@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ธรรมะของพระพุทธเจ้าจะต้องสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกายจึงจะบริบูรณ์

รายละเอียด

การปฏิบัติจะให้เกิดอธิจิต หนึ่งคุณต้องมี รูปีรูปานิปัสสติ นี่คือวิโมกข์ 8 ข้อที่ 1 สำนวนที่ท่านใช้กำกับว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าจะต้องสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกายจึงจะบริบูรณ์ทุกอย่างสมบูรณ์ เป็นวิมุติ วิมุติตัวแรกคือปัญญาวิมุติ ถ้ายังไม่มีกายอย่างชัดเจนอย่างสมบูรณ์ ยืนยันได้อย่างเป็นสักขี แม้จะมีกายเป็นสักขีที่ยืนยันได้ แต่ไม่ได้สัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกายจะไม่มีวันเรียกว่า บุคคลนั้นปฏิบัติมาในวิธีใดก็แล้วแต่จะไม่เรียกบุคคลนั้นว่าอรหันต์ ส่วนบุคคลที่วิมุติสมบูรณ์คือ อุภโตภาควิมุติ แต่อรหันต์เริ่มต้นได้คือปัญญาวิมุติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 2 วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน มีเวทนาเป็นกรรมฐานให้สัมผัสวิโมกข์ 8


เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:29:17 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าช่วยโลก

รายละเอียด

การสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนถาวรที่สุด  เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ถ้าคนไทยที่บริหารอยู่  เข้าใจพุทธ  แล้วเอาพุทธไปทำอย่างที่อาตมาว่า ทำให้คนเป็นพระโสดาบัน  สกิทาคามี  อนาคามี  อรหันต์  ประเทศไทยจะยอดเยี่ยม  ธรรมะพระพุทธเจ้าไม่ได้ขัดแย้งกับโลก ส่งเสริมโลก  แต่เขาว่าธรรมะอย่ามายุ่งกับโลก  อันนี้เป็นความเข้าใจผิด  อาตมาถือว่า  อาตมาไปช่วยสังคม ประเทศชาติ  ช่วยโลก  ทั้งด้านเศรษฐกิจ  การเมือง  สังคม  ถ้ามีคนมากพอในอนาคต พวกเราจะไปบริการประเทศ  เมืองไทยจะเจริญที่สุด  แต่ตอนนี้มันยังไม่มากพอ  เราก็บริหารไปตาม สัจจะ ไปตามลำดับ  สักวันหนึ่งเขาก็จะมาเชิญ คิดว่าไม่น่าจะเกินอีก  50 ปี ชาวอโศก คงมีมากพอ จะไปทำงานในสังคม  บริหาร ประชาชนจะมาถึงไปเองให้ไปสมัคร  ส.ส. แล้วพวกเราจะได้เข้าไปบริหาร  จะเป็นตัวอย่างให้แก่โลก  เพราะเป็นคนไม่มีทุจริตคอรัปชั่น เป็นคนรับใช้สังคม มนุษย์ชาติ อย่างแท้จริง  บริสุทธิ์ใจ  คิดดูสิ ถึงแม้ลดกิเลสไปตามลำดับ  พระโสดาบันก็กิเลสน้อยลง  พระสกิทาคามีก็น้อยลงไปอีก  ไม่ใช่เป็นคนที่มานั่งด่ากันโกงกันทุกวันนี้ สกิทาคามีก็ยิ่งเข้าใจ  อนาคามี ก็ยิ่งดี  ไม่ใช่เรื่องของคน  ไม่ใช่มนุษย์  แต่เป็นเรื่องของมนุษย์ที่จะบริหารสังคมประเทศชาติให้เจริญ  แต่เขาเข้าใจเป็นเรื่องลึกลับเป็นเรื่องพิสดาร  เป็นเรื่องมหัศจรรย์ magical   เลอะเทอะ  แต่เป็นเรื่องที่โลกต้องการ   การลงสมัครไม่ต้องหาเสียง  คนมาเชิญก็ไปหาเสียงแทน ไม่ต้องลงทุนด้วย  คุณอยากได้ก็เลือกไปได้แล้วดีไม่ดีทำงานฟรี  คุณจะเลี้ยงเอาไว้ไหม  คนประเภทนี้  คุณไม่อดอยากหรอก รัฐบาลเขาก็เลี้ยงไว้อยู่แล้ว เงินเดือนที่รัฐบาลให้ก็เหลือกินใช้อยู่แล้ว  เป็นพระอรหันต์ กินน้อยใช้น้อยอยู่แล้ว ค่าตัวนักการเมืองมันแพงมาก เหลือกินเหลือใช้ สบาย ปรปฏิพัทธาเมชีวิกา  ชีวิตให้เขาเลี้ยงดูไว้ได้เลย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 82 วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 14:48:40 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:19 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:00:03 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าต่างจากโลกียะ By contnast กัน

รายละเอียด

ซึ่งเป็นศีลธรรม ธรรมะที่แตกต่างจากโลกียะคนละขั้วกัน ทวนกระแสกัน Contrast กัน หรือออฟโพสิทกัน ตรงกันข้ามกันเลย ทวนกันเลย นี่คือ ธรรมะของพระพุทธเจ้าตรัสรู้ในโลกและเอามาประกาศ คนรู้ยาก ไม่ใช่เข้าใจได้ง่ายๆ เพราะมันทวนกระแส ไม่ไปตามน้ำ แต่ทวนน้ำ ก็ต้องยาก แต่ มันมีความจบ มีความบริบูรณ์ มีความสัมบูรณ์ 

อะไรจบ อะไรบริบูรณ์ อะไรสัมบูรณ์ คือ ความเป็นคน คุณเกิดมาเป็นคนแล้ว คุณจะมีชีวิตเป็นคนต่อไป เป็นชีวิตที่บรรลุธรรมของโลกุตระแล้ว จบ จบมี 2 ขั้น ขั้นที่ 1 จบแบบโลกียะ แล้วเป็นแบบโลกียะที่วิเศษด้วย คือ โลกุตระ เป็นโลกียะที่เป็นโลกุตระ หรือเป็นอาริยธรรมที่แท้จริง หมายความว่า แม้จะเป็นแบบโลกียะที่เขาเป็น เช่น เขาปฏิบัติดี ไม่ปฏิบัติชั่ว ละเว้นชั่วประพฤติดี ชั่วดีเป็นโลกียะ 

พระพุทธเจ้าก็มีธรรมะของท่าน สอนให้คนทำดีละชั่ว ดีชั่วไม่เที่ยง ดีชั่วเป็นสมมติ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบกาละ เทศะ ฐานะ สมมุติ จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ ไม่ได้หมายความว่าเท่าเดิม คงเดิม เป็นอย่างนั้นไปตลอดไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 1 + 2 เป็น 3  2 + 2 เป็น 4 ตายตัว ไม่ใช่ ขึ้นอยู่กับ กาละ เทศะ ฐานะ

กาละ คือ เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ เทศะ คือ สถานที่ องค์รวมของพื้นที่นั้นๆ ฐานะคือตัวบุคคลเอง จะมีภูมิธรรม จะมีความรู้ความสามารถเท่าไหร่ที่จะมาร่วมกับ สามเส้า กาละ เทศะ ฐานะ จึงจะมาปฏิบัติธรรมได้สมบูรณ์แบบ ถ้าไม่ครบ กาละ เทศะ ฐานะ ไม่สมบูรณ์แบบ ถ้าครบ กาละ เทศะ ฐานะ สมบูรณ์แบบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ตุลาคม 2565 ( 12:11:38 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าถ้าศึกษาเข้าแก่นปลอดภัยทุกอย่าง

รายละเอียด

พอโควิดมันมา เราก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เราจะปิดก็ปิดได้ เราจะเปิดก็เปิด แม้เขาจะเปิด แล้วเราก็เปิดตาม ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แน่นอนเขาจะเปิดก็ต่อเมื่อเขาคิดว่าปลอดภัย จากโทษภัย เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้า ถ้าศึกษาเข้าไปถึงแก่นจริงๆแล้ว ปลอดภัยทุกอย่าง โลกจะเป็นอย่างไร อย่างที่พระพุทธเจ้าบอกว่า โลกลุกเป็นไฟอยู่อย่างนี้ ยังจะมัวเริงรมย์อะไรกันอยู่ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 18 มิถุนายน 2563 ( 10:04:46 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:48:45 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:00:54 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าทำให้คนเป็นพระอาริยะ 4 ระดับได้จริง

รายละเอียด

คุณเองก็พยายามพากเพียรช่วยกันจะได้ช่วยมนุษย์อื่นได้ ก็ทำอย่างอาตมา ทำอย่างไรก็ต้องมีคุณธรรมที่ไม่มีอัตตามานะ เป็นภาษาที่บอกอุปกิเลส มีมานะอัตตาหลงตนอยากใหญ่อยากเบ่ง เหมือนธร เหมือนทรัมป์ เราศึกษาธรรมะจะเห็นลักษณะจริง ขนาดอาตมาไม่ใหญ่เท่าธร เท่าทรัมป์ เขามีพลเมืองมาปราศรัยมากกว่าอาตมามาก ขนาดอาตมานี่ แค่นี้ ยังเหนื่อยแทบจะตายเลย แล้วทำอย่างโน้นแลกเอาโลกีย์อาตมาทิ้งมาแล้ว แล้วจะให้ทำอีก ก็โง่ซ้ำซ้อนใครจะโง่ซ้ำซ้อนจะกกโลกีย์ไว้อีกก็เรื่องของเขา อาตมาลดละมาแสดงตัวยืนยันความจริงว่าธรรมะพระพุทธเจ้าทำให้คนหมดจริง เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างอาตมา แล้วพยายามรักษาชีวิตให้ยืนยาวเพื่อให้เห็นกายกรรม วจีกรรมอย่างไร เข้ามาในหมู่จะมีบุคคลทุกระดับ พระโสดาบันสกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ พระพุทธเจ้าสอนแล้ว อยู่กับหมู่มิตรสหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดีเป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของพรหมจรรย์ อธิบายยาก แต่ของจริงมันมี พยายามขวนขวายทำให้ได้มากจนคุณสามารถที่จะรับเอาได้หรือได้รับมากเท่าไหร่ คุณก็พยายามหาทางเอา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2562 ( 14:47:09 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:50:37 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:01:35 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงอธิปไตย 3

รายละเอียด

มาเข้าถึงเรื่องประชาธิปไตย ประชาธิปไตยโลกุตระหรือแบบธรรมะของพระพุทธเจ้าที่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงอธิปไตย 3 โลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย และ  ธรรมาธิปไตย นี่คือคำว่าอธิปไตยที่มีของโลก และอธิปไตยของตน โลกาธิปไตย 

โลกาธิปไตยอำนาจของโลกที่เขาพยายามสร้างอำนาจมาครองโลก ศัพท์ว่า อยู่เหนือโลกแต่ไม่ พวกนี้เบ่งจะข่มโลก ไม่ใช่อยู่เหนือโลก เขาจะเบ่งทับโลก ที่เขาบอกว่าจะเป็นเจ้าโลก เป็นมหาอำนาจเจ้าโลก สหรัฐที่เขาจะเป็นหรือประเทศทางตะวันตกเขาเคยเป็นมา ฝรั่งเศส เยอรมันก็เคยเป็นมา อิตาลีก็เคยเป็นมา แล้วมันเที่ยงที่ไหนล่ะเดี๋ยวนี้ทุกวันนี้ สหรัฐก็ยังเป็นอย่างนั้นหมุนอยู่ในโลกียะแบบเดียวกันหมด แต่คนไทยไม่ไปเป็น คนไทยเจริญมาเรื่อยๆตั้งแต่ประเทศเหล่านั้นเขาหมุนเวียนกันเป็นเจ้าโลก ไทยก็นึกว่าตอนนั้นเป็นทาสเขา หรือเป็นพวกที่ด้อยพัฒนาไม่เหมือนพวกเขา ไทยนึกว่าเป็นอย่างนั้น 

แต่ไม่ ไทยสร้างประเทศไทยมาตั้งแต่สุโขทัย ตั้งแต่พระเจ้ารามคำแหงมา มาถึงวันนี้เป็นพุทธศาสนาอยู่ใน DNA มีธาตุ มีสาร อัญญธาตุ ธาตุโลกุตระอยู่ในจิตวิญญาณแล้วค่อยๆแสดงออกมาพัฒนา เมื่อมาถึงยุคนี้ประชาธิปไตยเฟื่องฟู ในยุคพระพุทธเจ้าไม่ได้เรียกคำว่า ประชาธิปไตย แต่อาตมาก็ต้องอธิบายสาระสภาวธรรม บัญญัติหรือภาษามันเรียกว่าประชาธิปไตย แต่สภาวะที่อาตมากำลังขยายความ คือมีโลกาธิปไตย 3 กับมี อายะ 3

พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) พหุชนะ นั่นแหละแปลว่าประชาชน มวลประชาชน พหุ แปลว่า มาก ชนก็คือประชาชน มวลคน พหุ คือ มวลคนจำนวนมาก เป็นประโยชน์เพื่อหมู่ชนมหาชนเป็นอันมาก หรือชนทั้งหลาย

พหุชนสุขายะ ขอยืมคำว่าสุขมาใช้เป็นกลางๆเรียกว่า วูปสโมสุข หรืออุปสโมสุข เป็นเครื่องอาศัยที่จิตใจ ไม่ได้มีความยากลำบากยากเย็นอะไร ไม่มีความเดือดร้อนอะไรไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นโลกุตระนั้นแม้แต่สุขก็ไม่ยึดไม่ติด เพราะฉะนั้นเขาก็แย่งสุขกันทั้งนั้นในโลกีย์ ส่วนโลกุตระนั้นรู้ลำดับว่าสุขอย่างเป็น อุปสมะ หรือสุขอย่าง วูปสมะ สุขอย่างที่ อย่าไปติดสุข เหนือสุขจนกระทั่งเป็นปรมังสุขังยิ่งกว่าสุข หรือสุดท้ายใช้ภาษาว่า อทุกขมสุข ไม่สุขไม่ทุกข์ เพราะสุขทุกข์อาตมาอธิบายไปแล้วว่าเป็นมายาคู่ที่แยกกันไม่ได้ เหมือนกระดาษ 1 แผ่น แยกไม่ได้มันมี 2 หน้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 3  วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2566 ( 10:55:00 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น อกาลิโก นำหน้าโลกียะเสมอ

รายละเอียด

พูดถึงอกาลิโกก่อน อกาลิโกแปลว่า ไม่ล้าสมัย แปลง่ายๆ อกาลิโก ทุกกาละ 

ธรรมะพระพุทธเจ้าทันสมัย-ใหม่เสมอ ไม่มีล้าสมัย เพราะอะไร? เพราะว่าธรรมะพระพุทธเจ้านำหน้าไม่เคยมีใครทัน นำหน้าไม่เคยมีใครทัน โลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้านั้นไม่มีโลกียะใดที่จะเดินทางไปทันเลย ตลอดกาลนาน ไม่มี ยุคไหนสมัยไหนเมื่อไหร่ก็ไม่มีทัน โลกียะไม่มีทางเดินทางทัน 

ในโลกุตรธรรมมันมีโลกียะสมบูรณ์แบบครบถ้วน เช่น โลกียะว่าเขาประพฤติดี  ทำดี ไม่ทำชั่ว โลกุตระก็มีเช่นเดียวกัน 

ในโลกสมมุติ เช่น ชาติๆหนึ่งเขามีสมมุติในชาติเขาว่าอย่างนี้ดีอย่างนี้ชั่ว แม้แต่กฎหมาย คนทั้งชาติก็ต้องถือกฏเดียวกัน อย่างนี้ดีอย่างนี้ชั่ว เหมือนกันหมดทั้งประเทศ เหมือนกันหมดทั้งลัทธิในชุมชนนั้นๆ เขาก็ยึดถือกันอย่างนั้น 

พระพุทธเจ้าเกิดมานับชาติไม่ถ้วน ไอ้ดีๆชั่วๆอย่างชาติแต่ละชาติ มีในยุคหนึ่งๆ ไม่ถึงพันชาติ ไม่ถึงพันประเทศ แม้เดี๋ยวนี้ก็ไม่ถึงพันชาติพันประเทศ ขณะนี้ในโลกมีประมาณ 200 ประเทศ ใช่ไหม เอาละ ให้ประเทศหนึ่งมี 5 ภาษา ภาษาเขาก็สื่อสภาวะ เพราะฉะนั้นเมื่อเข้าสู่สภาวะ จะภาษาอะไรก็แล้วแต่ ดีมันก็คือดี อาจจะพูดกันคนละภาษา เพราะฉะนั้นถ้าภาษานี้ ชาตินี้ เผ่านี้ เขาใช้ภาษาอย่างนี้ว่าไอ้นี่ดี มันก็แบ่งเป็น 2 นัยยะคือ ดีกับชั่ว เพราะฉะนั้นความหมายดี ไม่ชั่ว มี 2 นัยเสมอ สรุปลงมาที่ เทวะ พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้เทวะสมบูรณ์แบบ จบ ชัดหรือยัง

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เทวะ 2 สมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้น 2 ของดีและชั่ว จบแล้ว แล้วทีนี้ก็มา 2 ของโลกียะกับโลกุตระ 

อันนี้แหละโลกียะไม่มีความรู้ในโลกุตระ แต่โลกุตระมีความรู้ทั้งโลกียะและโลกุตระ พูดไปแล้วเหมือนไปยกตนข่มโลกียะ แต่ที่พูดนี้ไม่ได้ไปยกตนข่มท่าน แต่เป็นเรื่องของสัจธรรม เป็นเรื่องของสัจจะ-ความจริง มันเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายบอกความจริงกันไป โลกยุคนี้มันใกล้กลียุค มันเสื่อมต่ำแย่แล้ว มันฆ่าแกงกัน โอ้โห แล้วมันก็ไม่รู้สึกรู้สา 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 40 พ่อครูเล่าความหลังเมื่อตอนอยู่ในวงการบันเทิง วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 แรม 11 ค่ำ เดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2567 ( 16:30:17 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งลึกซึ้ง

รายละเอียด

ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งลึกซึ้ง เห็นตามได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบ ประณีต สันตะ รู้ไม่ได้ด้วยตรรกะ ละเอียดระดับนิพพาน ณิปุณา บัณฑิตจริงเท่านั้นที่จะรู้ได้ บัณฑิตที่ไปสอบทางโลกนั้นไม่มีทางที่จะรู้ได้ ต้องเป็นบัณฑิตทางปรมัตถ์ บัณฑิตทางจิตวิญญาณ บัณฑิตทางโลกุตระจริงๆ ถึงจะรู้ได้ อย่างน้อยโสดาบันขึ้นไป 

เพราะฉะนั้น อย่างโยมบุญ ยังไม่ได้โสดาบัน ยังไม่รู้เรื่องหรอก อย่าว่าแต่โยมบุญไม่ได้โสดาบันหรอก อาจารย์ของโยมบุญคือมหาบัวก็ยังไม่ได้โสดาบัน เพราะไม่รู้กาม ยังไม่รู้กาย กามคือกาย กาย 5 ทวาร ตา หู จมูก ลิ้น กาย ยังไม่รู้เรื่องเลย พูดไปแล้วนะ ใคร ยิ่งท่านมหาบัวรู้เรื่องแล้วโกหกคนต่อ ยิ่งบาปซับซ้อน ตกอยู่แก่มหาบัวเองมากมาย แล้วคนอื่นก็โง่ต่อไป เพราะถูกมหาบัวหลอก มันซับซ้อนอย่างนั้น เพราะฉะนั้นในประเด็นนี้ขอผ่าน คุณเคารพมหาบัวอยู่ คุณไม่มีวันที่จะบรรลุธรรม จบตรงนี้ก่อน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาโยมบุญให้รู้จักทำบุญอย่างถูกพุทธ วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565 แรม 6 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 12:26:09 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าหาที่สุดไม่ได้ แต่หาที่สุดได้คือ 0

รายละเอียด

นี่เป็นผลจากเราเอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาสาธยายคุณเพียรผ่องพุทธก็เลยได้ประโยชน์ ได้ความรู้ความเข้าใจอันนี้ไป ไปทำงานศึกษาปริญญาโทได้ เป็นการวิจัยทำปริญญาโท ธรรมะที่อาตมาพูดพวกเราได้เอาไปใช้ทำปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก เยอะ หลายร้อยคนแล้ว อันนี้อาตมาก็ว่ามันเป็นสัจธรรม ฟังธรรมะที่อาตมาอธิบายมาแล้ว แล้วก็เอาไปทำวิจัย เอาไปทำ Thesis เอาไปทำประโยชน์ในการศึกษาจบปริญญาตรี โท เอก กันมาเยอะแล้ว​ ก็ดีเป็นสัจธรรม 

แสดงว่า แม้ว่าอาตมานี่จะเป็นหมาหัวเน่าในประเทศไทย ในวงการศาสนาพุทธ ที่พุทธกระแสหลักเขาตีตราให้อาตมาเลย เป็นหมาหัวเน่าของศาสนาพุทธ เป็นกบฏของศาสนาพุทธ แต่อาตมาก็ยืนยันเอาสัจธรรมนี้ประกาศ​ เขาต้านเขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะปิดประตูไม่ให้อาตมาแสดงออกได้เลย พูดไม่ได้ แสดงออกไม่ได้ แต่สุดท้ายสัจธรรมของอาตมาถูกปิดไม่ได้ แม้ที่สุดก็เอาเรื่องทางธรรมะไม่ได้อยู่แล้ว  เขาก็เอาเรื่องทางโลกมาปิดปากอาตมา ไม่ให้อาตมาจัดการเลย แต่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกหรือกฎหมายสากล​ มันก็เป็นสัจจะมันปิดไม่ได้ นี่มันสุดทาง ปิดให้อาตมาไม่ให้แสดงธรรมที่เป็นสัจธรรมที่ควรมีในโลก​ แสดงว่าประเทศไทยยังมีผู้มีภูมิธรรม มีผู้รู้และมีกฎหมาย จะเป็นส.ส. จะเป็นผู้ดูแลกฎหมายอยู่ก็ทำกฎหมายออกมา แล้วกฎหมายเหล่านั้นก็อยู่ในความถูกต้องไปตามธรรม 

เขาใช้กฎหมายกับอาตมาไม่รู้กี่ประเด็น สุดท้ายเขาทำให้อาตมาผิด​ แต่อาตมาไม่ได้ผิด อาตมาแพ้​ เขาทำให้อาตมาผิด เขาเบี้ยว เขาเบี่ยง เขาเลี่ยง เขาหลบ พูดได้ตรงๆเลยว่าทำเท็จ เอาอาตมาผิดด้วยความเท็จ จริงๆแล้วอาตมาก็ไม่ได้ผิด ไม่ได้มีเท็จ แต่เขาผิด เขาเท็จ เขาทำจนกระทั่งเขาชนะ เขาชนะสมมุติ แต่โดยปรมัตถ์แล้วเขาไม่ได้ชนะอาตมาเลย อาตมาบอกว่าอาตมาแพ้ได้ เขาจะลงโทษผิดกฎหมาย จนกระทั่ง ตราลงโทษทางกฎหมายจริงๆให้อาตมารอลงอาญา 2 ปีนะถูกตัดสินสุดท้าย ถึงศาลที่ 2 ศาลอุทธรณ์ จะเป็นศาลฎีกา ท่านทนายทองใบจะบอกว่าให้ฎีกาอีก อาตมาบอกว่าไม่เอาแล้ว เขาจะให้ผิดก็ผิดเลย จบ ไปลองมาถึง 2 ศาลแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ผิดอยู่แล้วต่ออีกก็ผิด อาตมาว่าไม่ต้องเสียเวลาหรอก เขาจะให้ผิดก็ผิดไปก็แล้วกัน แต่อาตมาไม่ได้ผิด เขาจะเอาผิดแบบสมมุติโลกก็แล้วไป แล้วอาตมาก็ได้ทำอยู่ตามธรรมะ อาตมาปฏิบัติธรรม ประกาศธรรม ขยายธรรมะ อย่างทุกวันนี้ยิ่งขยายลึกซึ้งละเอียดตามความเห็นของอาตมาตั้งแต่ต้นตั้งแต่เริ่มแรก มาจนถึงทุกวันนี้อาตมาก็ยังอธิบายธรรมะตามทิฏฐิของอาตมา ตามความรู้ความเชื่อมั่นของอาตมาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสัจจะของพระพุทธเจ้า เป็นโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้า ซึ่งมันยิ่งยืนยันชัดเจน

