@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

โทษ 2 อย่างคือขิฑฑาคือความเพลิดเพลินกับมโนพวกปฏิบัติธรรมหลงจิต

รายละเอียด

1. ขิฑฑาปโทสิกะ กับ 2. มโนปโทสิกะ ปโทสิกะ แปลว่าเป็นโทษ เหมือน อาทีนวะนี่แหละ ขิฑฑาคือ ความสนุกรื่นเริงเพลิดเพลิน อาตมาดูโทรทัศน์เต็มไปด้วยการบันเทิงเริงรมย์เยอะ นอกจากนั้นคุณก็ขายสินค้าของคุณ ถ้าไม่ขายสินค้า คุณก็จะล่อให้คนมาดู ร้านนี้หรือช่องนี้จะประกาศขายสินค้า ก็เปิดช่องขายสินค้า แต่ช่องที่จะต้องการให้คนมาดู เต็มๆ มากๆ ก็ต้องเอาความรื่นเริงบันเทิง ขิฑฑา อันเป็นโทษนี่แหละมาหลอกมาล่อ มาใส่เข้าไป โฆษณาปรุงแต่งรสชาติความสนุกรื่นเริงสารพัด ติดกันหนุบหนับๆ ไม่รู้ ว่าเป็นอวิชชา ไม่รู้ๆ อาตมาเห็นแล้วก็น่าสงสาร แล้วเมื่อไหร่เขาจะรู้ตัวนะ 

เทวนิยมทั้งหมด หมดทางที่จะช่วย ช่วยคนโดยเฉพาะ ศาสนาพุทธนี้ก่อนเถอะ ถ้าช่วยได้มากเป็นอรหันต์กันมากจริงๆแล้วจะได้ไปช่วยคนอื่นต่อ พระพุทธเจ้าท่านเปิดฉากสอนคนเป็นอรหันต์ 60 รูปแรก แล้วท่านก็ต่อ ก็ได้ต่อๆไปเรื่อยๆ ตามประวัติตำนาน ส่วน มโนปโทสิกะ ก็พวกเอาปฏิบัติธรรม หลงจิตเป็นโทษ มโนปโทสิกะ หลงจิตเป็นโทษ ไม่เข้าใจเรื่องจิต ปฏิบัติจิตทำใจในใจทำจิตในจิต ทำใจในใจผิดเป็นโทษ ซึ่งมันจะไม่สำเร็จ ไม่สำเร็จผล 

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าทางที่จะทำให้ล้างกิเลสทั้งขิฑฑาปโทสิกะ ทั้งมโนปโทสิกะ ซึ่งมี 2 อันเท่านี้แหละ สายกาม กับสายอัตตา  อัตตาคือ มโนปโทสิกะ ส่วนกามคือ บันเทิงเริงรมย์ขิฑฑาปโทสิกะ เป็นการสัมผัสทางทวารภายนอก ส่วนอัตตาไม่ใช่สัมผัส แต่เป็นตัวที่แน่นเป็นก้อนเข้าไปเรื่อยๆ เป็น 2 จุดทางใหญ่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือพ่อครัวผู้ปรุงอาหารโลกุตระ วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2565 ( 15:12:08 )

โทษ 5 ประการ หากทำการกล่าวหรือทำคำกล่าวผิดไปจากสรภัญญะ

รายละเอียด

คือ

1. ตนยินดีในเสียงนั้น

2. คนอื่นก็ยินดีในเสียงนั้น

3. ชาวบ้านติเตียน

4. สมาธิของผู้พอใจการทำเสียงย่อมเสียไป

5 ภิกษุชั้นหลังจะถือเป็นเยี่ยงอย่าง

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า158


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 13:58:02 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:14:21 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:04:05 )

โทษของคนทำปาราชิก

รายละเอียด

แค่การโกหกอุตริมนุสธรรมก็เป็นปาราชิก

โลกุตรธรรมเราไม่มีแล้วก็ไปโกหกว่ามี คนคนนี้เป็นปาราชิกตัดสะพานเลยข้ามฝั่งไม่ได้ ต้องอยู่ฟากฝั่งโลกีย์เลยไม่มีสิทธิ์จะข้ามฟากฝั่งมา แต่อย่างน้อยถ้าที่มีชีวิตในชาตินี้ เพราะฉะนั้นถ้าใครปาราชิกนี้ ถูกตัดหัวก็ตายสนิทมันถูกตัดหัวเหมือนกระเบื้องแตกสองเสี่ยง เอามาต่อกันไม่ได้แม้ว่าจะมีกาวอีพ๊อกซี่ติดแน่น และกลบร่องรอยเลย มันก็ยังเห็นรอยต่อได้แหละ แต่หากขยายออกไปมากๆมันไม่ใช่เนื้อแท้เดียวกันแล้ว เหมือนกับใบไม้เหลืองที่ร่วงแล้วหล่นจากขั้วจากต้นแล้ว จะเอาไปต่อให้ติดเหมือนเดิมไม่ได้ เหมือนกับคนเป็นปาราชิกแล้วตัดขาดจากศาสนาพุทธไปชาตินี้เลยไม่สอนไม่เอื้อเฟื้อธรรมะเลย ถ้าหากเข้ามาในรัศมีที่เรากำลังพูดกำลังเทศน์ธรรมะ ถ้าเรารู้ก็ให้ออกไปก่อนเลยคนนี้จะต้องออกจากรัศมีนี้ หรือไม่เราก็หยุดเทศน์จนกว่าเขาจะออกไป ไม่ให้ได้ยินได้ฟังถ้าเรารู้ แต่ถ้าเขาแอบศึกษาค้นคว้าเองก็เป็นเรื่องของเขาเป็นสิทธิของเขา เราก็จำนนเพราะเราไม่รู้แต่ถ้าเรารู้เราก็ไม่ให้ทุกประตู นี่คือโทษของคนทำปาราชิก แต่เดี๋ยวนี้มันผิดเพี้ยนไปเป็นสมีก็ยังลงสังฆกรรมร่วมกันเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 37 วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2561 


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:58:09 )

โทษของผู้อยู่ประจำที่ 10

รายละเอียด

โทษของผู้อยู่ประจำที่ 10 โทษของภิกษุในการอยู่ประจำที่  คือ

1. เป็นผู้ตระหนี่ (หวงไม่อยากให้)ที่อยู่

2. เมื่อจะหลีกไปจากที่อยู่นั้น มีความห่วงใยหลีกไป

3. ตระหนี่สกุล (หวงพวก)

4. อยู่คลุกคลีด้วยคฤหัสถ์และบรรพชิต  ด้วยการคลุกคลีกับคฤหัสถ์อันไม่สมควร

5. ตระหนี่ลาภ

6. มีสิ่งของมาก  มีการสะสมสิ่งของมาก

7. ตระหนี่วรรณะ (หวงตัว)

8. มีเภสัช(ยารักษาโรค)มาก มีการสะสมเภสัชมาก

9. ตระหนี่ธรรม

10. มีกิจมาก  มีหน้าที่ต้องทำมาก ไม่ฉลาดในกิจที่ต้องทำ

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 22 “อภินิวาสสูตร” ข้อ 223   และ

พระไตรปิฎกเล่มเล่ม 22 “มัจฉรสูตร” ข้อ 224

หนังสืออ้างอิง

หนังสือธรรมพุทธสุดลึก 


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2562 ( 17:31:56 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:13:05 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 13:33:33 )

โทษของผู้อยู่ประจําที่ 10

รายละเอียด

โทษของภิกษุในการอยู่ประจําที่ คือ

1. เป็นผู้ตระหนี่ (หวงไม่อยากให้ที่อยู่)

2. เมื่อจะหลีกไปจากที่อยู่นั้น มีความห่วงใยหลีกไป

3. ตระหนี่สกุล (หวงพวก)

4. อยู่คลุกคลีด้วยคฤหัสถ์และบรรพชิตด้วยการคลุกคลีกับคฤหัสถ์อันไม่สมควร

5. ตระหนี่ลาภ

6. มีสิ่งของมาก มีการสะสมสิ่งของมาก

7.ตระหนี่วรรณะ (หวงตัว)

8. มีเภสัช(ยารักษาโรค)มาก มีการสะสมเภสัชมาก

9. ตระหนี่ธรรม

10.มีกิจมาก มีหน้าที่ต้องทํามากไม่ฉลาดในกิจที่ต้องทํา

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 22 “อภินิวาสสูตร” ข้อ 223 พระไตรปิฎกเล่ม 22 “มัจฉรสูตร” ข้อ 224


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2565 ( 03:24:38 )

โทษของผู้เที่ยวไปนาน 8

รายละเอียด

โทษของภิกษุผู้เที่ยวไปนาน ไม่มีกำหนด คือ

   1. ย่อมไม่ได้ฟัง สิ่งที่ยังไม่เคยฟัง

   2. ไม่ได้บรรลุคุณวิเศษ ที่ยังไม่ได้บรรลุ

   3. ไม่เข้าใจชัด สิ่งที่ได้ฟังแล้ว

   4. เสื่อมจากคุณวิเศษ ที่ได้บรรลุแล้ว

   5. ไม่แกล้วกล้า ด้วยสิ่งที่ได้ฟังแล้วบางประการ

   6. ไม่แกล้วกล้า ด้วยคุณวิเศษ ที่ได้บรรลุแล้วบางประการ

   7. ได้รับโรคเรื้อรังอย่างหนัก

   8. ไม่มีมิตร

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 22 "ทีฆจาริกสูตรที่ 1, 2" ข้อ 221, 222

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก 


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2562 ( 14:36:42 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:11:22 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:04:31 )

โทษของผู้เที่ยวไปนาน 8

รายละเอียด

โทษของภิกษุผู้เที่ยวไปนาน ไม่มีกําหนด คือ

1. ย่อมไม่ได้ฟัง สิ่งที่ยังไม่เคยฟัง

2. ไม่ได้บรรลุคุณวิเศษ ที่ยังไม่ได้บรรลุ

3. ไม่เข้าใจชัด สิ่งที่ได้ฟังแล้ว

4. เสื่อมจากคุณวิเศษ ที่ได้บรรลุแล้ว

5. ไม่แกล้วกล้า ด้วยสิ่งที่ได้ฟังแล้วบางประการ

6. ไม่แกล้วกล้า ด้วยคุณวิเศษที่ได้บรรลุแล้วบางประการ

7. ได้รับโรคเรื้อรังอย่างหนัก

8. ไม่มีมิตร

 

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 22 “ทีมจาริกสูตรที่ 1, 2” ข้อ 221,222


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2565 ( 19:18:21 )

โทษของวิจิกิจฉา 5

รายละเอียด

โทษของวิจิกิจฉา 5 (ความลังเลสงสัยให้โทษ)

1. ทำให้ทุกข์  
2. ระกำช้ำระบม  
3. ไร้พลัง จิตไม่แล่น  
4. เนิ่นช้า บรรลุช้า  
5. เหยาะแหยะ ไม่เด็ดขาด

หนังสืออ้างอิง

สรรค่า-สร้างคน  โดย.. พ่อครูสมณะโพธิรักษ์


เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2562 ( 13:59:47 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:38:20 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:04:54 )

โทษของวิจิกิจฉา 5 ประการ ความลังเลสงสัยให้โทษ

รายละเอียด

1. ทำให้ทุกข์  

2. ระกำช้ำระบม  

3. ไร้พลัง จิตไม่แล่น  

4. เนิ่นช้า บรรลุช้า  

5. เหยาะแหยะ ไม่เด็ดขาด  

เพราะฉะนั้นใครที่จะมาอยู่กับชาวอโศก หากยังไม่แน่เต็มร้อยนะ ลังเลยังข้องใจ ไม่ได้เรื่องหรอกมาก็ เข้ามาแปะๆ แมะๆ ไม่ได้อะไรจากสัจธรรมหรอก เหยาะแหยะไม่เด็ดขาด ถ้ายังมีวิจิกิจฉาก็เด็ดอะไรก็ไม่ขาดหรอก เป็นใย ดีไม่ดี เป็นใย เหมือนเสลดอาตมา มันเหนียวจริงๆ เลย เสลดออกมาแต่ละทีกว่าจะขาด เอาไปให้โรงงานอีพ็อกซี่เขาซื้อ มันเหนียวยิ่งกว่ากาวช้าง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประเด็นโลกุตระจากงานศพอาจารย์สมเกียรติ วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2564 ( 11:55:38 )

โทษที่กล่าวร้ายพระอาริยะ 11

รายละเอียด

ผู้ใดด่าว่าเพื่อนพรหมจรรย์ (ผู้ประพฤติธรรมอันประเสริฐ) กล่าวโทษพระอาริยะ จะฉิบหาย 1 ใน 11 อย่างนี้

1. ไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ

2. เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว

3. สัทธรรม (ธรรมที่ดีแท้) ย่อมไม่ผ่องแผ้ว

4. เข้าใจผิดว่าตนได้บรรลุสัทธรรม

5. ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ (ธรรมอันประเสริฐ)

6. ต้องอาบัติ/มีความผิดเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง

7. เลิกปฏิบัติธรรมเวียนกลับเพื่อความเลวต่ำช้า

8. เป็นโรคร้ายแรงหนัก

9. ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน

10. ตายด้วยความหลงผิด (อยู่อย่างประมาท  ชอบทำบาปให้แก่ตน  ตายไม่มีสติ)

11. ย่อมเข้าถึงอบาย (ความฉิบหาย) ทุคติ (ไปชั่ว) วินิบาต (ตกต่ำทรมาน) นรก (เร่าร้อนใจ)       

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 24 “พยสนสูตร” ข้อ 88, 213

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2562 ( 21:22:37 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:09:49 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:05:28 )

โทษที่กล่าวร้ายพระอาริยะ 11 

รายละเอียด

ผู้ใดด่าว่าเพื่อนผู้ปฏิบัติธรรม กล่าวร้ายพระอาริยะ จะฉิบหาย 1 ใน 10 อย่างนี้ 1. ไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ

2. เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว

3. สัทธรรม (ธรรมที่ดีแท้) ย่อมไม่ผ่องแผ้ว

4. เข้าใจผิดว่าได้บรรลุสัทธรรม

5. ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ (ธรรมอันประเสริฐ)

6. มีความผิดเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง

7. เลิกปฏิบัติธรรมเวียนกลับมาเลวต่ำช้า

8. เป็นโรคร้ายแรงหนัก

9. เป็นบ้ามีจิตฟุ้งซ่าน

10. ตายด้วยความหลงผิด

11. ย่อมเข้าถึงอบาย(ความฉิบหาย) ทุคติ(ไปชั่ว)วินิบาต (ตกต่ำทรมาน) นรก (เร่าร้อนใจ)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 24 “พยสนสูตร” ข้อ 88, 213


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2565 ( 08:58:33 )

โทษภัยของกรรมวิบากที่สั่งสมมีจริง

รายละเอียด

มันเป็นเรื่องของความผิดธรรมดา อย่าไปสั่งสมความผิดธรรมดา วิตถารเพิ่มขึ้นมันซวย เพราะมันสั่งสมมันก็จะยิ่งหนักเข้าไปอีก  หนักเข้าไปอีก คุณก็จมเข้าไป กรรมวิบากมีจริง เริ่มคิดเริ่มพูดก็ทำก็ครบเลย กายกรรมวจีกรรมมโนกรรม มันก็ตกเป็นขี้ปากที่คุณจะพูดเข้าไปเท่าไหร่ๆ ก็ยิ่งสะสมเป็นวิบาก คุณต้องรู้จัก โทษภัยของกรรมวิบากที่สั่งสม อย่าไปสั่งสมกรรมวิบากที่เป็นอกุศลที่ไม่ดี มันชั่ว มันผิด มันไม่ดี สิทธิเสรีภาพเป็นการแก้ตัวอย่างง่ายๆเท่านั้น

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 10:56:37 )

โทษภัยของการล่วงเกินพระอาริยะ

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าการล่วงเกินพระอาริยะจะมีโทษภัย 11 ประการ แล้วคุณจะไปล่วงเกินท่านทำไม ถ้าไม่รู้คุณก็ซวยไปเอง แต่ถ้ารู้แล้วจะไปล่วงเกินท่านทำไมแม้จะเป็นพระโสดาบันก็ตาม พระพุทธเจ้าตรัสไว้เป็นความจริงทั้งนั้นไม่ได้ขู่ เป็นกรรมวิบากที่เป็นอันทำ คนไม่เชื่อก็ประมาท เขาก็ทำ อย่างอาตมานี้เขาไม่กลัว แต่กรรมมีจริง หากคุณรู้ก็หยุดเถอะ อาตมาใจไม่ได้ผูกใคร ไม่ได้เขียนเสือให้วัวกลัว ว่าอย่ามาแตะต้องฉัน ฉันใหญ่นะ ไม่ใช่อย่างนั้น บอกด้วยความจริงใจ บอกอย่างที่พระพุทธเจ้าบอกว่ามันเป็นโทษภัย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เตวิชชสูตร ตอน1 วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:18:50 )

โทษสมบัติ 6 ประการของนักการเมือง 

รายละเอียด

หันมองไปทางสังคมการเมือง เศรษฐกิจก็ตาม มีโทษสมบัติ 6 ประการ คุณเดชา บอกเห็นด้วย ในเรื่องที่มีโทษสมบัติ 6 ประการที่เห็นด้วย เห็นด้วยอย่างยิ่ง 

โทษสมบัติ 6 ประการของนักการเมือง 

1. อวดตัวเอง

2. เบ่งอำนาจ 

3. ฉลาดโกง 

4. โขมงโม้แหลก 

5. แจกมีเล่ห์ 

6. ทำเท่โง่ๆ 

แสบไหม  ปฏิเสธไม่ได้หรอก 

ลองสังเกตดูนะ พลเอกประยุทธ์นี้ 

1. อวดตัวเองไหม

2. เบ่งอำนาจ ไหม

3. ฉลาดโกง ไหม

4. โขมง โม้ แหลก ไหม

5.แจกมีเล่ห์ ไหม

6.ทำเท่โง่ๆ ไหม

….ไม่ คนอะไรวะ ไม่มีโทษสมบัติเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่มันเป็นปรากฏการณ์จริง มีพฤติกรรมจริงปรากฏอยู่ในโลกในสังคมมนุษย์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เกิดมาต้องรู้จักความเป็นคนกับสังคมจึงไม่เสียชาติเกิด วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 เมษายน 2566 ( 13:29:09 )

โทสะมูลกับราคะมูล

รายละเอียด

ปฏิฆะ หรือสายโทสะนี้มันจะหมดก่อนราคะ ถ้าปฏิฆะ ภาษาในหลักการของอนุสัยก็ดีสังโยชน์ก็ดี กามจะขึ้นก่อนปฏิฆะ แต่ปฏิฆะนี้จะหมดก่อนกาม เพราะปฏิฆะเป็นทุกข์ แต่กามมันเป็นสุข ปฏิฆะเป็นอาการทุกข์อาการไม่สบายเป็นอาการสายโทสะมูล แต่ กามสายราคะมูล ชอบใจบำเรอใจมันเลยทิ้งยาก ทิ้งทีหลังแต่ต้องทำก่อน มันเป็นทั้งแกนต้นและแกนปลาย ข้อสำคัญคืออ่านอาการสองตระกูลนี้ทั้งสองอย่างนี้เพื่อจะเปรียบเทียบ 2 เสมอ เรียกว่าเทวธัมมา เทวะ แปลว่าธัมมะสอง เปรียบเทียบไปตั้งแต่ต้นจนจบสุดท้ายถึงขั้นแยกสภาพของอสัญญีสัตว์กับเนวสัญญานาสัญญายตนสัตว์ คู่สำคัญคู่สุดท้ายที่จะต้องชัดเจน 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 15:43:19 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:14:56 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:06:03 )

