@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

พิษสงของอุปาทานสุดยอดแห่งนักมายากล!

รายละเอียด

“อุปาทาน”นี้แหละยอดแห่ง“นักมายากล” มันหลอกคนได้

“สุดเนียนแสนนาน”ครองโลกมาชั่วนาตาปี ทุกยุคทุกสมัย 

มัน“ร้ายสุดร้าย”กว่าประดากิเลสทั้งหลายใดๆ 

เพราะมันทั้งหลอกคนเป็นพรรคพวกบริวารได้มาก 

ทั้งทำลาย“ความจริง”ได้สุดสนิทเนียนยิ่งยอด 

แม้ทุกวันนี้ก็ยังมีบริวารของมาร“นักมายากล”ตัวร้ายนี้กันอยู่ 

มันเป็น“มายา”ครองโลกจริงๆ

คนต้องเรียนรู้“มายา”นี้เองในโลก

เพราะ“มายา”คือ ความเป็น“2”ที่เป็น“ภาวะคู่”ได้แก่“รูป-

นาม”ในความเป็น“จิตนิยาม”

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 183 หน้า 158


เวลาบันทึก 26 มิถุนายน 2564 ( 19:17:50 )

พิสูจน์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบบุญนิยม ทำได้จริง!

รายละเอียด

อาตมาพาทำนี้ เป็นคุณวิเศษระดับอนุสัย ระดับพิเศษ ระดับวิเศษ จึงไม่ใช่เรื่องสามัญที่จะรู้กันได้ง่ายๆ มันเป็นอจินไตย เป็นเรื่องที่ขบคิดเอาไม่ได้ จะต้องพิสูจน์ ซึ่งพวกเราได้พิสูจน์จริงแล้ว 

มาเป็นผู้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ สำเร็จ ยั่งยืน แท้จริง ถึงขั้นไม่ต้องแก้ ไม่ต้องแก้กันอีกแล้วต่อไป ได้สำเร็จจริง เพราะว่าได้แก้ปัญหาถูกทิศทางตามที่พระพุทธเจ้าท่านพาสอน แก้ที่คน 

แก้ปัญหาเศรษฐกิจนี้แก้ปัญหาที่คน ไม่ใช่ไปแก้ปัญหาที่เงิน ที่วัตถุไม่ใช่ แต่ก็อาศัยวัตถุ และในวัตถุนั้น ก็อาศัยเงิน กับผลผลิต คนไปหลงตัวเลขของเงินที่ค้าขายที่โกงหรือเอาเปรียบเอารัดเขามา มันก็มีเงินมากมันแสดงว่า มันเจริญซึ่งมันไม่ใช่ 

มุมกลับ ความเจริญของเศรษฐกิจของทางบุญนิยม ยิ่งมีเงินน้อยลง เอาจากข้างนอกเขามาน้อยลง แต่มีผลผลิตมี Product มากขึ้น Gross น้อยลง Product มากขึ้นผลผลิตยิ่งมากให้คนอื่นไปได้ ขายให้ถูกหรือแจกเราก็ได้เงินมาน้อย แล้วเราก็ไม่ไปตีกินเอาของจากต่างประเทศเราก็ไม่ตีกิน Domestic ก็คือของเราเอง ของภายในเราแท้ๆ 

นี่คือความซ้อนลึก นี่คือการอธิบาย GDP อย่างอโศก อธิบาย GDP อย่างที่อาตมาพาพวกเราทำ ซึ่งไม่มีในตำราเศรษฐศาสตร์เทวนิยมหรือเศรษฐศาสตร์สากลของโลก เฉโก โลกียะไม่มี มีอยู่ในโลกุตตระและขออภัยอย่างยิ่ง มีโพธิรักษ์นี่แหละอธิบายเศรษฐศาสตร์แบบนี้ ที่ว่านี้อธิบายไปนี้ทำได้ ทำได้แล้วพวกเราเข้าใจและพวกเราก็ยืนยันว่า พวกเราได้จริง 

เสียภาษี 100% อยู่กองกลางและทุกคนมักน้อยสันโดษมีคุณธรรม วรรณะ 9 อยู่กันอย่างมีสารานียธรรม 6 การพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าว่า ยุคนี้ก็มีคุณวิเศษแบบนี้ที่เป็นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดพิลึกพิลั่นมหัศจรรย์ ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ แล้วในประเทศไทยทำได้ แล้วจะมีคนที่ฟังที่รับรู้ได้รับซับทราบที่อาตมาพูดนี้ ทั้งเขียนหนังสืออาตมาเขียนหนังสือมาเป็น 100 เรื่อง หลายล้านเล่มแล้วพิมพ์ออกมา ไม่ได้นับที่เป็นบทความนะ นับที่เป็นหนังสือเป็นเล่มแล้ว 

เพราะฉะนั้น สิ่งที่อาตมามีความรู้ซึ่งอาตมาบอกแล้วว่า อาตมาเป็นโพธิสัตว์ เป็นความรู้ที่ได้มาจากพระพุทธเจ้าสายนี้เลยโดยตรง มาจากทฤษฎีสายหลักสายของพระพุทธเจ้าตรัสรู้เลยโดยตรง แล้วก็เอามายืนยันพิสูจน์เอามาเผยแพร่เอามาสอน ค้านแย้งกับกระแสหลักพระพุทธศาสนาที่เขาเสื่อมจริงๆ 

ซึ่งอาตมาก็ยืนยันแล้วว่า ผู้รู้เข้ามาพิสูจน์ดูว่าอย่างที่อาตมาพาทำพวกเราได้อย่างเป็นชุมชนนี้ อธิบายอย่างเชิงเศรษฐศาสตร์หรือรัฐศาสตร์หรือสังคมศาสตร์ มันต่างกันกับเถรสมาคมที่สอนกันอยู่เหมือนกัน แล้วผลได้ของเขาก็มีเป็นหมู่ใหญ่ด้วย ได้เป็นพลเมืองหมู่ใหญ่ด้วย แล้วมาเทียบค่ากันดูซิว่า ว่าอย่างที่พวกเรานี้ทำได้สำเร็จมีผลแล้วนี่ แล้วที่สำคัญก็คือยั่งยืน มั่นคง หรือจะเรียกว่าเที่ยงแท้ก็ได้ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะมันมีที่จบ มันจบแล้วไม่รู้จะมีอะไรเจริญกว่านี้อีกแล้วที่จบของมันแต่ละรอบแต่ละเรื่องแต่ละอย่างมันจบของมันในตัวมัน 

เช่น เราหมดเนื้อหมดตัวเป็นศูนย์แล้วมันจะไปยังไงอีกนอกจากจะเป็นหนี้ เราไม่ใช่เป็นคนโง่ที่จะไปเป็นหนี้ เป็นศูนย์ก็เป็นขีดจบแล้ว นี่คือจบแท้ๆเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ แสดงธรรมโดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ แนวคิดเศรษฐกิจของชาวอโศกที่ทำจริงมีผลสำเร็จจริง วันพุธที่ 1 มีนาคม 2566 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 4 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 18:52:17 )

พิสูจน์ความจริงยิ่งนานไปจะยิ่งเสถียรอย่างไร

รายละเอียด

เมื่อทำได้ไป 50 ปีได้แค่นี้ก็ยังไม่ค่อยได้มาก คนก็ยังไม่เชื่อว่าจริงหรือแค่นี้ คนในโลกมีตั้ง 7 พันล้าน เป็นชาวพุทธสักเท่าไหร่ จึงต้องยืนยันความเพิ่มให้มากให้อยู่ให้นานถ้าหากเป็นความจริงมันจะยิ่งเสถียร ยิ่งนานไปจะยิ่งเสถียร ถ้าหากความไม่จริงมันจะไม่เสถียร คุณจะได้เห็นได้จริงได้ชัดมากขึ้น มันจะเป็นอย่างนั้น อาตมาจึงพยายาม มันก็ย้อนแย้ง อาตมาขันธ์มันก็หมดอายุแล้ว ก็เลยพยายามลากสังขาร ปฏิสังขร ให้อยู่ยืนยาวนานไปให้ได้ พิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าด้วยการใช้อิทธิบาทใช้โพชฌงค์ ให้อายุยืนยาวต่อไปได้อีก เพื่อพิสูจน์ธรรมะอันนี้อีกด้วย ทำงานด้วยพิสูจน์ยืนยันธรรมะพระพุทธเจ้าด้วย ประกาศธรรมะพระพุทธเจ้าออกไปด้วยพิสูจน์ความจริงว่า จะลากสังขารต่ออายุขัยได้อีก อย่างนี้เป็นต้น ก็ทำทุกด้าน ตอนนี้ก็ยังทำได้อยู่ก็ทำต่อไป มันก็จะเจริญขึ้นหรือมันจะเสื่อมลงก็ดูต่อว่า นี่อายุอาตมา 87 ซับซ้อน ความสดของนามธรรมสดแรงขึ้น แต่สรีระรูปขันธ์ตามไม่ทัน มันก็พยายามนะ มันก็เลยเป็นสภาวะที่ฉุดกันหน่อย อาตมาจึงเมื่อยเร็ว นามขันธ์ไปเจริญเร็วกว่ารูปขันธ์ ตอนนี้ต้องปรับตัวเองไม่ให้นามขันธ์มันไปเร็วกว่ารูปขันธ์มากเพื่อไม่ให้สูญเสียพลังงานอย่างนี้เป็นต้น นี่คือความรู้ที่อาตมาขยายให้ฟัง แล้วก็พิสูจน์กันไป ทั้งที่สุดต่ออายุขันธ์ และยืนยันพิสูจน์ทำงานเผยแพร่ประกาศ และยืนยันว่าคนในโลกนี้จะมองเห็นโลกุตรธรรมนี้เพิ่มขึ้นอีกได้ไหม เจริญขึ้นก้าวหน้าขึ้นหรือว่าเสื่อมลง แต่ถ้าที่ทำงานอยู่ทุกวันนี้ อาตมาเห็นว่ามันยังไม่เสื่อมนะ มันยังเจริญขึ้นก้าวหน้าขึ้นอยู่ อาตมาเห็นอย่างนั้นนะคนอื่นจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ไม่รู้ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 25 กันยายน 2563 ( 18:48:20 )

พิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติอยู่ที่ไหน

รายละเอียด

สร้างเพิ่มขึ้นๆ แล้วก็ขยันเอาไปแจกให้มากขึ้นๆ ให้มันรู้กันบ้างว่า คนยิ่งสร้างสิ่งที่สำคัญ สิ่งที่จำเป็นต่อมนุษยชาติ สร้างขึ้นแล้วเผื่อแผ่เกื้อกูลคนให้มากขึ้น คนจะไม่เห็น คนจะไม่รู้ว่านี่คือความประเสริฐ นี่คือความเจริญ ในความเป็นมนุษย์ชาติ มันดูเหมือนไม่ยิ่งใหญ่แต่มันยิ่งใหญ่นะ เห็นความยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติไหม 

สัตว์เดรัจฉาน มันก็กินพืชกินผักเหมือนกัน พวกสัตว์กินพืชมันก็กินพืช เราไม่ต้องพูดถึงสัตว์กินเนื้อสัตว์เลย แต่มันสร้างไม่เป็น เดรัจฉานมันสร้างไม่เป็น มันปลูก มันบำรุงใส่ปุ๋ยอะไรไม่เป็น มันไม่รู้เรื่อง 

คนนี้แหละรู้เรื่อง คนนี้แหละช่วยได้ ช่วยพืชพันธุ์ธัญญาหารให้มันเจริญเร็ว เจริญงามได้ ใช่ไหม 

เพราะฉะนั้นต้องเป็นหน้าที่ของคนนี้แหละทำไมต้องเป็นเรา ทำไมไม่เป็นใคร เรานี่แหละจะทำให้แก่โลกและสัตว์โลก เพราะฉะนั้นพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันเป็นภาษาเป็นศัพท์ที่มีมาเก่าแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หนูตัวเล็กอย่างไทยจะช่วยราชสีห์ซาอุฯตัวใหญ่ได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:16:05 )

พิสูจน์ความเป็น อมตบุคคล

รายละเอียด

ถ้าอาตมา“เป็นของเก๊”อาตมาถูกยิงถล่มหนัก ร่างแหลกกระจุยแน่นอน ไม่เหลือซากมาจนป่านนี้แน่   เหมือนคุณได้พระเครื่องมาที่รับรองว่าได้มาแล้วฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก แต่คุณได้ของเก๊มา เมื่อถูกยิง..ก็พรุนเลย อย่างนี้เป็นต้น แต่ที่พูดมานี้อาตมาไม่ได้ส่งเสริมให้คุณไปเชื่อพระเครื่องนะ ประเดี๋ยวจะเข้าใจผิดอีก 

เรื่องไสยศาสตร์เหล่านี้อาตมาเคยเล่น ถามว่ามันเป็นจริงไหม มันเป็นจริงเพราะมันเป็นอุปาทานสำหรับคนที่มีอุปาทาน เหมือนเช่น รสอร่อยมันไม่มีจริง คุณก็เคยเชื่อว่ามีจริงก็เคยมีจริงมาทั้งนั้น จนกระทั่งมาศึกษาปฏิบัติธรรม จะเห็นว่ามันจางคลายลง หรือมันไม่มีได้จนกระทั่งมันไม่มีจริงๆมันก็มีแต่รสจริงของมันเท่านั้นเอง รสจริงมันคืออะไรหวานเค็มเผ็ดเปรี้ยวก็คือของมันเองมันไม่มีสวย มันก็มีจริงของมันอยู่อย่างนี้เอง สีแดงสีเขียวสีนั้นสีนี้ มันก็เป็นของมันอย่างนั้นใครเห็นก็เป็นอย่างนั้น คนจะชอบหรือไม่ชอบก็เฉพาะบุคคล ชอบหรือไม่ชอบคนที่เห็นเป็นของจริงก็อันเดียวกันหมด แต่ที่เห็นว่าชอบหรือไม่ชอบ มันต่างคนต่างแยกไปของใครของมัน มันเป็นอุปาทาน เข้าใจความเป็นอุปาทานมากขึ้นไหม 

ถึงวันนี้ผ่านมา ถ้าอาตมา“ไม่ใช่ผู้อยู่ยงคงกะพัน” แท้จริง อาตมาก็ตายสลายแหลกราญไปเป็นผุยผงแล้ว ไม่ยืนหยัดอยู่ยงหนังเหนียวอยู่กันถึงวันนี้ ถึงวินาทีนี้หรอก อาตมาสามารถพิสูจน์ความเป็น“อมตบุคคล”กันให้เห็นอยู่จนถึงวันนี้ วินาทีนี้ ก็เพราะอาตมามี“ความเป็นอรหันต์แท้จริง” เป็น“ผู้มีความจริงที่ข้ามชาติ”มาเป็นผู้“เปิดเผยความจริงในความเป็นอรหันต์”กันขึ้นในปัจจุบันยุคนี้ 

