@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

คบสัตบุรุษฟังสัทธรรมจึงเกิดปัญญา

รายละเอียด

ยอมรับว่า คนผู้นี้เป็นผู้ปฏิบัติถูกต้องโลกุตระตามธรรมะพระพุทธเจ้าจริงๆ สัมมัคคตา เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามธรรมะพระพุทธเจ้าจริงๆ เป็นผู้บรรลุอาริยธรรมอย่างแท้จริง สัมมาปฏิปัณนา แล้วก็คบหากับสัตบุรุษ สัปปุริสังเสวะ ฟังธรรมท่าน เช่น มาพบอาตมาเห็นว่าอาตมาเป็นสัตบุรุษ ก็เลยเข้ามา มาคบหา มาฟังธรรมอาตมา คุณจึงมีปัญญา จากอัญญธาตุก็มาเป็นปัญญา อัญญาเป็นธาตุรู้ ตัวใหม่ที่เป็นธาตุตัวอื่นแล้วจากที่เคยรู้มา แต่ก่อนก็รู้แบบ เฉโก ไม่ได้เป็นปัญญา แต่เขาแยกไม่ออกก็เอามาใช้แทนกันปนเละไปหมด แต่พวกเราแยกแยะได้ ก็จะไปถือสาเขาไม่ได้ 

เพราะว่าเรามีเชื้อของโลกุตระเกิดขึ้นมาในจิตของเรา ยิ่งได้เรียนรู้จากสัตบุรุษจริงๆก็จะได้เกิดปัญญาครบ ปัญญา 8 ซึ่งปัญญา 8 ก็จะทำความเกิดความดับให้แก่ขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ได้จบหมด คุณจะรู้จักความเกิดความดับของสังขารทั้งหลาย แล้วก็มีอภิสังขาร สามารถดับสังขารทั้งหลายได้ เป็นอุตุนิยามไปเลย อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม จักร 4 คือธรรมะของโลกุตรบุคคล วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2564 ( 12:43:10 )

คบสัตบุรุษให้ดีให้จริงจะเกิดศรัทธา

รายละเอียด

คุณจับเหตุได้ยอดยิ่งแค่นี้ก็สมบูรณ์แล้ว คนจะศรัทธาอะไรต่างๆต้องคบสัตบุรุษให้ดีให้จริง หากไม่ใช่สัตบุรุษจริง ยังไม่สัมมาทิฏฐิ จนหลงเชื่อ พอสัตบุรุษพูด เท่าไหร่เขาก็ไม่เชื่อ เขาว่าต้องคนที่เขายึดถือ คนนี้ยิ่งพูดตรงกันข้ามก็ยิ่งยากมากเลย อาตมาเห็นความจริงอันนี้จึงไม่แปลกเลย อาตมามาประกาศสัจธรรมของพระพุทธเจ้าขึ้นมา บรรดาครูบาอาจารย์ต่างๆจึงรุมทำลายอาตมาเลย น่าสงสาร อาตมาพูดอย่างจริงใจว่าน่าสงสาร น่าเวทนาท่านเหล่านั้น อาตมาต้องการให้ท่านเข้าใจถูก แต่เขาว่าอาตมามาทำลายศาสนา มันเหมือนเด็กจับไฟจนมือด้าน ไม่รู้ว่ามันคือไฟ ไปหลงว่าเป็นของดี อย่างนั้นจริงๆ มหาอภิอวิชชาไม่รู้เรื่องอะไรเลย จิตมันด้านยิ่งกว่าวัตถุ คนที่แย้งอาตมาอยู่ต้องทำความเข้าใจไหมว่าที่อาตมาพูดนี้ถูก พวกคุณพูดผิด ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ยิ่งผู้ถูกยกในฐานะผู้รู้แล้วหากท่านมีอัตตามานะ อาตมาว่าหัวใจท่านจะระเบิดเอานะ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ยอดคนอาภัพที่มีระดับของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:38:04 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:18:28 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 15:00:24 )

คบสัตบุรุษให้บริบูรณ์เป็นไฉน

รายละเอียด

คุณเข้าใจถูก พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าเมื่อได้พบสัตบุรุษ ก็ให้คบหาสัตบุรุษให้บริบูรณ์ หมายความว่าให้คบแล้วคบอีกๆ จนได้ประโยชน์จากสัตบุรุษบริบูรณ์ เต็มเลยให้ได้ ยังไม่เต็มก็ต้องพบอย่าถอย ทีนี้พบแล้วทำอะไร ไม่ใช่ไปพบแล้วก็เฉยๆ แล้วก็หนีไป ไปพบไปคบแล้วก็หนีไม่ใช่ ต้องถามปัญหาต้องถามสิ่งที่อยากรู้ สิ่งที่คิดว่าควรถาม หรือ ขอให้ท่านอธิบายสิ่งที่ควรอธิบาย เราก็จะได้ฟังสัทธรรม จะได้ฟังคำอธิบายดีๆจากสัตบุรุษหรือจากครูผู้อยู่ในฐานะครู หรือเจอพระพุทธเจ้าก็ยิ่งใหญ่เลยล่ะ เข้าไปคบแน่นอน เข้าไปหาแน่นอนแล้วก็ต้องทำอย่างที่ว่านี้ เราก็จะได้รับรู้รับฟังความเป็นสัทธรรมก็เอามา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 28 วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 17:20:07 )

คมเนนะ

รายละเอียด

การไป

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 27


เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 22:19:03 )

เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:41:25 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:14:45 )

ครบรอบ 53 ปีโพธิกิจ บทกวีโดย อโศก สัมปวังโก

รายละเอียด

ในยุคกึ่ง พุทธกัป อัปมรรคผล 

พุทธชน ช่างออก นอกวิถี 

หมู่มิจฉา อาสัตย์ อลัชชี

เดียรถีย์ อาธรรม นำสังคม 

สิ้นสามัญ- ญผล ทางพ้นทุกข์  

ซ้ำหลงสุข ลวงไซร้ ใฝ่เสพสม

ฌานโลกีย์ ลวงจิต ให้ติดจม

ทุนนิยม ครอบงำ สัมปทาน

จึงนั่งคู้- บัลลังก์ คลั่งดับจิต

จึงเสพติด ภวังค์ ช่างวิตถาร

จึงคลั่งบ้า อาถรรพ์ อันธการ

จนเป็นมาร ศาสนา ค้าเครื่องราง

อันว่าทาน การให้ ก็ไร้ผล

ศีลก็ปน จารีต สิ่งกีดขวาง

ภาวนา วิปริต ผิดแนวทาง          

บุญต้องสร้าง ด้วยทรัพย์ ช่างอับปรีย์

คฤธรราช อาจอง ทรงวิภพ กู้ขนบ ชินวร ย้อนวิถี

จรณะ สิบห้า พาให้มี สังคมศรี อาริยะ ธรรมบาล

ห้าสิบสาม ปีผ่าน สู้งานหนัก กอบกู้ศักดิ์ ศรีศาสน์ อย่างอาจหาญ

สร้างคนจน จริงใจ ใฝ่ศีลทาน เพื่อสืบสาน สัทธรรม นำสู่ไท

เสกขชน พลรบ ขอนบน้อม  พ่อผู้ยอม ยังชนม์ พ้นเลยขัย

อิทธิบาท จงช่วย อำนวยชัย โรคาไซร้ อย่ามี ชั่วชีวัน

โพธิกิจ เกริกไกล ไปทั่วหล้า ชาวประชา มาจนพ้นโมหันธ?

 

 

ที่มา ที่ไป

ครบรอบ 53 ปี โพธิกิจ พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 แรม 6 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2567 ( 15:59:24 )

ครบวิญญาณ

รายละเอียด

วิญญาณฐิติหมายความว่า ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิที่ปฏิบัติธรรม ต้องมีวิญญาณตั้งอยู่ในขณะปฏิบัติธรรม ฐิติ แปลว่าตั้งอยู่ ตั้งอยู่ก็คือวิญญาณจะต้องมีทางตา หู จมูก ลิ้น  กาย ภายนอก 5ทวาร สัมผัสภายนอกอยู่ มีกาย มีคำว่า กาย 

กายต้องมีภายนอกภายในเสมอ ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ จึงเรียกว่า ครบวิญญาณตั้งอยู่ ตาเห็นรูป ตากระทบรูปข้างนอกเห็นอยู่แล้วก็มีทั้งรูปภายนอกภายในในขณะปัจจุบันเลย ข้างนอกเห็นอยู่แล้วก็มีทั้งรูปภายนอกภายในในขณะปัจจุบันเลย ใจเราก็ได้รับรู้ภาพนั้นอย่างนี้ ครบวิญญาณ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่น งานตลาดอาริยะ 2566 วันศุกร์ที่ 14 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 15:57:19 )

ครรภ์

รายละเอียด

คือ ห้อง คือห้องมดลูกที่ท้อง หรือที่จะทำให้ชีวิตเกิด มีสัตว์ที่อาศัยมดลูกหรืออาศัยไข่ หรืออาศ้ยการแตกตัว หรือที่สุดสัตว์โอปปาติกะ สัตว์โอปปาติกะคือ วิญญาณที่หยั่งลงสู่ครรภ์ วิญญาณหยั่งลงของสัตว์โอปปาติกะคือธาตุรู้ คือนามธรรมของจิตเจตสิก อันนี้เข้าใจไม่ง่ายเลย มักจะนึกไปถึงตัวคนตัวสัตว์ จะมีวิญญาณเข้าไปจุติเป็นลูกของใครก็แล้วแต่ มันก็ไม่ผิด แต่ศึกษาแบบนั้นก็ธรรมดา ไปแก้ไขอะไรไม่ได้ เมื่อมีเชื้อกับไข่ไม่ผสมกันไม่สมสู่กันมันก็ไม่เกิดแล้ว แต่วิญญาณหรือธาตุรู้ อันนี้แหละต้องแยกอย่าให้สังขารอย่าให้ปรุงแต่ง ซึ่งเป็นความสามารถอันลึกซึ้งยิ่งใหญ่

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช เวทนาดอกเดียวปลิดวิญญาณ ตอน 1 วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 01 กุมภาพันธ์ 2563 ( 12:49:21 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:20:41 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:15:30 )

ครรลองโลกุตระต้องมีสัมมาทิฏฐิเป็นเบื้องต้น

รายละเอียด

ที่พูดวนๆ มา หมายความว่าอย่างนี้ ถ้าผู้ที่มีความเข้าใจ ความรู้ ความเห็นเรียกว่าทิฐิ มันเป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นความรู้ความเห็นที่เข้าร่องเข้ารอยเป็นครรลองโลกุตระ โสดาบันก็ต้องเป็นโลกุตระ ผู้ใดมีภูมิธรรมเป็นโลกุตระ โสดาบันที่สัมมาทิฏฐิเป็นโลกุตระจริง มาเห็นผู้ที่มี เช่นเป็นสกิทาคามี อนาคามี เป็นอรหันต์ มันก็จะต้องเข้าใจสิ มันจะต้องสอดคล้องกับที่ตัวเองมีทิฏฐิ ต้นทางแล้ว ก็จะต้องเข้าใจ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 31 วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 21:32:48 )

ครองตัวเป็นโสดได้ตลอดชีวิตด้วยปัญญา

รายละเอียด

พิจารณาให้ดีคุณเป็นผู้ชายต้องมองผู้หญิงให้เป็นถุงขี้ผูกโบว์ มันหลอก หาโบว์ริบบิ้นผูกห่อให้ดูดี แต่ข้างในคือขี้ทั้งนั้น มันเป็นภาระ มีความรักหนึ่งมีความทุกข์หนึ่ง มีความรักร้อยมีความทุกข์ร้อย เรื่องเพศเรื่องคู่ เป็นสัญชาตญาณของสัตว์โลก พระพุทธเจ้านั้นเป็นผู้ที่สอนสิ่งที่เหนือโลก แล้วต้องศึกษา เลิกเลยในเรื่องของสัญชาตญาณสัตว์โลกเรื่องคู่แบบสัตว์เดรัจฉานก็มี เรื่องสืบพันธุ์เรื่องผสมพันธุ์ มันมีเป็นธรรมดาสามัญ ธรรมะพระพุทธเจ้านั้นเหนือสามัญเหนือความรู้ทั่วไป ผู้ที่ทำได้ก็ต้องมาคิดให้ได้ ว่าเรายังจะไปมีคู่เมถุน คนคู่ มันก็ยังไม่เหนือโลก เป็นโลกุตระ เหนือสิ่งที่เป็นธรรมชาติของสัตว์โลก ต้องระลึกอย่างนี้ไว้เสมอ เพราะฉะนั้นถ้าเราทำตนให้เรียนรู้กิเลส กิเลสมันเป็นตัวหลอก พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว เห็นจริงว่ากิเลสมันเป็นตัวหลอก เมื่อเราชัดเจนกับกิเลสแล้วไม่ให้กิเลสมันมีอำนาจเหนือเรา ชัดเจน คุณปฏิบัติแล้วจะพูดได้อย่างที่อาตมาพูด คุณก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงเลย กิเลสมันไม่มีจริงเลย เราสามารถฆ่ามันตายหายไปหมดจากจิตได้จริงเลย เชื่อไหม? ได้บ้างหรือยัง เรื่องเมถุนเรื่องคู่ได้(ถามส.ฟ้าไท) อาตมาเชื่อว่าท่านยังไม่อยากอวดดี เพราะว่าเป็นฐานอนาคามี จะมีระริกระรี้ในใจบ้าง รูปราคะอรูปราคะ แต่ข้างนอก หิริโอตตัปปะ ที่จะไปแสดงออก แต่นี่เห็นมีแสดงออกกลางสภา พวกลักเพศ ไม่ใช่เรื่องอะไรเลยที่จะแสดง มันเสื่อมมาก ส.ส.ใส่เสื้อลายใส่หมวกด้วย แล้วเป็นพวกสีม่วงพวกกะเทย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 10:34:02 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:22:22 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:16:38 )

ครอบงำโลก อยู่เหนือโลก เช่นไร

รายละเอียด

คนที่หลุดพ้นออกมาจากโลกคือ มีจิตที่เป็นโลกุตรจิตเป็นอุตระ เมื่อหลุดพ้นแล้วไม่ได้หนีออกไปนะแต่อยู่เหนือ ครอบงำ ครอบงำโลกอยู่เหนือโลกเหล่านั้น เช่นโลกอบาย อบายภูมิ​โลกต่ำสุด เราหลุดพ้นออกมาได้แล้วเราก็อยู่เหนือ มันอยู่ในโลกนี้แหละ ทุกวันนี้ในโลกอบายมุขหยาบคายในโลกต่ำๆลงเรื่อยๆในโลก มันใกล้กลียุค คนในโลกนี้มันต่ำลงต่ำลงต่ำลง มีเมืองไทยนี่คนไทยเจริญขึ้นเป็นลำดับ นอกจากคนที่อวิชชา คนที่ชั่ว คนไทยที่ชั่ว ยังเหลือเศษอยู่เท่านั้น เป็นพวกตกยุคความเป็นไท คือความเป็นอิสรเสรีภาพ คนพวกที่ยังนึกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย นึกว่าตัวเองเป็นพวกประชาธิปไตย หลง ไม่เข้าใจคำว่าประชาธิปไตยคืออะไร 

ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นจอมเผด็จการ จอมตัวตน จอมครอบครัวตน จอมพวกของตน พวกไหนฟังเอา ในคนไทยเป็นจริงนะมีพฤติการณ์จริง มีปรากฏการณ์จริงไม่ใช่อาตมาใส่ความ ไม่ใช่พูดจินตนาการ แต่เป็นของจริงมีจริงตัวจริงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ขาด เดี๋ยวนี้เขาก็ยังแสดงนึกว่าตัวเองจะต้องเป็นผู้ชนะ ตัวเองจะยังใหญ่อยู่จะต้องยิ่งใหญ่อยู่ ยังไม่เชื่อว่าตัวเองนี้ ถูกคนไทยรู้ทันแล้วยังไม่เชื่อ ยังหลงว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นอยู่ก็ยังดิ้นรนเป็นเฮือกสุดท้ายหรือเปล่า จริงๆไม่ได้ดิ้นเป็นเฮือกสุดท้ายหรอก มันขาดเฮือกไปจนกระทั่ง เหมือนคนจมน้ำแล้วสำลักน้ำอยู่เท่านั้นเหลือแต่จะตายเมื่อไหร่เท่านั้นไม่รู้ ยังไม่รู้ตัว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 3  วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2566 ( 20:11:19 )

ครั้งฉลองอายุพ่อครู 60 ปีที่บ้านราชฯ

รายละเอียด

อาตมามาเลือกสร้างที่นี่ (ราชธานีอโศก) เป็นที่ดินของหนึ่งฟ้าไม่กี่สิบไร่ก็มีอยู่ที่นี่ น้ำท่วม ไม่มีราคา ไม่มีใครอยากได้อะไร ให้ใครใครก็ไม่เอา ให้อาตมาก็รับมาตั้งนานหลายปีจน พ.ศ.2537 ตอนนั้นอาตมาอายุ 60 ปีก็เกิดคิดยังไงไม่รู้ ได้มีการฉลองวันเกิด 60 ปีที่บ้านราชฯ ตอนนั้นรกเลอะ มีพื้นที่ไม่กี่ไร่ ชิดน้ำมูล มีผู้มาบุกเบิกเรียกว่าพวก 7 ดาว สร้างโรงเรือนอยู่มารวมกันฉลอง ฝนตกเละ มันเท ที่มันไม่เรียบราบ ใครไม่ลื่นไม่มี ทุกคนมาต้องลื่นเลอะเทอะ สนุกจริงๆโดยไม่คาดฝัน มันเปื้อนก็เปื้อน ขี้โคลนก็แฉะเดินไปเดินมาก็ลื่น

จากนั้นก็ขึ้นมาจากฝั่งมูลมาหน่อย ประมาณ 700 เมตร แล้วเรามาบุกเบิกสร้างที่ทางซึ่งถมดินไปเยอะมาก ร้อยล้านนั้นถึงแน่ ขุดไปขุดมาค่าแรงค่าดินด้วย จนอยู่ได้ ทำพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ มีสวนหลายสวนมากเลย ยังไม่ถึง 30 ปี 20 กว่าปี 

( พ่อครูยกหัวกะหล่ำปลีใหญ่ให้ดู)นี่คือผลผลิตที่บ้านราช 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 32 ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาที่มีอยู่ประจำโลก วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2565 ( 13:28:55 )

ครั้งนี้เป็นงานอโศกรำลึกครั้งที่ 39 สามคือ รอบสามเส้า 9 คือสามเส้า สามเส้า สามเส้า

รายละเอียด

ครั้งนี้เป็นงานอโศกรำลึกครั้งที่ 39 สามคือ รอบสามเส้า 9 คือสามเส้า สามเส้า สามเส้า ทุกอย่างก็มีหลายๆอย่างที่เป็นรูปกับนาม ที่มันลงตัวกัน อาตมาใช้สิ่งเหล่านี้เป็น guide นำทาง ซึ่งใช้ได้ อย่างพระพุทธเจ้าสมณโคดมทรงพระนามว่าสิทธัตถะ พระองค์ก็ต้องอุบัติขึ้นมา อย่างไรอย่างไรท่านก็จะต้องทรงพระนามว่าสิทธัตถะ แล้วไม่มีอื่นด้วยนามเดียว หนึ่งเดียว โพธิรักษ์ชาตินี้เกิดมาหลายนาม มีทั้งสไมย์ มงคล รัก โพธิรักษ์อะไรอย่างนี้ยังไม่ลงร่องลงรอยทีเดียว แต่ทุกคำมีความหมาย มีลักษณะที่อาตมาใช้ทั้งรูปทั้งนาม ทั้งชื่อพยัญชนะบัญญัติและนาม ใช้พิจารณาเป็นเครื่องหมายในการทำงานไป เป็นเรื่องลอกเลียนกันไม่ได้ ถึงเวลาจะมีปฏิภาณรู้ในแต่ละคนเอง หากพาให้เสื่อมเสียทำลายก็ยิ่งบาปซ้ำซ้อนได้ด้วย

ที่มา ที่ไป

พิธีบูชาพระสารีริกธาตุ วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 10:42:26 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:41:55 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:17:40 )

ครั้งแรกที่มีหลักวิชาการตรวจสอบโสดาบันในตนเอง

รายละเอียด

พวกเราที่มั่นใจในเรื่องของธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามที่เราได้พากเพียร อาตมามั่นใจว่าอาตมาได้ ถ้าทำปฏิบัติกัน ก็ให้มาพิสูจน์จนทำให้เป็นหลักวิชาตรวจสอบ ก็มีเป็นครั้งแรก ช่วยกันทำเริ่มต้นทำโสดาบันตรวจสอบตัวเอง อ่านรูป-นาม อ่านกาย อ่านจิตของตัวเองออก แล้วก็ทำให้สำเร็จมาได้ คนอื่นล่วงรู้ด้วยไม่ได้เป็นนามธรรม เป็นปัจจัตตัง ก็สามารถรู้อาการ ลิงค นิมิตที่เราจะเรียกด้วยพยัญชนะภาษา โดยบัญญัติอาการอย่างนี้ เรียกว่าเวทนาอาการอย่างนี้เรียกว่าสัญญา อาการอย่างนี้เรียกสังขาร อาการอย่างนี้เรียกว่าวิญญาณ เป็นต้น หรือแม้แต่คำอื่นๆในรูป 28 และนามธรรม อีกเยอะแยะ จนกระทั่งถึงจิตเจตสิกต่างๆ เจตสิก 52  จิต 89 จิต 121 อย่างที่พระอภิธรรมเขาเรียน อาตมาก็ไม่ได้เรียนกับเขาแต่อาตมาก็ขยายมาเรื่อยๆ

ซึ่งอาตมาว่าพวกเราเป็นชาวพุทธที่ปฏิบัติได้จริง ก็พยายามยืนยันกัน พยายามทำแบบวิชาการทางโลก ก็เริ่มต้นทำกันมาตรวจสอบ สำหรับผู้แสวงหาความจริงโดยไม่โกง ทำอย่างตรงจริงๆ พยายามทดสอบทางวิชาการตามที่เราสามารถ ใช้หลักเกณฑ์ตามหลัก วิทยาศาสตร์ทางโลกได้ เราก็พยายามทำกัน

