@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

เนื้อแท้ของการให้เงินสนับสนุนการเผยแพร่ธรรมะ

รายละเอียด

เงินที่ใช้ทำมา ก็เป็นเงินจากผู้ที่เข้าใจว่าเอาเงินมาให้พวกเราทำงาน ให้พวกเราได้ใช้ในวงการสงฆ์ศาสนา เข้าใจพวกเราดีว่าเงินนั้นจะมาสนับสนุนส่งเสริมสิ่งที่เราจะแพร่กันไปมันเป็นของดีงามเป็นของถูกต้อง เป็นของที่คุณจะต้องสนับสนุน หรือคุณชอบที่จะถูกมอมเมาไม่ต้องตรวจตรา ไม่ต้องรู้อะไรเลย เห่อตามไปเฉยๆ อันนี้เราก็พยายามป้องกันคนที่ไม่รู้ จะมีคนไปเรี่ยไร เพื่อให้ได้สวรรค์วิมานอะไร ไม่ใช่ คุณไม่ต้องไปคิดถึงอันนั้นเลย สอนไม่ให้คิดถึงอันนั้นด้วย อันนั้นมันคิดแล้วเป็นภพเป็นชาติ ไม่ต้องเลย แต่ที่สนับสนุนให้เผยแพร่ธรรมะพระพุทธเจ้า ต้องเนื้อแท้เท่านี้แหละ แล้วจะช่วยให้คนได้รับประโยชน์ต่อจากนั้นไปจบในตัว ไม่ใช่ไปมีสวรรค์วิมาน มี สาเปกโข ปฏิพัทจิตโต สันนิธิเปกโข ดีไม่ดีเป็นวิมานเอาไว้กินข้ามภพข้ามชาติอีก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อไม่เข้าเนื้อเข้าแก่นอะไรเลย แสดงถึงว่ายังไม่ถึงขั้นชัดเจนในเรื่องของภพชาติ ยังมีสันตติ ยังไม่สิ้นต่อภพต่อชาติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 1 วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564 ขึ้น 2 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2564 ( 19:11:15 )

เนื้อแท้ของประชาธิปไตย

รายละเอียด

1.อิสรเสรีภาพ Independence

       2.ภราดรภาพ Fraternnity

       3.สันติภาพ Peace

       4.สมรรถภาพ Efficiency

       5.บูรณภาพ Integrity

ทั้ง 5 ประการนี้แหละที่พ่อครูว่าสังคมมนุษยชาติ ถ้าจะเป็นประชาธิปไตยแล้วต้องมี 5อย่างนี้ พ่อครูตั้งชื่อว่า บรมภาวะสุดประเสริฐ  พระพุทธเจ้าทำนำหน้ามาก่อนเลยในยุคโน้น ทำสำเร็จ มีธรรมนูญ มีระบบทฤษฎีเลย ท่านไปแคว้นไหนในอินเดียทุกรัฐทุกแคว้น พระพุทธเจ้าเป็นรัฐอิสระเลย ใครมาอยู่ในการปกครองของท่านเขายกคนให้พระองค์เลย ปลดทาสเลย พ้นวรรณะเลย นี่คือสิ่งยืนยันว่าพระพุทธเจ้านำสมัยสูงสุดเลย

       ภราดรภาพหนึ่งเดียวกัน อย่างสาธารณโภคี อย่างที่นำมาใช้กับอโศก เป็นสังคมสาธารณโภคี พิสูจน์ได้ทำง่ายกว่าสมัยพระพุทธเจ้าด้วย สมัยพระพุทธเจ้าทำได้ในเฉพาะนักบวชที่มาอยู่ใน ศีลธรรมนูญเลย ประกาศไปคนที่ยินดีก็มาทำแบบนี้ มาอยู่อย่างสันติภาพ มีสมรรถภาพ เป็นสังคมพึ่งตนได้ ไม่เป็นหนี้มีประโยชน์ต่อผู้อื่น มีบูรณภาพตลอดเวลา ให้เต็มสมบูรณ์ครบครันตลอดเวลา นี่คือสภาพ 5 ชนิดที่สุดประเสริฐ

ที่มา ที่ไป

560909


เวลาบันทึก 06 มีนาคม 2563 ( 12:32:58 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:21:45 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:58:17 )

เนื้อแท้ของประชาธิปไตยคืออย่างไร

รายละเอียด

ผลจึงของส่วนใด ที่ได้ ก็ของประชา โดย แล้วก็ของ แต่เพื่อนั่นมีนัย สำคัญสุด เพื่อเป็นนัยสำคัญ เพื่อประชาชนไซร้  แก่นเนื้อ การเมือง เนื้อแท้ของประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ใช่เลือกตั้ง เลือกตั้งเป็นวิธีการที่ตื้นเขิน หมดทางไป  เป็นวิธีการที่เอามาอ้าง เห็นไหมนี่ประชาชนเขาเลือกคนนี้มา เลือก ส.ส.มาเป็นตัวแทน มาเป็นผู้ปฏิบัติแทนตัว จนเลือกนายกฯ เลือกประธานาธิบดีเก่ าก็เอาวิธีการปอกเปลือกผิว ๆ มา เอาตรงบัญญัติภาษาหรือเอาตรงรูปแบบ เอาแค่วิธีการตื้นๆ แค่นี้มาเรียกว่าเป็นประชาธิปไตย มันตื้นมากเลย เปลือกๆผิวๆภายนอก ไม่มองลงไปภายในว่า จริงๆแล้วพฤติกรรมของมนุษยชาติกลุ่มนั้น ที่เป็นหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ประเทศ ภาคต่างๆของโลกคือพฤติการสังคมกลุ่มนั้น พฤติกรรมของมนุษย์กลุ่มนั้น เนื้อแท้เขาเป็นอย่างไร หากเนื้อแท้เขาลงตัวเลย คนกลุ่มไหนก็แล้วแต่ มีพฤติการณ์ส่อแสดงอ่านได้ว่าคนกลุ่มนี้เขาอยู่กันอย่างเมตตา มีกายกรรมเมตตากัน วจีกรรมเมตตากัน มโนกรรมเมตตากัน เขาขยันสร้างสรร ไม่ขี้เกียจ วิริยารัมภะ แล้วไม่สะสม อปจยะ มีลาภธัมมิกา สาธารณโภคี มีหลักเกณฑ์ มีศีล มีทิฏฐิ ปฏิบัติตามปฏิภาณความรู้ความเห็นความเข้าใจ มีหลักเกณฑ์ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าเรียกว่า ธรรมนูญ วินัย แบบแผน ก็ตาม คือให้อยู่ในร่องในรอยในแบบแผน ในวินัย กฎเกณฑ์ คนก็ต้องมี โดยสัญชาตญาณ สัตว์มันก็ยังต้องมีเลย แล้วคนก็ฉลาดรู้ เอามาอธิบายกันมากใครฉลาดมากก็รู้วินัยดี ชาวอโศกรู้วินัยดี แม้กิเลสเราขัดแย้งเราก็ต้องยอม ของเราผิดเราก็ต้องยอมรับผิด แล้วแก้ไขปรับปรุง สรุปแล้ว จะเรียกภาษาว่าอะไรก็แล้วแต่ พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ ที่อาตมาเอามาขยายไว้ใน สาราณียธรรม 6 วรรณะ 9 หรือแม้แต่ พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) หรือ โลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย ธรรมาธิปไตยก็ดี แล้วก็ให้ศึกษาว่า ปฏิบัติส่งตามคำสอนพุทธเจ้าหรือไม่ ชาวอโศกปฏิบัติตามได้แม้จะไม่เรียกประชาธิปไตย แต่สังคมใดก็ตามอยู่กันด้วยอธิปไตย มีพลังสร้างสรร พลังทำดี พลังทำชั่ว เพราะฉะนั้น คนในสังคมนี้รู้ พลังอย่างนี้เป็นพลังธรรมพลังดี อันนี้พลังชั่วไม่ทำ ไม่ให้มีอาการ ลีลา อย่างนี้ พลังอย่างนี้ในตัวเรา กายกรรม ไม่มี วจีกรรมไม่มีชั่วแบบน้ มโนกรรมจะสั่งการทำชั่วอย่างนี้ไม่มี หากิเลสชั่วไมได้เลยเป็นอรหันต์

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 09:31:02 )

เนื้อแท้ของศาสนาพุทธในพุทธคุณ 9 คือวิชชาและจรณะ

รายละเอียด

วิชชาจรณะ เป็นพุทธคุณของพระพุทธเจ้า ในพุทธคุณ 9 ก็มีวิชชาและจรณะเป็นตัวยืนยันว่าเป็นพุทธคุณ นอกนั้นก็เป็นองค์ประกอบ เนื้อแท้นั้นอยู่ตรงนี้แหละของศาสนาพุทธเนื้อแท้อยู่ตรงนี้ พอจะเข้าใจกันไหมนี่ คือในแกงเทโพ จะมีเนื้อพุงปลาเทโพอยู่ชิ้นหนึ่งเท่านั้นนั่นแหละ คือวิชชาจรณะก็คือเนื้อปลาเทโพ ใครเจอพุงปลาเทโพ อีสานเรียกพุงปลาปึ้ง มันหยด ใครเจอชิ้นนี้ก็ได้ยอดไปเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 8 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 23 เมษายน 2563 ( 13:23:04 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:57:35 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:57:05 )

เนื้อแท้ของโลกุตระในยุคเสื่อมนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

รายละเอียด

ยุคนี้เป็นยุคที่เสื่อม เสื่อมตามที่พระพุทธเจ้าพยากรณ์เอาไว้ใน อาณีสูตรเรื่องกลองหรือตะโพนอานกะ ที่ท่านตรัสเปรียบเทียบไว้ แล้วมันก็เสื่อมในยุคนี้จริงๆ เนื้อแท้ที่เสื่อมที่ยืนยันจริงๆก็คือโลกุตระนั้นไม่มี เนื้อความไปอ่านให้ดีๆ นะ อาณีสูตร ท่านตรัสไว้ชัดเจน คือ มันจะไม่มีโลกุตระแล้ว เพราะฉะนั้นผู้ที่รู้โลกุตระอย่างอาตมาเกิดมาในชาตินี้ ก็นำเอาโลกุตระมา สถาปนาลงไป 

ก่อนอาตมา มีท่านพุทธทาสกล่าวถึงโลกุตระ แต่ก็ยังไม่มีเนื้อแท้ของโลกุตระอย่างบริบูรณ์เพียงพอ คือเริ่มจะรู้สึกว่าเป็นโลกุตระ แต่ท่านก็ยังมีเทวนิยมอยู่ไม่น้อย ยังไปหาป่า หาอะไรต่ออะไรอยู่ ไม่อยู่ในเมือง 

อย่างอาตมาต่างกันกับท่านพุทธทาส อาตมายินดีในเสนาสนะป่า ความยินดีมี แต่ไม่จำเป็นต้องไปออกป่า เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาคนกรุง ศาสนาสังคม คนเมือง ไม่ใช่ศาสนา มิลักขะ แต่เป็นศาสนาอาริยกะ เป็นศาสนาแห่งคนเจริญคนประเสริฐ ซึ่งมีความซับซ้อนที่แยกจากกันทีเดียวไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเปิดตาพญานาคลงสู่การเมืองไทย วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2565 ( 19:03:31 )

เนื้อแท้คือพร้อมด้วยวิชาและจรณะ

รายละเอียด

อาตมาก็ย้ำ ตั้งข้อสังเกตว่า วิชชาจรณะสัมปันโนเป็นสาระสัจจะของความเป็นพุทธ นอกนั้นก็เป็นอลังการ เนื้อแท้คือพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ อัมพัฏฐมานพ เป็นลูกศิษย์ของโปกขรสาติพราหมณ์ เหมือนสมัยนี้ก็มีสำนักต่างๆเป็นสำนักธัมมชโยสำนักของคนอื่นๆมากมาย เป็นพระมหาศาล มีอำนาจตำแหน่งหน้าที่และมีบริวารและมีทิฐิความเห็นของตนได้ตามนั้น ต่างกันไป ส่วนใครจะสัมมาทิฏฐิที่สุดนั้น ต้องแสวงหา ผู้แสวงหาต้องเลือกดูเอาเองเลือกเฟ้นกันเอาเองได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2563 ( 08:52:00 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:57:55 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:57:51 )

เนื้อแท้ไม่มี แก่นไม่เกิด

รายละเอียด

คุณฟังเข้าใจแต่ว่าเราจะเป็นคนที่ทำเช่นนั้นได้สำเร็จสูงขึ้นไป ตามกรอบองค์ความรู้ องค์ประกอบของกรอบแต่ละรอบๆ สูงขึ้นไปถึง โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ไปตามลำดับ คุณรู้จริงทำได้จริงมันถึงจะเกิด ได้แต่รู้ๆๆโดยเฉพาะที่พูดพาดพิงมาแล้วตั้งแต่ต้น ว่าคนเอาแต่รู้ ใช้สื่อสาร ใช้ IO ข้อมูลข่าวสารเป็นยุทธการใหญ่ รบแล้วชนะ แค่สื่อสารข่าว รบกันชนะด้วยสื่อสาร แต่ทำไม่เป็น เนื้อแท้ไม่มี แก่นไม่เกิด พวกนี้ทำได้ฉาบฉวย 

ประเทศไทยเดินทางมาไกล ไกลจนกระทั่งมีของจริงกับของพวกตลกพวกนี้ จนทุกวันนี้ก็ยังเกิดข้อตลกนี้อยู่ ตัวตลกนี้อยู่ ลิเกตลกนี้เกิดอยู่ เพราะฉะนั้นเรามีปัญญา ไม่มีปัญหาอะไรที่จะเห็นว่าเรื่องนี้มันเกิดมาประหลาด เราก็อุทานไปตามโลกว่ามันไม่น่าเกิด มันประหลาดอย่างนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งที่จริงมันเกิดเพราะว่าคนมันยังไม่หยุด มันยังดิ้น มันยังมีเศษ 

ละอองธุลีของสิ่งที่ยังบกพร่อง สิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ มันยังเกิดอยู่ กระเด็นกระดอนอยู่ตามความเป็นจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเนื้อแท้ของประเทศไทย เนื้อแท้ของเศรษฐกิจก็ดี เนื้อแท้ของการเมืองหรือรัฐศาสตร์ รัฐกิจก็ตาม ความเป็นสังคมเนื้อแท้ของคนไทย อาตมาไม่ได้มองว่ามันตกต่ำ แต่มันมีตัวแสดงบทบาทออกมา คนก็เห็นตัวแสดงบทบาท ส่วนที่เป็นแกนเป็นแก่นเรียกว่าเป็น เข็มของชีวิต เสาเข็มของชีวิตคนมองไม่เห็นหรอกคน จะเห็นแต่ส่วนบนเห็นบทบาทข้างบนเท่านั้น แล้วเขาก็มองฉาบฉวยข้างบน ซึ่งถ้าความจริงมันไม่มีเข็มจริงๆ มันจะไปอยู่รอดอะไร มันก็แกว่งให้ดูอย่างเดียวก็กลิ้งหลุดเป็นอุกกาบาตออกนอกโลกเท่านั้นเอง แต่ถ้าสิ่งที่มีเข็มมีแก่นแกนที่หยั่งลึกจริง ไม่มีปัญหาหรอก 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 22 สงครามข่าวสารกับปรากฏการณ์จริการเมืองไทย วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 แรม 11 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 พฤษภาคม 2566 ( 19:37:54 )

เน้นกสิกรรมเพราะอาหารเป็นหนึ่งในโลก

รายละเอียด

สรุปแล้ว เอาคุณสมบัติหรือคุณธรรมที่เราเป็นมีอย่างนี้เป็นคนจน ไม่สะสมแล้วก็สร้างสรรได้มากสิ่งที่อาศัยของกินของใช้ของบริหารของอาศัย ของเราไม่เก่งอุตสาหกรรม อาตมาก็ไม่เน้นให้พวกเราเก่งอุตสาหกรรม แต่ทำเป็นพอสมควรก็ทำไปเถอะ พออาศัย แต่กสิกรรมนี้มาเน้นเลย วิศวกรรม เขาอาศัยกินงานที่เขาทำได้สำเร็จ คุณจะไปกินจรวด กินคอมพิวเตอร์ กินดินปืนไม่ได้หรอก มันเลี้ยงชีวิตคุณไม่ได้หรอก นอกจากคุณจะเอาไปขายแล้วเอาเงินไปซื้อพืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นของกิน ของใช้ไม่ช่วยให้คุณมีชีวิตรอดได้ยิ่งกว่ากวฬิงการาหาร อาหาร เป็นหนึ่งในโลกยิ่งกว่า

พวกเราเข้าใจและร่วมมือร่วมใจกัน อาตมาถึงบอกว่าคุณเป็นไฮโซระดับสูงแค่ไหนก็ลงมาเป็นกสิกรมาคลุกดินคลุกหญ้าสร้างปลูกให้เก่งเลย มันไม่ชอบก็ต้องฝึกเอา เห็นความจริงให้ได้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสิ่งที่ประเสริฐ แล้วก็สร้างสรรให้ได้  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:57:30 )

เน้นกสิกรรมเพราะไม่มีวิบากและเวรภัย

รายละเอียด

พูดถึงปัจจุบันธรรมจริง อย่างที่ประเทศไทยกำลังทำ ที่เรามี โศลกปีนี้ เมืองไทยฟังให้ดีๆ นะอย่าไปน้อยใจเสียใจว่าเราสร้างอาวุธไม่เป็นสร้างอาวุธไม่เก่ง เราไม่สร้างอาวุธเลยดีมากแล้วล่ะ เอาพลังแรงงาน ความรู้ เวลา มาสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหาร ซึ่งอาตมานี้วันนี้ แม้แต่ปศุสัตว์อาตมาก็ไม่เน้นประมงอาตมาก็ไม่เน้น อาตมาเน้นกสิกรรม มันไม่มีวิบากไม่มีเวรภัย ไม่ไปเบียดเบียนชีวิตอื่นเขา แต่ประมงหรือปศุสัตว์มันเบียดเบียนชีวิตกัน เขาอยู่ตามยถากรรมก็ว่าไป วิบากของสัตว์ สัตว์มันมีวิบากของมันเราจะไปเกี่ยวอะไรกับมันมากมาย จะบอกว่าไปช่วยเหลือ ก็มาทำทางพืชนี่แหละมันใช้ได้ทันทีทันใด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 19:47:51 )

เน้นคุณภาพยิ่งกว่าปริมาณ

รายละเอียด

 คือเราเองไม่ตะกละไม่ใจเร็วด่วนได้ หลงปริมาณมากกว่าคุณภาพ เราเน้นคุณภาพยิ่งกว่าปริมาณ ได้เท่าไหร่เอาเท่านั้น  จะได้เป็นแก่นเป็นแกน หากปริมาณฟ่ามๆมากๆ เดี๋ยวก็พัง ก็ไม่ดี ทางโลกเอาปริมาณมาอวดข่ม แต่เราไม่ทำ เราเอาความมักน้อยความจนจะใช้เป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อน จะเอาความจนไปแข่งความรวย แล้วก็ทำให้คนอยู่เย็นเป็นสุขด้วยความจน ซึ่งโลกเขาคิดตื้นๆง่ายๆว่าเอาความรวยไปแข่ง หรือเวลาจะไปรบกันจะไปทำสงครามกันจะไปปฏิวัติกัน เขาก็จะต้องใช้อำนาจอาวุธไปฆ่าแกง กันด้วยปืนผาด้วยอาวุธแต่เราไม่ เราเอาความสงบซึ่งเป็นเรื่องตลก ความสงบไปสยบความรุนแรง เราใช้ปฏิวัติด้วยความสงบจนสำเร็จ เมืองไทยนี้เมืองอื่นลอกเลียนยาก ประเทศไทยนี้ใช้ธัมมาวุธเอาความสงบเอาความจริง เอาความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เอาความอภัย เอาความอโหสิ สงบอโหสิ อหิงสา ซึ่งมีหลักฐานที่เราทำไว้หมดเลยแล้วคนไทยเราทำได้ ชนะ เรียกว่า ปหานรัฐบาลมาได้ 4-5 รัฐบาล แต่รัฐบาลทักษิณ สมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ ซึ่งคนเข้าใจได้ยาก ประชาชนปฏิวัติหรือรัฐประหารมันมีด้วยหรือในโลก ก็มีสิ อยู่ในโลกประชาธิปไตยไง แล้วก็เป็นประชาธิปไตยจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 16:22:29 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:23:13 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:56:22 )

เน้นจริงให้ยิงกว่าแค่น

รายละเอียด

เน้นจริงให้ยิงกว่าแค่น เข้าใจความแตกต่างระหว่างความจริงกับทำอย่างแค่นๆ ไหม ภาษาไทยทำอย่างแค่นๆ ทำอย่างเสียไม่ได้ ทำอย่างไม่เต็มใจนี่มันแค่น เอาให้จริงมีจริงเท่าไหร่เข้าใจให้ได้โถมใจลงไปเต็มที่ จิตตะ วิมังสา เอาเข้าไปเลย มีฉันทะ วิริยะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชนะมารอย่างไร้สารพิษ สุจริตแท้ ด้วยพหุงฯ8 วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:36:25 )

เน้นพืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นหนึ่งอย่างไร

รายละเอียด

เราพยายามช่วยกันจริงๆ คนที่อยู่หอคอยงาช้าง คนที่มีจริตนิสัยที่ไม่ชอบเลยจะมายุ่งกับกสิกรรมนี่นะ ตัดใจซะเถอะ เข้ามายุ่งดีกว่า เข้ามายอมคลุก แล้วก็พยายามเห็นให้จริงเลยว่า มันยอดเยี่ยมจริงๆ เลย มาทำกสิกรรม มันสุดยอดจริงๆ 

คุณจะมีบ่อเพชร บ่อพลอย บ่อทองคำ เท่าไหร่ คุณมีเลยเป็นห่อๆ เป็นกอบๆ เป็นกำๆ พอเกิดวิปริตธรรมชาติขึ้นมาปั๊บ ไม่มีผักไม่มีพืชให้กินแล้ว คุณจะกินทองคำ คุณจะกินเพชรพลอยพวกนี้ได้ไหม คุณจะแกง เอาเพชรใส่เข้าไปก็ยังไม่เค็มเลย เขาบอกว่าเกลือไม่มีเอาเพชรมาแทน เอาเพชรไปแทนเกลือยังไม่ได้เลย นี่พูดเหมือนพูดเล่นลิ้น แต่เป็นเรื่องจริง 