อาตมาผู้เป็น“ของจริง”ก็อยู่ในยุคนี้สมัยนี้ ร่วมกัน
กับชาวพุทธทั้งหลาย ที่หลงงมงายอยู่กับ“ของเก๊”กันนี่แหละสังคมพุทธขณะนี้จึงมีทั้ง“ของจริง”และทั้ง“ของเก๊”อาตมาก็อายุจะ 90 แล้ว ก็น่าจะไปแล้วแต่คนก็จะร้องไห้กัน รู้สึกว่า คนก็น่าจะได้รับธรรมะกัน ถ้ายังไม่มั่นใจว่ามีมวลขนาดนี้จะพอช่วยกันพยุงศาสนาพุทธ ที่เป็นเนื้อแท้โลกุตระไปถึง 5,000 ปีของพระพุทธเจ้าไหม อาตมาก็เปิดเผยตัวเองแล้วว่าเป็นผู้ที่รับผิดชอบศาสนาพระพุทธเจ้ามาเอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ธัมมิกราษฎร์ประกาศโลกุตรธรรม งานอโศกรำลึก 2566
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 แรม 6 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน ประกาศธัมมิกราษฎร์ต้องมีองค์ประกอบครบ


เวลาบันทึก 04 กรกฎาคม 2566 ( 10:22:13 )

พิสูจน์ความเป็นจริงของคน

รายละเอียด

พิสูจน์ตัวเองไป อาตมาพูดได้เลยว่า พิธากับนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำงานการเมืองไปแล้ว 8 ปี นายกประยุทธ์ อาตมาว่าไม่เก่งเรื่อง IO เท่าพิธาหรอก ไม่เก่งเท่าหรอก ขออภัยที่ดูถูกปรามาสนายกประยุทธ์ พิธาเก่งกว่า แล้วก็มีคณะด้วย แล้วใช้ด้วย เจตนาด้วย จนได้ผล อย่างที่เป็น เพราะฉะนั้นก็ดูไป เพราะว่ามันเป็นจริง เกิดมาในเหตุการณ์ กติกาของสังคมก็เป็นไป เป็นกฎหมายของสังคม เขาก็ใช้ เขาไม่ได้ทำนอกกฎหมายอะไร หรือแม้แต่เขาทำอะไรที่มันผิดกฎหมายอยู่ เดี๋ยวกฎหมายก็จะทำงานตามหน้าที่ของกฎหมายขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างนี้เป็นต้น 

เพราะฉะนั้นการพิสูจน์ความเป็นจริงของคน อาตมาว่าเพียงประเด็นเดียว ของคน คือประเด็นความซื่อสัตย์ประเด็นเดียว อาตมาว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่แล้วที่จะใช้ตัดสินกันได้ เพราะฉะนั้นก็พิสูจน์กันไป ประเด็นซื่อสัตย์ ประเด็นนี้เป็นประเด็นหลักจริงๆเลย อย่างพิธากับประยุทธ์ แค่ประเด็นความซื่อสัตย์ประเด็นเดียว อาตมาก็ว่ามันมีความเป็นจริงของมันอยู่ในนั้น 

แต่แน่นอน ความเก่งของคนเก่งที่มันเก่งวิธีการ ไม่ใช่เก่งงานการ แต่เก่งวิธีการ เขาใช้วิธีการ เขาก็ได้ผล เพราะฉะนั้นก็จะยังวิจัยวิจารณ์อะไรไปไม่ได้หรอก ก็ดูผลไปก็แล้วกัน อาตมาวิจัยวิจารณ์ไป ดีไม่ดีประเดี๋ยวจะผิด แต่อาตมามั่นใจอยู่เหมือนกันว่าวิจารณ์ได้โดยไม่ผิดหรอก แต่ว่าอย่าวิจารณ์ดีกว่า เพราะว่ามันไม่เหมาะ ดูไปเถอะ คนที่ได้ไปลงคะแนนให้โดยหลงลมพิธา จนกระทั่งเห็นแล้วว่ามันผิดพลาดหักปากกาเซียนไปจมเลย โอ้โห! ปากกาเซียนหักไปไม่รู้กี่ด้ามงวดนี้ ไม่น่าเชื่อ ว่าพรรคก้าวไกลจะเก่งถึงขนาดนี้ มากันได้อย่างขนาดนี้ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #22 สงครามข่าวสารกับปรากฏการณ์จริการเมืองไทย วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 แรม 11 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 พฤษภาคม 2566 ( 13:06:13 )

พิสูจน์ความเป็นสยังอภิญญา

รายละเอียด

ขนาดที่อาตมาเป็น สยังอภิญญา มาพูดก็ยังเกรงใจมากเลย ไม่อยากจะพูดเพราะเหมือนการบังคับให้พวกคุณเชื่อกัน ให้พิสูจน์สิเป็นจริงไหม พิสูจน์อย่างไร อย่างเช่นอาตมาว่าเป็นสยังอภิญญา ในสัมมาทิฏฐิ 10 อาตมารู้หมดเลยข้อ1-10 อาตมาเป็นข้อที่10 สยังอภิญญา อาตมาจึงอธิบายข้อ 1-9 ของสัมมาทิฏฐิได้ คุณฟังก็จะเข้าใจตาม แม้แต่คำว่า มาตา ปิตา สัตตาโอปปาติกา เขาเข้าใจได้แค่ไหนกัน เขาเข้าใจมาตาปิตา เขาเข้าใจเป็นบุญคุณพ่อแม่แบบเป็นตัวตน สัตว์โอปปาติกะเขาก็พูดเป็นสัมภเวสีนิรมานกายไปอะไรเละเทะไปหมด อาตมาต้องมาแก้มาอธิบายให้เข้าใจสัจจะไม่ง่ายเลยเพราะเป็นนามธรรมไม่มีตัวตน ต้องมีภูมิธรรมพอที่จะไปรับทราบได้จึงจะพอรู้ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 12:52:26 )

พิสูจน์ความเป็นอาริยบุคคล

รายละเอียด

ของจริงที่จะพิสูจน์ เพราะฉะนั้นพวกเรานี่ยังอ่านไม่ออกหรอกว่าตัวเองเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ แค่ไหนแต่ถ้าคุณรู้สึกว่าเราอยู่ได้อย่างสบายแล้วอย่างน้อยคุณก็คืออนาคามีแล้ว คุณอยู่นี่คุณไม่รู้สึกยากเลย สบายอยู่กับหมู่นี้ อย่างน้อยอนาคามีแล้ว ถ้าอย่างสูงขึ้นไปก็อ่านจิตตัวเองให้จริงให้เข้าใจอาตมาไม่ต้องพูดต้องบอกหรอก บรรยายมามากแล้ว คุณเป็นอรหันต์ตัดรอบได้ว่า 

อรหันต์จากอบายมุข อรหันต์จากกาม อรหันต์จากรูปราคะอรูปราคะ อรหันต์จากมานะ อรหันต์จากวิจิกิจฉา สังโยชน์ก็มีหลักเกณฑ์ให้วัด ให้อ่าน ให้เรียนรู้ คุณก็ตรวจสอบตัวเองสิ คุณก็จะรู้ได้ว่าคุณเป็นอรหันต์ไหม

เพราะฉะนั้นคุณจะรู้ได้อย่างหยาบ เป็นอรหันต์ระดับที่ 1 อย่างสูงขึ้นไปเป็นอนุโพธิสัตว์ เป็นอนิยตโพธิสัตว์ คุณก็มีฐานมีคุณธรรมที่จริงที่จะอ่านสิ่งจริงเหล่านี้ ของคุณ คุณต้องอ่าน จิต เจตสิก รูป นิพพาน ของคุณออก

รูปจะต้องมีสิ่งจริงให้ดูใจเป็นเวทนาตัณหาอุปาทาน  ดูว่าตัณหาคืออะไร อุปาทานคืออะไร  ไม่เหลือภพไม่เหลือชาติคืออะไร

เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องพิสูจน์ความจริงทางองค์ประกอบทั้งหมดเลย ทางกาย  ทางใจ สรุปไว้ทั้งทางกาย ทางใจ ชัดเจนแล้ว ผู้รู้ก็มาปฏิบัติธรรมในรูปมีนามมีกายมีจิตปฏิบัติธรรมไปจนกระทั่งบรรลุกายจนกระทั่งไม่มีกาย ไม่มีกายคืออย่างไรตามธรรมนิยาม 5 ก็อธิบายแล้ว ทำให้เป็นอุตุ ทำให้เป็นพืช 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ปลุกธรรม ตอบปัญหาผ่ามิจฉาอาชีวะ 5 วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 แรม 12 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2567 ( 19:24:35 )

พิสูจน์ความเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ที่ยืนยันด้วยหลักฐานและผลงาน

รายละเอียด

ยิ่งใหญ่เลย อาตมาพาทำได้อย่างไร มันเป็นการสะสมความรู้ สะสมความจริง ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปซื้อตามร้านขายยาเอาได้ ไปซื้อจากห้างสรรพสินค้าได้ ก็ไม่ใช่ เอามาจากอะไรไม่ได้ ต้องสะสมเท่านั้น สะสมจากกรรมวิบากของตัวเองทำมาเอง ศึกษาฝึกฝนและเป็นกรรมเป็นวิบากของตนเองเป็นบารมีของเราเองทั้งนั้น ทำมา เพราะฉะนั้นที่อาตมาพูดยืนยันว่าเป็นอรหันต์เป็นโพธิสัตว์ ได้สะสมวิบากมาจนเป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ไม่ได้พูดเล่น ไม่ได้พูดพล่อยๆ พูดอวดโอ่หลอกลวง มันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องต้องบอกความจริงที่มีในมนุษยชาติ ที่เป็นไปได้

พวกคุณจะนึกอย่างไรก็ไม่ทราบได้ แต่อาตมาบอกความจริงลงไปอีกที ในการยกตัวเอง เพราะ การจะมาเป็น อาตมาเป็นในปางนี้ชาตินี้ก็ตาม ตลอดเวลาที่อาตมาทำมา 50 กว่าปี มันไม่ใช่เรื่องสามัญธรรมดาที่คนจะมาลอกเลียนทำ จนกระทั่งเกิดคน เกิดเป็นชุมชน หมู่กลุ่มมนุษยชาติ เอาหลักฐานของพระพุทธเจ้ามาอ้างอิงยืนยัน เป็นชุมชนสาราณียธรรม 6 เป็นคนที่เกิดจิตที่เป็นวรรณะ 9 เกิดพุทธพจน์ 7 ต่างๆนานาพวกนี้ หรือแม้แต่ไล่ไปตามมูลสูตร 10 ก็ดี ปฏิบัติตามหลักจรณะ 15 แล้วเกิด วิชชา 8 เป็นยาดำผสมช่วยกันให้เกิดเจริญ ให้เกิดเป็น ฌานเป็นวิมุติก็ดี จะเกิดจริงเป็นจริงมีตัวบุคคลเป็นพฤติกรรมจริงวัฒนธรรมจริง คุณก็เอาชีวิตมาทิ้งอยู่กับอันนี้เลย ไม่เอาอื่นแล้วเอาอันนี้เลย ก็เป็นความจริงทั้งนั้นเลย 

ใครจะมาอธิบายขยายความเหตุผล เหตุปัจจัยว่าดีกว่าแนวอื่นอย่างอื่น ก็เทียบได้ เทียบจนกระทั่งคุณบอกว่าไม่ต้องเปรียบเทียบอีกแล้ว ก็อย่าไปดูถูกเขาอีกอย่างนั้น เทียบได้เทียบไป คุณจะได้ความจริงความรู้ที่เป็นคู่ทีละคู่ๆ เทียบกันไป มันจะไม่มีอะไรที่ เผินๆ แต่มันเป็นจริง เป็นการเรียกด้วยภาษาโลกๆ ว่า ไร้เทียมทาน ไม่มีอะไรเทียมได้นั่นแหละ ไม่มีอะไรที่จะเทียบกันได้อีกจริงๆ ไม่ใช่ไปหลงตัวหลงตน มันเป็นความเหนือชั้น เหนือ อุตริ แปลว่าเหนือชั้นที่ห่างจริงๆ เป็นความเจริญที่ระดับโลกุตระ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 29 อโศกเพื่อมวลมนุษยชาติได้ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤษภาคม 2565 ( 13:59:51 )

พิสูจน์ความเป็น“อมตบุคคล”

รายละเอียด

อาตมาสามารถพิสูจน์ความเป็น“อมตบุคคล”กันให้เห็นอยู่จนถึงวันนี้ วินาทีนี้ ก็เพราะอาตมามี“ความเป็นอรหันต์แท้จริง” เป็น“ความจริงที่ข้ามชาติ”มาเป็นผู้“เปิดเผยความจริงในความเป็นอรหันต์”กันขึ้นในยุคนี้ อาตมาผู้เป็น“ของจริง”ก็อยู่ในยุคนี้ สมัยนี้ร่วมกันกับชาวพุทธทั้งหลาย ที่หลงงมงายอยู่กับ“ของเก๊”กัน

อาตมาเห็นแล้ว จึงจำนน-จำเป็น-จำยอม จำต้องยืนยัน“ตนเอง” บอกตนเอง ขึ้นมาท่ามกลางสังคมยุคนี้สมัยนี้  เพื่อให้สังคมรู้“ความจริง”ด้วยจริงใจใสซื่อ มียืนยันในสัมมาทิฏฐิ 10 ในพระไตรปิฎกที่ทั้งธรรมยุติและมหานิกายใช้อ้างอิงเชื่อถือตรงกัน เอาแต่ข้อที่10 เริ่มต้น

ในยุคใดที่มีผู้เป็น สยังอภิญญา อุบัติขึ้นมา ผู้สยังอภิญญา จะมีคุณธรรม เป็นผู้ดำเนินถูกต้องปฏิบัติถูกตรงแท้จริง ก็จะประกาศโลกนี้โลกหน้าให้แจ่มแจ้ง อยังโลโก ปโรโลโก เพราะท่านเป็นผู้รู้ยิ่งด้วยตนเองมาแล้วจริง ก็อาตมานี่แหละ สยังอภิญญา เป็นผู้ที่รู้ยิ่งด้วยตนเองมาแล้วจริง ข้ามชาติมา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2566 พิธีน้อมกตัญญูบูชา วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2566 แรม 2 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 สิงหาคม 2566 ( 19:20:56 )

