คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี
เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit
วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5
วีดีโอ Loom 1 : https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044
วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk
รายละเอียด
อุเบกขา 5 กับฌาน 4 พอเวลาคนปฏิบัติธรรมแล้ว ทุกวันนี้เป็นมิจฉาทิฐิกันซะเกือบหมด อาตมาว่า ใช้คำว่าเกือบนี่ยังดีนะ น่าจะพูดว่าหมดเลย มันไม่เข้าใจกันถูกเลย แม้แต่ปฏิบัติธรรม ฌาน ก็เข้าใจไม่ได้ว่าปฏิบัติ ฌาน นี้ต้องปฏิบัติศีล และอปันกปฏิปทา 3 จึงจะเกิดสัทธรรม 7 แล้วจึงเป็นกระบวนการที่เป็นเหตุปัจจัยที่จะทำให้เกิด ฌาน 1 2 3 4
อันนี้เป็นแกนนิพพานเลย ฌานที่ 4
ฌาน 1 ยังไม่มีอุเบกขา ฌาน 2 ฌาน 3 ก็ยังไม่มี ฌาน 4 จึงจะมีอุเบกขา หากเรารู้อาการของจิตเจตสิกต่างๆ ว่าอาการอย่างนี้เป็นอาการอย่างนี้ ก็จะรู้อาการวิตกวิจาร รู้อาการของปิติ สุข คือมีฌาน 1 มันกำลังทำงานก็มีปิติแต่มันยังไม่มีอุเบกขา ก็ปฏิบัติดีขึ้นเรื่อยๆปีติก็ลดลง วิตกวิจารคือ มันต้องเคร่งคุม เหมือนฝึกหัดอะไรใหม่ๆยังไม่ค่อยคล่อง จะเอาอันนี้ใส่อันนี้จะเอาอันนี้หมุนใส่อันนี้จะประกอบกับอันนี้ เหมือนกับช่างทั้งหลายแหล่มันก็จะเป็น พอเป็นแล้วก็คล่องปุ๊บปั๊บได้ไวขึ้น ฉันใดก็ฉันนั้น ทำได้ดีขึ้น
ตอนแรกก็ดีใจทำได้ดี ก็ปิติ พอทำได้คล่องแล้วก็ลดความปิติลงทำได้ก็ชินชา ก็สงบสุข จนเป็นอุเบกขา หมดอุปกิเลส
เสร็จแล้วจิตฐานอุเบกขา 5 อาการนี้
ลักษณะที่บริสุทธิ์ ปริสุทธา
ปริโยทาตา ลักษณะที่เจริญด้วยความบริสุทธิ์
แต่ละอาจารย์เข้าใจสภาวะต่างกันก็แปลไปตามภูมิ ส่วนอาตมาก็แปลไปตามอัตโนมัติของอาตมา ใครจะว่าไม่ตรงกับที่เขาแปลก็ไม่มีปัญหา ใครจะเอาตามที่อาจารย์คนไหนแปลก็ลางเนื้อชอบลางยาอาตมาไม่มีปัญหาไม่ได้ไปแย่งชิงอะไร
ปฏิบัติธรรมไม่มีการกระทบสัมผัส หมดท่าเลย โมฆะ ปิดประตูที่จะเจริญไปตามธรรมะของพระพุทธเจ้า มันน่าสงสาร นั่งหลับตากัน พูดกันอย่างไร เหมือนอาตมาแทงด้วยหอกร้อยเล่มเช้ากลางวันเย็น แทงพวกนั่งหลับตา ด้วยปากหอก มุขสตี พูดทิ่มแทงเขา แต่ก็นิ่งอยู่อย่างนั้น จะพูดมุมไหนจะเอาภาษาไหนมาอธิบายเป็นภาษาแทงให้เข้าบ้างว่า โพธิรักษ์มีอะไรดีเหรอ ให้สะดุดบ้าง แต่นี่ไม่รู้ไม่ชี้ ดีไม่ดีพลอยจะรำคาญพลอยโกรธเราด้วย ว่าเราทำไมวะ เอ็งเป็นใคร เราก็บอกว่าเราเป็นโพธิสัตว์ เป็นอรหันต์นั่นหละที่คุณต้องการ แต่นี่ อรหันต์ จริง อรหันต์เก๊นั่นไปนั่งพูดฝอยอะไร ไปเอาพยัญชนะภาษาอะไรมาพูดก็ไม่รู้ ทั้งที่เรียนบาลีนะ อาตมาไม่ได้เรียนบาลีแต่ก็เอามาพูดได้ อธิบายให้ฟัง ถ้าเข้าใจอุเบกขา 5 สมบูรณ์แล้วคุณทำตามนี้ได้ก็เป็นพระอรหันต์ ถ้าคุณไม่รู้อุเบกขา 5 ลักษณะ แล้วคุณก็ทำให้มันเป็น ปริสุทธา ปริโยธาตา จิตคุณก็เป็น มุทุ ทำการงานอะไรได้ดีก็เป็น กัมมัญญา เพราะคนต้องทำกรรมการงานกับการงาน ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และจิตประภัสสรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปภัสสรา อุเบกขา 5 จึงเป็นแกนหลักที่ใช้ตรวจสอบความเป็นอรหันต์ พูดอย่างนี้เลย แล้วยืนยันว่าไม่ผิดถูกต้องด้วย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 12:17:08 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 28 เมษายน 2563 ( 12:48:03 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:52:08 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 09:25:54 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 24 มีนาคม 2563 ( 14:20:09 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 12:00:49 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:39:31 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2563 ( 17:06:49 )
รายละเอียด
อุเบกขาเป็นฐานของศาสนาเป็นฐานของพุทธอย่างสำคัญ ปริสุทธา ปริโยธาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา ใครมีพยัญชนะและมีสภาวะชัดเจนก็เป็นความสมบูรณ์ ทำใจในใจของเราให้ไม่มีกิเลสแล้วก็ทำ “อุเบกขา 5” ให้แข็งแรง
1. ปริสุทธา (บริสุทธิ์ปราศจากกิเลสนิวรณ์ 5)
2. ปริโยทาตา (ผุดผ่องขาวรอบแข็งแรงแม้ผัสสะกระแทก)
3. มุทุ (รู้แววไว อ่อน-ง่ายต่อการดัดปรับปรุงให้เจริญ)
4. กัมมัญญา (สละสลวยควรแก่การงาน ไร้อคติ)
5. ปภัสสรา (จิตผุดผ่องแจ่มใสถาวรอยู่ แม้มีผัสสะ)
บริสุทธิ์แล้วก็ยิ่งบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น แล้วก็รวมเป็น มุทุภูตธาตุ แล้วก็ทำงานยิ่ง กัมมัญญา ทำงานเหมาะควรกับสังคมได้มากได้ดี ได้ประเสริฐยิ่งเบามากขึ้น จะทำงานอย่างไร จะมีการปรุงแต่งอย่างไร จะถูกด่าถูกว่าถูกต่อต้านอย่างไร ก็ทำกับสังคมยิ่งเก่งยิ่งเชี่ยวชาญ ยิ่งสำเริงสำราญ ยิ่งประภัสสร ยิ่งผ่องแผ้ว คำแปลมาเป็นพยัญชนะภาษาไทยในพระไตรปิฎก อาตมาก็เคยบอกว่าผุดผ่องกับผ่องแผ้วมันต่างกันอย่างไร ผ่องพึ่งจะผุดขึ้นอันนี้ผ่องมันจะแผ้ว
ที่มา ที่ไป
เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 18:20:31 )
รายละเอียด
อุเบกขา นั้นบริสุทธิ์ยิ่งกว่าไม่สุขไม่ทุกข์ จริงๆแล้วไม่สุขไม่ทุกข์ก็ใช้เป็น synonym กับอุเบกขาได้ แต่นัยที่ลึกซึ้งนั้นคำว่าไม่สุขไม่ทุกข์เป็นภาษาโลกีย์ คำว่าอุเบกขาเป็นภาษาของโลกุตระ เอาคำว่าไม่สุขไม่ทุกข์มาใช้ร่วมกันกับอุเบกขา เป็นตัวคล้ายๆกันแทนกันไป สำหรับผู้ที่ยังไม่ละเอียด เมื่อสุขไม่มีทุกข์ไม่มีแล้ว แล้วยิ่งทำจิตไม่สุขไม่ทุกข์ให้สะอาดและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น มีฝุ่นละอองอะไร ก็เอามาเช็ดเหมือนเอาชามัวร์มาเช็ดไม่ให้มีฝุ่นหมองมัวเลย ปริสุทธาปริโยทาตา แล้วก็มีคุณสมบัติวิเศษ มุทุ เร็วไว ทำให้ได้ static dynamic สมบูรณ์แบบสองฐาน ทาง Nuclear Fusion
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์เปิดงานพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:15:21 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:08:17 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:10:24 )
รายละเอียด
พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องความสุขความทุกข์ สรุปเลย เลิกสุขเลิกทุกข์ไปเลย ไม่มีสุขไม่มีทุกข์เรียกว่า อทุกขมสุข กลางๆ ทีนี้คำว่า จิตกลางๆ ไม่สุขไม่ทุกข์นี้ ไม่ใช่เรื่องเดา ไม่ใช่เรื่องพูดเล่นๆง่ายๆว่าจิตว่างๆ จิตว่าง ว่างจากสุข ว่างจากทุกข์
จิตของผู้บรรลุไม่มีสุขไม่มีทุกข์คือจิตอุเบกขา อุเบกขาแตกต่างจากคำว่าไม่สุขไม่ทุกข์ เขาเอามาเรียกแทนกันว่า จิตอุเบกขาคือจิตไม่สุขไม่ทุกข์อุเบกขาไม่ใช่จิตไม่สุขไม่ทุกข์ จิตอุเบกขา อุเบกขา แปลว่า จิตบริสุทธิ์
อุเบกขาแปลว่าความบริสุทธิ์จากกิเลส ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา นี่เป็นองค์ธรรม 5 ของอุเบกขา จิตบริสุทธิ์จากกิเลสก็ต้องเรียนรู้กิเลส กิเลสนั่นแหละมันพาให้สุขมันพาให้ทุกข์ มันไม่รู้ความสุขไม่รู้ความทุกข์ สุขทุกข์เป็นผีหลอก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 21 ตอบปัญหาให้พ้นความสุขคือความโง่ วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2564 ( 21:51:17 )
รายละเอียด
ใช่ เป็น กัมมัญญา เข้าข้างคนดีคนที่ควร และคำว่าอุเบกขาที่แปลว่าความเป็นกลาง มันมีความหมายลึกซึ้ง
อุเบกขา ท่านแจกวิภัตติไว้ว่า อุเบกขามีองค์ธรรม 5 ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา อาตมาก็เอามาแยกอธิบาย
ปริสุทธาคือ จิตบริสุทธิ์ คนจิตอุเบกขาคือ คนที่หมดกิเลส มีฌาน 4 ฆ่ากิเลสหมดแล้ว และสมบูรณ์ด้วยบุญด้วย สมบูรณ์ด้วยบุญไม่ได้หมายความว่า บุญมีมากนะ บุญทำการฆ่ามือสุดท้าย เป็นมือเพชฌฆาตเด็ดขาด ฆ่าแล้วก็ต้องตาย ตายแล้วก็หมดหน้าที่บุญ คำว่าบุญนี้เข้าใจไม่ได้ง่าย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเกิดมาหากไม่ได้โลกุตระ เท่ากับชิงหมาเกิด วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 แรม 3 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 15:30:26 )
รายละเอียด
มานั่งพิจารณานะ จำกัดอะไรจำกัดว่า หนึ่งคนผู้นี้เขาเข้าใจอย่างนี้ เราก็เข้าใจอย่างนี้ ถ้าเราไม่เข้าใจที่เขาเข้าใจ ต้องให้เขาเข้าใจอย่างนี้ตอนพูดกันคุยกัน เราก็ไม่เข้าใจที่เขาเข้าใจ ก็รู้ข้อจำกัดของตนเองแล้ว เพราะเราไม่เข้าใจว่ะ เออ ก็ต้องวาง ยอมรับข้อจำกัดได้ หรือ เราเข้าใจอันนี้แล้วพยายามจะให้เขาเข้าใจ เขาก็ไม่เข้าใจ เราก็ต้องปล่อยวางเราก็ต้องรับข้อจำกัดได้ พูดอย่างนั้นเขาก็ไม่รู้เรื่อง
