@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

พ่อครูทำงานมา 50 ปี พามนุษยชาติให้เจริญอย่างไร

รายละเอียด

พูดจริงๆแล้วที่อาตมาทำงานมา 50 ปีอาตมาก็มาทำงานกับมนุษย์กับสังคมมนุษย์ หรือจริงๆแล้ว อาตมาตั้งแต่อายุ 36 ไม่ได้ใช้ชีวิตไปกับการที่จะต้องไปหาเงินทองลาภยศเหมือนโลกเขาไม่เกี่ยวเลย มาทำงานกับมนุษยชาติ พามนุษยชาติให้เจริญ เจริญจากที่พระพุทธเจ้าท่านหมาย พระพุทธเจ้าท่านหมายถึงเจริญด้วยกรรม ด้วยปัญญา ด้วยความเฉลียวฉลาดที่เป็นโลกุตระ โดยเฉพาะรู้จักโลกุตรธรรมนี่สุดยอด สุดยอดจริงๆ

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 28 ธันวาคม 2563 ( 14:32:30 )

พ่อครูทำงานมา 50 ปีประสบผลสำเร็จอะไร

รายละเอียด

มาถึงวันนี้แล้วอาตมาทำงานมา 50 ปีอาตมาประสบผลสำเร็จจริงๆพวกคุณนี้รู้แล้ว รู้แล้วเป็นพระอรหันต์แล้วด้วยถึงแม้ยังไม่เป็นอะไรกันก็มี ศีลสามัญญตา ทิฏฐิสามัญญตามีสัมมาทิฏฐิที่จะปฏิบัติไป มีบัญญัติภาษาพอที่จะทำอาศัย ปฏิบัติไปจนบรรลุสูงสุด เป็นแต่เพียงว่าบุญและกุศลเรายังไม่ถึง บุญก็คือการสร้างพลังงานบุญ ของตัวผู้ปฏิบัติเองคือตัวเรา ยังไม่สมบูรณ์จริงยังไม่บริบูรณ์จริงทั้งนั้นแหละ มันก็เลยยังไม่ได้ แล้วมันได้แล้วมีผู้ได้แล้ว เป็นหมวดหมู่เป็นอยู่อย่างพวกคุณนิมั่นใจจะชนะ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 11:01:08 )

พ่อครูทำงานมา 50 ปีพอใจแล้วที่ทำให้เกิดวรรณะ 9 สาราณียธรรม 6

รายละเอียด

เอา วรรณะ 9 สาราณียธรรม 6 เช็คได้ สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา  ได้ไหม ...ได้ ไม่ได้ ก็เป็นการพูดปากเปล่า ปฏิบัติไม่ได้แล้วพูดไปทำไม พูดไปแต่ก็ปฏิบัติกันไม่ได้  ยืนยันพูดได้ทำได้ ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที

มันข่มในตัว มันไม่ข่มมันก็ต้องเหนือกันอยู่แล้ว อันหนึ่งทำได้อันหนึ่งทำไม่ได้ ใช้พยัญขนะว่าข่มว่าเหนือก็อันเดียวกัน สัจจะมันก็เป็นความจริงอย่างนั้น อาตมาเกิดมามีชีวิตนี้ทำได้ตามคำตรัสพระพุทธเจ้า มีปรากฏการณ์จริง ปรากฏการยืนยันให้เห็น ใครไม่เห็นก็ไม่มีปัญหา คนที่เห็นเขาก็เห็น คนที่มีดวงตามีปัญญามีธาตุรู้ที่รู้ได้ อันนี้ก็จริงนะ เขามีสภาพจริงพูดจริง ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที ทำได้จริงตามที่พูด ไม่ใช่ได้แต่พูดปากเปล่า เป็นแต่ทำไม่ได้ ยืนยันหาหลักฐานอะไรไม่ได้ มันก็ต่างกัน 

อาตมาจึงบอกว่าเกิดมาในชาตินี้ พอใจแล้ว ไม่สูญเปล่า ไม่โมฆะ ประสบผลสำเร็จ อาตมาเคยสรุปแล้วว่า เกิดมาในชาตินี้พอใจแล้วเกิดมาทำงานมา 50 ปีได้ขนาดนี้ มีสิ่งที่ยืนยันปรากฏผลขนาดนี้ อาตมาไม่ตะกละมากกว่านี้หรอก สมตัวแล้ว พอตัวแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภูผู้รู้จบสัตตาวาสและวิญญาณฐีติ วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2565 ( 09:00:23 )

พ่อครูทำงานศาสนาพุทธมา 50 กว่าปี ได้ผลดีไม่มีล้มเหลว

รายละเอียด

เข้าหาสาระ พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ในพระสูตร(สู่แดนธรรมว่า มหาสาโรปมสูตร พตปฎ. ล.12 /ข้อ 347-352 ) ท่านบอกว่าศาสนานี้ ผู้ที่ต้องการแก่นแต่ไม่ได้แก่น ไปหลงอยู่แต่ใบดอกผล แม้แต่ศีลที่เป็นแค่สะเก็ดของต้นไม้ก็ไม่ได้ ไปได้แต่ดอกใบผลงอกงามไพบูลย์ เขามีความยินดี มีความดำริเต็มเปี่ยมในลาภและความสรรเสริญ  เขาย่อมยกตนข่มผู้อื่นว่า เรามีลาภสักการะและความสรรเสริญ  ส่วนภิกษุอื่นนอกนี้ไม่ปรากฏ มีศักดาน้อย เขาย่อมมัวเมา ถึงความประมาท เพราะลาภสักการะและความสรรเสริญนั้น  เมื่อเป็นผู้ประมาทแล้วย่อมอยู่เป็นทุกข์ เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีความต้องการแก่นไม้แสวงหาแก่นไม้  เที่ยวเสาะหาแก่นอยู่  เมื่อต้นไม้ใหญ่มีแก่นตั้งอยู่  ละเลยแก่น  ละเลยกระพี้  ละเลยเปลือก ละเลยสะเก็ดไปเสีย ตัดเอากิ่งและใบถือไป สำคัญว่าแก่น. มหาสาโรปมสูตร  ล.12  ข.347 

ศีลเป็นสะเก็ด สมาธิเป็นเปลือก ปัญญาเป็นกระพี้ วิมุติเป็นแก่น ดอกใบผลเป็นลาภสักการะสรรเสริญท่านตรัสเป็นลำดับๆ ว่า ผู้ปฏิบัติที่ต้องการแก่น ไปได้แค่กิ่งใบดอกผล … ผู้ที่ต้องการแก่น แต่ไปได้แค่สะเก็ด นั้นคือ ศีล ก็ไม่ได้ … ต้องการแก่น แต่ไปได้แค่เปลือก คือสมาธิ ก็ไม่ได้…ต้องการ กระพี้ คือปัญญา ก็ไม่ได้ ต้องการแก่น แต่ไปพยายาม ได้กระพี้ก็ยังจะได้ปัญญาบ้าง ได้เปลือกก็จะได้สมาธิบ้าง ได้สะเก็ดก็จะได้ศีลบ้าง 

ที่ไม่ได้สักอย่าง ต้องการแก่น แต่ไม่ได้สักอย่าง สะเก็ด เปลือก กระพี้ ก็ไม่ได้ ไปได้แต่ใบดอกผล ทุกวันนี้ใช่ไหมศาสนาทุกวันนี้ ดอกใบผล คืออะไร คือลาภ สักการะ สรรเสริญ เสียงเยินยอ ดอกใบผลนั้น คือโลกธรรม ซึ่งก็พูดไปแล้ว ศีลก็ไม่มี มีแต่วินัย กลัวจะอาบัตินั้นนะ ระมัดระวังแต่จะอาบัติกันอยู่นั้นนะ แม้แต่ปราชิก แม้แต่อาบัติสังฆาทิเสส ไม่ต้องพูดเลย หยำเหยะกันอยู่ในนั้นนะ ยิ่งอาบัติน้อยเล็กอาบัติเล็กยิ่งไม่ต้องพูดเลย เลอะกันอยู่นั้นนะ  

ขออภัยเถอะ มันเป็นน้ำเน่าเหม็นหมักหมมอาสวะ หมักหมมอยู่อย่างนั้นจริงๆ ขออภัยเถอะต้องพูดความจริง อาตมาแสดงธรรม มันสุดสงสาร อาตมาเกิดมาชาตินี้ มากอบกู้ศาสนาพุทธที่มันเสื่อมไป ไม่ใช่เป็นเจ้าของนะที่พูดนี้ แต่อาตมาเป็นผู้ที่มากอบกู้จริงๆ พูดเหมือนกับมันใหญ่นะ แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ได้แค่นี้แหละ ได้แค่ผู้ที่มาเข้าใจ แล้วก็มาเห็นดีเห็นงาม แล้วก็มาปฏิบัติตาม ก็ได้เท่าที่ได้ แล้วอาตมาก็ยังสบายใจ และภาคภูมิใจอยู่ว่าอาตมาทำงานมา 40-50 ปีแล้ว พูดถึงความตายของตัวเองอยู่ว่าคงจะไม่นานไม่ช้าก็คงจะต้องตาย แล้วก็ได้ทำงานมา 

ล้มเหลวมั้ย.. อาตมาก็ภาคภูมิใจว่าไม่ล้มเหลว เพราะอาตมาได้ทั้งเขียน ทั้งพูด ทั้งได้นำพาปฏิบัติ จนกระทั่งเกิดมรรคเกิดผล เกิดบรรลุธรรมอย่างแท้จริง มาเป็นสังคมสาราณียธรรม 6 เกิดสังคมที่มี ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ วิมุติญาณทัศนะ กันจริงๆ แล้วมาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหมู่ของชาวพุทธที่แท้จริง ยืนยันได้ว่านี่คือชาวพุทธที่แท้จริง เป็นชาวพุทธที่เป็นอาริยะ เป็นชาวพุทธที่มีโลกุตรธรรม จึงอยู่กันอย่าง เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภที่ได้โดยธรรมก็เอาเข้ากองกลาง (สาราณิยธรรม 6 ธรรมเป็นเหตุให้อยู่ร่วมกันอย่างมีเอกภาพ พตปฎ. เล่ม 22 ข้อ 282-283)

เหมือนสมัยพระพุทธเจ้า หมู่สงฆ์ไปบิณฑบาตได้ลาภมาโดยธรรม ก็เอาไปรวมกันกับกองกลางหมดเลย เพราะตอนนั้นทำได้แต่เฉพาะในวงสงฆ์ สาธารณโภคีในสมัยพระพุทธเจ้า ทำได้เฉพาะในวงสงฆ์ เป็นเรื่องที่อาตมาเคยพูดไปแล้ว เป็นยุคทาส ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคที่ไม่รู้จักสิทธิมนุษยชน มันก็เลยทำไม่ได้ในฆราวาส แต่ยุคนี้มันทำได้ในฆราวาส พวกเราจึงเกิดหมู่กลุ่มที่มีสาราณียธรรม 6 ได้ลาภโดยธรรม แล้วก็มาอยู่รวมเป็นสังคม ต่างก็มีทิฏฐิสามัญญตา ศีลสามัญญตา ยืนยันธรรมะของพระพุทธเจ้าว่า มีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ตราบใด โลกไม่ว่างจากพระอรหันต์ 

นี่แหละ สาราณียธรรม 6 เป็นเรื่องจริง มันถึงขั้นสาธารณโภคีได้ มันเป็นเรื่องบรรยายได้ว่า สาธารณโภคีออกกฏบังคับหรือเปล่า ก็เปล่า มาโดยอิสระ มาด้วยจิตสมัครใจเองเลย เห็นสมควรมาก็มา จะมาจะไปอิสระสบายทุกอย่างเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยืนยันสัจธรรมของพระพุทธเจ้าว่า ตราบที่มีผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ โลกไม่ว่างจากพระอรหันต์ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 34 ปฏิบัติธรรมไม่เริ่มต้นที่ศีลก็เหมือนผีหัวขาด วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 8 หนที่ 2 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2566 ( 11:32:30 )

พ่อครูทำงานศาสนามาก่อนบวชในปี 2513

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นผู้ที่มีธุลีในดวงตาน้อย ถึงจะเห็นได้เข้าใจได้ เมื่อสามารถเข้าใจได้ก็มาปฏิบัติตาม ตั้งแต่อาตมาเริ่มทำงานศาสนามา ก็เริ่มมีผู้ปฏิบัติตาม ผู้ที่พอรู้ได้ มีธุลีในดวงตาน้อยมาเรื่อยๆ ก็เกิด จนกระทั่ง อาตมาทำงานศาสนาก่อนที่จะบวช ก่อน พ.ศ. 2513 อาตมาบวช พ.ศ. 2513 วันที่ 7 พฤศจิกายน 2513 อาตมาก็ออกมาจากโลกีย์ปฏิบัติธรรมด้วยตัวเองอย่างที่ยืนยันแล้วว่าอาตมาเป็นสยังอภิญญา ไม่มีครูบาอาจารย์ ไม่มีลูกศิษย์ลูกหาร่วมสำนัก พอรู้ด้วยตัวเองก็เอามาพูดตรงๆเขาจึงหมั่นไส้ ยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้เขาหมั่นไส้หนักเข้าไปอีกว่า หนอย.. บอกว่าเป็นผู้รู้ด้วยตัวเอง เป็นพระพุทธเจ้าหรืออย่างไร อาตมาก็ไม่เคยประกาศตัวเองว่าอาตมาเป็นพระพุทธเจ้า ก็บอกว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ได้เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ด้วย นี่ก็ค่อยกระเตื้องๆ มา 50 ปีแล้ว ก็บอกว่าเริ่มเข้าไปหาระดับ 8 แล้วนะ 

คนเข้าใจยากเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ ถ้าง่ายมันก็ไม่ใช่โลกุตรธรรม มันยากจริงๆ เพราะฉะนั้นผู้จะรู้ได้จะต้องรู้ตามปัญญา 8 ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 34 ปัญญา สมาธิและสันติภาพแบบพ่อครู วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 กรกฎาคม 2565 ( 08:44:20 )

พ่อครูทำงานเพื่อมนุษยชาติ

รายละเอียด

อาตมานั้นความรู้ทางโลกหรือความรู้ทางธรรม เอามาใช้มาก ความรู้ทางโลกเอามาใช้เท่าที่มี ความรู้ทางรัฐศาสตร์เศรษฐศาสตร์ ความรู้ทางสังคมศาสตร์ มี ปางนี้ชาตินี้หลวงปู่ไม่ได้มาทำหน้าที่บริหารทางโลก จะมาบริหารทางรัฐศาสตร์เศรษฐศาสตร์ ทางสังคมศาสตร์นั้นไม่ต้องไป มาทำสังคมทางธรรมนี้ ผสมผสาน เป็นสังคมบวร สังคมบ้านวัดโรงเรียนที่ลึกซึ้งกว่าสังคมทั่วไป สรุปแล้วเป็นงานยาก งานที่หนัก เพราะว่าต้องผสมผสานต้องทำงานเพื่อมนุษยชาติ ให้มนุษยชาติเกิดทั้งความทำงานความสามารถ มีความเจริญทางจิตวิญญาณแล้วอยู่ร่วมกันอย่างเป็นคนชั้นสูง อาริยชาติ อาริยบุคคล หรืออาริยสังคมก็จึงได้ยาก

ที่มา ที่ไป

รายการพ่อครูให้โอวาทเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2562 ที่บ้านราช วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:19:27 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 14:58:40 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 14:46:02 )

พ่อครูทำงานให้แก่สังคมมนุษยชาติบรรลุผลแล้ว

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในอโศกของเรา อาตมาขอสรุปว่าอโศกของเราสมบูรณ์ แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้สมบูรณ์ แก้ปัญหาทางการเมืองก็สมบูรณ์ บริหารการอย่างไม่บริหาร ทำหน้าที่ของตนไปช่วยกันไปไม่ต้องไปบังคับกดขี่ ให้มีอิสรเสรีภาพลดอัตตาตัวตนไป ทุกคนก็มาสร้างปัญญาให้มีความเฉลียวฉลาดและอยู่กันอย่างเป็นมนุษย์เจริญ เป็นมนุษย์ คลาสสิค มีวรรณะ 9 นี่คือสุดยอดของคนแล้ว อาตมาถึงบอกว่าทำงานให้แก่สังคมมนุษยชาติ อาตมาบอกไปก่อนแล้ว ว่าอาตมาบรรลุผลแล้วทำให้เกิดความเข้าใจมีผลตามธรรมะพระพุทธเจ้า มาปฏิบัติตนเป็นผู้มีวรรณะ 9 สำเร็จมีสาราณียธรรม 6 ใช้ได้ดีแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ตีแตกเทวะด้วยคอมเม้นท์ที่เห็นต่างจากพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน ชุมชนบุญนิยมสร้างจากคนจนมหัศจรรย์


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 12:51:59 )

พ่อครูทำตามหลักเกณฑ์ของนานาสังวาส

รายละเอียด

อาตมาอธิบายธรรมะพระพุทธเจ้าไม่ได้เดาส่ง แต่อ้างอิงหลักฐานที่คนนับถือ เช่นพระไตรปิฎก เป็นต้น จากตำนานเป็นต้น อาตมาก็ไม่พูดลอยลม แต่อ้างแล้วอ้างต่างกัน อธิบายต่างกัน แปลความหมายไปต่างกัน 

เพราะฉะนั้นผู้ที่ติดตาม ก็ต้องติดตามเมื่อมันเห็นแตกต่างกันอธิบายต่างกันแล้ว พระพุทธเจ้าท่านก็สุดวิสัย มันยึดถือความเห็นของตนเข้าไปแล้ว ท่านก็บอกว่า ใครจะเห็นของใครเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็ต่างคนต่างเห็น ต่างคนต่างอยู่ เห็นต่างคนต่างปฏิบัติยืนยันกันไป เป็นนานาสังวาส ก็เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าด้วยกันทั้งคู่ แต่มันมีความเห็นต่างกัน เป็นนานาต่างกัน ท่านก็มีหลักธรรมวินัยพวกนี้ ก็ไม่ต้องไปถกเถียงกัน ไม่ต้องลงปาฏิโมกข์ร่วมกัน ไม่ต้องไปฟ้องร้องกัน แต่ด่ากันได้แรงๆ 

นี่คือหลักเกณฑ์ของนานาสังวาส ปฏิกโกสนา เป็นพยัญชนะบาลี ปฏิกโกสนาคือ คัดค้านกันได้อย่างดังๆแรงๆ เต็มที่เลย ปฏิกโกสนา คือคัดค้านกันได้อย่างเต็มที่คอจะแตกเลยได้ แต่อย่าไปทำลายกัน อย่าไปฟ้องร้องกัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 45 วันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2566 แรม 5 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 10:28:47 )

พ่อครูทำทั้งบ้านทั้งป่าให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้สำเร็จ

รายละเอียด

อย่างอาตมานี่ เป็นพระบ้านเต็มตัว แล้วเอาป่ามาสร้างไว้ในบ้านเต็มป่าเลย ทำ 2 ให้เป็น 1 ทำทั้งบ้านทั้งป่าให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เอกสโมสรณา ภวันติ แล้วอาตมาก็ทำสำเร็จแล้ว ทำสำเร็จอยู่ในเมืองกลางกรุงนั่นแหละ 

สันติอโศกก็อยู่กลางกรุงเทพ ราชธานีอโศกก็อยู่กลางอุบลราชธานี ปฐมอโศกก็อยู่กลางนครปฐม ศาลีอโศกก็อยู่กลางอำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ ศรีสะเกษก็อยู่กลางอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก็อย่างนี้แหละ แล้วก็ทำงานกับทั้งสังคม สังคมเปิดกับสังคมบ้านสังคมเมืองแต่ก็ทำให้เกิดป่า ขนาดสันติอโศกยังสร้างป่าเลย มันเป็นเรื่องซ้อน เป็นอจินไตย อยู่ที่ไหนก็ทำป่าในเมืองทั้งนั้น จะบอกว่าโพธิรักษ์เป็นพระป่าหรือพระเมือง พระเมืองในป่าหรือพระป่าในเมือง?

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 19:16:48 )

พ่อครูทำนานาสังวาสไม่ได้ทำสังฆเภท

รายละเอียด

ใครจะว่าอาตมาทำสังฆเภทอาตมาไม่ได้ทำ อาตมาทำนานาสังวาส การทำสังฆเภทเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด เป็นอนันตริยกรรม ใครจะคิดแยกอาตมาเป็นการทำสังฆเภทอาตมาก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น คนไม่รู้ก็พูดไปส่งๆไปเรื่อย คนรู้ก็พูดกันได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หมู่บ้านสาธารณโภคีมีจริงได้แม้ใกล้กลียุค วันพุธที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2564 ( 19:27:45 )

พ่อครูทำหน้าที่ในฐานะ 1 ในธรรมิกราช 2 รูป

รายละเอียด

อาตมาก็ทำหน้าที่ตามฐานะของอาตมา ซึ่งก็พูดกันไปแล้วว่าในประเทศไทยจะมีธรรมิกราช 2 รูป อาตมาก็เปิดเผยตัวเอง ไม่ได้พูดยกตัวเอง ไม่ได้พูดหลงตัวเอง ไม่ได้พูดอยากใหญ่อยากโตอะไร ติดตามอาตมาไปเถอะจนกว่าอาตมาจะตาย อาตมาไม่ได้ไปอยากใหญ่อยากโตอะไร หลายคนบอกว่าน่าจะเป็นสังฆราช อาตมาขอเป็นสังฆราษฏร ไม่ได้พูดอย่างหมาเห็นองุ่นเปรี้ยวนะ หรือไม่ใช่เกรงว่าจะต้องรับผิดชอบมากเป็นความฉลาดแกมโกงนิดหน่อย ไม่สวยเท่าไหร่นะ ไม่อยากรับผิดชอบหน้าที่อะไรเลย ไม่อยากรับผิดชอบภาระอะไรเลยเป็นคนแสดงถึงความขี้เกียจ ความเห็นแก่ตัว ความไม่เอาถ่าน ขายขี้เท่อออกมามันไม่สวย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนถือศีล 5 ได้ ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มกราคม 2565 ( 17:51:54 )

พ่อครูทำอย่างไรกับความขัดแย้ง

รายละเอียด

ยอมนั้นก็หนึ่ง อีกหลักคือ นานาสังวาส ยึดถือกันแล้วก็ให้อิสระเสรีภาพให้อิสระตามแต่จะยึดถือ วิจารณ์กันไปตำหนิกันไปได้ปฏิกโกสนา ติติงกันอย่างแรง ของคุณผิดอย่างไรก็พูดได้แต่อย่าให้เกิดอธิกรณ์ฟ้องร้องกัน แต่แย้งกันเกิดแน่ ห้ามไม่ได้ แต่ต้องอธิบายการขยายความคำว่าตรงนั้นถูกตรงนี้ผิดอย่างไร แล้วเอามรรคผลมายืนยันกัน ชาวอโศกก็ปฏิบัติได้มรรคผลตามแบบชาวอโศก เป็นฌาน ลืมตา สมาธิชาวอโศกก็เป็นสมาธิลืมตา แม้แต่นิโรธของชาวอโศกก็เป็นนิโรธลืมตา 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 12:00:16 )

พ่อครูทำใจอย่างไรกับอาการเจ็บป่วย

รายละเอียด

โรคป่วยของอาตมานี่มันไม่เหมือนโรคป่วยของคนอื่นเขา คือมันไม่ได้ปวดหัว มันไม่ได้ตัวร้อนหรือว่าเป็นอะไรที่เป็นแบบที่มันมีอะไรมาทำให้ โดยเฉพาะมาทำให้สมองเราทำงานไม่ได้ จนมันต้องพักสมองนี่มันก็ต้องพัก อาตมาป่วยที่คอมีเสลด แล้วอาตมาก็ยังพูดหลายทีแล้วว่า โชคดีที่อาตมาไม่เจ็บคอไม่เจ็บ ไอแรงๆไอมากๆ ไอสเลดเยอะอย่างไรก็มันไม่เจ็บ บางทีไอมากๆหน่อยก็กระเทือนทรวงอก ก็อาจจะเจ็บร้าวๆบ้าง เคยบ้างแต่ไม่มาก 

เพราะฉะนั้นสรุปแล้วก็คือว่าไอ้โรคที่เป็นนี้มันไม่เกี่ยวกับสมอง เพราะฉะนั้นอาตมาทำงานนี้ใช้สมองและอาตมาพูดมาบรรยายมามันก็ไม่มีปัญหาอะไร มันไม่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ แต่มันก็เป็นอาการที่ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ แค่ขัดขวางนิดหน่อย อาตมาปล่อยไปไม่ไหวก็ขากเสลดออกมาแค่นี้ ทนเอาก็แล้วกัน มันอาจจะไม่เรียบร้อยไม่สวยไม่งามอะไร 

คนทั่วไปสมองจะไปอยู่ที่ป่วยด้วย แต่อาตมาไม่เกี่ยวหรอก ป่วยก็คือป่วย มันจะเป็นการทับถมตน พระพุทธเจ้าก็บอกว่ามันเป็นการทำความทุกข์ทับถมตนเอง ป่วยมันก็ทุกข์อยู่แล้วและเอาจิตไปป่วยอยู่กับมันอีกมันก็ทุกข์ซ้อนเข้าไปอีก ป่วยก็ป่วย ก็รักษาสิอาการป่วย จิตใจเราก็อย่าไปเกาะอยู่ที่ป่วย ถ้าไปเกาะอยู่ที่ป่วยมัน ก็ทุกข์ทับถมตน ทุกข์ทับถมทุกข์ มันไม่ดี ก็พยายามแยกให้ถูกแยกให้ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 วันพุธที่ 17 มกราคม 2567 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2567 ( 20:23:00 )

พ่อครูทำใจอย่างไรตอนพ่อแม่เสีย

รายละเอียด

แม่อาตมาเสีย อาตมาไม่มีเวลารู้สึกอะไร เพราะอาตมาเรียนอยู่กรุงเทพฯ แม่เสียอยู่ที่อำเภอวารินนี่แหละ แล้วก็เผาเรียบร้อย เขาถึงส่งรูปมาให้ดู แล้วบอกว่าแม่เสียแล้วแก่อาตมา อาตมาก็เลยไม่มีเวลารู้สึกว่าแม่เสียหรืออย่างไร ก็ห่างเวลาไปเป็นเดือน เขาก็คงจะรู้ว่าไม่ควรจะต้องไปบอกอะไรมากมาย ส่วนตอนพ่อเสีย ก็โตแล้ว ปฏิบัติธรรมแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไรมาก 

เรื่องพ่อเสียแม่เสีย ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร รู้ว่าเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ทุกอย่างไม่มีอะไรไม่พรากจากกัน มันก็ต้องพรากจากกันหมุนเวียนกันไป ถ้ายังมีวิบากต่อไปต้องมาเจอกันอีก ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่ว่าจะเป็นวิบากทางปฏิฆะหรือวิบากทางรักทางผูกพัน ถ้าจะมาทางโลกุตระจะตัดญาติทางสายเลือดได้อย่างไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตำนานพญานาค ตอนที่ 2 

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 พฤษภาคม 2565 ( 08:41:41 )

พ่อครูนำประท้วงรัฐบาลเลว อย่าเอาคนกิเลสหนาตัณหาจัดมาเป็นนายกฯ

รายละเอียด

ในโทรทัศน์เราก็ออกรีรัน เอาภาพเก่าๆที่อาตมาออกไป อาตมาไม่ได้ไปแสดงตัวทำเท่ห์ทำใหญ่ทำเป็นผู้นำอะไร ไม่ใช่ แต่พวกเราชาวอโศกเรารู้ดีว่าอาตมานำ และอาตมาก็นำตั้งแต่พาพวกเราไปประท้วงตั้งแต่ออกไป แล้วก็ไปตั้งแถวอยู่ที่ถนนราชดำเนินใน แล้วก็เดินตั้งแถวนำขบวนเข้าสู่สนามหลวง เดินอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย คนข้างทางเขาก็มีด่าบ้างก็มี มาไหว้ก็มี แต่ดูเหมือนจะมาด่ามากกว่ามาไหว้ เพราะเขาคงไม่เคยเห็นพระมาเริ่มต้นที่จะมาทำ เขารู้ว่าจะมาตั้งหน้าตั้งตาประท้วง แล้วเราเข้าสู่สนามหลวงตั้งแต่ พ.ศ 2549 เข้าไปในเต็นท์ไหว้พระสวดมนต์ แล้วก็อยู่กันไปอีกนานเลย จนกระทั่งขึ้นเวทีว่าอะไรต่ออะไรไป จนกระทั่งเราพยายามมีโทรทัศน์ แล้วก็มีเวทีเองมีโทรทัศน์เอง มันก็ก้าวหน้าพัฒนาไป มันก็เลยกลายเป็นว่าคนที่เขามี Concept ว่า พระไม่น่ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองขนาดนี้ เขาก็ตัดทิ้ง ว่าอาตมาไม่ใช่ภิกษุของศาสนาพุทธ ไม่ใช่ธรรมะของพระพุทธเจ้า เขาก็ตัดทิ้ง อาตมาก็ไม่มีปัญหาสำหรับคนที่เขาเข้าใจไม่ได้ แต่อาตมาก็มั่นใจว่าอาตมาทำงานนี้เป็นการเสียสละ ทำงานนี้เพื่อมวลประชาชนให้เป็นอยู่สุข และอาตมาทำไปแล้ว ผลมันก็ออกมาดี 

