไหม หายตัวได้ ไม่มีใครจับได้ มีอภินิหาร 

หรือไม่ก็อย่างฤาษีลิงดำ เก่ง โอ้โห หยั่งรู้ คนนี้มีวิมาน 7 ชั้นคนนี้มีวิมาน 5ชั้น คนนี้มีวิมานทองวิมานเพชรอะไรต่างๆ สารพัด อย่างนี้เป็นต้น 

หรือไม่ก็ ขออภัย มหาบัว เก่ง เป็นอรหันต์ใหญ่เป็นคนที่สู้กับกิเลส สู้ๆๆ เอาให้มันตายตายตายแล้วมันตายอย่างไร เอามันให้ตายอย่างไร นั่งสู้ ก้นแตกก้นด้าน อย่างไรก็สู้หนักคือไม่มีอื่นเลย เสร็จแล้วก็ไม่รู้แม้กระทั่งสิ่งเสพติด ติดหมากหนักหนา บุหรี่สูบบ้าง แต่ก็ถือว่าไม่ติด เพราะคณะสายนั้น เขากินหมากสูบบุหรี่กันมาทั้งนั้น นอกจากกินหมากสูบบุหรี่แล้วยังกิน ปานะ 

สมอ ถือว่าปานะ มะขามป้อมถือว่า ปานะ กินกันเฉยๆ ตอนเย็นก็จิ้มแจ่วกินกันเฉย นี่เรื่องจริงไม่ใช่เรื่องพูดเล่นหรอก ซึ่งมันเกินไป ไม่รู้จักที่ตัวเองติดยึด คือ กามคุณ 5 ไม่ได้เรียนเลยไปนั่งหลับตา ปิดตาหูจมูกลิ้นกายหมด ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ศึกษาฝึกฝน 

 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 18:23:42 )

ตัวอย่างเรื่องหลงอำนาจ

รายละเอียด

ใครไปวนอยู่ในกิจหรือในเรื่องที่มันต่ำๆ เรื่องอบายมุข เรื่องหลงเงินรวยๆ เรื่องหลงอำนาจใหญ่ๆ หลง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มโหฬาร สรรเสริญมโหฬาร ยศใหญ่ๆ

พูดถึงยศใหญ่ๆ นึกถึงเกาหลี เหรียญตราเขา เวลาเดิน ที่ถ่ายภาพออกมาแต่ละคนๆ เจ้าประคุณเอ๋ย ไม่หนักหรืออย่างไร เป็นแผงเต็มหน้าอก เขาต้องใช้วิธีนั้น ป้อยอ ยกย่องเชิดชู ยุแหย่ เอา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มาประเคน มายุ มาแหย่ มาตั้งให้ทำงาน หลอกให้ทำงาน ถ้าเอาเงิน มันก็ไม่พอ เอาเหรียญตรากับตำแหน่งยศศักดิ์ มันเป็นนามธรรม ไม่ต้องลงทุนมาก แล้วก็ปรบมือกันนานจริงๆ จะเห็นได้ว่าลักษณะ สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุลของเกาหลีเหนือ เป็นโลกียะที่จมอยู่ใน ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข อย่างหนักมากเลย เป็นตัวอย่างให้เห็นได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนากัณฑ์พิเศษ เริ่ม 53 ปี โพธิกิจ ยังเป็นรองต้องอุตสาหะ วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 19:21:49 )

ตัวอย่างโยสิโมมนสิการอย่างเป็นรูปธรรม

รายละเอียด

ตัวอย่างสั้นๆ โยนิโสมนสิการที่เป็นรูปธรรม 

เวลาคุณกระทบสัมผัสพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันสวยมันน่ากินทั้งนั้นเลย พอเราสัมผัสด้วยตา โอ้โห บร็อคโคลีก็น่ากิน ดอกกะหล่ำปลีก็น่ากิน อะไรก็ทั้งนั้น ดูมันสมบูรณ์เต่งตึงดีเลยมันน่ากินนะ จิตเราก็ต้องอ่านจิตเรา อันนี้แหละ มนสิการ แปลว่าทำใจ คุณจะทำใจในใจเป็นคุณจะต้องมีตัวสัญญากำหนดหมายเข้าไปรู้ใจ อ่านอาการของใจ ใจมันตอนนี้กำลังอยู่อย่างไรอยู่อย่างนิ่ง อยู่อย่างเคลื่อนไหว อย่างไร มันกระทบสัมผัสพวกนี้แล้วมันเคลื่อนไหวอาการเคลื่อนไหวแล้วมันเคลื่อนอย่างไร มันมีอาการอย่างนี้อ่านได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ นี่ก็เป็นเวทนาที่คุณจะต้องรู้ ชอบไม่ชอบแล้ว อาการอย่างนี้เองอาการใจ อาการของวิญญาณ อาการของจิตหรือแยกเป็นเจตสิกมันก็อย่างนี้ เราก็พยายามใช้ตัวสัญญาหรือการกำหนดหมายรู้กำหนดหมายตัวนี้ต้องใช้เป็น คุณใช้สัญญาไม่เป็นกำหนดรู้กำหนดหมายสำคัญมั่นหมายในอะไรในการเรียนรู้ปรมัตถธรรมไม่ได้เลย 

เพราะฉะนั้นโยนิโสมนสิการก็คือ เรียนรู้อาการของจิตเจตสิก โดยเฉพาะเรียนรู้ที่เวทนานี่แหละ แล้วคุณก็แยกได้ แยกกิเลสออก พิจารณา โยนิโสคือ พิจารณาอย่างแยบคายถ่องแท้เห็นความจริง ไม่ใช่พิจารณาอย่างไม่มีตัวสภาพรองรับ แต่มีสภาพที่จิตรองรับเห็นอาการของจิตเลย พิจารณาเห็นอาการของจิต เอามาพิจารณาเทียบกันเรียกว่า ลิงคะ อะไรมันถูกเทียบทีละคู่ทุกมุมเหลี่ยม จะมีทีละคู่ทุกมุมเหลี่ยม ทุกนัยยะ ทุกมิติ ทุกอย่าง เลือกได้ที่สุดแห่งที่สุด ถูกต้อง ดีงาม ครบหมด ทีละคู่นี่แหละ ไม่ใช่ไปเลอะเทอะเยอะแยะแล้วจะไปเปรียบเทียบเด็ดขาดได้อย่างไร เด็ดขาดก็ต้องมี 2 เท่านั้น เปรียบเทียบอะไรดีที่สุด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 14:19:02 )

ตัวเกิด กลละ

รายละเอียด

ก ก็ กะ อยู่ตรงนี้ พอ ล ก็เป็นพลังงาน สามเส้า ย ร ล พลังงานมันกระดิกๆ คุณอยากแล้วมีพลังงานคุณก็ยังไม่รู้ จน กลล  กลล มีกลล สองตัว มันจึงจะแรงมันจึงพอรู้เรื่อง พยัญชนะจะบอกสภาวะพวกนี้ 

ใช้คำว่าพยัญชนะ กลละ กับ กลละ สองเส้า ส่วน nich คือเหมือนห้อง แล้วมีภายในมี cytoplasm ส่วน protoplasm เป็นภายนอก เหมือน อ.อ่าง มีหัว ติดอยู่ตรงนี้ หยุดขยายตรงนี้ก่อน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 07:34:45 )

ตัวเขาคือพระเจ้าของตัวเอง

รายละเอียด

 คือ ที่เขาชั่วแต่ที่จริงแล้วไม่ใช่อยู่ที่พระเจ้า เขาก็คือ ตัวเขาก็คือ พระเจ้าของตัวเขาเอง  เขาทำชั่วเองเขาก็มีความทุกข์ความเจ็บป่วยเอง  เขาพยายามรักษาป้องกันไม่ให้มีที่จะเจ็บป่วย  เขาก็รอดตัวของเขาไป  สุดท้ายแล้วก็คือตัวเองทั้งนั้น  ไม่ใช่พระเจ้าเป็นตัวบันดาลหรือพระประสงค์อะไรทั้งนั้นหรอก  ขออภัยเป็นวิชาการนะอย่าหาว่ายกตนข่มเทวนิยมก็ขออภัย

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 16:32:35 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:50:09 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:04:50 )

ตัวเรา

รายละเอียด

คือ  เป็นเจ้าของของเวทนา  สัญญา  สังขาร  ตัวเราเป็นผู้มีความรู้  ความรู้อย่างนี้  เรียกว่า  เวทนา  ความรู้อย่างนี้ด้วยข้อสัญญา  ความรู้อย่างนี้เรียกว่า “สังขาร” อย่างนี้เป็นต้นก็แจกออกมาอีก

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายราย การสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 71  30 กันยายน  พ.ศ. 2562


เวลาบันทึก 03 ตุลาคม 2562 ( 17:33:44 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:53:38 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:50:06 )

ตัวเราก็ต้องเป็นตัวความจริง เราจะได้ไขความจริงออกมาเป็นความจริง

รายละเอียด

ในขณะนี้ก็ขอย้ำ 1 พืชพันธุ์ธัญญาหารเราต้องนำ ส่วนทางด้านธรรมะนั้นแน่นอนที่สุด ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นคนรับใช้ ต้องใช้สูตรนี้ไปเรื่อยๆ ยาวให้เป็นเย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมด ตัวเราก็ต้องเป็นตัวความจริง เราจะได้ไขความจริงออกมาเป็นความจริง แต่คนที่ไม่เป็นความจริงแล้ว ไขความจริงออกมามันจะไม่เป็นความจริงทีเดียว มันจะปีนเกลียว โค้งคด ตามลักษณะที่คุณยังไม่สะอาดยังไม่ซื่อยังไม่ตรง ใช้พยัญชนะที่เป็นสัจจะทั้งนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:48:20 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:11:27 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:05:17 )

ตัวเรานี่แหละต้องเป็นสิทธัตถะ!

รายละเอียด

“สิทธัตถะ”คือ พยัญชนะที่แปลว่า สำเร็จประโยชน์แล้วคำว่า “สิทธัตถะ”จึงเป็นชื่อของคนผู้ที่“สำเร็จประโยชน์แล้ว”ทุกคนอย่างแท้จริง ถ้าคนผู้นั้นไม่หลงติดยึดอยู่แต่ในความเป็นตัวตนบุคคลเราเขา ใครใดก็สามารถมี“สิทธัตถธรรม“ได้!  

ดังนั้น คนผู้ใดสามารถพบสัจธรรมที่เป็น“โลกุตระ” และน้อมเข้ารับ“โลกุตรธรรม”จาก“สิริมหามายา” หรือ“ผู้ให้กำเนิด“สิทธัตถะ”ให้บริบูรณ์ จึงจะสามารถ“หลุดพ้น”จากการจมงมงายอยู่กับความเป็น“เทฺว”ได้สำเร็จไม่เช่นนั้น คนสามัญทั้งหลายก็จะจมงมงายอยู่กับ“เทฺว” ตีแตกแยกแยะ“เทฺว”ไม่เป็น หรือยิ่งไม่ยอมให้ตีแตกแตะต้อง“เทฺว”นั้นเลย คนผู้นั้นก็จะต้องจมอยู่กับความเป็น“เทฺว”นิรันดร 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 32 หน้า 61


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 15:13:02 )

ตัวเวทนาเป็นกรรมฐานของพระพุทธเจ้า 

รายละเอียด

คำว่าไม่มีกายคำนี้คือไม่ให้มันมีกายที่แยกเข้าไปถึง เจตสิก กายิกเจตสิก กับ เจตสิก มันมีกายกับเจตสิก แยกกายเป็นเจตสิกก็คือ แยกตัวปฏิบัติจริงคือ ตัวเวทนาเป็นกรรมฐานของพระพุทธเจ้า เพราะเวทนาเป็นตัวแท้ของความสุขความทุกข์ เวทนาคือความรู้สึกหรืออารมณ์ที่มันรู้สึกสุขรู้สึกทุกข์ตัวนี้เป็นอริยสัจต้องเรียนรู้ว่ามันเป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นอาริยะเป็นผู้ประเสริฐเป็นผู้ฉลาดแล้วก็จะเรียนรู้ที่เวทนานี้ได้ว่าเป็นอาการหรือว่าเป็นความรู้สึก ว่ามันเป็นทุกข์ 

อ่าน อาการ ลิงค นิมิต ของมันได้คือจับสภาพของมันได้ว่าอาการนี้คืออาการทุกข์ แล้วคนที่มิจฉาทิฏฐิก็ไปหลงความทุกข์ว่าเป็นความสุข นี่คือพวกวิปลาส เพราะว่าสุขกับทุกข์นั้นมันตัวเดียวกันมันเป็นอารมณ์ ถ้ามันเป็นอารมณ์สุขมันก็คือมายามันหลอก แต่ที่แท้มันเป็นตัวทุกข์ ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป แต่คนวิปลาสก็ไปหลงความทุกข์ว่าเป็นความสุข แล้วก็ไปยึดความสุขให้มันเที่ยง ก็เป็นความวิปลาสตัวต้นเลย มันไม่เที่ยง สุขมันก็ไม่เที่ยงแต่ไปยึดว่าให้มันเที่ยงจะต้องเป็นสุขตลอดกาล ตั้งแต่จตุมหาราช จนดาวดึงส์ จนถึงยามา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมื่อเห็นค้านแย้งจากผู้สัมมาทิฏฐิย่อมคือผู้มีบาป วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤษภาคม 2566 ( 11:39:18 )

ตัวเหตุของอวิชชาคือตัณหาที่ต้องดับเสีย

รายละเอียด

ถูกต้องจริงๆมันเป็นตัวเดียวกันหมดถ้าเข้าใจแล้ว สังขาร วิญญาณ นามรูปอายตนะ ผัสสะ เวทนา แม้ที่สุดตัณหา ก็เป็นตัวเดียวกันที่อวิชชา

แต่ก่อนคนอวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป อายตนะ ผัสสะก็เป็น อวิชชา ทั้งหมด มันเป็นโดมิโนต่อเนื่องกันไปหมดเลย และเป็นตัวเหตุ คือตัณหา ตัณหาคืออวิชชา ตัณหาคือมันโง่ โง่เพราะไม่รู้เหตุว่าอาการ ลิงค นิมิต คือตัณหา ที่ต้องการมาเป็นตัวกูของกู ก็จึงต้องฆ่าตัวนี้เสีย ดับตัวนี้เสีย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมวิจัยให้รู้ความต่างในวิญญาณฐิติ 7 วันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 20:20:17 )

ตัวเองเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน

รายละเอียด

วันนี้วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล เราก็มาสาธยายธรรมกันต่อไป ชีวิตคน อาตมาก็สรุปได้แล้วว่า มันก็วนเวียน เกิดตาย ตายเกิดไปตามวิบาก สุขบ้างทุกข์บ้างดีบ้าง ชั่วบ้างไปเรื่อยไม่เที่ยงไม่แท้จนกว่าจะเป็นอรหันต์ เป็นอรหันต์แล้วเที่ยงแท้ที่จะไม่ชั่วแล้ว มีแต่ดี แต่ก็ยังเกิดตาย เกิดตาย อยู่ได้ ถ้าอรหันต์นั้นจะไม่ ปรินิพพานเป็นปริโยสาน อันนี้ก็เป็นความรู้ที่ในเถรวาทไม่มี ไม่เชื่อ แต่อาตมาก็พูดความจริงเท่านั้นจะเชื่อหรือไม่เชื่ออาตมาไม่มีปัญหา อาตมาพูดความจริงเพราะอาตมาเอาความจริงจากที่ตัวอาตมาผ่านมาเป็นมา 

อาตมาผ่านความเกิดความตายมาตลอด ปฏิบัติธรรมมาตลอด มาจนถึงปางนี้ นิยตโพธิสัตว์ จึงรู้สิ่งเหล่านี้และเอาสิ่งเหล่านี้มาพูด พูดซื่อๆง่ายๆ พูดจริงๆ พูดไม่ได้เหนียมอายไม่ได้เก้อเขิน พูดง่ายๆ พูดสะดวก สะดวก ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่มีปัญหา ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับใครหรอก อาตมามีสิทธิ์พูดความจริงของอาตมาเท่านั้น 

เพราะฉะนั้น สิ่งที่ได้ทำงานมาตลอดในทางธรรม จนทุกวันนี้ ผู้ที่เห็นตาม ผู้ที่ฟังแล้วเข้าใจได้ตามก็ได้ประโยชน์ตาม ผู้ที่ยังไม่เข้าใจไม่เชื่อไม่เห็นตาม เขาก็ไปได้ประโยชน์ตามที่เขาเชื่อว่าเขาได้ ทีนี้มันก็ตัดสินกันที่ว่า ไอ้ที่ได้ คนเรามันก็ต้องได้ 2 อย่าง คนไม่ได้อย่างนี้ก็ต้องได้อย่างนี้ เมื่อไปได้อีกอย่างหนึ่งก็ไม่ได้อีกอย่างหนึ่ง ที่อาตมาเสนอนี้เป็นอย่างที่เป็นของพระพุทธเจ้าอาตมาเชื่ออย่างนั้น อีกฝ่ายหนึ่งเขาก็เชื่อว่าเป็นของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ก็ตัวเองเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินว่า แล้วจะเอาอันไหนแน่ ก็พยายามกันไป

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 ธันวาคม 2565 ( 13:06:56 )

ตัวแทนของจิตวิญญาณ คือ กษัตริย์ 

รายละเอียด

จิตวิญญาณนี้แหละ ตัวแทนของจิตวิญญาณ คือ กษัตริย์ ตัวแทนของความผิดเพี้ยน คือ ประธานาธิบดี เมื่อมาเป็นสังคมการเมือง มาเป็นสังคมรัฐศาสตร์ที่เป็นเทวนิยม แล้วก็อวดดี ไปเป็นตัวตน อวดดีไปเป็นอัตตา ก็เบ่งไปเป็นประธานาธิบดีจนสำเร็จ เมื่อเป็นประธานาธิบดี ก็เกิดเป็นระบบของการบริหารปกครอง แล้วเขาก็เรียกว่าประชาธิปไตยที่มีอิสรเสรีภาพสมบูรณ์แบบที่สุด คือมันเป็นหนึ่งเดียว หนึ่งเดียวนั้นก็คือ อัตตา 

อัตตา ก็กลายเป็นตัวหนึ่งเดียวที่เข้าไปสู่ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์หรือเผด็จการเต็มรูปแบบ แต่เขาไม่รู้ตัวหรอก มันซับซ้อน เขาจะอ้างประชาชนเท่าใด มีวิธีการแบบใดก็แล้วแต่ เป็นองค์ประกอบขึ้นมา มีวิธีการเลือกตั้ง เป็นต้น มันก็ไม่สมบูรณ์แบบ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 6 พ่อครูพบ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2565 แรม 4 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 ธันวาคม 2565 ( 11:31:29 )

ตัวแปรสัมประสิทธิ์กับลักษณะรูป 4

รายละเอียด

ตัวแปรสัมประสิทธิ์เป็นตัวแปรในขั้นสูง แต่คุณหยุดตัวสัมประสิทธิ์ ไม่พัฒนาต่อไปอีกคุณไม่มีการก้าวหน้าต่อไปอีก คุณได้หยุดมัน ยิ่งหยุดสันตติ แม้จะเพิ่ม.00001 ก็ไม่เพิ่มเพราะคุณหยุดมันได้เลย มันก็จะมีแต่เสื่อม เพราะคุณเก่งที่สุดในลักษณรูป 4 คือ อุปจยะ สันตติ ชรตา อนิจจตา ชรตา หากไม่มีอนิจจตาตบท้ายก็ 0 ตัดสันตติ ทุกอย่างก็จะมีแต่สูญไปโดยธรรมชาติ และก็จะไม่มี อนิจจตา ตบท้ายไม่ฮึดต่อก็จบ แต่ถ้าฮึด อนิจจตา อย่างอาตมามีสัมประสิทธิ์ต่อ ก็ไปได้อีก เพื่อที่จะพิสูจน์พลังงานในมหาจักรวาลว่ามันมีอย่างนี้ เป็นวิทยาศาสตร์อย่างยิ่ง อุตุ มันทำไม่ได้ ไม่มีตัวประธาน แต่ที่เราทำไม่มีพิษภัยต่ออะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ พืช มนุษย์ วัตถุ มีแต่รู้กับเอามาใช้ประโยชน์ มันจึงไม่สูญเสียไม่เสียหายอะไรเลย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2561


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:29:49 )

ตัวโทษตัวภัยคู่สำคัญคือ ตัณหากับอุปาทาน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเรารู้จักหน้าตา  อาการของตัณหาดี ว่ามันมีความไม่ดี ในความมีของมันนี้มันไม่ดีอย่างไร แล้วก็ไอ้ตัณหานี่แหละมันเป็นคู่ของอุปาทาน มันสั่งสมลง นิ่งไว้ตกผลึก เก็บใส่คลังไว้เป็นอุปาทาน เสร็จแล้วมันมีได้ทุกเหตุปัจจัยก็เคลื่อนมาเป็นตัณหา เป็นคู่สำคัญเลย

ตัณหากับอุปาทาน อุปาทานเป็น Static ตัณหาเป็น Dynamic อุปาทานเป็นตัวตั้งตัณหาเป็นตัวเคลื่อน เป็นแรงเคลื่อน ขยับๆอยู่นี่ คุณรู้สภาวะเหล่านี้แล้วก็ทำให้มันไม่มีทั้งตัณหา อุปาทาน ไม่ให้มันมีอาการกิเลส ตัวโทษตัวภัยนี่แหละเป็นตัณหาอุปาทาน ไม่ให้มันเกิดจนได้ แต่ถ้ามันเกิดอยู่ก็ตกเป็น ภพ ตกเป็นตัวที่จะโตกันต่อไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เจโตปริยญาณ 16 และ
ปฏิจจสมุปบาทโดยพิสดาร วันพุธที่ 21 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 เมษายน 2564 ( 05:18:23 )

ตัวไหนที่มันยังเหลือยังไม่สูงจริงมันยังไม่จบจริง

รายละเอียด

ต้องรู้ สราคะ สโทสะ สโมหะ ต้องรู้ว่าอันนี้มี จนกระทั่งมันเริ่มไม่มี วีตราคะ วีตโทสะ วีตโมหะ นี่คือกิเลส 3 คู่ 6 ตัว พอเริ่มต้นปฏิบัติและคุณก็จะเริ่มเกิดผล

สายเจโตก็สังขิตตังจิตตัง สายปัญญาก็จะวิกขิตตังจิตตัง แบ่งเป็น 2 ตระกูลเท่านั้นนะ ก็รู้ตัวเองว่าเริ่มทำได้แล้วนะ แต่ว่ายังแตกไม่ออก ได้แล้ว สรุปลงมาเป็นตัวผลที่ได้ ยังไม่ได้ขยายความ ยังตีไม่แตก ก็ต้องพยายามขยายออกให้ได้ ขยายรายละเอียดยังมีอีก ยังมีอีกขั้นหนึ่งแล้วยังมีอีก ยังไม่ใช่ สอุตรัง ต้องให้ดีกว่านี้อีกก็เริ่มดีกว่านี้อีก ละเอียดลออกว่านี้ยังมีอีกขยายขึ้นได้ก็จะเป็น มหัคตะ ทั้งมหะและอัคคะ มันมีความดำเนินไป ทั้งความดีและความยิ่งใหญ่ ที่เขารู้นั้นเป็นอาเทศนาปาฏิหาริย์ ไม่ใช่อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ที่อาตมาอธิบายเป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์ 

ก็อย่างที่อาตมาอธิบายเจโตปริยญาณ 16 กำลังอธิบายถึงคู่ สังขิตตังจิตตังกับวิกขิตตังจิตตัง กับมหัคตะ กับอมหัคตะ

ถ้าไม่เจริญเป็น สอุตรังจิตตัง ดีกว่านี้ยังมีอีกยังไม่จบนะ ถ้าคุณรู้ว่ายังไม่จบ คุณก็เป็นจิตที่ มหัคตะ แต่ถ้าคุณบอกว่ายังไม่ได้ ก็เป็น อมหัคตะ หรือไปหลงผิดว่าจบแล้ว คนนี้ก็ตาย คนนี้ก็ไปไม่ออก คุณไม่มีทางเพราะหลงผิด ซึ่งเป็นได้ไม่น้อยด้วย คนที่คิดว่าจบแล้วได้แค่ สังขิตตังจิตตังหรือวิกขิตตังจิตตัง แค่นี้ก็มีเยอะนึกว่าหมดแล้ว แต่ที่จริงยังมีดีกว่านี้ สอุตรังจิตตัง แต่คนนี้หลงผิดว่าจบแล้ว คนที่ไม่ได้ถึงขั้นนี้แล้วคิดว่าจบก็มีอีกตั้งเยอะแยะ ขนาดนี้ก็ยังดีนะถึงเป็น สังขิตตังจิตตังและวิขิตตังจิตตัง ทำลายสราคะ สโทสะ สโมหะ มาได้ถึงขั้นนี้ก็ดีระดับหนึ่งแล้ว แต่ที่จริง สอุตรังดีกว่านี้ยังมีอีก 

จิตที่มีตัวนี้จึงเป็น มหัคตะ แล้วก็รู้ว่า ตัวไหนที่มันยังเหลือยังไม่สูงจริง มันยังไม่จบจริง แต่รู้ดีแล้วว่ามันเจริญ ปัญญา ปฏิภาณ ภูมิธรรม มันสูงขึ้น มันรู้ ก็จัดการเหตุที่มันยังไม่จบ เหตุที่มันยังไม่สมบูรณ์ ก็จัดการเรียนรู้อีก ก็คือจัดการกิเลสตัณหาอุปาทานที่ละเอียดขึ้นนั่นแหละ 

ใครติด ราคะ โทสะ โมหะ ก็แล้วแต่ แต่ที่จริง โมหะคือยังไม่รู้ ยังงง ปนๆ กระจ่างแล้วอยากจะได้ก็เป็น โลภะหรือราคะ พ้นโมหะก็ชัดเจนในราคะหรือโทสะ 

ที่จริงโทสะต้องดับก่อนราคะ ตามลำดับที่ ถูกต้องที่สุด พอดับได้แล้ว ราคะดับได้ โทสะดับได้ ก็มาได้ สังขิตตังจิตตัง วิกขิตตังจิตตัง พอได้แล้วมหัคตะ พอสูงได้สำเร็จจบ หมดเป็นอนุตรังจิตตัง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์แม้เป็นอัลไซเมอร์ก็ไม่มีพฤติกรรมกามเมถุน วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 07:23:56 )

ตั้งจิตพุทธภูมิสู่อริยธรรม

รายละเอียด

ตั้งจิตพุทธภูมินี่เขาบอกว่าแม้แต่ยังไม่เป็นอาริยะก็ตั้งแล้ว เป็นโพธิสัตว์โลกีย์ก้ได้เขาก็ตั้งไป ระดับไหนก็ตั้งจิต เสร็จแล้วเราก็พากเพียรบำเพ็ญ ศีล สมาธิ ปัญญาเจริญขึ้นไปได้ การตั้งจิตเพื่อที่จะเจริญไปสู่อารยธรรมมันไม่เสียหายอะไรหรอก 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2563 ( 14:45:49 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:34:02 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:50:28 )

ตั้งจิตว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นอะไรทำได้ไหม ทำอย่างไร

รายละเอียด

ได้ ใครจะไปห้ามคุณล่ะ แต่ว่ามันต้องมีเหตุปัจจัยเพียงพอ คุณปรารถนาได้อยากจะเป็นอะไรได้ คุณอยากจะเป็นคนรวยแต่เหตุปัจจัยไม่พอ คุณก็รวยไม่ได้ คุณอยากจะเป็นคนดีแต่คุณทำเหตุปัจจัยไม่พอ มันก็ดีไม่ได้ โดยเฉพาะคุณอยากมาจน แต่คุณไม่ปฏิบัติไม่ประพฤติตนจริงๆ เลย จ้างคุณก็มาจนไม่ได้ แต่คุณจะจนเอง ด้วยความฉิบหายวุ่นวายของคุณนั่นแหละ 