เราไปพูดกับเด็ก ปัดโธ่..เด็กมันมีข้อจำกัด พูดยังไงเด็กมันก็ไม่รู้ข้อจำกัดนั้น เช่นเดียวกันกับเทวนิยมเราจะไปพูดโลกุตระให้เขาฟัง เขามีข้อจำกัด ยังไงก็ไม่ได้ หรือ อาตมาแสดงธรรมออกไปแสดงกายวาจาใจออกไป คนที่ฟังเขารู้เขามีข้อจำกัดฟังอาตมาไม่ได้ ฟังไม่ได้ฟังไม่เข้าใจฟังไม่รู้เรื่อง หรือเขายึดของเขาเลยว่า ต้องอย่างนี้ไม่ผิดไปจากที่เขาเข้าใจ ถ้าผิดไปจากที่เขาเข้าใจอันนี้ผิด เป็นข้อจำกัดของเขา เราก็ต้องรู้ว่าเขามีข้อจำกัดเท่านี้ เราจะทำยังไง เราจะแสดงโดยไม่ทะเลาะกัน เรานานาสังวาสได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ตอน 3 วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 แรม 9 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 08 มกราคม 2567 ( 14:14:13 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 10:44:00 )
รายละเอียด
อุเบกขาเป็นฐานจิตที่ทำได้สำเร็จ คือนิพพาน สังสม อุเบกขาได้แข็งแรง ก็คือ นิพพาน ยืนหยัด ยืนยันไปเรื่อยๆ อุเบกขา หรือนิพพานเป็นไวยพจน์ใช้แทนกันได้ ฌาน 4 ก็พัฒนาให้ถึงจาก ฌาน 1 2 3 มา
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต ปฐมอโศก วันจันทร์ 18 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 18:33:02 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:09:17 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:40:02 )
รายละเอียด
คือ อุเบกขาเป็นฐานจิตที่ทำได้สำเร็จ คือนิพพาน สั่งสม อุเบกขาได้แข็งแรง ก็คือ นิพพาน ยืนหยัด ยืนยันไปเรื่อยๆ อุเบกขา หรือนิพพานเป็นไวยพจน์ใช้แทนกันได้ ฌาน 4 ก็พัฒนาให้ถึงจาก ฌาน 1 2 3 มา
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 81 วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 13:58:19 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:54:54 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 15:58:28 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 19:28:55 )
เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 08:03:10 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:00:16 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 11:54:36 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 24 มีนาคม 2563 ( 14:18:14 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:06:00 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:10:56 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 25 มีนาคม 2563 ( 10:47:49 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:06:59 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:11:23 )
รายละเอียด
นิพพานไม่ใช่เรื่องมากมายแต่คือความสุขความทุกข์นี่แหละ คุณอ่านเวทนาให้เป็นเข้าใจเวทนา 108 ให้ถูกต้องสภาวะ
เวทนา 2 มีกายิกเวทนา ที่เนื่องจากความสัมผัสภายนอก และเจตสิกทุกข์ ที่ไม่ขาดจากภายนอก แต่ไปเน้นอ่านที่ภายใน อย่างนี้คือความรู้สึกหรืออารมณ์ และความรู้สึกหรืออารมณ์นี้เป็นเวทนา 3 คือ สุข ทุกข์ อทุกขมสุข
สุข ทุกข์ อทุกขมสุข ที่เป็นเคหสิตะก็มี
สุข ทุกข์ อทุกขมสุข ที่เป็นเนกขัมมะก็มี เป็นเนกขัมสิตโทมนัสเวทนาก็มี เนกขัมมสิตโสมนัสก็มี
ต้องมาเรียนรู้ความสุขความทุกข์และเนกขัมมะ ได้ แยกสุข ทุกข์ แบบโลกุตระ ได้ จนมันหมดก็มีฐานไม่มีสุขไม่มีทุกข์เรียกว่าอุเบกขา ต้องเข้าใจอุเบกขาแบบเคหสิตะ แบบโลกียะ
เข้าใจแยกอุเบกขาเคหสิตะกับเนกขัมสิตอุเบกขา
คนที่เข้าใจไม่ได้ เคหสิตะอุเบกขา กับเนกขัมสิตอุเบกขา เป็นคนละโลก
อุเบกขาคือฐานของนิพพานเป็นความไม่ทุกข์ไม่สุขที่มีองค์ธรรม 5 ประการสมบูรณ์ ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ แก้กรรมฐานให้ถูกพุทธ วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 07 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:05:23 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2563 ( 10:51:53 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:52:22 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:15:05 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 11:37:42 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 09:40:29 )
รายละเอียด
ขยายฌาน 4 อุเบกขาสามารถยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ วสวัตตี จึงสามารถปรับปรุงจิตให้มีอัตราการก้าวหน้าเป็นสัมประสิทธิ์ เป็น coefficient เป็นอัตราเร่งจากคูณเป็นยกกำลัง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 31 ที่สันติอโศก
วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 ที่บวรสันติอโศก
เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 21:20:54 )
รายละเอียด
มีศีล อปัณกรรม 3 สัทธรรม 7 ฌาน 4 วิชชา 8 ปฏิบัติแล้วเกิดจิตที่สะอาดจากกิเลสบริสุทธิ์ ตกผลึก ตั้งมั่น เป็นปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 19:52:52 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:14:09 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 09:26:41 )
รายละเอียด
ซึ่งอาตมาก็อธิบายว่าไม่สุขไม่ทุกข์ไม่ใช่อุเบกขาทีเดียวนะ มันบอกถึงสภาวะสมมติ สุขทุกข์นั้นมันเป็นสมมติ ไม่ใช่ปรมัตถ์
ปรมัตถ์นั้นไม่มีกิเลส ไม่มีกิเลสก็ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ อุเบกขาเป็นปรมัตถ์ ไม่สุขไม่ทุกข์เป็นพยัญชนะที่เป็นโลกียะอยู่ ยังเป็นสมมติอยู่ มาใช้คล้ายๆกันแทนกันเป็นไวพจน์กันเป็นซินโนนีมกันอยู่แค่นั้นแหละ ใช้แทนเฉยๆ แต่มันไม่ใช่อันเดียวกันนะ ไม่สุขไม่ทุกข์กับอุเบกขา เป็นคำที่พอถูไถใช้แทนกันได้
เอาพยัญชนะเพื่อให้รู้ว่า คุณยังหลงความสุขความทุกข์อยู่ เพราะยังมีกิเลส คุณดับกิเลสหมด สุขก็หมดทุกข์ก็หมดจึงจะเป็นอุเบกขา จึงจะเป็นนิวตรอน ว่างจากผลักดูด ไม่ผลักไม่ดูดแล้ว ก็อธิบายไปโดยความหมายเหล่านี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 14:21:57 )
รายละเอียด
เมตตา อาตมาว่า อาตมายืนอยู่ในฐานเมตตา ทำงานอยู่ชีวิตทุกวันนี้อยู่กับเมตตา ส่วนตัวเองนั้นอยู่กับอุเบกขา ตัวเองใช้อุเบกขาเป็นฐาน วิหารธรรม เป็นฐานวิหารธรรม เป็นฐานเครื่องอยู่ของตัวเองเป็นอุเบกขา คือจิตเป็นกลาง เป็นอุเบกขาที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ขออภัยที่ต้องชมตัวเอง สูงมากคือเฉยกลาง ใครจะกระทบกระแทกกระเทือนกระทบอย่างไร ก็กลางเฉย อย่างไรๆก็ Invisible ไม่มีตัวตนไม่เห็นตัวตนอาตมาหรอก คุณไม่เห็นตัวตนอาตมาหรอก Invisible
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยสัจ 4) ตอน ความเป็นกลางคือหมดสิ้นอันตา
เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:24:26 )
รายละเอียด
เขาจึงใช้คำว่าไม่สุขไม่ทุกข์เป็นคำไวพจน์กันเป็นซินโนนีมของอุเบกขา มันก็คือการปฏิเสธความสุขความทุกข์มันยังไม่กลางนะ แต่ถ้ากลางจริงๆคือไม่สุขไม่ทุกข์คือคุณสร้างอารมณ์คุณมีอาการของจริงๆ มันไม่ผลักมันไม่ดูด มันไม่สุขไม่ทุกข์ มันไม่มีอารมณ์ อาการสุขคุณต้องเข้าใจอาการนี้ด้วยตัวเองเป็นปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ ไม่ต้องให้ใครมารู้แทน ใครมารู้แทนเราไม่ได้เราต้องรู้ของเราเอง อ๋อ มันเป็นเช่นนี้เอง อาการสุข
สุขอย่างบางเบาจนกระทั่งเหลือน้อยนิดเป็นธุลีละออง หยาบใหญ่ยักษ์ บรรจุซองเป็นละอองธุลี คุณก็รู้อาการของมันว่ามันน้อยลงๆ มันก็ยังมี จนกระทั่งมันไม่มี สุขก็ไม่มีทุกข์ก็ไม่มีเฉย กลาง ว่าง คุณต้องอ่านอาการเมื่อคุณกระทบสัมผัสรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส กระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย สัมผัสเย็นร้อน อ่อนแข็ง เสียดสี คุณต้องเห็นอาการจิตของคุณกลางเฉย ไม่มีปลายข้างไหนเลย ไม่มีอันตา กลาง หนึ่งเดียว แข็งแรง อาเนญชา ไม่หวั่นไหวจะมา กระทบกระแทกกระทั้นอย่างไร ที่รู้ตัวที่ไม่รู้ตัวก็ช่างยังคงมั่นคง ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อาเนญชา
