@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ปรัย

รายละเอียด

รอบ

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 3 หน้า 155


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:04:40 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:37:08 )

ปรากฏการณ์ ตูน บอดี้สแลม

รายละเอียด

หรือปรากฏการณ์ที่ผู้คนตั้งแต่เหนือจรดใต้...ไล่ตั้งแต่นราธิวาสไปยันเชียงราย ตั้งแถวรอรับมหกรรมการวิ่งของคุณน้อง “ตูน บอดี้สแลม” พร้อมกับกำเงินบริจาค ตั้งแต่รายละสิบบาท ร้อยบาท พันบาท ยันไปถึงล้านบาท สิบล้านบาท จนไม่ว่างบประมาณสาธารณสุขประเทศไทยจะตั้งเอาไว้ขนาดไหน หรือถูกนำเอาไปใช้ทำอะไรมั่ง แทบไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความมุ่งมั่นที่จะรวบรวมเงินบริจาคเพื่อก่อตั้ง สร้างโรงพยาบาล ซื้ออุปกรณ์เครื่องมือในการเยียวยารักษาผู้อื่น ตามเจตนาความต้องการของคุณน้อง “ตูน บอดี้สแลม” ชนิดพรวดเดียวปาเข้าไปเป็นพันๆ ล้านบาท แถมไม่อาจคิดคำนวณเป็นเงินๆ-ทองๆ ได้เท่านั้น เพราะสายใยแห่งความรัก ความศรัทธา ความเสียสละเพื่อผู้อื่น ที่ถูกผูกโยงเอาไว้ตั้งแต่ใต้จรดเหนือ ยังเป็นอะไรที่คิดเป็นตัวเงินตัวทองแทบไม่ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:11:42 )

ปรากฏการณ์ของกลุ่มคน ที่เป็นตัวจริง

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นพวกเราชาวอโศกมาเกิดมาในยุคนี้ อาตมาก็เป็นโพธิสัตว์ระดับนี้ขึ้นมา แก้สิ่งที่มันเสื่อม ซึ่งเสื่อมจริงๆ อาตมาไม่ได้ใส่ความ ไม่ได้ไปหลงตัวหลงตนอะไร พุทธศาสนาโลกุตตรธรรมของพระพุทธเจ้าก็เสื่อมมาจนถึง 2,500 กว่าปี อาตมาอุบัติขึ้นมาก็พัฒนาศาสนาขึ้นมาใหม่ เพราะอาตมาเป็นผู้นำ เป็นไก่ตัวพี่ ไม่ได้หลงตนแต่พูดจริง 

แล้วก็นำพาปลูกฝัง ผู้คนเข้าใจ อธิบายนำพาจนเกิดกลุ่มชาวอโศก นี้คือคนเชื้อแท้ กลุ่มแท้ที่เป็นกลุ่มคณะพลเมืองที่ชื่อว่า พุทธศาสนิกชน นี่คือเนื้อแท้ของโลกุตรธรรมได้ ไม่ใช่มีแต่โลกียธรรม ที่เป็นของศาสนาอื่นทั้งหมด แต่พุทธก็มีโลกียธรรมที่ละชั่วประพฤติดี​ แล้วดีจริงๆ ดีถาวรด้วย ดีอย่างถูกต้องตามความเป็นจริงของความเป็นโลกียธรรม 

โลกียธรรมไม่เที่ยงแต่เราก็ดีได้ตาม กาละ เทศะ ฐานะ ในแต่ละยุคแต่ละกาล ก็เอามุมเหลี่ยมที่เกี่ยวทุกอย่างทั้ง กาละ เทศะ ฐานะ ดีสุดอันไม่เที่ยง กาละไม่เที่ยง เทศะไม่เที่ยง  ฐานะไม่เที่ยง แต่ในยุคที่ดีที่สุดในปัจจุบันก็ดีทั้งนั้น ยิ่งกว่าโกุตรธรรมที่เป็นของเที่ยงแล้วก็เป็นศูนย์ หรือนิพพานปรินิพพาน ซึ่งเป็นเนื้อแท้ของสัจธรรมที่ใช้พยัญชนะเรียกกันอยู่นี่ ทำได้จนเกิดมนุษย์ประเสริฐ มนุษย์เจริญที่เป็นโลกุตรธรรมอย่างแท้จริง แล้วก็มีพฤติกรรมรวมอยู่เป็นมนุษยชาติ เกิดปรากฏการณ์ของกลุ่มคน ที่เป็นตัวจริง ตามพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วเอามาศึกษาปฏิบัติจนเกิดเป็นจริงได้ขนาดนี้ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 4 วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันแรม 10 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 12:56:00 )

ปรากฏการณ์ความเป็นไทย

รายละเอียด

พูดง่ายๆ ว่างานนี้...คงไม่ต่างอะไรไปจาก “ปรากฏการณ์” ที่เคยทำให้ใครต่อใครอดตื่นตะลึงต่อสิ่งที่เรียกว่า “ความเป็นไทย” ที่ยากจะหาคำอธิบายมาแจกแจงรายละเอียด ความรู้สึก กันได้ถนัดๆ เช่น ปรากฏการณ์ที่ผู้คนนับล้านๆ หลั่งไหลมารอถวายบังคมพระบรมศพของล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ชนิดมาเข้าคิวรอตั้งแต่ตีสี่ ตีห้า แม้จะได้เข้าไปถวายความเคารพประมาณเที่ยง หรือบ่ายแก่ๆ ก็ไม่เคยคิดจะบ่นพึมๆ พำๆ ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย ใจจดใจจ่ออยู่กับสิ่งที่ตัวเองเคารพ รัก และศรัทธา แถมยังพร้อมที่จะทำอะไรดีๆ สิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ตามแนวทางของผู้ที่ตัวเองเชิดชู บูชา ชนิดไม่ต่างไปจากอุดมคติ อุดมการณ์ เอาเลยถึงขั้นนั้น...

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(การเมืองบุญนิยม) ตอน หัวใจประชาธิปไตยครบสูตร 2 หมวด 3 ประการ


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:10:12 )

ปรากฏการณ์จริง ที่พ่อครูเข้าไปร่วมปฏิวัติเริ่มจากยุคนอมินีสมัคร

รายละเอียด

ขอพูดถึงปรากฏการณ์จริง ประเทศไทยที่อาตมาเข้าไปร่วมปฏิวัติ 

ตั้งแต่พุทธศักราช 2549 อาตมาพาพวกเราตั้งขบวนที่ถนนราชดำเนินในแล้วเดินนำเข้าไปสู่สนามหลวง ไปถึงก็กราบพระก่อนเลย... ตอนนั้นรัฐบาลทักษิณก็ยังไม่ทีเดียว มันยังมีหางส่งต้องไปไล่ให้เสร็จกระบวนการก่อน แต่ทักษิณก็จบอาชญวิทยาเก่งจริงๆ เอานอมินีสมัคร เข้ามาได้ สมัคร สุนทรเวช ก็เป็นตัวแทนนอมินีได้ เราก็ไปจัดการไล่ แล้วทีนี้ก็มีตุลาการภิวัฒน์ อาตมาใช้คำนี้เองแหละ ใช้คำว่าตุลาการภิวัฒน์ ช่วยตัดสินให้สมัครแพ้คดี แค่ไปหาเงินทางโทรทัศน์ซึ่งผิดกฎหมาย ในรายการชิมไปบ่นไป คว่ำหลุดจากการเป็นนายกฯ อาตมาถือว่าเป็นผลงานที่ชัดเจน แต่เขาก็ว่าไม่ใช่ฝีมือประชาชนปฏิวัติ แต่มันมีองค์รวมของตุลาการภิวัฒน์ ก็ร่วมด้วย เพราะทุกอย่างมันต้องเป็นองค์รวมของสังขารธรรม อันนี้เป็นธรรมะที่ต้องศึกษาดีๆ ต้องเห็นร่วมกันและมีจุดอะไรที่จะช่วยกันได้ เอาจุดนี้ที่ไปทำอาหารหาเงินมันผิดกฎหมาย ก็จัดการตกไปตามกฎหมายหลุดออกจากเก้าอี้ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 14:12:50 )

ปรากฏการณ์จริงของมนุษยชาติและสังคม

รายละเอียด

มันเหมือนมหาตามะคานธีพูดไว้เลยว่าทรัพยากรในโลกนี้มีมากพอสำหรับแบ่งให้คนทั้งโลก แต่ไม่เพียงพอสำหรับคนคนเดียวที่มีความโลภตะกละไม่พอ ถ้าปฏิบัติอย่างที่เขาพูดมานี้สั้นๆ 

นี่คือพูดทฤษฎีหรือวิธีการที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ปัญหาการเมืองถ้าเข้าใจแล้วก็ไม่แยกกัน ผู้ฟังแล้วก็สรุปมานี้ เข้าใจธรรมะและอาตมาเชื่อว่าคนที่ไม่มีอคติ ฟังธรรมด้วยดีแล้วก็ตรวจสอบสภาวะความเป็นจริง ปรากฏการณ์จริงของมนุษยชาติและสังคม โดยเฉพาะสังคมคือมวลมนุษย์ที่เรียกว่า ชาวอโศก ก็จะเห็นความจริงที่ปรากฏ 

ถึงขั้นวรรณะ 9 ก็ตาม มาเป็นมนุษย์สาราณียธรรม 6 ก็ตาม ครบบริบูรณ์ตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้าได้จริง ยืนยันได้ อาตมาพูดนี่ไม่ได้ขี้ตู่ ใครไม่เชื่อก็มาลองพยายามวิจัยพิสูจน์ว่า อาตมาพาทำนี่พวกเราทำได้จริงหรือเปล่า 

ทุกวันนี้สังคมชาวอโศกเป็นสาราณียธรรม 6 เพราะเข้าใจวรรณะ 9 เพราะจิตวิญญาณของพวกเราก็มีพุทธพจน์ 7 สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ เอามาจากของพระพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ในพระไตรปิฎกทั้งนั้น ไม่ได้พูดเองไม่ได้คิดตั้งเอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ภาคค่ำ เรื่องกาย งานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ครั้งที่ 45 วันนี้วันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2566 แรม 3 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2566 ( 14:11:44 )

ปรากฏการณ์จริงไม่ใช่เรื่องสมมุติ

รายละเอียด

ความเห็นของคุณถูกต้องหมดตามภูมิอาตมาตัดสินเห็นด้วย ก็เป็นเรื่องจริงของสังคมประเทศไทย ที่มันเป็นปรากฏการณ์จริงไม่ใช่เป็นเรื่องนิทานไม่ใช่เรื่องสมมุติ ไม่ใช่เรื่องที่ฝันเพ้ออยู่ในห้วงความคิด เหมือนเรื่อง utopia ของโทมัส มอร์ แต่เป็นเรื่องจริงปรากฏการณ์จริงในโลกของประเทศไทย คำพูดที่พูด โวๆๆๆ กับการลงมือกระทำที่เกิดผลจริง มีแต่การพูดโวๆๆ เป็นเรื่องใหญ่พอมาทำจริงแล้วมันกลับไม่เป็นอย่างที่พูด นอกจากไม่เป็นอย่างที่พูดแล้วซ้อนลงไปตรงที่การกระทำดันกลับไปโกงเขาอีก ดันหลอกลวงซ้ำซ้อนอีก แล้วคนที่โง่ Double โง่ Triple โง่ ก็ไปหลงคารมเขาอีก มันห้ามไม่ได้จริงๆคนในโลกมันก็มีโง่กับฉลาด 

เพราะฉะนั้นคนโง่เขาก็ยังหาพวกได้ตลอดเวลาไม่ว่ายุคกาลไหนๆ ยุคก่อนพระพุทธเจ้า ยุคพระพุทธเจ้า ยุคนี้ เหมือนกัน มีอยู่อย่างนี้ตลอด เพราะฉะนั้นผู้ที่ศึกษาฝึกฝนทางจิตให้เกิดความรู้มีโลกุตรธรรมจึงจะฉลาดรู้เท่าทัน รู้เท่าทันการพูดกับการลงมือทำ แค่นี้ที่เรียกภาษาเพราะๆว่า วาทกรรม กับการไม่ใช้วาทกรรมแต่เป็น ยถาวาทีตถาการี พูดอย่างไรทำอย่างนั้น ลงมือทำมีผลเกิดจริง 2 อย่างนี้แหละเป็นตัวชี้วัด ตัดสินของผลความจริง ว่าอย่างไหนมันคือความจริงที่แท้จริงกว่ากัน เอาแต่พูดโวๆๆ หรือแม้แต่ทำแล้วซ้อนอยู่ในนั้น มีแต่ทุจริตขี้โกง โลภโมโทสัน แล้วมีทั้งความผิดกฎหมาย ตัดสินแล้วด้วย แล้วก็หนีอีก โอ้โห..ความเลวซับซ้อนหลายชั้นหลายอย่างเลย หนีในทางหมาลอดด้วย ออกช่องหมาลอดไป แล้วก็ไปเที่ยวอาศัยที่อื่นเอาเงินไปหว่าน แล้ว..ขออภัย คำพูดนี้อาจจะต้องไปข่ม ต่างประเทศเขาก็ยังเป็นโลกียะอยู่ เงินจึงมีอิทธิพล ทักษิณอยู่ได้เพราะต่างประเทศยังเป็นโลกียะอยู่ นี่ก็จริงๆที่สุด 

มาเมืองไทยอย่างไรอย่างไรก็ไม่ได้หรอก อย่างน้อยชาวอโศกนี่ไม่ยอมเด็ดขาด เพราะชาวอโศกไม่ใช่คนตาบอด ไม่ใช่คนโง่ เพราะฉะนั้นจะมาทำอะไรซับซ้อน อาตมาไม่เชื่อว่าทักษิณกลับมาจะแก้ไขตัวเองได้ ถ้าเขารู้แล้วก็ต้องไม่ให้ลูกๆทำ เพราะลูกๆทำอย่างเดียวกับเขา แล้วมันจะไปตัดสินเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร มันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงได้เลย เพราะฉะนั้น ผู้ที่รู้ความจริง ที่จริงแท้จริงๆอย่างที่ว่านี้แหละ สูงสุดที่มนุษย์ที่ควรจะได้ 

หลักเกณฑ์ที่อาตมาสรุปด้วยภาษาว่าผู้ที่ได้ภูมิธรรมสูงสุดนั้น คือคนที่เป็นคนอิสระ แล้วมาอยู่รวมกันแล้วก็สงบ สบาย อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส  และ ลงท้ายเป็นปลายเปิดว่าใจเกื้อกูล เพิ่มพูนการเสียสละ นั่นคือความจบด้วยความไม่มีตัวตน มีแต่พลังงาน หรือแรงงาน หรือกรรมกิริยาที่สร้างสรร ให้ ๆๆๆ เสียๆๆ ไม่ใช่ได้ ไม่ใช่เอา นี่คือสัจจะที่อาตมาพูดด้วยภาษาไม่ยากเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญาโลกุตระ วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 8 ค่ำ วันพระน้อย เดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 07:24:08 )

ปรากฏการณ์ผิดเพี้ยนมีดังนี้!

