รายละเอียด

ภาวะของความเป็น 2 อย่าให้เป็นคนพิการ ถ้าไปเป็นคนพิการเสียแล้วเข้าใจคำว่ากายก็ผิดเพี้ยน ไปยึดแต่ข้างนอกก็ผิดเพี้ยนพิการ ยึดแต่ภายในก็ผิดเพี้ยนเป็นพิการ 

ชีวิตของคนที่มีความเป็นคนเต็มๆ ต้องมีความรู้ความฉลาดให้ครบ เป็นคนอยู่ตลอดชีวิตตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นคนในชาติใดศาสนาไหนก็ต้องมีกายอันเป็นสภาวะหนึ่งของคน สภาวะกายที่จริงเป็นสภาวะ 2 แต่รวมเข้าไปเป็นอายตนะและเป็นหนึ่งของคนทุกชนิดทุกศาสนาไม่ละเว้นศาสนาใดเลย สภาวะอันเดียวกันหมดเมื่อมารู้ความจริงแล้ว 

นี่คือสัจจะมีหนึ่งเดียว ต้องมาเรียนรู้ตรงนี้ ตั้งแต่เริ่มตรงนั้นเป็นหนึ่งได้ก็เป็น พีชธาตุ ก็ไม่สุขไม่ทุกข์แล้ว ยิ่งทำให้เป็นอุตุธาตุได้ก็สมบูรณ์แบบเลย เป็นหนึ่งเดียวเลยเป็น เอเสวมัคโค นัตถัญโญ

ชาติอื่นศาสนาอื่นไม่มีคำว่ากาย แต่ศาสนาพุทธมีคำว่ากาย แม้แต่คนไม่ใช่พุทธก็มีกาย แต่เขาไม่มีวันได้เรียนรู้ เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่เป็นพุทธไม่รู้จักคำว่ากาย ซึ่งก็จะเป็นความเป็น 2 ใน 1-1 ใน 2 หรือ 2 ใน 1 ใน 0 ต้องเข้าใจความเป็น 2 และทำให้เป็น 1 และทำให้เป็น 0 ได้ 

ความเป็น 2 เป็น 1 เป็น 0 ตัวเลข 3 ตัวนี้จึงสูงสุดในศาสนาพุทธที่อาตมาให้ไปทำเป็นโลโก้ของพรรคสัมมาธิปไตย ซึ่งคนเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ แต่ทำไว้ ต่อไปในอนาคตคนจะค่อยๆเข้าใจ 

ที่อาตมาพูดอย่างนี้ก็คือ อาตมาเทศน์ธรรมะโลกุตระนี้ไว้ อาตมาตายไปโน่นแหละพวกเราจะเข้าใจ แล้วคนข้างนอกเขาจะพอเข้าใจตามได้ในอนาคต อาจจะ 100 ปีข้างหน้า อาตมาตายไปแล้ว 100 ปีข้างหน้าหรือไม่ถึง อาจจะเป็น 99 ปีก็ได้ ข้างหน้าถึงจะรู้ หรือ 95 หรือ 90 โลกนี้ดีจังเลย 90 ก็รู้โลกุตรธรรมแล้ว ยิ่ง 80 ก็ยิ่งดีใหญ่ ไม่รู้อาตมาพยากรณ์ไม่ได้เรื่องนี้ 

แต่ขอพูดไว้ในที่นี้ ยืนยันไว้ว่านี่คือสัจธรรมที่ผู้แสวงหาสิ่งที่สูงสุดในความเป็นจิตวิญญาณ แล้วจะจบกิจในเรื่องจิตวิญญาณ ทำให้จิตวิญญาณหมดอบายมุข หมดกาม หมดรูปตัณหา หมดอรูปตัณหาได้ เป็นพระอรหันต์หรือจะเป็นพระโพธิสัตว์หรือคุณจะเป็นพระพุทธเจ้า ก็ไม่ต้องพูดกันมากจะเข้าใจกัน นอกจากคุณจะเป็นอรหันต์แล้วปรินิพพานเป็นปริโยสานก็เป็นสิทธิ์ที่คุณจะทำได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 20 คนที่ไม่รู้จักกายคือคนพิการ วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 12 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2566 ( 15:22:44 )

รายละเอียด

ปัสสัทธิจึงไม่ใช่ตัวสงบที่เรียกด้วยพยัญชนะว่า สมถะ มันคนละสงบ อาตมาไม่ต้องลงลึกถึงพยัญชนะแต่ละตัว แต่ปฏิบัติให้เกิดสภาวะ แล้วมันจะเข้าใจ สภาวะมันเกิดก่อนพยัญชนะ คุณมีสภาวะแล้ว เอาพยัญชนะไปแปะ สลากยาไปแปะตัวยาสบายมาก ได้แต่พยัญชนะสลากยาแต่ไม่ได้สภาวะเดี๋ยวจะเลอะเทอะ กิเลสมันสงบมันหมดไปเรียกได้ว่ามีความสงบปัสสัทธิ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โพชฌงค์ 7 สัปปุริสธรรม 7 โดยพิสดาร วันพุธที่ 14 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 17 เมษายน 2564 ( 19:35:53 )

รายละเอียด

สัญญานั้นเป็นตัวที่ 5 ของเศษวรรค ย ร ล ว ส ห ฬ อํ เป็นตัวเจริญที่สุด เป็นตัวหัวขั้วของปัญญา พยัญชนะทุกตัว เมื่อผสมสระก็สื่อความหมาย เพื่อให้รู้จักสภาวะทั้งนั้นไม่ใช่สะเปะสะปะ ใครอยากจะผสมอย่างไรไม่มีความหมายตรงกันเลยไม่ได้ มันก็ต้องมีความตรงกัน ผู้ใช้สื่อแทนสภาวะไม่ใช่เรื่องเล่นแต่เป็นเรื่องจริง ที่อาตมาพูดอยู่นี่ก็เห็นใจ อาตมาเอาสภาวะเป็นหลักในเรื่องของไวยากรณ์ในเรื่องของพยัญชนะมันเป็นหลักการที่เกิดจากผู้มาเรียบเรียงที่หลัง เกิดที่หลังจากสภาวะ ซึ่งจะเป็นหลักฐาน เป็นตำราวิธีการเรียนรู้ชนิดหนึ่งแต่มันจะไม่สมบูรณ์เท่ากับสภาวะหรอก อันนี้เป็นสมมติบัญญัติ ไวยากรณ์เรียนรู้สมมติบัญญัติ แต่สภาวะนั้นเป็นปรมัตถธรรม เป็นสัจจะที่แท้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563

เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 11:20:09 )

รายละเอียด

อาตมาว่า อาตมาไม่เป็นคนวิปลาส ทั้งวิปลาส 3 และวิปลาส 4 แต่อาตมายังมีสัญญาผิดพลาดบ้าง การกำหนดพยัญชนะกับสภาวะ เพราะอาตมาเป็นคนด้อยในพยัญชนะ เป็นคนเรียนน้อย เป็นคนรู้ภาษาที่เขาจบกันมาปริญญาไม่รู้กี่เล่ม อาตมาไม่มีสักอย่าง อาตมามีสภาวะเป็นหลัก มันก็เลยค่อยๆเก็บภาษามาเรียนรู้ ซึ่งเขาอธิบายมาผิดๆเยอะด้วย ก็ต้องมาตลบก็หาสัจจะ ก็ทำได้ยากมากเลย จนทำได้อย่างทุกวันนี้ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2563

เวลาบันทึก 28 เมษายน 2563 ( 13:10:18 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:21:39 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:18:34 )

รายละเอียด

แยก(คำ)กันแบบนี้ คล้ายๆกัน เหมือนนัยยะที่ท่านมหาประยุทธ์ สมเด็จพุทธโฆษาจารย์เล่นงานอาตมาแต่แรกๆ ว่าอาตมาแยกพยัญชนะแบบนี้ มันไม่เข้ากับหลักไวยากรณ์อะไรต่ออะไร ท่านซัดอาตมาน่าดู ก็ตามประสาพวกเราลูกทุ่งไม่ใช่ลูกกรุง ก็ได้ คุณจะเข้าใจ สรุปแล้วคุณเข้าใจอย่างงั้น คุณจะแยกศัพท์อย่างไรก็แล้วแต่ อาตมาถือว่าเสร็จแล้วมันก็เข้าไปสู่สภาวะที่ถูกต้องก็ใช้ได้ (ถ้า)จะไปมัวติดอยู่แต่เรื่องพยัญชนะ ไม่ถูกพยัญชนะ เพราะฉะนั้นตีทิ้งเลย สภาวะไม่ต้องให้ถูก แล้วก็ไปกันเลย 

อันที่จริงแม้ว่าจะแยกพยัญชนะผิดยังไง แต่ถ้าตีเข้าไปหาสภาวะถูกแล้ว แล้วก็ปฏิบัติจริงตรงเป้าหมายสภาวะนั้นได้ อาตมาถือว่าอันนั้นใช้ได้ ดีกว่าไปหลงอยู่แต่พยัญชนะ แม้แต่อย่างท่านสมเด็จพุทธโฆษาจารย์หรือท่านมหาประยุทธ์ ท่านก็ยึดถือพยัญชนะมากจนกระทั่งไม่พยายามที่จะเข้าใจสภาวะให้ได้ ว่า อ๋อ สภาวะถูกแล้วก็เอาเถอะพยัญชนะเป็นเรื่องรอง สภาวะเป็นเรื่องเอก ก็เอา ใครจะเข้าใจอย่างไรก็ว่าไป 

อจินไตยที่คุณแปลโดยสรุปผล ถูกแล้วล่ะ มันไม่รู้เรื่อง มันได้แต่คิดพยัญชนะ คิดตรรกะอะไรไป แต่มันไม่เข้าไปสู่สภาวะ เช่น มันไม่รู้เข้าไปสู่สภาวะของกรรมวิบาก ก็ดี สภาวะของฌาน ก็ดี อะไรอย่างนี้เป็นต้น หรือ แม้แต่ไม่รู้ตัวเองถึงความคิด โลกจินตา  จินตะของคุณนั่นแหละ จินตนาการนี่แหละ เป็นโลกของความคิด มันไม่รู้มันก็ไปกันใหญ่ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 41 คนเจริญคือคนทำฌานจนเป็นบุญสำเร็จ วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 

เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2566 ( 14:57:49 )

รายละเอียด

ก็เป็นความจริงและเป็นความรู้ ผู้ที่มีปฏิภาณไหวพริบที่จะรู้และเห็นความจริงว่าความรักแต่ละระดับ เป็นเช่นนี้เช่นนี้ แล้วเราก็พัฒนารู้ว่าเราอยู่ในระดับไหน ความจริงที่เราเองเป็นอยู่ว่าเรามีความรัก เป็นมิติที่ 1 มันมีความเห็นแก่แต่เฉพาะคู่ของเราเท่านั้น มิติที่ 2 มันก็กว้างขึ้นหน่อย มีใจเผื่อแผ่ไปถึงลูก มิติที่ 3 เผื่อแผ่ไปถึงญาติ วงศาคณาญาติต่างๆ ก็เป็นความเอื้อเฟื้อเจือจาน จากความจริงของเรา เราก็ต้องรู้ความจริงของเราว่าเรามีอาการ มีจิตใจแบบนี้ไหม ต้องรู้ตัวเอง และก็รู้ระดับต่อไปอีก ถ้าเผื่อว่าแค่นี้มันแคบไปก็ต้องเอื้อกว้างไปอีก แค่ญาติโกโหติกาก็ยังแคบ ต้องกว้างไปสู่มิตรสหายเพื่อนฝูง จิตใจเราก็จะกว้างเกื้อเอื้อมเอื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นมากยิ่งขึ้น ถ้าเผื่อว่าเราสามารถทำจิตใจให้เอื้อมเอื้อเกื้อกว้างมากยิ่งกว่ามิตรสหาย ไปสู่สังคม ไปสู่มวลสมาชิก ที่กว้างขึ้นระดับประเทศ ยิ่งออกไปกว้างไปสู่มวลมนุษยชาติก็สูงขึ้นไปเป็นระดับที่ 4 5 6 7 ตามที่อาตมาได้นิยาม ที่ตีกรอบ ตีวงไว้ ความรักมันมีมิติต่างๆ ซึ่งจะต้องมีความรู้ว่าจิตของเรามันมีความรัก ปิยกรณะ มีความเอื้อเฟื้อจาน มีสังคหะมีการช่วยเหลือเฟือฟาย จิตก็เจริญ หากไม่มีจิตใจจะช่วยเหลือผู้อื่นขึ้นไปมากกว่านั้นมันก็แคบอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าจิตของเรามันเป็นจริงเลย เจือจานเกื้อกว้างออกไปเรื่อยๆมันคือจิตเจริญของมนุษย์ ต้องดูความจริงของอาการจิตความรู้สึกของจิต ธาตุจิตของเรามันเป็นจริงอย่างนั้นตามที่อาตมาว่าโดยใช้ภาษาสื่อความเป็นจริงของอาการของจิตเรานี้ มันมีไหมหากว่าเราศึกษาออกจับอาการจิตของเราจริงๆผู้นั้นแหละเป็นนักปฏิบัติธรรมของพุทธแล้วก็พัฒนาให้จิตเราไปสู่ตามที่เรามีความรู้นำไปให้มีจิตใจเจริญแบบใด เราก็ทำไปจิตใจเราก็จะเจริญจริง จนที่สุดเป็นพระอรหันต์ 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563

เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 16:51:13 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:22:28 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:19:26 )

รายละเอียด

สภาวะ 108 ของมันถูกต้อง มันมีตั้งแต่กายิกทุกข์ -เจตสิกทุกข์  สอง  สุข - ทุกข์  ไม่สุข- ไม่ทุกข์ อีกสาม แล้วก็มีดีกรีของมันอีกห้า  สุข ทุกข์ โทมนัส โสมนัส อุเบกขา ห้า  แล้วก็เกิด 6 ทวาร  6 ทวาร มีเวทนา 3 ได้ ก็เป็น 18 ทวารแล้วแยก เป็นเคหสิตะกับเนกขัมมะอย่าง 18 แล้วก็จะได้ 36 ทำ 36 นี่ให้เป็นอดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่ต้องท่องนี่

สภาวะมันชัดเจนเป็นลำดับ มันต้องทำตามลำดับนี้ก็จบ อาเสวนา ภาวนา พหุลีกัมมัง ด้วยอดีต ปัจจุบัน อนาคต ทำปัจจุบันให้สั่งสมเป็นอดีตเต็ม อเนญชา จนกระทั่งอนาคตมาเลย เท่าไหร่มาเลย เข้ามาใกล้ราศีแกก็เหี่ยวหมดแล้วกิเลสน่ะ  เพราะจิตเป็นวสะ วัสสวัตตี  วัสสวัตตีจิตโต ยังให้จิตเป็นไปตามอำนาจได้ นี่ตัวจบเลย อยู่ในเตวิชชสูตรนี่แหละ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสนทนาธรรมกับปัจฉา เวทนา 108 ย่อความให้ง่าย  วันที่ 10 ตุลาคม 2561

ในสวนดาว ถอดความ 

เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:33:59 )

รายละเอียด

สำหรับคนที่มีภูมิรู้เข้าใจแล้วก็ทำได้ เราเข้าใจก่อนได้แต่พูดอธิบายยังไม่ได้ก็มี ผู้ที่จะอธิบายได้ แต่อธิบายได้แต่เพียงพยัญชนะภาษาแต่ไม่หยั่งไปถึงสภาวะจริง ก็มีพวกนี้จะผิดพลาดได้ง่าย ไม่เป็นสภาวะที่แท้ แยกได้ มีสภาวะพอรู้ ยังไม่รู้พยัญชนะ สายศรัทธาเ จโต แต่ยังไม่รู้ภาษาแต่มีสภาวะในตัวเองมีจึงอธิบายได้ไม่ค่อยเก่ง พวกสายศรัทธาสายเจโต สายปัญญาบางทีมันก็ไม่ใช่สายปัญญาแต่มันเป็นเฉโก มีความรู้ทางภาษาเยอะอธิบายเก่ง ผู้ที่อธิบายเป็นปัญญานั้นผิดบ้างถูกบ้างก็มีเยอะเพราะมันมีภาษาเยอะ แต่สายเจโต จะอธิบายไม่ค่อยเก่ง แต่ถ้ามีสัมมาทิฏฐิแล้วจะอธิบายได้อย่างสัมมาทิฐิ แต่หากสายเจโตที่อธิบายเก่งแต่ไม่สัมมาทิฐิผิดก็อย่างมหาบัว อธิบายเก่งแต่ผิด นัย ละเอียดซับซ้อนตอนนี้มันมีอีกเยอะ ขออภัยที่่หยิบมหาบัวมาเป็นตัวอย่างประกอบการอธิบายไม่ใช่ลบหลู่ การศึกษา พระพุทธเจ้าจึงให้เรียนรู้ไปตามลำดับ อย่าไปตรรกะรู้มากก่อน ให้ทำตามศีลเป็นหลักไปแล้วจะเป็น แกน เป็นความรู้ เป็นเนื้อหาแท้ เป็นตัวที่จะทำให้เข้าใจอะไรอย่างอื่นได้เร็วได้ดี พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ความรู้ของพระพุทธเจ้า ธรรมะของพระพุทธเจ้ามันเป็นลำดับอันน่าอัศจรรย์ เรียบราบไม่โกรกชัน เหมือนฝั่งทะเลราบเรียบไม่ขรุขระ เป็นความมหัศจรรย์ข้อแรกเลยนะ ปหาราทสูตร อย่าไปตะกละรีบร้อนอธิบายหรืออยากได้เร็วๆ ปฏิบัติไปจะได้สภาวะแท้กับบัญญัติภาษาไปตามลำดับ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563

เวลาบันทึก 22 กันยายน 2563 ( 19:03:35 )

รายละเอียด

อาตมาพูดจากสภาวะ ให้ฟังดีๆจะรู้ว่า อาตมาไม่ใช่พูดธรรมดา เอาสภาวะละเอียด เจโตปริยญาณ 16 อาตมาขยายละเอียดมาอย่างนี้ จากสภาวธรรมที่อาตมามี ขยายเป็นภาษาไทยอย่างไรก็เอาสภาวะแท้ๆเป็นตัวยืนยันของตนเองอยู่ 

เพราะฉะนั้น รู้จักวิมุติ อวิมุติ สอุตระหรืออนุตระ

อนุตระ ต้องตรวจสอบสมาธิของพุทธคือ สมาหิโต อสมาหิโต

13. สมาหิตจิต (จิตตั้งมั่นเป็นประโยชน์ดีแล้ว)  14. อสมาหิตจิต (จิตยังไม่ตั้งมั่นไม่เป็นประโยชน์)  เรายังต้องตรวจสอบวิมุติอีก 15. วิมุตตจิต (จิตหลุดพ้น) . . .  16. อวิมุตตจิต (จิตยังไม่หลุดพ้นสิ้นเกลี้ยง) . (พตปฎ. เล่ม 9   ข้อ 135)   มันเป็น อุภโตภาควิมุติ แน่นะ ก็ชัดเจนอย่างนั้น 

