คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี
เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit
วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5
วีดีโอ Loom 1 : https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044
วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk
รายละเอียด
แรก เก่า ก่อน เบื้องต้น มาก่อนสิ่งอื่น
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 102
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:33:59 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:44:25 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:00:47 )
รายละเอียด
ยังเข้าใจอนิจจัง อนัตตาอันชัดลึกแท้ และเห็นทุกข์อันละเอียดสุขุมยังไม่ได้ เรายังมีเชื้อของอดีต
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 103
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:34:51 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:45:50 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:00:29 )
รายละเอียด
แปลว่า ก่อน
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 15:30:46 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 04:56:21 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:00:03 )
รายละเอียด
1. ส่วนอดีต
2. อดีต
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 62ย
ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 247
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:35:50 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:47:22 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:59:34 )
รายละเอียด
ผู้เวียนว่ายอยู่ในกัปที่เป็นอดีต
หนังสืออ้างอิง
ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 263
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:36:38 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:48:11 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:59:04 )
รายละเอียด
ทั้งส่วนอดีตและส่วนอนาคต
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 76
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:37:27 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:48:58 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:58:42 )
รายละเอียด
ไม่รู้ทั้งในส่วนอดีตและอนาคต
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 61
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:38:15 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:50:26 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:58:25 )
รายละเอียด
ไม่รู้ในส่วนอดีต
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 61
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:39:18 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:51:14 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:58:06 )
รายละเอียด
ไปพลี ไปเสียสละแก่เปรต ที่เขาสามารถรับได้อันนี้เข้าใจผิดเพี้ยน
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 15:04:19 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 04:57:02 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:57:44 )
รายละเอียด
บุรพกรรมตักเตือนแล้ว
หนังสืออ้างอิง
ค้าบุญคือบาป หน้า 108
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:45:14 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:52:11 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:57:20 )
รายละเอียด
คือ พลังงานที่คุณได้ฆ่ากิเลสสำเร็จแล้ว แต่เขาไปแปลว่าบุญเก่าที่ทำมาก่อนแล้วเข้าใจว่าบุญเก่าเป็นสมบัติ แต่เราอธิบายบุญเก่าคือสูญไปแล้ว มาถึงปัจจุบัน อันนี้เป็นอุปการะ 0 เป็นสิ่งอุปการะ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2562 ( 12:24:07 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 04:57:38 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:57:00 )
รายละเอียด
ปุพเพกตปุญญตา คือ ทุกคนสั่งสมวิบาก สั่งสมกรรมของตนเองให้มันบรรลุ สั่งสมโดยการให้รู้สัมมาทิฏฐิ และมีสัมมาปฏิบัติ สัมมาปฏิเวธให้เกิดผลจริง ชาติแล้วชาติเล่า จนสั่งสมไปในตน แล้วก็มามีจริง สิ่งที่จะทำจริงๆก็คือ ปุญญะ ที่เป็นตัวจบของพลังงานทำลายพลังงานประหาร ประหารกิเลสอย่างเดียว กิเลสหยาบ กลาง ละเอียด นี่แหละอย่างเดียว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิธีจบนิยาม 5 จบนิยายของตนอย่างนิรันดร วันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 05:19:39 )
รายละเอียด
1. ความเชื่อที่ถือว่าสิ่งใดก็ตามที่ได้ประสบ จะเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ตามล้วนเป็นเพราะกรรมเก่าได้ทำไว้แต่ปางก่อนอันเที่ยงแท้ ไม่มีทางแก้ไขให้เปลี่ยนแปลงได้
2. ลัทธิเชื่อกรรมเก่า
หนังสืออ้างอิง
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 25, หน้า 182
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:40:58 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:53:45 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:56:33 )
รายละเอียด
การได้อยู่ได้เป็นร่วมกันมาก่อน
หนังสืออ้างอิง
ค้าบุญคือบาป หน้า 208
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:41:59 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:54:39 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:56:03 )
รายละเอียด
1. การระลึกชาติของตัวเองได้
2. ญาณปัญญาระลึกย้อนอดีต รู้อะไรต่าง ๆ ในอดีตที่เคยเป็นมาได้หลายอย่างต่างประการ
3. ความรู้ในสิ่งที่ได้ผ่านมา
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 254, หน้า 276
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 90
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:44:33 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:55:58 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:55:41 )
รายละเอียด
คือ พระพุทธองค์ตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ แล้วย้อนระลึกทบทวน รายละเอียดการเกิดสภาพวิญญาณต่างๆของตนในอดีต ทั้งดีและชั่วมีลักษณะอาการอย่างไร ตั้งอยู่หรือดับไปด้วยเหตุใด ท่านพยายามระลึกเพื่อให้รู้ว่า เราตั้งต้นชาติแรกเป็นสัตว์โลกนี่เมื่อไร ระลึกไปเท่าไรๆก็ไม่ถึงที่สุด เริ่มแรกเกิดจริงๆ พระองค์ระลึกถึงที่ต้นไม่ได้ หาที่ต้นไม่เจอ ระลึกย้อนชาติ เคยเกิดเป็นใคร ทำอะไรได้ดี ตกยากเป็นขอทาน เป็นคนกระจอก เป็นคนดี คนเจริญ คนรวย เป็นนักรบ เป็นกษัตริย์ เป็นสัตว์ ระลึกไปร้อยชาติ พันชาติ หมื่นชาติ แสนชาติ หลายแสนชาติ เพราะทำอกุศล อย่างนี้จึงเป็นอย่างนี้ ทำกุศลอย่างนั้นจึงได้อย่างนั้น คล้ายๆกับการตรวจงบดุลบัญชีครั้งสุดท้ายว่า บุญบารมีที่ได้สร้างสั่งสมมาขนาดนี้ พอจะตัดสินปฏิญาณตนได้หรือยังว่า เป็นพระพุทธเจ้า
หนังสืออ้างอิง
“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ”หน้า199
เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 12:17:22 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:04:40 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:30:38 )
รายละเอียด
การย้อนระลึกถึงการเกิดกิเลสเก่าก่อน มารู้อริยสัจจะจนหายโง่จากอวิชชา
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:27:41 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 04:58:10 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:55:01 )
รายละเอียด
ผู้หญิงเมื่อมีปุริสภาวะ ก็เกิดเป็นผู้ชายได้ ถ้ายังเป็นสองก็จะเป็นผู้หญิง หนึ่งนี้สิ้นสุขสิ้นทุกข์ เทวะเป็นสภาวะคู่เมื่อทำให้เป็นหนึ่งได้เราก็เลือกสุขที่เป็นโลกุตระ วูปสโมสุข ไม่ใช่สุขโลกีย์บำเรอกิเลส แต่สุขเพราะหยุดบำเรอ แต่นี่สภาวะเป็นหนึ่งไม่มีคู่ไม่มี 2 ไม่มีอะไรบำเรอ แม้สัมผัสด้วยรสทางลิ้น คุณก็สัมผัสได้รู้ถึงรสแท้ไม่ใช่รสเทียม ได้ยินเสียงก็เป็นเสียงจริง ไม่มีอร่อยชื่นใจสนุก มัน กลิ่นและเสียงก็เป็นอย่างนี้สัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็งก็เป็นเช่นนี้ มันไม่มีเวทนาที่เป็นรสเก๊อัสสาทะ รสโลกียะ ต้องแยกรสโลกียะกับรสโลกุตระออก เป็นเนกขัมมะ กับเคหสิตะ คำว่าสองนี้จึงยิ่งใหญ่ที่สุด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562
เวลาบันทึก 12 มกราคม 2563 ( 17:18:05 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 04:59:56 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:54:38 )
รายละเอียด
ปุริสลักษณะของพระพุทธเจ้า คือ เป็นลักษณะพิเศษของพระพุทธเจ้า คือ โลมา (ขน) ของพระพุทธเจ้าทวนกระแส สิ่งเหล่านี้เป็นอจินไตยมีทั้งรูปธรรม นามธรรม นามธรรมยืนยันบ่งชี้รูปธรรม นามธรรม ที่พิเศษ
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายพ่อครู รายการสำมะปี๋ซี่วิต
เวลาบันทึก 27 กันยายน 2562 ( 17:12:35 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 05:00:35 )
รายละเอียด
ภาวะที่ดีสุด
หนังสืออ้างอิง
ค้าบุญคือบาป หน้า 191
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:46:23 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:56:41 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:53:07 )
รายละเอียด
สิ่งที่ตั้งลงไปเป็นสมบัติในตนแล้วก่อนอื่น , พื้นฐาน , สิ่งที่มีแล้วในตนก่อนคนอื่น
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 384
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:47:05 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:57:39 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:52:50 )
รายละเอียด
แต่สุดท้ายก็จะมาลงที่บริหารหรือมาเป็นคนที่จะช่วยคนบริหารโดยการให้ความรู้ เพราะมาอยู่ในตำแหน่งช่วยบริหารโดยการให้ความรู้ แล้วก็มีผู้รับความรู้นั้นไปจัดการ ช่วยกันหลายคนมากมายขึ้น ผู้นี้คือปุโรหิต (ปุโรหิตา)เป็นผู้ที่จะเป็นครูเป็นอาจารย์เป็นผู้ให้เป็นที่ปรึกษา ก็จะมีหน้าที่อย่างนั้นๆ
นี่คือนัยยะของความเป็นมนุษยชาติคร่าวๆ จะขยายความไปอีกมากมายกว่านี้ก็ได้ ก็ขยายความอยู่ผู้อยากรู้ก็ติดตามไปก็แล้วกัน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 28 วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 17:10:38 )
รายละเอียด
สิ่งที่ตนมีแล้วในตนมาก่อนนั่นเอง หรือทำประโยชน์เกื้อกูลผู้อื่นด้วยสิ่งที่เรามีแล้วในตนก่อนเขา
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 384
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:47:50 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:58:23 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:52:31 )
รายละเอียด
การวางความยึดมั่นกันจริง ๆ การคลายความติดกันแท้ ๆ การเกิดความรู้แจ้งในความหลงเมากันถึง ๆ การเกิดความเข้าใจในความมืดบอด ความโง่งมงาย ความไม่รู้ของตนกันยิ่ง ๆ ขึ้น
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 176
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:48:48 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 15:59:47 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:52:10 )
รายละเอียด
ความบันเทิง
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 500
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 07:05:07 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:00:47 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:51:35 )
รายละเอียด
รื่นเริง เบิกบาน ยินดี
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 143
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 07:07:14 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:05:46 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:51:19 )
รายละเอียด
อื่น ข้างบน ข้างหลัง ไปเบื้องหน้า สูง ต่ำ มากกว่า ต่าง ศัตรู
หนังสืออ้างอิง
สมาธิพุทธ หน้า 381
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:55:09 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:06:38 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:51:00 )
รายละเอียด
1. ส่งเสริมกันช่วยกันมีสัดส่วนอย่างพอเหมาะ
2. พอเหมาะยิ่ง
3. พอเหมาะได้
หนังสืออ้างอิง
เปิดโลกเทวดา หน้า 67
ค้าบุญคือบาป หน้า 306
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 271
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:16:36 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:07:51 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:50:28 )
รายละเอียด
ปโหติ คือ เหมาะสม พอเหมาะ พอควร ลงตัวอย่างดีที่สุด
ที่มา ที่ไป
(630313)
เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 03:25:59 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:02:07 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 31 มีนาคม 2563 ( 08:59:13 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:03:38 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:49:25 )
รายละเอียด
ป่า คือ แปลว่า เถื่อน ไม่ผิดด้วยพยัญชนะ แต่ความหมาย หรือ อัตถะหมายความว่าไม่ใช่แบบพุทธ พระไปอยู่ป่าอยู่เถื่อนมันผิดจากศาสนาพุทธ
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562
เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 12:50:03 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 05:04:52 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:48:54 )
รายละเอียด
อาตมาเคยอธิบายยกตัวอย่าง แม้พระเจ้าอชาติศัตรูเมื่อบอกว่าไปพบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็อยู่ที่เขาคิชฌกูฏ ก็คือป่าเขา แล้ววังพระเจ้าอชาติศัตรูพูดกันอยู่ที่วัง พอบอกว่าไป ชีวกะ เป็นผู้แนะนำให้ไปก็ยกทัพไปช้าง 500 ม้า 500 พระเจ้าแผ่นดินจะไปไหนก็ต้องมีขบวน ไปบัดเดี๋ยวนั้นมืดแล้วก็ไปทันมืดพอดี ที่พูดนี้จะให้เห็นว่าป่ากับชุมชนมันไม่ไกลกันในยุคนั้น แต่ในยุคนี้ป่ากับชุมชนมันห่างกันจนแยกไปเลย ป่าอย่างหนึ่งชุมชนก็อย่างหนึ่งพระป่ากับพระบ้านแยกทางกันเลยอย่างนี้เป็นต้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 21:26:41 )
รายละเอียด
ธุดงควรรคที่ 6
ถืออยู่ป่าเป็นต้น
(พระไตรปิฎกเล่ม 8 ข้อ 1191) อุ. ภิกษุผู้ถืออยู่ป่ามีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี ภิกษุผู้ถืออยู่ป่านี้มี 5 จำพวก. 5 จำพวก อะไรบ้าง? คือ:
1. เพราะเป็นผู้เขลา งมงาย จึงถืออยู่ป่า
2. เป็นผู้มีความปรารถนาลามก อันความปรารถนาครอบงำ จึงถืออยู่ป่า
3. เพราะวิกลจริต มีจิตฟุ้งซ่าน จึงถืออยู่ป่า
4. เพราะเข้าใจว่า พระพุทธเจ้า สาวกของพระพุทธเจ้า สรรเสริญ จึงถืออยู่ป่า
5. เพราะอาศัยความมักน้อย สันโดษ ขัดเกลา ความเงียบสงัด และเพราะอาศัย
ความเป็นแห่งการอยู่ป่ามีประโยชน์ ด้วยความปฏิบัติงามนี้ จึงถืออยู่ป่า
ดูกรอุบาลี ภิกษุผู้ถืออยู่ป่ามี 5 จำพวก นี้แล.