รายละเอียด

เมื่อบอกว่าที่ถูกต้องแท้ๆตามของเดิมที่พระพุทธเจ้า

ทรงสอนนั้นมันเป็นอย่างนี้ๆนะ 

ท่านก็แย้งทันทีบ้าง ยังเข้าใจไม่ได้บ้าง หรือเข้าใจที่อธิบาย

มาแล้วทั้งหลายได้ แต่ยังไม่เชื่อบ้าง

ทั้งๆที่ความเข้าใจที่คุณทั้งหลายยึดนั้น มันไม่พาบรรลุได้

อย่างรู้ๆเห็นๆกันเป็นปัจจุบันนี้แท้ๆ แต่ก็ยังงมงายเชื่อว่าถูก 

ทั้งๆที่มันพาเจริญแค่ลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุขโลกีย์ 

หรือบ้างก็รู้ว่ามันพาไปไม่ถึงนิพพานซักที 

แต่ก็หลงประพฤติอยู่อย่างนั้นกันไปจนตาย 

แล้วยังหลงกันว่าเป็น“พระปฏิบัติ”เชิดชูบูชากันไป

บ้างก็หลงว่า มิจฉามรรค-มิจฉาผล เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

ก็หลงเคารพบูชากันไป อย่างงมงายไม่รู้สีรู้สา ก็น่าสงสาร

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 155 หน้า 138


เวลาบันทึก 22 มิถุนายน 2564 ( 10:43:33 )

ปรากฏการณ์วิทยา (phenomenalogy)

รายละเอียด

ความรู้ที่บรรลุการสำแดงออกมาให้เห็นได้และรับได้ด้วยประสาทสัมผัส

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 190


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:05:34 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:38:04 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:16:32 )

ปรากฏการณ์ศาสตร์

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องไปรีบร้อน ให้เขาทำเองแล้วมันจะเกิดผลยืนยันได้ ถ้าถึงขีดถึงขั้นเมื่อไหร่ อาตมาถึงขั้นว่าจะต้องออกไปประท้วงกันอีก อาตมาจะหนุ่มขึ้นไปอีกกว่านี้เยอะเลย ถึงเวลานั้นอาตมาจะหนุ่มขึ้นกว่านี้อีกเยอะเลยจริง แล้วใครจะไปกับอาตมาไหมนี่ ไม่เห็นมีใครไม่ยกมือเลย พวกเราถูกอาตมาครอบงำทางความคิดหรือเปล่านี่

อาตมากลัวมากเลยที่จะครอบงำความคิดของคน อาตมาไม่ต้องการคนที่ถูกครอบงำทางความคิดมาเป็นมวล ไม่อยากได้ คุณมาต้องมาอย่างใสสะอาดจากความเห็นจริงของคุณเอง แล้วเต็มใจมาอย่างอิสรเสรี ถ้าไม่อย่างนั้นอาตมาต้องมาเสียเวลาล้างอีก ถูกหลอกมาต้องมาล้างอีก อาตมาจะบ้าหรืออาตมาไม่ทำ 

นี่ก็พูดมานานแล้วเรื่องนี้ ว่าอาตมาไม่เอาที่จะไปหว่านล้อมได้มา เหมือนบางคนบอกว่าหลอกเขามาก่อนแล้วค่อยมาล้าง ต้องให้เขาล้างเองมาตามลำดับ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ มันมีกรอบขอบเขตที่พระพุทธเจ้าท่านให้ไว้อยู่แล้วเรื่องอะไรต้องทำให้มันกลับไปกลับมา เราก็ทำไม่ใช่ง่าย ทำไปตามอย่างนี้ก็ยังได้แค่นี้อยู่เลย แล้วจะไปเอางานที่มันหนักกว่านี้ ดีไม่ดีมารวนวุ่นหนักกว่านี้อีกมันไม่ได้ มันไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้นอาตมาจะไม่ทำอย่างนั้น 

อาตมาก็ว่าเอาแต่พิสูจน์ก็แล้วกัน รอ เอาความจริงที่มันเกิดอยู่ในเหตุการณ์ในภาวะ ทุกวันนี้เราอยู่มหาวิทยาลัยที่เรียนรู้ phenomenology อยู่ในมหาวิทยาลัยที่ประสาทวิชา phenomenology ปรากฏการณ์วิทยา หรือปรากฏการณ์ศาสตร์ พวกเราเรียนรู้กัน คือมีเหตุการณ์จริงปรากฏการณ์จริงให้เรียนรู้ศึกษาไม่ใช่เรียนรู้แต่ในวิชาการ อย่างเช่นเขาใช้ IO สื่อสาร มันไม่มีเนื้อไม่มีแก่นแต่เราทำเกินกว่าที่เขาทำไปเยอะมันมีเนื้อมีแก่น ซึ่งมันเห็นง่ายนะไม่ใช่ดูถูกดูแคลนเขา แต่เขายังต้องเป็นอย่างนี้อยู่ แล้วเขาก็จะได้รับความรู้ ก็จะได้เรียนรู้ว่า ความคิดเช่นนี้มันสุดโต่งไปจนกระทั่งเขานึกว่าเป็นแก่น ก็ค่อยๆรู้ทีหลัง 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #22 สงครามข่าวสารกับปรากฏการณ์จริงการเมืองไทย วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 แรม 11 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 พฤษภาคม 2566 ( 19:55:20 )

ปรากฏจริงแล้วยืนยันลักษณะจริงของสัจธรรม

รายละเอียด

อันนี้เป็นสิ่งที่ปรากฏจริงแล้วจึงยืนยัน ส่วนจะเป็นเหตุ เป็นผล เป็นปฏิภาณ เป็นหลักเกณฑ์ที่ปราดเปรื่องเหมือนรู้รอบอย่างคุณเปลวสีเงินหรืออย่างนักวิเคราะห์วิจัยสังคมเต็มไปหมดในสื่อสารมากมาย อาตมาก็พยายามจะวิเคราะห์วิจัยอย่างเขาบ้าง บางทีก็ดูเหมือนจะไม่ทันสมัยเหมือนอย่างเขา 

แต่อาตมายืนอยู่ได้เพราะอาตมามีลักษณะจริงของสัจธรรมที่มีคนทำได้แล้ว ซึ่งไม่ใช่ง่าย เป็นคนคลาสสิคอย่างที่อาตมาได้พูดถึงไปแล้ว คลาสสิคเป็นภาษาอังกฤษเขา เป็นภาษาเก่า คลาสคือชั้นเป็นคนมีชั้นมีคลาส เป็นชั้นสูง แล้วเป็นชั้นสูงที่มีเนื้อแท้ ไม่ใช่เปลือกที่จะสูงเด่นโชว์ผิว ไม่ใช่ แต่เนื้อเห็นยาก เป็นพวกเนื้อๆแก่นๆเห็นยาก ต้องผู้มีภูมิปัญญาจริงๆถึงจะเข้าถึงแก่น หยั่งรู้ถึงเนื้อแท้ของพวกเรา 

เพราะฉะนั้นแก่นแท้จะเป็นหลักของทุกอย่างยั่งยืนนาน ทนต่อการพิสูจน์ อย่างพวกเราที่เป็นไป อาตมาชะลออายุพยายามที่จะไม่ตายง่ายๆเพราะว่าต้องนำพาพวกเราเพื่อจะให้สิ่งที่กำลังนำพาอยู่นี้ที่เป็นสัจธรรมของพระพุทธเจ้าที่ได้ตรัสรู้แล้วเอามาประกาศแก่โลกไว้ อาตมาพยายามเอามาสืบสาน มันได้ประมาณนี้ยังไม่ไปถึงไหนเท่าไร อยู่ในวงแคบ 

แม้แต่ในประเทศไทยเองก็ยังอยู่อย่างนี้อยู่ในวงแคบ ยังอยู่ในกลุ่มเล็กน้อย ซึ่งรักษาตัวรอด คนอื่นทำลายลงได้ยาก อสังหิรัง ใครจะมาหักล้างลงไปได้ยาก แล้วเพราะพวกเรานี้เที่ยง นิจจัง(เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง(ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ) เพราะฉะนั้นคนจะมาหักล้างมาทำลายได้ยาก สุดท้ายพวกเรา อสังกุปปัง ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่กลับกำเริบ ไม่เปลี่ยนไปแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #22 สงครามข่าวสารกับปรากฏการณ์จริงการเมืองไทย วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 แรม 11 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 พฤษภาคม 2566 ( 19:27:24 )

ปราชญ์กับคนแค่ฉลาด

รายละเอียด

“ปราชญ์”  จะไม่สร้างอำนาจให้แก่ตนเอง 

จนคนเกรงและกลัว ไม่กล้าค้านแย้ง หรือตำหนิติเตียน

ส่วน“คนแค่ฉลาด”  จะสร้างอำนาจให้แก่ตนเอง

ให้คนเกรงและกลัว จนไม่กล้าค้านแย้งตำหนิติติง

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2562 ( 14:33:21 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 07:58:28 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:16:50 )

ปราชญ์ทางศาสนาพุทธไม่ตื่นจากหลับตา

รายละเอียด

สมาธิของพุทธทำสมาธิอยู่ทุกลมหายใจลืมตา สร้างสมาธิจากจรณะ 15 วิชชา 8 แต่นั่งหลับตาไม่มีสำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา  ชาคริยานุโยคะ ไม่ตื่นไม่พากเพียร มีแต่นั่งหลับ เจ๊งกระบ๊งเลย อันนี้คือ ปัณกธรรม 3 หมายความว่าเป็นธรรมะที่ผิด ถ้าไม่มี 3 ข้อนี้ ผิด ต้องมี 3 ข้อนี้ ไปนั่งหลับตาไม่มี 3 ข้อนี้นั่นคือผิดศาสนาพุทธ แล้วเมื่อไหร่ผู้ที่ได้รับการยอมรับทางศาสนาว่าเป็นปราชญ์เป็นบัณฑิต เมื่อไหร่จะตื่นเสียที หากไม่มีจรณะ 15 วิชชา 8 ก็ไม่มีพุทธคุณของศาสนาพุทธ มีแต่เดียรถีย์คุณไม่ใช่พุทธคุณเป็นเรื่องที่ใช้พยัญชนะภาษาคำความมาใช้สื่อ คนนี่เก่งกว่าเดรัจฉาน สัตว์เดรัจฉานก็สื่อสารกันเพียงเสียงร้องไปมา แต่คนนี้ เอามาประดิษฐ์เป็นคำมากไม่รู้กี่ภาษาเป็นล้านภาษาเลย สร้างได้เก่ง ในโลกนี้มีที่ใช้กันอยู่ทุกวัน 100-200 ภาษา บางประเทศใช้หลายภาษา สื่อกันเก่งสื่อกันได้ ก็เลยเอามาพูดกันปากเปียกปากแฉะ อาตมาก็รู้แต่ภาษาไทย เอาภาษาอื่นมาประกอบบ้างภาษาบาลีภาษาอังกฤษก็ไส้เดือนกิ้งกือ ภาษาบาลีก็มีตำราพอถูไถ  

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 15:39:53 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:00:25 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:17:17 )

ปราชญ์ทุกวันนี้ยังไม่เข้ากระแสโลกุตระเพราะอะไร

รายละเอียด

คุณไม่มีทางรู้เองได้หรอก ต้องติดตามศึกษาได้ยินได้ฟังจนเกิดความยินดี อ๋อ..

