คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี
เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit
วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5
วีดีโอ Loom 1 : https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044
วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk
รายละเอียด
ทำให้สะอาด
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 302
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:33:06 )
เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:27:08 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:28:15 )
รายละเอียด
1. ขาวผ่อง
2. ผ่องแผ้ว
3. คุณลักษณะยืนยันความหมดจดดีเยี่ยม
4. สะอาด
หนังสืออ้างอิง
สมาธิพุทธ หน้า 239
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 111
คนคืออะไร? หน้า 302
ค้าบุญคือบาป หน้า 280
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:35:21 )
เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:28:07 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:29:10 )
รายละเอียด
ปริโยทาตา ท่านก็แปลทับศัพท์ไปว่า ผ่องแผ้ว ผุดผ่อง(ปริสุทธา) ท่านแปลสองคำนี้ แล้วมันต่างกันอย่างไร 2 คำนี้ ปริสุทธาคือ คุณอยู่กับโลก สัมผัสกับโลก สัมผัสเหตุแห่งทุกข์แห่งความไม่สะอาดนี้ เดี๋ยวนี้มันก็ยังสะอาดอยู่ แม้เราไม่เคยสัมผัสกับเหตุนี้มันก็ยิ่งสะอาด จะสัมผัสแรงขนาดนี้มันก็ยังสะอาดทั้งน้ำหนักและความแตกต่าง สัมผัสอีก มันก็ยังสะอาดๆๆ คือความเจริญจากปริสุทธา
ไม่ทิ้งฐานสะอาดนะ แต่มันมีคุณสมบัติเจริญยิ่งขึ้นจากปริสุทธาเลย คุณภาพก็สูงขึ้น เหตุนี้แรงกว่าเก่ามันก็ได้ เหตุนี้แปลกไม่เคยเจอแต่เราก็บริสุทธิ์ได้
มันจะมีนัย ละเอียดอย่างอื่นมันก็ยังสะอาด ยืนยันความสะอาด ปริโยทาตา
เพราะจิต มุทุ จิตมันหัวอ่อน มันรับรู้ได้เร็ว ปฏิภาณเร็วรับรู้ได้ง่ายปรับได้ง่ายทั้งเจโตและปัญญา มันเร็วทั้งลักษณะความรอบรู้ ทั้งลักษณะของจิตที่ให้เป็นอย่างนี้หรืออย่างนี้อย่างไรก็ได้ มีวสวัตตี มีอำนาจเหนือจิต ไม่ให้มันเปื้อน ให้แข็งแรงได้ แล้วมันก็ต้องรู้เร็วรู้ทันด้วย ไม่ใช่กินยาเข้าไปตั้งสองแผงแล้วถึงรู้สึกไม่ใช่ มุทุ แปลว่า เร็วแคล่วคล่องว่องไว
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช 2/ 08/ 2562
เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 13:21:27 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:31:41 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:33:13 )
รายละเอียด
1. ความผ่องแผ้ว
2. จะสัมผัสอะไร ๆ อยู่ก็ไม่เปื้อนเปรอะ ยังผุดผ่องอยู่ได้
3. คงความบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ตลอด แม้จะกระทบสัมผัสโลกีย์ใด ๆ
4. แม้กระทบกระแทกสัมผัสสัมพันธ์กับเหตุปัจจัยใด ๆ ก็ยังความบริสุทธิ์ผุดผ่องคงที่อยู่
หนังสืออ้างอิง
อีคิวโลกุตระ หน้า 228
สมาธิพุทธ หน้า 135
เปิดโลกเทวดา หน้า 55
กำไร-ขาดทุนแท้ของอาริยชน / เราคิดอะไร ฉ.265
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:37:10 )
เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:29:05 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:34:24 )
รายละเอียด
ไม่มีกามไม่มีอัตตาเป็นภาวะบริสุทธิ์ปริสุทธา ปริโยทาตา แม้จะมีสิ่งเร้ากระทบกระแทกสัมผัสกิเลสก็ไม่เกิดอีก บริสุทธิ์ขาวรอบ ปริโยทาตา แปลเป็นไทยว่าผุดผ่อง ที่จริงก็ขาวรอบแข็งแรงตั้งมั่นคงเดิม
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 09:10:49 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:32:16 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:36:29 )
รายละเอียด
จิตยังคงรักษาความสะอาด(จากกิเลส)ได้อย่างหมดจด เพราะจิตนั้นได้ฝึกฝนชำระล้าง
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 302
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:33:40 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 07:13:05 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:37:50 )
รายละเอียด
1. ที่สุด
2. ตายดับสิ้นเกลี้ยง เป็นท้ายสุดแห่งที่สุด
3. สุดท้ายปลายสุดแห่งท้ายสุด
4. บทสุดท้าย
5. สุดท้ายที่ท้ายสุด
หนังสืออ้างอิง
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 64
ค้าบุญคือบาป หน้า 170
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉ.275
ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 321
คนจะมีธรรมะได้อย่างไร / เราคิดอะไร ฉบับ.287 หน้า 47
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:38:34 )
เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 16:58:56 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:39:13 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2563 ( 09:30:24 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:57:12 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:44:53 )
รายละเอียด
เรื่อง ปรินิพพานเป็นปริโยสาน แม้พยัญชนะนี้ อาตมาสัมผัสแล้วที่จบมันอยู่ตรงนี้ “ปริโยสาน” แปลว่าที่จบ อ๋อ! ปรินิพพานเขาเรียนกันเขาไม่มีปริโยสาน เขาไม่พูดถึงที่จบ อวสาน+ปริ อวสาน แปลว่าจบ ปริโยสาน จบด้วยการปรินิพพานนิพพานรอบที่สุดเลย ไม่มีอัตภาพนั้นอีก เป็นการจบสุด อาตมาพบอยู่ที่ข้อที่ 10 ของมูลสูตรจึงเห็นว่าสุดยอด จึงนำมาขยายความให้พวกเรารับรู้ทางโน้นเขาไม่รู้หรอกไม่ได้เรียนกันพูดแล้วเขาไม่ถึง มีค่าขนาดไหนอาตมารู้อาตมามีอัตลักษณ์เป็นอาตมาทำได้แต่ยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน อยากจะสืบทอดเอาความรู้อันนี้ สืบทอดเผยแพร่กระจายไป
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ของวรรณะ 9 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:03:44 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:48:22 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 15:34:23 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 13:40:54 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:51:26 )
รายละเอียด
1. มันพร้อมที่จะเป็นอื่นไปทุกขณะแห่งเสี้ยววินาที และมันก็เป็นอื่นไปทุกเสี้ยววินาทีจริง ๆ
2. มันเป็นสิ่งอื่น ส่วนอื่น บุคคลอื่น ตัวตนอันอื่น อันต่างหาก
3. เป็นอื่นไปทุกขณะ
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 218
ทางเอก ภาค 2 หน้า 62
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 244
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 07:11:44 )
เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 17:00:03 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:52:45 )
รายละเอียด
ปรโตโฆษะ คือ ต้องเปิดจิตรับฟัง อย่าอคติ ที่สมณะโพธิรักษ์อธิบายแล้วเอาไปโยนิโสมนิการทำใจในใจให้ถ่องแท้แยบคายลงไปในสิ่งที่เกิดโทษ ที่จะแก้ไข เป็นสุริยะเปยยาลข้อที่7 ท่านเป็นมิตรดี สหายดีของทุกคน ถ้าตอนนี้มีพระพุทธเจ้า เข้าไปพบพระพุทธเจ้า แต่ตอนนี้มาพบมาฟังท่าน (สมณะโพธิรักษ์) หากฟังคนที่ไม่มีสัมมาทิฏฐิก็จะไม่ตรงทางไปตลอดสาย ท่านบอกเส้นทางที่ถูกตรง ท่านมากอบกู้ ฟังแล้วลองทำบ้าง คุณทำแบบเดิมมานานแล้วเท่าไหร่ ถ้าทำแล้วมันถูกก็จะเป็นอรหันต์กันแล้วหากเป็นอรหันต์ 2 คน 5 คน 100 คน 1,000 คน ก็มาเป็นสังคมอาริยะ เอาหลักต่างๆ ของพระพุทธเจ้ามาตรวจสอบ
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 13:22:06 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:37:20 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:54:42 )
รายละเอียด
ปรโตโฆษะ ด้วยพยัญชนะก็คืออื่น ฟังคนอื่น ฟังเสียงอื่น แค่นั้น ส่วนโลกวิทูนั้น รู้รอบโลก รู้กว้าง รู้มาก เป็นการเอามวล เอาปริมาณเยอะ ปรโตนี่เอาเนื้อมา จากคนอื่นแล้วเอามา ปร แปลว่าอื่น โฆษะ แปลว่าเสียง เนื้อหาที่เขา โฆษณามา ฟังเอาเนื้อหาของเขามา ปรโตโฆษะ ส่วน โลกวิทูนั้น รู้โลกมากๆ รู้เยอะๆขึ้น รู้รอบโลกไปมากขึ้น รู้กว้างรู้ลึกรู้เยอะ โลกวิทู นี่อันหนึ่ง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความเป็นแม่ที่ให้กำเนิดโลกุตรจิต วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 8(2) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 05 กันยายน 2566 ( 12:30:51 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 20 มิถุนายน 2563 ( 13:49:11 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:57:32 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:24:08 )
รายละเอียด
คุณไม่เปิดจิต ไม่มีปรโตโฆษะ แม้คุณจะได้ยินได้ฟังได้สัมผัสอย่างไร คุณก็รู้ไม่ได้ว่ามันต่าง มันต่างกันตรงไหน มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะฉะนั้นคนพูดนี้ จึงหมดสิทธิ์ที่จะรู้เอง ต้องผู้อื่นรู้แล้วมาบอก คุณต้องเปิดจิตรับ ถ้าคุณไม่เปิดจิตรับก็ไม่มี ปรโตโฆษะมันก็ไม่ได้อย่างไรก็ไม่ได้ คุณต้องเปิดจิตแล้วรับ ใครเปิดให้คุณไม่ได้หรอก คุณต้องเปิดเอง คุณต้องยอมรับเอง อย่างน้อยก็บอกว่ามันน่าจะจริงนะคนนี้มันต่างจาก รู้แล้วนะว่ามันต่างจากที่เรามี เขาน่าจะจริงอยู่บ้าง เปิดจิตรับ เอาน่า ตั้งใจรับสักนิด คนนี้ยังมีโอกาสนะ
ถ้าบอกว่า ลองรับดูบ้าง แต่จิตลึกๆจริงๆไม่เอา คนนี้ก็ไม่ได้อีก คนนี้ก็รู้แต่เล็กน้อย ก็มันละเอียดคุณจะไปรู้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างไร คุณต้องดูให้จบสิ รู้ให้ลึกให้มากพอเลยขีด 50 ขึ้นไป คุณถึงจะจำนน แต่นี่มันยังไม่เริ่มรู้เลย แค่ 25 ก็ยังไม่เข้า ยังไม่เข้ากระแสเลยหรือเข้ากระแสไปนิดเดียวก็พอแล้ว มันจะไปชัดเจนได้อย่างไร ก็ต้องมีพอสมควรสิ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 3
วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 08:42:17 )
รายละเอียด
ถ้าศาสนาพุทธทุกวันนี้สัมมาทิฏฐิขึ้นมามี ปรโตโฆษะ ฟังอาตมาบ้างเปิดจิตดีๆจะเกิดสัมมาทิฏฐิ ถ้า ปรโตโฆษะ เท่านั้นแหละรับฟังอาตมาดีๆ สุสูสังลภเตปัญญัง ฟังด้วยดีๆ อย่าตั้งอคติ อย่าเข้าใจอาตมาผิด อาตมาเป็นคนถูก อาตมาคือเนื้อแท้แก่นแท้ของโลกุตระ ขออภัยที่พูดความจริงพวกนี้เหมือนอวดตัวเอง แต่เป็นการยืนยันสัจจะ
พยายามเถอะ อาตมาสงสารตรงที่ว่าพวกท่านก็อยากได้ ใช่ไหม อยากได้ธรรมะพระพุทธเจ้า อยากได้พุทธธรรม แต่ท่านก็โอ้โห อยู่นอกเขตเทศบาลของศาสนาพุทธ อาตมาก็สงสาร และก็พูดอยู่นอกเทศบาลศาสนาพุทธว่า ฉันเป็นพุทธ ๆๆ โถ ตัวเองก็ยังไม่ได้อยู่ในเขตเทศบาลของศาสนาพุทธแล้วก็ไปร้องว่าฉันเป็นพุทธ ฉันเป็นพุทธแท้ๆเป็นพุทธถูกต้องเป็นพุทธจริงๆ พุทธศาสนา
ใช่โดยคุณเป็นพุทธกระแสหลักโดยปริมาณ แต่เนื้อแท้มันไม่ใช่ ขออภัยที่อาตมาพูดชัดเจนขึ้นไปมาก โอ้โห วันนี้พูดความจริงสัจจะจริงๆชัดเจนก็ต้องขออภัยนะ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ สภาวะบวร(บ้าน-วัด-โรงเรียน) ที่พ้นอัตตวาทุปาทาน 5 วันพุธที่ 20 ธันวาคม 2566 ขึ้น 8 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 มกราคม 2567 ( 14:00:27 )
รายละเอียด
หากเขามี ปรโตโฆษะ เทชาออกจากถ้วยบ้าง ก็จะได้ แต่ถ้าไม่เปิดจิตรับ ไม่มีทางหรอกอย่างไรอย่างไรก็ไม่เข้า ให้อาตมาเก่งแสนเก่งอย่างไรก็รับไม่เข้าเพราะว่าเขาไม่เปิดและเราก็ไม่ได้ไปบังคับ ไม่ได้ไปบุกรุกอะไรเขา มันเป็นอิสรเสรีภาพสุดยอด
เริ่มตั้งแต่คำว่า “กาย”ก็“มิจฉาทิฏฐิ”สนิทแล้ว
ความเป็น“สัก”จึงไม่รู้ว่า“มันพิการ”ไปแล้วอย่างไร? หนักหนาสาหัสปานไหน?