โทสะเกิดเพราะโง่

รายละเอียด

ดี แรงๆ พูดได้ บอกแรงๆ ได้ ถ้าเผื่อว่ามันต้องรีบด่วน จะต้องบอก เร็วๆ แรงๆ ก็พูดได้ ยิ่งอยู่ไกลต้องตะโกนบอก ได้ แต่นี่มีโทสะด้วย ที่บอก พูดแรงๆ (โทสะ) ดีนะที่รู้ตัวว่าตัวเองมีโทสะ ก็มีกิเลสสิ จะไปตกภพอะไรก็รู้ตัวเองอยู่ว่าตัวเองมีกิเลสโทสะ ดีนะที่รู้ตัวเอง พิจารณาให้เห็นว่าโทสะมันเกิดเพราะตัวเราเองไปโง่ให้มันเกิดอาการนี้ในจิต คนที่มีอาการราคะโทสะอยู่ ก็คืออาการไม่ปกติ มากน้อยแล้วแต่ มีน้อยก็ไม่ปกติน้อยๆ คนปกติคือคนเป็นพระอรหันต์ ไม่มีอาการราคะ โทสะ โมหะ เลย จบสมบูรณ์แบบ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การถืออยู่ป่าของพระป่าเป็นสิ่งผิดตามธุดงควรรคที่ 6 วันพุธที่ 5 กรกฎาคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2566 ( 12:36:39 )

โป้ปฟรานซิส

รายละเอียด

ท่านก็เป็นสายที่มักน้อยสันโดษนะ  สายฟรานซิสโก้  เราเคยดูหนังเป็นคนมักน้อย สันโดษด้วย  แต่ไม่เที่ยงหรอกเพราะไม่มีนิพพาน  ไม่รู้จักทำให้ 0 ได้อย่าง กดข่ม ก็ยังวนเวียน กับสวรรค์ และ นรกอยู่  ไม่รู้วิธีว่าทำให้ตัวเองลงนรกได้อย่างไร เป็นแต่เพียงค้างอยู่ว่าให้เราดีที่สุด เป็นนักบุญไปอยู่กับพระเจ้าเมื่อตายแล้ว  ทุกคนของศาสนาเทวนิยมเมื่อตายแล้วก็ไปอยู่กับพระเจ้าทั้งนั้น  ต้องพยายามทำให้ดี แล้วพระเจ้าจะได้ส่งไปเมืองสวรรค์ ไม่ส่งไปลงนรก แต่ก็ไม่รู้ว่าทำดีถึงขีดไหนจะไม่ลงนรก  ศาสนาอื่น ไม่มี  สมณะ 1 2 3 4 แบบศาสนาพุทธ

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ ปฐมอโศก วันพุธที่  20 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2562 ( 17:11:53 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:47:29 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 13:34:45 )

โผฏฐัพพะ

รายละเอียด

1. สัมผัสทางกาย 

2. สัมผัสจากภายนอก 

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 493, ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 255


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 15:20:29 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:18:48 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:07:02 )

โผฏฐัพพะสำคัญอย่างไร

รายละเอียด

โผฏฐัพพะนี่แหละ คนลืมเลือน นักปฏิบัติธรรมต่างๆไม่เห็นความสำคัญ แต่ที่จริงแล้วสำคัญมาก โผฏฐัพพะ จะว่าจริงๆ แล้ว โผฏฐัพพะ ก็มี 5 ทวาร ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เรียกว่า โผฏฐัพพะ สัมผัสภายนอก ภายนอกแตะต้องกระทบสัมผัส เมื่อสัมผัสเราก็ต้องพิจารณาอะไรเป็นอะไรจะเกิดอารมณ์เกิดเวทนา เวทนานี่แหละเป็นตัวหลักตัวสำคัญที่สุดที่จะต้องอ่านอาการของเวทนาเสมอๆ ผู้ปฏิบัติธรรม แม้ไม่ปฏิบัติธรรมก็ต้องควรจะรู้ ควรจะต้องระมัดระวัง ที่จริงแล้วธรรมดาๆ คนก็รู้โดยอัตโนมัติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน บุญนิยม คืออะไร และอปันกธรรม 3


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 13:38:34 )

โพชฌ

รายละเอียด

ตรัสรู้

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 91


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 07:07:33 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:19:36 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:08:46 )

โพชฌงค์

รายละเอียด

1. องค์แห่งการตรัสรู้ หรือคือหน่วยพลังงานจิตนั้นมีคุณภาพถึงขั้นบรรลุมรรคผล 

2. องค์แห่งธรรมเครื่องตรัสรู้ , องค์ธรรมของผู้ตรัสรู้

หนังสืออ้างอิง

อีคิวโลกุตระ หน้า 68– 69,เปิดโลกเทวดา หน้า 75


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 07:08:25 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:20:21 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:09:22 )

โพชฌงค์ 3 คือตัวปฏิบัติอย่างไร

รายละเอียด

โพชฌงค์ 3 คือสติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ 3 อย่างนี้เป็นตัวปฏิบัติ สำคัญที่สติและธรรมวิจัย แต่ตัวที่ 3 วิริยะคือความเพียร จะต้องพากเพียรปฏิบัติสติ แล้วก็ต้องมีธรรมวิจัย ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาสะกดจิต อย่างนั้นล้มเหลวตั้งแต่โพชฌงค์ข้อที่ 2 ไม่มีธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์แล้ว คุณวิจัยไม่เป็น ก็ไม่รู้จักทำวิจัย วิจัยจิตตัวเองนะ ไม่ใช่เป็นการทำวิจัยจบด็อกเตอร์ คนจบป. 2 แต่วิจัยจิตเป็นก็มี คนจบด็อกเตอร์แต่วิจัยจิตไม่เป็นเลยก็มี คนจบป. 2 วิจัยจิตเป็นก็บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ได้ เพราะฉะนั้นต้องมาวิจัยวิจารณ์ หรือวิตกเป็นธาตุเป็น วิจัยเป็นธาตุรู้

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน 2561


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2564 ( 11:16:05 )

โพชฌงค์ 3 เป็นตัวหลักในการปฏิบัติ

รายละเอียด

โพชฌงค์ 3 สติสัมโพชฌงค์, ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์, วิริยะสัมโพชฌงค์ 3 ตัวนี้เป็นตัวหลักในการปฏิบัติ ต้องสร้างสติให้เข้าข่ายตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน เรียกว่าความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าให้สร้างสติเป็นแบบนี้นะ แล้วก็มีธรรมวิจัย ก็เป็นอย่างที่พระพุทธเจ้าสอนเรียกว่าโพชฌงค์ เป็นคำที่สมาสกันเข้าเป็นธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ เป็นการวิจัยธรรม ตามคำสอนพระพุทธเจ้าเรียกว่า ธัมวิจัยสัมโพชฌงค์ แล้วพากเพียรธรรมอันนี้เป็นวิริยะสัมโพชฌงค์ พากเพียรตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอน พากเพียรแล้วเราก็จะได้ผลมาตามลำดับ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 20:49:46 )

โพชฌงค์ 7

รายละเอียด

คือองค์แห่งการตรัสรู้ คือเครื่องย่ำยีมาร (กิเลส) พระพุทธเจ้าปรากฎ โพชฌงค์ 7 จึงปรากฎได้

1. สติสัมโพชฌงค์ (การระลึกรู้แจ้งกิเลส) เปรียบเสมือนจักรแก้ว

2. ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ (พิจารณาแยกแยะกิเลส) เปรียบเสมือนช้างแก้ว

3. วิริยสัมโพชฌงค์ (พากเพียรลดละกิเลส) เปรียบเสมือนม้าแก้ว

4. ปีติสัมโพชฌงค์  (อิ่มใจกำจัดกิเลสได้) เปรียบเสมือนแก้วมณี

5. ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ (สงบใจจากกิเลส) เปรียบเสมือนนางแก้ว

6. สมาธิสัมโพชฌงค์  (ได้สภาวะจิตตั้งมั่น) เปรียบเสมือนคหบดีแก้ว

7. อุเบกขาสัมโพชฌงค์  (จิตเที่ยงธรรมเป็นกลาง) เปรียบเสมือนปรินายกแก้ว

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 19  "จักกวัตติสูตร"  ข้อ 505 - 507

หนังสืออ้างอิง

หนังสือธรรมพุทธสุดลึก 


เวลาบันทึก 06 กรกฎาคม 2562 ( 08:01:27 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:07:58 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:15:15 )

โพชฌงค์ 7

รายละเอียด

คือ เสาทั้ง 4 ต้น ห่างกันต้นละ 7 เมตร โพชฌงค์ 7 คือ สติ ธรรมวิจยะ วิริยะ ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ และอุเบกขา

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ”หน้า137


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 13:15:05 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:06:38 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:09:50 )

โพชฌงค์ 7

รายละเอียด

จิต เป็น สมาธิ อุเบกขา คือ ยิ่งละกิเลสได้มากเท่าไร จิต จึงยึดมั่น ปักแน่น แน่วแน่ มั่นคง แข็งแรง และยิ่งสว่างโพลง สะอาด ปลอดโปร่ง เฉลียวฉลาด เห็นสัจจะได้ดีขึ้น สูงขึ้น เป็นระดับๆ

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า108


เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 15:20:17 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:05:10 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:10:18 )

โพชฌงค์ 7

รายละเอียด

ได้แก่ สติ ธรรมวิจัย วิริยะ ปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 113


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 07:09:25 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:21:19 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:10:41 )

โพชฌงค์ 7

รายละเอียด

ตั้งแต่ สติ ธรรมวิจัย วิริยะ 3 ตัวนี้ ถ้าคุณมีสติคุณไม่มีการวิจัยธรรม แยก 2 แยก 4 แยก 9 แยก 3 อะไรต่างๆนานา แล้วคุณไม่พากเพียรทำ ให้ได้ละเอียดลออ คุณก็จะไม่ได้สัดส่วนของการเก็บรายละเอียดที่คุณจะรู้ต่างๆ ก็จะรู้ทื่อ เหมา อะไรก็รู้ นิ่ง เฉย มันก็แคบ มันก็ไม่ละเอียดลออ มันก็ไม่ครบถ้วน มันก็ตื้อๆทื่อๆบื้อๆอยู่อย่างนั้นจึงต้องแยกออกไปอีก เมื่อแยกออกไปก็ได้เป็น 2 คู่ 3 คู่ 4 คู่ คุณได้เพิ่มขึ้นเมื่อใดๆ คุณก็มีปีติ เมื่อนั้นๆ ดีใจที่คุณได้เจริญ ถ้าดีใจ จะต้องเป็นคู่ช่วย ช่วยให้คุณมีกำลัง 

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 02 มกราคม 2563 ( 15:16:56 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:49:21 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:11:29 )

โพชฌงค์ 7

รายละเอียด

ถูกต้อง เพียงแค่คำพูดบัญญัติภาษาที่บอกว่าสามารถเดินโพชฌงค์ 7 คนที่ศึกษามาให้ดีว่าโพชฌงค์ 7 คืออะไร สติ ธัมมวิจัย วิริยะ ปีติ สมาธิ ปัสสัทธิ อุเบกขา เราก็รู้ว่าหมายถึงอะไรในแต่ละคำ เสร็จแล้วสภาพนิพพานก็คืออุเบกขา 5

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 28 เมษายน 2563 ( 12:46:51 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 14:01:56 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:12:04 )

โพชฌงค์ 7

รายละเอียด

คือองค์แห่งการตรัสรู้ คือเครื่องย่ำยีมาร (กิเลส) พระพุทธเจ้าปรากฏ โพชฌงค์ 7 จึงปรากฏได้

1. สติสัมโพชฌงค์ (การระลึกรู้แจ้งกิเลส)เปรียบเสมือนจักรแก้ว

2. ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ (พิจารณาแยกแยะกิเลส)เปรียบเสมือนช้างแก้ว

3. วิริยสัมโพชฌงค์ (พากเพียรลดละกิเลส)เปรียบเสมือนม้าแก้ว

4. ปีติสัมโพชฌงค์ (อิ่มใจกําจัดกิเลสได้)เปรียบเสมือนแก้วมณี

5. ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ (สงบใจจากกิเลส)เปรียบเสมือนนางแก้ว

6. สมาธิสัมโพชฌงค์ (ได้สภาวะจิตตั้งมั่น)เปรียบเสมือนคหบดีแก้ว

7. อุเบกขาสัมโพชฌงค์ (จิตเที่ยงธรรมเป็นกลาง) เปรียบเสมือนปรินายกแก้ว

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 19 “จักกวัตติสูตร” ข้อ 505 - 507


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2565 ( 20:35:50 )

โพชฌงค์ 7 คืออะไรในธรรมาธิษฐาน

รายละเอียด

นามธรรมมันเป็นสื่อไม่ได้ มันเป็นนาม มันไม่ใช่รูป นามธรรมมันไม่ใช่รูป แต่จะต้องอาศัยสื่อให้มีรูป ต้องเอารูป เอาลักษณะธรรม เอาลักษณะบุคลาธิษฐาน เอาอะไรต่ออะไรมาสื่อ เขาก็เข้าใจสื่อตามภาษาซื่อๆ เช่นอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นผู้ใดเนรมิตตนเองจาก 1 เป็นพันก็ได้ประโยคที่ว่า “เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ” ในพยัญชนะเหล่านี้ไม่มีคำว่าคน แต่ในพระไตรปิฎกบอกว่าเนรมิตคนเดียวเป็นหลายคนก็ได้หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ แปลเป็นอย่างนั้นเลย ที่ว่าพระพุทธเจ้าประสูติและเดิน 7 ก้าว อันนี้ก็เป็นภาษาที่เข้าใจโดยผู้ที่แปลเข้าใจตื้นง่ายๆ คำว่าเดินคำนี้ไม่มี มีแต่คำว่าก้าว พระพุทธเจ้าเกิดโพชฌงค์ 7 จึงเกิด พระพุทธเจ้าเกิดมรรคมีองค์ 8 จึงเกิด เพราะฉะนั้น มรรคคือทาง โพชฌงค์คือการเดิน เขาก็เลยแปลว่า โพชฌงค์มี 7 ทางมี 8 ทาง เขาก็บอกว่าเดิน 7 ก้าว ที่บอกว่า พระพุทธเจ้าเดิน 7 ก้าวนั้น ธรรมาธิษฐาน บอกว่าไปเผยแพร่ธรรมะ 7 ทวีปอะไรอย่างนี้เป็นต้นซึ่งส่อให้เห็นว่าไม่เข้าใจเลยในความเป็นโพชฌงค์ 7 ท่านก็ตอบว่าคือการก้าวหน้าคือการเดินทางเจริญ ไปด้วยองค์ทั้ง 7 ด้วยสติธรรมวิจัยวิริยะ ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา ซึ่งเป็นธรรมะที่ลึกซึ้ง วันนี้ยังไม่ขออธิบาย สิ่งเหล่านี้ศึกษาให้ดีๆ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2563 ( 14:15:41 )

โพชฌงค์ 7 ช่วยรักษาโรคได้อย่างไร 

รายละเอียด

โพชฌงค์ 7 จะช่วยรักษาโรคได้อย่างไร อย่างน้อยที่สุด มันจะช่วยรักษาโรคทางจิตก่อนอื่น มีสติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ เป็นสามเส้าแรกของโพชฌงค์ 7 สติและการวิจัยรู้รอบ ฝึกสติรู้รอบพฤติกรรมกาย วาจา ใจ ข้างนอกข้างในหมด ข้างนอกมีพฤติกรรมกิริยาอย่างไร แล้วก็วิจัยทีละคู่ มีความแตกต่างกัน เราก็เลือกเอาสิ่งที่ดีสิ่งที่ควร อย่างนี้แหละเราจะค่อยๆเก่ง ค่อยๆฝึก วิริยะสัมโพชฌงค์ เพียรฝึกอย่างนี้

1. ฝึกรู้ให้ได้ทั้งหมด แล้ววิจัยมันออกมาทีละคู่ แล้วเลือกเอาทีละ 1 อะไรมันควรอะไรมันดีกว่าก็เลือกเอาที่ควรที่ดีกว่า ที่ไม่ควรไม่ดีให้เลิกไป ให้มันเหลือ 1 พอมี 1 มันก็ไม่มีผัสสะไม่มีปรุงแต่ง ถ้า 2 จะมีผัสสะและปรุงแต่งเป็นสุขเป็นทุกข์ หรือแม้แต่เป็นการเกิด ถ้า 1 ไม่เกิด มันมีอยู่แล้วมันจะมีแต่ความเสื่อม ไม่มีอะไรมันก็หมดอายุขัย สูญไป ดีไม่ดีถ้ามีคู่มันไม่เสื่อมด้วย ร่วมกันสร้างต่อไปเป็น 3 4 5 6 ต่อไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 46 วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:52:58 )

โพชฌงค์ 7 มรรค 8 สร้างให้เกิดอาริยบุคคล

รายละเอียด

โพชฌงค์ 7 เป็นพ่อ มรรคมีองค์ 8 เป็นแม่ ก็ช่วย สร้างให้เกิด อธิจิต โอปปาติกะ เกิดอาริยบุคคล ที่เป็นพ่อเป็นแม่ที่ไม่ใช่ตัวตนบุคคลเราเขา จะเป็นการเกิดทางจิต  โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8 ช่วยกันทำให้เกิดอย่างนี้เป็นต้น ก็ต้องรู้ความเป็นแม่ความเป็นพ่อ ที่ไม่ใช่สัตว์ตัวตนบุคคลแล้วนะ แต่มันเป็นองค์ธรรมะ ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ต้องรู้ว่าโพชฌงค์ 7 มีอะไรบ้าง ศีลเป็นอย่างไร ปัญญาเป็นอย่างไร ทำให้เกิด อธิศีล แล้วอธิศีลก็เกิดในจิต คุณก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองทั้งนั้น อาตมาก็แยกแยะมาตลอด มันก็ไม่ง่าย พยายามทำให้ง่าย ไม่มีเจตนาจะทำให้พวกคนงงเลย มีแต่จะทำให้กระจ่างๆ เท่าไหร่ก็ได้แค่นี้ขนาดนี้ อาตมาก็ไม่เก่งเท่านี้ พยายามจะเก่งที่สุดไม่ได้ออมมือ ใครทำได้ เข้าใจได้ ก็อนุโมทนา ก็ช่วยกัน ก็จะเกิดความจริงเป็นหลักฐาน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 4 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2563 ( 13:20:27 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:32:38 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:12:51 )