เพราะฉะนั้นอาหารนี้เป็นหนึ่งในโลกเป็นความหมายลึกซึ้งมากเลย
โดยเฉพาะกวฬิงการาหาร ท่านใช้ภาษา แปลว่า คำข้าว ข้าวก็อาหารเป็นหนึ่งแล้ว พืชพันธุ์ธัญญาหารที่กินด้วย เอาไปให้สังเคราะห์เป็นธาตุขันธ์สรีระต่างๆ สรีระไม่มีธาตุขันธ์พวกนี้อยู่มันก็ตาย ถ้ายังไม่ตาย มันก็จะเรียนรู้หรือจะทำประโยชน์ มันก็มีอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หนูตัวเล็กอย่างไทยจะช่วยราชสีห์ซาอุฯตัวใหญ่ได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:41:05 )

เน้นลากแม้ยากกว่าแล่น

รายละเอียด

เน้นลากแม้ยากกว่าแล่น แม้มันจะได้ช้า แต่ก็ต้องลากถูลู่ถูกัง แม้มันจะยากไม่ได้เร็ว ก็เอา จะลากก็ต้องลากกัน ไม่ได้เร็วก็พยายามพากเพียร ให้มันได้เนื้อก็แล้วกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชนะมารอย่างไร้สารพิษ สุจริตแท้ ด้วยพหุงฯ8 วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:34:28 )

เน้นเนื้อให้เหนือกว่า

รายละเอียด

เราเน้นเนื้อให้เหนือกว่ามาก เน้นลากแม้ยากกว่าแล่น เน้นจริงให้ยิ่งกว่าแค่น เน้นแก่นให้แน่นกว่ากว้าง ไอ้นี่ก็ลึกซึ้ง เน้นเนื้อให้เหนือกว่ามาก เอาเนื้อๆ ให้มากๆ ฟ่ามๆ ไม่เอา ให้เอาเนื้อๆ จากเนื้อออกมาเป็นเปลือกเป็นสะเก็ดอะไรข้างนอกไม่เน้น เน้นเนื้อให้เหนือกว่ามาก เพราะฉะนั้นจะมีเปลือกนับได้เป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้านก็ ได้แก่นๆ มา เน้นเนื้อให้เหนือกว่ามาก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชนะมารอย่างไร้สารพิษ สุจริตแท้ ด้วยพหุงฯ8 วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:32:29 )

เน้นแก่นให้แน่นกว่ากว้าง

รายละเอียด

เน้นแก่นให้แน่นกว่ากว้าง 4 ประโยคนี้ เราสลักไว้ที่หินฟ้า ปฐมอโศก คือชุมชนอโศกแรกของชาวอโศกเรา อาตมารู้สึกสะดุดใจเรื่อง monolith หินแท่งยาวแท่งเดียวๆโดดๆของเขา มันเด่นดี ก็เลยเอาคำนี้มาตั้งเป็นคำไทยว่า หินฟ้า monolith แล้วก็สลัก 4 วรรคนี้ใส่เข้าไป เดี๋ยวนี้ก็หมองหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้ไปปรับปรุงกัน หินมันก็ไม่ได้ก้อนใหญ่ ถ้าเป็นยุคนี้รับรองแผ่นใหญ่สลักเยอะเลยโตเลย เราจะทำที่บ้านราชนี้บ้างก็ได้ในอนาคต มีแกรนิตแผ่นใหญ่ๆอยู่ข้างหน้านี้ ตอนนี้กำลังทำภูเฮา จะเร่งให้เสร็จวันที่ 13 กุมภาพันธ์กันมั้ง เร่งกันใหญ่เลย ดี ทำให้เสร็จ จะได้ฉลองกันบ้าง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชนะมารอย่างไร้สารพิษ สุจริตแท้ ด้วยพหุงฯ8 วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:45:20 )

เน้นโลกุตระ

รายละเอียด

อาตมาต้องเน้นโลกุตระ ก็เพราะว่ามันเป็นเนื้อแท้ของศาสนาพุทธ  ถ้าไม่มีโลกุตระมันก็วนเวียนอยู่กับดีกับชั่ว ก็ไม่มีปัญหา คนที่จะสอนความดีความชั่ว  คนที่จะสอนโลกียะ พยายามให้ละความชั่วปฏิบัติความดี ศาสนาไหนเขาก็สอน ก็ไม่ต้องอาศัยพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้แล้วสอนหรอก สอนให้ทำดีตามสังคมเขาสมมุติ ว่าอย่างนี้เขาถือว่าดีโดยเฉพาะกฎหมายแต่ละประเทศ บัญญัติไว้ว่าดีอย่างไรก็ดีตามกฎหมาย อย่าไปผิดกฎหมาย แม้แต่วัฒนธรรม ของแต่ละประเทศอย่างนั้นเขาถือว่าดี แต่ที่นีบอกว่าไม่ไหวทำอย่างนั้นไม่ได้ ในการแสดงออกอย่างนั้นอย่างนี้ วัฒนธรรมอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ต้องเอาอะไรมาก วัฒนธรรมของไทย ลูกอย่าไปเล่นหัวพ่อแม่ แต่ทางโน้นเขาไม่มีปัญหาเลย เขาไม่ถือสา สังคมตะวันตก  ลูกจะเล่นหัวพ่อแม่ก็ถือว่าเป็นความสนิทสนม แต่วัฒนธรรมไทยลูกมาเล่นหัวพ่อแม่ไม่ดี เพราะฉะนั้นทุกวันนี้ หลวมๆ ลูกมาเล่นหัวพ่อแม่ได้ แต่โบราณไม่ได้ เราต้องปฏิบัติตนให้บรรลุโลกุตรธรรมให้มากจนคนตาบอดเห็นได้มันถึงจะทำให้มนุษย์ ทางโน้นเขาว่าอย่างนี้เหรอ ตอนนี้อาตมาเลยยังไม่อยากตายเลย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 14:19:20 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:24:37 )

เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 20:55:18 )

เน้นให้มนุษย์เข้าใจและประพฤติอย่างไรเป็นสุดยอดมนุษย์

รายละเอียด

ประเทศที่เขาจำนน ขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ เขาไม่มีแผ่นดินที่ใช้ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารก็แล้วไป หรือแม้แต่ประเทศที่มีความหนาวความเย็น อาจจะมีพื้นดินมากกว่าเมืองไทย พืชในชุมชนเขตศูนย์สูตรนี้ เป็นโซนที่มีพื้นดินปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ดีได้เจริญ ไม่เหมือนโซนที่มีหิมะมีฤดูหนาวจัดร้อนจัด ทะเลทรายมาก เขาก็ปลูกไม่ค่อยได้แน่นอน 

แต่โซนที่ปลูกได้นั้นมันดีแล้ว เราก็ทำสิ่งที่มันมีดีที่เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีนี่แหละ ทำขึ้นมา เลี้ยงโลกอุ้มชูโลก เกื้อกูลโลก ช่วยเหลือโลก โลกานุกัมปายะ ถ้าเข้าใจสุดยอดของมนุษย์สุดยอดพฤติกรรมมนุษย์ ที่จะพึงเป็นอยู่ แล้วก็มาเน้นให้มนุษย์เข้าใจ ให้มนุษย์มาประพฤติกันสรุปง่ายๆก็อย่างเมืองไทยเป็นเมืองที่ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ดี มีพื้นดินที่จะปลูกได้อีกเยอะ แม้มันจะไม่ใหญ่โตเหมือนกับหลายประเทศ พื้นที่ประเทศไทยก็มีแค่นี้ ทำให้เต็มที่ก็เหลือแหล่ 

ปลูกสิ่งที่จำเป็นที่สำคัญที่จะกินจะใช้ ที่มันสมควรจะทำ ทำขึ้นไป แล้วก็ไล่แจก ใครจะให้คืนมาตามราคาก็แล้วแต่จะให้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤศจิกายน 2564 ( 21:06:32 )

เบญจกามคุณในกวฬิงการาหาร

รายละเอียด

มาต่ออาหาร 4 ท้ายข้อกวฬิงการาหาร ว่า เมื่ออริยสาวกกำหนดรู้กวฬิงการาหารได้แล้ว ก็เป็นอันกำหนดรู้ความยินดีซึ่งเกิดแต่เบญจกามคุณเมื่ออริยสาวกกำหนดรู้ความยินดีซึ่งเกิดแต่เบญจกามคุณได้แล้ว สังโยชน์อันเป็นเครื่องชักนำอริยสาวกให้มาสู่โลกนี้อีกก็ไม่มี ฯ 

เมื่อผู้ที่กำหนดรู้ความยินดีเป็นเครื่องชักนำมาสู่โลก โลกนี้ อยังโลโก ที่หมุนเวียนในโลกโลกีย์ ถ้ากำหนดรู้ตัวกามฉันทะ เรียกว่าความยินดี ผู้มีฉันทะในกาม รู้ว่าตนเองยังมีฉันทะในกาม ซึ่งเกิดแต่ตาหูจมูกลิ้นกาย เบญจกามคุณ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้อาหารให้บรรลุถึง อรหันต์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:49:35 )

เบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลาย

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าธรรมะของท่านเป็นลำดับอันน่าอัศจรรย์มีเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลาย อาตมาพูดซ้ำเสมอ บรรลุกาม แล้วก็ไม่ได้ปิดตาหูจมูกลิ้นกายเลยนะ คุณไม่ได้หนีไปไหนไม่ต้องออกไปป่าเขาถ้ำ ไม่ต้องหลีกหนีจากอบาย ไม่ต้องหลีกจากลาภยศสรรเสริญ โลกธรรมใดๆเลย แต่จิตของคุณต่างหากที่มันหลีกออก จิตอยู่แต่ผู้เดียว ท่ามกลางผู้คนบ้านเมือง แต่จิตคุณอยู่แต่ผู้เดียวไม่มีเพื่อนสองเลย นี่คือไม่มีกิเลส แต่หากไปเข้าใจเป็นตัวตนบุคคลเราเขารีบออกจากบุคคลก็ไม่เป็นปรมัตถ์ ไม่ชัดไม่ละเอียดพอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หมายถึงอะไร 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2562 ( 10:30:25 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:25:36 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:21:16 )

เบื้องบนมีแต่ “คำสั่ง” จงทำๆ แต่อย่าตีตนเสมอ!

รายละเอียด

จึงเป็นแค่“คำสั่ง(command,dictate)เท่านั้น ที่“พระบุตร” หรือ“ปกาศก”ผู้นำ“คำสั่ง”นั้นมาประกาศ ว่า เป็น“คำสั่ง”ของพระเจ้า แต่ไม่ยืนยัน“ความจริง”ของ“คำสั่ง”ว่า ได้มี“คน” ในโลกพิสูจน์แล้วว่า“เป็นไปได้จริง” แม้“พระบุตร”เอง ก็ยอมรับว่าใน “คำสั่ง”นั้น “พระบุตร” เองก็ไม่สามารถ “เป็นได้” เท่าเทียม 

“พระเจ้า”ที่ตรัส“คำสั่ง”มาให้แก่มนุษย์ปฏิบัติว่า“มนุษย์”นี่แหละ“จงทำ”

แต่“พระเจ้า”สั่งเท่านั้น ไม่มีการพิสูจน์ว่า คนจะทำได้ หรือ“เป็นไปได้”ทั้งหมดหรือไม่? “คำสั่ง”ของพระเจ้า จึงไม่เป็น

“ประกาศิต”จริงแท้ทุกคำสั่งสอน จึงเป็น“คำสั่งสอน”ที่พิสูจน์ไม่ได้อีกมาก จึงเป็นความเฟ้อเกิน อาจเข้าข่าย“เพ้อเจ้อ”ได้  

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 323 หน้า 243


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 15:05:03 )

เปจฺจ

รายละเอียด

บุคคลนั้นและ ละจากโลกนี้ไปข้างหน้าแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 486


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:49:24 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:25:15 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:21:36 )

เปต

รายละเอียด

เกิดตกต่ำ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 276


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:50:14 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:26:17 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:21:52 )

เปตติวิสัย , ปิตติวิสัย

รายละเอียด

เปรตในร่างของคน

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 415


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:50:52 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:27:16 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:22:10 )

เปม

รายละเอียด

ความรัก

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 500


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:52:06 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:10:27 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:22:29 )

เปยยวัชชะ

รายละเอียด

แล้วมีสำนวนหนึ่งที่พอจะเอามาพูดแล้วจะพอเข้าใจได้ เช่น คุณจะทำอย่างไร ให้เขาดื่มคำตำหนิได้ ด้วยความยินดี แม้จะฝืน แม้จะทุกข์ แม้จะยากจะลำบาก เขาก็ เอาละ ยอมดื่มคำตำหนินี้ ภาษาบาลีว่า เปยยวัชชะ แปลว่า คำตำหนินี้เป็นของน่าดื่ม เขาเห็นคำตำหนินี้เป็นของน่าดื่มได้ทำอย่างไรให้เขาเห็นคำตำหนิเป็นของน่าดื่ม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาที่เลยปัญหาของคนหลงความรู้มาก วันพุธที่ 31 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 20:46:31 )

เปยยวัชชะ เป็นปิยวาจา

รายละเอียด

ผู้ที่สามารถบรรลุธรรม บรรลุสำเร็จแล้วก็จะมาสอนผู้อื่น มาตำหนิผู้อื่น วัชชะ ตำหนิให้คนอื่นเขาดื่มคำตำหนิให้ได้ ท่านขยาย เปยยวัชชะ เป็นปิยวาจา อรรถกถาจารย์รุ่นหลังๆ ขยายความว่าเป็นภาษาพูด คำตำหนิเขา ให้เขาดื่มคำตำหนิได้นั่นแหละ มันเป็นคำพูดหรือเป็นวาจาที่น่ารัก ปิยวาจา เขาก็เลยแปล เปยยวัชชะ ว่าปิยวาจา ก็ไม่ผิด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตำหนิให้เขาดื่มได้คือหน้าที่ของผู้ทำงานศาสนา วันพุธที่ 28 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2564 ( 19:34:36 )

เปยยวัชชะได้มีปิยวาจา

รายละเอียด

เปยยวัชชะ คือ ตำหนิให้เป็นของควรดื่ม ใครทำได้สำเร็จคนนั้นแหละมีปิยวาจา เป็นคำอันน่าเป็นที่รัก แล้วตอนนี้ให้เขาดื่มได้มันอาจจะเป็นยาขมบ้างแต่เขาก็เต็มใจจะดื่มเป็นประโยชน์กับเขา ถ้าเป็นโรคก็ดื่มยานี้เข้าไปก็จะรักษาให้หายได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:03:39 )

เปยยะ

รายละเอียด

ของดื่มของนักปฏิบัติธรรม ของควรดื่ม คือน้ำเปล่า ๆ เท่านั้น

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 238


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:52:40 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:12:38 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:22:56 )

เปยวัชชะ

รายละเอียด

ยากมากให้มาลิ้มของควรดื่ม เปยยะแปลว่าของควรดื่ม วัชชะ เป็นกิเลสเป็นสิ่งที่โลกติเตียนเป็นสิ่งไม่ดี

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 09:47:09 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:26:20 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:23:19 )

เปรต

รายละเอียด

จิตผู้ขอ  ผู้ตกต่ำ คือสัตว์หรือมนุษย์ ไม่มีร่างกาย ก็มีความหิวต้องการ เราก็เจาะจงให้เขาได้ ซึ่งโดยสัจจะของพระพุทธเจ้าและสัตว์ใดก็ตามมีกรรมเป็นของตน ตนรับมรดกกรรมของตน จะอยู่โลกไหนก็ตาม อยู่ในโลกปัจจุบันยังไม่ตายจากกัน กรรมวิบากก็เป็นของตน แบ่งกันไม่ได้ พ่อแม่จะแบ่งกรรมแบ่งวิบากให้แก่ลูกไม่ได้ กรรมวิบากเป็นของคนใดคนนั้น

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 15:07:26 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:27:14 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:24:03 )

เปรต (ปิตติวิสัย , เปตโยนิ)

รายละเอียด

1. พวกที่มีกิเลส ตัณหา ราคะ ที่หนัก ที่เลว ร้าย แรงกล้า อยู่ด้วยความอยาก ความหิวโหย ความไม่รู้จักพอ

2. สภาพที่ได้ตายไปแล้วจากจิตวิญญาณที่ประเสริฐ หรือตายไปแล้วจากสวรรค์ 

3. จิตที่ยังอยากยังใคร่ ยังชอบใจ ยังสั่งสมเอาเป็นของเราอยู่

4. จิตที่ยังหิวโหยไม่ได้สมอยาก 

5. จิตที่ตกล่วงแล้ว,จิตที่ตกต่ำลงไปแล้ว

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 332, 438,หน้า 436, สมาธิพุทธ หน้า 291, หน้า 312, ทางเอก ภาค 2 หน้า 235


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 11:54:28 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:17:19 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:25:01 )

เปรตชนิดเดียวที่อุทิศส่วนกุศลให้ได้

รายละเอียด

ปรทัตตูชีวกเปรต เขาก็ไปแปลว่า เปรตที่มีชีวิตด้วยการรับส่วนบุญจากคนอื่น (ปร ทัต อุป ชีวะ ) แปลว่า ชีวิตต้องได้รับจากผู้อื่นเท่านั้น 

ปรทัตตูชีวกเปรต เป็นเปรตที่ต้องได้รับจากผู้อื่น คือคนเป็นๆที่มีจิตเป็นเปรต จิตความอยาก จิตต้องการ จิตปรารถนา คุณจะต้องมีผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิที่จะให้ได้ คุณไม่ให้ คุณจะคิดเองหาเองไม่ได้ ต้องได้รับจากผู้อื่น ผู้อื่นนั้นเหมือนกันกับศาสนาพุทธโลกุตระ คุณจะต้องได้รับปัญญาได้รับ อัญญธาตุ จากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าหรือจากผู้ที่สัมมาทิฏฐิ อยู่ในฐานะครูจึงจะได้ คุณรู้เองไม่ได้หรือไปรู้จักคนนอกรีตก็ไม่ได้ คุณจะต้องรู้และได้รับจากเจ้าของจริงๆ เป็นธรรมสามี เช่น เป็นพระพุทธเจ้าเป็นต้นหรือเป็นสัตบุรุษที่มีมาเองอย่างเป็น สยังอภิญญา เป็นปัจเจกสัมพุทธะ หรือแม้จะไม่ถึง สยังอภิญญา ก็ต้องเป็นครูผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิ เช่นโพธิสัตว์ระดับ 6 ระดับ 5 ซึ่งระดับ 4 ก็เป็นพระอรหันต์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณกินข้าวได้ไหม อย่างไรคือสัมมาทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2564 ( 19:01:03 )

เปรตพลี

รายละเอียด

คนหรือปุถุชนรักกิเลสที่สุด รักให้ตายอย่างไรก็ต้องจำใจฆ่า ซึ่งเป็นการเสียสละ ที่สุดยอดเลย เพราะฆ่าสิ่งที่รักที่สุดคือฆ่ากิเลส แล้วคุณก็เข้าใจว่ากิเลสมีจริงมีมาแต่ก่อน ปุพพะก็ชัดเจนว่าเราได้ฆ่ากิเลสฆ่าเปรตในตัวเราเป็นเปรตพลี

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 15:32:13 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:27:50 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:25:34 )

เปรียบกลองอานกะกับธรรมะ

รายละเอียด

อาตมาก็สงสารประเทศไทยที่มีพุทธธรรม แต่ก็ได้ผิดเพี้ยนเหมือนกลองอานกะ คนไม่รู้จักแล้วแต่ก็เรียกกลองอานกะเรียกพุทธ แต่ไม่เหลือเศษซากของพุทธเลย อาตมาก็บอกว่า พุทธเป็นเช่นนี้แต่เขาก็ตีทิ้งไปหมดเลย บอกว่าที่มีนั้นมันเป็นเศษของพุทธเท่านั้น มีแต่พิษภัย แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะในยุคนี้มันรู้ได้ยาก อาตมาคิดว่าต้องใช้เวลาความอุตสาหะมากเลย ถึงคิดว่าจะพยายามรักษาชีวิตร่างกายให้อยู่อย่างเดียว เพื่อจะได้ทำให้คนเข้าใจได้มากกว่านี้จะได้เป็นเนื้อแก่นของศาสนาพุทธที่จะได้ยืนยาวไปจนถึง 5000 ปีของพุทธกัปป์ของศาสนาพุทธ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 16 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:36:49 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:29:08 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:26:12 )

เปรียบศาสนากับต้นไม้

รายละเอียด

ธรรมะของพระพุทธเจ้านี้ ศีลเป็นสะเก็ด สมาธิเป็นเปลือก ปัญญาเป็นกระพี้ วิมุติเป็นแก่น นะ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ 

ท่านเปรียบเทียบกับต้นไม้ ศีลเป็นสะเก็ด สะเก็ดอยู่ข้างนอกของต้นไม้ แกะออกไป สมาธิเป็นเปลือก พอเปลือกมันแห้งแล้ว มันหลุดออกจากเปลือกมาเป็นสะเก็ดข้างนอก  ปัญญาเป็นกระพี้ เนื้อใน แล้วถึงจะเข้าไปถึงแก่น แก่นเป็นวิมุตื  ดอกใบผลเป็นลาภสักการะสรรเสริญ ท่านเปรียบศาสนากับต้นไม้ 

ผู้ที่แสวงหาแก่น แต่ไปได้ใบได้ผลได้ดอกเต็มอยู่บนต้น  สะเก็ดก็ไม่รู้ว่าเป็นของที่น่าได้ เปลือกก็ไม่รู้ว่าเป็นของที่น่าได้ กระพี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นของที่น่าได้ แก่นไม่ต้องพูดเลย ไปหลงว่า ใบ ดอก ผล ที่อร่ามเรืองเป็นโลกียะเป็นแก่น หอบเอาใบดอกผลไป แบกไป หลงว่าเป็นแก่น เถรสมาคม ทั้ง เถรสมาคม แบกลาภสักการะ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข คือดอก ใบ ผล อยู่เต็มเลย หาศีลก็ไม่ได้  

เพราะทุกวันนี้ไปถามว่าภิกษุมีศีลกี่ข้อ เขาก็จะบอกว่า 227 เห็นไหม แล้วไม่มี จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล บ้างหรือ? (เขางงว่า) “อะไรอ่ะ” ไปถามสิ ไปถามภิกษุเถอะ ไปถามให้เยอะๆ แล้วจะได้คำตอบนี้มา ว่า “อะไรคือ จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล ก็ศีลของพระก็ 227 สิ” เห็นไหม? 