พิสูจน์ทฤษฎีของพระพุทธเจ้ามีคุณค่าให้แก่โลกต่อไป

รายละเอียด

ทำให้อาตมาได้สร้างสัมประสิทธิ์ พยายามสร้างสัมประสิทธิ์ สัมประสิทธิ์เอามาใช้ทางด้านสุขภาพร่างกาย เหตุผลแล้วทำไม่ได้ชัดเจนคุณทำไม่ได้ลงตัวแปร แต่ช่วยให้ขันธ์คุณอยู่ได้นาน อายุขัยคนอยู่ได้นาน ทางจิตคุณช่วยด้วย จิตนี้สำคัญกว่าทางกายด้วยซ้ำ ซึ่งมันเป็นนามธรรมซึ่งรู้ยาก แต่มันมีอิทธิพล ก็ทำขึ้นมา อาตมาอาศัยจิตเป็นหลักแต่ทางร่างกายนี้ก็ทำไม่ใช่ไม่ทำ พยายามทุกอย่าง ก็เป็นไปจริงได้ก็ได้พิสูจน์ทฤษฎี สิ่งเหล่านี้เป็นทฤษฎีของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น และอาตมาก็มั่นใจว่าทฤษฎีของพระพุทธเจ้านี้จะมีคุณค่าให้แก่โลก ต่อไป ว่าเป็นทฤษฎีที่วิเศษของท่าน ซึ่งโลกยังไม่ค่อยเห็นคุณค่าเท่าไหร่ แม้แต่ในคนไทยที่รู้ ผู้ที่บริหารมีหน้าที่ด้วย ก็ยังไม่เชื่อทฤษฎีของพระพุทธเจ้าไปเชื่อถือทฤษฎีของอาจารย์ตักสิลาอื่นที่ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า ไม่มาสนใจทฤษฎีของพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2563 ( 09:51:28 )

พิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้าในเรื่องพลังงาน

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้เก่งถึงขนาด แต่ก็พยายามพิสูจน์ พยายามที่จะมีอำนาจเหนือใช้ศัพท์อย่างนี้ อำนาจเหนือพลังงาน มันสามารถที่จะช่วยขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณให้มันพัฒนาเกินสามัญ พัฒนาได้จริงๆ ที่พูดมาอย่างที่ว่าอายุ 90 ยังกับไม่ใช่อายุ 90 

อาตมายังมั่นใจอยู่ว่าพิสูจน์ไปเถอะ อาตมาก็ไม่กล้ารับรองทีเดียวแต่มั่นใจอยู่ว่าอายุ 100 อาตมาคงไม่ต่างไปจากนี้เท่าไหร่ เพราะเอาพลังงานของจิตนี้มาใช้ ส่วนสรีระ ส่วนรูปขันธ์ แน่นอนเสื่อม แต่ก็พยายามจะช่วยมันอีก มันก็จะซ้อนขึ้นมา มันก็จะได้ผลบ้างเหมือนกัน แหม แต่มันเกินมา 1 นักษัตร กำลังย่างไปสู่นักษัตรที่ 2 คือ ฝืนเกินจริงไปแล้ว อาตมาเคยบอกว่า อายุขัยของอาตมามีแค่ 72 ปีแต่มันถูไถมาได้ถึงขนาดนี้แล้ว 90 ยังแจ๋ว มันก็ไม่ใช่ของเล่นแล้ว เป็นการพิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้าในเรื่องพลังงาน เรื่องจิตเป็นประธานสิ่งทั้งปวง พิสูจน์อันนี้ 

เพราะฉะนั้นอาตมานี้พลังงานจิตแท้ๆเลยเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางจิต แล้วก็อธิบายยากว่าอาตมาทำยังไง อย่ามาถามนะ อาตมาก็อธิบายธรรมะไป ทำหน้าที่ขยายธรรมะต่างๆ เป็นพลังงานที่มันปรุงแต่งกันขึ้นมาเป็นพลังงานรวมแล้วก็เกิดผล 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความเป็นอรหันต์นั้นมีลำดับอันน่าอัศจรรย์ วันพุธที่ 28 มิถุนายน 2566 ขึ้น 11 ค่ำเดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2566 ( 08:00:46 )

พิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาพูดอย่างไรเขาก็ไม่กระเตื้อง ยังเป็นโจรทำลายศาสนาอยู่ อาตมาก็แทงด้วยปากหอก เช้า 100 กลางวัน100 หอก ตอนเย็นอีก 100 หอก เขาก็ไม่รู้สึกรู้สา แทงไม่ตายด้วย ไม่เป็นอะไรเลย แทงไม่เข้าอีก หอกของอาตมาหักไปไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนดอก กี่ล้านดอกแล้ว มันยากก็ต้องเอา มันไม่มีทางจะไปทำอื่น อาตมาไม่มีกิจอื่น 

ตั้งแต่มาบวชจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังจะทำอย่างนี้ต่อไป แต่เขาก็ยังไม่กระเตื้อง อาตมาก็ยังตายไม่ลง ฝืนไป พิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าว่าเราจะอยู่ถึง กัป หรือ เกินกว่ากัปก็ได้อานนท์ จะเป็นจริงได้ขนาดไหนก็แล้วแต่ก็ผ่านมาหนึ่งกัปแล้ว ตอนที่ 84 ปี ตอนนี้ถ้าไปถึง 96 ก็เป็นอีกหนึ่งนักษัตรก็รวมเป็น 2 นักษัตรแล้ว จะไหวไหมนี่ อีกประมาณ 7 ปี ก็ดูว่าอายุ 96 จะเป็นอย่างไร มันจะง็อกแง็กแค่ไหน หรือมันจะกลับเป็นหนุ่มกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา 

ถ้ามันเป็นอย่างนั้นได้ก็โอ้โห…ยอดเยี่ยมเลยนะ 96 ยังกับหนุ่ม 50 เลย 40 50 รับรองว่าตอนนั้นคนจะต้องยอมศิโรราบหมดเลย มันเป็นการพิสูจน์ทั้งรูปและนาม ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ยังไม่รู้ว่าจะมียาดีหรือเปล่า เขาเรียกว่า สเต็มเซลล์ ก็พิสูจน์ไป ทำงานไป ลากสังขารไป อาตมาก็เต็มใจที่จะเป็นไป มันจะเมื่อยหน่อย ก็พักเอา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 17 มกราคม 2566 ( 12:54:31 )

พิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าที่เป็นสัมประสิทธิ์

รายละเอียด

ก็เลยได้อยู่ทำงานศาสนามา 47 ปี เริ่มปีที่ 48 จะพยายามสร้างสมรรถภาพ อาตมายืนยันว่าจะอยู่ทำงานต่อไปอีกพยายามรักษาร่างกายขันธ์ให้มันยืดยาวต่อไปจนถึง 151 ปีตามที่ตั้งไว้ มันจะได้เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ก็เป็นการพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าที่เป็นสัมประสิทธิ์ พลังงานสัมประสิทธิ์ออกมาพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ C เป็นสูตรที่ต่อจากไอน์สไตน์คิดมา

E=C(mc2+A)

ตัว A ใหญ่คือ Abstract เป็นนามธรรมที่ทำเพิ่มขึ้นไป เติมต่อไปจนเกิดสัมประสิทธิ์ได้ ตัว m คือมวลแล้วก็มีพลังงานทางจิตคือตัว c คือจิต มันเร็วกว่าแสง เพราะฉะนั้นความเร็วกว่าแสงนี่แหละมันก็เท่ากับความเร็วที่ยกกำลังแล้วเราก็เพิ่มยกกำลังได้อีกโดยชุด E=C(mc2+A)  นี่คือชุดของ C ใหญ่ที่อยู่ข้างนอก อาตมาจะพิสูจน์สูตรของ CoEfficient สัมประสิทธิ์ แม้เป็นนามธรรมก็ทำให้มีฤทธิ์. อายุของร่างกายอาตมาก็ทำให้เกิดผลตามที่เข้าใจ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 37 วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2561 


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:15:14 )

พิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าว่าไม่เป็นโมฆะไม่เป็นหมัน

รายละเอียด

คนที่ตั้งใจฟังด้วยดีผู้มีเจตนาดีแล้วก็เอาสิ่งที่ถูกสิ่งที่ดีอธิบาย ก็น่าจะเข้าใจได้ดี อาตมาทำงานมาถึง 50 ปี อาตมาเอาพระไตรปิฎกมายืนยันเข้าไปเรื่อยๆยืนยันอย่างละเอียดลึกซึ้งไปเรื่อยๆ ต่างจากฝ่ายของคุณที่ทิ้งพระไตรปิฎกไปเรื่อยๆ หนักเข้า จะไม่อ่านพระไตรปิฎกหลับตาลูกเดียว อย่างนี้มันจะเข้าท่าหรือ อาตมานี้ เอาพระไตรปิฎกอ้างอิงแล้วก็ยืนยันว่าเกิดผลจริงตามพระไตรปิฎกว่าเกิดหมู่คนที่มีสาราณียธรรม 6 เกิดสังคมที่มีวรรณะ 9 เกิดสังคมที่เป็นคนจน ตาม หลักธรรมของพระพุทธเจ้า พระสูตรที่พระพุทธเจ้ายืนยัน เป็นสังคมสุขสำราญเบิกบานใจ เป็นสังคมที่มี สาธารณโภคีด้วย ยืนยันได้ด้วยความจริงไม่ใช่พูดแต่ปากเปล่า สาธารณโภคีนี้ยิ่งใหญ่จริงๆอาตมาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรพูดไปก็จะยกย่องตัวเอง ที่จริงได้เป็นของพระพุทธเจ้าสุดยอดเลยสาราณียธรรม 6 นี้ ต้องอยู่กันอย่างมีเมตตากายกรรมเมตตาวจีกรรมเมตตามโนกรรมและก็อยู่กันอย่างสาธารณโภคี ทำงานทำการสร้างสรรอยู่ในนี้ได้แล้วก็… อ้าว ไปเก็บมันไปช่วยกันขุดก็เอามารวมกองกลาง เต็มมัน …อ้าว ไปเก็บอะไรก็แล้วแต่เป็นผลผลิตเราก็ได้เป็น ลาภโดยธรรม ลาภธัมมิกา เราก็เอามารวมกันกินใช้ร่วมกัน มันเย้ยประชาธิปไตยเย้ยคอมมิวนิสต์ เศรษฐกิจสาธารณโภคี เย้ยทั้งคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตยในโลก เพราะคนสาธารณโภคีเสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์ สร้างสรรผลิตอะไรได้ก็เข้ากองกลางไปหมดเลย ฟังเป็นไหม? ฟังเข้าใจไหม? ฟังรู้เรื่องบ้างไหม นี่พิสูจน์ความจริงนะอาตมาไม่ได้พูดปากเปล่า เอาคนมาเรียนรู้ตามธรรมะพระพุทธเจ้า เข้าใจแล้วก็มาปฏิบัติตามจนเป็นจริง เป็นคนที่ มาอยู่ในกลุ่มนี้มีวิธีปฏิบัติตน ทำงานพ้นจากมิจฉาชีพ 5 ข้อที่ 5 พ้นลาเภนลาภังนิชิคิงสนตา คือทำงานแล้วจะได้ผลผลิตแล้วไม่เอาไปแลกเปลี่ยนคืนไป มีฟักทองเอามาแลกเงินก็ไม่ใช่ พ้นมิจฉาชีพที่จะต้องการสิ่งแลกเปลี่ยนในลาภต่างๆ มีแต่การแบ่งกันกินใช้ เป็นการพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าว่าไม่เป็นการโมฆะไม่เป็นหมัน ท่านตรัสไว้และมีคนปฏิบัติตามได้ผล ซึ่งเขาหาว่าแบบนี้มันสุดโต่งไป แล้วพวกคุณที่พูดนั้นสูงส่งนักหรือ ก็ทำไมคนสามารถปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้าได้คนที่ไม่ถึงกับเป็นคนจีเนียส เป็นเปรียญ 9 มีปริญญาเอกอะไรก็มี แต่ทำไมไม่เข้าใจตรงกับพระพุทธเจ้าแล้วสร้างสังคมที่เป็นสาธารณโภคีสร้างสังคมสาราณียธรรม 6 ต่างๆพวกนี้ทำไมไม่ปรากฎบ้าง ขนาดนี้วงการศาสนาเขาก็ยังเป็นสาธารณโภคีไม่ได้เลยนะทุกวันนี้ ต้องออกกฎหมาย นี่เงินของส่วนตัวพระภิกษุนะ นี่เงินของวัดนะ นี่เงินของคนนั้นคนนี้นะ อย่ามั่วโกงกันนะ  อย่างนี้จะมาบวชทำไม พูดแล้วเมื่อย มันอย่างว่า อาตมาพูดไป ก็เหมือนไปข่มเขา ดูถูกดูแคลนเขามากไป ก็ขออภัย เข้ามาสู่เนื้อหาสาระ ที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้มันครบหมดเลยในปฏิจจสมุปบาทก็อยู่ในนี้ แยกโลกสมุทัย โลกนิโรธก็อยู่ในนี้ แล้วก็เป็นผู้ปฏิบัติจนรู้ปฏิจจสมุปบาททั้งสาย แล้วก็เรียนรู้สมุทัยอริยสัจ ดับสมุทัยอริยสัจเป็นนิโรธได้เลย ผู้ที่สามารถรู้ทั้งสองอย่าง รู้โลกสมุทัยรู้โลกนิโรธ บรรลุเสร็จแล้ว ท่านก็อยู่กับโลก มีทั้ง 2 อย่างไม่มีทั้ง 2 อย่าง จบเป็นคนชัดเจนมีปัญญาอันยิ่ง โดยเป็นผู้ที่รู้แจ้งด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง และ มีญาณหยั่งรู้ แต่เรื่องนี้โดยไม่ต้องเชื่อผู้อื่นเลย เชื่อสนิทใจ อปรับปัจจยาญาณ เอเมสวัสสะ เอตถะ โหติ เป็นความรู้ที่รู้จริงเป็นจริงไม่ต้องเชื่อใครเพราะมีปัญญาอันยิ่ง มีปัญญาอันชอบตามเป็นจริงมาแล้วทั้งหมดเลย รู้จักเหตุปัจจัยที่เป็นปจยการตามปฏิจจสมุปบาท แล้วคุณก็อยู่กับโลกกับสิ่งที่มีและไม่มีนี้ โดยที่คุณไม่มี ถ้ามีโดยที่คุณไม่มีทั้งไม่มี คำว่ามีกับไม่มี เป็นภาวะ 2 อย่างที่ผู้รู้ 2 อย่างแล้วเป็นผู้ที่มีสิ่งที่ 3 คือ มีก็ไม่มี ไม่มีก็ไม่มี เอาอย่างนี้ก็ได้ มีก็ไม่มี มีก็สูญ ไม่มีก็สูญ อย่างนี้พอได้ ไม่อย่างนั้นจะไปซ้ำคำว่าไม่มี แล้วเราก็อยู่อย่างสูญนี่แหละสบาย อาตมาพูดแล้วก็พูดอีกภาคภูมิใจที่ให้พวกเรามาอยู่กับความที่สามารถมีสูญได้ เป็นคนที่ไม่ต้องมีรายได้ ไม่ต้องมีตัวตน มันสูญถึงขนาดนั้น ไม่ต้องมีรายได้ไม่ต้องมีสมบัติเป็นเราเป็นของเรา มีแต่ของส่วนกลางแต่เราจะอาศัยเหตุปัจจัยเป็นบริการบ้างก็เอา ที่จะใช้พอสมควรไม่ได้มานั่งกอบโกยสะสม ส่วนคนที่จะแฝงมาในนี้มานั่งกอบโกยสะสมก็ต่างคนต่างศีรษะใครศีรษะมัน อาตมาจะไปว่าอะไรกันได้ เราก็เป็นคนมักน้อยสันโดษตรงตามวรรณะ 9 ของพระพุทธเจ้าเป็นคนเลี้ยงง่าย พระสูติของพระพุทธเจ้ามาอ้างอิงยืนยันแล้วเราปฏิบัติตรงตามคำสอนพระพุทธเจ้าหรือเปล่าทำได้ไหม คุณว่าได้ไหม