โพชฌงค์ 7 ยืดอายุได้

รายละเอียด

ทำความเข้าใจที่พระพุทธเจ้าบอกว่ามีโพชฌงค์ 7 จะยืดอายุได้ ก็ศึกษา จะต้องมีสติสัมโพชฌงค์ สรุปแล้วก็คือจะต้องพยายามตื่น พยายามวิจัยธรรมะ ด้วยความพากเพียร ให้มีปีตินำให้มีความยินดี มีความพอใจชื่นชอบ มีปิติยินดี แล้วก็ทำความสงบซ้อน ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ เป็นทั้ง static และ Dynamic เป็นพลังงานต้นตอของทุกอย่างตั้งแต่นิวเคลียสให้เก่งขึ้น มีปีติปัสสัทธิแข็งแรงขึ้น ปีติปัสสัทธิ จนกระทั่งสามารถเป็นสมาธิ สองจิตตั้งมั่นทั้งกระแสบวกและกระแสลบทั้ง static และ Dynamic แข็งแรงขึ้น 2 ขา มันก็จะเก่งขึ้น เป็นจิตที่เก่งทั้งบวกและลบ เป็นจิตที่เก่งทั้งเจโตและปัญญา Dynamic คือปัญญา static คือ เจโต จนกระทั่งเก่งจริงเป็น มุทุภูตธาตุที่เจริญยิ่ง 

พลังงานจิตตัวที่เป็นได้ทั้ง มุทุภูตธาตุ สภาพบวกลบเป็นเจโตและปัญญาเป็นพลังงานเป็นความยิ่งใหญ่ช่วยได้จริงๆ ทำให้จิตมีสมาธิเจริญ สมาธิของพุทธเป็นสมาธิที่สะอาดจากตัวที่มันทำให้เสียหายคือกิเลสล้างได้เท่าไหร่มันก็ยิ่งมีพลังสูงๆ ตามที่ทำได้จริงตามลำดับๆ

สมาธิที่จิตสะอาดจากกิเลสเป็นอุเบกขา เป็นความบริสุทธิ์จากกิเลสทำอีกโดยทฤษฎีนี้ซ้อนเป็นปริโยทาตา สั่งสมเป็นมุทุภูตธาตุ เจริญเจโตปัญญา สูงขึ้นอีก แล้วเราก็ทำกัมมัญญา สั่งสม ขยันทำกรรม อย่าไปท้อแท้ เหนื่อยหน่าย ขี้เกียจ 

คนที่ไม่ขี้เกียจ เห็นความก้าวหน้าของกรรม การกระทำที่ดีมีประโยชน์ และในภาวะ 2 เห็นว่าความเห็นแก่ตัวก็ยิ่งลดได้มากขึ้น ขยันเสียสละเพื่อผู้อื่นก็ยิ่งทำเพื่อผู้อื่นได้มากขึ้นตัวเองลดลงเพื่อผู้อื่นได้มากขึ้นๆ มันก็มีแต่ปิติ มีแต่กำลังที่เห็นความเจริญก้าวหน้า เสร็จแล้วปัญญาที่เฉลียวฉลาดนั่นแหละ ละล้างกิเลสละล้างตัวตน ปัญญาจะมีรู้จักลดกิเลส รู้จักลดตัวตน ปฏิภาณปัญญาของพระพุทธเจ้า มีประสิทธิภาพขนาดนั้น มันลดกิเลส มุทุภูตธาตุ ก็ยิ่งสูง กัมมัญญาก็ยิ่งเจริญ มีความปภัสสรา

ป ผ พ ภ ม คำว่า ปภ แล้วมี ส กับ ร เป็นพลังงานเศษวรรค ตัวที่ 2 กับตัวที่ 5 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 31 วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 21:19:18 )

โพชฌงค์ 7 เป็นไฉน

รายละเอียด

สติ อย่างมีโพชฌงค์ 7 สติที่ดีก็จะเกิดธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ มันถึงขั้นสัมโพชฌงค์ ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะพระพุทธเจ้าก็จะมี ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ด้วยความพากเพียรเรียกว่า “วิริยะสัมโพชฌงค์” เมื่อพากเพียรวิจัยธรรมะต่างๆแยกโลกุตระ-โลกียะ แยกวิธีที่จะรู้กิเลส รู้วิธีสร้างพลังงานฌาน พลังงานไฟที่จะไปเผาผลาญกิเลสจนหมด จนเกิดบุญกำจัดกิเลสได้ ชำระกิเลสจากสันดานได้ไปเรื่อยๆหมดไปเรื่อยๆ ก็เจริญเป็นอาริยะบุคคลของพระพุทธเจ้า เป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ไปเรื่อยๆ 

คนผู้นี้ก็จะเกิดคุณธรรมในโพชฌงค์อีก 4 ข้อ ก็ขอบอกชื่อไว้ ไม่ขยายความ ก็จะได้ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา 

ปิติก็คือดีใจยินดีที่เราได้เจริญในธรรม สติเราดี ธรรมวิจัยเราดี พากเพียรได้ดีก็จะเกิดมรรคผลขึ้นมา เราก็ดีใจมีปีติ จิตใจเราก็จะสงบจากกิเลสเป็นปัสสัทธิ เมื่อจิตตั้งมั่นตกผลึกเป็นสมาธิแน่นเข้า เป็นสมาธิ จนกระทั่งสุดท้าย ความเป็นสมาธินั้น มันซับซ้อน เป็นสมาธิก็คือ การทำฌานทำจิตให้เป็นพลังงานเผากิเลสออกไป แล้วจิตจะสะอาดเป็นอุเบกขา 

อุเบกขาก็จะตกผลึกแน่นแข็งแรงเจริญขึ้น เป็นตัวสุดท้าย เป็นฐานนิพพานคืออุเบกขา เพราะฉะนั้นอุเบกขาจึงเป็นตัวปลายของโพชฌงค์ 7 ตัวที่ 7 ของโพชฌงค์ 7 ที่จะพาให้เจริญเป็นสมาธิ อุเบกขากับสมาธิเป็นตัวสุดท้าย 2 ตัวที่จะปฏิสัมพันธ์กัน ช่วยกัน สลับไปสลับมา จนสมบูรณ์ มีจิตตั้งมั่น ตั้งมั่นด้วยอุเบกขา ตั้งมั่นคือจิตสะอาดจากกิเลส มีองค์ธรรม 5 ของอุเบกขา  ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 20:42:28 )

โพชฌงค์ 7 เป็นเช่นใด

รายละเอียด

ส่วนโพชฌงค์ 7 

  1. สติสัมโพชฌงค์ มีความรู้ตัวมีสติรู้เท่าทันกิเลส 

  2. ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์ มีการวิเคราะห์วิจัยแยกแยะเหตุที่มาแห่งกิเลส 

  3. วิริยสัมโพชฌงค์ มีความพากเพียรลดกิเลสอย่างสัมมาทิฏฐิ 

  4. ปีติสัมโพชฌงค์ ทำได้ก็จะดีใจแต่ต้องลดความดีใจลงเป็นความปกติคือ

  5. ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์

  6. สมาธิสัมโพชฌงค์ มีการสั่งสมจิตที่บริสุทธิ์สะอาด 

  7. อุเบกขาสัมโพชฌงค์ จิตบริสุทธิ์สะอาดมีคุณสมบัติอุเบกขา 5

ล้วนอาศัยวิเวก วิราคะ นิโรธ อันน้อมนำไปเพื่อความปลดปล่อย (วิเวกนิสสิตัง วิราคนิสสิตัง นิโรธนิสสิตัง โวสสัคคปริณามิง)

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 20 วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:00:08 )

โพชฌงค์ 7 แก้โรคทางใจคือจิตที่มีอินทรีย์อ่อน

รายละเอียด

ถ้าแก้โรคทางใจได้มันจะมีพลัง พลังจะมาช่วยเป็นอินทรีย์ 5 พละ 5 เพราะฉะนั้นโพชฌงค์ 3 หรือ โพชฌงค์ 7 

เมื่อโพชฌงค์ 3 เกิดอินทรีย์ 5 พละ 5 ก็เกิด เมื่อเกิดพลัง 5 นี้ มีอำนาจทางศรัทธาวิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา นี่คือ 5 เพราะอำนาจศรัทธา เชื่อมั่น รู้เข้าใจศรัทธา เชื่อมั่น ศรัทธาไม่มีปัญญาเป็นศรัทธาขี้หมา ไม่ได้เรื่อง แล้วก็จะยิ่งขึ้น ศรัทธาต้องมีปัญญาเสริมด้วย มากหรือน้อยก็แล้วแต่ แล้วก็ต้องเห็นว่าอย่างนี้ได้ดีแล้ว ตื่นให้เต็มอย่าไปให้จิตตก ให้เต็มร้อย สตินี้คือเต็มร้อย ให้รับรู้ทุกอย่างชัดและวิจัยไปในรายละเอียด สติ 

อะไรที่เราวิจัยหาตัวเหตุก็คือกิเลสหยาบ กลาง ละเอียด ปัญญาจะค่อยๆเกิดขึ้นมาเรื่อยๆจากศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ก็คือยาดำที่แทรกเข้ามาเรื่อยๆ พอมาถึงสมาธิก็จะเยอะมากเพียงพอ ปัญญามากเพียงพอจนขจัดกิเลสดับได้ กิเลสไม่รอหน้า กิเลสจะหายไปด้วยพลังปัญญา มันเป็นสัจจะอย่างนั้น ไม่มีคำอธิบายอื่น คุณสร้างให้ได้ เราก็จะเห็นว่าปัญญามีฤทธิ์แรง จนกิเลสหมดไป กิเลสหมด จิตก็จะสะอาด เมื่อจิตสะอาดก็จะตกผลึกเป็นของเรา จิตสะอาดตั้งมั่น คือสมาหิโต เป็นสมาธิของศาสนาพุทธ ไม่ใช่สมาธิทั่วไปที่เขาเข้าใจกันตื้นๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:56:14 )

โพชฌงค์เป็นตัวเดินมรรคเป็นทาง

รายละเอียด

วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561 ที่บวรราชธานีอโศก แรม 7 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ เป็นวันที่ 3 ของงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ มองไปในศาลาดูเต็มใช้ได้ดี เห็นหน้าเห็นตากันในวันสำคัญ แม้ไม่วันสำคัญก็น่าจะมาให้เห็นกันอย่างอบอุ่นเช่นนี้ วันนี้อากาศเย็นรู้หรือเปล่าตอนนี้ฤดูอะไร ฤดูหนาวหรือฤดูฝน เมื่อคืนฝนก็ตก แต่ตกเป็นซู่ๆ ลมมา ฝนก็มากลางคืน ตกแล้ว เอาเถอะ ธรรมชาติจะวิกฤตก็วิกฤตไป แต่พวกเรานี้จะต้องไม่วิปริต จะต้องเป็นผู้ที่มีสติสัมปชัญญะปัญญา โดยเฉพาะ มีสติ แล้วต้องเป็นโพชฌงค์ โพชฌงค์ นี้คนไม่ค่อยพูดถึงแม้แต่การศึกษาทางธรรมก็ไม่ค่อยพูด แต่โพชฌงค์นี่เป็นตัวหลักเป็นตัวปฏิบัติ มรรคองค์ 8 กับโพชฌงค์นี้ รวมกันแล้วสุดยอดก็คือโพธิปักขิยธรรม 37 โดยที่โพชฌงค์เป็นตัวเดิน มรรคเป็นทาง มรรคมีสัมมาทิฏฐิเป็นประธาน

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทวช. วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:17:23 )

โพชฌังคาริยสัจจายุ

รายละเอียด

(มาจากคำว่า โพชฌงค์ + อาริยะ + สัจจะ + อายุ) คือ เป็นวันที่พ่อท่าน สมณะโพธิรักษ์มีอายุครบ 77 ปี 7 เดือน 7 วัน เมื่อนับจำนวนเลข 7 แล้ว จะมีเลข 7 จำนวน 4 ตัว (7777) ซึ่งในชีวิตของคนๆหนึ่ง โอกาสที่อายุครบจำนวนเลข 7 ถึง 4 ตัวนั้นจะมีได้เพียงครั้งเดียว พ่อท่านจึงดำริให้มีการจัดงาน “โพชฌังคาริยสัจจายุ” ขึ้นที่พุทธสถานราชธานีอโศก ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ”หน้า185


เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 11:31:25 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:03:38 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:13:38 )

โพธิ

รายละเอียด

คือ ความรู้ ความฉลาด ที่เรียกกันว่า “ความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า” ผู้เริ่มมี “ความรู้-ความฉลาด” แบบนี้ จึงได้แก่ “อาริยบุคคล” ตั้งแต่ขั้น “โสดาบัน” มาทีเดียว ซึ่งเป็น “ผู้มีความรู้-ความฉลาด” แบบพุทธแท้ที่เป็น “โพธิ”มาแต่ต้น

หนังสืออ้างอิง

“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 178


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 14:20:54 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:32:13 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:14:44 )

โพธิ

รายละเอียด

คือ การตรัสรู้

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 221


เวลาบันทึก 29 ตุลาคม 2562 ( 10:23:30 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:42:12 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:33:26 )

โพธิ

รายละเอียด

1. สภาพเป็นผู้รู้จักและเห็นดีในความจบ เป็นผู้ยินดีในความถึงรอบหยุด เป็นผู้เห็นสุขในจุดสงบจากกาม จุดเลิก จุดนิ่งลง จุดหยุดจากสิ่งนั้น 

2. ปัญญาตรัสรู้ ปัญญาล้างอุปาทาน ล้างสักกายะและอัตตาโดยตรง 

3. ตรัสรู้ หมายความว่า รู้แจ้งถูกตามคำตรัส

4. เป็นการตรัสรู้ของพระอาริยะที่บรรลุจริงไปตามลำดับซึ่งเป็นความรู้ขั้นอาริยะ และต้องบรรลุความเป็นอาริยชนไปตามลำดับจริง(ไม่ใช่-เพียงแค่ความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น)

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 255, จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 256,คนคืออะไร? หน้า 345.คนคืออะไร? หน้า 368


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 07:10:50 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:22:56 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:34:46 )

โพธิกิจ 50 ปีของสมณะโพธิรักษ์

รายละเอียด

อาตมาถึงได้สบายใจที่ทำงานมา เกือบ 50 ปีนี้ ทำงานได้ผลสำเร็จแล้ว ยังทำงานได้มากกว่านี้อีก จะมีอัตราการก้าวหน้าในตัวของมัน มีคนรู้เพิ่มขยายเพิ่มอีก แต่มันไม่เร็วแล้ว มันช้ามันเต็มแล้ว หาเพิ่มอีกได้ยากแล้ว เพราะคนอื่นๆ ฐานเขายาก เราคัดหัวกะทิเข้ามาได้ขนาดนี้ นอกนั้นก็เข้าไม่ได้เลย ไม่เอาเลย กับอยู่ชายเฟือย ก็เข้าไม่ได้ มันเหมือนเป็นชั้นๆๆๆ)

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 16 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:25:42 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:51:07 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:15:38 )

โพธิกิจ เกริกไกร ไปทั่วหล้า ชาวประชา มาจน พ้นโมหันธ์

รายละเอียด

โพธิกิจ เกริกไกร ไปทั่วหล้า ชาวประชา มาจน พ้นโมหันธ์

ก็ทำให้พาประชาชนมาจนกัน ใครเขาจะมาคบโพธิรักษ์นะ เปิดเผยจังเลย มา มาคบโพธิรักษ์ โพธิรักษ์จะพามาจน โอ้ย! จะได้คน จะได้บริวารกี่คนเนี่ย พวกคุณที่นี่ ทำไมให้อาตมาพามาจนได้ ไม่โง่ตายกันเหรอ? (โยมทั้งหลายตอบ ไม่)  มาเลย ไม่ได้พูดหลอกนะ พามาจนจริงๆ นะ จนคืออะไร? (โยมว่า รวย รวยคุณธรรม) 

รวยคุณธรรม ไปรวยอีก แหม! ไม่ยึดถือหรอก เรามีคุณธรรมมาก เราก็ไม่ยึดถือว่ารวยเป็นของเรา 

จน เรามาจน ก็ค่อยๆ อธิบายและพิสูจน์ความจริงกันไป มันเป็น dialactic เป็นภาษาสองคำที่ย้อนแย้ง คนเข้าใจไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้ว่า จุดจริง จุดจบ จุดที่ถูกต้องคืออะไร dialactic แต่ศาสนาพุทธนั้นชัดเจนใน 2

1 ใน 2 อันใดที่ควร (ตัดสินโดย)ใช้มหาประเทศ ใช้สัปปุริสธรรม 7 (ต้องให้สัตบุรุษ)ชี้ยืนยันได้ว่า อันนี้ควร อันนี้ถูกต้อง ควรเป็นเช่นนี้ ควรใช้อันนี้ ตามกาละ เทศะ ฐานะ แม่น ของพุทธนี้มีองค์ประกอบที่ชี้ชัด แม้ปัจจุบันนั้นจะน้อยหรือไปเร็ว อันนี้ก็ถูกต้อง เป็น status quo ที่แม่น ถูกต้อง เป็นสถานะที่ใช้กับ status quo กาละนั้น วาระนั้น ขณะนั้น ที่มันอยู่ในวาระนั้น ขณะนั้น ชั่วระยะนั้น อย่างถูกต้องได้ มันจะผ่านไปอีกเปลี่ยนไป ก็ไม่เป็นไรแต่อันนั้นถูกแล้ว จึงเป็นความถูกต้องในความจริงที่ถูกต้องได้ทั้งเร็ว ทั้งแม่น ทั้งจริงที่สุด นี่คือสัจจะของพระพุทธเจ้า 

“โพธิกิจ เกริกไกร ไปทั่วหล้า ชาวประชา มาจน พ้นโมหันธ์”

พ้นโมหันธ์ พ้นความหลงเลอะเทอะ 

“บุญนิยม เป็นเยี่ยม ไร้เทียมทัน ค้ำประกัน ศาสนา ห้าพันปี

อโศก สัมปวังโก

  4 พ.ย.2566

นี่(บทกวีโดย) อโศก สัมปวังโก เป็นผู้เขียน ใช่ได้นะ ใช้ได้ใช้ไม่ได้ก็ใช้ไปแล้ว ใช้ไปจบแล้ว ใช้ได้ ใช้ดีนะ 

ที่มา ที่ไป

ครบรอบ 53 ปี โพธิกิจ พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 แรม 6 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2567 ( 17:08:23 )

โพธิญาณ

รายละเอียด

ผู้รู้แจ้งจริงสิ้นไม่มีเหลือ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 426


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 07:11:33 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:23:21 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:15:55 )

โพธิญาณกับโพธิสัตว์

รายละเอียด

ญาณคือความรู้ สัตว์คือตัวตนบุคคลเราเขา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2563 ( 11:08:36 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 14:07:09 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:16:12 )

โพธิปักขิยธรรม 37

รายละเอียด

โพธิปักขิยธรรม 37 คือ  ธรรมอันเป็นแนวทางแห่งความตรัสรู้

1. สติปัฏฐาน 4 (การตั้งสติพิจารณา 4 อย่าง) – เป็นการใช้สติตรวจสอบจิตให้บริสุทธิ์

2. สัมมัปปธาน 4 (ความเพียรประคองจิต 4 อย่าง) – เป็นยุทธวิธีเพียรทำลายกิเลส

3. อิทธิบาท 4  (ธรรม 4 อย่างอันเป็นที่ตั้งแห่งความสำเร็จ) – เป็นการยุทธวิธีเพียรทำลายกิเลส