ก็ต้องขอบคุณพวกเราหลายคน ที่ช่วยกันร่วมไม้ร่วมมือกันทำเครื่องมือขึ้นมานี้ อาตมามั่นใจว่าใช้ได้ ได้ผลถ้าเราสามารถทำได้สูงสุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ จะถูกปรับปรุงจัดสรรให้เป็นเครื่องมือทดสอบที่ดีที่สุด ให้จิตใจไม่มีความผิดเพี้ยน ให้ตรงให้ได้ไม่โกง น่าจะมาได้ประกาศไปว่าโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าเกิดแล้ว ตั้งหลักอยู่ที่ราชธานีอโศก อยู่ตำบลบุ่งไหม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 37 วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2561 


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:24:37 )

คริสต์มาสอีฟ

รายละเอียด

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเป็นประธานในพิธีมิสซา ขอบพระคุณในคืนคริสต์มาสอีฟ ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกันเมื่อวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม เป็นวันฉลองคริสต์มาสครั้งที่ 8 ตั้งแต่พระองค์รับตำแหน่งผู้นำพระศาสนจักรคาทอลิก ปัจจุบันพระองค์ก็มีวัย 82 พรรษา ในบทเทศน์และระหว่างพิธีมิสซา พระสันตะปาปาฟรานซิสชาวอาร์เจนตินา กล่าว ประณามการแบ่งแยกอย่างใหญ่ระหว่างโลกที่ร่ำรวยกับโลกที่ยากจน ระบุว่าพระเยซูคริสต์ทรงเกิดมาอย่างยากจนในถ้ำเลี้ยงสัตว์ เรื่องนี้น่าจะทำให้ทุกคนได้กลับมาไตร่ตรองความหมายของสิ่งที่ควรทำ พระองค์กล่าวในบทเทศน์ว่า การบังเกิดของพระเยซูคริสต์ที่เราเหล่าคริสชน ร่วมรำลึกถึงในคืนนี้ ชี้ให้เราเห็นวิถีชีวิตใหม่ของเรา ไม่ใช่ชีวิตใหม่ที่ใช้ชีวิตอย่างสิ้นเปลืองและมัวแต่เก็บสะสมวัตถุสิ่งของต่างๆ แต่ต้องเป็นชีวิตที่แบ่งปันเพื่อให้ผู้อื่น และเป็นผู้ให้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 19:08:10 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:23:51 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:18:30 )

ครึ่งกัปของศาสนาพุทธคนเสื่อมจากโลกุตระแม้ยากก็ต้องประกาศ

รายละเอียด

ยุคพระพุทธเจ้ามีอริยะบุคคลที่มีบารมี ฟังธรรมะพระพุทธเจ้าก็เข้าใจ ล้างกิเลสได้ง่าย ยุคนี้ ห่างจากนั้นมา 2500 กว่าปี ครึ่งกัปของศาสนาพระพุทธเจ้าคนได้เสื่อมลงรับโลกุตระไม่ได้ ก็รู้ได้ยาก จะยากอย่างไรก็ต้องเอามาประกาศ เอามาแสดงสาธยาย มาปลูกฝังให้คนได้ฟังได้รับรู้ได้เข้าใจได้เอาไปปฏิบัติ ได้มีเชื้อมีสาระสัจจะของพระพุทธเจ้า ศาสนาของพุทธเจ้าให้คงอยู่ต่อไปให้ได้ เอามาในยุคนี้ซึ่งแทบจะหมดหวังแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 07:41:51 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:25:09 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:19:14 )

ครุกรณะ

รายละเอียด

ครุกรณะ (การเคารพกัน) คือ การรู้จักการเคารพกัน โดยวัย โดยสมมุติ หน้าที่การงาน คุณธรรม ความสามารถ  เคารพกันอย่างมีปัญญา

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

อีคิวโลกุตระ หน้า 102 , วิถีพุทธ หน้า 10


เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 22:19:45 )

เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:42:01 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:20:05 )

ครุกรณะ

รายละเอียด

ความเคารพกัน

ที่มา ที่ไป

รวมศัพท์อโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 10:23:44 )

ครุกรณะ

รายละเอียด

มีครุกรณะ รู้จักฐานะของคน ผู้ที่น่าเคารพ ผู้ใดที่น่าเคารพก็เคารพ มีคุณวุฒิมีฐานะ มีวัยวุฒิก็แล้วแต่ เคารพด้วยวัยวุฒิ เคารพด้วยคุณวุฒิ เคารพด้วยฐานะสมมุติอะไร เราก็เข้าใจ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญาโลกุตระ วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 8 ค่ำ วันพระน้อย เดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 11:36:39 )

ครู , ครุ , คุรุ

รายละเอียด

1, หนัก , อาจารย์ ผู้มีความประพฤตินั่นโดยแท้จริงในตนแล้ว

2. ผู้ควรคารวะ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 310 , 385

 


เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 22:20:46 )

เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:42:37 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:20:33 )

ครู , ครุ , คุรุ

รายละเอียด

1. หนัก , อาจารย์ ผู้มีความประพฤตินั่นโดยแท้จริงในตนแล้ว

2. ผู้ควรคารวะ

ที่มา ที่ไป

รวมศัพท์อโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 11:05:58 )

ครูตีเด็กจะบาปไหม คนเหลาไม้เรียวรับวิบากด้วยไหม

รายละเอียด

คนทำไม้เรียวมาตีคงไม่โหดร้าย หากโหดร้ายก็ไม่ทำอย่างนั้นก็เอาไม้ที่ไหนได้ก็ตีเลย หากเขาเหลาไม้มาก็คงปรารถนาดีที่จะตีให้เกิดความดีขึ้น 

แต่ถ้าตีด้วยความโกรธก็จะเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ได้เรื่อง หากโกรธแล้วจะตี ก็รู้ให้ทันความโกรธทำความโกรธให้หาย ใจเย็นเสียก่อน แล้วค่อยคิดจะตี 

ยิ่งคิดจะตีก็ต้องพูดให้รู้เรื่องว่าอย่าโกรธกันนะ ตีเพราะเหตุอะไร เหมือนกับคนที่ได้รับการตัดสินให้จำคุกก็ต้องให้เข็ดหลาบ อันนี้ก็ตีให้เข็ดหลาบ พูดให้มีเหตุมีผลพวกนี้ เราจะเป็นคนที่มีเหตุมีผล ทำอะไรมีหลักฐานมีกฎเกณฑ์ ที่นี่นี่อาตมาถึงบอกว่าครู หากเด็กคนไหนต้องทำโทษถึงตี ที่นี่ให้ตีเด็กได้ แต่ถ้าครูเป็นคู่กรณีกับเด็กก็อย่าให้ตีเด็ก ให้คนอื่นตีแทน มันจะเป็นกฎเกณฑ์ที่ดีมากเลย แล้วกิเลสคุณก็ไม่เพิ่มด้วย ใครมาว่าไม่ได้ด้วย จะบอกว่าโรงเรียนไม่ให้ตีไม่ได้ ต้องมีตี แต่ตีต้องมีเหตุผลหลักเกณฑ์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ สำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 36

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 ที่บวรราชธานือโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 11:23:59 )

ครูที่มีโลกุตรธรรมในตนทำให้เกิดปัญญา

รายละเอียด

ปัญญาข้อที่ 1 คุณจะได้ต้องได้จากพระศาสดาหรือจากครูที่มีโลกุตรธรรมในตน เป็นปัจเจก หรือสยังอภิญญา ตั้งแต่ปัจจัตตัง ปัจเจก สยังอภิญญา ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะนับไปที่พระโพธิสัตว์ระดับ 9 ขั้นที่ 8 ก็ยังไม่เรียกว่าปัจเจก ขั้นที่ 9 เป็นปัจเจก จนสูงสุดเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ที่มีพระสัพพัญญูเท่ากับพระพุทธเจ้า แต่ท่านได้ชื่อว่าปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านมีสัพพัญญูเท่ากับพระพุทธเจ้า แต่ท่านไม่ได้ประกาศศาสนาขึ้นมาในโลก ท่านปรินิพพานเป็นปริโยสานไปเดี่ยวเลย เพราะว่ามีเหตุปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ ทั้งวิบากทั้งการตัดสินใจของท่าน ท่านไม่ได้ประกาศศาสนาคนก็ไม่ได้เข้าใจว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง มันก็ปรินิพพานเป็นปริโยสาน คนไม่รู้นึกว่าพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นสอนคนไม่เป็นสอนคนไม่ได้ ถ้าถึงแล้วตั้งแต่พระโสดาบันก็ยังสอนกันแล้ว สอนกันเละก็มี พวกโซดาแบน สอนกันแจ้วๆ ระวังเถอะอย่าอวดดีอย่าหลงตัวเองมากเกินไป ให้เรามีแน่จริงมากพอถึงค่อยแสดง แค่ข้อที่ 1 ปัญญาจะได้คิดดูสิว่ามีเงื่อนไขขนาดไหน สรุปอีกที ปัญญาไม่ใช่ความรู้โลกีย์ แต่เป็นความรู้โลกุตระ แม้จะฉลาดขนาดไหนเป็นถึงศาสดาของเทวนิยม ก็ยังไม่ใช่ผู้มีปัญญา อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์ระดับ 7 ปัญญาข้อที่ 1 จึงเป็นเรื่องที่คนเขาไม่เชื่อ อย่างอาตมาบอกว่าอาตมาเป็นสยังอภิญญา เป็นระดับ 7 เลยระดับ 5  6 มาแล้ว ถ้าระดับ 4 เป็นอรหันต์ ระดับ 5 อนุโพธิสัตว์ เริ่มต้นไม่ยอมปรินิพพานเป็นปริโยสาน ระดับ 6 อนิยตโพธิสัตว์ยังไม่เที่ยงแท้ที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้า สอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยที่จะเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้ เอ็นสะท้านเลย ยังไม่ได้นิยตะ แต่ผู้สอบผ่านได้แล้วเป็นนิยตโพธิสัตว์ ภาษาเรียกว่าเที่ยง แต่อาจจะไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า ยังไม่ใช่มหาโพธิสัตว์ยังไม่ใช่ปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ ขนาดปัจเจกสัมมาสัมพุทธะที่ท่านไม่ประกาศศาสนาก็ยังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช ศิลปะในการใช้ชีวิตให้เกิดปัญญามัชฌิมา  วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 17:32:13 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:27:23 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:22:20 )

ครูผู้ยิ่งใหญ่

รายละเอียด

คำว่า “ยิ่งใหญ่” นี่มันเป็นสัจจะที่ภาษาไทยคำว่า “ยิ่ง”  คำว่า   “ใหญ่” ก็เข้าใจกัน มันมาเป็นภาษาไทย ยิ่งยอด ยิ่งใหญ่ มันยิ่งๆ ขึ้นไป มันไม่มีที่จำกัด ยิ่งเรื่องอะไรเรื่องใหญ่ ใหญ่เรื่องอะไร อาตมาไม่ใหญ่ในเรื่องอะไรเลย เกิดมาในชาตินี้นี่เล็กเป็นธุลีผง ให้คนเหยียบย่ำด้วยซ้ำ 

ยิ่งใหญ่ยิ่งเล็ก ยิ่งเล็กยิ่งใหญ่ อันนี้ก็เป็นภาษา เป็นภาษาที่ใช้กับคนที่มีความเข้าใจซึ่งกันและกันว่า มันหมายถึงอะไร และมันหมายถึงสัจจะ ที่เราพูดกันนี่ก็ต้องหมายถึงคุณธรรม หรือเป็นธรรมะ 

เป็นธรรมะและบอกว่าเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ในวันนี้ อาตมาเป็นครู เป็นผู้ที่สอน เป็นผู้ให้ความรู้อันนี้ นี่เป็นสัจจะจริงอาตมาให้ความรู้อันนี้และความรู้ที่อาตมาให้นี้ มันเป็นโลกุตรธรรม ที่กล่าวในนี้หมด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูบวชมาครบ 53 ปี มีอะไรจริง พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 04:26:26 )

ครูอาริยะในระดับที่เป็นเองคือสัตบุรุษ

รายละเอียด

ครูที่เป็นอาริยะจริงๆ ยิ่งเป็นครูในระดับที่เป็นเอง เป็นสัตบุรุษ เป็นคนที่มี สัตตะ มีหลัก 7 อันนี้ก็เป็นอจินไตย เป็นตัวเลข ตัวที่ออกจากโลก 2 โลกของ 6 แล้วไปเป็นตัวที่ 7 ซึ่งจะไปสู่โลกอีกโลกหนึ่งจะเป็นโลกที่ 3 จะเป็น 3 3 3 คือ 9 ซึ่งถือว่าสูงสุด ถ้าเลย 9 จะไปเป็น 0 แล้วก็ถือว่าเกินปัญญา เกินปัญหา ถ้าเลย 9 ไปแล้วจะไปซักอะไรต่อ อธิบาย0 หน่อยสิ ก็บอกว่าเธอถามเกินปัญหาไปแล้ว จะรู้โดยปริยาย ผู้ที่ถึงฐานะ  0 เอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 1 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 10:34:06 )

คฤธรราช อาจอง ทรงวิภพ

รายละเอียด

_คฤธรราช อาจอง ทรงวิภพ กู้ขนบ ชินวร ย้อนวิถี

จรณะ สิบห้า พาให้มี สังคมศรี อาริยะ ธรรมบาล

“คฤธรราช อาจอง ทรงวิภพ” คฤธร(อ่าน คะ-รึด-ทอน) หรือ คะ-รึด-ทะ-ระ  อ่านอย่างบาลี คฤธรแปลว่าแร้ง คฤธราชแปลว่าพญาแร้ง ก็เป็นตัวแทนอาตมา อาตมาใช้แร้งเป็นสัญลักษณ์ อาจอง ทรงวิภพ หมายถึงตัวอาตมา คืออาตมาไม่มีภพชาติแล้ว อาตมาวิภพแล้ว ทรงไว้ซึ่งความวิภพ 

“กู้ขนบ ชินวร ย้อนวิถี” กลับมากอบกู้ธรรมะพระพุทธเจ้า ชินวรแล้วมันก็ย้อนวิถีปฏิบัติของชาวพุทธส่วนใหญ่ทุกวันนี้ที่ปฏิบัติผิดไป 

“จรณะ สิบห้า พาให้มี”เอาจรณะ 15 มา ให้มันมีจรณะ 15 กัน 

สังคมศรี อาริยะ ธรรมบาล” ก็เป็นสังคมของพระศรีอาริยะ เอาธรรมะมาอภิบาล มาบริหารปกครองดูแลอุ้มชู 

ที่มา ที่ไป

ครบรอบ 53 ปี โพธิกิจ พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 แรม 6 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2567 ( 16:44:10 )

คฤหัสถ์เป็นคนจน

รายละเอียด

คฤหัสถ์เป็นคนจน  คือ พระพุทธเจ้าเคยสอนให้คฤหัสถ์เป็นคนจน อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นเศรษฐีมาก่อนแล้วมาเจอพระพุทธเจ้าก็จึงมาเป็นคนจน  แม้แต่นางวิสาขาก็เป็นคนรวย ก็พยายามทำทานสละออก แต่มันไม่หมด คนสมัยโบราณ สมัยโน้น เขารวยจริงๆ ทำทานยังไงก็ไม่หมด พยายามแกล้งทำทาน เอามหาลดาปสาธน์ เอาชุดเพชร ชุดทองที่อลังการ แกล้งเอามาห้อยในวัด พระอานนท์จับแล้วก็ถือว่าเป็นของท่านก็เลยทำทานไป

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2562 ( 07:54:27 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:28:53 )

คลื่นของมนุษยชาติไทยกำลังตื่นตัวกำลังรู้ตัว

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น คนที่ยังไม่เข้าใจจะเอาอย่าง อยากไปเป็นพรรคพวก ยังไปส่งเสริมกันอยู่นั้น น่าสงสารจริงๆ เลย เมื่อไหร่จะตื่นเมื่อไหร่จะรู้สึกตัว อาตมาก็ยังนับถือคุณจตุพร นี่กำลังหันหลังกลับ เขาใช้ศัพท์เหมือนกันว่าลากไส้ ก็คงพยายาม เขารู้อะไรเยอะเพราะว่าอยู่ด้วยกันมาเยอะใช่ไหม นาน เสร็จแล้วเขาก็เข้าใจแล้วนี่เขาก็ตื่นแล้ว แหม อาตมาก็ยินดี ปรีดากับเขามากเลย จตุพร 

นี่เขาก็เตือนอุ๊งอิ๊ง แฉไปเรื่อยๆ เอาเลยจตุพร ไม่ต้องกลัวหรอก ระวังมันเกินขอบเขตของกฎหมายนิดหน่อยเท่านั้นเอง ถ้าผิดกฎหมายแล้วประเดี๋ยวเขาฟ้องเข้าคุกแล้วมันไม่ดี ระมัดระวัง แต่เขาฉลาดพอ จตุพรก็ฉลาดพอ พลาดไปเข้าคุกก็หลายทีแล้วก็ต้องรู้กันบ้าง พยายามใช้

ก็มีคนในโลก คนในสังคมมนุษยชาติอย่างประเทศไทยก็มีอย่างนี้แหละ นี่เขาบอกว่า พท.เพื่อไท ได้แต่ขายฝัน จตุพรซัดอุ๊งอิ๊งสอบตกภาวะผู้นำ นี่เขาให้คะแนนเลยก็เป็นอาจารย์ที่สอบ ข้อสอบหรือข้อปฏิบัติของอุ๊งอิ๊งเขาก็ให้คะแนนอยู่ว่าสอบตกภาวะผู้นำ อาตมาที่หัวเราะไม่ได้เยาะเย้ยเยาะหยันหรอก แต่มันขำ เขาเองเขามาด้วยกัน ไปด้วยกันแต่ไม่ใช่เลือดสุพรรณด้วยกัน มาแตกคอ นี่แหละก็ดีตื่นรู้ซะ ว่าไปอุ้มชูกันไปด้วยกันมาด้วยกันได้อย่างไร 

เดี๋ยวนี้ฝ่ายแดงโอ้โห..จะเห็นได้ฝ่ายแดง ฝ่ายเพื่อไทย ฝ่ายทักษิณนั่นแหละ กำลังกลับลำ กำลังรู้ตัวอะไรต่ออะไร นี่คือการแสดงออก คลื่นของสังคมไทย คลื่นของมนุษยชาติไทย กำลังตื่นตัวกำลังรู้ตัว ทักษิณเอ้ย
อุ๊งอิ๊งเอ๊ย อาตมาไม่ต้องไปเชียร์หรอก รทสช.อะไร ไม่ต้องไปเชียร์ พวกเราตื่นกันแล้ว คนไทยตื่นกันแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงมากเลย 

นี่ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง เขาพยายามประโคมกัน ด้วยการจูงนำ เรียกว่าสร้างกระแส สร้างอุปาทานให้คนหลงว่าจะแลนสไลด์ในการเลือกตั้ง เพื่อไทยจะได้สส. มาเยอะแยะ โปรดติดตาม อย่ากระพริบตา โพล รทสช. ไม่ได้คะแนนเท่าไหร่เลย มีแต่เพื่อไทยนำโด่งเลย ตามมาก็ภูมิใจไทย อะไรอย่างนี้ ก็ดูวันจริง ยังไม่กำหนดวัน ยังไม่ยุบสภา

เขามีเกณฑ์มีขีดกำหนดอยู่ ทำความเข้าใจความเฉลียวฉลาดก็ทำตามที่ควรกัน ก็ว่าไป นี่มีภาพ candidate นายก อุ๊งอิ๊ง ประยุทธ์ อนุทิน พิธา จุรินทร์ พลเอกป้อมอีก 6 คน 

เขายังมีกล่าวถึงบ้าง แต่ก็คัดมาประมาณนี้ โอ้โห..เมืองไทยมีคน ฉันจะเป็นนายกกันเยอะดีนะ เจริญกันจริงๆประชาธิปไตยนี่ มันแสดงถึงความเจริญนะ แม้จะมีแคนดิเดตนายกฯกันขนาดนี้ เมืองไทยมีตั้ง 6 คน สลอนอยู่ตอนนี้ที่เป็นที่รู้มีบทบาทมีเวลาประพฤติกันอยู่ในประเทศไทย มันแสดงถึงความเจริญประชาธิปไตยจริงๆ ประเทศไหนเขาจะยังไม่ได้เท่าหรอก เขาจะมี 2 พรรคใหญ่ๆ ประเทศไหนก็จะมี 2 คน 3 คน เมืองไทยไม่ได้เบ่งข่มใคร ไม่ได้มีอะไร ใครก็มีสิทธิ์ แล้วก็นับได้ เอาเลยใครจะสามารถแสดงออกได้ขนาดไหน ใครจะจับสถิติ มีพรรคมีพวกทำสถิติมา ก็ว่ากันไปเรื่อยๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 12 สัจจะยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติที่เรียกว่าการเมือง วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 17:12:35 )

คลื่นของเกมการเมืองกำลังวิวัฒน์พัฒนา

รายละเอียด

ฝีมือไง ฝีมือในการยกขึ้นมา ทักษิณเขาใช้วิธีการทักษิโนมิกซ์ของทักษิณ จนกระทั่งยกให้ ด้วยวิธีการของด็อกเตอร์ทางอาชญวิทยา วิธีการของเขาเขาทำได้ไง 

เพราะฉะนั้นก็ดูว่าประชาชนคนไทยจะมีดวงตา อะไรแค่ไหน อาตมาว่า คนไทยเห็นไหมเมื่อกี้ก็พูดผ่านไปแล้ว ตื่นตัวกันเท่าไหร่แล้วล่ะ ในผู้ที่อยู่ในเนื้อเลยเล่นเกมกันอยู่เป็นผู้ที่อยู่ในกระดาน พวกนักการเมืองไปอยู่ในกระดานด้วยเลยกระดานหมากรุก ต่างโอ้โห.. เปลี่ยนค่ายเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนทางกันมา ในรายละเอียดต่างๆ พวกนี้ ผู้ที่มีภูมิธรรมธรรมดาๆ ไม่ต้องเอาลึกซึ้งอะไรหรอก จะมองออกได้เห็นชัดเจนว่า มันมีการเปลี่ยนแปลงคลื่นของเกมการเมือง ในประเทศไทยขณะนี้ มันสนุก มันกำลังเปลี่ยนแปลง มันกำลังวิวัฒน์พัฒนา มันกำลังเข้าเขตเจริญๆเห็นได้อย่างชัดเจน 

