@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

เศรษฐกิจของชาวอโศก

รายละเอียด

ถ้าชาวอโศกเจริญเป็นหมู่กลุ่มมีเครือแห  สร้างอะไรที่เป็นปัจจัยสำคัญชีวิตได้มาก  ได้มากจนกระทั่งสามารถทำแล้ว  เขาขายก็ขายเพียงเล็กน้อยพอที่จะเอามาใช้หมุนเวียนกันพอ  เกินนั้นเราจะแจกเผื่อแผ่ผู้อื่น  นี่คือเศรษฐกิจนะ ที่กำลังอธิบายเป็นเศรษฐกิจชองชาวอโศก  เราก็จะทำให้คนนี้แหละได้รับสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญ  เราจะใช้ความพยายาม  ความรู้ของเรา  สร้างเป็นผลผลิตออกมา โดยไม่เอาไปสร้างผลผลิตที่มันเฟ้อ  ที่อวดเก่งเฉยๆ  แต่ไม่ได้อาศัย  ไม่ได้เป็นสิ่งที่จำเป็น สำคัญอะไร มีแต่ความเห่อเหิม  ความเกินเฟ้อ  ที่เขาไม่เข้าใจ ซึ่งมันเลยเถิดไปเยอะแล้ว

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ ปฐมอโศก วันพุธที่  20 พฤศจิกายน  2562


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2562 ( 16:57:20 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:11:49 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:18:30 )

เศรษฐกิจของชาวอโศกสูงสุดเป็นสาธารณโภคี

รายละเอียด

เศรษฐกิจของชาวอโศกสูงสุดเป็นสาธารณโภคี เป็นเศรษฐศาสตร์ที่คนเสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์ให้แก่ส่วนกลาง ถ้าจะพูดอย่างกว้างคือประชาชนเสียภาษีให้แก่รัฐบาล 100% ทุกคนทำงานฟรี เอาเข้ากองกลางหมดเลย มันสุดยอดกว่าคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตยที่ต้องการ เขาก็ต้องการให้เงินกองกลางมีมากนั่นแหละ คอมมิวนิสต์ใช้อำนาจบังคับ กดขี่บังคับให้คนมีรายได้มากเสียภาษีมาก ประชาธิปไตยก็ไม่บังคับเท่าไหร่

ซึ่งของชาวอโศกของพระพุทธเจ้าหรืออย่างในหลวงทำได้สำเร็จแล้ว ให้คนมาเข้าใจและมีความจนเข้าใจว่ามีชีวิตแบบคนจน ดำเนินชีวิตอย่างไม่เดือดร้อน ถึงขั้นทำงานฟรี อาตมาประสบความสำเร็จแล้ว อย่างที่พาพวกเราประพฤติเป็นได้จบเลย ทำงานก็เอาเข้ากองกลางหมดเลย พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้ ซึ่งมันจบแล้วนะเรื่องเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์บทนี้ เรียกว่า ชาวอโศกเราทำจบหมดแล้ว มันสบายไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว ไม่มีอะไรดีเกินกว่านี้ไปได้ นี่ดีที่สุด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดารวันพุธที่ 14 มีนาคม 2561ที่บวรราชธานีอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน สาธารณโภคีคือสิ่งยอดเยี่ยมที่สุดของเศรษฐกิจ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:45:59 )

เศรษฐกิจของประเทศ

รายละเอียด

การอธิบายด้วย GDP Gross Domestic Product รายได้มวลรวมของเรา โดเมสติก ภายในประเทศ อาตมาอธิบายว่า รายได้มวลรวมคือของคนในประเทศเท่านั้นจริงหรือเปล่า หรือพูดแล้วก็ตีกิน ไปเอาเปรียบเอารัด จากประเทศอื่นเขา ไม่ใช่ของตนเองภายใน คุณก็ไปเอาของคนอื่นเขามา เอาสินค้าผลผลิตของคุณไปขายเขาแล้วก็เอากำไร เอาผลได้เกินทุนมากเท่าไหร่เท่าที่จะทำได้ Maximize profit คุณใช้วิธีนี้หรือเปล่า ถ้าคุณใช้วิธีนั้นคุณก็ได้มาแล้วก็เอาไปเรียกรวมว่าเป็น GDP อันนี้ผิด

อาตมาให้ความหมายอันนี้มาหลายครั้งแล้ว ถ้าจะเอา GDP อย่างซีเรียส มันต้องของเราเอง ของคนอื่นนั้น เรายิ่งเป็นผู้ที่สร้างได้มากมีผลผลิตสูงมีความเหลือ มีส่วนเกินเยอะ คุณแจกจ่ายไปสิ ขายต่ำกว่าทุนแจกฟรี นั่นชื่อว่า Domestic แท้ แต่ถ้าคุณไปขายเกินทุน Maximize profit ได้กำไรมากเท่าไหร่ข้าก็เอา นั่นไม่ใช่ใหญ่ อาตมาอธิบายความหมายประเด็นนี้ละเอียดหลายที ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจกัน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 18:23:25 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:12:42 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:19:12 )

เศรษฐกิจของพระพุทธเจ้าเป็นอเทวนิยม เป็นบุญนิยม เป็นเศรษฐกิจที่ชำระกิเลส

รายละเอียด

คำว่าเศรษฐกิจ อาตมามีความรู้ตามความรู้ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องที่อาตมาเข้าใจและเห็นอยู่ว่า คนยังเข้าใจยาก คนเข้าไปในโลกของทุนนิยมเทวนิยม แต่เศรษฐกิจของพระพุทธเจ้าเป็นอเทวนิยม มันไม่ใช่ทุนนิยม แต่มันเป็นบุญนิยม เป็นอเทวนิยม เป็นเศรษฐกิจที่ชำระกิเลส ไม่ใช่เศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจของทุนนิยมเป็นเศรษฐกิจที่เพิ่มกิเลสทั้งกิเลสของ กาม และมานะอัตตา ส่วนบุญนิยมนั้นลดกิเลสกาม ลดกิเลสอัตตา มีปัญญาจริงๆแต่คนเข้าใจได้ยาก โดยเฉพาะศาสนาพุทธเสื่อมไปจากความรู้ของพระพุทธเจ้า มาถึง 2,500 กว่าปีนี้ ก่อนที่อาตมาจะมาพูดถึงเรื่องเหล่านี้ ก่อนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 จะตรัสว่า เศรษฐกิจจะต้องขาดทุนหรือขาดทุนของเราคือกำไรของเรา หรือจะต้องมาเอาแบบคนจน ในหลวงท่านตรัสแต่ไม่ได้บรรยายความมากเหมือนอาตมา ท่านเป็นในหลวงมีข้อจำกัดเยอะในการขยายความ จะไปตรัสแบบหักหน้านักเศรษฐศาสตร์นักเศรษฐกิจที่บริหารประเทศก็ไม่ได้ แล้วท่านจะไปสอนนักเศรษฐกิจที่บริหารอยู่มันก็ไม่ได้มันก็เลยลำบาก อาตมาถึงต้องจำเป็นมากที่จะต้องพูด เหมือนไม่ใช่หน้าที่แต่ก็เป็นหน้าที่ สังเกตในเมืองไทยไม่มีใครเขามาพูดอะไร คนอื่นๆใดๆจะมาพูดเลยว่าต้องมาเป็นคนจนต้องบริหารแบบคนจน ต้องมาขาดทุนของเราคือกำไรของเรา แล้วอาตมาพูดปากเปล่าไหม พูดแล้วเป็นเพียงฟิโลโซฟี เป็นเพียงปรัชญาโก้ๆ ตรรกศาสตร์หรือแค่ญาณวิทยา Epistemology เฉยๆ หรือว่าเป็น Phenomenology เป็นปรากฏการณ์วิทยา เป็นความรู้แบบ New Normal 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2563 ( 09:19:38 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:31:45 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:20:17 )

เศรษฐกิจของเมืองไทยดีที่สุดในโลก

รายละเอียด

เศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์อย่างที่ประเทศไทยก็มีเชิงชั้น มีนัยยะสำคัญ แนวโลกุตระด้วยกัน แม้จะไม่ชัดเจนเท่าอโศก ทุกวันนี้เศรษฐกิจของเมืองไทยดีที่สุดในโลก แต่คนเข้าใจเศรษฐศาสตร์ไม่ได้ ไม่ต้องไปฟังเสียงหมาเห่าหมาหอนว่าเศรษฐกิจชิบหาย เมืองไทยนี่ขอทานก็น้อย เปอร์เซ็นต์ขอทานคนไทยเทียบกับเปอร์เซ็นต์ขอทานในอเมริกา อย่านึกว่าในอเมริกาไม่มีขอทานนะ มีทั้งขอทานและนักเลง คนไร้บ้าน เมืองไทยดีกว่าเยอะ เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจเมืองไทยดีกว่าเยอะ

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรมบ้านราช เศรษฐกิจดีที่สุดในโลกอยู่ที่นี่ วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 12:34:51 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:13:28 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:20:54 )

เศรษฐกิจของโลกที่เขาต้องการ

รายละเอียด

เศรษฐกิจของโลกเขาต้องการให้คนไม่ยึดถือเป็นของตัวของตนเอง ให้ออกมาเป็นรวมส่วนกลางและออกมาแจกจ่ายเอามาใช้ร่วมกัน เป็นวิธีกรรมวิธีทั้งของประชาธิไตย ทั้งของคอมมิวนิสต์ มีแต่เผด็จการ หรือว่าสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่ริบของเขามาหมด ใช้อำนาจบาตรใหญ่ นอกนั้นก็เป็นคอมมิวนิสต์ก็ตาม ประชาธิปไตยก็ตาม ต้องการให้เอามาเป็นส่วนกลางให้มาก 

หลักฐานก็คือ คอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตย ก็ต้องพยายามให้เสียภาษีแก่ส่วนกลางให้มากๆ อย่างเช่น อเมริกาเขาก็ออกกฎหมายมา เก็บภาษีจากผู้ที่หาเงินได้มากๆ เขาก็เลยมีเงินส่วนกลางมาก เอามาเบ่งอำนาจใหญ่โตได้ แล้วก็มีกิจการต่างๆ นานา โดยเฉพาะกิจการขายอาวุธ ก็เลยได้เงินมามาก ขายเครื่องมือเครื่องไม้ เครื่องมืออุตสาหกรรม วิศวกรรมต่างๆ นานา มันก็เป็นไปเป็นธรรมดา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2565 ( 14:54:00 )

เศรษฐกิจขั้นสาธารณโภคีเป็นสังคมคนจนที่เหาะได้

รายละเอียด

เมื่อเป็นผู้ที่สามารถทำได้จริง คนเหาะได้ สังคมเหาะได้จึงมีจริง มีเศรษฐกิจขั้นสาธารณโภคี ขอแวะ เศรษฐกิจขั้นสาธารณโภคีเป็นอย่างไร 

เศรษฐกิจขั้นสาธารณโภคีนั้น เป็นสังคมคนจน ทำไมเรียกว่าสังคมคนจน เพราะเป็นสังคมคนที่มีวรรณะ 9 ซ้อนใหม่ ย้อนกลับไป มีคุณสมบัติ มีคุณธรรม มีคุณวิเศษ 9 ชนิดนี้ เพราะจน จนถึงขั้นเป็นศูนย์ ไม่มีเงินรายได้เข้าเป็นของตัวเองสักบาท  เอาเข้ากองกลางหมดเบิกกินเบิกใช้กับกองกลาง แม้เบิกไปใช้ไม่หมดก็เอามาคืนกองกลาง เราก็สร้างสรรไป ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อนะ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้จริงหรือ อาตมาว่า มันเป็นจริงได้ อาตมาเป็นจริงได้ นักบวชเป็นจริงได้ ฆราวาสก็เป็นจริงได้ บางคนอาจจะมียักไว้เป็นของตัวเองบ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาหรอก เอาไปหยิบกันไปแจกกันมาช่วยเหลือกัน ยิ่งมีความจำเป็นเจ็บป่วยก็จะช่วยกัน ตามความจำเป็น หมดก็เบิกกองกลางได้ 

ข้อสำคัญก็คือ กองกลางไม่หมด ทำไมมันไม่หมดเพราะว่าสมาชิกนี้ มีแต่ความขยันมีแต่ความสามารถ สร้างสิ่งที่จำเป็น สร้างสิ่งที่สำคัญ ขึ้นมากินใช้ เหลือ ขาย ขายได้อย่างไม่ต้องเอาเปรียบเอารัด ขายอย่างแจก ขายอย่างขาดทุน ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา

 นี่แหละได้ชื่อว่าคนเหาะได้ มาเป็นคนจน ไม่ได้หลอกนะ เพราะแต่ละคนไม่ได้มีเงินทองเท่ากับคนจนข้างนอกเขา บางคนจนกว่าข้างนอกเขา หลายคนด้วยชาวอโศก จนกว่าข้างนอกเขา มีแต่ของส่วนกลาง จะเป็นวัตถุเครื่องใช้สอยอาศัยหรืออาหารการกิน กับกองกลาง เสร็จแล้วก็ยังชีพไป เจ็บป่วยได้ไข้ก็ช่วยเหลือกัน พิการมา แก่มา อะไรก็แล้วแต่ ก็ดูแลกัน ตายสุดท้ายก็เผากันไป พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้อย่างแท้จริง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจนสาธารณโภคีที่เหาะได้ทั้งชุมชน วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 17:25:15 )

เศรษฐกิจคนจนอย่างชาวอโศกถ่วงดุลสังคมได้

รายละเอียด

นอกจากจะมีคนที่จะมีธาตุจิตธาตุปัญญาธาตุรู้ ในคนที่มีธาตุของโลกุตระ เหมือนอย่างประเทศไทย อย่างน้อยก็มีชาวอโศก ใช่ไหม ถ่วงดุลสังคมประเทศไทย จะมีจำนวนเท่าไหร่ก็แล้วแต่ เหมือนปรอท มีน้ำหนักมากนะ น้อยนะแต่หนัก ประชาชนเหมือนโฟม เบายิ่งกว่าโฟมอีก เหมือนลูกโป่ง ประชาชนเหมือนลูกโป่ง แต่ชาวอโศกเหมือนปรอท ถ่วงไว้ เหมือนไม่ได้ช่วยสังคมประเทศชาติ แต่ช่วยสังคมประเทศชาติอย่างสำคัญ ในทางนามธรรม มีปฏิกิริยาซับซ้อน มีปฏิกิริยาลูกโซ่ มาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่นกับลูกๆ หลานๆ งานมหาปวารณา มหาบิ๊กคลีนนิ่ง วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ธันวาคม 2565 ( 11:22:36 )

เศรษฐกิจคนจนเป็นเศรษฐกิจที่ดีอย่างไร

รายละเอียด

เศรษฐกิจดีที่สุดคือเศรษฐกิจคนจน สอดคล้องกับพระพุทธเจ้าและในหลวงรัชกาลที่ 9 และตรงเป้าที่สุดกับสัจธรรม เพราะอะไร คนในโลกนี้เป็นคนมีความโลภมากกว่าคนไม่มีความโลภซึ่งมีน้อย คนไม่มีความโลภคือคนที่มาทำตัวเป็นคนจน ความจนนี้ถ้าจนคนเดียวไม่มีเพื่อนเลย ไม่อยู่ในร่วมทฤษฎีหลักการเดียวกัน มีความจนคนเดียวก็ตายคนเดียว แต่ทฤษฎีของพระพุทธเจ้านั้นไม่ใช่ขัดแย้งกับธรรมชาติ คนเป็นสัตว์โขลงที่ยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นก็ให้คนมาศึกษาและเป็นคนจนในทฤษฎีเดียวกันกับของพระพุทธเจ้าให้ได้ เมื่อคนมาจนได้มีจิตที่มีปัญญา จิตใจมันรู้ว่าต้องมาจนแล้วมันมีความเป็นได้คือมี เจโต และรู้ว่าจนนี้ดีด้วย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 มกราคม 2564 ( 10:51:34 )

เศรษฐกิจคนจนแบบบ้านราชคือสิ่งที่นักเศรษฐกิจคาดไม่ถึง

รายละเอียด

จนนี่แหละแต่เกื้อกูลผู้อื่น  จนนี่แหละจะเลี้ยงประเทศเลี้ยงชาติ ไม่ได้ไปเบียดเบียนเอาเปรียบเอารัด มีแต่ช่วยเลี้ยงดูผู้คนช่วยเลี้ยงประชากรในประเทศ อย่างพวกเรานี้พวกเราพอ พวกเรานี้มีผู้ได้คิดคำนวณตรวจสอบ อย่างบ้านราชฯ ประชากรมีเท่านี้คน ในจำนวนคน ประชากร จะมีรายได้มาแล้วเราก็กินใช้ เหลือเราก็สะพัดออกให้แก่ผู้อื่น ตกลงแต่ละคนในชุมชนราชธานีอโศก แต่ละคนจะใช้เงินคนหนึ่งประมาณ 34.9 บาท คิดจากอัตรารายได้ของรัฐ แต่ละคนควรจะมีรายได้อย่างน้อย 300 บาทต่อวัน แต่ชาวอโศกนี้กินอยู่อาศัยใช้แต่ละคนแค่ไม่ถึง 40 บาท กินใช้ในนี้คำนวณแล้วประมาณนี้นอกนั้นสะพัด ออกไปช่วยคนอื่น นั่นคือเราช่วยเศรษฐกิจสังคมอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้สะสมกักตุน เราแต่ละคนทำงานฟรี อาศัยกินใช้ที่เหลือก็สะพัด ผู้ที่จะมารับจากเราก็มีเสมอ เป็นวัตถุก็ตามเป็นรายได้ก็ตาม แม้แต่ผู้ที่มารับจ้างอยู่ในนี้ เดือนหนึ่งเราก็จ่ายเป็นเงินหลายล้าน แต่พวกเรามาทำงานฟรีกันทั้งนั้น แต่คนข้างนอกมารับจ้างได้เงินอยู่ในนี้ แล้วเราเอาเงินมาจ่ายเขาได้จากไหน เราก็ทำงานมีอยู่ อุทยานบุญนิยม มีโรงปุ๋ย แม้แต่อื่นๆ เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านมา แม้ไม่มีก้อนไม่มากแต่ก็พอจ่ายเขา ช่วยเหลือสังคมเขาได้ ส่วนพวกเราก็ทำงานฟรี เราอาศัยกินใช้แค่คิดเป็นเงิน 30 กว่าบาท นอกนั้นเราก็สามารถให้แก่สังคม นี่คือสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เค้าคิดอาตมาก็เข้าใจ เราอยู่อย่างไม่เบียดเบียน เป็นสังคมที่ให้แก่ผู้อื่นตลอดเวลา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 10:43:25 )

เศรษฐกิจคือการเฉลี่ย

รายละเอียด

ทุกวันนี้ผู้บริหารปกครองของจีนเข้าใจเศรษฐกิจคือการเฉลี่ย ทำให้ประชาชนของเขาอยู่กันอย่างดีขึ้น เขาจะไปได้ราบรื่นอีกไกลเลย จนตอนนี้เขายกให้สีจิ้นผิงอยู่ต่อไปเลยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2563 ( 10:30:29 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:32:54 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:21:12 )

เศรษฐกิจคืออะไร

รายละเอียด

ทีนี้มาเข้าความหมายของเศรษฐกิจ เศรษฐกิจดีคืออะไร เข้าหาเป้า เศรษฐกิจดีคือความเป็นอยู่ สุขสงบ อุดมสมบูรณ์ทั่วถึงกันของสังคมมนุษย์ชาตินั้นๆ ที่ใช้คำว่าสังคมมนุษย์ชาตินั้นๆ คือสังคมใดที่มีความคิด ที่มีความเข้าใจแล้วก็บริหารจัดการกัน ให้มีความเฉลี่ยสิ่งที่สำคัญที่สุด คือของกิน ส่วนของใช้เป็นรอง เฉลี่ยของกินให้ทั่วถึงได้โดยไม่อดอยาก

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 10:56:20 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:33:29 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:21:34 )

เศรษฐกิจคืออะไร

รายละเอียด

เศรษฐกิจคืออะไร คือการนำสิ่งที่อาศัยกินใช้ที่มีจำนวนจำกัด และเอามาพยายามที่จะเฉลี่ยแบ่งแจกเกื้อกูลกันให้อยู่ได้พอมีพอกินกันไป นี่เป็นการขยายความนิยามขยายความหมายของมันง่ายๆ ให้ฟัง 

นั่นคือเรื่องของสิ่งอาศัย เศรษฐกิจสิ่งอาศัยกินใช้อาศัยกินที่เฉลี่ยกันอยู่ 

ส่วนการเมืองนั้นเป็นเรื่องของอำนาจ เป็นเรื่องของการจะมีอำนาจ จะเป็นใหญ่ จะได้เป็นผู้บริหาร จะได้เป็นผู้จัดการ อะไรต่ออะไรต่างๆ นานา 

เราก็ดูอยู่กับสังคม เราไม่ต้องไปเป็นผู้มีอำนาจ ฟังให้ดีนะมุมนี้ เราไม่ต้องไปเป็นผู้มีอำนาจ แต่เราเป็นคนที่ดี เป็นคนที่เข้าใจคนและกลุ่มคน และการกระทำของคน แล้วเราเข้าไปช่วยคน ช่วยกลุ่มคน ช่วยการกระทำของคน ตามภูมิของเราว่า อย่างนี้มันไม่ดีช่วยเขาให้ดี อย่างนี้มันไม่เจริญช่วยเขาให้เจริญ อย่างนี้มันเสียหายก็พยายามช่วยให้หยุดกัน คุณก็ไปช่วยกันทำอย่างนี้จริงๆ กับแต่ละที่แต่ละกลุ่ม 

โดยที่ไม่ต้องยึดว่า ตัวเองเก่งตัวเองรู้ตัวเองทำได้ อย่างนี้คือเป็นผู้ที่ประชาชนจะให้อำนาจแก่เรา แต่ถ้าเราบอกว่าฉันนี่แหละเก่ง ฉันจะไปจัดการอย่างโน้นอย่างนี้เหมือนนักการเมืองขี้โม้ ฉันจะทำอย่างนี้ ฉันจะให้เป็นอย่างนี้ ฉันจะสร้างอย่างนี้ ..ขี้หมาแน่ะ

ไม่ต้องอวดอย่างนั้นเลย ไม่ต้องพูดอย่างนั้นเลย แต่ให้คุณแสดงการกระทำ แสดงการประพฤติ แสดงความสามารถของคุณไป คุณเริ่มต้นแสดงยังไม่เริ่มทำ ไม่ต้องไปเอาโม้ ไม่เอาขี้โม้ เอาขี้ทำ เนื้อทำเลยไม่ต้องขี้ ทำจริงๆเลย 

ทำตั้งแต่คุณเริ่มจะมาเป็นนักการเมือง คุณก็ทำงานกับประชาชนโดยไม่ต้องคุย อย่างอุ๊งอิ๊ง จะมาเป็นนักการเมืองมีแต่ขี้โม้ ยังไม่ทำอะไรกับเขาเลย 

