@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ถุงขี้ผูกโบว์กับหนังควายหุ้มขี้

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้เป็นคนบัญญัติ ผู้หญิง คือ ถุงขี้ผูกโบว์  ผู้ชาย คือ หนังควายหุ้มขี้ อาตมาฟังมาก็เห็นว่าดีก็เลยเอามาพูดต่อก็ขอบคุณคนที่พูดไว้ด้วย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 21 วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2563
ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:20:07 )

ถูกกล่าวหา 2

รายละเอียด

ผู้ถูกกล่าวหา จึงตั้งอยู่ในความดี 2 ประการ

1. ความจริง (สัจจะ)

2. ความไม่หวั่นไหวขุ่นเคือง (อกุปปะ)

 

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 7 “ปาติโมกขฐปนขันธกะ” ข้อ 510


เวลาบันทึก 11 มีนาคม 2565 ( 20:35:13 )

ถูกกล่าวหา 2

รายละเอียด

ผู้ถูกกล่าวหา พึงตั้งอยู่ในความดี 2 ประการ

1.ความจริง

2.ความไม่หวั่นไหวขุ่นเคือง 

หนังสืออ้างอิง

พระไตรปิฎกเล่ม 7 "ปาติโมกขฐปนขันธกะ" ข้อ 511


เวลาบันทึก 01 มิถุนายน 2562 ( 15:43:43 )

เวลาบันทึก 05 พฤษภาคม 2563 ( 14:59:59 )

ถูกครอบงำทางความคิดเหมือนลิงลมอมข้าวพอง

รายละเอียด

อาตมาขณะนี้ถ้าจะว่าดังก็คือคนไม่ชอบมาก คนไม่ชอบอาตมามากกว่าคนชอบ อาตมารู้อย่างนี้ หากอาตมาจะเป็นโฆษกอยู่ ประจบประแจงเอาแต่พูดสิ่งที่คนชอบอาตมาจะได้คนเยอะ ดังกว่าโพธิรักษ์เยอะ เป็นรัก รักพงษ์ดังกว่าโพธิรักษ์เยอะเลย ไม่ได้โง่ก็รู้อยู่ แต่เรื่องอย่างนั้น อาตมาเกิดมาชาตินี้เป็น รัก รักพงษ์ เป็นเรื่องลำลองเท่านั้นเอง อยู่ในอาการของลิงลมอมข้าวพองไม่รู้ตัวสมบูรณ์ ถูกโลกครอบงำ หลงอยู่กับลาภยศสรรเสริญโลกียสุขชั่วประเดี๋ยวประด๋าว แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังมีลิงลมอมข้าวพอง ถูกครอบงำทางโลก พระบิดาของท่านก็ครอบงำจริงๆ ไม่ให้ไปสัมผัสโลกีย์ ไม่ให้รู้จักทุกข์ ทุกข์ทางโลกที่เขาเข้าใจกัน พระราชบิดารู้ว่ามีความสุขโลกีย์อย่างไรก็ประคบประหงม พระพุทธเจ้าก็เลยต้องถูกครอบงำทางความคิดเหมือนลิงลมถูกเขย่าหมุนไม่รู้เรื่อง ทำตามเขาไป 29 ปี ท่านถึงตื่นเอง ไม่มีเหตุเจอพระเทวทูตทั้ง 4 เพราะเขาครอบงำไม่ให้เห็น คนแก่ คนป่วย คนตาย พระสงฆ์ เกิดมาอายุ 29 ปีไม่เคยเห็นเลย จนมีวันใดวันหนึ่งมีคนพาไปเล็ดลอดออกไปก็เห็นได้ แล้วไม่รู้จักคนป่วยนอนเจ็บครางอยู่ ก็บอกว่าอะไรเหรอ เพราะท่านไม่เคยป่วยเคยเจ็บอะไรเลย เขาก็บอกว่าคนป่วยพระเจ้าข้า ท่านก็บอกว่ามีอยู่หรือคนป่วยมันคืออะไรต้องเจ็บต้องป่วย แน่นอนพระพุทธเจ้าฟังเท่านี้ก็มีปฏิภาณว่ามันน่ากลัว 

ก็เห็นคนแก่เดินงกเงิ่น ก็ถามว่าอะไรหรือไม่เคยเห็น ท่านถูกครอบงำทางความคิดปิดบังหมด เขาก็บอกว่าคนแก่ ท่านก็ถามว่าอะไรคือคนแก่ เขาก็บอกว่าทุกๆคนก็ต้องเป็นอย่างนั้น ก็จะไปสู่ความเสื่อมอย่างนั้น นายฉันนะก็บอกว่าพระองค์ก็จะต้องเป็นอย่างนี้ ท่านก็บอกว่าเราจะต้องเป็นอย่างนี้ด้วยเหรอ เจ็บก็ต้องเป็น แก่ก็ต้องเป็น ไปเจอคนตายนอนหมดลมหายใจอยู่มีคนร้องไห้เต็มไปหมด ท่านก็ถามว่าอะไรคนก็บอกว่าคนตาย ท่านก็บอกว่ามีการตายด้วยเหรอ เขาก็บอกว่าทุกคนก็ต้องตายแม้แต่พระองค์ก็ต้องตายด้วยสักวันหนึ่ง 

ไปเจอนักบวช ก็ถามว่าอะไร เขาบอกว่านักบวชหาทางหลุดพ้นไม่ให้ เกิดแก่เจ็บตาย ท่านก็บอกว่าไปทำอย่างนั้นแล้วจะพ้นด้วยหรือ เขาก็บอกว่าใช่แล้ว พระองค์ก็บอกว่าเอาอย่างนี้แหละ ขนาดนั้นท่านรู้แล้วว่าจะต้องไปเป็นนักบวช แต่ความครอบงำทางโลกก็ยังไปหลงตามโลกเขาไปทำตามแบบเดียรถีย์พาไปทรมานทรกรรม มีลูกศิษย์ปัญจวัคคีย์ 5 รูป ซึ่งเขาก็รู้กันแล้วมีคนพยากรณ์แล้วว่าท่านจะได้เป็นพระพุทธเจ้า แม้แต่พราหมณ์คนหนึ่งใน 5 รูปนี้ก็เป็นคนพยากรณ์เป็นพราหมณ์ชื่ออัญญาโกณฑัญญะ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นตัวจริงหรือเปล่าก็ต้องดูกันไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทเริ่มอธิบายที่ชาติ 5 วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 16:27:39 )

ถูกหลอกมานาน กว่าจะรู้สาระสัจจะของชีวิต

รายละเอียด

ถ้าจะพูดดีก็ยกตัวเองพูดถึงตัวเองพวกตัวเอง พูดพวกตัวเองว่า มันดี มันถูก แล้วมันก็จริงอีก ชาวอโศกเป็นอริยกะ ส่วนพวกท่านทั้งหลาย ขออภัยเถอะก็ยังเป็น มิลักขะอยู่ ยังเป็นพวกเถื่อน เถื่อนอย่างตาบอดตาใสเถื่อนอยู่ในป่าคอนกรีตด้วย ส่งเสริมป่าคอนกรีตระเนระนาดเลย 

ซึ่งในหลวงเราเป็นโพธิสัตว์ ท่านตรัสไว้ว่าเราไม่ต้องการความเจริญก้าวหน้าอย่างนั้นอย่างที่โลกเขาก้าวหน้า มันก้าวหน้ามากเกินไป ก้าวหน้า อย่างที่เรียกว่ามันทำช่องว่างระหว่างคนก้าวหน้ากับคนถอยหลัง โดยไม่อยู่ที่เนื้อแท้ของสาระชีวิต ไปหลงความปรุงแต่งขององค์ประกอบ ที่มันมี ช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ งอกเงยออกไปตกแต่งเป็นลิเก โอ้…เป็นงิ้ว เป็นลิเกกันมากเกิน จนไม่รู้จะพูดอย่างไร ออกนอกเหตุปัจจัยที่สำคัญของชีวิต ไปมีแต่เครื่องประดับอาภรณ์ตกแต่ง ที่โลกเขานำพาไปแล้วก็โง่ตามเขา เราปฏิบัติธรรมเรียนรู้ธรรมะพระพุทธเจ้ารู้แก่นแท้เนื้อแท้ของชีวิตแล้วว่า เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว มันถูกหลอกมานานไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ กว่าจะรู้สาระสัจจะของชีวิต มันนิดเดียว

พระพุทธเจ้าย่อไปที่ปัจจัย 4 นอกนั้นเป็นองค์ประกอบ เป็นบริขาร เป็นองค์ประกอบที่ไม่มากมายอะไร เมื่อยุค กาละ เทศะ ฐานะ มันเปลี่ยนไปเราก็ไม่ได้ปฏิเสธ เราก็พอใช้ ใช้คอมพิวเตอร์กับเขาบ้าง แว่นตาเราก็ใช้ เพราะมันก็ช่วย เราก็ไม่ได้ปฏิเสธซะทีเดียว แต่เราก็ไม่ได้ไปหลงบ้า ต้องไปกันใหญ่เลย เขาหลอก เอาขี้หมูขี้หมามาทาสี ใส่น้ำตาลก็กิน ขี้หมา ผสมน้ำตาลไป เละ จะเรียกว่าฉลาดไปอย่างไรก็ไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 61 สลายพระเจ้าแห่งอวิชชาด้วยปัญญาจากสัตตบุรุษ วันจันทร์ที่ 31ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2565 ( 12:23:26 )

ถูกหลอกให้เสียเปรียบได้กุศลอย่างไร 

รายละเอียด

ผู้ถูกหลอก แล้วก็รู้ว่าถูกหลอก เราเริ่มมีปัญญาแล้วว่าเขาหลอก พอเขาหลอก แล้วเราก็ยอมเสียให้เขา เราสละไป ไม่เป็นไร ให้ได้ก็ให้ เพราะหลอกมันเป็นของไม่ดี คุณทำคุณก็ได้อกุศล เราก็ยอมเสียสละให้ไปเลย ทั้งๆที่รู้ ไม่ต้องเสียใจ เราได้กุศลแล้ว แต่เรายังถือว่า เราถูกหลอก หรือ เขาจะหลอกจริงๆก็ตาม แต่คนที่ไม่หลอก มาสอนทานให้จริงๆ เลยว่าดีนะ ทานให้ไปเถอะ แม้เขาจะใช้เล่ห์เหลี่ยมขี้โกงทุจริตอย่างไร คุณก็ให้ เสียไป เราเสียสละแล้ว เราก็ยังอยู่ได้ ไม่ได้เดือดร้อนจนเกินการ หรือแม้จะเดือดร้อนก็ขวนขวายช่วยตัวเอง เพราะเราโง่เลยถูกหลอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หากเลิกหลับตาปฏิบัติได้ประเทศไทยเจริญ วันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 สิงหาคม 2565 ( 13:56:06 )

ถูปารหบุคคล

รายละเอียด

คือ ผู้ควรแก่สถูปคือ ควรบรรจุอัฐิไว้ในสถูปให้คนบูชาแล้วได้อานิสงค์มี 4คน

1.     พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

2.    พระปัจเจกพระพุทธเจ้า

3.    พระอรหันตสาวก

4.    พระเจ้าจักรพรรดิ์

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 15:58:02 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:52:05 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:47:40 )

ถูปารหบุคคล 4

รายละเอียด

บุคคลผู้ควรสร้างสถูปไว้เคารพ

1. พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

2. พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า

3. สาวกของพระพุทธเจ้า (พระอรหันต์)

4. พระเจ้าจักรพรรดิ (ฝ่ายบุญฤทธิ์)

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฏกเล่ม 10 "มหาปรินิพพานสูตร" ข้อ 134

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2562 ( 13:07:06 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:46:56 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:48:02 )

ถูปารหบุคคล 4

รายละเอียด

บุคคลผู้ควรสร้างสถูปไว้เคารพ

1. พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

2. พระปัจเจกสัมพุทธเจ้า

3. สาวกของพระพุทธเจ้า

4. พระเจ้าจักรพรรดิ

 

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 10 “มหาปรินิพพานสูตร” ข้อ 134


เวลาบันทึก 12 มีนาคม 2565 ( 20:29:05 )

ถ่วงดุลโลก

รายละเอียด

คือ ชาวอโศก อยู่ในสังคมโลกโลกีย์ จะต้องสู้หรือต้องต้านทานแรงเสียดทานของโลกีย์นี้อย่างหนัก

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 159


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:57:29 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:47:28 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:48:35 )

ถ่อมตนไว้

รายละเอียด

ทำความถ่อมตนรู้ตัวเองไว้ดีๆอย่าไปทำเป็นแบบไม่รู้ว่าเราเป็นอย่างไรอย่างนั้นจะเสีย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 10:54:15 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:00:03 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:51:39 )

ถ่อมตัวไว้ไม่หลงตัวเอง

รายละเอียด

ก็ได้ตามจริงแต่ละคน อาตมาไม่เก่งจะบอกแต่ละคนได้ เราอย่าไปหลงตัว เราพยายามถ่อมตัวไว้ แต่อย่าถ่อมผิด ให้รู้ความจริงตามความเป็นจริงสมมุติว่าเรามีร้อยเราก็บอกว่าเราได้ 80 อีก 20 นี้เราจะทำแต่ว่าเราไม่รู้หรือว่าเราก็พอรู้แต่เรายังไม่แน่ใจนะอีก 20 นี้ก็เผื่อไว้ไม่อย่างนั้นเราก็พลาดถ้าได้อย่างนี้มันเป็นการเผื่อพอหรือระมัดระวังไม่อวดดีไม่ห่าม แหม มีอยู่ 20 ไปออกท่าทาง30 40 พวกนี้หลงตัวเองค้ากำไรเกินควร

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 10:33:28 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:01:41 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:52:11 )

ถ่ายทอดมาจากพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

รายละเอียด

ไม่เข้าใจผิดเพี้ยนสับสนที่บอกว่าเดี๋ยวก็รู้เองเดี๋ยวก็ได้รับถ่ายทอดมา พวกเราคงจะไม่งง ได้มาจากพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ถ่ายทอดมาจากพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ แต่พระพุทธเจ้าไม่อยู่แล้วเราก็เป็นตัวเองมาได้ตั้งแต่สั่งสมเป็นปัจจัตตัง 1.ปัจจัตตัง 2. ปัจเจก 3. สยังอภิญญา 4. ปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ 5. สยัมภู ปัจจัตตัง มาจากคำว่า ปัจจะ กับ อัตตา เรียกว่าอัตตะของเรานี้ได้เริ่มมีปัจจะ ปัจจะคือแสงสว่าง ปะ + อัจจะ รู้จัก “อัจกลับ”มั้ย เป็นเครื่องให้แสงสว่างเป็นตะเกียง หรือว่า ถาดน้ำมันแล้วมีไส้ เรียกว่าอัจกลับ เคยได้ยินไหม? อัจจะ นี่แปลว่า สว่าง พยัญชนะ ก จ ต ฏ ป คำต้นวรรคทั้ง ถ วรรค จ เป็นวรรค แสงสว่างหรือปัญญา จ ฉ ช ฌ ย เป็นวรรคแห่งแสงสว่าง แสงสว่างก็คือรู้ไม่มืดดำไม่โง่ สว่างเป็นความรู้เป็นธาตุรู้ เพราะฉะนั้นผู้ที่มาศึกษาถูกต้อง สัมมาทิฏฐิแล้ว ก็จะเริ่มเกิดแสงสว่าง เกิดเริ่มรู้เกิดเริ่มเข้าใจก็เริ่มรู้ความจริงเกิดเห็น เห็นเป็นสื่อที่จะบอกทาง รู้เป็นวิญญาณเป็นธาตุรู้ ได้ยินก็เป็นทางเสียง ได้กลิ่นได้รส ได้แตะต้องกระทบสัมผัส โผฏฐัพพะ ก็มีอยู่ 5 ทวารนอกที่จะรู้ครบ นัยต่างๆนี่ก็จะต้องอธิบายขยายความไป ยกเหตุปัจจัยมาอธิบายเป็นตัวอย่าง สำหรับผู้ที่จะต้องใช้ตัวอย่างมาอธิบาย สู่แดนธรรม..นิมนต์ขยายความต่อพ่อครูว่า..ปัจจัตตังเป็นความรู้ด้วยตนเองเมื่อรู้ด้วยตัวเองก็เป็นปัจเจก สรุปมาเป็น 1 เป็นของตัวเอง ปัจจะ ส่วนปัจเจกในระดับต้นส่วนล่าง ส่วนปัจเจกสัมมาสัมพุทธะเป็นระดับพระโพธิสัตว์ เมื่อมีปัจเจกแล้วก็สั่งสมปัจเจกไปเป็น สยังอภิญญา ความรู้ยิ่งในระดับปกตินะสั่งสมลงไป จนเป็นเอง สยัง เป็นเองภายใน อย่างอาตมามาปรากฏในโลกยุคนี้เป็นของอาตมาเองไม่มีอาจารย์ไม่มีครูไม่มีผู้ที่จะสอน เป็นของตัวเองมาล้วนๆ แล้วก็มาพูดเองในท่ามกลางสังคมพุทธที่ไม่มีใครรู้หรือรู้ก็ผิด ก็ต้องมาหักล้างความผิดนี้มันก็ยาก ก็ต้องทำ อาตมามาประกาศยืนยันว่าอาตมาเป็นสยังอภิญญา อาตมายังไม่ใช่ปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ ไม่ถึง 5 ขั้นนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 12 กรกฎาคม 2563 ( 12:15:34 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 17:33:30 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:53:19 )

ถ้อยคำดีๆ แต่เป็นของชั่วสำหรับใครบ้าง

รายละเอียด

ถ้อยคำดีของบุคคล 5จำพวก  ย่อมเป็นถ้อยคำชั่วของอีกฝ่าย

1. ถ้อยคำปรารภศรัทธา  เป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ไม่มีศรัทธา

2. ถ้อยคำปรารภศีล  เป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทุศีล

3. ถ้อยคำปรารภพาหุสัจจะ  เป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ได้สดับน้อย

4. ถ้อยคำปรารภจาคะ  เป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ตระหนี่

5. ถ้อยคำปรารภปัญญา  เป็นถ้อยคำชั่วแก่ผู้ทรามปัญญา ฯ

 

ที่มา ที่ไป

ทุกถาสูตร พระไตรปิฎก เล่ม 22 ข้อ 157 ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2562 ( 15:17:00 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:55:21 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:54:13 )

ถ้าการเมืองมีธรรมะมันก็สมบูรณ์

รายละเอียด

ใช่ ธรรมะเป็นด้านหนึ่งของเหรียญ ด้านการเมืองก็คือเป็นธรรมะ ถ้าการเมืองไม่มีธรรมะมันจึงเป็นเสือสิงห์กระทิงแรด มีบ้าๆบอๆ ถ้าการเมืองมีธรรมะมันก็สมบูรณ์ เพราะฉะนั้น อย่าไปห้าม การเมืองถ้ามี คนที่ไม่เข้าท่าเข้าไปยุ่งก็จะเละ คนที่มีธรรมะที่แท้จริงมีบารมีมีอิทธิพลมีอำนาจหรือมีแรงพอที่จะทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงคน ในสังคม พลเมือง เปลี่ยนแปลงพลเมืองทำงานเพื่อพลเมือง ให้พลเมืองมามีคุณธรรมโดยเฉพาะเป็นคุณธรรมโลกุตระ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2565 ( 11:50:36 )

ถ้าขาดปัญญาดับกิเลสไม่สิ้นสุด

รายละเอียด

คุณลืมตาออกมาเริ่มตั้งแต่ตา หู จมูก ลิ้น กาย คุณไม่เอาเรื่องก็ช้าอีกแหละ คุณล้างแต่เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับตา ส่วนหูคุณก็ไม่ล้างเขรอะขระๆปล่อยให้กิเลสหนาขึ้นทางเสียง ปล่อยให้กิเลสหนาทางกลิ่น ปล่อยให้กิเลสหนาทางรสทางลิ้น ปล่อยให้กิเลสหนาทางกายสัมผัสก็ไปอีก คุณก็ล้างอันนี้เสร็จต้องมาล้างอันนี้ เดี๋ยวก็ขึ้นมาใหม่เพราะเราไม่ฉลาด มันดับไม่สิ้นสุดหรอก นอกจากคุณจะฉลาดจริงๆเป็นโลกุตระ คุณดับอันโน้นตายจริงมันหมดเชื้อจริงคุณก็ดับมาเรื่อยๆได้ แต่ถ้าเราไม่เก่งจริงๆก็ทำทีละอย่างๆ เราไม่เก่งจริงๆ แต่คนมันจะเก่งกว่านั้นอยู่มันพอทำได้ 4-5 ทวารนี่ทำได้ ทำได้พอๆกันพร้อมๆกัน ทำได้ ถ้ามีปัญญานิรันดรกุล ถ้าขาดปัญญา คุณก็ไปไหนไม่ออก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ปฏิบัติศีลให้ถึงอรหัตตผลโดยลำดับ

วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 14:32:19 )

ถ้าขืนวนกันไม่สิ้นสุด การจบกิจก็มีไม่ได้เลย 

รายละเอียด

ข้อ 489 ย้ำ บุญ เป็นเรื่องจบกิจจริงๆ อย่าวนเวียนเป็นคนไม่จบกิจ แม้จะหมดบาป หมดบุญแล้วก็อย่าหลงติด ติดอยู่กับพยัญชนะ วนกลับไปเอาอปุญญะ ไปเป็นบาป วนกลับไปเป็นบาปอีก ทั้งๆที่คนผู้นี้ทำกรรมใดก็ไม่เป็นบุญอีกแล้ว ก็ยังไปหลงแปล อปุญญะ เป็นบาปอีก มันก็ไม่สิ้นบุญสิ้นบาปกันได้สักที ถ้าขืนวนกันไม่สิ้นสุดได้เลย การจบกิจก็มีไม่ได้เลย 

ดังนั้นคำว่า บุญ หรือปุญญะ ถึงไม่ใช่พลังงานที่จะ ปุญญาภิสังขารแล้วยังจะสั่งสมบุญลงไปในจิตอีก แล้วเมื่อผู้ที่ ปุญญาภิสังขารเสร็จ เป็นอปุญญาภิสังขารและ ก็ยังจะให้กลับไปเป็นบาปอีก และเมื่อไหร่ผู้ที่ทำอภิสังขารจึงจะเป็นผู้สิ้นบุญสิ้นบาป ที่บาลียืนยันว่า ปุญญปาปปริกขีโณ กันได้สักที เป็นเรื่องโลกุตรธรรมที่ คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น)   (พตปฎ. เล่ม 9  ข้อ 34)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมให้เกิดปัญญาเพื่อสละตัวตน วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2565 ( 19:40:17 )