มันเป็นเรื่องจริงนะ มันเป็นเรื่องจริงของความจริงประเทศไทย อาตมายิ่งเห็น ว่า เออนะ.. ประเทศอื่นเขาก็มีเกมการเมืองของเขา เท่าที่อาตมามีภูมิรู้จากข่าวสารบ้านเมืองนี่แหละ อาตมาไม่ได้ไปประเทศนั้นประเทศนี้ แต่ก็รู้ข่าวสารเพราะข่าวสารทุกวันนี้มัน globalization มันไม่มีอะไรปกปิดหรอก มันเปิดเผยกันละเอียดลออหมด แง่นั้นประเด็นนี้เพราะฉะนั้นติดตามได้ 

อาตมาจริงๆแล้วก็ไม่ได้เป็นคนที่จะไปติดตามอย่างกระชั้นชิด แค่นี้อาตมาก็ว่าอาตมารวบรวมพอได้ มาพูดกับสังคมเขาได้ ไม่ได้น้อยหน้าหรือด้อยอะไรเกินไปเท่าไหร่หรอก ก็พอคุยกับเขา คุยกับชาวโลกเขาได้ จะเป็นเรื่องการเมืองอะไรต่ออะไรพวกนี้ก็เถอะ 

ที่มา ที่ไป

สัจจะยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติที่เรียกว่าการเมือง รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 12 วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 17:17:05 )

คลื่นตัวปลายหรือหางคลื่นของการต้านประชาธิปไตย

รายละเอียด

นี่ก็ยกตัวอย่างในประเทศไทย ขัดแย้งกันอย่างไม่มีเลือดตกยางออก ทำมากันดุเดือดไม่ใช่เล่น ประชาชนเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสน จะถึงแสนมั้ยเอ่ย ยังไม่ถึงแสน แต่ประชาชนที่เราเคยไปร่วมกันชุมนุมนั้นมีหลายล้านคนเลยในยุคนั้น อันนี้กะปริดกะปรอยไม่ถึงแสน มันเป็นจะเรียกว่า คลื่นตัวปลาย คลื่นที่ใหญ่แล้วก็มีคลื่นตัวปลายที่จะไปถึงฝั่ง มันเป็นหางคลื่น ที่มันเหลืออยู่ เป็นหางคลื่นของการต้านประชาธิปไตยเท่านั้นแหละ มันเป็นธรรมดาธรรมชาติ ถ้าทะเลไม่มีคลื่นเลยไม่สวยนะ ไม่สนุกด้วย ทะเลต้องมีคลื่นบ้าง มันถึงจะสวย ถ้าหากทะเลเรียบเลย ทะเลจ๋อย เขาเรียกทะเลถูกสาปแช่ง เรียกสั้นๆว่าทะเลสาป มันไม่เป็นทะเลที่มีชีวิตชีวา ทะเลไม่สวย แต่ถ้ามีสึนามิก็ไม่สวยนะ ไปใหญ่แล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 12:58:57 )

ควบคุมจิตทำจิตให้สร้างสรร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นผู้ที่รู้จักสังขาร รู้จักวิญญาณ รู้จักนามรูปแล้วสามารถแยกแยะ โดยมาเรียนรู้ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ก็รู้เหตุว่า มันอยู่ที่ตัณหาหรืออุปทาน 

ตัณหาคือกิเลสเคลื่อนที่ อุปาทานคือกิเลสจับอยู่กับที่

เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรียนรู้ตัณหาได้ง่ายกว่าที่มันนิ่งไปหลับตาสะกดจิตมันยิ่งรู้ยาก ต้องให้มีผัสสะแล้วให้มันคุ้ยออกมาทีละลำดับ แก้ไขไปทีละขั้น ทีละตอน มันก็หมด เหมือนจับฝุ่นออกจากแก้วมีน้ำ จับฝุ่นให้ได้ถูก จับฝุ่นให้ออก น้ำในแก้วก็ใสจบไม่มีทางขุ่นอีกเลย ตอนนี้ไปกดฝุ่นให้มันกองแน่นอยู่ในก้นแก้ว คือวิธีการนั่งสะกดจิตหลับตาเป็นอย่างนั้น 

สะกดให้ฝุ่นกองอยู่ก้นแก้ว ยิ่งแน่นยิ่งแข็ง เป็นอาฬารดาบส อุทกดาบส ซวยไปอีกไม่รู้กี่ชาติ พระพุทธเจ้าถึงอุทานว่าฉิบหายแล้วหนอ เสียววาบไหม จะไปเป็น อาฬารดาบส อุทกดาบส ไหม นั่นแหละพวกนั่งหลับตาน่าสงสาร ไม่รู้จะทำยังไง 

จนพระพุทธเจ้าท่านอุทานว่าฉิบหายแล้วหนอ อาฬารเอ๋ย อุทกเอ๋ย มันหนักหนาสาหัสอย่างนั้น 

พระพุทธเจ้าถึงให้เรียนรู้ให้มีวิชชา รู้จักรู้แจ้งภาวะ 2 ของนามของรูปที่ปรุงแต่งกันเป็นวิญญาณ รู้จักรู้แจ้งรู้จริงเมื่อจับตัวของมันได้แล้ว จับตัวของจิตที่มันปรุงแต่งกันอยู่ จับมาแล้วก็เอามาคุม ให้มันมาร่วมกันแล้วรู้จักทำประโยชน์ก็คือรู้จักทำอายตนะ 

ตนะคือตัวมัน ในบาลีกับไทยใกล้กัน ตนะ คือตน อายะคือประโยชน์ กำไรหรือส่วนที่ได้ ก็ทำการมาจับตัวอายตนะ มาทำงาน แม้จะแยกยังไม่ออกแต่ถ้าคุณสามารถคุมอายตนะ เมื่อมันมีผัสสะ มีเวทนาแล้วก็สามารถที่จะจัดการ กับอายตนะที่เป็นเหตุปัจจัยร่วมกันอยู่นี้ 

ให้มันทำสิ่งที่สร้างสรรหรือปรุงแต่งขึ้น เป็นกุศล เป็นประโยชน์ นี่เรียกว่าควบคุมจิต ทำจิตให้สร้างสรร ให้จิตเป็นคุณค่าเป็นประโยชน์ อย่าทำโทษตามสมมุติของโลกเขาโลกของสมมุติว่าอย่างนี้ควรทำ ก็ทำ ตามมหาปเทส 4 อันนี้ไม่ควรก็ไม่ต้องทำ หรือตามสัปปุริสธรรม 7 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 20 คนที่ไม่รู้จักกายคือคนพิการ วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 15:05:54 )

ควบคุมจิตแต่ไม่มีปัญญา

รายละเอียด

หากนั่งหลับตาแล้วบอกว่าถอนจากฌาน 4 มาเป็นฌาน 1 จะทำให้คิดอะไรได้มากขึ้น นั่นแหละแสดงถึงความเป็นอุเบกขาที่บื้อ นี่คือการควบคุมจิตแต่ไม่มีปัญญา คุณกดข่มไว้ จะเปิดจะปิดก็อยู่แต่ภายใน ขยายให้มี ฌาน 1 จะค่อยยังชั่วไม่ค่อยถูกกดข่ม แต่ถ้าฌาน 4 กระดิกอะไรไม่ได้เลยเพราะธาตุรู้มันไม่ทำงานก็กดมันไว้มันก็ไม่ทำงาน นั่งทำหลับตามันก็เป็นอย่างนี้ แต่ของปัญญามันไม่ใช่เป็นอย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

รายการบ้านราช เรื่องบุคคล 7 วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 11:39:10 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:38:05 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:22:54 )

ควรจะต้องอยู่กันอย่างเป็นรอง

รายละเอียด

สรุปง่ายๆ ก็คือ อาตมายังเห็นความยังไม่ลงตัว อาตมาเห็นว่าอาตมาเป็นรองและควรจะต้องอยู่กันอย่างเป็นรอง เพราะฉะนั้นผู้จะเป็นรองนี้ ต้องพยายามอุตสาหะ ตามชื่อว่า 53 ปีโพธิกิจทำมาแล้ว เฮ้อ! เหนื่อยน่าดู อายุก็ปูนนี้แล้ว กำลังย่างเข้าเลข 9 แล้ว ยังไม่เต็มอีก 9 เป็น 10 เป็น 90 อายุ 89 ยังไม่ 90 ดี เพิ่งจะ 5 เดือน วันนี้อายุเข้า 89 ปี เพิ่งได้ 5 เดือน เลยมา 2 วัน 

อาตมาพูดตรงๆ บอกตรงๆเลยว่า ยังไม่อยากตาย พากเพียรอยู่ พยายามที่จะต่ออายุขัยเพื่อ 1. พิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่บอกว่า อานนท์ หากตถาคตจะต่ออายุอยู่ให้ถึงกัปป์หรือเลยกัปป์ก็ได้ อานนท์…. แล้วพระพุทธเจ้าก็ปรินิพพานไปตั้งแต่อายุ 80 นี่ก็อ้างอิงธรรมะพระพุทธเจ้า และก็เป็นเรื่องจริง อาตมาก็พิสูจน์อันนี้ ต้องเอาตัวเองมาพิสูจน์ นี่แหละโพธิสัตว์ต้องเอาตัวเองพิสูจน์จริงๆ พิสูจน์จนชัดเจน จนมั่นใจจนกระทั่งมีพลังว่า ทำได้อย่างไม่ยาก ได้โดยไม่ยากได้โดยไม่ลำบากในฌานทั้ง 4 

สำนวน ได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบากในฌานทั้ง 4 ก็เป็นสำนวนของความสำเร็จของผู้ที่สามารถทำ ฌาน คือพลังงาน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนากัณฑ์พิเศษ เริ่ม 53 ปี โพธิกิจ ยังเป็นรองต้องอุตสาหะ วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 18:42:34 )

ควรจะให้เวลาแรงงานทุนรอนแก่สิ่งใด

รายละเอียด

คนที่ฟังธรรมพวกเรา ไม่ว่าอาตมาแสดง ไม่ว่าจะเป็นพวกเรา ไม่ว่าสมณะ สิกขมาตุ แม้แต่ชาวอโศกฆราวาสก็ตาม ฟังแล้วรู้สึกว่ามันเป็นสาระ มีคุณค่าดี เออ อันนี้ก็น่าอนุโมทนา เห็นว่าอันนี้ควรจะให้เวลา แรงงาน ทุนรอน แก่สิ่งเหล่านี้ แทนที่จะเอาเวลาไปฟังเขาร้องเต้นแร้งเต้นกาตีกัน ไม่เข้าเรื่องเข้าราวเหน็ดเหนื่อย แย่งลูกฟุตบอลลูกเดียวกัน 22 คนอยู่ในสนามอย่างนี้เป็นต้น แทนที่จะเสียเวลาอย่างนั้นเอาเวลามาทำอย่างนี้ดีกว่า จะไปดูฟุตบอลชิงแชมป์โลก แต่เอาเวลามาฟังธรรม อาตมาว่า มันส่อ มันบอกถึงคน ที่รู้ว่าอะไรสำคัญอะไรไม่สำคัญที่จะเอาเวลาทุนรอนแรงงานมาให้แก่อะไร อันนี้มันชี้ให้เห็นสาระของมนุษย์ว่า มีปัญญาหรือไม่มีปัญญา อาตมาว่ามีมากนะ คนที่ฟังแล้วยิ่งงง ยิ่งวุ่นยิ่งปวดหัว ก็มี แต่ยิ่งฟังยิ่งเข้าใจนี่ เป็นคนที่มีฐานจิต มีฐานปัญญาที่รับได้ เพราะอาตมาเจตนาให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น เป็นธรรมะลึกซึ้งที่ดีขึ้นหรือขั้นละเอียดลออมากยิ่งขึ้น แต่คุณยิ่งฟังยิ่งเข้าใจมันก็ยิ่งตรง 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2563 ( 10:59:14 )

ควรบรรลุอรหันต์ก่อนแล้วสอนคน 

รายละเอียด

อันนี้พูดไปแล้วอาตมาก็สงสารท่านพุทธโฆษาจารย์ ท่านมหาประยุทธ์ ท่านสนใจเรื่องความรู้หลงไปเรื่องความรู้พยายามเรียบเรียงความรู้ ที่ท่านเห็นว่าอันนี้พระพุทธเจ้าหรือศาสนาพุทธมันเป็นเรื่องปลีกไป แก่นแท้ท่านสรุปไปหมดแล้ว แต่ท่านก็ยังไปเก็บให้หมดอีก ซึ่งมันไม่หมดหรอก ท่านควรจะมาปฏิบัติให้สุดยอดแล้วสอนคน เหมือนอย่างอาตมาสอน บรรลุให้เป็นพระอรหันต์แล้วสอนคน 

เพราะผู้บรรลุอรหันต์แล้วจะไม่ไปยุ่งยากแสวงหาที่จะเรียนรู้ตำราอะไรอีก จะสอนเพราะว่ามีจุดที่บรรลุนิพพานบรรลุอรหันต์แล้ว ผู้ที่ยังติดในพยัญชนะ ยังอยู่ในศาสตร์อื่นใดอยู่ เป็นตำราเป็นบัญญัติอยู่อย่างนั้น ก็ยังหลงอยู่กับไอ้พวกนี้ ถ้าเผื่อว่ารู้แล้วจะไม่ไปเสียเวลา แต่จะใช้บ้าง ไม่มาก 

อย่างอาตมานี่ขออภัย นอกจากพระไตรปิฎกก็ไม่อ่าน อรรถกถาจารย์ใดๆ ก็ไม่อ่านซึ่งไม่ใช่เพราะว่าดูถูกนะ อาตมาเขียนหนังสือก็อ้างอิงจากพระไตรปิฎกทั้งนั้น ยังอ้างอิงไม่หมดเลย แล้วจะไปเอาของย่อยๆ มาอ้างทำไม ไม่ต้องเสียเวลาไปเอามาหรอก มันเป็นเรื่องรองมาก เรื่องตรงของพระพุทธเจ้านั้นมีอยู่แล้ว ลึกซึ้งละเอียดกว่าน่ากลัวมากเลยกินแล้วครับกินจริงๆเลยตรงรายละเอียดลึกซึ้งกว่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:19:06 )

ควรปรารถนาดีต่อกัน 

รายละเอียด

ก็เป็นการวิจัยวิจารณ์กันต่างคนต่างวิจัย ตั้งใจด้วยเมตตาที่จะมองกันด้วยแง่ดี ว่าเขาปรารถนาดี แม้จะมีความร้ายออกมาจากความปรารถนานั้น หรือเรารู้ว่าจิตเราไม่ปรารถนาดีนี้ไม่ดี ถ้าจิตเราไม่ปรารถนาดีมันเสียเลย ไม่ควรจะไม่ปรารถนาดีต่อใคร เป็นคนควรปรารถนาดีต่อแม้ศัตรูคู่อาฆาต ต่อผู้ที่ปรารถนาร้ายต่อเรา เราก็ไม่ควรปรารถนาร้ายต่อกัน ควรปรารถนาดีต่อกัน 

ก็พิจารณาเราดีอะไรเราร้ายอะไร เขาปรารถนาร้ายต่อเรา เราคงมีสิ่งร้ายที่เขาอยากจะท้วงเรา ถึงขั้นว่าเขาแย้งเรา ดีไม่ดีพูดหยาบๆ ว่าเราด้วย มันน่าจะมีเหตุมีผล มันน่าจะมีความจริงหรือไม่ ตรวจสอบเข้าไป มันจะได้ ได้ความจริงที่ลึกซึ้งได้ความจริงที่ละเอียดลออสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ 

เพราะฉะนั้นการท้วง การขัดแย้ง การว่า การตำหนิ พระพุทธเจ้าท่านถึงสรรเสริญ ว่าดีแต่ถ่ายเดียว คำตำหนิเป็นคำกลางๆ คำว่าต่อว่า คำว่าด่าก็รุนแรงขึ้นเท่านั้นเอง มันก็คือการตำหนินั่นแหละ เพราะฉะนั้นศึกษาสิ่งเหล่านี้แล้วเอามาปฏิบัติประพฤติพิสูจน์ ได้ความจริงถึงที่สุดแล้วก็จะรู้ความจริงนั้นอย่างดี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนดีต้องเมตตาคนเลวและต้องไปด้วยกันได้ วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 16:39:10 )

ควรผลิตอาหารให้มากเพื่อกระจายไปให้คนขาดแคลน

รายละเอียด

ถ้ามนุษย์เข้าใจอย่างที่อาตมาพูด ช่วยกันสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารให้เหลือเฟือ ไม่ใช่แค่พอกินเท่านั้น พอกินก็เพียงเลี้ยงตัวเรา แต่ทำให้เหลือเฟือ ให้เหลือมาก ให้เหลือเกินๆ แล้วมีน้ำใจเผื่อแผ่แบ่งจ่าย ไม่ใช่ว่าเรามีอาหารข้าวพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันเป็นของจำเป็นของมนุษย์ก็เอาอันนี้ไปโก่งราคา แล้วเอาเปรียบเอารัดเขามา มันเป็นบาปกินหัว อาตมาถึงไม่พาชาวอโศกไปเอาเปรียบเอารัดใคร สิ่งที่ประเสริฐที่สุดอย่างเช่นพืชพันธุ์ธัญญาหาร ที่เราจะผลิต ควรจะผลิตให้มากให้เกิน เพื่อกระจายไปสำหรับคนขาดแคลนอาหารที่ยังมีอยู่ในโลกทุกวันนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คุณธรรมยิ่งใหญ่กว่าอาวุธ วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2564 ( 11:54:25 )

ควรพูดให้ถูกต้องตามมหาปเทส

รายละเอียด

ที่ว่าอาตมาไม่ควรพูดอย่างนี้ แต่อาตมากลับเห็นว่าควรพูดให้ถูกต้องตามมหาปเทสมากเลย 

อาตมาพูดเกินที่พระพุทธเจ้าว่าไว้ เพราะมันมีเหตุปัจจัยต่างๆ เกินกว่าในยุคพระพุทธเจ้ามาก ยกตัวอย่างง่ายๆ ในยุคพระพุทธเจ้า ภิกษุทั้งหลายไม่เคยหลงลาภ ยศ สรรเสริญ ในยุคนั้นไม่มี เกินกว่าที่พระพุทธเจ้าท่านจะห้ามหรือพูดถึง เพราะในสงฆ์หมู่อื่นไม่มี แต่มีศาสนาพราหมณ์ ที่เพี้ยนจากพุทธไปเป็นเดียรถีย์ มันกลับไปกลับมาด้วยสัจธรรม พุทธกับพราหมณ์ สองอันสลับไปมาตลอดกาล 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 14:17:30 )

ควรยกฐานะตลกขึ้นมาให้มีสาระดีกว่า

รายละเอียด

อาตมาว่าอาตมาตลกไม่น้อยแล้วนะสนุกไม่น้อยแล้ว แต่จะไปตลกอย่างไร้สาระที่เขาดังกันอย่างนั้นอาตมาไม่ทำหรอกเสียเวลา อาตมาก็ตลกอย่างอาตมา พวกเราก็รื่นเริงบันเทิง คำว่าตลกหมายความว่าอย่างไรก็พอรู้ ก็ขำๆพอขนาดของอาตมา คุณพยายามยกฐานะความตลกมาระดับความตลกมาอย่างอาตมาบ้างสิ คุณหยุดความตลกแบบนั้นสิ ยกฐานะตลกขึ้นมาตามที่อาตมาพาตลก พวกเราฟังยังสนุกๆได้ ตลกอย่างอาตมานี้ เกี่ยวข้องกับสาระมากกว่า จะเป็นสาระถึงขั้นโลกุตระด้วย มาเอาอันนี้เถอะ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2563 ( 12:07:03 )

ควรยกย่องชาวนาชาวเกษตร

รายละเอียด

ลูกบอลเข้าเท้าเลย อาตมาก็อยากจะพูดอันนี้อยู่ คนนี้พูดนำขึ้นมา ควรยกย่องชาวนาชาวเกษตรฯ เพราะเป็นกระดูกสันหลังของชาติ อยากให้ปลูกสติปัญญาของชาวไทย 

เอ้า! ชาวไทยทั้งหลายฟังดีๆ เมืองไทยนี่ เป็นเมืองเคยมีสถิติเป็นเอกที่ปลูกข้าวได้มากที่สุด ส่งไปเลี้ยงชาวโลก ตอนนี้สถิติตกแพ้ญวน แพ้เวียดนาม อินเดีย ก็อยากจะสำทับว่าเมืองไทยนี้เป็นเมืองที่สร้างข้าว สร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร อาตมาเน้นพืชพันธุ์ธัญญาหาร ไม่เน้นปศุสัตว์ ไม่เน้นประมง เพราะเป็นเรื่องของการทำลายสัตว์ฆ่าสัตว์มันเป็นบาปมันมีวิบาก อาตมาไม่ส่งเสริม แต่คนเขาก็ต้องมี มันไม่หมดไปจากโลกง่ายๆ หรอก ยังไงก็ไม่หมด เพราะว่ามันพัฒนามาจากเดรัจฉานที่กินเนื้อสัตว์มันก็ติดมา เพราะฉะนั้นคนที่หมดเชื้อเดรัจฉานแล้วเลิกกินเนื้อสัตว์เลย เพราะคนไม่ใช่สัตว์กินเนื้อสัตว์ ไม่ใช่กินทั้งเนื้อและผักก็ไม่ใช่ แต่เป็นคนกินพืช คนเป็นสัตว์กินพืชเต็มๆ อย่างเดียว เพราะฉะนั้นอยากจะให้เห็นความสำคัญอันนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 21:16:37 )