ตั้งใจมันได้ ซึ่งมันไม่ง่าย ขนาดตั้งจิตให้เกิดตามเวลานี้ทำง่ายกว่าตั้งจิตที่คุณจะไปเกิดเป็นนั่นเป็นนี่ ก็มันเป็นปัจจุบันธรรม ฝึกเอาเป็นในปัจจุบันชาตินี้ได้ แต่อันนั้นมันข้ามชาติไป คุณต้องมีเหตุปัจจัย ต้องมีวิบากเพียงพอ อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นไม่เกิด เกิดไม่ได้คุณอยากให้ตายมันก็ไม่ได้ ปรารถนาเป็นพระอรหันต์ ขอให้ชาติหน้าเป็นพระอรหันต์ ปรารถนาเอาเรื่อยๆ ปรารถนาชาตินี้ชาติหน้าก็ปรารถนาเอา แต่ยังไม่ทำเหตุปัจจัย จ้างเท่าไหร่เท่าไหร่คุณก็หมดเนื้อหมดตัวค่าจ้างไม่ได้เป็นหรอก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  Neo Protest ประชาชนปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 11:37:23 )

ตั้งจิตเป็นโพธิสัตว์มีแต่กำไร

รายละเอียด

เอาเลยตั้งจิตเป็นโพธิสัตว์มันไม่เสียหายอะไรหรอกมันมีแต่กำไร ขอให้เป็นโพธิสัตว์ที่เป็นสัมมาทิฏฐิก็แล้วกัน อย่าเป็นโพธิสัตว์บ้าๆบอๆ มันมีพวกโพธิสัตว์ที่ประกาศตัวเองบ้าๆบอๆเยอะแยะมากมาย อย่าว่าแต่เป็นโพธิสัตว์เลยเป็นพระพุทธเจ้าก็ยังมียังมีพระศรีอารย์ที่ประกาศตนก็มี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหาระดมปัญญา-อนัตตา งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 15:41:02 )

ตั้งจิตไว้ผิดเท่ากับโจรฆ่าโจร

รายละเอียด

พูดอย่างแรงเลยนะเป็นมิจฉาทิฐิที่ร้ายแรงถ้าคิดอย่างนี้จะไปรอดอย่างไร ที่นี่ต้องการให้มาปฏิบัติธรรม ให้มีความเจริญของตัวเอง แต่หากคนตั้งจิตไว้ผิดเท่ากับโจรฆ่าโจร พระพุทธเจ้าตรัสไว้ มันจะแย้ง ขัดใจตนเอง ตกนรกหมกไหม้อยู่ในนี้ให้หยุดคิด ถ้าคิดอย่างนี้ให้ออกไปซะดีกว่า อยู่ไปตัวเองก็ไม่เจริญมีแต่นรก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(สมาธิพุทธ) ตอน ทำอย่างไรที่จะมีอารมณ์ปัจจุบันตลอดเวลา


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:14:58 )

ตั้งจิตไว้ผิดเป็นอย่างไร

รายละเอียด

อาตมาอธิบาย ทาน ในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 1 ทานต้องมีผล แต่เขาทานกันทุกวันนี้ไม่มีผล ที่มีผลก็คือมีภพมีชาติ ทานแล้วก็ตั้งจิตไว้ผิด โจรหัวโจกเห็นโจรหัวโจก  ก็หรือคนมีเวรเห็นคนผู้เป็นคู่เวรกัน  พึงทำความฉิบหายและความทุกข์ใดให้ 

จิตที่บุคคลตั้งไว้ผิด พึงทำบุคคลนั้นให้เลวยิ่งกว่าความฉิบหายและความทุกข์นั้น   (ทิโส  ทิสัง  ยันตัง กยิรา เวรี  วา ปน  เวรินัง   มิจฉาปณิหิตัง  จิตตัง  ปาปิโย นัง  ตโต  กเรติ)

(ธรรมบท ล.25/13  และโคปาลสูตร ล.25/92 )

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยสัจ 4) ตอน ความเป็นกลางคือหมดสิ้นอันตา


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:56:57 )

ตั้งชื่อที่เหมาะสม

รายละเอียด

อาตมาปางนี้คนที่ชื่ออะไรๆ อาตมาใช้ชื่อตัวนี้ ว่าคือใครอย่างไรในประดาคนมาสั่งสมบารมีมา อาตมารู้แล้วใช้ แม้แต่ที่สุดชื่อที่อาตมาตั้งให้เป็นชื่อที่เหมาะสมกับคนนั้นไม่ใช่เรื่องแกล้งหรือมุขขึ้นมา เหตุปัจจัยที่คนที่มีจริงทำจริงก็จะเป็นอย่างนั้น ที่ไม่มีเหตุปัจจัยจริงก็จะไม่ได้ อาตมาใช้คำศัพท์ว่าเห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้างเดี๋ยวก้นแตก พยายามให้รู้สึกว่าตัวเองถ่อมตัวไว้จะได้ไม่พลาดท่าเสียที 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 16:45:09 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:59:36 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:06:03 )

ตั้งชื่อหัวข้อธรรมะเพื่อให้น่าสนใจ

รายละเอียด

การมาเรียนธรรมะจะตั้งชื่อหัวข้ออะไรก็แล้วแต่ ละเอียดลออขึ้นไป อย่างเราตั้งชื่อว่าศีลเป็นตัวกำหนดสมาธิ นี่ก็ตั้งชื่อไปอย่างนั้นแหละ เป็นเหตุให้ดูทำให้น่าสนใจให้น่าศึกษา เสร็จแล้วมันคือ อธิบายกระบวนการของธรรมะทั้งหมด รวมแล้วก็ไม่พ้นไปจาก ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นไตรสิกขา ถ้าเข้าใจศีล สมาธิ ปัญญา และปฏิบัติให้ถูกกระบวนการของมัน มันก็เกิดวิชชาและวิมุตติ เข้าใจแล้วปฏิบัติตามมรรค 8 นี่แหละ

ที่มา ที่ไป

เทศน์ ทวช. วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:48:54 )

ตั้งชื่อให้ญาติธรรม ป่ารุ่ง ออกอากาศ

รายละเอียด

ตั้งชื่อให้ญาติธรรม ป่ารุ่ง ออกอากาศ นี่ก็แสดงถึงการก้าวหน้าของภูมิปัญญา เจริญ เห็นความจริงชัดเจนในความจริง เรื่องปัญญาความรู้ความฉลาดชนิดที่เป็นปัญญา มันเป็นความลึกซึ้งที่เข้าไปเห็นสัจธรรม ที่เป็นรายละเอียดของพฤติกรรม พฤตินัย อันลึกซึ้ง

โดยเฉพาะลึกซึ้งไปในทิศทางของโลกุตระ เป็นความลึกซึ้งที่ทวนกระแสของโลกีย์ ซึ่งโลกุตระเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ เพราะมันทวนกระแสใจที่จะรับรู้ มันต้านอยู่มันแย้งอยู่ มันทวน ไม่ได้ไปตามแนวที่เขาเป็นไปกันอย่างสบายๆมันไม่ใช่ เป็นเรื่องยากที่จะวิ่งเข้าไปได้ เพราะเขายึดมั่นถือมั่นของเขาอยู่ ก็ตั้งใจดีแล้วล่ะ 

ดี มันเป็นความจริง ความรู้สึก ความรู้ที่เป็นของตนเอง มันเข้าใจเองลึกซึ้งเองซาบซึ้งเอง อย่างนี้แหละเป็นของจริงไม่มีปัญหา ก็ตั้งกันทางอากาศเลยนะ คุณชื่อว่า วนวุฒิ อาตมาก็เลยตั้งให้เป็นชื่อว่า “ป่ารุ่ง” วนะแปลว่าป่า วุฒิ แปลว่าเจริญ ก็ตั้งชื่อให้ว่า “ป่ารุ่ง” 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ตุลาคม 2565 ( 11:00:59 )

ตั้งตนบนความลำบาก ไม่ใช่ อัตตกิลมถานุโยค

รายละเอียด

ถ้าคุณว่าเป็น  อัตตกิลมถานุโยค ไม่พาเจริญ เป็นการทรมานเปล่า มันก็ขัดแย้งกับคำสอนพระพุทธเจ้าที่บอกว่า ตั้งตนบนความลำบาก กุศลธรรมเจริญยิ่ง ใช่ไหม พระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนั้น เพราะฉะนั้นก็ต้องทำความเข้าใจกันให้ดีๆ แล้วก็จะได้ไม่ขัดแย้งในตัว แม้แต่ไม่ขัดแย้งกับคำสอนพระพุทธเจ้า ตั้งตนอยู่บนความลำบาก กุศลธรรมเจริญยิ่ง ก็ภาษาไทยมันน้อย(มีน้อยคำให้ใช้) 

เพราะฉะนั้น การตั้งตนอยู่บนความลำบาก ก็มีภาษาบาลีว่า “ทุกกรกิริยา” นั้นคือการทรมานตน  อย่างพระพุทธเจ้าอดข้าวจนกระทั่งผอม จับตรงไหนจับท้องถึงกระดูกสันหลัง จับหลังถึงท้องเลยแบนแต๊ดแต๋ อย่างนั้นก็ผิด (ดูภาคผนวก)

พระพุทธเจ้าท่านต้องผ่านทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่างที่คนเขาทำ พวกชาวเดียรถีย์ที่ไม่ใช่พุทธ เป็นอย่างไรผ่านมาหมด เหมือนอาตมาที่ผ่านมา อย่างชาวพระป่าก็ดี เขาทำมา ปฏิบัตินั่งหลับตา เข้าป่า ทำอย่างนู้นอย่างนี้ อาตมาก็ทำมาหมดนั่นแหละ ไม่ใช่ว่าอาตมาไม่รู้จักพฤติกรรมอย่างพระป่าที่เขาปฏิบัติกัน หลับตาแล้วก็นิ่ง จนกระทั่ง ปึ๊งแป๊ง! อะไรอย่างที่มหาบัว อาตมาก็มีมาหมด ทำมาหมด  อาตมาเข้าใจ ซึ่งมันไม่ใช่ มันเป็นอุปาทานทั้งสิ้นเลย เพราะฉะนั้นอาตมาถึงบอกว่าอาตมารู้ทั้ง 2 อย่าง รู้ทั้งอย่างที่เขาพูด เขาเป็น เขาทำ อาตมาก็เป็น ก็ทำมา ไสยศาสตร์อาตมาก็ไปทำมาแล้ว คำว่าไสยศาสตร์นั้น ทั้งหมดนั้นแหละ ทั้งพระป่า การเข้าป่า เขาทำกันทั้งนั้น อาตามาทำหมด หลับตาก็คือไสยศาสตร์ทั้งนั้น อาตมาทำมาหมด ซึ่งอาตมาทำได้เร็ว 

ชาตินี้อาตมาไปทำอยู่ 8 ปีไสยศาสตร์ ทั้งทำการนั่งทั้งแบบเดรัจฉานวิชาพวกนี้ แต่ทางพระที่เขานั่งหลับตาเขาไม่ค่อยทำเดรัจฉานวิชาสักเท่าไร ก็ดี แต่พวกที่เขาไม่รู้เขาก็เล่นไปเป็นเดรัจฉานวิชาอะไรต่างๆนานา เหมือนหมอปลา พวกนี้ไป ซึ่งเขาไม่เข้าใจจิตวิญญาณ จึงไปหลงว่ามีพลังงานวิญญาณไปสิงสู่ ซึ่งมันไม่มีอะไร เป็นอุปาทานของตัวเองทั้งสิ้น มันไม่มีหรอกวิญญาณผีนั่นเทวดานี่อย่างนั้น ไม่มี ตนเองทั้งนั้นแหละ มีอุปาทานอย่างนู้นอย่างนี้ มันก็เป็น มันเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างที่เราไปยึดติดว่า มันต้องเป็นอย่างนี้ ต้องมีงี้ มันก็เป็นสิ มันก็ออกมาในลีลาของ กายกรรม วจีกรรมออกมา ศึกษาให้เข้าใจดีแล้วก็จะรู้ อธิบายไม่ไหวหรอก เพราะคนเรามันหลากหลาย ทิฏฐิคนละอย่างๆ เยอะ อธิบายไม่หมด 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 36 ชีวกสูตรคือเจาะจงฆ่าไม่ใช่เจาะจงชื่อคนกิน วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม 2566 แรม 13 ค่ำ เดือน 8(2) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กันยายน 2566 ( 15:58:59 )

ตั้งตนอยู่ในคุณอันสมควรก่อนแล้วสอนผู้อื่นจะไม่มัวหมอง

รายละเอียด

คนที่ได้ประโยชน์ตนเองนั้นคือคนที่ทำให้กิเลสตัวเองลด ไม่ได้หมายความตื้นประโยชน์ตนอย่างทั่วไป ที่เป็นวัตถุ ไม่ใช่อย่างนั้น ประโยชน์ตนคือกิเลสลด ต้องทำกิเลสตนเองให้หมดไปซะก่อนถึงจะช่วยคนอื่น พระพุทธเจ้าจึงสอนว่า ตั้งตนอยู่ในคุณอันสมควรก่อนแล้วสอนผู้อื่นจะไม่มัวหมอง หมายความว่าตัวเองจะต้องมีหลักตั้งต้นอันสมควรก่อน ตัวเองจะต้องมีหลัก จะต้องเป็นผู้ที่มีฐานะ เป็นผู้ที่มีที่ยืน ที่ยืนที่ดีก็คือความจริง ความจริงที่ตัวเองจะสอนเขาว่าให้ลดกิเลส แล้วตัวเองนี้ลดได้บ้างหรือยัง ตนเองยังลดไม่ได้เลยจะสอนคนอื่น แจ้วๆ คนอย่างนี้ก็มีอยู่ เต็มไปหมดแหละ โดยที่ไม่รู้ความจริง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 10:13:54 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:11:49 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:49:30 )

ตั้งตนเพื่อความลำบาก อกุศลธรรมย่อมเสื่อม

รายละเอียด

เมื่อเราอยู่ตามสบาย  (ยถา สุขัง โข เม วิหรโต) อกุศลธรรมย่อมเจริญยิ่ง  กุศลธรรมย่อมเสื่อม  
แต่เมื่อเราเริ่มตั้งตนเพื่อความลำบาก (ทุกขายะ ปนะ เม อัตตานัง ปทหโต) อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญยิ่ง 
 

ที่มา ที่ไป

เทวทหะสูตร  พระไตรปิฎก เล่ม 14 ข้อ 15, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2562 ( 12:23:36 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:02:01 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:06:42 )

