@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

พรหม 20 ชั้นที่มิจฉาและสัมมา

รายละเอียด

คนที่หลงยึดถือ เขาก็ยังมี เป็นอรหันต์แล้วไม่มีภพชาติ เพราะฉะนั้น พรหม16 ชั้น 20 ชั้น ท่านรู้หมดแล้ว รู้แจ้งแล้วก็ไม่มี ผู้ยังไม่บรรลุ ยังไม่รู้แจ้งก็ยังมีภพมีชาติ รูปภพ อรูปภพ รูปพรหม อรูปพรหม 16 อธิบายเป็นแสงสีเป็นลำอะไรต่างๆ 

พรหม 20 ชั้น 

ชั้นที่ 1 พรหมปาริสัชชาภูมิ (เป็นบริวาร)

ชั้นที่ 2 พรหมปุโรหิตาภูมิ (เป็นครู)

ชั้นที่ 3 มหาพรหมาภูมิ (เป็นหัวหน้า)

ต่อมาอีก 3

ชั้นที่ 4 ปริตตาภาภูมิ ( อาภา แปลว่าแสง)

ชั้นที่ 5 อัปปมาณาภาภูมิ

ชั้นที่ 6 อาภัสราภูมิ

หมวด 3 

ขั้นที่ 7 ปริตตาสุภา 

ขั้นที่ 8 อัปปมาณาสุภา 

ขั้นที่ 9 สุภกิณหาภูมิ

ชั้นที่ 10 เวหัปผลาภูมิ (หลงเวหา คือพญาครุฑ)

ชั้นที่ 11 อสัญญีสัตตาภูมิ 

ชั้นที่ 12 อวิหาสุทธาวาสภูมิ

ชั้นที่ 13 อตัปปาสุทธาวาสภูมิ

ชั้นที่ 14 สุทัสสาสุทธาวาสภูมิ

ชั้นที่ 15 สุทัสสีสุทธาวาสภูมิ

ชั้นที่ 16 อกนิฏฐสุทธาวาสภูมิ

ชั้นที่ 17 อากาสานัญจายตนภูมิ

ชั้นที่ 18 วิญญาณัญจายตนภูมิ

ชั้นที่ 19 อากิญจัญญายตนภูมิ

ชั้นที่ 20 เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิชชาจรณสมบัติ และพรหม 20 ชั้น วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2565 ( 14:09:29 )

พรหมก็ไม่มี รู้ว่าจิตเขาเป็นเช่นนั้น แต่จิตของเราไม่เป็นเช่นนั้นเลย 

รายละเอียด

ติดสุขก็คือการยึดภพยึดชาติ พระอรหันต์ไม่มีพรหม พระอรหันต์ไม่มีเทวดา ไม่เป็นอะไร แต่เขายังเป็นยังมีภพชาติ ยังยึดมามีมาเป็น พอเป็นพระอรหันต์แล้วหมดภพหมดชาติ ความเป็นภพที่เป็นพระพรหมเป็นเทวดา สัตว์นรกยิ่งไม่มี ภพที่เป็นนรก ภพเทวดาก็ไม่มี ภพเป็นพระพรหมก็ไม่มี แต่รู้ว่าจิตเขาเป็นเช่นนั้น แต่จิตของเราไม่เป็นเช่นนั้นเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 9 พ่อครูพบ ญาติธรรมสันติอโศก 

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2566 ( 19:16:20 )

พรหมคือพราหมณ์คือพุทธได้อย่างไร

รายละเอียด

อาตมาว่า ขอให้คุณศิริโชคเถิด... วงศ์พรหมด้วย หมายถึง วงศ์ของผู้สะอาด บริสุทธิ์ พรหมก็คือพราหมณ์ ซึ่งก็คือ พุทธ มันสลับกันไปกันมาระหว่างพราหมณ์กับพุทธ ที่อาตมาพูดนี้หลายคนจะคิดอย่าง พยัญชนะเรียกว่าพราหมณ์กับพุทธแต่ใครจะมิจฉาทิฏฐิหรือสำมาทิฐิเท่านั้นเอาที่สภาวะ ส่วนพยัญชนะจะเรียกว่าพุทธหรือพราหมณ์ ก็ไม่มีปัญหาหรอกสำหรับพยัญชนะ แต่เอาสภาวะเป็นหลัก หากสภาวะมีสัมมาทิฏฐิที่ถูกนะ หากสภาวธรรมแท้อันนั้นเป็นพุทธแม้จะเรียกว่าเป็นพราหมณ์ หรือพุทธโดยภาษา ถ้าเนื้อหาเป็นโลกุตรธรรมแท้ อันนั้นเป็นศาสนาพุทธ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาพาตีทิ้งการนั่งหลับตาปฏิบัติ วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ 


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:51:46 )

พรหมจรรย์

รายละเอียด

1. มีความประพฤติอันประเสริฐ มีพฤติการณ์เป็นพรหมจริง ๆ แท้ ๆ  

2. พฤติกรรมดั่งพรหม 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 105

สมาธิพุทธ หน้า 314


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:41:42 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:37:21 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 12:53:53 )

พรหมจรรย์หมายถึงอะไร

รายละเอียด

เบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์นี้จึงสำคัญ ละเอียด เพราะฉะนั้นคำว่าพรหมจรรย์นี่หมายถึงศาสนา หมายถึงลัทธิ หมายถึงความตรัสรู้ของพรหม พรหมคือพระเจ้า เราเรียนรู้ จรรยะคือ กิริยาทุกกรรมทุกบทบาท พรหมคือบริสุทธิ์ อันที่ไม่บริสุทธิ์ก็ยังไม่ใช่พรหม ต้องทำให้บริสุทธิ์ทุกกรรมกิริยา จึงเป็นพรหมจรรย์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 พาปฏิญาณศีล 8

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2564 ( 21:53:15 )

พรหมจริย , พรหมจริยา

รายละเอียด

1. พฤติกรรมของพรหม 

2. ประพฤติธรรมอันประเสริฐ เป็นกรรมฐานเท่านั้นก็เพียงพอ

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 158

ทางเอก ภาค 2 หน้า 83


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:42:34 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:39:54 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 12:54:39 )

พรหมจริยวาโส

รายละเอียด

อันเป็นที่อยู่ได้ของพลังงานวิญญาณที่สามารถศึกษา พัฒนาได้จนที่สุดถึงขั้นพรหม หรือขั้นจบสูงสุดทางศาสนา

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 263


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:43:11 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:40:40 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 12:55:09 )

พรหมชาลสูตร

รายละเอียด

รูปคือภาวะที่ถูกรู้ object นามคือภาวะตัวประธานรู้ subject รูปกับนามต้องคู่กันเสมอแล้วก็ศึกษาแยกแยะสิ่งที่ถูกรู้นี้คือองค์ประชุมเสมอ นั่นคือกาย มันมีกายในกาย กายในกาย กายในกาย ท่านก็เอามาให้เรียนแค่ 4 คู่ กายในกาย 1 กายในกายตัวที่2 ก็คือเวทนา กายในกายตัวที่3 ก็คือจิต กายในกายตัวที่ 4 ก็คือธรรม กายในกายตัวที่ 1 ก็มีคู่มีรูปกับนาม มีสองเสมอขาดกันไม่ได้ ไม่มีกายก็ขาดการเรียนรู้ ไม่มีภายนอก ขาดไปตั้ง 5 ทวารไปเรียนรู้แค่ทวารเดียว พวกนี้วนในวัฏฏะ ซึ่งหนักกว่่าเวทนา หนักกว่าน่าสงสารนะ วัฏฏะนี้เป็นกัปป์ คือเขาไม่รู้เรื่องเวทนา เพราะฉะนั้นเขาจะไม่รู้เรื่องสงสารมันเป็นเรื่อง กัป ที่ใหญ่กว่าเวทนาสงสาร หมดสิทธิ์ที่จะรู้เลย เวทนา คือ ธาตุรู้ที่จะต้องรู้ให้ได้ ไม่มีเวทนาไม่มีฐานในการปฏิบัติ ในพระไตรปิฎกเล่ม 9 พระสูตรแรกเลยพรหมชาลสูตร พระพุทธเจ้าสอนชัดเจน ถ้าไม่มีเวทนาไม่มีฐานในการปฏิบัติ เวทนาจะเกิดได้ต้องมีสัมผัสเป็นปัจจัย ความรู้สึกไม่มี เพราะฉะนั้นคำว่าความรู้สึกคำนี้มันได้ผิดเพี้ยนไปไกล นิโรธคือไม่มีความรู้สึก ก็แยกความรู้สึกนี้ไม่ได้อีก พระพุทธเจ้าสอนเรื่องสิริมหามายามันไม่ขาดกันสักอย่าง พูดอันนี้ต้องรู้ว่าอีกอันหนึ่งมันต้องมีอยู่ด้วย นิโรธต้องมีการตื่น นิโรธแปลว่าดับแล้วก็ต้องมีตื่น นิโรธแปลว่าดับ ดับของพระเจ้าต้องมีรู้ รู้ยิ่ง รู้จบด้วย รู้ในระดับญาณ วิชชา ปัญญา รู้อะไรดับ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 09:14:50 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:04:44 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:08:21 )

พรหมชาลสูตร

รายละเอียด

พระสูตรแรกที่บอกถึง อดีต 18 อนาคต 44 ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:28:20 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:06:05 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 12:55:43 )

พรหมชาลสูตร

รายละเอียด

ตั้งแต่เริ่มต้นพระสูตร พระไตรปิฎกเล่ม 9 ตั้งแต่พระสูตรที่ 1 พรหมชาลสูตร ท่านก็ตีทิ้งในเรื่องนั่งหลับตาว่าไม่ใช่ศาสนาพุทธ เพราะถ้านั่งหลับตาปฏิบัติสมาธินั้นได้แค่อดีต 18 อนาคต 44 เป็นมิจฉาทิฏฐิหมดทั้ง 62 เขาก็อ่านพระไตรปิฎกไม่แตก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 10:51:35 )

พรหมทัณฑ์ 

รายละเอียด

พรหมทัณฑ์  คือ การลงโทษในสังคมอาริยะ คือ การไม่พูดกันเลย ไม่ชอบใจ ก็ไม่ต้องพูดกัน  ไม่ต้องเกี่ยวข้องกัน ลักษณะไม่พูดกันเลยไม่ต้องเกี่ยวข้องกัน คุณจะเป็นอย่างไรไม่ต้องพูดกัน  ต่างคนต่างทำฉันไม่เกี่ยว พรหมทัณฑ์อยู่กับหมู่  แต่เป็นหมาหัวเน่า  คุณจะดีจะชั่วอย่างไร ไม่แนะนำสั่งสอน ให้คุณศึกษาเอาเอง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 ตุลาคม 2562 ( 12:20:33 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:07:11 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:08:48 )

พรหมที่มีภพชาติคืออาภัสราพรหมกับสุภกิณหาพรหม

รายละเอียด

แต่ถ้าใครก็ตามนั่งหลับตาแล้วยังเห็นแสงสว่าง ดีไม่ดีแสงสว่างให้ใสๆๆ ให้เห็นโสดาบันก็ใสเท่านี้ สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ก็ยิ่งใส คือมืด ไปหลงสว่าง แล้วก็เป็นมโนมยอัตา เป็นรูปที่สำเร็จด้วยจิต ที่พูดนี้พูดถึงธรรมกายพากันหลงทิศผิดไปใหญ่เลย คือพวกสายสว่างอาภัสราพรหม อีกสายหนึ่งเป็นสายมืดพวกนั่งหลับตา หลงความดับความดำ คือสายสุภกิณหา ก็มีสองสายเท่านั้น ที่ทำกันตอนนี้ ก็ไปได้ สุภกิณหาพรหม ก็เป็นพรหมที่มีภพชาติไม่ได้ล้างภพชาติอะไร ไม่ได้รู้การยึดติดภพชาติ อาตมาก็ว่าพูดจนครบหมด พูดซ้ำซากวนเวียนพูดมาก ก็เอาแต่ผู้ที่ฟังรู้เรื่องก็แล้วกัน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 10:35:28 )

พรหมที่สูงกว่ามหาพรหม

รายละเอียด

ชั้นที่ 7 ปริตตาสุภา

ชั้นที่ 8 อั ปปมาณาสุภา

ชั้นที่ 9 สุภกิณหาภูมิ

เหนือชั้นกว่าอาภัสรา มันมีฝ่ายดำ ฝ่ายขาว เป็นห่วงนั่งหลับตาสมาธิฝ่ายขาวก็คือพวกธรรมกาย ฝ่ายดำก็คืออาจารย์มั่น นั่งหลับตาดับปี๋ อีกพวกพวกลืมตาให้สว่างๆๆ ซับซ้อนจะว่าจริงๆแล้วเหมือนกับสว่างจะเหนือกว่าแต่แท้จริงสว่างนี้แย่กว่า สุภกิณหา สุภกิณหา สูงกว่า อาภัสรา

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 15:39:53 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:08:28 )

พรหมธรรมวิเศษกว่าอิทธิปาฏิหาริย์ทางวิทยาศาสตร์

รายละเอียด

ทุกวันนี้เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ยกให้ทางวิทยาศาสตร์เขาเถอะ พลังงานทางจิตจะได้เอามาศึกษาโลกุตรธรรมนี้ พวกทางยุโรป อเมริกา ตะวันออกก็ยังไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้านี้เลิกแล้วอย่างโน้นมาเอาทางจิตวิญญาณนี้ จิตวิญญาณนี่ดีกว่าพลังงานพวกโน้น โดยเฉพาะยิ่งทางพรหมธรรม เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ยิ่งใหญ่กว่าปืน กว่าหอก กว่าระเบิด คุณธรรมของมนุษย์ที่เกื้อกูลช่วยเหลือกัน อย่าไปโหดร้ายรุนแรงต่อกัน อันนี้วิเศษกว่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 3 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันพุธที่ 7 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 เมษายน 2564 ( 21:14:15 )

พรหมปริตตา

รายละเอียด

นิดน้อย

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 15:36:37 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:11:39 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:10:31 )

พรหมปริตตา

รายละเอียด

นิดน้อย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่  ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2562 ( 14:26:17 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:12:38 )

พรหมปาริสัชชา

รายละเอียด

มีความหลงยึดมั่น มีความหลงเสพ มีความหลงติด มีความมัวเมาใจอารมณ์พรหม

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 175


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:43:58 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:42:09 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:11:39 )

พรหมลิขิต

รายละเอียด

คือ เที่ยงตามดวงพรหมลิขิต ศาสนาพุทธเชื่อสิ่งที่เป็นกรรมอดีต เชื่อวิบากเหมือนกัน เราจะได้ดี หรือตกยาก ผิวพรรณดี ผิวพรรณทราม ก็มีส่วนเป็นจริงอย่างนั้นบ้าง เกิดมาตอนแรกก็เป็นไปตาม พรหมลิขิต ตามทุนเดิม แต่ทุกคนมีสิทธิ์แก้กรรม กรรมเป็นของๆตน ทุกคนสามารถที่จะปรับปรุงกรรม กระทำสิ่งที่เป็น บุญ บาป ดี ชั่ว ฉลาด โง่ ขี้เกียจ ขยัน หรือจะฝึกหัดอย่างไรให้ได้เป็นกรรมใหม่ มีอนาคตใหม่ได้ อดีตกรรมไม่ได้หมายความว่า อดีตจะต้องเที่ยง อดีตก็ไม่เที่ยง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ด้วย กรรมปัจจุบัน ปัจจุบันทำกรรมอะไรลงไป ก็เป็นเหตุปัจจัยไป บวก ลบ คูณ หาร กับกรรมอดีต หรือวิบากอดีต ทำให้เปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้น อดีต ปัจจุบัน อนาคต ก็ไม่เที่ยง

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 173


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 15:46:44 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:20:14 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:12:30 )