พ่อครูว่า...ข้อที่ 5 ไม่ใช่พวกที่เป็นอย่างนั้น แต่เป็นพวกที่เหลือปัญญาอยู่เพียงเล็กน้อย รู้จักว่าจะทำจิตให้สงบจากกิเลส ยังเหลือความรู้เป็นติ่งเหมือนเนื้อข้างเขียง ยังโชคดีที่ยังมีความเข้าใจถูกต้องแล้วเป็นเศษเนื้อ นอกนั้นเลอะเทอะไปทั้ง 4 ประการ ที่นึกว่า พระพุทธเจ้าและสาวกสรรเสริญการอยู่ป่า ซึ่งไม่มีเลย คำสรรเสริญการอยู่ป่าของพระพุทธเจ้าไม่มีเลย
ท่านข่ม ดูถูกการอยู่ป่า ศาสนาพุทธไม่มีการไปอยู่ป่า มีแต่อยู่เมือง ปฏิบัติ ศีล 5 8 10 จุลศีล26 ไปตามลำดับ แล้วมีการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 แล้วก็เรียนรู้กำจัดกิเลสไปตามลำดับ เป็นลำดับขั้นตั้งแต่ขั้นอบาย กาม โลกธรรม อัตตาไปตามลำดับ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 10:50:43 )
รายละเอียด
ที่จริงพวกเราไปจับจองเอาป่าช้าที่ศาลีอโศกและที่ศีรษะอโศก เป็นพระธุดงค์เป็นพระพวกเคร่ง ที่มีความคิดแนวคิดแบบเดิม เหมือนกับสมัยพระพุทธเจ้าตอนแรกๆเหมือนกับเชิงเดียรถีย์เชิงเจโตหนัก ในยุคพระพุทธเจ้าเหมือนกันพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาก็มีเต็มไปด้วยนักบวชที่มีพิธีการเป็นไปด้วยแบบฤาษีแบบเทวนิยม ออกป่า เขา ถ้ำ เคร่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับของพระพุทธเจ้า ทุกวันนี้อาตมาไม่ได้พูดอย่างประนีประนอมไว้หน้า แต่พูดกันอย่างแตกหักว่าศาสนาพุทธไม่ได้ออกป่าแต่เป็นพระเมืองเป็นความเจริญอย่างพร้อมเลย ส่วนใครจะไปป่าก็เข้าใจไปบ้างแต่ไม่ใช่เป็นหลักสำหรับผู้ที่มีจริตออกป่า อย่างเช่นสมัยพระพุทธเจ้าก็มีพระมหากัสสปะเป็นจริตที่ติดป่า ก็ให้ท่านทำไปท่านก็มีคณะมีมวลที่เป็นพระป่าบ้างแต่มีน้อยแต่ก็เป็นหลักแข็งดีนะ แม้แต่พระไตรปิฎกที่รวบรวมกันมาท่านก็เป็นผู้รวบรวม
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก
เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:35:35 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นต้องมาเรียนรู้หลักเกณฑ์ที่ค่อยๆล้างจิตตัวเองที่มันโง่ แล้วมันก็ไปติดอะไรต่ออะไร เริ่มตั้งแต่เกี่ยวข้องกับสัตว์ เพราะสัตว์มันมีวิบากต่อกันนานนับชาติไม่ถ้วน แล้วแรงร้ายมากด้วย ป้องกันการแรงร้ายมากก็ต้องเริ่มให้ตัวเองมีพลัง มีความรู้ มีกำลัง มีรังสี มีคุณค่ามีคุณงามความดี มีกุศลวิบาก ให้ตัวเองเจริญๆๆจนกระทั่ง มีกำแพงไร้สภาพ มีพลังงานที่จะป้องกันตัวเรา จนกระทั่งสัตว์พวกนั้นเข้ามาอยู่ในรัศมีของจิต รัศมีของพลังบารมีของเรา เข้ามาไม่ได้ เข้ามาใกล้ไม่ได้ ซึ่งก็เคยอธิบายไปมากแล้ว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ปฏิบัติศีลให้ถึงอรหัตตผลโดยลำดับ
วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 13:57:39 )
รายละเอียด
พวกเรานี้ถ้าป้องกันมาได้สำเร็จ เรื่องยุ่งยากมันก็น้อย เราก็อยู่ในกรอบของเราจนกว่ามันจะเปิดประตูเมืองเราได้ เพราะตอนนี้เราก็จะมีอยู่ว่าคนผ่านไปผ่านมา จึงต้องป้องกันใส่แมส เราไม่รู้ได้ว่าคนผ่านไปผ่านมาบ้าง เราก็ไม่ได้ตัดขาดทีเดียว คนมาซื้อปุ๋ยคนมาเอาของที่ใส่กระท่อมปันสุขไว้ ของเราก็มีไม่มากเอาไปใส่แป๊บเดียวก็หมด เราก็ขยันน้อยยังไม่ได้ตั้งกองทัพ เก็บพืชพันธุ์ธัญญาหาร สำหรับเอาไปแจกจ่ายเขาบ้างเขาเดือดร้อนกัน แล้วคนขี้โลภก็มาคอยเมื่อไหร่มาก็เอา หน้าเก่าอีกแล้ว พวกที่รู้แกวไง เดี๋ยวก็หอบไป ดีไม่ดีเอาไปขายได้ด้วย อย่าว่าแต่เอาไปกินเลยเอาไปขายอีก นี่มันก็ขี้โลภ ไปห้ามเขาก็ไม่ได้ เราเปิดประตูเขาก็ทำแต่เขาไม่ผิด แต่มันน่าเกลียด ความขี้โลภเขาก็ไม่รู้ตัวเขาก็ทำอย่างนั้น จะบอกว่าน่าเกลียดก็น่าเกลียด จะบอกน่าสงสารก็น่าสงสารไม่รู้จะช่วยอย่างไร เป็นลักษณะอย่างนั้นจริง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ปฏิบัติศีลให้ถึงอรหัตตผลโดยลำดับ
วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 14:24:40 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 11 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2563 ( 09:47:01 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:04:27 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:47:59 )
รายละเอียด
เงินกองกลางไม่ว่าจะเป็นลักษณะของคอมมิวนิสต์หรือเป็นลักษณะของประชาธิปไตย ยิ่งเป็นลักษณะของสมบูรณาญาสิทธิราชย์แล้ว สมบูรณาญาสิทธิราชย์นั้นเป็นของตัวของตนหมดเลย แม้แต่ของประชาชน จะริบเอามาเป็นของตัวเองหมดเลยก็ได้ เป็นฤทธิ์ขนาดนั้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำที่จะริบเอาของประชาชนในประเทศมาเป็นของเจ้าของประเทศ เอามาหมดตัวเองก็ตาย คนอื่นก็ต้องตายหมด แล้วมันจะอยู่กันอย่างไร ก็ต้องแบ่งให้เขาเอาไปใช้ให้น้อยๆ หือไม่ขึ้นด้วย มันมอมเมากันมากๆอะไรกันประเทศใดที่สามารถจะบริหารได้แบบนั้น
การเข้าใจ การเฉลี่ยแบ่งแจกให้คนอื่นไปได้ เพราะคนมันมีกิเลส มันติดมันยึดมันจะต้องใช้อย่างนั้นอย่างนี้อยู่บ้าง บางทีไม่บ้าง มันมอมเมาผลาญหลงใหลกัน ประเทศไหนที่จะบริหารให้คนเป็นคนใช้น้อยๆเป็นคนวรรณะ 9 ที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นหลักสูตร เข้าใจแล้วจะไม่เป็นคนไปสะสมโลภโมโทสันเพิ่มกิเลส เอามาบำเรอตน เป้าหมายหลักก็คือหยุดบำเรอตน อาศัยแค่เป็นปัจจัย ยังชีพไปให้ตั้งอยู่ ไม่เอาสิ่งประเทือง สิ่งที่มาบำเรอความหรูหรา สวยงาม มากมาย เบ่งข่มอะไร ไม่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 20 ความมหัศจรรย์กองกลางสาธารณโภคีของชาวอโศก วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564 ขึ้น 9 ค่ำเดือนอ้ายปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2564 ( 21:43:33 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 11:00:58 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 03:57:29 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:46:34 )
รายละเอียด
ผม คือ ผมที่ยาวออกมาแล้ว ยังไม่ตัดออกจากตัวเรามันก็เป็นชีวะอยู่มีอาหารไปเลี้ยงก็ยาวได้ เพราะมันไม่เจ็บปวด ไม่รักไม่ชัง ไม่ผลัก ไม่ดูด ผม ขน เล็บ ฟัน ผิวหนัง ส่วนข้างนอก มันจะไม่รับรู้ ต้องแยกอันนี้ให้ออก ถ้าแยกอันนี้ออกได้จึงจะสามารถทำจิตให้เป็นจิตไม่สุข ไม่ทุกข์ จิตวิญญาณ ของเรา ทำให้จิตวิญญาณเราเป็นพีชะ พระอรหันต์รู้จักการทำใจในใจให้เป็นพีชะได้
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 68 วันจันทร์ที่ 9 เดือนกันยายน 2562
เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 14:43:21 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 05:06:03 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 03:47:13 )
รายละเอียด
ผมที่ตัดออกไปเป็น อุตุ หมดความเป็น ชีวะ, ผมที่อยู่กับตัวเรายาวไปมีประสาทน้ำเลี้ยงให้ยาว แต่ไม่มีความรู้สึก ไม่เรียกว่า กาย แต่เป็น พีชะ, ผมที่อยู่กับตัวเรายาวไป ใช้มือกระตุกผม จะมีความรู้สึก(เวทนา)ร่วมด้วย มีประสาทรู้สึก ผมเป็นจิตนิยามแท้ๆ
หนังสืออ้างอิง
รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:07:07 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 05:06:57 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:24:06 )
รายละเอียด
คือ เป็นกรรมฐานของอุปฌาย์ให้ภิกษุบวชใหม่ฝึกสามารถแยกได้เหมือนกันหมด อธิบาย เล็บ เล็บส่วนที่ยาวออกมาไม่มีจิตมาร่วมไม่ใช่กาย เป็นพีชนิยาม มีสัญญากับสังขารอยู่ เล็บส่วนที่ตัดออกไปแล้วเป็นอุตุไม่ยาวขึ้นได้อีก เล็บส่วนที่ไม่มีความรู้สึก ไม่ใช่กายของสัตว์แล้ว ส่วนที่เป็นพีชะแล้วไม่เรียกกาย ไม่รู้สึก เจ็บ ปวด รัก ชัง ไม่มีวิบากผูกพัน จองเวรไปถึงชาติหน้าได้ ไม่มีบาปไม่มีบุญ คนกินได้ไม่มีวิบาก เป็นการแยกกายแยกจิตอย่างนี้ เรื่องจิตมันจะผูกพันจองเวรจองกรรมรัก ชัง ได้ จึงอย่าไปสร้างวิบากกับจิตนิยาม
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายราย การสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 71 30 กันยายน พ.ศ. 2562
เวลาบันทึก 03 ตุลาคม 2562 ( 17:43:26 )
เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2563 ( 05:08:13 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:29:42 )
รายละเอียด
ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง คือ มันอยู่ภายนอก มันไม่ใช่ของเราแล้ว ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ไม่ใช่ของเราแล้วก็ไปยึดถือว่าเป็นของเรา มันมีชีวะต่อเนื่องกับชีวิตของเราทั้งที่มันเป็นแค่พีชะไม่ใช่จิต ผู้ที่ไม่สามารถแยกอุตุ พีชะ จิต หากแยกไม่ได้คนนี้เป็นอรหันต์ไม่ได้ เพราะว่าแยกกิเลสจากจิตไม่ได้ มันเป็นจิตรวมกับอุตุ พีชะจิต
คำอธิบาย
คือ มันอยู่ข้างนอกในสรีระเรา ในส่วนที่สัมผัสแล้วไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่รู้สึกไม่มีเวทนา เส้นผมก็ตามที่งอกออกมา ไม่มีความรู้สึกไม่มีเวทนาแล้วที่ไม่มีแล้วนั่นแหละไม่ใช่กายของเรา ถึงจะติดอยู่กับตัวเราก็ตาม ผมมันยังมีชีวะมันก็เป็นพีชนิยามเท่านั้น ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่มีเวทนา และไม่มีบาป ไม่มีบุญ ไม่มีพยาบาทจองเวร ไม่มีความรัก ไม่มีความชัง นี่คือ พลังงาน 5 อุตุนิยาม พีชะนิยาม จิตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 69 วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2562