ถ้าอาตมาไม่ถูกค้านแย้งสังคมพุทธในโลก หรือกระแสหลักนี่แหละ เขาก็เป็นคนถูกสิ อาตมาก็เป็นคนผิดสิ ถ้าเผื่อว่าสัจธรรมมันเป็นอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วนี่ เขาผิด อาตมาถูกต่างหากอาตมาจึงแสดงธรรมที่จริงแต่เป็นหมู่น้อยที่ไม่สงสัย แน่นอนเขาเป็นหมู่ใหญ่ เพราะยุคนี้เป็นยุคพุทธศาสนาโลกุตรธรรมมันเสื่อม คนมันเสื่อมไปจากโลกุตรธรรม ตามจริง ตามสัจจะเลย ตามไตรลักษณ์ ตามคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าว่า โลกุตรธรรมมันเสื่อม เสื่อมจนไม่มีเลย อาตมาเอาโลกุตรธรรมมาเปิดเผยตั้งแต่ต้นจนจบ จบในธรรมะทุกๆขบวน แล้วก็ยังจะว่าต่อไปอีก อาตมาแสดงธรรมจบในตัวทุกวัน แต่คนไม่เคยรู้ว่าจบ แต่มันก็มีต่อเนื่องขยายความไปได้อีกจนหาที่สุดไม่ได้ เพราะธรรมะพระพุทธเจ้าที่สุดแห่งที่สุดคือหาที่สุดมิได้ แต่หาที่สุดได้คือ 0 

ธรรมะของพระพุทธเจ้าหาที่สุดไม่ได้ แต่หาที่สุดได้คือ 0 ถ้าไม่เข้าใจก็งงไปก่อน 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 32 จรณะ 15 คือการยืนยันหลักปฏิบัติไม่ผิดของพุทธ วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 8(8) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2566 ( 10:57:57 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ

รายละเอียด

ที่อาตมาอธิบายอย่างนี้ 100 อาจารย์มั่น 100 มหาบัว ก็อธิบายอย่างอาตมาไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้ธรรมะพระพุทธเจ้า อาตมาอธิบายตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า ตรวจสอบตาม พระไตรปิฎกได้ทุกตัว แต่เขาพูดไปอย่างโวหาร วาทกรรม ลิงตกต้นไม้ มันง่ายเข้าใจง่ายตื้นๆตีหัวเข้าบ้านเป็นพระอรหันต์อย่างนี้เป็นต้น พูดอย่างอื่นๆที่คนเขาฟังเข้าใจกันได้ง่ายๆ ซึ่งธรรมะของพระพุทธเจ้าเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ ทุรนุโพธา รู้ตามได้ยาก คัมภีรา (ลึกซึ้ง), ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก), ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก), สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่), ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น), อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้), นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน), ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น) (พตปฎ. เล่ม 9  ข้อ 34)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 10:49:42 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะที่ไม่มีชาติ

รายละเอียด

ดีแล้วล่ะรู้ตัว มันก็เป็นอาการที่มาปฏิบัติธรรมะจะรู้อาการตามจริงเรื่องกามเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องกิเลส ธรรมะไม่ใช่ธรรมชาตินะ แม้แต่พยัญชนะคำว่าธรรมะ กับธรรมชาติก็ไม่เท่ากันแล้ว ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะที่ไม่มีชาติ รู้จักชาติแล้วดับชาติได้ด้วย จนกระทั่งมีนิพพาน อย่างนี้เป็นต้น ดับภพชาติตั้งแต่เป็นสัตว์เซลล์เดียว หากคุณรักจะมีชีวิตอยู่เป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่ดี ไม่ทำบาปทั้งปวงมีแต่กุศลจิตสะอาดบริสุทธิ์ผ่องแผ้วหมดแล้วเป็นผู้ที่มีวรรณะ 9 มีสาราณียธรรม 6 จะเกิดมาอีกเมื่อไหร่ก็มีแต่ประโยชน์กับมนุษยชาติไม่มีโทษเลย มีแต่คุณถ่ายเดียวเป็นผู้หมดทุกข์ หมดสุข ศาสนาพุทธนี้หมดทุกข์หมดสุข สุขกับทุกข์เป็นอารมณ์เดียวกัน จิตมีฌาน 4 อุเบกขาเป็นฌานฝถาวรคืออรหันต์ ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา บริสุทธิ์แม้จะสัมผัสเกี่ยวข้องกับสังขารโลกที่ปรุงแต่งจิตก็ยังบริสุทธิ์ขาวผ่อง ยังคงสะอาดอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2563 ( 18:34:09 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:35:26 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:02:50 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นลักษณะของเมือง

รายละเอียด

พูดถึงอยู่เสมอเรื่องการเมือง ถ้าเข้าใจนะ ถ้ามีปัญญาเข้าใจจริงๆว่า การเมืองเป็นเรื่องของใคร การเมืองก็เป็นเรื่องของคน เมื่อมีคนก็ต้องมีการเมือง และคำว่าเมืองก็ต่างจากป่า การเมืองก็คือการที่เป็นลักษณะอย่างเมือง ไม่ใช่ลักษณะอย่างป่า 

ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นลักษณะของเมือง ไม่ใช่ลักษณะของป่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ลักษณะของคนเถื่อนคนป่า เป็นอาริยกะ ไม่ใช่มิลักขะ

พูดหลายทีแล้ววนเวียนซ้ำซาก แต่คนไม่เข้าใจเขาก็ไม่เข้าใจ เขาเข้าใจไม่ได้ ไม่ใช่เขาไม่อยากเข้าใจ เขาอยากเข้าใจแต่เขายังเข้าใจไม่ได้ ไปบังคับไม่ได้หรอกคนที่ยังไม่มีภูมิขึ้นมา จะไปบังคับให้ดอกไม้มันบาน ไม่ถึงเวลาวาระที่มันจะบาน มันก็บานไม่ได้เป็นธรรมดาธรรมชาติอย่างนี้เป็นต้น เราก็ได้แต่แพร่ สร้างการตลาดให้มันขยายตลาดออกไปเรื่อยๆ ผู้ที่เขาแสวงหา ไม่มีอคติ ตั้งใจแสวงหาจริงๆ หรือมีอคติก็ใช่ นอกจากคนที่ยึดมั่นถือมั่นอย่างหน้ามืดตามัว หลงติดยึดไม่เปลี่ยนแปลงไม่มี ปรโตโฆษะ เขาก็ไม่มีโยนิโสมนสิการ เป็นจริงตามพระพุทธเจ้าตรัสทุกอย่าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นจริง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 36 แยกกายแยกจิตอย่างไรให้ถึงอรหันต์ วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 14:19:57 )

ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่เป็นหมัน

รายละเอียด

มันก็เห็นจริง มันทำให้อาตมาทำงานนี้ ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่เป็นหมัน พอเห็นก็รู้ว่าคนนี้ยืนยันได้มรรคผล คนนี้ปฏิบัติอยู่ดีเป็นผู้ที่สบาย เป็นคนเจริญเป็นคนไม่มีโทษภัยต่อสังคม เป็นคนที่มีคุณค่าประโยชน์ต่อสังคม แล้วตัวเองก็สบายใจ ยังมีสิ่งที่จะพัฒนาตัวเอง สัลเลขตัวเอง มีธูตะ มีศีลสมาธิปัญญาของตัวเองที่เจริญขึ้น ถ้าจบแล้วก็ไม่สะสมอะไรแล้วก็มีแต่ยอดขยัน คนในอโศกนี้ ไม่สะสมแล้วเป็นคนศูนย์จริงๆมีชีวิตอยู่ในอโศก เป็นคนไม่สะสมแล้วไม่กังวลไม่คำนึงถึงว่าจะมีเงินมีทองมีสมบัติอะไร อยู่ในอโศกนี้มีตัวจริงตัวบุคคล แล้ววันหนึ่งก็มีแต่ วิริยารัมภะ ตื่นมาก็มีเวลาทำงานถึงเวลานอนก็นอน ตื่นเช้าก็มาทำงาน จนกว่าจะถึงวันตาย มันจบแล้วนะ อปจยะ วิริยารัมภะ สัจจะของพระพุทธเจ้าชัดเจนเหลือ 2 ข้อสุดท้ายเป็นคนที่สมบูรณ์แบบแล้ว ก็คือคนอปจยะ วิริยารัมภะมันเป็นความเจริญความประเสริฐเป็นเครื่องชี้บ่งความเจริญความประเสริฐของคน ตอนนี้มีโควิดมาต้องตั้งกระท่อมปันสุข ดีไม่ดีในอนาคตอาจจะจัดทีมลงไปในตลาดลงไปแจกผักกัน จริงอาตมาว่าถ้าใครขยันไม่ต้องทำอะไรเลย ผักตาโก้งนี่เยอะเลย ดองแล้วก็ใส่กระทงเอาไปแจกตามตลาด มันยังมีเยอะจริงๆ แหม เอาไมยราบยักษ์มาลองดูไหม 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 10:43:51 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:51:32 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:03:36 )

ธรรมะของพระเจ้าทวนกระแส

รายละเอียด

ที่พูดมานี้ถูกต้องหมดแต่ก็ต้องอาศัยเวลากว่าคนจะเข้าใจได้ เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะที่ทวนกระแส สวนทางกับโลกีย์ ฟังแล้วจะมีคนที่หูหักบ้างอาเจียนเอาโลหิตร้อนออกจากปากบ้าง คนฟังธรรมะพระพุทธเจ้า 180 60 คนบรรลุธรรม 60 คนโลหิตร้อนพุ่งออกจากปาก อีก 60 คนขอลาสิกขา ธรรมะของท่านยืนยันมี 3 ส่วนอย่างนี้ คนหนึ่งบรรลุธรรมคนหนึ่งตายคาที่อีกคนหนึ่งขอลาก่อน อีก 2 ส่วนไม่ได้ได้ส่วนเดียว ของท่านบอกเลยว่าไม่ใช่ได้คนส่วนใหญ่และคนส่วนน้อยจะเอาได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุะที่ 12 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2563 ( 10:02:32 )

ธรรมะของพวกเทวนิยมก็จะเป็นอย่างนี้ๆ!

รายละเอียด

“โลกียธรรม”คือ “ธรรมะของเทฺวนิยม” ที่เป็น“ธรรมะ”ไม่มี “นิพพาน” ไม่มี“สูญ” เป็น“ธรรมะ”ของผู้ที่ไม่รู้จัก“ตัวเอง” ไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริง “อัตตา” อันคือ“ตัวเอง”แท้ๆ หลงว่าอัตตา”อันคือ“เทฺว”นั้นมีอยู่ตลอดกาลนิรันดร 

เพราะไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริง“เทฺว” ไม่รู้จัก“อัตตา”หรือ“อาตมัน”หรือ“ปรมาตมัน”อย่างถึงที่สุด ตีแตกแยกแยะ“เทฺว”ไม่ได้ หรือไม่ยอมให้แยก“เทฺว”เด็ดขาด “เทฺวนิยม”จึงหลงยึดว่า“เทฺว”เป็น“1”ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตีแตกแยกไม่ได้

ทั้งๆที่“เทฺว”นั้นคือ“2” พยัญชนะก็แปลว่า“2” สภาวะจริงก็“2”  

 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 18 หน้า 53


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 13:46:22 )

ธรรมะของสัตบุรุษ หรือสัปปุริสธรรม 7

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นบุคคลแต่ละบุคคลที่เป็นสัตบุรุษ คำเดียวกันว่า สัปปุริสะ หรือ สัตบุรุษเป็นคำเดียวกัน เป็นไวยพจน์ ใช้แทนกันได้ 

เป็นบุคคลที่จะเป็นสัตบุรุษ ก็มีองค์ธรรม 6 ของสัปปุริสธรรม 7 อย่างดี บุคคลที่เป็นผู้รู้คุณธรรม 6 อย่าง จึงจัดการกระบวนธรรม 6 นี้ทำงานให้แก่มนุษยชาติ เรียกว่า สัตบุรุษ ธรรมะของสัตบุรุษ หรือสัปปุริสธรรม 7 ทำงานให้แก่มนุษยชาติทำงานให้แก่โลกอย่างเป็นจริงไม่ใช่เป็นเรื่องมุข ไม่ใช่เป็นเรื่องโมเมไม่ใช่เป็นเรื่องเดาเอา ไม่ใช่ เป็นเรื่องจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โพชฌงค์ 7 สัปปุริสธรรม 7 โดยพิสดาร วันพุธที่ 14 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 เมษายน 2564 ( 20:31:21 )

ธรรมะของอโศกต่างกับของท่านพุทธทาส

รายละเอียด

1.รู้เท่าทันธรรมชาติกิเลสนั้นๆที่เกิด

2.รู้เหตุแห่งการเกิดธรรมชาตินั้นๆ

3.รู้วิธีและทำการดับธรรมชาตินั้นๆ

4.รู้การใช้ชีวิตอยู่เหนือธรรมชาตินั้นๆ

ที่มา ที่ไป

560804


เวลาบันทึก 01 มีนาคม 2563 ( 08:20:04 )

ธรรมะขาดจากการบ้านการเมืองไม่ได้

รายละเอียด

ท้าวความถึงงานการเมือง งานการเมืองก็ดี งานการบ้านก็ดีหรือจะแยกภาษาว่าเป็นงานทางธรรม 

ธรรมะต้องอยู่ทั้งการบ้านและการเมือง ธรรมะไปขาดจากการบ้านไม่ได้ ธรรมะขาดจากการเมืองก็ไม่ได้ ในความหมายที่เป็นเนื้อแท้ของคำว่าการบ้านการเมืองคืออะไร

การบ้านก็คือเรื่องของบ้านๆ ยังไม่รวบรวมถึงส่วนรวม ถ้าเรียกว่าการเมืองก็คือของส่วนรวมกันทั้งประเทศ การเมืองคือพฤติการณ์ของมนุษยชาติสังคมรวมทั้งประเทศ เรียกว่าการเมือง ถ้าการบ้านก็เฉพาะพฤติการณ์นั้น รวมเฉพาะกลุ่มใด การบ้านของบ้านบ้านหนึ่งครอบครัวหนึ่งก็เป็นของครอบครัว ต้องรู้จักตัดแต่ละปริเฉท ให้การบ้านสงบเรียบร้อย อบอุ่นสงบเจริญดีมาก ก็แล้วแต่บางครอบครัวก็ครอบครัวแตกแยก ครอบครัวแตกสลายไม่สงบเดือดร้อนวุ่นวายทะเลาะกันตีกัน แตกแยกกันก็ว่าไป ก็เป็นของจริง พฤติกรรมจริง ของคนในแต่ละสังคม ตั้งแต่เริ่มจาก 1 บุคคลถึง 2 บุคคลก็เริ่มต้นเป็นสังคม 3 บุคคลก็เกิดไซคลิก 4 5 6 7 8 ก็เป็นสังคมกลุ่มที่โตขึ้นมากขึ้น จนถึงเป็นล้าน  หลายล้านเป็นพันล้าน ตอนนี้ประชากรประเทศสูงสุดก็มีพันกว่าล้าน ประมาณ 1,400 ล้าน อินเดียกับจีนไม่รู้ใครมากกว่ากัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 40

ปี 2564 วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 สิงหาคม 2564 ( 19:44:37 )

ธรรมะขาดโลกขาดมนุษย์ไม่ได้

รายละเอียด

มีคนแนะนำให้อโศกมุ่งสอนธรรมะมุ่งด้านศาสนา  สมณะโพธิรักษ์ว่าขอขอบคุณที่แนะนำให้เอาแต่ธรรมะ  อาตมาก็เอาแต่ธรรมะเสมอ  เพราะจะไม่ได้รวมงานกับทางราชการ หรือทางภายนอกเท่าไหร่ นอกจากจะสำคัญ ถ้าต้องออกไปประท้วง  ซึ่งงานสัมพันธ์กับคนภายนอก ไปร่วมช่วยเหลือคนที่มีทุกข์ภิกขภัย  มีอุทกภัยก็ต้องไป  ก็ต้องทำอย่างนี้ เป็นต้น แต่ท่านผู้ที่เข้าใจไม่อยากให้เราไปวุ่นวายยุ่งกับเรื่องโลก  ความหมายที่ชัดเจนก็คือย่างนั้น อยากให้เรามุ่งแต่ทางธรรมะ  ธรรมะมันก็ขาดโลกขาดมนุษย์ไม่ได้ มันขาดสังคมไม่ได้  ธรรมะคือเรื่องของมนุษย์  คือเรื่องของสังคม  ธรรมะไม่เกี่ยวกับสังคมไม่เกี่ยวกับมนุษย์นั้น  พวกมิจฉาทิฎฐิ

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก วันศุกร์ที่   22  พฤศจิกายน  2562


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2562 ( 19:18:42 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:50:24 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:04:41 )

ธรรมะคือชีวิต

รายละเอียด

อาตมาเกิดมาชาตินี้พูดแล้วไม่รู้กี่ที  แล้วมันรู้แล้วว่าชีวิตเกิดมาเพื่ออะไรชีวิตเกิดมาเพราะว่าอวิชชา ที่นี้อาตมารู้แล้วว่าชีวิตเกิดมาด้วยความโง่ แล้วก็เลยไม่เอาแล้วชีวิตแบบนั้น ชีวิตที่จะไปแบบโง่ๆไม่เอา แล้วก็มาศึกษาจนกระทั่งหมดอวิชชา อาตมาพูดสบายๆว่าหมดอวิชชาก็บรรลุอรหันต์ ยิ่งชัดเจนเลย ตั้งแต่อาตมารู้ตัวอายุ 36 ปีออกมาทำงานทางนี้ก็ชัดเจนในตัวเอง อันนี้แหละคือชีวิตที่ดีที่สุดธรรมะคือชีวิตเราเคยท่องกันมาจนถึงบอกว่า ธรรมะคือคุณากรนั้นไม่ใช่แต่ที่จริงแล้วธรรมะคือชีวิต  ธรรมะไม่ใช่เพียงคุณากรแต่ธรรมะคือชีวิตเลย เพราะฉะนั้นผู้ที่ชัดเจนว่าชีวิตถ้าขาดธรรมะไม่เข้าใจธรรมะ ไม่รู้ธรรมะ ไม่เอาธรรมะมาปฏิบัติจนเราบรรลุธรรมได้ธรรมสมบูรณ์หมดอวิชชานั่นแหละถึงจะเต็มชีวิตเลย ทีนี้หมดอวิชชาแล้วเป็นพระอรหันต์เต็มชีวิตเลย ถ้าเมื่อใดยังไม่หมดอวิชชายังไม่เป็นพระอรหันต์ยังไม่เต็มชีวิตได้หรอกยังไม่มีธรรมะยังไม่เต็มชีวิตชัดเจนชัดเจน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 11 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2563 ( 09:40:39 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:18:50 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:05:42 )

ธรรมะคือธรรมชาติ ใช่หรือ?

รายละเอียด

อาตมาอธิบายไปจนกระทั่งถึงชาติ เขาก็เข้าใจไม่ได้ ก็ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นการดับชาติ ดับการเกิด จะบอกว่ากามมันเป็นธรรมชาติก็ใช่ มันเป็นธรรมะที่เป็นชาติ ที่เกิดแล้วเกิดอีก มันต้องเกิดชาติ มันต้องเกิดชาติคือ การเกิดมันเป็นธรรมะที่เป็นการเกิด เพราะฉะนั้นอย่างที่ท่านพุทธทาสบอกว่า ธรรมะคือธรรมชาติ นี้ก็ผิด อธิบายผิด ธรรมะคือธรรมะที่สะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีชาติ​ ธรรมะของพระอรหันต์ ธรรมะของผู้ที่จบกิจไม่มีชาติแล้ว​ ไม่มีชาติ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 10 ออกจากกาละได้โดยใช้ มูลสูตร10 และวิญญาณฐิติ 7 วันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2566 ขึ้น 2 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2566 ( 15:53:55 )

ธรรมะคืออะไร

รายละเอียด

ธรรมะคือสิ่งที่ทรงอยู่ทรงไว้ ส่วนที่ทรงอยู่นี้แจกเป็นจิต เป็นรูป เป็นนามได้อีก คำว่าจิตคือธาตุรู้ ส่วนธรรมะนั้นเป็นธาตุที่เป็นเองคือรูปธาตุ ส่วนนามธรรมคือ dynamic

ที่มา ที่ไป

พ่อครูพบคณะผู้บริหารสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) NIDA

วันพุธที่ 30 มกราคม 2562 อุบลราชธานี


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 21:13:46 )

ธรรมะคืออันนี้

รายละเอียด

 ก็ดีเข้าใจที่อาตมาเทศน์มา คุณเข้าใจสังคม สภาพความเป็นอยู่ที่ มันปรุงแต่งอยู่ในสังคมสังขารกันอยู่ คุณพูดมาอาตมาเข้าใจ คนอื่นจะเข้าใจ ได้แค่ไหนก็อ่านไปแล้ว 

อาตมาที่เป็นลูกพระพุทธเจ้า เอาเรื่องของสังคมมาอธิบาย อธิบายตามความรู้ของ พระพุทธเจ้าทั้งที่อาตมาไม่ได้เรียน ศาสตร์ต่างๆที่โลกเขามีปริญญาตรี โท เอก อาตมาไม่มี อาตมาเรียนทางวาดเขียนสื่อศิลปะด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องเหล่านี้อาตมาไม่ได้พูดอะไรมากมาย ก็พูดเรื่องสังคมมนุษย์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์เป็นหลัก ในชีวิตตลอดมาทำงานศาสนา ก็มีแต่เรื่องพวกนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องวาดภาพศิลปะ ให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย มีแต่พูดพาดพิง ไปเท่านั้น เพราะว่าสำคัญจริงๆของมนุษย์คือเรื่องของสังคมเศรษฐศาสตร์รัฐศาสตร์นี่แหละเรื่องของชีวิต ธรรมะคืออันนี้ แต่คนไม่เข้าใจ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 17 มกราคม 2566 ( 12:29:06 )

ธรรมะคู่ สาราณียธรรม 6 กับวรรณะ 9 

รายละเอียด

นับวันพวกเราจะเข้าใจดียิ่งขึ้นยิ่งทำให้เจริญมากยิ่งขึ้นเป็นทิศทางที่ไม่มีตัวตน ในทางที่ไม่ต้องยึดถือใครเป็นตัว ตัวเราก็เป็นศูนย์ มันก็ค่อยๆเป็นไปตามภูมิธรรมของแต่ละคน ในสังคมนี้ก็จะสุดยอดที่จะอยู่ด้วยกันเป็นสาราณียธรรม 6 เลย 