พรหมลูกฟักเป็นอย่างไร

รายละเอียด

หมายถึงพระป่าที่เอาแต่นั่งหลับตานี่แหละเรียกว่าพรหมลูกฟัก เขาบอกว่าเข้านิโรธเต็มที่ ผลักล้มไปก็อยู่ในท่าแข็งนั่งอยู่ กลิ้งไปได้เลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเปิดตาพญานาคลงสู่การเมืองไทย วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2565 ( 19:47:58 )

พรหมลูกฟักเป็นไฉน

รายละเอียด

นอกจากผู้ที่จะฝึกสมถะ อสัญญีทั้งภายนอกและภายในดับ ความไม่รับรู้ทั้งทวารทั้ง 5 ภายนอก เป็นพรหมลูกฟัก นิ่งหมด ภายในก็ไม่ปรุงแต่งฝึกที่เป็นอสัญญีสัตว์ที่สมบูรณ์แบบเรียกว่าพรหมลูกฟัก ตัวจะแข็ง เพราะว่าร่างกายไม่รับรู้จิตที่พอมีพลังงานเบาจะไปขับเคลื่อนกล้ามเนื้อก็ไม่มีเลย ตกอยู่ในสภาพนั้น หากพลิกตัว ล้มลงไปขาก็แข็งอยู่อย่างนั้น แต่อาตมาไม่เคยฝึกไปได้ถึงขนาดตัวแข็งยังงั้น ดับความรู้สึกไม่รับรู้ได้ขนาดนั้น แต่ขนาดแข็งเป็นพรหมลูกฟัก อาตมาก็ไม่เคยทำได้ขนาดนั้น แต่ทำอยู่เยอะ อยู่มาก อยู่นาน ทำไม่รู้กี่ปี แต่ก่อนนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครู เทศน์ ทวช.อโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ

วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่สันติอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน อานิสงส์ของคนที่ให้คู่ครองไปบวช


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:22:41 )

พรหมวิหาร 4

รายละเอียด

มีความกรุณาก็ลงมือทำ ที่เขาไปอธิบายพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อธิบายแล้วไม่รอบ มันไม่เต็ม เมตตาคือต้องการให้เขาพ้นทุกข์ กรุณาคือต้องการให้เขาเป็นสุข มุทิตาคือยินดีเมื่อเขาเป็นสุข  อุเบกขาก็คือเฉยๆ ก็คือเฉยๆ จริงๆน่ะเมตตาก็มีจิตแล้ว เห็นเขามีความสุขหรือเห็นเขาติดสุข หรือทุกข์อยู่ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2563 ( 11:43:36 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:13:15 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:13:11 )

พรหมวิหาร 4 อัปปมัญญา 4

รายละเอียด

ที่อยู่ของจิตพระเจ้า หรือ.. อัปปมัญญา 4 คือธรรมอันเป็นที่อาศัยอย่างประเสริฐ   คือธรรมอันควรแผ่ไปอย่างไม่มีขอบเขต

1. เมตตา เห็นทุกข์คนอื่นอยากให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ (เห็นใจมีจิตคิดช่วยเขา, ปรารถนาดีอยากให้เขามีสุข/พ้นทุกข์)

2. กรุณา พยายามช่วยให้คนอื่นพ้นทุกข์ (ลงมือช่วยเหลือเขาไม่ดูดาย, ลงมือสร้าง-ช่วยให้เขาพ้นทุกข์)

3. มุทิตา ลงมือช่วยสำเร็จ  เขาพ้นทุกข์ได้  ยิ่งพ้นทุกข์พ้นสุขได้เลยยิ่งดี (ใจยินดีขณะช่วยเหลือเขาอยู่, ยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี-พ้นทุกข์)

4. อุเบกขา เมื่อลงมือช่วยสำเร็จแล้วก็วางอุเบกขา (วางใจเฉยเมื่อได้ทำดีนั้นแล้ว, เป็นฐานอาศัย วางใจเป็นกลาง  ไม่ติดยึดว่าเป็นความดีของเรา  หรือผลสำเร็จนั้นเกิดจากเรา)  

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 11  "สังคีติสูตร"  ข้อ  234,  พระไตรปิฎก เล่ม 35 ข้อ 741

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2562 ( 14:08:08 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:21:23 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:13:47 )

พรหมวิหาร 4 อัปปมัญญา 4

รายละเอียด

คือธรรมอันเป็นที่อาศัยอย่างประเสริฐ คือธรรมอันควรแผ่ไปอย่างไม่มีขอบเขต 1. เมตตา (จิตปรารถนาให้คนอื่นเป็นสุข)

2. กรุณา (ลงมือช่วยให้เขาพ้นทุกข์)

3. มุทิตา (พลอยยินดีเมื่อเขาได้ดี)

4. อุเบกขา (วางใจเป็นกลางเที่ยงธรรมตามจริง)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 11 “สังคีติสูตร” ข้อ 234


เวลาบันทึก 12 มีนาคม 2565 ( 21:30:13 )

พรหมวิหาร 4 มีสองอย่าง

รายละเอียด

ผิด ความเมตตานั้นเป็นโลกียะหรือเป็นโลกุตระก็ได้ พรหมวิหาร 4 อย่างมิจฉาทิฏฐิหรือแบบสัมมาทิฏฐิก็ได้ พรหมวิหาร 4 อย่างมิจฉาทิฏฐิคือเข้าใจว่า เขาก็ใช้ว่า เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา นั้นเป็นเพียงความคิด เช่นเขาบอกว่าเมตตา ปรารถนาให้คนอื่นพ้นทุกข์ กรุณาคือปรารถนาให้คนอื่นได้พบความสุข มุทิตาคือยินดีที่เขาพ้นทุกข์ อุเบกขาคือความวางเฉย เขาอธิบายไว้เช่นนี้มันก็เป็นแบบโลกีย์ มันไม่มีความสัมพันธ์กันทั้ง 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นความสัมพันธ์กันทั้ง 4 ไม่ได้แยกกัน แต่เขาไปแยก นอกจากแยกแล้วไปเข้าใจว่า 1. ต้องการให้เขาพ้นทุกข์คือเมตตา 2. ต้องการให้เขาพบความสุขคือกรุณา ที่จริงแล้วการพบความสุขนั่นคือโลกีย์ ของโลกุตระนั้นต้องพ้นความทุกข์ความสุข มุทิตาคือยินดีกับที่เขาพ้นทุกข์ ส่วนอุเบกขาก็เป็นอุเบกขาอย่างโลกีย์ก็ได้สะกดจิตก็ได้กดข่มเอา เป็นสมถะวิธีอย่างหนึ่ง อย่างนี้คือพรหมวิหารของโลกียะ แต่ของโลกุตระนั้น เมตตาคือ มีจิตต้องการให้เขาพ้นทุกข์ ลงมือช่วยเหลือเขาคือกรุณา กรุณามาจากรากศัพท์ว่า กรณะ แปลว่ากระทำ ลงมือทำเลย ช่วยทำจนเขาพ้นทุกข์ หรือพ้นสุขด้วย นี่คือโลกุตรธรรม แต่พ้นทุกข์แล้ว ยังเหลือความสุขอยู่ก็เป็นขั้นตอน แต่จะไม่เป็นความสุขที่เหมือนกับโลกีย์ทีเดียว แต่เป็นความสุขที่เล็กละเอียดลง เป็นสุขความสงบได้เหมือนกัน แต่ถ้ายังมีความสุขความทุกข์ก็ยังมีโลกียะอยู่ ยังเป็นอุปกิเลส สรุปแล้วของโลกุตระนั้น จะพ้นความทุกข์ความสุขเมื่อช่วยให้เขาพ้นความทุกข์ความสุขได้แล้วก็รู้ว่าเขาพ้น จิตที่เรียกว่ามุทิตาคืออนุโมทนาสาธุยินดีด้วย ก็เป็นแต่เพียงความเข้าใจความรู้ ช่วยให้เขาพ้นความทุกข์ความสุขได้แล้วก็เป็นหน้าที่ของเราก็ดีแล้ว เราก็รับรู้ว่าเขาพ้นแล้ว ก็จบ จบก็ปล่อย ไม่ต้องไปยึดถือว่านี่เป็นบุญคุณนี่เป็นฝีมือเรา ที่เราจะต้องมารับการตอบแทนจากเขาอะไรไม่ต้องมีสาเปกโข ตัดอุเบกขาตัดปล่อยว่าง นี่คือ พรหมวิหารโลกุตระ พรหมสี่หน้านี้จึงอยู่ในองค์เดียวกันไม่ได้แยกกันคนละองค์ ดีไม่ดีพร้อมทั้ง 4 องค์ก็ทะเลาะกันเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 22 กันยายน 2563 ( 19:14:03 )

พรหมวิหาร อัปปมัญญา 4 เป็นคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่

รายละเอียด

คนจะมีจิตเมตตาช่วยเหลือคนอื่น อยากช่วยเหลือคนอื่น แม้ว่าจิตเมตตาแต่เขาไม่ช่วยก็ไม่มีกรุณา กรุณาคือการลงมือช่วย จิตเกิดก่อนได้ จิตเกิดเมตตาจังเลย น่าสงสารจัง อยากช่วยเหลือจัง แต่ไม่ได้ลงมือช่วย เยอะมากปากหวานด้วยซ้ำ น่าสงสารเมตตา แต่ไม่ได้ลงมือช่วยทั้งที่ช่วยได้ จะช่วยด้วยแรงทรัพย์สินเงินทอง ช่วยด้วยความรู้ ช่วยด้วยอะไรก็แล้วแต่ที่ตัวเองมี ที่จะพึงช่วย แต่ไม่ได้ลงมือช่วย ก็เรียกว่ามีเมตตาแต่ไม่มีกรุณา เมื่อคนที่มีเมตตาแล้วลงมือช่วยก็จะมีกรุณา เมื่อลงมือช่วยแล้วเขาก็ได้ดี เขาพ้นทุกข์ เขาก็เจริญเป็นสุขไป ก็อนุโมทนากับเขาด้วยความมุทิตา ก็ยินดีกับเขา ที่เขาพ้นทุกข์ ที่เขาเป็นสุข ที่เขาเจริญเป็นได้อย่างดี แล้วก็มีจิตอนุโมทนา แต่แล้วก็ต้องถอดถอนจิตมีทั้งหมด ไม่ถือว่าเป็นเราทำ ไม่ถือว่าเราเป็นบุญคุณของเรา เป็นผู้ที่มีอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เป็นผู้ที่ทวงบุญคุณอะไรต่างๆ วางเลย อุเบกขา ทำแล้วจบเหมือนไม่ได้ทำอะไร นั่นคืออุเบกขา นี่คือคุณธรรมของสิ่งที่ประเสริฐ ที่ท่านถ่ายทอดศึกษาฝึกฝนรู้กันมาแล้วเรียนกันมาปฏิบัติกันมา จะเรียกว่า พรหมวิหาร อัปปมัญญา 4 เป็นคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่

พวกเรานี้ได้ศึกษาฝึกฝน ใครสามารถทำได้สมบูรณ์แบบตามที่บรรยายอย่างไรมันก็อยู่ที่ความเป็นจริงของแต่ละคน ที่จะสามารถมี สามารถที่จะมีความเป็นจริงอย่างนั้นได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน คนจนที่มี อัปปมัญญา 4


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:30:46 )

พรหมอัปปมานาภา

รายละเอียด

มาก หาที่สุดมิได้เลย อาภา เปรียบเหมือนแสงสว่างคือความรู้ สามารถ ก็สูงกว่าพวกแรก พวกครู และบริวาร

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 15:37:33 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:14:00 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:14:17 )

พรหมโลก

รายละเอียด

พรหมโลกที่เขาหมายกันเป็นภพชาติ แต่ผู้ปฏิบัติหมดภพชาติ พรหมโลกจะมีกี่ชั้น 20 ชั้นเราก็มีรูปนามไปได้หมด เข้าใจพรหมโลกที่เขายึดถือกันเช่นที่ว่ามา 20 ชั้น

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 15:34:57 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:15:51 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:14:45 )

พรหมโลกคืออะไร

รายละเอียด

ถ้าคุณไม่เข้าใจพรหมโลกคืออะไร มันคือความสะอาดบริสุทธิ์รอบถ้วนหมดเลยเป็นพรหมสี่หน้าหรือกี่หน้าก็แล้วแต่มีคุณสมบัติของความสะอาดครบหมดเลยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหมดลูบคลำพระพรหมด้วยฝ่ามืออย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นสัจธรรมที่เป็นนามธรรมอย่างยิ่งไม่ใช่รูปธรรมพาซื่ออย่างนั้นเลยเป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 11:32:14 )

พระ

รายละเอียด

ผู้จะช่วยถอนตัณหา ลดกิเลส ล้างอุปาทานให้แก่ผู้คน

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 114


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:44:41 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:42:59 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:27:08 )

พระกัสสปะเป็นยอดของเทวนิยมหนักขอบปลายของศาสนาพุทธ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นพวกสายหลับตาเนี่ย เป็นโมฆะมันทำไม่ได้มันปลอม มันเป็นไปไม่ได้ พูดอย่างไรก็คงจะยาก แต่ยากก็คงจะมีคนคอยฟังก็คงจะศึกษา อาตมาว่าแม้พระไตรปิฎกเป็นฉบับของพระกัสสปะซึ่งเป็นยอดของเทวนิยมหนัก ขอบปลายของศาสนาพุทธเลย คือพระกัสสปะ อันนี้คนก็พอเข้าใจได้บ้าง พระกัสสปะ เป็นจอมออกป่ายึดป่า พระพุทธเจ้าเก็บตกจากพวกเดียรถีย์มา แล้วก็เป็นหัวหน้าเรียบเรียงพระไตรปิฎกแล้วเอามาใช้กันอยู่ในประเทศไทยด้วย เขาก็ช่างกระไร ไม่เอาฉบับของพระสารีบุตรรวบรวมไว้เอามาใช้กัน กลับมาเอาของฝ่ายกัสสปะมาแทน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 6 วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2564 แรม 5 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2564 ( 19:20:25 )

พระขีณาสพตายกายแตกแล้ว ต้องสูญ ต้องพินาศหมดทันทีหรือ?