ถ้าคนจริงไม่บอกความจริง มันไม่มีใครจะรู้ความจริง

รายละเอียด

ความรู้เช่นนี้พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วเอามาขยายผลให้เห็นกัน อาตมาก็เอามาขยายความความละเอียดลออ โดยอาศัยภาษาศัพท์ที่ว่า เศรษฐกิจ หรือเศรษฐศาสตร์ หรือรัฐศาสตร์ หรือว่าการเมืองอย่างนี้เป็นต้น เป็นภาษาศัพท์ใหญ่ๆ ที่สังคมโลกเขาเห็นสำคัญกัน แล้วก็ประพฤติกันอยู่ โดยไม่มีความเข้าใจความรู้ในเรื่องเศรษฐศาสตร์ หรือรัฐศาสตร์ ซึ่งในโลกยุคไหนก็มีอันนี้แหละมีเศรษฐศาสตร์ มีรัฐศาสตร์ แต่ภาษาในยุคสมัยโบราณยังไม่ค่อยจะไปใช้ภาษานี้เท่าไหร่ มันเป็นภาษาทางสันสกฤตทางบาลี รัฐ หรือเศรษฐะ ทางภาษาทางยุโรปทางอังกฤษเขาก็ใช้ภาษาอะไรก็ว่าไป  ซึ่งเขายังไม่ได้มีรายละเอียดเหมือนทางตะวันออก หรือต้นตอมาจากอินเดีย 

ภาคตะวันออกก็มีลึกซึ้งแต่ก่อนก็มีขงจื้อ เล่าจื้อ เม้งจื้อ เฉลียวฉลาด เมืองไทยก็เป็นเมืองเล็กๆที่เพิ่งเกิดได้ยังไม่ถึงพันปี และเป็นมนุษยชาติในยุคสุดท้ายของโลก โลกยุคสุดท้ายในครั้งสุดท้ายนี้ อย่างที่ทางคริสต์เขาเรียกว่า สิทธิชนยุคสุดท้าย ทางศาสนาคริสต์มอร์ม่อน เขาบอกว่าพวกมอร์ม่อนเขารู้ยิ่งกว่าโปรเทสแท้นท์ โพรเทสคือการประท้วง โปรเทสแท้น คือตัวเต็มของผู้ประท้วงเขาเรียกว่าโปรเทสแท้น ที่อาตมาเพิ่งเอามาอธิบายว่าในเมืองไทยนี่อาตมาเป็นตัว โพรเทสแท้น อาตมานำพวกเราไปชุมนุมประท้วงแนวใหม่ ซึ่งเป็นรัฐศาสตร์ประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ พูดแล้วเหมือนหลงตัวเองยกตัวเองเป็นผู้นำในการประท้วงเหล่านี้ แต่มันเป็นจริง ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่จะหาว่าอาตมายกตัวหลงตัวเองก็แล้วไป แต่มันเป็นคำกิริยาเป็น ปรากฏการณ์จริงในโลก อาตมาไม่ได้เป็นคนทำตัวเด่น 

อาตมาทำงานไปตามประสาของอาตมาชี้นำอะไรบ้าง แต่ประชาชนทั้งหลายเข้าใจ เช่น อาตมาขึ้นว่า Neo protest ขึ้นว่าจะต้องชุมนุมกันแบบนี้ วิธีชุมนุมเป็นแบบนี้ ประท้วงแบบนี้ อะไรต่ออะไร ที่มีหลักฐานต่างๆโดยเฉพาะมีโบรชัวร์ที่พิมพ์ไว้ แล้วก็ไม่มีใครทำหรอกนอกจากอาตมาเป็นคนที่จะชี้นำพวกนี้ ชี้นำทั้งภาษา วิธีการและก็พาทำ แม้แต่แค่ ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ  อย่างสงบ อย่ารุนแรงเป็นอันขาด ตายเป็นตาย เราจะไม่ทำให้ใครตาย เราตายก็ไม่เป็นไรเราก็ได้ทำดีเป็นกุศลยิ่งเจริญ สิ่งเหล่านี้อาตมาว่าปรากฏการณ์พวกนี้ นักเศรษฐศาสตร์ นักรัฐศาสตร์นักสังคมศาสตร์ก็ตาม จะมาวิจัย มาเรียนรู้หลักฐานความเป็นจริง ซึ่งมันมีหลักฐานบันทึกไว้เยอะ แล้วเขาจะค่อยๆลึกซึ้ง รู้ว่าอันนี้มาจากต้นตออะไร ใครเป็นคนต้นคิดเป็นผู้นำ เขาจะค่อยๆรู้ 

เพราะผู้ที่ไม่แสดงตัวปรากฏตัวอย่างโดดๆเด่นๆ จริงๆ ซับซ้อนเหมือนไม่มีตัวตน นั่นแหละยิ่งซับซ้อนไม่มีตัวตนนั่นแหละ คือผู้นำที่เป็นสภาวะสิริมหามายา เป็นตัวจริง แม้ทุกวันนี้อาตมาพูดไปพูดความจริง ที่จริงเหนียมตัวเองเหมือนกัน เอาตัวเองมายืนยันมาพูด ทางวิชาการเขาจะบอกว่า อย่าเอาตัวเองไปเป็นละครในวิชาการนั้น อาตมาก็ว่า มันไม่พูดถึงได้ยังไง ก็มันเป็นพฤติการณ์เป็นพฤติกรรมที่ต้องไปยืนยัน ก็คนมีพฤติกรรม แล้วเราก็มีพฤติกรรมอันนี้แล้วไม่พูดถึง ขนาดพูดถึงยังไม่ค่อยเข้าใจ ยังมีอคติยังต่อต้าน บอกว่าอวดตัวอวดตนไม่ใช่ของจริง 

คือมันถึงยุคสุดท้ายซึ่งต้องพูดความจริง ต้องบอกความจริง ถ้าคนจริงไม่บอกความจริง มันไม่มีใครจะรู้ความจริง ที่เป็นความจริงที่ไม่มีคนรู้ได้ง่าย ความจริงที่คนจริงเท่านั้นมีความจริงและยืนยันความจริง ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้แล้วได้แต่เดา แล้วไปเดาความจริงได้อย่างไร ความจริงที่ยอดไม่ใช่ความเดา  ความจริงที่ยอดนั้นไม่ใช่ความเดา ความจริงที่ยอดนั้นเป็นความยาก เดาไม่ได้ เพราะฉะนั้นศาสนาเดากับศาสนาจริง จึงพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง โดยไปเข้าใจภาษาที่สวยๆว่า อย่าไปอวดตัว อย่าไปบอกว่าเราดี มันเป็นการอวดตัว ภาษาสวยนะ เราบอกว่า เราดีตัวเราจริง มันเป็นภาษากระด้าง คนอะไรวะมาอวดตัวเอง อะไรอย่างนี้ มีความซับซ้อน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนเจริญแท้คือคนทำงานที่ไม่ไปหลงทำเงิน วันพุธที่ 26 เมษายน 2566 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2566 ( 15:01:57 )

ถ้าคนจะมาเป็นอย่างชาวอโศกได้ค่อนประเทศนี้จะเป็นอย่างไร

รายละเอียด

ถ้าได้กันไปจริงๆแล้วนี่มันเจริญคุณว่าไหม ถ้าคนจะมาเป็นอย่างชาวอโศกอยู่นี่ เป็นได้ครึ่งได้ค่อนประเทศนี้จะเป็นอย่างไร อาตมาว่า โอ้โห…ประเทศไทยจะรุ่งเรืองเจริญมากเลย 

และอาตมาก็เชื่อมั่นว่า ความรู้อย่างนี้เป็นของพระพุทธเจ้า เป็นความรู้ที่คนทั้งโลกแสวงหาอยู่ แต่เขายังมองไม่ออก เขายังมองไม่เห็น โลกุตรธรรม อย่างนี้ เขายังมองไม่ออก ยังมองไม่เห็น 

เพราะฉะนั้นจะมามีความรัก สาราณียะ ปิยกรณะ ก็มีความรักกันอย่างดี 

ครุกรณะ ก็จะรู้จักผู้ที่ควรเคารพ ไม่ใช่สับสนคนที่ควรเคารพไม่เคารพดันไปเคารพคนที่ไม่น่าเคารพ ไอ้ที่ถูกไปทำที่ผิด ไอ้ที่ควรไม่ทำไปทำไอ้ที่ไม่ ไอ้ที่จะนั่งไม่นั่ง ไปนั่งเอาที่จะตั้ง ไอ้ที่จะตั้งก็ไม่ตั้ง ไปตั้งไอ้ที่จะนั่ง 

แต่สัจธรรมที่ดีๆที่อาตมาเอาของพระพุทธเจ้ามา อาตมามั่นใจว่าของพระพุทธเจ้ามาแล้วก็เกิดผลต่อพวกเราอยู่อย่างนี้ มันก็ดีขึ้นมาแล้ว เห็นชัดเจนตามสาราณียธรรมที่จะพูดต่อ 

รู้จักเคารพกันเพราะรู้ว่า คนนี้นี่ควรเคารพ ปาสาทิกะ มีอาการน่าเลื่อมใสน่าเคารพ มีปัญญารู้ว่า คนที่ควรเคารพคือใครไม่ใช่เข้าใจอย่างโง่ๆผิดๆแต่เข้าใจถูกต้องว่าคนควรเคารพที่จริงเป็นอย่างนี้เอง คนที่ไม่ควรเคารพแต่หลอกเขาว่าน่าเคารพเป็นอย่างนี้เอง หลอกจนคนโง่ๆหลงเชื่อมันก็มีในสังคมมันไม่รู้ จะรู้จักว่าคนที่ควรเคารพคือใคร ครุกรณะ

สังคหะตรงนี้ก็ระบุเลยว่าจะเป็นคนที่มีใจเอื้อเฟื้อเกื้อกูลช่วยเหลือคนอื่นอยู่ ความเห็นแก่ตัวลดลง ความเห็นแก่ได้ลดลง วรรณะ 9 จะเกิดขึ้นสูงสุดเป็นคนเลี้ยงง่าย บำรุงง่าย เป็นคนที่มักน้อย เป็นคนสันโดษ เป็นคนขัดเกลาตนเอง เป็นคนที่มีข้อปฏิบัติที่เจริญขึ้นๆ เป็นคนมีอาการน่าเลื่อมใส ไม่สะสม อปจยะ และเป็นคนที่ยอดขยัน ระดมความเพียร วิริยารัมภะ ตามวรรณะ 9 

เนี่ยเอาหลักธรรมพระพุทธเจ้าเลยมาอ้างอิงยืนยัน ว่ามันเข้าหลักเข้าเกณฑ์อย่างนี้นี่แหละคือความเจริญ หรือความพัฒนาสังคมพัฒนามนุษยชาติ 

สังคหะ เกื้อกูล ช่วยเหลือ สร้างสรร เสียสละอยู่ 

อวิวาทะ ไม่ใช่หาเรื่องทะเลาะกัน วิวาทกัน มันมีความขัดแย้งอันพอเหมาะและเราก็รู้จักการอนุโลม อะลุ่มอล่วยกันอยู่อย่างที่ในหลวงร. 9 เราตรัส อยู่กันอย่างอะลุ่มอล่วย อยู่กันอย่างอนุโลมปฏิโลม ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันพึ่งพากันไปผ่อนสั้นผ่อนยาวแก่กันและกัน อย่างนี้เป็นต้น 

อวิวาทะ จะเห็นได้ว่าชาวอโศกเราไม่มีเรื่องที่จะวิวาทอะไรกันมากมายทะเลาะตีกันฆ่ากัน ขึ้นโรงขึ้นศาลมันไม่มี นอกจากคนข้างนอกเขามาทำอะไรเราก็ต้องอาศัยตำรวจ อาศัยคนข้างนอกเขา เพราะเราไม่มีทางจะไปห้ามกั้นเขาได้ แต่พวกเราเองไม่มีวิวาทกัน 

สามัคคียะ พร้อมเพรียงกันอบอุ่นมี เอกีภาวะ เป็นปึกแผ่นเป็นเอกภาพที่ดีงามครบ มีคุณธรรมพุทธพจน์ทั้ง 7 นี้อย่างแท้จริง 

ไม่สูญเปล่าคำสอนพระพุทธเจ้า ทุกวันนี้พระพุทธเจ้าถึงตรัสว่าผู้ที่มาปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ โลกไม่ว่างจากพระอรหันต์ เพราะฉะนั้นผู้ใดเข้าใจสัจธรรมตามพระพุทธเจ้าอย่างที่ว่านี้และปฏิบัติได้มีมรรคมีผล มีอาริยะ 4 เหล่าแน่นอน 

เพราะฉะนั้นศาสนาพระพุทธเจ้า ทุกวันนี้อาตมาก็เข้าใจและเชื่อมั่น ว่า ไอ้ที่เสื่อม โลกุตตรธรรมที่เสื่อมไปแล้ว 2,500 ปี ได้กอบกู้ขึ้นมาได้แล้ว นี่ อาตมาพูดด้วยความจริงใจและก็ไม่ได้คิดว่าเป็นการโอ้อวด แต่เป็นเรื่องพูดจากความจริงใจ 

เพราะฉะนั้นในเรื่องของที่จะอธิบายเป็นเชิงภาษาสมัยใหม่ เป็นความรู้สมัยใหม่ที่เรียกกันว่า เศรษฐกิจ เรียกเท่ห์ๆว่า GDP ก็แล้วแต่ เท่ห์เสียไม่มีพูดคำว่า GDP ได้ 

มันก็มีของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน แต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นพฤติการณ์พฤติกรรมของมนุษย์ ยุคของพระพุทธเจ้าก็มี แต่มันมีข้อจำกัดไม่เหมือนในยุคนี้ไง ในยุคโน้นเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคทาส เป็นยุคที่คนไม่รู้จักสิทธิมนุษยชน พระพุทธเจ้าท่านทำได้แต่ในวงของสงฆ์ ก็มี GDP โลกุตระแบบพุทธ ที่แตกต่างจากทั้งหมดทั้งมวลของเทวนิยมเขา เพราะของพระพุทธเจ้านั้นเป็นอเทวนิยม ไม่ใช่เทวนิยม มันต่าง ต่างแน่ 

 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิโดยพ่อครู GDPแบบพุทธที่ต่างจากนักเศรษฐศาสตร์เทฺวนิยม วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 แรม 14 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 15:19:52 )

ถ้าคนทั้งโลกมีศีลข้อ 1 ข้อเดียวจะเป็นเช่นไร

รายละเอียด

พระพุทธเจ้าให้เอาเรื่องของมนุษยชาติด้วยกัน บอกแล้วว่าสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายแหล่ ในศีลข้อที่ 1 มีเมตตา กรุณา เอ็นดู หวังประโยชน์ต่อกันและกัน ถ้าคนทั้งโลกมีศีลข้อ 1 ข้อเดียว วางศาสตรา วางอาวุธ ก็ไม่ต้องไปคิดสร้างอาวุธมาเข่นฆ่ากัน วางแม้แต่ไม้หน้าสาม ที่เป็นอาวุธ ไม่ต้องไปสร้างปืนผาหน้าไม้ ลูกระเบิดอะไรหรอก แม้แต่ไม้หน้าสามก็เป็นอาวุธได้ หลาวแหลนก็เป็นอาวุธได้ ไม่เอา วางหมด มีความเมตตา มีความกรุณาเอ็นดู หวังประโยชน์แก่กันและกันอยู่ เท่านี้แหละจบ ทั้งโลกเลย 

อเมริการับไม่ได้เพราะเขาค้าอาวุธ คือ มันเป็นความคิดที่คนสร้างอาวุธก็อย่างที่ว่า คนฉลาดสร้างอาหาร คนชั่วช้าสามานย์สร้างอาวุธ อันนี้ไม่ได้ไปแกล้งว่า แต่เป็นเรื่องจริงๆเลย คือเป็นความคิดที่ต่ำมากเลย สร้างอาวุธมาฆ่ากัน คือไม่ได้รู้เรื่องเลยว่า ฆ่ากันทำไม มีอะไรแบ่งกันได้ก็แบ่งกัน นั้นคือจิตชั้นสูงของคนคนจะสูงได้ก็ต้องมีความรู้จริงว่า เออ.. เกิดมาเป็นคนด้วยกัน เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น 

ศาสดาก็มีสอน แต่ทำไมไม่สอนถึงเรื่องของชีวะ ชีวิต แล้วอย่าไปฆ่ากัน วางศาสตราวางอาวุธ อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านให้เลิกเสียจริงๆ ถ้าทำอย่างนี้ได้ทั้งโลก หวังประโยชน์เพื่อกันและกัน หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ ซึ่งมันเป็นสัจจะ เท่านี้แหละจบแล้ว เรื่องทั้งโลกเลย ศีลข้อเดียวนี่ ไม่สร้าง ไม่มีอาวุธกันเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิธรรม‌ของ‌ศีล‌ข้อ‌ ‌1‌ ‌ที่‌ชาว‌อโศก‌ปฏิบัติ‌ได้‌ ‌วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน2 ปีฉลู


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:19:37 )

ถ้าคนมีศีล 5 รัฐธรรมนูญหรือกฏหมายก็ไม่จำเป็น

รายละเอียด

ใช่ อาตมาเคยพูด รัฐธรรมนูญก็เอา ศีล 5 ไปใช้เลยก็ได้แล้วแต่เขาทำไม่ไหวหรอกเพราะศีล 5 มันเข้ม และมีศาสนาอื่นอยู่ด้วยในประเทศไทยก็จึงจะต้องผสมผสานกัน อย่างเช่นศีลข้อที่ 1 ก็ประยุกต์หน่อย ศีลข้อที่ 2 ก็ตามรูปได้เลย ศีลข้อที่ 3 ก็เต็มรูปได้เลยศีลข้อที่ 4 ข้อที่ 5 ก็เต็มรูปได้เลย อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 11:28:06 )

ถ้าคุณทิ้งธรรมะก็จะไม่มีที่พึ่ง

รายละเอียด

คือก็จิตของมนุษย์ไม่หยุดที่จะเอาชนะ ไม่หยุดที่จะแย่งชิง ไม่หยุดที่ที่จะต้องทำ  เพราะฉะนั้น ที่ทำกันอยู่ในวงการการค้าขายก็ดี  จนถึงการหาลาภยศก็ดี วงของการสร้างอำนาจบาตรใหญ่ก็ดี   แม้แต่วงการ  เสพ  รูป  รส  กลิ่น  เสียง  สัมผัส  เสพรสอร่อย เสพความสนุกสนานก็ดี  ปรุงแต่งกันอยู่  ไม่หยุดกันมหาศาล  พูดอีกก็ได้แต่มันเมื่อยแล้วพอสรุปอีกที่ถ้าคุณทิ้งธรรมะคุณก็จะไม่มีที่พึ่ง  อาตมาเห็นด้วยอย่าหวัง จะเอาจากนักการเมืองที่ไม่มีธรรมะ  แต่ที่ว่าศาสนาไม่สามารถให้ความเป็นธรรมกับประชาชนได้  อันนี้  คุณตีทิ้งเลยจะไม่มีที่พึ่งนะ คุณก็จะอ้างว้างว้าเหว่  หมดทางไม่ได้ ต้องมีที่ พึ่งได้มากหรือน้อยก็แล้วแต่  แล้วเราก็ไม่ประมาททุก .0001ของวินาที

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก วันศุกร์ที่ 22พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 01 ธันวาคม 2562 ( 12:18:07 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:58:51 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:54:57 )

ถ้าคุณยึดว่าเป็นเราคุณเจ็บ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นการเรียนรู้พวกนี้แหละ เมื่อกี้นี้อธิบาย หัวใจ หทยรูป มันไม่ใช่ก้อนแท่งรูปหัวใจ ที่ถามมา แท่งก้อนหัวใจออกมานั้น อาตมาแยกกายแยกจิต ตั้งแต่เล็บ มันรู้ง่าย หัวใจก็คล้ายกัน เหมือนกัน หัวใจนั้นเป็นกายหรือไม่ใช่กายของเรา ถ้าเผื่อว่าหัวใจนั้น มันยังยึดว่าเป็นเรา คุณเจ็บ หากคุณไม่ยึดว่าเป็นเราแล้ว คุณไม่เจ็บ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง อยู่ข้างนอกเข้าใจได้ง่ายแต่หัวใจมันอยู่ภายใน ถ้าคุณไม่ยึดถือว่าหัวใจเป็นอวัยวะของเรา มันเป็นอุปกรณ์ที่เราอาศัยใช้สอยในร่างกายของเราเท่านั้น คุณไม่เจ็บ แต่ถ้าคุณยึดว่าเป็นเรา คุณเจ็บ ขนาดมันไม่ใช่เรา ลูกเรา ลูกเจ็บคุณเจ็บ เจ็บกว่าลูกด้วย อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:28:53 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 03:31:37 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:55:55 )

ถ้าคุณไม่ชอบทั้งศรัทธาและธัมมานุสารีคุณก็เป็นพวกวิริยาธิกะ

รายละเอียด

ทีนี้คุณจะเอายังไงก็ตามแต่คุณจะชอบ ส่วนคุณจะไม่ชอบอย่างไหนเลย จะเหลาะๆ แหละๆ ไม่เอาอย่างนั้นอย่างนี้ให้เด็ดขาด คุณไม่มีที่จบในตัวเอง นาน​ คนพวกนี้ก็เป็นคนพวกวิริยาธิกะ จะใช้เวลานานถึง 80 เท่า ถ้าเป็นปัญญาจะใช้เวลาประมาณ 20 หน่วย ส่วนศรัทธาเขาก็ใช้ความตรงของเขาจะใช้เวลานานถึง 40 หน่วย 40 เท่า ส่วนวิริยาธิกะ เหลาะๆแหละๆใช้ เวลาถึง 80 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป จะจบไม่จบแหล่ 

ก็ไม่เป็นไร อาตมาว่าก็ขอมองตามประสาอาตมาว่า ผู้ที่ใช้นามว่า เดชา อัมพร และโพสต์มาตลอดเวลา ก็ดีนะ ให้เราได้คิด ได้รู้ว่าโลกจินตา การคิดของชาวโลกมันสารพัดสารเพ จะคิดอะไรก็ได้ บ้าๆ บอๆ บวมๆ บางทีเราก็เหนื่อยเหมือนกันกับพวกที่ว่าบ้าๆบอๆ จะไม่โอภาปราศรัยเสียเลยก็ไม่ได้ ก็เลยพูดบ้าง