สาราณียธรรม 6 เป็นธรรมะที่สรุปผลองค์รวม ส่วนวรรณะ 9 เป็นการสรุปผลของแต่ละคน มีคู่อยู่ สาราณียธรรม 6 กับวรรณะ 9 

วรรณะ 9 เลี้ยงง่าย  (สุภระ) บำรุงง่าย ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ)  มักน้อย กล้าจน (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส  มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ)  ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ตรงข้าม อวรรณะ9  ขยันเสมอ ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ) 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก และบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ปี 2564

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2564 แรม 10 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2564 ( 20:40:21 )

ธรรมะจัดสรรทุกอย่าง

รายละเอียด

คัดเลือกโดยที่เรียกว่าเราไม่ไปตัดสิทธิ์ใคร คัดเลือกโดยภูมิปัญญาของพวกคุณเอง พวกคุณเองบอกว่า อ๋อ.. อย่างโพธิรักษ์สอนนี้ต้องเข้ามาแล้ว ท่านเป็นอาริยะต้องเข้ามาในหมู่บ้านนี้ได้ด้วย เข้ามาฟังธรรมได้ ทุกวันนี้ได้ด้วยอิสระของคุณ ตามปฏิภาณปัญญา ความเป็นจริงของคุณจะเข้ามาได้ คนที่อยากเข้ามารู้ดีอย่างที่คุณรู้กันแล้ว แต่วิบากเข้ามาไม่ได้ มันก็น่าสงสารอย่างนี้เป็นต้น 

เพราะฉะนั้นธรรมะนี้จัดสรรทุกอย่าง ศาสนาพระพุทธเจ้านี้ อิสระที่สุด มีปัญญาที่สุด แล้วนอกจากมีปัญญาแล้วทุกคนก็รู้จักกรรมวิบากทุกอย่าง ทำให้แก่ตนเอง จนสามารถหลุดพ้นจนสามารถเป็นอรหันต์ได้ เพราะฉะนั้นเกิดมาเป็นคนนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าตัวเองที่จะต้องทำตนให้เป็นอรหันต์ให้ได้ เป็นกรอบ 1 อรหันต์เป็นกรอบที่ 1 ถ้าคุณจะอยู่เป็นคน ก็มีหลักประกันว่าคุณไม่ทำชั่วตามสมมติโลกเลย คุณจะเกิดอีกกี่ชาติก็มีหลักประกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ในยุคนี้ต้องมาเรียนกับพ่อครูจึงจะบรรลุอรหันต์ได้ วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 ขึ้น 6 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2566 ( 11:53:16 )

ธรรมะชั้นสูง

รายละเอียด

ถ้าคนฟังไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยกให้ว่าเป็นธรรมะชั้นสูงเป็นอย่างนั้นก็ดี แต่ถ้าคนฟังไม่เข้าใจแล้วก็ตีทิ้งเลย เขาเรียกว่าตาที่บอด  Sixth Sense คนนี้บอด เขาไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีหรือไม่ถูกก็ตีทิ้งเลย  คนนี้ขาดทุน เพราะว่าคุณยังไม่รู้เลยว่าดีหรือไม่ดี แล้วถ้าเป็นคนดีสูงสุดคุณก็ไปตีทิ้งด้วย คุณจะได้อะไร คุณก็ได้ตามที่คุณรู้ ถ้าสูงกว่านี้มันไม่ใช่แล้ว คุณก็ตีทิ้งเลย คุณก็ได้เท่าที่คุณรู้ คุณบอกว่าไม่ใช่มันทำไป แต่ถ้าอันนี้มันสูงเกินกว่าที่คุณจะรู้ ถ้าคุณตีทิ้งเลยอะไรก็ไม่ได้

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 ตุลาคม2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 15:20:12 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 13:52:53 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:06:34 )

ธรรมะต่างจากโลกจินตา และสัญญายนิจจานิอย่างไร

รายละเอียด

ธรรมะแปลว่าทรงอยู่ทรงไว้ แต่ธรรมะที่ไม่ทรงไว้นี้ อธิบายไม่ได้ มันจะมีภาวะที่พระพุทธเจ้าบอกว่าเป็น โลกจินตา คือ ความคิดของโลก ความคิดของชาวโลกมันคิดไปเกินกว่าที่จะตามไปรู้ทั้งหมดแน่นอนมันรู้ทั้งหมดไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นสิ่งอย่างนั้น มันก็เป็นส่วนของแต่ละคนที่เขาคิด มันเป็นจริงมันเป็นได้ของแต่ละคนคิด พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า สัญญายนิจจานิ มันเป็นความจริงของสัญญาแต่ละคน ถ้าเป็นธรรมะมันจะต้องยืนยันว่ามันมี 2 ธรรมะจะต้อง เทวธัมมา ต้องมี 2 คนเป็นอย่างน้อยยืนยันจึงจะถือว่าจริง เป็นสัจธรรมเป็นธรรมะที่เป็นจริงต้องมี คนผู้เป็นพยานหลักฐาน หากคุณคิดอยู่ของคุณคนเดียว สัญญายนิจจานิ คนอื่นไม่รู้ด้วยเลย จะนับถือว่าอันนั้นเป็นธรรมะเป็นสัจจะ มันจะไปถือกันอย่างไร คนอื่นไม่ได้ร่วมตกลงยอมรับด้วยมันไม่มี สิ่งอย่างนี้จะมาเรียกว่าเป็นสัจจะในสังคมมนุษย์ ในโลก มาอยู่ในโลกในตัวคุณคนเดียวเป็นอัตตาตัวคุณคนเดียว มันไม่ใช่ของโลก ของโลกต้องมีภายนอกด้วย อัตตาของคุณก็มีของคุณคนเดียวใครจะไปรู้กับคุณด้วยศีรษะใครศีรษะมัน กะโหลกใครกะโหลกมัน กบาลใครกบาลมัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม สิ้นยุคประชาธิปไตย-เผด็จการ วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(อัตตา) ตอน ความเห็นต่างช่วยสร้างปัญญา


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:55:09 )

ธรรมะต่างๆที่อาตมาพูดเป็นอุตริมนุสสธรรมไม่ได้อวดอ้าง

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น ธรรมะต่างๆที่อาตมาพูด ไม่ใช่เรื่องไม่เป็นอุตริมนุสสธรรม เป็นอุตตริมนุสสธรรม ไม่ได้อวดอ้าง แต่เอามาแสดง แสดง อุตตริมนุสสธรรมให้ฟังให้รู้ อันที่อาตมายังไม่ใช่ก็บอกว่าไม่ใช่ อันไหนที่เป็นแล้วก็บอกว่าเป็น ไม่ได้ผิดกาละ รู้อดีต ปัจจุบัน อนาคต กำหนดสภาพสภาวะต่างๆถูกตรงสภาวะอยู่ 

สิ่งที่จะเกิดได้โดยชอบอย่างนี้ ก็คือ ผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้ายืนยันว่า วิชชาและจรณะ เรานี่แหละคือธรรมสามี เรานี่แหละเป็นเจ้าของ พูดกับอัมพัฏฐะ แต่อัมพัฏฐะ ยืนยันว่าตัวเองมีจรณะ มีวิชชา ท่องพยัญชนะเก่ง จนคนอื่นคิดว่าเขามีวิชชาและจรณะ แต่สุดท้ายไล่จริงๆก็สารภาพตามที่เราอ่าน ว่า วิชชาเป็นไฉน จรณะเป็นไฉน หนูก็คือหนูไม่รู้ ท่านเป็นนกท่านรู้ ก็บอกหน่อย

นกนี่นกรู้นะ แต่หนูนี่หนูไม่รู้ ขออภัยพูดเหมือนพูดเล่นผสมเรื่องสัจจะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิชชาจรณสมบัติ และพรหม 20 ชั้น วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2565 ( 09:16:52 )

ธรรมะทวนกระแส

รายละเอียด

คุณเข้าใจเชื่อมั่น ผู้ให้ฟังเข้าใจเชื่อมั่นอาตมาเอาพระไตรปิฎกมายืนยัน มีมากมีผลจริง มีพฤติกรรมจริง เอาพระสูตรไหนมาอ้างอิงยืนยันได้ เถรสมาคมยืนยันอย่างอาตมาไม่ได้ อันนี้อาตมามั่นใจ พาพวกเราปฏิบัติธรรมแล้ว ก็ยืนยันได้ทั้งทั้งที่เป็นธรรมะทวนกระแส เป็นธรรมะที่ยาก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 15 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2563 ( 11:35:55 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:52:01 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:07:33 )

ธรรมะทวนกระแสโลกีย์

รายละเอียด

ธรรมะมาสอนให้คนมาจน ให้คนมาเสียสละ ให้คนมาขาดทุน มันเป็นธรรมะทวนกระแสโลกีย์ กระแสหลัก เถรสมาคม สอนไหม...​ไม่สอน เขาพูดอยู่นะ เขาบอกว่า ให้มาทำทาน แต่เขาสอนคำว่าทานของเขานั้นผิด ทานแล้วจะได้บุญ บุญคือการชำระกิเลสแต่เขาไม่ได้ชำระ ทานแล้วก็ เอา ประนมมือ อิมินา สักกาเรนะฯ อะไรของเขา เป็นคำแต่งใหม่ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้าเลย เอาบาลีมาแต่งแล้วก็หลอกกันไป ว่าได้ 

คุณทาน คุณต้องเสีย ไม่ใช่คุณได้ ก็ทาน ให้เขาไปแล้วเราก็ต้องเสีย วัตถุก็ให้เขาไปกิริยา กายกรรม วจีกรรม ก็ให้เขาไป ใจก็ต้องให้ แต่มือคุณให้ วาจาคุณให้ แต่ใจคุณ ข้าต้องได้คืนมากกว่านี้ ภาษาไทย เขาเรียกว่าตอแหล ตลบตะแลง ไม่จริงใจ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมส่งท้ายปีเก่า 2565 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2566 ( 11:57:46 )

ธรรมะทวนกระแสใจ

รายละเอียด

อย่างอาตมาซาบซึ้งมากแสดงธรรมแล้วมีแต่คนไม่ชอบใจ เพราะมันชัดเจน เขาเองเป็นคนโลกๆ เมื่อแสดงธรรมะทวนกระแสใจเขา ไปหักล้างสิ่งที่เขาต้องการ ดีไม่ดีไปข่ม ด่าด้วย ไปด่าไปข่ม ไปใช้ภาษา ดูถูกดูแคลนโลกีย์ เช่นอาตมาบอกว่า คนรวยนี่คือคนโง่ อะไรอย่างนี้ คนรวยเขาก็โกรธทำไมมาด่าเขา เขาจะรวยก็ต้องโกรธ แต่อาตมาพูดสัจจะวิชาการว่าคนรวยนี้โง่ นอกจากโง่แล้วก็บอกว่าคนรวยนี้เลว จริงๆนะ เป็นเรื่องลึกซึ้งมากเป็นเรื่องสุดยอด ถ้าคนเข้าใจแล้วว่าอาตมาพูดเป็นสัจธรรมแล้วแก้ไขปรับปรุงเสีย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:05:53 )

ธรรมะที่ทำให้อยู่ผาสุก 5 ประการ

รายละเอียด

อานนท์ แล้วตรัสต่อไปว่า ดูกรอานนท์ ภิกษุเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยตนเอง ไม่ติเตียนผู้อื่นในเพราะอธิศีล เป็นผู้ใส่ใจตนเอง ไม่ใส่ใจผู้อื่น เป็นผู้ไม่มีชื่อเสียงย่อมไม่สะดุ้งเพราะความไม่มีชื่อเสียงนั้น  เป็นผู้ได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ซึ่งฌาน 4 อันมีในจิตยิ่ง เป็นเครื่องอยู่สบายในปัจจุบัน และย่อมกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล ภิกษุสงฆ์พึงอยู่เป็นผาสุก ดูกรอานนท์ อนึ่งเราย่อมกล่าวได้ว่า ธรรมเครื่องอยู่เป็นผาสุกอย่างอื่น ที่ดีกว่าหรือประณีตกว่าธรรมเครื่องอยู่เป็นผาสุกเช่นนี้ ย่อมไม่มี ฯ

ธรรมะที่ทำให้เป็นอยู่ผาสุก 5 ประการ 

1. ถึงพร้อมด้วยศีล  ไม่ติเตียนผู้อื่นเพราะอธิศีล 

2. เพ่งดูกรรมของตนเอง  ไม่เพ่งโทษผู้อื่น 

3. ไม่มีชื่อเสียง  ย่อมไม่สะดุ้งเพราะไม่มีชื่อเสียงนั้น

4. ได้โดยไม่ยาก โดยไม่ลำบาก  ซึ่งฌานทั้ง4

5.  กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ  ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้   (พตปฎ. เล่ม22 ข้อ106) *ไม่สะดุ้ง = โน ปริตสฺสติ

ทั้ง 5 ข้อคือ ศีล สมาธิ ปัญญา คือไตรสิกขา ขยายเป็นจรณะ 15 วิชชา 8

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิบ้านราช วันศุกร์ที่ 17 มกราคม2563

หนังสืออ้างอิง

พระไตปิฎก เล่ม 22 ข้อ 106


เวลาบันทึก 26 มกราคม 2563 ( 15:53:54 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:52:57 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:10:03 )

ธรรมะที่สอนนำมาจากพระไตรปิฎก

รายละเอียด

มาศึกษาให้ดี ไม่ได้บังคับให้มาเชื่ออาตมา ฟังอาตมาและไปอ่านพระไตรปิฎกให้แตกให้ดีๆ ฟังอาตมาบ้าง อ่านพระไตรปิฎกด้วย ถ้าฟังอาตมาบ้าง แล้วอ่านพระไตรปิฎกตามไปด้วยอนุโมทนาสาธุ อาตมาไม่กลัวเลย คนที่อ่านพระไตรปิฎกและฟังธรรมะอาตมาไปทำความเข้าใจให้ดีๆ อาตมามั่นใจว่า อาตมาพูดตรงตามพระไตรปิฎก จะมีบางความที่เลือนบ้างนิดหน่อย แต่พระไตรปิฎกนี้ใช้ได้เกือบหมด มีนิดๆหน่อยๆใช้ไม่ได้ ยกตัวอย่าง วิโมกข์ 8 มีอัชฌัตตังอรูปสัญญี เอโก พหิทารูปานิปัสสติ เขาแปลว่า เอโกคือคนเดียว มันผิด แต่ที่จริงแปลว่าส่วนหนึ่งเท่านั้น ทำเนกขัมมะนี้ให้เป็นและคุณจะได้เป็นอรหันต์

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 21 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 06 มีนาคม 2564 ( 11:43:55 )

ธรรมะที่เป็นสาระ

รายละเอียด

ฟังแล้วพิจารณาและปฏิบัติอย่างสัมมาทิฏฐิจะเกิดปัญญา ธรรมะที่เป็นสาระไม่ใช่ธรรมะที่เป็นอสาระ ผู้ที่มีสาระคือผู้ที่รู้จักสาระ ผู้ที่ไม่มีสาระคือผู้ที่ไม่รู้จักสาระ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ยอดคนอาภัพที่มีระดับของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:39:58 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:07:49 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:11:52 )

ธรรมะที่แท้ ต้องปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีปัญญา 

รายละเอียด

ดีจังเลยนำธรรมะมาปรับใช้ในชีวิต อันนี้อาตมาถือว่าเป็นความสำเร็จ เป็นความสำเร็จที่อาตมามาทำงานธรรมะ คือมาอธิบายธรรมะแล้ว มีคนนำธรรมะไปปรับใช้กับชีวิต ปรับใช้ในชีวิตจริงๆ ปรับใช้แล้วไม่ใช่ปรับใช้ตามจารีตประเพณีเขาข้างนอก แต่มาปรับใช้อย่างที่เราเข้าใจว่า ศีลคืออย่างไร มีอปัณณกปฏิปทา 3 จริง มาสังวรศีล สำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะจริงๆ จนเกิดสัทธรรม 7 เกิดฌาน

เป็นฌานที่มันมีพลังงานจิตที่เผาหรือสลายละลายกิเลส เป็นพลังงานจิต เมื่อผู้ใด โยนิโสมนสิการ ได้ฝึกทำใจในใจของตน ตามสัมมาทิฏฐิตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้คือ จรณะ 15 วิชชา 8 มันก็จะเกิดพลังงานจิต ที่มีพลังปัญญาหรือเรียกว่า ฌาน มีพลังฤทธิ์ที่มันเหนือกว่าไฟราคะ เลยเรียกฌานนี้ว่า ไฟ พลังงานที่เป็นอุณหธาตุแล้ว มันเหนือกว่าพลังงานไฟ เขาเรียกพลังงานของกิเลสว่า ไฟ ก็เหนือกว่าไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ กิเลสที่เป็นไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ พลังฤทธิ์ของมันสู้ไม่ได้ ก็ค่อยๆสลาย ถ้าผู้ที่มีบารมีสูง พอเห็นหน้ากิเลสแล้วมันก็สลาย เหมือนพระพุทธเจ้าบอกกิเลสอย่าโผล่หน้ามา ตถาคตเห็นเธอแล้ว กิเลสไม่เข้าใกล้เลย ไม่รอหน้าเลย อย่างนี้เป็นต้น 

เพราะฉะนั้นพวกเรานี้ได้รับธรรมะแล้ว ก็เอาไปปรับใช้ในชีวิต เขาเข้าใจดีว่ามีตั้งมากมายที่ต้องนำมาปรับใช้ในชีวิต เขาจับประเด็นได้ถูกเลยว่าสิ่งสำคัญคือ ปัจจุบัน กรรมกิริยา เวลา ที่มันเป็นปัจจุบัน เราสัมผัสกับอะไร เราเผชิญกับอะไร ต้องเร็ว ต้องไวในการรู้เท่าทันในปัจจุบัน กิริยาปัจจุบัน พฤติกรรมที่เราสัมพันธ์กันอยู่ทุกสิ่งทุกอย่าง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สบายสงบและมั่นคงที่ 1 ในโลกคือประเทศไทย วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 7 ค่ำเดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 ธันวาคม 2565 ( 19:36:17 )

ธรรมะที่แท้นั้น คือการให้ การสละ

รายละเอียด

วันนี้วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก เราบำเพ็ญคุณมา ตั้งแต่วันที่ 26 27 นี่ก็เย็นแล้ว 27 เราก็บำเพ็ญคุณกันมาเรียบร้อย ลงแรงบำเพ็ญคุณ เป็นคุณงามความดี เราก็ได้บำเพ็ญทำกันมาเป็นงานเป็นการเกิดการสร้างสรรเสียสละ เราไปช่วยกันทำงานสร้างสรรเสียสละกัน ลงทุนลงแรง พวกเราส่วนมากลงแรง ส่วนกลางก็ออกทุนมา แล้วก็นำสิ่งที่จะให้เสนอสนองให้แก่ประชาชนมนุษยชาติ คนอื่นๆเขาเตรียมไว้พรักพร้อมแล้ว 

วันที่ 30, 31, 1 เราก็จะเปิดฉากให้เขารับไปซื้อหาไป อยากได้ของอะไรเราขายขาดทุน ขาดทุนจนกระทั่งบางเจ้าก็แถมบ้าง แจกฟรีบ้างบางอย่าง ก็ทำกัน ตามประสาของเราที่เห็นว่า ธรรมะที่แท้นั้น มันคือการให้ การสละ การเกื้อกูลกัน แล้วเราก็เรียนรู้ความจริงอันนี้กัน ฝึกฝนกัน อบรมกัน ปฏิบัติกัน จนกระทั่งเรามีวัฒนธรรมมีความเป็นจริง มีการประพฤติ ยิ่งกิเลสเราหมด จนเรามีแต่จะให้ผู้อื่น แม้ที่สุดเราไม่สะสมอะไรเลย เราไม่สะสมอะไรเป็นเราเป็นของเราเลย แต่เราก็ยังสร้างสรรอยู่ไม่หยุด อะไรที่เราควรสร้างสรร เราก็ทำ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนา บำเพ็ญธรรมภาคค่ำ ว.บบบ. เตรียมงานตลาดอาริยะปีใหม่ 2566 วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 05 มกราคม 2566 ( 15:00:42 )

ธรรมะที่ได้จากพ่อครูคืออย่างไร

รายละเอียด

ธรรมะที่ได้คืออย่างไร ธรรมะที่ได้คือของพระพุทธเจ้านะ ธรรมะที่ได้คือพูดตีเข้าหัวใจเลย ได้ลดกิเลส รู้จักกิเลส รู้อาการกิเลส กิเลสโลภ รู้กิเลสโลภ กิเลสโกรธรู้กิเลสโกรธ ปฏิบัติแล้วกิเลสโกรธเราลดจริงๆ ไม่ใช่ไปแบบที่เขานั่งหลับตาสะกดจิตให้กิเลสความโกรธความโลภ กิเลสราคะมันลด โดยอธิบายไม่ได้ รู้อาการลิงคนิมิตมันไม่ได้ จนกระทั่งไม่ออกมาทางกายวาจาและทางใจ ที่ไม่มีกิเลสทางกายวาจาใจแล้วยังเศร้าโศกถึงมีก็มีอย่างอ่อน 

จริงนะ 50 ปี พวกเรามาอยู่นี่ ราคะ โทสะ โมหะ มันจะมากจนเกิดกรณี เรียกว่าเกิดคดี มันก็ไม่มีวิวาทกันด้วย แย่งยศสรรเสริญ แม้แต่แย่งคู่ผัวตัวเมียที่ดูกันอย่างโลกๆ ที่เขาหยาบๆคายๆ มันก็ไม่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือชุมชนบุญนิยมที่มีมรรคผลจริง วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม 2563 ที่สันติอโศก


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:09:08 )

ธรรมะที่ไม่ผิด ถ้าไม่มีก็ผิด

รายละเอียด

ขออธิบายในศีล จรณะ 15 เป็นเนื้อหาวิชาการ 

อปันกปฏิปทา ถ้าไม่มี 3 ข้อนี้ก็ผิดไปจากศาสนาพุทธ ก็แปลว่าอันนี้เป็นธรรมะที่ไม่ผิด ถ้าไม่มีก็ผิด ศีลก็โมเม สมาธิก็ไปนั่งหลับตา ก็ไม่มี 3 ข้อนี้มันก็ผิด ในจรณะไม่มีคำว่าสมาธิ เพราะเป็นอธิศีล ที่จะเจริญไปเป็น อธิจิต อธิปัญญา อธิวิมุติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับ วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:57:56 )