จึงเป็น“พญานาค”เต็มสภาพ ตั้งแต่“ทิฏฐิ”ข้อที่ 1 ก็“มิจฉาทิฏฐิ”กันบริบูรณ์ “หลับไม่รู้คู้ไม่เห็น” แม้จะมีคนผู้สาธยาย“โลกุตรธรรม”ของพระพุทธเจ้าคอแตกปานใด “พญานาค”ก็ยังคง“หลับไม่รู้คู้ไม่เห็น”อะไรทั้งนั้น มืดบอด สนิทกันอยู่ใต้ก้นบึ้งมหาสมุทรลึกสุดนั้นตลอดกาล “ไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด”ขึ้นมาเลย ราวกับก้อนหินก้อนดินก็ไม่ปาน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเปิดตาพญานาคลงสู่การเมืองไทย วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2565 ( 20:19:56 )
รายละเอียด
ปรโตโฆษะคือ คุณต้องฟังคนอื่น ไม่ใช่คุณรู้เอง ผู้รู้เองต้องเป็นสัตบุรุษตั้งแต่พระพุทธเจ้าตั้งแต่ สยังอภิญญา จึงชื่อว่าเป็นผู้รู้เองข้ามชาติมา เพราะฉะนั้นในยุคสมัยใด ที่มีคนเกิดมาแล้วในยุคสมัยนั้นๆ คนที่เป็นสัตบุรุษ เกิดมาในยุคสมัยนั้น โดยเกิดมาเป็นสัตบุรุษเป็นสยังอภิญญา อย่างอาตมาเกิดมาในยุคนี้ไม่มีครูบาอาจารย์ที่ไหน นอกจากไม่มีครูบาอาจารย์ที่ไหนแล้ว คำสอนคำอธิบายขยายความของอาตมายังไปขัดแย้งกับหมู่ใหญ่เดิม ขัดแย้งชนิดตรงกันข้ามเลย โลกียะกับโลกุตระ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ โลกุตระปัญญาต้องได้มาจากสัตบุรุษ
วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 27 มิถุนายน 2564 ( 18:41:44 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2563 ( 13:46:40 )
รายละเอียด
อาตมาก็ขอยืนยันว่าคุณควรจะฟังอาตมาต่อไปให้ดีๆและพิจารณาตามให้ดี อย่าเพิ่งเลิกนะ พยายามฟังอาตมาไปเรื่อยๆ จะบังคับให้รู้ได้เร็วๆไม่ได้ ต้องตั้งใจฟังต่อไปให้ดี ให้มี ปรโตโฆษะ อาตมาว่าอาตมาถูกต้อง อาตมาเป็นลูกพระพุทธเจ้าขอยืนยันอย่างนั้นจริงๆ แต่คุณจะเชื่อแค่ไหน ไม่เชื่อแค่ไหนก็ฟังไปเรื่อยๆ อาตมามีหลักฐานอะไรก็เอามายืนยันเยอะ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาตนให้รู้ความเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:54:32 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 12:16:56 )
รายละเอียด
1. รับฟังคำแนะนำสั่งสอนจากผู้อื่น
2. เปิดใจรับความรู้คนอื่นบ้าง , รับฟังผู้อื่น , รับเอาวิธีปฏิบัติอื่น
3. ยอมรับฟังผู้อื่นที่ยึดถือไม่เหมือนตน
หนังสืออ้างอิง
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 71
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 36,233
ค้าบุญคือบาป หน้า 180
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 07:13:51 )
เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 17:01:06 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:24:34 )
รายละเอียด
คือ โลกอื่น โลกที่เป็นดวงดาวโลกุตรชน ซึ่งมีความคิดรวบยอด (Concept) ค่านิยม (Values) รสนิยม (Taste) แม้ธรรมนิยาม 3 คือ ไตรลักษณ์ คือ โลกต่างดาว ซึ่งมีปัจจัตตลักษณ์ของโลกุตระ ที่รู้จัก รู้จริง ความเป็นไตรลักษณ์อันสลับซับซ้อนลึกซึ้ง อีกแบบยิ่งกว่า คนโลกีย์ธรรมดา
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 72
เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 12:05:41 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:21:10 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:25:05 )
รายละเอียด
จะเป็นความรู้ใหม่ ความรู้ของคนแบบใหม่ โลกใหม่ ที่มีความรู้เป็น ปรโลก เขาก็ไม่รู้ ภาษาบาลีใช้คำว่า ประ แปลว่า อื่น เช่นเดียวกับ อัญญะ คือ อันอื่นจากอันนี้ เขาไม่มี เขายังไม่สามารถจะเกิดภูมิไหลออกมา เลื่อนออกมา เอามารับที่จะรู้อันใหม่ที่เป็นอันอื่นใหม่ๆที่อาตมากำลังเอามาให้ ของเก่าเขาก็เต็มแล้ว เต็มกลืนเต็มอ้วกแล้วของเก่าเขานั้น เขาก็ได้แต่กลืน กินแล้วก็อ้วก กินแล้วก็อ้วก อ้วกแล้วก็กิน อยู่อย่างนั้น เขาก็วนในโลกเขาที่เป็น อยัง
ส่วน ปรโลก ประคืออื่น คือโลกอื่น แม้ใช้พยัญชนะ คำว่า ประ คือ อื่น เขาก็ยังเข้าใจเป็นอย่างเก่าของเขา ปรโลกของเขาคือความวนอยู่ในโลกเก่า โลกโง่อย่างเก่า ไม่ออกจากโลกลูกเก่าเลย ยังโง่ อยู่ในโลกลูกเก่า ยังไม่เกิดมีความฉลาดที่จะออกมาสู่โลกใหม่เลย มันก็บังคับกันไม่ได้ที่จะออกมาให้รู้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศนา บำเพ็ญธรรมภาคค่ำ ว.บบบ. เตรียมงานตลาดอาริยะปีใหม่ 2566 วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 05 มกราคม 2566 ( 15:07:12 )
รายละเอียด
1. ภพหน้า , โลกใหม่อีกโลกหนึ่ง
2. โลกใหม่ หรือโลกอื่น คือโลกุตระ
3. โลกอื่น
4. โลกหน้า
5. โลกโลกุตระ ที่จิตใจเลิกวนเวียน หรือเลิกความเป็นโลกที่หมุนที่วนที่เวียนเป็นสุข-เป็นทุกข์อยู่กับลาภ ยศ สรรเสริญ กาม อัตตา
หนังสืออ้างอิง
ค้าบุญคือบาป หน้า 121 , 115
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 72
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 55
อีคิวโลกุตระ หน้า 225
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 07:46:06 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 07:20:19 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:25:30 )
รายละเอียด
คือ โลกอื่นที่ไม่ใช่โลกโลกียะ ต้องเข้าใจโลกียะคือความวนอยู่ในกิเลส ติดในลาภยศสรรเสริญโลกียสุข ปฏิบัติทาน ศีลพรต ก็เอาลาภยศสรรเสริญสุขใส่ตน
ที่มา ที่ไป
ธรรมมาธิบาย รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 25 กันยายน 2562 ( 14:27:09 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:37:51 )
รายละเอียด
ปลงชีวิต คือ ตัดทำลายชีวิตินทรีย์ ตัดความสืบต่อ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2562
เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:06:43 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:38:39 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:26:23 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 4 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2563 ( 13:40:02 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 13:41:51 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:26:57 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 10:42:03 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:01:01 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:27:22 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 14:23:36 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:01:58 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:27:54 )
รายละเอียด
เกษตรนี่แหละเป็นหนึ่ง กสิกรรมเป็นหนึ่ง เกษตรของเราไม่มีเรื่องของปศุสัตว์เรื่องของประมง ไม่มี ของเรามีกสิกรรมเท่านั้น เป็นเรื่องของพืชพันธุ์ธัญญาหาร เป็นเรื่องของความเป็นหนึ่ง แล้วพวกเราก็เข้าใจ พวกเรารู้แล้ว อาตมาถึงพยายามระดมความคิดอยู่ ระดมความเข้าใจ ให้มาเป็นนักกสิกรรมกัน คุณจะอยู่หอคอยงาช้างใดๆก็ไม่เป็นผู้เจริญเท่ามาเป็นกสิกร มาเป็นผู้ทำกสิกรรม ถ้าชาวอโศกเรานี้ยึดฐานกสิกรรมได้ โอ้โห มากกว่านี้อีกสัก 1 เท่า 2 เท่า พวกเรานี้จะมีคุณค่าประโยชน์ ทางเศรษฐกิจก็ดี ทางสังคมศาสตร์ก็ดี เยอะกว่านี้เยอะ
รู้สึกบ้างไหม ชาวอโศกเอ๋ย ว่าเราได้ทำงานกสิกรรมกันมา ตั้งแต่อาตมาพากันทำมาจนถึงวันนี้ เราพอมีชื่อมีเสียงทางกสิกรรม คนเข้าใจว่างานกสิกรรม ผลผลิตของกสิกรรมของชาวอโศกนี้ ขึ้นอันดับไหม ใช่ไหม
ผลงานกสิกรรม ถ้าจะพูดไปแล้ว กสิกรรมไร้สารพิษก็พวกเราเป็นตัวริเริ่ม เป็นตัวรณรงค์ เหมือนเราได้รณรงค์ไม่กินเนื้อสัตว์ มังสวิรัติ กสิกรรมไร้สารพิษก็เรานี่แหละเป็นตัวตั้งตัวตี จนกระทั่งเดี๋ยวนี้เขาก็บอกว่าปลอดสารพิษ เขายังไม่ได้ใช้อย่างเราทีเดียวเพราะเขายังไม่ได้ซาบซึ้งคำว่า ปลอดสารพิษกับไร้สารพิษมันต่างกัน มันก็จริงของเขาเพราะเขายังใช้ของเขาอยู่บ้างตามมาตรฐาน ใช้ยาใช้อะไรอยู่บ้าง แต่ของเราไม่ใช้เลย ใช้ขี้ก็ขี้ไส้เดือน ถ้าสวนของเรามีแต่ขี้ไส้เดือนเยี่ยมเลย สวนของเรามีไส้เดือนชั้นหนึ่งเลย เดี๋ยวนี้เขาเลี้ยงไส้เดือนค้าขายกันแล้ว..มันจริงน่ะ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศนาธรรมส่งท้ายปีเก่า 2565 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2566 ( 13:08:37 )
รายละเอียด
เบิกบานแจ่มใส
มัธยัสถ์
สุภาพ
สงบ
หมดความอยาก
สิ้นความเสพย์
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2562 ( 11:59:02 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:40:05 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:28:11 )
รายละเอียด
1. ยกตนเทียบเท่า
2. ยกตนขึ้นเท่าเทียบท่าน ยกตนข่มท่าน ตนไม่เสมอเขาจริง ไม่เหนือเขาจริง แต่หลงยกตนยึดตน
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 46 , 433