เอาละ สำหรับวันนี้ คุณเดชา อัมพร ก็ขอบคุณ ส่งมาอีกนะ มีแง่คิดอะไรดีๆ และคุณก็ศึกษาดีๆ ปฏิบัติด้วย แล้วหาสัมมาทิฏฐิให้เจอ แล้วก็มุ่งมั่นตามสัมมาทิฏฐิที่คุณแน่ใจ อันนี้มันบังคับกันไม่ได้ คุณก็ต้องเลือก คุณไปเลือกสัมมาทิฏฐิผิด คุณไปหลงมิจฉาทิฏฐิว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ อันนี้ก็ได้แต่สงสารเท่านั้นเอง ก็ขอให้คุณเลือกสัมมาทิฏฐิได้ถูกต้องนะ จบตรงนี้ก็แล้วกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อานาปานสติอย่างพุทธ ไม่มี
นัตถิกทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 สิงหาคม 2565 ( 18:29:48 )

ถ้าคุณไม่มีมรรคผล คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก

รายละเอียด

อาตมาชาตินี้พูดแล้วเหมือนยกตัวเองนะ อาตมาไม่ได้มีการได้รับชมเชยอะไรเลยในสังคม จนทุกวันนี้ มีพวกที่เข้าใจพวกคุณจะมาสรรเสริญ แล้วพวกคุณสรรเสริญอย่างจริงใจด้วย แต่คนทั้งหลายส่วนใหญ่ด้วยที่ตามืดตาบอดเขาไม่เห็นอาตมาอย่างที่พวกคุณเห็นหรอก นี่ด่าอาตมาอย่างนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไรหรอก พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้แล้วว่าในยุคนี้เป็นยุคเสื่อม 

ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นโลกุตระ ไม่มีแล้วในยุคนี้ อาณิสูตร อ้างอิงพระไตรปิฎกและอ้างอิงปรากฏการณ์จริงของพระพุทธเจ้าก็มีอยู่ เอ๊าะเจาะแค่นี้ ที่รู้ธรรมะโลกุตระของพระพุทธเจ้าและได้มรรคได้ผลก็มีแค่นี้ แล้วพวกเขาไม่เชื่อว่าพวกคุณมีมรรคผล ถ้าคุณไม่มีมรรคผลคุณอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก อยู่ได้ก็ยังทุกข์ทรมานอดทนอดกลั้นตาย เผ่นออกไปเผ่นออกมาอย่างเก่ง ดีไม่ดีก็เผ่นออกไปเลยไม่กลับมา หากว่าอยู่ได้ ก็อยู่ที่นี่แล้วสบาย ดีไม่ดีก็จะอยู่จนตายให้เผา เหลือตัวคนเดียวไม่ต้องมีใครไม่ต้องห่วงเลย พึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้จริง เห็นไหม สุดยอด พูดทีไรก็สุดยอด 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูตอบปัญหาผู้ชมทางบ้าน วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 12:40:21 )

ถ้าจับต้องได้ก็เป็นแบบเศรษฐศาสตร์

รายละเอียด

ใช่ ธรรมะของพระพุทธเจ้าจับต้องไม่ได้ ไม่มีตัวตนแสดง แสดงว่ายุคนั้นเป็นพุทธธันดร ไม่มีธรรมะพระพุทธเจ้า เศรษฐศาสตร์  รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ อย่างที่โลกเขาชัดเจนเหมือนกัน เขาก็รู้ ต้องได้อย่างนั้น มันสามารถที่จะรู้ได้อย่างนั้น 

สรุปแล้ว ทุกอย่างมี 2 เทวะ มีโพธิสัตว์ มีอรหันต์ เป็นต้น มีเจโต มีปัญญา อย่างนี้เป็นต้น เป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้น เราเข้าใจแล้วจะรู้ได้ว่า อ้อ.. สัทธานุสารี ธัมมานุสารี สัทธาวิมุติ  ทิฏฐิปัตตะ กายสักขี ปัญญาวิมุติ แล้วก็ถึงอุภโตภาควิมุติ  2 อย่างสมบูรณ์แบบ เจโตวิมุติ ต่อให้คุณมีวิมุติ อย่างไรๆ คุณก็ต้องเติมด้วยปัญญา ถึงจะเป็น อุภโตภาควิมุติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์คือด้านมืดเจโต โพธิสัตว์คือด้านสว่างปัญญา วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 11:32:59 )

ถ้าฉันทะไม่เกิด อโยนิโสนสิการเป็นอันหวังได้

รายละเอียด

อาตมาต้องอธิบายอีกนานเลย แม้แต่คำว่าฉันทะหรือยินดีในมูลสูตรข้อที่ 1 ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วคุณไม่เกิดจิตตัวที่เป็นความยินดี เป็นฉันทะเป็นมูลเป็นเค้าขึ้นมา จริงๆแล้วล่ะก็ คุณไม่มีทางที่จะศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้าไปตลอด ถ้าฉันทะไม่เกิด ฉันทะในสิ่งที่เป็นสัมมาทิฏฐิจริงๆไม่เกิด คุณมนสิการ คุณทำใจในใจอย่างนั้น คุณก็ทำใจในใจอย่างที่เป็นอโยนิโสมนสิการ อโยนิโสมนสิการทำใจในใจอย่างไรก็เป็นการทำใจในใจที่ผิดทางทั้งนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนถือศีล 5 ได้ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มกราคม 2565 ( 12:57:23 )

ถ้าชาติหน้ามีจริงหลวงปู่จะเกิดที่ประเทศไทยอีกไหม

รายละเอียด

เกิด หลวงปู่ไม่คิดจะไปเกิดประเทศอื่น หลวงปู่ฝังรากโลกุตระไว้ที่ประเทศไทยแล้วก็จะสืบสานต่อไปอีก ต้องบูรณาการ ทำพุทธศาสนาต่อไปอีกให้มันแข็งแรงให้มันมั่นคง ให้มันลึกซึ้งละเอียดครบให้ได้ดีกว่านี้ให้ได้ ยังไม่พอใจหลวงปู่ ทำมา 47 48 ปีแล้วก็ได้เท่านี้ ต้องทำต่อไปอีกจึงจะพยายามอายุยืนยาวอีก 67 ปี ถ้าจะทำให้มันมั่นใจ ตั้งใจจริงจะได้เท่าไหร่ก็อยู่ที่ความพยายาม

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 19:09:43 )

ถ้าชาติหน้าอยากเกิดเป็นผู้ชายต้องทำเช่นไร

รายละเอียด

ที่ว่า ”หากโยมได้เกิดเป็นผู้ชายจะขอบวชกับชาวอโศก” นี้ทิ้งไว้ อันนั้นเราไม่สามารถจะพูดต่อได้ มาพูดกันตรงที่ว่า ”ถ้าชาติหน้า อยากเกิดเป็นผู้ชาย จะต้องทำอย่างไรคะ” ถ้าคนที่เป็นผู้หญิงจะเกิดเป็นผู้ชายได้ ต้องมีธรรมะอันเป็น”ปุริสภาวะ” กันจริงๆ เพียงพอ จะค่อยเกิดได้ 

อันนี้เป็นประเด็นที่มีผู้หญิงไปทูลถามพระพุทธเจ้าอยู่เหมือนกัน พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ตรัสเรื่องว่าอยากเกิดเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่พระพุทธเจ้าท่านตรัสบอกว่าผู้หญิงก็บรรลุอรหันต์ได้ ก็จึงได้อนุญาตให้ผู้หญิงมาปฏิบัติแล้วก็มีภิกษุณีขึ้นมา 

เพราะฉะนั้นประเด็นที่จะเกิดมันเป็นเรื่องอจินไตยที่ยากมากเลย จะเกิดเป็นผู้ชาย อาตมาก็เคยอธิบายไปบ้างแล้ว คุณต้องสั่งสม เคยอธิบายละเอียดลออว่า  อย่าดัดจริตตัวเองเป็นผู้ชาย ทั้งๆที่คุณเกิดมาร่างนี้เป็นผู้หญิง ถ้าคุณดัดจริตทำแข็งๆ ทำอะไรๆ เหมือนผู้ชายนี้นะ คนก็เห็นว่ามันเป็นกระเทยนะ ไอ้พวกนี้มันทอมนี่หว่า อธิบายง่ายๆไม่ขยายความมากนะ มันก็ไม่ตรง มันก็ไม่เข้าท่า สำคัญที่จิตของเราต้องทำให้มีธรรมะเป็น ปุริสธรรม ปุริสะแปลว่าเพศชาย ปุริสธรรมเป็นธรรมะที่เป็นบุรุษ 

บุรุษนี้คืออย่างไร อิตถีภาวะ กับ ปุริสภาวะ 

ปุริสภาวะ คือลักษณะเพศชาย อิตถีภาวะ คือลักษณะเพศหญิง 

เพศชายคือ ลักษณะที่อธิบายกันตื้นๆง่ายๆ คือไม่ได้เป็นคนไม่รู้แล้ว ตุ้งติ้งๆ ไอ้โน่นไอ้นี่ไม่รู้จักรู้แล้ว ซ้ำซากอยู่อย่างนั้น วนเวียน นั่นแหละคือ อิตถีภาวะ ในภาวะพื้นๆง่ายๆ อย่าไปทำให้มันวุ่นวายมาก 

เป็นเรื่องที่รู้ความจริงตามความเป็นจริง อ้าว คนนี้เขามีลักษณะ อิตถีภาวะเยอะ เราก็ไม่ต้องไปตอแยมาก ไม่เช่นนั้นมันก็จะตอแยกันไปมา เราก็จะกลายเป็นอิตถีภาวะไปด้วย นั่นเป็นลักษณะที่ 1 

ลักษณะที่ 2 ปุริสภาวะ ท่านเรียกว่า เอกธรรม หรือเอกบุรุษ คือเป็นธรรมะที่รู้จัก 1 ทำความเป็น 1 ได้สำเร็จ ถ้าธรรมะเป็น 2 เรียกว่าคู่ เพราะฉะนั้น ผู้ใดที่ยังต้องพึ่งคู่ ยังผูกพันกับคู่ จะต้องมีคู่ ยังต้องมีคู่ พวกนี้คือ อิตถีภาวะ ทั้งนั้น ถ้าผู้ใดที่เลิกคู่ เดี่ยว จนกระทั่งสำเร็จ ไม่ต้องมีคู่ ไม่ว่าจะทำงาน ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ แม้แต่ที่สุดถึงขั้นต้องเสพรสคู่ ผู้ทำสำเร็จคือ”เอกะ”

ฉะนั้นจะเป็นผู้หญิงก็ทำ”เอกะ” ไม่ต้องเสพสัมผัสเมถุนกับผู้ชายอีกแล้วได้ ผู้นี้เริ่มต้นสะสมความเป็นเอกบุรุษ ตอบคำถามแล้วนะ ทำยังไงเป็นผู้ชาย อันนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ก่อน ก็บรรลุอรหันต์ชาตินี้ให้ได้ ผู้หญิงรู้ว่าตัวแพ้ผู้ชายนะ แต่ไม่ยอมแพ้ นี่ก็เป็นอารมณ์ผู้หญิงที่เกิดประกอบอยู่ 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #47 อโศกมีแค่แสนจะสืบแก่นศาสนาได้อย่างไร วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ขึ้น 8 ค่ำ วันพระน้อย เดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 มีนาคม 2567 ( 16:17:04 )

ถ้าดับเหตุทุกอย่างก็ดับไม่เกิดอีก 

รายละเอียด

ตายไปแล้วไม่มีใครรู้ว่าจะไปที่ไหนอย่างไรได้ พระพุทธเจ้าบอกว่าให้มาเรียนที่จิตวิญญาณตอนเป็นเลย เรียนรู้ตรงที่ว่า อะไรมันพาให้เกิด พาให้ตาย เวียนวนไปไม่รู้จักจบนั่นแหละ คติทั้ง 10 อย่าง มันต่างกันไป เถียงกันไปไม่มีใครตัดสิน มาศึกษาฝึกฝนเลยว่า แล้วเหตุที่มันพาเกิดพาตายอยู่นี่ แล้วจะมีที่ไม่ต้องตายไม่ต้องเกิดไหม จบได้ไหม พระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ว่า ถ้าดับเหตุ ทุกอย่างก็ดับ ไม่เกิดอีก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สังขารกับการเวียนว่ายตายเกิด


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 14:39:51 )

ถ้าทักษิณมีดวงตาทางธรรมจะไม่มีผลวิบากนี้

รายละเอียด

นี่แหละคือผลวิบากกรรมที่ทักษิณทำและออกผลให้เห็น ถ้าคนมีปัญญา มี
ดวงตาทางธรรม จะเห็นว่าทักษิณทำตัวเองที่เป็นเช่นนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 ตุลาคม 2565 ( 12:43:25 )

ถ้าทักษิณยังไม่ตายไม่มีวันหยุด

รายละเอียด

คืออาตมาว่า ถ้าทักษิณ ขออภัยพูดตรงๆถ้าทักษิณยังไม่ตาย อาตมาว่าแกไม่หยุดหรอก 

1. แกหมดทรัพย์ หมดแรง หมดอำนาจที่จะมายุแหย่ให้คนอื่นด้วยอำนาจเงินอำนาจคนหลง คนหลงทักษิณก็ยอมสู้ตายด้วยไม่ต้องให้เงินก็ได้ตายแทนได้ก็เขาก็ทำ ก็เป็นธรรมชาติธรรมดาของคน ที่หลงยึดติดหลงยกย่องกัน ก็เป็นไป แต่เห็นได้ว่าโรยราลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีพวกที่คิดว่า ถ้าทักษิณตายไปข้าจะแทนทักษิณ จะพยายามเป็นตัวตายตัวแทนก็มีอยู่บ้าง ก็แอคอาร์ทกันไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 19:00:16 )

ถ้าทักษิณไม่โกงจะไม่เป็นมนุษย์เร่ร่อนไร้แผ่นดินอยู่

รายละเอียด

เอาแต่แค่ข้อ ถ้าทักษิณไม่โกงชีวิตจะเป็นอย่างนี้หรือ ถ้าไม่โกงก็จะไม่ถูกพิพากษาลงโทษ ถ้าไม่โกงก็จะไม่เป็นมนุษย์เร่ร่อน ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ถ้าไม่โกงก็ไม่ต้องโอดครวญ อยู่อย่างที่เป็น 

เพราะฉะนั้นก็เกิดจากคำว่า “โกง” คำเดียว ที่มันเป็นทุจริตกรรมที่ส่งผลให้เห็นชัดเจนที่สุดเลย ชัดเจนมาก คุณมีเงินคุณมีเครื่องบินส่วนตัว มีปราสาทที่มาซื้อไว้หลายหลัง ไปพักบ้านไหน แบบโลกๆ ประโลม รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสแบบโลกๆได้หมดแต่จิตของคุณมันนรกกินหัวร้อนรุ่ม ไม่ได้เป็นอยู่สุขเลย มันไม่ได้เป็นคนที่อยู่อย่างสงบสบายไปได้เลยทักษิณ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 ตุลาคม 2565 ( 12:38:43 )

ถ้านักบวชอาศัยอยู่กับชุมชนจะเป็นเหมือนพราหมณ์มหาศาลใช่ไหม

รายละเอียด

ใช่ ถ้าโง่ ถ้าอวิชชา ก็จะหลงไปกับความมหาศาลของลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข สุขทางกามและอัตตา เขาจะไม่รู้ความเป็นกามที่เสพติด ไม่รู้ความเป็นอัตตาที่เขาเสพติด เขาก็จะบำเรอ เขาก็จะเป็นผู้มีมหาศาลในลาภยศ ในสรรเสริญ ในสุข ที่บำเรอ กาม สุขที่บำเรออัตตา เขาก็ไม่รู้ทั้งนั้น เขาจะมีมหาศาลหมดเลย เป็นพราหมณ์มหาศาลในยุคพราหมณ์ เป็นพระมหาศาลในยุคนี้ ซึ่งเราเห็นว่ามันผิด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 21:48:33 )

ถ้านานาสังวาสแล้วห้ามฟ้องร้องอธิกรณ์กัน

รายละเอียด

ทางธรรมวินัยสู้ไม่ได้เขาก็เอากฎหมายโลกมาเล่นงานเราอีก มันผิดธรรมวินัยเลย ถ้านานาสังวาสแล้วห้ามฟ้องร้องกันอธิกรณ์กัน แต่นี่ไปฟ้องร้องถึงศาลคฤหัสถ์ แล้วคฤหัสถ์จะเอาอะไรมาตัดสินธรรมวินัยของพระภิกษุดูแล้วตลกๆ ดูแล้วท่านไม่เดียงสาจริงๆ ขออภัย ที่ต้องพูด แต่เราก็ยอมทุกอย่าง เอาล่ะ พูดไปก็เป็นการฟื้นฝอยหาตะเข็บเปล่าๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 13 ธันวาคม 2563 ( 17:06:16 )

ถ้าปฏิบัติถูกต้องจะเกิดองค์คุณ 5 ของอุเบกขา 

รายละเอียด

คุณสมบัติที่พระพุทธเจ้าท่านใช้พยัญชนะเรียกสภาวะที่ถ้าปฏิบัติถูกต้องตามพระพุทธเจ้าแล้ว จะเกิดองค์คุณ 5 ของอุเบกขา 

อาตมามีสภาวะจึงได้อธิบายให้พวกคุณฟัง โดยหยิบสภาวะมาอธิบายเป็นภาษาไทยฟังง่ายๆ มากกว่าเขาที่จะพยายามสรุปคำแปลไว้สั้นๆ อาตมาขยาย มีพลความมากมาย ขยายสู่ฟังสภาวะนั้น ๆ

เพราะฉะนั้นผู้ที่มีการปฏิบัติโดยมีปัญญา มีสติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ อ่านแยกแยะ รู้ตัวสภาวะ รู้พยัญชนะ ก็จะสามารถขยายความ เอาพยัญชนะที่มีที่รู้ เป็นอธิวจนสัมผัสโส เป็นภาษาที่มีคำพูดตั้งชื่อแล้ว แต่ถ้ากระทบสัมผัสได้ยังไม่ตั้งพยัญชนะ เอาที่ตั้งพยัญชนะแล้วมาพูดก็พอ ไม่ต้องไปตั้งใหม่อีก พระพุทธเจ้าท่านตั้งไว้ครบแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้สภาวะของรูป 28 สู่ความเป็นอรหันต์ วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 19:21:16 )

ถ้าปัญญาจริงมันต้องมีธรรมฤทธิ์ที่จะชนะกิเลสแน่นอน

รายละเอียด

ใช่ กิเลสมันไม่ใช่ของจริง มันเจอไฟพลังงานฌานเผา มันเจอของจริงแล้วมันไปเลย อาตมาก็พูดเป็นพยัญชนะ กิเลสมันไปเจอปัญญา มันบอก “เฮ้ย! ปัญญารู้จักเราแล้ว”  มันวิ่งหนีหูตูบเลย ก็พูดไม่รู้กี่ทีแล้ว พูดเป็นภาษาได้ขนาดนั้น มันมีธรรมฤทธิ์จริงๆ ปัญญานะ มันก็ยังเล่นเจ้าล่อเอาเถิดอยู่นั่นแหละ กิเลสมันก็หลอกล่อเล่น ลูบหัวปัญญา มันไม่ใช่ปัญญามันเป็นของเก๊ ถ้าปัญญาจริงมันต้องมีธรรมฤทธิ์ ที่จะชนะกิเลสแน่นอน พยัญชนะก็เอาใช้อาศัย ค้องเป็นสัจจะของจริง ไม่ใช่ของจริงพูดไปมันก็ผิดสิ มันต้องเป็นสัจจะของจริงว่าปัญญาธาตุมีธรรมฤทธิ์เอาชนะกิเลสได้ ใช้พยัญชนะพระพุทธเจ้ามาเรียกว่าปัญญา มันต้องเป็นของจริง 

เพราะฉะนั้น เฉโก สายเทวนิยมไม่มีความรู้ขั้นปัญญาหรอก อาตมาอธิบายแยก เฉโกหรือเฉกะ เฉกา กับ ปัญญานี้ ให้ฟัง ฟังยังไงเขาก็ฟังไม่ออก ฟังยังไงก็แยกไม่ชัด ถ้าคนที่ฟังมีปฏิภาณดีๆ ฟังชัดแล้ว เฉกะ คือ ฉะ กับ เอกะ  ฉะคือ 6 คุณไปทำ 6 ให้เป็น 1 ส่วนปัญญานั้นเป็นธาตุรู้ที่ครบ คือ ป ปะ กับ อัญญะ อัญญาเป็นพหูพจน์ ออกไปกว้างขวาง แต่ไอ้นี่ไปทำของเขาจากมากให้เป็น 1 ต้องรู้ครบ 6 ทวาร คุณกลับดันไปทำให้เป็น 1 แต่ปัญญานั้นอย่าว่าแต่ 6 เลย 6 เป็นฐานอยู่แล้ว และสามารถที่จะรู้ออกไปอีกครบครันทั้งหมดเลย เป็นอื่นๆอีก มี อัญญา อัญญะ รู้โลก รู้กว้างจักรวาลเลยเป็น โลกวิทู ซึ่งมันเป็นคนละทิศคนละทางเลย

นี้อาตมาอาศัยพยัญชนะมาขยายความตามประสาอาตมา อธิบายอย่างสภาวะเอามาขยายความ ไม่ใช่อธิบายขยายความอย่าง ไวยากรณะ คุรุกรณะ ที่คุณไปมีความรู้อยู่แต่ในกรอบของไวยากรณ์ วจีวิภาค วากยสัมพันธ์ ฉันทลักษณ์ คุณไปอยู่แค่นั้นแหละ แต่อาตมาพูดถึงสัจจะ ที่คุณทิ้งแล้ว ที่คุณลืมไป ไปอยู่แต่กรอบความรู้แบบใหม่ที่เป็นคำสอนของอันอื่น เป็นคำสอนของการผสมปรุงแต่งออกนอกรีต มันไม่เข้าหาเนื้อแก่นแล้ว  เขาเข้าใจไม่ได้ ก็ว่าไป  ถ้าเข้าใจแม้แต่คำว่า เฉโก หรือ เฉกะ หรือ เฉกาเป็นพหูพจน์ กับ ปัญญา หรือปัญญะ  ปัญญัง เข้าใจความแตกต่างของคนละโลก  เฉกะมันแค่โลกียะ ปัญญาเป็นโลกุตระ  แต่เขามาคว้าเอาพยัญชนะปัญญาไปเรียกความรู้เฉโกของเขา อย่างหน้าตาเฉย เอาไปใช้เฉยๆ เอาไปเรียกเล่น ขี้โกง 