ธรรมะนิยาม 5 เป็นกรรมกริยาของพระอรหันต์

รายละเอียด

อุตุ พีชะ จิต จิตอรหันต์คือทำจิตเป็นพีชะ ได้ อุตุได้ โดยการทำกรรมกิริยา ที่เป็นอุตุ พีชะ จิต กรรม ธรรมะ เป็นธรรมนิยาม 5 ชัดเจนกว่า คำว่าชีวะก็อธิบายได้ไม่ครบ 5 อาตมาอธิบาย อุตุ พีชะ จิต ไปบ้างแล้ว จิตจะมีภาวะทำได้ทั้งอุตุ พีชะ จิต กรรมจะทำกรรม ทำมนสิกโรติ หรือมนสิการ ทำใจในใจเราให้เป็นอุตุ พีชะ ได้ในเหตุปัจจัยที่เราสัมผัสอยู่ในโลก เราก็สัมผัสมันมันมีอยู่ในโลก แต่จิตใจเราหลุดพ้นจริงๆ ก็ไปทำที่กรรมแล้วก็ทรงไว้ซึ่งธรรมะ เป็นจิตที่เหนือ เป็นพระอรหันต์ก็ทรงไว้ในจิตที่เป็นอรหันต์เอาไว้ใช้งาน ธรรมะแปลว่าทรงไว้ กรรมแปลว่าการกระทำ กรรมกับธรรมะเป็นรูปกับนามที่คู่กัน กรรมเป็น Dynamic เป็นตัวนามธรรม ธรรมะเป็นตัวรูปธรรมเป็นตัว static เป็นรูปกับนาม

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2563 ( 16:31:08 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:19:32 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:13:02 )

ธรรมะนี่แหละทำให้ทุกอาชีพมีความซื่อสัตย์สุจริต

รายละเอียด

ผู้ที่จะมาศึกษาธรรมะนี่แหละเป็นหัวใจ เป็นเรื่องของจิตวิญญาณเป็นหัวใจของจิตวิญญาณที่ถ้าทำได้แล้ว เราจะทำงานอาชีพอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นกสิกร ชาวไร่ชาวนาทำสวนอะไรก็ทำได้ จะเป็นงานอะไรก็ตามอาชีพอะไรก็ตาม ซื่อสัตย์สุจริตหมด ทุกวันนี้งานที่โลกเขาฮือฮากันก็คือ งานการค้างานการหาเงิน ซึ่งผู้ที่เป็นโลกุตรชนมีโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้ามีภูมิปัญญา จะหยุดหาเงิน ไม่ทำอาชีพหาเงิน ยิ่งมีสังคมกลุ่มหมู่ที่เป็นสาธารณโภคี ชุมชนอยู่กันอย่างมีส่วนกลางสาธารณโภคี พึ่งกินพึ่งใช้ ตนเองเป็นคนมักน้อยสันโดษลงไปได้จริงๆ ยิ่งจะพิสูจน์ลงไปได้ซับซ้อนลึกซึ้งมาก

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 23 มกราคม 2564 ( 10:37:41 )

ธรรมะปรมะ เป็นเช่นไร

รายละเอียด

ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร อาเนญชาภิสังขาร อภิสังขาร 3 นี่เป็นโลกุตระทั้งนั้น (อภิสังขาร 3 พตปฎ. เล่ม 11 ข้อ 228) แล้วท่านก็ยังวนไปแปลเป็นโลกียะอีก ก็แสดงว่าท่านเองท่านอยู่กับธรรมะ แล้วท่านก็มีธรรมะ มีบรมธรรมะ ท่านมีธรรมบทเยอะ ธรรมะปรมะ เต็มไปด้วยธรรมะปรมะ ท่านรู้เยอะจริงๆ ตรงตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัส เป็นผู้รู้ธรรมของพระพุทธเจ้ามาก ท่องจำไว้ก็ได้มาก สาธยายอยู่ก็มาก แต่ทำไมไม่ได้บรรลุธรรมอะไร ขออภัยที่ต้องกล่าวความจริง ไม่ได้ไปดูถูกดูแคลน สงสารท่าน 

บุคคลผู้ปทปรมะ เป็นไฉน

บุคคลใดฟังพุทธพจน์ก็มาก กล่าวก็มาก ทรงจำไว้ก็มาก บอกสอนก็

มาก แต่ไม่มีการบรรลุมรรคผลในชาตินั้น บุคคลนี้เรียกว่า บุคคลผู้ปทปรมะ

พตปฎ. เล่ม 36 ข้อ 108 ปทปรมะ

อาตมาสงสารท่าน ท่านมาทำอาตมา ท่านมาลบหลู่อาตมา ท่านมาทำอะไรอาตมา อาตมาไม่ได้โกรธท่านเลยนะ อาตมากลับสงสารท่าน ท่านเป็นปราชญ์ของศาสนาพุทธในยุคที่มันเสื่อม เราก็เอาความจริงเข้ามาพยายามเปิดเผย ท่านเป็นผู้ที่ได้รับความนับถือยอมรับในประเทศไทย ในโลกด้วย ซึ่งเป็นคุณานุคุณมากเลย ถ้าเผื่อว่าท่านเข้าใจอาตมาแล้วชัดเจนว่า อ๋อ.. โพธิรักษ์จริงๆคือตัวจริง เท่านี้แหละไม่มากไม่มาย จะเป็น อย่าว่าแต่กุศลเลย มีมหากุศลมหาศาลเลย แต่มันก็เป็นไปตามสัจจะ 

เพราะฉะนั้น ผู้ที่ไม่สามารถมีผัสสะ ไม่มีเวทนา ปฏิบัติธรรมอะไรไม่ได้ แล้วเวทนานี่แหละเป็นฐานปฏิบัติ เป็นกรรมฐานของศาสนาพุทธ ถ้าไม่ได้เรียนรู้เวทนาในเวทนาอย่างสมบูรณ์แบบ คุณจะไม่เกิดสมาธิแบบพุทธ คุณจะไม่เกิดสติแบบพุทธ คุณจะไม่เกิดปัญญาแบบพุทธ คุณจะไม่เกิดวิมุตแบบพุทธ คุณก็อดเป็นอมตบุคคล คุณก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไม่ได้ เพราะคุณผิดมาตั้งแต่ไม่มีผัสสะแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูบวชมาครบ 53 ปี มีอะไรจริง พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 15:12:57 )

ธรรมะพรพุทธเจ้าลึกซึ้งกว่าศาสนาอื่นเช่นไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในศาสนาอื่นไม่สามารถจะแยกแยะรู้รายละเอียดของจิตวิญญาณ จิตวิญญาณเป็นพลังงานธาตุรู้องค์รวม แยกย่อยหลากหลายมากมาย ในธรรมะของพระพุทธเจ้า แม้จะแยกเป็นเวทนาก็เป็นเวทนา 108 กระบวนการ ธรรมะของพระพุทธเจ้า คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) . ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น)   มันลึกซึ้งมาก รู้ตามเห็นตามได้ยาก ไม่ง่ายเลย พูดไปแล้วก็เหมือนกับดูแคลนศาสนาอื่นศาสดาอื่น แต่ก็หลีกเลี่ยงความจริงไม่ได้ ผู้ใดมีจิตใจโทสะก็ต้องขออภัย มันไม่มีทางหลีกเลี่ยงเช่นนั้นที่จะต้องพูดความจริง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 09:46:02 )

ธรรมะพระพุทธต้องมีอ้างอิงยืนยัน

รายละเอียด

สรุปว่า นักการเมืองนี่แหละคือนักธรรมะที่ยิ่งใหญ่ ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองมีโลกุตระมีโลกานุกัมปา มีโลกวิทู เอามาทำงานกับมนุษยชาติ ตั้งใจฟังให้ดีอย่าไปรังเกียจรังงอน ที่สอนกันอยู่นี้ก็ดีขึ้นมากันเยอะแล้ว อยากให้คุณนั่นแหละดีให้ยิ่งกว่าอาตมาถ้าทำได้จริง นี่ไม่ใช่พูดเล่นถ้าคุณสามารถดีจริงๆเลยได้คุณธรรมสูงกว่าอาตมายิ่งดีเลย จะได้ช่วยกัน เพราะคนดีจะได้ทำงานเพื่อมนุษยชาติไม่ใช่มานั่งจับผิดกัน ส่วนคนที่มานั่งจับผิดอะไรกันนั้นยังมีจิตใจที่เป็นบาปให้มาศึกษาให้ดีๆแล้วลดละเสียสละ ก็พอดีอาตมาไปติเตียนมหาบัวมากไปหน่อยก็เลยโกรธกันใหญ่ก็ขออภัยที่อาตมาจะต้องใช้สิ่งที่จริงในมหาบัวเป็นปรากฏการณ์จริงในโลกยุคนี้ที่เป็นจริงมีจริง อาตมาก็อาศัยเป็นตัวอย่างเพื่อที่จะได้หยิบมาเป็นข้อยืนยันอธิบายขยายความ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีการอ้างอิง ธรรมะพระพุทธเจ้าต้องมีที่อ้างอิงยืนยัน อาตมาก็เลยต้องใช้วิธีนั้นก็ต้องขออภัยเพื่อสัจธรรมเพื่อความรู้ที่เป็นความจริงที่มันมีสิ่งที่ยืนยันได้ต้องมีที่อ้างอิง พระพุทธเจ้าก็ตรัสยืนยันบ้างพูดแล้วต้องมีที่อ้างอิงยืนยัน หากว่าพูดแล้วไม่มีที่อ้างอิงยืนยันสัมผัสรับรู้กันไม่ได้เป็นเอหิปัสสิโก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 10:23:02 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:20:46 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 09:14:11 )

ธรรมะพระพุทธเจัาน่าอัศจรรย์อย่างไรในปหาราทสูตร ข้อที่ 1

รายละเอียด

อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร  

 อาตมาจะเอา ปหาราทสูตร มาเป็นหลักในการอธิบายความมหัศจรรย์ ซึ่งมี 8 ข้อ 

1. พ. มี 8 ประการ ปหาราทะ 8 ประการเป็นไฉน ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรลาด ลุ่ม ลึกลงไปโดยลำดับ ไม่โกรกชันเหมือนเหว ฉันใด ในธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน มีการศึกษาไปตามลำดับ มีการกระทำไปตามลำดับ มีการปฏิบัติไปตามลำดับ มิใช่ว่าจะมีการบรรลุอรหัตผลโดยตรง ดูกรปหาราทะ ข้อที่ในธรรมวินัยนี้มีการศึกษาไปตามลำดับ มีการกระทำไปตามลำดับ มีการปฏิบัติไปตามลำดับ มิใช่ว่าจะมีการบรรลุอรหัตผลโดยตรง นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 1 ในธรรมวินัยนี้ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ

ที่ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ ในความเป็นลำดับ คนที่เรียงลำดับได้ดีที่สุดจะบรรลุธรรมได้เร็วที่สุด สั้นที่สุด ดีที่สุด สะอาดที่สุดด้วย เพราะมันไม่ไปวกวนอะไร ตรงไปทีเดียว ใสกระจ่างสว่าง ตรง ซึ่งหายาก เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่สุดในธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ทางธรรมชาติบอกว่าราบเรียบน่าอัศจรรย์ ตามเหตุปัจจัย อันนี้พระพุทธเจ้าก็มีเหตุปัจจัยเหมือนกันจึงทำให้เป็นลำดับในระยะสั้นราบเรียบสะอาดที่สุดเหมือนกัน ไม่เป็นโลกุตระก็คือไปนั่งหลับตาปฏิบัตินั่นแหละ พูดเพราะว่าสุดสงสาร เขาตั้งใจมาปฏิบัติดีแต่ก็หลงใหลติดยึดในทาง เดียรถีย์ มันข้ามขั้นลำดับสำคัญ มันจึงยอกย้อน ลำดับ เบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย หยาบ กลาง ละเอียด แต่นี่ไปนั่งหลับตาเล่นแต่ภายในอย่างเดียว มันผิดกระบวนธรรมไปเยอะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 18:28:22 )

ธรรมะพระพุทธเจัาน่าอัศจรรย์อย่างไรในปหาราทสูตร ข้อที่ 4

รายละเอียด

4. ดูกรปหาราทะ แม่น้ำสายใหญ่ๆ บางสาย คือ แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มหี แม่น้ำเหล่านั้นไหลไปถึงมหาสมุทรแล้ว ย่อมละนามและโคตรเดิมหมด ถึงความนับว่ามหาสมุทรนั่นเอง ฉันใด ดูกรปหาราทะ ฉันนั้นเหมือนกัน วรรณะ 4 เหล่านี้ คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ออกบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว ย่อมละนามและโคตรเดิมเสีย ถึงความนับว่าสมณศากยบุตรทั้งนั้น ดูกรปหาราทะ ข้อที่วรรณะ 4 เหล่านี้ คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ออกบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว ย่อมละนามและโคตรเดิมเสีย ถึงความนับว่าเป็นสมณศากยบุตรทั้งนั้น นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 4 ในธรรมวินัยนี้ ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ

อินเดียเขาถือวรรณะมากเลยนะ ให้เปลี่ยนยังไงก็ไม่ได้ เช่นคนจัณฑาล จะต้องอาบน้ำชั้นล่างสุด พราหมณ์จะอาบน้ำบนสุด ไหลจากพราหมณ์กษัตริย์แพศย์ศูทร จนกระทั่งมาถึงจัณฑาล อาบหลังสุด คนเขาบอกให้จัณฑาลขึ้นไปอาบข้างบนสิ ใครเขาก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นวรรณะไหน แต่จัณฑาลก็บอกว่าไม่เอา ไม่ได้ ไม่ทำ เขายึดมั่นถือมั่นจริงๆเลย ซื่อสัตย์จริง ซื่อจริงๆเลย

เพราะฉะนั้นอินเดียอยู่ได้ด้วยความซื่อสัตย์ คน 1,200 กว่าล้านคน เขาก็อยู่ร่วมกันได้ด้วยความซื่อสัตย์จริงๆยอดเยี่ยม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 19:10:47 )

ธรรมะพระพุทธเจัาน่าอัศจรรย์อย่างไรในปหาราทสูตร ข้อที่ 5

รายละเอียด

5. ดูกรปหาราทะ แม่น้ำทุกสายในโลก ย่อมไหลไปรวมยังมหาสมุทรและสายฝนจากอากาศตกลงสู่มหาสมุทร มหาสมุทรก็มิได้ปรากฏว่าจะพร่องหรือเต็มเพราะน้ำนั้นๆ ฉันใด ดูกรปหาราทะ ฉันนั้นเหมือนกัน ถึงแม้ภิกษุเป็นอันมากจะปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ นิพพานธาตุก็มิได้ปรากฏว่าจะพร่องหรือเต็มด้วยภิกษุนั้น ดูกรปหาราทะ ข้อที่ถึงแม้ภิกษุเป็นอันมากจะปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ นิพพานธาตุก็มิได้ปรากฏว่าจะพร่องหรือเต็มด้วยภิกษุนั้น นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 5 ในธรรมวินัยนี้ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 19:15:23 )

ธรรมะพระพุทธเจัาน่าอัศจรรย์อย่างไรในปหาราทสูตร ข้อที่ 6

รายละเอียด

6. ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรมีรสเดียว คือ รสเค็ม ฉันใด ดูกรปหาราทะฉันนั้นเหมือนกัน ธรรมวินัยนี้มีรสเดียว คือ วิมุตติรส ดูกรปหาราทะ ข้อที่ธรรมวินัยมีรสเดียว คือ วิมุตติรส นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 6 ในธรรมวินัยนี้ ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ อันนี้ไม่ต้องขยายความมากก็ได้ น้ำทะเลมีรสเค็มอย่างเดียว มีหลวงปู่ทวดที่ทำให้น้ำทะเลจืดได้ จึงเป็นเรื่องทึ่ง ลือกันเป็นตำนานมา เหยียบน้ำทะเลจืด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 19:23:59 )

ธรรมะพระพุทธเจัาน่าอัศจรรย์อย่างไรในปหาราทสูตร ข้อที่ 7

รายละเอียด

7. ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรมีรัตนะมากมายหลายชนิด รัตนะในมหาสมุทรนั้นมีดังนี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ สังข์ ศิลา แก้วประพาฬเงิน ทอง ทับทิม มรกต ฉันใด ดูกรปหาราทะ ฉันนั้นเหมือนกัน ธรรมวินัยนี้ก็มีรัตนะมากมายหลายชนิด รัตนะในธรรมวินัยนั้นมีดังนี้ คือ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 ดูกรปหาราทะ ข้อที่ธรรมวินัยนี้มีรัตนะมากมายหลายชนิด รัตนะในธรรมวินัยนั้นมีดังนี้ คือ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ประการที่ 7 ในธรรมวินัยนี้ ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ

ทั้ง 7 สูตรนี้ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 มันเป็นหลักธรรมที่ทุกคนต้องมี ทุกคนต้องเข้าใจ ทุกคนต้องทำครบ แต่พวกที่ตัดลัดมันไม่มี สติปัฏฐาน 4 ก็ไม่ครบ พิจารณากายนอก แล้วพิจารณากายใน เขาก็ไม่มี เขามีแต่กายใน ก็ไม่มีกาย กาย เขาก็มีแต่ลมหายใจเข้าออกสั้นยาว แล้วก็ไป อธิบายเป็น 16 หลัก อานาปานสติ16 หลักนั้น เป็นสิ่งที่เป็นธรรมะ ลืมตานี่แหละ 16 หลัก สัมผัสทั้งหมด ถ้าหลับตานั้นก็ได้แต่ตัวหนังสือ มันไม่มีสภาวะ 16 หลักนั้นได้หรอก 

เพราะฉะนั้นคนที่ตัดลัดพวกนี้จึงสะเพร่า มันไม่ครบ มันไม่มีทางบรรลุธรรมสรุปง่ายๆ พวกหลับตาปฏิบัติ ตีหัวเข้าบ้านเลย ไม่มีทางบรรลุธรรม เพราะโพธิปักขิยธรรม 37 ไม่ครบไม่มีพอ กายตั้งแต่ต้นเลย กายในกาย กายต้องมีนอกมีในด้วย อันแรกก็ไม่ได้แล้ว อันหลังจะไปได้อย่างไร กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด แล้วเม็ดอื่นๆกลัดต่อไปมันจะไปอย่างไร ดีไม่ดีจะไปผิดเป็นเม็ด 2 เม็ด 3 เม็ด 4 แค่กลัดกระดุมยังไม่รู้เรื่องเลย แล้วมันจะได้อะไร ยิ่งกว่านายธัมโม เท่ากับนายดีดี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 19:27:26 )

ธรรมะพระพุทธเจัาน่าอัศจรรย์อย่างไรในปหาราทสูตร ข้อที่ 8

รายละเอียด

8. ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรเป็นที่พำนักอาศัยของสิ่งที่มีชีวิตใหญ่ๆ สิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรนั้นมีดังนี้ คือ ปลาติมิ ปลาติมิงคลา ปลาติมิรมิงคลา พวกอสูร นาคคนธรรพ์ แม้ที่มีร่างกายประมาณ 100 โยชน์ 200 โยชน์ 300 โยชน์ 400 โยชน์ 500 โยชน์ มีอยู่ ฉันใด ดูกรปหาราทะ ฉันนั้นเหมือนกัน ธรรมวินัยนี้ก็เป็นที่พำนักอาศัยแห่งสิ่งมีชีวิตใหญ่ๆ สิ่งมีชีวิตในธรรมวินัยนี้ มีดังนี้ คือ พระโสดาบัน ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล พระสกทาคามีท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล พระอนาคามี ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามีผล พระอรหันต์ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์ ดูกรปหาราทะ ข้อที่ธรรมวินัยนี้เป็นที่พำนักอาศัยแห่งสิ่งมีชีวิตใหญ่ๆ สิ่งชีวิตมีในธรรมวินัยนี้มีดังนี้ คือ พระโสดาบัน ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล พระสกทาคามี ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล พระอนาคามีท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล พระอรหันต์ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์ นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 8 ในธรรมวินัยนี้ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ 

ดูกรปหาราทะ ในธรรมวินัยนี้ มีธรรมที่น่าอัศจรรย์ อันไม่เคยมีมา 8 ประการนี้แล ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 19:29:40 )

ธรรมะพระพุทธเจ้า 2500 กว่าปีสูญหายไปมาก

รายละเอียด

อาตมาว่าพูดไปแล้วก็น่าเห็นใจ คนที่ไม่ค่อยเข้าใจไม่รู้เรื่องธรรมะพระพุทธเจ้า น่าเห็นใจเขา เพราะมันยาก คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) . ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น) แต่ถ้าไม่พูดไม่อธิบายจะไปรู้ได้อย่างไร ขนาดที่อธิบายแล้วก็ยังขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นมันก็สูญไปเลย 2500 กว่าปี สูญหายไปเยอะแล้ว อาตมางมขึ้นมาเปิดเผยมาฟื้นใหม่

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 10:16:15 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 15:21:41 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 12:44:20 )

ธรรมะพระพุทธเจ้า มันผิดเพี้ยนไปจนไม่เหลือแล้ว 

รายละเอียด

กว่าอาตมาจะได้มาขยายรายละเอียดในคำว่า กาย อย่างนี้ก็นาน ปลูกฝังเรื่องพวกนี้มานาน จนกระทั่งเพิ่งมาเปิดขยายมาไม่นานใน 10-20 ปีนี้เท่านั้น อาตมาทำงานศาสนามาถึง 50 กว่าปีแล้ว ค่อยๆขยายรายละเอียดความละเอียดของธรรมะพระพุทธเจ้ามาเรื่อยๆ เพราะมันผิดมันเพี้ยนไปจนไม่เหลือแล้ว 

คำว่ากายเป็นคำต้นและเป็นคำกลางและเป็นคำปลาย ที่จะต้องใช้ประกอบกับความรู้ธรรมะโลกุตระของพระพุทธเจ้าอย่างสำคัญมากเลย คำว่า กาย ตั้งแต่ต้นถึงกลาง ในกลางก็มีรายละเอียดเยอะจนจบคำว่ากาย ก็จะเป็นคำที่จะต้องใช้ตรวจสอบถึงที่สุดที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในวิญญาณฐีติ 7 อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2566 วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ที่บวราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2566 ( 17:35:48 )

ธรรมะพระพุทธเจ้า เป็นเรื่องที่คนเกิดมาแล้วต้องใช้

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นธรรมะพระพุทธเจ้านี่เป็นเรื่องที่คน เกิดมาแล้ว ต้องใช้คำว่า ต้องได้รู้ ถ้าไม่ได้รู้ คุณจะวนเวียนอยู่ในนรกสวรรค์ ตกต่ำ ขึ้นสูงตกต่ำ เป็นโลกียะ อยู่อย่างนั้นตลอดเวลา คุณจะไม่หลุดออกมาเป็นโลกุตระ คุณจะเวียนวนไปไม่รู้กี่ล้านล้านชาติ  คุณจะจมวนอยู่อย่างนั้น แม้เขาจะเข้าใจในศาสนาเทวนิยม เขาอยู่ในโลกีย์ เขาวนเวียน แล้วเขาก็บำเพ็ญบารมีจนได้เป็นพระศาสดา เขานึกว่าเขาเที่ยง เขานึกว่าพระเจ้าเที่ยง เขาจะไม่ลงแล้ว แต่เขาไม่รู้หรอกว่า เขาจะต้องเวียนขึ้นลงอีกตามวิบากของเขาเวียนสูงลงต่ำอีก วนอีก ไม่รู้กี่ล้านชาติเพราะว่าเขาไม่รู้การหมุนเวียน เกิดตาย ตายเกิด เกิดตาย ตายเกิดไม่รู้กี่ล้านชาติ และมันก็เปลี่ยนขั้นชั้นไปตามความไม่รู้ นึกว่าดีก็เอาตามดี ดีมันเป็นโลกียะเท่านั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐีติ 7 ปฏิจจสมุปบาท และวิชชา 8 วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 วันแรม 14 ค่ำเดือนยี่ ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2566 ( 11:59:30 )