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:56:14 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 07:21:18 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:28:32 )
รายละเอียด
เครื่องผูกพันที่ก่อให้เกิดความทุกข์กังวล
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 227
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:57:23 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 07:22:21 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:28:50 )
รายละเอียด
ปลีกวิเวก คือ เขาก็หมายเอาแต่แค่ร่างกายหลบหนี้ไปอยู่ป่า โคนไม้ ป่าเขา ป่าช้า เอาทั้งร่างกายไปก็ถือว่า คือ การปลีกวิเวก โดยสัจจะแล้วกายต้องมีทั้งรูปนาม ไม่ใช่มีแต่ร่างกาย การไปเอาร่างกายไปอยู่ ป่า เขา ถ้ำ แต่ถ้าในป่าเขาถ้ำนั้นจิตใจของคุณเต็มไปด้วยกาม เต็มไปด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ มีกิเลสโหยหาอาวรณ์นี้แล้วไปอยู่ป่าเขาถ้ำ กิเลสอยู่กับคุณเป็นเพื่อนสองแล้ว คุณจะไปวิเวกกายที่ไหน
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:40:20 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:42:54 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:29:24 )
รายละเอียด
พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมาในโลกมาปลุกพวกเดียรถีย์เหล่านี้สำเร็จแล้ว 2,500 กว่าปีเท่านั้นก็กลับไปเป็นเดียรถีย์อย่างเก่า พระพุทธเจ้าท่านปลุกได้ง่ายเพราะว่าท่านมีบารมี แต่โพธิสัตว์อย่างเราในยุค 2,500 กว่าปีมาปลุก มันไม่รู้จะปลุกอย่างไร มันกลายเป็นพวกพญานาคอยู่บาดาล นอนอยู่ใต้ก้นบาดาล อาตมาไม่ใช่พระพุทธเจ้านะ พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาในโลก ก็ลอยถาดทองคำ ถาดทองคำก็ลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไปบริเวณที่จะตกลง ก็หมดพลังของการทวนกระแสน้ำก็คือการทวนกระแสโลก หมดพลัง ไปหยุด ก็ตกจม กระทบกับถาดทองคำของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ กระทบดังแรงมาก จะบอกว่าปิ๊งก็ไม่ได้ แต่ดังแรงมาก แต่ของเรานี้ไม่ใช่เสียงทองคำแต่เป็นเสียงถาดตะกั่วเลย หูดับหูบอดอยู่อย่างนั้น ของพระพุทธเจ้านั้นเสียงดัง จนพญานาคที่หลับใต้วังบาดาลนั้นได้ยินรู้ว่าพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมาอีกองค์หนึ่งหรือว่าแล้วก็หลับต่อไป เท่านั้นแหละ พวกบาดาลนี้พวกพญานาคบาดาลนี้ฉันใดก็ฉันนั้น ขนาดพระพุทธเจ้านี้ถาดทองคำทำให้เจ้าพญานาคอยู่ในบาดาลตื่นได้ แต่โพธิรักษ์นี้พูดแล้วพูดอีก ปลุกแล้วปลุกอีก มันไม่ตื่น มันไม่ได้ยิน
ที่มา ที่ไป
ธรรมะรับอรุณโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันพฤหัสบดีที่ 31ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:13:39 )
รายละเอียด
เราก็มาเริ่มต้น วันนี้วันพุธที่ 5 เมษายน 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ
คำว่า ปลุกเสกก็ดี คำว่าพุทธาภิเษกก็ดี คำว่าพุทธาภิเษกเป็นภาษาวิชาการ คืออภิเษกให้เป็นพุทธ มาเป็นภาษาไทยก็คือปลุกเสก เราก็ใช้คำว่าปลุกเสกที่ใช้ภาษาไทยต่อว่า ปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ก็หมายความว่าเราจะปลุกเสกคนนี่แหละ ไม่ใช่ไปปลุกเสกอิฐหินดินปูน แม้แต่จะเป็นทองคำโลหะราคาแพง แก้วราคาแพง ดินข้างส้วมเอามาปั้นเป็นพระพุทธรูปอะไรก็ตาม แล้วก็มาเข้าพิธีปลุกเสกตามแบบเทวนิยม แล้วเราไม่ใช้ เราไม่ทำงานปลุกเสกอย่างนั้น เพราะปลุกเสกอย่างนั้นมันเป็นเดรัจฉานวิชาเป็นไสยศาสตร์ เป็นเรื่องนอกรีตศาสนาพุทธ เมื่อเอามาทำในศาสนาพุทธก็เลยทำให้ศาสนาพุทธกลายเป็นเทวนิยมกลายเป็นไสยศาสตร์ กลายเป็นเดรัจฉานวิชาไป
เพราะฉะนั้นภิกษุที่ไปทำสิ่งเหล่านี้ก็อาบัติหรือผิด นอกพระธรรม นอกวินัย ทำให้ศาสนาพุทธผิดเพี้ยนไป เสื่อม เพราะฉะนั้นที่หลงผิดมันเสื่อมจริงๆ และภิกษุก็ได้มาทำอย่างนี้จริงๆ แล้วคนไทยชาวพุทธได้พากันหลงผิดตามกันไปนานมาแล้ว อาตมาต้องมาพูดตรงๆ พูดอย่างไม่ไว้หน้า พูดอย่างให้เข้าใจเลยว่า
อย่ามาทำอย่างนี้เลยมันไปไม่รอด เราไม่ต้องไปพึ่งหรอกไอ้เรื่องลมๆแล้งๆอย่างนั้น มันเป็นอุปาทาน ที่อาตมาก็พยายามอธิบายอุปาทาน มันเป็นเรื่องจิตวิญญาณที่ลึกซึ้งซับซ้อนหลายชั้น ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง
พอได้ผลมาก็พอใจ ไม่ได้ผลก็เอาใหม่ ถือว่าเรายังไม่เข้าใจ เข้าไม่ถึงอะไรก็แล้วแต่ พวกที่ยึดติดอย่างงมงายหลงใหลก็พยายามพากันทำไป เสียเวลา อาตมานี้พาลัดตรงเข้าสู่เป้าหมายอันถูกต้องไม่ต้องไปเดินวนเวียนอยู่ในแดนกันดารในทางเขาวงกตอะไร เดินตรงเข้าสู่ธรรมะของพระพุทธเจ้าในเส้นทางตรง ตามที่พระอาตมาได้พูดมา 50 กว่าปีแล้ว
เพราะฉะนั้นก็มาเริ่มต้นกันอีก เริ่มต้นกันแล้วก็เริ่มต้นกันอีก
ที่อาตมาใช้คำว่าเริ่มต้นก็คือ การศึกษาของพระพุทธเจ้านั้น เรียกโดยศัพท์ย่อๆว่าก็รู้กันทั่วว่า ทาน ศีล ภาวนา ก็ได้ แต่มีนัยยะสำคัญที่ต่างกันกับคำว่า ศีล สมาธิ ปัญญา กับ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ นำปฏิญาณศีล 8 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 45 วันพุธที่ 5 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 05:40:47 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 27 มีนาคม 2563 ( 11:43:54 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 13:42:41 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:01:21 )
รายละเอียด
ทีนี้ ในคำถามความสงสัยของ ประเทืองธรรม ตี้ ที่บอกว่า ถ้าจะให้แต่อาหารเฉพาะก็คงจะงามมาก เพราะให้อาหารได้ถูกปากผัก ก็ศึกษาไป เขากำลังศึกษาปริญญาเอกอยู่ ถ้าเข้าใจสภาวะรูปนามจะเอาไปใช้เป็นประโยชน์ได้เป็นคุณค่าสูงทีเดียว ยิ่งมาศึกษาทางพืชอาหารเป็นหนึ่งในโลก เรามีปริญญาเอกหลายคน ปริญญาโท อย่างนายแอ๊ด โอ้โห ทำจังเลยทำแต่มันแต่เผือก ถั่วดิน ปลูกจัง เอาเป็นเอาตาย ชีวิตกินนอนอยู่กับสวน
ซึ่งอาตมาว่า ชีวิตคนที่เป็นกสิกรมีกุศลสูงสุด เรียนรู้ธรรมะด้วยจะมีชีวิตที่เป็นบุญด้วย ศึกษาให้ดี
ก็ตอบสั้นๆ ถ้าเราจะจำเพาะสกัดแต่สารอาหารให้มัน เขาเรียกว่าธาตุสารเคมี เพราะถึงจะเป็นพืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ขึ้น ไม่ใช่มีแต่สารเคมีให้มัน แต่มันเป็นธรรมชาติที่มีองค์ประกอบการผสมผสานของธรรมชาติ ธรรมชาติกับสารเคมีมันตรงกันข้ามกัน ถ้าเข้าใจคำว่าธรรมชาติกับสารเคมีมันก็จะชัดเจน เพราะฉะนั้นอย่าไปสกัดไปหาสารเคมีเพียวๆ มันก็เป็นสารเคมี ให้มันมีธรรมชาติที่จะผสมผสานกัน ทั้งชีวะต่างๆดินน้ำไฟลมด้วย พืชก็เป็นการผสมผสาน สังขาร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทเริ่มอธิบายที่ชาติ 5 วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 13:42:01 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2563 ( 11:00:51 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:02:22 )
รายละเอียด
ปล่อยไปตามยถากรรมคือ คนโง่ที่ยิ่งกว่าเดรัจฉาน เดรัจฉานมันยังพยายามพัฒนาตามฐานะของมัน แต่คนที่ไปคิดอย่างนี้แล้วก็ปล่อยตัวอย่างนี้ มันยิ่งกว่าเดรัจฉาน มันยิ่งตกต่ำ
เพราะคนอยู่กับคนที่พาไปทำชั่วทำเลว พาให้ปรุงแต่งอย่างมากอย่างนี้เป็นต้น มันแย่นะ ไม่ใช่เจริญขึ้นนะ เพราะฉะนั้นทุกวันนี้ไม่รู้เลยว่ามันมากเกิน มันได้จัดจ้านไปด้วยกิเลสหยำฉ่าขนาดไหน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม Neo protest ที่มีปัญญาและไม่มีตัวตน วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 23 มีนาคม 2564 ( 20:57:57 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 12:10:15 )
รายละเอียด
คุณมีสิทธิ์อะไรจะให้อาตมาอยู่นิ่ง อย่ามาพูดเสียให้ยากเลยพระทั่วไปอาตมาไม่เอาเป็นตัวอย่างหรอก ปัดโธ่.. คุณคนนี้เห็นว่าอาตมาพูดเป็นธรรมะ ตกลงเอาตรงนี้แหละ 36 นาที ตั้งหลักรับนะ พระสายเถรสมาคมและพระป่าทั้งหลาย ตั้งหลักรับดีๆ ตอนนี้กำลังจะปล่อยแสงโง้วกวงแล้ว
ศาสนาทุกวันนี้ มันเสื่อม เสื่อมจนกระทั่งพูดไปแล้วหลายที วงการศาสนาวงการหมู่ใหญ่ มีแต่อาบัติกับอาบัติจนถึงปาราชิก อาบัติตั้งแต่สวดมนต์ ก็อาบัติโดยไม่รู้ไม่เข้าใจ นอกนั้นก็อาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ มีเงินมีทอง ใช้เงินใช้ทองอะไรต่างๆนานา ไปจนกระทั่งถึงปาราชิก ก็ยังเล่นกันอยู่อย่างนั้น อาตมาก็จึงลาออกมา นานาสังวาสขอแยก ไม่ไหวอยู่กับหมู่ที่เฟะๆอย่างนั้นไม่ได้ ขออภัยที่อาตมาพูดความจริง ต้องขออภัยจริงๆเลย แต่ต้องพูดสัจจะ มันเลี่ยงจากสัจจะไม่ออก