รายละเอียด

ยมกะภิกษุเกิดทิฏฐิอันชั่วช้า (ปาปกัง ทิฏฐิกตัง) ว่าพระขีณาสพเมื่อกายแตกตายไปแล้ว (กายัสสะ เภทา  ปรัม มรณา) ย่อมขาดสูญ  ย่อมพินาศ  ย่อมไม่เกิดอีก 
ภายหลังพระสารีบุตรช่วยถอนทิฏฐิอันชั่วช้านั้นของยมกภิกษุ  โดยแสดงให้เห็นถึง  รูป  เวทนา  สัญญา สังขาร  วิญญาณ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์  ดับไป  
ถึงแล้วซึ่งการตั้งอยู่ไม่ได้แห่งขันธ์นั้น ฯลฯ  

(คือ  กิเลสอุปาทานในขันธ์เท่านั้นที่ตายดับสูญไป หรือกิเลสตายขาดสนิท  กิเลสเท่านั้น  ที่ไม่เกิดขึ้นมาอีกเลย  อย่าไปเหมาว่าร่างกายจะไม่เกิดอีก) 
 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 17   ข้อ 198-204, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2562 ( 13:15:11 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:18:17 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:27:37 )

พระขโมยเงินเท่าไหร่จึงถือว่าปาราชิก

รายละเอียด

อาตมาบอกไม่ได้ ทุกวันนี้ 5 มาสก ควรเป็นเท่าไหร่ อาตมาว่าไม่ต้องเกินมากหรอก 5 มาสก นี่เกิน 500 บาทถือว่าปาราชิกได้  5 มาสก แต่ก่อนนี้เขาเทียบ 1 บาท เดี๋ยวนี้จะเทียบเท่าไหร่? หรือไม่เอา 500 บาท เอา 100 – 300 บาทก็ยิ่งเข้ม หรือจะเอา 1,000 บาท ก็ไม่ได้มากมาย พูดถึงปาราชิกเรื่องเงิน ถ้าจะเอาจริงๆแล้ว แทบจะหมดพระ เจ้า ทุจริต รายละเอียดคือ แม้ทุจริตกรรม จิตอกุศลแล้วจับของที่จะเอา เคลื่อนจากฐานนิดนึงก็ถือว่าผลสำเร็จ ปาราชิกแล้ว อย่างธัมมชโยนี้โกงเขามาไม่รู้กี่ปี เสร็จแล้วเอาไปคืนเขาแล้วบอกว่ายกเลิก โกงไปตั้ง 900 ล้าน ปาราชิกแล้วแล้วก็เอาไปคืนเขา มันเหลือกินเลย อันนี้เรื่องจริงนะไม่ใช่เรื่องใส่ความ ธัมมชโยเขาทำอย่างนั้นจริงๆ ถูกฟ้องร้องถูกอะไร จำได้ว่า 900 กว่าล้านเอาไปคืนเขา แล้วศาลก็บอกว่า ไม่ผิด ไม่จับเข้าคุกด้วย กรรมนั้นสำเร็จผล แล้วขโมยสำเร็จผลแล้วเอาไปคืนก็บอกว่ายกเลิก นี่แหละมันเป็นเรื่องน่าเศร้าในสังคมประเทศไทย เป็นเรื่องไม่ซื่อสัตย์ ดังนั้นบาทเดียวก็อย่าไปทำเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 10:21:40 )

พระถังซัมจั๋งและลูกศิษย์

รายละเอียด

อาตมาไม่ไปพยากรณ์องค์ไหน จะเป็นอรหันต์ไม่ว่าจะเป็นพระถังซัมจั๋งหรือซุนหงอคง ตามนิยายตำนานจีน เราศึกษาเอาข้อที่พระถังซัมจั๋งไปเอาคำสอนพระพุทธเจ้า แล้วก็เก็บรวบรวมเผยแพร่ให้ศึกษา เอาอันนั้นสิ พระถังซัมจั๋งจะเป็นอย่างไร ซุนหงอคงจะเป็นอย่างไรก็ไม่ต้องไปละลาบละล้วงท่าน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2563 ( 16:57:36 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:19:00 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:19:03 )

พระทางเถรสมาคมมีแนวโน้มที่จะปฏิบัติตามพ่อครูหรือไม่

รายละเอียด

ตอบเถรสมาคมเขาไม่ฟังอาตมาหรอก เขาจะปฏิบัติตามนั้นเมินเสียเถิดอย่าคิดถึง เพราะว่าเขายึดมั่นถือมั่นแล้ว จะมีบางคนที่แหกคอก เถรสมาคมออกมาบ้าง จะฟังแล้วจะเอาตามบ้างแต่ไม่มากอาตมาเชื่อว่าอย่างนั้น แต่เท่าไหร่อาตมาก็เอาเก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน เพราะเกิดมาในยุคนี้มันเข้ากลียุคแล้วคนมันหน้าด้านมันโง่เง่ามาก ขออภัยที่พูดความจริงมันไม่ค่อยกระเตื้องไม่ค่อยรู้ตัว อาตมาพูดคำใดก็ขอยืนยันว่าเป็นคำจริงไม่ได้หลงไปว่า ที่ว่านี้เป็นความจริงบอกว่าดักดานโง่มากนี้ก็จริง เพราะฉะนั้นรู้ตัวเถิดแล้วก็พยายามทำตัวเองให้หายโง่ ให้ฟื้นขึ้นมาบ้าง แล้วจะได้ประโยชน์ เพราะว่าอาตมาพูดจริงเป็นคนจริง อธิบายสิ่งที่จริงให้ฟังทั้งนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 13:02:00 )

พระที่มาบวชแล้วควรใฝ่แสวงหาทางนิพพาน

รายละเอียด

ที่จริงในพระไตรปิฎกมหายานก็น่าจะมีมากอยู่ พระพุทธเจ้าก็น่าจะพูดในหลายพระสูตรพระนั่งหลับตาไม่เห็นรูป หูไม่ได้ยินเสียงเหมือนกับสอนให้ตาบอดหูหนวก ทำไมเขาจะโง่เง่าดักดานไปนานขนาดไหน ขออภัยจริงๆ 

อาตมาอายุ 87 ปีแล้วก็พูดได้ เหมือนพูดกับลูกกับหลาน ส่วนใหญ่เขาก็อายุน้อยกว่าอาตมากัน  ก็น่าสงสารจริงๆ 

ผู้ที่มาศึกษาใฝ่แสวงหา เป็นเจตนาดี พระที่มาบวชแล้วไม่ได้แสวงหาทางนิพพาน แต่มาอาศัยเรียนได้เปรียญ 9 ปริญญา ตรีโทเอก ได้ฐานะมีลาภยศสรรเสริญ เป็นพระมหาศาล เป็นเจ้าคุณ มีพระหนุ่มตอนนี้เพิ่งได้เป็นเจ้าคุณ เป็นพระในสังคม สอนเก่ง อธิบาย อยู่ทางเหนือ ก็ได้ลาภยศสรรเสริญสุขไป สอนแจ้วๆ อาตมาว่า จะต้องไปใฝ่หาทำไม เราอยู่ทางโน้น ก็สามารถปฏิเสธได้ว่าอย่าให้ผมเลย ผมก็ทำงานไปเฉยๆ ไม่ต้องมาให้ตำแหน่งผมหรอก เพราะคนมันแย่งตำแหน่งกันอยู่ เอาไปให้คนอื่นเถอะผมไม่เอา ท่านก็ไม่ไปยัดเยียดหรอก แล้วบอกว่าไม่ยินดียินร้ายแล้วไม่ยินดียินร้าย แล้วจะไปรับทำไม อาจแก้ตัวว่าเกรงใจพระผู้ใหญ่ก็ได้ 

เรื่องพวกนี้ส่อแสดง ผู้ที่ยังรับอยู่แล้วปากพูดว่าไม่รับเขามาให้ก็ว่าไป แม้แต่มหาบัวก็เป็นระดับชั้นธรรมนะ แต่ไม่ได้มากกว่านั้น น่าจะได้ชั้นพรหม แต่ได้แค่ชั้นธรรม เมื่อขึ้นถึงชั้นพรหมก็จะได้เป็นสมเด็จ มหาบัวได้เป็นชั้นธรรม ส่วนท่านวิริยังค์ได้เป็นชั้นสมเด็จก่อนตาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้ อาหาร ให้บรรลุถึง อรหันต์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:13:14 )

พระที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่น่าไปคลุกคลีเกี่ยวข้องเลยมันสกปรก

รายละเอียด

อาตมายังไม่มีภูมิปัญญาถึงขั้นนั้น ไม่ได้ตรวจสอบหรอก เป็นแต่เพียงว่า รังเกียจ รังเกียจว่า โอ๊.. พระที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่น่าไปคลุกคลีเกี่ยวข้องเลยมันสกปรกมันมีความคิดอย่างนั้น แล้วมันก็เห็นว่าไม่ผิดหรอกมันจริง จนกระทั่งอาตมาได้อนุโลมว่า ยอมบวช เพราะตอนนั้นคิดไม่บวชนะ อยู่วัดอโศการามแล้ว แต่เสร็จแล้วไปทำงานคนมันไม่ยอมรับ เราไม่มีสมมติของความเป็นพระ เป็นฆราวาส ดีไม่ดีเป็นฆราวาสประหลาดโกนหัว รุ่งกางเกงขาสั้นรองเท้าก็ไม่ใส่ใส่เสื้อคอกลม คนก็ว่าบ้า คนมันต้องอยู่กับสมมุติ เราก็สบายๆมักน้อยสันโดษแต่คนทั้งโลกบอกว่าอะไรวะมาขึ้นเวทีคนอื่นเขาผูกเนคไทใส่เสื้อนอก แต่นี่ใส่เสื้อคอกลมบางๆขึ้นมานั่งพูดกับเขา หัวก็โล้นอีกต่างหาก คนอื่น 3-4 คนเขาใส่เสื้อนอกผูกเนคไททั้งนั้น คนสามัญธรรมดาเขาจะไปรู้ลึกซึ้งอะไร ก็บอกว่าเอาคนบ้ามาพูด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 12 กรกฎาคม 2563 ( 12:07:36 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:19:57 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:19:50 )

พระธรรม

รายละเอียด

1. คำสอนที่จะนำไปประพฤติปฏิบัติไปกระทำให้ตนเองเกิดปัญญาธิ-คุณ บริสุทธิคุณ กรุณาธิคุณในจิต 

2. คำสั่งสอน คำแนะตำ คำกล่าวชี้บอกแจ้งของพระพุทธเจ้า

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 305, จากทางเอก ภาค 1 หน้า 304


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:47:49 )

พระธรรมของพระเจ้า คือคำสั่งคือคำประกาศิต ห้ามโต้เถียง ห้ามย้อนแย้ง!

รายละเอียด

ซึ่งลักษณะ“พระธรรม”ของพระเจ้าก็เป็น“คำสั่ง”ที่ต้องปฏิบัติตาม วิจัยวิ
จารณ์ใดๆไม่ได้ เป็น“คำบงการ,คำประกาศิตเด็ดขาดตายตัว
(dictator)”เป็นอำนาจดั่งนายทาสบงการลูกทาส! และที่สำคัญคือ “คำสั่ง”ของพระเจ้าจะถูกจะผิดอย่างไรก็ไม่มีใครที่เป็น“ตัวตนของมนุษย์บุคคล”ที่มีเนื้อหนังมังสาในโลก“รับผิดชอบคำสั่ง”นั้นๆ เพียงแต่ให้“ศาสดา”เป็น“ผู้รับหน้า” แทนเท่านั้น ถ้าหาก“คำสั่ง”นั้นจะผิดจะถูกอย่างไร จะทำได้หรือทำไม่ได้ จะดีแท้หรือไม่ดีแท้ไฉน ก็เป็น“ของพระเจ้า”รับผิดชอบไป เพราะ“คำสั่ง”นั้นไม่ใช่ของ“พระศาสดา”หรือของ“ผู้นำมาประกาศ(ปกาศก, prophet)”แต่อย่างใด เป็นของ“พระเจ้า”โน่น!

เห็นชัดมั้ยว่า แม้“คำสอน(พระธรรม)”ของ“พระเจ้า” กับของ“พระพุทธเจ้า”ก็มีนัยสำคัญที่แตกต่างกัน แค่“ความรับผิดชอบสิ่งที่เป็นของตน”ก็ยัง
“โยนกลอง”กันอยู่เลย! แล้วไปหมกไว้ที่“ความลึกลับ”เป็นผู้รับผิดชอบ แม้แต่“พระศาสดาเอง”ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ“ความรู้-ความจริง”ที่เป็น“พระธรรม”นั้นๆ!

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 256 หน้า 206


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 13:14:26 )

พระธรรมของพระเจ้าบังคับให้ก้มหน้า เชื่อถือเชื่อฟัง เดินตามอย่าวัดรอยเท้า!

รายละเอียด

เช่น “พระธรรม”ของ“พระเจ้า” เข้าขั้น“บังคับ-กดขี่” ห้ามแย้ง ห้ามวิจัยวิจารณ์เป็นอันขาด ให้ก้มหน้า“เชื่อ”แล้วรับคำสั่งแต่ถ่ายเดียว “คำสั่งพระเจ้า”เป็นคำบงการ (command) เผด็จการ (dictatorship) สัมบูรณ์แบบ!คนหรือมนุษย์ไม่สามารถชื่อว่า เป็น“เจ้าของพระธรรม (ธรรมสามี)”ที่เป็น“ความรู้-ความจริง”สูงสุดนี้ได้“สิทธิ”นี้เป็นของ“พระเจ้า”แต่ผู้เดียว!มนุษย์ทุกคนถูกพระเจ้า“ริบ”ความอิสระไปหมดสิ้น  มนุษย์หมดสิทธิ์ทำตนเป็น“พระเจ้า”ได้ ใครก็ไม่บังอาจมี“ความรู้เท่าพระเจ้า” ไม่มีใครสามารถ“พบความจริงสูงสุด”ได้เท่าพระเจ้า  “ความรู้-ความจริง”นั้น“พระเจ้า”สูงสุดแต่ผู้เดียว  ไม่มีมนุษย์ใดมีสิทธิ์ที่จะเข้าถึง“ความรู้-ความจริง”ดัง“พระเจ้า”ได้ แต่“ความรู้-ความจริง”ของศาสนาพุทธ มนุษย์ผู้อุตสาหะพากเพียรปฏิบัติตนเองสามารถเข้าถึง“ความรู้-ความจริง”ได้เท่ากันกับ“พระพุทธเจ้า”ที่ทรงพิสูจน์มาแล้วทุกพระองค์โดยเฉพาะ“ความรู้-ความจริง”วิเศษสุดคือ“นิพพาน”

คำอธิบาย

 

 

หนังสืออ้างอิง

เปิดยุคบุญนิยมเล่ม 2 หน้า 475-476 ข้อที่ 664


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2565 ( 14:09:37 )

พระธรรมจักร คิรีมานนท์ พระพุทธเจ้าทรงตั้งชื่อเองหรือไม่

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าตั้งก็มี พระอื่นตั้งก็มี มีทั้ง 2 อย่าง อาตมาไม่สามารถจะระบุไปได้ทั้งหมด ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรนี้พระพุทธเจ้าตั้ง คิริมานนทสูตร ดูเหมือนจะไม่ได้เรียก แต่มีพระที่ชื่อคิริมานนท์ พระสาวกก็มาเรียกว่า เป็นเรื่องของคิริมานนท์นี้ เป็นคิริมานนทสูตร อย่างนี้เป็นต้น ก็มีทั้งที่พระพุทธเจ้าตั้งและก็คนอื่นตั้งชื่อ ก็ไปเอาสำคัญอะไรนักหนา เอาน่าอย่าพยายามจะเจาะเข้าไปจะต้องพระพุทธเจ้าอย่างเดียว เหมือนท่านคึกฤทธิ์หน่อยเลยนะ ท่านคึกฤทธิ์ได้แต่เอาพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ใช่พุทธพจน์ไม่เอาเลย ก็เรื่องของท่าน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ปลุกธรรม #42 ประชาธิปไตยโลกุตระที่มีอายะ 3 และ อธิปไตย 3 วันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2566 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2567 ( 19:59:39 )

พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า พระต้องเป็นผู้ดีเต็มร้อย

รายละเอียด

คือ สมณะฟ้าไท  ว่า แสดงว่ามาบวชนี้ยาก  สมัยก่อนคนไม่มีใจอย่างอื่นมาก  คิดแต่บวชอย่างเดียว แต่ตอนนี้มีทางเลือกหลากหลาย  คนก็เลยยากที่จะมาบวช    พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าท่านทำให้พระเป็นผู้ดีเต็มร้อย  จะแต่งกายอย่างไร  จะกินอยู่อย่างไร  แม้แต่การเคี้ยวข้าว  ก็ไม่ให้กินมูมมาม  เรื่อผู้หญิงผู้ชาย  ก็มีการสอนไว้  เรื่องการใช้เงิน  สะสมเงินเข้าไม่ได้  สมณะชาวอโศก  ไม่มีแน่  ต้องมาเป็นคนศูนย์ทั้งกายและใจในองค์ประกอบทั้งหมด  แต่ว่ารับภาระดูแลเอาใจใส่งานการ  คนไม่เห็นแก่ตัวแล้ว  ก็จะทำเพื่อผู้อื่น  มารับภาระผู้อื่น

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 15:02:30 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:20:49 )

พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า พระต้องเป็นผู้ดีเต็มร้อย

รายละเอียด

สมณะฟ้าไทว่า แสดงว่ามาบวชนี้ยาก  สมัยก่อนคนไม่มีใจอย่างอื่นมาก  คิดแต่บวชอย่างเดียว แต่ตอนนี้มีทางเลือกหลากหลาย  คนก็เลยยากที่จะมาบวช พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าท่านทำให้พระเป็นผู้ดีเต็มร้อย จะแต่งกายอย่างไร จะกินอยู่อย่างไร  แม้แต่การเคี้ยวข้าว  ก็ไม่ให้กินมูมมาม  เรื่องผู้หญิงผู้ชาย  ก็มีการสอนไว้  เรื่องการใช้เงิน  สะสมเงินเข้าไม่ได้  สมณะชาวอโศก  ไม่มีแน่  ต้องมาเป็นคนศูนย์ทั้งกายและใจในองค์ประกอบทั้งหมด  แต่ว่ารับภาระดูแลเอาใจใส่งานการ  คนไม่เห็นแก่ตัวแล้ว  ก็จะทำเพื่อผู้อื่น  มารับภาระผู้อื่น

