@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ประชาธิปไตยตามแบบของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ในโลก ยังไม่มีประชาธิปไตยที่ทำรัฐประหารประชาชนโดยประชาชน อย่างแท้จริงและใช่ไหม ประชาชนชนะอย่าง Absolute Ultimate เป็นตัวอย่างที่โลกจะต้องการศึกษาไปอีกนาน กว่าจะเข้าใจได้ดีนักรัฐศาสตร์เขา อาตมาก็อาจจะตายไปแล้ว ภาคภูมิใจที่ได้ร่วมกันประชาธิปไตยนี้โดยที่อาตมาเอง เข้าใจประชาธิปไตยตามแบบของพระพุทธเจ้า แล้วก็ทำไปตามที่เห็น มีหลักฐานให้นะนักรัฐศาสตร์อนาคตไทยศึกษา

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 10:39:32 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:44:56 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:41:42 )

ประชาธิปไตยตาเดียวกับ 2 ตา

รายละเอียด

ประชาธิปไตยตาเดียวก็เห็นแค่มิติของตาเดียว แต่ถ้าหากเขามี 2 ตา เขาจะเห็น 3 มิติ 4 มิติไปได้ แต่ถ้ามีอยู่ตาเดียวจะเห็นแค่มิติ 1 กับ 2 คนตาเดียวจะเห็นเพียงแนวระนาบจะไม่เห็นแนว 3 มิติ 4 มิติ เขาจะเห็นไม่รู้ถ้วนรอบ เขามีตาเดียวไม่เห็นรอบถ้วนเท่ากับตา 2 ตา เป็นประชาธิปไตยที่รู้ไม่รอบถ้วน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 15:58:57 )

ประชาธิปไตยต้องทำเพื่อประชาชน

รายละเอียด

การเมืองคำเดียว โดยเฉพาะคำว่าประชาธิปไตย ถ้าเป็นการเมืองคอมมิวนิสต์ก็ทำเพื่อประชาชนเหมือนกัน แต่การเมืองแบบเผด็จการมันก็ไม่ใช่ ประชาธิปไตย แต่การเมืองประชาธิปไตยต้องมีนิยามว่าเพื่อประชาชน โดยพยัญชนะมันก็บอกว่าอธิปไตยเป็นของประชาชน ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด ก็ต้องให้ประชาชนได้อำนาจสูงสุด มีอิสระเสรีภาพสูงสุด แต่มันก็มีความซับซ้อน อำนาจของคนอย่างที่ท่านพุทธทาสว่า ถ้าจะปล่อยให้ประชาชนมีอำนาจ ประชาชนนั้นมีกิเลสมาก อยากให้ประชาชนมีอำนาจก็เอากิเลสมาปกครองบ้านเมือง แล้วมันจะไปได้ไหม ก็ไม่ได้ เป็นความซับซ้อนอย่างนี้ เพราะฉะนั้นคำพูดอย่างหนึ่ง ประชาธิปไตยต้องให้อำนาจกับประชาชนก็ใช่ แต่ประชาชนนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกที่มีกิเลสและเห็นแก่ตัว แล้วจะให้ประชาชนมีอำนาจเช่นนี้ได้หรือ นี่คือความซับซ้อน ก็ต้องใช้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายใช้การบริหารที่ต้องมีการปรามไม่ให้กิเลสออกมาทำงานมากต่อต้านกิเลสไว้เป็นธรรมดา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ GDP แบบโลกียะกับแบบโลกุตระ วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 22:01:20 )

ประชาธิปไตยต้องมี 2 ขา

รายละเอียด

ประชาธิปไตยต้องมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงจะเป็นประชาธิปไตยในโลก ให้มีใหญ่คนเดียว ยิ่งใหญ่คนเดียว ไม่มี 2 ไม่ได้ ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะมีประชาชนด้วย พระเจ้าแผ่นดินไม่มีประชาชนไม่ได้ แม้เขาจะพยายามขยายความว่าประธานาธิบดีก็มีประชาชน เขาจะว่าอย่างนั้นก็ตาม แต่จริงๆแล้ว ลักษณะประธานาธิบดีหรือประชาธิปไตยขาเดียว จริงๆที่สุดแล้ว ประธานาธิบดีคือเจ้าอำนาจจริงๆ อำนาจด้วยวัตถุอำนาจ ด้วยโครงสร้าง อำนาจด้วยวิธีการ อำนาจด้วยกฎระเบียบ กฎหมาย บังคับไปหมด แล้วคุณจะต้องอยู่อย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 3 

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 07:59:27 )

ประชาธิปไตยต้องมีกษัตริย์ไม่ใช่ประธานาธิบดี

รายละเอียด

ประชาธิปไตยสรุปอีกก็คือ ต้องมีกษัตริย์ เป็นประธานาธิบดีนั้นเป็นประชาธิปไตยขาเดียวได้มาอย่างไรก็ไม่รู้ เป็นคนไม่มีราก ขอให้ประชาชนเลือกมา เป็นผู้นำ เมื่อหมดอำนาจก็เหมือนกษัตริย์นั่นแหละ แม้แต่คอมมิวนิสต์อย่างเกาหลีเหนือ ​คิมจองอึนยิ่งกว่ากษัตริย์เลยทุกวันนี้ ต่อทอดมาจากปู่ เขาโมเมว่าตัวเองว่าไม่ได้สืบสันตติวงศ์ เอาจริงๆ คอมมิวนิสต์ตัวแท้ๆ ในโลกเลยตอนนี้ มันไม่จริงหรอก จิตใจไม่รู้จักกิเลสไม่รู้จักอัตตา หากว่าเขาจะเป็นคอมมิวนิสต์ก็พยายามใช้ไม่ใช่อำนาจของผู้เดียว แต่ใช้อำนาจของคณะ แต่มันเป็นที่ไหน ตั้งเป็นรูปตุ๊กตาไว้เท่านั้น ตั้งคณะบริหาร แต่เด็ดขาด อยู่ที่คิมจองอึน อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญคือคนที่เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 20:19:10 )

ประชาธิปไตยต้องมีฝ่ายค้านตลอดกาลเสมอ

รายละเอียด

ประชาธิปไตยต้องมีฝ่ายค้านตลอดกาลเสมอ อย่าเป็นทำทีว่ามีฝ่ายค้านเล่นๆ ต้องเป็นฝ่ายค้านที่จริงใจของประชาชน เพราะฉะนั้นแม้แต่ว่าฝ่ายค้านมีมวลมาก แต่อำนาจความถูกต้องดีงามเพื่อประชาชนได้แท้ๆ ที่เป็นความแข็งแรงไม่มากเท่าฝ่ายค้าน พวกทุนนิยม สามานย์ พวกอำนาจเถื่อนอะไรพวกนี้ พวกนี้สู้สัจธรรมไม่ได้หรอก ความบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะชนะทุกสิ่งทั้งโลกในที่สุด 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2561


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:42:08 )

ประชาธิปไตยต้องมีฝ่ายค้านและมีราชประชาสมาสัย

รายละเอียด

อย่างนี้เขาก็มองไม่ออกอีกก็คงเป็นคนตื้นเขินไม่รู้ลึกซึ้งถึงความเป็นสภาวะจิตประชาธิปไตย ของประชาชนบริหารเพื่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจสังคม การเมือง ซึ่งการเมืองต้องมีการขัดแย้งกัน ประชาธิปไตยต้องมีฝ่ายค้าน ต้องจ้างให้มีหัวหน้าฝ่ายค้านคณะฝ่ายค้านด้วยนะอย่างนั้นเลย มันต้องมีลักษณะ 2 ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว อันเดียวมันไม่ก้าวหน้า พัฒนาประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นประชาธิปไตยจึงต้องมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใช่คำศัพท์ว่าราชประชาสมาสัย ราชากับประชาชนอาศัยซึ่งกันและกันมีอำนาจร่วมกัน จะบอกว่า ราชหรือกษัตริย์มีอำนาจเต็มแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ไม่ใช่ จะบอกว่าประชาชนไม่ยอมรับนับถือกษัตริย์ เหมือนอย่างกับสหรัฐอเมริกาเหมือนกับประเทศที่ไม่มีกษัตริย์ ก็ไม่ใช่ กษัตริย์ก็มีรัฏฐาธิปัตย์ประชาชนก็มีรัฏฐาธิปัตย์ซึ่งอาศัยกัน ราชประชาสมาสัย เป็นความสวยงามที่สุด อาตมาเรียกว่าประชาธิปไตย 2 ขา ต้องมีกษัตริย์เป็นหัวใจ เป็นวิญญาณของประเทศ แล้วกษัตริย์ก็ต้องทรงทศพิธราชธรรม เพราะฉะนั้นมันเป็นสัจธรรมที่คนต้องยอมรับนับถือเหมือนกับคนเหมือนจิตนิยามต้องมีนามกับรูปต้องมีจิตกับกาย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 11:26:46 )

ประชาธิปไตยต้องมีแต่ในสภาจริงหรือ

รายละเอียด

เขาไม่ได้เป็นพวกของทักษิณ แต่เขายังมีความเอียงไปทางเลือกตั้ง ยังมีข้างโลกีย์ใช้อำนาจสภา จนกระทั่งฝ่ายนั้นจะเอียงไปทางฝ่ายสภา จนบอกว่าเป็นประชาธิปไตย คือ คุณชวน หลีกภัย บอกว่าประชาธิปไตยนอกสภาไม่มี ประชาธิปไตยต้องมีแต่ในสภา ถึงขนาดนั้นเลย

แล้วเข้าใจว่าประชาธิปไตยนั้น มีแต่ในสภา สภาเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ก็ใช้สภาเป็นอำนาจใหญ่ เพราะฉะนั้นจะฟังเสียงประชาชนไม่ครบ เสียงประชาชนไม่ใช่เป็นใหญ่ แต่เขาก็ว่าประชาชนเป็นใหญ่ แต่เขาเอาสภาเป็นหลักไม่ได้เอาประชาชนเป็นหลัก แต่มันซ้อนที่ว่า ถ้าประชาชนยังไม่เข้าใจประชาธิปไตยพอก็ต้องใช้อำนาจรัฐมาบริหารก็ถูก ถ้าหากรัฐบาลหรือผู้บริหารนั้น ยังมีความเห็นแก่ตัวเห็นแก่พรรคพวกมีโลกียะมาก มันก็ล้มเหลวอย่างที่มันเป็น มันมีตัวอย่างมาหมดแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ธรรมะสองของประชาธิปไตย  วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 12:10:14 )

ประชาธิปไตยที่งามที่สุดคือของไทย

รายละเอียด

เช่น อินเดีย ยกตัวอย่างสิ่งที่มีจริง ประชาธิปไตยอินเดีย เป็นประชาธิปไตยที่ได้ไปหลงผิด เคยพูดไปแล้ว เดี๋ยวจะได้ขยายความว่า ประชาธิปไตยที่มีประธานาธิบดีจึงเป็นประชาธิปไตยที่หลงผิด 

เพราะฉะนั้นปัจจุบันมีความเป็นประชาธิปไตย ทางรูปธรรม อย่าไปติดบัญญัติภาษาที่เขาประกาศว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เช่นที่เขาบอกว่าเป็นคอมมิวนิสต์อย่าไปเชื่อ จีนไม่ได้เป็นคอมมิวนิสต์แล้ว  สีจิ้นผิงนำเอาประชาธิปไตยไปใช้แล้ว เดี๋ยวจะได้ขยายความ จีนกับอินเดีย 

ประชาธิปไตยของจีน และประชาธิปไตยที่งามที่สุดคือของไทย ประชาธิปไตยของไทยเป็นประชาธิปไตยทางนามธรรม ส่วนประชาธิปไตยของจีนเป็นประชาธิปไตยทางรูปธรรม และอินเดียก็เป็นประชาธิปไตยทางรูปธรรม 

ประชาธิปไตยของจีนเป็นประชาธิปไตย จริตทางพุทธิจริต ส่วนประชาธิปไตยของอินเดียนั้นเป็นประชาธิปไตยในศรัทธาจริต ส่วนของไทยนั้นเป็นประชาธิปไตยครบบริบูรณ์ทั้งศรัทธาและปัญญา ครบทั้งรูปและนาม จีนนั้นเป็นสภาพของนาม ปฏิภาณ ปัญญา ส่วนอินเดียเป็นสภาพของรูป เพราะฉะนั้นในลักษณะประชาธิปไตยดังกล่าว 11 ข้อ อาตมาเอาข้อ 1

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ลักษณะประชาธิปไตยสุดยอด 11 ประการ วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2565 แรม 1 ค่ำเดือน 12 ปี ขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2565 ( 10:33:38 )

ประชาธิปไตยที่ดีที่สุดต้องโลกุตระ 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในความเป็นจริงของเมืองไทย จึงเป็นความเป็นจริงที่มีประชาธิปไตยแบบโลกุตระของพุทธศาสนา ประชาธิปไตยเดียวในโลกไม่เหมือนใคร เพราะฉะนั้น ตำรารัฐศาสตร์ประเทศไหนๆ ถ้าไม่เข้าใจศาสนาพุทธโลกุตรธรรมอย่างที่อาตมาอธิบายนี้ คุณจะไม่มีวันเข้าใจประชาธิปไตยที่เป็นอุตระ ประชาธิปไตยที่เหนือประชาธิปไตยทุกประชาธิปไตยในโลกเท่าที่เขาถือว่าเขาเป็นประชาธิปไตยในโลก 

เพราะฉะนั้น ประชาธิปไตยที่ดีที่สุดต้องโลกุตระ และมีหลักประชาธิปไตย 5 ประการ 

1. ประชาธิปไตยต้องมีกษัตริย์ 

2. กษัตริย์ต้องเป็นประมุข 

3. มีพระจริยวัตร มีการประพฤติจริง มีบทบาทจริงด้วย สืบสันตติวงศ์ 

4. มีทศพิธราชธรรม แล้วยิ่งสูงยิ่งละเอียด 

5. ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์ เป็นประชาธิปไตย 2 ขาคือ มีกษัตริย์กับประชาชน เรียกว่าราชประชาสมาสัย รวมเรียกสรุปอีกอันเป็นกระบวนการ 5 

ก็ค่อยๆศึกษาไปว่า ความเป็นระบอบการเมือง ระบอบการบริหารประเทศชาติ มันก็มีมาแต่ไหนแต่ไรของสังคมมนุษย์ ตั้งแต่เผด็จการหรือว่าตั้งแต่สมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือตั้งแต่เป็นหัวหน้าเผ่า มาเรื่อยๆ จนพัฒนามา เอาความเป็นประชาชนเข้ามามีสิทธิมีอำนาจร่วม หรือว่ากระจายอำนาจเป็นศัพท์สมัยใหม่ว่า กระจายอำนาจให้แก่ประชาชนเข้ามามีอำนาจร่วมในการร่วมรู้ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมประพฤติอยู่ในสังคมไม่ใช่เอาอำนาจบาตรใหญ่อยู่ที่ผู้บริหารเป็นหัวหน้า หรือแม้ที่สุดประยุกต์มาเป็น ผู้บริหารเป็นหัวหน้าคนเดียวก็ไม่ควรไว้ใจ ก็เลยมาตั้งเป็นคณะแบบคอมมิวนิสต์ เรียกว่าแบบคณาธิปไตย เป็นประชาธิปไตยหรืออธิปไตยแบบมีคณะเป็นกลุ่มบริหารและก็ค่อยๆเลือกกันเข้ามา เขาอาจจะมี 10 คน 15 คน 20 คนก็แล้วแต่เขา แล้วแต่ประเทศที่เขาทำ ซึ่งอาตมาเป็นคนไม่กว้างขวาง ไม่ไปรู้สถิติประเทศนั้นประเทศนี้ แต่รู้ถึงจุดสำคัญ รายละเอียดสำคัญพวกนี้ได้ในพฤติกรรมต่างๆทั้งหลาย อาตมาไม่ได้เป็นนักศึกษา ไม่ได้เป็นนักสถิติที่จะค้นคว้ารอบรู้อะไร แต่รู้ด้วยปฏิภาณปัญญา รู้ด้วยความรู้ที่มีมาเดิม อาศัยสัจจะพวกนี้มาแจกแจงอธิบายสู่กันฟัง ด้วยความมั่นใจว่าอาตมาไม่ได้พูดสิ่งที่ผิด พูดสิ่งที่ถูกต้อง 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 27 ตอบปัญหาให้ถึงสัมมาธิปไตย วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2566 ( 18:52:28 )

ประชาธิปไตยที่ดีเป็นของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

เช่นเดียวกับประชาธิปไตยที่ดี ของอาตมาหรือของพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้เป็น Concept เดียวกับที่โลกเขาเข้าใจ โดยเฉพาะ Concept ของอเมริกา แม้แต่ของคิมจองอึนก็ตาม ยังไม่ใช่ที่จะเป็นสัมมาทิฏฐิตรงกันอย่างเป็นทิฏฐิสามัญญตา แต่แนวโน้มของคนในโลกกำลังมีแนวโน้มมีเทรนมาทางนี้ ที่เป็นจุดสำคัญ ที่เป็นของพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นก็ต้องมาศึกษากันให้ดีโดยเฉพาะคนไทย อยู่ในนี้เป็นพุทธศาสนิกชน แล้วก็มีความศรัทธาเลื่อมใสศาสนาพุทธยิ่งนักก็ต้องศึกษาให้สัมมาทิฎฐิดีๆแล้วเอาไปปฏิบัติจะเห็นเองเห็นจริงได้ด้วยตนเอง บรรลุได้ด้วยตนเอง จนกระทั่งคุณไม่ต้องเชื่อใครคุณเชื่อตัวคุณเองเลยสุดยอดแห่งความหมายคำพูดอันนี้พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ ผู้ที่บรรลุสุดยอดมีความรู้ความเข้าใจซึ่งประเสริฐอันนี้แล้วด้วยตัวเองแล้วมันก็จะไม่ต้องเชื่อใครมันสุดยอดจริงๆเลย แล้วไม่ผิดเพี้ยนด้วย นี่เป็นคำตอบที่สุดยอด 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 12 มิถุนายน 2563 ( 11:04:46 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:45:20 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:42:08 )

ประชาธิปไตยที่ถูกต้องดีงามเป็นสัมมาทิฏฐิต้องมีอายะ 3

รายละเอียด

ผู้ได้อธิปไตย 3 นี้ หมายถึงทั้งฆราวาสและนักบวชเมื่อมาปฏิบัติธรรมแล้วย่อมเกิดผลต่อสังคมต่อการเมือง 3 ประการ โดยเฉพาะจะมีความรู้ เรื่องพลังอำนาจของประชาธิปไตย พลังหรืออำนาจของโลก พลังหรืออำนาจของคนแต่ละคนส่วนตัวส่วนตน กับพลังและอำนาจที่เป็นธรรม อธิปไตย 3 โลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย และ ธรรมาธิปไตย โลกาธิปไตยคืออำนาจที่เป็นของโลก อัตตาธิปไตยคืออำนาจของแต่ละคนที่เป็นอัตตา และก็ธรรมะคืออำนาจหรือพลัง ที่เป็นธรรมะ มันก็ยิ่งใหญ่ ธรรมะเป็นโลกียธรรมก็ได้หรือเป็นโลกุตตรธรรมก็ได้อีก สูงขึ้นไปอย่างนั้น แต่คนเขาไม่ได้อธิบายกันหรอกเรื่องธรรมะที่เป็นโลกุตระ โดยเฉพาะในตะวันตก อเมริกาหรืออื่นๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ จะไม่อธิบายเรื่องคุณธรรมแบบโลกุตระ เป็นคุณธรรมที่สวนกระแสของโลกียะ มันเข้าใจโลกเพื่อโลก โลกานุกัมปายะ แต่ไม่เพื่อตน ไม่เพื่ออัตตาแต่เพื่อโลก 

เพราะฉะนั้นจึงเป็นคนที่มีอายะ 3 มีประโยชน์หรือมีกำไรหรือมีคุณค่า มีรายได้ สิ่งที่มันเกิดเจริญขึ้น อายะ มันเกิดขึ้น 3 อย่างคือ 1 เป็น หิตะ ประโยชน์แก่ประชาชน แก่มวลประชาชน พหุชนหิตายะ (เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ (รับใช้โลก ช่วยโลก) เป็นไปเพื่ออนุเคราะห์โลกเลย และเกิดประโยชน์สุขที่จะเกื้อกูลโลกทั้งโลกเลย อาตมาว่าถ้าเข้าใจความหมายพวกนี้ ภาษาในสมัยพระพุทธเจ้าก็พูดไปแล้วมันไม่มีคำว่าประชาธิปไตย แต่มันมีอธิปไตย แล้วก็มีประโยชน์คุณค่าที่ควรจะได้ต่อมวลมนุษยชาติ หรือคนในโลก 3 ประการที่เป็นอายะ 3 มารวมกันนี่แหละ คือความหมายของความเป็นประชาธิปไตยที่สัมมาทิฏฐิที่ดีงาม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาหาราธิปไตย สร้างอายะ 3 ด้วยอาหาราวุธ วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 12 ค่ำเดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2566 ( 12:15:58 )

ประชาธิปไตยที่ถูกต้องเป็นอย่างไร

รายละเอียด

อาตมามองว่ายังมีลักษณะอีกฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายทักษิณ ฝ่ายเขาจะมีคุณภาพมีทั้งความจริงใจ มีทั้งสิ่งที่ยังไม่ลงตัว เข้าร่องเข้ารอยของทางโลกุตระอะไรยังมีอีกเยอะ แต่ก็ไม่ต้องไปประมาทเขาก่อน ทำงานไปก็จะเห็นได้ถึงความจริง ก็ต้องใช้เวลาหน่อย 

ลักษณะของคุณชัชชาติเป็นลักษณะของทางตะวันตก เขาชอบทำแบบสร้างภาพใช้อำนาจบาตรใหญ่ มีหมู่มีฝูงเป็นพรรคพวก คำว่ามีหมู่มีฝูงเป็นพรรคพวก มันเหมือนความเป็นประชาธิปไตยนะ แต่คำว่า ประชาธิปไตยนั้น ไม่มีหมู่ไม่มีฝูงไม่มีพรรคพวก มีแต่ประชาชนทั้งหมดเสมอสมานกันเป็นเอกภาพ เป็นเอกีภาวะ แล้วปัญญาของแต่ละคน เข้าใจว่า ในจำนวนประชาชนทั้งหมดใครมีคุณสมบัติหรือคุณวิเศษดีที่หนึ่ง รู้แล้วยกคนนั้น พร้อมใจกันยก เป็นคนมีปัญญา รู้สอดคล้องกัน เห็นด้วยว่าคนนี้แหละ แล้วก็ให้คนนี้ทำงาน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 40 ทางเสื่อมวิชชาและจรณะ 4 ประการ วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 14:02:50 )

ประชาธิปไตยที่น่าศึกษา

รายละเอียด

ตอนนี้เรียบเรียงหนังสือเกี่ยวกับประชาธิปไตยไทยที่น่าศึกษา ไม่ได้ทำใหญ่โตอะไร แต่เรามีสิทธิ์จะเสนอความเห็นของเราไป แน่ใจว่าเรามีประชาธิปไตยที่เป็นตัวอย่างที่เป็นไปได้ยืนยันได้ เทียบเคียงกับทางโลกที่เขาอธิบาย แต่เขาเข้าใจยังไม่ตรงในความหมายของประชาธิปไตย เหนื่อยแต่ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้แล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2562 ( 14:42:24 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:40:20 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:42:35 )

ประชาธิปไตยที่มาจากแกนของศาสนาพุทธ

รายละเอียด

อำนาจทหาร อำนาจปืน อำนาจอาวุธ มันยังไม่จริงหรอก มันยังไม่สวย มันยังไม่สูงส่ง มันยังไม่ตรงกับประชาธิปไตย เป็นอำนาจประชาชน ไม่ใช่อำนาจปืน ไม่ใช่อำนาจอาวุธแต่เป็นอำนาจของประชาชน มวลประชาชน ความเห็นความรู้ของประชาชน ความซื่อสัตย์บริสุทธิ์ของประชาชน ปัญญาของประชาชน ซึ่งอาตมากำลังอธิบายเรื่องประชาธิปไตยไทยที่มาจากแกนของศาสนาพุทธ จะต้องมี อิสระ มีทาน มีปัญญา มีอนุกัมปา แล้วก็มี อนัตตา นี่กำลังขยายความและจะเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่ง ใน “ประชาธิปไตยไทย ที่ใครก็ไล่ไม่ทัน” ชื่อหนังสือก็จะเป็นอย่างนั้น ทุกวันนี้ก็ยืนยันว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุดในโลก วันนี้เขาก็กำลังอภิปรายจะคว่ำนายก เขาก็ทำตามวิธีการตามความเป็นจริง ก็จะรู้อะไรกันไปเองก็ค่อยๆดู คือ มันเป็นเหตุปัจจัยที่พูดง่ายๆ พวกฝ่ายค้านที่กำลังจะคว่ำรัฐบาลอยู่ตอนนี้ ถ้าสมมุติให้รัฐบาลนายกตู่แพ้หยุดไปเลย แล้วพวกคุณขึ้นมา ก็ต้องผ่านด่านที่ต้องมีการเลือกตั้ง แล้วประชาชนจะเลือกคุณ หรือนายกฯประยุทธ์อีก ก็ต้องผ่านด่าน แต่สมมุติว่าพวกคุณได้คนมาก คุณจะใช้แทคติกอย่างไรก็แล้วแต่คนเลือกตั้ง วิธีการเลือกตั้งเป็นวิธีการฉ้อฉล วิธีการเลือกตั้งไม่ใช่ประชาธิปไตย มันเป็นวิธีคิดของนักรัฐศาสตร์เอามาใช้ แล้วก็หลงว่าการเลือกตั้งนี้ดูเผินๆนี่เป็นคะแนนเสียงของประชาชน แต่ว่าแทคติกในการจะได้เสียงของประชาชนนี้โอ้โห เช่น อเมริกาชัดเจนไปเอารายละเอียดมาเลยจะต้องมีนายทุนมา เครือข่ายสร้างอำนาจเอาไว้ตลอดมาเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 16:24:47 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:42:14 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:43:23 )

ประชาธิปไตยที่มี อายะ 3

รายละเอียด

ประชาธิปไตยที่มี อายะ 3  พหุชนหิตายะ(เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ (รับใช้โลก ช่วยโลก)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 16:08:08 )

ประชาธิปไตยที่มีความขัดแย้งอันพอเหมาะ

รายละเอียด

แต่ถ้าพลเอกประยุทธ์บริหารต่อไม่ดี ยกตัวอย่างอภิสิทธิ์ก็ตาม เขาก็จะประท้วงอีก หรืออย่างเช่น ยิ่งลักษณ์, สมชาย, สมัคร แน่นอนเขาก็ประท้วงกันแน่ แต่นี่พอดีพลเอกประยุทธ์มาบริหาร ก็เข้าตาประชาชน ทุกวันนี้ 5-6 ปีแล้ว พลเอกประยุทธ์บริหาร โพล ก็ยัง 80% อยู่นั่นเอง วันนี้ดูหนังสือพิมพ์คนก็ยังยอมรับพลเอกประยุทธ์ดีแล้ว แต่ที่เย้วๆๆ คือพวกเด็กอมมือ เด็กไม่เดียงสา ดิ้นไปด้วยความโง่ความไม่เดียงสา มันก็เป็นธรรมชาติอย่างนึงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมันก็ต้องเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นมันลงตัวแล้ว นี่คือความสงบเรียบร้อยของประชาธิปไตยที่มีความขัดแย้งอันพอเหมาะ ดีที่สุดแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 10:50:51 )

ประชาธิปไตยที่มีระบบแบบแผน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นการที่จะได้คนจริงมามันต้องเป็นผู้เหมาะสมในการบริหารบริบาล ราษฎรประชาชนมาตลอด เพราะฉะนั้นผู้ที่ทำมาไม่ขาดสาย อย่างสายกษัตริย์ ได้รับความรู้ความสามารถสืบทอดมาที่เป็นภายนอกก็ตามหรือเป็นจิตวิญญาณแท้ๆ สืบสานมาตลอดเข้าใจระบบหมดแล้วก็ตาม สืบสานไม่ขาด แม้จะมีการขาดราชวงศ์ ผู้จะมาต่อราชวงศ์อื่น ก็จะเป็นราชวงศ์ใหม่ที่เข้าใจระบบของกษัตริย์ เข้าใจระบบของสืบสานสันติวงศ์ มีกฎมณเฑียรบาล มีระบบ มีประเพณีต่างๆ นานา เหมือนกันหมดแหละ

เพราะผู้ที่จะขึ้นไปอยู่ดีๆ จะฟลุ๊คๆ ขึ้นไปเป็นกษัตริย์ มันไม่ได้หรอก เช่นกษัตริย์ของราชวงศ์จักรี ก็เป็นผู้ที่บริหารที่ทำงานกับกษัตริย์ก่อนๆ มาตลอดเวลา ก่อนจะได้มาเป็นต้นตระกูลราชวงศ์จักรี ไม่ใช่อยู่ๆ โมเมมา ใครก็ได้ถือกระเป๋าเงินแล้วสร้างอำนาจ ใช้เเท็คติคต่างๆ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีไม่ใช่ มันคนละเรื่องกัน เพราะฉะนั้นประชาธิปไตย สรุปจบเวลาก็คือ ประชาธิปไตยสะเปะสะปะกับประชาธิปไตยที่มีระบบแบบแผน ที่มีลำดับอย่างถูกต้อง เป็นทั้งวิชาการที่สมบูรณ์แบบ ประชาธิปไตยสะเปะสะปะเขาก็บอกว่ามีวิชาการของเขา วิชาการสร้างอำนาจ มีอำนาจบาตรใหญ่ เขาก็ศึกษา เพราะฉะนั้น ศึกษาต่อไป อาตมาก็ยังมีสิ่งที่จะขยายต่อ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แบบมีกษัตริย์กับไม่มีกษัตริย์ ประชาธิปไตยแบบไหนดีกว่า วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2566 ( 20:06:21 )