เพราะมันเสื่อมจริงๆแล้วอาตมาไม่ได้พูดเอาเอง พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้แล้วว่า มันจะเสื่อม เมื่อถึงกาลเวลาที่มันจะเสื่อมมันก็เสื่อม ก็นี่แหละมายืนยันความจริงว่ามันเสื่อม อาตมาก็ยืนยันว่าเรามากอบกู้สิ่งที่ถูกให้มาปฏิบัติ ก็ยืนยันหลักฐาน จนกระทั่งกลายเป็นชุมชน สังคมมนุษย์ ที่เป็นสังคมมีศีลมี อปัณณกปฏิปทา 3 มีสัทธรรม 7 ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหูสูต วิริยะ สติ ปัญญา
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 19:12:22 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นถึงขั้นหนึ่งก็ปล่อยคุณไปตามยถากรรม คือไปตามกรรมวิบากของคุณเอง เช่น อาตมาบอกว่าปล่อยสัตว์ทั้งหลายแหล่อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับมันเลย เราเอาตัวรอดให้ได้ก่อนเถิด สัตว์ทั้งหลายเราไม่เกี่ยวข้องก็ดีแล้ว ไม่ต้องไปช่วย ไม่ต้องไปยุ่ง ไม่ต้องไปทำอะไร ของเราก็โอ้โห เขาจะเป็นไปตามวิบากของเขา เคยอธิบายยกตัวอย่างให้ง่ายๆ ก็งูมันจะกินเขียดแล้วดันไปแย่งเขียดจากปาก งูมันกัดเอาตายได้นะ แต่ถ้ามันกัดไม่ได้มันก็จะจองเวรจองกรรมคุณนะ ไปห้ามไม่ให้มันจองเวรจองกรรมไม่ได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ปฏิบัติศีลให้ถึงอรหัตตผลโดยลำดับ
วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 14:44:34 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 2 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 11:49:10 )
รายละเอียด
ระยะเวลาแห่งการดำเนินติดต่อไป, การยืดยาว เป็นเวลาเพิ่ม ดำเนินสภาพนั้นต่อไป
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 227 , 277
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:58:19 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:11:41 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:30:17 )
รายละเอียด
ปวัตตมังสะ คือ สัตว์ที่สัตว์ฆ่ากันเอง เดนสัตว์กิน หรือสัตว์ตายเอง
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายพ่อครู รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562
เวลาบันทึก 01 ตุลาคม 2562 ( 17:33:06 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:44:25 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:30:44 )
รายละเอียด
เรื่องไม่ทานเนื้อสัตว์นี่ คนไทยไม่น่าจะงง ในยุคพระพุทธเจ้านั้น พระภิกษุเขาไม่ฉันเนื้อสัตว์กันเป็นมวลส่วนใหญ่ แม้แต่เทวทัตก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์ พระเทวทัตก็บอกว่าให้ออกกฎระเบียบเสีย ไปบังคับทุกคน เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่หรอกที่ไม่ฉันเนื้อสัตว์ คนก็เข้าใจไม่ได้ว่า พระพุทธเจ้าฉันเนื้อสัตว์ ขนาดเทวทัตเอง ก็ยังไม่ฉันเนื้อสัตว์ แล้วจะมาขอให้พระพุทธเจ้าออกเป็นธรรมวินัย บังคับภิกษุทุกองค์ ไม่ฉันเนื้อสัตว์ พระพุทธเจ้าจึงบอกว่าไม่ต้องหรอก เขารู้กันอยู่ทั่วไป ไม่ต้องไปบังคับหรอก
ศาสนาพระพุทธเจ้านั้น ถ้าไม่จำเป็นท่านจะไม่ออกธรรมวินัย พระวินัยมาบังคับ ในศีล คือหลักเกณฑ์ให้ปฏิบัติโดยอิสระ 1.ไม่ให้ฆ่าสัตว์ 2. ไม่ให้พระซื้อ พระขายเนื้อสัตว์ หรือแม้แต่คนจะไปค้าขายเนื้อสัตว์ก็ไม่ควร ขายสัตว์เป็นขายสัตว์ตายก็ไม่ควร มันก็ไม่มีสัตว์ที่จะตายมากินแล้วมันมีสัตว์ 2 อย่าง 1. สัตว์ตายเอง 2. เดนสัตว์กิน เรียกว่า ปวัตมังสะ 2 อย่างนี้ที่จะกินได้ นี่มันลึกไปถึงขั้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรม พุทธศาสนาตามภูมิ มาฝังชิปโลกุตระใส่จิตวิญญาณตนจนเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 วันขึ้น 14 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 09 ธันวาคม 2565 ( 12:18:21 )
รายละเอียด
คือแปลว่า ยอมให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ให้ผู้ใดว่ากล่าวตักเตือนได้หมด ด่าว่าได้ดัวย ส่วนมหา ก็หมายความว่า ขยายออกไปเป็นสมาชิกเป็นมวลเยอะกว่ากัน เป็นงานมหาปวารณา จึงไม่ได้หมายความว่าจะต้องภิกษุเท่านั้น แน่นอนว่ามีภิกษุเป็นแกน แล้วก็มีนักบวชอื่น สิกขมาตุด้วย และ ฆราวาสร่วมกัน ฝึกลดตัวตนให้ใครว่ากล่าวได้ ตัวเองอย่าแสดงตัวตนว่า ข้าใครอย่าแตะ ให้มาฝึก
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:26:32 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:46:58 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:31:10 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 10:01:25 )
รายละเอียด
1. ไม่กระเพื่อม ไม่หวั่นไหว
2. หัดอดทน ไม่เป็นผู้ดิ้นรนเดือดร้อน เป็นผู้สงบเรียบร้อย ราบรื่นให้ได้ด้วยกำลังแห่งความอดทน และด้วยปัญญาที่ลดโลภ ลดขัดเคืองทุกข์นอก ทุกข์ใน
3. เป็นผู้สงบระงับ
4. ความสงบราบรื่น
5. ความสงบสงัด หมายถึงวิเวก 3 อันได้แก่ กายวิเวก จิตวิเวก และอุปธิวิเวก
6. จิตสงบจากกิเลส
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 194, 224, 307
ทางเอก ภาค 2 หน้า 138
ป่ากับพุทธศาสนา หน้า 19
ค้าบุญคือบาป หน้า 99
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:03:10 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:13:33 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:31:39 )
รายละเอียด
เรื่องที่ชักนำให้สงัดจากกาม ปวิเวก กามคือความยินดีในโลกทั้งหลาย ในตาหูจมูกลิ้นกายใจ ที่กระทบอะไรก็ยินดี
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนอัตถิราคสูตรให้หมดสุขหมดทุกข์แท้จริง วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:46:59 )
รายละเอียด
คือ สงบกาย สงบใจ ใจสงบ
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า.42
เวลาบันทึก 08 พฤศจิกายน 2562 ( 13:37:48 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:20:10 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:03:19 )
รายละเอียด
อัปปิจฉะ สันตุฏฐิ ใจพอ ปวิเวกะ ก็เป็นคนสงบเป็นคนไม่รู้เรื่องการไม่เบียดเบียนไม่เป็นภาระแก่ใคร ปวิเวกะ รู้เรื่องการไม่เบียดเบียน พึ่งพาตนเองรอดแล้วเผื่อแผ่คนอื่นได้ นี่เรียกว่าสงบ การสงบอยู่เฉยๆนั่งหลับตาไปนั้นเป็นพวกป่าเถื่อนพวกมิลักขะไม่ใช่อาริยกะ อาริยะ แคล่วคล่องว่องไวปราดเปรียว ทำงานขยันหมั่นเพียรเฉลียวฉลาดสร้างสรรแล้วก็แจกจ่ายเจือจาน นั่นคือคนอาริยะ คือคนเจริญ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564
เวลาบันทึก 12 พฤศจิกายน 2564 ( 21:27:27 )
รายละเอียด
ปวิเวกะ แปลว่า ตั้งอยู่ในฐานของวิเวก
วิเวก จากอะไร? วิเวกจากอุปธิ
อุปธิมีอะไรบ้าง?.. 1.กิเลส, 2. ขันธ์, 3. อภิสังขาร ในคุหัฏฐกสุตตทิสเทส
ไกลจากกิเลส ไกลจากความเป็นขันธ์ ที่จริงไม่ใช่ไกลหรอก กิเลสนั้นไกล แต่ขันธ์นี้ต้องรู้จัก อภิสังขาร ต้องทำได้
กิเลสนี้ต้องรู้จัก ต้องจัดการมันด้วย อยู่ในไหน อยู่ในขันธ์ 5 นี่แหละ
ในขันธ์ 5 นี้แยกให้ออก จับตัวให้ได้ จับให้มั่นคั้นให้ตายตัวมันให้ได้แล้วใช้อภิสังขารโดยมี ปุญญาภิสังขาร บุญ เป็นเครื่องมือ ฆ่ากิเลสในขันธ์ประหารกิเลสในขันธ์ ประหารเสร็จบุญก็หายไป ปุญญปาปปริกขีโณ แล้วทำในทุกปัจจุบัน ทิฏฐกาละ ปัจจุบันชาติ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 14:47:13 )
รายละเอียด
ตา หู จมูก ลิ้น กาย
หนังสืออ้างอิง
ค้าบุญคือบาป หน้า 187
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:03:58 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:20:12 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:32:00 )
รายละเอียด
สิ่งที่ถูกรู้ แยกแยะ 28 คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องท่องภาษา แต่ทำ ฟังดีๆแล้วจึงจะเป็นลำดับของมัน เช่น รูป 4 ดินน้ำไฟลม นี่เป็นมหาภูตรูป ไม่มีจิตวิญญาณ แต่รูปอีก 24 มีจิตวิญญาณร่วม เริ่มต้นตั้งแต่ ประสาทตา หู จมูก ลิ้น กาย 5 เรียกว่า ปสาทรูป เมื่อทำการดำเนินไปเรียกว่า โคจรรูป อีก 5 ตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่น ลิ้นกระทบรส โผฏฐัพพะกระทบภายนอกทางกาย
ซึ่งทั้ง 5 ตัวนี้ใช้จิตร่วมกันทั้งหมดด้วยกันทั้งนั้น เป็นอันหนึ่ง จิตกับกาย เป็นอันเดียวกัน ก็เลยหักจิตออกไป 1 เลยเหลือ 9 รูปเหลือ 9 อันนี้ อธิบายยากนะว่าทำไมมี 5 คู่แล้วเหลือ 9 ไม่อย่างนั้นไม่เป็นรูปที่ 28 มันจะเป็นรูปที่ 29 เพราะมันใจตัวเดียวกัน ใช้ร่วมอยู่ทั้ง 5 กายนอกและในไม่แยกกัน กายต้องมีใจ เพราะกาย ไปร่วมทำกับอีกทั้ง 4 ทวาร มันก็เป็นจิตด้วย กายคือจิต
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติ รูป 28 ในสติปัฏฐาน 4
วันพุธที่ 21 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 10 ตุลาคม 2565 ( 18:26:57 )
รายละเอียด