วินัย เป็นเรื่องของอาชญา  มันต่างกันเลย เข้าใจวินัยกับศีลก็ไม่ได้ว่ามันต่างกันยังไง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูบวชมาครบ 53 ปี มีอะไรจริง พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 16:00:54 )

เปรียบเทียบ

รายละเอียด

   "หลับตา" ปฏิบัตินั้นสะกดจิตให้เป็น "จิตหนึ่ง" (เอกธรรม) ตามแบบการสะกดจิตสามัญทั่วไป จึงไม่ได้ "ยิ่ง,ใหญ่,เลิศ,ยอด" ตรงความหมายของคำว่า "อัคค" เลย เพราะนั่นแค่ "หนึ่งนิ่งๆ" "หนึ่ง" ที่ไม่มี "ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์" ไม่เป็น "สัมมาทิฏฐิ" เพราะไม่ได้ปฏิบัติ "มรรคอันมีองค์ 8" ก็ไม่ครบ "องค์ธรรม 6"

   "ความที่จิตเป็นหนึ่ง" ที่ปฏิบัติแบบ "หลับตา" อย่างนั้นเรียกว่า "เอกัคคตาจิต" ไม่ได้ เรียกได้แค่ "เอกจิต-เอกธรรม" ตื้นๆง่ายๆ ธรรมดาๆของการทำ "สมาธิ" โลกียะทั่วไป มันยังไม่ใช่ "โลกุตรธรรม" มันเป็นการทำ "ธรรม" ให้เป็น "หนึ่ง" จริง แต่เป็น "หนึ่ง" แค่เรียกว่า "เอกธรรม"ได้เท่านั้น ซึ่งเป็น "หนึ่ง" ไม่ซับซ้อนลึกซึ้งมากเชิงหลากชั้นอย่างเป็นระบบระเบียบที่น่าอัศจรรย์ตามทฤษฎีของพุทธ

หนังสืออ้างอิง

คนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 22


เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 12:36:07 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:16:10 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:31:33 )

เปรียบเทียบ เทวนิยม กับ อเทวนิยม

รายละเอียด

ความสูงที่สุดของมนุษย์พระเจ้าถือว่าสูงที่สุดของเขาแล้วแต่ก็เป็นนิรมาณกายไม่มีไม่เห็นได้ ตั้งภพเอา สูงเท่าไหร่ เราสามารถอธิบายความสูงที่สัมผัสได้พิสูจน์ได้ทุกอย่างในพระพุทธศาสนา แต่ของพระเจ้าในด้านเทวนิยมพิสูจน์ไม่ได้ ถึงแม้จะพิสูจน์ได้สภาวะของพุทธศาสนาก็พิสูจน์ได้เหนือกว่ามากกว่าเป็นแต่เพียงว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ เช่นสภาวะของพระเจ้านั้นไม่มีนิพพาน สูญไม่ได้มีแต่มีตลอดนิรันดร ตีไม่แตกอย่างนี้เป็นต้น 

สภาวะของเทวนิยมนั้น เราจะมีความรู้ความเก่งความสามารถที่สุดแห่งที่สุดในร่างของความเป็นมนุษย์ไม่ได้ ต้องเป็นพระเจ้าเท่านั้น

แต่ของพุทธนั้นผู้ที่เป็นคนนี่แหละมีครบอาการ 32 ทุกคนมีสิทธิ์สูงสุดเท่ากับพระพุทธเจ้า 

ของพุทธถือว่าพระพุทธเจ้าสูงสุด

ของเทวนิยมถือว่าพระเจ้าสูงสุดแต่พระเจ้าสูงสุดของเทวนิยมไม่เคยให้ใครมาเห็นตัวได้ มีแต่คำบรรยาย แล้วก็บรรยายขยายความให้มากมายไม่ได้ แต่ของพระพุทธเจ้าขยายได้หมด และคนทุกคนมีสิทธิ์เป็นพระพุทธเจ้า แต่คุณจะสามารถทำถึงหรือเปล่าเท่านั้น อาตมาคนหนึ่งกำลังพิสูจน์ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2562 ( 08:24:23 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:31:21 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:34:28 )

เปรียบเทียบกันระหว่างโลกุตระกับโลกียะ

รายละเอียด

จะเห็นได้ว่านี่คือสิ่งที่เปรียบเทียบกันระหว่างโลกุตระกับโลกียะ ซึ่งมันจะแตกต่างกันไป ปฏิโสตัง ทวนกระแสโลกไปเรื่อยๆ จะเห็นได้ชัดเจนว่ามันจริง เสียดายกันบ้างไหมนี่ เสียดายโลกียะ แต่ก่อนก็เคยเต็มที่เต็มทีกันมาไม่ใช่น้อย ถ้าเด็กลูกหม้ออยู่ที่นี่แล้วโตขึ้นไป เกิดมาเป็นอย่างนั้นก็แล้วไปเถอะ แต่นี่พวกคุณเพิ่งมากัน อย่างคนอายุ 50 60 70 ขึ้นไป ก็เคยเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนที่จะมา แต่พอมาทางนี้แล้ว ยิ่งจิตของเรามันเป็นจริง จิตของเราหลุดพ้นจากโลกียะจึงมาเป็นโลกุตระแท้ๆ มันยิ่งจะเห็นว่า โอ้หนอ น่าสงสารคน ที่จริงก็สงสารตัวเองนั่นแหละ แต่ก่อนตัวเองก็ช่างไม่เข้าใจจริงๆ เห็นแล้วมัน มันรู้แล้วก็ดูไม่ยาก คนไม่รู้นี่จะดูยาก คือมันเป็นคนส่วนน้อย แย้งกับคนส่วนมากเขา เราก็ยืนยันไป เราไม่ได้ทำเพื่ออวดโอ่ ไม่ได้ทำเล่นทำหัวอะไร แต่มันเป็นสัจจะ ที่เดินตามพระพุทธเจ้า แล้วก็จะเห็นจริง ก็ทำก็ว่าไป 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มีปัญญารู้ตนด้วยเจโตปริยญาณ 16 วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2566 ( 13:01:14 )

เปรียบเทียบการฆ่ากิเลสทั้ง กลางวัน กลางคืน ฆ่าได้ยาก

รายละเอียด

สมณะโพธิรักษ์ ว่าการเปรียบเทียบ  ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า วิญญาณที่มันได้รับอาหารเป็นกิเลสอย่างเหนี่ยวแน่น จะมีผู้ที่มาโปรด ไม่หลงกับ ลาภ  ยศ  สรรเสริญ  โลกียสุข ไปหลงกับกิเลสอยู่กับกิเลสอย่างสนิทสนม ชื่นชม  อยู่กับกิเลส  จะหันมาฟัง หันมารู้ผู้ที่จะฆ่าและทำลายกิเลสบ้างสิ  เขาไม่หันมาเลย แต่ไม่เป็นเช่นนั้นที่เดียวหรอก มีผู้ที่ตั้งใจแสวงหามีอยู่ ได้อยู่ อย่างน้อยอาตมาก็ได้หมู่ ผู้ที่ฟังแล้วได้ประโยชน์ ติดตามรับฟังเพิ่มเติม  จะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมขึ้นไปอีก ได้รับฟังยิ่งขึ้น  ก็ได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น มีธรรมรส  มีความปรารถนาอยากฟังเพิ่มเติมขึ้น ละเอียดขึ้น แล้วก็เอาไปทำเพิ่มเติมขึ้นอีก มันมีอยู่ อาตมาไม่ไร้ลูกค้า แม้ว่ามีลูกค้าขนาดนี้  เท่านี้ อาตมาก็พอใจ  สบาย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 13:43:43 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:31:36 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:36:50 )

เปรียบเทียบการเป็นนายกฯ คุณทักษิณกับพลเอกประยุทธ์

รายละเอียด

มันยังยากอยู่ ก็วิจัยนิดหน่อยก็แล้วกัน พวกหาเสียงจะเอาเงินอนาคตมาใช้ แถมเป็นเงินดิจิตอลอีกต่างหาก ไอ้เงินดิจิตอลคือเงินอยู่ในตัวเลขลอยลมอยู่ในอากาศ เอาตัวเลขมาล่อจะให้คนละ 10,000 บาท ทำไมคนเรา โดยเฉพาะคนไทย เอาละประเทศอื่นเขาจะหลอกกันจะหลงเชื่อก็เรื่องของเขา เขาจะฉลาดตามเขา แต่คนไทยทำไมต้องฉลาดน้อยเหมือนเขา อาตมาละเว้นคำว่าโง่ ทำไมต้องไปฉลาดน้อยเหมือนชาวเทวนิยม ที่เขาไม่เข้าใจเศรษฐกิจแบบโลกุตระแบบไทย บังคับไม่ได้หรอกคนจะฉลาดน้อยก็ฉลาดน้อย 

เพราะฉะนั้นคนฉลาดน้อยกับคนฉลาดจริงๆ แบบโลกุตระ อันไหนมีมากกว่ากัน คนฉลาดโลกุตระก็ต้องน้อยกว่า เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องหลอกคนที่ฉลาดโลกียะ ฉลาดแบบทางโลกๆ เขาก็ต้องหลอกคนพวกนั้น เขาก็จะได้คะแนนเสียงมา เพราะฉะนั้นคะแนนเสียงที่หลอกกันได้ แล้วก็มาอวยกันมาให้กัน มันไม่ใช่ความจริงเลย มันไม่ใช่ประชาธิปไตย มันเป็นประชาธิปไตยมวล ประชาธิปไตยปริมาณ ประชาธิปไตยไม่ได้เข้าหาแก่นสารสาระที่แท้ แต่มันก็ไปเรื่อยๆ เมืองไทยก็เจริญขึ้นเรื่อยๆ 

เพราะฉะนั้นตอนนี้อาตมาขอวิจัยต่อนิดนึงว่า โพลต่างๆ เขาก็โพลไปกับคนที่ยังเข้าใจแบบโลกียะเยอะๆ ผลออกมาโพลก็จะต้องเป็นแบบนี้เช่นโพลบอกว่าเมืองไทยได้เบอร์ 1 มามากเลย เบอร์ 2 นี้จะได้คือพลังประชารัฐ หรือ ภูมิใจไทยจะได้มา เพื่อไทยต้องเบอร์ 1 เบอร์ 2 พลังประชารัฐหรือภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ จะอยู่อันดับที่ 4 ที่ 5 นู้น ตามโพลที่เขาวัดโดยค่านิยมของตัวเลข หรือยังสับสน สาระกับตัวเลข ตัวหลอกกับตัวจริง คนที่ทำงานจริงๆ ชัดๆ ทำสาระกับมวลมนุษยชาติ ทำเพื่อประชาชนจริงๆมีความรู้ความสามารถ มีปรากฏการณ์จริง มีผลงานจริง ก็รู้อยู่ เพราะมันได้พิสูจน์ใหม่ๆสดๆนี้เลย พรรคเพื่อไทยก็ดี คณะที่ทำอยู่แล้วก็ดี ก็คือฝ่ายหนึ่ง ที่เป็นฝ่ายที่ยังไม่สมบูรณ์แบบกับอีกฝ่ายหนึ่งฝ่ายสมบูรณ์แบบกว่า ก็คือฝ่ายทักษิโนมิคกับฝ่ายพลเอกประยุทธ์ แบบพลเอกประยุทธ์กับแบบทักษิณ มีหมู่ใหญ่ๆอยู่ 2 หมู่เท่านั้นเอง

ฉะนั้นตอนนี้ก็จะเลือก 2 ค่ายใหญ่ๆนี่แหละ ตัดสินกันให้ดีๆนะ อาตมาก็ไม่สามารถพยากรณ์ได้เหมือนกัน ก็ยังไม่ได้เลือกจริง อาตมาไม่สามารถไปตัดสินได้ แต่ใครทายใจอาตมาได้ไหมว่า อาตมาอยากให้อันไหมมา... อยากให้ รทสช เบอร์ 22 มาชนะการเลือกตั้ง แน่นอน อาตมาก็อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่อาตมาก็ไม่สามารถไปบังคับความเห็นความเชื่อ ซึ่งคนก็พยายามครอบงำทางความคิด propaganda หาเสียงแข่งกันอยู่อย่างนี้ จนกว่าจะผ่านวันที่ 14 พฤษภาคมค่อยมานับแต้มกัน ว่าแล้วจริงๆมันจะออกผลกันว่าอย่างไร ซึ่งโดย ถ้าจะบอกว่า ผลที่ควรจะเป็น อาตมาก็มีเหตุผลเพียงพอ มีหลักฐานมีที่อ้างที่อิง มีพฤติกรรมจริง 

พฤติกรรมสู้ไม่ได้ คนที่ไม่ควร จะเป็นทรยศ ขี้โกง ขี้โลภ เห็นแก่พวก เห็นแก่ตระกูล กับผู้ที่ทำเพื่อมวลประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ มันไม่ได้เห็นยากอะไรมันง่ายเห็นชัดๆ ทำไมคนจะฉลาดน้อยจนกระทั่งไม่สามารถแยกได้ว่า อย่างทักษิณกับอย่างพลเอกประยุทธ์ ใครเป็นประชาธิปไตยเนื้อแท้ตัวจริงกว่าใคร ทำไมถึงยังโง่จนกระทั่งไม่รู้ว่าพลเอกประยุทธ์ 8 ปีเหมือนกัน ทักษิณก็ 8 ปี แล้วยังแถมต่อด้วย มากกว่าหรือเปล่า ตั้งแต่ 2544 ตัวเองถูกออกไปแล้วมี นอมินี สมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ มากกว่า 8 ปี 

ทักษิณจะมากกว่าด้วยซ้ำไป ก็เห็นผลแล้วว่า มันก็น่าจะเทียบค่ากันได้ว่า ผลงาน ทั้งทุจริตและสุจริต ทั้งผลงานที่เกิดการพัฒนาให้แก่ประเทศชาติ มันชัดจะตายว่ามันเจริญกว่ากัน มันเสื่อมกว่ากันมันชิบหายกว่ากันเท่าไหร่ ถ้าจะอธิบายกันอย่างลึกซึ้ง ซับซ้อนแล้วนี่นะ ทักษิณนั้นขี้โกงไป พลเอกประยุทธ์ต้องมานั่งใช้หนี้ด้วยสร้างใหม่ด้วย ใช้หนี้ด้วย ก็ยังทำได้มีผลงานเหนือชั้นกว่าทักษิณ คิดดูสิ แค่นี้มองไม่ออก ฉลาดน้อยต่อไปเถอะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาผ่าการเลือกตั้ง 2566  วันพุธที่ 19 เมษายน 2566 แรม 14 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2566 ( 12:27:37 )

เปรียบเทียบความรวยที่มีโทษแตกต่างกัน

รายละเอียด

ขยายความเพิ่มเติมว่า รวยนี้เป็นอย่างไร 

1.รวยอย่าง CP เป็นนักธุรกิจที่เขาพยายามจะทุจริตให้น้อย และสร้างประโยชน์ส่วนรวมมากขึ้น สร้างงานให้มากขึ้นยิ่งๆขึ้น ก็ช่วยสังคม นี่นิยามสั้นๆของอาตมา

2.รวยแบบทักษิณ หรือนักธุรกิจนักการเมืองที่พยายามทุจริตให้มาก ต่างกันกับ CP อาตมาว่าอาตมาใช้คำเหมาะควรแล้วนะ คิดว่าไม่ผิดหรอก ทักษิณสร้างประโยชน์ตนให้มากสร้างงานให้น้อยลงทำลายสังคม ก็ฝากไว้ให้พิจารณากันแต่ละคน

3.รวยแบบเจริญ หรือนักธุรกิจ แนวเดียวกัน ในสายมอมเมา ขอภัยแม้แค่สายคาราบาว เป็นธุรกิจในสิ่งที่เป็นพิษอันนี้ทำลายสังคม 

ตกลงสามคนรวยนี้เข้าใจแล้วนะ สองคนอาตมาวิจัยว่าทำลายสังคม ส่วน CP นี้เทียบกันดูก็ให้ CP อยู่ในฐานะดีกว่าเพื่อน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 31 ตุลาคม 2562 ( 08:02:37 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:35:52 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:39:13 )

เปรียบเทียบความเหมือนและต่างระหว่างพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้ากับพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านตัดสินพระทัยว่าท่านไม่ประกาศศาสนา ท่านก็ตัดสินรีไทร์ตัวเองเลย เลิก ตายในชาติไหนก็แล้วแต่ ท่านก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปเลย แยกธาตุเป็นอุตุธาตุ เพราะท่านก็ทำงานมาเหมือนกับพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ สั่งสมบารมี มีสัมภาระวิบากเหมือนกัน ต้องมีน้ำหนักมีคุณธรรมที่ได้สั่งสมบุญบารมีเข้าเขตขีดของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าก็มีคุณธรรมเข้าเขตพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ต่างกันตรงที่ท่านไม่ได้ประกาศศาสนาในโลกมนุษย์ จึงไม่ได้ขึ้นทำเนียบเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ถ้าหากประกาศศาสนาท่านก็เป็นเจ้าของศาสนาพุทธองค์ใดองค์หนึ่ง แล้วท่านก็จะไม่ประกาศศาสนา 2 ครั้ง เพราะว่ามันเมื่อยทำงานมาเท่ากันกับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ก็จะพอแล้วท่านก็จะตัดช่องน้อยแต่พอตัว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลกุตระปัญญาต้องได้มาจากสัตบุรุษ วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มิถุนายน 2564 ( 18:51:02 )

เปรียบเทียบจักร 4 กับปัญญาวุฒิ 4

รายละเอียด

จักร 4 เป็นของสัตบุรุษ แต่ปัญญาวุฒิ 4 ต้องได้ฟังจากสัตบุรุษ ส่วนปัญญาวุฑฒิ 4 เป็นของคนที่จะเริ่มต้นและจะปฏิบัติต่อ ส่วนจักร 4 เป็นผู้ที่ได้แล้วและจะสืบต่อศาสนา 

ปัญญาวุฒิ 4 มีโยนิโสมนสิการ ต้องฟังธรรมจากสัตบุรุษจึงจะโยนิโสมนสิการได้ พวกที่หลับตามันไม่ใช่เลย ของพระพุทธเจ้านั้นลืมตามี จักขุ ญาณ ปัญญา วิชชา อาโลก มีแสงสว่างของพระอาทิตย์อยู่ครบครัน หากคุณไม่รับแสงพระอาทิตย์ไปหลับตาเป็นสัมภเวสี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มนุษย์ที่ยังมีทุกข์มีสุขอยู่ก็คือโง่กว่าพืช วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มิถุนายน 2564 ( 20:33:43 )

เปรียบเทียบทางสายกลางกับปุตตมังสสูตร

รายละเอียด

อาหารข้อที่ 1 กวฬิงการาหาร เหมือนพ่อแม่ลูก เดินไปในทางไกลกันดาร ไม่ได้บอกว่าไปนิพพาน แต่ก็รู้นึกว่าจะต้องให้พ้นความกันดาร “ไป”ไม่ได้รู้เรื่องอะไรหรอก เดินไปทางสายกลางเดินไป แต่ไม่รู้อะไร มีชีวิตไปไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร สุดท้ายก็ไปฆ่าลูกกิน ก็ไม่รู้เรื่องอะไร ฆ่ากินแล้วยังทำเป็นเนื้อเค็มไปกินด้วยนะ แล้วก็มาบอกว่าลูกที่น่าเอ็นดูของเราหายไปไหน เอ็งฆ่ากับมือ เอ็งทำเนื้อเค็มกินตลอดเวลา มันซ้อนลึก ซ้อนความโง่ไว้ในพวกนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 13:37:24 )

เปรียบเทียบนายกฯ ชวน กับนายกฯประยุทธ์

รายละเอียด

ขออภัยขอเปรียบเทียบนิดนึง นายกฯ ชวน หลีกภัย ตั้งแต่เคยเป็นนายกฯ
เนาะ ไม่เหมือนกัน นายกฯชวนไม่ค่อยมี ฮิวเมอร์เลย ไม่ค่อยมีอารมณ์ขันเท่าไหร่ นี่ท่านยังมีอารมณ์ขันเสมอ สบายๆ แล้วก็มีคารมด้วย ขัน โต้ตอบนิดหน่อย ไม่ถึงกับเป็นโจ๊ก เป็นขนาดฮาตกเก้าอี้ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น สนุกสนานรื่นเริงบันเทิงดี ทำให้บรรยากาศเคร่งเครียดผ่อนคลาย คนที่เอาเป็นเอาตาย ฝ่ายค้านเหงื่อหยดย้อย ก็ทำให้บรรยากาศมันคลี่คลายลงดีมากเลย ก็ค่อยๆดูไป อาตมาอาจจะดูผิดก็ได้ แต่เป็นความเห็นตรงๆ จริงใจ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 14:07:15 )

เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ

รายละเอียด

เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ (ตอน 2)

เอาอย่างนี้ เอาปัจจุบันธรรม ไม่ต้องไปเอาใคร เอาทักษิณกับพลเอกประยุทธ์ ทักษิณก็ทำงานมาพอๆกัน พลเอกประยุทธ์ก็ทำมาแล้ว มากกว่า ก็ยืนยันความซื่อสัตย์ มากกว่าเลย ทักษิณเริ่มต้นเข้ามาก็ประกาศว่าตัวเองไม่โกง ไม่ผิด ไม่ทรยศ ไม่ทุจริต รวยพอแล้ว พอเข้ามาไม่ทันไร ลายออกเลย ลายชั่วออกเสียจน โอ้โห ออกมาเต็มเนื้อเต็มตัว เป็นขี้กลากขี้เกลื้อนจนเลอะเทอะ จนทุกวันนี้เขาก็ยังสร้างขี้กลากขี้เกลื้อนใส่ตัวเองอยู่ ยังไม่หยุด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 ตุลาคม 2565 ( 18:35:47 )

เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ(ตอน 1)

รายละเอียด

เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ(ตอน 1)

ทักษิณเขามีเงินบินไปบินมามีเครื่องบินส่วนตัวไปตรงมาตรงนั้นตรงนี้ได้ แล้วประเทศไทยก็ใจดีมาก ที่จริงจับมาลงโทษเมื่อไหร่ เอาจริงๆจังๆทำก็ได้ แต่ก็ใจดี นี่คือเมตตาจริงๆเลยทักษิณไม่เคยรู้เรื่องเลยไม่เคยสำนึกไม่เคยสำเหนียก ไม่เคยที่จะฉุกคิดเลยว่า ประเทศไทยนี้เมตตาเขาเท่าไหร่ เท่ากับลูกหลานประเทศไทยย่ำยีประเทศไทย ถ้าเขาไม่โกง คำนี้คำเดียว ชีวิตทักษิณจะสบายมากเลย ถ้าเขาไม่โกงอย่างเดียว ทั้งชีวิตไปเขาก็อยู่ในแผ่นดิน อย่างน้อยก็ได้อยู่ในประเทศไทย ไม่ต้องบอกว่าอยากกลับประเทศไทย ใครห้ามเอ็งไม่ให้กลับทักษิณ อะไรห้ามคุณ เดี๋ยวจะหาว่าพูดหยาบ ใครห้ามคุณไม่ให้กลับมา 