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 3
วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 08 กรกฎาคม 2564 ( 19:48:44 )
รายละเอียด
อุเบกขาเป็นฐานของจิตขั้นนิพพาน เป็นฐานต้น ต้องทำจิตให้มีอุเบกขา จึงจะว่าง ให้ว่างทีละ 2 ทีละ 2 เหมือนเลิกจาก 2 เป็น 1 คุณก็อยู่ที่ฐานสุขฐานสบาย ฐานที่ไม่ลำบาก ถ้าเป็นความสุขอย่างโลกียะเป็นความสุขที่เสพย์แล้ววนเวียนไม่รู้จบ เมื่อมีความสุขอย่างโลกุตระ ขอยืมคำว่าสุขที่มาจากคำว่า สุ คือดี ข คือว่าง ว่างนี่แหละดี ถ้าไม่มีอะไรสัมผัสเลยมันก็ว่าง มันไม่กระทบอะไรกับใครเลย อยู่กับมันอันเดียวก็ไม่เกิดปฏิกิริยาอะไรเลย นอกจากจะลึกไปอีก ว่าง แต่ถ้าคิดขึ้นมาจึงไม่ว่าง น่าเห็นใจผู้ที่ศึกษาแต่เฉพาะในความคิดไม่มีสัมผัสเหตุปัจจัยที่เป็นคู่ภายนอก ไปศึกษาเดี่ยวๆเพียงในความคิด อย่าไปคิดถ้าคิดแล้วมันไม่ว่าง ถ้าคิดแล้วไม่ใช่สมาธิสูงสุด ถ้าคิดแล้วไม่ใช่ปัญญา ขออภัยที่ต้องพาดพิงถึงอาจารย์บูรพา ผดุงไทย ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ที่วนเวียนอยู่ไม่ออกมาได้ ไปถือทิฐิของตัวเองว่าถูก มาศึกษาที่อาตมาพูด จะได้มีสัมมาทิฏฐิ ก็เขามีภูมิที่พอรู้ได้ แค่ชัดเจนว่าอาตมาถูกต้องกว่าคุณเท่านั้นแหละอาตมาว่าอาจารย์บูรพาตื่นได้เลย ตอนนี้ยังไม่ตื่นเลยยังจมอยู่ในของตัวเอง แล้วเขาก็คงไม่เชื่อว่าอาตมาเป็นพระอรหันต์จริง เรื่องก็จะนาน ก็ขออภัยที่พูดแล้วเหมือนยกตนข่มท่าน
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม2562
เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2562 ( 20:58:29 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:16:16 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:12:08 )
รายละเอียด
อุเบกขานั้นสูงกว่าไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์นั้นเป็นเวทนา เวทนานั้น เป็นอาการของจิตที่มันหยาบกว่า จิตที่หมดกิเลส จิตที่กิเลสลดลงสะอาดขึ้นจนถึงขั้นไม่มีกิเลส แล้วก็ตกผลึกจึงมีความ ปริสุทธา(บริสุทธิ์จากกิเลส) มันต้องเป็นจิตที่ผ่านกิเลสไม่เกิดอีก ผ่านอาสวะดับ เมื่ออาสวะดับแล้วจิตก็สะอาด ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงไป จิตอันนี้มารวมกัน สะสมกัน นี่แหละ จะบอกว่า ออม เหมือนคุณออมเงินออมทองออมทรัพย์ แต่นี่สะสมความบริสุทธิ์ ออมคุณวิเศษ ไม่ได้สะสมอะไรแต่มีแต่จิตสะอาดเท่านั้นที่เป็นจิตสะสม
เพราะฉะนั้นการที่คนไม่มีกิเลสแล้ว จิตจึงไม่ใช่เป็นจิตที่ไม่มีประสิทธิภาพ แต่จิตมันยิ่งรู้เต็ม มีสติเต็ม ยิ่งรู้โลกครบ ไม่ใช่ไปหลับ ไปหรี่ ยิ่งไม่รู้ ฌาน 1-4 ยิ่งฌาน 4 ยิ่งไม่รู้อะไรเลยต้องถอดถอนขึ้นมาเป็น ฌาน 1 2 จึงจะคิดอะไรได้ จึงจะมีสติปัญญา อย่างนั้นไม่ใช่เลย ซึ่งอย่างนั้นมันเป็นแต่ในสัญญาเท่านั้น ไม่ได้เกิดปัญญาเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ สุภกิณหาอย่างพุทธดับสุดสิ้นอาสวะ วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 31 มกราคม 2564 ( 14:59:37 )
รายละเอียด
อุเบกขามีความว่างกับวิญญาณ อากาสา คือ ความว่างจากกิเลส สะอาดบริสุทธิ์ไม่มีสภาพ 2 ผลักดันอยู่ เป็นกลางเลย มี 0 หรือ 1 เอาสภาพที่ยังมีก็เป็น 1ส่วน 0 ก็รับรู้แล้วว่ามันไม่มีเพราะฉะนั้นจะเป็นหนึ่งก็คือยังมีอยู่ จะเป็น 0 ก็คือไม่มีอะไรอยู่ ไม่มีกิเลส จะมีอยู่ก็คือวิญญาณสะอาด
อากาสาฯคือ สภาพเป็น 0 กับ 1 วิญญาณ ธาตุรู้คือตัว 1
อากิญจัญญาฯ ก็ตรวจกิเลสอีกทีนึงว่ามันไม่มีแล้วนะ ตรวจในขณะมีตาหูจมูกลิ้นกายใจพร้อมในขณะนี้แหละ มีวิญญาณ มีที่ตั้ง ไม่ใช่วิญญาณสัมภเวสี คนที่จะเรียนรู้ต้องมีครบทั้งตาหูจมูกลิ้นกายมีที่ตั้งที่เกิด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เทวนิยมใหญ่สุดโต่งอย่างไรในศาสนาพุทธ
วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 มิถุนายน 2564 ( 19:16:41 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563
เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2563 ( 10:36:14 )
รายละเอียด
1. ปริสุทธา (บริสุทธิ์ปราศจากกิเลสนิวรณ์ 5)
2. ปริโยทาตา (ผุดผ่องขาวรอบแข็งแรงแม้ผัสสะกระแทก)
3. มุทุ (รู้แววไว อ่อน-ง่ายต่อการดัดปรับปรุงให้เจริญ)
4. กัมมัญญา (สละสลวยควรแก่การงาน ไร้อคติ)
5. ปภัสสรา (จิตผุดผ่องแจ่มใสถาวรอยู่ แม้มีผัสสะ)
(ธาตุวิภังคสูตร พตปฎ. เล่ม 14 ข้อ 690)
อยู่ในพระไตรปิฎกมีคนอ่านภาษาไทยที่ท่านแปลมาเป็นภาษาไทย แปลมาว่า บริสุทธิ์ ผุดผ่อง มุทุ ท่านแปลว่า อ่อน ควรแก่การงาน ผ่องแผ้ว ท่านแปลมา 5 อย่าง อาตมาดูแล้ว ทำไมคุณธรรม 5 ข้อนี้ ขยายความจากอุเบกขาเป็นองค์ธรรมของอุเบกขา ซึ่งเป็นฐานจิตของพระอรหันต์ ทำไมใช้ภาษาไทยคำว่า อ่อน อาตมาต้องไปเปิดดูบาลี อ๋อ.. “มุทุ” ท่านแปลว่า “อ่อน”
ที่มา ที่ไป
เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม 2564 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 17:14:30 )
รายละเอียด
เจตสิก หรือจิตมีสภาพอุเบกขา มีลักษณะอาการวางอารมณ์เป็นกลาง, ความรู้สึกเป็นกลาง ไม่มีกิเลสชอบ ไม่มีกิเลสชังอย่างไม่หลง
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 300
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:13:14 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:15:36 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:12:30 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นเมื่อลงสุดท้ายสั่งสมเป็นสมาธิของโพชฌงค์แล้ว ตัวสุดท้ายเป็นอุเบกขาสัมโพชฌงค์ คำว่า สัมโพชฌงค์ก็คือมีคำว่า สมะ เข้ามาประกอบ สม คำนี้ยิ่งใหญ่มาก
สัมโพชฌงค์เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ เป็นองค์ประชุมองค์ประกอบวิธีการให้เกิดความตรัสรู้ เมื่อมีสัมโพชฌงค์มาตลอดแล้วก็ปฏิบัติ สัมโพชฌงค์คือเครื่องปฏิบัตินั้นได้ผลมาเรื่อยๆจนมาถึงสมาธิ จุดจบอยู่ที่อุเบกขา ฐานนิพพานก็คืออุเบกขา สั่งสมลงมา เพราะฉะนั้นคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่ของอุเบกขา คุณต้องรู้อาการของมันอย่างสมบูรณ์แบบจริงๆเลยว่าสะอาดจากกิเลสแล้วก็สั่งสมตกผลึกลงมาบริสุทธิ์ คัดเอาตัวที่สะอาดบริสุทธิ์สิ้นอาสวะลงไปอีก ได้ตัวใหม่เพิ่มเติมขึ้นเป็น ปริโยทาตา ได้เพิ่มๆ แกนมุทุ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ โพชฌงค์ 7 สัปปุริสธรรม 7 โดยพิสดาร วันพุธที่ 14 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 เมษายน 2564 ( 19:50:46 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2563 ( 10:14:30 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:04:11 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:13:33 )
รายละเอียด
พระพุทธเจ้าแจกวิภัชไว้ซึ่งทำจิตให้เก่งเป็นฌาน 4 บรรลุสูงสุดเป็นอุเบกขา ซึ่งแจกอาการของอุเบกขาออกเป็น 5 ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา นี่แหละคือโลกใหม่ที่เป็นฐานนิพพาน โลกหน้าโลกโลกุตระโลกใหม่ ซึ่งผู้เข้าถึงอาการจิตทำจิตให้เป็นจิตบริสุทธิ์ ปริสุทธา บริสุทธิ์จากอะไร บริสุทธิ์จากกิเลส กิเลส หยาบ กลาง ละเอียด ไม่มีเลย
อยู่กับโลกก็ยิ่งรู้โลก โลกวิทูจิตก็ยิ่งก้าวหน้ามีความบริสุทธิ์มากขึ้น ปริโยทาตา แล้วยิ่งมีเวลายิ่งอยู่กับโลก ยิ่งกระทบกับโลกทุกอย่าง จิตก็ยิ่งเจริญขึ้นๆๆปริโยทาตา ยิ่งบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นๆๆยิ่งเก่งในการทำจิตให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น ยิ่งสามารถยิ่งมีความพิเศษในการทำจิตของตัวเองให้สะอาด มีประสิทธิภาพสูงสุดขึ้น มีทั้งจิตสะอาด มีทั้งจิตปัญญาคือ มุทุ เร็วทั้งปัญญาทั้งศรัทธา เร็วทั้งจิตเจโตและปัญญา สองสภาพ เร็วทั้งคู่ ทั้งลักษณะทำให้จิตหยุด ทำใหัจิตรู้แจ้ง เป็นอันเดียวกันเลย 2 ใน 1, 1 ใน 2
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ประกาศโลกนี้โลกหน้า
วันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2564 ( 12:00:36 )
รายละเอียด
คำว่าอุเบกขา คำว่าบริสุทธิ์ คำว่าเฉยๆ กลางๆ จิตของคุณต้องกำหนดรู้อาการกลางๆ กับ อาการที่ยังมีแม้น้อยแม้นิด คุณต้องเทียบคู่กันให้ได้ นิดนึงน้อยหนึ่ง มันไม่มีอากิญจัญญายตนะ นิดหนึ่งน้อยหนึ่งก็ไม่มี มันอันเดียว กลาง 0 เป็นอันเดียวไม่เป็น 2 นะ คุณต้องชัดเจนในความรู้สึกในเวทนาอารมณ์อย่างนี้ อุเบกขาอันนี้อ่านดีๆ พวกที่ยังมีสุขน้อยนึงนิดนึงมันยังไม่ใช่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 20:07:32 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 19:57:41 )
เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 08:04:26 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 13:13:00 )
รายละเอียด
เวทนาที่เป็นสุขกับเวทนาที่เป็นเวทนา ที่จริงแล้วเป็นทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป เวทนาสุขกับเวทนาทุกข์มันอันเดียวกัน ถ้าจะดับต้องดับหมดเลยไม่มีเวทนาจึงจะเป็น พีชนิยาม เพราะฉะนั้นจิตที่เป็นจิตนิยามสามารถทำให้จิตเป็นพีชะได้ ไม่มีทั้งสุข ไม่มีทั้งทุกข์ เป็นอุเบกขา เป็นจิตกลางๆ
อุเบกขาเป็นพยัญชนะแทนสิ่งที่ไม่มี 2 ไม่มีคู่ ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ นี่แหละเป็นตัวสำคัญ โสมนัส โทมนัส ก็ไม่มี ในพยัญชนะที่อธิบายเรื่อง ฌานก็ดี สุขทุกข์ที่มีมาก่อนและไม่มีทั้งโสมนัส โทมนัส อย่างหยาบคู่สุข-ทุกข์ก็ไม่มี อย่างละเอียดโสมนัส-โทมนัสก็ไม่มี เป็นกลางๆ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ประกาศโลกนี้โลกหน้า
วันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2564 ( 12:53:44 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 23 กันยายน 2563 ( 12:31:30 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 18:28:46 )
เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 08:04:44 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 16:00:41 )
รายละเอียด
คือสุขมันหลอก มายามันหลอกเสมอ แล้วไม่เข้าใจว่าต้องกำจัดทั้งความสุขความทุกข์ อุเบกขาเป็นฐานนิพพาน ฐานของฌานที่ 4 เป็นฐานของการปฏิบัติธรรม ก็พอรู้เลาๆ แต่ไม่ชัดเจนไม่แม่นไม่ถูกต้องก็เลยปฏิบัติธรรมเหมือนเด็กๆเล่นกันไป ไม่รู้ว่าอะไรคือสาระแก่นแท้เนื้อหาก็เป็นอยู่อย่างนั้น พูดไปก็เหมือนกับไปดูถูกดูแคลน แต่เป็นการอธิบายธรรมสัจจะ ไม่ได้เป็นการดูถูกดูแคลน อาตมาเป็นผู้รู้เป็นผู้ใหญ่ บอกสาระสัจจะให้ฟังแล้วอาตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างจะดุ พูดชัดเจนและแรงเสมอ เพราะว่าพูดอย่างเบาเขาไม่ฟัง ฟังมันไม่กระเทือนเขา เหมือนเอาสำลีไปเช็ดผิวทุเรียน ความสุขไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปยึดถืออาศัย ต้องทำให้เป็นสูญ ทำให้เป็น อทุกขมสุข จิตก็เป็นอุเบกขา ทำจิตอุเบกขา ปริสุทธา ปริโยธาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 25623
เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:27:39 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:17:55 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:52:50 )
รายละเอียด
ผู้ที่ปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าจะมีญาณปัญญาแยกจิตของตัวเองออก ว่านี่มันเกิดอาการของเคหสิตะ ทำกิเลสออกด้วยตัวเนกขัมมะ ทำจนกระทั่งกิเลสหมดใน status quo ในขณะปัจจุบันธรรมใดๆ ธรรมะนั้นที่ทำให้กิเลสออกได้ อันนั้นเป็นอุเบกขา เป็นเนกขัมมสิตอุเบกขา เป็นอุเบกขาถึงขั้นทำกิเลสออกได้ เป็นแบบ ขุททกะ หรือ ขณิกะ ในปัจจุบันนั้นเป็นแต่ละครั้งเรียกว่า ขุททกะ หรือทำออกได้ในปัจจุบันนั้นเรียกว่า ขณิกะ กาละนั้น status quo ทำกิเลสออกจากจิตได้ อุเบกขาจึงเป็นฐานนิพพาน ทำได้อย่างนี้เสมอ กิเลสของคุณก็ถูกกำจัดออกเป็นอุเบกขา สุดท้ายก็เป็นอุเบกขาถาวร อุเบกขาสมบูรณ์ โดยที่มีจิตว่างจากกิเลสถาวรสมบูรณ์ อยู่กับโลกเขาอย่างกระทบสัมผัสสัมพันธ์ โลกียะทุกอย่าง จิตก็อุเบกขาตลอดกาล อุเบกขาจึงแทนนิพพานได้ จิตอุเบกขาคือจิตนิพพาน
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2561
เวลาบันทึก 21 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:35:59 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 25 มีนาคม 2563 ( 10:43:46 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:09:04 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:52:11 )
รายละเอียด
ตัวสิ้นอาสวะนั้น ตัวจิตที่สะอาดจากอาสวะนั้นมันตกผลึก ไม่ใช่เอาจิตอะไรที่ยังไม่สะอาดมาสั่งสมด้วย ไม่ใช่เด็ดขาด อันนี้แหละเป็นตัวโลกุตระซึ่งสำคัญมากตัวอุเบกขา มันหมดสุขหมดทุกข์แล้ว ไม่สุขไม่ทุกข์เป็นพยัญชนะ อุเบกขาเป็นพยัญชนะที่บอกตัวจบ ไม่สุขไม่ทุกข์แล้ว ไม่สุขไม่ทุกข์ยังนับเป็นโลกีย์ แต่อุเบกขานับเป็นโลกุตระแท้ๆ ถ้าแยกสองตัวนี้ ไม่สุขไม่ทุกข์ อทุกขมสุขกับอุเบกขา
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 05:10:38 )
รายละเอียด
ฐานนิพพานคืออุเบกขา
อุเบกขามีคุณสมบัติ ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา นี่เป็นจิตตื่นทั้งนั้นเลย เป็นอุเบกขา เป็นฌานที่ 4 เป็นอุเบกขาเจตสิก เป็นฐานของฌานที่ 4 ลืมตาสมาธิของพระพุทธเจ้านี้ยิ่งบริสุทธิ์ ปริสุทธา ปริโยทาตา จะสัมผัสอะไรอยู่ก็บริบูรณ์บริสุทธิ์อย่างนั้นอยู่ตลอด ปริโยาทาตา มีจิตมุทุภูตธาตุ คล่องแคล่วว่องไวรวดเร็ว มีทั้งเจโตและปัญญา มีความรู้สูงทำได้ดีเปลี่ยนแปลงได้ดีปรับ เปลี่ยนแปลงอนุโลมปฏิโลมกับอะไรต่ออะไรที่เราทำงานกับสังคม ก็เป็นความสามารถของ มุทุภูตธาตุ เพราะฉะนั้นจึงร่วมกับมนุษย์สังคมโลกที่มีผู้อยู่รวมกันร่วมกัน มีสัปปุริสธรรม 7 อนุโลมปฏิโลมกับเขาได้อยู่อย่างสบาย กัมมัญญตา ทำกรรมการงานที่เหมาะสมเหมาะควรทุกอย่าง รวมแล้วจิตก็จะประภัสสรอยู่ตลอดเวลา ผ่องใสผ่องแผ้วตลอดเวลา นั่นคือสมาธิหรือฌาน หรือเป็นนิโรธ
นิโรธก็ไม่ได้แปลว่าดับอย่างเดียว นิโรธเป็นการผ่องใสสว่างรับรู้เต็ม ทุกวันนี้ศาสนาพุทธเข้าใจคำว่าสมาธิของพระพุทธเจ้าไม่ได้ แม้แต่คำว่านิโรธก็เข้าใจผิด แต่เข้าใจว่าเป็นการดับอย่างไม่มีสัญญาเป็นอสัญญีสัตว์
ที่มา ที่ไป
พ่อครู เทศน์ ทวช.อโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่สันติอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน อานิสงส์ของคนที่ให้คู่ครองไปบวช
เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:28:34 )
รายละเอียด
1. เฉย ๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์
2. สภาวะเฉย โดยเฉพาะที่ใจ ไม่เดือดร้อนเพราะรู้ชั่วที่รู้ตัวอยู่นั้น และไม่ได้โลดแล่นดีใจเพราะดีที่ตัวรู้อยู่นั้นด้วย
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 1 หน้า 121 ,156
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:14:25 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:17:02 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:27:18 )
รายละเอียด
“ความรู้สึก”เฉยๆ กลางๆ ไม่สุขไม่ทุกข์นี้ ที่ภาษา ศัพท์ก็คือ “อุเบกขาเวทนา” ซึ่ง“อาการจิต”แบบนี้เราได้มา ด้วยการเรียนรู้ศึกษาและปฏิบัติตามความรู้ที่พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ แล้วนำมาสอน “จนเกิด-จนเป็น”ขึ้นในจิตเราจริงๆ จิตที่มี“อาการ”เฉยๆ ความรู้สึกกลางๆ ไม่สุขไม่ ทุกข์ นี้แหละ ที่เรียกสั้นๆกันว่า “จิตว่าง”หรือ“อาการสูญ” คือ ภาวะ“สูญ”จากกิเลส “กิเลสไม่มีในจิตใจ” ฉะนี้คือ ภาวะ ของ“นิพพาน” ซึ่ง“เทฺวนิยม”ทั้งหลายไม่มีหลักสูตรนี้ศึกษา
หนังสืออ้างอิง
คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 320
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 13:59:07 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:19:20 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:26:43 )
รายละเอียด
เพราะไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงความเป็น “เทฺว” คือ สุข-ทุกข์นี้เป็น “มายา”แท้ที่สามารถ “ดับ” มันจนสิ้นไม่เหลือ “ตัวตน” สู่ “อารมณ์อนัตตา” สำเร็จจริงสิ้นหมด “พระเจ้า”
“ความรู้สึกที่ไม่สุข-ไม่ทุกข์”นี้ มีคำไวพจน์(synonym)เป็นบาลีว่า
“อุเบกขาเวทนา” ความรู้สึกดังว่านี้มัน“วิเศษยิ่งกว่าสุข” เป็น
“คุณวิเศษ(อุตตริมนุสสธรรม)”จริงๆ ที่เป็น“อารมณ์นิพพาน”แท้ๆ
เพราะเป็น“ความรู้สึกของคนที่‘ดับเทฺว’อันเป็น‘สุขนิยม’ได้สำเร็จ
อย่างยากที่จะใช้“ตรรกะ”ใดๆคาดคะเน หรือขบคิดให้ลึกซึ้งปานใดๆ
ก็มิได้ เป็น“อารมณ์ของฌาน 4”แบบพุทธโดยเฉพาะที่สัมมาทิฏฐิ
จึงเป็น“ฌานวิสัย” ซึ่งมันเป็น“อจินไตย”จริงๆ นะ!
