@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

คติ 5 ทางไปของจิต

รายละเอียด

คือสภาวะที่ไปเกิดของสัตว์โลกทั้งหลาย

1. นิรยะ (เกิดในนรกคือความเร่าร้อน, จิตนรกเร่าร้อน มีทุกข์สาหัสมาก)

2. ติรัจฉานโยนิ (เกิดเป็นดิรัจฉานคือความโง่เขลา, ภูมิจิตเดรัจฉาน ไม่เจริญขึ้น)

3. เปตติวิสัย (เกิดในภูมิเปรตคือความโลภหิวกรระหาย, ภูมิแห่งเปรต จิตละโมบใคร่อยาก)

4. มนุสสะ (จิตเทวดาในมนุษย์ใจสูง) 

5. เทวะ (จิตสูงส่งอย่างเทวดา, อุบัติเทพ) 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม  23  "คติสูตร"  ข้อ  272, พระไตรปิฎก  เล่ม 11  ข้อ 281, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก หน้า 73


เวลาบันทึก 20 มิถุนายน 2562 ( 23:08:09 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:44:00 )

คติของผู้ที่กล่าวว่าผู้ที่บอกว่าตนเป็นอรหันต์คือคนที่ไม่เป็นอรหันต์

รายละเอียด

เขาบอกว่าผู้ที่บอกว่าตัวเองบรรลุคือคนที่ไม่บรรลุ นี่คือปราชญ์เอกของศาสนาพุทธพูดอย่างนี้เลย มันขัดแย้งกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในโลหิจสูตร 

_โลหิจจพราหมณ์ มีทิฏฐิลามกว่า “ผู้บรรลุแล้วไม่พึงบอกแก่ผู้อื่น เพราะคนอื่นจะทำอะไรแก่อีกคนหนึ่งได้ การบอกแก่คนอื่นจัดว่าเป็นความโลภที่เป็นบาป เปรียบเหมือนคนตัดเครื่องพันธนาการเก่าออกแล้วกลับทำเครื่องพันธนาการใหม่... ฯลฯ ”  . 

พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ย่อมมีคติ 2 คือนรกหรือกำเนิดเดียรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง (พตปฎ. เล่ม 9  ข้อ 358) 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 23 ความมหัศจรรย์ของการแยกกายแยกจิตได้ วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 มกราคม 2565 ( 19:56:05 )

คน

รายละเอียด

1. (คำนาม) มนุษย์ ใช้เรียกสัตว์ประเสริฐ มีสองขาสองแขนอยู่ในโลกนี้

2. (กริยา) กวน หรือทำให้ผสมรวมกันเข้า หรือละเลงให้เข้ากัน

3. สสารที่มีพลังงานอยู่ในตัวสิ่งหนึ่งนั่นเอง ร่างกายที่ก่อเกิดมาได้ด้วยการผสมผเสการปรุงแต่ง คน ๆ และกวน ๆ กันออกมาจากสสารและพลังงาน

4. กิริยาชนิดหนึ่ง ทำให้มันไม่นิ่ง ไม่ว่าง ไม่เฉย ทำให้มันเละ ๆ ปน ๆ กันให้วุ่น(ทุกข์)

4. ทุกข์ และคือสังขารธรรม

6. เครื่องยนต์ชั้นดียิ่งชนิดหนึ่งที่อาศัยคาร์โบไฮเดรตบ้าง โปรตีนบ้าง วิตามินเอ บี ซีบ้าง น้ำบ้าง เกลือแร่ต่าง ๆ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 1, หน้า 22, หน้า 571, หน้า 572, ทางเอก ภาค 1 หน้า 204


เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 22:16:43 )

เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 15:39:17 )

คน

รายละเอียด

1. (คำนาม) มนุษย์ ใช้เรียกสัตว์ประเสริฐ มีสองขาสองแขนอยู่ในโลกนี้

2. (กริยา) กวน หรือทำให้ผสมรวมกันเข้า หรือละเลงให้เข้ากัน

3. สสารที่มีพลังงานอยู่ในตัวสิ่งหนึ่งนั่นเอง ร่างกายที่ก่อเกิดมาได้ด้วยการผสมผเสการปรุงแต่ง คน ๆ และกวน ๆ กันออกมาจากสสารและพลังงาน

4. กิริยาชนิดหนึ่ง ทำให้มันไม่นิ่ง ไม่ว่าง ไม่เฉย ทำให้มันเละ ๆ ปน ๆ กันให้วุ่น(ทุกข์)

ที่มา ที่ไป

รวมศัพท์อโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 10:21:17 )

คน

รายละเอียด

“คน”จึงจะนับเอา“ดี-ชั่ว”เป็นการวัดระดับการเจริญของคน ของสังคมตาม“สมมุติธรรม”ของแต่ละหมู่เหล่า เพราะฉะนั้นไม่เที่ยง ชั่วดีไม่เที่ยงตามสมมุติแต่ละหมู่กลุ่ม 

      ทั้ง“สัตว์เดรัจฉาน”ทั้ง“ปุถุชน”คนผู้ยัง“อวิชชา”ต่างก็“มีสุข-มีทุกข์” แต่ยังไม่มี“วิชชา”เรื่อง“สุข-ทุกข์”แน่นอน จะมีก็แต่“ไหวพริบ”ที่เป็น“สัญชาตญาณ”ของแต่ละตนของตนที่จะพึงสะสมอัตราการก้าวหน้าให้แก่ตนตามชอบ สะสมมาเป็น“อุปาทาน”ใส่“สัญญา”เป็น“สัญชาตญาณ”ที่เจริญตามที่ตนเองชอบ สูงขึ้นหรือต่ำลงไปตามลำดับแห่ง“ไหวพริบ” หรือ“ปฏิภาณ”ของสัตว์หรือปุถุชนนั้นๆ ที่ยึดไปตามประสา ตามประสาผีเข้าผีออกกิเลสเป็นหลัก 

      ซึ่งเป็น“ดี”เป็น“ชั่ว”ก็ตาม“โลกียธรรม”สามัญทั่วไป

      สัตว์มันก็จะเจริญไปตามประสาของมันแต่ละระดับ

      คนที่ยังเป็น“ปุถุชน”ก็จะเจริญกันไปตาม“ธรรม”ที่เป็น “โลกียธรรม”ซึ่งจะไม่มี“ความเที่ยงแท้” เป็นแต่“สมบัติผลัดกันชม” แย่งไปหมุนเวียนกันไป ตกนรกขึ้นสวรรค์ สมบัติผลัดกันชม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาต้อนรับปีใหม่ 2567 เรื่องปฏิจจสมุปบาท ตอน 2 วันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567 แรม 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 มกราคม 2567 ( 20:02:51 )

คนกลุ่มเล็กสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์ทั้งโลก 

รายละเอียด

คนไทยไม่มีใครจะมาครอบงำ มามีอิทธิพล ใช้อำนาจ ทำไม่ได้กับคนไทย นอกจากคนไทยไม่ทำแล้ว คนไทยจะเลือกเอื้อเฟื้อเกื้อกูลพวกคุณด้วย พวกคุณทำร้ายเรา แต่เราจะช่วยเหลือพวกคุณ อย่างน้อยก็เอากล้วย อ้อยไปให้กิน จริง เราทำแล้วด้วยไม่ใช่เราพูดแค่ปากเปล่า ทำจริงๆ ด้วย

สังคมแค่ที่อาตมาพูดไปนี้ "คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ" มันทำลายมนุษยชาติอย่างแท้จริงเลย คนกลุ่มเล็ก สร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์ทั้งโลก 

คิมจองอึน ก็เบ่งอำนาจใหญ่เลย ทดสอบประสิทธิภาพของอาวุธร้ายของตัวเองให้มีประสิทธิภาพต่างๆ ผลาญ ทางตะวันออกกลางเขาก็ทำ ที่ไหนก็ทำทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นปูติน ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐเขาก็ทำ เขาจะฆ่ากันไปทำไม ถามแค่นี้ เขาจะฆ่ากันไปทำไม คนไม่ต้องฆ่ากันแล้วมันไม่ตายหรือยังไง มันก็ตายกันทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องไปฆ่ากันหรอก 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบคุณตู่-จตุพร และทนายนกเขา ดำเนินรายการโดย คุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 21:12:47 )

คนกล้าเท่านั้นจึงมีศัตรู

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้คิดเป็นศัตรูกับใคร เขาก็คิดมาทำลายอาตมาแต่ก็ทำได้แค่นั้น ทุกวันนี้ก็อ่อนแรงลง เข็ดเขี้ยวก็เลยไม่มีมา

พูดไปแล้วเหมือนเราท้าทาย แต่เป็นเรื่องอจินไตยลึกซึ้งว่าอาตมาทำได้ขนาดนี้ยุคนี้ ก็เก่งแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:07:21 )

คนกับสังคม

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าใช้เวลาไม่รู้กี่ล้านๆๆๆชาติเพื่อศึกษาความเป็นคนกับความเป็นสังคม เรื่องอื่นก็ศึกษาด้วยแต่เป็นเพียงความรู้ข้างเคียง แต่ความรู้หลักก็คือศึกษาความเป็นคนกับความเป็นสังคมเป็นหลักแล้วท่านก็มาทำงานหลักการนี้จนกระทั่งเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็ถ่ายทอดความรู้นี้  พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทำเช่นนี้แล้วก็ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ละความเป็นพระพุทธเจ้า ละความเป็นอัตภาพเลิกเป็นจิตนิยาม แตกเป็นอุตุธาตุได้หมดเลยเป็นดินน้ำไฟลมได้หมดเลยจิตวิญญาณแตกสลายแยกเป็นดินน้ำไฟลม จะประกอบขึ้นเป็นจิตนิยามไม่ได้แม้ให้เป็นพีชนิยามก็ยังไม่ได้เลย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:00:53 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:23:00 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:29:19 )

คนกินพืชอายุยืนกินเนื้อสัตว์อายุสั้น

รายละเอียด

แม้แต่ศีลข้อที่ 1 อย่างพิสดาร ที่อาตมาขยายความแล้วมันเกี่ยวกับสัตว์ ที่โง่กระทั่งต้องไปกินเนื้อสัตว์ ไม่ฆ่าแล้วยังไปกินอีก จนกระทั่งถึงขั้นเป็นวิบาก ละเอียดไปถึงขั้นวิบาก คนที่ฟังด้วยดีก็จะรู้ว่า คนนี้ไม่ต้องกินเนื้อสัตว์เลย ไม่ต้อง แล้วจริงๆคนก็ไม่ใช่เป็นสัตว์กินเนื้อสัตว์อีกด้วย อธิบายไปกันจนหมดแล้ว สัตว์กินพืช ลำไส้ก็ยาวกว่า น้ำย่อยก็ไม่ใช่แบบกินเนื้อ บอกไปหมดแล้วว่าคนเป็นสัตว์กินพืชไม่ใช่สัตว์กินเนื้อสัตว์ 

เพราะฉะนั้นคนชาวHanza เขาอายุยืนยาว เขากินแต่พืชไม่ได้กินเนื้อสัตว์กัน อาศัยสบายมีความสุขเย็น อายุ 100 ปีเป็นธรรมดา ทุกวันนี้คนอายุ 100 หายาก แต่ที่โน่นเขาอายุ 100 เป็นเรื่องสามัญ อายุ 120 อายุ 130 เฉย พวกเรานี้ยืนยาวไปอีกหลายรุ่นจะเป็นมนุษย์อายุยืนยาวต่อไป เพราะเป็นคนที่ถูกต้อง 

คนทางขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้กินแต่เนื้อสัตว์ไม่มีพืช อายุมันแค่ 20 30 40 สูงสุดแก่แย่แล้ว ถ้าคนอายุ 40 นี้ เขาบอกเอาปล่อยแข็งตายข้างนอกเลย อาหารก็หายากเพราะเป็นเนื้อสัตว์ แล้วจิตใจก็อำมหิต อายุแก่แล้วปล่อยทิ้งให้ตายไปเลย ก็กินแต่เนื้อสัตว์ หาเนื้อสัตว์มากินก็จะยาก นี่แหละมันจึงเป็นคนใจโหดเหี้ยม ฟังๆดูแล้วนะคนเรา สิ่งแวดล้อม แล้วก็ไปอยู่ทำไม ยิ่งสมัยนี้จะไปอยู่ทำไมขั้วโลกเหนือ มาอยู่ในที่อบอุ่นได้ พูดไปก็อย่างนั้นแหละ วิบากของคนก็เป็นไปตามประสา ซึ่งคนที่ศึกษาเรื่องวิบากดีแล้วจะชัดเจน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลกุตระคือสิ่งสำคัญสุดที่เกิดมาแล้วต้องเอาให้ได้ วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 พฤษภาคม 2565 ( 12:13:12 )

คนกินมังสวิรัติแต่ไปช่วยแจกอาหารที่มีเนื้อสัตว์จะบาปไหม

รายละเอียด

ไม่บาปหรอก เพราะคนยังกินเนื้อสัตว์เขาก็รับเนื้อสัตว์ เราก็แจก เขาเอามาให้เรา แต่เราไม่ได้ไปขวนขวายหามา คนอื่นเขาไม่มีเรี่ยวแรงแจก ไม่มีเวลาแจก เอามาให้เราแจกเราก็แจกช่วยเขาไป นานๆ ทีปีหนอะไรพวกนี้ ก็ช่วยกันไปเท่านั้น ไม่บาปอะไรหรอก ได้กุศลด้วยช่วยทำไป 

เพราะคนกินมังสวิรัติแล้ว คุณมีเนื้อสัตว์มาแจก เขาก็จะไปเอาทำไม เพราะเขาไม่ได้กินเนื้อสัตว์ ส่วนคนที่ยังกินเนื้อสัตว์อยู่ เขาถึงจะเอา ก็เผื่อแผ่เกื้อกูลได้กว้างขึ้น เอื้อมเอื้อเกื้อกว้างได้มากขึ้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณา ครั้งที่ 39 สร้างอาหารให้กับโลก วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 12 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2564 ( 20:20:59 )

คนกินเนื้อสัตว์ กับคนกินพืชผักเหม็นต่างกัน

รายละเอียด

ขี้ใครก็เหม็นทั้งนั้น ขี้แท้ๆ นะไม่ใช้ขี้ไคล ขี้ไคลก็ยังเหม็นแล้ว แต่ขี้ใครหมายถึงขี้คนเลย ถ้ากินเนื้อสัตว์มากๆขี้จะเหม็นมากเลย แต่ถ้ากินพืชผักขี้จะไม่เหม็นเหมือนพวกกินเนื้อสัตว์หรอก ต่างกันไกลลิบลับเลย โดยธรรมชาติโปรตีนแบบเนื้อหมักแล้วเหม็น ไม่ได้ไปใส่ความไม่ได้ไปหาเรื่อง คนกินพืชกับคนกินเนื้อสัตว์แม้แต่ตดก็เหม็นต่างกัน ขี้ก็เหม็นต่างกันจริงๆ กลิ่นของกายก็ต่างกัน เหม็นต่างกัน คนกินเนื้อสัตว์กับคนกินพืชผักเหม็นต่างกันหมด เนื้อหอมต่างกัน คนกินพืชผักนี้เนื้อหอม คนกินเนื้อสัตว์เนื้อเหม็นจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูผู้ปราบมารเพื่อยังพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี วันพุธที่ 10 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 05:15:36 )

คนกินเนื้อสัตว์เป็นคนหลงโลก

รายละเอียด

ใช้สำนวนว่า คนที่กินเนื้อสัตว์เป็นคนที่หลงโลกใช่ไหม เด็กหญิงอายุเท่าไหร่ 6 - 7 ขวบถาม หลงโลกจริง โลกคือที่เขาพาเป็น ส่วนใหญ่เขาพากินเนื้อสัตว์ คนไม่กินเนื้อสัตว์มีส่วนน้อยในโลก ส่วนใหญ่นี่แหละเขาจะนับคะแนนหมู่มาก เป็นของจริง หมู่น้อยเป็นของรอง เขาจะนับถืออย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:16:19 )

คนกินเนื้อเหมือนกรีดเนื้อตนเองมีความกลัวมาก

รายละเอียด

คุณคนนี้ก็เข้าใจรู้สึกอย่างนี้ เพราะฉะนั้นก็กินแต่พืชสิเลิกกินเนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ก็เหมือนเนื้อตัวเอง แต่หากเป็นเนื้อปลาเนื้อช้างเนื้อม้าเนื้อควายเนื้อไก่อาจจะต่างกันในเหตุปัจจัยที่มันสังเคราะห์สังขารกันขึ้นมา แต่มันก็เป็นเนื้อสัตว์ เขาก็คือเนื้อสัตว์ เนื้อของตัวเราเองแต่ละคนก็สังเคราะห์สังขารมาเหมือนกัน คนๆนี้ก็สรุปง่ายๆดีก็ใช้ได้ก็เลิกเสียไม่กินเนื้อสัตว์เราก็กินแต่พืช ธาตุต่างๆ ดินน้ำไฟลมกับพืชที่กินได้ก็เหลือแล้วในชีวิตแข็งแรง เราเลิกกินสัตว์ที่เป็นจิตนิยามเรากินแต่อุตุนิยามกับพืช ที่เป็นธาตุวัตถุ เกลือแร่ ที่ไม่ใช่ชีวะ กินอันนั้นก็พอแล้ว รับรองว่าคุณไม่ตายหรอก แต่การกินอะไรเลอะเทอะกินเนื้อสัตว์มากๆอายุสั้นนะ พวกเอสกิโมไม่มีพืชเขากินแต่เนื้อสัตว์ อายุสูงสุด 40 ปี โดยค่าเฉลี่ยอายุเขาก็ 20 กว่า อายุ 40 ถือว่ายืนยาว อย่างนี้เป็นต้น พวกสัตว์กินเนื้อจะอายุสั้น สัตว์กินพืชก็จะอายุยาวเช่นพวกเต่า ช้างก็ดี อายุยาว 

ที่มา ที่ไป

620821_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 15:27:13 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:25:30 )

คนกิเลสมาก

รายละเอียด

คือ  คนตาบอดแล้วปิดบังผู้อื่นไว้อีก  แล้วไปตั้งอยู่ในนั้น  คือ  โอกันติหยั่งลงในที่หลงเป็นผู้ไกลจากวิเวก

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู จากรายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 13:38:08 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:27:13 )

คนกิเลสมาก

รายละเอียด

เขาให้จ่ายสำหรับผู้เดือดร้อนจากโรคโควิด เขาจะต้องสอบสวน ไม่ใช่ว่าใครๆก็ขอได้หมด จะบ้าหรือจะไปขายขี้หน้า ชาวอโศกไม่เห็นจะเดือดร้อนวุ่นวายอะไรแต่เห็นแก่ได้ นี่เขาก็ด่าให้เท่านั้น (ส.ฟ้าไท…ปกติเราก็ไม่มีรายได้อยู่แล้วแล้วจะไปขอเขาอย่างไร) คนไหนอยากได้ก็กิเลสมาก ตาลุกเลย คนแบบนี้ยังไม่ใช่ ผู้ที่จะมาอยู่ในชาวอโศกคนยังมีภูมิธรรม แค่ห้าพัน ไอ๊หยา มันใช้ไม่ได้เลยอาตมาก็พูดความจริง อย่าไปทำขายขี้หน้าหน้าแตก ไม่ใช่สิทธิ์แต่ตัวเองโง่เอง ตัวเองไม่ได้เข้าข่าย นี่กิเลสกระเพื่อมตาวาว ขายขี้หน้า เอาหน้าไปซุกกองแกลบดำ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 10:00:05 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:13:19 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:44:26 )

คนขยะ 

รายละเอียด

คนขยะ  คือลักษณะที่ทำให้คนไม่เป็นคน คือ

1.     ไม่ทำอะไรเลย ไม่คิดอะไรเลย ทำให้ตัวเองเหมือนก้อนดิน  ก้อนหิน  ปกติคนควรมีสมรรถภาพอีกเยอะแยะ  แต่ทำให้ชีวะแท่งนี้เหมือนก้อนดิน  ก้อนหิน

2.    มีเวลามีโอกาส ว่างๆ อยู่แต่ไม่หางานทำ มีเรี่ยวแรงด้วยแต่ไม่หางานทำ ไม่มีสำนึกของความเป็นคน

3.    มีงาน มีสิ่งควรทำ  ยิ่งกว่านั้น อยู่แท้ๆ แต่ไม่ทำ กลับไปทำสิ่งที่ตนชอบและเพลิดเพลิน  ทั้งๆที่มันไม่ให้คุณค่า

4.    หางานเบาๆ ทำ เพื่อไม่ต้องทำงานที่หนักกว่า

5.    มีงานทำ  แต่ไม่อยากทำมันดื้อๆ

6.     นอนเกินกว่าควร  เล่น หรือ รมยะ มากกว่าควร  อยู่ว่างๆ เกินกว่าควร

ทั้ง 6 ข้อนี้คือลักษณะที่ทำให้คนไม่เป็นคน จะเป็นคำด่าก็ด่านะ

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการสำมะปี๋ซี่วิต


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2562 ( 17:16:03 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:47 )