อาตมาไม่ต้องพูดและคนเขาก็ไม่คิด เพราะเราไม่ได้ผูก ไม่ได้ไปกำหนด ไม่ได้ไปยึดเป็นเจ้าของอะไร ไปทำงานเพื่อระงับพฤติการณ์ของผู้บริหาร เรียกกันว่า รัฐบาลทรราช เราก็ทำให้รัฐบาลทรราชตั้งแต่รัฐบาลทรราชทักษิณ รัฐบาลทรราชสมัคร รัฐบาลทรราชสมชาย รัฐบาลทรราชยิ่งลักษณ์ เราก็ไปประท้วง เป็นช่วงๆตั้งแต่ 2549 จนปี 2557 จนเรียบร้อย ยิ่งลักษณ์จบ แล้วพลเอกประยุทธ์มารับไม้ต่อ ที่อาตมาบอกว่าไม่ได้เป็นเผด็จการ ไม่ได้มายึดอำนาจอะไร แต่ต้องพูดไปตามประสาโลก ภาษาสมมุติโลก ว่าผมขอยึดอำนาจ แล้วก็ต้องทำแบบนั้น มันต้องทำรูปธรรมให้เป็นแบบนั้น ถ้าไม่อย่างนั้นเขาไม่รู้เรื่องกันไปอธิบายได้อย่างไรก็เลยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอยึดอำนาจ” ทั้งๆที่ตอนยึดอำนาจนั้นคนรักษาการก็ไม่มีอำนาจ ขาลอยหมดแล้ว เป็นแต่เพียงเหลือแต่ร่องรอย มันเป็นสมมุติในโลกที่ยังมี 

ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาก็บริหารประเทศ ขอยึดอำนาจก็คือบริหารประเทศขึ้นเป็นนายกตั้งแต่บัดนั้น พวกเราก็สบาย นายกตู่ พลเอกประยุทธ์ก็บริหารไป ก็เข้าตาประชาชน ก็เห็นว่ามันเป็นคุณค่าเป็นประโยชน์ ทำได้ดี มาจนกระทั่ง 8-9 ปี เดี๋ยวนี้ก็ยังทำงานเป็นนายกอยู่ ที่จริงทำงานเป็นนายกอยู่จะเรียกว่ารักษาการ นายกทำหน้าที่เต็มอยู่ เขาก็เห็นว่ามันมีเรื่องมีราวตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมายเลือกตั้ง ไม่มีการได้รับเลือกตั้งได้คะแนนมากมายแล้วก็ทำท่าทีจะสรุปผลว่าจะเป็นนายก ทั้งที่ยังไม่ได้สรุปผลจริงเลยว่าเป็นนายกได้ แต่เขาอยากจะเป็น เขาก็โมเมว่าเขาเป็นแล้ว ยังไม่ได้เอารายชื่อขึ้นทูลเกล้าในหลวง อะไรต่างๆนานาก็ยังอีกตั้งไกล แล้วก็ดูท่าที มันจะได้เป็นหรือพิธาเอ๋ย เขาบอกว่าผมนี่แหละนายกคนที่ 30 อะไรอย่างนี้ จนป่านนี้ตกไปหรือยัง ตกไปแล้วด้วย เห็นไหม

นี่มันคือกิเลสของตัวคน แล้วก็หลงตัวหลงตน ไม่อยู่กับร่องกับรอย แค่นี้แสดงกิเลสออกหน้ามีแต่กิเลสออกหน้าไป คนกิเลสขนาดนี้จะมาเป็นผู้นำของประเทศ มันด่างพร้อย ไม่มีคุณสมบัติเป็นนายกเลย คนกิเลสหนาตัณหาจัดขนาดนี้ มันไม่สมควรเลย จำเอาไว้คนๆนี้ แล้วอาตมาไม่เชื่อว่ากิเลสเขาจะน้อยลง ถ้าเขายังเอาอีก กิเลสเขายิ่งสูงขึ้นหนาขึ้น แล้วคุณจะเอาคนที่กิเลสขนาดนี้ ขนาดที่เขามีขนาดนี้ยังแสดงออกขนาดนี้ ถ้าเขามาอีก เขายิ่งจะแรงกว่านี้อีกนะกิเลสเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอีก แล้วจะเอามาเป็นนายกรัฐมนตรีเอาคนกิเลสหนามาเป็นผู้บริหารบ้านเมือง เห็นแก่ตัวเห็นแก่พวก เห็นแก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข อย่างนี้อยู่ แต่เขาก็ทำที่ซ่อนพรางไปตามประสาเขา เพราะฉะนั้นอาตมาว่า ดีไม่ดีมันจะหนักกว่าทักษิณก็ไม่รู้ได้ ให้ระวัง อาตมาก็ให้สัญญาณเอาไว้ นี่ก็พูดแต่ความจริงใจ สงสารนะเขาไม่น่าจะมีกิเลสขนาดนี้ แต่มันช่วยไม่ได้เขามีของเขา อาตมาก็พูดไปตามเนื้อผ้า

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 32 จรณะ 15 คือการยืนยันหลักปฏิบัติไม่ผิดของพุทธ วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2566 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 8(8) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2566 ( 10:53:44 )

พ่อครูนำสาระพระพุทธเจ้ามาประกาศจึงเรียกว่า สารีปุตโต

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น เอาปรโตโฆษะ อาตมาเป็นโฆษกะ มาประกาศ เทียบกับศาสนาเทวนิยมก็เป็นพระบุตร อาตมาเป็นบุตรของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ที่มีสาระเรียกโดยภาษาว่า สารีปุตโต เขาก็หาว่าอาตมาเป็นพระสารีบุตรมาเกิด จริงๆก็ใช่ อาตมานำสาระของพระพุทธเจ้ามาประกาศ อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ

ปเวเทนตีติ แปลว่าประกาศแล้วเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ คนที่ไม่รู้แล้วพูดอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานเพื่อฟ้าดิน เพื่อฟ้าดิน สร้างคนจนสุขสำราญฯ ตอน4 วันที่ 1 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 17:15:59 )

พ่อครูบริหารประชาชนชาวอโศกเช่นไร

รายละเอียด

อาตมาก็ขอยืนยันว่า ทุกวันนี้ ถ้าอาตมาเป็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อาตมาก็คงอาจจะลาออกจากนายกไปนานแล้ว เพราะอาตมาคิดว่าชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะเป็นนายก เพราะรู้ว่างานหนัก อาตมาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่บริหารในประเทศไทย แต่อาตมาก็บริหารประชาชนชาวอโศก 

การบริหารประชาชนชาวอโศกของอาตมานี้ เป็นการบริหารที่ละเอียด สุขุม ประณีต ให้อิสรเสรีภาพยิ่งกว่าพลเอกประยุทธ์ เพราะพลเอกประยุทธ์นั้นยังใช้กฎหมายมาว่า ส่วนอาตมาไม่ได้อ้างกฎหมายมาตีพวกเราหรอก   ให้พวกเราสำนึกในเรื่องพระธรรมวินัย หรือกฎระเบียบ ศีลธรรมของพระพุทธเจ้าเอง ผู้ใดได้เท่าไรก็ได้เท่านั้นตามฐานานุฐานะ แล้วก็ได้สัดส่วนที่เรียกด้วยสำนวนวิชาการว่า ทิฏฐิสามัญตา ศีลสามัญตา ความเสมอสมานตามฐานะโสดาบันเสมอกับพระโสดาบัน สกิทาเสมอกับสกิทาคามี อนาคามีเสมอกับอนาคามี อรหันต์เสมอกับอรหันต์ ต่างคนต่างรู้ฐานะของตน แล้วรู้ฐานะของผู้ที่ต่ำกว่า รู้ฐานะของผู้ที่สูงกว่า สามารถที่จะร่วมประสาน แม้ผู้ต่ำกว่าก็ไม่ข่ม แม้ผู้สูงกว่าก็ไม่อวดดีด้วย ไม่ข่มไม่อวดดีด้วย เพราะรู้จริงว่าฐานะสูง ฐานะต่ำ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาที่เลยปัญหาของคนหลงความรู้มาก วันพุธที่ 31 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 20:42:06 )

พ่อครูบริหารประเทศมาไม่รู้กี่ชาติ

รายละเอียด

อาตมาก็เคยบริหารประเทศมาทั้งนั้น อาตมาบริหารอย่างแรง บริหารอย่างสุภาพ อาตมาผ่านมาไม่รู้กี่ชาติแล้ว ขออภัยพูดสิ่งที่จริงให้ชัด คนอาจไม่รู้เท่าไหร่ แต่ถึงเวลาก็ขออ้างอิงบ้างสำหรับผู้ใส่ใจศึกษา เรื่องของธรรมที่ประกอบด้วยกรรมและกาลที่ยาวนาน ไม่รู้จักกี่ยุคผ่านมา ถ้าคนเข้าใจทัศนคติวิสัยทัศน์นี้ ก็จะรู้อะไรชัดเจน

อาตมาเองอาตมาเกรงใจที่คุยตัวเอง เป็นผู้ผ่านอันนั้นอันนี้ แต่จำเป็นต้องอ้างอิงบ้าง ถ้าอาตมาไม่รู้การเมืองอาตมาพาพวกเราไปประท้วงก็จะตายเป็นเบือแล้ว แต่อาตมาก็พาทำ เดี๋ยวนี้ก็ยังพร้อมนะ ถ้าเผื่อว่ามันไม่ชอบมาพากล หากประเทศไทยมีอย่างทักษิณสมชาย ยิ่งลักษณ์มาอีกก็พร้อม แต่ตอนนี้ก็ดีแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 15:25:47 )

พ่อครูบวชมาครบ 53 ปี มีอะไรจริง 

รายละเอียด

เหลืออีก 9 นาที มาปรับทุกข์สำหรับพวกเรา อาตมาเองอาตมาหายเหนื่อย มันไม่หายหรอก แต่ว่าพระพุทธเจ้าเข้าทรง(สำนวนแสลง ขำๆ ความหมายคือ) กำลังวังชามา ไม่รู้มาจากไหน พระพุทธเจ้าเข้าทรง พอมาอธิบายธรรมะทีไรแล้ว มันมีแรง มันมีกำลัง มันมีความชื่นอกชื่นใจ เต็มอกเต็มใจ ที่จะยังความรู้อันนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่คนอย่างพระพุทธเจ้าเห็นว่าสำคัญที่สุด ความรู้ทางโลก 18 วิชา ไม่เอา สุดท้ายต้องมาทำอันนี้ยิ่งใหญ่ที่สุด ต้องให้คนได้เห็นผล ความรู้ทางโลก 18 วิชา ท่านไปเรียนเพียงเพื่อจะได้รู้เท่านั้นเอง  ในยุคของท่านมี 18 วิชา เดี๋ยวนี้มีไม่รู้นับไม่ถ้วน เป็นดอกเตอร์กี่แขนงก็ไม่รู้ จะเป็น 100 แขนงแล้วก็ไม่รู้ วิชาทำรองเท้าเป็นด็อกเตอร์ก็ได้อะไรอย่างนี้ ทำกันไปตั้งกันไปสารพัด มันก็ไม่มีปัญหาหรอก ไม่มีใครห้าม แล้วก็มีคนนิยม เขาก็มีลูกค้า เขาก็ทำของเขาได้ 

เพราะฉะนั้น สัจจะสาระสำคัญในความสำคัญมันมีอยู่เท่านี้จริงๆ พวกเรานี่ อาตมาเกิดมายุคนี้ที่เป็นยุคเสื่อม ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ใน อาณีสูตร ว่ามันจะเสื่อม อาตมาไม่ได้พูดโมเมหรอก มันเสื่อมจริงๆ แล้วอาตมาก็เอาโลกุตระที่อาตมาเป็น ถ้าเข้าใจธรรมะฟังแล้ว โดยไม่มีอคติกับอาตมา ฟังแล้วจะบอกว่า จริงนะ 

เมื่อโลกุตระมันไม่มีแล้วนี่ในโลก มันจะมีขึ้นมาได้ก็ต้องมีผู้มีสิเป็นผู้เอามา เพราะมันมีเองไม่ได้ ก็ต้องมีผู้มีเองมาใส่เข้าไป อาตมาก็บอกว่าอาตมามีของอาตมามาเอง อาตมาเป็นนิยตโพธิสัตว์ เป็นสยังอภิญญา สยังแปลว่าผู้มีเอง เป็นเอง มีความรู้ของพระพุทธเจ้ามาเอง ข้ามชาติมา ก็ไม่ได้ปิดบัง แต่หมั่นไส้อาตมา บอกว่าอาตมาอวดอุตริมนุสธรรมมที่ไม่มีในตน อาตมาไม่มีอาตมาก็ปาราชิกสิ อาตมามีของอาตมา ก็พูดมาจนกระทั่ง 53 ปี ไม่มีได้ยังไง พามาเป็นโลกุตรธรรม มาเป็นของจริงถึงขนาดนี้ ไม่มีได้ไง 

เพราะฉะนั้นอาตมาก็ยัง วันนี้มามหาปวารณา นั่งกันเต็มศาลานี้ คุณไม่เป็นอาตมาบ้าง อาตมาภาคภูมิใจยังไงแค่ไหนคุณไม่รู้หรอก 

คุณไม่รู้หรอกว่าอาตมา ขณะนี้เห็นคนนั่งเต็มศาลานะวันนี้ ซึ่งธรรมดานานๆเป็นอย่างนี้ ถึงบอกว่า คุณไม่รู้อาตมา มันมีกำลังในการที่จะ อย่าเพิ่งตาย ๆ มันมีกำลังอันนี้ขึ้นมาจริงๆ นะ อ้าวจริง มันเป็นจริง ที่พูดนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นนะ มันเติมสภาวะพลังทางจิต มันเกิดพลังงาน จิตมันเกิดสภาพพวกนี้ มันเติมขึ้นมา มันสร้างพลังที่จะต่อเชื้อต่อแรงต่อภพต่อภูมิ เหมือนกับนักวิ่งนั้นนะ วิ่งแข่งขัน โอ้โห นำหน้าเขามา แล้วเขาดันมาขึ้นหน้า นึกออกไหม คนที่วิ่งนำหน้ามา แล้วมันจะถึงเส้นชัยแล้วนี่ คุณคิดดูซิไอ้คนนั้นจะเป็นยังไง มันวิ่งนำหน้าเขามานะ แล้วคนวิ่งตามมามันก็แซงขึ้นหน้าจะถึงเส้นชัยแล้ว โอ้โห คนนั้นจะฮึดขนาดไหน นี่เปรียบเทียบให้ฟัง โอ้โห ตายเป็นตายวะ พวกที่ไปวิ่งแข่งกัน คุณสังเกตไหม พวกนี้จะยื่นหน้าไป เพื่อที่จะถ่ายรูปแล้วเอาหน้าไปก่อน ดีไม่ดีจะคว่ำเอา แต่มันก็วิ่งเร็วมันก็ทัน ถ้าวิ่งไม่เร็วมันคว่ำหน้าเลย เอาหน้ายื่นไปก่อน วิ่งเร็วมันก็เลยไม่คว่ำ นี้อธิบายพลังงานทางโลก พลังงานสามัญเขาเป็นอย่างนี้ 

ทีนี้พวกเรามาได้ขนาดนี้ อาตมาพูดหลายทีแล้วว่าอาตมาทำงานมาชาตินี้ถึงขั้น สาธารณโภคี ซึ่งอาตมาคุ้ยคุยๆ ไม่ใช่คุยน้อยๆเลย คุยอย่างภาคภูมิด้วยว่า โอ้โห.. อาตมาเกิดมาชาตินี้ทำสาธารณโภคีให้เป็นที่ปรากฏ เพราะยุคพระพุทธเจ้าทำอย่างนี้ไม่ได้ ทำกับฆราวาสอย่างนี้ไม่ได้ ก็บอกแล้วว่ามันมีข้อจำกัด มันเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคทาส เป็นยุคที่คนยังไม่รู้จักสิทธิมนุษยชน มันทำไม่ได้ ไม่ใช่อาตมาเก่งกว่าพระพุทธเจ้า แต่องค์ประกอบคนละบริบท คนละเวลา กาละ เทศะ ฐานะ ซึ่งในยุคนี้มันได้ 

อย่างนี้แหละ แค่นี้แหละ อาตมาขอบคุณพวกคุณเลย ที่เป็นตัวจริง ที่มาเป็นสาธารณโภคีได้ มาเป็นสาราณียธรรม 6 

สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา (พตปฎ. เล่ม 22 ข้อ 282)

มาอยู่ด้วยกันอย่างมีเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ถ้าคนในประเทศไทยเป็นอย่างนี้ทั้งหมด ตำรวจนี้ล้มไปเลย ตำรวจไม่มีงานทำหรอก 

พวกเรานี้มี สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ  ตามคำสอนพระพุทธเจ้าทุกอย่าง (พตปฎ. เล่ม 22 “สาราณิยสูตร” ข้อ 283)

รักกัน ระลึกถึงกัน เคารพกัน ช่วยเหลือเฟือฟายกัน ไม่วิวาทกัน อยู่อย่างพร้อมเพรียงกัน สามัคคีเป็นหนึ่งเดียว น้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นปึกแผ่นแข็งแรงแน่นหนา พิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าทุกสูตรทุกคำสอน แล้วมาเป็นถึงขั้นสาธารณะโภคี 

โลกเขาก็ต้องการ คอมมิวนิสต์เขาก็ต้องการสาธารณโภคีต้องการคนเสียภาษีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้เข้ากองกลาง คอมมิวนิสต์เขาก็ต้องการ ประชาธิปไตยก็ต้องการให้คนเสียภาษีเข้ากองกลางให้ได้มากที่สุด แต่ของพระพุทธเจ้านี่เสียภาษีเต็มร้อยเข้ากองกลาง เมื่อไหร่คอมมิวนิสต์จะทันพระพุทธเจ้า เมื่อไหร่ประชาธิปไตยจะทันพระพุทธเจ้า เห็นไหม ที่อาตมาพูดนี้มีความจริงรึเปล่า จริงใช่ไหม เห็นไหม 

แล้วคนที่เขาเรียนด็อกเตอร์ ทางรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ต่างๆนานา สังคมศาสตร์ก็ตาม เขาจะรู้เลยว่าของพระพุทธเจ้านี่ นำหน้ากว่าเขาไปคนละกี่โยชน์แล้ว ไม่ว่าจะทางด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะทางด้านการเมือง ไม่ว่าจะทางสังคม ใช่ไหม นี่คือสัจจะที่สุดยอดจริงๆ พิสูจน์ได้ถึงวันนี้ ปัจจุบันชาตินี้ ขณะนี้ ยุคนี้ กาละนี้ อาตมานำของพระพุทธเจ้ามา อาตมาไม่ใช่เจ้าของธรรมะ อาตมาเป็นโพธิสัตว์พิสูจน์คำสอนพระพุทธเจ้าได้ขนาดนี้ ก็ยืนยันแล้วว่าเป็นเนื้อแท้ของธรรมะพระพุทธเจ้า ยืนยันได้พอใช้เลย ขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่มาเป็นมวล เป็นตัวแสดงความจริง ยืนยันความจริงต่อโลกยุคนี้ ขอบคุณอีกครั้ง เจริญธรรม ..จบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูบวชมาครบ 53 ปี มีอะไรจริง พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 16:12:37 )

พ่อครูบอกใคร ยึดเลยแล้วบริหารต่อ

รายละเอียด

เมื่อเช้าก็พูดกันเปิดเผยว่า มาอยู่เลย คุณจะตั้งรกราก ตั้งครัวเลยก็ได้ คุณมีคณะพอสมควรแล้วรับผิดชอบไม่มีปัญหาอะไร เราก็เชื่อมืออยู่แล้วว่า พวกคณะนี้เขาทำได้ดี ก็ไม่มีปัญหาอะไร แล้วเราก็บอกว่าคุณจะยึดที่นี่เลยก็ได้นะ แล้วก็บริหารต่อไปเลยยังได้เลยไม่ว่ากัน นี่ พูดด้วยความจริงใจ เพราะเรารู้ว่าเราแก่แล้ว ให้หนุ่มสาวเขารับไปต่อ 

ของเรามีสมาชิกประจำอยู่ที่นี่ประมาณ 400-500 คน กลุ่มของหมอเขียวเขามาสมทบนี่ได้ถึง 777 เลยนะ ถึงแล้วนะจริงไหม เอาน่า เขาฟังอยู่ แต่เขาก็มีสาขาเขาเยอะ ไม่ต้องห่วงสาขาก็อยู่ไป เหมือนอาตมาไม่ใช่ไม่มีสาขา ชุมชนอโศกอาตมามีไม่รู้กี่สาขา อาตมาก็อยู่ที่นี่แหละ แล้วเราก็ออกโทรทัศน์ได้ทั้งนั้น ก็รับไปสิ สื่อสารมวลชนทุกวันนี้มันก็ Globalization สบายจะตาย ซึ่งอันไหนมันดูไม่ดีไม่เข้าท่าก็แก้ไขปรับปรุงกันก็แล้วกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 18:39:45 )

พ่อครูปฏิบัติเพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้าใช่ไหม

รายละเอียด

เจตนาประพฤติปฏิบัติเช่นนั้นก็เป็นโพธิสัตว์มาเป็นลำดับตอนนี้ขั้นที่ 7 แล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน ทำไมไม่อยากให้ลูกมีแฟน


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:28:27 )

พ่อครูประกาศความเป็นมิกราช

รายละเอียด

คนอื่นพูดแทนใครเขาจะรู้ คนที่จะมาพูดแทนเขาจะเป็น เขาจะมีความรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นหรือไม่เป็น ใครมีคุณธรรมขนาดนี้ ก็ต้องให้คนที่มีจริงเป็นจริงของตัวเองพูดความจริงออกมาสิ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 ตุลาคม 2565 ( 15:11:35 )

พ่อครูประกาศปลดเกษียณตนเอง

รายละเอียด

มาถึงวันนี้ ที่จะพูดต่อไปนี้ จะพูดจริงนะ อาตมาจะปลดเกษียณอาตมาเอง จะมอบให้ท่านทั้งหลายเอาภาระแทนอาตมาอยากจะสอนก็สอนอยากจะทำงานก็ทำงานอยากจะเที่ยวก็เที่ยวอยากจะนอนก็นอน อย่ามาเอาตาราง Time Table มาจัดให้ มาจัดกำหนดอาตมามากเลย อาตมาขอเป็นฟรี เป็น independent พวกคุณเป็นรักอะไร รักพงษ์อโศก อาตมาฉลาด เอารักพงษ์อโศกมา เห็นไหมผู้ใหญ่บ้านที่นี่ถือรักพงษ์อโศกนะ มันลงตัว เชื่อรักพงษ์อโศก โศลก มหาปวารณา ได้แล้ว โศลกธรรมของปีนี้คือ ทองคำแพง แพ้แรงคนจน

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 09:57:56 )

พ่อครูประกาศอรหันต์อย่างมั่นใจเมื่อ พ.ศ. 2558

รายละเอียด

อาตมาที่พูดไปนี้พูดอย่างมั่นใจว่า อาตมาเป็นผู้ที่ได้ธรรมะนั้นจริง เป็นผู้มีธรรมะจริง บอกว่าเป็นอรหันต์ก็ประกาศซื่อๆ แต่ไม่ได้รีบร้อนอยากจะคุยโว กว่าจะมาประกาศต่อสาธารณะจริงๆก็ พ.ศ. 2558 ที่ไพศาลี อย่างนี้เป็นต้น ไม่ได้อยากประกาศเร็ว แต่ก็เคยบอกแก่คนที่มาถาม อย่างน้องสาวอาตมา ขวัญดี ถาม ก็บอกตรงๆไม่ได้ไปมังกุอะไร ก็บอกใช่ เขาถามพี่แป๊กเป็นอรหันต์จริงหรือ ก็บอกใช่พี่แป๊กเป็นอรหันต์ เขาฟังแค่นั้นก็จบ เขาไม่ต่อแล้ว 

จากนั้น ศาสตราจารย์แสงจันทร์งาม ก็ถาม แต่ท่านจันทร์เคยไปสัมภาษณ์ ตอนนั้นท่านอายุ 90 กว่าแล้ว บอกว่าเคยถามพ่อท่าน ว่าเป็นอรหันต์หรือเปล่า อาจารย์แสงก็บอกว่าจำไม่ได้ ที่จริงก็บอกว่าไม่เคยก็ได้ แต่อาจจะไม่กล้าที่จะยอมรับ ขออภัยที่พูดเป็นเชิงตำหนินิดหน่อย อาจจะไม่กล้ายอมรับเพราะดูแล้วรู้สึกว่า จะไม่แน่ใจ ก็ทำให้อาตมาเข้าใจอาจารย์แสงเพิ่ม ตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ แก่มาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมในงานพิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2564 วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2564 ( 15:43:22 )

พ่อครูประกาศอรหันต์แล้วก็พิสูจน์ได้ด้วย

รายละเอียด

อาตมาสามารถพิสูจน์ได้ มีผู้ที่รับรองอาตมาว่าเป็นอรหันต์ อาตมาพาเขาได้ธรรมะและปฏิบัติจนเป็นอรหันต์ ตามที่อาตมาเป็นนี้แหละ ถ่ายทอดแล้วเขาก็ได้ตามมา เขาก็ยิ่งเห็นเลย โอ้! เขาก็ได้นะนี้ เขาก็ได้เป็นพระอาริยบุคคล โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ เขาก็ไม่กล้าที่จะเป็นอรหันต์ได้ง่ายๆหรอก เขาก็จะรู้ว่าอรหันต์นี้มีจริงๆ และเขาก็จะเห็นเปรียบเทียบได้ว่า เขากับอาตมานี้ อาตมาเป็นอรหันต์แน่ เขากับอาตมาต่างกัน พวกเรานี้นะ ไม่ใช่เขาทางโน้น ทางเรานี้ก็จะรู้ แล้วมันก็จะรู้มีอรหันต์ไม่รู้กี่ระดับ 

อาตมาอธิบาย อรหันต์มีถึง 6 ระดับ อาตมาว่า สายอาจารย์มั่นอาจารย์เสาร์นั้นไม่มีปัญญารู้หรอก อรหันต์ 6 ระดับนี้ ไม่มีหรอกเพราะว่าไม่เข้าใจอรหันต์ ไม่เข้าใจโพธิสัตว์  ขออภัยอีกที ไม่เข้าใจแม้แต่อรหันต์ที่ถูกต้องสัมมาทิฏฐิ จึงได้พากันออกนอกรีต แล้วก็ไปหลงอรหันต์เก๊ ก็หลงยึดอรหันต์เก๊กันอยู่ถึงทุกวันนี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่สุดสงสาร อาตมาเห็นแล้วก็สงสาร สุดสงสาร เพราะเขาไม่รู้แม้แต่เวทนาในเวทนา ไม่รู้กายในกาย เพราะฉะนั้นจิตในจิตนี้เขามีแต่ฝังจิตไปสู่จิตฝัง เขาไม่ได้พิจารณา ไม่ได้แยกจิต จิตที่เขาสะกดเข้าไปในอัตตานี้ มันยิ่งมืด ยิ่งดับ ยิ่งบอด แต่ถ้าจิตลืมตาเปิดออกมาสู่โลก มันยิ่งจะรู้จักกว้าง ยิ่งสว่าง ยิ่งเปิด ยิ่งจะรู้จักความจริงตามความเป็นจริงไปทีละคู่ๆ 

แล้วกลายเป็นรู้ โลกวิทู เป็นการรู้เปิดโลกกว้างไปเรื่อยๆ มันเป็นคนละทิศทางกันเลย ถ้าเผื่อว่าปรารถนาธรรมะพระพุทธเจ้าจริงๆ ตั้งใจฟัง อย่างน้อยก็ตามฟังอาตมาไปเรื่อยๆ คุณว่า อาตมาปาราชิก อาตมาว่าคุณหมายอย่างนั้นนะ ว่าอาตมาประกาศตัวเป็นอรหันต์ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ อาตมาพิสูจน์ได้ แต่คุณเองต่างหากไม่รู้ คุณไปเข้าใจอรหันต์เก๊เป็นอรหันต์จริง คุณไม่รู้ว่าอรหันต์จริงคืออาตมานี้ แล้วมีผู้พิสูจน์อาตมาอยู่ รับรองอาตมาว่าอาตมาเป็นอรหันต์จริง โดยเฉพาะคนที่อยู่กับอาตมามาด้วยกัน 40-50 ปี อยู่ด้วยกันและก็ศึกษาปฏิบัติธรรมมาด้วย ไม่ใช่อยู่กันเฉยๆ ถ้าอาตมาเก๊ ก็เขาก็ต้องรู้สิ จะโง่อะไรกันนักกันหนา ว่าอาตมาเป็นอรหันต์เก๊ เห็นว่านี่เป็นอรหันต์อะไร ยังมี ราคะ โทสะ โมหะ มันจะต้องแหลมออกมาจนได้แหละ เนอะ ก็จะรู้เอง 

อันนี้มันเกินกว่าที่เขาจะฟังขึ้น อันนี้มันก็ลึกซึ้ง อาตมาจะขยายความให้ฟังว่า ทำไมมันถึงทุกข์ เพราะอาตมามันหมดอายุขัยแล้ว คนที่ยังมีอายุขัยก็เป็นธรรมชาติธรรมดา ก็จะกินอาหารตามความเหมาะสม ทีนี้เมื่อฝืนอายุขัย มันก็จะฝืนกินอาหาร มันฝืนไปมากขึ้น นี่อาตมาฝืนมาเป็นนักษัตรเกินแล้ว จาก 72 มา 84 นี่มา 90 แล้ว มันก็ยิ่งฝืน มันก็ยิ่งกินยากขึ้นทุกวันเลย มันฝืนอายุขัย ฝืนขันธ์ อาตมาเข้าใจสิ่งเหล่านี้ก็พูดให้ฟัง ซึ่งเป็นเรื่องอจินไตย เป็นเรื่องปัจจัตตัง เป็นเรื่องของคนที่เป็นจริงถึงมีสภาวะนั้นจริง เสแสร้งไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องเสแสร้ง มันเป็นเรื่องจริง ก็ค่อยๆศึกษากันไป ใส่ใจดีแล้วล่ะ 

อาตมาว่า ผู้ที่ SMS มา อาตมาขอบคุณ แล้วก็สนับสนุน ใส่ใจเถอะ ไม่ทิ้งขว้างอาตมา ฟังอาตมาบ้างก็ขอบคุณ ดี ติดตามเถอะ ค่อยๆฟังไปได้เล็กได้น้อย หรือว่ามีอะไรแย้ง แย้งมา ก็ขอบคุณอีก จะได้อธิบายความขัดแย้ง ขยายความที่มีความแตกต่างกันสู่กันฟัง ตั้งใจฟัง นานาสังวาสเป็นเรื่องดี เห็นต่างกันนี้แหละดี อย่ามาทำตัวเป็นนิกายต่อกันเลย ไม่คบหากัน อยู่คนละพวกคนละที่กัน แตกแยกกัน อย่าแตกแยกกันเลย เอาความแตกต่าง อย่าแตกแยก 