ตั้งตนในคุณอันสมควรก่อน

รายละเอียด

บุคคลพึงยังตนนั้นแลให้ตั้งอยู่ในคุณอันสมควรก่อน  พึงพร่ำสอนผู้อื่นในภายหลัง

  บัณฑิตไม่พึงเศร้าหมอง  หากว่าภิกษุพึงทำตนเหมือนอย่างที่ตนพร่ำสอนคนอื่นไซร้   ภิกษุนั้นมีตนอันฝึกดีแล้วหนอ  พึงฝึกตน  ได้ยินว่าตนแลฝึกได้ยาก 

  ตนแลเป็นที่พึ่งของตน  บุคคลอื่นไรเล่าพึงเป็นที่พึ่งได้  เพราะว่าบุคคลมีตนฝึกฝนดีแล้ว  ย่อมได้ที่พึ่งอันได้โดยยาก   

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 25ข้อ 22

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2562 ( 19:26:14 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:51:22 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:49:01 )

ตั้งตบะ เป็นการฝึกจิต

รายละเอียด

ตั้งตบะ ตั้งว่าเราจะทำอะไรต่ออะไรขึ้นมา เข้าพรรษาแล้วก็ปฏิบัติตามตบะที่เราตั้ง ก็จะได้พิสูจน์ตนเอง ทบทวนทุกวัน ก็แล้วแต่ ตั้งตบะอะไรล่ะ จะเลิกอันนั้น จะไม่ใช้อันนี้ จะไม่กินอันโน้น หรือจะเอาเข้ามาเยอะๆ ตบะอะไร ควรจะเอาออกนะ ตั้งตบะเอาออก ก็ลองดู ไม่มีรายละเอียดอะไรมาก อาตมาก็รับทราบเท่านั้น ก็เป็นการฝึกจิตชนิดหนึ่ง ตามภาษาที่บอกมาก็คงจะตั้งเพื่อที่จะลดละ เลิกละ ก็ลองดู 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตำราพิชัยสงคราม พรหมชาลสูตร ตอน 1 วันพุธที่ 20 กันยายน 2566 ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2566 ( 11:39:46 )

ตั้งตัวเองเป็นอุปัชฌาย์

รายละเอียด

คือ การที่คนว่าสมณะโพธิรักษ์ บวชไม่ถึง 10พรรษา ตั้งตัวเองเป็นอุปัชฌาย์ท่านว่าท่านเป็นอุปัชฌาย์ที่จะสอนลูกศิษย์ให้รู้จักนิยาม5 อุตุนิยาม พีชะนิยาม จิตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม ตัวท่านเองเป็นอุปัชฌาย์แท้ แต่ทั่วไปเขาจะสอนให้ลูกศิษย์แยกกายแยกจิต ได้อย่างสมาธิได้หรือไม่ เขาสอนเป็นเพียงพิธีการเท่านั้น  หรือสอนให้เป็นแค่โลกียธรรม

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 23 ธันวาคม 2562 ( 12:47:49 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:54:02 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:07:14 )

ตั้งปณิธานทำเหตุปัจจัยครบจะเป็นผู้ชายได้

รายละเอียด

คือให้บวชให้ดีจริงๆ เขาพูดถึงสิกขมาตุ หากกุศลถึงขีดเพียงพอจะได้ อย่าอยาก แต่ตั้งเจตนาได้ เจตนาเป็นผู้ชาย แต่อย่าอยาก เป็นคำพูดของอาตมาพูดไว้แต่ไปเข้าใจสภาวะให้ดี มีเจตนาคือมุ่งไปข้างหน้า ตั้งเป้าไว้ก็ได้เจตนาตั้งปณิธานไว้ แต่อย่าไปเสริมพลังงานในขณะทุกการกระทำกรรมต่างๆ อย่าไปใส่ความอยากในการกระทำ รู้ว่าเราควรทำสิ่งนี้ประกอบกรรมกายวาจาใจ ให้เต็มกรอบเต็มรอบพลังงานตามเหตุปัจจัย ไม่ต้องเติมความอยากได้อยากเป็น..ไม่ต้อง คุณทำให้เหตุปัจจัยมันครบ ถ้าคุณมี 3ก็ต้องทำอีก 1ให้เป็น 4จะต้องสร้างเหตุปัจจัยที่จะต้องได้มาอีกหนึ่งให้ได้ เมื่อได้เพิ่มมาอีก 1มันก็จะได้ ดีไม่ดีเหตุปัจจัยที่ทำมามันเกินกว่า 1คุณก็ได้เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นคุณอยากได้ 4คุณมี 2ก็ต้องสร้างให้ได้อีก 2ต้องสร้าง 1กับ 1ให้เป็น 2ถ้าสร้างได้ 1 กับ 1ครบคุณก็ได้ 4หรือสามารถได้เกินกว่านั้นก็สามารถเป็น 5ได้ อยู่ที่กรรมกิริยาปัจจุบันนี้ของคุณ สรุปแล้วมีเจตนาได้แต่อย่าอยาก พยัญชนะมันยาก กว่าจะหาคำพยัญชนะมาสื่อสารให้ฟังได้ เราไปปฏิบัติก็จะเกิดผลเป็นจริงตามกรรมของเราที่ทำถูกต้อง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ธรรมะคือเครื่องถ่วงดุลยุคทุนนิยมเคออส วันพุธที่ 11ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2562 ( 14:27:59 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:00:36 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:07:57 )

ตั้งพรรคการเมืองนี้ผิด ผิดอย่างไร

รายละเอียด

ไม่ได้คิดจะส่งใครลงเลือกตั้ง การตั้งพรรคขึ้นมาก็เพื่อให้รู้ว่าเป็นการเมือง การตั้งพรรคคือทำงานกับสังคมให้รู้ว่าเป็นพรรค ที่จริงศาสนากับการเมืองกับประชาธิปไตยนี้ การตั้งพรรคการเมืองนี้ผิด มันไม่ใช่ประชาธิปไตย ตั้งพรรคการเมืองคือพรรคพวก มันก็เหมือนคอมมิวนิสต์ชนิดหนึ่ง แล้วก็อาศัยอำนาจของพรรค ไปยืนยัน แข่งขันใช้อำนาจอะไรต่ออะไร ซึ่งมันไม่ใช่การเมืองแบบระบอบประชาธิปไตย 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 9 พ่อครูพบญาติธรรมสันติอโศก วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2566 ( 12:37:11 )

ตั้งพรรคโดยธรรมชาติ อย่างไร

รายละเอียด

คำว่า หมู่ฝูง คำว่า คณะ คำว่า พรรคพวก มันมารวมกันเป็นคณะ เป็นพรรคพวก เป็นหมู่เป็นฝูง มันรวมกันโดยจิตวิญญาณ รวมกันโดยน้ำไหลไปหาน้ำ น้ำมันไหลไปหาน้ำมัน ถ้าเอากฎระเบียบกฎเกณฑ์มาบังคับให้ตั้ง..มันเป็นของปลอม คนก็ทำตามกฎเกณฑ์ซึ่งมันเป็นของปลอม แต่ถ้าไม่ต้องบังคับให้ตั้งแล้วมันก็เป็นพรรคเป็นคณะขึ้นมา หรือมีความเห็นตรงกัน รวมตัวขึ้นมาเป็นเอกภาพเป็นความสามัคคี ด้วยความเข้าใจความเห็นมีทิฐิสามัญญตา มีศีลสามัญญตา นั่นแหละคือพรรคโดยธรรมชาติของประชาธิปไตย ซึ่งมันจริง มันรวมกันเป็นหมู่มวล 

อย่างชาวอโศกเรานี้ ไม่ได้ไปบังคับใคร ไม่ได้ไปตั้งให้ใครต้องไปจดทะเบียน พวกคุณมาเอง สะดวกอิสรเสรีภาพจะออกเมื่อไหร่ก็ได้ จะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ เอาคุณธรรมเป็นตัวกำหนด หรือเอาตามจิตวิญญาณของคุณเห็นดีเห็นงามก็มารวมกัน น้ำก็ไหลไปหาน้ำ น้ำมันก็ไหลไปหาน้ำมัน 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 9 พ่อครูพบญาติธรรมสันติอโศก วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2566 ( 12:45:08 )

ตั้งเป็นสังฆราช

รายละเอียด

อาตมาไม่ต้องการเป็นใหญ่ แม้อาตมาตายไปแล้วเถรสมาคมก็ยังอยู่ แล้วจะมีเถรสมาคมที่ผิดๆนี้ต่อไป มันแก้ไม่ได้ อาตมาได้แต่ทำสิ่งที่ถูกต้อง คนเห็นว่าดีมารับเอง ไม่ต้องกลัวว่าอาตมาจะไปแย่ง มีข้อหาว่าจะตั้งตนเป็นสังฆราช อาตมาขอตายดีกว่าให้เป็นสังฆราช อาตมาไม่เอาลาภยศสรรเสริญ​อาตมาทำงานธรรมะอย่างเดียวไม่ต้องกลัวว่าอาตมาจะไปแย่งลาภ ยศ สรรเสริญ​สุข อาตมาไม่เอาทั้งสุขทุกข์อาตมาข้ามพ้นแล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่ 14สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 14:45:03 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:03:20 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:48:01 )

ตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไปไม่มีอะไรเท่าเทียมกัน

รายละเอียด

ราชอาณาจักรนี้ ไอศวรรย์ คำว่า ไอศวร คือ อิศวร คือมิ่งขวัญมาแต่ปางบรรพ์แต่ไหนแต่ไรตั้งแต่เป็นประเทศไทยมาเลย คำว่าศักดินา คำนี้อาจจะดูเหมือนเป็นคำที่ดูทำให้มีความเหลื่อมล้ำต่ำสูง แต่ที่จริงแล้วไม่มีอะไรที่มีขึ้นมาแล้วจะเหมือนกันเท่าเทียมกันทั้งหมดได้หรอก ตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไปไม่มีอะไรเท่าเทียมกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 11:12:39 )

ตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้าที่ไม่มีคู่วิบาก

รายละเอียด

จริงๆต้องตัด แล้วมันมีวิบากกันมากจริงๆ อย่างอาตมาตั้งใจว่าอาตมาจะเป็นพระพุทธเจ้าที่ไม่มีคู่วิบากเลย คล้ายๆกับพระเยซูท่านไม่มีคู่เลยท่านมาประกาศธรรมะประกาศศาสนา อาตมาก็จะเป็นพระพุทธเจ้าแบบนั้น แต่ว่าไม่ใช่แบบเทวนิยมแต่เป็นแบบอเทวนิยมเป็นศาสนาพุทธ จะเป็นพระพุทธเจ้าแบบที่ไม่มีคู่แบบนั้น เหมือนกันกับคุณคนนี้จะเป็นคนที่ตัดคู่เวรคู่กรรม มันเป็นจริงมาก แต่ละคนที่เกิดมาในชาตินี้ คุณไม่มีคู่เวรคู่กรรมคู่บารมีอะไรมาแต่ชาติก่อนดี อย่าไปดิ้นรนมันสบายแล้ว ยกตัวอย่าง ดร.ชิดตะวัน เคยถามอาตมาว่า ทำไมหนูไม่มีคนมาจีบเลย หนูก็หน้าตาไม่ใช่ขี้เหร่อะไรนักหนา ทำไมไม่มีคนมาจีบ อาตมาก็ว่ามันกุศลนักหนาแล้วอย่าไปรนหาที่ ไม่มีใครมาจีบก็ดีแล้วมันเป็นบารมีสูง อย่าไปอยากมีอย่างคนอื่นเขาเลย สบาย สบม ทมด ปกต หห มชยลล สบายมากธรรมดาปกติหายห่วงไม่เชื่ออย่าลบหลู่ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2563 ( 11:10:12 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:12:12 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:08:30 )

ตั้งใจจะไปนิพพานลดละได้ท่ามกลางเมืองมายา

รายละเอียด

เราบอกว่ามานี่แหละอย่าไปยึดถืออย่างนั้น มันป่วยการ คุณติดมาไม่รู้กี่ล้านชาติแล้ว เขาบอกว่าติดอะไรมันต้องเป็นอย่างนี้แหละ เขาก็อยู่อย่างนี้ เราก็พูดพยายามยกตัวอย่างเอามาให้ดู รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส สู้ไม่มีอัตภาพไม่มีอัตตา เป็นอรหันต์ดีกว่า 

พูดตรงนี้ก็นึกถึงหัวหน้าจำนง รังสิกุล อาตมาปฏิบัติธรรมจะไปนิพพาน ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติเขาก็เห็นว่าพากเพียรปฏิบัติ เพราะอาตมาปฏิบัติไม่ได้หนีจากสังคม ไม่ได้หนีจากการสัมผัส ไม่ได้หนีจากโลกมายาเลย ก็ยังอยู่ในโลกมายา ยังออกอากาศอยู่ ยังมีสรรเสริญเยินยอ มีลาภยศ มีรายได้ทางโทรทัศน์ แต่เราก็ลดละได้ ท่ามกลางเมืองมายา 

หัวหน้าจำนง รังสิกุลบอกว่าคุณไปเถอะไปนิพพาน ผมยังจะสนุกกับทางโลก ผมไม่ไปหรอก พูดอย่างนี้จริงๆ คุณไปเถอะ พูดกันอย่างเข้าใจเลย เขาก็รู้ว่าเราตั้งใจไปนิพพาน ปฏิบัติจริงๆเป็นปรมัตถธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยืนยันว่า การที่ปฏิบัติโลกุตรธรรม เป็นการปฏิบัติไม่ต้องหนีจากโลกีย์ อาตมาอยู่ในเมืองมายาแท้ๆ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสเต็มสภาพเลย อาตมาก็ยืนอยู่บนนั้น อยู่เหนือมันโดยที่ว่าไม่ต้องไปหนี เป็นโลกุตรธรรม เป็นการอยู่เหนือโลก ไม่ใช่หนีโลก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ประกาศโลกนี้โลกหน้า
วันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2564 ( 11:50:24 )

ตั้งใจทำความดีในวันคล้ายวันเกิดบุญกุศลจะส่งผลถึงผู้ที่อุทิศให้ไหม

รายละเอียด

มันไกลไป ให้ทำดีตั้งแต่วันนี้เลย  คนถามมาคงเป็นเด็ก ไม่เดียงสาในศาสนาพุทธ มาในอโศกแล้ว หากเป็นผู้ใหญ่ก็แสดงว่าไม่ประสีประสาเลย เรื่องศาสนา