ธรรมะพระพุทธเจ้าก็จะไปไกลได้ด้วยเหตุใด

รายละเอียด

อาตมาเอามาจากบาลี คำว่าบาลีกับสันสกฤต ภาษาบาลีเกิดก่อน สังเกตได้ว่าสันสกฤตนี้มีพยัญชนะมากกว่าบาลี เพราะว่าสันสกฤตมันเกิดจากการขยายหลักเดิมคือบาลี แล้วภาษาสันสกฤตไม่เพิ่มเติมมากกว่าบาลี อย่างนี้เป็นต้น ภาษาบาลีมีอักษร 33 ตัวแต่ภาษาไทยก็มาอุตริเพิ่มเป็น 44 ตัว

แต่เอามาใช้แล้วก็ซ้ำซ้อน เช่น ข.ขวด ค.คน เป็นต้น มีพยัญชนะเพิ่มขึ้นบางอันก็ไม่ได้ใช้ เรื่องพวกนี้มันมีหลักฐาน มีที่ไปที่มาของอะไรต่ออะไรทั้งนั้น อาตมาคนหนึ่งเชื่อถือ หากคุณเชื่อถืออาตมา ธรรมะพระพุทธเจ้าก็เดินทางไปไกล อาตมาก็พยายาม จะช่วยสร้างให้มันเกิดความจริง ความเป็น ให้เกิดคนจำนวนมากขึ้นโดยสภาวะความจริง และเวลาที่ยาวนาน และกลุ่มหมู่มีผู้รู้มีคนแสวงหาเข้ามาเป็นมวลรับรองเพิ่มเติมขึ้นๆ มันก็จะทำให้คนยอมรับนับถือเพิ่มขึ้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 37 วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2561 


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:50:48 )

ธรรมะพระพุทธเจ้าน่าอัศจรรย์อย่างไรในปหาราทะสูตรข้อที่ 2

รายละเอียด

2. ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ ไม่ล้นฝั่งฉันใด สาวกทั้งหลายของเราก็ฉันนั้นเหมือนกัน ไม่ล่วงสิกขาบทที่เราบัญญัติไว้แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต ดูกรปหาราทะ ข้อที่สาวกทั้งหลายของเราไม่ล่วงสิกขาบทที่เราบัญญัติไว้แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 2 ในธรรมวินัยนี้ ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 18:31:15 )

ธรรมะพระพุทธเจ้าน่าอัศจรรย์อย่างไรในปหาราทะสูตรข้อที่ 3

รายละเอียด

3. ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรไม่เกลื่อนด้วยซากศพ เพราะในมหาสมุทรคลื่นย่อมซัดเอาซากศพเข้าหาฝั่งให้ขึ้นบก ฉันใด ดูกรปหาราทะ ฉันนั้นเหมือนกัน บุคคลผู้ทุศีล มีบาปธรรม มีสมาจารไม่สะอาดน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญญาว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญญาว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน ชุ่มด้วยราคะ เป็นเพียงดังหยากเยื่อ สงฆ์ย่อมไม่อยู่ร่วมกับบุคคลนั้น ประชุมกันยกวัตรเธอเสียทันที แม้เขาจะนั่งอยู่ท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงกระนั้น เขาก็ชื่อว่าห่างไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ห่างไกลจากเขา ดูกรปหาราทะ ข้อที่บุคคลผู้ทุศีล มีบาปกรรม มีสมาจารไม่สะอาดน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว ไม่ใช่สมณะ แต่ปฏิญญาว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญญาว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน ชุ่มด้วยราคะ เป็นเพียงดังหยากเยื่อ สงฆ์ย่อมไม่อยู่ร่วมกับบุคคลนั้น ประชุมกันยกวัตรเธอเสียทันทีแม้เขาจะนั่งอยู่ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงกระนั้น เขาก็ชื่อว่าห่างไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ห่างไกลจากเขา นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 3 ในธรรมวินัยนี้ ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯถ้าสงฆ์ส่วนน้อยส่วนตัวทำผิด เขาก็เหมือนหมาหัวเน่าที่สงฆ์ส่วนใหญ่ก็วางเฉย เรียกว่า พรหมทัณฑ์ เป็นโทษที่รองจากปาราชิก อยู่ก็อยู่เหมือนหมาหัวเน่า เป็นภาวะที่ไม่มีใครเห็นเขาเป็นคนอยู่ในหมู่เลย เป็นการกดดันลึก เป็นลักษณะลงโทษแบบผู้ดีของศาสนาพุทธ มันรองจากปาราชิกเลย ส่วนปาราชิกให้ออกจากหมู่เลย แต่พรหมทัณฑ์ให้อยู่ในหมู่กลุ่มแต่เหมือนกับเขาไม่มีอยู่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 18:50:27 )

ธรรมะพระพุทธเจ้ามีข้อตัดสินว่าถูกต้องหรือไม่ 5 ข้อ

รายละเอียด

รายละเอียดของธรรมะพระพุทธเจ้านั้น พุทธคุณข้อที่ 1 ใน 9 เรียกว่า วิชชาจรณสัมปันโน เอาอันนี้เป็นเครื่องตัดสิน 

1. มีศีล 

2. มี อปัณณกปฏิปทา 3  

3. มีสัทธรรม 7 

4. มีฌานที่เป็นสัมมาทิฏฐิแบบพุทธ 

5. มีวิชชา 8 

เป็นเครื่องมาขยายเหตุปัจจัยที่เกิดของคุณ คุณอย่าตัดทิ้งอันใดอันหนึ่งเป็นอันขาด ถ้าคุณตัดทิ้งมันก็ไม่ครบ ไม่สมบูรณ์ ไม่ต้องตัดทิ้ง ถ้าคุณมีแม้แต่น้อยนิด อย่างศีลก็มีอยู่หน่อยหนึ่ง อปัณณกปฏิปทา 3 ก็ปฏิบัติอยู่หลายบ้าง เกิน 50% ถ้าไม่เกิน 50% ก็น้อยไป ปฏิบัติ อปัณณกปฏิปทา 3 ไม่ถึง 50 % น้อยไป เกิน 50% ก็ได้ผลได้ผลมาเป็นสัทธรรม 7 

สัทธรรม 7 มีอะไรบ้าง คุณก็รู้เนื้อแท้ของ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหุสัจจะ วิริยะ สติ  ปัญญา คุณต้องรู้ความหมายของพยัญชนะเหล่านี้ว่ามันมีอย่างไรนะ 

อย่างนี้แหละ คือลักษณะของพลังงาน ที่ล้างสิ่งที่ไม่ถูกสิ่งที่ไม่ดี เหลือแต่สิ่งที่ถูกสิ่งที่ดี หรือล้างโลกียะมาเป็นโลกุตระ ก็เป็นฌานของ พระพุทธเจ้าตามลำดับ ฌาน 1 2 3 4 โดยมีธาตุรู้คือวิชชา 8 เป็นเครื่องกำกับ ตั้งแต่ วิปัสสนาญาณ มโนมยิทธิ อิทธิวิธญาณ โสตทิพย์ เจโตปริยญาณ 16 ทบทวนด้วยเตวิชโชอีก 3 บุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ มีครบแล้วคำสอนพระพุทธเจ้า วิชชาจรณสัมปันโน สุดยอดแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมีความไม่มี สิทธัตถะและสิริมหามายา วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กันยายน 2565 ( 11:39:30 )

ธรรมะพระพุทธเจ้ามีลักษณะ

รายละเอียด

คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุธนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษแม้จะวุ่นอยู่) ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับไม่ข้ามขั้น) อัตกตวจรา (คาดคะเนอันเดาไม่ได้) นิปุณา (ละเอียดลึกซึ้งถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะ ผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น (พระไตรปิฎกเล่ม 9 ข้อ 34) แม้รู้ล่วงหน้าเป็น อนาคตังสญาณ อยู่ได้บ้าง

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562

หนังสืออ้างอิง

พระไตรปิฎกเล่ม 9 ข้อ 34


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 15:25:58 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:54:34 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 12:43:25 )

ธรรมะพระพุทธเจ้ามีลำดับอย่างน่าอัศจรรย์

รายละเอียด

ทีนี้มีผัสสะ บางคนก็อาจพอเข้าใจว่ามีผัสสะ แต่มีผัสสะแล้วไม่รู้จักเวทนา หรือรู้จักเวทนาไม่พอ ในเวทนานี้พระพุทธเจ้าท่านแยกถึง 108 ยังดีนะที่มีในพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐนี่ ยังเก็บคำว่า”เวทนา 108”  มีอะไรบ้าง ยังมีสูตรที่เก็บไว้ แต่เขาไม่มีสาธยายละเอียดลออ มีอยู่ในอภิธรรม แจกพยัญชนะไว้เหมือนกัน อยู่ในเวทนา 8 แล้วแจกไว้แค่ว่ามีเวทนา 2 เวทนา 3 เวทนา 5  เวทนา 6 เวทนา 18 เวทนา 36 เวทนา 108 คนไม่รู้จักก็อธิบายไม่ออก ก็อธิบายตามพยัญชนะเล็กๆน้อยๆ แต่อาตมาอธิบายสู่พวกเราฟังหมดแล้ว และเชื่อว่ามีผู้เข้าใจ เข้าใจแล้วเอาไปปฏิบัติได้ 

เช่น เวทนา 2 กายิกเวทนากับเจตสิกเวทนา ก็หมายความว่า      อันหนึ่งเรียกว่าเวทนาอย่างกาย อันหนึ่งเรียกว่าเวทนาอย่างเจตสิก หรือเจตสิกเวทนา แม้แต่คำว่า กาย ถ้าไปเข้าใจคำว่ากายคือ สรีระ คือวัตถุ คือไม่มีจิต ไม่มีเจตสิกเข้าไปร่วมเลยเดี่ยวๆ กายคือธาตุวัตถุ กายคือธาตุ ไม่มีจิตไปร่วมเลย แบบนี้โมฆะตั้งแต่สังโยชน์ข้อที่ 1 สักกายทิฏฐิ มิจฉาอยู่เลย 

เพราะฉะนั้น ผู้ที่คำว่ากายมิจฉาทิฏฐิอย่างนี้แล้ว ปิดประตู ถ้ามิจฉาทิฏฐิเข้าใจว่าเป็นกายผิดตัวเดียวนี่แหละ แล้วพุทธในเมืองไทยผิดอย่างนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่ผิดจะไม่ไปนั่งหลับตา “เฮ้ย! ไม่มีกายได้อย่างไร กายต้องมีจิต จิตต้องมีกาย” ถึงจะปฏิบัติได้สมบูรณ์ ถูก เป็นปัจจุบันธรรม เป็นทิฏฐธรรม เป็นธรรมะที่มีปัจจุบันชาติ ถ้าไม่มีกาย ก็เป็นคนตาบอด หูหนวก ปฏิบัติธรรมตาบอด หูหนวก ไปมีอยู่แต่ข้างในอย่างเดียว ตาก็บอด หูก็หนวก จมูกก็ไม่ได้กลิ่น ลิ้นก็ไม่ได้รับรส กายสัมผัสก็ไม่รู้เรื่อง มันใช้ไม่ได้ โลกนี้ไม่ได้มีจิตในจิตอย่างเดียว เพราะฉะนั้นจะไปปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 ก็ปฏิบัติไม่เป็น ปฏิบัติไม่ได้ เพราะกายก็ผิดแล้ว จะเรียนรู้กายในกาย-เวทนาในเวทนา-จิตในจิต ธรรมในธรรม ไม่ได้แยกกันเลย มีกายถึงมีเวทนา สัมผัสอันนี้ถึงมีสภาพธรรมที่รู้ แล้วก็พยายามทำ(เวทนา 2)ให้เป็น 1 ในเวทนา “เวทนา 1” คืออะไร คือ เจโต จิตในจิต มีกิเลสกับตัวจิตสะอาดจริง ก็ทำให้กิเลสมันออกไปเหลือจิตสะอาดเป็น 1 จริงๆ 

เมื่อคุณทำจิตสะอาดเป็น1ได้แล้ว เช่นพระอรหันต์ ทำจิตสะอาดหมดแล้ว ไม่มีกิเลสเกิดอีกเลย คุณก็จะเป็นผู้จบ ผู้ที่จบอรหันต์และเป็นผู้จบ จบกิจ จบทุกอย่าง คุณจะเกิดอีก คุณจะตายอีกคุณจะอยู่อีกหรือไม่อยู่อีก คุณจะปรินิพพานเป็นปริโยสาน ก็ได้หมด จบกิจอยู่ตรงนี้ หรือคุณจะต่อก็ต่อได้ เหมือนอย่างอาตมา อาตมาพูดถึงอรหันต์ต่อได้เพราะเป็นอรหันต์ที่ต่อมา อาตมาไม่ได้จบแค่ที่อรหันต์ที่ 1 อรหันต์ที่ 2 อาตมาก็ผ่านมา อรหันต์ที่ 3 ก็ผ่านมาแล้ว นี่เป็นอรหันต์ที่ 4 นี่ดีว่าอาตมาก็อธิบายไว้หมดแล้ว ก็มายืนยัน 

ถ้าอาตมาไม่มีความจริงพวกนี้ อาตมาจะมารู้ได้อย่างไรพวกนี้ เอามาพูดได้ยังไง พูดแล้วไม่ใช่พูด ไม่เห็นรู้เรื่องเลย พูดอะไรก็ไม่รู้พูดไปพูดมา พูดอีกทีก็สับสน พูดอย่างไม่เข้าใจ อาตมาพูดสับสนไหม  ยิ่งเข้าใจลึกซึ้ง ยิ่งเข้าใจว่ามันมีระดับอย่างน่าอัศจรรย์ มีลำดับอย่างละเอียดเนียนในอย่างน่าอัศจรรย์ใช่ไหม เป็นจริงตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้หมด 

ถ้าเผื่อว่าอาตมานำธรรมะโลกุตระมาประกาศนี้ ไม่เป็นเช่นที่เป็นนี้ พอมาประกาศแล้วปรากฏว่า โอ้โห เถรสมาคมรู้ดีหมดเลย จะชื่อว่าเสื่อมไหม?  มันก็ไม่เสื่อมสิ โลกุตระ แต่นี่อาตมาเอามาประกาศแล้วปรากฎว่าเถรสมาคมจะเอาอาตมาตายเลย เห็นโลกุตระเป็นของผิด จะเอาตายเลย แต่อาตมา ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ  ธรรมรักษาผู้ประพฤติธรรม อาตมาจึงอยู่รอด แล้วก็ทำได้จนกระทั่งมาเกิดอันนี้ขึ้นมาเทียบเคียง

เพราะฉะนั้นในขณะนี้ ท่านผู้ที่ใฝ่หา ผู้ที่แสวงหา ท่านผู้ที่แม้จะมีอคติแล้ว จนวันนี้นี่ อคติท่านจะลดลง นั่นคือความเจริญของท่านเกิด แต่ถ้าท่านยังอคติต่อ ยิ่งเข้าใจผิด ยิ่งอคติต่อ เห็นว่าอาตมานี้ โอ้โห ยิ่งดันทุรัง ว่างั้นนะ มาทำลายศาสนาหนักขึ้น แต่ท่านก็ทำอะไรอาตมาไม่ได้แล้ว ถ้าจิตท่านเข้าใจอย่างงั้น น่าสงสารท่านเลย ท่านที่มีความเข้าใจอย่างนี้ แต่ผลสะท้อนที่เกิดขึ้น ผู้ที่จะมาโต้มาต้านมาเถียงมาแย้ง น้อยลงน้อยลงแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูบวชมาครบ 53 ปี มีอะไรจริง พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 15:24:19 )

ธรรมะพระพุทธเจ้ายอดเยี่ยม

รายละเอียด

ธรรมะพระพุทธเจ้ายอดเยี่ยม  คือ  ลึกซึ้ง ไม่เก่า  จะเป็นระบอบไหนก็ตาม  ประชาธิปไตย เผด็จการ  คอมมิวนิสต์  เข้าได้หมด  ไม่เป็นภัยแก่ใคร  เป็นประโยชน์ต่อทุกระบอบ เขาไม่รังเกียจสุดยอด  ระบอบของพระพุทธเจ้าทันสมัยที่สุดยิ่งกว่าทุกประเทศ ทุนนิยมเขาไม่รังเกียจ เราไม่ได้เบียดเบียนแข่งชิงเขา  ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้  เราปล่อยให้เขา  จะโลภก็โลภไป  จะโทสะก็โทสะไป จะโมหะก็โมหะไป  แต่เราอย่าไปเบ่งอวดดี  ว่าลัทธิเราสูงเราดี  จนเขาเองรู้สึกว่าถูกข่ม  ด้อยกว่ามีมานะกิเลส  แต่การจะพูดโดยสัจจะว่าอันนี้ดีกว่าหรือเท่ากัน  ต้องศิลปะในการพูด

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2562 ( 07:11:55 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:11:12 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 12:45:26 )

ธรรมะพระพุทธเจ้ารู้เองไม่ได้

รายละเอียด

คือ การเลือกให้ถูกมันย่นเวลาได้ อาตมาบอกได้ว่า อาตมาถูก ส่วนคุณเป็นผู้มาตามฟัง  สรุปย้ำว่าต้องมาตามฟัง ผู้ที่อยู่ในฐานะของครู หรือ สัตบุรุษ ธรรมะ พระพุทธเจ้ารู้เองไม่ได้  คุณต้องรู้ตามพระพุทธเจ้า  หรือรู้ตามสัตบุรุษ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน2562


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2562 ( 14:04:40 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:18:09 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 12:46:46 )

ธรรมะพระพุทธเจ้าสุดยอด

รายละเอียด

มีองค์ประกอบมีสถานที่ เสนาสนะ บุคคล ที่เป็นมิตรดีสหายดีอยู่ร่วมกันแล้วมีเครื่องอาศัยเรียกว่าอาหาร เครื่องกินเครื่องใช้ก็ดี เครื่องอาศัยทางพฤติกรรมต่างๆนานา คำว่าอาหารนั้นกว้าง เป็นสิ่งที่สัมพันธ์กันอยู่ อิทัปปัจจยตาต่อเนื่องถ่ายทอดอะไรกันอยู่ เข้าไปในร่างกายก็เรียกว่าอาหาร ผัสสะอยู่ก็เรียกว่าอาหาร แต่ที่มันต่อเนื่องเป็นจิตเจตสิก เป็นเวทนา เป็นสัญญา ก็เรียกว่าอาหาร ที่สุดถึงขั้นวิญญาณคือธาตุวิญญาณ ก็เป็นอาหาร ธรรมะพระพุทธเจ้าสุดยอดอย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 15:32:50 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:22:01 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 12:55:15 )

ธรรมะพระพุทธเจ้าสุดยอดคุ้มครองโลก

รายละเอียด

วันนี้อาหารจีนอาหารไทยกำลังแย่งลูกค้า อาหารไทยเป็นหนึ่งในการหลอกมนุษย์มนามันเป็นบาป ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หลอกให้เขาติดในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสมันเป็นบาป พูดไปมากๆเดี๋ยวเขาจะมาหาเรื่องเอาเรื่องกับเราเพราะคนที่ติดในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสนั้นมีเยอะ อนุโลมไปก่อน ก็ค่อยๆว่ากันบ้าง ใครที่มีปฏิภาณปัญญาถึงขั้นก็จะค่อยๆเข้าใจค่อยๆลดลงไป ใครไม่เข้าใจก็จะบอกว่ามันอร่อยมันดี มันเป็นอะไรเขาก็ว่ากันไป สรุปแล้วศึกษาให้ดีๆ ธรรมะพระพุทธเจ้าสุดยอดที่จะคุ้มครองโลก สุดยอดที่จะเป็นผู้ช่วยโลก อนุเคราะห์โลก โลกานุกัมปาอย่างแท้จริง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 16:11:45 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:32:23 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:02:32 )

ธรรมะพระพุทธเจ้าเกิดจริงเป็นจริงเชิญมาพิสูจน์

รายละเอียด

แต่เราก็สามารถทำให้คนรับธรรมะพระพุทธเจ้าและเอาไปประพฤติปฏิบัติ จนสามารถหลุดพ้นมาจากหมู่คนพาล หมู่ที่ยังอยู่ในโลกีย์จัดจ้านหยาบๆ ไม่เอาแล้ว นิสัย ชีวิตแบบนั้นมาเอาหลุดพ้นไม่มีกิเลสไม่มีจิตวิญญาณที่มีอวิชชาอย่างนั้นอีกแล้ว จนมาอยู่รวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มที่เปรียบเทียบกันได้เลยว่าต่างกัน ใครจะเห็นจะยอมรับ ใครจะเข้าใจได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่บุคคล เราไปบังคับกันไม่ได้ แล้วมันเกิดจริงเป็นจริงเพื่อให้ยืนยันพิสูจน์ เราก็ยืนยันว่าเราเป็นจริงอย่างนี้ เราไม่ได้เสแสร้งไม่ได้หลอกลวง เราเป็นจริง เห็นจริงเป็นจริง แล้วเราก็ไม่ได้ไปข่ม ไปเบียดเบียนทำร้ายคนอื่น มีแต่ยอม เป็นผู้ให้ เป็นผู้ที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วยซ้ำ อัตตาตัวตนไม่มี หรือลดอัตตาตัวตนให้หมดไปให้ได้ ให้เหลือน้อยจนมันหมดได้จริง ก็เป็นผู้ที่อยู่อย่างเป็นคนที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น อุ้มชูผู้อื่นอย่างแท้จริงไม่ใช่คารมเล่นลิ้น ใช่พูดเอาโก้ แต่เป็นเรื่องจริง ก็เชิญมาพิสูจน์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาด้วยปัญญามุทุภูเตของพ่อครู วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 15:35:47 )

ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะที่ทำให้ละตัวตนและความเห็นแก่ตัว

รายละเอียด

ธรรมะพระพุทธเจ้านี่แหละ ธรรมะที่ทำให้ละตัวตนและความเห็นแก่ตัว เป็นภาษา ความเห็นแก่ตัวคืออะไร ความเห็นแก่ผู้อื่นคือช่วยเหลือผู้อื่น สร้างสรรเพื่อผู้อื่นไปจริงๆ เห็นประโยชน์จริงๆเลย เป็นคนที่ฉลาดและมีปัญญาจริงๆ 

เราเกิดมาเป็นชีวิตหนึ่งชีวิต เกิดมาแล้วก็กินๆ ขี้ๆ เยี่ยวๆแล้วก็ตาย มันจะได้อะไร มันมีแรงงาน มีมือมีเท้า มีกำลังวังชาเอาออกมาทำ ก็เอาไปทำสร้างสรร เราถนัดอะไร เรามีความรู้ความสามารถอะไร เราก็ทำขึ้นมาอันนั้น อันที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ไปทำอันที่ทำลาย เอาความรู้ความสามารถแรงงานไปสร้างสิ่งที่ทำลาย ผลาญพร่า ชิบหาย เราก็มีปัญญาพิสูจน์ ปัญญาที่จะตัดสิน อันนั้นมันไม่ควรจะไปทำ ไปทำอันสิ่งที่ควรที่ควรทำ แล้วก็เลือกทำสิ่งที่ควร ทำแล้วแน่นอนสิ่งที่ดีมันก็จะเป็นผลผลิตเป็นแรงงานที่ดี มันก็เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไปต่อไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 19:40:38 )

ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นอภิธรรมที่ละเอียดสูงอย่างนี้