เวลาบันทึก 23 กันยายน 2562 ( 08:46:02 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:01:49 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:32:34 )
รายละเอียด
คือ ความเบิกบานร่าเริงหรือรื่นเริงในธรรม
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า.51
เวลาบันทึก 08 พฤศจิกายน 2562 ( 14:42:06 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:03:33 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:38:05 )
รายละเอียด
พูดคำหยาบ
หนังสืออ้างอิง
จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 513
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:55:38 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:10:14 )
รายละเอียด
พูดคำหยาบ
หนังสืออ้างอิง
สมาธิพุทธ หน้า 115
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:56:16 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:10:50 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:39:36 )
รายละเอียด
คำหยาบ คือคำที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นคำที่นิยมยกย่องของชาวบ้าน ไม่เป็นคำดีสมของชาวเมือง ไม่เป็นคำของหมู่กลุ่ม ไม่เป็นคำของผู้ดี ไม่เป็นคำที่ถูกต้องตามสมัย ไม่ถูกต้องตามกาลเทศะ
หนังสืออ้างอิง
สมาธิพุทธ หน้า 375
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:57:07 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:12:02 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:43:16 )
รายละเอียด
งดเว้นจากการพูดคำหยาบ
หนังสืออ้างอิง
สมาธิพุทธ หน้า 116
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 14:57:48 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:13:31 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:44:59 )
รายละเอียด
คือ มรรคอันบริบูรณ์เป็นสัมมาครบถ้วนแท้ทั้ง 8 องค์
หนังสืออ้างอิง
จากหนังสือทางเอก ภาค 3 หน้า 457
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 14:58:39 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:14:26 )
รายละเอียด
1. ผลกรรมแห่งกรรมการฆ่ามนุษย์และสัตว์ เบาที่สุดคือ มีอายุสั้น
2. ผลกรรมแห่งการลักทรัพย์ เบาที่สุดคือ ทรัพย์สมบัติพินาศ
3. ผลกรรมแห่งการประพฤติผิดในกาม เบาที่สุดคือ มีศัตรูและถูกปองร้าย
4. ผลกรรมแห่งการพูดเท็จ เบาที่สุดคือ ถูกกล่าวตู่ด้วยคำไม่จริง
5. ผลกรรมแห่งการพูดส่อเสียด เบาสุดคือ แตกจากมิตร
6. ผลกรรมแห่งการพูดคำหยาบ เบาสุดคือ ได้ฟังเสียงที่ไม่น่าพอใจ
7. ผลกรรมแห่งการพูดเพ้อเจ้อ เบาสุดคือ ได้รับคำที่ไม่น่าเชื่อถือ
8. ผลกรรมแห่งการเสพของมึนเมาให้โทษ เบาสุดคือ ความเป็นบ้า
ที่มา ที่ไป
พระไตรปิฎกเล่ม 23 "สัพพลหุสสูตร" ข้อ 130
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก
เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2562 ( 15:40:41 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:03:00 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:49:19 )
รายละเอียด
1.ผลกรรมแห่งการฆ่ามนุษย์และสัตว์ เบาสุดคือ มีอายุสั้น
2.ผลกรรมแห่งการลักทรัพย์ เบาสุดคือ ทรัพย์สมบัติพินาศ
3.ผลกรรมแห่งการประพฤติผิดในกาม เบาสุดคือ มีศัตรูและถูกปองร้าย
4. ผลกรรมแห่งการพูดเท็จ เบาสุดคือ ถูกกล่าวตู่ด้วยคําไม่จริง
5.ผลกรรมแห่งการพูดส่อเสียด เบาสุดคือ แตกจากมิตร
6.ผลกรรมแห่งการพูดคําหยาบ เบาสุดคือ ได้ฟังเสียงที่ไม่น่าพอใจ
7.ผลกรรมแห่งการพูดเพ้อเจ้อ เบาสุดคือ ได้รับคําที่ไม่น่าเชื่อถือ
8.ผลกรรมแห่งการเสพของมึนเมาให้โทษ เบาสุดคือ ความเป็นบ้า
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 23 “สัพพลหุสสูตร” ข้อ 130
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2565 ( 19:35:21 )
รายละเอียด
ก็“ไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงในกรรม
-ไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงในวิบาก
-ไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงในกรรมเป็นของของตน
-ไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงในความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า” แน่นอน
ชีวิตจึงต้องพึ่ง“พระเจ้า(God)” ไม่สนใจที่จะพึ่ง“กรรม”
God หรือพระเจ้าจึงยิ่งใหญ่กว่า“กรรม”ไปตลอดกาลฉะนี้ ผู้ไม่ยินดี หรือไม่เต็มใจเข้าศึกษาพิสูจน์“กรรม” ว่า ยิ่งใหญ่ในตัวเราแท้ จนกระทั่งชัดเจนชัดแจ้งว่า “กรรม”กับ “พระเจ้า”นั้น เป็นอย่างใด? มีอย่างใด?
ก็จะไม่เห็น“สัจจะมีหนึ่งเดียว”ได้
ก็จะนับถือ“พระเจ้า”หรือ“เทฺว”ที่ตีแตกแยกแยะไม่ได้นั้นตลอดไป
จึงพึ่ง“พระเจ้า” พึ่ง“เทฺว” พึ่งสิ่งลึกลับ สิ่งที่ไม่รู้อยู่แท้
จึงไม่เต็มใจ ไม่ยินดีเข้าพึ่ง“กรรม”ที่ตนเองสามารถจัดการพัฒนา“กรรมของตนเอง”ได้ด้วยตนเองกันแท้ๆจริงๆ
หนังสืออ้างอิง
หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 36 หน้า 63
เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 15:29:25 )
รายละเอียด
ก่อนอื่นขอโอภาปราศรัยในฐานะที่ไม่ได้มาที่นี่(สันติฯ)เสียนาน พวกเราเท่าที่ได้ฟังข่าวคราวของชุมชนชาวอโศกต่างๆที่มีอยู่ 10 - 20 ชุมชนที่เป็นอยู่ ชุมชนที่อยู่กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ก็รู้สึกว่า 50 ปีที่อาตมาได้ทำงานด้านนี้มา อาตมาทำงานศาสนา จะไม่เหมือนพระ เจ้าสำนักใดๆในศาสนาพุทธเขาทำ เพราะว่าอาตมาทำแล้วมันเกิดหมู่ชน รวมตัวกันเข้าเป็นชุมชนจนกระทั่งเป็นหมู่บ้าน หมู่บ้านทางนิตินัยเรียบร้อย เป็นต้น
เป็นหมู่บ้านจริงๆเลย บริหารปกครองกันอยู่อย่างถูกต้องตามแบบฉบับของสังคมสากลเขา แต่มันมีวัฒนธรรมต่างกัน หมู่บ้านชุมชนอื่นใดเขาก็มีวัฒนธรรมของเขาอีกอย่าง แม้เป็นพุทธด้วยกันแต่เขาก็จะไม่เหมือนกับของเรา พวกเราคงจะมองออกคงจะเข้าใจนะว่าไม่เหมือนอย่างไร
อย่างสำคัญที่สุดคือหมู่บ้านของเราไม่มีพาหะที่จะนำโควิดมาได้เลยไม่ว่าเขาจะระบาดอย่างไร คือมันไม่มาตามสัตว์ มันจะมาตามกุ้งกับปลา ตามเนื้ออะไร มันมีแต่เจ้าประคุณเอ๋ย เห็นแล้วก็เป็นตาออนซอน (พ่อครูยกผักคื่นไฉ่ฝรั่งมาดู ตัวใหญ่แต่ฉุนน้อยจังล่ะ)
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือชุมชนบุญนิยมที่มีมรรคผลจริง
วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม 2563 ที่สันติอโศก
เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:22:37 )
รายละเอียด
อันนี้ก็พูดอย่างคนเข้าใจ พวกเราไม่ต้องไปรับทุกข์เหมือนชาวโลกีย์ ชาวโลกีย์ไปหลงแย่งชิงกัน จะเป็นไบเดน จะเป็นปูติน จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ หรือแม้แต่จะเป็นดารา ดาราเตะบอล เป็นดาราแอนโทเนีย โฟร์ซิล อะไรพวกนี้ก็ตาม ระเริงอยู่อย่างนั้น หลงระเริงอยู่ เขาก็ยังหลงอยู่อย่างนี้ แล้วเขาก็จะเวียนเกิดเวียนตายอยู่กับไอ้ความหลงบ้าๆบอๆ ที่ไม่รู้จักจบพวกนี้ไป มันน่าได้ น่ามี น่าเป็น แล้วคนพวกนี้ไม่มีจบ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ได้ไปเที่ยวได้อยากจะเป็นปูติน อยากจะไปเป็นไบเดน อยากจะไปเป็นแอนโทเนีย อยากจะเป็นดาราเตะบอล อยากจะเป็นใครก็แล้วแต่ แม้แต่ที่สุดอยากจะเป็นปราชญ์ อยากจะเป็นผู้รู้ แต่อยากเป็นปราชญ์ อยากเป็นผู้รู้หรืออยากเป็นพระพุทธเจ้า ก็ยังดี ใช่ไหม? อยากมาเป็นอย่างนี้ก็ยังเข้าท่า ก็ตีทิ้งไอ้ที่อยากโลกๆ อย่างที่เป็นปูตินก็ดี ไบเด็นก็ดีหรือใครๆก็ดีหรือแม้แต่แอนโทเนีย อะไรพวกนี้เป็นต้น
อยากเป็นปราชญ์ อยากเป็นพระพุทธเจ้า ก็ยิ่งดี อยากแล้วก็ต้องเข้าใจว่า แล้วเราจะทำเหตุอย่างไร มันถึงจะถึงผลของความเป็นพระพุทธเจ้าหรือความเป็นปราชญ์แบบนี้ เราก็ต้องศึกษาอย่างสัมมาทิฏฐิว่า เหตุที่มันต้องตรงต้องถูก เหตุนี้ ทำเหตุนี้ได้ ผลก็ต้องเกิดแน่ เหตุสมบูรณ์เต็ม ผลก็คือเหตุที่สมบูรณ์นั่นแหละ ที่เราทำสำเร็จ ถ้าเราเข้าใจอย่างนี้ เราก็ทำอะไรก็สำเร็จตามที่เราเข้าใจ
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #47 อโศกมีแค่แสนจะสืบแก่นศาสนาได้อย่างไร วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ขึ้น 8 ค่ำ วันพระน้อย เดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 09 มีนาคม 2567 ( 16:27:05 )
รายละเอียด
คนที่ทำทานมากๆผลการทำทานทำให้มียศศักดิ์สูงมีฐานะที่ดีได้ แต่จิตวิญญาณเลวร้ายก็ได้ จิตวิญญาณมีกิเลสมากก็ได้ เห็นไหมมันไม่เกี่ยวกัน อานิสงส์ไม่เกี่ยวกัน มันเป็นผล ส่วนอานิสงส์นั้นเป็นผลของโลกุตระ ถ้าทำให้กิเลสลดได้ก็เป็นอานิสงส์ ท่านอธิบายว่า บางการกระทำท่านมีผลมากแต่ไม่มีอานิสงส์มาก หรือบางอย่างมีผลมากและมีอานิสงส์มากด้วย ได้ผลลดกิเลสด้วย ในการทำทาน บางอย่างพระพุทธเจ้าตรัสว่ามีผลมากแต่ไม่มีอานิสงส์ หรือมีผลมากมีอานิสงส์มาก ต่างกันอย่างนี้ มีอานิสงส์นั้นเป็นโลกุตระ ส่วนเป็นผลนั้นเป็นโลกียะ ส่วนกุศลก็ไม่ใช่ผลแน่นอนเป็นธรรมดาโลกีย์
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 15:41:55 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:05:15 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:56:38 )
รายละเอียด
มันก็ไม่รู้จักจบสิ ไม่รู้จักจบก็ไม่ได้อรหันต์ อาตมาถึงบอกว่าพวกเรามีจุดที่ได้จุดที่มี จุดที่จะจัดสรร จะสรุปจบได้กันแทบทุกคน อย่างน้อยจบโสดาบัน จบสกิทาคามี ถ้าจบโสดาบัน สกิทาคามี ซึ่งอาจจะยากหน่อย เพราะมันจะลงตัวกันยากสกิทาคามีมันเหลื่อมไปถึงอนาคามี อนาคามีก็ตัดจบได้ แล้วก็เป็นอรหันต์ยิ่งตัดจบได้เก่ง พวกเราสามารถตัดกรอบให้รู้จักทีละปริเฉท มันอาจจะทำยังไม่ชำนาญทำยังไม่เป็น ก็ค่อยๆเรียนรู้กันไป