เพราะฉะนั้น การสลับภาษามันก็เกิดจากความผิดพลาดมาแล้ว พระพุทธเจ้าก็ต้องมาย้ำมาอธิบายใหม่ แล้วอาตมารู้ ที่ว่าสมาธินั้นมันไม่ใช่สมาหิโต เขาแปลว่า จิตตั้งมั่นเหมือนกัน  แต่ว่ามันไม่ได้ตั้งมั่นจริง มันตั้งมั่นเก๊ ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้ถึงปัญญาวิมุติ

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 14 มกราคม 2566 ( 13:07:29 )

รายละเอียด

สภาวะและสุญญตา สองคำนี้คุณต้องชัดเจนก่อนว่า คำว่าสภาวะคืออาการของสภาวะนั้นจริง เป็นรูปธรรมจริงรูปธรรมเป็นสิ่งที่ถูกรู้ จะมีธรรมะสองเสมอสำหรับอัตภาพ มันมีคู่เสมอ หนึ่งมีสิ่งที่ถูกรู้กับสิ่งที่ถูกรู้ตั้งแต่ภายนอกเข้าไปหาภายในเป็นรูปทางนามธรรมจนละเอียดถึงอรูป เราก็สามารถที่จะรู้มีญาณปัญญาที่จริง สามารถอ่านรับรู้สิ่งที่เป็นสภาวะนั้นๆ คำว่าสภาวะคือสิ่งที่มีจริง ภาวะแปลว่าปรากฏ ปรากฏการณ์รู้ สัตว์โลกมีธาตุรู้นามธรรม มีจิตวิญญาณ รู้แล้วก็สามารถที่จะเข้าใจเองได้ ปัจจัตตัง รู้แล้วเข้าใจเองได้ จนเป็นอัตโนมัติ จะใช้งานในทางดีหรือชั่วก็เป็นตามจริง คนที่พัฒนาจนดีเป็นโลกุตระของพระพุทธเจ้าก็ยิ่งเห็นชัดจริงก็เกิดความเฉลียวฉลาดที่รู้ความจริง รู้สภาวะที่ หยาบ กลาง ละเอียดและไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย หมดสิ่งละเอียดเรียกว่าสูญหรือสุญญตา สูญว่างเปล่าไม่มี

ที่มา ที่ไป

เอื้อไออุ่นแพทย์วิถีธรรม วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561

เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 09:06:52 )

รายละเอียด

โอฬารคือหยาบใหญ่ ไม่ฝากไว้ได้ไงมันขยับไม่ได้เลย นี่ก็หิน 77 ตันเอามานี่ จะไปตั้งที่ไหน มีสามก้อนมาเมื่อวาน เป็นนิมิตเหมือนกัน ปี 63 มาเป็นรูปธรรมเบ้อเร่อ

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม2562

เวลาบันทึก 31 ธันวาคม 2562 ( 16:26:55 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 17:20:13 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:19:54 )

รายละเอียด

คำว่า อาการ เขาก็เข้าใจไม่ได้ สายนี้ เขาใช้คำว่า ธรรมะ หรือธรรมะแท้ คือของจริง กายก็เป็นแต่เพียงรูปขันธ์อาศัยเท่านั้นเอง เขาว่าธรรมะแท้คือนิพพาน เขาอาศัยคำพยัญชนะ แต่สภาวะในจิตเขาไม่รู้จักกิเลสคืออะไร ขันธ์ 5 คืออะไร อุปธิคืออะไร แล้วทำอภิสังขารให้รู้จักกิเลส แล้วล้างกิเลสออกจากขันธ์ 5 ตั้งแต่รูปก็หมดกิเลส เวทนาก็หมดกิเลสสัญญาก็หมดกิเลสสังขารก็หมดกิเลสวิญญาณก็หมดกิเลส พูดกันไม่รู้เรื่อง  การที่ไม่ได้ไปเคี้ยวหมากไม่ได้เกิดจากการกาย มันจะขยับไม่ได้หรอกถ้าจิตไม่ให้ขยับ แล้วจิตใจมันให้ขยับไปกินหมากทำไม เพราะจิตใจมันติด มันอร่อย เขาบอกว่าอันนี้ไม่ใช่สิ่งเสพติด แค่ความหมายคำว่าสิ่งเสพติดก็ยังไม่รู้ แล้วก็ยังไม่ละไม่วางยังเป็นภาระ เพราะฉะนั้นก็ต้องไปศึกษาดีๆว่าการเสพการติด สิ่งที่ไร้สาระ มันเป็นสาระอะไรในการกินหมากกินพลู ก็พยายามหาเหตุผลมาเป็นการรักษาโรค เป็นโรคอะไรกันนักกันหนาจึงกินกันถ้วนหน้าเคี้ยวกันทั้งวัน เปรอะไปหมด เลอะเทอะ เดี๋ยวก็ขากกกกก…อะไรกันสารพัด ขออภัย เป็นการวิจัยวิจารณ์กันในฐานะวิชาการ ไม่ต้องถือสากัน ฟังการสื่อสารใช้ภาษาส่งเสียงสำเนียงบ้าง ว่าสื่อสภาวะให้เข้าถึง ศึกษาให้ดีแล้วก็จะรู้ ถ้าหากเปลี่ยนไปตามลำดับของศีล สมาธิ ปัญญา หรือตามจรณะ 15 จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล มันจะลงกันได้อย่างดีเลยคุณเอ๋ย นี่พูดถึงอีกคนไม่ได้ปฏิบัติเลยกับอีกคนปฏิบัติมันก็เลยต้องขัดแย้งกันไปมา เขาขัดแย้งไปในสิ่งที่เขาไม่รู้แล้วเขารู้ของเขาแค่นั้น สิ่งที่เราอธิบายมาเขาก็ไม่รู้เลยเขาก็ไม่เอาด้วย ถ้าอย่างนั้นเราก็รู้ ติดหมากพลูบุหรี่ติดเหล้าติดยาเราเคยติด แล้วเราก็หลุดมาแล้ว หลุดมาจนกระทั่งมาชาตินี้อาตมาหลุดพ้นมาหลายชาตินี้ก็พยายามฝึกกิน อย่างเช่นหมากพลูนี้อาตมาพยายามกินไม่ได้เลยแต่มันยัน แต่เขาติดได้อย่างไร อย่างมวนยาเส้น ยาฉุน มันแสบอย่างกับอะไร ใครเคยบ้าง อย่างคนจีน พวกจับกังจะเหน็บยาฉุนไว้ที่ปาก เขาทนได้ เหมือนกับคนจีนซดน้ำร้อน 100 องศาแต่เราซัดเข้าไปปากพองเลยรับรองว่าต้องรักษาแผล แต่เขาทำได้เพราะเขาฝึกฝนจนเป็นอุปาทาน อย่างเหมือนกับคนเดินลุยไฟ หนังเหนียวเดินบนคมมีด ฟันไม่เข้า อย่างนี้เป็นต้น อย่างที่ภูเก็ตเขายังแทงกันเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2563

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:31:12 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 07:54:39 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:21:14 )

รายละเอียด

 สภาวะในพยัญชนะ  คือ ในพยัญชนะมีสภาวะความหมายของพยัญชนะ คำว่า ประภัสสร รวมพยัญชนะ ป ภ ส ป. คือ พลังงานตัวสร้างสรรค์ตัวต้นเลย

-               ป  ผ  พ  ภ  ม  เป็นความเจริญยิ่งกว่า  Coefficient  ยิ่งกว่าสัมประสิทธิ์ได้  ก็คือ ตัว ภ   สร ไม่ใช่ รส  ตัว  รส  คือ  รส  แต่ สร  คือ สร้างเป็นพลังงาน  ย  ร  ล  ว  ส 

-               ส  เป็นพลังงาน  ตัวที่ 5  ของเศษวรรค

-               ร  เป็นพลังงาน  ตัวที่ 2  ของเศษวรรค

-               ถ้าเอารูป นาม Static  Dynamic  ก็สลับไปมาได้  เมื่อไหร่จะใช้อย่างไรจะใช้  รส  หรือ  สร  กลับไป  กลับมา  Static  Dynamic  ถ้า  สร  นี่ ภาษาไทย คือ ศร  พุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียวเลย  แหลม  ส่วน  รส  คือ  รส เอาสิ คือ ตัวกิเลสหนัก  แต่ถ้า รส นี้เป็น ธรรมรส  วิมุติรส  กลับกันอีก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2562

เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 14:00:21 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 17:20:56 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:21:36 )

รายละเอียด

พวกสายหลับตาทั้งนั้นเลยทั้งโลก ที่หลงปั้นเป็นรูปเรื่องเป็นตัวตน จิตที่นึกคิดเป็นความจำเป็นสัญญาที่ผ่านมาแล้วเป็นอดีตนั่นคือความจริง ความจริงที่เป็นสมมุติที่คุณได้ผ่านไปแล้ว เป็นความจำ มันก็จริงที่คุณผ่านมา 

แต่ถ้าคุณไม่ได้พบผ่านมาเลย คุณก็สร้างอนาคตที่ยังไม่มีจริงไม่เป็นจริง ความเป็นอนาคต ซ้อนในขณะที่เราเคยวาดภาพเป็นความคิดจะเป็นจะมีจะได้อย่างนี้ก็สร้างวิมานไป วิมานเหล่านั้นก็เป็นวิมานอนาคตคุณก็ติดยึด ความซับซ้อนของความหลง มันลืม เกิดชาตินี้ชาตินี้ก็ลืม นึกว่าอนาคตนี้ที่คุณสร้างไว้ยังไม่เป็น สิ่งที่ยังไม่ผ่านปัจจุบัน แล้วทำสำเร็จหรือผ่านปัจจุบันไปหาอดีต มันมีแต่ความจำ มันไม่มีความจริง อนาคตมันไม่มีความจริง ถ้าทำปัจจุบัน สั่งสมเป็นอดีตมันก็เป็นความจริง แต่อนาคตยังไม่มาถึงเรา แต่คุณสับสนซับซ้อนที่เคยคิดเคยหวังในชาติโน้นและคิดว่าตัวเองได้แล้วก็จำไว้เป็นอดีต อาตมาอธิบายสภาวะในอดีต 18 อนาคต 44 อยู่ในนี้หมด เราศึกษารู้แล้วก็ไม่ไปทำอย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 18:29:40 )

รายละเอียด

คือการให้ แต่จะต้องเอา สภาวะคงงง ให้หรือเอากันแน่ สภาวะก็เลยงงเจ้าของที่ทำ การให้แต่จะเอา ก็ต้องตกลงกันว่าเจ้าของจะให้นะ

คำว่าให้กับเอาเป็นธรรมะ 2 คนตีธรรรมะ 2 ไม่แตก แค่นี้คือพวกเทวนิยม

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2562

เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2563 ( 15:56:23 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 17:21:46 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:22:03 )

รายละเอียด

สภาคือในที่ประชุม เป็นสถานที่เขาคัดคนแล้ว เอาไปเป็นสมาชิกสภาหรือไปเป็นกรรมการเป็นผู้ที่คัดเข้าไป ว่าเป็นผู้ที่จะมาระดมความคิด ระดมสมอง 

ถ้าเผื่อว่าคนที่ไม่มีภูมิปัญญาปฏิภาณเพียงพอถึงขั้นถึงขีด ไปเป็นสมาชิกสภานั้นๆ มันก็ไม่ใช่สภา มันต้องเป็นผู้ที่เหมาะสม มีภูมิธรรม ความรู้ ความสามารถ ความคิดที่ถูกต้องที่ดี จึงเรียกว่า มีสัตบุรุษ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาด้วยปัญญามุทุภูเตของพ่อครู วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 15:20:30 )

รายละเอียด

1. อยู่เนือง ๆ เสมอ ๆ

2. สงบ , ได้ระดับ , เรียบร้อย , เที่ยงธรรม , ยุติ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 66

คนคืออะไร? หน้า 366

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 13:13:42 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:56:19 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:22:11 )

รายละเอียด

ทีนี้ถ้าอวิชชา มันมีมากขึ้นหนาขึ้นก็เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน มีอัตราทวีขึ้นได้ ในระดับสูงขึ้น บวกขึ้น คูณ หรือยกกำลัง ก็เขียนเป็นสมการ น่าจะเป็นได้ว่า E(ปุถุชน) = อวิชชา(อุปาทาน²+ตัณหา)  สูตรที่อาตมาใช้คือ E=C(mc²+A)  อาตมาว่าสมบูรณ์ดีแล้ว ใครจะคิดได้ดีกว่าอาตมาก็ได้ แต่แค่นี้ก็มึนหัวแล้ว ใครเก่งกว่านี้อาตมาไม่มีปัญหา ช่วยกันเรียนรู้ไป

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2561

เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:04:32 )

รายละเอียด

แม้ว่าอาตมาไม่ใช่พระพุทธเจ้าแต่อาตมาก็คือ สมณพราหมณา   สัมมัคคตา  สัมมาปฏิปันนา  เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็น  สยัง อภิญญา  พูดอย่างไม่มีสาเฐยจิต ไม่มีจิตใจอยากอวด แต่เป็นสิ่งที่เปิดเผย มันสมควรจะพูดแล้วก็พูด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ตีแตกเทวะด้วยคอมเม้นท์ที่เห็นต่างจากพ่อครู วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(สัมมาทิฎฐิ 10) ตอน สมณพราหมณ์ผู้มาเปิดเผยสัมมาทิฏฐิของพุทธ

เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2564 ( 12:44:13 )

รายละเอียด

1. ชีวิตที่เป็นอยู่ด้วยสิ่งที่ถูกที่ดี ที่ชอบ ที่ควรอย่างถูกแท้ดีจริง เป็นการดำรงชีวิตอย่างไม่ฝืดเคือง หรือไม่ฟุ่มเฟือย

2. จะเป็นผู้ดี ผู้นำสู่ดี ผู้นำสู่ความสูง สู่ความเจริญ ผู้จะต้องนำร่อง แหวกทาง เป็นหัวหอก สู่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อนำพาผู้อื่นให้สูงตามได้

3. อาชีพของพระพรหมแท้ ๆ สูงสุด

4. เลี้ยงชีพอย่างพอดีพอเหมาะ

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 280,406,410

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า165

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 13:15:16 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:58:07 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:20:56 )

รายละเอียด

ผู้สวมเครื่องนุ่งห่มของสมณะเท่านั้น(ผ่านพิธีบวชเข้าไปนุ่งห่มจีวร) เพราะเนื้อแท้ความเป็นจริงยังไม่ได้เป็นสมณะ

หนังสืออ้างอิง

วิถีพุทธ หน้า 125

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 13:16:20 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:58:36 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:20:12 )

รายละเอียด

ผู้ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ ตรัสรู้เองโดยชอบ สะอาด บริสุทธิ์ บริบูรณ์

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 219

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 13:20:50 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:58:58 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:18:35 )

รายละเอียด

สมณพราหมณ์ ผู้ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้ และโลกหน้าให้แจ่มแจ้งเพราะรู้ยิ่งด้วยตนเองในโลก

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4 ” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 60

เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 12:21:35 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 15:02:24 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:17:14 )

รายละเอียด

(อัตถิ  โลเก   สมณพราหมณา   สัมมัคคตา  สัมมาปฏิปันนา  เย  อิมัญ จ โลกัง   ปรัญ จ  โลกัง   สยัง อภิญญา   สัจฉิกัตวา  ปเวเทนตีติ)  

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 14  ข้อ 257  ,ธรรมมาธิบาย  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

เวลาบันทึก 25 กันยายน 2562 ( 14:36:02 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 04:09:29 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:19:33 )

รายละเอียด

1. ผู้เจริญ ผู้ประเสริฐของพุทธ

2. พระอริยะ 4 ระดับ คือพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามีพระอรหันต์

3. ผู้สงบ

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 71

วิถีพุทธ หน้า 125

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 14:23:43 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 16:59:52 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:16:01 )

รายละเอียด

คือ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์

หนังสืออ้างอิง

“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 178 

เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 14:08:00 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 15:01:50 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:36:46 )

รายละเอียด

ธรรมวินัยนี้มอาริยมรรคองค์ 8 ธรรมวินัยนี้เท่านั้น จึงมี...

สมณะที่ 1 พระโสดาบัน

สมณะที่ 2 พระสกทาคามี

สมณะที่ 3 พระอนาคามี

สมณะที่ 4 พระอรหันต์

ส่วนลัทธิอื่นว่างจากสมณะผู้รู้ทั่วถึงหากภิกษุในธรรมวินัยนี้อยู่อย่างถูกต้องโลกจะไม่ว่างจากพระอรหันต์

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 10 "มหาปรินิพพานสูตร"  ข้อ  138

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก

เวลาบันทึก 20 มิถุนายน 2562 ( 11:11:00 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 15:01:05 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:16:29 )

รายละเอียด

ธรรมวินัยนี้มีอาริยมรรคองค์ 8 ธรรมวินัยนี้เท่านั้น จึงมี...