กลับมาได้ แต่เพราะคุณโกง มีคดีที่พิพากษาแล้วต้องติดคุก คุณก็ต้องมาติดคุก นี่ต่างหากล่ะ คุณเข้ามาแล้วต้องติดคุกต่างหาก คุณทำเป็นพูดหลอกเด็กอมมือว่า ไม่ให้กลับ กีดกันเขา ปัดโธ่เอ๊ย ไม่เคยมีใครกีดกันคุณเลย ไม่มีใครไม่ให้กลับเลยทักษิณเอ๋ย หลอกเด็กไปวันๆ หลอกคนโง่ไปวันๆ แล้วก็มีจำนวนคนโง่ไปหลงคารมทักษิณอยู่ได้ นี่ก็เหลือเกินจริงๆ เมื่อไหร่จะหายโง่สักทีคนพวกนั้นเอ๋ย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 ตุลาคม 2565 ( 12:35:24 )

เปรียบเทียบน้ำตากับน้ำในมหาสมุทร

รายละเอียด

น้ำตาที่หลั่งไหลของพวกเธอ ผู้ท่องเที่ยวไปมา  คร่ำครวญร้องไห้อยู่  เพราะการประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะการพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ  โดยกาลนานนี้แหละมากกว่า  ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ไม่มากกว่าเลย
 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก  เล่ม 16  ข้อ 426, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2562 ( 12:50:57 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:36:32 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:42:19 )

เปรียบเทียบประเทศคอมมิวนิสต์กับประเทศประชาธิปไตย

รายละเอียด

แม้แต่ที่สุดมองไปในแต่ละประเทศ เทียบเคียง ประเทศคอมมิวนิสต์กับประเทศประชาธิปไตยจีนกับอเมริกา สีจิ้นผิงของจีน ของอเมริกาก็คือโดนัลด์ทรัมป์ เขาก็แสดงไปตามภูมิของเขา อาตมามองเห็นว่า ถ้าจะให้อายุของโดนัลด์ทรัมป์ กับอายุของสีจิ้นผิงยาวไป เราจะเห็นชัดเจนเลยว่า พฤติกรรมของโดนัลด์ทรัมป์หรือสีจิ้นผิงมันเป็นอย่างไร อายุยืนยาวไปก็จะแสดงอำนาจบาตรใหญ่ ส่วนสีเขาจะแสดงอย่างไร เขามีความรู้อย่างนี้จึงทำให้มีพลเมืองถึงพันล้าน แต่อเมริกาตอนนี้ แม้แต่โควิดก็ช่วย เจ็บป่วยไปถึงล้านแล้ว เรื่องพวกนี้เป็น อจินไตย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2563 ( 11:48:11 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:58:15 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:46:21 )

เปรียบเทียบผล 2 อย่างธรรมะแท้หรือกิเลสแท้

รายละเอียด

อาตมาอธิบายอย่างหนึ่ง เขาก็อธิบายกันอย่างหนึ่ง เอามาเปรียบเทียบแล้วไปทดลองพิสูจน์อย่างเป็นนักวิทยาศาสตร์สิ อาตมาอธิบายก็เกิดผลอย่างนี้ ส่วนเขาอธิบายอย่างนั้นก็เกิดผลอย่างนั้น ก็เปรียบเทียบกันสิ ผล 2 อย่าง ว่าอันไหนคือธรรมะ อันไหนคือธรรมะแท้กิเลสแท้ อันนั้นมีแต่กิเลสบานกิเลสเก่งมีมานะอัตตาได้วิเศษวิโส มีลาภยศสรรเสริญมากก็เก่งแบบโลกียคนก็นิยม อย่างเช่นไอ้ไข่ หรือว่าฤาษีลิงดำ อะไรก็แล้วแต่ แม้แต่มหาบัว หรือว่าธัมมชโย ให้ร่ำรวยร่ำรวย นั่นคืออุปาทานทั้งนั้น คุณไปขยันทำก็รวยๆและเอามาประเคนให้เขา ไปขยันใหม่ก็ได้รวยอีกแล้วขยันอีกมันก็ยิ่งได้ คนสามารถและฉลาด ก็จะทำได้มีความพากเพียรมากยิ่งขึ้นก็ได้มากยิ่งขึ้นและเอามาให้ก็จริงด้วย ได้อีกก็ทำอีกให้ใหม่ เห็นไหมคนฉลาดหลอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจนสาธารณโภคีที่เหาะได้ทั้งชุมชน วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2564 ( 16:37:16 )

เปรียบเทียบพระอวโลกิเตศวรกับพระสมณโคดม

รายละเอียด

เทียบพระอวโลกิเตศวรกับพระสมณโคดม พระสมณโคดมเจาะช่องน้อยแต่พอตัว ช่วยใบไม้ทั้งป่า ให้ใบไม้แค่กำมือเดียวเอาแค่นี้ บอกว่าเสร็จแล้วอานนท์ไปแล้ว พระอานนท์ก็ว่าทำไมรีบปรินิพพานไปพระพุทธเจ้าข้า เกาะประตูร้องไห้ ก็ท่านให้นิมิตตั้ง 16 ครั้งก็ยังไม่อาราธนา สุดท้ายตัวเองก็ถูกปรับอาบัติ เพราะไม่อาราธนา พระอรหันต์ 499 รูปก็เลยปรับอาบัติพระอานนท์ ปล่อยให้พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งซับซ้อน ทำไมพระสมณโคดมถึงอยากตายเร็วนัก อายุ 80 ก็ไปแล้วไม่ถึงกัป ที่จริงกัปนึง 120 ปี พระอานนท์ก็ 120 ปี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ผู้ไม่รู้ตัวเองไม่รู้ทั้งหมด ผู้รู้ทั้งหมด รู้ตัวเอง วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 17:30:44 )

เปรียบเทียบภาวะปฏิบัติลืมตาและหลับตา

รายละเอียด

เปรียบเทียบภาวะปฏิบัติลืมตาและหลับตา  คือ ประเด็นคำสอนพระพุทธเจ้าอันเดียวกันหมดแต่อันหนึ่งหลับตาปฏิบัติ  อีกอันหนึ่งลืมตาปฏิบัติ  แล้วก็เชื่อว่าเขาเกิดบรรลุอย่างพระพุทธเจ้าสอน  ถามว่า ฌาน  สมาธิ  วิมุติ อย่างไหนแบบหลับตากับลืมตาอย่างไหนจะเกิดเนื้อแท้ของมรรคผลกว่ากัน  ก็ไม่ได้มีความลึกลับอะไร  ชัดเจนที่สุดการปฏิบัติลืมตาเห็นมรรคผลชัดเจนที่สุด  แต่ก็ดันทุรังปฏิบัติหลับตาอยู่นั่นแหละ

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการสำมะปี๋ซี่วิต


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2562 ( 16:56:56 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:37:41 )

เปรียบเทียบว่าจุลศีลเป็นระดับหยาบ มัชฌิมศีลเป็นระดับกลาง มหาศีลระดับละเอียดได้ไหม

รายละเอียด

ไม่ได้ บอกว่า จุลศีลเป็นระดับหยาบได้ มัชฌิมศีลเป็นระดับละเอียดขึ้นก็ได้ แต่มหาศีลไม่ใช่ระดับละเอียด แต่เป็นระดับใหญ่เลย ศาสนาพุทธทุกวันนี้น่าสงสารที่ไม่เหลียวแลมหาศีลเลยทิ้งไปหมดไม่มีแล้ว มีแต่เดรัจฉานวิชา มีแต่เดรัจฉานกถาเต็มไปหมดไสยศาสตร์ออกนอกรีต แล้วทุกวันนี้ศาสนาพุทธที่เมืองไทย สร้างจารีตประเพณีแบบอย่างที่แตกงอกเป็นเนื้องอกเป็นมะเร็งกัน มะเร็งศาสนาพุทธเยอะมาก พิธีกรรม พิธีการ วิธีหาเงิน วิธีหาลาภยศ สรรเสริญ โลกียสุข ใส่ทีมตนเอง คณะตัวเอง สำนักตัวเอง โอ้โห.. เละเทะไปหมดเลย บางสำนักก็สร้างวิมาน สร้างของพิสดารใหญ่ที่สุด ให้วิลิศสะมาหราเพื่อจะเรียกคน 

บางสำนักก็เทศน์เป็นทำนองแหล่ เยอะมาก สร้างพฤติกรรมพิธีการ เพื่อจะได้บุญมากๆ มาวัดนี้มาสำนักนี้จะเจริญ จนกระทั่งไปถึงขั้นเป็นเดียรถีย์ มาวัดนี้ได้สงบ ได้รับทาน ได้สมาธิ จนต้องมาวัดนี้แถวอโศกเป็นวัดของศาสนาพุทธพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 13:57:01 )

เปรียบเทียบศาสนาพุทธกับศาสนาเทวนิยม

รายละเอียด

ส่วนศาสนาพุทธนั้นรู้เหตุแห่งทุกข์ สุข เป็นอัลลิกะ จึงเรียกสุขขัลลิกะ ผู้ฉลาดรู้ความจริงอันเป็นอาริยะ จะรู้สัจธรรมแท้คือสุขทุกข์ แต่ศาสนาเทวนิยมดับทุกข์ไม่ได้ จะเอาสุขนิรันดร จึงมีเหตุแห่งทุกข์อยู่ด้วยนิรันดร และศาสนาเทวนิยมไม่รู้จักการเวียนตายเวียนเกิด ก็ไม่รู้จักเรื่องของกรรมวิบาก รู้แต่ว่าเกิดชาติเดียวแล้วไปอยู่กับพระเจ้า ต่อจากนั้นจะมีกรรมวิบากอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง แล้วแต่พระเจ้าจะสั่ง พระเจ้าก็ไม่เคยรู้เรื่องของกรรม ในคัมภีร์ของศาสนาเทวนิยมก็ไม่มีสอนเรื่องกรรมก็แก้ หรือเปลี่ยนแปลงกรรมไม่ได้ พระเจ้าจริงๆแล้วคือความไม่รู้ ไม่รู้จักกรรม ไม่รู้จักการแก้ทุกข์แก้สุขได้ แต่ศาสนาพุทธแม้ปัจจุบันก็ต้องทำให้ชีวิตหมดความสุขความทุกข์ตั้งแต่ตอนเป็นเป็น สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องลึกซึ้งสุดยอด ถ้าหากผู้ใดรู้จักจิตวิญญาณที่เป็นตัวประธานสิ่งทั้งปวงแล้ว และเรียนรู้ยังศาสนาพุทธก็จะรู้จักจิตวิญญาณ มันจะเข้าใจหมดเรื่องอุตุ เรื่องเกิดชีวะเป็นระดับพีชะ หรือจิตนิยาม มีธาตุรู้แล้วดับธาตุรู้ได้ จนมีทางออกทำให้จิตเป็นอุตุ เป็นพีชะได้ จิตก็ผ่องใส ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ เป็นอมตบุคคล จบอมตบุคคลแล้วจะเกิดหรือตายก็ได้ ตายอย่างไม่เหลืออะไรเลยอย่างนิรันดรก็ได้ ไม่ใช่ตายแล้วไปอยู่กับพระเจ้า จิตวิญญาณของเราเองไม่ใช่ของพระเจ้า ศาสนาพุทธมีนิพพาน แต่ศาสนาเทวนิยมบอกว่าศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาเป็นแต่เพียงปรัชญา มันเป็นไปไม่ได้หรอกเรื่องของนิพพานมันไม่มี เขายังเข้าใจอย่างนั้น เขาขบถต่อพระเจ้าที่เป็นเจ้าของทุกสิ่งไม่ได้ ศาสนาพุทธจึงเป็นศาสนาที่ดับสุขดับทุกข์ วิธีดับสุขดับทุกข์ให้แก่ตัวเองได้ก็จบ เป็นพระอรหันต์ จบแล้วจะตายเลิกไปเลยปรินิพพานเป็นปริโยสานแยกให้จิตเป็นอุตุนิยามได้เลย แต่ถ้าไม่ตายเลิก จิตวิญญาณไม่แตกเป็นอุตุธาตุ อย่างอาตมาเป็นพระอรหันต์มาแล้วมาเป็นพระโพธิสัตว์ต่อ พูดอย่างไม่ได้เก้อเขิน ไม่ลำบาก ชัดเจน จึงได้มาสอนให้พวกเรารับรู้เข้าใจปฏิบัติจนเป็นพระอรหันต์ได้ ชีวิตจริงสุดยอดเมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว อยากเกิดก็เกิดได้ เพราะว่ามีหลักฐานรับรอง ว่าผู้ที่บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วไม่ทำชั่วอีกเลย สัพพปาปัสสอกรณัง ถ้าจะมีกรรมกิริยาในโลกก็จะทำแต่กุศล เพราะได้ชำระจิตให้หมดกิเลสได้แล้ว สร้างคนอย่างนี้ได้เป็นคนที่สมบูรณ์แล้วโลกจะเป็นอย่างไรก็เพราะว่าคนนี่แหละเป็นตัวป่วน เป็นยอดทำลายยอดดุร้ายเลย หากว่าไดโนเสาร์มีในยุคนี้คนก็คงจะเอามาขี่เล่นเอามาฆ่ากิน ยุคนี้มีช้าง แต่ดีนะ คนไม่ไปฝึกจับปลาวาฬมาฝึก หรือจับฉลามมาขี่แทนเรือดำน้ำ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ยอดคนอาภัพที่มีระดับของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 6ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:32:57 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:40:15 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:55:14 )

เปรียบเทียบศาสนาพุทธเหมือนต้นไม้ทั้งต้นอย่างไร

รายละเอียด

เรานี่อบรมกันด้วยดีสนใจใส่ใจฟังธรรมกันวันละหลายคาบ ตั้งแต่ 3:30 น เรื่อยมา ทุกวัน ดีจังเลย ชีวิตคนนี่ เป็นสาระ เป็นเรื่องที่มนุษย์มีปัญญา รู้จักสาระในสาระ แล้วเราก็ได้สาระนั้นๆแก่ชีวิต ซึ่งสุดประเสริฐ สาระต่างๆที่เราได้กัน พูดถึงสาระตั้งแต่ภาษาง่ายๆ ตั้งแต่สสาร จนถึง สาระที่เป็นเนื้อในแก่น Essence ถ้าต้นไม้ก็ตั้งแต่ ใบดอกผลจนกระทั่งมาถึง สะเก็ด เปลือก กระพี้ ถึงแก่น ท่านเปรียบเทียบศาสนาเหมือนต้นไม้ทั้งต้น ทุกวันนี้เอาแต่ใบดอกผล อร่ามงาม แต่ไม่รู้จักแม้แต่สะเก็ดของต้นไม้ สะเก็ด ท่านเปรียบเหมือนศีล สะเก็ดหลุดออกไปก็เป็นเปลือก เปลือกของต้นไม้เปรียบเสมือนสมาธิก็ไม่รู้จัก กระพี้ เปรียบเสมือนปัญญาก็ไม่รู้ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นวิมุตที่เป็นแก่นในเลย เมินเสียเถิด…อย่าคิดถึง ไม่ได้แน่นอน เมินเสียเถิด ไม่มีทางที่จะได้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 10:34:28 )

เปรียบเทียบสภาวะพรหมกับสภาวะอรหันต์

รายละเอียด

มันเป็นพยัญชนะ ก็บอกแล้วเทวดามี 3 ขั้น สมมติเทพ อุบัติเทพและวิสุทธิเทพ 

วิสุทธิเทพก็คือพระอรหันต์ไง บริสุทธิ์จากกิเลสแล้ววิสุทธิ เขาก็ใช้พยัญชนะว่าเป็นพรหม พรหมก็คือบริสุทธิ์แล้ว เพราะฉะนั้น อุบัติเทพ คือเป็นผู้เจริญที่จิต ซึ่งอุบัติเทพ กับวิสุทธิเทพเป็นโลกุตระ แต่เขาอธิบายไม่เป็น 

สมมุติเทพถ้ายังมิจฉาทิฐิก็เป็นสมมุติเทพที่ เป็นโลกีย์ เป็นไปตามเรื่องของเขา ไม่รู้จักจิต เจตสิก รูป นิพพานอะไร  อธิบายไปเรื่อย เป็นตัวเป็นตน เป็นเทวดา เป็นสัตว์นรกที่มีตัวตนไปหมด แต่ผู้ที่เข้าใจว่าสมมุติเทพก็คือผู้ที่ยังไม่มีภูมิที่จะเป็นโลกุตระ ผู้ที่เป็นสมมุติอยู่ อาจจะเก่งทางปริยัติอาจจะเก่งทางพยัญชนะ เอาแต่รู้แต่ยังไม่เข้าถึงจิต แม้แต่ สักกายะ กายเขาก็ไม่รู้จัก

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 9 พ่อครูพบ ญาติธรรมสันติอโศก วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2566 ( 19:42:17 )

เปรียบเทียบอาการจิตได้อย่างไร

รายละเอียด

ถ้าคุณเข้าใจก็มาเลือกได้ อย่างเช่น รสอร่อย อย่างเช่นกระเจี๊ยบอาตมาจะกินก็ได้ชอบไม่ได้ชัง มันก็มีรสเปรี้ยวจะให้กินถ้ามันเป็นประโยชน์ก็กินได้ กระเจี๊ยบนี้เปรี้ยวน้อยกว่ามะนาวก็กินได้ แต่ไม่ชอบไม่ชัง จิตมันจะไม่มีอาการชอบชัง มีแต่จิตกลางๆเฉยๆ 

จะต้องเปรียบเทียบอาการจิตที่มันเฉยๆ เช่นคุณเป็นผู้ชายไม่ได้ชอบอย่างที่ของผู้หญิงเขาชอบ ผู้หญิงเขาชอบลิปสติก คุณเห็นลิปสติกคุณก็เฉยๆ หรือคุณจะไปชอบลิปสติกก็ไม่รู้นะ จะไปกันใหญ่มันจะยากเลยหากไปชอบลิปสติก มันก็จะกลายเป็นกระเทย ซึ่งมันไม่ใช่ของผู้ชาย 

ถ้าคุณเองไม่ได้มีจริตกระเทยเลย ลิปสติกของผู้หญิงเขาถ้าเขาว่าสวย เราดูก็เฉย ดีไม่ดี จะไม่ชอบเอาด้วย อาตมาว่าไม่ชอบนี้ ยังจะเข้าท่ากว่าชอบนะ เมื่อมาปฏิบัติหลายคนก็จะถึงขั้นไม่ชอบ แต่ก่อนเราชอบตอนนี้เราไม่ชอบแล้ว เห็นคนอื่นเขาใช้เราก็ไม่ชอบทั้งที่คนอื่นเขาก็ชอบเขารัก มันก็สลับไปสลับมา ให้ตั้งใจให้ดีๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาตนให้รู้ความเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:52:34 )

เปรียบเหมือนยอดปิรามิด

รายละเอียด

ซึ่งความเข้าใจระดับเต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ เขาก็เข้าใจของเขา ก็แสดงออกมา สื่อออกมาอย่างนี้ เป็นต้น ซึ่งอาตมาเองสื่อออกไป ก็ขอขยายความเพิ่ม 

คำว่า “เมืองใหญ่”ก็คือคุณธรรมใหญ่ คุณธรรมใหญ่ก็คือโลกุตรธรรม มันเปรียบเหมือนยอดปิรามิด มันมีคนไม่มากหรอก ใหญ่ในเรื่องของสัจธรรม มันไม่ได้ใหญ่ในรูปธรรม มันก็ต้องมีจำนวนน้อยเป็นยอดพีระมิดอยู่แน่นอน อาตมาก็ย้ำยืนยันมานานหลายครั้งหลายคราว 

ในโลกยุคนี้ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเสื่อม แม้แต่ในแดนพุทธเอง เมืองพุทธเอง อย่างเมืองไทย โลกยกให้เป็นจุดศูนย์กลางพุทธศาสนาเลยนะเมืองไทย หมู่ใหญ่เขายังเป็นแค่นั้น ขนาดนั้นโลกยังยอมรับเลย แต่จะให้โลกที่เป็นเทวนิยมข้างนอกเขามาเข้าใจโลกุตระนั้นน่ะหรือ เมินเสียเถิดอย่าคิดถึง เพลงเขาไม่ได้ว่าเมินเสียเถิดหรอก เขาว่าลืมเสียเถิดอย่าคิดถึง  

เมินเสียเถิด เพราะคนไทยที่โดยเฉพาะที่เป็นชาวพุทธ เป็นกระแสหลักสิ จะต้องยอมรับ จะเป็นผู้รับก่อน คนก็ต้องเอามวลปริมาณ เพราะชาวพุทธเองยังไม่ยอมรับโลกุตระ แต่ก็อย่างว่าน่าเห็นใจเพราะเขาไม่รู้ พูดแล้วมันซับซ้อนหลายชั้น เขาไม่มีเจตนาเลวร้ายหรอก เจตนาดีด้วย แล้วเขานึกว่าอาตมาจะมาทำลายศาสนา นึกว่าเป็นกบฏ นึกว่าเป็นผู้ทำลาย นี่อาตมาพูดได้เพราะทำงานมา 53 ปีแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คณะสงฆ์เมืองไทย ใครได้ดอกไม้พลาสติก ใครได้มูลสูตร 10 วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 แรม 12 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2567 ( 18:59:21 )

เปลี่ยนกฏระเบียบให้เด็กใช้โทรศัพท์มือถือได้หรือไม่

รายละเอียด

ตอบ... ไม่ได้!! ความเห็นของคุณว่ามันจะต้องเปิดให้เด็กเพราะว่าเทคโนโลยีมันจะไปกว้างข้างหน้านั่นแหละ มันจะยิ่งหนักหนาสาหัสในข้างหน้า ต้องป้องกันไว้ตั้งแต่บัดนี้เปิดไม่ได้เพราะข้างหน้ามันจะยิ่งหนักหนาสาหัสในโทรศัพท์ ผียังเข้ามาอีกเยอะ 