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก และบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ปี 2564
วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2564 แรม 10 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2564 ( 20:25:21 )
รายละเอียด
คือ ถ้าทำทานมากๆได้อยู่เป็นผลของกุศลแต่ไม่เป็นอานิสงส์ทำทานมากๆได้กุศลเป็นธรรมชาติธรรมดาคงเสียสละวัตถุมากๆคุณเสียสละแรงงานมากๆแต่คุณไม่ได้ทำใจให้ได้ลดกิเลสคุณไม่มีอานิสงส์เลยคนที่ทำทานไม่มากแต่ลดกิเลสเป็น ลดกิเลสได้มากคนที่ปฏิบัติธรรมมีอานิสงส์มีคุณประโยชน์คุณค่าทางธรรมอย่างคนมาที่นี่เสียสละหมดตัวไม่มีวัตถุทาน ก็ทานแรงงาน เสียสละแรงงานหรือว่าอธิบายธรรมทาน หรือว่าทำธรรมทานหรือแม้แต่คุณเองไม่ได้อธิบายแต่คุณเองเป็นคนประพฤติ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ประพฤติเป็นธรรม เป็นคนมีคุณค่าทางธรรม เป็นคนมีความสงบเป็นคนมักน้อยสันโดษมีคุณค่าทางโลกุตระคนไหนมาสัมผัสเขาก็สัมผัสได้เขามีปฏิภาณปัญญาก็จะรู้ก็เป็นการให้
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:32:41 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:06:29 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 04:59:22 )
รายละเอียด
ถ้าทำทานมากๆได้อยู่เป็นผลของกุศลแต่ไม่เป็นอานิสงส์ทำทานมากๆได้กุศลเป็นธรรมชาติธรรมดาคงเสียสละวัตถุมากๆคุณเสียสละแรงงานมากๆแต่คุณไม่ได้ทำใจให้ได้ลดกิเลสคุณไม่มีอานิสงส์เลยคนที่ทำทานไม่มากแต่ลดกิเลสเป็น ลดกิเลสได้มากคนที่ปฏิบัติธรรมมีอานิสงส์มีคุณประโยชน์คุณค่าทางธรรมอย่างคนมาที่นี่เสียสละหมดตัวไม่มีวัตถุทาน ก็ทานแรงงาน เสียสละแรงงานหรือว่าอธิบายธรรมทาน หรือว่าทำธรรมทานหรือแม้แต่คุณเองไม่ได้อธิบายแต่คุณเองเป็นคนประพฤติ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ประพฤติเป็นธรรม เป็นคนมีคุณค่าทางธรรม เป็นคนมีความสงบเป็นคนมักน้อยสันโดษมีคุณค่าทางโลกุตระคนไหนมาสัมผัสเขาก็สัมผัสได้เขามีปฏิภาณปัญญาก็จะรู้ก็เป็นการให้
ที่มา ที่ไป
พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 20:37:57 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:07:52 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 05:03:16 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 10:39:10 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:05:24 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 05:06:14 )
รายละเอียด
นานาสังวาสก็คือต่างคนต่างยึดถือแนวคิดของตัวเองแล้ว ก็ปฏิบัติต่างคนต่างทำไปใช้เวลา ใช้กรรม ที่จะประพฤติไปแล้วมันก็จะออกผลของมันเอง ในเวลายาวนานไปนั้นแน่นอน กรรมที่เกิดถูกบ้างผิดบ้างก็แล้วแต่ แต่ก็พยายามจะให้ถูกกันทั้งนั้นแหละส่วนใหญ่ จนกระทั่งถูกเป็นสัมมาทิฏฐิที่ผิดน้อย หรือ จนกระทั่งไม่ผิดเลย ทำได้ถูกต้องตามคำสอนพระพุทธเจ้าทุกอนุสาสนี ทุกคำสอน แล้วไม่แปลงคำสอน หรือแปลงไปแล้วก็มาเรียนรู้ว่าสิ่งไหนที่ควรตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้า
ที่มา ที่ไป
พ่อครูปฐมนิเทศ พาปฏิญาณศีล 8 งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 21:25:04 )
รายละเอียด
คือผลของการอาศัยกันและกันเกิดขึ้น
1. ตถตา (เป็นจริงเช่นนั้นเอง)
2. อวิตถตา (ไม่คลาดเคลื่อน)
3. อนัญญถตา (ไม่เป็นอย่างอื่น)
4. อิทัปปัจจยตา (มีผลสัมพันธ์สืบต่อตามเหตุปัจจัย)
ที่มา ที่ไป
พระไตรปิฎกเล่ม 16 "อาหารวรรค" ข้อ 61
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก
เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2562 ( 14:02:32 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:02:04 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 05:07:29 )
รายละเอียด
คือผลของการอาศัยกันและกันเกิดขึ้น
1. ตถตา (เป็นจริงเช่นนั้นเอง)
2. อวิตถตา (ไม่คลาดเคลื่อน)
3. อนัญญถตา (ไม่เป็นอย่างอื่น)
4. อิทัปปัจจยตา(มีผลสัมพันธ์สืบต่อตามเหตุปัจจัย)
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 16 “อาหารวรรค” ข้อ 61
เวลาบันทึก 12 มีนาคม 2565 ( 21:17:41 )
รายละเอียด
1. สาราณียะ (รู้จักระลึกถึงกัน คำนึงถึงคนที่ควรเอื้อ)
2. ปิยกรณะ (รักกันสัมพันธ์ดี-ปรารถนาดีต่อกัน มิติสูงขึ้น)
3. ครุกรณะ (เคารพกัน รู้จักฐานะ รู้จักคุณวุฒิ)
4. สังคหะ (สงเคราะห์เกื้อกูลช่วยเหลือกัน)
5. อวิวาทะ (ไม่วิวาทแตกแยกกัน)
6. สามัคคียะ (พร้อมเพรียงกัน มีพลังรวมยิ่งใหญ่)
7. เอกีภาวะ (เป็นปึกแผ่น มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน)
ที่มา ที่ไป
โกสัมพีสูตร พระไตรปิฏก เล่ม 22 ข้อ 282-283
เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2562 ( 12:17:30 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:10:08 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 05:08:44 )
รายละเอียด
อาตมาก็ได้ จะเข้าใจว่าอาตมารับมาแล้วอาตมาจะเป็นใคร อาตมาเคยเป็นสาวกในยุคนั้น พระพุทธเจ้ามอบหน้าที่แล้วอาตมาก็รับมาอาตมาก็มายืนยันว่าใช่อาตมารับหน้าที่มา แล้วก็ทำหน้าที่อยู่ 50 ปีแล้ว ทำหน้าที่มาอยู่นี่ 50 ปีแล้วยังจะมีคนศึกษาติดตามอาตมาอยู่ต่อไป ที่อาตมาทำมา 50 ปีมีผลที่เกิดเขาจะเอาไปตรวจสอบที่สุดยืนยัน ถูกต้องจริงตามพระพุทธเจ้าหรือเปล่าเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าถูกหรือเปล่า ถูกตรงตามของพระพุทธเจ้าตรงกันเป็นอย่างเดียวหรือเปล่า เขาก็ค่อยๆเช็คตรวจสอบไป เดี๋ยวนี้เขาก็ยัง
1. เขายังไม่มีภูมิปัญญาที่ตรวจสอบ
2. ตรวจสอบแล้วพอช่วยเหลือได้บ้างแต่ยังไม่แน่ใจ เพราะฉะนั้นจึงต้องอาศัยเวลากับปริมาณและคุณภาพที่อาตมาจะทำเพิ่มขึ้นจนมากพอเขาจึงจะจำนน อาตมาตายแน่นอนง่ายๆจะต้องพากเพียรอยู่ต่อ มันก็เป็นผลดีที่ถ้าหากอาตมายังตายไม่ได้ก็ต้องฝืนสังขาร ต้องเพิ่มให้แก่ตัวเอง แม้จะหมดอายุขัยแล้วก็ต้องพยายาม เพิ่มอายุขัยตัวเองด้วยอะไรต่างๆใช้สัมประสิทธิ์ของ Coefficient ต่างๆ แม้แต่ 8 อ.ด้วยทั้งรูปทั้งนามก็ดูไป
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:30:48 )
รายละเอียด
มีคนลิสต์มาให้อาตมาอยู่นะ
ประวัติ "รสนา โตสิตระกูล" - รสนา โตสิตระกูล
การทำงาน
บทบาทการทำงานที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเรื่องสิทธิผู้โภคและการมีส่วน
ร่วมของผู้บริโภค หรือเป็นกรรมการในฐานะตัวแทนผู้บริโภค
- เลขาธิการ มูลนิธิสุขภาพไทย
- กรรมการอิสระ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน)
- กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิโกมลคีมทอง
- แกนนำเครือข่าย 30 องค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อผู้บริโภค
- กรรมการเตรียมการจัดตั้งสภาพัฒนาการเมือง และยกร่างแผนแม่บท
พัฒนาการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
- กรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามกระบวนการและมาตรการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภานิติบัญญัติ
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
- ประธาน สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค (2 สมัย)
- สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร ปี 2551 (จากการเลือกตั้ง 2 มีนาคม
2551)
9 ผลงานเด่น ของ "รสนา โตสิตระกูล"
ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ในนาม "อิสระ"
(ระหว่าง พ.ศ.2547 - พ.ศ. 2562)
1. พ.ศ.2547 ฟ้องคดีนักการเมืองทุจริต ทำให้ถูกยึดทรัพย์และติดคุก เป็นผลงานคดีแรกของภาคประชาชน
2. พ.ศ.2549 ชนะคดี แปรรูป กฟผ.หยุดยั้งค่าไฟแพงเพื่อตลาดหุ้น
3. พ.ศ.2550 ฟ้องคดีจนศาลสั่ง ปตท. คืนท่อก๊าซ สกัดการผูกขาดก๊าซธรรมชาติ
4. พ.ศ.2551 ได้รับเลือกตั้งเป็น สว.กทม. ด้วยคะแนนสูงที่สุดในประเทศไทย
ด้วยคะแนน 743,397 คะแนน
5. พ.ศ.2551 ผลักดันการตั้งกรรมาธิการสามัญตรวจสอบทุจริตของ สว. สำเร็จ เป็นครั้งแรก
6. พ.ศ.2552 - ปัจจุบัน เป็นผู้นำการขับเคลื่อนเพื่อความเป็นธรรมด้าน "พลังงาน "
7. พ.ศ.2558 ร่วมคว่ำมติสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านการเปิดส้มปทานปีโตรเลียมที่ไม่โปร่งใส
8. พ.ศ.2562 ร่วมจัดตั้งและระดมทุน "กองทุนแสงอาทิตย์" และติดตั้งโซลารูฟ
เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ 7 โรงพยาบาลใน 4 ภาคของไทย
9. พ.ศ.2562 ร่วมต่อสู้จน " ยกเลิกสิทธิบัตรกัญชาต่างชาติ" สำเร็จ
นี่คือผลงานของคุณรสนา ฝีมือผู้หญิงคนหนึ่งทำงานให้แก่ประชาชนให้แก่ชาติแก่ประเทศ ทำระดับชาติมาแล้ว นี่จะทำให้กทม. มันจะเหนือกว่าฝีมือฝีไม้ไปได้อย่างไร ทำให้แก่ชาติมาแล้ว ตอนนี้สมัครมารับผิดชอบเฉพาะ กทม.นะงานเหลือฝีมือเลย นี่ก็พูดชัดๆเจนๆ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 37 อภิภายตนสูตร ตอนที่ 1
วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 15:35:25 )
รายละเอียด