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่  27  พฤศจิกายน 2562)


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2562 ( 14:33:23 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:21:39 )

พระธรรมวินัยเป็นใหญ่

รายละเอียด

สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์พระเจ้าแผ่นดินเป็นผู้เป็นเจ้าของ ผู้มีสิทธิ์ขาดในทุกอย่างของแผ่นดิน แต่ของไทยเราให้รัฐธรรมนูญอยู่เหนือกฎในหลวง ในหลวงก็ต้องอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ก็เป็นวิธีการเหมือนกับศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าตรัสว่าทุกคนหมู่สงฆ์ ไม่ให้ใครเป็นใหญ่ ต้องอยู่ภายใต้ธรรมวินัย พระธรรมวินัยเป็นใหญ่ สงฆ์เป็นมนุษย์นั้นเปลี่ยนแปลงไปได้ ธรรมวินัยเป็นใหญ่ แล้วอย่าไปเปลี่ยนแปลงธรรมวินัยของตถาคต เป็นหลักเกณฑ์สูงสุดแล้วก็อย่าไปเปลี่ยน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:41:46 )

พระธุดงค์ไม่มีทางบรรลุนิพพาน

รายละเอียด

มาพูดถึง ป่ากับศาสนาพุทธ มาเข้าสู่เรื่องธรรมะ ที่เจตนาจะเอามาไขความเรื่องของป่ากับศาสนาพุทธ ขอยืนยันว่าศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาคนป่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาคนเมือง ไม่ต้องพูดถึงคนป่าที่อยู่หลายเผ่าพันธุ์ ไม่ได้ดูถูก แต่เรารู้ว่าเป็นคนจำนวนน้อย ในโลกมนุษย์นี้ คนจำนวนมากอยู่ในเมือง รวมคนในป่าอย่างไรก็สู้คนในเมืองไม่ได้คนในเมืองมากกว่า แม้แต่สัตว์ในป่า เขายังรู้เลยว่า เสือดาวเหลือเท่าไหร่ เสือโคร่งเหลือเท่าไหร่ ช้างเหลือเท่าไหร่ ในโลกนี้เขาดูหมดแล้ว มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ คนที่ออกบวชเป็นภิกษุในศาสนาพุทธแล้วออกบวชต้องเดินธุดงค์ เขาใช้ศัพท์นี้เลย นั่นคือผู้ปฏิบัติธรรมในศาสนาพุทธ ที่จะตั้งใจปฏิบัติเพื่อบรรลุนิพพาน ออกบวชเป็นนักบวชในศาสนาพุทธแล้ว ผู้ปฏิบัติที่จะไปถึงนิพพานจริงๆต้องเป็นพระธุดงค์ นั่นคือความเข้าใจที่ผิด ก็ขอตอบด้วยความมั่นใจว่า คุณไปเป็นพระธุดงค์จะไม่มีทางบรรลุนิพพาน นี่คือคำตอบ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2561


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:21:44 )

พระนอกรีตศาสนาพุทธ

รายละเอียด

ชาวพุทธในไทยทุกวันนี้เกือบทั้งหมดเข้าใจว่าการปฏิบัติธรรมของศาสนาถ้าปฏิบัติจะต้องเป็นผู้ที่ออกป่าไม่ใช่พระที่อยู่ในเมือง แม้แต่พระที่อยู่ในเมืองก็เชื่ออย่างนั้นแต่ตัวเองคงไม่ถึง ก็จะนับถือบูชาพระปฏิบัติที่ออกป่าเป็นพระกรรมฐานพระธุดงค์ เอาเรื่องล่องไพรออกป่ามาเล่ากัน เป็นพวกนอกรีตศาสนาพุทธน่าสงสารมาก  เขาติดยิ่งกว่าติดยาอีก ยังเคารพยกย่องเชิดชูประกาศว่านี่คืออรหันต์ อาตมาเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องบอก มันสุดทาง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 09:50:14 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:51:59 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:34:32 )

พระนางมายา

รายละเอียด

ทางธรรมาธิษฐานก็คือ จิต คือวิญญาณ คือความคิดปรุงที่เป็นความไม่รู้

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 370


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:49:44 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:44:15 )

พระนิยตโพธิสัตว์

รายละเอียด

คือ ผู้มีจิตบรรลุแล้ว เป็นพระโพธิสัตว์แท้มีอรหันตคุณ สั่งสมไปตามลำดับๆเที่ยงแท้ต่อการได้สู่พุทธภูมิ การดำเนินหรือเป็นไปก็คล้ายกับการจะไปเป็นพระอาริยเจ้าที่หมายจะบรรลุพระอรหันต์เช่นกัน โดยนัยเดียวกันเป็นแต่ว่า ภูมิธรรมมีจุดสูงสุดคนระดับชั้น การบำเพ็ญของพระนิยตโพธิสัตว์นั้นจะต้องเวียนตายเวียนเกิดอีกนานนับชาติ วัฏฏะลึกซึ้งยิ่งใหญ่มาก มาเกิดเป็นมนุษย์อีกบ้าง เกิดเป็นเทพบ้าง พรหมบ้าง และซับซ้อนกลับไปอยู่ในรูปของสัตว์เดรัจฉานบ้าง (แต่ภูมิธรรมของท่านไม่ได้ต่ำเช่น เดรัจฉาน) ตามคุณธรรมและตามวาระ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์อีกนั้น ท่านก็จะไม่ติดหนักกับโลกียะ เหมือนคนธรรมดามากนัก หรือไม่มัวเมา ไม่ติดอยู่นาน เป็นเพียงอยู่เพื่อสำรอกกรรม

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ”หน้า 195


เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 12:14:01 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:22:36 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:35:27 )

พระนิยตโพธิสัตว์

รายละเอียด

ผู้มีจิตบรรลุแล้วเป็นพระโพธิสัตว์แท้ มีอรหัตตคุณสั่งสมไปตามลำดับ ๆ เที่ยงแท้ต่อการได้สู่พุทธภูมิ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 126


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:50:24 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:45:09 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:36:01 )

พระบรมมาสารีริกธาตุได้มาโดยไม่ได้สรรหา

รายละเอียด

ตอนได้พระบรมสารีริกธาตุนี้ ได้ตลับทองคำก็ไม่รู้จะเอาไว้ทำอะไร พอดีได้พระบรมสารีริกธาตุโดยที่ไม่ได้สรรหาไม่ได้ต้องการทุกอย่าง และที่นี่ก็มีพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุไว้ที่พระพุทธาภิธรรมนิมิต และก็ได้พระบรมสารีริกธาตุมาอีกเรื่อยๆ ก็บรรจุใส่พระพุทธาภิธรรมนิมิตองค์เล็กอีกหลายแห่ง ไม่ได้ไปต้องการสรรหาอะไร แต่มันไปตามเหตุปัจจัยที่จะได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 37 วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2561 


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:20:39 )

พระบรมสารีริกธาตุ

รายละเอียด

คือ พระบรมสารีริกธาตุจำนวน 12 องค์ที่บรรจุไว้อยู่ในองค์เจดีย์ มีขนาดเล็กเท่ากับเม็ดข้าวสาร สมณะโพธิรักษ์ บันทึกไว้ว่า ได้รับถวายจากหญิงกลางคนผู้หนึ่ง ณ กลางสะพานเจริญศรัทธา หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2518 และในวันนั้นได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทย

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 133


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 10:38:39 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:23:54 )

พระบรมสารีริกธาตุคือะไรจริงหรือไม่จริง

รายละเอียด

เราถือว่าพระบรมสารีริกธาตุ เป็นส่วนที่เป็นที่เหลือ เป็นวัตถุรูปของพระพุทธเจ้า คือพระอัฏฐิ หรือคือกระดูกของพระพุทธเจ้า เมื่อเวลาสลายสรีระพระพุทธเจ้าแล้ว เมื่อสลายแล้วก็จะเหลือกระดูก เป็นพระบรมสารีริกธาตุ แล้วก็ถือว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เหลือ มาจาก 2,500 ปีที่แล้ว มาถึงวันนี้ ก็ถือว่าอันนี้เป็นสิ่งที่เหลือ จากพระสรีระของพระพุทธเจ้า ก็มีพระอัฏฐิ ที่เรียกกันว่าพระบรมสารีริกธาตุ ให้ระลึกเป็นเครื่องหมายว่ามีคนจริงมีมนุษย์มีสิ่งที่ได้ตรัสรู้และประกาศตนขึ้นมาเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมาในโลก ไม่ใช่ว่าไม่มีหลักฐานยืนยัน มีพระอัฏฐินี้ยืนยันอยู่อย่างนี้ เป็นต้น 

ส่วนคนบางคนจะบอกว่าพระอัฏฐิธาตุบรมสารีริกธาตุจะจริงหรือไม่มีจริง ไม่มีใครรับรองว่าจริงหรือไม่จริง มันอยู่ที่คนนับถือ แล้วก็สมมุติขึ้นมา มันเป็นสมมุติไม่ใช่ปรมัตถ์ไม่ได้หมายถึงจิต เจตสิก รูป นิพพาน เป็นรูปธรรมของพระพุทธเจ้า จะจริงหรือไม่จริง ก็เป็นสิ่งแทน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมพิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2565 ณ ราชธานีอโศก วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2565 ( 19:00:25 )

พระบาฮาอุลลาห์

รายละเอียด

พระบาฮาอุลลาห์  คือ  เป็นศาสดาของศาสนาบาไฮ  จะเอาเทวนิยมรวมกับอเทวนิยมซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะรวมเพราะเป็นคนละตระกูลนิกายยังรวมไม่ได้จะรวมแต่ละศาสนาได้อย่างไร

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2562 ( 15:37:59 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:22:29 )

พระบุตร

รายละเอียด

พระบุตร คือ  เป็นปกาศกประกาศคำสอนพระเจ้า แต่ก็ไม่เคยเห็นพระเจ้า เพราะว่าศาสนาเทวนิยม คนที่ตายทุกคนตายไปแล้วต้องอยู่กับพระเจ้า  แล้วแต่พระบัญชาของพระเจ้า  แต่ไม่เคยเห็นพระเจ้า  อาทิสมานกาย  พระบุตรยังไม่เคยเห็นพระเจ้าเลย  พระบุตรเป็นปกาศกประกาศคำสอนพระเจ้าแต่ก็ไม่เคยเห็นพระเจ้า  เขาไปตีความว่า  พระบุตรมีคนเดียว ของแต่ละศาสนาก็มาประกาศศาสนาของพระเจ้า  จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอก  ความรู้นั้นไม่ใช่ของพระเจ้าแต่เป็นความรู้ของตนเอง  แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตนเองมีความรู้นี้เอง  แต่เขาคิดว่าตัวเองเป็นตัวแทนพระเจ้ามาประกาศ  เลยเป็ฯศาสนาคลุมเครือ ตัวเองยังไม่รู้ว่าเป็นความรู้ของตัวเอง คือ ศาสดาเทวนิยมเป็นผู้ไม่รู้แม้กระทั่งตัวเองหรือไม่รู้แม้กระทั่งความรู้ของตัวเองไม่ใช่ของใคร

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 16:58:31 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:23:12 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:33:37 )

พระบุตรก็ไม่รู้ตัวเองไม่รู้พระเจ้า

รายละเอียด

มาเป็นพระบุตร ก็รู้แต่ว่า พระเจ้าส่งมา ทุกอย่างเป็นของพระเจ้าส่งมา ให้เป็นผู้ประกาศเป็นผู้แจกแจง เป็นผู้เอาอันนี้ให้กระจายแก่มนุษย์โลก เป็นประกาศก หรือ เป็นศาสดาองค์ใดองค์หนึ่ง ก็ไม่รู้ตัวเอง ไม่รู้พระเจ้า ไม่รู้ว่าความรู้นี้มาอย่างไรไปอย่างไร แต่รู้ว่า อะไรคืออะไร อะไรดี อะไรชั่ว รู้นะ แต่ไม่รู้ตัวตน ไม่รู้ที่ไปที่มา ไม่รู้มาได้อย่างไรเป็นตัวนี้ได้ ไม่รู้ก็บอกว่าพระเจ้าประทานมา คลอดออกมาจากครรภ์ของพระเจ้าและมาทำงานให้พระเจ้าเท่านั้น เสร็จแล้วตายไปก็ต้องไปอยู่กับพระเจ้าอย่างเดิม ก็ไม่จบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ผู้ไม่รู้ตัวเองไม่รู้ทั้งหมด ผู้รู้ทั้งหมด รู้ตัวเอง วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 17:22:02 )

พระบุตรเท่านั้นที่จะพูดกับพระเจ้าได้

รายละเอียด

เอาคำว่า เทว หรือทะเว อ่านอีกอย่างหนึ่งอ่านทะเว อ่านอีกอย่างคือ เทวะ เป็นคำว่าเทวตาหรือเทวดา หมายความถึงสิ่งที่น่าได้น่ามีน่าเป็น เป็นสมมุติสัจจะ เป็นความสุขความรื่นเริงความรวย พวกเราไม่อยากแล้วไม่ต้องรวย หากใครไปเอารวยก็ อเทวะ แปลอีกอย่างว่าเป็นสัตว์นรกเลย สิ่งเหล่านี้ถ้าเราเข้าใจแล้วพูดกัน สื่อกันอย่างที่พูดกับพวกคุณนี้ ใครงง …ใครงงมาก …ไม่มี ใครงงนิดหน่อย…มี ใครไม่งงเลย ยกมือ มีไม่มากนัก สามารถสื่อกับโลก สื่อให้รู้ถึงจิตวิญญาณ หากคุณเกิดมาเป็นคนแล้วสื่อสารกับใครไม่ได้เลยแล้วจะอยู่กับใคร จะอยู่ไปทำไม ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไม่อยู่กับมนุษย์ ไปอยู่ดีที่สุดก็คือไปอยู่กับพระเจ้า ถ้าคุณเกิดมาเป็นมนุษย์คุณก็ต้องสื่อกับมนุษย์ด้วยกัน ถ้าไม่สื่อสารกับมนุษย์ด้วยกันก็ไปฝังอยู่ที่ไหนสักที่ มันก็ไม่ได้ เกิดมาแล้วก็ใช้สังขาร กินนอนขี้เยี่ยวแล้วก็สูญสลายไป เกิดมาทำไมเล่า โดยวิบากคุณเกิดมาอย่างนั้นคุณสะสมนะ สะสมธาตุรู้ ธาตุยึดของคุณเองนะ อันนี้ดีหรือไม่ดีก็เกี่ยวกับวัตถุเกี่ยวกับสัตว์เกี่ยวกับพืช แต่ถ้ามาอยู่กับคน ก็ต้องสื่อกับคน คุณก็จะอยู่กับคนได้ดี ถ้าคุณสื่อกับคนไม่รู้เรื่อง เห็นตรงกันข้ามกันก็ทะเลาะกันเท่านั้นเอง ถ้าอยู่กับคนต้องสื่อกันให้รู้เรื่อง แล้วให้ดีเกิดประโยชน์คุณค่าให้เจริญด้วย มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น คนจึงแสวงหาสิ่งที่ควร สิ่งที่เจริญสิ่งที่รู้เรื่อง สิ่งที่เป็นความสูงที่สุดที่เราควรจะเป็นคือเราจะเป็นคนในระดับสูงสุดที่พิสูจน์ได้คือเป็นพระพุทธเจ้า แต่ถ้าจะสูงสุดแล้วคุณจะไปเป็นพระเจ้าคุณก็เลือกเอา เป็นพระเจ้าเรียกว่าไม่มีใครไปพูดกับพระเจ้าได้ พระเจ้าท่านอธิบายว่าผู้ที่จะพูดกับท่านได้ก็คือพระบุตร ก็ต้องเป็นคนเดียวด้วย นอกจากพระบุตรแล้วไม่พูดกับใคร มีแต่พระจิตกับพระบุตร 2 เท่านั้นแหละ นอกนั้นพระจิตก็ไม่พูดกับใคร พูดแต่กับพระบุตร แล้วให้พระบุตรมาพูดกับคน เราจะเป็นพระบุตรก็เป็นพระบุตรเพราะจะพูดกับคน แต่ถ้าจะไม่เป็นคนที่พูดกับคนก็ไปเป็นพระเจ้าเสีย แล้วให้พระเจ้าสร้างพระบุตรก็อยู่คับแคบๆ 2 คน มหาจักรวาลนี้มีแต่เรากับพระบุตร อาตมาไม่เอา อาตมาจะมาเป็นผู้ที่พูดกันรู้เรื่อง เป็นพระพุทธเจ้า กับมวลมนุษยชาติทั้งหมดสัตว์โลกทั้งหมดสิ่งต่างๆทั้งหมด เหมือนพระเจ้าว่านั่นแหละ พระพุทธเจ้าว่า กับพระเจ้าว่าอันๆเดียวกัน แต่พระเจ้าว่าเองไม่ได้ แล้ว พระพุทธเจ้ากับพระบุตรนั้น ไม่พูดต่อแล้วเพราะว่ามันไม่ดี จะบอกว่าอันไหนเหนือกว่ากันก็กระไรอยู่ ให้เลือกใครจะเอาพระเจ้า พระบุตร หรือพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 23 มกราคม 2564 ( 12:26:42 )