ประชาธิปไตยที่มีวิญญาณ

รายละเอียด

นั่นก็เป็นพฤติการณ์ของเมืองไทย อาตมาก็พยายามชี้ให้เห็น ค่อยๆบอกข้อสังเกตต่างๆ นานาไปตามลำดับให้เห็นว่า จริงๆ แล้วประชาธิปไตย ของพระพุทธเจ้ามันเป็นประชาธิปไตยที่มีทั้งรูปทั้งนาม เป็นประชาธิปไตยที่มีวิญญาณ ไม่ใช่ประชาธิปไตยเอาแต่เน้นเอียงโต่งไปทางรูป หรือทางหลักเกณฑ์กฎหมายเท่านั้น 

แต่จริงๆ แล้ว ถ้าจะว่าเอียงก็เอียงมาทางจิตวิญญาณด้วยซ้ำ ประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้า จิตวิญญาณเป็นใหญ่ ถ้าจะว่าแล้วเป็นจิตนิยม มากกว่าวัตถุนิยม หรือการบริหารเรื่องของมนุษย์ เรื่องของสังคมนั้น จิตวิญญาณเป็นใหญ่ เป็นประธาน เพราะฉะนั้นของพระพุทธเจ้าคือจิตวิญญาณเป็นประธานสิ่งทั้งปวง จะไปบริหารสังคมความเป็นอยู่ของมนุษยชาติก็ไม่มีปัญหา จะบอกว่าเอียงโต่งก็ต้องเอียงโต่งมาทางจิตนิยาม แต่เขาไม่เข้าใจความลึกซึ้งอันนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 17 มกราคม 2566 ( 12:22:27 )

ประชาธิปไตยที่มีเศรษฐกิจดีเยี่ยมคืออย่างไร

รายละเอียด

มาเข้าเรื่องประชาธิปไตย เศรษฐกิจ ก็มี 3 คำใหญ่ ประชาธิปไตยคือการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ประชาธิปไตยที่มีเศรษฐกิจดีเยี่ยมคืออย่างใด หรือสังคมประเทศไทยมีเศรษฐกิจดีเยี่ยมคือสังคมที่มีประชาธิปไตยดีเยี่ยมแล้ว มาเข้าเศรษฐกิจดีเยี่ยมคืออย่างไร

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 มกราคม 2564 ( 11:05:25 )

ประชาธิปไตยที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย 2 แบบ

รายละเอียด

 เรื่องที่จะพูดคือเรื่องประชาธิปไตยพูดไปแล้วขอซ้ำอีก อย่าหาว่าอาตมาซ้ำซาก จู้จี้ วนเวียนอยู่แต่คำเก่าๆ ประชาธิปไตยที่ยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตย คือ 

1. ประชาธิปไตยนายทุน เป็นธุรกิจโลกียะสามัญ

2. ประชาธิปไตยหาคะแนนเสียง แล้วเอามาอ้างเป็นอำนาจว่า ตนเป็นมวลประชาชน 

นี่คือประชาธิปไตย ยังเก๊ๆ อยู่ ยังไม่ใช่เนื้อแท้ของประชาธิปไตย ส่วน ประชาธิปไตยจริงๆ นั้น คือ ประชาธิปไตยโลกุตระ ประชาธิปไตยที่เป็นอาริยะที่แท้จริง ประชาธิปไตยแท้จริงนี้คือ ประชาชนเอง ตัวมวลประชาชนเองจริงๆ ที่มีพลังรวม รวมความรู้ รวมความเห็นของประชาชนเอง กระแสของจิตที่ มันเห็นมันรู้มันเข้าใจ มันส่งมารวมกันเป็นเอกภาพและต่างอิสระของแต่ละคน แต่มีความเห็นจริงตรงกัน ร่วมกันเป็นมวลรวมร่วมกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แบบมีกษัตริย์กับไม่มีกษัตริย์ ประชาธิปไตยแบบไหนดีกว่า วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2566 ( 19:23:06 )

ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ต้องหมดตัวตนหมดอัตตา

รายละเอียด

ก็ขอบอกซ้ำวนเวียนที่พูดแล้วพูดอีกหลายทีว่า ประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้านั้น จะต้องหมดตัวตน หมดอัตตา หรือคุณจะมาเป็นนักการเมืองต้องลดอัตตาเป็น หากเป็นนักการเมืองไม่ลดอัตตาเป็นนักการเมืองไม่ดีหรอก ต้องลดตัวตนเป็น ตัวตนน้อยลงก็มาเป็นนักการเมืองได้หน่อยจนกระทั่งไม่มีตัวตนได้ ก็จะเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:30:48 )

ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบจะต้องมี 2 ขา

รายละเอียด

มันก็เป็นพลังงานหรือเป็นอำนาจเป็นอธิปไตย ด้วยความเป็นจริงจากมวลชน แก่ผู้ที่ควร เช่น ผู้ที่มีรัฏฐาธิปัตย์ อย่างประชาชนจริงๆก็คือตัวแทน เช่น นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่ใช้รัฏฐาธิปัตย์แทนประชาชน ของประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบจะต้องมี 2 ขา คือมีกษัตริย์ด้วย กษัตริย์เป็นผู้ที่มีรัฏฐาธิปัตย์ส่วนหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ตัวแทนประชาชนก็มีรัฏฐาธิปัตย์ส่วนหนึ่ง จึงเรียกว่าราชประชาสมาสัย ของกษัตริย์กับของประชาชนช่วยกัน อาศัยซึ่งกันและกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แบบมีกษัตริย์กับไม่มีกษัตริย์ ประชาธิปไตยแบบไหนดีกว่า วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2566 ( 19:24:34 )

ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบที่สุดต้องเพื่อมวลชน

รายละเอียด

อธิปไตย เป็นผู้รับใช้มวลชน  สร้างประโยชน์ให้มวลชนสร้างความสุขให้มวลชนสรุปนี่คือประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่สุด แต่เขาไม่รู้ว่าเนื้อแท้ของพยัญชนะอันนี้ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ มันเป็นภาษาบาลี นี่แหละคือประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบเพื่อมวลชน พหุชน คำว่าประชาชน ไม่มีคำว่า พหุด้วยนะ ส่วนมากส่วนใหญ่ถูกต้องที่สุด แน่นอนจะต้องมีคนแย้ง ในมวลประชาชนทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นร่วมกัน เพราะฉะนั้นจึงต้องมีฝ่ายค้าน ขณะนี้ประเทศไทยมีฝ่ายค้านที่บ๊องๆ อยู่ เขาไม่มีอะไรทำกว่านี้พวกนายธนาธรกับกลุ่มบ้าๆ บอๆ ที่อยู่ด้วยกัน มันก็อย่างนั้นแหละ ทั้งๆ ที่จริงๆประชาธิปไตยของไทยฝ่ายค้านเขาก็มีอยู่แล้วในสภา ขณะนี้ก็บริบูรณ์เรียบร้อย 

ถามจริงๆ ฝ่ายค้านในสภาเขาเข้ากันกับธนาธรไหม? ...ไม่ เขาไม่ได้เอาหรอก ธนาธรจะทำอย่างไรเขาก็รู้อยู่เขาก็เป็นนักรัฐศาสตร์ เขาก็เป็นนักการเมือง แต่ใครจะไปห้ามคนบ้าอย่างธนาธรกับทรัมป์ ใครไปห้ามเขาได้ใช่ไหม มันเป็นหัวของเขา เขาคิดอย่างนี้เชื่ออย่างนี้ก็ทำอย่างนี้ 

เพราะว่าคำว่าอิสรเสรีภาพ นี่น่ะมันซุกซ่อน อยู่ทุกหัวระแหงของมนุษย์แม้แต่ในกลุ่มคอมมิวนิสต์ แม้แต่ประเทศที่จะไม่มีในหัวของเกาหลีเหนือบ้างเท่านั้น เพราะพวกนั้นถูกครอบงำหมดเลยประชาธิปไตยไม่เอาไม่มีใครมาอิ๊แอ๊ะ โดนยิงทิ้งแน่นอน นอกนั้นเขามีทั้งนั้นแม้แต่ในเมืองจีนขณะนี้ แม้แต่ในรัสเซียเองก็ประชาธิปไตยก็เป็นลัทธิคอมมิวนิสต์แก้แล้วทั้งนั้นเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญคือคนที่เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 20:45:08 )

ประชาธิปไตยที่สัมบูรณ์คืออย่างไร

รายละเอียด

นั่นคือประชาธิปไตยไม่สัมบูรณ์คืออย่างไร มาขยายความว่า ประชาธิปไตยจะสัมบูรณ์อย่างไร ประเด็นที่จะขยายนี้ เพราะ 

1. ไม่ครบความเป็น เทฺว ที่หมายถึงภาวะ 2 เช่น ต้องมีกายกับจิต หรือมีรูปกับนาม หรือ มีชีวิตกับจิตใจ ต้องมีคู่

2. แสดงถึงความมีความเป็นคน 

3. ยังไม่มีศาสตร์หรือความรู้เรื่องจิตนิยามครบถ้วนบริบูรณ์ 

ข้อที่ 1 ไม่ครบความเป็น เทฺว คือ ภายนอกภายใน กาย จิต รูปนาม อย่างนี้เป็นต้น วัตถุกับจิตอย่างนี้ก็ได้ ถ้า 2 อย่างในมหาจักรวาลนี้ มีอะไรขึ้นมา 2 อย่าง ต่างกันทั้งนั้น ใครจะเห็นความแตกต่างที่ละเอียดลออได้มากเท่านั้น คนนั้นก็คือ คนที่มีภาวะจิต มี ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์ เรียนรู้อภิภายตนะได้เก่งได้มากขึ้น นั่นก็เป็นไปตามภูมิ เป็นไปตามธรรม ของผู้ที่มีสูงเอง ซึ่งไม่ใช่เองหรอกต้องศึกษาต้องฝึกฝน นั่นก็คือภาวะ 2 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ กษัตริย์คือจิตประชาชนคือกายของประเทศ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กันยายน 2565 ( 13:45:17 )

ประชาธิปไตยที่สุดยอด

รายละเอียด

คือ  ตอนนี้เมืองไทย เป็นตัวอย่างของประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่สมณะโพธิรักษ์ว่าเอาตาม  Concept  พระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นประชาธิปไตยที่สุดยอดเลย  สุดยอดถึงขั้นประชาธิปไตย ของพระพุทธเจ้านี้ ผู้ที่เข้าใจแล้วจะเต็มใจทำงานให้แก่สังคมเพื่อประชาชน เพื่อส่วนรวมทำงานฟรีให้แก่สังคม อย่างชาวอโศกพวกเรา ทำงานฟรีอยู่ในนี้ เป็นสาธารณโภคี เป็นประชาธิปไตยที่สุดยอด เพราะว่าสมาชิกของสังคมเสียภาษีให้แก่รัฐ 100%  นี่สุดยอดเลยนะ ซึ่งไม่มีประเทศไหนในโลกทำได้  แต่มีประเทศไทยทำได้ เราคนไทยชาวอโศกทำอยู่ทุกวันไม่ได้เสแสร้งทำอย่างลงตัว ไม่ได้วุ่นวายเดือดร้อนลำบาก เป็นสาธารณโภคีที่ลงตัว ทุกวันนี้ชาวอโศกแต่ละชุมชนเป็นสาธารณโภคีที่ลงตัวเป็นสุดยอดคอมมูน คอมมิวนิสต์ก็สู้ไม่ได้ประชาธิปไตยก็สุดยอด

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 12:33:11 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:43:27 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:43:53 )

ประชาธิปไตยที่สุดยอด 11 ข้อ  

รายละเอียด

วันนี้ขออธิบายในเรื่อง ประชาธิปไตย ที่สุดยอด ผู้จะนำพาสร้างประชาธิปไตยให้แก่ประชาชนคนในประเทศได้จริงนี้ ต้องมี อาตมาลิสต์ไว้ประมาณ 11 ข้อ  

1. ซื่อสัตย์ 

2. มีปัญญา 

3. มีคุณธรรมจริง แข็งแรง 

4. ทำจริง มีหมู่กลุ่มชุมชนสังคมอาริยะจริง 

5. มีคุณลักษณะของทั้ง 4 ประการขั้นต้น ยืนยันแท้ๆ 

6. มีความสงบอบอุ่น ในสังคม ชุมชน ประเทศนั้นๆ ยืนยันชัดเจนด้วย 

7. รู้จักปัจจัยแห่งชีวิตดี ไม่หลงใหลเพ้อพกออกไปทางวัตถุ 

8. จึงเน้นจิตวิญญาณมากกว่าวัตถุแท้จริง จนเกิดผลธรรม 

9. เป็นสังคมมั่งคั่ง แค่พอเพียงและอุดมสมบูรณ์ และยั่งยืน สงบสุขยาวนาน แท้ แน่ 

10. มีปัญญาหรือความรู้ความฉลาดโลกุตระ ของพระพุทธเจ้า 

11. แม้จะยากจน ก็ยังอยู่สงบได้  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ลักษณะประชาธิปไตยสุดยอด 11 ประการ วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2565 แรม 1 ค่ำเดือน 12 ปี ขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2565 ( 10:29:07 )

ประชาธิปไตยที่สุดยอดคือนายกไม่มีพรรค

รายละเอียด

พลเอกประยุทธ์ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคไหนเลยนะ อาตมาก็เคยอธิบายว่านี่คือสุดยอดของประชาธิปไตย ไม่ได้เป็นพรรคพวกไหนเลย พวกพรรคการเมืองต่างหากที่เลือกพลเอกประยุทธ์ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้อยู่ในพรรคไหน ไม่ได้เป็นคนของพรรคไหน ไม่ได้ลำเอียงเข้าข้างพรรคไหน ใช่ไหม มันสวยงามที่สุดแล้วประชาธิปไตยไทย ไม่มีแม้กระทั่งพรรค นี่คือประชาธิปไตยที่สุดยอด แต่ก็เข้าใจกันไม่ได้เพราะยังวุ่นวายอยู่ในการปรับกฎหมายหลักธรรมนูญตามที่เขาเรียนกันมา อันนี้มันนอกกฎหมาย นอกธรรมนูญที่เขามีกันมา ไม่ได้อยู่ในพรรค ไม่มีพรรคการเมือง แต่ก็พรรคการเมืองนั่นแหละร่วมกันโหวตเสียงในสภาให้เป็นนายกฯ ไม่ใช่ว่าไปปฏิวัติเอามาเอง อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมันสุดยอดแล้ว แล้วก็บริหารมา 5-6 ปีแล้วอาตมาถึงบอกว่าทำไปเถอะ ถ้าไม่เหนื่อยไม่มีอะไรก็ 20 ปี หรือว่า 10 ปีก็คงพอรู้กันว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้มันก็ยังมีพวกที่ยังกระเหี้ยนกระหือรือกันอยู่ ยังไม่ลงตัว ก็เป็นธรรมดาที่ยังมีกระแสที่มันยังไม่สมบูรณ์ มันก็ต้องมีอย่างนี้แหละเป็นธรรมดา 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 13:05:12 )

ประชาธิปไตยที่เผด็จการสูงสุดคือแบบมีประธานาธิบดี

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น ธรรมชาติของมนุษยชาติ ธรรมชาติของสังคม ธรรมชาติของมวลประเทศ ธรรมชาติของทั้งโลกเป็นมนุษย์ มวลมนุษย์คือมนุษย์ ต้องมี 2 มี 1 ไม่ได้ เพราะฉะนั้นการเมืองประชาธิปไตยขาเดียวมี 1 นั้น เป็นประชาธิปไตยพิการ ไม่ใช่ประชาธิปไตยของคน เป็นประชาธิปไตยของคนหลงอำนาจ ประชาธิปไตยขาเดียวมีประธานาธิบดีคือประชาธิปไตยที่เผด็จการสูงสุดกว่าคอมมิวนิสต์ คอมมิวนิสต์เขาเผด็จการหมู่ ต้องมี 2 ขึ้นไปเป็น 3 4 5 6 7 เป็นหมู่คณะ แต่เป็นประชาธิปไตยขาเดียวนี้เอ็งคนเดียว ประชาธิปไตยเผด็จการสูงสุดเด็ดขาด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 3 

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 07:56:19 )

ประชาธิปไตยที่แท้ขึ้นอยู่กับอะไร

รายละเอียด

ประชาธิปไตยที่แท้นั้นขึ้นอยู่กับ 1 ความเป็นอิสระเสรีภาพ 2 ความไม่มีตัวตน ความไร้ตัวตน 3 ความมีปัญญา

ความเป็นอิสระเสรีภาพนั้นลึกซึ้งมากมายใหญ่หลวง

อิ คือ สระ ของ อะ อา อิ เป็นสามเส้าของสระ แล้วก็มีสระซ้อนอีก สระจริงๆคือ อะ อา อิ

มีรัสสระกับทีฆสระ ทีฆสระมี อา ส่วน อะ กับอิ เป็นรัสสระ ยิ่งแสดงความสั้นเล็กน้อยนิด น้อยนี่จับตัวกันสู้กับ 1 คือ อา

ย ร ล ว ส ตัวที่ 5 ของเศษวรรค พลังงานระดับเศษวรรค 5 คือพลังงานเดินหน้าก้าวหน้า ถ้า 4 จะถดถอย  ตัว 8 กับ 4 เป็นตัวเคลื่อนยึกยักๆอยู่ พวกชักเย่อ ถ้าชักเย่อไปได้จนชัด เข้า 9 ชนะลอยลำ

ปัญญาเป็นความเฉลียวฉลาดโลกุตระ ที่ต้องออกจากความเห็นแก่ตัวและต้องสร้างอิสระให้จริง อิสระจริงคือตัวกลางที่สุด ไม่เข้าข้างใคร

ส่วนตัวตนไร้ตัวตนเลยเอาแต่สัจธรรมเนื้อหา พิจารณาอะไรควรก็เอาอะไรไม่ควรไม่เอา จะต้องรู้ตามสัปปุริสธรรม 7 กับมหาปเทส 4

สรุปแล้วมาดูความจริงพฤติกรรมจริงของชาวอโศกแล้วจะเข้าใจว่ามีสาธารณโภคี มีประชาธิปไตยขั้นที่ดี

ประชาธิปไตยแบ่งเป็น 2 อย่างแบบดีกับไม่ดี

ประชาธิปไตยเมืองไทยกำลังจะก้าวขึ้นสู่ความดี พวกเราก็เป็นหลักสาธารณโภคี แต่ยังเล็กยังน้อยมาก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม  อธิปไตย อภิบาล อภิปัญญาคือประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชฯ

สื่อธรรมะพ่อครู(เศรษฐศาสตร์บุญนิยม) ตอน เศรษฐกิจแบบต่างๆ 5 ประเภท


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:13:44 )

ประชาธิปไตยที่แท้จริง

รายละเอียด

ความรู้ของความเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของอาตมาเป็นความยิ่งใหญ่ ประชาธิปไตยที่แท้จริง นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่คนในพรรคการเมือง ตามนิตินัย เหมือนเช่นปัจจุบันนี้นายกฯไม่ได้สังกัดพรรคไหน เขาเลือกตั้งเสร็จมีรัฐบาล แต่นายกฯคนนี้เป็นนายกฯประชาธิปไตยจริงๆ พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนในพรรคการเมืองแต่มีอิสระที่สุด ไม่ขึ้นอยู่กับพรรคใดพรรคหนึ่งแต่ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นสำคัญ พรรคนี้เหมือนกับคณะคอมมิวนิสต์นี่แหละ แต่เขาสับสนแยกไม่ออกระหว่างพฤตินัยกับนิตินัย แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับไหนก็แล้วแต่ ถ้าระบุไว้ว่านายกฯต้องสังกัดพรรคนายกฯตู่ก็คงไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ทีนี้รัฐธรรมนูญไทยดี ไม่ได้บังคับว่านายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนในสังกัดพรรคใด อันนี้จึงเป็นประชาธิปไตยกว่า ตามความรู้อาตมาว่าไม่ใช่ พรรคการเมืองต้องไม่มีกำหนดกฎหมายบังคับให้มี เพราะพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของคนที่มีความเห็นร่วม ที่บอกว่ากลุ่มนี้ขณะนี้มีผู้นำหรือว่ามีความหมายในขณะนี้มันมีสัมมาทิฏฐิมีความเห็นมีทฤษฎีเป็นอย่างนี้นะ มันก็จะมารวมตัวกันแต่นี่มันเห็นแตกต่างกันแยกไปคนละขั้วแน่นอน ก็ต้องมีการต่อสู้ เป็นสัจจะที่ต้องแบ่งสองขั้ว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:04:49 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:45:48 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:44:32 )

ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องเข้าเกณฑ์โลกุตระ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นถ้าจะเป็นประชาธิปไตยจริงๆ แล้ว ต้องเข้าเกณฑ์โลกุตระ คอมมิวนิสต์ยังมีอำนาจบังคับ เผด็จการยิ่งเป็นอำนาจของคนเดียวเลย คอมมิวนิสต์ก็เป็นอำนาจหมู่บังคับ แต่เป็นประชาธิปไตยแล้วไม่ใช้อำนาจบังคับ แต่เอาปัญญาเป็นตัวหลัก เข้าใจกันและปฏิบัติให้ได้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นคนจริงที่มีความถูกต้อง เสมอสมานกัน ตามกฎก็เป็นศีลสามัญญตา ตามความเห็นความเข้าใจของแต่ละคน ก็จะมีทิฏฐิสามัญญตา อยู่ร่วมกันได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเอกีภาวะประชาธิปไตยโลกุตระ วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:24:04 )

ประชาธิปไตยที่แท้ต้องมีหัวหน้าเป็นพระอรหันต์

รายละเอียด

ซึ่งจิตมันไม่จริง จิตอัตตามันไม่ได้ลดง่ายๆ ไม่จริงหรอกมันทำไม่ได้ ถ้าไม่ได้เรียนรู้กิเลสแล้วลดอัตตาจนไม่มีอัตตาเลย เพราะฉะนั้นประชาธิปไตยผู้ที่เป็นประชาธิปไตยต้องเป็นพระอรหันต์ไม่มีอัตตาเลย ผู้ที่เป็นหัวหน้าต้องเป็นพระอรหันต์ จึงจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้ อย่างเช่นชาวอโศก อาตมาเป็นหัวหน้าเป็นพระอรหันต์พูดได้เต็มปากเพราะประกาศไปหมดแล้ว พูดความจริงไม่ได้พูดยกย่องตัวเอง ไม่ได้พูดอย่างมีกิเลสอยากโอ้อวดอะไร แต่พูดเป็นวิชาการ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญคือคนที่เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 20:22:31 )

ประชาธิปไตยที่แท้มีแกนหลักมาจากพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ประชาธิปไตยที่อาตมาได้พยายามพูดถึงประชาธิปไตยที่อาตมาเองเข้าใจนี่ โดยเขียนในหนังสือเราคิดอะไร ไม่ได้อธิบายเป็นหลักฐานอะไร ตอนนี้กำลังเขียนอยู่เหมือนกันเขียนเรื่องประชาธิปไตยที่แท้ ยังไม่จบ ยังเขียนอยู่ได้ร้อยกว่าหน้าแล้ว ก็ค่อยๆ ว่ากันอีกทีนึง ประชาธิปไตยที่อาตมาเข้าใจมีแกนหลักมาจากพระพุทธเจ้า ซึ่งคนไม่เข้าใจง่ายๆ หรอก คนทั้งโลกเข้าใจได้ยาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:28:55 )

ประชาธิปไตยที่แสดงความจริงที่ยิ่งใหญ่

รายละเอียด

แล้วประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้านั้นพึ่งตนเองรอดไหม.. รอด มันจะเป็นประชาธิปไตยที่แสดงความจริงที่ยิ่งใหญ่คือ เป็นประชาธิปไตยที่ไม่ต้องสร้างอาวุธ ไม่มีอาวุธป้องกันตัวและจะไม่ฆ่าใคร ใครฆ่าปล่อยให้เขาฆ่าได้เลย ใจถึงขนาดนั้นเพราะเข้าใจเรื่องเวียนว่ายตายเกิด เขาฆ่าก็คนเลวมาฆ่า เราไม่ได้ไปทำเลวกับเขา ตายแล้วมีแต่สูงกว่าเก่า คนที่มาฆ่าเราสิ เป็นหนี้วิบากไหม ร้ายแรงขึ้นไปอีก อย่างนี้เป็นต้น 

 มันเข้าใจมันรู้จริงหมดแล้ว เพราะฉะนั้นมันไม่ไปทำในสิ่งที่ไม่ดี ยืนหยัดอยู่แต่สิ่งที่ดี เรื่องตายเรื่องเกิดเรื่องเล็กๆ เรื่องตายเรื่องเกิดมันไม่ใช่เรื่องปัญหาอะไรมันจะต้องเวียนตายเวียนเกิด อย่างโลกียะเขาจะไปรู้อะไรเรื่องตายเรื่องเกิด อย่างน้อยตายเขาก็ไปอั้นตู้อยู่ที่พระเจ้า แล้วไม่เห็นการศึกษาอยู่ในโลกพระเจ้าเลย พระเจ้ามีเท่าไหร่ความรู้ขยายมาหมด พระบุตรพระศาสดาก็เอามาขยายความ คนก็เรียนจบเป็นศาสดาได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 3  วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2566 ( 19:42:20 )

ประชาธิปไตยที่แสดงถึงอำนาจประชาชน ประเทศไทยได้ทำสำเร็จสวยงามที่สุดในโลก

รายละเอียด

สรุปแล้วโลกทั้งโลกก็ไม่รู้ว่าประชาธิปไตยที่ดีประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยที่แสดงถึงอำนาจประชาชนประเทศไทยได้ทำสำเร็จสวยงามที่สุดในโลกยังดำเนินต่อไปเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ แม้ตอนนั้นแต่ยังไม่ได้เลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์บริหารมา 4-5 ปี เราก็ยืนยันว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องหาวิธีการให้เลือกตั้ง เลือกตั้งนั้นพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ลงไปเลือกตั้งเลย แต่ก็ได้เป็นนายกฯต่อไปอีก นี่คือการยืนยันว่าเป็นประชาธิปไตยที่สวยงามที่สุดของประเทศไทย แม้แต่ตอนนี้นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ไปอยู่ในพรรคไหน พรรคการเมืองก็มาสนับสนุนเอง นี่คือสุดยอดแล้วของประชาธิปไตยไม่มีประเทศไหนเทียมเท่า  

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2563 ( 09:17:26 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:46:11 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:44:51 )

ประชาธิปไตยที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมันไม่ใช่ประชาธิปไตยที่งามพร้อม

รายละเอียด

เป็นคนเจริญจริงๆ เป็นคนประเสริฐจริงๆ เพราะได้ฝึกตนด้วยทศพิธราชธรรม เป็นกฎมณเฑียรบาลของทุกองค์เลย ทุกพระองค์ในประยูรญาติ ยิ่งใกล้เตรียมพร้อมจะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ยิ่งต้องฝึกตนอยู่ในทศพิธราชธรรม หรือกฎมณเฑียรบาล เพราะฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องลอยๆ ประธานาธิบดีจะมีทศพิธราชธรรมมาจากไหน มีกฎมณเฑียรบาลมาจากไหน หิ้วกระเป๋าเงินมาสร้างอำนาจประเดี๋ยวเดียวก็ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เก๊ที่สุดเลย เพราะฉะนั้น มันไม่สมบูรณ์แบบหรอกมันไม่ได้เรื่อง 

ประชาธิปไตยที่แบบประธานาธิบดี ประชาธิปไตยที่ไม่มีพระเจ้าแผ่นดิน ประชาธิปไตยที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมันไม่ใช่ประชาธิปไตยที่งามพร้อมที่แท้ เพราะมันไม่ครบด้วยองค์ประกอบของความสมบูรณ์ด้วยรูปด้วยนามด้วยจิตวิญญาณ ด้วยองค์ประกอบของมวลมนุษยชาติ มันจึงเป็นประชาธิปไตยที่ไม่ได้เรื่อง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม พุทธศาสนาตามภูมิ มาฝังชิปโลกุตระใส่จิตวิญญาณตนจนเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 วันขึ้น 14 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 ธันวาคม 2565 ( 11:58:45 )

ประชาธิปไตยทุนนิยมสามานย์

รายละเอียด

โลกสังคมกำลังมุ่งหาประชาธิปไตย จีนพัฒนาจากคอมมิวนิสต์ จากเหมาเจ๋อตุง เป็นเชิงบังคับ คนก็ไม่ค่อยชอบหรอก คอมมิวนิสต์จะไม่ครองโลก เดี๋ยวนี้เป็นลัทธิเก๊ คอมมิวนิสต์กลายพันธ์ุ ดูอย่างประเทศไทยมีประชาธิปไตยมาแต่ต้น ยกตัวอย่างพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีคุณธรรมประชาธิปไตยสืบเชื้อมาในประเทศไทย ยิ่งเจริญมาในยุคในหลวงร.9 เป็นที่รู้กันดี แต่ละประเทศก็พยายามทำ แต่ก็เป็นประชาธิปไตยของแต่ละประเทศซึ่งไม่เข้าท่า ยกตัวอย่างอเมริกา ที่เอาประชาธิปไตยจากอังกฤษไปทำ แต่ทุกวันนี้กลายเป็นประชาธิปไตยทุนนิยมสามานย์ ต้องใช้ทุนมหาศาลอำนาจ หมู่กลุ่มเป็นประชาธิปไตยค่ายกลทุนนิยมสามานย์ จะว่าไปแล้วรัสเซียเป็นคอมมิวนิสต์ที่ดีกว่าประชาธิปไตยสามานย์ ขออภัยท่านอเมริกาทั้งหลาย เดี๋ยวจะส่งโดรนมายิงอาตมาอีก ขอให้อาตมาอยู่ทำงานเถิด ไม่ใช่กลัวตายหรอก หากจะตายก็เป็นวิบาก แต่เชื่อว่าไม่ทำหรอก เพราะอาตมาไม่ใช่คนเด่นคนดังหรอก ไม่ใช่เสียงนกเสียงกา แต่เขาถือว่าเสียงหมาเห่าบ๊อกๆ ก็คงไม่ติดใจมากมาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์วันมาฆบูชา บ้านราช เนื้อแท้ประชาธิปไตยพุทธ 5 ประการ วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:56:07 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:45:39 )