คนขยันจริงคือใคร

รายละเอียด

เป็นความลับนะ คนขยันจริงคือ ดูความขี้เกียจของเราเอง ถ้าเห็นความขี้เกียจของเราแล้วรู้แล้วว่ามันขี้เกียจ แล้วคุณรู้สึกตัวสำนึกขึ้นนั่นแหละคือคนขยันจริง ชัดเจนไหม คุณจะไปรู้จักคนอื่นไม่จริงหรอกให้รู้ตัวเอง คุณก็ต้องดูว่าขยันคืออะไรขี้เกียจคืออะไรแล้วก็ดูที่ตัวเอง อันนี้เราขี้เกียจนี่นา ไม่ได้ ต้องแปรเปลี่ยน คุณต้องเข้าใจแล้วขยันขึ้น คุณก็ต้องขยันขึ้นอย่างนั้นแหละคือคนขยัน ขยันคืออะไร คนขยันคือใคร ฉันเอง ฉันเอง มากหรือน้อยก็อยู่ที่ตัวคุณ คุณจะไปรู้คนอื่นแทนกันก็บางคนขยันหลอกลวง บางคนขยันด้วยกิเลส อย่างนี้ไม่เข้าท่าอะไร ขยันด้วยกิเลสขยันหลอกลวง แต่เราขยันจริงๆนี่ตัวของเราเอง รู้อันนี้ให้ชัด 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 09:44:42 )

คนขาดธรรมะไม่ใช่แค่ตายทั้งเป็น

รายละเอียด

นี่แหละที่อาตมาพูดไปก่อนแล้วถ้าขาดธรรมะไม่ใช่แค่ตายทั้งเป็น แต่เป็นเดรัจฉานเลย ไม่ได้ดูถูกดูแคลนนะ เข้าใจภาษาธรรมะให้ดี เดรัจฉาน คำว่าเดรัจฉานเขาแปลกันง่ายๆว่าสัตว์ หมายถึงสัตว์ที่เป็นช้างม้าวัวควายอะไรต่างๆนานา ใช่เลยอะไรอย่างนั้นแหละ มันไม่รู้เรื่องไม่รู้อีโหน่อีเหน่ แต่คุณได้รูปร่างเป็นคน แต่ความนึกคิดและพฤติกรรมของชีวิต คุณเหมือนกันเลยกับเดรัจฉาน จะหนักกว่าเดรัจฉานก็คือ แย่งลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุขกันยิ่งกว่าเดรัจฉาน จะมีกรรมวิบากหนักกว่าเดรัจฉาน ฟังให้ดีๆนะ เดรัจฉานมันจะไม่แย่งกันเหมือนกับคน คนนี้มันแย่งกันแล้วมันทำร้ายกันหนักกว่าเดรัจฉาน แล้วจองเวรจองกรรมกันยิ่งกว่าเดรัจฉาน แล้วมีวิธีคิดลึกซึ้งซับซ้อนที่จะแก้แค้นกันหนักยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน เห็นความโง่ของคนที่โง่กว่าสัตว์เดรัจฉานหรือไม่ พอจะเข้าใจไหม นี่แหละคือความโง่ของคนหนักหนาสาหัสเป็นวิบากกว่าสัตว์เดรัจฉาน 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2563 ( 10:56:34 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 08:17:16 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:49:06 )

คนขายเนื้อสัตว์ กับคนซื้อกิน ใครบาปกว่ากัน

รายละเอียด

ดญ.ใสกลางเพ็ญ 7 ขวบ ... เขาอยากรู้ว่าอะไรใครบาปกว่ากัน มันก็บาปด้วยกันทั้งคู่ ขายก็บาป กินก็บาป อันนี้ ดญ.ใสกลางเพ็ญ รู้ก่อนนะว่า อย่าขาย พระพุทธเจ้าก็ห้ามขาย มิจฉาวณิชชา 5 มี 1.อย่าค้าขายอาวุธ 2. อย่าค้าขายสัตว์เป็น 3. ยาค้าขายเนื้อสัตว์ 4. อย่าค้าขายของเมา 5. อย่าค้าขายยาพิษ (พตปฎ. เล่ม 22 ข้อ177) 

5 อย่างที่ไม่ให้ค้าขายกันในมนุษย์ ไม่ใช่แค่นักบวช นักบวชนั้นไม่ค้าไม่ขายอะไรเลย ไม่ซื้อไม่ขาย นักบวชนี้ซื้อไม่ได้ขายไม่ได้ คนที่ยังค้ายังขายอยู่ก็มีประเด็นว่า 

อย่าค้าขายอาวุธ สัตถวณิชชา 

อย่าค้าขายสัตว์เป็น สัตตวณิชชา

อย่าค้าขายเนื้อสัตว์ มังสวณิชชา

อย่าค้าขายของมึนเมา มัชชวณิชชา

อย่าค้าขายสิ่งที่เป็นพิษ วีสวณิชชา

ทีนี้ถามมาประเด็นว่า คนขายเนื้อสัตว์กับคนกินใครบาปกว่ากัน 

ตกลงรู้นะน้ำมนต์ ว่า ผู้ที่สั่งฆ่ากับคนที่ฆ่า คนสั่งฆ่าร้ายกาจกว่า 

ในประเด็น 5 ประการ ในชีวกสูตร ลึกซึ้งสูงสุดเกี่ยวกับเรื่องเนื้อสัตว์ 

1. ผู้นั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านทั้งหลายจงไปนำสัตว์ชื่อโน้นมา” (อุทิศ, อุททิสสะ คือ เจาะจงมุ่งหมายไปที่สัตว์ชื่อนั้น)  2. สัตว์นั้นเมื่อถูกเขาผูกคอนำมา  ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัส  3. ผู้นั้นพูดอย่างนี้ว่า  “ท่านทั้งหลายจงไปฆ่าสัตว์นี้”  4. สัตว์นั้น เมื่อกำลังถูกเขาฆ่าย่อมเสวยทุกข์โทมนัส  5. ผู้นั้นย่อมยังตถาคตและสาวกตถาคต ให้ยินดีด้วยเนื้อเป็นอกัปปิยะ ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก (ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อกปฺปิเยน อสฺสาเทติ อิมินา ปญฺจเมน ฐาเนน พหุง อปุญฺญํ ปสวตีติ) ชีวกสูตร  ล.13   ข.60  

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่น งานตลาดอาริยะ 2566 วันศุกร์ที่ 14 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 16:44:29 )

คนขายเหล้ารวยแต่ได้บาปนับไม่ถ้วน

รายละเอียด

สรุปว่า กินเหล้าไม่ได้ทำให้บรรลุอรหันต์ได้ แต่กินแล้วทำให้กดประสาทไม่รู้เรื่องฉิบหายไปหมด ผู้ที่ขายเหล้าก็เป็นบาป คนกินเหล้าตัวเองอ่อนแอตัวเองเสียหาย ทำให้คนอื่นตายมีผลต่อเนื่องเป็นเหตุปัจจัยที่ตามมาบานปลาย มันชิบหายวายป่วงหมดเลย เพราะฉะนั้นคนขายเหล้าเป็นเจ้าของนี้รวย แต่ได้บาปนับไม่ถ้วนเลย อาตมาไม่ใช่พูดเพราะริษยาเขารวย แต่สงสารเขา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมวิจัยให้รู้ความต่างในวิญญาณฐิติ 7 วันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 20:17:29 )

คนขี้กลัวสร้างอาวุธ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเมื่อมีชีวิตอยู่เราก็พยายามสร้างสิ่งที่ประเสริฐ เราไปสร้างวัตถุ เราไปสร้างเครื่องบิน เราไปสร้างคอมพิวเตอร์ก็มหัศจรรย์ คอมพิวเตอร์ก็มหัศจรรย์ สร้างเครื่องบินจรวดก็มหัศจรรย์ สร้างอาวุธฆ่าคนก็มหัศจรรย์ แต่มันโง่หนัก สร้างเครื่องบินสร้างคอมพิวเตอร์อะไรก็ยังพอสมควรพอทำเนาใช้ประโยชน์ แต่สร้างอาวุธยิ่งร้ายยิ่งแรงเท่าไหร่ มันก็คือแสดงถึงความไม่เป็นมนุษย์ กลายเป็นพวกอสูร อสุระ พวกขี้กลัว 

คนขี้กลัวถึงพยายามที่จะมีอาวุธ คนที่ไม่กลัว จะไม่แสวงหาอาวุธ จะไม่อยากได้อาวุธ อาตมาไม่เคยคิดอยากได้ปืน ไม่เคยเลย ไม่เอาแล้วอย่าเอามาใกล้ ไม่เกี่ยว แต่เคยยิงปืนไหม..เคย เรียนหนังสือต้องไปเรียนรักษาดินแดน ต้องไปฝึกยิงปืน มันกระแทกไหล่ตึงๆตึงๆ ก็ดูดีเหมือนกัน ตอนนั้นก็สนุกเหมือนกันแต่มันไม่ไหว ไม่ได้ชอบอะไร 

คือ ลึกๆ ของจิตคน อาตมารู้แล้วว่าคนมันไม่สมควรจะต้องไปใช้อันนี้ ไปทำอันนี้ ไปประพฤติพวกนี้ มันเลว มันคนชั้นต่ำ แต่เขาหลงผิดเป็นคนชั้นสูงสร้างอาวุธได้เยี่ยมยอด อะไรที่ร้ายแรงประสิทธิภาพสูงยิ่งเยี่ยมยอดแล้วนั่นก็คือพวกหลงผิด หลงสร้างบาปสร้างเวร สร้างอาวุธมาฆ่ากันเอง แล้วเอาไปทำกันจริงๆ แล้วมันก็เป็นกรรมวิบากจริงๆ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่อง อจินไตย พูดทิ้งไว้เท่านั้น ฝากไว้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 25 ปาฏิหาริย์ของคนจนมหัศจรรย์ วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 27 พฤษภาคม 2565 ( 09:07:08 )

คนขี้เกียจแอบแฝงคนอื่นกินได้บาปและเป็นหนี้

รายละเอียด

คน ถ้าไม่ทำงานคือเดรัจฉานธรรมดา นี่คือโศลกที่ออกมาได้เหมาะสมกับกาละมาก ในหมู่บ้านในประเทศในสังคมใดถ้ามีแต่คนขี้เกียจแอบแฝงคนอื่นกินอยู่ก็ได้บาปนะ เป็นหนี้ด้วยนะ ไม่ใช่ว่าจะดี ที่พูดไม่ได้ขู่ แต่เป็นด้วยสัจจะ ต้องช่วยกัน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การศึกษาที่ไม่ลดกิเลสกู้ประเทศไม่ได้ วันพุธที่ 6 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 10:29:13 )

คนข้างนอกจะดูพระว่ากระทำผิดหรือไม่ได้อย่างไร

รายละเอียด

อาตมาตอบแทนคนข้างนอกไม่ได้หรอก คนจะดูพระที่ทำเละเทะได้อย่างไร มันก็น่าสงสัย แล้วเขาอยู่ได้อย่างไรทำเลอะเทอะ ก็ตอบได้แต่ว่า 1.คนเหล่านั้นก็ยังไม่รู้ พระเหล่านั้นทำเรื่องเละเทะ ดีไม่ดีเข้าใจผิดว่าพระเรานั้นจะพาเขาเจริญทำให้เขารวยก็แล้วแต่ คนมันมีหลายฐานะหลายระดับ เขายังไม่ค่อยฉลาดเรียกว่าอวิชชา เขายังโง่ไม่ค่อยเข้าใจ ก็ยังอยู่ไปตามฐานะของเขาไป เราก็รู้ความจริงให้ได้ และก็รู้ว่าอันนี้ดี ก็ไม่ต้องไปดูถูกดูแคลนเขาสงสารเขา หรือเขายังรู้สิ่งที่สูงกว่านี้ไม่ได้เขาก็อยู่ตามฐานะของเขา ช่วยเขาได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็ต้องปล่อยไปตามวิบาก ใครที่มาที่นี่แล้วเข้าใกล้ก็ช่วยกันรับแขกปฏิสันถาร ไม่ต้องไปดึงคน ไม่ต้องไปล่อห]อก และเล็มเลียบเคียงไม่ต้อง พูดแต่สัจธรรมให้ฟัง เขาสนใจก็อธิบาย พูดสดๆของตัวเองให้ฟังนั่นแหละจบ นี่แหละสัจจะที่เราต้องทำไป สำหรับวันนี้เวลาก็หมดลงแล้ว ก็ขออภัย ขอให้รวมตัวกันมีประโยชน์ต่อตนต่อท่านได้ยิ่งๆขึ้นไปทุกคนเทอญ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 13:13:52 )

คนข้างนอกรู้รับรู้ชาวราชธานีอโศกด้วยความฉงน

รายละเอียด

คือ  คนข้างนอกเขาเข้ามาจะมีโอกาสเช่นวันนี้มีกลุ่มชาวไฟฟ้า เพิ่งจะกลับไปเข้ามาสัมผัสสัมพันธ์กับพวกเราก็มาช่วย เขาก็ได้รับรู้ตามภูมิแต่ละคน แค่เขาสัมผัสบ้านที่นี่ทำไมไม่มีครัว ไม่ใช่เท่านั้น เขาว่าสายไฟฟ้ายุ่งฉิบหาย แต่ทำไมไม่ไฟช็อตไหม้บ้านบ้าง เหตุอะไรมันไม่ไหม้ก็มันไม่ได้ใช้มากทั้งที่มันสับสนวุ่นวายจะตาย มันน่าจะไฟไหม้ ช่างไฟฟ้าที่นี่ก็รับมือพวกเราไม่ไหว พวกเราก็เละกันน่าดูเลยอย่างนี้เป็นต้น  มีคนว่าผีต่อเอง มีเด็กเราคนหนึ่งถูกไฟฟ้าดูดตาย มีติ่งก็ไม่ตาย นานก่อนนั้นมีคุณชัยยงค์ก็มีบ้างแต่เขาก็มาสัมผัส ก็งงๆๆ แม้แต่แค่งงว่า ทำไมไม่มีครัว และสายไฟขนาดนี้ทำไมไม่ไหม้บ้าน มันมีอะไรหลายๆอย่างที่ลงตัวของมัน ก็เลยไม่สูญเสีย ไม่ได้หมายความว่ามันพิเศษหรืออะไร มันมีเหตุปัจจัย ของมัน มันก็เลยได้แค่นั้น ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกของใช้ไฟฟ้าที่ใช้มาก อธิบายง่ายๆว่าบ้านแต่ละบ้านมีตู้เย็น มีเตารีด มีโทรทัศน์ มีเรื่องอะไรที่จะต้องใช้ไฟฟ้ามากหน่อย พอบ้านนี้สับสวิทช์ก็กระชากไฟไปมาก  ไฟก็จะแรงจะตกสารพัด เหตุของมันคือพวกเราไม่ได้มีขนาดนั้นเขาก็งงแต่ทุกอย่างมาแต่เหตุ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:46:11 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:30:20 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 03:52:16 )

คนควรได้ก็คือคนจริง

รายละเอียด

บอกว่าคนไม่มาด่าอยู่ข้างนอกก็ไม่มีปัญหา เขาไม่มาเขาด่าก็ต้องเป็นอย่างนั้นอาตมาจะไปตกใจจะไปแปลกๆอะไรก็ได้แต่สงสารเขาอาตมาก็ช่วยไม่ได้ เพราะสัจจะ จะต้องเป็นของตัวเองตัวเองเห็นตัวเองได้ เพราะว่าธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้ล่อลวงไม่ได้หว่านล้อมไม่ได้เลียบเคียง อิสรเสรีภาพ คุณต้องยินดีด้วยตัวคุณเอง คุณต้องเห็นเองตัดสินใจเองมาเองจึงเรียกว่าอิสระที่สุด มาโดยไม่ถูกใครหลอกลวงบังคับ มาโดยที่คุณเกิดปัญญาเอง แม้คุณจะมีเหตุว่าถูกใครบังคับหรือแนะนำมาก็ตาม แต่สุดท้ายที่จริงคุณจะต้องรู้เองเห็นเองด้วย ถ้ารู้ของคุณเองมันก็จะจบไปในตัวแล้วอาตมาได้อย่างนี้แล้วอาตมาไม่มีปัญหานี่ เพราะฉะนั้นคนควรได้ก็คือคนจริง คนมีดวงตาคนที่จะต้องเนื้อเดียวกัน DNA เดียวกันมันก็ไม่ต้องลำบากอาตมาก็ไม่มีปัญหาไม่ยุ่งยากผล ขนาดที่มาด้วยตัวเองยังต้องสอนอย่างหนักอย่างเหนื่อยเลย ต้องการคุณภาพไม่ต้องการปริมาณมาก 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2563 ( 13:16:07 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 08:27:09 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:07:02 )

คนคือกรรมกับกาละ

รายละเอียด

คนนี่ก็ยังเลือกเลย พวกคุณที่เข้ามาให้อาตมาสอนนี้อาตมาเลือกอย่างกับอะไรดี อาตมาไม่ชุ่ยนะ เอาคนชุ่ยๆมา ไม่เอา ไปว่าเขาหรือเปล่า?

เพราะฉะนั้นคนที่มาที่นี่ไม่ใช่คนชุ่ย คนได้รับการคัดเลือกแล้ว แต่วิธีการคัดเลือกของอาตมานั้นเนียนมาก ใช้แม้กระทั่งความด้อย 10 ประการ คัดคนที่จะหลุดพ้นข้าม พ้นความไม่ถือสาความด้อยของอาตมานั้น เพราะความเด่นเหนือกว่าความด้อยของอาตมามี พวกคุณก็เลยยกให้ ในข้อด้อย พวกคุณที่ได้สิ่งที่ดีมากกว่าข้อด้อยก็มา อาตมาไม่ได้ปิดบังในความด้อยนี่ยังไม่หมดนะข้อด้อยยังจะมีมากกว่านี้อีกได้ ถ้ามากกว่านี้ก็ละเอียดเท่านั้นเอง นี่ก็หยาบแล้วนะ ละเอียดกว่านี้ก็ยิ่งเป็นภัยน้อยกว่านี้ อันนี้ก็เป็นภัยที่แรงแล้ว 10 ข้อนี้ แต่ขนาดนั้นคุณยังข้ามพ้นความด้อยของอาตมา คุณก็ได้สิ่งที่พวกคุณได้ แต่ละคนก็ต้องเป็นของตน ปัญญาเป็นของตน ความรู้เป็นของตน คุณทำอะไรก็เป็นของตน เพราะฉะนั้นจึงเป็นทุกอย่างของตน คนคืออะไร คนคือกรรมกับกาละ

ถ้าคุณเป็นตน คุณเองสลายตัวคุณไม่ให้มีกาละเลย ทำกาละก็สูญแล้ว ถ้าคุณยังมีกรรมและก็ต้องอยู่ในกาละ คุณไม่สลายกรรมคุณออกจากกาละคุณก็ยังมี อาตมาเป็นโพธิสัตว์หากจะสลายกรรมของอาตมาออกจากกาละเป็นปรินิพพานเป็นปริโยสานก็ได้ อาตมาทำได้ตั้งแต่เป็นอรหันต์มา จนเป็นโพธิสัตว์ในระดับนี้อาตมาก็ยืนยันว่าทำได้ แต่ใครจะทำหรือไม่ทำ อาตมาเป็นผู้ตัดสินของอาตมาเอง คนอื่นไม่มีสิทธิ์หรอก อาตมาก็ยังอยู่ ยังมีกรรมอยู่กับกาละ ยังไม่ทำกาละ ตายแล้วก็ยังจะมาอีก

การทำกาละนี้ แท้ๆ คือทำกาละในขณะที่ตัวเองเป็นผู้ตัดสินกาละ ตัวเองเป็นผู้ตัดสิน ทำกาละให้แก่ตัวเองว่าจบนะ ไม่มีแล้วนะกาล คุณเป็นคนทำกรรมเอง พอทำแล้วไม่มีกาละแล้วคุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมีอะไรอยู่ที่ไหนอีกเลยในมหาจักรวาลนี้ ในมหาจักรวาลนี้ต้องมีกาละ เกิดโลกเกิดจักรวาลเกิดเอกภพมันจะวน มันก็เกิดกาละ ไม่วนแล้วไม่เป็นกาละแล้ว ถ้าคุณบอกว่าจะมีก็มีเป็น Nuclear Fission ไปอย่างไม่เจอใครเลย ไปไกลสุดๆเลยแล้วก็หายไปเลย จนกระทั่งโดดเดี่ยวจนกระทั่งศูนย์เลย เป็น Nuclear Fission ที่ไม่มีจุดจบ ตรงเลย ไม่มีโค้งเลย ตรง เดี่ยวๆๆ คุณก็หมดแรงที่คุณจะเดินทางเมื่อไหร่คุณก็ต้องสูญ นึกออกไหม พอเข้าใจไหม