พระบุตรไม่รู้ตัวเองว่าเป็นพระเจ้าเพราะเหตุใด

รายละเอียด

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ฟังแล้วเหมือนนิทานสนุกๆแต่มันเป็นตัวสัจจะ เป็นเรื่องของสัจจะ ยังมีอยู่ตลอดกาล ความเป็นพระเจ้า ความเป็นพระพรหม คำว่าพรหมก็คือ God คือพระเจ้า ผู้ยิ่งใหญ่และมาในตัวบุคคลคือ เรียกอย่างไม่รู้ตัวเองก็คือพระบุตร บอกว่าพระเจ้าอยู่ที่ไหนก็อยู่ในที่ลับ นี่แหละพระบุตรคือลูกของพระเจ้าเอามาประกาศ แต่ที่จริงแล้วพระบุตรไม่รู้ตัวเองว่า คำประกาศต่างๆ นั่นแหละเป็นของตัวเองสะสมมาไม่รู้ตั้งกี่ชาติ แต่เขาไม่รู้เรื่อง rebirth ไม่รู้เรื่องการเกิดการตายการสะสมกรรม 

1. กัมมัสสโกมหิ (มีกรรมเป็นสมบัติแท้ของตน)  

2. กัมมทายาโท (มีกรรมเป็นทายาทรับมรดกของตน) 

3. กัมมโยนิ (มีกรรมเป็นแดนเกิด-หรือพากำเนิด)  

4. กัมมพันธุ (มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์, พันธุ์เทพ,พันธุ์มาร)  

5. กัมมปฏิสรโณ (มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัยแท้ๆ)  

(พตปฎ. เล่ม 14  ข้อ 581)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ้นความโง่อวิชชากับ
ปฏิจจสมุปบาท วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 มีนาคม 2564 ( 19:12:39 )

พระบ้านกับพระป่าในยุคนี้

รายละเอียด

พระบ้านคือพวกเราชาวอโศกที่ไม่ใช่เถรสมาคม ที่เป็นเถรสมาคมนั่นยังแย่ยังหนักอาการยังหนักยังโลกธรรมหุ้มหัว หุ้มศีรษะอยู่เยอะ ยังไม่ไหวหรอก ทางพระป่าก็ไปทางเชน ไปทางมักน้อยสันโดษไม่เอาอะไร เพียงแต่ไม่สัมมาทิฏฐิเท่านั้น ไปนั่งหลับตาไม่สัมมาทิฏฐิ ก็ไม่มานั่งลืมตา 

แม้แต่สายพระบ้านก็ไม่ได้เข้าใจในเรื่องปฏิบัติลืมตา ก็ยังไปหลงว่าการปฏิบัติหลับตานั่นแหละเป็นวิธีปฏิบัติของศาสนาพุทธ แต่ไม่ได้ปฏิบัติจริงไม่เอาหนักเหมือนกับทางพระนั่งหลับตาจริงๆ ก็มานั่งบริหารแล้วเสพสุขด้วยลาภยศสรรเสริญกันเยอะ ก็เลยใช้เวลาฟุ่มเฟือยไปกับโลกธรรม นั่งบ้างไม่นั่งบ้างได้แต่พูด เลยเก่งทางพูดกลายเป็นผู้สาธยาย เอาอะไรต่ออะไรมาที่เป็นโลกจินตามาอธิบาย ก็เลยกลายเป็นผู้ที่เลอะเทอะเยอะแยะไปหมด ก็เลยแบกสัมภารวิบากไว้มากมาย ดิ้นไม่ออกจากสมภาร หนักเข้าแต่ละวัดก็ตีกันแย่งกันไปตามโลกีย์ มันเป็นเรื่องของโลกีย์ที่เห็นๆ

ขออภัยที่อาตมาพูดนี้เป็นวิชาการไม่ได้ไป ข่ม หรือไปดูถูกดูแคลนอะไรหรอก ผู้ใดฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญาว่าท่านผู้นี้ ผิดก็ตรวจสอบก็แก้ไข ถ้ายังไม่เห็นว่าผิดจริงยังไม่รู้ก็แล้วไปอาตมาจะไปบังคับความรู้ได้อย่างไร คนรู้ก็รู้คนไม่รู้ก็ไม่รู้อาตมามีหน้าที่พูดความจริงตามความเป็นจริงเท่านั้นเอง อาตมาก็ทำหน้าที่ไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  เทวนิยมใหญ่สุดโต่งอย่างไรในศาสนาพุทธ วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 19:27:10 )

พระบ้านมีจรณะ 15 วิชชา 8 แต่ไม่ปฏิบัติส่วนพระป่าเอาแต่สะกดจิต

รายละเอียด

แบบอัมพัฏฐะ แบบสมัยนี้มีพระบ้านกับพระป่า พระบ้านเขาถือว่ามีแต่พยัญชนะไม่มีการปฏิบัติจรณะ 15 วิชชา 8 ส่วนพระป่า ถือว่ามีจรณะ 15 วิชชา 8 แต่ที่จริงเขาไม่ได้มี อาจจะมีผู้ที่ศึกษาพยัญชนะบ้างแต่ก็นั่งหลับตาสะกดจิตออกป่าหลับตาสะกดจิตให้หยุดๆๆ เหมือนอย่างสายอาจารย์มั่น สายมหาบัว พาทำ แม้แต่หลวงปู่แสงพวกนี้ นั่นน่ะเป็นพวกพระป่าทั้งนั้น ซึ่งเข้าใจง่ายไม่มีอะไรยาก นั่งหลับตาอย่างเดียว อย่าไปคิดอะไร อย่าไปนึกอะไร ให้จิตไม่ต้องออกจากตัวสะกดจิตให้มันดับๆๆ แบบ อาฬารดาบส อุทกดาบส ดับกันได้เก่งๆ เก่งจนกระทั่งหลงว่าเที่ยง เที่ยงแล้ว อาฬารดาบส ได้ฌาน 7 ก็นึกว่าเที่ยงแล้ว จน อุทกดาบส ก็บอกว่า มันยังไม่เที่ยงนะ นั่งสะกดจิตไปมันก็ยังขึ้นมาอีกแว้บนึง แต่แว้บนี่เป็น เนวสัญญานาสัญญายตนะ แว๊บ มันมีอีกยังไม่ดับ ก็ต้องกดดับไปอีก อุทกดาบส เห็น
แว๊บนี้ แล้วก็ดับขึ้นไปอีกก็ถือว่าเป็น ฌาน 8 ส่วนอาฬารดาบส ไม่มีไหวพริบรู้ความละเอียดที่แว๊บขึ้นมา ก็เลยหยุดได้แค่ฌาน 7 ซึ่งทั้งคู่ ทั้ง อาฬารดาบส อุทกดาบส สะกดจิตได้ทั้งคู่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมพิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2565 ณ ราชธานีอโศก วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2565 ( 20:06:10 )

พระบ้านมีลาภสักการะและสรรเสริญเป็นอันตรายอันแสบเผ็ดมากกว่าพระป่า

รายละเอียด

หากไม่ได้เรียนรู้พยัญชนะกับสภาวะอย่างสมบูรณ์ก็ไม่ได้ ทุกวันนี้คนก็เรียนแต่พยัญชนะเยอะไปหมดเต็มเถรสมาคมแต่สภาวะไม่ค่อยมี ก็ได้แต่พยัญชนะมาอาศัยเลี้ยงชีวิต ได้ลาภยศสรรเสริญ โลกียสุข เลี้ยงชีวิตไปทั้งชีวิตหนึ่ง เยอะเต็มเถรสมาคม 

ไม่ใช่แต่พระป่าหรอก พระบ้านที่เรียนรู้เต็มหูเต็มหัว อันนี้ยิ่งยากกว่าพระป่าอีก พวกที่ยึดถือลาภยศสรรเสริญ อันเป็นอันตรายอันแสบเผ็ด แม้พระขีณาสพ ออกป่าเขาถ้ำเป็นอันตรายต่อพระขีณาสพ ไม่มีนะ มีแต่ลาภสักการะสรรเสริญเป็นอันตรายอันแสบเผ็ดแก่พระขีณาสพ ทำเป็นเล่นไป หนักหนาสาหัส 

พระบ้านที่ไปเรียน กับพระป่า ใครมากกว่ากัน พระบ้านมากกว่า เรียนนักธรรมตรี โทเอก เปรียญ 9 เรียนพุทธศาสนา จบดร.พวกนี้ Post Doctor อีก เราว่าไป เขาก็หาว่าเราปากจัด ที่จริงเราปากชัด ก็เรื่องของเขา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาอย่างอวดตัวแต่ถ่อมตน ด้วยความจริง วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 แรม 7 ค่ำ เดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2564 ( 21:27:27 )

พระปกตัตตะ

รายละเอียด

พระไม่บริสุทธิ์ เพราะไม่ได้ปลงอาบัติ

หนังสืออ้างอิง

การสวดมนต์ของพระพุทธศาสนา หน้า 47


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2562 ( 16:38:40 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:25:14 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:33:56 )

พระประสงค์ของพระเจ้า

รายละเอียด

 คือ เป็นส่วนของเทวนิยม  ก็บอกว่าพระประสงค์ของพระเจ้า จะมีความทุกข์ทรมานเจ็บป่วยก็เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เขาก็เบาใจเหมือนกัน  เขาก็สบายใจได้ทนได้เพราะเป็นความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 16:31:01 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:23:59 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:34:21 )

พระปัจเจก

รายละเอียด

1. ผู้รู้เอง แบบของตนเองซึ่งไม่เหมือนพระพุทธเจ้า

2. ผู้สามารถบรรลุพุทธธรรมได้ด้วยตนเองจริง

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 229, จากคนคืออะไร? หน้า 128


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:51:28 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:46:21 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:34:41 )

พระปัจเจกพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

(พูดกับสมณะ) เขารู้กันได้ยากไง ปัจเจกพุทธเจ้า จะรู้ก็ต่อเมื่อ ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ที่สามารถรู้ถึงภูมิพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเอามาพูดให้ฟังเท่านั้น ถึงแปลกๆกันว่าพระพุทธเจ้าที่สอนคนไม่ได้เพราะท่านไม่บอกใคร เลยไปตีความผิดว่าท่านสอนคนไม่ได้ ก็ขนาดเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้ายังสอนคนไม่ได้แล้วมันจะอย่างไร เพราะฉะนั้นท่านไม่ได้บอกใครเลยแต่พระโพธิสัตว์ ที่มีภูมิโดยเฉพาะเป็นพระพุทธเจ้าเอามาพูด แน่นอนพระพุทธเจ้าก็ต้องรู้พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าก็มาประกาศ คนก็ได้รู้ด้วยบัญญัติ พระพุทธเจ้า สัมมาสัมพุทธะ ก็มาบอกว่าคนนี้เป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ แม้ว่าท่านจะปรินิพพานเป็นปริโยสานไป พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้ามีความต่างจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเดียวเท่านั้นคือท่านไม่ได้ประกาศศาสนาเอง แต่ท่านมีภูมิธรรมเท่ากับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว แต่ท่านไม่ประกาศศาสนาของท่านต่อโลกมนุษยจึงไม่มีใครรู้จักท่าน ท่านไม่ได้ประกาศศาสนาก็เลยไม่มีทำเนียบว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ไม่ได้ขึ้นในทำเนียบเลย ไม่ให้โลกรู้เลย เป็นเรื่องสัดส่วนของตัวเองเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆแต่พระพุทธเจ้าท่านอธิบายได้อย่างพระโพธิสัตว์ ผมนี่ก็อธิบายได้ ส่วนผมจะไปถึงขนาดนั้นได้หรือไม่ แต่ผมตั้งใจจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศศาสนาองค์ใดองค์หนึ่ง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 09:39:40 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:24:37 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:38:27 )

พระปัจเจกพุทธเจ้า ไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ไหม

รายละเอียด

ควรจะใช้คำว่า พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าใช้คำว่าปัจเจกพุทธเจ้านั้นหมายถึงพระเทวทัตได้ เทวทัตมีสิทธิ์เป็นได้แค่ปัจเจกพุทธเจ้า ไม่ใช่สัมมาสัมพุทธเจ้า ฟังความให้ชัด เป็นปัจเจกคือส่วนตัว ก็จะทำนิพพานของเขาได้เป็น ปัจเจกส่วนตัว  ส่วนจะสัมมาทิฏฐิ มิจฉาทิฏฐิหรือไม่ก็อยู่ที่เขา ไม่รับรอง เพราะไม่ใช่สัมมาสัมพุทธะ มันเป็นมิจฉาอยู่ของเทวทัต

เพราะฉะนั้นถ้าเขาพากเพียรทนรับวิบากไปจนกระทั่งนานพอ เขาก็หมดได้ เทวทัตนี่ พระพุทธเจ้าถึงตรัสเป็นปลายเปิดเอาไว้ เพราะอนันตริยกรรมคือกรรมที่นานมาก หนักมาก แทบจะแก้ไขไม่ได้ แต่ก็แก้ไขได้ ถ้าคุณทำไปแก้ไขไป ปรับเปลี่ยนตัวเองไปสักล้านๆๆๆ ปี ซึ่งมันไม่ตายง่ายๆหรอก ธาตุจิตนิยามนี่ แล้วมันนิรันดรด้วยสำหรับผู้ที่หลงผิด และนึกว่ามันจบ แต่มันไม่จบมันจะเวียนทุกข์ เวียนสุข เวียนตายเวียนเกิด เวียนนรกสวรรค์ เวียนต่ำเวียนสูงเวียนดีเวียนชั่วกันอีกนานเท่านาน แล้วไม่รู้เท่าไหร่อีกนับไม่ถ้วน นี่คือสิ่งที่น่ากลัวในวัฏสงสาร สำคัญความข้อนี้ไว้ให้ดีๆ การเวียนว่ายตายเกิดนี้เป็นความน่ากลัวจริงๆ เป็นภัยในวัฏสงสาร