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 12:20:32 )

พิสูจน์ประชาธิปไตยแบบพุทธสุดลึกล้ำที่เป็นจริง

รายละเอียด

ที่ว่าลึกซึ้งมากก็คือ ความเป็นประชาธิปไตยก็ตามที่ใช้ศัพท์สมัยนี้เรียกว่าประชาธิปไตย ความเป็นเศรษฐกิจของสังคมประเทศก็ตาม นัยยะของศาสนาพุทธมันก็มี เอาเรื่องเศรษฐกิจก่อน เศรษฐกิจที่สมบูรณ์แบบ ขอยกตัวอย่างพวกชาวอโศก พัฒนาการจนเป็นสังคมกลุ่มหมู่ สังคมมนุษย์ชาวอโศก ได้จบกิจของความเป็นเศรษฐกิจแล้ว จบกิจ กตํ กรณียํ นารํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ เพราะไม่ต้องไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่เดือดร้อนกับเศรษฐกิจในสังคมชาวอโศก ดำเนินไปวันต่อวัน 

ทุกคนมีวรรณะ 9 มากหรือน้อยก็แล้วแต่ แล้วก็อยู่กันอย่าง สาราณียธรรม 6 สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา  กินใช้ร่วมกันต่างคนต่างปฏิบัติธรรม นี่คือ สาราณียธรรม 6 เป็นสังคมที่พระพุทธเจ้ามาเปิดเผยในยุคของท่าน ท่านทำได้แต่ในวงสงฆ์ สาราณียธรรม 6 หรือขั้น สาธารณโภคี ท่านทำได้แต่ในวงสงฆ์ ก็ในยุคนั้นเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นยุคทาส มีนายทาส มีลูกทาส เป็นยุคที่คนไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชนเลย เพราะฉะนั้นจะทำให้คนทั่วไปเกิดสาธารณโภคีนั้น ก็ได้ในคนที่มีภูมิธรรมโลกุตระ ก็คือ วงการสงฆ์ ของพระพุทธเจ้าและบริสุทธิ์สะอาดดี 

เช่น ภิกษุในยุคนั้นไม่ได้มีเงินมีทอง ไม่ได้มียศศักดิ์ ไม่ได้มีตำแหน่งแบบโลกีย์เลย อยู่กันอย่าง เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ปกครองกันไป นี่เป็นการปกครองของประชาธิปไตยแบบ Absolute ประชาธิปไตยแบบคลาสสิค ประชาธิปไตยชั้น 1 ประชาธิปไตยชั้นเอก ซึ่งเทวนิยมมีไม่ได้ ตะวันตก ตำราประชาธิปไตยตะวันตก ยิ่งประชาธิปไตยขาเดียวเหมือนอย่างประชาธิปไตยของอเมริกา ไม่มีสิทธิ์เป็นไปได้ เพราะเป็นประชาธิปไตยที่ไม่มีจิตวิญญาณ ประชาธิปไตยเทวนิยมขาเดียว ประชาธิปไตยแบบอเมริกาหรือประเทศที่เป็นแบบอเมริกาไม่มีกษัตริย์ 

กษัตริย์คือจิตวิญญาณ คือคนที่มีจิตวิญญาณแล้วสืบทอดทางจิตวิญญาณมา มีการฝึกอบรมตน พระเจ้าแผ่นดินทุกองค์ ไม่ใช่ไปเลือกตั้งจากใครก็ได้มาเป็นพระเจ้าแผ่นดินไม่ได้

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #25 พ่อครูคือธัมมิกราษฎร์ ผู้กอบกู้โลกุตรธรรม  วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2566 ( 19:16:07 )

พิสูจน์ปาฏิหาริย์ด้วยเหตุปัจจัยจากสูตร E=mc2

รายละเอียด

เจตนา พิสูจน์ธรรมะพุทธเจ้าว่า เราจะอายุยืนยาว 1 กัปป์เหลือเกินกว่ากัปป์ก็ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์แบบลึกลับ จะเป็นปาฏิหาริย์ด้วยเหตุปัจจัย ที่อาตมาจะยืนยันด้วยเหตุปัจจัย จนกระทั่งได้สูตร E=C(mc2 + A)  เป็นสูตรที่ทำให้เกิดสัมประสิทธิ์ทั้ง รูปธรรมและนามธรรม ในอนาคตก็เหมือนกับไอน์สไตน์จะเจอ E=mc2  คนก็เอาไปใช้ทางเสียเยอะ จะเอาไปใช้ทางดีได้ก็เยอะ อันนี้เป็นการต่อยอดของสมการไอน์สไตน์  E=mc2 เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอาตมาเป็นโพธิสัตว์ที่สูงกว่าไอน์สไตน์ ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่เป็นตัวจริง เป็นเรื่องไม่ใช่สมมติ แต่เป็นตัวจริง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2563 ( 10:20:40 )

พิสูจน์พลังงานของอวัยวะ 32 ที่จะมีน้ำอมฤตเป็นธรรมาวุธอย่างไร

รายละเอียด

ตอนนี้รู้สึกว่าชีวิตร่างกายขันธ์เรานี้ต้องทำให้มันแข็งแรง จนกระทั่งไม่ต้องไปช่วยมันมาก ตอนนี้มันต้องช่วยอยู่บ้างมันไม่ลงตัวดี จนกว่าจะลงตัว ลงตัวได้ก็มี 2 นัยยะ 

1. พลังงานของอวัยวะ 32 ของเราองคาพยพ 32 มันทำงานเก่ง สมดุล โดยไม่ต้องไปจัดการ มันจัดการเองเสร็จเป็นตถตา เป็นอย่างนั้นได้เองเลย 

มันยังไม่ได้หรือมันได้ ต้องทำให้จนมันได้ มันยังไม่ได้ก็ทำจนมันได้ จนมันทำได้เองเป็นอัตโนมัติโดยตัวเองไม่ต้องกังวลเลย มาอย่างไรอาการ 32 ของเราทำงานตรงเลย มันเก่ง มันจะมีพิษภัยแทรกมาก็จัดการได้ แต่นี่ยังไม่เก่งขนาดนั้น สั่งสมพลังงานพวกนี้อยู่ พลังงานที่จะมีน้ำอมฤต เป็นตัวอาวุธ เป็นธรรมาวุธ มีฤทธิ์ยิ่งกว่ากรด มีพิษอะไรเข้ามาก็สลายเป็นเนื้อที่ต้องการของเราได้ สลายทุกอย่างเข้ามาเป็นตัวเราหมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานี


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2564 ( 15:30:20 )

พิสูจน์พลังงานสัมประสิทธิ์

รายละเอียด

สรุปแล้วพระเจ้าอยู่หัว หรือพระพุทธเจ้า หรืออาตมา เป็นพระโพธิสัตว์เป็นผู้มากอบกู้โลกในยุคนี้ อาตมาเต็มใจและพยายาม สร้างพลังงานที่เรียกว่า สัมประสิทธิ์ พลังงาน coefficient เป็นอัตราการก้าวหน้าและก้าวหน้าในระดับคูณหรือยกกำลัง ยากมากแต่ทำได้ อาตมาพิสูจน์และมีคนพิสูจน์ตาม ผู้ที่นั่งฟังอาตมานี้อย่าเพิ่งรีบตาย

เป็นพลังงานนามธรรมที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้เกิดอัตราการก้าวหน้าที่ไม่ถอยหลัง แม้แต่จะทำให้สรีระร่างกาย protoplasm กับ cytoplasm มันก็สดใหม่ ไปได้ก้าวหน้าจริงๆ มันจึงไม่เสื่อมง่าย ไม่ทรุดง่าย มันจะพัฒนาก้าวหน้าเ ป็นปฏิภาคทวีไปเรื่อยๆ อาตมาถึงได้พยายามพิสูจน์พลังงานนี้ที่อาตมารู้ แต่ต่อไปคงอธิบายได้ดีกว่านี้

ถ้าอาตมาอยู่ไปได้อีก อย่างน้อย 100 ปี ถ้าอีกไม่ถึง 10 กว่าปีอาตมาก็อายุ 100 แล้ว มันจะมีความมั่นใจ คนอื่นก็จะเก่งใช้ภาษามาช่วยกันเสริมด้วย เสริมกันเพื่อให้อธิบายให้คนอื่นเข้าใจและเอาไปใช้ด้วย จะได้พิสูจน์ความเจริญของมนุษยชาติ ถ้าอาตมาอยู่ได้ 100 พิสูจน์ได้แน่ ถ้าอยู่ได้ 120 อาตมาว่า ...อีกกี่ปี 120 ก็อีก 36 ปี เองใช่ไหม เมื่อนั้นอาตมาว่านักวิทยาศาสตร์ก็ตาม ชาวโลกเขาพยายามสนใจความรู้พวกนี้เหมือนกัน อาตมาไม่ต้องการรางวัล แต่ถ้าอาตมา 120 เขาให้รางวัลอาตมาแน่เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ปัจฉิมกถาปิดงาน มหกรรมคืนชีวิตให้แผ่นดินครั้งที่ 12
ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:18:49 )

พิสูจน์พลังงานสัมประสิทธิ์ของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

อาตมาพยายามพิสูจน์พลังงานสัมประสิทธิ์ของพระพุทธเจ้า ตอนนี้ที่อาตมาถึงขั้นจะเรียกว่าดัดจริตก็ได้ สร้างเป็นสูตร วิทยาศาสตร์เลยนะ E=C(mc2 + A) ไอน์ สไตน์ค้นพบ E=mc2 พลังงานที่เขาใช้กันคือ มวล m กับ c คืออัตราเร่งต่างๆที่ยกกำลัง ก็คือ A จะบวกไปอีกกี่ A ก็แล้วแต่ บวกมันมากแล้วก็จะเป็นการคูณ และเป็นการยกกำลังก็เอาไปอยู่ข้างนอกวงเล็บ E=C(mc2 + A) อย่างนี้เป็นต้น คนยังไม่ค่อยเข้าใจหรอก เหมือนกับสูตรของไอน์สไตน์ ก่อนตายเขายังเขียนไว้เป็นจดหมายให้ลูกสาวเลย ให้เปิดตอนพ่อตายไปแล้ว ก็ยังไขความจริงใจออกมาพูด คือเขาจะอธิบายให้เข้าใจถึงคุณธรรมแบบนามธรรม  E=mcแต่แกอธิบายไม่ได้ เสร็จแล้วเขาเอา  E=mc2  ผ่าเอาไปใช้ทางโลกและเป็นทางทำลายด้วย หากจะไปใช้ในทางสร้างสรรก็ได้เหมือนกัน แต่กลายเป็นว่าเอาไปใช้ในทางทำระเบิดไปฆ่าเขา พลังงานที่ใช้เอาไปทำจรวดออกนอกโลกก็เอามาใช้ เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่เจตนา เอาไปใช้ดีหรือใช้เลว แต่ของเรานี้เป็น นามธรรม หรือแม้ขั้นวัตถุธรรม เราจะต้องเป็นแต่ดี ไม่ไปหาร้าย เพราะงั้นจึงสร้างแต่วิญญาณที่ไม่ได้มีเจตนาร้ายงดเว้นตัดขาดจากเจตนาร้ายได้จริงๆ ซึ่งเป็นคุณวิเศษคุณธรรมอันวิเศษ ที่สร้างได้ ศาสนาพุทธเราสร้างได้จริงๆ แล้วพวกเราอาตมานำศาสนาพุทธที่มันได้เสื่อมจากโลกุตรธรรม ธรรมของพระพุทธเจ้ามาตั้ง 2,500 กว่าปีแล้วขึ้นมาฟื้น ซึ่งมันมีรากฐานเดิม ได้แล้วแต่มันยังซับซ้อนเพราะมันมีมวลใหญ่ กระแสหลักเป็นองค์ประกอบ อาตมามีหัวเดียวกระเทียมลีบ ซึ่งเขามีอะไรหุ้มไปหมดเลยแต่โพธิรักษ์ไม่มีอะไรหุ้มไว้เลย มันมีเหตุปัจจัยอีกมากมาย ไม่ได้ท้อหรอก พยายามจะพิสูจน์ ให้ได้นานที่สุด ให้ได้ผลจริงที่สุด ถ้าหากอาตมาทำไม่ถูกต้อง ไม่เป็นจริง ก็จะไปไม่ได้ ไม่รอดหรอก แต่ถ้ามันเป็นจริง ก็ต้องรักษาคุณภาพให้ได้มากที่สุดเป็นแกนเป็นแก่นไปในมนุษยชาติให้แก่โลกไปในที่สุด ซึ่งทุกวันนี้ก็เห็นรูปรอยแล้วเห็นไหม เข้าใจไหม ชัดจริงหรือเปล่า คงจะเข้าใจแล้วก็ชัดจริงได้ เอาเถอะ พิสูจน์ไป ไปบังคับให้คนเข้าใจมันทำไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 08:55:33 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:59:35 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:44:52 )