ประชาธิปไตยนั้นคือ มีการค้านอยู่ตลอดเวลา

รายละเอียด

คนดีเขาก็รู้ว่าดี แต่กลัวจะเหลิง แสดงความสู่รู้ของผู้ติง แสดงความเป็นตัวตนว่า ฉันรู้ว่าคุณดี แต่ฉันต้องติงคุณไว้ แสร้งว่าฉันไม่อยากให้คุณไม่ดี เป็นการแสดงตัวตนว่าฉันรู้นะ แต่ฉันต้องแสดงออก ฉันต้องติง คนนั้นก็ถูกต้อง แต่เขาไม่รู้รอบลงไปว่า จริงๆ ประชาธิปไตยนั้นคือ มีการค้านอยู่ตลอดเวลาเสมอ แต่การค้านนั้นค้านได้ทั้งส่วนรวมและตัวบุคคลหมู่คณะ และการค้านคำพูดจะเอาชนะคะคาน กูขี้โกง เลวอย่างไรก็ค้านตะพึด อย่างที่มีคนชนิดนี้ทำอยู่ตอนนี้ เราก็ควรจะรู้ว่าคนชนิดนี้ที่จริงควรจะแพ้ไปแล้ว พูดชัดๆ ทักษิณควรจะหลบไปแล้วแพ้ไปแล้ว แต่เขาดื้อด้านสุดกำลัง ไม่ยอมแพ้แล้วก็เล่นเล่ห์ แพ้ไปจนกระทั่งไม่รู้จะแพ้อย่างไรแล้ว เป็นนอมินีมาก็ถูกทำให้แพ้อีก ไม่ว่าจะเป็นสมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ แพ้จนไม่มีหูรูดเลย แต่ถึงแพ้ก็ยังไม่ยอมแพ้อยู่นั่นแหละเพราะเขาโกงเงินไปเยอะ เพราะเขามีแรงจึงดิ้นต่อไป จนกว่าจะตายไปก็คงจะหยุด

สรุปว่าใครจะมีความขัดแย้งจะมีแนวโน้มไปทางไหนก็ย่อมมีธรรมดา ต่างคนต่างมีแนวโน้มของตัวเอง อันหนึ่งค้านอันหนึ่งก็สนับสนุน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ GDP แบบโลกียะกับแบบโลกุตระ วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 21:17:24 )

ประชาธิปไตยนี้คือไม่มีความรุนแรง

รายละเอียด

จิตวิญญาณต่างกัน จิตวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตย อาตมาเข้าใจความเป็นประชาธิปไตย ภาษาที่ว่าประชาธิปไตยคืออำนาจของประชาชน ระบบ ระบอบก็แล้วแต่ ประชาธิปไตยอำนาจเป็นของประชาชนมันคืออย่างไร คืออย่างนี้ ประชาธิปไตยนี้คือไม่มีความรุนแรง เอาตัวนี้ขึ้นมาเป็นตัวต้น ประชาธิปไตยที่เป็นสังคมประชาธิปไตยที่ดี ที่เจริญจะไม่มีความรุนแรง มีความสุภาพ สงบ ไม่ทำลายเด็ดขาด 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2563 ( 08:34:43 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:47:11 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:46:00 )

ประชาธิปไตยบุญนิยมจะไม่มีลักษณะเลวร้าย

รายละเอียด

ใคร รู้ตัวไว้ เราอาจมีบ้าง เข้าใจสัจธรรมสภาวะธรรมอย่าไปเอาถึงตัวบุคคล สิ่งเหล่านี้เป็นความลำเอียงที่มีความเป็นจริงเหมือนกัน ประชาธิปไตยบุญนิยมจะไม่มีลักษณะเลวร้ายอย่างที่กล่าวมาหรอก คุณคนที่เขียนมาและไปเข้าใจอย่างนั้นว่าประชาธิปไตยบุญนิยมเป็นอย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:11:25 )

ประชาธิปไตยประธานาธิบดี เป็นข้อผิดพลาด

รายละเอียด

เขาอ้างอิงแฝงๆ อย่างประธานาธิบดี มีการเลือกตั้ง ยกตัวอย่างเป็นรูปธรรมอย่างอเมริกา เป็นต้น ซึ่งต่างกันกับสังคมประชาธิปไตยของอังกฤษ ทั้งๆที่เขาเป็นพวกที่แตกแยกออกมาจากอังกฤษแท้ๆ มีรากฐานจากชาวอังกฤษแท้ๆ แต่เขาก็ไปประดิดประดอย เป็นระบอบประชาธิปไตยขาเดียวหรือว่า ประชาธิปไตยประธานาธิบดี ซึ่งมันลึกซื้งหลายอย่าง

ซึ่งมันเป็นข้อผิดพลาดตั้งแต่คนแรก ตั้งแต่ประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน เป็นอะไรต่ออะไรมาซึ่งอาตมาเคยนำมาพูดไว้ก่อนแต่แรกแล้วว่า มันเป็นความผิดพลาด ที่ประธานาธิบดีเมื่อเสร็จสงครามกลางเมืองแล้ว  เขาจะยกให้จอร์จ วอชิงตันเป็นกษัตริย์แบบเดียวกันกับอังกฤษ เพราะเขาเป็นชนชาติอังกฤษ แต่ประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน เอง เห็นว่าไม่ดี ก็เลยมาเป็นประธานธิบดี เอาระบบของประธานาธิบดีมาเกิดขึ้นที่ ในประเทศอเมริกาของเขาขึ้นมา 

ซึ่งมันก็บานปลายมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เขาก็ต้องพยายามหาวิธีตกแต่งระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีประธานาธิบดีของเขาขึ้นมา จนเขาเป็นตัวอย่าง มีมหาวิทยาลัย มีทฤษฎี มีตำรา มีคัมภีร์ เป็นประชาธิปไตยแบบที่เขาสร้างขึ้นมา แล้วก็มีอำนาจในโลกเพราะ เขาเก่งตรงที่เขาสร้างอาวุธ ได้ดีได้เก่ง ในทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นความก้าวหน้าอย่างมาก ที่ในหลวงของไทยเราท่านบอกว่า ก้าวหน้าอย่างมากๆอย่างนั้น เป็นการถอยหลังอย่างน่ากลัว

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 6 พ่อครูพบ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ 

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2565 แรม 4 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 ธันวาคม 2565 ( 12:13:23 )

ประชาธิปไตยมาหรืออธิปไตย 3 ของพระพุทธเจ้าเกิดได้อย่างไร

รายละเอียด

มันต้องมีความเข้าใจ มันต้องมีความรู้จริงๆ เลยว่า 

คำว่า ประชาธิปไตย ที่อาตมานำมาจากความรู้ของพระพุทธเจ้าก็คือ  พหุชนหิตายะ (เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ (รับใช้โลก ช่วยโลก) บวกกับคำว่า โลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย ธรรมาธิปไตย 

มีคำว่าอธิปไตยมา แต่อธิปไตย 3 พระพุทธเจ้าท่านเอามาจากความเป็นโลกที่หมายถึงทุกอย่างในองค์รวมที่กว้างที่สุด อย่างเดี๋ยวนี้สื่อสารสนเทศน์ ฟ้าบ่กั้น Globalization มันก็เลยเปิดไปร่วมได้หมด ผู้ใดจะปรารถนาร่วมก็เข้าร่วมได้หมด จะอยู่ฝ่ายใดก็ได้ ร่วมกันทั้งหมดโลก เป็นยุคที่ฟ้าบ่กั้น Globalization ไม่มีอะไรปิดกั้น เชื่อมโยงกันได้หมดเลย สื่อสารสนเทศน์ มันติดต่อกันได้หมด เร็วไวด้วย อย่างนี้เป็นต้น 

เพราะฉะนั้นอธิปไตย 3 ผู้ที่มีภูมิปัญญารู้จักความกว้างคือโลก กับตัวเรา อัตตาธิปไตย ตัวเราเอง ประเทศเราเอง ร่วมกับประเทศอื่นอีก ก็มีทั้งโลก มีทั้งอัตตาที่ประสานกันด้วยธรรมะ ธรรมาธิปไตย อำนาจของธรรมะ ซึ่งบริสุทธิ์สะอาดมาก ไม่มีอธรรมเข้าไปแฝงเป็นธรรมฤทธิ์เต็มรูป เพราะฉะนั้นจึงเกิดอธิปไตย 3

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 15:01:06 )

ประชาธิปไตยมี 2 แบบ

รายละเอียด

ประชาธิปไตยที่เป็นเทวนิยม กับประชาธิปไตยที่เป็นอเทวนิยม

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2562 ( 21:27:02 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:46:45 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:46:21 )

ประชาธิปไตยมีคุณวิเศษ 5 ประการ

รายละเอียด

สรุปลักษณะประชาธิปไตยแล้วใช้บัญญัติกำหนดไว้ 5 ตัวคือ 1. มีอิสระ 2. มีทาน 3. มีปัญญา (ปัญญากับเฉโกก็ต่างกัน) 4. อนุกัมปา 5. อนัตตา  ประชาธิปไตยที่มีคุณวิเศษ 5 ประการนี้เกิดจากคนที่มีคุณธรรมคุณวิเศษ การมีอิสระการทานอย่างไม่มีสาเปกโข ซึ่งความเป็นจริงทำได้ แล้วมีปัญญา แบบโลกุตระไม่ใช่ความฉลาดแบบโลกีย์ทางโลกเทวนิยมใช้กัน แต่นี่เป็นความเฉลียวฉลาดความรู้แบบโลกุตระ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์วันมาฆบูชา บ้านราช เนื้อแท้ประชาธิปไตยพุทธ 5 ประการ วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:18:29 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:47:52 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:46:41 )

ประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบต้องมีกษัตริย์

รายละเอียด

ขอขยายย้ำซ้ำอีกว่า ประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบต้องมีกษัตริย์ มีประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาธิปไตยที่ไม่มีกษัตริย์นั้นเป็น ประชาธิปไตยที่ไม่มีการสืบต่อไม่มีสันตติวงศ์ ไม่มีกฎมณเฑียรบาล  ไม่มีการอบรมฝึกฝน การบริหารการปกครอง ไม่มีทศพิธราชธรรม สายที่เป็นเทวนิยมไม่ใช่พุทธ เป็นความรู้ทางตะวันตก เป็นศาสนาเทวนิยม เขาไม่มีหรอก 

เป็นประชาธิปไตยใครก็ได้สะเปะสะปะมา แล้วก็มาหาวิธีการให้ตัวเองถูกรับเลือกจากประชาชนด้วยวิธีการเลือกตั้ง ก็ไม่มีการสืบสาน ทางจิตวิญญาณ จิตวิญญาณไม่เป็นระบบระเบียบ ไม่มีอะไรสืบทอดต่อเนื่องกันเลย ต่างคนต่างเละๆเทะๆ มากศาสนา มากลัทธิ มากความคิด แล้วก็เป็นอิสระแบบฮิปปี้ ต่างคนต่างคิดแล้วทำ อะไรก็ได้ไม่มีกรอบขอบเขต อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาให้ถึงปัญญาวิมุติ

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 แรม 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2566 ( 12:38:44 )

ประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบเป็นคนไม่มีอัตตา

รายละเอียด

ประชาธิปไตยมีร่วมกันทั้งทางความเป็นเศรษฐกิจ ความเป็นรัฐกิจความเป็นสังคมกิจ เป็นทั้ง 3 อย่างเลย มันเป็นหมดเลย เหมือนร่วมกันอย่างมีน้ำใจ อย่างมีจิตไม่มีอัตตา ทำอะไรก็ไม่มีตัวกูของกูไม่มีพรรคพวกกูของกู ไม่มีอคติไม่ลำเอียงให้ใคร แม้แต่หมู่ฝูงญาติพี่น้อง มันเอาสัจจะเป็นหลักไม่เอาอย่างอื่นเป็นหลัก คนที่จะมีประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบจึงเป็นคนที่ไม่มีอัตตา สุดยิ่งใหญ่มาก ศาสนาพุทธสอนเรื่องอัตตา เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธนี่แหละเป็นประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เพราะศาสนาพุทธรู้จักความเป็นอัตตา ศาสนาอื่นเป็นเทวนิยมตีอัตตาไม่แตก แยกอัตตาไม่ออกแยกอาตมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขาจะไม่รู้จักการแยกเป็น โอฬาริกอัตตา มโนมยอัตตา อรูปอัตตา เขาไม่เข้าใจแยกแยะไม่ได้ แม้แต่ชาวพุทธก็แยกไม่ได้ง่ายๆ ได้แต่พยัญชนะ 

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 พ่อครูบวชมาย่าง 50 ปี มีผลอะไร 1 วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 16:18:28 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:50:24 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:47:10 )

ประชาธิปไตยสองขา

รายละเอียด

เรื่องที่เป็นการเมือง เรื่องของประชาธิปไตยสองขา เป็นเรื่องที่อาตมาทำความเข้าใจที่จะพยายามทำความเข้าใจให้เข้าใจ รากเหง้าของชาติ ชาติ สัตว์โลกเลย สัตว์โลกที่เป็นจิตนิยาม เกิดมาเป็นสัตว์โลกก็จะมีสภาพ 2 อย่างมีรูปกับนาม มีธาตุรู้ซึ่งเจ้าตัวเจ้าของเป็นประธาน กับสิ่งที่ถูกรู้ ก็เป็น 2 เพราะฉะนั้นในภาวะองค์ประกอบที่จะเอามาใช้ในสังคมมนุษยชาติ ไปหลงเอาภาวะเดียว เดี่ยวๆมาใช้ มันผิดธรรมชาติของรากเหง้าจิตวิญญาณ ความเป็นสัตว์โลก แม้แต่เป็นคน เป็นอเวไนยสัตว์ก็สอนไม่รู้เรื่อง จนกว่าจะมาเป็นเวไนยสัตว์ สอนได้ รู้จักอารยธรรมรู้จักโลกุตระ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เป็นเรื่องลึกซึ้งวิเศษประเสริฐจริงๆ ใช้ภาษาพวกนี้อธิบายมันเป็นความจริงที่ มันยากที่จะรู้ แต่มันต้องเป็นจริงอย่างนี้แหละ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2563 ( 16:33:33 )

ประชาธิปไตยสองขาคือทั้งเลือดและวิญญาณ”

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นทั้งเลือดทั้งวิญญาณ 2 ลักษณะ 

 “สองขา”คือทั้ง“เลือด- วิญญาณ”

ก่อกษัตริย์ขึ้นบริหาร ทวิไท้

ต่างจากท่านประธาน อธิปติ มากแล

ใหญ่“ปุ๊บ”แต่ล้วนไร้ ชาติเชื้อ“กรรมพันธุ์”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 20:49:06 )

ประชาธิปไตยสาธารณโภคี

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในประชาธิปไตยทางรัฐศาสตร์เรียก ประชาธิปไตย นี่แหละคือ ประชาธิปไตยสาธารณโภคี เขายังจะต้องศึกษากันอีก จนปวดหูปวดหัวเลยแหละ แต่ก็ยังยากที่จะเข้าใจแต่พวกเราทำได้แล้วเป็นตัวอย่างยืนหยัดไป ประชาธิปไตยแบบนี้ คือประชาชนเป็นใหญ่ ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจเป็นเจ้าของพลัง เป็นเจ้าของการสร้างสรร เป็นเจ้าของของสมบัติทั้งหมด แต่ไม่แย่งกัน อยู่กินเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่ร่วมกันกินใช้ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ร่วมกันสร้าง ร่วมกันขยันหมั่นเพียร คนละไม้คนละมือ ไม่เกี่ยงไม่งอน ไม่แอบๆแฝงๆ

ถ้าเป็นคนแฝง เอาแต่พูดเอาแต่ชี้เป็นคนเจ้าชี้เจ้าใช้..ไม่ ..ลงมือสร้างสรร เห็นว่าการกระทำ ยิ่งเป็นจริงกว่าการชี้ใช้ ชี้ใช้ชี้บอก ทำเป็นผู้รู้แต่ทำไม่ได้ แต่ผู้ทำได้นั้นต้องรู้ถึงจะทำได้ 

คนทำได้มีอยู่ 2 ลักษณะ รู้แล้วทำได้ก็มี คนมีแต่รู้แล้วทำไม่ได้ แต่คนที่รู้แล้วทำได้สำเร็จผลออกมา ไม่รู้ไม่มี คนที่ทำได้และรู้จึงมี คนที่ได้แต่รู้ แต่ทำไม่ได้ ได้แต่พูดได้แต่บอก นั่นยังไม่ครบ ยังไม่จริง อาจจะรู้ถูกรู้ได้รู้ดี แต่ทำไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 จรณะและวิชชาคือพุทธคุณภาคปฏิบัติ วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2565 ( 19:21:48 )

ประชาธิปไตยสาธารณโภคีเสียภาษี 100%

รายละเอียด

มาเข้าสู่ ประเด็น อีก 20 นาทีที่อาตมาพูดถึงเรื่องประชาธิปไตย 

ประชาธิปไตยที่มีอยู่ในโลกก็คือประชาธิปไตยอย่างทุนนิยม ที่เป็นประชาธิปไตยทุนนิยมสามานย์ที่เขามีกันอยู่ทั่วโลก หรือประชาธิปไตยหาคะแนนเสียง แล้วก็มีกลวิธีที่จะไปสร้างคะแนนเสียงอย่างที่เรามาเรียนรู้กันอยู่ เอามาอธิบายวิจัยวิจารณ์กันอยู่ในข่าวในงานทางสื่อสารเต็มอยู่ขณะนี้ ไม่ได้พยายามอธิบายเข้าไปสู่ประชาธิปไตยที่เป็นประชาธิปไตยแท้จริง ว่า ผู้ปฏิบัติประพฤติการเมือง ตัวนักการเมือง เขาปฏิบัติประพฤติการเมืองนั้น ได้ปฏิบัติประพฤติการเมืองอย่างที่เอาสาระ เอาเนื้อแท้ไม่ใช่หาคะแนนให้แก่ตัวเอง 

ขอยกตัวอย่าง อย่างพลเอกประยุทธ์นี่ นักสื่อสารยังไม่ค่อยให้คะแนนเลย แต่พลเอกประยุทธ์ทำเข้าเป้า เอาสาระที่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับประชาชน อะไรที่จะต้องทำรีบด่วนทำก่อน ทำๆๆ ส่วนนักสื่อสาร นักวิจัยต่างๆนานาเข้าใจไม่ทัน จับแก่นแท้ของที่พลเอกประยุทธ์ทำไม่ออกเพราะมันเยอะ งานที่จะเป็นสาระให้แก่ประเทศมันเยอะ มันผิดพลาดบกพร่องมันเป็นประชาธิปไตยหาเสียงประชาธิปไตยนายทุน ประชาธิปไตยที่สร้างอำนาจอะไรต่างๆนานา 

อย่างพลเอกป้อมกับพลเอกประยุทธ์ พลเอกป้อมสร้างอำนาจ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้สร้างอำนาจ พูดแค่นี้ ขอพูดชัดๆ พลเอกป้อมทำงานหาเสียงพลเอกประยุทธ์ไม่ทำงานหาเสียง ฟังให้ดีๆเอาเนื้อหาสาระไม่ใช่มาหาคะแนนหาเสียงไม่ใช่มาสร้างทุนนิยม ไม่ใช่สร้างการทำมาหากิน หรือแม้แต่ทำเพื่อสรรเสริญ ประชาธิปไตยไม่ใช่ทำเพื่อสรรเสริญ พลเอกประยุทธ์โดนว่ามากกว่าพลเอกป้อม แต่คนก็จะรู้ว่าอะไรบริสุทธิ์กว่ากัน คนเขาก็มีปฏิภาณพอรู้เหมือนกัน นี่มันเป็นเรื่องเนื้อหาสาระแก่นแท้ของสัจจะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตย 3 อย่างในโลกวันพุธที่ 4 มกราคม 2566 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2566 ( 11:03:00 )

ประชาธิปไตยสาธารณโภคีเสียภาษี 100%

รายละเอียด

เศรษฐศาสตร์ ประชาธิปไตยกลุ่มคนกลุ่มนี้เสียภาษี 100% คอมมิวนิสต์ก็ยังค้อนแล้วค้อนอีก คอมมิวนิสต์ พยายามออกกฎหมายบังคับให้เสียภาษีกระจายทั่วถึงกัน ของเรานี่ รายได้ยกให้กองกลางแล้วค่อยๆฝึกตน แบ่งกินแบ่งใช้ โภชเนมัตตัญญุตา อย่าตะกละตะกลาม ให้เป็นคนมีวรรณะ 9 เลี้ยงง่ายๆ อย่าเรื่องมาก กินก็ยาก ไปก็ยาก มาก็ยาก อยู่ก็ยาก เป็นคนยากไอ้คนยาก แต่เป็นคนเลี้ยงง่ายบำรุงง่าย สุภระ สุโปสะ นี่ พวกเรานั่งฟังตอนเย็นกันอบอุ่น ทุกวัน ยังมีแถมอื่นๆอีก เรียนภาคอื่นอีกไม่ใช่น้อย พวกเราเห็นธรรมะเป็นสำคัญในชีวิต แล้วเราก็ได้มรรคได้ผลยอดธรรมะ มันก็เลยเป็นแก่นแกนเนื้อแท้ของชีวิต แล้วเราก็ได้อาศัยในชีวิตเป็น กัมมปฏิสรโณ เป็นเครื่องอาศัยเป็นที่อาศัยในชีวิตของเราไป 

เพราะฉะนั้นคนที่ได้จุดจบ ได้จุดลงตัวของชีวิต เลือกสังคมอยู่ สังคมเราไม่ใช่สังคมปิด แต่คนมองมาว่า อโศกมันเอาแต่พวกของมัน มันเป็นสังคมปิด เขาไม่เข้าใจสัจจะ สังคมอโศกไม่เคยเป็นสังคมปิดเลย คอมมิวนิสต์นั่นเป็นสังคมปิด แต่ที่นี่ไม่ใช่สังคมปิด เป็นแต่เพียง  มีหลักเกณฑ์เล็กน้อย สำคัญว่า กฎพื้นฐานของที่นี่นั้นคือ 1.มีศีล ศีล 5 เป็นอย่างต่ำ พื้นฐาน 2. ไม่กินเนื้อสัตว์ 3.ไม่มีอบายมุข 

พื้นฐานอย่างนี้  เป็นกฎพื้นฐานของเรา ซึ่งมันเป็นกฎเกณฑ์สังคม ที่ไหนๆ เขาก็มีของเขา คอมมิวนิสต์เขาก็มีของเขา ประชาธิปไตยก็มีของเขา หรือเป็นกึ่งสังคมนิยมก็แล้วแต่เขาก็มีของเขา แล้วมีอิสระใครจะมามีกฎพื้นฐานให้คุณก็อยู่ได้ แม้ว่าคุณเองจะยังละเมิด เช่นกินเนื้อสัตว์อยู่ มีอบายมุขอยู่ ปฏิบัติศีลไม่ค่อยได้ คุณมาอยู่คุณก็ต้องพยายาม ไม่ได้คุณก็ไปเองอิสระ ถ้าคุณพออยู่ได้ไม่มีใครเหล่ตา ไม่มีใครประท้วง คุณก็อยู่ได้ แต่พวกนี้กระแสตามันแสบนะ คุณมาทำอะไรพิสดาร ยกตัวอย่างตื้นๆ ไม่เอาอะไรมากหรอก คุณมาผัดหน้าทาปากอยู่ในนี้เท่านั้นไม่ต้องเอาอะไรมาก รับรองเลย คุณจะอยู่ได้ไหม จริง นอกจากคุณมาประเดี๋ยวประด๋าวผ่านๆมาแล้วผัดหน้าทาปาก เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาไม่เหล่อะไรมากมาย แต่ถ้าคุณจะอยู่  โดนแน่ ยกตัวอย่างง่ายๆ 

หรือคุณจะมาทำเป็นกร่าง ฟุ่มเฟือย หรูหรา ทำเป็นรวย ทำแบบทุนนิยม เดี๋ยวนะ เดี๋ยวเถอะได้ความ เดี๋ยวได้เรื่อง จะเป็นเศรษฐศาสตร์หรือเศรษฐกิจ ของคอมมิวนิสต์ก็ตาม ของประชาธิปไตยก็ตาม ต้องการเงินเข้ากองกลางหรือเสียภาษีให้กองกลางได้มากที่สุด แล้วสังคมกลุ่มไหนจะปฏิบัติสำเร็จเท่าอโศก ประชาธิปไตยก็ต้องการให้ได้มากที่สุด คอมมิวนิสต์ก็ต้องการให้เสียภาษีเข้ากองกลางมากที่สุด แต่อโศกนี้เสีย 100% 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตย 3 อย่างในโลกวันพุธที่ 4 มกราคม 2566 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2566 ( 11:51:13 )

ประชาธิปไตยสามเส้า

รายละเอียด

เข้ามาสู่ประชาธิปไตยสามเส้าในฉบับเดือนเมษายน 61 ประชาธิปไตยสามเส้าอ่านบทประชาธิปไตยสามเส้า

ประชาธิปไตยสามเส้า     

(1) ทุกชาติต่างเลือกเฟ้น ครรลอง  

เป็นระบอบการปกครอง ประเทศไว้                         

     การเมืองเศรษฐกิจสนอง     ชนรัฐ ตนแฮ             

โชค-เคราะห์ชาติใดได้ ต่างชั้นกันไฉน

(2) “อธิปไตย”อำนาจนี้ คือพลัง

ปุถุชนหลงกันดัง พระเจ้า 

ต่างสร้าง“ใส่ตน”หวัง เป็นใหญ่  

      ลาภยศยกย่องเย้า ยั่วให้แรงคึก

(3) เชิญศึกษาเถิดถ้วน ตำรา  

“ไทยนิยม”อย่างราชา รัชชเก้า

“อภิบาล”สุดวิเศษหา ใดเปรียบ ได้เลย    

คือ“อธิปไตย”สามเส้า เทิดเกล้าคนสยาม

(4) ตรงตามสัจจะทั้ง ศาสตรา

หนึ่ง“กษัตริย์”-สอง“ประชา” ผนึกเข้า

ผนวกสามอีก“วิญญาณ์” “อำนาจร่วม” กันเฮย 

ยอด“อธิปไตย”สามเส้า จิตไซร้เป็นประธาน

(5) ใช่พาล“รวบอำนาจ”ไว้ ใน“ตน”              

สิทธิ์ประชาแต่ละคน มอบให้

แก่เราจากประชาชน เขาชื่น ชมเอง  

มิใช่เราอยากได้ แย่งยื้อมาครอง

(6) ตามสัจต้อง“รับใช้.. ปวงชน”

กระทั่งประชายล ยื่นให้

ลาภยศยกย่องขน มาข่ม ได้ฤา

หาก“อภิบาล”วิสุทธิ์ไซร้ วิศิษฏ์แท้จึงจริง

(7) ยิ่งใครได้สัมผัสซึ้ง ตรึงใจ

ศาสตร์พระราชาไทย ที่เก้า

หา“ประชาธิปไตย”ใด ไป่เปรียบ ได้เลย

คือ“อธิปไตยสามเส้า” วิเศษไท้ไทสยาม

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 12:14:53 )

ประชาธิปไตยสุดยอดคือประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

สมัยพระพุทธเจ้าท่านทำประชาธิปไตยเรียบร้อยเพื่อประชาชนจริงๆไม่มีตัวตนจริงๆเสียสละรับใช้ประชาชนอย่างสมบูรณ์อย่างเช่นพระพุทธเจ้าอย่างเช่นพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 9 ของเรา เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน สมัยพระพุทธเจ้าคนไม่เข้าใจง่ายๆเพราะเป็นสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์สมัยยุคทาส คนก็ยังไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชน นักรัฐศาสตร์จะต้องศึกษาติดตามไปดีๆ คิดว่าไม่น่าจะถึงร้อยปีน่าจะเข้าใจกันนะพวกนักรัฐศาสตร์ เพราะว่ายุคนี้ไปใกล้กลียุคแล้ว ทั่วโลกจะเข้าใจประชาธิปไตยสุดยอดคือประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 25 วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 03:58:45 )

ประชาธิปไตยสูงสุด

รายละเอียด

คือต้องล้างอัตตา ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประชาธิปไตยสูงที่สุด ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ดีที่สุดในโลก

คำอธิบาย

ประเทศไทยไทยเป็นเมืองประชาธิปไตย เพราะมีทฤษฎีลดล้างความเห็นแก่ตัวได้อย่างดีที่สุด

(พ่อครู 28.7.62)


เวลาบันทึก 01 มิถุนายน 2562 ( 15:43:47 )

ประชาธิปไตยสูงสุดจริงๆ จิตใจจะเป็นเยี่ยม

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นที่ต่างจากที่พูดก็ฟังไว้ ที่มันไม่ใช่ มันก็ต่างกัน ประชาธิปไตยต้องเป็นอย่างนี้ ประเทศไหนเป็น ประเทศไทยเป็นได้ เป็นประเทศที่ไม่รุนแรง ไม่ใช้การทำลายใช้ความสุภาพสงบและก็ไม่ทำร้ายเด็ดขาด ยิ่งประชาธิปไตยสูงสุดนั้น ประชาธิปไตยสูงสุดจริงๆ จิตใจจะเป็นเยี่ยม 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2563 ( 08:36:01 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:47:33 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:47:29 )