4. อินทรีย์ 5 (ความมีอำนาจ 5 อย่างเพื่อความหลุดพ้น) – เป็นการสั่งสมเป็นกำลังธรรมของจิต

5. พละ 5 (พลัง 5 อย่างเพื่อความหลุดพ้น) – เป็นขุมกำลังธรรมะของจิต

6. โพชฌงค์ 7 (องค์แห่งการตรัสรู้ 7 อย่าง) – เป็นการก้าวเดินไปสู่การตรัสรู้

7. มรรคมีองค์ 8 (ทางสายกลางอันประเสริฐ 8 ประการ) – เป็นทางเอกเพื่อเดินสู่การตรัสรู้      

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 11 “ปาสาทิกสูตร” ข้อ 108

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก 


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2562 ( 22:07:07 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:41:58 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:17:08 )

โพธิปักขิยธรรม 37

รายละเอียด

คือธรรมอันเป็นแนวทางแห่งความตรัสรู้

1. สติปัฏฐาน 4(การตั้งสติพิจารณา 4 อย่าง)

2. สัมมัปปธาน 4(ความเพียรประคองจิต 4 อย่าง)

3. อิทธิบาท 4(ธรรม 4 อย่างอันเป็นที่ตั้งแห่งความสําเร็จ)

4. อินทรีย์ 5(ความมีอํานาจ 5 อย่างเพื่อความหลุดพ้น)

5. พละ 5(พลัง 5 อย่างเพื่อความหลุดพ้น)

6. โพชฌงค์ 7(องค์แห่งการตรัสรู้ 7 อย่าง)

7. มรรคมีองค์ 8 (ทางสายกลางอันประเสริฐ 8 ประการ)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 11 “ปาสาทิกสูตร” ข้อ 108


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2565 ( 16:48:06 )

โพธิรักษ์ชอบซัดหอกช่วยเขา

รายละเอียด

ถ้าโสดาบันก็มีสงครามคือปากหอก สกิทาคามีก็ลดลงไปตามลำดับ อนาคามีก็เข้าใจแล้ว คนที่มีหอกก็ชอบซัดหอก อย่างโพธิรักษ์ชอบซัดหอก แต่ไม่ไปแย่งซัดกันไปกันมา หากเห็นว่าเขาซัดกันไปกันมา อาตมาจะหลบ แต่ถ้าอาตมานั้นจะซัดช่วยเขา ยิ่งเขาไม่ตอบโต้เลยก็จะรู้ว่าเขาเข้าใจ อาตมาก็จะให้เขาด้วยเจตนาปรารถนาดี จะดูเหตุการณ์ที่จะเกิดโต้ตอบอย่างไรพอเหมาะอาตมาก็จะรู้ ว่าควรทำไม่ควรทำเท่าใด 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 18:55:02 )

โพธิสัตวภูมิ

รายละเอียด

ด้วย“ปัญญา”คือ ความรู้ที่เป็น“โพธิสัตวภูมิ”จึงจะรู้จักรู้แจ้งรู้จริงไปตามลำดับถึงที่สุด“รู้จบ”สุดแห่งที่สุดได้ โพธิคือความรู้แบบพระพุทธเจ้าตั้งแต่โสดาบันความรู้โพธิระดับหนึ่ง สกิทาคามี ความรู้โพธิที่ระดับ 2 อนาคามี ความรู้โพธิระดับ 3 อรหันต์ ความรู้โพธิระดับ 4 มีความรู้ในระดับโพธิสัตว์อีก อรหันต์ในระดับอนุโพธิสัตว์ อนิยตโพธิสัตว์ นิยตโพธิสัตว์ มหาโพธิสัตว์ จนถึงอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า [พระไตรปิฎก เล่ม34 “อาสวโคจฉกะ” ข้อ 712]

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ตอน 3 วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 แรม 9 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2567 ( 15:16:10 )

โพธิสัตวภูมิทำงานไม่ใช้การหลอกล่อ

รายละเอียด

อาตมาก็จะต้องทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะบริบูรณ์หรือไม่ก็ไม่มีปัญหา เจตนาจะทำสร้างสรรไป ผู้ที่มีน้ำใจก็มาช่วย เพราะอาตมาไม่มีเงินทองไปจ้างวาน ใครเห็นว่าจะทำกุศลร่วมกันมีบารมีร่วมกันก็ทำร่วมกันไป ถ้าใครเข้าใจเรื่องโพธิสัตวภูมิ อาตมามาทำงานไม่ใช้การหลอกล่อ แต่พวกคุณทำแล้วพูดจริงเป็นจริงหรือเปล่าเห็นจริงก็เชิญ แต่หากเห็นว่าหลอกใช้ก็ไม่มีปัญหาอะไรคุณก็ไม่มาแน่นอน อาตมาชมก็ไม่ค่อยได้ชมกันเท่าไหร่แต่เข้าใจอยู่ในนี้จะเข้าใจเอาเอง

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติปรากฏได้ในยุคโควิด วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:03:02 )

โพธิสัตว์

รายละเอียด

คือ การเป็นนักศึกษา ของอภิบรมมหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้า ศึกษาจบก็ได้เป็นพระพุทธเจ้า

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ”หน้า183


เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 11:23:02 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:00:49 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:17:39 )

โพธิสัตว์

รายละเอียด

โพธิสัตว์ ยอมเสียสละ มีผู้จองเวรเพื่อประโยชน์ที่คนอื่นเข้าใจได้มาก เสียสละส่วนของตน เพื่อชนหมู่มากเพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มาก อันนี้ก็เป็นหลักเกณฑ์ของพระโพธิสัตว์อยู่แล้วก็ต้องทำ 

คำอธิบาย

คือ ผู้ที่ได้ผลแล้ว เรียกว่ามี “โพธิ” ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าสอนเป็นผู้ที่มีมรรคผลคือโพธิ แปลว่า ความตรัสรู้โพธิสัตว์ไม่ได้หมายถึงสัตว์ใต้ต้นโพธิ์แบบนั้น มันคือ ปุถุชน ไม่ได้มีโพธิอะไร แต่อันนี้มีโพธิ โพธิสัตว์นั้นสูงกว่าอรหันต์ ผู้ที่เป็นอรหันต์ตามลำดับก็เป็นโพธิสัตว์ที่สูงไปเป็นลำดับ โพธิสัตว์ 9 ระดับ

1.     โสดาบันโพธิสัตว์

2.    สกิทาคามีโพธิสัตว์

3.    อนาคามีโพธิสัตว์

4.    อรหันต์โพธิสัตว์

5.    อนุโพธิสัตว์

6.     อนิยตโพธิสัตว์

7.    นิยตโพธิสัตว์

8.    มหาโพธิสัตว์

9.     พระปัจเจกสัมมาสัมมาพุทธเจ้า และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระโพธิสัตว์ คือ พระอรหันต์ที่สามารถทำจิตตนให้เป็นพีชะ  ถ้าเป็นพีชะก็เป็นพระโพธิสัตว์ต่อไปได้เรื่อยๆ

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ 21 08 62

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 15:26:18 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:52:44 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:35:23 )

โพธิสัตว์

รายละเอียด

 ยอมเสียสละ มีผู้จองเวรเพื่อประโยชน์ที่คนอื่นเข้าใจได้มาก เสียสละส่วนของตน เพื่อชนหมู่มากเพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มาก อันนี้ก็เป็นหลักเกณฑ์ของพระโพธิสัตว์อยู่แล้วก็ต้องทำ 

1. สัตว์หรือคนผู้เพียรรู้ หรือคนผู้สร้างภูมิรู้ที่จะเข้าหานิพพาน

2. เชื้อแถวของพุทธ บุตรแห่งพุทธแน่ ๆ ผู้จะบรรลุพุทธะอันเต็มรอบในอนาคต ถ้าพากเพียรไปอยู่ 

ที่มา ที่ไป

ธรรมมาธิบาย  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 253,ทางเอก ภาค 2 หน้า 370


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 07:12:47 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:53:41 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:37:16 )

โพธิสัตว์ 9 ระดับ

รายละเอียด

1.โสดาบันโพธิสัตว์

2.สกิทาคามีโพธิสัตว์

3.อนาคามีโพธิสัตว์

4.อรหันต์โพธิสัตว์

5.อนุโพธิสัตว์

6.อนิยตโพธิสัตว์

7.นิยตโพธิสัตว์

8.มหาโพธิสัตว์

9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

คุณถามศึกษาว่าอาตมาขี้โม้หรือไม่ยกตัวยกตนหรือไม่ มันยากตรงที่ไม่มีโพธิสัตว์มาก แต่เมืองไทยมีโพธิสัตว์ระดับ 5 ระดับ 6 มันไม่ใช่มีมากนะ มันไม่มากนะสำหรับระดับ 5 ระดับ 6 ระดับ 7 เป็นต้นไป แม้แต่ระดับ 8 อาตมาก็ยังถามอยู่ว่าพี่อยู่ไหน ถ้ายังมีอยู่ในโลกขณะนี้ในยุคนี้ก็มาหาน้องหน่อย ถ้าเป็นโพธิสัตว์ของพุทธศาสนาอันเดียวกันมันก็จะไม่ขัดแย้งกันมีแต่จะเสริมส่งกันไปเลย แต่บัดนี้ก็ยังไม่มีโพธิสัตว์ระดับ 8 มาแสดงตัว อาตมาต้องยืนยันว่าอาตมาเป็นไก่ตัวพี่ แล้วพี่ไก่อยู่ที่ไหน มาหาไก่ตัวน้องหน่อย เมื่อไม่มีไก่ตัวพี่มายืนยันตัวตนอาตมาก็ต้องยืนยันว่าอาตมาเป็นไก่ตัวพี่ ไม่ใช่เป็นการพูดยกตัวตนหรือพูดเล่นหัว แต่เอามาอธิบายสัจธรรมให้ฟัง

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช ทานและบุญที่ฆ่าตัวตนและของๆตน วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2562 ( 20:02:14 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:58:33 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:39:49 )

โพธิสัตว์ 9 ระดับ

รายละเอียด

อาตมาเป็นผู้นำเรื่องพระโพธิสัตว์ที่มีขั้นตอนการปฏิบัติสูงไปเป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างมีลำดับ คือ โพธิสัตว์ 9 ระดับ

1.โสดาบันโพธิสัตว์

2.สกิทาคามีโพธิสัตว์

3.อนาคามีโพธิสัตว์

4.อรหันต์โพธิสัตว์

5.อนุโพธิสัตว์

6.อนิยตโพธิสัตว์(ยังไม่เที่ยงที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้า)

7.นิยตโพธิสัตว์

8.มหาโพธิสัตว์

9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

โพธิสัตว์คือผู้ดับกิเลสไปเป็นลำดับ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ฌานวิสัยของอรหันต์และโพธิสัตว์ ศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2562 ( 16:00:14 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:00:04 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:40:31 )

โพธิสัตว์ 9 ระดับ

รายละเอียด

1.โสดาบันโพธิสัตว์

2.สกิทาคามีโพธิสัตว์

3.อนาคามีโพธิสัตว์

4.อรหันต์โพธิสัตว์

5.อนุโพธิสัตว์

6.อนิยตโพธิสัตว์

7.นิยตโพธิสัตว์

8.มหาโพธิสัตว์

9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2563 ( 12:50:57 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:55:20 )

โพธิสัตว์ 9 ระดับ

รายละเอียด

โพธิ ระดับต่ำที่สุดคือ โสดาบัน อาตมาก็แยก โพธิสัตว์เป็น 9 ระดับ 

โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ซึ่งไม่เคยเห็นใครมาเรียบเรียงอย่างอาตมาได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาด้วยปัญญามุทุภูเตของพ่อครู วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 17:00:24 )

โพธิสัตว์ 9 ระดับ

รายละเอียด

หลวงปู่มีเชื้ออรหันต์ข้ามชาติมาแล้ว มีเชื้อโพธิสัตว์มาด้วย บำเพ็ญจนเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 เมื่อเข้าใจอรหันต์ เข้าใจโพธิสัตว์  เข้าใจลำดับ ลำดับอรหันต์นับตั้งแต่โพธิสัตว์ระดับ 4 เรียกว่าอรหันต์เต็ม จากนั้นอรหันต์โพธิสัตว์ระดับ 4 

โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

เลยจากอรหันต์ขึ้นไปก็เป็นอนุโพธิสัตว์ ก็เป็นโพธิสัตว์น้อยๆ อนิยตโพธิสัตว์ จะเป็นการบำเพ็ญช่วงที่ยาวนาน จนกว่าจะข้ามเขตจาก อนิยตโพธิสัตว์ ที่แปลว่ายังไม่เที่ยงที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้า จนข้ามเขต อนิยตโพธิสัตว์ไปเป็นผู้เที่ยงที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าเรียกว่า นิยตโพธิสัตว์ ระดับ7 อย่างเช่นอาตมาระดับ 7 สอบเข้าโรงเรียน เข้ามหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้าได้แล้ว ส่วนตัวเองจะรีไทร์หรือไม่ ทางมหาวิทยาลัยไม่มีสิทธิ์ไล่ออก แต่เราจะรีไทร์ของเราเอง เป็นปัจเจกพระพุทธเจ้าก็มีสิทธิ์ หรือยังไม่ถึงปัจเจกพระพุทธเจ้าเลย เราก็รีไทร์ออกก่อนจะเป็นปัจเจกพระพุทธเจ้า 

ซึ่งปัจเจกพระพุทธเจ้าหรือโพธิสัตว์ระดับ 9 ส่วนโพธิสัตว์ระดับ 8 ก็อยู่ในขั้นมหาโพธิสัตว์ นิยตโพธิสัตว์ก็ไปเป็นมหาโพธิสัตว์ จากมหาโพธิสัตว์ก็บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ 

เมื่อบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็เท่ากับพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คุณธรรมยิ่งใหญ่กว่าอาวุธ วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2564 ( 04:24:37 )

โพธิสัตว์ อรหันต์ เป็นเช่นไร

รายละเอียด

ผู้บำเพ็ญ“โพธิสัตว์”ที่ผ่านการบรรลุธรรมถึงขั้น “อรหันต์”ได้แล้ว  “อรหันต์”ก็ยังตั้งใจ“เกิด”อีกได้ สามารถทำ“ความตาย ; ความเกิด”ข้ามชาติไปอีกกี่ชาติต่ออีกกี่ชาติย่อมได้ แต่ก็ยังมี“ภูมิโลกุตรธรรม”ยังไม่มากพอถึงขั้น“สั่งสมตกผลึกผนึกแน่นในตนเอง” กระทั่งได้ชื่อว่า “สยังอภิญญา” ซึ่งเป็น“ผู้มีโลกุตรธรรมเป็นของตนเองแล้วในตนแท้เด็ดขาด โดยไม่ต้องอาศัยใครเลยได้เลย” มันเป็น“ของตนเองแท้” ไม่ต้องรับถ่ายทอดมาจากใครอื่นแล้วอีก เกิดชาติใดก็ควักเอาของตัวเองขึ้นมาใช้ได้เองเต็มสิทธิ์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ธัมมิกราษฎร์ประกาศโลกุตรธรรม งานอโศกรำลึก 2566
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก แรม 6 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน ประกาศธัมมิกราษฎร์ต้องมีองค์ประกอบครบ


เวลาบันทึก 04 กรกฎาคม 2566 ( 10:35:54 )

โพธิสัตว์กับพระอรหันต์ ต่างกันอย่างไร

รายละเอียด

มาพูดถึงเรื่องของโพธิสัตว์กับพระอรหันต์ 2 คำนี้ โพธิ แปลว่า มีปัญญารู้แจ้ง เช่นโพธิญาณ ปัญญารู้แจ้งที่เป็นโลกุตรธรรม อรหันต์ คือ ผู้ที่พ้นความลับความลึก มีสภาพที่พ้นจากความไม่รู้ที่มันลึกลับ โพธิญาณเป็นความรู้เป็นปัญญา อรหันต์เป็น เจโต ก็เกิดสภาวะที่ อรหะ 

รหะ รโห แปลว่า ลึกลับ อรหะ คือ หมดความลึกความลับ สว่างแจ้งออกมาแล้ว พระอรหันต์จะเกิดหลังโพธิ โพธิคือปัญญา อรหันต์คืออยู่ในความมืดแล้วมาสว่างทีหลัง เพราะฉะนั้น โพธิจึงรู้ รหะ รู้ความลึกลับ ถ้าไม่มีโพธิ ก็พ้น รหะ เป็นอรหะ ไม่ได้เพราะฉะนั้น ต้องเกิด รหะ ต้องมีโพธิขึ้นมาแล้วจึงจะมี อรหะ ไม่อย่างนั้นก็จมอยู่ที่ รหะ รโห จมลึกลับอยู่อย่างนี้แหละ ขออธิบายกว้างไปอีก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2565 ( 14:03:11 )

โพธิสัตว์กับพระอรหันต์ต่างกันอย่างไร 

รายละเอียด

พระพุทธเจ้านี้เกิดมาเพื่อที่จะทำให้คนได้ธรรมะเป็นพุทธธรรม ที่สุดยอดแห่งชีวิต เพราะฉะนั้นกรอบสุดยอดของชีวิตที่คนควรได้คือ เป็นพระอรหันต์ จากพระอรหันต์ จะเจริญต่อไปจนสุดยอดเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างที่อาตมาเป็นโพธิสัตว์นั่นคือสุดยอดอีกระดับหนึ่ง สุดยอดระดับเป็นอรหันต์ให้ได้ ต่างกันอย่างไรกับโพธิสัตว์ กับพระอรหันต์ 

โพธิสัตว์นั้นสุดยอดคือจะต้องสร้างศาสนามาให้แก่โลกเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งของศาสนา ส่วนพระอรหันต์ก็เอาแต่ตัวเองให้รู้จักว่ากิเลสหมดดับกิเลสตายไปเป็นแยกธาตุเป็นอุตุนิยาม ไม่มีอะไรเหลือที่จะเกิดอีกเลยไม่มีชีวะอีกเลยได้ นั่นคืออรหันต์ทุกองค์ อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 21 วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2563
ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:59:51 )

โพธิสัตว์กับสัปปายะ 4

รายละเอียด

ถ้าเป็นโพธิสัตว์จะอยู่ได้โดยไม่ต้องมีสัปปายะ 4 ถ้าอย่างนั้นหากอยู่นอกสนามแม่เหล็กโลกุตระจะถูกโลกดึงไป ต้องมีพลังในตัวเอง  เป็นดวงดาวที่เป็นดาวฤกษ์เอง มีแสงสว่างในตัวเอง สั่งสมบริวารจนมีครบ 9

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 31 ธันวาคม 2562 ( 15:43:16 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:00:56 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:48:11 )