สมณะที่ 1 พระโสดาบัน

สมณะที่ 2 พระสกทาคามี

สมณะที่ 3 พระอนาคามี

สมณะที่ 4 พระอรหันต์

ส่วนลัทธิอื่นว่างจากสมณะผู้รู้ทั่วถึง หากภิกษุในธรรมวินัยนี้อยู่อย่างถูกต้อง โลกจะไม่ว่างจากพระอรหันต์

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 10 “มหาปรินิพพานสูตร” ข้อ 138

เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 11:38:33 )

รายละเอียด

ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นศึกษาให้ดีๆสัมมาทิฏฐิจริงจะไม่เป็นโรคทางจิต คือจิตของอาริยะ เป็นสมณะ 4 เหล่าพระโสดาบันเป็นต้นไป จะไม่เป็นโรคจิต ที่ถามมาว่าเป็นโรคจิตนั้นก็คือยังไม่เป็นพระโสดาบัน ถ้าเป็นพระโสดาบันแล้วไม่เป็นโรคจิต แต่ถ้าเพียงว่าเรามาศึกษาธรรมะ แล้วเราก็เข้าใจ น่าจะเข้าใจ ว่าภูมิของโสดาบันต้องปฏิบัติอย่างนี้เช่นต้องพ้นสังโยชน์ 3 เป็นต้น หรืออะไรที่เป็นบัญญัติ แต่ตัวเองไม่รู้จักจิตใจ ไม่ได้เรียนรู้ปฏิบัติจิตใจพ้นสังโยชน์ 3 ได้คุณธรรม 8 หรือรู้จักนรก 4 ขุม แล้วสามารถขึ้นจากนรก 4 ขุมนี้ได้ จนกระทั่งเข้ากระแสโสตาปันนะ อวินิปาตธรรม นิยตะ สัมโพธิปรายนะ เป็นโสดาบันอย่างที่ว่าจะไม่เป็นหรอก ที่เป็นก็ยังไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563

เวลาบันทึก 01 กุมภาพันธ์ 2563 ( 12:16:16 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 03:29:05 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:18:06 )

รายละเอียด

สมณะถือ จุลศีล  มัชฌิมศีล  มหาศีล และวินัยแถมด้วยธรรมวินัย 227 ส่วนสิกขมาตุ ถือศีล 10 ก็สูงขึ้นไปก็ไป อธิศีลก็แล้วแต่

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563

เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2563 ( 11:03:50 )

รายละเอียด

ที่คุณบอกว่าพระเทวทัตขอให้บัญญัติเป็นกำหนดระเบียบเลยว่าห้ามภิกษุของพระพุทธเจ้าฉันเนื้อสัตว์ พระเทวทัตก็ไม่ชัด  พระพุทธเจ้าก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์ ถ้าพระพุทธเจ้าฉันเนื้อสัตว์อยู่ พระเทวทัตจะไปกล้าพูดกับพระพุทธเจ้าหรือว่าไม่ให้ฉันเนื้อสัตว์ แค่นี้ถ้าเข้าใจจะไม่มาแย้งกับอาตมาหรอก 

ประวัติพระพุทธเจ้ากับเทวทัตไม่ฉันเนื้อสัตว์ พระเทวทัตก็เลยบอกว่า ทำไมไม่บัญญัติให้พระไม่ฉันเนื้อสัตว์ เพราะว่าพระเทวทัตก็รู้ว่าไม่ฉันเนื้อสัตว์มันถูก พระพุทธเจ้าไม่ฉันเนื้อสัตว์ก็ถูก ก็เลยบอกว่าทำไมไม่บังคับเป็นพระวินัยเลยว่าไม่ให้พระภิกษุฉันเนื้อสัตว์

ที่พระพุทธเจ้าไม่กำหนดข้อนี้ก็เพราะว่าคนอินเดียเขาเข้าใจอยู่แล้ว ยิ่งมาบวชแล้วแม้แต่ศาสนาเดียรถีย์ ศาสนาอื่นเขาก็เข้าใจว่าไม่ฉันเนื้อสัตว์อยู่แล้ว มีกันเยอะแยะไป เพราะฉะนั้นเมื่อมันมีอยู่เยอะ จะไปตั้งกฎเกณฑ์ทำไม ก็เขารู้อยู่แล้วว่าไม่ฉันเนื้อสัตว์นั้นคือผู้ที่สูง ผู้ที่เจริญ พวกกินเนื้อสัตว์อยู่คือพวกยังไม่เจริญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประสบการณ์พ่อครูในอิทธิปาฏิหาริย์และการออกป่า วันพุธที่ 22 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2565 ( 05:55:31 )

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้ถือศีลทุกข้อเหมือนพระ คำว่า “พระ”คือภิกษุในเถรสมาคมทุกวันนี้เขาเรียกว่า“พระ” อาตมาไม่ใช่“พระ” อาตมาเป็นสมณะ ใช่ ทางเถรสมาคมที่เป็นพระนั้นเขาถือศีลอะไรก็ไม่รู้ อาตมาพูดอย่างนี้นี่เป็นความจริง คืออาตมาไม่รู้ว่าพระเถรสมาคมทุกวันนี้เขาจะถือ  จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล กันหรือไม่ เขาไม่ได้กล่าวถึงเลย แต่เขาบอกว่าเขาถือศีล 227 คำว่าศีล 227 ก็ผิดแล้ว เพราะ 227 มันไม่ใช่ศีลแต่มันเป็นวินัย วินัยนี้ทำผิดแล้วมีอาบัติต้องปลงอาบัติ แต่ศีลผิดแล้วไม่ได้ปลงอาบัติ แต่คุณได้อกุศลกรรมเอง คุณได้วิบากของคุณจริง มันคนละเรื่องกัน ศีลเป็นอิสรเสรีภาพ แต่วินัยเป็นข้อบังคับ มันต่างกัน นี่คือนัยยะละเอียดของธรรมวินัยที่เป็นอริยะของพระพุทธเจ้า ก็เรียกว่าอริยวินัยอาริยธรรม ทุกวันนี้เขาไม่รู้เรื่องกันแล้ว 

สรุปแล้วคุณที่ถามมายังไกล ที่คุณจะรู้เรื่องของธรรมะของพระพุทธเจ้า ค่อยๆศึกษาไป ขออภัยนะ อาตมาพูดตำหนิคุณว่าคุณไม่รู้ ไม่ได้พูดข่ม แต่พูดความจริงสู่ฟัง อาตมาก็ต้องขออภัย อาตมาพูดความจริง จึงเป็นเหมือนดูถูกคุณ แต่ที่จริงก็พูดถูกแล้วเห็นถูกแล้วก็บอกให้คุณเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นอาตมาถือศีลไม่เหมือนเขาแน่ เพราะเขาถือศีลอะไรก็ไม่รู้ วินัยก็ 227 ศีลเขาไม่ถือเหมือนอาตมาพวกเราถือ จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล เอาแต่แค่มหาศีล อยู่ในมหาเถรสมาคมผิดศีลข้อนี้เละเทะเลย ละเมิดศีลของพระพุทธเจ้าอยู่นั่นแหละ ไม่ได้เป็นกุศลอะไร ได้อกุศลอยู่ตลอดเวลา ขออภัยที่พูดขยายความจริงๆให้ฟัง ทุกวันนี้ความลึกซึ้งของธรรมะพระพุทธเจ้าอย่างนี้ เขาไม่ค่อยรู้กันแล้ว ก็น่าเห็นใจน่าสงสาร ก็ไม่รู้จะทำไง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประกาศสิทธิสำเร็จสูงสุดคือสิทธัตถะ วันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 25 สิงหาคม 2566 ( 07:33:25 )

รายละเอียด

โสดาบัน

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 353

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 14:25:41 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:00:12 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:14:48 )

รายละเอียด

ทำจิตวิญญาณของตนเองให้ไม่ตกนรก ศาสนาพุทธ พระโสดาบัน  ก็ไม่ตกนรกขั้นอบาย แต่ก็ตกนรกขั้นรูป  อรูปอีก เป็นอนาคามีแล้วไม่ตกนรกกามอย่างบริบูรณ์  อนาคามี เหลือ รูป  อรูป  ภายในเท่านั้น  ก็หมดนรกเลย เรียบร้อยและนรกก็คือสวรรค์  หมดนรกก็หมดสวรรค์  เป็นคนที่ไม่มีนรก ไม่มีสวรรค์  ไม่มีเทวะ มีจิตวิญญาณของตัวเอง จะอยู่ต่อเป็นอมตบุคคล จะเกิดหรือจะตายก็ได้ อย่างอาตมา จิตเป็นอมตะแล้ว ที่พูดนี้  ไม่ได้อวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตนนะ  แต่ว่าเป็นอุตริมนุสธรรมที่มีในตน แล้วพูดอย่างไม่ได้มีสาเฐยจิต  ไม่มีอุปกิเลสแล้ว  แต่ตนเขาไม่เชื่อว่าจะมีความพิเศษอย่างนี้  เขาก็ไม่เชื่อไปบังคับใจเขาให้เชื่อไม่ได้  เพราะฉะนั้นที่ถามว่าคนทำไมไปเชื่อความเท็จ เพราะเขาไม่รู้ความจริง อาตมาไม่มีความเท็จเลย

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ ปฐมอโศก วันพุธที่  20 พฤศจิกายน  2562

เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2562 ( 17:13:48 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 03:30:56 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:14:32 )

รายละเอียด

สกทาคามี

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 353

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 14:26:33 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:00:58 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:15:04 )

รายละเอียด

อนาคามี

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 353

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 14:27:33 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:01:56 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:15:18 )

รายละเอียด

พระอรหันต์

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 353

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 14:28:17 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:02:31 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:15:33 )

รายละเอียด

แต่อาตมานั้นเป็นนานาสังวาสคือเป็นอีกคณะหนึ่งของศาสนาพุทธ ที่ถูกตามธรรมวินัยมาหมด ได้ลาออกมาประกาศกับคณะสงฆ์อย่างถูกต้องตามพระธรรมวินัย มีหลักฐานเป็นตัวหนังสือด้วย อาตมาเขียนประกาศต่อหน้าสงฆ์ 180 รูป ในวันที่ 6 สิงหาคม 2518 จำวันได้ด้วย เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2518 อาตมาก็มาเป็นอีกคณะหนึ่งเรียกว่านานาสังวาสกับสงฆ์ 

นานาสังวาสนั้นเป็นพุทธร่วมกันซึ่งไม่ใช่นิกายนะ อาตมาไม่ยอมให้ใครมาว่าอาตมาเป็นนิกายเพราะอาตมาไม่มีจิตที่จะเป็นนิกาย เพราะจิตที่จะเป็นนิกายนั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ ถ้าไปแยกสงฆ์แม้จิตของคุณแยก อันนี้ลึกซึ้งเป็นเรื่องของวินัย จิตคุณก็ตกต่ำ เป็นอนันตริยกรรม แล้วยิ่งทำสภาพจริงของวัตถุนี้ได้ประพฤติจริงเหมือนอย่างกับสงฆ์หมู่ใหญ่ เขาออกมาประพฤติจริงด้วย แล้วทำแยกอาตมา แล้วเขาก็มาเรียกอาตมาว่าอาตมาเป็นนิกาย เห็นสิริมหามายาไหม  เขามาเรียกอาตมาว่าเป็นนิกายนอกรีต ต่างกันกับของคณะใหญ่ว่างั้นเถอะ สงฆ์หมู่ใหญ่ เถรสมาคมเป็นคณะที่ประชาชนหมู่ใหญ่เขานับถือก็ใช่ แต่นับถืออย่างไม่ถูกต้องตามธรรมวินัย ไม่เจริญตามธรรมวินัย 

แต่อาตมาแยกมานี่มันเป็นของจริงที่เจริญตามธรรมวินัย โดยเฉพาะเป็นโลกุตรธรรม ต้องขออภัยจริงๆที่ต้องพูดความจริง ไม่ได้ไปข่มไม่ได้ไปดูถูกดูแคลน แต่แยกให้ฟังว่า อย่างนี้ถูกต้อง อย่างนี้ไม่ถูกต้อง ตามสัจจะ ถึงเวลา ถึงโอกาสจำเป็นที่จะต้องพูด ซึ่งจะมีหนังสือที่อาตมาจะออก กะว่าจะออกแจกในวันงานฉลองครบรอบ 90 ปีของอาตมา เดือนมิถุนายน 2567 ชื่อหนังสือบอกไปก่อนเลย “เกิดมาชาตินี้” นี่ยังเขียนอยู่ยังไม่จบทีเดียว ซึ่งจะเป็นหนังสือที่พูดอย่างอหังการมากเลย แต่มันจำเป็นที่จะต้องแสดงอย่างนั้น ค่อยๆเห็นก็แล้วกัน 

เพราะฉะนั้นอาตมาเกิดมาในชาตินี้ ตามชื่อหนังสือจึงต้องมาทำงานทางศาสนาที่ยากมากเลยในยุคที่จะกอบกู้ศาสนาพุทธขึ้นมา แล้วก็จะต้องปลูกฝังสถาปนาสัจธรรมของพระพุทธเจ้าที่ถึงขั้นโลกุตระให้ลงไปในศาสนาพุทธ เพราะศาสนาพุทธยิ่งใหญ่เพราะความมีโลกุตรธรรม เทวนิยมตะวันตก ศาสนาพระเจ้าไม่มีหรอก โลกุตรธรรมไม่มี 

เพราะฉะนั้นธรรมะที่เป็นโลกุตรธรรมจะเป็นธรรมะในระดับเล็กน้อยไปจนกระทั่งถึงระดับระบอบที่บริหารปกครองประเทศ ธรรมะที่อยู่ในระบอบไปบริหารประเทศนี้ เป็นธรรมะที่จะต้องมีอยู่ในการเมืองอยู่ในการบริหารประเทศ ถ้าไม่มีธรรมะอยู่ในการบริหารประเทศ ผู้บริหารประเทศไม่มีธรรมะนี่เป็นต้น ก็พังสิ ผู้บริหารประเทศไม่มีธรรมะ ประเทศก็ฉิบหายวายป่วงหมด เพราะฉะนั้นผู้บริหารประเทศจึงต้องมีธรรมะ โดยเฉพาะของพระพุทธเจ้านั้นเป็นโลกุตรธรรม 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 27 ตอบปัญหาให้ถึงสัมมาธิปไตย วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2566 ( 18:39:27 )

รายละเอียด

คือ  ปัญญาในข้อที่ 1  อาตมาได้พบสัตบุรุษมาแล้วในชาติก่อนๆ  ในชาตินี้อาตมาเป็นสัตบุรุษเองยืนยันตัวเอง  แต่ว่าอาตมาก็เคยได้พบสัตบุรุษเป็นผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์มาก่อนแล้วในชาติก่อนๆ  แต่ในยุคนี้  ไม่มีใครมาเกิด มีแต่อาตมาเกิดเป็นไก่ตัวพี่ ไม่ได้หลงตัวเอง  ยกตัวเองแต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ  ที่พูดความจริง ก็เลยต้องประกาศไป

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 13:52:28 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 03:31:35 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:39:57 )

รายละเอียด

คือ คุณฝึกได้เก่ง  สัมผัสปุ๊ป เป็นอุเบกขาปั๊บเลย ทำได้เก่ง เป็นอุเบกขาได้เก่ง อุเบกขาคือบริสุทธิ์มีองค์คุณทั้ง5 ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสรา เหมือนอย่างอาตมา สัมผัสแล้วก็เป็นอุเบกขาทันที  ส่วนใครจะมีอะไรต่ออะไร อาตมารู้ทันที มุทุธาตุ คนนี้มีอย่างนี้ๆ  แล้วเราก็ร่วมจะทำอย่างไรกับคนนั้นคนนี้  คนนี้จะทำอย่างนี้ คืออะไร  ด่าหนักๆก็คนนี้ ทั้งด้านทั้งหนา  ทั้งตีไม่แตก โง่เง่า ก็ต้องแรง ทำมากๆ ทำซ้ำ  คนนี้ไม่ถึงขนาดนั้น  คนนี้เร็ว  เท่านี้ก็รู้ตัวแล้ว มันยากสำหรับคนที่ต้องซ้ำและเหนื่อย ทุกวันนี้อาตมาเหนื่อย สำหรับ คนที่โง่เง่า ไม่รู้ได้สักที ตีหัวแตก7 เสี่ยงก็ยังไม่รู้ตัว

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2562 ( 13:48:23 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 03:34:46 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:43:35 )

รายละเอียด

คือ โพธิสัตว์ (พระนิยตโพธิสัตว์ ระดับ 7) คือ ผู้ที่จะมาทำงานสืบทอดพระศาสนา ซึ่งต่างจากคนอื่นๆที่เคยทำกันมา

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 228

เวลาบันทึก 29 ตุลาคม 2562 ( 10:25:34 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:59:10 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:40:37 )

รายละเอียด

อาตมาเป็นไก่ตัวพี่ที่เจาะกระเปาะไข่ออกมาในยุคกาละนี้ ทะลุโลกออกมา ไม่อย่างนั้นวนอยู่ในไข่ ออกจากไข่ไม่ได้ หรือ เป็นสายนามธรรม ต้องขยายนามธรรมให้ลงกันเป็นกาย เป็นเทวะเป็นองค์ 2 ที่จะใช้เป็นรูปนามพัฒนาไป

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562

เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 19:30:05 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 03:35:49 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:41:53 )

รายละเอียด

คือ

            1. อิสรเสรีภาพ (Independent) มีอิสรภาพพ้นอำนาจกิเลส

            2. ภราดรภาพ (Fraternity)  มีภาวะแห่งรักกว้างออกไปดุจดั่งญาติ

            3. สันติภาพ (Peace)  มีภาวะสงบแท้  ไม่มีตัวเหตุเบียดเบียน

            4. สมรรถภาพ (Efficiency)  มีความสามารถสรรสร้างประโยชน์สุข

            5. บูรณภาพ (Integrity)  ปรับปรุง พัฒนาให้เจริญให้เต็มบริบูรณ์

ต่อมาขยายอีก 2 ภาพ  คือ  สูญภาพ และสวยภาพ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:48:00 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 03:40:41 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:45:37 )