อาตมาไม่ได้กล่าวหาท่าน อาตมาเอาความจริงมาพูด ไม่ได้กล่าวหาท่าน คุณน่ะขี้ตู่อาตมา อาตมาเอาความจริงมาพูด พูดให้ลูกศิษย์ลูกหาและแม้แต่คุณนั่นแหละ เจตนาจะให้ฟังดีๆว่ามันไม่ถูกต้อง พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของคุณ คุณอย่าไปหลงงมงายมากเกินไป นับถือพ่อแม่ครูบาอาจารย์นั้นไม่ผิดหรอก มันดี แต่อย่าหลงงมงายเกินไป อาตมาอธิบายนี้ไม่ได้ไปลบหลู่ ไม่ได้ไปดูถูก แต่อาตมาแจกแจงตัวอย่างที่เป็นกัน ซึ่งมันเป็นไปผิดๆ มีของจริง อาตมาก็กล่าวถึงยืนยันเท่านั้น แล้วอาตมาก็ยกอ้างความถูกต้อง คำสอนของพระพุทธเจ้า อาตมายกอ้างอิงมาเปรียบเทียบ มายืนยันให้ศึกษา ฟังสิ ฟังพินิจพิจารณาไปตาม แยกแยะให้ดีๆ แล้วก็จัดสรรดีๆ ทำความเข้าใจดีๆ แล้วคุณจะได้รู้จักความจริง อย่าฟังธรรมด้วยการผลัก ฟังธรรมด้วยการเพ่งโทษ จงฟังธรรมด้วยดี สุสฺสูสํ ลภเตปัญญัง จะได้ปัญญา ถ้าฟังธรรมด้วยการผลักหรือฟังธรรมด้วยการเพ่งโทษ มันไม่ได้ปัญญา มันไม่เข้า เพราะคุณกั้น คุณต้านไว้แล้ว ควรฟังรับมาพิจารณา ค่อยๆ พิจารณาไป รับฟังไป พิจารณาไปตามเรียกว่า สุสูสัง จะเกิดปัญญา 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 36 ชีวกสูตรคือเจาะจงฆ่าไม่ใช่เจาะจงชื่อคนกิน วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม 2566 แรม 13 ค่ำ เดือน 8(2) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 กันยายน 2566 ( 08:10:11 )

พ่อครูประกาศโลกนี้-โลกหน้า ตามสัมมาทิฏฐิ 10

รายละเอียด

อาตมาอยากจะไขโลกนี้โลกหน้า พระพุทธเจ้า ท่านตรัสเอาไว้ใน สัมมาทิฏฐิ 10 ข้อที่ 10 ว่าจะมี สยังอภิญญา เกิดมา สยังแปลว่าเอง มีอภิญญามาเอง พระพุทธเจ้า ท่านตรัสไว้ถูกต้องแล้ว เพราะว่าคนที่รู้เองมีของตนเองถูกต้องนั้นมี แต่มีนั้นไม่ได้หมายถึงแต่พระพุทธเจ้า เป็นสยัมภู สยัมภูก็เป็นผู้รู้เอง เป็นผู้รู้องค์แรกในยุคกัป ที่ยังไม่มีใครเปิดเผยตัวเป็นพระพุทธเจ้าเลย ในยุคที่มีคนเปิดเผยตัวเป็นพระพุทธเจ้าและพระสมณโคดมมาประกาศแล้ว ก็ยังมียุคที่โลกแม้จะไม่เสื่อม แต่คนในโลกโดยเฉพาะชาวพุทธเสื่อมไปจากความรู้ที่เป็นโลกุตระ 

พอครึ่ง 2,500 ปีขึ้นมา พระศาสนาพุทธของพระสมณโคดมยืนยาว 5 พันปี พอ 2,500 มันก็เสื่อมสนิท ชาวพุทธแม้แต่ผู้นำทางศาสนาอยู่ ก็ไม่สามารถรู้เรื่องของโลกุตระเลย จึงต้องมีผู้ที่รู้เรื่องโลกุตระมาอุบัติขึ้นในยุค 2,500 กว่าปีนี้แหละ แล้วก็นำโลกุตระมาเอง แล้วก็เอามาประกาศขึ้นให้ผู้อื่นรู้ตาม นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในข้อที่ 10 ของสัมมาทิฏฐิ สมณพราหมณ์ทั้งหลาย เป็นผู้ดำเนินชอบ-ปฏิบัติชอบ  ซึ่งประกาศโลกนี้-โลกหน้า ให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในโลกนี้ มีอยู่ (อัตถิ โลเก สมณพราหมณา สัมมัคคตา สัมมาปฏิปันนา เย อิมัญ จ โลกัง ปรัญ จ  โลกัง สยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ) 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ประกาศโลกนี้โลกหน้า
วันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2564 ( 10:52:57 )

พ่อครูประมาณตนเองรู้ตนเองไม่ได้เลอะเทอะเท่านี้ก็ว่าเท่านี้

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนที่รู้ได้เร็วรู้ได้สามารถอย่างที่ว่านี้ก็เป็นจริง มีจริง อาตมาพอรู้ กำลังเริ่ม อันดับ 8 นะนี่ อาตมากำลังเริ่มเข้าอันดับ 8 อันดับ 7 จะเต็มก็เหลื่อมไปหา 8 

บอกความเป็นจริงที่อาตมาประมาณตนเองหรือรู้ตนเองไม่ได้เลอะเทอะเท่านี้ก็ว่าเท่านี้ แน่นอน มันมากกว่าคนสามัญที่จะรู้ ก็ใคร เป็นไก่ตัวพี่ ที่จะรู้อย่างนี้มาช่วยแสดงตัว ถ้าเป็นจริงรู้กว่าอาตมาก็มาช่วยอธิบายสิ ไปปิดตัวอยู่ทำไม ช่วยกันสิ เพราะว่าศาสนาไม่ใช่ของใคร ไม่ใช่ของอาตมา ไม่ใช่ของท่าน แต่เป็นของโลก ความรู้นี้เป็นของกลาง ใช่ไหม ก็มา สาธยายกระจายความรู้ให้คนอื่นรู้ เหมือนอย่างพระพุทธเจ้าท่านรู้ก็เอามาเปิดเผยให้คนได้รู้ตามและเอาไปปฏิบัติตามก็ได้บรรลุตาม แล้วพ้นทุกข์ตาม สุดท้ายก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปด้วยกันได้หมด 

หรือยังไม่ยอม จะปรินิพพานเป็นปริโยสาน คุณจะอยู่เหมือนพระอวโลกิเตศวร จะสอนคน หรือ อย่างเจ้าแม่กวนอิม เป็นอวตาร มาเป็นเพศหญิงก็ได้ อันเดียวกันถ้าเข้าใจ 

เพราะฉะนั้นใครจะสามารถรู้อย่างที่อาตมาสาธยายก็เกิดจากความจริงที่ตนเองรู้ แล้วก็เอามาเปิดเผยมาชี้นำ แก่ผู้ยังไม่รู้ให้พยายามศึกษาตาม จนสามารถรู้บัญญัติพยัญชนะ รู้การปฏิบัติจนเกิดเป็นสภาวะจริง พอรู้ครบสองสภาพทั้งพยัญชนะหรือบัญญัติกับสภาวะจริง รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน ปุ๊บเลย สัจจะเป็นหนึ่งเดียวกันจาก 2

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ของผู้มีอภิภายตนะ 8 วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 11:14:36 )

พ่อครูประสบเรื่องสุขภาพของท่านเอง

รายละเอียด

ตอนนี้รู้สึกว่า ข้าศึกร้ายในตัว มันเอาแรง วันนี้เสลดออกมาเยอะ แถมตัวเองกัดลิ้นตัวเองด้วย เจ็บระบม แต่จวนจะหายแล้ว ตามเรื่องของขันธมาร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ กษัตริย์คือจิตประชาชนคือกายของประเทศ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กันยายน 2565 ( 13:29:37 )

พ่อครูผู้มาอธิบายหัวใจศาสนาพุทธ

รายละเอียด

ใครจะอธิบายอาการจิตเท่าอาตมาบ้าง อาจารย์เสาร์อาจารย์มั่นรับรองว่าแจกแจงเจตสิกอย่างอาตมาไม่ได้ ไม่เคยเห็นมหาบัวบันทึกไว้ อาจารย์เสาร์บันทึกไว้ โดยเฉพาะแยกเคหสิตะ เนกขัมมะ 18 ซึ่งเป็นจุดแยกโลกียะกับโลกุตระ อาจารย์มั่นอาจารย์เสาร์รู้หรือ ขออภัยนะพูดเหมือนข่ม อ.มั่น อ.เสาร์ อาตมาเห็นใจคนที่นับถือท่าน อาตมาก็เห็นว่าท่านปฏิบัติดี แต่มันเป็นมิจฉาทิฏฐิไม่ใช่ทางพระพุทธเจ้าอันนี้ต่างหากที่สำคัญ ถ้าคุณปฏิบัติอย่างฤาษีชีไพรคุณก็มีดี อาจารย์มั่นอาจารย์เสาร์มีความดีแบบนั้น เป็นพระนอกรีตของพระพุทธเจ้าท่านมีมากแบบนั้นอาตมายอมรับ แต่ในศาสนาพุทธที่สัมมาทิฏฐิท่านไม่มีอันนี้ ฟังให้ชัดแล้วเอาไปเรียนดูให้ดี ไม่เช่นนั้นคุณจะหลงทางอย่างนี้ไปตลอดตายนิรันดร แล้วจะเป็นเทวนิยมไปตลอด เพราะว่าอาจารย์เสาร์อาจารย์มั่นก็ยังไม่พ้นจากความเป็นเทวนิยม เพราะเข้าใจเทวะหรือธรรมะ 2 ไม่ได้ แยกแยะธรรมะ 2  คือ “ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง” (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ )  ล.10 ข.60 ไปอ่านให้ดีแล้วไปตีแตกหัวใจของศาสนาพุทธให้ได้ เทวธัมมา อาตมาขยายความอย่างพิสดารแล้วแล้วเอามาให้พวกเราปฏิบัติได้ด้วย พวกเรามีธรรมะ 1และ 0 บรรลุธรรมแล้ว แล้วคนก็เข้าใจไม่ได้ว่าผู้บรรลุธรรมคือชาวอโศก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ตีแตกเทวะด้วยคอมเม้นท์ที่เห็นต่างจากพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยบุคคล) ตอน พ่อครูผู้มาอธิบายหัวใจศาสนาพุทธ


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 13:18:51 )

พ่อครูผู้มีสูงและต่ำในตน 2 ใน 1 และ 1 ใน 2 ในตน

รายละเอียด

 เพราะฉะนั้นเมื่อรู้จักปัญญา เมื่อมีปัญญา ปัญญารู้โลกุตระ เพราะฉะนั้นก็จะใช้ปัญญาหรือใช้ความรู้ที่เป็นโลกุตระนี่แหละ ที่มันเป็นคุณค่าวิเศษ มันเห็นว่า เป็นความรู้ที่สุดยอดแล้ว เพราะฉะนั้นมันจะฉลาดพอ ฉลาดพอในสิ่งที่ควรเลิกควรละ ควรเป็นควรมีมาตามลำดับ โสดาบันก็จะรู้ว่าควรเลิกควรละ ไม่ต้องไปติดไปยึด ไม่ต้องไปติดสุขไม่ต้องไปติดทุกข์กับมัน จะต้องมีมันจะต้องสัมผัสเกี่ยวข้อง 

อย่างสมัยก่อนนี้อาตมาตั้งแต่เด็ก โอ้โห.. ทำงานส่งหนังสือพิมพ์ รับมา ส่งหนังสือพิมพ์เสร็จก็แวะกินข้าวที่ราชวัตร มีร้านข้าวต้มกุ๊ยอยู่ที่ราชวัตร อาตมาก็แวะเข้า ไม่ต้องไปสั่งอะไร พอเขาเห็นหน้าอาตมาปั๊บ เขาก็เอาแกงมะระสด ใส่เครื่องในไก่ แกงจืดน้ำใส มะระกับเครื่องในไก่แล้วก็ข้าวมา แล้วก็น้ำปลาพริกมะนาวมา อาตมาก็กินอย่างนั้นทุกวัน จนไม่ต้องสั่ง เดินเข้ามาร้านปั๊บ เห็นหน้ากัน เขาก็ทำมาเลย อาตมาก็กินอยู่แต่อย่างนี้แหละ แล้ววันนี้ก็พอดีมีมะระมาโชว์ อาตมาก็เลยเอามาหยิบพูดถึงความเป็นความมีชีพชีวิต ยังชีพยังชีวิตมาง่ายๆ 

ในความมีชีวิตของอาตมา ต้องต่อสู้กับชีวิตไป หาสตางค์เรียนหนังสือเอง ที่จริงอาตมาไม่เคยน้อยใจไม่เคยรู้สึกต่ำต้อยเลยนะ ที่ทำงานอย่างนั้นน่ะ และเราก็ทำงานและก็เลี้ยงชีวิตตน เรียนหนังสือหนังหาไป จนกระทั่งพอได้ทำงานอื่น นอกจากจะถีบรถส่งหนังสือพิมพ์ เอาหนังสือพวกนี้ไปวางขายได้เปอร์เซ็นต์ได้อะไรด้วย พอได้เงินได้ทองเลี้ยงตัวเองเรียนหนังสือมา จนกระทั่งได้มาออกโทรทัศน์ มีลำไพ่จากรายได้จากโทรทัศน์บ้าง จนกระทั่งได้สอนหนังสือ ตั้งแต่เป็นนักเรียนอยู่ก็ไปสอนหนังสือ ได้สอนหนังสือได้ลำไพ่ได้เงินทองพอเลี้ยงชีพก็เลยค่อยๆเบาทางด้านทำงานขี่จักรยานส่งหนังสือพิมพ์ไป ได้ทำโน่นทำนี่อะไรไปเองอีก แต่งเพลงอะไรไปมีรายได้ จากการเขียนหนังสือหนังหาอะไรไป มันก็เลี้ยงตนมารอด ไม่ได้ไปทำชั่วอะไร ไม่ได้ไปมอมเมาคนด้วย ไม่ได้ไปพามอมเมา ขอทิ้งไว้ในเรื่องความมอมเมา อย่างนั้นอย่างนี้ ก็ไม่มี 

จนกระทั่งเรียนหนังสือมา จบมาทำงาน ทำงานไม่ได้เคยวิ่งเต้นหางานทำ เข้าโทรทัศน์ เข้ายากนะไม่ได้เข้าง่าย เข้าไปเป็นพนักงาน ไปเป็นคนจัดรายการได้มีรายการของตัวเองมันไม่ง่าย โทรทัศน์แต่ก่อนมันมีแค่ 2 ช่อง อาตมาเข้าไปทำงานนั้น มีช่องที่ 2 หรือยังไม่รู้ ดูเหมือนจะยัง เพราะอาตมาไปเข้าตั้งแต่พ.ศ.ที่ช่อง 5 ช่อง 7 ของทหารเขา …เกิดกันหรือยัง.. อาตมาเข้าทำงานที่โทรทัศน์ทำตั้งแต่ยังเรียนหนังสืออยู่ตั้งแต่พ.ศ 2498 เปิดโทรทัศน์ช่อง 4 เดือนมิถุนายน สถานีโทรทัศน์ ของประเทศไทยแห่งแรกคือช่อง 4 เกิด 

อาตมาสมัครก็ได้ไปทำงานโทรทัศน์ หาลำไพ่ตั้งแต่ปลายปี 98 แล้วก็ทำมีลำไพ่มาเรื่อยๆ จนกระทั่งผู้ใหญ่ในนั้นคือ คุณจำนงค์ รังสิกุล หัวหน้าฝ่ายจัดรายการ ก็ยอมรับในความรู้ในฝีมือในความสามารถที่จะทำงานโทรทัศน์จัดรายการได้ จึงอยู่ฝ่ายจัดรายการได้ แล้วอาตมาก็จะไปจัดรายการทำงานทางโทรทัศน์หาลำไพ่มาจนกระทั่งเรียนจบแล้ว ตอนสมัครก็ไปบอกคุณจำนงค์ว่า จบแล้วจบเพาะช่าง เขาก็บอกว่าทำงานที่นี่ไหมล่ะจะทำงานก็เขียนใบสมัครเท่านั้นเอง เขียนใบสมัครเข้าไปทำงานเลย เพราะทำงานอยู่แล้วรายการก็มีอยู่แล้วก็ทำต่อไปเลย ก็เป็นพนักงานบริษัทไทยโทรทัศน์ โดยไม่ได้เข้ายากเข้าเย็นอะไร แต่คนอื่นเขาเข้ายากเย็นมากเพราะมีโทรทัศน์ช่องแรกของประเทศไทยอยู่ช่องเดียว เท่ห์โก้ ยิ่งได้ออกรายการจัดรายการโผล่หน้ามาแสดงตัว เขาเรียกกันดารงดารา อะไรก็แล้วแต่ มันก็โอ้โห..เท่ห์เสียไม่มี 

แต่อาตมานี่ทำงานโทรทัศน์ทำสารพัด ทำงานรายการที่คนเขาไม่ค่อยทำ รายได้ค่ารายการถูกมาก อาตมาค่าตัว 80 พวกคนที่ทำรายการค่าตัวของเขาร้อย 120 ค่าตัวของดารา 150 ของอาตมา 80 แต่ของอาตมา คุณทำ 80 เราทำ 2 รายการก็ได้ 160 วะ อ้าวจริง เพราะอาตมาทำรายการเยอะและอาตมาไม่เคยด้อยกว่าดาราเด่นๆ ดาราเด่นๆไม่ได้เท่าอาตมาหรอก ไม่ได้เท่าจริงๆ 

ดาราดังๆรุ่นเดียวกัน อาตมาขี่รถติดแอร์คันแรกของประเทศไทย ก่อนใครหมดเลยก่อนเพื่อน ก่อนดาราไหนหมดเลย (มีภาพ insert คันนี้เป็นชบาบานเรียกว่าเสือทะยานชน มันชนแหลกหน้าบู้หน้าบี้ ไม่เคยซ่อม ไม่ซ่อมแต่งตัวเท่มีหมวกโคบาลใส่เปิดประทุน ) เราก็เท่ไปอีกแบบ มีรถฟอร์ดคันที่ดีมอนสเตทเลยเรียกว่า Ford corsair ใหม่รุ่นใหม่ เป็นรถรุ่นนำหน้ากระบวนการแล้วก็ติดแอร์ แอร์มันไม่ได้ติดมาในตัวของรถนะ เป็นแอร์ต่างหาก เราก็ใส่ติดแอร์ มันยังไม่ Complete ไดนาโมของรถมันก็ชาร์จไม่พอ รอบไม่ถึงอะไรต่างๆนานา แต่ก็ติดแอร์ เป็นรถติดอยู่กลางถนน รอบมันไม่พอ เครื่องก็ดับตายเข็นกันอยู่กลางถนนบ่อย โอ้โห..โก้มากใหม่มาก คนอื่นเขาไม่ได้ติดแอร์ เราติดแอร์แล้วก็เพิ่งมาใหม่ๆ แต่ต้องเข็นกลางตลาดกลางถนน อันนี้เรื่องจริงนะอาตมาไม่ได้พูดเล่น 

อาตมานี่อายุยัง 20 กว่า 30 ตอนนั้นยัง 30 หรือยังไม่รู้ขี่รถคอแซร์ติดแอร์คันแรก ของประเทศไทย ของบริษัทแองโกลไทย ซึ่งคนอื่นยังไม่มีจริงๆเป็นครั้งแรก แต่ไม่มีใครทำสถิติไว้ อาจจะมีคนทำสถิติแต่ไม่เปิดเผยออกมา ถ้าเปิดเผยออกมา อาตมานี่แหละ เพราะอยู่ในประเทศไทยเราก็รู้บริษัทรถยนต์มีอย่างโน้นอย่าง ไอ้นี่มันรถ Ford corsair บริษัท แองโกลไทย..ก็อย่างนี้แหละ ดูๆแล้วมันก็รู้สึกว่า มันนำหน้าอยู่เหมือนกันนะ นำหน้าโลก แต่เรื่องประหลาด มันจะว่าสูงก็ไม่สูง จะว่าต่ำก็ไม่ต่ำมันยังไงไม่รู้ อาตมานี้เป็นคนมีสูงมีต่ำอยู่ในตัว มันเป็นคน สองในหนึ่ง หนึ่งในสอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาหาราธิปไตย สร้างอายะ 3 ด้วยอาหาราวุธ วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 10:10:44 )

พ่อครูผ่านมาหมดแล้วทั้งการนั่งหลับตาสมาธิและการเล่นไสยศาสตร์

รายละเอียด

คือ อย่างที่เขาทำนั้น อาตมาทำมาหมดทุกอย่างตามที่เขาเป็น นั่งหลับตาสะกดจิตเข้าไป จนไม่รู้เรื่องอะไรข้างนอกเลย นั่งอยู่ที่วัดอโศการาม นั่งตรงชานกุฎิออกไป ก็นั่งให้ยุงทะเล มันมาเป็นหมู่ๆ รุมกัด ก็ไม่รู้สึกหรอก ตื่นขึ้นมาแดงเถือก ลายพร้อยไปทั้งตัว ก็ทำมาหมดแล้ว ทำมาจนกระทั่ง จะนั่งหลับตาอย่างไร เราก็ทำมาหมดแล้ว แม้แต่ไสยศาสตร์ ก็อาศัยเจโตสมถะทำ ก็ไปเล่นไสยศาสตร์อยู่ตั้ง 8 ปี ตั้งแต่เป็นฆราวาส จนหมดสงสัยในเรื่องของไสยศาสตร์ บวชแล้วอาตมาไม่ได้ไปอาบัติ เล่นไสยศาสตร์ 8 ปี เล่นตอนเป็นฆราวาสจนเบื่อ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือมนุษย์อัศจรรย์ตามปหาราทสูตร วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2564 ( 18:43:24 )

พ่อครูฝึกฝนอบรมตนเพื่อให้เกิดปัญญา 8 เจริญงอกงามไพบูลย์

รายละเอียด

อาตมาก็กำลังศึกษาเล่าเรียนฝึกฝน“ปัญญา 8”ซึ่งจริงๆอาตมาก็คือ ผู้กำลังศึกษาเล่าเรียนฝึกฝนอบรมตนเพื่อให้เกิด“ปัญญา 8” เจริญ งอกงาม ไพบูลย์​อยู่ ยังไม่“จบกิจ”ไพบูลย์ครบตามที่พระพุทธเจ้าทรงมีพระสัมมาสัมโพธิญาณ อาตมากำลังสั่งสม“พุทธภูมิ”ก็บอกตามจริงมานานแล้วว่า อาตมาเป็น“โพธิสัตว์ ระดับ 7”

ก็กำลังรู้จักรู้แจ้งรู้จริง“ปัญญา 8”ไปตามลำดับ อันใดมั่นใจว่า“สัมมาทิฏฐิ”แล้วจึงเปิดเผยสาธยายออกมาตามที่รู้นั้นทุกประการ เพื่อสืบทอดพระศาสนาของพระพุทธเจ้าด้วย เพื่อยืนยัน“ความรู้-ความจริง”นั้นด้วย เพื่อผู้ศึกษาจะได้ศึกษาตามด้วย และเพื่อท่านผู้รู้อื่นได้ตรวจสอบอาตมาด้วย แล้วท่านจะได้กรุณาทักท้วงแก้ไขให้อาตมาด้วย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 1

วันพุธที่ 23 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2565 ( 21:30:42 )

พ่อครูฝืนชีวิตเพราะยังไม่ตั้งจิตปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในความเป็นคนที่เกิดมา มาทำงาน ทำหน้าที่ อาตมาก็ทำงานมา จนอายุ 88 อีกไม่กี่เดือน จนถึงเดือนมิถุนายน อีก 3 เดือนก็ครบ 88 เต็ม ขึ้น 89 

อาตมารู้ตัวเองนะว่า มันฝืนชีวิต มันฝืน ลากถูลู่ถูกังไปตลอด มันควรพักควรผ่อน พูดง่ายๆว่าควรตายได้แล้ว มันโอ้โห! พยายาม ไม่ใช่ไม่อยากตายนะ ไม่อยากตายก็ไม่มี อยากตายก็ไม่มีหรอก รู้อยู่ว่าตายหรือไม่ตายก็เป็นธรรมชาติ ไม่ได้มีความสงสัยอะไร 

อาตมาไม่ได้สงสัยเพราะว่าอาตมาไม่ได้มีความกังวล ไม่ได้มีความเดือดร้อนอะไร เพราะอาตมาไม่ได้ตั้งจิตปรินิพพานเป็นปริโยสาน อาตมาตายไปแล้วต้องมาเกิดอีก แล้วเชื่อไหมว่า อาตมาเกิดมาชาติหน้าดีกว่าเก่า...เชื่อ เพราะคุณเข้าใจกรรมวิบาก 

ตลอดชีวิตอาตมาไม่ได้ไปทำชั่วทำวิบากบาป วิบากอกุศลอะไรเลยมากมาย ทำนิดๆหน่อยๆ ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่รู้ตัวเท่าไหร่ เมื่อมารู้ตัวแล้วเลิก สัพพปาปัสสอกรณัง(ไม่ทำบาปทั้งปวง) กุสลสูปสัมปทา(ทำกุศลให้ถึงพร้อม) จนกระทั่งลากสังขารมาจนถึงทุกวันนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของศีลที่พ่อครูเอามาสถาปนา วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 7 ค่ำเดือน 3 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:38:47 )

พ่อครูฝืนสังขารเพื่อต้องการลูกๆได้ PI(โพธิรักษ์ Intelligence) 1

รายละเอียด

อาตมาคงจะต้องเลิกหรือคงจะต้องงดแสดงธรรมแล้วล่ะ สังขารมันแย่จังเลย แม้แต่ธรรมดาก็ไอๆๆ นั่งอยู่ปกติทำงานนั่นนี่อยู่ แม้แต่นอนเดี๋ยวก็สะดุ้งขึ้นมาไอ อาการมันหนัก ไอ้กระเปาะ มันผลิต อาตมาเรียกมันว่าน้ำพิษ มันจะคันมาก มันจะอยากขับออกอย่างแรง แล้วมันก็ผลิต ผลิตเสลดเหนียวอีก ทั้งน้ำพิษก็จะต้องขับออก เสลดเหนียวดึงเอาไว้อีก ทรมานทรกรรม มันหนัก อาการมันมากเลยทุกวันนี้ อาตมามันฝืนขันธ์มานานเกินไปแล้ว มันควรจะต้องพักได้แล้วคือควรตายได้แล้วพูดง่ายๆ 

อันนี้พูดความจริง เป็นสัจจะที่มันถึงวาระ แต่อาตมาก็ยังพยายามพิสูจน์ ยังพยายามชะลอมัน แต่มันทรมาน สักวันหนึ่งก็คง พยายามตั้งเป้าอะไรต่ออะไรไป ให้พวกเราสบายใจ แต่แท้จริงก็ไม่ได้หลอกหรอก บอกไปอยู่ บอกไปเรื่อยๆ ว่า อาตมาคงไม่ได้ยาวยืนอะไรเท่าไหร่หรอก มันถึงเวลาที่มันจะต้องกลับบ้านเก่าแล้วด้วย พักผ่อน แล้วอาตมายังไม่หยุดหรอก อาตมายังจะคงเวียนมาเกิดอีกเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงหรอก พวกเราก็บอกว่ากว่าอาตมาจะตายแล้วกว่าจะกลับมาเกิดใหม่ กว่าจะโตมาเทศน์ได้ เขาคงจะตายก่อน ก็ว่ากันไป ก็เป็นไป ก็เป็นตามสัจธรรมเท่าที่ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 29 พ่อครูฝืนสังขารเพื่อต้องการลูกๆได้ PI(โพธิรักษ์ Intelligence)วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566 แรม 8 ค่ำเดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2566 ( 16:17:24 )

พ่อครูฝืนสังขารเพื่อต้องการลูกๆได้ PI(โพธิรักษ์ Intelligence) 2

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น สรุปรวมอีกทีว่า อาตมาปางนี้แล้ว วันนี้ก็ยังรู้สึกว่าตัวเอง อ่อนแรงมาก ก็คิดว่าจะลดการบรรยาย ลดการแสดงธรรมลงไป ทำงานแต่เพียงอยู่กับการเขียนถึงควรพักก็พัก สมควรเพียรก็ทำไป นอนมาก ทุกวันนี้ก็นอนมาก ก็เป็นไปได้เพราะฉะนั้นตอนนี้ อาตมาก็ว่า โอ้ อายุเราเนี่ย คิดว่าอายุร้อยแล้วมันจะแข็งแรง เห็นท่าแล้วมันคงไปไม่ไหว มันคงไม่แข็งแรงหรอก มันมีความเสื่อมหลายอย่าง มันก็ไม่ดีหลายอย่าง ซึ่งมันหนัก มันกินแรง ไอทีนี้เมื่อย อย่างที่พวกคุณก็พอเห็นน่ะ แล้วตอนนี้มันไอถี่มาก 

นี่เป็น โพธิรักษ์ไอ มันเก่งกว่า AI เก่งว่า IO เขา อันนี้มัน PI อาตมานี่โพธิรักษ์ไอ PI ยิ่งใหญ่กว่า AI ยิ่งใหญ่กว่า IO นะ นี่โลกเขากำลังนิยมชมชื่นเรื่อง AI ปัญญาประดิษฐ์ เรื่องของ IO อะไร เขานิยมชมชื่นกัน แต่ โพธิรักษ์ไอ PI ไม่มีใครนิยมชมชื่น อาตมาก็ไม่อยากให้ใครได้ไป ไอ้โรคพันธุ์นั้นแต่สิ่งที่มันซ้อนอยู่ในโพธิรักษ์ที่มันควรจะไอ ไอก็คือ Intelligence นะ มันควรจะต้องมาเอา พากเพียรเอา ขยันเอา ทำเอาให้ได้ อาตมาก็ทำงานมาถึงป่านนี้แล้ว ชีวิตก็เข้าใกล้เขต ทศวรรษสุดท้าย ทศวรรษก็คือ 10 ก็คือย่างเข้าไปหา 90 ไปถึง 100 จะไปถึง ศตวรรษ เข้าไป 10 สุดท้ายแล้ว ย่างเข้าสู่ 10 สุดท้ายแล้ว อาตมาอายุ 89 ปีย่าง 90 ปีขึ้นไปได้ 1 เดือนกับ 5 วันแล้ว  