ในปสาทรูป โคจรรูป มีรวมกัน 9 ส่วน รูปเสียงกลิ่นรส จะต้องมีสัมผัสภายนอก จึงจะเกิดการรับรู้ เรียกว่าเกิดสัมผัส โผฏฐัพพะแล้วจะเกิดความรู้ทางจิตเรียกว่าเวทนา ที่ใจ เพราะฉะนั้นกายกับใจเป็นการรับรู้ 4 ทวาร ส่วนโผฏฐัพพะ คือรวมหมด กายกับใจรวมเป็นหนึ่ง กายกับใจไม่รวมกันคือร่างคนตาย ก็ไม่รับรู้รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส กายจะต้องมีใจอยู่เสมอ พูดอย่างนี้จะชัดเจน พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ตถาคตเรียกกายว่า จิต มโน วิญญาณ เป็นเรื่องซับซ้อนลึกซึ้ง ทุกวันนี้ชาวพุทธทั้งหลายเข้าใจว่ากายนี้คือร่างภายนอกเท่านั้นไม่เกี่ยวกับใจเลย อันนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิที่เป็นโมฆะสำหรับศาสนาพุทธ จบ จบตรงที่ว่าโมฆะ จบตรงที่ว่าคุณไม่มีมรรคผลไม่มีประโยชน์ทางศาสนาที่จะศึกษาความเป็นโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งละเอียดมาก
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ปฏิบัติธรรมกับอาหารในพระสูตรต่างๆ วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 19:37:45 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:49:26 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:32:31 )
รายละเอียด
อุปาทายรูป 24
ก. ปสาทรูป 5
จักขุ (ตา)
โสตะ (หู)
ฆานะ (จมูก)
ชิวหา (ลิ้น)
กายา (กาย)
ข. โคจรรูป, วิสัยรูป 4
รูปะ (รูป)
สัททะ (เสียง)
คันธะ (กลิ่น)
รสะ (รส)
โผฏฐัพพะ (สัมผัส)
(กายกับโผฏฐัพพะ ถือว่าเป็นอันเดียวกัน)
มีการกระทบทำงานระหว่างปสาทรูป โคจรรูป ก็เกิดการทำงาน เป็นภาวรูป
ค. ภาวรูป 2
10. อิตถัตตภาวะ, อิตถินทรีย์ (ญ)
11. ปุริสสัตตภาวะ, ปุริสสินทรีย์ (ช)
เป็นขั้วบวกขั้วลบ ภาวรูปคือนิวเคลียส มีพลังงานบวกและลบอยู่ในนี้ ภาวรูป จากภาวรูปก็ตามเข้าไปอ่านนามคือหทยรูป
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้สภาวะของรูป 28 สู่ความเป็นอรหันต์ วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 19:12:24 )
รายละเอียด
ง. หทยรูป1 = 12.หทัยรูป ที่ตั้งการเกิดอาการของรูป หาที่ตั้งไม่ได้ แต่ก็อยู่ในร่างของเรานี่แหละ เมื่อตากระทบ หทยรูป ก็อยู่ที่ตากระทบรูป หูกระทบเสียง หทยรูปที่อยู่ที่การ
กระทบนั่นแหละ จมูกกระทบกลิ่น หทยรูปก็อยู่ที่กระทบนั่นแหละ กำหนดเป๊ะๆๆไม่ได้ มันจะไปตามเหตุปัจจัย หทยรูป เรากำหนดรู้ได้ถึงนามธรรมที่มีรูปรองรับ แล้วนามรูป มันเป็นชีวิตแล้ว เป็นชีวิตรูป ก็เรียนรู้กำลังของชีวิต
จ. ชีวิตรูป1 = 13.ชีวิตินทรีย์ รู้ความมีชีวิตอยู่ของกิเลส อาการพลังงานของมัน มันเป็นชีวิตระดับไหน มีกำลัง คือพลังงาน แล้วมีกิเลสปรุงแต่งร่วมด้วยในนี้ มาก น้อย หยาบ กลาง ละเอียด เป็นสภาพกิเลสปรุงแต่งอยู่ด้วย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้สภาวะของรูป 28 สู่ความเป็นอรหันต์ วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 19:16:38 )
รายละเอียด
เกิด
หนังสืออ้างอิง
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 258
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:05:26 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:21:03 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:34:04 )
รายละเอียด
1. ประหัตประหาร
2. ประหาร
หนังสืออ้างอิง
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 265
ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 172
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:06:36 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:26:06 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:34:36 )
รายละเอียด
1. อันควรละ
2. ฆ่า
3. กำจัด
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 319
คนคืออะไร? หน้า 371
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 18
อีคิวโลกุตระ หน้า 245
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 70
เปิดโลกเทวดา หน้า 27
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:08:12 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:27:10 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:04:29 )
รายละเอียด
คือ การละกิเลสให้หมดสิ้นไป
1. วิขัมภนปหาน (ละด้วยการข่มฝืนกิเลส)
2. ตทังคปหาน (ละกิเลสได้เป็นคราว ๆ )
3. สมุจเฉทปหาน (ละด้วยการตัดขาดกิเลส)
4. ปฏิปัสสัทธิปหาน (ละด้วยการสงบระงับกิเลส)
5. นิสสรณปหาน (ละด้วยการสลัดกิเลสทิ้งเด็ดขาด)
คำอธิบาย
พระไตรปิฎกเล่ม 31 "มหาวรรค ญาณกถา" ข้อ 65
ที่มา ที่ไป
ธรรมพุทธสุดลึก
เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2562 ( 14:41:17 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:19:43 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:35:00 )
รายละเอียด
1. วิกขัมภณปหาน (ละด้วยการข่มใจ ใช้เจโตนำหน้า)
2. ตหังคปหาน (ละได้เป็นครั้งคราว ใช้ปัญญาอบรมจิต ) ใช้ปัญญาเป็นหลัก
3. สมุจเฉทปหาน (ละได้ด้วยการตัดขาด สลัดออกได้เก่ง)
4. ปฏิปัสสัทธิปหาน (ละได้ด้วยการสงบระงับทวนไปมา)
5. นิสสรณปหาน (สลัดออกได้เองทันที เก่งจนเป็นปกติ)
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562
หนังสืออ้างอิง
พระไตรปิฎก เล่ม 31 ข้อ 65
เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 17:26:09 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:51:31 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:35:51 )
รายละเอียด
คือการละกิเลสให้หมดสิ้นไป
1. วิกขัมภนปหาน (ละด้วยการข่มฝืนกิเลส)
2. ตทั้งคปหาน (ละกิเลสได้เป็นคราวๆ)
3. สมุจเฉทปหาน (ละด้วยการตัดขาดกิเลส)
4. ปฏิปัสสัทธิปหาน (ละด้วยการสงบระงับกิเลส)
5. นิสสรณปหาน (ละด้วยการสลัดกิเลสทิ้งทันที)
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 31 “มหาวรรค ญาณกถา” ข้อ 65
เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 19:39:19 )
รายละเอียด
ปหาน 5, วิมุติ5, นิโรธ 5 (การละกิเลสให้จิตมีผลสงบแท้)
1. วิกขัมภนปหาน (ละด้วยการข่มใจ-ใช้เจโตนำหน้า)
2. ตทังคปหาน (ละได้เป็นครั้งคราว-ใช้ปัญญาอบรมจิต)
3. สมุจเฉทปหาน (ละด้วยการตัดขาด สลัดออกได้เก่ง)
4. ปฏิปัสสัทธิปหาน (ละด้วยการสงบระงับทวนซ้ำไปมา)
5. นิสสรณปหาน (สลัดออกได้เองทันที เก่งจนเป็นปกติ)
ที่มา ที่ไป
พระไตรปิฎก เล่ม 31 ข้อ 65, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2562 ( 14:14:57 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:55:17 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:36:22 )
รายละเอียด
ปหาน 5 คือ วิกขัมภนปหาน ตทังคปหานะ สมุจเฉทปหาน นิสรณปหาน ปฏิปัสสัทธิ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่ 2 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2562 ( 14:06:41 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:58:34 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:37:02 )
รายละเอียด
1. เปลี่ยนไป ทำลายไป
2. พากเพียรละ หรือกำจัดเหตุที่ทำให้มีชาติ คือตัณหา อุปาทานนั่นเอง
3. ปฏิบัติกำจัดสิ่งที่จะต้องกำจัดให้ได้เสมอจนกระทั่งหมด แล้วยัง-จะต้องปฏิบัติอีกจนสัมบูรณ์
4. พากเพียรกำจัด
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 103
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 49
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 187
ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 318
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:11:04 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:29:16 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:37:43 )
รายละเอียด
1. ความรู้ที่หาวิธีทำลายเหตุที่เป็นตัวร้าย
2. ความรู้รอบในการกำจัด , การเลิก , การทิ้ง , การสละ , การละ , การจากไปอันต้องลงมือทำจริง ๆ ให้ได้ผลกันขึ้นมา
3. เพียรเผากิเลสนั้นจนได้
4. รู้รอบสิ่งที่ต้องประหารนั้นแล้ว
หนังสืออ้างอิง
อีคิวโลกุตระ หน้า 68
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 51
เปิดโลกเทวดา หน้า 56
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 265
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:12:58 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:32:07 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:38:47 )
รายละเอียด
จากพระไตรปิฎก เล่ม 23 ข้อ 109 ปหาราทสูตร พระพุทธเจ้า ได้ตรัสถึงความสัมบูรณ์ได้สุดยอด ครบ 8 ข้อใหญ่
พุทธเจ้าตรัสว่า “ดูกรปหาราทะ ภิกษุทั้งหลาย ย่อมอภิรมย์ในธรรมวินัยนี้
ปหาราทะ : ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในธรรมวินัยนี้ มีธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาสักเท่าไร ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้ว จึงอภิรมย์อยู่
พระพุทธเจ้า : มี 8 ประการ
ปหาราทะ 8 ประการ เป็นไฉน?
ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรลาด(อนุปุพพนินโน) ลุ่ม(อนุปุพพโปโณ)ลึกลงไปโดยลำดับ(อนุปุพพปัพภาโร) หาได้โกรกชันเหมือนเหวไม่(นายตเกเนว ปปาโต) ฉันใด ในธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน มีการศึกษา(สิกขา)ไปตามลำดับ มีการกระทำ(กิริยา)ไปตามลำดับ มีการปฏิบัติ(ปฏิปทา)ไปตามลำดับ มิใช่ว่าจะมีการบรรลุอรหัตผลโดยตรง(นายตเกเนว อัญญาปฏิเวโธ)
ดูกรปหาราทะ ข้อที่ในธรรมวินัยนี้มีการศึกษาไปตามลำดับ(อนุปุพพสิกขา) มีการกระทำไปตามลำดับ(อนุปุพพกิริยา) มีการปฏิบัติไปตามลำดับ(อนุปุพพปฏิปทา) มิใช่ว่าจะมีการบรรลุอรหัตผลโดยตรง(นายตเกเนว อัญญาปฏิเวโธ) นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ประการที่ 1 (ปฐม อัจฉริโย อัพภุตธัมโม) ในธรรมวินัยนี้ ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562
หนังสืออ้างอิง
พระไตรปิฎก เล่ม 23 ข้อ 109
เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:17:38 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:02:19 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:07:21 )
รายละเอียด
พ. มี 8 ประการ ปหาราทะ 8 ประการเป็นไฉน ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรลาด ลุ่ม ลึกลงไปโดยลำดับ ไม่โกรกชันเหมือนเหว ฉันใด ในธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน มีการศึกษาไปตามลำดับ(อนุปฺพพสิกฺขา) มีการกระทำไปตามลำดับ (อนุปฺพพกิริยา)มีการปฏิบัติไปตามลำดับ(อนุปฺพพปฏิปทา) มิใช่ว่าจะมีการบรรลุอรหัตผลโดยตรง ดูกรปหาราทะ ข้อที่ในธรรมวินัยนี้มีการศึกษาไปตามลำดับ มีการกระทำไปตามลำดับ มีการปฏิบัติไปตามลำดับ(นายตเกเนวะ อัญญปฏิเวโธ) มิใช่ว่าจะมีการบรรลุอรหัตผลโดยตรง นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 1 ในธรรมวินัยนี้ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์จากพ่อครูผู้ตามรอยบาทพระศาสดา วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 พฤษภาคม 2565 ( 11:19:20 )
รายละเอียด
ความน่าอัศจรรย์ข้อ 1 นี้แม้แต่ศาสนาพุทธเดี๋ยวนี้ก็ได้ผิดเพี้ยนไป เพราะการปฏิบัติของพระในศาสนาพุทธทุกวันนี้ตัดลัดเอาศีลทิ้ง อปัณณกปฏิปทา 3 เอาไปทิ้ง สัทธรรม 7 ก็ไม่มี แต่ไปยึดเอาฌาน โดยยึดผิดอีก ฌานก็ได้โดยการนั่งหลับตา ได้เป็นมิจฉาฌาน แต่ไปหลงว่าต้องเอาฌานเลย ลัดจากศีล ลัดจากอปัณณกปฏิปทา 3 ลัดจากสัทธรรม 7 เห็นไหม ตัดทิ้งศาสนาพุทธไปตั้งมาก
ไม่ได้ไปใส่ความ แต่มันน่าสงสารมาก เพราะมันมิจฉาทิฐิไปไกลเหลือเกิน อาตมาเอาหลักฐานในพระไตรปิฎกมายืนยัน ถ้าหากอาตมาจำได้เองเอามาพูดเองไม่มีหลักฐานในพระไตรปิฎก อาตมาถูกฟันคอทิ้งเลย จริง เขาจะไม่ฟัง เขาจะไม่เชื่อ ไม่เข้าใจ จะหาว่า อะไร ก็ฌาน เขาก็ไปนั่งหลับตาก็เข้าฌานได้แล้ว ฌาน ต้องนั่งหลับตาเข้า ออกจากฌาน ก็ต้องลืมตาออกมา ไม่หลับตาทำไม่ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผิด เป็นอจินไตย
ศาสนามันเสื่อมมันผิดไปไกล แม้ข้อ 1 ข้อแรกที่มหัศจรรย์ของพระพุทธเจ้าก็ไปไกลเลย ไม่ลาดลุ่มเหมือนฝั่งทะเล มันตัดลัดทิ้งไปหมดเลย หั่นทิ้งไปหมดเลย
แล้วอาตมาก็ยืนยันว่าศาสนาพุทธไม่มีหลับตาปฏิบัติ ฌานก็ได้จากการลืมตา สมาธิก็ได้จากการลืมตา เข้าสมาบัติก็ลืมตา อย่างนี้เป็นต้น เป็น ศาสนาพุทธปฏิบัติมีสติตื่นเต็มลืมตา ไม่ใช่ศาสนาปฏิบัตินั่งหลับตาเข้าๆออกๆ ไม่ใช่ หลับตานั้นใช้เตวิชโชตรวจสอบ ทบทวน อะไรทำได้ อะไรเกิดแล้ว อะไรดับแล้วระลึกถึงสิ่งที่ผ่านมา บุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกถึงความเกิดความดับต่างๆ ในธรรมะที่เกิดที่ดับได้หรือยัง ดับถึง อาสวักขยญาณ หรือไม่ อาตมาอธิบายธรรมะมา 50-51 ปีแล้ว 51 ปี เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2513 ถ้าถึง 7 พฤศจิกายน 2563 ก็ 50 ปี ถ้าพฤศจิกายน 2564 ปีก็ 51 ปีเต็ม อาตมาบวช 7 พฤศจิกายน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของพระธรรมวินัยข้อที่ 1 กับข้อที่ 8 วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่บ้านราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2564 ( 04:31:47 )
รายละเอียด
สัตว์บกเช่นไดโนเสาร์มันก็ไม่ใหญ่เท่าสัตว์น้ำ สัตว์น้ำมีที่ให้มันอยู่ได้ คุณว่าโลกนี้น้ำมากกว่าดินหรือดินมากกว่าน้ำ น้ำก็ต้องมากกว่า มหาสมุทรมีมากกว่า สัตว์ที่อยู่ในน้ำจึงเป็นสัตว์ที่ใหญ่กว่าสัตว์ที่อยู่บนบก
สัตว์ใหญ่ๆในมหาสมุทรพระพุทธเจ้าท่านเปรียบเทียบกับมนุษย์มหัศจรรย์ในข้อที่ 8 นี้ มหัศจรรย์ในข้อที่ 8 นั้นคือ ในโลกนี้มีพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ นี่คือสัตว์ใหญ่ มหตังภูตานัง
เพราะฉะนั้นในมหาสมุทรชุมชนชาวอโศกมีสัตว์ใหญ่อยู่ มี โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ไม่ได้พูดเล่นแต่มีจริงๆมีสัตว์ใหญ่ แน่นอน ในยุคพระพุทธเจ้าในยุคที่ยังไม่เสื่อม ต้องมีสัตว์ใหญ่ ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นสัตว์ใหญ่คือเป็นสัตว์ที่เจริญ เป็นอาริยบุคคล เป็นสัตว์เจริญเป็นมนุสโส เป็น อาริยกะที่แท้จริง เป็นผู้มีโลกุตรธรรมที่แท้จริง
รู้จักจิตวิญญาณรู้จักจิตเจตสิกรูปนิพพาน รู้จักรู้แจ้งรู้จริงในความเป็นจิตเจตสิก เป็นรูป จนกระทั่งถึงนิพพาน ขั้นสรุปอภิธรรมไว้ 4 ตัวจิตเจตสิกแยกจิตเป็นตัวส่วนย่อยไปเรื่อยๆเรียกว่าเจตสิก แล้วเรียนรู้รูปนามของเจตสิกทีละคู่ๆๆ จนถึงนิพพาน อาตมาหยิบเข้ามาอธิบายไม่ใช่ให้ท่องแบบอภิธรรมที่เขาท่องจำกันทั่วไป พวกคุณท่องจำไม่ได้อย่างพวกเขา แต่พวกคุณรู้ตัวสภาวะ แล้วเอาไปปฏิบัติ ปฏิบัติได้จนเป็นสัตว์ใหญ่ จนเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของพระธรรมวินัยข้อที่ 1 กับข้อที่ 8 วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่บ้านราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2564 ( 06:47:48 )
รายละเอียด
คนที่เลิกอบาย เลิกกามคุณได้มาเป็นลำดับลำดามาเรื่อยๆ ก็เป็นผู้ที่รู้จักความเป็นลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ในปหาราทสูตร ท่านตรัสไว้ 8 ข้อ อัศจรรย์นะ อัศจรรย์ไม่เคยมีมาเลย มหาสมุทรกับพุทธธรรม
1. มหาสมุทรต่ำไปโดยลำดับ ลาดไปโดยลำดับ ลึกลงไปโดยลำดับ ไม่ลึกชันดิ่งไปทันที
1. พระธรรมวินัยมีการศึกษาไปตามลำดับ มีการบำเพ็ญไปตามลำดับ ไม่ใช่มีการบรรลุอรหัตตผลโดยทันที
2. น้ำในมหาสมุทรมีปกติคงที่ไม่ล้นฝั่ง
2. สาวกทั้งหลายของเรา ย่อมไม่ละเมิด สิกขาบทที่บัญญัติไว้ แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต
3. มหาสมุทรไม่ร่วมกับซากศพ ย่อมซัดซากศพขึ้นจนถึงบนบกทันที
3. สงฆ์ (ในพระธรรมวินัยนี้)ไม่ร่วมกับผู้ทุศีลและจะขับไล่ให้ไกลจากสงฆ์
4. มหานทีทุกสาย ไหลลงสู่มหาสมุทร แล้ว ย่อมละชื่อและโคตรเดิม รวมเรียกว่ามหาสมุทรทั้งสิ้น
4. คนในวรรณะ 4 เหล่า คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร เมื่อออกจากเรือน บวชเป็นบรรพชิตในพระธรรมวินัยที่พระตถาคตทรงประกาศแล้ว ย่อมละชื่อและโคตรเดิม รวมเรียกว่าสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร ทั้งสิ้น
5. แม่น้ำสายใดสายหนึ่งในโลกที่ไหลไปรวมลงสู่มหาสมุทร และสายฝนตกลงจากฟากฟ้า ก็ไม่ทำให้มหาสมุทรพร่องหรือเต็มได้
5.ในพระธรรมวินัยนี้ แม้มีภิกษุจำนวนมากปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพาน ก็ไม่ทำให้นิพพานพร่องหรือเต็มได้
6. มหาสมุทรมีรสเดียวคือรสเค็ม
6. พระธรรมวินัยนี้มีรสเดียว คือ วิมุตติรส (ความหลุดพ้น)
7. มหาสมุทรมีรัตนะมาก มีรัตนะหลายชนิด คือ แก้วมุกดา ฯลฯ
7. พระธรรมวินัยนี้มีรัตนะมาก มีรัตนะหลายชนิด คือ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปธาน 4 อิทธิบาท 4 ฯลฯ
8. มหาสมุทรเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ขนาดใหญ่ คือ ปลาติมิ ฯลฯ มีตัวขนาดใหญ่ 100 - 500 โยชน์
8. พระธรรมวินัยเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ใหญ่ คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ และผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุอริยผล 4
(ปหาราทสูตร เล่ม 23 ข้อ 109)
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ผู้พ้นอสุรกายจึงได้ไปอยู่โลกหน้า วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 20:16:22 )
รายละเอียด
อาตมาอธิบายหรืออ่านแต่แค่ ปหาราทสูตร สูตร มหัศจรรย์ข้อแรกที่ราบลุ่มจุดฝั่งทะเลไปตามลำดับ แล้ว พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่าธรรมะของท่านเป็นลำดับ ไปโดยลำดับ ไม่ศึกษาลัดตัดความ ศึกษาไปตามลำดับ ไม่กระทำลัดตัดความ กระทำไปตามลำดับ ไม่ปฏิบัติลัดตัดความ ปฏิบัติไปตามลำดับ นี่ท่านตรัสไว้ ละเอียดเลยนะ ศึกษากระทำปฏิบัติไป
พระพุทธเจ้าท่านใช้คำว่า กระทำนั้นคือมีปฏิปทา กระทำคือ อนุปุพกิริยา ส่วนปฏิบัติไปตามลำดับ อนุปุพปฏิปทา ท่านแปล อนุปุพกิริยา ว่ากระทำไปตามลำดับ แปล อนุปุพปฏิปทา คือการปฏิบัติไปตามลำดับ ฟังก็เลยแยกยาก แต่ภาษาบาลีชัดเจน อันหนึ่งเป็นกิริยาอีกอันหนึ่งเป็นข้อปฏิบัติ แล้วท่านก็บอกว่าไม่ใช่จะบรรลุอรหัตผลโดยลัดหรือโดยตัดความ แต่นี่บอกโดยตรง มันควรตรงตามพระธรรมวินัยพระพุทธเจ้าไม่ตัดทิ้งเลย นายตเกเนวะ อัญญปฏิเวโท