ก็ได้ผล ทำให้คนตื่นตัวขึ้นมาบ้าง ทำให้คนเปลี่ยนเป็นคนไม่ดูดาย เมื่อเราเป็นคนเป็นมนุษย์ในสังคมประเทศนี้ มันก็มีผลต่อเรา เพราะเราอยู่ในสังคมนี้เรื่องการเมืองไม่มีผลต่อเราไม่ได้มันมีผลต่อเรา เพราะฉะนั้นเราควรจะต้องออกไปแสดงความเห็นร่วมแสดงออกเป็นคะแนนหนึ่ง ที่จะเห็นอย่างไรที่เขาต้องการให้เห็น แต่ละคนก็จะเกิดความเห็นหรือทิฏฐิของแต่ละคน หรือ Concept ของแต่ละคน ความคิดองค์รวมของแต่ละคนว่า เราเห็นอย่างนี้ เรามีความเห็นความต้องการ จะให้เราชี้ เราก็ชี้อย่างนี้ จะเลือกใครหรือเอายังไงอย่างนี้เป็นต้น แล้วก็มาชี้
ผลงานของลุงตู่เป็นกระแสที่เป็นความจริง แรกๆก็ไม่มีใครรู้หรอกเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าพลเอกประยุทธ์จะเป็นนักการเมืองตัวเอกที่สำคัญแค่ไหน ก็ไม่มีใครคิดจะรู้ แต่พอได้กระทำมาแล้ว ถือว่าเป็นงานการเมือง 8 ปีของพลเอกประยุทธ์จึงเห็นผลเมื่อ 8 ปีผ่านมา เพราะฉะนั้นน้ำหนักของความจริง ที่ในเลือดหรือในความเห็นความรู้ ความคิดองค์รวมของคนไทย มันแสดงออก ว่าอย่างนี้อันนี้คนนี้มาทำงานงานนี้ คืองานการเมืองมาเป็นนายกฯ
ก็แสดงว่าคนไทยเจริญ มีความรู้จริง ไม่ใช่ไปถูกหลอกด้วยวิธีอย่างนั้น แทคติกอย่างนี้ เพื่อที่จะให้ได้คะแนนเสียง ใช้วิธีการสารพัด โดยเฉพาะทางสื่อโซเชียลเดี๋ยวนี้เขาลงทุนเลยนะ ทำมากเลย แล้วก็มีวิธีต้องไปตะโกนหาเสียงอะไรต่างๆนานา ซึ่งไม่ใช่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบคนมืดบอดให้เห็น ผลงาน 8 ปี นายกฯลุงตู่ วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566 แรม 6 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 พฤษภาคม 2566 ( 20:38:08 )
รายละเอียด
นายกฯ เลือกเฟ้นทำงานมีผลงานเยอะ คนก็เรียบเรียงเก็บผลงานมาให้ดู แต่พวก Fake News โกหก ข่ม ถล่ม นายกประยุทธ์ ก็ทำไปเลวซ้ำเลวซาก ตัวเองกรรมเป็นอันทำ ส่วนพลเอกประยุทธ์ก็ทำไป ได้ผลงานจริง ไม่ต้องแคร์ พระอาทิตย์จะส่องหรือไม่ หรือว่า พระจันทร์จะตาบอดก็ช่าง I don't care If the sun Don't Shine, I don't care if the moon go blind. ไม่ต้องไปแคร์ พระจันทร์จะตาบอด พระอาทิตย์จะไม่ส่องแสงก็ช่าง เราทำงาน มีกลางวันกับกลางคืนที่ทำได้ ถึงเวลาพักกลางคืนก็พักบ้าง เวลากลางวันก็ทำงานเต็มที่ไป
พลเอกประยุทธ์นี้เป็นโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่ขึ้นมาบำเพ็ญในชาตินี้ อาตมาไม่อยากจะขยายความมากเกิน เพราะว่ามีโพธิสัตว์หลายรูปอยู่ในยุคนี้ที่อาตมาพอรู้จัก กล่าวถึงบ้าง ยังไม่ได้กล่าวถึงบ้าง กล่าวถึงบ้างแล้วอย่างในหลวงรัชกาลที่ 9 หรือโพธิสัตว์รูปนั้นรูปนี้บ้าง ก็น้อย ไม่ได้กล่าวอะไรมาก ก็ไม่อยากขยายความอีกเยอะ เอาตัวเองเป็นหลักว่าเป็น โพธิสัตว์ และเป็นไก่ตัวพี่ นี่ก็ไม่ได้หลงตัวหลงตนอะไร ในยุคนี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 51เป็นผู้แพ้ผู้รับใช้ได้ไม่ยาก ด้วยฌานทั้ง 4 วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 19 กันยายน 2565 ( 14:50:48 )
รายละเอียด
ชีวิตนี้อาตมาเกิดมาแล้วก็มาเอาทฤษฎีพระพุทธเจ้ามาประกาศ ให้พวกเราที่เป็นคนในยุคนี้ ได้รับรู้แล้วก็เห็นดีเห็นงามมาเรียนรู้ปฏิบัติประพฤติ จนกระทั่งมาอยู่รวมกันกลายเป็นรูปธรรม ของสังคมเลย มีพฤติกรรมสังคมสัมผัสได้ อาตมาภาคภูมิใจมากเลยที่ทำได้ขนาดนี้ สุดยอด ใครจะสุดยอดได้กว่านี้ก็ทำเลยอนุโมทนาสาธุ ไม่ริษยาหรอกถ้าใครจะมาทำบ้าง ท่านผู้รู้ทางศาสนาพุทธท่านก็ทำงาน ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็มีหมู่กลุ่ม ที่มีวัฒนธรรมพฤติกรรมสังคมของท่านเหมือนกัน กลุ่มอาจารย์มั่น มหาบัว ก็มีพฤติกรรมสังคมแบบนั้น กลุ่มท่านพุทธทาส ก็มี หมู่พวกที่ศรัทธาเลื่อมใสใกล้ชิด จนกระทั่งรวมกันเป็นหมู่เป็นกลุ่มบ้าง
กลุ่มหมู่ของท่านพุทธโฆษาจารย์ มหาประยุทธ์ ท่านก็มีของท่าน ก็ดูพฤติกรรมสังคมกลุ่มของท่านมันเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้มันเป็น ฟีโนมีน่า ต่างๆเป็นปรากฏการณ์จริงที่เห็นได้ ไม่ใช่เอามาแข่งกันหรอก แต่เอามาเปรียบเทียบกันดู ว่าอะไรมีคุณลักษณะอย่างไร มีโทษลักษณะอย่างไร มีความด้อยความดีความเด่น ความต่ำอย่างไร อะไรมันต่างกับอะไร สุดท้ายก็ทางจิต จิตวิญญาณของผู้ที่มาเป็นเช่นนี้ เรียกด้วยศัพท์เรียกว่ามันสุข เอาสุขมาเรียกง่ายๆก่อน มันสุขสงบเบิกบานร่าเริงสดชื่น ไม่มีเหี่ยวมีแห้ง ไม่มีเศร้ามีสร้อย แม้จะมีงานมีพฤติกรรมที่จะต้องออกแรงออกกำลังทำงานนั่นๆนี่ๆ อะไรก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่ได้มีเงินค่าจ้างวาน ได้สิ่งแลกเปลี่ยนจากผลงานก็ไม่ได้กัน แต่ก็สุขสำราญเบิกบานใจ ชื่นอกชื่นใจด้วย สร้างสรรออกมาเราก็เห็นผลผลิตแต่ไม่ได้ยึดว่าเป็นของเรา ก็เป็นของกองกลางอย่างที่เห็นนี้ กองใหญ่ๆ มากมายหลากหลาย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ งานอโศกรำลึก 2565 อภิภายตนะ 8 ตอน สังคมสาราณียธรรมที่จริงยิ่งกว่ายูโทเปีย วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2565 ( 09:14:42 )
รายละเอียด
จะยกตนข่มท่านไปทำไม รางวัล nobel เขาถือว่าเป็นยอดของมนุษยชาติในโลก เป็นมูลนิธิ ที่มีทุนรอนของนายโนเบลให้ไว้ สำหรับออกดอกออกผลแล้วมีเงินมาแจกจ่ายคนที่สนับสนุน คนที่ทำอะไรได้เด่นๆ คิดค้นอะไรได้ใหม่ๆ
จริงๆเรานี้เป็นเรื่องใหม่มากในโลก ยังไม่เคยมีเก่า มันใหม่ตลอดกาลนานโลกุตระนี่ แต่เขาเข้าใจยังไม่ได้ อันนี้ก็ต้องเข้าใจเขาเห็นใจเขาจริงๆ แต่ก็เป็นธรรมดาเขาเข้าใจไม่ได้ ถ้าเขาเข้าใจได้เห็นเป็นคุณค่าเห็นว่าเป็นยอด เขาก็ต้องให้รางวัล แต่เขาไม่เห็นว่าเป็นคุณค่าก็เป็นธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าไหน รางวัลโนเบล รางวัลแมกไซไซ อย่างเราก็ได้แมนเฮมา เขาเห็นเขารู้ก็ให้รางวัลมา อย่างนี้เป็นต้น ก็เป็นไปไม่มีปัญหา
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 18:19:43 )
รายละเอียด
มันมีอยู่ข้างนอกมันค่อยๆไหลรวมซึมมาค่อยๆซึมไหลซึมลึกมาเรื่อยๆ ค่อยๆเปิดออกมา มันยังไม่เปิดก็ไม่มีมันมีซึมไหลซึมลึกมาเรื่อยๆ ก็เป็นไปตามจริง ไม่ต้องไปเร่งรัด ทำความจริงไป
ทำเหตุ อาตมาเคยใช้คำนี้ ทำเหตุให้ไปเรื่อยๆเป็นเหตุที่สัมมาทิฏฐิ ผลมันก็เป็นของมันเองมันก็จะเกิดผลตามจริง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ พระอภิธรรมของ ฌาน และเวทนา 108 วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 11 มกราคม 2567 ( 18:04:25 )
รายละเอียด
สิ่งที่พูดไปคร่าวๆไม่ใช่เข้าใจได้ง่ายแต่เป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังให้คนไทย เพราะคนไทยเป็นคน คนชาติอื่นก็เป็นคน เราก็ต้องทำสิ่งที่ดีที่สุด พระพุทธเจ้า เป็นมนุษย์ที่ดีที่สุด เรามีเชื้อแล้วเราก็ต่อเชื้อไปพัฒนาต่อยอดไป มีองค์ประกอบสิ่งผสมผสานไปเป็นของจริง
อาตมาไม่ได้ลำเอียงไม่ว่าเป็นใคร ทักษิณก็ตาม แหม อาตมาก็พยายามจะนึกถึงคนที่แย่กว่าทักษิณ มันนึกไม่ออก หรือจะเป็นคนที่เป็นนายกฯมา 29 คน พลเอกประยุทธ์คนที่ 29 ยิ่งลักษณ์คนที่ 28 ต่อลงไปเป็นสมชาย เป็นคนที่ 27 อภิสิทธิ์เป็นคนที่ 26 สมัครเป็นคนที่ 25 ทักษิณเป็นคนที่ 24
ทักษิณ สมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ของทักษิโณมิกส์ มันได้เห็นเป็น โลก อจินไตย คนที่สร้างลัทธิวิธีการ แบบของ ดร.อาชญาวิทยา มันฉลาดซับซ้อน ใช้ทั้งอำนาจเงินทองทุนรอน ทุกวันนี้ เพียงใช้แค่ดอกเบี้ยก็ยังใช้ไม่หมด เขาก็จะตายอยู่ในกองทรัพย์สิน เป็นผู้ที่โกงได้มากมาย จนกระทั่งทุกวันนี้ เขาพูดได้แค่ว่า เขาจะไปกลัวอะไร เครื่องบินส่วนตัวก็มี บ้านช่องเรือนชานมากมายอยู่ต่างประเทศ ก็จริงของเขา จะเข้าประเทศไม่ได้ จริงๆเข้าได้ แต่ตัวเขาไม่กล้าเข้ามา เข้ามาก็ถูกดำเนินคดี เขาทนไม่ได้แน่นอน ที่จะต้องถูกจับเข้าคุก เขาก็จะอยู่นอกคุกดีกว่าเหมือนกับคนหนีคดีอยู่นอกประเทศ ไม่ยอมเข้าคุกกันทั้งนั้นก็เป็นสามัญของคนคิดทำอย่างนั้น ถ้าแน่จริงก็เข้ามาเข้าคุก ที่จริงถ้ามาตั้งแต่ก่อนก็เดี๋ยวนี้ออกจากคุกแล้ว ออกมาทำดี แต่ที่จริงเขาคิดอย่างที่จะดีไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่ใช่คนที่จะเดินทางไปทางดี เขาก็ต้องเป็นอย่างนั้น
แต่ทีนี้ เมืองไทยเป็นเมืองใจดี ไม่โหดร้ายรุนแรง อนุโลมปฏิโลม ที่จริงตามมาเข้าคุกก็ได้ให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ได้ แต่คนไทยก็ไม่ทำ ผู้ที่มีอำนาจก็ไม่ทำ คนไทยมีจิตใจเมตตาก็ปล่อยไปตามยถากรรม ที่จะเป็น
อาตมาพูดสัจธรรมอันนี้ ขออภัยทักษิณ มันเป็นเรื่องจริงของแต่ละชีวิตแต่ละอัตภาพหรือแต่ละอัตตา มันก็เป็นไปตามกรรมตามวิบาก ที่จะต้องส่งผลเป็นไป ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่ากรรมวิบาก มันจะเป็นเช่นนั้น เป็นสิ่งที่ทำแล้วเป็นอันทำ หนีฤทธิ์เดชของกรรมวิบากไม่ได้ กรรมเป็นอันทำ ชั่วนิดเดียวก็อย่าทำเสียเลย พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 39 พุทธานุสสติ และอัมพัฏฐสูตร วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 17:18:18 )
รายละเอียด
ตอนนี้ขยายความไปจนชัดเลยว่าก็คือจรณะ 15 วิชชา 8 ชัดเจนพวกเราก็ชัดเจนไม่มีความสงสัย ยืนยัน ทั้งพยัญชนะคำสอนพระพุทธเจ้า ว่าเราทำถูกตามลำดับตามเนื้อหาของพระพุทธเจ้าตามข้อปฏิปทาต่างๆ แล้วก็ได้ผล เป็น อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา จนมีวิมุติ วิมุติญาณทัสนะขึ้นมา