โพธิสัตว์กับอรหันต์

รายละเอียด

เดี๋ยวก็บอกตัวเองเป็นอรหันต์ เดี๋ยวก็บอกตัวเองเป็นโพธิสัตว์ ก็ใช่สิเพราะอาตมาเป็นทั้ง 2 อย่าง เดี๋ยวก็ต้องบอกเป็นโพธิสัตว์ เดี๋ยวก็ต้องบอกเป็นอรหันต์ บอกทั้งสอง อาตมาก็บอกได้แล้วอธิบายได้ด้วย ก็น่าสงสารคุณสติล  เฟรช พึ่งมาฟังหรืออย่างไร อธิบายโพธิสัตว์กับอรหันต์ให้ฟังว่า อรหันต์ เป็นฐานของผู้ที่ปฏิบัติธรรม โดยความหมายแล้วคือ เป็นผู้ที่ทำให้เกิดจิต บรรลุ บรรลุกิเลส กิเลสเป็นสิ่งที่ลึกลับ เรียกว่า รหะ ที่แปลว่าความลึกลับ อรหะ แปลว่า ความไม่ลึกลับ ผู้ปฏิบัติธรรมแล้วจนกระทั่ง เห็นกิเลส และจัดการกิเลสได้ ทำให้กิเลสจางคลาย ทำให้กิเลสดับได้ ดับจนหมดสิ้นจนกิเลสนี้ไม่เกิดอีก จบ สุด ก็เรียกว่า อรหันตะ อรหะ แปลว่าไม่ลึกลับ อันตะ แปลว่าที่สุด ไม่ลึกลับในเรื่องของกิเลสในตัวเรา แล้วเราทำให้หมดกิเลสได้ เป็นพระอรหันต์ จบทุกอย่างก็สูงสุด เป็นพระอรหันต์ในพระโสดาบัน ก็จบในภพหนึ่ง หมดอบาย จบ คนที่เรียนถึงขั้นอบาย สูงมาป็นสกิทาคามี ก็ล้างกิเลสในกามภพก็เป็นพระอรหันต์ในพระสกิทาคามี ตามเหตุปัจจัยตามศีลตามอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา อธิวิมุติ ไปตามลำดับ มันก็มีเหลื่อมกัน แต่อธิบายไปตามลำดับ จนเป็นอนาคามีก็ล้างกิเลสในรูปภพอรูปภพ เป็นพระอรหันต์ในอนาคามี จบก็เป็นพระอรหันต์สูงสุด เป็นผู้ที่ไม่ลึกลับสูงสุด คนที่จะเป็นโพธิสัตว์ โพธิ แปลว่า ความตรัสรู้ เป็นความรู้ในระดับของศาสนาพุทธ เป็นความรู้ระดับอรหันต์ผู้ทำอรหัตตผล ทำอรหันต์ได้คือผู้ที่มีโพธิไม่ใช่สัตว์ใต้ต้นโพธิ์ แต่เป็นสัตว์ที่บรรลุโพธิ เป็นผู้ที่มีความตรัสรู้ ตรัสรู้กิเลสตรัสรู้ความดับของกิเลสจนกระทั่งถึงอรหันต์ โพธิสัตว์จึงคืออันเดียวกับอรหันต์ แต่สูงกว่าอรหันต์ เพราะรู้จักความเป็นอรหันต์ บางอย่างเขานับถือโพธิสัตว์มากกว่าอรหันต์ในพวกมหายาน เถรวาท ก็ไม่เอา ไม่ต่อภพภูมิ จะเอาแต่อรหันต์จนกระทั่งมิจฉาทิฏฐิกลายเป็นอุจเฉทิฏฐิ เพี้ยนไปหมดจนเป็นอรหันต์เข้าป่า ผิดไปก็ไม่รู้จัก กาม ง่ายๆในสิ่งเสพติดอย่างเช่นมหาบัวก็ติดหมาก แทบจะตลอดเวลา ขาดปากไม่ได้ หากขาดปากประเดี๋ยวก็หาว มันติดเหมือนคนติดสิ่งเสพติด ไม่รู้แม้กระทั่งสิ่งเสพติดที่หยาบ ตื้นขนาดนี้ แล้วยังไปกลบเกลื่อนให้ลูกศิษย์ลงไหลตาม มันก็เป็นบาปของมหาบัว เอาสิ่งเสพติด กินหมากปากเปรอะ บางทีนั่งสมาธิแล้วน้ำมันก็ไหลย้อย จริงๆเคยเห็นไหมมาก อาตมาต้องขยายความเรื่องอรหันต์กับโพธิสัตว์นี้อย่างชัดเจนและละเอียดและก็พาทำ ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงพระโพธิสัตว์ของเถรวาทไม่ละเอียดไม่มากพอ เข้าใจแต่ว่าพระโพธิสัตว์คือเป็นพระพุทธเจ้า ปางที่ยังไม่บรรลุพระพุทธเจ้า เป็นพระโพธิสัตว์ปางที่ยังไม่บรรลุพระพุทธเจ้า แล้วก็เป็นปางที่สูงแล้ว ก็เลยไม่รู้ในเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลาย ก็ไม่รู้จักโพธิสัตว์ เพราะเขาไม่ได้ศึกษาศาสนาระดับโพธิสัตวภูมิกัน ยิ่งไปตัดทิ้งโพธิสัตว์เลย เอาแต่อรหันต์เลย ก็ยังมิจฉาทิฏฐิ พระโพธิสัตว์เป็นผู้ที่รู้ละเอียด โพธิสัตว์ระดับโสดาบัน โพธิสัตว์ระดับสกิทาคามี โพธิสัตว์ระดับอนาคามี โพธิสัตว์ระดับอรหันต์ โพธิสัตว์ อนุโพธิสัตว์ อนิยตโพธิสัตว์ นิยตโพธิสัตว์ สูงไปกว่านั้น มหาโพธิสัตว์ระดับที่ 8 ระดับที่ 9 ก็เป็นปัจเจกพระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้า แล้วขอยืนยันว่าที่พูดไปนี้ มีจริง เป็นจริง พวกเถรวาสเขาอาจจะบอกว่าไม่รู้เรื่องโพธิสัตว์ มหายาน มีแยกแตกต่างกันอีกเยอะ อธิบายโพธิสัตว์เป็นมิจฉาทิฐิออกไปจากโพธิสัตว์อีกเยอะแยะเป็นของเลอะเทอะก็ไม่ต้องไปพูดถึง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 19:50:02 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 08:11:43 )

โพธิสัตว์ขั้นที่ 9 แตกต่าง 2 นัย

รายละเอียด

1.ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า กับ 2.พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งสองนัยมี สัมมาสัมโพธิญาณเท่ากัน ถ้าไม่มีภูมิธรรมมากพอก็ไขความอันนี้ไม่ได้ อาตมายังอยากจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้ เพราะไหนๆก็บำเพ็ญมาแล้วก็เอาความเป็นมนุษย์ให้ได้สูงที่สุดเพราะมันยังอาจเอื้อมถึงได้อยู่ไม่ท้อ แม้จะหนักหนาสาหัสจริงๆมาถึงชาตินี้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:30:27 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:01:50 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:16:58 )

โพธิสัตว์คือผู้ที่มีโพธิมีความตรัสรู้

รายละเอียด

อันนี้มีคนสงสัยอยู่ ต้องจำไว้เลยว่าโพธิสัตว์คือผู้ที่มีโพธิมีความตรัสรู้ โพธิไม่ใช่ความเฉลียวฉลาดสามัญ แต่เป็นความฉลาดที่มีโพธิมีความตรัสรู้ เริ่มต้นตั้งแต่เป็นพระโสดาบันก็มีโพธิ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นศาสดาทั้งหลายนั้น ยังไม่ได้เข้าข่ายว่าเป็นพระโสดาบัน เพราะไม่ได้อยู่ในทฤษฎีของพระพุทธเจ้ามรรคมีองค์ 8 ซึ่งศาสนาไหนก็ไม่มีสมณะ 4 เหล่า พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ท่านก็ตรัสไว้ชัดเจนไม่ได้ยากอะไร แต่ทีนี้การให้ทานเสียสละมันเป็นความดีอันเป็นกุศลของโลก คนที่เสียสละคือให้ทาน อเมริกัน เขาได้บริวาร คนอยู่ใต้อาณัติ เพราะเขาเสียสละเขาให้ทาน ให้ทานอะไร ให้ทานปืนอาวุธระเบิดเพื่อฆ่า นี่เขาให้ มันซับซ้อน คำว่า เสียสละหรือให้ทาน เป็นข้อ 1 และข้อสุดท้ายของพระพุทธเจ้าเป็นต้นตอของคุณงามความดีและเป็นส่วนลึกซึ้งสุดของคุณงามความดี บารมี 10 ทัศก็เริ่มต้นด้วยทาน ปฏิบัติให้จิตมันเป็นทานนี่แหละสุดยอดที่สุด จบแล้วก็อยู่ด้วยบารมีเมตตากับอุเบกขาเป็นคู่สุดท้าย จบกันเป็นจิตสองธาตุ เมตตากับอุเบกขา อาศัยในชีวิตเพื่อทำงาน ทาน ให้เกิดบารมีที่เหลือในนั้นอีก 7 ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน แล้วก็เมตตากับอุเบกขา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐานก็เป็นสี่บารมีที่เรียงกันไป ต้องศึกษาให้ดี ประเด็นที่ข้องใจ เขาไม่ได้เป็นพระอาริยะ แต่เสียสละ บอกแล้วทาน เสียสละให้เป็นความดีเบื้องต้นของมนุษย์เลย ดูตั้งแต่สามัญสำนึกและลึกซึ้งสลับซับซ้อนไปจนถึงที่สุด ทานจะเข้าขั้นพระโพธิสัตว์จะต้องมีจิตที่เป็นปรมัตถ์ และผู้ศึกษาผู้ปฏิบัติจะต้องรู้จิตของตนเองว่าเราสละอะไรของพระพุทธเจ้านั้นสละอบายมุข โพธิสัตว์จึงได้ให้ไปเลย ที่จริงไม่ได้ให้หรอกไม่เอา เขาจะเอาก็เอาไปเอง จริงๆเราไม่ได้อยากให้อบายมุข แต่เราสละออกไปแล้ว เนกขัมมะออกจากอันนี้แล้ว ให้ไปจากตัวเองแล้วตัวเองไม่เอาแล้ว เนกขัมมะแปลว่าให้ แปลว่าสละออก เอาออกหรือให้ไปจากตัวเอง 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 09:46:30 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 14:10:02 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:30:24 )

โพธิสัตว์คือลูกพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น

รายละเอียด

พวกเราชาวอโศกเป็นคนซื่อสัตย์จริงใจ และพยายามศึกษาทฤษฎีที่ดีที่สุดที่เราจะศึกษาก็คือของพระพุทธเจ้า ศึกษาจนเราเกิดเรามี เป็นลูกพระพุทธเจ้าแท้ๆ มีคุณสมบัติคุณธรรมตรงตามพระพุทธเจ้า

ที่อาตมาต้องยืนยันและระบุ บอกว่าโพธิสัตว์คือลูกพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น โพธิสัตว์ที่อุบัติขึ้นมาในสังคมโลกยุคนี้ ปางนี้ กาละนี้ เป็นสัจจะจริงๆ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามพิสูจน์ได้ แม้แต่อาตมาจะบอกว่าคนไหนเป็นโพธิสัตว์ก็อย่าเพิ่งมั่นใจ แต่ไม่ได้โมเม ผู้ที่อาตมายังไม่ระบุเพราะว่ายังไม่ถึงเวลา หรือยังไม่สมควร ระบุไปแล้วควรจะเข้าใจได้ยากก็ขอไว้ก่อน แต่มีเลือดโพธิสัตว์ คำว่าโพธิสัตว์ มีเลือดตั้งแต่เข้ากระแส ก็มี แม้จะไม่เข้ากระแสก็ตั้งจิตเป็นโพธิสัตว์ได้ เช่น คุณที่เป้าเก็งเต็ง ตั้งอกตั้งใจเผยแพร่มังสวิรัติอย่างเดียว อาตมาก็เอาหนังสือขององค์กรนี้มาเผยแพร่ แกชื่ออะไร? แกศรัทธาระบบเซน จะมีหนังสือเซ็นออกมาให้อ่านเยอะเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ก่อนฉัน ที่โรงเรียนผู้นำ จ.กาญจนบุรี สัปปายะ 4 ที่มีสัมประสิทธิ์ วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:49:37 )

โพธิสัตว์คืออย่างไร

รายละเอียด

คุณมาพิสูจน์สิ ทดสอบตรวจทำสถิติวิจัยก็ได้อาตมาบอกอยู่แล้ว โพธิสัตว์ระดับที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 สูงสุด 9 ก็เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ปัจเจกพระพุทธเจ้าแล้ว ซึ่งอาตมาเป็นคนมาบัญญัติหรือมาพูดเอง เป็นของที่มีมาเก่า แต่ว่าไม่มีใครมาพูด ไม่รู้สายมหายานโพธิสัตว์มีใครพูดลำดับอย่างอาตมาหรือเปล่าว่าโพธิสัตว์เป็นอย่างไร โพธิสัตว์คือผู้ที่มีโพธิ คือ ความตรัสรู้ คือความรู้โลกุตรธรรม ผู้ที่มีความรู้โลกุตรธรรมก็เอาความรู้โลกุตระธรรมนั้นมาเปิดเผย มาเผยแพร่มาประกาศมาขยาย ไม่มีใครหรอกที่รู้ว่าสิ่งใดประเสริฐแล้วไปเอาสิ่งที่ไม่ประเสริฐ คนที่มีของดีแล้วเอาแต่ของไม่ดีมาโชว์มันไม่มีหรอกคนก็เอาของดีมาโชว์นี่แหละ ดีไม่ดีโชว์อวดอ้างว่าดีด้วยซ้ำไป ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งเสียหายถ้าเขาไม่มี สาเฐยจิต อวดอ้าง หากเป็นสิ่งที่ดีอย่างแท้จริง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:11:36 )

โพธิสัตว์คืออะไรและตัดเอาอะไรเป็นเครื่องชี้

รายละเอียด

ทีนี่ คำว่า โพธิสัตว์มันตัดเอาอะไรเป็นเครื่องชี้ โพธิสัตว์คือสัตว์ที่บรรลุโพธิ โพธิคือเครื่องตรัสรู้ โพธิหรือโพชฌังคา องค์แห่งโพชฌงค์ คือองค์แห่งการตรัสรู้ที่ทำให้เกิดการบรรลุธรรมเป็นความรู้ขั้นโลกุตตระ ขั้นแรกที่สุดเรียกว่า โสตาปันนะหรือโสดาบัน หมายความว่าเริ่มเข้ากระแส ขั้นที่ 2 แล้วก็ทำได้อีกหลายๆขั้นเรียกสกิทาคามี พอหลายขั้นๆข้างนอก ขั้นกามภพได้หมด ครบทำได้อยู่เหนือกามภพ ก็เหลือข้างในเรียกว่าอนาคามีโพธิสัตว์ เป็นขั้นที่ 3 ขั้นที่ 4 เป็นโพธิสัตว์ที่บรรลุ อรหัตตผล เป็นพระอรหันต์ เป็นขีณาสวโพธิสัตว์ ขั้นที่ 5 ขึ้นไปบำเพ็ญต่อเป็นพระโพธิสัตว์เริ่มตามพระพุทธเจ้าเรียกว่า อนุ คือตาม ถ้าจบแค่พระอรหันต์คนนี้ก็จบได้แล้วปรินิพพานเป็นปริโยสานได้แล้ว แต่ยังไม่จบจะตามความรู้ของพระพุทธเจ้าเป็นโพธิสัตว์ ตรงนี้แหละ อนุโพธิสัตว์จะเป็นโพธิสัตว์ที่เริ่มตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้า สอบไปเข้าเรียนต่อ มหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้า แต่ยังไม่แน่ยังไม่เที่ยง อนุโพธิสัตว์เข้าได้ ขั้นที่ 6 อนิยตโพธิสัตว์เข้าได้ แต่ก็ไม่เที่ยงต้องไปถึงขั้นที่ 7 นิยตโพธิสัตว์ก็เป็นผู้ที่เที่ยงอย่างไรก็จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ขั้นที่ 8 เป็นโพธิสัตว์ที่ยิ่งใหญ่เป็นมหาโพธิสัตว์ ขั้นที่ 9 ก็บรรลุปัจเจกภูมิเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย นี่คือโพธิสัตว์ 9 ระดับ ที่อาตมาก็เอาตามของอาตมาเอามาอธิบาย ไม่ได้เอามาจากตำราเล่มไหนหรอก แม้แต่มหายานก็ไม่มี อาตมาไม่ได้ศึกษามหายานเท่าไหร่ แต่ในเถรวาทพูดกับเขาไม่รู้เรื่องหรอก เขาก็หาว่าอวดอุตริ คนอื่นไม่รู้เรื่องด้วยตัวเองรู้เรื่องคนเดียวมันก็จริง รู้อยู่คนเดียว เขาไม่รู้เรื่องแต่อาตมาก็ต้องอธิบายโดยมั่นใจว่าอาตมาไม่ได้พาให้ผิดทาง และมันต้องเป็นผู้สืบทอดศาสนาพุทธเป็นอย่างนั้น มันจะต้องต่อให้ชัดเจน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 10:17:01 )

โพธิสัตว์คือใคร

รายละเอียด

คือคำว่าโพธิสัตว์ คำว่าอรหันต์ ในประเทศไทย ผู้รู้ในประเทศไทย ยังเข้าใจไม่ได้ เข้าใจแต่ว่าโพธิสัตว์คือผู้ที่ไม่ใช่อาริยะ โพธิสัตว์คือผู้ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า ตั้งจิตตั้งปณิธานว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า แต่ยังไม่เป็นอาริยะขั้นโสดาบัน สกิทาคามี อะไรเลย ถือว่าเป็นสัตว์ใต้ต้นโพธิ์ ซึ่งเขาเข้าใจผิด 

พระโพธิสัตว์นั้นคือผู้ที่มีภูมิพระโพธิสัตว์จึงจะเป็นโพธิสัตว์ สัตว์ใต้ต้นโพธิ์จะเป็นโพธิสัตว์ได้อย่างไร ทีนี้ภาษาพยัญชนะก็แปล โพธิสัตว์ว่าคือผู้ที่มีภูมิตรัสรู้ ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป เป็นโพธิสัตว์ระดับ 1 อย่างหมอเขียวบอกว่า เป็นโพธิสัตว์ระดับ 5 ก็เท่ากับเป็นโพธิสัตว์ระดับ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ เป็นอนุโพธิสัตว์ที่จะพากเพียรเป็นพระพุทธเจ้าต่อไปก็เป็นระดับที่ 5 ระดับที่ 6 อนิยตโพธิสัตว์ ระดับที่ 7 นิยตโพธิสัตว์ เที่ยงแท้ที่จะไปเป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นก็ขึ้นไปมหาโพธิสัตว์ ระดับที่ 8 ระดับที่ 9 ก็เป็นพระพุทธเจ้า

ก็มีลำดับอยู่อย่างนี้อธิบายมาตลอดเวลา ซึ่งไม่มีใครอธิบายอย่างที่อาตมาอธิบายเพราะเขาไม่มีภูมิระดับนั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 21 ตอบปัญหาให้พ้นความสุขคือความโง่ วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2564 ( 20:19:28 )