ก็ขอสรุปให้คุณศรายุทธว่า คุณใช้คำว่าปัจเจกพุทธเจ้านั้น อันนี้พระเทวทัตก็ยังใช้ แต่ถ้าจะใช้จริงๆผู้ที่จะปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ต้องสัมมาทิฏฐิ ตั้งแต่อรหันต์เป็นต้นไป ถ้ายังไม่สัมมาทิฏฐิ ปัจเจกพุทธเจ้าที่ไม่ปรินิพพาน ก็เพราะเขายังปรินิพพานไม่ได้ ปัจเจกพุทธเจ้า ปรินิพพานก็ยังไม่ได้ ยังไม่มีที่จบหรอก ต้องให้สัมมาทิฏฐิ ถ้าสัมมาทิฏฐิแล้วเป็นอรหันต์ ดี บริบูรณ์จริง สัมมาทิฏฐิจริง จะเริ่มต้นเป็นพระอรหันต์ ก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้แล้ว สูงไปกว่านั้นมันก็ไม่มีปัญหา  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  Neo Protest ประชาชนปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 11:46:31 )

พระปัจเจกพุทธเจ้าต่างจากพระพุทธเจ้าประการใด

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งในโลก ก็คือผู้ที่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้วมาประกาศศาสนาในโลก ถ้าหากเป็นปัจเจกพุทธเจ้าก็ไม่ได้ประกาศและมีความรู้เท่ากับพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 11:36:35 )

พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ

รายละเอียด

ผู้สูงกว่าสยัง อภิญญา เป็นผู้มีสัมมาสัมพุทธะเฉพาะตนแล้ว(แต่ก็มิใช่สอนคนอื่นไม่ได้) ซึ่งยังมิใช่ถึงขั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 141, หน้า 144


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:52:48 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:47:43 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:36:45 )

พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า

รายละเอียด

คือ ผู้ทรงสั่งสมบารมีมาอย่างสัมมาทิฏฐิ ผ่านการเป็น พระอาริยะมาทุกลำดับจาก

1.โสดาบัน

2.สกิทาคามี

3.อนาคามี

4.อรหันต์

5.อนุโพธิสัตว์

6.อนิตยโพธิสัตว์

7.นิยตโพธิสัตว์

8.มหาโพธิสัตว์

9.ท่านได้บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงความผู้มีสัมมาสัมโพธิญาณ ด้วยพระองค์เอง จริงนั่นเอง ซึ่งพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงมี พระสัพพัญญูตญาณเท่ากับ “สัมมาสัมพุทธเจ้า” เพียงแต่ท่าน ไม่ได้ประกาศพระองค์เองต่อมนุษย์ ต่อหน้ามนุษย์ในโลก

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1หน้า 230


เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 12:40:27 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:27:57 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:39:04 )

พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า

รายละเอียด

คือ ผู้มีภูมิถึงพระพุทธเจ้าแต่ไม่ได้ประกาศ พุทธศาสนา เป็นของตนเอง เนื่องจากไม่ได้อุบัติมา เพี่อประกาศพุทธศาสนาให้แก่โลก ท่านได้เป็นพระพุทธเจ้าเฉพาะตน (ปัจเจก) แล้วปรินิพพาน ในภพภูมิของพระองค์เอง จริงๆนั้นพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ อุบัติมาในโลกนับชาตินับกัลป์ไม่ถ้วน ได้สอนคน ได้รื้อขนสัตว์ ตามภูมิพระโพธิสัตว์มามากมาย กว่าท่านจะพัฒนาขึ้นมาถึงขั้นพระพุทธเจ้า ก็ต้องมีภูมิอาริยะ ตั้งแต่โสดาบัน ตั้งแต่โสดาบัน ขึ้นไปตามลำดับ แล้วสอนคนตามสัจจะที่ตนเป็น ตนมีจะมากหรือน้อย จะเก่งหรือไม่เก่ง ก็เป็นเรื่องของแต่ละท่าน เป็นแต่ว่า ยุคสมัยที่เกิดเป็นพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านไม่ได้อุบัติมาประกาศศาสนาพุทธในโลกมนุษย์ให้ปรากฏที่สุดเท่านั้น

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 202-203


เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 12:15:28 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:29:09 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:39:47 )

พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายความว่า อย่างไร

รายละเอียด

พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายความว่า ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณเท่ากันกับพระพุทธเจ้าเลย แต่ไม่เอาแล้ว พอ ไม่ประกาศเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งต่อโลก จึงไม่ได้ชื่อว่า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งขึ้นทำเนียบโลก ในโลกเลยไม่รู้จัก ท่านก็ปรินิพพานของท่านไปเองเลย เท่านั้นเอง

มันก็ทำงานมาเยอะเหมือนกับอาตมาไปจนกระทั่งถึงขั้นสัมมาสัมโพธิญาณเหน็ดเหนื่อยจะตาย ไม่ไหว เป็นแต่เพียงว่า ก็ไม่จำเป็นจะต้องให้โลกรู้หรือว่า บันทึกไปในทำเนียบว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งเท่านั้นเอง แล้วท่านมีตัวตนหรือเปล่า ก็ท่านไม่มีตัวตนแล้ว มันจะมีปัญหาอะไร แต่ละองค์ก็แล้วแต่สิ ถ้ามันเมื่อยแล้ว มันไม่ใช่น้อยกว่าจะต่อภพต่อภูมิมาเป็นสัมมาสัมโพธิญาณ แม้เป็นแล้ว ได้แล้ว ก็หมดตัวตนไปตั้งนานแล้ว ไม่ต้องไปประกาศอะไรก็ได้ ก็ปรินิพพานไป สับสนไหม เข้าใจใช่ไหม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  สบายสงบและมั่นคงที่ 1 ในโลกคือประเทศไทย วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 7 ค่ำเดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2565 ( 12:02:33 )

พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนคนได้

รายละเอียด

พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นไม่ใช่ไม่สอนคนแต่ว่าสอนคนมามากมายจนเหนื่อยแล้ว แต่ไม่ได้ขึ้นทำเนียบเท่านั้นเอง ท่านไม่มีตัวตนนั้นเอง ถ้าจะบอกว่าผู้ที่ประกาศเป็นพระพุทธเจ้านั้นมีตัวตนมากกว่าก็ได้ อาตมาที่พูดนี้เป็นคำสิริมหามายา เอามุมไหนมาโชว์ก็เด่นทั้งคู่

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:31:17 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:25:25 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:40:16 )

พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าเปรียบเหมือนศิลปินเดี่ยว

รายละเอียด

แต่ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นแตกต่างจากพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งอยู่ ประเด็นตรงที่ว่า พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเหมือนศิลปินเดี่ยว แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งนั้น มาประกาศศาสนาในโลก ก็เป็นศิลปินวง วงใหญ่วงเล็กก็แล้วแต่ อย่างวงของสมณโคดมเป็นวงไม่ใหญ่เป็นวงเล็ก สอนใบไม้กำมือเดียว ท่านสอนมามากจนเบื่อ เมื่อยแล้วเอาแค่นี้ แทนที่จะอายุ 100 ปีก็ไม่เอาแล้วอายุแค่ 80 ปีก็ไปแล้ว ไม่ไหว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คุณธรรมยิ่งใหญ่กว่าอาวุธ 

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2564 ( 04:27:33 )

พระปัจเจกเหมือนหรือต่างจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไร

รายละเอียด

พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้ากับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็นสยัมภูเหมือนกันแต่พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านไม่ประกาศศาสนาเท่านั้น อาตมาสามารถบอกได้เพราะว่ามีแผนผังพวกนี้ไว้แล้ว ขณะนี้เป็นระดับ 7 ก็สอบเข้าเรียนเป็นพระพุทธเจ้าได้แล้ว ก็ทำงานมาหลายชาติแล้ว ชาตินี้ถึงได้มาประกาศต่อโลกว่า ตนเป็นสยังอภิญญา มีภาระในการกอบกู้ศาสนาด้วย พูดไปเขาจะหาว่าเราพูดเอาเด่นเอาโก้ ที่จริงไม่ได้พูดมากเกินไป พูดไม่เต็มด้วยซ้ำ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้ปัญญาคนไร้ศรัทธาต่ออโศก วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:13:51 )

พระปัจเจกโพธิพุทธเจ้า, ปัจเจกสัมมาสัมพุทธ

รายละเอียด

ผู้ตรัสรู้เอง ไม่อาศัยธรรมของผู้ใด และยังตั้งศาสนาพุทธเองไม่ได้

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 127


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:52:09 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:48:51 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:37:24 )

พระปัญญาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย

รายละเอียด

นิยามของความจนกับความรวยนี้ต้องเข้าใจให้ถูกต้อง และการที่จะมีเศรษฐกิจแบบคนจน ในหลวงตอบให้เอาแบบคนจน ท่านตรัสว่าขาดทุนของเราคือกำไรของเรา เป็นความหมายทางเศรษฐกิจทั้งนั้น แต่ผู้บริหารประเทศไม่ได้เข้าใจ ว่าพระมหากษัตริย์เรามีพระปัญญาธิคุณอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดารวันพุธที่ 14 มีนาคม 2561ที่บวรราชธานีอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน สาธารณโภคีคือสิ่งยอดเยี่ยมที่สุดของเศรษฐกิจ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:41:48 )

พระป่า

รายละเอียด

คือ  พระเถื่อนนั่นจริงที่สุด  พระป่าไม่ใช่พระแท้ของพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู จากรายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 13:35:15 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:25:53 )

พระป่า 

รายละเอียด

พระป่า  คือ  ผู้ที่มีความข้อง คำว่า ข้อง ข. ไข่  นี้เป็นภาษาที่แปลจากบาลีว่า คุหาสยังสัตโต  แปลว่าสัตว์ผู้ข้องอยู่ในถ้ำ  คุหาสยัง แปลว่า ถ้ำ  สัตโต แปลว่า สัตว์  แปลว่า สัตว์ผู้ยังข้องอยู่ในโลกียะ

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 01 ตุลาคม 2562 ( 17:50:48 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:26:49 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:41:37 )

พระป่า 

รายละเอียด

พระป่า  คือ  คำว่าพระป่านี้มันไม่ใช่ของศาสนาพุทธ  เพราะว่าพระป่าแปลว่าเถื่อนผู้ใดที่ไปยึดติดไปข้องอยู่ในป่า โคนต้นไม้ เขา  ซอกเขา  ถ้ำ  ป่าช้า  ป่าชัฏ  ที่แจ้งลอมฟาง แล้วเป็นผู้ที่สงัดด้วยกายอยู่  คือ  เดินผู้เดียว  อยู่แต่ผู้เดียว(บาลีว่าเอกะ)  นั่งผู้เดียว  นอนผู้เดียว  เข้าบ้านบิณฑบาตผู้เดียว  กลับผู้เดียว  ยืนผู้เดียว  นั่งในที่เร้นลับผู้เดียว  อธิษฐานจงกรมผู้เดียว เป็นผู้เดียว เที่ยวอยู่เปลี่ยนอิริยาบถ อยู่ประพฤติ อยู่รักษาให้เป็นประโยชน์ เรียกว่า “วิเวก”

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 01 ตุลาคม 2562 ( 17:46:39 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:27:37 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:43:00 )

พระป่ากลายเป็นพญานาค พระบ้านกลายเป็นพญาครุฑ

รายละเอียด

ศาสนามันเสื่อมมากจริงๆในพุทธ ไม่ใช่แกล้งว่าแกล้งด่า แต่พูดความจริง จริงๆ ว่าท่านทั้งหลายเอ๋ย ชาวพุทธที่ท่านมีหน้าที่รักษาศาสนา มีหน้าที่ประกาศสอนอธิบาย มีหน้าที่จะสืบสานอะไรต่างๆ ฟังอาตมาบ้าง แล้วพยายามติดตามเรียนรู้ว่าท่านยังผิดทาง ยังไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นพระป่าหรือพระบ้าน 

พระป่าก็กลายเป็นพญานาค พระบ้านก็กลายเป็นพญาครุฑ บินเหินหาวสูงลิ่วเลย ยิ่งสอนอภิธรรมนี้ เจ้าประคุณเอ้ย! แจกพระอภิธรรมไป เจตสิก 52 จิตอีก 121 ดวง อะไรอย่างนี้ อย่างละเอียด ท่องแค่ตัวหนังสือ พยัญชนะ จิต 121 ดวง ก็หัวผุแล้ว มันต้องโอ้โห! อุงๆอังๆยาวๆ แต่ละตัวนะต่อกันยาว โอ้โห! เก่งจริงๆ เรียนพญาครุฑนี่ เรียนอย่างพญาครุฑ เรียนนอกจากจะเรียนแต่พระอภิธรรมยังไม่พอ เรียนพระสูตรพระวินัยอีก ผู้เรียนพร้อมทั้งพระสูตรพระวินัย พระอภิธรรม อีก อย่างท่านมหาประยุทธ์นี้ยอดพญาครุฑเลย มองไม่เห็นส้นเล็บเลย ท่านบินสูงมาก โอ้ ไม่เห็นส้นเล็บพญาครุฑเลย บินสูงมาก

มันก็เลยไม่มีใครจับติด มันมากเกิน มันไม่ลงมาตามลำดับ เอ้า..จะสอนโสดาบันขนาดไหน รู้จักโลกอย่างนี้นะ โลกหมายความว่าอะไร โลกหมายความว่าชีวิตของเราไปเกี่ยวเกาะ ไปเกี่ยวเกาะกับร้านเหล้า ไปเกี่ยวเกาะกับร้านบาร์ ไปเกี่ยวเกาะกับร้านอาหาร ไปเกี่ยวเกาะกับโรงน้ำชา ไปเกี่ยวเกาะกับสถานบันเทิง ไปเกี่ยวกับโรงเล่นพนันเล่นไพ่เล่นโป ไปเกี่ยวเกาะกับอะไรต่างๆนานา  ถ้าอย่างนั้นมันเสียเวลาไม่ได้เรื่องอะไร ไปเกี่ยวเกาะกับการแต่งหน้าแต่งตาประดิดประดอย โอ้ย! อะไรต่างๆนานา บางทีก็หวีผม สางแล้วสางอีก อะไรกันนักกันหนา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า พุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 46 พญานาคเดียรถีย์ลัทธิหลับตาทำลายศาสนาพุทธ วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 พฤษภาคม 2565 ( 16:12:08 )

พระป่าคือเดียรถีย์

รายละเอียด

พระป่าคือเดียรถีย์ แต่พระของพระพุทธเจ้านั้น ไม่มีพระป่า มีแต่พระบ้าน ผู้ที่หลงป่าไปติดป่า แต่จะไปป่าไหม อาตมาก็อธิบายมาหมดแล้ว หากยังข้องใจจะไปพิสูจน์การอยู่ป่าว่า จะติดป่าไหม จะมีความฟุ้งซ่านไหม หรือจะมีการติดป่าไหม หากห่างจาก รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส จะมีความฟุ้งซ่านออกมาไหม หรืออยู่นานไปก็หลงติดป่าจมป่าเลยไหม มันได้พิสูจน์ทั้งฟุ้งซ่านและถีนมิทธะ อาตมายกตัวอย่างปางนี้ชาตินี้อาตมาก็เคยไปอยู่ป่า แต่ก็มาสร้างป่าในเมือง ไม่เคยไปบุกรุกป่า อีกสัก 20 ปี  30ปีมาดูป่าในบ้านราชฯ ตอนนี้ต้นไม้เรากำลังโต ป่าเราก็จะจัดสรรให้ดี ไม่ก่อโรคภัย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 13:00:55 )