เพราะฉะนั้นที่พูดนั้นตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่จะเป็นในอนาคต ฟังเข้าใจไหม อนาคตเรื่องบ้าบอจะอยู่ในโทรศัพท์นี้อีกเยอะแยะมากมาย ขนาดนี้ผียังเข้าแล้วป้องกันยากมากเลย และยังจะเปิดให้ไปสู้กับข้างหน้าอีกมากมาย ก็โง่ตายชัก คุณโง่ไปเถิดจะเปิดอาตมาไม่เปิด ขอรับรองพูดมาตั้งแต่ไหนแล้วว่า เด็กเราเรียนที่นี่ 6 ปี จบ ม.6 ไม่ให้ใช้โทรศัพท์โดยพลการ ไม่ได้ปิดประตูตายนะ ใช้ได้..อยู่กับผู้ใหญ่ที่คุณต้องการใช้และมีผู้ใหญ่เขาดูแล คุณจะใช้ก็ใช้มีความจำเป็น ไม่อย่างนั้นมันเลยเถิดอยู่ที่คุณคนเดียวคุณก็เลยสิ กิเลสคุณใครจะรับรองคุณเป็นเด็กนะ เพราะฉะนั้นเขาต้องการให้คุณ คุณอย่าอวดดีเลย อาตมานี้รู้จักกิเลสดีด้วย เพราะฉะนั้นถึงใช้กฎนี้ รับรองว่า ถ้าฟังอันนี้เข้าใจเลยว่า อย่ามาขอซะให้ยากเลย อนาคตยิ่งแย่จะปล่อยให้ไม่ได้หรอก ฟังอันนี้ชัดไหม ปล่อยไม่ได้อันนี้กฎระเบียบอันนี้ดีมากแล้ว 

เพราะฉะนั้นกฎนี้ใครอย่ามาไขเป็นอันขาดเลยว่า ปล่อยเสียให้นักเรียนมีโทรศัพท์ได้ ไม่เป็นไปได้ ไม่เป็นไปได้  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 19:38:03 )

เปลี่ยนจากพ่อครูเป็นพ่อเฒ่าเป็นสิริมหามายา

รายละเอียด

อาตมาทำงานมา 50 ปีแล้ว ถึงวันนี้ครบ 50 ปี วันนี้วันที่ 7 ที่จริงอาตมาเริ่มบวชวันที่ 7 พอมาถึงวันนี้ วันที่ 7 เป๊ะ ที่จริงครบรอบตั้งแต่วันที่ 6 แล้วครบรอบ พอขึ้นวันที่ 7 ก็เป็นอีกวันใหม่ของรอบที่เราบวช 50 ปีครึ่งศตวรรษแล้ว ตอนนี้ใครว่าแก่ไม่ว่ากัน ขอยอมแก่ เอ้า…ว่าไง ผู้เฒ่าโพธิรักษ์ ไม่ว่ากัน เปลี่ยนจากพ่อครู เป็นพ่อเฒ่าโพธิรักษ์ วันนี้ก็แล้วกัน…โยมว่าไม่เอา พ่อครูว่า…นี่แหละเป็นสิริมหามายา บอกว่าเป็นผู้เฒ่าอย่างไรท่าทางเหมือนกับเด็ก ควรจะได้สะดุดใจ บอกว่าพ่อท่านโพธิรักษ์ อายุเท่าไหร่แล้วทำไหมถถึงเรียกพ่อเฒ่า อีกหน่อยจะอายุ 80 90 100 ปี ก็จะอยู่อย่างนี้ พ่อเฒ่า 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 15:24:33 )

เปลี่ยนจากไม่เห็นด้วยจนมาเห็นได้ จนที่สุดจึงเห็นด้วย

รายละเอียด

ก็พยากรณ์สำหรับอนาคตของผู้ที่มีอนาคตอยู่ได้ 

สรุปแล้ววันนี้ SMS ที่มาให้วันนี้ดี ก็มีอะไรดีๆ หลายประการอยู่นะ อาตมาก็เหลือเวลาอีก 4 นาทีก็จะขอสรุปเล็กน้อยว่า 

ความรู้ทั้งหลายแหล่ มันมีกรอบมีรอบของมัน ถ้าไม่มีกรอบไม่มีรอบของมันเปิดโล่งไปเลยมันจะกลายเป็นมหายาน เปิดโลกแต่ไม่มีที่คั่นที่ขีดเลยมันจะกลายเป็นมหายานนี่แหละอาตมาถึงสงสารคนที่หลงความรู้ หลงความรู้มันไม่มีที่สิ้นสุดหรอกเพราะฉะนั้นถ้าไม่ไปตัดกรอบสำหรับตนเองว่า เราจะต้องจบกิจของเราในกรอบนี้เช่น 1 กรอบที่ความดีและความชั่ว เราจบกิจได้หรือยัง 

ความดีคืออะไร ความชั่วคืออะไรตามสมมุติแล้วสมมุติที่ว่านั้นความดีความชั่วที่เป็นความผิดความถูก แม้แต่เรื่องของธรรมะ เราก็จะต้องตัดกรอบของธรรมะที่เป็นความผิดความถูก ให้ได้ 

ถ้าคุณยังเข้าใจความดีที่คุณยึดแล้วมันขัดแย้งกับอีกฝ่ายหนึ่งว่า อย่างนั้นไม่ดีหรอกอย่างนั้นมันยังโง่ อย่างนั้นมันยังชั่ว อย่างนั้นมันยังหลง อย่างนั้นมันไปไม่รอด มันจะเป็นอย่างนี้ บวกกับลบที่ภาษาสุดท้ายแล้วมันก็จะอย่างนี้ทั้งนั้นกัน เป็นสิริมหามายา 

เพราะฉะนั้นถ้าไม่สามารถเข้าใจชัดเจนว่า มาเอาสิ่งที่คุณเองคุณไม่เห็นด้วยสิ มาศึกษาสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วยให้ได้ จนเข้าใจสิ่งที่ไม่เห็นด้วยนี้ ว่า อ๋อคุณเห็นได้ ไม่เห็นด้วยนี้จนคุณเห็นได้ คุณก็จะรู้ว่า นี่เราไปข้องอยู่ตรงนี้ ตรงที่ว่าเราไม่เห็นด้วยนี่เลยเราไม่เห็นได้ 

“ถ้าคุณเห็นได้โดยการเห็นด้วย จบ” 

ใช้พยัญชนะ 2 ตัวได้เท่านี้พอแล้วประเดี๋ยวจะวนอีก 

จบเลยอาตมาเห็นด้วยกับคุณอยู่แล้วว่าคุณเองคุณยังผิด แต่คุณไม่เห็นด้วยอาตมาว่าอาตมานี้ถูก คุณก็มาเข้าใจอาตมาถูกให้ได้ อาตมาเข้าใจพูดว่าคุณถูกของคุณด้วยนะ ถูกของคุณที่มันผิดจากอาตมา อาตมาไม่ได้เมานะ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 51ลดละจากมหามาสู่จุล เปลี่ยนจากไม่เห็นด้วยจนมาเห็นได้ วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567 ขึ้น 5 ค่ำเดือนยี่ ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2567 ( 20:50:28 )

เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง

รายละเอียด

ดีเข้าใจอะไรมากขึ้นก็เปลี่ยนแปลงอะไรได้มากขึ้น เรียนรู้ธรรมะให้รู้ว่า เราจะพัฒนาไปอย่างนี้อย่างนี้ มันก็จะได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่งั้นมันก็จะไปตามยถากรรมตามกิเลส ถ้ามันสนุกมันได้เกิดขึ้นอะไรอย่างนั้นอย่างนี้มันก็ไปเรื่อย ตอนนี้อะไรให้ได้คิด ยิ่งเป็นธรรมะหรือว่าเป็นการเจริญที่แท้จริงของความเป็นมนุษย์ มันก็ได้อะไรเพิ่มขึ้น 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิโดยพ่อครู GDPแบบพุทธที่ต่างจากนักเศรษฐศาสตร์เทฺวนิยม วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 แรม 14 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 14:47:48 )

เปลี่ยนวิริยาธิกะ มาเป็นปัญญาธิกะได้อย่างไร

รายละเอียด

อาตมาขอแนะนำ คุณ ชาญณรงค์ คุณ วิริยาธิกะ ส่วนมากส่วนมากจะเป็นพวกเอียงไปข้างศรัทธา จะรู้แต่ไม่ทำ ปัญญาธิกะ เอาแต่รู้ๆๆๆแต่ไม่ทำ จะเป็นความเสียตรงนี้ ศรัทธาธิกะเอาแต่ทำๆๆๆแต่ไม่รู้ แต่ถ้าทำแล้วมาเติมสัมมาทิฏฐิจะได้ แต่ปัญญานี้ไม่ได้ มันมีแต่รู้ๆๆไม่ทำสักที แต่พวกศรัทธาเจโตนี้เล่นไปหาจิต ศรัทธาจะถึงจิตได้ก่อนปัญญา ปัญญาจะไม่ถึงจิตได้ง่ายเท่าศรัทธา สายศรัทธาจะไม่รู้จักภาษาตรรกะเหตุผล จะช้า ส่วนปัญญานี้ไม่ใช่ปัญญา แต่เป็นเรื่องบัญญัติเป็นเรื่องตรรกะเป็นเรื่องความรู้ในโลก มีเยอะนะ ในศาสนาพุทธทุกวันนี้พวกศึกษาเปรียญ  ดร.พวกศึกษานักธรรมเอก พวกปฏิบัติพระกรรมฐานนี้น้อยกว่า เอาล่ะไม่วิจารณ์ต่อ ถามว่าจะแก้อย่างไร ก็คือคุณเริ่มต้นศรัทธาก่อน วิริยาธิกะจะเอียง ไม่ใช่ปัญญาต้องตั้งต้นให้มาหาแกนศรัทธา ช้าหน่อย อดทนเอา ศึกษาศีล สมาธิ ปัญญา จรณะ 15 วิชา 8 มรรคมีองค์ 8 ฟังการบรรยายให้ดี จับประเด็นให้ได้ว่า ศีล สมาธิ ปัญญา คืออย่างไร จรณะ 15 วิชชา 8 ตอนนี้ตั้งใจอธิบายให้ดี ซ้ำซากวนเวียน ฟังดีๆ จะเข้าใจ สรุปแล้วเลิกการรู้มาก หันมาทางการประพฤติปฏิบัติธรรมให้มาก แม้มันจะดูไม่มากเหมือนคนไม่เก่ง ศีลข้อเดียว 2 ข้อ 3 ข้อ ศีล 3 ข้อนี้สำคัญ ได้แล้ว คุณก็จะมีปฏิภาณเองว่าจะทำกายกรรมวจีกรรมอย่างไร จิต มโนกรรม คือตัวจิตที่จะต้องรู้ความจริง และประพฤติทางกายกรรม มันเป็นปฏิสัมพัทธ์กัน ไปนั่งหลับตาก็ได้แต่จม ออกนอกรีต ไม่มีการปฏิบัติที่ เป็นข้อปฏิบัติที่ไม่ผิด 3 ข้อ อปัณณกะ หลักปฏิบัติ 3 ข้อนี้ ไม่ต้องเอาพยัญชนะสิริมหามายา ฟังอย่างไรตีความไปได้หมด จะบอกว่า ปัณณกะนี้ผิด อปัณณกะจะไม่ผิด ก็ได้ 3 ข้อนี้แหละ จะบอกว่า 3 ข้อนี้ผิด จะใช้ศัพท์คำว่าปัณณกะก็ได้ อปัณณกะก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปยึดติดภาษาปัณณกะหรืออปัณณกะ  เอาเป็นว่า 3 ข้อนี้คุณมีไหม ถ้าไม่มี 3 ข้อนี้ ไม่ใช่ศาสนาพุทธ ไม่ใช่การปฏิบัติของศาสนาพุทธ เพราะฉะนั้น 3 ข้อนี้ใครไม่ได้ปฏิบัติตามข้อนี้ ต้อง 3 ข้อนี้อยู่ด้วยกันปฏิสัมพันธ์กันนะ ตั้งแต่สำรวมอินทรีย์คุณจะต้องมีฐานก่อนเลย ตาหูจมูกลิ้นกายใจ ต้องมีองค์ประกอบ 6 นี้ ตาหูจมูกลิ้นกายกับภายในคือใจเป็นคู่ สังวรศีล สำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา คือ เกี่ยวกับข้าวของ คุณเกี่ยวข้องกับของทั้งหลายแหล่ รวมไปกระทั่งแม้สัตว์ คุณก็ต้องอาศัยสัตว์อาศัยของ แต่สัตว์ที่คุณอาศัยไม่ต้องอาศัยสัตว์เดรัจฉาน อาศัยสัตว์คน ที่จะเป็นเหตุปัจจัยแก่กันและกัน แค่นี้ก็มีประโยชน์และโทษ เป็นวิบากร่วมกันอยู่เยอะ เฉพาะแต่คน เพราะฉะนั้นสัตว์เดรัจฉานมันเกินไป ไม่ต้องไปพึ่งพาสัตว์เดรัจฉาน แม้แต่จะเอาเนื้อมันมากิน นี่ก็พูดซับซ้อนไม่รู้กี่ทีแล้ว เอาแต่คนด้วยกันนี่แหละที่จะเป็นประโยชน์ไปนิพพานด้วยกัน เป็นประโยชน์ที่จะได้ช่วยกัน เป็นสวรรค์ กัลยาณธรรม ก็คนนี้แหละ อย่าเพิ่งทำให้สัตว์มันเป็นสวรรค์เป็นกัลยาณธรรม อย่าเพิ่งทำเลย เอาแต่คนนี่ก็พอ ชีวิตคนจะอยู่ 200 ปีก็ไม่ไหวแล้ว สำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 จะเป็นอาหารเป็นธาตุอาหารเป็นเครื่องใช้เป็นปัจจัย 4 คุณหลับตาอยู่ในภพ จะมีอะไรมีแต่เรื่องภพในความคิด เป็นอะไรก็ไม่เป็นอะไร ยิ่งไปหลับตาแล้วไม่เกี่ยวข้องกับใคร ก็เสียทั้งเวลา สูญเปล่า แหม อาตมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แทงด้วยหอก100 เล่ม เช้ากลางวันเย็น ไม่รู้อย่างไร แทงไม่เข้า ทำไมหนังหนาหนังเหนียวหนังแข็ง ฟังดีๆ ที่จริงพูดแรง ว่าแรงแล้วนะ รู้สึกตัวบ้างหรือเปล่า หรือไม่ประสีประสา สังวรศีล สำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะ มีสติเต็มร้อยอยู่กับตาหูจมูกลิ้นกาย อยู่กับโภชนะเครื่องกินเครื่องใช้ทั้งหลาย ตัวที่มันมาจากสัตว์ที่จะเป็นกิเลสร่วมกันแล้วมันก็เป็นของนี่แหละ เป็นเครื่องกินเครื่องใช้มีวัตถุดินน้ำไฟลมกับพืชพันธุ์ธัญญาหารนี่แหละ ตื่นๆรู้ตัวมัน แล้วอย่าไปให้กิเลสขึ้นกับมัน สัมผัสกับมันเกี่ยวข้องกับมันแล้ว โอ้โห อินทผาลัม แปลกดี ใหม่ดี เขายกย่องสรรเสริญ ฉันดีใจอยากได้ กิเลสขึ้นไม่รู้ตัว สัมผัสแล้วไม่รู้ตัวว่ากิเลสขึ้น เออ มันได้ก็ได้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เปรียบเทียบกับโลกขนาดนี้ มันไม่ขมไป ไม่เปรี้ยวไป ไม่หวานจัดไป ไม่หยาบไป ไม่แข็งไป ไม่นิ่มอ่อนปวกเปียก หรือคุณชอบอ่อนก็บอกว่าอ่อนดี หรือคุณชอบแข็งก็แข็งดี คุณจะชอบเผ็ดก็เผ็ดดี ชอบเปรี้ยวก็บอกว่าเปรี้ยวดี ไม่มีอาการเอียงไปข้างนั้นข้างนี้ถ้าไม่ได้ก็จะอย่างนั้นอย่างนี้เราไม่สนใจ เราก็จะไม่ทุกข์ การอาการจิตพวกนี้แหละมันสุดยอด สะดิ้งเลย สุดสะดิ้งสะดีดเลย อ่านให้ได้แล้วเราก็รู้ความจริงตามความเป็นจริง เออ คราวนี้ได้อินทผาลัมมามีรูปอย่างนี้ รสอย่างนี้ สัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็งอย่างนี้ ส้มโออันนี้เป็นอย่างนี้อย่างนี้ เปรี้ยวมันออกมาเป็นอย่างนี้ มันมีน้ำดีอย่างนี้มันมีน้ำหวานอย่างนี้น้ำเปรี้ยวอย่างนี้ มันเป็นอย่างนี้ มันก็เป็นตามที่มันเป็นมันก็ได้ขนาดนี้นะ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 10:02:23 )

เปลี่ยนศรัทธางมงายมาเป็นปัญญา

รายละเอียด

คือ เมื่อเกิดศรัทธาเข้าใจเชื่อแล้ว  ก็จะเกิด หิริ โอตตัปปะ  พหูสูต  วิริยะ  สติ  ปัญญา  คุณจะเกิดความละอาย  เพราะเกิดปัญญาปฏิภาณว่าแต่ก่อนนี้ เราก็งมงายโง่ ไง  ตอนนี้เรารู้จริง  หรือแต่ก่อนไปหลงงมงาย  เชื่อผู้ที่ไม่รู้ แต่ก่อนนี้งมงายอยู่กับอาจารย์  ทางโน้น  ตอนนี้มาอยู่กับอาตมา มันจะละอาย  หิริ โอตตัปปะ  คือความละอายแรงสูงมากขึ้นอีก  นี่เป็นสภาวะที่แท้จริง  หากผู้ที่ศรัทธาเลื่อมใสผู้นั่งหลับตา  แล้วไปทางเทวนิยม แล้วมารู้ ลักษณะนี้ก็จะไม่เสียเวลา  เปิดโลกว่า  อย่างนั้นมันผิด  เมื่อเขาเริ่มมี  อัญญธาตุว่าต้องมาอย่างนี้  เขาจะรู้สึกว่า ถ้าเผื่อเขาไม่เลือก ถ้าได้ในปัจจุบันนี้   ชาตินี้เขาจะละอาย  ชาติหน้าก็จะจำไม่ได้แล้ว  แต่ถ้าเขาจะมาแล้วเกิดความละอาย  ก็อย่าอายเลยถ้าเชื่อว่าอาตมาถูก  เข้ามาเถอะ  อาตมาไม่ว่าหรอก  แล้วทุกคนเขาก็จะไม่ทำให้คนละอายหรอก  ตัวเองนั่นแหละลดความละอาย แล้วก็เข้ามาจริงๆ  สัจจะ มี หิริ โอตัปปะ  หิริ คือ ละอายอย่างอ่อน  โอตตัปปะ  คือละอายอย่างแรงแล้วมีพหุ  เป็นผู้ถือเป็นสารถี สามารถนำพาหนะขนคนไปได้  เพราะฉะนั้นจะไปถาม  คุณเองจะรู้ได้พระศาสดาเท่านั้นก็ได้ปัญญาเริ่มต้น  ปัญญาต่อมาได้รับได้เคารพ  ได้เกรงกลัว  เข้าไปหาเลย ไต่ถาม  สอบถามเป็นครั้งคราว จะไปจู้จี จุกจิก  ถาม จนไม่รู้จักหยุดไม่ไปไหน อันนี้แย่  เป็นครั้งคราว

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 13:37:12 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:41:17 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:58:17 )

เปลือก

รายละเอียด

เปลือก คือ สมาธิ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:23:13 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:43:03 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:26:39 )

เปลือกไม้เปรียบเป็นสมาธิ

รายละเอียด

เปลือกเป็นสมาธิ เขาจะทำสมาธิ เรียนสมาธิโดยไม่มีสะเก็ดนำพา หลับตาเข้าไปเลย ปิดหูปิดตาไม่รับรู้ แม้แต่สะเก็ด ไม่มีหลักเกณฑ์ ไม่มีศีล ไม่มีข้อปฏิบัติอะไร หลับตาเอา ไปถึงเปลือกเป็นสมาธิ แล้วเดี๋ยวจะได้เนื้อ ได้กระพี้ ได้ปัญญา แล้วเข้าไปถึงแก่นเป็นถึงวิมุติ เขาก็ว่าอย่างนั้น ซึ่งมันก็เลยได้แต่สมมติเอา เพ้อพกเอา ฝันเอา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 17:09:40 )

เปล่งอาภิสวาจา

รายละเอียด

คือ การเปล่งวาจาอันอาจหาญ พูดแล้วพูดอีกก็ต้องขอเปล่งอาภิสวาจา อีกครั้งว่า อาตมา (สมณะโพธิรักษ์) เป็นผู้จะมากอบกู้ศาสนาที่มันผิดเพี้ยนนี้ไป มันผิดมาจนกระทั่งมันเห็นผิดเป็นถูกไปแล้ว เห็นดำเป็นขาว ไปยึดดำเป็นขาวไปแล้ว  ยึดผิดเป็นถูกไปแล้ว  อาตมาจึงมาพลิกกลับ แก้จริงๆ ตั้งใจฟังให้ดีๆ จะมาเปลี่ยนทิฎฐิความเห็นความเข้าใจของอาตมาให้มาเป็นความยืดหยุ่นอนุโลมบ้าง ไม่ได้ อาตมาต้องมายืนหยัดยืนยันอันนี้ได้แต่ขออภัย  จะมาให้อาตมาไปอย่างไร  ก็ต้องตายคาความจริง  ความถูกต้องมาเป็นอื่นไม่ได้นี่เป็นสัจจะ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 22:39:43 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:42:22 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:29:52 )