รายละเอียด

อาตมาจะบอกว่าจำเป็นก็จำเป็นที่จะต้องนำสิ่งที่เป็นธรรมะพระพุทธเจ้าที่เป็นอภิธรรมที่ละเอียดสูงอย่างนี้ เอามาอธิบายสาธยายเปิดเผยขึ้น ขนาดเปิดเผยขึ้น ย้ำแล้วย้ำอีก ขยายความแล้วขยายความอีกมันยังไม่ง่ายใช่ไหม มันจำเป็นที่จะต้องต่อยอดธรรมะพระพุทธเจ้าโลกุตรธรรมเอาไว้ ยังไม่สูงสุดหรอกนะ รู้ไว้ด้วย ยังไม่สูงสุดหรอก แต่ผู้ที่พอใจเรียนก็เรียนไปเถอะ ผู้ที่ไม่พอใจเรียนก็เรียนไปเถอะ ผู้ไม่เอาเขาจะบอกว่าพูดอะไรนะ ซึ่งมันน่าเห็นใจเขาไม่รู้เรื่อง เขาจับไม่ติด เหมือนเด็กๆ เด็กๆที่ไม่เดียงสาเขาก็ฟัง เอ๊! ไม่รู้เรื่อง มันก็ไม่เอา ก็มันไม่รู้เรื่องจะไปรับเอาอย่างไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ของผู้มีอภิภายตนะ 8 วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 11:26:25 )

ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นเศรษฐศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบ

รายละเอียด

ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นเศรษฐศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบ คือ การเอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาฝึกจิต แก้ไขจิตวิญญาณ ก็ไม่แย่งชิง เป็นผู้ที่ยินดีเสียสละ เป็นผู้ที่ยินดีเป็นผู้ที่จะมักน้อย สันโดษ เป็นผู้ที่สร้างสรรและแจกจ่ายผู้อื่นอย่างมีปัญญารู้ว่าตัวเองเป็นคนมีประโยชน์ เป็นคนสร้างได้มาก แล้วก็ใช้น้อย เอาไว้น้อย นอกนั้นเอาไว้สะพัดให้คนอื่น พวกเราไม่เป็นภาระแก่ผู้บริหารบ้านเมือง ช่วยบริหารบ้านเมือง โดยอัตโนมัติ มีพฤติการณ์ณืของการเป็นอยู่ ทำมาหากิน ทำการงานอยู่ในสังคมซึ่งไม่เป็นภาระแก่ผู้บริหารประเทศเลย ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา เพราะแม้แต่ประชากรคนอื่นก็มีความเป็นโลกียะ แล้วพวกเราก็ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นเผื่อเจือจานเสียสละ  ซึ่งเป็นคุณสมบัติคุณธรรมที่สุดยอดวิเศษ นี่เป็นเรื่องของพระพุทธเจ้าที่สุดยอด

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 68 วันจันทร์ที่ 9 เดือนกันยายน 2562


เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 14:52:48 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:33:36 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:05:23 )

ธรรมะพารู้แจ้งจบเรื่องมนุษย์และจิตวิญญาณ

รายละเอียด

ธรรมะนี่แหละจะทำให้พวกเราได้รู้แจ้งจบเลยว่า มนุษย์อยู่รวมกันเป็นสัตว์โขลง แล้วก็มีจิตวิญญาณเป็นธาตุรู้ ที่สามารถรู้ว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างดีที่สุดมีประโยชน์คุณค่าที่สุดอย่างไร ประเสริฐสุดอย่างไร 

มนุษย์ดีที่สุดในตัวแต่ละคน แล้วก็ทำให้รวมตัวกันเป็นสังคมที่ดีที่สุดในโลก พระพุทธเจ้าค้นพบอันนี้จริงๆ ครบหมดทุกแขนงวิทยาครบศาสตร์ต่างๆ เท่าที่มนุษย์จะพึงมีในมนุษย์ แม้แต่เป็นศาสตร์ที่เป็นเรื่องเทคนิค ท่านก็รู้หมด แต่ท่านไม่ไปส่งเสริมศาสตร์ทางเทคนิค แต่ท่านมาส่งเสริมศาสตร์ทางจิตวิทยา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

เป็นโลกุตระได้เพราะเหนือมนุษย์โลก


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 19:37:11 )

ธรรมะพ่อครูต่างจากของสำนักอื่น

รายละเอียด

พวกนี้ชอบดูมวย จ้างก็ไม่ไปชกกันหรอก คุณสุจินต์ก็สนใจธรรมะมาตลอดชีวิต อายุ 90 กว่าแก่กว่าอาตมา สนใจพระอภิธรรมเป็นหลัก ซึ่งอาตมาก็เป็นอภิธรรม แต่คนละอย่างกัน อภิธรรมอย่างอาจารย์สุจินต์ เต็มไปด้วยภาษา ทำมาจนกระทั่งชีวิตอายุ 90 กว่า มันน่าจะมียิ่งกว่าชาวอโศก อาตมามาทำทีหลังทำช้ากว่า อายุก็น้อยกว่า แต่ใช้เวลาทำงานศาสนามาน้อยกว่าอาจารย์สุจินต์ ยังได้เป็นรูปธรรม เป็นชุมชนเป็นสังคม มีวัฒนธรรม มีชีวิตจริง เข้ามารวมกัน เอาเนื้อหาสาระศาสนามาเลย มีศีล มีสมาธิ มีปัญญา

ศีลก็มี แต่ของเราศีลนั่นมาขัดเกลากิเลสจริงๆเลย ปฏิบัติศีลข้อ 1 จนกระทั่งถึงขั้นไม่กินเนื้อสัตว์ ทางโน้นก็อย่างนี้แหละเป็น สีลัพพตปรามาส สีลพตุปาทาน ไม่ใช่ง่ายๆ ก็เห็นๆกันแต่ละคนก็ปฏิบัติไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณา ครั้งที่ 39 สร้างอาหารให้กับโลก วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 12 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2564 ( 11:07:55 )

ธรรมะพ่อครูไม่เหมือนใคร...ตรงที่มีคนทำตามได้จริง

รายละเอียด

แสดงธรรมไม่เหมือนใคร เรื่องนี้เอาดีๆ อาตมาแสดงธรรมไม่เหมือนใคร คำนี้ลึกซึ้งมาก เกิดมาชาตินี้จริง อาตมาแสดงธรรมไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนหมายความว่าแสดงแตกต่างจากที่เขาแสดงกันมาแล้ว นานแล้วแบบนั้น แนวนั้น พออาตมาเกิดอาตมาก็แสดงธรรมขึ้นบ้างแล้วมันไม่เหมือนที่เขาแสดง มันไม่เหมือนถึงขั้นว่าเขาบอกขาวเป็นดำ อาตมามาบอกดำเป็นขาว มันก็เลยไม่เหมือนกัน มันก็เลยเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องอย่างที่มันเป็น อาตมาก็เลยโดนต้านว่านี่ว่าอาตมาผิดจะมาทำลายศาสนา เริ่มต้นที่อาตมาอธิบายโดยเอาพยัญชนะบาลีแปลโดยอัติโนมัติของอาตมา มันไม่เป็น ไวยากรณะ วจีวิภาค วากยสัมพันธ ฉันทลักษณ์ ซึ่งมันเพี้ยนออกไปนอกโลกุตระแล้ว มันเสื่อม มันไม่เป็นโลกุตระ มันเป็นโลกๆ เป็นคำวิจิตรตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในอาณิสูตร เป็นคำของอรรถกถาจารย์ เป็นของอาจารย์ปรุงแต่งแล้วความหมายของสภาวธรรมมันออกนอก มันไม่เป็นโลกุตระแล้ว นอกจากไม่เป็นแล้วกลบเกลื่อนทับถมเลย 

พออาตมาเอาโลกุตระมาพูดขึ้น แน่นอนมันต้องไม่เหมือนกัน ขัดแย้งกันใหญ่เลย อาตมาก็ยังไม่เก่ง แรกๆก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่อาตมาก็ยังยืนหยัดยืนยันอย่างอาตมามีความรู้ที่จะแปลที่จะขยายความ จนกระทั่งลัดมาถึงวันนี้เลย  จนกระทั่งเขาเห็นแล้วว่าความซับซ้อนลึกซึ้งของธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น) (พตปฎ. เล่ม 9  ข้อ 34) 

เพราะฉะนั้น มันไม่ใช่ตื้นๆในเรื่องที่จะรู้จักธรรมะ สภาวธรรม เขาเรียนกันมีแต่พยัญชนะแล้วแปลไปงามฟรุ้งฟริ้ง ไปปรุงแต่งเป็นโลกจินตา เป็นเรื่องของการปรุงแต่งภาษา ไพเราะเพราะพริ้งต้องงดงามเป็นนิรมาณกาย เป็นเรื่องเพี้ยนผิดไป อาตมาไม่ได้ใส่ความ ไม่หาเรื่องเป็นเรื่องจริง จนกระทั่งวันนี้ มันเห็นยืนยันมากเลยทุกวันนี้ว่าอาตมาพาทำ มันยิ่งเห็นจริง ก็ยืนยันแล้วว่า อาตมาพาทำ ปฏิบัติแล้วมีชีวิต ตรงตามอนุสาสนี ตรงตามคำสอน มีสิ่งยืนยันได้ตามปรากฏการณ์ อาตมาพูดย้ำพูดซ้ำมาหลายทียืนยันว่า อาตมานำธรรมะพระพุทธเจ้ามาสอนคน จนกระทั่งคนพากเพียรบรรลุธรรมมามีชีวิตเป็นสาธารณโภคี มาเป็นสาราณียธรรม 6 กันได้ ยืนยันเป็นปรากฏการณ์จริงที่เกิดขึ้นอยู่ในโลก ในโลกเลยไม่ใช่แต่ประเทศไทยเท่านั้น ในโลกไม่มีสังคมใดที่มีความเป็นอยู่ดำเนินชีวิตไปอย่างอิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูน เสียสละ เหมือนชาวอโศกเรานี่หรอก ไม่เหมือน ไม่มีเหมือน ที่ไหนๆก็ไม่มีเหมือน ขอยืนยัน นี่ไม่ใช่หลงตัวหลงตน ไม่ใช่เพ้อเจ้ออะไรต่ออะไรไป..ไม่ใช่ เป็นเรื่องสาระสุดประเสริฐของความเป็นมนุษย์ที่เป็นตัวอย่างของโลกอยู่  

ชาวไทยยังไม่เห็นความเป็นคุณค่าของชาวอโศก อาตมาขออภัยจริงๆต่อมนุษย์ชาติ ต่อชาวไทย อาตมาไม่ได้หลงตัวหลงตน ไม่ได้หลงยกชาวอโศก  แต่ชาวพุทธไม่ค่อยมีปฏิภาณปัญญารู้ค่าของชาวอโศก รู้ค่าของคุณธรรมที่เป็น อาริยธรรมโลกุตรธรรมที่ชาวอโศกเอาธรรมะของพระพุทธเจ้ามาเรียนรู้ปฏิบัติแล้วบรรลุผลสำเร็จจนเป็นสังคมชาวอโศก มีวัฒนธรรมถึงขั้นสาราณียธรรม 6 หาสังคมอย่างนี้ได้ยากในโลก มันยากจนกระทั่งมาอยู่กันได้ไม่มีจำนวนมากหรอก มันก็ได้ประมาณนี้ เอาสิใครจะมาแกล้งเป็นได้ไหม  คุณกดข่มมาจริงๆก็อยู่ไม่ได้กี่วัน ถ้าคุณไม่มีสภาวะจริง ถ้ามีสภาวะจริงก็อยู่สบาย สบายไปจนตายเลย ใครจะอยู่อย่างนี้จนตายบ้าง..ยกมือขึ้นซิ ดูว่าใครจะไม่ยก (ยกมือกันหมด) เพราะฉะนั้นสัจธรรมที่ว่าอาตมาพาทำจนกระทั่งพวกคุณยกมือแสดงว่า รับรองการสอน รับรองมรรคผล รับรองความจริงที่อาตมาเอามาเปิดเผยแล้ว พวกคุณก็รับได้แล้วก็ปฏิบัติได้ จนกระทั่งมันไม่ใช่เรื่องตื้นนะมันเป็นเรื่องลึกซึ้ง มันเป็นเรื่องของชีวิตจิตวิญญาณนะ มันเป็นเรื่องของชีวิตจิตวิญญาณ

เพราะฉะนั้นสิ่งนี้ ประเด็นที่พูดคือไม่เหมือนใคร มันจะเหมือนได้อย่างไรมันเป็นโลกุตระ มันเป็นยอดปิรามิด มันไม่เหมือนใครหรอกมันสุดยอดเลย ไม่ต้องไปพูดถึงเทวนิยมยังอีกห่างไกลนัก พลเมืองโลก 7พัน-8 พันล้านแล้วมีที่มีอยู่นี้ 800 จะเอาให้มากกว่านี้ 8 หมื่น 8 แสนจะได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้จึงเป็นคนที่แสดงพฤติกรรมความเป็นมนุษย์ประเสริฐอยู่ในโลก เป็นตัวอย่างอันสุดยอด ใครจะไม่เห็นใครจะเห็นแล้วไม่เข้าใจ ไม่รับ ดีไม่ดีจะผลักก็ตามเถิด แต่สิ่งนี้ก็สุดประเสริฐแล้ว เพราะเราไม่ได้เป็นภัย เราไม่ได้เป็นโทษกับใครเลยนอกจากไม่ได้เป็นภัยเป็นโทษกับใครเลยแล้ว เรายังมีประโยชน์แก่คนเป็นพหุชนะหิตายะ พหุชนะทำให้คนสงบมาสุข

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมะพ่อครูไม่เหมือนใครตรงที่...คนทำตามบรรลุได้จริง วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2566 ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2566 ( 10:53:02 )

ธรรมะมันจะเป็นอันเดียวกัน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น พวกที่หลับตาปฏิบัติหนีเข้าป่าเขาถ้ำนั้น มันน่าสงสาร พูดไปแล้วก็ได้แต่บอก ได้แต่เตือนว่า เลิกได้แล้ว หยุดได้แล้ว ไปงมงายอยู่กับเดียรถีย์วิชา มันเป็นวิชาของเดียรถีย์ ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า อาตมาก็ย้ำยืนยันอยู่อย่างนี้ ขอยืนยันว่าอาตมาเจตนาดี ไม่อยากให้โง่งมงายอยู่อย่างนั้นต่อไป ผู้ใดตื่นขึ้นได้ก็เป็นกุศล จะเรียกว่าบุญนั่นแหละ เป็นบุญ คุณก็จะได้มากำจัดกิเลสได้ถูก ไปนั่งหลับตาอย่างนั้นไม่มีบุญหรอก บุญคือได้รู้กิเลส มีปัญญารู้กิเลสแล้วรู้จักการลดกิเลสได้ กำจัดกิเลสได้จริง ซึ่งมันไม่ได้อย่างหลับตานั้นก็ไม่มีทางจะมาทำอย่างที่อาตมาว่านี่ ของพระพุทธเจ้าพาทำมันจริง 

เพราะฉะนั้นเมื่อสัตตาวาส 9 นี้ สัมมาทิฏฐิ เป็นวิญญาณฐิติ 4 ฌาน 1 2 3 4 อย่างถูกต้องสัมมาทิฏฐิ อสัญญีสัตว์ ไม่มี ก็จึงจบ จบตรงที่ว่า สุดท้ายคุณก็มีอากาศกับวิญญาณ แล้วไม่มีกิเลส ไม่มีตัวเหตุที่ต้องเอาออกให้หมดมี อากิญจัญญายตนะ มีอากาศกับที่ว่าง กับธาตุรู้ แล้วธาตุรู้นะรู้ว่าไม่มีกิเลสที่ต้องทำออกอีกแล้ว วิญญาณฐิติจึงมีแค่ 7 ไม่ต้องไป ใช่หรือไม่ใช่ ไม่ใช่หรือใช่ไม่ต้อง เนวสัญญานาสัญญายตนะ อีกแล้ว 

มีผู้ไม่เข้าใจ มีผู้ไม่รู้ว่า ทำไม อรูปฌาน ทำไมมันเหลือ 3 ตัวไม่มี เนวสัญญานาสัญญายตนะ ก็เพราะมันมีปัญญา มันมีกาย มีจิต มีองค์ประกอบของโลก ของอัตตาครบ เรียงลำดับมาหมด ถูกต้องหมดครบ ไม่มีอะไรตกหล่น ไม่มีอะไรเป็นเศษละอองธุลีที่จะมากวนอีกเลย หรือว่ามาแฝงๆ ไม่มีอะไรแฝง

อาตมาก็พยายามอธิบายวนเวียนอยู่อย่างนี้  รำคาญไหม…ไม่ รู้จักเพิ่มขึ้นไหม…เพิ่มขึ้น เอ๊.. ก็วนเวียนพูดภาษาเก่าไม่เห็นมีภาษาใหม่เท่าไหร่เลยนะ 

แต่มันฉลาดขึ้น มันเข้าใจเพิ่มขึ้นจริงๆ เป็นอานิสงส์ 5 ประการจริงๆ คุณมีอานิสงส์ 5 ประการ จบ เป็นอรหันต์ คุณก็จบตัวเอง คุณรู้แล้วคุณก็ทำได้ด้วยก็จบที่เป็น อุภโตภาควิมุติ เลย นอกนั้นเราก็รู้ว่าคนต่อๆไป โพธิสัตว์ก็รู้ของผู้อื่นคนนั้นคนนี้เขาก็มีของเขา เป็นอย่างไร ไม่เหมือนของเราทีเดียว ไม่เหมือนอย่างไรก็ค่อยๆรู้ ว่ามันเป็นอย่างนี้เอง แล้วเราก็เอาโครงสร้างที่เราทำได้นี่แหละมาให้เขารู้ มันจะมีโครงสร้างหรือมีทฤษฎีสำเร็จของพระพุทธเจ้าเอาไปให้เขาให้สัมมาทิฏฐิ เขาก็จะทำได้เหมือนเราทำได้ เพราะว่าธรรมะมันจะเป็นอันเดียวกัน ของพระพุทธเจ้า รู้จักกายรู้จักจิต แยกกายแยกจิต 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 45 วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน 2566 แรม 1 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 เมษายน 2566 ( 12:57:27 )

ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

รายละเอียด

ธัมโม หเว รักขติ ธัมมะจาริง อาตมาอยู่รอดเพราะธรรมรักษา จริง นี่ก็พิสูจน์ยืนยันอยู่จริงๆ เพราะฉะนั้นในเรื่องของสัจธรรมนี่อาตมาพูดไปแล้วพูดอีก 

อาตมาพาไปทำทางโลก ไปทำทางการเมือง เอาธรรมะโลกุตรธรรมนี่แหละ ยาวให้เป็นเย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ เอาความสงบสยบความรุนแรง ใครจะฆ่าเราก็ฆ่าไปเราไม่ฆ่าใคร แล้วธรรมฤทธิ์ชนะ พิสูจน์มาชนะ 4 รัฐบาลถึง 5 รัฐบาล รวมรัฐบาลอภิสิทธิ์ด้วย อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมันเป็นเรื่องของโลกุตรธรรม เป็นประชาธิปไตยจริงๆเลย ใช้ความสงบสยบความรุนแรง กฎหมายโลกข้อนี้ตรงกันหมดนะ ความสงบสยบความรุนแรง ไม่มีอาวุธ ไม่ใช้อาวุธ มือเปล่า เอาความจริง เอาสัจธรรมเป็นตัวยืนยัน ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ คุณแพ้เพราะคุณจำนนต่อความจริง คุณแพ้เพราะคุณไม่สมควร คุณนั่นแหละเป็นกบฏ คุณนั่นแหละทุจริต คุณนั่นแหละเป็นคนที่ไม่สมควรจะมาบริหารประเทศ ให้คนอื่นเข้ามาบริหารประเทศ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเปิดตาพญานาคลงสู่การเมืองไทย วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2565 ( 20:29:46 )

ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม 

รายละเอียด

คนไหนที่รู้ตัว ตื่น ชาคริยา มีสติรู้ ไอ๊หยา คนที่เริ่มตื่นมาฟังพุทธธรรมที่โพธิรักษ์พูด เฮ้ย เราเคยดูถูกดูแคลนโพธิรักษ์ ที่เขาพูดสัจธรรมถูกต้อง คนที่เริ่มรู้ตัวเมื่อนั้นจะตื่นแล้วก็ละอายทันที หิริ จะเกิดเมื่อนั้น เทวธรรมจะเกิดในคนผู้นั้น ไอ๊หยา เคยไปดูถูก ดูแคลน ดีไม่ดีจะซัดโพธิรักษ์ให้ตาย ยกตัวอย่างมหาประยุทธ์ ท่านประยุทธ์ ปยุตโต ซัดอาตมา จนคนที่นับถือเขารวมตัวกันทั้งธรรมยุตและมหานิกาย ซัดอาตมาจะให้อาตมาไม่เหลือซาก แต่อาตมาอยู่ได้ด้วย ธัมโม หะเว รักขติ ธัมมะจาริง ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม 

อาตมาพูดโลกุตรธรรมมีฤทธิ์ อาริยธรรมของพระพุทธเจ้ามีฤทธิ์ทำให้เขาสงบ จนรวมตัวเป็นนานาสังวาสถูกต้องตามธรรมะของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 18 มกราคม 2566 ( 12:19:14 )

ธรรมะระดับโลกุตระต้องมีฉันทะเป็นมูลกา

รายละเอียด

สิ่งที่อาตมาเกิดมาในปางนี้ที่จะต้องเอากลับคืนมาฟื้นคืนมาให้ถูกต้อง เป็นโลกุตรธรรมจริงๆ ทำงานมา 50 กว่าปีก็สบาย เพราะว่าได้ผล แม้จะได้ผลเท่านี้ก็ดีแล้ว คนก็ช่างไม่เห็นนะ แต่เขาก็เห็นเหมือนกันนะ เขาเห็นเหมือนกับไก่เห็นพลอย เขาก็เหมือนไก่เห็นพลอย มันก็จะรู้สึกว่าเม็ดพลอยสู้เมล็ดข้าวเปลือกข้าวสารไม่ได้ ถูกของไก่เขา ก็เป็นเช่นนั้น 

เพราะฉะนั้นพวกที่ได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า รู้จักสาระเป็นสาระ รู้จักค่าคุณค่าของธรรมะ ธรรมะระดับโลกุตระ ธรรมะระดับอาริยธรรม ที่เราได้เรียนรู้ จนกระทั่งตามหลักฐานของพระพุทธเจ้าต่างๆ ไล่มูลสูตรทั้ง 10 ก็ได้ มีฉันทะเป็นมูลกา เป็นเค้าเงื่อน คำว่าฉันทะ แปลว่าความยินดี ความยินดีไม่ใช่เป็นครั้งคราว แต่มันจะมีธาตุรู้ที่ อื้อหือ.. โอ้โห.. อย่างนี้ใช่เลยๆ ใช่เลย อย่างนี้ใช่ เอาชีวิตมาศึกษาติดตามอย่างแท้จริง เห็นว่าอย่างนี้ใช่เลย เริ่มต้นมีฉันทะแล้ว จึงจะมาศึกษา มาเรียนรู้ว่า มีฉันทะแล้วจะเรียนอะไรต่อไป พอมีฉันทะแล้ว ก็จะเรียนรู้การทำใจในใจ มนสิการ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 17:34:38 )