ชาวพุทธที่เป็นปราชญ์ที่คนเขายกย่องกันอยู่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้ากระแสโลกุตระเพราะอะไร เพราะยังจมอยู่ในโลกียะ สิริมหามายา แม่ตัวนี้ยังไม่เกิดในจิต ยังไม่มีอัญญธาตุ ถ้ามีอัญญธาตุจะมีเชื้อแล้วจะไหลมาทางนี้เลย ฟังอาตมาพูดจะรู้ว่าเป็นของใหม่ ของใหม่ ของใหม่ ที่เราเองยังค้านแย้ง ก็เลยรับไม่ได้ รับไม่รู้ ไม่รับมันก็ไม่รู้ ไม่รับ พอเริ่มเปิดแง้มจิตออกไป โอ้โห.. ทีนี้ คนที่มีความรู้เป็นพื้นฐานทางธรรม มาศึกษาพุทธธรรมแบบไหนก็ตาม ถ้าแง้มจิตตัวนี้ ปรโตโฆษะ จะไหลทะลักเข้าสู่สัมมาทิฏฐิเข้าเร็ว เพราะมีพื้นฐาน แต่นี่ไม่ยอมเปิดรับ มันน่าสงสาร แทงด้วยหอกร้อยเล่มเช้า กลางวัน เย็น หอกหักหมด แทงไม่เข้า โอ้ย จะเหนียวไปถึงไหน ไปเรียนอาจารย์ไหนมาอยู่ยงคงกระพัน หนักหนาสาหัส (เรือหายเลย)

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ตอน 4

วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 16:38:59 )

ปราชญ์ผู้ไม่ยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่โลกุตระจริง

รายละเอียด

นี่แหละๆ จมไม่ลง ไม่คบหาสมาคม ไม่เข้าไปใกล้ เพราะตัวเองได้ประกาศ ตัวเองได้บอกว่าสิ่งนั้นผิด ถ้าจะไปบอกว่าที่จริงแล้วข้าพเจ้านี่แหละผิดหลงผิด ที่จริงเขานั่นแหละถูก ให้จริงที่สุดก็คือยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่โลกุตระจริง ทางโน้นเป็นโลกุตระจริง นั่นเป็นอาริยะแท้ ผู้ที่รู้จักความเป็นกาย ผู้ที่รู้จักความเป็นบุญ ผู้ที่รู้จักความเป็นฌาน ผู้ที่รู้จักความเป็นสมาธิที่แท้ ที่เป็นโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้า เพราะทุกวันนี้ ฌาน ก็มีแต่ฌานโลกีย์ ไม่มีฌานของพระพุทธเจ้า เพราะว่าฌานไม่ได้ประพฤติปฏิบัติจากศีล อปัณณกปฏิปทา 3 แล้วเกิดสัทธรรม 7 แล้วเกิดฌาน ไม่ได้ปฏิบัติจากจรณะ 15 วิชชา 8 เป็นตัวปัญญาช่วยเหลือมา ฌานหลับตา ฌาน 1 2 3 4 ไม่มี ปฏิบัติแต่ฌานโลกีย์งมงาย ฌานฤาษี  ฌานสามัญ ฌานสาธารณะ แต่ของพระพุทธเจ้าไม่ใช่เรื่องสาธารณะทั่วไป เป็นเรื่องพิเศษ เขาไม่รู้เขาแยกไม่ออก ก็บอกไปเถอะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 ประกาศโลกนี้โลกหน้า
วันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 แรม 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2564 ( 12:48:57 )

ปราชญ์ย่อมเห็นความผิดของคนผิดว่าถูกแล้ว

รายละเอียด

ที่ชมอาตมายังชมไม่ครบ ที่จริงคุณติคุณว่าแต่คุณชมว่าเรามีมากมีหรูหรา แต่คุณชมไม่ครบ ชมผิดพลาด ไปศึกษาให้ดี จะชมทั้งทีมีภูมิหน่อย เสียศักดิ์ศรีคนชม อาตมาก็เห็นว่าอินโนเซ้นท์จัง ไปศึกษามาใหม่ อาตมามีธรรมะสนุกไม่ได้โกรธเคืองหรอก อาตมาถึงไม่แปลกหรอกถ้าเกิดมาชาตินี้ทำงานศาสนาต้องถูกด่า มันยิ่งยืนยันว่าเขามาด่าอาตมาทั้งที่อาตมาถูก แต่ที่จริงเขาด่าผิดมันก็ถูกต้องแล้ว คนที่เห็นคนถูกคือคนผิดนั่นแหละคือคนถูก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ
สื่อธรรมะพ่อครู(จรณะ 15 วิชชา 8) ตอน ไฟฌานทำลายกิเลสได้อย่างไร


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:02:16 )

ปราชญ์ระดับพญานาคและระดับพญาครุฑเป็นอย่างไร

รายละเอียด

คุณก็ศึกษาดีๆคุณก็มีวิธีการของคุณ ก็ลองดูพยายามดูตามวิธีการของคนอื่นบ้าง ไปคิดดีๆตรวจสอบให้ดีๆ อาตมาก็มีวิธีการของอาตมา ขอบอกตรงๆว่าอาตมาไม่เหมือนส.ศิวรักษ์ และไม่เหมือนอีกหลายๆนักปราชญ์ หลายๆผู้รู้ในประเทศไทย ซึ่งเขาเหล่านั้นนั่นแหละ เป็นผู้รู้จริงๆเป็นปราชญ์จริงๆที่เป็นปราชญ์ระดับพญานาค และเป็นปราชญ์ระดับพญาครุฑ พญาครุฑคือฝ่ายฟุ้งความรู้ รู้มาก รู้ยอด ฝายพญานาคนั้นไม่รู้เอาแต่หลับ ๆๆๆๆก็เลยอยู่คนละฟากฟ้าคนหนึ่งอยู่ฟากฟ้าอีกคนหนึ่งอยู่ก้นเหวลึกมาก พญานาคอยู่ก้นมหาสมุทรลึกอยู่ก้นเหวลึก ส่วนพญาครุฑจะอยู่สูงบนฟ้าสุดฟ้า ไม่รู้ทะลุฟ้าไปออกนอกโลกไปหาดาวดวงอื่นอีกกี่ดาวก็แล้วแต่พญาครุฑไปกันใหญ่เลย รู้มากจริงๆเลย ปราชญ์เอกในเถรสมาคมทั้งนั้นคือพญาครุฑ และผู้ที่นั่งหลับตาปฏิบัติอย่างเดียรถีย์หลับตาสะกดจิตลงลึกไปในมหาสมุทรคือพญานาค ไปนั่งหลับตา  ไปนั่งหลับตาพระป่าคือพญานาค สายที่เรียนภายนอกไม่ว่าจะเป็นเปรียญ 9 ดร.เป็นนักธรรมชั้นอภิธรรมขนาดไหนก็ตาม เรียนมาก แล้วก็ได้ตำแหน่งยศศักดิ์ครอบครองจึงเป็นพญา พญาครุฑยิ่งใหญ่บนท้องฟ้า เราจะสร้างพญาครุฑนาวาบุญนิยม ออกแบบไว้นานมากแล้วจะสร้างเรือลำนี้ จะสร้างเรือโคกใต้ดินนี่แหละ ที่จริงคำว่าโคกคืออยู่ข้างบน แต่ใต้ดินมันเป็นชื่อที่ย้อนแย้ง มาทุกวันนี้แล้วพญาครุฑหมดสิทธิ์ เปลี่ยนเป็นหนุมาน หนุมานชาญสมร มือถือตรี อีกมือถือรวงข้าว 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2563 ( 13:34:00 )

ปราถนาดีที่จะต้องทำดีไปตามลำดับเนื้อหาความดี

รายละเอียด

ก็กะไว้อย่างนั้น ไม่มีปัญหาอะไร ไปตามเหตุปัจจัยมันควรจะเป็นอย่างนั้นจริงๆก็ยังไม่รู้ได้ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกมันมีเจตนาที่เป็นกุศลปรารถนาดีที่จะต้องทำดี ดีกว่าดีที่สุดไปให้ได้ ก็คงไม่เสียหายกว่าคำพูดที่ว่าทำให้ดี ดีกว่าดีที่สุดดีเจริญต่อไป ดีกว่าดียิ่งดีที่สุด เคยทำลำดับของเนื้อหาความดีนี้ไว้อยู่ในหนังสือสรรค่าสร้างคน

เขียนไว้ มี 8 ขั้น 

1.ดี

2.ดีกว่า

3.ดีขึ้น

4.ดีแท้

5.ดีมากๆ

6.ดีครบถ้วน

7.ดีที่สุด

8.ดีสัมบูรณ์

เอามาจากภูมิธรรมเดิมของตัวเอง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 25 วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:30:47 )

ปรานี,ปราณี

รายละเอียด

ปรานี นี้ สำเร็จแล้ว แต่ถ้าปราณี คือยังไม่สำเร็จ

คำอธิบาย

ศีลข้อที่ 1 ข้อควรประพฤติเมื่อสัมผัสกับสิ่งมีชีวิต(อธิศีล) ในการไม่เบียดเบียนสัตว์ เอ็นดูเมตตาสรรพสัตว์ สัมผัสสัตว์แล้วเกิดจิตเอ็นดู แม้สัตว์นั้นมีพิษ น่ากลัว ก็ยอมที่จะให้ทำร้าย แต่จะไม่ทำลายเขาด้วยจิตที่เมตตาปราณี (พ่อครูว่า ถ้าปรานี นี้ สำเร็จแล้ว แต่ถ้าปราณี คือยังไม่สำเร็จ) ยิ่งถ้าได้ลงมือช่วย กรุณาสัตว์ในยามยากก็จะกระทำโดยไม่หวังประโยชน์จากสัตว์ทั้งปวง(อธิจิต) สุดท้ายไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่เอาเลือดเนื้อสัตว์น้อยใหญ่มาต่อชีวิตตนเอง(อธิปัญญาจนถึงวิมุติ)

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561

 


เวลาบันทึก 26 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:47:10 )

ปราบกิเลสหน้าบ้านได้จึงเข้าไปปราบกิเลสในบ้านต่อ

รายละเอียด

ถ้าคุณกำจัดกิเลสที่ภายนอกไม่ได้ กิเลสภายนอกจ้างมันก็ไม่ให้เข้าไปหาข้างใน มันเป็นเจ้าของบ้านนะ กิเลสมันเป็นเจ้าของบ้านนะ คุณจะไปบุกรุกบ้านมัน จ้างมันก็ไม่ให้เข้าไป เพราะฉะนั้นพวกนี้โมฆะทั้งนั้นเลย ไม่พยายามที่จะปราบกิเลสหน้าบ้านก่อน 

คุณปราบกิเลสหน้าบ้านได้ จึงจะเข้าไปหาข้างในได้ เป็นกิเลสชั้นกลาง เป็น รูป อรูป มันก็เป็นบ้านของมันในชั้นที่ 2 มันก็จะไม่ให้เข้าไปเหมือนกัน คุณต้องจัดการปราบกิเลสในชั้น 2 นี่ก่อน กิเลสชั้น 2 นี้ตาย คุณจึงจะเข้าไปกิเลสชั้นในได้ นี่คือสัจจะ มันเป็นอย่างนี้ 

คนที่ไปนั่งคิดเอาเองว่าจะไปล้างกิเลสภายในเลยโดยง่าย มันเป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็ทำ เขาทำโดยที่ไม่ได้เข้าไปเลย กิเลสในชั้นต้น ชั้นกลาง ชั้นปลาย มันจะให้เข้าที่ไหน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนอัตถิราคสูตรให้หมดสุขหมดทุกข์แท้จริง วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:06:26 )

ปราบธัมมชโยได้เป็นบุญของประเทศ

รายละเอียด

ในวงการศาสนาก็ตกเป็นทาสธัมมชโย แม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังเกรงกลัวอิทธิพล จะมีผู้รู้จำนวนหนึ่งที่กล้าหาญชาญชัยขึ้นมาจัดการก็ขออนุโมทนาสาธุคนที่ช่วยกันปราบ นี่เป็นบุญของประเทศ ถ้าไม่เช่นนั้น ธรรมกายนี่ จะเป็นเหมือนกับวาติกันที่อิตาลี จะยิ่งใหญ่กว่าวาติกันด้วย วาติกันเป็นใหญ่ที่สุดของศาสนาคริสต์ทั้งโลก pope เป็นใหญ่สุดของคริสตจักร เป็นตัวแทนของพระเจ้าเลย เขาจะทำให้ยิ่งใหญ่กว่าอีก จะรวมทุกอย่างต้องอยู่ในอำนาจของเขา เขาเป็นคนที่ ทะเยอทะยานยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่า โดนัลด์ทรัอมป์ ไม่รู้กี่ต่อ ประเทศไทยมีคนตัวอย่างเช่นนี้ไม่ว่าจะด้านการเมืองก็หาไม่ได้อีกแล้ว ทุกวันนี้ ทักษิณก็ยังรวย มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีกทั้งๆที่อยู่เมืองนอกออกจากประเทศไปแล้ว ก็ยังสามารถงอกเงยทรัพย์สินได้อีก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:05:33 )

ปรามประกาศนานาสังวาสในฆราวาส

รายละเอียด

พวกอโศกของพวกเรา ก็ขอปรามไว้ ฆราวาสก็ประกาศจะนานาสังวาส อาตมาก็ด่าให้ว่าไอ้โง่ ไม่ใช่ภิกษุ พวกนี้ไม่ได้เอามาพูดเล่นได้ง่ายๆ แล้วอวดดี นานาสังวาสกับสมณะในหมู่ด้วยนะ คุณเป็นฆราวาสแท้ๆมันเกินไป คุณหัวดำนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นสมณะไม่ใช่อาริยะก็ตาม มันซับซ้อนลึกซึ้งมาก ขนาดพระอรหันต์เป็นพระขึ้นมา เป็นภิกษุแล้วบวชก่อน อรหันต์ยังต้องกราบเลย ถ้าธรรมดายังไม่เป็นพระอาริยะ อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมันซับซ้อนมากเลย เพราะฉะนั้นอย่าทำเป็นเล่น ขอปรามไว้เรื่องนี้ จะประกาศนานาสังวาส ฆราวาสไม่มีสิทธิ์พูดเลย แล้วจะไปประกาศนานาสังวาสกับสมณะด้วย มันจะอยู่ได้ไหม ใหญ่เหลือเกิน อย่างนี้เป็นต้นเห็นไหม เอ้าฟังไว้

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชิวิต บ้านราช วันจันทร์ท่ 17 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 07:53:38 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:02:46 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:17:47 )

ปรามาส

รายละเอียด

1. การถูก ๆ แตะ ๆ การจับต้อง การลูบคลำ การจับฉวย การยึดมั่น การกอดรัดสิ่งสัมผัสอันเป็นภัย ,โรคติดต่อ 

2. ดูหมิ่นดูแคลน 

3. ไม่สามารถ คือไม่สามารถบรรลุมรรคผล

4. ลูบศีล ลูบพรต คลำศีล คลำพรต กอดศีล กอดพรต

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 240, 483 


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:07:38 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:39:54 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:18:07 )