พิสูจน์วิญญาณเราเป็นเจ้าของไม่ใช่พระเจ้าเป็นเจ้าของ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนที่มาเรียนรายละเอียดของความรู้พระพุทธเจ้า ที่ขยายความไปอย่างนี้ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ถึงจิตวิญญาณ อัตตาต่างๆเราทำให้แตกสลายแยกได้ด้วยตนเอง ด้วยปัญญาอันยิ่งของตนเอง ไม่มี เป็นอนัตตา จึงพิสูจน์ว่า อัตภาพหรือวิญญาณ เราเป็นเจ้าของไม่ใช่พระเจ้าเป็นเจ้าของ อันนี้แหละ มันจะเป็นเรื่องใหญ่ ฝั่งตะวันตก ตะวันออกกลาง อินเดียที่เป็นเทวนิยมทั้งหลายแหล่ โลกก็ยังมีอีกเยอะ ความรู้ในยุคพระพุทธเจ้าที่มีพลเมืองประมาณนั้นในโลก ในยุคโน้นท่านก็ได้เยอะ จัดเปอร์เซ็นต์แล้วท่านได้เยอะของศาสนาพุทธ แต่มาในยุคนี้มันเสื่อมหมด แม้ว่าคำว่าพุทธก็เหลืออยู่แต่มันเหลือแต่ชื่อว่าศาสนาพุทธ แปลศัพท์จากความรู้ความจริง มันเสื่อมจนกระทั่งไม่มีโลกุตระ ตามที่พระพุทธเจ้าท่านทรงพยากรณ์เอาไว้แล้วตั้งแต่ท่านมีชีวิตใน อาณีสูตร กลองอานกะ ว่ามันจะหมดโลกุตระ อาตมาก็ต้องมาฟื้นใหม่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติผู้กอบกู้ศาสนาพุทธในยุคกึ่งพุทธกาล วันพุธที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 05:27:31 )

พิสูจน์สังคม สาราณียธรรม 6 วรรณะ 9 ในยุคนี้

รายละเอียด

พูดไปพูดมาวกเข้ามาที่เวที มองเข้าไปอีกที่มีกองพืชพันธุ์ธัญญาหารอยู่ข้างหน้าอาตมา เจ้าประคุณเอ๊ย มันก็อดที่จะนำมาพูดอีกไม่ได้ ... ที่ตรงกลางเป็นกะหล่ำปลีหัวกลม มันหันหน้ามาให้อาตมาเห็นชัดเลย กองข้างหน้านี่กอเดียวนะนี่ ทั้งใบใหญ่ ทั้งใบดก กอเบ้อเริ่มเลย มันเป็นตาออนซอนอีหลี ภาษาอีสาน แล้วพวกเราก็อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร บอกว่าพวกเรานี้อาตมาพูดแล้วพวกเราเข้าใจ แล้วก็พยายามพากเพียรกันทำ ทำไปเลยทำให้ทั้งมีคุณภาพดีๆและปริมาณที่มาก มากจนกระทั่งไล่แจก ไล่แจกเลย ในประเทศก็ไล่แจกเลย แล้วก็พยายามที่จะให้คนในประเทศ โดยเฉพาะผู้บริหารประเทศต้องพยายามพัฒนาคนให้เป็นคนเจริญ ให้เป็นคนอาริยะ อย่าไปเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ ให้เป็นคนลดกิเลสเป็นคนเจริญ เป็นพระอาริยะ เป็นอรหันต์ให้ได้ 

ผู้บรรลุอรหันต์แล้วไม่ใช่จะเป็นคนไม่ทำงาน ไม่ใช่ พระอรหันต์นี่ยอดขยันและไม่สะสม วิริยารัมภะ อปจยะ ปาสาทิกะ ธูตะ สัลเลขะ เลี้ยงง่าย (สุภระ) บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ) มักน้อย, กล้าจน (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ)ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ)  ทำลายกิเลสด้วยองค์ของศีลสูงขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าธูตะหรือธุดงค์ องค์แห่งความมีศีลเจริญ ปาสาทิกะ มีอาการน่าเลื่อมใสทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ใครพบเห็นก็เลื่อมใส 

มีความขยันเสมอ สำนวนของท่านสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ ท่านประยุทธ์ปยุตโตท่านแปลไว้ว่าระดมความเพียร ขยันอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นพระอรหันต์จะขยันอยู่เสมอแล้วไม่สะสม แล้วมีอาการที่น่าเลื่อมใส และกิเลสไม่ต้องทำแล้ว ธูตะก็จบแล้ว ขัดเกลาก็ไม่มีแล้วใจท่านพอ 0 ก็พอ แล้วก็เป็นผู้ที่มักน้อยไม่มีอะไรมากๆมีแต่แค่พออยู่พอกินไปได้ ไม่สะสมอะไรด้วย บำรุงง่ายแน่นอนท่านจบแล้ว เลี้ยงง่ายแน่นอน เป็นคนที่มีวรรณะ 9 อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆเลย 

เพราะฉะนั้นคนที่มีวรรณะ 9 ดังว่านี้แล้วสอนให้คนอื่นมีวรรณะ 9 ด้วย คนที่มีวรรณะ 9 จึงเป็นคนที่บรรลุธรรมสุดยอด แล้วมาอยู่รวมกัน เมื่อมาอยู่รวมกันก็เป็นสังคมสาราณียะ เป็นสังคมที่อยู่กันอย่างมี 6 องค์ สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม อยู่กันอย่างสาธารณโภคี ลาภที่ได้มาโดยธรรม ลาภธัมมิกา ลาภที่ได้มาโดยสุจริตโดยธรรมก็เอามารวมกับกองกลางไม่สะสมเป็นของตัวเอง เสียภาษี 100% อย่างที่เคยพูดเคยอธิบายแล้ว ทำงานฟรีแล้วอาศัยอยู่กับกองกลาง ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตรายได้เป็นเงินเป็นทองเป็นธนบัตรที่เขาใช้กันได้มาก็ตาม 

ได้แล้วก็มารวมกับกองกลาง ตัวเองไม่ต้องสะสม ไม่ต้องกักเก็บให้กองกลางรักษาไว้เบิกก็ได้เอามาทำงานใช้จ่ายก็เบิกมาใช้มาสอย เหลือก็คืน เอาไปไว้กองกลางไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยไม่ต้องลำบากรักษา กองกลางรักษา เขาจะใส่ธนาคารไว้ ใส่ตู้เซฟไว้ก็แล้วแต่ก็ว่าไป กองกลางเขาก็มีเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลรักษาจับจ่าย อย่างนี้เป็นต้น มีเจ้าหน้าที่ ผู้ใดที่เขาถนัดเหมาะสมก็เป็นเจ้าหน้าที่ทำงานกันไป อย่างนี้เป็นต้น

เพราะฉะนั้นในสังคมพระพุทธเจ้าเมื่อไปถึงขั้นสาธารณโภคีที่พูดมานี้ ลาภที่ได้โดยธรรมก็เอามาไว้กองกลางใช้กินร่วมกันไม่ต้องสะสม คนชนิดอย่างนี้เสียภาษี 100% กินใช้กับกองกลาง สาราณียธรรม 6 ศีลสามัญตา หมายความว่ามีศีลเสมอกัน คำว่าเสมอคือ เสมอสมานกัน เสมอสมานคืออย่างไร คือแต่ละคนมีศีลตั้งแต่ศีล 5 หรือศีล 8 ศีล 10 เป็นต้น แล้วมี จุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล คือมีศีลของพระพุทธเจ้าที่ท่านบัญญัติไว้แล้วเอาศีลเหล่านั้นมาปฏิบัติกันทุกคน ใครมีศีลน้อยก็สมานอย่างไม่ตีเสมอ สมานอย่างไม่ตีเสมอผู้ที่เป็นศีล 8 เคารพ คุรุกรณะ เคารพผู้ที่มีศีลสูงกว่า ก็อยู่กันอย่างเสมอสมาน อยู่กันอย่างปรองดองอยู่กัน อย่างสมานัตตตา อย่างนี้เป็นต้น 

สิ่งเหล่านี้พระพุทธเจ้าสอนไว้ อาตมาก็เข้าใจสภาวธรรมในคำสอนและบัญญัติของพระพุทธเจ้าที่เป็นภาษาบาลี เอามาขยายความแล้วก็ให้พวกเราปฏิบัติ พวกเราปฏิบัติได้เป็นสังคมชุมชนที่เป็นสาธารณโภคี มีสาราณียธรรม 6 มาตั้ง 50 กว่าปีแล้ว คนในโลกแม้แต่ประเทศไทย แม้แต่ในชาวพุทธไทย ก็ยังเข้าใจไม่ได้ดี ต้องใช้คำว่า เข้าใจยังไม่ได้ดี เข้าใจได้บ้างบางคน แต่คนที่ไม่เข้าใจยังเห็นว่า ยังเป็นพวกนอกรีต โพธิรักษ์นี้พาออกนอกรีต มันต้องเป็นอย่างเถรสมาคม ต้องเป็นอย่างกระแสหลักกระแสใหญ่ของคณะใหญ่ ของประเทศไทย พุทธศาสนาคณะใหญ่ของประเทศไทย 

อาตมาว่าคณะใหญ่นั้น มันเสื่อม มันผิดไปจากธรรมะของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะใช้คำว่า โลกุตระเป็นตัวยืนยัน โลกุตระคืออะไร ก็อธิบายยืนยันกับชาวอโศกว่าชาวอโศกมีโลกุตระ แต่เถรสมาคมไม่มีโลกุตตรธรรมมีแต่หลงในลาภยศสรรเสริญโลกียสุข  เป็นทาสลาภยศสรรเสริญโลกียสุข ยังไม่เป็นอิสระเสรีภาพ จาก ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข แม้จะเป็นพุทธ ไม่เป็นพระเจ้า ไม่เป็นทาสพระเจ้าในความหมาย แต่ยังตกเป็นทาสที่เป็นโลกียะอยู่ 

พระเจ้าหรือศาสนาเทวนิยม ยังเป็นโลกียะ ศาสนาพระเจ้าหรือศาสนาเทวนิยมทั้งหลายแหล่ ยังอยู่ในกรอบของโลกียะ ยังไม่ออกมาเป็นโลกุตระเลย ยังไม่มีความรู้ของโลกุตรธรรม เพราะฉะนั้นจึงมาเป็นโลกุตระไม่ได้ จนกว่าจะได้มาศึกษา จนกว่าจะได้มาเห็นแล้วยินดี จะค่อยๆศึกษาปฏิบัติ ปฏิบัติไปปฏิบัติไปตามศีลและเกิดผลไปตามลำดับ เพิ่มคุณธรรม เพิ่มอปัณณกปฏิปทา 3 มีสัทธรรม 7 อะไรเป็นต้น ค่อยๆเจริญๆไปถึงจะพัฒนาขึ้นไปได้ เป็นศาสนาที่ไม่ใช่ศาสนาที่พิสูจน์ไม่ได้ ไม่ใช่ศาสนาจินตนาการ เช่นศาสนายูโทเปีย หรือ เป็นคำจินตนาการของ Thomas More 

แต่ของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ยูโทเปีย เหนือกว่ายูโทเปีย ไปอ่านดีๆเถอะเหนือกว่ายูโทเปีย เพราะของยูโทเปียนั้นสามารถเป็นได้และสามารถเป็นไม่ได้ก็มี เพราะมันเป็นการสุดโต่งเกินไป ฟุ้งเกินไป เกินที่มนุษย์จะเป็นไป มนุษย์เป็นไปไม่ได้มันก็เลยใช้ไม่ได้ แต่ของพระพุทธเจ้านี้ มนุษย์เป็นไปได้และได้พิสูจน์กับมนุษย์ด้วย มีสูงขึ้นไป ตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ก็มีสังคมสงฆ์ของพระพุทธเจ้า เพราะในยุคโน้นมีข้อจำกัดว่าเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นยุคทาส เป็นยุคที่คนไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชนของตนเอง ยังไม่เข้าใจสิทธิของตัวเองเต็มที่ ที่มีสิทธิ์100% ยังไม่ได้ ก็ยังเป็นยุคทาส ยังเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่อย่างนี้เป็นต้น นี่เป็นข้อจำกัดในยุคนั้น 

แต่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ในยุคโน้นแล้ว ท่านก็เอาคนมาเป็นคณะของท่าน  คือเรียกว่าคณะสงฆ์ คณะสงฆ์จึงมีคุณธรรม วรรณะ 9 สาราณียธรรม 6 บริบูรณ์ แต่มีข้อจำกัดที่ว่าจะทำอะไรนอก ถ้าเป็นสงฆ์เรียกว่าเป็นพุทธเป็นภิกษุ แต่ภิกษุนี้จะไปทำอะไรอย่างฆราวาสไม่ได้ทุกอย่าง นี่เป็นข้อจำกัด 1. จะไปปลูกผักปลูกพืชเองกินเองไม่ได้ อย่าว่าแต่ปลูกเลย ไปเด็ดจากต้นจากอะไรต่ออะไรไม่ได้ ในพระธรรมวินัยห้ามไว้เลย ในศีลก็ห้ามไว้ พรากพืชไม่ได้จากต้น ภิกษุนี้ไม่ได้ ต้องให้พึ่งฆราวาสเขา ให้เขาทำมาให้กิน ต้องเป็นปฏิคาหก ทายก ฆราวาสเป็นทายก ท่านเป็นปฏิคาหก เป็นผู้ที่รับจากฆราวาส จะได้อาศัยกันและกันระหว่างฆราวาสและภิกษุ ผู้บวชแล้วจึงเรียกผู้บวชว่า เป็นภิกษุหรือภิกขุ เป็นผู้ขอ 

แต่ไม่ได้ไปขอทานหรอก ทำคุณงามความดี ถือบาตรไป บาตร แปลว่าสิ่งที่ตกร่วงลงในบาตร ปาตะหรือบาตร ปาตะ เป็นกริยา จะมีอาหารก้อนข้าว บิณฑะปาตะ บิณฑะ แปลว่า ก้อนข้าว คือ อาหาร ท่านเรียกย่อเป็นก้อนข้าวจะเป็นกับเป็นแกงอะไรก็แล้วแต่หย่อนลงไปในบาตรเรียกว่า อาหารตกลงไปในบาตร ปาตะ แปลว่าตกร่วงลงไปในนั้นเอง โดยที่ท่านไม่ได้ขอจากฆราวาส เขาเห็นดีเห็นงามก็ใส่บาตรให้กิน จึงเรียกว่า ตักบาตร ให้เขาใส่บาตร แล้วเราไปตักเอามา ไม่ได้ไปขอ ตักจากบาตร บาตระ เป็นคำนาม คือ ภาชนะที่กลมๆใหญ่บ้างเล็กบ้าง ถือไปแล้วเขาก็ใส่ แล้วก็เอาแต่พอกิน เอามาอย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 11วิญญาณฐิติ 7 วิโมกข์ 8 อนุปุพพวิหาร 9 สัตตาวาส 9 ตอนที่1 วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มิถุนายน 2566 ( 12:18:47 )