การทำกุศล จะส่งผลไปถึงคนที่ลูกอุทิศให้ไหม คงหมายถึงผู้ตาย การทำกุศลให้ผู้ตายแล้วมันสูญเปล่า ไม่มีผลอะไรเลยเป็นการเสียเวลาทุนรอนแรงงาน เป็นวิธีการของคนโง่เสียเวลาแรงงาน แล้วก็ได้ความโง่มา มันไม่มีทางไปถึงได้หรอก

บุญคือพลังงานลดกิเลส เป็นโลกุตรธรรม กุศลเป็นโลกียธรรม เป็นความดีหากจะทำดีแต่ในวันคล้ายวันเกิดมันน้อยไป ทำดีให้มากขึ้นหน่อย หากทำชั่วมากกว่า ก็จะอยู่ได้อย่างไร

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน หลวงปู่สู้ใจตนเองอย่างไร


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:48:44 )

ตั้งใจทำเป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดในโลก

รายละเอียด

อาตมามองไปที่หัวมัน หัวใหญ่อะไรกันนักกันหนา น่าชื่นชมจริงๆ อาตมาก็พยายามชักชวนกัน ให้พวกเราเป็น กสิกรแข็งขลังเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ไทยจะเรืองอำนาจเพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม ตั้งใจทำ มันจะเป็นแหล่งอาหารของโลกที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่าการสร้างอาวุธได้เก่ง ยิ่งใหญ่จริงๆนี่แหละอาหารมนุษยชาติ แล้วเราก็เน้นที่การกสิกรรมไม่ได้เน้นไปหาปศุสัตว์ ไม่ได้เน้นไปหาประมง เพราะฉะนั้นพลังงานก็จะมารวมเป็นหนึ่งเดียว สร้างกสิกรรมแผ่นดินยังมีอีกเยอะที่จะทำได้ยังขยายพอที่จะทำได้ หรือดีไม่ดีเราก็ไปเช่าต่างประเทศ เมืองลาวบ้าง มีเยอะ ที่ใกล้กับประเทศไทย พม่าเขมรได้ทั้งนั้น สร้างผลผลิตทางพืชพันธุ์ธัญญาหาร แล้วเอาไปเลี้ยงโลก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 27 มีนาคม 2563 ( 11:41:00 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:35:50 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:47:29 )

ตั้งใจพิสูจน์อายุ ให้เกินกว่ากัป

รายละเอียด

 จนกระทั่งอายุเลยอายุขัย ก็จะต่ออายุขัย เพื่อตั้งใจพิสูจน์อายุ ให้เกินกว่ากัป ก็พิสูจน์มา อาตมาก็พูดตามความจริงใจ ไม่ได้โกหก อาตมาว่าจะมาต้องตายตอน 72 ตามอายุขัย รู้ก่อนอายุ 72 ก็เลยเริ่มพัฒนา Coefficient จนผ่าน 72 มา ก็เห็นจริงว่ามันได้ จนมาผ่านอายุ 84 ซึ่งเป็นอีก 12 ปีอีก 1 นักษัตร แล้วก็เติมต่อไปอีก ผ่าน 84 มา ตอนนี้ 86 ย่างเข้า 87 แล้ว ก็จะไปเรื่อยๆ ก็มีคนบอก เห็นไหมเขาแกล้งพูดว่าหนุ่มกว่าเก่า เขาจะแกล้งพูดหรือไม่ก็แล้วแต่ เราก็พยายามทำ ซึ่งมันก็จะเห็นได้เป็นได้ ว่าเนื้อหนังมังสาอย่างนี้เป็นแท่งก้อนร่างกายอย่างนี้แล้วก็แสดงกายกรรมอย่างนี้ วจีกรรมขนาดนี้ มันสมอง หรือว่าความรู้ความจำอะไรต่างๆก็ยังคล่องแคล่วปราดเปรียว ทำได้ประมาณอย่างนี้แหละ คือมันก็เป็นความจริงที่เป็นอยู่จริง ที่คุณสัมผัสได้ใช่ไหม ก็จะต้องไปหลอกลวงโกหกทำไม คุณจะโกหกว่าคุณฉลาด คุณก็ทำสิทำความฉลาดนั้นแล้วคุณก็โกหกให้คนอื่นเขาเชื่อ อาตมาว่าอาตมาฉลาดน้อย อาตมาก็ไม่โกหกหรอก ดีไม่ดีอาตมาก็จะบอกว่าอาตมาไม่ฉลาดเท่าไหร่ด้วย ซึ่งไม่ได้ทำแบบเล่นลิ้น ถ่อมตนอะไรนะ ก็รู้สึกอะไรอย่างนั้นจริงๆ หลายครั้งสู่แดนธรรม ท่านฟ้าไท หรือสมณะอื่นๆมีความรู้มากเร็วกว่าอาตมา ก็ไม่เห็นเป็นไร แต่องค์รวมเรื่องธรรมะอาตมามีเยอะกว่า ก็ไม่ได้หลงตัวหลงตน ทุกวันนี้ก็เอามาแจก เอามาเผยแพร่ ซึ่งพวกเราก็ได้รับอยู่ มีหลักฐานอ้างอิงยืนยัน เห็นจริงจังได้ คุณก็เอาไปปฏิบัติให้แก่ตัวเองได้ ไปเรื่อยๆๆๆอยู่ ซึ่งไม่ใช่ของที่สูญเปล่า ของที่โมฆะ ของที่งมงาย ของที่ไม่เข้าท่า ดีไม่ดีของที่เป็นอุปาทาน เป็นของที่หลอกตัวเองไป มันไม่ใช่ทั้งนั้น แต่มันเป็นสัจจะที่จริง เพราะฉะนั้นก็พิสูจน์ไปอีก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 10:29:29 )

ตั้งใจพูดให้เข้าใจให้ผู้หลงผิด

รายละเอียด

อาตมาก็เอาสัมมาทิฏฐิ 10 มาขยายความ ตั้งใจจะพูดให้เข้าใจ ให้ผู้ที่หลงผิด ให้ผู้ที่ออกนอกทางออกนอกรีตไปแล้ว ต้องทำให้กระเทือน เขาก็ติดแน่นก็ต้องเขย่าให้ขาดจากความยึดถือนั้นให้ได้ แสดงให้หนักย้ำซ้ำซากอย่างไรก็ต้องทำ พูดไว้ในอาหาร 4 คนที่ติดยึดแล้วเหมือนกับโจรชั่วร้าย พระราชาก็เห็นว่าต้องเอาไปฆ่า ด้วยหอก 100 เล่ม เช้ากลางวันเย็นก็ยังไม่ตาย พระราชามาเจอ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามันยังไม่ตายอีก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 15 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2563 ( 11:13:03 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:12:41 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:08:49 )

ตั้งใจฟังจริงๆ จะได้ปัญญา

รายละเอียด

จะบอกว่าน่าสงสารจริงๆ ถ้ามาฟังจริงๆตั้งใจฟังจริงๆจะได้ปัญญา จะกำหนดลงไปได้อย่างไม่ช้าเลย ถ้าหากท่านศรัทธาอาตมาเพียงพอจริงๆ แล้วฟังด้วยดีจะเกิดปัญญา เหมือนผู้ที่ใกล้จะเต็มแล้วอย่างอัญญาโกณฑัญญะ พอได้ฟังธรรมะพระพุทธเจ้าก็บรรลุ พระพาหิยะทารุจริยะฟังธรรม แค่ 4 ประโยคก็บรรลุพระอรหันต์ หรือพระยสะ ฟังธรรมพระพุทธเจ้า 1 กัณฑ์ก็เป็นพระโสดาบันฟังเทศน์กัณฑ์ที่ 2 ก็เป็นพระอรหันต์อย่างนี้เป็นต้น ซึ่ง มันเป็นรายละเอียดของสภาวธรรมที่แต่ละบุคคลมีบารมีที่จะมีได้ มันละเอียดมาก 

ที่มา ที่ไป

ธรรมะรับอรุณปีใหม่โดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 10:38:57 )

ตั้งใจฟังให้ดีไม่มีอคติจึงจะเกิดปัญญา

รายละเอียด

พูดไปก็จะหาว่า ว่าเขา ที่จริงก็เป็นการอธิบายสาระสัจจะวิชาการความรู้ทางธรรมะให้ฟัง ก็เข้าใจและเห็นใจไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็ดี ก็ไม่ใช่ว่าดีหรอกแต่เป็นตัวอย่างยืนยัน อธิบายแล้วพวกเราเข้าใจได้เร็วได้ชัด เพราะมันมีของจริง บางคนอยู่ใกล้ บางคนได้สัมผัสด้วย บางคนได้ประพฤติด้วย ยิ่งจะเข้าใจตาม ถ้าหากจิตใจปล่อยวางไม่มีอคติ ตั้งใจศึกษาจริงๆ 

เรื่องนี้ถ้าเผื่อว่าไม่หลงยึดติดในลัทธิที่เป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างสายมหาบัว สายหลับตาติดยึดอาจารย์มั่น อาจารย์เสาร์ อาจารย์เสาร์เป็นอาจารย์ของอาจารย์มั่น อาจารย์มั่นเป็นอาจารย์หลวงตามหาบัว อาจารย์มหาบัวก็เป็นอาจารย์ของคนอีกเยอะแยะ อาตมาก็พูดไปบอกความจริงด้วยปรารถนาดี ไม่มีความหวังร้ายอะไรเลยมีแต่ความน่าสงสารจริงๆ ตั้งใจฟังให้ดีจะเกิดปัญญา อย่าเอาอคติมาเป็นตัวตั้ง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หนูตัวเล็กอย่างไทยจะช่วยราชสีห์ซาอุฯตัวใหญ่ได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:17:47 )

ตั้งใจมาฟื้นฟูธรรมะของพระพุทธเจ้าที่เป็นเนื้อแท้โลกุตรธรรม

รายละเอียด

ที่อาตมาพูดว่าอาตมามาทางนี้แล้วไม่มีความคิด วอกแวก ไม่มีความคิดกลับไปทางโน้นแล้วตั้งใจมาทำอะไร ก็มาตั้งใจจะฟื้นฟูธรรมะของพระพุทธเจ้าที่เป็นเนื้อแท้เป็นโลกุตรธรรม อาตมาก็ไม่มีภาษาอื่นที่จะยืนยัน ก็ต้องใช้โลกุตระธรรม ซึ่งมันแตกต่างจากโลกียธรรมที่เขาเป็นกัน เข้าใจไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่ายังไง หากเข้าใจก็จะรู้ว่าโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนี้คือ ท่านตรัสไว้ในอาณิสูตรว่า ต่อไปในอนาคตธรรมะที่เป็นโลกุตระ ท่านใช้คำที่ว่านี้ในอาณิสูตร ว่า ต่อไปธรรมะโลกุตระจะหายไป กลองอานกะ เป็นกลองเดิม ก็เหมือนชื่อว่าพุทธศาสนา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 15 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2563 ( 11:38:04 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:13:05 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:09:12 )

ตั้งใจให้คนที่แสวงหาบรรลุโลกุตรธรรม

รายละเอียด

สมณะโพธิรักษ์ตั้งใจให้คนที่แสวงหาบรรลุโลกุตรธรรมท่านชอบจริงๆคนที่แสวงหาโลกุตรธรรมให้เข้ามา คุณทิ้งสิ่งที่คุณยึดถือมาฟังสมณะโพธิรักษ์ หากเข้าใจไม่ได้ก็พยายามเข้าใจให้ได้และเอาไปปฏิบัติให้ได้ผลอย่างที่ท่านพูดคุณจะเปรียบเทียบเลยสิ่งที่คุณได้สมาธิที่คุณได้อย่างนั้น ศีล สมาธิ ปัญญา ที่คุณได้อย่างนั้นเทียบให้เลยว่าจะไม่เหมือนกันถ้าคุณมีปัญญาสอดคล้องกับโลกุตระคุณก็จะมาทางนี้

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 17:16:31 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:05:10 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:09:39 )

ตาทิพย์

รายละเอียด

เห็นด้วยปัญญาอันยิ่ง เพราะจิตบริสุทธิ์ที่สามารถเหนือมนุษย์ธรรมดาจริง ๆ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 213


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2562 ( 07:53:48 )

เวลาบันทึก 03 พฤษภาคม 2563 ( 15:25:01 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:47:03 )

ตาทิพย์ อย่างสัมมาคืออย่างไร

รายละเอียด

คำว่า “ตาทิพย์” ก็แยกว่า 1.ตาเนื้อ 2.ตาทิพย์ 3.ตาปัญญา

ทิพย์คือพวกดัดจริตเอาภาษาฝรั่ง magic ประหลาดเหมือนนักมายากล เล่นได้ประหลาดลึกลับซับซ้อนจนคนรู้ไม่ทันตามไม่ได้ก็หลอกลวงเขาได้ แต่นี่ไม่หลอกลวงบอกจริง มันมีสัจจะความจริงตรงที่ว่า ความจริงมันเร็วที่ซับซ้อน และคนที่ยังไม่มีปฏิภาณปัญญาสามารถที่จะรู้ทัน รู้ว่าจริงตรงไหน เช่น หน้ามือกับหลังมือ กลับไปกลับมาได้ เหมือนพวกนักเล่นกล ต้องเร็ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์ตีตราด้วยปัญญา 8 ประการ วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 23 พฤษภาคม 2564 ( 13:21:28 )

ตาทิพย์ โสตทิพย์

รายละเอียด

คำว่า ตาทิพย์ หรือ โสตทิพย์ ไม่ได้หมายถึงอย่างที่เขาพูด แต่เป็นตาหูที่รู้ลึกซึ้งละเอียด แม้จะอยู่ไกลก็เห็นได้ แม้เสียงจากไกลๆก็ได้ยินได้ วิจัย เสียงที่ได้ยินว่าอย่างไรเป็นสภาพสอง จะรู้เสียงสอง รูปสอง กลิ่นสอง รสสอง สัมผัสสอง แยกออกว่าอันหนึ่งเป็นของแท้ อันหนึ่งเป็นของเทียม นี่คือตาทิพย์ หูทิพย์ จมูกทิพย์ ลิ้นทิพย์ เพราะแยกออกว่าอันใดแท้อันใดเก๊ แต่เขาไม่เข้าใจประเด็นเป้าหมายสาระที่พระพุทธเจ้าหมาย ก็ไปเรียนตามเดียรถีย์ไปหมด อาตมาเอาของจริงมาอธิบายให้ฟังญาณรู้เสียงที่2 อันหนึ่งแท้ อันหนึ่งเก๊ สามารถแยกกิเลสปนมากับเสียง 