ปรารภปัจจุบันกาล

รายละเอียด

มันก็ล้วนอย่างนี้ ๆ ที่ได้เกิดมีในบัดนี้นี่แหละ เห็นทุกข์ในปัจจุบันให้ได้

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 295


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:09:57 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:40:32 )

ปรารภอดีตกาล

รายละเอียด

มันก็ล้วนเคยมีมาแล้วอย่างนี้จริง ๆ

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 295


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:11:37 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:42:15 )

ปรารภอนาคตกาล

รายละเอียด

แล้วมันก็จักมีมาอีก

หนังสืออ้างอิง

จากหนังสือทางเอก ภาค 2 หน้า 295


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:12:21 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:42:53 )

ปริกขารา

รายละเอียด

องค์ประกอบ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 133


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:12:51 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:43:26 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:18:21 )

ปริกคห

รายละเอียด

ค้นหาจนได้ตัวการ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 301


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:13:22 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:44:14 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:18:35 )

ปริกฺขีณา

รายละเอียด

หมดไป สิ้นไปแล้ว

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 247


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:13:55 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:45:16 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:18:49 )

ปริขาโร

รายละเอียด

องค์ประกอบ

หนังสืออ้างอิง

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 88


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:14:29 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:46:01 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:19:03 )

ปริคคห

รายละเอียด

ใส่ไว้ข้างใน , จับยึดไว้ได้ , สมบัติ , ความกรุณา , การสงเคราะห์[แม้แต่แปลกันว่า ภรรยา]

หนังสืออ้างอิง

ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 266


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:15:08 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:47:31 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:21:51 )

ปริจาคะ

รายละเอียด

ปริจาคะ (การบริจาค) มีการสละออก สละออกอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งถึงรอบ สละออกจนรอบถ้วน ที่นี่ทำอยู่ จนกระทั่งพวกที่อยู่ที่นี่ไม่ต้องมีอะไรเป็นของตนเลย อาศัยส่วนกลางอันนั้นอันนี้อาศัยไป เป็นปัจจัย 4 บริขาร แม้แต่ที่สุด ขอเบิกไปซื้อคอมพิวเตอร์หน่อยก็เป็นบริขารสำหรับคนที่เขาต้องใช้อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งก็เป็นไปได้ อย่าว่าแต่คอมพิวเตอร์เลย ขอไปซื้อรถบดหน่อย 3 ล้าน 8 ก็ต้องไปซื้อ ของจีนนะที่ได้ 3 ล้าน 8 ก็เบิกไปกี่ล้านก็แล้วแต่กองกลางนั่นแหละเอามาใช้เพื่อส่วนกลาง 

นี่เป็นเรื่องของการเมืองเป็นเรื่องของพละกำลัง เป็นกำลังของงานการเมือง พละเมือง พลเมือง อันเดียวกัน ทำงานกับประเทศยังมีกำลังกับคนในเมืองคนในกรุงนี่แหละ พวกเราเป็นคนกรุงเป็นคนเมืองเป็นชาวเมืองเป็นชาวศิวิไลซ์ เป็นชาว อาริยกะ ไม่ใช่ชาวป่าชาวเถื่อนไม่ใช่มิลักขะ พวกเรานี้ชาวเจริญไม่ใช่ชาวมิลักขะ ขออภัยอย่างชาวเถรสมาคมยังเป็นชาวมิลักขะอยู่เลย จะว่าก็ต้องขออภัย แต่ว่าความจริงด้วยนะไม่ใช่ว่าอาตมาพูดผิดหรอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2565 ( 12:19:30 )

ปริจฺจ ปชานาติ

รายละเอียด

ต่างจากที่เคยรอบรู้ยึดถือมาแต่เดิม

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 274


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:15:53 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:48:12 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:22:12 )

ปริจเฉท

รายละเอียด

การกำหนดที่เที่ยงแท้แน่นอน , ขอบเขตจำกัด , เขต , การแบ่ง , การแบ่งเขต , การจำกัดวง

หนังสืออ้างอิง

ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 266


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:16:31 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:49:04 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:22:35 )

ปริญญา

รายละเอียด

รู้รอบ 

หนังสืออ้างอิง

ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 265


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:17:57 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:49:54 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:22:55 )

ปริญญา 3

รายละเอียด

การกำหนดรู้ผัสสะด้วย "ปริญญา 3"

1."ญาตปริญญา" หมายถึง ความรู้รอบในสิ่งนั้นสภาพนั้นโดยครบถ้วน และ "ในสิ่งนั้น"ที่ว่านั้นก็คือจะต้องรู้ "ผัสสะ"

"ชื่อของสัมผัส" (อธิวจนสัมผัส)

"การกระทบใจเพราะสัมผัส" (ปฏิฆสัมผัส)

"สัมผัสเป็นที่ตั้งแห่งสุขเวทนา" (สุขเวทนีโย สัมผัสโส)

"สัมผัสเป็นที่ตั้งแห่งทุกขเวทนา" (ทุกขเวทนีโย สัมผัสโส)

"สัมผัสเป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุขเวทนา" (อทุกขมสุขเวทนีโย สัมผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับกุศลจิต" (กุสโล ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับอกุศลจิต" (อกุศล ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับอัพยากตจิต" (อัพยากโต ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับกามาวจรจิต" (กามาวจโร ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับรูปาวจรจิต" (รูปาวจโร ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับอรูปาวจรจิต" (อรูปาวจโร ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับสูญหรือความปราศจากอัตตา" (สุญญโต ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับสภาพที่ไม่มีอะไรมาทำให้แปดเปื้อน" (อนิมิตโต ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับสภาพที่ปลอดจากความต้องการทุกอย่างแล้ว" (อัปปณิหิโต ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับโลกียะ" (โลกีโย ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับโลกุตระ" (โลกุตโร ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับอดีต" (อตีโต ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับอนาคต" (อนาคโต ผัสโส)

"สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับปัจจุบัน" (ปัจจุปปันโน ผัสโส

2. "ตีรณปริญญา" หมายถึงความรอบรู้ในการพิจารณา,วินิจฉัย,ตัดสินให้ลึกลงไปอีกในรายละเอียดต่างๆ กระทั่งเห็นแจ้งจริงใน "ความไม่เที่ยง-ความเป็นทุกข์-เป็นของลำบาก-เป็นเสนียด-เป็นอุบาทว์-เป็นภัย-เป็นอุปสรรค-เป็นของไม่ยั่งยืน-เป็นของว่างเปล่า-เป็นของไร้ประโยชน์-เป็นของสูญ-เป็นโทษ-เป็นของไม่มีแก่นสาร-เป็นมูลแห่งความลำบาก-เป็นดังเพชรฆาต-เป็นของปราศจากความเจริญ-เป็นของมีอาสวะ-เป็นของอันเหตุปัจจัยปรุงแต่ง-เป็นเหยื่อมาร-เป็นของมีชาติ-เป็นของมีชรา-เป็นของมีพยาธิ-เป็นของมีมรณะ-เป็นของมีโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส-เป็นของมีความเศร้าหมอง-เป็นเหตุเกิดแห่งทุกข์-เป็นของดับไป-เป็นของชวนให้อร่อย-เพลิดเพลิน-เป็นผลร้าย-เป็นการรอดพ้น" ฯลฯ ถ้าพิจารณาหรือวินิจฉัยหรือตัดสินตามเกณฑ์ต่างๆดังที่ท่านว่าไว้นั้นได้จริงอย่างดีแล้ว ก็จะได้เป้าหรือได้จุดแท้ที่จะกำจัด (ปหาน) อันเป็นหน้าที่สำคัญในการปฏิบัติธรรมของศาสนาพุทธ

3. "ปหานปริญญา" หมายความว่า ความรู้รอบในการกำจัด,การเลิก,การทิ้ง,การสละ,การละ,การจากไป ต้องลงมือทำจริงๆให้ได้ผลกันขึ้นมา เป็นการกำจัดที่ถูกต้องตามทฤษฎีของพระพุทธเจ้า เมื่อลงมือทำลงไปก็จะรู้จริงเห็นจริงในความเป็นผลที่ได้กระทำนั้นๆ "ปริญญา 3" นี้ เป็น "อาริยภูมิ" ของผู้ปฏิบัติที่ต้องมีต้องเกิดขึ้นในตัวผู้ปฏิบัติจริง ไม่เช่นนั้นก็จะ "ไม่พ้นความสงสัย" อยู่ร่ำไป และไม่มั่นอกมั่นใจในการปฏิบัติของตนว่า ถูกต้องแท้จริง และการปฏิบัติเป็นไปได้จริง มีมรรคมีผลจริงหรือ ?

ที่มา ที่ไป

(พระไตรปิฎก เล่มที่ 29 ข้อ 60,62,63)

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัส นิพพาน,อัตตา,อนัตตา,นิรัตตา หน้า 49-52


เวลาบันทึก 03 ตุลาคม 2562 ( 19:01:20 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:24:38 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:29:14 )

ปริญญา 3

รายละเอียด

ปริญญา คือ การกำหนดรู้กิเลสรอบถ้วน 3 อย่าง, การกำหนดรู้ แยกแยะด้วย ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์

1. ญาตปริญญา (กำหนดรู้ตัวกิเลสเมื่อผัสสะ, กำหนดรู้กิเลสให้เป็นสิ่งอันรู้ก่อน) กำหนดรู้ด้วยให้เป็นสิ่งอันรู้แล้ว   เพื่อเป็นอันรู้จักสิ่งนั้นแล้ว  เช่น  รู้ว่าขณะนี้คือ ทุกขเวทนาในขณะกำลังต่อสู้อยู่กับกิเลส  มีไฟทุกข์เสวยอารมณ์ในขณะอดทนข่มใจ ฯลฯ 

2. ตีรณปริญญา (กำหนดรู้แยกแยะพิจารณากิเลส) กำหนดรู้ขั้นพิจารณา แยกแยะ เห็นความจริง ในอีกด้านของมัน,  เช่น  รู้โดยความเป็นโทษ  พิจารณาเห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา  เช่น  เวทนาไม่เที่ยง  มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา  ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ฯลฯ 

3. ปหานปริญญา (กำหนดรู้การลดละเลิกกิเลส, รู้ด้วยการละออกแล้วจึงรู้ เช่นทุกข์) กำหนดรู้ด้วยการละ, กำหนดรู้ถึงขั้นละได้, กำหนดรู้โดยตัดทางมิให้ฉันทราคะเกิดมีในสิ่งนั้น  คือ รู้ว่าสิ่งนั้นเป็นอนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา  แล้วละอนิจจสัญญาในสิ่งนั้นเสียได้ 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 29 "คุหัฏฐกสุตตนิเทส" ข้อ 62, ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 16 มิถุนายน 2562 ( 14:01:18 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 04:26:25 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:31:39 )

ปริญญา 3

รายละเอียด

ปริญญาคือการกําหนดรู้กิเลสรอบถ้วน 3 อย่าง

1. ญาตปริญญา (กําหนดรู้ตัวกิเลสเมื่อผัสสะ)

2. ตีรณปริญญา (กําหนดรู้แยกแยะพิจารณากิเลส)

3. ปหานปริญญา (กําหนดรู้การลดละเลิกกิเลส)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 29 “คุหัฏฐกสุตตนิเทส” ข้อ 62


เวลาบันทึก 11 มีนาคม 2565 ( 21:07:11 )

ปริญญาที่พาพ้นทุกข์

รายละเอียด

เพราะ“ความรู้ทางโลกียะ”ที่ไปเล่าเรียนเอาจากมหาวิทยาลัยนั้น อาตมามีน้อยนิดจริงๆ อาตมาเล่าเรียนไม่เคยจบแม้ปริญญาตรี ไม่เคยไปเมืองนอกในชาตินี้เลย 

อาตมาพูดไปแล้วไม่รู้ว่าทางโลกียะเขาจะว่าเข้าท่าไหมหรือมันคุยเพียงโก้ๆ สวยๆ มีท่าทางมีความเป็นจริงไหม อาตมาก็ไม่รู้เพราะความรู้ของคนทั้งโลกเขามีเยอะ เขาฟังอาตมาแล้ว อาตมาเป็นคนมีการศึกษาน้อย จริงๆนะอาตมาไม่ได้พูดเล่นลิ้นอะไรหรอก ไม่ได้พูดทำโก้ถ่อมตัว อาตมาถือว่าความรู้โลกียะหมด จะวิชาการอะไรก็แล้วแต่ ปริญญาที่ไม่ใช่พาบรรลุนิพพาน ไม่ได้ปริญญาที่พาพ้นทุกข์ พูดไปแล้วเป็นเดรัจฉานวิชาทั้งนั้น ไปหลงยิ่งใหญ่กับความรู้ตนเอง แล้วก็ส่งเสริมความรู้ตนเองแต่ละด้าน แต่ละแขนงไปตลอด มันไม่ได้ละหน่ายคลาย 

ชาตินี้ก็ถูกแล้ว แต่ก่อนก็สงสัยว่า ทำไมอาตมาเองมันสมองความเฉลียวฉลาดแค่ปริญญาตรีทำไมไม่ได้สักใบกับเขา แต่ก่อนนี้อาตมาก็ยังรู้สึกด้อยตัวเอง แต่ทุกวันนี้เข้าใจแล้ว ว่าอาตมาจะต้องพิสูจน์ว่าอาตมาจะไม่ใช้ความรู้โลกีย์มาทำงานทางธรรมะ เอาธรรมะโลกุตระเพียวๆ ตอนหลังที่เข้าใจแล้วก็รู้ว่า มันต้องเป็นเช่นนี้ ไม่งั้นไม่เป็นการพิสูจน์หรอก 