Nuclear Fission ตรงอย่างไม่มีโค้งเลย ไม่มีองศาแม้แต่จุด 00001 ตรง สูญแน่นอนไม่มีโค้งเลย เพราะฉะนั้นในจักรวาลใดในเอกภพใดๆไม่มีเลยที่จะมีเส้นตรง ตราบที่คุณยังอยู่ในเอกภพ เอกภพจะให้ใหญ่ขนาดไหนก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นคุณหมดเอกภพเลย คุณเป็น  Nuclear Fission ที่ไม่มีองศาโค้งเลย สักนิดเลย นั่นแหละเมื่อนั้นแหละ คุณจะพบ Nuclear Fissionไม่ได้ เพราะมันไม่มาให้คุณพบ เพราะคุณยังอยู่ในโลกตรงนี้ แต่ Nuclear Fission มันวิ่งหนีคุณไปไปไกล คุณไม่เห็นแล้ว มันก็หายไปไกลจนคุณไม่มีสิทธิ์จะรับสัมผัสได้เลย แต่มันมี มันก็ต้องเลิกพูดกันแล้ว นี่ก็พูดสิ่งที่พอจะเข้าใจรู้เรื่องกัน พอเข้าใจกันได้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ ความสมานฉันท์ 7 แบบ

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก แรม 7 ค่ำ เดือน 8


เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2565 ( 15:24:27 )

คนคืออะไร

ที่มา ที่ไป

จาก...สมณะพิสุทโธ

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอนที่ ๑ (หยุดคนในคน) : www.youtube.com/watch?v=jKx786tHmJU&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอนที่ ๒ (เมื่อนามกลายเป็นรูป) : www.youtube.com/watch?v=J7Di_fzuQLw&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอนที่ ๓ (อาหารกับการปฏิบัติธรรม) : www.youtube.com/watch?v=VcBbHU3xg5A&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอนที่ ๔ (การทำงานของเวทนา) : www.youtube.com/watch?v=3Zsgi1Q7GCk&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๕ (มาจับแขกจรให้ได้) : www.youtube.com/watch?v=M4TSJc8o4Ds&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๖ (วิญญาณเกิดดับตรงไหน) : www.youtube.com/watch?v=AFY7RWvKTWs&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๗ (จับแขกจรให้ชัด) : www.youtube.com/watch?v=uSaTW3kapRY&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๘ (ประตูเข้าประตูออกของคน) : www.youtube.com/watch?v=MzPmBJJV0Ls&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๙ (ประตูเข้าประตูออกของคน) : www.youtube.com/watch?v=NhJ6D7jGxPA&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๑๐ (ระวังจะปล่อยไก่อัตตา) : www.youtube.com/watch?v=smJ3jhDhcC8&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๑๑ (เจาะลึกภูมิโพธิสัตว์) : www.youtube.com/watch?v=UUJTAnMAZu4&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๑๒ (รูป-นาม) : www.youtube.com/watch?v=YQbLcWqKVCo&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๑๓ (สภาวะซับซ้อนของฌานและตัณหา) : www.youtube.com/watch?v=FDnBoaSSe-0&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๑๔ (ทำวิปัสสนาอย่างไร) : www.youtube.com/watch?v=nkQs8zZUGTk&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๑๕ (เจาะลึกองค์ฌาน) : www.youtube.com/watch?v=F7Z9UCBYa1E&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๑๖ (อ่านอารมณ์อรูปฌาน) : www.youtube.com/watch?v=8VnjRLXWAes&feature=youtu.be

ลิ้งดาวน์โหลด คนคืออะไร ตอน๑๗ (วงจรองค์ฌานในคน) : www.youtube.com/watch?v=gAUne77PBLU&feature=youtu.be


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:04:17 )

คนจน

รายละเอียด

คือ คนเจริญ ไม่ใช่คนรวยคือ คนเจริญ คนจนน่ายกย่องเชิดชูจนอย่างเป็นประโยชน์คุณค่าต่อคนอื่น

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบาย รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 71


เวลาบันทึก 04 ตุลาคม 2562 ( 14:52:38 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:31:45 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:08:02 )

คนจน

รายละเอียด

คนจนผู้ยิ่งใหญ่ คนจนที่สุขสำราญเบิกบานใจ เป็นเรื่องซับซ้อนที่ยิ่งใหญ่มาก ในยุคนี้ถึงจะพูดกันได้ เป็นยุคปัญญาชน คนทั้งโลกเฉลียวฉลาด พยายามเข้าสู่ความรู้โลกุตระ หากเข้าใจว่าคนจนเป็นคนประเสริฐเป็นการเข้าเขตโลกุตระ ถ้าคนไหนที่ยังบอกว่าไปจนมันจะประเสริฐได้อย่างไร มันก็จะขาดแคลนไม่มีอุปกรณ์จะเป็นประโยชน์อะไรได้เท่าไหร่ เราก็ต้องรวยแล้วถึงจะเป็นคนดีเอาเงินไปเสียสละให้คนอื่น หากจนลงไม่สะสมไม่มีเงินทองเป็นของตัวเองจะเอาอะไรไปช่วยเขา ก็เป็นเรื่องที่ไม่ผิดแต่เป็นเรื่องที่ซับซ้อน 

ไม่เข้าใจถึงบารมี บารมีคนที่ไม่สะสมวัตถุ แต่จะมีวัตถุที่หมุนเวียนเข้ามาหาตัวเองได้ เข้ามาหาก็สละออก ยิ่งสละเร็วสละออกตามบารมีคนนั้นเป็นคนบารมีสูง ถ้าคนบารมีไม่สูงก็จะยักไว้ก่อนต้องมากเท่านี้ๆ ถ้ากิเลสมากก็จะบอกว่ามากกว่านี้ก็จะดี มันจะไปด้วยเป็นความซับซ้อน 

คนที่ไม่เก็บคงคลังไว้ส่วนตัว ไม่เก็บกักไว้เป็นของตัว กล้า 0 เลย คนนั้นแหละเข้าเขตตามลำดับ เป็นอาริยชนตามลำดับ ของพระพุทธเจ้าอย่างสัมมาทิฏฐิที่แท้จริงเลย 

ถือว่าต้องเป็นอนาคามีขั้นปลายไปหาอรหัตตผล จิตวิญญาณ ฐานอนาคามีขั้นปลายไปถึงอรหัตตผล จะกล้ามาหา0เพราะอยู่่กับหมู่ ของส่วนกลาง ไม่จำเป็นจะต้องสะสมเป็นของตัวเองเลย เขาให้เราก็ทำ เขาไม่ให้ก็ทำเท่านี้ใช้เท่านี้ ก็ทำงานได้ ไม่ต้องให้เงินเลยก็ยังทำงานได้ ในชาวอโศก มีงานเยอะๆที่ทำโดยไม่ต้องใช้เงินใช้แรงใช้ความรู้ความสามารถมีเยอะแยะไป ในอโศกนี้ 

เพราะฉะนั้นคนที่จะมาปฏิบัติธรรมกับความจนอันมหัศจรรย์ ความจนที่ยิ่งใหญ่นี้ แล้วก็เห็นความจนมันประเสริฐจริงๆ จึงเป็นคนมีธาตุจิตโลกุตระ ที่มันจริงของคนนั้น เหมือนกับที่ ธาตุจิตเป็นธาตุจิตที่สูงขึ้นในสัทธรรม 7 ที่มีหิริโอตตัปปะ ชื่อว่าเป็นเทวดา 

หิริ คือ ละอายต่อสิ่งที่เป็นความชั่วเป็นบาปมันปิดเสียง 

ถ้าโอตตัปปะก็ยิ่งกว่าละอาย เราผิดพลาดได้อย่างไร ยิ่งกว่าเด็กจับไฟร้อน ให้ไปจับอีก ไม่มีทางที่เด็กจะไปจับไฟ มันมีหิริโอตตัปปะ มันชัดเจนมันกลัวมันบาปแท้ไม่แตะต้อง เผลอแตะก็รีบชักมือออกทันทีทันใด จิตเราจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่คนที่ยังไม่จริงมันก็ต้องทำให้เป็น พยายามให้ถึงขั้นนี้ให้ละอายนะ ละอายแล้วยังไม่ถึงโอตตัปปะ หากถึงโอตตัปปะแล้วจะเกรงกลัวต่อบาป แม้โทษภัยอันนี้ประมาณน้อยก็ไม่ทำ เช่นฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย มันก็มีจิตนิยามมันมีความพยาบาทแล้ว จะไปสะสมสร้างวิบากทำไม จะค่อยๆมีปฏิภาณปัญญาเข้าใจ 

หากเข้าใจขนาดนี้แล้วคนคนนี้จะไปกินเนื้อสัตว์ จะไปมีพลังงานที่ต้องเชื่อมโยงกับสัตว์ ก็เราไม่ได้กินเพื่ออร่อยหรูหรา ไม่ได้มีด้วยโลกธรรมแล้ว จะไปกินอันอื่นก็ดีกว่า จะไปสร้างวิบากใส่ตัวเองทำไม ไม่ติดในโลกียแล้วจะไปสร้างวิบากใส่ตัวเองทำไม เพราะว่ากรรมเป็นอันทำ เลี่ยงได้ นอกจากมันจำนนจริงๆ คุณออกไปในทะเลกว้างเลย ในทะเลมันไม่มีพืชมันมีแต่สัตว์ เอาไม้ปักปั๊บ หอยนางรมมาเกาะก็ถือว่าเป็นพืช มันไม่มีอะไรกิน ที่จริงน่าจะดำน้ำลงไปหาสาหร่ายนะ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2562 ( 17:10:33 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:32:49 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:13:19 )

คนจน

รายละเอียด

คือ คนไม่มีสมบัติพัสถาน  ไม่มีข้าวของเงินทอง ทรัพย์สินมากมายเหมือนคนอื่น คือคนจน  เมื่อเทียบกับคนอื่นนะ  เป็นคนที่มีน้อยกว่าเขา เป็นคนอัปปิจฉะ  เป็นคนมีสติสัมปชัญญะ รู้ดีว่า  เราต้องมายินดีในความจน  เป็นคนจนที่มีวรรณะ9

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 22:26:18 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:33:35 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:14:22 )

คนจน คือคนใจพอ เป็นความเจริญ 

รายละเอียด

ต้องมาแก้ด้วยตำราของพระพุทธเจ้าจึงจะจบกิจ จึงจะเสร็จ จบกิจคำนี้เป็นภาษาของพระพุทธเจ้า กตํ กรณียํ นารํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ เป็นเรื่องเสร็จแล้วทุกงานของตนเอง งานแก้ปัญหาความจนจบเพราะเรามาเป็นคนจน แก้ปัญหาความจนสำเร็จเพราะเรารู้ว่าความจนนั้นไม่ใช่ความเลว ไม่ใช่ความเสื่อม ไม่ใช่ความต่ำ ไม่ใช่ความด้อยอะไรเลย เป็นความเจริญ 

พวกเราปฏิบัติตามธรรมะพระพุทธเจ้ามาเป็นคนจน เป็นคนคลาสสิคคือมีวรรณะ เป็นคนมีชั้น เป็นคนชั้นสูง วรรณะคือชั้น ขั้นชั้น เป็นคนจนอยู่ในนั้น อัปปิจฉะ แปลว่ากล้าจน สันตุฏฐิ แปลว่าใจพอซึ่งเขาแปลเบี้ยวบาลีไปผิดๆ เป็นคนเลี้ยงง่าย อยู่ง่ายกินง่าย ไปง่ายมาง่ายและเป็นคนพาให้เจริญง่ายๆ สุโปสะ เจริญอย่างจริงเป็นอริยกะด้วยไม่ใช่ มิลักขะไม่ใช่คนเถื่อนคนต่ำ 

ทุกวันนี้มันกลับหัวกลับหางที่คิดว่าเป็นประเทศพัฒนากลับไปสร้างอาวุธได้เก่ง มีอำนาจบาตรใหญ่ฆ่าคนได้มีอำนาจครอบงำคนอื่นได้นึกว่าเป็นคนเจริญ ที่จริงแล้วนั่นเป็นคนเถื่อน คนหลงตัวเองอำนาจบาตรใหญ่ไม่ใช่คนเจริญ มีคนเข้าใจสัจจะพวกนี้ยังยาก เขาก็หลงอยู่อย่างนั้นเป็นโลกียะ ยังไม่เข้าใจถึงสัจจะจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบคนมืดบอดให้เห็น ผลงาน 8 ปี นายกฯ ลุงตู่ วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566 แรม 6 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2566 ( 12:05:50 )

คนจนของพระพุทธเจ้าเป็นไฉน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นถ้าคนจนเท่านั้น จึงจะสามารถเป็นจริงได้ ถ้าคนไม่จนมันเป็นไปไม่ได้ ทีนี้ ของพระพุทธเจ้านี้สอนให้คนเห็นความจริงอันนี้ เพราะฉะนั้น คนจนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่คนจนสิ้นไร้ไม้ตอก แต่เป็นคนจนขยันมีความรู้ความสามารถสมรรถนะสร้างสรร หากว่าเอาพวกเราไปสร้างความร่ำรวยก็รวยได้จริงๆ แล้วยิ่งรวยเป็นหมู่รับรองว่าบริษัทพวกเราเป็นบริษัทร่ำรวย บริษัทนี้ไม่เห็นแก่ตัว สร้างเพื่อส่วนกลางอย่างเต็มใจ โอ้โห

อันนี้มันซ้อน คนนี้สร้างอย่างเต็มใจและไม่ใช่มีนิสัยรวบรวม แต่มีนิสัยสะพัดออก จนกระทั่งถึงศูนย์ อย่างพวกเรามีต้นทุนอยู่ที่ศูนย์ แล้วศูนย์แล้วตายไหม ศูนย์แล้วไม่ตาย อยู่ในนี้ต้องเป็นคนดี เป็นคนไม่ขี้เกียจ เป็นคนขยันหมั่นเพียร เป็นคนมีสมรรถนะความสามารถ แล้วก็เลี้ยงดูกันอย่างเหมาะควร เด็ก, คนแก่, คนป่วย, คนพิการ, คนไร้สมรรถภาพ ก็ดูแลเลี้ยงดูกันไปจนกว่าจะตายจากกัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติปรากฏได้ในยุคโควิด วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:39:30 )

คนจนคือคนเจริญกว่าคนรวย

รายละเอียด

เรากำลังพากันจนอยู่ ถ้ามีปฏิภาณปัญญาเข้าใจว่า คนมาจนคือคนเจริญจะไม่พูดอย่างนี้ คนจนคือคนเจริญกว่าคนรวย ถ้าคุณรู้เช่นนี้จะไม่พูดอย่างนี้ก็ให้ศึกษาต่อไป

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2561


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:00:12 )

คนจนฉลาดแท้ รู้จักพอและพ้นทุกข์ได้ 

รายละเอียด

ที่จริงก็เทศน์ด้วยการใช้ SMS ของแต่ละคนนี่แหละ ขยายความให้รู้แง่มุมต่างๆของธรรมะ เป็นไปเพื่อความ ละหน่ายจางคลายจากกิเลส ตัณหาต่างๆได้ ทุกประเด็น คนจนฉลาดแท้ รู้จักพอและพ้นทุกข์ได้ 

ปฏิบัติธรรมมาก็ลดละได้ แล้วก็รู้ว่าทุกข์คืออะไร ชีวิตได้พบความทุกข์น้อยลง ที่ถ่อมตนว่า ทำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่คนที่สามารถรู้ทุกข์และธรรม ปฏิบัติธรรมให้ตัวเองลดความทุกข์ลงได้ และก็รู้ว่าทุกข์ของตัวเองลดลง ทุกข์จะลดลงได้ก็ด้วยการ มันเป็นสามัญอัตโนมัติ ทุกคนก็พยายามลด ด้วยการแก้ไขด้วยการกดข่มอะไรก็แล้วแต่ แล้วมันก็ลดลงได้เป็นชั่วครั้งชั่วคราว 

ส่วนพระพุทธเจ้านั้นท่านให้ลดทุกข์ด้วยการพยายามหาเหตุของมัน ทุกข์ ที่มันเกิดขณะนี้ อาการทุกข์ มันมีเหตุปัจจัยเกี่ยวข้อง ตั้งแต่สัมผัสต่างๆ ของจมูกลิ้นกายภายนอก แล้วโยงไปถึงจิต ทำให้จิตมันปรุงแต่งกันขึ้นเป็นเวทนา มันก็มีเหตุให้เราปรุงแต่ง ผสมสังขารกัน อย่างนี้พอใจ มันมีอุปาทานเป็นตัวตั้งเอาไว้ อย่างนี้พอใจตามที่ต้องการก็สุข อย่างนี้ไม่พอใจตามที่ต้องการก็เป็นทุกข์หรือไม่ชอบใจ ไม่พอใจ ถ้าสุขก็พอใจ  มันก็เป็นอยู่แค่นี้แหละมนุษยชาติที่ไม่ได้เรียนรู้ธรรมะของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 09:21:38 )

คนจนที่จนสำเร็จแล้วไม่สุขไม่ทุกข์เพราะมีจิตอุเบกขา

รายละเอียด

คนที่จะอ่านเวทนาสุขทุกข์ อาการของจิตที่มันสุขมันทุกข์ แล้ว อาการนี้ไม่มีในจิตเลยเรียกว่า อทุกขมสุข โอ้โห สุดยอด มันเป็นอาการที่ จริงๆ แล้วมันจะต้องลงกันกับอุเบกขา ไม่สุขไม่ทุกข์จริงๆ แล้วต้องลงกันกับอุเบกขา ฟังนัยยะ ไม่สุขไม่ทุกข์ต่างกับอุเบกขาอย่างไรให้ดีๆ 

คนจนที่จนสำเร็จ แล้วก็ไม่สุขไม่ทุกข์เพราะมีจิตอุเบกขา อุเบกขา คือ จิตบริสุทธิ์จากกิเลส ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา นี่ พระพุทธเจ้าแจกแจงไว้ เอาบาลีมายืนยันเลยเป็นหลักฐาน แต่เขาไปแปลเป็นไทยอย่างตื้นเขินพื้นๆ แต่ถ้าบาลีแล้ว สุดยอดลึกซึ้งเลย แปลเป็นไทยเขาแปลใน ธาตุวิภังคสูตร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน 3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 11:08:45 )

คนจนที่พ้นทุกข์ได้ถาวร

รายละเอียด

อันนี้ก็จริง คนมีกรรมวิบากอย่างไรก็ไม่รวย แต่ก็ควรศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า ให้จิตตนไม่ทุกข์ร้อนไม่ยากเย็น แม้จนก็พ้นทุกข์ อย่างพวกเรา แม้จะมีความรู้ความสามารถจะไปรวยก็ได้ ถ้าปล่อยให้ไปรวยก็จะไปแย่งเศรษฐกิจสังคมอีกเยอะ แต่อาตมาก็เอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาให้ศึกษา แล้วก็ได้กลายมาเป็นคนที่มีเศรษฐกิจแบบคนจนสาธารณโภคีก็ช่วยบรรเทา นี่เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้แก่ประเทศอย่างถาวรด้วยยั่งยืนด้วยทำแล้ว นี่พวกคุณก็อยู่อย่างนี้ไม่ไปวูบวาบเดี๋ยวได้ช่องรวยก็จะไป ซึ่งไม่ไป รวยก็ไม่ไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้เกิดปัญญาถึงอรหันต์ วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 21:11:07 )

คนจนที่มหัศจรรย์เป็นอย่างไร

รายละเอียด

เมื่อเข้าใจแนวลึกของธรรมะพระพุทธเจ้าแล้วจริงๆ แล้วมาทำได้สำเร็จ เป็นคนจนที่มหัศจรรย์ เป็นคนจนที่แปลกประหลาด เป็นคนจนที่มีความ ขอยืมใช้คำว่าความสุขมาใช้ คิดถึงความสุขแล้วมันไม่มีหรอก มันเป็นความสุขที่ไม่สุขไม่ทุกข์ ความสุขความทุกข์เป็นคำสองคำที่เป็นเทว มันเป็นอย่างเดียว ที่จริงแล้วมันไม่มีทั้งคู่ มันเป็นอุเบกขา อุเบกขาเป็นอย่างไรก็คือไม่สุขไม่ทุกข์ไง ก็เอาภาษาไทยมาขยายคำว่าอุเบกขาอีก ไม่สุขไม่ทุกข์ คนก็งง มันไม่มี ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ ทุกข์ก็ไม่ใช่สุขก็ไม่ใช่ มันเป็นอาการอีกอย่างนึง เป็นพลังงานของอาการจิต มันรู้อาการของความสุขเป็นเช่นนี้ อาการของความทุกข์เป็นเช่นนี้ แล้วมันก็ไม่มี ที่จะโต่งไปทางสุขก็ไม่มี จะโต่งไปทางทุกข์ก็ไม่มี จึงเรียกว่า อุเบกขา ข แปลว่า ว่าง สุ แปลว่าดี ว่างๆนี่แหละมันดี สุขะ มันเป็นคำที่เปรียบเทียบไม่ได้แล้วไม่รู้จะเปรียบเทียบอะไรอีก เพราะเปรียบเทียบไปแล้วมันก็เหมือนกับไม่ได้พูด เอาเล่มเก่าๆมาดู เราอธิบายไว้หมดแล้ว ไปอ่านของเก่าๆ เป็นคำสรุป ก็เลยง่าย เรารู้แล้ว นี่อธิบายเพื่อคนที่ยังไม่เข้าใจให้เข้าใจ เมื่อไปอ่านสิ่งที่สรุปไปแล้วมันจึงลัดเข้าเนื้อแก่นได้ ก็ต้องทำไว้ทั้งหมดทั้งสรุปและขยาย แล้วก็จะต้องขยายอีกไม่ใช่น้อย 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2563 ( 15:35:40 )