ก็ไปเรื่อยๆ เดือนหน้ากรกฎาคม สิงหาคม ก็ 2 เดือน ไปสู่กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคมไปเรื่อยๆ เป็นอายุ 90 ถึง ธันวาคมนี่ก็ 6 เดือน แล้วก็เลยไปปีหน้าไปมกราคม อีก ก็จะขึ้น 7 เดือน 8 เดือน 9 เดือน 10 เดือน ก็จะถึง 5 มิถุนายน 2567 ก็เต็ม 90 ขึ้นไปสู่ 91 ปี

คือมันรอบลงตัว 10 ครบรอบ cyclic order เป็นรอบมันลงตัว พอมันออกนอกรอบมา มันก็ต้องเพิ่มพลังพิเศษขึ้นไปรอบใหม่ ถ้าครบรอบก็คือจบ ลงตัวหรือจบในแต่ละรอบแต่ละกรอบ เพราะฉะนั้นคนที่ปฏิบัติธรรมไม่รู้จัก
รอบ ไม่รู้จักกรอบแห่งความจบ มันก็ไม่มีขั้นตอนเป็นลำดับ มันก็เลยไม่รู้จักความจบกิจ โสดาบันก็จบกิจประมาณหนึ่ง สกิทาคามีก็ระดับหนึ่ง อนาคามีก็ระดับหนึ่งจบกิจระดับหนึ่ง อรหันต์ก็จบกิจแห่งการที่จะมีทุกข์มีสุขแล้ว พ้นทุกข์พ้นสุขในชีวิตจริงๆ ในอรหันต์ นี้ก็เป็นอรหันต์ขั้นที่ 1 อะไรอย่างนี้  

ซึ่งความรู้สัจธรรมที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้นี้ มันสุดยอดแล้ว คนเราเกิดมาเพื่อที่จะไปแสวงหา ลาภ ยศ สรรเสริญ แล้วก็ไปเสพสุข เสร็จแล้วมันก็วนเวียนอยู่ในนี้ด้วยการไม่รู้คืออวิชชา แล้วก็ยังอยากได้ แล้วก็แย่งชิงเป็นหนี้ เป็นหนี้กรรมหนี้กรรมที่ร้ายแรงก็คือ เข่นฆ่าเขา แย่งเขา เอาอำนาจบาตรใหญ่ สร้างอาวุธมาเข่นฆ่า บุกรุกเขา เหมือนอย่างชาวเทวนิยม ชาวตะวันตก ชาวศาสนาพระเจ้า เขาไม่รู้เรื่องหรอก ของพระพุทธเจ้านั้น อย่าว่าแต่จะไปสร้างอาวุธเลย วางศาสตรา วางทัณฑะ วางอาวุธ วางอะไรหมด ไม่ใช่สร้าง แม้มันมีมา เห็นว่ามันมี เฮ้ย! อย่าไปอวิชชา ไปมีอาวุธ ไปมีอะไรต่ออะไรอยู่ มันขึ้นมาถือ คนมามี มันก็เป็นคนไม่ดีแล้ว เป็นคนชั้นต่ำแล้ว 

เรื่องนี้ลึกซึ้ง คนไม่รู้เรื่องไปสร้างอาวุธ สร้างอำนาจบาตรใหญ่ ให้แก่ตัวเองนี้ โอ้โฮ! พวกนี้นี่ยังเถื่อน ยังเป็นคนเถื่อนที่ยังยากที่จะพูดกันรู้เรื่อง ยากจริงๆนะ จะเห็นได้ว่าเมืองไทยไม่ได้เก่งในเรื่องสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ไปบุกรุกใครเขา แม้แต่ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศธรรมะ เป็นต้นทางของศาสนาพุทธเลย พระพุทธเจ้าอยู่ในทวีปอินเดีย อุบัติในทวีปอินเดีย จนทุกวันนี้พลเมืองเขาตั้งพันกว่าล้าน จะมากกว่าจีนหรือเปล่าทุกวันนี้ เขาก็ไม่ได้ไปเด่นสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ไปแข่งฆ่าแข่งกับใครเขาเลย นั่นคือรากฐานของจิตวิญญาณ เป็นคุณธรรมของความเป็นมนุษย์ เป็นผู้มีจิตสูง ไม่ใช่คนเถื่อน ไม่ใช่คนมิลักขชน เป็น อาริยกะ อย่างอินเดียนี้ เขามองว่าอินเดียเป็นคนไม่เจริญ เป็นคนยากจน อะไรต่างๆ นานาของเขา คนรวยก็รวยไป คนยากจนก็เยอะ ไม่ได้เหมือนประเทศบางประเทศเขา มีเงินมีทอง มีข้าวมีของ มีอะไรต่ออะไร เขาก็วัดกันด้วยแบบโลกๆ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข 

เพราะฉะนั้นธรรมะของพระพุทธเจ้า จริงๆแล้วว่าไปแล้ว แม้แต่เทวนิยมเขาก็พอฟังเข้าใจว่า จริงๆแล้วมาเป็นคนมักน้อยสันโดษ มาเป็นคนจน อย่างพวกประเทศทางตะวันตก ทางยุโรป ผู้บริหารประเทศคนไหนเขามีชีวิตที่ยากๆจนๆ ไม่สะสมลาภยศ เขาก็ยกย่องกันนะ เขาก็ยกย่อง จะว่าลึกๆเขาไม่รู้ มันก็ไม่เชิง เขาก็พอรู้อยู่ แต่มันคลุมๆ เครือๆ มันไม่กระจ่างชัด มันไม่ตัดรอบอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้นการจะตัดรอบของความยึดติดในเรื่องลาภ ยึดติดในเรื่องยศชั้น สรรเสริญ ยึดติดในเรื่องโลกียสุข นี่แหละความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า จิตไม่ยึดไม่ติด แล้วก็จิตไม่สุขไม่ทุกข์กับมันแล้วกับลาภยศ ไม่สุขไม่ทุกข์กับยศ-ชั้น-สรรเสริญ-ยกย่อง พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ชัดเลยว่า สรรเสริญนั้นไม่มีค่าอะไรเลย เป็นความต่ำทราม ไม่มีค่าพอที่จะให้ละหน่ายคลายอะไรเลย การตำหนิสิมีคุณค่า อย่างนี้เป็นต้น สัจจะมันถึงย้อนแย้งกันไปมากมายเลย ฉะนั้นพวกเรานี้เป็นยุคใกล้กลียุคแล้ว ถึงยุคนี้มันใกล้กลียุคของโลกนะ แม้แต่ของพุทธ ก็เป็นกึ่งพุทธกัปของศาสนาพุทธแล้ว ปีนี้ 2,500 ปีกว่าแล้ว มันก็ใกล้เข้าไป 

เพราะฉะนั้นคนที่จะฟังธรรมโลกุตระของพระพุทธเจ้าได้ จึงเหลือน้อยประมาณนี้ ซึ่งอาตมาไม่ได้แปลกใจ มันเป็นสัจจะ ได้เท่านี้ก็ดีแล้ว เก่งแล้ว ก็ทำเท่าที่ได้ ที่เขาไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่สงสารกัน เห็นอยู่ ก็พยายามช่วยอย่างโน้นอย่างนี้ ไปพูดมากๆเขาก็หาว่าไปด่าเขา ไปว่าเขาอีก เพราะเราต้องไปข่ม ไปบอกว่าเขาผิด ไปพูดอย่างนั้นมันก็เลยยิ่งกลายเป็นว่าเราไปข่มเขาอีก ก็เอา มันเลี่ยงไม่ออก อาตมาชาตินี้ไม่รู้อย่างไร มันเลี่ยงไม่ออก หลายๆอย่างก็จำนน 

เอาละ อาตมาได้สาธยายเลยเวลาไปหน่อยแล้ว มันเป็นการฝืนสังขาร ก็คิดว่าจะลดการเทศน์ลงไปอีก นี่บอกไว้ก่อนนะ ก็คงจะลดการเทศน์ลงไปอีก แต่อาตมาเขียนหนังสือนี่ มันไม่ลำบากเท่าไหร่ ไปเรื่อยๆ มันไม่ต้องใช้กำลังมาก ใช้แต่สมองกับนิ้ว กดคีย์อะไร เดี๋ยวนี้ก็ไม่ต้องเขียน ลบก็ง่าย จะเขียนก็ง่าย มันผิดก็ลบง่าย ใช้เครื่องมือมันง่าย มันก็เลยเบา สบายหน่อย ค่อยยังชั่ว ก็คงจะไปเขียนมากกว่าจะมาเทศน์แล้ว ก็บอกให้รู้ล่วงหน้าไว้ ไม่ใช่ไม่อยากเทศน์นะ อาตมาอยากทำ แต่มันคงจะต้องจำนนต่อสัจจะ มันฝืนวิสัยคงจะยากแล้ว ก็บอกให้รู้ เพราะฉะนั้นอาตมาก็จะต้องไปกำหนดกันใหม่ ตอนนี้อาทิตย์หนึ่งเทศน์ 3 วัน วันเสาร์ วันอาทิตย์ก็เว้นแล้ว ก็เทศน์อยู่ 3 วันต่อสัปดาห์ ต่อไปก็อาจจะ สัปดาห์ละ 1 ครั้งหรือ 2 ครั้งมั่ง อย่างมาก ลดจาก 3 ไป ก็เอาเป็นว่าถ้าเห็นว่าเอาน่า น่าจะเทศน์ไหวก็เอา พวกเราก็ไม่มีปัญหาหรอก พวกเรามีรีรัน มีคนทดแทนได้เยอะ สำหรับวันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ก็แล้วกัน เจริญธรรมทุกๆคน 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 29 พ่อครูฝืนสังขารเพื่อต้องการลูกๆได้ PI(โพธิรักษ์ Intelligence) วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566 แรม 8 ค่ำเดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2566 ( 17:21:45 )

พ่อครูฝืนสังขารไปอีกอยากให้ถึงอย่างน้อย 108 ปี

รายละเอียด

ยุคนี้อาตมาเองอายุปูนนี้แล้ว สรีระร่างกายก็ฝืนมา อายุขัยของอาตมาเคยบอกแล้วว่า 72 ตอนนี้ได้มา 1 นักษัตร เป็น 84 ถ้าไปอีก 2 นักษัตร จากนั้นเป็น 96 เป็น 3 นักษัตร ไปอีกถึงเป็นร้อยแปด ก็อยากจะถึงนะ 

เคยตั้งตัวเลขไว้โก้ๆตั้งแต่ตำนานตอนเจอหมออารีย์ แกบอกว่าจะอายุ 120 อาตมาก็บลัฟว่า จะเอา 121  แล้วแกก็ว่างั้นจะเอา 150 ปี อาตมาก็บลัฟต่ออีกเป็น 151 ปี ก็บลัฟกันเท่านั้น

ทุกวันนี้อาตมามี Routine ก็คือ 1. นอน 2. ตื่น 3. กิน 4. ก็ดูงานนั่นนี่ไป เสร็จแล้วก็วนเวียนมานอน มากิน หรือมีอย่างอื่นก็เขียนหรือเทศน์ Routine มีอยู่ประมาณนี้ 

การกินนั้นแต่ก่อนใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ถึงหรอกชั่วโมงกว่า ก็ต้องกินเพื่อให้ได้ปริมาณเพียงพอ มันรีบกินไม่ได้ ไม่ใช่ว่าฟันไม่ดีไม่ใช่ว่ากำลังเคี้ยวไม่ดี ดี ฟันอาตมาต้องขอบคุณหมอกิตติโชติ เป็นหมอดูแลทางฟันให้อาตมา ก็ทำให้หมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูตอบปัญหาผ่าพญาครุฑ ฉุดพญานาค วันพุธที่ 2 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2565 ( 20:02:30 )

พ่อครูพยายามจะไม่วางขันธ์ง่ายๆ

รายละเอียด

อาตมาก็ดีใจ หลายๆคนก็ดีใจ พยายามอยู่ที่จะไม่วางขันธ์ง่ายๆ ยิ่งไปเห็นหมอเฉก ตอนนี้ก็เกือบจะร้อยละ อายุ 96 97 ใกล้ 100 แล้ว ก็ยังมุ่งมั่นว่าจะอายุ 121 ให้ได้ ว่ายน้ำออกกำลังกายทุกวัน เป็นสายธรรมดา ไม่ได้ใช้ธรรมะอย่างโลกุตระเราทีเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามิจฉาทิฏฐิไปเสียจนไม่รู้เรื่องอะไร หมอเฉก ก็ยังพอฟังพวกเราได้ แต่ก็มุ่งมั่นไปทางสรีระ เพื่อพิสูจน์ก็ดี ลองดู อาตมาดูท่าทาง ป้อแป้ๆ กว่าหมอเฉกมาก ดูสิ เอาจริงๆจังๆแล้วใครจะถึง 120 ก่อนกัน แต่อย่างไรหมอเฉกก็ถึงก่อนอาตมา เพราะแก่กว่าอาตมา หรือว่าถ้าหมอเฉกจะไปก่อนอาตมาแล้วยังไม่ถึง อาตมาก็ถึงก่อน

ตอนนี้ก็ดูๆอยู่ 3-4 คน นอกจากหมอเฉกแล้ว ดูอยู่ว่าใครจะไปก่อนกัน 1. โพธิรักษ์ 2. ส.ศิวรักษ์ แก่กว่าอาตมาเกือบสองปี 3. มหาประยุทธ์ สมเด็จพุทธโฆษาจารย์  4. สุรพล โทณะวณิก อายุ 90 กว่า ซึ่งตัวเขาเองไม่รู้ว่าอายุจริงๆเท่าไหร่ เป็นเด็กจรจัดที่ไม่รู้หัวนอนปลายตีน ก็โมเมว่าอายุมากแล้วเป็นคนพูดไปเรื่อย หรือผนวกเอา เปลว สีเงินเข้าไปด้วย อายุ 70 กว่าเอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  การปฏิวัติโดยประชาชนของไทย เป็น Soft Power วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 17:18:11 )

พ่อครูพยายามชะลอขันธ์ ต่ออายุขัย

รายละเอียด

ที่อาตมาเคยพูดว่าอาตมาชะลอขันธ์ พยายามต่อขันธ์ ซึ่งมันหมดอายุขัยแล้วต่อมาได้ 1 นักษัตรจนอายุ 84 ปีแล้ว อายุขัยเดิมอาตมา 72 ปี แต่ตอนนี้ ย่างเข้า 88 ปีแล้ว 

ต่อขันธ์ไป เดี๋ยวก็เช้าแล้ว ทำงานไปต่อชีวิตไป เย็นๆก็นอน ยังนึกอยู่เลยว่า เรานี่ พยายามจะไม่เป็นไปอย่างเพื่อนๆหลายคน เหมือนทมยันตี เหมือนสุเทพ นอนหลับแล้ว รุ่งเช้ามาไปปลุกไม่ตื่นแล้วไปแล้ว อาตมาก็ว่าไม่อยากให้พวกเราเจออย่างนั้น แต่ก็ต้องเจอจนได้วันใดวันหนึ่ง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:07:50 )

พ่อครูพยายามที่จะพัฒนาทางสรีระอยู่เพื่อยืดอายุ

รายละเอียด

เดี๋ยวดูตอนในวันที่อายุ 90 ปี พ.ศ.2567 ไม่นานหรอกอีก 2 ปี ดูสรีระดูกำลังวังชาดูความเป็นจริงว่ามันจะกระปรี้กระเปร่า มีน้ำหนักมีความแข็งแรง ที่จริงก็อยากจะพัฒนาทางสรีระ ออกกำลังกายยกลูกเหล็กอะไรต่ออะไร เครื่องมือเขามีมาให้เต็มเลย แต่มีท่านด่วนดีกับท่านแนวตรง ทำอยู่ใช้อยู่ เป็นส่วนใหญ่ นอกนั้นก็ไม่ค่อยมีใครเอาถ่านเท่าไหร่ 

เครื่องมือราคาเป็นล้านนะที่เขาเอามาให้ ถ้าทำแล้วมันจะช่วยได้เหมือนกันทางสรีระ มันจะเสริมได้เหมือนกัน การออกกำลังกายโดยใช้เครื่องมือพวกนี้ จนกระทั่งถึงขั้นสร้างกล้ามเนื้อเป็นนักกล้าม อาตมาตอนหนุ่มแน่นก็เล่นกล้าม แต่มันไม่สวย เพราะอาตมาไม่ได้เกิดมาจะเป็นคนที่เด่นทางนั้น ออกทุกเย็นเลยนะ ตอนที่อยู่หอพัก เครื่องมือเครื่องไม้ก็ไม่ได้สมบูรณ์เท่าตอนนี้หรอก บาร์เบลก็ปูนหล่อ 2 ข้าง มีบาร์คู่บาร์เดี่ยว มีดัมเบล บาร์เบล ซันดาวน์ ไม่ได้มีเครื่องมือครบครันอย่างนี้ ก็เล่นกัน 

แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปถึงขั้นนั้น ขั้นชายงามประกวดกล้ามเนื้ออะไรไม่ต้องหรอก ให้กล้ามเนื้อของมันสมบูรณ์ดี ได้สัดส่วนทั้งความสูง ความกว้าง น้ำหนัก ทุกวันนี้ก็ดูแลแต่น้ำหนักเป็นหลัก ความสูงความกว้างอะไรมันไม่มีอะไรมาก ก็เอาแต่น้ำหนักเป็นหลัก ตรวจสอบกันทุกวัน ถ้าวันไหนขี้ 3 ครั้ง น้ำหนักลดนะ สิ่งที่กินเข้าไปมันย่อยแล้วก็ออกมา เอาพลังงานเอาวิตามินเกลือแร่ไปใช้ เสร็จแล้วกากมันก็ออกมาด้วยน้ำหนักมันก็ต้องลด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แผนผังการกอบกู้โลกุตระของพ่อครู วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 17:32:03 )

พ่อครูพากล่าวสัจจวาจาบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

รายละเอียด

อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมา สัมพุทโธ
วิชชาจรณสัมปันโน สุคโต โลกวิทู อนุตตโร
ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ
ขอยอบนอบหมอบกราบคารวะ
ด้วยสุดเกล้าสุดเศียรสุดกระหม่อมของเหล่าข้าน้อยนี้
เกลือกถูรองรับอยู่ใต้ละอองผงคลีแห่งธุลีฝ่าพระบาท ของสมเด็จพ่อ
ผู้เป็นพระอนุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระผู้มีพุทธคุณดังกล่าวข้างต้น อย่างสุดเทิดสุดบูชายิ่ง
เหล่าข้าน้อยทั้งหลาย ขอน้อมรำลึกเทิดทูนพระคุณอันหาที่สุดมิได้
ณ กาลศุภสมัย 9 มิถุนายนนี้ เหล่าข้าน้อยทั้งหลาย 
ขอตั้งปณิธานต่อพระมหาบรมสารีริกธาตุ ณ บัดนี้ว่า…
เลือดและวิญญาณของเหล่าข้าน้อยทั้งหมดนี้ 
ขอถวายอุทิศแด่พระพุทธศาสนาไปตราบดินสิ้นฟ้า 
จนกว่าข้าน้อยแต่ละคนจะปรินิพพาน
ขอได้โปรดรับปณิธานนี้
ด้วยสุดเกล้าสุดเศียรสุดกระหม่อมของเหล่าข้าน้อยทั้งหลายเถิดเทอญ.

ที่มา ที่ไป

พิธีบูชาพระสารีริกธาตุ วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 10:40:03 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:07:54 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 14:44:20 )

พ่อครูพาชาวอโศกลงสนามรบทางการเมืองเป็นมาอย่างไร

รายละเอียด

อาตมาเองก็อยู่ในสังคมเมืองไทยในสังคมประเทศไทย อาตมาไม่ได้หลบลี้ ไม่ได้หนีหาย ไม่ได้ปิดหูปิดตา เปิดเผยรับรู้ทุกอย่างของสังคม มีพฤติการณ์ของสังคมอย่างไร มีบทบาท มีลีลา มีเรื่องมีราว มีการกระทบผลสะท้อนอย่างไรเกิดขึ้นในสังคม อาตมาก็เห็นด้วย ซึ่งไม่ใช่เห็นด้วยแบบเห็นดีด้วยนะ แต่เห็นเหมือนอย่างที่ทุกคนเห็นเหมือนกัน แล้วอาตมาก็คิดว่าอาตมาเป็นพลเมืองหน่วยนึงของสังคม อาตมาก็ไม่ได้ดูดาย อาตมาก็อยู่ในฐานะของอาตมาก็ทำในสมควรฐานะของอาตมา แสดงออกร่วมด้วย ในภาวะในขณะในโอกาสที่ควรจะทำ ทำได้ประมาณที่อาตมาก็ประมาณตัวเองตามสมณสารูปตามฐานะของอาตมา 

ตั้งแต่เริ่มแสดงบทบาทในทางการเมืองในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2549 อาตมาเริ่มต้นตัดสินใจแสดงตัวออกมาตั้งแต่วันนั้น ที่อาตมาไม่แสดงตัวก่อนเพราะอาตมาบวชแล้ว ทำงานทางด้านศาสนามาแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2513 จนถึง พ.ศ.2519 อาตมาจึงแสดงตัวเต็มตัวออกมาเลย เพราะอาตมาก็ต้องสาธยายและพยายามทำให้คนเข้าใจยิ่งกว่านั้นขึ้นมาก่อน จนถึง 2549 จึงตัดสินใจออกมาแล้ว คนก็ยังเข้าใจไม่ได้ว่าธรรมะกับการเมืองไม่ควรจะยุ่งกัน ควรจะอยู่กันคนละโลก อันนี้อาตมาเห็นว่าเป็นความเห็นผิด คนที่ยิ่งเป็นนักธรรมะ ยิ่งเป็นคนมีธรรมะ เป็นโลกุตรธรรมด้วยจริงๆแล้ว ซึ่งเป็นคุณวิเศษ เป็นคุณธรรมที่ดีที่ถูกต้องด้วย ยิ่งควรจะเข้าไปร่วม ผู้ที่จะเข้าไปร่วมได้ก็ต้องดูในฐานะตัวเองว่า ตนเองมีบารมีพอ มีคุณธรรมพอที่จะไปร่วมไปรวมแล้วไม่ถูกเขายำเละ ไม่เสียธรรม ถ้าเข้าไปแล้วเสียธรรมะ ถูกเขายำเละก็ไม่ควร ต้องประมาณ 

แต่อาตมาประมาณตนแล้วว่าเป็นโอกาสอันควรก็เลยออกไปตั้งแต่ 2549 อาตมาว่าไม่ได้ทำให้การเมืองของไทยเสียไปหรือเสื่อมลงเลย แต่ทำให้การเมืองของไทยเจริญขึ้น ก้าวหน้าขึ้นๆ เป็นการเมืองที่มีคุณธรรมอันเป็นโลกุตระยิ่งขึ้นๆๆ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้อาตมาเห็นความจริงอย่างนั้น ซึ่งเป็นเรื่องลึกซึ้งไม่ใช่คุณจะมองอะไรอย่างตื้นๆ และเป็นตัวอย่างของโลกเลย บางคนหลายคนขณะนี้ก็ยังมองว่า มันเสื่อมเลย อาตมาว่าไม่เสื่อมหรอก มันทำให้เห็นตัวคู่ต่อสู้ พูดให้ชัดๆเลย ตอนนี้มีคุณพิธาขึ้นมาเป็นตัวแทน ตัวละคร แสดงบทบาท เป็นคู่ต่อสู้ของสัจธรรม เป็นคู่ต่อสู้ของธรรมะโลกุตรธรรมจริงๆ 

โลกุตรธรรมไม่ได้ระบุอยู่ที่ตัวตนคนเดียวอย่าง เช่นอาตมาเป็นต้นมีโลกุตรธรรม ผู้ที่ทำสอดคล้อง กับอาตมา ขออภัยต้องกล่าวถึงบ้าง เช่น ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้น หรือแม้แต่พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา เป็นต้น ได้ปฏิบัติประพฤติมาล้วนเป็นธรรมะโลกุตรธรรมที่ทำให้สังคมประเทศชาติเจริญในเรื่องของคำว่า การเมือง ภาษาอื่นจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ แต่ภาษาไทยเรียกว่า การเมือง นี้มันเจริญขึ้น คำว่า เจริญ เขาก็มองไปคนละแง่ บางคนเห็นว่ามันเสื่อม แต่อาตมาขอยืนยันว่า มันเจริญ เจริญขึ้นอย่างสวยงามด้วย ก็ต้องค่อยๆดูไปเถอะเพราะอะไร 

เพราะว่าความรู้ความเห็นคำว่า การเมือง คุณลักษณะ คุณธรรมการประพฤติของนักการเมือง แล้วก็มีผลทางการเมืองออกมา มันยังยากที่จะตัดสิน ที่จะสรุปผลออกมาเป็นคำตอบที่จะเข้าใจกันได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นจึงควรติดตามให้ดีๆ ในชีวิต เหมือนได้ดูความจริงเรื่องของการเมือง ดูฟรีด้วยนะ ไม่ต้องจ่ายตังค์ เวทีโลก เวทีของแต่ละประเทศหรือในประเทศไทยก็ตาม ดูฟรี ศึกษาดีๆแล้วจะได้รับความรู้ ประโยชน์ จะให้ดีคุณต้องศึกษาดีๆ แล้วเอาไปปฏิบัติจริงให้ได้ และคุณจะเห็นได้ว่า มันมีพฤติกรรม 2 อย่างเปรียบเทียบกันแล้วจะตัดสินได้ 

ขณะนี้ตั้งแต่อาตมาแสดงตัวขึ้นมาก็มีผู้รู้ผู้เข้าใจ ตอนนี้มีเหตุการณ์อย่างนี้ ก็มีคนถึงขั้นบอกว่า พวกเรานี้พูดอยู่ข้างหลังฉาก ที่พูดอยู่ขณะนี้ถือว่าเป็นหลังฉาก เรายังไม่ได้เข้าไปในสภาหรือไปอยู่ในวงแวดวงตามหลักเกณฑ์ เข้าเป็นตัวละครหรือตัวนักการเมืองที่อยู่ในกฎเกณฑ์ของสังคม ไปเป็น สส. ไปเป็นนักปฏิบัติประพฤติที่อยู่ในเกณฑ์ตามหลักเกณฑ์ของเขาเลยก็ไม่ อย่างเราอยู่ในฐานะของราษฎรของประชาชนที่เข้าร่วมอยู่ด้วยพฤติกรรม การพูดและการกระทำแสดงออก ซึ่งการแสดงออกหรือการกระทำยังไม่ได้เข้าไปในเขต ที่เขาระบุไว้ตามหลักเกณฑ์ เช่นยังไม่ได้ไปเป็น สส. ไม่ได้เป็นคนทำงานในสภา เรามีพรรคของชาวอโศกคือสัมมาธิปไตย แต่ก็ยังห่างยังไม่ได้ไปคลุก ยังไม่ได้มีบทบาท มีเรี่ยวมีแรงอะไร 

สิ่งเหล่านี้ซับซ้อนทั้ง 1. เป็นรูปธรรม 2. นามธรรม ตอนนี้เราเป็นเพียงเริ่มรูปธรรมเข้าไป ส่วนนามธรรมของเรานั้นคือโลกุตรธรรมทั้งหลาย ซึ่งคนยังมองไม่ออก จึงเอามาพูดยาก เราต้องใช้รูปธรรม ตามสมมุติธรรม ตามหลักเกณฑ์ แล้วต่อไปยังจะต้องลองสมัคร สส. หรือไม่ได้เป็น สส.แต่มีความประพฤติมีบทบาทอยู่ เช่น อย่างพลเอกประยุทธ์ ถึงขั้นอย่าว่าเป็น สส. เลย  ไม่ได้เป็นสส. แต่เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็เป็นถึงขั้นรัฐมนตรีกลาโหม อะไรอย่างนี้เป็นต้น เป็นหลักเกณฑ์ แต่ไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ว่าเป็น สส.แต่ก่อนนี้เป็นนายกฯก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นนายกมาได้ตั้ง 8 ปี ทำประโยชน์การงานที่เรียกว่าการเมืองมาตั้ง 8 ปี มีผลทางสังคมทำให้เจริญ ความซับซ้อนของมันมีหลายชั้น 

เพราะฉะนั้น กฎเกณฑ์ก็อย่างหนึ่ง ประพฤติจริงก็อีกอย่างหนึ่ง ความรู้ก็อีกอย่างหนึ่ง การกระทำที่มีผลออกมาเกิดผลจริงๆก็อีกอย่างหนึ่ง รายละเอียดพวกนี้อาตมาได้เริ่มสาธยายแล้วก็พูดอธิบายแล้วก็ชี้บ่งให้ดู ไอ้ที่พูดเฉยๆยังไม่มีผล เป็นยังไง คนที่พูดแล้วทำจริงมีผลได้ผลจริงๆเลยซึ่งเป็นประโยชน์ในสังคมด้วย ไม่ใช่โทษด้วย แต่คนที่เป็นโทษเราก็ชี้บอก เช่น ทักษิณเป็นโทษ เราก็ชี้บอก พิธา ยังไม่ถึงขั้นกายกรรม เป็นแต่เพียงวจีกรรม เราก็กำลังคิดโทษของพิธาก็สรุปลงไปซึ่งมาจากความคิดมาจากประธานคือจิตวิญญาณเป็นประธาน ด้วยเจตนารมณ์ทำให้เกิดวจีทำให้เกิดกายกรรมจนกระทั่งกลายเป็นโลกธรรม เป็นธรรมะที่เกิดขึ้นมาในสังคม ก็ติดตามกันไป 