รายละเอียด

คือ  เส้นแนวนอน  ตัวเลขที่เป็นเลข 4 นั้นคือ ตัวเลขที่เป็นโพธิสัตว์ระดับ  4 คือ เป็นพระอรหันต์  ลิงลมอมข้าวพอง  สัตบุรุษจะมีภาวะนี้  เกิดมาในโลกอยู่กับโลก  ยังถือว่าไม่เดียงสา  จะถูกอำนาจของโลกครอบงำอยู่บ้าง  เช่นพระพุทธเจ้าสมณะโคดม ก็จะไปกับโลกเขา  เก่งกว่าเขาทุกอย่างด้วยนะ  เก่งกว่าทุกด้าน  แล้วก็จะเหลือเศษลงไปตามโลกเขาอยู่แป๊บหนึ่ง เรียกว่า  ลิงลมอมข้าวพอง  อย่างเช่นพระพุทธเจ้าสมณะโคดมหลงไปถึง 29 ปี  จากนั้นรู้ตัวก็ไม่เอาแล้ว  ออกหาทางรอดแล้วมาบวช  แต่บวชแล้วก็มีวิบากอีก 6 ปีต้องมาใช้วิบากอีก 6 ปี อายุเป็น  35  ปี  ระลึกตัวเองได้ว่า เราคือพระพุทธเจ้า  ตรัสรู้อยู่ใต้ต้นโพธิ์  ชื่อเดิมคือต้น อสัตถพฤกษ์  ลิงลมอมข้าวพองเหมือนเด็กไม่เดียงสาจะไปถือสาไม่ได้  เพราะว่าถูกพลังงานทางโลกีย์ควบคุม ตัวเองไม่มีพลังงานในตัวเองแข็งแรงพอ  จนกระทั้งตื่นรู้แล้ว ไม่เอาแล้วเลิกออกมา อย่างอาตมาก็มีลิงลมอมข้าวพองอยู่ถึง 36 ปี  อาตมาออกบวช  ไม่ใช่ว่าอาตมาจะรู้ทันทีทีเดียว  ถ้าใครตามดูหลักฐานของอาตมาจะรู้ว่า บรรลุธรรมก่อนบวช   เขียนหนังสือไว้บอกเวลาบรรลุธรรม  อาตมาอย่างไรก็ไม่เอาทางโลกแล้ว  หนังโทนเข้าโรง  อาตมาก็ใส่กางเกงขาสั้นโกนผมแล้ว  หนังโทนขายแผ่นเสียงได้มากกว่าหนังมนต์รักลูกทุ่ง   หนังโทนเป็นหนังเชิงธรรมะ แปลว่ามนต์รักลูกทุ่ง เป็นหนังทางโลก  คนถึงชมมาก  แต่รายได้จริงๆนั้น โทนมากกว่า  ลิงลมอมข้าวพอง ก็จะถูกอำนาจของโลกครอบงำ อยู่ระยะหนึ่งเหมือนพระพุทธจ้า  สมณะโคดม29 ปี  อยู่ในโลกียะ  สมเด็จพ่อก็มอมเมาเต็มที่ ปราสาท 3 ฤดู  รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส  ไม่ให้เจอกับทุกข์เลย ให้เจอแต่ความสุข  จนท่านไปเจอเอง  เจอทูตแห่งทุกข์  แก่เจ็บตาย  นักบวชไม่ได้เห็น  เด็กเกิดหรอก  ทูตมรณะ ท่านก็ไม่รู้จักคนแก่  ถามอำมาตย์ว่านั้นอะไร  ..  คนแก่  แม้ท่านก็ไม่พ้นไปจากความแก่  ข้าราชบริพารก็ทูลตอบ  ที่จริงแล้วท่านรู้หรอก ไม่ได้โง่ขนาด ไม่รู้จักคนแก่  คนป่วย  แม้ท่านก็ไม่พ้นไปจากความป่วย  แม้ท่านก็ไม่พ้นไปจากความตาย ท่านก็กลัวถึงความเจ็บ  ถึงความแก่ ถึงความตาย  ท่านก็นึกดูว่าจะทำอย่างไรถึงจะพ้น ก็ต้องบวช  ออกหาสัจธรรม  ก็ไปเป็นสมณะ  คือ  ผู้ทีค้นหาสัจธรรมอยู่ที่นั่น  ต้องออกบวชเนกขัมมะ ท่านจะออกบวช  แต่ลูกเกิดอีก ลาหุนัง พันธนัง ชาตัง  เงินผูกขา ลูก ภรรยาผูกคอ  เมียผูกมือ ปุตโต คีเว ทนังปาเท สามีภริยหัตเถ ท่านก็ออกบวช ไปกับนายฉันนะ กับม้ากัณฑกะไปเลย  ก็บวชต้องออกป่า  เป็นมิจฉาทิฏฐิ  ถูกครอบงำ  เป็นลิงลมอมข้าวพอง ไปออกป่า   ไปหาอาจารย์ในป่า ทำในเรื่องที่เป็นทุกข์กาลกิริยา  เป็นเรื่องยาก  เป็นกิริยาที่ไม่ดี   ทรมาทรกรรม  เช่นไปกินขี้  ขี้ออกมาก็กินเข้าไป ไม่กินข้าว จนขี้เหลือนิดเดียว  ร่างกายผ่ายผอม  หรือทรมานร่างกายแบบต่างๆ  ท่านก็ทำตามเขาได้หมด  เป็นลิงลมอมข้าวพอง สัญญาเก่าไม่ขึ้นมา  มีวิบาก จนสุดท้ายลองหมดทุกอย่างกับเขา ไปนั่งหลับตา  เจออาฬารดาบส   อุทกดาบส  ก็ได้ ฌาน7 ก็เท่านี้หรือ  ท่านก็ทำได้ไม่ยาก  นั่งได้ ฌาน 8  ก็ได้อีก ผ่านมาหมดแล้ว เหมือนอาตมา  ก็ไปนั่งมาเป็นลิงลมอมข้าวพอง  อย่าง อ.มั่น  หลวงตา  มหาบัว  ก็ทำแบบนั้นมา  พอสุดท้าย ก็เลิกจาก  อ.ทั้งสองไปทรมานร่างกายก็ไม่ใช่  ก็เลยมาทบทวนตัวเอง  ระลึกขึ้น 15 ค่ำ  เดือน 6 ก็นั่งระลึก  ยาม  1 ยาม 2  ยาม 3 ระลึกอดีต ท่านเอง  ไม่ได้ปฏิบัติธรรมในปางนี้เลย  ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธจ้าองค์อื่นๆ  ก็เช่นกัน    ท่านได้บรรลุเป็นพระโพธิสัตว์  เป็นมหาโพธิสัตว์  จนเป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า จนมาประกาศ  ก็พ้นจากความเป็นปัจเจก  เมื่อท่านประกาศศาสนา  ปัจเจกพุทธะ  กับปัจเจกสัมมาสัมพุทธะนั้นต่างกัน  ท่านก็มีสยัมภูเท่ากัน  แต่ไม่ได้ประกาศศาสนาขึ้นมาในโลกให้คนได้รับรู้กัน  จนได้เป็นศาสดาของของศาสนาในยุคนั้น  แล้วแต่บารมี บางองค์ก็ห้าพันปี  บางองค์ศาสนาอายุหมื่นปี เป็นต้น  พระพุทธเจ้าสมณะโคดมเป็นพระพุทธเจ้าที่ประกาศศาสนาพุทธอายุน้อยที่สุด  5,000  ปี  แต่ท่านต่ำสุด  ไม่ได้หมายความว่า ท่านมีภูมิต่ำกว่าพระพุทธเจ้าองค์อื่น  ที่มีศาสนายาวกว่านั้น  แต่มันขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยซับซ้อน สรุปแล้ว  ลิงลมอมข้าวพองเป็นเรื่องที่พลังโลกโลกีย์มันครอบงำอยู่  กว่าจะสลัดออกให้สะอาดหมด  ก็ใช้เวลาตามบารมี  อาตมาทำงานอยู่ทางโลก12 ปี  มาเล่นไสยศาสตร์ 8 ปี  (ใน12 ปี)  ออกมาบวชแล้วแรกๆ ก็ยังพานั่งหลับตาอยู่  พาอธิบายแบบโลกีย์  เทวะนิยมอยู่บ้าง ตั้งเยอะ  ข้อเขียนเก่าๆ  หนังสือคนคืออะไรทำไม่สำคัญนัก  ในเล่มแรกๆนะ  ก็ยังมีร่องรอย  เทวะนิยมอยู่  ท่านใช้คำว่ามันเป็นวิบากของท่าน 6 ปี  ไปใช้หนี้วิบาก   จึงค่อยมาเป็นตัวของตัวเอง  เป็นตัวของตัวเอง  แล้วก็ระลึกชาติ  ระลึกตรวจสอบยามหนึ่ง  ยามสอง  ยามสาม ก็รู้  เราเองบรรลุมาแล้ว  ผ่านมาแล้ว  10  ชาติสุดท้ายท่านก็รู้  ท่านก็ยังมาทบทวนอีก  49 วัน  หลังตรัสรู้ที่เรียกว่าเป็นการเสวยวิมุติ  แล้วก็มีภูมิธรรมเดิมขึ้นมา  ซึ่งเป็นสยัมภู  เหนือกว่า สยังอภิญญา เป็นของตัวเองไม่เหมือนใคร  แต่บารมีของท่านสูง  แม้ประกาศแล้ว ไม่เหมือนใครใครก็ยอมรับ

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน  2562

เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2562 ( 12:46:01 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 03:59:13 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:13:54 )

รายละเอียด

สมณะโพธิรักษ์ คนละเรื่องกับหลวงตาบัว หลวงตาบัวบรรลุเก๊  ไม่มีสัมมาทิฏฐิ  ส่วนอาตมามีสัมมาทิฏฐิ มีความจริง ต้องขออภัยที่พูดว่า  ของอาตมาก็ได้เอามาขยายให้ฟัง สภาวะของ  ศีล สมาธิ  ปัญญา  สภาวะของ ทาน ศีล ภาวนา ได้มรรคผลอย่างไร  ได้ผลอย่างไร ได้อานิสงส์เป็นอย่างไร  พวกนี้เป็นสภาวะจริง  ของอาตมาที่เอามาอธิบาย  ไม่มีอาจารย์คนไหน มาอธิบายอย่างนี้หรอก ควักออกมาจากก้นบึ้งอนุสัยในจิตอาตมา ยังอาศัยใช้งานอยู่  การบรรยายธรรม สมณะโพธิรักษ์ พูดช้าลงไปแยะแต่ก่อนนี้ไฟแลบ  แต่ก่อนนี้บรรยายธรรมจนกระทั่ง ไอ้หนุ่มคนหนึ่งบอกว่า บรรยายมันมากหลวงพี่   แต่ขอโทษพูดให้ช้าหน่อย ผมฟังไม่ทัน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช  วันจันทร์ที่  11  พฤศจิกายน 2562                

เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 20:16:27 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 04:02:45 )

รายละเอียด

ชื่อเราคือ โพธิสัตว์ หรือสัตว์ที่มีโพธิ มีธรรมะตามที่พระพุทธเจ้า

ตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้าคือ จรณะ 15 วิชชา 8

การศึกษา อบรม ฝึกฝน เพื่อให้เกิด จรณะ 15 วิชชา 8 คือ ไตรสิกขา

การปฏิบัติ ไตรสิกขา คือ เริ่มที่“ศีล”ที่เราสมาทานไป แต่ละข้อ ตามลำดับ แล้วก็สำรวมอินทรีย์ มีสติ ทำให้เกิดผลเป็นคนสันโดษ คือ คนใจพอ ก็จะ“พอ”ไปตามลำดับ โดยเริ่มจาก“พอแล้ว” ที่จะโกรธ จะเป็นภัยต่อผู้อื่น(ศีลข้อ 1) โดยสำรวมตน อย่าทำให้เด็ดขาด จนกระทั่งหยุดกาย-วาจา-ใจ ครบ วิเวก 3  เพราะโกรธ ไม่ใช่สวรรค์เลย แต่เป็นนรกแท้

        พร้อมกันนั้น ก็หยุดโลภ เริ่มจาก“พอแล้ว”ที่จะทุจริตโลภ มาให้ตน และแม้เอาเปรียบ โลภมาให้ตน ถ้าตนต้องการได้ ต้องการมี ก็ทำเอง สร้างเอง ได้เอง มีเอง อย่างบริสุทธิ์

        การได้มา การมีเป็นของตน ก็ไม่ใช่สวรรค์เลย(เป็นสวรรค์เก๊) แต่ก็เป็นนรกอยู่จริง เพราะเป็นนรก“คู่หู(เทฺว)”ของสวรรค์ แยกไม่ได้ ตราบที่ยังไม่ตรัสรู้ความเป็น“เทฺว”บริบูรณ์สัมบรูณ์ ผู้ตรัสรู้ความเป็น“เทฺว”แล้ว“ดับเทว”สนิท ก็สิ้นราคะในตน

        ก็เป็นอัน“พอแล้ว” หมดสิ้นโมหะในตน แล้วมีตนเพียงแค่“กรรมกับกาล”

        การได้มา(เป็นตน) การมีเป็นของตน(แล้วยึด) แม้จะโดยธรรมบริสุทธิ์ ไม่มีทุจริตเลย ก็เป็นเพียงอาศัยระยะที่เป็นประโยชน์สำหรับชีวิตขณะนั้นๆหรือปัจจุบันนั้น แล้วก็“พอแก่การ” เสร็จลง จงปล่อยวาง(ไม่มียึด) ผ่องถ่ายให้ผู้อื่นต่อไป อย่ายึดไว้เป็นของตน ไม่เช่นนั้นมันจะตกผลึกเป็น“ตน”นิรันดร ผู้ไม่ยึดเป็น“ตน” ไม่มีราคะ จึงมีแค่สัมผัส 6 ผ่านไปกับ“กาล”  ทุกอย่างมีเพียงสัมผัส 6 เท่านั้น ตามความเป็นจริงของมัน แล้ว“ตน”ก็ใช้อาศัยให้“พอแก่การ”ให้สั้นที่สุดในกาลเสมอ และจบ ชีวิตจึงมีแต่“กรรมที่สัมพัทธไปกับกาล”  Karma and Time of continuum 

        ความเป็น“ตน”จึงมีเพียงในปัจจุบันขณะเท่านั้น ที่อาศัยในทุกๆชีวิต อันต่อเนื่องดำเนินไปกับ“กาล” จนกว่าเราจะสิ้น“กรรม”ไปจาก“กาล”

        ความเป็น“ตน”ที่เสพเป็น“กาม” เสพเป็น“อัตตา” ก็จะสั่งสมใส่“วิบาก” ตกผลึกเป็น“อดีต” และเป็น“อนุสัย”ที่มี“อวิชชา”

        สิ้นหมด ไม่มีการเสพเป็น“กาม”เป็น“อัตตา” ก็หมดสิ้นการมี“ภพ”มี“ชาติ”นิรันดร ด้วย“วิชชา”

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2562

เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:53:11 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 04:05:53 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:45:01 )

รายละเอียด

ที่จริงอาตมาก็บอกแล้วว่าอาตมาไม่ใช่พระ อาตมาเป็นสมณะ เขาก็ยังเข้าใจไม่ได้ ยังงมโข่ง ยังอยู่หลังเขา ยังไม่รู้รายละเอียด ไม่มีข้อมูล ไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย พูดไปส่งๆ แต่ก่อนที่ไหน เดี๋ยวนี้อาตมาก็ยังเป็นอย่างนั้น ที่คุณเรียกว่าพระ อาตมาก็ว่าความหมายของคุณนั้นอาตมาเข้าใจร่วมกันได้ ว่าอาตมาเป็นนักบวช อาตมาเป็นภิกษุของศาสนาพุทธ แต่ก่อนอาตมาก็เป็น เดี๋ยวนี้อาตมาก็เป็น แต่มันเป็นไปตามเหตุปัจจัยของสังคม อาตมาก็ว่าไปตามบัญญัติภาษาเขาจะว่ากันไป แต่เนื้อแท้สัจธรรมอาตมาไม่ได้เปลี่ยน ตั้งแต่บวชมาวันที่ 7 พฤศจิกายน 2513 มาจนถึงวันนี้ อาตมาก็ยังเป็นภิกษุของพระพุทธเจ้าอยู่อย่างนั้น แต่ต้นมาเลย เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่ 

ที่คุณว่าทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรงเป็นการใส่ร้ายอาตมา อาตมาไม่เคยผิดวินัยสงฆ์ อย่าว่าแต่วินัยสงฆ์ร้ายแรง วินัยสงฆ์ตื้นๆ วินัยสงฆ์อ่อนๆอาตมาก็ไม่ได้ทำ คุณเองคุณอยู่กับกระแสพวกเฟค พวกอวิชชามิจฉาทิฏฐิ เขาครอบงำทางความคิดของคุณ คุณก็เข้าใจเชื่อตามอวิชชา เชื่อตามพวกมิจฉาทิฐิที่เขาเข้าใจอาตมาผิด ที่เขาใส่ความอาตมาบ้าง แล้วคุณก็เห็นด้วย เห็นตามเขา ถูกเขาครอบงำทางความคิด คุณก็ว่าอาตมาทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง ขออภัยที่พูดความจริงสู่คุณให้ฟังก็แล้วกัน ไม่ได้โกรธเคืองไม่ได้ถือสานะ แต่อธิบายความจริงให้คุณก็แล้วแต่ บันไรยนต์ ให้ฟัง ว่าอาตมาไม่ได้เป็นคนทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง แต่เถรสมาคมเป็นคนทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรงกับอาตมา 

แล้วคุณนี้ก็เข้าใจผิดว่าให้ออกจากการเป็นพระ อาตมาไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเข้าใจ ออกหรือเข้าอาตมาก็อยู่อย่างเดิม เขาจะให้ออกหรือไม่ออก อาตมาก็อยู่อย่างเดิม อาตมาไม่ได้มีลัทธิเอง อาตมามีศาสนาของพระพุทธเจ้า ไม่ได้เป็นเองเอาของพระพุทธเจ้ามา ไม่ได้ตั้งเองเลย ประเด็นนี้เป็นประเด็นยิ่งใหญ่ อาตมาเคยอธิบายมาเท่าไหร่ คนยังเข้าใจไม่ได้ง่ายๆหรอกอย่างคุณก็แล้วแต่ บันไรยนต์ จะเข้าใจไม่ได้ง่ายๆหรอกว่า ลัทธิก็ดี  ศาสนาก็ดี  มันก็มีนัยยะสำคัญที่ต่างกันอยู่ 

ศาสนาคือ มีคำสอน ของเจ้าหมู่เจ้าคณะ ที่คนยอมรับมากเรียกว่าศาสนา มากจนตั้งเป็นศาสนา จนคนทั่วไปในโลก แต่ละประเทศแต่ละกลุ่มหมู่ยอมรับได้ ลัทธิก็เป็นคนที่กำลังสร้างนัยยะความเข้าใจของเขาอย่างของเขา แล้วมันก็ยังไม่ได้มีคนมีคณะหมู่กลุ่มเท่า มันก็ต่างกันตรงนี้ อาตมาไม่ได้ออกไม่ได้เข้าตามที่ใครเขามาทำ เขาพูดกันเขาพูดภาษาคำโกหก พูดภาษาคำที่ไม่จริง อาตมาไม่ได้ออกไม่ได้เข้ากับสิ่งที่เขาอย่างที่คุณคิดว่าออกๆเข้าๆ อาตมายังคงเป็นอย่างที่อาตมาเป็นตั้งแต่เริ่มต้น จนบัดเดี๋ยวนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เมื่อเห็นค้านแย้งจากผู้สัมมาทิฏฐิย่อมคือผู้มีบาป วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2566 ( 19:24:58 )

รายละเอียด

 อาตมาพูดคนหาว่าอวดตัวอวดตน แต่อาตมาไม่ได้มีจิต สาเฐยจิตอะไร ก็อวดไปคนก็ด่าด้วยซ้ำ เขาเป็นมิจฉาทิฏฐิ คนที่สัมมาทิฏฐิฟังอาตมารู้เรื่องเข้าใจอย่างนี้ทุกที่  นี่เป็นเครื่องตรวจสอบพิสูจน์อย่างพวกคุณเข้าใจได้ดีแล้ว  แต่กิเลสเรายังไม่หมด ก็ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ให้ได้จนกว่าจะได้ ทำให้ตัวเองเป็นพระอรหันต์ได้ จะได้สืบสานศาสนาต่อไป  ผู้ที่ไม่เข้าใจ ไม่เชื่อก็จะไม่ได้สิ่งนี้ โดยเฉพาะไม่เชื่อว่าอาตมาเป็นผู้ที่เป็นอาริยบุคคลแท้จริง เขาก็เสียผล ชาตินี้เขาก็จะไม่ได้อะไร อาตมาพาทำจนเป็นสังคม วรรณะ 9 สาราณียธรรม 6 มี กถาวัตถุ 10 พูดไปอย่างไร ก็อยู่กับ

1. เรื่องที่ชักนำให้มักน้อย  กล้าจน (อัปปิจฉกถา)

2. เรื่องที่ชักนำให้สันโดษ  ใจพอ (สันตุฏฐิกถา)

3. เรื่องที่ชักนำให้สงัดจากกิเลส (ปวิเวกกถา)

4. เรื่องชักนำไม่ให้คลุกคลี กับหมู่ กิเลส (อสังสัคคกถา)

5. เรื่องชักนำให้ปรารภความเพียร (วิริยารัมภกถา)