ไม่ได้เรียนมาก็เก็บมาประกอบเล็กๆน้อยๆ ขยายความอาศัยเป็นฐานอาศัยให้คนอื่นเขารับรู้ตามมาบ้างเท่านั้นเอง จะใช้ภาษาอังกฤษ จะใช้ความหมายตามโลกเขาอย่างนั้นอย่างนี้ อาศัยไปอย่างนั้น อาตมาไม่ได้เรียนมา ถูกแล้ว ตอนแรกก็คิดว่าทำไมอาตมาไม่ได้จบปริญญาตรีกับเขา ไปเมืองนอกเมืองนาก็ไม่ได้ไปกับเขา แม้แต่ท่านเพาะพุทธก็ไปมาไม่รู้กี่ประเทศ อาตมาด้อยกว่าเยอะแยะ ไม่ได้ไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ แล้วจริงๆใจก็ไม่ได้อยากไปก็เห็นว่าจะไปทำไม 

ต่างประเทศ มีอะไรเหนือกว่าพระพุทธเจ้า มีอะไรเหนือกว่าความรู้ที่อาตมาว่าเป็นความรู้ทางมนุษยชาติ สังคมมนุษย์ เมื่อย ไปก็เมื่อย ไม่ได้คิดอยากไป เขาพร้อมที่จะจ่ายสตางค์ให้ไปนะ อาตมาก็ว่าไม่ไป 

“ความรู้”ที่อาตมาจะแสดงออกไปนี้จึงเป็นความรู้ ความเห็นเฉพาะของอาตมา ที่อาตมาเชื่ออย่างมั่นใจ ว่าเป็นแบบ“โลกุตระ”ที่อาตมามีติดตัวข้ามชาติมาแต่ชาติปางก่อน เพราะอาตมาได้บำเพ็ญ“โพธิสัตวภูมิ”สั่งสม“สัมภารวิบาก”อยู่ ซึ่งก็เป็นอจินไตยที่ยังเข้าใจกันไม่ได้ง่ายๆ 

“โลกุตรธรรม”นั้นแน่นอนว่า มันย่อมแตกต่างไป 

ไม่ตรงกับผู้รู้เศรษฐศาสตร์โลกียะ หรือไม่ตรงกับผู้มีครู มีอาจารย์ มีตำราเรียนกันมาแบบสากลในโลกเทฺวนิยมทั้งหลายนั้นแน่ยิ่งกว่าแน่ แม้ชาวพุทธผู้ยัง“มิจฉาทิฏฐิ”อยู่ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ แสดงธรรมโดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ จอมยุทธ์โลกุตระจบกิจเศรษฐกิจ ด้วย 9 เคล็ดวิชา วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2566 ( 11:39:37 )

ปริญญารับรองความเป็นคนของพระพุทธเจ้าคืออย่างไร

รายละเอียด

ฟังแล้วก็เอามาใช้ เพราะชีวิตมนุษย์ได้โลกุตรธรรมได้จบโลกุตรธรรม จบแล้วชีวิต จบแล้วจะไปเรียนวิชาอะไรอื่นก็ง่ายสบาย เรียนได้สบายทุกวิชา 

คนที่ไม่มีหน้าที่เป็นโพธิสัตว์ จบอรหันต์แล้ว ก็ออกไปเป็นนู่นนี่ ทำงานไปเพราะว่าต้องการทำความเป็นโพธิสัตว์ให้แก่ชีวิต แต่ความจบแล้วก็ทำงานช่วยมนุษย์ก็ไปเรียนวิชาที่ตัวเองถนัด ก็เป็นเรื่องของแต่ละคน รู้แล้วก็ทำเอาไป มันก็จะเป็นตัวสมบูรณ์แบบเลยของศาสนาพระพุทธเจ้า 

เพราะฉะนั้นหน้าที่ของศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าก็สอนให้คนเป็นอรหันต์ เมื่อคนเป็นอรหันต์แล้วคือปริญญาบัตรรับรองมนุษย์ คุณจะเป็นอรหันต์ไม่ทำงานอื่น ไปทำงานโพธิสัตว์คุณก็ดีที่สุดแล้ว จะทำงานอะไรก็ไม่มีบาปไม่มีอกุศลมีแต่ กัมมัญญา มีแต่การงานที่ดีที่เหมาะที่ควรทั้งนั้นเลย นี่คือปริญญารับรองความเป็นคนของพระพุทธเจ้า เป็นวิชาของพระพุทธเจ้าสอนเรื่องนี้อย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 13:32:04 )

ปริญญาโลกุตระ

รายละเอียด

เอาคำว่าปริญญาไปเรียกความรู้ความฉลาดที่สอบเอาใบอะไรมาได้ปริญญามาจากโลก มาจากมหาวิทยาลัยทั้งนั้นในโลกก็เรียกปริญญามาทั้งนั้น แต่ ปริญญาเหล่านั้นเป็นเทวนิยม เป็นโลกีย์ ไม่ใช่ปริญญาโลกุตระ ขออภัยต้องพูดชัด ที่ประสิทธิ์ประสาทออกไปจากชาวอโศก แม้ปริญญาที่ผลิตออกมาจากเถรสมาคม ชาวพุทธด้วย ก็ยังไม่ใช่ปริญญาโลกุตระ เหมือนกับชาวอโศก เป็นผลสำเร็จของพฤติกรรมของจิตวิญญาณจริง ไม่ใช่มีแต่ใบรับรอง แต่พวกเราไม่ค่อยแจกใบปริญญาด้วย แต่จบปริญญากันไปเป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ จริงๆ นี่คือชาวอโศก 

ซึ่งปริญญาโลกุตระนี้ ในโลกของเทวนิยมโลกีย์ยังไม่รู้จัก ไม่รู้แจ้ง ไม่รู้จริง เขาไม่รู้อะไรบ้าง ความเป็นพระเจ้าของเขา เขาก็ยังไม่รู้ เขาจบปริญญาเอก เป็น Post Doctor อะไรก็แล้วแต่ มีปริญญาอีกไม่รู้กี่ใบ หลายใบ Post Doctor เขาไม่รู้แม้แต่ความเป็นพระเจ้าของเขา ในโลกตะวันตก แม้แต่ในอเมริกาที่นับถือกันอยู่ ยังไม่มีมหาวิทยาลัยหรือสำนักตักศิลาใดๆเลยในโลกที่จะประสาทปริญญาโลกุตระ เขาประสาทแต่ปริญญาโลกียะทั้งนั้น มีมหาลัยหรือว่ามีสำนักตักศิลาของศาสนาพุทธ ที่มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียว ผู้อุบัติขึ้นมาในโลกนี้ แต่ละยุคของ กาละ นี่คือยุคหนึ่งของกาละยังไม่หมด พระพุทธเจ้าสมณะโคดม ก็มีศาสนาพระพุทธเจ้านี้เท่านั้นที่ประสาทปริญญาโลกุตระ เกิดในมหาวิทยาลัยชนิดนี้ 

มหาวิทยาลัยของโลกชนิดอื่นๆ ประสาทปริญญาโลกุตระไม่ได้ ศาสนาอื่นใดตั้งมหาวิทยาลัยก็ตั้งขึ้นมาเต็ม แต่ประสาทได้แต่แค่ปริญญาโลกียะเท่านั้น ประสาทปริญญาโลกุตระไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ความฉลาดที่เป็นโลกุตระ เขาไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ในสังคมมนุษยชาตินี้ทั้งโลก จึงแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่สำเร็จ ไม่มีการจบกิจในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจลงได้ นั่นแหละจบปริญญาจะเป็น Post Doctor กี่ใบมาก็ตาม ทางเศรษฐศาสตร์ หรือศาสตร์อื่นๆอีกเอามาช่วย ก็แก้ปัญหาเศรษฐกิจนี้ไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญาโลกุตระ วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 8 ค่ำ วันพระน้อย เดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2566 ( 11:20:56 )

ปริญเญยยะ

รายละเอียด

1. สภาพกำหนดรู้ 

2. ควรกำหนดรู้ , พึงกำหนดรู้

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 535

ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ.265


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:21:30 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:51:47 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:34:23 )

ปริตตัง , ปริตรตัง

รายละเอียด

1. ส่วนน้อย

2. ความประมาณให้เหมาะกับตน มีขอบเขตจำกัดให้ตน  ตรงกันข้ามกับ “อัปปมาณ” หรือ “อัปปมัญญา” ซึ่งหมายถึงไม่มีประมาณหรือ ประมาณไม่ได้

3. ขนาดจำกัด

หนังสืออ้างอิง

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 103,  241, 393


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:24:03 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:53:18 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:38:29 )

ปริตตัง กับ อัปปมาณา

รายละเอียด

ข้อแรก ปริตตะ ข้อที่ 2 ถึงจะเป็น อัปปมาณา ท่านแปล ปริตตัง ว่า เล็ก แปล อัปปมาณา ว่าใหญ่ แปลว่าเล็กก็ได้ แต่มันยังไม่บริบูรณ์ควรจะแปลว่าน้อย มากกว่าเป็นเชิงปริมาณ ปริมาณเราไม่เรียกเล็กนะ ปริมาณเราจะเรียกว่าน้อย อัปปมาณา เราจะเรียกว่ามาก มากจนกระทั่ง Infinity มากจนประมาณไม่ได้ หรือจะเรียกว่าเล็กกับใหญ่ก็ด้วย น้อยกับมากก็ด้วย ปริตตังกับอัปปมาณา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  อภิภู คือผู้นำพาคน ไปสู่ความจนอันประเสริฐ วันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 ธันวาคม 2564 ( 14:35:35 )

ปริตตังกับอัปปมาณา

รายละเอียด

ข้อแรก ปริตตะ ข้อที่ 2 ถึงจะเป็น อัปปมาณา ท่านแปล ปริตตัง ว่า เล็ก แปล อัปปมาณา ว่าใหญ่ แปลว่าเล็กก็ได้ แต่มันยังไม่บริบูรณ์ควรจะแปลว่าน้อย มากกว่าเป็นเชิงปริมาณ ปริมาณเราไม่เรียกเล็กนะ ปริมาณเราจะเรียกว่าน้อย อัปปมาณา เราจะเรียกว่ามาก มากจนกระทั่ง Infinity มากจนประมาณไม่ได้ หรือจะเรียกว่าเล็กกับใหญ่ก็ด้วย น้อยกับมากก็ด้วย ปริตตังกับอัปปมาณา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภู คือผู้นำพาคนไปสู่ความจนอันประเสริฐ วันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 ธันวาคม 2564 ( 16:23:49 )

ปริตรตาภาพรหม

รายละเอียด

ยังมีประมาณ หรือมีจำนวน หรือมีค่าน้อยอยู่

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 403


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:25:09 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:54:14 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:40:09 )

ปริตรตาสุภา

รายละเอียด

แม้มีประมาณน้อย ก็เป็นคุณงามความดีที่เพิ่มขึ้นจริงขึ้นมา

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 406


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:25:46 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:55:13 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:41:19 )

ปรินิพพาน

รายละเอียด

คือ สุดยอดวิชาที่ พระพุทธเจ้าค้นพบ คือที่สุดแห่งที่สุดของคน คือ ปรินิพพาน สูญ ชีวิตหมดเชื้อที่จะหมุนเวียนอีก เลิกวัฏสงสาร หมดสันตติ ไม่มีอะไรต่อเชื่อมพลังงานส่วนที่เป็นตัวเป็นตน เป็นสภาพสุดท้าย ก็ต้องสูญสลายเลิกไป

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า.187


เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 11:52:42 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:22:23 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:25:02 )

ปรินิพพาน

รายละเอียด

1. ไม่มีอะไรทรงอยู่อีก หรือเหลืออีกเลย สูญสิ้นเกลี้ยงสนิทจริง ๆ

2. ทั้งไม่มีกิเลสาสวะ ทั้งคนผู้นี้สิ้นลมหายใจ(ตาย)ลง ทั้งไม่มีการหมุนเวียนมาเข้าท้องแม่อีกแล้วสำหรับผู้นั้นด้วย เป็นการดับรอบหมดเป็นชาติสุดท้ายกันไปจริง ๆ 

3. ไม่เกิดไม่ตายเป็นที่สุดแห่งที่สุด , เลิกเกิดเวียนวนในวัฏสงสาร

4. ไม่มีธาตุขันธ์ใด ๆ อีกแล้วเด็ดขาดในมหาจักรวาลไหน ๆ ..ความหมุนเวียนของธาตุของขันธ์จบสิ้นเด็ดขาด ไม่มีการเวียนวนมาเกิดเป็นสัตวโลกอีก ไม่ว่าในจิตหรือนอกจิต หรือแม้ในมหาเอกภพ จึงจบสูญสนิทสัมบูรณ์ ...ธาตุและขันธ์ของผู้นั้นได้ดับสิ้นเกลี้ยงทั้งรูปธาตุและนามธาตุ ไม่เหลือเศษไหนส่วนใดแห่งธุลีละอองที่ยังชื่อว่า “มี” อีกเลย

5. ดับสิ้นรอบไม่เหลือกาย – ไม่เหลือจิตอีก

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า373  , 474

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 111,177

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 76

ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 321


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:28:30 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:57:03 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:28:13 )

ปรินิพพาน มีสองแบบใหญ่ๆ

รายละเอียด

ผู้ที่ทำได้บริสุทธิ์ใจยอมอย่างบริสุทธิ์ใจ มีแต่กุศลจิตล้วนๆ เพราะมีปัญญาเข้าใจในการเวียนตายเวียนเกิด เพราะว่าถ้าเธอว่าเราเองยังไม่ยอม ยังไม่ตั้งจิตสูญ โดยการ สูญ ที่เป็นสูญ ของผู้บรรลุอรหันต์ขึ้นไป ก็หมายความว่าเป็นผู้ที่ตาย แล้วก็ตายอย่างสุญญตนิพพาน อนิมิตนิพพาน อปนิหิตนิพพาน คือนิพพานอย่างตายอย่างจิตสูญ ตายอย่างไม่สร้างนิมิตไว้เลย อนิมิต ไม่ตั้งจิตอะไรอีกเลย ปล่อยวางว่างไปหมดเลย เป็นการตายอย่างปรินิพพานเป็นปริโยสาน ผู้ใดเป็นพระอรหันต์แล้ว จะตายด้วยปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ทุกองค์ ตั้งแต่อรหันต์สามัญจนถึงอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้นจึงจะสูญ นอกนั้น หากคุณไม่ได้บรรลุพระอรหันต์อยากจะตายให้สูญอย่างไรก็ไม่สูญตายแล้วต้องมาเกิดอีกหรือตายแล้วต้องเหลือ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2563 ( 13:00:34 )

ปรินิพพาน 

รายละเอียด

ดับทุกข์ ดับสุขได้รอบเรียกว่า ปรินิพพาน 
 

ที่มา ที่ไป

ปาฏิหาริย์ของคนจนมหัศจรรย์ รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 25 วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 มกราคม 2565 ( 20:29:27 )

ปรินิพพานคืออย่างไร

รายละเอียด

ผู้ที่ดับกิเลสได้เป็นส่วนหนึ่งแล้วก็ทบทวนจนรอบถ้วนเรียกว่าปริ แปลว่ารอบถ้วน ปรินิพพาน สั่งสมความบรรลุ สั่งสมผล รักษาผลจนตั้งมั่นแน่นอนเที่ยงแท้ นิจจัง(เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง(ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ) ทีนี้ก็มีคำขยายความ สำทับ จบครบรอบถ้วนสมบูรณ์แบบเลยคือคำว่าปรินิพพาน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:44:12 )

ปรินิพพานคือแนวทางการสลายของการสลายขั้นสุดท้ายแห่งสุดท้าย!