ถ้าจะพูดแล้ว โอ้โห.. แล้วจะมาเหนือ โพลบอกว่า ประชาชน ให้คะแนนอุ๊งอิ๊ง จะเป็นนายก ลุงตู่ใช้ไม่ได้ ประชาชนเอ๋ย ตามืดตาบอด แต่ที่จริงมันมีแทคติก มันมีเทคนิควิธีทำโฆษณาอะไรทุกอย่าง ยิ่งทุกวันนี้ เฟคของ Social Media ของวิธีการมีมากเลย เพราะฉะนั้นเขาจึงได้คะแนนนี้ตามโพล ได้คะแนนตามที่เขา มุกมิก เกิดจาก ทำให้คนเข้าใจว่า อย่างนี้จะมีประชาชนเห็นด้วย มันยิ่งส่อ ให้เห็นว่ามวลชนประชาชนโง่ตามแค่คำโฆษณา อวดอ้าง ไม่เข้าไปถึงสาระแก่นสาร เนื้อแท้ของพฤติกรรมของมนุษย์ 

คนที่เห็นพลเอกประยุทธ์​ กับอุ๊งอิ๊งเทียบกันแล้ว แล้วก็ไปเข้าใจว่าอยากได้อุ๊งอิ๊งมากกว่าพลเอกประยุทธ์นี่นะ พวกนี้คือโง่ดักดาน ขออภัยที่อาตมาพูดสัจธรรมความจริงไม่ได้ไปด่าใคร พูดให้รู้ตัว ถ้ารู้ตัวว่าฉันเป็น นี่ โพธิรักษ์บอกว่าคนพวกนี้โง่ดักดาน แล้วก็โกรธก็เรื่องของคุณ ไม่โกรธก็แล้วไปเข้าใจว่าจริงหรือ แล้วคุณมาตรวจสอบศึกษาให้ดีๆ 

จริงๆแล้วโดยค่ารวมเฉลี่ยของคนประเทศไทย เอาอย่างนี้ มันซับซ้อน อย่างนี้นิดนึง เลือกตั้งครั้งนี้ ดูคะแนนของรวมไทยสร้างชาติ กับเพื่อไทย ดูอันนั้นก็แล้วกัน ถ้าคะแนนของรวมไทยสร้างชาติไล่ทันหรือไล่ติดเพื่อไทยถือว่าชนะ ถ้ายิ่งรวมไทยสร้างชาติชนะเพื่อไทยเลย เมืองไทยเลิศ 

แค่รวมไทยสร้างชาติได้คะแนนใกล้เพื่อไทยเข้าไป ก็เจริญแล้ว อาจจะมีภูมิใจไทย คั่น อะไรก็แล้วแต่บ้าง หรือประชาธิปัตย์มาคั่น แต่ประชาธิปัตย์ดูเหมือนจะยากแล้วทุกวันนี้ ก็จะมีภูมิใจไทย 

อาตมาอธิบายวิจัยพวกนี้เป็นความรู้เรื่องการเมืองของอาตมาทั้งนั้น ไม่ใช่ว่า อาตมาตามืดตาบอดไม่รู้อะไรเลยกับโลกกับสังคม ไม่ใช่ แต่อาตมาไม่ได้ไปเล่นการเมือง ไม่ได้เป็นนักวิจัยวิจารณ์การเมือง

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหาให้ปัญญาค่ายยุวชนอโศกสัมพันธ์ พุทธศาสนาตามภูมิ วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 05:22:26 )

เศรษฐกิจคืออะไร ในสาราณียธรรม 6

รายละเอียด

เศรษฐกิจ คือการแบ่งกินแบ่งใช้ในของกินของใช้จำนวนหนึ่ง อย่างดีในกลุ่มแบ่งกันกินใช้ได้อย่างถ้วนหน้า ที่นี้ความเห็นแก่ตัวมันจะเอาเปรียบ    เราได้การเอาเปรียบนี่แหละมันคือกิเลสของมนุษย์   หลักประกันสังคมที่จะทำให้อยู่กันได้ต้องเสียเปรียบเสียสละได้ ผู้ที่แข็งแรงกว่าก็เสียสละให้ผู้อ่อนแอกว่าอุ้มชูผู้ที่อ่อนแอกว่าไม่เก่งเท่า คนที่เก่งกว่าก็เสียสละให้แก่คนที่ไม่เก่งอันนี้เป็นคุณสมบัติที่แม้แต่สัตว์เดรัจฉานมันก็มีมาเรื่อยๆเมื่อมาเป็นมนุษย์ที่เจริญสูงสุดก็จะเป็นเช่นนั้น กระทั่งเกื้อกูลกันไปเกื้อกูลกันมา ช่วยเหลือกันไปช่วยเหลือกันมา 

คนที่ช่วยเหลือผู้อื่นได้มากในการทำงาน ทั้งแรงงานทางสมอง แรงงานทางกาย ทำได้มาก คนก็จะมาช่วย คนที่มีจิตใจที่ช่วยเหลือมนุษยชาติเป็นคนประเสริฐ คนนั้นก็จะได้รับการอุดหนุนจุนเจือจากคนที่เขามีความสามารถเท่าที่จะช่วยได้ ช่วยคนละนิดคนละหน่อยเท่าที่จะช่วยได้ เขาก็จะช่วยกันก็จะเกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน เรียกว่า สังคหะหรือการสังเคราะห์กันและกัน เกื้อกูลกันและกันไปอย่างดี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:04:42 )

เศรษฐกิจจะดีนั้นเน้นที่งานไม่ใช่ไปเน้นที่เงิน

รายละเอียด

อาตมาพูดจนคอจะแตกแล้วอธิบายไปแล้ว อธิบายจบจนกระทั่งว่า คนที่ไปงมงายอยู่กับเงิน นั่นคือคน ง.โง่ อย่าไปเอาเงินมาเป็นหลัก เอางานมาเป็นหลัก อย่าไปงมงายอยู่กับ ง.โง่ เงิน เอางานที่งามที่งอกงาม งานที่เป็นสัจจะประเสริฐจริง เป็นหลักของมนุษย์ อย่าไปโง่อยู่กับเงินๆ ทองๆ เพราะฉะนั้นเรื่องจน คนมาเป็นคนจนพิสูจน์ได้ คุณทำงานให้แก่ประชาชนนี้เถอะ แล้วไม่ต้องสะสมเงินเลย อย่างอาตมานี้ ไม่เห็นอดอยากเลย แล้วพาพวกเรามา ก็วางมา ละทิ้งมาเหมือนกัน แล้วพวกเราอดอยากไหม ก็ไม่อดอยาก เป็นคนจนที่อุดมสมบูรณ์ไม่อดอยากอะไรเลย 

เพราะในภาวะสัจธรรมที่พระพุทธเจ้าสอน เราไม่ไปโง่ที่จะไปติดอะไรพะรุงพะรัง ไอ้นี่ก็งาม ไอ้โน่นก็หรู ไอ้นี่ก็สวยก็แพง ไอ้นั่นก็ชั้นสูง ก็ไฮโซ เลิกโง่จากพวกนั้นมาหมดแล้ว รู้จักเหตุปัจจัย สาระปัจจัยของชีวิตมันนิดเดียว ไม่มากเลย แถมบริขารอีกก็ยังไม่มากเลย องค์ประกอบที่จะใช้ในชีวิต ทุกวันนี้ก็อาจจะมีดินสอ ปากกาแว่นตาหรือคอมพิวเตอร์ก็ตาม ก็ไม่ใช่เพื่อตัวเรา ไม่ได้เพื่อหาเงิน ไม่ได้เพื่อเสพสุข แต่เพื่อทำงานรับใช้สังคม อาตมาใช้คอมพิวเตอร์ ใช้เพื่อสังคม ไม่ได้ใช้เพื่อหาเงิน เป็นเงินทางอากาศ ไม่ได้ใช้แบบนั้น แต่ใช้เพื่อจะเป็นความรู้ทางธรรมะ เอาไว้เขียนหนังสืออธิบายเนื้อหาธรรมะ เพื่อสื่อสารธรรมะ เพื่อบันทึกธรรมะอะไรต่างๆ เท่านั้น 

สรุปแล้วต้องมาเป็นคนจนจริงๆ เพราะฉะนั้น นักการเมืองที่ดี ผู้รับใช้ประชาชนที่จริง ต้องเป็นอาริยบุคคล ถ้าไม่ใช่อาริยบุคคลจริง โดยเฉพาะเป็นอรหันต์ ถ้าไม่ใช่อรหันต์จริงก็ยังไม่ใช่นักการเมืองแท้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แพ้แน่ๆ ถ้าพลังเงียบไม่ช่วย

วันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2566 วันขึ้น 9 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2566 ( 11:38:12 )

เศรษฐกิจดี วัดกันที่รายได้องค์รวม GDP

รายละเอียด

เศรษฐกิจดีเขาวัดกันที่ GDP  เป็นเครื่องวัด Gross Domestic Productรายได้องค์รวม หากสังคมที่มีเศรษฐกิจดีรายได้องค์รวมจะต้องมีน้อยรายได้เอาไว้น้อย อัปปิจฉะ สามารถมีไว้น้อยแต่สะพัดได้เก่ง ไม่ขาด ไม่เป็นหนี้ไม่ขาดตอน หมุนได้คล่องตัว มีไว้น้อยแต่อยู่ได้ นี่คือเครื่องชี้บ่งเศรษฐกิจที่เจริญที่ยิ่งใหญ่ แล้วรายได้องค์รวมภายในต้องไม่ไปนับเอาจากคนอื่นเขามา แต่เอาของตัวเองที่ผลิตได้ product คือสิ่งที่สร้างขึ้นเองของภายในเราเอง เช่น พืชพันธุ์ธัญญาหารของเรา เราอาจจะไม่เก่งทางอุตสาหกรรม เขามีเราก็เอามาใช้เท่าที่จำเป็น

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่  5 มกราคม  2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 10:46:16 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:14:05 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:22:05 )

เศรษฐกิจดี หรือ เศรษฐกิจไม่ดี

รายละเอียด

เศรษฐกิจคือ การสะพัด การเดินทางของผลผลิตกับแรงงานทางกายทางสมอง เกิดผลกับสังคม ถ้ามันดีก็คือทำให้สังคมดีถ้ามันไม่ดีก็คือทำให้สังคมไม่ดี คุณจะตีราคาผลผลิตแรงงาน ให้เป็นเงินเป็นกระดาษชำระ หนี้ได้ตามกฎหมายก็เรื่องของคุณ คุณรู้จักกระดาษชำระไหม ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย อาตมาเรียกสั้นๆว่ากระดาษชำระ ซึ่งเป็นเรื่องจริง  พวกเราธนบัตรเหมือนกระดาษชำระ แต่มันใช้หนี้ได้ตามกฎหมายก็ใช้ไป ก็เหมือนกับเราจำเป็นต้องใช้กระดาษชำระนั่นแหละ

คำว่าเศรษฐกิจคืออะไร เศรษฐกิจคือการสะพัดการเดินทางของผลผลิตหรือแรงงานทางกายทางสมอง ของใครก็แล้วแต่แล้วไปเกิดผลทางสังคม ให้พัฒนาให้เจริญขึ้น เรียกว่าเศรษฐกิจดี ถ้าไปเกิดผลทางสังคมให้สังคมไม่เจริญก็เป็นเศรษฐกิจไม่ดี

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 31 ตุลาคม 2562 ( 08:10:22 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:14:43 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:22:37 )

เศรษฐกิจดีของโลกโลกียะมีแต่โลภและเห็นแก่ตัว

รายละเอียด

โดยโลกโลกียะ เขามีความโลภเป็นเจ้าเรือน มีความเป็นตัวกูของกูเป็นเจ้าเรือน เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจดีคือเราจะต้องได้มามากๆมีมากๆรวยๆ เรารวย ครอบครัวเรารวย ประเทศเรารวย ประเทศอื่นจะจนจะไม่มีอยู่ไม่มีกินอย่างไรก็เรื่องของเขา แต่เราต้องรวย กอบโกยมาๆ เรียกว่า GDP เจริญ เศรษฐกิจเจริญ… นั่นเอาความเห็นแก่ตัว เอาความโลภเป็นที่ตั้ง มันไม่ได้ไปอธิบายคำว่าเศรษฐกิจดีเลย มันอธิบายความโลภ มันอธิบายความเห็นแก่ตัว มันเอาอัตตาเอาความโลภเป็นที่ตั้ง จนกระทั่งถึงขั้นอำมหิต ยื้อแย่ง แย่งไม่ได้ธรรมดาก็บุกรุกเอาเลยปล้นเอาเลย มันเจริญขึ้นเหมือนกันนะแต่ก่อนมันปล้นเอาเลย บุกรุกเหมือนกับเจงกิสข่าน บุกปล้นเอาน้ำมันพื้นที่ทรัพย์สิน แม้กระทั่งต่อมาพวกล่าอาณานิคมก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะตั้งแต่ฝรั่งเศส เยอรมันอังกฤษ ก็ล่าอาณานิคม นั่นแหละ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2563 ( 18:07:43 )

เศรษฐกิจดีคือการที่คนมีอยู่มีกินอุดมสมบูรณ์

รายละเอียด

การที่คนมีอยู่มีกินอุดมสมบูรณ์นี้เป็นเศรษฐกิจดีแล้ว หากคุณต้องการขายเอาเงินมามากๆนี่แหละ อันนี้ข้อสำคัญที่ว่าแล้วเราแบ่งแจกกันมั้ย คนที่มีอยู่มีกินคนที่สร้างได้มาก สร้างผลผลิตได้มาก แล้วเป็นผลผลิตที่มีความจำเป็น ผลผลิตที่มีความสำคัญของชีวิต โดยเฉพาะอาหารการกินเครื่องกินเครื่องใช้ โภชนา สิ่งเหล่านี้มันพอกินพอใช้ในพวกเราไหม ไม่ใช่ว่าเศรษฐกิจดีเพราะเอาไปขายข้างนอก แต่คนข้างในไม่พอกินไม่ก็พออยู่ปล่อยให้ยากลำบากขาดแคลน อย่างนี้เป็นเศรษฐกิจนายทุน แล้วเขาก็ทำอย่างนี้ในต่างประเทศ นายทุนมีสตางค์ก็ซื้อไปหมด คนที่ไม่มีกินก็ช่างมันเถอะในประเทศ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2563 ( 12:29:49 )

เศรษฐกิจดีคือเศรษฐกิจที่มีทรัพย์สินแต่เพียงพอดีพอเหมาะพอเพียงแต่ละฐานะบุคคล

รายละเอียด

เศรษฐกิจจริงๆแล้ว เศรษฐกิจที่ดีคืออะไร เศรษฐกิจที่ดีคือเศรษฐกิจที่มีทรัพย์สินแต่เพียงพอดีพอเหมาะพอเพียง แต่ละฐานะบุคคล ทีนี้ ฐานะบุคคลที่มันผิดพลาดอยู่ทุกวันนี้ก็คือ เศรษฐกิจดีนั้น ผู้ที่ทำงานหนักผู้ที่ทำงานทำงานสร้างสรร ไม่ใช่เอาหุ้น วิธีคิดแบบทุนนิยมเอาหุ้น เป็นทรัพย์สินที่จะใช้แนวคิดว่า อันนี้เป็นทรัพย์สินของบุคคลนี้ซับซ้อนไว้มากๆ ที่จะฝากไว้ตรงไหนก็แล้วแต่ วิธีคิดสะสมเงินทองเป็นของตัวเองมากๆสะสมด้วยเงินทองหรือวิธีการอื่น เป็นหลักทรัพย์ เป็นวิธีคิดที่สะสม สรุปง่ายๆว่าเป็นการสะสมทรัพย์สินเงินทองเกินกว่าความพอเหมาะพอดีของฐานะนั้นเป็นวิธีเลวทรามทั้งสิ้น สรุป คนก่อสร้างความรวยให้แต่ตัวเองเป็นคนเลว 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2563 ( 11:23:13 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:35:06 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:23:20 )

เศรษฐกิจดีต้องทำแบบคนจน

รายละเอียด

ยกเอาตัวตั้ง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านบอกว่าต้องมาบริหารแบบคนจน ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา คุณขาดทุนให้แก่คนอื่นได้เสมอนั่นแหละคือคุณกำไรอยู่เสมอเสมอ แล้วเป็นจริงนะ แล้วทำไมมาขาดทุนได้ จะไม่ขาดทุนได้อย่างไร เราสร้าง 1,000 แล้วเราก็กินใช้แค่ 200 มันก็เหลืออีกตั้ง 800 แล้ว 800 เราให้คุณก็คือเราขาดทุน เราชักเนื้อให้คุณ 800 นี้ของเรานะ เราให้คุณนะ เราก็กินใช้แค่ 200 แล้วเราก็ขยันทำทุกวันมันก็มีเพื่อนอยู่ทุกวัน หลายคนมารวมกันต่างคนต่างเหลือก็ยิ่งมีเหลือเยอะ ก็ยิ่งสะพัดกระจายไปช่วยผู้อื่นได้ ถ้านักเศรษฐศาสตร์ฟังแค่นี้ก็คงจะเข้าใจ ที่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องโมเม 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 11:08:34 )

เศรษฐกิจดีแบบชาวอโศกคือมี วรรณะ 9

รายละเอียด

คนเรา 2 คนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย คุณอัมพรมองว่าลุงตู่มาบริหารประเทศและทำให้เศรษฐกิจนี้ไม่ดี คนต่างประเทศเขามองมาด้วย เขามีนักเศรษฐกิจสถิติบอกเลยว่า ลุงตู่บริหารประเทศเศรษฐกิจไทยขึ้นอันดับดังนี้ คุณอัมพรนี่ไม่รู้เรื่องอะไรไม่รู้ไปมืดบอดอยู่ที่ไหน บอกว่าไม่ดีขึ้นเลย ข้าวยากหมากแพง ก็ใส่ความไป 

แต่ก่อนนี้ก๋วยเตี๋ยวชามละ 10 สตางค์ ชามละสลึง ชีวิตของอาตมาผ่านมา เดี๋ยวนี้ชามหนึ่ง 50 บาทแล้ว บอกว่าราคามันแพงกว่า แน่นอน มันแพง แต่ก่อนมัน 10 ตังค์ ส่วนก๋วยเตี๋ยวสลึงหนึ่ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำนะกินชามเบ้อเร่อเลย ถ้า 10 ตังค์ก็ครึ่งหนึ่ง ถ้าชามละสลึงก็กินอิ่มเลย ต้มยำดีด้วยเครื่องปรุงพร้อมสมัยก่อน ก็ก๋วยเตี๋ยวชามเดียวกันนี่เดี๋ยวนี้ ดีไม่ดีมันขึ้นห้างขายชามละ 100 บาท 150 บาท ทั่วไปเดี๋ยวนี้ชามละ 50 แล้วกระมัง แล้วบอกว่ามีเศรษฐกิจไม่ดีเพราะราคามันแพง 

ผ้าขาวม้าแต่ก่อนผืนหนึ่ง 50 สตางค์หรือ 1 บาท เดี๋ยวนี้ผืนละ 100-200 บาท ก็ผ้าขาวม้าผืนเดียวกันแล้วบอกว่าเดี๋ยวนี้เศรษฐกิจไม่ดี เศรษฐกิจแพง มันไม่ใช่อะไรหรอก มันเป็นเรื่องของการสมมุติ คนที่ไปยึดติดราคาตัวเลข พวกนี้เมา พวกนี้งง พวกนี้ยังยากที่จะพ้นทุกข์ ชาวอโศกไม่ไปติดกับตัวเลข เศรษฐกิจอันเดียวกัน ยุคเดียวกัน  ชาวอโศกไม่ได้มีเงินทองหรูหรา ไม่ได้ใช้เงินซื้อนู่นนี่มากมาย ลดความจำเป็น ลดกิเลส กลายเป็นคนจนที่เศรษฐกิจดี ชาวอโศกเป็นคนจน ไม่ใช่พูดเล่นนะ เป็นคนไม่มีเงินมากจริงๆ ไม่สะสมเงินเลยแต่เศรษฐกิจดีเพราะสบาย อยู่กับสังคม ทำงานสร้างสรร กินใช้ลดกิเลสตาม มีวรรณะ 9 

อยู่กันอย่าง เลี้ยงง่าย (สุภระ) บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ)  มักน้อย, กล้าจน (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส  มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ)  ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ตรงข้าม อวรรณะ 9  ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ) โอ้โห อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูนการเสียสละ คนจนเอาแต่เสียสละ คนจนมีแต่เสียสละ คนอะไรวะ พิสดารจริงๆ เป็นคนจนแต่มีแต่เสียสละ ไม่เอาเปรียบเอารัดใคร จะถือว่าคนคนๆนี้บ้าไม่ได้เลยนะ อัจฉริยะ เห็นไหม เป็นคนอัจฉริยะ เป็นคนจนอัจฉริยะ ฟังดีๆ นะฟังธรรมที่อาตมาพูดนี่ไม่ใช่พูดเล่น 

แต่พูดโดยธรรมะพระพุทธเจ้าสอนแล้ว เราปฏิบัติตามได้ เป็นคนอัจฉริยะแบบนี้จริงๆ ในเมืองไทยมีคำสอนนี้ แล้วสอนไป พวกเราเข้าใจได้ แล้วปฏิบัติตนเป็นแบบนี้ได้ มีตัวอย่างในประเทศไทยคนไทย ในโลกเทวนิยมไม่มีคำสอนนี้ โลกตะวันตกเรียน Doctor มาทางเศรษฐศาสตร์ได้ด๊อกเตอร์ทางการเมือง ทางสังคมศาสตร์อื่นๆ ไม่มีตำราจะมาปฏิบัติได้อย่างนี้ของพระพุทธเจ้า ที่อาตมานำมาขยายความจริงของพระพุทธเจ้าที่มันเสื่อมไปนานแล้ว มันเป็นโลกุตระ อาตมานำเอาโลกุตระมาฟื้นและมีคนเป็นจริงได้ เท่าที่อาตมาทำงานมา 50 ปี ได้คนจริงมากระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีความเป็นอยู่ด้วยชีวิตแบบนี้ นี่คือลักษณะที่ดี เศรษฐกิจที่ดี ศึกษาดีๆ คุณอัมพร 

เพราะฉะนั้น คุณก็มีความรู้ มีความเข้าใจ มีทิฏฐิหรือมีวิสัยทัศน์มีกระบวนทัศน์ของความคิด มันไม่เข้ากับของพระพุทธเจ้า ยากนะศึกษาให้ดีๆ อาตมาเชื่อว่าคุณอัมพร สถานะหรือฐานะคุณอัมพร ทางด้านนอกนั้นอาตมาว่าจะรวยกว่าพวกชาวอโศก อาตมาว่าฐานะเขาดีกว่า มีเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของเขาในชีวิตจะรวยกว่าของชาวอโศกนี่เยอะ เขาก็มองว่าเศรษฐกิจไม่ดี เขาจะมีการใช้จ่ายมากกว่าชาวอโศกเยอะ แต่ชาวอโศกสบาย มีเศรษฐกิจดี เราลดการถูกโลกหลอก ลดการถูกหลอก มาเป็นคนมักน้อยสันโดษ ไม่ถูกหลอกเป็นคนสบายเลย อยู่กับปัจจัยชีวิต ให้เขาเข้าหาปัจจัย 4 หัวใจโลกๆที่เขาหลอกกันชาวอโศกมีน้อย จนกระทั่งไม่ถูก ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข หลอก มีแต่สิ่งที่ซ้อน ภวตัณหา วิภวตัณหา ซ้อนอยู่ข้างใน เห็นดีๆ อาตมาอธิบายสิ่งที่ประเสริฐอยู่จะได้ประโยชน์ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 28 สังคมอโศกคือสังคมสาราณียธรรมที่มีสภาวะจริง วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม 2566 แรม 1 ค่ำเดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 สิงหาคม 2566 ( 14:44:29 )