หนังสืออ้างอิง
หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 265 หน้า 211
เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 13:29:46 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นเมื่อสามารถทำกัมมัญญาได้ดีขึ้นเท่าไหร่ มันก็เป็นวิบากเป็นผลซับซ้อนให้ตัวเราเองเจริญขึ้นเป็น ประภัสสร ปภัสรา เรียกว่าเทวดาผุดผ่อง เทวดาผ่องแผ้ว เทวดาสดใส ยิ่งกว่าเพชร เทวดาที่มีราศีรังสียิ่งกว่าเพชร จุดสำคัญที่แยกได้ด้วยพยัญชนะ 5 ตัวบริสุทธิ์ ที่จริงมีมากกว่านี้แต่อาตมาเอามาแค่ 5 ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา สามารถละเอียดกว่านี้ได้อีก แต่อาตมาเอามา 5 ก็พอสมควรแล้ว นอกนั้นยังมีอะไรต่ออะไรละเอียดกว่านี้อีกบริสุทธิ์
ก็สามารถที่จะทำให้เกิดการนี้ได้ เรียกรวมกระบวน 5 ว่าอุเบกขา แจกวิภัชเป็น 5 จุดปริสุทธา คือบริสุทธิ์ ปริโยทาตา ก็บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น มันบริสุทธิ์เท่านี้ก็สะอาดเท่านี้ ทำให้สะอาดยิ่งขึ้นกว่านั้นเรียกว่า ปริโยทาตา เจริญขึ้นก็สั่งสมเป็น มุทุตา อยู่ในก้อนจิตเรียกว่าจิตเป็นก้อน ไม่เป็นก้อน ก็เป็นพลังงานละเอียดลออวิจิตรพิสดาร มุทุตา
เสร็จแล้วก็เป็นตัวจิตที่จะออกไปเป็นพฤติกรรม กัมมัญญา ยิ่งมีความเจริญมากขึ้น ก็ยิ่งปริสุทธา มันก็ยิ่ง ปภัสสรา มันก็ยิ่งขาวผ่องผ่องใส มันก็ยิ่งผ่องแผ้ว ไม่มีภาษาจะเรียกแล้ว ยิ่งสะอาด สว่าง สงบ สมบูรณ์แบบเลย เจริญขึ้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริยืแห่งพุทธ ครั้งที่ 46 จรณะ 15 พัฒนาปัญญา 8 ประการ วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 พฤษภาคม 2565 ( 13:40:15 )
รายละเอียด
อุเบกขาแบบสมถะกับอุเบกขาแบบวิปัสสนาต่างกันอย่างไร อุเบกขาแบบสมถะเรียกว่าเคหสิตอุเบกขาเวทนา เป็นความรู้สึกที่มัน กลางๆ เฉยๆ ไม่ผลักไม่ดูด ด้วยวิธีข่มจิต จิตก็จะนิ่งหยุด จิตจะนิ่งจะแข็งทื่อ ไม่คิดอะไร นั่นคือสมถะ แบบสมถะ ใช้เหมือนกัน ผู้ที่รู้แล้วก็ใช้ให้ถูกต้อง ว่าเราเจตนาจะใช้อย่างนี้
ส่วน จิต ที่มันอุเบกขาแบบวิปัสสนานั้นคือ จิตนี้ อุเบกขาคือเป็นกลาง เป็นกลางแล้วก็ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ ไม่มีผลักไม่มีดูด กับสิ่งที่มาเกี่ยวข้องสัมผัส จิตอุเบกขา เนกขัมมสิตอุเบกขาแล้ว เป็นจิตไว คล่องแคล่ว เป็นจิตปาคุญญตา เป็นกายปาคุญญตา คล่องแคล่ว ทั้งภายนอกและภายใน นี่คือจิตเฉยของวิปัสสนา ที่เป็นจริงอย่างนั้นเพราะอะไร เพราะว่ากิเลสมันไม่มี
คำว่าเฉยหรือว่าง คือว่างจากกิเลส อุเบกขาอันนี้ เนกขัมสิตอุเบกขา จิตมันว่างจากกิเลสแล้ว จิตมันไม่แข็ง ไม่ทื่อ ไม่ทึ่ม เหมือนเคหสิตะ มันต่างกันคนละมุมเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม Neo protest ที่มีปัญญาและไม่มีตัวตน วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 23 มีนาคม 2564 ( 20:33:24 )
รายละเอียด
เฉยๆแบบเคหสิตะ เป็นแบบอัตโนมัติยถากรรม มีกันไปเป็นตามธรรมชาติ คนเรามีบางเวลาอยู่เฉยๆไม่สุขไม่ทุกข์ด้วย มันไม่รู้หรอกไม่รู้ตัว ก็มีบ้าง แต่ส่วนมากเราต้องดิ้นแสวงหาเป็นสัมภเวสี เป็นภพ ได้ตามภพก็สุข พอแสวงหาอยากได้อยากมีอยากเป็นก็เป็นทุกข์ ได้มาก็เป็นตัวมายาที่เรียกว่าสวรรค์ เรียกว่าเทวดา
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 07:32:26 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:20:19 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:45:56 )
รายละเอียด
ความไม่สุขไม่ทุกข์หรือใจเฉย ๆ ตามปกติของมนุษย์ที่เกิดขึ้นได้บางเวลา บางขณะตามธรรมชาติ
หนังสืออ้างอิง
วิถีพุทธ หน้า 113 – 114
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:15:54 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:17:51 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:27:38 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:02:47 )
รายละเอียด
ความไม่มีสุขไม่มีทุกข์ที่เกิดจากการปฏิบัติฌานของพุทธตามลำดับตามหลักอาริยมรรคมีองค์ 8
หนังสืออ้างอิง
วิถีพุทธ หน้า 114
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:15:08 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:18:32 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:46:19 )
รายละเอียด
คล้ายๆกับที่ท่านขอยืมภาษาคำว่า“สุข”มาเรียก“นิพพาน” ว่า “นิพพานัง
ปรมัง สุขัง”นั่นแล ที่ผู้แปลมักแปลกันว่า “นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง”ฉันเดียวกัน แต่ที่แท้แล้ว“นิพพานนั้นยิ่งกว่าสุข” ซึ่งมันเป็น“คุณวิเศษ”
ที่ยิ่งๆขึ้นไปจาก“สุข”กันเลยเป็นไหนๆ
แต่นี่ก็เพียงยืมภาษาคำว่า “สุข” มาใช้เรียกแทนไปเท่านั้น
ฉะนี้แลคือ ความตรัสรู้อันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระพุทธเจ้า
“อุเบกขา”จึงพ้นภาวะ“สุข”ไปแล้ว และมี“ปัญญา”รู้จักรู้แจ้งรู้จริง
สิ้นสุดความเป็น“สุขนิยม”เด็ดขาด!
หนังสืออ้างอิง
หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 343 หน้า 254
เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2564 ( 10:54:43 )
รายละเอียด
เราสามารถรู้เนื้อแท้ในภาษาพยัญชนะต่างๆ จนละเอียดไปถึงขนาดอาการไม่มีกาม คืออาการว่าง อุเบกขา อัตตาก็ไม่มี ว่างจากอัตตา ไม่มีทั้งกามและอัตตา เป็นอุเบกขาก็ไม่มีทั้งความสุขความสุข อทุกขมสุข หรือไวพจน์ชัดเจนหรืออุเบกขา คือสภาวะเดียวกัน สรุป ทั้งอุเบกขา และอทุกขมสุข คือจิตของคนที่รู้ศึกษาแล้วทำให้จิตปราศจากกิเลสทั้งกามและอัตตา สะอาด บริสุทธิ์ปริสุทธา คือสะอาด ปริโยทาตา บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นคือแม้จะอยู่ในโลก กระทบสัมผัสด้วยเหตุแห่งตัวเร้า ตัวเร้าทั้งกามและอัตตาทำให้จิตไม่บริสุทธิ์ มันก็ยังบริสุทธิ์อยู่อย่างนั้น นี่เรียกว่าสภาวะธรรมของ ปริโยทาตา
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 09:04:05 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:21:12 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:46:51 )
รายละเอียด
น้ำหนัก หรือความเข้มข้นของอารมณ์เฉย ๆ ซึ่งไม่สุขไม่ทุกข์ กลาง ๆ ไม่ผลัก ไม่ดูด และเป็นอารมณ์สำคัญที่จะต้องเรียนรู้ให้ลึกซึ้ง
หนังสืออ้างอิง
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 118
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 13:12:17 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:19:15 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:28:00 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 11:53:20 )
รายละเอียด
สภาวะสิ่ง ๆ หนึ่งที่มีพลังงานรับรู้แล้วรีบเกาะ รีบดูด รีบติดอย่างหน้า-ตาเฉยไปอย่างเก่านั่นแหละ ก็ชักจะมีการยับยั้ง มีการชั่งใจ มีการตรวจ มีการไม่แน่ใจเกิดขึ้น มีการไม่สนิทใจเหมือนก่อนนั่นเอง แต่มันก็ยังไม่-พ้นสงสัยไปได้ง่าย ๆ จนกว่าจะเรียนจะรู้จะได้ข้อมูล ได้ความรู้มาครบพอลงตัวเต็มรอบไปแต่ละเรื่อง แต่ละมุม
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค2 หน้า52
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 12:15:20 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:20:23 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:48:45 )
รายละเอียด
บรรลุถึง
หนังสืออ้างอิง
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 151
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 12:13:26 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:21:10 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:28:18 )
รายละเอียด
อุโบสถต่าง ๆ ซึ่งหมายความว่ามีการกระทำ หรือมีสิ่งประกอบ หรือมีความกำหนดกันขึ้นมาด้วยความพยายามที่จะให้เกิดพรหมจรรย์ ให้-เกิดความประพฤติอันประเสริฐขึ้นแก่มนุษย์ทุกวิถีทาง
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 126
เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2562 ( 12:12:12 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:22:24 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:28:56 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 09:54:39 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:10:23 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:29:49 )
รายละเอียด
คือ ลัทธิหรือศาสนาที่สามารถทำความเป็น “2” (เทว) หรือมากกว่า “2” ไปอีกเท่าใดก็ตาม ให้ลงมาเป็น “1” หรือ “0” ให้สำเร็จแท้จริง โดยเฉพาะ “สุข-ทุกข์” ที่เป็น “ธรรมะ 2” ได้สำเร็จ เด็ดขาด เป็น “อาริยสัจ” ของมนุษย์แท้ๆเลย
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า163
เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 13:59:43 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:53:30 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:30:25 )
รายละเอียด
พุทธมีพิเศษอีกต่างหาก ที่มีเฉพาะ "อเทวนิยม" เท่านั้น ศาสนาใดก็ไม่มีเหมือน พุทธมีเนื้อหาที่เป็น "โลกุตระ" ิเช่น
@มุ่งหมายความไม่สุขไม่ทุกข์ (อทุกขมสุข หรือ เนกขัมมสิตอุเบกขา)
@หรือพุทธเรียนรู้ "ภพ" เรียนรู้ "ชาติ" และปฏิบัติตนจนสามารถ "ดับภพจบชาติ" ลงได้... เรียกว่า "นิพพาน" นี่คือ "บุญ" ที่เข้าสู่ภูมิโลกุตระซึ่งพิเศษมีเฉพาะพุทธ
@มี "โลกุตรธรรม-โลกุตรกุศล" ซึ่งเทวนิยมไม่มี
หนังสืออ้างอิง
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 9-10
