@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ทำไมความจนจึงไม่หมดไปจากโลก

รายละเอียด

เรื่องความรู้สึกในคนจนและมาเป็นคนจนเป็นเรื่องใหญ่ของโลก ถามว่ายังไม่หมดจากโลกเสียที ขนาดคนมีความรู้โลกุตระอย่างชาวอโศก ยังบ่เป็นคนจนได้แค่นี้ อาตมาทำงานมา 48 ปียังได้แค่นี้ อาตมาอาจไม่เก่งพูดภาษาต่างประเทศไม่ได้ คนก็เลยไม่มาจากต่างประเทศขนาดเดี๋ยวนี้เขามีเครื่องแปลแล้วนะถ้าสนใจซะอย่าง อาตมาพูดไปนี้เขาแปลเป็นภาษาต่างชาติได้หมด อัดไปแล้วกดแปล แม้ว่าจะแปลไม่ละเอียดพอถึงอย่างไรก็รู้เรื่องได้ดีใช้ได้ เอาไปปฏิบัติตามได้ทันทีทั้งนั้น แต่มันก็ยังช้าเพราะว่าไม่ง่ายไม่เป็นไร อาตมาถึงบอกว่าอยากจะอยู่ดูผลงานอัตราการก้าวหน้าของโลกุตรธรรม จะพยายามไม่ตายเร็วแม้ว่าตายเร็วก็ต้องรีบมาเกิด แต่อย่างน้อยก็อายุถึง 20 ปีถึงจะมีความเดียงสามาทำงานรับช่วงของเก่า ดีไม่ดีลิงลมอมข้าวพองหลงโลกอีกหลายปีก็ไม่รู้ ชาตินี้ตั้ง 36 ปี ขนาด พระพุทธเจ้ายังถึง 35 ปี หลงวิบากในป่า 6 ปี หลงโลก 29 ปี อาตมาก็มีวิบากของตนไปหลงโลก 36 ปี ในงานนี้จะแบ่งพูด 12 12 12 12 ปี

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 12:27:00 )

ทำไมความยุติธรรม ไม่มีในโลก

รายละเอียด

มีๆๆ อย่าพูดอย่างนั้น อย่ามองโลกในแง่ร้ายเลย ถ้ามีแต่ความไม่ยุติธรรมนี้ โลกรุนแรง ไม่สงบ เมืองไทยตอนนี้เป็นเมืองที่มีความสงบเพราะมีความยุติธรรมเยอะ แต่ว่าความยุติธรรมนั้นคนส่วนใหญ่มันไม่เป็นพิษเป็นภัยเป็นโทษเป็นทุกข์อะไร ก็เลยไม่ไปดูว่าเป็นความยุติธรรม ก็มาดูแต่มุมที่เป็น อยุติธรรม มุมไม่ดี แล้วจะเอาเรื่องกับอยุติธรรมก็ถูกต้องแล้ว ต้องเอาเรื่องกับความไม่ดี ส่วนดีก็มีมากดีแล้ว อยุติธรรมตอนนี้กำลังถูกปราบมากก็เลยดูว่า เมืองไทยไม่มีความยุติธรรม ตอนนี้ก็เก็บกวาดส่วนฆราวาสได้มาก แล้วก็ไปหลบในฝ่ายที่เป็นนักบวช ที่เขาเคารพนับถือกัน เคารพกราบไหว้กัน ที่ไหนได้กำลังถูกชำระ แน่นอน คนในประเทศไทยมีพลเมือง 70 ล้าน พระมีไม่กี่แสนหรอก แต่ตัวที่เป็นปฏิกิริยาแรงๆเป็นตัวใหญ่ๆที่มีอิทธิพลก็ไม่มาก แต่มันไม่ดีก็น่าขายหน้าไปทั่วโลก ก็เลยพยายามจัดการ พยายามปราบปราม เพื่อให้เกิดความสะอาดสะอ้าน เพื่อให้มันดีงาม ก็ขออนุโมทนาสาธุ ตอนนี้ ก็เลยมีลูกหลงกระทบชิ่งบ้าง หลวงปู่พุทธะอิสระก็เลยโดนบ้าง ก็ทนเอาหน่อยนะ อย่างไรๆคงไม่กระไรหรอก บางทีเขาก็ต้องตีวัวกระทบคราดบ้าง เราก็เป็นผู้หนึ่งที่จะได้ร่วมกัน ได้ชำระเรื่องนี้ อาตมาว่าอีกไม่นานหรอก หลวงปู่ก็ถูกเขาตีหน่อย ก็เขาจะจัดการกับคราดก็เลยตีวัวหน่อย ตีวัวกระทบคราด คำพังเพยไทย เพราะฉะนั้นจะบอกว่า ทำไมความยุติธรรมไม่มีในโลกนั้นไม่ใช่หรอก ก็มีในเมืองไทยนี้ เมืองไทยยังมีความซื่อสัตย์สุจริตตรงกับความจริง ตรงกับความเป็นสัจจะ เมืองไทยจึงเป็นเมืองที่เป็นหลักแกนแบบมีโลกุตระจิต เป็นหลักแกนแห่งสุจริตธรรม เป็นหลักแกนธรรมะขั้นโลกุตระ เมืองไทยกำลังจะมีสิ่งนี้ให้แก่โลกเขา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 18:18:32 )

ทำไมคำสอนปัจจุบันจึงผิดไปจากคำสอนพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ก็เพราะความหมายความรู้ มันรู้ไม่ได้ มันไม่ยอมรู้ตามพระพุทธเจ้า ก็ใช้พยัญชนะใช้ภาษาสื่อสารว่ามันเป็นอย่างนั้นจริง มันก็เลยไม่ตรงกับของพระพุทธเจ้า ก็พยายามทำให้ตรงกับของพระพุทธเจ้า เมื่อรู้ตรงกันก็เข้าใจแล้ว ไม่เห็นยากเลย ทีนี้มันเข้าใจไม่ได้นี่แหละมันจะต้องพยายามศึกษาให้ดีๆ ทำความเข้าใจไป ก็จะค่อยๆรู้ตามเหตุปัจจัย พระพุทธเจ้าท่านใดแยกความต่างออกมาว่าเป็นสูตรเรียกว่าปฏิจจสมุปบาท 12 ขยายความต่อไป เราใช้ภาษาไทย ก็คิดว่าคนจะรู้ร่วมได้กับอาตมาเยอะ บันทึกไว้ในหนังสือต่างๆทุกคนเข้าใจร่วมกันนะ ในพจนานุกรมก็มี หรือภาษาที่เรากำหนดหมายได้ ก็มาพูดกันให้เข้าใจรู้เรื่อง มันก็จะจบ ก็จะไม่มีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นสรุปแล้วที่ทำมา 3 ประเด็น ทำไมบางคนฟังธรรมไม่รู้เรื่องเพราะไม่กำหนดให้ตรงให้รู้เรื่องให้ดี ขัดแย้งกันก็ยังไปทะเลาะกันไปตีกันอีก บ้านเมืองก็เลยขัดแย้ง มันก็เท่านั้นเอง ทำไมคำสอนปัจจุบันจึงผิดไปจากคำสอนพระพุทธเจ้าก็เพราะว่ากำหนดผิดยึดถือผิด ต่างคนต่างยึดถือของตน ยึดในความนึกคิดตอนสมมุติของตนเอง การสมมติอะไรของตนขึ้นมาเป็นอุปาทาน จะไปยึดถืออย่างไรก็นึกไปได้หมด ของเราเอง แต่เพี้ยนให้แตกต่างจากของคนอื่นได้สารพัด อยู่ที่เราจะบ้าบอยึดถือไป ในโลกนี้ต้องรู้สมมุติตามเขา สมมุติว่าเรามี 2 สิ่งคนนี้สมมุติอย่างนี้คนนี้สมมุติอย่างนี้ เราก็พยายามทำความสมมุติให้ตรงกับเขาให้ได้เขายึดถืออย่างนี้นึกคิดอย่างนี้ ก็จบ ตรงกันแล้ว เราจะต้องการอย่างนี้ทำมาให้แก่ตนหรือว่าตกลงว่าเรายืนยันว่าตรงกันแล้วอย่างนี้ไม่ตรงอย่างนี้ต่างกันอย่างนี้ อย่างนี้ไม่เอานะเอาอย่างนี้ เราก็รู้ร่วมกันให้ได้ แยกแยะให้ออกว่าเอาอย่างนี้ไม่เอาอย่างนี้ เราก็ทำความเข้าใจ ทำอันนี้คืออันนี้ อันนี้คืออันนี้ อันนี้คือเอาอันนี้คือไม่เอา 1 ความเข้าใจตรงกันว่าเอาอันนี้ไม่เอานี้ แล้วไม่เอาอันนี้ก็ทำอันนี้ให้ตรงกันก็จบ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 11:15:59 )

ทำไมฆาราวาสอโศกนิยมสีน้ำเงินเข้ม

รายละเอียด

อาตมาตัดเขตให้ ศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ศีลข้อที่ 2 เกี่ยวกับข้าวของต้องอาศัยใช้สอยเกี่ยวกับพืชด้วยอุปโภคและบริโภค เท่านี้แหละ 1. คุณอย่าทุจริตในสิ่งที่ไม่ใช่ของของเรา 2. กระทบสัมผัสแล้วคุณจะไปมีกิเลสกับมันในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสอย่างนี้น่าได้น่ามีน่าเป็นอย่างนี้ไม่น่าได้น่ามีนะ เป็นเรื่องมากเลี้ยงยาก ทำของกินของใช้ให้เป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำได้ตามฐานะ ถ้าดีกว่านี้ได้ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยเกินไปก็ดีก็เอา เราก็รู้เขต ถ้าหากฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยเกินไปเราก็ไม่เอา เอาแต่พอเหมาะพอเพียง ตามคำสอนในหลวงที่เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านทำเป็นตัวอย่างที่ดีงามมากแล้ว เข้าใจได้ง่ายด้วย ท่านเองแสดงให้ดู ท่านสอนไม่ได้มาก มีแต่โพธิรักษ์จะต้องมาพูด จ้ำจี้จ้ำไช

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 12:05:59 )

ทำไมจุดสำคัญที่สุดที่จะต้องปฎิบัติคือเวทนา

รายละเอียด

กลับมาสู่ อาการ ลิงค นิมิต อุเทส มีเงื่อนไขว่าไม่ใช่หลับตา มีอาการ เพราะ อาการนั้นเกิดจากผัสสะ เมื่อเกิดผัสสะ มีอาการแล้วก็มีนิมิตอีกที เป็นคำสรุปรวมจากอาการนั้นล่ะจาก สัมผัสกันเป็นอายตนะ สรุปความเป็นสภาพรวมได้เลย สภาพที่สรุปรวมลงได้เรียกว่า เวทนา ตามหลักปฏิจจสมุปบาท วิญญาณ นามรูป อายตนะ ผัสสะ เวทนา 

นามรูปคือ 2 สภาพ กระทบผัสสะกันเข้า เกิดอายตนะ เป็นสภาพ 2 นี่แหละรวมเป็นเวทนา 1 ความรู้สึกอายตนะ 2 กระทบกัน แล้วก็เกิดอาการขึ้นมาให้รู้เรียกว่า เวทนา เกิดอาการความรู้สึกของแต่ละคน ก็ให้มาศึกษาที่ตัวเวทนา ในเวทนานี้มีเหตุแห่งทุกข์ที่ชื่อว่า ตัณหาอุปาทาน ผู้ที่แก้ตัณหาอุปาทาน ล้างตัณหาอุปาทานไม่ได้หมดก็เหลือภพชาติ 

เมื่อมีภพชาติ ก็เหลือ ทุกข โทมนัส อุปายาสะ ก็เป็นอันหวังได้ เพราะฉะนั้น จุดสำคัญที่สุดที่จะต้องปฏิบัติคือ เวทนา พระพุทธเจ้าจึงแจกเวทนาออกในกระบวนการเวทนาเป็นเวทนา 108 เพราะฉะนั้นผู้ที่จะศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าไม่รู้จักเวทนา 108 พูดกันไม่รู้เรื่อง ปิดประตูที่จะบรรลุอรหันต์อีกเหมือนกัน ไม่พูดถึงเวทนา 108 โดยเฉพาะไม่เข้าใจเคหสิตะ กับ เนกขัมสิตเวทนา ที่พระพุทธเจ้าท่านแจกแจงเอาไว้เรียกว่าอาการของมโน 18 พฤติกรรมของมโนปวิจาร พฤติกรรมของอาการของจิต อาการของจิตอย่างเป็นโลกียะเรียกว่า เคหสิตะ  รู้จักกิเลส จับกิเลส เอากิเลสออกอย่างมีปัญญาเข้าไปล้างกิเลส กิเลสก็ลดก็ดับ จนหมด จนถึงขั้นเป็นอุเบกขาเป็นผลสุดท้ายของ เนกขัมสิตะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ อาการ ลิงค นิมิต อุเทส ของ นาม 5 รูป 28

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2565 บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2565 ( 14:32:04 )

ทำไมชาตินี้ต้องมาชื่อว่ารัก

รายละเอียด

เราจะรู้ทำจิตใจให้เป็นความรักที่สูงขึ้น อย่างเช่นอาตมาเข้าใจความรักลึกซึ้ง อาตมาชื่อรัก แล้วก็รู้จักทำใจให้เป็นความรัก 10 มิติ ไม่ใช่เขียนอย่างตรรกศาสตร์ แต่เขียนอย่างเอาสภาวะมาเรียงร้อยออกมา อาตมาถึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาตินี้อาตมาต้องมาชื่อว่ารัก ทั้งที่ชื่อแรกคือ สไมย์ ชื่อที่สองคือมงคล(สมเด็จติสโส อ้วน) ตั้งให้ ท่านเป็นอาจารย์ของลุงอาตมา ต่อมาอาตมาก็มาเปลี่ยนเป็นชื่อรัก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 36

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 ที่บวรราชธานือโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 10:58:11 )

ทำไมชาวอโศกถึงสบายจังเลย

รายละเอียด

เราอยู่ที่จุดจบ นอกนั้นเราก็มีสมรรถนะแข็งแรง ขยันสร้างสรรอย่างไม่ได้หอบแดด ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไร รู้พักรู้เพียร อัปปติฏฐัง อนายูหัง ถึงเวลาตื่นก็ตื่นทำงาน ถึงเวลาพักก็ควรพัก สบ๊ายสบาย.. คนที่ไม่มีปัญญาพอจะไม่รู้สึก ถ้าเขารู้สึกแล้วจะอิจฉาริษยาชาวอโศกอย่างหนัก ว่าทำไมมันสบายของมันจังเลยพวกนี้

จะว่ามันรวยก็ไม่รวยจะไปเสียแรงปล้นเสียแรงแย่ง ก็ไม่มีให้ปล้นให้แย่ง ก็ไม่ต้องแย่งหรอก มาเอา เราให้เลย เหมือนกับเขาจะไปรังแกคนที่ไม่มีแรงสู้ทำไม ที่จริงเราไม่สู้หรอกจะแย่งก็แย่งไป เขาแย่งไปเราก็ไม่หมดตัว เราก็ยังมีอยู่มีกิน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ GDP แบบโลกียะกับแบบโลกุตระ วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 21:34:44 )

ทำไมชาวอโศกมีสมณะและจะเรียกพระอาจารย์ได้หรือไม่

รายละเอียด

ใช่ เพราะว่า เขาเอาเราตายเลยนะ พยายามใช้วิธีการต่างๆนานาสารพัดที่จะทำให้เราไม่ได้อยู่ในสถานะ ไม่ได้มีสถานะของนักบวช คำว่า นักบวช ภิกษุ พระ มีอยู่ในกฎหมายเลยว่าห้ามใช้ หากไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ของเถรสมาคมเขา คือ ฮุบเอาไปเป็นของส่วนตัว ศาสนาพุทธเป็นของส่วนตัวไปเลย จะใช้คำแทนว่านักบวชในศาสนาพุทธเขาก็กำหนดไว้ในกฎหมาย คำว่าพระก็ดี ภิกษุก็ดี นักพรต นักบวชก็ทั้งนั้น ห้ามเรียกตัวเอง เจตนาจะไม่ให้มีภาษาเรียกตัวเองที่สื่อคำว่านักบวชเลย ที่ไทยจะรู้ได้ ใส่เข้าไปในกฎหมาย 

แต่ทีนี้มาตรวจแล้ว จะให้เรียกเราว่าอย่างไร ก็เราปฏิบัติธรรมปฏิบัติศีลสมาธิปัญญาของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจังอยู่ในพระธรรมวินัย แล้วยังมี จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล อีก เขาก็จำนนว่าเราปฏิบัติจริง แล้วจะให้เรียกเราว่าอย่างไร นักบวชก็ไม่ได้ นักพรตก็ไม่ได้ ภิกษุก็ไม่ได้ พระก็ไม่ได้ แล้วจะให้เรียกอะไร ค้นไปค้นมา นักกฎหมายเป็นเปรียญ 9 คุณจรวย หนูคง นั่งอยู่ด้วยกัน เสร็จแล้วก็โทรศัพท์ติดต่อกันระหว่างสมเด็จต่างๆ พูดจริงๆแล้วท่านไม่กล้ามาสู้หน้าอาตมา ท่านก็อยู่ห่างๆ ให้ฆราวาสมาสู้หน้า เรียกไปเรียกมา มีคำว่าสมณพราหมณ์ไม่ได้อยู่ในกฎหมาย ก็อันนี้สื่อ ความเป็นนักบวชนักพรตของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน จริงๆแล้วมันเป็นตัวแท้เลย นี่คือธรรมะจัดสรรทั้งนั้นเลย 

เหลือคำนี้ไว้ให้เรา ก็ตกลง สมเด็จต่างๆที่คุยกันก็ตกลง พวกท่านไปเรียกตัวเองว่าสมณพราหมณ์ เราก็ได้อันนั้นมา เป็นฉายานามของเราตั้งแต่บัดนั้น แล้ว มันก็ถูกต้องลงตัวหมดทุกอย่าง พอเราได้มาประกาศออกไป มหาระแบบก็บอกว่า เอาสมณพราหมณ์ไปให้ได้อย่างไร เพราะว่าสมณพราหมณ์แปลว่าพระอรหันต์นะ.. ก็เสร็จเรา มันก็ถูกสิ ก็ลงตัวอย่างนี้ ธรรมะจัดสรรไว้หมด 

จริงๆเราก็เรียกอาจารย์นะคำว่าอาจารย์ 1 อาจารย์ 2 ก็ไม่ได้ใช้ใส่คำว่าพระ แต่คนที่ติดปากก็มาถามว่าพระอาจารย์ คือในภาษาไทย คำว่าพระนำหน้า หมายถึงการยกย่องผู้นั้นอยู่ในฐานะสูง คำว่าพระนี่ พระเจ้าแผ่นดิน พระต่างๆนาๆ  จนกระทั่งถึงนักบวช พระ คำว่าพระนำหน้านี่ 

อย่าว่าแต่นักบวช แม้แต่พระกระโถน รองพระบาท พระทั้งนั้น จะใช้คำว่าพระนำเพื่อยกสถานะของสิ่งนั้น ว่า ไม่ใช่ของทำเล่นๆนะ ของที่ยกสถานะไว้แล้วนะอย่างนี้เป็นต้น เอาไปใส่กับวัตถุ ใส่กับนามธรรม ใส่กับบุคคลอะไรต่ออะไรได้หมด

เมื่อไม่ให้เราเรียกตัวเองว่าพระ ก็ไม่เรียก แต่ที่จริงเราไม่ได้ใช้คำว่าพระ แม้แต่พ่อครู ก็ใช้เรียกอาตมา ก็เป็นพยัญชนะ จะไปผิดกับสัญญาที่ไม่ให้ใช้คำว่าพระ ถ้าเป็นการตกลงก็ถือว่าผิด แต่เราก็ไม่ได้ใช้หรอก มันตกหล่น Error บ้างเล็กๆน้อยๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ แผนผังการกอบกู้โลกุตระของพ่อครู วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 17:19:51 )

ทำไมชุดสัมมาสิกขาชุดอาชีวะต้องมีสีน้ำเงินและดำ

รายละเอียด

ชุดสัมมาสิกขา ชุดอาชีวะ ต้องมีสีน้ำเงินและดำ ก็เพราะเป็นเครื่องแบบยูนิฟอร์มที่เราขอกับทางกระทรวงศึกษาธิการ ก็ขอใช้สีอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน ทำไมไม่อยากให้ลูกมีแฟน


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:34:23 )

ทำไมด็อกเตอร์โลกุตระที่ส่งไปเรียนมีแต่ฟุ้งซ่าน

รายละเอียด

ก็ตอบได้ว่า ด็อกเตอร์ก็ฟังไว้ มันมีอะไรที่บอกว่ามีแต่ฟุ้งซ่านมันก็เป็นอย่างไรมีแต่โครงสร้าง คิดทำโน่นทำนี่ ก็คนคิดทำโน่นทำนี่มันก็ดี มีอะไรแฝงๆอยู่ที่คิดทำโน่นทำนี่ ทำให้เราทุกคนปวดหัวกันนะคะ ก็คงได้แต่คิดแต่ ด็อกเตอร์ไม่ทำ คิดให้คนอื่นทำ อันนี้อาตมาว่ามีนัยแฝงตรง ถ้าด็อกเตอร์คิดแล้วก็ลงมือทำ ใครมาช่วยเราก็ทำ เพราะว่าเราเห็นว่าดีเราก็ทำ ถ้าอย่างนี้ด็อกเตอร์อย่างนี้จะไม่เกิดคำถามอย่างนี้เลยอาตมาว่า ที่อาตมาให้ไปเรียนด็อกเตอร์มานี้ ไม่ต้องการเอาตำแหน่งด็อกเตอร์ไปตีราคากับโลกเลย แต่ให้เป็นด็อกเตอร์มาเพื่อที่จะให้รู้ว่า ไอ้โลกนี้เขายกย่องกันนักหนา ด็อกเตอร์ๆ คนอย่างพวกเรานี้ ก็เรียนได้ เพราะฉะนั้นเรียนมาแล้วก็ทิ้งไปอย่างนั้นแล้วก็มาทำงานของเราไปนี่ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร ..สุดยอดเลย เป็นแต่เพียงว่า ไอ้อย่างคุณ เราไม่มีปัญหาหรอก เราทำได้ แต่อย่างเรานี้คุณทำไม่ได้ จบ​ เป็นด็อกเตอร์มาก็ทำอย่างนี้ไม่ได้ แต่ของเราทำอย่างนี้ได้ แต่อย่างที่คนคนนี้พูด มันจะกลายเป็นด็อกเตอร์ทางโน้น อันนี้ก็น่าเสียดาย เอ้าฟังไว้ จะแก้ไขปรับปรุงตัวเองอย่างไร ก็เอา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 13:34:59 )

ทำไมตอนนั่งสมาธิยุงไม่ได้กัดแต่เราคันยุกยิก

รายละเอียด

เรารับความรู้สึกกระทบยุงมากัดเราก็รู้สึกคัน มันมีธาตุอะไรในน้ำลายทำให้เราคัน มันเป็นที่สรีระร่างกายของเราอย่างหลวงปู่ก็มี จุ๊กจิ๊กคัน เป็นรายละเอียดของสรีระ ที่มันเกิดอะไรมากวน 1 และ 2 เกิดความไม่สมดุลของสรีระของเรา เวลามันปรุงแต่งทำงานของมันตามหน้าที่ของมัน มันไม่ได้สัดส่วนก็ทำให้เราคัน เกิดอาการคันได้ นั่นอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นมันก็เกิดอาการที่มันมีปฏิกิริยากัน ก็จัดการกับมันก็แล้วกัน คันเราก็เกาไปแต่อย่าไปติดรสชาติการเกา เดี๋ยวจะเป็นแผลเหวอะหวะเกาแล้วเกาอีก จะเป็นแผลเหวอะหวะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:35:29 )

ทำไมตอนสมณะสิกขมาตุเทศน์ จึงมีสมณะสิกขมาตุมาฟังน้อยกว่าตอนพ่อครูเทศน์

รายละเอียด

เอาไปคิดเป็นการบ้านก็แล้วกัน แม้แต่สมณะสิกขมาตุก็ตามเอาไปคิดเป็นการบ้านก็แล้วกัน หากสมณะสิกขมาตุมาฟัง ก็มาเป็นกำลังใจให้เพื่อนก็ดีนะ แต่ก็บอกว่าไม่มากัน เข้าใจว่า ท่านแสดงไปเราก็รู้หมดแล้ว ก็ประมาท ยกตนข่มท่าน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ถึงขนาดว่าอรหันต์นั่งฟังธรรม ผู้ใดเทศนา แม้คนนั้นไม่เป็นอรหันต์ท่านก็ฟังอย่างรื่นเริงในธรรม ก็จะได้รู้ว่าท่านเทศนาอย่างนี้ถูกอย่างนี้ผิด มีโอกาสก็จะบอก เป็นประโยชน์แก่กันและกัน ใครแสดงได้ดี สมณะ สิกขมาตุแสดงอย่างนี้ดี เราก็จะได้ทราบ

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยบุคคล) ตอน ยังค้าขายเนื้อสัตว์จะเป็นโสดาบันได้ไหม


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:37:18 )

ทำไมต้องตั้งความละอาย

รายละเอียด

ซึ่งเป็นผู้ที่มีธรรมะตรงกับพระศาสดา ยิ่งเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 เป็นสัตบุรุษ (มีคนแย้งว่าสัตบุรุษมีตัว ต ตัวเดียว อาตมาว่าคนไทยไปตัดออกเอง) 

ทำไมต้องตั้งความละอาย ได้ฟังคำสอนพระพุทธเจ้าที่มีความหมายอย่างนี้ ต้องมาเป็นคนจนนี่แหละเป็นสุดยอดเป็นโลกุตระ ต้องเกิดความละอาย เพราะสามัญคนเราไม่มีใครที่เป็นคนโลกีย์ที่จะต้องมาเป็นคนจน มาเอาแบบคนจน ซึ่งไม่มี แบบโลกีย์เขาไม่เอา เขาจะต้องเป็นคนรวย 

เพราะฉะนั้นตลอดมาเมื่อไหร่ก็ตาม โลกียชนทุกลมหายใจก็เอาแต่ความรวย ไม่รู้กี่ชาติก็เอาแต่ความรวย พอมาฟังแล้วเกิดความฉลาด ที่เหนือชั้นกว่าต้องมาเอาคนจนคนที่รวยนั้นยังเป็นคนชั้นต่ำ คนที่จะสูงกว่านั้นต้องมาเป็นคนจน เข้าใจจริงๆเลย เกิดภูมิปัญญาเป็น อัญญธาตุเกิด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 18:49:01 )

ทำไมต้องทำนาที่มันมีหนาม

รายละเอียด

เราพยายามปราบ แต่สู้มันไม่ได้ สู้ไมยราพยักษ์ที่มีหนาม เจอมันเมื่อไหร่ก็ชมมันทุกวันว่ามันเก่ง ทรมานทรกรรมจังเลย ถามว่าทำไม เราไม่อยากให้มันมีเลยแต่ที่ดินเรามันมีอยู่มันก็เกิดขึ้น ก็ตัดปราบกัน เอามาทำเพอร์มาคัลเจอร์ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับมัน มันมีเยอะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(เทวดา นรก สวรรค์) ตอน คนทุกศาสนาตกนรกที่เดียวกันหรือเปล่า


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:03:47 )