ธรรมะสมาธิไม่ได้มีลักษณะของความนิ่งทื่อแข็ง

รายละเอียด

ศาสนาพุทธสอนให้มีความคล่องแคล่วว่องไวในจิตต่างๆ เป็นมุทุภูตธาตุ ปาคุญญตา ทั้งกายตาคุญญตา จิตปาคุญญตา ทั้งเวทนาสัญญาสังขารปราดเปรียวคล่องแคล่วว่องไว นี่คือจิตเป็นสมาธิ จิตเป็นสมาธิของพระพุทธเจ้าจึงตรงกันข้ามกับคนที่เข้าใจอย่างมิจฉาทิฏฐิ เป็นเดียรถีย์แบบนั้นมันถอนยาก หยั่งลงในที่หลง เพราะฉะนั้นจึงไม่เกิดสมาธิที่เป็นปัญญา สมาธิไม่มีปัญญาไม่ได้ตั้งแต่ฌาน บุญ จะมีปัญญาเป็นเครื่องประกอบทั้งนั้นเลย ขาดปัญญาไม่ได้ มีปัญญาแทงตลอดด้วยดีด้วยปัญญา สมาธิ จะต้องเป็นอย่างนั้น ยิ่งไปหยุดคิด ยิ่งหลงแล้วบอกว่าเป็นนิโรธสมาบัติ หยุดนิ่งเท่าไหร่ แบบนั้นมันง่ายแต่มันไม่ถูกมันไม่ใช่ ของพระพุทธเจ้านั่งสมาธิคือ ต้องยิ่งรู้กิเลสในจิตตั้งแต่ตัวหยาบใหญ่ ก็วิจัยให้ออก แล้วฆ่าให้ได้ มันเล็กเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องตื่น ต้องมีธาตุรู้ที่มีธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ ให้เจอกิเลส จัดการฆ่ามันอีก จนเหลือน้อยลงเท่าไหร่ก็ยิ่งตื่น ถ้าไม่ตื่นก็ยิ่งไม่เห็นกิเลสตัวเล็กละเอียด มันยิ่งตื่นนะ ศาสนาพระพุทธเจ้าสมาธินี้ยิ่งตื่นรู้ ชาคริยา จนสุดท้ายก็เป็นพุทธะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ไม่ยิ่งเป็นผู้ตื้อ แข็งทื่อ มีแต่แจ่มใสยิ่งขึ้นเบิกบานยิ่งขึ้น มีแต่ตื่นยิ่งขึ้น มีแต่ตื่นรู้ๆๆ สมาธิของพระพุทธเจ้าเป็นเช่นนั้น

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2563 ( 09:38:12 )

ธรรมะสยบทุกอย่างได้ด้วยความสงบ

รายละเอียด

ธรรมะนี้กินรวมหมดเลย ความถูกต้องดีงามไม่มีผิดเพี้ยนหมดเลยธรรมะความหมาย เพราะฉะนั้นเมื่อมีอย่างนี้ จึงสามารถที่จะสยบทุกอย่างได้ ทุกแดนดินถิ่นที่สังคม แล้วสยบที่วิเศษคือสยบด้วยความสงบ ไม่เอาอำนาจบาตรใหญ่ ไม่เอาความรุนแรง ไม่เอาสิ่งที่เป็นโทษเป็นภัยสยบใคร 

สยบด้วยความสงบและในความสงบนั้นเป็นธรรมะ เป็นความดีงามความถูกต้อง ความชัดแท้ ความเป็นธรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม หนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 14:28:10 )

ธรรมะสองของนานาสังวาส

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้ตั้งความหวังไว้นะว่าจะได้ แต่ว่าก็เห็นว่าน่าจะมาก็บอกไป แต่จะมาหรือไม่ก็แล้วแต่เขานะ ขอบอกนิดหนึ่ง ถามพวกคุณก็ได้ คณะแพทย์วิถีธรรมโดยแนวกว้าง กับคณะอโศกโดยแนวกว้าง ใครมากกว่ากัน แนวกรอบเล็กแน่น ก็ไม่น่าจะผิดอะไร ส่วนแนวกว้างนี้ก็แน่นอน ค่าเฉลี่ย แต่ทีนี้ถ้ามองให้ลึกอีกทีนะ แก่นแกนจริงๆนี่มีทั้งแนวลึก แนวสูง แนวเจริญ กับแนวยังไม่สูงไม่ลึก หรือกรอบขอบเขตมวลปริมาณ จริงๆอีก จะดูกระจัดกระจายกับดูความแน่น ก็ยังเชิงชั้นมีนัยสำคัญที่ต้องพิจารณาอีก สรุปแล้ว ไม่เสียหายทั้งอโศก ไม่เสียหายทั้ง แพทย์วิถีธรรมแต่กำลังศึกษาในเชิงละเอียดซ้อนต่างกัน แต่ไม่เสียทั้งคู่ แต่มีนัยที่ได้แน่นกับไม่แน่น กว้างหรือแคบกว่า หรือการกระจายหมู่ใหญ่ กับกระจายหมู่ไม่มาก แพทย์วิถีธรรมจะเรียกหมู่ใหญ่ของชาวอโศกได้ไหม ชาวอโศกโพธิรักษ์เป็นหัวหรือว่าหมอเขียวเป็นหัว แต่หมอเขียวใหญ่กว่านะ เพราะอโศกคือมวลของแพทย์วิถีธรรม แต่กิจกรรมกิจการไปเน้นที่แพทย์วิถีธรรม ส่วนอโศกก็มีกิจกรรมของชาวอโศกเอง แต่ชาวอโศกมีแดนมีกลุ่มเยอะกว่า แพทย์วิถีธรรมตอนนี้มีกลุ่มเดียว สอง แพทย์วิถีธรรมมีสถานที่ แต่ในหมู่กลุ่มสถานที่ยังไม่เป็นหลัก เพราะแพทย์วิถีธรรมยังไม่มีนักบวช ยังไม่ครบพุทธบริษัท 4 อโศกถือว่ามีครบพุทธบริษัท 4 แม้มีนักบวชหญิงถือศีล 10 แต่คุณธรรมมากกว่าศีล 10ถามคุณที่เขียนมาทำไมไม่อยากฟัง ทั้งๆที่อาตมาอธิบาย หรือชาวอโศกอธิบายมันไม่ใช่สาระแท้หรือไง แล้วคุณรู้ว่าสาระแท้อันไหนลึกกว่ากัน คุณเทียบเองไม่ได้ด้วย ต้องให้ผู้รู้กว่ามาเทียบอีกว่าใครสูงกว่าใคร คุณเองบอกว่าอันนี้เข้าใจรู้ดีแล้วตัดสินว่าอันนี้สูง แต่คุณจะบอกว่าอันนี้สูงกว่ายังไม่ได้ ต้องถามผู้สูงกว่าอีกว่าจริงๆ อันไหนสูงกว่า แล้วจึงตัดสินได้ แต่คุณต้องรู้ว่าจะให้ใครตัดสิน ให้1. หมอเขียว2. อาตมา คุณจะให้ใครตัดสิน ให้หมอเขียวตัดสินว่าหมอเขียวสูงกว่าคุณก็อยู่กับหมอเขียว คุณเห็นว่าอาตมาสูงกว่าจะมาอยู่กับอาตมาก็มา นานาสังวาส เป็นหลักเกณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องของทุกสิ่งทุกอย่างในเรื่องการแบ่งแยกความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จัดเป็นเทวนิยมอเทวนิยม แบ่งรูป แบ่งนาม แบ่งกายแบ่งจิต แบ่งเทวะ อเทวะ ทุกมุมทุกเหลี่ยมแล้วคุณจะต้องเข้าใจจริงๆว่าสุดท้าย อะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้เป็นอิสระเสรี ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย ทั้งกรรมและกาละ ว่าอะไรจะใหญ่กว่ากัน ในกาละไหน ในกรรมไหน เพราะฉะนั้นใครสามารถเข้าใจกรรมและกาละถูกต้องลงตัว คนนั้นก็ได้ประโยชน์สูงสุด ก็ขอถามทิ้งท้ายว่า คุณอยู่กับหมอเขียวหรือเปล่าหรืออยู่คนเดียว ถ้าอยู่ส่วนตัวก็แล้วแต่เถอะ ก็ว่าไป แต่ถ้าคุณอยู่กับหมอเขียวก็ไม่อยู่กับอาตมา หรือว่าคนที่อยู่กับอาตมา ก็แล้วแต่ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 มกราคม2563


เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:10:01 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:36:08 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:09:02 )

ธรรมะสองคือแกนหลักของทุกสิ่ง

รายละเอียด

อธิปไตยคือธรรมะสอง อภิบาลคือธรรมะสอง อภิปัญญาก็คือธรรมะสอง

ธรรมะสองคือแกนหลักของทุกสิ่ง เทวธัมมา แยกพยัญชนะกับสภาวะ สมมุติกับปรมัติ

สมมุติเป็นโลกียะ เทวะ

ผู้ไม่รู้จักความจริงของธรรมะ 2 มีแต่ความรู้เป็นพยัญชนะเก่ง อัตวาทุปาทาน หรือทิฏฐุปาทาน มีหลักปฏิบัติแบบสีลัพพตุปาทาน หากทำถูกก็พ้น กามุปาทาน จนมาเป็นอนาคามี หากกามหยาบอบายก็เละเทะอยู่นั่นแหละ

อย่าง​ ธัมมชโยหรือทักษิณก็เสพกามเสพโลกธรรมอยู่ ออกรูปแฝงร่างนักบวชกับฆราวาส ในฆราวาสไม่มีกรอบมากก็เลอะเทอะมาก ธัมมชโยซ้อนในนามธรรมแย่กว่าทักษิณ เพราะเอานามธรรมมาหาเงิน

ในรูปธรรมธัมมชโย ซ้อนกว่า ทักษิณทำหยาบตรงทื่อแต่ธัมมชโยเอาธรรมะมากลบ ธัมมชโยบาปกว่าทักษิณเยอะเลย ธัมมชโยรูปหล่อกว่าด้วย ต้องขอบคุณสองคนที่ให้เอามาเป็นตัวอย่าง

 

เข้าไปสู่ธรรมะสอง เทวธัมมา

ผู้ที่ไม่รู้จักสภาวะกับพยัญชนะ หรือเนื้อแท้กับโวหาร เปลือกกับแก่นก็จะสับสนหลอกตัวเองหลอกคนอื่นอยู่เช่นนั้น ผู้ใดจับมั่นคั้นตายได้ ทำเนื้อแท้ให้ตนได้ พยัญชนะก็เหมือนเปลือก เข้าใจแล้วไม่สับสน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:27:17 )

ธรรมะสองฝ่าย ฝ่ายไหนเป็นของจริง

รายละเอียด

คุณก็ต้องเรียนรู้ทั้งสองฝ่าย เป็นคำสอนพระพุทธเจ้าเลยว่าคุณต้องไปฟังทั้งสองฝ่าย อะไรที่คุณเห็นว่าดีคุณก็ตัดสินเอง คุณตัดสินผิดคุณก็ผิด คุณตัดสินถูกคุณก็ถูก อันนี้เป็นส่วนตัวไม่มีใครตัดสินให้คุณหรอก พระพุทธเจ้าท่านให้อิสระเสรีภาพ คุณก็ตัดสินเอง ใช้ความรอบรู้ของคุณเองเท่าที่ทำได้ ตัดสินถูกก็ดีไปตัดสินผิดก็ผิด นี่แหละสำคัญ คุณไปถามฝั่งหนึ่งเขาก็ว่าของเขาถูกของเขาดี ครั้นไปถามอีกฝั่งหนึ่งเขาก็ว่าของเขาถูกของเขาดี ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นความมั่นใจว่าของตัวเองถูก อาตมาไม่มีความเห็นแก่ตัวแต่มั่นใจในของตัว ทางอีกฝ่ายหนึ่งเขาก็มั่นใจของเขา มันบังคับกันไม่ได้ พระพุทธเจ้าตอบจบด้วยคำว่า ความเห็นของเธอกับความเห็นของเรามันเห็นกันคนละอย่าง จบ อย่าทะเลาะกัน คุณเห็นอย่างนั้นก็จะเอาของคุณไปของเราก็ทำของเราไป แล้วอนาคตข้างหน้าคุณก็จะช่วยคนที่มาเห็นตามคุณ คนไม่เห็นตามคุณก็ช่วยไม่ได้ ช่วยกัน ถ้าสมมุติว่า อย่างนี้คือนรกคุณก็พาไปลงนรก อย่างนั้นคือสวรรค์เขาก็พาไปสวรรค์ ก็เท่านั้นเอง พวกซาดิสม์ก็ชอบแบบซาดิสซึ่ม พวกมาโซคิสม์ก็อีกแบบ แต่พวกชอบเบาๆนิ่มๆแบบโรแมนติกอิซึ่ม ก็ไปกันสิ มีซาดิสซึ่มกับโรแมนติกอิซึ่มก็ดีคนละแบบ แต่ถ้าไม่ติดทั้งสองอย่างก็เข้าใจเขาก็เป็นสูญ ก็เป็นผู้ชี้ คุณก็บวกคุณก็ลบ เราไม่มีทั้งบวกและลบ แต่เราไม่ใช่กระเทยนะ กระเทยคือผู้หลงว่าตนเอง ไม่รู้ว่าเพศไหน ตกลงจะเอาเพศไหนรูปร่างเป็นผู้ชายแต่ใจเป็นผู้หญิงรูปร่างเป็นผู้หญิงแต่ใจเป็นผู้ชาย 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม2562


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2562 ( 21:51:27 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:38:51 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:12:23 )

ธรรมะสองหรือกาย

รายละเอียด

ธรรมะสองนี้เมื่อมีสิ่งทรงในความเป็นสอง เรียกอย่างหนึ่งว่า รูป เรียกอย่างหนึ่งว่า นาม นี่คือธรรมะสองหรือเรียกรวม ว่า “กาย” เรียกว่า “รูป กับ นาม” หรือ “กาย”

คำว่า กาย ย้ำว่า คือสภาพองค์รวมที่มีตลอดเวลา ที่ประพฤติขาดจากความเป็นกายไม่ได้ กายนี้ที่ขาดไม่ได้คือที่มีสัมผัสภายนอกไม่ได้ หากขาดแล้วไม่มีกาย ผิดจากธรรมะสองผิดจากศาสนาพุทธเลย ผู้ที่ไปนั่งหลับตาปฏิบัติ ตัดทวาร ตา หู จมูก ลิ้น กาย คุณเหลือแต่ลมหายใจ มีความรู้สึกแค่ลมหายใจเท่านั้น ที่เหลือดินน้ำไฟ ...ลม เหลือแต่ลมเท่านั้น

เพราะฉะนั้นหากขาดจากลมไปแล้วไม่มีกาย คนที่ปฏิบัติธรรมไม่มีความรู้สึกกับลมที่หายใจเข้าออกที่มีภายนอก อยู่ภายนอกนี้ แล้วก็บอกว่าไม่มีความรู้สึกแล้ว ลมภายนอกก็ไม่มี มีแต่ลมภายในก็อยู่กับลมภายใน แล้วก็บอกว่าเข้ากสิณลม ว่างั้นเลยนะ แล้วลมขึ้น ลมลง ลมขยายใหญ่ เล็ก ไปใหญ่เลย ซึ่งก็เล่นไปได้ออกนอกทางศาสนาพุทธ เสี่ยงมากที่จะออกนอกทาง ต้องไม่ไปทำ ต้องทำการลืมตามีตาหูจมูกลิ้นกาย มหาภูตรูป ดินน้ำไฟลม ทั้งสัตว์ทั้งมนุษย์ ทุกอย่างที่มีอยู่ภายนอก คุณอยู่ขณะนี้อยู่ในกรอบขอบเขตที่คุณสัมผัส คุณก็ต้องรับรู้มีสติเต็ม รับรู้ทุกอย่าง สัมผัสอะไรที่จะต้องพิจารณาก่อนอยู่ใกล้ ทำร่วมก็ทำงานร่วมกับอันนั้น อย่างรู้เต็มๆ สติเต็ม ความพยายามเต็ม แล้วก็พยายามปฏิบัติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน มีเวทนาเป็นกรรมฐานให้สัมผัสวิโมกข์


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:09:57 )

ธรรมะสองอย่างรวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา

รายละเอียด

ดูกรอานนท์  ธรรมทั้งสองเหล่านี้  รวมลงเป็นอย่างเดียวกับเวทนา โดยส่วนสอง  ด้วยประการดังนี้ฯ

    1. เพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา . เมื่อไม่มีผัสสะโดยประการทั้งปวง  เพราะดับผัสสะเสียได้  เวทนาจะพึงปรากฏได้บ้างไหม ฯ

    2. เพราะนามรูปเป็นปัจจัยจึงเกิดผัสสะ  การบัญญัตินามกาย  ต้องพร้อมด้วยอาการ เพศ นิมิต อุเทศ  การสัมผัสเพียงแต่ชื่อในรูปกาย จึงจะปรากฏขึ้นได้    และการจะบัญญัติรูปกาย  จึงต้องพร้อมด้วยอาการ เพศ นิมิต อุเทศ   การสัมผัสโดยการกระทบ จึงจะพึงปรากฏในนามกายได้ฯ

การบัญญัตินามกายก็ดี  รูปกายก็ดี   ต้องพร้อมด้วยอาการ เพศ  นิมิต อุเทศ       เมื่ออาการ  เพศ  นิมิต  อุเทศนั้นๆ ไม่มี  การสัมผัสเพียงแต่ชื่อก็ดี (อธิวัจจนสัมผัสโส)   หรือการสัมผัสโดยการกระทบก็ดี (ปฏิฆสัมผัสโส)  จะปรากฏไม่ได้   และการบัญญัตินามรูปต้องพร้อมด้วยอาการ  เพศ  นิมิต  อุเทศ    การสัมผัสเพียงแต่ชื่อในนามกาย  จึงจะปรากฏขึ้นได้

  เพราะเหตุนั้นแหละ  เหตุ  นิทาน  สมุทัย  ปัจจัยแห่งผัสสะ ก็คือ นามรูป นั่นเอง ฯ ... ฯลฯ 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก มหานิทานสูตร  เล่ม 10 ข้อ 60 ,ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2562 ( 12:10:39 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:55:15 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:18:01 )

ธรรมะสัปปายะกับปโหติเกิดได้อย่างไร

รายละเอียด

ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นยิ่งใหญ่ที่สุด อาตมาก็เหมือนยกตัวตนอวดตัวตน ทั้งที่อาตมาเอง เป็นหน้าที่ของอาตมาที่จะต้องยืนยันสัจจะอันนี้ ต้องมีภูมิจะยืนยันได้ หากไม่มีก็พากเพียร คนที่ดันทุรังก็มี  ต้องหาสัตบุรุษ ที่จะยืนยันสิ่งเหล่านี้ได้ ธรรมสัปปายะ จะเกิดได้ต้องเกิดจากบุคคลและเครื่องอาศัย บุคคลสัปปายะอาหารสัปปายะ ความรู้ก็เป็นเครื่องอาศัย ความรู้ที่เป็นโลกุตรธรรมก็เป็นเครื่องอาศัย ผู้มีนี้จริงก็จะใช้โลกุตรธรรม ตามที่เรามี อาตมาไม่ได้หย่อนข้อทำเต็มที่ อะไรควรใช้ทั้งดุ้น หรืออะไรพอใช้บางส่วน ก็ไปตามลำดับ ปโหติ ให้พอเหมาะได้ สัมมาทิฏฐิ เท่านี้จึงทำสังกัปปะพอเหมาะได้ สังกัปปะเท่านี้จึงทำให้เกิดวาจาพอเหมาะได้ วาจาเท่านี้จึงเกิดกัมมันตะพอเหมาะได้ อาชีวะพอเหมาะ สติ วิริยะพอเหมาะจึงจะได้สัมมาสมาธิตามทฤษฎีพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ก่อนฉัน ที่โรงเรียนผู้นำ จ.กาญจนบุรี สัปปายะ 4 ที่มีสัมประสิทธิ์ วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:32:44 )

ธรรมะสามี

รายละเอียด

ธรรมะสามี คือ พระพุทธเจ้าท่านมีความรู้นี้ ท่านเป็นเจ้าของความรู้นี้ไม่ใช่ความรู้ที่ไหนแต่เป็นของท่านเอง

คำอธิบาย

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 09 ตุลาคม 2562 ( 08:50:23 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:40:23 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:28:29 )

ธรรมะสามี 

รายละเอียด

ธรรมะสามี  คือ  เป็นธรรมะของพระพุทธเจ้า  ที่จริงแล้วใครเข้าถึงความเป็นพระพุทธเจ้าก็เจออันนี้เหมือนกันหมด  ธรรมะเป็นของที่มีอยู่แล้ว  ไม่ผิดเพี้ยนเป็นสัจจะที่เหมือนกัน  พิสูจน์ได้ มนุษย์พิสูจน์ได้  แต่ของเทวนิยมพิสูจน์ไม่ได้

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 05:33:28 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:41:40 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:31:16 )

ธรรมะอย่างไรที่ไม่ควรตอบ

รายละเอียด

ธรรมะจริงๆแล้วเป็นธรรมะที่ไม่ควรตอบ เช่น ใครถามว่าตายแล้ว จะไปยังไง มายังไง จะไปไหน พระพุทธเจ้าท่านว่าเป็นธรรมะที่ไม่ควรตอบ เพราะไม่เป็นสัมมาทิฏฐิเป็นไปโดยส่วนเดียว ไม่เป็นไปเพื่อพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปเพื่อความหน่ายคลายกำหนัด เพื่อความสงบเพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน มันเป็นการรู้แล้วก็ทำอะไรไม่ได้ มันจะไปอย่างใดก็ได้ พระพุทธเจ้าท่านเห็นว่าไม่ควรไปซักไซ้ไล่เลียงเรื่องเหล่านี้ เช่น สุดโต่งไปข้าง เมื่อตายไป มันมีโลก มีอัตตา แล้วมี ชีพ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สังขารกับการเวียนว่ายตายเกิด


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 14:37:27 )

ธรรมะอะไร”วะ”

รายละเอียด

แต่เมื่อมองมาทางชุมชนชาวอโศก เขากลับงงว่า นี่มันธรรมะอะไร”วะ” ?