เศรษฐกิจตกสะเก็ด

รายละเอียด

ก็คงจะเป็นอย่างนี้ไปทุกๆสถานีเรื่องดาวเทียมก็คงจะเลิก มันเป็นภาระรุงรังทางด้านเทคโนโลยีมันก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ ใช้เน็ตมันเสถียรก็รับรองว่าดาวเทียมตกกระป๋อง แต่ตอนนี้อินเทอร์เน็ตไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ ดาวเทียมก็ยังมีสิทธิ์ลุ้นอยู่ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2563 ( 10:37:59 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:25:29 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:23:42 )

เศรษฐกิจที่จะเป็นทางรอดต้องมาจน

รายละเอียด

เศรษฐกิจที่จะเป็นทางรอด ต้องมาจน อย่างในหลวงเรานี้เป็นพระโพธิสัตว์ที่แท้จริงท่านถึงบอกว่าให้มาบริหารกัน ท่านตอบรัฐมนตรีเกาหลี ว่า บริหารประเทศแบบคนจน มีหลักฐานยืนยัน ท่านเป็นในหลวงนะ ไม่ใช่คนธรรมดาของโลก ในหลวงหรือพระเจ้าแผ่นดินของแต่ละประเทศเป็นอันดับ 1 ของประเทศจึงเป็นเรื่องที่สุดยอดยิ่งใหญ่แล้ว แต่ แม้แต่ข้าราชการผู้บริหารประเทศก็ยังไม่ค่อยเก็ตคำว่าบริหารแบบคนจน ยังไม่ซาบซึ้งพอ ก็บังคับเขาไม่ได้แต่ก็น่าจะสนใจคำตรัสคำสอน แล้วจะบอกว่าเดินตามศาสตร์พระราชา  แล้วท่านเป็นในหลวงนะ จะให้ท่านมาจน เดินเก็บขวดเหมือนชาวบ้านได้อย่างไร แต่ท่านจน ท่านได้ทรงพระจริยวัตรชัดเจนแล้ว แต่คนไม่รู้พอ ไม่รู้เท่าทัน ไม่เข้าใจได้อย่างสมสัดส่วน สมฐานะกาละเทศะ เขาก็ไม่รู้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้เกิดปัญญาถึงอรหันต์ วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 21:03:10 )

เศรษฐกิจที่ดีของพุทธต้องมาทำแบบคนจน

รายละเอียด

เนื้อหาแท้ๆของศาสนาพุทธ เจริญด้วย สมัยนี้เขาก็พูดกัน เจริญด้วยเศรษฐกิจ เจริญด้วยรัฐศาสตร์ เจริญด้วยสังคมศาสตร์ หรือจะเรียกรัฐกิจ สังคมกิจก็ได้ เจริญ เศรษฐกิจที่ดี อาตมาพูดนี้ พวกที่เขาฟังโดยเฉพาะนักเศรษฐศาสตร์โลกๆ รับรองว่าเขายังไม่เข้าใจเศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้าหรอก เศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้านั้นดังที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เราได้ตรัส จะต้องเป็นผู้ที่ มาทำแบบคนจน นี่เป็นเศรษฐศาสตร์ของพุทธมีวรรณะ 9 นั่นแหละเรียกว่า the classes เป็นคนชั้นสูงเป็นคนคลาสสิค เป็นคนมีวรรณะ classes คือวรรณะ 9 อย่าง เป็นคนไม่สะสม เป็นคนจน สรุปง่ายๆว่าเป็นคนจน นี่คือเศรษฐกิจที่ดี 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2563 ( 18:05:23 )

เศรษฐกิจที่ดีต้องมาเป็นคนจนแบบชาวอโศก

รายละเอียด

จริงๆ แล้วเรื่องเศรษฐกิจเขาเข้าใจยังไม่ได้ ซึ่งมันซับซ้อน น่าเห็นใจเหมือนกัน เศรษฐกิจที่ดีคือเศรษฐกิจของชาวอโศก ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านตรัสไว้แล้วว่า มาจน มาเป็นคนจน คนจนนี่แหละสุดยอดซับซ้อนที่สุดเลย เข้าใจไม่ได้ว่าจนจะอยู่อย่างไร ก็มาดูว่าชาวอโศกอยู่อย่างไร ชาวอโศกไม่กระดี๊กระด๊าไปแย่งลาภยศสรรเสริญอีกแล้วในสังคม มีวรรณะ 9 จริงๆ เลี้ยงง่าย บำรุงง่าย เป็นคนมักน้อย อัปปิจฉะ กล้าจน อย่างจริงใจ อย่างสำราญเบิกบานใจ จนอย่างรู้ว่า จนก็ดีกว่าไปรวยจะไปรวยทำไมให้คนมาแย่งชิงริษยา ไม่มีใครมาริษยาคนจนหรอก ถ้าไม่มีใครมาบอกว่าสู้เราไม่ได้หรอกเราจนกว่า ก็มีแต่พวกเราท้วงกันเองไป แล้วก็จริงใจ พวกเราก็รู้อยู่ว่ามันก็ยังหมกเม็ดอยู่นะ หลายเม็ดอยู่นะก็เท่านั้นเอง ไม่มีปัญหาอะไรเราก็รู้ว่าเป็นไปตามลำดับ ผู้ที่มีสำนึกสังวร ยังทำไม่ได้ก็เป็นตามลำดับ 

เพราะว่าเป็นเรื่องของปัญญาที่มารู้จุดสำคัญของโลกุตระเป็นเรื่องอจินไตย อธิบายไม่ง่ายมันต้องมาอยู่ที่ตัวเองรู้ตัวเอง มีจิตตัวเอง มีสภาพจริงของตัวเองแล้ว มันจะเป็นปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เทวนิยมใหญ่สุดโต่งอย่างไรในศาสนาพุทธ วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 19:49:42 )

เศรษฐกิจที่ดีที่สุดคือเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุด

รายละเอียด

แต่ว่าชาวอโศกเราได้ประพฤติปฏิบัติเศรษฐกิจแบบพระพุทธเจ้าแล้ว อาตมาถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว เพราะเป็นได้ถึงขั้นสาธารณโภคี เป็นของส่วนกลางเป็นส่วนยอด แล้วก็กระจายลงไปสู่ส่วนล่าง กระจายขึ้นไปส่วนบน สำหรับผู้ที่แข็งแรงก็กระจายลงไปสู่ส่วนล่าง สรุปคือเป็นเศรษฐกิจที่ไม่เห็นแก่ตัว ไม่มักได้ ไม่เห็นแก่ได้ มีแต่เห็นแก่มวลประชาชน เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เศรษฐกิจที่ดีที่สุดคือเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุด อยู่ด้วยกันอย่างแยกไม่ได้ แยกโดยภาษาคือประชาธิปไตยกับเศรษฐกิจ แต่โดยสภาวะแล้วมันคือการปฏิสัมพันธ์กันจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 11:45:51 )

เศรษฐกิจที่ดีที่สุดต้องทำให้คนมามีวรรณะ9

รายละเอียด

สรุปแล้วไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง อาตมาดูแล้วว่า เศรษฐกิจก็ไปได้ดีใช้วิธีการใช้ความรู้หลายๆคนหลายๆพรรคช่วยกัน ทีนี้ อยากจะขยายคำว่าเศรษฐกิจเข้าไป ให้ยิ่งขึ้นไปอีกว่า เศรษฐกิจที่ดีที่สุดนั้นเป็นเศรษฐกิจต้องทำให้คนพากันมาจน ทำให้คนมามีวรรณะ 9 ไปศึกษาวรรณะ 9 ของพระพุทธเจ้าให้ดีๆ ให้เป็นคนเลี้ยงง่าย ให้เป็นคนพัฒนาบำรุงให้เจริญได้ง่ายๆ สุภระ สุโปสะ เป็นคนมักน้อย เป็นคนมีน้อยหรือว่าเป็นคนกล้ามาจน ไม่ไปเอาหรอกไปรวยมีมากๆ เราเป็นคนมีน้อยๆไว้ ในที่สุดก็เป็น 0 ไม่ใช่มีน้อยที่สุดคือไปเป็นหนี้ เราไปไม่เป็นหนี้ ผู้ที่จนมีชีวิตเป็น 0 ได้นี้สุดยอดและเป็นที่ตั้ง พวกเราชาวอโศกนี้ทำได้ มีผู้คนที่มีชีวิตไม่สะสมเงินทอง ใช้กับส่วนกลางนี่แหละ เมื่อมีความจำเป็นความสำคัญที่จะใช้ ไม่จำเป็นต้องไปแบ่งแยกออกมาจากกองกลาง เราใช้ให้น้อยด้วย ไม่ต้องไปรบกวนกองกลางได้มาก นั่นแหละคุณเจริญ เพราะอันอื่นมีที่จะขยายงานขยายผลได้อีกมันมีอยู่ เรามาเป็นแรงงานช่วยเสริม แล้วก็สร้างเสริมเพิ่มให้ ไม่เอาไปใช้เพิ่มอีกก็เป็นการซับซ้อนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2563 ( 15:16:57 )

เศรษฐกิจที่บริบูรณ์สูงสุดคือสาธารณโภคี 

รายละเอียด

แม้แต่มหาจุฬาฯ มหามกุฏราชวิทยาลัยของไทย มหาวิทยาลัยทางพุทธศาสนาด้วย ก็ไม่รู้จักเศรษฐกิจที่บริบูรณ์สูงสุดคือ สาธารณโภคี 

มีพวกเราจบด็อกเตอร์มาจากมหาจุฬาฯมหามกุฏฯ วันนี้ไม่มา 

สาธารณโภคีในยุคพระพุทธเจ้าใช้ได้กับในวงการคณะสงฆ์ สงฆ์ภิกษุไม่มีทรัพย์สินส่วนตัว มีแต่ทรัพย์สินส่วนกลางใช้ส่วนกลาง บิณฑบาตมาได้ก็เอามาเทรวมกัน อย่าว่าแต่ส่วนของตนเลย ทรัพย์สินอะไรก็เป็นส่วนกลางหมด วัตถุเงินทองข้าวของ สถานที่ ที่ดิน อะไรก็เป็นของส่วนกลาง แต่เดี๋ยวนี้มันไม่เข้าใจแล้ว ไม่รู้เรื่อง พุทธศาสนิกชน แม้แต่ภิกษุก็ไม่รู้เรื่องสาธารณโภคี แต่ชาวอโศกเอาสาธารณโภคีมาศึกษาเล่าเรียน และเข้าใจปฏิบัติจนเกิดจริงเป็นจริงได้ ถึงขั้นแม้แต่ฆราวาสก็เกิดสังคมสาธารณโภคีได้ เป็นชุมชนอย่างที่เราเป็นเรามี ที่เป็นได้เพราะว่าเป็นคนละยุคสมัย ในยุคพระพุทธเจ้าเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ยุคทาส เป็นยุคที่ไม่รู้จักสิทธิมนุษยชน มีข้อจำกัดก็เลยเป็นไปไม่ได้ ได้แต่ในวงการสงฆ์ ในยุคนี้รู้จักสิทธิมนุษยชนจึงทำได้ในวงการฆราวาสด้วย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้เกิดปัญญาถึงอรหันต์ วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 20:56:13 )

เศรษฐกิจที่ยิ่งกว่าพอเพียง

รายละเอียด

ผู้มีเศรษฐศาสตร์หรือเศรษฐกิจถึงขั้น ยิ่งกว่าพอเพียง มีสันโดษมีใจพอ ทุกคนพอเพียงอยู่แล้ว แล้วก็ช่วยเหลือผู้อื่นด้วย  นอกจากตนเองพอแล้วตนเองยังมีประโยชน์ต่อผู้อื่น พหุชนหิตายะ(เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้เกิดปัญญาถึงอรหันต์ วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 20:57:36 )

เศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ก็คือสิ่งที่กินที่ใช้

รายละเอียด

ถ้าผู้บริหารประเทศเข้าใจอันนี้แล้ว รู้จักเศรษฐกิจ นักการเมืองจะไปทำงานการเมือง ก็จะต้องรู้เรื่องเศรษฐกิจ แล้วก็จะต้องไปพัฒนาเศรษฐกิจ เศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ก็คือสิ่งที่กินที่ใช้ เมืองไทยไม่ใช่เมืองที่จะต้องไปเก่งทางอุตสาหกรรม เมืองไทยอยู่ในภูมิประเทศที่จะสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ดี น้ำแข็ง หิมะอะไรที่จะทำให้พืชพันธุ์ธัญญาหารไม่ค่อยเจริญเท่าที่ควร ไม่มี อย่างเก่งก็แม่คะนิ้งเท่านั้นเอง หิมะไม่มี นานๆ จะมีลูกเห็บ ใครเคยถูกลูกเห็บหล่นใส่หัวบ้าง คนไม่เคยก็คงไม่เคย มันมีฝนมีลูกเห็บ สนุกนะมันร่วงกราวเก็บกินกัน เหมือนน้ำแข็งสดๆ มาจากท้องฟ้า น้ำแข็งสะอาด เพราะฉะนั้นเรารู้จักทั้งภูมิประเทศ รู้จักสิ่งที่เป็นอยู่ รู้จักพฤติกรรม สิ่งที่เป็นองค์ประกอบของทุกอย่างเลย ที่เรามีอยู่เราก็ทำอันนั้นให้มันเจริญ และมันเป็นสำคัญของชีวิตด้วยนะ มันสำคัญที่สุดแล้วอาหารคือคำข้าว ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว 

เพราะฉะนั้นเราพัฒนาอันนี้ ผู้บริหารทั้งหลายฟังดีๆเถอะ ส่งเสริมอันนี้เถอะเป็นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะต้องมาเสียเวลา เสียทุนรอน เสียแรงงานความรู้ความสามารถไปกับมันแล้วเลือกใหม่ สู่แก่นสาร 3 คืออาหาร สร้างอาหารให้ยิ่งใหญ่ เฉพาะพืชพันธุ์ธัญญาหาร อาตมาไม่ได้เน้นประมง ไม่ได้เน้นปศุสัตว์ ก็เอาเถอะมันก็จะติ่งๆ กันไปด้วย จะไปเอียงว่าไม่ช่วยทางประมงบ้าง ไม่ช่วยทางปศุสัตว์บ้างเขาก็เป็นอาหารนะ ก็ช่วยบ้าง แต่เอาอันนี้เป็นเอก ประมงหรือปศุสัตว์เป็นรอง เพราะมันเกี่ยวกับสัตว์และมันมีเรื่องลึกซึ้ง อจินไตย มันมีกรรมวิบาก ถ้าเราไม่ไปสร้างกรรมวิบากกับสัตว์อีกเราก็ทำแต่พืช ขนาดพืชนี้ยังพยายามว่ามันทำให้สัตว์ตายเหมือนกันบ้างล่ะว้า ก็มันทำได้ดีกว่านี้มันมีอีกไหมจะไปทำอะไร พูดถึงกระทั่งมันไม่มีอะไรจะดีกว่านี้อีกแล้ว

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาหาราธิปไตย สร้างอายะ 3 ด้วยอาหาราวุธ วันศุกร์ที่17 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 11:03:05 )

เศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือสาธารณโภคี

รายละเอียด

เพราะว่าสมาชิกของที่นี่ทำงานแล้วเสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์ทำงานแล้วเอาเข้าส่วนกลางหมด เป็นคนรู้จักสาระ ชาวอโศกเป็นคนเต็มไปด้วยสาระ รู้สาระ มีเวลาทุนรอนแรงงานเอามาทำสาระให้แก่สังคม แล้วเป็นคนไม่เห็นแก่ได้ไม่เห็นแก่ตัวไม่งกไม่สะสมเป็นคนมีวรรณะ 9 เป็นคนมีสาราณียธรรม 6 คนสูงสุดคือมีสาราณียธรรม 6 วรรณะ 9 คนที่มีเศรษฐกิจชั้นสูงคือ คนมีวรรณะ 9 อย่างเจ็กเอี๋ยวก็มีภาชนะส่วนตัวคือกะลาและตะเกียบไว้เท่านั้น พวกเราเป็นนักเศรษฐศาสตร์นักเศรษฐกิจชั้น 1 ของโลก ไม่ใช่แค่ของประเทศไทยด้วยนะ พวกเรามีลาภโดยธรรม มีผลผลิตแรงงานก็เอามารวมกันเป็นสาธารณโภคีไม่ยึดเป็นของตัวของตน มีศีลเสมอกัน มีทิฏฐิเสมอกัน กับผู้อยู่ร่วมกัน ศีลเสมอกัน ทิฏฐิเสมอกัน ก็เคารพกัน โสดาฯเคารพโสดาฯ …จึงอยู่กันอย่างสงบมากเลยเป็นคนชั้นสูงเรียกว่าเป็นคน classic เป็น The Classes ของศาสนาพุทธ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ยอดคนอาภัพที่มีระดับของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:54:02 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:15:52 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:24:25 )

เศรษฐกิจที่อุดมสมบูรณ์ไม่ต้องพึ่งพาใคร

รายละเอียด

ราชธานีเราปิดไม่มีปัญหาอะไร เพราะว่าปัจจัย 4 ครบพร้อมในครัว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ว่าเราปิดบ้านแล้วจะมีอะไรกินอยู่ในบ้าน ปิดบ้านไม่ติดต่อข้างนอก เหมือนกับเราปิดประเทศแล้วประเทศเรานี้เราไม่เชื่อมโยงอะไรจากข้างนอก เราเลี้ยงตัวรอดมา มีอะไรอยู่อะไรกินพอเพียงไหม อันนี้อาตมาว่า นี่คือเรื่องชี้บ่งถึงเศรษฐกิจ เศรษฐกิจที่สมบูรณ์เศรษฐกิจที่ไม่ต้องไปพึ่งพาใครพึ่งพาตัวเองได้แล้ว ดีไม่ดี เรามีเหลือเฟือเรามีเหลือเกินที่จะแบ่งให้แก่คนอื่นได้อีก ไม่เป็นหนี้ใคร ไม่รบกวนใคร พึ่งตนเองได้ ยืนยันปรากฏ อยู่ได้ด้วยลำแข้งตัวเองตลอดไปอุดมสมบูรณ์ เสร็จแล้วเหลือเฟือแจกจ่ายผู้อื่นได้จริงๆด้วย 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 05 เมษายน 2563 ( 10:36:54 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:26:56 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:25:07 )

เศรษฐกิจที่เจริญต้องเป็นเศรษฐกิจที่ต้องทำให้สังคมเข้าใจความจนแล้วมาเป็นคนจน

รายละเอียด

อาตมาว่าเมืองไทยเป็นประชาธิปไตยโลกุตระ ประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่กว่าประเทศใดๆ ในโลก อันนี้อาตมาไม่ได้พูดเวอร์ แต่คนจะหาว่าอาตมาพูดเวอร์ ยิ่งเขาเรียนประชาธิปไตยจากเทวนิยมประชาธิปไตยขาเดียว ประชาธิปไตยที่ไม่รู้จักธรรมะที่ทวนกระแส เช่น เศรษฐกิจที่เจริญนั้นคือต้องเป็นเศรษฐกิจที่ต้องทำให้สังคมเข้าใจความจน แล้วมาเป็นคนจน แล้วจะแก้ปัญหาเสร็จ แก้ปัญหาเศรษฐกิจจบ 

ถ้าคุณยังงมงายจะแก้ปัญหาให้คนรวย ให้คนไปรวย ให้คนไปรวยได้มากๆ คุณก็ต้องแย่งชิงกันหัวปักหัวปำ ฆ่าแกงกันไปอยู่ตลอดโลกแตก คุณแก้ปัญหาอย่างไรก็ไม่จบ เพราะฉะนั้นถ้าแก้ปัญหาอย่างโลกุตระ อย่างในหลวง ร. 9 เราตรัส ต้องมาแก้ที่ให้คนเป็นคนพอเพียง มาเป็นคนจนเอาแบบคนจนเป็นผู้ที่ขาดทุนเสียสละให้แก่สังคม คนที่มีเศรษฐกิจเจริญ นั้นคือคนที่สามารถให้คนอื่นได้ เสียสละให้คนอื่นได้ ขาดทุนให้คนอื่นได้คือคนกำไร นั่นคือคนที่มีเศรษฐกิจเจริญ คนที่ยังโลภเอาเปรียบเขาโลภมาเท่าไหร่ก็ไม่พอนั่นคือพวกเถื่อน พวกขี้โลภจัด หน้ามืด ฟังธรรมะแค่นี้ออกไหม 

เห็นไหม  คือมันยากนะคนที่จะรู้จักสัจธรรมที่ลึกซึ้ง แล้วประเทศไทยสำเร็จแล้วในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สำเร็จแล้วในการทำรัฐศาสตร์การเมือง แต่ผู้ที่ไม่รู้ก็จะดึงกลับไปสู่ความเสื่อมอีก โง่ไม่เสร็จ ไม่รู้จะทำยังไง ต้องช่วยกัน ยังไงๆก็ไม่สิ้นความหวังจะช่วยให้เขาได้หายโง่ขึ้นมาบ้าง 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 21ตอบปัญหาใครคือเผด็จการใครคือประชาธิปไตย วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2566 แรม 4 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 พฤษภาคม 2566 ( 20:14:41 )