พระป่าเป็นผู้แสวงบุญนอกขอบเขตพุทธอย่างไร

รายละเอียด

แม้ว่า ถ้ามีพระที่เป็นพระปฏิบัติ เป็นคณะใหญ่เลย เถรสมาคมเป็นคณะใหญ่ของศาสนา ที่นี้คณะอีกคณะหนึ่งก็ไม่ใหญ่เท่านั้นหรอก แต่เขายอมรับกันนะ ยอมรับกันโดยปริยายว่า พระทางเถรสมาคมที่บริหารศาสนาพุทธอยู่ เขาไม่ถือว่าพวกเขาเป็นพระปฏิบัติ เขาถือว่าพระปฏิบัติต้องเป็นพระป่า พระออกมาปฏิบัติในป่าเป็นพระกรรมฐานแล้วนั่งหลับตาสมาธิ นั่นก็ผิดเพี้ยนอีก หลับตาทีไรนั่นแหละ บอกว่าหลับตาจะปฏิบัติฌาน ปฏิบัติสมาธิ ไปบรรลุนิพพาน ไปบรรลุนิโรธ ต้องหลับตา ถ้ามีความคิดอย่างนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ออกนอกศาสนาพุทธแล้ว  เป็นผู้แสวงบุญนอกขอบเขตพุทธทันที เพราะมันไม่ใช่จรณะ 15 วิชชา 8 ซึ่งเป็นพุทธคุณของพระพุทธเจ้า พุทธคุณของศาสนาพุทธ นี่อาตมาพูดตามหลักเกณฑ์ของศาสนาพุทธเลยนะ  เถียงไม่ได้หรอก ถ้าคนที่เรียนมา นอกจากคนที่ไม่ประสีประสาเหมือนเด็กๆไม่รู้เรื่องก็มาเถียง นั่งหลับตานั้นมันไม่มีอปัณกปฏิปทนา 3 สำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคคะ มันไม่มีเลย อปัณกปฏิปทา หมายถึง ข้อปฏิบัติที่ไม่ผิดศาสนาพุทธ ถ้าไม่มี 3 ข้อนี้ก็ผิดศาสนาพุทธ ก็ผิดหมดเลย มันไม่มี 3 ข้อนี้แล้วจะเป็นพุทธได้อย่างไร 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2563 ( 18:00:49 )

พระป่าเป็นสัทธานุสารี

รายละเอียด

ผู้ที่สัทธานุสารีกับธัมมานุสารี ก็เป็นวง แต่วงของสัทธานุสารีกับสัทธาวิมุติก็จะวงวนอีกนานแสนนาน มีตัวอย่างที่เป็นพระป่าอาจารย์มั่นหรือมหาบัวหรือแม้แต่ธัมมชโย เป็นสายนั่งหลับตาทุกสาย สายธัมมชโยกับอาจารย์มั่นต่างกันตรงที่ ธัมมชโยนั้นเป็น อภัสราพรหม ส่วนทางอาจารย์มั่นเป็นสุภกิณหพรหม คืออยู่ในที่มืด กิณหาแปลว่ามืดดำ แต่หลงมืดดำว่าดี อาภัสราหลงสว่างว่าดีก็จะบอกว่าให้ใสๆๆ เป็นตัวอย่างให้อธิบายก็ต้องขอบคุณเขา แต่อย่าไปเอาอย่างนะ ต้องเข้าใจให้ได้ มันหลงทางไม่บรรลุ แล้วมันทำลายศาสนาด้วยเป็นบาปด้วย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:47:48 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:57:23 )

พระพรหม

รายละเอียด

1. ผู้บริสุทธิ์จากกาม , ผู้มีฌานอย่างน้อยก็เป็นอุบัติเทพ

2. พระผู้สร้างจิตตน คือสามารถในการทำใจในใจ(มนสิกโรติ)ของตนเอง หรือสร้างวิญญาณของตนเองให้สะอาดบริสุทธิ์จากกิเลสได้จริง

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 408

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 351


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:53:50 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 07:50:25 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:38:01 )

พระพรหมคืออะไร

รายละเอียด

พระพรหมคือลักษณะสะอาดจากกิเลส มันไม่มีรูปร่างตัวตน ไม่มีสีสันเส้นแสงอะไร รู้ด้วยอาการของกิเลส แล้วทำให้กิเลสออกไปหมดให้จิตใจสะอาดเกลี้ยงได้เลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครู เทศน์ ทวช.อโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ

วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่สันติอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 28) ตอน นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:41:20 )

พระพุทธรูป

รายละเอียด

คือ สิ่งเคารพบูชาแทนพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธนับถือกรรม นับถือพระรัตนตรัย จงบูชาพระพุทธด้วยธรรมบูชา อย่าบูชาพระพุทธด้วยอามิสบูชา อย่าจุดธูปเทียนบูชา (อัคคียัญ) อย่าเอาดอกไม้ของหอมมาบูชา (วัตถุอนามาส) อย่าใช้น้ำทำพิธีบูชา อย่าทำน้ำมนต์ (สิญจนยัญ) และอย่าอธิฐานโดยอ้อนวอนขอให้พระพุทธรูปหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดล บันดาลให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ เพราะพุทธไม่ใช่ศาสนาที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดลบันดาลแบบศาสนาที่นับถือพระเจ้า – เทพเจ้าซึ่งเป็นเทวนิยม

หนังสืออ้างอิง

สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 149


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:27:50 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:30:29 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:43:53 )

พระพุทธรูป 3 ปาง

รายละเอียด

คือ พระพุทธาภิธรรมนิมิต สมเด็จปู่วิชิตอวิชชา และองค์สมานัตตตา หรือองค์ปรองดอง แต่อาตมาไม่ได้เป็นผู้ปั้นเอง คุณแสงศิลป์เป็นผู้ปั้น

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2563 ( 17:02:34 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:28:18 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:38:52 )

พระพุทธรูปองค์ใหญ่

รายละเอียด

คือ เกิดจากอาตมาเปรยขึ้นขณะฉันอาหารเมื่อ 4 มีนาคม พ.ศ.2544 ที่ปฐมอโศกว่า “อาตมาจะสร้างพระพุทธรูป ขนาดใหญ่ ที่ราชธานีอโศก ตรงบริเวณด้านขวา ของเฮือนศูนย์สูญ โดยตอเสาเข็มนี้จะใช้เป็นฐานรากสร้างภูเขาและน้ำตกจากแบบภาพวาดในหนังสือ “กินรี”(ตุลาคม 2540 October 1997) พลังแห่งจินตภาพ ของ ประทีป คชบัว) ที่น้ำตกจากบนภูเขาไหลละเรื่อยลงมาผ่านไหล่พระพุทธรูปทั้ง 2 ข้าง ผ่านหน้าอกตกลงสู่หน้าตัก ไหลอาบผ่านแขนและมือลงไป ซึ่งเป็นภาพจินตนาการที่สวยงาม เป็นการใช้ ศิลปะ ที่เป็นมงคลอันอุดมผนวกเข้ามาให้เกิดความสวยงาม เป็นศิลปะที่สุนทรีย์ อีกทั้งได้ประโยชน์ใช้สอย เป็นน้ำตก สร้างระบบนิเวศน์ในชุมชนควบเข้ามาด้วย หากโครงการนี้ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอื่น จะมีพระพุทธรูปใหญ่ องค์แรกที่ชาวอโศก ร่วมใจกันสร้างขึ้น”

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 147


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:31:39 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:37:59 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:45:45 )

พระพุทธองค์ค้นพบสัจจธรรมอันยิ่งใหญ่

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ“สัจจะ”นี้ ยิ่งใหญ่มาก จึงสามารถ“หมดสิ้นสุข-หมดสิ้นทุกข์” หรือทำจิตให้เป็น“อุเบกขาเวทนา” ชนิดที่ถาวรยั่งยืนเที่ยงแท้แน่นอนตลอดกาล ไม่มีอะไรหักล้างได้ จึงทำตนให้“พ้นทุกข์-พ้นสุข” แล้วก็ช่วยผุ้อื่นให้“พ้นทุกข์-พ้นสุข”ตามบ้าง และที่สุด“ปรินิพพานเป็นปริโยสาน”ได้จริง

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 37 หน้า 64


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 15:31:41 )

พระพุทธองค์พิสูจน์ด้วยตัวเองชาติแล้วชาติเล่า!

รายละเอียด

พระพุทธองค์ทรงพิสูจน์ด้วย“กรรมวิบาก”ที่พระองค์ทรงประพฤติ

ปฏิบัติหนักหนาสาหัสไม่มีใครเท่าเทียม สั่งสมบารมีมาชาติแล้วชาติเล่า

นับชาติไม่ถ้วน ความยากเย็นนั้นๆได้จริง กระทั่งบรรลุสิ่งสูงส่งของความเป็น“คน” รู้จักรู้แจ้งรู้จริงครบ

“อจินไตย 4”ที่ยืนยันได้ว่าบริบูรณ์ที่สุดขั้นสุดสูงจบถ้วน“พุทธวิสัย” เป็น“พระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง” 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 258 หน้า 208


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 13:17:15 )

พระพุทธองค์ออกป่าไม่มีในพระไตรปิฎก

รายละเอียด

แล้วสำนักต่างๆมีเยอะ มีช่องโทรทัศน์ของตัวเองหลายช่อง โทรทัศน์ธรรมะเนี่ย นอกจากบุญนิยมทีวีแล้วนอกนั้นไปแนวเดียวกันหมด สายยึดมั่นถือมั่นหลับตาเข้าป่า แม้จะอยู่ในเมืองก็ยอมรับพระป่า ยอมรับว่า การปฏิบัติจะต้องนั่งหลับตาเข้าป่า ออกไปธุดงค์ออกป่าเขาถ้ำ ล่องไพร ซึ่งไม่เคยมีในพระไตรปิฎกเลยว่า พระล่องไพร ไปเจอเสือสิงห์กระทิงแรดผีสางเทวดา ในพระไตรปิฎก 45 เล่มไม่มีเลย ไม่รู้ไปเอามาจากไหน พูดกันเป็นตุเป็นตะ ยิ่งกว่าเรื่องเพชรพระอุมา  ของพนมเทียน ซึ่งเป็นนวนิยายที่ยาวที่สุดในโลก เขียนมา 20-30 ปี ต่อกัน ไม่รู้จบหรือยัง ไม่ค่อยได้อ่าน เขาเป็นคนมีปฏิภาณปัญญาได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2563 ( 09:20:02 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:29:34 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:46:32 )

พระพุทธาภิธรรมนิมิต ปางตรีลักษณ์ ลักษณะ 3 ประการ

รายละเอียด

1.โลกุตระ คือ จิตบรรลุธรรม อยู่เหนือโลกีย์ จิตหลุดพ้น จากความเป็น ทาส ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข ทั้งด้านกามและด้านอัตตา

2.โลกวิทู คือ รู้เท่าทันโลกีย์ รู้แจ้งจริงในความเป็นโลกีย์ที่ตนเคยหลงตกเป็นทาส และปฏิบัติตนจนสามารถบรรลุธรรม มีจิตโลกุตระหลุดพ้นอยู่เหนือสิ่งที่ตน เคยหลงตกเป็นทาสได้อย่างถาวรเที่ยงแท้

3.โลกานุกัมปา คือ ความเอ็นดูต่อสัตว์โลก ความเกื้อกูลต่อมวลมนุษย์ในโลก มีจิต เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ช่วยคนให้พ้นทุกข์อาริยสัจ

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 149


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:36:59 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:41:33 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:47:08 )

พระพุทธาภิธรรมนิมิต ปางตรีลักษณ์ องค์ใหญ่

รายละเอียด

ประดิษฐานอยู่ ณ ชุมชนราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี หน้าตักกว้าง 6.31 เมตร สูง 7.12 เมตร หนา 3.75 เมตร องค์พระหนัก 160 ตัน ฐานที่นั่งหนัก 124 ตัน อุณาโลมเป็นหินหยกขาวจากอินเดีย ภายในอุณาโลมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 151 องค์

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 148


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:33:52 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:44:49 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:47:38 )

พระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ท่านตรัสไว้ว่าท่านเป็นไก่ตัวพี่ที่เจาะออกมาเป็นคนแรกในโลกนี้ที่ไม่มีโลกุตระ คนทั่วไปก็วนอยู่อยู่อย่างนี้ และท่านเก่ง เรื่องมนุษย์และสังคม ท่านบรรลุหมดเพราะมนุษย์นี่แหละเป็นผู้สร้างโลก แต่เมื่อมนุษย์มาเป็นมนุษย์ที่มีธาตุรู้ มนุษย์ก็เลยควบคุมโลก มนุษย์ก็เลยสร้างโลก สามารถรู้โลกวิทูรอบๆจนสามารถดับโลกหมดเลย จนกระทั่งจบหมดไม่มีเลยโลก ไม่เกิดในโลกอีกเลย ดับโลกสำหรับตัวเองทำได้เลย อวิชชาก็จมอยู่ในโลก หมุนเวียนอยู่กับความสุขและทุกข์ ความทุกข์แล้วสุข

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 19:31:10 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:30:30 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 13:40:04 )

พระพุทธเจ้า พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ คือเช่นไร

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าคือไม่ใช่ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าเพราะมาประกาศตนเองกับมนุษย์ ว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้า แล้วท่านก็ประกาศศาสนา ส่วนปัจเจกสัมมาสัมพุทธะที่ตรัสรู้มีสัมมาสัมโพธิญาณ เหมือนกันกับพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ แต่ท่านไม่ประกาศท่านก็ปรินิพพานของท่านไป ก็ไม่มีใครรู้ว่าพระโพธิสัตว์องค์นี้คือพระพุทธเจ้า แต่ท่านมีสัมมาสัมโพธิญาณเท่ากันกับพระพุทธเจ้า งงไหม ละเอียดดีไหม ไม่สับสนนะ 

ผู้จะแยกอย่างนี้ได้ก็คือต้องมีความรู้ในความจริงอันนี้ อาตมารู้ในความจริงอันนี้ เพราะอาตมาอยู่ในฐานที่รู้แล้ว และอาตมาไม่ได้สับสน อาตมายังไม่ได้เป็นนะ แต่อาตมารู้แล้วมีตำราแล้วมีทางเดินแล้ว แต่อาตมายังเดินไม่ถึง อาตมาไม่ได้สับสนไม่ได้หลงตัวเองนะ อาตมาเคยบอกว่าอาตมาเกิดมาในชาตินี้ไม่มีครูบาอาจารย์ อาตมามีความรู้ของตัวเอง คนไม่รู้ ภูมิไม่รู้ ปัญญาไม่ถึง ก็บอกว่ามันอวดดี อวดตัวเองเป็นผู้รู้ รู้เอง บอกว่าชาตินี้ไม่มีครูบาอาจารย์ รู้เอง มันก็เป็นพระพุทธเจ้าสิ อาตมาไม่เคยไปหลงผิดว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าสักครั้งเลย 

คนไม่รู้ที่มาบอกว่าอาตมาพูดหมายอันนั้น อาตมาไม่ได้หมาย อาตมาก็คือพระโพธิสัตว์ ก็บอกตัวเองว่าระดับ 7 จะมีภูมิไปถึงระดับ 8 ซึ่งพวกคุณก็พอเข้าใจระดับ 8 ต่อไป ซึ่งอาตมาจะเป็นระดับ 8 จริงขึ้นไปแล้วแค่ไหนอย่างไร อาตมาไม่ต้องไปอวดพวกคุณก็ได้ ถ้าหากอาตมามีภูมินั้นจริงมันก็เป็นจริง แล้วอาตมาก็ไม่จำเป็นต้องไปอวดศักดาตัวเอง อวดแค่นี้ ที่อาตมาบอกว่าอาตมาไม่ได้อวด อาตมาบอกความจริง นี่ก็เป็นภาษาซ้อน มันอวดความจริง โม้อยู่ว่าตัวเองเป็นนั่นเป็นนี่เป็นชั้นสูง สูงอย่างนั้นสูงอย่างนี้ ก็มาฟังอาตมาพูดสิว่าอาตมาพูดความสูงหรือเปล่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศก ทำแล้ว ทำอยู่ และกำลังทำโลกุตระต่อไป วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 4 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มิถุนายน 2566 ( 13:29:57 )