คล้ายๆกับคุณเอาเงินบาทไปแทนเงินปอนด์ของอังกฤษ มันก็สับสนปนเปเละเทะ มันก็ผิดของเขา ค่าของมัน คำว่า ปัญญา มันมีค่าของมันเหมือนเงินปอนด์ อย่างนี้เป็นต้น คุณเอาเงินที่มันต่ำค่ากว่าเงินปอนด์ แม้เงินบาทหรือเงินอะไรก็แล้วแต่ไปเรียกสับสน คุณก็หลอกชาวโลก มันก็เป็นความหลอกกันอยู่อย่างนี้ ในพยัญชนะหรือไปใช้มันไม่จริงกัน คนที่สามารถรู้สภาวธรรมตรงกับพยัญชนะแท้ๆเดิมๆที่พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติ คนนั้นดึงเอาสัจจะคืนมาได้ แต่ถ้าเพี้ยนไปตามที่มันปรุงแต่งกันไป เหมือนอย่างพระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าโลกุตรธรรมสูญไป เหมือนกลองอานกะ เหมือนเอาของใหม่ ไปฟังธรรมะหรือฟังคำที่ปรุงแต่งร้อยเรียงเป็นคำไพเราะ ซึ่งหนีไกล เป็นของปลอม เป็นของไม่จริง เอาธรรมะคำสอนใหม่ๆมาร้อยเรียงเป็นคำไพเราะ ซึ่งเป็นโลกียะ มันไม่ใช่ของจริง เป็นกลองอานกะปลอมๆ เปรียบเป็นคำสมัยใหม่ 

อาตมาดึงเอาคำสมัยเก่ารากฐานของพระพุทธเจ้ามายืนยันอ้างอิงพระสูตรต่างๆ อาตมาว่า จะมีใครนะ อธิบายธรรมะอ้างอิงสูตรนั้นสูตรนี้ เล่มนั้นเล่มนี้ ข้อนี้ข้อนั้นอย่างอาตมา เหมือนดัดจริตที่จะทำอวดเก่งนะ แต่อาตมาที่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่า คุณน่ะกอดพระไตรปิฎกอยู่ แต่คุณไม่ได้พระไตรปิฎก อาตมาถึงบอกว่าคุณกอดพระไตรปิฎกนั้นดีแล้ว เข้าให้ถึงพระไตรปิฎกสิ มันโชคดีมากแล้วที่สังคมยุคนี้มันยังมีพระไตรปิฎกเป็นหลักฐาน แล้วอย่าไปฉีกทิ้งเหมือนอย่างท่านพุทธทาส บอกว่าให้ฉีกทิ้งไปตั้ง 60% ซึ่งท่านเข้าใจไม่ได้แล้วบอกมันผิด ท่านเข้าใจไม่ได้แล้วก็ไปดูถูกว่าคนอื่นเอาของไม่จริงบรรจุเข้าไป ใครจะไปบรรจุเข้าไปได้มากมาย จริง มันอาจจะมีเพี้ยนๆ ผิดไปบ้าง 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #37 ฌานเป็นพลังงานปัญญาล้านองศาเผากิเลส  วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 9 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2566 ( 16:47:00 )

ถ้าผิดวินัยมีบทลงโทษ แต่ถ้าหากผิดศีลไม่มีบทลงโทษ

รายละเอียด

เรามีกรณีไปวางระเบิดใคร คุณคนนี้ไปเอาข้อมูลมาจากไหน ก็ขอยืนยันว่า คำว่ากฎระเบียบวินัยหรือศีลเป็นหลักเกณฑ์ หลักเกณฑ์ที่ไหนเขาก็ต้องมีใช้ แล้วหลักเกณฑ์ที่คนใช้กัน มันมีหลักเกณฑ์ที่มีนัยยะสำคัญ 2 อย่าง 1 หลักเกณฑ์อย่างบังคับกันเลย มันก็เป็นธรรมชาติ สภาพบังคับหรือมีเกณฑ์บังคับ กฎเกณฑ์ที่บังคับกับกฎเกณฑ์อีกอย่างไม่บังคับเลยคือเป็นศีล ศีลกับวินัยนั้นวินัยมีการบังคับถ้าผิดวินัยมีบทลงโทษ แต่ถ้าหากผิดศีลไม่มีบทลงโทษ ใครจะผิดศีลก็ผิดของใครของมันตามวิบาก คุณจะดีไม่ดีอยู่ที่วิบากจัดสรร ศีลไม่มีใครตัดสิน ไม่มีใครมาปรับอาบัติ ศีลไม่มีบทลงโทษเป็นสมมติสัจจะ ศีลเป็นปรมัตถ์สัจจะ ถ้าหากปฏิบัติถูกก็ได้ความถูกนั้นมันเป็นสัจจะ ส่วนกฎเกณฑ์ที่เป็นสมมติสัจจะของโลก อย่างอโศกเรามีกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์อย่างต่ำที่สุดถ้าใครจะเข้ามาอยู่ในที่นี้ ต้องไม่กินเนื้อสัตว์ ประพฤติศีล 5 จะบรรลุหรือไม่บรรลุต้องมาปฏิบัติกายวาจาตามสิ่งที่สมมติจะต้องทำกันได้ แต่ใจนั้นคุณจะบรรลุหรือไม่บรรลุก็เป็นส่วนตัวของคุณ นอกนั้นสูงไปกว่านั้นอีก หากคุณทำอันนี้ได้จะรู้ว่าเพิ่มอธิศีลอย่างไร ศีล สังเคราะห์ต้นถือว่าเป็นหลัก ถ้าคุณจะเข้ามาก็ต้องทำตาม แต่ถ้ามาแล้วละเมิดเละเทะเขาก็ไม่ให้อยู่ ซึ่งเป็นสิทธิ อาตมานั้นก็คิดได้ว่าชาวอโศกนี้ ทำไมมันไม่เหมือนกับที่อื่น หมู่บ้านที่อื่นเขาไม่ต้องซื้อพื้นที่นะ แต่ชาวอโศกที่ต้องมาซื้อหมดเลยต้องจ่ายสตางค์ซื้อพื้นที่ของหมู่บ้าน เห็นไหม อาตมาก็ไม่อ๋อเลย ก็นึกอยู่ทำไมพวกเราถึงอาภัพจังเลยทำไมหมู่บ้านอื่นไม่ต้องซื้อที่เขาก็มีเขตพื้นที่หมู่บ้านของเขาเอง เป็นพื้นที่ส่วนตัวหรือพื้นที่สาธารณะแต่ของชาวอโศกไม่ต้องมาซื้อ แถมมีที่สาธารณะคนอื่นเขาก็มาบุกรุก เราจะไปใช้อาศัยที่สาธารณะนั้นก็ไม่ได้หน่อย ไปโน่นเลย เออ อโศกนี่มันถูก แหม จะต้องเสียสละ สุดยอดเลย แม้แต่ที่ที่เรามีต้องหาสตางค์ซื้อมาเป็นที่ส่วนกลางไม่เป็นที่ของใครด้วยเป็นของสาธารณะเป็นของทุกคน แต่ต้องซื้อจากอะไรอื่นของเขา แต่เราก็ไม่มีปัญหาเราก็ยินดีใช้อาศัยเป็นประโยชน์ แต่ต้องทำขนาดนั้นนี่คืออโศก ทดสอบยิ่งใหญ่

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 17:13:34 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 07:11:18 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:57:13 )

ถ้าพวกหลับตามาปฏิบัติจรณะ 15 วิชชา 8 ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว

รายละเอียด

อาตมาก็สบายใจที่อธิบายธรรมะ โดยเฉพาะพุทธคุณคือวิชชาจรณะสัมปันโน มีผู้รับรู้ได้แล้วก็กลับมาเห็นจริงเห็นจัง เลิกสิ่งที่เป็นมิจฉาทิฐิสิ่งที่ผิด เช่นพวกหลับตา แล้วก็มาปฏิบัติจรณะ 15 วิชชา 8 อาตมาประสบผลสำเร็จแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้สภาวะของรูป 28 สู่ความเป็นอรหันต์ วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 18:28:25 )

ถ้าพ่อครูจะไปจริงบอกล่วงหน้าสัก 2-3 เดือนได้ไหม

รายละเอียด

ไม่ได้ มันไม่รู้จะวินาทีไหนได้ นาที วินาที บอกเป็นเดือนเป็นวันไม่ได้ บอกได้เป็นวินาที เป็นนาที มันจะบอกไม่ทันเอาไม่ทันวินาทีเอาด้วย 

สมณะเดินดิน... แต่ดูกำลังของพ่อครูอย่างทุกวันนี้น่าจะไปได้อีกหลายเดือนในความรู้สึกของผมนะครับ 

ความรู้สึกของคุณไม่ใช่ความรู้สึกของผม อย่างนี้ก็ไม่รู้จะว่ายังไง เอาละไม่ต้องพูดถึงอันนี้หรอก พูดแล้วนี่นะ พวกเราจะเศร้าหมองไม่เบิกบานร่าเริง  เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องพูดถึงเรื่องเหล่านี้ดีกว่า มันจะเผชิญ แล้วเราเผชิญแล้วพยายามเรียนรู้ต่อสู้กับความจริง ถึงเวลาวาระจริงเผชิญกับมัน มันจะได้อย่างนั้น 

อ้าว มีอะไรใครจะถามจะอะไรต่ออะไรก็ว่าไปเท่าที่มันจะพอมีเวลา มีแรง มีเวลากับแรง เวลามันก็คือของจักรวาล มีแรงก็คือของเรา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 48 วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2567 ( 19:50:24 )

ถ้าพ่อครูต่ออายุไปได้อีก 18 ปี นามกับรูปก็จะสมบูรณ์แบบ

รายละเอียด

ถ้าหากอาตมาทำงานศาสนาไปอีก 20 ปี ตอนนี้ทำงานมา 52 ปีแล้ว ถ้าหากไปอีก 18 ปี ก็เป็น 70 อาตมาจะต้องมีอายุไปอีก 18 ปี นามกับรูปก็จะสมบูรณ์แบบที่สุดเลย ต้องอยู่ให้ได้อีก 18 ปี บวกตอนนี้แล้วก็จะอายุ 106 ปี 

ถ้าลากสังขาร ไปถึงอายุ 106 ปี อาตมาว่า เมื่อนั้น ไม่ต้องพูดอะไรมาก คิดว่าในเมืองไทย คงไม่ต้องพูดอะไรมาก ทุกวันนี้ก็เงียบกันหมดก็ไม่ค้านแย้ง แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ยังรับไม่ค่อยได้ แต่อาตมายืนยันด้วยพระไตรปิฎก ยืนยันด้วยหลักฐานต่างๆ เขาก็เลยไม่ได้ค้านแย้งไม่ได้เถียง 

แม้ว่าบัญญัติตัวเดียวกัน อาตมาอธิบายอย่างอาตมา ยกตัวอย่างเช่นคำว่า กาย คำว่า บุญ คำว่า ฌาน คำว่า สมาธิ เป็นต้น แม้แต่คำว่า ศีล คำว่า อปัณณกปฏิปทา 3 เขาก็อธิบาย อย่างเขา อาตมาก็อธิบายอย่างอาตมา มันชัดกว่ากันเยอะ มันจริงกว่ากันเยอะ แล้วมันพิสูจน์ได้ด้วย แล้วมันจะยากกว่าแน่ แต่มันก็จริงกว่า มันประเสริฐกว่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แผนผังการกอบกู้โลกุตระของพ่อครู วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 18:53:38 )

ถ้าพ่อครูปิดทองลูกนิมิตจะเป็นอย่างไร

รายละเอียด

เช่น ปิดทองลูกนิมิต เป็นต้น อาตมาได้ทองมาจาก ยิหวา เขาเอาทองมาให้อาตมาก็พูดเล่นไปว่า ลูกนิมิตทองสีเหลืองเอาไปปิดทอง เขาก็เอามาให้ อาตมาก็เลยเห็นว่ามีทอง ก็พูดเล่นๆ ก็เลยเกิด พูดกันว่าจะปิดทองกัน อาตมาปิดทองขึ้นมารับรองเป็นเรื่องเลยนะ ติ๊กต๊อกมันเอาไปลงได้เลยนะ เป็นเรื่องเลย ด่าเขา แล้วตัวเองก็ปิดทองอะไรอย่างนี้ 

อาตมาไม่ได้ไปปิดทอง ก็เลยคิดว่า ตายๆๆ เกิดไปเล่นๆติ๊กต๊อกกันไปคงจะเป็นเรื่องอะไรก่อน ก็บอกโอ้ โพธิรักษ์ก็ปิดทอง ยุ่งเละ เสียหายหมด เพราะฉะนั้นก็บางทีพูดเล่นเปรยกันสนุกๆ ก็ไปยึดถือว่าเป็นเรื่องจริง มันก็บางทีก็พาเสียเหมือนกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมส่งท้ายปีเก่า 2565 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 มกราคม 2566 ( 14:11:48 )

ถ้าพ่อครูผิด กระแสหลักถูกพ่อครูจะอยู่ได้ถึงป่านนี้หรือ

รายละเอียด

ก็เราไม่ได้ทำเล่น เราทำจริงจะไปทำเหลาะแหละทำไม มันเป็นสัจธรรมที่เป็นหนึ่งเดียว เป็นแล้วเป็นเลย แล้วยิ่งเห็นจริงว่า ธรรมะพระพุทธเจ้าที่เป็นโลกุตระธรรมดังที่กล่าวมานี้ เป็นธรรมะที่ชาวโลกเขาไม่ค่อยรู้เรื่องไม่ค่อยเข้าใจ ชาวพุทธที่บอกว่าเป็นอาจารย์เป็นปราชญ์ทางศาสนาพุทธก็ยังไม่ทราบซึ้งโลกุตรธรรมอย่างที่ว่า อาตมานำเอาเนื้อแท้ๆของศาสนาพุทธมาเปิดเผย ได้ยืนยันว่าพุทธต้องเป็นอย่างนี้ ผู้ที่เป็นปราชญ์ผู้รู้ทางศาสนาที่เป็นเจ้าแห่งความรู้อยู่เลย ฟังแล้วก็ขัดแย้งกับเขา บางคนสอนมา 20 30 40 50 โพธิรักษ์มาโผล่ขึ้นมาขัดแย้งกับเขา มันก็เลยต้องแย้งๆๆๆ ก็เกิดเหตุการณ์ เห็นความเป็นจริงที่มันเกิด ก็เอามาเป็นเครื่องยืนยันชี้แย้งว่า ศาสนาพุทธที่เข้าใจกันและก็ยึดถือการปฏิบัติการ เราก็เข้าใจอย่างหนึ่งเขาก็เข้าใจอย่างหนึ่ง ขัดแย้งกัน จึงเห็นว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่แล้ว ถ้าอาตมาผิด กระแสหลักที่เขายึดถือกันอยู่นั้นถูก ป่านนั้นอาตมาม่อยกระรอกไปนานแล้ว ไม่สามารถเชื่อมโยงมาจนถึงป่านนี้ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 11:57:12 )

ถ้าพ่อครูอายุเกิน 100 ปีคนจะเชื่อมากขึ้น

รายละเอียด

ถ้าหากอาตมาอายุเกิน 100 ปี แน่นอน คนจะเชื่อมากขึ้น เกินร้อยมากขึ้นเรื่อยๆไปถึง 108 ปีอาตมาบอกแล้วอาตมาจะตายตอน 72 ปีมันก็จะเพิ่มไปอีก 3 นักษัตร ฝืนสังขารต่อไปอีกตั้ง 36 ปี เมื่อ 108 ปีแล้วดูสิ สังขารร่างกายของอาตมาจะเห็นว่าไปได้กี่ปี แต่ถ้าไปถึง 108 ปี สบายอยู่ก็จะไปถึง 120 ปีมันก็จะเห็นก็จะพอรู้ ก็ว่ากันไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:32:16 )

ถ้าพ่อครูไม่ด่าในประเทศไทยก็ไม่มีใครกล้าด่าแล้ว

รายละเอียด

จริงถ้าอาตมาไม่ด่าก็ไม่มีใครกล้าด่าแล้ว เพราะด่าอย่างไรก็ไม่ถึงจุดที่เขาเสื่อม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 07 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:59:54 )

ถ้าพ่อครูไม่พูดก็ไม่มีใครได้รู้สิ่งที่ควรรู้

รายละเอียด

คนนี้ลึกซึ้งมาก รู้ว่าอาตมาพูดในสิ่งที่ถ้าไม่มีอาตมาพูดก็ไม่มีใครได้รู้สิ่งที่มันควรรู้ อันนี้ก็จริง ไม่ใช่อาตมาหลงตัวเองหรอกแต่อันนี้เป็นเรื่องจริง ไปตรวจสอบดูเถอะ มากมายเยอะแยะหลายเรื่อง ซึ่งคนจะตรวจสอบไปอีกในอนาคต ตรวจสอบว่าที่อาตมาพูดและเขียนไว้ต่างๆนี่ เขาจะค่อยๆรู้ทีหลัง อาตมาตายไปนั่นแหละเขาจึงจะยกย่องอาตมา อาตมายังไม่ตายพอรู้ตัวบ้างแค่ไหนก็เอาเถอะค่อยๆดูไป แต่อาตมาตายไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่พูดอย่างหลงตัวเอง อาตมามั่นใจว่าอาตมาเป็นโพธิสัตว์ สืบทอดความรู้เหล่านี้มาจากพระพุทธเจ้าจริงๆ ซึ่งท่านตรัสรู้สุดยอดในโลกสุดยอดในสรรพสิ่ง แล้วก็เอามาให้คนรับรู้ทำสิ่งสุดยอดนี้ไว้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน

วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 19:56:59 )

ถ้ามนุษย์ไม่ลดกิเลสกู้ประเทศไม่ได้

รายละเอียด

จะเป็นการศึกษาการให้ความรู้ การนำพาสังคมประเทศชาติ ให้มนุษย์ให้พลเมืองสมาชิกของสังคม ลดกิเลสไม่ได้ จะเป็นความรู้จะเป็นการบังคับ จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่มนุษย์จะฉลาดเอามาใช้ ถ้ามนุษย์ไม่ลดกิเลส กู้ประเทศไม่ได้ กู้ได้ก็ชั่วคราว วนเวียนไปไม่แล้วไม่จบหรอก แต่ถ้าเผื่อว่าลดกิเลส มีหลักการละกิเลส แล้วมนุษย์หรือสมาชิกของประเทศของสังคมนั้นลดกิเลสได้ รอด  อยู่รอด

ก็มาที่ถ้าไม่ลดกิเลสกู้ประเทศไม่ได้ แม้คุณจะกู้ประเทศได้ คุณก็ต้องไปเอาเปรียบคนอื่นมาอีก ถ้าลดกิเลสได้จะไม่เห็นแก่ตัว จะเสียสละต่อผู้อื่นจริงๆ ให้ผู้อื่นมากขึ้นตนเองมีน้อยลง จนไม่เบียดเบียนตนเอง พออยู่พอกิน มีส่วนเหลือที่จะเผื่อแผ่คนอื่นเท่านี้จบเลย แล้วจะเป็นผู้ที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่นทุกชาติๆ  มีความจริงอันนี้ช่วยสังคมประเทศชาติตลอดกาลตลอดไป ประเด็นจึงมาอยู่ที่ว่า ทำอย่างไรจะลดกิเลสได้ นี่ตัวหลักใหญ่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12
ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันที่ 18 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:09:39 )

ถ้ามีกิริยาเซื่องๆคืออรหันต์ จริงหรือ

รายละเอียด

อาตมารู้ว่าคนเขานึกว่าอย่างนั้น เพราะฉะนั้นตอนแรกๆที่อาตมาออกบวชอาตมาถึงทำช้าๆสุขุม คนชอบมากเลย บอกว่าอย่างนี้ใช่ๆ พอเขาเห็นว่าใช่ๆ แล้วอาตมาก็ต้องค่อยๆใส่โอสถเข้าไปในขุมขนไปเรื่อยๆ แล้วอาตมาก็กลับฟื้นสูงสุดคืนสู่สามัญมาเป็นคนแบบอาตมา ว่าอรหันต์จริงๆต้องแบบอาตมานี้​ปราดเปรียว แคล่วคล่องว่องไว แม้จะเกือบ 90 แล้วนะ อาตมาอายุครบ 88 ปีเต็ม เมื่อ 4 มิถุนายน และเต็ม 89 ใน วันที่ 5 มิถุนายน 2566  ย่างเข้า 90 ปี อาตมา เกิด 5 มิถุนายน 2477 

มันก็ยังแคล่วคล่อง ว่องไว ปราดเปรียว เพราะอาตมาพยายามชะลอายุ ฝืนอายุขัย มันก็ยังเป็นได้ ใช้อิทธิบาทของพระพุทธเจ้า ใช้สัจธรรมของพระพุทธเจ้าช่วยทั้งด้านจิตและทางด้านกาย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบคนมืดบอดให้เห็น ผลงาน 8 ปี นายกฯลุงตู่ วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566 แรม 6 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2566 ( 11:31:17 )

ถ้ามีความเชื่อถือจะเห็นง่ายว่าชาวอโศกคือมนุษย์ประเสริฐ

รายละเอียด

ยิ่งคนตาบอดจะไม่เห็นเลยว่าอโศกคืออะไร คนตาดีจะรู้ว่ามนุษย์ควรจะเป็นอย่างนี้ควรจะมาเป็นคนประเสริฐอย่างนี้นี่คือมนุษย์ประเสริฐ ชาวอโศกคือมนุษย์ประเสริฐ เขาฟังธรรมะแล้วก็จะหมั่นไส้ ว่าเรายกย่องตัวเอง แต่อาตมาพูดความจริงเท่านั้น ไม่มีปัญหา อาตมาไม่มีจิตที่จะมาอวดอะไร ไม่มีสาเฐยจิต มีแต่จิต ทำความจริง พูดความจริงแสดงความจริงออกไปให้ปรากฏ ไม่มีจิตที่จะทำสิ่งเหล่านั้นไม่ตรง ทุกอย่างตรง กายกรรมก็ตรงๆซื่อๆ แต่เขาเองเขามีความไม่เชื่อ เขาจึงไม่เห็น ถ้าเขาเชื่อจะเห็นง่าย ถ้าคนมีความเชื่อถือจะเห็นง่ายอย่างพวกคุณมีความเชื่อถือก็เห็นง่าย ตามบารมีของแต่ละคนแต่ละฐานะ ก็จะเข้าใจว่ามีความจริงใจจริงกาย อาตมานี่ ไม่มีความซ่อนแฝงอะไร จริง เปิดเผย อาตมานี้สุดยอดของดารานู้ด ไม่เหลืออะไร เปิดเผยหมด เกลี้ยงเกลา

ที่มา ที่ไป

ธรรมะรับอรุณโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันพฤหัสบดีที่ 31ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:24:28 )