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรม บ้านราช เศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 14:36:07 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:07:24 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:10:09 )

ตาทิพย์ยังไม่เข้าขั้นโลกุตระ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นตาทิพย์ก็ยังมีปนเปเลอะเทอะ เสียก็มีดีก็มี แต่ยังไม่เข้าขั้นโลกุตระ มีดีก็ทำดีไป ไม่ทำชั่ว ก็กลายเป็นหมู่คนที่เป็นโลกีย์ ไม่ทำชั่วทำแต่ดีสูงสุด ก็มีหลักเกณฑ์ มีวิชาการมีทฤษฎีมีคัมภีร์ มีคำสอน ผู้ใดที่ทำได้สูงสุดก็ไปเป็นศาสดา ก็สอนกัน ตัวศาสดาก็ไม่เที่ยงเขาจะหมุนวนกับวิบากแล้วก็ลงไป สมบัติผลัดกันชมก็มีศาสดาอยู่ในโลกนี้นับไม่ถ้วนมากกว่าพระพุทธเจ้าเยอะ แต่เขาจำไม่ได้เขาจะไม่รู้เรื่อง ถ้าเขาจำได้มากกว่าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าแต่ละองค์มีเท่านี้ ศาสดาก็มีเยอะกว่าแล้วก็ไปแย่งกันตำแหน่งก็จองกันแบ่งกันไปเป็นเจ้า ของกลุ่มมนุษย์กลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ก็แล้วแต่ใครจะชิงได้มากได้น้อยก็แย่งกันไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ถอดรหัส นายทุน-ศักดินา-นักวิชา-ข้าราชการ-พาลชน วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 6 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มิถุนายน 2564 ( 16:55:09 )

ตาทิพย์เห็นผี/มาร(กิเลส) - เห็นเทพ(ธรรมะ)

รายละเอียด

ตาทิพย์เห็นผี/มาร(กิเลส) - เห็นเทพ(ธรรมะ) อ่านรู้อาการผี-อาการเทพ  อ่านกันที่ “นามรูป” 
1.รู้ด้วยอาการ (สภาวะขณะนั้นของจิตกุศล-อกุศล) 
2.ลิงคะ (หรือ เพศ คือความต่างกันของนัยยะต่างๆ) 
3.นิมิต (เครื่องหมายชี้บอกสภาวะจิต) 
อุทเทส (การยกหัวข้อเท่านั้นให้รู้/ ไม่ถึงกับต้องนิทเทส)
ดูกรอานนท์  ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมลงเป็นอย่างเดียวกับเวทนา โดยส่วนสอง  (เทฺว  ธมฺมา  ทฺวเยนะ  เวทนายะ  เอก-สโมสรณา  ภวนฺติ ฯ)

ที่มา ที่ไป

 มหานิทานสูตร พระไตรปิฎก เล่ม 10 ข้อ 60, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2562 ( 08:19:01 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:10:56 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:12:27 )

ตาทิพย์แบบงมงายลึกลับ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นตาทิพย์ที่มองไปเห็นกลับกันเลย ตาทิพย์แบบงมงาย มันหลอกตนเองหลอกไป ไม่ว่าจะหลอกในด้านพวกลึกลับ ตาทิพย์แบบลึกลับ magic ต่างๆ สร้างวิมานนิรมาณกายสร้างภพชาติ หลอกเป็นตัวเป็นตน เป็นเรื่องเป็นราว เป็นวิมาน เป็นเทวดา เป็นอสูร พวกอินเดียมีเยอะเลย รบกันฆ่าแกงกันจองเวรกัน เมืองจีนก็มี อินเดียก็มีเยอะกว่า

เรื่องธรรมาธรรมะสงครามเยอะแยะเหมือนกับ Star Wars สร้างออกไปเป็นเรื่องราวสมมุติออกไปนอกโลก ไปมีดาวดวงนั้นดวงนี้ มีสัตว์ในโลกดาวดวงนั้นดวงนี้ออกมา สร้างสถานีอวกาศออกมารบกันในอวกาศ โอ้ เลอะเลย ทำให้อวกาศเขาเลอะเทอะหมดเลย มันคิดได้สร้างเรื่องราวขึ้นไปสารพัดยิ่งกว่านิยายมหานิยายอะไรก็ไม่รู้ สารพัดที่จะคิดขึ้นมา แล้วก็สนุกสนานหลอกกันไปต่างๆนานาสารพัด  ซึ่งมันก็คิดได้เป็น โลกจินตา เป็นความคิดของมนุษย์โลกไม่มีจบสิ้นหรอกหลากหลาย ส่วนมากก็มีแต่เรื่องจินตนาการ เรื่องจินตา เรื่องคิดเอา เป็นจริงไม่ได้ไม่มีหรอก จะเป็นจริงบ้างก็เล็กๆน้อยๆ อาศัยหลักฐานเล็กๆน้อยๆ นอกนั้น เลอะเทอะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ถอดรหัส นายทุน-ศักดินา-นักวิชา-ข้าราชการ-พาลชน วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 6 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มิถุนายน 2564 ( 16:51:19 )

ตาที่ 3 ของตรีตา หมายเป็นวิปัสนาญาณได้ไหม

รายละเอียด

ได้ วิปัสสะ ปัสสะ แปลว่าเห็น ด้วยตากระทบรูป หรือหูกระทบเสียง ฯ มีจิตมีโผฏฐัพพะรู้ภายนอกภายในร่วมกันเรียกว่า กาย 

การรู้อย่างนี้แล้วแยกกิเลสได้ มีอุบายเครื่องออกมีวิธีกำจัดกิเลสออกได้อย่างมีสมาธิคือปัญญา คือทำพลังงานฌาน พลังงานไฟเผา ที่ใช้บัญญัติว่าไฟ อุณหธาตุ ร้อนๆ ท่านก็เรียกราคะว่าไฟ เรียกโทสะว่าไฟ เรียกโมหะว่าไฟ อุณหธาตุเหมือนกัน แต่ฌาน เป็นพลังงานที่ผู้มีปัญญาเท่านั้นสร้างฌานนี้ได้ ฌานอยู่ที่ไหนปัญญาอยู่ที่นั่น ปัญญาอยู่ที่ไหนฌานอยู่ที่นั่น ทำงานก็มีพลังอินทรีย์ละลายเผา เรียกว่าฌานคือเผา ฌาปนะ ฌายติ เผา ไม่เผาอันอื่นไม่ไประแคะระคายอันอื่น มีแต่หน้าที่เผากิเลสอย่างเดียว คมชัดแม่นตรงลึกละเอียด ไม่ให้ไปกระทบกระเทือนอันอื่นเอาแต่กิเลส ฆ่าแต่กิเลสให้กิเลสสลายหายไปไม่เป็นสภาพเดิม จบแล้วเรียกว่าบุญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์ตีตราด้วยปัญญา 8 ประการ วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 23 พฤษภาคม 2564 ( 13:07:43 )

ตาบอดจูงตาบอดไปดูหนังใบ้

รายละเอียด

ซึ่งหลงทางนามธรรม แต่มันไม่ได้หรอก ป่วยการ มันลมๆแล้งๆ เหมือนอย่างมหาบัว ที่ว่าฆ่ากิเลส เอาจริงสู้ตาย วันที่เท่านั้นพ.ศ.นั้น ฆ่าให้ตายเลย เพ้อเป็นนิรมาณกายสร้างภพชาติ เป็นตัวตน ทั้งที่ไม่มี มีตัวตนในความว่าง เป็นเรื่องมุขขึ้นมาว่าเป็นตัวตน แต่แท้จริงว่างเปล่าปั้นมาเองนิรมาณกาย คนอื่นร่วมรู้ด้วยเป็นสัมโภคกาย ว่าพระอรหันต์ต้องจริงจังฆ่ากิเลสอย่างนี้ต่างเป็นคนตาบอดจูงคนตาบอดไปดูหนังใบ้ อาทิสมาณกาย ต่างคนต่างไม่มีใครเห็นของใคร ต่างคนต่างบอด แล้วก็จูงกันไป ไปดูหนังใบ้ แต่พูดกันจังเลย คนใบ้คือคนหูไม่ดีนะ หูมันรับไม่ได้แต่พูดจัง เสียงดัง เพราะเขาไม่รู้เสียงของเขา หลังบ้านอาตมาเป็นที่อยู่คนใบ้แต่พูดกันล้งเล้งเลย ภาษาเละ เท่ากับคนตาบอด จูงคนตาบอดไปดูหนังใบ้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 21กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 09:59:04 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:13:11 )

ตาบอดชวนคนตาบอดไปดูท้องฟ้าสวย

รายละเอียด

สรุปแล้วก็คือ ต่างคนต่างก็เพี้ยนไป แล้วก็ต่างคนต่างคุยกันเหมือนรู้เรื่อง เหมือนที่อาตมายืนยันว่า ตาบอดชวนคนตาบอดไปดูท้องฟ้าสวย ต่างคนต่างสมยอมสวย ต่างคนต่างสวย ถ้าบอกว่าไม่เห็นเราจะกลายเป็นคนตาไม่ดี ก็เลยกลายเป็นคนโกหกซ้ำซ้อนกันลงไปในนั้น ว่าเห็น 

ในคนตาบอดเขาก็จะมีสมมุติในจิตของเขา แล้วเขาก็จะมาพูดกันโดยบัญญัติภาษา เช่น บอกว่าฟ้าเป็นอย่างนี้ เขาก็จะโมเมไปเรื่อยๆ แต่ละคนก็จะเอาบัญญัติที่แต่ละคนได้มาพูดกัน แล้วเขาก็เฉลยกันสรุปกัน ตาบอดเขาก็สรุปกัน แล้วเขาก็จะเข้าใจกันเอง ไม่มีใครเห็นฟ้ากันสักคน ตาบอดสนิท 

นอกจากจะมีคนตาบอดบางคนพอเห็นรำไรๆ เขาก็จะเอาของเขามาพูดก็จะมีเค้านิดหน่อย แล้วหมู่คนตาบอดก็จะเอาเค้าของคนที่เห็นนิดหน่อยมาพูดต่อ แต่เขาก็ต้องพยายามจบว่าเพราะเขาเป็นคนตาบอด เขาจึงไม่มีรายละเอียดจะชี้แจง เขาจะพูดรายละเอียดมากกว่านั้นไม่ได้ เพราะขืนพูดมากกว่านั้นเขาจะเสียเพราะมันจะผิด ถ้าพูดกับคนที่รู้จริงมันมีรายละเอียดเขาก็ไม่รู้ เพราะเขาตาบอดเขาไม่เคยเห็น เขาก็รู้เท่าที่เขารู้ได้ แต่ผู้ที่รู้อย่างตาแจ้งจริงๆ มันก็มีเยอะใช่ไหม เขาก็ไม่รู้ เขาก็พูดต่อไม่ได้ เขาจะไม่กล้าพูดกับคนที่ตาดี เขาก็จะไปพูดกับคนตาบอด แล้วเขาก็จะเอาสิ่งที่เขารู้ของเขาบ้างนิดๆหน่อยๆ เหมือน อาฬารดาบส อุทกดาบส ได้มีสิ่งรู้เอามาข่มคนอื่นหมด นี่ก็เป็นมานะซ้อนอีกชนิดหนึ่ง

คนนั้นก็จริงเขาเห็นนิดหนึ่ง มันก็เหนือกว่าคนอื่นเขาจริงใช่มั้ย เขาก็เอาอันนี้มาเป็นอัตตามานะข่มคนที่ไม่เห็นอีกที นี่คือกิเลสซ้อนอีกทีแล้วเขาจะรู้เรื่องอะไร คนตาบอดเขาไม่รู้หรอก เขาก็มีอัตตามานะไปข่มคนอื่นเขา เขาก็ไม่รู้ 

นอกจากจะเป็นคนตาบอดที่มีวิบาก มีความรู้แล้วและมาเกิดชาตินี้ต้องตาบอด นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง คนนี้เขาก็จะพอได้แล้ว เหมือนอย่างกับพระจักขุบาล เป็นคนมีบารมีเก่ามา มาชาตินี้ตาบอดก็ยังบรรลุได้ จริงๆ แล้วตาบอดไม่มีสิทธิ์บรรลุ เพราะเหลือทวาร 5 ตาไม่เห็นไม่มีสิทธิ์บรรลุ เดาเอาไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาคนตาบอดชวนคนตาบอดไปดูท้องฟ้าสวย วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2566 ( 14:21:53 )

ตาบอดตาใส 

รายละเอียด

ตาบอดตาใส มีแต่รูปไม่มีนาม ถูกไหม 

ซึ่งมันมากกว่านั้น ตาบอดตาใสโดยความหมายของธรรมะอาตมาเคยอธิบายมาแล้วพวกตาบอดสู่รู้ โอ้โห ฟ้าสวย ตาบอดตาใสด้วยความหมายของธรรมะ อาตมาเคยอธิบายมาแล้วพวกตาบอดสู่รู้ โอ้โห ฟ้าสวยจัง

ยิ่งตาบอดมาแต่กำเนิดด้วยนะ 10 คน 100 คน โอ้โห ฟ้าสวยจังเลย ตาบอด มันไม่เคยเห็นฟ้าไม่เคยรู้เรื่องฟ้าเลยมันบอกฟ้าสวยจังเลยได้ยังไง แล้วมันไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเห็นฟ้าสวยสำหรับพวกตาบอดนะ มันไม่มีความรู้เลยแต่อวดตัวเองว่ารู้ ว่าฉันรู้ฉันเห็น ไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้เพราะตาบอดแต่กำเนิด ก็เท่ากับคนไม่รู้ แต่มาโกหก 