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ของพระธรรมวินัยข้อที่ 1 กับข้อที่ 8 วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2564 ( 05:01:43 )
รายละเอียด
กระตือรือร้น
หนังสืออ้างอิง
อีคิวโลกุตระ หน้า 42
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:13:48 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:33:02 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:39:04 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการกายนี้คือวิญญาณ วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2563 ( 11:14:31 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:05:49 )
รายละเอียด
ตอนนี้ก็ปักหลักที่อุบลฯ สร้างธรรมชาติทุกอย่าง ได้รับที่ดินน้ำท่วมมา จนค่อยๆบูรณะขึ้นมา จนกระทั่งก็คงอยู่ที่นั่นตายที่นั่น คิดว่าเราทำประโยชน์ได้อยู่อย่างน้อยก็มีโทรทัศน์ ใครไปไม่สะดวกก็ดูตามโทรทัศน์มันก็ไม่ยากเย็นอะไรมากมายหรอก ไม่เช่นนั้นถ้าจะมาเลยก็ไปพักที่บ้านราชก็พอไปพักได้ อาตมาว่า บ้านราชฯนี่ใครไปพัก เราก็ยินดีต้อนรับทั้งนั้น เป็นรีสอร์ท ไม่มีการเก็บเงินทอง มีที่พักผ่อนมีที่สำราญใจ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12
ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันที่ 18 มีนาคม 2561
เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:58:04 )
รายละเอียด
ต้องประคับประคองพากเพียรใหม่อีก ต้องไม่หลงสุขเพียงเท่านี้
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 319
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:18:41 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:33:48 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:39:59 )
รายละเอียด
เหตุ, รากฐาน, เครื่องอาศัย, หันไปพึ่ง, สิ่งสนับสนุน, ของที่จำเป็น, วิถีทาง, เงื่อนไข, เหตุผลสำหรับ, วิธี, ความเชื่อ, ความมั่นใจ, ความเชื่อถือหรืออาศัย
หนังสืออ้างอิง
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 266
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:19:56 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:35:21 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:40:23 )
รายละเอียด
ความรู้ขั้นที่สามารถรู้แจ้งเหตุและปัจจัยที่อาศัยกัน อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล อะไรที่จำเป็นควรยึดไว้อาศัย
หนังสืออ้างอิง
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ.266
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:20:49 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 08:43:49 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:09:50 )
รายละเอียด
อาการที่เป็นปัจจัยแก่กันและกัน
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 96
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:21:36 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 11:03:02 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:40:45 )
รายละเอียด
ที่เห็นได้ชัดแจ้ง ที่รู้ได้จริง
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 500
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:23:26 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 11:03:45 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:41:05 )
รายละเอียด
แสงสว่าง ความรู้ กับตัวเรา อัตตา ต้องเข้ามาทำให้ได้เป็นตัวเราเองเสียก่อนเริ่มต้นอัญญธาตุ เริ่มต้นเป็นพระโสดาบันจากศีลข้อที่ 1 ก่อนศีลข้อที่ 2 ศีลข้อที่ 1 เรื่องเกี่ยวกับสัตว์นั้นหยาบกว่า ศีลข้อที่ 2 เกี่ยวกับพืชเกี่ยวกับข้าวของ ส่วนข้อที่ 3 ตาหูจมูกลิ้นกายนั้นยากกว่า 2 ข้อแรกอีก เรื่องของกามคุณ5
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 61 วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 14:38:50 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:07:46 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:41:35 )
รายละเอียด
เฉพาะตน
หนังสืออ้างอิง
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 91
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:24:12 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 11:08:47 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:11:48 )
รายละเอียด
1. “ธรรม” ที่ไม่มีชาติของปรมัตถสัจจะ
2. ลักษณะเฉพาะตน , ลักษณะเฉพาะของสิ่งอย่างนั้นก็ต้องเป็นอย่างนั้นตรงตามสัจจะ
หนังสืออ้างอิง
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 91,125
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:25:17 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 11:10:26 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:41:56 )
รายละเอียด
1. รู้ได้ที่ตน เฉพาะตนจริง ๆ
2. ต้องเป็นผู้รู้ตนเอง มีสภาวะที่เป็นจริงแล้วตนก็รู้ของตนเอง
3. เมื่อตนลองทำ ประพฤติพิสูจน์ดูจริง ๆ ตามคำสอนตามหลักการที่ถูกต้องแล้ว เราจะแจ้งที่ตนรู้ได้ที่ตนว่าบุญกุศลแท้ ๆ คืออะไร
4. เป็นธรรมที่จะเห็นได้แท้ รู้ได้แน่ ๆ มั่นใจได้จริงในตัวผู้บรรลุเอง ประสบกับกายและใจตนเอง ต้องเห็นเนื้อจับตัวมันที่ตนเองพึงมี พึงเป็น พึงได้จริง ๆ
5. รู้แจ้งถึงจริงในตนเอง
6. เฉพาะตนเมื่อมีเอง
7. เฉพาะตัว
8. ภาวะเฉพาะตัว
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 287
ทางเอก ภาค 2 หน้า 207
ทางเอก ภาค 3 หน้า 474
สมาธิพุทธ หน้า 217
ค้าบุญคือบาป หน้า 42 , 272
ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 375
คนคืออะไร? หน้า 268
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:28:12 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 11:12:01 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:43:05 )
รายละเอียด
ตัวผู้เกิดไม่รู้หรอก ไม่รู้ตัวหรอก ไม่มีเพื่อนทำที่รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างนี้แต่ความเป็นจิตที่เกิดนั้นมันมีจริง แต่ตัวผู้เกิดนั้นยังไม่รู้ยังไม่มีปัญญารู้สมมุติ แต่ปรมัตถ์มันเกิด จิตมันเกิด แต่สมมุติไม่รู้ แต่นอกจากเป็นผู้มีบารมี มีภูมิบารมีสูง ก็จะรู้ว่าตัวเองเป็น เช่นผู้ที่มีบารมีแล้วมาปฏิบัติมันซับซ้อน ในชาตินี้ เกิดมาก็เป็นลิงลมอมข้าวพองเหมือนคนโลกๆ อยากจะไปทางโลกีย์ แต่เมื่อได้รับอะไรเกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตก็จะรู้เองเข้าใจเองเลย จะรู้ด้วยตนเองเป็นปัจจัตตัง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์วันอาสาฬหบูชา วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 10:10:41 )
รายละเอียด
คือ รู้ได้เป็นของตัวเอง เป็นเอง สะสมมาจนได้ระดับหนึ่งก็เป็น ปัจเจก ปัจจัตตัง คือสว่างในตัวเองมีปัญญา แล้วก็เริ่มเป็นตัวผู้หนึ่ง เป็นปัจเจก เป็นของตัวเอง เป็นหนึ่งจากปัจเจกเต็มที่เรียกว่าเป็น สยังอภิญญา ข้ามชาติมาได้เอง แต่ว่าในยุคที่ไม่มีใคร ก็ยังมี สัมมพิฏฐิ มาทำให้สัมมาปฏิบัติ สัมมาปฏิเวชได้ เลยสยังอภิญญา ก็เป็นขั้นของสัมมา สัมพุทธะ จนเป็นปัจเจก สัมมาสัมพุทธะ ถึงขั้นเท่ากัน เท่าพระพุทธเจ้าเลยมีพระสัพพัญญูเท่ากับพระพุทธเจ้า แต่ที่ต้องเรียก ปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ เพราะว่า ท่านองค์นี้ไม่ประกาศศาสนาขึ้นมาเลยในโลกว่าข้าพเจ้า เป็นเจ้าของศาสนาพุทธ ไม่ได้ประกาศต่อหน้าธารกำนัล ไม่ได้ประกาศต่อหน้ามนุษย์โลก แล้วท่านก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปโดยไม่ได้สร้างศาสนาเลยในโลกตัวเอง แม้จะประกาศแค่วันเดียวก็ไม่ได้ประกาศ ถึงไม่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของศาสนา จึงไม่ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งในโลก แต่ท่านมีสัพพัญญูเท่ากับพระพุทธเจ้าได้ นี่คือรายละเอียด ที่อาตมาพยามให้ความรู้ แต่ท่านเป็นสัพพัญญูองค์หนึ่ง เป็นสยัมภูหนึ่งแล้ว ท่านก็มีอิสระเสรีภาพที่จะปรินิพพานเป็นปริโยสานไปได้ ไม่มีใครมายุ่งกับท่าน
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 13:02:43 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:10:18 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:44:21 )
รายละเอียด