6. เรื่องที่ชักนำให้บริสุทธิ์ในศีล (สีลกถา)

7. เรื่องที่ชักนำให้จิตตั้งมั่นในสมาธิ (สมาธิกถา)         

ให้รู้จักสวรรค์  ศาสนาพุทธไม่ปรุงแต่ง เอาสวรรค์  อสังสัคคะ เขาแปลว่า ไม่คลุกคลีกับหมู่ที่เป็นโลกีย์ ปุถุชน ไม่สัมผัส  สัมพันธ์แต่ถ้าเราใกล้ จะไปคลุกคลี แต่แรงเราไม่ได้  ถูกเขาดึงลงไป ก็อย่าไปเข้าใกล้  อย่าไปร่วม สังสัคคะ กับเขา อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 82 วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 14:19:13 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 04:06:52 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:09:46 )

รายละเอียด

คือการไปตำหนิคนพาลที่ไม่พร้อมจะเปิดใจฟังจะเป็นโทษมากกว่า (จากผู้ฟังทางบ้าน )

 คุณพูดถูก  แต่พูดยังไม่ครบทีเดียว  อาตมาทำตามที่คุณพูด  สิ่งที่จะตำหนิ  อาตมาทำตามที่คุณพูดอยู่  คนพาล คือ  คนโง่  คนไม่รู้  คนผิด  คนเกเร  เขาหมายถึง  คนหยาบ  ไม่เปิดใจฟัง  เป็นโทษมากกว่า  อาตมาขออภัย มันอยู่ที่บารมีของคนที่จะตำหนิด้วย  อาตมามีบารมีพอที่จะตำหนิคนได้ที่คุณเองจะมาเลียนแบบไม่ได้หรอก  แม้แต่ท่านฟ้าไท  จะมาเลียนแบบไม่ได้หรอก  เป็นเรื่องอยู่ในฐานะที่อาตมาจะเป็นผู้ที่ตำหนิได้  อาตมาตำหนินี้   ถูกต้องตามเรื่องราวโอกาสแล้ว  อาตมาตำหนิอรหันต์เก๊  บอกชื่อไปเลยต่างๆ  นานา แม้แต่เถรสมาคมตรงนั้นตรงนี้ก็ยังตำหนิ  ถ้าไม่มีบารมี  มีอัตตา  มาตำหนิอย่างนี้ไม่ได้หรอก  ไม่ได้  ขอยืนยัน  ที่ทำได้เพราะว่าอาตมาเป็นอาตมา ซึ่งมีของจริง  ถ้าไม่จริงทำไม่ได้  ถ้าอาตมาไม่ตำหนิ  ไม่ตีกันไว้ มันยิ่งยาก สมณะต่อไปก็จะทำงานยากมาก เพราะว่าอาตมาไม่บอกไว้  ว่าสิ่งนี้มันไม่ถูกนะ  คุณก็จะเอาสิ่งที่ไม่ถูกเข้ามามันจะค้านแย้ง กับสิ่งที่จะทำต่อไป  สิ่งที่อาตมาทำวันนี้มันเป็นการกรุยทางไว้ในอนาคตด้วย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 05 ธันวาคม 2562 ( 10:36:30 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:05:44 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:48:08 )

รายละเอียด

 ขอติงผักกาดหอม  ลองตรวจดูจริงๆ  ของหน่วยงาน การพานิชย์ต่างๆ  เขารายงานออกมา ยืนยันว่ามันมีอัตราการก้าวหน้าเมื่อเทียบกับต่างประเทศ  เมืองไทยเศรษฐกิจเจริญขึ้นอยู่  เขาเข้าใจไม่ได้หรอกนักวิชาการพวกนี้ เขาไปวัดค่าความจนต่างกัน หากมาเจออโศกจะเห็น  ว่ามันมีน้อยกว่าพวกนั้นอีกแต่ทำไมมันอยู่อย่างสุขสำราญเบิกบานใจ  แล้วแถมขยันสร้างสรรช่วยเหลือผู้อื่นอีก  เป็นคนจนแบบแปลกๆ  พวกนี้ก็จะงงๆอยู่ เศรษฐกิจระดับล่าง  เราไม่เดือดร้อนหรอก เขาเอาแค่พอกิน  พออยู่ ก็อยู่ได้แล้ว มีปักษ์ใต้ที่เกิดรุนแรงบ้าง  แต่เป็นความลับ  มันต่อเนื่องไปถึงศาสนา ก็ไม่อยากล้วงลงไป  ดูเหตุปัจจัยต่างๆไม่อยากจะพูด  มันไปพัวพันกับศาสนาอื่น  ก็ยังพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง  ก็เลยต้องเอาไว้ก่อน

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 12:32:01 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:08:40 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:49:20 )

รายละเอียด

 อาตมาจะมาเกิดหรือไม่มาเกิดแล้วมันเป็นอย่างไร คุณน่าจะพยายาม ตอนนี้เป็นปัจจุบันธรรม อาตมามาเกิดแล้วก็เป็นอยู่แล้ว แม้ว่าชาติหน้าอาตมาจะมาเกิดอีก แล้วคุณเองจะมาเกิดหรือไม่มาเกิด จะได้มาพบอาตมาหรือไม่มาพบ หรือว่าอาตมาเกิดแล้วคุณก็ไปไหน ก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นถามไปก็ไม่รู้จริง อาตมาจะไปตอบอจินไตยตอนนี้ไม่ได้หรอก ไม่บังอาจที่จะไปสู่รู้ขนาดนั้น 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563

เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:16:17 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:10:09 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:08:30 )

รายละเอียด

บอกได้เลยว่าอาตมาวางภาระเกือบจะหมดแล้วล่ะ ให้ช่วยกันดูแล อาตมาจะไม่ช่วยดูแล อาตมาจะปลดเกษียณ อาตมาจะสอนแต่ธรรมะ บรรยายแต่ธรรมะ มันก็เลย 85 แล้ว อายุ ก็ต้องรู้จักตัวเองบ้างไม่เจียมแก่เสียเลยไม่ได้

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 85

เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 15:35:14 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:11:22 )

รายละเอียด

ในยุคนี้ศาสนาพุทธผ่านมา 2500  กว่าปี อาตมาเกิดมาในยุคนี้มาอธิบายคำว่า  ปัญญา  ก็ขอยืนยันว่ามั่นใจว่าที่อธิบายไปถูก  การเอาความเฉลียวฉลาดทางโลกีย์ มาปนเปกับความเฉลียวฉลาดทางปัญญามันก็แยกไม่ออก มันไม่ชัดเจน คนก็เสียประโยชน์ คนที่ยอมแยกว่าปัญญามันเป็นความเฉลียวฉลาดโลกุตระ คนไม่ทำความเข้าใจในปัญญาโลกุตระ ความเฉลียวฉลาดโลกุตระมันเป็นอย่างนี้เอง  มันต่างจากโลกียะอย่างนี้ หากไม่สามารถ แยกอันนี้ได้ คุณไม่มีทางบรรลุนิพพาน

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 11:55:45 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:12:24 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:50:29 )

รายละเอียด

  คนเขาไม่ค่อยเชื่ออาตมา  เพราะเขามาก่อน อาตมามาหน้าใหม่  หน้าใหม่แล้วก็ไม่มีกระบวนการเป็น  One Man Show   Production มาเดี่ยวๆ  ไม่มีศิษย์พี่ไม่มีศิษย์น้อง  ไม่มีครูบาอาจารย์  สำนักก็ไม่มีจนกระทั่งทุกวันนี้สำเร็จ  มีหมู่กลุ่ม มีกระบวนการ  อาตมามีพระไตรปิฎกเป็นหลักฐาน  ได้ยืนยันอ้างอิง  แล้วก็ต้องขยายความ อธิบายด้วยนะ  อาตมาอธิบายขยายความอีกอย่างหนึ่ง  จนกระทั่งทุกวันนี้ก็แย้งอาตมาไม่ค่อยออกเพราะเมื่อขยายความแล้ว มันเกี่ยวโยงกัน ถึงกันเยอะ อาตมาขยายความได้มันเกี่ยวโยงเป็นปฏิจจสมุปบาท เพราะเหตุนั้นมันจึงมีเหตุนี้ เหมือน Domino สัมพันธ์กันเหมือนจิ๊กซอร์ มันเป็นลำดับ  ไม่เหลื่อม  เข้ากันได้สนิทดี  เขาก็เลยต้องจำนนต้องยอม  หรืออาจจะไม่ยอมแต่เถียงไม่ได้

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 12:26:44 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:14:47 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:07:22 )

รายละเอียด

อาตมาลืมตามีความรู้สึกเต็ม หลับตาก็มีความรู้สึกเดียวกัน ถ้ายังไม่ปล่อยสติ ให้สติตกไปสู่ภพหลับ ตื่นอย่างนี้ก็ตื่นอย่างนี้ เช่นวันใดที่อาตมานอนแล้วไม่ยอมหลับ อาตมาก็จะนอนไปกับการปรุงธรรมะ แล้วก็เป็นบ่อย จนผู้คอยเตือนว่าคุยอยู่กับเทวดาไม่ยอมหลับ เสร็จแล้วก็บังคับให้นอนกลางวัน

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 ผู้ข้องอยู่ในถ้ำอันไกลจากวิเวก วันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:07:29 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:15:26 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:51:04 )

รายละเอียด

  อาตมาไม่ใช่องค์ต่อไป  จะมีพระพุทธเจ้าองค์อื่นมาคั่น  อาตมาไม่ใช่ตำแหน่งพระศรีอริยเมตไตรยองค์ข้างหน้า  สัจธรรมมันเป็นอย่างที่คุณเข้าใจ  แต่ใส่ยาเข้าไป ไม่ตรงกับป้ายบอกยา

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ  บ้านราช  วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2562 ( 12:47:44 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:16:20 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:07:55 )

รายละเอียด

การที่มีคำถามว่าอาตมาเคยเป็นพระเจ้าอโศก อาตมาว่าหลวงพ่อลีก็เคยได้ยินมาว่า หลวงพ่อลีเชื่อว่าท่านเคยเป็นพระเจ้าอโศก ได้สร้างวัดอโศการามมา เทียบกับอาตมา อาตมาบวชที่วัดอโศการาม แต่หลวงพ่อลีตายไปแล้วตอนนั้นไม่ใช่อุปัชฌาย์ของอาตมา อุปัชฌาย์ของอาตมาคือเจ้าคุณราชวรคุณ บวชที่วัดอโศการาม แนวที่หลวงพ่อลีสอนแบบพระป่า ส่วนอาตมาสอนแบบพระบ้านที่มีนัยละเอียดให้คนบ้านคนเมืองมาเรียนจนเกิดสังคมหมู่กลุ่มที่ครบพุทธบริษัท 4  อุบาสกอุบาสิกา นักบวชหญิง นักบวชชาย ที่มารวมกันอยู่อย่างมีวัฒนธรรม มีวรรณะ 9 มีสาราณียธรรม 6 มีสาธารณโภคี หลวงพ่อลีทำได้อย่างอาตมาไหม หลวงพ่อลีมีเท่าไหม คุณก็ตัดสินเอาเองว่าใครจะเป็นพระเจ้าอโศกมากกว่ากัน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562

เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 17:20:07 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:20:00 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:53:57 )

รายละเอียด

จำไม่ได้ คนละเรื่องกับหลวงตาบัว หลวงตาบัวบรรลุเก๊ ไม่มีสัมมาทิฏฐิ ส่วนอาตมามีสัมมาทิฏฐิมีความจริง ต้องขออภัยที่พูดว่า ของอาตมาก็ได้เอามาขยายให้ฟัง สภาวะของศีลสมาธิปัญญา สภาวะของทานศีลภาวนา ได้มรรคผลอย่างไรได้ผลอย่างไรได้อานิสงส์เป็นอย่างไร พวกนี้เป็นสภาวะจริงของอาตมาที่เอามาอธิบาย ไม่มีอาจารย์คนไหนมาอธิบายอย่างนี้หรอก ควักออกมาจากก้นบึ้งอนุสัยในจิตอาตมา ยังอาศัยใช้งานอยู่ อาตมานี่พูดช้าลงไปเยอะแต่ก่อนนี้ไฟแลบ แต่ก่อนนี้บรรยายธรรมจนกระทั่งไอ้หนุ่มคนนึงบอกว่าบรรยายมันมากเลยหลวงพี่ แต่ขอโทษพูดให้ช้าหน่อยผมฟังไม่ทัน 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2563 ( 10:46:49 )

รายละเอียด

อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์แค่ระดับ 7 พอมีความรู้เรื่องจิตวิญญาณที่เป็นเทวนิยมเป็นศาสดาได้แล้ว ศาสดาที่เป็นเจ้าของทฤษฎีเจ้าของศาสนา เจ้าของลัทธิ ก็เป็นแต่ละศาสดา เจ้าลัทธิมีเยอะ ประกาศแล้วไม่มีพลเมืองจะมานับถือได้ก็มี แล้วคุณลักษณะคุณธรรมคุณวิเศษของแต่ละศาสดาก็ยังมีขีดคั่นอีก ที่ยังไม่ถึงโลกุตระก็มีเยอะ แม้ท่านที่มีความรู้ศาสนาพุทธมากมาแย้งก็มีได้ อิสรเสรีภาพ ภราดรภาพ สันติภาพ สมรรถภาพ บูรณภาพ สุนทรียภาพ กับสุญญภาพ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2562 ( 21:34:10 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:21:48 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:05:01 )

รายละเอียด

ศีลข้อ 1 เราทำได้ชัดเจนเห็นผล แม้แต่ศีลข้อ 2 หมายถึงอุตุนิยาม พีชนิยาม ไม่มีจิตวิญญาณ เป็นของต่างจากสัตว์คือไม่มีการจองเวรจองกรรม ไม่มีเวทนา ไม่มีวิญญาณ แต่กับของคุณก็อย่าทุจริต ไม่ว่าจะวัตถุข้าวของ เงินทอง เพชรนิลจินดา แม้แต่พืชพันธุ์ธัญญาหารต่างๆ ที่มันไม่ใช่ของเรา อย่าไปเอามาเป็นของเรา แน่นอน โดยการปล้นจี้ฆ่าแกงมันมา ฆ่าผัวมันเสียเอาเมียมันมา หรือจะใช้เล่ห์ด้วยวิธีใดก็ตาม

กุหนา สมัยโบราณเจงกิสข่านก็ฆ่า แล้วเอามาเลยทั้งแผ่นดิน ทั้งสิ่งมีชีวิต ทั้งคนสัตว์ ในยุคใหม่ซับซ้อน ใช้ลปนา ใช้คำพูดวาทกรรมโวหารเหมือนอย่างสมัยนี้ ไม่ใช่ฆ่าเองแต่สั่งให้คนฆ่าตายไม่รู้กี่ศพ ยังชำระคดีไม่หมดเลย ใช้อำนาจปัจจัยเป็นผู้สั่งฆ่า ตามกฎหมายผู้สั่งฆ่านั้นรับโทษมากกว่าอีก มีทั้งการฆ่าตัดตอน ฆ่าคู่ปฏิปักษ์ด้วยไม่รู้สีรู้สา เป็นปรากฏการณ์จริง(ฟีโนมีน่า) ที่เกิดในปัจจุบัน ยกตัวอย่างมาได้ ความอัศจรรย์ข้อที่ 1 ผู้ที่ยังไม่รู้ไม่เคยเห็นมายังไม่มีเลย แน่นอน จะไม่สามารถหลุดพ้นได้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562

เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:18:38 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:25:11 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:03:37 )

รายละเอียด

อาตมามาทำงานศาสนาทำให้คนถือศีลได้จริงแล้วถือศีลจนมีอธิจิต อธิปัญญา อธิมุติได้ ของศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล อย่างที่คุณใจธรรมเข้าใจอย่างนี้ ก็เข้าใจถูกว่าอาตมา คือพระโพธิสัตว์ที่แท้จริง การศึกษาพระพุทธเจ้านั้นมี ศีล สมาธิ ปัญญา จะมาก็เอามาให้ศึกษา จนเข้าใจว่าศีลจะต้องปฏิบัติอย่างนี้ ปฏิบัติแล้วเกิด อธิจิตอย่างนี้ จนเกิดปัญญา มีวิมุติ วิมุติญาณทัสนะ นี่คือของจริง สนใจทำเข้าใจถูกแล้วที่บอกว่าพ่อครูคือพระโพธิสัตว์ที่แท้จริง เพราะเอาศีลสมาธิปัญญามายืนยันให้คนปฏิบัติจนมีมรรคผล 

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยะธรรมบ้านราช เศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกอยู่ที่นี่ วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2563

เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 10:01:25 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:38:36 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:04:24 )

รายละเอียด

ประเด็นพระไตรปิฎก คุณไม่สนใจพระไตรปิฎกหรอก เพราะคุณเจอตัวพระไตรปิฎกแล้ว อาตมาคือตัวพระไตรปิฎกแต่คนเขาไม่เชื่อหรอก อาตมาอธิบายคำว่ากาย คำว่าบุญคำว่าสมาธิ เขาอธิบายกันผิดยึดผิด แต่อาตมามายืนยันความถูกต้องนี้ คุณเองไม่ต้องไปวุ่นวายในพระไตรปิฎกหรอก เพราะมีตัวพระไตรปิฎกแล้ว คุณฉลาด ที่รู้จักสิ่งที่จริงยิ่งกว่าพยัญชนะ เพราะว่ามีพยัญชนะอธิบายได้ พยัญชนะที่ขยายความหมายอีกเยอะแยะกว่าพระไตรปิฎก ซึ่งอ่านแล้วเข้าใจตีความได้ยากอาศัยอาตมาตีความดีกว่า คุณไปเจอพระไตรปิฎกที่ฉลาดกว่าพระไตรปิฎก ฉลาดกว่าคนที่ไปหลงพระไตรปิฎก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562

เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 14:31:19 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:26:24 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:55:23 )

รายละเอียด

อาตมานี่แหละคือ อภัพพะ คือเป็นคนที่ควรมีควรเป็น แต่มาเกิดกับประชาชนในยุคนี้ที่เป็นคนตาบอด เป็นคนตาถั่ว เป็นคนที่ตาไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นไม่เคยเข้าใจ ก็เลยมอง อภัพพะ เปิดสิ่งที่ควรมีควรเป็น อาตมาเป็นอภัพพบุคคล โดยสมมุติพยัญชนะ แต่สภาวะจริงๆ อาตมาเป็นคนควรมีควรเป็น แต่พยัญชนะ อภัพพ แปลว่าไม่ควรมีควรเป็น ส่วน อาภัพพะคือ จะว่าใช่ก็ไม่ใช่ จะว่าจริงก็ไม่จริง ดีไม่ดี สับสน เพราะฉะนั้นคนที่ยังไม่มีภูมิรู้ก็สับสนเลอะเทอะไม่เชื่อเราด้วย เพราะฉะนั้นผู้ที่จริง ผู้ที่เกิดมาเป็นพระอริยะเป็นพระโพธิสัตว์คนที่ยังไม่มีภูมิเป็นคนอาภัพ มองคนที่เป็นพระโพธิสัตว์ตัวจริง ไม่เอา คนนั้นก็ยังอาภัพอยู่ตลอดกาล รู้จักคนที่จริง คนที่ควรมีคนรู้จักอภัพพะ ก็ปฏิเสธอภัพพะ คนนี้คือคนอาภัพที่แท้จริง จบไว้แค่นี้ดีกว่าเดี๋ยวจะวน 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2562 ( 20:12:16 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:03 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:56:16 )