ที่พูดไปนี้เป็น ธรรมาธรรมะสงคราม เป็นการเมือง เป็นการรบเป็นสนามรบของการเมือง คนที่หนีเข้าป่าเข้าถ้ำ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นั่นเขาไม่ได้อยู่ในสนามรบเข้าในสนามรบ เขาเป็นพวกขี้กลัวการรบ เป็นคนที่ไม่ใช่นักรบ เป็นคนขี้กลัวการรบ เป็นคนขี้กลัวตาย กลัวเจ็บ กลัวแพ้ กลัวอะไรก็แล้วแต่ คนขี้กลัวทั้งนั้น ไม่ใช่คนกล้า ไม่ใช่คนมีปัญญาหรือเป็นคนมีกำลังใจที่แข็งแรง เป็นคนอ่อนแอ เป็นคนหนี เป็นคนหลบ ค่อยๆศึกษาแล้วจะเข้าใจถึงสภาพละเอียดลออพวกนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนดีต้องเมตตาคนเลวและต้องไปด้วยกันได้ วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 16:45:03 )

พ่อครูพาพัฒนาทั้งระดับปฏิรูป ปฏิวัติ รัฐประหาร อย่างไร

รายละเอียด

แต่ที่พูดอยู่นี้เพื่อที่จะให้นักรัฐศาสตร์จะต้องศึกษาดีๆเลยนะ อันนี้แหละคือประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชนและประชาชน ทั้งนั้นเลย อย่างอาตมาพาพวกเราทำ มาพัฒนาทั้งในระดับปฏิรูป ปฏิวัติ รัฐประหาร หมดเลย ปฏิรูป คือ ค่อยทำอย่างค่อยเป็นไป ปฏิวัติ คือ ทำอย่างมีน้ำหนักจัดการด้วยอำนาจรวดเร็ว ทุกวันนี้เขาก็พยายามปฏิวัติสิ่งที่ทำให้เขาไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ปฏิรูปก็เปลี่ยนตัวเปลี่ยนแปลง แต่ปฏิวัติเหมือนกับหักดิบ ก็ได้อยู่ด้วย หรือหมายความว่า เอาอย่างเรี่ยวแรงเอาอย่างประหารกันเลย เป็นรัฐประหาร รัฐประหาร (ฝรั่งเศส: coup d’état กูเดตา) เราออกไปทำงานทั้งค่อยๆทำ ออกไปทำงานการเมืองตั้งแต่พศ. 2549 ตั้งแต่สมัยทักษิณ ต่อมาทักษิณก็ออกไปมีพลเอกสนธิมารัฐประหาร แต่ก็ยังมีนอมินีคือสมัคร สุนทรเวช เราก็ไปไล่อีก จนสมัครออกไป ต่อมาก็มีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เราก็ออกไปไล่ ต่อมาได้นายกฯเป็นอภิสิทธิ์เราก็ออกไปไล่ สุดท้ายได้นายกฯเป็นยิ่งลักษณ์แล้วเขาก็ออกไปตามช่องทางธรรมชาติ จนถึงปัจจุบันนี้ แล้วพลเอกประยุทธ์ก็อยู่ในหน้าที่ทำมา คือมันจะไม่สำเร็จเด็ดขาด พลเอกประยุทธ์ต้องชื่อประยุทธ์ ประยุทธ์แปลว่าการรบ ต้องมีการรบอยู่ แปลภาษา แต่ประยุทธ์ไม่ได้รบไม่ได้รุนแรงอะไรเลย สบายๆท่านก็ดำเนินงานไป ซึ่งก็เป็นภาระของพลเอกประยุทธ์หนักหนาสาหัส ไม่ว่าจะเป็นทางด้านส่วนเหลือส่วนเกินของทักษิณ อำนาจส่วนเหลือส่วนเกินทักษิณตอนนี้ก็ยังมีอยู่เป็นผลต่อทอดมา แต่ก็เป็นที่รู้กันแต่ก็ประมาทไม่ได้ ถ้าทักษิณอายุ 40-50 นี่นะโอ้โหไม่แน่เลย แต่นี่ 70 กว่าแล้ว เขาก็ยังมีทั้งภายนอกภายใน ลูกหลานของทักษิณก็ยังอยู่ในนี้ในประเทศนี้ มีเครือข่ายตระกูลพี่น้องญาติกันอยู่ ที่อยู่ร่วมใกล้ชิดก็มียิ่งลักษณ์มีเจ๊แดง ที่ชัดๆ สรุปแล้วก็เป็นเรื่องตัวละครของโลก เป็นละครของโลกเราก็เป็นตัวละครในดำเนินต่อไปอาตมาว่าสนุกดีเหนื่อยก็ไม่เป็นไร เหนื่อยแล้วก็พัก ไม่ได้พักแล้วก็เพียร 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2563 ( 09:49:56 )

พ่อครูพาลูกๆกล่าว สัจจวาจาบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

รายละเอียด

สัจจวาจาบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

(พ่อครูกล่าวผู้เดียว)

อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมา สัมพุทโธ

วิชชาจรณสัมปันโน สุคโต โลกวิทู อนุตตโร

ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ
ขอยอบนอบหมอบกราบคารวะ 

ด้วยสุดเกล้าสุดเศียรสุดกระหม่อมของเหล่าข้าน้อยนี้ 

เกลือกถูรองรับอยู่ใต้ละอองผงคลีแห่งธุลีฝ่าพระบาท ของสมเด็จพ่อ

ผู้เป็นพระอนุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า 

พระผู้มีพุทธคุณดังกล่าวข้างต้น อย่างสุดเทิดสุดบูชายิ่ง

เหล่าข้าน้อยทั้งหลาย ขอน้อมรำลึกเทิดทูนพระคุณอันหาที่สุดมิได้
ณ กาลศุภสมัย 9 มิถุนายนนี้ เหล่าข้าน้อยทั้งหลาย  

ขอตั้งปณิธานต่อพระมหาบรมสารีริกธาตุ ณ บัดนี้ว่า…
(กล่าวตามพ่อครู) 

เลือดและวิญญาณของเหล่าข้าน้อยทั้งหมดนี้  

ขอถวายอุทิศแด่พระพุทธศาสนาไปตราบดินสิ้นฟ้า  

จนกว่าข้าน้อยแต่ละคนจะปรินิพพาน

ขอได้โปรดรับปณิธานนี้

ด้วยสุดเกล้าสุดเศียรสุดกระหม่อมของเหล่าข้าน้อยทั้งหลายเถิดเทอญ. กราบ

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมพิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2565 ณ ราชธานีอโศก วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2565 ( 19:41:17 )

พ่อครูพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ทุกวันนี้รู้สึกเมื่อยที่อธิบายธรรมะซ้ำซาก วน อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า 2 มือแบหมด 2 มือแบ แล้วก็วนเอารายละเอียดมาวนซ้อนอธิบายไปอยู่ตลอดเวลา ก็เมื้อย เมื่อย เพราะว่าสังขารของอาตมาต่ออายุขัยไป 2 นักษัตร 12 คูณ 7 เป็น 84 ถ้าไปถึง 96 ก็จะเป็น 2 กัป เป็นการพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าที่บอกว่าอานนท์ เราจะอายุเลยกว่ากัปก็ได้แม้จะเมื่อย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การวัดคุณค่าของมนุษย์กับสิ่งสร้างขึ้นของมนุษย์  วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 ขึ้น 1 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 มกราคม 2566 ( 12:14:46 )

พ่อครูพิสูจน์สัมประสิทธิ์ของพระพุทธเจ้าด้วยจุดประสงค์ใด

รายละเอียด

สิ่งเหล่านี้จะปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อาตมาเองยังเผื่อพอ ยังไม่ยอมตายง่ายๆ เผื่อพอ จึงลากสังขาร ใช้คำว่าลากสังขารไปเรื่อยๆโดยที่ผู้อื่นก็ช่วยที่จะให้อาตมามีอายุสังขารต่อไปอีก เพราะเขาเห็นคุณค่าเห็นประโยชน์ อาตมาก็เต็มใจที่จะเป็นอย่างนั้น และที่สำคัญคือพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้า ถึงสภาพที่สร้างสัมประสิทธิ์ ที่จะต่ออายุขัย 

อันนี้แหละสำคัญ ที่สร้างสภาวะ ต่ออายุขัย หมอก็ดี นักวิทยาศาสตร์ก็ดี ตั้งแต่จิ๋นซี พยายามหายาอายุวัฒนะ 

สูตรของพระพุทธเจ้านี่แหละ ต่อได้ ขยายได้ สูตรของผู้อื่นก็ไม่มีคุณสมบัติเท่าเทียม แต่ก็ได้ ก็ต้องมีตาย อย่างไรอย่างไรก็มีประมาณ 1 ซึ่งอาตมาตามอายุขัยนั้นตายไปแล้ว ตอนนี้ก็พยายามอยู่ต่อ ถ้าอาตมาอยู่ได้ต่ออายุขัยเกิน 72 ปี มาได้ถึง 36 + 72 เป็นเท่าไหร่ 108 ปี ถ้าอาตมาหยุดอายุขัยไปได้ถึง 108 จะเป็นปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ ถึง 3 นักษัตร 

36 อีกชุดหนึ่ง อาตมาอายุขัยแค่ 3 มี 2 ชุด ชุดแรกเป็นฆราวาส 36 ปี มาเป็นนักบวชอีก 36 ปีก็เป็น 72 อาตมาต้องตาย แต่ว่าอาตมาพิสูจน์สัมประสิทธิ์ของพระพุทธเจ้า เลย 72 มาได้ตอนนี้ 88 ย่าง 

87 ปี 6 เดือน พอดีวันที่ 5 ธันวาคม ของในหลวง ของอาตมา 5 มิถุนายน เกิดกันคนละครึ่งปี นี่ก็เป็นอจินไตยอันหนึ่ง วันนี้วันที่ 5 มกราคมเลยมา 6 เดือนแล้ว มาเป็นเดือนที่ 7 อีก 1 เดือน เป็น 87 ปี 7 เดือน แล้วก็จะพยายามอีกโดยการพิสูจน์ ไม่ใช่พิสูจน์เล่น เมื่อยนะ มันเมื่อย ต้องพยายามทุกอย่างที่จะต้องพยายามสร้าง องค์ประกอบของมัน ให้มันต่อไปได้เรื่อยๆ แต่เวลามันไม่ให้ต่อแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ ชาว‌อโศก‌มี‌ความ‌มหัศจรรย์‌ได้‌ตาม‌ปหาร‌าท‌สูตร‌ ‌วันพุธที่ 5 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 21:38:33 )

พ่อครูพิสูจน์อย่างไรว่าไม่มีใครสูงสุดกว่า

รายละเอียด

ถ้ามีจุดไหนขัดแย้งกัน ให้สันนิษฐานว่าเราผิด ถ้าเราดูแล้วเราถูกเราก็จะจบ แต่ถ้าหากสันนิษฐานว่าเราผิดเราก็จะต่อไปได้ ถ้ามันเกิดการขัดแย้งกัน เราสันนิษฐานว่าเราผิดไว้ก่อน แล้วก็ไปคบกับสัตบุรุษ ไปฟังสัทธรรม จนมีความเชื่อมั่นศรัทธา (นี่เป็นคนประมาณตนไม่อวดดี ) จนกว่าคบกับใครแล้วไม่มีใครรู้กว่าเราเลย ก็ค่อยๆตัดสิน ในยุคๆหนึ่งอาตมาก็ว่า ยุคนี้ พูดออกไปก็เหนียมๆ แต่ก็พูดออกไปก็แล้วกัน อย่าเพิ่งโลหิตร้อนออกจากปากนะ อาตมาก็ยังไม่เห็นว่าใครสูงสุดกว่าอาตมา อาตมาไม่ได้หลงตน ไม่ได้เชื่อว่าตัวเองสูงสุดหรอก แต่ก็เชื่อว่ายังไม่เห็นจะมีใครสูงสุดกว่าอาตมา เป็นภาษาไม่ใช่เล่นลิ้นแต่จริงใจ เชื่อว่าตัวเองสูงสุดอยู่ แต่ก็ยังเชื่อว่ามีคนจะสูงกว่าได้ อยู่ที่ไหนก็อยากจะพบเหมือนกัน เป็นความจริงไม่มีปัญหา ถ้าพิสูจน์แล้วจริงก็ต้องยอมรับ การเข้าข้างตัวเองเป็นเรื่องโง่แล้ว แล้วเราจะอวดดีทำไมว่าเราดีไม่มีใครเท่า

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2561


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:10:54 )

พ่อครูพูดความไม่จริงไม่เป็น ยถาการี ตถาวาที

รายละเอียด

ใช่ อาตมาพูดความไม่จริงไม่เป็น พูดแต่ความจริงทั้งนั้น ฟังแล้วบอกว่าทำไมพูดเก่งจังเลย ก็คนมันพูดเก่ง ยังไม่ตายอาตมาก็ทำงานไป พอทำได้ก็ทำไป ทำไม่ได้ หลายคนบอกว่ายังไม่เห็น ควรทำก็พัก นี่ให้ทำได้ก็ทำ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทำเสร็จแล้วมันต้องยอมรับความจริงอยู่ อย่างหนึ่งว่า เมื่อยไว ปฏิเสธไม่ได้ ตอนนี้มาถึงวัยนี้ขนาดนี้แล้ว เมื่อยไว อันนี้อาตมาไม่สงสัย ไม่งง ไม่มังกุ ไม่เก้อ ไม่เขิน ไม่ยากอะไร บอกความจริงมันเมื่อยไว 

อันนี้เป็นเรื่องของความจริง สรีระสังขารของเรามันเสื่อม มันพยายามปรุงแต่ง ปรุงแต่งได้เท่านี้ ได้ขนาดนี้ พอปรุงแต่งขนาดนี้ แสดงออกขนาดนี้ เดี๋ยวก็ไปพัก เดี๋ยวก็ไปชาร์จแบตใหม่ เช้าวันใหม่ พรุ่งนี้ก็สะสมแบตเตอรี่ใหม่ พอมีแบตเตอรี่จุดแสงสว่าง จุดกระแสจุดพลังงานเผื่อแผ่ออกไป ไม่อย่างนั้นก็เป็นแบตเตอรี่มีไฟ แต่ไม่ได้ใช้ทำงานอะไร เสียแล้วหม้อแบตเตอรี่ เสียน้ำกลั่น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภูผู้รู้จบสัตตาวาสและวิญญาณฐีติ วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2565 ( 13:49:37 )

พ่อครูพูดตรงๆในมหาเถรสมาคม ได้แต่ลาภยศสรรเสริญสุข

รายละเอียด

พูดตรงๆในมหาเถรสมาคม ได้แต่ลาภยศสรรเสริญสุข แบกกิ่ง ใบ ดอก ผลของศาสนาไว้เต็มไปหมด เห็นอยู่ในวงการศาสนา ไม่ได้พูดใส่ความ แต่เอาความจริงที่ปรากฏจริง ที่เห็นได้ รู้ได้ด้วยกันทั้งนั้นเอามาพูดยืนยัน เพื่อให้ศึกษาความจริง ให้รู้สึกรู้สาเสียบ้าง รู้ตัวเสียบ้าง ไม่สายหรอกฟังโพธิรักษ์พูดบัดนี้ รู้ตัวก็ออกมาสลัดออกให้เห็นชัดๆเลย อย่าไปพูดว่า ไม่ได้เอา ไม่ได้มียศอะไรหรอก เขาให้มาเฉยๆเขาให้มาครอบไว้ เราอยู่ในสังคมศาสนา เราก็ต้องมีแหละ อย่ามาเกี่ยงงอนพูดอย่างนี้เป็นอันขาด เพราะตัวเองไม่รู้ความจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ใครคือผู้ถึงแก่น ใครเป็นผู้หลงกิ่ง ใบ ดอก ผล วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2565 ( 09:28:03 )

พ่อครูพูดถึงคุณทักษิณหลงตัวเองซับซ้อนสั่งสมวิบาก

รายละเอียด

ศึกษาไป ค่อยๆรู้จักกรรม รู้จักวิบาก มีรายละเอียดขึ้น แต่ละคนมีกรรม เป็นเจ้าเรือน กรรมเป็นของตนใครทำเป็นอันทำ จะบอกว่า ฉันทำแล้วฉันไม่เอาไม่ใช่ของฉัน ไม่ได้ มันต้องเป็นของคนทำ แล้วก็สั่งสมเป็นวิบากมาออกฤทธิ์ กว่าจะมาออกฤทธิ์ ขออภัย อาตมาขอเรียกคุณทักษิณว่า เป็นอาชญากร กว่าจะมาเป็นอาชญากรอย่างคุณทักษิณได้ มันซับซ้อน เป็นอาชญากรชนิดลอยตัว มีอำนาจมีอิทธิพล ประเทศไทยก็ใจดี ไม่ไปตามจับมา จัดการ ปล่อยเขาลอยตัวเขาก็ดิ้นไป ใจดี มันก็เลยยิ่งซับซ้อน เขาก็ยิ่งหลงตัวซับซ้อนไปใหญ่เลย มันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะว่ากรรมวิบากเป็นเรื่องซับซ้อน เป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อนที่ละเอียด ซับซ้อนลึกซึ้งไปในทางอวิชชา มันก็จะยิ่งอวิชชาซับซ้อน หนาแน่นหนักขึ้น ไปเรื่อยๆ ถ้ามาทางวิชชามันก็จะบางซับซ้อน มีสภาพก้าวหน้า มีอัตราการก้าวหน้าที่ เป็นปฏิภาคทวีเพิ่มขึ้นได้เหมือนกัน เป็นความจริงที่ต้องศึกษาให้ดีๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ กษัตริย์คือจิตประชาชนคือกายของประเทศ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กันยายน 2565 ( 13:33:11 )

พ่อครูพูดถึงพวกหลงตำแหน่ง ความสวย ความรวยแข่งกันต้องรู้เท่าทันมัน

รายละเอียด

แหม ปีนี้ข้าไม่ได้ตำแหน่งความสวย ปีหน้าข้าจะต้องได้รับความสวยชนะคืนมาให้ได้ สวยมาให้ได้ ไอ้นี่มันยากกว่าไอ้รวยนะ ปีหน้าเอ็งจะสวยกว่าปีนี้ ยากกว่าจะรวยกว่า ปีนี้นะ ปีหน้าจะให้รวยกว่าปีนี้ง่ายกว่า ปีหน้าจะให้สวยกว่าปีนี้ยากกว่านะ นี่นัยยะซับซ้อน ลึกซึ้ง แต่มันมีอย่างนี้ ปีนี้กิเลสเรามาก ปีหน้ากิเลสเราจะต้องน้อยกว่านี้ หรือหมด เออ อันนี้สิน่าจะมาเอาเวลาใช้ นี่แหละคือวิชชาที่พระพุทธเจ้าท่านเรียนรู้หมดทุกวิชชา แต่เสร็จแล้วไม่เอาแล้วทิ้งหมดเลยทุกอย่างมาเอาวิชานี้ สอนวิชานี้ พาคนมาลดกิเลส

กิเลสมันมาก เอาให้มันหมด ท่านสอนวิชานี้ เป็นที่สุดแห่งมนุษย์ แล้วก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปแล้ว ค้นคว้ามาตลอดพระชนม์ชีพไม่รู้กี่ล้านๆปี จนได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งสุดท้ายก็มาทำงานแบบนี้ 45 ปี เลิกจบ พอแล้ว ที่จริงก็ทำความเป็นโพธิสัตว์มาก็เหมือนกันนั่นแหละ มาเอางานนี้แหละ เลิกไปวุ่นวายทางโลก มาเอาความลดกิเลสนี่แหละ พระโพธิสัตว์ทุกองค์ก็ทำเรื่องนี้ สอนเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าก็แน่นอน ให้มาลดกิเลสนี่แหละ เป็นวิชาโพธิสัตว์และพระพุทธเจ้า ในชีวิตคนนี้ สุดยอดวิชา วิชาที่จบสิ้นจบกิจได้ สุดยอดความรู้ สุดยอดความจริงแล้ว แล้วเราจะรู้ ว่าทุกอย่างนี้มีอยู่ที่ กรรมกับกาละ กรรม การกระทำกับเวลา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุดยอดวิชาที่เป็นความจริงแท้ๆ ของพุทธ วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2565 ( 13:58:47 )

พ่อครูพูดถึงหมอปลาไปปราบผีมันเป็นเรื่องยึดถืออุปาทานตนเอง

รายละเอียด

ก็ขอแวะนิดนึงว่า หมอปลาไปปราบผี อาตมาเห็นแล้วก็โอ้ยหนอ เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าแท้ๆ ยังเข้าใจกันไม่ได้ เข้าทรง ผีเข้า มันจิตตัวเอง สะกดจิตตัวเอง แล้วเป็นไปตาม อุปาทาน ที่ตนเองยึด ฟังตรงนี้ให้เข้าใจ 

คือ จิตคนนี้ไปยึดไว้ สมมุติอย่างนี้ ยึดอย่างนี้ ยึดว่าคนเรามันจะต้องมีพลังงานพิเศษมาเข้าทรง ทรงผีตัวนั้น ทรงเทวดา ทรงพระพรหม ต้องออกท่าอย่างนี้ ต้องมีความแรงอย่างนี้ ต้องมีพิเศษอย่างนี้ และถึงขั้นทำได้ ตอนเข้าทรงมันมีพลังงานพิเศษ ทำได้ มันดูดยาได้ทีละ 10 ม้วน 100 ม้วน ทำได้ หรือมันทำอะไรพิเศษที่คนธรรมดาทำไม่ได้หรอก มันมีพลังพิเศษ ก็บ้าๆบอๆไป มันเป็นเรื่องสะกดจิตตัวเอง มันเป็นเรื่องยึดถืออุปาทานตนเอง ตามที่ไปยึดไว้ จำไว้ มีไว้ว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ ถ้าเข้าใจแล้วก็ปัดโธ่เอ๋ย มันไร้สาระ 

ก็มาอยู่กับปัจจุบัน มีกรรมกิริยาที่รู้ได้ เป็นกรรมกิริยาที่มีประโยชน์แก่กันและกันนี่ เป็นประโยชน์แก่กันและกันอย่างนี้ ไม่เสียพลังงานเปล่า ไม่เสียเวลาเปล่า ไม่เสียทุนรอนเปล่า ไม่เสียพลังงาน  ไม่เสียแรงงาน  ไม่เสียทุนรอน ไม่เสียเวลา ความสูญเสีย 3-4 อย่างนี้ เอาคืนมาได้หมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์ 4 ประการ วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กันยายน 2565 ( 15:13:21 )

พ่อครูพูดถึงอาการโลภ ที่ไม่ใช่โกรธของมหาบัว

รายละเอียด

พูดถึงลักษณะอาการโกรธแล้ว ที่เกิดอยู่ในจิตของคุณทักษิณ ทำให้อาตมาประวัติไปอีกด้านนึง ถึงอาการ โลภ ไม่ใช่โกรธนะ อาการโลภของมหาบัว ญาณสัมปันโน ไม่รู้ตัวเหมือนกันเลย แสดงภาพภายนอกเหมือนจะดีเหมือนกับทักษิณเลย แต่ภายใน โลภจัด เป็นของตัวของตน คือไม่รู้จักอาการยึดมั่นถือมั่นตัวตน ไม่รู้หรอก เพราะอาการยึดมั่นถือมั่นตัวตนนี้มันละเอียดลึกซึ้ง ลึกซึ้งมาก ขออภัยที่พูดความจริง ลูกศิษย์ลูกหาเยอะแยะฟังให้ดี อาตมาไม่ได้มีความโกรธแค้นชิงชังมหาบัว แต่สงสาร แล้วก็สงสารลูกศิษย์ลูกหาที่ติดตามไป แล้วก็หลงติดตามไป

อาตมามีหน้าที่เปิดเผยความจริง ไม่ได้เกรงว่าตัวเองจะไม่ได้รับความยอมรับ ไม่ได้รับความชมชอบอย่างไร จะไปบาดเสียดจิตใจอย่างไร ก็ต้องขออภัยจริงๆ ก็ต้องพูดความจริง 

เพราะฉะนั้น มหาบัวจึงหลงในด้านความโลภอย่างมาก โลภจนกระทั่งได้ปฏิบัติประพฤติ เรี่ยไรเงินของประเทศ ประชาชนในประเทศ โดยถือว่าตน
เองมีเฟเวอริท มีอิทธิพล มีความยอมรับนับถือของประชาชน แล้วประชาชนก็ศรัทธาเลื่อมใส เชื่อแล้วก็เอาเหตุมา เอาประเทศไทยเป็นประกัน เอาอะไรต่ออะไรมาเป็นประกัน อ้างว่า เอาเงินนี้มาให้แก่ประเทศชาติ เอามาค้ำจุนประเทศชาติไว้ เอาทองคำ เอาเงินเอาทอง 

เรามองอย่างตื้นๆเผินๆ ไม่ใช่ความไม่ดีนะ ตื้นๆเผินๆ เป็นความดีงาม

ก็ขอบคุณ ไม่รู้จะทำอย่างไร มันเป็นวิบากของอาตมา อาการวิบากอันนี้หนักที่สุดแล้ว ก็ทรมาน ไม่ได้ทรมานแบบเจ็บปวดรวดร้าวอะไร แต่มัน impact 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาไม่ดับสัญญาแต่ดับกิเลส วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 ตุลาคม 2565 ( 13:39:15 )

พ่อครูพูดยืนยันสัจจะมา 53 ปีจนกระทั่งเขาไม่กล้าที่จะแย้งแล้ว 

รายละเอียด

ปฏิกโกสนาได้แต่ไม่ให้ถึง อักโกสะ หรือฟ้องร้อง อธิกรณ์ เพราะฉะนั้นเถรสมาคมฟ้องร้องอาตมา ทั้งที่เป็นนานาสังวาส ท่านก็ไม่รู้นี่แหละคือความไม่รู้ ท่านเสื่อมหมดแล้ว ท่านไม่รู้ธรรมวินัย อาตมาประกาศนานาสังวาสตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2518 ประกาศแล้วเรียบร้อยก็อยู่กันไปได้ตั้งนาน วันร้ายคืนร้ายยังไงก็ไม่รู้ บอกว่านอกรีตต้องจัดการ พ.ศ 2531 - 32 ก็ซัดอาตมาเหมือนผีเข้าได้ สุดท้ายเราก็ต้องยอมเขา 

ตัดสินไม่ได้ก็ให้ศาลทางโลกตัดสิน มันก็ผิดสิเขาจะไปรู้เรื่องอะไร ศาลทางโลกกับทางธรรมะ ผิดก็ผิด อาตมาก็ยอมทุกอย่างเลย ก็ทำให้ท่านได้รับวิบากไปต่างๆนานาสารพัด ท่านก็ไม่รู้หรอกว่าท่านทำอย่างนี้มันมีวิบาก ท่านไม่รู้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ กรรมใครกรรมมัน กัมมัสโกมหิ กัมมทายาโท กัมมโยนิ กัมมพันธุ กัมมปฏิสรโณ กัมมังสัตเตวิภัชติ กัมมุนาวัตตติโลโก  ใครทำก็ของใคร 

อาตมามาทำงานจนถึงวันนี้ 2513-2566 ประมาณ 52 ถึง 53 ปีย่างเข้าไปแล้ว อาตมาว่าได้พูดยืนยันสัจจะ จนกระทั่งเขาไม่กล้าที่จะแย้งแล้ว 

เพียงแต่เขามีกิเลสอัตตา มานะ มีกิเลสอยู่ มันดันไว้ไม่ให้เขามายอมรับ เพราะว่ากิเลสของเขามีจริง 

คนที่กิเลสเบาบางหรือไม่มีกิเลสที่จะต้านแย้ง อัตตามานะน้อย แม้เขาจะมีอย่างอื่น ติดในโลกธรรมอะไรอย่างอื่นอยู่ แต่ลักษณะพวกนี้น้อย เขาก็เริ่มรับฟัง 

ยิ่งไม่มีอะไรอคติกับอาตมามากเกินไป ฟังธรรมด้วยดี สุสูสังลภเตปัญญัง ฟังด้วยดีก็จะยิ่งเข้าใจ ยิ่งเข้าใจ อานิสงส์ในการฟังธรรม 5 ประการ ก็ยิ่งจะเกิดยิ่งจะเกิด ก็เป็นสัจจะตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้า ที่อ้างอิงมาเทียบเคียงนี้ทั้งนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 45 วันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2566 แรม 5 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2566 ( 10:30:48 )

พ่อครูพูดโดยเอาสภาวะและสาระเป็นหลัก

รายละเอียด

อาตมานี้ เอาสภาวะแท้ๆ มาพูดเต็มๆ อาจไม่อยู่ในกรอบไวยากรณ์ ไม่อยู่วจีวิพากษ์  ไม่อยู่วากยสัมพันธ์ของคุณ ไม่เข้าหลักเข้าเกณฑ์ของคุณ ​แต่อาตมาพูดอย่างผู้ที่ อาตมาไม่ได้ตกกฎเกณฑ์ของพระพุทธเจ้า ไม่ได้ออกนอกเรื่องนอกกรอบ แต่อาตมาพูดไปได้อย่างเต็มที่ พูดอย่างเอาสาระเป็นหลัก ออกนอกกรอบที่คุณรู้คุณเรียนมาได้โดยมั่นใจว่าไม่ได้ผิด 

เหมือนนักดนตรีที่เขารู้ว่าเขาเล่นกันเป็นวงอยู่ เขาก็ออกนอกหมู่ไปเดี่ยว แต่เขาก็เข้ามาสู่หมู่ได้ ไม่ใช่ออกนอกหมู่แล้วกลับเข้าหมู่ไม่ได้เลย มันไม่ใช่อย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 15:24:38 )