โพธิสัตว์จะต้องบรรลุอรหัตผลก่อน

รายละเอียด

อาตมาก็อธิบายซ้อนอยู่แล้วว่าโพธิสัตว์จะต้องบรรลุอรหัตผลก่อน บรรลุธรรมตั้งแต่พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี ที่เป็นผล ก็เป็นโพธิสัตว์ตามลำดับ เป็นพระอรหันต์จบขั้นที่ 4 ก็เป็นโพธิสัตว์ระดับอรหันต์ขั้นที่ 4 แล้วยังมีอนุโพธิสัตว์ขั้นที่ 5 อนิยตโพธิสัตว์ขั้นที่ 6  นิยตโพธิสัตว์ขั้นที่ 7

โพธิสัตว์ 9 ระดับ 

1.โสดาบันโพธิสัตว์ 

2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 

3.อนาคามีโพธิสัตว์ 

4.อรหันต์โพธิสัตว์ 

5.อนุโพธิสัตว์ 

6.อนิยตโพธิสัตว์ 

7.นิยตโพธิสัตว์ 

8.มหาโพธิสัตว์ 

9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อาตมาบอกว่าอาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ผ่านอรหันต์มาตั้ง 3-4 ขั้น ผู้ไม่เคยได้ยินได้ฟังไม่ได้ศึกษามา ก็ฟังไม่ขึ้นเพราะเขาไม่เคยมีลำดับขั้นตอนอะไรมา แต่ของพระพุทธเจ้ามีลำดับขั้นตอน ยังมีขั้นที่ 8 เป็นมหาโพธิสัตว์ ขั้นที่ 9 เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ศีลที่เป็นกุศลย่อมยังความเป็นอรหันต์โดยลำดับ

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:18:57 )

โพธิสัตว์จะต้องมาเรียนรู้แต่ละจริตของคน

รายละเอียด

ในความเกิดเป็นคนมาแล้วนี้ ในการเกิดมาแล้ว ถ้าไม่เรียนรู้โลกุตรธรรมจนจบกิจ มันจะเกิดวนเวียนซ้ำซ้อนกลายเป็นสูงแล้วต่ำ ต่ำแล้วก็สูง สูงแล้วก็ต่ำ อย่างในเทวนิยม ได้เกิดเป็นศาสดาไม่ใช่จะไม่ต่ำ จะตกต่ำอีกกี่ชาติกี่ชาติเพราะเขาไม่รู้จักการเวียนเกิดเวียนตาย กรรมวิบากเขาไม่รู้ ไม่รู้กรรมวิบากศาสนาเทวนิยม 

แล้วก็ไม่รู้เหตุที่จะทำให้กรรมนี้หมดความวนเวียนลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งเป็นพระอรหันต์ ไม่วนเวียนลงต่ำ มีแต่โลกุตรธรรม อรหันต์นี้เป็นโลกุตรธรรมต่อเนื่องไป เพื่อที่จะช่วยเหลือมนุษยชาติให้ได้มากยิ่งขึ้น มากจริต มากความคิดอ่าน มากพฤติกรรมอะไรต่ออะไร ซึ่งมันมากหลากหลาย ต่างคนต่างคิดต่างเห็นนี้มันเยอะ 

เพราะฉะนั้นโพธิสัตว์นี้ก็จะต้องมาเรียนรู้แต่ละจริต แต่ละบุคคล แต่ละความคิด แต่ละการยึดถือ เยอะแยะจะช่วยเขาอย่างไร ก็จะได้มากขึ้น มีโพธิสัตว์ตั้งไม่รู้กี่ระดับ จบอรหันต์แล้วยังมีระดับ 5 ระดับ 6 ระดับ 7 ระดับ 8  ไม่ใช่น้อยๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบพุทธ ตอน 1 วันพุธที่ 29 มีนาคม 2566 วันขึ้น 8 ค่ำเดือนห้าปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 20:25:33 )

โพธิสัตว์ต่างจากอรหันต์อย่างไร

รายละเอียด

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประเสริฐ ลึกซึ้ง ซับซ้อนเหมือนขัดแย้งในตัว แต่มันสุดยอดในตัว นี่คือคุณลักษณะที่คนไทยมีในเมืองไทย นี่ คนไทยต่างๆพวกนี้คือโพธิสัตว์ 

โพธิสัตว์คืออะไร โพธิสัตว์คือผู้ที่ฉลาด โพธิสัตว์ฉลาดกว่าอรหันต์ โพธิเป็นผู้ที่มีความตรัสรู้ มีความรู้ในระดับสูงขึ้นสูงขึ้น อรหันต์เป็นผู้ที่ไขความลึกลับ รู้จักความลึกลับ โดยเฉพาะรู้จักของตัวเอง รู้ของตัวเองหมดเรียกว่า อรหันตะ รู้ความลับของตัวเองหมด จบ 

ส่วนโพธินั้นฉลาดรู้ไปเรื่อยๆ โพธิสัตว์นั้นสูงกว่าอรหันต์ ทุกเมื่อ ตั้งแต่โพธิสัตว์ระดับที่ 1 โสดาบัน อรหัตตผลของโสดาบัน ก็ยังเป็นรองโพธิสัตว์ของโสดาบัน 

สกิทาคามีก็เหมือนกัน โพธิสัตว์ของสกิทาคามีก็เหนือกว่าอรหัตตผลของ สกิทาคามี 

อรหัตผลของอนาคามี โพธิสัตว์ก็เหนือกว่าอรหัตผลของอนาาคามี 

เพราะฉะนั้น อรหันต์ เป็นความอยู่กับตัวเอง รู้แต่ตัวเอง พยายามทำลายความไม่รู้ ความลึกลับ ให้รู้ ให้พ้นความลับ หลุดพ้นจากความลับ แจ้งสว่าง จบให้ได้ ของตัวเอง แต่ โพธิสัตว์ รู้ ความเป็นของตัวเองแล้ว และกำลังรู้ของผู้อื่นเพิ่ม อันอื่นเพิ่ม ก็เลยเหนือกว่าอรหันต์

แต่อรหันต์ ที่มีอัตตามานะหรือสายตัวเอง จะยึดตัวเอง ไม่ยอมรับคนอื่น โดยเฉพาะเป็นอรหันต์โง่ คือ อรหันต์ที่ ไม่เชื่อว่าจะมีโพธิสัตว์ ไม่เชื่อว่าจะมีใครรู้ดีกว่ากู คนนี้จะโง่ตลอดกาล ผู้ที่อยู่กับตัวคนเดียวและนึกว่าตัวเองรู้แล้วไม่ยอมรับ และไม่ยอมศึกษาว่า อ๋อ โลกนี้มีคนรู้กว่าเรานะ 

ตราบใดที่คุณยังไม่ใช่พระพุทธเจ้า คุณจะต้องยอมรับผู้ที่เป็นสัตบุรุษ หรือโพธิสัตว์ระดับเหนือกว่า โพธิสัตว์ระดับเหนือกว่าที่จะมาเกิดในแต่ละยุคนี้คือสัตบุรุษ ผู้ที่อยู่ในขั้น 7 สัตตะคือ 7 เคยขยายความมาแล้ว 1-7 แล้วไปเป็น 8 ไปเป็นพระพุทธเจ้าสูงสุดและสุดท้าย ก็ขยายความยากอยู่ เรื่องนี้ วรรคพักไว้ก่อน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 51เป็นผู้แพ้ผู้รับใช้ได้ไม่ยาก ด้วยฌานทั้ง 4 วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2565 ( 15:05:24 )

โพธิสัตว์ต้องมีความจริงและสาธยายได้ 

รายละเอียด

จะบอกว่าเป็นโพธิสัตว์ต้องมีความจริงและสาธยายได้ ตกลง คุณไม่หลงตัวก็ดีแล้ว ไม่อวดตัวก็ดีแล้ว ก็อยู่กับดาราจักรของคุณก็แล้วกัน ที่มือที่เท้านั่นแหละ หรือเป็นนิยตโพธิ ก็เอา ที่จะพูดว่าตัวเองเป็นนิยตโพธิ พูดเต็มๆ ก็คือ นิยตโพธิสัตว์ ต้องรู้สาระความสำคัญของโพธิสัตว์ หรือความเป็นโพธิสัตว์ขั้นนิยตโพธิสัตว์ 

ซึ่งอาตมาก็ได้ไล่ โพธิสัตว์ 9 ระดับให้ฟังบ้างแล้ว โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์  2. สกิทาคามีโพธิสัตว์  3. อนาคามีโพธิสัตว์  4. อรหันต์โพธิสัตว์  5. อนุโพธิสัตว์  6. อนิยตโพธิสัตว์  7. นิยตโพธิสัตว์  8. มหาโพธิสัตว์  9. พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตัวเองต้องมีคุณสมบัติทางจิตวิญญาณ เป็นไปได้จริงตามคุณสมบัติของแต่ละระดับ เป็นสภาวะมีขั้นชั้นของมัน มีเนื้อหาสาระของมัน แตกต่างสูงกว่ากันคนละขั้น ต้องมีจริง ไล่ได้ ยิ่งเป็นโพธิสัตว์จะรู้หรือไล่ได้ เอามาสาธยายอย่างที่อาตมาแยกแยะสาธยายให้ฟังได้ คุณบอกว่าคุณรู้ ก็ต้องเอามาสาธยายบ้างสิ ช่วยกัน ช่วยกันเปิดเผย ช่วยกันสืบสานศาสนาพระพุทธเจ้า 

คนมีจริงเป็นจริงก็ต้องทำจริง เป็นประโยชน์จริง แสดงออกจริง แต่คนโง่งมงาย ก็ได้แต่พยัญชนะ ได้แต่ภพชาติที่คิดว่าเราเป็นอย่างนี้ๆ เอาตัวเท่ๆ ภาษาโก้ๆ มาใส่ตัวเอง พระพุทธเจ้าอะไรนะ พระศรีอาริยเมตไตรย นี่ บอกว่าเป็นพระศรีอาริยเมตไตรยมาเกิด พูดอย่างนี้ออกมา คนนี้ก็ขี้ฟันร่วงออกมาจนเหม็นฉึ่ง คือ แสดงความโง่เง่าของตัวเองที่ไม่รู้อะไรเลย บอกว่าตัวเองเป็นพระศรีอาริยเมตไตรย คือ ไม่มีความรู้อะไรในเรื่องพุทธศาสนาเลยที่คนพูดอย่างนั้นออกมา แสดงออกมาได้ยังไง ยุคนี้ศาสนาพระพุทธเจ้า ในกัปของพระพุทธเจ้าสมณโคดมอยู่เลย แล้ว พระศรีอริยเมตไตรยจะมาเกิดในยุคนี้แล้วก็เล็กกว่าพระพุทธเจ้าสมณโคดม 

มันขี้ฟันเน่าๆ ร่วงกราวเหม็นฉึ่ง จะบอกว่าตัวเองเป็นนิยตโพธิสัตว์ ถ้ามันจริงก็เป็นประโยชน์ เอามาทำสิ อย่าพูดให้คนเขาเห็นว่า โธ่ มันอวดขี้โม้เหม็นขี้ฟัน ไม่เข้าใจสาระ คมบาดเลย ชนะด้วยการยอมแพ้ จริง นี่เรื่องจริง ก็ติดตามดีๆ ธรรมะพระพุทธเจ้ามีลักษณะ dialactic เป็นลักษณะสิริมหามายา ย้อนแย้งอยู่ในตัว อย่างยิ่งใหญ่ ฟังแล้วก็ไปติดตามดู 

 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 11:09:51 )

โพธิสัตว์ถึงระดับ7ก็ยังเป็นสาวกภูมิ

รายละเอียด

โพธิสัตว์ก็ยังเป็นสาวก จะหมดความเป็นสาวกภูมิก็เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าหรืออย่างน้อยก็ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านมีภูมิสยัมภูเท่ากับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ท่านไม่ได้ประกาศศาสนา มีคนเข้าใจผิดว่าปัจเจกพระพุทธเจ้าคือผู้ที่รู้อยู่เพียงผู้เดียวบอกคนอื่นไม่ได้ สอนคนอื่นไม่ได้ ศาสนาพุทธไม่มีแบบนั้นยาวๆเป็นปัจเจกเลยแม้แต่ยังไม่เป็นพระโสดาบันก็สอนคนแล้ว ไม่โสดาบันนี่แหละสอนเก่งจัง กำลังโซดาฟองฟอดเดือดดี พอเป็นโสดาก็จะรู้ตัว เพราะรู้อัตตา อัตตนียา อยากอวดดีอยากโชว์ดีเป็นมานะ อติมานะ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 03 มิถุนายน 2563 ( 10:54:05 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 14:15:19 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:29:00 )

โพธิสัตว์ที่เที่ยงต่อการเป็นพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ยังไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่อาตมาก็มีอรหันต์ แล้วมาบำเพ็ญต่อเป็นอนุโพธิสัตว์ บรรลุ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์(ยังไม่เที่ยงจะไปเป็นพระพุทธเจ้าได้คือเรียกว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้ายังไม่ได้) 7.นิยตโพธิสัตว์(เที่ยงต่อการไปเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต สอบเข้ามหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้าได้แล้วแต่จะเรียนจบหรือไม่ก็อีกอย่างหนึ่ง) 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:29:26 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:03:28 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:52:51 )

โพธิสัตว์ที่เพี้ยนแล้วไม่มีสัมมาปฏิปทาเป็นไฉน

รายละเอียด

ก็ฝากความไปถึงท่านพุทธอิสระอีกคน บอกว่าเป็นโพธิสัตว์ จะศึกษาทำแต่ความดีช่วยศาสนา พากเพียรอย่างนั้นโดยไม่ศึกษาไปตามลำดับ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ มัวแต่จะทำความดีกอบกู้ศาสนา แล้วไม่เรียนในระดับโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามีตามลำดับ ตามทฤษฎีของพระพุทธเจ้า มันก็เพี้ยนแล้ว เป็นโพธิสัตว์ที่เพี้ยนแล้ว ไม่มีสัมมาปฏิปทา ไม่มีทางที่ถูกต้องที่จะเดินไม่มีเบื้องต้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:10:23 )

โพธิสัตว์ปฏิวัติ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ได้กระทำนี้ เรียกใช้ศัพท์ตามคานธีเขาเรียกว่าสัตยาเคราะห์ การอนุเคราะห์ด้วยความจริง สัตยะ จนกระทั่งกอบกู้ประเทศชาติได้ คานธีเขาก็ใช้ แต่คานธียังใช้ได้ไม่งามเท่าของไทย เพราะยังมีความรุนแรง ฆ่าแกง ทำให้เห็น ทำประเจิดประเจ้อ ทหารของอังกฤษเขาก็ทำโหดเหี้ยมต่างๆนานา ก็เป็นเหตุการณ์อันหนึ่งในโลก ปฏิวัติแบบคานธี

แต่ประเทศไทยปฏิวัติแบบโพธิรักษ์ ขออภัยนั่นเป็นคานธีโพธิสัตว์ระดับหนึ่งปฏิวัติ แต่ในเมืองไทยนี้โพธิสัตว์ระดับโพธิรักษ์ปฏิวัติ เป็นผู้ทำการปฏิวัติ ไม่เหมือนกัน แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือให้เรียบร้อยให้สำเร็จ ปฏิบัติการชุมนุมประท้วงคราวนี้ จะไม่ยั่วยุไม่ทำให้เกิดความรุนแรง เหมือนคานธีท่านใช้สัตยาเคราะห์แบบนี้ จนกระทั่งกอบกู้ประเทศชาติได้

เรามุ่งเอาความจริงกับความรู้ออกมาตีแผ่เปิดเผยเป็นหลัก เอาความจริงความถูกต้องที่เป็นหลักฐานแท้ว่ามันจริงอย่างงั้น ไม่จริงอย่างงี้ ก็จะถูกเอามาเปิดเผยให้มากๆ หมดๆนี่คือยุทธศาสตร์ใหญ่ของเรา ที่จะยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริง ออกมาให้มากๆ หมดๆ

เราก็จะได้เป็นคนมีความรู้ ทำอะไรอย่างอาริยชน เป็นคนศิวิไลซ์ซึ่งไม่ใช่คนเถื่อนๆที่เอาแต่เรี่ยวแรงมาฆ่าแกงกัน คนผู้ประเสริฐแล้ว ถ้าจะชนะกันก็ชนะกันด้วยความถูกต้อง หรือความจริง ผู้ใดมีความถูกต้อง มีความจริงกว่าก็ชนะตามสัจธรรม ซึ่งจะมีทั้ง ตุลาการภิวัฒน์ และ ประชาภิวัฒน์ เป็นผู้ตัดสิน 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 19 วาระแห่งชาติ ระดมเชียร์ลุงตู่ให้อยู่ต่อ

วันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2566 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 พฤษภาคม 2566 ( 19:53:42 )

โพธิสัตว์ปาง 7

รายละเอียด

เราเกิดมาเป็นคนก็ได้ศึกษาความรู้ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ พากเพียรไปให้สูงสุด ปางนี้เป็นโพธิสัตว์ปาง 7 ไม่ผิดทางยังไงๆก็สู้ตาย ไม่บรรลุ ก็ทะลุกันไปเลย เพราะว่ามันสุดยอดจริงๆ มันยิ่งเห็นยิ่งลึกซึ้งสุดยอด ในความรู้ของความเป็นมนุษย์ รู้โลกรู้อัตตา รู้ความเป็นธรรมมะ สุดยอด 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:24:30 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:04:12 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:53:56 )

โพธิสัตว์ผู้มาต่อเชื้อศาสนาพุทธในยุคกึ่งพุทธกาล

รายละเอียด

การทำตัวเองให้เป็นผู้ที่มีคุณค่าสูง แต่เป็นคนที่เป็นภาระสังคมเป็นผู้ที่เปลืองผลาญในสังคมน้อยที่สุดๆได้ นี่เป็นหลักสัจธรรม ประโยชน์สูงประหยัดสุด

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 16:01:28 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:05:25 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:18:10 )

โพธิสัตว์ผู้ไม่ยอมจบ

รายละเอียด

เมื่อผู้ที่เป็นอรหันต์รู้จักเหตุและดับเหตุได้ ไม่พาเกิดได้ ตายแล้วก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานก็จบเป็นดินน้ำไฟลมไป แต่มีผู้ที่ไม่ยอมจบเรียกว่า โพธิสัตว์ศึกษาต่อไปอีก อยากจะรู้ว่า เรานะ รู้แล้วล่ะ ไม่เกิดไม่ตายเป็นอมตะเป็นอย่างนี้ แต่คนอื่นๆล่ะ เขาไม่เกิดไม่ตายเหมือนอย่างเราได้ไหม ก็ตามศึกษา ก็จะเห็นความจริง โอ้…ไอ้ที่ไม่เกิดไม่ตายอย่างเราทำได้ยาก นอกนั้นไม่รู้ความไม่เกิดไม่ตาย ทำไม่เป็น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 39 พุทธานุสสติ และอัมพัฏฐสูตร วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 16:57:08 )