ถ้ามีญาติต่างชุมชนมาพักดูแลสุขภาพ

รายละเอียด

ไม่เห็นจะต้องจ่าย ช่วยกันดูแล หรือคุณจะมีน้ำใจให้เขาเล็กน้อยพอสมควรอะไรต่ออะไรก็ว่าไป แล้วคนที่จะรับสินจ้างอีก ก็ควรจะต้องฝึกตน ช่วยกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ พึ่งแก่พึ่งเจ็บพึ่งตายกันได้ เราฝึกกันอยู่แล้ว แสดงว่าคนนี้ใหม่นะก็ค่อยๆศึกษาไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาปฏิบัติเป็นลำดับอย่างไม่กดข่ม วันพุธที่ 16 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 มีนาคม 2565 ( 05:27:12 )

ถ้ามีผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่ตราบใด โลกไม่ว่างจากพระอรหันต์ 

รายละเอียด

มันตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้เอามาประกาศ แล้วเราก็ยืนยันความเป็นจริง ที่พระพุทธเจ้าประกาศว่า ถ้ามีผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่ตราบใด โลกไม่ว่างจากพระอรหันต์ 

หมายความว่าจะต้องมีพระอาริยะโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ในสังคมที่มีการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ตราบนั้น ยืนยันอะไร พิสูจน์ยืนยันธรรมะของพระพุทธเจ้า เราเป็นจริง แต่คนอื่นเขาเข้าใจผิด เขามิจฉาทิฐิแล้วเขาจะไม่เข้าใจหรอกว่า อรหัตตผล หรือโสดาบัน สกิทาคา อนาคาฯนั่นคืออย่างไร ของอโศกนี้ของแท้ยืนยัน พูดอย่างไม่ได้เก้อเขิน ไม่ได้มังกุ เก้อยากอะไร ก็เชื่อมั่นว่าจริงด้วย ไม่มีการผิด ไม่บาป มั่นใจว่าไม่บาปไม่ผิดไม่ได้คุยตัว ไม่ได้โอ่อวด ก็ได้พูดความจริงไปทั้งหมด ส่วนใครจะมีตาปัญญา มีภูมิธรรมจะสามารถรับรู้สิ่งนี้ได้หรือไม่ก็แล้วแต่บุคคลแต่ละบุคคล 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูตอบปัญหาผู้ชมทางบ้าน วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 11:50:01 )

ถ้ายังมีบุญอยู่ก็ยังไม่ปรินิพาน

รายละเอียด

ถ้าเผาได้หมด ก็นึกว่าพลังงานนั้นเรียกว่าบุญ เป็นอเสขบุคคล บุญก็หมดหน้าที่  บุญก็ไม่มีเหลือ ถ้ายังมีบุญอยู่ก็ยังไม่ปรินิพพาน บุญไม่มีเหลือ บุญทำงาน ฆ่าอย่างเดียวแล้วหายไปเลย มีหน้าที่ฆ่าอย่างเดียว อันนี้จึงยากที่สุดที่คนจะเข้าใจเพราะอธิบายเลอะเทอะไปหมดแล้วเป็นกุศลเป็นสมบัติ จึงยากมากที่จะเข้าใจ อาตมาจึงมาทำความเข้าใจอันนี้ให้ได้ ทุกวันนี้เปิดคอลัมน์เปิดยุคบุญนิยม อธิบายมาจนกระทั่งรวมเล่มตอนนี้ได้เล่มที่ 2 แล้วยังไม่เสร็จ

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 12:41:39 )

ถ้ายังไม่ถึงสภาวะก็ให้แค่จำไว้ก่อน

รายละเอียด

อาตมาเข้าใจอันนี้ไม่ใช่เข้าใจแค่ชาตินี้ ที่อธิบายได้มากมายวนไปเวียนมาซับซ้อนลึกซึ้ง จนกระทั่งพวกคุณ..(ขออภัย) พวกคุณตามที่อาตมาพูดไม่ถึงสภาวะจริงเท่าที่อาตมาพูดหรอก บางอย่างอาตมาพูดลึก ก็แค่จำไว้ก่อน ยังไม่ถึงสภาวะ บางอย่างภาษาก็ยังไม่เข้าใจเลย 

ที่พูดยืนยันก็เพื่อให้พวกคุณเข้าใจชัดเจนขึ้นเท่านั้นเอง ที่ว่าจริงก็ดินน้ำไฟลม ปฐวี อาโป เตโช วาโย เพราะว่าไม่มีใครมาพูดละเอียดลออขยายฉีกชี้ละเอียดเข้าไปเรื่อยๆอย่างอาตมา จะไม่ใช่เป็นอย่างที่อาตมาพูดถึงนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้ อาหาร ให้บรรลุถึง อรหันต์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:04:24 )

ถ้ารักษาศีล 3 ข้อได้บริสุทธ์ก็บรรลุอรหันต์ได้

รายละเอียด

คุณเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับสัตว์เราก็ไม่ได้มีเรื่องเป็นบาปเป็นเวรภัย เข้าใจลึกซึ้งถึงกรรมวิบากด้วย อย่าว่าจะไปฆ่าแกงกันเลย กินเนื้อกินหนังเขาก็ไม่กิน อย่าว่าแต่เนื้อเลย เครื่องในก็ไม่เอา 

ที่ไม่ใช่ของของเราเป็นศีลข้อที่ 2 เว้นจากสัตว์แล้วก็เป็นของกับพืช ในโลกก็มีสัตว์ มีของมีวัตถุกับพืชก็จบแล้วก็หมดแล้ว ก็ให้รู้ว่าเป็นของของเรา เรามีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ อย่าไปทุจริต กรรมเป็นอันทำ

ทีนี้ ทั้งสัตว์ทั้งของ รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสในเรื่องของวัตถุ ในเรื่องของพืชก็ตามก็อย่าไปติดใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสของพืช 

ยิ่งรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสของสัตว์ โดยเฉพาะของคนด้วยกัน ที่เราเรียกว่า กาม กามราคะ หรือปฏิฆะก็ตาม ขยะแขยงจนกระทั่งไม่อยากแตะเลย เสนียดมาก​ ก็ตามใจ ก็ต้องเรียนรู้และเข้าใจ ว่า อ๋อ!.. มันอะไรกันนักกันหนา ไปติดไปยึดอะไรกันมากมาย ก็ไม่รู้ว่ามันติดใน รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ซึ่งสุดยอดลึกซึ้งเลย 

ศาสนาพระพุทธเจ้านี้ถ้าเข้าใจแล้ว​ ก็เลิกรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ไม่ติดไม่ยึด มันจะต้องสัมผัสกันก็สัมผัสไป ไม่ต้องมีปฏิกิริยากันและกัน ที่มันเป็นไปในทางเลยเถิดเป็น กาม เลยเถิดเป็นปฏิฆะ ไม่มีผลักไม่มีดูด สัมผัสแตะต้องกันก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ 

เรื่องกามนี่ มีอารมณ์กาม แม้แต่ ใครนะ ปราชญ์ทางตะวันตก Sigmund freud เขาก็ยังบอกเลยว่า พ่อแม่กับลูก ยังไปจูบไปดมไปหอมลูกก็คือ กาม ยังสัมผัสแตะต้องที่ยังมีอาการของรส ชื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นพ่อกับลูก แม่กับลูกก็ตาม ซิกมันด์ ฟรอยด์ เป็นชาวออสเตรียเชื้อสายยิว 

ถ้าเข้าใจชีวิตมนุษย์ ศึกษาศีล 3 ข้อก็บรรลุอรหันต์ ถ้าเข้าใจจริงๆแล้ว ก็มีชีวิตอยู่กับสัตว์ สัตว์เดรัจฉานก็ให้เขาอยู่ตามวิบากของเขา ไม่ต้องไปเกี่ยวกับเขา​ ไม่ต้องเอามากิน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์จากพ่อครูผู้ตามรอยบาทพระศาสดา วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤษภาคม 2565 ( 11:32:32 )

ถ้ารับปากท่านสมณะว่าจะตามไปฟังธรรมแต่ไม่ได้ไปจะตกนรกไหม

รายละเอียด

คุณไม่ได้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์จากที่คุณจะได้ไปนรกมีอยู่เท่าไหร่คุณก็ตกเท่านั้นแหละถ้าคุณไปได้ประโยชน์คุณก็จะหลุดพ้นนรก แต่นี่คุณยังไม่ได้ไปก็ยังมีนรกตามนั้น ก็นรกเท่าที่คุณยังมี แต่คุณไม่ได้ไปฟังธรรมที่จะล้างนรก

เรื่องโกหกนี้คุณไม่ได้มีเจตนา แต่ถ้าคุณไปโกหกเล่นคุณก็มีนรกจากการโกหก แต่ถ้าไม่มีเจตนามันมีเหตุปัจจัยจริงๆก็เพราะเป็นสิ่งที่จะต้องทำก่อนไม่มีเจตนาจะโกหก 

ที่มา ที่ไป

620821_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช


เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 15:23:53 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:04:49 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:57:44 )

ถ้าล้างแต่กามไม่ล้างอัตตตา ก็ไปไม่ได้ไกลมันจะถ่วงกันอยู่

รายละเอียด

ถ้าล้างแต่กามไม่ล้างอัตตตา ก็ไปไม่ได้ไกลมันจะถ่วงกันอยู่ ต้องล้างกามล้างอัตตา สุดท้ายหมดกามก่อน ต้องรู้ว่า ความเป็นกามคือภายนอก ทั้ง 5 ทวาร หมดแล้วก็เหลือ  1 ทวารใน ก็ไปแจก 5 ทวารในอีก แจกรูปภพ อรูปภพ จนกระทั่ง ไปแจกอาสวะ อนุสัยอีก ความเข้าใจถึงนัยละเอียดๆ มันเยอะ พระพุทธเจ้าสมณโคดม ก็สอนมาจนเมื่อยแล้ว ท่านเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายจะปรินิพพานแล้วท่านก็รู้ตัวท่าน ท่านก็เจตนาสอน เพราะของท่านนี้ท่านรู้แล้วว่า ท่านเป็นพระพุทธเจ้าที่จะทำงานกับคนชั่ว หรือในยุคคนชั่วถึงขั้นสุดท้ายแล้ว คือยุคนี้แหละ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ท่านจะทำอุตระหรือโลกุตรธรรมให้แก่โลกได้ โดยยุคสมัยของท่านต่ำสุดแล้ว ท่านก็เคยเป็นโพธิสัตว์ เคยเป็นพระปัจเจก ซ้อนอีกทีหนึ่ง มาเป็นพระปัจเจกที่สามารถทำให้อายุของศาสนาของท่านอยู่ได้นาน เป็นหมื่นปีเป็น 8 หมื่นปี ถ้าเป็นเลข 9 ก็เป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธะเป็นสยัมภูแล้วจะอธิบายยาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:45:33 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 03:32:55 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 02:58:51 )

ถ้าสงฆ์คณะใหญ่ยังเละกันอยู่ศาสนาต่อไม่ได้ถึง 5000 ปีพ่อครูต้องเกิดอีก

รายละเอียด

ก็ยังไม่รู้ได้ว่าอาตมาเกิดมาในชาตินี้ทำอย่างนี้แล้ว จนอาตมาตายไปอีก จะต้องเกิดมาทำอีกไหม ซึ่งก็ยังรู้สึกอยู่เลยว่าถ้ามันจะต้องเกิดอีก เพราะมันดูคงไปไม่รอดจริงๆอีก 2 พันกว่าปี กว่าจะถึง 5,000 ปีของศาสนาพระสมณโคดมครบ ดูท่าทีแล้ว ไหวไหม ดูท่าทีแล้วมันไม่ไหวมั้ง ที่นับถือกันเป็นพระอรหันต์ก็เป็นพระอรหันต์เก๊ แล้วหลงเชื่อมั่นกันจริงๆว่าเป็นพระอรหันต์ที่เขานับถือกันอยู่ทุกวันนี้ อาตมาก็ยืนยันว่าไม่ใช่ อรหันต์คืออาตมา เขาได้ยินก็หัวเราะฟันร่วงเลย ว่าอย่างพระโพธิรักษ์หรือเป็นพระอรหันต์ พระอรหันต์ของเขาต้องนิ่งๆหยุดๆ ไม่พูดจา ไม่ว่าใคร เหมือนหลวงปู่เกษม หลวงพ่อเกษม เหมือนใครอีกหลายคน ก็สาธยายหยิบเอามาวิจารณ์  มาแจกแจงด้วยใจบริสุทธิ์ จริงใจไม่ได้ไปข่มไปเบ่งอะไรหรอก สาธยายให้รู้ด้วยหลักวิชาการด้วยหลักความจริงที่ถูกต้อง พูดไป 

เขาก็ยิ่งหาว่า ยกตัว หลงตัวหลงตนไปอีก สำหรับผู้รู้ผู้ที่แสวงหาอย่างไม่มีอคติก็จะได้ ตั้งใจศึกษาติดตามก็จะได้ นับวันดีขึ้น ดีวันดีคืน แต่ดียังช้าอยู่ อัตราการก้าวหน้าของความเข้าใจมันยังน้อยอยู่  ยังไม่มากพอ ก็ไม่เป็นไร ยาวให้เป็นเย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ นี่ว่าไปอย่างนั้น สรุปลงตรงนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อาการ ลิงค นิมิต อุเทส ของ นาม 5 รูป 28 วันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2565 ( 14:02:06 )

ถ้าสะกดจิตลงไปลึกมาก จะเป็นเช่นไร

รายละเอียด

สะกดจิตเข้าไปจนไม่รับรู้สึก เอาตัวเวทนากดเข้าไปให้อยู่ลึก ขนาดเขาเอาไฟเผาผิวหนัง เหมือนอย่างกับพระญวน เผากาย เผาร่าง เอาน้ำมันราดแล้วก็เผา ก็ไม่รู้สึกเพราะเข้าฌานดิ่งลึกแบบสมถะแล้ว เป็นมนุษย์พืชไปข้างใน ไฟเผาอยู่ข้างนอก แล้วเขาก็ตัดความรู้สึกประสาทของเขาไปอยู่ข้างในได้  ไม่รับรู้สึกได้ลึก ไม่เป็นไรเลย จนกระทั่งสุดท้าย จะรู้สึกมากหรือน้อยก็แล้วแต่ สุดท้ายทรงตัวไม่ได้ก็ล้มไป ไฟก็ไหม้จนละลายหายไปหมด ไอ้ตายมันตายแน่ เพราะไฟมันเผาจนเหลือแต่ขี้เถ้าไม่เหลือ จะเจ็บมากหรือเจ็บน้อยทนเอาหรือไม่ทนเอาเราไม่ทราบได้ พระที่เผาตัวเอง 

อธิบายไปอันนี้จะยาว พ่อครูว่า... อย่างพวกที่เข้าใจผิด ทำจิตตัวเองให้เหมือน อาฬารดาบส อุทกดาบส สุดท้ายจิตวิญญาณมันตายแล้ว ออกจากร่างไปแล้ว เหลือแต่พืช เหลือแต่ชีวะ ซึ่งชีวะนี้เป็นพืชเท่านั้น ไม่มีทางเป็นจิตวิญญาณอีกแล้ว จิตวิญญาณมันตกลงไปถึงระดับพืช ถ้าสะกดจิตตัวเองลงไปลึกมาก จิตวิญญาณก็ยิ่งแห้งๆ ก็จะทำให้ร่างกายนี่แห้ง ถ้ามันไม่มีแบคทีเรีย ไม่มีน้ำอะไรมาก มันก็ไม่สังเคราะห์มันก็ไม่เน่า แห้งลงไปๆ ไม่เน่า 

กลายเป็นร่างกายที่ไม่เน่า เพราะฉะนั้นเขาก็เลยนับถือกัน ว่า โอ้โห ประเสริฐยิ่งใหญ่มีฌานแข็งแรงมาก เป็นผู้บำเพ็ญฌานได้แข็งแรง เป็นฌานฤาษี จนกระทั่งกลายเป็นมนุษย์พืช เกือบจะเป็น ที่จริงถ้าปล่อยไปนานๆก็กลายเป็น อุตุ ร่างๆนั้น สุดท้ายมันก็จะแห้งจากพืชเหลือน้ำ น้ำเหลือชีวะนิดหน่อย จนกระทั่งนานเข้ามันก็จะแห้ง จนกลายเป็นอุตุ ร่างนั้นก็จะกลายเป็นอุตุ เขาก็เอาใส่ตู้กระจกเอาไว้กราบไหว้กัน ก็คือ กราบไหว้ดิน น้ำ ไฟ ลม ไม่มีวิญญาณใดของอาจารย์ผู้นี้อยู่ที่นี่เลย ไม่มีเลยแต่คนไม่เข้าใจก็ไปเคารพร่างเปล่าๆ 

ไม่ใช่ของใคร เจ้าของก็หนีไปแล้ว เพราะว่าเจ้าของยิ่งไม่รู้เรื่องใหญ่เป็นอวิชชา ผู้ที่ตายไปแล้วจิตวิญญาณของผู้ที่ปรุงแต่งแบบนี้ เป็นเหมือน อาฬารดาบส อุทกดาบส เขาก็กราบเคารพเพียงดินน้ำไฟลมเปล่าๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาโยมบุญ ให้รู้จักทำบุญอย่างถูกพุทธ วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565 แรม 6 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 11:42:48 )

ถ้าสัมมาทิฏฐิแล้ว จะไม่รอรั้ง

รายละเอียด

ได้ อาตมาขอพูดชัดๆตรงๆอย่างนี้ว่าได้ เพราะถ้าสัมมาทิฏฐิแล้ว เขาจะเข้ามาเลย ไม่รอรั้ง เพราะว่าเห็นว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ควรจะต้องเข้ามาใกล้ ตามคำสอนพระพุทธเจ้าเลย เมื่อเจอแล้วต้องเข้าใกล้ ต้องมาร่วมฟัง ต้องเข้ามาเป็นหมู่กลุ่ม รับรู้ภาคปฏิบัติแล้วก็ปฏิบัติร่วมกันไปแล้วมันจะเจริญ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 18:24:00 )

ถ้าสิ่งใดที่มันเป็นหนึ่งเดียว มันจะตรงกันหมด

รายละเอียด

เรื่องเหล่านี้ที่จริงมันมีเหตุปัจจัย มีหลักเกณฑ์ ทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องโมเม ทุกอย่างจะบอกว่าลงตัว ทั้งตัวเลข ทั้งรูปทั้งนาม ทั้ง Static และ Dynamic ถ้าสิ่งใดที่มันเป็นหนึ่งเดียว มันจะตรงกันหมดเลย มันจะเป็นอันเดียวกันหมดเลย ลงตัวพร้อมกันทั้งรูปทั้งนาม จะเป็นเพศหญิงเพศชายก็หายหมด เป็นหนึ่งเดียวเป็น 0 ไม่มีเพศเลย นปุงสกลิงค์ ลงตัวเหมือนกันหมด จบ 

2 เพศมารวมเป็นหนึ่งเดียวไม่ใช่เป็นกระเทยนะ เป็น 0 เลย หนึ่งเดียวหรือ 0 เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นอจินไตย ยาก เป็นเรื่องที่ทุกอย่างมาเทียบกัน เข้ามาเปรียบกัน ให้รู้ว่าอะไรเหนือกว่าอะไรอะไรควรกว่าอะไร อะไรดีกว่าอะไร อะไรควรมีอะไรไม่ควรมี มันจะชัดเจนทุกอย่าง 

 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงาน ปฏิญาณศีล 8 งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 47 วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566 ที่บวรปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 13 เมษายน 2566 ( 20:06:31 )

ถ้าหมู่มวลแน่นจะมีประสิทธิภาพ

รายละเอียด

มาพูดถึงงานของพวกเรา เพราะเรามีงานเยอะ แต่คนปฏิบัติธรรมก็มีคนที่ปลีกเดี่ยวไม่ค่อยมาช่วยงาน ชาวอโศกจะขยายงานเพื่อร่วมกับสังคมให้กว้างขึ้น เมื่อปฏิบัติธรรมได้มรรคผล ทั้งคนที่ไม่ใช่นักเรียนเป็นฆราวาส ก็ควรจะมาวัดอย่าให้เสื่อม ในความเสื่อม 7 ประการนั้นไม่มาวัดไม่มาพบพระ ไม่มาศึกษาเพิ่มต่อ อย่าทิ้ง แม้แต่นักเรียน เตือนแล้วเตือนอีกว่าเรียนจบก็หนีหายหัวไป ก็มาบ้าง เราก็อยากให้มาช่วยเหลือกันจะได้อบอุ่นจะได้เบาแรง เห็นหน้าเห็นตากันไม่ว่าลูกหลานที่เป็นคนโตแล้ว ลูกหลานนักเรียนก็ตาม ก็ควรจะมาช่วยเหลือเฟือฟายกัน พูดแล้วเหมือนเรียกร้อง แต่ที่จริงก็พึ่งพาตนเองรอดอยู่ แต่อยากจะให้เพิ่มหมู่มวลให้แน่นมีประสิทธิภาพกระจายพลังงานไปสู่ข้างนอกเพิ่มขึ้น ถ้ามันหัวเดียวกระเทียมลีบน้อยอยู่มันไม่พอมันไม่มาก มันเป็นเรื่องสังคมควรเจริญแบบนี้บ้าง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 2 วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน ไตรสิกขาของนาม 5 รูป 28


เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:45:12 )

ถ้าหากสัจจะมีจริงความไม่เห็นแก่ตัวก็มีจริง

รายละเอียด

ค่าของแรงงานชาวอาริยะโลกุตระ มีส่วนเหลือเกินมากพอ ยังไงก็ไม่ล่มจม มีพอมีเกินพึ่งตนเองรอด หากจะไม่พอ ทุกคนก็เสริมแรง ต้องช่วยกัน มันเป็นธรรมดาธรรมชาติสามัญไม่ต้องห่วง ถ้าหากสัจจะมีจริง ความไม่เห็นแก่ตัวก็มีจริง มันก็ไม่ปล่อยให้สังคมเราเสื่อม จะไปเป็นหนี้ ติดขัดอะไรมันไม่เอาเด็ดขาด เพราะฉะนั้นจึงจะเป็นความจนที่ประเสริฐ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ธรรมะสองของประชาธิปไตย  วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 12:51:57 )

ถ้าอยากให้ได้ดั่งที่เราเห็นแย้งเป็นการบำเรออ้ตตาอยู่ใช่ไหม

รายละเอียด

ถูกเปรี้ยงเลย เราต้องเข้าใจคำนี้ สิ่งที่มี 2 แล้วต้องต่างกัน เขาก็คนหนึ่งเราก็คือสอง จะให้เขามาเป็นหนึ่งกับเรานั้น คุณใหญ่ขนาดไหนเชียว คุณใหญ่นักหรือ ก็ต้องฟังว่าเขาต้องมีของเขาอย่างนี้นะ ก็จบ เราก็คิดต่างกับเรานี้ได้ คนนี้คิดเหมือนกับเรามันเหมือนสนิทไหม เหมือนสนิท เป็นหนึ่งเดียวก็เป็นอาริยธรรมของอรหันต์ ของนิพพานเรื่องเดียวนี่แหละ วันนี้มีหนึ่งเดียว ถ้าวันอื่นมันไม่เหมือนกันหรอก จะบอกว่ามันเหมือนก็ไม่เหมือนกัน 