ทำไมต้องมีการสัมพันธ์ทางนิเวศวิทยา

รายละเอียด

อย่างเช่น การขนหินมาใช้ การใช้ดินมาทำงานนี้มันก็ต้องใช้เงิน ทำไมต้องมีหินมีดินมีน้ำมีลำธารไหล คนไม่เข้าใจก็จะบอกว่าพวกนี้ทำไปทำไมวะ บ้าๆบอๆ อาตมาว่า อาตมาทำให้เกิดการสัมพัทธ์ทางนิเวศวิทยา คุณอยู่นี่รู้สึกว่ามันเสียหายหรือเปล่าเลอะเทอะหรือเปล่า มันอยู่ได้อย่างสัดส่วนแล้วก็มีปัญญา ทำให้มันเรียบร้อยให้เป็นที่อยู่ เป็นนิเวศวิทยาที่มีสิ่งอาศัยใช้สอยสะดวกสะอาดสะอ้านสดชื่น มีอะไรต่ออะไรพรักพร้อมดี ขนาดที่กรุงเทพยังไปสร้างลำธารมีน้ำไหล ต้นหมากรากไม้กลางกรุงเทพ คนหลายคนหลงพลัดเข้าไปในสันติอโศก ก็บอกว่าอยู่ในกรุงเทพมีอยู่อย่างนี้ด้วยเหรอ มีน้ำตกไหลแรงซ่าๆ มันเล็กนิดเดียว เป็นตัวอย่างอยู่ในกรุงเทพ ยังได้ร่มรื่นชื่นใจกัน เพื่อให้รู้ว่า จะอยู่กับต้นไม้สายน้ำ อยู่กับสายลมอยู่กับหินกับดินอะไรต่างๆ เราอยู่กันอย่างมีปัญญารู้จักจัดสัดส่วนให้มันอยู่ด้วยกัน เราก็อยู่อาศัยเขา เขาก็อาศัยเรา ไม่ปล่อยปะละเลยให้รกเรื้อ เดี๋ยวก็ไวรัสเข้า สัตว์ต่างๆนานามาสิงสู่อยู่ อย่างที่เราทำนี้มันอุดมสมบูรณ์งอกงามขึ้น แต่สัตว์ที่มันไม่มีประโยชน์ สัตว์ใหญ่จนถึงสัตว์เล็ก แต่นี่สัตว์เล็กมันก็อยู่ได้ดี สัตว์ใหญ่ที่เป็นพิษ เสือสิงงูเห่า งูจงอาง งูอนาคอนด้าก็ไม่มี มันก็อยู่กันพอสมควร ที่สันติอโศกมีงูเหลือมเยอะนะ งูเหลือมมันอยู่ในถ้ำ บางทีตัวเล็กมันก็ออกมา ตัวใหญ่มันยิ่งรู้ดีไม่ออกมาง่ายๆหรอก มันมีปฏิภาณ แล้วมันรู้ทางจิตวิญญาณด้วยว่าที่นี่ปลอดภัยไม่มีคนฆ่ามันนะ

ที่มา ที่ไป

เทศน์ ทวช. วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:03:28 )

ทำไมต้องมีธงประจำชาติ

รายละเอียด

ประเทศที่เจริญ ประเทศที่เป็นดินแดนมีมนุษย์อยู่ร่วมกันบริหารร่วมกัน ถือว่าเป็นชนชาติเดียวกัน โดยจะมีคำว่าสัญชาติเดียวกัน ซึ่งอาจจะมีคนเชื้อชาติอื่นๆไม่ใช่เชื้อชาตินั้นๆ มาอยู่เป็นหลัก มีสัญชาติ มาขอถือสัญชาติ ขอเป็นคนชาตินี้ เช่นชาติไทย คนชาติไทยก็มีเชื้อชาติไทยตั้งแต่เริ่มมีประเทศไทยมา ตั้งแต่เริ่มตั้งประเทศตั้งรกรากความเป็นชาติมา แล้วคนเหล่านั่นแหละเป็นต้นตระกูลของไทย …ต้นตระกูลไทยใจช่างเหี้ยมหาญรักษาดินแดนไทยไว้ให้ลูกหลาน สู้จนสูญเสียแม้ชีวิตของท่าน … นี่เป็นเพลง ต้นตระกูลไทย 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2563 ( 09:26:46 )

ทำไมต้องมีหลักเกณฑ์การรับบริจาคเงินของอโศก

รายละเอียด

ตั้งแต่เริ่มตั้งอโศก จะมาบริจาคเงินอย่างน้อยจะต้องคบคุ้นกันอย่างน้อย 7 ครั้งอ่านหนังสือ 7 เล่มเป็นต้น ไม่อยากได้อะไรใครง่ายๆเราจะพึ่งตัวเอง ถ้าไม่มีให้มันตายไปซะ ถ้าคุณจะร่วมกุศลกันก็ต้องเข้าใจเราให้ได้ก่อน แต่ที่อื่นหว่านล้อมด้วยสวรรค์วิมานมากมาย ที่นี่จึงเป็นตัวอย่างว่าไม่หน้าด้านอย่างนั้นก็มีอยู่ เขาตะกละไม่มีศักดิ์ศรีของความเป็นคนเลย คนมาบริจาคต้องมาศึกษาเราให้ดีว่าเราสัมมาทิฏฐิเพียงพอไหม ต้องมานับถือเคารพ ไม่อย่างนั้นจะมาเสียใจทีหลังถูกหลอกไปเยอะ ให้คุณเกิดมีสติก่อนที่จะมาบริจาค

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 12:10:21 )

ทำไมต้องมีหิริโอตตัปปะในปัญญา 8

รายละเอียด

หิริโอตตัปปะ กับศรัทธา ทำไมต้องมีหิริโอตตัปปะ อยู่ในปัญญา 8 มีหิริแรงกล้า โอตตัปปะแรงกล้า รักอย่างแรงกล้า มันละอาย เราสำนึก เราเคยหลงผิด มารู้ตัวว่าผิดก็รู้สึกละอาย คำว่าหิริโอตตัปปะ เป็น เทวธรรม เป็นธรรมะคุ้มครองโลก ทำให้เจริญ ถ้าไม่มีหิริโอตตัปปะ มันก็หน้าด้านทั้งนั้นมันแย่ มันไม่แก้ไขแล้วก็ทำลายโลกอยู่ 

เพราะฉะนั้นจะต้องมี หิริโอตตัปปะ คุณเองคุณบรรลุธรรมแล้วสำเร็จแล้วได้แล้วคุณก็ไม่ละอาย คุณมีสิ่งที่ดีนั้นแล้ว คนอื่นยังไม่ได้เขาก็ละอาย เราได้แล้วเราก็ไม่ละอายแล้วเรามีแล้วไม่ละอายแล้วโชว์ด้วย แต่อย่าอวดโชว์มากมันน่าหมั่นไส้ แต่อาตมาออกมามาก เขาก็หมั่นไส้ แต่ไม่รู้จะทำไง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 3 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันพุธที่ 7 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 เมษายน 2564 ( 21:31:42 )

ทำไมต้องละอายอย่างแรงกล้า

รายละเอียด

เข้าใจไหมความละอายที่พระพุทธเจ้าท่านตรัส พอได้ยินจากปากของผู้ที่อยู่ในฐานะครู อาตมาอยู่ในฐานะครู ฉะนั้นเขาจะเกิดปัญญาข้อที่ 1 อ๋อ แต่นี่มันยังไม่เกิดปัญญา เขาก็จะไม่ละอายและก็ดูถูกอาตมา ถ้าเขาเข้าใจเขาจะรู้ว่า เขาหลงเสียเวลาเข้าใจขี้กะโล้โท้ ว่าเป็นโลกุตระเป็นสิ่งที่ควรได้ควรมีแบกมาเสียตั้งนาน เสร็จแล้วก็หลงมาบำเรอยกย่องกันมาตั้งนาน เพิ่งมารู้ว่า ผิดหรือนี่ เขาจะละอายอย่างแรงกล้า 

แค่นี้ อธิบายยากจะตาย จะเกิดความละอายอย่างแรงกล้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 2 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันอังคารที่ 6 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 14:02:19 )

ทำไมต้องสร้างธรรมชาติ

รายละเอียด

ทำไมต้องสร้างภูเขา ทำไมต้องสร้างลำธาร ทำไมต้องสร้างน้ำตก หลายคนบอกว่า ปัดโธ่เอ๊ย อยากอวดอยากโชว์เฉยๆว่าเก่ง มันไม่ได้เก่งอะไรหรอก คนเขาสร้างภูเขายิ่งกว่าอโศกมีเยอะแยะ คนเขาสร้างน้ำตกลำธารพวกนี้ เขาสร้างเขามีตังค์เขาทำยิ่งใหญ่เยอะแยะ เราสร้างให้มันสัมพันธ์กัน ให้มันดี ให้มันเป็นธรรมชาติ ให้เป็นองค์ประกอบของความหมุนเวียนสะพัด ของระบบที่สังเคราะห์สังขารกันอยู่ ที่ความลึกซึ้งที่อาตมาเข้าใจ ที่ทำอยู่นี้ พาทำอยู่นี้ 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 8 พ่อครูพบ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มกราคม 2566 ( 12:50:28 )

ทำไมต้องส่วนอดีตและอนาคตมาแยกเป็นอวิชชาข้อที่ 7

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคำว่าส่วนอดีตกับส่วนอนาคตจึงคือความไม่เที่ยง ถ้าเอาเที่ยงไม่ว่าอดีตอนาคตก็คือตัวที่ 7 เป็น 0 อย่างไรก็เป็น 0 อดีตก็ได้ 0 อนาคตมาก็ทำได้ 0 ในทุกปัจจุบันส่วนตัวที่ 7 จึงต่างกันกับส่วนอดีตและส่วนอนาคต คนสงสัยว่าทำไมต้องเอาส่วนอดีตและอนาคตมาแยกเป็นอีกหนึ่ง ส่วนอดีตก็พูดแล้ว ส่วนอนาคตก็พูดแล้ว มาทั้งเป็นส่วนอดีตและอนาคตเป็นอันที่ 7 แยกทำไม แยกเพราะเหตุนี้ คนไม่รู้จักสภาวะเดาเอาไม่ได้ และคนที่จะฟังเข้าใจแค่ไหนก็ฟังให้ดีๆ บางคนจะเข้าใจด้วยเหตุผลที่พอเพียง แต่สภาวะยังไม่มีก็ยังทำไม่ได้ แต่คนที่มีสภาวะบ้างแล้วเทียบเคียงกับตัวที่ตัวเองทำได้แล้ว กิเลสอะไรกิเลสที่พวกเราทำได้ในแต่ละคน เพราะฉะนั้นคุณสามารถรู้จัก อวิชชาทั้ง 7 แหม เยี่ยมแล้ว นอกนั้นก็จัดเข้าไปในกระบวนการของปฏิจจสมุปบาทเป็นตัวที่ 8

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 19:15:41 )

ทำไมต้องออกมาบวช

รายละเอียด

ถามว่าทำไมต้องออกมาบวช ก็ไม่บวชได้อย่างไรมันจะต้องมาเป็นเช่นนี้ ถ้าอาตมาไม่มาบวชก็ผิดสัจจะ ยุคนี้อาตมาต้องมาทำเช่นนี้ บอกไปไม่ใช่พูดเล่น อาตมาเป็น ต้องมาเปิดเผยโลกนี้โลกหน้า โลกหน้าที่เปิดเผยก็คือโลกโลกุตระ ซึ่งไม่มีใครที่อธิบายแล้วในยุคนี้ เขาดิ้นไม่ออกจากโลกนี้ด้วยซ้ำไป เขายังจมอยู่ในลาภยศสรรเสริญโลกียสุข ซึ่งเป็นโลกนี้หรือโลกโลกีย์อยู่เท่านั้นเอง แม้แต่ในวงการศาสนาของประเทศไทยเขาดิ้นออกจากสถานการณ์โลกียสุขไม่ออก แม้จะไปหลงทางเดียรถีย์ ไปหลงเป็นพระป่าก็หลงสุดโต่ง ไปทางอัตตาก็โต่งไปคนละอย่าง อาตมาต้องมาทำความรู้ในโลก ต้องมาแจกแจง มาจัดการตัดพลังของโลก โลกาธิปไตย พลังของอัตตา อัตตาธิปไตย โดยเอาธรรมะโลกุตรธรรมมายืนยันให้เห็นว่าไม่ต้องเป็นทาสโลก อัตตา อย่างไร อาตมาทำได้แล้วก็มีคนที่มีดวงตารับได้ มีชาวอโศกและไม่ใช่ชาวอโศกที่รับได้บ้าง 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:40:08 )

ทำไมต้องเกรงกลัวเมื่อได้ยินสิ่งที่ดีและประเสริฐ

รายละเอียด

จะเกิดความเกรงกลัว ทำไมต้องเกรงกลัวเมื่อได้ยินสิ่งที่ดีๆ สิ่งที่ประเสริฐ ก็เพราะตัวเองได้ทำผิดมา ได้ลบหลู่ดูถูกได้ปรามาส จริง เขาจะกลัว ตายๆๆ เรานี่แหละผิดไปนานก็จะกลัว เพราะรู้แล้ว ทีนี้ก็ค่อยเกิดความรัก เปลี่ยนจากรักอันผิด มาเห็นอันถูกอันควรได้ควรมีควรเป็นจะเกิดรัก จนเกิดเคารพอย่างแรงกล้า รักอย่างแรงกล้า 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 2 งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันอังคารที่ 6 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 14:04:57 )

ทำไมต้องเข้าไปตั้งความละอายเกรงกลัวอย่างแรงกล้า

รายละเอียด

เข้าไปตั้งความละอาย อย่างแรงกล้า(ติปปัง) ความเกรงกลัว มันกลัว ละอายแล้วก็กลัว หิริแล้วโอตตัปปะ 

กลัว แล้วก็รักและเคารพ ละอายเกิดก่อนกลัว กลัวเพราะว่าเราไม่น่าจะโง่ไปทำสิ่งที่ไม่น่าทำเลย มันน่าเกลียดน่าชัง น่าทุเรศ ขนาดหนัก เราจะโง่ไปถึงขนาดนั้น มันจะเห็นอย่างนั้นจริงๆ มันถึงกลัว

คนที่เกิดปัญญาความฉลาดเกิดความรู้อย่างนี้ มันมีแรงพอ มันไม่กลับไปเอาหรอกอย่างนั้นอีกมันน่าทุเรศขนาดไหน ทั้งละอายทั้งกลัว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 19:15:45 )

ทำไมต้องเป็น 2 อย่างไม่เป็นอย่างเดียว 

รายละเอียด

ทุกอย่างที่เกิดมาเป็นมนุษย์จะต้องมี 2 มี “กาย”กับ “จิต” คุณขาดไม่ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าอย่างเดียวก็มีอธิบายได้ ในขณะที่คุณเป็นชีวะชีวิตอยู่ คุณสามารถทำใจในใจ มนสิกโรติ หรือมนสิการ ต้องทำใจในใจให้เป็น แต่คุณก็ยังมีสองอยู่นั่นแหละ จะมีสิ่งที่คุณอาศัยจะมีอีกอันนึงที่คุณต้องร่วมกับคนอื่น เรียกว่า “สมมุติสัจจะ “กับ “ปรมัตถสัจจะ” หรือ “สมมุติฐาน” กับ “ปรมัตถธรรม” 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม ร้อยมาลัยพระอภิธรรมตามแบบพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2564 ( 22:14:58 )

ทำไมต้องเริ่มต้นจากกามคุณ 5

รายละเอียด

พูดไปแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งทำไมต้องกามคุณ 5 พูดไปแล้วหลายที่คุณจะเข้าไปถึงใจกลางของภูเขา คุณก็ต้องทะลุภูเขาข้างนอกได้ก่อนแล้วคุณถึงเข้าไปหาขยับเข้าไปหาข้างในข้างใน กว่าจะเข้าไปถึงในกลางภูเขาคุณก็ต้องผ่านข้างนอกนี้เข้าไปหมดก่อน คุณจะเข้าไปข้างในโดยไม่มีข้างนอก แม้แต่แค่ผิวนอกของภูเขาคุณก็ยังไม่สัมผัสเลยไม่ได้แตะเลย แล้วคุณจะเข้าไปข้างในคุณก็มีแต่จินตนาการฝันเฟื่องเท่านั้นเอง สร้างอะไรก็ไม่รู้ในจินตนาการ ของคุณ ไม่มีกระทบสัมผัสให้ปฏิบัติ ของพระพุทธเจ้าต้องกระทบสัมผัส มีสิ่งยืนยันได้หมดเลย ผ่านภายนอกหมดแล้วก็สบาย จึงเข้าไปสู่ภายในต่อไปไปสู่ข้างในสูงสุดพิเศษก็หมดไปตามลำดับ หมด แต่คุณยังไม่รู้จักข้างนอกเลย คุณจะไปรู้จักกิเลสตรงไหน กิเลสหยาบตั้งแต่ภายนอกคุณก็ไม่รู้จัก อย่างที่หยาบล้างได้แล้วมันจึงเหลือกิเลสที่เหลือ คือในเข้าไป คุณก็ล้างกิเลสข้างในก็ขยับเข้าไปหน่อยก็ล้างกิเลสที่เหลือ กิเลสภายนอกก็หมดแล้ว แต่นี้คุณไม่ได้ทำแล้วจะไปละข้างในเลย อาตมาว่าอาตมาอธิบายได้เก่งเท่านี้นะ มันเป็นโมฆะเลยมันหลับตาปฏิบัติเป็นโมฆะเลย ไม่มีที่ตั้งให้ปฏิบัติเลยไม่มีวิญญาณฐิติเลย ก็จบไม่ได้ บรรลุไม่ได้ กายไม่มี

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2563 ( 13:31:03 )

ทำไมต้องเอาชีวิตมาจน

รายละเอียด

ซึ่งพูดถึงว่าคนที่จะมาเป็นคนจน พูดกับคนชาวโลกเขา เขาบอกว่า มันไม่มีหรอก พวกคนจนคือพวกที่ยายหลอยพูดคือ ก็คนบ้า พวกคนจนคือพวกคนบ้า 

เพราะมันคนละเรื่องกันกับแนวคิดคนสามัญทั่วไป มันทวนกระแสกันจริงๆเลย ว่า โห มาจน มันจนทำไม สมรรถภาพก็มี ความรู้ความสามารถเรี่ยว
แรงอะไรๆ มีหมด แล้วเราจะมาทำตนให้เป็นคนจน ทำไปทำไม ก็ทำได้ก็ทำไป ก็มีไป ใครจะรวยก็รวยไป อยากจะทำทานบริจาคก็ทำสิ แจกบริจาคไป จนแล้วจะเอาที่ไหนไปบริจาคอะไรอย่างนี้ เขาก็คิดอย่างง่ายอย่างตื้น 

ถ้าเผื่อว่าพระพุทธเจ้าเข้าใจอย่างที่พูดไปเมื่อกี้นี้ ถ้ามาเป็นคนจน ไม่ต้องมีทรัพย์สิน ไม่ต้องไปสะสมอีก มีวรรณะ 9 พระพุทธเจ้าก็ไม่เป็นพระพุทธเจ้าที่ทิ้งทรัพย์สมบัติต่างๆ  มานุ่งผ้าบังสุกุล ไม่ใส่รองเท้า ดำเนินพระบาทเปล่า แล้วก็นอนโคนไม้โคนดินไป ใครมาสร้างกุฏิ มาสร้างที่พักอะไรให้ก็พักไป แต่ก็ไม่เคยติดยึดว่าเป็นของตัวของตนอะไร ท่านก็จะไปทำทำไม เพราะอย่างที่คุณคิดคุณว่าไปทำทำไม 

เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นความลึกซึ้งที่ทวนกระแสจิตคน ยากที่จะเดา เป็นอจินไตย เป็นเรื่องที่คิดเล่นๆ ไม่ได้ ถ้าคนไม่มีภูมิถึงจริง 

เพราะฉะนั้นผู้ที่เข้าใจแล้วก็เข้าใจเรื่องจน แล้วก็เอาชีวิตมาจน เดินทางตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านก็ทรงประพฤติอย่างนั้น ในชีวิตของพระองค์จริงๆ 

เพราะฉะนั้นจึงมีคนมาเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ  อย่างเช่นชาวอโศกเรา จนเกิดเป็นสังคมชุมชนชาวอโศก กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย อย่างนี้เป็นต้น อันนี้เป็นเรื่องจริงของคนพวกนี้มาจริงๆไม่ใช่มาเล่นๆ มันเป็นเรื่องที่ทวนกระแสอย่างมหัศจรรย์ เรากำลังพูดถึงความมหัศจรรย์ 8 ประการ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิธรรม‌ของ‌ศีล‌ข้อ‌ ‌1‌ ‌ที่‌ชาว‌อโศก‌ปฏิบัติ‌ได้‌ ‌วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน2 ปีฉลู


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:29:28 )

ทำไมต้องเอาธรรมะไปเข้ากับการเมือง

รายละเอียด

อาตมาเข้ามาในการเมืองนี้อาตมาไม่ยุ่งกับการเมือง อาตมากำลังมาทำความยุ่งของการเมืองให้คลี่คลายให้หายยุ่ง ที่ตอบคุณไปไม่ใช่โวหารเล่นลิ้น แต่เป็นอย่างนั้นจริงๆ อาตมาทำงานมาพาเดิน เป็นแถวยาว นี่แหละนี่แหละ ทางเข้าสู่การเมืองตั้งแต่ พ.ศ. 2549 พาเดินเลย อาตมานำหน้า สมณะเดินตาม พวกเราเดินตาม ไปที่สนามหลวงไปเข้าเต็นท์แล้วพาไปกราบพระแก้วมรกตทางพระบรมมหาราชวัง อาตมาพาพวกเราสวดมนต์ อาตมานั่งอยู่บนโต๊ะ พวกเราฆาราวาสก็นั่งอยู่ข้างล่าง เริ่มต้นตั้งแต่วันนั้น เวทีของพันธมิตรทางคุณเสนาะ คุณสนธิก็เป็นเวทีใหญ่อยู่ข้างๆอาตมา เขาก็ว่ากันไป อาตมาก็ได้รับนิมนต์ให้ขึ้นไป ปองอัญชลีนิมนต์ขึ้นไป อาตมาก็เริ่มสาธยายเรื่องการเมืองตั้งแต่วันนั้น แล้วอาตมาก็วิจัยวิจารณ์เรื่องการเมือง เขียนหนังสือเรื่องการเมืองในขณะที่อาตมาพาชุมนุมประท้วง ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 ขึ้นมาเรื่อยๆ หนังสือเกี่ยวกับการเมืองเยอะหลายเล่มมากเลย พิมพ์ออกมา ในยุคนั้น รีบทำเขียนแล้วก็รีบพิมพ์ออกมาแจก ทีละหลายหมื่น แจกกัน ก็พอมีผู้สนับสนุนทุนรอนพิมพ์ออกมาได้ ทำให้มีผู้เข้าใจมีผู้รู้ ซึ่งตอนนั้นอาตมาก็ยังไม่หง่อมเท่านี้ ยังอายุน้อยกว่านี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ทำไมพ่อครูพาชาวอโศกลงสู่สนามการเมือง วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กุมภาพันธ์ 2564 ( 05:35:13 )

ทำไมต้องไปฆ่าแกงกัน

รายละเอียด

ซึ่งมันนึกดูดีๆแล้ว ทำไมต้องไปฆ่าแกงกัน พื้นที่แผ่นดินก็อยู่ห่างไกลกัน จะมาเป็นเจ้าครอบครอง มีอำนาจนิสัยนายทาส เอาเขาเป็นลูกทาสอะไรอย่างนี้ แทนที่จะเอาเขามาเป็นลูกทาส เอาเขามาเป็นลูกเป็นหลานดีกว่าไหม อารมณ์ของคนที่รู้สึกว่าคนนี้เป็นลูกทาส มันไม่มีความปราณีไม่มีความรักไม่มีความเกื้อกูลกัน มีแต่ใช้เหมือนวัวเหมือนควายเหมือนช้างเหมือนม้า อะไรอย่างนี้ สิ่งเหล่านี้มันส่อถึงฐานจิต คนเจริญหรือคนไม่เจริญ เพราะฉะนั้นแม้จะมาถึงในยุคนี้แล้วที่เป็นยุคศิวิไลซ์ แต่คนที่ยังมีธาตุจิต ยังมีลักษณะที่จะเอาเขามาเป็นทาส ท ทหาร สระอา ส.เสือ ยังจะเอาเขามาเป็นทาส ยังมีจิตตัวนี้ เอาเขามาเป็นเหมือนช้างม้าวัวควาย เป็นสิ่งรับใช้ จะตีจะฆ่าจะทำอะไรกับมันก็ได้ มันเป็นจิตสัตว์เดรัจฉานมันไม่เคยคิดอย่างนั้น มีคนเท่านั้นที่คิดอย่างนี้ ซึ่งมันผิด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 14:40:14 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:28:17 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:01:29 )

ทำไมต้องไปเรียนวิชาศิลปะ

รายละเอียด

อย่าว่าแต่พระพุทธเจ้าเลย โพธิสัตว์ระดับ 7 ขึ้นไปแล้ว ไม่เคยเอาถ่านในเรื่องของวิชาอื่นๆแล้ว จะเอาแต่วิชามนุษยชาติและสังคม โพธิสัตว์ระดับ 7 ขึ้นไปอย่างอาตมา ชัดเจน ไม่เอาหรอกอันโน้น เพราะฉะนั้นอาตมาจึงสงสัย เคยสงสัยตัวเองว่าทำไมเราต้องไปเรียนวิชาศิลปะ แล้วก็ไม่ต้องเรียนมากถึงปริญญาตรีโทเอกกับเขา ศิลปะ ก็เรียนแค่ปวส. ไปเรียนแค่ขั้นนั้น อนุปริญญา ยังไม่ได้ระดับปริญญาตรีเลย แค่นั้น อาตมาก็เข้าใจเรื่องศิลปะแล้ว เข้าใจขั้นศิลปะโลกุตระเลย เข้าใจแล้ว มันมีหลักการมีพื้นฐาน หลักการกลางๆขนาดนั้น เอามาใช้ได้หมดแล้ว จะใช้ให้วิจิตรพิสดารอย่างไร รากฐานมีหมดแล้ว ส่วนรายละเอียดอาตมามีปฏิภาณพอที่จะใช้ เหตุปัจจัยตั้งแต่วัตถุ จนถึงกรรมกิริยา จนมาถึงจิตวิญญาณ อาตมาเรียนรู้จิตวิญญาณ เพราะฉะนั้นมีวัตถุเท่านี้ มีพฤติกรรม กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมเท่านี้ อาตมาก็เอามาสังขารปรุงแต่ง เอามาเรียนรู้ เอามาทำกับคนได้ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูปฐมนิเทศ พาปฏิญาณศีล 8 งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน สาธารณโภคี สิ่งมหามหัศจรรย์สูงสุดของมวลมนุษยชาติ


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 17:22:39 )

ทำไมต้อง“ปรับทุกข์ ปลุกธรรม”

รายละเอียด

เอาพอสังเขป อาตมาเจตนาตั้งตนเป็นผู้รู้ พูดให้มันชัดๆหน่อย ตั้งตนเป็นผู้จะแก้ทุกข์ หรือว่าบรรเทาทุกข์ ให้แก่ผู้ที่มีทุกข์ ได้มาปรับทุกข์ สำหรับผู้ที่มีทุกข์ แล้วก็ไม่มีใครจะปรับทุกข์ด้วย ก็ตั้งตนให้เป็นผู้มาปรับทุกข์ได้ ปลุกธรรม ก็คือ เมื่อไม่มีใครมาปรับทุกข์อาตมาก็ปลุกธรรมะ สร้างธรรมะ ปลูกธรรมะ ปลุกธรรมะหรือปลูกธรรมะขึ้นมา สร้างขึ้นมา ทำขึ้นมา ซึ่งทำอยู่แล้วมาตลอดเวลา ตอนนี้เปิดเผยขึ้นก็คือ เปิดช่องให้คนมาปรับทุกข์ เปิดช่องเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง แต่ก็มีอยู่เรื่อยๆอยู่แหละที่จริง แต่ทีนี้เจาะให้เป็นจุดสำคัญให้มันโดยตรงซะ สื่อซะว่า คนนี้ขอเข้ารายการปรับทุกข์ปลุกธรรมนะ มีอย่างนั้นอย่างนี้ก็ว่ากันไปเป็นส่วนตนเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  Neo Protest ประชาชนปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 11:48:19 )

ทำไมถึงทำตัวเช่นนั้น ยืนยันว่าไม่เจริญ

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้เกลียดไม่ได้ชังใครในโลก สหรัฐก็ไม่ได้เกลียดเขา สงสารเขา แต่ทำไมเขาทำตัวเช่นนั้น เช่นเดียวกันกับทักษิณ อาตมาไม่ได้เกลียดทักษิณเลย แต่ทำไมถึงทำตัวเช่นนั้น ทุกวันนี้ก็ยังทำตัวเช่นนั้น เมื่อไหร่จะสำนึก เมื่อไหร่จะรู้สึกตัว มันยาก ไม่มีทางเจริญกับเขาได้ ไม่เจริญ ขอยืนยันว่าไม่เจริญ มีแต่เสื่อมกับเสื่อม จริง นี่เป็นเรื่องที่เป็นความจริงอาตมาพูดความจริง ไม่ได้ไปถล่มทลายเขา ไม่ได้โกรธไม่ได้ชัง เพราะฉะนั้นเราก็เป็นไปตามเรา เขาก็เป็นไปตามเขา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตำนานพญานาค ตอนที่ 2 

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 พฤษภาคม 2565 ( 09:28:51 )