ชัดเจนก็มีสิ่งยืนยันไม่ใช่คนเดียว เป็นร้อยคนเป็นพันคนเป็นหมื่นคน อาตมาว่าได้ถึงหมื่น แสนก็น่าจะถึง นับโสดาบันขึ้นไป นับให้มันชัดๆ ทั้งโสดาปัตติมรรค คนฟังอาตมา 50 ปี คนนี้น่าจะถึงแสน ถ้าไม่ถึงแสนก็สู้ลิซ่าไม่ได้นะ แม้มันจะได้น้อยได้ไม่มากแต่ได้เนื้อแท้ เกิดเป็นสังคมนอกจากวรรณะ 9 จริงๆแล้ว เป็นคนเลี้ยงง่าย เป็นคนบำรุงง่าย เป็นคนมากล้าจนมักน้อย อัปปิจฉะ มาเป็นคนใจพอ สันตุฏฐิ มาเป็นคนที่ขัดเกลาตนเอง สัลเลขะ ขัดเกลา กาย วาจาใจตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า มีธูตะ ศีลเคร่ง ศีลสูงขึ้นจนบรรลุผลมีอาการน่าเลื่อมใส กายกรรมน่าเลื่อมใส วจีกรรมน่าเลื่อมใส มโนกรรมน่าเริ่มใสขึ้น
ผลสรุปเป็นคนที่ไม่สะสม อปจยะ และยอดขยัน ระดมความเพียร นี่เป็นสำนวนของท่านประยุทธ์ปยุตโต สำนวนที่ท่านแปลเก่าๆคือปรารภความเพียร เป็นผู้ที่เพียรอยู่เสมอไม่หยุดหย่อน รู้จักพักรู้จักเพียร แล้วก็เกิดผล เกิดผลเป็น สาราณียธรรม สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา อยู่กันอย่างเมตตา สุขสำราญเบิกบานใจอยู่ในระบบสาธารณโภคี ลาภที่เราได้มา สิ่งที่ทุกคนร่วมกันขยันพากเพียรสร้างมาก็เกิดผลผลิตเอามารวมส่วนกลาง อย่างที่เห็นกองโต มันอุดมสมบูรณ์จริงๆ
(มีคนเขียนมาให้อ่าน ผัก ที่อยู่บนโต๊ะ)กวางตุ้งผักกาดขาวสวน ดาวสู่แสงพุทธ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอกจากสวนอาจารย์ ข้าดิน มะรุมจากสวนอาละอองนิล ผักชีลาวดอกไม้ฝรั่ง Forget Me Not สวนแม่เต็มศิริ พวกเราเอามาประดับตกแต่งบนโต๊ะจนคนว่า เป็นสมณะถือศีลมากกว่า 8 แล้วทำไมมี
ดอกไม้มาประดับโต๊ะ ก็อะไรกันนักกันหนา จะตกแต่งนิดหน่อยก็ไม่ได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลก 10 แบบ ที่ไม่ใช่แค่ Imagine ตอนที่ 1 วันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 25 พฤษภาคม 2565 ( 20:29:28 )
รายละเอียด
มีปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา อีก 4 หลักที่อธิบายผ่านไปเมื่อกี้แล้ว ปิติคือยินดี ปัสสัทธิคือจิตที่สงบจากกิเลส แล้วจิตที่สงบจากกิเลสก็ตกผลึกลงไปเพราะผนึกกันแน่นเข้าตั้งมั่นเรียกว่าสมาธิ
เกิดฌานที่ 4 เผากิเลสจนถึงขั้นจิตสะอาดจากกิเลสเป็นอุเบกขา อุเบกขามีคุณธรรม 5 อย่าง ปริสุทธา, ปริโยทาตา, มุทุ, กัมมัญญา, ปภัสสรา จิตสะอาดอย่างนั้นจึงจะส่งไปตกผลึก ไม่ใช่ไปเอาจิตที่ไม่สะอาดตกผลึกจิตเลอะเทอะก็เอาไปตกผลึกจิตได้สมาธิแบบฤาษีก็เอาไปตกผลึก อย่างนั้นไม่ใช่ ต้องเป็นจิตที่สะอาดที่กรองแล้วกรองอีก เป็นแบบของพระพุทธเจ้าเลยเป็นแบบโลกุตตรจิต เป็นจิตที่สะอาดหมดอาสวะไปเป็นเรื่องๆ แล้วก็ไปตกผลึก สิ้นอาสวะและไปตกผลึก
เพราะฉะนั้นสมาธิของพระพุทธเจ้าจึงไม่ใช่ตื้นๆเลย แม้แต่ในจรณะ 15 วิชชา 8 ก็ไม่มีคำว่าสมาธินะ มีศีล อปัณกธรรม 3 ก็ไม่ใช่สมาธิ สัทธรรม 7 ก็มี ศรัทธา ธรรมวิจัย วิริยะสติปัญญา ไม่มีคำว่าสมาธินะ บวก ฌาน 1 2 3 4 รวมเป็น 15 ข้อของจรณะ 15
วิชชา 8 ก็ไม่มีคำว่าสมาธิ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 20:54:44 )
รายละเอียด
มีปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา อีก 4 หลักที่อธิบายผ่านไปเมื่อกี้แล้ว ปิติคือยินดี ปัสสัทธิคือจิตที่สงบจากกิเลส แล้วจิตที่สงบจากกิเลสก็ตกผลึกลงไปเพราะผนึกกันแน่นเข้าตั้งมั่นเรียกว่าสมาธิ
เกิดฌานที่ 4 เผากิเลสจนถึงขั้นจิตสะอาดจากกิเลสเป็นอุเบกขา อุเบกขามีคุณธรรม 5 อย่าง ปริสุทธา, ปริโยทาตา, มุทุ, กัมมัญญา, ปภัสสรา จิตสะอาดอย่างนั้นจึงจะส่งไปตกผลึก ไม่ใช่ไปเอาจิตที่ไม่สะอาดตกผลึกจิตเลอะเทอะก็เอาไปตกผลึกจิตได้สมาธิแบบฤาษีก็เอาไปตกผลึก อย่างนั้นไม่ใช่ ต้องเป็นจิตที่สะอาดที่กรองแล้วกรองอีก เป็นแบบของพระพุทธเจ้าเลยเป็นแบบโลกุตตรจิต เป็นจิตที่สะอาดหมดอาสวะไปเป็นเรื่องๆ แล้วก็ไปตกผลึก สิ้นอาสวะและไปตกผลึก
เพราะฉะนั้นสมาธิของพระพุทธเจ้าจึงไม่ใช่ตื้นๆเลย แม้แต่ในจรณะ 15 วิชชา 8 ก็ไม่มีคำว่าสมาธินะ มีศีล อปัณกธรรม 3 ก็ไม่ใช่สมาธิ สัทธรรม 7 ก็มี ศรัทธา ธรรมวิจัย วิริยะสติปัญญา ไม่มีคำว่าสมาธินะ บวก ฌาน 1 2 3 4 รวมเป็น 15 ข้อของจรณะ 15
วิชชา 8 ก็ไม่มีคำว่าสมาธิ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์รายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 20:55:05 )
รายละเอียด
ฟังจากสัตบุรุษ ต้องฟังอย่างแท้จริงเลยแล้วจะมีความละอาย อย่างแรงกล้า คนที่ซื่อบื้อ คนที่มีอัตตามานะมาก คิดไม่ออกหรอก จะไม่รู้จักโลกุตรธรรม ไม่รู้จักธรรมะอันยิ่งใหญ่ ผู้ที่โง่พูดไม่รู้ได้ง่ายๆ ไม่รู้เรื่องธรรมะที่เป็นโลกุตระได้ง่ายๆ ตัวเองก็ยึดถือธรรมะที่ตัวเองเป็นโลกียะ ที่วนเวียน
พูดไปก็ยังวนเวียนอยู่ในธรรมะต่ำๆ ตัวเองก็ต้องยึดถือธรรมะที่มันยังไม่ใช่โลกุตระมันก็ต้องต่ำๆ แล้วก็ยังไม่มีภูมิพอที่จะทำให้รู้ว่าอย่างนี้น่าฟัง ก็จะปฏิเสธ ๆๆๆ ดีไม่ดีดูถูกด้วย ดูถูกเพราะ ดูถูกธรรมะโลกุตระจากสัตบุรุษนั่นแหละ จนกระทั่งถึงวาระใดวาระหนึ่ง เกิดรู้ขึ้นมาได้ว่ามีอัญญธาตุเกิดในจิตเพียงพอ
โอ้โห..อันนี้เนี่ย ที่เราไม่เคยศรัทธา ว่าเป็นโลกุตระ พอมี อัญญธาตุ เพียงพอ เราก็รู้สึกว่าอันนี้ใช่หรือ เราก็เคยดูถูก เราได้ลบหลู่ไปแล้วนะ คนนี้ก็เลยเกิดความละอายอย่างแรงกล้า คนที่ยังเป็นอยู่ตอนนี้เขายังไม่เกิดภูมินี้หรอก เขายังไม่รู้ เขาได้แต่ดูถูก เพราะเขาจะรู้สึกสำนึกตัวเองว่า โอ้โห ทำไมเราโง่เปิดเผย โง่ประจานตัวเองออกไปมากมายอย่างนี้ แสดงตัวด้วยนะ ลบหลู่สัตบุรุษ ดีไม่ดีต่อต้าน ข่ม เอานานด้วย นาน จนกว่าจะรู้ตัวนี่ รู้เมื่อไหร่จึงจะเกิดหิริโอตตัปปะอย่างแรงกล้าจริงๆ แล้วก็จะเคารพอย่างแรงกล้าด้วย เพราะเพิ่งจะเจอของจริง มันก็ต้องเคารพอย่างแรงกล้า เห็นไหม ชัดเจนขึ้นไหม นับถือบูชาอย่างแรงกล้าเลย
เพราะมันเห็นชัดเจนเลยว่า ที่ตัวเองหลงอยู่แต่ก่อน ปัดโธ่เอ๋ย ขี้หมาแท้ๆแต่เห็นเป็นทองคำ พอเจอทองคำแท้ ก็จะรู้สึกละอายว่าตัวเองทำไมโง่อย่างนี้ โง่จริงๆ ชัดเจนไหม พระพุทธเจ้าตรัสไว้แต่ละคำ มันเป็นความจริง ที่อาตมาพยายามขยายสภาวะจริงของจิตวิญญาณ มันเป็นอย่างนี้จริงๆเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 48 อยากหมดอวิชชาต้องเริ่มคบพ่อครูผู้สัตบุรุษ วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2565 ( 20:03:51 )
รายละเอียด
อาตมาก็ดำเนินแนวทางเดียวกับพระพุทธเจ้า อาตมาพยายามลากสังขาร ของพระพุทธเจ้าท่านไม่ลากสังขาร แม้แต่กัป ท่านก็ตายก่อนกัป อย่างนี้เป็นต้น ท่านไม่เหมือนอาตมา อาตมาต้องลาก อาตมาไม่เชื่อว่าตนเก่งและพวกคุณแข็งแรงแล้วตายได้แล้ว อาตมาไม่เชื่อว่าตัวเองจะเก่งได้ขนาดนั้น พวกคุณจะรับรองอาตมาก็ไม่เชื่อเท่าไหร่ อาตมาเชื่อตัวเองมากกว่า จึงได้พยายามทำ
มันมีผลดีที่อาตมาพยายามลากสังขาร มีผลดีคือการพิสูจน์ธรรมะเป็นการยืดอายุขัยตัวเองได้ด้วยหรือ หมายความว่าท้าทายพญามัจจุราช ท้าทายเจ้าแห่งความตายได้ด้วยหรือ..ได้ ศาสนาพระพุทธเจ้าท้าทายพญามัจจุราช คือถึงเวลาตายควรตาย อาตมาเคยพูดก่อนอาตมาอายุ 72 ปีอาตมาบอกว่าถ้าอายุขัย 72 ปีจะต้องตาย แต่ก็เห็นว่าทำงานศาสนามายังทำได้อยู่ ตอนนั้นก็ยังแข็งแรง ยังไม่ควรตาย ก็เลยพากเพียร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 31 วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก
เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 21:15:58 )
รายละเอียด
ความดีงามที่ให้วัตถุและให้พฤติกรรมทางกายทางใจที่ทำเป็นประโยชน์เพื่อผู้อื่นซึ่งเป็นคุณธรรมขั้นโลกียะ
หนังสืออ้างอิง
ค้าบุญคือบาป หน้า 265
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 14:59:14 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:15:10 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 05:13:38 )
รายละเอียด
ต้องชำระกิเลสของตนได้ ชำระกิเลสได้คราใดก็คือมรรคผลซึ่งเป็นคุณธรรมขั้นโลกุตระ
หนังสืออ้างอิง
ค้าบุญคือบาป หน้า 265
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:00:01 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 05:14:34 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 06:32:42 )
รายละเอียด
ผลทานที่ตนได้ทำไว้อย่างชื่นชมยินดี ปลาบปลื้ม
หนังสืออ้างอิง
จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 87
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:00:46 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:16:56 )
รายละเอียด
สุภระ สุโปสะ มามักน้อยกล้าจน เป็นคนมีเงินน้อย เป็นคนกล้าจน เป็นคนใจพอ สันตุฏฐิ มาเป็นคนพัฒนาตัวเองเป็นคนมีชีวิตขัดเกลากายวาจาใจของตน อย่างพวกเราเจตนาขัดเกลาเลย ได้มากได้น้อย ของใครก็ของใคร มีศีลที่เจริญขึ้นๆ เคร่งขึ้นๆ สูงขึ้นๆ ธูตะ จนเกิดผลเป็น ปาสาทิกะ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ดูน่าเลื่อมใสเจริญขึ้นจริงๆ จนกลายเป็นคนประสบผลสำเร็จไม่สะสม อปจยะ แต่ ขยัน ยอดขยัน ท่านมหาประยุทธ์แปลว่าระดมความเพียร แปลวิริยารัมภะว่า ปรารภความเพียร ขยันอยู่เสมอ
ก็เอามาเช็คดู วรรณะ 9 คนไหนกลุ่มไหนขนาดไหน ปฏิบัติแล้วมันเข้าเกณฑ์พวกนี้อยู่กันเป็นกลุ่มหมู่อยู่กันอย่างมีเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม อยู่กันอย่างเกื้อกูลกันช่วยเหลือกันไปเลี้ยงดูกันไป ทางกาย ทางวาจา ทางใจ เป็นครอบครัวใหญ่ เป็นพี่เป็นน้อง ลาภที่ได้มา ต่างคนต่างทำงาน มีลาภมีผลได้ มีรายได้มีสิ่งได้ ก็เอามารวมเข้ากับกองกลาง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณา ครั้งที่ 39 สร้างอาหารให้กับโลก วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 12 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2564 ( 11:03:03 )