ตาบอดจริงๆแล้วบอกว่าฟ้าสดสวยจังเลยโกหกจริงๆไหม โกหกจริงๆ เขาเห็นไม่ได้หรอก เขามีแต่จะจินตนาการ เราห้ามไม่ได้หรอกคนจะมีจินตนาการ คนตาบอดก็มีสัญญา มีการปรุงแต่งในสัญญาคิดนึก ซึ่งเขาก็ประมวลเอาความรู้ที่เขามีเอาไปปรุงแต่ง แต่เขาจะไม่รู้เรื่องภาพ เขารู้เรื่องเสียงแต่เขาไม่รู้เรื่องภาพเรื่องรูปแสงสี ไม่รู้แสงสีภาพรูปไม่เห็นเขาไม่รู้หรอก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สภาวะบวร(บ้าน-วัด-โรงเรียน) ที่พ้นอัตตวาทุปาทาน 5 วันพุธที่ 20 ธันวาคม 2566 ขึ้น 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 มกราคม 2567 ( 13:53:39 )

ตาบอดเห็นฟ้า

รายละเอียด

คนตาบอดก็ไม่มีสิทธิ์จะมองเห็นฟ้า ต้องทนเอาหน่อยว่า คนตาบอดพวกนี้ จนกว่าเขาจะมีแสงสว่างเข้าไปในตาบ้าง หรือเขาจะหมดแรงมาต่อต้านต่อสู้ ซึ่งเราก็จะพอไหวพอรับมือได้ มันต้องมีเราจะไปห้ามไม่ได้ ในสังคมประชาธิปไตยต้องมีฝ่ายค้าน เขาต้องเป็นฝ่ายค้าน ยิ่งเขาแสดงออกให้เห็นว่า คนตาบอดนั้นบอดจริงๆ จะเป็นอย่างนั้นจริงๆ คนตาบอดย่อมมองไม่เห็นฟ้า แน่นอน เราก็ต้องเข้าใจเขาจริงๆ จะพูดอย่างไร จะทำอย่างไรคนตาบอดก็เพราะเขาตาบอดจะไปเห็นฟ้าได้อย่างไร เอื้อมไม่ถึงฟ้า สายตาเขาไม่ดี เป็นเรื่องสัจจะ ก็เข้าใจได้ก็แล้วกันว่า อยู่ในโลกมี 2 ส่วน ส่วนความบวกกับความลบคู่กัน ถ้าเป็นหนึ่งเดียวมันถือว่าเป็นเผด็จการ ยิ่งใช้เบ่งอำนาจฝ่ายเดียวยิ่งเป็นเผด็จการใหญ่  เพราะฉะนั้นก็ให้เขาได้ออกความเห็น ออกกำลังออกอะไรต่างๆนานาไป แล้วก็มีหลักเกณฑ์ที่เป็นสากลซึ่งเมืองไทยนี้ก็ขอพูดอีกทีว่าเป็นประชาธิปไตยที่เป็นประชาธิปไตยที่เยี่ยมยอดที่สุดแล้ว ถอดแบบออกมาจากโครงสร้างกระบวนการของพระพุทธเจ้า ซึ่งโลกเป็นโลกที่เต็มไปด้วยความรู้แบบเทวนิยม เขายังเข้าใจความเป็นเทวที่แปลว่า 2 ไม่ได้ โลกุตระของพระพุทธเจ้าเข้าใจความเป็น 2 และสามารถทำให้รวมเป็น 1 ในที่สุดทำให้เป็น 0 คนอื่นทำเป็น 0 ไม่ได้ก็ทำให้ตัวเองเป็น 0 ก่อน ซึ่งสุดยอดแล้ว ผู้ที่ทำตัวเอง 0 ได้จึงเป็นคนที่ไม่มีตัวตน เป็นภาษาที่เป็นโลกุตระ เราไม่ได้ไปว่าเขา จะให้ตาบอดเห็นฟ้า มันเป็นไปไม่ได้จริงๆเลย มันเป็นสัจจะ มันต้องจำนน พลัง ยังไม่มีตังค์จะมากกว่า อาจารย์หนึ่งที่พูดเนี่ยมีตัวตนที่ค้างอยู่จะเป็นตัวต่ำ ก็บอกให้เพื่อนไปลองดูสิมันดีนะเพื่อนเพื่อนเพื่อนก็ไม่ต้องเครียด อย่างนั้น จนกว่าจะมียารักษาให้คนตาบอดมาเป็นตาดีได้ คุณช่วยเขาสิหายาดีๆมารักษาคนตาบอดให้ตาดีขึ้นมาแล้วก็จะสามารถ ถ้าคุณสามารถมียาดีจริงๆ เพราะยาของพระพุทธเจ้าคือธรรมะโอสถทำให้คนตาบอดเห็นได้ อาตมามีปณิธานทำให้คนตาบอดเห็นได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ  ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 12:03:34 )

ตาบอดไม่เห็นฟ้า

รายละเอียด

ก็ไม่เป็นไร สองคนยลตามช่องคนหนึ่งมองเห็นโคลนตมอีกคนตาแหลมคมมองเห็นดาวอยู่พราวพราย จริงๆก็คงไม่ใช่มีคนนี้คนเดียวหรอก ที่ยังไม่เชื่อว่าอาตมาเป็นอรหันต์ยังมีอีกเยอะ ก็คนตาบอดนี่นะ เขาย่อมไม่เห็นฟ้า ก็เป็นธรรมดา อย่างไรๆคนตาบอดก็ไม่เห็นฟ้า ก็ไม่เห็นน่าสงสัยอะไรใช่ไหม มันก็ต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ อะไรที่ใกล้ๆคนตาบอดยังสัมผัสได้ แต่ฟ้านี่คนตาบอดอย่างไรก็สัมผัสไม่ได้ เพราะว่าฟ้าคือสิ่งที่ไกล คุณจะเอื้อมไม่ยาวเป็นแม่นาคพระโขนงจับฟ้าไม่ได้ แต่ได้แค่ได้ยินว่าฟ้าๆๆ จริงอาตมาไม่สงสัยหรอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าอาตมาเป็นอรหันต์ อาตมาไม่ได้น้อยใจ เลย มันจริง คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าอาตมาเป็นอรหันต์ก็จะไม่เอา แต่จะมีคนส่วนหนึ่งที่เป็นคนส่วนน้อย เหมือนพระสมณโคดมพระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้กระดี๊กระด๊าอะไร ท่านเอาแค่นี้ มาฆบูชามีครั้งเดียว พระพุทธเจ้าองค์อื่นมีมาฆบูชาหลายครั้ง ท่านก็พอใจแค่นี้แล้วท่านก็ไม่ต่อด้วยไม่ต้องเอาอายุยาวไปถึง 120 กัปหนึ่ง ตอนนั้นคนส่วนมากจะตายอายุ 120 ไม่ว่าจะเป็นพระกัสสปะ พระกัจจายนะ พระอานนท์ นอกจากพระพักกุลละ อายุ 160 ปี

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 14:17:53 )

ตาปัญญารู้แจ้งจบ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น ตาปัญญาจึงเป็นตาที่รู้แจ้งจบ ทั้งส่วนที่มันไม่เข้าเรื่อง มันผิด ทั้งส่วนที่พอใช้ได้กันเป็นตาเนื้อ มันจะแบ่งเป็น 3 พวกที่ไม่ได้เรื่องเลย เลอะเทอะเลวร้ายด้วย ไม่มีจริงด้วยก็อย่างนึง และ 2. เป็นตาเนื้อที่จะเป็นของจริงของมนุษยชาติที่เป็นโลกียะ มันมีดีมีชั่ว ก็ยึดถือตามสมมุติสัจจะอาศัยอย่างนั้นไป โลกอาศัยโลกียะที่ละชั่วประพฤติดี แต่ชั่วดีมันไม่เที่ยงเป็นไปตามกรรมวิบากอันนี้เป็นอจินไตย ยาก สายเทวนิยมไม่เข้าใจในเรื่องกรรมวิบาก มันเป็นอจินไตยคิดไม่ออก มาศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าจึงจะค่อยๆเข้าใจกรรมวิบาก เข้าใจฌานวิสัย ซึ่งพัฒนาเป็นโพธิสัตว์ก็จะไปมีพุทธวิสัย วิสัยสูงสุด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ถอดรหัส นายทุน-ศักดินา-นักวิชา-ข้าราชการ-พาลชน วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 6 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มิถุนายน 2564 ( 16:52:33 )

ตามกายกับจิตมาเปรียบเทียบกายที่ถูกกาวทาติดอยู่ในฝัก

รายละเอียด

ถูก เข้าใจได้ เราก็ได้แต่เข้าใจ แล้วจะไปล้างกาวนั้นคืออะไร กาวของคุณคืออะไร ฝักดาบคืออะไร ดาบคืออะไร ความเหนียวคืออะไร แล้วน้ำยาล้างความเหนียวมีไหม มีจริงไหม ล้างได้ไหม ถ้าพูดมาคุณทำได้หมดก็จบ มีสภาวะจริงก็จบ เพราะรู้แล้วเหลือแต่ทำได้ไหม

พวกเรานี้รู้อย่างนี้เยอะ แต่คุณทำสภาพจริงเหล่านี้ได้ครบไหมถ้าครบคุณเป็นอรหันต์ ไม่มีอะไรเลย อรหันต์จริงๆ อาตมาไม่ได้โมเมไม่ได้พูดเล่น ความรู้พวกเราครบกันแต่สรุปไม่ลง ถ้าสรุปลงกับสภาวะ คุณทำได้จริงไหม ถ้าทำได้จริงกับคุณก็รู้ ความหมายอย่างไรคุณพอพูดให้คนอื่นรู้เรื่อง แต่ทำได้ไหม ถ้าทำได้ คุณก็จบเป็นอรหันต์แล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์ 4 ประการ วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กันยายน 2565 ( 13:12:09 )

ตามพิสูจน์ความเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7

รายละเอียด

อย่างหลวงปู่พิสูจน์มาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 เอาความนี้มาให้เราฟัง ทำมาเป็นร้อยชาติพันชาติหมื่นชาติแสนชาติล้านชาติ ที่สะสมความจริงและความรู้นี้มากว่าจะเอามาพูดให้พวกเราฟังได้ ขอยืนยันและจะพาทำอย่างนี้ให้พวกเราพิสูจน์ไปเรื่อยๆ

แน่นอน หลวงปู่พูดก่อนไปได้เลยว่าหลวงปู่จะปรินิพพานก่อนพวกเราทั้งนั้น พวกเราจะต้องอยู่สร้างบารมีต่อไปอีกหลายคน ไม่ต้องพูดหรอก ยิ่งคนไม่ค่อยเอาถ่านยิ่งจะต้องอยู่ยาวยิ่งจะต้องรับวิบากหนักหนาสาหัสไปอีกนาน แม้แต่พวกเราเจริญนี้ หลวงปู่บอกได้ว่ายังไม่มีใครมีรอยไร ว่าเป็นโพธิสัตว์มาเกิดนี่เป็นโพธิสัตว์ผู้พี่มาเกิด ยังไม่มีใครแสดงสัญญาณอย่างนี้มีแต่รุ่นลูกรุ่นหลานรุ่นน้อง น้องไกลๆ แต่รุ่นลูกหลานก็ไม่ไกลเท่าไหร่

หลวงปู่เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ซึ่งคนก็ไม่ใกล้เท่าไหร่ แม้แต่คนใกล้ แม้แต่ผู้ที่คนเขานับถือเป็นปราชญ์ทางศาสนาก็ยังไกลจากหลวงปู่มาก ขออภัยที่ยกตัวเองสูงเกินไป แต่ไม่ใช่ว่าสูงเกินไปหรอก ยกตัวเองให้ฟัง ซึ่งเป็นความจริงแต่ฟังแล้วคนที่เขาอาจจะคิดได้ว่าคนนี้มันหลงตัวเอง ก็ขออภัยต้องพูดความจริงให้ฟัง แล้วจะขอยืนยันว่า ตามพิสูจน์อาตมาก็แล้วกัน อย่าเพิ่งรีบตาย  รักษาอายุให้ยืนยาวกันไปก่อน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:56:00 )

ตายกับมีชีวิต ความรู้สึกเดียวกัน

รายละเอียด

ทั้งตอนมีชีวิตและตายลงไป สิ่งที่เราเกิดในความรู้สึกนั้นเหมือนกัน ความรู้สึกที่เป็นๆกับความรู้สึกที่ตายไปแล้ว เป็นความรู้สึกอันเดียวกัน เรานอนหลับก็ความรู้สึกตอนตื่นมาก็เป็นความรู้สึกเดียวกัน ตอนมีชีวิตกับตอนตายจะเป็นความรู้สึกเดียวกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:28:49 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:15:37 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:46:03 )

ตายห่าตายโหงเรียนรู้การทำใจในใจ

รายละเอียด

ทำใจ สรุปแล้วมันจะตายด้วยอะไรก็แล้วแต่ จะตายห่าตายโหงก็แล้วแต่ โดนฆาตกรรมหรืออุปัทวเหตุ ตายห่าคือตายจากโรค ตายโหงคืออุปัทวเหตุ ก็มีสองอย่างง่ายๆ จะทำอย่างไร คุณต้องเรียนรู้เรื่องการทำใจในใจ แล้วก็ต้องรู้เหตุผล รู้ว่า ความตายเป็นธรรมดาจะตายอย่างห่าหรือตายอย่างโหงก็แล้วแต่ มันคือความตายมาถึงแล้วหนอ เรายังไม่ตาย แต่เรารู้สัมผัสคนที่เขาตายคนใกล้ชิดก็ตาม คนที่ห่างไปหน่อยก็ตาม เราก็เห็นความจริงให้ได้ว่าต้องทำใจอย่างไรก็ทำปัญญาให้แจ้ง ทำความเข้าใจให้ทะลุ คนก็ต้องตาย คนนี้เขาตายแล้วนะ บางคนตายด้วยห่าบางคนตายโหง แต่เรายังไม่ตาย เราก็จะต้องตายไม่อย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อไหร่เมื่อนั้นหรือไม่มี ห่าคือไม่มีโรคก็ตายได้เหมือนกัน ถึงเวลาตายอย่างไรก็ไม่รู้ อย่างคุณสุเทพเขาก็มีโรคประจำตัว แต่เขาก็ไม่ได้ทรมานอะไรนอนหลับไปแล้วก็ตายไปเลย ก็ดีสบายๆ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 25 มีนาคม 2563 ( 10:27:53 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:46:14 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 19:12:56 )