ทำไมทุกคนไม่ยอมรับหรือหลีกเลี่ยงโชคชะตาของตัวเอง

รายละเอียด

แล้วตัวเองเป็นอย่างไรที่ทำมา ไม่ยอมรับตัวเองหรือเปล่า คนไปริษยาคนอื่นก็ยิ่งทุกข์ทรมาน หรือบางคนเป็นบางคนซาดิส เห็นคนอื่นมีความทุกข์แล้วชอบ คนที่เป็นมาโซคิส เห็นตนเองมีความทุกข์ก็ชอบ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 11:39:20 )

ทำไมนักบวชชาวอโศกจึงได้คำนำหน้าว่า สมณะ

รายละเอียด

ท้าวความถึงตรงโน้น อาตมาถูกจับแล้วก็ห้ามไม่ให้ใช้ภาษาอยู่ในภาษากฎหมาย มันมีว่า ภิกษุ นักบวช นักพรต ฯ จะใช้คำเหล่านี้ไม่ได้มาตกลงกับอาตมา เราก็ยอมทุกอย่าง ไ่มให้อาตมาใช้คำเหล่านั้นอาตมาก็ต้องอยู่ในฐานะที่อาตมาเป็นนักบวชหรือเป็นภิกษุหรือเป็นลูกพระพุทธเจ้าสาวกพระพุทธเจ้า แล้วจะให้อาตมาใช้คำอะไร ตกลง เปรียญ 9 เป็นนักกฎหมายที่เจรจา คุณจรวย หนูคง เป็นตัวแทนของทางเถรสมาคม ก็โทรศัพท์ติดต่อกันกับทางสมเด็จเจ้าคุณอยู่ด้วย พูดไปโทรศัพท์ก็ตกลงกันไปว่าจะอนุญาตตกลงให้อาตมาเป็นอย่างไร สุดท้ายก็มาเลือกได้คำว่า สมณพราหมณ์ ซึ่งไม่มีในภาษากฎหมาย ไม่ห้ามไว้ ก็เอาคำนี้มาเสนออาตมา อาตมาก็ว่าตกลงให้อาตมาเรียกตัวเองว่า สมณพราหมณ์ หรือสมณะก็ได้ ไม่เกี่ยงอะไร ก็ตกลงกันมาตั้งแต่บัดนั้น คุณคนนี้ว่า ไม่ใช่นักบวช ก็ใช่ แต่เราเรียกตัวเองว่า “สมณพราหมณ์” แต่มันยาวก็เลยเรียกว่า “สมณะ” ก็เรียกมาตั้งแต่วันนั้นจนถึงบัดนี้ ส่วนจะพาดพิงเป็นนักบวชเป็นภิกษุบ้างมันก็เป็นเล็กๆน้อยๆไม่ได้เจตนาตั้งใจว่าต้องเรียกฉันว่านักบวชหรือภิกษุ ก็ไม่ได้ยืนยันไม่ได้ไปแย่งชิงเอามาอย่างนั้น ให้สมณะเราก็ใช้สมณะมา 

แม้แต่ในคำนำหน้า สมณะรัก โพธิรักขิโต, สมณะฟ้าไท สมชาติโก อะไรอย่างนี้ก็ใช้อย่างนั้นมาตลอดไม่มีปัญหาอะไร นามก็นาม ชื่อก็ชื่อ ไม่มีปัญหาอะไร 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:35:10 )

ทำไมนักวิชาการถึงมองว่าลุงตู่ อยากสืบต่ออำนาจ

รายละเอียด

นักวิชาการไม่ใช่เทวดา นักวิชาการนี้โง่เยอะและหลงความรู้ หลงตำรา ซึ่งในหลวงเคยปรามเรื่องหลงตำรา คำตรัสของในหลวงมีชัด ท่านไม่ได้ตรัสชัดหรอก แต่อาตมาเข้าใจชัด ท่านบอกว่าเสร็จแล้วก็ต้องปิดตำรา แล้วก็ต้องเปิดตำราหน้าใหม่ แล้วบอกว่าอนาคตข้างหน้ายังมีและไม่บอกว่าอนาคตต้องทำอย่างไร นี่คำตรัสของท่าน อาตมาไม่ได้เป็นคำต่อคำนะ แต่เป็นเนื้อหาที่ในหลวงท่านตรัสอย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #25 พ่อครูคือธัมมิกราษฎร์ ผู้กอบกู้โลกุตรธรรม  วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2566 ( 19:12:57 )

ทำไมบางคนจึงฟังธรรมไม่รู้เรื่อง

รายละเอียด

ทำไมบางคนฟังธรรมไม่รู้เรื่อง ง่ายๆก็คือเขาไม่รู้เรื่อง หลวงปู่เทศน์เขาก็ฟังไม่รู้มันก็ไม่รู้สิ ผิดตรงไหนล่ะ ใช่ไหม คือมันมีนัยะสำคัญที่ลึกก็คือ ความรู้ยอด ความคิดรวบยอดความรู้องค์รวม ของอาตมา ของหลวงปู่เป็นอย่างหนึ่ง มันเป็นนามธรรม ทีนี้ความคิดความรู้รวบยอดของเราเป็นอีกบริบทหนึ่ง มันก็เลยไม่ตรงกัน คนหนึ่งอยู่ปลายสะพาน อีกคนหนึ่งอยู่หัวสะพาน อีกคนหนึ่งอยู่ก้นเหว อีกคนหนึ่งอยู่บนยอดเขาสิเนรุ มันก็เลยไม่รู้ คนหนึ่งอยู่บนเมฆบนฟ้า อีกคนหนึ่งดำอยู่ในดิน ก็ไม่เจอกันไม่รู้กัน นี่ง่ายๆ เป็นของคนที่จะมีความรู้ความเข้า มีความเป็นอยู่ ไม่เอาอะไรมาก เด็กก็คิดอย่างเด็ก ผู้ใหญ่ก็คิดอย่างผู้ใหญ่ เด็กก็ว่าผู้ใหญ่พูดเรื่องอะไรกัน พูดถึงเรื่องในสังคมเรื่องอะไร เด็กเขาก็บอกว่าอะไร มันก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ ที่มันมีอยู่ในมนุษยชาติ ยังไม่ถึงเวลาวาระโอกาส เหตุปัจจัยความรู้สมมุติก็ดี อะไรต่างๆที่เป็นองค์ประกอบมันยังไม่เข้ามาร่วมกัน มีเหตุปัจจัยต่างๆรวมแล้วเป็นองค์รวมที่ต่างกัน ทำไมส้มโอต่างกับกล้วย เหตุปัจจัยที่เอามารวมกันมันต่างกัน แล้วก็มีมิติต่างๆ กล้วยมันก็มีมิติที่ยาว ส้มโอมันก็กลมไม่ยาว มันเป็นเรื่องที่เข้าใจแล้วทุกอย่างในโลกนี้มีสารพัด รวบรวมแล้วก็คือมีความแตกต่าง จบ มีสารพัดเลย รวบรวมแล้วมันเป็นความแตกต่างเท่านั้นเอง อะไรก็แล้วแต่ ที่แยกเป็นอณูปรมาณู มีอีกอันมันจะต่างกันทันที สรุปรวมที่ทุกอย่างคือ 2 เราเกิดมามีร่างกายก็มี 2 แล้ว 1. กาย 2. จิต ร่างคือสรีระ กายเป็นองค์รวมของร่างกับจิต จิตเป็นธาตุรู้ตัวการใหญ่สุดรู้ได้ยอดเยี่ยมได้ดีได้ประเสริฐที่สุดก็คือจิต ทำไมคนบางคนฟังธรรมไม่รู้เรื่องเพราะว่ามันต่างก็จบ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 11:12:40 )

ทำไมบางคนเลือกเป็นอรหันต์แล้วจบไม่เลือกต่อโพธิสัตว์ 

รายละเอียด

คำพูดของผู้ที่ถามมมานี้ ไม่เข้าใจคำว่าโพธิสัตว์กับอรหันต์ดี ซึ่งมันก็ไม่ง่าย ก็เห็นใจอยู่ คนๆหนึ่งเลือกทางเป็นพระโพธิสัตว์มากกว่าหลุดพ้นบรรลุอรหันต์ 

คำว่าโพธิสัตว์ หมายความ ในความหมายพื้นๆต้นๆ ก็น่าจะต้องอธิบายหรือแปลความให้ฟังได้ว่า คือเป็นผู้ที่ ปรารถนาโพธิญาณ ปรารถนาโพธิไปจนสุดโพธิ เพราะคำว่าโพธินี่หมายความว่าความรู้(ตรัสรู้) อรหันต์หมายความว่า เป็นผู้ที่จบสุด อรหันตะ นี่คือเป็นผู้ที่รู้ ตัวจบ ส่วนโพธิเป็นผู้ปรารถนาความรู้ 

ทีนี้ความรู้นี้มันมี โอ้โห.. มันมีโพธิสัตว์ 9 ขั้น แต่อรหันต์มี 6 ขั้น ก็ได้แยกแยะอธิบายให้ฟังหมดแล้ว เพราะฉะนั้นผู้ที่ปรารถนาโพธิสัตว์ เลือกทางไปเป็นโพธิสัตว์ ก็เป็นผู้ปรารถนาที่จะไปเป็นโพธิสัตว์ถึง 9 ขั้น ส่วนผู้ที่เลือกทางอรหันต์ ไม่อยากเป็นหรอกพระพุทธเจ้า ขอจบกิจ เพราะฉะนั้นก็จะสั้น ไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องโพธิสัตว์ ก็จะสั้น จะพยายามปฏิบัติ ตั้งแต่ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ให้จบกิจของตัวเองเป็นอรหันต์ นั่นคืออรหันต์โดยเฉพาะ โดยแท้ๆ ไม่ได้คิดจะต่อภพภูมิไปเป็น”อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า” ซึ่งเป็นอรหันต์ขั้นที่ 6 เอาแต่แค่อรหันต์ขั้นที่ 1 ซึ่งมีอรหันต์อีกมากขั้น ก็ได้เจาะช่องน้อยแต่พอตัว ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ 

ฉะนั้นนัยยะเหตุปัจจัยที่ทำให้คนเลือกเป็นโพธิสัตว์มากกว่าเป็นอรหันต์ก็คือเหตุปัจจัยที่ต้องการที่จะรู้ความจริงให้มากกว่าที่จะจบอรหันต์เท่านั้น จบอรหันต์ขั้นเดียวแล้วก็ ปรินิพพานเป็นปริโยสานไป อาตมาอธิบายมาหมดแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร เป็นผู้เจาะช่องน้อยแต่พอตัว เขาก็จบ ไม่ต้องไปรู้อะไรอื่นเพิ่มเติม ไม่ต้องช่วยใคร ช่วยตัวเองให้รอด ได้แล้วก็ไปเลย 

เพราะฉะนั้นผู้ที่มีความเห็นแก่ความกว้าง เห็นแก่มวลมนุษยชาติ เห็นแก่ผู้อื่นบ้าง ก็เลือกทางโพธิสัตว์ ผู้ที่ไม่คิดเห็นแก่ใคร เห็นแต่แค่ตัวเองเท่านั้น ก็เอาแต่อรหันต์ ที่จริงแล้วมันมีภาวะปฏิสัมพัทธ์ มีปฏิกิริยา มันเกิดนัยยะที่กระทบกันอยู่ ทั้ง 2 นัย ทั้งโพธิสัตว์และอรหันต์ 

ถ้าเผื่อคุณเลือกแต่เฉพาะอรหันต์ คุณพยายามปฏิบัติเดี่ยวๆ มันจะเลยเถิดสุดโต่งไปผิดทางอยู่คนเดียว มันต้องอยู่กับหมู่ อยู่กับผู้รู้จริงๆ ก็คืออรหันต์ควรอยู่กับโพธิสัตว์ จะช่วยคุณได้ แต่คุณไปอยู่กับอรหันต์ ต่างคนต่างปลีกเดี่ยว นี้มันก็เลยสุดโต่งไป อยู่แต่ผู้เดียว บิณฑบาตแต่ผู้เดียว เดินจงกรมผู้เดียว ฉันผู้เดียว ผู้เดียว เดี๋ยวก็ได้เป็นอรหันต์อะไรอย่างที่เขาพูดกัน ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าพวกนี้เป็นพวกที่ไม่มีเพื่อน 2 หรือเพื่อน 2 คือกิเลสนั่นแหละคือคนจมกับกิเลส ไม่มีใครกระทุ้งกระแทก ไม่มีใครสัมผัส ไม่มีเพื่อนเป็นเหตุปัจจัยที่จะทำให้เกิดการรู้ คนๆเดียวตัวเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ยังไม่ได้บรรลุ ยังไม่ได้จบอะไร ผู้อื่นเขาก็จะมีส่วนที่จะมีความต่าง มีอะไรที่รู้ต่างเรา นั่นแหละจะทำให้เรารู้สิ่งที่มีสภาพ 2 เปรียบเทียบ ไม่ใช่จะจมอยู่แต่กับหนึ่ง งมงายๆ อยู่กับหนึ่งอย่างเดียว บรรลุยาก ยิ่งบรรลุยากแล้วหลงว่าจะบรรลุเร็ว มันไม่ใช่ มันยิ่งบรรลุยาก มันยิ่งช้ายิ่งนาน นะ ศึกษาดีๆ  

พวกเราพยายามสรุปให้เห็นทางที่อาตมาพาพวกเราปฏิบัติ มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี และดำเนินตามจรณะ 15 วิชชา 8 นี้ไม่ผิดทาง โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่ผิดที่ยืนยันก็คือมี อปัณณกปฏิปทา 3 เป็นความไม่ผิดจากศาสนาพุทธ อันนี้เป็นเครื่องชี้บ่งเลยว่า คนที่ไปปลีกเดี่ยว ไปหลับตา ไปอะไรต่ออะไรพวกนี้ มันโมฆะ มิจฉาทิฏฐิกันทั้งนั้น นี่แหละ อปัณณกปฏิปทา 3 นี้เป็น 3 ข้อหลักที่มันบอกชัดเจนว่า คุณจะต้องมาอยู่กับหมู่ มีสำรวมอินทรีย์ มีการร่วมกัน มีการเปิดตา ลืมตา รู้โลก มีอินทรีย์ 6 ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ปิด 

เพราะฉะนั้นข้อแรกปิดตาหนีไปเลยนี้ มันหมดเลยข้อเดียวก็จบแล้ว ต้องเปิดตาแล้วท่านสรุปลงไปว่าอาหารนี่แหละทวาร 5 ร่วมกับจิตเป็น 6 นี้ เป็นตัวก่อกิเลสที่เป็นหนึ่งในโลกเลย เรียนรู้ตรงนี้ นอกนั้นก็ผัสสะเครื่องใช้ ผัสสะอะไรอื่นๆอีกต่อไป ต้องพยายามรู้ด้วยตื่นๆชาคริยานุโยคะ ไม่ใช่ไปรู้ด้วยหลบๆ รู้ด้วยหลับๆ รู้ด้วยหลีกๆ ลี้ๆ ไม่ใช่ นี่แค่ 3 ข้อนี้ก็ไขความสมบูรณ์แบบแล้ว 

เพราะฉะนั้นพวกหลับตานี่ อาตมาไม่รู้จะพูดยังไงได้ มิจฉาทิฎฐิกันไปจนกลายเป็นยุคเสื่อม เสื่อมจนไปยึดความผิดเป็นความถูก แล้วยึดมั่นถือมั่นด้วย ยึดมั่นถือมั่นแล้วตัวเองก็โง่ดักดานอีก ผู้ที่เอาความถูกต้องมาเปิดเผยยืนยัน มาปฏิบัติ ใช้เวลาพิสูจน์ให้เห็น ซึ่งไม่ตรงกับที่ตัวเองเข้าใจ ว่านี้ปฏิบัติแล้วมีการบรรลุ ยืนยันได้ทั้งบุคคลทั้งหมู่กลุ่ม เป็นสังคม เป็นวัฒนธรรมถึงขั้นสาธารณโภคี ถึงขั้นสาราณียธรรม 6 มีวรรณะ9 อะไรก็แล้ว มีพุทธพจน์ 7 ยืนยันอะไรๆ นี้ มีพฤติกรรมจริง มีกิริยาจริงของพุทธพจน์ 7 ของวรรณะ 9 จริงๆด้วย 

คนเลี้ยงง่ายเป็นยังไง คนบำรุงง่ายเป็นยังไง   คนมักน้อยเป็นยังไง  คนสันโดษเป็นยังไง ปฏิบัติประพฤติขัดเกลาตัวเอง สัลเลขะอยู่ตลอดเวลาคือยังไง มีหลักเกณฑ์มีข้อปฏิบัติที่สูงส่งไปเรื่อยๆ ธูตะ มีองค์ข้อปฏิบัติที่เจริญไปตามลำดับ จนกระทั่งบรรลุธรรม อปจยะ วิริยารัมภะสูงสุดอาตมาก็เริ่มต้นอย่างที่ไม่มีปฏิภาณไหวพริบ อย่างที่ท่านเดินดินว่า ก็อย่างนี้แหละ บางทีก็ตอบไม่ตรงกับผู้ที่เขารู้ที่เขาลองภูมิเรา เราตอบง่ายๆ ไม่ได้ ไม่ถูกต้องตามที่เขาว่า เขาก็ถือว่าอย่างนี้ไม่รู้จริง เขาก็ใช้หลักนี้พวกนี้ตัดสิน มันก็เสียประโยชน์เขาเหมือนกัน เอาก็ค่อยๆเป็นไป อาตมาทำงานมาตั้ง 50 กว่าปี จึงเห็นว่าโอ้โห…กอบกู้มาได้ขนาดนี้อาตมาก็พูดแล้วพูดอีกว่า อาตมาภาคภูมิใจ พอได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชีวิตที่จบกิจในระบบสาธารณโภคี นี่เป็นตัวตัดสินอรหันต์ วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ขึ้น 3 ค่ำเดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 09 มีนาคม 2567 ( 17:26:39 )

ทำไมประเทศไทยต้องกู้เงินเขามาใช้

รายละเอียด

คำว่าทำไมคนไทยต้องไปกู้เงินเขามาใช้ อันนี้อาตมาเคยอธิบายไปแล้วแต่คงเข้าใจยาก ทุกประเทศในโลก อาตมาเชื่อว่าทุกประเทศ นอกจากประเทศที่ เรียกว่าด้อยพัฒนา ไม่มีเครดิตจะกู้ได้ก็คือประเทศนั้นไม่ได้กู้ ถ้าประเทศที่ถือว่าตัวเองเจริญหรืออยากเจริญ กู้ทั้งนั้น ประเทศที่เจริญหรืออยากเจริญ กู้ทั้งนั้น กู้เงินเอามาพัฒนา แล้วก็ทิ้งก้อนหนี้เอาไว้ให้ลูกหลานเหลนโหลน …ยาวไปอีกกี่ชาติก็ไม่รู้เป็นผู้รับใช้หนี้ และผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ ที่จดเป็นตัวเลขเอาไว้ก็ล้มหายตายจากไว้เหลือแต่บัญชีเป็น NPL ค่อยๆทิ้งไป อยู่อย่างนั้น เป็นดินพอกหางหมู เป็นมาตั้งแต่คิดว่าโลกนี้เจริญมีสินเชื่อ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2563 ( 09:31:41 )

ทำไมประเทศไทยไม่ปฏิรูปศาสนาบ้าง

รายละเอียด

แสดงว่าคุณยังไม่เข้าใจคำว่าปฏิรูป ถ้าคุณเข้าใจว่าปฏิรูปคืออะไร คุณก็จะเห็น คนที่เขาปฏิรูปอยู่คือชาวอโศก ปฏิรูปศาสนาพุทธอยู่ตลอดเวลามา อาตมาทำมา 50 ปีเท่านี้แล้ว กำลังทำอยู่เรื่อยๆ ได้พัฒนาการของการปฏิรูป

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 10:22:17 )

ทำไมปีนี้ไม่จัดเทศกาลกินเจ

รายละเอียด

ที่จริงเทศกาลกินเจที่เราจัดที่อุทยานบุญนิยมมานานปีแล้ว แต่โควิดมา มันก็เลยติดขัดกันอยู่ ธรรมดาถ้าเป็นงานเจ ประมาณเดือนตุลาคม คนเป็นจิตอาสามาทำอาหารก็ประมาณ 500 คนแล้ว คนมารับบริการอีกตั้งเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นปีนี้เป็นเรื่องของโควิด เป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสังคม มนุษยชาติอีกมากมาย อาตมาว่าเป็นเรื่องดีนะ ฉะนั้นคนที่ยังอยากจะเปิดงานเจ อยากจะบริการคน คนเขาต้องการจะได้ช่วย บางคนอยากจะได้เงินก็แล้วไปเถอะ ไม่ต้องไปคิดหรอกเรื่องเงิน อยากจะบริการคน ได้ช่วยเขาได้กินได้อยู่อะไรมันก็ดี แต่ว่ามันมีเหตุข้างเคียง มันมีผลข้างเคียง เป็นผลที่จะต้องระมัดระวังในเรื่องแพร่ คือ โรคนี้มันแย่อยู่ที่ว่ามันมีในคนแล้วมันไม่แสดงอาการ มันแย่ตรงนี้ เพราะฉะนั้นก็บอกไม่ได้เลยว่าคนไทยมีเชื้อ Covid อยู่ในตัวหรือไม่ เราไม่รู้เลยนะ มันไม่แสดงอาการ มันมีแล้วไม่แสดงนี้ซวย แต่มันแพร่กระจายได้ด้วย ติดต่อคนอื่นได้ด้วย มันซวยตรงนี้แหละมันเก่งตรงนี้แหละ covid เพราะฉะนั้นถึงบอกว่าเราจะต้องมีวิธีที่ป้องกันที่รู้กันหมดแล้ว ต้องมีระยะห่าง ต้องใส่แมส ต้องล้างมืออะไรเป็นต้น อย่าให้มันมาต่อเชื้อได้ มันก็มีวิธีนี้เท่านั้นเอง ถ้าเผื่อว่าจะไปขายอาหาร ให้มาใกล้ชิดมาก มากินร่วมกันอะไรอีก มันก็ประมาทมากเลย ไม่ได้นะ มันยากมากที่จะไปทำ เพราะฉะนั้นเราจะไปเห็นแก่ว่าเราจะได้ช่วยคนให้มีกินมีอยู่ไม่ได้ ยกเรื่องจะได้เงินนี้ไปเลยนะ แค่เราจะช่วยคนก็ต้องจำทนไม่ได้ช่วยก็ต้องขอฝากไว้ก่อนเถอะ งานเทศกาลกินเจคราวนี้ เราก็จะต้องกลัวและเกรงใจมัน มันเก่งจริงๆเลยโควิด ต้องยกมันไว้เลยที่มันเหนือกว่าเรามาก วันนี้ประชุมกันตกลงกันแล้วว่า ไม่มี ไม่จัด ก็ดีแล้วล่ะ มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะไปป้องกัน เพราะฉะนั้นอย่าเห็นแก่ได้ เห็นแก่ผลเสียดีกว่าเพราะติดมาแล้วมันยุ่ง ดีอย่างหนึ่งเจ้า covid มันเป็นเรื่อง โรคไม่ร้ายแรงเหมือนอย่าง อหิวาตกโรค ที่ตายเร็ว อันนี้มันไม่แรงเท่านั้นแต่ถึงตายเหมือนกันหากรักษาไม่ดีก็ถึงตาย แต่มันไม่โหดเหมือนกับอหิวาตกโรค หรือว่าไทฟอยด์ ที่ตายเร็วอย่างนั้น ถ้าเผื่อว่ามันมีฤทธิ์แรงเหมือนอหิวาตกโรคยิ่งจะโหดหนักกว่านี้เลย เพราะฉะนั้นแค่นี้เราก็ไม่ควรจะไปเสี่ยง หยุดไว้ดีแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 11:24:51 )

ทำไมผมคนเราจึงงอก

รายละเอียด

ถ้าจะเดาว่าเขาเขียนผิดน่าจะเป็นผมหงอก ก็ได้ แต่นี่เขาเขียนมาผมงอก ทำไมต้องเกิดผมงอก ก็ต้องไปถามพระเจ้า พระเจ้าก็คงตอบไม่ได้หรอก ในธรรมชาติที่มันออกแบบอะไรต่ออะไรออกมา สารพัดที่มันออกแบบ แล้วก็เป็นไปตามที่มันเป็น ตั้งแต่เป็นดินน้ำลมไฟ ไปจนกระทั่งพืชพันธุ์ธัญญาหารต่างๆ หลากหลายที่แตกต่างกันที่มันออกแบบมา จนกระทั่งสัตว์ สัตว์เล็กสัตว์น้อย จนถึงสัตว์ใหญ่ที่มันออกแบบมา จนกระทั่งเป็นมนุษย์มาเป็นสัตว์มนุษย์ โอ้โห.. วิจิตรพิสดาร ละเอียดลออมาก สัตว์แม้ตัวเล็กๆก็ยังมีอะไรต่างๆ ยังคิดว่ามีคนจะเอาแมงหวี่มาผ่าตัดดูหัวใจหรือเปล่า มันมีปอดมีหัวใจไหม แต่มันคงเป็นสัตว์ที่ไม่มีอวัยวะเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพวกนี้หรอกเนาะ 

มันออกแบบละเอียดลออมาก จนกระทั่งคิดไม่ได้ คิดอย่างไรก็หัวแตกเปล่า เพราะฉะนั้นเราจะไปคิดว่าทำไมธรรมชาติ ทำไมคนต้องผมงอกด้วย คิดหัวแตกยังไงก็คิดไม่ออก จะให้หลวงปู่ตอบ ก็ตอบไม่ได้หรอก ก็ลองๆดูว่า ใครจะคิดออกบ้าง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหาระดมปัญญา-อนัตตา งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 15:44:15 )

ทำไมผู้หญิงเข้าวัดฟังธรรมมากกว่าผู้ชาย

รายละเอียด

ผู้หญิงเป็นลักษณะ 2 ที่ยังไม่สมบูรณ์ ผู้ชายเป็นลักษณะหนึ่งที่สมบูรณ์ขึ้นมาแล้วความจริง ก็ตอบสั้นๆแค่นี้ก็แล้วกัน ผู้ชายจึงเรียกว่าเอกบุรุษ ผู้หญิงเรียกว่าเอกสตรีไม่ได้ ภาวะหญิงจึงมี 2 สภาพจึงทุกข์มากกว่า หาทางเรียนรู้มากกว่าก็เป็นธรรมชาติยิ่งในกลียุค ก็จะมีผู้ที่แสวงหามีมาก ผู้ชายมีภูมิสูงกว่าก็จะได้มาก นอกนั้นก็ยังไม่เอาเลยเขาก็ยังไม่ได้ ของพระพุทธเจ้ามาเอาก็จะได้ ส่วนผู้หญิงแน่นอนผู้ที่ยังไม่ได้ก็ไปกองอยู่มาก ก็เป็นธรรมชาติ อธิบายได้แค่นี้ไม่เก่งกว่านี้นะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 29 วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 20:16:31 )

ทำไมผู้ใหญ่ต้องฟ้องเรื่องไม่ดีของเด็กด้วย

รายละเอียด

ผู้ใหญ่ก็ต้องฟ้องเด็กต้องช่วยเด็ก ฟ้องนะ หมายความว่าเอาไปรายงาน รายงานผู้ใหญ่หรือรายงานผู้ที่ควรจะต้องช่วยควรจะตัดสิน เพราะฉะนั้นผู้ที่ฟ้อง เขาก็ต้องมีเจตนาดี ฟ้อง เพื่อเจตนาไม่ดีก็ได้ คุณฟ้องเพื่อให้ได้รับโทษภัยอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าฟ้องด้วยเจตนาดีก็คือเอาไปรายงานความผิด รายงานความบกพร่องรายงานความไม่ดีให้แก่ผู้ที่เขาจะได้ช่วยได้ เอาไปพูดกับคนที่ไม่สามารถจะช่วยได้ ก็เรียกว่ากระจายความไม่ดีเฉยๆ ต้องไปฟ้องกับผู้ที่จะสามารถจัดการเป็นผู้ใหญ่กว่าสามารถแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีนี้ให้ดีได้ ฟ้องก็คือ ไปร้องฟ้องต่อผู้ที่จะแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีนี้ได้ทั้งนั้นแหละ เมื่อไปฟ้องก็ปรารถนาดี เป็นจิตที่ดี เพราะฉะนั้น  ผู้ใหญ่ที่ปรารถนาดีก็นำเรื่องของเด็กที่ไม่ดีนั้นเอาไปให้ผู้ใหญ่กว่าที่จะช่วยได้ไปช่วย เพราะผู้ใหญ่คนนั้นช่วยเด็กไหม ทำไมชอบฟ้อง…ก็เจตนาดีอย่างนี้ เข้าใจไหม เป็นวิธีการของผู้ใหญ่ที่จะช่วยเด็กนั่นเอง เข้าใจให้ได้