รายละเอียด

ที่บอกว่า สมณะโพธิรักษ์จะมาแทนที่สงฆ์ส่วนหลัก ประเด็นนี้คุณเข้าใจอย่างผิดมหันต์เลย อาตมาไม่เคยมีเศษเสี้ยวแม้นิดหนึ่งเลยว่า จะเข้าไปแทนที่สงฆ์ส่วนหลัก จะไปยึดตำแหน่งไปยึดอำนาจสงฆ์ส่วนหลัก ที่บริหารประเทศอยู่นี้ อาตมารู้ดีทุกอย่าง แม้แต่ในฐานะของตัวเอง แม้การยอมรับฐานะของสังคมในประชาชนคนไทย เพราะฉะนั้น อาตมาจะไม่ทำเลยเมื่อเหตุปัจจัยไม่สมบูรณ์ อาตมาจะไม่ไป ไปเป็นก็ขาหักขาเป๋เสียหายตัวเองไปไม่รอด อาตมาจะไม่ทำ เช่น ให้เป็นสังฆราช เป็นต้น ให้ไปบริหารสงฆ์หมู่ใหญ่ของประเทศ เป็นต้น อาตมาจะไม่ทำ 

เพราะประชาชนคนไทยคิดดูสิ ยังเป็นไสยศาสตร์ เดรัจฉานวิชา แม้แต่คดีเรื่องของสงฆ์ทุกวันนี้ ทิดกาโตะก็ดี ยังออกมาโครมๆ อาตมารู้ดีในสถานะองค์รวมของสังคมมันอยู่ขนาดไหน อาตมาไม่ไปทำหรอก ทำแล้วไปไม่รอด ดีไม่ดีจะตายคาเปล่าๆ เพราะอะไร มันมีเหตุปัจจัยเยอะ 1.อาตมาไม่หยาบพอ ที่จะไปทำกับสิ่งหยาบๆ พวกนั้น ประเด็นนี้สำคัญมาก อาตมาไม่หยาบพอที่จะไปทำเพราะฉะนั้นอาตมาไปทำไม่ได้เลย พวกหยาบกับหยาบเขาต้องทำด้วยกัน ผู้ดีก็ทำอย่างในมวลระดับผู้ดี ผู้ที่กลางๆ ก็ทำระดับกลางๆ ผู้ที่รุนแรงก็ทำอย่างดุดันรุนแรง ก็เป็นไปอย่างเหมาะสมตามแต่ละฐานะ 

เพราะฉะนั้นอาตมารู้ในขั้นตอนระดับของพวกนี้ดี อาตมาจะไม่ไปละลาบละล้วงในสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอันขาด ก็ดี ยินดีต้อนรับคุณเดชา อัมพร คุณก็พยายามส่งมาอย่างนี้ดีแล้วเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความรู้ จะได้อธิบายทุกๆฐานะให้กันฟัง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ต้องดูไปไม่ต้องไปดูไบ

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2565 ( 14:39:57 )

รายละเอียด

มีอายุมากขึ้น ไม่แข็งแรงเท่ากับอายุ20  30ก็ชัดเจน แต่ก็พยายามจะต่ออายุสังขารไปให้มากๆ เพื่อจะสาธยายสิ่งที่ผิดพลาด ย้ำความผิดพลาดให้ถูกต้อง เราก็จะได้ช่วยกันทำให้ดีขึ้นรักษาสภาพธรรมะพุทธเจ้าให้ได้นานยิ่งขึ้น อาตมาว่าไม่มีอะไรค้ำจุนโลกได้ยิ่งกว่าโลกุตรธรรม ทางโลกียธรรมมันมีแต่เมาๆซ้ำซ้อน ยิ่งซ้ำซ้อนลึกลับ โลกยิ่งอำพรางกัน ล้วงตับกินไส้กันอย่างเลือดเย็น ทั้งโลกมันเป็นอย่างนั้น แต่ทางธรรมนี้ไม่ใช่ ทางธรรมมีแต่จะช่วยกัน อย่างที่พวกเราเป็น มันก็มีคนอยู่ 2 ประเภท ประเภทอย่างที่เราเป็น กับประเภทอื่น แม้แต่เถรสมาคม เสียดายที่เขาทิ้งโลกุตรธรรมไปแล้ว แม้แต่ประชากร สมาชิกของนักบวชในศาสนาก็กลายเป็นนายทุน เป็นผู้นำโลกียะอย่างซับซ้อน เหมือนกับฆราวาส ซับซ้อนแล้วทำลายธรรมะพระพุทธเจ้าด้วย เช่นเอาคำว่าบุญไปปู้ยี่ปู้ยำ จนพังหมดแล้ว บุญเป็นเครื่องฆ่ากิเลส กลายเอาไปเป็นสมบัติที่คนอยากได้อยากมีอยากเป็น คนยิ่งมีบุญมากๆจะต้องหาบุญมากๆคือคนกิเลสมากๆ คนที่กิเลสน้อยลง บุญจะน้อยลง จนที่สุดคนไม่มีกิเลสคือคนไม่มีบุญเลย พูดสั้นๆง่ายๆ ถ้าเข้าใจแล้วจะรู้ว่าบุญเป็นสิ่งที่ไม่น่ามีเลย แต่มันกลับกัน ทำไม อธิบายธรรมะผิด บุญเป็นสิ่งที่ไม่น่ามี เป็นพระอรหันต์แล้วหมดบุญ ปุญปาปริกขีโณ บุญทำลายบาปหมดแล้ว เป็นคนสิ้นบุญสิ้นบาป พระพุทธเจ้าตรัสไว้ พระโพธิราชก็พูดไว้ เอาหลักฐานบาลีในพระไตรปิฎก มีหลักฐานยืนยัน

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอังคารที่ 1 มกราคม 2563

เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:06:58 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:30:51 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:02:36 )

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าสมณโคดมท่านไม่ประชุมอยู่ในภพนี้ สุทธาวาส อาตมาสมณะโพธิรักษ์ก็เช่นกัน จะรีบตายรีบเกิดแต่ก็อาจมีวิบากทำให้ช้าได้ แต่อาตมาสมณะโพธิรักษ์มาปางนี้น่าจะตายแล้วรีบเกิดเร็วได้ พวกคุณอย่ารีบตายก่อนละกันหากอาตมา 151 พวกคุณตายก่อนนะ

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562

เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 15:31:55 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:32:52 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:01:32 )

รายละเอียด

คือ  ทุกวันนี้ก็ทำเผื่อพอแล้ว ไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วก็เผื่อพอหรือทำแรงๆเผื่อพอ ทำทีเดียวเผื่อพอได้ ทำก็ต้องทยอยทำเผื่อพอ ที่จริงอาตมาทำเผื่อพอมา 50 ปีก็ไม่น้อยแล้วนะถ้าจะว่าไปแล้ว อาตมาเทศน์เกือบทุกวัน ที่จริงเทศน์ทุกวัน เทศน์ไม่ได้เป็นทางการ ตื่นขึ้นมาก็มีพวกเรามานั่งฟังเทศน์ คือพวกเราเป็นชาวธรรมะ เวลาจะพูดอะไรขึ้นมาไม่มีอย่างอื่นหรอกนอกจากธรรมะ ถามเรื่องธรรมะ ซักไซ้เรื่องธรรมะทั้งนั้น พวกเราในวงการพวกเราไม่ได้พูดเรื่องฟุ่มเฟือยเละเทะ ไม่หรอกมันมีแต่ธรรมะ ชีวิตแต่ละวันมีแต่เนื้อหาสาระทำมาทั้งนั้น แม้เราจะพูดเรื่องข้าว เรื่องน้ำ เรื่องบ้าน เรื่องเมือง เรื่องสังคม เรื่องดี เรื่องเลวก็แบ่งไปกับธรรมะ หรือผสมไปกับธรรมะทั้งนั้น จะไม่ใช่เรื่องที่จะไปแย่งกัน มันเป็นเดรัจฉานกถา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:31:04 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:35:19 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:38:19 )

รายละเอียด

ในหลวงร.9 ท่านก็ประพฤติให้ดู ซึ่งยาก ท่านเป็นในหลวงฯ ท่านจะเอาหลักธรรมศาสนาพุทธมาพูดก็จะข่มศาสนาอื่น แต่โพธิรักษ์พูดอย่างไม่ไว้หน้า แต่ไม่ระรานศาสนาอื่น แต่หากคนในศาสนาพุทธขบถต่อพุทธ อาตมาว่าหนักเลยนะ โดยเฉพาะผู้ที่รับผิดชอบศาสนาคือกระแสหลัก อาตมาต้องว่าต้องตำหนิให้รู้ให้แก้ไข หากอาตมาพูดผิดก็แย้งมา แต่แย้งยาก อาตมามีปฏิบัติจริง มีหมู่จริง พฤติกรรมสังคมจริง หมู่อโศกมีวรรณะ 9 จริงหรือไม่ เขาแย้งไม่ได้อย่างนี้ ซึ่งมันไม่ง่าย โลกทั้งโลกทำไมง่ายนะ สังคมหลักสูตรทฤษฎีที่ไหนเขาทำไม่ได้ มาจนอย่างอุดมสมบูรณ์คือมีส่วนกลาง พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้ สุดยอดของสังคมศาสตร์แล้ว อาตมาภูมิใจเอาทฤษฏีพระพุทธเจ้ามาให้พวกเราทำได้ ได้ผล ทั้งที่พวกคุณจะไปร่ำรวยหรูหรามากกว่านี้ เสพสุขมากกว่านี้ เขาโฆษณาทางทีวีเต็มไปหมด 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ยอดคนอาภัพที่มีระดับของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 21:13:57 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:37:07 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:57:27 )

รายละเอียด

 ก็มันเต็มไปหมดเลยในวงการศาสนาพุทธทุกวันนี้ว่าการปฏิบัติฌาน สมาธินั้นต้องไปปฏิบัติหลับตา อาตมาว่ามันออกนอกรีดออกนอกทางศาสนาพุทธ แล้วจะดันทุรังไปอย่างไรก็ไม่เกิดดันสุรังได้ ทุ มันคือไม่ดี จะดันไปอย่างไรก็ดันสุรังไม่ได้ สุระ นี้แปลว่าดีกล้าแข็ง มันดันทุรังมันไม่ดี มีแต่เสื่อม ให้หยุดได้แล้วนั่งหลับตา อาตมาต้องพูดแรงกับพวกนั่งหลับตา พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้พูดแรงอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:22:00 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:39:16 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:01:00 )

รายละเอียด

คุณฝึกได้เก่ง  สัมผัสปุ๊บเป็นอุเบกขาปั๊บเลย  ทำได้เก่งเป็นอุเบกขาได้เก่ง อุเบกขาคือ  บริสุทธิ์มีองค์คุณทั้ง 5 ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุกัมมัญญา  ปภัสรา   เหมือนอย่างอาตมา สัมผัสแล้ว  ก็เป็นอุเบกขาทันที  ส่วนใครจะมีอะไรต่ออะไร อาตมารู้ทันที มุทุธาตุ คนนี้มีอย่างนี้ ๆแล้วเราก็ร่วม  จะทำอย่างไรกับคนนั้นคนนี้  คนนี้จะทำอย่างนี้คืออะไร ด่าหนักๆ ก็คนนี้ทั้งด้านทั้งหนา ทั้งตีไม่แตก โง่เง่า ก็ต้องแรง ทำมากๆ  ทำซ้ำ  คนนี้ไม่ถึงขนาดนั้น  คนนี้เร็ว  เท่านี้ก็รู้ตัวแล้ว มันยากสำหรับคนที่ต้องซ้ำและเหนื่อย ทุกวันนี้อาตมาเหนื่อย สำหรับ คนที่โง่เง่า ไม่รู้ได้สักที ตีหัวแตก 7 เสี้ยว ก็ยังไม่รู้ตัว

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 19 ธันวาคม 2562 ( 19:40:04 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:42:49 )

รายละเอียด

เหมือนทั่วโลกเขาเรียนรู้ทฤษฎี  คาร์ล มาร์กซ์ ประเทศไทยเราไม่เอาแบบนั้น  เราเอาของพระพุทธเจ้า  คอมมิวนิสต์เข้ามาประเทศไทยไม่ได้  ทั้งที่เขาว่ามันจะมาแล้วแบบ  Domino  ก็เหลือประเทศไทยแหละมันไม่ยอมล้มลง  ทั้งที่น้ำหมักมันมาไม่รู้กี่ประเทศ นี่คืออภินิหาร  และประเทศไทยไม่ล้ม  ไม่เป็น คอมมิวนิสต์  นี่คือสิ่งที่มันเป็นเครื่องชี้บ่งของโลกเลยนะประเทศในโลกเลยนะ  ซึ่งมันเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเป็นเหตุการณ์จริง ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันไม่ใช่เรื่องโมเม ไม่ใช่เรื่องคิดเล่น พูดเล่น ไม่ใช่เรื่องนวนิยาย  แต่เป็นเรื่องจริง เพราะอะไร ประเทศไทยมีจิตวิญญาณ  หรือความรู้ของคนไทยมีความเข้มแข็ง  เป็นโดมิโนตัวที่ไม่ยอมล้ม  เพราะไม่เคยเล่นโดมิโน่ เราทำจริง เราเปรียบเทียบกับพฤติกรรมสังคมมนุษยชาติ  เราต้องเอาคำเหล่านี้  และพฤติกรรมจริงแม้แต่ โดมิโน่เป็นการเล่น  ก็เอามาอธิบายสัจธรรม  ธรรมะได้ และเราก็มีชีวิตที่จะมีพฤติกรรมสังคมจะเรียกว่าเป็นระบบ หรือวิธีการจะเรียกว่า เป็นประชาธิปไตย  คอมมิวนิสต์ หรือเผด็จการก็แล้วแต่มันมีจุดมุ่งหมาย  ความต้องการ

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 14:33:48 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:48:55 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 13:59:20 )

รายละเอียด

เหมือนทั่วโลกเขาเรียนรู้ทฤษฎีคาร์ล มาร์กซ์ ประเทศไทยเราไม่เอาแบบนั้น เราเอาของพระพุทธเจ้า คอมมิวนิสต์เข้ามาประเทศไทยไม่ได้ ทั้งที่เขาว่ามันจะมาแล้วแบบ Domino ก็เหลือประเทศไทยแหละมันไม่ยอมล้มลง ทั้งที่น้ำหนักมันมาไม่รู้กี่ประเทศนี่คืออภินิหาร และประเทศไทยไม่ล้มไม่เป็นคอมมิวนิสต์ นี่คือสิ่งที่มันเป็นเครื่องชี้บ่งของโลกเลยนะ ประเทศในโลกเลยนะ ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเป็นเหตุการณ์จริงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันไม่ใช่เรื่องโมเม ไม่ใช่เรื่องคิดเล่นพูดเล่นไม่ใช่เรื่องนวนิยาย แต่เป็นเรื่องจริง เพราะอะไร ประเทศไทยจิตวิญญาณหรือความรู้ของคนไทยมีความเข้มแข็ง เป็นโดมิโนตัวที่ไม่ยอมล้ม เพราะไม่เคยเล่นโดมิโน่ เราทำจริง เราเปรียบเทียบกับพฤติกรรมสังคมมนุษยชาติ เราต้องเอาคำเหล่านี้และพฤติกรรมจริง แม้แต่โดมิโน่เป็นการเล่นก็เอามาอธิบายะสัจธรรม ธรรมะได้ และเราก็มีชีวิตที่จะมีพฤติกรรมสังคม จะเรียกว่าเป็นระบบหรือวิธีการจะเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยคอมมิวนิสต์หรือเผด็จการก็แล้วแต่ มันมีจุดมุ่งหมาย ความต้องการ 

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2563

เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2563 ( 10:09:37 )

รายละเอียด

ซึ่งพ.ศ.2500 กว่าแล้วนี้มนุษย์ในโลกยุคนี้ หรือชาวพุทธในยุคนี้นั่นแหละไม่มีใครรู้จักรู้แจ้งรู้จริง“โลกุตรธรรม”แล้ว 

เมื่ออาตมาผู้เป็น“นิยตโพธิสัตว์”แสดงธรรมของพระพุทธเจ้าออกมาสู่โลกยุคนี้ ก็แน่นอนว่า ย่อมไม่เหมือน“โลกียธรรม”ที่ปราชญ์และเหล่าครูบาอาจารย์ชาวโลกในยุคนี้

ทั้งผู้ที่เป็นอาจารย์ฆราวาสหรือเป็น“พระ” ที่ได้พากันยึดมั่นถือมั่นอย่างแน่นเหนียวหนักหนากันอยู่ มันจึงขัดแย้งกันจริงๆ 

เพราะคนในยุคนี้มีอยู่เป็นอยู่ก็แต่“โลกียธรรม”แถม“โลกียธรรม” อันหมายถึง “ลาภ,ยศ,สรรเสริญ,สุข” ก็เบ่งบานงอกงามเจริญไพบูลย์ยิ่งนักอีกด้วย 

พุทธในยุคนี้จึงถูก“โลกียธรรม”เป็นใหญ่ครอบครองบริหารบัญชาการวงการศาสนาพุทธอยู่!