จริงๆ แล้ว เราก็สอนสร้างดำเนินรอยตามพระพุทธเจ้า ที่สอนด้วย”วจนะ”ครั้งแรกจนได้พระอัญญาโกณฑัณญะขึ้นมา จนเกิดพุทธอุทานคำว่า วะ เป็นครั้งแรกว่า 

“อัญญาสิ วตโภ  โกณฑัณโญ”  นี่แหละคือ ธรรมะอะไร”วะ” ที่เกิดมาพร้อมกับคำอุทานระบุว่า “หนอ” คือ ท่านโกณทัณญะรู้แล้วหนอ 

เมื่อจบธรรมะอะไรวะ สำหรับพวกเราแล้ว ก็ “ค่อยยังชั่วหน่อย” คือ เข้าไปยับยั้งมิให้พวกนักการเมืองทำชั่วได้สะดวก ฯลฯ 

ที่มา ที่ไป

ธรรมะรับอรุณโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันพฤหัสบดีที่ 31ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:54:38 )

ธรรมะอันที่คุณจะต้องช่วยกันทำ

รายละเอียด

วังจันท์พฤกษา จะส่งทุเรียนมาให้ 888 กิโลกรัม แล้วจะเอามาไม่ได้ให้พวกคุณกินหรอก จะเอามาให้แจก ไม่ต้องสาธุ มีคนออกความคิดเรื่องการแจก บอกว่าให้เอาไปแจกตามบ้าน อาตมาว่าเป็นภาระใหญ่ แล้วจะแจกบ้านไหนก่อนบ้านไหนหลัง มันจะทำอย่างไร นี่เป็นปัญหาขึ้นมา มีคนออกความเห็นว่า เราตั้งต้นที่กระท่อมปันสุขนั่นแหละ คนที่แงะทุเรียนเป็นก็แงะแล้วแจกไป ช่วยกันแกะทุเรียน ทุเรียนหมอนทองด้วยนะ ให้ประชาชนได้กินกัน ก็คิดได้อย่างนี้ ใครมีความคิดวิเศษวิเสโสกว่านี้ไหม 

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมของคน เราเป็นคนเหมือนกันกับทุกๆคนในโลก เสร็จแล้วเป็นคนมีอยู่มีกิน ไม่หวงไม่แหน ผลไม้ระดับโลก ทำไปตามประสาเรา มันแสดงถึงจิตเผื่อแผ่ จิตที่แบ่งแจก เป็นสังคหะ คุณสมบัติคุณธรรมของธรรมะพระพุทธเจ้า ที่ได้ให้เรียนให้ศึกษาปฏิบัติ จิตมันจะเป็นจริง ไม่ใช่พูดไปศึกษาไปแต่เป็นจริงไม่ได้ ไม่ใช่ สิ่งนี้เป็นเหตุปัจจัยองค์ประกอบของความเป็นจริง แม้ผลไม้ชั้นสูงทุเรียน เราพอมีกินมีแจกกันได้ เราปลูกเองยังไม่มีมากพอที่จะแจกได้ ที่อื่นก็เอามาสมทบ จากวังจันท์พฤกษาเอามาให้ตั้ง 888 กิโลกรัม ของศรีสะเกษก็มี แต่มันก็ไม่มีมากพอจะมาแจกได้เหมือนสวนวังจันท์พฤกษาอย่างนี้เป็นต้น แต่เราก็มารวมกันได้แจกได้ ภาพการแจกก็ดูไม่เกรียวกราว ทำจริงแล้วก็ไม่ยุ่งยากเกิน เราคิดกังวลไปเองว่าจะยุ่งยาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ งานอโศกรำลึก 2565 อภิภายตนะ 8 ตอน สังคมสาราณียธรรมที่จริงยิ่งกว่ายูโทเปีย วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2565 ( 14:12:33 )

ธรรมะอันเป็นอริยะ

รายละเอียด

1.อริเยนะ สีลกฺขันเธนะ   ศีลอันเป็นอาริยะ
2.อริเยนะ อินทริยสัญวเรน  อินทรีย์สังวรอันเป็นอาริยะ
3.อริเยนะ สติสัมปชัญเญน  สติสัมปชัญญะอันเป็นอาริยะ 
4.อริยายะ สันตุฏฐิยา   สันโดษอันเป็นอาริยะ
 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม  9  สามัญญผลสูตร , ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2562 ( 20:39:08 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:43:03 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:36:59 )

ธรรมะอันเป็นโลกุตระเหนือชั้นมนุษย์โลก 

รายละเอียด

พระโพธิสัตว์ระดับ 7 ขึ้นไปจะรู้แจ้งชัดเจน อย่างอาตมา เราไม่ต้องไปเสียเวลาเลยที่จะไปมีความรู้ด้านโน้นด้านนี้ ปางนี้อาตมาก็มีความรู้ทางโลกด้านนั้นด้านนี้บ้าง แต่ป่วยการ มันสู้สอนอันนี้ไม่ได้หรอก สู้สอนสุดยอดของธรรมะสุดยอดของความรู้ เป็นความรู้ทางธรรมะอันเป็นโลกุตระ 

ที่เป็นโลกุตระเพราะเหนือชั้นมนุษยชาติเลย เพราะมนุษยชาติส่วนใหญ่ในโลกก็เป็นมนุษย์ระดับโลกีย์ พอมันเหนือ ก็ต้องมีความรู้ที่เหนือกว่าก็ต้องคัดบุคคลที่มีความรู้ความฉลาดเฉลียวความเข้าใจธรรมะอันยิ่ง ที่จะยิ่งเหนือกว่าคนทั่วไปขึ้นไปอีก มันก็คัดเฟ้นขึ้นมาจึงมีจำนวนน้อยคนเหมือนยอดพีระมิด ต้องมีน้อยกว่าฐานพีระมิดฉันใดก็เป็นธรรมดาธรรมชาติไม่ได้น่าสงสัยอะไร รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

เป็นโลกุตระได้เพราะเหนือมนุษย์โลก


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 19:39:23 )

ธรรมะอาริยะ 

รายละเอียด

ธรรมะอาริยะ  คือ มาถึงทุกวันนี้แล้วโลกุตระ หรือธรรมะอาริยะที่แท้จริง  มีคนบรรลุทางธรรมแท้จริงของพระพุทธเจ้า  สัมมาทิฏฐิ  เมืองไทยเป็นเมืองที่มีพุทธศาสนาตั้งแต่ประเทศจนเดี๋ยวนี้  เป็นเมืองที่มีเชื้อของโลกุตระ  ติดเนื่องมาที่นี่ เป็นอจินไตยที่ทำไมต้องมาเป็นที่นี่

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 13:39:26 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:44:11 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:38:10 )

ธรรมะเป็นสาระของชีวิต

รายละเอียด

อนุโมทนาสาธุนำธรรมะไปใช้สมควรแล้วเพราะธรรมะเป็นสาระของชีวิต พยายามพากเพียรฟังแล้วเอาไปทำที่เราให้มาก ธรรมะอันควรได้ฟังเป็นธรรมวาที แล้วเราก็ฟังได้ความเข้าใจเอาไปใช้ดีมาก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบการปกครองของมนุษย์ ที่สุดยอด วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 10:27:34 )

ธรรมะเป็นสุดยอดของชีวิต

รายละเอียด

วันนี้วันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก กิจที่ทำกันเป็นกิจวัตรก็คือฟังธรรม เพราะชีวิตเราเห็นว่าธรรมะเป็นสุดยอดของชีวิตแล้ว เอาธรรมะมาพัฒนาชีวิตตัวเองไปเป็นเครื่องอาศัยที่ยิ่งใหญ่ อาหารก็เป็นหนึ่งธรรมะก็เป็นหนึ่ง สำหรับความรู้ของเรา ใครเห็นธรรมะเป็นหนึ่ง ไม่ได้เห็นแต่อาหารเป็นหนึ่งก็เจริญ ชีวิตนี้ก็เจริญ เรื่องของอาหารก็พาให้ร่างกายเราเจริญ แต่เรื่องธรรมะมันพาให้จิตเราเจริญให้ชีวิตของเรานี้เจริญไปก้าวหน้าพัฒนาไปถึงชาติหน้า ชาติหน้าก็พาเจริญไปอีก จิตก็เจริญเราศึกษาฝึกฝนอบรมให้จิตเราเจริญ แล้วทำจิตของเราให้ตายปรินิพพานเป็นปริโยสานได้เลยถ้าศึกษาธรรมะที่เป็นโลกุตระ ศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าสามารถตายให้จิตวิญญาณมันสูญไปได้นอกนั้นมัน 0 ไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ชาติ 5 โดยพิสดาร วันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 เมษายน 2564 ( 11:05:21 )

ธรรมะเป็นเมนไลน์

รายละเอียด

ที่คุณพูดมานี้เข้าใจหมด เพลง ทำนองเพลงก็ดี คำร้องก็ดี อาตมาทำมาหมด แต่งเพลงมาไม่น้อย ก็ร้อยกว่าเพลงในชีวิตนี้ แต่มันดังติดตลาดนี้มีไม่กี่เพลงหรอก เพลงชื่นรัก เพลงผู้แพ้ มันก็นิดหน่อยซึ่งมันเป็นไซด์ไลน์ของอาตมาเอง ไม่ได้เป็นเมนไลน์เหมือนอย่างที่อาตมามาทำธรรมะหรอก ธรรมะเป็นเมนไลน์อันนั้นเป็นไซด์ไลน์นิดๆหน่อยๆ อันนั้นก็ไม่ได้อยากจะโยงไปถึงพวกนั้น ไปถึงเพลงกันเท่าไหร่ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 6 พ่อครูพบ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ 

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2565 แรม 4 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 ธันวาคม 2565 ( 20:09:41 )

ธรรมะเป็นเรื่องซ้ำแต่แปลกใหม่ในธรรมะที่ลึกซึ้ง

รายละเอียด

คือ อาตมาพูดธรรมะมาเป็นเรื่องซ้ำหมดเลย ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นธรรมะที่ซ้ำ  แต่มีมุมเหลี่ยมที่ลึกเข้าไปเรื่อยๆ  มีความหลากหลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ส่วนคนที่เก็บรายละเอียดลึกซึ้งไม่ได้ เขาก็บอกว่า  วนซ้ำอยู่นั่นแหละ  แต่โลกเขาหาสิ่งแปลกๆ ใหม่ ๆ  แต่ธรรมะนั้นซ้ำ แต่แปลกใหม่ในธรรมะที่ลึกซึ้งขึ้นไปอีก  คนที่รับไม่ติดก็ดีทิ้งไป  ก็เป็นธรรมชาติ ธรรมดา ไม่มีปัญหา  ขนาดซ้ำ ๆ  ฟังไม่รู้กี่ทีกว่าจะเข้าใจรู้เรื่อง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 05 ธันวาคม 2562 ( 10:35:17 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:46:43 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:41:51 )

ธรรมะเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้งสุดยอดจริงๆ

รายละเอียด

จริงๆมันก็ไม่เหมือนกันทุกวันหรอกต่อให้คุณแกงถั่วมาทุกวันทุกวันทุกวันรับรองจากถั่วก็ไม่เหมือนเดิมทุกวันหรอก มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างทั้งสีทั้งกลิ่นทั้งรสทั้งสภาพอะไรก็แล้วแต่มันไม่เที่ยงหรอก ในรายละเอียดของรายละเอียดของมันที่ปรุงแต่งกันอยู่ใน 2 สิ่งในโลก ปรุงแต่งเรื่องขึ้นมาเนี่ยมันไม่มีอะไรคงเดิมเท่าเดิมเหมือนเดิมทั้งนั้น เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมะจึงละเอียดลึกซึ้งสุดยอดจริงๆ ผู้ใดประมาทและผู้ใดที่ไม่ตั้งใจศึกษาดีๆก็ไม่สมบูรณ์แบบ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 09:24:59 )

ธรรมะแบบมักง่ายไม่ใช่ธรรมะพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ผู้ที่เอาแต่นั่งหลับตาเป็นเบื้องต้นก็จะได้แต่ความสงบเหมือนอาฬารดาบส อุทกดาบส อีกเป็นล้านปีที่ต้องวนเวียนเพราะไม่รู้จักธรรมะ 2 แล้วทำธรรมะ 2ให้เป็น 1

ปิดตาหูจมูกลิ้นกายนั้นโมฆะไปจากศาสนาพุทธ ตีทิ้งได้เลย ต้องมีสัมผัส ตาหูจมูกลิ้นกายใจจึงจะรู้ ธรรมะ 2 มี ภาวรูป 2 อิตถีภาวะ ปุริสภาวะ แล้วทำให้เหลือแต่ปุริสภาวะ จนเป็นธรรมะ 0 ได้จึงจะเจริญเป็นลำดับ

หากคิดเอาง่ายๆคิดตื้นๆว่าจะได้ ก็เป็นธรรมะแบบมักง่าย ธรรมะพระพุทธเจ้านั้น คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) . ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น)   (พตปฎ. เล่ม 9 ข้อ 34)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:12:14 )

ธรรมะโลกุตระ ถ้าจับต้องไม่ได้ มันก็ไร้ประโยชน์

รายละเอียด

ใช่ เขากำลังแสวงหากันอยู่แต่เขาคิดไม่ออกหรอก เพราะว่ามหาวิทยาลัยที่สอนเศรษฐศาสตร์ในโลกเป็นมหาวิทยาลัยเทวนิยม มีอยู่ในประเทศไทย แล้วโดยเฉพาะมีอยู่ในอโศกนี่แหละ แม้แต่มหาวิทยาลัยจุฬา มหามกุฏ ก็ไม่ได้สอนอย่างที่อาตมาสอน ไม่ได้สอนอย่างนี้ เพราะฉะนั้นจะไม่มีโลกุตระ อาตมาสอนมีโลกุตระ ที่พูดไปเป็นความจริงทั้งนั้นเหมือนอวดตัวอวดตนว่ารู้มากกว่าเขา ซึ่งมันก็รู้มากจริงๆ นี่ก็พูดความจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 11:29:48 )

ธรรมะโลกุตระคือสิ่งที่ประเสริฐที่สุด

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนที่รู้จักว่าสิ่งที่ประเสริฐที่สุดนี้คือ วิชชานี้ คือวิชชาโลกุตระ เป็นธรรมะโลกุตระนี่แหละที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้คือธรรมะนี่แหละ คนโดยปริยาย ทั่วไปก็รู้ว่าคนควรจะมีธรรมะ แต่เทวนิยมมีแต่โลกียธรรม เขาก็ไปเอาโลกียธรรมได้สูงสุด แล้วมันก็วนเวียน ไม่มีทางออกจากโลกออกไม่ได้ก็อยู่ในโลกนี้แหละ ถูกแรงดึงดูดของโลกดูดไว้ แม้จะออกไปจากโลก คุณก็ออกไปไม่ได้ คุณก็ถูกแรงดึงดูดของโลกดูดอยู่นั่นแหละ ลอยวนอยู่ข้างในลูกโลกนั่นแหละ ออกไม่ได้หรอก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 พาปฏิญาณศีล 8

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2564 ( 20:56:08 )

ธรรมะโลกุตระจะเข้าใจโลกและเข้าใจตัวเอง

รายละเอียด

ใช้ธรรมะโลกุตระนี้ เจริญไปทั้งทางโลกและทางธรรม  2 อย่างเลยนะ เพราะธรรมะโลกุตระจะเข้าใจโลกและเข้าใจตัวเอง และสามารถที่จะเกิดอธิปไตย

อธิปไตยคืออำนาจ Authority สามารถที่จะทำให้โลก เกิดการบริหารสังคม บริหารโลก บริหารหมู่กลุ่ม บริหารประเทศชาติ ให้อยู่ในสมดุล ให้อยู่ในความอบอุ่นสงบ ราบรื่นง่ายงาม มีอิสรเสรีภาพ มีภราดรภาพ มีสันติภาพ มีสมรรถภาพ มีบูรณภาพ มีสุญญภาพ มีสุนทรียภาพ บริหารโลกให้เกิดแบบนี้ ชาวอโศกมีทุกภาพ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่นกับลูกๆหลานๆ งานมหาปวารณา มหาบิ๊กคลีนนิ่ง

วันอาทิตย์ที่  6 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ธันวาคม 2565 ( 12:00:39 )

ธรรมะโลกุตระทำให้การประท้วงเมืองไทยสำเร็จ

รายละเอียด

การชุมนุมในฮ่องกง ชุมนุมกันเห็นไหมละ  มันทำอย่างประเทศเราไม่ได้  เราไปชุมนุมกันอย่าง  สงบเรียบร้อยจนกระทั้งทำงานสำเร็จ  ประท้วงสำเร็จผลอันนี้  เป็นเรื่องลึกซึ้ง  ซับซ้อนที่คนเขาไม่เข้าใจว่า  คืออะไร  มันเป็นผลสำเร็จของธรรมะที่เป็นโลกุตระธรรมเมืองไทยที่ประท้วงได้สำเร็จ  ประท้วงรัฐบาล  แล้วรัฐบาลตอนนั้นยุคนั้น ก็มาฆ่าแกงมาทำร้ายคน  แต่พวกเราไม่ไปทำร้าย  ไม่ไปฆ่าแกงเขาก่อนเลย  ใช้ความจริงยืนยันว่าเอ็งไม่ดี อย่างนั้น  อย่างนี้  เอ็งทำลายสังคมประเทศชาติอย่างไร  ขี้โกงทุจริตอย่างไร  ก็เอามาแฉ มาเปิดเผย จนเขาแพ้ต่อความจริง  รัฐบาลทักษิณ  ก็แพ้ความจริง  ไม่ได้แพ้ด้วย  หาก ดาบปืน  ไม่ได้แพ้ด้วยระเบิด  ไม่ได้แพ้ด้วยกำลังวังชาของทหาร  ไม่ใช่ ทักษิณ ก็ไม่ได้แพ้แพระว่ากำลังทหารปฏิวัติ  แต่คนมองไม่ออก  เขาบอกว่า พลเอกประยุทธ์   มาจากการปฏิวัติ  ที่จริง  แล้วที่สืบทอดสุดท้าย จากรัฐบาลทักษิณ  คือรัฐบาลยิ่งลักษณ์  แล้วพลเอกประยุทธ์ ก็รับช่วงต่อ  ซึ่งไม่ได้ปฏิวัติ แต่ประชาชนคนไทยปฏิวัติ  อันนี้พวกนักรัฐศาสตร์ทั้งหลายแหล่ก็ยังไม่รู้  พูดไม่ได้อย่างนี้  กลัวประชาชนจะได้หน้าว่า  เป็นผู้ปฏิบัติหรืออย่างไรไม่รู้  เขาไม่รู้ว่าประชาชนปฏิบัติ หรือย่างไร  ปฏิบัติรัฐบาลทักษิณ  สมัคร  สมชาย  ยิ่งลักษณ์  ประชาชนในประเทศไทยเป็นตัวอย่าง  อันสุดยอด  ปฏิวัติกันอย่างไม่ต้องใช้อาวุธเอาความจริงมาใช้เป็นอาวุธ  จนกระทั่งเขาพ่ายแพ้ไปด้วยอาวุธแห่งความจริง  ด้วยความสงบ กับความจริงเป็นอาวุธ  เป็นธรรมาวุธที่ทำให้เขาแพ้  จึงเป็นการปฏิวัติ  เป็นประชาธิปไตย เพื่ออะไรแล้วทำไมถึงบอกว่า  ประชาชนคนไทยนี่แหละเป็นนักประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพสูงสุด  ทำให้ประเทศชาติ  เป็นประชาธิปไตย  โดยประชาชนเป็นผู้รับประหาร  คือ  ประหารรัฐบาลได้สำเร็จ  และก็ดำเนินอยู่ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ทำการประหารรัฐประหารเลย  เป็นแต่เพียง มารับไม้ต่อจากประชาชน ตอนนั้นผู้ที่ถืออำนาจเดิม เขาไม่มีอำนาจทั้งพฤตินัย  และนิตินัยแล้ว  ตอนนั้นมีคน  ดำรงตำแหน่งแทน  คือ  นิวัฒน์ธำรง  บุญทรงไพศาล  ตอนนั้นก็รักษาไว้เฉยๆ  เป็นรูปแบบ   แต่พวกประชาชนนั้น  ปฏิวัติ  เอาอำนาจได้สำเร็จแล้วกำลังจะไปทูลเกล้าฯ  เขาก็ไม่เข้าใจ  เราไปถึงหน้าพระบรมมหาราชวัง  เขาก็ไม่ให้เข้า  พลเอกประยุทธ์ก็บอกว่า ผมขอยึดอำนาจเพียงแค่นั้นก็ได้แล้ว  ซึ่งประชาชนก็รับได้  โอเค  ไม่ได้ขัดแย้ง  ไม่ได้บอกว่า พลเอกประยุทธ์มารวบอำนาจไป  ก็ไม่ใช่  ก็ให้บริหารประเทศไป  จนกระทั่ง ตอนนี้ 5 ปี  จะ 6 ปี  แล้ว  ผลการบริหารก็ดี เข้าตาประชาชนเป็นไปได้ดี  ตามประสาอาตมาเป็นนักรัฐศาสตร์นอกทำเนียบ  ประชาชนเห็นดี เห็นด้วยมีโพลรองรับกันทั่ว  ก็มีแต่เรื่องการขัดแย้ง  ซึ่งการขัดแย้งนั้นเป็นเรื่อของความขัดแย้งที่ทำให้เจริญ

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ ปฐมอโศก วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน2562


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2562 ( 17:00:00 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:55:14 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 13:44:45 )

ธรรมะโลกุตระนั้นทวนกระแสโลก ปฏิโสตัง

รายละเอียด

จริงนะ พวกที่บรรลุธรรมที่เป็นโลกุตระ มันเป็นคนแปลกจากกลุ่มโลกียะเขา เขาก็ไปทิศทางเดินแบบเขา ส่วนโลกุตระอารยธรรมของพระพุทธเจ้านั้นสวนทาง ปฏิโสตัง มันสวนทางกัน เพราะฉะนั้น แน่นอนมันย่อมไม่เหมือนกันแน่ ถ้ามันเหมือนกัน มันก็ไม่ใช่ธรรมะของพระพุทธเจ้า ธรรมะของพระพุทธเจ้าต้องไปในทางเดียวกัน 

เพราะฉะนั้น จะไปทางของคุณที่คุณว่าถูกแล้ว เราก็ไปอีกทางหนึ่ง แต่มันมีอีกอันสวนทางกัน ตอนนี้ไม่ใครก็ใครต้องเป็นผู้ถูก สวนทางกัน ไม่คุณก็เราล่ะถูก คนหนึ่งผิดแน่ เพราะฉะนั้นก็ต้องมาพิจารณาว่า ถ้าฝ่ายใหญ่ กระแสหลักถูก ศาสนาพุทธจะเป็นอย่างนี้ไหมอย่างที่มันเป็นอยู่ทุกวันนี้ ที่คุณบอกว่า โอ้โห! มันจะเคารพพระกันไม่ได้แล้ว ต่างๆนานาสารพัดของคุณ แต่คุณเคารพกันอยู่ก็เป็นโลกีย์ ยังมี แต่ธรรมะพระพุทธเจ้านั้นเป็นโลกุตระมันเหนือกว่าตรงสวนทางนี่ล่ะ ถ้าไปโลกียะเหมือนกันมันก็จะไปดีๆสูงสุด แต่นี่ไม่ใช่แม้แต่ดีสูงสุดก็ไม่เอา ของพระพุทธเจ้านี้ ดีสูงสุดก็ไม่เอา แต่ทำดีสูงสุดให้ได้แต่ไม่ได้ยึดดีเป็นเราเป็นของเราไม่เอา 

เพราะฉะนั้น อาตมาทำดีสูงสุดได้ ขออภัยนะที่พูดตรงๆชัดๆพูดความจริง อาตมาพูด 2 คำ วกไปวนมา ไม่ค่อยเก่ง พูดมีแต่คำจริง เปรี้ยงๆ คำเดียว อาตมานี่ ทำและพูด ก็อย่างเดียว ไม่เป็น 2 อย่าง เป็นโลกีย์บ้าง เป็นโลกุตระบ้าง ไม่ใช่ โลกียะบางทีมันก็ทำดีบ้างไม่ทำดีบ้าง แต่ของโลกุตระต้องทำดีอย่างเดียวและดีไปหาความสูญด้วย ดีไปหาสูญ จริงๆ อาตมาพูดแต่คำจริง คำไม่จริงไม่มี พูดแล้วก็น่าหมั่นไส้ พูดอะไรไม่จริงไม่มี พูดอะไรจริงหมด มันเป็นไปได้อย่างไร มันก็ต้องมีผิดบ้างพลาดบ้าง อาตมาว่า ยากเนาะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมให้เกิดปัญญาเพื่อสละตัวตน วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2565 ( 19:36:33 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์