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 11:47:16 )

ทำไมพระถึงต้องแต่งชุดสีส้มหรือสีน้ำตาลเท่านั้น

รายละเอียด

มีหลากหลายสีเยอะแยะ เขาเห็นสีส้มกับสีน้ำตาลเป็นธรรมะ 2 ก็อยู่ที่คนยึดถือ เราใส่สีน้ำตาลเป็นหลัก คนอื่นก็แต่งสีส้มแก่ส้มอ่อนจนไปหาแดง ก็เพราะต่างคนต่างยึดถือเห็นดีเห็นงามต่างกัน เราเห็นแล้วว่าสีอย่างนั้นมันฉูดฉาดยั่วยวน อย่างนี้มันไม่ฉูดฉาดไม่ยั่วยวนอย่างนี้ดีกว่า แต่เขาเข้าใจว่าอย่างนั้นดีกว่า สวยเหลืองอร่ามเรือง ล่อแมลงได้เยอะกว่าเขาก็เอาอย่างนั้น บางคนก็ดูว่าพุทธเจ้าท่านห้าม สี 7 สี ด้วย แต่กูจะทำ ทำไม? คนอย่างนี้ก็มี รู้ทั้งรู้ อ่านพระไตรปิฎกเก่งด้วยนะ ในพระวินัย ก็บอกไว้ว่าสีอะไรที่ห้ามใส่ ก็ดันจะเถียงเล่นคารมว่าไม่ใช่เหลืองล้วน แดงล้วน แสดล้วน แปลเองนะว่าล้วน แล้วก็บอกว่าไม่ใช่ล้วน

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 11:25:07 )

ทำไมพระพุทธเจ้ารู้จักเทวนิยมทุกอย่าง

รายละเอียด

พวกเทวนิยมจะค่อยๆรู้จะเปิดสมองรับรู้ ที่พูดไปแล้วมันก็ข่ม ของพุทธรู้จบแต่ของเทวนิยมไม่รู้จบ รู้เท่าที่พระศาสดาแต่ละองค์รู้ แล้วก็นึกว่ารู้ยอดรู้เยี่ยมของแต่ละองค์ ซึ่งก็รู้มากนะไม่ใช่เล่นๆ แต่มันก็ยังไม่หมดไม่เหมือนพระพุทธเจ้าที่รู้ต้น รู้กลาง รู้ปลาย รู้จบ

เพราะฉะนั้นจึงรู้จักเทวนิยมทุกอย่าง แต่ว่าเขาไม่ยอมรับกันเท่านั้นเอง นั่นอย่างหนึ่ง สอง เขาไม่มีภูมิพอจะรับ รับอย่างไรฟังก็ไม่รู้เรื่อง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 เล่ม 1 ตอนที่ 2

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2565 แรม 15 ค่ำเดือน 4 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2565 ( 19:22:25 )

ทำไมพระพุทธเจ้าเกิดแต่ในอินเดีย

รายละเอียด

ทำไม? พระพุทธเจ้าเกิดแต่ในอินเดีย คือเรื่องของเรื่อง อินเดียนี้เป็นแดนหลักของยุคนี้ ขณะนี้ทวีปอินเดียทวีปเอเชียและทวีปยุโรป อินเดียเป็นทวีปที่ใหญ่ทวีปหนึ่ง มีพลเมืองเยอะ เดี๋ยวนี้ก็ยังเยอะอยู่ พันกว่าล้านคน ไล่เลี่ยกับจีน เป็นประเทศที่มี 2 อย่าง 

คือ 1. คน, 2. สถานที่ ทั้ง 2 อย่างนี้ เป็นสถานที่ที่มีคนมากที่สุดเป็นสถานที่กว้างใหญ่มากที่สุดทั้งคู่ และทีนี้ คนที่เป็นหลัก ในอินเดียเป็นหลักของทางธรรมะอย่างแน่น มี 2 สภาพคือ “ด้านศรัทธา” กับ “ด้านปัญญา” 

อินเดียเป็นสายศรัทธามีมากเป็นหลักศรัทธานี้จะรักษาสภาพไว้ได้นาน เดี๋ยวนี้ก็ยังเหลือ คุณลักษณะของอินเดีย ที่เป็นศรัทธาแล้วอยู่นานเย็นสบายไม่เดือดร้อน 

จีน ก็เป็นที่อีกที่หนึ่งที่มีคนมาก พลเมืองมากกว่าอินเดียอีก แล้วก็กลายเป็นเจริญแบบโลกๆ ปัญญา ถือว่าเป็นสายปัญญาสายฉลาดทางปัญญา อะไรพวกนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 25 วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 05:18:09 )

ทำไมพระพุทธเจ้าไม่บัญญัติห้ามสาวกกินเนื้อสัตว์

รายละเอียด

เรื่องกินเนื้อสัตว์กับไม่กินเนื้อสัตว์ขอพูดให้ชัดอธิบายให้ฟัง เขาเถียงกันว่าพระพุทธเจ้าบัญญัติหรือไม่ได้บัญญัติไว้ ขอยืนยันว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติเเลยว่าทุกคนจะต้องหรือนักบวช มาเป็นภิกษุแล้วจะต้องไม่ฉันเนื้อสัตว์ พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไม่ได้กำหนดเลย ฟังให้ชัดๆ เพราะในยุคของพระพุทธเจ้าเป็นยุคที่คนรู้จักกันดีส่วนใหญ่ นักบวชที่เจริญเขาไม่กินเนื้อสัตว์   

ส่วนนักบวชที่ไม่เจริญเขาก็กินเนื้อสัตว์ พระพุทธเจ้าจึงไม่ได้บัญญัติ เพราะท่านก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์ แม้แต่พระเทวทัตก็ไม่ได้ฉันเนื้อสัตว์ ภิกษุส่วนใหญ่ไม่ฉันเนื้อสัตว์ มีบ้างที่ภิกษุบางรูปที่ฉันเนื้อสัตว์ ก็ไม่ได้ตรัสว่าอะไร ปล่อยให้เป็นปัญญาพิจารณาเอง สำนึกเองเขาก็เลิกเองของเขา เพราะมันเป็นโดยปริยายโดยส่วนรวมมากพอ ที่ไม่จำเป็นจะต้องไปบัญญัติสิ่งเหล่านี้ อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 33 วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 20:05:18 )

ทำไมพระสารีบุตรต้องมาเกิดอีก

รายละเอียด

ทำไมพระสารีบุตรตายแล้วต้องมาเกิดอีก  อาตมาเป็นสารีบุตรจริงๆ อาตมาร่างกายก็ตายแล้ว กิเลสตายคือเป็นพระอรหันต์ กิเลสคืออกุศลจิตตายแล้วไม่เกิดอีก ทุกวันนี้อาตมาก็ไม่มีอกุศลจิต เกิดมาก็ไม่มีอกุศลจิต ชาตินี้โพธิรักษ์ก็ไม่มีอกุศลจิตมาตั้งแต่ไหน ทำงานอยู่ทางฆาราวาสก็เป็นลิงลมอมข้าวพองเหมือนกับเขาโง่ๆบ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปทุจริตอะไร ขนาดอาตมาโง่ๆ ไปเล่นการพนันก็ยังไม่โกงเขาเลยถูกโกงแพ้เขายับเยิน มีแต่ขาดทุน เขาชอบมาเรียกอาตมาไปเล่นเพราะอาตมาเป็นหมูสนาม อาตมารายได้ดีก็เลยมีเงินไปเล่นเขาก็ชอบ เล่นกันจังพวกอาจินต์  ปัญจพรรค์ สุรพล  โทณะวณิกอะไรต่างๆพวกนี้ สะอาด ไม่ได้มาเล่น อรหันต์กิเลสตายอย่างไม่เกิดอีก แล้วมีแกนจิตที่ไม่ลึกลับแล้วเป็นที่สุด ผู้ที่รู้ในกรอบของตนเอง พระอรหันต์ในพระโสดาบัน จึงเป็นพระอรหันต์ในพระอรหันต์ เป็น อนุโพธิสัตว์ อนิยตโพธิสัตว์ นิยตโพธิสัตว์ จบก็เป็นมหาโพธิสัตว์ จนถึงอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า สรุปก็คือพระสารีบุตรนั้นกิเลสตายแน่นอน เพราะฉะนั้นคุณอย่าเอาบุคคลตัวตนดินน้ำไฟลมเป็นร่างกาย พระสารีบุตรที่มีดินน้ำไฟลมนั้นตายไปแล้ว นามธรรมที่ตามมาเป็นความรู้ ก็เป็นความรู้ของอาตมา เป็นแกนเป็นฐานมาจากพระสารีบุตร

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2563 ( 12:02:06 )

ทำไมพระสาวกอัครสาวกของพระพุทธเจ้าจึงต้องตายก่อน

รายละเอียด

ทำไมต้องตายก่อน เพราะพระสารีบุตรก็ดี พระโมคคัลลานะก็ดี ยังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า ยังรู้ไม่หมด ถ้าขืนพระพุทธเจ้าตายก่อน 2 องค์นี้อยู่ มันจะเป็นความคิดของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะออกไป เพราะฉะนั้นจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะตายหลังพระพุทธเจ้า จำตรงนี้ไว้ ประเด็น ทำไมพระสาวกอัครสาวกของพระพุทธเจ้าจึงต้องตายก่อนพระพุทธเจ้า จำประเด็นไว้ อย่างนี้เป็นต้น ทำไมอาตมารู้ ก็เพราะว่าอาตมารู้ มันถึงคราวรู้ มันถึงภูมิรู้ คนที่ไม่มีภูมิถึง มันจะแกล้ง มันจะเอาอะไรมาพูด คุณไม่รู้คุณจะเอาอะไรมาพูด ใช่มั้ย แล้วมันไม่เชื่อมั่นว่าจริง คุณก็ไม่กล้าพูดหรอก เพราะฉะนั้นคนจะกล้าพูดออกมานี้ ต้องเชื่อว่าจริงนะ ต้องพูดสิ่งที่จริงนะ พูดสิ่งไม่จริงออกมาก็แย่ คนที่มีภูมิสูงแล้วเขาจะไม่กล้าพูดสิ่งที่ไม่จริงออกมา เพราะพูดแล้วมันเป็นกรรมเป็นวิบาก คุณเรียนรู้เรื่องกรรมวิบากมาหรือเปล่า กรรมเป็นอันทำ กรรมเป็นความจริงนะ คุณจะโง่ไปถึงไหน คุณเป็นโพธิสัตว์แล้วแค่นี้ไม่รู้  แล้วไปทำกรรมที่ชั่วอยู่ ทำความผิดอยู่ เออ เป็นสัตว์ใต้ต้นโพธิ์ไป เป็นโพธิสัตว์ได้อย่างไร

ในขั้นหนึ่งของคนที่ไม่ทำชั่ว สัพพปาปสอกรณัง(ไม่ทำบาปทั้งปวง ทำแต่ดี) มันรู้ว่ามันผิดมันรู้ว่าชั่ว จะไปทำได้อย่างไร ซึ่งไม่ทำแล้วเด็ดขาด เพราะ สจิตตปริโยทปนัง เพราะท่านเป็นอัตโนมัติที่ท่านจะต้องทำสิ่งจริง ถ้าไม่จริงไม่ทำ ถ้าผู้ที่ยังทำสิ่งไม่จริงอยู่ก็ไม่จริง 

เข้ามาสู่ความสงบ 2 อย่าง ถ้าไม่ชัดเจนในความสงบ 2 อย่างที่เป็นโลกียะกับโลกุตระ เป็นแบบเดียรถีย์ กับเป็นแบบของพุทธ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์แม้เป็นอัลไซเมอร์ก็ไม่มีพฤติกรรมกามเมถุน วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 09:10:54 )

ทำไมพระอรหันต์ยุคพุทธกาลยังมีการฆ่าตัวตาย 

รายละเอียด

มันใหม่ๆ เบื่อหน่ายขันธ์ 5 รูปขันธ์ก็เป็น ภาราหเว ปัญจขันธา มันเป็นภาระต้องหาอาหารให้มันเป็นทุกข์ที่เลี่ยงไม่ได้ตั้ง 6 ข้อ ผู้บรรลุอรหันต์แล้วพ้นทุกข์ 4 ข้อเหลืออีกตั้ง 6 ข้อ พระอรหันต์ใหม่ๆ ยังไม่ทันการยังไม่รู้จักปล่อยวางอีกทีนึง ก็เลยรีบฆ่า ไปจ้างคนอื่นฆ่าตัวเองตาย เอาบาตร เอาจีวรไปจ้างให้คนมาฆ่าตัวเอง สมัยนั้นยังไม่มีคนมาอะไรมากเขาก็ฆ่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา พุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 46 วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 06:40:18 )

ทำไมพระโพธิสัตว์ 2 องค์ ถึงต้องเหลือตาข้างเดียวเหมือนกัน 

รายละเอียด

คุณก็หาอะไรที่ยากมาให้ตอบ ก็เป็นอจินไตย ข้างเดียวกัน อาตมาก็ข้างขวา แต่ตาอาตมายังดีกว่าของในหลวงท่าน ต้องควักออกไปเลย ท่านใช้ตาเดียวจริงๆ แต่ของอาตมานี้ก็ยังพอใช้ได้ รับแสงได้ มันไม่ได้ที่ตรงโฟกัสของแมคคูล่า จุดโฟกัสตรงกลางจอตาที่รวมแสง Perspective ไปหาจุดศูนย์กลาง มันรับไม่ได้ เหลือแต่ตรงขอบ มันก็เลยได้ช่วยแสง พอให้ช่วยตาอีกตาหนึ่งให้มี three Dimension ให้เกิด 3 มิติ ไม่งั้นคนตาเดียวก็มีแค่ 2 มิติไม่ถึง 3 มิติ ถ้ามีตาครบ 2 ข้างช่วยกันมันก็จะช่วยให้เกิดรับ 3 มิติได้ อย่างนี้เป็นต้น ก็ช่วยให้เป็น 3 มิติ แต่ตาข้างนี้ไม่สมบูรณ์แบบเท่านั้นเอง 3 มิติไม่มีจุดศูนย์กลางเต็มรูป 

อันนี้เป็นอจินไตยที่อาตมาก็พอรู้อยู่ แต่ว่าไม่อธิบายดีกว่า เพราะว่า  มันก็ไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไรหรอก ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไรหรอก ..อยากรู้สิ ยิ่งพูดยิ่งอยากรู้

เป็นอจินไตยอันนึงคือ จิตของพระโพธิสัตว์นี้มันใหญ่ ตาถ้ามองเห็น 2 ตาเต็ม มันก็จะเห็นทุกอย่างหมดเลย งานมันจะหนัก มันจะรับผิดชอบหมด อจินไตยนี้แปลว่า เอาน่ะเอาแค่นั้น ในหลวงก็เลยเอาแค่ตาเดียว รับผิดชอบแค่นี้ก็หนักแล้ว ขนาดนี้ก็ยังหนัก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนอัตถิราคสูตรให้หมดสุขหมดทุกข์แท้จริง วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:23:01 )

ทำไมพระโพธิสัตว์ระดับสูงบางบุคคลจึงยังบริโภคเนื้อสัตว์อยู่เป็นประจำ

รายละเอียด

โพธิสัตว์ระดับสูงต้องระดับ 7 ระดับ 8 ส่วนโพธิสัตว์ระดับ 5 ก็เลยพระอรหันต์มาเริ่มเป็นอนุโพธิสัตว์ก็ยังไม่นับว่าสูง อนิยตะระดับ 6 ก็ยังไม่ได้นับว่าสูง ต้องเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ระดับ 8 ถึงจะนับว่าขั้นสูง ที่บอกว่า ยังบริโภคเนื้อสัตว์อยู่ ก็ค่อยๆศึกษาไป คุณไปสงสัยในเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เป็นเรื่องอนุโลมปฏิโลมหรือเป็นเรื่องของวิบากของแต่ละท่าน พระโพธิสัตว์ก็ดี 

แม้แต่เป็นพระพุทธเจ้าเองในปางที่ท่านเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านก็จะต้องมีเมียต้องอนุโลมอะไรหลายๆอย่างในโลก ในช่วงแรกๆยังเป็นเหมือนกับโลกๆ มีเมียมีลูกบริหารประเทศไปก่อน พออายุ 29 แล้วค่อยออกมา ออกมาจนกระทั่งบำเพ็ญก็มารับวิบากอยู่ 6 ปี อายุ 35 ปีท่านค่อยฟื้นคืนตัวเองขึ้นมาได้ว่า เราเป็นพระพุทธเจ้าอย่างนี้เอง แล้วก็เสวยวิมุตติสุข 49 วันแล้วก็ออกเผยแพร่ สร้างศาสนาจนสำเร็จเป็นศาสนายุคนี้แหละของพระสมณโคดม 

มันก็มีวิบากหลายๆอย่างที่อาตมานำมาเทียบเคียง จะเป็นลิงลมอมข้าวพอง ต้องผ่านวิบาก สิ่งเหล่านี้ถ้าจะว่าไปแล้วมันเป็นเรื่องของรายละเอียดที่ละเอียดลออ จะเรียกว่าละเอียดลออแบบอภิภูท่านมีต่างๆนานาในรายละเอียดก็ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 06:42:50 )

ทำไมพระโมคคัลลานะชอบเห็นเปรตและแปลงกายได้

รายละเอียด

พระโมคคัลลานะเป็นภิกษุของพุทธถึงขั้นอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้าสมณโคดม เป็นสายเจโต สายเจโต สายศรัทธาจะเป็นอย่างนี้แหละ จะเป็นผู้ที่ยังเผลอก็จะเข้าไปหาเทวนิยมบ้าง ไปหาสิ่งที่ลึกลับบ้าง แล้วยิ่งมีฤทธิ์มากเก่งมากเผลอก็แสดงออกบ้าง อย่างเช่นพระโมคคัลลานะ มันก็เลยเป็นอย่างนั้น ก็แสดงออกบ้างให้คนเห็นรอยๆไรๆ ในฐานะที่ท่านเป็นเชื้อสายอย่างนั้นสายศรัทธา มันก็เลยมีเลอะเทอะเปื้อนนิดหน่อยเป็นธรรมดา เราก็ต้องเข้าใจแก่นแกนแก่นแท้ของมันก็เป็นเช่นนั้น ก็คงพอเข้าใจนะ อย่าไปสนใจมากนัก ตอบขนาดนี้ก็น่าจะคลายใจได้ คุณมาศึกษาฝึกฝนเอาเถอะแล้วคุณจะรู้ได้เองลักษณะพวกนี้คุณจะเข้าใจได้ดีเอง เหมือนอย่างพวกเราเข้าใจ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติปรากฏได้ในยุคโควิด วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:14:29 )

ทำไมพระโมคคัลลานะบรรลุเร็วกว่าพระสารีบุตร 

รายละเอียด

ทำไมพระโมคคัลลานะบรรลุเร็วกว่าพระสารีบุตร ก็เคยตอบไปแล้ว ว่าทำไมพระสารีบุตรถึงบรรลุอรหันต์ช้ากว่าพระโมคคัลลานะ เพราะพระโมคคัลลานะเป็นสายศรัทธา ( ปัญญาสูงแล้ว) สายศรัทธานี้เชื่อ แล้วก็ไม่มีความฟุ้งซ่านมากเหมือนสายปัญญา สายปัญญานี้จะดุ๊กดิ๊ก มีอัตตามากกว่าสายศรัทธา เป็นธรรมชาติของเขา มันซ้อนลึก 

เพราะฉะนั้นสายศรัทธาพอเจอสิ่งที่จริงที่แท้ปั๊บ ตัดสินเลยปัญญาขึ้นเห็นปั๊บก็แป๊บเดียว สายปัญญานี้ ยังดุ๊กดิ๊กอยู่กับตัวตน ก็เลยช้ากว่าสายศรัทธา เป็นธรรมดาธรรมชาติอย่างนี้ มันสลับซับซ้อนนะ แต่ในบุคคล 7 ปัญญาบรรลุอรหันต์ก่อน ศรัทธานั้นต้องไปเติมปัญญาทีหลังอีกที เป็นอุภโตภาควิมุติ จึงจะบรรลุ เป็นเรื่องของสัจธรรมที่สลับไปสลับมาที่ยากจะเข้าใจศึกษาให้ดีๆ สลับไปมาระหว่างสภาพ 2 นี่แหละ เป็นตัวที่ต้องเรียนรู้ในโลก 

ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าสภาพ 2 ที่จะเรียนรู้ ถ้าเรียนรู้สภาพ 2 นี้ได้สมบูรณ์แบบแล้ว ไปเป็นผู้พิพากษา เป็นอะไรก็แล้วแต่ จะชัดเจนง่ายๆเลย จะตัดสินสภาพ 2 ได้ดีที่สุดเลย หรือแม้แต่มีชีวิตปกติจะตัดสินอะไรอันนี้ถูกอันนี้ไม่ถูก อันนี้ควรอันนี้ไม่ควร ดีที่สุดเลย สภาพ 2 นี่แหละสุดยอด ที่จะมีปัญญาที่จะสามารถตัดสินในสภาพ 2 ได้ ดี ฟังความตรงนี้ไว้ดีๆ ในโลกนี้ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ สำคัญอันนี้พูดไปแล้ว มาเลย จะมาเมื่อไหร่ก็มาได้เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณลักษณะของไก่ตัวพี่ที่มาสืบสานศาสนา วันพุธที่ 7 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กันยายน 2565 ( 13:43:52 )

ทำไมพุทธศาสนิกชนทุกวันนี้ไปหลงหลับตา

รายละเอียด

ภิกษุสาติ ไปหลงวิญญาณสัมภเวสี ไม่เอาวิญญาณฐีติ ที่เป็นของศาสนาพุทธ เอาปฏิบัติที่สัมผัสอยู่ปัจจุบันทางทวารทั้ง 6 จึงมีสถานที่ตั้งแห่งการปฏิบัติ แต่ว่าสัมภเวสีไม่มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็คือไปนั่งหลับตา ถ้าคนฟังธรรมะเป็น อาตมาพูดนี้ชัดเจนนะ การหลับตาเป็นของเดียรถีย์ทั้งหมด แล้วทำไมศาสนาพุทธทุกวันนี้ไปหลงหลับตา ก็คือมันเป็นมิจฉาทิฐิไปหลงความผิดเป็นความถูก จึงไปหลงเดียรถีย์ ไม่ใช่อาตมาไปกล่าวโทษใส่ความ แต่มันเป็น อาตมาจึงหยิบความเป็นจริงเอามาพูดในฐานะเป็นชาวพุทธด้วยกัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 14:25:14 )

ทำไมพ่อครูจึงพูดถึงเรื่องกิน ไม่กินเนื้อสัตว์

รายละเอียด

ทำไมอาตมาจึงพูดถึงเรื่องกิน ไม่กินเนื้อสัตว์ตั้งแต่เริ่มเปิดฉากทำงานศาสนามา ก็พูดถึงเรื่องไม่กินเนื้อสัตว์ รณรงค์เรื่องนี้มา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ค่อยกระเตื้องขึ้นมาในเรื่องของมังสวิรัติ 

อาตมาว่าอาตมาเป็นผู้นำมังสวิรัติมาสถาปนาลงไปในวงการศาสนาพุทธอย่างเป็นรูปเป็นเรื่อง ซึ่งแต่ก่อนแต่ไรก็มีคนไม่กินเนื้อสัตว์บ้างแต่ก็ไม่เป็นโล้เป็นพาย ไม่เป็นกิจจะลักษณะเหมือนอย่างอาตมาพาทำ จนกระทั่งเกิดเป็นลัทธิ จนกระทั่งข่าวหาว่าเราเป็นเจ้าลัทธิ เจ้าหน้าที่กินผักกินหญ้าอย่างนั้นเถอะ เราก็รับไม่มีปัญหาอะไรเป็นเจ้าหน้าที่กินผักกินหญ้า ซึ่งเราก็กินผักเป็นส่วนใหญ่หญ้าเราก็ไม่ค่อยกินหรอก ตระกูลหญ้า เช่น หน่อไม้เราก็กินเยอะ ข้าวก็เป็นตระกูลหญ้าเราก็กินนะ คุณจะว่าก็ไม่เป็นไร เอาละไม่ต้องไปแก้ตัวอธิบาย จะว่าเราแก้ตัวอะไรมากมาย 

ก็ขอยืนยันว่าเรื่องสัตว์ เกี่ยวกับสัตว์จนถึงขั้นจิตวิญญาณ ที่ยังไปต่อเนื่องเชื่อมโยงอยู่กับความเป็นสัตว์ ความเป็นธาตุที่ต่อเนื่องเป็นชีวะและเป็น ภูตะ เป็นปาณะ เป็นสัตตะ คุณต้องศึกษาให้ลึกซึ้งจะรู้ว่าเรื่องธาตุจิตวิญญาณ ไม่ใช่เรื่องตื้นๆ มันเป็นเรื่องลึกซึ้งมากเลย เป็นเรื่องลึกซึ้งถึงขั้นว่ามันเป็นบาปนะ ถ้าคุณไม่เรียนรู้เรื่องบาป โดยเฉพาะเรื่องบุญ บาปคุณก็ยังไม่รู้คุณก็ทำหน้าตาเฉยเลยนะ แล้วคุณจะไปพูดทำไมเรื่องบุญ บุญ คือเครื่องชำระ เป็นการชำระ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเป็นตัวเป็นตนอะไรแต่เป็นพลังงานแล้วก็หายไป แต่เขาเข้าใจผิดไปไกลเลย อาตมาต้องเอาเรื่องบุญมาพูดอีก  

บุญ ไม่ใช่เป็นเรื่องสมบัติ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องสะสมอะไร คนทุกคนไม่ใช่ว่าจะต้องไปสร้างบุญให้มาฆ่ากิเลส ถ้าคุณไม่มีกิเลสบุญไม่มาเกี่ยวเลยในเรื่องศาสนาพุทธนี้นะรู้เรื่องนี้ ถ้าคุณมีจิตเป็นพระอรหันต์จะเป็นผู้ไม่มีบุญเลย ไม่ต้องใช้บุญเลย บุญสะสมไม่ได้ ไม่เป็นสมบัติ เป็นปัจจุบันชาติ พัฒนาสร้างขึ้นมาให้มีรูปนาม ให้มีสภาพ 2 เป็นปฏิกิริยาเป็นพลังงานที่เป็นประโยชน์ มีฤทธิ์ในการฆ่ากิเลสอย่างเดียว ฆ่าแล้วตายจริงๆด้วย บุญนี้ ทำบุญสำเร็จ กิเลสก็ตาย บาป ถ้าคุณไม่คำนึงถึงบาป คุณเกิดมามีชีวิตทั้งชีวิตนี้ คุณสั่งสมบาปทุกลมหายใจเข้าออก อย่าหาว่าอาตมาพูดเกินไปนะ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #33  ถ้าไม่เรียนรู้สุขทุกข์ ก็สั่งสมบาปอยู่ทุกลมหายใจ วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8(2) ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2566 ( 18:14:46 )

ทำไมพ่อครูตีลัทธิที่มี God

รายละเอียด

คุณใช้คำว่า ตี ซึ่งไม่ถูก อาตมาไม่ได้ไปตี ควรเปลี่ยนสำนวนใหม่ อาตมาวางศาสตรา วางอาวุธ วางทัณฑะ ไม่ได้ไปตีใคร เป็นแต่เพียงพูดความจริงไขความจริง 

สรุปว่า อาตมาพูดความจริง เพราะสัจจะความจริงอันหนึ่งอยู่บนอันหนึ่งอยู่ล่าง อาตมาพูดความจริงตามความเป็นจริงไม่ได้ตี ความเป็นจริงมันแสดงตัวเท่านั้นเอง ความอยู่เหนือต้องอยู่บน ต้องทับความต่ำ 

คนก็ใช้ภาษาว่าตี หรือเหยียบเลย แต่จิตอาตมาไม่มีลักษณะหยาบอย่างนั้น

ทำไม? อาตมาก็ต้องทำตามความเป็นจริง พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่าเราจะกระหนาบแล้วกระหนาบอีกไม่มียั้งมือ กระหนาบแล้วกระหนาบอีกไม่มีหยุด สำหรับคนที่ควรถูกกระหนาบ ต้องขยำขยี้ พระพุทธเจ้าท่านใช้สำนวนเบา แต่สำนวนอีกอันคือใช้หอกแทง แต่ท่านไม่ไประรานศาสนาอื่น ท่านใช้คำกลางๆ เปรียบเทียบอุทาหรณ์ว่า ผู้ร้ายเป็นโจร พระราชา เจอโจรจับโจรได้ ก็ให้เจ้าพนักงานไปฆ่าโจรเสีย ผู้ที่ทำร้ายทำไม่ดี อย่างที่อาตมาหยิบอุทาหรณ์ของพระพุทธเจ้าที่บอกว่าเหมือนพระราชาสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปฆ่าโจรเสีย อาตมาพูดเป็นภาษาชัดๆว่า ผู้ทำลายศาสนาอยู่นั้นคือโจร ใครจะทำลายศาสนาไหนก็คือโจรทั้งนั้นแหละ ยิ่งอาตมาเป็นโพธิสัตว์มากอบกู้ศาสนาก็ยิ่งต้องรู้ว่า ใครเป็นผู้ทำลายศาสนาพุทธอยู่ อาตมาไม่ได้ไปยุ่งกับศาสนาอื่นเขาหรอก แต่ยุ่งกับศาสนาพุทธนี่แหละ 

ผู้ใดทำลายศาสนาพุทธอยู่ อาตมาก็ต้องรู้ว่าผู้นี้ทำผิด เป็นโจรทำลายศาสนาอยู่ ก็ถึงต้องซ้ำแล้วซ้ำอีก ย้ำแล้วย้ำอีก อย่างที่คุณใช้สำนวนว่ามาตีศาสนา God

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 34 วันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 21:12:16 )

ทำไมพ่อครูต้องประกาศนานาสังวาส

รายละเอียด

อาตมาเกิด 5 มิถุนายน 2477 บวชเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2513 วันประกาศนานาสังวาสกับเถรสมาคม...วันที่ 6 สิงหาคม 2518 ตรงกับวันพุธ แรม 14 ค่ำ เดือนแปดหลัง(88) ปีเถาะ อิสระเสรี ประกาศนานาสังวาส แยกออกจากเถรสมาคม วันที่ 7 ก็เป็นวันเสรี 

ทำไม อาตมาต้องประกาศนานาสังวาส? 