เศรษฐกิจที่เจริญที่สุดคือเป็นคนจนที่จนสำเร็จ

รายละเอียด

อย่างพระพุทธเจ้าสอนเราให้เราเป็นคนที่ไม่มีตัวตนสุดยอดเลย อย่างชาวอโศกเรา อาตมาพาทำแล้วหมดตัวตนได้ เพราะฉะนั้นอาตมาจึงได้คนได้พวกเรา อาตมาพาพวกเรามาอยู่ที่นี่ 1.มาอยู่แล้วเป็นคนมีวรรณะ 9 แล้วก็อยู่อย่างสังคม สาราณียธรรม 6 จนถึง สาธารณโภคีสำเร็จ อันนี้เป็นเครื่องชี้บ่งความสำเร็จของสังคมมนุษยชาติใครทำได้แล้วก็ลงตัว วรรณะ 9 สาราณียธรรม 6  อาตมาว่าอาตมาทำงานมีผลสำเร็จ ธรรมะพระพุทธเจ้า มีพฤติกรรมในสังคม อาตมาเห็นว่าเป็นเศรษฐกิจที่เจริญที่สุด คืออย่างไร คือเป็นคนจนที่สำเร็จ เศรษฐศาสตร์บทนี้ รับรองว่าหักปากกาเซียนของด็อกเตอร์ทุกคน อาตมากล่าวนี้ตรงกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านบอกว่าต้องมาเป็นแบบคนจน นักเศรษฐศาสตร์ฟังก็อาจจะบอกว่าพูดอะไร พูดไม่ถูก อาตมาก็ว่าถูกกว่า ใช่ เราก็พูดกันอย่างนี้แหละ ซึ่งคนในโลกหูหักเลย มันเป็นสุดยอดที่เป็น โลกุตรธรรม ถ้าคนไม่เข้าใจความจริงก็จะเป็นไปไม่ได้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นพระเจ้าแผ่นดินของประเทศท่านตรัสออกมาอย่างจริงพระทัย ปรารถนาจะให้คนเอาไปศึกษาปฏิบัติได้ด้วย แต่ท่านเองท่านไม่เหมือนพระโพธิรักษ์ ที่จะต้องพูดแล้วพูดอีกย้ำแล้วย้ำอีก เขาจึงไม่อยากฟัง ไม่มีเงิน ที่จริงมันต้องพูดเพราะว่าเป็นสุดยอดความรู้ คนที่จนที่สุดจะต้องมีรายได้ศูนย์ ใช่ไหม มันเป็นไปได้ไหมที่ทุกคนจะมีรายได้เป็นศูนย์ คนในประเทศมีรายได้เป็นศูนย์ก็เยอะแต่เขาไม่เหมือนชาวอโศก ไม่เหมือนทั้งในเสนาสนะ กลุ่มหมู่บุคคล ที่อาศัย ธรรมะ แต่ของเรานี่ยืนยันว่ามีพร้อม เป็นศูนย์ได้ด้วย เป็นสังคมคนจนที่มีรายได้”ศูนย์”กันทั้งนั้น พวกเราคนอยู่ในนี้ทำงานรายได้เป็นศูนย์หมด ทำงานแล้วเสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์เข้ากองกลางหมดเลย ประเทศไหนทำได้ มีประเทศเล็กๆคือประเทศอโศก (ขออภัยไม่ได้เป็นกบฏนะ ที่จะมาตั้งประเทศซ้อนประเทศ) แต่เป็นสังคมกลุ่มที่ซ้อนอยู่ในประเทศไทย เหมือนสมัยพระพุทธเจ้ามีโลกุตระธรรม ท่านมีกลุ่มหมู่มีสมณะผู้ที่มาเข้ารีตมาเอาธรรมนูญของพระพุทธเจ้าเป็น ศีล สมาธิ ปัญญาไป ธรรมนูญคือจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล ศาสนาพระพุทธเจ้าตอนแรกไม่มีวินัยแต่ตอนหลังก็มีการบัญญัติพระวินัย 227 ข้อ ทุกวันนี้ไม่รู้จักการถือศีลแล้ว เอาแต่วินัยก็ยังไปไม่รอดเลย ชาวอโศกถือศีลไม่ใช่แค่เฉพาะนักบวช แต่ฆราวาสก็ถือศีล ปฏิบัติได้  โดยที่คุณไม่รู้ตัว 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 14:57:43 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:45:39 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:26:37 )

เศรษฐกิจที่ให้คนไปรวยนั้นเป็นทางผิด

รายละเอียด

ประเด็นที่อาตมาทักท้วงตอนนี้คือ เขาจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการไป build โด๊บ ยุ ให้คนไปรวย จะด้วยกรรมวิธี การพูด มุ่งมั่นสร้าง Concept ใส่คนให้คนไปรวย ปลุกเร้าให้คนเข้าใจอย่างนี้ ให้คนเข้าใจผิดๆว่า ทุกคนมารวยแล้วจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ มันเป็นการแก้ปัญหาที่เห็นแก่ตัว คุณรวย คนอื่นก็ต้องจน แค่นี้ก็ผิดแล้ว คือคุณสบายแล้วแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้แล้ว แต่คุณไม่ต้องทำให้คนอื่นจนจะทำอย่างไร คุณก็ต้องทำเอง สร้างเองให้พอกินพอใช้ ดีไม่ดีให้เหลือให้เกินแล้วเอาไปเผื่อแผ่คนอื่นด้วย อย่างนี้ต่างหาก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบอโศก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 20:37:24 )

เศรษฐกิจทุนนิยมสามานย์เป็นเช่นใด

รายละเอียด

ตอนนี้เรื่องเศรษฐกิจไม่น่าจะยาก แต่คิดอีกทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เศรษฐกิจที่ดีนะ เศรษฐกิจโลกีย์ก็เป็นอย่างที่เป็นตอนนี้มีความทุกข์ร้อน เรียบเรียงว่าเป็นเศรษฐกิจทุนนิยมสามานย์ คือพวกนายทุนเป็นเจ้าอำนาจ แล้วก็บงการทำให้เศรษฐกิจมันเกิดสภาพเป็นอย่างที่มันเป็น มันก็เลยเป็นการเอาเปรียบเอารัด ระหว่างนายทุน กับคนชั้นล่าง เป็นผู้ด้อยโอกาสไม่มีสมรรถภาพ ก็เลยเป็นการเบียดเบียนกัน กดขี่ข่มเหงกัน จริงๆมันก็เป็นสัจจะอย่างหนึ่งที่มันเป็นกรรมวิบาก เขาทำไม่ดีตามที่มันเป็น แต่มันไม่ควร เราแก้ไขช่วยกันได้พยายามที่จะทำให้สังคมมันมีพฤติกรรมที่ดีได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ก่อนฉัน ที่โรงเรียนผู้นำ จ.กาญจนบุรี สัปปายะ 4 ที่มีสัมประสิทธิ์ วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:23:51 )

เศรษฐกิจทุนนิยมเป็นเศรษฐกิจฆ่าตัวตาย

รายละเอียด

เรามาพูดถึงปัจจุบันตอนนี้ เข้าหาการเมืองการเศรษฐกิจหน่อย เรามาพยายามฉีกชี้ การฆ่าตัวตายของเศรษฐกิจ Suicidal Economy เศรษฐกิจฆ่าตัวตาย หรืออัตวินิบาตกรรมเศรษฐกิจ ทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังเป็นเศรษฐกิจฆ่าตัวตาย ด้วยเขาไม่รู้ว่ากำลังฆ่าตัวเองตายอย่างเลือดเย็น หลงผิดว่าตัวเองเจริญในเศรษฐกิจทุนนิยม แต่เขาไม่รู้ตัว ยังงุ่มง่ามงมงายกับของที่เก่าแล้ว เรามีของที่เก่าเอี่ยมกว่านั้น แต่เขาไปงมกับของเก่า ก็ต้องค่อยๆทำทำตัวอย่าง เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ โดยการมาแก้ปัญหาความพัฒนาที่ย่ำแย่

เราขอเป็นตัวอย่างน้อยๆ ไม่ถึงกับเรียกว่า Example แต่เป็น specimen หรือ idol เป็นตัวอย่างที่ ยังไม่ถึงขั้นเป็นตัวอย่างที่ใหญ่โต เป็นรูปร่างครบพร้อม เป็นตัวอย่างน้อยๆเป็นตัวอย่างเล็กๆ พอมีรูปร่าง ก็มีลักษณะเต็มในตัว แต่ตัวน้อยอยู่ มีรูปร่างปัญจสาขาครบแต่ไม่เต็มที่ แขนก็นิดนึง ขาก็นิดนึง ออกมามีรูปร่างพอสมควร ครบสาขา แต่ว่ายังไม่มี detail สมบูรณ์แบบอะไร ก็ได้ลักษณะขึ้นมาบ้าง ซึ่งมันจำเป็นจะต้องอาศัยเวลาและการสร้างต่อไปอีก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบอโศก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 20:33:54 )

เศรษฐกิจบุญนิยมเพื่อมวลมนุษยชาติ

รายละเอียด

แม้แต่ผู้ใหญ่อาตมาก็สำทับลงไป ติดดินให้ได้ ช่วยกันทำ พยายามระดมอยู่ นี่ยังไม่เต็มพื้นที่เลย ถ้าเต็มพื้นที่ต่อเนื่องไป จะเป็นผลผลิตที่มากเพียงพอ มากจนเห็นรูปธรรมชัด แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นเท่าไหร่ไม่อุดมสมบูรณ์จนถึงแจกออกไปสักพักไปถึงผู้อื่นตามหลักเศรษฐกิจของชาวอโศกเราเศรษฐกิจบุญนิยม ไม่ได้เอามาล่าลาภยศ แต่เพื่อเกื้อกูลช่วยเหลือเฟือฟายกัน ประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติ ทำออกไปอย่างนั้นเรื่องลาภยศสรรเสริญสุขโลกธรรมเรื่องพวกนี้อาตมามั่นใจว่าชาวอโศกหลุดพ้นโลกียธรรมพวกนี้ เข้าข่ายอนาคามีขึ้นไปกันเยอะ มีภูมิธรรมระดับนี้ ไม่ต้องห่วงเลย

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 34 วันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 21:44:04 )

เศรษฐกิจประเทศไทยจะดีขึ้นด้วยเหตุใด

รายละเอียด

ขณะนี้เอาจริงๆ เลย เช็คดูสิว่า เศรษฐกิจประเทศไทยเท่าที่เป็นอยู่นี่ ชาวอโศกนี่แน่นอน ไม่เป็นหนี้ พึ่งตัวเองรอด ทำให้มากให้เกินแล้วเอาไปช่วยเหลือคนอื่น ถ้าหากประชาชนในประเทศทำอย่างนี้ได้ ความแข็งแรงของเศรษฐศาสตร์เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ให้ประชาชนอย่ากลัวความเป็นคนจน คนจนที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่นนั้นเป็นคนประเสริฐ เราเองสุขภาพแข็งแรง มีกินใช้มักน้อยสันโดษไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยให้โง่ถูกโลกหลอก เอาความสูญเสียที่โง่เง่าของตนชำระออกไป เอาความสูญเสียของข้าคืนมา เราเป็นธรรมะสองสลับไปมา ไปเปลี่ยนสัจจะอันนี้ไม่ได้ ลึกซึ้งที่สุด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:34:04 )

เศรษฐกิจพอเพียง

รายละเอียด

คือ ในหลวง ร.9 ได้ให้ความหมาย คือ การบริหารประเทศแบบคนจน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2534 และการขาดทุนของเรา คือกำไรของเรา

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 21


เวลาบันทึก 08 พฤศจิกายน 2562 ( 12:24:47 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:50:09 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:29:35 )

เศรษฐกิจพอเพียง

รายละเอียด คือการบริหารประเทศแบบคนจน


เวลาบันทึก 01 มิถุนายน 2562 ( 15:43:47 )

เศรษฐกิจพอเพียง บริหารประเทศแบบคนจน

รายละเอียด

ถ้าทรัมป์ ชนะ แปลว่าชาวอเมริกันยังไม่ตื่น ทั้งๆที่เหตุการณ์ covid มันบอกความล้มเหลวอเมริกันเท่าไหร่แล้ว พลเอกประยุทธ์กับโดนัลด์ทรัมป์ทิ้งกันไม่เห็นฝุ่นเลย แข่งขันเรื่องแก้ปัญหาโควิด ผู้นำสองประเทศนี้ เห็นไหม พลเอกประยุทธ์ทิ้งโดนัลทรัมป์ไปไม่เห็นฝุ่นเลย เป็นการเปรียบเทียบการดำเนินชีวิต จะเป็นทุคโตหรือสุคโต จะดำเนินไปดีหรือดำเนินไปไม่ดี ผู้มีภูมิธรรมจะรู้เรื่องสุคโต กับทุคโต อาตมาพูด แล้วก็พูดไปดังๆด้วย ว่า ประเทศไทยนำโด่งทางด้านการเมือง ยิ่งทางวัฒนธรรมสังคมเศรษฐกิจก็ตาม เมืองไทยนำโด่งประเทศต่างๆ อาตมาสงสารพวกนักก็รู้ นักวิชาการ นักบริหาร สงสารที่เมืองไทย มีพระโพธิสัตว์พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ท่านตรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ให้พยายามบริหารประเทศแบบคนจน ให้พยายาม บริหารแล้วก็ทำความเข้าใจให้คนว่า ให้เสียนี่ล่ะเราได้ ให้ขาดทุนนี่เรากำไร ท่านตรัสสั้นๆ แต่มันเป็นสัจจะที่วิเศษ เป็นความรู้ที่ลึกซึ้งซับซ้อนที่ประเสริฐ อย่างชาวอโศกเราทำได้ ชาวอโศกเรามาขาดทุนเป็นกำไรหรือการเสียสละนี่แหละคือเราได้ทำถูกแล้ว แล้วก็มาเป็นคนจน เป็นคนจนอย่างมีปัญญา เป็นคนจนอย่างเข้าใจ อาตมาก็พูดถึงเรื่องนี้มาพอๆกันกับในหลวง ที่เราได้หามา ในหลวงท่านตรัสปี 2534 อาตมาพูดถึงเรื่องนี้ทำเรื่องนี้มาตั้งแต่อาตมาบวชมา แล้วมันก็สอดคล้องกัน ท่านเป็นในหลวง ท่านจะตรัสอะไรออกสู่สาธารณะสู่สังคม มันต้องเป็นคำสำคัญ คนจะฟังแล้วค่อยๆเอาไปศึกษา ต้องเป็นคำพรคำประเสริฐ คำตรัสของผู้ใหญ่เป็นคำพร ในหลวงท่านเป็นผู้ใหญ่ของประเทศคำตรัสของท่านก็เป็นคำพรคำประเสริฐ และเมื่อท่านตรัสแล้ว เขาก็ยังไม่กระดิกหูกัน ยังไม่ค่อยเข้าใจ ยังไม่เอามาศึกษา เป็นหลักศึกษาว่าทำไมท่านตรัสอย่างนี้ มันเป็นเรื่องที่ท่านไม่น่าจะตรัสอย่างนี้นะ ท่านเป็นในหลวงแล้วมาตรัสอย่างนี้มันถูกหรือให้มาบริหารประเทศแบบคนจน ไม่ต้องไปรวย เราก็รวยพอสมควรอะไรอย่างนี้ เราทำกันอย่างสามัคคีช่วยเหลือกันอะลุ่มอล่วยเกื้อกูลกัน นี่แหละมันจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ท่านตรัสสั้นๆ ท่านตรัสกระทัดรัด แต่มันสมบูรณ์แบบในตัวของมันเองยิ่งใหญ่ อาตมาเอามาขยายความพวกเราก็เข้าใจกันคนข้างนอกก็พอจะเข้าใจ ถ้าในหลวงขยายความอย่างที่อาตมาขยายความนี้จะยอดเยี่ยม แต่ท่านก็เป็นสายเจโต เป็นอย่างที่ท่านเป็น ท่านก็เลยได้ประพฤติตามที่ท่านมีภูมิธรรมอย่างนั้น ขยายความไม่ค่อยออก อาตมาเป็นสายปัญญา อาตมาเป็นสายปัญญานำ แต่ก็มีอุภโตภาค ทั้งเจโตด้วย มาปฏิบัติประพฤติ จนเป็นจริงตามธรรมะพระพุทธเจ้ายืนยันได้ ทั้งในพระไตรปิฎกเอามาตรวจสอบ เอามายืนยันกันไปต่างๆนานา หลักฐานต่างๆ ไปจะเอาหลักฐานต่างๆจากคำสอนพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกมา แล้วเอามายืนยันกับชาวอโศกว่ามันเข้ากันได้ไหมกับคำสอนพระพุทธเจ้าตรงกันไหม ผิดเพี้ยนไปไหม ชอบมากๆ ใครจะเอามายืนยันอย่างนี้ชอบมากเลย เราจะได้รู้ว่าอันไหนมันผิดพลาดจะได้ปรับปรุงแก้ไข แล้วอันที่มันตรงกับพุทธเจ้ามีเยอะ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 10:25:46 )

เศรษฐกิจพอเพียงกับเศรษฐกิจสาธารณโภคี

รายละเอียด

ประเทศไทยเป็นประเทศที่กล่าวถึงคำว่าเศรษฐกิจสองคำนี้ ในหลวงท่านตรัส เศรษฐกิจพอเพียง อาตมาก็พูดว่า เศรษฐกิจสาธารณโภคี ในหลวงท่านตรัสในระดับเศรษฐกิจพอเพียงคือ ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) คำว่า เศรษฐกิจพอเพียงคือใจพอ  มีเท่านี้ก็พอ พอแล้วเลี้ยงตัวเองได้ ตัวเองก็มีสมรรถนะดี สร้างสรรกินใช้ แล้วมีเหลือเกิน จึงเอาของส่วนเหลือส่วนเกินมาขายถูกๆหรือแจกคนอื่น ถ้าเราเอาของเรามารวมกันทั้งหมดจะเป็นทุน แล้วเราก็เอาของที่เป็นสิทธิของเราไปขาดทุน แต่การคิดอย่างทุนนิยมเขาคิดทุนและค่าแรงงานไปหมด ดีไม่ดีบวก error ไปด้วย บางคน บวกไป 5%  10% มันไม่อยากจะสูญเสียอะไรเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ยอดคนอาภัพที่มีระดับของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 21:02:37 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:16:54 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:30:06 )

เศรษฐกิจพอเพียงคือคำปลอบใจคนยากจน

รายละเอียด

คือ เป็นความเห็นที่ส่งมาในรายการอาตมาได้ตอบ คือ คนที่พูดนี่ไม่รู้จักสัจธรรมที่ลึกซึ้งว่าความจนเป็นสิ่งประเสริฐ คนนี้จะไม่รู้จริงๆ แปลง่ายๆว่าโง่  เขาจะไม่รู้ว่าคนที่เข้าใจความจนแล้วสมัครใจมาเป็นคนจนอย่างพวกชาวอโศกหรือพระพุทธเจ้า มีเงินทองทรัพย์สินแต่ท่านก็ทิ้งมาเป็นคนจน สมัครใจมาเป็นคนจน เพราะอาตมามีภูมิปัญญาอันนี้รู้ว่ามาเป็นคนจนประเสริฐกว่าคนรวย เป็นเรื่องสัจจะไม่ใช่เรื่องโมเม คนที่สมัครใจมาจนจริงๆทั้งๆที่ไม่ได้ขี้เกียจทำงาน แต่ขยันหมั่นเพียรมีความรู้ความสามารถสร้างสรรค์ตลอดเวลา แต่ตัวเองไม่สะสมให้แก่ตัวเอง ไม่ได้ยึดถือมาแต่ของตนมีไว้น้อย มีสมบัติของตนน้อย อย่างชาวอโศกทำงานฟรี เอาเข้ากองกลางแบ่งกันกินใช้ เป็นระบบสาธารณโภคีที่เป็นเรื่องสุดยอดแล้วสำหรับผู้ที่มีปัญญารู้จักความประเสริฐของคนจน ความจน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:12:43 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:17:55 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:31:24 )

เศรษฐกิจพอเพียงคือทางรอดของมนุษยชาติ 

รายละเอียด

ก็เป็นเรื่องธรรมดาถ้าไม่ศึกษาไม่รู้จัก เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นถ้าผู้ใดยังไม่ศึกษาทางธรรมะ แล้วก็เข้าใจคำว่าเศรษฐกิจ เศรษฐกิจคือความประเสริฐ เจริญขั้นประเสริฐ ประเสริฐขั้นโลกุตระอย่างชาวอโศกมีเศรษฐกิจ อาตมาพูดได้เลยว่าชาวอโศกเป็นผู้ที่มีเศรษฐกิจสมบูรณ์ เป็นเศรษฐกิจชั้นสูง บรรลุการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจบแล้ว แต่ทางโลกเขาแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่จบ เศรษฐศาสตร์ที่เรียนในมหาวิทยาลัยไหนก็แล้วแต่ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่จบ เพราะเขาไม่มีหลักวรรณะ 9 ไม่ว่ามหาวิทยาลัยไหนในโลกไม่มี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้เกิดปัญญาถึงอรหันต์ วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 20:53:38 )

เศรษฐกิจพอเพียงคือเศรษฐกิจคนจนเป็นโลกุตรธรรม 

รายละเอียด

คนที่จะกล่าวว่าความจนเป็นสิ่งที่ประเสริฐ อาตมาเป็นคนเล็กคนน้อย กล่าวก็ไม่กระไร แต่พระเจ้าแผ่นดินของไทยท่านตรัสไว้ แต่เมื่อตรัสไปแล้วคนก็รับลูกไม่ได้ ข้าราชบริพาร ผู้บริหารต่างๆ รับลูกไม่ได้ ท่านพยายามทำเป็นชั้นๆ มาว่า ก็ทำอย่างพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงก็คือเศรษฐกิจคนจนนั่นแหละ ท่านลงลึกชัดอีกว่า เราขาดทุนนั่นแหละคือเราได้ เราเสียนั่นแหละคือเราได้ ลงไปให้สุดชัดเจนเลยนะ คนก็งง นักเศรษฐกิจของโลกก็ได้แต่งง จบดร.ทางเศรษฐกิจอะไรๆ ทั้งหลายก็ยังงง เพราะมันเป็นโลกุตรธรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 10:38:52 )

เศรษฐกิจพอเพียงไม่เบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น

รายละเอียด

มาเข้าสู่เศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ใช้คำว่าเศรษฐกิจพอเพียง เอาคำว่าสันโดษมีใจพอ น้อยก็พอ ไม่ได้เบียดเบียนตัวเองไม่ได้เบียดเบียนคนอื่น ตนเองมีน้อยเท่าไหร่ก็พอเข้าใจคิดของตัวเอง ก็จะขึ้นอยู่กับตัวเราด้วย ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบในยุคสมัย เช่นในยุคที่มีทรัพยากรธรรมชาติเยอะ ก็จะไปสะสมมากทำไม แต่ถ้าเผื่อว่าทรัพยากรธรรมชาติก็มีเยอะไม่พอพวกเราก็ไม่ใช่จะไปแย่งกับคนอื่นเราก็ต้องมีพอที่จะสะพัดออกไปก็ต้องเหลือไว้พอให้ตัวเองก่อนนะ ไม่อย่างนั้นหากไม่พอต้องเดือดร้อนตัวเองหรือไปเดือดร้อนคนอื่น ไม่กระทบตนไม่กระทบท่าน หรือถ้าจะเดือดร้อนตัวเองพอจะทนได้ ก็อย่าไปกระทบคนอื่น เดือดร้อนคนอื่นได้มันก็ดี ไม่เกิดวิบากเสียหาย เรารับเสีย อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เทวนิยมใหญ่สุดโต่งอย่างไรในศาสนาพุทธ วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 20:14:02 )

เศรษฐกิจยอดเยี่ยมคือเศรษฐกิจสาธารณโภคี

รายละเอียด

เรื่องความเป็นอยู่ของสังคมที่เรียกว่าเศรษฐกิจ เศรษฐกิจยอดเยี่ยมคือเศรษฐกิจสาธารณโภคี ซึ่งเราก็ยืนยัน อาตมาก็มั่นใจว่าเป็นสิ่งที่จะกอบกู้โลกได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2563 ( 11:30:08 )

เศรษฐกิจยั่งยืนถาวรต้องแก้โดยหลักการของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