พิสูจน์สังคมสาธารณโภคีที่มีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ 

รายละเอียด

ของเราเป็นสาธารณโภคี น้ำท่วมมันท่วมหมดท่วมหลายเดือน เสร็จแล้วเมื่อมันแห้งก็ราบพนาสูญหมด พืชพันธุ์ธัญญาหารที่ทนน้ำไม่ได้ ทนน้ำได้เฉพาะไม้ต้นที่แข็งแรง ไม้ต้นที่ไม่แข็งแรงก็ยังตายเลย ตายเยอะ ไม้พุ่มที่เขาทนน้ำได้อยู่ได้ ไม้พุ่มที่ไม่แข็งแรงก็ตาย 

สำหรับผลหมากรากไม้ต้นไม้ที่เราปลูกเอง ไม่ต้องพูดเลยตายเหี้ยนเลย เรียบ เหลือแต่ซากสีน้ำตาลอ่อนกับสีน้ำตาลแก่ เละเลอะเปรอะกันเต็มพื้นที่ของราชธานีอโศกไปทั้งหมด มันสุดยอดที่จะต้องรื้อฟื้นกันจริงๆเลย ซึ่งคนทางบ้านก็คงจะเห็น เราถ่ายให้ดูใช้ Top View ใช้โดรนถ่ายก็เห็นวิวภาพกว้าง เห็นหมดชัดเจน ซึ่งมันก็เป็นภัยธรรมชาติ มันก็เป็นไป เราก็ต้องรับภัยธรรมชาติ ต้องมีวิบากอันนี้ก็ว่าไป ก็รับ ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีเกี่ยงงอนอะไร เราก็ค่อยๆแก้ไขปรับปรุงกันใหม่ ฟื้นตัวคืนตัวกันใหม่ 

ตอนนี้เร่งปลูกผักพืชพันธุ์ธัญญาหาร ไอ้ที่มันตาย เป็นไม้ต้นก็ปลูก เสริมใหม่ ไม้กินก็ปลูกกันเร่งกันหนัก แต่ดีของเราเป็นสาธารณะโภคี เห็นชัดเจนเลยว่า ถึงแม้ว่าเราจะหมดทั้งหมู่บ้านเลยไม่มีอะไรจะกิน เพราะเรากินพืชพันธุ์ธัญญาหาร เราไม่ได้กินเนื้อสัตว์ พืชพันธุ์ธัญญาหารเราก็ต้องไปอาศัยซื้อข้างนอกบ้าง ซึ่งเราก็ไม่อยากซื้อเท่าไหร่ แต่มันจำเป็นก็ต้องซื้อบ้าง 

กระนั้นก็ดี ผู้ที่เป็นเพื่อนชุมชนชาวอโศกที่เป็นสาธารณโภคีเครือแหเครือข่าย ของชาวอโศกอยู่ข้างนอกที่เขาไม่ได้น้ำท่วม เขาก็ส่งอะไรต่ออะไรมา พืชพันธุ์ธัญญาหาร ทั้งผลหมากรากไม้ ไม่ได้อดได้ยากเลย ข้างนอกเขาจะเห็นเลยว่า อย่างนี้มันน่าจะอดตาย แต่เราไม่มีตาย ก็ได้กินกันอุดมสมบูรณ์ ไม่มีใครผอมลงเลย มีน้ำหนักลดโพธิรักษ์องค์เดียว นอกนั้นไม่มีใครน้ำหนักลดเพราะกินดีอยู่ดีกันทั่วถ้วนไม่มีปัญหาอะไร 

นี่คือลักษณะสาธารณโภคี อาตมาสาธยายคุณค่าของสาธารณโภคีเป็นรายละเอียดลึกซึ้งไม่หมด ไม่พอ ไม่เก่ง ไม่เก่งพอ เพราะสุดยอดจริงๆเลย

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูตอบปัญหาผู้ชมทางบ้าน วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2565 ( 05:19:51 )

พิสูจน์สัมประสิทธิ์ coefficient

รายละเอียด

ชีวิตก็ดำเนินไปอาตมารู้สึกครึ้มใจ ที่เราใช้ทฤษฎีของพระพุทธเจ้า มาปฏิบัติกัน เป็นทฤษฎีระดับโลกุตระ ปฏิบัติไปเรื่อยๆมันไม่ง่ายแต่มันเป็นไปได้ ยังมีคนที่มีธุลีในดวงตาน้อยตามสำนวนพระพุทธเจ้ามีอยู่จริงมาปฏิบัติได้ไปเรื่อยๆ อาตมาก็ยิ่งครึ้มใจ จะต้องให้มันขยายผลเพิ่มขึ้น เพื่อจะมีพลังในการช่วยมนุษย์ในโลก ถ้ามันน้อยลงมันก็ไม่มีสิทธิ์จะไปช่วย มันมีมากขึ้นนี่แหละมันจะช่วยได้ มันก็ครึ้มใจจริงๆเลย แล้วก็พยายามพิสูจน์สัมประสิทธิ์ coefficient ของตัวเอง เราใช้พลังงานซึ่งมันอธิบายไม่ได้เราทำอย่างไรทำจิตให้มันมีพลังงาน Coefficient เป็นพลังงานที่มีพลังงานเพิ่ม พลังงานตัวแปร พลังงานที่จะกระตุ้น stimulate สังเคราะห์สังขารตัวเองให้ร่างกายสังขาร ใจแน่นอนมันยาวแน่แต่ร่างกายมันจะยาวไปได้ไหม ก็พยายามเพิ่มพลังงานนี้ อาตมาพูดมาหลายทีแล้วว่าอาตมาเชื่อมั่นในการทำพลังงานอันนี้แหละ และพระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ด้วยเป็นพลังงานอำนาจพิเศษของจิต ผู้ที่มีความสามารถในจิตมี ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจ วสวัตตีโก ได้สามารถที่จะทำใจในใจ มนสิการ ทำจิตในจิตของเรา ให้มีพลังงานสัมประสิทธิ์อันนี้ มั่นใจ เพราะว่าอาตมารู้ว่าตัวเองพยายามทำแล้วมันก็เป็นได้ แล้วมันก็รู้ว่าเราฟื้นขึ้นมา ฝืนมาจนพอเป็นไปได้ดีขึ้นๆ นี่ก็พยายามพิสูจน์ไป ดูว่า ตอนนี้ย่าง 87 ถ้าไป 90 จะดูซิว่า เมื่อถึง 90 ความเป็นร่างกายของเราสรีระของเราจะเป็นอย่างไร มันจะแข็งแรงขึ้นดีขึ้นไหมหรือมันจะแย่ลง ถ้าดีขึ้นแล้วมันก็บอกชี้บ่งให้เห็นว่า ได้แน่ๆ ยิ่งถ้าไปได้อีกถึง 96 อาตมาจะมั่นใจมากเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 10:23:11 )

พิสูจน์สัมประสิทธิ์ต่ออายุขัย

รายละเอียด

ก็ทำไป อาตมาพยายามฟื้นสังขารร่างกาย พยายามสร้างพลังงานให้ชีวิตและร่างกายนี้ไม่ให้ทรุดเสื่อมจนกระทั่งตายวันตายพรุ่ง เป็นการพิสูจน์ธรรมะพระพุทธเจ้าพิสูจน์สัมประสิทธิ์ด้วย เป็นปาฏิหาริย์ ต่ออายุขัย ถึงเวลาตายแล้วก็ไม่ยอมตายมันจึงเป็นเรื่องมหัศจรรย์ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 15:55:02 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 15:22:18 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:55:43 )

พิสูจน์อย่างไรว่าพระเจ้าไม่มี

รายละเอียด

ที่รู้ความจริงอันนี้ได้พิสูจน์อันนี้ได้คือ ต้องเรียนรู้อาตมันหรืออัตตา เรียนรู้จนกระทั่งสามารถดับอัตตา ดับอาตมัน เป็นปรินิพพานปริโยสานไปเลย สูญเลย ธาตุจิตวิญญาณไม่เหลือ พระเจ้าคอยเก้อเลย พวกนี้มันไม่มา พวกนี้มันไม่มาเลย พวกพุทธนี่ วิญญาณมันไปไหน พระเจ้าคอยเก้อ ของเราไม่มีพระเจ้าอย่างนั้น แล้วเราก็ไม่มีไป นอกจากไม่ใช่พระเจ้าแล้วยังสามารถทำลาย อาตมัน สลายเป็นดินน้ำไฟลมเป็นอุตุธาตุได้ด้วย จึงพิสูจน์ว่าพระเจ้าไม่มี เจ้าของจิตวิญญาณนั้นคือเราเป็นเจ้าของจิตวิญญาณตัวเราเอง ผู้ใดปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ ผู้นั้นก็คือพระเจ้าของตัวเอง สลายจิตวิญญาณตัวเองได้ ปรินิพพานได้ เป็นพระอรหันต์ปรินิพพานได้ทุกคน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศกคือชุมชนบุญนิยมที่มีมรรคผลจริง วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม 2563 ที่สันติอโศก


เวลาบันทึก 05 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:19:27 )

พิสูจน์อย่างไรว่าเป็นอรหันต์จริง

รายละเอียด

ขออธิบายแค่พิสูจน์อย่างไรว่าท่านเป็นอรหันต์ 

อรหันต์ที่อาตมาเป็น อาตมาเป็นอรหันต์ที่มีจิต 1 เรื่องของสัตว์ เรื่องเกี่ยวกับสัตว์ตั้งแต่สัตว์เดรัจฉานจนถึงสัตว์ตัวตนเป็นคน อาตมาจะไม่ทำร้าย อาตมาจะไม่เบียดเบียน และอาตมาตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปทำร้ายไม่เคยไปเบียดเบียนใคร มีแต่เกื้อกูลช่วยเหลือผู้อื่น ตลอดมาเลย อาตมาสมัยเป็นฆราวาสอาตมาเป็นคนจิตใจดีหาเงินได้เก่ง ใช้ต้องมีกระดาษจด แล้วอาตมาเป็นลูกหนี้ที่ธนาคารไว้ใจ พอหมดแล้วก็มีใบเชิญไปให้กู้อีก ธนาคารทุกเจ้าเลย อาตมาเป็นลูกค้าที่ดีส่งดอกทัน ส่งต้นครบ เมื่อหมดเขาก็หนังสือตามมาให้กู้อีก ยอดเยี่ยมเลย รับรอง พวกนายทุนเจ้าหนี้ชอบอาตมามาก เพราะอาตมาไม่เบี้ยวไม่เกเร ซื่อสัตย์สุจริตดีทุกอย่าง อย่างนั้น 

ใช้จ่ายช่วยคนนั้นคนนี้ตลอดเวลาเป็นคนเช่นนั้นแม้มาบวชก็ยิ่งชัดเจน เรื่องเกี่ยวกับสัตว์อาตมาไม่เคย ไม่เคยทำร้าย แต่ปากอาตมานี้ ว่า ตำหนิสิ่งที่ควรตำหนิ ตำหนิแรงด้วย ต้องตำหนิเพราะว่ามันผิดเยอะ สิ่งที่ตำหนิจึงเยอะ สิ่งที่ถูกก็ยกย่องแล้วมีน้อย

จะพิสูจน์อย่างไรว่าเป็นพระอรหันต์ ได้คือ อาตมาบอกไปคุณก็เข้าใจได้ยาก อาตมานี้รู้จักจิตเจตสิกพิสูจน์ได้ จิตเจตสิก โดยเฉพาะจุดสำคัญที่สุดคือเวทนา อาการความรู้สึกหรืออารมณ์ แล้วอาตมาก็รู้อารมณ์ที่แยกเนกขัมมะ แยกเคหสิตะได้ อาการความรู้สึกแบบโลกโลกีย์ แล้วก็ทำให้กิเลสมันลด กิเลสลดๆๆ ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนแปลง กิเลสหมด เป็นอุเบกขา อาตมาก็รู้จักคำว่า อุเบกขา ลักษณะของอุเบกขา ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ มันไม่มี 2 

โดยเฉพาะสุขทุกข์ อันนี้ไม่มี อันนี้พอเข้าใจได้ คือไม่มีสุขไม่มีทุกข์ เขาก็เรียกว่า อุเบกขา 

อาตมาใช้พยัญชนะไปอีกเป็น อุ + ปะ + เอ + ขะ 

อุปะ แปลว่าใกล้ เอ แปลว่า 1 ขะ แปลว่าว่าง คืออาการเช่นนี้ เอาพยัญชนะขยายเป็นสภาวะ เขาก็บอกว่าไม่มีอาจารย์คนไหนมาสอนแบบนี้ แต่อาตมาไม่เก่งพยากรณ์ อาตมาตอบสภาวะ มันจึงขัดแย้งกับเขามากเขาจึงวิจารณ์อาตมามาก หรือแม้แต่อาตมาอธิบายสมาธิพุทธ ก็เอาพยัญชนะบาลีมาแจกตามประสาอาตมาเขาก็วิจารณ์อาตมา 

ทุกวันนี้อาตมายืนยันได้อาตมาเอาคนพามาทำตามสูตรพยัญชนะ สูตรวรรณะ 9 สาราณียธรรม 6 เป็นต้น ตอนนี้ก็เอาจรณะ 15 วิชชา 8 มาไล่ ต้องเกี่ยวข้องกับศีล 

ทั้งที่เขาผิดมาตั้งแต่ศีล เขาบอกว่าปฏิบัติแต่กายกับวาจา ก็ดูที่กิมัตถิยสูตรก็เป็นเรื่องจิตตั้งแต่อวิปฏิสาร 

มีแต่สภาวะที่อาตมาพามาจนกันทั้งหมู่บ้าน แล้วจนประสาอะไร จนแต่แจกผู้อื่นช่วยผู้อื่น แล้วตัวเองก็อยู่สบาย พออยู่พอกิน มันซ้อนนะ ก็เพราะเรามีใช้พอ เราไม่กินมากมายหรอกกินอย่างพอดี แต่ละคนเราไม่มากแต่เรามีพลังงานสร้างสรรเยอะ เป็นเศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เราก็กินพอใช้ ไม่ต้องกักตุนไม่ต้องสั่งสมคงคลังอะไรมากมาย สะพัดเก่ง เพราะเรามั่นใจในความขยันกับสมรรถนะที่เรามี คนแก่ไปแล้วก็มีคนมาทดแทนหมุนเวียนกันไป ไม่ได้น้อยลง 

เรารักษาพวกเรา ยืนยันว่าเป็นอรหันต์ อาตมารู้จักจิตเจตสิกต่างๆ คุณต้องมาเรียนตามเวทนา 108 กายิกเวทนา เจตสิกเวทนาคืออะไร