พ่อครูฟื้นโลกุตรธรรมที่เพี้ยนหายไปหมดแล้วแต่กระแสหลักหาว่านอกรีต

รายละเอียด

พวกเราที่มาพบศาสนาพุทธ แล้วก็ได้เรียนรู้มาปฏิบัติตาม จนกระทั่งเป็นหมวดหมู่ เป็นกลุ่ม ยุคนี้เกิดเป็นพุทธแบบโลกุตระดังที่อาตมานำมาประกาศลงไปใหม่ในยุคนี้ เพราะ 2,500 ปีมานั้น โลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าเสื่อม คนชอบพุทธเดิมเพี้ยนไปหลงโลกียะแล้วไปยึดได้แค่เทวนิยม ความเป็นโลกุตระ อเทวนิยม ลืมเลือนผิดเพี้ยนไปหมดแล้ว อาตมาต้องมาประกาศขึ้นใหม่ยืนยันขึ้น จนเกิดเรื่องกระแสหลักพุทธส่วนใหญ่ เห็นว่าอาตมาประกาศนี้คงไม่เหมือนกับที่เขายึดถืออยู่เขาปฏิบัติกันอยู่ เขาก็หาว่าเป็นกบฏ หาว่าเป็นผู้ที่นอกรีต มาทำลายความเชื่อถือที่เขายึดถือกันอยู่อย่างที่เขาทำกันอยู่ที่เขาว่าถูก 

ปฏิบัติเขาต้องปฏิบัติแบบสมาธิหลับตาสะกดจิต การเรียนรู้พยัญชนะภาษาก็อย่างที่เขาเรียนกัน ซึ่งมันก็มีตรรกะภาษาบัญญัติ พยัญชนะไม่เข้าถึงสภาวธรรมที่แท้จริง แม้แต่คำว่ากายคำแรกที่จะต้องเรียนรู้สำคัญที่สุด คำว่ากายเป็นคำแรกที่จะต้องเรียนรู้ ต้องพ้น สักกายทิฏฐิ ต้องรู้ว่ากายคืออย่างไรอย่างสัมมาทิฏฐิเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมพิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2565 ณ ราชธานีอโศก วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2565 ( 19:28:29 )

พ่อครูภาคภูมิใจตัวเองเกิดมาชาตินี้ไม่เสียชาติเกิด

รายละเอียด

บอกจริงๆพูดจริงๆอาตมาเกิดมาชาตินี้ไม่เสียชาติเกิด ภาคภูมิใจตัวเอง ที่เกิดมาอายุ 36 ก็รู้เท่าทัน ไปหลงระเริงอยู่ในโลก 36 ปี ไปแย่ง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อยากดัง อยากรวยแบบโลกๆ ตามประสาที่อาตมาเรียกว่า ลิงลมอมข้าวพอง เหมือนกับพระพุทธเจ้าที่ทรงอุบัติขึ้นมาก็เป็นไปตามโลกที่เขาพาเป็น ก็หลงใหลไปตามโลกเขาพาเป็น 

อยู่ในโลก หมอดูทั้ง 8 คน มีโกณฑัญญะทำนายว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าคติเดียว อีก 7 คนทำนายว่า ถ้าอยู่ทางโลกจะได้เป็นจอมจักรพรรดิ ถ้าออกบวชจะได้เป็นพระพุทธเจ้า เขาก็ทำนายเป็น 2 คติ แต่โกณฑัญญะบอกว่ามีคติเดียว นี่คือพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ตอนนั้นโกณฑัญญะหนุ่มกับเพื่อน พราหมณ์ อีก 7 คนก็แก่กว่า เสร็จแล้วโกณฑัญญะทำนายแม่น 

พอเจ้าชายสิทธัตถะอายุ 29 ปี โลกมอมเมาให้มีเมียมีลูกคนนึง มันชัดเจน ท่านก็อุทานว่า ราหุลังพันธนังชาตัง ห่วงเกิดแล้วหนอ ไม่ฟังเสียงเลยในคืนนั้น ถ้าขืนช้าเดี๋ยวห่วงรัดคอเข้าไปอีก ไปเลยพร้อมกับม้ากัณฐกะ แล้วในรูปเขาก็เขียนดีนะ นายฉันนะห้อยหางม้าไป เจ้าชายก็นั่งอยู่บนม้า รูปก็เขียนให้เกียรติพระพุทธเจ้าเหลือเกิน 

เพราะว่าพระพุทธเจ้าได้พบกับเทวทูตทั้ง 4 คนแก่ คนเจ็บ คนตาย แล้วก็สมณะ เมื่อเห็นแล้วก็ถาม ฉันนะ ตอนนั้นทำไมพระพุทธเจ้าถึงโง่ขนาดนั้น ถูกมอมเมา อยู่ในปราสาท 3 ฤดู คนเจ็บก็ไม่ให้เห็น คนแก่ก็ไม่ให้เห็น ไม่ให้รู้ว่าโลกนี้มีคนเจ็บคนแก่ โลกนี้มีคนตาย แม้แต่โลกนี้มีสมณะก็ไม่ให้เห็น มอมเมาให้อยู่ในปราสาท 3 ฤดู อยู่กับรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส อยู่กับสวรรค์วิมานกามโลกีย์มอมเมาท่าน เพราะว่าพราหมณ์ทำนายแล้วว่าจะออกบวชท่านบวชก็ต้องเป็นพระพุทธเจ้า พระบิดาก็ไม่อยากให้เป็น อยากจะให้ครองราชย์เป็นเจ้าจอมจักรพรรดิ เพราะรักทางโลกมากกว่าทางธรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แผนผังการกอบกู้โลกุตระของพ่อครู วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 17:45:26 )

พ่อครูภูมิใจพวกเราเล่าสภาวะของการปฏิบัติแบบลืมตามา

รายละเอียด

ที่อธิบายมานี้อาตมาภาคภูมิใจว่าพวกเราปฏิบัติธรรมแบบลืมตาเป็น รู้ว่ามีกิเลสอย่างไรและปฏิบัติไปตามลำดับ นี่แหละธรรมะของพระพุทธเจ้า อาตมาไม่รู้จะตอกหัวตะปูย้ำซ้ำเท่าไหร่พวกนั่งหลับตา มันออกนอกรีตเป็น เดียรถีย์  

ปฏิบัติธรรมตามที่ฟังอาตมาสอน เอาสภาวะมาเขียนมาพูดอธิบายแก่ผู้อื่นได้ ไม่ใช่ว่า ดับๆๆ นั่งหลับตากิเลสตายสูญแล้ว แล้วอะไรยังไงก็ไม่รู้ พระพุทธเจ้าสอนเรื่องจิตเจตสิกต่างๆ สารพัด เวทนา 108 มโนปวิจาร 18 ไม่รู้เรื่องเลย อ่านเวทนา สัญญา อ่านรูป เวทนา สัญญา  เจตนา ผัสสะ มนสิการ ที่เป็นนาม 5 ไม่ได้ ไม่ได้ใช้นาม 5 เลย ไปนั่งหลับตาอย่างเดียว กลายเป็นสภาพ รูปแข็งรูปนิ่ง เวทนา สัญญา เจตนา ก็ไม่รู้เรื่องเพราะทำใจในใจเป็นมิจฉาทิฏฐิ ไปนั่งหลับตา มันผิด ถึงบอกว่าพวกนั่งหลับตา มันน่าสงสาร ไม่รู้จะทำยังไง เตือนแล้วเตือนอีกบอกแล้วบอกอีก 

ดีมากเลยเขียนสภาวธรรมมา เป็นการตอบข้อสอบมาให้อาตมาได้รู้ว่าใครต่อใครปฏิบัติแล้วได้อะไร ในอวิชชาสูตร

1. การคบสัตบุรุษที่บริบูรณ์  ย่อมทำให้การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ 

2. การฟังสัทธรรมบริบูรณ์ ย่อมทำศรัทธาให้บริบูรณ์ 

3. ศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมทำมนสิการโดยแยบคายให้บริบูรณ์  

4. การมนสิการโดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ ที่จะรู้ทันผัสสะ รู้ทันเวทนา

5. สติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้ความสำรวมอินทรีย์บริบูรณ์ 

6. ความสำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์  ย่อมทำให้สุจริต 3 บริบูรณ์  คือ  กาย วาจา ใจ เลิกทำการงานทุจริต 

7. สุจริต 3 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้สติปัฏฐาน 4 บริบูรณ์ 

8. สติปัฏฐาน 4 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้โพชฌงค์ 7 บริบูรณ์ . 

9. โพชฌงค์ 7 ที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้วิชชาและวิมุติ บริบูรณ์ (อวิชชาสูตร พตปฎ. เล่ม 24  ข้อ 61) ที่ส่งมานี้ถูกต้องดีแล้ว

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิสัยทัศน์ของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 ตุลาคม 2565 ( 11:29:54 )

พ่อครูภูมิใจในงานที่ทำอย่างไร

รายละเอียด

อาตมาทำงานภูมิใจที่ไม่ได้และเล็มเลียบเคียงคนมาให้เป็นบริวาร มาเป็นมวลเป็นสมาชิก ให้ทุกคนมีอิสระเสรีภาพมาเองเข้าใจเอง อาตมาพอใจตนเองในชีวิตนี้ ไม่ได้โฆษณาหลอกลวง โป้งรวยหรือจะมีสวรรค์กี่ชั้น เฟสนั้นเฟสนี้ อาตมาว่า โอ้โห มันหลอกกันฉิบหาย อาตมาว่า อาตมาเข้าใจ แม้แต่และเล็มเลียบเคียงอาตมาก็ไม่ ไม่ได้หลอกว่ามาที่นี่จะได้บุญมาก แต่บุญของที่นี่คือการฆ่ากิเลสนะเขาก็ไม่เข้าใจ นี่แหละคือความเสื่อมของศาสนา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 17:45:23 )

พ่อครูมาทำงานโพธิสัตวภูมิในยุคนี้ มันเป็นยุคที่สิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ

รายละเอียด

จริงๆแล้ว อาตมาทำงานโพธิสัตวภูมิในยุคนี้ มันเป็นยุคที่สิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ อาตมาเป็นหมากลางตลาดที่ไม่มีคนช่วย ไม่มีตัวช่วย ฟังดีๆตรงนี้แม้เกิดมามีพระโพธิสัตว์ธรรมิกราช 1 องค์ กับอาตมา ท่านก็ช่วยอะไรอาตมาไม่ได้มากเท่าไหร่ เกรงใจส่วนรวมเพราะท่านเป็นกษัตริย์ 

ท่านจะไม่รับเถรสมาคม ท่านจะไม่รับรองอันนั้น เป็นฐานอาศัยซึ่งมันจำเป็น status quo ในยุคนี้ต้องอาศัยอันนั้น ไม่อาศัยไม่ได้ มาอาศัยโพธิรักษ์จะไปไม่ออกเลย เพราะยังมวลไม่พอ จริงๆแล้วเถรสมาคมจริงๆเลยผู้ที่เขาดูดีมีปัญญามันไม่ขี้เหร่หรอก แต่มันมีจำนวนบริวารที่ขี้เหร่มีเยอะ อันนี้ต่างหากที่มันมาล้มล้างจุดเด่นของเถรสมาคมเอง เพราะฉะนั้นอธิบายไปแล้วก็จะเป็นความซับซ้อนอย่างนี้ มันเป็นไปได้อย่างสมสัดสมส่วนของมันอยู่ 

ถ้าเถรสมาคมบอกว่าเลิก ยกให้อโศกบริหาร ไหวไหม ไม่ไหว ไม่ไหวจริงๆ อย่างเขานั้นแหละ สามารถจะบริหารคนในฐานะพอๆกันได้ ของพวกเรานี้มันจะเอาอะไร ไปให้เขาได้ล่ะ เรามันไม่มีอะไร เพราะฉะนั้น มันไม่ได้ มันไปไม่ได้หรอก อย่างเขามีอะไร ที่มีอยู่เขามี จี๊เขาก็อู๋ ของเรา บ่จี๊ ไม่อู๋เลย จี๊น่ะ มันไม่ได้ เห็นไหมล่ะแต่ละสัดส่วน พูดไปก็จะชัดเจน มันไม่เหมาะสม มันเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าเราจะมีมากมายมี จี๊หรือเงินมาก มันก็ไม่ถูกตัวเราอีก ไม่เหมาะสมกับตัวเราเองนั่นแหละ มันขัดแย้งในตัวมันเองด้วย เพราะฉะนั้น มันจะต้องเป็นอย่างนี้แหละ เป็นเช่นนั้นแหละ เป็นเช่นนั้นเองเป็นเช่นนี้เอง เป็นพรรค์นั่นแหละ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 35  จิตวิญญาณแห่งสาธารณโภคีที่มีในชาวอโศก วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2565 ( 14:12:14 )

พ่อครูมาทำสภาวะปริญญาที่แท้จริงของชีวิตให้แก่มนุษย์

รายละเอียด

ถ้าพูดเบาๆอาตมาว่ามันเหมือนไม่ได้พูด ก็เลยพูดเสียงดัง อาตมาเวลาบรรยายธรรมะจะเต็มเข้มคม มันก็เลยดูจะแข็ง 

อาตมาทำการศึกษาถึงแค่ปวส.ไม่คิดจะต่อไปถึงปริญญาตรี หรือเอาแค่อนุปริญญา จากนั้นจะเป็นปริญญาตรีโทเอก เราก็ไปต่อกับสถาบันอื่น เพื่อจะยืนยันว่า รากฐานที่เรามีถึงปวส.หรือปวช.แล้วมาต่อ ได้ หรือแค่ ม.6 จะไปต่อตรีโทเอกก็ได้ที่สถานศึกษาของเราไม่ได้มีสิทธิบัตรที่จะประสาทสิทธิบัตรเป็นปริญญาพวกนี้ได้ เอาแค่นี้ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าก็ไม่จำเป็น อาตมาว่าไม่จำเป็น 

อันนั้นเป็นแค่การกำหนดสมมุติ ให้ค่าหรือให้ราคา ตามเกณฑ์ของสังคมเขา แล้วคุณก็รับรองกันโดยมีสถาบันรับรอง ทีนี้สถาบันของเรานี้ไม่ได้รับรองปริญญาตรีโทเอก แต่พวกเราจะสร้างสภาวะพฤติกรรม สมรรถนะความรู้ความสามารถ ใส่คน ให้เกิดสมรรถภาพ สมรรถนะ ความรู้ ที่จะประพฤติกันจริงๆเป็นได้จริง ผลงาน ผลของพฤติกรรมพฤติการณ์ที่เราประพฤติจริงออกไป มันจะเกิดค่าหรือตีราคาได้ถึงปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอกหรือไม่ ไม่ต้องตีราคา 

แต่มันเกิดจริงไหม พฤติกรรมของพวกเราที่มีความรู้ความสามารถ อยู่ในตนแล้ว มันก็ทำของเราไปตามเหตุปัจจัยเป็นองค์ประกอบ เป็นความรู้ความสามารถ ออกมาเป็นผลผลิต ลงไปในสังคมลงไปในมนุษยชาติ มันก็พอแล้ว มันก็เป็นความจริงอันนั้นเกิดขึ้นแล้ว ที่จะมีตราตั้งอะไรต่ออะไรอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ต้องก็ได้ 

อย่างอาตมาไม่มีสักอย่าง โดยเฉพาะมาทางวิชาการทางโลกเขายิ่งไม่มี อาจจะมีอยู่ทางศิลปะมาบ้างนิดๆหน่อยๆแค่ปวส. เอามาใช้ทางนี้เขาก็ไม่คิดว่า มาเรียนศิลปะมาพูดอะไรทางธรรมะ แม้แต่วิชาการที่อาตมาพูดมันรวมวิชาการทางเศรษฐศาสตร์ ทางรัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศาสตร์ต่างๆนานา มนุษยวิทยาต่างๆนานาวิทยาศาสตร์ก็พูดไป บรรยายไป ที่ยังไม่ได้อธิบายหรือว่าขยายความมากมายนัก เพราะว่าไม่ค่อยได้ทำก็คือกระยาสารท ทำไม่ค่อยเป็นไม่ค่อยถนัด แต่รู้ว่ามันมีข้าว มันมีถั่ว มันมีงา มันมีอะไรต่ออะไร มีน้ำตาล มีแบะแซอะไรบ้าง ไม่เคยทำเองเลย มีแต่ตอนเด็กๆเห็นผู้ใหญ่ทำๆกันที่บ้านก็ทำ แต่เราก็ไม่ได้เป็นคนไปลงมือทำเองจริง มีแต่กินกระยาสารท กินกับกล้วยไข่ 

ผู้ที่เห็นคุณค่าอาตมาก็มีผู้ไม่มีอคติ ผู้ไม่มีความลำเอียง ไม่ได้ติดใจอะไร มองสัจจะคือสัจจะ มองธรรมะคือธรรมะ เขามองเห็นเข้าใจมองออกเข้าใจได้ก็ส่งเสริม แต่อาตมาเป็นคนอาภัพ มีวิบากก็ได้ประมาณนี้แหละ แต่เนื้อแท้สัจธรรมโดยเนื้อๆแก่นๆ ของสัจธรรมนั้น อาตมาทำไปตลอดเลย เขาจะตั้งตามประสาทางโลก ปริญญาตรีโทเอก หรือเปรียญ 1-9 ก็เรื่องของเขา แต่อาตมาไม่ได้ตั้ง อาตมาทำ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ โพธิสัตว์ ตามมาตรฐานพระพุทธเจ้า ไม่มีปัญหาอะไรอาตมาทำอยู่แล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 49 ชำแหละลากไส้อัตตาของพญาครุฑและพญานาค วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2566 ขึ้น 6 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2567 ( 13:24:07 )

พ่อครูมี Talent ทางด้านแต่งเพลง ได้แต่งเพลงให้ รร.ต่างๆ

รายละเอียด

อาตมาก็ไปแต่งเพลงให้โรงเรียนต่างๆโรงเรียนเบญจมราชาลัย โรงเรียนสตรีวิทย์ โรงเรียนสตรีประเทืองวิทย์ แต่งให้ ซ้อมให้ คัดเลือกเด็กมาซ้อมร้องแล้วก็ไปแข่ง แล้วชนะได้ถ้วยมาเยอะแยะ อาตมาเลยยิ่งมีกู๊ดวิลทางด้าน กับโรงเรียนต่างๆเยอะ อย่างน้องๆอาตมาลูกคุณลุง อาตมาไม่ต้องให้สอบเข้าหรอก ฝากเข้าโรงเรียนนั้นโรงเรียนนี้สบายมาก มันเป็นเอกสิทธิ์ เพราะว่าเราช่วยเขา เขาก็เลยช่วยเราบ้างอย่างนี้เป็นต้น จะว่าเป็นอิทธิพลก็ไม่เชิง 

เทคนิคบางมด เขาชอบเพลงแม่มูลที่ทำกับคุณสุภัทร สวัสดิรักษ์ ตอนนั้นได้เงินอยู่สิ มาทำละครต่อต้านคอมมิวนิสต์ ฟังวิทยุ ก็ร่วมมือกับคุณสุภัทร สวัสดิรักษ์ ทำรายการภาคอีสานภาคกลาง อาตมาก็จัดทีมภาคอีสานสมาคม เอาพวกเราไปจัด ส่วนทีมภาคกลางก็มีอีกทีมนึง อาตมาก็รวมอยู่ในทีมภาคกลางด้วย มีคนแสดงละครวิทยุต่อต้านคอมมิวนิสต์ แต่ก็แต่งเรื่องไม่ทัน เขียนเรื่อง แต่งเพลงด้วย อย่างเพลงแม่มูลหรือแม่จ๋า เป็นเพลงต่อต้านคอมมิวนิสต์ด้วย มันก็ติดตลาดคนก็ชอบ จนกระทั่งเทคนิคบางมดชอบ มาขอให้อาตมาแต่งเพลงให้แก่บางมด อาตมาก็แต่งให้อีก เพลงไม่ลืมบางมด ซึ่งไม่ใช่เพลงมาร์ช

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ตุลาคม 2565 ( 11:56:14 )

พ่อครูมีความรักมิติที่เท่าไหร่

รายละเอียด

อาตมาตอบอย่างเป็นวิชาการเลย อาตมามีความรักมิติที่ 8 กำลังเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าอาตมามีความรักมิติที่ 9 ก็เป็นความรักของพระพุทธเจ้า มิติที่ 8 ของโพธิสัตว์ระดับ 8 ตอนนี้อาตมามีความรักระดับ 7 ไปแล้วก็กำลังสะสมความรักระดับที่ 8 ไป อยากรู้ความรักระดับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ไปอ่านหนังสือความรัก 10 มิติ วันนี้ขอผ่านไม่ขยายความไม่นำมาพูดถึงหรอก 

1. กามนิยม (เมถุนนิยม) 

2. พันธุนิยม (ปิตปุตตาฯ) 

3. ญาตินิยม (โคตรนิยม) 

4. สังคมนิยม (ชุมชนนิยม) 

5. ชาตินิยม (รัฐนิยม)

6. สากลนิยม (จักรวาลฯ) 

7. เทวนิยม (ปรมาตมันฯ) . 

8. อาริยนิยม (อเทวนิยม) 

9. นิพพานนิยม (อรหันตฯ) 

10. พุทธภูมินิยม  (หรือ..  โพธิสัตวภูมินิยม)  

(พท.บรรยายไว้ที่ม.เชียงใหม่)

เข้าใจให้ดีๆ อาตมาให้เรียนตั้งแต่มัธยม 1 ถึงมัธยม 6 แบ่งให้เรียนทีละ 2 มิติ ก็จะได้ 5 คู่ ไปถึง ม. 5 ตอน ม. 6 ก็เรียนรวมเลย 

ที่จริง ม. 1 เรียน 2,  ม. 2 ก็เรียน 4,  ม. 3 ก็เรียน 6 เพราะต้องทบทวนของเก่าด้วย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  วิญญาณกินข้าวได้ไหม อย่างไรคือสัมมาทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2564 ( 19:10:21 )

พ่อครูมีความรู้เรื่องภาษามาจากชาติก่อนๆ

รายละเอียด

อาตมาเองพยายามใช้ภาษาที่ท่านสร้างมาแล้วเอามาขยายความ เมืองไทยใช้ภาษาไทย อันเป็นตระกูลเดียวกับบาลี อาตมาเองมีความรู้เรื่องภาษามาจากชาติก่อนๆ ชาตินี้เขาเรียนเหมือนกัน แต่เขาไม่เข้าถึงสภาวะ อาตมามีของเก่ามาแต่เดิมชาติก่อนๆ อาตมาก็จะเกิดมาขยายความพวกนี้ต่อไปอีกอาตมาเป็นโพธิสัตว์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12
ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันที่ 18 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:17:26 )

พ่อครูมีชีวิตเพื่อปราบมารและยังพระพุทธศาสนาให้ถึง 5,000 ปี

รายละเอียด

ชาตินี้มาถึงอายุป่านนี้ พยายามต่อให้ยาวที่สุดได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ตั้งเป้าด้วยที่เป็นตัวเลขบังเอิญ 151 ปี มีประวัติเป็นที่ไปที่มา หมออารีย์บอกว่าจะอยู่ 150 ปี อาตมาก็เลยจะอยู่ 151 ปี

อาตมามีชีวิตอยู่เป็นชีวิตเพื่อปราบมาร เพื่อให้สิ่งที่ดีที่มีประโยชน์แก่มนุษยชาติ โดยมั่นใจว่าเป็นผู้เอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาขยายความ ทำความเข้าใจสิ่งที่ผิดเพี้ยนให้ถูกต้อง เอาไปปฏิบัติประพฤติให้เกิดผล เพื่อให้ธรรมะถูกต้องและยืนยาวไปถึง 5,000 ปี ตอนนี้ก็ครึ่งพุทธกัปของพระสมณโคดมแล้วทำหน้าที่ให้ได้จริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูผู้ปราบมารเพื่อยังพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี วันพุธที่ 10 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 09:21:39 )

พ่อครูมีชีวิตให้ผู้อื่นเลี้ยงดูแล้วจะไปบอกเขาอย่างไร 

รายละเอียด

ก็พูดไปอย่างนี้เขาจะหยุดไม่หยุดก็แล้วแต่ คืออาตมาไม่บังคับใคร อาตมาก็เคารพเจตนาดี เขาก็เจตนาดีแล้วเจตนาจะให้ดีตามความรู้ของเขา แต่ความรู้ของเขากับความรู้ของสังขารอาตมา อาตมาว่าเขาไม่รู้เก่งกว่าสังขารของตัวเองหรอก เนาะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

พระอรหันต์เป็นผู้มีความรู้เรื่องอาหารดีกว่าคนโลกีย์


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 18:48:30 )

พ่อครูมีทนายพร้อมหรือไม่อาจถูกฟ้องหมิ่นประมาทได้

รายละเอียด

อาตมาตอนถูกคดีความ เมื่อเขาออกข่าวไป ทนายมาสมัครอาสาว่าความให้ก 50 กว่าคน จนกระทั่งเราก็ต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมา แล้วก็มีหัวหน้าคือทนายทองใบ ทองเปาด์เป็นหัวหน้า เขาก็ช่วยกันหมดทุกคนแหละ 

เราไม่ชอบขึ้นศาลหรอกแต่ก็ต้องไป เขาฟ้องหนักไปตามจังหวัดต่างๆให้เราต้องทรมานไปขึ้นศาล โอ้ย ใช้เวลาไม่รู้กี่ปี ว่าความกันไปกว่าจะเสร็จ 6 ปี 6 เดือน 6 วัน จึงเสร็จเรื่อง ตั้งแต่สมัยหนุ่มๆเลยตอนนี้ก็ยังหนุ่มแต่เป็นหนุ่มใหญ่หน่อยแค่นั้นเอง 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม  ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับ วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:04:53 )

พ่อครูมีธรรมชาติของพยัญชนะ ภาษา สภาวะ

รายละเอียด

อาตมาพูดส่วนมากนี้เอาสภาวะมาพูด หลายคนฟังแล้วก็ว่าพูดอะไรองค์นี้ ดีไม่ดีโดยเฉพาะพวกที่เรียนไวยากรณ์ อักขรวิธี บาลี มีสูตรมีวิธี อาตมาไม่ได้เรียน ที่จริงอาตมามีธรรมชาติของพยัญชนะ ภาษา สภาวะ อาตมาก็ไปกับสภาวะ แต่การมาเรียบเรียงเป็นไวยากรณ์มันมาทีหลัง อักขรวิธี วจีวิภาค วากยสัมพันธ์ มันมาเกิดทฤษฎีเรียบเรียงทีหลัง มันไม่ถึงแก่นของสภาวะที่จริงที่เกิดก่อน ภาษาเรียกสภาวะนี้มีเกิดก่อน แล้วคุณก็ค่อยเอาไปเรียบเรียงกันก็ค่อยไปตั้งพยัญชนะ ภาษา วิธี ไวยกรณ์ ก็เป็นอจินไตย พูดไปก็ยากที่จะเข้าใจ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:14:15 )

พ่อครูมีปกติไม่มีความโกรธ

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้โกรธจริงๆ ใครจะด่าจะว่า อาตมาไม่เคยโกรธที่คนด่า ไม่เคยโกรธ คนจะด่าคนจะว่า มันเป็นสัจธรรมมันเป็นสัญชาตญาณของอาตมาแล้ว คนด่าเขาก็ด่าสิ เป็นคำด่าของเขา เราก็คือเรา แต่ก่อนอาตมาไม่รู้ละเอียด พอมาฟังคำตรัสสอนพระพุทธเจ้าก็เจอคำตรัสคำสอนว่า คนเขาจะด่าเรา ก็เหมือนเขาเอาสำรับอาหารนี้มาถวายเรา แล้วเราก็ไม่ได้รับสำรับอาหารนั้น มันก็ตั้งอยู่ของมัน มันก็เป็นของเขา เขาจะเอาไปหรือเขาไม่เอาไป เอากลับไปหรือไม่เอากลับไป สำรับอาหารนั้นเราไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง หรือเราไม่ได้กิน ไม่ได้ไปเป็น ไม่ได้ไปร่วมกับอันนี้เลย มันก็ตั้งของมันอยู่ของมัน เขาจะมาเอาของเขาคืนไปหรือไม่คืนไป มันก็เป็นอันนั้น ชัดเจนนะ 

คือมันรู้เขารู้เราอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นแต่เพียงว่า ถ้าเขาด่าเรามา เขาว่าเรามา เราทำเป็นทิ้งเฉยๆ จริง เวทนาเราไม่มีปัญหา แต่ความจริงล่ะ เราเป็นตามที่เขาด่าไหม เราต้องเอาอันนี้แหละมาใช้ตรวจสอบตนเอง เออเว้ย..เขาด่ามาถูก เราเป็นอย่างที่เขาว่ามา ถ้าไม่มีอคติเข้าข้างตัวเอง เราได้ประโยชน์ แต่ถ้าเรามีอคติเข้าข้างตัวเอง ทั้งๆที่เขาพูดถูกและคุณก็ผิดจริง คุณก็เข้าใจผิด คุณก็ไม่ได้แก้ตัว หรือคุณเองคุณทำเฉยเมย ไม่สน จะด่าก็ด่าไป เราไม่ฟัง เราไม่เอามาคิดมาปรุงมาแต่งมาตรวจสอบอะไรแล้ว คุณก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อกันและกันในอะไรอื่นๆ เขา คุณก็อยู่โลกของคุณคนเดียว ก็ไม่ได้เรื่องอะไร เพราะฉะนั้นคำด่า พระพุทธเจ้าถึงตรัสว่า คำตำหนิกับคำชม ท่านตรัสถึง 2 อย่าง เขาด่าหยาบ ด่าแรงก็อีกเรื่องหนึ่ง คำชมไม่มีคุณค่าเลยแม้แต่ทำให้เกิดความละหน่ายจางคลายจากกิเลส ใดๆ มีแต่จะทำให้เกิดกิเลส ท่านถึงเรียกว่าคำชมหรือคำสรรเสริญว่าคือคำต่ำทราม คำสรรเสริญยกย่องชมเชยก็คือคำต่ำ โอ้โห..ลึกซึ้งไหม ฟังแล้วเราก็ยิ่งเข้าใจว่า จริงนะ คนเรามันหลงระเริงไปกับคำสรรเสริญยกย่อง แล้วมันไม่ได้ดีได้ดิบอะไรเลย เอาล่ะ เราดีจริงตามคำชมก็แล้วไป ถ้าเราไม่ได้ดีจริงตามคำชมเราก็บ้าไป ไม่ได้เรื่องอะไร คำชมเท่ากับเขาเองช่วยตรวจสอบให้เรา เขาบอกอันนี้มา เราก็ตรวจสอบจริงๆ ว่าจริงไหม เขาชมมากเกินไหม 