เปิดกะลาอสัญญีสัตว์

รายละเอียด

คือผู้ที่ไม่มีปรโตโฆษะ คือไม่รับสิ่งที่ต่างจากเราเข้าใจเคยยึดถือมา เอาสิ่งที่แตกต่างมาพิจารณาไปศึกษาตาม ปฏิบัติจนกระทั่งถึงขั้นมนสิการ จนกระทั่งทำใจในใจตามที่เราสอนแนะนำ เขาก็ทำใจในใจเหมือนกันนะ แต่เขาก็ทำอย่างหนึ่งตามทิฐิของเขา แต่อาตมาพาทำก็เป็นทิฐิอีกอย่างหนึ่ง ก็พยายามทำความเข้าใจตามทิฐิที่อาตมาสอน แน่นอนมันก็ต้องต่างกันแน่ มันเป็นอันอื่นต่าง ผู้ที่ยึดมั่นถือมั่นของเดิม ถ้าคุณถูก คุณก็ควรจะตรงกับคนถูกที่เขาบอกว่าเป็นอรหันต์ พวกคุณเป็นอรหันต์แล้วอรหันต์ของอาตมา จริงๆแล้วขนาดนี้นับอรหันต์กันจริงๆ ทำเนียบของอรหันต์ฝ่ายหลับตา เขามีมากกว่าชาวอโศก เพราะชาวอโศกไม่ได้ประกาศ ไม่ได้ประกาศตัว แต่ทางโน้นเขาประกาศตัวมีประวัติมีทำเนียบเลยนะ เขาทำหนังสือมายืนยันเลย แต่ของชาวอโศกเราไม่ได้ประกาศอย่างนั้น จะมีถึงหรือไม่ถึงไม่รู้ล่ะ แต่ประกาศไปบ้างไม่กี่คน ก็ลองดูสิทางนี้ประกาศอรหันต์ ทางโน้นก็ประกาศอรหันต์ ทางโน้นเราก็ศึกษาของเขานะ อาตมาบอกไปว่าอรหันต์อย่างคุณอาตมาก็ทำได้ไม่ยากหรอก สบายมาก เดี๋ยวจะอธิบายวิญญาณฐิติ 7 สัตตาวาส 9 แล้วจะรู้ว่าอรหันต์จริงๆแล้วเป็นอย่างไร ใจเย็นๆได้เลยว่าคุณไม่มีแม้แต่สัมมาทิฏฐิ ในวิญญาณฐิติ 7 วิญญาณฐิติ 7 หรือสัตตาวาส 9 ก็ต้องรู้จักกายกับสัญญาเป็นหลักเลย แต่กายของคุณก็เป็นมิจฉาทิฐิแล้ว สัญญาของคุณก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ ก็จะเอาของคุณมาเปรียบเทียบอธิบายวิญญาณฐิติ 7 กับสัตตาวาส 9 ให้ชัดเลย แล้วจะรู้จักเข้าใจเลยว่า ตั้งแต่ข้อที่ 1 ถึง 4 ของวิญญาณฐิติ 7 จะตรงกับสัตตาวาส 9 เมื่อไปถึงข้อที่ 5 อสัญญีสัต พวกคุณนี่แหละเป็นอสัญญี แต่ของพุทธไม่มีอสัญญีเลย แม้ที่สุดปฏิบัติเป็นปัจจุบันธรรมเนวสัญญานาสัญญายะตะนะก็ไม่ตอบ อากิญจัญญายตนะก็จบเลยในวิญญาณฐิติ 7 ไม่ต้องสงสัยเลยไม่ต้องมีข้อกังขาเลย ไม่มีเนวะ ต้องตรวจสอบให้สมบูรณ์ เป็นสัญญาเวทยิตนิโรธในอนุปุพพวิหาร 9 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2563 ( 08:42:10 )

เปิดจิตรับตั้งใจฟังธรรมด้วยดีจะเกิดปัญญา

รายละเอียด

ใช่ คนที่คลายใจ จะตั้งใจฟังธรรมได้ดี ปัญญาจะเกิดสุตสูสังลภเตปัญญัง จะมีการเปิดจิตรับ คุณจะได้ปัญญา และถ้าเกิดจริงจะเป็นคนที่รู้สึกว่าเราละอายที่เคยลบหลู่ ไปดูถูกดูแคลนไปเข้าใจผิด มันจะรู้ตัวเอง สมน้ำหน้าตัวเอง มันโง่ที่ไปเห็นทองแท้ๆเป็นขี้หมูขี้หมาอะไรได้อย่างไร ทั้งๆที่เป็นเพชรเป็นทอง ทำไมเราตาต่ำอย่างนั้นจะรู้สึกตัวจริงๆ จะรู้สึกตัวละอายอย่างแรงกล้า จะเคารพอย่างแรงกล้า รักอย่างแรงกล้า มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆจะรู้สึกว่ามันของจริงๆ กว่าจะเห็นของจริง กว่าจะรู้ความจริง นั่นคือสัจจะจริงถ้ายังไม่เป็นสัจจะก็จะเป็นอย่างนั้น ยังมีอัตตามานะถือดีว่าฉันรู้ฉันเก่งอะไรอยู่ มันไม่เป็นอย่างที่อาตมาว่า

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 33 วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 20:57:15 )

เปิดยุคบุญนิยมเล่ม 1 ควรอ่านอย่างน้อย 5 เที่ยว

รายละเอียด

ตอนนี้อาตมาเขียนและบรรยายถึงพวกนี้เยอะ หนังสือก็คงจะได้ทยอยพิมพ์กันมาก็คงจะเสร็จแล้ว อีกเล่มนึงเป็นเปิดยุคบุญนิยมเล่ม 1 รวบรวมเปิดยุคบุญนิยมเล่ม1 กำลังจะเสร็จแล้วจะส่งให้พิมพ์กันได้ มีสองตอนก็ตรวจเสร็จแล้ว แม้แต่เล่ม 1 อ่านให้ดีๆสัก 5 เที่ยว 10 เที่ยว จะชัดเจนจะลึกซึ้งขึ้น ใครจะรู้ดียังไงก็อย่าประมาท  ควรอ่านอย่างน้อย 5เที่ยว อย่างท่านหนักแน่น กลางคืนก็ตื่นมาอ่าน ไม่นอนเท่าไหร่เลย อาตมาว่าไม่มีใครอ่านมากเท่าท่าน อ่านทั้งเล่มนะ ไม่ใช่อ่านแค่หน้าปกหลังปก ท่านอ่านแล้วได้ประโยชน์เข้าใจเพิ่มขึ้น จนจำได้ ว่าอันนี้อยู่หน้าไหนอยู่เล่มไหน อาตมาเล่มเก่าๆแก่ๆ ไปเก็บมาหมด ตั้งแต่ซีร็อกซ์ ท่านก็มีมา เราก็เขียนมาหมดบรรยายมาหมดแล้วทุกขั้นตอน เก่าๆชัดสั้นสำหรับฐานะนั้น แต่ตอนนี้มามันกลับกัน เราก็เข้าใจเหตุปัจจัยมันมีฐานต่างๆก็จะไม่สับสน จะไม่งง ก็จะรู้ ในบัญญัตินี้มันน้อยกว่าสภาวะ เมื่อเวลาบัญญัติสลับซับซ้อนเป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อนเป็นสิริมหามายา อันนี้แหละที่ถกเถียงกันอยู่ คนที่ไม่รู้ก็จะเถียง อาตมาก็เข้าใจ ก็จำนน ต้องค่อยๆอนุโลมปฏิโลมกับเขาไป

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 18:26:25 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 08:07:56 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 04:01:30 )

เปิดยุคบุญนิยมเล่ม 1,2

รายละเอียด

โฆษณาหนังสือเล่มนี้ เปิดยุคบุญนิยมเล่ม 1 ตอนแรกเป็นคอลัมน์ในหนังสือเราคิดอะไร ตอนแรกก็คิดว่าจะออกหนังสือพิมพ์เพียงเล่มเดียวและเลิกเลย พอทำไปแล้ว พวกเราก็เรียกร้อง อาตมาก็ทำต่อ จากเล่มเดียวไปได้ถึง 351 เล่ม ก็เลิกเลย ปิดฉากไม่เขียนต่อแล้ว เล่มนี้เปิดยุคบุญนิยมเริ่มตั้งแต่ พฤศจิกายน เริ่ม 286 เปิดคอลัมน์เปิดยุคบุญนิยม เล่มนี้รวมเปิดยุคบุญนิยมเล่มหนึ่งก็มีความหนา 300 กว่าหน้า อาตมาหยิบมาอ่าน อ่านแล้วติดหมับเลย อาตมาอ่านหนังสือช้า แต่ตั้งใจอ่านให้จบเพื่อตรวจดู แน่นอนก็จะมีที่ไม่ตรงเป๊ะ ก็จะมาทบทวน ยังจะต้องทำความละเอียดยิ่งกว่า คมชัดยิ่งกว่าอีก ก็เลยตั้งใจจะอ่านให้ครบให้หมดไปด้วยทำงานไปด้วย ทำงานตอนนี้ก็กำลังเก็บรวบรวม แต่ก็อดขยายต่อไปไม่ได้สักที ว่าจะไม่ขยายแต่พออ่านต่อไปก็อดไม่ได้ที่จะขยาย หนังสือเปิดยุคบุญนิยมเล่ม 2 ที่จริงเขียนจบไปแล้วนะ แต่ตอนนี้จาก 200 กว่าหน้า ไป 500 กว่าหน้าแล้ว ก็พยายามบอกตัวเองอย่าขยายต่อๆ แต่ก็อดไม่ได้ มันน่าขยาย

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 09:36:57 )

เปิดเผยตามความจริงไม่อำพราง

รายละเอียด

เราไม่ได้มีอะไรปิดบังอำพรางเลย ทำแล้วยังบอกตัวเองด้วยซ้ำไปว่าทำอย่างนี้เห็นดีอย่างนี้จริงใจอย่างนี้ ไม่ได้ทำสะดิ้งเก้อเขิน ไม่มีมังกุ ไม่อุทธัจจะ มีอะไรก็เปิดเผยไปตามจริงซื่อๆเขาก็หาว่าอวดตัว เราก็บอกว่าเราไม่มีอะไรซ่อนแฝง คำว่าเขามองว่าเราอวดตัว ลึกๆนี้ เขารู้ว่า สิ่งที่เราอวดไปมันดี เขาท้วงเรา เมื่อเราแสดงสิ่งดี เขาก็สะเทือนว่าดีนี้ไม่ต้องบอกหรอกข้ารู้ เอ็งพูดมาถึงข้านะ ข้ากระเทือนนะ เอ็งก็ทำไปไม่ต้องบอกหรอก ทำก็กระเทือนอยู่แล้ว มาบอกอีกมันเจ็บปวดซ้ำนะ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 14:41:50 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:58:32 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:48:53 )

เปิดเผยธรรมะจริงยืนยัน หมดเนื้อหมดตัว

รายละเอียด

วิญญาณนี้เป็นธาตุรวมของ รูป เวทนา สัญญา สังขาร รวมครบ อาตมาเอามาอธิบายโดยพิสดาร มากมายไม่รู้เท่าไรๆ  คุณเปิดใจรับดีๆ ตั้งใจ ยิ่งเป็นผู้แสวงหา อยากจะได้ธรรมะพระพุทธเจ้าอยากจะบรรลุธรรมฟังให้ดีๆ อาตมาบอกไปหมดเนื้อหมดตัวไม่ได้มีความลามกในจิตเลย บอกไปด้วยความจริงที่จำนนที่จะต้องบอกยืนยันความจริงทั้งหมด อาตมาพูดมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว   พูดแต่ความจริงไม่พูดผิด คนก็เลยหมั่นไส้ ว่าอวดตัวอวดตน แต่ที่เขาอวดผิดๆ โฆษณาประกาศผิดๆ ช่องทั้งหลายแม้วัดต่างๆสอนกันก็อวดผิดๆ อวดสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การต้องการอวดแสดงออกให้ผู้อื่นรู้เห็น หากเอากิเลสไปปนก็อยากอวดตัวตนเป็นมานะ เป็นกิเลสชนิดหนึ่ง หากไม่มีกิเลสนี้ก็คือแสดงธรรมดานี่แหละแสดงความจริงไปตามความจริงเป็นธรรมดา อาตมาอยู่ในประเด็นนี้ ไม่ได้มีกิเลสไม่ได้มีลักษณะที่จะอวดโอ่ อวดตัวอวดตนอะไร ไม่ใช่แก้ตัวนะ แต่พูดความจริงสู่ฟัง พวกเราที่เชื่อชัดเจนเล้ว ได้รับประโยชน์แล้วมีสัมมาทิฏฐิก็ไม่มีปัญหา แต่พวกที่ยังไม่ชัดเจนยังสงสัยยังคลางแคลงใจ มันจะจริงหรือครูบาอาจารย์เขาสอนมาก่อน แล้วนี่มาพูดไม่เหมือนครูบาอาจารย์เป็นร้อยเป็นพันที่เขาสอนกัน อาจจะทั้งหมด จะมีใครสักหนึ่งคนที่สอนเหมือนกับอาตมาไหมในยุคนี้ (สมณะฟ้าไทว่า ไม่มี ก็บอกว่าพระโพธิสัตว์มีแค่ 2 องค์ในยุคนี้)พ่อครูว่า..ก็จริง ถ้าผู้ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจจริงจะมาสอนไหมว่าต้องมาจน เขามีแต่สอนให้รวยไปหาสวรรค์วิมาน ก็มีคนที่เป็น

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2563 ( 18:13:20 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:44:14 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:51:08 )

เปิดเผยธรรมโลกุตระให้ปัญญากับคนทั้งโลก

รายละเอียด

อาตมาหยิบเอาความจริงมาล้มล้างของพวกเรา เขาก็เถียงไม่ได้แล้วตอนนี้ แต่ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเขาเป็นเหมือนโจรร้ายปล้นศาสนา ที่พระราชาให้เอาไปฆ่าด้วยหอกก็ยังไม่ตายทั้งเช้ากลางวันเย็น ที่อาตมาพูดนี้เขาจะรู้สึกรู้สากันบ้างไหมเนี่ย พวกที่นั่งหลับตาไม่มาศึกษาไม่มาฟังโพธิรักษ์เลย อาตมาพูดทุกวันนี้เหมือนคนหยิ่งผยองอวดรู้ พูดแล้วคนอื่นผิดหมด อาจารย์ใหญ่ขนาดไหนก็ล้มล้างเขาหมดแล้วเอ็งเป็นใครวะ โพธิรักษ์ อาตมาก็บอกไปหมดแล้วคุณก็ไม่เชื่อ อาตมาบอกจนกระทั่งเหนียมตัวเอง อวดจนรู้สึกว่าเราอวดมากไปแล้วทุกวันนี้ แต่อาตมาว่าไม่ได้อวด อาตมาบอกความจริงว่าอาตมาเป็นใคร เขาก็ยิ่งหมั่นไส้เสริมเข้าไปอีก มันห้ามคนอคติได้ยากเขาลำเอียงด้วย มันก็เลยยาก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 14:38:35 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:58:48 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:54:24 )

เปิดเผยสัจธรรม

รายละเอียด

เปิดเผยสัจธรรม  คือ  ในสัจธรรมที่อาตมาเอามาเปิดเผยในยุคนี้  ขอยืนยันแม้ในรูปสามเหลี่ยมเมื่อกี้นี้  อาตมาก็พยายามจะอยู่ต่อไปให้ถึง 151  ปี  ถ้าอยู่ไม่ถึงก็จะมาเกิดอีก  จะรออาตมากลับมาเกิดอีกไหม  ไม่รอก็รีบเข้ามาช่วยกันหน่อย  อาตมาจะได้สบายตอนแก่  ไม่เช่นนี้อาตมาต้องเหน็ดเหนื่อย ยุ่งยาก  อาตมาพูดไปนี้มันเป็นความจริงไม่ได้พูดเล่น  อาตมาไม่มีสภาพเป็นคนแก่อายุ 80 ถ้าไม่เกรงใจโลกก็จะดิ้นทำกิริยาเหมือนนายภูมิให้ดู  อย่านึกว่าทำไม่ได้นะ  ไม่ใช่ว่าเราเองไม่มีแรง ทำไม่ไหว  ไม่ใช่ทำไม่ได้อย่างคนใกล้เคียงจะเห็นไม่พยายามทำ  หากพยายามทำก็จะเห็นเลยมันก็จะน่าหมั่นไส้ น่าเกลียด ก็เลยเอาแค่นี้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 13:25:16 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:45:02 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:53:07 )

เปิดโลกโลกุตระ มีเข็มทิศชี้นำ

รายละเอียด

อย่าไปเอาอย่างนางวิสาขาที่ไม่จบซะที เป็นวัฏฏภิรตโสดาบัน

ศีลทั้ง 3 ข้อแรกนี้ เป็น 3 เส้าสำคัญของนักปฏิบัติธรรม เปิดโลกโลกุตระ เป็นเข็มทิศชี้นำทางชีวิตให้พ้นภัย ในการมีชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:02:29 )

เปิดใจคือปรโตโฆษะจึงมนสิการอย่างมีอัญญธาตุได้

รายละเอียด

อาตมาขอยืนยันว่า คนนอกนั้นที่มาวิเคราะห์วิจารณ์ธรรมะที่อาตมาพูดอยู่นี้ยังเข้าถึงธรรมะโลกุตระไม่ได้ ยังเป็นเทวนิยมอยู่โดยเฉพาะทางตะวันตก เป็นเทวนิยมทั้งนั้นเลย คุณยังแยกเทวนิยม อเทวนิยมหรือโลกียะ โลกุตระยังไม่ออกหรอกคุณเดชา ถ้าแยกออกคุณจะไม่กล้าที่จะมาท้วงอาตมาถึงป่านนี้จริง คนที่มีปัญญามีภูมิรู้จะแยกโลกุตระกับโลกียะออก คนนี้มี อัญญธาตุ เป็นธาตุอื่นที่ต่างจากโลกีย์หรือเทวนิยม ซึ่งคนส่วนใหญ่ในโลกเป็นโดยมาก 

ฟังดีๆ คุณฟังดีๆ ตั้งใจฟังศึกษาให้ดีแล้ว อย่าทิ้งกันนะ ไปด้วยกันฟังกันดีๆนะ เพราะฉะนั้นที่คุณเดชาวิจารณ์ถึงอาตมาว่า ไปชี้คนนั้นคนนี้ว่าเป็นโพธิสัตว์ อาตมากำลังมาเผยแพร่สัจธรรม ธรรมะที่เป็นพุทธศาสนา ที่มีทั้งอรหันต์และโพธิสัตว์ เป็นอันเดียวกันแต่ก็เป็น 2 มี 1 ในส่วน 2 ติดตามดีๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันเล่นๆ อาตมาพูดเล่นไม่ได้ พูดผิดไม่ได้ มันเป็นกรรมเป็นอันทำ มันเป็นบาป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนถือศีล 5 ได้ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มกราคม 2565 ( 11:01:43 )

เป็นกลาง

รายละเอียด

ในที่นี้ต้องกำหนดหมายให้ถูก ศาสนาพุทธทุกวันนี้ไม่เข้าใจคำว่า มัชฌิมาปฏิปทาแปลกันว่าเป็นกลางคือเดินทางสายกลาง 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2563 ( 08:40:30 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:46:53 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:53:32 )

เป็นกลางที่ไม่มีตัวตน 

รายละเอียด

ส่วนตะวันออกกลางนั้นไม่เอาอะไร เอาอำนาจเงินมาสู้หมด เอ็งจะมีอาวุธเก่งอย่างไรข้าก็ซื้อไว้หมด ทางตะวันออกทางยิว

ทีนี้ อย่างพวกชาวอโศกเป็นพวกหลุดพ้นเป็นพวกโลกุตระ หยุดวนกับเขา หยุดบ้ากับเขา พึ่งตนเอง รู้จักความอยู่รอดที่อยู่รอดปลอดภัยไม่กระทบกระเทือนไม่เป็นภัยกับใคร มีประโยชน์กับเขาด้วยซ้ำ ไม่เป็นภัยแก่ใคร มีประโยชน์แก่เขา แล้วเราก็เป็นกลางที่ไม่มีตัวตน คำว่า เป็นกลางที่ไม่มีตัวตน 

คนที่ไม่มีตัวตนแล้ว ตายก็ตาย เกิดก็เกิด ไม่มีปัญหา อยู่ก็ทำประโยชน์กับเขา เขาจะฆ่าเรา เราก็ตายเราก็สูญ ไม่มีอะไร เพราะว่าความจบของความรู้พระพุทธเจ้านี้ เป็นความจบของความรู้ที่รู้ว่า มี กับรู้ว่า ไม่มี จะมีอยู่ก็มีไปในโลกสมุทัย จะไม่มีอยู่ก็ไม่มีได้เป็นโลกนิโรธ โดยมีอัตตาอยู่ ไม่มีอัตตาอยู่ สูญสลายก็เป็นดิน น้ำ ไฟ ลม ก็เลิกไป 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนา บำเพ็ญธรรมภาคค่ำ ว.บบบ. เตรียมงานตลาดอาริยะปีใหม่ 2566 วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 06 มกราคม 2566 ( 12:40:47 )

เป็นกษัตริย์ก็คือเกษตร

รายละเอียด

อาตมายังไม่ตายอาตมาจะระดมให้พวกเราให้พวกชาวอโศกเข้าใจให้ได้ว่า มาเป็นกสิกรนี่เถอะ ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วในความเป็นมนุษย์ชาติ 

กสิกร กสิกรรม เกษตร กษัตริย์ อันเดียวกัน ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นกษัตริย์ก็คือเกษตร ก็คือกสิกรรม ก็คือกสิกรนี่เอง ไม่เกี่ยวกับปศุสัตว์ ไม่เกี่ยวกับประมงด้วย เราอธิบายอันนี้ไว้หลายที่เหมือนกันว่าอย่าไปวุ่นวายเรื่องนั้น เพราะว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องของยถากรรมของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นประมง ไม่ว่าจะเป็นปศุสัตว์เป็นเรื่องของสัตว์ ไม่ต้องไปวุ่นวายกับมันมาก เป็นชะตากรรมของมัน ถ้าจะช่วยมันเห็นต่อหน้าต่อตาจะช่วยมันก็ช่วยมันเล็กน้อย แต่อย่าไปเอามันมาเลี้ยง อย่าเอามันมาประคบประหงม ให้มันได้รับวิบากของมัน แล้วมันจะเข็ดหลาบของมัน แล้วมันจะรู้รสรู้ชาติความทุกข์ของมันเอง นี่ก็เป็นรายละเอียดที่มันลึกซึ้งหน่อย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2566 ( 15:53:16 )

เป็นกสิกรนี้สุดยอดของคน อย่างไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นอาหารโดยเฉพาะ กวฬิงการาหาร อาหารคือคำข้าวที่กลืนกินเข้าไปจึงเป็นที่หนึ่ง คนที่มีความรู้ว่ามาเป็นกสิกรนี้สุดยอดของคนแล้ว แล้วการสร้างอาหารการกินมาให้คนอื่นเอาไปกินไปใช้ด้วย ต้องถูก จะแพงไม่ได้ ราคาแพงมันบาปมันโหดมาก ราคาอาหารต้องถูกหรือแจกให้ ให้เลย จำเป็นจะต้องแลกมาบ้างจะต้องให้ถูกที่สุด ถ้าไม่จำเป็นต้องแลกก็ให้ให้ ให้เลย ถ้าเราเหลือพอก็ให้เลย อย่างที่ชาวอโศกเราทำ มันเป็นสิ่งประเสริฐ มันเป็นสิ่งที่มีความรู้อย่างนี้ก็ต้องทำอย่างนี้ คนไม่มีความรู้อย่างนี้เอาเวลาไปสร้างอาวุธฆ่ากัน เอาไปเต้นไปดีด เอาไปแข่งฟุตบอล เต้นแร้งเต้นกา สารพัด เอาไปทาไปขีดเขียน ต่างๆนานาเสียเวลา เสียแรงงาน เสียทุนรอน ไม่ค่อยเข้าใจ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2566 ( 15:07:18 )