คนจนที่มีวรรณะ 9

รายละเอียด

รูปธรรม เราก็มาเป็นคนจนจริงๆนามธรรมเราก็มาเป็นคนจนจริงๆ แต่เป็นคนที่ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่เดือด ไม่ฟุ้งไม่อะไร ก็อยู่กับความเป็นจริงในสภาวะปัจจุบัน ขยันหมั่นเพียรสร้างสรรแล้วก็รู้ความจำเป็นของชีวิต และรู้จักพอ แต่เป็นคนมีวรรณะ 9 มีชีวิตอยู่สบายแล้ว สุภระ พัฒนาชีวิต สุโปสะ ด้วยโลกุตรธรรมได้ง่ายแล้วก็เป็นคนมักน้อย ก็ชัดเจนแล้วน้อยก็ดีแล้ว สันโดษ พอ นอกนั้นก็ขัดเกลาตนเอง สัลเลขะ ธูตะ ศีลเคร่งก็เจริญขึ้นเรื่อยๆคนที่มีปัญญาเห็นก็น่าเลื่อมใส ปาสาทิโก และอปจยะ ไม่สะสมแต่ขยัน วิริยารัมภะ

พวกเรานี้แม้ใครจะขี้เกียจมาก่อน พอปฏิบัติธรรมแล้วจะขี้เกียจน้อยลง ขยันขึ้น ขยันขึ้น จริงๆ มันจะรู้สึกเราจะรู้สึกจริงๆ จะรู้สึกว่าเราทำไมขี้เกียจ ไม่ดีนะ ยิ่งมาอยู่กับหมู่กับฝูงพากันขยันไปเฉยเลย จริง นอกจากคนอายุมากคนป่วยมันก็เป็นไปตามธรรมมันจะเป็นลักษณะของธรรมชาติที่ดี มันจะพัฒนาขึ้นไปอย่างนั้นอย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนอยู่เหนือกาละต้องชนะปฏิจจสมุปบาท พุทธศาสนาตามภูมิ วันพุธที่ 3 มกราคม 2567 วันแรม 7 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 มกราคม 2567 ( 15:13:20 )

คนจนที่มีวรรณะ 9 คือผู้กอบกู้มนุษยชาติได้

รายละเอียด

ได้ มากอบกู้มนุษยชาตินี้ เพราะว่าจริงๆแล้วความจน วรรณะ 9 

วรรณะ คือขั้นชั้นของความเจริญของมนุษย์ มนุษย์ที่มีภูมิธรรมในระดับเป็นขั้นเป็นชั้นขึ้นไป ใน 9 ระดับของวรรณะ นี่แหละเป็นความเจริญ เป็นความประเสริฐของความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นเรื่องมหัศจรรย์ เป็นเรื่องทวนกระแสโลกอย่างชัดเจนเลย 

วรรณะ 9 เป็นคุณลักษณะ เป็นคุณวิเศษอันน่ามหัศจรรย์ของมนุษย์ ในยุคพระพุทธเจ้าทำได้ ในยุคนี้ก็ทำได้ แสดงว่าพุทธศาสนานี้มีฤทธิ์ แม้ในยุคนี้ก็ทำได้ เปิดเผยความจริงอธิบายความจริงนี้ คนยังมีดวงตา มีธุลีในดวงตาน้อยก็เห็น ก็จึงได้มาเอา แม้ว่าจะมีน้อยคนกว่าในยุคพระพุทธเจ้า ก็แน่นอน คนที่จะมีบารมีย่อมมีน้อยลง เพราะศาสนาเสื่อมไปเรื่อยๆ คนเสื่อมจากศาสนาพุทธไปเรื่อย จนสุดท้ายมันก็จะหมดไปเลย แม้แต่ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วว่า โลกุตรธรรมจะไม่มีแล้วนะเป็น กลองอานกะ อย่างนี้เป็นต้น พูดย้ำซ้ำซากไปไม่รู้กี่ทีแล้ว เพื่อยืนยันความจริงอันนี้ แต่มันก็รื้อฟื้นขึ้นมาได้ เพราะศาสนาพุทธยังไม่หมดเชื้อ ยังมีโลกุตระต่อไปอยู่

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิธรรม‌ของ‌ศีล‌ข้อ‌ ‌1‌ ‌วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน2 ปีฉลู ที่‌ชาว‌อโศก‌ปฏิบัติ‌ได้‌ ‌


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:31:10 )

คนจนที่มีสัมประสิทธิ์

รายละเอียด

คนจนที่มีสัมประสิทธิ์ จะมีคุณงามความดี มีพฤติกรรมที่เจริญสมบูรณ์ เป็นคนขยันหมั่นเพียร คนจนนะ เป็นคนจนที่ขยันหมั่นเพียร เป็นคนจนที่ทำงานสุจริต เป็นคนจนที่ไม่แย่งชิงใคร แถมเป็นคนจนที่สร้างสรรค์แล้วก็เผื่อแผ่แจกจ่าย ให้แก่คนอื่นอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ทวนความเข้าใจตื้นๆ ความเข้าใจสามัญของมนุษย์ เรียกว่าทวนกระแส คนจนที่มีสัมประสิทธิ์นี่ มันจะทวนกระแสของคนสามัญธรรมดาที่เขาเข้าใจเขารู้ ว่าคนจนโลกีย์คนสามัญ เป็นคนจนที่ไม่มีสัมประสิทธิ์สำคัญแบบโลกุตระ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 2 วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(พลังสัมประสิทธิ์) ตอน สัมประสิทธิ์สองทิศทางที่ต่างขั้ว


เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:44:45 )

คนจนที่มีสัมประสิทธิ์

รายละเอียด

เป็นคนจนที่มีสมรรถนะ ความสามารถ เป็นคนจนอาริยะ เริ่มต้นด้วยการปฏิบัติตนเรื่องศีล ศีล 3 ข้อแรกเป็น 3 เส้าเบื้องต้นที่สำคัญของพุทธบริษัท

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ทำวัตรเช้าพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน ศีล 3 ข้อแรกคือสามเส้าหลักสู่อรหันต์


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:27:41 )

คนจนที่มีสัมประสิทธิ์แบบโลกุตระ

รายละเอียด

คนจนที่มีสัมประสิทธิ์ จะมีคุณงามความดี มีพฤติกรรมที่เจริญสมบูรณ์ เป็นคนขยันหมั่นเพียร คนจนนะ เป็นคนจนที่ขยันหมั่นเพียร เป็นคนจนที่ทำงานสุจริต เป็นคนจนที่ไม่แย่งชิงใคร แถมเป็นคนจนที่สร้างสรรแล้วก็เผื่อแผ่แจกจ่าย ให้แก่คนอื่นอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ทวนความเข้าใจตื้นๆ ความเข้าใจสามัญของมนุษย์ เรียกว่าทวนกระแส คนจนที่มีสัมประสิทธิ์นี่ มันจะทวนกระแสของคนสามัญธรรมดาที่เขาเข้าใจเขารู้ ว่าคนจนโลกีย์คนสามัญ เป็นคนจนที่ไม่มีสัมประสิทธิ์สำคัญแบบโลกุตระ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(พลังสัมประสิทธิ์) ตอน สัมประสิทธิ์สองทิศทางที่ต่างขั้ว


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:13:39 )

คนจนที่รวยคือหลักเศรษฐศาสตร์ของประเทศชาติ

รายละเอียด

เราเป็นคนจนที่รวย แต่ไม่เอาไว้เป็นของตัว ส่วนที่เหลือที่เกินก็เอาไปให้กองกลางให้กองกลางบริหาร นี่แหละคือหลักเศรษฐศาสตร์ของประเทศชาติ สอนคนให้มาจนเลย สอนคนให้ขยันหมั่นเพียร สอนคนให้มักน้อยสันโดษ สอนคนให้รู้จักประโยชน์เพื่อผู้อื่น ว่ามันเป็นคุณค่าเป็นความประเสริฐ การเสียสละเป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่ควรทำ การไปขี้โลภกอบโกยกักตุนและเอาเปรียบเอารัด มันไปไม่รอด เอาแต่รวยนั่นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ ด็อกเตอร์ทางเศรษฐศาสตร์ฟังอาตมาบ้าง พยายามทำความเข้าใจให้ดี ผู้บริหารประเทศทางเศรษฐกิจก็ตาม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ตีแตกเทวะด้วยคอมเม้นท์ที่เห็นต่างจากพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน ชุมชนบุญนิยมสร้างจากคนจนมหัศจรรย์


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 12:50:36 )

คนจนที่ระเสริฐต้องมีวรรณะ 9

รายละเอียด

พระอรหันต์คือคนที่มีวรรณะ 9 สูงสุด พระอนาคามีก็มีลดลงมา สกิทาคามีก็เจริญขึ้นมาก็มีบกพร่องบ้าง โสดาบันก็เริ่มมีวรรณะ 9

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 11:44:24 )

คนจนที่รู้จักพอ

รายละเอียด

คือ มีใจพอในภาวะที่พอเหมาะที่พอควร ไม่โลภโมโทสัน เป็นคนจนที่เป็นประโยชน์ ต่อผู้อื่น ต่อสังคม เป็นคนจนที่ไม่สะสมทรัพย์สิน ทั้งไม่สะสมกิเลส เป็นคนจนที่ยอดขยัน ปรารถความเพียร จึงเป็นคนจนที่มีเศรษฐกิจของสังคมอุดมสมบูรณ์

หนังสืออ้างอิง

“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 29


เวลาบันทึก 08 พฤศจิกายน 2562 ( 12:33:40 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:45:01 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:21:10 )

คนจนที่ศิวิไลซ์

รายละเอียด

คำว่า คนจน หรือ ความจนนี้ มันเป็นเรื่องโลกุตระ เป็นปรมัตถธรรม แล้วจริงๆแล้ว คนมันมีปัญญาจริงรู้เรื่องดีแล้ว มาทำตนเองให้เป็นคนจนได้ และเป็นคนจนได้จนกระทั่งเป็นหมู่กลุ่มชุมชนและมีพฤติกรรม ประพฤติ ปฏิบัติเป็นคนจนที่มีปัญญา มีโลกุตรธรรม เป็นคนจนที่ศิวิไลซ์ เป็นคนจนที่เจริญ เป็นคนจนที่ประเสริฐ เป็นคนจนที่เจริญแท้ๆ ประเสริฐแท้ๆ ศิวิไลซ์จริงๆ มันซับซ้อนนะอันนี้

ความจน คนจนแบบชาวอโศกเป็นนี้ เราแก้ปัญหาให้ตัวเองเสร็จ แก้ปัญหาให้สังคมประเทศชาติเสร็จ มันไม่ต้องแก้อะไรอีกแล้ว ชีวิตดำเนินไปมีแต่ความเจริญต่อ เจริญต่อคือ ขยันหมั่นเพียร ขยันสร้างสรร มีงานอะไร รู้ควรจะทำ ตามกาละเวลา ขึ้นมาทำให้มันสอดคล้องกับความต้องการ demand ของสังคม supply แต่ละกาละ ปัจจุบันวาระ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชีวิตหนอพออยู่พอกิน เพราะมีอาหาร 4 วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 แรม 10 ค่ำเดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2565 ( 20:49:00 )

คนจนที่อวิชชา

รายละเอียด

คนจนเพราะจำนน ไม่ได้อยากจน แต่มันจนเพราะจำนน คนพวกนี้ก็ทุกข์ ก็ไม่รู้สึกว่า ตัวเองจะมีชีวิตที่เจริญหรือเป็นอารยะศรีวิไลซ์อะไรไม่ คนจนอย่างนั้นก็เป็นคนจนที่อวิชชา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เป็นคนจนสุดประเสริฐได้เพราะรู้แจ้งในอาหาร 4 วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2565 ( 18:02:29 )

คนจนที่อุดมสมบูรณ์

รายละเอียด

มนุษย์ในสังคมธรรมดานี่เอง อยู่กลางๆ ไม่ใช่เป็นพวกร่ำรวยฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย จนก็ไม่จนอย่างขาดแคลน อย่างลำบากลำบนขัดข้อง อุดมสมบูรณ์อย่างนี้ คนจนอะไรทำไมของกินเต็มไปอย่างนี้ ชาวบ้านเขาก็งงทำไมบอกว่าจน นอกจากมีกินมีใช้แล้วคนอื่นเขายังมาอาศัยเลี้ยงชีวิต มาทำงานทำการอยู่ในนี้เหมือนกับซาอุฯน้อยๆ มีคนมาทำงานทำการเลี้ยงชีพอยู่ไป จากเดิมไม่มีอะไรจนกระทั่งมีรถแบ็คโฮ มีเครื่องใช้ไม้สอยในระดับชั้นกลาง ซึ่งมันเป็นเรื่องซับซ้อนที่รู้ได้ยากเดาได้ยาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเปิดตาพญานาคลงสู่การเมืองไทย วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2565 ( 19:07:59 )

คนจนที่เป็น 0 เป็นผู้เจริญอย่างไม่มีใครเทียม

รายละเอียด

วันนี้พูดถึงเรื่อง จนมหัศจรรย์ การมีน้อยนี้มันไม่แย่งคนอื่น ให้คนอื่นแย่งไปหมดแล้วเราเป็น 0 แต่เรา 0 นี่นะ มันย่อมไม่เป็นคน 0 ที่ไร้ค่า เราเป็นคนที่มีความรู้มีสถานะอันเจริญ เป็นผู้รู้เป็นผู้ไม่ขี้เกียจขี้คร้าน ขยันหมั่นเพียรด้วย มีความรู้ความสามารถด้วย เราก็อยู่กับความรู้ความสามารถกับความไม่ขี้เกียจ ขยันหมั่นเพียร ผู้ทรงความรู้ความสามารถก็ขยัน ปรารภความเพียรอยู่ตลอดกับความรู้ความสามารถของเรา มันเป็นประโยชน์ไม่เป็นโทษกับมนุษยชาติ เป็นประโยชน์ที่ดีประโยชน์ที่ควร คนอื่นรับไว้ได้ประโยชน์จริงๆ มันมีที่สุดของมันอยู่แล้ว มันไม่ต้องเลือกอะไรอีกแล้ว เราก็จบอยู่ตรงหน้าที่อยู่กับงานอันนี้ จนกว่าเราจะเลิก แยกธาตุไปเป็นดินน้ำไฟลมไป ถ้ายังไม่เลิกเราก็สร้างประโยชน์คุณค่าให้ดียิ่งขึ้น เท่าที่จะมีมนุษย์แต่ละท่านพากเพียรจะสร้างได้ดีได้มากขึ้น สูงสุดถือว่าเป็นพระพุทธเจ้า เราก็ทำ 

คุณจะรู้เองว่าคุณเทียบไปหาพระพุทธเจ้าได้แค่ไหน อย่างอาตมาก็เทียบไป ระดับ 7 ระดับ 8 ขึ้นไป แล้วเราจะรู้เองว่าเราห่างไกลคนอื่นเขามากเลย ไม่ว่าจะในยุคนี้ที่มีคนดีน้อย ในยุคที่มีคนเจริญมากเจริญน้อยเราก็ยังสูงที่สุดอีก จนกว่าเจริญมากๆกว่าคนที่เขาไม่เจริญเท่าเรา มีระยะห่างมากจนกระทั่ง เขาไล่ไม่ทัน เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้ากับผู้ที่รอง ในยุคใดเมื่อใดก็แล้วแต่ มันห่างจนเขาไม่มีทางไล่ทัน นานกี่กัป กี่ล้านปีแสงก็ยังยากที่จะมาไล่ทัน จะมีความรู้เลยว่ามันสุดวิสัย ไม่มีใครไล่ทันหรอก ก็ตัดสินได้ว่าสูงสุด 

เราจะรู้ทั้งระยะเวลาและคุณภาพคุณสมบัติที่จะประมวลสั่งสมมาที่จะให้เท่าเทียมเราจะต้องใช้ทั้งเวลาใช้ทั้งมวลคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ซึ่งมันจะมาเท่าเทียมเรานี้ ไม่ได้ เพราะเราเองก็ไม่ได้อยู่เปล่าเราก็เดินทางเจริญขึ้นไปเรื่อย แล้วอัตราการก้าวหน้าของเรามากกว่าอัตราการก้าวหน้าของผู้ที่เป็นรอง มันคนละขนาดเลย แล้วมันจะมีวันไล่ทันไหม มันไม่มีทางไล่ทันเลย

เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องสุดวิสัยแล้ว ผู้นั้นจะรู้เองตัดสินได้เลยว่า สุดแล้ว สูงสุดแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 27 จนเป็นที่ 1 ในโลก แต่สร้างอาหารช่วยโลก วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 พฤษภาคม 2565 ( 14:34:56 )

คนจนที่เป็นทุกข์และคนไม่มีอริยทรัพย์

รายละเอียด

ความเป็นคนจนและการกู้ยืม  เรียกว่าเป็นทุกข์ในโลก(ทลิททิยยัง ทุกขัง  โลเก   อิณาทานัญจะ  วุจจติคนจนกู้ยืมเลี้ยงชีวิตย่อมเดือดร้อน  เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อมติดตามเขา  เพราะไม่ใช้หนี้นั้น  เขาย่อมเข้าถึงแม้การจองจำ  ก็การจองจำนั้น  เป็นทุกข์ของชนทั้งหลายผู้ปรารถนาในการได้กาม  ในวินัยของพระอริยเจ้า  ผู้ใดไม่มีศรัทธา  ไม่มีหิริ  ไม่มี โอตตัปปะ  พอกพูนบาปกรรม   กระทำกายทุจริต    วจีทุจริต และมโนทุจริต  ... พอกพูนบาปกรรมในที่นั้นๆ อยู่บ่อยๆ  ด้วยกาย  ด้วยวาจา  ด้วยใจ เราตถาคตย่อมกล่าวว่า เป็นทุกข์  เหมือนอย่างนั้น เขาผู้มีบาปกรรม  มีปัญญาทราม  ทราบความชั่วของตนอยู่ เป็นคนจนมีหนี้สิน  เลี้ยงชีวิตอยู่ย่อมเดือดร้อนฯลฯ

 

 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 22 ข้อ 316 , ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2562 ( 20:32:50 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:34:49 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:21:21 )

คนจนที่เป็นโลกุตระไม่ได้กลัวความจน

รายละเอียด

ชีวิตของคน มันมีประเด็นที่เรียกกันว่า ความจน แล้วก็กลัวกัน คนเขาก็กลัวความจน จากรายงานระดับโลก ดร.อัษฎางค์เขารายงานว่า ผลจากการบริหารของลุงตู่ 8 ปีนี้ความยากจนลดลง 58% เหลือเพียง 6.8% แล้วอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ก็สูงลิ่ว การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เจริญขึ้นด้วย ซึ่งมันเป็นผลงานของลุงตู่ ที่ประกาศมาตลอดว่ารายงานต่อสังคมว่า ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง จะทำอะไรต่ออีก เป็นผลสำเร็จรายทาง และเก็บผลไปเรื่อยๆอย่างไร 

เพราะฉะนั้น ข้อมูลระดับชาติ ก็มีสถิติ มีอะไรต่ออะไรให้ตรวจสอบ มันเป็นเรื่องสามัญของโลกเจริญ มนุษย์เจริญ สังคมเจริญ ก็ต้องทำอย่างนั้น ก็ชัดเจนว่า ผลงานที่รัฐบาลทำมาตลอด 8 ปี ซึ่งมันก็เป็นการส่งผลออกดอกออกรวงกันมาหมดแล้ว แต่ผู้ที่แหกปากกันอยู่ตอนนี้ว่าแย่แล้วแย่แล้ว การเมืองก็แย่  เศรษฐกิจก็แย่ ไทยตกต่ำ คนจนก็มากขึ้นมากขึ้น มันเป็นพวกที่เหมือนคนตาบอด หูหนวก  สมองกลวง ไม่รู้อะไร ทั้งปรมัตถ์ทั้งสมมุติ เรื่องสมมุติ คนจน เขาก็รายงานให้ฟังแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่ 58% เหลือเพียง 6.8% นั่นคือทางสมมุติ ทางปรมัตถ์ สังคมใดมีคนจน สังคมนั้นคือ สังคมอาริยะ ศิวิไลซ์ สังคมเจริญ คือสังคมที่มีคนจน เพราะคนจนที่เป็นโลกุตระไม่ได้กลัวความจน ใช่มั๊ย...