ประชาธิปไตยอย่างอเมริกา กับประชาธิปไตยอย่างไทย 

รายละเอียด

สรุปอีกที อาตมาถึงบอกว่าอาตมาเทียบเคียงระหว่างประเทศนั้นประเทศนี้ มันมีพฤติกรรมพฤติการณ์ ของความจริงแต่ละประเทศมันเป็นอย่างไร อาตมาก็เอามาอธิบายให้ฟัง กลับมาเทียบในทางประชาธิปไตย ประชาธิปไตยอเมริกากับประชาธิปไตยไทย ชัดเจนมากสำหรับอาตมา ประชาธิปไตยอย่างอเมริกากับประชาธิปไตยอย่างไทย 

ประชาธิปไตยอย่างอเมริกาเป็นประชาธิปไตยขาเดียว อย่างที่อาตมาอธิบายอย่างสำนวนภาษาอาตมา คือเป็นประชาธิปไตยของคน กเฬวราก ใครก็ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี บ้าๆไปตามกฎเกณฑ์ของเขา 4 ปีแล้วก็เลือกตั้ง สร้างอำนาจก็ได้หลายสมัย กฎหมายออกบ้างจะให้ได้แค่ 2 สมัย 3 สมัยไม่ได้ เขาก็แก้กฎหมาย หรืออะไรพวกนี้ เหมือนอย่างเขมร ไม่มีอะไรว่าเวลาจะหมดเป็นนายก เป็นทั้งนายกเป็นทั้งประธานาธิบดี เป็นทั้งพระเจ้าแผ่นดิน แต่เขาอยู่อย่างเขมร ไม่เหมือนเกาหลีเหนือ มันมีนัยยะต่างกันเท่านั้นเอง อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2566 ( 15:00:56 )

ประชาธิปไตยอย่าไปให้ความสำคัญและความหวังกับการเลือกตั้ง 

รายละเอียด

สรุปแล้วอย่าไปหวังอะไรมากกับการเลือกตั้งเลย แค่คุณคิดประกอบดี พูดมามันก็อย่างที่ว่า ยังมีความซับซ้อน มีแทคติก มีกลเม็ด มีเชิงชั้น มีวิธีการ พวกเล่นการเมืองนี้สะสมนะ สะสมพรรคพวก สะสมอำนาจ สะสมวิธีการอะไรอีกตั้งเท่าไหร่ จนกระทั่งที่เขาสะสมเอาไว้นี้มีฤทธิ์ทำให้เขาเลือกตั้งได้ชนะ ได้ทุกครั้งๆๆ ก็เลยกลายเป็นความสำเร็จของวิธีการ ไม่ใช่เป็นความสำเร็จของความจริง ที่คนที่จะเลือกหรือคนที่จะยกให้มาเป็นผู้บริหาร เป็นผู้ที่เข้ามาประจำตำแหน่งหน้าที่ที่จะรับผิดชอบอยู่ในคณะเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการในประเทศซึ่งมีทุกประเทศ พลเมืองธรรมดาก็คือพลเมืองธรรมดา แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่าข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐก็คืออันนั้น 

เพราะฉะนั้นอาตมาก็ถึงบอกว่า เราจะไปเอาที่การเลือกตั้งนี้เป็นสำคัญใหญ่ แล้วก็ชื่อว่าประชาธิปไตยต้องมีการเลือกตั้ง ถ้าไม่เลือกตั้งไม่ใช่ประชาธิปไตย อาตมาว่าอาตมาไม่เห็นด้วย ประชาธิปไตยต้องมองถึงแก่นเนื้อของมนุษย์ที่ทำงาน ประชาชนผู้ที่จะได้รับเลือกตั้งขึ้นไปตามตำแหน่งหน้าที่ฐานะก็จะเลื่อนไปเป็นผู้นำประเทศ คุณจะเป็นแบบประธานาธิบดีกับคุณจะมาแบบอื่น คุณจะเป็นนายกก็เป็นแบบนายกเป็นผู้นำประเทศ ที่จะบริหาร 

เพราะฉะนั้นก็เอาที่คนนั้นๆแสดงฝีมือ แสดงความสามารถ แสดงสิ่งที่จะเป็นผู้บริหารเบอร์ 1 หรือไม่เบอร์ 1 ก็เป็นการชนะเลือกขึ้นไปเป็นข้าราชการประจำหรือข้าราชการการเมือง คือข้าราชการที่ก่อน ข้าราชการการเมืองก็ได้รับเลือกขึ้นมาตามวาระแล้วได้รับการรับรองจากในหลวง ประเทศที่ไม่มีในหลวงก็แล้วแต่กฎหมายของเขา 

สรุปแล้วเขาเห็นการเลือกตั้งเป็นสำคัญแล้วโมเมมุบมิบกัน อาตมาเห็นแล้วมันก็คงจะจัดสรร เมืองไทยก็คงจะจัดสรรได้ เห็นความสำคัญของการเลือกตั้งให้น้อยลงกว่าเห็นความสำคัญของมนุษย์ พฤติการณ์ของมนุษย์ผู้ประพฤติปฏิบัติ แล้วก็เป็นที่รู้กันของมวลประชาชนว่าต้องคนนี้ ถ้าคนนี้เป็นนักการเมืองหรือผู้ที่จะขึ้นไปเป็นผู้บริหารการเมือง จนกระทั่งถึงขั้นระดับชั้น เป็นข้าราชการชั้นสูงเป็นรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีไปเลย อย่างนี้เป็นต้น ก็จะต้องเอาความเป็นจริงของบุคคล พฤติการณ์พฤติกรรมความจริงของบุคคล 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 17 การแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบพุทธ ตอน 2

วันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2566 ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 10:17:41 )

ประชาธิปไตยอันสมบูรณ์แบบตาม system analysis

รายละเอียด

อาตมาได้ไปร่วมกับเขา พาพวกเราทำ เป็นพฤติกรรมที่เป็นปาฏิหาริย์ แต่เขายังไม่เชื่อเท่าไหร่ เป็นประเทศที่ประชาชนไปทำรัฐประหารรัฐบาลจนสำเร็จผลมา 4-5 รัฐบาล แล้วถึงวาระพลเอกประยุทธ์ คุม คสช.ก็มารับหน้าที่ รับไม้ต่อจากประชาชนไป แต่มันอยู่ในรูปแบบของประชาธิปไตย อยู่ในฐานะผบ.ทบ.แล้วบอกว่าขอยึดอำนาจ ทั้งที่คนจะถูกยึดอำนาจเขาไม่มีอำนาจ แต่ด้วยความเหมาะสมลงตัวของประเทศ พลเอกประยุทธ์ก็ไปทำ แต่ถ้าคุณประยุทธ์ไม่ทำ มันจะฆ่ากันตายเป็นเบือ ขอยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะว่าประชาชนมีอำนาจเหนืออยู่แล้วผ่านมาตั้ง 4-5 รัฐบาล แม้จะไม่ใช่คุณประยุทธ์จะเป็นผู้อื่นก็ได้ แต่ทีนี้จะไปพูดไปทำไมมันเป็นอดีตแล้ว เมืองไทยจะต้องมี ทำไมต้องเป็นเรา ต้องเป็นพลเอกประยุทธ์ ก็ต้องเป็นพลเอกประยุทธ์ อาตมาอธิบายอจินไตยนี้ไม่ได้ มัน Born To Be เป็นตถตา มันต้องเป็นเช่นนั้นเอง มันต้องเกิดมาเป็นอย่างนั้นเอง อันนี้ก็เป็นเรื่องสัจจะที่ต้องศึกษาไปดีๆ อาตมาไม่ได้พูดเล่น อาตมาพูดเรื่องจริงเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่เป็นตัวอย่างของโลกต่อไปอีก ก็ตัดตอนไปเป็นเรื่องๆไป หาก climax ของเรื่องเอง มันหลายเรื่องแต่รวมแล้วเป็นเรื่องเดียวกันคือประชาธิปไตยอันสมบูรณ์แบบ เป็นแบบตาม  system analysis 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 24 มิถุนายน 2563 ( 11:30:01 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:48:17 )

ประชาธิปไตยอเมริกันยังอำมหิตยังมีชนชั้นอย่างไร

รายละเอียด

คุณงามความดีของมนุษยชาติมีถึงขนาดนั้น พวกเราพูดแล้วก็เข้าใจและซาบซึ้งด้วย แต่พวกที่อำมหิตพวกนี้ เข้าใจก็ยาก เข้าใจไปก็อย่างนั้นแหละ ไม่ได้ซาบซึ้ง ไม่ได้เห็นว่ามันเป็นจริงนะ เขาจะต้องเป็นเจ้าโลก จะต้องให้คนกลัว จะต้องให้คนมาสยบกับเขา ให้เขาเป็นนาย จนเป็นระบบทาส ระบบเถื่อนอยู่ แล้วก็บอกว่านี่แหละเสรีภาพเป็นประชาธิปไตยไม่มีทาส เขาพูดนี้มันไม่เห็นจริงเลย ในประเทศสหรัฐอเมริกาเขา ชั้นวรรณะเป็นทาส โดยเฉพาะเขาไม่ลืมว่า ชาวนิโกรเป็นทาสตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เดี๋ยวนี้เขาก็ยังกดขี่ลบหลู่ แม้แต่ที่สุด ชนชั้นวรรณะของคนรวยคนจน เขาไม่มีระบบกษัตริย์ เขาก็ถือว่าเขาเข้าหลักเข้าเกณฑ์มันไม่มีศักดินาแล้วนะ คนทุกคนเสมอภาคกัน มันก็ยังมีชั้นอยู่นั่นแหละ ยกเกียรติ ชั้นวรรณะ สรรเสริญเยินยอ 

ประธานาธิบดีเดินมาก็ต้องเข้าแถวเคารพ มันเคารพพฤติกรรมไม่มีจริงมีอยู่แค่ไหน พูดไปก็มีแต่ขี้ฟันเหม็นๆ ความเคารพต้องมีจริง ความนับถือกันก็ต้องมีจริง คนที่ควรยกย่องเคารพนับถือเชิดชู ด้วยคุณค่า คุณธรรม คุณวิเศษ อันแท้จริง ก็ต้องเคารพบูชา ยกย่อง เชิดชูอย่างแท้จริง ซึ่งมันเป็นสัจจะ 

คนที่ไม่มีจริงทำซับซ้อนหลอกลวงกันฆ่าคนเก่งๆเป็นเจ้าโลกแล้วก็ยกย่องว่า เป็นผู้ที่น่ายกย่อง เชิดชู บูชา ยังงั้นขี้หมาแน่ะครับ มันฉลาดหรือมันโง่กันแน่ มันไม่ถูกฝาถูกตัวไม่สมกับความจริง นี่ พูดไปมันคือสัจธรรมความจริงที่คนไม่ค่อยรู้ อวิชชา ไม่รู้ความจริงอย่างคมชัดแม่นและเป็นจริงอย่างที่ว่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก ครั้งที่ 41 อาหารเป็น 1 ในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 20:40:50 )

ประชาธิปไตยเชิงประชาชนเต็มรูปแบบเป็นเช่นใด

รายละเอียด

ก็ประกาศสู่พวกเรา อย่าไปเสียเวลาอยู่ข้างนอกมากเลย ตอนนี้มันมีความต้องการ ประเทศไทยต้องการความก้าวหน้า ตอนนี้ เพราะฉะนั้นมารวมตัวกันเถอะ อาตมาเห็นคณะพวกนักการเมือง นักการเมือง กระเหี้ยนกระหือรือ 40 กว่าพรรคการเมือง ยังไม่หมดเวลาสมัครนะตอนนี้ แต่พรรคเพื่อฟ้าดินไม่ไป จะทำงานทางด้านภาคประชาชน เพื่อที่จะขยายผล ให้เป็นประชาธิปไตย เชิงประชาชน เต็มรูปแบบ นี่บอกไว้ก่อน จ่าหัวไว้ก่อน

อาตมาพยายามตั้งใจทำให้เห็นความเป็นประชาธิปไตยของความเป็นประชาชน มันต้องมีผู้ที่เอาภาระเรียกว่าคณะรัฐบาล แต่คณะรัฐบาลจริงๆแล้ว คุณต้องรู้ตัวเองนะ ว่าคุณเป็นเพียงผู้บริบาล หรือผู้อภิบาล ช่วยดูแลเลี้ยงดูอุ้มชู คุณไม่ใช่เจ้าของอำนาจ คุณเป็นผู้อภิบาล คุณไม่ใช่ผู้ที่มีอธิปไตย อธิปไตยเป็นของประชาชน มันสำคัญนะ คนที่ยึดถือผิด ถ้าคุณเป็นผู้บริบาล ผู้อภิบาล บริบาลประชาชน คุณอย่าใช้อธิปไตยอย่าใช้อำนาจบาตรใหญ่ ให้คุณรับใช้ประชาชน บริบาลคือรับใช้ อธิปไตยคืออำนาจแรง อำนาจแรงนี้เป็นของประชาชน เขาจะให้อธิปไตยแก่คุณ คุณต้องบริบาลหรืออภิบาลให้ดี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ก่อนฉัน ที่โรงเรียนผู้นำ จ.กาญจนบุรี สัปปายะ 4 ที่มีสัมประสิทธิ์ วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:39:24 )

ประชาธิปไตยเบอร์ 1 เป็นของประเทศไทยไม่ใช่อเมริกา

รายละเอียด

เหตุการณ์ตอนนี้คุณโดนัลด์ ทรัมป์ ส่อแสดงให้เห็นเลยว่าอเมริกานี้สั่งสมความไม่จริงโดยการกดข่ม ทำเป็นไม่ใช่ คือเขาว่าเขาใช่ ใช่อะไร ใช่ประชาธิปไตยแต่จริงๆแล้วเขาไม่ใช่ก็เลยทำ กลบเกลื่อน นำออกเป็นสินค้าว่า เป็นวิชาการรัฐศาสตร์เรื่องประชาธิปไตยของอเมริกาเป็นเบอร์ 1 ซึ่งอาตมาว่ามันผิด เบอร์ 1 ของประเทศไทย ประชาธิปไตยน่ะ อาตมาถึงจำนนจริงๆตรงที่ว่า ประชาธิปไตยอย่างที่อาตมาเข้าใจนี้ อาตมาเอาอย่างของพระพุทธเจ้ามาเป็นตัวอย่าง ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านมีประชาธิปไตยตั้งแต่ในยุคของท่านที่เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แล้วคณะของสงฆ์ ท่านทำได้แต่ในวงสงฆ์ ประชาชนเข้ามาเป็นประชาธิปไตยด้วย แต่มันอยู่ในสังคมสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไม่มีสิทธิมนุษยชนอะไร ได้แต่รู้แต่ทำอะไรไม่ได้มาก จะมานั่งประท้วงเหมือนอย่างเขาทำทุกวันนี้ อิสระเสรี ตั้งแต่ทักษิณมา กับประชาธิปไตยของอเมริกา คิดให้ดีเถอะที่คนไทยพวกนอกรีต พวกนอกประชาธิปไตยเขาทำไม่เข้าท่า ทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะเป็นทักษิณหรือลูกน้องทักษิณจนกระทั่งธนาธรหรือโดนัลด์ทรัมป์ หรือคนอื่นๆที่มีเชิงที่ไม่ใช่ แต่ที่ไม่ใช่นั้นเขากดข่ม กลบเกลื่อน เพื่อจะไม่ให้ลักษณะเหมือนอย่างโดนัลด์ ทรัมป์แสดงออกกับประชาชน 70 กว่าล้านคนที่แสดงออก นี่แหละคือเนื้อแท้ของประชาชนคนอเมริกัน 70 กว่าล้านคนขณะนี้ เขาอ้างอิงเลยว่าขณะนี้เขาคือความเห็นเดียวกันกับโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นไหมว่าคนในประเทศเขา ชาวอเมริกันมีความคิดอย่างนี้ และที่ไม่แสดงออกมีอีก แต่จะเห็นอย่าง
โดนัลด์ ทรัมป์ไม่ใช่น้อย

อาตมาไม่ได้โมเมที่บอกว่าประชาธิปไตยอยู่ที่เมืองไทยเป็นเบอร์ 1 แม้จะมีทักษิณก็ตาม ประชาธิปไตยของไทยก็ยังเป็นประชาธิปไตยที่ ดูหยาบๆ อาจจะดูเหมือนมันเป็นความเห็นแก่ตัวของผู้นำที่เห็นแก่ตัวเต็มที่ อย่างเช่นทักษิณ หรือมี ขออภัย อย่างจอมพลสฤษดิ์เป็นต้น ก็เป็นเพียงยุคคราวที่เป็นเช่นนั้น ซึ่งประชาชนต้องจำนนว่า มันเกิดมนุษย์ขึ้นมาแบบนี้ในยุคนี้กาละเทศะนี้ในช่วงนี้ มันก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลง แต่ค่ารวมที่จะพูดแล้วมีแกนหลักอยู่ในจิต จิตเป็นประธานของสิ่งทั้งปวงของคนไทยที่เป็นชาวพุทธ มีโลกุตรธรรมลึกๆอยู่ในใจ แล้วก็ไม่รู้จักว่าโลกุตระคืออะไร แต่มี

จนกระทั่งในประเทศไทยมีพระเจ้าแผ่นดิน เขาบอกว่าถ้ามีพระเจ้าแผ่นดินไม่ใช่ประชาธิปไตยเหมือนอย่างอเมริกาหรืออย่างธนาธรจะมาล้มล้างกษัตริย์ แม้อังกฤษเขาทุกวันนี้ก็ยังมีกษัตริย์ เป็นต้นแบบของประชาธิปไตยอย่างนี้เป็นต้น แต่นี่แล้วก็พูดกัน คงจะมีนักรัฐศาสตร์หรือชาวอังกฤษเข้าใจโน้มๆไปได้แต่เขาดูความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อเมริกาเป็นประชาธิปไตยแท้กว่าอังกฤษ คนอังกฤษที่เป็นนักรัฐศาสตร์ก็อาจจะมีจิตอย่างนี้ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าอะไรคือประชาธิปไตยแท้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญคือคนที่เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 20:13:15 )

ประชาธิปไตยเป็นชื่อของระบอบลัทธิ

รายละเอียด

เหลือชีวิตอยู่ เราก็ยังวนเวียนอยู่ในโลกที่มันยังวนเวียน อย่างพระโพธิสัตว์ อย่างอาตมา อาตมาจะเลิกเกิดแล้วตายสูญไปเลยแล้วก็ได้ ก็พูดความจริงนะ บอกไปว่าอาตมายังตั้งใจจะรู้โลกให้มันถ้วนสมบูรณ์ แบบพระพุทธเจ้ารู้ นี่ก็รู้มาเยอะแล้วก็พูดเยอะอยู่ ทั้งพูดทั้งเขียน 

อาตมาก็ยังคิดว่า เมื่อไหร่จะหมดที่จะเขียน เขียนไม่ออกแล้วจนแต้มแล้ว มันยังไม่ถึงตรงนั้นสักที จะเขียนเมื่อไหร่ก็เขียนได้ไม่รู้จบไม่รู้สิ้น ต้องพยายามจบ เขียนอะไรก็ต้องพยายามจบ นี่ก็พยายามจะจบที่เขียนอยู่ ตอนนี้เขียนปัญญา 8 ก็ยังไม่จบสักที แต่ก็เขียนขีดจบไว้แล้ว ต้องเขียนขีดจบไว้นะ แล้วบอกตัวเองว่านี่จบ ตรงนี้ แล้วก็ทวนมา ปัญญา 8 จะจบแล้วล่ะ อีกไม่ถึง 100 หน้า เขียนมา 6-700 หน้าแล้ว จะจบแล้ว ถ้าไม่จบมันก็ไม่จบ เราก็ไม่เอาแล้วก็ต้องจบ จะไปเขียนประชาธิปไตยของไทยที่ดีที่สุดในโลก ให้จบอีก เขียนไว้แล้ว 100 กว่าหน้า 

ประชาธิปไตยเป็นชื่อของระบอบลัทธิ ที่คนในโลกต่างคนต่างก็เข้าใจของตัวเองว่านี่คือประชาธิปไตย พวก 3 นิ้ว พวกแดง บอกว่าพวกเขาประชาธิปไตย พวกอื่นพวกเผด็จการ อำนาจบาตรใหญ่อะไรต่ออะไรของเขาอยู่ ซึ่งเขาไม่รู้องค์รวมของสภาวธรรมที่แท้จริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนา บำเพ็ญธรรมภาคค่ำ ว.บบบ. เตรียมงานตลาดอาริยะปีใหม่ 2566 วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 06 มกราคม 2566 ( 12:24:15 )

ประชาธิปไตยเมืองไทยต้องมีสถาบันกษัตริย์เป็นราชประชาสมาสัย

รายละเอียด

ส่วนของประชาธิปไตยเมืองไทย ยกตัวอย่างง่ายๆ ประชาธิปไตยเมืองไทย ยกเว้น   ต้องมีสถาบันกษัตริย์เป็นราชประชาสมาสัย รัฏฐาธิปัตย์ต้องมี 2  อย่าง  1. ของในหลวง และ 2.ของประชาชน ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทน นี่เรียกว่าประชาธิปไตย 2 ขา ทีนี้ที่อาตมาจะอธิบายคือ อย่างนายกฯประยุทธ์ ไม่ได้กะเกณฑ์ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปเป็นนายกฯหรอกอาตมาบอกได้เลย อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ มันอยู่ในจังหวะพอดี ไม่ได้คิดไว้ก่อน ถ้าตั้งใจเอาไว้ นายกฯประยุทธ์ไม่ได้ออกมาช้าอย่างนี้หรอก เร็วกว่านี้ จะออกมายึดอำนาจเร็วกว่านี้ แต่นี่มายึดอำนาจ จนกระทั่งประชาชนทำอะไรเสร็จหมดแล้วมันก็ดีมันก็สวยมันก็ดีสุดเพราะประชาชนปฏิวัติไว้ให้ ประชาชนรัฐประหารไว้ให้ พลเอกประยุทธ์ก็มารับไม้ต่อจากประชาชน 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 12:54:06 )

ประชาธิปไตยเมืองไทยสวยที่สุด

รายละเอียด

แต่เมืองไทยสรุปว่า ประชาธิปไตยของเมืองไทยสวยที่สุด นี่ไม่ได้พูดเล่น ไม่ได้หลงตัว แต่พูดเอาทฤษฎีหลักเกณฑ์ของพระพุทธเจ้ามาตัดสิน ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นโครงสร้างทฤษฏีหลัก พระพุทธเจ้ายิ่งใหญ่ในยุคของท่าน ธรรมนูญของท่าน จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล ในทวีปอินเดีย เจ้าแคว้นใดๆก็ยอมให้ท่านหมดเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์วันมาฆบูชา  บ้านราช เนื้อแท้ประชาธิปไตยพุทธ 5 ประการ วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 12:02:00 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:51:20 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:48:21 )

ประชาธิปไตยแท้กับเศรษฐกิจดี

รายละเอียด

แม้แต่คำว่าประชาธิปไตยแท้ ขอยืนยันว่ายังไม่มีใครรู้จักความเป็นประชาธิปไตยแท้ๆที่อาตมาเอาของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ยังหรอก ยังอีกไกล ในต่างประเทศทุกประเทศ ยังไกลห่างจากประชาธิปไตยแท้ๆของพระพุทธเจ้า มีประเทศไทยนี่แหละ ขณะนี้อาตมาพูดไม่รู้กี่ทีแล้วว่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุดในโลก status quo ปัจจุบันกาล นี้ดีที่สุดในโลก และแม้แต่คำว่า เศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจดี ก็ยังเข้าใจคนละอย่าง เขาเข้าใจแบบทุนนิยม เป็นความเห็นที่เข้าข้างพวกนายทุน เป็นความเห็นที่สุดโต่ง ไม่ได้เป็นความเห็นที่เป็นเศรษฐกิจอย่างดีที่สุด ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวของไทยรัชกาลที่ 9 ก็ได้ทรงตรัสไว้ชัดเจนแล้ว ว่าต้องเป็นความพอดี พอเพียง เป็นสิ่งที่ค่อนมาทางจน มาเป็นคนจน ไม่ใช่ค่อนไปทางรวย นี่คือการอธิบายประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 มกราคม 2564 ( 09:31:49 )

ประชาธิปไตยแท้จริงคืออธิปไตย 3 และอายะ 3

รายละเอียด

มันเกิดจากยุคสมัย เกิดจาก Social เกิดจากความเห็น ขอวิจัยตรงนี้พอสมควรหน่อย ใช้เป็นประโยชน์ในการแสดงธรรม คือความเข้าใจของคนนี่ เข้าใจว่าความเจริญ คือความมีลาภ มียศ มีสรรเสริญ ฟุ้งเฟ้อมากมาย โลกียะ คนเจริญด้วยลาภ มียศสูงๆ มีสรรเสริญยกย่องมากๆ คนโลกียะก็มองอย่างนี้เป็นหลักเป็นธรรมดา เป็นพื้นง่ายๆ ทุกคนมีความคิดอย่างนี้ทั้งนั้น เชื่ออย่างนี้ แล้วก็หลงอย่างนี้ก่อน 

จนกว่าจะมาได้ยินได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นคำสอนที่ล้มล้างเรื่องนี้เลย ปฏิโสตังทวนกระแส ล้มล้าง อย่าไปหลงลาภยศสรรเสริญ แม้แต่สุข ความรู้สึกสุข ซึ่งพูดกับเทวนิยมเขาไม่รู้เรื่องหรอก มาเลิกสุข เขาก็จะบอกว่า บ้าหรือเปล่า อะไรมาเลิกสุข เป็นคนมีความสุขแต่ไม่เอาความสุข มาเลิกความสุข ดับความสุข ซึ่งมันจริงๆเลย มันทวนกระแส มันปฏิโสตัง มันล้มล้างความคิดนึกของมนุษยชาติ เพราะฉะนั้นเราจะพูดยังไงๆๆ มันก็ยากที่เขาจะเข้าใจ 

เป็นต้นว่า พวกฝรั่งมาทำวิทยานิพนธ์ในเมืองไทย มาอยู่ในพวกเรานี้ ฝรั่งอเมริกันมาทำปริญญาเอก มาทำวิทยานิพนธ์ เขาก็เปรยว่า กาม มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ของสัตว์โลก ไปเกี่ยวข้องอะไร ไปเลิกมันทำไม เขาก็พูดซื่อๆนะ มันเป็นเรื่องของธรรมชาติของมนุษย์ ของสัตว์โลก ยิ่งจะพูดความเป็นสัตตาวาส 9 ไม่ต้องพูดกับเขาหรอก (บอกได้แค่) ก็นั่นแหละผู้เจริญแล้ว ไม่เป็นสัตว์นั้นนะ มันถึงไม่ต้องไปมีเรื่องเหล่านี้ มันยาก ยาก มากๆ แต่สิ่งที่ยากก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นสิ่งที่คิดฟุ้งเฟ้อเพ้อเจ้อเล่น ไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้ก็ไม่ใช่ แต่ปฏิบัติได้ ปฏิบัติได้แล้วยอดด้วย ถึงบอกว่าเป็นเรื่องเหลือวิสัยที่จะเข้าใจ เป็นเรื่องสุดวิสัย เป็นเรื่องอจินไตย เรื่องพวกนี้ 

เพราะฉะนั้นเด็กที่ไม่ใช่เด็กธรรมดาเท่านั้น ต่อให้เป็นผู้ใหญ่เป็นด็อกเตอร์ เป็นปราชญ์ด้วยซ้ำ ก็ยังไปเทิดทูนโลกียธรรม ไปเทิดทูน ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข คนที่ไม่มีแล้วเลิกแล้ว ลดละเลิก เขาไม่เข้าใจหรอกว่ามันเป็นความเจริญ ไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นในระบอบการบริหาร ระบอบอะไรก็แล้วแต่ แม้ที่สุดทุกวันนี้ ระบอบบริหารคือประชาธิปไตยเป็นเลิศเป็นยอดว่างั้นนะ เขาก็คิดว่าระบอบประชาธิปไตยแบบเทวนิยม แบบชาวตะวันตกที่เขาคิดว่าเลิศ ยอดก็ไม่ได้พ้นเรื่อง ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข เลย  มาแบบของพระพุทธเจ้านี่พ้น ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข 

อาตมาเคยอธิบายไปหมดแล้วว่าเรื่องคำว่า ประชาธิปไตยคำนี้ไม่ได้เกิดในยุคพระพุทธเจ้า เพราะเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มันพูดภาษานี้ไม่ได้ แต่พระพุทธเจ้าท่านอธิบายสภาวธรรมของประชาธิปไตยแล้ว แล้วท่านก็พาปฏิบัติจนบรรลุแล้ว แล้วก็พามวลชนมามีอายะ 3 หรือประโยชน์ 3 และมี  อธิปไตย 3 โลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย และ  ธรรมาธิปไตย  นั้นแหละมันครบแล้วในเรื่องของอธิปไตย เป็นผลสูง เป็นธรรมาธิปไตย เพราะธรรมาธิปไตยมีธรรมะนี้ บรรลุอะไร บรรลุเป็นผลต่อพหุชนนี้แหละ เป็นภาษาเดียวกัน สภาวะเดียวกัน สภาวธรรมเดียวกันกับคำว่าประชาชน มวลประชาชนด้วย พหุชนะ แปลว่า มวลประชาชน ครบครันยิ่งกว่าคำว่า ประชาชนนะ ครบครันยิ่งกว่าคำว่าประชาเฉยๆ 

พหุชนหิตายะ(เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) เอาอธิปไตย 3 กับ อายะ 3 รวมกัน คือเหตุและผล อธิปไตย 3 เป็นเหตุ อายะ 3 เป็นผล สมบูรณ์แบบแล้ว 

ไม่ได้ทำไปเพื่อให้พืช เพื่อให้อิฐหินดินปูนหรือดินน้ำลมไฟ แต่ทำเพื่อให้ประชาชน มวลประชาชน พลังงานอธิปไตยหรืออำนาจหรือกำลังต่างๆ อธิปไตยของคน จะเป็นอำนาจทางกาย เป็นอำนาจทางวาจา อำนาจทางมโนทางจิตวิญญาณ เป็นพลังงาน ที่มันเป็นพลังงานที่จะสร้างสรร ที่จะทำให้เกิดผล เป็นเหตุให้เกิดผล คืออายะ เป็นหิตะประโยชน์ พหุชนหิตายะ (เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ (รับใช้โลก ช่วยโลก อนุเคราะห์โลก) ถ้าไม่ติดยึดในพยัญชนะคำต่อคำเลยจริงๆ คำประชาธิปไตย นี่แหละยิ่งใหญ่ครบครัน คำว่า ประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ 