เป็นการปฏิวัติที่สำเร็จผลสูงสุดอย่างไร

รายละเอียด

สูงสุดจนกระทั่ง แม้แต่คณะประชาชนที่เป็นผู้ไปทำการปฏิวัติเองจริงๆ ยังไม่มีคนของคณะประชาชนนั้นไปรับหน้าที่ตำแหน่งอยู่ในรัฐบาลจนทุกวันนี้ ไม่มีนะ ชาวอโศกไม่มีใครไปรับตำแหน่งหน้าที่ในรัฐบาลตั้งแต่ประยุทธ์รับมา แล้วก็ไม่มีใครในชาวอโศกเข้าไปร่วมบริหารกับพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้รับ แต่ทำงานรัฐบาล โดยที่ตัวเองไม่ได้รับประโยชน์ส่วนตนเลย นี่ไม่ใช่เรื่องอุปโลกน์มาเลยนะ แต่เป็นเรื่องจริง ไม่มีใครทำได้สวยเท่า 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 11:18:41 )

เป็นกุศลหนักหนาที่ชาตินี้มาพบพ่อครู

รายละเอียด

แสดงว่าพวกคุณมาฟังธรรมไม่มีจิตที่บอกว่ามันน่ารำคาญมันฝืน คุณจะฝืนได้นานเท่าไหร่ ถ้ามันฝืน นี่แสดงว่ามันไม่ได้ฝืน มันไม่ได้ยากไม่ได้ลำบากในการฟัง แม้มันจะรู้สึกขี้เกียจบ้างนิดหน่อย แต่ก็เราเห็นคุณค่าเราเห็นประโยชน์ มันมีมากกว่าที่เราจะขี้เกียจเราโตกันแล้ว เรามีวุฒิภาวะแล้วไม่ใช่เด็กๆ เพราะฉะนั้นก็จะรู้ความสำคัญในความสำคัญรู้สาระในสาระ ถึงเวลาอันควร และที่สำคัญอาตมาว่า ก็ถ้าผู้ที่จะมาให้ความรู้ทางคนนะแต่เรามันสมควรมาฟังธรรมด้วย มันไม่ใช่จะพบง่ายๆ ถ้าจะว่าไปแล้วชาตินี้ก็ไม่ได้คบแล้วเป็นกุศลนักหนา ขออภัยพูดไปแล้วมันเข้าข้างตัวเองยกย่องตัวเองก็ต้องขออภัย ดี ทำให้ได้เถอะ แต่ข้อสำคัญคุณอย่าเอาแต่ปัจจัยเหตุผลความนึกคิดที่เป็นโศลกเป็นข้อคิด เป็นปรัชญาเป็นตรรกะเท่านี้ มันไม่พอหรอกจะต้องปฏิบัติธรรมให้เข้าสู่ทฤษฎีพระพุทธเจ้าให้ดี 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ ออนไลน์ วันพุธที่ 5 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2563 ( 09:26:39 )

เป็นคนกลางอย่างไรที่ไม่หลง

รายละเอียด

คนๆนี้แหละเป็นคนที่จบกิจด้วยมัชฌิมา เป็นคนกลางที่สุดแล้ว แล้วกลางอย่างมี กลางอย่างไม่หลงว่า คุณมีนี้นะ ไม่ใช่คุณไม่มีตามความคิดตรรกะอย่างเชน ไปไม่มีที่สุดอย่างสุดโต่งไป แล้วมันจะเป็นยังไง ก็จินตนาการไปเฉยๆ ถ้าเราไม่มีอย่างโน้นมันเป็นอย่างไร มันมีความจริงยืนยันเลย แต่นี่มีความจริงยืนยันในขณะที่มี และมีอันนี้คือมีอย่างลึกซึ้งตรงที่ท่านรู้ เรียนแยกธาตุวิญญาณ เป็นเจตสิกต่างๆ ที่สุดเจตสิกที่มันยึดมั่นถือมั่นอยู่ก็คือเวทนา เป็นธาตุนามธรรมตัวแรกของขันธ์ 5  รูป เวทนา  สัญญา  สังขาร  วิญญาณ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 24 จากโสดาบัน 4 ไปถึงความมี ไม่มี และอภิภู วันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:20:14 )

เป็นคนก็ต้องทำแบบนี้

รายละเอียด

โอ้โห ใจดีจังเลย ตั้งใจจะมาช่วย Big cleaning ตอนน้ำลง บ้านราชเอ๋ย ทีนี้ล่ะมีเศษสวะ มีเศษขยะให้ Big cleaning กัน มัน so big, big so much เลยนะ ดี มีผู้ฟังแล้วเกิดจิตตัวนี้เหมือนคุณธัญญพัฒน์ ก็ดีจะได้เกิดสนุกสนาน จริงนะ รวมพลังกันคราวนี้ จะได้เกิด Big cleaning มันรกไปด้วยเศษสวะ นานาสารพัด เก็บสิ่งนั้นสิ่งนี้เข้าที่ก็จะตายแล้ว ยังมีเศษขยะอีก น่าดูเลย ถึงเวลาก็ต้องทำไป นี่แหละ เป็นคนก็ต้องทำแบบนี้ ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน รกยังไงก็ปล่อยมันคลุกอยู่อย่างนั้น 

มันก็มีได้ แต่ว่าเราไม่ได้ซื้อมาใช้เพราะเราไม่มีตังค์ ไม่มีตังค์ซื้อหรอกจ้ะ เราก็ได้แต่แค่นี้แหละ จริงเนาะ นี่แหละ การปฏิบัติธรรมคือชีวิตประจำวัน อาชีวะ กัมมันตะ วาจาสังกัปปะ การปฏิบัติธรรม ได้จัดให้พอดีไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น ปรับให้พอเหมาะพอดีด้วยปัญญาไปได้ตลอดเวลา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 ธันวาคม 2565 ( 13:40:08 )

เป็นคนจน,สมณะโพธิรักษ์และรัชกาลที่ 9 พูดตรงกัน

รายละเอียด

พุทธมามกะ พุทธบริษัท อาตมาก็มาพูดในหลวงก็พูดประเด็นนี้ คือต้องมาทำตัวให้เป็นคนจน ไม่ผิดไปจากศาสนาพุทธเลยต้องมาทำตัวให้เป็นคนจน ไปทำตัวรวยนั้นไม่ใช่ศาสนาพุทธ พูดอย่างชัดเจน พูดถึงตรงนี้แล้ว ถ้าประเทศไทยหรือพุทธศาสนิกชน คนไทยเป็นชาวพุทธ 95% หากมีความเข้าใจสัมมาทิฎฐิ ว่าจะต้องปฏิบัติตนให้เป็นคนจน แต่ไม่ใช่คนจนที่สิ้นไร้ไม้ตอกไม่ใช่คนจนขี้เกียจขี้คร้าน เป็นคนจนที่ซำเหมาอะไรก็แล้วแต่ ไม่ใช่ แต่เป็นคนจนที่ยิ่งใหญ่เป็นคนจนผู้ที่ขยันหมั่นเพียรมีวรรณะ 9 วรรณะ 9 นี้ยืนยันถึงความจนอย่างชัดเจน ข้อที่ 8 บอกว่าไม่สะสม ข้อที่ 3 อัปปิจฉะคือมักน้อย เอาน้อยๆ คือกล้าจน อาตมาแปลว่า กล้าจน  แค่กล้าจนก็ยังมีอยู่บ้าง แต่อปจยะ คือไม่สะสม ตัวที่ 8 ของวรรณะ 9 แม้น้อยก็ไม่สะสม 0 เลย แต่วิริยารัมภะคือยอดขยัน ปรารภพความเพียรมีความขยันเป็นอัตโนมัติของชีวิตแต่ไม่สะสมส่วนตัวเอง จะมาพาให้พวกเราบรรลุผลเป็นวรรณะ 9 สาราณียธรรม 6 พูดเอามายืนยันอ้างอิงตามความจริงเอหิปัสสิโกท้าทายให้มาพิสูจน์ ว่าอาตมาพาพวกเราเป็นได้ตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้าหรือไม่ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2563 ( 18:17:46 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:48:30 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:55:33 )

เป็นคนจนดีอย่างไร

รายละเอียด

ผู้ที่มาเป็นคนจนแล้วยังมีความรู้ความเข้าใจ มีปัญญาว่าจนนี่มันดี มันดีอย่างไร เราจนคือเรามีน้อยก็ไม่ไปแย่งผู้อื่นมามาก แบ่งให้ผู้อื่น คนอื่นจะได้เดือดร้อนน้อยลง มันจะมีปัญญาฉลาดชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราจึงเต็มใจจะมาเป็นคนชนิดนี้

และมีอีกตัวหนึ่ง ฉลาด คือว่าความรู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาจะรู้ได้ง่ายๆ ความรู้แหลมลึกอย่างนี้ คนธรรมดารู้ไม่ได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นก็ยิ่งว่าเราจะต้องสร้างขึ้น หรือจะต้องให้คนอื่นรู้อันนี้ว่ามันทำให้สังคมมนุษยชาติในโลก มันสบาย มันไม่ทุกข์ร้อน มันไม่ต้องแย่งชิง ไม่ต้องฆ่าแกง ไม่ต้องเบียดเบียนกัน มันเป็นความสุขประเสริฐซับซ้อนที่สุด ไม่มีอะไรมาขัดแย้งความประเสริฐเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12
ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันที่ 18 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:26:46 )

เป็นคนจนประเสริฐกว่าเป็นคนรวยต้องอัปปิจฉะ สันตุฏฐิ

รายละเอียด

ที่สำคัญก็คือมีจิตอัปปิจฉะ มีจิตมักน้อย มีจิตไม่ต้องการมาก ต้องการมีน้อย มักน้อยคือต้องการไม่ต้องมีมาก ชีวิตไม่ต้องมีมาก มีมากมันหอบลำบากลำบน รักษายาก เป็นภาระ เป็นที่ปองหมายของโจร เป็นที่ริษยา อะไรต่างๆ นานา จะมีปฏิภาณปัญญาเยอะ เข้าใจว่า

อ๋อ.. มาเป็นคนจนนี้ปลอดภัย เป็นคนจนที่ไม่ต้องไปเบียดเบียนอะไรต่างๆนานาสารพัด มีเหตุปัจจัยมีผลเยอะ สรุปแล้ว เป็นคนจนเป็นคนประเสริฐ ดีกว่าจะไปเป็นคนรวย เป็นคนรวยนี้ ขออภัย พูดชัดๆ มาเป็นคนรวย มันเป็นแนวคิดที่ต่ำทราม มาเป็นคนจนนี้เป็นแนวคิดที่เจริญที่ประเสริฐ

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ยืนยันได้เลย เป็นคนมักน้อย มาเป็นคนมาจน สละออกหมด ทิ้งทรัพย์ศฤงคารหมด ไม่ใช่เรื่องพูดโมเมเอา แต่เป็นเรื่องสัจธรรมตายตัวมาทุกยุคทุกสมัย เป็นสัจจะที่วิเศษ เป็นคนต้องการน้อย มีน้อยก็พอ แค่นี้ก็พอ เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่มาก อัปปิจฉะ สันตุฏฐิ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ 8 ประการในชาวอโศกบุญนิยม วันพุธที่ 12 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2565 ( 10:49:17 )

เป็นคนจนมีใจพอสันโดษ

รายละเอียด

คำว่าสันโดษคนเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ ในหลวงเอาคำว่าพอมาใช้มาศึกษาให้พิสูจน์กัน พอวัตถุ พอกรรมกิริยา พอเรื่องจะทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งต้องมีบารมี พูดปั๊บ นึกถึง พลเอกสุจินดากับพลตรีจำลอง จะเอากันตาย เสร็จแล้วในหลวงเรียกเข้าไปหา ท่านตรัสไม่กี่คำ สองคนก็แสนดี หยุดเลย เลิก ตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันต่อไป อย่างนี้เป็นต้น สิ่งเหล่านี้บันดาลเอาไม่ได้ ต้องมีบารมี   มีเหตุปัจจัยครบพร้อมจึงจะเป็นตัวอย่างให้แก่โลก คุณอยากจะเป็นอย่างในหลวง แต่จะต้องสั่งสมบารมีถึงขั้นนี้ อย่าไปอยากได้ไม่ได้ คุณต้องสั่งสมบารมีมา เป็นอจินไตยเยอะ หลายอย่างอาตมาไม่รู้ลึกซึ้ง แต่แม้รู้บางทียังไม่ถึงเวลาพูดยังไม่ควรพูดก็มี ก็ต้องรู้จักสิ่งที่ควรพูด ขนาดนั้นยังมีคนหมั่นไส้ อาตมาก็ต้องคอยระวัง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:55:02 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 06:49:08 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:56:20 )

เป็นคนจนสุดประเสริฐได้เพราะรู้แจ้งในอาหาร 4

รายละเอียด

ผู้ที่เรียนธรรมะพระพุทธเจ้าไม่รู้เรื่องกาม ไม่รู้เรื่องภพ ไม่รู้เรื่องจิตวิญญาณ พระพุทธเจ้า มาสอนไว้ในเรื่องอาหาร ปุตตมังสสูตร ซึ่งมีอาหาร 4 อย่าง 

อาหารแปลว่า เครื่องอาศัย ในชีวิตคนหากไม่รู้จัก เครื่องอาศัยของชีวิต มันก็ไม่ได้อะไร พระพุทธเจ้าสรุปมาให้ปฏิบัติให้เรียนรู้ ตั้งแต่อาหารข้อที่ 1 ที่มันจะเกิดกิเลสสำคัญมากคือ อาหารการกินคำข้าว กวฬิงการาหาร สำคัญที่สุด เพราะมันจะมีอาหารที่ 2 3 และ 4 ในการกินนี่แหละ หรือการเคี้ยวในผัสสะ 5 ผัสสะ 6 ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 

เพราะบางอย่างไม่กินเอาใส่ไว้แล้วเคี้ยว ทางลิ้นก็ได้รับภายใน อย่างกินหมากพลูเป็นสิ่งเสพติด หรือกินหมากฝรั่งก็แล้วแต่ หรือจะกินอะไรอีกบ้าง 

ลองฟังดู อาหาร 4

ล. 16 3. ปุตตมังสสูตร

[240] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อาหาร 4 อย่าง เพื่อความดำรงอยู่ของสัตว์โลกที่เกิดมาแล้ว หรือเพื่ออนุเคราะห์แก่เหล่าสัตว์ผู้แสวงหาที่เกิดอาหาร 4 อย่างนั้นคือ 1. กวฬิงการาหาร หยาบบ้าง ละเอียดบ้าง 2. ผัสสาหาร 3. มโนสัญเจตนาหาร 4. วิญญาณาหาร ภิกษุทั้งหลาย อาหาร 4 อย่างเหล่านี้แล เพื่อดำรงอยู่แห่งสัตว์โลกที่เกิดมาแล้ว หรือเพื่ออนุเคราะห์แก่เหล่าสัตว์ผู้แสวงหาที่เกิด ฯ

คนที่มีหลักประกันแล้วอย่างพระอรหันต์ โพธิสัตว์  ก็ไม่ทำบาปอีกเลย ที่ทำแล้วก็เป็นวิบาก เหลือวิบากเก่าเท่านั้นเองที่มันจะออกฤทธิ์ วิบากใหม่ไม่มี  การรวยมากๆไม่ได้หมายความว่าเป็นคนเจริญนะ ทุกข์หนักกว่าคนไม่รวยอีก เหมือนอย่างในหลวงเราตรัส เราก็รวย ตามฐานะเราก็ไม่ได้จนอะไร มาเป็นคนจน แต่เราก็รวย คือท่านตรัสภาษาไม่มากเท่าอาตมา 

เรื่องกินตัดทิ้งไม่ได้ เรื่องอื่น เรื่องเงินทองข้าวของทรัพย์สมบัติ ตัดทิ้งได้ เรื่องตำแหน่งยศตัดทิ้งได้ เรื่องสรรเสริญก็ตัดทิ้งได้เรื่องความสุขก็ตัดทิ้งได้ 

 [241] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กวฬิงการาหารจะพึงเห็นได้อย่างไร ภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า ภรรยาสามี 2 คน ถือเอาเสบียงเดินทางเล็กน้อย 

(พ่อครูว่า...เขาเดินทางที่จริงเขาจะไปนิพพาน)

แล้วออกเดินไปสู่ทางกันดาร เขาทั้งสองมีบุตรน้อยๆ น่ารักน่าพอใจอยู่คนหนึ่ง เมื่อขณะทั้งสองคนกำลังเดินไปในทางกันดารอยู่ เสบียงเดินทางที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยนั้นได้หมดสิ้นไป แต่ทางกันดารนั้นยังเหลืออยู่ เขาทั้งสองยังข้ามพ้นไปไม่ได้ครั้งนั้น เขาทั้งสองคนคิดตกลงกันอย่างนี้ว่า เสบียงเดินทางของเราทั้งสองอันใดแลมีอยู่เล็กน้อย เสบียงเดินทางอันนั้นก็ได้หมดสิ้นไปแล้ว แต่ทางกันดารนี้ยังเหลืออยู่ เรายังข้ามพ้นไปไม่ได้ อย่ากระนั้นเลย เราสองคนมาช่วยกันฆ่าบุตรน้อยๆ คนเดียว ผู้น่ารัก น่าพอใจคนนี้เสีย 

คิดได้อย่างไรพวกคุณลองคิดดูสิ ถ้าหากมันหมดเสบียงจริงๆจะคิดค่าลูกไหมเอาลูกไปด้วย อย่างไรก็ต้องอดอยากตายด้วยกันหมดหรือ หรือไม่ก็ต้องหาจิ้งหรีดจับมดแมงกิน หรือไม่ก็กินผักกินพืช เก็บผักข้างทาง เหมือนนายป๊ะเว ขับรถแล้วก็จอดข้างทางเก็บกระถินกิน มันน่าจะเป็นอย่างนั้นด้วย อุทาหรณ์ของพระพุทธเจ้าได้คิด รักก็รัก แต่มันเห็นแก่ตัวเอง มันก็ต้องกินเพื่อชีวิต ต้องเลี้ยงชีวิตต่อไป แต่ก็ต้องกินลูกน้อยแสดงถึง 1. อำมหิตมาก 2.โง่หนักมาก 3.รักตัวเองจัด  อุทาหรณ์ของพระเจ้านี้สุดยอด ทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง 

อ่านไปพวกคุณรู้สึกอย่างไร อาตมาว่า พ่อแม่คู่นี้น่าจะฆ่าตัวตายให้ลูกกินเมื่อได้บริโภคเนื้อบุตร จะได้พากันเดินข้ามพ้นทางกันดารที่ยังเหลืออยู่นั้น ถ้าไม่เช่นนั้นเราทั้งสามคนต้องพากันพินาศหมดแน่ ครั้งนั้น ภรรยาสามีทั้งสองคนนั้น ก็ฆ่าบุตรน้อยๆ คนเดียวผู้น่ารัก น่าพอใจนั้นเสีย ทำให้เป็นเนื้อเค็ม และเนื้อย่าง เมื่อบริโภคเนื้อบุตรเสร็จ ก็พากันเดินข้ามทางกันดารที่ยังเหลืออยู่นั้น เขาทั้งสองคนรับประทานเนื้อบุตรพลาง ค่อนอกพลางรำพันว่า ลูกชายน้อยๆ คนเดียวของฉันไปไหนเสีย ลูกชายน้อยๆ คนเดียวของฉันไปไหนเสีย 

(พ่อครูว่า...แสดงว่ามันโง่เลอะเทอะ)

ดังนี้ เธอทั้งหลายจะเข้าใจความข้อนั้นเป็นอย่างไร คือว่าเขาได้บริโภคเนื้อบุตรที่เป็นอาหารเพื่อความคะนองหรือเพื่อความมัวเมา หรือเพื่อความตบแต่ง หรือเพื่อความประดับประดาร่างกายใช่ไหม ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า หามิได้ พระเจ้าข้า จึงตรัสต่อไปว่า ถ้าเช่นนั้น เขาพากันรับประทานเนื้อบุตรเป็นอาหารเพียงเพื่อข้ามพ้นทางกันดารใช่ไหม ใช่ พระเจ้าข้า พระองค์จึงตรัสว่า ข้อนี้ฉันใด เรากล่าวว่า บุคคลควรเห็นกวฬิงการาหารว่า [เปรียบด้วยเนื้อบุตร] ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล เมื่ออริยสาวกกำหนดรู้กวฬิงการาหารได้แล้ว ก็เป็นอันกำหนดรู้ความยินดีซึ่งเกิดแต่เบญจกามคุณเมื่ออริยสาวกกำหนดรู้ความยินดีซึ่งเกิดแต่เบญจกามคุณได้แล้ว สังโยชน์อันเป็นเครื่องชักนำอริยสาวกให้มาสู่โลกนี้อีกก็ไม่มี ฯ

หมายความว่าศึกษาปฏิบัติจนหลุดพ้นและก็ไม่มี กามคุณ 5 ก็ไม่มี เป็นผู้บรรลุธรรม โดยอาศัยอันนี้แหละเป็นเครื่องศึกษา ท่านไม่ได้ให้หนีท่านไม่ได้ให้หนี แต่ไม่ได้ให้กินเนื้อบุตร ไม่ได้มากินเนื้อบุตร หรือจริงๆผู้รู้อย่างพวกเราไม่กินแต่เนื้อสัตว์เนื้อบูดใดๆ อย่าว่าแต่เนื้อหมดเลย เนื้อธรรมดาเนื้อสัตว์ใดๆเราก็ไม่กิน 

คนไม่กินเนื้อสัตว์เป็นคนเจริญ มีปัญญา มีความเข้าใจ เข้าใจเรื่องกรรมวิบาก เข้าใจเรื่องกามคุณ มีปัญญาหรือว่า ถ้าเราไม่กินเนื้อสัตว์เราก็ไม่มีวิบากกับสัตว์ได้เลย ส่วนที่โง่ไปแล้วก็แล้วไป แต่กรรมใหม่เราจะไปสร้างวิบากใหม่อีกทำไม เพราะฉะนั้นเราก็กินแต่พืช ปลอดภัยไหม 