ควรยกย่องชาวไร่ชาวนาเพื่อกู้ชาติ

รายละเอียด

อาตมาขอบอกเด็ก เด็กเขาคิดไปหลงอุตสาหกรรม ไม่เข้าใจว่ากสิกรรมนี่แหละจะเลี้ยงโลก อาตมากำลังพยายามจะเรียกว่าปลุกเร้า เร่งรัดพัฒนากันให้คนไทยมาอยู่ในโซนนี้ มีแผ่นดิน ที่จะมาทำกสิกรรมนี้ได้ ถ้าเผื่อว่าคนไทยมีเลือดเนื้อกสิกรรม แล้วทำกสิกรรมกันเป็นหลัก ให้มีคุณภาพและปริมาณดี ทุกวันนี้ ทางด้านการคมนาคม การสื่อสาร โลจิสติกส์ มันทำได้ง่ายแล้วทำได้เลยเราจะเลี้ยงโลกช่วยโลกได้ มากมายเลยอาตมาพยายาม Comment น่าจะส่งเสริม ข้าราชการก็ต้องพยายามส่งเสริมกสิกร ผู้ที่เป็นชาวไร่ชาวนาชาวสวนต่างๆส่งเสริมให้เขามีเกียรติให้เขาได้รับแม้แต่ที่สุดจะต้องมีการให้เหรียญตรา ให้เกียรติยศ honor ต่างๆ ให้ชาวไร่ชาวนาเป็นคุณหญิงเป็นท่านผู้หญิง หรือเจ้าคุณ เหมือนกับได้รับ เครื่องราชฯ อะไรต่างๆ ให้ได้เป็นคนที่มี จิตวิทยานี้ยิ่งใหญ่ เกาหลีเหนือเขาใช้วิธีนี้ เห็นไหมเขามีเหรียญตราติดหน้าอกเป็นแผง ให้รางวัล เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่าไม่ใช้ จะต้องใช้สำหรับคนที่ต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้ คนที่อยู่เหนือสรรเสริญ​อยู่เหนือการยกย่องแล้วก็แล้วไปเถอะ ให้ท่าน ท่านก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกท่านไม่หลงใหล จะให้ท่านก็ได้ ไม่ให้ท่านก็ไม่เป็นปัญหาอะไร จิตใจท่านอยู่เหนือแล้ว ส่วนคนที่ไม่อยู่เหนือ ต้องให้เขา แล้วเขาจะได้มีสิ่งนี้

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 02 กันยายน 2563 ( 14:33:58 )

ควรสนับสนุนควรส่งเสริมพลเอกประยุทธ์ให้ขึ้นมาเป็นนายกต่อไป

รายละเอียด

ควรเอาภาระไหม ... ควร ควรเอาภาระ ควรสนับสนุน ควรส่งเสริมพลเอกประยุทธ์ให้ขึ้นมาเป็นนายกต่อไปอีก เท่าที่ดู candidate นายกแต่ละคนๆอาตมาก็ว่า ราคาของ พลเอกประยุทธ์นี้เป็นที่ 1 นะ นี่โพธิรักษ์โพล 

เพราะฉะนั้นใครจะฟังโพลไหนก็แล้วแต่ ตอนนี้โพธิรักษ์โพลว่าอย่างนี้ ต้องการให้อาตมาประกาศ.. ประกาศไปแล้วนะ 

ควรสนับสนุนส่งเสริมให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกต่อไป คู่แข่งขันที่ลงสนามขณะนี้ ตามระบบของการเมือง เห็นหน้ากันอยู่มีใครบ้าง มีพิธา มีเศรษฐา  มีอนุทิน มีสุดารัตน์.. แต่ละพรรคก็บอกว่า ผมพร้อมจะเป็น ดิฉันพร้อมจะเป็นนายกเลยนะ อาตมาก็ยังเห็นว่า นายกประยุทธ์ควรจะเป็น 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่น งานตลาดอาริยะ 2566 วันศุกร์ที่ 14 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 16:29:07 )

ควรส่งเสริมการบริหารของนายกลุงตู่

รายละเอียด

พวกเราอยู่ในสังคมประเทศไทยเรามีผู้ที่เป็นนายกฯดำเนินการบริหารไปก็ต้องดู เราก็เห็นให้ได้ว่าควรจะส่งเสริม หรือควรจะ Wait and see หรือควรจะปฏิวัติลงไปหรือปหานลง เราก็ดูแล้วว่าอันนี้ไม่ควรปหาน ไม่ใช่รอดู แต่ควรจะส่งเสริม 

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 สู่แดนทองฉลอง 50 ปีโพธิกิจ วันที่ 1 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:18:54 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:39:17 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:23:18 )

ควรหรือไม่ควรกับโมหะคืออย่างไร

รายละเอียด

ลึกเข้าไปกว่านั้น ควรหรือไม่ควรนั้น ไอ้ที่ไม่ควร ท่านถือว่าตัวอกุศลจิตประกอบร่วม ในขณะสัมผัสแล้ว แล้วเราก็ประพฤติไปโดยไม่ควร ไม่ควรเพราะกิเลสมาประกอบร่วม เป็นกิเลสโกรธ กิเลสราคะ ไปให้มันมากมันแรงขึ้นๆ ไม่ว่าจะเป็น ราคะ โทสะ โมหะ โมหะคือตัวสับสนไม่รู้เรื่องทำไปมั่วๆเลอะเทอะ แล้วแต่อารมณ์จะพาไป กิเลสจะพาไปอย่างไรไม่รู้เรื่องเลย คือโมหะ 

ผู้ที่พอมีสติสัมปชัญญะเลือกบ้างรู้บ้างว่า อันนี้ควรหรือไม่ควร อันนี้คือคนไม่โมหะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ สื่อธรรมะพ่อครู ตอน บุญนิยม คืออะไร และอปันกธรรม 3 วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 13:48:44 )

ควรหรือไม่ควรตัดสินด้วยปฏิภาณปัญญาของตน

รายละเอียด

อะไรควร อะไรไม่ควร ท่านไม่ใช้คำว่าดี เลือกเฟ้นแล้วก็ประมาณเอา เรียกว่ามีสัปปุริสธรรม 7 เลือกได้ แต่ที่ไม่ได้กำหนดห้ามหรืออนุญาตเรียกว่า มหาปเทส 4 ก็ต้องตัดสินเลือกเฟ้นด้วยตัวเองว่าอะไรควรหรือไม่ควร อย่างนี้เป็นต้น นี่ก็เป็นสุดยอดของการตัดสินในเรื่องของ ปัจจุบัน ที่มันเกิดการเป็นอยู่มีอยู่ ที่เราตื่นลืมตา แล้วมีอะไรให้เราเห็นเป็นสภาพ 2 ทั้งนั้น 

เพราะฉะนั้นในคน เกิดเป็นคนแล้วมีจิตวิญญาณแล้ว จะต้องมี 2 เสมอ จะต้องมีจิตกับกาย จะต้องมีรูปกับนาม เพราะฉะนั้น เราต้องรู้ว่า โดยจริง มันจะต้องมีสมมติสัจจะเป็น 2 แต่เราตัดสินได้ ว่าอะไรควรเป็น 1 อยู่ที่เราตัดสิน อยู่ที่เรามีภูมิปัญญา มีธรรมวิจัย มีการตัดสิน มีการเลือกเฟ้น ได้แล้วก็อยู่กับดีที่สุดที่ควรที่สุดถูกต้อง “ควร”นี้เป็นเรื่องของคนที่ศึกษาฝึกฝนแล้ว จะมีคุณธรรมคุณวิเศษอันนี้ อาศัยในตัวเอง แล้วก็ใช้อันนี้เป็นเครื่องตัดสินให้แก่ตัวเองอยู่ตลอด ตัดสินโดยปฏิภาณปัญญาของตนเอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 11:54:24 )

ควรอาศัยการบนบานศาลกล่าวหรือไม่

รายละเอียด

ตอบว่าไม่ควรอาศัยมันเลย ของพุทธเจ้านี้จะต้องพึ่งตนเอง 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 12:24:41 )

ควรอ่านพระไตรปิฎกสำนวนไหนชัดเจน

รายละเอียด

อาตมาใช้ฉบับสยามรัฐ และอาตมาใช้ภาษาไทยเป็นหลัก ภาษาบาลีใช้ประกอบ ซึ่งอาตมายังไม่เก่งบาลีเท่าไหร่ ยังไม่ได้เรียนในชาตินี้ ที่มีเป็นความรู้เดิมเป็นความรู้ที่นำมาใช้มาศึกษาไปตามประสา ไม่ได้เรียนไปตามระบบเลย เพราะฉะนั้นจะขัดแย้งกับที่ท่านเรียนมาตามระบบบ้าง ก็ต้องขออภัยไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรที่จะไปแย้งกัน มันก็อาจจะมีมุมเหลี่ยมที่ไม่สอดคล้องกัน ก็อาตมาเอาสภาวะเป็นหลัก ก็ใช้ตามที่อาตมาพอทำได้โดยที่มีเจตนาบริสุทธิ์ใจจริงๆ ก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนฉบับอื่นใดนั้นอาตมายังไม่ประสีประสา อาตมามีแต่ภาษาไทยฉบับสยามรัฐเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสำนวนของมหามกุฏ ซึ่งอาตมาไม่มี มีแต่ของมหาจุฬา 45 เล่มสีฟ้า แล้วก็มีของฉบับหลวง คือฉบับที่รวบรวม พ.ศ. 2500 พิมพ์ออกมาเป็นทางการของสภาสงฆ์เลย เรียกว่าฉบับหลวง อาตมาใช้อันนั้นแหละเป็นหลัก กับมาตรวจสอบกับภาษาบาลีฉบับสยามรัฐ ซึ่งเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นมหามกุฏหรือมหาจุฬา ก็ใช้ภาษาบาลีอันเดียวกัน ฉบับเดียวกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาด้วยปัญญามุทุภูเตของพ่อครู วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 17:44:29 )

ควรเรียก Explosionดีกว่า Bomb of Love

รายละเอียด

อาตมาว่า เมืองไทยนี่แหละ เป็นเมืองที่มีโลกุตรธรรมอันนี้เป็นเชื้อแล้ว มีธรรมิกราชขึ้นมา พยายามที่จะนำพาเรื่องนี้แพร่หลายให้คนได้เข้าใจ ได้รู้ ได้เรียนองค์หนึ่งท่านก็สิ้นไปแล้ว แต่ท่านก็ได้ปลูกฝังเป็นรูปธรรมซึ่งก็ดีแล้วก็พอสมควร แล้วเราก็เข้าใจซับซ้อน คนไทยจะเข้าใจได้และรับได้รู้ได้ จึงศรัทธาเลื่อมใสในหลวง ร.9 อย่างที่ โอ้โห.. จะเรียกว่า Bomb of Love. เรียก Explosion Of Love.  ไม่เรียก บอม เพราะบอมสื่อถึงทางทำลาย แต่ว่าอันนี้ไม่ใช่การทำลาย แต่เป็นการช่วยโอบอุ้ม เป็นลักษณะของนิวเคลียร์ฟิวชั่น ไม่ใช่นิวเคลียร์ฟิชชั่น หลอมรวมเป็นลักษณะละลายหลอม ไม่ใช่ละลายทิ้งละลายชิบหาย ละลายแบบทำลาย ไม่ใช่ แต่เป็นละลายหลอม พยายามละลายแต่เอามาหลอมให้แน่นเป็นหนึ่งเดียวอย่างอบอุ่น เป็นสามัคคี 

นี่คือความเข้าใจที่อาตมาสื่อภาษาง่ายๆจะเข้าใจ ถ้าเราเข้าใจแล้วเราก็ทำได้ พวกเรานี้ทำได้ จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ ต่างพยายามทำกันอยู่ โดยที่ไม่รู้พยัญชนะอธิบายไม่ได้อย่างอาตมาก็ตาม อาตมาอธิบายให้ฟังก็เข้าใจใช่มั้ย แล้วพวกเราก็ทำได้อยู่บ้างมากหรือน้อย ใครสามารถก็ช่วยกันทำ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หนูตัวเล็กอย่างไทยจะช่วยราชสีห์ซาอุฯตัวใหญ่ได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:52:48 )

ควรเอาภาระอย่างไร

รายละเอียด

ก็คุณก็พอรู้แล้ว ถ้าทำได้ก็ควรทำ อย่างที่คุณยกตัวอย่าง แต่ก็อย่าทำเสียจนมากหนัก ขวนขวายให้คนอื่น รู้จักกาละ เวลา แรงงานที่ควรให้ ควรสร้าง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 15:37:06 )

ความกลัวเกิดจากสาเหตุใด

รายละเอียด

ไม่ยาก ความกลัวเกิดจากความไม่รู้ สิ่งที่เราไม่รู้เราจะกลัว ถ้าสิ่งที่เรารู้ชัดแล้วเราไม่กลัว ถ้าคนไหนรู้จักเสืออย่างดีเลยรู้จักสัญชาตญาณ รู้จักจุดสำคัญของเสือเข้าไปจับเสือได้เลย คนที่รู้จักผีดีไม่กลัวผี เข้าไปจับผีเล่นเลยอย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นความกลัวคือความไม่รู้ เรารู้อะไรชัดเจนชัดแจ้งแล้วเราไม่กลัวสิ่งนั้นเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:42:00 )

ความกล้าของ ส.ศิวรักษ์ ที่ไม่ไว้หน้าใครเลย

รายละเอียด

ก็เลยล่อแหลมจะเข้าคุกอยู่อย่างนั้น ไม่รู้จักความเป็นสังคม ไม่รู้จักความเป็นตัวตน ไม่เข้าใจความเป็นโลกความเป็นอัตตาที่เพียงพอ ไม่มีสัปปุริสธรรม 7 ที่สมบูรณ์แบบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 18:57:14 )

ความกำหนดผิดคือวิปลาส

รายละเอียด

เพราะสุขทุกข์มันเป็นอุปาทาน มันเป็นความยึดอย่างโง่ๆ แล้วมันก็มาเกิดตัวตนบทบาทว่า อย่างนี้น่าได้ น่ามี น่าเป็นอย่างนี้ เมื่อได้มาก็เป็นสุขไม่ได้มาก็เป็นทุกข์ อ๋อ.. ไอ้ตัวนี้สำคัญ น่าได้ น่ามี น่าเป็น นี่ สำคัญ 

สำคัญเพราะอะไร เพราะโง่ จึงไปมีตัวน่าได้ น่ามี น่าเป็น และไม่น่าได้ ไม่น่ามี ไม่น่าเป็น เสร็จแล้วเมื่อน่าได้ก็เอามาได้มันก็สุข จะให้มันเที่ยง จะให้มันเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นวิปลาส 4 เป็นความกำหนดผิด วิปลาสคือความกำหนดผิด ความไม่รู้ความจริงตามความเป็นจริง พระพุทธเจ้าท่านจึงสรุปได้ว่า สิ่งเหล่านี้มันควบคุมไม่ได้ มันไม่เที่ยงแล้วมันก็ไม่ใช่สุขทุกข์ มันเป็นอารมณ์ที่เราตั้งแล้วก็ยึดถือว่าอย่างนั้นเป็นสุขเป็นทุกข์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ พระอรหันต์เป็นผู้มีความรู้เรื่องอาหารดีกว่าคนโลกีย์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 16:00:56 )

ความกำหนัด

รายละเอียด

คือ อภิชชาวิสมโลภะ

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 16:38:21 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:40:18 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:23:38 )

ความกำหนัด

รายละเอียด

ความใคร่

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 162


เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 22:21:36 )

เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:43:24 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:23:56 )

ความขัดแย้งในบ้านเมืองทุกวันนี้เกิดจากอะไร

รายละเอียด

เพราะยึด ต่างคนต่างยึด เมื่อไม่ลงตัวกันก็ทะเลาะกัน คนหนึ่งอยู่ฝั่งไทยคนหนึ่งอยู่ฝั่งอเมริกาก็ทะเลาะกันได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ทะเลาะกัน เราต้องมาเรียนรู้ 2 อย่างนี้ ทะเลาะกันกับอยู่ร่วมกันอย่างสงบ อันไหนดีกว่ากัน อยู่อย่างสงบดีกว่า เราเป็นคนก็ต้องเลือกทำในสิ่งที่ดีจะไปเลือกทำในสิ่งที่โง่ทำไม เราก็อยู่กันอย่างสงบมีประโยชน์ต่อกันและกัน เราก็ทำอย่างนี้ให้ได้ ใครที่ยึดถือจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ดีไม่ดีเราก็ไล่ออกไป บางคนไล่ไม่ได้ก็ฆ่าทิ้ง ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติในโลกนี้ อาตมาว่าทุกวันนี้ ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้วพูดไม่หมด มันไม่มีอะไรเลยมันมีแต่ทุกอย่าง สูญ คือไม่มีอะไรเลย สูญ นี่คือทุกอย่าง ทุกอย่างนี่คือ สูญ เท่านั้นเองสุดท้าย ใครเองไปยึดมั่นถือมั่น ก็ทะเลาะกัน แต่0 ไม่ทะเลาะกับหนึ่ง ไม่ทะเลาะกับอะไรเลย แต่ 1 ก็ทะเลาะกับ 2 ดีไม่ดีแบ่ง สองครึ่งทะเลาะกับสองอีก ทุกอย่างที่ขัดแย้งกันเกิดจากความเป็นสอง เมื่อมันแยกกันแล้วไม่ยอมรับกัน ขัดแย้งกันอย่างแรงขึ้นมากขึ้นก็ทะเลาะกันเท่านั้นเอง ธาตุรู้ที่มีปัญญาเฉลียวฉลาด เมื่อรู้แล้วว่าอันนี้เป็นอย่างนี้ เราก็รู้ว่ามันขัดแย้งมันต่างกันตรงไหน เราก็เป็นอย่างนี้ของเรา เขาก็เป็นอย่างนี้ของเขา อัตภาพที่ไม่หยุดพยาบาท ไม่หยุดดูดหยุดรัก มันก็มาทำงานตามปฏิกิริยาที่มันยึดถืออย่างนั้น ก็ต้องตีกันฆ่ากันอย่างนั้น หรือว่ารักกันซาบซึ้งกันก็อย่างนั้นแหละ ก็เป็นอย่างนั้นแหละ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 11:14:14 )

ความขี้เกียจกับความโลภอันไหนไม่ดีกว่ากัน

รายละเอียด

ตอบอย่างนี้ก่อนไม่ดีทั้ง 2 อย่าง รู้ว่านี้อาการโลภก็อย่าไปทำ รู้ว่าอาการอย่างนี้เป็นอาการขี้เกียจก็อย่าทำ อันไหนไม่ดีกว่าก็อยู่ที่ว่าเราขี้เกียจมากมันก็ไม่ดี เราโลภมากกว่าขี้เกียจ ความโลภก็ไม่ดีกว่าอย่างนี้เป็นต้น ใครจะมากจะน้อยก็ตามไม่ต้องลบไม่ต้องขี้เกียจดีกว่า ดูอาการรู้สึกว่าเราขี้เกียจเมื่อไหร่ ก็อย่าทำ เด็กอโศกเราจะรู้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 20 วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:06:52 )

ความควรไม่ควรในการช่วยเหลือ

รายละเอียด

ความควรไม่ควรในการช่วยเหลือ คือ การเกี่ยวข้องกับคน คนนี้จะเอาให้ได้ คนนี้เรารักเราชอบจะเอา คนอื่นไม่เกี่ยว ก็ลงทุนลงแรงกับคนนี้เท่านั้นก็เป็นรายละเอียด ต้องทำตามควร  คนนี้ลูก คนนี้เราชอบก็ไม่ใช่ คนไหนมีภูมิธรรมควรได้ ควรเป็น ควรมี นั่นแหละก็ควรให้เขาอย่างยิ่งไม่ลำเอียงแม้มิตรสหาย ญาติก็ไม่ได้แยก แต่โดยสัจจะมันก็มีความควรและไม่ควร คนที่อยู่ใกล้มีประโยชน์มีบุญคุณแก่กันก็ควรจะให้ก่อน มันก็มีเป็นลำดับเหมือนกัน  ผู้มีแต่ภัยโทษแก่เรา  เราก็ควรให้คนที่มีบุญคุณก่อน  คนที่เป็นภัยเป็นโทษก็เอาไว้ก่อน พูดกันไม่รู้เรื่อง คนที่มีบุญคุณก็อาจพูดรู้เรื่องกว่า  แม้แต่คนนี้มีบุญคุณมากกว่าคนนี้ แต่คนคนนี้พูดแล้วได้ประโยชน์ คนที่มีบุญคุณมากพูดแล้วไม่ได้ประโยชน์ก็เอาไว้ก่อน เอาไว้ช่วยกันทีหลัง ก็ไปตามลำดับ ก็ว่ากันไปนัยละเอียดเยอะมาก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 09:33:32 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:41:09 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:25:08 )

ความคิดของพวก มิลักขะ

รายละเอียด

สัตว์เดรัจฉาน มันไม่เลวเท่าคนสร้างอาวุธ มันสร้างไม่เป็น เพราะฉะนั้นมันไม่ทำความเลวร้ายนั้น ไม่มีเดรัจฉานจะสร้างอาวุธด้วยความเลวร้าย มีคนนี่แหละโง่กว่าสัตว์เดรัจฉานไปสร้างอาวุธมาเป็นความเลวร้ายเพราะสร้างอาวุธมาเพื่ออะไร สร้างมาเพื่อฆ่าคน แย่งอำนาจแย่งทรัพย์สินแย่งความเป็นใหญ่ในโลกจะเป็นเจ้าโลก เหมือนอย่างประเทศใดๆก็แล้วแต่ที่อวดเก่งแล้วก็คิดว่า เราจะต้องเอาอำนาจของอาวุธ 

ยกตัวอย่างตั้งแต่เกาหลีเหนือเขาเชื่อเลยว่าจะต้องเป็นอาวุธนี่ถึงจะทำให้เขาอยู่ได้และยิ่งใหญ่ ถ้าเขารู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นผู้ที่ยอมเสียสละเป็นตัวเล็กตัวน้อย แล้วก็ให้คนอื่นเมตตาช่วยเหลือนะ เกาหลีเหนือจะไปรอด แต่เกาหลีเหนือไม่มีความคิดนี้ในความคิดเลย มีแต่ความคิดจะสร้างอาวุธเพื่อที่จะชนะเขาให้ได้ ชนะเขาให้ได้ แล้วจะได้เป็นใหญ่ นี่คือความคิดของพวก มิลักขะ ไม่ใช่ อาริยกะ ไปบังคับความคิดเขาไม่ได้หรอกเขาเห็นอย่างนี้ตกทอดมาตั้งแต่ทวดเขา มาถึงคิมจองอึน เขาก็ยังคิดอยู่อย่างนั้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ แต่คนเขาไม่มีใครไปโหดร้ายกว่านั้นอีกแล้ว เขาก็มีมวล ที่เป็นความเห็นเดียวกันความจำเป็นหรือความจำนน เขาก็ต้องอยู่ด้วยกัน ทิฏฐิเดียวกัน เห็นด้วยกันหรือมันไปไม่ออก มันต้องจำนนอยู่อย่างนี้ เขามีกฎหลักไม่ให้หนีออกจากประเทศนะลัทธิของเขา หนีออกจากประเทศเขาตามจับได้เขาฆ่าเลย เช่น พี่ชายเขาออกต่างประเทศเขาตามฆ่าเสร็จเลย เห็นไหม อย่างนั้นเป็นต้น ที่อาตมาอธิบายไปนี้อาตมาไม่ได้ไปดูถูกดูแคลนไปข่ม แต่มันเป็นสัจจะของคนของสังคม ของประเทศ ของพฤติกรรม มนุษยชาติ มันเป็นอย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2566 ( 11:28:53 )