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชีวิตหนอพออยู่พอกิน เพราะมีอาหาร 4 วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 แรม 10 ค่ำเดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2565 ( 20:24:06 )

คนจนที่ไม่หลงมั่งคั่งเพราะอะไร

รายละเอียด

อาตมาก็ติติง ว่าอย่าหลงรวยอย่าหลงมั่งคั่ง มันไม่มั่งคั่งเพราะอะไร เพราะสร้างสรรได้มากเราก็ไม่เอาไว้มาก เมื่อมีน้อยก็เป็นคนจน คนจนที่เหลือเฟือแจกจ่ายคนอื่นได้ตลอดเวลา เป็นคนจนมหัศจรรย์ คนจนแปลก แต่มันเป็นจริงนะ แล้วไม่จำเป็นว่า จะไปตั้งชื่อว่าเราร่ำรวย แต่เราก็พอมีพอกิน เรามีเหลือเราก็แจก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 14:12:02 )

คนจนมหัศจรรย์

รายละเอียด

ทีนี้ เศรษฐกิจที่ว่านี้แหละอย่างนี้อย่างที่ในหลวงท่านได้ตรัส ประเทศไทยให้บริหารแบบคนจน จะไม่บริหารแบบคนรวย จะไม่ทำให้คนทั้งประเทศรวย จะทำให้คนมาจน แต่เป็นคนที่เป็นคนจนมหัศจรรย์ มีสมรรถนะมีความรู้ความสามารถ เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เจือจาน คนที่ไม่สะสมมันก็ต้องจน นอกจากไม่สะสม ก็มีน้อยแล้วเหมือนข้าวกรอกหม้อ คุณต้องขยันอยู่เสมอนะ ไม่ขยันคุณจะอดอยากนะ แต่ในระบบสาธารณโภคี ซึ่งมีของส่วนกลางพึ่งพากันได้แม้เราจะเจ็บป่วย เราจะแก่ทำงานไม่ไหวแล้ว มันก็ไม่มีปัญหาหรอก แก่แล้วทำไม่ไหวก็ไม่ไหว เจ็บป่วยทำไม่ได้ก็ไม่ได้ เด็กๆ ทำงานไม่เป็นก็เป็นธรรมชาติธรรมดา เราก็ต้องเผื่อแผ่เขา อาตมาเคยวิจัยไว้หมด 1. เด็ก 2 คนแก่ 3 คนเจ็บป่วย 4 คนพิการ 5 คนไร้สมรรถภาพ ใน 5 ชนิดนี้ เราก็ต้องเผื่อแผ่เขา ในมวลคนที่ไม่ใช่ 5 อย่างนี้มันมากกว่า จึงสามารถเกื้อกูลรักษาเลี้ยงดูอันนี้ไว้ได้ มันไม่ได้ยากแค้นลำบากลำบนอะไรหรอก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:51:17 )

คนจนมหัศจรรย์

รายละเอียด

การซื้อของราคาถูก พวกเราไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ได้ผลิตเองเท่านั้นเอง ไม่ทั้งหมดหรอก มีบ้างที่เราผลิตเองนิดหน่อย แต่ของที่ซื้อมาเป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นนั้น เราไม่ได้ซื้อของที่เฟ้อๆ เกินๆ ที่เป็นแฟชั่นของโลกๆ ที่เขาหลงไม่เอา เอาแต่ของที่เป็นสาระ เอาแต่ของที่เป็นประโยชน์ ของกินของใช้ที่เป็นของแท้ ไปซื้อมาจากคนอื่นที่เขาสร้าง 

ซื้อมาแล้วก็มาขายต่ำกว่าทุน เจตนาเอามาขายให้ต่ำกว่าทุน เป็นการสร้างเศรษฐกิจ เป็นการช่วยเศรษฐกิจของประเทศ ช่วยประเทศช่วยรัฐบาล นี่แหละคือการช่วยเศรษฐกิจสร้างเศรษฐกิจ คนจนมหัศจรรย์ ไม่ใช่คนรวยที่ขี้โลภ รวยไม่เสร็จ รวยไม่จบ โกยเอา ก็หาวิธีเอากำไร แย่งชิงได้เปรียบมาไม่มีจบ พวกนั้นพวกบาปกินหัว พวกเขาไม่รู้จริงๆ ว่าเขาบาป 

เขาเอาเปรียบมนุษยชาติแทนที่จะเสียสละอันเป็นกุศล เป็นสิ่งดีงามของมนุษยชาติขึ้นมา เขาก็ไปทำอกุศลไปเอาเปรียบเอารัดใช้เล่ห์เหลี่ยม ใช้วิธีโกง จนกระทั่งถูกต้องตามกฎหมาย เขาก็ต้องยอม กฎหมายต้องยอมพวกนี้ แต่ธรรมะพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้ยอม ดูถูก กำราบตำหนิ ด่า ดังที่อาตมาทำอยู่ ซึ่งเขาทำผิด มันน่าตำหนิ ต้องตำหนิ เพราะฉะนั้นผู้ที่มาแจกชาวบ้าน แล้วก็ชาวบ้านไปร่ำลือว่า..รวย..

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การวัดคุณค่าของมนุษย์กับสิ่งสร้างขึ้นของมนุษย์  วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 ขึ้น 1 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 มกราคม 2566 ( 12:33:49 )

คนจนอย่างมีน้ำใจ

รายละเอียด

เราก็มีแค่นี้แหละจนๆ เราไม่มีมากแต่เรามีสมรรถนะมีความมีน้ำใจเยอะ มีสมรรถนะสร้างให้มากเผื่อแผ่ได้มาก ไม่ต้องมีกับตัวเองไว้มาก เพราะอะไร เพราะอาตมามั่นใจในคุณธรรมของมนุษย์ ถ้าเราเป็นคนมีแต่ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างบริสุทธิ์ใจไม่มีอคติมีน้ำใจมีเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขาจริง คนนะ มีภูมิปัญญามีความเฉลียวฉลาดเขาจะรู้สิ่งนี้ เขาจะไม่มาทำร้ายทำลายกับคนชนิดนี้ คนที่มีแต่ความไม่เห็นแก่ตัวมีแต่เกื้อกูล โลกานุกัมปายะ สี่ระดับอย่างสมบูรณ์แบบ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 19:04:09 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:35:20 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:24:34 )

คนจนอย่างเศรษฐี

รายละเอียด

หรือมาอยู่แบบพอเพียงเป็นคนจน เป็นคนจนอุดมสมบูรณ์สุขสำราญพึ่งพากลุ่มกันได้พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้ เป็นคนจนที่มีกลุ่มหมู่ที่พึ่งกันเกิดแก่เจ็บตายกันได้ไม่ใช่โดดเดี่ยว ไม่ใช่เป็นคนจนที่อ้างว้างไม่มีใครดูแลไม่ใช่ เราจะเจ็บป่วย เราจะแย่ เราจะลำบากลำบนอย่างไร ก็มีคนช่วยดูแล ไม่โดดเดี่ยวเลย จนแบบนี้ไม่ใช่จนแบบอนาถา แต่เป็นจนเศรษฐี จนอย่างนี้เป็นการจนอย่างเศรษฐี เศรษฐีคือผู้ประเสริฐ จนอย่างผู้ประเสริฐคือเป็นคนจนที่ไม่ต้องสะสมมา ไม่ต้องเป็นคนรวย ไม่ต้องมีวัตถุมาก แต่เป็นคนที่มีพลังงานสร้างสรรเยอะ ขยันหมั่นเพียรอยู่ทุกวัน แล้วไม่มีการขี้เกียจ เป็นคนจนที่ไม่ขี้เกียจเป็นคนจนที่ขยันหมั่นเพียรจริงๆ ไม่มีอบายมุข เอาอบายมุข 6 อบายมุข 4 มาวัดก็ได้เล่นการพนัน หลงไหลการละเล่นมหรสพ   คบมิตรชั่วเที่ยวกลางคืนอย่างนี้เป็นต้น ตรงกับคำสอนพระพุทธเจ้าทุกอย่าง จึงเรียกว่ามีอนุสาสนีปาฏิหาริย์ตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้าอันเป็นปาฏิหาริย์ได้ อย่างชาวอโศกมีชีวิตอยู่ในสังคมชาวอโศกอยู่อย่างปาฏิหาริย์ อยู่อย่างที่ใครจะไปทำได้อย่างเอ็งวะ ทำไมถึงดูถูกตนเอง โดยเฉพาะผู้ที่มีความฉลาดมีฐานะ ดูถูกตัวเองว่าจะมาเป็นชาวอโศกได้อย่างไร เข้าใจได้ว่าคนประเสริฐหรืออาริยบุคคลคนเจริญแท้ๆคือคนอย่างไร เศรษฐกิจดี การเมืองดี การสังคมดีมาก อยู่ในสังคมอย่างไม่ได้เบียดเบียนไม่ได้ทำให้สังคมเดือดร้อนมีแต่ทำให้สังคมเจริญพัฒนาเป็นอยู่สุข เสียสละรับใช้ประชาชน จะบอกว่า เป็นประชาธิปไตย ก็เป็นนักประชาธิปไตยที่สูงสุด ถ้าเป็นนักคอมมิวนิสต์ที่สูงสุดเป็นอย่างนั้นจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2563 ( 12:49:50 )

คนจนอย่างไม่มีปัญญากับมีปัญญา

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนจน 2 แบบ คือคนจนอย่างไม่มีปัญญา กับคนจนที่มีปัญญา อย่างพวกเราเป็นคนจนที่มียอดปัญญา มีปัญญาชัดเจน ปัญญาประเสริฐสุดแล้ว เพราะไม่ได้ไปกลัวความจน หรือมาเป็นคนจนอย่างดรามาติก เท่ๆโก้ๆ ไม่เลย แต่เต็มใจจน แล้วเห็นว่าความจนเป็นเรื่องประเสริฐที่มาจนได้ เป็นเรื่องจบในตัวแล้ว เป็นคนจนที่มีจบ จบในจน จนอย่างจริงๆ เป็นคนมีความจนที่จริง แล้วสบาย เป็นคนจนที่มีความสุขเป็นอยู่สบายไม่เดือดร้อนมีความสงบเรียบร้อยดีด้วย ทำให้บ้านเมืองเรียบร้อย สงบ ไม่ได้เป็นเหตุ เป็นสมุทัย เป็นปัจจัยที่ทำให้ประเทศชาติเดือดร้อน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน 3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 11:49:37 )

คนจนอาริยะ

รายละเอียด

คือ เป็นคนที่คุณสมบัติ “อัปปิจฉะ”(มักน้อย-กล้าจน) มี “สันตุฏฐิ”(สันโดษ-ใจพอ) รัก “วิเวก”(รักความสงบ) และ “อปจยะ”(เป็นผู้ไม่สะสม) ซ้ำมิหนำ “วิริยารัมภะ”(ยอดขยัน) อีกด้วย จึงเป็นคนมี “ปัญญา” เข้าใจ “ความจน” ที่วิเศษแท้จริงของ “คนจนอาริยะ” หรือ “ศิวิไลซ์ (civilize) ชนิดที่มีความฉลาดแบบปัญญา” อันเป็นแบบ “โลกุตระ (supra mundane)

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 31-33


เวลาบันทึก 08 พฤศจิกายน 2562 ( 12:35:17 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:46:01 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:22:25 )

คนจนอาริยะ

รายละเอียด

“คนจนอาริยะ”คือ คนจนที่มี“ปัญญา”ซึ่งมิใช่เฉโก  ปัญญาเป็นความฉลาดแบบโลกุตระ ถ้าไม่ศึกษาไตรสิกขาอย่างสัมมาทิฏฐิก็ไม่เกิดศีล สมาธิ ปัญญา มันมีเหตุปัจจัยที่จะเกิดปัญญาอย่างไร สร้างปัญญาต้องมีมรรค มีโพชฌงค์ จึงเกิด ปัญญา ปัญญินทรีย์ ปัญญาพละ ในมหาจัตตารีสกสูตร ถ้าไม่มีการปฏิบัติก็แยกสัญญากับปัญญาไม่ได้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2561


เวลาบันทึก 31 ธันวาคม 2563 ( 13:08:29 )

คนจนอโศก จนอย่างมี “อายะ3” จนอย่างไม่เป็นไปเพื่อตนเอง!

รายละเอียด

คนผู้มี“อายะ 3”คือ  พหุชนหิตายะ-พหุชนสุขายะ-โลกานุกัมปายะนั้น

จึงเป็นคนที่มี“กำไร” มี“รายได้” มี“ผลประโยชน์” อย่างยิ่งต่อตน

ด้วยความเจริญที่เป็นอาริยะ นั่นคือ ไม่เป็นไปเพื่อตนเอง

แต่เป็นไปเพื่อผู้อื่นเพื่อสังคมประเทศชาติอย่างแท้จริงยั่งยืนแท้

กำไร หรือรายได้ หรือผลประโยชน์ ของ“คนจน”ที่มี“ปัญญา”จริงแท้นี้ 

ขาดทุนนั้นคือ“กำไร” 

รายได้นั้นคือ“คุณค่าทางจิตที่เจริญอย่างเป็นคุณวิเศษ(อุตตริมนุสสธรรม)” 

ผลประโยชน์นั้นคือ “อายะ 3” ได้แก่ “พหุชนหิตายะ-พหุชนสุขายะ-โลกานุกัมปายะ”จริงๆ 

ไม่มีอะไรซับซ้อนซ่อนเชิงที่หมุนรอบเชิงซ้อนมาให้ตนเองหมดจดแท้ๆ

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 521 หน้า 387


เวลาบันทึก 12 กรกฎาคม 2564 ( 12:30:05 )

คนจนอโศก จนอย่างเต็มใจ จนอย่างไม่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ!

รายละเอียด

“คนจน”ที่มี“ปัญญา”จริงแท้ เป็นผู้มี“วรรณะ 9” มีความ

เป็นอยู่กับหมู่กลุ่มสังคมที่เป็น“สาราณียธรรม 6”

นั้นคือ ผู้เจริญด้วยเศรษฐกิจ

ไม่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจสำหรับตนเอง เพราะเต็มใจจน 

และเป็นผู้มีพลังสร้างสรรค์ช่วยเศรษฐกิจของสังคม เนื่องจาก

มีความรู้ที่เป็น“เศรษฐศาสตร์”ของพระพุทธเจ้า ด้วยความเข้าใจดี

ลึกซึ้งว่า เราเป็นคนมี“อายะ 3”ได้แก่ พหุชนหิตายะ-พหุชนสุขายะ-โลกานุกัมปายะ

“อายะ” คือ กำไร รายได้ ผลประโยชน์

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 520 หน้า 386


เวลาบันทึก 12 กรกฎาคม 2564 ( 12:24:34 )

คนจนอโศกมาจนเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นคนจนที่มีอุดมการณ์!

รายละเอียด

ซึ่งเป็นการ“แก้ปัญหาเศรษฐกิจ”ในสังคมมนุษยชาติได้สำเร็จ

แท้แน่นอน มั่นคงยั่งยืนจริง ไม่เป็นโทษ ไม่เป็นภัยแก่คนอื่น

ไม่เป็นพิษแก่สังคมภายนอกเลยด้วย 

เพราะ“ผล”สำเร็จคือ “จิตคนกิเลสน้อยลงจริง”หรือ“จิตไม่มีกิเลสแท้”

จึงเป็น“เศรษฐศาสตร์”ที่สุดวิเศษ 

นั่นคือ จะดำเนินชีวิตไปด้วย “เศรษฐกิจ”ทฤษฎีพระพุทธเจ้า 

ซึ่งได้แก่ การเป็นคนที่มีคุณสมบัติเข้าขั้นมี“วรรณะ 9” 

และจะเป็นสังคมชุมชนหมู่กลุ่มที่มี“สาราณียธรรม 6”

“วรรณะ 9” และ“สาราณียธรรม 6”ไม่ใช่ความสุดโต่ง ไม่ใช่ความเป็นไปไม่ได้ 

แต่เป็นการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมได้จริงๆ 

เป็นความเป็นไปได้แท้ๆ ที่สามารถนำมาศึกษาและปฏิบัติบรรลุผลกันอยู่แม้ในยุคปัจจุบันนี้  

นั่นคือ “ชาวอโศก“ที่เป็นชาวพุทธในประเทศไทยนี่เอง

เชิญไปพิสูจน์หรือไปดูตามหมู่บ้านชุมชนอโศกที่มีกระจัดกระจาย

อยู่ทั่วไป ในประเทศไทยนี้แลได้

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 522 หน้า 387


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2564 ( 16:20:30 )

คนจนแบบชาวอโศกสุดยอดอย่างไร

รายละเอียด

อาตมาว่า ผู้บริหารประเทศก็ต้องการคนแบบนี้ชนิดนี้ คนที่อยู่สงบเป็นประโยชน์มีความสุขสงบสบาย สร้างสรร ไม่เบียดเบียนใคร มีคุณค่าประโยชน์ต่อสังคม สร้างสรรเสียสละ แบ่งแจก ไม่ไปขูดรีด ไม่ไปเอาเปรียบเอารัดสังคม พูดภาษาง่ายๆธรรมดา แต่เป็นภาษาเศรษฐศาสตร์สุดยอดแล้ว

ไม่ได้หมายถึงด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว ด้านสังคมก็ด้วย ก็อยู่กันอย่างนี้ สังคมพวกเราใครจะมามากมาน้อยมาเพิ่มขึ้นหรือไม่เพิ่มขึ้นเราก็อยู่ของเรารอด เป็นไปได้ด้วยดี และก็ช่วยกันให้ความรู้ พยายามสอนแนะนำกันให้เข้าใจ ให้มาลดละ จิตเป็นประธานมีกิเลสโง่ อวิชชามันก็ยึด จนมาเข้าใจ ปลดปล่อยความยึดถือแบบโลกๆ มาอยู่แบบนี้ หรือปฏิบัติให้ดีขึ้นไปจนถึงอรหันต์เลย ก็พากเพียรไปซึ่งสุดยอดแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน สาธารณโภคีคือสิ่งยอดเยี่ยมที่สุดของเศรษฐกิจ วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561ที่บวรราชธานีอโศก
 


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:51:37 )

คนจนแบบอโศกดีอย่างไร 

รายละเอียด

เพราะว่าอโศกมีคุณธรรมแบบทวนกระแสแบบโลกุตระ เป็นคุณธรรมที่ ชาวโลกเขา เห็นว่าเป็นเรื่องประหลาด คนมาดัดจริตหรือเปล่า เขาต้องการรวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองทั้งโลก ใครๆ ก็อยากรวย แล้วพวกนี้มันอยากจน คนจะไปอยากจนได้อย่างไร มาเป็นคนจน ซึ่งลึกซึ้งมากนะคนจนแบบอโศก 

จริงที่สามัญปกติที่เขาเข้าใจความจนของเขาเข้าใจแบบโลกีย์ ที่จริงแล้วเจ้าตัวไม่อยากจะจนเลยแต่มันจน มันมีน้อย จนคือคนมีน้อย มีสมบัติน้อยๆ มีอะไรกินอะไรอยู่อะไรใช้สอยน้อย ขาดแคลนไม่ถึงใจ ไม่สมใจ ไม่ได้บำเรอตน ก็เป็นอย่างนั้น 

แต่ของอโศกนี้เหลือเฟือ ดูซินี่ บนโต๊ะหน้าเวที เยอะแยะมากมาย ที่โลกเขามีทุเรียนบางยี่ห้อกิโลละ 800 บาท ธรรมดาเขากิโลละเท่าไหร่ 150 บาท พวกเรากินฟรีเลยไม่ค่อยรู้เรื่องราคา ของเรานี่กินทุเรียนภูเขาไฟด้วยนะ มาจากศรีสะเกษ ก็มีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปีนี้มีเยอะแยะลูกโตด้วย 

ความอุดมสมบูรณ์ของคน คนที่รู้จักแก่นสารสาระของชีวิตแล้ว ก็คืออาหาร อาหารคือคำข้าว ธัญญาหารด้วย มีธัญญาหารอุดมสมบูรณ์เพียงพอ หลากหลายด้วย แล้วส่วนที่หลากหลายนี้ก็ไม่ใช่เรื่องมอมเมา เรื่องเปลือกๆ หลากหลายแต่เป็นเรื่องเนื้อๆแก่นๆ เป็นสาระแท้ๆ ด้วย ซึ่งมันมีนัยยะลึกซึ้ง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก ครั้งที่ 41 อาหารเป็น 1 ในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 19:40:01 )

คนจนโลกุตระ วรรณะ 9 จึงทำให้เกิดสังคมสาราณียธรรม 6

รายละเอียด

เรา มีจารีตประเพณีน้อย ต่างกันกับจารีตประเพณีของสังคมพุทธ ต่างกันมาก ต่างกันจนกระทั่งเรามาอยู่ที่ไหน ชุมชนชาวอโศก คนข้างนอกเขาเข้ามาไม่ได้ เขาเองเขารู้สึก ว่ามันข้ามเขตอันหนึ่ง เขตโลกุตระ เพราะฉะนั้นคนเหล่านั้นไม่ได้ห้ามเขานะ อาตมาไม่ได้ห้ามเขานะ อยากให้เข้ามาด้วย อาตมาอยากให้เขามาฟังธรรมไหม(ถาม)..(พวกเราตอบ).. อยาก เขาไม่กล้ามาเข้ามา เขาก็ไม่รู้เรื่อง มันถิ่นนี้แดนนี้ มันมีจารีตประเพณีอย่างนี้มันใช่พุทธหรือเปล่า ทำไมมันแปลก 