อาตมาไม่มีความเศร้าความหมอง อาตมาอโศกะจริงๆ อโศกะแท้ๆ ไม่มี โศก ปริเทว ทุกข โทมนัส อุปายาสะ ทั้งขบวน อาตมาไม่มี ทั้งขบวนนี้ไม่มี หมด นี่เป็นการแสดงสัจธรรมความจริงและอาตมาก็บอกความจริงกับพวกคุณ ถ้าอาตมาไม่เป็นจริง ก็เป็นปาราชิกของอาตมา แต่อาตมาเป็นจริง มีความเบิกบาน ไม่ย่อท้อต่องานเผยแพร่ศาสนาอีกด้วย เรื่องเผยแพร่ศาสนานี้ มันย่อท้อได้ยังไง ยุคนี้มันยากหรือง่าย?  สุดแสนยากเลย มันเข็นเขาขึ้นครก คงรู้นะเข็นเขาขึ้นครก มันยากกว่าเข็นครกขึ้นเขาขนาดไหน มันเข็นเขาขึ้นครกจริงๆเลย แต่อาตมาก็ต้องทำเพราะว่ามันไม่มีทางเลี่ยง ก็ต้องทำ 

ไม่ย่อท้อต่องานเผยแพร่ศาสนาอีกด้วย ทั้งๆที่เขาจะเอาตาย แต่อาตมาเป็นแมว 9 ชีวิต ไม่ยอมตาย เขาจะไม่ให้แสดงธรรมเลย แต่สุดท้าย..หมดแล้วทางโน้นไม่มีสิทธิ์อะไรจะมาทำให้อาตมาไม่แสดงธรรม เขาเองเขาทำของเขาเอง จนกระทั่งมีการตัดสินทุกอย่างทั้งทางโลกและทางธรรม มันพิพากษาเรียบร้อยหมดเลย แล้วอาตมามาทำงานนี้ ด้วยความไม่โกรธ อาตมาก็ยืนยันว่าอาตมาไม่โกรธด้วย 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 38 เจาะลึกเทวทัตยุคดิจิตอลที่หาความเลวเพิ่มไม่ได้อีก วันนี้วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2566 ( 19:54:38 )

พ่อครูมีปัจฉาสมณะถึง 4 ท่านเป็นการยินดีในระบบศักดินาหรือไม่

รายละเอียด

มาถามได้เลย สมณะทั้งหลายอาตมาจะใช้สมณะทั้งหลายหรือไม่ อาตมาไม่เคยจะใช้สมณะ มีแต่สมณะจะช่วยใช้ด้วยสติสัมปชัญญะปฏิภาณของท่าน อาตมาจะไม่ชี้ใช้ใครคุณรู้เสียบ้าง จริงอาตมาไม่ใช้ใคร ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ก็เอา ขอให้คนอื่นช่วยบ้างถ้าทำเองได้อาตมาทำเอง คุณไม่รู้จักอาตมาพอหรอก มาสมัครรับใช้เองอาตมาก็ไม่ได้ใช้เขาด้วย เขารับใช้เองจนอาตมาต้องห้ามหลายๆอย่าง บางอันบอกว่าพอแล้วมันมากไป อย่างนั้นด้วย คุณยังเข้าใจสัจธรรมเข้าใจความจริงยังไม่ครบได้แต่ขี้ตู่ไป เป็นการตู่ที่ผิด โดยเฉพาะเป็นการตู่พระอริยเจ้า อาบัติรับประทานหัวนะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบการปกครองของมนุษย์ ที่สุดยอด วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 10:34:18 )

พ่อครูมีภูมิธรรมเพิ่มขึ้น ตอนแรกจึงอาจมีผิดบ้างเพราะอะไร

รายละเอียด

จากนี้ไปอาตมามีความเป็นสัจธรรมพระพุทธเจ้าละเอียดเยอะขึ้นมา ติดตามดีๆเถอะจะได้ของดี ต่อๆไปนี้ เข้าใจให้ดีๆ ตอนแรกอาจจะถูกพลังงานโลกีย์ครอบงำอยู่ กว่าจะรู้ตัวมาเป็นโลกุตระเต็มๆ เขาอาจจะหาว่ากลับกลอก ที่จริงแล้วเมื่อก่อนมันก็ผิดอยู่ เดี๋ยวนี้มันถูกนะ รู้จักคนเจริญยิ่งๆขึ้นไหม ไม่ใช่เสื่อมลงนะ เจริญยิ่งๆขึ้น ติดตามดีๆแล้วจะรู้ความจริงอันนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมีความไม่มี สิทธัตถะและสิริมหามายา วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กันยายน 2565 ( 11:19:55 )

พ่อครูมีวิบากเบาๆคือไอ แต่องค์รวมสุขภาพดีกว่าคนในวัยเดียวกัน

รายละเอียด

สำหรับอาตมา อาตมาเจ็บป่วย มีพยาธิ ถือว่ามีพยาธิเท่านี้ ในร่างกายทั้งหมดนี้ มันก็เสื่อมโทรมไปตามวัย ส่วนที่จะถือว่าเป็นโรคเป็นภัยเป็นพยาธิ เป็นสิ่งที่บกพร่องหรือเกินก็คือ คอ ที่มีกระเปาะแล้วมันก็ขวางทางอันสะดวกของอวัยวะ จะพึงเป็น แล้วมันก็สร้างเสลดมาอุดตัน ก็ต้องไอขจัดออก ว่ากันจริงๆแล้วเป็นวิบากที่เบาๆ ไม่หนักไม่หนา ไม่เจ็บป่วยหนักหนาสาหัสรุนแรงทรมานเจ็บปวดโอดโอย แต่มันไอก็ต้อง แรง หนักสุดมันสร้างเสลดเหนียว ดันออกต้องใช้พลังไอเป็นพลังดัน แล้วมันต้องออกมา ทางปาก ไอ มันก็ไอแรงหน่อย

ถ้าจะว่าไปแล้วโดยองค์รวม มันไม่หนักหนา คนอื่นเป็นมากกว่าอาตมา เป็นโรคนั้น โรคนี้ที่เป็นโรครุนแรงต้องบำบัดด้วยยา หมอต้องคอยดูแลประคบประหงมมาก อาตมา อายุ 80 กว่าแล้ว จริง คนที่แข็งแรงกว่าอาตมาไม่เป็นโรคเป็นภัยก็มีเยอะ ส่วนผู้ที่ไปตามวัย ก็ประมาณนี้ ก็มักจะมีโรคที่คนแก่เขานิยมกัน โรคเบาหวาน โรคความดัน เจ็บปวดตรงนั้น ตรงนี้ อาตมาไม่มีเจ็บปวดตรงนั้นตรงนี้ จะนั่งนานๆจะนอนนานๆ ไม่ปวดไม่เจ็บ รวมสรุปองค์รวมแล้ว ดี ภาวะร่างกายอาตมาใช้ได้ มีวิบากขนาดนี้ก็สมควรแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภูผู้รู้จบสัตตาวาสและวิญญาณฐีติ วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2565 ( 12:10:34 )

พ่อครูมีสภาวะของธรรมะเป็นหลักเพราะปฏิบัติมา

รายละเอียด

อาตมาเอาสภาวะมาอธิบายเป็นภาษาธรรมะ เอามายกตัวอย่างอ้างอิงประกอบ ฟังดีๆ ทั้งพยัญชนะทั้งสภาวะ อาตมาพยายามใช้ให้ครบ อยู่เรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ 

ทุกวันอาตมาก็ชัดเจนในพยัญชนะมากขึ้นเอามาใช้ได้ อาตมามีสภาวะของธรรมะเป็นหลัก อาตมาปฏิบัติมามีสภาวะได้ มาถึงยุคนี้พยัญชนะมันก็เลือนๆหายๆไป อาตมาก็จำไม่ค่อยได้ก็ต้องมาฟื้นขึ้น ฟื้นได้ก็เอามาอธิบายขึ้นไปเรื่อยๆก็ได้มากขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้นจนบางคนบอกว่าโอ้โห โพธิรักษ์ ทำไมรู้มากจังเลย 

แต่คนเขารู้มากกว่าอาตมาเขาก็บอกว่ารู้ไม่เหมือนเขา เขารู้มากกว่านี้ นั่นก็จริง มีคนที่รู้มากพยัญชนะพวกนี้รู้มากกว่าอาตมาอีกเยอะ อาตมาก็รู้แล้วเอามาทำจริงๆ ไม่ใช่รู้เอาไปอวดอ้าง รู้เพื่อเอาไปโชว์คนอื่น ไม่ใช่ รู้เอามาใช้ในการอธิบายเอามาสื่อ ให้คนได้รับรู้รับฟังแล้วหยั่งเข้าไปถึงสภาวะและปฏิบัติ ให้ได้มรรคผล ให้ได้ประโยชน์จากที่รู้นี้ ซึ่งพวกเราก็ทำได้ ไม่เสียเปล่า อาตมาก็ยังภูมิใจว่า ไม่เป็นหมันในการที่นำพยัญชนะ นำธรรมะพวกนี้มาสื่อ อธิบายมา 50 กว่าปีแล้วมีผลขนาดนี้ ทั้งๆที่มันสูญหายไปแล้ว คว้าขึ้นมาได้อย่างยากเย็น แต่ได้ ไม่สูญเปล่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 13:57:31 )

พ่อครูมีหน้าที่เป็นสยังอภิญญา

รายละเอียด

อาตมามีหน้าที่ เป็นสยังอภิญญา ประกาศโดยไม่ได้หลงผิดไม่ได้สงสัยไม่ได้มาอวดโอ่ อาตมาเป็น สยังอภิญญา ยืนยันอย่างไม่ได้พูดเล่นแต่พูดจริงๆ มีมาแต่ปางก่อน สยังแปลว่ามีของตัวเองมาแต่ปางก่อน แล้วมาทำให้คนอื่นรู้ตัว สัจฉิกัตวา ปเวเทนตีติ มาประกาศสาธยายแล้วนำพาประพฤติปฏิบัติด้วยจนเกิดผลจริง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ประกาศโลกนี้โลกหน้า
วันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2564 ( 12:32:35 )

พ่อครูมีอาสโภมา สอนโลกุตระโดยไม่รับตำแหน่งใดๆ

รายละเอียด

ถ้าเข้าใจแล้วจะไม่เอาหรอก เหมือนอย่างอาตมาจะให้ไปเป็นเจ้าคุณเป็นสังฆราช ไม่เอา นี่แหละ มาสอนสัจจธรรมโลกุตระอย่างนี้แหละค้านแย้งกับพวกคุณด้วย ก็ไม่กลัว มีอาสโภพอ มีความมั่นใจพอ แกล้วกล้าพอ ที่จะยืนยันพิสูจน์ แม้พวกเราน้อยก็กล้าที่จะยืนยันสู้กับพวกใหญ่ ไม่ได้สู้แบบรบราฆ่าฟันหรอก แต่สู้เพื่อจะยืนยันว่านี่คือของจริงของพระพุทธเจ้า 

เพราะฉะนั้นอาตมามีทัศนะอย่างนี้ จึงทำอย่างนี้เต็มที่ เป็นวิสัย เรียนรู้กรรมวิบาก เรียนรู้วิสัยที่เป็นฌาน มาสู่ คำสำคัญ คำว่า ฌาน เมื่อกี้นี้ อธิบายไปถึงตัณหา อุปาทานของปฏิจจสมุปบาท เพราะคุณเองดับตัณหาไม่ได้ดับอุปาทานไม่ได้ จิตของคุณ จึงเป็นภพชาติ วนเวียนอยู่ในภพชาติอยู่ นี่คือ ปฏิจจสมุปบาททั้งแถว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิสัยทัศน์ของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 ตุลาคม 2565 ( 12:57:23 )

พ่อครูมีอิทธิบาทในการตอบคำถามเข้าหาปรมัตถ์

รายละเอียด

อาตมาเคยนึกอยู่ว่า เอ๊ ทำไมเรารู้ไปหมด ใครจะถามมุมไหน เรื่องอะไรต่ออะไร นอกจากเรื่องโลกอาตมาตอบไม่ได้ วิธีที่จะไปทำการโดยแบบนี้ไปทำการโกงแบบนี้ไปทำการเอาเปรียบเอารัดคนแบบนี้ อาตมาไม่เก่ง ไม่รู้เรื่อง ตอบไม่ได้ แต่มาทางธรรมะ อาตมาว่าอาตมาตอบได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะยิ่งเข้าไปหาปรมัตถ์ เข้าไปหาจิตไปหากิเลส

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 28 จะเป็นสาธารณโภคีต้องไม่มีพญานาค วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:49:17 )

พ่อครูยกตัวอย่างพระบางองค์และปราชญ์ทางเถรสมาคม

รายละเอียด

จมในโลกธรรม ซึ่งซับซ้อนเขานึกว่าตัวเองไม่มี นึกว่าตัวเองไม่ติด ลาภไม่ได้ติด ไม่ว่าจะเป็นพระ เป็นปราชญ์ที่อยู่ในเถรสมาคมหรือพระป่าสายหลับตา เขาว่าเขาไม่ได้ติดลาภ แต่ไปดูสิ ทำทาน บริจาคกัน ใครจะได้รับการบริจาค มันซับซ้อน พระป่านี่ ไม่ต้องเอาใครหรอก หลวงปู่แสงที่พูดกันอยู่ ค้นไปค้นมา มีเงินตั้งหลายสิบล้าน ทั้งนั้นแหละ พวกนั่งหลับตา อย่างมหาบัวว่า ไม่มี ไม่ได้ติด ลาภยศสรรเสริญ แต่มหาบัวมีนิรมาณกาย ไม่ได้นึกว่ามีหรอก แต่ยึดว่าตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่เอาเงินเข้ากองคลัง ใหญ่จนกระทั่งตายก็นี่ของกู นี่ของกู โดยมหาบัวไม่รู้ว่า ตัวเองเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์อยู่ แล้วบอกจะตายไม่เกิดอีก ป่านนี้คงเป็นเล็นเกาะที่หีบดอลล่าร์หรือหีบทองคำในพระคลังหลวงแล้ว 

คือไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้จักกามภพ ภวภพ รูปภพ อรูปภพ กามก็ไม่รู้ กินหมากปากเปรอะไม่ได้ขาดปาก กามคุณ 5 ก็ไม่รู้ตัว แถมไปหลงอรูปภพที่ว่า ทองคำนี้ฝีมือฉัน เอาเงินดอลลาร์ไปค้ำประเทศไว้นี่ ฝีมือฉันนะ ทั้งภายนอกภายในยึดเป็นตัวตนเต็มบ้อง ไม่รู้ว่าตัวเองยึดหรอก ปราชญ์ทางเถรสมาคมก็เหมือนกัน ลาภสักการะ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ลาภดูเหมือนตัวเองไม่ได้สะสม แต่จะใช้อะไรจะจ่ายอะไร มีพวกพ่อยกแม่ยกพร้อม จริง จะทำอะไร จะพิมพ์หนังสือกี่ล้านเล่ม จัดพิมพ์อย่างสวยเท่าไหร่ก็ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ใครคือผู้ถึงแก่น ใครเป็นผู้หลงกิ่งใบดอกผล วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 15:43:17 )

พ่อครูยกพระโตรปิฎกเรื่องอาหารที่ยิ่งใหญ่สำคัญ

รายละเอียด

อาตมาเอาพระไตรปิฎกเล่ม 24 อวิชชาสูตร ขึ้นมา อธิบายประกอบ ที่อาตมาเกริ่นนำไปว่าอาหาร คนที่ไม่เข้าใจคำว่าอาหารและไม่รู้คำตรัสของพระพุทธเจ้าอย่างดี จะฟังเข้าใจเพิ่มขึ้นเมื่ออาตมาเกริ่นนำแล้ว ว่าอาหารเป็นอย่างนี้หรือ 

เข้าใจแต่อาหารคือ กวฬิงการาหาร คืออาหารคำข้าวเท่านั้น อ้อ อย่างนี้คืออาหารสำคัญกว่าคำข้าว ซึ่งคำข้าว ก็สำคัญสำหรับร่างกายแต่นี่คืออาหารสำหรับจิตใจ นี่คืออาหารแท้ๆของจิตใจ จะเรียกว่าโลกุตระ แม้ไม่เรียกก็เป็นอาหารทางจิตใจที่สำคัญยิ่ง 

“จากพระไตรปิฎกเล่ม 24 ข้อ 61 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือพ่อครัวผู้ปรุงอาหารโลกุตระ วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 สิงหาคม 2565 ( 14:57:04 )

พ่อครูยกอินทรียภาวนาสูตรยืนยันพวกหลับตาปฏิบัติ ปฏิบัติผิด

รายละเอียด

อินทริยภาวนาสูตรพระไตรปิฎก เล่มที่ 14  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 6

มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ 10. อินทริยภาวนาสูตร (152)

 [853] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้- สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ป่าไผ่ ในนิคมชื่อกัชชังคลา ครั้งนั้นแล อุตตรมาณพ ศิษย์พราหมณ์ปาราสิริยะ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ แล้วทูลปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการทักทายปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ

 [854] พอนั่งเรียบร้อยแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามดังนี้ว่า ดูกรอุตตระ ปาราสิริยพราหมณ์แสดงการเจริญอินทรีย์แก่สาวกหรือเปล่า ฯ

            อุ. แสดง พระโคดมผู้เจริญ ฯ

            พ. ดูกรอุตตระ แสดงอย่างใด ด้วยประการใด ฯ

            อุ. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ในเรื่องนี้ ท่านปาราสิริยพราหมณ์แสดงการเจริญอินทรีย์แก่สาวกทั้งหลายอย่างนี้ว่า อย่าเห็นรูปด้วยจักษุ อย่าได้ยินเสียงด้วยโสต ฯ

             พ. ดูกรอุตตระ เมื่อเป็นเช่นนี้ คนที่เจริญอินทรีย์แล้วตามคำของปาราสิริยพราหมณ์ ต้องเป็นคนตาบอด ต้องเป็นคนหูหนวก เพราะคนตาบอดไม่เห็นรูปด้วยจักษุ คนหูหนวกไม่ได้ยินเสียงด้วยโสต เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสแล้วอย่างนี้ อุตตรมาณพ ศิษย์ปาราสิริยพราหมณ์ นั่งนิ่ง เก้อเขิน คอตกก้มหน้า ซบเซา หมดปฏิภาณ ฯ

คนทุกวันนี้ฟังอาตมาแทนที่จะคอตกซบเซาแต่เถียงอีก โง่ไม่เสร็จหลับตาปฏิบัตินั้นไม่ใช่ของศาสนาพุทธเพราะไปปิดทวารทั้ง 5 แทนที่จะรู้ภายนอกภายในให้ครบ ก็ไปจำกัดให้ตัวเองอยู่ในภวังค์อยู่ในภพข้างในจิต แล้วก็เพ้อเจ้อเป็นนิรมาณกายเป็นสวรรค์วิมานเป็นสัมภเวสีไป เกินโลกจินตาที่จะคิด ฝันเพ้อไป แล้วเกิดหมู่ฝูง นิรมาณกาย สัมโภคกาย อทิสมานกาย ไม่เห็นทั้งหมดเลยตาบอดเป็นมนุษย์ตาบอดสอนคนตาบอด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภูผู้รู้จบสัตตาวาสและวิญญาณฐีติ วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2565 ( 14:26:53 )

พ่อครูยอมถูกว่าติดยึดไม่อยากตายเพราะอะไร

รายละเอียด

อาตมาสู้ตาย ยังไม่ยอมหยุดง่ายๆหรอก ยังพยายามต่อขันธ์ ต่ออายุ แม้ว่ามันจะกระเสือกกระสน อุตสาหะวิริยะ บืน อีลากอีเลื่อไป จนกระทั่งเขาหาว่าติดยึดไม่อยากตายต้องเอาเครื่องออกกำลังกายมาเต็มเลย เหมือนฆาราวาสห่วงอะไรกับความตายกันนักกันหนา ซึ่งเขาไม่เข้าใจอาตมา อาตมานี้รับผิดชอบศาสนาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม รับปากรับคำมาเลยทีเดียวแหละที่จะต้องสืบทอดอันนี้ ให้ถึง 5000 ปี อันเป็นพุทธกัปของสมณโคดม ซึ่งมันเป็นปลายพุทธกัปแล้ว หมดจากอันนี้แล้วศาสนาพุทธจะว่างไปจนถึงกลียุคแล้วก็จะหมด คนตายเป็นเบือหมด แล้วศาสนาพุทธจะว่างเป็นพุทธันดรช่วงหนึ่ง ไม่มีศาสนาพุทธเกิดอีก มีแต่ศาสนาเทวนิยม มีทั้งเทวนิยมอย่างดี แล้วก็อย่างร้ายอีกจนกระทั่งพระพุทธเจ้าต้องอุบัติขึ้นมาช่วยกอบกู้ใหม่ ต้องเป็นอย่างนั้น เป็นหลักการของศาสนาของวัฏสงสาร ว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นเลย อันนี้เป็นเรื่องที่ อจินไตย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมืองไทยเป็นเมืองของพระพุทธเจ้า-โลกุตรธรรมจะช่วยโลกได้ วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 เมษายน 2564 ( 18:58:13 )

พ่อครูยังคงลากสังขารอยู่ต่อไปเพื่อให้คนไทยเกิดอัญญธาตุ

รายละเอียด

แต่อาตมาเท่าที่จะรู้สึกว่า ขันธ์นี้ ร่างนี้ คงตายก่อน ตายก่อนที่ ประชากรทั้งโลก หรือไม่ทั้งโลกหรอก แค่ประเทศไทยนี่ จะสามารถลืมตาอ้าปาก ขึ้นมารู้ อ๋อ.. โพธิรักษ์แสดงโลกุตรธรรมจริงๆนะ ซึ่งมีจำนวนมากพอที่จะเป็นค่านิยมของสังคม ตื่นตาตื่นใจ โอ้โห! ไม่น่าเชื่อ เพราะว่าสัจธรรมมันขี้เหร่จริง ขี้เหร่จริงหนอ ความจริง ขี้เหร่จริงหนอสัจธรรม มันขี้เหร่จริงๆในยุคนี้ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ คนจะไปหลงใหลที่สวยที่งาม ฟรุ้งฟริ้ง ที่เขาจะสาธยายด้วยภาษาโลกียะอย่างวิจิตรพิสดารต่างๆนานาที่เป็นกันอยู่อย่างที่เห็น ภาษาอย่างโพธิรักษ์ ตอกกิเลสเปรี้ยงๆ เขาฟังไม่สนุกหรอก  ฟังแล้วมันโดน ฟังแล้วมัน แหม! คนที่พอใจที่ได้ฟังโลกุตระ ฟังถึงสิ่งที่ตำหนิ สิ่งที่เป็นการชี้บ่งถึงสิ่งที่คุณต้องเลิก ต้องละ ต้องลด 

ชี้แล้วผู้ที่ได้ฟัง เปรี้ยงเลย ยอมรับ มันเจ็บมันปวดนะ เพราะฉะนั้นคนที่จะยอมรับที่จะเจ็บปวดนี้ต้องมีปฏิภาณปัญญาลึกซึ้ง ที่จะเปิดรับได้รู้ได้ มันมีความซับซ้อน จึงไม่ใช่เรื่องสามัญที่จะเป็นเรื่องธรรมดาที่คนจะรู้กันได้ง่ายๆ ซึ่งความซับซ้อนพวกนี้อาตมาค่อยๆไขไปเรื่อยๆให้เห็นความซับซ้อนต่างๆ นี่ก็พยายามลากสังขาร ลากจริงๆ ลากสังขารจริงๆ ซึ่งก็

1. ที่ลากสังขารนี่ เพราะยังไม่มั่นใจว่า ซึ่งจริงๆก็ยังไม่มั่นใจจริงๆ นั่นแหละ ว่าโลกุตรธรรมที่สาธยายไว้แล้วนี้ เขียนไว้ก็เยอะ สาธยายไว้ก็พอสมควร มันจะมากพอที่คนจะรับได้ จะให้เขาไปเปิดฟังซ้ำซาก  ไปอ่านซ้ำซากเอง มันไม่สดเท่ากับต้องพูดเองสดๆ แล้วก็ต้องพยายามมีมวล มวลก็ชอบสดๆมากกว่าแห้งๆ แห้งไป อ่านไป ฟังไป ดูมันไม่เท่าสดๆ นี่ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ เพราะฉะนั้นจึงต้องทนทำ ทนอยู่ ลากสังขารไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ 

มันก็เป็นการพิสูจน์การที่จะอยู่เกินกัป อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า อานนท์ ถ้าเราจะอยู่ให้ถึงกัป หรือเกินกัปอีกก็ได้ แต่พระพุทธเจ้าท่านก็ ตรัสเป็นนัยๆ พระอานนท์ก็ไม่มีไหวพริบอาราธนา ตรัสไว้ถึง 16 ครั้ง พระอานนท์ก็มีมารมาปิดบังปัญญา ไม่สะดุด 16 ครั้งไม่สะดุดว่าพระพุทธเจ้าท่านตรัส ปลงอายุสังขารคือบอกอายุว่าท่านจะไปแล้วนะ  พระอานนท์ไม่สะดุด 16 ครั้ง ในวันสังคายนาพระมหากัสสปะก็เลยปรับอาบัติพระอานนท์เลย ไม่ยอมอาราธนาพระพุทธเจ้าไว้ นี่ท่านบอกนิมิตสัญญาไว้ตั้ง 16 ครั้ง รายละเอียดพวกนี้ลึกซึ้งมาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 34 ปัญญา สมาธิและสันติภาพแบบพ่อครู วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 กรกฎาคม 2565 ( 16:54:43 )

พ่อครูยังมี Appreciate

รายละเอียด

อาตมายังมีกำลังใจ ยังมี Appreciate มันแสดงธรรมแล้วรู้สึกสดชื่น Appreciate มันรู้สึกสบายกับกระปรี้กระเปร่า หนุ่มขึ้นเรื่อยๆ แสดงธรรมนี้หนุ่มขึ้นเรื่อยๆ พอเวลาไม่แสดงธรรมก็อีกอย่าง ถ้าเขียนหนังสือก็ไปเลย ไม่เขียนหนังสือก็นอนพัก เมื่อไหร่จะสว่างสักทีอยู่อย่างนั้น ตื่นมาสว่างแล้วก็มีกิจวัตรหน่อย ทำมาอย่างนั้น กลางคืนมันไม่มีกิจวัตรอะไรก็เอาแต่นอนก็ดิ้นไปดิ้นมา ก็พักผ่อนคืนหนึ่งไม่กี่ชั่วโมงก็พอแล้ว มันสงบเท่าไหร่ก็ไม่เท่าไหร่ ส่วนมากอาตมาไม่ได้เสียเพราะว่าพักนอนไม่พอ กลางวันก็นอนกลางคืนก็นอน จนกระทั่งพูดเชิงเล่นกัน นอนอยู่ที่ในห้อง เมื่อเช้าขึ้นมาก็ย้ายที่นอนมาห้องทำงาน เมื่อจะนอนก็ขึ้นนอนพัก เล่นโยคะเสร็จก็มานอนพัก 

แต่ก่อนนี้โยคะเสร็จก็พัก 10 นาทีแล้วขึ้นมาทำงานต่อ เดี๋ยวนี้โยคะเสร็จก็นอนบางทีเป็นชั่วโมง ตื่นขึ้นมาก็มาฉัน

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูตอบปัญหาผู้ชมทางบ้าน วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 14:02:09 )

พ่อครูยินดีที่จะให้มาร่วมมารวมกัน

รายละเอียด

หลวงปู่ก็รู้สึกหัวใจพองโต ยินดีปรีดาเป็นที่ยิ่ง ที่เห็นมารวมกัน คนเก่ายิ่งมารวมก็ยิ่งยินดีปรีดา คนใหม่จะมาอีกก็ยินดีปรีดาอีกเหมือนกัน เพราะเรายินดีที่จะให้มาร่วมมารวมกันในคนทั้งหลาย คนที่มาอยู่ในหมู่กลุ่มของเรา ดังที่ท่านฟ้าไทได้เกริ่นมาแล้ว พาดพิงไปถึง เหตุการณ์ที่คุณนกเขากับคุณตู่ จตุพร เขามาที่นี่ แล้วก็ได้โอภาปราศรัยกันไป จนกระทั่งอาตมาได้ออกปากว่า เชิญยินดีต้อนรับจะมาอยู่ที่นี่จะอยู่กี่เดือนกี่วันก็ได้ แล้วให้รวนให้ป่วนที่นี่ได้ด้วย ทำไมอาตมากล้าพูดเช่นนั้น 

อาตมากล้าพูดเช่นนั้นก็เพราะว่าคุณตู่หรือคุณนกเขานี่จะหามวลเข้ามารวนในนี้ มาป่วนในนี้ไม่ได้ เขาจะรวนและป่วนเฉพาะตัวเขา ซึ่งจะเป็นผลดีมากเลย เขาจะรวนจะป่วนเพื่อเป็นโจทย์ พูดไปแล้ววันนั้นก็พูด  มันจะเป็นโจทย์เป็นการสัมผัสระหว่างคนต่อคน เขาจะมากระทบสัมผัสเรา จะรุนแรง จะด่าทอ จะร้ายแรง แม้ในที่สุดที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสกับพระอานนท์ 

อานนท์ ถ้าเขาทำร้ายเธอ เธอจะทำอย่างไร เธอคิดอย่างไร ก็คิดว่าดีเขาทำร้ายก็ดีกว่า เขาไม่ตัดแขนตัดขาเรา แล้วถ้าเผื่อเขาตัดแขนตัดขาเราล่ะ ก็ดี ที่เขายังไม่เอาชีวิตของเรา ไม่ทำร้ายชีวิตหรือว่าฆ่าเรา อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ลักษณะประชาธิปไตยสุดยอด 11 ประการ วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2565 แรม 1 ค่ำเดือน 12 ปี ขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2565 ( 09:55:58 )