พระพุทธเจ้า,สมณะโพธิรักษ์ไม่ทำงานบริหาร

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าจึงสร้างคน สร้างจิตวิญญาณให้เป็นคนชนิดนี้ ก็เป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและมนุษยชาติยิ่งใหญ่ที่สุด เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้าก็ไม่ทำงานบริหารประเทศตัวเองแล้ว มาทำงานนี้จนสิ้นพระชนม์ เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ อาตมาถึงบอกว่าไปเสียเวลาทางโลกถึง 36 ปี เมื่อรู้ตัวแล้วก็รีบมา ถึงป่านนี้แล้วก็ดี ก็ภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนในชาตินี้แล้วได้ทำสิ่งที่ประเสริฐ ขนาดพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาเป็นมนุษย์เหมือนกันเมื่อรู้ตัวท่านก็ไม่เอาทางโลกแล้ว ก็มาทำสิ่งนี้ตลอดพระชนม์ชีพจนสิ้นพระชนม์ไป ก็เป็นเรื่องเดียวกัน เป็นเรื่องยิ่งใหญ่เรื่องธรรมะ คนโง่จริงๆจึงไม่เอาธรรมะ จะเห็นได้ว่าคนโง่มากเลยในโลก โง่ที่ไม่รู้จักสาระแท้ๆของชีวิตก็คือธรรมะ โดยเฉพาะธรรมะที่เป็นโลกุตรธรรมสุดยอด แม้แต่เป็นโลกียธรรม ทางโลกเขามีศาสดาที่เป็นโลกธรรมเป็นเทวนิยม ก็ยังดี ยิ่งเป็นทางโลกุตระแล้วก็ยิ่งดี เพราะมันละเอียดลึกซึ้ง พูดตามสัจจะ ไม่ได้ยกตัวข่มใคร 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:44:49 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:31:52 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:48:26 )

พระพุทธเจ้ากับพ่อครูบำเพ็ญกันคนละฐานะ

รายละเอียด

พระสมณโคดมกับสมณะโพธิรักษ์เป็นคนละขั้ว พระสมณโคดมนั้น ขั้ว 1 ส่วนสมณะโพธิรักษ์อีกขั้วหนึ่ง พระพุทธเจ้านั้นอรหันต์ 100% พระสมณโคดมอรหันต์ 100% แต่ว่าโพธิรักษ์นี้โพธิสัตว์ 100% นี่คือคนละขั้ว ตามฐานานุฐานะ 

เพราะฉะนั้นเอาพระพุทธเจ้ามาเทียบกับอาตมา เอาอาตมาไปเทียบกับพระพุทธเจ้าในมิติอันนี้อย่างนี้เทียบกันไม่ได้ เพราะบำเพ็ญกันคนละปาง บำเพ็ญกันคนละฐานะ ท่านเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่สุดท้ายของภัทรกัปนี้ ที่มีคนบรรลุธรรมได้น้อยที่สุด คนแย่ที่สุดแล้ว ท่านทำมาจนกระทั่งหมดแล้ว เหลือขอดสุดท้ายแล้ว นี่เป็นขอด มวลสุดท้ายที่ท่านจะทำในความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของท่านแล้ว นี่เป็นสุดท้ายของพระสมณโคดมก็เรื่องของท่าน อาตมายังไม่ใช่เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาที่เลยปัญหาของคนหลงความรู้มาก วันพุธที่ 31 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 20:16:19 )

พระพุทธเจ้าก็คนเหมือนกันกับเราที่พัฒนาจากตั้งแต่สัตว์มาเป็นเวไนยสัตว์มาเป็นอรหันต์มาเป็นโพธิสัตว์มาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมามั่นใจที่สุดในธรรมะพระพุทธเจ้า มันยืนยันต่อการพิสูจน์ว่ามันเป็นเอก มันเป็นหนึ่งในโลก มันยิ่งใหญ่ พูดไปแล้วก็เห็นใจคนที่เขาหาว่าหลงตัวหลงตน ยกย่องตัวเอง หลงตัวเองยิ่งใหญ่อะไรต่างๆนานา ซึ่งเราก็ไม่ต้องย้ำหรอก เขาจะเข้าใจว่า มันไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร แต่เราพูดความจริงเท่านั้นเอง พูดความจริงสู่ฟัง ยืนยัน เขาจะเข้าใจไม่ได้หรือไม่ยอมไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร 

เพราะฉะนั้นในโลกมนุษย์นี้นะ นับอายุมันไม่ได้ โลกที่มันเกิดมามีชีวะขึ้นมาในโลก จนกระทั่งกลายเป็นสัตว์มนุษย์ ตั้งแต่ ชาร์ล ดาร์วิน คิดทฤษฎีวิวัฒนาการ ตั้งแต่เป็นสัตว์เดรัจฉานจนมาเป็นสัตว์คน แม้แต่ลัทธิฮินดูก็มีตั้งแต่สัตว์คนแคระ สัตว์เป็นหมู กระทั่งมาถึงเป็นคนค่อยๆพัฒนาขึ้นมา ตามที่เขามีไม่รู้ตั้งกี่ตำรา มันก็ใกล้เคียงกันทั้งนั้นแหละใช้ได้ ไม่รู้กี่ล้านๆๆปีมา อายุเวลาพวกนี้ ไม่ต้องไปนับมันหรอก เราสามารถพิสูจน์ได้ตามอายุเวลาที่เราพิสูจน์ได้ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ อายุขัยของมนุษย์แค่ 100 ปีสูงสุดแล้ว ไม่ค่อยถึงกันเท่าไหร่ 

เพราะฉะนั้นผู้ที่อยู่ได้ถึง 100 ปีขึ้นไป จึงเป็นพิเศษ เป็นคนพิเศษ ที่จะสามารถพิสูจน์อะไรต่ออะไรต่างๆ ยืนยันแก่มนุษยชาติให้เห็นได้ 

จริงๆแล้ว อาตมาพูดซ้ำซากมาหลายทีแล้ว พระพุทธเจ้าก็เป็นคนเหมือนกันกับเรา พัฒนาจาก ตั้งแต่เป็นสัตว์ มาเป็นคนแคระ มาเป็นคนที่มีปัญญา มีความรู้ มีสมอง ธาตุรู้ที่เจริญพัฒนาจนกระทั่งมาเป็นเวไนยสัตว์ มาเป็นอรหันต์ มาเป็นโพธิสัตว์ 

จนกระทั่งถึงโพธิสัตว์เจริญขึ้นไปอีก จนกระทั่งสูงสุดแล้วเรายกให้ว่าเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สูงสุดในความเป็นคนที่จะพัฒนาได้ ว่ารู้รอบจริงๆเลยในวัฏสงสารในการเกิดเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์โลก ทั้งความเป็นสัตว์และความเป็นโลกที่ต้องสัมพันธ์กันเกี่ยวข้องกัน แล้วก็มีธาตุรู้ที่เราเรียกด้วยพยัญชนะว่า ปัญญาก็ดี ญาณก็ดี วิชชาก็ดี ซึ่งท่านก็กำกับ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 35 จิตวิญญาณแห่งสาธารณโภคีที่มีในชาวอโศก วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2565 ( 14:29:31 )

พระพุทธเจ้าก็มีหลักเกณฑ์การตัดสินมี 7 ประการ

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าก็มีหลักเกณฑ์การตัดสินมี 7 ประการ อธิกรณสมถะ เป็นหลักเกณฑ์ในการตัดสิน ถ้าหากผู้พิพากษานักกฎหมายเรียนรู้การตัดสินจากพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ยิ่งใหญ่ที่สุดและวิธีการตัดสินมี 7 อย่างนี้ ถ้าเข้าใจดีๆจะลึกซึ้งสูงสุด หากเข้าใจคำของพระพุทธเจ้าชัดเจน

  1. สัมมุขาวินัย ตัดสินในที่พร้อมหน้าทั้ง โจทย์และจำเลยพร้อมพยาน ตามพยานหลักฐาน
  2. สติวินัย ถือสติเป็นหลัก การยกเลิกความผิดเพราะเป็นพระอรหันต์หรืออริยบุคคลที่จะไม่ทำผิดวินัยในข้อนั้นได้
  3. อมูฬหวินัย ผู้หายจากเป็นบ้า การเลิกความผิดเพราะผู้กระทำผิดนั้นวิกลจริตหรือเป็นบ้า
  4. ปฏิญญาตกรณะ ทำตามที่รับ การตัดสินตามการยอมรับผิด คำสารภาพของผู้กระทำผิด
  5. ตัสสปาปิยสิกา ลงโทษแก่ผู้ผิดที่ไม่รับ การลงโทษพยานผู้ที่ไม่ยอมพูดในการสอบสวนของคณะสงฆ์
  6. เยภุยยสิกา การตัดสินตามมติเสียงข้างมาก
  7. ติณวัตถารกะ ดุจกลบไว้ด้วยหญ้า วิธีประณีประนอม การตัดสินยกฟ้อง เลิกแล้วต่อกัน(ในกรณีทะเลาะกัน)

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ 1 กรกฎาคม 2562


เวลาบันทึก 07 กันยายน 2563 ( 02:42:13 )

พระพุทธเจ้าก็เกิดมาเป็นคน เหมือนกันกับเรา

รายละเอียด

เราเกิดมาเป็นมนุษย์ สรุปลงตรงที่พูดแล้วพูดอีก พูดอีกพูดแล้วไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่า เราเกิดมาเป็นคน พระพุทธเจ้าก็เกิดมาเป็นคน เหมือนกันกับเราทั้งนั้น ท่านมีสมบัติพัสถาน ท่านมีอำนาจ ท่านมีความเฉลียวฉลาด จบตักศิลา 18 สาขาวิชา ทิ้งมาหมดทุกอย่างเลย มาเป็นคนอย่างขนาดเราทิ้งอย่างท่านไม่ได้ ขนาดไม่มีอะไรเท่าท่าน เท่าขี้กระผีกท่านไม่ได้ยังทิ้งมาไม่ได้เลย มันคืออะไร อาตมาพูดตรงนี้เข้าใจนะ เพราะฉะนั้นในโลกนี้อย่าไปเที่ยวหลงใหลได้ปลื้มกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข ให้มาเรียนรู้สุข เรียนรู้ทุกข์ 

อาตมาขอสรุปลงไปสำคัญที่สุดเลยว่า ตราบใดที่คุณเข้าใจเรื่องสุข เรื่องทุกข์ไม่ได้ พระพุทธเจ้าเน้นถึงเรื่องทุกข์ ให้มาเรียนรู้ทุกข์ เพราะทุกข์มันเรียนรู้ได้ง่ายกว่าสุข เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องสูงสุดเรียกว่าอริยะหรืออาริยะแล้ว จึงได้เรียกความทุกข์นี้ว่าเป็นทุกข์อาริยสัจ เป็นสัจจะความจริงที่ผู้ประเสริฐเป็นอาริยะจะมาเรียนรู้ความจริงอันนี้ หัวใจศาสนาพุทธจึงอยู่ที่ทุกข์ เป็นทุกข์อาริยสัจ 

ตราบใดที่ใครไม่รู้จักสุขทุกข์ และอาตมาก็สรุปแล้วว่าสุขกับทุกข์มันอันเดียวกันเป็นมายา คุณเรียนรู้ทุกข์แล้วคุณลดทุกข์ได้ คุณก็ลดสุขได้ หรือคุณลดหรือเรียนรู้สุขและคุณลดสุข มันก็เหมือนกับลดทุกข์ มันเป็นกระดาษอันเดียวกัน คุณแยกมันไม่ออกหรอก มันเป็นมายาหลอก มายามันเอาหน้าความสุขมาหลอกคุณ คุณได้ความสุขเมื่อไหร่คุณก็ได้ทุกข์ไปเป็นอันเดียวกัน ในขณะที่คุณเองคุณอยู่ข้างหน้า คุณโง่มากเพราะคุณเอง คุณไม่รู้ข้างหลัง ผู้ใดมารู้ข้างหลังแล้วคุณจะหายโง่ลงไป และคุณก็จะมารู้ว่า ข้างหน้านี้มันสุขหลอกกูนี่หว่า จบกันแบบวันนี้หมดเวลา 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #33 ถ้าไม่เรียนรู้สุขทุกข์ ก็สั่งสมบาปอยู่ทุกลมหายใจ วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8(2) ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2566 ( 19:13:22 )

พระพุทธเจ้าคนละองค์

รายละเอียด

คือ อาตมาเป็นชาวพุทธ  ก็เอาอย่างนี้แล้วกัน  พระพุทธเจ้าของคุณกับพระพุทธเจ้าของอาตมาคนละองค์ก็แล้วกัน  คุณก็ถือแบบพระพุทธเจ้าของคุณไปอาตมาก็ถือแบบพระพุทธเจ้าของอาตมา  อาตมาไม่ได้เอาพระพุทธเจ้าของคนอื่นมาอ้าง อย่ามาตอแหลกันนะ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2562 ( 07:31:40 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:32:35 )

เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2563 ( 08:50:21 )

พระพุทธเจ้าคือผู้รู้กรรมวิบากจริงซึ่งต่างจากเทวนิยม

รายละเอียด

มีเทวนิยมหลายนิกาย อธิบายว่าให้มาเกิดอีก พระเจ้าให้มาเกิดอีก เกิดใหม่ จนกระทั่งพัฒนาถึงการรู้วิบากกรรม แต่เขาก็รู้อย่างเทวนิยม มีกรรมวิบากอย่างเทวนิยมซึ่งกรรมวิบากเป็นเรื่อง อจินไตย เป็นเรื่องที่รู้กันได้ไม่ง่าย ผู้ที่จะรู้จักกรรมวิบากจริงก็คือพระพุทธเจ้าและสามารถทำกรรมวิบากให้เหลือแต่กรรมวิบากที่ดี ไม่ทำกรรมให้เป็นวิบากที่ชั่วเลย มั่นคง แน่นอน ทำแต่ดี ไม่ทำชั่ว ไม่ทำบาปเลย สัพพะปาปัสสะอะกะระณัง ไม่ทำชั่วเลยทำแต่ดี เพราะฉะนั้นกรรมใดที่ทำดีเท่านั้นทุกกรรมเป็นของตน สำเร็จเป็นคนที่ทำแต่ดีไม่ทำบาปเลยนั่นคือโลกี
ยะ แล้วก็ทำจิตให้บริสุทธิ์ขาวผ่องปราศจากเหตุปัจจัยที่จะทำให้เกิดอีกได้ สจิตตปริโยทปนัง

ตัวที่ 3 นี้เป็นโลกุตระ ตัวที่ 1 ตัวที่ 2 เป็นโลกียะ 

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ทั้งโลกียะและโลกุตระเพราะฉะนั้นที่เป็นโลกียะ ท่านก็ทำดีไม่มีชั่วเลย ถ้าชีวิตมนุษย์ยังจะอยู่ไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน บรรลุอรหันต์ได้ เป็นต้น ผู้นี้ทำแต่ดี ไม่มีทำชั่วอีกเลยตลอดกาลนาน คุณจะอยู่ไปอีกนานเท่าไหร่ก็ได้ แต่ชาวไทยพุทธที่เป็นเถรวาทไม่เข้าใจอันนี้แล้วจะคิดว่าตายแล้วก็สูญเลย เป็นอุจเฉททิฏฐิขนาดนั้น เข้าใจว่าอรหันต์เกิดอีกครั้งไม่ได้ 

ผู้รู้ยิ่งรู้ยอดตั้งแต่เกิดจนจบจนกระทั่งดับจิตนิยาม แยกธาตุเป็นดินน้ำไฟลมไปเลย คือพระพุทธเจ้า จะอยู่ก็อยู่อย่างมีหลักประกันว่าไม่ทำชั่วทำแต่ดี แล้วถ้าจะตาย ก็ตายอย่างที่ตายแล้วเกิดอีก  ตายแล้วเกิดอีก ไม่ยอมดับง่ายๆ หรือตายแล้วสูญไปเลยแยกธาตุเป็นดินน้ำไฟลมไปเลยได้ จึงครบถ้วนบริบูรณ์หมดเลย พอรู้ทั้งอุตุนิยาม รู้ทั้งพีชนิยาม รู้ถึงธรรมนิยามทั้งหมด จบสุดเลยบริบูรณ์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 48 อยากหมดอวิชชาต้องเริ่มคบพ่อครูผู้สัตบุรุษ วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2565 ( 19:12:48 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์