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 507 หน้า 377

เวลาบันทึก 12 กรกฎาคม 2564 ( 09:03:11 )

รายละเอียด

เป็นสยังอภิญญา ไม่ได้เอาความรู้นี้มาจากอาจารย์คนใดในชาตินี้ ไม่มีศิษย์พี่ศิษย์น้องอะไร มีความรู้ของตัวเองมาแต่ชาติปางก่อนสะสมมา ใครเชื่อก็แล้วแต่ ใครไม่เชื่อก็แล้วแต่ คนเชื่อก็ได้ประโยชน์ คนไม่เชื่อก็เสียประโยชน์ไป ไม่มีปัญหาเราก็ทำงาน อยากให้คนมาสมัครใจมีฉันทะมีความยินดีเอง พอใจเองมาเอา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562

เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:53:39 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:50:26 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:39:03 )

รายละเอียด

  อาตมาภูมิใจที่เกิดมาในยุคนี้แล้ว ซึ่งเป็นพระเป็นเจ้า มันไม่เอาภาระ มันไม่ได้ปฏิบัติตรงตามพระพุทธเจ้าท่านประสงค์ พุทธประสงค์ แต่อาตมามาทำได้ ตามธรรมวินัย  ตามพุทธประสงค์ของพระพุทธเจ้า ก็เลยให้คนมาบวชแล้วก็มาปฏิบัติตน เพื่อที่จะลดกิเลส  ลดกิเลสแล้วก็จะต้องรับผิดชอบ  เป็นผู้สนองประชาชนที่เขาให้ข้าวให้น้ำ  เลี้ยงดูเอาไว้ด้วย  ไม่ใช่วันนี้ออกป่าเขา  ทำไม่เอาภาระอะไร ต่างๆนานา ซึ่งมันเป็นหนี้  บวชอย่างนั้นเป็นหนี้  ท่านใช้ประโยคว่า  ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธา แล้วยังประกอบเดรัจฉานวิชชาอีก 

(ส.ฟ้าไท ว่า หากเป็นพระทุศีลแล้วจะไปกินก้อนข้าวชาวบ้าน ให้กินก้อนเหล็กเผาไฟแดงเสียยังดีกว่า )  มันเป็นวิบากแท้จริงที่ซับซ้อน  อีกอย่างหนึ่ง  ก็จะกลายเป็นเรื่องเล่น  มาบวช  สามเดือน สมัยพระพุทธเจ้าไม่มีหรอก  บวชเข้าพรรษา แค่ 3 เดือน  ดีไม่ดี บวชเล่น  บวชแค่ 15  วัน  บวชหน้าศพ  บวชดารา  บวชเท่ๆ  ไม่มีหรอก  คือมาทำให้เลอะเทอะ  เห็นการบวชเป็นของเท่  แต่ตัวเองบวชแล้ว  ไม่ได้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย  ดีไม่ดีบอกว่า ทำพิธีบวชแล้วได้บุญได้กุศลอย่าง ธัมมชโยทำ  บวชทีละร้อย  ทีละพัน  ปีละหมื่นคน  แต่ว่าเป็นการทำให้เลอะเทอะ  อาตมาพูดได้เลยว่า  พระเหล่านั้น  ไม่ได้จริงจัง  มาทำสังฆาทิเสส  โดยเฉพาะข้อที่สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง  โดยที่เขาไม่ประสีประสา  บางที่เขาก็อดไม่ได้หรอกไม่ถึงเดือนเขาก็ทำ  แล้วก็กลายเป็นพระไม่บริสุทธิ์  อปกตัตตะ  อยู่ปนกับพระปกตัตตะเละไปหมด  อาตมาจึงอยู่ร่วมกับสังคมอย่างนั้นไม่ได้  ก็เลยออกมา  เขาทำปาราชิกกันเยอะแยะ โดยเฉพาะเรื่องเงิน  ปาราชิกกันมหาศาล

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 15:03:42 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:53:34 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:52:24 )

รายละเอียด

ที่อาตมาเบิกบานตลอด มันเป็นสัจจะของอาตมาที่เป็นอโศก แม้วิรชะก็ไม่เหลือแล้ว เกษม เป็นมงคลอันสุดท้ายในมงคล 38 อโศกเป็น 36 วิรชะ 37 ส่วน เกษมเป็น 38 ของเราจะมีลักษณะ 36 หลายอย่าง อาตมาออกบวชอายุ 36 อาตมาใช้หลักนักษัตร 12 12 12  อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ปฏิบัติธรรมกับอาหารในพระสูตรต่างๆ วันพุธที่ 4 ธันวาคม2562

เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 19:57:55 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:08:26 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:41:48 )

รายละเอียด

  สิกขมาตุกล้าข้ามฝันเปิดประเด็นว่า หากท่านจะเพลามือรออายุ 90  ค่อยมาเร่งจะได้ไหม

พ่อครูตอบว่ามันก็จะเรื้อไป คุณพัก3 ปีมาก็ทำต่อไม่ได้ ยังไม่ปลงสังขาร ยังไม่ถึงขนาดปลงสังขารจากโรงงานก็ไม่ขนาดนั้น ปลงเปลี้ย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:47:16 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:55:50 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:49:47 )

รายละเอียด

เมื่ออาตมานำ“โลกุตรธรรม”ของพระพุทธเจ้า ออกมาประกาศสู่สังคมพุทธ

มันจึงแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งความหมายของธรรมะ และทั้งสภาวะของธรรมะ

อาตมายืนยัน“โลกุตรธรรม” แต่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดในประเทศไทยยืนยัน“โลกียธรรม”ซึ่งมันก็เหมือนศาสนาทั้งหลายในโลกเขาอยู่เท่านั้น 

แถมมีเดรัจฉานวิชา มีไสยศาสตร์มากหนักหนาสาหัสกว่าศาสนาอื่นเขาอีกด้วย ก็น่าสงสารศาสนาพุทธอย่างยิ่ง เมื่อพุทธกระแสหลักประกาศธรรมเป็น“โลกียธรรม”เท่านั้น

ส่วนอาตมาประกาศธรรมเป็น“โลกุตรธรรม” มันจึงต้องพิสูจน์กันอย่างหนักหนาเป็นธรรมดา ซึ่งอาตมาก็เต็มใจยิ่งๆ มุ่งมั่นที่จะพิสูจน์สัจธรรมนี้แน่ยิ่งกว่าแน่

มาถึงยุคนี้ ปางนี้อาตมายืนยันว่าตนเป็น“สยัง อภิญญา”ซึ่งคือผู้มีภูมิธรรมของ“โพธิสัตว์”ระดับ 7 “นิยตโพธิสัตว์”ขึ้นไป 

ที่อาตมาประกาศว่า “ตนเองเป็นนั้น” จะแท้หรือไม่แท้ ก็ต้องพิสูจน์“ตัวเอง”กันไป จนกระทั่งจะชัดเจนพอ ถึงขั้นเห็นได้ในความเป็น“อภิญญา”ที่อาตมามี“เอง”เป็น“สยัง อภิญญา”จริงหรือไม่?

“นิยตโพธิสัตว์”คือ ผู้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าที่เที่ยงแท้แล้ว นั่นก็คือ ผู้สอบเข้ามหาวิทยาลัยจะทำความเป็นพระพุทธเจ้าได้แล้ว

(สูงกว่า “อนิยตโพธิสัตว์”ที่ยังเป็น“โพธิสัตว์ระดับ 6”ขั้นมัธยมอยู่ ส่วน“นิยตโพธิสัตว์”เริ่มสอบเข้ามหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้าขั้นอุดมศึกษาได้แล้ว) 

เป็นแต่ว่า ตนเองนั่นแหละจะพากเพียรอุตสาหะจนสำเร็จได้หรือไม่เท่านั้นเอง

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 510 หน้า 379

เวลาบันทึก 12 กรกฎาคม 2564 ( 09:15:08 )

รายละเอียด

หากไม่มีอาตมาพูดพวกคุณจะรู้เองได้ไหม ..ไม่ได้ แต่พูดไปก็เหมือนกับยกย่องตัวเอง จะรู้ว่าอาตมาจริงหรือไม่จริงพวกคุณจะรู้ ถ้าไม่จริงอาตมาจะเอาความจริงที่ไหนมา คุณเองก็ไม่มีทางที่จะรู้ความจริงนี้หรอกใช่ไหม อันนี้ต้องยอมรับ นอกจากคนอวดดีว่า ข้าก็รู้วะ แต่ถ้าเอ็งรู้ดีก็ควรแสดงออกมาสิ มันขาดหายไปจากสังคม แสดงออกมาคนอื่นจะได้รู้บ้าง ขนาดอาตมาแสดงออกมา คนอื่นก็ยังไม่ค่อยเชื่อ อาตมาบอกว่าตัวเองเป็นตัวจริงเขาก็บอกว่าหมั่นไส้อีก แต่ถ้าคนรู้ว่าอาตมาพูดความจริง จะมายืนยันว่าชาตินี้ บวชแล้วมาแสดงธรรมแล้ว แม้สิริมหามายาก็เป็นความจริง ทำไมไม่เคยพูดไม่จริงไม่เคยแสดงสิ่งที่ไม่จริง แม้บางทีอาตมาจะเล่นลูกโป่งน้ำลาย  แต่ก็คือความจริงที่อาตมาแสดงว่าจะไม่ได้มีการเต๊ะท่า ถ้าหากอาตมาเต๊ะท่า พวกคุณก็เกรงเข้าไม่สนิทเข้าไม่ติดหรอก นายภูมิพุทธ นายธัมมะ ธัมโม ไม่กล้ามากราบหรอก แต่พวกที่เขาไม่กล้าก็มีเชิงหนึ่ง มีภูมิสู้นายธัมมะ ธัมโม ไม่ได้หรอก แม้รู้แล้วแต่ไม่กล้าก็คือภูมิน้อยกว่านายธัมมะ ธัมโม อาตมาเป็นคนไม่น่ากลัวเป็นคน friendly มิตรสหายดีเป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของพรหมจรรย์นะ ศิลปะกับทางสายกลางเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรวันนี้เอาแค่นี้ก่อน เพราะว่าเรื่องทางสายกลางกับศิลปะนี้ยังยากที่จะอธิบาย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช ศิลปะในการใช้ชีวิตให้เกิดปัญญามัชฌิมา  วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 17:47:59 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:58:38 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:45:34 )

รายละเอียด

ไม่ใช่ว่าอาตมาพูดมาก่อนแต่เพิ่งยืนยันอรหันต์มาไม่กี่ปี แต่อวดเป็นโพธิสัตว์อวดมาก่อน แต่เขาไม่ถือเท่ายืนยันอรหันต์ เขาถือว่าอรหันต์สูงกว่าโพธิสัตว์ เขาเลยตีความว่าอาตมาไม่ใช่อรหันต์ อาตมาก็ขยายความไม่ใช่บอกเฉยๆ พระโพธิสัตว์ไม่ใช่ปุถุชน แต่พวกเถรวาทเข้าใจว่าโพธิสัตว์คือปุถุชน ถ้าเป็นโพธิสัตว์แล้วจะเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ เพราะว่าเขาเชื่อว่าอรหันต์ตายแล้วต้องสูญ เป็นอุจเฉทิฏฐิของเถรวาท จึงหมดผู้สืบทอดอรหันต์ ศาสนาพุทธเลยมีแค่อรหันต์ เป็นอรหันต์เสร็จแล้วตายต้องสูญ ก็สอนได้ชาติเดียวไม่มีใครต่อเลยศาสนาจึงด้วนกุดสั้น เข้าใจกันอย่างนี้ สองพันห้าร้อยกว่าปีจึงหมดเชื้อศาสนาพุทธอาตมาเลยต้องมาต่อเชื้อ สถาปนาโลกุตตรธรรมขึ้นมาอีก เพราะเขาปู้ยี่ปู้ยำศาสนาพุทธไว้มากเลย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ปฏิบัติธรรมกับอาหารในพระสูตรต่างๆ วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:27:36 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 13:59:56 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:44:50 )

รายละเอียด

และเมื่ออาตมาได้นำเอา“โลกุตรธรรม”ของพระพุทธเจ้ามาพูดขึ้นอธิบายขึ้น ก็มีคนในยุคนี้ ยุคเดียวกันนี้ที่เป็นชาวพุทธผู้แสวงหา หรือผู้

ตั้งใจศึกษาพุทธธรรมที่ไม่มีอคติในตัวอาตมา ก็สามารถเข้าใจได้ เข้าใจดี 

พากันนำไปปฏิบัติจนบรรลุความเป็น“โลกุตรธรรม” พากันลดละหน่ายคลายจางจากลาภยศสรรเสริญสุข ปล่อยวางการยึดมั่นถือมั่นหลงหัวปักหัวปำอยู่กับลาภ ยศ สรรเสริญ สุขหนักหนาออกมา (เนกขัมมะ ; ซึ่งไม่ใช่แค่ออกมาบวชเป็นภิกษุเท่านั้น แต่ออกมาปฏิบัติออกจากกาม ออกจากนิวรณ์ 5 กันอย่างเอาจริงเอาจัง ทั้งฆราวาสหญิงชาย) จากความหลงนั้น มาเป็นคน“โลกุตระ” เป็นคนเจริญอาริยภูมิ จนกระทั่งมี “วรรณะ 9”มาอยู่รวมตัวกันเป็นชุมชนสังคม“สาธารณโภคี” พิสูจน์โลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าได้จริงแม้แต่ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ทีเดียว

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 482 หน้า 358

เวลาบันทึก 25 มิถุนายน 2564 ( 14:46:43 )

รายละเอียด

อาตมานี่ขอยืนยันว่าเป็นผู้รับใช้ผู้อื่นตลอดเวลา ตัวเองไม่ได้รับสิ่งตอบแทนเลย แต่พวกเราเองก็ต้องอนุเคราะห์เลี้ยงท่านไว้ ทุกวันนี้ก็เกินพอ จะกินจะใช้จะมีอะไรต่ออะไรเกินพอ อาตมาไม่ได้ไปกล่าวอยากได้ เพชร 10 กะรัตหรอก แต่อย่าพูดเลย สิ่งที่เป็นพอสมควร แค่พูดก็พร้อมสนองราคาเป็นล้านก็ได้ แต่อาจไม่เร็วเท่าไหร่ แต่คนที่เห็นว่าเหมาะสม อาตมาควรได้อันนี้ก็ให้เลย เขาจะหามาให้เลย ถ้ายิ่งมีคนศรัทธา เขามีสตางค์มีความจริงขอ10 ล้านเขาก็หาให้ได้ ซึ่งเป็นสัจจะที่คนเราปฏิบัติแล้วจะมีสิ่งที่สนับสนุนจะเรียกว่าบารมีก็ได้ มาส่งเสริมอนุเคราะห์มาอุดหนุนจุนเจือช่วยเหลือ support  จะมีอย่างนั้นจริงๆ อาตมาภาคภูมิใจที่มาทำงานศาสนาแล้วไม่ได้พาพวกเราเรี่ยไรตลอด 50 ปี ใครจะมาศรัทธาเลื่อมใส คนจะมาทำทานมาบริจาคกับพวกเราง่ายไหม ...ไม่ง่าย เรามีหลักเกณฑ์ จะหมั่นไส้เรา  แอค ชิปเป๋ง ต้องท่านั้นท่านี้ต้องมาที่นี้ 7 ครั้ง  อ่านหนังสือ 7 เล่มเป็นต้น บางคนอาจจะรู้สึกหมั่นไส้แต่ไม่แสดงออก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:34:28 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:03:29 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:48:08 )

รายละเอียด

จนกระทั่งเกิดชุมชนหมู่บ้านที่มีเศรษฐกิจขั้น“สาธารณโภคี” อันเป็นสังคมที่แต่ละคน ที่เป็นสมาชิกกลุ่มชุมชนสาธารณโภคีทำงานฟรีเอาผลผลิตและรายได้เข้าส่วนกลางด้วยกันทั้งชุมชนนี้ ล้วนสมัครใจมาเป็นสมาชิกด้วยตน“เอง”เพราะมี“ปัจเจกภูมิ”ของตนเองแท้ๆ

ผู้ที่สั่งสม“ปัจเจกภูมิ”ได้มากจนกระทั่งถึงขีดเข้าเขตความเป็น“รู้เอง-เป็นเอง”ได้จึงจะชื่อว่า “สยัง อภิญญา”ซึ่งคำว่า “สยัง อภิญญา”นี้ หมายถึง ผู้มีภูมิธรรมขั้น“ปัญญาอันเป็นโลกุตรธรรม”ในตนเองแล้ว คือ ผู้มี“ความรู้ในความเป็นโลกุตรธรรมในตนเอง” โดยไม่ต้องอาศัยใครถ่ายทอดให้ ไม่ต้องได้ยินได้ฟังจากผู้รู้แจ้งจริงใน“โลกุตรธรรม”ใดก็รู้ได้ด้วยเองได้แล้ว

เป็นผู้เกิดขึ้นในโลกในยุคใดก็มี“โพธิ(ความรู้โลกุตระ)” มีภูมิรู้เป็นโลกุตรธรรมที่เป็น“เอง” มี“เอง(สยัง)” จะมีติดตนติดตัวของตนเองมาเลย เพียงแต่ว่า “เป็นของตนเอง”อยู่ในขั้น“อภิภู”เท่านั้น ยังไม่ถึง“สยัมภู”

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 483 หน้า 359

เวลาบันทึก 25 มิถุนายน 2564 ( 14:51:55 )

รายละเอียด

ในยุคนี้ศาสนาพุทธผ่านมา 2500 กว่าปี อาตมาเกิดมาในยุคนี้ อาตมาจึงมาอธิบายคำว่าปัญญา ก็ขอยืนยันว่ามั่นใจว่าที่อธิบายไปถูก การเอาความเฉลียวฉลาดทางโลกีย์ มาปนเปกับความเฉลียวฉลาดทางปัญญามันก็แยกไม่ออกมันไม่ชัดเจน คุณก็เสียประโยชน์ คนที่ไม่ยอมแยกว่าปัญญามันเป็นความเฉลียวฉลาดโลกุตระ คนไม่ทำความเข้าใจในปัญญาโลกุตระ ความเฉลียวฉลาดโลกุตระมันเป็นอย่างนี้เอง มันต่างจากโลกียะอย่างนี้ หากไม่สามารถแยกอันนี้ได้คุณไม่มีทางบรรลุนิพพาน 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2563

เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 14:24:32 )

รายละเอียด

สิ่งเหล่านี้อาตมาใช้เป็นรูปธรรม เป็นสัญลักษณ์ แม้แต่สังขยาเลข ชื่อคน แต่ผู้อื่นอย่ามาเล่นอย่างอาตมา มันไม่เข้าท่ามันจะเสียหายไปมาก เรายังไม่ใช่ผู้ที่จะใช้อันนี้ได้ ง้าวกวนอู 80 ชั่ง ต้องมีพลังงานเพียงพอถึงจะใช้ได้ต้องมีพลังงานอย่างนั้น ต้องมีพลังงานเหมือนแซมซั่น 

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 สู่แดนทองฉลอง 50 ปีโพธิกิจ วันที่ 1 มกราคม 2563

เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:38:44 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:04:44 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:45:57 )

รายละเอียด

อาตมามารับผิดชอบร่วมกระทำของพระพุทธเจ้า ทุกวันนี้โลกุตระธรรมของพระพุทธเจ้ามันหมดไปแล้ว ชิบหายวายป่วงที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าโลกุตรธรรมจะสูญหายไปเหมือนกลองอานกะ ต่อไปคนจะมาเปลี่ยนแปลงกลองด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่ประกอบอยู่เป็นตัวกลองอานกะ เดี๋ยวนี้ไม่มีของเก่าแล้วไม่เหลือแล้ว ถูกเปลี่ยนหมดเอาของปลอมมาประกอบ มาแทนหมดเลยไม่เหลือ  สองพันห้าร้อยกว่าปีเอง แต่ที่เอามาใส่เข้าไปก็เป็นพิษเป็นภัยด้วย เห็นแล้วสังเวชใจน่าเศร้าใจมาก

หนังสืออ้างอิง

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:09:21 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:05:24 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:43:52 )