ความคิดของอาจารย์บูรพา ผดุงไทย กับการนั่งหลับตา

รายละเอียด

การบอกว่าไปนั่งหลับตาอย่าไปนึกคิดอะไรแล้วปัญญาจะเกิดขึ้นเอง อย่าไปนึกคิดอะไร การนึกคิดนั้นปัญญาเกิดขึ้นไม่ได้ ความคิดของอาจารย์บูรพา ผดุงไทย เขียนอยู่ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ก็ได้แต่น่าสงสารพากันผิดได้บาป อาจารย์บูรพาก็ไม่น่าจะเป็นคนที่ไม่มีปรโตโฆษะ หากว่าฟังสมณะโพธิรักษ์จะได้มี โยนิโสมนสิการ จะได้รู้ว่าที่ทำกันอยู่นั้นเป็นการทำใจในใจที่ผิดนะ สมาธิที่เกิดจากการทำใจในใจที่ผิด นั่งสะกดจิตก็เป็นแบบนี้ เดียรถีย์ ไม่ได้ปฏิเสธว่าเป็นสมาธิแต่เป็นแบบมิจฉาทิฏฐิ

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 15:51:35 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:41:49 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 15:02:11 )

ความคิดที่ตกยุคมากของคนอเมริกัน

รายละเอียด

ความเข้าใจ Concept คนอเมริกันเป็นความคิดที่ตกยุคมาก แต่ก่อนคนไม่ได้คิดว่ามันล้าหลังที่คิดอย่างชาวอเมริกัน ซึ่งมันเป็นความคิดที่ไม่เป็นสัจจะยั่งยืนมันหลอกด้วยโลกีย์ จะต้องเป็นหนึ่งในโลก จะต้องไปสวย รวยๆ ยิ่งใหญ่มีมากมีศักดิ์ศรี นานาสารพัด ในทุกมุมทุกมิติโลกีย์ อเมริกันพอมาถึงทุกวันนี้ชัดเจน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 18:54:42 )

ความคิดเคยเฉยเชือน เพราะเหตุใด

รายละเอียด

นึกถึงเพลงบูรณภาพ มันสุดยอดเลย อาตมาแต่งตอนนั้นเหมือนเบลอๆ ทุกวันนี้ก็ยังจำเนื้อไม่หมด แต่ทุกคนก็ทำได้ดี อย่าเพิ่งเอาออกมา อาตมาจะมีวันที่พูดถึงเรื่องเพลง เรื่องกวีการเหล่านี้เหมือนกัน ซับซ้อนตั้งแต่เริ่มต้น รู้สึกว่าจะต้องแต่งเพลง เมื่อมาบวชแล้วนะ เพลงแรกที่แต่งตั้งแต่ตอนเป็นนักบวชแล้ว คือ เพลงขันติต้องไม่จาง หรือเพลงตะวันทอฟ้า ซึ่งอาตมาทบทวนแล้วเห็นว่ายากที่คนจะเข้าใจได้ 

เพ่งมองผ่านเมฆเฉกใจให้ช้ำ คล้ำดำซ้ำเป็นเห็นปานขวานผ่า 

เป็นกวีการที่ต้องขยายความกันเป็นวันๆ เลย 

• เพ่งมองผ่านเมฆเฉกใจให้ช้ำ

คล้ำดำซ้ำเป็นเห็นปานขวานผ่า

ความคิดเคยเฉยเชือนก็เตือนตามมา

แม้เพียรเพ่งแพงแรงพาผองธรรมก้าวมาหน้าแนวแล้วเล่า

มันมีสัมผัสทั้งเสียง ทั้งพยัญชนะ สระ มีสำเนียงเสียงเมโลดี้ด้วย 

เพ่งมองผ่านเมฆเฉกใจ คือเปรียบเทียบเหมือนกับใจเรานี่แหละ มันมีความให้ช้ำใจ เมฆสีดำ เราก็ยิ่งคล้ำอยู่ในใจ มันยังไม่ขาวไม่สะอาดสว่างออกมาเลย เห็นแล้วเหมือนขวานที่ผ่าเข้าไปในหัวใจให้แหลกละเอียดอะไรอย่างนี้ 

ความคิดเคยเฉยเชือนก็เตือนตามมา อาตมาเคยไม่เอาแล้วตั้งแต่ออกบวชใหม่ๆ กับคุณชวน ไปหาที่อยู่สัก 2 ไร่ ถ้าใครจำได้ แล้วจะไปอยู่ตรงนั้นจะไม่เอาเลย จะไม่พูดถึงธรรมะแล้ว เพราะเห็นเลยว่ามันยากจริงๆ พวกนี้พูดไม่ขึ้นหรอก อย่างไรก็คงปลุกไม่ไหว ไม่เอาแล้ว เฉยเชือน ความคิดตัดทิ้งเลยไม่เอาแล้ว 

แต่เสร็จแล้วความสำนึกก็เตือนตามมา ว่า ไม่ได้นะๆ ก็เลยจะต้องหันมาเพ่งเพียร พยายามทุ่มแรง แม้เพียรเพ่งแพงแรงพาผองธรรมก้าวมาหน้าแนวแล้วเล่า ให้ก้าวหน้ามา แรงนำหน้า แต่ผลมันไม่ตามมา อย่าว่าแต่นำหน้าเลย ตามยังยาก 

• ก็ยังช่างเย็นเช่นยาค่าไร้

หรือคนไซร้ซานเขลาคลานคุกเข่า

ยอมซบจนซ้อนจมใต้ตมซมเซา

มิเงยหน้าเลย เคยเนาฉันใดก็เยาว์เยี่ยงเดิม..โธ่เอ๋ย

 

ก็ยังช่างเย็นเช่นยาค่าไร้ มันเหมือนยาหมดอายุหมดค่าแล้ว ก็เลยนึกถึงคน หรือคนไซร้ซานเขลาคลานคุกเข่า หรือว่าคนทั้งหลายแหล่มันหมดแล้ว ไม่โงไม่เงยขึ้นมาแล้ว ยอมซบจนซ้อนจนใต้ตมซมเซา คนนี่คงจะขุดไม่ขึ้น ตกลงไปใต้ตรงซมเซาถูกโคลนทุกอะไรต่ออะไรมันทับถมไป มิเงยหน้าเลย เคยเนาฉันใดก็เยาว์เยี่ยงเดิม..โธ่เอ๋ย

ไม่โงไม่เงยขึ้นมาเลย อยู่อย่างไรก็เป็นเช่นนั้นก็ยังเยาว์ยังเด็กยังเล็กเช่นเดิม โธ่เอ๋ย 

 

• ฟ้าดินผินเพลินเผินพลอย

เมินไม่คอยเอื้ออวยช่วยใด..ไยเฉย

หรือธรรมต่ำศักดิ์นักจึงปึ่งเลย

คนเอ๋ย..ควรครวญใคร่ก่อน

ฟ้า ไม่หันหน้ามองเราเลย ไปหลงใหลอะไรอยู่ที่ไหนทำไมไม่มาช่วยเลยฟ้าดิน เมินไม่คอยเอื้ออวยช่วยใด..ไยเฉย ทำไมต้องเมินต้องเฉยต้องหนีไม่เห็นใจเราบ้างเลย 

หรือธรรมต่ำศักดิ์นักจึงปึ่งเลย หรือธรรมะมันต่ำศักดิ์นักหรือถึงได้ไม่ดูดำดูดีนักเลย ไปไหนก็ไม่รู้ไม่ช่วยอะไรเลย คนเอ๋ย..ควรครวญใคร่ก่อน แล้วก็หันมาหาคนว่าควรจะใคร่ครวญให้ดีๆซะก่อน 

 

• ผิว์เป็นเช่นใด ไม่ควรด่วนท้อ

แข็งพอขอเพียงมิพาลเพี้ยนผ่อน

ยังยิ่งยง ยั้งยืนหยัดทนอาทร

(1)แสงธรรมต้องทอบวร มิจางจิตถอนเทิดธรรมสู้ทน

(2)แสงธรรมต้องทอบวร มิจางจิตถอนเทิดธรรมเถิดเทอญ.

 

ผิว์เป็นเช่นใด ไม่ควรด่วนท้อ ปลอบใจตัวเองไม่ควรจะท้ออย่ารีบท้อ ไม่งั้นก็ตายกันพอดี แข็งพอขอเพียงมิพาลเพี้ยนผ่อน เต็มครบเลย ฮึด ขึ้นมาเต็มที่เลย ขอเพียงไม่อ่อนไม่เพี้ยนไม่พาลไม่ผ่อน 

ยังยิ่งยง ยั้งยืนหยัดทนอาทร ต้องสู้ แสงธรรมต้องทอบวร มิจางจิตถอนเทิดธรรมสู้ทน แสงธรรมต้องทอบวร มิจางจิตถอนเทิดธรรมเถิดเทอญ. 

เป็นเพลงที่แต่งตอนมาบวชแล้ว มันก็มีจารีตประเพณีวัฒนธรรมหรือความยึดถือกันว่า นักบวชจะมายุ่งเกี่ยวกับการร้องรำทำเพลงไม่ได้ ไม่ถูกต้อง อาตมาก็ว่ามันใช้ได้นะ ยิ่งในยุคนี้ ยุคเพลงการมันทั่วโลกเลย มันใช้เป็นสื่อกลางเป็น Social Media ได้อย่างดีมากเลย 

อาตมาก็เลยไม่เป็นไรหรอก ใครจะว่าอย่างไรก็เอา ตัดสินใจแต่งเพลง เพราะฉะนั้นในคราบที่เป็นนักบวชก็แต่งไม่ใช่น้อยเพลง และแต่งไว้แล้วมันก็ยากอย่างที่ว่า คนคลี่ไม่ออก ยังขยายกระจายให้มันง่ายให้มันรู้ตื้นขึ้นมา ชักลึกมาให้ตื้นยังไม่ค่อยได้ ก็ยังพยายามทำไป อาตมาทุกวันนี้ก็เข้ามาหาเนื้อหาสาระของธรรมะก่อน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปลุกพลังเงียบช่วยกันทำให้การเมืองเจริญ วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 14 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 17:13:28 )

ความคิดเป็น dynamic ส่วน ความรู้สึกเป็น static

รายละเอียด

ต้องฝึกหัดต้องเรียนรู้จริงๆว่าจิตเป็นอย่างไรมันอยู่ในตัวเรา ท่านใช้พยัญชนะว่า หทยรูป ให้จับอาการ ใช้คำว่า อาการ หรือใช้คำว่า กิริยาของนามธรรมของจิตมันอยู่ในตัวเรา เรียกคูหาสยัง หรือครรธโภ มันอยู่ที่ไหนบอกไม่ถูกหรอก สัมผัสตรงไหนก็รู้สัมผัสได้ นอกจากตัวเราด้านรับไม่ได้ แต่ถ้ารับได้ทั่ว ข้างนอกเรียกโผฏฐัพพะ จิตเรารู้ได้ แม้ข้างใน หทยรูปมันอยู่ข้างใน โผฏฐัพพะ มันอยู่ภายนอก แต่ข้างในเป็นตัวรู้สืบทอดจากข้างนอก หทย จะแยกจาก โผฏฐัพพะไม่ได้แต่ หทยรูปเป็นตัวถูกรู้ เป็นอาการเคลื่อนไหวของจิตที่ถูกรู้ อาการเศร้ามันอยู่ตรงไหน? พระอภิธรรมสอนว่าอยู่หัวใจช่องที่ 4 ทางธรรมกายบอกว่าจิตจะอยู่ที่เหนือสะดือสองนิ้ว รวมกันกลางกาย ฟังแล้วก็น่ากลัวกว่าจิตที่อยู่ในหัวใจ ไม่ได้อยู่ที่รูสะดือคงน่าเกลียดเลยบอกว่าเหนือสะดือสองนิ้ว ที่จริงไม่มีที่อยู่แน่นอนแต่อยู่ในคูหาสยัง หรือครรธโภนี้ อยู่ในห้องในโครงร่างนี้ ต้องหัดที่ความคิดความรู้สึก ความรู้สึกมันเจ็บ  มันปวดอย่างไรมันทุกข์ต้องตามความรู้สึก สอง ความคิด ความคิดเป็น dynamic ส่วน ความรู้สึกเป็น static ความรู้สึกมันเป็นอาการอารมณ์อย่างนี้รู้สึกอย่างนี้ มันอยู่กับที่ แต่ความคิดมันเคลื่อนไหว มันก็เป็นคู่กันระหว่างความรู้สึกกับความนึกคิด ความรู้สึกเป็นตัวฐานนิ่ง static แกน เป็นพลังงานบวก ความคิดคือฐานวิ่ง dynamic คือพลังงานลบ ต้องเรียนรู้รูปนามเป็นสภาวะคู่ที่แยกกันไม่ได้หรอก เป็นเหรียญ 2 ด้าน เอาหน้าหัวมาโชว์ หรือด้านก้อยอยู่หลัง จะพลิกด้านไหนมาแสดงตัวก็ได้ แต่ไปด้วยกันมาด้วยกัน ศาสนาพุทธแยก 2 อย่างนี้แล้วเอามาใช้งานเอามาทำงาน แต่จริงๆแล้วแยกกันไม่ออก ถ้าจะทำลายต้องทำลายทั้งสอง ทำลายความรู้สึกและความคิดเลิกเลยให้เป็นอุตุธาตุเป็นดินน้ำไฟลม หรือทำแค่พีชะ ไม่มีความรู้สึกแต่มีความรู้ ความคิดก็อยู่ในกรอบของตัวกูของกู จะต้องเป็นตัวกูของกูเท่านั้นก็พยายามรวมให้ได้ธาตุตัวกูของกู ไม่บุกไม่รุกรานใคร ได้ก็เอา ไม่ได้ก็ไม่เอา สุภาพ ธาตุพีชะนี้สุภาพที่สุด มีพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ค้นพบพลังงานธาตุรู้ในตัวกูของกู สามารถทำให้จิตเป็นอุตุก็ได้ พีชะก็ได้ จิตก็ได้ ก็เอาไปประกอบกรรมอย่าให้เป็นธาตุที่เลวร้าย ดีสุดเป็นพืช มีแต่เป็นตัวเองที่เป็นประโยชน์ต่อพืชไม่เป็นโทษกับใครและไม่มีความสุขไม่มีความทุกข์ไม่มีบาปไม่มีบุญ ใช้พยัญชนะเรียกสภาวธรรมพวกนี้จึงสุดยอดแล้วธรรมะพระพุทธเจ้า แล้วทำให้จิตเป็นอย่างนี้ได้จริงๆจึงเป็นจิตที่ประเสริฐสุดเป็นพระอรหันต์ ถ้าตามอ่านจิตที่มันยังคิดและความรู้สึกอย่างนี้ ตามให้ได้ทั้งความคิดและความรู้สึกให้ทันเสมอ ฝึกเรื่อยๆแล้วจะได้เร็วได้รู้ทัน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2562 ( 21:46:13 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:43:11 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 15:07:44 )

ความคุ้มค่าในการเผยแพร่โลกุตรธรรมแบบบุญนิยม

รายละเอียด

อาตมาออกอากาศ เสียเงินค่าดาวเทียมเดือนละหลายแสน เวลานี้ เป็นยอดฮิตของการบรรยายธรรมะช่วงนี้ มีคนฟังคนดู ถ้าจะคิดแล้วมันไม่คุ้มกันเลย ถ้าจะคิดแบบทุนนิยม จ่ายค่าดาวเทียมเดือนละหลายแสน แต่เวลาอาตมาเทศน์ รายการฮิตที่สุดของบุญนิยมทีวี ที่จ่ายค่าดาวเทียมเดือนละหลายแสนและค่าอื่นๆรวมแล้วเป็นล้าน แต่คนดูทีนึง 200 กว่าคน มันไม่คุ้มเลยถ้าคิดแบบทุนนิยม แต่สำหรับอาตมา มันคุ้มแสนคุ้ม ได้ 5 คนขึ้นไป อาตมาก็ว่าคุ้มแล้ว เพราะห้าคนเป็นเริ่มต้นพระพุทธเจ้า เริ่มต้นท่านก็สอนคน 5 คน แต่ตอนนั้นไม่ต้องใช้ดาวเทียม ท่านก็สอนสดๆ ท่านก็สอนมาจนกระทั่งเกิดความรู้มาทุกวันนี้ 2,500 ปี ก็ยังยืนยันว่า เป็นความรู้สุดยอด 

เพราะฉะนั้น อาตมาไม่มีปัญหาเลย และเห็นว่ามีคนสนับสนุนช่วยเหลือ อาตมาก็ไม่ได้เรี่ยไร อาตมาภาคภูมิใจที่ชาตินี้ทำงาน ไม่ได้เรี่ยไรเหมือนมหาบัวเลย ชีวิตอาตมาเยี่ยมยอดกว่าตรงนี้ ไม่ได้เรี่ยไรเลย แต่มหาบัวยอดเรี่ยไร ทั้งในและต่างประเทศ  อาตมาว่า เรี่ยไร ก็เหมือนขอทานธรรมดา อาตมาไม่ประพฤติ ที่อาตมาทำอยู่นี้ มันเป็นความรู้ที่อาตมารู้ว่า ในความเป็นมนุษย์นี้ เกิดมาทั้งที มันได้เป็นจิตนิยามแล้ว เป็นอัตภาพของเราแล้ว และมันก็สลายไม่ได้ ถ้าไม่ได้เรียนรู้สัจจะของพระพุทธเจ้า ก็มาเรียนรู้สัจจะนี้แล้วจะมีหลักประกันด้วยว่า ถ้าคุณไม่สลายคุณจะอยู่ก็มีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษภัยอะไรมีแต่คุณค่าประโยชน์เสียสละ สร้างสรรให้แก่มวลมนุษยชาติในโลกเป็นหลักประกันอย่างวิเศษสุดแล้ว นี่คือสุดยอดแห่งความรู้ของพระพุทธเจ้า 

ที่บอกว่า คนมักไม่ชอบดู ไปชอบดูแต่สิ่งไร้สาระ ก็เป็นธรรมดาคนโง่มากกว่า ยุคใกล้กลียุค โทรทัศน์ไม่รู้กี่ร้อยช่อง มันขายสินค้า กับโชว์เรื่องไร้สาระบ้าบอเต็มไปหมด ขออภัย ช่องที่มีสาระที่สุดคือ บุญนิยม และรายการฮิตที่สุดของโทรทัศน์ช่องนี้คือ รายการสดอาตมา มีคนอยู่ 200 คน เป็นเครื่องชี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 53 ประโยชน์อันสูงสุดจากศาสนาที่มนุษย์พึงได้ วันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2565 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 12:59:07 )

ความงด ความเว้น ความเว้นขาด เจตนางดเว้น 

รายละเอียด

 ความงด ความเว้น ความเว้นขาด เจตนางดเว้น  อ้างอิง พระไตรปิฎกเล่ม 14 ข้อ 268 , 273 , 278 อ้างอิง 

ผู้แปล เป็นภาษาไทย ความงด(อารติ) ความเว้น(วิรติ) ความเว้นขาด(ปฏิวิรติ) เจตนางดเว้น(เวรมณี)

เราได้เรียนรู้คำว่าศีล ให้ปฏิบัติเวรมณี ให้เว้นขาดหรืองดเว้น เว้นขาดก็ใกล้กันกับงดเว้น ส่วนภาษาไทยมันมีน้อย เขาก็พยายามจำกัดความให้ตรงกับบาลี พยายามเอาคำว่างดมาใช้กับ อารติ คำว่าเว้น ใช้กับวิรติ อาตมาก็เคยขยายความจากภาษาไทยที่คำว่า งด กับคำว่า เว้น จะมีคำว่า ขาด ต่อไป

คำว่า งด คือระงับ ลด ยังไม่ขาดยังไม่เว้น งดๆงวดๆ งวดๆงดๆ แค่เริ่มลดเริ่มงด จนลดได้มากขึ้น ก็เรียกว่า ขาดช่วง ก็คือ มีตอนเว้น เว้นช่วงๆๆ ก็คือ ความเว้น อารติ ยังไม่เด็ดขาด วิรติ มีช่วงขาดต่อมา ปฏิวิรติ เขาก็แปลว่า เว้นขาด มันเว้นได้ขาดตอนยิ่งขึ้น ปฏิ แปลว่าทวนไปทวนมาหลายรอบ

จนสุดท้ายมีคำว่า เจตนางดเว้น ทั้งงดตัวต้น ทั้งเว้นตัวขาด มีขาดมีเว้นในตัว มาเป็นเจตนางดเว้น เจตนาคือ จิตที่มีความมุ่งหมาย จิตที่มีจุดไป มันไปอย่างนี้อย่างแม่น ไปอย่างนี้อย่างแข็งแรง ไปอย่างนี้อย่างคงมั่น เจตนา มันมุ่งไปที่เว้นหมด แล้วก็ทำได้ด้วย มันก็จึงเป็นเจตนางดเว้น แปลว่า เวรมณี บาลีท่านใช้คำนี้ มาแปลไทยว่า เจตนางดเว้น ผู้รู้ท่านแปลมาแต่เดิม อาตมาไม่ได้เป็นคนแปลเองคือ จิต มีเจตนาเป็นตัวหลัก ของนามธรรม 5 มี เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ นี่เป็นของพระพุทธเจ้าสอนไว้ ในพระไตรปิฎกเล่ม 16 รูป 28 กับ นาม 5 หรือ อุปาทายรูป 24 กับ มหาภูตรูป 4 กับ นาม 5

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมีความไม่มี สิทธัตถะและสิริมหามายา วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กันยายน 2565 ( 11:51:46 )