อาตมาประกาศนานาสังวาสเพราะ พูดกันอย่างขออภัย ต้องพูดให้ชัดๆ พูดอย่างเปิดๆ ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน ว่า เพราะศาสนาพุทธมันเละเทะ ถ้าบวชไปอาตมาก็เป็นพระบวชใหม่อยู่ใต้การบริหารปกครอง เป็นพระเล็กพระน้อย แล้วจะไปทำสิ่งที่เป็นโลกุตรธรรม จะประกาศจะอธิบายอะไรไปมันไม่มีทางที่จะทำได้เลย จะต้องอยู่ใต้อาณัติกฎบังคับต่างๆสารพัด เรื่องจริงที่อาตมาอยู่ไปได้ 1-2 ปี อาตมาก็ว่าอย่างนี้ตายๆ อยู่ไม่ได้หรอก มาบวช 2513 เมื่อ 2518 ก็ครบ 5 ปี อาตมาทนอยู่ถึง 5 ปี ถูกแกล้ง ถูกย่ำยี ถูกอะไรสารพัด จนอยู่ไม่ได้ ธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าสามารถประกาศได้ให้ประกาศนานาสังวาสได้ให้แยกได้ ซึ่งยังไม่มีใครทำ ในเมืองไทยจะเรียกว่าทำโดยปริยาย ไม่ได้ทำอย่างกิจจะลักษณะเต็มรูปเหมือนอย่างอาตมา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 พาปฏิญาณศีล 8

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2564 ( 21:13:27 )

ทำไมพ่อครูต้องประกาศอรหันต์ในยุคนี้ ตอน 1

รายละเอียด

มาฟังซ้ำอีกทีเรื่องนี้ เรื่องจำเป็นที่จำเป็นมากที่สุดที่จะต้องบอกว่าตัวเองนี่ อาตมานี่ละ เป็นอรหันต์ และเป็นโพธิสัตว์ แล้วอาตมาก็สาธยายความเป็นอรหันต์ สาธยายความเป็นโพธิสัตว์มาตลอด โดยเปิดเผยความเป็นโพธิสัตว์ก่อน ยืนยันว่าตนเองเป็นโพธิสัตว์ ยังไม่ได้กล่าวคำว่าเป็นอรหันต์ อธิบายธรรมะพระพุทธเจ้าอธิบายโลกุตระนั่นแหละในความเป็นโพธิสัตว์มาเรื่อย แล้วในความเป็นโพธิสัตว์มีความเป็นอรหันต์ ก็ขยายความมาเรื่อยๆตามลำดับ คร่าวๆก็คือ โพธิสัตว์นั้นมีตั้งแต่เริ่มต้นจิตเข้ากระแสโลกุตระ เรียกว่าโสดาบัน จิตอารมณ์เข้ากระแส พอเริ่มเข้ากระแสจนไม่ตกต่ำเป็นธรรมดาเข้ากระแสจนเที่ยง จิตจะเที่ยง แล้วจิตที่เข้ากระแสสู่โลกุตรธรรมจะเที่ยงนั้นไม่ตกต่ำแล้ว ไม่พลิกผันแล้วมีแต่จะไปสู่ที่สุดที่สูง คือจบอรหันต์ทุกองค์ คือถึงขั้น นิยตะ

โสดาบันมี 3 ขั้น 1 โสตาปันนะ 2 อวินิปาตธรรม 3 นิยตะ 4 สัมโพธิปรายนะ ไม่ตกต่ำคือจะไม่ตกร่วงไป แต่ไม่ออกนอกกระแส อาจจะตกต่ำถึงขั้นสึกไปเป็นฆราวาสแต่ไม่ออกนอกกระแส สุดท้ายอย่างมาก 7 ชาติเรียกว่า สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน อย่างมากที่สุด 7 ชาติก็ตั้งหลักได้และขึ้นสู่นิยตะ จริงแท้ที่จะบรรลุอรหันต์ ได้แล้วก็ปฏิบัติต่อไปจนเป็นอรหันต์ไปแต่ละองค์ๆ ก็เป็นสกิทาคามี อนาคามี เป็นอรหันต์ได้ตามลำดับ นั่นคือกรอบของความเป็นอรหันต์ 

เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นอรหันต์ลำดับที่ 1 ก็คือโพธิสัตว์ระดับที่ 4 อาตมาก็ขยายความไปตามลำดับอธิบายมาเรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องพูดเล่น ถ้าไม่มีความจริงเอามาพูด มันไม่ได้หรอก มันละเอียดลออ กลับไปกลับมา สลับไปสลับมา ซับซ้อนลึกซึ้งมาก ถ้าเผื่อว่าไม่มีของจริงพูดไปประเดี๋ยวจะเลอะ เลอะแล้วก็เละเทะไปไม่มีลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ 

เพราะฉะนั้นอาตมาเกิดมาในชาตินี้ยุคนี้จึงจำเป็นมากที่สุด เพราะว่าสำคัญมากยิ่งจริงๆ เกิดมาชาตินี้ “อาตมา”จำเป็นมากที่สุดแห่งที่สุดที่ต้องบอก“ตัวเอง”ว่า “อาตมา” เป็น“อรหันต์” และเป็น“โพธิสัตว์”

เกิดมาชาตินี้ ในยุคนี้ อาตมาจำเป็นมากที่สุด เพราะสำคัญมากยิ่ง และมันจำนนจริงๆ ไม่มีทางเลือกอื่นเลย ที่อาตมาต้องบอกว่าตนเองเป็นตัวจริง ของคนผู้บรรลุธรรมของพระพุทธเจ้า ว่าอาตมาเป็น“อรหันต์”ก็ดี ว่าอาตมาเป็น“โพธิสัตว์”ก็ดี ซึ่งมันเป็น“ความจริง”ที่จริงที่สุดและยุคนี้มันไม่มี“อรหันต์จริง”หรือ“โพธิสัตว์จริง” กันแล้ว มันมีแต่“อรหันต์เก๊”หรือ“โพธิสัตว์เก๊”กันทั้งนั้น ต้องขออภัยอย่างสูงอย่างมากยิ่งที่สุด ที่การพูดเปิดเผยในวันนี้ ต้องพูดเป็น“คำตรง”

เพราะฉะนั้น อาตมาจึงจำเป็น-จำนน-จำยอม-จำต้อง เอา “ตนเอง”นี้แหละ“ตัวแท้”ที่จะยืนยันเป็นหลักฐาน เพื่อเปรียบเทียบกับ“ความไม่จริง”ที่คนยุคนี้ไปหลงงมงายเข้าใจเชื่อผิดๆ หลงเชื่อถือผิดๆ อยู่กับ“อรหันต์ปลอม-อรหันต์เก๊”กันอย่างน่าสงสารสุดสงสารยิ่งนัก ซึ่งมันก็รู้“ความจริง”กันได้ยากสุดแสนยากยิ่งยอดอีกด้วย ว่าอย่างไหนจริง อย่างไหนเก๊ หรือยังไม่แท้!!!

ในพุทธศาสนายุคกึ่งพุทธกาล พ.ศ. 2500 นี้ ความเสื่อมของคนชาวพุทธ มันเสื่อมกันสุดๆแล้ว มันมีแต่“อรหันต์เก๊” ไม่รู้จัก“อรหันต์จริง-โพธิสัตว์แท้” หรือมีแต่“อรหันต์”ที่ต้อง“เดา”เอาว่า ผู้นี้กระมังที่เป็นอรหันต์??..!!เพราะ“พระอาจารย์”หรือผู้เป็นปราชญ์ทางศาสนาพุทธยุคนี้ได้เพี้ยนผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้าชนิด “กลับตาลปัตร” หน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว

จึงสอนผิด เข้าใจผิด เชื่อผิด หลงงมงายไปชี้คนผิดที่เป็น“อรหันต์เก๊”ว่าเป็น “อรหันต์”มันก็หลอกคนอยู่  

ซึ่งเขากล้าหลอกกันได้ถึงขั้นกล้ายืนยันผิดเพี้ยนไปได้ถึงขนาดว่า ผู้บรรลุธรรมนั้น ครั้นบรรลุธรรมแล้วจะบอกใครว่า “ตนเองบรรลุธรรม”ไม่ได้เป็นอันขาด ถึงกับพูดและเขียนว่า “ผู้บอกว่าตนบรรลุธรรมนั้นแหละคือผู้ไม่บรรลุธรรม” ...บังอาจกันปานฉะนี้! 

อาตมาจึงจำเป็น-จำนน-จำยอม ไม่มีทางเลือกใดอีกแล้ว จำต้องใช้“ตนเอง”นี้แหละเป็น“เป้าให้ยิง”กันเลยถ้าอาตมา“เป็นของเก๊”อาตมาถูกยิงเผาขนมาหนักหนาสาหัสมาป่านนี้ ถึงวันนี้ผ่านมา ถ้าอาตมา“ไม่ใช่ผู้อยู่ยงคงกะพัน”แท้จริง อาตมาก็ตายสลายแหลกราญไปเป็นผุยผงแล้ว ไม่อยู่ยงคงกะพันกันถึงวันนี้ วินาทีนี้หรอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2566 พิธีน้อมกตัญญูบูชา วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2566 แรม 2 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2566 ( 19:19:02 )

ทำไมพ่อครูต้องย้ำพวกหลับตาปฏิบัติ

รายละเอียด

อย่างพวกหลับตานี้อาตมาก็ต้องย้ำเพราะมันเป็นโมฆะจริงๆ หลับตาปฏิบัตินี่ มันไม่มีทางเกิดบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้าเลย ไม่เลย ซึ่งเขาไม่ได้เข้าใจง่ายๆเพราะเขาไม่มีปัญญาพอ พวกที่เขาไม่ตื่นไม่ยอมรับไม่ฟัง เขาตัดทิ้งเพราะว่าเขาไม่มีปัญญาพอ เขาอยู่ในภูมิที่เขารับไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ให้แต่ผู้มีบารมีมีภูมิพอจะรับได้ ผู้ที่จะมีภูมิพอและเป็นเพื่อนเป็นฝูงเขาถึงจะจูงกันขึ้นมาได้ ถ้าไม่อย่างนั้นไม่มีตัวเชื่อมตัวต่อเป็นสายอย่างนี้เลย 

มันต้องเอาคนที่มีบารมีหรือมีภูมิพอจะเกิดผลได้ก่อน มีน้ำมีเนื้อเพราะธรรมะของพระพุทธเจ้านี้เป็นโลกุตระที่จะต้องคัดเลือกบุคคลที่จะได้ผล ถ้าไม่คัดเลือกบุคคลที่จะได้ผล ไปสอนโลกียธรรมธรรมดา เกิดร้อยปีไม่พอหรอก ไม่มีเวลาพอที่จะไปสอนให้เขาเจริญขึ้นมาได้ แล้วก็จะมารับได้นั่นหนึ่ง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อคาูคือพ่อครัวผู้ปรุงอาหารโลกุตระ วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 สิงหาคม 2565 ( 14:43:16 )

ทำไมพ่อครูถึงบอกว่าบุญนิยมไม่เป็นศัตรูของทุนนิยม 

รายละเอียด

ใช่ ประเด็นว่า ทำไมบุญนิยมไม่เป็นศัตรูของทุนนิยม? อธิบายง่ายๆ พูดไปไม่รู้กี่ทีแล้ว ..

ทุนนิยมเขาต้องการ”เอา” บุญนิยมต้องการ”ให้”

อ้าว มันไม่ได้ขัดแย้งกันนี่ คนละค่าย แต่ว่า การเอากับการให้ นี่ 2 อย่างใช่ไหม ขัดแย้งกันใช่ไหม(ความหมายของคำตรงข้ามกัน) แต่บุญนิยมนี่เต็มใจให้ แน่นอน คุณเต็มใจเอาแน่นอน คุณก็ได้ไปสมใจทุกอย่าง เราก็ไม่ติดใจ เราให้แล้วเราก็ไม่ได้ติดใจ เพราะเราเต็มใจให้ เขาก็เต็มใจเอา แล้วมันจะไปขัดแย้งกันตรงไหน นอกจากคุณจะมีแฝงฝังอะไรอีกว่าให้ไปอย่างมีนัยแฝง “เอาเถอะเดี๋ยวข้าจะคิดคืนเดี๋ยวมันไปออกดอก เดี๋ยวมันจะไประบาดพวกเอ็ง คืนมาให้ข้า” ไม่มีไม่มีความทุจริตอะไรใดในจิตใจพวกนี้ ให้อย่างบริสุทธิ์ใจ 

เพราะฉะนั้นต้องไปอ่าน “ทานสูตร” ของพระพุทธเจ้า ทานสูตร ท่านตรัสไว้ชัดเจน

พระไตรปิฎก เล่ม 23 ข้อ 49 ทานสูตร 

เทวดา 6 อย่าง พรหม 1 อย่าง 

เทวดาอย่างที่ 1 จาตุมหาราชิกา(ท้าวกุเวร ท้าววิรุฬหก ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์) คือ ทำทานแล้ว แต่…

1. ยังมีความหวังในผลให้ทาน สาเปกฺโข(มุ่งหวัง) ทานํ เทติ 

2. มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ปฏิพทฺธจิตฺโต(ผูกพัน) ทานํ เทติ 

3. มุ่งการสั่งสมให้ทาน สนฺนิธิเปกฺโข(สั่งสม) ทานํ เทติ 

4. ให้ทานด้วยคิดว่า เราตายไปจักได้เสวยผลทานนี้ ปริภุญฺชิสฺสามีติ(ให้ข้ามภพชาติ) ทานํ เทติ  

อันที่ 2 ดาวดึงส์ คือ ทำทานเพราะว่าเห็นว่าเป็นความดี 

อันที่ 3 ยามา คือ ทำทานเพราะเพื่อเป็นประเพณี 

อันที่ 4 ดุสิต คือทำทานเพราะเห็นว่า สมณะหุงหาอาหารเองไม่ได้ 

อันที่ 5 นิมมานรดี คือทำทานเพราะทำตามฤาษีใหญ่ๆ 

อันที่ 6 ปรนิมมิตวสวัตตี ทำทานเพราะว่า อยากได้ปลื้มใจ(อตฺตมนตาโสมนสฺสํ) 

อันที่ 7 สหายแห่งพรหม คือทำทานอย่างมี จิตฺตาลงฺการ จิตฺตปริกฺขารํ (ต้องทำปุญญาภิสังขาร ทำทานเพื่อลดกิเลส) 

ทานสูตร ท่านตรัสไว้ชัดเจน ตั้งแต่ 1.สาเปกโข 2.ปฏิพัทธจิตโต 3.สันนิธิเปกโข 4.ปริภุญชิสสามีติ  มี 4 ตัวนี้  ถ้าเข้าใจเรื่องทานนี้ได้สมบูรณ์แบบ 4 ลักษณะง่ายๆ นี้ได้ 

สาเปกโข เป็นสูงสุดเลย ถ้าคุณมีเยื่อใยคุณก็ ปฏิพัทจิตโต คุณยังมีแฝงติดยึดอยู่ยังมีอะไรจะต้องเป็นเรา เป็นของกูอยู่บ้าง(แม้)นิดหน่อย แต่ที่นี้ สันนิธิเปกโข คุณหวังตั้งกองคลังเลยว่าต้องเป็นของฉัน ต้องมาใส่ให้ฉัน ตอบแทนฉันนะตั้งกองคลังเก็บคืนเลย 

ยิ่งอันที่ 4 นี้ เอาไปไว้กินชาติหน้า เกิดชาติหน้าเลย นี่แหละเป็นของฉันข้ามชาติ ไปกี่ชาติกี่ชาติก็ของฉัน ฉันจะทำไว้เพื่อให้ได้กินชาติหน้า พวกนี้นี่พวกมิจฉาทิฏฐิ ในคำสอนในศาสนาธรรมะพระพุทธเจ้า 

เพราะฉะนั้นที่สอนกันอยู่ทุกวันนี้ ในเถรสมาคม พวกศาสนากระแสหลัก มามีการทำบุญแล้วก็มาอนุโมทนาสาธุ แล้วก็ขอให้เป็นอะไรชาติหน้า รวยยิ่งขึ้น อะไรต่างๆ นานา นอกรีตศาสนาพุทธเลย เป็นการตั้งจิตไว้ผิด เรียกว่า ตั้งจิตไว้ผิดยิ่งกว่าโจรฆ่าโจร นี่พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ เพราะฉะนั้น ตั้งจิตไว้ผิดนี่ ยิ่งกว่าโจรฆ่าโจรมันจะบานปลายไป กลายเป็นกรรมวิบาก เป็นสิ่งที่เลอะเทอะเยอะแยะ นี่คือ ธรรมะพระพุทธเจ้าที่สุดยอด 

ที่มา ที่ไป

ครบรอบ 53 ปี โพธิกิจ พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 แรม 6 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2567 ( 17:01:40 )

ทำไมพ่อครูปริญญาตรีก็ไม่ได้สักใบ

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้อยากจะไม่เป็นผู้ที่มีความรู้ จบปริญญาอะไร ไม่ใช่ไม่ได้อยาก ก็อยากอยู่ แต่… ต้องเป็นอย่างนี้ โพธิรักษ์ต้องเป็นอย่างนี้ อันนี้ก็เป็นอจินไตยอันหนึ่ง ว่าอาตมาทำไมปริญญาตรีก็ไม่ได้สักใบ แต่ก่อนนี้ก็รู้สึกว่า อาตมาไม่ฉลาดพอที่จะทำปริญญาตรีหรือ เราก็ว่าคนที่มันไม่เห็นจะมีท่าอะไรยังจบปริญญาตรีโทเอกเยอะไป ไร้สาระ ดีไม่ดีเลวร้ายด้วย จบปริญญาเอกแล้วก็เลวร้ายด้วยซ้ำ ก็ไม่มีปัญหา อาตมาก็เลยไม่มีปัญหาที่จะไปได้รับรองว่าเป็นคนมีปริญญาตรี รับรองว่าโทว่าเอก ก็อาตมาไม่มีปัญหาอะไรมาก 

แต่ในโลก อาตมาสนับสนุนพวกเราให้ไปเรียนปริญญาตรีโทเอก แต่ก็ไม่ได้ให้ไปเรียนปริญญาตรีโทเอกเพื่อที่จะไปประเมิน ไปทำงานในสังคมแล้วก็ได้รับเงินเดือนได้รับฐานะ ได้รับเป็นเกียรติยศจนกระทั่งเป็นศาสตราจารย์ เป็นอะไรต่ออะไร พวกเราก็ไม่ได้ไปอะไรอย่างนั้น ก็เรียนเพื่อที่จะได้ความรู้ จะไปประมาทเขาว่าการเรียนทางโลก พยัญชนะ ภาษาอะไรพวกนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีความรู้ มันก็รู้อย่างน้อยความรู้ทางโลกนี่แหละ มันก็รู้ความรู้แบบโลกที่เขารู้กันมา ก็เอามาใช้สิ ..อ๋อ..นี่โลกเขาเป็นอย่างนี้ เราควรจะให้โลกเขารู้อย่างนี้ ให้โลกเขามาเป็นอย่างนี้ 

หรือแม้จะเป็นอย่างโลกๆ เราก็รู้ว่าอย่างนี้ดีกว่าอย่างนี้ คนที่ยังมาทางโลกุตระไม่ได้ ก็ดีทางโลกก็เป็นอย่างนี้ เราก็รู้ฐานะหรือรู้ลำดับของขั้นตอนความเป็นมนุษยชาติ 

ที่มา ที่ไป

สัจจะยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติที่เรียกว่าการเมือง รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 12 วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 1 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 18:04:26 )

ทำไมพ่อครูมาเกิดในประเทศไทยยุคนี้

รายละเอียด

เมืองไทยเป็นประชาธิปไตยเพราะมีความรู้พื้นฐาน และตั้งแต่เริ่มต้นสร้างประเทศไทยคือพุทธศาสนาที่มีแกนเป็นโลกุตระมาแล้ว ศาสนาพุทธใช้ภูมิธรรมโลกุตระมา ตั้งแต่สร้างประเทศ สร้างมาเรื่อยๆ ก็ใช้ได้ประมาณหนึ่ง เรียบร้อยประมาณหนึ่ง 

ในยุคต้นๆ ประเทศไทยนั้น เริ่มตั้งแต่ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พ่อขุนรามคำแหงมา ก็ใช้โลกุตรธรรมสอนมา แล้วคนก็ยังไม่เลวร้าย ยังไม่โง่มาก ยังไม่มีกิเลสหนักหนาสาหัสอย่างทุกวันนี้ ก็สอนได้ ยังไม่พิสดารนัก พอเพิ่มขึ้นมาตามกาลเวลา เพิ่มขึ้นเรื่อยๆความเสื่อมของศาสนาพุทธก็เสื่อมลงมา จนมาถึง พ.ศ.2500 ขึ้นมา ยุคนี้อาตมามาเกิด 

เจ้าประคุณเอ๋ย โลกุตรธรรมมันหมดเกลี้ยงหายไปหมด อาตมาก็รู้อยู่หรอก มาเกิดก็เพื่อจะทำอันนี้ เพราะรับผิดชอบ มารับหน้าที่ต่อจากพระพุทธเจ้า รับงานมาจริงๆ ไม่ได้พูดเล่นหรอก พูดจริงๆ หากพูดไม่จริงก็บาป พูดผิดก็บาป แต่นี่ไม่ได้ผิดอะไร พิสูจน์ไปเถอะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ จบรูป 28 สู่เรือนาวาบุญนิยมพาพ้นไฟโลกีย์ วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 สิงหาคม 2565 ( 21:14:27 )

ทำไมพ่อครูยังรับพระธาตุอยู่

รายละเอียด

ทำไมอาตมายังรับพระธาตุอยู่แล้วบอกว่าเป็นของพระพุทธเจ้า อาตมาอยู่ตามโลกสมมุติก็ต้องมีเครื่องอะไร เคยอธิบายมามากแล้ว แน่ใจอย่างไรว่าเป็นพระธาตุของพระพุทธเจ้า ก็ไม่ต้องไปแน่ใจ แน่ใจว่าไม่ใช่ก็ได้แต่เราก็กราบเคารพได้ แม้แต่พระพุทธรูปเราก็กราบได้ เขาเอาดินข้างส้วมมาปั้นเราก็ยังกราบไหว้ แต่อันนี้เป็นสิ่งที่แทนพระพุทธเจ้าถ้าเป็นจริงก็ดีไป เราก็เอาที่คําสอนพระพุทธเจ้าที่เราจะฝึกฝนศึกษา ก็อยู่ที่สมมุติว่าอันนี้เป็นวัตถุอุปกรณ์อันหนึ่งที่จะใช้ เราก็รู้ความหมายมันเท่านั้นก็จบแล้ว เพราะฉะนั้นอาตมาก็ทำตามอนุโลมด้วยกับเขาที่ไม่เข้าใจสัจธรรมนักยังยึดถืออยู่ อาตมาไม่ได้ให้ทำพิธีการเสียเวลากับมันมากมาย พิธีกรรมที่ทำมากมาย จุดไฟไหม้อาคารเยอะแยะ อาตมาไม่ได้ใช้เดรัจฉานวิชชา ไม่ได้ทำนอกรีตพระพุทธเจ้าเลย เขาทำนอกรีต อาตมาก็ว่าเขาเสียหายศาสนา ขายขี้หน้าจัง แต่เราก็มาทำถูกต้องยืนยัน สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนแต่เขาก็หาว่าเรานอกรีตอีก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 36

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 ที่บวรราชธานือโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 11:12:13 )

ทำไมพ่อครูรู้ว่าตนเองเป็นอรหันต์

รายละเอียด

อันนี้ก็จริงไม่เห็นสำนักไหนอาจารย์ไหนอธิบายแยกแยะ เนกขัมมะ และเคหสิตะอุเบกขา เขาไม่เข้าใจไม่รู้ว่ามีความสำคัญ ฐานนิพพาน ตรงนี้แหละอาการอยู่ตรงนี้แหละ อุเบกขาเคหสิตเวทนาแล้วคุณก็ทำให้เปลี่ยนเป็นเนกขัมมสิตอุเบกขาได้ เข้าใจอุเบกขา 2 นี้ชัดเจนซึ่งเป็นมโนปวิจาร​18 ในเวทนา 108 อันนี้เป็นตัวชี้บ่งผู้ที่จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ ถ้าไม่เข้าใจชัดเจนในเวทนาโดยเฉพาะอันหนึ่งเป็นของโลกียะเป็นของเคหสิตะแล้วทำให้กิเลสออกได้ก็เป็นเนกขัมมะ ฐานเป็นอุเบกขาเป็นฐานปลายของจิตที่เป็นฌาน อุเบกขามีองค์ธรรม 5 ประการ ปริสุทธา ปริโยธาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา รู้จักทางภาษาและสภาวะธรรมที่เราทำได้เป็นจริงอย่างนี้อย่างนี้ ผู้ปฏิบัติธรรมมาพระพุทธเจ้าอย่างสัมมาทิฏฐิสัมมาปฏิบัติและสัมมาปฏิเวธและเราบรรลุธรรม ดีไม่ดีก็สามารถทะลุแยกแยะได้ ในพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ พระพุทธเจ้าก็สอนให้รู้ตัวเอง อย่าปฏิบัติและสับสนปนเป มันก็จะไปได้เรื่องอะไร มันก็จะต้องสามารถแยกแยะจัดกรอบขอบเขตขีดคั่นได้ มันก็ไม่สับสนก็จะรู้จักลำดับ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าเป็นลำดับอันน่าอัศจรรย์ จะเป็นพระอรหันต์ต้องรู้สิ่งเหล่านี้หลักฐานก็มีในพระไตรปิฎกก็มี แม้แต่พระอาจารย์ต่างๆไม่ได้มาพูดถึงแต่ในพระไตรปิฎกก็มี อาจารย์บางท่านก็หยิบมาพูดถึงบ้าง แต่ผู้ที่ไม่เห็นความสำคัญไม่เข้าใจก็ไม่ได้หยิบมาพูดหรอก ผู้ที่จะหยิบมาพูดก็มีน้อย มีบันทึกไว้ในคำสอนในข้อเขียนข้อบรรยายของตัวเองที่ได้จากพระพุทธเจ้าจากพระไตรปิฎกมา เหมือนอย่างอาตมาเห็นความสำคัญมากต้องเอามาขยายความ มีคนบอกว่าอาตมารู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ อาตมาก็รู้สิ 

  1. อาตมารู้ใจตัวเองรู้อาการใจตัวเอง 

  2. อาตมาก็ดูตามความหมายของภาษาบัญญัติที่พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้ 