รายละเอียด

อาตมาจึงไม่แปลกใจว่าทำไม อาตมาเป็นพ่อท่านอยู่ดีๆ ก็มาให้อาตมาเป็นพ่อครู อาตมาก็ไม่แปลก ถ้าหากว่าเป็นแต่พ่อท่านก็จะได้แต่เลี้ยงพวกเรา บอกว่าเลี้ยงอย่างเดียวไม่พอ มันต้องสอนด้วย ก็เลยจากพ่อท่านมาเป็นพ่อครูซะ อีกอันหนึ่ง ตอนนี้ก็เลยเป็นทั้งพ่อท่านและพ่อครู เห็นไหมว่าทุกอย่างมันลงตัว มันเป็นเอง อาตมาไม่ได้ไปหาเรื่องตั้งชื่อตัวเองว่าท่านหรือพ่อครู พวกคุณนั่นแหละ มาให้ ตั้งให้ ยกให้ จะเรียกว่ามายัดเยียดให้ก็ได้ เอานะ พ่อท่านก็เอาพ่อครูก็เอา จริงๆก็คือมาอยู่ในฐานะผู้ที่จะเลี้ยงดูฟูมฟัก อาตมาเกิดมาชาตินี้เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ เป็นนักรบพ่อลูกอ่อน มือหนึ่งอุ้มลูก มือหนึ่งแกว่งดาบ โอ้โห..ยากมากเลยเลี้ยงดูพวกคุณคือลูก แล้วต้องป้องกันศัตรู รบ โดยที่อาตมาไม่เคยทำร้ายใครหรอก ป้องกันตัวเท่านั้น ขอเลี้ยงลูกให้โตเท่านั้น อย่ามารุกรานข้าพเจ้าเลย อย่ามาทำร้าย อย่ามาทำให้ไม่มีแรงเลี้ยงลูกเลย แค่เลี้ยงลูกก็ยากอยู่แล้วเพราะว่ามีลูกเป็นจำนวนพันเป็นเอนก เป็นพระโพธิสัตว์

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 ผู้ข้องอยู่ในถ้ำอันไกลจากวิเวก วันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:12:56 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:06:45 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:42:57 )

รายละเอียด

คนที่ไม่ได้ศึกษา ไม่ได้ฟังสัตบุรุษ อาตมาพูดให้คุณฟัง จะรู้ว่าอาตมาเป็นสัตบุรุษ ตลอดเวลาที่คุณเสพความสุขก็บำเรออัตตาใส่จิตตลอดเวลาเป็นปุถุชน น่ากลัวไหม ไม่ได้ฟังสัทธรรมจากสัตบุรุษ ก็งมงายอีกไม่รู้กี่เท่า แล้วก็เป็นหลงอยู่ในลัทธิเทวะนิยม สุดท้ายก็เป็นลูกศิษย์พระเจ้า อยู่ในความสุขสวรรค์วิมาน อยู่ในแดนสุขาวดีแดนสุขนิยม มีพระเจ้าเป็นเจ้าของใหญ่ ตายแล้วต้องไปอยู่กับตรงนั้น นี่คือความไม่รู้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ฌานวิสัยของอรหันต์และโพธิสัตว์ ศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2562 ( 15:51:15 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:09:09 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:41:20 )

รายละเอียด

อาตมาก็ทำงานของอาตมา เพราะอาตมาเป็นโลกุตรบุคคล เป็นตัวแทนของศาสนาพุทธอาตมาก็เอาศาสนาพุทธตามภูมิ ยืนยันว่าเป็นโลกุตระอย่างไร ก็ได้อธิบายโลกุตระบุคคลที่เป็นอาริยธรรมของพระพุทธเจ้า เมื่อได้อธิบายออกไปแล้ว คนที่เป็นอาภัพพบุคคลยุคนี้ก็เลยตามมาเจอ อาภัพพบุคคล ตัวจริงก็เลยบอกว่าใช่ เลยมาเรียนรู้ตามที่อธิบายแม้จะค้านแย้งกับบุคคลที่ได้รับความนิยมชมชื่นจากสังคม พวกคุณก็เลยกลายมาเป็นอาภัพพบุคคลด้วยกัน …น่าสงสารตัวเองไหม…พวกคุณไม่น่าสงสารตัวเองหรอก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ยอดคนอาภัพที่มีระดับของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2562 ( 20:47:34 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:09:57 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:40:52 )

รายละเอียด

แต่อาตมาก็รู้ตัวแล้วว่า ตนเป็น“โพธิสัตว์”ที่จะมาทำงานสืบทอดพระศาสนาของพระพุทธเจ้าสมณโคดม ตนเองตั้ง“นามแฝง”ของตนว่า“โพธิรักษ์”ด้วยตนเอง เริ่มทำงานทางธรรมมาตั้งแต่เป็นฆราวาสกระทั่งได้ออกบวชมาใช้ชีวิตทางธรรมเต็มที่ กระทั่งถึงปัจจุบันนี้ และมาได้อ่านพบคำตรัสยืนยันนี้ในพระไตรปิฎก

“โพธิรักษ์”แปลว่า “ผู้รักษาความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า”

“โพธิ”หมายถึง “ความรู้ขั้นโลกุตรธรรม” ที่ไม่มีมนุษย์ในโลกคนใดสามารถ“รู้เอง”ได้

เพราะเป็น“ความรู้ที่เป็นความจริงสูงสุดในมหาจักรวาลเอกภพ”ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์“ตรัสรู้เองโดยชอบด้วยพระองค์เอง”เท่านั้น 

อาตมาจึงยิ่งมั่นใจชัดเจนยิ่งๆในตนเองว่า ตนเองคือ “สยัง อภิญญา”ผู้ที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมตรัสให้เป็นที่ปรากฏไว้ใน“มหาจัตตารีสกสูตร”ดังกล่าวแล้วนี้ ชนิดที่มี“สำนึก”ต่อหน้าที่นี้ที่สุด

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 513 หน้า 381

เวลาบันทึก 12 กรกฎาคม 2564 ( 09:31:07 )

รายละเอียด

 เอาหลักวิชามาจับอาตมาทำครบ 8 อ. อาตมาเคยพูดตั้งแต่หนุ่มๆว่า คนแก่อายุ 80 ก็แก่นะ คนแก่ที่คล่องแคล่ว อาตมาดูแล้วศรัทธา พอมาเจอกับตัวเองเข้าก็เลยศรัทธาตัวเอง 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563

เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:20:18 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:10:40 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 08:42:08 )

รายละเอียด

ทำไมเขาเห็นดีเห็นงามมาช่วย มาสนับสนุน มาซัพพอร์ต มาเกื้อกูลอยู่นะอะไรพวกนี้ มันก็เป็นสัจธรรมของแต่ละคน มีได้ จะว่าไปยกตัวอย่างอาตมานี่ อาตมาไม่ได้ไปทำงานรับจ้างเลย แต่อาตมาก็ได้ คนเอามาให้ตามบารมีที่อาตมามี อาตมาเคยพูดด้วยซ้ำไปว่า ในชีวิตนี้อาตมาไม่เรี่ยไร ไม่มีวิธีเรี่ยไรใดๆ ด้วยหยาบด้วยกลางด้วยละเอียด ไม่ได้ทำ 

การได้มานี่ได้มาโดยบารมีจริงๆ เขาเห็นว่า พฤติกรรมอย่างอาตมาทำ สรุปกันที่ สาธารณโภคี แล้วอาตมาก็พูดและทำจริงว่า เงินที่เขามาบริจาคที่อาตมารับมา อาตมาจะไม่ใช้เงินเหล่านี้ ส่วนตัวเลย เคยพูดไปหลายทีแล้ว แม้อาตมาจะป่วยเจ็บจะตายจะต้องใช้เงินนี้จ่าย เลี้ยงตัวก็ไม่เอา จะกิน หิวหรือจะตายแล้วไม่ได้กินนี่จะต้องใช้เงินนี่ซื้ออาหารให้กินก็ไม่เอา ไม่กิน ป่วยก็ไม่รักษาไม่ใช้เงินนี้ไปแลกไปจ่าย ถ้าใครคนอื่นๆไม่ช่วยให้กินหรือไม่ช่วยรักษา ตายยอมตาย อาตมาเคยพูดหลายทีแล้วเรื่องนี้ แล้วก็ทำมาจริงๆ 

ซึ่งมันเป็นการยืนยันพิสูจน์ว่า คนเรานี่มีบารมี มีสิ่งที่เป็นกรรมวิบากพวกนี้นี่จริง อาตมาก็ต้องการพิสูจน์กรรมวิบากของอาตมาเหมือนกัน แล้วอาตมาก็มั่นใจว่า ชาตินี้เรามีวิบาก อยู่ได้เป็นไปได้อย่างที่เป็น จนกระทั่งมาอยู่ในหมู่พวกเรานี่ สมณะนักบวชแม้แต่สิกขมาตุก็ไม่มีใครเก็บเงินเป็นส่วนตัว ให้กองกลางหรือมาให้อาตมา มันก็อันเดียวกันคือให้อาตมาหรือให้กองกลาง หลายคนรับแล้วบางทีก็ไม่มาให้อาตมา ก็เอาไปให้กองกลาง บางคนก็มาให้อาตมาก่อน อาตมาก็รวมไปให้กองกลางอยู่ดี อาตมาไม่ได้มีของตัวเอง ไม่ได้รับทรัพย์มาเป็นของตัวเองไว้ ก็ให้ทางหน่วยฆราวาส พวกเราใช้ฆราวาส เป็นหน่วยการเงิน ซึ่งมีฆราวาสเป็นคนดูแล 

เพราะฉะนั้นอาตมาก็ภาคภูมิใจ ในชีวิตนี้ อายุจนป่านนี้ ทำงานศาสนามา 53-54 ปีนี้ บริสุทธิ์ ทำแม้การเงินนี่แหละได้บริสุทธิ์ อย่างน่าภาคภูมิใจมาจนถึงทุกวันนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ ปลุกธรรม ตอบปัญหาผ่ามิจฉาอาชีวะ 5 วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 ที่บแรม 12 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 

เวลาบันทึก 12 มกราคม 2567 ( 18:43:53 )

รายละเอียด

อาตมาภาคภูมิใจที่ไม่ได้พาเรี่ยไร แต่ศาสนาพุทธทุกวันนี้ทำการเรี่ยไรโดยตรงโดยอ้อมอย่างเช่นธัมมชโย เป็นการใช้ลีลากลเม็ดเด็ดพรายทุกอย่างเลย ที่จะรีดนาทาเร้นจนคนปิดบัญชีเอามาบริจาคหมดเลย มันใจดำอำมหิตขนาดไหน เขาพูดจริงทำจริงไม่ได้พูดเล่นนะ คือเขานึกอย่างนั้น คนไหนก็แล้วแต่ แม้เขาจะกล้าทำทาน ถอนจากบัญชีมาทำทานหมด ก็ไม่หมด ไม่อย่างนั้นเขาจะอยู่ได้อย่างไร แต่คนที่ใจดำอำมหิตรีดนาทาเร้นเขาสิ คุณก็พูดได้แต่มีผู้สนอง อนันต์ อัศวโภคิน มาบอกว่าปิดบัญชีกันดีไหม จะให้ก็ไม่ปิดบัญชีตัวเอง แต่ไปชวนคนอื่นให้ปิดบัญชีอย่างนี้เป็นต้น เป็นคนที่เป็นลูกกะโล่เป็นหน้าม้า ให้คนอื่นปิดบัญชี แต่ตัวเองไม่ได้ปิดบัญชีของตัวเอง ของตัวเองมีตั้งเยอะแยะอย่างนี้เป็นต้น แล้วคนจนที่ปิดบัญชีจริงๆ มีศรัทธาเลื่อมใสจริงๆ ก็ทำเต็มที่ ไม่รู้มีคนฆ่าตัวตายหรือเปล่า แต่เขาไม่เปิดเผยกัน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562

เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:35:23 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:14:24 )

รายละเอียด

พระสมณโคดมอุบัติขึ้นมา หมอดูที่เป็นพราหมณ์ก็บอกว่า คนนี้แหละจะเป็นพระพุทธเจ้า จนกระทั่งท่านตรัสรู้ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ถึงได้แน่ชัดว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า ก็เลยไปสอนปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 พอบอกสูตรแรกเลย ก่อนแสดงธรรมท่านว่าท่านตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ก็ไม่เชื่อ แต่พระพุทธเจ้าเทศน์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เริ่มเข้าหัวอัญญาโกณฑัญญะ เมื่อเทศน์อนัตตลักขณสูตร ก็เข้ากระแสเลย ได้อัญญา อัญญะ เป็นความรู้ใหม่ความรู้โลกุตระที่เป็นความรู้อื่น ความรู้ที่ไม่ใช่โลกียะ พระพุทธเจ้าหยั่งรู้เลยว่า อัญญาสิวตโภโกณฑัญโญ ท่านก็เลยสอนอีก ส่วนอีก 4 คนก็บรรลุ จนทั้งหมดเป็นพระอรหันต์

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช ศิลปะในการใช้ชีวิตให้เกิดปัญญามัชฌิมา วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562

เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 17:50:20 )

เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2563 ( 14:16:34 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 13:42:57 )

รายละเอียด

ธรรมะพระพุทธเจ้านี้มันสุดยอดจริงๆ เยอะมากละเอียด อย่างที่เรียกว่า จะเอาละเอียดที่คุณจะเป็นโพธิสัตว์ก็เอาเถอะ ศึกษาไป อาตมาไม่พูดเพราะเป็นโพธิสัตวภูมิ อาตมาไม่จำเป็นต้องสอนโพธิสัตวภูมิ เพราะตัวเองเป็นโพธิสัตว์อยู่ พระสมณโคดมท่านสอนแต่ใบไม้กำมือเดียวไม่ได้สอนโพธิสัตว์ ท่านสอนแต่อรหันต์ ท่านเป็นโพธิสัตว์ที่มีอายุศาสนาที่สั้นที่สุดและเร็วที่สุด อาตมาก็จำเป็นที่จะต้องมาเก็บสิ่งเหล่านี้ต่อเชื่อมไว้เท่านั้นเองไม่ได้เก่งกว่าพระพุทธเจ้านะ เพราะฉะนั้นคนที่จะ คอยจะมาประชดประชันแดกดันก็อย่ามาหาเรื่องอาตมา อาตมาพูดกันไว้ก่อนนะ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2563

เวลาบันทึก 18 เมษายน 2563 ( 13:32:40 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 12:57:17 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 13:43:40 )

รายละเอียด

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก มี 6 เข้ามาตั้ง 3 ตัว แรม 1 ค่ำเดือน 3 ปีเถาะ วันเวลาก็ผ่านไปแล้ว ที่นี้ก็มาพูดถึงเรื่องที่เราจะโอภาปราศรัยกันไป อาตมามีชีวิตยังไม่ตายพูดได้ อาศัยการพูด จากความจริงที่มีเท่าที่มี จากใจจริงออกมา หวังประโยชน์เพื่อประโยชน์แก่หมู่คนหมู่มนุษย์ทั้งหลายทั้งนั้นไม่มีอื่นเลย และก็ไม่ได้พูดเพื่อที่จะหวังได้ลาภ ได้ยศ ได้สรรเสริญ แม้แต่ได้ความสุข แต่ความสุขอันสงบ ของอาตมามันมีในตัวมันเอง มันสงบ มันสบาย มันสงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล เพิ่มพูนความเสียสละ ไปเรื่อยๆในชีวิตของหลวงปู่เพิ่มพูนความเสียสละอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเป็นที่สุดของชีวิต ในชีวิตต้องพยายามที่จะทำ 

1.ไม่มีตัวตน เข้าใจคำว่าไม่มีตัวตนคืออย่างไร แล้วทำให้ตัวเราเองนี้หมดความเป็นตัวตน ให้ได้จริงๆ ซึ่งทุกวันนี้ก็รู้ตัวแล้วว่าทำได้แล้วไม่มีตัวตนแล้วไม่มีอัตตา มีแต่อนัตตา มีแต่ความไม่ใช่ตัวตน ที่มีร่างมีกายพูดได้กินได้อยู่ได้อะไรได้นี่ก็ อยู่ไป ด้วยพยายามใช้สูตรที่ตัวเองจะรักษาชีวิตให้ยืนยาวไปได้เรื่อยๆ วันนี้ก็ได้สรุปขึ้นมาอีกนิดว่า ชีวิตคนนี่ ถ้ากิน ถ้านอน ขี้ ทำงาน ออกกำลังกาย 1. กิน กินได้ 2. นอน นอนได้ 3. ขี้ ขออภัยนะพูดภาษาไทยๆ ไม่ได้พูดภาษาบาลี ขี้หรืออุจจาระได้ 4. ทำงานได้ 5. ออกกำลังกายได้ 

กิน นอน ขี้ ทำงาน ออกกำลังกายได้ คนผู้นั้นรักษาสมดุล 5 ประการนี้ได้อายุยืนแล ฟังทวนอีกเที่ยว ไปนอนกินขี้ไม่ดีหรอกมันแย่ กิน นอน ขี้ ทำงาน ออกกำลังกาย ผู้รักษาสมดุล 5 ประการนี้ได้ อายุยืนแล ที่ว่ากินนี้คนเรามันกินมากไปมันกินติดอร่อยไปกินติดหลงค่านิยมไปกินติดตะกละ อิ่มท้องแล้วปากมันยังอยาก กิเลสยังอยากกินเข้าไปอีก ท้องแตกตาย ดีไม่ดีเป็นภัยแก่ชีวิตร่างกายได้

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 11วิญญาณฐิติ 7 วิโมกข์ 8 อนุปุพพวิหาร 9 สัตตาวาส 9 ตอนที่ 1 วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก 

เวลาบันทึก 10 มิถุนายน 2566 ( 12:03:18 )

รายละเอียด

1. ล่วงพ้น

2. การก้าวล่วง

หนังสืออ้างอิง

อีคิวโลกุตระ หน้า 82,177

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 14:29:40 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:03:31 )

เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2563 ( 14:21:20 )

รายละเอียด

ผู้เป็นในสิ่งที่ควรเป็น ผู้ไม่เป็นในสิ่งที่ไม่ควรเป็น ได้พ้นสิ่งที่ควรพ้นได้ ดับสิ่งที่ควรดับ เป็นไปในสิ่งที่ควรเป็นไปได้จริง ก็หมายความว่าผู้นั้นได้ก้าวล่วงสภาพอันควรและทั้งไม่ควรได้แล้ว

หนังสืออ้างอิง

(จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 526)

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 14:30:53 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 17:14:19 )

รายละเอียด

ซึ่งยังไม่ใช่สภาพเรืองปัญญา

หนังสืออ้างอิง

(จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 138)

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 14:31:41 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 11:50:01 )

รายละเอียด

การทำให้เกิดสงบจนได้ด้วยวิธีกดข่มด้วยนานาสมาธิ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 268

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2562 ( 14:32:22 )

เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 11:57:49 )

เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 13:44:19 )