แต่คนที่พอมีปฏิภาณปัญญาก็จะบอกว่ามันไม่เลวนะ มันดีนะ อย่างชาวอโศกอยู่ที่ไหน คนมา คนที่กล้าเข้ามา มาทำงานด้วย จนกระทั่งมารับจ้าง อาตมาก็พยายามเปิดทางเพื่อที่จะให้คนเข้ามา อย่างราชธานี เดี๋ยวนี้งานน้อยลงแต่ก็ยังมีเยอะอยู่ ทำงานวันๆหนึ่งเฉลี่ยแล้ว เคยมีคนทำบัญชีการเงินเขาเคยคิด ว่ามันตกวันหนึ่งเดือนหนึ่งเท่าไหร่ ของราชธานีเอง ของสันติเอง ของที่ไหนๆ ชุมชน จะมีชุมชนที่คนข้างนอกเขามาทำงานด้วยไม่มากนัก คือถิ่นที่เขาไม่ได้สร้าง ไม่ได้ก่ออะไรมาก คนชาวอโศกเองทำงานเอง อาตมาก็ไม่รู้ว่าจะเป็นที่ไหนบ้าง 

แต่อย่างปฐมอโศกมีน้อยลง แต่ก็ยังมีคนข้างนอกมาทำงานอยู่บ้าง มาเป็นกิจจลักษณะ ไม่ได้จรเหมือนกับบางที่บางแห่งอยู่เป็นหลัก ทำเป็นหลักกันไปเลยประจำเดือนอย่างปฐมอโศกอย่างนี้ เพราะฉะนั้นจึงมีความเที่ยงในเรื่องของรายรับรายจ่าย มีความเสถียรในเรื่องงานการที่มันเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็เป็นชุมชนแรก ชุมชนที่ตั้งมั่นในด้านเศรษฐกิจ ก็เลี้ยงน้องๆ บ้านราชนี้ แต่ก่อนเขาส่งให้เดือนละล้าน ล้านกว่า เดี๋ยวนี้เขาไปซื้อที่เพิ่มก็เลยของด บ้านราช ก็เลยต้องพากเพียรเองช่วยตัวเองให้รอดนะ พี่ๆ เขาไม่ได้อุ้มไว้อย่างนี้เป็นต้น ก็ว่ากันไป เราก็ทำไปเรื่อยๆได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศก ทำแล้ว ทำอยู่ และกำลังทำโลกุตระต่อไป วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 4 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มิถุนายน 2566 ( 13:58:21 )

คนจนโลกุตระอยู่กันอย่างสบายด้วยเหตุใด

รายละเอียด

เป็นของจริงที่สำเร็จ นี่แหละอาตมาทำทองคำแพงแท้ๆเลย แท้ๆจริงๆไม่ผิดเพี้ยนจากของพระพุทธเจ้าเลย เสร็จแล้วก็มาเป็นผู้ที่เยี่ยมยอดคนจนโลกุตระ เสร็จแล้วก็มาอยู่กันอย่างสบายมีแรงมีพลังเท่าไหร่ก็อยู่อย่างสบาย ไม่ไปต่อสู้กับลาภ ไม่ไปต่อสู้กับยศ ไม่ไปต่อสู้กับสรรเสริญในโลก ไม่ไปต่อสู้กับสุขในโลกเลย ไม่ต้องสุขไม่ต้องทุกข์ สุดยอดเลยเลิกเลย ไม่ต้องเอาข้างไหนเลย ทุกข์ก็ไม่เอา พอไม่เอาทุกข์ สุขก็หายไปด้วย เพราะมันแยกกันไม่ออกสุขกับทุกข์เป็นตัวเดียวกัน มันต้องทิ้งมันทั้งคู่ เราต้องทิ้งมันทั้งทุกข์และสุข ก็เป็นคนบริสุทธิ์สะอาด ปริสุทธา ปริโยธาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา จิตก็เลยไม่มีอะไรต้องเกาะ คล่องไปหมดเลย มุทุภูตธาตุที่เป็น ปาคุญญตา ข้างนอกก็คล่องแคล่ว กายปาคุญญตา ข้างในก็คล่องแคล่ว จิตปาคุญญตา เวทนาสัญญาสังขาร คล่อง ไม่มีอะไรติดขัดอิสรเสรีสุดยอด ไม่มีแรงเสียดทานใดๆเลย ด่าเขาเขายังไม่รู้สึกเลย ไม่มีแรงเสียดทาน แต่คนที่มีปฏิภาณไหวพริบก็จะรู้ว่าด่าเรานี่นา พูดเฉียดนิดเฉียดมาก็เข้าใจ เพราะเป็นคนฉลาด พอเราพูด อันนี้เราก็มีสิ่งที่บกพร่องของเรานะ เขาชี้โทษแล้ว ชี้โทษอีก ให้เราเนาะ คนฉลาดเขาจะรู้ตัว

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 15:34:05 )

คนจนโลกุตระเท่านั้นจึงจะสามารถปฏิบัติได้มรรคผลที่แท้จริง

รายละเอียด

ต้องมีการกำกับด้วยว่าเป็นคนจนโลกุตระ ถ้าเป็นคนจนโลกียะไม่สามารถปฏิบัติศีลสมาธิปัญญาได้มรรคผลที่แท้จริงเพียงแต่กดข่ม ทำได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วก็เวียนคืน อาจจะได้ระยะเวลายาวนานจนกระทั่งกลายเป็นศาสดา กดข่มเป็นผู้มักน้อยสันโดษ ศาสดาที่มักน้อยสันโดษลึกซึ้งมากที่สุดได้แก่ ศาสดาพระมหาวีระ ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นศาสดาของศาสนาเชน ศาสดาที่ไม่นุ่งผ้านุ่งผ่อนเลย ไม่เอาอะไรเลยมักน้อยจนสุดโต่ง แล้วเขาก็มีลัทธิคล้ายพระพุทธเจ้าตรงที่ว่า เขาบรรลุอนัตตาเหมือนกัน แต่เขาไม่มีอะไรจนสุดโต่ง สังคมก็ไม่เอามนุษยชาติก็ไม่เอาหนีไปคนเดียวปลีกเร้นเข้าป่าเขาถ้ำ ทนไม่ได้ฤกษ์งามยามดีก็ออกมาโชว์ตัวให้คนเขาซึ่งเขามาอัศจรรย์เคารพนับถือ เดินแก้ผ้าโทงๆแล้วก็ถือบิณฑบาตกิน มีบาตรใบเล็กๆใบเดียว กับไม้ปัด ถือว่าทุกสัตว์มีชีวิตเป็นวิบากทั้งนั้น ก็ปัดออก ก็เป็นคนไม่เข้าใจความจนที่แท้จริงแต่จนจนเลยเถิด แต่จนของพระพุทธเจ้านี้จนอย่างมีภูมิปัญญา ค่อยๆฟังไปอย่างเป็นลำดับ มันไม่ง่าย หากง่ายก็เป็นพระอรหันต์ได้หมดแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 20 ความมหัศจรรย์กองกลางสาธารณโภคีของชาวอโศก วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564 ขึ้น 9 ค่ำเดือนอ้าย ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2564 ( 20:14:26 )

คนจนโลกุตระเป็นไฉน

รายละเอียด

โลกุตระมันเป็นเรื่องที่ทวนกระแส โลกียะนั้นเป็นกระแสเดียวกันมีความสุขอย่างเดียวกันใครเขาจะเอาสุขไม่เอาทุกข์ เอาแต่รวยไม่เอาจนเอาลาภยศสรรเสริญความยกย่องเชิดชู ไม่เอาความดูถูกดูแคลนก็ไม่มีอะไร คนมาดูถูกเราย่ำยีเรา ไม่ใช่เราจะไม่มีปฏิภาณรู้ว่าเขาด่าเรา แล้วเราแย่จริงไหม เรามาจนเราไม่ได้เป็นคนแย่นะ เราเป็นคนจนไม่มีอะไร แต่เป็นคนเสียสละ เป็นคนไม่ตอบโต้ ไม่รังแกคนอื่น เราไม่ใช่คนอ่อนแอขี้แพ้นะ แต่เราไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายเดือดร้อน เรายอมแพ้ถึงแม้เขาจะฆ่าเราตายก็ไม่มีความพยาบาทถือสา ตายก็ตาย แล้วเราก็ไม่ทำในสิ่งที่เป็นความพยาบาท เป็นเรื่องที่จะต่อไปไม่ว่าจะเป็นราคะ โทสะที่จะเป็นการต่อภพชาติ เราก็ตัด 
 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 16:30:37 )

คนจนโลกุตระเลี้ยงโลกได้แต่คนรวยโลกียะมีแต่ผลาญโลก

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเขาพยายามที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเอาคำว่า ไม่ต้องมาจน ทุกคนจะต้องรวยเท่าเทียมกัน ก็คิดเพ้อๆ ฝันบ้าๆ บอๆ โง่ๆ มันเป็นไปได้อย่างไรคนจะต้องรวยเท่าเทียม ถ้าคนมาจนเท่าเทียมกันยังพอเป็นไปได้เพราะมันมีที่จบ ต่างคนต่างไม่สะสมไม่เอาเลย ขยันอย่างเดียวแล้วไม่เอาไว้เลยคือเป็น 0 อันนี้ทำได้พวกเราศึกษาสาธารณโภคี ต่างคนต่างทำแล้วก็มักน้อยสันโดษไม่เอาไว้กับตัวเองเข้าศูนย์กลางกินน้อยใช้น้อย 

เราจะมีเหลือสะพัดให้แก่ข้างนอกได้ คนจนอย่างพวกเรานี่แหละเลี้ยงโลก เพราะเราไม่ได้มีความซับซ้อน คนจนในโลกนี้จะจนอย่างไรก็แล้วแต่ เขาไม่ได้เลี้ยงโลก คนจนที่เป็นโลกียะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปพูดถึงคนรวยทางโลกียะมันจะเลี้ยงโลก มันมีแต่ผลาญโลกทำลายโลกให้แย่ลงไปทุกที 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน 3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 11:20:41 )

คนจนในสังคมสาธารณโภคี

รายละเอียด

พวกเรานี้เป็นคนจน จนตรงไหน ถ้าหากเราไม่มีทรัพย์สินเงินทองอะไรเรา อยู่กับกองกลาง อาหารการกิน ยารักษาโรค ก็ไม่ต้องสะสมไว้ที่เรา เป็นโรคแล้วค่อยใช้ อยู่ที่กองกลาง เราใช้จริงๆก็คือเครื่องนุ่งห่ม กันร้อนกันหนาว กันแมลงสัตว์กัดต่อย กันอุจาด มีเท่านี้ชุดเท่านี้ชิ้นก็พอแล้ว มันรู้จักคุณค่าคุณประโยชน์ เท่านี้ก็พอ จะไปหอบไปหามาทำไม มันก็หมุนเวียนที่จะซักเปลี่ยนใช้ สบาย ไม่ต้องเก็บต้องสะสม จะต้องมีที่เก็บจะต้องรักษาจากพวกฝุ่นพวกแมลงอีก ที่อยู่อาศัยก็ไม่มีปัญหาอะไรมากเลย ที่อยู่อาศัยพวกเราเหลือเฟือ สมัยพระพุทธเจ้าอยู่ร่มไม้เรือนว่างที่ไม่มีเจ้าของ 

ชาวอโศกเรามีเรือนว่างเรือนอาศัย คนยังมาอาศัยอยู่ร่วมกัน บ้านที่ว่างๆไม่มีใครอาศัยอยู่ก็มีเยอะ เรือนเรือ เรือเรือน อาตมาหาเรือมาให้ บูรณะเรือขึ้นมาก็จะมีเรือที่อยู่บนบก ก็เรียกว่า เรือนเรือ  ก็มีคนมาอยู่อาศัยได้ยังไม่สิ้นไร้ไม้ตอก แต่ว่ามาอยู่ที่นี่จะต้องมาเป็นคนเช่นชาวเรา เช่นชาวเราพื้นฐานอย่างน้อยที่สุดก็คือไม่มีอบายมุข ไม่กินเนื้อสัตว์ ถือศีล 5 เป็นอย่างต่ำ ถ้าหากไม่ต่ำกว่ามาตรฐานก็อยู่ได้ตลอด ตั้งชื่อที่นี่ว่า บ้านราช เมืองเรือ ก็เป็นอจินไตยอย่างหนึ่ง แต่หลายประการ อจินไตยข้อ 1 แต่มันมีหลายประการ 

เช่นที่ว่า ตกลงเอาแค่ว่า เรือ กับเรือน เอาอะไรกันแน่ เรือกับเรือน จะเอาเรือหรือเอาเรือน ถ้าเอาเรือนนี่มันอยู่บนบก แต่ถ้าเอาเรือนี่มันอยู่บนน้ำ อาตมาทำสำเร็จเอาเรือมาอยู่บนบกก็ได้ เอาเรือมาอยู่บนน้ำก็ได้ เรืออยู่บนน้ำไม่ต้องเรือหรอก ทำแพก็อยู่บนน้ำได้ จะทำเสาทำทุ่นรองก็เป็นเรือนได้ ถ้าจะเรียกว่า เรือน คือมีเสา เรือคือไม่มีเสา มีแต่ท้องเรือลอยบนน้ำ จะเอาแบบใดก็ได้ ได้ทั้งสองอย่างเราก็เอาทั้ง 2 อย่าง แต่เราจะเอารูปของเรือ ถึงอย่างไรบ้านเราก็มีเสามากกว่าเรืออยู่ดี จริงๆแล้วเรือนี่ถ้าน้ำมาเรือมันก็ลอยได้ ไปไหนๆ ตามน้ำก็ลอยไปได้ น้ำจะขึ้นมาอีกเท่าไหร่ก็ลอยได้ ส่วนเรือนมันต่อกับดิน น้ำมามันลอยไม่ได้ ถ้าทำกึ่งเรือกึ่งเรือนก็คือแพ ครึ่งบกครึ่งน้ำ สรุปแล้วเป็นที่พักที่อาศัย 

คนอาศัยก็มีอาศัยอยู่บนน้ำกับอาศัยอยู่บนบก คนจะไปอาศัยอยู่บนอากาศไม่ได้มันต้องเคลื่อนที่ ซึ่งมันก็ยาก ไม่เคลื่อนที่มันก็อยู่บนน้ำหรืออยู่บนบกก็ได้ก็มีเท่านี้ เราก็มีทั้ง 2 อย่างที่อยู่บนบกสะดวกก็อยู่บนน้ำ อยู่บนน้ำมันก็ไปยากไหม.. ยาก มันช้ากว่า อยู่บนบกกับอยู่บนอากาศมันเร็วกว่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 27 จนเป็นที่ 1 ในโลก แต่สร้างอาหารช่วยโลก วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 พฤษภาคม 2565 ( 14:41:07 )

คนจบกิจเป็นอย่างนี้ 

รายละเอียด

คุณตุ๊ก อัศวิน บอกว่า ทำตัวเอง เป็นอิสระจากพระเจ้า เราก็รู้จักพระเจ้า เราไม่ได้ดูถูก พระเจ้าต้องเป็นคนดีสอนให้คนเป็นคนดี ก็เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ยังต้องอาศัยความเป็นตัวตน ความมีพระเจ้าและมีมากด้วยเทวนิยมในโลกยุคนี้ แม้แต่พุทธเองจะหมด พระเจ้าจริงๆ ก็คืออรหันต์แล้วมันมีเท่าไหร่ คน 70 ล้านในยุคนี้ อรหันต์ในประเทศไทยมีสัก 777 องค์ไหมล่ะ ก็แถวอโศกนี่แหละ ที่อื่นไม่มีหรอกอรหันต์มีในชาวอโศกนี่แหละ นี่ก็พูดความจริงทั้งนั้นไม่ได้พูดเล่น ไม่ได้คุยโว ไม่ได้พูดหลงตัวหลงตนอะไร แต่คนเข้าใจไม่ได้เขาก็เข้าใจไปยึดถือว่าอรหันต์ต้องเป็นอย่างที่เขาเข้าใจ อย่างโพธิรักษ์นี้หรืออรหันต์ เขาก็ไม่เชื่อ อรหันต์อะไรอย่างกับลิง พูดว่าคนนั้นคนนี้ เวลาชมก็ชมตัวเองนี่คือความจบ 

คนที่รู้ดีที่สุดเลยว่า สิ่งที่ไม่ดีนี่ไม่ใช่เรา สิ่งที่ดีที่สุดนั่นคือเรา...จบ คนที่รู้ว่าสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดเลยไม่ใช่เรา แต่สิ่งที่ดีสมบูรณ์สุดเลย เป็นนิพพาน เป็นอรหันตผลหรือเป็นอรหันต์นั่นคือเรา...จบ คนจบกิจเป็นอย่างนี้ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การวัดคุณค่าของมนุษย์กับสิ่งสร้างขึ้นของมนุษย์  วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 ขึ้น 1 ค่ำ เดือนยี่ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 มกราคม 2566 ( 12:27:18 )

คนจมอยู่ในอบายมุข

รายละเอียด

คนจมอยู่ในอบายมุข คือ  เหมือนกับจมอยู่ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า  เขาก็ไม่ให้เราเข้าไปใกล้ด้วย  เหมือนกับเป็นมือแม่นาคที่ยื่นเข้าไป  เขาก็หนี  เราก็ยื่นไปไม่ได้ด้วย  เขาเจอก็หนีอีก

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 05:51:12 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:35:51 )

คนจริง

รายละเอียด

สัจจะ คือ สัจจะ 
ความจริง คือ ความจริง 
คนจริง คือ คนที่มีความจริง 

คนที่มีความจริง คือ คนที่มีปัญญา เข้าใจชัดถึงสิ่งที่หลอก ที่เรียกว่า"กิเลส" และเข้าใจชัด ถึงสิ่งที่ได้ละล้างกิเลสออกไปแล้ว เหลือแต่ความจริง เหลือแต่ความบริสุทธิ์ 

คนจริง จึงคือ คนที่มีความจริงที่ปราศจากกิเลส เท่านั้น ส่วนคนที่หลงตัวเองว่า เอาจริง โกงก็โกงจริง ทำเลวอยู่ก็ทำเลวจริง ทำตามอำนาจกิเลสที่มันต้องการ จะทำก็ทำจริง คนเช่นนั้น ไม่ได้ชื่อว่า"คนจริง" ชื่อว่า"คนโง่" หรือชื่อว่า"คนหลง" โดยเฉพาะ หลงกระทำ ในสิ่งที่กิเลสมันเป็นเจ้าเรือน กิเลสมันบังคับด้วยอำนาจ แล้วก็หลงตนเอง กระทำความเลวอยู่ ความโง่อยู่ ตามอำนาจของกิเลสนั้นๆ คนเช่นนั้น จึงไม่มีสิทธิ์ ที่จะชื่อว่า "คนจริง" แม้จะเป็นคนใจเดียว เป็นคนกล้าแข็ง กระทำในสิ่งที่เป็นกิเลสนั้นๆ เป็นความผิดนั้นๆ เป็นอกุศลนั้นๆ หรือแม้แต่ในส่วนลึก ส่วนสูง ที่เป็นกิเลสชั้นสูง ก็ยังกล้ากระทำอยู่นั้น คนนั้นหาได้ชื่อว่า คนจริง ไม่เลย 

ดังนั้น คำว่า "สัจจะ" คนจริง ความจริง จึงต้องประกอบไปด้วย ปัญญาอันยิ่ง ประกอบไปด้วย การปฏิบัติละล้างกิเลส ละล้างอกุศล ทุจริต ให้หมดสิ้น จึงจะได้ชื่อว่า ผู้ที่ถึงสัจจะ 

ผู้ที่แจ้งชัด เข้าถึงความจริง คนคนนั้น จึงจะชื่อว่า "ค น จ ริ ง" 


   สมณะโพธิรักษ์
18 พฤศจิกายน 2528

ที่มา ที่ไป

สมณะโพธิรักษ์ 18 พฤศจิกายน 2528


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 08:04:06 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 08:30:34 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:29:59 )

คนจริงคนมีภูมิความรู้เป็นอย่างไร

รายละเอียด

คุณไม่มีดวงตารู้ว่าคนจริงคนมีภูมิความรู้เป็นอย่างไร อาตมาไม่ได้พูดปากเปล่า โดยทั่วไปแล้วไม่ได้พาปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วก็มีมรรคผลเกิด จนเกิดมีกลุ่มขึ้นเป็นคณะเป็นหมู่ชนเป็นสังคมโลกุตระ ชาวอโศก เป็นแดนอาริยะเป็นแดนโลกุตระ มีบุคคลที่พ้นมิจฉาชีพ 5 พ้นกัมมันตะ 3 พ้นวาจา 4 พ้นมิจฉาสังกัปปะ 3 ได้จริงๆ