  3. ก็ยืนยันในหลักฐาน ของผู้รู้เอามารวบรวมไว้ ในพระไตรปิฎกก็ยืนยันอ้างอิง 

  4. เอามาอธิบายให้คนเข้าใจและปฏิบัติตามได้มีผลที่เป็นได้อย่างเช่นชาวอโศก 

สิ่งเหล่านี้ใครๆก็มาแข่งยาก เกิดเป็นหมู่กลุ่มชาวอโศกมีพฤติกรรมสังคม สังคมมีศีลสังคมมีวรรณะ 9 สังคมเป็นสาราณียธรรม 6 อย่างนี้เป็นต้น เอาธรรมะพระพุทธเจ้าจึงยืนยันถึงขั้นสาธารณโภคี ซึ่งมันเป็นไปได้ง่ายๆที่ไหนแต่จริงๆคุณมีภูมิปัญญารู้ก็มาตรวจสอบไม่ได้ท้าทายอวดอ้างอวดดีอะไร  เป็นเอหิปัสสิโกเชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ได้ แม้ตอนนี้ก็พิสูจน์ได้ ขอย้ำคำว่าอุเบกขา พูดกันเข้าใจกันทั่วไป แต่ไม่เข้าใจลึกซึ้ง เพราะว่านี่แหละเป็นฐานนิพพาน พื้นฐานของนิพพานอาการจิตแบบนี้ จิตว่างจากกาม จิตว่างจากอัตตา จิตกลางๆเป็นมัชฌิมา ก็มีคนถามมาอีก 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 19:26:57 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 07:13:23 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:02:36 )

ทำไมพ่อครูสอนแต่โลกุตรธรรมไม่สอนโลกียธรรม

รายละเอียด

ก็จริงของคุณ ก็ได้บางส่วนอาตมาก็เอาบางส่วน ได้บ้างเท่าไหร่ก็เอาเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านไป มันก็ต้องอย่างนี้แหละ วันนี้มันได้บ้างก็ยังดีนะ มันยากจริงๆเพราะอาตมาไม่ได้ทำ ไม่ได้เป็นนักธรรมะหรือเป็นนักเผยแพร่ธรรมะนักสอนธรรมะคือสอนดะไปโลกีย์ต่างๆนาๆ แต่อาตมาเน้นสอนโลกุตระ กอบกู้โลกุตระ อาตมานี้เป็นพ่อครัวปรุงอาหาร ที่เขาเรียกว่าเชฟว่าเป็นกุ๊ก เป็นพ่อครัวปรุงอาหาร ที่ปรุงอย่างเข้มข้น ปรุงอาหารที่เป็นสาระแก่นสารของมนุษยชาติที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ ไม่ได้ไปมีเวลาทำอาหารออเดิร์ฟ อาหารกินเล่นกินหัว ไม่ เป็นอาหารที่จำเป็นสำหรับมนุษย์โลก สำหรับมนุษย์สำคัญที่สุด งานเดียวนี่แหละอาตมาก็หนักหนาสาหัสแล้ว 

เพราะฉะนั้นท่านจันทร์ก็ทำตามฐานะของท่าน อาตมาก็ทำตามฐานะของอาตมาจึงไม่เหมือนกันเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือพ่อครัวผู้ปรุงอาหารโลกุตระ วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2565 ( 13:47:08 )

ทำไมพ่อครูเชียร์ลุงตู่

รายละเอียด

ทำไมอาตมาเชียร์ลุงตู่ อาตมาเองอาตมาว่าอาตมามีความรู้ ไหวพริบปฏิภาณ รู้จักเรื่องรัฐศาสตร์ รู้จักเรื่องสังคมศาสตร์ และรู้จักเรื่องเศรษฐศาสตร์ อาตมา ก็นำความรู้ของอาตมาสร้างคนขึ้นมา  คนเหล่านี้คือนักรัฐศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ นักการเมืองอิสระแบบอาตมา แล้ว นักเศรษฐศาสตร์เสียภาษี 100% นักสังคมศาสตร์อยู่กันอย่าง สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา (ได้ลาภโดยธรรมก็เอามาแบ่งกันเป็นสาธารณโภคี) และมี ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา  ก็พัฒนาตัวเอง ก็มี โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ในพวกนี้ โดยไม่ต้องมานั่งบอก ว่าฉันเป็นอรหันต์แล้วฉันเป็นโสดาบันแล้ว แต่ก็เป็นคนจริงๆชีวิตของเขาเป็นคนจริง จิตวิญญาณของเขาลดกิเลสได้จริง ไม่มีกิเลสได้จริง 

ถ้าเขาลดไม่ได้จริง อาตมาทำงานมา 50 ปี คนอยู่ที่นี่ตายไปแล้วก็มียังอยู่ที่นี่อายุ 80 ก็มี 90 ก็มี 

(_สุชัย ว่า... แล้วมันเกี่ยวกับเชียร์ลุงตู่อย่างไร )

 เชียร์ลุงตู่ อาตมาเคยบอกไปแล้วด้วยซ้ำว่าลุงตู่เป็นโพธิสัตว์ อาตมาไม่ได้พูดชุ่ย ไม่ได้พล่อยๆ หรอก

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบคุณตู่-จตุพร และทนายนกเขา ดำเนินรายการโดย คุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 12:52:34 )

ทำไมพ่อครูใส่นาฬิกา

รายละเอียด

บอกไปหลายทีแล้วยังสงสัย บอกอีก นาฬิกานี้ไม่ใช่นาฬิกาทอง ไม่ใช่นาฬิกาเพชร หรือนาฬิกาเท่ๆโก้ๆอะไร มันเป็นนาฬิกาดำๆกลมๆมืดๆเฉยๆ เขาให้ใส่เพื่อตรวจดูแลสุขภาพของอาตมา นาฬิกามันเป็นนาฬิกาแถมดูวันที่ได้ เดือน พ.ศ.ได้ แต่มันมีอื่นๆอีก สามารถที่จะวัดอะไรต่ออะไรในตัวอาตมาจากเครื่องเทคนิค นาฬิกาเรือนนี้ มันวัดได้เขาอาศัยเป็นเครื่องวัด เครื่องแมะ เครื่องจับ เครื่องวัดของหมอ มันแปะที่ร่างกายของอาตมามันวัดได้ เขาก็จะมีเครื่องที่รับไปจากอันนี้ของอาตมาอีกที อย่างท่านแสนดินเป็นหมอมาก่อนก็มีเครื่องมือเห็นว่ากดอันนี้ดูแล้วก็รู้ว่าค่าเป็นอย่างไร สามารถบอกรู้ได้ว่าอันนี้บกพร่องผิดพลาดจะได้ช่วยกันทัน เป็นการดูแลช่วยเหลือกันเป็นเครื่องช่วยชีวิต ไม่ใช่เครื่องที่ทำให้เท่ให้โก้เอามาประเทืองตัวเองอะไรต่ออะไร มันไม่ได้ผิดวินัย ไม่ใช่เครื่องประเทือง ไม่ใช่มีเจตนาอย่างนั้น มันหนักด้วยซ้ำไปถ้าไม่มีมันเบาด้วยนะ แต่อาตมาจำเป็นจะต้องเอามาผูกแขนไว้ ผูกข้อมือไว้มันหนัก มันก็ต้องมีอะไรอันหนึ่งนะมันไม่คล่องมันไม่เบา ไม่ได้รู้สึกเท่ รู้สึกโก้ รู้สึกหรูหรา มันจะต้องใส่ให้อะไรอวดอ้างไม่มี มีแต่ว่าจำเป็นต้องใช้เขาเอามาให้ใช้จำเป็น มันก็มีประโยชน์ ยิ่งอาตมาสุขภาพร่างกายชีวิตอายุประมาณนี้เขาก็ต้องช่วย 

พยายามเข้าใจให้มันดีๆอย่าเพ่งโทษมากนัก อย่ามองไปในทางร้ายมองไปในทางดี อาตมาเป็นพระอาริยะระดับนี้แล้ว อาตมาไม่มีกิเลสอย่างที่เป็นโลกๆเขาจะเป็นหรอก นี่ก็พูดตรงๆนะ สงสัยที่พ่อครูใส่นาฬิกาขยายความแล้วหายสงสัยหรือเปล่า 

 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังสาธยายธรรมจากคำถามของคนจริง วันพุธที่ 25 มกราคม 2566 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 กุมภาพันธ์ 2566 ( 13:11:13 )

ทำไมพ่อครูให้ตั้งพรรคการเมืองสัมมาธิปไตย

รายละเอียด

เคยตอบไปแล้วเรื่องนี้ ตอบแล้วก็ตอบอีก ที่อาตมาต้องตั้งพรรค ให้พวกเราต้องตั้งพรรคการเมืองมันคือ กาละ เทศะ ฐานะ 

กาละนี้ เขาจะต้องมีพรรคการเมือง มาบริหารและร่วมเสริมเชื่อมต่อกับสังคมเขา ถ้าอาตมาไม่ให้ตั้งพรรคเลยทำสะเปะสะปะ ได้มันก็ทำอยู่แล้วโดยอัตโนมัติ บอกว่าไปทำงานก็ทำด้วยอัตโนมัติ แต่มันจะเชื่อมกับสังคมเขาไม่ค่อยสนิท ไม่ค่อยต่อกัน มันจะเป็นคนละระบบไม่ได้ เราก็จึงอนุโลม ตามโลกตามสังคมตามกาละยุคสมัย ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่น มันเป็นสมมติสัจจะ สมมุติธรรมเราก็ทำตามนี้เท่านั้น แต่ปรมัตถธรรมเราก็ทำของเราอยู่แล้ว เราทำโลโก้ 012  เชียวนะ ซึ่งยากคงจะเข้าใจได้ง่ายเอาอะไรมาทำโลโก้ มันหมายความว่าอะไร 012 

จะยังไม่ขออธิบายขณะนี้ มันจะละเอียดเยอะ มันจะยากอยู่ ที่ต้องตั้งเพราะ จะต้องทำงานขึ้นไปเชื่อมกับการเมืองของเขา ให้มีสะพานต่อ มีที่เชื่อมต่อออกไป มีระเบียง มี Corridor 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูตอบปัญหาผู้ชมทางบ้าน วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 11:55:11 )

ทำไมพ่อครูได้รับคำชมแล้วไม่ห้ามเขาไม่ให้ชม

รายละเอียด

มีคนบอกว่ายกตัวอย่างตนไม่เหนียมตัวเองบ้างหรือ เมื่อได้รับคำชมจากคนอื่น ทำไมไม่รู้จักอายบ้าง ทำไมไม่ห้ามเขา ฟังดีๆนะประโยคนี้ เขาว่าอาตมาคนอะไรได้รับคำชมไม่รู้จักอาย แล้วก็ไม่รู้จักห้ามเขาด้วย เขาชมตัวเองทำไมตัวเองไม่ห้ามเขา ควรจะห้ามเขาสิ อย่าชมเลยไม่ต้องชมหรอก อาตมาก็ไม่ได้ห้าม ไขความตรงนี้ก่อน

ทำไมได้รับคำชมแล้วไม่ห้ามเขาไม่ให้ชม เคยปรามๆนิดๆหน่อย แต่ก็ปล่อยให้ชม เพราะมันต้องข่มหรือดุว่า ยกย่อง ข่มคนควรข่ม ยกย่องคนควรยกย่อง นิคคัณเห นิคหารหัง ปัคคัณเห ปัคหารหัง พูดได้โดยมีจิตปกติไม่ได้มีจิตเกลียดชัง ไม่ได้มีอุปกิเลสใดๆ แง่เชิงลบไม่มี 

เพราะฉะนั้นในลักษณะเขาว่าทำไม ไม่ห้ามเมื่อมีคนชม เป็นสัจจะ เมื่อเขาชมถูกต้องตามสัจจะแล้วก็ถูกแล้ว ควรให้คนเข้าใจควรให้คนรู้ความจริงว่าคนนี้ควรชม เป็นคนที่ชมได้ถูกต้อง ชมถูกแล้ว คนอื่นควรรู้ความจริงว่าคนนี้ควรชมจริงๆ จะไปห้ามเขาทำไม ก็เพราะว่า กระดิ๊กๆๆ จิตคุณยังไม่มีความคมชัดแน่นอนพอที่จะรู้ความจริงหรือความไม่จริง รู้แล้วว่าอย่างนี้จริงจบอย่างนี้ไม่จริงจบ อันนี้มันจริงไม่มีเลยไม่จริงก็จบ พูดความจริงมามันก็จบแล้ว พูดความไม่จริงก็รู้ว่าอันนี้ไม่จริงก็ค้านแย้งได้ ถกกันได้ ก็เป็นสัจจะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมในงานพิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2564 วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2564 ( 15:30:36 )

ทำไมพ่อครูไม่ตำหนิมหาบัวตอนมีชีวิตอยู่

รายละเอียด

ตอนนั้นอาตมาเจียมตนอยู่ แม้แต่เดี๋ยวนี้ก็ยังเจียมตนกันอยู่บ้าง ไม่ได้อยากจะทำอะไรให้ใหญ่โต เพราะว่ามันไม่ดี เป็นแต่เพียงว่ามันจำเป็นต้องทำมันจำนนต้องทำเช่นนี้ ไม่ทำอย่างนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร  ต้องข่มสิ่งที่ควรข่ม ยกสิ่งที่ควรยก มันไม่มีทางหลีกเลี่ยง จะไปยกย่องในสิ่งที่ไม่ควรยกย่องมันก็บ้าเท่านั้นเอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ ‌ทุนนิยม‌คือ‌ ‌Infinity‌ ‌แต่‌บุญ‌นิยม‌​‌นี้‌ ‌0‌ ‌ยิ่ง‌กว่า‌ ‌0‌ วันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

 


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 05:21:33 )

ทำไมพ่อครูไม่ท้อที่จะสอนคน

รายละเอียด

ท้อไม่ได้เลย อาตมาเห็นอย่างที่คุณเห็นว่ามันยากเหลือเกิน แต่อาตมาจะไปคิดไปเป็นอย่างคุณว่าท้อ อาตมาทำไม่ได้ ท้อไม่ได้เลย คำนี้สำคัญมากท้อไม่ได้ ตอบไปแล้วนะว่าอาตมาท้อไม่ได้ มันรู้เหตุรู้ผลรู้สัจจะของมันเลยว่า ท้อไม่ได้ ใช่ คำว่าท้อ เป็นภาษาไทย ไม่รู้ว่าภาษาจีนเขาว่าอะไร ไปนึกถึงที่สวนสวรรค์ของเงกเซียนฮ่องเต้นิยายจีนที่มีลูกท้อ เอาภาษาไทยท้อคือ คุณจะต้องตั้งอกตั้งใจอย่าถอย ท้อ คือ อย่าถอย ต้องพากเพียรมุ่งมั่นตั้งใจทำในสิ่งที่คุณจะทำ  อาตมาที่ไม่ท้อ เพราะ 1. มีปัญญา มีความเฉลียวฉลาด เข้าใจ เข้าใจอะไร เข้าใจว่า เรื่องธรรมะที่เป็นโลกุตระของพระพุทธเจ้านี้ ประเสริฐที่สุดดีที่สุดยิ่งใหญ่ที่สุดในความเป็นมนุษย์ จะเกิดอีกกี่ชาติกี่ชาติกี่ชาติ เป็นสัญชาติไหนเชื้อชาติไหนก็ตาม ขอให้เป็นคน ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ยกไว้เพราะพูดกันไม่รู้เรื่องและเขาไม่รู้โลกุตระ แต่คนนี้จะรับโลกุตระได้ มันยิ่งใหญ่ที่สุดมันประเสริฐที่สุด 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 11:29:01 )

ทำไมพ่อครูไม่ส่งเสริมให้นั่งสมาธิ

รายละเอียด

เพราะมันหลงการทำสมาธิกันเยอะ ก็เลยห้าม ที่จริงก็ไม่ได้หมายความว่าอาตมาไม่ได้นั่งสมาธิ อาตมาก็นั่ง นั่งมาจนกระทั่งไม่ได้น้อยหน้ากว่าพวกที่เป็นพระป่าเขาทำไปได้แค่ไหน อาตมาไปทางนั้นอยู่ 8 ปี ไม่ใช่น้อยนะ อาตมาไปทางไสยศาสตร์ ไปทางเทวนิยม ไปทางแบบนั้น 8 ปี ทำอยู่อย่างนั้นไปด้วย เพราะฉะนั้นอาตมารู้หมดนะ ที่ท่านทำกันเป็นยังไง ได้ยังไง ไปถึงขั้นไหนยังไง อาตมารู้หมด ไม่ใช่อาตมาเป็นหมาเห็นองุ่นเปรี้ยว ไม่รู้ว่าเขาได้เขาดีเขาเป็นอย่างนั้นๆ อาตมามี ผ่าน ใช้เวลา 8 ปี พระพุทธเจ้าใช้เวลา 6 ปี ไปอยู่ในป่า 6 ปี แต่อาตมาใช้เวลา 8 ปี มันก็เป็นเรื่องสัจจะที่เป็นไป ติดตามฟังไปดีๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญาต้องเกิดในปัจจุบัน จึงรู้เท่าทันเทวทัตยุคดิจิตอล วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2566 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 ตุลาคม 2566 ( 17:25:41 )

ทำไมพ่อครูไม่ไปต่างประเทศ

รายละเอียด

ที่อาตมาไม่ไปต่างประเทศเพราะเข้าใจดีว่ามันก็คือสังขารธรรม ปรุงแต่งมากบ้างน้อยบ้าง หลายอย่างก็เคยรู้เคยเห็นเคยเป็นเคยมีมา ไม่ได้ต่างจากที่เคยมีเคยเป็น หรือแม้แต่ ชาติเก่าๆ ก็เหมือนกัน คือ ความเห็นแย้งเห็นต่าง คนมีความต่างตามจริงแต่ไม่เห็นความประหลาดจากความต่าง มันก็มีความต่างเรื่องนั้นเรื่องนี้ เราก็เข้าใจ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร 

ก็ไม่ต้องไปเสียเวลาเงินทองอะไรไปอย่างนั้น ทำอยู่ที่นี่แหละ ไม่ต้องเสียเวลาแรงงาน ทุนรอน ถ้าใครอยากมามาเลย เราเปิดประตูรับ จะได้ประโยชน์ก็มา ก็มีลูกค้าพอสมควร ทุกวันแหละ ถึงเวลาควรพักก็พัก พักมากเกินไปมันก็ไม่ดี พยายามทำให้พอเหมาะ เพื่อที่จะรักษาแรงร่างกายให้มันอยู่ได้นานยาว เพื่อจะทำงานได้มากขึ้น เพราะว่าเราไม่เก่ง ถ้าเก่งแล้วทำแล้วก็ไม่ต้องอยู่มากนะ แต่นี่มันยังไม่เก่งก็เลยต้องอาศัยเวลาเป็นเรื่องสำคัญก็ต้องชะลอไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 29 วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 20:30:44 )

ทำไมพ่อครูไม่ไปเผยแพร่ในอเมริกา

รายละเอียด

คนไทยที่อยู่ในไทยมีมากกว่าในอเมริกา และอาตมาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้จะไปทำไม แม้ว่าจะไม่พูดก็ไปพูดกับคนไทย ไปสอนคนไทยก็ทำไม ถ้าอาตมาไปอเมริกาจริง คนอเมริกาจะมาหาอาตมาไหม ก็จะมี แล้วจะทำอย่างไรให้เขาน้ำลายไหลเปล่าๆ เป็นวิบากนะ ไปยั่วน้ำลายไหลแล้วไม่ให้เขา เขาจองเวรนะ เราจะไปสร้าง เหตุปัจจัยมันมีจริง เราจะไปสร้างให้คนมาชอบ ก็เป็นวิบากอีก เขาชอบเราต้องสนองความชอบของเขามันไม่ดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องชอบหรอก มันจะเป็นภาระไม่ไปสนองวิบากเขา และอาตมาไม่มีพาสปอร์ต เขาไม่ยอมทำพลาดตั้งนานมีเงื่อนไขว่าถ้าจะทำให้อย่ามาเรียกว่าเป็นมิสเตอร์ เถรสมาคมไม่ยอม จะมาใช้ว่าเป็นภิกษุหรือพระเขาไม่ยอมให้ อย่าทำนะ venerable ไม่ได้ ต้องใช้มิสเตอร์ แต่อาตมาไม่ใช่มิสเตอร์ จะไปโกหกได้อย่างไร อาตมาเป็น venerable แม้เข้าจะให้อาตมาเป็นก็ไม่ไปเมื่อย เลยไม่อยากเดินทาง และอเมริกามันใกล้ที่ไหนแม้จะนั่งเครื่องบินมันก็สนุกที่ไหน ดีไม่ดีตกอีก

ที่มา ที่ไป

เอื้อไออุ่นแพทย์วิถีธรรม วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 09:19:21 )

ทำไมพ่อท่านถึงยอมให้แกนนำเสื้อแดงมาคุย

รายละเอียด

ขอแถมอีกนิดนึงว่า คุณจตุพรเคยอยู่พรรคพลังธรรมมา ผ่านพฤษภา 35 มา อาตมาก็อยู่ตรงนั้น อาตมาก็รู้ว่าคุณจำลองแนะนำทำกันอย่างไรมา ก็อยู่บนถนนตรงนั้น เพราะฉะนั้นจะเป็นเรื่องการเมืองรัฐศาสตร์ ไม่ใช่อาตมาไม่ได้ร่วมไม่ใช่อาตมาไม่ได้ร่วม อาตมาไม่ได้ไปร่วมรับตำแหน่งทางการเมือง แต่อาตมาคือนักการเมืองอิสระ 

ใช่ ยินดีต้อนรับด้วย จะอยู่พักอีกกี่วันกี่เดือนกี่ปีก็เชิญ เอ้าจริง อาตมากล้าพูดอีกด้วยว่า คุณอยู่ที่นี่ขอให้คุณ รวนเต็มที่เลย ให้รวนด้วย นี่กล้าพูดอย่างเรียกว่า กระด้างๆหน่อย ท้าทายให้รวนด้วย ยิ่งคุณรวนนี่แหละยิ่งดี จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพวกนี้จะโกรธไหม คุณจะเป็นโจทย์ให้แก่พวกเรา ขอบคุณ

แม้แต่ตัวคนที่มาด่ามา อาตมาอ่าน Comment ของประชาชนอันเป็นชั่วโมงเขาด่าอาตมาหมดทั้งนั้น ด่าอย่างหยาบคายก็มี เขียน เ  ี... ค... ก็มี

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบคุณตู่-จตุพร และทนายนกเขา ดำเนินรายการโดย คุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 12:50:09 )

ทำไมฟังธรรม 2 กันฑ์บรรลุพระอรหันต์ได้

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าเทศนาธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เมื่อเทศนาเสร็จโกณฑัญญะเข้าใจเลย มีสอง มีกาม กับ อัตตาเท่านั้นหรือ ในโลกนี้ มีสองตัวนี้เท่านั้น ก็ทะลุเลย ทะลุตัวแรก ขั้นแรกนะ เป็นโสดาบันเลย 

พอเทศน์ อนัตตลักขณสูตร สูตรที่ 2 ปังเข้าไป เป็นอรหันต์เลย คุณไพศาล พืชมงคล บอกว่า ผมศึกษาจังอ่านจังทำไมไม่บรรลุโสดาบัน แล้วพระยสะ ฟังธรรมะ 2 กันฑ์ก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ ทำไม จะว่าไปทำไมล่ะ คุณยังไม่มีบารมีไม่ได้สะสมบารมีเหมือนเขา คุณจะทำอย่างไรก็ทำ ไปต่อ ทำใหม่ก็มัย คือสำเร็จ ก็คุณยังไม่สำเร็จก็ไม่ ทำไมกับทำเสร็จมันต่างกัน คุณก็ไม่ไปเรื่อยๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์ตีตราด้วยปัญญา 8 ประการ วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 23 พฤษภาคม 2564 ( 12:29:46 )

ทำไมฟังธรรมแล้วเกิดละอายอย่างแรงกล้า

รายละเอียด

การยึดถือเขายึดถือสิ่งที่ผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ แล้วเราจะทำให้เขาเข้าใจเป็นสัมมาทิฏฐิซึ่งมันตรงกันข้ามกันคนละอย่าง จะให้เขาพลิกเหมือนพลิกฝ่ามือ มันจะได้หรือ ถ้าได้แล้วก็จะรู้สึกจริงๆ อันนี้อาตมาจึงเห็นว่าพระพุทธเจ้าตรัส ผู้ที่ได้มิจฉาทิฏฐิ เมื่อมาได้พบพระพุทธเจ้ามาพบสัตบุรุษ ได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้า ฟังธรรมของสัตบุรุษ โอ้โห! ก็จะเกิดความละอายอย่างแรงกล้า เคารพอย่างแรงกล้า รักอย่างแรงกล้า เกรงกลัวอย่างแรงกล้าเลย มันจริงที่สุด คุณฟังแล้วเข้าใจกันยากว่าทำไมฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า จากสัตบุรุษผู้อยู่ในฐานะครู ฟังแล้วเกิดละอายอย่างแรงกล้า ติปปัง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 16:09:37 )

ทำไมมันยังดื้อด้านมันไม่ออกมันยังไม่ได้ไม่เลิกไม่หยุด

รายละเอียด

เราก็ไม่อยากเป็นคนดื้อด้าน เราก็อยากเป็นคนว่าง่ายสอนง่าย ทำไมมันยังดื้อด้านมันไม่ออกมันยังไม่ได้ไม่เลิกไม่หยุด พ่อท่านก็ว่าเหลือเกิน แต่ทำไมไม่หยุด มันเป็นอย่างนี้ คุณไม่ได้ทำไปตามลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ คุณนึกว่าคนเองทำได้สูงอยู่แล้ว ส่วนมากจะไปหลงปรมัตถ์ในด้านในด้านอัตตา แต่ด้านนอกคุณเผิน คุณติดหมากพลูอยู่ คุณนึกว่าคุณเป็นพระอรหันต์ อย่างเช่นมหาบัว อย่าไปดูถูกด้านที่หยาบด้านข้างนอก ต้องปฏิบัติตั้งแต่เบื้องต้นเกี่ยวกับสัตว์ เกี่ยวกับข้าวของที่เป็นทุจริต สัตว์นี่คือชีวิตจะต้องเกื้อกูลกันช่วยเหลือกันหวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวง มีความเอ็นดู มีความเมตตา 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:44:10 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 04:28:59 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 08:03:53 )

ทำไมมีความรักแล้วถึงทุกข์

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าตรัสว่ามีรัก 100 ก็ทุกข์ 100 มีรักหนึ่งก็ทุกข์หนึ่ง ไม่มีรักเลยไม่ทุกข์เลย แต่อาตมาชื่อรัก และอาตมาก็ไม่ทุกข์ เพราะเข้าใจรักก็เลยเขียนความรัก 10 มิติ คือคุณสมบัติจิตวิญญาณ ความรักคือการเผยแผ่เกื้อกูลถ้าเป็นความรักเรื่องกามก็แคบ รักแค่พ่อแม่ลูกก็แคบ รักแค่ญาติก็กว้างขึ้น เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นมากขึ้น จะกลายเป็นความเกื้อกูลเมตตาเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นไปเรื่อยๆ ความรักที่เห็นแก่ตัวที่สุดคือความรักระหว่างคู่เมถุน บางคนลูกก็ไม่เอา เอาแต่คู่ บางทีฆ่าลูกด้วยมันแย่จริง คนทุกวันนี้จิตใจต่ำมาก หากเข้าใจจิตวิญญาณก็ควรจะทำให้เป็นความรักที่กว้างขึ้น จนกระทั่งเรามีพลังงานในความเมตตาช่วยเหลือเกื้อกูลกว้างจนกระทั่งเราไม่เหลือตัวเราเลย เป็นมิติที่ 6 7 8 9 สุขขึ้นไปเรื่อยๆนั่นแหละเป็นพลังงานแห่งความเมตตาเกื้อกูลช่วยเหลือ ความรักจริงๆไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวและไม่ใช่แคบแค่เสพรสกาม ได้สมใจก็สุข ไม่สมใจก็ทุกข์ สุดท้ายแม้ทำเป็นเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ก็ทำ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ สำมะปี๋ซี่วิตครั้งที่ 36

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 ที่บวรราชธานือโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 10:54:20 )