รายละเอียด
ส่วนตอนแรก ข้างล่างจะเป็นร้านค้า ข้างบนจะเป็นการศึกษา แต่ก่อนว่าจะสร้างมหาวิทยาลัย เป็นห้องวิจัย เป็นห้องแลป แต่ตอนนี้ก็ล้มเลิกเจตนานี้แล้ว ...พอ.. บารมีเราเท่านี้ ก็หยุด ก็เลยกลายเป็นที่กว้าง เชิญเลยทางจังหวัดจะมาใช้งานอะไรก็ได้เลย ไม่ใช่พูดอวดโต แต่มันมีมาแล้ว ก็เลยว่าจะมาใช้ก็เชิญเลย ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ก็มาใช้ได้เลย ก็อยู่ในอำเภอวารินชำราบ ยินดีที่จะร่วมมือกับทางรัฐ หรือแม้แต่ประชาชน ก็เชิญมาร่วมใช้สอยทำประโยชน์ร่วมกันอาศัยสถานที่เพื่อเป็นอาคารใช้สอย เท่าที่รู้อยู่ก็มีแต่การศึกษากับการค้าขาย แต่ไม่ใช่ทำเพื่อพรรคการเมือง สมาชิกอาศัยยังไม่เอา ทำให้แต่ทางราชการกับประชาชนแค่นี้ก่อน นี่คือสิ่งที่อาตมาพูดเหมือนคุยตัว แต่ก็จริงใจ ผลประโยชน์เป็นศูนย์ ไม่เคยคิดว่าจะได้ผลประโยชน์อะไรจากอาคารนี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 12:53:36 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 02 กันยายน 2563 ( 14:41:04 )
รายละเอียด
มีแน่ (อัตถิ สุกตทุกกฏานัง กัมมานัง ผลัง วิปาโก) ทำให้เกิดสุกต ไม่เกิดทุกกฎะ
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายพ่อครู จากรายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 22:15:25 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:10:56 )
รายละเอียด
ผลวิบากของกรรมที่ทำดีทำชั่วแล้ว มีแน่ (อัตถิ สุกตทุกกฏานัง กัมมานัง ผลัง วิปาโก) ปฏิบัติแล้วผลของมันเป็นสุขหรือทุกข์ลดกิเลสได้หรือไม่ ผลวิบากของคุณ ได้ละกิเลสมีมรรคผลหรือไม่ ก็ไม่รู้ทำดีชั่วตื้นๆตามโลก สุกตคือดีแล้ว ทุกฏ คือ ดีหรือไม่ดีไม่รู้จัก สุกต ทุกฏ แปลว่าดีและชั่วก็ไม่ผิด กำปั้นทุบดินแต่มันไม่มีรายละเอียด ดีอยู่แค่ไหน ดีแค่โลกีย ดีชั่วตามจารีตประเพณีตามเทวนิยม แต่ถ้าดีของพระพุทธเจ้ามันขัดเกลากิเลส หมดโศกหมดทุกข์เป็นโลกุตระ ละเอียดไปถึงขนาดนี้ ใครบ้างอธิบายสัมมาทิฏฐิตามที่อาตมาอธิบายและเทียบเคียงกับมิจฉาทิฏฐิ 10 ที่คุณไปยึดถือกันอยู่ ใครบ้างมาอธิบาย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูผู้ปราบมารเพื่อยังพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี วันพุธที่ 10 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 09:15:41 )
รายละเอียด
อย่างอาตมามีกระเปาะที่หลอดลมเป็นเหตุให้ต้องไอ มันสร้างเสลด ทำให้ติดท่อลม มันต้องขจัดก็คือวิธีไอ ใช้แรงเพื่อจะให้มันเอาเสลดออกให้ได้ อาตมาไม่ได้อยากได้ ไม่ได้ไปแสวงหา ไม่ใช่เชื้อโรค แต่เป็นผลวิบาก ที่ได้ตำหนิคนมามาก แม้ในชาตินี้ก็ยังตำหนิอยู่ มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตำหนิคน เพราะการสอนคนไม่ใช่เป็นการสรรเสริญ
สอนคนนี้คือการตำหนิ ตำหนิเป็นหลักให้แก้ไขปรับปรุง ส่วนคนดีๆเขาทำดีแล้วไม่ต้องสอนอะไรมาก แต่คนที่ยังไม่ดีนี่สิ ต้องสอนต้องบอกข้อบกพร่อง บอกข้อไม่ดีไม่งาม คนเขาก็ไม่ชอบ มันก็มีพลังต่อต้าน พลังไม่ชอบมันเป็นกรรมวิบากที่ละเอียดลึกซึ้ง ยังไงๆเราก็ต้องได้รับ ก็เลยเป็นอยู่ เลี่ยงไม่ได้ ถ้าไม่สมัครใจที่จะทำงานนี้ก็ไม่ต้องทำ ถ้าสมัครใจแล้วก็ต้องทำ แม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ก็มีปักขันทิกาพาธ เป็นโรคหลอดลมหลอดเสียงเหมือนกัน เพราะต้องใช้อันนี้ทำ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลกุตระคือสิ่งสำคัญสุดที่เกิดมาแล้วต้องเอาให้ได้ วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 16 พฤษภาคม 2565 ( 10:44:26 )
รายละเอียด
อาตมาประสบผลสำเร็จภูมิใจที่เกิดมาในชาตินี้เป็นสมณะโพธิรักษ์ ทำให้พวกคุณเข้าใจธรรมะพระพุทธเจ้าได้เข้าใจโลกุตรธรรมได้ แล้วพวกคุณก็บอกว่ามีทำได้ทิ้งอบายมุข ทิ้งกามคุณ มาอยู่ที่นี่ก็เรียนรู้ รูป อรูป กายนอกคือกาม กายในคือรูป อรูป ก็ขยับเข้ามา อาตมาถึงบอกว่าในชุมชนชาวอโศกคือชุมชนพระอนาคามีเป็นต้นไป มีเสนาสนะคือสถานที่สิ่งแวดล้อม มีบุคคล มิตรดีสหายดี มีอาหารเครื่องอาศัย มีทั้งสถานที่ บุคคลเครื่องอาศัย มีทั้งสัตว์และวัตถุ สัตว์เดรัจฉานอาตมาก็ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยว เพราะฉะนั้นคุณอย่าไปเลี้ยงสัตว์ใดๆ ให้มันไปตามวิบากของมันเราไม่ต้องไปสร้างวิบากร่วมกับมันเลยไม่ว่าจะเป็นทางความรักหรือความชัง แค่วิบากเก่าก็ทำให้มันหมดเสียก่อนเถิด เกี่ยวกับคนที่สัมผัสสัมพันธ์กันแต่ละคู่วิบาก ไม่ว่าจะเป็นทางความรักหรือความชัง ให้มันขาดเสียหน่อย จะมากหรือน้อยก็ให้เห็นความจริงจนกระทั่งเห็นเป็นผู้ที่ร่วมเกิดแก่เจ็บตาย ไม่ใช่ผู้ที่จะต้องมาร่วมรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ร่วมสัมผัส ลาภยศสรรเสริญสุข ไม่ใช่ แต่เป็นผู้ที่ร่วมเกิดแก่เจ็บตายร่วมกันไปในทางที่จะทำงานให้แก่ผู้อื่น เราเองขาดให้ได้ก็แล้วกัน หากแยกไม่ได้ก็เป็นคู่ ขี้ทูดกับหู ขี้ทูดจะกินหูก่อนไง อาตมามีวจีสังขาร ว่า ถ้าหากว่าอาตมาตายแล้วพวกเราจะร้องไห้กันไหม ..ร้อง…ก็เลยยังไม่ตาย แต่ห้ามไม่ได้หรอก
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช ศิลปะในการใช้ชีวิตให้เกิดปัญญามัชฌิมา วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 17:41:06 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:13:01 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 06:35:23 )
รายละเอียด
เนื่องจาก“บุญ” กับ“กุศล”นี้มันต่างกันสุดๆคนละขั้วเพราะ“กุศล”นั้นเกิด“ผล”เป็น“สมบัติ”ที่ได้มา หมายความว่า ถ้าใครมีการกระทำ คือกรรมขึ้นมา “ผล”สำเร็จของกรรมก็เรียกว่า“กุศล” ผู้นั้นจึงเกิดภาวะโดยภาษาว่า“มี” ซึ่งเป็น“การสะสมมาให้ตน”คือ“มีกุศล” หรือมี“อกุศล”ไง! คือมี“การสะสมมาให้ตน”“ใจ”ของตนผู้ปฏิบัตินั้นก็มี“สมบัติ” เป็น“ความมี”ซึ่งยิ่ง“ไม่มีทางสูญสิ้น”ไปได้ สะสมกุศลไปไม่มีจบ แม้พระพุทธเจ้าก็มีกุศลไปไม่รู้จบ นอกจากท่านปรินิพพาน พระอรหันต์ทุกพระองค์มีแต่กุศล ไม่มีแล้วอกุศล แต่บุญมีไม่ได้เลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบอโศก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 22:06:40 )
รายละเอียด
บุญจะเกิดในปัจจุบันเท่านั้น ปรุงบุญขึ้นมาฆ่าอกุศลในปัจจุบันนี้ กิเลสมีร้อยส่วน ฆ่าได้สิบส่วนคือมีส่วนบุญสิบ ฆ่าต่ออีกเก้าสิบส่วนจนหมดกิเลส บุญก็หมดหน้าที่ บุญหายไปเลย เป็นบุญญาวุธ ฆ่ากิเลสหน้าที่เดียวแล้วจบ เป็นนิยามที่เล็ก ละเอียด ลึกซึ้ง แต่มาใช้บานตะโก้ เป็นกุศลนับไม่ถ้วน ผีบ้าผีบอก็รวมเป็นทรัพย์ แล้วเอาคำว่าบุญนี้เรียก
แต่“บุญ”นั้นเกิด“ผล”เป็น“วิบัติ”ที่ฉิบหายไป หมายความว่า ถ้าใครมีการกระทำ คือกรรมขึ้นมา “ผล”สำเร็จของกรรมที่เรียกว่า“บุญ” ผู้นั้นก็จะเกิดภาวะโดยภาษาว่า“ไม่มี” ซึ่งเป็น“การไม่สะสมมาให้ตน”คือ “ไม่มีอะไร” มันว่างเปล่า “ไม่เป็นการสะสมใดๆมาให้ตน” มันคนละทิศคนละทางกันเลยกับกุศล
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบอโศก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 22:08:07 )
รายละเอียด
คือสัจจะอย่างนี้ อาตมาเกิดมาทำงานนี้จนกระทั่งทุกวันนี้มา 50 กว่าปีแล้ว อาตมาก็ได้มาคิดตัวเองว่า ชาตินี้นะ อาตมาชัดเจนนะว่า อ่อ! เราต้องเป็นเรา เราต้องมาทำงานนี้ ต้องเป็นเราจริงๆ ชัดเจนในตัวเอง ว่า ตัวเองเป็นใคร ตัวเองมาทำงานอะไร งานนั้นเป็นอย่างไร และทำได้ไหม ทำมีผลสำเร็จไหม
อาตมาก็ตรวจสอบดูแล้ว ทำได้แฮะ มีผลสำเร็จจริงอยู่ ก็พอสมควรแก่ธรรม ได้ขนาดนี้ ก็ยังพอทำให้คนเกิดมาเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ได้อยู่ แต่คนข้างนอกเขาไม่เชื่อ วงนอกที่เขาเองเข้าใจผิดกันแล้ว อย่างไรๆ เขาก็ปิดประตูที่จะรู้ เขาก็จะไม่มี ปรโตโฆษะอีก เขาจะไม่มีสัมมาทิฏฐิที่จะเริ่มแม้แต่ ปรโตโฆษะ ที่อาตมาพูด
จะมีบ้างผู้ที่ไม่มีอคติและแสวงหาสัจธรรมนี้จริง จะมีอยู่บ้าง ก็จะฟังอาตมาอยู่บ้าง แม้เขาจะเป็นชาวเถรสมาคม ได้รับตำแหน่งยศศักดิ์อะไรอยู่ทีเดียว ก็ขึ้นหลังเสือแล้วนี่ ก็อยู่บนหลังเสือนี่แหละ แต่ก็ค่อยเก็บตกเก็บหล่นเอาจากโพธิรักษ์มีอยู่บ้าง มีจริงๆ ก็อนุโมทนาสาธุ ก็พากเพียรไปเถอะ ก็เห็นใจ
บางคนก็อายุมากแล้ว จะทำอย่างไรเพราะขี่หลังเสือแล้ว ลงจากหลังเสือเดี๋ยวเสือขบเอา คือ ความละอายของตัวเอง ตนเองไม่อยากเปิดเผยแสดงออก ก็เลยผสมผเสไป อย่างไรๆ ก็อยู่กับพวกหมู่ใหญ่ เหมือนกับสัญชัยเวลัฏฐบุตร ขออยู่กับชนหมู่ใหญ่ที่เป็นหมู่คนโง่ ส่วนบุคคลฉลาดที่จะรู้จักโลกุตระนั้นเป็นคนส่วนน้อย คนส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่กับโลกียะเป็นธรรมดาเป็นธรรมชาติ เขาก็ต้องจมอยู่กับทางโน้นไป
อาตมาทำงานมาจนกระทั่ง 50 ปีนี้แล้ว ระลึกที่พูดไปเมื่อตะกี้นี้ ว่า เอ้อ เราก็ระลึกดู ระลึกสิ่งที่ระลึกได้ต่างๆ มันจะเป็นอจินไตย ที่ยาก ที่คนจะเข้าใจ แม้แต่อาตมายังไม่ถึงขั้นพุทธวิสัย แต่ฌานวิสัยของอาตมามีมากพอ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ 8 ประการในชาวอโศกบุญนิยม วันพุธที่ 12 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 27 มกราคม 2565 ( 21:06:48 )
รายละเอียด