ความง่วง

รายละเอียด

แยกอาการกิเลสถีนมิทธะ กับอาการง่วงที่เกิดจากการกินอาหารอิ่ม กินอาหารอิ่มหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนมันอิ่ม ด้วยสรีระร่างกายจะทำของชีววิทยามันต้องการพลังงานไปเลี้ยงย่อยอาหาร มันก็เลยจะต้อง ดึงออกพลังงานไปทำงานส่วนนั้น ยิ่งกินอิ่มมากก็ต้องง่วงมาก ไปย่อยเยอะก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ ถีนมิทธะมันแรงคือมันอยากพักอยากนอนก็อย่าไปกินมากจนง่วง แต่ถ้ากินอิ่มแล้วจะง่วงก็หาวิธีเคลื่อนไหวร่างกาย แต่ขณะกินอิ่มร่างกายต้องใช้พลังงานมาก ก็อย่าไปออกแรงมากไป ให้พลังงานไปย่อยอาหารหน่อย หากไม่พอก็ย่อยไม่ละเอียดไม่ดี หรือจิตใจร่างกายใช้พลังงานมากอย่างไรก็เรียนรู้อิ่มพอดีคงไม่ง่วงหรอก จริงๆเรื่องความง่วง ความง่วงเป็นการติดอัสสาทะของความง่วง อธิบายหลายทีแล้ว คุณได้จับอาการง่วงที่มันอร่อยให้ได้ มันอร่อยที่ความงัวเงีย อาการงัวเงียคุณหลับแล้วเกิดอาการนี้ อยากจะไปกับมัน อันนี้แหละ งัวเงีย อยากจะนอน แต่มันไม่ได้นอนเต็มที่ ก็พยายามรักษาความงัวเงีย อย่าให้อาการงัวเงียเกิดในอารมณ์ ไม่ว่าเมื่อไหร่ให้มีแต่ตื่นกับหลับ อาการงัวเงียคืออาการกิเลสที่เกิดระหว่างตื่นกับหลับ ตื่นคือสว่างเลย หลับคือหลับ นอกจากคุณจะฟุ้งซ่าน พอลดความฟุ้งซ่านได้ก็หลับ จะให้สอนวิธีทำจิตเพื่อนอนหลับก็ลดความฟุ้งซ่าน นี่พูดง่ายๆ คนที่ไปนั่งสมาธิหลับตาสะกดจิตเขาก็หลับง่าย คุณก็ฝึกสมาธิหลับตาแล้วทำจิตให้ไม่ฟุ้งซ่าน มันจะฟุ้งซ่าน มันหลับแล้วก็พาลไปถีนมิทธะ คุณทำฟุ้งซ่านดับคุณก็หลับได้ แต่ถ้าไม่ฟุ้งซ่านแล้วแต่สะลึมสะลือคือตัวง่วงคือถีนมิทธะ ก็ฝึก ถ้าฝึกแบบที่ว่าคุณจะนอนหลับก็ฝึกแบบนั่งหลับตาปฏิบัติไม่ให้ฟุ้งซ่าน แต่ถ้าจะหลับแล้วมีอะไรคั่น มีปวดเยี่ยว แต่กลัวอารมณ์สะลึมสะลือรักษาไว้ ระวังตกส้วมหัวแตกนะ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 14:20:45 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:43:58 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 15:09:50 )

ความจน

รายละเอียด

คือ การไม่สะสม การจะเข้าถึงความจนได้ เราก็จะต้องเข้าถึงได้ โดยวิธีการใดๆ สูงสุดก็คือด้วยวิธีการของปัญญา ให้เกิดความสุขจากความว่าง เราเห็นว่า ความไม่มีนี่เป็นความสุข ความมีนี้ไม่เที่ยง ส่วนความไม่มีนี้เที่ยง ว่างนั่นแหละดี ไม่มี นั่นแปลว่าเที่ยง

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 12:43:55 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:44:44 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 15:11:07 )

ความจน

รายละเอียด

คือ ความจนนี้เป็นเศรษฐศาสตร์ เป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่ คนที่ทำพฤติกรรมของตัวเองให้เป็นคนมักน้อยไม่สะสม เป็นคนวิริยารัมภะ ขยันพากเพียร จิตใจเป็นคนยินดีในความน้อย น้อยก็พอ สันตุฏฐิ เป็นคนมีชีวิตเรียบง่าย สบาย เป็นคนเจริญ สุโปสะ สุภระ ขัดเกลา แต่ตัวเองเป็นคนที่มีอาการน่าเลื่อมใส ปาสาทิกะ อย่างสมณะโพธิรักษ์เป็นคนที่มีกายกรรม วจีกรรม เป็นคนน่าเลื่อมใส ก็ว่าท่านอีกว่าท่านพูดแรง แต่แรงขนาดนี้ยังไม่เข้าเลย จะให้ท่านทำอย่างไร เดี๋ยวก็รำคาญต้องให้จริง  เปรี้ยงๆ ตาเขียวใส่เลย จะยิ้มหวานใส่จะหาว่ายั่ว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 23 ธันวาคม 2562 ( 12:51:28 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:46:00 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 15:12:13 )

ความจนของคนปุถุชนสามัญ

รายละเอียด

ความจนที่คนปุถุชนสามัญเขาเป็นกัน เขาเป็นกันด้วยความจำนน เขาเป็นกันเพราะว่า เขาอยู่ในสภาพที่ตกอยู่ในฐานะที่หนีไม่ออก ถ้าเขาดีดออก ดิ้นรน เขาก็ดิ้นรน ที่จะไม่เป็นคนจน ซึ่งเขาไม่อยากเป็นเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 2 วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(พลังสัมประสิทธิ์) ตอน สัมประสิทธิ์สองทิศทางที่ต่างขั้ว


เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:04:33 )

ความจนของปุถุชนคนสามัญ

รายละเอียด

ความจนที่คนปุถุชนสามัญเขาเป็นกัน เขาเป็นกันด้วยความจำนน เขาเป็นกันเพราะว่า เขาอยู่ในสภาพที่ตกอยู่ในฐานะที่หนีไม่ออก ถ้าเขาดีดออก ดิ้นรน เขาก็ดิ้นรน ที่จะไม่เป็นคนจน ซึ่งเขาไม่อยากเป็นเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(พลังสัมประสิทธิ์) ตอน สัมประสิทธิ์สองทิศทางที่ต่างขั้ว


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:00:10 )

ความจนของอาริยบุคคล

รายละเอียด

วันนี้เป็นวันที่ 3 ของงานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ครั้งที่ 42 วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 4 อีก 2 วันจะถึงวันมาฆบูชาแล้ว เราก็มาพูดกันต่อ งานนี้เราตั้งใจพูดกันถึงเรื่องความจนที่มีสัมประสิทธิ์กัน จริงๆแล้วเราปฏิบัติกันแล้ว เราเป็นคนจนกันแล้ว เรามีความจน ที่มีสัมประสิทธิ์กันแล้ว ซึ่งความจนที่มีสัมประสิทธิ์นี้เป็นความจนของอาริยบุคคล เป็นแบบโลกุตระ ซึ่งมันไม่ใช่ความจนทั่วไปของปุถุชนคนสามัญที่เขาเป็นกัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 2 สื่อธรรมะพ่อครู(พลังสัมประสิทธิ์) ตอน สัมประสิทธิ์สองทิศทางที่ต่างขั้ว วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561

 


เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:02:59 )

ความจนที่มหัศจรรย์

รายละเอียด

มันเป็นความจนที่มหัศจรรย์ เพราะว่าเป็นคนจนที่มีคุณค่าต่อสังคม เป็นคนจนที่ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจเขาเสื่อม ไม่ได้ทำให้เรื่องการเมืองเขาต้องลำบาก แต่กลับช่วย การเมืองก็ไม่ต้องมาบริหารชาวอโศก ในสังคมชาวอโศกไม่มีตำรวจสักคน มีตำรวจก็เป็นตำรวจปลดเกษียณแล้ว ก็อยู่อย่างเป็นสุข อยู่สบายไปไม่ได้ทำหน้าที่อะไร นานๆ ก็แต่งเครื่องแบบออกมาที ทำเป็นเต๊ะท่าบ้าง มีคนเยอะๆ ก็ช่วยหน่อยให้ตำรวจเต๊ะท่า เพราะทางการเขาไม่ค่อยส่งตำรวจมาเพราะที่นี่ไม่ค่อยเกิดเรื่องที่จะต้องไปเดือดร้อนให้ตำรวจช่วยดูแล ไม่ต้อง แม้แต่ตำรวจจราจรก็ไม่ต้อง ใช้เด็กทำจราจรได้ มันง่ายถึงขนาดนั้น มันเป็นสังคมที่สะดวกง่ายดาย ไม่เกิดปัญหารุนแรง ไม่เกิดปัญหาวุ่นวาย ไม่ใช่ฆ่ากัน ถือมีดไล่กัน ถือปืนยิงกันเต็มเมืองวุ่นกันไปหมด ตำรวจต้องทำงานอย่างนี้ ไม่ต้อง 

นี่เป็นเรื่องยืนยันพิสูจน์ได้ว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นเรื่อง อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูนเสียสละ จริงๆ เพราะฉะนั้นในเรื่องของคุณสมบัติที่อาตมาพูดถึง เป็นคุณสมบัติที่ เป็นสังคมที่ อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูนเสียสละ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เกิดมาต้องรู้จักความเป็นคนกับสังคมจึงไม่เสียชาติเกิด วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 เมษายน 2566 ( 13:26:34 )

ความจนที่อยู่กับแก่นสารสาระตลอดเวลา

รายละเอียด

เพราะว่าความจนคือไม่ต้องมีมาก เราไม่มีสิ่งที่เป็นพิษสิ่งที่มอมเมา แต่เรามีสิ่งที่เป็นสาระจำเป็นต่อชีวิต เป็นปัจจัย 4 หรือบริขาร เราทำให้อุดมสมบูรณ์และไม่กักตุน สร้างไว้มาก คนทำงานได้ทุกวัน ป่วยเจ็บหรือแก่ถ้าไม่ไหวก็หยุดพัก เด็กทำไม่ไหวก็ไม่ทำ ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานก็ทำงานสร้างสรรไป ถึงเวลาพักก็พัก ถึงเวลาทำงานก็ทำงาน มันก็มีเหลือกินเหลือใช้ เพราะเราเองศึกษาว่าเราไปเฟ้อ เปลืองผลาญอะไร เราก็เลิกทำสิ่งเหล่านั้น เราก็มีเหลือกินเหลือใช้ รู้จักเหตุปัจจัยที่จำเป็นของชีวิต เรามีปัจจัย 4 ของเราเองด้วย สร้างสรรค์เองด้วย เราทำให้เหลือด้วย สิ่งที่เกินที่เฟ้อเราก็ไม่เสียพลังงานไปเอา เราก็อยู่กับแก่นสารสาระตลอดเวลา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก

วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 14:16:39 )

ความจนที่ได้ช่วยเศรษฐกิจประเทศชาติ

รายละเอียด

นี่คือความจนของพวกเรา และเป็นความจนที่ได้ช่วยเศรษฐกิจประเทศชาติ ก็ที่ว่าคนเรานั้นได้มาอาศัยเป็นแหล่งทำมาหากินตลอดเวลา เลี้ยงชีพเขาอย่างเป็นสุขสำราญเบิกบานใจ สงบ ไม่ได้มีความเดือดร้อนอะไร 

พวกเรานี้ลึกซึ้งมากตรงที่ว่า คนข้างนอกเข้ามาทำงานที่นี่ ก็ไม่ปรากฏว่าจะมีอาชญากรรม ที่เป็นเรื่องราวถึงโรงพัก ก็ไม่มี แล้วเราไม่ได้ห่วงแหนไม่ได้เก็บงำ ก็เปิดเผย เขาจะทำอย่างไรก็ได้ ขับรถโกดังเข้ามาที่นี่แล้วขนอะไรต่ออะไรไปในตอนกลางคืน เยอะแยะ แต่เขาไม่ขนหรอก ถ้าเขามาขนเมื่อไหร่เราก็คงต้องเก็บ พูดไปเหมือนไปท้าทาย

มันมีเหตุปัจจัยมีจิตใจที่มีพลังงานลึกซึ้งซับซ้อน เราเป็นคนไม่เอาเปรียบ ยิ่งให้เขา เขายิ่งเกรงใจ เขาจะมาละลาบละล้วงทำทุจริตมันไม่ค่อยกล้าทำ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน 3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 11:36:40 )

ความจนนี่เป็นพฤติกรรมที่ประเสริฐของมนุษย์

รายละเอียด

ตอนนี้อ่านซ้ำคนจนที่มีแบบ เพิ่งอ่านไป 20 30 หน้า อาตมาอ่านทวนดู ก็เขียนมาครบทุกอย่างแล้วนะ แต่ก็ซอยละเอียดได้อีก อาตมารู้สึกอย่างนั้น ก็ค่อยๆว่าไปเรื่อยๆ คนจนที่มีแบบ 

เราจะพยายามที่จะขยายความรู้ ให้คนเข้าใจให้ได้ว่า คนจนนี่แหละเป็นความประเสริฐ ความจนนี่เป็นพฤติกรรมที่ประเสริฐของมนุษย์ ที่มนุษย์จะต้องเข้าใจดีๆเลย คำว่าคนจน ความจน ซึ่งภาษาไทยก็คงเข้าใจว่า “จน” คืออะไร มันมีความหมายหลายๆนัยอยู่ 

“จน” นี้เป็นสภาวะเป็นคำนาม ที่หมายถึงคนที่มีสมบัติน้อยหรือไม่มีสมบัติ เป็นคนยากไร้ เป็นคนมีน้อย แต่ทีนี้คนมีน้อยในประเภทจนแบบที่เราเป็นแบบมีปัญญา จน ตั้งใจจน  เต็มใจจน  มุ่งมาจน ที่จะจนตามพระพุทธเจ้าพาจน จนตามพระพุทธเจ้าเลย มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องแก้ปัญหาสังคมได้เบ็ดเสร็จ ถ้าจนแบบมหัศจรรย์ จนแบบอาริยะ จนแบบโลกุตระ จนได้แล้วมันแก้ปัญหาสังคมได้สำเร็จ สำเร็จจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ก็แล้วแต่ มันแก้ปัญหาได้สำเร็จจริงๆ เอา ค่อยๆ อธิบายไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  Neo Protest ประชาชนปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 11:31:45 )

ความจนประเสริฐ ความรวยขออภัยมันชั่ว

รายละเอียด

คำว่าคนจน ทุกวันนี้อาตมาก็พยายามขยายความให้เข้าใจว่า ความจนนี่แหละเป็นสิ่งประเสริฐสุด ความรวย ขออภัย มันชั่ว อาตมาพูดชัดอย่างนี้ คนรวยเขาจะมายิงเอาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่มันบาปนะ กรรมเป็นเรื่องจริงของใครของมัน เราจะต้องมาทำความเข้าใจ จะเข้าใจว่าความจนคืออะไร และเราจนจริงๆ จะรู้สึกอย่างไร จนจริงๆ ต้องประกอบด้วยปัญญา รู้สึกว่าดีจริงๆ ต้องมีความฉลาดในระดับปัญญา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12
ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันที่ 18 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:14:21 )

ความจนอยู่เหนือความรวย

รายละเอียด

ความจนอยู่เหนือความรวยได้อย่างไร ความจนที่จริงแท้ ความจนที่สัมมาทิฏฐิ ความจนที่มหัศจรรย์ ความจนที่วิเศษ มันอยู่เหนือความรวยเพราะมันไม่ทุกข์ ความรวยนั้นเป็นทุกข์ พวกรวยนี้มีความสุขสู้พวกคุณไม่ได้หรอก พวกคุณมีความสุขกว่า อบายที่รวยไม่รู้จักจบ  คนที่ยิ่งรวยยิ่งจะมีนรก ถ้ารวยเป็นสวรรค์แล้วพระพุทธเจ้าไม่ทิ้งความรวยหรอก

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรม บ้านราช จรณะวิชชาที่พาเป็นคนจนอยู่เหนือคนรวย วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 05 พฤศจิกายน 2562 ( 12:50:52 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:46:31 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 15:13:02 )

ความจนอย่างจบกิจคือความเป็นคนมีวรรณะ 9

รายละเอียด

อาตมาพูดว่าในความเป็นมนุษย์กับในความเป็นสังคม พูดมาตั้งเท่าไหร่แล้วไม่รู้ว่า พระพุทธเจ้านี้เกิดมาไม่ได้ศึกษาอะไร เอ้า ทวน ท่านศึกษาความเป็นคนกับความเป็นสังคม พูดแล้วพูดอีก พูดอีกพูดแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มันสูงสุดจริงๆนะ ในการศึกษาความเป็นคนและรู้จักว่า คนคืออะไรทำไมสำคัญนัก 

คนคืออะไร แล้วก็รู้ไปถึงจิต เจตสิกของคน แยกกายแยกจิต จนทำกายทำจิตให้ไปนิพพานได้ สรุปง่ายๆ นี่สุดยอดเลย 

เพราะฉะนั้นเมื่อคนกับสังคมมันจะเป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่าคนเป็นต้นเหตุ คนไม่รู้จักตัวเอง คนไม่รู้จักกิเลส แล้วก็ไม่ลดกิเลสจริงๆ 

ถ้าคนเรียนรู้กิเลส ลดกิเลสจริงๆ สังคมที่มีคนที่ลดกิเลส ก็เกิดเป็นสังคมที่เจริญๆ จากสังคมกลุ่มเล็กก็เป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มกว้างออกไป 

อย่างพวกเรานี้เป็นสังคมกลุ่มเล็ก แล้วก็ค่อยๆเป็นหมู่ใหญ่ขึ้นไป โดยเฉพาะที่มีพื้นฐานของศาสนาพุทธมาแต่เดิมแล้ว จึงหวังได้ว่า เมืองไทยต่อไปจากนี้ จะเจริญ 

มันเสื่อมมา 2,500 ปี ไม่มีโลกุตรธรรม ไม่มีสังคมโลกุตระแบบนี้ สังคมโลกุตระแบบนี้คือสังคมสาราณียธรรม 6 เป็นสุดยอด เพราะสังคมสาราณียธรรม 6 นี้มีคุณธรรมของพุทธพจน์ 7 

สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ  จริง จึงอยู่กันอย่างเห็นได้ สัมผัสได้ว่า มีวรรณะ 9

มีความเป็นอยู่อย่างสุภระ เลี้ยงง่าย เลี้ยงคืออย่างไร คือ อยู่อย่างนี้นะ กินอย่างนี้นะ ใช้อย่างนี้นะ ถ้าเลี้ยงหมูก็อยู่อย่างนี้นะ กั้นคอกไว้ กินอย่างนี้นะ เช้าเอามาเทใส่ไว้ให้ เลี้ยงง่าย ส่วนไก่ก็ปล่อยมัน มันไปจิกกินหาเองบ้าง หว่านเมล็ดถั่วงาข้าวให้มันกินบ้าง ไม่ให้มันเลยมันก็หากินเอง สำหรับไก่ เลี้ยงหมูก็ต้องกั้นคอกมันไว้ หรือไม่กั้นคอกก็ได้อยู่ในบ้านมันก็หากินเอง ใส่รางให้มันกินเองบ้าง เลี้ยงง่าย พวกเราง่ายกว่าหมูอีก ง่ายกว่าไก่อีก เพราะไปหยิบหากินเอง แล้วมีที่มีทางด้วย ไม่เละเทะเหมือนกับหมู เลี้ยงง่ายมีระเบียบเรียบร้อย สุภระ

บำรุงง่ายคือ ทำให้เป็นอาริยะ ทำให้เจริญง่าย สุโปสะ เจริญอะไร ก็เจริญอาริยธรรม เจริญโลกุตระง่าย ข้างนอกเขาไม่ได้ง่ายนะที่จะเจริญโลกุตระ แม้เจริญธรรมะโลกียะก็ยังยากเลย แต่ของเรานี้ สบม ทมด ปกต หห จจ  ปกต หห จจ มชยลล ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ข้างหน้าไม่แปล แปลแต่ข้างหลัง มชยลล ทำได้จริง 

เป็นคนมักน้อย ท่านแปลศัพท์ อัปปิจฉะว่ามักน้อย อาตมาแปลให้ชัดว่า กล้าจน มีน้อยๆได้ กล้าที่จะมีน้อยๆ จนไปถึงข้อที่ 4 ใจพอ แต่เขาไปแปลเพี้ยนเบี้ยวบาลีว่า พึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ เปิดช่องให้พวกเศรษฐีทั้งหลายหรือกฎุมพีทั้งหลาย ใครมันไม่พึงพอใจในสมบัติที่มันมีอยู่ วะ ไปถามคุณธนินท์ ไปถามคุณเจริญว่าพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ไหม มันไม่ตรงกันเลยกับความใจพอ ไปแปลความสันโดษว่าพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ 

มันมีใจพอสัมพันธ์กับ อัปปิจฉะ มีน้อยๆก็พอไม่ต้องไปมากมากมันตรงกันข้าม มหัปปิจฉะ มักมาก มักคือชอบ มักน้อยคือชอบที่จะมีน้อยๆ ภาษาอีสาน มักคือ ชอบหรือรักเลย... เพลงโบราณฮักเจ้าเด้ขาเป๋ลืมเบิ่ง ฮักเจ้าแล้วขาแป้วลืมเห็น 

สันตุฏฐิใจพอ อาตมาแปลให้ตรงความหมายเลยคือ มีใจรู้จักพอสันโดษหรือ สันตุฏฐิ มีแค่นี้ก็พอ 

อย่างพวกเราคุณสมบัติพวกนี้เป็นได้จริง มีจริงด้วย และมีได้มากกว่านี้ เรามีความอุตสาหะขยันหมั่นเพียร มีสมรรถนะความสามารถได้มากกว่านี้ แต่เราเอาแค่นี้ เหลือนี่มาแจกจ่ายไป เอาไปแบ่งกัน เราเอาแค่นี้ พอใช้ พอกิน พออยู่ 

มันยืนยันสัจจะ มันยืนยันสภาวธรรมจริง พูดอย่างไรทำได้อย่างนั้น ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที ไม่ใช่พวกขี้โม้แหลก พูดอย่างไรทำได้อย่างนั้นจริงๆ ไม่ค้านไม่แย้ง ไม่ได้ตระบัดสัตย์อะไร  