ทำไมยิ่งสงบ ยิ่งคล่องแคล่ว

รายละเอียด

ขยายความคำว่าสงบ 2 อย่างให้ฟัง พยายามจะพูดให้ง่ายๆ ความสงบ 2 อย่างที่เข้าใจนี้ ความสงบอย่างที่เป็นโลกุตระ เป็นฌานวิสัย ของพระพุทธเจ้าที่เป็นอจินไตยกับความสงบแบบฤาษีความสงบแบบ เดียรถีย์ โลกียธรรมดา คือเป็นความสงบที่เขาเอาตื้นๆอย่างความเคลื่อนไหวมันมีหรือไม่มี เป็นความเคลื่อนไหวทางการกระทำทางกายกรรม กายกรรมไม่เคลื่อนไหว เขาก็เลยไปนั่ง นั่งนิ่ง หรือบางทีไม่นั่งก็นอนทำสมาธิ หยุดนิ่งหยุดการเคลื่อนไหว หยุด อิญชนะ (การเคลื่อนไหว) เดี๋ยวนี้เขาไม่พูดถึงอิญชนะ เขาไม่เข้าใจ ไม่ระวังระแวงด้วยว่าสงบก็คือหยุด

สงบที่เขาเข้าใจกันแค่ตื้นๆเขาเข้าใจว่าแค่ไม่เคลื่อนไหวกาย พูดก็พูดให้เบาๆน้อยๆหรือนิ่งๆไม่พูดเลย ไม่เคลื่อนไหวทางวาจา หนักเข้าก็ไม่เคลื่อนไหวทางจิต ให้สงบ แล้วเขาก็ว่าเขาอ่านอาการ กาม ปฏิฆะ ที่มันเกิดในจิตซึ่งมันเป็นสัญญาไม่ใช่เป็นกรรมที่จริง ปฏิฆะที่จริง ที่เกิดการกระทบสัมผัสใน กามาวจร เพราะเขาไปนั่งหลับตาอยู่ใน รูปภพ อรูปภพ แล้วเขาก็เข้าใจอีกแหละว่าเขาจะทำให้มันนิ่งลึกเข้าไป ให้หยุดนิ่งไปเลย นี่แหละคือสงบ เขาเข้าใจอย่างนี้กันเลยนะมากกว่ามากเลย โดยเฉพาะสายเทวนิยม แม้แต่อินเดียเองเดี๋ยวนี้ เป็นฤาษีกันทั้งนั้น อินเดีย ไม่มีโลกุตรธรรมนะ ไม่มีใครสอนโลกุตรธรรม เป็นฤาษีทั้งนั้น เป็นพวกนอกรีตทั้งนั้น 

โดยฉะนั้นในเมืองไทยนี่ก็เถอะ แยกไม่ได้ ทำความสงบที่มันสงบเพราะ จิตมันแคล่วคล่อง จิตมันตื่น จิตมันสว่าง จิตมันแจ่มใส ไม่ใช่จิตที่ยิ่งหรี่ยิ่งหลบยิ่งหลับ ไม่ใช่ มันยิ่งตื่น ยิ่งแจ่มใส ยิ่งกระปรี้กระเปร่าเพราะอะไร เพราะกิเลสมันออกไป ทำให้กิเลสตัวขุ่นมัว ตัวหมอง ตัวที่ทำให้ยิ่งมืดบอดนั้นมันลด มันลดค่าลงเรื่อยๆ กิเลสนี้มันหมดไปจิตมันก็ยิ่งตื่นใสสะอาด บริสุทธิ์จากกิเลสไปเท่าไหร่ ปริสุทธา จิตที่บริสุทธิ์จากกิเลสก็คือ ปริสุทธามากยิ่งขึ้น ปริโยทาตา มันก็ยิ่งประภัสสรความฉลาดชนิดก็ยิ่งแจ่มใส สงบจากกิเลสจิตก็ยิ่งแจ่มใส ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ทำกรรม กัมมัญญาทุกอย่างที่เป็นกัมมันตะมันเป็นอัญญา มันพร้อมไปด้วยความฉลาดชนิดอัญญาปัญญา กำกับพร้อมไปตลอดเวลาเลย

เพราะฉะนั้น ฌานหรือสมาธิ หรือจิตที่สงบของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ฌานที่คนนิ่ง ไม่ใช่ฌานแบบแข็งทื่อ แต่เป็นฌานที่ยิ่งมี กายปาคุญญตา มี จิตปาคุญญตา มีกายกรรม แคล่วคล่องว่องไว ปราดเปรียว วจีกรรมก็แคล่วคล่องว่องไว ปราดเปรียว มโนกรรมก็ยิ่งแคล่วคล่องว่องไว ปราดเปรียว นี่คือสัจจะสุดยอด ซึ่งผู้ที่ไม่มีภูมิปัญญา เพราะความเข้าใจไม่มี เป็นภาษาสิริมหามายา เป็นภาษาที่ซับซ้อน ทำไมยิ่งสงบยิ่งหยุด ยิ่งคล่องแคล่ว ยิ่งว่องไว เขาก็ไปเข้าใจว่าสงบคือหยุดคือนิ่ง คือไม่เคลื่อนไหว ซึ่งมันผิด มันไม่ใช่อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมื่อเห็นค้านแย้งจากผู้สัมมาทิฏฐิย่อมคือผู้มีบาป วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤษภาคม 2566 ( 11:59:21 )

ทำไมยุคนี้คนบรรลุช้ากว่ายุคก่อน

รายละเอียด

ถูกต้อง เป็นเพราะสังคมมันเสื่อมลง อาตมาจึงเหนื่อย เพราะมันตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ต่อไปในอนาคต คนจะไม่รู้จักโลกุตระ พูดกันไม่รู้เรื่องแล้ว แต่จะไปยินดีในคำสอนของสาวก เพราะโลกุตระมันจะทวนกระแสใจฟังไม่ค่อยขึ้นฟังไม่ค่อยได้ อาตมาทำงานผ่านมา 50 ปีจนทุกวันนี้ก็ยังลำบากเลยพวกที่เขาติดอยู่ในโลกียะ 

ถามว่า ปัจจุบันตรงข้ามเพราะอะไร ตอบง่ายๆ ว่าเพราะมันเสื่อมลงใกล้กลียุคแล้ว แม้ศาสนาพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั้นเป็นปลายภัทรกัปแล้ว พระองค์นี้มีเป็นองค์ที่ 4 ของภัทรกัปพระพุทธเจ้า กลียุคจะเกิดในกัปนี้แหละ เมื่อศาสนาพระสมณโคดมสิ้นไป กลียุคเกิด แล้วจะลดลงไปเหลือคนน้อยลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีพุทธันดร ว่าง ไม่มีศาสนาพุทธ จนกว่า คนจะมีเพิ่มมากขึ้น คนมาใหม่ๆก็ไม่ได้อวิชชาหนาเหมือนคนเก่า จนกระทั่งมันเสื่อม ศาสนาพุทธต้องเกิดมาช่วยคนที่เสื่อม คนยังไม่ต่ำ ยังไม่เลวเท่าไหร่ ก็อยู่กันด้วยดีไป ศาสนาโลกียะเขาก็ช่วยได้อยู่เรื่องนี้ รักดีไม่ทำชั่ว พอมันไม่ไหวแล้วพระพุทธเจ้าองค์นี้ก็จะอุบัติขึ้นมานั่นแหละคือพระศรีอริยเมตไตรย จะรื้อขนสัตว์ได้มากที่สุดเลย อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้ปัญญาคนไร้ศรัทธาต่ออโศก วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:03:12 )

ทำไมยุคนี้คนใส่ใจโลกุตรธรรมมีน้อย

รายละเอียด

ยุคพระพุทธเจ้า เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะอุบัติขึ้นมาประกาศตนเป็นพระพุทธเจ้าคนก็ยอมรับ คนก็เข้ามานับถือ แต่ในยุคนี้ พุทธศาสนามีอยู่ พระไตรปิฎกก็ยังมี แต่เมื่อมีผู้ประกาศศาสนาอย่างพระโพธิสัตว์ อย่างอาตมา ก็ยืนยันสิ่งที่ถูกต้อง แต่คนก็ไม่มาเพราะอะไร มันเป็นเพราะบารมีไม่เท่ากัน พระพุทธเจ้าท่านอุบัติขึ้นมา ท่านมีบารมีมาพร้อม เมื่อมีบารมีมาพร้อม คนที่จะเกิดร่วมกับยุคพระพุทธเจ้าก็ต้องเป็นคนที่มีภูมิธรรมเป็นโลกุตระมาพร้อม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่จะฟังเทศน์กัณฑ์เดียวก็บรรลุ มาทีละหมู่มวลเยอะ ไปเทศน์โปรดกลุ่มนั้นกลุ่มนี้บรรลุพร้อมทีละ 500 ทีละ 1,500 อะไรอย่างนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีบารมีมาเกิดในยุคนั้นพร้อมกัน แม้แต่เป็นสหชาติก็มาเกิดร่วมกัน พระอานนท์  ม้ากัณฐกะ พระนางพิมพา เป็นสหชาติที่ต้องมาเกิดร่วมกันพร้อมกันเป็นต้น เป็นเรื่องไม่ใช่บังเอิญ เป็นเรื่องที่สั่งสมบารมีมาทุกคน เมื่อมาถึงในยุคนั้นเวลานั้นต้องมาพร้อมกัน พระพุทธเจ้ามีความพร้อมที่สุด ลักษณะพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นทุกอย่างก็จึงง่ายพร้อม ทีนี้ ยุคนี้ ผ่านมา 2,600 ปี พอมาถึงในยุคนี้ ความเสื่อมมันมีไปจนเรียกได้ว่าหมดเลยนะ อาตมาว่าหมดโลกุตรธรรมแล้ว ที่นี้อาตมาอุบัติขึ้นมา อาตมาก็ยืนยันว่าเป็นผู้นำสัจธรรมนั้นมา ที่เป็นธรรมะพุทธเจ้า เป็นโลกุตรธรรม เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้ยืนยันจริง เมื่อประกาศขึ้นมา บารมีของอาตมาก็ไม่มีมาก นอกจากไม่มีบารมีแล้ว ยังมีสัมภาระวิบาก ยังมีวิบากที่ต้องรับภาระ ยืนยันพิสูจน์ความจริง เอาความรู้ เอาคำอธิบาย เอาสัจจะนี้มาขยายให้คนในยุคนี้ ที่เขาแสวงหา เขายังพอมีปัญญา เขาจะรับได้จริง เขาก็จะรับได้ จึงมีผู้รับได้บ้างมีบารมีพอจะรับได้ก็มีมาไม่เร็วช้า 50 ปีก็ได้แค่นี้ พระไตรปิฎกก็ยืนยันตั้งแต่ต้นจนบัดนี้เดี๋ยวนี้ก็ยังยืนยันต่อไปอีก ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ใช้พระไตรปิฎกฉบับนี้ยืนยัน ที่มีบกพร่องก็ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์หรอก นอกนั้นก็ใช้ได้กว่า 95 เปอร์เซ็นต์ พระไตรปิฎกฉบับนี้

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 25 กันยายน 2563 ( 18:43:43 )

ทำไมลาภสักการะสรรเสริญเป็นอันตรายต่อพระอรหันต์

รายละเอียด

มงคลธรรมข้อที่ 35 แปลว่าสัมผัสกับโลกธรรมแล้วจิตไม่หวั่นไหว ผุฏฐัสสะโลกธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะกัมปะติ แต่คำว่าแตะต้องไม่ได้หมายความว่าคุณไม่เข้าใจสัมพันธ์ สัมผัสหรือแตะต้อง แตะต้องได้แต่กิเลสมันทำอะไรผู้ที่อยู่เหนือที่มีโลกุตรจิตไม่ได้นั้นต่างหาก ฉะนั้นต้องละเอียดลึกซึ้ง คุณพูดมากเหมือนกับเด็กๆพูด ที่จริงพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าลาภสักการะสรรเสริญเป็นอันตรายต่อพระอรหันต์นั้น มันจะไปทำร้ายปัจจุบันธรรมที่เป็นทิฏฐธรรมสุขวิหาร ที่พระอรหันต์พ้นแล้วเพราะมีเจโตวิมุติ แต่ปัจจุบันธรรม พระอรหันต์ใช้เป็นอยู่ด้วยสุขวิหาร

สุข แปลว่า ว่าง อยู่กับจิตว่าง สุขวิหาร วิหารแปลว่าอยู่ ทรงอยู่กับจิตว่าง ในปัจจุบันนั้นๆ ถ้าเผื่อว่าพระอรหันต์ก็ดีไปกระทบสัมผัสกับลาภยศสรรเสริญสุขที่เป็นโลกแล้ว ถ้าเผื่อว่ามันไม่กระทบเลย พระอรหันต์ก็จะว่างโดยที่ไม่มีผัสสะไม่มีอะไรเลยก็ไม่ใช่เรื่องของโลกุตรธรรม พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า อย่าประมาทกับลาภยศสรรเสริญโลกียสุข ถ้าผู้ใดที่เผลอหลงใน กัมมารามตา คุณเพลิดเพลินในการงานคุณก็จากลาภยศสรรเสริญไม่ได้ ยิ่งเป็นพระอรหันต์จะมีมาก ก็จะเป็น ภัสสารามตา กัมมารามตา ถ้าหากเผลอไปมันก็จะไม่เป็นสุขมันก็จะไม่ดี เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก ท่านเตือนพระอรหันต์ว่าอย่าไปหลงในอุปกิเลสขั้น กัมมารามตา ภัสสารามตา นิทรารามตา ปปัญจรามตา 

ภัสสารามตากับกัมมารามตา เป็นเรื่องการทำงานการพูดถ้าเป็นพระอรหันต์แล้วถ้าเผลอก็หลงได้ มันจะหนักเกินมันจะเสียสุขภาพ มันจะไม่พอดี มันเป็นเรื่องลึกซึ้งท่านเตือนพระอรหันต์ คุณยังไม่พระอรหันต์ก็ยังไม่ต้องอะไรมาก  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 23 วันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 09:45:23 )

ทำไมลายมือหลวงปู่ถึงสวย

รายละเอียด

ทำไมลายมือหลวงปู่ถึงสวย อันนี้อาตมาจะบอกให้เลย ประมาณนี้ลายมือแย่จริงๆตั้งแต่เด็กตั้งแต่นักเรียน แต่หลวงปู่พยายามเขียน พยายามหัด พยายามตั้งใจเขียนให้ตัวดีๆหัดเขียน ต้องหัด ไม่มีทางอื่นเลย ลายมือจะดีนี่ นอกจากคนที่มี พรสวรรค์ มี talent ของตัวเองมาแต่เก่า ก็เขียนสวยมาแต่เก่าได้ก็แล้วไป แต่ทุกคนจะหัดเขียนให้ลายมือสวยได้จำไว้เด็กหญิงกล้วย หลวงปู่หัดฝึกเขียนมันก็จะเขียนได้ดี 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 12:46:09 )

ทำไมวิญญาณฐีติ มี 7 สัตตาวาส มี 9 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนก็งงว่าทำไมวิญญาณฐิติ 7 แล้วไปไหน แม้แต่สัญญาเวทยิตนิโรธก็ไม่มี ก็เพราะว่า สัญญาเวทยิตนิโรธแปลว่าสัญญาทำการเคล้าเคลียอารมณ์เวทนา หรือตรวจสอบนอกในให้ละเอียดนะว่ามันนิโรธแน่หรือยัง สัญญาเวทยิตนิโรธ มันดับสนิทเท่านั้น คุณจะต้องทำสัญญาเวทยิตนิโรธเพราะคุณมีเนวสัญญานาสัญญายตนะ แต่ถ้าทำตามลำดับก็จบนิพพานได้ที่อากิญจัญญายตนะได้เลย 

วิญญาณฐีติ มี 7 สัตตาวาส มี 9 

วิญญาณฐีติ เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิในการปฏิบัติธรรม รู้จักวิญญาณกำหนดรู้วิญญาณได้แยกมาเป็นจิตเจตสิกต่างๆถูกต้อง แต่คุณทำไม่ถูกต้องก็เป็นสัตตาวาส 9 แม้ไม่ถูกต้องก็เป็นรูปฌานใน 4 อันข้างต้น เป็นสัตว์ 4 ระดับ คุณก็ทำเป็นโลกียะไม่ถูกต้อง ดีไม่ดีหลงผิดไปเป็นอสัญญีสัตว์ ดับสัญญา เช่นไปนั่งหลับตา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชาติ 5 แยกวิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วันพุธที่ 27 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:15:20 )

ทำไมศาสดาเทวนิยมตายไปแล้วจึงไปอยู่กับพระเจ้า

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นจึงเกิดๆๆๆ ทำตายให้ตนเองไม่ได้ แต่มันต้องตาย ในรูปขันธ์ในสรีระที่บอกว่า คนไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ต้องตายแต่ตายไม่สลายจิตนิยาม ไม่บรรลุอนัตตาธรรม เป็นอัตตาวนเวียน จนกระทั่งสุดท้าย รู้สุดรู้มากมายอย่างที่เป็นศาสดา แล้วไปจบที่ศาสดาองค์ใดองค์หนึ่งที่มีความรู้เป็นนิรันดร คิดว่า อัตตามันสลายไม่ได้หรอก ต้องเป็นนิรันดร 

เพราะฉะนั้น ศาสดาเทวนิยมจึงตายไปแล้วอยู่กับพระเจ้าเท่านั้นเอง แล้วเขาก็ไม่รู้ว่ามีอะไรต่อ ส่วนพระพุทธเจ้าเรารู้ว่าอย่างนั้นมันอยู่อย่างนั้นก็ได้ อยู่อย่างตายแล้วก็ไม่ต่อ แต่ที่จริงนั้น ต่อ ต้องเกิดอีกตามวิบากกรรม พาเกิดพาเป็นหมุนเวียน ทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปอย่างนี้ แล้วก็จะได้ดีหรือตกยาก เพราะกรรมของตนที่ทำดีก็ดี ทำชั่วก็ทุกข์ยากลำบาก ทำดีก็สบายบ้าง ก็ได้แต่สบายบ้างเป็นสุขๆทุกข์ๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 39 พุทธานุสสติ และอัมพัฏฐสูตร วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 16:58:33 )

ทำไมศาสนาพุทธที่สอนให้รู้ความจริงแต่คนไม่เชื่อไปเชื่อพระเจ้า

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น ศาสนาในโลกจึงมีศาสนาที่คนไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่ค่อยรู้ความจริงอย่างสมบูรณ์แบบ เหมือนพระพุทธเจ้าเหมือนกับศาสนาพุทธที่รู้รอบจนกระทั่งรู้ว่า จิตวิญญาณคืออะไร อัตตาคืออะไรและสุดท้าย จะมีอัตตาไปต่อ ก็เป็นอัตตาที่ดีตามที่เขาต้องการ รู้จักดีรู้จักชั่วแล้วทำแต่ดีไม่ทำชั่วเลย อย่างแข็งแรงถาวรมั่นคงด้วย ไม่ต้องหมุนกลับลงมาทำชั่วอีก หมุนไป ชั่วไปดี ดีไปชั่วอีกไม่มีเลย แต่ของ พระพุทธเจ้า ไม่หมุนกลับ ไม่มีชั่วอีกเลย มีแต่ดี แต่เรียนรู้ สุขทุกข์ ที่เป็นตัวเทวะ เป็นตัวมายา เป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริงๆแท้ๆเป็นอนัตตาเป็นของปรุงแต่ง เป็นสังขารเท่านั้น 

สังขารที่ปรุงแต่งกันอยู่ เริ่มตั้งแต่ 2 ธาตุ เมื่อปรุงแต่งกันนับเป็นชีวะ ก็เลยเป็นประธานของตัวเอง ISH ตัว S H ก็คือพลังงานตัวบวก พลังงานตัวลบ พลังงาน อิตถีภาวะ และ ปุริสภาวะ แล้ว อุปาทานคือ I รวมแล้วเป็นวิญญาณ อยากรู้ก็ต้องมาเรียนแยกนามแยกรูป คือตัวรู้กับสิ่งที่ถูกรู้ มาปรุงแต่งกันขึ้นก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง เป็นอีกตัวหนึ่ง ก็จะมีตัวธาตุปัญญาที่เป็นตัวไม่มีตัวตนเป็นประธานรู้ เพราะฉะนั้นอยากรู้ก็ต้องไปมีสัมผัส มีผัสสะ แล้วก็จะเกิดอายตนะ เกิดสิ่งที่ไม่มีตัวตนเหมือนกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ใครคือผู้ถึงแก่น ใครเป็นผู้หลงกิ่งใบดอกผล วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 16:15:48 )

ทำไมสังคมพุทธถึงได้รังเกียจกะเทย

รายละเอียด

ทีนี้ ถามว่า ทำไมสังคมถึงได้รังเกียจ ในพุทธศาสนา เพราะพุทธศาสนารู้จักสัจธรรมในความเป็นธรรมชาตินี้ดี จึงป้องกันไม่ให้คนมาสร้างบาปเวร เป็นกะเทยแล้วก็รับวิบากซะ จะมาเรียนธรรมะก็สังวรสำรวมลดละในชาตินี้ อย่าไปต่อ สังวรสำรวมพากเพียรอย่าให้มันหนักในเรื่องของ กาม ลดละจริงๆ คุณก็จะดีขึ้น แต่อย่ามาบวชเดี๋ยวพาศาสนา พระ เจ้าวุ่นหมด 

เพราะฉะนั้นทำไมสังคมรังเกียจ เพราะสังคมไทยเป็นสังคมแห่งพุทธศาสนา สังคมที่ไม่ใช่พุทธศาสนานั้น มีค่านิยมในโลกมีการอนุโลมในเรื่องของกะเทยหรือเกย์ เขาจึงอนุโลมกันจนกระทั่งออกกฎหมายแต่งงานกันได้ อะไรไป ก็เลยส่งเสริมให้กิเลสอ้วนพีงอกงามไพบูลย์ ศาสนาพระพุทธเจ้ารู้ตัวแล้วเลิกละ อย่าไปสนับสนุนส่งเสริมทำให้เขายิ่งหนักหนาไม่รู้กี่ภพชาติ 

เพราะฉะนั้นจึงไม่ให้บวช พวกที่เป็นกะเทยก็ต้องสอนกันแนะนำกันอย่ามา
กระดุ๊กกระดิ๊ก อย่างพวกเรากะเทยไม่ค่อยกล้ามา พวกเราจะไม่ค่อยชอบเพราะเป็น กามวิตถารมากเกินปกติไม่ใช่ด่าว่าดูถูกดูแคลน แต่เป็นสัจจะที่คุณไปสั่งสมมาเอง 

ท่านอธิบายพวกที่นอกใจ พวกที่มากผัวเมีย พวกนี้เป็นกะเทย อธิบายสั้นๆเท่านี้ เพราะว่าพูดแล้วมันไปกระทบเขา ก็สงสารเขาอยู่เหมือนกัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม รายการวิถีอาริยธรรม ตอบปัญหาผ่าวิญญาณฐีติ 7 วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2563
ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:38:50 )

ทำไมสังคมอโศกจึงง่ายสบาย

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าให้หลักเกณฑ์ให้เราปฏิบัติประพฤติตาม ผู้ที่เรียนรู้ดีๆปฏิบัติตามดีๆก็ได้รับผล การได้รับผลแล้วก็เป็นผลที่ตัวเองและเป็นผลต่อสังคม เมื่อสังคมมีคนที่ได้รับการบรรลุธรรม มีการบรรลุธรรมที่จริง สังคมก็เป็นอย่างสังคมชาวอโศกของเรานี่แหละ เป็นสังคมที่ง่ายสบาย ผู้บริหารผู้ปกครองก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย สบาย เป็นพลเมืองที่มีประโยชน์คุณค่าต่อสังคมต่อมนุษยชาติ ไม่เป็นภาระของใคร นอกจาก ภาราหเวปัญจขันธา เป็นภาระที่ขันธ์ 5 เราก็ดูแลมันไป ถ้ามีเวลาก็ช่วยคนอื่นเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นเป็นอย่างยิ่ง 

จนกระทั่งเป็นคนจน เป็นคนที่ไม่ต้องมีเงินทองไม่ต้องสะสมเงินทองเลย เป็นสังคมสาธารณโภคีอย่างที่เราเป็นได้ ไม่ต้องมีเงิน วันๆเราก็อยู่กับสังคมไป มีอยู่มีกินมีใช้ ทำงานได้เต็มที่ มีเหตุปัจจัย มีเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องใช้ให้ทำงาน สมบูรณ์บริบูรณ์ มันเป็นวิธีการที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วเอามาปฏิบัติจนกระทั่งเกิดผล เห็นจริง ซึ่งมันเห็นจริง 

ทางสังคมโลกเขาก็อยากให้คนเป็นอย่างที่เราเป็น มาเป็นได้อย่างที่เราเป็นได้ เขาอยากให้เขาเป็น แต่เขาไม่ค่อยเข้าใจลึกซึ้งละเอียดและเขาไม่รู้วิธีการของพระพุทธเจ้า ที่แม้แต่เป็นชาวพุทธ ชาวเทวนิยมชาวตะวันตกทางยุโรป ทางเทวนิยมทั้งหลายเขาไม่มีศาสนาพุทธนะ เขาจะไม่รู้จักเลย ว่าคนชนิดนี้มีด้วยหรือในโลก เขานึกไม่ออก 

อย่าว่าแต่นึกออกเลย บอกยังไม่ค่อยเข้าใจ ยังไม่ค่อยรู้เลย เช่น เราบอกว่าเราจะมาเป็นคนจน เราสมัครใจมาเป็นคนจน เขาฟังแล้วก็จะงง ศาสนาเราสอนให้มาเป็นคนจนแล้วก็เป็นได้ มันเป็นอย่างไร คนจนก็ตายสิ จะอยู่อย่างไร 

มาเป็นคนรับใช้ ซึ่งจริงๆในสังคมพวกนักการเมืองก็บอกว่ามาเลือกเราไปเราจะได้ไปรับใช้สังคมประชาชน เขาก็พุทธนะ แต่มันยังเผินๆยังไม่ลึกซึ้ง ลึกซึ้งมาเป็นผู้รับใช้จริงๆเลย ของพระพุทธเจ้านี่แหละเป็นนักการเมืองสุดยอดเป็นคนรับใช้ประชาชน คนอย่างพวกเราแต่ละคน วันๆก็ทำงานกินอยู่พอใช้ เสร็จแล้วก็ใช้ มีแรงงาน มีผลผลิต ที่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ว่าจะเป็นกสิกรชาวไร่ชาวนาชาวสวนก็มีผล หรือจะเป็น ช่าง ในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เป็นช่างทำไม้กวาดอย่างง่ายๆ ก็ทำไม้กวาดแจกจ่ายได้ใช้ เป็นช่างทำอันนั้นอันนี้ได้ดีจนกระทั่งกลายเป็นช่างทางโลกเขา เป็นช่างเหล็กช่างไม้ช่างเครื่องจนกระทั่ง เป็นแบบพวกเราก็มีก็เป็นก็ทำ ในสิ่งที่เราจะต้องใช้ จนกระทั่งเป็นด้านการศึกษาด้านสื่อสาร ด้านอะไรๆต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในมนุษยชาติเราก็เป็น แล้วก็ไม่เห็นต้องขึ้นอยู่กับเงิน อย่างพวกเรามีทุกช่างมีทุกงานที่พูดผ่านมากลายๆ มีของทางโลกบางอย่างที่เราไม่ไปเป็น ฉันจะไม่ไปเป็นช่างชงเหล้า ตัดผ้าเป็นแฟชั่นหลอกคน ไปเป็นช่างปรุงแต่งลิปสติก อะไรทางโลกเขามีเยอะแยะ แล้วได้เงินทองสูงด้วยนะ แพงมากด้วย เราไม่ได้ไปเสียเวลาเป็นอย่างนั้น นี่แหละคือเศรษฐศาสตร์ที่เจริญ คือเราไม่เอาแรงงานเวลาทุนรอน เอาไปใช้กับงานไร้สาระและมอมเมาด้วย สูญเสียความเป็นคนสูญเสียความเป็นพฤติการณ์ สังคม 

ซึ่งมันตรงกันข้ามกับความเข้าใจทางโลกเขาที่ต้องยิ่งปรุงแต่ง แค่เสื้อผ้าต่างๆก็ตัดมาหลอกกันมีแฟชั่นราคาแพงอะไร เป็นความสูญเสียมากเลยและก็โง่ด้วย เพราะคนที่หลงแฟชั่นก็คือโง่ตามและถูกหลอกล้วงกระเป๋า ซื้อแล้วซื้ออีกใส่ตู้ไว้ ไม่รู้จะโง่ไปถึงไหน เสร็จแล้วก็ทำงานหาเงินไปให้เขา มันจะไม่ทันสังคม ไม่เป็นหน้าเป็นตาแบบที่เขาเป็นกัน 