คุณว่า มะเขือเทศ 2 ลูกนี้ที่คุณหยิบขึ้นมา มันเหมือนกัน ไม่มีเหมือนกันหรอกไม่ว่าจะเป็นคู่ไหนเลย ปรมาณู 2 ตัว ก็ไม่มีทางเหมือนกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหาระดมปัญญา-อนัตตา งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 44 วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 16:37:20 )

ถ้าอายุ 90 ปีแข็งแรงเพิ่มขึ้น 96 ปีคงสบาย

รายละเอียด

อาตมานี่คนเติมให้ ขอให้อยู่ 200 ปี เติมจาก 151 ปี มันจะไหวหรือ เอา!..ไม่เป็นไร ขนาดนี้ 87 ปียังแจ๋ว อีกไม่กี่เดือนก็เต็ม 87 ปี ขึ้น 88 ปีอีก 5 เดือนก็ขึ้น 88 ปี

ถ้า 88, 89, 90 ปี จะมีท่าทีแข็งแรงปราดเปรียว Active ขึ้นกว่านี้หรือไม่ โปรดติดตามอย่ากระพริบตา ถ้าอายุ 90 ปีแข็งแรงเพิ่มขึ้น อาตมาว่า 96 ปีคงสบาย ฉลองไหมล่ะ?.. ฉลองด้วยกะหล่ำปลีหัวหอม ไม่มีปัญหาหรอกพวกเราก็ฉลองตามประสาพวกเรา สิ่งนี้ก็พูดกันไปสบายๆเป็นเรื่องจริงอาตมาก็เต็มใจ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ดับชาติ 5 ด้วยวิชชา 8
วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:44:33 )

ถ้าเขาดีกว่าจริงก็ต้องกล้าพูด

รายละเอียด

ไม่ใช่พระนี่ก็ใช่แล้ว เขาไม่ให้เรียกว่าพระ เถรสมาคมโน่นเป็นพระ อาตมาไม่ใช่พระ แต่เป็นสมณะ ถ้าเขาดีกว่าจริงก็ต้องกล้าพูด ถ้าไม่ดีกว่าจริงก็เลยไม่กล้าพูด นี่คุณไปทำความเข้าใจอันนี้ให้ดี คนที่ยิ่งดีกว่าอาตมานี้ ขนาดอาตมายังกล้าพูดขนาดนี้ถ้าดีกว่าอาตมาปั๊ดโธ่ ยิ่งจะกล้ากว่าอาตมาอีก คนที่ดีกว่าอาตมาไม่มีทางที่จะไม่กล้าพูด มีแต่คนแย่กว่าอาตมาไม่กล้าพูดจริง คุณทำความเข้าใจแค่นี้ให้ได้ก่อนนะ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:36:18 )

ถ้าเขายกตำแหน่งที่ปรึกษานายกให้พ่อครูจะรับไหม

รายละเอียด

ต้องตรองมากเลยนะ ขนาดไม่รับเป็นที่ปรึกษางานก็เยอะแล้วถ้าไปรับเป็นที่ปรึกษาจะไหวหรือไม่ ตอนนี้กำลังเล่นลูกเหล็กอยู่ ได้กล้ามขึ้นมาพอสมควรแล้วจริงไม่ใช่พูดเล่นหรอก อาตมาเอาจริง อาตมาเคยเล่นกล้ามมีรูปหลักฐานพอสมควร แต่ก่อนนี้อาตมาเล่นแล้วตรงช่วงปีกใหญ่ได้แต่ช่วงแขนไม่ค่อยใหญ่ ตอนนี้ ฟีบหมด ต้องสร้างใหม่ เค้าเดิมมีอยู่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ดับชาติ 5 ด้วยวิชชา 8 วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:29:55 )

ถ้าเขายอมรับโทษไม่นานจะออกมาอยู่เลี้ยงหลานได้

รายละเอียด

แรกๆเลยนะ เชื่อว่าคนไทยอาตมาเชื่อ ถ้าคุณทักษิณทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตน ประชาธิปไตยต้องเป็นคนรับใช้ประชาชนแล้วเชื่อในกฎหมาย ไม่หนี รับโทษทัณฑ์ไป ความผิดต่างๆในคดีจะถูกยกเลิกโดยปริยาย รับผิดเสียบ้างแล้วก็ออกมา ติดคุกจริงๆไม่กี่ปีหรอก ออกมาก็ยังฟื้นทำอะไรต่ออะไรได้ ก็จะได้อยู่กับลูกหลาน อย่างที่บอกว่าอยากจะมาเลี้ยงหลาน จริงๆเป็นเรื่องจริงในชีวิตของเขาแต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ก็เลยต้องดิ้นอยู่ในนรกอเวจีอย่างนั้น มันอยากเป็น อยากได้ อยากมี อย่างนั้น แต่มันไม่ได้ นี่แหละนรก นี่แหละนรก 

อ่านสภาวะจริงของนรกของมนุษยชาติให้ได้ คือไม่ปล่อยวาง ยึดเป็นเราเป็นของเราไปหมด ในเรื่องที่เขาบอกเขาเสียดายอันนั้น เสียดายอันนี้  อวดเก่ง ฝีมือเขา ถ้าเขาอยู่เขาจะทำให้ดีหมดทั้งนั้นเลย อ้างมาอย่างน้อย 10 ข้อ ให้เขาคิดอ้างอีกก็ได้มากกว่า 10 ข้อ แต่ 10 ข้อนี้มันก็โอ้โห เหม็นขี้ฟัน โม้มาไม่รู้กี่ปีแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 ตุลาคม 2565 ( 12:58:38 )

ถ้าเปิดเผยก็ได้ล้างตัวตน

รายละเอียด

อาตมาก็อธิบายหลายทีแล้ว ถ้าคนผู้นี้ได้มาลบหลู่สัตบุรุษด้วยเอาเป็นเอาตาย ฟ้องร้องด้วย ทำตัวเองเก่ง แล้วมันจะละอายในการกระทำของตัวเองที่ได้ลบหลู่สัตบุรุษต่อหน้าธารกำนัล ต่อหน้าคนทั้งหลาย อายไหม นั่นแหละเขาจะละอายเลย ละอายจริงๆแล้วจะนึกได้ สำนึกได้ก็จะละอาย หากสำนึกนี้ไม่มี เขาก็ไม่ละอาย เขาไม่ได้แกล้งนะ 

ถ้ายิ่งเขารู้แล้วนะจริงๆนะยอมรับแต่เขาไม่กล้าเปิดเผยเพราะว่าอัตตามานะของเขาเยอะ ชาตินี้ยอมแล้วว่าแกเป็นสัตบุรุษจริงแต่ข้าไม่เปิดเผยหรอก เพราะว่าข้าได้รับการสรรเสริญยกย่องจากโลก หลงโลกธรรมมาก เปิดเผยว่าตัวเองแพ้ไม่ได้ ไม่กล้าเปิดเผย ตายไปทั้งชาติแล้วอีกนาน 

เพราะว่าตายไปแล้วอันนี้เขาติดค้างไปตัวเองไม่มีอาสโภ ไม่มีความกล้าที่จะล้างตัวตน ถ้าเปิดเผยก็ได้ล้างตัวตน ล้างกิเลสตัวตนตัวสำคัญอัตตามานะนี่แต่เพราะเขาไม่มีอาสโภ ไม่มีความกล้าพอที่จะทำความดี มันน่าสงสารไหมคน ไม่กล้าพอจะทำดีมันน่าสงสารไหม รู้แล้วว่าฉันผิด ท่านถูกท่านดี ที่เราหลงนี่มันไม่ดีแล้วล่ะ แต่ไม่กล้าทำดี มันน่าสงสารขนาดไหน 

ถ้าเป็นคุณ คุณจะเจ็บแสบใจตัวเองไหม มันน่าเจ็บแสบใจตัวเองนะใช่ไหม อะไรวะเราทำไมถึงขนาดนี้

อธิบายสภาพหมุนรอบเชิงซ้อนที่ยากมากนะ ในสภาพซับซ้อนหมุนรอบเชิงซ้อนของมนุษยชาตินั้นมีมาก 

ฟังให้ดีจะเข้าใจว่าการจะรู้ การจะมีปัญญาและการจะรู้จักกาย การจะมีปัญญาไม่ง่าย การจะรู้จักกายก็ไม่ง่าย

แค่คำว่ากาย คำว่าปัญญา กับคำว่าเฉโก ไม่ง่าย

เฉโกคือ ความรู้ความเฉลียวฉลาดแบบเดียรถีย์ ปัญญาเป็นฉลาดของพุทธ

ปัญญาเป็นความรู้ความฉลาดของพระพุทธเจ้าที่ได้ตรัสรู้มา 

อาตมาไม่ได้เรียนรู้มาแบบไวยากรณ์บาลีแต่ใช้สภาวะอธิบาย 

เพราะฉะนั้นผู้ที่เริ่มมีปัญญา เริ่มเข้าใจกายได้นี่แหละคือผู้ที่ออกมาจากสัทธาวิมุติได้ ออกมาได้เพราะเริ่มมีปัญญา เริ่มรู้ว่า อ้อ..นี่ทุกข์ นี่สมุทัย นี่นิโรธ นี่มรรค

ถ้า ศรัทธาวิมุติ คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เหตุให้เกิดทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่านี้ความดับทุกข์ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทำไมสายศรัทธาจึงช้าและยากกว่าสายปัญญา วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2565 ( 18:58:18 )

ถ้าเป็นพุทธที่เข้าถึงแก่นแล้วไม่มีทางไปเข้าศาสนาอื่น

รายละเอียด

อยู่ถึงสวีเดนหลายปี หลายสิบปีก็ยังติดตามอยู่ ดูทาง youtube ตลอดก็ได้ประโยชน์ ชีวิตไม่มีอะไรหรอกชีวิต ถ้าไม่เอาธรรมะเกิดมาก็สูญเปล่า ถ้าเอาธรรมะชีวิตที่เกิดมาชาติหนึ่งชาติหนึ่งก็จะพัฒนา พัฒนาจิตวิญญาณเรานี่ มันจะเป็นอัตภาพของเรา ค่อยๆพัฒนาขึ้นไป จนกระทั่งสามารถจบเป็นอรหันต์ ถ้าจบเป็นอรหันต์แล้วคุณจะอยู่หรือไม่อยู่ก็เรื่องของคุณแล้วตอนนี้ อย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธจึงเป็นศาสนาที่สุดยอด ว่าไปแล้ว คนอื่นเขาก็ว่าของเขาสุดยอด เขาเข้าใจของเราไม่ได้ก็ชัดเจนอยู่แล้วศาสนาอื่น ไม่ใช่จะเข้าใจได้ง่ายศาสนาพุทธ จนกว่าจะมาเป็นพุทธแล้วเราจึงจะรู้ว่าเขาเข้าใจเราไม่ได้ง่ายๆหรอก แต่เราเข้าใจเขา 

พอเป็นพุทธจริงๆแล้วหรือถ้าเป็นพุทธที่ไม่เข้าถึงแก่นก็จะเป็นไปเป็นศาสนาอื่นได้ ถ้าเป็นพุทธที่เข้าถึงแก่น โสดาบัน สกิทาคามี แล้วไม่มีทางไปเข้าศาสนาอื่น อันนี้เป็นนิยตะ

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนอยู่เหนือกาละต้องชนะปฏิจจสมุปบาท วันพุธที่ 3 มกราคม 2567 วันแรม 7 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2567 ( 18:46:57 )

ถ้าเป็นศิลปะต้องนำพาไปสู่โลกุตระคือนิยามของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

มงคล คือ นำพาไปสู่ที่สูงสุดถึงขั้นอุดมถึงขั้นอุดรหรือถึงขั้นโลกุตระ เป็นมงคลอันอุดม 

ภาษาบาลี สิปปัง หรือศิลปะ เป็นมงคลอันอุดม ศิลปะนำพาไปสู่อุตระ ไปสู่โลกุตระ 

สิ่งที่ไม่ใช่ศิลปะไม่นำพาไปสู่โลกุตระ

นิยามของพระพุทธเจ้า ถ้าเป็นศิลปะต้องนำพาไปสู่โลกุตระ ถ้ายังไม่นำพาไปสู่โลกุตระ พระพุทธเจ้าตัดเกรดเลยว่า ยังไม่เรียกว่าศิลปะ นี่ของพระพุทธเจ้าสุดยอด 

ศิลปะต้องมีความรู้ความเข้าใจ ต้องมีสัมมาทิฏฐิเพียงพอ จึงจะนำพาทำงานศิลปะได้ ถ้าไม่นำพาไปสู่โลกุตระ พระพุทธเจ้าไม่รับว่าเป็นศิลปะ ยังเป็น ศิลเปรอะอยู่ วนเวียนมอมเมากันไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2ตอน 4

วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 16:08:14 )

ถ้าเป็นโลกุตระก็ต้องเหนือ

รายละเอียด

เป็นโลกียะแค่นั้น ถ้าเป็นโลกุตระก็ต้องเหนือ ตากระทบรูปอยู่ก็อยู่เหนือมัน หูกระทบเสียงก็อยู่เหนือมัน จมูกได้กลิ่นก็อยู่เหนือมัน เห็นไหมมันจึงจะเป็นโลกุตระ แต่ไอ้นั่นมันไม่มีโลกุตระ มันยอมแพ้เลย เป็นนักรบที่ โอ้โห.. เป็นแต่เพียงเข้าไปใกล้ แค่ได้ยินเสียงข้าศึกแต่ไกล วิ่งหนีหูตูบเลย ไม่ต้องไปถึงขั้นเห็นฝุ่น เห็นอะไรต่ออะไรหรอก ไม่อยู่แล้ว เป็นนักรบที่ไม่มีกำลังวังชา ไม่มีความกล้าอะไรที่จะไปต่อสู้เลย 

เพราะฉะนั้นเรื่อง ผัสสะอันเดียวนี้แหละ เป็นเหตุเกิด (มูลสูตร 10 ข้อที่ 3) เกิดคุณธรรมโลกุตระ เกิดที่จะเรียนรู้ธรรมะต่างๆ จะรู้แม้โลกียะ ก็ต้องมี
ผัสสะถึงจะรู้ความจริง เพราะความจริงนั้นเกิดจากมีผัสสะ มี 2 ธาตุ ตาต้องกระทบรูปจึงจะเป็นความจริง หูกระทบเสียงจึงจะเป็นความจริง จมูกกระทบกลิ่นจึงจะเป็นความจริง นอกนั้นคุณเดาทั้งนั้น คุณหลับตาแล้วคุณก็บอกว่าคุณเห็นรูป คุณไม่ได้ยินเสียง คุณปิดหูแล้วคุณก็บอกว่าคุณได้รู้จักเสียง คุณปิดจมูกคุณไม่รับรู้อะไรแล้วคุณก็บอกว่าคุณได้กลิ่น มันได้ยังไง มันจริงได้ยังไง มันก็ต้องทนโท่อยู่อย่างนี้ หูได้ยินเสียงอยู่อย่างนี้ จริงเสียง ตาก็เห็นรูปอยู่ทนโท่ จมูกได้กลิ่น ยืนยันกับใครต่อใครได้ว่าได้กลิ่นนี่กลิ่นเดียวกัน เสียงเดียวกัน รูปเดียวกันอะไรต่ออะไรเดียวกัน จะใช้ภาษาเรียกกันคนละภาษาก็ว่าไป แต่สัจจะอันเดียวกันหมด 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูบวชมาครบ 53 ปี มีอะไรจริง พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 15:05:14 )

ถ้าเมืองไทยมีชาวอโศกสักครึ่งประเทศ โลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร

รายละเอียด

ถ้าเมืองไทยมีอย่างชาวอโศกสักครึ่งประเทศ รับรองว่าโลกทั้งโลกจะหันมาแลเลย คนทั้งโลกจะหันมาศรัทธา แต่นี้มันน้อยเกินไป ไม่มีน้ำหนักเลย เหมือนผงธุลี อยู่ในฟ้ากว้าง มันก็เลยไม่สะดุด ก็มันเป็นเรื่องจริงเป็นสัจธรรมอย่างนั้น ไม่มีปัญหาหรอกเป็นแต่เพียงพูดความจริง ถึงเวลาก็พูดความจริงสู่กันฟัง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 33 ไม่มีความไม่จริงในสิ่งที่

พ่อครูพูดเรื่องโลกุตระ วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2565 ( 13:44:21 )

ถ้าเมืองไทยเลิกหลับตาปฏิบัติได้จะได้เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ

รายละเอียด

ถ้าเมืองไทย เมืองพุทธสามารถถูกต้องสัมมาทิฏฐิ ตื่นมาได้จากการหลับตา เมืองไทยจะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณอย่างหนึ่งเลย แหม… อาตมาทำงานมา 50 กว่าปียากยิ่งกว่าโจรร้ายที่ไปทำลายศาสนา แล้วพระราชาให้ไปฆ่าโจรร้ายนี้ด้วยหอกร้อยเล่ม เช้า หนังเหนียว ไม่รู้สึกรู้สา อย่าว่าถึงตาย พระราชาเจอกลางวันอีกถามว่าตายหรือยัง ก็ยังพระเจ้าค่ะ ก็ไปฆ่าด้วยหอกอีก 100 เล่ม ฆ่าเสร็จแล้วกลับมา ด้วยความเฟล ฆ่าแล้วก็ล้มเหลวอีก จนกระทั่งพระราชามาพบอีก ก็บอกว่า มันตายหรือยัง ให้ไปฆ่าตอนกลางวันด้วย หอก100 เล่มอีกไปแล้วหรือ แล้วมันตายหรือยัง ก็ยังพระเจ้าค่ะ ก็ให้ไปฆ่าด้วย หอก100 เล่มตอนเย็นอีก ละไว้ในฐานที่เข้าใจ หมดหอก ไปกี่ร้อยกี่พันกี่หมื่นกี่แสนเล่มอาตมาซัดด้วยหอกอาตมานี่ ยังไม่ตายพะยะค่ะ 

ผู้ที่ตื่นแล้วแล้วก็มา ใครเคยไปหลงนั่งหลับตาบ้างยกมือขึ้น มาก่อนทั้งนั้น อาตมาก็ยกมือด้วย อาตมาเป็นหลับตาทางไสยศาสตร์ แม้ชาตินี้ก็เป็นลิงลมอมข้าวพองไปหลงไสยศาสตร์อยู่ 8 ปี มันควรจะไปหลงแค่ 6 ปีเหมือนพระพุทธเจ้า แต่ดันไปหลงตั้ง 8 ปี โพธิรักษ์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หากเลิกหลับตาปฏิบัติได้ประเทศไทยเจริญ วันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2565 ( 13:37:13 )

ถ้าเมืองไทยไม่ตื่นตัวประเทศจีนจะฉวยเอาโลกุตระธรรมไปไว้ที่ประเทศเขา

รายละเอียด

ขณะนี้ อย่างน้อยประเทศจีนเป็นมวลใหญ่คู่หนึ่งกับประเทศอินเดียใช่ไหม มี อัญญธาตุ ขึ้นมาแล้ว แม้จะยังไม่มาก อัญญธาตุยังไม่มากเท่าประเทศไทย แต่ มันเป็นทางด้าน Quantity เป็นทางด้านปริมาณ ของไทยนี้เป็น Quality  เป็นทางด้านคุณภาพ คุณภาพของโลกุตระ 

แม้จะน้อยแต่แข็งหนักและสูงกว่าปริมาณ เถียงกันอยู่ว่าปริมาณกับคุณภาพอะไรจะเป็นเอก มันอยู่ที่เหตุปัจจัย เจ้าของมันก็คือคุณภาพนั้นมันมีน้ำหนักแน่น มีฤทธิ์ ส่วนปริมาณนั้นมันไม่แน่น มันไม่หนัก แต่มันใหญ่และกว้าง มันก็คลานกันไป มันก็ถ่วงไปถ่วงมา 

ถ้าเผื่อว่าเมืองไทยไม่ตื่นตัว ประเทศจีนจะฉวยเอาโลกุตระธรรมไปไว้ที่ประเทศเขา ถ้าเมืองไทยไม่ตื่นตัว เตือนไว้นะ 

ถ้าเมืองไทยไม่ตื่นตัว โลกุตระของตามรอยพระราชา ในหลวงร. 9 จะโดนประเทศจีนฉวยเอาไปเลย รู้ไว้ซะด้วย ถ้าประเทศไทยยังรักที่จะเป็นประเทศหนึ่งที่จะเจริญ เจริญในที่นี้ไม่ได้เป็นการเจริญซ้อน ไม่ใช่ไปเจริญแบบแข่งดีแข่งเด่น แต่ว่าเจริญเพื่อยืนยันสัจธรรมให้ปรากฏขึ้นในโลก เหมือนพระพุทธเจ้าท่านก็ทำของท่านให้ปรากฏขึ้นในโลก ท่านไม่ได้ต้องการอยากดีอยากเด่นอยากดังอยากอวดอยากโชว์ แต่มันเกิดขึ้นในโลกในความเป็นมนุษย์ชาติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ นวนิยายโลกุตระที่เราอย่ารีบตายก่อนได้ดู วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 2 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2565 ( 11:27:05 )

ถ้าเรากินน้อยหน่าแล้วกินหนอนไปด้วยจะบาปไหม

รายละเอียด

คุณกินน้อยหน่ามีหนอนผสมโดยไม่รู้ตัวไม่เป็นไร ไม่มีเจตนาจะกินหนอน มันไม่บาปในเรื่องของวิบากที่คุณจะไปผูกพันกับคู่บาปคือหนอน แต่หนอน มันจะรู้ไหมว่าคุณกินมัน แล้วคุณกินอย่างไม่มีเจตนา หรือกินด้วยความรักอะไรอย่างนี้ มันจะรู้อย่างนั้นน่ะ มันก็รักคนกินชีวิตเข้าไป มันก็เลยอนุโมทนากับคนที่กินมัน มันจะเป็นหรือเปล่า มันเป็นเดรัจฉานนะ 