รายละเอียด

“ปรินิพพานเป็นปริโยสาน”แปลว่า การดับสิ้นสูญสลายแยกธาตุจิตวิญญาณของตนแตกกลายเป็น“อุตุธาตุ(ดินน้ำไฟลม)”ไปเลย 

เป็นอันสิ้นสุดท้ายแห่งความเป็น“อัตตา(อาตมัน)”สนิทเด็ดขาด 

หายไปจากวัฏฏสงสาร จาก“กาล”ที่มีในโลกมหาเอกภพจักรวาล

“อัตตา”หมดสิ้นความเป็น“จิตนิยาม” หมดสิ้น“ชีวะ”ไปได้

“ปรินิพพานเป็นปริโยสาน”เป็นการพิสูจน์ ว่า เราเป็นเจ้าของ“อัตตา” 

สามารถทำลาย“อัตตา”ของเราให้“สูญ”สิ้นสลายเป็น“อุตุ

ธาตุ”ไปเลยด้วยตนเอง ไม่เหลือความเป็น“ชีวะ”อีกแล้ว

“ตายแล้ว”จึงไม่มี“อัตตา”ใดเหลือ ไปอยู่กับ“พระเจ้า”แล้ว

จึงยืนยันชัดเจนยิ่งว่า “พระเจ้า”ไม่มีสิทธิ์อะไรใน“อัตตา”

หรือ“ตัวตน”ของเรา  ใน“ชีวิต”ของเราเลยเด็ดขาด

หนังสืออ้างอิง

หนังสือรวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 210 หน้า 175


เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2564 ( 11:10:53 )

ปรินิพพานญาณ เป็นอย่างไร

รายละเอียด

ปัญญาในการทำความเป็นไปแห่งกิเลสให้สิ้นไปของผู้มีสัมปชัญญะ ชื่อว่า ปรินิพพานญาณ คำว่า ”ปัญญา” คือ ความรู้ยิ่งยอดในการจัดการกิเลสให้สิ้นไป ของผู้มีสัมปชัญญะ เป็นสติสัมปชัญญะปัญญา ปรินิพพานญาณ เป็นอย่างไรคือบุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะ คือ บุคคลผู้มีสัมปชัญญะในศาสนานี้ทำความเป็นไปแห่ง กามฉันทะให้สิ้นไป ด้วยเนกขัมมะ คุณยินดีในกามก็ต้องทำพฤติกรรมแห่งเนกขัมมะ ก็ต้องมาเรียน เนกขัมมะทำอย่างไร การออกจากกาม ทำความเป็นไปแห่งพยาบาท ให้สิ้นไปด้วย อพยาบาท ต้องใช้พยัญชนะ มันเหมือนคำพูดกำปั้นทุบดินนะ ทำความเป็นไปของ ถีนมิทธะ ให้สิ้นไปด้วยอารมณ์แห่งอาโลกสัญญา  ถีนมิทธะ คืออารมณ์หรี่หลับไม่ตื่นเต็ม คือการกำหนดแสงสว่าง กำหนดความตื่นสำหรับความแจ้งภายนอกให้ตื่นเต็ม ทำความเป็นไปแห่ง อุทธัจจะให้สิ้นไปด้วย อวิกเขปะ คือ ความไม่ฟุ้งซ่าน – ทำความเป็นไปแห่งวิจิกิจฉา ให้สิ้นไปด้วย ธรรมวัฏฐาน ทำความสงสัยลังเลนั้นให้สิ้นไป ทำความเป็นไปแห่งอวิชชาให้สิ้นไปด้วยญาณ ทำอรติให้สิ้นไปด้วยปมุชชะ (ปมุชชะ คือความยินดีอิ่มใจ)หรือทำให้นิวรณ์สิ้นไปด้วยปฐมฌาน คือพลังไฟ ถ้าพูดอย่างฤาษีคือสะกดจิตเข้าไป คือให้จิตไม่มีนิวรณ์ 5 ในขณะที่คุณสะกดจิตไว้แต่เป็นการไม่มีนิวรณ์ 5 อย่างสมถะแบบสะกดจิตดับมืดอยู่ในที่มืดเป็น สุภกิณหา ได้สภาวะดับนิวรณ์ในขณะนั้นก็จริง แต่ของพระพุทธเจ้านั้นเป็นคณะสว่าง อาโลกสัญญา แต่อาโลกสัญญาพวกนี้ก็เลยเถิดเป็น อาภัสรา มันสว่างว่างแบบธรรมกาย ธัมมชโย ใสๆๆ ไม่รู้จะใสไปถึงไหน พระโสดาบันก็ใสขนาดหนึ่ง พระสกิทาคามีก็ใสใส พระอนาคามีก็ใส พระอรหันต์ก็ยิ่งใส มันเป็นภพชาติที่สร้างอุปาทานขึ้นมาเองทั้งนั้น ใสของอุปาทาน ใสยิ่งกว่าอุปาทานอีก แล้วใครจะไปรู้ร่วมกับคุณได้ในความใสนั้น ทำความสิ้นไปแห่งกิเลสทั้งปวงให้สิ้นไปด้วย อรหัตตมรรค ปฏิบัติตามทางปฏิบัตินี้จนกิเลสสิ้นไป 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:56:56 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

คือ ทำตนเอง “ตายสูญไปเลย” จึงไม่มีใครเลยในโลกนี้ ที่รู้จักพระองค์ ท่านจึงเป็น “ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า”

หนังสืออ้างอิง

 “คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า.229


เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 16:01:13 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:23:26 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:29:17 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน คือ การแยกกายแยกจิต  ถ้าแยกเป็นอุตุธาตุไม่ได้  คุณไม่มีปรินิพพานเป็นปริโยสาน  ตายแล้วกลับมาเกิดอีก ก็ต้องเป็นชีวะ

คำอธิบาย

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน คือ พระอรหันต์สามารถทำให้จิตตัวเอง ตาย ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้  ทำให้จิตของท่านเป็นอุตุนิยามได้เลย ดิน น้ำ ไฟ ลม รวมตัวไม่ติด  ไม่เป็นแม้แต่ชีวะ  คือ ปรินิพพานเป็นปริโยสาน  ทำอัตภาพอาตมันให้สูญไปได้เด็ดขาดเลย  แยกธาตุหายไปเลย

รายการวิถีอารยธรรม  บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอารยธรรม  บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 12:55:18 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:05:43 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:32:21 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน  คือ  รูปกับนาม  แยกขาดจากกัน รูป ก็ ดิน น้ำ ไฟ ลม  ก็เป็น ดิน น้ำ ไฟ ลม

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  วันพุธที่ 16  ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 12:00:43 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:06:18 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:33:25 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

ปรินิพพานเป็นปริโยสานมีอยู่ในมูลสูตร ดูเหมือนว่าจะมีอยู่ในพระสูตรเดียวนี้ ถ้าไม่มีสภาวะจริง อธิบายไม่ได้หรอก หมายความว่าอย่างไรแท้ แต่อาตมามีสภาวะจริง และก็เพราะว่ามี อาตมาไม่ได้ทำปรินิพพานเป็นปริโยสาน อาตมาจึงได้ยืนยันได้ และก็มีความหมายที่สุดท้ายรองจากอมตะแห่งมูลสูตร อมตะเป็นข้อที่ 9 ปรินิพพานเป็นปริโยสานเป็นข้อที่ 10 มีวิมุติ เป็นข้อที่ 8 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 10:53:56 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:56:18 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:36:38 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

โดยธรรมความไม่เกิด อย่างที่เรียกว่าปรินิพพานเป็นปริโยสาน ทำจิตให้แยกธาตุเป็นอุตุธาตุหมดเลย นี่เป็นความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเราจะรู้ด้วยคนตั้งแต่เป็นๆนี่แหละเราทำจิตให้ไม่เป็นทุกข์ไม่เป็นสุข 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2563 ( 09:55:09 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:07:42 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:49:20 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

คำว่า ปรินิพพานเป็นปริโยสาน มีอยู่ในมูลสูตร ถ้าหากไม่ ปรินิพพานเป็นปริโยสานมันก็ไม่มีทางจะสูญสิ้นอัตภาพ  แต่เพราะศาสนาพุทธมีจริงมีหลักฐานจริงจึงเป็นศาสนาที่สามารถสลายจิตวิญญาณสลายอัตภาพให้สูญไปไม่มีตัวตนไม่เหลือตัวตนเลยเป็นอนัตตา ทำได้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 09:52:35 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

ยังจะขอเกิดอีกยังไม่หยุดในการเกิด ขออภัยต้องพูดให้ชัดว่า แม้แต่อาตมาจะปรินิพพานเป็นปริโยสาน หยุด พอแล้วไม่ต่อภพภูมิอีกแล้ว อาตมาจะตาย จะเลิก หมายความว่าหมดจะมาวนเวียนอีกแล้วในอัตภาพ ไม่ต่ออีกแล้วภพภูมิ อาตมาก็ทำได้ ขยายความอธิบายไปแล้ว ก็มาพิสูจน์ที่อาตมาพูดนี้จริงหรือไม่จริง แต่อาตมาก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำงาน เพราะอาตมาคิดว่าการได้ เกิดมาเป็นคนนี้ มันยิ่งใหญ่ที่สุดในความเป็นสัตว์โลก สัตว์โลกในยุคไหนก็
ตามกัปป์ไหนกัลป์ไหนก็ตาม เกิดมาเป็นสัตว์โลกเกิดมาเป็นมนุษย์ และเป็นมนุษย์ที่สามารถมีภูมิธรรมถึงขั้น โลกุตรธรรม มีภูมิธรรมที่จะทำงานกับมนุษย์โลก กับสังคมโลกทั้งดินน้ำลมไฟทั้งมนุษย์ เข้าใจหมด

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:12:53 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

ดับทุกข์ ดับสุขแล้วก็ดับจิตวิญญาณทำให้สลายแยกธาตุไปได้เลยสมบูรณ์แบบเรียกว่า ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

ที่มา ที่ไป

ปาฏิหาริย์ของคนจนมหัศจรรย์ รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 25 วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 มกราคม 2565 ( 20:30:44 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

ศาสนาพุทธเป็น“อเทฺวนิยม” รู้จักรู้แจ้งรู้จริง“ความจริง”ของไตรลักษณ์ มี“อนัตตา” มี“สุญญตา” มี“นิพพาน” และที่สำคัญมี“ปรินิพพานเป็นปริโยสาน” 

“ปรินิพพานเป็นปริโยสาน”คือ คนผู้เป็นเจ้าของ“จิตวิญญาณ”เองสามารถจัดการกับ“จิตนิยาม”ของตนให้เป็น “อุตุนิยาม” นั่นคือ “จิตวิญญาณ”ของคนผู้นั้นทำให้สูญสลายกลายเป็น“ดินน้ำไฟลม”ไป หมดสิ้น“อัตตา”ของตนไปนิรันดรเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 32 ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาที่มีอยู่ประจำโลก วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2565 ( 14:33:53 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน

รายละเอียด

เรื่อง ปรินิพพานเป็นปริโยสานนี่ก็อีกแหละ ไม่มีใครสามารถเอามาเปิดเผย เพราะเขาไม่มีภูมิรู้พอ อาตมาเจอในมูลสูตรก็เลยรู้ว่าอันนี้เป็นตัวขยายความ มาเจอไม่นานนัก ก็เอามาเปิดไขความ ว่าอันนี้ยิ่งย้ำยืนยันว่าเป็นสุดยอด อาตมาไขความไปหมดแล้ว 

ปรินิพพานเป็นปริโยสานคือ พระอรหันต์หรือพระโพธิสัตว์หรือพระพุทธเจ้า ตายเป็นครั้งสุดท้าย ตั้งแต่เริ่มเป็นอรหันต์ ทำปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ ซึ่งอยู่ในมูลสูตร 10 ข้อสุดท้าย ข้อที่ 10 ปริโยสานเป็นที่สุด ซึ่งหลังจากความเป็นอมตบุคคล

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 34 ปัญญา สมาธิและสันติภาพแบบพ่อครู วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 กรกฎาคม 2565 ( 17:04:49 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นข้อที่ 10 ของมูลสูตร