เป็นผู้ที่ขัดเกลา สัลเลขะ เป็นผู้ที่ขัดเกลากายวาจาใจได้ กายบางทีบกพร่องก็ขัดเกลา วจีบางทีบกพร่องก็ขัดเกลา มโนก็ขัดเกลา มีหลักเกณฑ์ประพฤติปฏิบัติให้เจริญสูงขึ้นเรื่อยๆหรือ ธูตะหรือธุดงค์

ก็ไปแปลว่า ธุดงค์คือพวกหลับตา ออกป่า ออกดง ไปใหญ่เลยเบี้ยวบาลีเพี้ยนบาลีไป ทั่วทีปเลย นี่แหละคือความผิดพลาด 

เพราะฉะนั้นไปแปลว่าธุดงค์คือออกป่าออกดงนี้หมดท่าเลยนะ น่าเกลียดจริงๆเลย ธุตังคะ บาลีเขาไม่มีด.เด็ก เมื่อมาเป็น ด.เด็ก ก็ทะลุดงเลยบ้าไปเลย ทำไมมันมักง่ายจังเลย ธูตะ แปลว่าบุกดง เลยออกไปออกป่าเข้ารกเข้าพงกันใหญ่เลย นี่คือความไม่ฉลาดที่แปลโดยภาษาไทยชัดๆ ว่าโง่ มันก็โง่กันไป ศาสนาพุทธเพี้ยนผิดกันไปหมด 

ข้อ 7 เมื่อสามารถขัดเกลาได้ มีข้อปฏิบัติที่เจริญไปตามลำดับๆ ให้สูงขึ้นเรื่อยๆ มันก็มีอาการที่เจริญน่าเลื่อมใสขึ้นไปๆ กายกรรมก็ยิ่งเหมาะสมยิ่งดีไปเรื่อยๆ เป็น กัมมัญญตา ไปได้เรื่อยๆๆๆ น่าเลื่อมใสขึ้น ทัังกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมเป็นประธานอยู่ดี 

สูงสุด 2 ข้อสุดท้ายเป็นคนไม่สะสม เป็นคนขยันเสมอ วิริยารัมภะ ไปด้วยพยัญชนะสวยๆว่า ปรารภความเพียร ท่านประยุทธ์ ปยุตโตหรือสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ท่านแปลว่า  ระดมความเพียร พยัญชนะว่า วิริยารัมภะ ขยันเสมอ ขยันอยู่เป็นอัตโนมัติ ขยันอยู่ ปรารภ คือรู้จักพักรู้จักเพียร แล้วไม่สะสม 

2 คำนี้สุดยอดเลยนะ ขยัน สร้างสรร ทำโดยไม่สะสม โดยเฉพาะไม่ต้องสะสมเลย ไม่มีสักบาท ทำแล้วเอาเข้ากองกลางหมดเลย มันพิสูจน์ความไม่สะสมเป็นตัวเป็นตนไม่มีตัวตนของตนเลยไม่มีของตน เอาเป็นของส่วนกลาง แล้วเราก็บริหารของส่วนกลางกันอุดมสมบูรณ์ ไม่แย่ง ไม่ชิง ไม่มุบมิบ ไม่ทะเลาะวิวาทกันเลย 

เราพิสูจน์สังคมที่อยู่กันอย่างไม่สะสมแล้วเข้ากองกลาง แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ เจือจาน สังคหะเกื้อกูลแจกจ่ายกัน ผู้นั้นผู้นี้เก็บไปได้มากก็เอามาเข้ากองกลาง เอาไปแจกกันก่อน 

นี่มันเป็นเครื่องยืนยันสัจจะว่า สังคมนี้เป็นสังคมที่มีพฤติกรรม ตรงกันกับคำสอน พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างไรทำได้อย่างนั้น เป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์ ทำอย่างนี้แล้วจะเป็นอย่างนี้ได้ แล้วสบาย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 45 วันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2566 แรม 5 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 10:37:31 )

ความจนอย่างมีสัมประสิทธิ์แบบโลกุตระ

รายละเอียด

มีความจนอย่างมีสัมประสิทธิ์ แบบโลกุตระ จนแบบมีญาติพี่น้องมีกองสมบัติ แม้จะกองเล็กๆ เพราะเราไม่สะสม แล้วกองสมบัติมีแต่สาระ ไม่เอาเพชรนิลจินดาอะไรมาสะสม จะบ้าหรือ กระเป๋าใบละ 4 ล้าน 5 ล้าน จะบ้า เขาบ้ากันจริงๆ แบงค์ 5 ล้าน ยังใส่กระเป๋านี้ไม่ได้เลย กระเป๋าใบละ 4 ล้าน 5 ล้าน กระเป๋าถือของเขา ใส่แบงค์ใบละพัน 4 ล้าน 5 ล้านใส่หิ้วไปไม่ได้นะ แต่เขาซื้อกระเป๋าใบละ 4 ล้าน คิดสิว่าโง่ขนาดไหน ธนบัตร 4000 ใบ ใส่ในกระเป๋า purse เขาไม่ได้ แต่เขาใส่ Credit Card เลย แต่เดี๋ยวนี้เขาใส่ในโทรศัพท์มือถือ ในซิมการ์ด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน สร้างสัมประสิทธิ์คนจนอาริยะด้วยไตรสิกขา


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:36:19 )

ความจนเป็นความประเสริฐอย่างไร

รายละเอียด

เศรษฐศาสตร์ที่คนหมู่ใหญ่พยายามมาจนกันให้ได้มาก แล้วก็มีปัญญารู้ว่าความจนนั้นเป็นความประเสริฐ คนที่จนนี้เป็นคนประเสริฐเป็นประโยชน์เป็นคนที่ไม่เป็นภาระ เป็นคนจนที่ขยันหมั่นเพียรสร้างสรรอย่างที่เราเป็น มีอยู่มีกินรู้จักความพอไม่ไปสุรุ่ยสุร่ายเลยเถิดจนเกินไป รู้จักเขตความพอและเป็นผู้มักน้อยสันโดษ

คนที่ปฏิบัติตามได้ตรงกับธรรมะพระพุทธเจ้านี้อย่างที่เราเป็นกันได้ เป็นตัวอย่างที่ขัดแย้งกับค่านิยมสังคมโลกที่ตอนนี้ถูกครอบงำ ถูกมอมเมาให้อยากไปเป็นแบบโลกียะที่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย เป็นอบาย เขาก็เลยรู้สึกแบบนี้เพราะมีค่านิยมยึดมั่นถือมั่นแบบนี้ พวกเรามาพูดแบบนี้เขาก็เลยขัดแย้ง คนที่หลงผิดมันมีมาก คนที่ยึดติดมีมาก มันก็เลยอย่างนี้ เขาก็มีพวกมาเยอะ รับรองกัน คอมเม้นสนับสนุนกันเลย เพราะเป็นค่านิยมเดียวกัน เจตคติเดียวกัน มโนคติเดียวกัน ไปทิศทางเดียวกัน ที่เป็นอบายโลกธรรมฟุ้งเฟ้อจัดจ้าน เขาไม่รู้ว่าผิดนะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ตีแตกเทวะด้วยคอมเม้นท์ที่เห็นต่างจากพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน แนวคิดแบบคนจนนั้นคนมีภูมิจึงเข้าใจได้ 


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 10:57:26 )

ความจนเป็นสิ่งดีไม่ใช่สิ่งน่ารังเกียจ

รายละเอียด

การจะแก้ปัญหาด้วยการให้คนไปรวย ไปสร้าง คอนเซ็ป กระบวนทัศน์ paradigm ให้คน หวังว่าจะรวยคิดจะรวยในอนาคต ไปสร้างกระบวนทัศน์อย่างนี้มันก็เจ๊งสิ ไม่ใช่มันต้องบอกให้คนลดลง อย่าไปคิดรวย ต้องคิดอยู่กับความน้อย อัปปิจฉะ สันตุฏฐิ ปวิเวกะ อสังสัคคะ วิริยารัมภะ

มาเป็นคนมักน้อย กล้าจน ความจนไม่ใช่สิ่งน่ารังเกียจ อโศกมาเป็นคนจน พวกคุณมาเป็นชาวอโศกนี่รวยมากขึ้นหรือลดลง ก็ลดลง มันถึงจุดสันตุฏฐิ ไม่เหมือนก่อน พลังงานความอยาก กระสันแย่งชิงเอามามาก เอาเปรียบมาก เหมือนกับแต่ก่อนมันลดลงใช่ไหม นี่คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องให้คนมาจนอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก

วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 12:09:46 )

ความจนเป็นสิ่งที่ประเสริฐเป็นวัฒนธรรมที่สมบูรณ์ยั่งยืน

รายละเอียด

การจะมีชีวิตอย่าไปฝันถึงความมั่งคั่งถึงความรวย ให้มาเป็นคนจน ไปอ่านพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้แตก ไม่ยาวมากหรอก เป็นเนื้อแท้อย่างที่เอาออกอากาศประจำอยู่ที่นี่ ท่านให้บริหารแบบคนจน แต่คนก็เข้าใจไม่ได้ ความจนไม่ใช่สิ่งที่ต่ำต้อยแต่เป็นสิ่งที่ประเสริฐด้วยซ้ำไป

คนจนคือไม่มีทรัพย์สินเงินทองมาก มีเท่าไหร่ก็สะพัดออก แต่มีเหลือกินเหลือใช้ เพราะว่ามีความขยันและสมรรถภาพ ไม่เอาเวลาไปสร้างสิ่งที่ไร้สาระ สร้างแต่สิ่งที่มีความจำเป็น แค่นี้ก็อุดมสมบูรณ์แล้ว ตั้งแต่ปัจจัย 4 นี้แหละ รับรองว่าทั่วโลกจะต้องอาศัยเรา ไม่ต้องเก่งอะไรอย่างอื่น เก่งในการทำปัจจัย 4 มารับรองว่าทั่วโลกต้องอาศัยปัจจัย 4 ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนทุกชาติทุกภาษาต้องอาศัยปัจจัยสี่นี้

ทำอย่างนี้จะยั่งยืนสมบูรณ์ อย่างชาวอโศกเป็นวัฒนธรรมที่สมบูรณ์ยั่งยืน เพราะว่ามีพร้อมมีพลังงานหมุนเวียน สมบูรณ์แล้ว cyclic order

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 14:19:42 )

ความจนเป็นเรื่องลึกซึ้งสุดยอดประเสริฐอย่างไร

รายละเอียด

ความจนมันเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสุดยอดประเสริฐ ที่คนในโลกที่ไม่ใช่เราชาวโลกุตรธรรม จะฟังแล้วก็งง ฟังแล้วก็เข้าใจไม่ได้ ว่า เอ๊ มาเป็นคนจนเป็นเรื่องพูดเล่นหรือเปล่า ? พวกเราบอกว่าไม่ได้พูดเล่น มีตั้งแต่แบบตื้นๆง่ายๆ จนกระทั่งไปถึงลึกซึ้งสูงสุดเลย จนวัตถุ จนสิ่งที่โลกนิยม จนเงินทองข้าวของทรัพย์ศฤงคารวัตถุต่างๆ จนลาภ จนในยศชั้นในสรรเสริญ จนในสรรเสริญ จนในยศชั้นตำแหน่งหน้าที่ อาตมาเป็นคนที่ร่ำรวยสรรเสริญหรือจนในสรรเสริญ ...(โยมว่า จนในสรรเสริญ)

อาตมาเป็นคนจนในสรรเสริญ โดยส่วนใหญ่เขาไม่มาสรรเสริญอาตมา อาตมาได้คนที่พอเห็นใจเข้าใจที่พอรู้ชัดเจน เคารพนับถือว่าอาตมามาจนนี้ถูกแล้ว แล้วอาตมาก็ไม่ได้จนหลอกๆ แต่จนจริงๆ แล้วก็จนอย่างเต็มใจจน จนอย่างเบิกบานสำราญใจด้วย มันจึงเป็นความลึกซึ้งซับซ้อน เป็นความยิ่งใหญ่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 10:37:23 )

ความจนแบบปรมัตถ์

รายละเอียด

คนที่มีปัญญาที่เป็นโลกุตระแล้ว จะไม่กลัวไม่เกรง ไม่แปลก ในเรื่องความจน มาเป็นคนจน เพราะทั้งทางเศรษฐกิจ ทั้งปรมัตถสัจจะ คนที่จนแล้วก็ยินดีในความจน มุ่งมาจน ตั้งใจมาจน เต็มใจมาเป็นคนจน อย่างพวกเรา แล้วก็ทำได้สำเร็จ พอได้สำเร็จแล้วก็เป็นเรื่องที่เชื่อได้ว่า ตัวเองเป็นคนเจริญคนประเสริฐ เราเป็นคนจนที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม 

คนจนเป็นประโยชน์ต่อสังคม คนจนที่ไม่เข้าใจความจนแบบปรมัตถ์ เป็นคนจนที่จำนนอยากรวย แต่มันรวยไม่ได้ จะเป็นเพราะขี้เกียจ หรือเพราะไม่เอาถ่าน หรือเป็นเพราะผลาญพร่า สุรุ่ยสุร่ายหรือเป็นเพราะอะไรก็แล้วแต่ เขาไม่อยากจน แต่เขาทำตัวเองจน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เป็นคนจนสุดประเสริฐได้เพราะรู้แจ้งในอาหาร 4 วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2565 ( 18:01:16 )

ความจนแบบมีสัมประสิทธิ์

รายละเอียด

ทีนี้มาเข้าสู่ ความจนแบบมีสัมประสิทธิ์ มันมีเรื่องลึกซึ้งมากมายในความจนแบบมีสัมประสิทธิ์ คนจนที่เต็มใจจน ตั้งใจมาจน และก็จนสำเร็จไปตามลำดับ ที่จนสำเร็จไปตามลำดับแล้วจะไม่วกเวียนกลับ หรือยึกยักให้เสียท่า อวินิปาตธรรม การยึกยักที่ต่ำสุด แต่ไม่ถอยหนี โสตาปันนะ อวินิปาตธรรม นิยต สัมโพธิปรายนะ นี่เป็น 4 ส่วนในควอเตอร์ของการแบ่งให้มาศึกษา จากสามเส้าแล้วมาเป็นสี่

อาริยะคือออกจากกรอบที่ตนเองวนได้ โลกียะออกจากกรอบนี้ไม่ได้ พอมีพลังงานออกมาได้เป็นตัวที่ 4

พลังงานตัวที่ 4 เกิดได้สองนัย เกิดได้ตามธรรมชาติ กับเกิดได้จากวิธีลัดของพระพุทธเจ้าคือ ต้องฟังจากสัตบุรุษ

หากได้ฟังจากสัตบุรุษ คุณเร็วจี๋เลย แต่ถ้าจะปล่อยให้เกิดตามธรรมชาตินั้น สัตว์เซลล์เดียว แล้วค่อยๆหมุนไปเป็น 2 เซลล์ มาเป็น 3 เซลล์ 2 เซลล์ก็ขยึกขยักไม่ค่อยออก มันก็เลยมีสะสม เหมือนงูกินเข้าไปป่องในท้องเกิดองศา จนท้องแตกก็เกิดได้

มี cytoplasm สะสมไป จนกรอบของ protoplasm แตกก็ออกมาได้ จะสั่งสมให้เกิดตัวที่ 4 โดยธรรมชาติก็ได้แต่มันนาน(ลากเสียง นานนนนนน) และมากด้วย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน สร้างสัมประสิทธิ์คนจนอาริยะด้วยไตรสิกขา


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:25:29 )

ความจนแบบโลกุตระประเสริฐทั้งตนเองและทั้งช่วยโลก

รายละเอียด

คนมีวิชชา เป็นคนโลกุตระเป็นคนอาริยะที่แท้จริงเป็นส่วนน้อยไม่ได้เป็นคณะใหญ่หรอก เพราะคณิกะก็เป็นคณะใหญ่ที่รวมตัวกันก็รวมหัวกัน เขาก็พยายามสร้างอำนาจด้วยการรวมหัวกันในโลก เขาถือว่าเป็นลักษณะยิ่งใหญ่สำเร็จของโลก เป็นจ้าวโลก คณาธิปไตย

เพราะฉะนั้นคนที่จะมีภูมิปัญญามีวิชชา ที่จะรู้แบบโลกุตระ ว่า คนเราเกิดมาเป็นคนจน นี่ ประเสริฐ ประเสริฐทั้งตนเอง ประเสริฐทั้งช่วยโลก คนจนคือคนช่วยโลก คนรวยคือคนผลาญทำลายโลก ซึ่งมันเป็นภาวะแทรกซ้อนลึกซึ้งเยอะแยะ คนที่มีปัญญา มีความฉลาดแบบโลกุตระ ที่จะเข้าใจในเรื่องความจนโลกุตระ ความจนแบบนึง 

คำว่าจน ง่าย ตื้นๆ ง่ายๆ คือ ไม่มีสมบัติวัตถุ ที่โลกเขานิยมชมชอบ ข้าวของเงินทองทรัพย์ศฤงคารแก้วแหวนเพชรนิลจินดาต่างๆ เราก็เข้าใจโลกเขาว่ามันต้องรวย มันต้องมีพวกนี้มากๆ แต่เราเข้าใจแล้วเราก็ไม่เอา จับได้ ทำได้ สามารถได้ แต่ไม่เอา ได้ก็สะพัดออก ตั้งใจจน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 10:44:00 )

ความจบ 2 อย่างของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาก็จบอยู่ 2 อย่างนี้ 

1. ถ้าผู้ใดบรรลุธรรมด้วยกันก็เป็นหนึ่งเดียวกัน 2.ผู้ไม่บรรลุธรรมเขาจะเห็นต่างกันหมด ไม่มีทางที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันได้เลย เมื่อเราเห็นอย่างนั้นแล้วเราก็จบ คุณก็เห็นอย่างนึงเราก็เห็นอีกอย่างหนึ่ง เรียกว่านานาสังวาส ก็จบ นี่คือความจบของพระพุทธเจ้า อาตมาก็ไม่มีปัญหา คนที่เป็นนานาสังวาสคนละนิกาย คนละศาสนา คุณก็เป็นไปซิ ไปทำของคุณ อาตมาก็ไม่ได้ว่าพวกคุณ แต่อาตมาว่าพวกพุทธที่ควรทำให้ถูกตามพระอนุสาสนีของพระพุทธเจ้า แล้วอาตมาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดสิ่งที่ถูก มันก็จะไปฟาดหัวผู้ที่ปฏิบัติผิด พูดเมื่อไหร่ก็ฟาดหัวผู้ที่ปฏิบัติผิด แต่คุณบอกว่าคุณปฏิบัติถูก คุณก็ไปอยู่กับพวกเดียรถีย์ แต่ถ้าคุณว่าไม่ใช่ คุณเป็นพุทธ ก็ต้องมาฟังสิ่งที่อาตมาพูดสิ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 14:37:29 )

ความจบกิจของประชาธิปไตยไทยอยู่ที่จุดไหน

รายละเอียด

มันอยู่ตรงไหน เรื่องของความจบ ก่อนจะสาธยายต่อไปอาตมาก็ขอยืนยันว่า ในประเทศไทย ความเป็นประเทศไทย ณ ปัจจุบันนี้ เรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันนี้ ก็เป็นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกแล้ว มันไม่นิ่งหรอก มันไม่เที่ยงหรอก  แต่ว่าสะพัดหมุนอยู่ อย่างได้สัดส่วนที่ดีที่สุดกว่าประเทศใดๆในโลก คำว่าดีคำนี้ ทั้งความสะพัดก็เร็ว Static กับ Dynamic ก็ความนิ่งแน่นก็นิ่งแน่น ความสะพัดก็เร็ว กว่าประเทศใดๆ แต่นัย ละเอียดอย่างนี้โดยอธิบายธรรมะ นักเศรษฐศาสตร์ที่ไม่มีธรรมะก็ไม่รู้เรื่อง มีความพอดี มีความลงตัว มีความเป็นไปอยู่ดีที่สุด เหนือประเทศต่างๆ อยู่แล้ว

ไม่ว่าจะเป็น 1. หนี้ของประเทศ หรือ สิ่งที่เอามาใช้เป็นองค์ประกอบในการสะพัด ทั้งที่บอกว่า เงิน หรือที่เรียกว่า อัตรา ของประเทศนี้ชื่อว่า ดอลลาร์ หยวน รูปีอะไรก็แล้วแต่ ที่เราไปกู้ไปยืมมา และเราเองก็สร้างสรรและเราก็มี สะพัด จะไปใช้หนี้คืนเขาหมุนเวียนอยู่นี่แหละไม่มีจบหรอกมัน สะพัดกันทั่วโลก ที่มันสัมพันธ์กันระหว่างต่อประเทศที่ยังเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน มีการค้าขายใช้จ่าย มีการหมุนเวียน ธนบัตรของชาติตัวเองอยู่กับของแต่ละชาติ มันก็สัมพันธ์กันไป มันไม่มีหยุดมันไม่มีจบหรอก แต่มันมีตัวจบที่อยู่ในความพอเหมาะพอดี อยู่ในความพอเหมาะพอดีของมัน มันเป็นความจบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 มกราคม 2566 ( 19:38:38 )

ความจบของธรรมะพระพุทธเจ้า สิ่งที่มันขัดแย้งกัน

รายละเอียด

อโศกนำโดยอาตมา เข้าใจอย่างนี้เป็นธรรมวาที คือเป็นคำพูด คำสอนที่เป็นธรรม ส่วนทางเถรสมาคมเขาก็เข้าใจอย่างของเขาเป็นธรรมวาที  เขาก็สอนของเขา เรียนของเขาได้ผลแบบของเขา ของเราก็ได้ผลแบบของเรา มันก็ต่างกับนานาสังวาส เป็นพุทธร่วมกันมันจบแล้วเรื่องทะเลาะกัน ไม่ทะเลาะกัน ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำที่เห็นว่าอันไหนเป็นธรรมวาทีตามความเห็นของตน แล้วก็อยู่ร่วมกันไปเป็นพุทธร่วมกัน แต่เป็นนานาสังวาส สังวาสคือร่วมกัน นานาคือแตกต่างกัน นี่คือความจบของธรรมะพระพุทธเจ้าที่ท่านตัดสิน สุดท้ายของสิ่งที่มันขัดแย้งกันแต่ต้องอยู่ร่วมกัน มันจึงสงบอบอุ่น 