คือสมณะโพธิรักษ์ทำงานกับสังคมมา ก็ต้องการมนุษยชาติให้เป็นแบบนี้แหละ เป็นแบบที่อาตมาว่า อาตมาเข้าใจ และพระพุทธเจ้าพาเป็น เป็นผลสำเร็จของวรรณะ 9 หรือสาราณียธรรม 6 อันนี้ใช้อธิบายได้ชัดเจนเลย มาเป็นอย่างไร มาเป็นคนวรรณะ 9 เลี้ยงง่าย(สุภระ) บำรุงง่าย ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ) มักน้อย กล้าจน (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ ธุดงค์) มีอาการน่าเสื่อมใส (ปาสาทิกะ) ไม่สะสม ไม่กักเก็บออก (อปจยะ) ตรงข้าม อรรณะ 9 ขยันเสมอ ระดมความเพียร(วิริยารัมภะ) เลี้ยงง่าย เพราะพวกเรามาจนไดถึงขั้นสาธารณโภคีใน สาราณียธรรม 6 มีคำว่า สาธารณโภคี อยู่ใน ข้อ 4 ลาภธัมมิกา
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 14:36:03 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:31:48 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 06:39:51 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
เทศน์ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2563 ( 10:12:02 )
รายละเอียด
เราก็ได้ฟังธรรม พ่อครู ติดต่อกันอย่างยาวนาน พ่อครูแสดงธรรมมาเกือบ 50 ปี จะมีผลต่อการปฏิบัติธรรม ของผู้ปฏิบัติธรรมจนมาอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มชุมชนชาวอโศก สาธารณโภคี คนมายินดีเสียภาษีเต็ม 100% เป็นระบบที่สูงสุดยอดในโลก เพราะทุกระบอบก็ต้องการให้คนเสียภาษีอย่างเต็มใจและมากที่สุด พ่อครูพาคนให้มาพ้นภัยลดกิเลสได้ จึงมีความเสียสละเต็มที่ เมืองไทยก็มีการอภิบาลประชาชนด้วยเศรษฐกิจพอเพียง หรือขาดทุนของเราคือกำไรของเรา ประเทศไทยจึงเป็นประเทศที่มีดัชนีความทุกข์น้อยที่สุดในโลกติดต่อมา 4 ปีแล้ว หากไม่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 พาทำคงไม่ได้เป็นอย่างนี้ พ่อครูก็พาพวกชาวอโศกทำเต็มที่
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 21 มีนาคม 2561
เวลาบันทึก 06 มีนาคม 2564 ( 10:42:33 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2561
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 11:45:11 )
รายละเอียด
ลักษณะประชาธิปไตยที่เป็นโลกุตระนั้น จะมีผลสูงสุด คือ จะเกิด สาราณียธรรม 6 ผลสูงสุดของ ประชาธิปไตย จะเกิด สาราณียธรรม 6 มีกลุ่มหมู่ที่มี สาราณียธรรม 6
สาราณียธรรม 6 จะมีลักษณะอยู่กันอย่างมี เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม และจะมี ลาภที่ได้โดยธรรม ลาภธัมมิกา เป็นสิ่งที่เกิดผลได้จากการสร้างสรรโดยสุจริต ก็เอามารวมเป็นสาธารณะ มาเป็นหนึ่ง บริโภคร่วมกันเรียกว่าสาธารณโภคี แล้วทุกคนในสังคมกลุ่มนี้ปฏิบัติกันมี ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา คือมีการปฏิบัติเสมอสมานกัน มีศีลเสมอสมานกัน โสดาบันเสมอโสดาบัน สกิทาฯเสมอสกิทาฯ อนาคาฯเสมออนาคาฯ อรหันต์เสมออรหันต์
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แบบมีกษัตริย์กับไม่มีกษัตริย์ ประชาธิปไตยแบบไหนดีกว่า วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 12 มกราคม 2566 ( 19:43:15 )
รายละเอียด
ความไม่ชอบ
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 118
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:01:26 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:17:37 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 06:40:12 )
รายละเอียด
ทำให้เกิดขึ้น
หนังสืออ้างอิง
วิถีพุทธ หน้า 90
เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:02:10 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:18:00 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 06:40:29 )
รายละเอียด
เท่าที่เราทำได้ เราไม่เอาแรงงานทุนรอนเวลาไปสร้างสิ่งที่ไร้สาระมอมเมา แต่เราสร้างเผื่อแผ่คนโลกียด้วย การสร้างพืชผักผลไม้เช่นบนตอนนี้มี บวบเหลี่ยม (บักลอย) ไม่ใส่สารเคมีไม่ใส่ยากันแมลงอะไรแต่ไม่ค่อยมีแมลงมาเจาะไชอะไร เพลี้ยก็ไม่ลง มันเป็นไปได้อย่างไร ธรรมดาพวกนี้แสวงหาอะไรก็ดี มียามันก็ไม่กล้า แต่ทำไมอันนี้ไม่ลง มันบายให้เรา มันเป็นไปตามธรรม เพราะอะไรเพราะว่าสิ่งเหล่านี้มันแข็งแรง พืชพวกนี้มันแข็งแรง เพลี้ยไม่กล้าเข้า เพราะว่าพวกนี้มันแข็งแรงกัดไม่เข้า มันเป็นสิ่งที่สูงมันไม่กล้า คนละฐานะอันนี้มันเป็นของดีเกินฐาน มันเห็นของพวกนี้ดีเกินฐานมองไม่ออก อะไรวะ อันหนึ่งมีสารพิษมาก มันก็ไม่เอา มีสารพิษน้อยมันก็เอา แต่อันนี้ไม่มีสารพิษเลยมันดูไม่ออกมันงามเกิน เหมือนพวกเรานี้ พวกเรางามอย่างสะอาดสะอ้านไม่มีเครื่องโสโครก นางงามชายหล่อ เพราะฉะนั้นพวกแมลงหน้าโง่ทั้งหลายมันไม่กล้ามากินหรอก มันไม่รู้จักของดี นี่คือความหลุดพ้น ความสะอาดที่สิ่งสกปรกมันไม่กล้ามาลงเอง มันกลายเป็นพวกนั้นเป็นอวิชชามันไม่รู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดมันข้ามขั้นไปแล้ว มันมีกำแพงไร้สภาพกั้นเอาไว้ มันมองไม่รู้ สิ่งที่สะอาดที่สุดนี่คือสิ่งที่สกปรกที่สุด กลับขั้วกันเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่สกปรกที่สุด คนมองสิ่งที่สะอาดที่สุดไม่ได้เพราะมันมีกำแพงไร้สภาพอยู่ข้างหนึ่ง ดวงตายังผ่านกำแพงไร้สภาพไม่ได้เป็นตาถั่วตาบอด เขามองสิ่งที่สวยงามบริสุทธิ์ไม่ได้ แต่พวกที่อยู่ตรงนี้มองทะลุสิ่งนี้ได้สว่างขยายเลยให้เห็นว่า เชื้อโรคสกปรกโลกอบายเห็นชัดเลย ไม่กล้าเข้าไปใกล้
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอังคารที่ 1 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:03:51 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:15:50 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 06:41:11 )
รายละเอียด
GDP ที่เป็นโดเมสติกเป็นของภายในเรา เพราะฉะนั้นเราเองสร้างของเราเอง พึ่งพาตนเองรอด กินเหลือ มีเกินกินเกินใช้ นี่คือ domestic ที่เป็นผลผลิต Gross เนื้อแท้ที่เป็นสิ่งผลิตซื้อขายในประเทศไทยก็มีการสะพัดอย่างใช้ได้เหลือเฟือ เราก็เลยเอาส่วนเหลือเฟือในประเทศเรา ถ้าจะไปเกี่ยวข้องกับประเทศอื่นสินค้าไปขายให้แก่ประเทศอื่น เราขายให้ต่ำกว่าขายในประเทศ นี่คือเศรษฐกิจเราเจริญ ในประเทศเราก็ขายขนาดนี้แล้วแบ่งกินแบ่งใช้เราก็พอกินพอใช้ เราจะขายให้ต่างประเทศเราก็ขายให้ต่ำกว่าราคาในประเทศ หรือว่าแจกต่างประเทศได้นี่คือประเทศเจริญทางเศรษฐกิจ แต่ถ้าประเทศใดที่ของตนเองในประเทศตนเองก็ไม่พอกินพอใช้ ต้องไปเอาเปรียบเอารัด ใช้อำนาจบาตรใหญ่ใช้การขี้โกงด้วยแทคติกต่างๆ เอาเปรียบจากประเทศอื่นขึ้นมาให้แก่ประเทศไทย อันนั้นถือว่าเป็นเศรษฐกิจดีขี้หมา เป็นประเทศที่มี GDP ดี อย่างนั้นมันไม่ใช่ รายได้มวลรวมของคุณเอาของคนอื่นมารวมเป็นโดเมสติก ขี้โกง คุณเอาของภายนอกมารวมได้อย่างไร มาตีกินว่าเป็นของภายใน
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 16 มกราคม 2562
เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:48:36 )
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 14:17:01 )
เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 06:57:24 )
รายละเอียด
สติที่เขาปฏิบัติกัน เขาเอาสติไปปฏิบัติกันอยู่ในหลับตา สติให้ตื่นเต็ม ลืมตาไม่ได้รู้เรื่อง ชาคริยานุโยคะ ไม่ได้สังวรอะไร สังวรบ้างก็เท่านั้นเอง ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้นปัญญามันเกิดไม่ได้เลย เพราะมันไม่มีศีล ไม่มีอปัณณกปฏิปทา 3 ปัญญาจะเกิดไม่ได้ ไปหลับตาซะอย่างเดียว ไม่กินไม่อยู่ โภชเนมัตตัญญุตา ไม่มี สำรวมอินทรีย์ 6 ไม่มี ตื่นก็ไม่ตื่น ไม่ครบอปัณณกปฏิปทา 3 ไม่มีสักอย่างเลย ศีลก็ไม่มี หัวไม่มี เรียกว่าพวกผีหัวขาด เป็นคนพิการไม่มีหัว ศีล สำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะ นี่แหละคือศาสนาพุทธ
ส่วนการจะเกิดศรัทธา เกิดหิริโอตตัปปะ เกิดพาหุสัจจะ เกิดวิริยะเกิดสติ เกิดปัญญานั้น มันเป็นผลเนื่องมาจากศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 นะ มันไม่ใช่ไปนั่งหลับตาเอาเลย เพราะฉะนั้นหัวก็ไม่ได้ หางหรือว่า ฌาน 1 2 3 4 มันก็ไม่ได้ หัวก็ไม่ได้ หางก็ไม่ได้ ผีหัวขาด ขาก็ขาดอีก กลายเป็นผีหัวขาดทั้งหัวทั้งหาง น่าสงสารศาสนาพุทธแบบนี้
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #34 ปฏิบัติธรรมไม่เริ่มต้นที่ศีลก็เหมือนผีหัวขาด วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 8 หนที่ 2 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2566 ( 11:57:37 )
รายละเอียด
อะไรที่เราทำงานเป็นเครื่องมือเครื่องไม้ ก็มีคนหลงยึดถือเครื่องมือเครื่องไม้สะสมเก็บไว้ใส่กุญแจคนเดียว อันนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรมันเป็นอัตตา อัตตนียา หลงตัวกูของกู กลัวว่ามันจะเสีย ที่จริงแล้วของมันก็ต้องมีเสื่อมก็ต้องช่วยดูแลรักษากัน คนที่หยาบๆ ไม่รักษาของก็เป็นวิบากของเขา เราก็มีใช้ร่วมกันแต่ถ้าไปกักตุนมันก็เสียเศรษฐกิจเสียข้าวของ แล้วสำคัญเสียที่ตนเองหวงแหน กิเลสตัวเองที่จะพอกพูน อันนี้สิใช่ฉลาดน้อย แล้วไปอ้างอิงว่าใช้ของมันก็พังหมดเสื่อมหมด ก็ทิ้งไว้เฉยๆมันก็เสื่อมไม่ได้มีคุณค่าอะไรด้วย ดีไม่ดีมีปลวกมีสนิมช่วยทำให้เสื่อมอีกต่างๆนานาสารพัด คนเราหากไม่ชัดเจนเข้าใจในสิ่งที่จะทำให้เหมาะสม
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 2 วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 03 กรกฎาคม 2564 ( 19:14:40 )
Facebook : test
Youtube : Name
Twitter : Name
Line : Name
Telegram : Name
Wechat : Name
Skype : Name