ตายอย่างนิพพาน 3 คืออย่างไร

รายละเอียด

สรุปตรงที่คุณผาหินเขางงๆ นี่ก็คือว่า ผู้ปฏิบัติธรรมกิเลสลดสูญได้แล้วตอนเป็นๆ อยู่ ก็คือ ผู้ได้ปรินิพพาน แต่ยังไม่ตายชนิดที่ตายอย่างสูงสุด ตายอย่าง สุญญตนิพพาน อนิมิตนิพพาน อัปนิหิตตนิพพาน ตายอย่างนิพพาน 3 คือ ไม่มีนิมิต ไม่ตั้งจิต ไม่สร้างภพชาติอะไรอีก แล้วไม่ตั้งจิตอีกเลย จิตก็ไม่ตั้ง สถานที่ก็ไม่กำหนดภพชาติอะไรอีกเลย คุณตายด้วยสภาวะ สุญญตนิพพาน อนิมิตนิพพาน อัปนิหิตตนิพพาน จิตของคุณก็จะสลายเป็นดิน น้ำ ไฟ ลมเป็น ปรินิพพานเป็นปริโยสาน จิตของพระอรหันต์ก็จะแยกเป็นดินน้ำไฟลมไปเลย 

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า เหมือนพวงมะม่วง ถูกตัดตกลงมาแตกกระจายหายไปเลย มันไม่กลับไปเป็นพวงมะม่วงกันอีก อย่างนี้เป็นต้น จะไม่เหลือพวงมะม่วงให้อีกแล้ว มันเอามารวมกันอีกไม่ได้ มันขาดมันแตกไปหมดแล้ว นั่นคือดับเป็น 0 ชนิดปรินิพพานเป็นปริโยสาน แต่คุณทำให้กิเลสหมดแล้วเป็น 0 ได้แล้วตั้งแต่ตอนเป็นๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บุญกิริยาวัตถุ 7 ข้อที่เป็นเนื้องอกของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2565 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2565 ( 12:17:59 )

ตายอย่างมีสติแบบปล่อยวางก็ตาย

รายละเอียด

อาจจะมีอาการเจ็บป่วยอย่างแรง สุดท้ายก็บอกว่าจะไปแล้วนะก็ไป เหมือนกับอย่างท่านถนอมคูณ พูดว่าจะไป ให้วางตรงไหน ท่านถนอมคูณ พระอรหันต์องค์หนึ่ง ก็บอกว่าให้ปล่อยเลยวางเลย แป๊บเดียวก็ไป คือ มันไม่มีความสะทกสะท้านความสะดุดอะไร ตายก็ตายอย่างนี้เป็นต้น มันเป็นเรื่องสามัญๆ นี่พวกเราของจริง ยุคนี้นะ ไม่ใช่ยุคพระพุทธเจ้า 

สมณะถนอมคูณก็สมณะพวกเรา เป็นเรื่องจริงก็เอามาเล่าสู่กันฟัง ตายอย่างมีสติ ปล่อยวางก็ตาย ไม่มีปัญหาอะไร เป็นเรื่องสามัญ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:09:55 )

ตายเพื่อมวลมนุษยชาติยังยิ่งใหญ่ระดับหนึ่ง

รายละเอียด

เพราะเขาเข้าใจแล้ว แค่พระเยซูตายเพื่อมวลมนุษยชาติก็ยังได้เป็นพระศาสดาที่ยิ่งใหญ่ คนเข้าใจแล้ว โลกที่เป็นเทวนิยมเขาก็ชักจะมีปัญญารู้แล้วว่า ผู้เสียสละ ตายเพื่อมวลมนุษย์อย่างเช่นพระเยซู ก็ยอดเยี่ยม เขามีปัญญารู้แล้วว่าอันนี้จริง ตายอย่างพระเยซูตายอย่างเสียชีวิตเพื่อมวลประชาชน ศาสนาพุทธ ขออภัย อย่างอาตมานี้ ตายมาแล้วไม่รู้กี่ชาติ เพราะฉะนั้น จะมีบารมีซ้อนไม่ต้องไปเสียสละชีวิต ตายโชว์ แค่ตายโชว์ ชัดๆๆเล่นๆอย่างนั้นมันต้องผ่านก่อนต้องทำมาก่อนจึงจะมาใช้นามธรรม ใช้ธรรมะขั้นสูง ขั้นระดับสูงนั้นยากกว่าขั้นระดับตายโชว์ ใครก็เข้าใจได้ คนศาสนาสายเพื่อพระเจ้า คนตายเพื่อพระเจ้า ไม่ได้ตายโชว์ ขับเครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด คนสายนั้น สายเพื่อพระเจ้าของเขา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2563 ( 11:57:11 )

ตายแบบคนอวิชชาเป็นอย่างไร

รายละเอียด

มันยังไม่ตายก็ไม่ต้องไปกังวลอะไร เมื่อตายแล้วก็ทิ้งร่างไปมันก็แข็งไป มันไม่มีจิตใจแล้วมันจะไปอ่อนอะไรมันหมดธาตุที่จะมีชีวิตต่อไปมันก็จะแข็งไปมันก็จะจบ มาเรียนรู้ดีๆเพื่อเราจะอยู่อย่างไม่มีปัญหาอะไร มันมีมิจฉาทิฏฐิเข้าใจว่าตัวเองนี้ เก่ง ไม่พรากจากอนุสัยตัวเอง ตายแล้วไม่ออกจากอนุสัยร่างก็เลยไม่เน่า แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองตาย ยึดมั่นถือมั่นกับร่างนี้อยู่กับอนุสัยของกูนี้ไม่ไปไหน เสียเวลาจมอยู่กับร่างนี้ทั้งที่มันตายแล้วทำอะไรก็ไม่ได้แล้ว อาหารเขาก็ไม่ให้แล้วก็เลยยังไม่เน่าเท่านั้นเอง แต่คุณก็ยังช้าอยู่นั่นแหละ ก็เลยยิ่งเคารพบูชาเอามาใส่โลงแก้วบอกว่าร่างกายไม่เน่า ก็เลยเคารพบูชา เป็นคนอวิชชา ก็ยิ่งอวิชชาจิตไม่ไปไหนก็เกาะกับร่างนี้แหละไม่ยอมปล่อยวางไป แบคทีเรียไม่ค่อยทำงานก็ค่อยๆแห้งไป ไม่เน่าแต่ก็เสื่อมไปเรื่อยอยู่ดี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ สำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(สัมมาทิฎฐิ 10) ตอน ตายแล้วไปตามวิบากกรรม


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:45:27 )

ตายแบบดีที่สุด

รายละเอียด

ถึงเวลาตายก็ตาย คนที่ตายดีที่สุดคือถึงเวลานอนหลับ ตายไปอย่างสงบเลย นี่ตายดีที่สุด นอนหลับแล้วตายไปเลย จะนอนเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ อย่างพระพุทธเจ้าท่านจะตายท่านก็นอนแล้วท่านก็จะปรินิพพาน ท่านรู้หมด ท่านลงนอนแล้วก็ตายตามเวลานั้นๆ รับรู้กันหมด พระภิกษุต่างๆ ก็มาล้อม พระอนุรุทธก็ตามจิตท่าน ตอนท่านดับขันธ์แล้ว นี่คือสิ่งที่ต้องตาย มีพวกเราคนหนึ่งชื่อว่า ต้องตาย เป็นไงฟังแล้วคลายขึ้นไหม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 24 วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 18:05:38 )

ตายแล้วจะยังมีสติรู้ตัวไหม

รายละเอียด

คำว่า สติ นั้น ไม่ได้อยู่ในภพ สติต้องเต็มทั้งกาย  วาจา ใจ 

สติ แปลว่า ร้อย มาจากคำว่า ร้อย เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจนิยามของคำว่า สติ คือความรู้รู้ตัวทั่วพร้อม บางทีโบราณาจารย์ท่านก็ใช้คำว่า รู้ตัวทั่วพร้อม ทั่วพร้อม ทั่วทั้งตื่นทั้งในทั้งนอก สัมพันธ์กันหมดเลย ตื่นร่วมกัน คุณฝึกสติดีๆ แล้วคุณจะรู้สึกว่าข้างนอกข้างในมันเหมือนอันเดียวกัน มันรู้ร่วมกัน สติ เป็นธาตุรู้ที่เต็ม 

เพราะฉะนั้น ที่ถามมา เวลาตายไปแล้วจะมีสติรู้ตัวไหม คุณเหลือธาตุรู้อยู่ในภพเดียวคือจิต อีก 5 ทวาร ตา หู จมูก ลิ้น กาย ตายไปแล้วคุณไม่มีใช่ไหม ตอบแค่นี้ก็แล้วกัน ก็คงเข้าใจได้แล้ว ตายไปแล้วจะมีสติรู้ตัวไหม มันไม่มีรู้ตัว จะเรียกว่าสติก็มีติ่งนิดนึง หรือพวกเหลืองแดงส้มเขาเรียกว่า ด้อมสติ เป็นติ่งสติ มีนิดเดียว ไม่เต็มรูปนะ มันก็รู้อยู่ในตัวเองเท่านั้นเอง ตายไปแล้วก็มีอยู่ในภพของตัวเอง ไม่ออกมา คุณตายคุณไม่มี 5 ทวารภายนอก 

อันนี้พยายามอธิบายให้ฟัง โดยพยายามเข้าใจในตอนคุณนอนหลับ นอนหลับเราก็มีแต่สติก็ตาม ความระลึกรู้ตาม มันก็ไปตามในภพของเรา ส่วนมากสัญญาก็เป็นใหญ่ สัญญาเป็นใหญ่กว่าสติ  มันก็จะพาคุณไปของเก่าของใหม่ฟุ้งซ่านไป ตามประสากิเลสนำพาไปด้วย มันเป็นอย่างนั้น ตอนเรานอนหลับ หรือเมื่อคุณตาย คุณก็จะเป็นอย่างนี้ 

แต่ทีนี้ตายมันยิ่งชัดกว่าคุณนอนหลับ เพราะมันตัดขาดจากทวาร 5 เด็ดขาดเลย เพราะฉะนั้นก็ไปเดี่ยวๆ ไม่มีอะไรดึงไว้เลย ดิ่งเลย ทีนี้อะไรที่ไปจัดจ้านทางนรก มันจะนรกหนัก สวรรค์ก็สวรรค์บ้าๆบอๆ งมงาย ไม่นานหรอก สวรรค์มีเหตุปัจจัย ไม่มีเหตุปัจจัย นรกนี่มีแต่จิตของตัวเองโง่ ส่วนสวรรค์นั้นมีเหตุปัจจัยล่อด้วยตา หู จมูกลิ้น กาย สวรรค์ต้องมีตา หู จมูกลิ้น กาย ถ้าไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย มีแต่สวรรค์ที่คิดฟุ้งซ่านตัวเองเดี๋ยวเดียวไม่นานหรอก แต่นรกมันจะนาน คิดอยู่แต่ในตัวเองคนเดียว เพราะฉะนั้นตายไปจึงตกนรกนาน ตกนรกแรง ตกนรกใหญ่ มีแต่เวทนา มีแต่ความรู้สึกเป็นหลัก แล้วก็มีตัวสัญญาจะกำหนดไปตามที่ตัวเองมีเจตนา แล้วเจตนาของตัวเองถ้าอวิชชา คุณคิดดูสิ ถ้าเจตนา คนที่มีวิชชาแล้ว เจตนามันก็ไม่มีปัญหาอะไร มันก็ไม่ทุกข์ไม่เป็นอะไร แต่คนที่ยังอวิชชาไม่หมด ยังไม่เป็นวิชชา เจตนาของคุณเป็นอกุศลเจตนาหรือบาปเจตนา มันก็พาคุณไปทุกข์ทวี โดยไม่รู้ตัว มันหลงผิด 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ผู้จบกิจ 4 ประการเป็นผู้อยู่เหนือกาละได้ วันพุธที่ 25 ตุลาคม 2566 วันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 03:35:28 )

ตายแล้วบางคนตัวแข็งบางคนตัวนิ่มเกิดจากอะไร

รายละเอียด

เป็นเรื่องอธิบายยากอยู่ โดยสามัญสำนึกปฏิภาณสามัญคนรู้ว่าตายคือตาย พอรู้ว่าตาย จิตวิญญาณจะออกจากร่างไป บางทีก็บอกว่ามันต้องตายแล้ว มันจะแข็งก่อนที่จะตาย ส่วนคนที่เรียนรู้จักจิตวิญญาณ รู้ว่าตายก็ตายไม่ตายก็ไม่ตายมันก็เลยไม่แข็ง เป็นแต่เพียงว่าจะสัมมาทิฏฐิหรือไม่ อย่างชาวเทวนิยม ไม่มีสัมมาทิฏฐิ อยู่กับจิตที่ไม่สัมมาทิฏฐิ ตายแล้วก็ไม่ไป ตายแล้วเล็บกับผมก็ยังงอกไม่เน่าก็ยังมี นั่นคือผู้เข้าใจผิด ตายแล้วต้องให้มันเน่าจิตใจก็ไปตามวิบากไม่มาจมยึดถืออยู่อย่างนั้นอย่างพวกอวิชชา ก็คือเป็นพวกที่คิดผิดเป็นพวกสายสมถะตายแล้วไม่เน่า เป็นผู้โง่ทั้งนั้น

ส่วนผู้ที่สัมมาทิฏฐิตายแล้วก็ไม่เน่าก็รู้วาระ ว่า ตอนนี้เราตายก็คือตาย เสร็จแล้วเราก็ค่อยๆออกจากร่าง ไม่ต้องรีบร้อน ดีไม่ดีอยู่กับหมู่มิตรดีก็เลยร่างก็ยังอุ่นอยู่อย่างนั้น แต่เมื่อตายไปแล้วจิตวิญญาณหมดความเป็นจิตนิยามแล้ว แต่ถ้ายังไม่ไปแสดงว่าเป็นพีชะอยู่ร่างไม่เน่าเหมือนพวกใน ไอซียู เขาต่อท่ออาหารให้ ก็อยู่ได้ ก็เท่านั้นเอง ก็เป็นความรู้กับความไม่รู้เท่านั้นเอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ สำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(สัมมาทิฎฐิ 10) ตอน ตายแล้วไปตามวิบากกรรม


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:41:56 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์