แต่ก่อนเรามีอวิชชาเราไม่รู้ก็แล้วไป ไปกินเนื้อสัตว์มาแล้ว มันมีวิบาก เพราะสัตว์ทุกตัวมันไม่เคยเห็นว่า ฆ่าฉันไปกินแล้วจะไม่ผูกพยาบาท มีไหมล่ะ มันก็รักชีวิตของมัน เมื่อมันถูกฆ่ามันก็ผูกพยาบาททั้งนั้นแหละ 

1. ผู้นั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านทั้งหลายจงไปนำสัตว์ชื่อโน้นมา” (อุทิศ, อุททิสสะ คือ เจาะจงมุ่งหมายไปที่สัตว์ชื่อนั้น) 

2. สัตว์นั้นเมื่อถูกเขาผูกคอนำมา  ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัส 

3. ผู้นั้นพูดอย่างนี้ว่า  “ท่านทั้งหลายจงไปฆ่าสัตว์นี้” 

4. สัตว์นั้น เมื่อกำลังถูกเขาฆ่าย่อมเสวยทุกข์โทมนัส 

5. ผู้นั้นย่อมยังตถาคตและสาวกตถาคต ให้ยินดีด้วยเนื้อเป็นอกัปปิยะ ชื่อว่าย่อมประสพบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก

 (ตถาคตํ   วา   ตถาคตสาวกํ  วา  อกปฺปิเยน  อสฺสาเทติ อิมินา   ปญฺจเมน   ฐาเนน  พหุง   อปุญฺญํ   ปสวตีติ)     ชีวกสูตร  ล.13   ข.60 

เนื้อสัตว์มิใช่อาหารของภิกษุ หากท่านมาบวชแล้วยังไม่รู้แค่เรื่องไม่กินเนื้อสัตว์จะไปหานิพพานได้ไหม ไม่ได้ ไม่ใช่ใส่ความหาเรื่องนะ อินเดียเขาเข้าใจ แต่เมืองไทยมันเสื่อมมากแล้วในศาสนาพุทธ แค่เรื่องเนื้อสัตว์ แล้วหาว่าพวกนี้พระเทวทัต ก็ขนาดพระเทวทัตโง่ก็ยังรู้เลยอยากให้ออกวินัยให้พระภิกษุไม่ฉันเนื้อสัตว์เลย เขาก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นวัวควายมันกินพืชผักอย่างเดียวมันก็ไปนิพพานหมดสิ พวกนี้ฉลาดหาเรื่องมาด่าเรา ฉลาดเก่งจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เป็นคนจนสุดประเสริฐได้เพราะรู้แจ้งในอาหาร 4 วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2565 ( 18:20:12 )

เป็นคนจนได้เพราะมั่นใจในทรัพย์แท้ของตน

รายละเอียด

ก็ขอเข้าสู่เนื้อหาแท้ๆ ของสาระว่า มาเป็นคนจนนี้ไม่ได้แกล้งจน ซ่อนแฝงความรวยไว้ตรงนั้นตรงนี้ ไม่มีเลย จนคือมีทรัพย์วัตถุไม่มาก ไม่สะสมไว้มาก ไม่หลอก ของจริง มั่นใจในสมรรถนะความรู้ความสามารถของเราแต่ละคนกับความขยันของเรา นี่เป็นทรัพย์แท้ เพราะฉะนั้นวัตถุต่างๆ สิ่งที่จะต้องอาศัยนี้เราจึงไม่กลัว เพราะเรามีความรู้ความสามารถก่อสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบอโศก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 21:04:35 )

เป็นคนจริงทำจริงผู้ที่จะมาสืบทอดศาสนาพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาว่าอาตมาไม่ใช่คนที่จะมาพูดเล่น มาทำงานศาสนาพุทธอย่างเล่นๆ มาเป็นคนอวดตัวอวดตนหลงตัวหลงตน ไม่ใช่ อาตมาทำจริง เป็นคนจริง เป็นผู้ที่จะมาสืบทอดศาสนาพระพุทธเจ้าเอาไว้ เอาสิ่งที่ถูกต้องเอาสิ่งที่ได้เข้าใจในศาสนาพุทธกระแสหลักส่วนใหญ่ได้เอาไปปู้ยี่ปู้ยำผิดไปเยอะแล้ว อาตมาก็เอากลับคืนมาพูดจริงยืนยันจริงเกือบ 50 ปีแล้ว สาธยายยืนยันอ้างอิงในพระไตรปิฎกจนกระทั่งเกิดกลุ่มหมู่พฤติกรรมสังคมยืนยันอ้างอิงตรงตามพระไตรปิฎกแทบทั้งนั้น เขาก็ยังไม่ค่อยกระเตื้องยังไม่สะดุด ก็เพราะว่าถูกครอบงำด้วยความคิดที่ผิดอยู่แล้ว อ่านพระไตรปิฎกภาษาเดียวกันแต่เขาก็ตีความไปอย่างนั้นเช่นอานาปานสติ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2563 ( 11:30:58 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:53:46 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 04:04:32 )

เป็นคนต้องมีปัญญาพอที่จะจัดการไม่ให้สัตว์มายุ่งเกี่ยวได้

รายละเอียด

วันนี้เพื่อนมา ให้แม่อีหนูเอาไปต้มยำรสเด็ดมาให้เพื่อนกินหน่อยนะ เอาไอ้โต้งมา แม่อีหนูได้ยินก็รู้แล้วว่าพ่ออีหนูสั่งอะไร รู้เลย มันมีแนวโน้มทิศทาง trend ของจิต เป็นทางชั่ว สัตว์มันก็อยู่ของมัน อย่าไปมีวิบากไปยุ่งกับมัน เฉพาะกับคนนี้ก็มีบาปตั้งเท่าไหร่แล้วต้องเลิก แล้วจะได้ช่วยเหลือกันให้สังคมเป็นสุข เรื่องสัตว์นั้นปล่อยไปเถอะตามยถากรรม ถ้าคุณไม่ไปทำอะไรกับสัตว์มัน สัตว์มันก็จะอยู่ของมันไป นอกจากมันหมักไล่ก็ไล่มันไปอย่าให้มันมายุ่งเกี่ยวนัก คุณเป็นคนก็มีปัญญาพอที่จะจัดการไม่ให้สัตว์มายุ่งเกี่ยวกับเราได้ แต่นี่ไปเอามาเลี้ยงเอง เอามานอนด้วยกินด้วย เสร็จแล้วมันก็เกิดวิบากซับซ้อน ไม่รู้อะไร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก และบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ปี 2564

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2564 แรม 10 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2564 ( 20:34:55 )

เป็นคนที่สร้างสรรเห็นคุณค่าของเวลาเอามาทำประโยชน์ให้ผู้อื่น

รายละเอียด

มีมากก็แบ่งกันกินกันใช้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติคุณธรรมของมนุษย์ที่ได้อบรมสั่งสอนมาจากพระพุทธเจ้า มันจะเป็นคนชนิดนี้ที่สร้างสรร แล้วก็มีสิ่งที่สำคัญด้วยปัจจัยชีวิต ไม่เอากำลังงานไม่เอาเวลาไปทำอะไรก็ไม่รู้ ไปเต้นแร้งเต้นกาไปเที่ยวเตร่ ไม่เป็นโล้เป็นพาย จะเอาเวลามาสร้างเหตุปัจจัยสำคัญของชีวิตที่เป็นประโยชน์ แม้จะไม่ได้สร้างอาหารก็สร้างการสื่อสาร สร้างอุปกรณ์อะไรต่ออะไร ที่จะเป็นประโยชน์ให้คนได้อาศัยใช้สอย อาศัยรับเป็นประโยชน์ อย่างนี้เป็นคนมีสาระ แต่คนไม่มีสาระนี้ เสียเวล่ำเวลาไปตะลอน ไปเที่ยวเตร่วันเดือนปี มันสูญเปล่าไปอย่างไม่รู้จักคุณค่า ที่เกิดจากกรรมกิริยาของเรา

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤาภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 17:30:38 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 12:59:12 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 03:58:03 )

เป็นคนประเสริฐเป็นอย่างไร

รายละเอียด

จิตใจมันพอจริงๆ มันพอเพียงมันไม่เป็นหรอกไม่ไปอยาก ที่จะไปแย่งไปชิงอะไร มันไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครเพราะไม่ไปแย่งชิงกับเขา เขายังหลงใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส(โผฏฐัพพะ) ไปแย่งกัน เราไม่ได้ไปเป็นผู้แย่งไม่ไปเป็นปฏิปักษ์ไม่เป็นคู่ต่อสู้กับใครเลย เมื่อเรามาสร้างอันนี้ได้มากๆ สร้างพืชพันธ์ธัญญาหารได้มากๆ เหลือกินเหลือใช้เราก็แจกจ่ายเผื่อแผ่คนอื่นไป ยิ่งแจกจ่ายเผื่อแผ่คนอื่นไปแล้วเราก็ไม่ได้ไปแย่งอะไรใคร ไม่ได้ไปทำร้ายใครไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร 

นี่เป็นคุณธรรมอันประเสริฐยอดที่คนเราจะเข้าใจเลยว่า คนอย่างพวกเรานี้ จะเป็นคนมีคุณค่ามีประโยชน์จริงๆต่อคนทั้งหลาย ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัย เรียกด้วยคำยกย่องว่าเป็นคนประเสริฐ เป็นคนเจริญเป็นคนดี ถ้าจะใช้ภาษาแบบโลกๆคือเป็นคนที่น่าสรรเสริญยกย่องบูชาเคารพ ภาษาศักดินาหน่อยๆ แต่เราไม่ได้ติดใจในภาษาศักดินาหรือเรื่องศักดินาแบบนั้นหรอก แล้วเราก็มาเป็นคนจนที่สงบเสงี่ยม แล้วก็รับใช้มีประโยชน์ทำงานสร้างสรร คนอื่นๆจะได้รับประโยชน์จากแรงงานของเรา จากความรู้ความสามารถของเรา แล้วเราก็ให้เขาโดยที่เราไม่ได้ไปติดใจว่าเราจะเป็นเจ้าบุญเจ้าคุณอะไรจากเขา..ไม่ เราไม่คิดว่าเราจะไปเป็นเจ้าบุญเจ้าคุณใคร เราทำเผื่อแผ่เกื้อกูลแล้วก็จบในตัวเอง มันสุดยอดแล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 12 สัจจะยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติที่เรียกว่าการเมือง วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 16:30:49 )

เป็นคนปลอดภัย

รายละเอียด

นี่สัจธรรมของพระพุทธเจ้ามันเป็นเช่นนี้ สุดยอด เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าเราจะเป็นหนี้ ไม่ต้องกลัวว่า เราจะไปเอาของใครมา เราไม่ต้องกลัวว่า จะไปเบียดเบียนคนอื่น ไม่ทั้งนั้นเลย จึงเป็นคนปลอดภัยที่ยิ่งๆ เลย นอกจากคนตามืด ตาบอดเท่านั้นมาทำลาย แต่มีบารมี บารมีสูงขึ้นเป็นระดับที่ อาตมาไม่อยากจะพูดตัวเอง อย่างพระพุทธเจ้านี้ไม่มีอะไรมาทำลายได้ คนที่จะมาฆ่าแกงจะมาทำได้ อย่างเก่ง สุดเก่งอย่างเช่นพระเทวทัต ก็แค่ทำให้พระบาทห้อเลือด ต่ำที่สุดเลย ทำลายได้แค่แตะพระบาท ทำให้พระบาทช้ำ ห้อเลือดได้เท่านั้นเอง สูงสุด ไม่ระคายอะไรอย่างอื่น 

แต่อาตมาชาตินี้ต้องไปเจอแก๊สน้ำตา โอ้โห ถือว่า ร้ายแรงที่สุดในชีวิต มันแสบหน้า นอกนั้นอาตมาไม่เคยถูกเตะ ถูกถีบ ถูกตบ ถูกอะไรจากใครๆ ไม่เคย แม้แต่แม่อาตมาเคยตีอาตมา หนึ่งครั้งในชีวิต ไม่รู้เรื่องอะไรเขา ไม่ชอบใจ แต่แม่ตีอาตมาไม่ได้ตีแรง เอาไม้บรรทัดตีแขน แล้วก็ร้องไห้ ตีอาตมาแล้วแม่ก็ร้องไห้ นี่คือประสบการณ์ แม่เป็นคนเกรงใจอาตมามาก เพราะอาตมามันเหมือนเด็กที่เลี้ยงตัวเอง พึ่งตัวเองทำงานอะไรสารพัด แม่ไม่ต้องห่วง ทำไปเป็นกุลี ไปรับแข็งหลอดของแกวเขามาขาย ถือว่าเป็นคนอพยพ หนีสงครามมาอยู่ในเมืองไทย ก็มาทำอาชีพเลี้ยงตัวเองไปขายก๋วยจั๊บ ขายน้ำแข็งหลอด อาตมาก็ไปขายกับเด็กแกว เด็กญวน หิ้วกระติก เป็นคนไทย ลูกคนไทย แล้วเราร้องเป็นกลอนด้วย ก็ขายดี เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเกิดมาหากไม่ได้โลกุตระ เท่ากับชิงหมาเกิด วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 แรม 3 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 16:28:19 )

เป็นคนมีบารมีจึงได้มีชีวิตอยู่ในแดนโลกุตระ

รายละเอียด

เด็กๆหรือพวกนักเรียนได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ในนี้ ถ้าไม่มีเหตุปัจจัยแต่ก่อน ที่จะทำให้เราต้องได้เข้ามา เราไม่ได้เข้ามาหรอก อย่าไปว่าถึงอยากเข้ามาเลย ถ้าไม่มีบารมีแล้ว ไม่ได้เข้ามาอยู่ในนี้หรอก ถ้าเข้ามาอยู่ในนี้โดยที่ไม่มีบารมีนั้น ตัวเองจะประพฤติตนเองไม่ได้ดีก็ถูกไล่ออกไป จะอยู่ไม่ได้เรียบร้อยอย่างพวกเรา 

เพราะฉะนั้นเด็กที่อยู่ในนี้ได้ นอกจากเด็กที่ไม่มีบารมีพอ โตไปก็ออกไป แต่เด็กที่มีบารมีพอ โตขึ้นเขาก็เลือกอยู่ที่นี่ อยู่ตามวัฒนธรรมที่นี่ ตามหลักเกณฑ์อย่างน้อย มีศีล 5 ไม่กินเนื้อสัตว์ไม่มีอบายมุขเป็นพื้นฐาน ซึ่งมันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร แต่ข้างนอกเขาไม่ได้นะ เขารักษาศีล 5 ไม่มีอบายมุข ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่ได้ เขาทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นแม้แต่พวกเรา จะเด็กก็ตาม ผู้ใหญ่ก็ตาม ออกไปข้างนอกแล้ว จะให้อยู่อย่างที่นี่คือ ถือศีล 5 ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่มีอบายมุขสบายๆไม่ได้ง่ายหรอก เหมือนในนี้ ที่นี่มีพลังงานมีเหตุปัจจัยเป็นองค์รวม สามารถทำให้เราอยู่ได้ ถ้ามีบารมีพออยู่ก็อยู่ได้ แต่ไปข้างนอกนั้นมันไม่ง่าย 

เพราะฉะนั้นคนที่มาอยู่ที่นี่จึงมีจำนวนจำกัด ไม่ได้ปิดกั้นนะ อโศกไม่ได้ปิดเลย ใครจะมาเท่าไหร่ ก็มา อย่างนักเรียนนี้เรียนฟรี อย่าว่าแต่เรียนฟรีเลย แต่เลี้ยงดูทุกอย่างด้วยจนโต อยากอยู่ต่อ ที่นี่ให้อยู่ต่อได้ เรียนจบแล้วจะอยู่ที่นี่ต่ออยู่ได้ อยากไปเมื่อไหร่ก็ไปได้ ไม่มีการบังคับอะไร อิสรเสรีภาพ 

เพราะฉะนั้นคนอยู่ที่นี่ถึงเป็นคนมีบารมีจริงๆ แม้แต่เด็กบางคนไม่อยากอยู่หรอก แต่ถูกพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่มีอิทธิพลบังคับให้มาอยู่ที่นี่ได้ เขาก็มีบารมีขนาดหนึ่งแล้ว ถ้ายิ่งใจตัวเองก็ไม่มีปัญหาอะไร อยู่ที่นี่ได้สบาย ก็อยู่ที่นี่ได้ สุดยอด นี่คือเนื้อแท้โลกุตรธรรม

แต่อย่างว่ามันไม่ง่าย แม้จะอยู่ได้ อย่างพวกเราอยู่ทั้งปีไม่ได้กลับบ้านกลับช่อง ตอนนี้ก็ปล่อยให้กลับบ้านกัน ถ้าบอกว่า อยากจะไป นั่งอยู่ที่นี่เหมือนถูกตีกรอบอะไรอยู่บ้าง ก็รู้สึกว่ามันเก่าแล้ว ไม่มีอะไรใหม่ๆ ระวังเถอะ ผีข้างนอกมันหลอก มากมายผีหลอกข้างนอก ระวังดีๆนะ แต่ละคนๆออกไป ผีหลอกแล้วนี่ เชื้อมันร้ายแรงกว่า Covid อีกนะ เดี๋ยวติดเข้ามาในนี้แล้วโอ้โห มันยิ่งกว่า Covid อีกนะระวังเถอะ ปล่อยปละละเลย ปล่อยตัวไปนะ ยุ่ง

แต่บอกแล้วพูดไปแล้วว่าจริงๆแล้วมันซับซ้อน เพราะว่าเด็กที่จะมาอยู่ที่นี่ได้ จะไม่ออกไปนั้นมีบารมี แม้จะเป็น เด็กเกิดในนี้เลยแล้วก็อยู่ในนี้เลยจนโต รุ่นโตที่สุดที่เกิดในนี้เลยก็รุ่น โมกข์ มะขาม ที่จริงกระทกรกหรือกระทงก็ดี พ่อแม่เขาก็อยู่ในนี้ แต่เขาไปคลอดที่โรงพยาบาล แต่โมกข์กับมะขาม หมอตำแยคือพรตะวันทำคลอด แม้แต่จะว่าไปแล้ว ด.ญ.ปุญย์ แม้จะไปคลอดที่โรงพยาบาลก็ตาม เขาก็คลอดธรรมชาติ เขาไม่ยอมผ่า ซึ่งคนแนะนำมากเลย เพราะแม่ เจ้ารุณ ตัวเล็ก แล้วเด็กตัวไม่เล็กเท่าไหร่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 31 วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 01 มิถุนายน 2565 ( 09:02:52 )

เป็นคนวรรณะ 9 ไม่ต้องสะสมแต่ช่วยคนได้

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นชาวโลกีย์ ชาวโลกที่ไม่มีความรู้ของพระพุทธเจ้า  ไม่มีทางสิ้นสุดตรงนี้ พอมาได้รับความรู้ ของพระพุทธเจ้า รู้จักพอ รู้จักน้อย มีความรู้ วรรณะ 9 ขึ้นมา บอกว่าไม่มีอะไร มีแต่ความรู้ความสามารถซึ่งเป็นนามธรรม อันนี้แหละ ช่วยคนโดยไม่ต้องสะสมวัตถุ เอามาเป็นสาธารณโภคีร่วมกันแล้วก็ใช้ ไม่ต้องไปขี้เหนียวจนเกินกาล แจกจ่ายเจือจาน ไม่ต้องสะสมหรอก ไอ้สิ่งที่โลกเขาสะสมกันจัง ตั้งแต่ธนบัตร ทองคำ เพชรนิลจินดา ไม่ต้องสะสม พวกนั้นเราพูดถึงว่า เพชรนิลจินดาทองคำ พวกเราจะบอกว่าไม่ต้องมีก็ไม่เป็นไรเลย แต่ธนบัตรต้องใช้เป็นตัวกลางบ้าง ก็ใช้อยู่เท่านั้น ใช้อยู่อย่างมันจำนนก็ต้องใช้บ้าง ถ้าไม่ใช้เลยไม่รู้จะไปสื่อหรือใช้อะไรทดแทน เป็นตั๋วแลกเงิน เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนกับเขา เราจะเอาแต่ของพวกนี้ไปเขาไม่เอา ถ้าเรามีอันนี้แล้วเขาต้องการอันอื่น ไม่มีให้เขาเราก็ไม่ได้อะไร เราไม่มี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 21:57:21 )

เป็นคนสัตตะ หรือโพธิสัตตะคือใคร

รายละเอียด

อาตมาเป็นสัตว์คนคนนึง ท่านสัมผัสอาตมาแล้วนี่ รู้บ้างสิว่าอาตมาเป็นสัตบุรุษ อาตมาเป็นคนสัตตะ ภาษาบาลี สัตตะคือสัตว์ และแปลว่า 7 ด้วย บอกตรงๆว่าอาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 เป็นโพธิสัตตะ ท่านเรียนพยัญชนะมาท่านรู้หมด แต่ท่านไม่เชื่อหรอกว่าอาตมาเป็นสัตว์เอาโพธิมานี่คือ สัตตะ แล้วก็บอกตรงๆว่าระดับ 7 สัตตะ เป็นสัตบุรุษ ตรงกันทั้งพยัญชนะตรงกันทั้งสภาวะ อ้อ ปางนี้ ในโลกจะมีสัตบุรุษหรือ? มี มีของจริง เขาก็ไม่เชื่อไม่รู้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน อาการน่าเลื่อมใสในวรรณะ 9 ของพ่อครูเป็นเช่นไร


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 10:33:38 )

เป็นคนเหนือโลกอย่างไร

รายละเอียด

ก็คำของคุณนั่นแหละว่า คุณก็บอกว่าอาตมาเป็นผู้ที่บริสุทธิ์สะอาดแล้ว คนบริสุทธิ์สะอาดแล้วเป็นคนรู้โลก เป็นคนเข้าใจโลก เป็นคนเหนือโลก เป็นภาษาง่ายๆ โลกุตระ หรืออุตระ เป็นผู้ที่อยู่เหนือ ไม่ใช่พูดภาษาเท่านั้นแต่มันมีสัจจะที่มีภูมิปัญญา มีความเฉลียวฉลาด มีความรู้ที่รู้ว่า 

โลกียะมันก็เป็นอย่างนี้ ดีของโลกียะเป็นอย่างนี้ โลกุตระเป็นอย่างนี้ ดีของโลกุตระมันเหนือชั้นกันขึ้นไปอีกอย่างนี้ มันจะรู้ มันจะเห็น มันจะเข้าใจจริงๆเลยไม่ใช่เป็นเรื่อง ถ้ามันไม่มีความรู้ความจริงอันนี้ มันจะเอามาจากไหน อาตมาจะไปเอามาจากไหนเอามาพูด จากตำราเล่มไหน 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 12 สัจจะยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติที่เรียกว่าการเมือง วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 17:18:50 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์