พระพุทธเจ้าทำสำเร็จในยุคของท่าน แม้ว่าจะเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคทาส เป็นยุคที่มนุษย์ไม่รู้จักสิทธิมนุษยชน ท่านทำได้ผลเลย เพราะฉะนั้นคนที่เข้ารีต  คนที่เข้ามาถือธรรมวินัย ปฏิบัติธรรมตามพระพุทธเจ้า เป็นผู้ได้ปฏิบัติธรรมนี้ ท่านยิ่งใหญ่จนกระทั่งกษัตริย์ในแคว้นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ท่านเป็นรัฐอิสระ ถือว่าท่านเป็นรัฐอิสระรัฐหนึ่งเลย ที่พระเจ้าแผ่นดินแต่ละแคว้น ในตอนนั้นคมนาคมยังไม่ได้ไปไกลก็อยู่ในทวีปอินเดีย แคว้นใหญ่ที่สุดสองแคว้นเหมือนกับอินเดียกับจีนทุกวันนี้ในโลก ในยุคพระพุทธเจ้าก็มีแคว้นมคธกับแคว้นโกศล พระเจ้าพิมพิสารกับพระเจ้าปเสนทิโกศล ใหญ่ที่สุด ยอมยกให้พระพุทธเจ้า 

เพราะฉะนั้นประชาชนของแคว้นมคธ ประชาชนของแคว้นโกศลก็ดี ประชากรจะมาเข้ารีตจะมาเข้ารัฐของพระพุทธเจ้า จะมาเข้ารีตรัฐอิสระของพระพุทธเจ้า มาถือธรรมวินัย มาถือปฏิบัติตาม พระธรรมวินัยตามข้อบังคับตามกฎหมาย เข้ารีตลัทธิเลย มาอยู่ในนี้ พระเจ้าแผ่นดินก็ยกให้เลย เพราะว่ามันห้ามกั้นไม่ได้สำหรับความจริงที่มันสุดยอดความจริง ความดีสุดยอด ความจริงสุดยอด แล้วพระเจ้าปเสนทิโกศลก็ดี พระเจ้าพิมพิสารก็ดี ท่านก็มีภูมิปัญญารู้ด้วยว่า นี้สุดยอด เป็นยอดความดีงามสูงส่งแล้วโลกุตรธรรมนี่ ไม่ใช่จะธรรมดา เพราะฉะนั้นถึงยอมให้อย่างชื่นอกชื่นใจเลย ยิ่งดียิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะอะไร 

เพราะผู้มาเป็นพุทธศาสนิกชนนั้นจะถูกปลดแอกหมดเลย อิสรเสรีภาพ เพราะฉะนั้นถ้าคนที่เป็นสมาชิกของศาสนาพุทธดีแล้ว มันดีมีพลังงานหรือมีอธิปไตย มีกำลัง มีอำนาจแผ่ไปถึงแคว้นโกศล ต่อประชาชนของแคว้นโกศล ต่อประชาชนของแคว้นอื่นๆ แคว้นมคธไปด้วยจริงๆ เพราะคุณธรรมของศาสนาพุทธที่เป็นอาริยะแล้ว เป็นคนเจริญจริงๆ มันเป็นความเจริญที่เป็นความเจริญที่มันไม่ได้เป็นภัยเป็นโทษกับใครเลย มันเป็นความเจริญที่มีแต่คุณ มีแต่คุณประโยชน์ มีแต่คุณลักษณะที่ดี มีแต่คุณธรรมต่อคนอื่น เหมือนอย่างชาวอโศกเรานี่ เราไม่ได้ไปมีโทษต่อใครๆ แม้แต่ชาวบ้านเลย ทุกวันนี้อาตมาเองเดินออกไปข้างนอก เดินออกไปนี่ ออกไปไกล ชาวบ้านเขาเข้าใจหมดแล้วยกมือไหว้หมดตลอดทาง ชาวบ้านขับรถมอเตอร์ไซค์ไปก็ยังไหว้มือเดียวนะ ดีเขาไม่ปล่อยสองมือไหว้ อย่างนั้นจริงๆ เขารู้เขาเข้าใจหมดแล้ว อย่างคุณงามความดีคือยังไง โลกโลกียะ คุณงามความดีนี่ มันเป็นโลกียะ ถ้าโลกุตระก็คือสุขทุกข์ นี่ก็แยกแยะให้ฟังหมดแล้ว 

ซึ่งศาสนาเทวนิยมตะวันตกจบด็อกเตอร์ทางศาสนา ทางจิตวิทยาจะมีความรู้ทางธรรมอะไรก็ตาม ไม่มีหรอกเรื่องสุขเรื่องทุกข์ เขาไม่เคยวิจัยวิจารณ์ ไม่เคยแยกแยะ เขาไม่เคยคิดว่า มันต้องรู้ทันสุขรู้ทันทุกข์ แล้วสุขทุกข์นี้ต้องเลิกมันหมดเลย มันเป็นสิ่งเดียวกันมันเป็นมายาหลอกมนุษย์ไห้ติดยึดอยู่ในโลกอยู่ในวัฏสงสาร เขาเข้าไม่ถึงหรอก เขาไม่รู้เรื่องหรอก 

เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธจึงเป็นศาสนาที่มีความรู้ที่เกินที่จะคิด แล้ว และมันจบแล้ว สูงสุดแห่งที่สุดของความรู้แล้ว ความรู้ของพระพุทธเจ้า สุดแล้ว สุดยอด สุดยอดจนกระทั่งทำคนให้ดีที่สุดอย่างถาวร นิยตะ เที่ยงแท้อีก จะวนเกิดวนตาย รู้จักการวนเกิดวนตาย ชาตินี้ชาติต่อไป แต่เทวนิยมไม่รู้จัก แต่ของพระพุทธเจ้ารู้จัก แล้วเป็นเรื่องที่พิสูจน์ตามได้ด้วย จนกระทั่งผู้มีภูมิจึงจะรู้เลยว่าชาติแต่ก่อนเรามีพื้นฐานอันนี้มา ชาตินี้เราถึงต้องมาเกิดเป็นอันนี้ ชาติก่อนเราเกิดเป็นอันนั้น แล้วมาเกิดเป็นอันนี้มาไม่ใช่ว่าไม่มีที่มาที่อยู่ดีๆแล้วก็ไม่มีที่มา พลั๊ว มาเกิดเป็นอันนี้ มันมีที่มา มาจากเหตุปัจจัยของเดิมของเรามามาต่อถึงชาตินี้มีพื้นฐานได้มาแล้ว ไม่ใช่อยู่ดีๆก็มีอะไรฟลุ๊คๆ (บังเอิญ)ขึ้นมา ไม่ฟลุ๊คหรอก ทุกอย่างต้องมาจากกรรมของตนเอง วิบากของตัวเองสั่งสมกรรมสั่งสมวิบากเองทั้งนั้น ไปหาซื้อไปหาแย่งของใครก็ไม่ได้ ของใครของมัน ไปแย่งยื้อจากใครไม่ได้ 

ที่บอกว่า เด็กๆทำไมเป็นอย่างนี้ เขาไปหลงงมงายต่างประเทศว่าเป็นประเทศเจริญ ทั้งๆที่ประเทศที่เจริญที่สุดในโลกคือประเทศไทย มีจิตวิญญาณซับซ้อนลึกซึ้ง มีสภาพหมุนรอบเชิงซ้อนปฏิโสตัง-ทวนกระแส เป็นคุณธรรมที่สูงสุดแล้ว ไม่มีเทวนิยมไหนรู้เรื่องเท่าหรอก ไม่มีเทวนิยมไหนรู้เรื่องคุณธรรมลึกซึ้งถึงขั้นทางจิตเจตสิกรูปนิพพาน เขาไม่รู้หรอก เพราะฉะนั้น เด็กใหม่ๆไม่ประสีประสาก็นึกว่าเป็นความเจริญอย่างอเมริกา ซึ่งอาตมาว่าอเมริกานี้ภายในชีวิตของเราน่าจะเห็นความล่มสลาย คือเขาเคยเจริญอย่างโลกๆ แล้วมันก็เสื่อมทันตามาถึงยุคของเรา เขาเจริญไล่มาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาระยะ 100 ปี 200 ปีของประเทศเขา แล้วก็เจริญมาได้จนอายุประเทศเขาก็ยังไม่ถึง 300 ปี มันเสื่อมแล้ว ในความเป็นโลกๆด้วย ไม่ต้องไปพูดถึงโลกุตระเลยเขาไม่มีด้วย มีแต่ความเป็นโลกโลกียะ ซึ่งก็เสื่อมเอง เสื่อมทันตา ก็ค่อยๆ ดูกันไป อาตมาพูดอย่างนี้ไม่ได้ไปลบหลู่ไม่ได้ไปเกลียดชังอะไรเขาแต่พูดเพราะสงสาร ไม่รู้จะทำไง ก็พูดสัจธรรม อาตมาก็แสดงธรรมแล้วพูดความจริง อันนี้มันไม่ดีก็ว่าไม่ดี อันนี้ผิดก็ว่าผิด อันนี้สูงก็ว่าสูง อันนี้ต่ำก็ว่าต่ำ ไอ้ที่ว่าสูงก็ต้องมาพูดถึงสูง พูดถึงสูงบ้าง  เขาก็ว่าเชียร์ทำไม ดีไม่ดีพูดสูงไปก็มาเชียร์ชาวอโศกเองมันก็เลยน้อย ก็เลยต้องมีตำหนิกันเยอะ 

 

 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 39 ฌานปัญญาของคนเจริญจริงคือทำจิตให้เป็นมหาภูตได้ วันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2566 แรม 4 ค่ำเดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2566 ( 19:09:49 )

ประชาธิปไตยแท้ๆ คือคนไม่มีอัตตาตัวตน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นถ้าแทงลึกเข้าไปในถึงจุดที่จิตเป็นประธาน จิตเป็นประธาน อัตตาทั้งนั้น คนที่มาเห็นร่วมกันก็เป็นคณะคอมมิวนิสต์ เพราะฉะนั้นประชาธิปไตยในตัวเองไม่มี ประชาธิปไตยแท้ๆคือคนไม่มีอัตตาตัวตน ทำงานกับประชาชนทำงานกับผู้อื่นเอาคนอื่นเป็นหลักเลย ไม่เอาตัวเองเข้าไปเป็นหลัก แต่มีปัญญาเอาปัญญาเป็นหลัก เอาความรู้ รู้จักองค์ประกอบทุกอย่างปรุงแต่งสังขารกันทั้งนั้น แม้แต่ตัวเราเองก็ไม่ใช่เจ้ากี้เจ้าการเป็นพระเจ้า จะต้องเป็นอย่างที่เราบัญญัติไว้แล้ว หนึ่งเดียวเปลี่ยนไม่ได้ ต้องอย่างนี้ ไม่ใช่ เปลี่ยนแปลงได้ตามกาละเทศะฐานะ มันจะไม่เหมือนกัน เหตุปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคนี้กับยุคพระพุทธเจ้า หรือว่าในยุค 100 ปีที่อเมริกาเองหรือในยุค 100 ปีอเมริกา กับตอนนี้เหตุปัจจัยที่ปรุงแต่งกันก็จะไม่เหมือนกัน เขาไม่รู้จักกาละเทศะฐานะเลย พวกนี้ไม่ละเอียดลออพอ ไม่มีเหตุปัจจัยที่จะเรียนรู้แบบมีสัปปุริสธรรม 7 แล้วมีมหาปเทส 4 เขาไม่มีความรู้หลักเกณฑ์เหล่านี้มาศึกษา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญคือคนที่เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 20:17:29 )

ประชาธิปไตยแท้ๆคือชาวอโศก

รายละเอียด

ประชาธิปไตยแท้ๆคือชาวอโศก แต่เขามองไม่ออก เขาว่าพรรคของพวกมันคือพรรคอโศก อโศกเป็นcomon noun ใครก็ตามก็มาเป็นสมาชิกชาวอโศกได้กฎระเบียบพื้นฐานมีนิดเดียว 1 มีศีลห้า 2 ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ 3 ไม่มีอบายมุขแค่นั้นแหละก็มาเป็นสมาชิกชาวอโศกได้ นอกนั้นเขาก็จะพาคุณเจริญอย่างนี้เป็นต้น กฎเกณฑ์ไม่ได้ยากไม่ได้มากอะไร ที่อื่นประเทศอื่นเขามีกฎเกณฑ์มากกว่านี้ ตามกฎหมายเขา คือมันเกินกว่าคาดคะเน ว่ามันจะเป็นไปได้หรือยังโน้นอย่างนี้ แต่มันเป็นจริง พวกเรานี้จึงเป็นบุคคลและเป็นสังคมที่เรียนรู้มีจิตเป็นประธานตามทฤษฎีของพระพุทธเจ้ามา เมื่อคุณสมบัติของจิตไปถึงขั้นนี้ได้มันจึงเป็นองค์รวมได้ถึงขั้นนี้ สาราณียธรรม 6 สาธารณโภคี วรรณะ 9 เสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นคุณสมบัติแท้ เป็นคนมักน้อยสันโดษถ้าคุณอยู่ในนี้ไม่เป็นคนมักน้อยจะอยู่ไม่ได้ ที่นี่ไม่ได้พามักมาก พาให้มักน้อยแล้วยังเสียสละอีก เสียสละกาม เสียสละรูป อรูปอีก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:16:57 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:48:59 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:48:51 )

ประชาธิปไตยแนวเดียวกับพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้หากินกับประชาธิปไตย อาตมาทำตนเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยแล้วมั่นใจว่าประชาธิปไตยคืออะไร อาตมาทำประชาธิปไตยแนวเดียวกับพระพุทธเจ้า เป็นประชาธิปไตยที่มีกระบวนการองค์ประกอบผลลัพธ์ตามที่พระพุทธเจ้าพาเป็น ตั้งแต่บัดโน้นจนถึงปัจจุบันนี้ อาตมาก็ทำตรงตามที่พระพุทธเจ้าท่านพาเป็นทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจะบอกว่าหากิน อาตมาไม่เคยอาศัยประชาธิปไตยหากิน

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 11:19:27 )

ประชาธิปไตยแบบที่เราเป็นอเมริกาไม่มี ประชาธิปไตยพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ใช่ แบบนี้เขายืนยันว่าประชาธิปไตยแบบที่เราเป็นอเมริกาไม่มี อังกฤษพอมีไรๆ บ้าง แต่ไม่ชัดเจนเหมือนอย่างเรา อเมริกาไม่มีเลยเป็นประชาธิปไตยบ้า ประชาธิปไตยคะแนนเสียงเลือกตั้ง ประชาธิปไตยไม่มีวิญญาณ ประชาธิปไตยสะเปะสะปะ ใครมาก็ได้ไม่มีอะไรเลย รัฏฐาธิปัตย์ มีแต่ประชาชน แล้วประชาชนใครก็ได้มาเป็นใหญ่ ไม่มีทศพิธราชธรรมไม่มีอะไรเลย ไม่มีการสืบสันตติวงศ์เพื่อจัดเตรียมตัวเป็นนักบริหาร จับฉลาก ใครเลือกได้มีวิธีการกลวิธีขึ้นไปได้ก็เป็นผู้บริหารได้ ไม่มีรากเหง้าไม่มีสายสืบอะไรเลย 

เป็นประชาธิปไตยสะเปะสะปะ แล้วเขาก็ไม่เข้าใจหรอก เขาก็เรียนด็อกเตอร์กันตามประชาธิปไตยจบมาจากอเมริกาเอามาขยายความซ้อนกันเต็มไปหมด 

อาตมาไม่ได้เรียนมาจาก มหาวิทยาลัยพวกนั้นหรอก อาตมาเป็นประชาธิปไตยพระพุทธเจ้า เอามาจากพระพุทธเจ้า เขาก็บอกว่า พระพุทธเจ้าไม่มีประชาธิปไตย สงฆ์ของพระพุทธเจ้าคือกลุ่มนักประชาธิปไตย มีอิสรเสรีที่สุด สบายที่สุด สงบที่สุด อบอุ่นที่สุด อิ่มเอมที่สุด เกษมใสที่สุด ใจเกื้อกูลที่สุด เพิ่มพูนการเสียสละที่สุดเลย ของพระพุทธเจ้านั่นแหละคือหัวใจประชาธิปไตยทั้งหมด เป็นอย่างที่ว่านี้ แล้วมาเป็น สาราณียธรรม 6 จุดสำคัญที่มันเป็นตัวชี้บ่งคือ ลาภธัมมิกา แล้วก็เป็นสาธารณโภคี นี่คือตัวชี้บ่งเศรษฐศาสตร์ ชี้บ่งรัฐศาสตร์ ชี้บ่งสังคมศาสตร์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตย 3 อย่างในโลกวันพุธที่ 4 มกราคม 2566 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2566 ( 11:45:33 )

ประชาธิปไตยแบบพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

คุณสมบัติ 5 ประการนี้มนุษย์จะต้องศึกษา เมืองไทยสืบทอดประชาธิปไตยโดย DNA มา อาตมาพยายามยืนยัน แต่คนไม่เชื่อน้ำมนต์ว่าประชาธิปไตยนี้ทำรัฐประหารโดยประชาชน รัฐประหารหรือประชาชนร่วมกันปฏิวัติประเทศโดยประชาชนสำเร็จถึง 4-5 รัฐบาล แม้แต่ประชาธิปัตย์ก็ถูกปฏิวัติโดยประชาชน นอกนั้นก็ต้องหนี ไม่หนีก็ตาย อย่างนอร์มินีสมัคร อย่างสมชายก็ยังอยู่ นอร์มินีทักษิณมีหลายคน เป็นตัวอย่างว่าไม่ขึ้นหรอก ประชาธิปไตยสามานย์ไม่ขึ้นหรอก แบบใช้อำนาจบาตรใหญ่ สร้างเครือขาย ทหารแตงโม ตำรวจมะเขือเทศ ก็มี จะซับซ้อนในกรอบของประชาธิปไตย  ต้องรู้เนื้อแท้ประชาธิปไตย ขอยืนยันว่าเราชาวอโศกเป็นเนื้อแท้ประชาธิปไตยแบบพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์วันมาฆบูชา บ้านราช เนื้อแท้ประชาธิปไตยพุทธ 5 ประการ วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:57:58 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:53:10 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:49:16 )

ประชาธิปไตยแบบพระพุทธเจ้าไม่ได้รู้กันทั่วโลก

รายละเอียด

ก็ค่อยๆศึกษากันไปนะ ขอยืนยันว่าที่อาตมาพูดไม่ใช่พูดพล่อยๆ พูดอย่างไม่มีหลักฐานความรู้ อาตมามีความเข้าใจประชาธิปไตยแบบพระพุทธเจ้าซึ่งไม่ได้รู้กันทั่วโลก ไม่ได้รู้กันได้ง่ายๆ ประชาธิปไตยแบบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเผยแพร่ธรรมะของท่านท่านก็เป็นประชาธิปไตยแล้วเป็นผู้ที่ไม่มีอัตตาตัวตน เป็นผู้ที่รับใช้มวลประชาชนมาตลอด แล้วก็มีหลักเกณฑ์มีธรรมนูญ คือ ศีล นี่แหละ เป็นธรรมนูญของท่าน เป็นจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล ใครที่มาเข้ารีต ก็มาถือศีลตามหลักเกณฑ์นี้ กษัตริย์ของแต่ละแคว้นใหญ่แคว้นเล็กก็ยอมให้พระพุทธเจ้าหมด คนของท่านจะมาเข้ารีตพระพุทธเจ้าก็เอาไปเลยให้หมดเลย อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งบารมีของพระพุทธเจ้าจริงก็ได้มาก พระพุทธเจ้าเผยแพร่ประชาธิปไตยในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์คนยังเป็นทาส ยังไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชนกันเลย ซึ่งอาตมาอธิบายมาหมดแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:12:53 )

ประชาธิปไตยแบบพุทธส่งต่อจากพระพุทธเจ้าถึงเมืองไทย

รายละเอียด

สำหรับคนอยู่เชิงเขาตีนเขาก็เป็นอย่างนั้น แต่คนที่ขึ้นไปสู่ยอดเขาได้ก็มี ประชาธิปไตยตามที่อาตมาอธิบายขอยืนยันว่า ประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้านั้นยิ่งใหญ่ 

พระพุทธเจ้าสร้างประชาธิปไตยท่ามกลางยุคทาส ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระเจ้าแผ่นดินยิ่งใหญ่ เรียกว่าเผด็จการสมบูรณ์แบบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระราชาเป็นเจ้าของชีวิตเป็นเจ้าของทรัพย์สินทุกอย่าง อนุญาตให้ใครมีแล้วจะริบลงให้หมดเลยก็ได้เอาคนนั้นมาฆ่าเลยก็ได้อย่างนี้เป็นต้น สมบูรณาญาสิทธิราชย์ยิ่งใหญ่ถึงปานนั้นในยุคนั้น 

แต่พระพุทธเจ้า สามารถที่จะมีธรรมนูญของท่านเอง จุลศีลมัชฌิมศีลมหาศีล ใครมาเข้ารีตมาปฏิบัติตามมายึดถือธรรมนูญนี้ 

พระเจ้าแผ่นดินในยุคนั้น มีหลายแคว้นหลายประเทศ บางประเทศก็ใหญ่มากเช่นแคว้นโกศล แคว้นมคธ สองแคว้นใหญ่ ในทวีปอินเดีย ก็ยอมให้พระพุทธเจ้าหมด ขนาดพระเจ้าแผ่นดินมคธบอกเลยว่า มาช่วยกันบริหารประเทศเถอะ เราจะแบ่งมคธนี้ให้ครึ่งหนึ่ง กรุงกบิลพัสดุ์ของพระพุทธเจ้านั้น เล็กกว่ามาก พระเจ้ามคธบอกว่าแบ่งให้ครึ่งนึง ยังใหญ่กว่ากรุงกบิลพัสดุ์มากกว่า พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่หรอกเราจะมาทำงานทางด้านธรรมะ ไม่ไปทางนั้นแล้วเลิกแล้วอย่างนี้เป็นต้น 

ท่านลองถึงขนาด ลูกพระเจ้ามคธคือพระเจ้าอชาตศัตรู ที่ประหารพ่อ แล้วตัวเองก็ขึ้นครองราชย์ เสร็จแล้วมันเป็นอนันตริยกรรม ก็ยังมาศรัทธาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็โปรดไป จนกระทั่งสุดท้ายถามว่า ถ้าเผื่อว่า คนของพระองค์ คนที่อยู่ใกล้ชิดรักมากรับใช้ตื่นก่อนนอนทีหลัง รับใช้เก่งทุกอย่างเลย เป็นราชวัลลภ ใกล้ชิด รักที่สุด ช่วยทุกประตูเป็นตัวแทนเลย คนนั้นของพระองค์ที่ตื่นก่อนนอนทีหลังรับใช้ ไว้ใจได้ทุกอย่าง เป็นข้าราชบริพารสนิทชิดเชื้อเลย เกิดมาศรัทธาพระพุทธเจ้า แล้วก็มาขอบวช ท่านจะเอาคืนไหม? เพราะท่านมีสิทธิ์เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ท่านไม่ให้ก็ได้ ท่านจะเอาคืนก็ได้ 

พระเจ้าอชาตศัตรูก็บอกว่าไม่หรอก มีแต่จะสนับสนุนส่งเสริมเราจะเป็นอุปัฏฐากให้ด้วยซ้ำไปจะต้องเคารพเขาด้วย เห็นไหม ทั้งที่ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นพระโสดาบันได้เพราะเป็นอนันตริยกรรมแต่ท่านเข้าใจ จิตยังไม่เป็นแต่ปฏิภาณปัญญายอมรับทุกอย่างอย่างนี้เป็นต้น 

พระพุทธเจ้าก็ตรัสบอกพระเจ้าอชาตศัตรูชัดเจนทุกอย่าง ถ้าไม่มีอนันตริยกรรมจะเป็นพระโสดาบัน ณ ที่นั้นเลย ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ต้องรับวิบากไปเป็นชาติจะมีเป็นต้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาตนให้รู้ความเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:56:49 )

ประชาธิปไตยแบบพุทธโดยเฉพาะ

รายละเอียด

ทีนี้คำว่า กาย เทวนิยมยังไม่รู้ หรือแม้แต่ชาวพุทธที่ไม่สัมมาทิฏฐิก็ยาก กายก็ไม่รู้หรือรู้แค่แบบเฉโก กายแบบเฉโก กายคือร่าง ก็หมายเอาภาวะเดียวคือสรีระคือร่าง ภาษาอังกฤษเรียกว่า body คือข้างนอก ไม่เกี่ยวกับจิตนะ เขาจะเข้าใจโดดเดี่ยวว่า กายนี้เป็นแค่สรีระ เป็นแค่ร่าง body ซึ่งคำว่า body นั้น ก็หมายถึงเอาความเป็นศพ อย่างคนตายแล้วเหลือแต่ศพนี่แหละคือ body ไม่มีจิตวิญญาณแล้ว body มีแต่ร่างที่ตายแล้ว ไม่มีจิตหรือไม่มีวิญญาณ อยู่ในตัวแล้วจริงๆ 

เพราะฉะนั้นเทวนิยมหรือชาวพุทธก็ตามที่ยังมิจฉาทิฏฐิ เทวนิยมหรือชาวพุทธที่มิจฉาทิฏฐิก็จะมีความรู้ไม่ถึงขั้นปัญญา เทวนิยม หรือชาวพุทธก็ตาม ที่ยังไม่มีความรู้ หรือจะมีความรู้แต่ว่าความรู้นั้นไม่ใช่ปัญญา หรือยังไม่ถึงขั้นปัญญา มีแต่การวัดค่าของคน ของสังคมกันได้เพียงแค่ความดีความชั่ว ความรู้ เฉกาเฉโก ความรู้โลกียะ จะวัดคุณค่าของคน จะวัดกันเพียงเอาความดีความชั่วมาเป็นเครื่องวัด 

คนมีความดีมากก็เหนือชั้นที่จะมีความชั่ว แต่คนที่มีความสุขที่เป็นโลกุตระเป็นปรมังสุขังหรือไม่มีสุขเลยซึ่งทวนกระแส เขายังมืดยังงงยังสับสนว่าอะไรวะ มันมีอีกคู่หนึ่งด้วยหรือ ดีชั่วเป็นเทวะคู่หนึ่ง แล้วสุขทุกข์เป็นเทวะอีกคู่หนึ่ง เป็นภาวะ 2 ของ 2 คู่นี้ เขาจะรู้แต่ความดีความชั่วจะยังไม่รู้จักรู้สารู้จักกันในเรื่องของความสุขความทุกข์ เพราะฉะนั้นเทวนิยมหรือชาวพุทธที่มิจฉาทิฐิอยู่ก็ตามก็จะรู้ตามสมมติตามบัญญัติ หรือแม้แต่ตามกฎหมายของแต่ละชาติแต่ละประเทศ ซึ่งมีความแตกต่างกันไป สมมุติให้มันแตกต่างกันเยอะ แต่ว่าปรมัตถ์จะมีหนึ่งเดียวลงมาหาจุดเดียวกันหมด แต่ชาวโลกียะจะแยกไปเรื่อยๆแตกไปเรื่อยๆแต่ละความรู้แต่ละศาสดาแต่ละศาสนาจะต่างกันไปเรื่อยๆมากขึ้นๆ เป็นอย่างนั้น 

แต่ของพุทธจะรวมลงมาเป็นหนึ่งเดียวจบตรงกันหมดเลยสัจจะเป็นหนึ่งเดียว นี่เห็นไหมทิศทาง ทางเดินของการเจริญของจิตวิญญาณของความรู้ความฉลาด มันเดินก็ยังเดินคนละทิศ เทวนิยมหรือ เฉโก จะยังไม่มีทางที่จะได้รับความอิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล เพิ่มพูนเสียสละ จบท้ายด้วย เพิ่มพูนเสียสละเป็นปลายเปิดที่คุณจะเสียสละโดยที่คุณไม่ลำบากเกินไป ได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบากซึ่งฌานทั้ง 4 คุณเสียสละนะ เพราะฉะนั้นพวกเทวนิยมหรือพวกโลกียะ พวกยังไม่มีความรู้ที่เป็นประชาธิปไตยแบบพุทธโดยเฉพาะ จะไม่มีวันประสบความอิสระ ความสบาย ความสงบ ความอบอุ่น ความอิ่มเอม ความเกษมใส ความมีใจเกื้อกูลหรือความเพิ่มพูนเสียสละ ได้จริงๆ เด็ดขาด 

แต่ชาวพุทธที่ปฏิบัติสัมมาทิฏฐิแล้วจะได้คุณสมบัติพวกนี้ครบ เพราะฉะนั้นจึงเป็นสังคมที่เป็นประชาธิปไตยแบบพุทธโดยเฉพาะมาก ฟังให้ดีๆนะทุกวันนี้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยแบบไทย ที่บริหารกันด้วยในหลวง บริหารกันด้วยนายก ขณะนี้ของไทย ในหลวงรัชกาลที่ 10 นายกประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่แหละ เป็นประชาธิปไตยแบบพุทธโดยเฉพาะแล้ว และยิ่งจะดียิ่งขึ้นเพราะคนไทยเกิดเป็นพุทธและยิ่งคนไทยที่มีสัมมาทิฏฐิที่แสวงหาไม่มีอคติมากเห็นว่า พุทธที่สัมมาทิฏฐิอยู่ที่ชาวอโศก ไม่ใช่อยู่ที่ชาวเถรสมาคม เขาจะชัดเจนก็จะมาศึกษา แล้วก็ประพฤติ 