พ่อครูยินดีในป่าอย่างไร

รายละเอียด

อาตมายินดีในป่า ขณะนี้สร้างราชธานีอโศก ให้มีแม่น้ำลำธารภูเขา ต้นหมากรากไม้ ป่าไม้ ต้นไม้กำลังโตอีกสัก 10-20 ปีมาเถอะ มาที่ราชธานีอโศกซึ่งมีพื้นที่ประมาณพันกว่าไร่เท่านั้นเอง จะเห็นเป็นป่าเขาแม่น้ำเต็มไปหมด ตอนนี้ต้นยางเยอะหน่อย ต้นอื่นก็มีแต่ยางเป็นหลัก จัดเต็มไปด้วยป่ายางร่มใหญ่ในอนาคต 20 ปีข้างหน้าลองมาดู มาตอนนี้ก่อนก็ได้ อีกสัก 20 ปีมาดูจะเห็นว่าที่นี่เป็นแล้วจะมีภูเขาด้วย ไม่รู้จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อาตมาก็ไม่ได้ดูถูกประมาทคนสร้าง ก็บารมีเรา จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ไม่รู้ สำเร็จก็ดีผู้สร้างมีบารมี อาตมาไม่มีปัญญาสร้างเองหรอก เพราะว่าขับรถจักรกลหนักยกหิน เมื่อก่อนยังลงมือช่วยยกบ้าง

ตอนช่วยสร้างปฐมอโศก ตอนหนุ่มๆ กลิ้งหิน ใช้เครื่องกล รถแบคโฮล ตัวเดียวแท้ๆสร้างนะ จนเดี๋ยวนี้ก็เป็นรูปร่างธรรมชาติ น้ำตกก็ดี ภูเขาก็ดี เดี๋ยวนี้ก็ดูเตี้ยลง ต้นไม้คลุมสูง ก็เลยดูภูเขาเตี้ย ต้นไม้มันสูงเลยดูหลอกตาทำให้ภูเขาดูเล็กลง แต่ก็สร้างตอนแรกๆก็ได้แค่นั้น ที่สันติอโศก ยิ่งไม่มีภูเขาเลย ก็สร้างได้แค่นั้น ผู้ร่วมสร้างก็ไม้ร่ม หินอ่อน(งามดีมาก) ก็ช่วยกันมา แล้วก็ผ่านฟ้าอีกคน ก็ช่วยกัน ผ่านฟ้าจะเก่งทางเทคโนโลยีไปอีกเยอะนอกนั้นก็จำเพาะเรื่องดินและหินนี่ จริงๆก็ไม่ร่ม ดินหินนี่ แล้วหินอ่อนนี่แหละ ก็ช่วยกัน ใครจะมาร่วมมือร่วมไม้เดี๋ยวนี้ก็มีเยอะเป็นคณะ เรียกว่าคณะ หินสร้างเมือง ก็พยายามทำกัน ก็ว่ากันไป อาตมาไม่มีปัญหาอะไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 21:46:58 )

พ่อครูยิ่งใหญ่รู้และสร้างโลกุตระ 

รายละเอียด

คำว่า ครู คำนี้ก็ยิ่งใหญ่ มิน่าอาตมาถึงได้ชื่อว่า พ่อครู ยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่ในฐานะครู ครูในเรื่องสูงสุดคือจะต้องรู้ กอด รู้ God แยก God แยก กอด distinguish ได้เลย ต้องแยกออกไม่อย่างนั้นมันก็กอดกันกลมอยู่อย่างนั้น 

เทวนิยมบอกว่าพระเจ้าคือกอด god อย่าไปแยกไปแตกให้มันกอดอยู่อย่างนั้นจึงไม่รู้ว่าอะไรนิรันดรเพราะไม่ได้แยกออกมารู้เลย รู้ที่สุดก็เท่าที่พระเจ้ารู้ แต่สูงสุดที่พระเจ้าไม่รู้และพระเจ้าไม่ได้สร้างคือโลกุตระ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 พาปฏิญาณศีล 8

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2564 ( 21:58:50 )

พ่อครูยืนยันความจริงแต่เหตุใดเป็นเรื่องขัดแย้ง

รายละเอียด

แล้วปางนี้อาตมาเกิดมา ไม่มีอะไรเป็นเครื่องแสดงว่าเป็นผู้มีหลักฐาน เป็นผู้ที่มีที่มาที่ไปของธรรมะ ศิษย์มีครู มีสำนัก มีศิษย์พี่ศิษย์น้องอะไร ไม่มี แล้วบอกว่า มีของตนเองเท่านั้นด้วย ยืนยันว่า อาตมาไม่มีครูบาอาจารย์ในชาตินี้ เอาของเก่าของตัวเองมาพูด พูดไปเขาก็บอกว่าจริงตรงไหน 

จริงตรงที่พูดในสิ่งที่เขาไม่มี ก็เลยเป็นเรื่องขัดแย้ง เขาก็บอกว่ามาทำลายศาสนาพุทธเป็นความขัดแย้งมันไม่ตรงกับเขา เขาก็หาว่าอย่างนั้นเลย ก็เลยพยายามมาจัดการอาตมา แต่จัดการไปจัดการมา มาถึงวันนี้ ก็คงจะไม่มีใครกล้ามาจัดการอาตมาเหมือนกัน 

เพราะอาตมายืนยันความจริง นอกจากคนที่จะบ้าดีเดือด คือมืดบอดจริงๆเลย ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ตะวันออกตะวันตกอะไร ผลีผลามมา นึกว่าตัวเองถูก เชื่อมั่นในสัจจะที่ตัวเองเข้าใจ ไม่เชื่อว่าที่อาตมาพูดนี้คือความจริงของศาสนาพุทธยิ่งกว่า ไม่เชื่อ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 10 วันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2565 ( 11:04:43 )

พ่อครูยืนยันเรื่องชมพูทวีปอย่างไร

รายละเอียด

ขอยืนยันว่า ชมพูทวีปได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยในขณะนี้ที่มีธัมมิกราช 2 องค์มากอบกู้ศาสนา ในหลวงท่านสิ้นพระชนม์ไปแล้ว อาตมายังอยู่ แต่คนก็ยังไม่เข้าใจได้ง่ายๆ เพราะนามธรรมนั้นรู้ได้ยากกว่ารูปธรรม คุณคนนี้ทำนายว่า ทอร์นาโด เหมือนภัยธรรมชาติเหมือนสึนามิที่จะทำให้คนในโลกตายอย่างไม่ดี ทอร์นาโดหรือสึนามิมา คนก็ตายโหง ตายเป็นเบือ ตายมากมายก่ายกองเป็นแสนเป็นล้านคน มันใกล้กลียุคจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ปิดบังแต่เรื่องรู้กันทั่ว โดยสามัญผู้สนใจศึกษาศาสนาไม่ว่าศาสนาใดก็รู้ จะเกิดการล้างโลก เกิดกลียุคก็รู้กัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 41คนโง่ซวย รวยเด่น และเป็นกลาง วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2565 ( 13:01:18 )

พ่อครูยุ่งอะไรกับการเมือง 

รายละเอียด

แหม..น่าเสียดายเนาะ คุณไม่มาติดตามอาตมา ว่าอาตมายุ่งอะไรการเมือง โอ้โห..อาตมายุ่งการเมืองอยู่ไม่ใช่น้อยเลย ยุ่งกับการเมืองก็ไม่ใช่น้อยเลย 

ตกลงที่ว่ายุ่งอะไรกับการเมือง อาตมาก็ปฏิบัติไปตามการเมืองที่เขาเป็นกันอยู่ แล้วก็ไปช่วยกันเมืองยุ่งๆ ให้มันหายยุ่ง ดีไหม ถูกไหม อาตมาก็ทำถูกแล้ว พวกเราก็รับรอง 

เพราะฉะนั้น ง่ายๆ ยุ่งอะไรการเมือง เพราะการเมืองมันยุ่ง อาตมาก็เลยไปช่วยให้มันหายยุ่ง ตอบง่ายๆ 

ปฏิบัติให้ถูกนั้น อาตมาปฏิบัติได้ถูกต้องเหมือนกันนะ ถูกต้องคืออะไร คือทำให้การเมืองเขาได้รับการกระทบและมีผลบ้าง ช่วยการเมืองที่มันไม่ไหว เพราะฉะนั้นการเมืองที่อาตมาไปทำนี้มีผลพอสมควร แต่คนเขาเช็คผลไม่ได้กัน เขาเช็คผลไม่ได้ พวกเราก็ไม่ได้เที่ยวไปขี้ตู่หรือยึดถือว่าเราไปช่วยกันเมืองอย่างโน้นอย่างนี้ เราก็ไม่ได้ไปขี้ตู่อะไร ก็ให้เป็นไปตามธรรม 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนอยู่เหนือกาละต้องชนะปฏิจจสมุปบาท วันพุธที่ 3 มกราคม 2567 วันแรม 7 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2567 ( 18:27:06 )

พ่อครูย่าง 88 หมอเฉกย่าง 97 ปียังแข็งแรงดีอยู่

รายละเอียด

พูดถึงยังไม่ยอมตาย วันนี้เห็นหมอเฉก ที่เขาเอาภาพมาให้ดู เป็นปัจจุบันด้วยยังแข็งแรงดีมากเลย ยังแข็งแรงดีอยู่ ว่ายน้ำทุกวัน ย่าง 97 ปีแล้ว ยังแข็งแรงดีมากเลย เหนืออาตมาอยู่ตรง 9 แต่ด้อยกว่าอาตมาตรงเลข 7 เพราะอาตมานั้น 88 เอาซะอย่างนี้ คือทำร่างสรีระข้างนอกพัฒนา พยายามใช้ปรับปรุงขันธ์กาย ขันธ์ร่างข้างนอกให้แข็งแรง ให้อยู่ยงคงกระพัน อายุ 97 แล้วคงจะถึง 100 สบายๆ หมอเฉกทุกวันนี้ ยังไม่ได้ดูงอกแงกเลย อาตมายังดูไม่แข็งแรงปราดเปรียวเหมือนหมอเฉก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 19:22:31 )

พ่อครูย่างเข้าอายุ 88 ปางกฤษณะที่มีความแรงเต็มที่

รายละเอียด

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานี อาตมาอายุ 87 ปีเต็มกับอีก 1 วันแล้ว อายุ 88 ปางกฤษณะ เป็นปางที่มีความแรงเต็มที่เลย สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่อง อจินไตยที่ยากจะเข้าใจกัน แต่ก็เป็นเรื่องที่เรียนรู้ได้ เอามาปฏิบัติประพฤติให้เกิดจริงเป็นจริงในชีวิตในสังคมและในกิจกรรมต่างๆ เกิดจริงๆเลย จนบรรลุเป็นผลสำเร็จกัน อย่างชีวิตชาวอโศกเป็นต้น ก็เลยเกิดสภาพจริงเป็นมวลอยู่ร่วมกันแล้วก็เป็นสังคมชุมชน กลุ่มหนึ่งในโลก ทุกวันนี้ก็มีการเผยแพร่ผ่านสื่อสารมวลชน Globalization ฟ้าบ่กั้นทะลุทะลวงโลกแล้ว เร็วด้วย คนก็เลยได้รับรู้ ได้มาไตร่ตรองศึกษา อย่างน้อยดูว่าพวกนี้ตลก ดูว่าเล่นอะไรกัน หรือว่ามีพวกที่คิดว่า เป็นไปได้หรือสังคมอย่างนี้ ยินดีมามีชีวิตมาเป็นคนจนๆอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2564 ( 14:00:25 )

พ่อครูรวบรวมชาติจากพระไตรปิฎกเป็นชาติ 10 มิติ

รายละเอียด

อันนี้เป็นชาติที่อาตมารวบรวม ให้ฟัง ทีนี้ ชาติ อาตมาเก็บ ตามพระบาลี ตามบัญญัติที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก ชาติในทีนี้ คือ การเกิดทางใจ โอปปาติกโยนิ ในสรรค่าสร้างคน หน้า 50 เมื่อวิญญาณความเป็นสัตว์คือโอปปาติกสัตว์ ตายจากใจ ย่อมเกิดจิตตัวใหม่ กิเลสคือสัตว์ที่มันตายจากใจ จิตสะอาดจากกิเลสขึ้นเป็นลำดับๆ อาตมาประมาณไว้ 10 ลำดับ ชาติ 10 มิติ ในหน้า 50 ของหนังสือ สรรค่าสร้างคน

“ชาติ” ในที่นี้คือ การเกิดทางใจ(โอปปาติกโยน) เมื่อวิญญาณความเป็นสัตว์ (โอปปาติกสัตว์) ตายจากใจ ย่อมเกิดจิตตัวใหม่(จิตสะอาดจากกิเลส) ขึ้นเป็นลำดับ แบ่งเป็น 10 มิติ 

1. ความเกิดแห่งตัวตน (ชาตัตตะ)

2. แดนเกิดแห่งชาติ (ชาติสัมภวะ)

3. ขอบเขตที่เกิด (ชาติเขตตะ)

4. ความแตกต่างแห่งชาติ (ชาติสัมเภทะ)

5. การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร (ชาติสังสาร)

6. ความดับสิ้นแห่งการเกิด (ชาตินิโรธ)

7. ความสิ้นไปแห่งการเกิด (ชาติกขยะ)

8. ความดับการเกิดของกิเลสนั้นได้สำเร็จ (ชาติมยะ)

9. ความถึงพร้อมด้วยชาติอย่างสมบูรณ์ (ชาติสัมปันนะ)

10. ความเป็นผู้ระลึกชาติได้ (ชาติสสระ)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ชาติ 4-5-10

วันพุธที่ 17 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 กันยายน 2565 ( 14:47:44 )

พ่อครูรับพลเอกประยุทธ์เป็นพระโพธิสัตว์เพราะ

รายละเอียด

คุณประยุทธ์ พลเอกประยุทธ์นี้ ได้รับการยอมรับอยู่ทุกวันนี้ เพราะมีความซื่อสัตย์ จะเก่งหรือไม่เก่งคนก็หามุมเหลี่ยมตำหนิกันไป แต่ความซื่อสัตย์ตำหนิคุณประยุทธ์ไม่ได้ อันนี้รักษาตัวรอด สำหรับคุณประยุทธ์ 

2. ทำงานรับใช้ประชาชนไหม…รับใช้ 

3. เห็นแก่ตัวไหม…ก็ไม่ 

4. มีสมรรถนะไหม ...มี พอสมควร จะบอกว่าเก่งหรือไม่เก่งก็ทำได้ขนาดนี้แหละ มีคนรายงานผลงานที่พลเอกประยุทธ์ทำมา 8 ปีนี้ อย่าง ดร.อานนท์ลิสต์มา 60 อย่าง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์ 4 ประการ

วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กันยายน 2565 ( 15:06:47 )

พ่อครูรับมอบหน้าที่จากพระสมณโคดมให้มากอบกู้ศาสนาให้ถึง 5,000 ปี

รายละเอียด

อันนี้ยิ่งใหญ่มาก และมันก็จริงจัง มีหลักฐานอยู่ในพระไตรปิฎก มหาจัตตารีสกสูตร ในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10 ยืนยันชัดเจนว่า ผู้ที่จะมากอบกู้สืบทอดศาสนาพุทธในยุคที่มันเสื่อมแล้ว นั้นต้องเป็นผู้ที่มีความจริงมีสัจธรรม เป็นโพธิสัตว์มากอบกู้ 

อาตมาว่าอาตมารู้ตัว รู้ความจริงว่าอาตมาเป็นผู้นั้น แล้วอาตมาก็ประกาศตัวเอง แล้วก็พิสูจน์ตัวเอง เอาพระไตรปิฎกมายืนยันตัวเอง พิสูจน์ตัวเอง เพราะอาตมาพูดตรงตามพระไตรปิฎกตั้งแต่โน้นมา เขาเข้าใจไม่ได้เขาไปแปลพระไตรปิฎกผิดเพี้ยนไปเข้าข้างเทวนิยมส่วนมาก 

อาตมาก็มาขยายความกลับเป็นอเทวนิยม มาเป็นพุทธ เขาไม่เข้าใจความเป็น

อเทวนิยมแล้ว จึงยาก เขาไม่ค่อยเข้าใจ คือไม่เข้าใจเสียเลย ไปยึดมั่นถือมั่นในทางเทวนิยม หรือยึดมั่นถือมั่นในพยัญชนะบัญญัติ เข้าไม่ถึงสภาวะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูผู้ปราบมารเพื่อยังพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี วันพุธที่ 10 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 09:08:46 )

พ่อครูรับมอบหมายจากปากพระพุทธเจ้าสืบทอดศาสนา

รายละเอียด

อาตมาก็บอกพูดไปแล้วว่าอาตมารับมอบหมายจากปากพระพุทธเจ้าจริงๆ ด้วยสยังอภิญญา มีผู้มอบสืบทอดไว้แล้วก็ดำเนินมาอีกหลายชาติ ในศาสนาพระสมณโคดมอาตมาเกิดมาหลายชาติแล้ว พยายามทำงานมาเรื่อยๆสืบทอดมาเรื่อยๆ พูดไปแล้วก็ไม่มีหลักฐานอะไรจะยืนยันมีหลักฐานแค่นี้ก็เอามายืนยันเท่านี้ นอกนั้นก็ยืนยันเป็นตัวบุคคลบ้าง ยืนยันไปแล้วผู้ที่เชื่อก็เชื่อ ผู้ไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ แล้วจะไม่เชื่อหนักอาตมาก็ไม่ต้องพูด ผู้ที่เชื่อยืนยันไปแล้วก็แล้วไป คุณพิสูจน์ตามไปอีก อาตมาไม่จำเป็นต้องไปคุยว่าเป็นผู้นั้นผู้นี้อีก คุณก็พิสูจน์เนื้อหาสาระไปก็แล้วกัน ต้องเห็นใจผู้ที่เขาไม่เชื่อ ผู้ที่เขาจะอาเจียนเป็นโลหิตร้อนพุ่งออกจากปาก มันก็ไม่ดี ก็ไม่ต้องพูดอีก อธิบายแต่เนื้อหาธรรมะสาระ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  ชาติ 5 แยกวิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วันพุธที่ 27 มกราคม 2564 ที่ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:25:45 )

พ่อครูรับรู้รสชาติอาหาร

รายละเอียด

รับรู้รสชาติตามความเป็นจริงทุกอย่าง อาตมาก็บอกมาแล้วมันก็เป็นจริงก็พูดความจริงสู่ฟัง 

ถ้าอาตมากินอาหารอร่อยได้จริงๆ โอ้โห อาตมาว่า อาตมาจะอายุยืนยาวขึ้นแน่ มันก็คือมันบำรุงขันธ์รูปขันธ์ มันก็ไปได้สบาย ใจมันก็ยังจะอยู่อยู่แล้ว ใจมันก็พยายามจะต่อภูมิภพพยายามจะให้อยู่ได้สัก 120 อะไรอย่างนี้เป็นอย่างน้อย 120 อย่างน้อย ตะกละนะนี่อย่างน้อยอะไรอย่างนี้มันก็ดีใช่ไหม มันก็จะได้สร้างสรรค์ธรรมะ 

นี่มันก็มีอะไรขึ้นมา คนรับได้ คนที่คอยฟังคอยดูมันมีอยู่จริงเราไม่ได้ไปยัดเยียด เราไม่ได้ไปอวดอ้างอะไรหรอก แต่เราทำความจริงให้ปรากฏใช่ไหม คนที่เขามีดวงตา มีปฏิภาณไหวพริบ เขาก็ดูเอาเอง อันนี้เป็นสัจจะที่มันไม่ได้หนักหนา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พระอภิธรรมของ ฌาน และเวทนา 108 วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2567 ( 17:59:30 )

พ่อครูรู้จักการเวียนตายเวียนเกิดไม่ใช่จากตำราเท่านั้น

รายละเอียด

อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์ รู้จักการเวียนตายเวียนเกิด แล้วทำให้ชีวิตเราไม่ทำชั่วอีก ทำแต่ดี ก็ได้ทำมาฝึกฝนมาจนเป็นจริง ถึงเอามาพูดสู่ฟัง ไม่ได้หมายความว่าเรียนรู้มาจากตำราเท่านั้น แต่ได้ฝึกฝนและได้พัฒนาตนเอง เกิดจิต ดับอาสวะ ดับอนุสัย ในสิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยเรียกว่ากิเลส ขั้นอาสวะ ดับอาสวะ ถอนอาสวะ สิ้นไปได้เรียบร้อย ตั้งแต่เป็นอรหันต์ เป็นอนุโพธิสัตว์ อนิยตโพธิสัตว์ ก็ทำซ้ำยิ่งขึ้นๆ จนถึงระดับ 7 นิยตโพธิสัตว์ กำลังขึ้นระดับ 8 มหาโพธิสัตว์ 

สิ่งนี้เป็นเรื่องจริงเป็นเรื่องของปรมัตถ์ เป็นเรื่องจิต เจตสิก รูป นิพพาน หรือคำสอนในกระบวนธรรมอื่นๆอีกเยอะแยะ ในปฏิจจสมุปบาทก็ตาม และอีกหลายสูตร ก็มีมุมแง่มิติต่างๆ ของกระบวนธรรม ผู้ศึกษาฝึกฝนก็จะรู้ถึงสัจธรรมตามพระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้สมบูรณ์แบบได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมพิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2565 วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2565 ( 19:20:44 )

พ่อครูรู้ทั้งสองฝ่าย รู้ทั้ง 2 แบบ 

รายละเอียด

ก็มันจริงนะ อาตมาก็เคยทำผ่านมานักในการหลับตาปฏิบัติ หลับตามาเป็นสิบๆปีเหมือนกัน ไม่ใช่น้อยๆนะที่อาตมาปฏิบัติ ไปเล่นไสยศาสตร์อยู่ 8 ปีนั้นหลับตาปฏิบัติทั้งนั้น และยังแถมปฏิบัติธรรมจริงๆอีกหลายปีรวมแล้วหลายสิบปีหลับตาทำมา ทั้งอย่างเข้าใจ อย่างไม่เข้าใจก็ทำมานัก เล่นไสยศาสตร์มา 8 ปี หัวหกก้นขวิดในเรื่องไสยศาสตร์หลับตาเป็นเทวนิยมไสยศาสตร์ไปกัน เพราะฉะนั้นอาตมารู้ทั้งสองฝ่ายรู้ทั้ง 2 แบบ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 25 พ่อครูคือธัมมิกราช ผู้กอบกู้โลกุตรธรรม วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2566 ( 18:12:45 )

พ่อครูรู้โครงสร้างของมนุษยชาติ

รายละเอียด

อย่างสหรัฐอเมริกา สงครามกลางเมืองเกิดขึ้น รบกันเสร็จ จบ อาตมาจำไม่ได้ว่าฝ่ายเหนือหรือฝ่ายใต้ชนะ พอจบเสร็จ เขาก็จะให้ จอร์จ วอชิงตัน คนที่เป็นหัวหน้าหน่วยรบของฝ่ายที่ชนะ ขึ้นเป็นผู้บริหารประเทศ เขาจะให้ จอร์จ วอชิงตัน ขึ้นบริหารประเทศ แต่ จอร์จ วอชิงตันไม่เอา ไม่รับ  เสร็จแล้วก็ มีผู้ที่มารับช่วงต่อ มันก็กลับไปอีก การไม่รับ มันแสดงถึงการปฏิวัติที่ไม่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเองที่ชะดเจน เป็นรูปแบบที่สวยงามมากแล้ว ถ้าคนรับไม้ต่อบริหารประเทศแทน จอร์จ วอชิงตัน ทำดีไปต่อ มันก็ดี แต่มันไม่เท่า จอร์จ วอชิงตัน

มันก็ขลุกขลักไปอีก จนกระทั่งต้องมาปฏิวัติกันอีก จนกระทั่งถึงประธานาธิบดีลินคอล์น ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ของเขา อาตมาไม่เก่งประวัติศาสตร์ของเขา แต่อาตมารู้โครงสร้างของมนุษยชาติ โครงสร้างของกรรมวิบาก โครงสร้างของรูปแบบพวกนี้ เพราะฉะนั้นตัวบุคคล ในนิทานหรือในเรื่องราว ในประวัติของแต่ละตำนานของแต่ละประเทศ มันก็อยู่ในอันนี้ทั้งนั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  Neo Protest ประชาชนปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 12:13:55 )

พ่อครูวิเคราะห์อาการโกรธของทักษิณ

รายละเอียด

พูดไปแล้วก็อาการอย่างนี้ ทำให้อาตมาระลึกถึงทักษิณ น่าสงสาร เขาพยายามสงวนท่าทีด้วยความฉลาดเฉลียวของเขาว่า เขาไม่แสดงออกหยาบคาย แต่ในความไม่หยาบคายนั้น ถ้าทำได้ก็ฆ่านะ แต่ลีลามันซับซ้อน เป็นความซับซ้อนของคน ข้างนอกทำให้ดูฉลาด เป็นผู้สูงส่ง เป็นผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติเอง ไม่ได้เป็นผู้มีความโหดร้าย ไม่ได้เป็นผู้ทำร้ายใครเลย แต่มีเทคนิค มีกลเม็ดเด็ดพราย มีแทคติกต่างๆ ที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ เพื่อไปให้ผู้อื่นทำแทน ทำให้ดูเหมือนตนบริสุทธิ์สะอาด จัดการไปหมดเลย ให้สมความโกรธ ความแค้น ความอาฆาตของตนเอง นี่เป็นถึงเช่นนั้น คนที่ไม่รู้จักกรรมวิบาก ไม่รู้จักอโหสิ ไม่รู้จักว่าเราจะไปสร้างความคิดเช่นนี้ไว้ในใจทำไม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาไม่ดับสัญญาแต่ดับกิเลส วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 ตุลาคม 2565 ( 13:35:13 )

พ่อครูว่าถ้าตายอายุ 100 ปี ก็คงต้องเกิดมาอีกเกิดมาต่อให้ถึงยอด

รายละเอียด

อาตมาตายไปแล้ว โลกุตรธรรมก็จะดำเนินไป แต่นี่ดูแล้วสงสัยจะอายุไม่ถึง 151 ปี ถ้าเผื่อว่าอาตมาตายอายุ 100 ปี ก็คงต้องเกิดมาอีก เกิดมาต่อให้ถึงยอด ถ้าไม่ถึงยอดแล้วมันไม่ไปถึง 5,000 ปี คุณภาพของโลกุตรธรรมที่ได้ พวกคุณก็ทำอยู่ แต่อาตมาต้องมานำต่อไปอีกเพราะมันมีรายละเอียด ทุกวันนี้ก็เติมรายละเอียดอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ยังเห็นว่าจะต้องเติมรายละเอียดอยู่นี่ ยังไม่หมด ยังรู้ความเป็นสอุตระดี ดีแล้วล่ะ แต่ดีกว่านี้ยังมีอีก อันนี้มันเห็นรู้อยู่ในตัวเองเลย มันต้องทำให้ถึงขีด อนุตรังจิตตัง ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ตรวจสอบ ไปทางเจโตไปทางสมาหิโต ปัญญาก็วิมุตติญาณทัสสนะแล้ว 

ก็จึงสรุปได้ว่า อนุตตรังจิตตัง สมบูรณ์แบบหลักเกณฑ์พระพุทธเจ้ามีไว้หมด แต่ปัญญาเป็นเรื่องสูง เป็นเรื่องเป็นไปได้ เป็นเรื่องจริง แค่ 3 อย่างนี้ เป็นเรื่องสูง เป็นเรื่องเป็นไปได้ เป็นเรื่องจริง นี่แหละคือเนื้อๆ คือสาระของสัจธรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แผนผังการกอบกู้โลกุตระของพ่อครู วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 17:43:01 )

พ่อครูว่าอโศกนี้ดีจริงๆเพราะอะไร

รายละเอียด

คุณคอยใครก็เห็นใจพวกเรา อาตมาเข้าใจสังคม สังคมไม่มีตาหรือไง ว่าอโศก ขออภัยไม่อยากพูดแต่ต้องพูด อโศกมีดี แต่ทำไมคนไม่เห็นดีอันนี้ของอโศก แล้วที่ว่าดีอันนี้ อาตมาก็ขออภัยอีก มันดีจิรงๆ มันไม่ใช่ดีเล่นๆ ดีในขั้นยอดที่ พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ด้วย เช่น สาธารณโภคี หรือว่ารับใช้มวลชน ดูหยาบๆนะ แค่รับใช้มวลชน อโศกมีไหมลักษณะนี้ ทั้งนั้นๆ 

เพราะอะไร เพราะเรามีพออยู่พอกิน มีเหลือเฟือ ไม่เดือดร้อน ช่วยกันคนละไม้คนละมือ สรุปค่าเฉลี่ยของชาวอโศก หาคนขี้เกียจเกือบไม่ได้ เอางี้เลย แต่มันมีคนขี้เกียจหลบๆเลี่ยงๆอยู่บ้าง แต่โดยค่ารวมแล้ว มันเป็นจุดทศนิยม .000001 เป็นต้น บางคนช่วยคนอื่นท้ังวัน ตัวเองหาเวลากินกับนอนให้ตัวเท่านั้นเอง แล้วก็มาช่วยคนอื่น ก็ทำไปท้ังวัน มีกลางคืนกับกลางวัน มีนอนกับตื่น บางคนก็นอนคืนนึงไม่กี่ชั่วโมง แล้วก็ตื่น นอกนั้นก็ทำไป ตั้งแต่เพื่อนไม่ตื่น เราก็ทำจนเพื่อนตื่นช่วยกันทำแล้วก็ถึงเวลานอน อยู่เป็นกิจวัตรทำไปสบายๆ แล้วเจ็บป่วยได้ไข้น้อย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์ 4 ประการ วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กันยายน 2565 ( 13:29:23 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์