ถ้าคุณเข้าใจได้ตั้งแต่เวทนา 2 ไปเวทนา 3 ทุกข์ สุข ไม่ทุกข์ไม่สุขเป็นอย่างไร 

เวทนา 5 มันเป็น degree ตั้งแต่สุขกับทุกข์ เข้ามาถึงภายในเป็นโสมนัสกับโทมนัส อุเบกขา เรียกว่า อินทรีย์หรือกำลัง ดีกรี มากน้อย หนักเบา สุข คือข้างนอก หยาบทุกข์ ก็หยาบภายนอก หมดแล้วก็เหลือโสมนัสโทมนัสหมดก็เป็นอุเบกขินทรีย์ เป็นพลังงานในอุเบกขา แล้วก็ปฏิบัติด้วยตาหูจมูกลิ้นกายใจของ 6 ทวารไม่ว่าจะเป็นโลกียะหรือโลกุตระก็ต้องใช้ 6 ทวารนี้สัมผัสรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส เสร็จแล้วคุณก็เกิดเวทนาที่มีกิเลส แยกกเลสให้ออก กำจัดกิเลสให้หมดโดยใช้ปัญญาอันยิ่ง ไม่ใช่กดข่ม รู้ว่ากิเลสไม่ใช่ตัวตนจริงมันเป็นตัวเหตุแห่งทุกข์มันเป็นผีหลอก มันไม่ใช่ตัวจริงเลยมันเป็นผีหลอก ต้องให้เห็นเลย พาขี่จักรยานยนต์ มอเตอร์ไซค์ มันไม่มีตัวจริงหรอกมันเป็นอนัตตา มันไม่เที่ยงมันไม่มีหยุดตลอดกาลนาน กิเลสไม่ได้ติดอยู่อย่างนี้แบบเที่ยง มันไม่เที่ยง เดี๋ยวมันก็ไปเป็นอย่างอื่น อะไรอย่างนี้แล้วก็ไปอร่อยอย่างอื่น วนเวียนมาอร่อยอย่างนี้อีกแล้ววนเวียนไปอะไรอย่างอื่นอีก ไม่ล้างสักอย่างแต่ยิ่งจะเพิ่มขึ้น เวรล่ะทีนี้ นานล่ะคุณเอ๋ย ไม่เรียนรู้ลดละบ้าง 

สรุปว่า อาตมาอธิบายสภาวะสัจจะของพระอรหันต์ ที่ไม่มีกิเลสพวกนี้แล้ว อาตมาพูดไป คุณจะเข้าใจสัก 10 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ไหม หากคุณได้ 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ อาตมาจะดีใจมากเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาตนให้รู้ความเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:13:16 )

พิสูจน์อัตตามีหรือไม่มีด้วยวิธีใด

รายละเอียด

ผู้ที่หมดอัตตาหรือผู้ที่บรรลุอรหันต์แล้วก็เป็นผู้ที่ต้องรู้อัตตา ก็เอาอัตตามาอธิบายให้ชัดเจนขยายความให้ฟัง การจะพิสูจน์ว่าอัตตามีหรืออัตตาไม่มี ก็ต้องพิสูจน์ได้ด้วยการปฏิบัติ อัตตามีหรือไม่มีก็ต้องพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติ ที่นี่การปฏิบัติของพระพุทธเจ้านั้น ปฏิบัติด้วยวิชชาจะระณะสัมปันโน จรณะ 15 วิชชา 8 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 11:53:28 )

พิสูจน์อิทธิบาทยังชีพให้ยาวนาน และ ทำประโยชน์ต่อ

รายละเอียด

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2565 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก  ชีวิตยังอยู่เราก็มาพูดกันถึงเรื่องธรรมะเป็นสำคัญ เป็นเอก เกิดมาชาติหนึ่งถ้าไม่ได้รู้ธรรมะที่เป็นโลกุตระของพระพุทธเจ้าก็จะวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารนี้ไปอีกนานนนนน....แสนนานเท่านาน 

ต้องมารู้จักโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าจริงๆ แล้วก็ปฏิบัติตาม ฝึกฝนอบรม ให้รู้จักอภิธรรม จิต เจตสิก รูป นิพพาน แล้วก็ประหารกิเลสด้วยบุญ ให้สำเร็จได้จริงๆ ดังที่อาตมาได้สาธยายมา 50 กว่าปีแล้ว ก็ยังจะพยายามเลี้ยงขันธ์ 5 ไป อธิบายต่อไปอีกยังไม่ยอมตาย ฝืนสังขารไป เพื่อที่จะพิสูจน์ทั้งอิทธิบาทของพระพุทธเจ้าที่จะยังชีพให้ยาวนาน เท่ากัป เกินกว่ากัป ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ด้วย และก็ทั้งที่จะทำประโยชน์ต่อ 

สานต่อศาสนาพระพุทธเจ้าสมณโคดมไปให้ยืนยาวไปให้ครบ 5,000 ปี เพราะว่า 2,500 ปีนี้อาตมาเกิดมา โลกุตรธรรมมันเสื่อมไปตามที่พระพุทธเจ้าท่านพยากรณ์ไว้ใน อาณีสูตรหรือกลองอานกะ ที่พูดไว้ว่ามันจะเสื่อมสลายไปมันก็จริง อาตมาก็พูดแต่ความจริงไม่ได้พูดความเท็จ เพราะกรรมเป็นอันทำ มันบาปมันเป็นวิบาก อาตมาไม่ทำวิบากบาป เพราะอาตมาเป็นโพธิสัตว์ ก็บอกไปหมดแล้วเป็นอะไร พูดไปก็ คนที่ไม่รู้ไม่เชื่อถือไม่ศรัทธาก็หมั่นไส้เอา ผ่านไปไม่ต้องพูด 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บุญกิริยาวัตถุ 7 ข้อที่เป็นเนื้องอกของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2565 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2565 ( 11:15:41 )

พิสูจน์อิทัปปัจจยตาอย่างไร

รายละเอียด

ทุกอย่างที่พูดมานั้นมันรวมกันไปทั้งหมด มีอิทัปปัจจยตา ตั้งแต่ต้นไม้สะเทีอนถึงดวงดาว มันก็จะเป็นเหตุปัจจัยแก่กันและกัน เราเข้าใจแล้วเราก็จัดสรรเอา อะไรที่ใกล้ตัว อะไรที่สมควรเป็นสิ่งที่เราจะปฏิบัติ เพื่อที่จะทำความจริงนั้นให้จบ ความจริงนั้นให้แจ้งเป็นเหตุปัจจัยที่เหมาะควร เพราะว่าคำสอนพระพุทธเจ้านั้นครบหมดแล้ว บางอย่างเป็นเรื่องไกลด้วยซ้ำไป ไม่ใช่เรื่องของเรา เราก็เอาเรื่องของเราที่เราเกี่ยวข้องจริง ใกล้ตัว แล้วพิสูจน์ เมื่อพิสูจน์ได้สักหนึ่งตัวอย่างว่าเรามีเหตุปัจจัยอย่างนี้ ยังก่อเรื่องให้เราลำบากยังก่อความทุกข์แล้วไม่ให้ความเจริญ จนกระทั่งดับเหตุได้ เมื่อดับเหตุได้ก็หมดทุกข์แล้วก็มีความเจริญ เราก็จะได้โมเดลของตัวอย่าง ตัวอย่างในเรื่องเหตุหนึ่ง ได้แล้วก็เป็นเรื่องต่อๆไป มันก็จะเข้าใจ มันจะเป็นรูปร่างลักษณะทุกอย่างมาแต่เหตุเหมือนกันไปหมด เพราะฉะนั้นเราก็จะได้ประมาณหนึ่งเราก็จะเรียกว่า มันไม่ได้ต่างกันมาก มีนัยเหมือนกันแต่ก็ไม่ต่างไปตามรากฐานความจริง พิสูจน์แล้วก็จะรู้จักความจริงทุกอย่างว่าจะจัดการกับมันอย่างไร อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 08:45:50 )

พิสูจน์แล้วจะรู้ได้ด้วยตนอย่างชาวอโศก

รายละเอียด

คำสอนของพระพุทธเจ้าที่เอามาแต่ละสูตร แต่ละวรรค แต่ละบท ที่เอามายืนยันต่างๆเป็นความรู้ที่ตรัสรู้เองโดยชอบของพระองค์ แล้วเอามาประกาศต่อมนุษย์ยืนยันให้พิสูจน์เลย พิสูจน์แล้วจะรู้ได้ด้วยตนอย่างชาวอโศก พิสูจน์ได้แล้ว จนกระทั่งมายืนยันพระสูตร เช่นยืนยันหลักวรรณะ 9 สาราณียธรรม 6 ชาวอโศกมาปฏิบัติ ปัจจุบันนี้ที่เทวนิยมจัดจ้าน แต่เราก็สามารถปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมท่ามกลางสังคมทุนนิยมจัดจ้านใกล้กลียุค กิเลสหนาตัณหาจัด แย่งชิงกันต่างๆนานา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาด้วยปัญญามุทุภูเตของพ่อครู วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 15:32:40 )

พิสูจน์โลกนี้โลกหน้า

รายละเอียด

โลกหน้าที่ตายไปแล้วไม่ต้องไปพูดกันเลย มันพิสูจน์กันไม่ได้ คุณตายไปแล้วแล้วคุณจะไปยังไงจริงๆมันคืออะไร ใครตายไปแล้วนี่ต่างคนต่างไปมันพิสูจน์ไม่ได้เลย แต่โลกนี้อยู่นี่แหละและก็ทำให้บรรลุโลกหน้าในปัจจุบันนี้ต่างคนต่างพิสูจน์กันได้ อย่างน้อยก็เราเองเป็นปัจจัตตังของเราบรรลุได้ ของคนอื่นไม่รู้ล่ะ จะได้หรือไม่ได้อย่างไร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนอยู่เหนือกาละต้องชนะปฏิจจสมุปบาท พุทธศาสนาตามภูมิ วันพุธที่ 3 มกราคม 2567 วันแรม 7 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 มกราคม 2567 ( 14:55:05 )

พิสูจน์โลกอบาย

รายละเอียด

พิสูจน์โลกอบาย คือ จิตของเราสามารถทำให้จิตเราแยกธาตุให้เป็นอุตุธาตุได้เลยในโลกอบาย เขาปรุงแต่งอย่างจัดจ้านหยาบคาย โกงกินกัน การบันเทิงเริงรมย์กามคุณจัดจ้าน เราก็ไม่ได้สุขทุกข์กับเขา สงสารเขาด้วย แยกได้ตอนเป็นๆ คุณไม่เด็ดขาด เพราะปัญญามันมีพลังพอเป็นธาตุโลกุตระ มันมีฤทธิ์แรงที่ชัดเจนมันเกินกว่า หิริโอตตัปปะ พหูสูตร แล้วก็ทำจนเป็นวิชชา รู้แล้วรู้อีกรู้แจ้งรู้จริงรู้ชัดเจนจนไม่มีอะไรจะชัดกว่านี้ มันทั้งมีความเชื่อถือ เชื่อฟัง เชื่อมั่น เป็นศรัทธาพละ ผู้นั้นจึงหมดหลง

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 05:52:26 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:38:30 )

พิโธมิกส์ จะทำให้เขาดีขึ้นจริงหรือ

รายละเอียด

อย่างนี้แหละควรจะเอามาวิเคราะห์ ค่ารวมที่ลุงตู่ทำงานมา 8 ปี มันน่าจะเป็นราคาหรือค่าการทำงานของนายกประยุทธ์ ว่ามันเป็นการช่วยคนส่วนมากเป็น พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ โลกานุกัมปายะ มันไม่น่าไปตัดสินราคาตัดเคิร์ฟได้ ไม่ใช่องค์รวมของคนหมู่ใหญ่ แต่เป็นความคิดของแม่ค้าคนนี้ แน่นอนก็ต้องมีบ้างเล็กๆน้อยๆ แม่ค้าคนนี้ก็เลยคิดว่า พิโธมิกส์ จะทำให้เขาดีขึ้นเมื่อออกมาปฏิบัติ แต่ตอนนี้เรื่องราวยังคาราคาซังอยู่เลย ความคิดนำหน้ามันมีไปหลายอย่างก็ค่อยๆดูไปเรื่อยๆ มันเข้ากันกับที่อาตมาว่าเลยนะ “เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้ แพร่กระจาย สยายข้อมูลข่าวสารประหารศัตรูคู่แข่ง แอ้งแม้งได้ยอดสุด”

ตอนนี้อาวุธที่สำคัญคือเขาใช้ AI และ IO นี่แหละ เป็นนวัตกรรมของโลก คือสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ใช้ แล้วเอามาใช้เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษที่คนใช้ สรุปอยู่ที่ดูไปตลอด นโยบายอบายมุขนิยม ก็คงจะทำให้ประเทศไทยแย่ลง ก็คงเป็นพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย ฟังน้ำหนักภาษา คงจะไม่เห็นด้วยกับที่ประชาชนเห็นกัน ที่เขาเอามาขู่ในสภาว่า ต้องเคารพเสียงประชาชนนะ ผ่านเลือกตั้งมาเขาได้คะแนนมากจริงๆต้องเคารพอันนี้นะ 

เราก็เข้าใจ Majority Rule กฎเกณฑ์ของโลกมันเป็นอย่างนี้ เรารู้ แต่พวกเรามันเป็นพวก Minority Right เป็นพวกน้อย เป็นสิทธิของเราที่จะคิดตามนี้ได้มาว่าเราไม่ได้ ซึ่งคำว่า Right คือความถูกต้อง มันสามารถถูกต้องได้อยู่นะอย่าเพิ่งดูถูกดูแคลน ตกลงก็ต้องดูไปก่อนจะไปติเรือทั้งโกลน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เก่งที่สุดกว่าทุกประเทศ คือเปรตแท้ วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 แรม 15 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 23 พฤษภาคม 2566 ( 20:28:06 )

พีชธาตุ

รายละเอียด

ส่วนที่ไม่มีเวทนาเจ็บก็ไม่มีปวดก็ไม่มี ชอบก็ไม่มีชังก็ไม่มี ทุกข์ไม่มีสุขไม่มี ตัวนี้แหละเป็น พีชธาตุ ซึ่งเป็นชีวะ ให้อาหารเลี้ยงมันก็อยู่ไปได้ หากเล็บถ้าออกจากร่างกายเท่านั้นแหละไม่ใช่ตัวเราแล้ว คนติดยึดก็ยังบอกว่าเป็นกายของข้า ของกูๆๆ ยังยึดอยู่เป็นของตน มันไม่ใช่แล้วเพราะฉะนั้นตัวที่ไม่มีเวทนาอ่านเวทนาไม่รู้สึกสุขหรือทุกข์เป็นชีวะก็ตาม ติดอยู่ที่ร่างกายเราก็ตาม ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น อ่านสิของตัวเองกระทบสัมผัสเมื่อไหร่ก็อ่าน อันนี้ไม่ใช่กาย มันไม่ทุกข์ไม่สุขมันคือกาย พีชะพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่ทุกข์ไม่สุขอะไร ไม่มีผลักไม่มีดูด มันดูดเอาแต่เลี้ยงร่างกายมัน มันไม่เป็นโทษภัยกับคนอื่น มีแต่ตัวตน แล้วใครจะมาทำมันก็ยอมอย่างเดียว พืชพีชธาตุ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:44:34 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:41:58 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:56:27 )