เวลาบันทึก 01 พฤศจิกายน 2562 ( 12:41:39 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:52:26 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:31:17 )
รายละเอียด
ไม่ยึดถือเทพเจ้าหรือพระเจ้าว่าเป็นอัตตาที่เที่ยงแท้
หนังสืออ้างอิง
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 18
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 06:46:55 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:23:08 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:31:38 )
รายละเอียด
อเทวนิยม นั้นสนใจเรื่องมารหรือซาตานเป็นเอก เป็นหัวใจของศาสนาพุทธ เอาจริงเอาจังกับ "มาร-ซาตาน" ที่เป็น "ตัวเหตุแห่งทุกข์" วิชชาหรือญาณทัสสนะของพุทธจึงเป็น "ตาทิพย์" แบบวิทยาศาสตร์ ผู้มี "ญาณทัสสนะหรือวิปัสสนาญาณ" ตั้งแต่ "นามรูปปริจเฉทญาณ" ไปตลอดทั้ง "ญาณ 16" ชนิดประจักษ์แจ้งเห็นโต้งๆกับ "ตา" ตนเอง "ตา" คำนี้ไม่ได้หมายเอา "ตาเนื้อ" ลูกกลมๆอยู่ในใบหน้านี้นะ แต่คือ "ตาธรรม" หรือ "ธรรมจักษุ" ที่เป็น "ญาณทัสสนวิเศษ" หรือ "วิชชา 8" หรือ "ญาณ 16" ที่สามารถเห็นหลัดๆเป็นปัจจุบัน (สันทิฏฐิโก)
หนังสืออ้างอิง
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 245,253
เวลาบันทึก 06 กันยายน 2562 ( 15:23:39 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:51:35 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:48:15 )
รายละเอียด
ในช่วงนี้อาตมาหยิบเอาปัญญา 8 ของพระพุทธเจ้ามาขยายความ ขยายความไปแล้วพิมพ์ออกมาเป็นเล่ม 400 กว่าหน้า เล่ม 1 นี่ เล่ม 2 จะออกอีก อาตมาทำไปแล้วคิดว่าจะทำเล่ม 3 ซึ่งก็อาจจะต่อไปเล่ม 4 เล่ม 5 ก็ยังไม่รู้เลย แตกออกขยายคำว่าปัญญา
อันนี้เป็นเรื่องลึกซึ้งมาก ปัญญาเป็นความรู้ความฉลาด แบบโลกุตระซึ่งเป็นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่ตรัสรู้ ไม่ใช่โลกียธรรม เป็นโลกุตรธรรม ซึ่งเป็นความรู้ที่แปลกแยกแตกออกมาจากความรู้โลกียธรรมของมนุษย์ เป็นของศาสนาทุกศาสนาที่เป็นเทวนิยม
แต่ของพระพุทธเจ้านี้เป็น อเทวนิยม เป็นโลกุตระ อันนี้จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะรู้ แต่มันเป็นความจริงที่ประเสริฐสุด
อาตมาภูมิใจที่ชาตินี้เกิดมาทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ พาคนมาทำสำเร็จ ปรากฏ ก็ขอยกอ้างประกอบอย่างสำคัญ ในหลวง ร.9 ของเรา เป็นพุทธศาสนิกชน เป็นพุทธมามกะที่แท้ เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องของโลกุตรธรรมสืบทอดกันมา ในกรรมวิบากของพระองค์มาจนกระทั่งถึงปางนี้ ท่านเป็นโพธิสัตว์แท้ๆ
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบคุณตู่-จตุพร และทนายนกเขา ดำเนินรายการโดย คุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 11:47:48 )
รายละเอียด
โดยแยกสภาวะที่เป็นโลกียะกับสภาพที่เป็นโลกุตระ แยก 2 อย่างให้ได้ ผู้ที่เป็นผู้สัมมาทิฐิติดี ฝึกหรือศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าอย่างสัมมาทิฏฐิ จะแยกธรรมะ 2 อย่าง ธรรมในธรรม อย่างนี้เป็นโลกียะอย่างนี้เป็นโลกุตระ เด็กๆของเราบอกว่า อันนี้เป็นโลกียะ อันนี้เป็นโลกุตระ เขาไม่ประสีประสาแต่ก็ เลือกได้ น่าเอ็นดู เพราะฉะนั้น ธรรมะใหญ่ๆในมนุษยชาติเทวนิยมมีหมด ในโลกนี้มี 200 กว่าประเทศ
อเทวนิยมที่เป็นพุทธมี 1 ประเทศคือไทย นอกจากนั้นเป็นพุทธที่เพี้ยนออกจากโลกุตระ หลายประเทศเพี้ยนไป แต่ก่อนก็มีโลกุตระมาก่อน พม่า เป็นต้น ลาวเป็นต้น เขมร เป็นต้น ที่รับมาจากอินเดียของศาสนาพระพุทธเจ้ามา แล้วก็มาเผยแพร่ตกในแคว้นนี้ดินแดนนี้ อยู่ในเสนาสนะสัปปายะอันนี้ สุดท้ายอยู่ที่ประเทศไทยเป็นหลัก เป็นของจริง อาตมานี่แหละขอยืนยันว่า เป็นของจริง เป็นพุทธที่ยิ่งใหญ่นำพาโลกุตระหยั่งลงไปในสังคม
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก
เวลาบันทึก 17 มกราคม 2566 ( 12:43:59 )
รายละเอียด
ซึ่งอาตมาไม่ได้พูดอย่างมงายไม่ได้พูดอย่างหลงตัวหลงตนอะไรมากมาย อาตมาว่าเมืองไทยเป็นเมืองเล็กก็จริง มีพลเมืองไม่ถึง 100 ล้าน แต่ว่ามีประสิทธิภาพในการสร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพในการบริหารมนุษยชาติเอาคุณธรรมเป็นแกนหลัก เพราะเรานับถือศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาที่เด่นมากในเรื่องนี้ แต่ประชากรโลกเป็นเทวนิยมส่วนใหญ่ ไม่ใช่พุทธที่เป็นอเทวนิยม จะว่ากันจริงๆแล้ว อเทวนิยมนั้นมีไม่กี่ลัทธิไม่กี่ศาสนาในโลก แต่มันไม่ชัด เป็นอเทวนิยมที่ไม่เป็นโลกุตระไม่นับถือพระเจ้าไม่เอาพระเจ้า อย่างเช่นศาสนาเชนของพระศาสดามหาวีระ แต่เขาก็ไม่มีหลักเกณฑ์อะไร เอาแต่หนีปลีกเดี่ยวสุดโต่งไปทางมักน้อยสันโดษ ไม่เอาสังคมไม่เกี่ยวอะไรเลย โต่งไปดิ่วๆ น่านับถือเหมือนกันทำได้ยากแต่มันไม่เป็นประโยชน์ ทำตัวเองสูญเปล่า ตัวเองทิ้งหมด เป็นแต่เพียงว่าไม่ฆ่าตัวตายเท่านั้นปล่อยให้มันหมดอายุขัยไปอย่างนั้น อดทนจริงๆ ด้วย อย่างนี้เป็นต้น มันก็มีเป็นอเทวนิยม ไม่เอาเทว
อาตมากำลังอธิบายคำว่า เทว เป็นเรื่องยิ่งใหญ่มากเข้าใจได้ยากมีหลายมากมายเหลี่ยมมุม ละเอียดลออ ติดตามให้ดีๆศึกษาให้ดีๆเมืองไทยนี้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้ดีจริงๆ ใช้ได้ และเอาออกมาใช้เป็นของแท้ ไม่ใช่ว่าเข้าใจแต่เอาไปใช้หรือประยุกต์ไม่ได้ แต่ว่าอันนี้จิตวิญญาณได้ผลประ
โยชน์จริงๆ
จิตวิญญาณที่เป็นแล้วกับจิตวิญญาณที่ยังไม่เป็น เป็นแต่เพียงตรรกะมันคืออะไร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม สิ้นยุคประชาธิปไตย-เผด็จการ วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561ที่บ้านราชฯ
สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน สิ้นยุคประชาธิปไตย-เผด็จการ
เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:47:15 )
รายละเอียด
อเทวนิยมไม่ใช่ไม่รู้ แต่รู้หมด แล้วไม่มีความสงสัยในเทวนิยม เพราะเข้าใจรายละเอียดของจิตเจตสิกต่างๆ อย่างละเอียดหมดเลย ละเอียดถึงขั้นที่อาตมาใช้พยัญชนะและเอาพระบาลีที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ มาใช้เท่าที่พอมีในพระไตรปิฎก มีในบาลีที่แปลความหมายไว้เหล่านี้ แล้วเอามาเรียบเรียงให้ฟัง ตามที่ท่านตรัสในพระสูตรบ้าง อาตมาก็มาต่อให้ฟัง
เช่น พลังงานของธรรมนิยาม 5 พลังงาน 1. เป็นพลังงานขั้นอุตุ ขั้นวัตถุเท่านั้น จะสูงส่งระดับไหน สูงส่งระดับพระอาทิตย์ สูงส่งระดับปรมาณู ไม่ใช่ชีวะ ความหมายที่ชัดเจนก็คือ มันไม่ใช่ชีวะ มันจะแรง จะมาก จะสูงส่งเท่าไหร่ ภูเขาไฟระเบิด พระอาทิตย์ 1 ดวง พลังงานในพระอาทิตย์ไม่มีชีวะ เป็นมหาภูตรูป ดิน น้ำ ไฟ ลม
มหาภูตรูปมี 4 แล้ว ทีนี้เริ่มเป็นชีวะ ชีวะก็คือความเจริญเรียกว่า ภูตะ หรือภูต คือความเจริญมาเป็นชีวะ เริ่มมาเป็นชีวะอันแรกเรียกว่า ภูตคาม คามนี่ ก็เรียกว่าเจริญเป็นพวกบ้านพวกเมือง ไม่ใช่พวกป่าพวกเถื่อน ไม่ใช่คนเถื่อน เป็นคนเมือง คนเจริญ คาม
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 46 บุญกับฌาน มีพลังงานต่างกันอย่างไร วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ขึ้น 1 ค่ำเดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2567 ( 19:46:20 )
รายละเอียด
จะให้มีก็อยู่ได้ตลอดมี จะให้ไม่มีก็ทำได้นี่มันจบเลย เป็น อนุปคัมมะ เราก็ไม่ปฏิเสธว่าเรายังมี เราจะเป็นอะไรก็ได้ เราก็ไม่ได้เข้าข้างไหนเพราะมันต้องมี 2 อย่างอยู่ในโลกของ เทวะ มีกับไม่มี เราก็รู้หมดครบทั้งมีและไม่มี
เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ปฏิเสธว่า เรามี แต่เราไม่มี เป็นแต่เพียงว่าเรายังไม่ทำความไม่มีเป็นที่สุด ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้นสุดยอดปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นคนพิสูจน์เลยว่าพระเจ้าอย่ามาทำเป็นเจ้าของจิตวิญญาณเลย เราต่างหากสามารถแยกธาตุวิญญาณของตัวเองได้เลย เป็นดิน น้ำ ไฟ ลม ไปได้เลย
พระเจ้าที่เคยมีทะเบียนคนนั้นคนนี้อยู่ ตรวจสอบแล้วก็บอกว่าทำไมมันหายไปไหน ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปแล้ว ทำไมมันไม่ไปหาพระเจ้า ตายแล้วทำไมไม่มาหาพระเจ้า หรือเขาจะรับสิทธิพิเศษจากใคร ไม่ใช่พระเจ้าแน่ พระเจ้าที่ยืนยันเป็นเจ้าของอัตตาทุกอัตตา
สิ่งนี้เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่เอามาไขความอยู่ทุกวันนี้ ยังไม่มีใคร มาไขความ อาตมาเขียนขยายความอยู่ทุกวันนี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 ประการ 3 ข้อแรก โดยพิสดาร วันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2565 ( 21:09:23 )
รายละเอียด
ทำตนเองให้เป็นที่สุดเท่าใดๆตามที่ตนต้องการด้วยกรรม”ของตนเองได้ แม้จะทำให้เท่า“พระพุทธเจ้า”ก็มีสิทธิ์ จึงมี“อิสระ”สูงสุด ด้วยประการฉะนี้แล
เพราะ“กระทำเอง”ได้ด้วยตนเองจริง ไม่ต้องให้ใครมาบงการ หรือมาจัดการให้ จึงมีความเป็นใหญ่ใน“ตนเอง”เต็มที่สุด
ศาสนาพุทธจึง“จัดการ(อภิสังขาร)ตนเอง” ให้เป็นไปได้ด้วย“การกระทำ(กรรม)ของตน เอง” ชนิดที่มีผลสำเร็จจริงยิ่งใหญ่เป็นลำดับขั้นตอน อย่างน่าอัศจรรย์ ก็เพราะจัดการ(อภิสังขาร)กับเทฺว”คือ“ธรรมะ 2”นี้แลแท้ๆ ได้จริงๆ
ซึ่งรู้จักรู้แจ้งรู้จริงใน“ธรรมะ 2”อันเป็น“เทฺว” และจัดการกับความเป็น“เทฺว”ได้ชนิดที่สามารถตีแตกแยกภาวะที่เป็น“โลกียธรรม” กับขั้นภาวะที่เป็น“โลกุตรธรรม”ได้จริงอย่างมีปรากฏการณ์(phenomenon)ในคนสำเร็จจริง
จึงมี“นิพพาน”จริงได้สำเร็จ วิเศษแท้
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562