เศรษฐกิจที่ยั่งยืนถาวรที่จะแก้ก็แก้ไม่มากเลยไม่ต้องแก้เลย ถ้าจะแก้ก็คือต้องแก้โดยหลักการทางพระพุทธเจ้าสอน อย่างที่เราทำกัน ถ้าผู้บริหารในประเทศไทย เชื่อว่าที่อาตมาพูดนำมาเสนอนี้เป็นเรื่องของทฤษฎีพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของอาตมา คนอาจไม่เชื่อเพราะพวกเรายังเล็ก แต่ถ้าเราเป็นผู้สร้างมีจำนวนของผลผลิตเพิ่ม แม้จะแปรเป็นตัวเงินมากขึ้นจะชี้บ่งยืนยันชัดให้คนเข้ามา แต่ตอนนี้ยังไม่ถึง พวกเราก็มีความเจริญก้าวหน้าอยู่แต่มันไม่ถึงใจที่ต้องการไม่ได้ดั่งใจของแต่ละคนที่จะมาร่วมกันของใครของมัน เราให้อิสรเสรีภาพไม่เอาบังคับ จะเชิง command ก็ไม่เอา กดดันก็ไม่เอา กดดันจะหนักกว่าบังคับ แม้จะกดดันเราก็ไม่พยายามให้เกิดอาการกดดัน ให้เขาสมัครใจและยินดีรู้เองและเต็มใจมาทำเองแล้วมันจะเจริญได้ดีคนที่ทำก็สบายใจสัจจะมันจะลงตัว มันเป็นความดีงามไม่ใช่เรื่องเสียหาย มันเป็นเรื่องประเสริฐที่มาสร้างสรรเสียสละเกื้อกูลผู้อื่น การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จะแก้ได้ชัดเจนอย่าไปเน้นที่วัตถุ แต่ให้เน้นทางจิตวิญญาณ แก้ปัญหาเศรษฐกิจอยู่ในหนังสือสรรค่าสร้างคน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:51:48 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:18:47 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:32:37 )

เศรษฐกิจรากหญ้าไม่เป็นสองรองใครในโลก

รายละเอียด

รู้เสียด้วย ขอสำทับอันนี้ว่า เศรษฐกิจรากหญ้า ขอแถมอีกนิดนึง ไม่เป็นสองรองใครในโลกเลยนะไม่ใช่แค่ในประเทศเท่านั้น ในประเทศก็ได้ในโลกก็ได้ มีเรื่องเก่า แย้งกันเถียงกัน เขาเขียนว่า ร้านของฉันเก่งที่สุดในโลก คนเถียงกันเป็นคนไทย เขาว่าร้านของข้าเก่งที่สุดในโลก ของเราก็ว่าของเราเก่งในประเทศไทย คนนี้คนไทย อีกคนหนึ่งก็ว่า ร้านของข้าเก่งที่สุดในซอย แต่ทั้ง 3 ร้านอยู่ในซอยเดียวกัน ตกลงเก่งที่สุดในซอยชนะ ดูเหมือนเล็กนิดเดียวนะ แต่ตีกินล้มไปเลยทั้งโลก นี่คือสิ่งที่จริง ต้องดูองค์ประกอบดูบริบท สโคปของมันทั้งหมด 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:35:55 )

เศรษฐกิจสาธารณะโภคี

รายละเอียด

เศรษฐกิจสาธารณโภคีของชาวอโศกเป็นแกนหลัก เราไม่ได้จนใจ แต่เราจนจริง ใจนี่มันจริงๆกับความจน มันไม่มีปัญหา ชัดเจนว่าจนที่ไหนดี มีแต่บอกว่าระวัง ทีเราก็จนไม่ลง พูดไปแล้วก็อย่าไปGuilty ว่าเรายังทำไม่ได้ ทำงานไม่มีเป็นของตัวของตนทำงานเพื่อผู้อื่นจริงๆเสียสละสร้างสรรไป ไม่ต้องห่วงไปหรอก เขาก็เห็นความจริงของเราเอง เขาจะเห็นจะรู้ว่าคนนี้ ปาสาทิโก อาการน่าเลื่อมใสน่านับถือน่ายกย่อง วรรณะ 9​ อปจยะ ไม่สะสม วิริยารัมภะ มันเป็นจริงตามธรรมพระพุทธเจ้าเป็นหลักที่ตรวจสอบได้ทุกเมื่อเลย พิสูจน์แล้ววรรณะ 9 สาราณียธรรม 6  พวกเราทำได้ไม่ใช่โมเม เป็นเรื่องจริง เราทำงาน ไม่มีใครเอารายได้มาเป็นของตน หรือบางคนยักนิดหน่อยก็ตัวใครตัวมัน แต่คนชัดเจนว่าไม่เอาหรอก เขาไม่ให้ก็ไม่ใช้ ทำสุดที่แล้วจบ หาทางอื่นโดยไม่ต้องใช้เงินก็ได้มีอะไรให้ทำเยอะแยะ ก็สบายมากเลยในนี้ สบาย  สะดวก สงบ สะอาด สว่าง สุภาพ สุดยอด ไม่รู้กี่ 5 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2563 ( 09:44:19 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:19:19 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:33:20 )

เศรษฐกิจสาธารณะโภคีจะเป็นทฤษฎีเอกของโลก

รายละเอียด

คนที่ไม่มีความเห็นแก่ตัวไม่มีความยุติธรรมเห็นแก่ได้ มีจิตใจถึงขั้นเข้าใจสาธารณโภคีคือมีสมบัติเป็นของส่วนกลางแล้วก็ใช้ร่วมกันในของส่วนกลาง เศรษฐกิจถึงขั้นสาธารณโภคีจะเป็นทฤษฎีเอกของโลก ที่นักเศรษฐศาสตร์หรือนักรัฐศาสตร์สังคมศาสตร์ก็ตามจะต้องมาศึกษา จะต้องมาเรียนรู้และปฏิบัติให้ได้ซึ่งมีตัวอย่างแล้ว ขออภัยไม่ได้ยกย่องตนเองไม่ได้หลงใหลตัวเอง ชาวอโศกเราเป็นได้แล้ว เราปฏิบัติรากฐานของจิต ปฏิบัติศีลสมาธิปัญญาจรณะ 15 วิชชา 8 ของพระพุทธเจ้า ซึ่งอาตมาจะได้ขยายความรายละเอียดต่อไป ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะพระพุทธเจ้าถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิเอามาทำสัมมาปฏิบัติตนก็เป็นสัมมาปฏิเวธยืนยันได้จริง เป็นคนที่มีเศรษฐกิจดี คำว่าเศรษฐกิจดีถึงไม่ได้เป็นเศรษฐกิจตาม Concept ของคนยุคนี้ หรือ Concept ของโลกีย์ แม้แต่คนปกติชนสามัญ ความรู้องค์รวมส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตรงกับ Concept ของพระพุทธเจ้า อย่างที่อาตมาพูด

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 11:02:30 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:44:39 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:33:59 )

เศรษฐกิจสาธารณโภคียากที่จะเข้าใจอย่างไร

รายละเอียด

อาตมาว่า เรียนจบเศรษฐศาสตร์ต่อให้จบพุทธศาสนบัณฑิต เป็น ดร.ทางศาสนาพุทธ จบ ดร.ทางเศรษฐกิจด้วย ให้ด็อกเตอร์ทั้งสองอย่างนี้เลย ก็ยังจะยากที่จะเข้าใจเศรษฐกิจสาธารณโภคี หรืออย่างที่ในหลวงฯตรัสว่า “ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา” เอาแบบคนจน พูดแล้วก็น่าเห็นใจเขาเหมือนกันว่า พาคนมาจน จะอยู่ยังไง แต่พวกคุณงงกันไหมว่าพาคนมาจนแล้วจะอยู่อย่างไร ..ไม่

พวกคุณก็ตอบกันชัดเจนว่าไม่ จน แล้วจะอยู่กันอย่างไรไม่เห็นงง เพราะว่าเราชัดจนว่าเรามาจน หากเราไม่มาอย่างนี้ก็ต้องไปแสวงหาความรวย เรารู้แล้ว จะไปเอารวยอย่างแต่ก่อนที่กระเหี้ยนกระหือรือนั้นเราไม่เอาแล้ว ตอนนี้อาจจะมีพวกเราบ้าง ว่า ถ้ามีมากมายก็ดีเหมือนกัน แต่ก็ไม่กระเหี้ยนกระหือรือหรือดิ้นรน ไม่เป็นหมาหอบแดดที่จะไปแย่งความรวย ก็ชีวิตมันสบายแล้ว นี่แหละคือผู้ปลดทุกข์ได้จริงๆ แต่ผู้ที่ยังกระเหี้ยนกระหือรือ แย่งลาภยศสรรเสริญ แย่งสุขอยู่นี่ไม่ได้ปลดทุกข์หรอก แล้วจะไม่เข้าใจถึง สังขารธรรมต่างๆ ไปติดในลาภ แย่งยศกัน ปรุงหาสรรเสริญ

ลาภก็อย่าง ยศก็อย่างหนึ่ง สรรเสริญนั้นละเอียดลึกซึ้ง ไม่ใช่จะรู้ตัวกันได้ง่ายๆ แม้รู้แต่ก็ยังอาศัย สิ่งเหล่านี้อยู่ มีฐานะอันนี้อยู่ ยิ่งสุขนี่ไม่ต้องพูดเลย ศาสนาพุทธนั้นหมดสุขหมดทุกข์ ดีนะที่มีพระบาลีว่าไว้ อทุกขมสุข แล้วมีฐานจิตที่เป็นอุเบกขา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ สุภกิณหาอย่างพุทธดับสุดสิ้นอาสวะ วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 31 มกราคม 2564 ( 14:54:37 )

เศรษฐกิจสาธารณโภคีเป็นเช่นใด

รายละเอียด

ทุกวันนี้ เรื่องเศรษฐกิจยืนยันว่าชาวอโศกปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าได้สมบูรณ์แบบ ถึงขั้นเศรษฐกิจสาธารณโภคี เพื่อการบริโภคร่วมกันเป็นสาธารณะกินใช้ร่วมกันกับของกลาง ส่วนกลาง ไม่แย่งชิง ดูแลอย่างมีระบบระเบียบ มีการบริหารแจกจ่ายเจือจาน แบ่งกัน อยู่อย่างสงบดี แล้วสาธารณโภคีนี้สูงสุดยอด สาธารณโภคีมี ขั้นต้น กลาง ปลาย และขั้นย่อยนับร้อยพันขั้น แต่มียอดกลุ่มแก่นแกนแข็งแรงนี้เสียภาษี 100% ชุมชนชาวอโศกทุกคนทำงานฟรี เสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกคน ส่วนคนที่ไปไปมามา จะเป็นอิสระเขาจะยักไว้บ้างก็เป็นธรรมดา แต่สมาชิกที่เป็นแก่นแกน ทำงานอย่างสมัครใจทำงานฟรี ไม่ใช่มีใครมาบังคับ สมัครใจเห็นดีว่าทำงานให้ฟรีนี้เป็นปัญญา กินใช้กับหมู่กลุ่มเราก็กินน้อยไม่ใช้มาก และเราสร้างสรรผลผลิตแรงงานความรู้ของเรา มันเกินเรากินใช้ คิดแล้วโดยสัจจะไม่เกินจากที่เรากินใช้ ความสามารถ ความรู้ของเรา และความขยันของเราที่ทำงาน คิดแล้วแรงงาน ค่าแรงงานค่าผลผลิตต่างๆที่เป็นสิทธิของเราทำงาน อยู่ในสังคมนี้ มันเกินกว่าที่เรากินใช้ เรากินใช้เหลือ ส่วนเหลือของแต่ละคน มี 5 คนก็มีส่วนเหลือรวมกัน มีร้อยคนพันคนก็มีส่วนหรือรวมกัน ก็มีส่วนแบ่งที่จะสะพัดไปสู่ผู้อื่น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12
ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:07:45 )

เศรษฐกิจสาธารณโภคีเป็นไฉน

รายละเอียด

ทีนี้ อาตมาใช้เศรษฐศาสตร์หรือเศรษฐกิจ จะเรียกว่าการเมืองก็ได้ การเมืองประชาธิปไตยสาธารณโภคียิ่งลึกซึ้ง เป็นสังคมสาธารณโภคีหรือจะบอกว่าเป็นเศรษฐกิจสาธารณโภคี 

เศรษฐกิจหมายถึงข้าวของที่แบ่งแจกเฉลี่ยกันใช้ ของมีส่วนกลางส่วนน้อยมีจำนวนหนึ่ง แต่ผู้ใช้มีมาก โดยเฉพาะคนที่ใช้อยู่มีความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้กลับเอาไปเป็นของตัวของตน ไปห้ามมันไม่มีไม่ได้เป็นธรรมดาของมนุษยชาติ เอาไปกักเป็นของตัวรวยล้นฟ้าใช้ไป 3 ชาติ 5 ชาติก็ไม่หมด แต่มันก็สะสมเอาสิทธิตามโลกต้องเอาสิทธิเข้าไป เขามีสิทธิโดยธรรม ยึดเป็นของของเขารวยล้นฟ้า ก็เลยเกิดธนบัตร เอามาให้ใช้เฉลี่ยแต่กลับเอาไปเป็นของตนเอง เอาเป็นของตัวเองไม่พอ หลอกเอาตัวเลขของข้า แต่เอ็งเอาธนบัตรไปใช้แต่ตัวเลขเป็นของข้านะเอ็งเป็นหนี้ข้า มันซับซ้อน 

จนกลายเป็นไม่ต้องยึดเป็นเราเป็นของเราทุกคนมีจิตวิญญาณ ทุกคนมีสาธารณะ กินใช้ร่วมกัน โภคะ โภคี เป็นของสาธารณะ เราก็เป็นคนมักน้อยเป็นคนไม่ผลาญ ไม่เปลือง ไม่กินใช้มากแต่สร้างมาก ขยันมีกายกรรม วจีกรรม กับมโนกรรม มีผลผลิตของเรา ผลผลิตทางเกษตรกรรมมีตัวมีตนมีรูปร่าง เช่นปลูกผักปลูกพืชเป็นต้น หรือจะสร้างอุตสาหกรรมก็ตาม 

เป็นเนื้อหาของวาจาก็ตาม เป็นผู้ที่มีเนื้อหาความจริงสาธยายได้ถูกต้องดี ฟังรู้เรื่องเอาไปใช้ปฏิบัติประพฤติทำตามได้ เจริญจากความคิด ก็ซ้อนอยู่ในมนุษยชาติ 

สรุปแล้วมนุษย์มีทรัพย์ส่วนกลาง แล้วเข้ามาอยู่ร่วมกินร่วมใช้กันอย่างไม่แย่งชิง ไม่ทะเลาะวิวาท ไม่ฆ่าแกง จะมีกิเลสส่วนตัวบ้างนิดหน่อยก็สงบเรียบร้อยราบรื่นง่ายงาม ไม่มีคดีที่มาแย่งเงิน แย่งทรัพย์สินเงินทอง แย่งเพชรพลอย แม้แต่แย่งเสื้อผ้าหน้าแพรเป็นปัจจัยก็ไม่มี สงบเรียบร้อย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ ‌ทุนนิยม‌คือ‌ ‌Infinity‌ ‌แต่‌บุญ‌นิยม‌​‌นี้‌ ‌0‌ ‌ยิ่ง‌กว่า‌ ‌0‌ วันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2565 ( 10:57:32 )

เศรษฐกิจหมายถึงความครบพร้อม

รายละเอียด

สังคมประเทศชาตินั้นถ้าทางด้านเศรษฐกิจเป็นหลักได้เรียบร้อย สังคมจะไปได้ดี ทุกประเทศก็เข้าใจว่าเรื่องเศรษฐกิจเป็นตัวสำคัญตัวหลัก แม้ทางด้านการเมืองก็ตาม สู้ทางเศรษฐกิจไม่ได้ เศรษฐกิจหมายถึงความครบพร้อม

เสฏฐะ แปลว่าประเสริฐเจริญ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12 ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันที่ 18 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:01:30 )

เศรษฐกิจหมายถึงอะไร 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนที่มีอวิชชาอยู่หรือยังมิจฉาทิฏฐิอยู่ก็ตาม เขาก็แก้ปัญหาของเขาไปในเรื่องใดก็แล้วแต่ โดยเฉพาะไปพูดถึงคำใหญ่หน่อยว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ คำว่า “แก้ปัญหาเศรษฐกิจ” มันมีเศรษฐกิจส่วนตัวกับเศรษฐกิจในครอบครัว เศรษฐกิจในวงที่เรารับผิดชอบ จนกระทั่งถึงเศรษฐกิจของประเทศ เรามีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องรู้กรอบ รู้ขนาดเศรษฐกิจ 

เศรษฐกิจหมายถึงอะไร  เศรษฐกิจเขาก็ให้นิยามง่ายๆ ว่า ความพยายามที่จะรู้ว่าเราจะแบ่งแจกสมบัติ หรือจะแบ่งแจกสิ่งที่ต้องอาศัยกินใช้ อยู่ในสังคมที่มีจำนวนจำกัดเท่านี้ เฉลี่ยกันให้ทั่วถึงกันได้ อย่างเหมาะสม คนไหนควรได้มาก คนไหนควรได้น้อย ซึ่งอันนี้ซับซ้อน คนควรได้มาก คนควรได้น้อย คนเลวคนชั่ว ก็ช่วยบ้างแต่น้อย ไม่ต้องช่วยมันมากหรอกคนชั่ว ให้มันขวนขวายหน่อย คนดีก็ช่วยมากหน่อย ยิ่งดีแล้วยิ่งช่วยคนอื่นอยู่ด้วยเรายิ่งช่วยมากขึ้น เพราะมันเป็นภาวะซับซ้อนที่ คนนี้เขาดี เป็นภาวะที่เขาจะต้องมีสิ่งที่เราจะต้องช่วยเขาอย่างนั้นอย่างนี้ที่ควรจะช่วย ให้เหมาะสม 

ช่วยด้วยกำลังทรัพย์ ช่วยทางแรงงาน ช่วยด้วยการสนับสนุน ในที่สุดช่วยด้วยความรู้ความฉลาดช่วยกันอย่างนี้เป็นต้น มันมีละเอียดลออซับซ้อนกันเยอะแยะ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจึงไม่ใช่การไปแก้ปัญหาตื้นๆง่ายๆ ยิ่งระดับโลกุตระแล้วที่อาตมาพูด สำหรับตัวเราเองนั้น มาปฏิบัติธรรมแบบพระพุทธเจ้าแล้วมาเป็นคนจน เป็นคนจนก็สบาย คนจนที่มีประโยชน์ต่อสังคมไม่ตาย คนจนที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ถ้าอยู่ในสังคมที่เป็นสังคมศาสนาพุทธจริงๆแล้ว ยิ่งเป็นสังคมที่เป็นโลกุตระ มันยิ่งจะไม่ตายเลย ยิ่งคนนี้ไม่ติดยึดแล้วก็ไม่มีตัวตน แต่ทำงาน ไม่ต้องกังวลเลยการจะอยู่จะกินจะใช้ จะมีคนช่วยเหลือไหม มี ปัดโธ่ ชัดเจน ไม่ต้องห่วงเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 16 ตรวจสอบความจบกิจเป็นอรหันต์ในเรื่องเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2566 ขึ้น 6 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2566 ( 20:37:47 )

เศรษฐกิจหรือการเมืองแบบพุทธเป็นเช่นใด

รายละเอียด

จะเรียกว่าเศรษฐกิจ หรือการเมือง การทำงานเพื่อมนุษยชาติ การทำงานช่วยกัน ซึ่งตัวเราหลุดพ้นได้ผลสบายแล้วมีพลังเหลือที่จะไปทำงานที่ใช้แรงงาน ตามความรู้ความสามารถให้กับคนอื่น เพื่อคนอื่น คือตัวเองสบายแล้ว ไปรอดไม่ต้องกังวลตัวเอง อยู่ในโลกนี้เราก็ช่วยคนอื่นได้สบาย โลกมีวัฒนธรรม มีพฤติกรรมสังคม เชื่อมโยง พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้ ครบพร้อมสุดยอดแล้ว

การเมืองคืองานที่ช่วยพลเมืองให้อยู่ดีกินดี ให้มีความสงบเรียบร้อย มีความสุขสำราญเบิกบานใจ เรามีครบพร้อมแล้วจริงๆ เหลือเฟือ จึงออกไปเกื้อกูล เผื่อแผ่ผู้อื่นได้ แม้จะมองกลับมาหาเราเมื่อไหร่ ค้นลึกในพวกเราจะเห็นสมบัติคงคลัง ก็มีไม่มาก มีไว้น้อย แต่มีประสิทธิภาพ ทำงาน สะพัด หมุน ไปทำปรุงแต่งประโยชน์สร้างสรร กระจายออกไป เป็นพลังงานสัมประสิทธิ์ Coefficient

ต้นทุนน้อย จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นมากเกินกว่าจะคิด เป็นประโยชน์สูงประหยัดสุด หรือ ครน.หรม. ที่จัดสัดส่วนได้ดีที่สุดเยี่ยมยอดที่สุดแล้ว เป็นต้น

จึงเป็นสูตรสำเร็จหรือเป็นความรู้ที่มนุษย์ควรจะมีกันในโลก จะได้ไม่เบียดเบียน จะได้สุขสำราญเบิกบานใจกันทั่วโลก ตอนนี้บางประเทศก็หนักหนาสาหัส เขาก็บอกว่าความทุกข์มากที่สุดเบอร์ 1 เป็นเวเนซุเอลา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:16:05 )

เศรษฐกิจอาริยะ

รายละเอียด

คือ ชาวอโศกกำลังทำ ขายขาดทุนได้ เสียสละให้สังคมได้ เพราะ

1.       เรามีแกนสัจจะของตนเองสมบูรณ์

2.       เราไม่เป็นหนี้

3.       เราทำงานคุ้มตนเอง คือ ทำได้มากกว่าที่กินใช้

4.       เราไม่สะสมยิ่งเราสะพัดออกให้ผู้อื่นได้มากเท่าไหร่ ก็เป็นบุญทั้งนั้น นี้เป็นคุณสมบัติของ อาริยบุคคล

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 489


เวลาบันทึก 02 พฤศจิกายน 2562 ( 11:51:28 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:48:24 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:34:30 )

เศรษฐกิจเจริญ คืออะไร

รายละเอียด

สรุปแล้ว ในด้านใดๆก็แล้วแต่ มันมีประเด็นที่อาตมาอธิบายไม่เก่ง คือ ประเด็นของคำว่าเศรษฐกิจ เขาก็หาว่า นายกฯตู่ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ไม่เจริญ บกพร่อง อาตมาก็ว่า คนจะเข้าใจความหมายคำว่าเศรษฐกิจ เจริญ คืออะไร? ยกตัวอย่าง ขณะนี้เอารูปธรรม ชาวอโศกเป็นกลุ่มคนจน เงินคงคลังก็น้อย เงินที่มารายได้บุคคลก็น้อยจนถึงขั้นทำงานเงินเดือน 0 บาทไม่รับรายได้เลย

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 12:30:12 )