ผู้ที่มีปฏิภาณปัญญาเดี๋ยวนี้เริ่มรู้แล้ว พวกที่มีภูมิปัญญาเฉลียวฉลาดอยู่ในสังคมไทยคนไทย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ จบป. 4 หรือจบด็อกเตอร์ก็ตาม ไม่จบหนังสือสักตัวก็ตาม ถ้าฟังโพธิรักษ์พูดแล้วได้ความรู้นี้ ยิ่งด็อกเตอร์ยิ่งเรียนทางโลกเขามาสูงๆด้วย ทำให้หมดกิเลสแล้วจะเข้าใจได้ง่าย แต่บารมีอาตมายังไม่สูงคนเขายังไม่ค่อยเชื่อไม่ค่อยนับถือน้ำมนต์เท่าไหร่ ทำงานมา 50 กว่าปีก็มีความเชื่อถือของสังคมประมาณนี้ ก็ดีแล้ว อาตมาก็พอใจจริงๆเลย ตายลงวันนี้อาตมาก็ไม่มีปัญหา อาตมาได้พัฒนาได้สำเร็จ แต่มันยังไม่จุใจจึงจะพยายามฝืนต่อไป กระเสือกกระสนไป ต่ออายุขัยเป็นการพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าด้วย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 1

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2566 ( 13:15:10 )

ประชาธิปไตยแบบมิจฉาฯกับสัมมาทิฏฐิ

รายละเอียด

ประชาธิปไตยขณะนี้แสดงตัวถึงประชาธิปไตยมิจฉาทิฏฐิกับประชาธิปไตยที่สัมมาทิฐิตามแบบของพระพุทธเจ้า ซึ่งอาตมายืนยันว่าพระพุทธเจ้าเป็นนักประชาธิปไตยเบอร์ 1 ของโลก ของมหาจักรวาล ที่ท่านตรัสรู้เรื่องของความเป็นมนุษยชาติกับความเป็นสังคม แม้ในยุคพระพุทธเจ้าจะไม่ใช้คำว่าประชาธิปไตย คำว่าประชาธิปไตยเป็นชื่อของระบอบการปกครองอันเดียวกันในเนื้อหาของพระพุทธเจ้าที่ค้นพบแล้ว แล้วก็นำมาใช้กับคนในคณะของท่าน ตั้งแต่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ท่านมีบารมีสูง พระเจ้าแผ่นดินในยุคโน้นทุกแคว้นใหญ่ คือพระพุทธเจ้าท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดินในแคว้นเล็ก แคว้นสักกะ แคว้นใหญ่ในอินเดียมีพลเมืองเยอะ อยู่ในสมัยนั้นก็มีพระเจ้าปเสนทิโกศลกับพระเจ้าพิมพิสาร แบ่งครึ่งก็ยังใหญ่กว่าแคว้นสักกะของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การเกิดคือชาติ 5 ในปฏิจจสมุปบาท วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:25:26 )

ประชาธิปไตยแบบโลกุตระ เป็นไปด้วยปัญญา

รายละเอียด

ก็ให้เป็นไปด้วยปัญญาไม่ได้เป็นการบังคับ อย่าถึงขั้นเชิญชวน เปรยๆไปเฉยๆ การประพฤติของพวกเราคือ การสร้างประชาธิปไตยแบบโลกุตระ ให้จิตเป็นประธาน ความรู้เป็นประธาน เกิดความศรัทธาเกิดความเห็นดีเห็นงามเองไม่ได้ถูกบังคับ การไม่ถูกบังคับนี่แหละเป็นเงื่อนไขของความหมายประชาธิปไตยอย่างยิ่ง คำว่าถูกบังคับเป็นความหมายของลักษณะเผด็จการ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 12:30:06 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:54:07 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:49:46 )

ประชาธิปไตยแบบโลกุตระครั้งแรกของไทยและของโลก

รายละเอียด

หลักฐานพวกนี้เป็นตัวอย่าง ที่นักรัฐศาสตร์ในอนาคตจะได้ศึกษาเพราะเป็น Pioneer เป็นหัวเจาะของประชาธิปไตยของโลกุตระ ประชาธิปไตยแบบโลกุตระ ที่สุภาพเรียบร้อย สงบ จริงใจ จริงจัง และเป็นพลังของประชาชนจริงๆ ไม่มีนายทุนใดมาเลย มีแต่เฉลี่ยเข้ามาเป็นส่วนกลางร่วมกันทำอย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ เลย ซึ่ง อาตมาว่า ในอนาคต มันจะจริงจังหรือมันจะชัดเจนอย่างนี้ไม่ได้ แต่มันไม่ชัดเจนด้วยความรู้ แม้มันชัดเจนด้วยสภาวะจริงใจจริงจัง ทั้งหมดเกิดโดยไม่มีใครวางแผนไม่มีตำรากางทำ มันทำด้วยสัจจะของมันเองเป็นตถตา เป็นความจริงที่เป็นเช่นนั้นเองของมัน เลียนแบบอีกทีก็จะไม่เหมือน ได้ครั้งเดียวในโลก อะไรที่มันเป็นจริง จะมีครั้งเดียวจริงๆ เลย ครั้งที่วิเศษที่สุด จะไม่มีครั้งอื่นเท่าเลย นี่เป็นเรื่องสุดยอดที่จะค่อยๆศึกษากันให้ดีๆ แล้วจะเห็นรายละเอียด นี่เป็นรัฐศาสตร์ที่ขอยืนยันว่า เมืองไทยเป็นเมืองแรกในโลก ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่มีประชาชนทำรัฐประหาร ไม่ต้องใช้ลูกปืน ไม่ต้องใช้อาวุธเลย ไม่ต้องใช้แม้แต่ไม้หน้าสาม ที่จะต้องไปตีหัวฆ่ากันทำร้ายร่างกายกัน ไม่ แต่มีปากหอกอย่างเดียว พูดเสียบ แต่ที่จริงพูดในสิ่งที่เป็นทุจริต มิจฉาของเขามันเสียบแทงเขา เรียกมุขสตี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 14:20:06 )

ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 1

รายละเอียด

มาเข้าสู่เรื่องที่เราจะฟังบรรยายกันในเนื้อหา เรื่องประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ความมีอธิปไตยของประชาชน อธิปไตยคืออำนาจ คือพลัง ถ้าไปเป็นสิ่งที่มันมิจฉาทิฏฐิก็เรียกว่าอำนาจบาตรใหญ่ ความเป็นอำนาจแล้วก็ยึดอำนาจเอามาเบ่ง เหมือนพวกเทวนิยม เขายังไม่เข้าใจเรื่องถูกต้องสัมมาทิฏฐิพวกนี้ ประเทศทั้งหลายแหล่เทวนิยม เขาจะพยายามสร้างอำนาจให้แก่ตัวเขาให้ประเทศของเขามีอำนาจบาตรใหญ่ เพื่อจะเป็นเจ้าโลก เขาทำจริงๆแข่งขันกันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ จนทุกวันนี้เขาก็ยังทำอยู่ โดยเฉพาะทางตะวันตกเทวนิยมที่มีความรู้เป็น เฉโก เท่านั้น ไม่มีความรู้เป็นปัญญา 

เขามีความรู้อย่างนั้นโดยความเป็นจริง ไม่ได้ไปข่มเบ่งดูถูกดูแคลนเขา เขามีความสามารถตามบารมีของเขาเท่านั้น อย่างเช่นศาสดาของเทวนิยมทั้งหลายสอนได้แค่ เฉโก อยู่ในกรอบความรู้ของโลกียะ ไม่ออกมาหาความรู้แบบใหม่ความรู้พิเศษที่เป็นโลกุตระ หรืออุตตระ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นอุตตระเหนือกว่าชาวโลกีย์ที่เขามีมาในโลกไม่ว่าในยุคไหนก็แล้วแต่ 

ถ้าในโลกที่ไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา เขาจะมีความรู้แต่โลกียะเป็นธรรมดาธรรมชาติ มียุคที่ไม่มีโลกุตระ ไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา เขาก็จะมีความรู้แต่ทางโลกียะ ซึ่งความรู้ของทางโลกียะจะมีความรู้อยู่ในกรอบแค่ความรู้ดีรู้ชั่ว แล้วปฏิบัติตนให้เป็นคนดีอย่าเป็นคนชั่ว เขามุ่งมั่นและเขาก็ปฏิบัติอย่างนั้นสำเร็จตามสมมุติสัจจะของเขา โลกียะยังเป็นสมมุติสัจจะ ยังไม่ใช่ปรมัตถสัจจะ สมมุติแปลว่ารู้กันทั้งหมด ปรมัตถสัจจะนี้เป็นความรู้ที่ใหม่ เกินกว่าสมมุติที่เขาโลกียะจะสมมุติกัน มันเป็นความรู้ที่ ปฏิโสตัง เป็นความรู้ทวนกระแสโลกียะ 

โลกียะจะลากชีวิตให้ไปหลงความสุขแล้วก็จะต้องมีสุขนิรันดรซึ่งมันไม่จริง พระพุทธเจ้าพิสูจน์แล้วว่าความสุขไม่นิรันดร ความสุขเป็นของหลอก เป็นมายาเป็นความเก๊ และเป็นคนพิสูจน์ได้ตั้งแต่ตอนเป็นๆ หมดสุขหมดทุกข์ได้ เพราะว่าสุขทุกข์เป็นคู่หูที่แยกกันไม่ออกเหมือนกระดาษ 1 แผ่นมี 2 หน้า ฉีกไม่ออกแยกไม่ออก จะฉีกให้มันเป็น 2 หน้าไม่ได้ นอกจากจะฉีกให้เป็น 2 แผ่น 100 แผ่นก็ได้แต่ฉีกหน้าของมันให้เป็น 2 หน้าไม่ได้ หรือบางคนนี้ยิ่งฉีกไม่ได้ใหญ่เลย อย่างนี้เป็นต้น 

เป็นสัจจะอย่างนี้ ศาสนาพุทธเรียนรู้ว่าสุขทุกข์มันอันเดียวกัน มันหลอกคนว่าเป็นสุข แต่แท้จริงมันเป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นคนที่วิปลาสเห็นทุกข์เป็นสุข คนที่มีจิตวิปลาสก็ไปหลงเสพอารมณ์สุข มันเป็นแค่อารมณ์ที่เป็นของไม่เที่ยง ไปตั้งอยู่ชั่วขณะหนึ่งเสร็จแล้วก็หมดไป แล้วก็หมุนเวียนมาใหม่สำหรับอวิชชา หรือเฉโก ก็จะหมุนวนมาอยากได้สุข เกิดตายตายเกิด เกิดตายตายเกิด เกิดตายตาย ชีวิตจะหมุนอยู่แต่กับความหลงสุขนิรันดร์ เทวนิยมเป็นสุขนิรันดรพระเจ้านิรันดรแต่ของพุทธนั้น สูญ ไม่มี นิรันดร แต่จะยืนยาวก็ได้และยืนยาวอย่างมีหลักประกันเลย 

1. ไม่ทำชั่วอีกเลยตลอด จะเกิดอีกเท่าไหร่ บรรลุอรหันต์แล้วไม่ทำชั่วตลอดไป สัพพปาปัสสะ อกรณัง (ไม่ทำบาปทั้งปวง) กุสลสูปสัมปทา (ทำกุศลให้ถึงพร้อม) เพราะ สจิตตปริโยทปนัง (ชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้วจากกิเลส) 

พอได้ชำระจิตที่เป็นเหตุแห่งความโง่ ดับหมดแล้ว เพราะฉะนั้นจะเกิดอีกก็ไม่ทำชั่ว และสามารถรู้จักสุขทุกข์ เรียนสุขเรียนทุกข์ ดับสุขดับทุกข์ได้ตั้งแต่ตอนเป็นๆ ดับสุขดับทุกข์ได้อย่างเช่นอาตมา ชีวิตทุกวันนี้ไม่ได้มีสุขมีทุกข์อะไร เป็นจิตที่จะเรียกด้วยภาษาบัญญัติว่า อทุกขมสุข ที่มันไม่ทุกข์ไม่สุขเพราะว่าจิตใจได้ล้างเหตุที่เป็นตัวการ สะอาดไปจากจิตหมดแล้วเรียกว่าอุเบกขา 

อุเบกขามีนัยยะสำคัญไปจากไม่ทุกข์ไม่สุขอยู่ตรงนี้ ตรงที่ว่าอุเบกขานั้นชี้ชัดลงไปว่า บริสุทธิ์สะอาดจากกิเลส ซึ่งปฏิบัติด้วย มโนปวิจาร 18 ที่จริงทั้งหมด 36 พวกหนึ่งเป็น เคหสิตะ ของทางโลกีย์ แล้วล้างออกจากความเป็นโลกีย์มาเรียกว่าเป็นเนกขัมมะอีก 18 ได้บริบูรณ์เลย ยึดถือเหมือนกัน เคหสิตะ 18 ตัวนี้เหมือนกันมาจากเหตุปัจจัยทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ 6 ทวาร แล้วไปหลงความสุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์อีก 3 อัน 3 กับ 6 ก็เป็น 18 โลกียะยังหลง เคหสิตะ หลงสุขในภพนี้ ยึดผิด

โลกุตระของพระพุทธเจ้าก็เป็น มโนปวิจาร 18 แต่หลุดพ้นจากความหลงสุขหลงทุกข์ได้เลย จิตสะอาดจากความสุขความทุกข์ เพราะฉะนั้นความสุขความทุกข์นี้จึงเป็นความรู้ที่วิเศษยิ่งกว่าเทวนิยม พระเจ้าศาสดาทางสายพระเจ้าไม่รู้ ไม่มีทางเรียนรู้ปฏิบัติแก้ไข ล้างกิเลส แต่จะหลงกิเลส หลงภพเป็นสุข ซึ่งก็ต้องมีทุกข์ไม่หายไปได้ แต่ของศาสนาพุทธหมดสุขหมดทุกข์เลย นี่เป็นสิ่งที่พิเศษประเสริฐ ชาวอโศกเราสัมมาทิฏฐิ อาตมานำสัมมาทิฏฐิของศาสนาพุทธที่มันเสื่อมไปกว่า 2,500 ปีแล้ว นำกลับมาปฏิบัติได้ มีผู้ปฏิบัติได้อย่างพวกเราเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ก็ยืนยงอยู่ได้ และคนที่เป็นอาริยะ ไม่ลงลึกคำว่า อริยะ อารยะ อาริยะ นะ 

พวกเราเป็นอาริยะ 4 เหล่าคือ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ เป็นจริงๆ และมีเป็นโพธิสัตว์ด้วยในพวกเรา พากเพียรปฏิบัติไป เพราะบรรลุอรหันต์แล้วก็พากเพียรปฏิบัติต่อไปเป็นโพธิสัตว์ ซึ่งมันย้อนกลับ จบอรหันต์แล้วย้อนกลับไปปฏิบัติโพธิสัตว์ มันจะมีสภาพหมุนรอบเชิงซ้อน ที่อธิบายยาก มันจะกลับไปเหมือนมี แต่ที่จริงตัวเองไม่มี แต่ก็มี เนี่ย เป็นภาษาสิริมหามายา เหมือนผู้ที่เป็นมายาหลอกแต่ที่จริงเป็นสิริมหามายา มันดีมันยิ่งใหญ่ ซึ่งอันนี้มันสุดยอดเป็นมหาสิริ อันนั้นมันเป็นมายาหลอก 100% มันหมดพยัญชนะใช้แล้วจึงต้องใช้พยัญชนะซ้ำซ้อนอธิบายเนื้อหาเอาอย่างที่อาตมาอธิบาย 

เพราะฉะนั้นผู้ที่มีความรู้เป็นโลกุตระ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ จึงมีใจบริสุทธิ์จากกิเลสจริงๆ เป็นความจริงที่สามารถปฏิบัติล้างเหตุล้างปัจจัยจริงๆของกิเลส หรือเหตุที่เป็นกิเลสแท้ๆ ได้จริงๆ ไม่ใช่ตรรกะไม่ใช่เพียงแต่คิด หรือเข้าใจผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิแล้วก็หลงว่าถูก ไม่ใช่ แต่เป็นความจริงแห่งความจริง มีจิตจริงแบบนี้ คนแบบนี้เป็นชุมชนหรือเป็นกลุ่มหมู่ จึงมีคุณสมบัติของความเป็นอธิปไตย พยัญชนะยุคพระพุทธเจ้าคำว่าประชาธิปไตยยังไม่มีบัญญัติภาษานี้ยังไม่มี แต่คุณสมบัติคุณอันพิเศษที่เป็นอธิปไตยของมวลชนมีแล้วในกลุ่มของพระพุทธเจ้า แต่เป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในยุคทาส เป็นยุคที่คนยังไม่เข้าใจเรื่องสิทธิของตน สิทธิมนุษยชาติ ยังเข้าใจไม่ได้ ยังไม่มีความรู้กันเลย เป็นสังคมทาสหรือสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่ 

เพราะฉะนั้นจึงอธิบายหรือว่าให้คนเข้าใจเรียนรู้ไม่ได้ เพราะเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไปค้านแย้งกับพระจ้าแผ่นดินยุคนั้นไม่ได้ เป็นอำนาจเด็ดขาดยิ่งใหญ่เผด็จการสมบูรณ์แบบ ใครกบฏใครไปย้อนแย้งโดนสั่งฆ่า จึงทำไม่ได้ ในยุคพระพุทธเจ้าจึงทำได้แต่คนที่มาเข้ารีตของท่าน มาอยู่ในการบริหารปกครองตามหลักธรรมเรียกว่าเป็นพุทธธรรมนูญของท่าน พระเจ้าแผ่นดินยุคโน้นอยู่ในแคว้นอินเดียอยู่ในทวีปอินเดีย เป็นแคว้นใหญ่ 2 แคว้นเหมือนกับในยุคนี้ ในยุคโน้นอยู่ในทวีปอินเดียเท่านั้น คมนาคมยังออกนอกอินเดียไม่ได้ มันก็มีของจริงเป็นสภาวะรูปนามอยู่แล้วคือ แคว้นใหญ่โกศลกับแคว้นใหญ่ของมคธ พระเจ้าพิมพิสารบริหารอยู่ในยุคนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลบริหารอยู่ในแคว้นโกศล  พระเจ้าพิมพิสารบริหารแคว้นมคธ

แล้วพระเจ้าปเสนทิโกศล ท่านเป็นใหญ่แต่ท่านยอมพระพุทธเจ้า  ยอมอย่างไรคือ ถ้าคนของท่านพลเมืองของพระองค์ของพระเจ้าปเสนทิโกศลหรือพระเจ้าพิมพิสารก็ตาม จะมาเข้ารีตมาเป็นคนของพระพุทธเจ้า มามีระบบศีลสมาธิปัญญา มีธรรมนูญ มีกฎหมายแบบพระพุทธเจ้า ซึ่งค้านแย้งกับของสมบูรณาญาสิทธิราชเขา เพราะของพระพุทธเจ้าเป็นประชาธิปไตย ที่ท่านเรียกในยุคนั้นว่าเป็นผู้รู้ในโลกาธิปไตย เป็นผู้รู้ในอัตตาธิปไตย เป็นผู้รู้ในธรรมาธิปไตย อธิปไตย 3 และเป็นผู้รู้ที่ทำประโยชน์ให้แก่มวลชนอีก 3 คือ พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ โลกานุกัมปายะ เป็นอายะ 3 อายะ แปลว่าประโยชน์แปลว่ากำไรหรือสิ่งที่ควรได้ควรมีควรเป็น ของสิ่งที่เรียกว่าประโยชน์แท้ในประชาชน พหุชนะคือมวลประชาชน พหุ แปลว่ามาก ชนะ ก็คือ ความเป็นประชาชน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 1

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2566 ( 11:22:56 )

ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 2

รายละเอียด

เรามาต่อ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ พูดไปวันหนึ่งแล้ว ต่อจากเมื่อวานนี้ อาตมาก็ได้พาประชาชน กลุ่มหนึ่งก็คือพวกคุณนี่แหละ เป็นมวลเล็กๆคือชาวอโศกนี้ ออกไปร่วมงาน ต้องใช้คำว่าออกไปเพราะเราอยู่ที่นี่เราพูดถึงในอดีตและพูดถึงหลากหลายที่ด้วย ออกไปประท้วงรัฐบาลในระบบทักษิโนมิกซ์ ของทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 ได้ฟังทางโทรทัศน์เขาทวนมาก็เดือนกุมภาพันธ์ อาตมาก็จำไม่ได้ พอดีเขาพูดถึงเขากล่าวถึงเดือนนี้ เดือนกุมภาพันธ์ ก็ประมาณนั้น 

ซึ่งเป็นการเปิดตัวของอาตมาและชาวอโศกว่า เรานี้เป็นนักธรรมะและเข้ามาร่วมงานการเมืองเต็มรูป ต่อสาธารณชน ซึ่งมันขัดกันกับคนไทยที่เขายึดกัน คนไทยส่วนใหญ่เลยเขายึดกันหนักว่าธรรมะไม่ยุ่งกับการเมืองว่าอย่างนั้นเลย อาตมาก็ว่า เออ…คนเราก็คิดง่ายๆตื้นๆ คิดอย่างไม่เข้าใจ จะบอกว่าโง่มันก็ไม่เชิง คือมันยังไม่รู้จริงๆ มันไม่เดียงสา มันยังเด็กๆ เป็นอย่างนั้น ว่าการเมืองนี้เป็นเรื่องของมนุษยชาติ เป็นเรื่องของพลเมืองเลย แล้วไม่ให้เอาธรรมะเข้าไปลงในพลเมือง แล้วจะเอาไปให้ใครจ๊ะ เราอยู่ในประเทศนี้เป็นพลเมืองประเทศไทย แล้วเราจะเอาธรรมะไปลงในพลเมืองประเทศไทยแล้วธรรมะไม่ยุ่งกับการเมือง พลเมืองต้องมีการเมือง แล้วไม่เอาธรรมะไปลงกับการเมืองพลเมือง จะเอาไปให้หมาน้อย เอาไปให้สิงสาราสัตว์ที่ไหนกันล่ะ 

มันตื้นๆแค่นี้ก็ทำไมยังคิดไม่ได้ มันยิ่งกว่าเด็ก การเมืองไม่มีธรรมะในคน มันถึงเหลวเละไง เข้าใจตื้นๆ ง่ายๆ ว่า เขาคิดอย่างนี้คือนักการเมืองนี่ มันไม่เป็นสัจจะ มันไม่เป็นธรรมะ มันไม่เป็นความดีงาม มันเป็นความเสียหาย การเมืองนี่มันทำให้คนเข้าใจว่า ไม่ศรัทธาการเมือง คนปฏิบัติ นักการเมือง ไม่ได้อยู่ในร่องในรอยมันเลอะเทอะ เขาก็เลยพาลโลโฉเก ตัดคนออกไปจากความเป็นคนเลย คือพวกนี้พวกไม่ใช่คน นักการเมืองนี่ คนมันต้องมีธรรมะสิ ก็เลยแยกเลย ตัดมันทิ้งไปเลยพวกนักการเมือง อย่าเอาธรรมะไปให้มัน ใจด๊ำใจดำ 

อาตมาชัดเจนในเรื่องนี้ ที่พูดไม่ได้เข้าใจผิด ไม่ได้เข้าใจอย่างที่เขาเข้าใจ ธรรมะนั่นแหละต้องยุ่งกับการเมือง โดยเฉพาะนักธรรมะที่มีภูมิปัญญาแท้ อย่างอาตมาอย่างนี้เป็นต้น นักธรรมะที่มีปัญญาจริงๆ เป็นภูมิอาริยะ มีโลกุตตรธรรมแท้ๆ จะเป็นคนผู้มีคุณธรรมที่บรรลุธรรมจริงๆ ตั้งแต่คุณของโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี จนถึงอรหันต์ 

ก็มีความจริงใจที่เต็มไปด้วยปัญญาหรือวิชชาอย่างสัมมาทิฏฐิ จึงรู้จัก รู้แจ้ง รู้จริง ในประชาธิปไตยไทย หรือประชาธิปไตยซึ่งสมัยพระพุทธเจ้ายังไม่ได้เรียกคำนี้ ประชาธิปไตยที่เป็นโลกุตระของพระพุทธเจ้า เป็นแบบธรรมะที่พระพุทธเจ้าท่านมีความรู้ มีสัพพัญญูในเรื่องความจริงของธรรมะ ที่มนุษย์ที่ไปทำงานการเมืองจะต้องเอา จะต้องเป็นคนที่มี ควรจะมี มันต้องมี จึงจะเป็นนักธรรมะ จึงเป็นนักการเมืองที่ดี เป็นนักการเมืองที่ดีจริงๆ คำว่าอธิปไตย ประชาธิปไตย คือประชาชน ที่มีอธิปไตย เพราะฉะนั้นประชาชนไม่มีอธิปไตยที่ดีหรืออธิปไตยที่เป็นธรรมะ อธิปไตยที่เป็นธรรมะนั้นพระพุทธเจ้าสรุปไว้มี 3 

1. โลกาธิปไตย 2. อัตตาธิปไตย 3. ธรรมาธิปไตย เป็นอธิปไตย 3 อย่าง ผู้ที่รู้อธิปไตย 3 อย่างนี้เป็นผู้รู้อธิปไตยครบแล้ว มนุษย์จะมีอธิปไตยคือความรู้ในความเป็นโลก อธิปไตยที่มีความรู้ในความเป็นอัตตา อธิปไตยที่มีความรู้ในความเป็นธรรม โดยเฉพาะธรรมะ รู้ธรรมะที่เป็นโลกีย์ รู้ธรรมะที่เป็นโลกุตระ มีโลกมีตนและก็มีความรู้ มีธรรมะที่รู้ธรรมะชัดเจน จึงสามารถที่จะช่วยโลกช่วยตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีธรรมะเอง เป็นอาริยะ อรหันต์ขึ้นไป ไม่มีตัวตน ก็จะเป็นผู้ที่รู้โลกหรือรู้องค์ประกอบองค์ประชุมที่มันประชุมอยู่เป็นโลก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 7 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2566 ( 12:00:43 )

ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 4

รายละเอียด

อาตมารับรองคำพูดนี้ถูกต้องที่สุดว่าอาตมานี้เป็นนักประชาธิปไตย เดี๋ยวจะได้พูดขยายความกันต่อเรื่องนี้ อาตมาขอยืนยันว่าขณะนี้ในโลกมีประเทศไทยประเทศเดียวเท่านั้น ไม่ได้พูดเล่น พูดอย่างแข็งแรง พูดอย่างยืนยันยืนหยัด ประกาศไป เดี๋ยวนี้สื่อสารทั่วโลกผู้ที่เขาเข้าใจแล้วเขาก็รับรู้ แปลไทยเป็นภาษาเขาเองได้ด้วยว่าอาตมาหมายถึงอันนี้จริงๆ ยืนยันภาษาประชาธิปไตยเป็นคำกลางๆ ที่เข้าใจกันทั่วโลกแล้ว แต่มันมีนัยยะสำคัญที่ลึกซึ้งละเอียดในความเป็น เป็นลัทธิหรือเป็นแบบเป็นระบอบของการบริหารการปกครองการเป็นอยู่ของมนุษยชาติ แล้วของโลกุตระนี้เหนือกว่า เหนือกว่าประชาธิปไตยที่โลกเขามี เหนือกว่าที่เขามีกันคือ ไม่มีตำแหน่งรองรับ เป็นจริง ทำจริง ที่ผ่านมาพิสูจน์ได้ นำพวกเราไปประท้วงมา 5 รัฐบาลสำเร็จแล้ว ประชาธิปไตยโลกุตระไม่ต้องหาเสียง เป็นการทำดีแบบต่อเนื่อง คือได้เสียงเอง 

เสียงเองหมายถึงเสียงของประชา ของมวลประชา ของพหุชน คือมวลประชา พหุคือมาก ชน คือประชาชน คำว่าพหุชนนี่แหละคือ มวลประชาชน ในคำศัพท์ของพระพุทธเจ้าใช้ พหุชนหิตายะ (เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ (รับใช้โลก ช่วยโลก) เป็นอายะ 3 อาตมาเคยอธิบายมาแล้ว แล้วสิ่งเหล่านี้ที่เป็นประชาธิปไตยโลกุตระนี้ ไม่ต้องหาเสียง ฟังเน่อ นักการเมืองทั้งหลายเอ๋ย การปฏิบัติประพฤติเป็นนักการเมืองเป็นนักรัฐศาสตร์ที่ประพฤติต่อสังคมอยู่ ไปรับหน้าที่รับตำแหน่งอะไรเข้าไป ศึกษาดีๆ คำว่าไม่ต้องหาเสียงกับการหาเสียงคืออย่างไรแท้ๆ 

การไปทำดีคือการไปทำงานกับมวลประชาชน ใช้สมรรถนะความรู้ความสามารถทั้งหมดกับมวลประชาชน เขาลำบากเขาไม่อยู่ในฐานะที่ควรจะเป็น ต้องช่วย แล้วเราก็ได้ช่วยจริงๆ ตามควร มันมีคนอยู่ในตำแหน่งในสถานที่ต่างๆที่เราจะสามารถรู้ได้ทั่วถึง แล้วเราก็รู้ว่าคนนี้ควรช่วยก่อน คนนี้ควรช่วยกว่า แล้วก็ลงมือไปช่วยเห็นควรก็ไปช่วยเท่าที่เราเห็นว่าเราอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้ก็ช่วยกันไป 