เพราะฉะนั้นยากที่จะไม่ให้สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายแหล่มันไม่ผูกพยาบาทเมื่อเราไปทำร้ายมัน เมื่อเราไปฆ่ามัน เมื่อเราไปกินมัน เอาเนื้อมันมากิน ต่างๆนานา เพราะวิญญาณมันไม่ได้จบแค่ว่า สัตว์ที่ตายแล้ววิญญาณก็ไม่รับรู้อะไรเลยไม่ใช่ มันมีปฏิสัมพันธ์เยอะแยะที่ยาวยืด มันมีปฏิสัมพันธ์ที่ว่าอันนี้มันตัวกูของกู เอ็งมาทำอะไรตัวกูของกู มันก็ต้องโกรธต้องพยาบาทผูกพยาบาท ไม่อย่างนั้นมันไม่มีโรคผูกพยาบาทแก้แค้นกันตั้งเท่าไหร่ นิยายไม่รู้ตั้งกี่เรื่องก็คือของจริงที่ เป็นคำตอบที่ไม่มีใครจะมาบิดเบี้ยวความจริงนี้ได้เพราะความผูกพัน มีแต่จิตยึดมั่นถือมั่น ไม่อโหสิมีพยาบาทกันมันไม่จบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 14:17:01 )

ถ้าเราจมอยู่ในอัตภาพจะวนเวียนอยู่ไม่รู้จบ

รายละเอียด

สามารถเรียนรู้ว่าถ้าเราจมอยู่ในอัตภาพ มันก็จะวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารไม่รู้จักจบ แล้วก็อยู่กับวิบาก ดีชั่ว ชั่วดี วนเวียนกัน สมบัติผลัดกันชม แย่งกันไปแย่งกันมา แย่งกันมาแย่งกันไปเป็นวิบาก สรุปง่ายๆขออธิบายว่า เรากับวัวตัวหนึ่ง ฆ่ากัน เสร็จแล้วมันก็ฆ่ากันไปฆ่ากันมา ชาติต่อไปวัวก็มาฆ่าเรา ชาติต่อไปเราก็ไปฆ่าวัว ชาติต่อไปวัวก็มาฆ่าเราอยู่อย่างนี้นับชาติไม่ถ้วน นี่สรุปอย่างสั้นง่ายว่าไม่เอาวิบากอย่างอื่นมาผสมผสานจนกระทั่งมีอะไรอื่นหันเหพฤติกรรมไปหาจุดนั้นจุดนี้ก็ค่อยบรรเทาลง ถ้ามี 2 ตัวมันฆ่ากันไม่รู้จักจบเลยนะคนละที 

เพราะฉะนั้นในโลก อยะ มีพลังงานแม่เหล็กดูดมันก็มีผลัก มีรักก็มีชัง มีรวมก็มีแยก มีตายก็มีเป็น อยู่อย่างนี้ตลอดกาล

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิธีจบนิยาม 5 จบนิยายของตนอย่างนิรันดร วันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 09:20:16 )

ถ้าเราออกเอาไปเท่าไหร่ก็จะสะอาดมากขึ้นถ้าคุณยังรักตัวเงินอยู่มันก็ยังมีขี้ไคล

รายละเอียด

คนอยู่ร่วมกัน มีความขยันและสมรรถนะมันก็ได้ 2 คน 3 คน 4 คนก็ได้เพิ่มขึ้นอีก ตัวเองกินน้อยใช้น้อยแต่เราทำมากมีผลผลิตเหลือ เหลือเกินกินเกินใช้ สัจจะของความพอเพียงโดยใช้เท่านี้มันพอจริงๆ ไม่ต้องไปเปลืองผลาญมาก เราก็จะเหลือไว้ไม่ให้ขัดข้องเท่านั้น ถ้าเราออกเอาไปเท่าไหร่ก็จะสะอาดมากขึ้น เราไม่ได้เอาออกมันก็ไม่สะอาด ใช้พยัญชนะความสะอาด มันจะเหลือ ขี้ไคล ไม่ใช้คำว่าสกปรก คำว่าสกปรกของขี้ไคลคืออะไร ถ้าคุณยังรักตัวเงินอยู่มันก็ยังมีขี้ไคล คุณก็เอาไว้แค่ระดับขี้ไคลมันไม่สกปรกเท่าไหร่หรอกแต่ยังมีขี้ไคล แล้วใครมันขี้ไว้? รักษาไว้ ขี้ไคล แต่ขี้ใครจริงๆ ก็ขี้ข้าเอง เห็นสนุกไหมภาษา อาตมาใช้ภาษา สื่อให้เป็นธรรมะนะ เสียบใครเสียบมันนะ ถ้ารู้ตัวก็แล้วแต่ใคร ถ้าใครไม่มีเลยและจะต้องเสียบก็สบายใช่ไหมล่ะ ใครจะเหลืออยู่สลึงหนึ่งบาท 5 บาท 100 บาท ล้านบาทก็แล้วแต่ มันก็เป็นของจริง ที่เราจะต้องเกิด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 16:37:21 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 03:33:35 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 03:00:26 )

ถ้าเราเอาไฟแดดมาใช้ไม่ต้องจ่ายค่าไฟจะเยี่ยม

รายละเอียด

รับเอาพลังงานจากโซล่าเซลล์มาใช้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆพัฒนา ก็กำชับกำชาพวกเราว่า ใครมีความรู้ก็ช่วยหน่อย ทุกวันนี้เรายังเสียค่าไฟจากโรงไฟฟ้าอยู่เป็นแสนๆ 3แสน 4แสน 5แสน 

เพราะฉะนั้น ไฟแดดเรามีพอหรือไม่ก็เพิ่มเติมได้ ก็พูดฝากลมฝากแล้งไป ว่า ใครจะช่วยกัน ให้เรารอดตัว ถ้าเผื่อว่า บ้านราชฯ รอดตัวจากค่าไฟ โซล่าเซลล์ Cover เลย คุ้มจากที่เราใช้อยู่ ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ โอ้โห…สมบ ธมด ปกต หห จจ มชยลล นจ นะจ๊ะ สบายมากธรรมดาปกติหายห่วงจริงๆไม่เชื่ออย่าลบหลู่ นะจ๊ะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาปฏิบัติเป็นลำดับอย่างไม่กดข่ม วันพุธที่ 16 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 มีนาคม 2565 ( 05:24:46 )

ถ้าโพธิสัตว์ระดับ 8 ไม่แสดงตัวจะรู้ได้อย่างไร

รายละเอียด

ถ้าเผื่อว่ามีพี่อาจจะมาถึงโพธิสัตว์ระดับ 8 เป็นพี่ของระดับ 7 ก็ตามที่สูงกว่าก็มาพูดสิ่งที่สูงกว่าให้อาตมาฟังยืนยันมาในยุคนี้ยืนยันกันมา ถ้ายืนยันไม่ได้อาตมาก็ยืนยันว่าเป็นไก่ตัวพี่อยู่ ไม่ได้ไปหลงตัวเองว่าไม่มีใครจะใหญ่กว่าเรา มาแสดงตัวแล้วก็ช่วยกันและมันจะสอดคล้องกัน ถ้ามาที่ใบยืนยันสภาวะฉีกชี้ อาจจะมีพวกที่ไม่แสดงตัวก็ได้แล้วไม่แสดงตัวจะรู้ได้อย่างไร ก็รู้ได้ พวกคุณจะค่อยๆรู้เหมือนความจริงที่พวกคุณรู้ตาม คนที่มาใหม่มาแสดง พวกคุณก็จะรู้ตามใช่ไหมมันก็จะตรงกันหมดแล้วไอ้ที่มันยิ่งกว่าคุณจะใช้วิจารณญาณของคุณ ตัดสินเลยว่าของอาตมาหรือของอีกคนหนึ่งนั้นอันไหนจะใช่ พวกคุณจะเป็นคนตัดสิน พวกคุณจะเป็นคนช่วยบอกอาตมา อาตมาไม่มีปัญหาเลย แล้วคุณจะช่วยอาตมา เออ ที่มาใหม่ใช่ แล้วขอยืนหยัดมาใช้วิจารณญาณอย่างไม่มีตัวตน เราไม่มีความลำเอียง จะเอาความซื่อสัตย์ซื่อตรงมาก็จะดู ถ้าหากมาจริงอาตมาก็จะรู้ว่านี่พี่จริงๆเราก็เบาเลย ช่วยกันก็จะมากขึ้นกว่านี้ แต่นี่ 50 ปีแล้ว ไม่แน่นะ พี่อาจจะอายุน้อยกว่าอาตมาก็ได้ ไม่แน่นะ ยังไม่ถึงเวลาที่จะมาช่วยก็ได้ บางทีอายุอาจจะไล่เลี่ยกัน บางทีอายุอาจจะอ่อนกว่าเยอะ บางทีอาตมาจะตายไปก่อน ตอนนี้พี่อาจจะอายุน้อยน้อยก็ได้ นี่เยอะนะ พูดไปจะยาว มันจะต้องอธิบายกันอีกไม่ต้องห่วง ที่ยังไม่ได้อธิบายก็ฝากไว้ก่อนโอฬาร โอฬารแปลว่าเยอะแยะ ฝากไว้ก่อนอีกเยอะแยะ ฝากไว้ก่อนโอฬาร ไม่ได้หมายถึงใครที่ไหนนะ แต่ก่อนมันมีโฆษณากระเบื้อง 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2563 ( 09:44:32 )

ถ้าไม่กระทบสัมผัสไม่เกิดความจริง

รายละเอียด

เริ่มต้นจิตวิญญาณมันรับรู้ตั้งแต่กรอบแค่พืช มีธาตุรู้ที่รู้ในจิตแค่พืช คุณก็ไม่มีเวทนา เวทนาที่คุณไม่ต้องการ ธรรมชาติมันจะมีธาตุรู้ที่รู้ดีเต็มที่อยู่ และรู้จนกระทั่งเป็นปัญญาคือจัดเป็นเวทนาเก๊ที่มาหลอก เป็นรสผี รสมาร รสหลอก ว่ามันดี มันสูงส่ง เอาออกได้เลยก็สมบูรณ์ 

ถ้าคุณไม่รู้อย่างนี้ โดยจิตเจตสิกต่างๆ อ่าน อาการ ลิงค นิมิต ของมันออกตามที่อาตมาขยายความให้ฟังเป็น อุเทส แล้วไปปฏิบัติออกจากอาการมันได้มันมีลิงคะมันมีนิมิตอย่างนี้แล้วมันทำให้หายไปจางคลายได้หรือดับสนิทได้ ส่วนที่มันเป็นเจตสิกควรจะดับ โดยการมีกระทบสัมผัส 

ถ้าไม่กระทบสัมผัสคุณไม่เกิดความจริง ไม่เกิดสภาวะจริงได้หลับตามันเกิดเป็นอดีตกับอนาคต เข้าใจชัดไหมว่าอดีตกับอนาคตมันไม่มีของจริง มันเป็นความจำไม่ใช่ความจริง หรือความคิดฟุ้งซ่านเป็นอนาคตไปมันไม่ใช่ของจริง เพราะฉะนั้นอย่าไปเสียเวลาอยู่กับมันโดยการหลับตาที่เป็นอดีตกับอนาคต เป็นทิฏฐิ 62 

มันไม่เกิดประโยชน์อะไรนั่งหลับตาปฏิบัติธรรม เมื่อไหร่จะเข้าใจ เมื่อไหร่จะตื่นสักที สงสาร พูดเมื่อไหร่ก็นึกถึงท่านทั้งหลาย หลายผู้หลายคนก็แก่เฒ่า อายุเป็น 100 ปีบวชตั้งแต่เป็นเณรจนเป็นพระจนอายุ 100 กว่าแล้ว เสร็จแล้วก็ไม่ไหว แสดงประพฤติเป็นข่าวคราว ว่าเป็นพระอรหันต์แล้วอะไรอย่างนี้ที่เป็นข่าว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่อง กาย งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 45 วันนี้วันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2566 ( 13:16:41 )

ถ้าไม่จริงจะกล้าบอกอย่างไรว่าใครเป็นอรหันต์

รายละเอียด

แล้วก็พูดแล้วขยายความ ไม่ใช่ว่าไม่มีสถานะไม่มีบุคคลยืนยันแต่มี เอามาเปิดเผยมีผู้ปฏิบัติตามได้เป็นอรหันต์จริงได้ด้วย แล้วท่านกล้าบอกอย่างอาตมาไหม ขออภัยมหาบัวเคยบอกไหมว่าคนนั้นคนนี้เป็นอรหันต์ นอกจากคนจะบอกว่าอาจารย์ของคุณเป็นอะไรเท่านั้น คุณเคยบอกว่าลูกศิษย์ของคุณเป็นอรหันต์ไหม มหาบัว มีไหม ไม่กล้าบอกหรอก มันไม่ชัดเจนจะกล้าบอกอย่างไรมันคลุมเคลือ ไม่กระจ่าง ของมหาบัว เป็นศาสนาเทวนิยม ถ้าเป็นพุทธศาสนาก็เป็นสาย กิณหา ทางสายธัมมชโยเป็นสายอาภัสสรา อันหนึ่งทางสว่าง อันหนึ่งทางมืด อันหนึ่งสว่างจนจ้าพร่าพราย ครอบงำด้วยความพร่าพรายฟรุ้งฟริ้งแพรวพราว จะเป็นลักษณะอย่างนั้น พวกปรุงแต่งจัดจ้าน เป็นพวกสองเพศนี่จะไปทางโน้นเยอะ ตกแต่งปรุงแต่งไปเยอะ จะมาก พวกสองเพศ จะปรุงแต่งไป ส่วนทางนี้มาหาทาง 1 ทาง 0 ดับ แต่เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็นสุภกิณหา ไม่ใช่อาภัสรา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมในงานพิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2564 วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2564 ( 15:40:58 )

ถ้าไม่จัดการมันก็เป็นเรื่องของวิบากบาป

รายละเอียด

ใครไปอุ้มคนผิดก็เป็นมารศาสนาด้วย ตำรวจไม่จัดการกับคนอุ้ม ตำรวจก็เป็นมารศาสนาอีก ที่นี่ไม่ได้จบ ถ้าไม่จัดการมันก็เป็นเรื่องของวิบากบาป ก็ติดค้างไปอย่างนั้นแหละ ถ้าหากจัดการไปถูกชำระความได้รับผิดแล้วรับวิบากเสีย อย่างนั้นอย่างนี้ คุณก็จะลดลงไปเอง มันจะบวกลบคูณหารกันไปตามลำดับของมันเอง 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 18:43:25 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 07:11:56 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 03:00:47 )

ถ้าไม่ช่วยกันก็คือไม่ใช่คนต่ำกว่าคน

รายละเอียด

คนเรานี่เกิดมาแล้ว เรามีประโยชน์แก่กันและกัน โดยเฉพาะคนใกล้ชิด คนที่เราได้อาศัยพึ่งพากัน อาศัยกินอาศัยใช้ อาศัยอยู่ใกล้ชิดด้วยกันนี้ มันยิ่งจะต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การใจดำแก่กันมันไม่ควรหรอกมันควรจะช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างแท้จริง ในประดาทั้งโลกนี้ คนเป็นสัตว์ประเสริฐ มีพืช วัตถุ ดิน น้ำ ไฟ ลมเราก็ควรจะต้องช่วยคนก่อนช่วยสัตว์ช่วยพืชก่อนดินน้ำไฟลม ก็เป็นภาษาที่พูดนี้คงจะไม่ใช่เรื่องที่จะไม่เข้าใจ มันเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นคนเจ็บคนป่วยเขาไม่อยากเป็น เขาเจ็บเขาป่วย มันเป็นเรื่องของไตรลักษณ์เป็นเรื่องของธรรมชาติสัตว์โลก สัตว์โลกมันช่วยกันไม่เป็น มันช่วยกันบ้างเหมือนกันนะสัตว์โลกสำหรับสัตว์ที่สมองพัฒนามากหน่อย ก็ช่วยกันเท่าที่ช่วยได้ แต่คนนั้นช่วยได้เยอะมีปัญญามีความเฉลียวฉลาดเยอะ ก็ต้องช่วยกัน ถ้าไม่ช่วยกัน ก็คือไม่ใช่คน ต่ำกว่าคน ใครอยากจะต่ำกว่าคนก็ไม่ต้องช่วย ถ้าใครคิดว่าควรช่วยกัน คนเจ็บคนป่วยยิ่งเขาติดเตียง.. นี่คนตาบอดเป็นเบาหวาน มันจะต้องช่วยสิ ต้องช่วยกัน ไม่มาช่วยกันไม่ใช่คน แรงพอเปล่า? แรงพอหรือยัง อาตมาว่ามันแรงแล้วนะพูดอย่างนี้ จริงนะ ทีนี้บอกว่ามีอานิสงส์อะไรก็เป็นความรู้ปัญญาของมนุษยชาติ อานิสงส์ก็เป็นประโยชน์ที่ได้ช่วยคน จะช่วยให้เขาทำยังไง แม้แต่จะช่วยเขา เขาจะตาย

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 10:31:55 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 03:34:42 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 03:04:48 )

ถ้าไม่ตัดขาด มันก็ไม่จบ

รายละเอียด

สรุปแล้วคำใหญ่ของพระพุทธเจ้าคือสิริมหามายา เป็นพยัญชนะ พยัญชนะก็สูงสุดจริงๆเลย ยอดคือเป็นมายา มันเป็นเรื่องที่ไม่จริง มายาคือของหลอก มายาคือของไม่จริง เพราะฉะนั้นคำนี้จึงเป็นคำที่จริงการเกิดมาเป็นอยู่มามีชีวิต มีจิตวิญญาณ มีอะไรอยู่นี่ มันอยู่อย่างหลอกๆทั้งนั้นเลย มันไม่มีอะไรเลย แล้วมันก็หลอกมาที่สุข แล้วมันก็ไม่ขาดทุกข์ เพราะสุขกับทุกข์มันแยกกันไม่ได้ อันนี้แหละเขาไม่ได้มีการรู้กัน ถ้าอาตมาไม่อุบัติขึ้นมาในโลกยุคนี้ รับรองก็จะสูญหาย ไม่มีใครมาเปิดเผยหรอกว่าสุขกับทุกข์มันอันเดียวกัน ถ้าจะดับต้องดับทั้งสุขและทุกข์ ไม่มีทั้งสุข ไม่มีทั้งทุกข์ นั่นคืออรหันต์ 

ถ้าใครยัง จะว่าใช่ก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ มันทำได้แล้วเหลือน้อยกับนิด กับหมดแล้วมันหมดหรือมันเหลือ เป็นความจำสัญญามันจะหลงหลอกเราเองว่า มันยังจำได้อยู่ว่ารสสุข มันเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นมันก็จะต้องชัดเจนว่า อาตมาเคยอธิบายมาแล้ว มันสงสัย เนวสัญญานาสัญญายตนะ สงสัยอยู่ทำไม ทิ้งมันไปเลย ไม่เอาเลยปฏิเสธก็จบไปแล้ว คุณยังจะมีอยู่ ถ้ามีอยู่คุณก็ยังมี จะมีน้อยอยู่เท่าไหร่ มันก็คือมีใช่ไหม จะมีไปทำไม ก็หยุดเลยขาดกัน ตัดขาดกันจบก็จบแล้ว เมื่อคุณไม่ตัดขาด หรือที่ใช้ศัพท์คำว่า เว้นขาด ตัดขาด ถ้าไม่ตัดขาด มันก็ไม่จบ เอาพยัญชนะมาสื่อสัจจะได้อย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความเป็นแม่ที่ให้กำเนิดโลกุตรจิต วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2566 แรม 10 ค่ำเดือน 8(2) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2566 ( 19:13:53 )

ถ้าไม่นั่งหลับตาก็ไม่เรียกว่ามีสมาธิจริงหรือ

รายละเอียด

ไม่ผิดนะ ถูก อาตมาว่า ทุกวันนี้เขาเข้าใจพระป่าพระกรรมฐานคือพระปฏิบัติ ถ้าจะปฏิบัติศาสนาพุทธจะปฏิบัติธรรมบรรลุนิพพานบรรลุอรหันต์บรรลุฌานบรรลุสมาธิ ก็ต้องนั่งหลับตานี่แหละ ถ้าไม่นั่งหลับตาก็ไม่เรียกว่ามีสมาธิหรือไม่มีฌาน บรรลุวิมุติ ไม่ได้  ลืมตาไม่ได้ โอ้โห! มันน่าสังเวช น่าสงสารจังเลย 

ซึ่งอาตมาก็ว่าหลับตานั่นแหละหมดทางที่จะได้ ต้องมาลืมตาเรียนให้สัมมาทิฏฐิ จรณะ 15 วิชชา 8 นี่ต่างหากล่ะที่จะได้ 

มาหลับตากันทุกวันนี้ก็ยืนยันอยู่ แม้แต่สายพระบ้านที่เรียนปริยัติกันเยอะ ก็ยังนึกว่าการปฏิบัติจริงๆที่จะได้มรรคผลต้องนั่งหลับตานะ ทั้งๆที่เรียนปริยัติ เรียนบัญญัติ เรียนเปรียญ เรียนด็อกเตอร์ ไปได้ด็อกเตอร์มาจากมหาวิทยาลัยเทวนิยมด้วย ด็อกเตอร์ทางพุทธศาสนามา เวรจริงๆเลย แล้ว
กลับมายิ่งใหญ่อยู่ในเมืองพุทธ มันทำไมถึงได้พิกลพิการกันไปถึงขนาดนั้น กลับหัวเป็นหาง กลับฝาเป็นหม้อ กลับหม้อเป็นฝา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 ประการ 3 ข้อแรก โดยพิสดาร วันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2565 ( 20:10:45 )

ถ้าไม่มาเรียนรู้ธรรมะจะซับซ้อนในการแสวงหากาม

รายละเอียด

ถ้าไม่มาเรียนรู้ธรรมะเขาก็จะซับซ้อนในการแสวงหากาม ถ้าเขาไม่ได้บวชเป็นฆราวาสนะแต่ถ้าเขาบวชอีก เมื่อเขายังไม่มีสัมมาทิฏฐิ ยังเข้าใจผิดว่าที่ตนเองทำมาทุกอย่างนั้นยิ่งใหญ่ ไปหลงอัตตา ไมรู้กามแต่สุดโต่งไปหลงอัตตา หลงภพชาติหลงสรรเสริญเยินยอ ลาภยศ ละเอียดนะมหาบัวหลงลาภยศ

มหาบัวหลงว่าตนเองเป็นเจ้าของลาภช่วยประเทศชาติไว้ เพราะได้เรี่ยไรระดมทองคำ และดอลล่าร์ เข้ากองคลังเพราะฉะนั้นประเทศไทยอยู่ได้ด้วยทองคำของมหาบ้ว ได้สรรเสริญว่าตนได้ช่วยประเทศชาติ โดยเอาค่าของ พระพุทธเจ้า สาวกพระพุทธเจ้า ภิกษุไปเรี่ยไรซึ่งผิดแล้ว นี่คือความซับซ้อนของความไม่รู้ เอาไปเข้าคลัง นึกว่ายิ่งใหญ่ อัตตาจึงใหญ่ 