เศรษฐกิจเชิงพุทธ

รายละเอียด

อาตมาเข้าใจเรื่องของเศรษฐกิจไม่เหมือนที่เขารู้กัน อาตมารู้ตามพระพุทธเจ้า อาตมาพาพวกเราทำ เราจบเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาวอโศก อาตมา จบสบายแล้วเป็นสาธารณโภคี พวกเราอยู่ในนี้เป็นแกนของสาธารณโภคีเป็นสนามแม่เหล็กของเศรษฐกิจสาธารณโภคี ใครเข้ามาที่นี่ไม่ต้องพูดมาก จะถูกดัด ถูกปรับ ถูกพลังงานสนามแม่เหล็กเศรษฐกิจสาธารณโภคี คุณเป็นเหมือนโมเลกุลหนึ่งโยนเข้ามาในสนามแม่เหล็ก มันก็จะต้องถูกจัดเรียงตามสนามแม่เหล็ก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 16 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:22:22 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:19:47 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:34:59 )

เศรษฐกิจเพื่อความรวยเป็นโลกียะส่วนโลกุตระต้องเพื่อความจน

รายละเอียด

ทีนี้ขยายความต่อไปให้ลึกรอบว่า นัย เอาความเป็นเศรษฐกิจ มาไขโลกียะกับโลกุตระ

ทักษิณนั้น เศรษฐกิจเพื่อความรวย แต่ในหลวงนั้นเศรษฐกิจเพื่อความจน มีหลักฐานยืนยันด้วย ท่านยืนยันอย่างมีความสง่างามที่สุด แต่คนตามไม่ทันแม้แต่ข้าราชบริพารข้าราชการก็ตามไม่ได้ ขออภัยที่พูดเหมือนดูถูกข้าราชการ แต่พูดด้วยความจริงใจ ผิดถูกบาปเวรอาตมารับเอง ถ้าหากจะฟ้องร้องอาตมาก็ต้องผิด แต่จิตอาตมาไม่มีอุปกิเลส 16

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ธรรมะสองของประชาธิปไตย  วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 12:33:37 )

เศรษฐกิจเมืองไทยเป็นเศรษฐกิจโลกุตระ

รายละเอียด

ในอนาคตจะพอเข้าใจว่าอาตมายืนยันเศรษฐกิจเมืองไทยเป็นเศรษฐกิจโลกุตร สังคมก็ดี คนในโลกเขาใช้ตัวเลขของเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ของเราตัวเลขจะใช้เป็นเรื่องรอง และเป็นเรื่องตรงกันข้าม เศรษฐกิจดีที่สุดคืออะไรได้เงินทองเงินคงคลังต่ำ นี่คือเศรษฐกิจประเสริฐ แต่มีการสร้างสรรค์มีผลผลิตสูงเป็นคุณภาพดี แล้วมีการสะพัดให้ออกไปได้มากๆด้วยนี่คือเศรษฐกิจดี 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 12 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2563 ( 10:01:17 )

เศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ GDP Gross Domestic Product

รายละเอียด

ถ้าเศรษฐกิจจะต้องมีพอสมควร คำว่าเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ ที่เขาใช้ภาษาเรียกกันว่า GDP Gross Domestic Product อาตมาก็ท้วง ก็คุณบอกว่า Domestic เป็นรายได้ของเราภายในไม่ใช่ภายนอกแต่คุณก็ขี้โกงไปเอาเปรียบภายนอก รวมเรียกเป็นรายได้รวมของภายใน Domestic แต่แท้จริงไม่ใช่ของภายใน คุณเอาข้างนอกมารวมมันไม่ถูกต้อง คุณบอกว่ารายได้ภายใน เอาของภายในสร้างสรร ผลผลิตมี Product ถ้าเราจะขายก็อย่าไปขายเกินกว่าทุน ถ้าขายเกินกว่าทุนคือคุณเอาเปรียบ ไม่ดี แล้วเอาของได้เปรียบมารวมเป็นรายได้องค์รวม ไม่เอา เราต้องเสียเปรียบ ของเราสร้างได้มีส่วนเกินก็เอาให้เขาไปอย่างเราขาดทุน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:45:17 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:20:19 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:35:32 )

เศรษฐกิจแบบคนจนคือเศรษฐกิจมหัศจรรย์ที่คนทั้งโลกแสวงหา 

รายละเอียด

สาธยายมาถึงมันเป็นความเจริญของคำว่า เศรษฐกิจนี่แหละ ที่แสวงหากันอยู่ทั้งโลก วิ่งหาเศรษฐกิจ เขาก็จะคว้าลม คว้าน้ำเหลวกันทั่วโลกเลยเพราะว่าเขามีความรู้แบบโลกีย์ เขาไม่เจอหรอกเศรษฐกิจอันสมบูรณ์แบบตามที่ชาวอโศกเดินตามรอยพระพุทธเจ้ามา หรือเดินตามรอยพระโพธิสัตว์ต่างๆแม้แต่ตามรอยพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 คือ มาเข้าใจว่า ต้องมาเอาแบบคนจน 

พูดไปแล้วคนที่ได้ยินได้ฟัง เขาก็ได้แต่บื้อ ในหลวงตรัส เป็นคำตรัสจากพระโอษฐ์ของในหลวง เขาก็บื้อ นักเศรษฐศาสตร์จบปริญญาเอกมาจะเป็นคนละหลายใบก็ตาม ฟังในหลวงตรัส เขาก็ไปว่าไปตำหนิในหลวงไม่ได้ แต่เขารับช่วงจากคำตรัสมาดำเนินต่อไม่ได้ แต่มีชาวอโศก จริงๆก็ทำอยู่แล้วจะว่ารับจากพระโอษฐ์มาทำก็ได้ จะว่าทำมาแต่เดิมตั้งแต่อาตมาพาทำสาธารณโภคี ในหลวงท่านตรัสแบบคนจน ท่านมาตรัสตอนหลัง อาตมาบวชมานานแล้วล่ะ ซึ่งมันก็ตรงกันตามภูมิปัญญาของในหลวงแน่นอน 

ท่านเป็นในหลวงจะตรัสอะไรออกมา เป็นเรื่องที่หักลำกับโลกเขาเลย ท่านตรัสกับรัฐมนตรีประเทศเกาหลีนะ ไม่ใช่ตรัสเล่นๆ พื้นๆ กับใครๆ แล้วท่านก็เอามาขยายความอีกเอามาซ้ำเผยแพร่ต่อไปอีก ไม่ใช่เป็นเรื่องเล่นๆ เป็นเรื่องชั่วคราว แต่เป็นเรื่องจริงเลย ตามพระปัญญาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 เห็นจริงเห็นจังว่า 

เศรษฐกิจที่จะดำเนินไปถึงที่สุดมีจุดจบจุดสมบูรณ์ เศรษฐกิจสมบูรณ์ได้ ต้องมีทัศนคติอย่างสัมมาทิฏฐิจริงๆ ว่า อ๋อ ต้องมาฝึกจิตให้มีวรรณะ 9 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์จากพ่อครูผู้ตามรอยบาทพระศาสดา วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤษภาคม 2565 ( 11:08:32 )

เศรษฐกิจแบบคนจนดีและประเสริฐอย่างไร

รายละเอียด

เท่าที่อาตมาเข้าใจว่าเศรษฐศาสตร์ที่ควรจะเป็น ที่อธิบายว่าเศรษฐศาสตร์แบบคนจน เศรษฐกิจแบบคนจน มันคืออะไร แล้วมันจะดีขึ้นจะประเสริฐอย่างไรคนจน เพราะเขามี Concept คำว่าคนจนคือคนขาดแคลนคนเดือดร้อนคนดิ้นรนคนที่ทุกข์ยาก มันก็เข้าใจยังมันได้เหมือนกัน ในบริบทของเขากับบริบทของเรามันต่างกัน องค์ประกอบของเขากับองค์ประกอบของเรามันต่างกัน คุณพูดอย่างนั้นเพราะคุณก็เข้าใจแบบของคุณก็ไม่ได้ไม่พอสักที คนรวยก็รวยล้น คนจนก็จนมากมาย มันก็ไม่จบสักทีไม่ดีสักที อย่างชาวอโศกไม่มีใครรวยหรือว่าไม่มีคนจนกันมากมาย แต่จนมาพบกันเสมอกันมาหาความสูญ มันมีวันจบ เศรษฐศาสตร์ที่มาหาความจนเป็นหลักและเป็นเศรษฐศาสตร์ที่ไม่มีของของตนอย่างนี้คนโลกีย์เข้าใจได้ยาก มันจะอยู่อย่างไรมันไม่มีของของตน มันจะกินใช้อย่างไร เราก็อธิบายว่ากินกับส่วนกลางใช้กับของส่วนกลาง ส่วนกลางอุดมสมบูรณ์ เขาก็จะบอกว่าชาวอโศกไปเอาของของกลางมาใช้อย่างไร ของส่วนกลางของเขาเอามาใช้ไม่ได้นะ แต่ของที่นี่เอามาใช้ได้ทุกคน เขาคิดไม่ออก เพราะไม่มีประสบการณ์ ไม่เคยเห็นคนแบบนี้ ไม่เคยอยู่กับคนประเภทนี้ แต่คนที่มาอยู่ที่นี่แล้วเข้าใจว่ามันมีสาธารณโภคีของส่วนกลาง แบ่งกันกินกันใช้อยู่ เขาอยู่กันอย่างสบายไม่เดือดร้อนไม่วุ่นวาย ไม่มีวุ่นวายเรื่องเงินทอง วันๆนึง อย่าว่าแต่วันหนึ่งเลย เดือนหนึ่งก็ไม่ได้ใช้เงินสักบาทอะไรอย่างนี้ อยู่กันไปกินกันอย่างสุขสำราญ เดือนนึง 5 เดือนไม่ต้อง หรือว่าเดือนนึงก็ใช้เงินบ้างสักวันสองวันนิดๆหน่อยๆของส่วนกลาง เราต้องรู้ว่าเราเอาเงินของส่วนกลางไปกินไปใช้ส่วนตัวนะ มันก็มีความเข้าใจกันได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 10:32:09 )

เศรษฐกิจแบบคนจนเป็นเศรษฐกิจยั่งยืน

รายละเอียด

และขอยืนยันว่า เศรษฐกิจแบบคนจนเป็นเศรษฐกิจยั่งยืน เพราะเราไม่แย่งใคร สร้างด้วยสมรรถนะ แต่ละคนของอโศกที่เอาแบบคนจนมหัศจรรย์ของพระพุทธเจ้า จะมีสมรรถนะ พลังงานการสร้างสรรค์ พลังงานการทำงาน จะมีพลังงานสร้างงานได้เกินกว่าที่ตัวเองกินใช้ จึงมีส่วนเหลือกันทุกคน

สรุปแล้ว “แบบคนจนสิยั่งยืน แบบคนรวยนั้นสมบัติผลัดกันชม” ถ้ารวยก็จะแย่งกัน แต่คนจนนี้มี 0 เป็นหลักนี้ ไม่แย่งใครแล้ว 0 ไม่มีอะไรให้คุณแย่ง แต่เรามีสมรรถภาพ นอกนั้นคุณก็ฆ่าเราสิ เราไม่มีอะไรจะให้แล้วเป็น 0 แล้ว เหมือนคุณจะโง่ฆ่าไก่ เอาไข่หรือ คนที่ฉลาดจะไม่ฆ่าไก่ที่มีไข่ทองคำหรอก คนโง่จะฆ่าเอาไข่

สรุปแล้ว คนจนแบบนี้มีความยั่งยืน แต่คนรวยนี้เป็นสมบัติผลัดกันชม เห็นชัดไหม แบบนี้อยู่ได้นานยั่งยืนกว่า สมบัติผลัดกันชมก็ฆ่ากันไปฆ่ากันมา แต่นี่เราสงบสบาย ช่วยเหลือคนอื่น คนอื่นก็จะอุ้มชูไว้ เป็นความยั่งยืนกว่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ธรรมะสองของประชาธิปไตย  วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 12:47:57 )

เศรษฐกิจแบบคนจนไปรอดได้อย่างไร

รายละเอียด

ทำอย่างโพธิรักษ์พาทำ อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าไปรอดไหมไปรอดได้เพราะว่ามันเป็นเรื่องเสถียร คนจะไม่แย่งมาเป็นคนจนง่ายๆมันจะพังได้อย่างไร สอง พวกคนจนนอกจากไม่มีอะไรแย่งแล้ว ที่มีก็ยังแจกให้คุณไปได้เลยด้วย แล้วคุณจะมาแย่งลงหรือ มันมาแจกเรา เราจะไปแย่งทำไม เขาทำให้เราอยู่แล้วมันจึงเป็นความซับซ้อนมาก เป็นเศรษฐกิจที่เสถียร เป็นเศรษฐกิจที่เยี่ยมยอด 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2563 ( 15:41:52 )

เศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์

รายละเอียด

เสร็จแล้วต่อมาก็มีคอมมิวนิสต์ ถ้าหากเอาคนเดียวก็เป็นผู้เอาหมด มันเห็นว่าเป็นการเห็นแก่ตัวคนเดียวไม่ดี ก็เลยทำการเผด็จการเป็นหมู่ แต่ในนั้นก็มีตัวเอ้ เป็นหัวหน้าอยู่ดี แต่ถ้าหัวหน้าคณะคอมมิวนิสต์เอาแต่น้อยให้ลูกน้องได้มาก หัวหน้าก็ดีแต่รวมๆ แล้วทั้งหมู่เอาเปรียบส่วนใหญ่ มีประเด็นหลักอย่างนี้ คอมมิวนิสต์คือเอาหมู่นี้ได้หมดก็ยังได้น้อยกว่าองค์รวมส่วนใหญ่ แต่ถ้าเป็นเผด็จการมีมากกว่าเอาของหมู่มารวม เหมือนนายทุนทุกวันนี้เอาของส่วนรวมทั้งหมดรวมกันยังสู้นายทุนไม่ได้เลย ขณะนี้นายทุนเมืองไทยก็เป็น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:02:58 )

เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท

รายละเอียด

เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท

1.เศรษฐกิจแบบเผด็จการ

2.เศรษฐกิจแบบทุนนิยม

3.เศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์

4.เศรษฐกิจแบบประชาธิปไตย

5.เศรษฐกิจแบบสาธารณโภคี

แบ่งตามโครงสร้างหยาบๆ ก่อน 5 อย่าง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:57:59 )

เศรษฐกิจแบบทุนนิยม

รายละเอียด

เศรษฐกิจทุนนิยมซ้อน ผู้ที่ยิ่งใหญ่เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จะแบ่งได้เท่าไหร่ก็แบ่งไปเท่าที่นายทุนจะเอามาได้ เพราะฉะนั้นอำนาจยิ่งใหญ่นี้อาตมาไม่ขอลงละเอียดทางประวัติศาสตร์ ว่า มันก็มีการเผด็จการของสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ริบอำนาจทรัพย์สินเงินทุนของนายทาสทั้งหมดเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นการคาราคาซังแบบทุนนิยมด้วย ทุนนิยมก็ปลดปล่อยให้ลูกทาสมีส่วน จะได้อาศัยใช้สอยเงินทองทรัพย์สินให้เขาแบ่งงานไป ก็จะได้เกิดการสร้างสรรเกิดการผลิต นายทุนก็มีความซับซ้อนความฉลาดขึ้นมา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:01:17 )

เศรษฐกิจแบบประชาธิปไตย

รายละเอียด

มาถึงประชาธิปไตยก็พยายามจะขยายเพื่อมวลประชาชน ให้ประชาชนมีสิทธิอำนาจในทรัพย์สินมากกว่าขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเผื่อว่ายังเป็นประชาธิปไตยสามานย์อยู่ เมืองไทยชื่อว่าเมืองประชาธิปไตยไม่ใช่เผด็จการไม่ใช่สมบูรณาญาสิทธิราชย์มานานแล้วเมืองไทยนี้ พยายามมาเป็นประชาธิปไตยจริงมานาน ในจักรีวงศ์พัฒนามาจนถึงรัชกาลที่ 9 ก็ชัดเจนว่าเป็นประชาธิปไตยที่สุดยอดเป็นขั้นสาธารณโภคี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:05:05 )

เศรษฐกิจแบบสาธารณโภคี

รายละเอียด

เศรษฐกิจสาธารณโภคี คนที่เป็นสมาชิกของสังคมชุมชนหมู่บ้าน หรือจะขยายเป็นตำบล อำเภอ จังหวัดได้ก็ดีมาก แต่ก็ตอนนี้ก็ได้เป็นหมู่บ้านอยู่ หมู่บ้านชาวอโศกมีที่เป็นนิตินัย 2 อันคือชุมชนศีรษะอโศกและราชธานีอโศก นอกนั้นก็เป็นชุมชนตามสภาพธรรมชาติธรรมดาซึ่งมีระบบสาธารณโภคี ทุกชุมชน กลุ่มเล็กอยู่ในต่างประเทศก็มีบ้าง

แต่มีจริงเป็นจริงสังคมกลุ่มจริงที่ดำเนินเศรษฐกิจแบบนี้ เป้าหมายหลักที่จะเจริญตามแต่ละบุคคลหรือตามกลุ่มก็เป็นจริงตามสัจจะ พวกเราพากเพียรให้เป็นสมาชิกของสาธารณโภคีที่ตนเองเจริญให้ได้สูงสุด อยู่กับสังคมโดยให้ผู้อื่นเขาเลี้ยงไว้เราทำงานกับสังคมให้สังคมอย่างเดียว ปรปฏิพัทธาเมชีวิกา

มีอาหารส่วนกลางของใช้ส่วนกลาง ที่อยู่ส่วนกลาง เอาไว้ใช้สอย

พระพุทธเจ้าท่านเป็นนักเศรษฐศาสตร์สังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง ต่อไปจะมีคนมาขยายความต่อ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:11:21 )

เศรษฐกิจแบบสาธารณโภคี

รายละเอียด

ถ้าหากประเทศไทยทำเศรษฐกิจแบบสาธารณโภคีได้ โอ้โห มันพ่อคอมมิวนิสต์ มันทวดของประชาธิปไตย เพราะมันเป็นอิสระเสรีภาพที่สุด ชาวอโศกนี้ใครจะเข้ามาก็มาสิ เรายินดีต้อนรับ เรามีวัฒนธรรมแข็งแรงพอ คนที่มาวุ่นวายไม่ได้หรอก สนามแม่เหล็กสาธารณโภคี มวลชนที่นี่มันแรงมันแข็งพอ คุณเป็นโมเลกุลเป็นเหล็กอ่อน ที่เข้ามาในสนามแม่เหล็กนี้คุณถูกจับหัวจับหางมาเป็นชาวอโศกหมด ถ้าคุณอยู่ไม่ได้ก็จะกระเด็นออกไปเอง เหมือนแท่งเหล็ก โมเลกุลน้อยๆโดดเข้ามาในสนามแม่เหล็กนี้ หากคุณฝืนไม่ไปตามทิศของสนามแม่เหล็กที่นี่ คุณเด้งออกไปเองก็เดินออกไปเอง ไม่ถูกหน่วยความดึงดูดแกนแม่เหล็กในนี้ดูดคุณไม่ได้ เมื่อดูดไม่ได้ก็จะเตะออก เป็นเรื่องอุตุนิยามไม่ใช่คนนะ หากมาขวางในนี้ไม่ได้หรอก เหมือนแม่เหล็กสองตัว เอาขั้วเดียวกันมาอยู่ใกล้กันมันก็จะผลักกัน ไม่มีดูดกัน

เพราะฉะนั้นถ้าเข้าใจโลกุตรธรรม เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ทำให้เกิดรายได้มวลรวมของชาวไทย พออยู่พอกินอย่างที่ในหลวงตรัสไว้ แล้วให้มีส่วนเกินสะพัดให้แก่ประเทศอื่น ถ้าทำมวลรวมทั้งประเทศ มันจะเป็นอย่างนั้น ต่างคนต่างทำแล้วต่างคนต่างไม่ต้องถึงขั้นสาธารณโภคี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ GDP แบบโลกียะกับแบบโลกุตระ วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 06:14:17 )

เศรษฐกิจแบบอโศกตรงกับเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง

รายละเอียด

ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้เล็กผู้น้อยจะเห็นหรือไม่เห็น อาตมาว่าอาตมาไม่ได้ทำสิ่งที่ผิดอาตมาทำสิ่งที่ดีสิ่งที่ประเสริฐในสังคม อาตมาจะทำจะเผยแพร่จะประกาศ ว่ามาดำเนินวิธีการเศรษฐกิจแบบนี้ตรงกับของในหลวง ไม่ขี้ตู่นะ มีหลักฐานยืนยันว่ามาเอาแบบคนจน มาขาดทุนของเราคือกำไรของเรา มาทำให้รู้จักพอเพียง สร้างสรร รู้จักขีดความพอแล้วก็แจกจ่ายเจือจานเกื้อกูล การแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่าขี้หวงขี้แหน อย่าเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ สร้างได้เท่านี้มะนาวขาดแคลนราคามันจะขาย 10 บาท เขาก็จะหาทางขายให้ได้มากกว่า 10 บาท หาทางโฆษณาหลอกล่อ มอมเมาคนอื่น เพราะว่าเป็นคุณนะถึงขายให้ 15 บาท ถ้าไม่ใช่คุณไม่ขาย 15 บาทนะ มันก็มอมเมากันอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 2 วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน ไตรสิกขาของนาม 5 รูป 28


เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:03:34 )

เศรษฐกิจแบบอโศกนี้ตรงกับเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง

รายละเอียด

ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้เล็กผู้น้อยจะเห็นหรือไม่เห็น อาตมาว่าอาตมาไม่ได้ทำสิ่งที่ผิดอาตมาทำสิ่งที่ดีสิ่งที่ประเสริฐในสังคม อาตมาจะทำจะเผยแพร่จะประกาศ ว่ามาดำเนินวิธีการเศรษฐกิจแบบนี้ตรงกับของในหลวง ไม่ขี้ตู่นะ มีหลักฐานยืนยันว่ามาเอาแบบคนจน มาขาดทุนของเราคือกำไรของเรา มาทำให้รู้จักพอเพียง สร้างสรร รู้จักขีดความพอแล้วก็แจกจ่ายเจือจานเกื้อกูล การแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่าขี้หวงขี้แหน อย่าเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ สร้างได้เท่านี้มะนาวขาดแคลนราคามันจะขาย 10 บาท เขาก็จะหาทางขายให้ได้มากกว่า 10 บาท หาทางโฆษณาหลอกล่อ มอมเมาคนอื่น เพราะว่าเป็นคุณนะถึงขายให้ 15 บาท ถ้าไม่ใช่คุณไม่ขาย 15 บาทนะ มันก็มอมเมากันอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน ไตรสิกขาของนาม5 รูป28


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:47:02 )