โดยจะใช้แรงงาน ทุนรอนของตนเองเป็นหลัก ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่สามารถที่จะเอาทุนรอน หรือองค์ประกอบต่างๆ ที่จะเอามาใช้เพื่อช่วยเขาได้ เท่าที่ควรก็ทำเต็มที่ แล้วก็ได้ช่วยคนเช่นนั้น สังคมเช่นนั้น นี่เป็นสัจจะที่ในโลกนี้ควรเป็นควรมีกัน ทำจริงๆ แล้วเสียงคนเสียงของประชาชน เสียงคำนี้เป็นคำกลางๆคือความรู้รู้จักของประชาชนให้เขาเห็นเขารู้ว่า ท่านผู้นี้ได้ทำงานเพื่อเขา ได้ทำงานเพื่อมวลประชาชน เห็นรู้ว่าได้ทำงานเพื่อเขาเพื่อมวลประชาด้วยใจซื่อสัตย์สุจริตเสียสละ จริงใจจริงจังสุดความสามารถของเขา จนเขาได้พ้นทุกข์ มนุษย์ก็มีมุทิตาจิตเห็นจริงๆ มีมุทิตาจิตต่อคนที่ทำงานให้เขา ระลึกถึงคุณ รู้จักบุญคุณคน ว่าคนๆ นี้แหละคือคนที่จะต้องให้เขาทำงานอย่างนี้แหละ นี่แหละคือความเป็นนักการเมืองตัวจริง โดยไม่ต้องหาเสียง ขอให้ทำเท่านี้เลยนักการเมืองเอ๋ยสิ่งที่ได้จะเป็นเสียงบริสุทธิ์ เสียงสวรรค์เสียงจากสัจจะของมนุษยชาติ เขาจะให้เราเอง ได้เท่าไหร่เอาเท่านั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 4 วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันแรม 10 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2566 ( 12:01:51 )

ประชาธิปไตยโลกุตระคืออธิปไตย 3 และ อายะ 3

รายละเอียด

ทีนี้กลับไปสู่คำว่า ประชาธิปไตยโลกุตระ เรื่องนี้นี่อาตมาก็เคยพูดผ่านๆไป 

คำว่า”ประชาธิปไตย” ไม่มีในยุคพระพุทธเจ้า ก็พูดมาแล้วหลายที มีแต่คำว่า”อธิปไตย” และมีคำว่า “พหุชน” ซึ่งก็แปลว่ามวลประชาชน 

เพราะฉะนั้นอาตมานำเอา อธิปไตย 3 กับ อายะ 3 

อายะ 3 

พหุชนหิตายะ (เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) 

พหุชนสุขายะ (เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) 

โลกานุกัมปายะ (รับใช้โลก ช่วยโลก) 

อายะแปลว่าประโยชน์ คุณค่า หรือส่วนที่ควรจะได้ 3 อย่างที่เกิดกับมวลมนุษย์ ก็คือประชาชนนั้นเอง 

เป็นแต่เพียงพยัญชนะไม่ตรงกัน ไม่ใช้คำเดียวกัน  Word By Word (คำต่อคำ) ไม่ได้ แต่สภาวธรรมเป็นอันเดียวกัน 

คำว่า ประโยชน์เพื่อมวลประชาชน เพื่อหมู่ชนทั้งหลาย พหุชนหิตายะ มันก็คือประชาธิปไตยทำประโยชน์เพื่อมวลชน 

อันที่ 2 ประโยชน์สุขเกิดเป็นสุขแก่มวลชนทั้งหลาย มันก็คือประชาธิปไตยโลกุตระนั่นแหละ 

ยิ่งสูงสุดถึงขั้น โลกานุกัมปายะ ช่วยโลกอนุเคราะห์โลก เกื้อกูลโลก ด้วยภูมิปัญญาที่ถูกต้อง มันยิ่งใช่เลย ใช่แท้ๆ เลย

เพราะฉะนั้น คุณจะมีความรู้ในเรื่องอธิปไตย 3 รู้ในเรื่องโลก รู้ในเรื่องอัตตา รู้ในเรื่องธรรมะ คุณก็เอามาผนวกเอามารวมกันกับอายะ 3 สมบูรณ์แบบแล้ว ความเป็นประชาธิปไตยโลกุตระ เพราะอธิปไตย 3 นั้นคือเหนือโลก เหนืออัตตา เป็นธรรมะโลกุตระแล้ว ธรรมะโลกุตระคือเหนือแล้ว เหนือนี่ไม่ได้หมายความว่าไปข่มเบ่งโลก ไปข่มเบ่งอัตตาใคร ไม่ใช่ ตนเองมีความรู้โลก มีโลกวิทูตามภูมิ เข้าใจโลกรู้จักโลก ตามภูมิธรรม ตามบารมี รู้จักโลกแค่นี้ มีบริบทเท่านี้ มีองค์ประกอบเท่านี้ มีอำนาจฤทธิ์แรงเท่านี้ ก็ช่วยโลกในกรอบขอบเขตของตนเองมี มีบารมี มีธรรมฤทธิ์พอจะช่วยได้ 

อย่างอาตมานี่มีความสามารถที่จะช่วยมนุษยชาติได้ ตามขอบเขตที่อาตมาจะช่วยได้เต็มที่ โดยอาตมาช่วยคน อาตมาเคยพูดมาแล้ว อาตมาไม่ไปหลอกล่อมา ไม่ไปหว่านล้อมมา ไม่ไปสัญญิงสัญญาว่า คุณมานี่ คุณจะได้ลาภ ได้ยศ ได้สรรเสริญ ได้สุข ไม่ไปเอาอะไรไปเป็นสิ่ง เหมือนอย่างที่นักการเมืองเขาไปติดสินบนประชาชนไว้ ประชานิยมติดสินบนแก่ประชาชน ว่า ฉันจะทำอันนี้ให้คุณได้ เราไม่ทำ แสดงสัจธรรมเพียวๆ  แสดงสัจธรรมตรงๆ  แสดงสัจธรรมให้จริงจัง แล้วใครรับได้ มาเอง อาตมาเคยพูดไม่รู้เท่าไหร่ว่า พวกคุณมาเองนะ อาตมาไม่ได้ไปปะเหลาะ ไม่ได้ไปหลอกล่อ ไม่ได้ไปปะเล้าปะโลมอะไรมาทั้งนั้น มันเป็นอิสรเสรีภาพของส่วนบุคคล ทุกคนมาที่นี่มาด้วยความอิสรเสรีภาพของตัวเอง รู้เองมีภูมิปัญญาเองว่าควรมาเอาอันนี้ แล้วคุณก็มาอยู่ให้ได้  ทำให้ได้แล้วก็ได้ประโยชน์ไป หรือคุณอยู่ไม่ได้ คุณจะกระเด็นออกไป มันก็ของคุณ อิสรเสรีภาพของคุณ ภูมิธรรมของคุณ คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้เอง ทั้งๆที่ไม่มีใครทำให้คุณออกไปหรอก แต่คุณออกไปของคุณเอง มันก็อัตตาของคุณเอง มานะ อติมานะ ความถือดีถือตัวของคุณเอง 

คุณไม่รู้เองว่าที่นี่คือ แหล่งของมิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี ที่เป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของพรหมจรรย์ คุณไม่รู้เองต่างหาก ถ้าคุณรู้แล้ว คุณจะถอยไปไหน ไม่ถอยหรอก 

อาตมาพูดวนเวียนไปมาไม่รู้กี่รอบกี่เที่ยวกี่อย่าง แล้วก็มาย้ำซ้ำอยู่ที่จุดเดิม ว่า เกิดมาเป็นคนแล้ว  มันไม่มีอะไรเลยที่จะควรได้ ควรมี ควรเป็น เหมือนโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้า ให้ได้สูงสุดถึงขั้นจบกิจ ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 อาตมาแยกเป็น 4 ขั้น 4 แบบ 

จบกิจขั้นที่ 1 แบบโลกีย์ คือทำความดีตามสมมุติโลก สมมุติสัจจะ ให้ได้ให้เที่ยง เพราะความดีของโลกุตระนั้นมีปัญญา แม้จะไม่เที่ยง แม้จะหมู่นี้เขาถือว่าอันนี้ดี หมู่นั้นเขาถือว่าอันนั้นดี ก็อยู่กับเขา ก็เข้าเมืองตาหลิ่วก็หลิ่วตาตามกับเขาได้ ไม่มีปัญหา เที่ยง ทำดีไม่เปลี่ยนแปลง ทำดีไม่ตกต่ำ นิยตะ แม้จะเป็นโลกียะ นี่จบกิจขั้นที่ 1 ซึ่งต่างกันกับโลกีย์เขา เขาทำดีของโลกียะ เขาไม่เที่ยงแบบนิยตะ หรอก  แต่เขาเที่ยงแบบ นิจจะ นิจจัง ไม่ได้เที่ยง
แบบนิยตะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือก้อนแห่งสัมมาทิฏฐิที่คนต้องมีฉันทะมาเอา วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2566 ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2567 ( 19:27:49 )

ประชาธิปไตยโลกุตระที่ Absolute Ultimate เจริญสุด

รายละเอียด

มาถึงตรงนี้ อาตมาขอวิจารณ์ตรงนี้ที่ว่า การส่งออกประชาธิปไตย ประชาธิปไตยของเทวนิยม มันก็เป็นทฤษฎี เป็น Concept ของประชาธิปไตยแบบเทวนิยม ซึ่งเขาคิดไม่ออกหรอกว่าประชาธิปไตยแบบโลกุตระที่เป็นของพุทธนี้ มันจะเป็นยังไง 

อาตมาก็เคยอธิบายและยืนยันแล้วว่า ประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้านั้น สมัยพระพุทธเจ้ายังไม่มีคำว่าประชาธิปไตยในยุคท่าน แต่มันมีสภาวะไหม..มี สภาวะประชาธิปไตยมีแต่สมัยพระพุทธเจ้า แต่มันพูดไม่ได้ อธิบายไม่ออก แต่พระพุทธเจ้าท่านมีทฤษฎีอยู่ พาปฏิบัติธรรม มีทฤษฎี มีหลักการ สำเร็จผลนั้นด้วย 

ประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้านั้นคนจะเป็นสังคมที่ สาราณียธรรม 6 ประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้ามันจะมีผลสำเร็จเป็นสังคมมนุษย์ สาราณียธรรม 6 มีคุณธรรมมีพุทธพจน์ 7 มีวรรณะ 9 อาตมาก็เคยอธิบายมาแล้ว 

ในยุคโน้นคำว่า อธิปไตย ประชาธิปไตยก็มีคำว่า อธิปไตย คำรวมของประชาธิปไตยมันไม่มี แต่คำว่าประชา มวลประชามันมี คือพยัญชนะบาลีว่า พหุชน พหุชะนะ

คำว่า อธิปไตย มันมีอยู่ที่ อธิปไตย 3 พหุชนะหรือโลก มันอยู่ที่อายะ 3 อาตมาก็อธิบายหมดไปหมดแล้ว คนที่ฟังธรรมะไม่ค่อยเข้าใจนัก หรือว่าฟังไม่ทัน แม้จะเรียนจบด็อกเตอร์ทางรัฐศาสตร์มาก็ตาม ฟังที่อาตมาอธิบายนี้เข้าใจยากอยู่ 

คำว่า ประชาธิปไตย ไม่มี แต่ความเป็นอธิปไตยต่อมวลประชาชน มีประโยชน์โภคผลเป็นอายะนั้นมีแล้ว ก็คือ อธิปไตย 3 กับอายะ 3 นี้แหละ นี่แหละเป็นประชาธิปไตยของศาสนาพุทธ ไม่ใช่ประชาธิปไตยของเทวนิยม 

เพราะฉะนั้น ประชาธิปไตยเทวนิยมนั้น ไม่เกิดผลอย่าง Absolute (สัมบูรณ์-ที่สุดเท่าที่จะสุดได้) หรือว่า Ultimate(สูงสุดปลายยอด) เหมือนกับของศาสนาพุทธ ไม่มี ผลที่มันสวยงามสูงสุดเป็น Absolute หรือว่าเป็น Ultimate ไม่มี ของประชาธิปไตยโลกียะ 

ยิ่งไปเป็นประชาธิปไตยขาเดียว อย่างที่เขานิยมชมชอบกันอย่างสหรัฐฯ พาทำ ยิ่งเหลวเละใหญ่เลย แหลกลาญ เดี๋ยวก็แหลกหมดคอยดูสิ สังคม มันยิ่งกลายเป็นระบบระบอบที่ทำให้สังคมโหดเหี้ยม สังคมที่กิเลสโลภ เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวจัดจ้าน อย่างที่เป็นนี้ อ่านให้ออกสิ อ่านให้ออก เบ่งอำนาจบาตรใหญ่กันไป ข่มเหงกันไป ทารุณโหดร้ายกันไป 

สังคมที่มีคุณธรรม สังเกตได้ง่ายๆ เป็นสังคมที่จะไม่นิยมการสร้างอาวุธ สังคมที่ไร้คุณธรรม เป็นสังคมที่สร้างอาวุธ 

สร้างเก่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วย นั่นแหละคือสังคมที่เสื่อม สังคมที่ตกต่ำ อำมหิตโหดร้าย อาวุธนี้สร้างขึ้นมาฆ่าคน ง่ายๆ แค่นี้เข้าใจไม่ได้ ทำไมจะต้องสร้างอาวุธขึ้นมาฆ่าคน ศีลข้อ 1 วางทัณฑะ วางศาสตรา ไม่ฆ่าคน วางอาวุธวางศาสตรา ไม่ฆ่าคน วางหมดไม่มีก็วาง ไม่มีเลยก็ไม่ต้องสร้าง ก็ไม่ต้องวาง วางเลยอาวุธ ไม่มีอาวุธ ไม่มีศาสตรา หวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ มันลึกซึ้งสุดๆ เลย 

เพราะฉะนั้นคนที่จะเข้าถึงจิตที่บอกว่า หวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ นี่ ไม่ได้ง่ายๆ เลย ไม่ง่ายเลย ศีลข้อ 1 เท่านั้น ไม่ต้องไปเอาศีลข้อมากข้อมายอะไรเลย 

คนที่มีจิตหวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ แล้วไม่ฆ่าไม่ทำร้ายอะไรใคร เอาแต่แค่ชาวอโศกเรานี่ประพฤติ พวกเรานอกจากไม่ฆ่าไม่ทำลาย ไม่ทำร้ายแล้ว มีจิตเมตตาเกื้อกูลช่วยเหลือ คิดดูสิเราอยู่ที่นี่ ผู้ที่แวดล้อม อยู่ในหมู่บ้านอื่นๆ ต่อหมู่บ้านราชธานีแล้วก็มี

หมู่บ้านอื่นๆ รอบๆ ล้อมพวกเราอยู่ เขาไม่ค่อยรู้จักพวกเรานะ แต่เขารู้จักพวกเรา คือจริงๆ เขาไม่ได้มาคลุกคลีเกี่ยวข้อง ไม่รู้จักพวกเราหรอก ไม่ค่อยเข้ามาใช่ไหม แต่เขารู้จักพวกเราได้ลึกซึ้ง 

เอาอย่างกุดระงุมนี่สัมพันธ์กันมาก เราเดินออกไปเห็นไหม อย่างกับรู้จักกันทั้งนั้น ดีไม่ดีก็ยกมือไหว้ได้ ธรรมดาชาวบ้านเขาไม่ยกมือไหว้กันมากมายนะ แต่พวกเราเขายกมือไหว้เรา โดยเฉพาะพระอโศก สมณะอโศกไหว้เลย ยกเว้นบ้านคำกลางเขาเป็นคริสต์ เขาก็ไม่ไหว้ละ แต่ท่ากกเสียวห่างกว่า
กุดระงุม ก็น้อยหน่อย ก็ไม่ค่อยจะไหว้อะไรเท่าไหร่ แต่เขาก็รู้ 

ที่รู้ดีก็คือนี่เขาก็รู้แล้วว่ามีกระท่อมปันสุข ถึงเวลาปั๊บก็มากัน อะไรอย่างนี้ นี่เป็นเรื่องที่เป็นเรื่องของมนุษย์ มนุษย์ที่ติดหลักการ หลักวิชาของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติแล้วจะเป็นอย่างนี้ แล้วพวกเราก็ยิ่งทำไป มันจะค่อยๆ กว้างขวางขึ้น 

ที่นี้อย่างชาวอโศกเราก็ทำเต็มที่ของเราไป อย่างไรเราก็ทำเต็มที่อยู่แล้ว ก็อยู่เป็นสุข อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูนการเสียสละ รู้สึกไหมว่าที่อาตมาพูดนี้หรือว่าตั้งคำพวกนี้ขึ้นมา เราเพิ่มพูนการเสียสละ ตัวปลายเปิด รู้สึกไหมว่าเรามีลักษณะอย่างนั้นจริงๆ พยายามเพิ่มพูนการเสียสละ แต่มันก็เสียสละได้สูงสุดแล้ว ก็เพราะพวกเรามีแค่นี้  ก็มากก็มายหมุนเวียนเสียสละกันอยู่นี้ 

ถ้าคนในโลกหรือในสังคมใด มีคุณลักษณะแบบที่เราเป็นกันนี่ คุณคิดดูซิว่าสังคมจะเป็นยังไง อาตมาเคยพูดนะว่า อาตมาภาคภูมิใจที่เกิดมาชาตินี้ แล้วเอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาพูดมาเปิดเผย มาอธิบาย มาทำให้เข้าใจกัน (พ่อครูไอตัดออกด้วย) 

สงสัยอาตมาคงจะต้องหยุดสอนหยุดบรรยายแล้ว คงจะเหลือแต่เขียนหนังสือ เพราะรู้สึกว่ามันอาการมันหนักขึ้น มันฝืนนะ แล้ววิบากของอาตมาก็หนักขึ้น รักษาไม่ได้ แล้วก็อาการหนักขึ้นมาก ยืดอายุขันธ์ด้วย อะไรด้วย ก็เอา ดันสุรังไป จะไปได้อีกนานเท่าไหร่ก็ว่าไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ จุดที่เลิศยอดยิ่งใหญ่ที่สุดของคนคือพ้นสุขพ้นทุกข์ วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2567 ( 12:39:07 )

ประชาธิปไตยโลกุตระที่มีอายะ 3 และอธิปไตย 3

รายละเอียด

สำนวนคำว่า “ส่งออกประชาธิปไตย” นี้  ประเทศต่างๆ ที่พยายาม ที่ประกาศตนว่าเป็นประชาธิปไตย (ย่อ ปชต.) ไม่ว่าจะเป็น ปชต.ขาเดียว หรือ ปชต. สองขา ก็พยายามส่งออก ปชต. ของตนไป ประเทศที่พยายามส่งมากก็มีเยอะหลายประเทศ เช่น อเมริกา อังกฤษ  ประเทศอังกฤษเขาเป็นต้นแบบของคำว่า ปชต. อังกฤษไปเป็นอเมริกาแล้ว ปชต. อเมริกา ก็ไม่ใช่แบบอังกฤษ อเมริกาเขาเป็น ปชต. ไม่มีพระมหากษัตริย์ ดึงประชาชนเลือกขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศ แล้วก็อยู่ในสมัย 4 ปี แบบของเขา อะไรอย่างนี้เป็นต้น ก็ทำกันไป ก็มีนัยยะที่แตกต่างกัน  

ตรงที่คำว่า “ส่งออกประชาธิปไตย” นี้ ปชต.กลายเป็นสินค้าส่งออกของประเทศที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย เช่น ประเทศไทยส่งออกแล้วก็มีผู้นำเข้า เพราะไปศึกษาประชาธิปไตยจากอเมริกามา เป็นต้น จากตะวันตก สรุปง่ายๆ จากเทวนิยม 

อาตมาขอยืนยันว่าประชาธิปไตยเทวนิยม เป็นประชาธิปไตยไม่บริบูรณ์ เป็นประชาธิปไตยขาเป๋ เป็นประชาธิปไตยขาหัก จากเทวนิยมนี่แหละ แม้จะเป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยก็ตาม ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ เพราะเขายังไม่มีโลกุตรธรรม

คำว่าโลกุตรธรรมนี้ลึกซึ้งที่สุด ที่อาตมาเห็นว่า อาตมามีชีวิตทำงานมา 53 ปีย่าง ขยายความคำว่า โลกุตรธรรม ยังไม่ได้มากพอ มันยากจริงๆ มันเป็นอจินไตยจริงๆ คาดคิดคะเนไม่ได้ง่ายๆ มันสวนกระแสหรือมันทวนกระแสกับโลกียธรรม มันคนละเรื่อง 

ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐศาสตร์ ถ้าหมายเอาเรื่องของทรัพย์สิน รัฐศาสตร์ก็หมายถึงเรื่องอำนาจ เพราะฉะนั้นในโลกียะ รัฐศาสตร์เขาก็จะต้องเป็นเจ้าอำนาจ เศรษฐศาสตร์เขาก็จะต้องเป็นเจ้าทรัพย์สินใช่ไหม ง่ายๆ แล้วก็เป็นจริงอย่างนั้น 

แต่โลกุตระนั้น ไม่เป็นเจ้าอำนาจและไม่เป็นเจ้าทรัพย์สิน ไม่ติดยึดในอำนาจ ไม่ติดยึดในทรัพย์สิน แต่รู้ว่าเป็นสิ่งที่อาศัย แล้วอาศัยอย่างที่มันเกิดมีที่เป็นประชาธิปไตยจริง เช่น อำนาจ ก็ประชาชนเขาเป็นผู้ให้ เราไม่รับ หรือเราเองเราจะไม่ได้ยึดถือ ไม่ใช่จะบอกว่าไม่รับแต่เขาให้เอง นี่คือประชาธิปไตย 

ทรัพย์สินก็ตาม เราไม่เอา เราไม่สะสม แต่มีได้ ให้ได้ เขาให้เรา แต่เราไม่ต้องแบกต้องหาม อำนาจก็ตาม ทรัพย์สินก็ตาม เราไม่ต้องไปสะสม เราไม่ต้องไปแบกหาม แต่เรามีเราได้เองโดยสัจธรรม เป็นสัจธรรมโลกุตระที่มันมี มันมีอยู่ที่ในประชาชนจึงเรียกว่าประชาธิปไตย ประชาชนเต็มใจจะให้อำนาจ ประชาชนเต็มใจจะให้ทรัพย์สิน เพราะเขาเชื่อว่า ผู้นี้เป็นผู้ที่ใช้ทรัพย์สินเป็น เป็นผู้ใช้อำนาจเป็น ใช้แล้วเป็นประโยชน์แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นอำนาจหรือว่าเป็นทรัพย์สิน ใช้แล้วเป็นประโยชน์แก่ประชาชน ไม่ได้เป็นประโยชน์มาเพื่อเข้าหาตัว นี่คือประชาธิปไตย ไม่มีตัวตน 

ไม่มีตัวตน ไม่เพื่อตัวเอง ไม่เพื่อพรรคพวก ไม่เพื่อหมู่กลุ่ม อย่างทักษิณนี่เพื่อตัวเองสุดยอด เพื่อลูกหลานสุดยอด เพื่อตระกูลสุดยอด เพื่อพรรคพวกสุดยอด ขออภัยที่ต้องยกตัวอย่าง เพราะมันเป็นจริง เขาเป็นอย่างนั้น เป็นตัวอย่างที่เป็นตัวอย่างให้เห็นชัดๆ อยู่แล้ว มันจึงไม่ใช่ประชาธิปไตยเลย แต่เขาขี้ตู่ว่าเขาเป็นประชาธิปไตยจริงๆ 

ขออภัยที่ต้องบอกว่า ประชาธิปไตยต้องมาดูแบบอย่างของชาวอโศก เป็นประชาธิปไตยที่มีประชาชนเป็นผู้ให้ ให้ทั้งอำนาจ เท่าที่มีก็แค่นี้แหละ แต่ก็เป็นของบริสุทธิ์ ให้ทั้งทรัพย์สิน ก็แค่นี้ แต่ก็เป็นของบริสุทธิ์ พอกิน พอใช้ พอเป็นไป ไม่ไปตะกละตะกลาม ไม่ได้อยากได้ แต่คุณให้เองนะ เขาจะให้เราเอง เราไม่ต้องไปเรียกร้อง เราไม่ต้องไปใช้เล่ห์เหลี่ยม ไม่ต้องไปใช้วิธีการเพื่อกอบโกยมา ไม่ต้อง มันเป็นความบริสุทธิ์ที่เขาเห็นว่าเราสมควรได้จริงๆ

เพราะฉะนั้น อำนาจกับทรัพย์สิน 2 อย่างนี่แหละ ในสังคมมนุษยชาติ จะเรียกว่า ประชาธิปไตย ก็อยู่ใน 2 อย่างนี้แหละเป็นเครื่องชี้บ่ง โดยที่เราไม่เอา เราไม่สะสม แต่เรามีโดยประชาชนเป็นเจ้าของ ประชาชนเขาพร้อมที่จะให้ ต้องการเอามาทำประโยชน์เมื่อใด ทั้งอำนาจและทรัพย์สิน เขาให้มาเมื่อนั้น แล้วเราก็ใช้เมื่อนั้น ถ้าไม่ใช้ เราก็ให้ประชาชนเอาไป ใช้อำนาจเท่าที่จะใช้เฉพาะตน ทรัพย์สินเฉพาะตน ก็จะใช้อาศัยไป ต้องการรวมมาเป็นหนึ่งเมื่อไหร่ ก็มา 

นี่เป็นนัยสำคัญที่อาตมาขยายความ ความเป็นประชาธิปไตยในวันนี้ ลึกซึ้งได้พอสมควร เพราะฉะนั้น ผู้ที่ศึกษาทางรัฐศาสตร์มาศึกษาประชาธิปไตยอะไรๆ มา ก็ศึกษามาจากเทวนิยมจากตะวันตก จากแดนที่ยังไม่มีโลกุตรธรรม มันก็เป็นประชาธิปไตยแบบเขา 

แต่ประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้าก็อีกแบบหนึ่ง ซึ่งอาตมาก็ได้อธิบายผ่านมาแล้วว่า ในยุคของพระพุทธเจ้ายังไม่มีคำว่าประชาธิปไตย แต่มีอธิปไตยที่เกิดจากโลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย ธรรมาธิปไตยและผนวกกับประโยชน์ เรียกว่า อายะ 3 พหุชนหิตายะ(เพื่อประโยชน์ของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) 

พหุชนะ คือมวลประชาชน พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ โลกานุกัมปายะ ขยับจากมวลประชาชนมาเป็นโลกโลกานุกัมปายะ อายะ 3 คือประโยชน์ คุณค่า ที่จะเอาไปใช้อาศัยในชีวิต เป็นประโยชน์อย่างมาก เป็นสุข พหุชนสุขายะ และสำคัญที่สุดคือรับใช้โลก โลกานุกัมปายะ อาตมาแปลว่ารับใช้โลก อนุเคราะห์โลก เกื้อกูลโลก ช่วยเหลือโลกอยู่ 

มีปรากฏการณ์ มีพฤติการณ์ มีความเป็นจริงในคำกล่าวภาษาเหล่านี้ไหมล่ะ มีสภาวะจริงไหมล่ะ แม้ในกลุ่มมวลชนหรือมวลประชาชนกลุ่มน้อย ไม่ต้องเรียก พหุชนะเรียกว่าอนุชนะก็ตาม เป็น กลุ่มน้อยอย่างในชาวอโศก มีไหมล่ะความจริงพวกนี้ อายะ 3 มีไหมอธิปไตย 3 มีไหม  

อธิปไตย 3  : โลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย และ  ธรรมาธิปไตย  

โลกาธิปไตย คือ รู้โลก อัตตาธิปไตยคือรู้อัตตา แล้วเราก็มีธรรมะในอธิปไตยเหล่านี้ ไม่ใช้อำนาจในโลก ไม่ใช้อำนาจในอัตตา แต่ชาวประชาชนเขาจะให้อำนาจ ชาวโลกก็จะให้อำนาจ 

อัตตาตัวตน ก็ต้องใช้อำนาจอย่างเหมาะสม ตามที่ควร ซึ่งมันซับซ้อนกันว่า การใช้อัตตาที่เป็นผู้ใช้อำนาจนี้ อำนาจเป็นภาษา เป็นแรง เป็นพลัง เพราะฉะนั้นอำนาจที่อัตตาหรือตัวคนจะใช้ เป็นอำนาจทางปัญญา เป็นอำนาจทางความเฉลียวฉลาด ฉฬายตนะ แสดงพลังหรืออำนาจออกไปทางปัญญา ออกไปทางอายตนะความรอบรู้  ให้คนได้รับความรู้ ให้คนได้รับปัญญา ให้คนได้รับรู้อายตนะ ให้คนได้รับรู้ตัวความเป็นอายตนะ ความปรุงแต่งของสภาพ 2 ที่ปรุงแต่งกันขึ้นมา แล้วได้ใช้ได้อาศัย สังขารขึ้นมา ปรุงแต่งขึ้นมาเป็นรูปเป็นนาม ให้คนได้ใช้อาศัย นั่นเป็นเรื่องสภาวธรรมทั้งสิ้นเลย เพราะฉะนั้นผู้ที่มีปัญญา มีความรู้และมีการกระทำได้ ดังที่อาตมาใช้ภาษากล่าวสิ่งต่างๆ พวกนี้ไป ผู้มีจริง รู้จริง ทำจริง มันก็เกิดผลจริงในสังคมมนุษยชาติ 

อย่างอาตมาทำ อาตมาพาพวกเราทำ สิ่งเหล่านี้เราไม่ต้องไปเที่ยวขี้ตู่เอาจากใคร เขาจะได้ ได้แล้วเขาจะวนมาตอบแทนบุญคุณ ไม่ต้อง 

คนที่มีภูมิปัญญารู้จักความจริง รู้จัก รู้แจ้ง รู้จริงในความจริงที่มันจริงๆ อย่างที่อาตมากล่าวผ่านมา สรุปง่ายๆ นี้ คนที่เขารู้ความจริงเขาจะรู้เอง และมันยาก แต่เขารู้ได้ รู้ความจริงได้ ไม่มากก็ไม่เป็นไร ขอให้เป็นความจริง น้อยก็เอา น้อยนิดนึงไม่ต้องมาก ไม่ใช่ไม่ต้องมากหรอก มากก็ดีแต่มันได้เท่านี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ทำแค่นี้ อย่างนี้เป็นต้น 