เวลาบันทึก 12 กุมภาพันธ์ 2563 ( 18:54:01 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:22:52 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:47:41 )
รายละเอียด
อเนก คือ อน + เอก
อน แปลว่า ไม่ใช่
อเนก ก็คือ ไม่ใช่เอก หรือ ไม่ใช่ 1 มากกว่า 1 ก็คือ มากมาย หลากหลาย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้ อาหารให้บรรลุถึง อรหันต์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:32:56 )
รายละเอียด
ไม่หวั่นไหว , มั่นคง ไม่ไหวหวั่นแท้จริง
หนังสืออ้างอิง
สมาธิพุทธ หน้า 270
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 14:24:00 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:23:40 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:31:57 )
รายละเอียด
แข็งกล้า องอาจพอตัวแล้วจริง
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 78
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 15:33:11 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:24:58 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:32:52 )
รายละเอียด
1. ไม่หวั่นไหว
2. สภาวะที่มั่นคง ไม่หวั่นไหว
หนังสืออ้างอิง
อีคิวโลกุตระ หน้า 228 , ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 111
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 273
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 15:34:50 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:26:15 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:33:35 )
รายละเอียด
คือต้องหลังจากสมาธิ มีสภาพสามเส้า หนึ่ง เริ่มต้นทำให้เกิดความบริสุทธิ์เป็นองค์ธรรมอุเบกขา 5 ประการ ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา ทำได้แล้วก็ทำอันนี้อย่างเป็น อาเสวนา ภาวนา พหุลีกัมมัง เป็นอนุรักขนาปธานทำอย่างนี่แหละ ตามองค์ประกอบดังนี้ คุณก็ทำอย่างนี้ให้เกิดจิตที่แกร่งเป็นอุเบกขา คุณก็ทำจิตอย่างนี้สั่งสมลงไปในขณะที่ทำนั้นก็จะเกิดการสั่งสม อเนญชา หรืออนุรักขณาปธาน 1 2 3 4 5 6 7 8 มันจะจับตัวผนึกกันเเข็งเเรงเรียกว่าสมาธิ แปลว่าจิตตั้งมั่น มันแข็งแรงตั้งมั่น ต้องเกิน 7 เกิน 9 จึงจะแข็งแรงมั่นคงจึงจะได้ 1 หน่วยถ้าเกิน 10 เกินไปอีกเป็น 20 30 40 ยิ่งปฏิภาคทวี เป็น 50 เป็น 100 จึงสั่งสมตั้งมั่นไปอีก ถ้าเป็น 1000 หรือ 10000 มันก็จะเป็นรอบไป คุณจะเอารอบอะไรที่ละ 3 เส้าๆๆ ก็จะถือเป็นความตั้งมั่นที่แข็งแรงยิ่งขึ้น
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562
เวลาบันทึก 12 มกราคม 2563 ( 17:15:31 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:26:29 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:39:15 )
รายละเอียด
สรุปแล้ว จิตสะอาดสั่งสมลงเป็น อเนญชา ยิ่งขึ้นๆ ไม่หวั่นไหวๆ ตั้งมั่นแข็งแรง
เพราะฉะนั้นที่อาตมาพยายามอธิบายว่า จิตที่จะเป็นอุเบกขานี่ เป็นจิตที่จบจากกระบวนการของ จรณะ 15 วิชชา 8
วิชชา 8 ตั้งแต่วิปัสสนาญาณไปจนกระทั่ง จบอาสวักขยญาณ แยกให้ฟังแล้ว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 07:41:48 )
รายละเอียด
การปรุงแต่งอันไม่หวั่นไหว
หนังสืออ้างอิง
คนจะมีธรรมะได้อย่างไร / เราคิดอะไร ฉบับ 288 หน้า 47– 48
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 15:35:38 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:27:15 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:39:52 )
รายละเอียด
วันนี้วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก ขึ้น 3 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ เราก็มาพูดจาโอภาปราศรัยกันเรื่องธรรมะธรรมโม โลกเขากำลังถกกัน อภิปรายกัน แสดงความเห็นกัน แนะนำกัน เรื่องของนายกฯ เขาจะได้นายกฯคนใหม่กันประเทศไทย อาตมารู้สึกว่าอาการของสังขารมันออกมากขึ้น อาการความเสื่อมมันเสื่อมมาก แต่ก็พยายามประคอง พยายามชะลอ ใช้คำว่าพยายามประคองหรือชะลอชีวิตจริงๆ เพราะว่ามันจะหยุดทำงานแล้วมันจะพักมันได้เวลาวาระมัน แต่ก็เห็นว่ามัน เอาน่ะ..ลากไปก่อน
ถ้าอาตมาไม่สามารถวางใจหรือไปติดยึดว่า คือมันเป็นทุกข์ชัดๆเป็นทุกข์อริยสัจ มันต้องพยายามอยู่กับอาการปลง เรียกว่า สังขาร เป็นอภิสังขาร ซึ่งอาตมาต้องใช้ อเนญชาภิสังขารมาก เพื่อให้ทรงไว้ได้ต่อไปมากทีเดียว ขออภัยที่ต้องใช้พยัญชนะ อเนญชาภิสังขารมาขยายสภาวธรรม เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผู้ที่ยังไม่ถึงนึกเอาเองไม่ได้หรอกเป็นอจินไตย มันเป็นอาการที่เราไม่เห็นดวงดาวที่มันไกลพ้นไปจากสายตา มันไกลลิบมองไม่เห็น นอกจากจะใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มันมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้น คุณยังไม่เป็นกล้องตัวนั้น อย่างไรก็เห็นไม่ได้อย่างนี้เป็นต้น
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 23 การเมืองไทยวันนี้คือ สงครามความรู้กับการกระทำ วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 14 มิถุนายน 2566 ( 14:50:17 )
รายละเอียด
จิตตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
หนังสืออ้างอิง
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 275
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2562 ( 15:36:27 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:10 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:40:15 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2563 ( 08:16:17 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 13:17:25 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 10:28:38 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:52:34 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:49:23 )
รายละเอียด
อาตมาพูด พวกเราก็พูดส่งเสริมย้ำพวกนี้ไป ให้มันเข้าหูพวกที่โง่เง่า จนกระทั่งรู้สึกว่าเอ๊ะ…มันจริงหรือเปล่านะ จนกว่าจะได้คิด ได้สำนึกขึ้นบ้าง ไม่งั้นก็จะโง่ไปอีก ดักดานอีกนานเท่าไหร่ไม่รู้ ถ้าโลกมีแนวคิดอย่างอเมริกันกว่าครึ่งของประเทศในโลก รับรองอาตมาว่า ไม่เกิดมาเป็นคนดีกว่า เกิดมาเป็นคนในยุคโง่ๆอย่างนี้ มันจะทุกข์ทรมานทั้งโลกเลยนะ นี่ขนาดมีไม่กี่ประเทศก็กระเหี้ยนกระหือรือขนาดนี้ ในโลกมี 200 กว่าประเทศ ขวนขวายพัฒนาอาวุธร้ายแรงเพื่อจะฆ่าคน มีไม่กี่ประเทศหรอก หากว่ามีสัก100 ประเทศผลิตอาวุธกันมาฆ่ากัน คนในโลกแสดงฝีมือฆ่ากันด้วยการสร้างอาวุธที่มีประสิทธิภาพ มันก็อยากจะอวดฝีมือมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพฆ่าคนได้แก่ มันสร้างอาวุธ ก็อยากจะมาโชว์ นี่แหละมันซ้อนกันอยู่เป็นเหตุปัจจัยอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะเห็นเป็นความโง่ลึกซึ้งซับซ้อนไปเรื่อยๆหรือไม่ แล้วก็ไปยกย่องชมเชยกัน ว่าเป็นประเทศอาริยะ ที่จริงมิลักขะ (คนเถื่อน) สุดๆ มิลักขะ แปลว่า คนเถื่อน ส่วนอาริยะ แปลว่าคนเจริญ แล้วก็ชมกันว่านั่นประเทศอาริยะ
จริงๆแล้วมันเป็นประเทศ มิลักขะ เห็นไหมว่ามันซับซ้อนมันกลับกลอกมันหลอกโลก โลกก็เชื่อตามเดินทางตามไปซูฮกเป็นบริวารอีก อย่าไปเป็นคนโง่เง่าขนาดนั้นเลยประเทศไทย พูดแล้วเหมือนจะทำความแตกแยก แต่ที่จริงทำความแตกต่างให้เห็นว่าสิ่งที่ยึดถือปฏิบัตินั้นมันต่างกัน และไม่ทำให้เกิดแตกแยกอะไร เอาสัจจะวิชาการความรู้มาพูดให้ฟัง มาวิจัยวิจารณ์ให้ฟัง สิ่งที่จริงมันเป็นเช่นนั้น ไม่ใช่ไปว่าไปใส่ไคล้ ไม่ใช่โมเมหาเรื่องหาความอะไร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก ครั้งที่ 41 อาหารเป็น 1 ในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 20:34:33 )
รายละเอียด
ต่อไปเอเปคจะไปที่อเมริกา อเมริกาไม่ใช่แดนที่จะเอาคุณลักษณะ ที่มาหยั่งลงในประเทศไทยไปหยั่งลงได้ที่อเมริกา ไม่ใช่ ภูมิประเทศ สิ่งแวดล้อม และจิตวิญญาณคนละแบบ เพราะว่าอเมริกานั้นเป็นโลกียะ 100% แล้วจัดจ้านด้วย จะต้องเป็นเจ้าโลกให้ได้ จะต้องรุนแรง ฆ่าแกง ฉันไม่กลัว เป็นอย่างนั้น แล้วกำลังล้มเหลวด้วย
อาตมาบอกได้อย่างนี้ล่ะ อเมริกา เจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกาอยากจะมาพบอาตมานะ เพราะเห็นว่าอาตมาพูดเป็นอย่างไร อาตมาไม่ได้รังเกียจอเมริกา เขาเป็นคนน่าสงสาร แต่อาตมาพูดความจริงว่า เขากำลังล้มเหลวและเขาก็หลงตัวเองอยู่ เขาอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะ
1. ดอลลาร์เก๋ๆ กระดาษแบงค์กงเต็กกับ
2.อำนาจที่สามารถสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ได้เก่ง
เขาอยู่ได้ ได้เท่านี้เอง อยู่ได้ด้วยแบงค์ดอลลาร์กับอยู่ได้ด้วยอำนาจอาวุธยุทธภัณฑ์ เขาอยู่ได้เท่านี้แหละ นอกนั้นเขาก็ไม่มีอะไรเหลือหรอก อเมริกา พูดอย่างนี้อเมริกาอาจจะร้อน โดนอาตมาว่ากระหน่ำย่ำยี แต่ว่าอาตมาพูดชัดจากความจริงถ้าเขารู้ตัวเสร็จแล้ว แล้วเขาก็ปรับตัวให้ดีขึ้น
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 3 พ่อครูพบ ดร.สุริยะใส กตะศิลา วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2565 ( 19:53:17 )
รายละเอียด
ซึ่งอาตมาก็เคยพูดอยู่แล้วว่าอาตมาจะนำพาความรู้พวกนี้ไปถึง 5,000 ปีไหม จะสร้างความเป็นประชาธิปไตยแบบนี้ไปให้เจริญไปอีก เจริญแล้วมันก็จะเป็นโลกุตระ ก็คือประชาธิปไตยโลกุตระ จะเจริญขึ้นไป ถ้าไปถึง 5,000 ปีได้เนื้อแน่นแก่นของความเป็นประชาธิปไตย ก็จะกระจายให้แก่ชาวโลกต่อไป โลกในตะวันตก ในยุโรป อเมริกาจะได้มาเรียนประชาธิปไตยที่เขายังไม่กระดิกหู ยังไม่มี อัญญธาตุ ยังไม่มีความรู้ออกมาจากกรอบโลกียะเขายังมีความรู้แค่ประชาธิปไตยโลกียะ