เศรษฐกิจแบบเผด็จการ

รายละเอียด

เศรษฐกิจแบบเผด็จการเข้าใจได้ไม่ยากคือฉันคนเดียวนี่แหละเป็นตัวเบ้ง ตั้งแต่สมบูรณาญาสิทธิราชย์เผด็จการฟาสซิสต์ มาตั้งแต่ต้น ดีไม่ดีเผด็จการคนเดียวไม่พอยังหาหมู่กลุ่มมาร่วมเผด็จการแต่ฉันก็เป็นหัวหน้าคนเดียว ต่อมาก็ตัดยอด ทุกอย่างเป็นยอดเผด็จการได้มากคนอื่นก็ขอแบ่งส่วน ก็เกิดนายทุนซับซ้อน ขอแบ่งส่วนแบ่ง ก็มามีนายทุนนายทาส มีลูกน้องของนายทุนอีกเป็นนายทาส ก็มีลูกทาส ก็เกิดทุนนิยมขึ้นมา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:59:54 )

เศรษฐกิจโลกุตระทวนกระแสกับเศรษฐกิจโลกียะ

รายละเอียด

มันไม่ใช่แทนหรอก เศรษฐกิจอย่างนี้เศรษฐกิจอย่างโลกุตระก็เป็นเศรษฐกิจที่ทวนกระแสกับเศรษฐกิจโลกียะ โลกียะได้เปรียบเขามามากเท่าไหร่ เขาว่าเจริญ แต่ว่าโลกุตระมันตรงกันข้ามกันเลย มันเสียไปได้มากเท่าไหร่ สละไปมากเท่าไหร่ มันเจริญ มันคนละขั้วกันเลย อันนี้แหละ มีในมนุษย์ที่เจริญ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 29 อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤษภาคม 2565 ( 14:18:11 )

เศรษฐกิจโลกุตระนัยต่างจากเศรษฐศาสตร์โลก

รายละเอียด

คำว่าเศรษฐกิจที่อาตมาหมายจะมีนัยสำคัญที่ต่างจากนักเศรษฐศาสตร์โลกที่เขาหมาย ไม่ใช่ว่าเราจะมีรายได้มาก ที่ดีมากเหนือชั้นกว่าประเทศอื่น เราต้องอ้างว่าของเรามีน้อย ยิ่งมีน้อยเท่าไหร่ยิ่งเจ๋ง แล้วเคร่งครัดด้วยว่าเราเป็นนักผลิต เรามี product ของเรา ยิ่งใหญ่ อะไรเราถนัดเห็นคุณค่า เราเห็นว่ากสิกรรม พืชพันธุ์ธัญญาหาร มีคุณค่ามากกว่าหอกกว่าปืนกว่าอุตสาหกรรม เพราะเครื่องใช้มันไม่สำคัญเท่ากับเครื่องกิน ในความเป็นสัตว์โลกอย่าว่าแต่เพียงคนเลย   สัตว์ต่างๆไม่เห็นจะใช้เครื่องเทคนิคต่างๆ ก็มีแต่คนที่โง่ไปใช้เท่านั้น คนถูกหลอกก็ไปใช้เสียมาก เราก็โง่ด้วยเอาไปใช้บ้าง เราไม่ได้ไปโง่หลงใหล เราก็ไม่ได้โกงมาก็ซื้อมาโดยสุจริต

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรม บ้านราช เศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกอยู่ที่นี่ วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 12:20:59 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 05:21:04 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:36:08 )

เศรษฐกิจได้รับการเปิดเผยว่าเศรษฐกิจดีขึ้น

รายละเอียด

คนที่พูดอย่างนี้ ว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือคนที่เข้าใจคำว่าเศรษฐกิจไม่ชัดเจนอย่างหลวมจะเข้าใจอย่างนี้ ถ้าเข้าใจว่าเศรษฐกิจที่ดีคืออย่างไรจะไม่พูดอย่างนี้ ที่จริงเศรษฐกิจของไทยไม่ถูกกระทบอย่างหนัก แต่เศรษฐกิจของไทยได้รับการเปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยดียิ่งขึ้น 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 10:34:35 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 16:50:16 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:36:31 )

เศรษฐศาตร์ชั้นสูงเป็นอย่างไร

รายละเอียด

อาตมาก็มาทำหน้าที่ของอาตมาจนกระทั่งทุกวันนี้ แม้แต่ทางด้านเศรษฐกิจที่ในหลวงตรัสไว้ว่ามาเอาแบบคนจน อาตมาก็ไม่ใช่อธิบายเอาแบบคนจนว่าเอาแบบคนจนเฉยๆ แต่พาพวกเรามาจน แล้วพวกเราก็มาจนสำเร็จ จนกระทั่งกลายเป็นสังคมคนจน จนเป็นสังคมที่อุดมสมบูรณ์ จนอย่างอุดมสมบูรณ์ จนอย่างมหัศจรรย์ จนอย่างช่วยเหลือผู้อื่น จนมีประโยชน์คุณค่าต่อผู้อื่น นี่คือเศรษฐศาสตร์ชั้นสูง คนจนที่ช่วยเหลือผู้อื่นได้ พอกินพอใช้เหลือเฟือ แล้วก็ช่วยเหลือเกื้อกูลเอื้อเฟื้อผู้อื่น แล้วก็มีหลักเกณฑ์คือไม่เอาเปรียบ มีแต่เสียเปรียบหรือเสียสละให้แก่ผู้อื่นอยู่เรื่อยๆ นี่คือคนประเสริฐคือ อาริยะบุคคลที่แท้จริง 

เข้าใจความเป็นอาริยบุคคลไหม ไม่ใช่คนเอามีดเอาปืนเอาลูกระเบิดไปฆ่าเขาเก่งจนกระทั่งคนเขากลัวแล้วมีอำนาจบาตรใหญ่คือคนอาริยะ ประเทศอาริยะ เจริญอาริยะ เจริญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาถลกหนังพญานาคจอมหลับตา วันพุธที่ 26 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 22 พฤษภาคม 2565 ( 15:45:25 )

เศรษฐศาสตร์ วัฒนธรรมของโลก

รายละเอียด

ทีนี้แต่ละประเทศ กระดาษที่พิมพ์ขึ้นมาตัวเลข แพร่ไปให้คนอื่นเขาไปถือไว้ในมือ ใช้เป็นตัวแลกเงิน คุณเอามาแลกของ เอาเงินมาแลกของ ของประเทศไหนคุณรับผิดชอบ ถ้าประเทศไทยก็คือเงินบาท คนที่เขาถือเงินบาทไว้ ก็เอาเงินบาทมาคืนเรา คุณก็จะต้องมีของให้เขา ถ้าเป็นวัตถุก็เป็นทองคำ ทองคำ ตีราคาทองคำมาแลกคืน คนก็ไม่มีปัญหาเพราะว่าทองคำเป็นวัตถุหายากทั่วโลกเขารับรองกัน แต่ถ้าจะมาแลกกับทุเรียน ก็ได้ เพราะฉะนั้นจะเอาทุเรียนไปขายให้ที่ไหน ต้องการเงินของจีนเราก็ไปขายให้เอาเงินหยวน ต้องการขายให้แก่อเมริกา เราก็ต้องการเงินดอลลาร์ คุณจะเอาดอลลาร์มาใช้คุณก็พยายามหาทางส่งขายให้แก่อเมริกา คุณจะต้องการเงินหยวน ของประเทศจีนมาใช้คุณก็พยายามขายให้ประเทศจีน หรือคุณต้องการไปทางไหนก็แล้วแต่ ก็ขายไป เอาเงินทางนั้น หรือได้ตั๋วแลกเงินของทางโน้นมามันก็สะดวก นี่ก็เป็นวัฒนธรรมของโลกที่ใช้กัน ทำกันอยู่ มันไม่ใช่เรื่องลึกลับแต่มันก็ซับซ้อนหลายชั้นหลายเชิง แล้วคนก็ต้องทำ เรียกว่าเศรษฐศาสตร์ 

ที่มา ที่ไป

พิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2565 วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 21:50:52 )

เศรษฐศาสตร์กระแสโลกีย์ 

รายละเอียด

เศรษฐศาสตร์เขามีนิยามสั้นๆ เป็นพื้นฐานของเศรษฐศาสตร์คือว่า ทรัพยากรที่มีอยู่ในโลกมันจำกัด ต้องสะพัดให้ทั่วถึงกันให้ได้เสมอสมานกัน เรียกว่าเศรษฐศาสตร์อันดี แต่พวกกบฏ ทรัพย์อันมีจำกัด กูก็จะกอบเอาไว้ที่กูเยอะๆจะสะพัดให้คนอื่นน้อย จะให้คนอื่นก็ต้องมีวิธีการเจ้าเล่ห์เอาเปรียบเอารัดเอากำไรได้เปรียบมากขึ้นยิ่งกว่าเก่าอีก เรียกว่าบำเรอความโลภ บำเรอความได้เห็นแก่ได้ จัดจ้าน พฤติกรรมอย่างนั้นเป็นพฤติกรรมบาปเลวชั่ว แต่เขาก็ไม่รู้ อวิชชา เสร็จแล้วก็ยกย่องเชิดชู ให้ขึ้นทำเนียบทีละไตรมาส พอถึงปีก็สรุปยอด คนนี้เป็นที่ 1 2 3 4 เขาก็โฆษณายกย่องเชิดชูกันอยู่อย่างนั้น แล้วก็เป็นพวกกระแสโลกีย์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 34 วันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 21:48:58 )

เศรษฐศาสตร์ของประเทศเทวนิยมเข้าใจเศรษฐศาสตร์สาธารณโภคีไม่ได้

รายละเอียด

เศรษฐศาสตร์ของต่างประเทศเทวนิยมทุกประเทศยังไม่มีทางที่จะเข้าใจเศรษฐศาสตร์สาธารณโภคีได้หรอก ยิ่งใหญ่กว่าคอมมิวนิสต์ ยิ่งใหญ่กว่าประชาธิปไตยที่เป็นกันอยู่ทั่วโลก เศรษฐศาสตร์บทนี้ สาธารณโภคี ซึ่งเป็นเศรษฐศาสตร์ที่อยู่กันอย่างพิสูจน์ยืนยันในสาราณียธรรม 6 มี เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา อยู่กันด้วยศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา อย่างที่ชาวอโศกเราเป็น เขายังมองไม่ออกหรอก เขาจะต้องศึกษา พวกเราก็ให้เจริญ มีอรหันต์เข้าไปพอสมควรแล้ว อนาคามีก็ไม่ใช่น้อยไปเรื่อยๆ ในพวกเรานี้ 

อรหันต์ขั้นต้น ขั้นกลาง กัน ขอยืนยันว่าพวกเราเป็นพวกโพธิสัตว์ เป็นอรหันต์สายเจโตมีน้อย เป็นโพธิสัตว์กันแทบทั้งนั้น นัยยะอันนี้ต้องอาศัยระยะเวลาพิสูจน์ความจริง เพราะมันต้องพิสูจน์ทั้งปรากฏการณ์จริงที่มีตัวจริงในพวกเรา จะมีมากขึ้น รูปธรรมชัดเจนมากขึ้นพฤติกรรมของสังคมก็จะเกิดมากขึ้นให้เขาเห็นว่า​ องค์รวมของพฤติกรรม มีมนุษย์จริง เป็นมนุษย์ที่มีวรรณะ 9 มนุษย์ที่มีพุทธพจน์ 7 มี สาราณียะ ปิยกรณะ ครุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ   

ยืนยันสภาวะจริงมีคนปฏิบัติได้ปฏิบัติจริง ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที สายหลับตาที่บรรลุจริงก็มีได้ มีบารมีเก่ามา ที่ทำได้แต่พูดไม่ได้ แต่ส่วนมากทำได้แบบมิจฉาทิฏฐิ ทำได้ถูกต้องนั้นมีบารมีเก่าเสริม ซึ่งจะต้องอธิบายตั้งแต่ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี กายสักขี สัทธาวิมุติ ทิฏฐิปัตตะ ปัญญาวิมุติ อุภโตภาควิมุติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การปฏิวัติโดยประชาชนของไทย เป็น Soft Power วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 17:44:30 )

เศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

หากนักศึกษามาศึกษาบุญนิยมจะรู้ว่า Thomas More ที่คิดยูโทเปีย นี้สู้ไม่ได้หรอก เศรษฐกิจแบบยูโทเปีย โทมัส มอร์ สู้แบบนี้ไม่ได้หรอก เป็น คอมมูนที่สุดยอดแล้วชาวอโศกทำได้สมบูรณ์แบบแล้ว อาตมาถึงบอกว่าอาตมาเคยพูดบรรยายว่าอาตมาทำงานสำเร็จแล้วตามแบบพระพุทธเจ้า มันจบแล้วที่เกิดพวกเรานี้ ก็ได้เท่านี้ที่เป็นแก่นแกน ที่เพิ่มมาอีกก็มีบ้างเราก็ต้องขยันเพื่อให้คนรับรู้สิ่งนี้เป็นสุดยอด ประเสริฐสุดแล้ว เศรษฐศาสตร์บทนี้สุดยอด ถ้าเมืองไทยประชาชนคนไทย มีเศรษฐกิจแบบชาวอโศกเพิ่มขึ้นอีก ประเทศไทยมีจะประกาศเศรษฐศาสตร์ ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นเศรษฐศาสตร์ที่ใหม่มากที่สุดเลย ยังไม่มีนักเศรษฐศาสตร์คนไหนคิดได้ ของพระพุทธเจ้าอันนี้ ไม่มีใครคิดได้ แต่ของพระพุทธเจ้าทำได้ อาตมานำทฤษฎีของพระพุทธเจ้ามาทำเป็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม มีมวลมีพฤติกรรมสังคมอย่างแท้จริง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 12:01:56 )

เศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ทีนี้เศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้านั้น พระพุทธเจ้าพาคนมาจน ในประเทศไทยมีคนพูดว่าต้องมาจนมี 2 คน คืออาตมากับในหลวง ร.9 ว่าต้องมาจน นักเศรษฐศาสตร์ที่บริหารประเทศอยู่นี้ไม่กล้าพูดจะพามาจน ไม่กล้า ไม่มีใครพูดเป็นคนที่ 3 มีอาตมากับในหลวงเท่านั้นว่าต้องพาคนมาจน ขาดทุนของเรา มาขาดทุนอย่าไปเอากำไร ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา คนเขาก็หูหักฟังไม่รู้เรื่อง แล้วว่ามันจะอยู่อย่างไร แล้วพวกอโศกอยู่อย่างไร มาจน มาขาดทุน อยู่ได้อย่างไร ความซับซ้อนลึกซึ้งพวกนี้มันยิ่งใหญ่มาก มันยิ่งใหญ่มาก 

เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจของศาสนาพุทธนี้คือ มันต้องมาเป็นคนจน ถ้าสามารถเฉพาะตน คงคลังของตน 0 บาทได้ คุณสำเร็จเศรษฐกิจของคุณแล้ว ส่วนตัวของคุณแต่ละคนคงคลังของคุณ 0 บาท คุณอยู่กับการสะพัดส่วนกลาง สบายมากเลย คุณไม่ต้องเก็บ ไม่ต้องรักษา ไม่ต้องดูแลอะไรเลยในเงินส่วนตัว มีอะไรก็ไปเบิกจะใช้ก็ไปเอาที่กองกลางมา ซึ่งมันก็เป็นได้แล้ว ของอโศกเราเป็นได้แล้วอย่างนี้เป็นต้น 

ซึ่งเศรษฐกิจระดับสาธารณโภคีนี้ยังไม่เคยมีในโลก มีแต่ในยุคพระพุทธเจ้าที่อยู่ในสงฆ์ ฆราวาสยังเป็นไม่ได้ในยุคโน้น เพราะว่ามีข้อจำกัดที่พูดไปแล้ว แต่ในยุคนี้มันไม่มีข้อจำกัด ไม่ใช่ยุคทาส ไม่ใช่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคที่คนเรามีสิทธิเต็มที่ เพราะฉะนั้น ฆราวาสก็ทำสาธารณโภคีได้ อาตมาจึงพาฆราวาส มาทำสาธารณโภคีเพื่อยืนยันความเป็นเศรษฐศาสตร์สุดยอด เศรษฐศาสตร์สุดยอด ไม่ขึ้นกับเงินทอง ไม่ขึ้นกับทรัพย์สฤงคาร พวกนี้ ธนบัตรเงินทองไม่มีอำนาจในพวกเรา แต่เราก็ไม่ใช่ไม่รู้จักว่าธนบัตรคืออะไร ใช้ในสังคมอย่างไร เราก็ไม่ได้โง่อะไร เราก็รู้ เราก็ใช้ตามควร อะไรอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ถ้าจะว่าไปแล้วมันก็พูดแล้วก็เหมือนอวดตัวอวดตนว่ายิ่งใหญ่ 

แต่ที่จริงอาตมาว่ามันยิ่งใหญ่ แต่ไม่ใช่เรื่องของอาตมา เป็นเรื่องของพระพุทธเจ้า อาตมาเอาของพระพุทธเจ้ามากระทำ มาประพฤติ มาปฏิบัติ เป็นจริงตามที่พระพุทธเจ้าท่านเอามาประกาศ ท่านตรัสรู้และเอามาประกาศ แล้วก็นำสิ่งนี้มายืนยัน เทวนิยมประเทศนอกตำรา ดร.ทางเศรษฐศาสตร์ไม่รู้จักเศรษฐศาสตร์สาธารณโภคีหรอก ทำไม่ได้ จะมีที่ประเทศไทยมีที่อโศกนี้ด้วย และเป็นเล่นๆ หรือเปล่า ...ไม่ เป็นไปเรื่อยๆ เป็นปึกแผ่นขึ้นไปเรื่อยๆแต่ก่อนน้อยกว่านี้ ชาวอโศกตั้งแต่แรกที่อาตมาทำมีน้อยกว่านี้ เดี๋ยวนี้ก็มากขึ้นเป็นชุมชนชาวอโศก กระจายไปในประเทศก็มี หลายชุมชน 10 20 30 ชุมชน 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 25 พ่อครูคือธัมมิกราษฎร์ ผู้กอบกู้โลกุตรธรรม วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2566 ( 19:37:36 )

เศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ต้องการให้คนเอารายได้ที่เขาทำได้นั้น มาเสียภาษีให้แก่ส่วนกลางมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ว่าจะประชาธิปไตยหรือคอมมิวนิสต์ คอมมิวนิสต์นั้นเป็นการบังคับให้เสียภาษี ใครหาได้มากเป็นพวกที่มันมีรายได้มากเขาบังคับเลย กฎหมายก็ใส่เลย ประชาธิปไตยมาอิสระก็เลยเป็นนายทุนที่มันได้เปรียบ คอมมิวนิสต์กับได้แก้ปัญหานายทุนได้เปรียบก็พยายามที่จะไปแชร์ แต่มันก็กลายเป็นหมู่อีก เป็นหมู่ที่ร่ำรวยกันไปแทนที่จะร่ำรวยเดี่ยว ตอนนี้ร่ำรวยเป็นหมู่ อะไรอย่างนี้ 

ส่วนพระพุทธเจ้าสอนนั้นทฤษฎีของท่าน มาลดกิเลสเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ไม่เปลือง ไม่ผลาญ ไม่ทำลาย มีแต่สร้างสรรค์เกินกว่ากินกว่าใช้ เพราะฉะนั้นแต่ละคนไม่เปลืองไม่ผลาญเกินกว่ากินกว่าใช้ ทำงานคุ้มที่ตัวเองกินใช้ แล้วไม่ไปขูดที่จากผู้อื่นมา เอาสิ่งที่เราเกินกินเกินใช้นี่ เฉลี่ยออก นี่คือเศรษฐศาสตร์บทจบของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาส่งท้ายปีเก่า 2566 เรื่องปฏิจจสมุปบาท ตอน 1 วันวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 แรม 4 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2567 ( 16:06:08 )

เศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้าสูงสุดในโลกอย่างไร

รายละเอียด

เศรษฐศาสตร์พิสูจน์ได้ในผู้ที่มีภูมิปัญญาปฏิภาณฉลาด พูดกันรู้เรื่องเป็นคนที่มีคุณสมบัติวรรณะ 9 แล้วคนในสังคมมีสาราณียธรรม 6 มีสาธารณโภคีอยู่ในข้อที่ 4 ของสาราณียธรรม 6 พิสูจน์ได้นี่แหละคือเศรษฐศาสตร์ที่สูงสุดในโลก ขั้นยิ่งกว่าคิปบุช ยิ่งกว่าสะมะเอินอุนดง อิโตเอ็น สุดยอดแล้ว พิสูจน์มาตั้งแต่ยุคของพระพุทธเจ้า 2,500 กว่าปีแล้ว เอามาพูดตอนนี้ก็ยิ่งใหม่ ทันสมัยใหม่เสมอไม่มีเก่า เก่าก็เอี่ยม ทันสมัยใหม่เสมอ เก่าเอี่ยม อยู่ตลอดกาลนาน ของพระพุทธเจ้าสุดยอดใช้ได้ในทุกเวลาทุกโอกาส เจริญในทุกยุคไม่ตกยุค 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 11:29:59 )

เศรษฐศาสตร์ของสกุลเงินตราในโลก

รายละเอียด

มาพูดถึงเนื้อหาที่ พราวพุทธ เขาเรียบเรียงขึ้นมา อโศกไม่ใช่ยูโทเปีย อาตมาไม่เคยอ่านยูโทเปีย เดาว่า มาหาส่วนกลาง ซึ่งเป็นแนวคิด เป็นจุดมุ่งหมายของผู้ที่มีปฏิภาณปัญญา ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้ ตรงที่จะเข้ามาหา ความเป็นส่วนกลาง ซึ่งทุกคนอย่าไปยึดมาเป็นของตนเอง ให้มันเป็นของส่วนกลาง จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ตั้งแต่ของกินของใช้ จนถึงคำว่าทรัพย์ ทรัพยากรต่างๆ เอามาเป็นของส่วนกลาง ใครประสงค์จำเป็นจะต้องใช้อะไรก็เอา แม้ที่สุดเป็นธนบัตร เช่น มีธนบัตรที่มีค่าต่างๆ กัน สำหรับจะใช้แทนกันทั่วโลกที่ทั่วโลกเขาก็ใช้กัน ตามสกุลของแต่ละธนบัตร มันก็ตีราคาค่ากันไว้หมดแล้ว 

1 บาทเงินไทยเท่ากับกี่กีบ เท่ากับ 250 กีบ เงินวอนก็ถูกกว่าเงินไทย แต่เงินไทยก็ยังถูกกว่าเงินดอลล่าร์ เงินปอนด์ เป็นต้น 

แล้วจริงๆ พูดถึงความซับซ้อนของเศรษฐศาสตร์บทนี้ เราไม่ต้องไปกระดี๊กระด๊าว่าเงินบาทเราราคาสูง ค่าของมันสูง 1 บาทของเราเท่ากับ 100 ปอนด์อะไรพวกนี้ ไม่ต้องไปคิดจะเป็นอย่างนั้นหรอก มันยากเสียด้วยซ้ำไป ถูกเกินไปก็เป็นภาระ จะไปจ่ายตลาดก็ต้องใส่กระบุงไป ซึ่งมันยาก มันไม่ค่อยถูก มันก็เป็นแค่ตัวเลขที่เขียนปั๊มลงไปในแผ่นกระดาษเท่านั้นเองและบอกราคา แล้วยอมรับก็ใช้กัน อย่าให้ปลอมแปลงกันเท่านั้น ให้ปลอมแปลงยากเท่านั้นเอง 