คือเรารู้ได้ด้วยตนเอง คำเต็มคือ ปัจจัตตังเวทิตับโพวิญญูหิติ ผู้ที่มีธาตุรู้ ปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูฮีติ คือ การรู้อย่างอาริยะ แต่โดยทั่วไป คำว่าปัจจัตตัง หมายถึงตัวเองรู้เอง แต่ของพวกเราเอง หมายถึงรู้โลกุตระ หมายถึง ต้องปฏิบัติ ตั้งแต่เริ่มต้นฟังคำสอน บัญญัติ ทฤษฎี เมื่อไรผลก็จะรู้ด้วยตัวเองเห็นแต่ตัวเอง กายกรรมก็รู้ตรงกันหมด วจีกรรมและ มโนกรรม ปัจจัตตังก็มี ตั้งแต่พระอาริยะระดับเริ่มต้นเลย ถ้าจะอธิบายอย่างละเอียด เช่นโกญทัญญะ เริ่มได้ฟังคำสอนพระพุทธเจ้า เมื่อได้ฟังแล้วจิตใจก็เปลี่ยนเลย จิตใจที่เป็นโลกียะเปลี่ยนมาเป็นจิตใจที่รู้ที่เข้าใจ จิตนี้ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นโลกุตรจิต
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 81 วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 13:26:11 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:13:39 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:44:47 )
รายละเอียด
คือ ตั้งแต่พระโสดาบัน เป็นต้นไป ต้องได้รับความรู้จากครู สัตบุรุษ ปัจจัตตังท่านเรียกซ้อนว่าปัญญาชน หรือ สัตบุรุษ คุณเอาคำสอนมาปฏิบัติจนสำเร็จผลเป็นปัจจัตตังเวทิ ตัพโพวิญญูฮีติ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 81 วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 13:39:18 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:15:11 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:13:02 )
รายละเอียด
คือ ผู้เริ่มมี“อัญญธาตุ” นี้คือ“ธาตุรู้”ของเรา“ตัว ใหม่”ที่ไม่เหมือนความรู้ตระกูลโลกีย์เดิม ซึ่งโลกีย์เดิมก็อยู่ ใน“วงวน”ของการได้ลาภยศสรรเสริญสุขแล้วเป็นสุขหรือ เสื่อมลาภยศสรรเสริญก็ทุกข์ วนไปวนมาอยู่แล้วๆเล่าๆ ออกจาก“โลก”แบบเก่านี้ไม่ได้สักที หมุนไปหมุนมาอยู่กับ โลกธรรม8 นี้ ไม่ออกไปได้นั่นแหละ
หนังสืออ้างอิง
คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 315
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 13:43:51 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:19:02 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:15:10 )
รายละเอียด
เริ่มจากปัจจัตตัง ปัจจะคือแจ้งสว่าง รู้ได้ด้วยตนเอง หมายความว่าตัวเองสัมผัสแตะต้องตัวเองเกิดขึ้นในตัวเองเรียกว่าปัจจัตตัง
แล้วก็มาเป็นปัจเจก จากปัจเจกแล้วก็จะมาเป็น สยังอภิญญา จากนั้นก็จะเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า มี 5 ขั้น ปัจจัตตัง ปัจเจก สยังอภิญญา ปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ สัมมาสัมพุทธะ
จะมาเป็นสมณะพราหมณ์ในข้อที่ 10 ของสัมมาทิฏฐิ ที่รู้ที่ชัดจริง เพราะสัมมาทิฏฐิทั้ง 10 ข้อ แน่นอนผู้ที่เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สยังอภิญญา ก็จะต้องรู้ถูกต้องตั้งแต่ข้อหนึ่งของสัมมาทิฏฐิ จนถึงข้อที่ 9 ว่าคืออะไร แล้วก็เอามาอธิบาย เอามาขยายความ
เป็นส่วนแห่งบุญ(ปุญญภาคิยา) ให้ผลวิบากแก่ขันธ์(อุปธิเวปักกา).
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราชฯ วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:36:42 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:20:08 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:17:41 )
รายละเอียด
คือ ผู้ปฏิบัตินั้น ปฏิบัติแล้วผลธรรมก็เกิดในตน ผลธรรมนั้นในตนนี้แหละ ที่ตนเองมีญาณหยั่งรู้ความจริงของธรรมนี้ ที่วิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า.83
เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 12:54:13 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:18:44 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:19:16 )
รายละเอียด
1. รู้แจ้งของตนด้วยตนเอง
2. เป็นผู้ฉลาดเอง เจริญปัญญาที่ตนเองแท้ ๆ รู้ยิ่ง รู้จริง รู้ชัดแท้ ๆ ไม่พร่ามัว ไม่หลง ไม่สับสน ไม่วน
3. บรรลุความจริงนี้ด้วยตนเอง รู้แจ้งเห็นจริงโดยไม่ต้องไปเชื่อใคร
4. จะรู้ได้ด้วยตนเองเฉพาะตน
5. รู้แจ้งสัมผัสจริงได้ด้วยตนเองในตนเองของตนเอง
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 401
ทางเอก ภาค 3 หน้า 39
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 161, 208
วิถีพุทธ หน้า 110
เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 20:32:26 )
เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2563 ( 11:14:35 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:21:11 )
รายละเอียด
คือ “ความรู้”แบบ โลกุตระที่เป็น“ธาตุรู้อันยิ่ง”ซึ่งสามารถรู้“ความตรัสรู้”ของ พระพุทธเจ้าได้อย่าง“สัมมาทิฏฐิ”แท้จริง(ความรู้นี้หากจะเรียกว่า “พระเวท”ก็ต้องเป็น“พระเวท”ของพระพุทธเจ้าอย่างสัมมาทิฏฐิที่ถูกแท้ตรง จริง ไม่ใช่“พระเวท”ของพราหมณ์หรือแม้แต่“พระเวท”ของเดียรถีย์) จึงจะ ชื่อว่า เกิด“ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ”ขึ้นในจิตคนผู้นั้น (หน้า.314) หรือ“ธาตุรู้ที่เป็น‘อัญญะ’นี้มันรู้แบบใหม่”ซึ่งเป็น“การ มี“ปัญญา”รู้พิเศษออกจากกรอบโลกีย์ที่วนไปวนมาในโลก ธรรมนั้นได้” “จิตเป็นอิสระ” ตนเอง“หลุดพ้น”ออกมามี “อิสระ” จิตไม่มีอาการผูกใจเป็นกิเลสอยู่หรือยึดกับการได้ สิ่งนั้นหรือไม่ได้สิ่งนั้นแล้วก็“สุขหรือทุกข์” ผู้“หลุดพ้น”จิต ก็เป็น“เอกราชทั่วทั้งแผ่นดิน”
หนังสืออ้างอิง
คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 314-315
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 13:48:07 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:21:09 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:25:43 )
รายละเอียด
อย่างโลกุตระนี้จะมีคนรู้มากหรือคนรู้น้อย..น้อย .. เพราะฉะนั้นจึงมีคนรู้น้อยอยู่ ก็เป็นสัจจะ อาตมาถึงไม่ตื่นเต้นตกใจอะไร ไม่มีคนรู้อะไรอาตมามากมาย ส่วนพวกที่ผิดที่ไม่รู้มีอวิชชาก็ต้องมีเยอะแน่นอนไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้ตกใจตื่นเต้นเป็นธรรมดาธรรมชาติแต่ไหนแต่ไรมา อาตมาไม่เคยตื่นเต้น ทำงานศาสนาตั้งแต่อายุ 36 จนป่านนี้ไม่มีอะไรที่จะตื่นเต้นตกใจอย่างนั้นเลย
นี่เป็นสัจจะเข้าไปที่กายที่จิตอีกทีหนึ่งว่า ถ้าแยกกายแยกจิตอย่างนี้ไม่สัมมาทิฏฐิแล้ว คุณก็ไม่สามารถทำให้จิตของคุณเป็นกลาง ไม่ทุกข์ไม่สุขได้ มันเป็นกลางเพราะมันไม่มีเหตุปัจจัยที่จะไปปรุงแต่งอีกแล้ว จิตของคนที่ไม่มีเหตุปัจจัยไปปรุงแต่งว่ามันทุกข์มันสุข แล้วยิ่งจิตของคนไม่มีการปรุงแต่งเป็นสุขเป็นทุกข์ไปเรื่อยๆ มีความสะอาดเป็น ปริสุทธา มีจิตอุเบกขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งปริโยทาตา ปริสุทธายิ่งบริสุทธิ์ขึ้นกว่าเก่า มุทุตาก็ยิ่ง สะสมจิตที่บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นๆ ยิ่งมีประสบการณ์ กัมมัญญตา ทำงาน มีกรรมกิริยา มีการกระทบสัมผัสอีกยิ่งชำนาญยิ่งเกิดทักษะยิ่งทำได้ดีได้เร็วได้มาก สั่งสมลงไปเป็น มุทุภูตธาตุ จิตก็ยิ่งประภัสสร ใสสะอาด สะอาดใสไปเรื่อยๆ นี่คือองค์ธรรม 5 ของบริสุทธิ์หรือของอุเบกขา อาตมาก็อธิบายย้ำๆมา
เพราะฉะนั้น คนที่ทำได้อย่างนี้ ก็ยืนยันว่าตัวเองได้เป็นปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิ คนที่ทำได้ตรงกัน
เพราะฉะนั้นคนที่แยกกายแยกจิตได้อย่างที่อาตมาว่ามานี้ ถึงจะบรรลุอรหันต์ ทีนี้ที่มันไม่บริสุทธิ์ มันไม่ปริสุทธา ไม่ปริโยทาตา เพราะมีกิเลสมาปรุงแต่งทำให้ไม่บริสุทธิ์ขึ้น คุณก็ต้องรู้ หยาบ กลาง ละเอียด เหลือน้อยเป็นอรูป คุณก็ต้องเอาออกให้หมด หมด เป็นจิตที่หมดตาม เจโตปริยญาณ 16 ราคะโทสะ โมหะ สกุลใหญ่ 3 ทำให้มันเป็น วีตะ ทำให้มันไม่มี ทำให้มันออกมา วีตราคะ วีตโทสะ วีตโมหะ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเอื้อไออุ่น งานตลาดอาริยะ 2566 วันศุกร์ที่ 14 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 20:52:47 )
รายละเอียด
ผู้ที่เริ่มศึกษาไปจะมีสภาวะจะเข้าใจได้มากขึ้นว่า เราสัมผัสได้เองเป็นปกติทางของเราเอง เราก็จะรู้ของเราได้เอง แล้วก็จะตรงกับคนอื่นที่มีความรู้ที่ตรงกัน มันจะตรงกันจริงๆเลย แต่มันต่างคนต่างเห็นต่างคนต่างสัมผัสของตัวเองกัน ก็ต้องรู้ที่จิตของเราเองวิญญาณของเราเอง เราก็ดูของเราเอง เราก็จะรู้เห็นของเราเอง ของใครก็ต้องดูของใคร ของคนนั้นก็ต้องรู้ของคนนั้น มันก็จะรู้ความจริงตามความเป็นจริงของตัวเอง จึงจะเป็นปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิติจะรู้แจ้งของตัวเอง เพราะฉะนั้นผู้ที่มาเรียนรู้แล้ว หากไม่มีสภาวะธรรม ได้แต่คาดคะเนเดาเอา ว่าอย่างโน้นอย่างนี้ อย่างนี้อย่างโน้น ก็จะพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง รู้เรื่องก็พูดกันอย่างเลอะ รู้กันไม่ตรงกันไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พูดไปก็ไปไหนมาสามวาสองศอก
ที่มา ที่ไป
รายการบ้านราช วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:45:00 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:23:44 )
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 15:31:51 )
Facebook : test
Youtube : Name
Twitter : Name
Line : Name
Telegram : Name
Wechat : Name
Skype : Name