พวกเราปฏิบัติธรรมเสร็จแล้วสิ่งเหล่านี้มันหายไปเลยไหม มันไม่เห็นเป็นความสำคัญอะไร นอกจากไม่เห็นเป็นความสำคัญแล้วยังเห็นเป็นความโง่ด้วย รู้สึกว่าตัวเองเคยโง่ไหม เคย ที่ถามนี้เชื่อว่าจริงอย่างที่อาตมาพูดไหมโง่จริงไหม ...จริง ไปด่าเขานะ อาตมาไม่ได้ชวนคุณร่วมวงด่าเขานะ ตำหนินั่นเอง เห็นว่าสิ่งนั้นไม่ควรจะไปน่านิยม ไปเป็นไปมี 

เกิดมาชีวิตหนึ่งก็มีเวลาเท่ากัน เวลาล่วงไป กำลังแรงงานของแต่ละคนก็มีพอกัน เป็นหนุ่มเป็นสาวก็มีแรงงานเต็มที่ อายุมากหน่อยแรงงานก็ลดลงบ้าง มันก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ เสร็จแล้วเราก็ทำงาน เกิดมาก็ทำการงาน กิริยาต่างๆเป็นสัมมาอาชีพ สัมมากัมมันตะ สัมมาวาจา สัมมาสังกัปปะ ที่พระพุทธเจ้าสรุปรวมทั้งหมดแล้ว สัมมาทำอย่างดีทำอย่างชอบ ดีแล้วถูกต้องสมควรแล้ว จนกระทั่งถึงขีดว่า มันก็ไม่มีปัญหาแล้ว วันๆหนึ่ง ชีวิตของเรามีกายกรรมวจีกรรมมโนกรรมของเรา ทำอะไรไปเป็นคุณค่าประโยชน์ 

ถ้าคุณทำงานเสร็จ มีผลผลิต ขึ้นมา เป็นต้น แล้วคุณก็โฆษณาผลผลิตว่าใครกินอันนี้ได้แล้วก็จะเหาะได้เลยนะต้องขายให้แพงๆ จะเจริญจะประเสริฐ จะสวยงามตลอดอะไรก็แล้วแต่ที่จะยกแบบทางโลก ที่คนเขาอยากเป็นอย่างมีอยากได้ตามประสาคนโลกๆ ที่นิยมกันก็ว่ากันไปหลอกกันไป โฆษณาให้คนเชื่อถือ จะเป็นจริงหรือไม่ก็แล้วแต่คนนิยมก็ตั้งราคาแพงขึ้นก็เอาเปรียบเอารัดกันไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก ผลงาน 50 ปี ตามอนุสาสนีปาฏิหาริย์ของพ่อครู วันพุธที่ 18 มกราคม 2566 แรม 12 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ปี 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มกราคม 2566 ( 13:06:22 )

ทำไมสัทธาวิมุติจึงบรรลุช้ากว่าทิฏฐิปัตตะ

รายละเอียด

เพราะสัทธาวิมุติไปติดอยู่ที่เสพติดวิมุตินึกว่ามันใช่ มันเป็นวิมุต แต่มันเป็นมิจฉาวิมุตติ จึงไม่ได้แกล้ง จึงจมอยู่นานกว่าทิฏฐิปัตตะ มันเป็นจริง 

เพราะฉะนั้นจะบรรลุพระพุทธเจ้าสายศรัทธาจึงต้องใช้ 40 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป 

คำว่า อสงไขยกับเศษแสนมหากัป อสงไขยคือกรอบเป็นกัป แต่บางคนอสงไขยก็ยังไม่จบก็เลยปลายเปิดไว้ว่าแสนกัป เพราะฉะนั้นแสนนี้ใครก็ได้ ถ้าไม่ฉลาดพอก็จะใช้อีกไม่รู้กี่แสนเพราะนับเป็นกัป เป็นปลายเปิดของผู้มีบารมี ขยันหมั่นเพียร หรือผู้ที่อุตสาหะจะช้าหรือเร็ว มันอยู่ที่คุณทั้งนั้น 

ที่เป็นสัทธาวิมุตกับทิฏฐิปัตตะ จะมีสัทธานุสารีมาเป็นสัทธาวิมุติ ธัมมานุสารีไปเป็นทิฏฐิปัตตะ

มันซ้อนที่ว่า อย่างไรๆคุณก็ต้องให้มีปัญญาเพื่อจะเข้าสู่ทิฏฐิปัตตะให้ได้ เพราะฉะนั้นสัทธาวิมุติอย่างไรก็ต้องให้เป็นทิฏฐิปัตตะ ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิในเรื่องสักกายทิฏฐิ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทำไมสายศรัทธาจึงช้าและยากกว่าสายปัญญา วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2565 ( 18:48:15 )

ทำไมสายศรัทธาจึงช้าและยากกว่าสายปัญญา ในทักขิเณยบุคคล 7

รายละเอียด

สิ่งที่อาตมาเตรียมอยู่ก็มีเรื่องมาพอสมควร เรื่องสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกาย หรือเอาบุคคล 7 มาอธิบาย มีตั้งแต่ อุภโตภาควิมุติ ปัญญาวิมุติ กายสักขี ทิฏฐิปัตตะ สัทธาวิมุติ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี

มาเริ่มที่บุคคล 7 ก่อน 

บุคคล 9 มี 1.พระพุทธเจ้า 2.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ท่าน 2 บุคคลยกไว้ 

เรามาเริ่มตั้งแต่ อุภโตภาควิมุติ  ทิฏฐิปัตตะ ปัญญาวิมุติ  กายสักขี สัทธาวิมุติ สัทธานุสารี ธัมมานุสารี  

เอา 3 ข้อล่างก่อน

พระไตรปิฎก เล่ม 36 ข้อ 41 

“[45] บุคคลชื่อว่าธัมมานุสารี เป็นไฉน

ปัญญินทรีย์ของบุคคลใด ผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผลมีประมาณยิ่ง บุคคลนั้นย่อมอบรมซึ่งอริยมรรคอันมีปัญญาเป็นเครื่องนำมา มีปัญญาเป็นประธานให้เกิดขึ้น บุคคลนี้เรียกว่า ธัมมานุสารี บุคคลผู้ปฏิบัติแล้ว เพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ชื่อว่าธัมมานุสารี บุคคลผู้ตั้งอยู่แล้วในผล ชื่อว่าทิฏฐิปัตตะ

   [44] บุคคลชื่อว่าสัทธาวิมุต เป็นไฉน

บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เหตุให้เกิดทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่านี้ความดับทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์อนึ่งธรรมทั้งหลายที่พระตถาคตประกาศแล้ว ผู้นั้นเห็นชัดแล้ว ดำเนินไปดีแล้วด้วยปัญญา อนึ่ง อาสวะบางอย่างของผู้นั้นก็สิ้นไปแล้ว เพราะเห็นด้วยปัญญาแต่มิใช่เหมือนบุคคลผู้เป็นทิฏฐิปัตตะ บุคคลนี้เรียกว่าสัทธาวิมุต”

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทำไมสายศรัทธาจึงช้าและยากกว่าสายปัญญา วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2565 ( 05:24:51 )

ทำไมหลวงปู่ ถึงอยากอายุ 151 ปี

รายละเอียด

ที่หลวงปู่อยากจะอายุ 151 ปีก็เพราะว่า หลวงปู่จะทำงานให้มีเวลายืดต่อไป เดี๋ยวมันก็หมดวันๆ วันมันไปไม่มีวันหยุด เวลามันเดินทาง โลกก็หมุน พระอาทิตย์ก็หมุน ไปด้วยกันเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆมันไม่เคยถอยหลังเลยเวลา แล้วหลวงปู่ก็ไม่ค่อยเก่ง ทำงานช้า เดี๋ยวนี้ช้าลงเยอะเลย ก็เลยต้องเพิ่มเวลาตัวเองให้มีอายุขัยยาวไป ก็ยังมีงานอีกเยอะที่ยังต้องเห็นว่าจะต้องทำ จะต้องมาแจกแจง จะต้องมาอธิบายขยายความ 4 5 ปี 6 ปีหลังนี้ หลวงปู่ได้ขยายธรรมะละเอียดลึกซึ้ง ซึ่งกลับกันกับตอนก่อนนี้เยอะเหมือนกัน แล้วพวกเราก็เข้าใจว่าที่มันกลับ อันโน้นเป็นฐาน 1 อันนี้มันเป็นอีกอันหนึ่งแล้วพวกเราก็เข้าใจ ขยับขึ้นเหมือนก้นหอย มันวนมาซ้ายแล้วไปขวา ซ้ายแล้วไปขวา มันก็วนซ้ายขวาเหมือนซ้ำซาก แต่ถ้าคนไม่มีปฏิภาณปัญญาก็จะดูว่าเป็นการวนซ้ำซาก ซ้ายขวา แต่ก็ไม่รู้ว่าซ้ายขวานี่มันสูงขึ้น มันคนละอย่างแล้ว มันคนละชั้นแล้ว มันใช้ภาษาเก่า ภาษาซ้ายขวาอย่างเก่า แต่ซ้ายอันนี้ขวาอย่างนี้มันเป็นอีกเนื้อหา แล้วก็ไม่มีพยัญชนะจะใช้ก็ต้องใช้พยัญชนะซ้ายขวา ซ้ายขวา ซ้ายขวา จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ภาษามันยังซ้ำอยู่ซ้ายกับขวา เพราะยังไม่มีภาษาใหม่ แต่ผู้ที่รู้จักสภาวะ ตามที่อาตมาขยายความ ซ้ายขวา นี่ซ้ายขวา สภาวะใหม่แล้ว พวกเราเข้าใจ เช่น อรหัตตผล อรหัตตผลของโสดาบัน ก็คือสกิทาคามีแล้ว คือกิเลสดับ เป็นไง กิเลสอันนี้ดับแล้วอันนี้ก็ยังเกิดอยู่ก็ทำให้มันดับอีก ดับหมดเราก็ดับ มีความเกิดอีก เราก็ดับให้มันได้ เกิดอีกก็ดับอีก ก็เป็นภาษาเกิดดับ เกิดดับเท่านั้น แต่มันเป็นคนละเรื่อง คนละชั้น พระโสดาบันก็ดับระดับหนึ่ง พระสกิทาคามีก็ดับระดับหนึ่ง พระอนาคามีก็ดับอีกระดับ อรหันต์ก็ดับอีกระดับ ยิ่งเป็นโพธิสัตว์แล้ว ยิ่งตีลังกากลับเลย ดับคราวนี้ไม่ดับของตัวเองแล้วไปดับของคนอื่น ซึ่งแต่ละคนก็ต่างกันไป ก็ยิ่งหลากหลาย วิจิตรพิสดารมากยิ่งขึ้น 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่น ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 13:11:41 )

ทำไมหลวงปู่ขยันทำงาน

รายละเอียด

ทีนี้หลวงปู่จะถาม หนูแสงศีล ถามกลับถามคืนไปว่า แล้วขยันกับขี้เกียจอันไหนดีกว่ากันล่ะ? ก็ขยันมันดีเราก็ต้องทำสิ่งที่ดีกว่าสิ เราจะไปขี้เกียจทำไม เข้าใจก็ขยันเข้าไว้จบ ใช้ได้

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่น ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 12:48:59 )

ทำไมอยากเป็นพระพุทธเจ้ากันนัก

รายละเอียด

คนนี้มักน้อยสันโดษดี พูดซ้อนๆอยู่นะ ก็พระสมณะโคดม พระพุทธเจ้าเป็นคนสุดยอดประเสริฐอย่างนั้น มันท้าทายอย่างกับอะไรดี มันน่าจะเป็นอย่างพระพุทธเจ้า แล้วเราก็เกิดมาเป็นคนและก็รู้วิธีการทุกอย่าง เปิดโอกาสไม่ใช่ว่าหมดสิทธิ์นะ พระพุทธเจ้าไม่ใช่สงวนลิขสิทธิ์ใครเป็นไม่ได้ก็ไม่ใช่ ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์เลยทุกคนมีสิทธิ์บำเพ็ญเป็นพระพุทธเจ้าได้ ว่าแต่จะถึงหรือไม่เอาให้ถึงจริงๆ พระพุทธเจ้าไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ไม่ได้พูดเล่นแต่เป็นเรื่องจริงเป็นเรื่องที่สุดยอด เป็นเรื่องเสมอภาค ทุกคนเสมอภาคมีสิทธิ์จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ทุกคน พากเพียรให้ถึงจริงเถอะ กี่ล้านชาติก็ตามแต่ คนที่แย่ๆก็หลายล้านชาติแต่คนที่ไม่แย่ก็ไม่ถึงหลายล้านชาติ สิ่งที่ท่านไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์เลย ไม่ใช่เรื่องลึกลับ ไม่ใช่เรื่องสงวนลิขสิทธิ์ ไม่ใช่เรื่องไม่เสมอภาคอะไรเลย มันเป็นเรื่องเสมอภาค ไม่สงวนลิขสิทธิ์ไม่ลึกลับ เป็นเรื่องที่เชิญมาพิสูจน์ได้ เอหิปัสสิโก สุดยอด แต่หากคุณไม่ต้องการเป็นก็ไม่เป็นไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญาแยกแยะนามรูปได้เป็นเช่นไร วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2564 ( 21:21:23 )

ทำไมอยากให้ลูกแต่งงาน

รายละเอียด

ทำไมบางครอบครัวก็อยากให้ลูกแต่งงาน เขาก็เข้าใจเช่นนั้น เพราะต้องห่วง กลัวไม่มีผู้ชายดูแลคุ้มครองหรือไม่ก็ผู้ชายจะได้เป็นฝั่งเป็นฝา เป็นธรรมดาของสัตว์โลก ผู้ที่เจริญแล้ว ก็มีครอบครัวใหญ่ อย่างชาวอโศก หลวงปู่ก็ตามไม่ได้มีญาติแคบๆ หรือมีลูกแคบๆเช่นนั้น อย่างหลวงปู่นี่มีลูกหลานญาติพี่น้องเยอะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน ทำไมไม่อยากให้ลูกมีแฟน


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:53:06 )

ทำไมอรหันต์ส่วนมากต่อภูมิโพธิสัตว์แต่อรหันต์สมสีสีไม่ต่อ

รายละเอียด

พระโสดาบันธรรมดาไม่รู้เรื่องโพธิสัตว์เท่าไหร่หรอก แต่ปฏิบัติไปจนกว่าจะเป็นอรหันต์แล้วนั้นน้อยองค์นักที่จะไม่ต่อเป็นโพธิสัตว์ ส่วนมากต่อโพธิสัตวภูมิ เพราะอะไร เพราะเสียดายเกิดมาเป็นคนแล้วได้พระอรหันต์ ตายเมื่อไหร่ก็ได้นี่ ตายสูญเมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว แล้วเราอยู่ก็ไม่เป็นทุกข์เป็นสุขอะไร ถ้ายังอยู่ก็มีแต่ดีไม่ตกต่ำเลย จะรีบไปทำไมเล่า นึกออกไหม ปณิธานแค่นี้คิดออกไหม เพราะฉะนั้นจะไม่ต่อภพภูมิโพธิสัตว์ อรหันต์ส่วนมากที่บรรลุอรหันต์จริงแล้ว คนที่ยังไม่บรรลุอรหันต์จริง มันเป็นทุกข์ มันไม่เอาต่อหรอก จะให้ต่อโพธิสัตว์ไม่เอาหรอก คนนี้ยังไม่บรรลุอรหันต์สักที ถ้าบรรลุอรหันต์แล้วจะไม่พูดแบบนี้ ว่าจะต่อดีไม่ดีนะ มันจริง มันมีหลักประกันทุกอย่างเลยตัวเอง จะสุขจะทุกข์ก็ไม่มีแล้ว ตัวเองจะตกต่ำก็ไม่ตกต่ำแล้ว ตัวเองมีแต่เจริญถ่ายเดียว ชีวิตก็ได้เกิดมาแล้ว ก็จะไปรีบดับทำไม ประโยชน์มันมีสูง อย่างน้อยก็กตัญญูกตเวทีต่อศาสนาพระพุทธเจ้า ช่วยศาสนาพระพุทธเจ้าสืบทอด ทำงานต่อเนื่องให้แก่พระพุทธเจ้าต่อไป มันก็ดีทั้งนั้นเลย เหตุผลมีมากกว่านี้อีกแต่แค่นี้ก็เข้าใจแล้ว 

นอกจากพระอรหันต์ชนิดที่พาซื่อมากๆเรียกว่า สมสีสี ตายกับบรรลุอรหันต์พร้อมกัน คือ ไม่รู้เรื่อง บรรลุอรหันต์ได้จริงๆด้วยคือรู้จักกิเลสและหมดกิเลส แล้วตัวเองก็ตาย ตายกับบรรลุพระอรหันต์พร้อมกันเลยเรียกว่าพระอรหันต์ สมสีสี ตั้งจิตไม่ทัน ถ้านอกนั้นแล้ว โอ้โห ทำไมจะไม่ต่อ มันไม่มีปัญหา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณลักษณะของไก่ตัวพี่ที่มาสืบสานศาสนา วันพุธที่ 7 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กันยายน 2565 ( 14:46:03 )

ทำไมอโศกต้องสร้างวัตถุใหญ่โตมากมาย

รายละเอียด

คุณดูอย่างไรว่าอโศกสร้างวัตถุมาก อโศกสร้างวัตถุจริงน้อยมาก!! คุณดูพระโพธิสัตว์หลายองค์สร้างใหญ่โตกว่าอาตมา อาตมาทำอย่างสังเขปไม่ได้ใหญ่โตอะไร ไล่ดูของจริง

ชุมชนแรกปฐมอโศก สร้างภูเขาก็เตี้ยๆเล็กๆแล้วก็น้ำตกก็น้อยๆไม่ได้ใหญ่โตอะไร ลำธารก็ไม่มีใครลงไปเลยเพราะมันเล็ก ไม่มีคนลงอาบนะ ให้แต่ต้นหมากรากไม้ขึ้น เต่าปลาอาศัยเท่านั้นเอง

ตอนแรกมีปฐมอโศกและมีคู่คือ ศีรษะอโศกและศาลีอโศก ซึ่งก็ไม่ได้มีเรื่องก่อสร้างอะไรมากมาย สร้างสระไว้ทำพืชพันธุ์ธัญญาหารเท่านั้นที่ ศาลีอโศก ส่วนศีรษะก็แทบไม่ได้สร้างอะไรเลย มีแต่พิพิธภัณฑ์ เดี๋ยวนี้ก็ผุพังไปเยอะแล้ว 

อย่างพระโพธิสัตว์สร้างนครวัดนครธมสร้างบุโรพุทโธ ก็ว่าไป อาตมาไม่ได้ทำใหญ่โตมโหฬารขนาดนั้น เพราะเราทำไม่ไหว อาตมาทำงานในระดับที่จะต้องสอนธรรมะพระพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้ง เข้าวรรณะ 9 ต้องพามาเป็นคนจนและเป็นคนจนจริงๆไม่ใช่แกล้งจน แต่แม้ว่าเป็นคนจนก็เหมือนมีอภินิหาร มีปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นคนจนที่เลี้ยงคนรวยช่วยเหลือคนที่ร่ำรวยช่วยเหลือคนที่เขาเดือดร้อนลำบากได้จริงๆ ยิ่งกว่าคนรวยเขาช่วย ซึ่งเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน สิริมหามายาเหมือนนักเล่นกล พูดอย่างนี้เป็นอย่างนี้มันเหมือนกลับกลอกแต่ไม่ใช่มันเป็นเรื่องลึกซึ้งสุดยอด ฟังธรรมะอาตมาให้ดีๆ แม้แต่คำว่าสิริมหามายาก็เหมือนนักมายากลกลับไปกลับมามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ คนที่ฟังแล้วไม่ชัดเจนก็จะบอกว่าไม่อยู่กับร่องกับรอย แต่คนที่ฟังแล้วชัดเจนจะบอกว่าสุดยอดธรรมะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม  อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติปรากฏได้ในยุคโควิด วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:46:05 )

ทำไมอโศกเลือกอาหารมังสวิรัติเป็นบุญญาวุธไม่เลือกอาหารเจ

รายละเอียด

ฟังดีๆ คำว่า “เจ” กับคำว่า “มังสวิรัติ” ต่างกัน คำว่า เจ เป็นคำของพวกสายโลกียะ เป็นสายศรัทธา ส่วนคำว่า มังสวิรัติ นั้นเป็นของสายโลกุตระ เป็นสายปัญญา ฉะนั้นคนมากินมังสวิรัติคือ ละเว้นเนื้อสัตว์ วิรัติ หมายความว่าเว้น เว้นไม่กินเนื้อสัตว์ เจ ก็ไม่กินเนื้อสัตว์ เขาเคร่งกว่าด้วย แม้แต่ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส(โผฏฐัพพะ) เขาก็ว่าเจเคร่งกว่ามังสวิรัติด้วย ก็ดี แต่คุณเข้าใจเพียงพยัญชนะมันก็ไม่ได้เรื่อง แต่ถ้าคุณเข้าใจลดความติดยึดใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส(โผฏฐัพพะ) ด้วยก็ดี ทำได้ก็ดี 

อาตมาไม่ใช้คำว่าเจ เพราะว่า 1.อาตมาก็ว่า เจเป็นเพียงโลกียะ แค่ Static มันไม่กว้าง มันไม่ละเอียดพอ มันเคร่งแล้วมันก็ติดยึด เขาเคร่งไปในทางรูปธรรม จาน ชามที่เคยใช้กับเนื้อสัตว์มา เขาไม่เอานะ ก็ต้องมาหาใหม่ล้างใหม่  จานชามจะต้องไม่เคยเปื้อนเนื้อสัตว์มา  ไปนู่น คือไปทางรูปธรรม ไปทางด้านทรมานทรกรรมตัวเองเกินขอบเขตเกินไป เกินการไป ส่วนมังสวิรัติเรานั้นเอาชัดเจนที่จิตวิญญาณ มังสะ คือ เนื้อ ไม่ใช่สัตว์เป็น มิจฉาวณิชชา 5  1. ค้าขายสัตว์เป็น 2. ค้าขายเนื้อสัตว์แล้วเขาก็ไปเบี้ยวบาลีกัน มิจฉาวณิชชา 5 

มิจฉาวณิชชา 5 

1.การค้าขายอาวุธ   (สัตถวณิชชา) 

2.การค้าขายสัตว์มีชีวิต  (สัตตวณิชชา) 

3.การค้าขายเนื้อสัตว์  (มังสวณิชชา) 

4.การค้าขายสิ่งมอมเมา  (มัชชวณิชชา) 

5.การค้าขายสิ่งที่เป็นพิษ  (วีสวณิชชา) 

(พตปฎ.  เล่ม 22   ข้อ 177) 

มิจฉาวณิชชา 5 ข้อที่ 1 สัตถะ สร้างอาวุธ นี้แน่นอนเลย ศาสนาพุทธเราห้ามสร้างอาวุธ ก็เคยเทศน์ไปแล้ว มันบาป ไปสร้างทำไม มาสร้างอาหารนี้ และอาหารไม่จำเป็นต้องจะต้องมาใช้เนื้อสัตว์ด้วย แล้วก็มาขายเนื้อสัตว์กัน อย่าว่าแต่ขายเนื้อสัตว์เลย ขายสัตว์เป็น สัตว์หลายอย่าง เขาไม่กินเนื้อมันหรอก กินลูกมัน กินไข่ กินนมมัน อาศัยอะไรจากมัน ทั้งที่ไม่กินเนื้อมัน แต่ลงท้ายก็กิน มันตายก็ฆ่ากินเนื้อมันต่อ ก็อย่างนั้นแหละ คือเขาไม่รู้จักวิบากกรรม อันนี้เป็นเรื่องลึกซึ้ง อจินไตย เรื่องวิบากกรรมเป็นเรื่องที่จะต้องรู้ถึงขั้นสัตตะ ปาณะ ภูตะ ชีวะ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระสูตร อปัณณกสูตร (พตปฎ.เล่ม 13 ข้อ 103-124)

คนไม่รู้จักพลังงานจิตที่มันปรุงแต่งกันขึ้นมาถึงขั้นสัตตะ คือ สัตวะ นี่แหละ บาลีว่า”สัตตะ” เป็นสัตว์แล้ว(ส่วนคำว่า)เป็นปาณะ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในศีลข้อที่ 1 ว่าปาณาติปาตา นี่แหละ ปาณา ปาณะ มันเป็นเชื้อชีวิตที่จะยังไม่สูงเท่าสัตว์ด้วยซ้ำไป แต่ปาณะนี้มันสูงกว่าภูตะ เพราะภูตะนั้นมันสูงสุดแค่กำลังจะเริ่มจะมาเป็นชีวะ ก็คือเป็นเจตภูตหรือเป็นชีวะในระดับภูตคาม คือพืช หรือยังเป็นมหาภูตะ เป็นดินน้ำไฟลม ก็แยกชัดเจนพวกนี้ 

เพราะฉะนั้นชีวะหรือยังไม่ใช่ชีวะ อยู่ที่ ภูต 3 นี้  เมื่อเป็นชีวะแล้วเจริญจาก เจตภูต มาเป็นปาณะ มาเป็นสัตตะ จนมาเป็นจิตนิยาม นี่คือรายละเอียดของพลังงาน ที่มันมีบทบาทพัฒนาขึ้นมา เกาะเกี่ยวหรือยึดติด แล้วก็ปรุงแต่งหลอกตัวเองด้วยอวิชชามา อวิชชาไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งมาเป็นวิชชาแล้ว จึงจะมีปัญญามีความรู้ อย่างอาตมานี่รู้ จึงเห็นชัดเจนถึงความแตกต่างของนัยยะ ที่เป็นเรื่องของสภาวจิตเจตสิกทั้งนั้น ที่อาตมาแยกแยะให้ฟังนี้ เป็นสุดยอดแห่งอภิธรรมเลย อธิบายอย่างภาษาของอาตมาเอง ไม่ได้เอาภาษาจากตำรามาอธิบายหรอก เอาสภาวะอธิบายเป็นภาษาคนภาษาไทยให้อย่างพวกเราฟังนี้ จะเข้าใจแยกแยะให้ละเอียดไป ด้วยภาษาง่ายที่สุดเท่าที่จะเข้าใจ เพราะฉะนั้นคนที่เข้าใจแล้วก็ทำ เห็นว่าควรทำนะ ทำได้แล้วก็เห็นผล เห็นประโยชน์ 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #37 ฌานเป็นพลังงานปัญญาล้านองศาเผากิเลส  วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 28 สิงหาคม 2566 ( 12:41:28 )

ทำไมเกิดมาเป็นกะเทย

รายละเอียด

ตั้งใจดี ก็น่าสงสาร เพราะเขาเองเป็นกะเทยอารมณ์ไม่ตรงกับเพศ เพศมันเป็นธรรมชาติเป็นธรรมดาของคน ผู้หญิงเกิดมาเป็นผู้หญิงคุณก็มีร่างกายเป็นผู้หญิง แต่คุณมีอารมณ์จะไปชอบผู้หญิงด้วยกันมันผิด มันเป็นวิตถาร  เพราะว่าชาติก่อนๆคนที่เป็นกะเทยนั้นได้ไปมักมากในกามมากเกินไป ก็ไปติดในกามคือรสของรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสนั้น จนกระทั่งไม่เกี่ยวกับเพศเลย ผู้ชายผู้หญิงไม่เกี่ยว ขอให้กระทบสัมผัสเสียดสีทางตา หู จมูก ลิ้นกาย ก็ชอบทั้งนั้น ก็เลยไม่เลือกแล้วเพศผู้ชายผู้หญิง ขอให้ได้สัมผัสตาหูจมูกลิ้นกาย ได้ เป็นกามรสวิตถาร มากเกิน สั่งสมในอนุสัยมา ชาตินี้จึงหนัก ผิดธรรมชาติผิดธรรมดาผิดเพศ 

เพราะฉะนั้นสัตว์เดรัจฉานมันเป็นกะเทยน้อยหรือไม่มีเลย คนเท่านั้นที่สั่งสมมาเป็นคนแล้วไปติดในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสใส่จิตมามาก เกิดมาจึงเป็นวิตถาร ผิดเพศ 

เป็นคนเกิดมาก็มีการสร้างเผ่าพันธุ์ สัตว์เดรัจฉานมันก็สร้างพันธุ์ตามเพศ แต่คนมันเกิดมาชาติแล้วชาติเล่าแล้วก็มาหลอกกัน มันมีมาแต่ไหน เพราะฉะนั้นคนที่มากไปด้วยกิเลสกามนั้น มันเป็นคนที่มีกิเลสหนาทาง กาม มากเกินกว่าปกติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม รายการวิถีอาริยธรรม ตอบปัญหาผ่าวิญญาณฐีติ 7 วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2563
ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:35:36 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์