เสร็จแล้วก็ใช้อยู่เป็นที่รับรองกันทั่วโลก บางประเทศเขาก็ไม่รับรองเงินของประเทศบางประเทศ มันก็อยู่ที่เขาพอใจ ใครพอใจของประเทศไหน ของชาติไหน จะคบหาชาติไหน อย่างไรก็แล้วแต่ ส่วนมากก็เอาค่านิยมของสังคม ประเทศไหนมีค่านิยมมากเงินของประเทศนั้นก็จะนิยมกัน แต่จะให้มันเปลี่ยนค่ายาก ก็เกิดค่านิยม การนิยม ค่ามันไม่เปลี่ยนก็ไม่เป็นไร 

เช่น ขณะนี้ ค่านิยมก็จะไปทางเงินจีน เงินหยวน เงินหยวนคนก็จะนิยมขึ้นมา ถ้าในอนาคตคนในโลกไปนิยมเงินหยวนจีน คนก็ต้องการกระดาษแผ่นเงินหยวนจีนมาใช้ มาครอบครอง ยิ่งค่าของมัน ซึ่งไม่ใช่ราคานะ ค่าของมัน คนนิยมกว่า เป็นค่านิยม เงินหยวนก็จะแพร่หลาย 

ที่มา ที่ไป

พิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2565 วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 21:43:39 )

เศรษฐศาสตร์ของไทยกำลังปรากฎเป็นรูปธรรมแสดงเป็นโมเดลแก่ชาวโลกเห็น

รายละเอียด

นี่มันคือแสดงถึงเศรษฐกิจไทยดีมาก เพราะ แม้การขายสินค้า การหมุนเวียนสินค้าไปต่างประเทศมันก็น้อยลง แต่ในประเทศไทยมันมีผลผลิตมีสิ่งที่กินใช้อาศัย ในประเทศไทยเอง ไม่เดือดร้อนไม่เกิดความเดือดร้อนไม่เกิดความวุ่นวายไม่เกิดขโมยขโจนไม่เกิดการแย่งชิง อุดมสมบูรณ์เป็นอยู่สุขใช่ไหม นี่ประเทศไทยมีเศรษฐกิจดีมาก แต่คนไปเข้าใจเศรษฐกิจที่เป็น Concept เฟ้อๆเพ้อๆ มันไม่มีที่ลงตัวไม่มีที่จบ ไม่มีผลสำเร็จ เข้าใจเศรษฐศาสตร์ตามหลักเศรษฐกิจโลกที่เขาพูดกันเรียนกันนี่ ไม่เหมือนที่อาตมาคิด เพราะว่าจิตใจคุณมีกิเลสคุณไปแก้ปัญหาด้วยกิเลสไม่มีทางสำเร็จ ไม่ลดกิเลสไม่มีทางสำเร็จ เหมือนที่เราส่งเสริมให้คนมีเงินแสนล้านแค่คนเดียวก็ทำให้ประเทศไทยปั่นป่วนไปทั้งประเทศเลย ในหลวงบอกว่าเราไม่ต้องเป็นประเทศที่ก้าวหน้าไม่ต้องประเทศต้องรวยอย่างมาก ที่ในหลวงว่า เราไม่ต้องการก้าวหน้าแบบนั้น เพราะการก้าวหน้าแบบนั้นเป็นการถอยหลังและเป็นการถอยหลังอย่างน่ากลัว นี่เป็นเรื่องลึกซึ้งมากเลยไม่รู้จะพูดยังไงเมืองไทยมีโลกุตรธรรมอย่างในหลวง แต่นักการศาสนาก็ไม่ได้ชัดเจน ขณะนี้เศรษฐศาสตร์ของไทยกำลังปรากฏเป็นรูปธรรมแสดงเป็นโมเดลให้แก่ชาวโลกเห็น Concept เศรษฐศาสตร์อย่างของต่างชาติก็ไม่ได้เข้าใจอย่างพระพุทธเจ้าหรือในหลวงที่เป็นเศรษฐกิจพอเพียง เพราะฉะนั้นเขาถึงดูออกว่า เมืองไทยตอนนี้ โควิด พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไหนจะเอาอยู่ ประเทศไหนจะไปรอด ไม่ว่าทางด้านการเมืองเศรษฐศาสตร์สังคมศาสตร์ โควิดนี่ เพราะฉะนั้นตอนนี้ดูอเมริกา กำลัง แน่นอน ทางด้านสังคมศาสตร์ไปใหญ่แล้ว คนตายคนเจ็บเพิ่มจำนวนไม่รู้เท่าไหร่ แล้วทางด้านเศรษฐกิจก็คอยดู ทางด้านการเมืองก็ไม่ต้องพูด

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2563 ( 12:19:55 )

เศรษฐศาสตร์คนจน คือคนมีเศรษฐกิจเจริญ

รายละเอียด

เศรษฐศาสตร์เจริญ คือ เศรษฐศาสตร์คนจน เพราะฉะนั้นจะไปเข้าใจว่า เศรษฐศาสตร์เศรษฐกิจพอเพียงนี้รวยก็ได้ นี่คือคนยังไม่เข้าใจ คนๆนี้คือยังไม่เข้าใจว่ามาจนมันจะอยู่ได้อย่างไร มันเข้าใจไม่ได้ ที่จริงแล้วจนมันอยู่ได้ เพราะมันไม่ได้อยู่คนเดียว แล้วคุณวิเศษอย่างนี้อยู่ในหมู่คนไม่ใช่ร้อยคนพันคนหนึ่งคนแสนคน ของเราหมู่บ้านราชธานีอโศกอุบลมีไม่ถึงพัน แต่คนหมู่บ้านอื่น ก็ได้รับการเกื้อกูล หมู่บ้านราชธานีอโศกขาดแคลน หมู่บ้านอื่นมีมากกว่าก็แชร์มาให้ หมู่บ้านราชธานีอโศกมีอันนี้มากก็เอาส่งไปให้หมู่บ้านอื่น ก็ส่งที่เรามีมากส่วนเกินไปให้คนอื่น คนอื่นเขามีมากเขาก็เอามาให้ โดยไม่มีความหวงแหน ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นกระจายผลผลิตต่อไป จนกระทั่งในหมู่ตัวเองก็เผื่อแผ่แจกจ่าย กินอยู่กันอย่างอุดมสมบูรณ์ จนกระทั่งแจกจ่ายคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเราเผื่อคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเราได้อีก อย่างนี้คือคนมีเศรษฐกิจเจริญ และในคงคลังมีไหม ไม่มี แต่ละคนชาวอโศก นัดแนะพวกคุณมา 100 คน แล้วชาวอโศกก็มาอีก 100 คนแล้วไม่ต้องบอกว่าไปทำไม ก็ให้ควักกระเป๋าออกมาว่ามีทรัพย์สมบัติอยู่กี่บาทในกระเป๋า ชาวอโศกควักเงินในกระเป๋าออกมารวมกันแล้วมีแค่นี้แหละ ก็จะมีน้อยกว่าพวกเขามากเลยเพราะแต่ละคนเราไม่ได้สะสมไม่ได้มีเครื่องเพชรนิลจินดาหรูหรา ส่วนทางโน้นบางคนเขาคนเดียว 2 คนเท่ากับเรา 100 คน เขามีเพชรราคาหลายสิบล้าน ส่วนของพวกเรารวมแล้ว 100 คน หมด ไม่ถึงล้าน แสนนึงก็ไม่ถึง นี่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่พูดเล่น แล้วเป็นอยู่มีความสุขไหม สบม ทมด ปกต หห จจ มชยลล จจ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 11:09:57 )

เศรษฐศาสตร์คนจนนี้มีวรรณะ 9

รายละเอียด

เอ้า ยอมรับ จะถือว่าสิ่งที่คุณท้วงมาเป็นคำติก็ถูกต้อง แล้วเราก็จะรับพิจารณาแก้ไขปรับปรุงให้ดีที่สุด อะไรที่ดีแล้วเราจะทำให้ดียิ่งขึ้น อะไรที่ไม่ดีเราก็จะแก้ไขก็ขอบคุณคุณเอ็มเคโมบาย ที่ช่างมองในแง่ต่างๆมาบอกเรา เราก็จะได้ใช้วิจารณญาณของเราตรวจสอบตามคำติของคุณ อะไรควรแก้ไขเราแก้ อะไรที่ดีแล้วเราก็ไม่แก้ อะไรที่ควรทำให้ดียิ่งขึ้น ก็อย่าหาว่าเราดื้อดึงเลย ขออนุญาตใช้วิจารณญาณของตัวเองนะ เขาว่าเอาเงินมาจากไหน…พูดเรื่องนี้แล้วคุณฟังให้ดีๆ ชาวอโศกนี้อาตมามีหลักเกณฑ์เลยว่า 1 เงินของคนข้างนอก ที่ไม่เป็นสมาชิกของชาวอโศก อาตมาไม่รับ ถ้าจะเดินบิณฑบาตเขาเอาเงินมาใส่บาตรก็ไม่รับ หรือคนข้างนอกที่จะเอามาบริจาคเจอคนไหนที่ไม่ใช่สมาชิกเราเราไม่รับ มาเจอกันครั้งแรกมาเจอกัน 2 ครั้ง 3 ครั้ง เรามีหลักเกณฑ์ว่าจะต้องมาพบกันอย่างน้อย 7 ครั้งขึ้นไป หรือมาวัด 7 ครั้ง หรือได้อ่านหนังสือ 7 เล่ม ถึงจะมีสิทธิ์บริจาค 2 ชาวอโศกนี้อาตมาสอนให้มาจน เพราะฉะนั้นชาวอโศกไม่ใช่คนรวย ฟังดีๆนะ นี่กำลังอธิบายเศรษฐศาสตร์ นี่คือเศรษฐศาสตร์คนจน คนงงว่าเอาเงินมาจากไหนก็เอามาจากคนจนด้วยกันนี่แหละแต่มีไม่มากหรอก แต่ทำไมมันมีอะไรใหญ่โต นี่แหละเป็นเรื่องอัศจรรย์เป็นเรื่องปาฏิหาริย์ มันเป็นเรื่อง น้ำหยดลงตุ่ม ทีละหยดๆตุ่มใหญ่เลยนะ เท่ากับภูเขานี่เป็นได้คุณมองเห็นภูเขาอาจจะไม่ใหญ่โตคุณก็พูดว่ามันไม่มีเงินแล้วเอาที่ไหนมาสร้าง นี่คือเศรษฐศาสตร์คนจน เป็นเศรษฐศาสตร์ที่ดีที่สุดเลย อาตมาไม่เก่งที่จะอธิบาย เศรษฐศาสตร์คนจนนี้มีวรรณะ 9 เศรษฐศาสตร์วรรณะ 9 จะได้ผลเป็นสาราณียธรรม 6 ซึ่ง 2 อันนี้ยิ่งใหญ่มากในศาสนาพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 11:06:29 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 16:52:00 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:37:35 )

เศรษฐศาสตร์คือ

รายละเอียด

“เศรษฐศาสตร์” คือ “ภาวะแห่งความเป็นจริง” ที่เป็น “สัจธรรม” ทาง “จิตวิญญาณ” ซึ่งมันไม่ใช่แค่เรื่องของ “เงินๆทองๆ” ที่หลงสูงหลงมากไปด้วย “ตัวเลข” หรือนับกันแต่ “จำนวนของตัวเลขที่แข่งกันสูง แข่งกันมาก” เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคณะเศรษฐศาสตร์ในโลกก็รายงานกันแต่ตัวเลขเป็นสำคัญ 

มันต้องสำคัญกันที่“จิตวิญญาณ”จึงจะดีแท้ แต่ถ้าแม้น“จิตวิญญาณ”หลงเงินๆทองๆกันหนักหนา หนักหน้ากันอย่างที่เป็นๆ กันอยู่ รับรองเด็ดขาดว่า เขาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ“ไม่เสร็จ” ไม่“จบกิจ” 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรมโดยพ่อครู ครั้งที่ 14 GDP แบบพุทธสุดจบกิจ วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2566 แรม 7 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 10 เมษายน 2566 ( 17:41:24 )

เศรษฐศาสตร์คือการสะพัดไปสู่คนข้างนอก

รายละเอียด

เราก็ได้อาศัยกินใช้ แล้วเราก็สะพัดไปสู่ผู้อื่น เศรษฐศาสตร์คือการสะพัดไปสู่คนข้างนอกเขา แจกด้วย ขายถูกด้วย แม้แต่เราทำการค้า ทำพาณิชย์ เราก็ไปซื้อสิ่งที่เราไม่ได้สร้างเอง แต่เป็นของที่จำเป็นนะ ต้องใช้กันต้องอะไรกันอย่างที่ร้านค้าของเราทำ เราก็ไปซื้อของคนอื่นมา ซื้อมา ราคาขายต่ำกว่าทุนเราก็ขาย นี่คือนักเศรษฐศาสตร์ชั้น 1 ของประเทศ ของสังคมมนุษยชาติ พวกเรานี้เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำสิ่งเหล่านี้สะพัดไปให้ถึงมือผู้อื่น เพราะฉะนั้นของไฮโซ พวกเราไม่ได้ค้าขายของไฮโซเลยใช่ไหม เราค้าขายกับพวกคนพื้นๆ และเป็นของที่เป็นแก่นสารสาระของชีวิต ขายจอบ ขายเสียม ขายเครื่องมือเครื่องไม้ ของใช้ของกิน ที่เอาไปทำสร้างเพื่อที่จะยังชีพเป็นสาระแก่นสารของมนุษยชาติ 

เครื่องประเทือง เครื่องเมาเมา เครื่องเล่นๆ อะไรต่ออะไร เราอย่าไปเสียเวลาซื้อมารกที่ทางของเราเลย ใครจะไม่มีปัญญารู้เอาข้าวของที่เป็นสาระ เขาต้องการของที่ประเทืองมอมเมา คุณก็ไปซื้อหาที่อื่นเพราะเราไม่มีขาย เราไม่เอามาขาย เพราะเราฉลาดพอที่จะไม่เสียเวลา แรงงาน ทุนรอน คนชั้นต่ำยังเสียเวลาทุนรอนกับสิ่งเหล่านั้น เราชั้นสูงแล้วเรื่องอะไรจะไปทำสิ่งเหล่านั้น ทำเท่านี้แหละได้ไม่มาก เพราะคนโง่คนหลงโลกีย์มันมาก ก็ไม่เป็นไรเราก็ช่วยคนที่มีปัญญาคนฉลาด ฉลาดโลกุตระ เขารู้แก่นสารของเขาไม่ไปฟุ้งเฟ้อ 

นี่อาตมาพาทำสิ่งเหล่านี้อยู่ในโลกในสังคม นี่ตอนนี้ร้านค้าของเราก็ค่อยๆปรับปรุงขึ้นมา ก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ค่อยขยันกันเท่าไหร่ ถ้าขยันกว่านี้กระปรี้กระเปร่าขึ้นช่วยกันหาของมาขาย ทั้งของสดของแห้งของอะไรที่มันเป็นสิ่งที่จำเป็นสาระ การพาณิชย์ของพวกเราก็จะเป็นพาณิชย์บุญนิยมหรือเป็นพาณิชย์โลกุตระ ที่ทำงานการซื้อขายหมุนเวียน ซึ่งมันเป็นยุคนี้มันต้องมีการค้าขาย แล้วเราก็ค้าขายไม่ได้ไปล่าความร่ำรวยอะไร ไม่ได้มาขูดรีด ไม่ได้มาทำนาบนหลังคนอะไร 

เพราะเรามีชีวิตไม่ต้องไปกำรี้กำไรอะไรเราก็อยู่ได้ ไม่ต้องไปเอาเปรียบกำไรของเราคือการขาดทุน โพธิสัตว์ก็จะพูดอย่างนี้เหมือนอย่างในหลวงตรัสท่านก็ตรัสอย่างโพธิสัตว์ “ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา” นักเศรษฐศาสตร์ก็ว่าพูดอะไรอย่างนั้นไม่ใช่ ขาดทุนของเราคือกำไรของเราได้อย่างไร ท่านก็บอกว่าก็มันเป็นอย่างนั้น เขาก็บอกว่า เขาก็ต้องการคำอธิบาย เราก็อธิบาย ขาดทุนเราเสียนี่แหละคือเราได้ แล้วก็จบด้วยว่าก็เราเสียนี่แหละคือเราได้ ท่านก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อ ท่านก็จบด้วยสัจจะแค่นั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 2  วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 7 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2566 ( 11:50:51 )

เศรษฐศาสตร์ชาวอโศกหมดปัญหา

รายละเอียด

แต่ไม่เป็นไร มันเป็นรูปของสังคม เป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรม ชุมชนที่แข็งแรง เป็นเอกภาพที่แข็งแรง ไม่แตกง่ายๆ อยู่กันอย่างมีวัฒนธรรม พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้ มีสาราณียธรรม สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา  มีผลผลิตก็แจกจ่ายกันกินทั่วประเทศ อุดมสมบูรณ์ไม่ขาดแคลนเลยพวกชาวอโศกทั่วประเทศ 

นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ แม้เศรษฐกิจหรือเศรษฐศาสตร์ชาวอโศก หมดปัญหา จนกระทั่งเรื่องเงินนี่ถือว่า 0 ได้ ไม่ต้องมีเลยก็ได้ มีก็แค่อย่างนั้นแหละ ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรมากเลย บางคนจะบำเรอกิเลสก็ติดยึดของตัวเองไป คนไหนรู้จักว่าตัวเองมีกิเลสก็ลดล้างไป จนกระทั่งเป็นอรหันต์ ก็เป็นพระอรหันต์กันหลายคน บางคนก็ไม่รู้ตัว ถ้าตรวจสอบกันจริงๆ ถึงขีดเขตที่เป็นพระอรหันต์ขั้นพื้นฐานก็มีได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติผู้กอบกู้ศาสนาพุทธในยุคกึ่งพุทธกาล วันพุธที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 06:37:58 )

เศรษฐศาสตร์ที่ดีที่สุดคือ เศรษฐศาสตร์แบบคนจน

รายละเอียด

คุณก็โลภเอามาคุณก็ดึงเอามาคุณสามารถ จริงๆ อาตมาสามารถ คนเก่งๆก็สามารถกันทั้งนั้น เขาเก่งเขาสามารถแต่เขาไม่เอา แต่คุณเก่งคุณสามารถแต่คุณเอาแล้วมีกลเม็ดเด็ดพรายเอามาอีกด้วย เอามาแข่งร่างแข่งเรือแข่งพายแข่งโตกัน แล้วทำให้คนอื่นเขาขาดแคลน ซึ่งมันเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ เรื่องความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ที่ลึกซึ้งที่สุดเลย 

เพราะฉะนั้น เศรษฐศาสตร์ที่ดีที่สุดคือเศรษฐศาสตร์แบบคนจน และเป็นคนจนที่สุขสำราญเบิกบานใจ เป็นคนจนที่มหัศจรรย์ เป็นคนจนที่มีคุณค่าประโยชน์  เป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่ ที่พูดไว้นี่ไม่ใช่โม้เกินจริง เมืองไทยเป็นเมืองที่มีคุณวิเศษอันนี้ เป็นเมืองที่มนุษย์เป็นไปได้ในเรื่องนี้ ทั้งรู้และทำได้ มีผู้รู้ในระดับเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ตรัสไว้พูดไว้ ตามภูมิของท่าน ตามฐานานุฐานะของท่าน อาตมาก็รู้ อาตมาก็อยู่ในฐานะของอาตมา อาตมาอธิบายได้มากกว่าท่าน เพราะอาตมาอยู่ในฐานะที่อาตมาเป็นสัดส่วนที่อาตมาทำได้ยิ่งกว่าท่าน เพราะอาตมารับผิดชอบมากกว่าท่านในเรื่องธรรมะโลกุตระ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนถือศีล 5 ได้ ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มกราคม 2565 ( 17:48:46 )

เศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่

รายละเอียด

วันนี้วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก วันนี้ข่าวใหญ่ที่คนติดตามกันก็คือใครจะเป็นเจ้าของหวย 30 ล้าน พวกเรานั้นพ้นจากเรื่องอย่างนี้ เรื่องของคนที่เขายังจะยึดถือ ยังติดใจ ยังมีเรามีตัวเราของเราอะไรอยู่หนักหนา ถือว่าเป็นธรรมดา พวกเรานี่ เราช่วยสังคมมาเกิน 30 ล้านเยอะแล้ว เกินไปไกลแล้ว 300 ล้านแล้ว เกินมาหลายสิบปี พวกเราเหมือนน้ำซึมบ่อทรายไหลออกไป โดยไม่ได้ตรวจสอบอะไร มันเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่มันมากที่เป็นเวลายาวนาน มากขึ้นๆ และมีมวลมาเพิ่มเติมสร้างสรรค์ขึ้นอีกเยอะ เป็นเศรษฐกิจเป็นเศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ แต่คนไม่ค่อยรู้สึกได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้าพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เพิ่มสัมประสิทธิ์เพื่อสะพัดสู่ผู้ขาดแคลน


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:59:05 )

เศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 

รายละเอียด

เศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  คือ หมู่บ้านราชธานีอโศก  เป็นหมู่บ้านคนจน  แต่ละคนไม่ได้รวยเท่าคนหมู่บ้านอื่นที่มาทำงานให้  และมาเอารายได้จากพวกเราที่จนกว่า  เราจึงเป็นคนจน  ที่ช่วยเหลือเลี้ยงดู  คนอื่นได้เป็นที่พึ่งของคนอื่นได้  เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงใจมากที่สุดในประเทศไทย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต  สันติอโศก ครั้งที่ 69  วันจันทร์ที่ 16กันยายน  2562


เวลาบันทึก 21 ตุลาคม 2562 ( 08:37:56 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 08:22:05 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 08:37:59 )

เศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 

รายละเอียด

มีสิ่งที่เอามาตั้งโชว์มีทั้งหัวกะหล่ำปลีอันนี้อย่างน้อย 3.6 กก. มีบล็อคโคลีหัวใหญ่ ใบกรอบหักเป๊าะๆ นี่คือผลงาน ที่เป็นพืชพันธุ์ธัญญาหาร อันนี้เอามาจากสวนอาจารย์ข้าดิน กะหล่ำปลีอยู่ในแปลง บล็อกโคลีก็มี กล้วยน้ำว้ามาจากดอนตาล กล้วยหอมมาจากสวนตาไม้ผล ลูกและดอกสาละ มาจากบ้านแม่ธูป ดอกไม้ใบเตย แม่ของน้ำมนต์ทำมา ก็จุ๋มจิ๋มดี สิ่งเหล่านี้เป็นผลผลิต ที่พวกเราต่างทำขยันหมั่นเพียร รู้อะไรควรทำก็ทำ อาศัยช่วยกันกินช่วยกันใช้ แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ มีจิตใจพอ มีจิตใจไม่ตะกละไม่ตะกราม รู้จักความเหมาะความพอ ความหยุด แล้วก็สร้างสรรให้มากกว่าที่เรากินเราใช้ นี่แหละเป็นเศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจนสาธารณโภคีที่เหาะได้ทั้งชุมชน วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 17:03:32 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์