รายละเอียด

อาตมาก็โชคดีที่ในพระไตรปิฎก ฉบับของพระมหากัสสปะแท้ๆนี่แหละ ฉบับที่เราใช้อยู่เป็นฉบับสยามรัฐ ยังมีอันนี้ ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นข้อที่ 10 ของมูลสูตร (พระไตรปิฎกเล่ม 24 "มูลสูตร" ข้อ 58 ดูภาคผนวก) ซึ่งโอ้โห!..สุดยอดเลย ที่อาตมาเจอแล้วว่า จับตัวได้แล้ว นี่แหละตัวนี้ สุดยอดที่จะเอามาใช้ เอามาอธิบาย เอามายืนยันกับโลกเขา สุดยอด จับตัวได้ อาตมาก็นำเอามายืนยัน มาพยายามแสดงอุเทส เพื่อให้คนได้เข้าใจคำว่า ปรินิพพานเป็นปริโยสานนี่แหละ 

พระอรหันต์ทุกองค์จะต้องทำตัวนี้เป็น จึงจะสามารถทำให้อัตภาพของเรา พระอรหันต์ตายแล้วจะทำให้ทุกอย่างสลายอัตภาพตัวเองสูญสลายไปได้ ไม่เกิดมาอีก ก็ต้องมีความรู้ตัวนี้ ความรู้อย่างนี้ ถ้าไม่มีความรู้ตัวนี้หรือความรู้อย่างนี้ คุณก็เลิกอัตภาพของคุณไม่ได้ สลายอัตภาพของคุณไม่ได้  คุณก็ต้องไปเกิดวนเวียนอยู่ในวัฏฏสงสารของคุณต่อ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โลก 10 แบบ ที่ไม่ใช่แค่ Imagine ตอนที่ 1 วันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 พฤษภาคม 2565 ( 09:21:09 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน 

รายละเอียด

ปรินิพพานเป็นปริโยสาน  คือ  เป็นของพระพุทธเจ้า หรือ ปัจเจกพระพุทธเจ้า หรือ สยังอภิญญา หรือ ปัจเจก

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการวิถีอารยธรรม วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 01 ตุลาคม 2562 ( 17:41:14 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:56:44 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:50:08 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสานคือการทำลายจิตนิยามให้เป็นอุตุ

รายละเอียด

ถ้ามันแยกเป็นอุตุเป็นดินน้ำไฟลม มันก็ไม่ใช่กาย แต่ฐานที่เป็นพืช ก็เป็นฐานอาศัย มันมีชีวะอยู่ แต่เราสามารถทำให้เป็นอุตุได้เราก็ทำ ตายแล้วเราก็แยกเป็นอุตุ คุณเป็นพระอรหันต์ก็สามารถทำให้ธาตุจิตของคุณเป็นอุตุธาตุได้ แม้จะมีเศษส่วนเหลือเป็นพีชะบ้างก็น้อย พระพุทธเจ้าตรัสว่า ร่างของตถาคตเหมือนพวงมะม่วง เมื่อถูกตัดออกจากขั้วแล้ว พวงมะม่วงก็หล่นลงแตกกระจายเป็นอันไม่รวมกันอยู่ อาจจะมีลูกที่ติดพวงมะม่วงอยู่ลูก 2 ลูกก็ไม่ใช่พวงมะม่วงพวงนั้นแล้ว มันกระจายแตกออกไปกลายเป็นอุตุธาตุหมด อย่างนี้เรียกว่าทำลายจิตนิยามให้เป็นอุตุ ให้เป็นดินน้ำไฟลมได้นี่แหละคือการปรินิพพานเป็นปริโยสาน

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 09:57:27 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสานคือความตายครั้งสุดท้ายของมนุษย์!

รายละเอียด

“ปรินิพพานเป็นปริโยสาน”ก็คือ “ความตาย”ครั้งสุดท้ายของ“วิญญาณ”ที่มี“สังขาร”เป็น“ปัจจัยในความเป็นชีวิตมนุษย์ “มนุษย์”ที่มี“วิญญาณ”ผู้นั้น ก็“ตาย”สิ้นสลายสูญหายไปจาก“กาล” จาก“วัฏฏสงสาร” จาก“เอกภพมหาจักรวาล” 

แม้แต่จาก“พระเจ้า”แท้ๆได้ ด้วย“วิชชา”ของคนผู้นั้นเอง จึงไม่เหลือ

อะไรที่เป็น“ตน”คือ“อัตตา”หรือ“วิญญาณ”

กันอีกแล้ว ใน“วัฏฏสงสาร” หรือใน“เอกภพมหาจักรวาล”

ผู้ทำ“การตาย”เป็นครั้งสุดท้ายแห่งสุดท้ายปานฉะนี้ได้ ซึ่งเป็นการทำ

“การตาย”ให้แก่“ตน”ด้วย“วิชชา”ของชาวโลกุตระที่มีภูมิขั้น“อรหันต์”

ทุกองค์ คือ“โพธิสัตว์ระดับ 4”ขึ้นไป 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 251 หน้า 203


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 13:06:37 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสานคือที่สุดแห่งที่สุดที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้

รายละเอียด

มูลสูตร ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นอันสุดท้ายเลย ผู้ทำได้แล้วก็ทำให้ตัวเอง เมื่อตาย กายสเภทาปรัมมรณา แยกธาตุเป็นดินน้ำไฟลมได้เลย นี่คือที่สุดแห่งที่สุดที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ผู้ที่สามารถรู้เป็นอมตบุคคล เป็นอมตบุคคลสามารถที่จะรู้แล้วว่าทำปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ จบกิจ อมตบุคคล เหนือจากวิมุติ 

วิมุติคือ ทำให้หลุดพ้นจากโลกได้ ก็สามารถจัดการเลิกโลก เลิกอัตตาได้ จึงเรียกว่าอมตบุคคล เพราะหลุดพ้นแล้วโลกกับอัตตา เหลือแต่จะปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นอมตบุคคล จะตายหรือจะเกิด พระโพธิสัตว์เป็นอมตบุคคล จะตายหรือจะเกิด ..สบาย ตายก็ทำปรินิพพานเป็นปริโยสานก็ได้เลย  สูญไป หรือยังไม่ทำก็เกิด แต่มีวิมุติแล้ว เป็นแก่นแกนของชีวิต 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 19:33:58 )

ปรินิพพานเป็นปริโยสานคือแบบใด

รายละเอียด

อาตมามาอธิบายธรรมะถึงขั้นปรินิพพานคืออะไร แล้วสุดท้ายปรินิพพานเป็นปริโยสาน ยังดีที่มีมูลสูตรรับรองคำนี้ จึงอธิบายไปถึงอุตุนิยามได้ ถ้าไม่มีปรินิพพานเป็นปริโยสานเป็นสุดท้ายของอมตบุคคล ก็ไม่สามารถที่จะรู้แล้วเข้าใจ อย่างพวกคุณฟังรู้ ปรินิพพานเป็นปริโยสานคืออะไร ปรินิพพานอย่างจบอวสานเลย ปริโยสานสมบูรณ์แบบเลย แล้วปรินิพพานเป็นปริโยสานเป็นปรินิพพานแบบไหน 

ก็คือผู้ที่แยกธาตุจิตของตัวเองให้เป็นอุตุนิยามได้หมดเลย ไม่กลับมารวมตัวเป็นเรือน เป็น คหะ เคหะ ไม่กลับมาอีกเลย ตัดยอดเสา ยอดจั่ว ยอดต้น ยอดหลังคา ยอดอะไรหมดเลย เรือนเคหะของมารไม่เหลือเลย อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 20:22:07 )

ปริย

รายละเอียด

1. รอบ

2. ให้รอบถ้วนดิบดี 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 155 , 157

 


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:29:17 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:58:23 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:50:50 )

ปริยญาณ

รายละเอียด

1. ให้รู้รอบแทงทะลุให้ถ้วน

2. รู้อย่างรอบ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 142 , 150

 


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:30:04 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 14:59:19 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:51:37 )

ปริยัติ

รายละเอียด

1. เป็นการฟังมาจากครูคนอื่นอีกทอดหนึ่ง ถ่ายทอดกันต่อ ๆ มา

2. การศึกษาให้รู้ และเข้าใจในพระไตรปิฎก 

3. ทำความเข้าใจในศาสตร์ของพระพุทธเจ้าเป็นเบื้องต้น ให้รู้จักบัญญัติต่าง ๆ  และรู้ความหมายของบัญญัติต่าง ๆ  หรือรู้คำจำกัด-ความต่าง ๆ ให้สัมมาทิฏฐิไปตามลำดับแห่งฐานะของแต่ละบุคคล

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 382

สมาธิพุทธ หน้า 82

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 86


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:31:34 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 15:00:24 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:52:50 )

ปริยัติกับสภาวะอันไหนสำคัญมากกว่ากัน

รายละเอียด

พยัญชนะกับสภาวะ หรือบัญญัติ ปริยัติ พยัญชนะ คือสมมุติสัจจะ แต่สภาวะคือปรมัตถสัจจะ คือเข้าไปถึง จิต เจตสิก รูป นิพพาน

คนเราต้องศึกษาปริยัติ เอาไปปฏิบัติก็ถึงมีปฏิเวธ เพราะคนเรารู้เองไม่ได้ หรือบางคนได้สั่งสมบารมีจนเป็นสยังอภิญญา ก็จะมีความรู้ด้วยตัวเอง นอกนั้นต้องได้รับเหตุปัจจัยจากผู้รู้มาก่อน ไม่อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่อย่างละเอียดก็หยาบ ไม่หยาบก็ละเอียด เพราะยังไม่ครบสมบูรณ์ 

สรุปแล้วปริยัติสำคัญในระดับมรรค ต้องเป็นเช่นนั้น เพราะว่าคุณเองรู้เองมาก่อนไม่ได้ มีสภาวธรรมเองมาไม่ได้หรอก คุณต้องรู้ปริยัติก่อน ก็สำคัญในระดับมรรค แต่แน่นอนสภาวะก็ต้องเป็นผลที่สำคัญกว่ามรรค สภาวะต้องสำคัญกว่าปริยัติในภาคที่เป็นผลแล้ว แล้วจะได้เป็นตัวตั้งที่เราได้อาศัยและหรือเผื่อแผ่ผู้อื่น สอนผู้อื่นแนะนำผู้อื่นให้มีตามไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ผู้ไม่รู้ตัวเองไม่รู้ทั้งหมด ผู้รู้ทั้งหมด รู้ตัวเอง วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 10:46:40 )

ปริยุฏฐานกิเลส

รายละเอียด

1. คือสัตว์นรกขนาดกลาง

2. กิเลสขนาดกลาง

3. กิเลส อุปกิเลส วิปัสสนูปกิเลส ขนาดกลาง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 55

ทางเอก ภาค 3 หน้า 51

คนคืออะไร? หน้า 558


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:32:29 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 15:01:26 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:53:46 )

ปริวัชชนา

รายละเอียด

1. เว้นรอบขาดถ้วน 

2. ครบรอบ  เว้นรอบแล้ว

3. การได้รู้จักสิ่งที่ควรเลิก ควรเว้น ควรตัดขาดมาแล้ว  ดังนั้นเราก็มาประพฤติ เลิกละ เว้น ตัดขาดให้จริง ๆ 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 340 , สมาธิพุทธ หน้า 227 , สมาธิพุทธ หน้า 477


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:39:48 )

เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 15:02:34 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:56:52 )

ปริวัฏฏ์

รายละเอียด

สภาพหมุนรอบเชิงซ้อน

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 41


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:43:26 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:10:52 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:58:28 )

ปริวัฏฏ์ 3

รายละเอียด

สัจญาณ คือการเข้าถึงความจริง เข้าถึงความรู้ กิจญาณ คือการนำความรู้ ที่ได้รู้แล้วไปปฏิบัติจนกลายเป็นหน้าที่ กตญาณ คือเป็นความรู้ที่เกิดจากการปฏิบัติ แล้วนำไปขยายผล จนกิเลสเบาบาง เข้าถึงความว่าง และความหลุดพ้น

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 137


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 13:16:55 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 07:25:52 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 03:23:32 )

ปริส

รายละเอียด

บริษัท หมู่กลุ่ม คนรวมกัน ที่ประชุม ชุมนุม

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 380


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:44:24 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:11:40 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 13:59:24 )

ปริสสารัชชภัย

รายละเอียด

ภัยที่สะทกสะท้านในการเข้าสังคม

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 71


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:45:14 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:12:19 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:00:13 )

ปริสัญญุตา

รายละเอียด

การรู้แจ้ง หรือการรู้ยิ่งในบริษัท ในหมู่กลุ่ม ในคนรวมกัน ในที่ประชุม ในชุมนุม

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 380


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:45:58 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:12:56 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:01:03 )

ปริสัญญุตา

รายละเอียด

ในกาละ มันเปลี่ยนแปลงไปเสมอ ต้องทำให้เหมาะสม มัตตัญญุตาให้ดี พร้อมกันนั้นคุณต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะรวมกันเรียกว่า ปริสัญญุตา ต้องวิจัยวิจารณ์ให้ชัด กาละเวลา ทั้งสิ่งที่เป็นองค์ประกอบพร้อม จะเรียกว่าบริขาร จะเรียกว่าตัวเหตุ ที่มันมารวมตัวกันครบพร้อม มีเหตุปัจจัย สมุทัย ก็เอามารวมกัน เพื่อที่จะทำงานร่วมกัน ให้มันไปอย่างดี กลมกลืนกัน ให้ไปได้อย่างมีผล มีประโยชน์ เป็นสามัคคีธรรมที่ดี 