จะหลงตัวหลงตนว่า ประเทศไทยของฉันนะ ฉันเลี้ยงไว้นะเหมือนกับทักษิณเคยบอกว่าเขาเป็นคนเลี้ยงไว้ทั้งนั้น แม้แต่ชั้นสูงสุดก็เขาเลี้ยงเอาไว้ ใครเคยได้ยินไหมคล้ายกัน คือคนมันหลงตัวซ้อน ไม่รู้ความโต่งไปไกลที่เป็นอันตา ที่สุดแห่งที่สุดมันไปเรื่อยๆ อันตา ไปหากาม หาอัตตา ทางกามเขาไม่รู้ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส 

อาตมานำตัวอย่างของปรากฏการณ์จริงตัวตนจริงมาอธิบายธรรมะ ก็ขอบคุณมหาบัวที่อาตมานำมาใช้เป็นตัวอย่างอธิบาย 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบอาจารย์หมอเขียวและทีมงานแพทย์วิถีธรรม วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2565 แรม 6 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2565 ( 20:17:38 )

ถ้าไม่มีความยินดีในโลกุตระไม่มีทางทำการมนสิการเกิดผล

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคำว่ายินดีคำนี้ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ ถ้าไม่มียินดี ไม่มีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ยินดีต้องมีเป้าหมายด้วยนะ มีความยินดีในโลกุตระ ถ้าไม่มีความยินดีในโลกุตระไม่มีทางที่จะทำการมนสิการเกิดผล ไม่มีการทำใจในใจจนเกิดผล ชาวพุทธเราทุกวันนี้ก็ตาม เป็นเดียรถีย์กันนั่งหลับตาเต็ม มิจฉาทิฏฐิกัน มนสิการไปทำใจในใจอย่างมิจฉาทิฏฐิ ไปปฏิบัติการทำใจในใจของตนอย่างมิจฉาทิฏฐิ แล้วไปหลงยินดีในมิจฉาทิฏฐิ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม  จักร 4 คือธรรมะของโลกุตรบุคคล

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2564 ( 12:34:59 )

ถ้าไม่มีบารมีรูปกับนามก็จะห่างไกลกัน

รายละเอียด

ก็ต้องมีบารมีมาเกิดเป็นอันนี้ได้ คุณมาเกิดชื่อก็ต้องเป็นของคุณ ถ้าไม่มีบารมีรูปกับนามก็จะห่างไกลกัน แม้แต่ชื่อกับนามก็ไม่ลงตัวกัน เป็นคนชั่วก็ชื่อเสียงเท่ห์ดี เป็นคนดีก็ชื่อชั่ว ขี้เหร่ก็ชื่อว่างามๆ แต่ง้ามงามก็ชื่อว่าขี้เหร่ได้มันไม่ลงตัวกัน แต่นี่จะลงตัวกันหมดเลย อันนี้เป็นอจินไตยที่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร อธิบายยาก เป็นสิ่งที่สุดยอด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนอัตถิราคสูตรให้หมดสุขหมดทุกข์แท้จริง วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:16:50 )

ถ้าไม่มีพวกเราไปทำอย่างนั้นตอนนี้ประเทศฉิบหายแล้ว

รายละเอียด

เราเป็นสมณะไม่ใช่พระเขาไม่ได้ว่าเรา เขาไม่รู้ว่าเราเป็นสมณะเขาก็ว่าไปตามที่เขารู้ เราไม่ได้ถูกว่าเราอย่าไปสะเทือน พระเขาปลงไม่เป็นก็ใช่พวกเราปลงเป็น บอกเขาหน่อยเขาเสียเวลาบวชเปล่าพวกพระ ไปว่าเขาได้ดีแล้วล่ะ สันติอโศกปักหลักอยู่ในสนามรบ กปปส. รวมตัวกันตั้งแต่ที่มักกะสัน หรือที่สามเสน แล้วค่อยๆเคลื่อนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้วจึงมาระดมจนกระทั่งเกิดเป็นกลุ่มใหญ่ ไม่ใช่ว่าสันติอโศกไปร่วมกับกปปส แต่ว่า กปปส. มาร่วมกับสันติอโศกแม้แต่เป็นกลุ่มเล็กกว่าแต่เป็นกำลัง แล้วบอกว่าพาให้ประเทศฉิบหาย ไม่อยากพูดเลยว่าถ้าไม่มีพวกเราไปทำอย่างนั้นตอนนี้ประเทศฉิบหายแล้ว คุณดูไม่เป็น คุณไม่รู้ว่าพวกเราไปกอบกู้ประเทศไว้ จากความบรรลัยของรัฐบาล 3-4 รัฐบาล นี่แหละฝีมือของกลุ่มพวกเราเป็นฝีมือของชาวประชาชน ไปทำรัฐประหารรัฐบาล คุณฟังออกไหมฟังเป็นไหมที่อาตมาพูด หายโง่เสียที 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 14:09:59 )

ถ้าไม่มีมานะอัตตาจะไม่ข่มคนอื่น

รายละเอียด

สิ่งที่เราเคยเสพมา มันเป็นเรื่องเสพอย่างโง่ อวิชชาทั้งนั้น เสพว่าเป็นสุข อยากได้อยากมีอยากเป็น น่าได้น่ามีน่าเป็นทั้งนั้นที่เราเลิกมา ทบทวนดูสิ มาถึงขั้นมานั่งฟังอาตมาบางคน 10 ปี 20 ปี 30 ปี ทบทวนดูสิ่งที่เราทิ้งมา แต่ก่อนก็ยังว่าน่าได้น่ามีน่าเป็นทั้งนั้น จี๋จ๋ามาก่อนทั้งนั้น แต่เดี๋ยวนี้ก็จืดจาง และเห็นคนอื่นน่าสงสาร ไม่ต้องไปข่มคนอื่นหรอก คนไหนไปข่มคนอื่นก็ไม่ค่อยดี จิตใจมีมานะอัตตา ถ้าไม่มีมานะอัตตาก็จะไม่ข่ม จะเห็นว่าก็เค้าเล็กกว่าเราน่ะ

ธาตุอันนี้ไม่ใช่ธาตุคุณธรรม คุณธรรมอันนี้ในสัตว์เดรัจฉานก็ยังมี หมาใหญ่กับหมาเล็ก มันเห็นว่าหมาเล็กยอมแพ้แล้วมันรู้ตัวก็ไม่ข่ม มันจะทำกับเราแรงๆบ้าง ถ้าเผื่อว่ามันไม่รู้ตัวก็สอน อย่างเดรัจฉานสอนไม่เป็นมันก็กัดทำร้ายอย่างแรงบ้าง เพราะมันสอนไม่เป็น แต่คนก็สอน บางคนสอนไม่เป็นก็เพี๊ยะ!ให้ ลงมือแรงๆบ้างก็เป็นธรรมดา 

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ
วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

เป็นโลกุตระได้เพราะเหนือมนุษย์โลก


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 19:47:11 )

ถ้าไม่มีวิบาก มารบ่มี บารมีบ่เกิด

รายละเอียด

กลับมาที่เรื่อง นานาสังวาสที่อาตมาประกาศ บอกตรงๆว่าอาตมาไม่มีเจตนาจะมา สร้างเรื่องให้มันยุ่งยากเลย แต่มันเป็นวิบากของอาตมา ที่อาตมาจะต้องเจอ ที่ต้องเจอวิบากพวกนี้เพราะมันต้องพิสูจน์ตัวเอง ถ้าไม่มีวิบาก มารบ่มี บารมีบ่เกิด เป็นเรื่องจริงเป็นสัจจะต้องเป็นเช่นนั้น ขออภัยที่เรียกว่า มาร อาตมายิ่งทำงานมา 50 ปียิ่งชัดเจนในความรู้ของอาตมา ยิ่งชัดเจนว่า อาตมานี้ใช่นะ มันยิ่งมีเหตุปัจจัย เรื่องจริงยืนยัน ว่า ยิ่งยืนยันอะไร อาตมาคือใช่ อาตมาคือใคร อาตมามาทำอะไร แต่ก่อนนี้ทำมาก็ไม่ชัดว่าตัวเองใช่หรือ ยิ่งทำมาถึงวินาทีนี้ ยิ่งใช่ มันยืนยันว่า ใช่ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2563 ( 10:00:27 )

ถ้าไม่มีสภาวะที่ถูกต้องสัมมาทิฏฐิจะไม่รู้ความจริง 

รายละเอียด

แต่ความเพี้ยนศาสนาพุทธ ศีลเขาก็ว่าใช้ไปควบคุม ระมัดระวัง บังคับ ได้แค่กายกับวาจา ศีลเป็นหลักบังคับให้อย่าผิดนะ ควบคุมกิริยาทางกายวาจาอย่าให้ผิดหลักเกณฑ์ของศีล ส่วนจิตจะเป็นสมาธิเขาก็แยกเป็นนั่งหลับตา สะกดจิตตัวเองให้แข็งแรง จิตวิมุติบรรลุธรรมเป็นนิพพาน เขาเข้าใจนิพพานวิมุติเป็นแบบของเขา สัญญาต่างกัน สัญญาของเขาอย่างหนึ่ง ของพระพุทธเจ้าเป็นอีกอย่างหนึ่ง เขาสัญญาเป็นแบบเดียรถีย์ พวกทำฌานสมาธิแบบโลกีย์ ไม่ใช่แบบโลกุตระ ที่มีจรณะ 15 วิชชา 8 ที่มีปัญญารู้ร่วมกันแยกกันไม่ได้ ปัญญากับฌาน เป็น 2 ใน 1 หรือ 1 ใน 2 จะอธิบายอย่างไรเป็นสิริมหามายาก็ชัดเจน ไม่แยกกัน อันนี้เป็นเทวะอันยิ่งใหญ่ คู่ฌานกับปัญญา ฌานอยู่ที่ไหนปัญญาอยู่ที่นั่น ปัญญาอยู่ที่ไหนฌานอยู่ที่นั่น ปัญญาไม่มีก็ไม่มีฌาน ผู้ที่รู้ 2 ใน1 หรือ 1 ใน 2 นี้จะจบ ไม่แย้ง ไม่เถียง ส่วนคนไม่รู้ไม่มีสภาวะจะไม่รู้ความจริง ถ้าไม่มีสภาวะที่ถูกต้องสัมมาทิฏฐิตรงเป๊ะเลย จะไม่รู้ความจริง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 21:13:14 )

ถ้าไม่มีอุเบกขาแล้วไม่มีนิพพานในโลก

รายละเอียด

ถ้าอาตมาไม่หยิบเอามาพูด รับรองไม่มีใครเอามาพูด เพราะว่าเขาต้องมีเนื้อแท้ของนิพพานของอุเบกขาเป็นหลัก ถ้าไม่มีอุเบกขาแล้วไม่มีนิพพานในโลก และอุเบกขานี้ต้องเป็นเนกขัมมสิตอุเบกขา ในมโนปวิจาร 18 ที่มีเนกขัมมะและเคหสิตะ อย่างละ 18 ทำให้เป็นเนกขัมมะได้ก็จบที่อุเบกขา ถ้าไม่มีอาตมาเอามาอธิบาย มันก็สูญหายไปกับกาลเวลาแล้ว เพราะมันไม่มีใครเข้าใจแล้ว ไม่เห็นความสำคัญ อาตมาก็มาคว้าทัน หยิบขึ้นมาทันทำให้พวกเราได้เข้าใจแล้วเอาไปใช้ เป็นทฤษฎีเป็นหลักสูตรเป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เป็นสวากขาโต ก็เอามาปฏิบัติให้เกิดคุณสมบัติ คุณวิเศษตามนี้ เราก็ได้รู้ว่า อ๋อ ปริสุทธา มันเป็นอย่างนี้ มันไม่มีกิเลส สะอาดจากกิเลส สะอาดยังไม่สมบูรณ์ถาวรก็แล้วแต่ เราก็จะรู้ นัยที่ละเอียด สะอาดยิ่งขึ้น บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นเป็น ปริโยทาตา ปฏิบัติไปก็เป็นการสั่งสมผลของความบริสุทธิ์สะอาดมากขึ้น จิตก็ยิ่งเก่งขึ้นเป็นมุทุ แล้วเราก็มีความเป็นไปของกรรม ของการปฏิบัติ มันก็จะเกิดผลจริงขึ้นมาอีกเป็น กัมมัญญา กัมมัญญา ก็ยิ่งเกิดการตกผลึกปภัสสราตกผลึกควบแน่นๆๆ ควบแน่อะไร ควบแน่นความบริสุทธิ์ เรียกด้วยภาษาคำว่าประภัสรา สะอาดผ่องใส ใสๆๆ เหมือนสำนวนของธัมมชโยแต่มันคนละเรื่องเลย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 12:06:19 )

ถ้าไม่มีใครบอกก็ไม่ทราบได้ว่า ท่านประยุทธ์ทำผลงานอะไรบ้าง

รายละเอียด

ไม่เห็น หรือว่าเห็นอยู่ผลงานในประเทศไทยแต่ไม่รู้ว่าใครพาทำสิ่งเหล่านี้ เช่นตอนนี้กำลังสวยเลยนะ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง นั่นคือผลงานพลเอกประยุทธ์ ยังไม่มีนายกคนใหม่มา ผู้ที่จะมาเป็นนายกก็คงจะทำงานได้มากกว่าพลเอกประยุทธ์ เท่าที่ฟังเขาสงสัยอยู่ เจ้าประคุณทูนหัว พอดีฟังแล้ว นกฟังก็คงตกต้นไม้เลย ในคำโฆษณาของเขา นกฟังแล้วหลับผลอยตกต้นไม้เลย จริงๆ 

อาตมากลัวมากเลย กลัวนักพูด หรือว่ากลัวเลวที่สุดในแผ่นดินคือหากินบนคำว่าช่วยเขา บอกว่าจะช่วยอันนั้นอันนี้แล้วเอาไหม เวลาเขาเราก็ดูเขาไป อาตมามาวิจารณ์เขาก็อาจจะผิดก็ได้ เขาอาจจะเป็นผู้วิเศษเกิดมาในยุคนี้เป็นพระเอกขี่ม้าขาวก็เป็นได้เราก็ดูไป แต่เราก็จะว่าไปแล้วมันเหมือนดูถูก ประมาทเขาไปเลยนะ ประมาทเขาก่อนที่เขาจะแสดงความเป็นจริงจะได้แค่ไหนก็ยังไม่รู้เลย ดูแล้วมันเวอร์ๆไปจะไหวเหรอ มันเป็นอย่างนั้นมันทำให้เข้าใจอย่างนั้น ก็พูดไปตามที่เราเข้าใจ เราคนซื่อ เข้าใจอย่างนี้ก็พูดไปอย่างนี้ จะผิดจะถูกอย่างไรก็ขออภัยก็แล้วกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #26 เป็นอรหันต์แล้วจึงหมดผีปอบ วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2566 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก  


เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2566 ( 18:55:24 )

ถ้าไม่รู้ปฏิจจสมุปบาทจะเป็นชาติอย่างไร

รายละเอียด

ใช่ อยู่ที่ อวิชชา เพิ่มขึ้นมาเป็นวิชชาไปตามลำดับ ถ้าอวิชชาที่เป็นต้นเหตุจากสายปฏิจจสมุปบาทก็ขึ้นต้นด้วยอวิชชาแล้วไปลงท้ายด้วยชาติ จากชาติไปก็เป็นชรา มรณะ โศก ปริเทวะ ทุกข โทมนัส อุปายาสะ ก็โมเมนตัมของชาติ ชาติเป็นตัวจบของปฏิจจสมุปบาท อวิชชาตัวต้น ชาติเป็นตัวจบ ถ้าไม่รู้ปฏิจจสมุปบาทก็จะเป็นชาติที่วนเวียนนานนับชาติ อวิชชาโง่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วมันจะฉลาดอย่างโลกีย์แต่มันจะโง่ซ้ำซ้อนๆๆไปเรื่อยๆยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 27 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:36:56 )

ถ้าไม่เข้าใจความสงบ 2 อย่างจะต่อปัญญาจากข้อที่ 4 ไปไม่ได้

รายละเอียด

เพราะคุณเข้าใจความสงบ ความสงบนี้เป็นตัวสำคัญ สงบคืออะไร สงบคือกิเลสดับ เพราะฉะนั้นคุณจะไปเรียนรู้กิเลสดับเข้าไปอีก คุณจะต้องต่อไปปัญญาข้อที่ 4 เอาศีลไปปฏิบัติจนเกิดสมาธิ เกิดปัญญาไปเยอะๆ เรียกว่า พหูสูต สั่งสม อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา เกิดวิมุติๆๆไปอีกเยอะจึงเรียกผู้นี้ว่าพหูสูต พหูสูตจะต้องศึกษาอย่างนี้อีกไปอีก ละไว้ในฐานที่เข้าใจ 

จึงเรียกว่าให้วิริยารัมภะ ให้พากเพียรอย่างที่ได้มาแล้วเพิ่มมากขึ้นๆ เพิ่มเป็นปัญญาข้อที่ 5 ปัญญาข้อที่ 6 ก็บรรลุความสงบ จะรู้ว่าอย่าเพิ่งไปอวดดี องค์ที่ท่านสงบ องค์ที่ท่านไม่พูด ท่านนิ่งๆ อย่าไปแตะ บางทีเรานั่นแหละจะโดน เพราะว่าเราไม่หยั่งรู้ท่าน เพราะฉะนั้นอยู่ในสภา อยู่ในที่ที่มีบัณฑิตทั้งหลาย จะไม่ประมาท แต่จะไม่กล้า อรหันต์จริงๆจะไม่กล้า เพราะอยู่ในสภาคือผู้รู้ที่เป็นบัณฑิตทั้งนั้น ถึงเวลาควรพูดก็พูด ถึงเวลาไม่ควรพูดก็นิ่ง เราไม่กล้าไปตำหนิผู้ที่ท่านนิ่งไม่พูดเลยว่าท่านไม่รู้ ทำไมกล้าไปทำ นี่คือปัญญาข้อที่ 7

ปัญญาข้อที่ 8 ก็รู้ครบทั้งหมดเลย รู้ความเกิด ความเสื่อม ความดับของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์แม้เป็นอัลไซเมอร์ก็ไม่มีพฤติกรรมกามเมถุน วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 09:21:39 )

ถ้าไม่เรียนรู้ธรรมะโลกุตระจะไม่รู้จักกรรมวิบาก

รายละเอียด

ทางโลกีย์เขาก็พยายามให้คนมีความสูงส่งให้คนนับถือ เขาก็ทำแต่ความดีๆๆๆ ตามที่เขาเข้าใจ แล้วก็ได้ความยอมรับนับถือจริงๆ จนที่สุดก็เป็นศาสดาองค์ใดองค์หนึ่ง ถ้าไม่ได้เรียนรู้ธรรมะที่เป็นโลกุตระ เขาก็จะวนเวียนอยู่กับศาสดา มีวิบากก็ลงไป คนอื่นก็มาแทน ดีไม่ดีวิบากมาก ลดลงไป เป็นอะไรต่ออะไรอีกได้ ซึ่งเทวนิยม เขาจะไม่รู้การเวียนว่ายตายเกิด เขาจะไม่ได้เรียนกรรมวิบาก เพราะว่า ศาสดาไม่รู้เรื่องนี้ เพราะฉะนั้นก็ไม่สอน มีแต่ว่า พระเจ้าจะสั่งให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เจริญหรือไม่เจริญให้เสื่อมหรือไม่เสื่อมก็พระเจ้าทั้งนั้น แม้แต่ที่สุดจะดีหรือชั่วก็พระเจ้าสั่งการ ก็เลยกลายเป็นคนมีตัวเองที่จะ 1. เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สั่ง หรือ 2. ก็กิเลส ตัวเองก็เป็นตัวกิเลสฉันจะทำแบบนี้ โดยฉันไม่กังวล จะเป็นผลบวกลบ เป็นกุศลอกุศลสั่งสมเป็นวิบากสะสม บวกลบคูณหาร วิบากต่างๆที่จะให้ตัวเราเองได้ดีตกยาก ปัญญาทราม  ปัญญาดีอะไรก็แล้วแต่ เขาก็จะไม่รู้จักความละเอียดละออเหล่านั้น 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 28 ธันวาคม 2563 ( 14:36:13 )

ถ้าไม่ได้พบสัตบุรุษจะเป็นเช่นไร

รายละเอียด

ผู้มาเรียนตามสัตบุรุษอย่างพวกชาวอโศก มาเรียนตามอาตมาที่เป็นสัตบุรุษ พูดอย่างไม่เก้อเขินไม่อายไม่ มังกุเลย มันเป็นความจริงพูดความจริงชัด พูดจนหมดเนื้อหมดตัวไม่ได้ปกปิด 

เหมือนพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก ก็บอกว่า เรานี่แหละเป็นพระพุทธเจ้า เราเป็นผู้ที่รู้จริงยิ่งกว่าใครๆ ถ้าจะว่าพูดใหญ่แล้วไม่มีใครพูดใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า อาตมาพูดใหญ่ก็ชี้ลงไปในตัวเองบ้าง ซึ่งมันไม่มีใคร ขออภัย ไม่มีใครที่จะเป็นไก่ตัวพี่ในยุคนี้ มันก็เลย ไก่กระจอกงอกง่อยพวกนี้ ก็เลยบอกว่า เอ็งมาจากไหนเป็นใคร อาตมาชาตินี้ไม่มีใครเป็นครูบาอาจารย์มีธรรมะของตัวเองมาตั้งแต่ชาติก่อน เขาก็บอกว่าเป็นพระพุทธเจ้ามาจากไหน เราก็บอกว่าเราไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า เราไม่ได้มีความคิดคำพูดสักนิดเลยว่าเป็นพระพุทธเจ้า เขาก็บอกว่า เราหลงตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าซึ่งมันไม่ใช่ไม่มีเลย เพราะฉะนั้นผู้ใดไม่ได้พบสัตบุรุษ แล้วจะไปปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 ลงนรกอเวจีหมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 61 สลายพระเจ้าแห่งอวิชชาด้วยปัญญาจากสัตตบุรุษ วันจันทร์ที่ 31ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2565 ( 12:40:36 )

ถ้ำ

รายละเอียด

อะไรก็ตามที่จิตไปติดยึดอยู่คือ ถ้ำ อย่างมหาบัวนี้ติดหมาก เขาเรียกหลวงตามหาบัว

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 09:45:51 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:06:33 )

ถ้ำ

รายละเอียด

คำว่า ถ้ำ นี้ หมายถึง สิ่งที่ติดยึดอยู่ภายนอก แม้แต่ฝีที่ร่างกายก็คือถ้ำ ไม่ใช่เรื่องตื้น ให้ติดตามไป ก็ขอให้คุณเปิดใจฟังให้ดีจะเข้าใจได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 13:30:42 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:07:53 )

เวลาบันทึก 10 สิงหาคม 2563 ( 03:01:16 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์