เรากับเถรสมาคมทุกวันนี้ก็สงบอบอุ่น ไปมาหาสู่กัน ใครจะยินดีมาก็มา ใครไม่ยินดีมาก็ไม่เป็นไร เพราะว่าความยินดีเป็นราก คนยินดีมาก็เรียนรู้มนสิการ เรียนรู้การทำใจในใจการปฏิบัติอย่างไร ถึงจะเป็นโยนิโสมนสิการ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้ถึงปัญญาวิมุติ วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มกราคม 2566 ( 12:32:13 )

ความจบที่สุดยอดแล้ว

รายละเอียด

เข้าใจได้ ปรินิพพานเป็นปริโยสาน หมายความว่า จิตวิญญาณของแต่ละคนแต่ละคนรู้ที่จบ จบกิจแล้วรู้ที่จบ จบอะไร จบจิตวิญญาณของเรา เราสามารถที่จะทำใจในใจเรียกว่ามนสิการ ทำใจในใจของเรานี้จบ 

เมื่อเราตายหมดลมหายใจ เราก็ไม่ให้จิตของเรารวมตัวกัน เพื่อที่จะเป็นจิตนิยามเกิดอีก หมุนเวียนเกิดไปในวัฏสงสารอีกเราทำจิตของเราได้เลยเป็นอรหันต์แล้วทำได้ แล้วจิตนั้น สลายเป็นดินน้ำไฟลมไป ความเป็นจิตนิยามเป็นอัตภาพของเราเลิกเลยในวัฏสงสารใน กาละ ในโลกในมหาจักรวาลไม่เหลือแล้ว นี่คือความจบที่สุดยอดแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูให้โอวาท พิธีรับกลด ปี 2566 รุ่นใจเกื้อกูล เพิ่มพูนเสียสละ วันอังคารที่ 11 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 15:18:24 )

ความจบอยู่ที่ไหน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเรามาพูดถึงรายละเอียด ความจบมันอยู่ที่ไหนรู้ไหม อยู่ที่หาที่สุดมิได้ อยู่ที่รัฐบาล อยู่ที่ห้างขายยา ความจบอยู่ที่ไหน อยู่ที่เราหรืออยู่ที่ตัวคน ความจบอยู่ที่เรา แต่ละคนจบจริงๆ คือ จบกิจ เป็นพยัญชนะภาษาคำว่า จบกิจ เป็นผู้ฉลาด อาริยะ ครบจบกิจแล้ว สมบูรณ์แบบไม่มีอะไรลึกลับ เรียกว่า อรหันต์ เป็นที่สุด อรหะ + อันตะ 

อันตะ แปลว่า ที่สุด อรหะ แปลว่าไม่ลึกลับแล้ว ชัดเจนแล้ว จบแล้ว หมด ไม่มีอะไรเป็นเรื่องแล้ว ปลงภาระได้ เป็นคำซีโนนีม คำที่ใช้แทนกันได้ จบกิจหรือปลงภาระสนิทแล้ว แถมไม่เวียนวนอีก หมดความยึดมั่นถือมั่นเป็นคำซินโนนีม คำที่ใช้แทนกันได้ เป็นคำที่คล้ายกันใกล้กัน เพราะฉะนั้นจะเป็นประชาธิปไตยก็ดี เศรษฐกิจก็ดี หรือว่าสังคมมนุษยชาติก็ดี มันจบ หรือลงตัวตรงไหน ตรงไหน? มีความลงตัวอย่างไร หรือว่า มันไม่มีที่สิ้นสุดลงได้ ไม่มีที่จบกันสักที นี่ มันต้องสอบสวนตรวจสอบกันจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 มกราคม 2566 ( 19:55:22 )

ความจริง 10 ประการนี้อาตมาทำอยู่ก็ทำต่อไปจนกว่าจะหมดขันธ์ 5

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นก็ทำอยู่ตามนิยามของความจริง 10 ประการนี้แหละ อาตมาทำอยู่ ก็ทำไป จนกว่าจะหมดขันธ์ 5 ตาย ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ก็ยังไม่จบ ยังจะทำต่อ ก็ยังอยากจะทำงาน อยากจะมั่นใจในความสืบสานธรรมะโลกุตระ ของพระพุทธเจ้านี้ให้ยืนยาวถึง พุทธกัปของพระสมณโคดม 5,000 ปี ก็อย่างที่พูดเหมือนเพ้อเจ้อ คนที่ฟังไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้เรื่องว่าพูดอะไรไม่รู้เรื่องพุทธกัปอะไร 5,000 ปีคืออะไร คนเขาก็ไม่รู้เขาก็ไม่รู้ แต่คนที่รู้เขาก็จะเข้าใจขึ้นเรื่อยๆ 

จะมีคนฟังธรรมอาตมา ฟังแล้วไม่เคยได้ยินได้ฟัง สิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินได้ฟัง พอได้ยินได้ฟังที่อาตมาพูด เข้าใจเลยก็มี อย่างนี้ก็มีด้วยนะ เข้าใจ มี ลักษณะอย่างนี้เหมือนกัน แล้วลักษณะอย่างนี้คือโลกุตระ คือสิ่งที่แปลกใหม่ ที่ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสแล้วเสร็จ ภิกษุจึงบอกว่า อย่างนี้ยังไม่เคยได้ยินได้เห็น มาก่อนเลยพระเจ้าข้า มันเป็นสิ่งที่แปลก แต่มันเป็นจริง มันเป็นโลกุตระ มันเป็นอันอื่นที่เหนือจากที่คุณเคยได้ยินได้รู้มาเป็น เฉโก เป็นความรู้โลกีย์ที่คุณรู้มา มันเหนือกว่านั้น แต่นี่มันต่างไปแฮะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุดยอดวิชาที่เป็นความจริงแท้ๆของพุทธ วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2565 ( 14:58:43 )

ความจริงของมหาบัวคือติดสิ่งเสพติดแล้วโกหกทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองโกหก

รายละเอียด

ขออภัย มหาบัวนี้เรียนบาลีมานะ  แต่อาตมาอธิบายได้ตรง ประโยชน์ของมหาบัวมากมาย เช่น จรณะ 15 วิชชา 8 ก็ตาม มหาบัวอธิบายไม่ได้เหมือนอาตมาหรอก แม้แต่เวทนา 108 ก็ตาม ขออภัยพูดยังไม่ได้มีอาการจิตไปข่มนะ แต่พูดความจริง แม้เขาไม่ตายอาตมาก็แย้ง อาตมามาพูดตอนมหาบัวยังอยู่ก็พูดมาแล้ว ทุกวันนี้ลูกศิษย์ของมหาบัวก็ออกมาขัดแย้งไม่ได้ ลูกศิษย์อธิบายตามไม่ได้ อาตมาอธิบายตามพระอนุสาสนีของพระพุทธเจ้า เช่นในจรณะ 15 ตั้งแต่ศีล อปัณกธรรม 3 แค่นี้คุณก็ไม่มีแล้ว แล้วจะไปให้เข้าใจ สัทธรรม 7 ก็ไม่ได้ คุณมีสิ่งเสพติดอยู่ติดสิ่งเสพติดอยู่ก็ไม่มีหิริ ติดสิ่งเสพติดก็ไม่ละอายไม่รู้ว่านี่คือสิ่งเสพติด แค่สิ่งเสพติดทางตาหูจมูกลิ้นกายใจรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสแค่นี้ก็ไม่รู้ มหาบัวบอกว่าไม่ใช่สิ่งเสพติด แต่กินไม่ขาดปาก หากไม่ให้กินหมากก็หาวหวอดๆเลย ได้รู้ว่า หากให้งดหมากก็ทำไม่ได้ นี่คือท่านติดสิ่งเสพติดแต่ท่านใช้โวหารกลบเกลื่อน ให้ลูกศิษย์ลูกหาหลงผิดแล้วก็กินหมากพลูตามกัน นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าผู้ที่โกหกทั้งทั้งที่รู้ว่าตัวเองโกหกไม่มีบาปชั่วที่ไหนที่คนนั้นจะทำไม่ได้ โอ้โห อันนี้แสบมาก แล้วมหาบัวก็ทำ ขออภัยไม่ได้พูดใส่ความ แต่พูดความจริง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 10:33:38 )

ความจริงของสัจธรรม

รายละเอียด

โลกุตรธรรมเป็นธรรมะที่สวนกระแส ปฏิเสโสตังกับโลกียะ 180 องศาเลย ยกตัวอย่างที่พูดไปแล้วพวกเราเข้าใจ คนพวกนั้นก็ต้องเอาลาภยศสรรเสริญโลกียสุขเต็มประตูของโลกียะ แต่โลกุตระนั้นทิ้งเลย ทิ้ง ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข และเป็นผู้ที่ทำงานสังคม ที่ไม่ใช่พูดแบบออกนอกรีตหลับตาหนีเข้าป่าไม่รู้จักสังคม อย่ามายุ่งการเมืองไม่ใช่โลกุตระนะอย่างนั้น โลกุตระของพระพุทธเจ้ามี โลกวิทู รู้หมดทั้งโลกียะและโลกุตระและมีอุตระคือเหนือโลกียะที่ช่วยโลกียะ มีโลกานุกัมปายะ ช่วยเหลือโลกโดยเฉพาะช่วยเหลือโลกียะ 

ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ถ้าฟังแล้วจะบอกว่า ไอ้นี่มันหลงตัวเองมายกตนข่มท่านหรือเปล่า โลกุตระจะยกตนข่มโลกียะเขา ยกตนข่มตะวันตก ยกตนข่มศาสนาพระเจ้า ซึ่งเราไม่ได้ยกตนข่ม แต่มันเป็นสัจจะความจริงอย่างนั้น มันเป็นความจริงของสัจธรรม โลกุตระมันเหนือกว่า มันอุตระ มันเหนือกว่าโลกียะโดยสัจธรรมก็พูดสัจธรรมเท่านั้น เขาจะรู้สึกว่าถูกข่มก็เป็นอัตตาของเขา ถ้าเขาไม่มีอัตตาเปิดจิตฟัง ที่อาตมาสาธยายนี้ สาธยายแยกโลกียะและแยกโลกุตระให้ฟังชัด ผู้ฟังด้วยดีย่อมได้ปัญญา มีปัญญาเข้าใจ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #25 พ่อครูคือธัมมิกราษฎร์ ผู้กอบกู้โลกุตรธรรม  วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2566 ( 18:24:36 )

ความจริงของสัจธรรมมีคู่เปรียบเทียบ

รายละเอียด

จริงๆแล้วมันเป็นธรรมดาธรรมชาติเจริญ อจินไตย เหมือนพระพุทธเจ้าต้องมีพระเทวทัตเป็นตัวอย่างเป็นเรื่องธรรมดาธรรมชาติไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร อาตมาก็ต้องมีตัวอย่างที่จะหยิบมาบ้าง อาตมาก็เอาวิชาการเอาความจริงของสัจธรรมเป็นใหญ่ ตัวบุคคลอาตมาก็ต้องว่า สรุปแล้วทุกอย่างในสัจธรรม มันจะมีคู่ เป็นคู่เปรียบเทียบให้ศึกษา เราเลือกเอาสิ่งที่ดีกว่าเสมอเรียกว่าสมมติสัจจะ เลือกสิ่งที่ดีกว่ามาใช้ในปัจจุบันธรรมนั้นๆเสมอ อันนี้จึงขึ้นอยู่กับผู้รู้ผู้ที่เป็นปราชญ์ จะเป็นผู้ที่รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ตามมหาปเทส 4 ขึ้นอยู่กับปัจจุบันธรรม

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 05 เมษายน 2563 ( 12:08:42 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:40:07 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 15:13:42 )

ความจริงของอำนาจประชาชน คือตัวประชาธิปไตย

รายละเอียด

คือประชาชนมารวมกันเป็นพลัง รวมไม่มีอาวุธมีแบบมือเปล่า แต่พลังงานทางนามธรรมมองไม่ออก  รัศมีนามธรรมให้พวกนั้นมันยิ่งไม่ได้คุณงามความดีมันเป็น Buffer เป็นกำแพงไร้สภาพให้เขายิงไม่ได้ สรุปแล้วมันไม่มีความรุนแรง แทนที่จะเป็นหนังระเบิดสงคราม แต่นี่มีแต่ดันกันเท่านั้น เขาบอกว่าทหารแตงโมแต่ที่จริงเป็นทหารแตงไทย ใจเป็นคนไทย เขาก็นึกว่าเขาซื้อได้

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 12:39:12 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:47:32 )

ความจริงของอำนาจประชาชนคือตัวประชาธิปไตย

รายละเอียด

ไม่เป็นความจริงของอำนาจประชาชน นี่คือตัวประชาธิปไตย ประชาชนมารวมกันเป็นพลังรวมไม่มีอาวุธมีแบบมือเปล่า แต่พลังงานทางนามธรรมมองไม่ออก รัศมีนามธรรมให้พวกนั้นมันยิงไม่ได้ คุณงามความดีมันเป็น Buffer เป็นกำแพงไร้สภาพให้เขายิงไม่ได้ สรุปแล้วมันไม่มีความรุนแรง แทนที่จะเป็นหนังระเบิดสงคราม แต่นี่มีแต่ดันกันเท่านั้น เขาบอกว่าทหารแตงโมแต่ที่จริงเป็นทหารแตงไทย ใจเป็นคนไทย เขาก็นึกว่าเขาซื้อได้

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2563 ( 13:49:57 )

ความจริงของแต่ละคน 

รายละเอียด

คนที่ได้พบอาตมาแล้วก็สึกว่าอาตมาเป็นผู้ที่ อย่างพวกคุณรู้สึกว่า ยิ่งใหญ่เป็นคนสูง มันเป็นสัจจะที่พวกคุณเองแต่ละคนมองออกว่า อาตมาเองมีความสูงหรือไม่สูงอย่างไร ตามจริงของแต่ละคนที่แสดงออก พวกนี้เป็นเรื่องที่…ก็บอกยาก มันเป็นสัจจะที่มันปรากฏอยู่ในโลก มันก็มี ไม่หายไปไหน แสดงว่า พวกคุณนี่ ยังมีปฏิภาณ ปัญญา ความเฉลียวฉลาดที่รู้ว่า อันไหนดี อันไหนไม่ดี อันไหนของแท้ อันไหนไม่แท้ แม้ที่สุดดีถึงขั้นโลกียะหรือโลกุตตระ แต่ละคนก็ต้องมีปัญญาหรือมีความเฉลียวฉลาดของแต่ละคนเอง คัดเลือกเองใช่ไหม แล้วก็ตัดสินเอง เอาเอง เพราะฉะนั้น มันก็เป็นไปตามสัจจะ ก็ได้แค่นี้ อาตมาก็ชัดเจนอยู่ ไม่ได้อะไรมากนักหนาหรอก แต่ที่ไม่ได้ หรือไม่มี มันมากกว่านี้ มันก็แน่นอน มันไปบังคับเขาได้อย่างไร มันเป็นความจริงของแต่ละคน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มาฝังชิปโลกุตระใส่จิตวิญญาณตนจนเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 วันขึ้น 14 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 ธันวาคม 2565 ( 12:11:22 )

ความจริงของแต่ละคนต่างกัน

รายละเอียด

คุณได้อานิสงส์ธรรมะ คุณอยู่กับครอบครัว แล้วคุณก็อยู่กันอย่างศีล 8 ช่วยดูแลลูกเต้า ต่างอยู่กันไปเป็นเพื่อนกัน เป็นผู้ที่ดูแลรับผิดชอบลูกเต้า แล้วก็เป็นครอบครัวที่ทำมาหากินเลี้ยงชีพไป มันก็เบา สบาย ง่าย มีผู้ร่วม มีหมู่กลุ่มที่ทำงานช่วยกันเลี้ยงลูกเต้า ตามความจำเป็นที่คุณต้องมี ภาระของคุณ ลูกของคุณคุณต้องดูแลเลี้ยงดูส่งเสียเขาอย่างดี คุณมีลูกแล้วก็ต้องเลี้ยงเขาให้ดี โดยเลี้ยงลูกให้เป็นโลกุตระด้วย 

ศีล 8 ถือว่าเป็นโลกุตระระดับหนึ่ง คือมันไม่ถึงขั้นเมถุน ทิ้งเมถุนได้แล้ว สภาพ คู่ เสพเมถุน เสพอาการนั้น ก็ถือศีล 8 แม้คุณจะยังมีกิเลสอยู่บ้าง มีกามราคะอยู่บ้าง แต่คุณก็ไม่เอาแล้ว ไม่แสดงออกทางภายนอก มันก็เป็นอนาคามีกลายๆ ไม่มีกามภายนอก แต่มีราคะ รูปราคะ อรูปราคะภายในอยู่ มากหรือน้อยก็แล้วแต่ความจริงของแต่ละคน คุณก็ล้างกิเลสรูปราคะ อรูปราคะ ของคุณส่วนตัว 

ข้างนอกคุณอยู่เหนือมันไม่มีแล้ว เหมือนกับพลตรีจำลอง ศรีเมืองกับคุณศิริลักษณ์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2522 เขาก็ถือศีล 8 กันมาตลอดก็อยู่กันอย่างพี่น้องมา จนถึงบัดนี้ก็ดูแลกันอยู่ แก่กันทั้งคู่แล้ว 80 ขึ้นกันทั้งคู่แล้ว ก็เป็นธรรมชาติตามจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ตามธรรมพระพุทธเจ้าได้มรรคได้ผลอย่างนี้แหละ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูตอบปัญหาผู้ชมทางบ้าน วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 13:58:17 )

ความจริงความถูกต้องเป็นบุญญาวุธได้อย่างไร

รายละเอียด

ใช้ความจริงความถูกต้องเป็นอาวุธ เรียกว่าบุญญาวุธเป็นอาวุธประหาร ใช้ความดีงามความถูกต้องเป็นบุญญาวุธ ยืนยันมีคนไปอภิปรายมีคนไปเอาหลักฐานประกาศยืนยันไขความจริงเราเอาความถูกต้องมาบอกมายืนยันสิ่งที่ผิดเราก็บอกเลยอะไรผิดอย่างไร  ผิดมหามหันต์อย่างไรก็ว่าไป คำว่า “ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ” ประโยคนี้อาตมาเป็นคนพูดขึ้นมา ขออภัยไม่ได้รื้อฟื้น แต่หลายคำที่เป็นวาทกรรมใช้พยัญชนะเพื่อเป็นเครื่องนำในการใช้ร่วมกันปฏิบัติ ที่บันทึกไว้เป็นตัวหนังสือตั้งแต่ สันติ อหิงสา อโหสิ เขาไม่ยอมรับเอาคำว่าอโหสิ เขาเอาแต่สงบ อหิงสา อโหสิไม่เอา 

อโหสิ แปลว่า ไม่จองเวรจองกรรมกันต่อ เขาเอาแต่สงบ อหิงสาคือไม่รุนแรง แต่ไม่เอาอโหสิก็ไม่ยอม พวกนี้พวกยังหนังจีนอยู่ หนังจีนลูกต้องแก้แค้นให้พ่อ มันก็เป็นเรื่องสามัญที่คนยังไม่สมบูรณ์ด้วยโลกุตรธรรม มันก็ต้องมีบ้างมีผสมอยู่ในพวกเราอย่างมวลมนุษยชาติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 40 ปี 2564 วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 สิงหาคม 2564 ( 20:25:00 )

ความจริงคำสอนของเทวะไม่ใช่ของพระเจ้า

รายละเอียด

คำสอนของเทวะสูงสุดเรียกว่าพระเจ้า เทวะยิ่งใหญ่สุดคือพระเจ้า ไม่ว่าจะยุคไหนก็แล้วแต่เป็นคำสอนที่ยึดถือกันมาเสร็จแล้วก็เกิดพระบุตร พระบุตรก็บอกว่า นี่เป็นคำสอนของพระบิดา แล้วก็เอามาประกาศ ห้ามแก้ไขห้ามแตะต้องห้ามเปลี่ยนแปลง เป็นหนึ่ง แล้วคำสอนของพระบิดานี้พระบิดาอยู่ไหนคือใคร มันเป็นเรื่องลึกลับเพราะเขาไม่รู้พระบิดา ความจริงนั้นคำสอนนั้นมันไม่ใช่ของพระเจ้า แต่เป็นของพระศาสดาองค์นั้นแหละ แต่เขาไม่รู้ตัวเอง เขาไม่รู้ว่าเขาเองนี้เป็นผู้ที่สั่งสมคำสอน สั่งสมความรู้มาจนกระทั่งมาถึงขนาดนั้น ความไม่รู้ตัวเองจึงไม่รู้ว่าคำสอนนี้เป็นของตัวเอง แต่มีปฏิภาณลึกๆว่า เป็นคำสอนยอดเยี่ยมก็จริง ก็คือความรู้ของพระศาสดาแต่ละองค์นำมาสอน เสร็จแล้วเทวนิยมก็ไม่รู้ก็เลยยึดถือ ฆ่ากันทำลายกันเพราะแตกต่างกัน แต่ของพุทธไม่มีตัวตนที่เป็นเจ้าของเทวะก็เลยไม่มีเรื่องทะเลาะแย่งชิงกรณีศาสดาทะเลาะกัน ตั้งก๊กเป็นศาสดาย่อยทะเลาะกันไม่มี

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 8 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 23 เมษายน 2563 ( 13:04:28 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 12:44:25 )

ความจริงคือสภาพอย่างไร

รายละเอียด

อาตมาพยายามดึงกลับเป็นปัจจุบันชาติ ชื่อว่าความจริงคือสภาพที่เกิดในระดับ status quo ปัจจุบันนี้เลย Suddenly บัดเดี๋ยวนี้เลย สัมผัสกันอยู่หลัดหลัดแล้วมีเหตุปัจจัยอยู่ยืนยันกันได้ต่อกันและกันเลย ไม่ใช่ไปหลับตา ไม่ใช่ไปอยู่ในภวังค์คิดเอาแล้วเอามาพูดไม่ใช่ แต่เอาตรงๆ ปัจจุบันสั้นนิดเดียวเล็กๆแต่เป็นเรื่องจริง เต็มไปหมดโลกนี้แหละจะต้องรู้ความเป็นจริงของโลกของทั้งหมดมันจะรวมไปหมดเลย ทั้งโลกทั้งอัตตา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 6 วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2564 แรม 5 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2564 ( 13:26:37 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์