เขายังไม่ออกมา ไม่มีอัญญธาตุ ที่เป็นธาตุรู้แบบใหม่ เป็นธาตุรู้ที่แบบไม่ใช่โลกียะ จนกว่าจะมีหน่วยถึง 50 หน่วย 60 หน่วยของ อัญญธาตุ ถึงจะเอามาพูดแล้วเอามาเป็น จนกว่าจะถึง 70 หน่วย 80 หน่วย 100 หน่วยเต็มก็จึงจะทำงานได้เต็ม
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 3 วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 มีนาคม 2566 ( 19:58:41 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 19 กันยายน 2563 ( 12:08:10 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 10:58:08 )
รายละเอียด
ตัวอย่างสังคมการเมืองโลกเช่นอเมริกา ก็คอยดูต่อไปเขาก็จะมีอะไรให้ดู อาตมาเปรียบเทียบให้ฟังว่าอเมริกาเป็นการเมืองขาเดียวเป็นการเมืองที่ไม่มี 2 สภาพคือต้องมีสภาพทั้งจิตวิญญาณและร่างกาย แต่ของเขาเป็นสภาพขาเดียวไม่มีจิตวิญญาณ มีแต่รูปร่างรูปแบบมีแต่กฎหมายเป็นหลัก ไม่มีจิตวิญญาณร่วม อะไรพวกนี้ซึ่งอาตมาก็อธิบายตามลักษณะที่อาตมามีภูมิว่าอันนี้เป็นของพระพุทธเจ้า ความเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่เอาตัวรูปเป็นหลักแต่เอาตัวนามเป็นหลักเอาจิตวิญญาณเป็นหลัก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 25 วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 03:57:54 )
รายละเอียด
อธิบายไปขณะนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาถือว่าเป็นรัฐมารวมกัน จริงๆ ก็เป็นลักษณะเหมือนกับประเทศอื่น ถ้าเผื่อว่าเราสามารถรู้ เราจะรู้ความลึกซึ้งซับซ้อน อย่างที่อเมริกากำลังเป็น เป็นตัวอย่างที่เป็นความไม่เข้าใจในสังขารโลก การปรุงแต่งของโลก ประกอบไปด้วยดินน้ำไฟลมชีวิต และ จารีตประเพณีแม้แต่วิชาการ แม้แต่ความรู้ความฉลาด มันเป็นฉลาดเฉโกอวิชชา มีแต่ตัวตนเห็นแก่ตัวตน จะเห็นได้ว่าจัดจ้าน โดนัลด์ ทรัมป์เอ๋ย ตัวอย่างอันนี้เจ้าประคุณ
อาตมาว่าซะว่าพอๆกับทักษิณก็สู้โดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ อาตมาว่า ทักษิณ นี่ ยังเป็นรองโดนัลด์ ทรัมป์ โดนัลด์ ทรัมป์รวย ถ้าจะว่าจริงๆ แล้วรวยกว่าทักษิณ เขาคงจะงมงายอยู่ในทางนี้อีกนาน ขออภัยไม่ได้ดูถูกดูแคลนแต่กำลังพูดถึงสัจจะ มันจะเป็นไปให้เห็นให้ศึกษาไป อาตมาจะไม่พูดนำพยากรณ์ วิธีดูข้อมูลหลักฐานก็สนใจตามกันมาฟังข่าวคราว อยู่ในโซเชียลแต่ละคนเก่งๆทั้งนั้น แสดงความรู้ความเข้าใจกัน อาตมาอ่านไม่หวาดไม่ไหว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทเริ่มอธิบายที่ชาติ 5 วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 13:36:09 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 12:09:33 )
รายละเอียด
อย่างประเทศจีนอาตมาเคยพูดพาดพิงไปพอสมควร ยิ่งประชาธิปไตยที่สหรัฐอเมริกาเอาไปปู้ยี่ปู้ยำหมดเลย เป็นประชาธิปไตยอำนาจบาตรใหญ่เลยเถิด ประชาธิปไตยของอเมริกา เป็นประชาธิปไตยอำนาจบาตรใหญ่เลยเถิดสุดโต่งไปเลย ใช้อำนาจอาวุธ ใช้อำนาจเงินทอง ใช้อำนาจแห่งอำนาจ เบ่งไป ซึ่งมันไม่ใช่ความยินยอมของประชาชนที่แท้จริงมันเป็นแทคติกวิธีการของสิ่งที่นอกรีต นอกทางที่เป็นสัจจะ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่เกิด
แล้วพวกที่ไปศึกษารัฐศาสตร์การเมืองจากเทวนิยมตะวันตก ซึ่งไม่ใช่ศาสนาพุทธ ความรู้การเมืองที่เป็นรัฐศาสตร์ประชาธิปไตยระบอบการบริหาร ล้มเหลวทั้งนั้นแหละ ต้องมาศึกษาในประเทศไทย ต้องมาศึกษาจากแกนแก่นของพระพุทธเจ้า ของศาสนาพุทธ ให้สัมมาทิฏฐิจริงๆ เราจะได้ช่วยกันทำให้เป็นความจริงที่เกิดขึ้นให้แก่มนุษยชาติ เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ถูกต้องแล้วคุณพิเชษฐ์ ที่เห็นมา ชักมีผู้รู้มีผู้เข้าใจ มีผู้ที่ได้รายละเอียดของความจริงที่แยกโลกุตระกับโลกียะ กันไปมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อาตมามีกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วันนี้หนุ่มขึ้นอีกหลายกิโลขีด จริงนะ มันเป็น Co-efficient จริงๆ มันเป็นสัมประสิทธิ์ทำให้อาตมาหนุ่มขึ้นได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แบบมีกษัตริย์กับไม่มีกษัตริย์ ประชาธิปไตยแบบไหนดีกว่า วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 12 มกราคม 2566 ( 19:17:48 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2563 ( 09:34:47 )
รายละเอียด
จริงๆ แล้วก็ทั้งความเป็นนักการเมืองและทุนนิยม ที่อเมริกาเป็นเจ้าของวิธี ทั้งสะสมทุนแล้วก็สร้างอำนาจการเงิน ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทบจะทุกคน มีน้อยคนที่เป็นประธานาธิบดีจนๆ ไม่ใช้ทุนเป็นอำนาจ แล้วก็เป็นประธานาธิบดีที่ดีเช่น อับราฮัมลินคอล์นเป็นต้น นอกนั้นแล้วเจ้าประคุณเอ๋ย ทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะเพิ่งจะผ่านไปหยกๆ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ทั้งทุนเต็มที่ใช้ทั้งอำนาจบาตรใหญ่ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ร้ายแรง เพราะรวมทั้งสองสภาพเลยกำลังทุนและกำลังอำนาจ มารวมกัน ซึ่งชาวอโศกเราเข้าใจดีไม่เอาทั้งคู่ มันเป็นบาปมันเป็นอกุศล เป็นเรื่องเลวร้ายที่เราจะไม่สั่งสมกรรมวิบากของเราเป็นอันขาด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 06:31:22 )
รายละเอียด
แล้วเขาก็ครอบงำนักรัฐศาสตร์ทั่วโลกว่าประชาธิปไตยของอเมริกาดีที่สุด เพราะฉะนั้นเขาจึงได้เครดิตว่า ประชาธิปไตยต้องแบบของเขา ซึ่งมันไม่ถูก มันผิด มันเป็นเผด็จการ อิสระแบบฮิปปี้ข้าต้องใหญ่เป็น american First American Great เป็นต้น
อเมริกาสร้างอาวุธไม่เก่งก็ไม่ได้รับการยอมรับในอำนาจอย่างทุกวันนี้ ที่เขาสร้างเอาไปยิงชาวตะวันออกกลางแบบนี้เป็นอันธพาลเป็นอาชญากร ขออภัยพูดไปแล้วคนอเมริกันอย่าโกรธเกลียด อาตมาพูดวิชาการ
คนไทยมี 60-70 ล้านคน แม้จะมีไม่มากแต่เป็นเนื้อแท้ยอดทองคำ มีค่าดีมากกว่าตะกั่วไม่มีเยอะ มากกว่ากันเป็นล้านต่อก็ตาม
คำอธิบาย
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญคือคนที่เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญคือคนที่เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ วันพุธที่ 20 มกราคม 2564 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 20:33:46 )
รายละเอียด
ประเทศที่ด้อยพัฒนาที่เห็นเดี๋ยวนี้คืออเมริกา เขาไม่รู้ตัว เพราะว่ากลายเป็นประเทศกลวง เศษกระดาษที่พิมพ์ออกไปเป็นดอลลาร์นั้น ไม่มีค่าจริง หากประเทศอื่นเอาดอลลาร์ที่มีนั้นไปแลกคืนมาก็ไม่มีอะไรคืนให้เขา ตอนนี้ภายในประเทศอเมริกา กลวงขนาดหนัก แต่อยู่ได้นี่ก็เพราะสร้างอำนาจหลอกลวงให้คนยอมรับเงินดอลล่าร์ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ตั๋วแลกเงินได้อะไรเลย มันแค่เป็นเศษกระดาษเปื้อนสีเท่านั้นเอง
มีคนว่า สร้างดอลล่าร์ไปให้คนอื่น คนอื่นก็เป็นเจ้าหนี้อเมริกาเลย ถ้าประเทศอื่นเอาไปคืนปั๊บ กระดูกอเมริกาก็ไม่เหลือ อย่าไปนึกว่า สร้างอาวุธไปขายทั่วโลก สร้างอุตสาหกรรมโก่งราคาให้แพง เก่งทางด้านเทคโนโลยี อย่านึกว่าจะพอนะ ถ้าหากประมาทแบบนี้ ไม่ได้เจียมตัว ไม่ได้ไปถึงธาตุแท้ความจริง สักวันหนึ่งก็จะถึงจุดนั้น ตอนนี้ยังไม่ถึง
ตอนนี้เขาก็พยายามสร้างเงินสกุลอื่นขึ้นมา เงินหยวน bitcoin สร้างขึ้นมา ก็คือสร้างความเชื่อถือ ว่ากระดาษของฉัน เหรียญของฉัน คือสิ่งที่แลกทรัพย์สิน จากประเทศอื่นทั่วโลก
ถ้าหากว่าความหมุนเวียนนี้ออกไปเมื่อไหร่ไปหาเนื้อแท้พวกนี้ทั้งหมด ตายดิบๆ เลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 14:48:57 )
รายละเอียด
คือ สัตว์ที่สอนไม่ได้ คนที่สอนไม่ได้ เป็นบัวใต้ตึก คุ้ยเขี่ยอย่างไรก็ไม่มีทางดิ้นขึ้นมาได้เลย คือเป็นคนที่สอนไม่ได้เลย ก็ต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม
หนังสืออ้างอิง
“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า151
เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:45:42 )
เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:28:47 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:40:44 )
รายละเอียด
ผู้ไม่เสวยทุกข์แล้ว เพราะมีปัญญายอดยิ่งแล้วจริงๆ
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 138
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2562 ( 07:59:27 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:52 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:41:00 )
รายละเอียด
อเสขบุคคล คือ ผู้ที่ทำกิเลสอาสวะหมดไป คนผู้นี้ก็หมดบุญ ปุญปาปริกขีโณมีหลักฐานในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 69 วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2562
เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 08:59:57 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 13:27:41 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:41:25 )
รายละเอียด
อเสขบุคคล คือ ผู้ที่ทำกิเลสอาสวะหมดไป คนผู้นี้ก็หมดบุญ ปุญปาปริกขีโณมีหลักฐานในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 69 วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2562
เวลาบันทึก 21 ตุลาคม 2562 ( 08:44:29 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 08:53:00 )
เวลาบันทึก 22 สิงหาคม 2563 ( 12:41:48 )
Facebook : test
Youtube : Name
Twitter : Name
Line : Name
Telegram : Name
Wechat : Name
Skype : Name