โพธิสัตว์มีความรู้เฉพาะทาง

รายละเอียด

มันเกี่ยวเนื่องกัน หากเรารู้พลังงานของพืช พีชนิยาม ก็จะผ่านไปสู่พลังงานจิตหรือสัตว์ได้ อย่างไอสไตน์รู้พลังงานแสง เสียง แม่เหล็กไฟฟ้า พลังงานอุตุ เอามาให้รู้กันในโลกก็เป็นโพธิสัตว์ระดับหนึ่ง ต่อมาจะมีคนที่เผยแพร่เรื่องพืช อาตมาก็ไม่ได้ตามว่าใครเป็นโพธิสัตว์เรื่องพืช แล้วก็มีโพธิสัตว์เรื่องจิตนิยาม มีความรู้เฉพาะทาง อุตุ ความรู้เด่นเฉพาะพืช ความรู้เด่นเฉพาะจิต มันก็จะมี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทเริ่มอธิบายที่ชาติ 5 วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 13:38:23 )

โพธิสัตว์มีใครบ้าง

รายละเอียด

อาตมายกอ้าง ว่า โพธิสัตว์มีใครบ้าง เช่นบอกว่าไอน์สไตน์เป็นโพธิสัตว์ คานธีเป็นโพธิสัตว์ ในหลวงเป็นโพธิสัตว์ เป็นต้น อาตมาอ้างไปก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความรู้ทางโพธิภูมิ ก็ยังอธิบายเท่าที่ได้แต่ก็อ้างอิงยืนยันขยายความไปเรื่อยๆ มีหลักฐานที่ไอน์สไตน์เขียนจดหมายถึงลูกเรื่อง Bomb of love

ที่จริงแล้วอาตมาก็ไม่ชัดเจนว่า เห็นจดหมายของไอน์สไตน์ก่อนเกิดในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต แต่เมื่อเกิดพฤติกรรมสังคมมนุษยชาติ เป็น Bomb of love 13 ตุลาคม 59 อาตมาก็ชัดเจน ไอน์สไตน์ อาตมาก็เชื่อว่าเป็นโพธิสัตว์ตามภูมิอาตมาคนก็จะงง โพธิสัตว์อะไร ยังไปทำที่วัตถุเท่านั้นไม่ได้มาเน้นนามธรรม อาตมาก็อธิบายไม่ค่อยออก ที่ชัดเจน หลายอย่างที่ไอสไตน์รู้อาตมาก็รู้ บางอย่างอาตมาก็รู้ก่อน บางอย่างไอสไตน์ก็รู้ก่อน ก็เลยรู้ว่าเป็นคนตระกูลเดียวกัน อาตมาถึงบอกว่าไอน์สไตน์เป็นโพธิสัตว์คนอื่นฟังก็จะงง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูพบคณะผู้บริหารสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) NIDA

วันพุธที่ 30 มกราคม 2562 อุบลราชธานี


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 20:42:59 )

โพธิสัตว์ระดับ 7 ขึ้นไป เป็นจอมยุทธ์ไร้เทียมทาน

รายละเอียด

ถ้าสมมุติว่า แชมป์คนนี้ชนะตั้งแต่รองแชมป์คนที่ 1 จนถึงรองแชมป์คนที่ 99 ก็ยิ่งใหญ่เลยสิ เพราะฉะนั้นแชมป์ตัวจริงก็จะเป็นอย่างนี้แหละ ก็จะเป็นแชมป์ไม่มีทางเคยแพ้เลย รองแชมป์เก่าก็จะฝึกวรยุทธขึ้นมาสู้ๆๆๆๆ จนกระทั่งหมดแล้วในยุคนั้น ในกัปนั้น ไม่มีรองแชมป์คนไหนจะสู้ได้อีก พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าในระยะเวลาใกล้กันจะมีพระพุทธเจ้า 2 องค์ที่เก่งใกล้เคียงกันอุบัติขึ้นมาใกล้กันนั้นหาได้ยาก เป็นไปไม่ได้ ไม่เป็นฐานะที่จะเป็น อฐานะ พระพุทธเจ้าไม่มีใครจะเทียบได้ เป็นจอมยุทธไร้เทียมทานจริงๆ แม้แต่โพธิสัตว์ระดับ 7 ยุคนี้ก็จะหาคู่มาเปรียบเทียบได้ยาก ก็ต้องพิสูจน์ความจริงไป พูดไปก็เพียงแต่พูด อวดเก่งไม่พอหรอกมันต้องพิสูจน์ความจริงว่าเป็นธรรมะจริงๆ นะ เป็นโลกุตรธรรมจริงๆนะ รบด้วย ไม่มีอาวุธ มีแต่ความสงบ ราบเรียบร้อย มีแต่สันติ อหิงสา อโหสิ นะ อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เทวนิยมใหญ่สุดโต่งอย่างไรในศาสนาพุทธ วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 19:45:29 )

โพธิสัตว์ระดับ 7 ขึ้นไปจึงมีความรู้เองเป็นเองได้

รายละเอียด

มีขั้นตอนที่จะเป็นเองนั้น ต้องขั้น 7 ขึ้นไป ขั้น 5 ขั้น 6 ยังไม่เป็น สยังอภิญญา ยังไม่ได้อย่างนี้เป็นต้น ขั้น 7 ทำไม ไขให้ฟังนิดนึง ขั้น 7 ทำไมถึงเป็นของตนเองได้แล้วไม่ต้องไปรับจากพระพุทธเจ้า เพราะว่าผู้ที่เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ขึ้นไปนี้ อาตมาเคยอธิบายไปแล้วว่าเป็นผู้ที่สอบผ่านเข้าไปถึงขั้นว่า เป็นผู้ที่จะมีสิทธิ์ นิยตะ เที่ยงแท้ เป็นนิยตโพธิสัตว์ เป็นสัตตบุรุษที่เที่ยงแท้ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้เองแล้ว มีคำว่า เอง ตัวเองเป็นเองรู้เอง

เริ่มต้นรู้เองตั้งแต่รู้บัญญัติ รู้ภาษา ได้สัมผัส กว่าจะได้เป็นนิยตโพธิสัตว์ต้องพบพระพุทธเจ้ามาตั้งหลายพระองค์ แล้วก็ต้องบำเพ็ญมาเอง ฝึกฝนเองมาไม่รู้กี่ล้านชาติ เพราะฉะนั้นจึงสามารถที่จะมีคุณวิเศษ มีคุณธรรมคุณสมบัติ มีความรู้ ปัญญา ความสามารถครบครันที่จะเข้ามา ที่จะเป็นจริงในตัวบุคคลในตัวโพธิสัตว์นั้นๆ 

นี่ขยายความให้ฟังละเอียดๆ ตามที่อาตมาเห็นเป็นจริง ที่พูดไปนี้นะยังรู้สึกว่า ยังไม่ชัด ยังไม่เต็มในความ ที่จริงไม่เต็ม อาตมายักไว้อยู่เหมือนกัน ในความเป็นจริงว่า จะต้องใช้เวลาอีกนานนับชาติไม่ถ้วน กลัวคนจะท้อ ว่าตายๆ กลัวคนจะไม่มาเป็นโพธิสัตว์ จบอรหันต์แล้วก็จะไปแล้ว บ๊ายบาย เอาตัวรอดไป เจาะรูรอด กลัวจะไม่เป็นโพธิสัตว์ อาตมาก็เลยยักไว้หน่อยนึง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เคล็ดวิชา 9 ประการ ของจอมยุทธโลกุตระ วันพุธที่ 22 มีนาคม 2566 ขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 เมษายน 2566 ( 19:55:47 )

โพธิสัตว์ระดับ 7 จะได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน

รายละเอียด

คุณมีพลังงานถึงขั้นที่ 4 มันจะออกรอบของ cyclic order ชุดแรก มา 5 ได้ครึ่งของ 9 ล่วงมาถึง 6 ก็เป็น 2 เส้า พอ 7 จะเป็นพลังงานหลักของเส้าที่ 3

พอถึงขั้นนี้จะเป็นพลังงานที่ไม่มีที่ยั้งไว้ได้แล้วถึงเลข 7 ไปสู่ที่สุดที่สูงถ่ายเดียวไม่มีตกต่ำเลย อย่างอาตมาเป็น โพธิสัตว์ระดับ 7 จะเป็นผู้ที่ไปเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตแน่นอน นิยตะคือแน่นอน จะได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน นอกจากอาตมาจะรีไทร์ตัวเองเท่านั้นเอง ไม่เป็นพระพุทธเจ้า เป็นปัจเจกได้ประมาณนึง ก็เมื่อยแล้วไม่ไปเป็นพระพุทธเจ้า ตกลงปรินิพพานเป็นปริโยสานไปเลย ก็จบ เป็นเรื่องสิทธิของอาตมา แต่ถ้าอาตมาไม่รีไทร์ตัวเอง ก็จะไม่มีตกต่ำเป็นธรรมดาอยู่แล้ว อวินิปาตธรรม เป็น นิยตะ เที่ยงแท้แน่นอน เป็นนิยตโพธิสัตว์ เที่ยงแท้แน่นอนจะเป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาด้วยปัญญามุทุภูเตของพ่อครู วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 17:06:26 )

โพธิสัตว์ระดับ 7 จึงจะอธิบายรายละเอียดความเป็นพระอรหันต์ได้

รายละเอียด

อนุโพธิสัตว์ในระดับ 5 ก็ยังไม่เก่ง อธิบายพระอรหันต์ให้แก่คนอื่นฟัง อนิยตโพธิสัตว์ระดับ 6 ก็ยังพอจะอธิบายพระอรหันต์ให้แก่คนอื่นฟังพอรู้เรื่องได้

ระดับที่ 7 อย่างอาตมาจึงอธิบายแยกแยะรายละเอียดได้อย่างนี้ ไม่ใช่ว่าจะมาแกล้งอธิบายแกล้งพูด มันจะแกล้งอธิบายอย่างนี้ได้ไหม คนอธิบายรายละเอียดของสภาวะธรรมระดับสมณะที่ 1 2 3 4 แม้ที่สุดขณะนี้อธิบายเกินกว่าไปเป็น อนุโพธิสัตว์ อนิยตโพธิสัตว์ ได้

หากว่าคุณท่องจำมาก็พอได้ เดี๋ยวถ้าถูกโพธิสัตว์ระดับสูงกว่าซักเข้าก็จะเหงื่อออกจักแร้ พิสูจน์ได้ว่าใครเหงื่อจะออกจักแร้ก่อนก็แพ้ พระพุทธเจ้าก็ช่างกระไร รู้ละเอียดลออ

ที่มา ที่ไป

ธรรมะรับอรุณปีใหม่โดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 11:31:12 )

โพธิสัตว์ระดับ 7 สามารถเพิ่มน้ำหนักให้ตัวเองได้ไหม

รายละเอียด

มันก็พยายามจะเพิ่มแต่มันไม่ง่าย เพราะเป็นเรื่องของสังขารให้อวัยวะต่างๆทำงาน ตับเพิ่ม ไตเพิ่ม ปอดเพิ่ม หัวใจเพิ่ม  น้ำย่อย น้ำเลี้ยง น้ำเหลือง อะไรเพิ่ม มันไปบังคับไม่ได้ อาตมาไม่เก่ง อันนี้ยอมรับว่าอาตมาไม่มีความสามารถ ไม่เก่งขนาดจะไปบังคับให้สรีระแต่ละส่วน สรีระหรืออวัยวะทุกอย่างโดยเฉพาะอวัยวะที่มันเป็นอัตโนมัติภายใน 32 ประการ ที่มันทำงานอยู่ภายในแม้แต่ภายนอกก็มี ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง อาตมาไม่ได้ฝึกไม่ได้เรียนรู้ไปใช้อำนาจอย่างนั้น เรียนรู้แต่ทำจิตวิญญาณกลางๆ ให้มีพลังงานเข้าไปขับเคลื่อน โดยปริยาย ให้มีอัตราเร่งโดยรวม ไม่ได้เข้าไปกำกับหัวใจ กำกับไต กำกับตับ กำกับม้ามกำกับส่วนอวัยวะสำคัญอะไรแต่ละส่วน ไม่ได้ทำถึงขนาดนั้น เพราะฉะนั้นไม่มีความสามารถปานฉะนั้นได้ มีพลังงานรวมเท่าที่มันเป็นไปได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่นชาวสันตินาคร วันพุธที่ 17 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก 


เวลาบันทึก 22 มีนาคม 2564 ( 11:19:13 )

โพธิสัตว์ระดับ 7 หรือไก่ตัวพี่ในยุคนี้ขยายสภาพจริงของโลกุตรธรรมได้อย่างไร 

รายละเอียด

อาตมาก็บอกว่าอาตมาเป็นขั้นที่ 7 ที่จริงจะปีนไปหาขั้นที่ 8 บ้างแล้วอย่างไรอาตมาก็ไม่จำเป็นจะต้องไปพูด อธิบายแต่ขั้นที่ 7 นี้ คนอื่นๆก็ยังภูมิไม่ถึงอาตมา อาตมาจึงไม่จำเป็นต้องยกตัวเองเป็นขั้นที่ 8 ขั้นที่ 9 มันไม่มีขั้นที่ 7 ให้อาตมาซ้อนชั้นขึ้นไปอีกแล้วจะไปพูดทำไม อาตมาเป็นผู้ใหญ่แล้วเป็นไก่ตัวพี่แล้ว แล้วจะมีไก่ตัวพี่ของที่ไหนขึ้นไปอีก ลมๆ แล้งๆ เปล่า 

ชาตินี้ถึงบอกว่าใครเป็นไก่ตัวพี่ก็ปรากฏตัวหน่อยน้องจะได้อาศัยบ้าง อาตมาไม่ได้ริษยา และไม่ได้ห้ามนะ ก็ไม่เห็นจะมีใครโผล่มา ถึงโผล่ออกมาแล้วอธิบายไม่ได้ก็หน้าแตก เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครกล้าโผล่มา คงประมาณกันแล้วว่าไม่ใช่ของเล่น หน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลยนะ ก็ยังไม่มีใครกล้าโผล่มา เราก็ขยายสภาพจริง 

1. ทั้งอธิบาย 2. นำพาให้ปฏิบัติ 3. สำเร็จผลเป็นไปได้ 4.รวมตัวกันเป็นหมู่ เป็นสังคม 5. มีคุณวิเศษถึงขั้น เมื่อมาเป็นสังคมแล้วมีวัฒนธรรม 

มีทั้งเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม อยู่รวมกัน มีลาภที่ได้มาโดยธรรมก็นำมารวมกันเป็นกองกลาง กินใช้ร่วมกัน เป็นสาธารณโภคี แล้วก็อยู่ร่วมกันอย่างเสมอสมานกัน ทั้ง ศีลสามัญญตา ทิฏฐิสามัญญตา ครบตามสาราณียธรรม 6 แล้วแต่ละคนก็ยืนยันอีกว่า สั่งสมคุณสมบัติวรรณะ 9

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภู คือผู้นำพาคนไปสู่ความจนอันประเสริฐ วันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 ธันวาคม 2564 ( 15:57:20 )

โพธิสัตว์ระดับ 7 อธิบายของจริงจากตัวเองโดยตรง

รายละเอียด

จะเข้าใจรายละเอียดของกรรมกิริยาทางจิต ละเอียดลอออย่างนี้ พระพุทธเจ้าสอนสิ่งที่สุดยอดในโลก พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้อันนี้ อาตมาไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าก็อธิบายอันนี้ไปเรื่อยๆ แล้วจะอธิบายยิ่งกว่านี้ไปเรื่อยๆ อาตมานี้คือโพธิสัตว์ระดับ 7 เมื่อไปเป็นโพธิสัตว์ระดับ 8 เป็นพระพุทธเจ้าก็ยิ่งชัดเจน

ไม่ใช่ว่าพูดเล่นๆ เอาที่ไหนมา ไม่ได้เอาที่ไหนมาแต่มันเป็นของจริงในตัวเราเอามาพูด ไม่ได้เอามาจากตำราไหนหรอก เอามาจากของตัวเองโดยตรง อาตมาสะสมสัมภาระวิบากเป็นโพธิสัตว์มา ก็เป็นความจริงไม่ได้มาอวดอ้างอะไร แล้วก็ทำให้เห็นพิสูจน์ไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 20 วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2563
ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:32:55 )

โพธิสัตว์ระดับ 7 เอาความจริงมาพูด

รายละเอียด

อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ก็รู้ความจริงพวกนี้มาก็พูดไป อธิบายความจริง พูดไปอะไรยืนยันได้อาตมาพูดความจริงทั้งนั้น แต่คนไม่เข้าใจก็จะหาว่าเอาอะไรมาพูด ใช่แล้วที่คุณไม่รู้ก็เลยต้องบอกอย่างนั้น เอาอะไรมาพูด แต่อาตมายืนยันว่าที่เอามาพูดนี่คือความจริง ที่เอามาพูดหรือว่าเป็นจริงอย่างนี้ก็เอามาอธิบาย ผู้สนใจ (มีเสียงเด็กร้อง) วันนี้มี Sound effect เสียงเด็กร้องมีเด็กชายดีดี เขาก็เบิกบานตามประสาเขา ไม่ได้ทำลายของอะไรหรอก ซนไป อาจจะโยนทิ้งขว้างบ้างเท่านั้นเอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 29 วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 19:41:56 )

โพธิสัตว์ระดับ 8

รายละเอียด

โพธิสัตว์ระดับ 8 คือ วิรชะซึ่งอาตมารู้ว่าอาตมาตอนนี้ยังไม่อยู่ในระดับ 8 อาตมาอยู่ระดับ 7 คือ อโศกะ ส่วนระดับ 9 คือ เขมัง  เราอยู่ระดับปลายตรงนี้มันเป็นอันนี้จริงๆ ไม่โศกเศร้า (ปลายระดับ 7) เราเตรียมไปเป็นวิรชะ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 13:07:02 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:06:58 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:19:31 )

โพธิสัตว์ระดับ 9 คือ พระพุทธเจ้า ภพภูมิเป็นพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ส่วนโพธิสัตว์ระดับ 9 นั่นคือ พระพุทธเจ้า ภพภูมิที่เป็นพระพุทธเจ้าเพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่มีชีวิต ก็เห็นอยู่มีสังขารมีวิญญาณนามรูป ตั้งแต่พระอรหันต์ไปแล้ว ก็มีเป็นคนอยู่เหมือนเขาเหมือนกันทุกอย่าง แต่ท่านไม่มีกิเลส ผู้ที่ไม่รู้ก็ไปสมมุติว่าพระอรหันต์ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ยิ้มก็ไม่ได้ กระดุกกระดิกมากก็ไม่ได้ เขาไปกำหนดเอาเอง แท้จริงจะเป็นคนที่แคล่วคล่องว่องไว เป็นคนที่ไม่มีอะไรติดขัด เป็นคนสะดวกมี มุทุภูตธาตุ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐิติ 7 ปฏิจจสมุปบาท และวิชชา 8 วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 วันแรม 14 ค่ำเดือนยี่ ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2566 ( 11:30:19 )