พ้นมิจฉา ของพุทธเจ้าตรัสไว้ทำให้เกิดเป็นสัมมาได้จริง อธิบายได้ อยากรู้ดูตรงไหนก็มาถามดีๆ ถามอย่างประชดก็ได้ เอาของพระพุทธเจ้ามาถามเถอะ แต่ถ้าคุณไปคิดเองแล้วแต่มันก็คงตอบไม่ได้ เป็นคำถามนอกจากพระพุทธเจ้า เอาคำถามในพระพุทธเจ้ามาถามอาตมาอาตมาจะอธิบายให้ฟัง บางอย่างอาตมาก็ไม่รู้ ยังรู้ไม่ครบไม่ถ้วนเป็นของพระพุทธเจ้าก็ตอบไม่ได้ อันไหนที่อธิบายได้ก็จะอธิบายให้ฟัง อาตมาไม่ได้อวดดีว่าเป็นพระพุทธเจ้าว่ารู้หมด อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ยังเหลือระดับ 8 ระดับ 9 อีก อาตมาก็รู้ตัวไม่ได้อวดดีอะไร และก็บอกความจริง คนไม่เชื่อก็พิสูจน์ไป ทำความเข้าใจว่ามันใช่ไหม บางคนยกให้อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 8 อาตมาก็ว่าอย่าเพิ่ง อาตมาขอทำงานไปก่อน จะมาขึ้นชั้น ให้มันเป็นเอง อาตมาก็ไม่ขนาดนั้น

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ
สื่อธรรมะพ่อครู(จรณะ 15 วิชชา 8) ตอน ไฟฌานทำลายกิเลสได้อย่างไร


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 05:25:13 )

คนจริงเอาของจริงมาประกาศ

รายละเอียด

คนนี้ก็ซาบซึ้งในเรื่องที่อาตมาได้กล่าวไว้ นานๆไป 10 ปี 20 ปี 30 ปี 40 ปีมา ทำไมอาตมารู้ ที่แซมดินพูดตอนเช้าว่าทำไมพ่อท่านรู้มาก่อน อาตมาก็ตอบไปแล้ว แต่ตอบอีก สิ่งที่อาตมาเป็น อาตมามีอาตมาได้แล้วเอามาบอกคุณ อาตมาไม่มีความเท็จ อาตมามีแต่ความจริงทุกอย่างที่พูดที่บอกออกไป แต่มันเป็นเรื่องจริงของโลกยุคนี้ว่า มันเสื่อมไปจนกระทั่ง จริง เสื่อมไปจริงแล้ว ก็เกิดคนจริง เอาของจริงมาประกาศ คนเสื่อมก็หลงความเสื่อมความผิดของไม่จริง เขายึดมั่นถือมั่นไว้ แล้วพอมาพูดความจริง ความจริงนี้จะต้องเป็นความจริงที่ เดี่ยวๆโดดๆนะ ไม่ต้องอาศัยองค์ประกอบอันนั้นอันนี้มาช่วย เป็นเครื่องหนุนเครื่องช่วยตัวช่วย ไม่ต้อง ต้องแสดงคุณ เพียวๆ ตัวสัจธรรมเพียวๆเดี่ยวๆเลย ให้แสดงธรรมเดี่ยวๆเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2563 ( 13:12:46 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 08:33:57 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 04:31:59 )

คนจริตชอบเดี่ยวๆ ไม่ต้องทำอะไรมากไม่มีประโยชน์

รายละเอียด

คนที่มีจริตที่จะชอบเดี่ยวๆไม่ต้องทำอะไรมากคือ คนขี้เกียจ คนเห็นแก่ตัว เจาะช่องน้อยแต่พอตัว ไม่เข้าใจว่า คุณสมบัติของคนที่ไม่เห็นแก่ตัว ไม่มีตัวตนจะช่วยคนได้มาก เขาไม่มีปัญญามากขนาดนี้หรอก คนพวกนี้เขารู้จักตัวเองสั้นๆ เอาตัวเองรอดแล้วจบ พวกนี้เป็นคนสั้นคนเล็กคนน้อยคนไม่มีประโยชน์ สุดท้ายเขาทำตัวเองรอดได้ แต่ไร้สาระก็ไม่มีประโยชน์มาก 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 12:41:50 )

คนจองเวรจองกรรมได้หนักยิ่งกว่าสัตว์ 

รายละเอียด

ชีวะของสัตว์โลก ที่เกิดเป็นโอปปาติกสัตว์ เป็นสัตว์ทางจิตวิญญาณ ไม่ใช่สัตว์แค่ระดับพืชเท่านั้น เป็นสัตว์ระดับจิตวิญญาณ มันจองเวรจองกรรม  มันมีวิบากแก่กันและกัน 

เพราะฉะนั้นผู้ที่รู้อย่างพระพุทธเจ้าจึงได้ตัด ชักสะพานเสีย ตัดขาด ไม่ให้เรื่องของวิบากมายุ่งเกี่ยวกับเราอีกเลย จึงทำจิตให้เป็นพืช ไม่มีเชื่อมต่อกับวิบาก วิบากบาปกับสัตว์ตัวไหนอีก เราก็ไม่ทำ กับคนยิ่งไม่ทำใหญ่ เพราะคนนี้แหละมีความจองเวรจองกรรมได้หนักยิ่งกว่าสัตว์ แม้แต่อาหาร
กวฬิงการาหาร อาหารคือคำข้าวพืชพันธุ์ธัญญาหาร เป็นเครื่องอาศัย มันไม่ใช่เป็นเรื่องการทำลาย สิ่งที่ว่าอาหารที่มันเฟ้อ พืชพันธุ์ธัญญาหารที่มีสารพิษอยู่ในนั้นก็ยังมี แต่เราทำให้เป็นพืชพันธุ์ธัญญาหารที่สะอาด ปราศจากสารพิษ นอกจากปราศจากสารที่เป็นพิษภัยแล้ว ยังมีธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์แก่สรีระ อาการ 32 ของมนุษยชาติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คุณธรรมยิ่งใหญ่กว่าอาวุธ วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2564 ( 11:48:08 )

คนจะชมพระพุทธเจ้าและอริยสาวกว่ามีศีล คือคำชมที่ต่ำที่สุดแล้ว

รายละเอียด

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวติเรา ติพระธรรมติพระสงฆ์ ในคำที่เขากล่าวตินั้น คำที่ไม่จริง เธอทั้งหลายควรแก้ให้เห็นโดยความไม่เป็นจริงว่านั่นไม่จริง แม้เพราะเหตุนี้ นั่นไม่แท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้นั่นก็ไม่มีในเราทั้งหลาย และคำนั้นจะหาไม่ได้ในเราทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์ เธอทั้งหลายไม่ควรเบิกบานใจ ไม่ควรดีใจ ไม่ควรกระเหิมใจในคำชมนั้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม ชมพระสงฆ์ ดูกรภิกษุทั้งหลายถ้าเธอทั้งหลายจักเบิกบานใจ จักดีใจ จักกระเหิมใจในคำชมนั้น อันตรายจะพึงมีแก่เธอทั้งหลายเพราะเหตุนั้นเป็นแน่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพวกอื่นจะพึงกล่าวชมเรา ชมพระธรรม หรือชมพระสงฆ์ ในคำชมนั้น คำที่จริง เธอทั้งหลายควรปฏิญาณให้เห็นโดยความเป็นจริงว่า นั่นจริงแม้เพราะเหตุนี้ นั่นแท้ แม้เพราะเหตุนี้ แม้คำนั้นก็มีในเราทั้งหลาย และคำนั้นจะหาได้ในอาตมามีอันนี้มาแต่ชาติก่อน มีโลกุตรธรรมมาแต่ชาติก่อน อาตมากล่าวไม่ได้ มังกุไม่ได้เก้อเขิน มันบริสุทธิ์ใจไม่มีอะไรสะดุด ไม่ใช่คนน่าอายนะไม่รู้จะอายอะไรอาตมาไม่ได้ทำสิ่งผิดพลาด ไม่ได้โกหกไม่ได้มาหลอกลวง อาตมาพูดความจริงและยุคนี้อาตมาต้องประกาศความจริง คนไม่กล้าประกาศความจริงเพราะคนมีจิตยังไม่อาจหาญแกล้วกล้ามั่นใจ คุณไม่กล้ากล่าวความจริงหรอก แล้ว ยิ่งความจริงที่อาตมากล่าวนี้เป็นอุตริมนุสธรรม ถ้าอาตมากล่าวไม่จริง อาตมาเป็นปาราชิก อาตมาไม่โง่ที่จะทำตัวเองปาราชิก แน่นอน เพราะฉะนั้นผู้ไม่รู้ก็หาว่าอาตมามาอวดตัวอวดตน อาตมาไม่มีการอยากอวดตัวอวดตน ไม่มี 

สิ่งเหล่านี้เป็นคำจริงที่อาตมาเองนี่ พูดจริง

ในความจริงที่อาตมากล่าวนั้นเป็นความจริงที่มีในอาตมา 

ในคำนั้นหาได้ในตัวอาตมา อาตมาทำตามคำสอนพระพุทธเจ้าทุกอย่าง 

แล้วก็ไม่ใช่อยากจะอวดตัว ไม่มี ซึ่งมันเข้าใจยาก ก็มันอวดอยู่ทนโท่  มันชมว่าตัวเอง ดีมันไม่ใช่อวดหรือไง เพราะฉะนั้นเข้าใจคำว่าอวดไม่ได้ อวดมันมีจิตอยากอวดอยากโอ่ อาตมามีการรู้จิตของตัวเองว่ามันมีอาการอยากอวด อยากโอ่เป็นอาการอย่างไร  ลิงค นิมิต มันเป็นอย่างไร มันแตกต่างอย่างไรโดยคำพูดที่กล่าวไปไม่มีจิตอวดโอ่เลย กับที่มีอยากอวดโอ่แม้นิดแม้น้อย ยังเหลือเศษ แม้นิดแม้น้อยอยากอวดอยู่คืออะไร อาตมาก็ต้องรู้ของอาตมา เพราะอาตมาไม่มีอยากอวดแม้นิดแม้น้อย ไม่มี ที่กล่าวชมตัวเองสูงสุดอย่างโน้นอย่างนี้ จริงๆแล้ว พระพุทธเจ้าท่านตรัส ใน พรหมชาลสูตร คนจะชมเราก็ชมว่าเราเป็นคนมีศีล คำอื่นยังไม่ใหญ่โตเลย คำศีลนี่ ยังน้อยนิดนักที่เป็นคำชมเรา ศีลนี่ยังน้อยยังต่ำนัก เรายังมีดีกว่านี้อีกมาก ศีลนี้เป็นเบื้องต้นในคำชม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 47 วันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 แรม 2 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2566 ( 19:41:29 )

คนจะตั้งจิตเป็นโพธิสัตว์ต้องเป็นอรหันต์แล้วหรือไม่

รายละเอียด

โลกุตระคือความรู้ของพระพุทธเจ้าทุกองค์ การวนคือสามเส้า โลกียะแค่สามเส้าวนแค่นี้ หากเริ่มรู้โลกุตระ เป็นโพธิสัตว์ที่รู้ก็จะเริ่มสะสมตั้งแต่โสดาบัน ตั้งแต่รู้ว่าโลกนี้แย่สุดคืออบาย โลกนรกต่ำสุด รู้สภาวะที่ต่ำสุดของเรา คุณตั้งใจเอาออกได้ก็พ้นอบาย

โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยบุคคล) ตอน คนจะตั้งจิตเป็นโพธิสัตว์ต้องเป็นอรหันต์แล้วหรือไม่


เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2564 ( 17:17:56 )

คนจะต้องหันมารับรู้และใช้ระบบบุญนิยม

รายละเอียด

1.  คนทุกข์มากขึ้น สาหัสมากขึ้น  เอารัดเอาเปรียบกันมากขึ้น  ไม่รู้สึกอบอุ่น  ไร้ความไว้วางใจ  หวาดระแวงกันมากขึ้น  ทำร้ายกันรุนแรงยิ่งขึ้น  ทุจริตหยาบคายยิ่งขึ้น

2.  ทรัพยากรของโลกร่อยหรอลง  ขาดแคลน  ไม่พอกันจริงๆ

3. ไม่มีทางอื่นให้เลือกดีเท่าอีกแล้ว

4. มีตัวอย่างของสังคมที่ไปรอดในทิศทางนี้.. ให้ดูเป็นการยืนยัน ได้แล้วจริงๆ

5.  ระบบบุญนิยมเป็นระบบที่ยั่งยืนจริง พิสูจน์ได้ด้วยกาละ  จนคนต้องเชื่อในที่สุด

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 15:02:10 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:36:34 )

คนจะบรรลุธรรมต้องมี ความเป็นแม่

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนจะบรรลุธรรมก็ต้องมี มีความเป็นแม่ มีความไม่ยึดว่าเป็นลูก สามารถทำได้ ลูกที่ไม่ใช่เรื่องหยาบแล้ว เป็นเรื่องละเอียดเลย การได้เกิดคนที่เจริญแบบคำสอนพระพุทธเจ้า หมดความทุกข์ช่วยมนุษยชาติไป ช่วยเหลือเฟือฟายเกื้อกูลกันไป เพราะฉะนั้น อาตมาจบด้วยพยัญชนะที่เอามาเรียบเรียงให้สมสมัย ให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ 8 คำคือ อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูนการเสียสละ 

ถ้ามีคุณธรรมทั้ง 8 ลักษณะนี้แล้ว คุณมีจริง แล้วก็อยู่กับหมู่สาราณียธรรม อยู่กับหมู่กลุ่มสาธารณโภคี แล้วก็อยู่ไป ตายก็ช่วยกันเผา แล้วเราก็ทำงาน สมบัติของเรามีเยอะพอสมควรนะ พวกเรานี้ยังขยันน้อย ไม่ได้ว่าคุณขี้เกียจนะ ยังขยันน้อยอยู่ ไม่ช่วยกันเก็บ ช่วยกันปลูกสนุกอยู่นะแต่เก็บมันน่าจะสนุกกว่า เห็นไหมว่าสัจธรรมของคน มันไม่ได้อยากได้ แม้แต่เรามาฝึกตนแล้วได้ผลแต่เรายังยึดผลนั้นเป็นของเราอีก

ความหมายของมัน ได้ผล แต่อย่ายึดผลนั้นเป็นของเรา มันเลยไม่ไปเก็บผล ทำไมมันมีความซับซ้อนหมุนรอบเชิงซ้อนมันเล่นตัวเรา ก็ทำแล้วถ้าไม่ไปเก็บ มันก็แก่มันก็เน่ามันก็เสียใช่ไหม ก็ไปเก็บมากำลังดีเลยนี่ โอ้โห มีเยอะอุดมสมบูรณ์ไปช่วยกันเก็บ เคยถึงขั้นตั้งกองเก็บ จำได้ไหม พวกเรานี้ตั้งหัวหน้ากองเก็บแล้วก็ไปเก็บพืชพันธุ์ธัญญาหารกัน ทำไมช่วยกันปลูกกันเยอะ สร้างจนกระทั่งมีลูกมีใบมีผลที่จะกินจะใช้แต่ไม่ไปเก็บมากิน เจ้าประคุณเอ๋ย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความเป็นแม่ที่ให้กำเนิดโลกุตรจิต วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 8(2) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2566 ( 20:03:04 )

คนจะมาบริจาคเงินให้ชาวอโศกต้องมีกติกา

รายละเอียด

พูดถึงห้าพันบาท คุณ 1236 หากส่งมาแล้วก็ต้องขอส่งคืนคุณไป แม้แต่ว่าคุณจะมีใจดีก็ต้องขอบคุณมากแต่ก็ต้องส่งคืนให้คุณ ก็ขอบคุณนะไม่ใช่ว่าหยิ่งผยอง ไม่รับอะไรหรอก แต่ก็เห็นเข้าใจในน้ำใจของคุณดีเราก็รับน้ำใจ แต่ก็ขอคืนคุณไปก็แล้วกันนะ เพราะอาตมาไม่รู้ว่าคุณมีสิทธิ์บริจาคให้เราหรือเปล่า เพราะว่าคนจะมาบริจาคเงินให้ชาวอโศกจะต้องมีกติกา ต้องอ่านหนังสือของชาวอโศกอย่างน้อย 7 เล่มเป็นอย่างน้อย ต้องมาวัดอย่างน้อย 7 ครั้ง คุณมีสิทธิ์หรือเปล่ายังไม่รู้ แม้ว่าคุณจะมีสิทธิ์ก็ตาม ตอนนี้ก็ถือว่าคุณพูดนี้อยู่ภายนอก ถ้าเป็นภายในจะไม่มีปัญหาอย่างนี้หรอก 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2563 ( 13:24:22 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 11:14:09 )

คนจะมาเป็นสมาชิกศาสนาพุทธต้องมาด้วยตนเอง

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธจึงไม่เที่ยง พลเมืองไม่มากพลเมืองไม่เพิ่มเพราะไม่หาสมาชิกเพิ่ม คนจะมาเป็นสมาชิก มาด้วยตนเอง รู้ด้วยตนเอง ศรัทธาด้วยตัวเอง ยินดีด้วยตัวเอง มารับเอาด้วยตนเอง เป็นอิสรเสรีภาพ Absolute สูงสุด สัมบูรณ์สุด ศาสนาพุทธเป็นอย่างนั้น อิสรเสรีภาพของแต่ละบุคคล ไม่หลอก ไม่บังคับ ไม่หว่านล้อม

บอกความจริงเท่านั้น อาตมาบรรยายธรรมะไม่มีคารม ไม่หวาน ให้พายินดีไม่มี มีแต่เปรี้ยงๆๆ พูดให้มันตรงมันสั้นมันเร็ว มันแรงมันครบ พอ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ขัณฑสกรด้วย ไม่ใส่แม้แต่หญ้าหวาน

ที่มา ที่ไป

พิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2565 วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 21:10:30 )

คนจะมีฐานะแตกต่างกัน

รายละเอียด

คนจะมีฐานะแตกต่างกันไป เลื่อนฐานะขึ้นหรือต่ำลง ก็เกิดจาก กาละ เทศะ ฐานะ 

ฐานะของคนที่ตั้งอยู่ในกาละนี้ มันหลงยึดอย่างนี้หรือมันเปลี่ยนไปได้ ถ้ามันยึดอย่างนี้ อยู่อย่างเก่าอย่างเดิม มันก็ไม่มีใหม่ ไม่มีอื่น มันก็วนอยู่ในรสนิยมเดิมคือโลกียะ เก่าๆ เดิมๆ 

แต่ถ้าแม้นว่ามันมีความต่างจากเดิม คือเปลี่ยนเพศ เพศ ก็คือความแตกต่างกัน เปลี่ยนความมีรสนิยมไปจากเดิม คือโลกุตระที่เป็นโลกใหม่ ที่มีปัญญา มาเข้าใจได้ คือมีความรู้ความฉลาดที่เข้าใจทิศทางที่จะเลิก จะละความเป็นตัวตน และก็รู้ว่า การไม่ออกจากตัวตนหรือแถมจะยิ่งเพิ่มพอกความเป็นตัวตนด้วยการเพิ่มความโง่ ความหลงใหลอยู่กับความเป็นตัวตน เสพองค์ประกอบที่ให้เพิ่มตัวตนให้ใหญ่ให้แน่นหนักเข้าไปให้ยิ่งขึ้นด้วยอวิชชา ไม่รู้จริงๆ ว่า มันก็จะยิ่งมีตัวตน ก็ยิ่งใหญ่ มีตัวตนเป็นที่ยิ่งที่ใหญ่ที่มากที่แน่นที่หนาที่หนักยิ่งๆ ขึ้น หาที่สุดมิได้เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาหาราธิปไตย สร้างอายะ 3 ด้วยอาหาราวุธ วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 เมษายน 2566 ( 14:10:24 )

คนจะเข้าใจสาธารโภคีได้ต้องใช้เวลาที่เขาจะค่อยเข้าใจ

รายละเอียด

แล้วต้องใช้เวลา ที่เขาจะค่อยๆ เข้าใจ ว่าอันนี้อย่างนี้หรือ พระพุทธเจ้าพาเป็นพาทำพามาศึกษา มาทำตนให้เป็นอย่างนี้ คือความเจริญ คือมนุษย์สูงส่ง 

อาตมาพูดไม่รู้กี่ทีแล้วว่า พระพุทธเจ้าก็คือคนคนหนึ่งเหมือนกับพวกเราทุกคน แล้วท่านก็พัฒนาบารมีของท่านจนกระทั่งสูงสุดเป็นพระพุทธเจ้า เกิดมามีช้อนเงินช้อนทองเกิดมามีพร้อม เสร็จแล้วท่านทิ้งหมดเลย ลงมาเป็นเหมือนกับพวกเรา  และยากจนกว่าพวกเรา คุณว่า คุณยากจนกว่าพระพุทธเจ้าไหม พระพุทธเจ้ายากจนกว่า ท่านลงมาจากความเป็นพระเจ้าแผ่นดิน มานอนโคนไม้โคนไร่ ไม่มีบ้านช่องเรือนชานของตัวเอง ไม่มีทรัพย์ศฤงคาร มีผ้าห่อกาย 3 ผืน รองพระบาทก็ไม่มี อะไรพวกนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ใครคือผู้ถึงแก่น ใครเป็นผู้หลงกิ่งใบดอกผล วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 16:49:03 )

คนจะเป็นอาริยะได้อย่างไร

รายละเอียด

โสดาบันจะเป็นได้หรือไม่ได้ เราไม่สามารถรู้ได้ง่ายๆ คนจะเป็นอาริยะ จะเป็นหรือไม่เป็นได้หรือไม่ได้จะต้องมาเรียนรู้อย่างชาวอโศก จึงจะรู้ตัวเองว่าปฏิบัติธรรมได้มรรคผล เรามีสภาวธรรม ตามคำสอนพระพุทธเจ้า เราไม่ละเมิดในศีล ก็มีสมาธิมีปัญญา วิมุติ วิมุติญาณทัสนะ ได้ผลหรือไม่ได้ผล ต้องเอาศีลเป็นหลักเกณฑ์