เพราะฉะนั้น กาละ อย่างหนึ่งกับเหตุปัจจัยองค์ประกอบอีกอย่างหนึ่ง ก็เป็นคู่สำคัญตัวสุดท้าย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ โพชฌงค์ 7 สัปปุริสธรรม 7 โดยพิสดาร วันพุธที่ 14 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 เมษายน 2564 ( 20:25:33 )

ปริสุทธ

รายละเอียด

1. บริสุทธิ์

2. คุณลักษณะบริสุทธิ์หรือสะอาด

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 239

คนคืออะไร? หน้า 302


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:46:57 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:14:18 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:02:30 )

ปริสุทธจิต

รายละเอียด

จิตสะอาดจริง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 364


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:47:57 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:21:39 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:03:18 )

ปริสุทธจิตตานัง ปรมโวทานัปปัตตานัง

รายละเอียด

จิตของผู้บรรลุนั้น ๆ แท้ ๆ บริสุทธิ์อยู่จริง ถึงซึ่งความเป็นผู้มีจิตผ่องแผ้วอย่างยิ่งแท้

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 363


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:48:51 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:20:59 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:06:05 )

ปริสุทธา

รายละเอียด

ปริสุทธา คือ จิตสะอาดบริสุทธิ์ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช 2/ 08/ 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 13:20:29 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:08:41 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:07:47 )

ปริสุทธา

รายละเอียด

1. บริสุทธิ์อยู่ตลอด

2. จิตสะอาดบริสุทธิ์

3. ความบริสุทธิ์จากกิเลสนิวรณ์

หนังสืออ้างอิง

สมาธิพุทธ หน้า 135

เปิดโลกเทวดา หน้า 55

กำไร-ขาดทุนแท้ของอาริยชน / เราคิดอะไร ฉบับ265


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:50:18 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:22:49 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:09:31 )

ปริสุทธา กับ ปริโยทาตา

รายละเอียด

แต่อาตมาก็เอามาขยายความให้ชัดเจนคือ ปริสุทธา คือจิตบริสุทธิ์จากกิเลส ปริโยทาตา ก็คือจิตที่บริสุทธิ์ ขาวรอบ จากกิเลสเพิ่มขึ้นนั่นแหละ มันก็เจริญขึ้นบริสุทธิ์นั่นแหละ ยิ่งบริสุทธิ์เก่งกล้าขึ้น มันมีความชำนาญมีสกิล มีความเจริญมากยิ่งขึ้น ปริโยทาตา บริสุทธิ์มากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเอกีภาวะประชาธิปไตยโลกุตระ วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:33:56 )

ปริสุทธาที่สุดแห่งอาสวะ

รายละเอียด

ปริสุทธามีอยู่แต่ปราศจากกิเลส ที่สุดแห่งอาสวะ จะไม่คุยถึงอนุสัย ถ้าหากจบเป็นอรหันต์แล้วค่อยมาคุยเรื่องอนุสัย คุณรู้จักให้หมดอาสวะก่อน จะหมดอนุสัยหรือยังค่อยมาคุยกัน คุณมั่นใจว่าอาสวะหมดแล้วค่อยมาคุยกัน แล้วจะพูดเรื่องอนุสัย ภาวะอนุสัยนี้มันลึกซึ้งกว่าอาสวะ เพราะอนุสัยมันมี 7 แต่อาสวะมี 4 เหลือแต่กาม ทิฏฐิ ภว อวิชชา นี่คืออาสวะ 4 ซึ่งอาสวะ 4 แล้วเมื่อคุณเป็นอุภโตภาควิมุติแล้วค่อยมาคุยกัน เป็นอรหันต์แล้วค่อยมาคุยเรื่อง อนุสัย 7  

ปริโยทาตา แม้จะมีการกระทบสัมผัสอย่างไรก็ยังบริสุทธิ์อยู่ก็จะทำงานได้อย่างเหมาะควร กัมมัญญา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:59:55 )

ปริสุทธิ์ , ปริสุทธิ

รายละเอียด

ความบริสุทธิ์

หนังสืออ้างอิง

จากอีคิวโลกุตระ หน้า 228

จากถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 111


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:51:03 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:23:32 )

ปริหาน

รายละเอียด

ตกต่ำ  เสื่อมถอย

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 541


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 19:54:19 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:24:17 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:10:22 )

ปริเฉท

รายละเอียด

คือ การจัดหมวดหมู่ การจัดองค์รวม ที่เป็น 0 ได้ ล้างกิเลสได้

@วิญญัติรูป 2 = 16 กายวิญญัติ 17 วจีวิญญัติ ไหวให้รู้

@วิการรูป = 18 ลหุตา  19 มุทุตา 20 กัมมัญญา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชธานีอโศก วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 15 ตุลาคม 2562 ( 16:23:38 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:11:23 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:11:45 )

ปริเฉทรูป

รายละเอียด

กรอบของกระบวนการของการปฏิบัติ มีตั้งแต่ 3 เส้า ลดมาเหลือ 2 มีจิตเป็นประธาน มีรูปกับนามหรือบวกกับลบ ก็เรียนรู้พลังงาน  อิตถีภาวะ  กับปุริสภาวะ แล้วลดพลังงาน อาการ อิตถีภาวะ ให้เหลือปุริสภาวะ คุณเหลือ 1  ก็พ้นทุกข์แล้ว ยิ่งทำ 1 ให้กลายเป็น 0 ได้ คุณก็ปรินิพพาน เป็นปริโยสานได้ คุณทำได้สูงสุดเลย ทำสูงสุดได้คือสภาวะมันสูญ  มันว่าง มันกลาง มันไม่มี ไม่บวก ไม่ลบ ไม่ดูด ไม่ผลัก ไม่ทุกข์ไม่สุขกลางๆ อาการมัน ภาษาพยัญชนะมีอยู่แค่นี้ ว่าง กลาง เฉย แล้วคุณก็อาศัยอาการนี้อยู่ คุณทำได้สำเร็จ แต่ละเรื่อง แต่ละกลุ่มเรียกว่าปริเฉท คุณทำความว่างได้ก็จบ สิ่งที่คุณได้นั้นมันจะเป็นกายวิญญัติ วจีวิญญัติ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 16:59:25 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:12:53 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:14:49 )

ปริเฉทรูป

รายละเอียด

ปริเฉทรูป คือจัดกรอบของการปฏิบัติ ปริเฉทรูปต้องกำหนดกรอบในการปฏิบัติ หากไปคว้าอะไรมาทำหมดก็ไม่ได้ หากจะรู้ไปหมดหลายอย่าง รูปต้องรู้อันนี้เสียงก็จะรู้กลิ่นก็จะรู้ก็รู้ไม่ไหว จะต้องตอบให้มันชัดคม จึงจะพิจารณากระบวนการ ตากระทบรูปเกิดกิเลสอย่างไรก็จัดการปริเฉทรูป เมื่อจัดการได้ก็จะควบคุมได้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:49:41 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:14:36 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:19:28 )

ปริเฉทรูป 1 คือ อากาศธาตุ

รายละเอียด

รูปที่กำหนดจะให้ว่าง  เรียกว่าเป็นแต่ละกรอบที่คุณจะต้องทำงาน  ต้องจำกัด อย่าไปเลอะมากมาย   เอาแต่พฤติกรรม  ศีล ข้อ 1 ก่อน  คนก็มีวิบากต่อกัน มากมาย  อย่าเอาไปมีกับสัตว์อีก   ต้องตีกรอบการเรียนรู้อย่าให้มันมีนอกนั้นอีก  เช่น ศีลข้อ 1 เกี่ยวกับสัตว์เท่านั้น  ก็ต้องหัดจำอีกว่า  สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย ก็ไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับมัน  เอาแค่คนนี้ก็เพียงพอแล้ว  มันมีวิบากต่อกันมากมายแล้ว  และถ้าฉลาดก็เอาคนที่เกี่ยวข้องกันนี้  ซึ่งมันมีคู่อาฆาตกับคู่รัก  ที่แน่ๆที่มีวิบากต่อกันแรงๆก็มีแล้ว  ก็แรงพอๆกัน  หรือแรงน้อยลง ก็เอาพอประมาณ ตัวแรง ก่อนที่ใกล้ ที่เดือดร้อน ที่ห่าง  อย่ายุ่งมาก  มันไม่เท่าไหร่หรอก  ก็ปล่อยมันไปก่อน  เอาตัวนี้  ก่อนรวมพลังมาจัดการตัวนี้ก่อน  เรารู้จักจัดปริเฉทรูปก่อน  ในปริเฉทรูปก็มาเป็นวิญญัติรูป

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ   บ้านราช   วันศุกร์ที่  29  พฤศจิกายน   2562


เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2562 ( 12:40:06 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:19:26 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:21:52 )

ปริเฉทรูป , ปริจเฉทรูป

รายละเอียด

1. ธาตุความว่าง 

2. ภาวะที่ว่าง , อากาสธาตุ 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 321

ค้าบุญคือบาป หน้า 192


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:17:17 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:25:04 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:22:49 )

ปริเฉทรูปคืออะไร

รายละเอียด

เอามาทำอย่างเป็นสัดส่วน เรียกว่ารู้จักอาหารแล้ว รูปต่อมาก็คือ ปริเฉทรูป จับเอามาทีละสอง ในองค์ประกอบของเวทนาปัจจุบันสัมผัสแล้วก็เกิดเวทนาแล้วจัดการเวทนา 108 แต่ละคู่ เทวธัมมา จับตัวกิเลสกับธาตุรู้ แล้วจัดการด้วยอุบายเครื่องออกให้มันดับไปได้ ดับได้เสร็จไปทีละปริเฉท ผลก็จะเกิดเป็น วิการรูป 5

ที่มา ที่ไป

พ่อครู เทศน์ ทวช.อโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่สันติอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 28) ตอน นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:29:34 )

ปริเฉทรูปในรูป 28 เรียนรู้กรอบปฏิบัติจนจิตถึงขั้นว่าง

รายละเอียด

ช. ปริเฉทรูป 1 = 15.อากาสธาตุ=รูปที่กำหนดจะให้ว่าง ปริเฉทรูปต้องมีการกำหนดบริบทของการปฏิบัติออกเป็นส่วนๆกรอบๆ เช่นศีล 5หรือศีล 8เป็นต้น ก็ต้องเรียนรู้ปฏิบัติจนจิตของตนถึงขั้นว่าง อากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ อรูปฌาน เป็นการตรวจสอบ อากาสานัญจายตนะเป็นตัวรูป วิญญาณัญจายตนะเป็นธาตุวิญญาณเป็นตัวรู้ ก็อยู่ในที่ว่างในอากาศ แล้วตรวจอีกว่ามีไหม ส่วนที่มันเหลือเศษนิดนึงน้อยนึง ที่มันยังหลงเหลือ ตรวจอีก ในอรูปฌาน 4ตรวจสอบความละเอียด ของฌาน ซ้ำอีกตรวจสอบด้วยธาตุรู้ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ต้องไม่มีอะไรที่ไม่รู้ไม่ได้ ต้องรู้ทั้งหมด กำหนดนานัตตสัญญา ให้ครบถ้วน ไม่มีอะไรที่จะหลงเหลือ หลุด ที่จะไม่รู้ รู้ครบ เป็นสัญญาเวทยิตนิโรธ เอาสัญญาเป็นตัวกำหนดรู้ตรวจสอบสมบูรณ์ด้วยนิโรธ นิโรธจะรู้ได้ด้วยการตรวจสอบเวทนา เวทยิตตังแปลว่า เคล้าเคลียอารมณ์ นิโรธหรือไม่ ตรวจสอบแทงทะลุสมบูรณ์ด้วยอดีต 36 ปัจจุบัน 36 อนาคต 36 นี่คือเวทนา ตัวสุดท้ายในเวทนา 108 อดีต 36 คือ สามารถปฏิบัติธรรมในปัจจุบัน เวทนาเกิดมาในปัจจุบันสัมผัสเป็นปัจจัยเกิดเวทนา รู้จักกิเลสมากระทบก็ทำให้กิเลสนี้เป็นศูนย์ กิเลสหมด จิตเป็น 0 กิเลสก็ 000จิตไม่มีกิเลส กิเลสก็ 0  กิเลสไม่มี ทำทุกปัจจุบันกระทบสัมผัสมีเวทนาก็ทำได้ ทุกเวทนาที่ทำในทุกปัจจุบัน ก็จะเป็นอดีตที่เป็น 0 ตลอด อดีตที่แข็งแรงปัจจุบันแข็งแรง อนาคตที่จะมาสัมผัสอีกเท่าไหร่ๆก็มาเลย มาทุกปัจจุบันทำได้ 0 อย่างเรียกว่า มีวสวัตตี มีอำนาจเหนือจิต เป็นผู้ที่สามารถทำอุเบกขาได้เก่งชำนาญ เป็น ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสราเป็นอุเบกขาที่มีความชำนาญอย่างเต็มรูป อเนญชาภิสังขาร อาตมาเอาสภาวะมาขยายความด้วยพยัญชนะภาษาของพระพุทธเจ้า ผู้ที่ศึกษาให้ดีจะฟังแล้วเข้าใจ อาตมาอธิบายไม่ได้มั่ว อาตมาอธิบายอย่างมีหลักฐานหลักธรรม ชัดเจน สมบูรณ์แบบเลย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 8 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 20 มกราคม 2563 ( 18:15:26 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 08:23:57 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:25:22 )

ปริเทว , ปริเทวะ

รายละเอียด

1. ความตัดไม่ขาด 

2. ความร่ำไรรำพันอยู่กับความเสียใจ 

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 501

เปิดโลกเทวดา หน้า 118


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:26:29 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:25:55 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:26:28 )

ปริโยทปนา

รายละเอียด

ความผ่องแผ้วใสสะอาด

หนังสืออ้างอิง

ค้าบุญคือบาป หน้า 280


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2562 ( 08:36:05 )

เวลาบันทึก 09 มิถุนายน 2563 ( 17:26:30 )

เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 14:27:29 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์