โพธิสัตว์สยังอภิญญาผู้มากอบกู้พุทธศาสนาในกึ่งพุทธกาล

รายละเอียด

เจริญธรรมทุกคน ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้เป็นวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565 แรม 15 ค่ำ เดือน 12 วันสุดท้ายของเดือน 12 แล้ว พรุ่งนี้ก็จะขึ้นเดือนอ้ายแล้ว ขึ้นปีใหม่

วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของงาน โพธิบูชากตัญญู ครั้งที่ 3 ซึ่งจัด 3 วัน ตอนนี้สายตาชักแย่ อ่านผิด ตอนพิมพ์งานก็ไปกดคีย์บอร์ดผิดตัว มันชักเพี้ยนๆ ไปแล้ว มันก็เป็นไปตามความเสื่อมของมัน ก็มีสติสัมปชัญญะรู้อยู่ว่ามีอะไรไม่ปกตินัก 

โพธิบูชากตัญญู คำว่ากตัญญู ก็คงพอเข้าใจกันแล้ว ความกตัญญู เพราะฉะนั้นก็มาทำการบูชา คำว่า บูชาหมายความว่า ยกย่อง เชิดชูบูชา ยกย่องเชิดชูความเป็นโพธิ 

ความเป็นโพธิสัตว์เป็นนามธรรม แต่โพธิรักษ์นี้เป็นรูปธรรม เป็นตัวตนบุคคล เพราะอาตมามีโพธิ มีนามธรรมนั้น พวกคุณก็มาบูชาโพธิ โพธิไม่ใช่ของอาตมาทีเดียว โพธิเป็นสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้า โพธิคือความตรัสรู้ หรือความรู้ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านรู้ แล้วเอามาตรัส เอามาบอก เอามาพูด ให้มนุษยชาติได้ยินได้ฟัง ความรู้จากพระโอษฐ์ เป็นคำตรัส ตรัสก็คือคำพูด

มาพูดให้ประชาชนได้รู้ ก็รวมเรียกความรู้ที่พระพุทธเจ้าท่านเอามาพูด เอามาตรัส มาพูดให้คนได้ยินได้ฟัง ก็รวมเรียกด้วยคำศัพท์ว่า ตรัสรู้ เป็นคำกิริยาก็ได้ คำนามก็ได้ 

ถ้าเผื่อว่ายังไม่เข้าใจคำว่าโพธิ หรือเข้าใจคำว่าโพธิไม่สัมมาทิฏฐิพอ ไม่ลึกซึ้งพอว่าเป็นความรู้เฉพาะของพระพุทธเจ้าเท่านั้น เป็นสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เฉพาะพระพุทธเจ้า 

เพราะศาสดาอื่นๆในมหาจักรวาล ที่เป็นพระศาสดาของเทวนิยม แตกต่างจาก อเทวนิยมหรือแบบพุทธ ในยุคหนึ่ง กัปหนึ่ง ก็มีองค์เดียว แล้วศาสนาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมมีอายุยืนยาวแค่ 5,000 ปี ก็หมดสิ้นแล้ว ความรู้นี้หายลงไป สลายไปเสื่อมสิ้นไปไม่เหลือ ไม่มีอะไรมาบังคับ มันจะเป็นอย่างนั้นจริง 

ความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่ได้ตรัส ประกาศตั้งแต่ พ.ศ. พระพุทธเจ้า ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เขาก็เริ่มนับ พ.ศ.1 จนมาถึงวันนี้ 2,565 ปี พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ตั้งแต่
พ.ศ.0 เริ่มนับจาก พ.ศ.1 จนถึง 2,500 ปีนี้มันก็เสื่อม นับตั้งแต่ พ.ศ. 1 พระพุทธเจ้าปรินิพพาน จนถึงปี 2500 นี้ มียืนยันปรากฏการณ์จริงว่า ชาวพุทธ แม้ผู้ที่เป็นกระแสหลัก เป็นผู้นำพา หรือว่าเป็นเจ้าแห่งพิธีการ เป็น MC ของศาสนา เป็น Master of Ceremony ของศาสนาพุทธ คือพุทธกระแสหลัก ชัดๆก็คือ เถรสมาคม เอาชัดๆ  ก็ได้ผิดเพี้ยนเสื่อมไปจากความรู้เดิม อาตมาพูดสัจธรรมนะ ไม่ได้ไปข่ม ไปดูถูกดูแคลน มันได้ผิดเพี้ยน บกพร่องไม่ตรงจากสัจธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว มันกลายไปเป็นเรื่องเปลือกผิว เป็นเรื่องปลอมแปลง เป็นเรื่องปรุงแต่งออกนอกรีตไป จากความรู้ที่ถูกต้องตามพยัญชนะ ตามสัจจะ ตามสภาวะ มันไม่ตรง

เช่น ภาษาศัพท์ ที่เป็นภาษาทางปรมัตถ์ ภาษาทางสภาวธรรม ภาษาชี้ตัวบอกสภาวธรรม คำว่า สมาธิ คำว่า ฌาน คำว่า กาย คำว่า บุญ อย่างนี้เป็นต้น เพี้ยนหมด มันผิดหมด

มันผิด ยิ่งทุกวันนี้อาตมาจึงกล้ายืนยัน ก่อนยังไม่ชัดเจนตอนนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นและจะชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปอีกจนกว่าอาตมาจะตาย มาถึงวันนี้ก็ได้พยายามฟื้นความรู้ของตัวเองขึ้นมาแล้วก็ขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะอาตมาเป็นโพธิสัตว์เป็น สยังอภิญญา เป็นผู้ที่มีอภิญญาของตัวเอง สยังอภิญญา อันเป็นความรู้ยิ่งของตัวเอง ข้ามชาติ มีมาเก่าแล้วก่อนแล้ว เป็น บุพเพกตปุญตา เป็นสิ่งที่ได้ปฏิบัติแล้ว สะสมแล้วเป็นบุพพะ เป็นของเก่า มาจนถึงทุกวันนี้ มาเกิดทำหน้าที่เพื่อจะกอบกู้ศาสนาพุทธนี้ขึ้นมา ที่อาตมายืนยันอยู่ในพระไตรปิฎก ในสัมมาทิฏฐิ ข้อที่ 10 ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าในโลกจะมีผู้มากอบกู้ ที่จะมาอธิบายยืนยันทิฏฐิทั้ง 10 นี้ได้ พาปฏิบัติสำเร็จ อย่างสัมมาทิฏฐิ  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ งานโพธิบูชากตัญญู ครั้งที่ 3 วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565  แรม 15 ค่ำ เดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2565 ( 11:19:24 )

โพธิสัตว์สร้างมวลมนุษยชาติเป็นเรื่องมนุษย์กับสังคม

รายละเอียด

ขนาดนี้ยุคใกล้กลียุค คนที่จะไล่อาตมาได้ทันนั้นไม่มีแล้ว ก็พูดให้ฟังเป็นสัจจะ เหมือนพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าไม่มีใครไล่ตามท่านทันหรอก อาตมามาถึงระดับนี้ใครก็ไล่ไม่ทันหรอก เพราะฉะนั้นคนที่จะไล่มา ก็จะค่อยๆเข้าใจมา จะชัดเจน แล้วจะไม่อวดดิบอวดดี ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิแล้วจะรู้ว่าอาตมาเป็นผู้พี่ อาตมาก็ไม่มีปัญหา ถ้าผู้ที่เป็นโพธิสัตว์ผู้พี่แสดงตัวแล้วก็พิสูจน์ตัวเอง แน่นอนโพธิสัตว์ผู้ใดเป็นที่เกิดมาในยุคนี้ ยิ่งอายุเท่ากันกับอาตมาก็จะต้องมีผลงานมีมวล มีการแสดงตัวมากชัดเจนเทียบกันได้ มันก็ยืนยันได้ เราไม่มีงานอื่นหรอกสำหรับพระโพธิสัตว์มีแต่งานสร้างมวลมนุษยชาติที่เป็นชุมชนเป็นระบบอยู่ในสังคมประเทศชาติอย่างนี้ไม่มีอย่างอื่นหรอก เป็นเรื่องของมนุษย์กับสังคม ซึ่งอาตมาก็เคยพูดซ้ำซ้ำซากว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ศึกษาอะไร มีแต่ศึกษาเรื่องความเป็นคนกับเรื่องความเป็นสังคม เท่านั้น แล้วท่านก่อนปรินิพพานเป็นปริโยสานแล้ว ท่านเกิดมาทำงานนี้อย่างอื่นท่านก็ศึกษาได้ อาตมาก็ศึกษา ศึกษาไปเป็นช่างเทคนิคตามที่โลกเขามีตามที่ควรจะเป็น แต่ละชาติไม่รู้กี่ล้านชาติ ก็ต้องมีสิ่งเหล่านี้ เก่งทางนั้นทางนี้ ชาตินี้อาตมาไม่เก่งทางเรื่องของเทคนิคเลย ขันน็อตก็ยังไม่เก่ง ชีวิตนี้อาตมาถ้าเป็นงานกับพวกนี้ อาตมาทำกับข้าวเก่ง ซักผ้าก็เก่ง อาตมาใช้อันนี้ในชีวิต ไปรับใช้เขา เหมือนแม่บ้าน เลี้ยงลูกให้เขา ชุนกระโปรงให้น้องก็มี 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 09:02:24 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:07:33 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:20:13 )

โพธิสัตว์สร้างใหญ่

รายละเอียด

เหตุปัจจัยในความเป็นมนุษย์ก็ดีความเป็นสัตว์โลกก็ดี มันก็เป็นเหตุปัจจัยที่จะสื่อแสดงให้เห็นถึงความพากเพียรถึงคุณค่าประโยชน์ต่างๆ ของแต่ละสัตว์แต่ละคน แต่ละฐานะ เพื่อให้เห็นว่าเขาสร้างกันทั้งวัตถุและจิตวิญญาณ โดยเฉพาะมนุษย์ สัตว์มันไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ บีเวอร์ก็ดีปลวกก็ดี มันก็ทำได้เท่าที่มันทำ ส่วนคนนี้ก็สร้าง คนที่เป็นโลกียะก็หลงสร้างกันไป ที่เห็นๆกันตามประสา มนุษย์ที่เป็นอาริยะ เป็นโพธิสัตว์ก็จะสร้าง บางโพธิสัตว์สร้างใหญ่ คำว่าศาสนาคือเพื่อเทิดทูนศาสนา เพื่อเทิดทูนพระพุทธเจ้า หรือพระเจ้าของเขา ก็ทำวัตถุขึ้นไป ทั้งๆที่ซ้อนๆในศาสนาเทวนิยม บางศาสนา ท่านบอกว่าไม่ติดวัตถุ อย่าเอารูปแทนสมมุติ แต่เขาต้องทำวัตถุก็ไปสร้างอันโน้นอันนี้ สร้างอาคาร วัตถุอื่น โดยเขาไม่ค่อยมีปฏิภาณว่าอย่าเอา รูปมาปนนาม เพราะว่าพระเจ้าเป็นนามธรรม ศาสนาพุทธนั้นแยกรูปแยกนามไปตามลำดับ แม้แต่นามก็ไม่ใช่พระเจ้า นามคือนาม เพราะฉะนั้นจะทำนามธรรมด้วยจิตวิญญาณธาตุรู้ให้เจริญ เจริญอย่างไร 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2563 ( 09:15:29 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:08:08 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:34:15 )

โพธิสัตว์สืบต่อไม่ได้ เพราะอะไร

รายละเอียด

พระพุทธเจ้านี้เป็นผู้ตรัสรู้ เป็นผู้ทรงค้นพบความจริงที่เรียกด้วยศัพท์ว่า โลกุตระ โลกุตระจะมีสภาพของคำว่า กาย บุญ ฌาน คำว่ารูปนาม โลกุตระเอาความรู้พวกนี้มาสอน แล้วมีสภาวะจริง เป็นความจริงที่รองรับด้วย เป็นนามธรรมที่ละเอียดมาก 

เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะรู้จักรู้แจ้งอันนี้ คิดเอาเองไม่ได้ รู้เองไม่ได้ ต้องรู้จักผู้รู้ที่รู้ พระพุทธเจ้าองค์ที่ 1 เมื่อไหร่เราไม่รู้ แต่เป็นความรู้โลกุตระที่มีอยู่แล้วในมหาจักรวาลนี้ เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 1 ถึงปัจจุบันนี้ ไม่รู้องค์ที่เท่าไหร่ ล้านๆๆๆ เราไม่รู้ แต่สืบทอดกันมาจนกระทั่งยังเหลือเชื้อโลกุตระขณะนี้ ถ้าหมดยุคของอาตมาพยายามสืบทอดไปนี้ แล้วมันจะขึ้นไปอีกแล้วมันจะลงไปอีก อาตมาพยายามปลุกชีวะของโลกุตระขึ้นมาได้อีกหน่อยแล้วมันก็จะลง สุดท้ายมันจะไปหากลียุค มันไม่มีผู้ที่สืบต่อ โพธิสัตว์ก็สืบต่อไม่ได้ แม้ว่าโพธิสัตว์จะมีความรู้ขนาดไหนก็สืบต่อไม่ได้ เพราะว่าประชาชนมันหมดปัญญา มันหมดธาตุรู้ มันหมดคุณภาพของความรู้ที่จะรับความรู้อันนั้นได้แล้ว เพราะฉะนั้น มันจึงเสื่อมไปตามเหตุปัจจัยของไตรลักษณ์ 

ไม่ใช่โพธิสัตว์เสื่อมแต่คนเองรับไม่ได้ จะเรียกว่าคนเสื่อมทีเดียว ยังไม่เริ่มต้นเลย จะเรียกว่าคนเสื่อมก็ไม่ได้เหมือนกัน ก็มันยังรับไม่ได้ ธาตุรู้หรือว่า สภาพตัวของเขา มันเป็น ยังอยู่ในฐานะของสัตว์ อเวไนยสัตว์ เป็นสัตว์ที่รับรู้หรือสอนไม่ได้ ยังไม่มีภูมิที่จะรับรู้ได้เป็น อเวไนยสัตว์ สอนอย่างไรก็รับรู้โลกุตรธรรมไม่ได้ อันนี้เป็นเขตจำกัดของความเป็นจริงของสัตว์โลก ใช่ ได้ในกรอบโลกียะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 60 ยากที่สุดในโลกนี่แหละคือความเป็น 2 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2565 ( 11:35:14 )

โพธิสัตว์สูงกว่าอรหันต์ 

รายละเอียด

โพธิสัตว์สูงกว่าอรหันต์  คือ เพราะโพธิสัตว์มีการบรรลุธรรมเป็นลำดับอรหัตตผลจนเป็นพระอรหันต์เต็มสูงสุด  คือ  หัน อันตะ แปลว่า ที่สุด โพธิสัตว์ระดับต้นไม่ค่อยเก่ง  สอนคนอื่นไม่เก่ง แต่โพธิ์สัตว์สามารถสั่งสมภูมิที่ไปสั่งสอนคนได้ดีมากยิ่งขึ้น มีมากจนเป็นของตัวเองเลย ถึงขั้น สยัง  หมายความว่าแม้เกิดยุคนี้ ไม่มีโพธิ์สัตว์ ไม่มีสัตบุรุษอื่นเลย คุณก็ทำของคุณเองได้ในยุคที่ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิด ไม่มีโพธิ์สัตว์ที่เป็นพี่มาเกิด  คุณก็เป็นผู้พี่เลยแสดงออกได้ แม้ไม่เป็นโพธิสัตว์ผู้พี่  แต่มีสยังอภิญญา  มีของตนเองเลย  ยุคนี้สมณะโพธิรักษ์เป็นพระโพธิสัตว์ก็เปิดเผยไปแล้วโพธิสัตว์ผู้พี่ก็ควรแสดงตัวถ้ามี  แต่โพธิสัตว์ที่ไม่สอนใครอยู่ส่วนตัวก็น่าจะมาบอกท่านก็ไม่เห็นปรากฏตัว มีคนเข้าใจว่าสูงกว่าท่านแต่ไม่กล้าปรากฏตัว  แต่เขาเชื่อว่าเขาสูงกว่า  แต่ไม่กล้าบอกกล้าสอนหรือว่าเขากลัวน้องเสียใจเลยไม่ปรากฏตัว  แต่เขาก็มีคนคนเชื่อคนคิดเอาเองนึกว่าตัวเองถูกแต่ไม่มีคนอื่นช่วยตัดสิน  สรุปว่าโพธิสัตว์สูงกว่าอรหันต์

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 09:34:25 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:08:45 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:53:14 )

โพธิสัตว์เกิดมาเพื่อช่วยคนที่ยังไม่รู้ให้มาเจริญแบบโลกุตระ

รายละเอียด

ไม่มี หากมีก็รู้สึกว่า เราเองเป็นโพธิสัตว์เกิดมาเพื่อช่วยคนในโลกนี้ต้องเหนื่อยแน่ เพราะต้องช่วยคนที่ยังไม่รู้ พูดว่าโง่ก็ได้ ช่วยคนโง่นี้มันยากจะตายมันเป็นสัจจะ หลวงปู่เข้าใจว่าคนโง่คนรู้น้อยลงๆ ยิ่งโง่ ให้รู้มากขึ้นๆก็ค่อยยังชั่ว ก็ได้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆก็มีผลอยู่หลวงปู่ก็ไม่ท้อแท้ไม่กลัวก็ทำไป ยังจะเติมอายุขัยให้ตัวเอง ฝืนอายุขัยตัวเองด้วยซ้ำ เพื่อจะทำผลนี้ให้เกิดประโยชน์ หลวงปู่เกิดมาเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 เข้าใจอะไรมาก จะมีอะไรดีกว่านี้อีก หลวงปู่ไม่กลัวหรอก เรื่องลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุขนั้นทิ้งไปหมดแล้วไม่เอา มาเอาแบบเจริญแบบนี้ เจริญแบบโลกียะให้เขาดูว่ามันไม่ดี มาเจริญแบบโลกุตระดีกว่าและมีชั้นตอนอย่างไร อย่างน้อย 37 ชั้น ฝากไว้ก่อนโอฬาร

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 12:07:06 )

โพธิสัตว์เป็นตระกูลที่สร้าง DNA ทางนามธรรม

รายละเอียด

ถ้าใครสนใจติดตามด้านของความเป็นมนุษยชาติ ติดตามศึกษาความเป็นโพธิสัตว์ เป็นตระกูลที่สร้างดีเอ็นเอของความเป็นนามธรรม

คำว่า DNA เป็นสสารไม่ใช่นามธรรม แต่นี่มันเป็นพลังงานทางจิตวิญญาณ ก็ยากจะเข้าใจ ในพลังงานทางจิตกับวัตถุมันต่างกันอย่างไร มันต่างกันมาก เพราะนัยสำคัญของพลังงานจิตวิญญาณมันแยกแบ่งให้คนอื่นไม่ได้ ของเราตลอดตั้งแต่เริ่มต้นเกิดจนถึงปรินิพพาน เป็นปริโยสาน ส่งต่อให้กันไม่ได้ อย่างสสาร Genetic DNA ต่อเชื่อมไปให้ลูกได้ จากพ่อแม่ แต่นี่ของใครของมัน พ่อแม่ต่อให้ลูกไม่ได้ ปู่ย่าตายาย จะโผล่มาให้ลูกหลานก็ไม่ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12
ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันที่ 18 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:20:09 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์