เพราะฉะนั้นในสัจจะต่างๆ ของคุณที่เขียนมานี้ แล้วสุดท้ายเขียนมานี่ก็ ไม่ได้ลงชื่อ…(เสียงตอบ ของบ้านเล็กเมืองน้อย จำสำนวนเขาได้)  ก็ค่อยๆ มาขยายความต่อ ก็ดูมีอะไรดีๆ หลายอย่างในนี้ ที่ควรจะเอามาขยาย นี่อ่านของเขาไปหน้าเดียวและก็ขยายไปบ้าง เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 42 ประชาธิปไตยโลกุตระที่มีอายะ 3 และ อธิปไตย 3 วันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2566 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2567 ( 20:06:56 )

ประชาธิปไตยโลกุตระธรรม

รายละเอียด

เรื่องของความเป็นประชาธิปไตย อาตมาก็บอกก็พูดว่า ประชาธิปไตยที่อาตมาหมาย มันเป็นประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ เป็นประชาธิปไตยโลกุตรธรรม เป็นประชาธิปไตยที่คนโลกียยังรู้ได้ยากมาก เพราะมันเป็นโลกุตระ คือ ประชาธิปไตยที่เราพูดถึงนี้เป็นประชาธิปไตยที่ไม่เห็นแก่ตัว ไม่มีอัตตาตัวตน พวกที่เขาบอกว่า เราเป็นเผด็จการ แต่เขามีตัวตนเต็มรูป เขาไม่เข้าใจว่าเราเป็นมีตัวตน แต่เขาไม่เข้าใจความมีตัวตน เขาจะยังไม่ประสีประสาเลย เขาแสดงออกมาเป็นตัวตนเต็มเหนี่ยวเลย เขาจะยังไม่รู้ตัวเองเลย เขายังไม่ได้ศึกษาสัจธรรมอะไร ก็เป็นโลกียธรรมดา 100% เต็มๆ

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 11:37:31 )

ประชาธิปไตยโลกุตระเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุใด

รายละเอียด

ยังมีคนเข้าใจว่าพลเอกประยุทธ์สร้างภาพ ถ้าหากรัฐประหารที่ทำมาเป็นการประหารด้วยอำนาจอาวุธด้วยความรุนแรงมีความเสียเลือดเนื้อ ฟังให้ดีตรงนี้ไม่ใช่เรื่อง ข่ม แต่ให้เกิดมีปัญญา ยอมแพ้ในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามจะต้องชนะ ไม่ใช่เอาชนะด้วยอำนาจบาตรใหญ่ อาวุธยุทธภัณฑ์ อำนาจความแรงทางรูปธรรม ไม่ใช่ มันเป็นเรื่องความถูกต้องความดีงาม เป็นนามธรรมล้วนๆ คนต้องยอมให้ความถูกต้องชนะ คนไทยจึงเป็นคนที่มีภูมิธรรมชั้นสูง คนที่เป็นประชาชนคนไทยมีความเข้าใจแล้วมารวมกันเป็นมวลมหาศาล จากน้อยจนกระทั่งเพิ่มขึ้น เพิ่มจนกระทั่งสุดท้าย มีจำนวนหลายล้านคน ก่อเป็นรูปเป็นร่าง เขาก็บอกว่าอันนี้มันสามารถเรียกกำลังพล รวมคะแนนเสียงของประชาชนได้มากจริงๆ สุดท้ายก็ต้องแพ้ มันก็แพ้ไปตั้งแต่รัฐบาลเรื่อยๆที่เราทำไป รายละเอียดเหล่านี้ รัฐศาสตร์จะต้องศึกษาอย่างสำคัญ เพราะว่ามันเป็นสุดยอดของความเป็นประชาธิปไตย ที่เป็นประชาธิปไตยโลกุตระจริงๆ เดี๋ยวจะได้เข้าเรื่อง ประชาธิปไตยดีที่สุดต้องโลกุตระ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 15:53:37 )

ประชาธิปไตยในมุมมองของพ่อครู

รายละเอียด

อาตมาเป็นคนพูดเองว่าประชาธิปไตยต้องมี 2 ต้องมีทั้งรูปและนามเป็นสภาวะ 2 ถ้าเป็นสภาวะเดียวมันไม่เต็มเต็งเหมือนกับคน เพราะว่าคนมีจิตกับร่างกาย มีกายมีจิต ถ้าไปมีแต่ภายนอกไปมีแต่ ร่างกาย ไม่เอาจิตเข้าไปร่วมอย่างสำคัญ ซึ่งจิตนั้นเป็นประธานสำคัญด้วย เพราะฉะนั้นการขาดจิต ซึ่งมันลึกซึ้งซับซ้อนมาก อาตมาอธิบายถึงขั้นว่าจะต้องมีการสืบทอดสันตติวงศ์มีการสืบ dna มีกฎมณเฑียรบาล สืบสันตติวงศ์ของพระเจ้าแผ่นดินต้องสืบทอดกันมา ราชวงศ์มาเลย มีการสั่งสมทศพิธราชธรรมกัน 

ผู้ที่มีรัฏฐาธิปัตย์เป็นพระเจ้าแผ่นดินของมวลประชาชน จะต้องเป็นคนที่มีคุณธรรมมีทศพิธราชธรรม ประธานาธิบดีที่ได้ด้วยวิธีเลือกตั้ง ไม่มีเลย ไม่มีเค้า ไม่มีกฎเกณฑ์ระบบอะไรที่จะเป็นได้ เป็นประชาธิปไตยสะเปะสะปะ ใครมีกลวิธีมีแทคติกมีวิธีการอะไรที่ทำได้ เขาก็ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี เป็นรัฏฐาธิปัตย์ของประเทศ ซึ่งมันไม่จริงเลย มันเป็นการสมมุติเล่นลิเกละครกันเฉยๆ นั่นคือประชาธิปไตยในมุมมองความรู้ของอาตมาซึ่งรัฐศาสตร์การเมืองที่เขาเรียนกันมาจากตำราของเทวนิยม ตำราของพวกตะวันตก ตำราของพวกที่เป็นศาสนา พระเจ้า ไม่ใช่เป็นตำราของศาสนาพระพุทธเจ้า 

แต่ประชาธิปไตยของอาตมา เป็นประชาธิปไตยจากศาสนาพระพุทธเจ้ามันคนละตำรามันเป็นโลกุตรธรรม อันนี้จึงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องที่คนคิดไม่ออกได้ง่ายๆ มันเป็นเรื่องสมบูรณ์ ซึ่งจะสมบูรณ์แบบได้ประชาชนต้องเป็นอิสระ ของเราแบบโลกุตระนี้จึงสมบูรณ์แบบเป็นอิสระ อย่างชาวอโศกนี้ มีความสมบูรณ์แบบ มีทั้งรูปและนาม แต่เราไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นเป็นอิสรเสรีภาพเท่าเทียมกัน แต่ปัจจุบันนี้ คุณซึ้งซื่อให้ข้อสังเกต 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 17 มกราคม 2566 ( 11:53:52 )

ประชาธิปไตยในยุคนี้ไม่บริสุทธิ์

รายละเอียด

ปฏิบัติไม่ต้องถึง 26 ข้อของจุลศีลหรอกก็เป็นอรหันต์ได้แล้ว เรื่องจิตวิญญาณจึงเป็นเรื่องหลักสำคัญ ประชาธิปไตยคือระบอบการปกครองบ้านเมือง คือมี

1. ประชาชน

2. หัวหน้า ก็คือกษัตริย์

3. จิตวิญญาณประชาธิปไตย

ประชาธิปไตยขาเดียวนั้นไม่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย เพราะเขาวางค่ายกลไว้แล้วตั้งหลายช่วงหลายปี ก็ได้อำนาจสร้างอำนาจไว้ จะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ง่ายๆ ประชาธิปไตยในยุคนี้ไม่บริสุทธิ์เพราะสร้างอำนาจกำลังเงินกำลังอะไรไม่สำเร็จ เลือกตั้งทีนึง ใช้เงินกี่หมื่นล้าน แล้วจะบอกว่าตัวเองบริสุทธิ์ได้อย่างไร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:48:16 )

ประชาธิปไตยในยุคพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

แม้ในยุคพระพุทธเจ้าเองจะเรียกประชาธิปไตยยังไม่ได้ เพราะเป็นสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ยังเป็นระบบทาสยังไม่รู้จักสิทธิมนุษยชนเพราะฉะนั้นจะมาพูดเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลยไม่รู้เรื่องแต่พระพุทธเจ้าท่านก็สร้างประชาธิปไตยในสมาชิกของชาวพุทธของท่านแล้วเรียบร้อยและตอนยุคนั้นก็เลยทำได้แต่เฉพาะในกรอบของความเป็นภิกษุประชาชนพลเมืองภายนอกที่ยังเป็นนักบวชไม่ใช่ภิกษุที่อยู่ในกฎอยู่ในศีลสมาธิปัญญาอยู่ในธรรมนูญของพระพุทธเจ้าก็ยังไม่สามารถที่จะครอบคลุมไปถึงจึงได้แค่นั้น

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 09:41:07 )

ประชาธิปไตยในยุคพระพุทธเจ้ายังไม่เกิด

รายละเอียด

ในบัญญัติคำว่าประชาธิปไตยในยุคพระพุทธเจ้ายังไม่เกิด เพราะเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคที่ประชาชนยังไม่รู้จักสิทธิมนุษยชน ไม่รู้จักสิทธิของตัวเองว่าเรามีสิทธิ์ในตัวเรานะ ไม่ใช่มีใครเป็นเจ้าของ ก็ยังไม่ได้ยังเป็นยุคทาส อย่าว่าแต่พระเจ้าแผ่นดินเป็นเจ้าของทุกชีวิต แต่ยังมีนายทาสเป็นเจ้าของชีวิตซ้อนลงไปอีก นายทาสจึงเป็นผู้หาประโยชน์แก่ลูกทาสอีกที แล้วไปส่งส่วยให้แก่พระเจ้าแผ่นดิน หรือว่าจะริบไปหมดแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ยังทำได้เลย เป็นราชาผู้มีสิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ของรัฐของแคว้น ทุกคนที่เป็นประชากรในแคว้น พระเจ้าแผ่นดินเป็นใหญ่ที่สุดมีนายทุนเล็กๆ ซ้อนลงมาอีก เหมือนกับในยุคนี้นายทุนก็ไปกอดคอกับนักการเมืองเป็นอำนาจบริหารกับอำนาจเงิน จับตัวกันเข้าก็เป็นอำนาจใหญ่ของแคว้นของรัฐ รัฐที่เป็นประชาธิปไตย จะใช้อำนาจเงินกับอำนาจของคนที่เป็นใหญ่ ก็ยังไม่ใช่ประชาธิปไตย ยังเป็นธนาธิปไตยหรือคณาธิปไตย ยังไม่ใช่ประชาธิปไตย ขณะนี้ที่เห็นชัดๆก็คือสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมามีบารัคโอบามา ยังไม่ใช่นายทุนใหญ่เหมือนโดนัลด์ทรัมป์ แต่ก็มีนายทุนที่เขาเชิดบารัคโอบามาอยู่ บารัคโอบามาจึงเป็นประธานาธิบดีที่มีนายทุนเป็นตัวตั้ง ทำไปทำมาก็กลับมาเป็นนายทุนเอง สหรัฐอเมริกาเป็นประชาธิปไตยรวม เป็นประชาธิปไตยที่ร้ายแรงที่สุด แม้แต่ประเทศจีน ก็เอาพวกทุนนี้มาเป็นองค์ประกอบ ประเทศจีนได้เปรียบตรงที่มีประชากรมาก เพราะฉะนั้นค่าเฉลี่ย ของแรงงานแต่ละบุคคลจึงได้เยอะ ได้มาเยอะก็เอามาบริหารเอามาเป็นอำนาจต่อรองกับประเทศอื่นได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 สู่แดนทองฉลอง 50 ปีโพธิกิจ วันที่ 1 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:31:33 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 04:55:13 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:51:38 )

ประชาธิปไตยในยุคอิสรเสรีภาพ

รายละเอียด

แต่ยุคนี้เป็นยุคอิสระเสรีภาพ ไม่มีสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไม่มีไม่ใช่ยุคทาสทุกคนต้องใช้สิทธิของตนเองสิทธิทุกอย่าง เข้าใจสิทธิต่อวัตถุสิทธิต่อการแสดงออกสิทธิที่เขาจะพูด จนกระทั่งกลายเป็น Hippy เอาแต่ใจตัวกูชิบหายวายป่วงอะไรยังไงกับกระทบกระเทือนใครยังไงกูไม่เกี่ยวกูมีสิทธิ์เต็มที่ กลายเป็นอย่างนั้นไปเลย เหมือนกับตัวเองไม่ได้อยู่ในหมู่พวกกระทบกระเทือนอะไรใครก็ไม่เกี่ยว กูจะมีสิทธิ์ อย่างพวกนี้ก็มาไม่รู้จะพูดยังไงเดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่แล้วก็ยังรวมหมู่รวมพวกนะ นอกจากตัวเองไม่พอหาพวกด้วย แล้วก็ไปหาสิทธิ์ หาเสียงประชาชนกลุ่ม ก็จะพยายามประกาศพยายามที่จะโฆษณาพยายามที่จะหาพวกหาหมู่มาอยู่ตลอดเวลา 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 09:43:57 )

ประชาธิปไตยได้ผลสมบูรณ์ มันต้องมาจากใจจริง ใจจริงที่จะเป็นประชาธิปไตยที่เป็นประชาธิปไตยแท้ๆ 10 ประการ

รายละเอียด

ก็จริงความเป็นประชาธิปไตยอยู่ที่รูปแบบก็ด้วย จะรูปแบบแค่ทางภายนอกมันไม่ถาวรหรอกมันไม่ยืนนาน มันไม่ได้ผลสมบูรณ์ มันต้องมาจากใจจริง ใจจริงที่จะเป็นประชาธิปไตย อ่าน การเมืองใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยแท้ๆ 10 ประการ

  1. งานการเมืองต้องมีคุณธรรมและเป็นกุศล 

  2. นักการเมืองต้อง “รู้จัก” ประชาธิปไตยที่แท้ 

  3. นักการเมืองต้อง “สอน” หรือเผยแพร่ประชาธิปไตยให้กับประชาชน  (ประชาชนก็ใส่ใจขวนขวายเรียนรู้ ไม่ใช่รู้แค่ว่าไปเลือกตั้งเท่านั้น)  

  4. นักการเมืองต้องเป็นผู้พึ่งตัวเองได้แล้ว 

  5. นักการเมืองต้องเป็นผู้มักน้อยสันโดษ  

  6. นักการเมืองต้องไม่ทำงานการเมืองเป็นอาชีพหากิน . 

  7. งานการเมืองต้องเป็นงานอาสาเสียสละ .

  8. นักการเมืองจะต้องไม่มีอคติ (ต้องพ้น อคติ 4) . .

  9. นักการเมือง คือ ผู้มีอิสระแท้จริง ไม่เป็นทาสโลกธรรม(นักการเมืองต้องเป็นอาริยะหรือเป็นอรหันต์)

  10. งานการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่งานเพื่อตัวเรา  เพื่อครอบครัว  เพื่อหมู่พวก  เพื่อพรรค  แต่เป็นงานเพื่อบ้านเมือง  เพื่อประชาชนทั้งมวล  เพื่อผู้อื่นที่พ้นไปจากตัวเอง  พ้นไปจากครอบครัว  พ้นไปจากหมู่พวก  แม้แต่พ้นไปจาก “พรรค” ของตน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:15:26 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:49:36 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:53:19 )

ประชาธิปไตยไทยงามที่สุดในโลก

รายละเอียด

แต่กระนั้นก็ตาม อาตมาก็ยังเห็นชัดว่าเมืองไทยนี้ อาตมาพูดไปแล้วไม่รู้กี่ทีว่า เมืองไทยทุกวันนี้เป็นเมืองที่มีประชาธิปไตย งามที่สุดในโลก ประชาธิปไตยในความรู้ของอาตมา ประชาธิปไตยคืออะไร ไม่ใช่แค่เลือกตั้งเท่านั้นคือประชาธิปไตย ถ้าไม่ใช่เลือกตั้งตีทิ้งไปเลยทั้งขบวน อย่างนั้นอาตมาข้ามพวกนี้ไปมากแล้ว คือไม่รู้จักแก่นแท้สาระที่เหมาะควร

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 10:51:01 )

ประชาธิปไตยไทยดีกว่าอังกฤษ

รายละเอียด

อาตมาพูดไปไม่ได้พูดเล่นว่า ประเทศไทยดีกว่าประเทศอื่นๆอีก 200 ประเทศในโลกนี้มีดีกว่าอีกมาก ขออภัยดีกว่าอเมริกาอีกด้วย อเมริกานี้ไปหนักเลย ขออภัยหากจะเปรียบกับอังกฤษ ประเทศไทยก็ดีกว่าอังกฤษ

อังกฤษเป็นประเทศต้นแบบประชาธิปไตย อเมริกาก็ติ่งประชาธิปไตย เป็นประชาธิปไตยขาเดียว ขาเกดีไม่ได้หรอก ไม่เข้าใจธรรมะสองเรื่องจิตวิญญาณ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 15:39:49 )

ประชาธิปไตยไทยนิยมคือไฉน

รายละเอียด

กำลังเริ่มเรื่องของประชาธิปไตยที่อาตมาก็ค่อยไล่มาเรื่อยๆตั้งแต่พ.ศ. ไหนก็ไม่รู้ นี่จับมาจากเราคิดอะไรเริ่มตั้งแต่มิถุนายน 2560 เดือนมิถุนายน 60 มา โคลงในเราคิดอะไรมีคนรวมมาให้ก็ต้องขอบคุณ มีอีกนะ ยังไม่หมดทีเดียว กำลังรวบรวมกันอยู่ จะมีได้อีกแล้วค่อยมาไล่กันใหม่ ได้ขนาดนี้แล้วขณะนี้ก่อนจะมาเริ่มต้นไปแล้วตั้งแต่ก่อนประชาธิปไตยดีที่สุดต้องโลกุตระก็ได้ขยายความอ่านรายละเอียดเป็นโคลงเสร็จหมดแล้วก็ขยายความไปแล้วทีนี้ก็มาอันที่ 2 

“ประชาธิปไตยไทยนิยม”คือไฉน?      

     (1) “ไทยนิยม”นั่นไซร้ ไฉนใด

เป็น“ประชาธิปไตย” ชัดแท้

     มีอัตตลักษณ์ใน ใจลึก กันเฮย  

จึงยากที่จักแก้ เปลี่ยนเชื้อ“นิยม”เดิม

(2) แต่มาเสริมรูปให้ หลงสมัย 

ปรุงแต่งกันออกไป ซ่านฟุ้ง 

เพื่อลบ“ราก”จากไทย นั้นไป่ ได้เลย

      “เศรษฐกิจ”ชาติเรื้องรุ้ง เลิศแล้ว“ไทยนิยม”

(3) ไทยคงค่าพุทธด้วย “วิญญาณ”

ยิ่งกว่า“ยีน”สืบสาน ชาติเชื้อ

“ฝังรากจิต”ไทยจาร โลกุตร มาแฮ

“อธิปไตย”ไทยเอื้อ ประเทศไว้เป็น“ไท”

(4) ใครบ่แจ้งสัจจ์แท้ ว่าพุทธ

นั่น“ประชาธิปัตย์”สุด วิเศษแล้ว

แต่บ่ชัด“โลกุต- ระ”เลอะ เองพ่อ

จึ่งออกนอกทางแคล้ว คลาด“เนื้อพุทธ”ไป

(5) ชาติไทยมีผ่านเผ้า ทรงวัตร

พระจริยะยืนสัตย์ ยิ่งไซร้

“ประชาธิปไตย”ชัด ตามหลัก พุทธเลย   

“ไทยนิยม”จึงได้ อยู่ยั้งยืนยง

(6) ผู้หลง“ต่างชาติ”ล้วน งงงม

หลง“ศาสตร์นอกพุทธ”จม ยากฟื้น

จึงเป็นเช่นเห็น“สม- เพช”สุด

เศรษฐกิจเลยเตี้ยตื้น ต่ำด้วย“ทุนนิยม”

(7) “ไทยนิยม”คมชัดด้วย “ความจน”  

วรรณะเก้า*แบบยอดคน สละได้

ไม่โง่งกพาตน ต่ำตก แสวง“รวย”

“อธิปไตย”ไทยใช้ ศาสตร์แท้พระราชา        

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 09:38:00 )

ประชาธิปไตยไทยนิยมคือไฉน            

รายละเอียด

(1) “ไทยนิยม”นั่นไซร้ ไฉนใด

เป็น“ประชาธิปไตย” ชัดแท้

     มีอัตตลักษณ์ใน ใจลึก กันเฮย  

จึงยากที่จักแก้ เปลี่ยนเชื้อ“นิยม”เดิม

(2) แต่มาเสริมรูปให้ หลงสมัย 

ปรุงแต่งกันออกไป ซ่านฟุ้ง 

เพื่อลบ“ราก”จากไทย นั้นไป่ ได้เลย

      “เศรษฐกิจ”ชาติเรื้องรุ้ง เลิศแล้ว“ไทยนิยม”

(3) ไทยคมค่าพุทธด้วย “วิญญาณ”

ยิ่งกว่า“ยีน”สืบสาน ชาติเชื้อ

“ฝังรากจิต”ไทยจาร โลกุตร มาแฮ

“อธิปไตย”ไทยเอื้อ ประเทศไว้เป็น“ไท”

(4) ใครบ่แจ้งสัจจ์แท้ ว่าพุทธ

นั่น“ประชาธิปัตย์”สุด วิเศษแล้ว

แต่บ่ชัด“โลกุต- ระ”เลอะ เองพ่อ

จึ่งออกนอกทางแคล้ว คลาด“เนื้อพุทธ”ไป

(5) ชาติไทยมีผ่านเผ้า ทรงวัตร

พระจริยะยืนสัตย์ ยิ่งไซร้

“ประชาธิปไตย”ชัด ตามหลัก พุทธเลย   

“ไทยนิยม”จึงได้ อยู่ยั้งยืนยง

                                               

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 15:23:28 )

ประชาธิปไตยไทยมีหนึ่งเดียวในโลก

รายละเอียด

ประชาธิปไตยไทยมีหนึ่งเดียว ซึ่งประชาธิปไตยตาม Concept ของแต่ละสังคม โดยสรุปแล้ว เนื้อหาอาตมาจะค่อยๆขยายความถึงหัวใจถึงความเป็นประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ

“หนึ่งเดียว”ในโลกคือประชาธิปไตยไทย

(1) ไทยเปลี่ยนระบอบใช้ “ประชา- ธิปไตย”

แปดสิบเจ็ดปีมา ตราบนี้

การเมืองย่อมพัฒนา เจริญ“รูป- นาม”แฮ

“พุทธศาสตร์”ชัดช่วยชี้ บ่งให้โลกเห็น

(2) เป็นศาสตร์รู้จบแจ้ง ทุกนัย

ทั้ง“อัตตาธิปไตย” ชัดแท้

“โลกาธิปไตย”ไข  ได้หมด สิ้นเฮย

“อธิปไตย”จึ่งใช้แก้ “เทฺว”ได้โดย“ธรรม”  

(3) รู้“กรรม”จึงชัดถ้วน “ธรรมะ” 

รู้“อำนาจ”โลกุตระ วิเศษไซร้

ทั้ง“โลก”ทั้ง“อัตตะ” ครบเทฺวะ “2”รา 

จึง“สยบ”ด้วย“สงบ”ได้ เด่นด้าวโดยธรรม

(4) กำราบความชั่วร้าย สำเร็จ

ด้วย“สัจจเทฺวะ”เสร็จ ถูกถ้วน

“มวลชน”ร่วมกัน“เผด็จ- การ”จบ ลงแฮ

“ทหาร”ช่วยระวังล้วน ถูกต้อง“เทฺวธรรม”

(5) กำจัดทรราชแล้ว โดยประชา

ทหารจึ่งยื่นมือมา ต่อไม้

สืบทอดร่วมรักษา ระเบียบ ระบบ      

ใช่“เผด็จการทหาร”ได้ ชื่อผู้ลงมือ

(6) ซื่อบื้อกันสู่รู้ ดีนัก

หลงเปลือกบ่รู้จัก แก่นแท้ ไทยประพฤติสิทธิศักดิ์ ตรงพุทธ- ศาสตร์เลย

เป็น“รัฐประหาร”แก้ วิกฤติได้ประชาทำ

(7) สำเร็จ“พฤติภาพ”นี้ ของไทย            

ชื่อ“ประชาธิปไตย” วิศิษฏ์ชี้                    

ไทยปฏิบัติวิสุทธิ์ใจ ซึ่งสัมผัส ได้จริง    

ยืนหยัด“ไทย”ก่อนกี้ ตราบท้าวปัจจุบัน

(8) สำคัญต้อง“สัมผัส”ถ้วน จากไทย

เป็น“ประชาธิปไตย” ต่างหล้า

“ตัวอย่าง”สุดประเสริฐใน โลก“หนึ่ง- เดียว”เฮย

เด่น“เดี่ยว”แกร่งเกินกล้า แก่นแท้“กายสักขี”

 “สไมย์ จำปาแพง”

              19 ส.ค. 2562

       [นัยปก “เราคิดอะไร” ฉบับ 350 ประจำเดือนกันยายน 2562]


 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม หนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 13:41:09 )

ประชาธิปไตยไทยสิ่งเลวร้ายถูกขจัดด้วยปัญญาของประชาชน

รายละเอียด

ประเทศไทยนั้นประชาชนมีปัญญา อำนาจของประชาชนจึงรวมกันไปขจัดสิ่งที่เลวร้ายนี้ออกไปได้ นี่คือประชาธิปไตยไทย มีหลักฐานยืนยันซึ่งถ้าใครเก็บรายละเอียดมีทั้งเป็นวีดีโอมีทั้งเป็นจดหมายเหตุเก็บไว้ให้ดีเลยในอนาคตจะมีค่ามากเลย ตอนนี้เขายังไม่เห็นคุณค่าเท่าไหร่ แต่เขาจะเห็นคุณค่าของประชาธิปไตยไทยที่ได้เกิดปรากฎการณ์จริงขึ้นมาแล้วรัฐบาลทักษิณไป รัฐบาลนอมินีที่เป็นคุณสมัครก็ไป รัฐบาลคุณสมชายก็ไป รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ไป หมดเลยแล้วเขาก็พยายามจะปั้นใครขึ้นมาอีกยังไม่เป็นตัวเป็นตน    

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 31 มีนาคม 2563 ( 09:14:18 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 13:35:46 )

ประชาธิปไตยไทยเป็นประชาธิปไตยที่มีแก่นแท้โลกุตรธรรม

รายละเอียด

อันนี้ก็ดี อาตมาเอาอันนี้มาอ่านจะได้เป็นการศึกษา อาตมาก็มั่นใจแบบเมืองไทยก็เป็นประชาธิปไตยแน่นอนและต่างกับจีนตรงที่ว่า จีนไม่มีกษัตริย์ เป็นประชาธิปไตยที่ไม่มีกษัตริย์ที่อาตมาพูดยืนยันมั่นใจว่า ประชาธิปไตยของไทยเป็นประชาธิปไตยที่มีแก่นแกน มีแก่นแท้ของโลกุตรธรรม ซึ่งโลกุตรธรรมสูงสุดมันเหนือทั้งความเป็นคอมมิวนิสต์เหนือทั้งความเป็นประชาธิปไตย ไม่มีภาษาเรียกหรอก ภาษาก็เรียกว่าธรรมาธิปไตย เป็นอธิปไตยที่รู้แจ้งในความเป็นโลกและความเป็นอัตตา ซึ่งเป็นความรู้ทางโลกุตระธรรมที่ทางเทวนิยมไม่รู้เรื่อง แยกโลก แยกอัตตาไม่ออก และโลกกับอัตตาเป็นความเป็นอยู่จริงของมนุษย์และสังคม

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2563 ( 13:36:05 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 13:36:13 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 19:55:19 )

ประชาธิปไตยไทยไม่ใช่ทุนนิยม

รายละเอียด

ท่านทรงงานถ่ายทอดพฤติการณ์ของท่าน มาให้ ประชาชน จนคนไทยบอกว่าจะทำตามศาสตร์พระราชา ทุกวันนี้ยังพูดกันอยู่และจริงใจจะทำให้ได้ นี่คือสัจจะของจริงในโลกมีในประเทศไทยเกิดจริงเป็นจริง เป็นประชาธิปไตยชัดตามหลักพุทธเลย ไทยนิยมจึ่งได้   อยู่ยั้งยืนยง 

ทุนนิยมในไทยก็คาคอ ไม่สามารถยิ่งใหญ่ได้ เพราะอย่างน้อยในหลวง ร.9 บอกว่าต้องมาเอาแบบคนจน ต้องไปอ่านหนังสือ แบบคนจน ที่อาตมาเขียน ซึ่งก็คงจะเข้าใจยาก ในเรื่องว่าจะมาอยู่อย่างไร ก็ต้องมาอยู่แบบชาวอโศกแบบคนจน พวกเรามาเป็นคนจนจริงๆแล้วก็ลดกิเลสลงๆ จนกระทั่งอยู่ได้อย่างนี้ เอาไปเปรียบเทียบไปวัดกับกลุ่มไหนในโลก หรือกลุ่มอื่นๆของประเทศไทยก็ได้หรือในโลกก็ได้ อยู่กันอย่างไร จนแบบไหน ก็จนอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ จนอย่างยิ้มย่องผ่องใส จนอย่างขยันหมั่นเพียร จนอย่างเสียสละออก มันจึงจน ก็ทำได้มากๆแล้วเอาไว้แต่น้อย ให้หมุนเวียนได้เท่านั้นเอง นอกนั้นก็สละแจกจ่ายไป แล้วไม่กลัวจน เพราะมั่นใจว่าพลังงานและความสามารถของเรา มีพอ ที่จะทำงานเกินกว่าที่เรากินใช้แล้วไม่ยึดถือเป็นของตัวเอง เอาไปรวมกับกองกลาง ช่วยกันบริหารส่วนกลางเผื่อแผ่ผู้อื่นๆ มันสุดยอดเศรษฐศาสตร์เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 15:29:28 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์