ศีลข้อ1 ไม่ฆ่าสัตว์ คุณสัมผัสสัตว์แล้วอ่านจิตเป็นไหม จิตของเราไม่ได้อยากฆ่า มีเมตตากรุณาปรารถนาดีหวังประโยชน์ต่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ โสดาบัน ศีลข้อ 1 ศีลข้อ 2 ศีลข้อ 3 ศีลข้อ 4 เรื่องของวาจา ศีลข้อ 5 เกี่ยวกับจิต

อาตมาสอนอธิบาย อาตมาว่าอธิบายละเอียด ชัดเจนนะ อาตมาว่า อธิบายละเอียดชัดเจนขนาดนี้ ขออภัยอย่าหาว่ายกย่องตัวเองนะ ที่มาอธิบาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยบุคคล) ตอน ยังค้าขายเนื้อสัตว์จะเป็นโสดาบันได้ไหม วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:23:41 )

คนจะเริ่มเข้าใจอันนี้สำคัญที่สุด

รายละเอียด

โควิดมา คนจะเริ่มเข้าใจอันนี้สำคัญที่สุด โควิดมาทำให้มนุษย์ที่หลงตัวเองว่าเขามีอำนาจบาตรใหญ่เพราะเขามีอาวุธก็ตกกระป๋อง รู้ไหมว่าตัวเองไม่ได้มีอำนาจบาตรใหญ่เพราะการมีอาวุธ ทำให้คนมีธนบัตรเยอะก็ตกกระป๋องไปอีก ธนบัตรเยอะก็ทำอะไรไม่ได้ กินธนบัตรก็กินไม่ได้ มีธนบัตรไปซื้อกินเขาไม่ขายให้ก็ไม่รู้จะกินอะไร เพราะฉะนั้น ค่าของธนบัตรสู้ค่าของพืชพรรณธัญญาหารข้าวน้ำไม่ได้อย่างนี้เป็นต้น ทั้งอาวุธทั้งธนบัตร แม้แต่ที่สุดน้ำมัน แม้แต่น้ำมันก็ไม่ได้เป็นอำนาจใหญ่เท่ากับพืชพันธุ์ธัญญาหาร นี่เป็นเครื่องบ่งบอก ธรรมชาติมันสอน โควิดมันสอนให้มนุษย์ขึ้นมา คนทั่วโลกได้ชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้นมาถึงความจริงข้อนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2563 ( 09:09:51 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 08:35:31 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:28:56 )

คนจะเรียนรู้ญาณคืออะไร

รายละเอียด

คนจะเรียนรู้ญาณคืออะไร รู้เหตุ ดับเหตุมันได้ ดับภาวะ 2 เหลือ 1 สุดท้ายทำให้มันเป็น 0 1 นี้มันเป็นพืช ไม่ทุกข์ไม่สุขแล้ว เป็นอุตุก็เป็น 0 บริบูรณ์ได้ 

ผู้ที่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงในปัญญา 8 จึงรู้จบ ด้วยการศึกษาที่แยกเวทนา 108นั้น แยกที่ละเอียดก็คือไปแยกเวทนา 108 ผู้ที่แยกเวทนา 108 ได้ครบครัน ผู้นั้นแหละจบสมบูรณ์ได้เพราะรู้จักมโนปวิจาร 18 เป็นโลกีย์ เลิกเนกขัมมะเป็นโลกุตระออกไปได้ แยกทำกิเลสออกจนสุดท้ายหมดเวทนา 36 รู้จักฝั่งของเคหสิตะ 18 ฝั่งเนกขัมสิตะ 18 สูงสุดเป็นอุเบกขา สุดท้าย 

พ้นจากสุขเวทนา พ้นจากทุกขเวทนา พ้นจากโทมนัส โสมนัส กลายเป็นอุเบกขา เป็นอุเบกขา เป็นพฤติการ พฤติกรรมกิริยาของอุเบกขา 

กิริยาของอุเบกขาคือ กิริยาที่บริสุทธิ์จากกิเลส มีคำว่า ไม่ทุกข์ไม่สุข คำว่าไม่ทุกข์ไม่สุข ยังเรียกว่าอุเบกขายังไม่ได้ทีเดียว เพราะไม่ทุกข์ไม่สุขแล้วเขาก็ไปเรียนรู้กันว่า พระพุทธเจ้าสอนทางสายกลาง คุณก็ไปเรียนการเดิน มีถนนเส้นหนึ่ง มีเลนซ้ายเลนขวา คุณก็เดินตรงกลางไป แล้วจะไปไหนจ๊ะ..ทางสายกลางไปนิพพาน แล้วนิพพานคืออะไร ไม่รู้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 20 คนที่ไม่รู้จักกายคือคนพิการ วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 15:16:09 )

คนจะให้รางวัลพ่อครูต้องรู้คุณค่าโลกุตระ

รายละเอียด

อาตมาได้รางวัลอันนี้มาเขามองว่าจะมาส่งเสริมสันติภาพ ที่จริงอาตมาเข้าใจสันติภาพอย่างซับซ้อนลึกซึ้งขออภัยที่ชมตัวเอง เสร็จแล้ววันนี้เขาก็เป็นเกาหลี ให้รางวัลอาตมามา เป็นสิ่งที่เล็กละเอียดมากเลยโลโก้ของเขา สัญลักษณ์ของเขาเป็นเครื่องหมาย ชุบทอง ไม่ได้มีรางวัลเป็นเงิน มีแต่รางวัลอันนี้กับหนังสือนิดหน่อย อันนั้นมีทั้งใบประกาศและเงิน 100 ล้านวอน เป็นเงินไทยประมาณ 2 ล้าน 6 แสนบาทประมาณนั้น ที่พูดนี้ไม่ได้ไปหลงใหลได้ปลื้มกับสิ่งเหล่านี้ แต่พูดให้ฟัง ว่าอาตมาคนนั้นเข้าใจได้ยากที่จะให้รางวัลยกย่อง คนจะให้ยากมากเลยเพราะเป็นโลกุตระ คนจะให้รางวัลอาตมาก็จะต้องรู้ว่าโลกุตระมีคุณค่าอย่างนี้เข้าใจแล้ว ว่าต้องเป็นอย่างนี้ถึงให้ค่า ให้เกียรติยศ (hornor) แต่ถ้าไม่รู้จะให้ได้อย่างไรถึงจะต้องรู้ถึงให้มา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การศึกษาที่ไม่ลดกิเลสกู้ประเทศไม่ได้ วันพุธที่ 6 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 12:32:08 )

คนจะไม่เทียมกันมีชั้นชนที่ต่างกันซึ่งก็เป็นไปตามสัจจะความจริง

รายละเอียด

ก็ตอบว่า ความเป็นจริงแล้ว ขั้นชั้นหรือชั้นชน มันมี แต่มันไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น มันเป็นความจริงตามความจริงของชั้นชนหรือขั้นชั้น ไม่ต้องเอาคำว่าตนไปใส่ในขั้นชั้นก็ได้ ในความเป็น วรรณะ 9 มันก็มีขั้นชั้นตามจริง ทุพรรณะ สุพรรณะ ก็ต่ำ สูง มันเป็นตามความจริงของความเป็นจริง ถ้าคุณเห็นว่าทุกอย่างไม่มีสูงมีต่ำมันเสมอกันหมดเลย คุณก็คิดเอาเองเถอะ คุณเดชา คุณก็วนเวียนอยู่ในความงงๆงวยๆ ของคุณ ว่ามันเสมอภาค มันไม่มีสูงมันไม่มีต่ำ แล้วมันมีต่ำมีสูงด้วยเหรอ คุณก็วนไปของคุณเรื่อย ไม่เป็นไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สภาพ 2 ของกฎหลักเกณฑ์กับพฤติกรรมจริง วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 29 กันยายน 2565 ( 13:31:07 )

คนฉลาดกับคนโง่เลือกความเป็นกลางแบบใด

รายละเอียด

ได้ ขอให้เป็นจริง แต่ให้ดีกว่านั้น ถ้าเห็นความจริงตามความเป็นจริง ถ้าเราเข้าใจว่าใครถูกใครทำไม่ถูก แล้วถ้าจิตเราไม่ผลักไม่ดูด เป็นกลางๆ วางใจได้เลยไหม? ได้ 

แต่ เป็นคนที่ยังโง่ เพราะความฉลาดนั้น คนที่ถูกต้องควรชนะ เราควรเข้ากับคนที่ชนะเสริมให้ความถูกต้องชนะใช่ไหม เพราะฉะนั้นเราควรจะต้องไปสมทบกับกำลังของความถูกต้องใช่ไหม นี่ฉลาดหรือโง่ ..ฉลาด

คนที่เข้าใจว่าอันนี้ถูกอันนี้ผิดแต่เราอยู่กลางๆดีกว่า อย่าไปรบกัน อะไรโง่กว่ากันอะไรฉลาดกว่ากัน รู้ดีควรเข้าข้างคนถูกกลับไม่เข้าข้างคนถูก อันไหนดีกว่ากัน ก็คือเข้าข้างคนถูกมีน้ำหนักมีความประเสริฐกว่า เข้าข้างคนไม่ถูกอันนี้พวกเราพิพากษาแล้วว่าโง่กว่า อันนี้เป็นเรื่องจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ้นความโง่อวิชชากับ ปฏิจจสมุปบาท วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 มีนาคม 2564 ( 19:03:15 )

คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ

รายละเอียด

อาตมาออกโศลกมาว่า “คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ” แรงนะ ไม่ใช่เบา อันนี้ แรง 

ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงๆเลย ถ้าเผื่อว่าคนเจริญเพียงพอ ไม่ต้องเสียเวลา เสียแรงงาน เสียทุนรอน ไปสร้างอาวุธมาฆ่ากันทำไม มันไม่สร้างอาวุธมาเพื่อล่าสัตว์หรอก อาวุธที่มันสร้างราคาแพงๆ ประสิทธิภาพสูงส่งนี่ มันเอามาฆ่าคน ลงทุนใช้พลังงานสูงสุด ประกอบทุกอย่างให้วิจิตรพิสดาร มีประสิทธิภาพสูงขนาดไหนๆ ที่มันแข่งสร้างกันอยู่นี้ มันสร้างกันมาเพื่อฆ่าคน 

เพราะฉะนั้นจิตของคน นอกจากจะฆ่าคนแล้วจะต้องให้มีประสิทธิภาพที่ฆ่าได้อย่างแรง ฆ่าได้อย่างมาก ลูกเดียว ตูม หมดประเทศเลยมันยิ่งชอบ มันจะต้องให้ได้ ใช่ไหม ซึ่งเห็นความอำมหิต โหด ของคนที่มีน้ำหนักของความอำมหิตโหดนี้ ขนาดไหน ยุคนี้แล้ว มันยังไม่หมดไปจากโลกเลย 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูตอบปัญหาผ่าพญาครุฑ ฉุดพญานาค วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2565 ( 19:32:16 )

คนฉลาดเฉโก

รายละเอียด

คือ ผู้ยังไม่ฉลาด ขั้น “ปัญญา” มีกรอบจำกัดของความเข้าใจ คือ มีความฉลาดอยู่ในกรอบของโลกีย์เท่านั้น

หนังสืออ้างอิง

“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 33


เวลาบันทึก 08 พฤศจิกายน 2562 ( 12:37:05 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:46:30 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:29:57 )

คนฉลาดโกงก็หลอกคนโง่ที่รวย

รายละเอียด

ซึ่งโลกเขาไม่สละ เขาจะเอามากกว่าที่ตนเองทำได้ด้วยซ้ำ ตัวเองมีคุณค่า ค่าของคุณภาพหรือประสิทธิภาพของตนได้สัก 100 บาท คุณก็จะเอาให้เกิน 100 บาท ขี้โกงเขา หาทางหาวิธีการที่จะเอาเปรียบเอารัด ด้วยวิธีซับซ้อนมาก ทุนนิยมสามานย์ แล้วเขาก็ทำได้สำเร็จ แล้วโลกก็เข้าใจทฤษฎีแบบนั้น พวกนี้เป็นเรื่องยืนยัน ชี้บ่งว่าเป็นคนเจริญทางเศรษฐศาสตร์ เจริญทางเศรษฐกิจ เพราะมันมีสมบัติมาก มันรวยมันเก่ง ที่ทำได้มากอวดอ้างเขาแล้วเอามาโชว์ โชว์แต่เงินทองนับกันไม่หวาดไม่ไหวก็เอาแปลงเป็นเพชร เป็นทองเป็นเครื่องอะไรตั้งราคา ในที่สุดเสื้อราคา 10 บาทถึง 20 บาทมันตั้งราคา 100 บาท คนโง่ก็บอกว่าข้ามีเงินซื้อ 100 บาท ทั้งๆ ที่ราคาทุนมัน 10 บาทอะไรอย่างนี้ ซึ่งเดี๋ยวนี้ราคามันเป็นพันก็ขายเป็นหมื่นเป็นแสน คนโง่ก็ซื้อมาโชว์ว่า นี่ไง ฉันใส่เสื้อราคาหมื่น ราคาแสน ใส่แล้วมันเหาะได้หรือเปล่าวะ มันก็เหาะไม่ได้แต่ก็ถูกหลอกไป คนฉลาดคนโง่ก็หมุนเวียนอยู่อย่างนี้

คนฉลาดโกงก็หลอกคนโง่ที่รวย ก็เป็นอย่างนี้ หมุนเวียนแล้วเกิดการสะพัด คนฉลาดที่โกงก็ได้ เขาก็อยู่กับระบบโกงกับระบบโง่นี่ แต่ชาวอโศกเรานั้นไม่แย่งรวย เข้าใจจน เข้าใจสร้างสรรขยันเพียร ไม่ได้เป็นคนขี้เกียจขี้คร้าน ไม่ได้เป็นคนดูดาย สร้างสรรในสิ่งที่เป็นประโยชน์คุณค่า สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์คุณค่าไร้สาระ เลิก เอามาสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์คุณค่า จึงเป็นผู้ที่เข้าหาสาระแก่นสารของชีวิตของสังคมมนุษยชาติ นี่คือผู้เจริญเศรษฐศาสตร์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 45 วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน 2566 แรม 1 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 เมษายน 2566 ( 12:23:34 )

คนชงคำถามให้กล่าวถึงพระรูปอื่นบาปไหม

รายละเอียด

ไม่บาปหรอก คุณหาเรื่องจัง คุณพูดอย่างนี้อาตมาก็ไม่ได้รู้อะไรดีๆ สิ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 07 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:56:53 )

คนชนิดไหนอยู่ตรงข้ามนายทุน

รายละเอียด

ผู้สร้าง“ต้นทุน” แล้วสะพัด“ทุนต้น”นั้นไปเสมอ แล้วก็

สร้าง“ต้นทุน”ใหม่ขึ้นมาอยู่ตลอด ไม่ต้องสะสม“ทุน”ไว้ให้มาก 

ชื่อว่า“ผู้มักน้อย(อัปปิจฉะ) “ผู้ใจพอ(สันโดษ)ไม่มีมากกว่านี้” 

แต่เป็น“ผู้ขยัน-สร้างสรร-เลือกสร้างด้วยปัญญา”อยู่เสมอ

ชื่อว่า “ผู้ไม่ขาดแคลน” ผู้อุดมสมบูรณ์ ผู้เป็นประโยชน์ต่อโลก  

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 100 หน้า 104


เวลาบันทึก 15 มิถุนายน 2564 ( 20:34:37 )

คนชอบฟังธรรมไม่หลงตัวว่าบรรลุธรรม

รายละเอียด

คนนี้ไม่หลงตัวว่าเป็นผู้บรรลุธรรมก็ชัดเจนตัวเองว่า แท้ๆ ตัวเองเป็นนักศึกษา นี่ก็เลยสว่าง ตัวเองไม่ใช่ผู้บรรลุธรรมแต่เป็นนักศึกษา มันกลับไปกลับมา ส่วนมากมักจะหลงตัวเองว่าตัวเองบรรลุแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การปฏิวัติโดยประชาชนของไทย เป็น Soft Power วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 17:16:15 )

คนชั่ว ขี้โกง

รายละเอียด

อยู่ในประเทศไทยโกงสมบัติชาติในประเทศ เสร็จแล้วประเทศนี้ก็ประกาศไปให้ประเทศอื่นรู้ ประเทศอื่นก็ฟัง คนนี้มันไม่ดี มันไม่ดีจริงหรือเปล่ามันเป็นการเมืองหรือเปล่า เขาก็จะต้องพยายามทดสอบ เขารู้มันไม่ดีจริงๆเขาก็ไม่เอาด้วย ไม่ดีตรงกันนะไม่ดีเพราะอะไรมันโกงชาติโกงประเทศ ไม่ว่าจะเป็นชาติไหนคนโกงชาติโกงประเทศก็ถูกไล่ออกไปทั้งนั้น ตอนนี้คนโกงชาติโกงประเทศทางนี้ก็ประกาศไป ประเทศไหนๆเขาไม่ค่อยเชื่อ ยังไม่เชื่อทีเดียวว่ามันจะเป็นการเมืองหรือเปล่า จนกระทั่งความจริงปรากฏว่ามันใช่นะ เป็นคนโกงชาติโกงประเทศ ตอนนี้ชาติอื่นที่เขาไม่ค่อยเชื่อ จะค่อยๆเชื่อและไม่ค่อยให้เข้าประเทศแล้ว แต่เขาก็มีอำนาจเงิน ประเทศที่จะต้องง้อเงินเขาอยู่ก็พูดไม่ออก ต้องยอม คนที่มันโกงเงินไปได้และใช้อำนาจเงิน จึงเชื่อถืออำนาจเงินมากเหลือเกิน แล้วมันก็ซับซ้อน เรียนอาชญาวิทยามาได้ก็เลยเก่ง เลยกองเอาไว้เยอะ ใส่แบงค์ไว้ เลยมีอำนาจใหญ่ เพราะลักษณะของทุนนิยมมันช่วย เอาไปทิ้งไว้ที่ไหนมันก็ออกดอก นี่คือระบบทุนนิยมมันเก่งในโลกก็เลยใช้ระบบทุนนิยมนี้อยู่ได้สบาย ไปด้วยสัจจะนี้แล้วเขาทำกรรมชั่วและบาป โกงก็ยังไม่รู้ว่าโกงแล้วยังไปรุกรานจุกจิกวุ่นวาย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:13:29 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:37:16 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:32:45 )

คนชั่วจะได้พึ่งคนเป็นกลางแบบอโศกอย่างไร

รายละเอียด

เป็นที่พึ่งคือคนชั่วเขาจะได้รู้ว่าทำไมท่านไม่เข้าข้าง เขาจะได้สะดุด ว่าทำไมไม่เข้าข้างเขา ถ้าเขายึดมั่นถือมั่น เขาก็ไม่นับถือแล้วคนนี้ แต่ถ้าเขามีปฏิภาณปัญญาสะดุด ก็จะต้องพิจารณาตัวเองใหม่ ถ้าเขายังนับถือคนนี้ มันก็เป็นประโยชน์ต่อเขาแล้ว จะให้เขาหลงความชั่วว่าดีเขาก็ไม่ได้พึ่งคนถูก ไม่ได้พึ่งคนดีที่จะให้เขาสะดุดเข้าข้างคนชั่วหรือไม่เข้าข้างคนชั่วก็มาตีกันเองอยู่อย่างนั้นตลอดกาลอีกเท่าไหร่ไม่รู้ไม่มีใครตัดสิน เพราะฉะนั้นคนเป็นกลางก็ต้องช่วยเขาตัดสินใช่ไหม จบ เดี๋ยวสับสนอีก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่นชาวสันตินาคร วันพุธที่ 17 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก 


เวลาบันทึก 22 มีนาคม 2564 ( 11:01:22 )

คนชั้นสูง The Classes ของศาสนาพุทธ

รายละเอียด

1. เลี้ยงง่าย  (สุภระ) เลี้ยงง่ายกว่าหมูหมา เพราะหมาถูกเลี้ยงจนเสียนิสัยหมา มีหมาตัวเมียที่อาตมาเอาไปให้ห้องภาพสุวรรณเลี้ยง ชื่อโทน มันถูกเลี้ยงจนเสียนิสัย เอาก๋วยเตี๋ยวหากไม่ปรุงแต่งมันไม่กินขนมปังไม่ทานมมันไม่กิน เสียนิสัยหมาหมด เอาไปปล่อยป่ามันอดตายนะ เลี้ยงตัวเองไม่เป็น 

2. บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ) 

3. มักน้อย, กล้าจน (อัปปิจฉะ) . .  

4. ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) 

5. ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) 

6. เพ่งทำลายกิเลส  มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) 

7. มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ)  

8. ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ตรงข้าม อวรรณะ 9 

9. ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ) . 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ยอดคนอาภัพที่มีระดับของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:57:22 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:38:38 )

เวลาบันทึก 08 สิงหาคม 2563 ( 11:34:45 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์