พีชธาตุ

รายละเอียด

พีชธาตุ เป็นชีวะที่ฐานนิพพาน ฐานอาศัย ฐานสำคัญ คือจิตที่ ไม่มีบาปไม่มีบุญ อปุญญาภิสังขารแล้วมีแต่อเนญชา หมดบาปหมดบุญแล้วฆ่ากิเลสหมดแล้วบาปหมดแล้ว พีชธาตุ จึงไม่มีบาปไม่มีบุญมีแต่กุศล กุศลเป็นโลกียะ ยังไม่ใช่โลกุตระ บาปบุญเป็นโลกุตระเมื่อสำเร็จแล้วบาปบุญก็หาย โลกุตระแล้วสมบูรณ์แบบแล้วเป็น ปุญญปาปริกขีโณ เพราะฉะนั้น อันท้าย วิญญาณาหาร พระพุทธเจ้าก็บอกว่าคุณจะต้องรู้นามรูป แยกรูปแยกนามหรือแยกกายแยกจิตได้

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2563 ( 13:38:02 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 15:23:53 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:46:01 )

พีชนิยาม

รายละเอียด

ชีวะที่ไม่มีวิญญาณครอง ไม่มีกรรมครอง

 

คำอธิบาย

คือ  พีชนิยามนั้นกึ่งหนึ่งเป็นชีวะ  มีสัญญากับสังขาร  ไม่มีเวทนา  ไม่มีวิญญาณ หากใครสามารถทำจิตตนให้มีคุณลักษณะเป็นพีชะ ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ ไม่บาป ไม่มีบุญได้ก็เป็นอรหันต์  คนถามว่า  ทำไมสมณะโพธิรักษ์รู้ได้อย่างไรว่าตนเป็นอรหันต์ ก็เพราะสามารถทำจิตตนเองให้เป็นพีชะได้

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านรา ชวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน2562

หนังสืออ้างอิง

ค้าบุญคือบาป หน้า 233


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:12:01 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:45:31 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:57:22 )

พีชนิยาม

รายละเอียด

แต่ทีนี้มันกลายเป็นชีวะแล้ว อย่างเช่นพืชพวกนี้ ดอกไม้มันกลายเป็นชีวะ มันก็เลยไม่เหมือนดิน เพราะมันมีสังขารตัวมันเอง มันก็เลยเป็นพืช 

พลังงานก็มีอะไรเป็นตัวธาตุอะไรผสมกัน กะหล่ำปลีมีธาตุอะไรผสมกันเป็นกะหล่ำปลี ดอกกุหลาบสีแดงๆเอามา 999 ดอก เขาร้องเพลงกัน มันก็มี มันก็รู้ของมัน มันก็เอาแต่ธาตุมาสังเคราะห์ตัวมันเองเป็นดอกกุหลาบอยู่อย่างนี้ ตามเชื้อของมัน กะหล่ำปลีก็เหมือนกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อ‌ครู‌เทศน์‌ ‌ทำวัตร‌เช้า‌ ‌ส่ง‌ท้าย‌ปี‌เก่า‌ ‌งาน‌ ‌ว‌.‌บบบ‌ ‌เพื่อ‌ฟ้า‌ดิน‌ ‌สวด‌อภิธรรม‌ส่ง‌

ท้าย‌ปี‌เก่า‌ให้‌เข้า‌ถึง‌นิพพาน‌ วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2565 ( 10:56:25 )

พีชนิยาม-อุตุนิยามก็ยังไม่มีตัวตนเท่า“จิตนิยาม”

รายละเอียด

พีชนิยาม-อุตุนิยามก็ยังไม่มีตัวตนเท่า“จิตนิยาม”

“พันธุกรรม”หรือ“เผ่าพันธุกรรม”นี้เป็นเรื่องของ“จิตนิยาม”

แท้ๆ ไม่ใช่“พีชนิยาม”และไม่ใช่“อุตุนิยาม”

เพราะมันเป็น“ตัวตนที่ยึดตัวตนของตน”เต็มสมบูรณ์แบบใน

ความเป็น“อัตตา”จริงๆ

“พีชนิยาม-อุตุนิยาม”ยังไม่มีความเป็น“อัตตา”

คือยังไม่มีความเป็น“ตัวตนและยึดของตัวของตน”เท่า

เทียม“จิตนิยาม” 

“จิตนิยาม”หรือ“วิญญาณ”จึงมี“ความรักตัวตน-เห็นแก่ตัว”

มากจัดจ้านยิ่งกว่า“พีชนิยาม-อุตุนิยาม”ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า 

หรือในอีกด้าน “จิตนิยาม”มี“ความโกรธอาฆาตแค้น

พยาบาท”แรงร้ายยิ่งกว่า“พีชนิิยาม-อุตุนิยาม”อย่างเทียบกันไม่ได้

เลย!

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 218 หน้า 180


เวลาบันทึก 24 กรกฎาคม 2564 ( 12:41:59 )

พีชนิยาม 

รายละเอียด

พีชนิยาม  คือ มีพลังงานความเป็นชีวะ จับตัวกัน รวมตัวกันเป็นกลุ่มของธาตุ มันก็สังเคราะห์ สังขารกันเป็นชีวะ ทางฟิสิกส์วิทยาศาสตร์เค้าก็ศึกษาแยกออก มีชีววิทยา แต่เขาก็จะไม่รู้ละเอียดลออเท่าของพระพุทธเจ้า  พระพุทธเจ้ารู้ไปถึงจิตนิยาม  ชีวะของพืชต่างกันอย่างไรกับชีวะของสัตว์ ชีวะในระดับของพืชแตกต่างจากวัตถุอย่างไร  อุตุนิยามอย่างไร พระพุทธเจ้าท่านก็ให้แยกจิต  แยกจิตก็คือ แยกกายหากไปพูดข้างนอกเขาจะงง  แยกกายจะไปแยกจิตได้อย่างไร  ความรู้ของชาวพุทธทุกวันนี้ผิดเพี้ยนไป เข้าใจว่าจิตนี้ไม่ใช่กาย  เพี้ยนไปเลยว่า  กายคือ วัตถุ ดิน น้ำ ไฟ ลม อย่างเดียว ไม่มีจิตไปร่วมคือ กายนี่คือเจ๊งเลย สุญโญเลย คนที่เข้าใจว่ากาย คือ วัตถุอย่างเดียว ไปไม่รอดไม่เข้าใจศาสนาพุทธ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 09 ตุลาคม 2562 ( 08:23:55 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:48:18 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:46:42 )

พีชนิยามมีสัญญากับสังขาร

รายละเอียด

ตั้งแต่อุตุนิยามที่เรียกว่า อุตุนิยาม ขยับมาเป็นพีชนิยามก็มีสัญญากับสังขารก็มี 2 มันกำหนดเกลือแร่ธาตุอะไรเป็นตัวมัน แล้วก็เอาธาตุนั้นมาสร้างมาสังขารตัวมันตลอดเวลา มีสัญญากำหนดรู้แล้วเอามาสังขาร ยังไม่มีเวทนายังไม่มีจิตวิญญาณสำหรับพืช แต่มันก็มีสภาวะ 2 ตัวสัญญากำหนดรู้และก็ตัวสังขารตัวเองเป็นตัวเองสร้างตัวเอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(โพธิปักขิยธรรม 37) ตอน ตีให้แตกแยกให้ออกในธรรมะ 2


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:12:59 )

พีชนิยามมีสัญญากับสังขาร

รายละเอียด

“บุญ”เป็น“โลกุตรธรรม”แท้ๆ ที่มีความหมาย“พิเศษสุด” เป็น “เอกังสะ-เป็นเอกังเสนะ(แต่ถ่ายเดียว)” เพราะเป็น“พลังงาน”เช่นเดียวกันกับ“พลังงาน”ที่เป็น“อุตุนิยาม”ทั้งหลาย “บุญ”ไม่ใช่แม้แต่เป็น“พีชนิยาม” เพราะ“บุญ”ยังไม่มี“ชีวะ” “พีชนิยาม”นั้นมี“ชีวะ”แล้ว มี“สัญญา” กับ“สังขาร”ที่ปรุงแต่งธาตุให้เป็น“ตนเอง”ได้ แต่“อุตุนิยาม”ยังไม่มี“สัญญา”นะ ยังไม่มี“ความกำหนดรู้”เป็นของ“ตนเอง” “ตัวตน”หรือ“รูปร่าง”ที่รวมตัวกันอยู่ได้ของ“ธาตุอุตุนิยาม”นั้นเกิดจาก“พลังงานทางฟิสิกส์” หรือ“พลังงานวิทยาศาสตร์ที่เป็นความร้อนแสงเสียงแม่เหล็กไฟฟ้าแห่งสสารเป็นต้นเท่านั้น”  ล้วนเป็นได้แค่“อุตุนิยาม”  “บุญ”ยังไม่มีสภาพเป็น“ชีวะ”เลย  “บุญ”ยังเป็นแม้แต่“พีชนิยาม”ก็ไม่ได้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 21 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 06 มีนาคม 2564 ( 11:47:28 )

พีชะ

รายละเอียด

พีชะ  คือ เป็นพลังงานที่เป็นอรูป ไม่เป็นพลังงานจิตนิยามก็ไม่บันทึกอะไร ไม่มีวิบากที่ต้องเวียนวน

1. เชื้อ , เค้ามูล

2. พืช , พลังงานชีวะที่ไม่มีความรู้สึกหรือไม่มีอารมณ์(ไม่มีเวทนา) มีแต่สัญญากับสังขาร ไม่มีบาป – บุญ  ดี – ชั่ว  ไม่รู้จักกรรม ไม่สั่งสมวิบาก

เป็นพลังงานที่เป็นอรูป ไม่เป็นพลังงานจิตนิยามก็ไม่บันทึกอะไร ไม่มีวิบากที่ต้องเวียนวน

คำอธิบาย

พีชะ คือ ไม่ใช่กาย เพราะไม่มีความสุข ความทุกข์ ไม่มีความรู้สึก แต่มันมี ชีวะต้องเลี้ยงดูมันอยู่จึงมีชีวิต ต้องเรียนรู้อาการจิต  แล้วทำจิตให้เป็นพีชนิยาม มีธาตุรู้ทำงานเป็นชีวะ อะไรที่ไม่ใช่กาย  แต่มันอยู่กับตัวเรา คุณทำจิตให้เป็นพีชธาตุ แล้วคุณก็ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ ไม่ไประรานไม่ไปเบียดเบียนใครเลย  ต้องทำใจให้มีคุณลักษณะนี้  ถ้าทำใจในใจไม่ได้อย่างนี้ ก็เป็นอรหันต์ไม่ได้

(รายการวิถีอารยธรรม  บ้านราชฯ  (วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562))

พีชะ  คือ  ไม่มีเวทนา  ไม่มีวิญญาณ มีสังขารกับสัญญา

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช (วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2562)

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 68(วันจันทร์ที่ 9 เดือนกันยายน 2562)

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 195

เปิดโลกเทวดา หน้า12-15 

 


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:13:01 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:53:59 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:59:45 )

พีชะ

รายละเอียด

พลังงานที่มีสมบัติถึงขั้น "ชีวะ" ได้แก่ พลังงานที่เรียกว่า "พีชะ" และ "จิต" พลังงานในความเป็น "พีชะ" แม้จะเป็นพลังงานที่มีสมบัติเข้าขั้น "ชีวะ" (ความเป็นชีพ,ความมีชีวิต) แต่ "ชีวะ" ที่อยู่ในขอบเขตของ "พีชะ" นี้ก็คือ พลังงานชีวะที่ไม่มีความรู้สึกหรือไม่มีอารมณ์ ภาษาบาลีว่า "ไม่มีเวทนา" เช่น ไม่มีสุขทุกข์ ไม่มีรักชัง ไม่มีเจ็บปวด ไม่มีรสอร่อย ไม่มีเพลิดเพลินสนุกสนาน ไม่มีเศร้าสลดรันทด มีแต่ "สัญญา"กับ "สังขาร"

"สัญญา" ก็คือ ความกำหนดรู้ เช่น พลังงานชีวะในต้นไม้มีการกำหนดรู้ธาตุที่มันต้องการหรือไม่ต้องการ ตามความจำเป็นที่ต้องเป็นสมบัติของมัน

"สังขาร" ก็คือ การปรุงแต่ง เช่น พลังงานชีวะในต้นไม้ สามารถปรุงแต่งพลังงานในชีวะของมัน ใช้พลังงานสังเคราะห์ธาตุต่างๆในชีวะของมัน

"พีชะ" ยังไม่มีบาป ไม่มีบุญ ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ไม่รู้จักดีชั่ว ไม่รู้จัก "กรรม" ไม่สั่งสมวิบาก

หนังสืออ้างอิง

เปิดโลกเทวดา หน้า 13


เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 14:10:13 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:21:39 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:47:20 )

พีชะ

รายละเอียด

พีชะปรุงแต่งกันด้วยธาตุต่างๆ ตามที่มันมีความแตกต่างกันไป เป็นสังขารของแต่ละอย่างแต่ละชื่อแต่ละสมมติแต่ละเรื่องของมัน ก็เป็นตระกูลของมันเป็นหมวดหมู่ของมันไป 

ที่มา ที่ไป

รายการบ้านราช กายนี้คือวิญญาณ วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:36:04 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:55:32 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:00:08 )

พีชะ

รายละเอียด

นั้นคือพืช มาเรียกเป็นไทยว่าพืชผักผลไม้ เป็นชีวะแล้วมีตัวเองเป็นประธานในตัวเองสามเส้า มีธาตุบวก ลบ และประธาน พืชก็มีเพศผู้เพศเมียผสมพันธุ์วนเวียน พืชต่างกับสัตว์ตรงที่พืชไม่มีทุกข์ไม่มีสุขไม่มีบาปไม่มีบุญ ไม่มีวิบากบาปวิบากบุญ เพราะฉะนั้นคนกินพืชไม่มีวิบาก ที่จะจองเวรจองกรรมไม่ว่าจะรัก ผูกพันดูดดื่มไม่มีมีแต่ตัวเองรักตัวเองผูกพันตัวเอง มันหมดพลังเหนียวที่ถูกสลายแล้วเสื่อมก็กระจายแยกธาตุเป็นอุตุ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 07:42:45 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 15:25:02 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:00:37 )

พีชะ มันไม่ทุกข์ไม่สุข นี่เป็นเกณฑ์ของการตรัสรู้เป็นอรหันต์ หมดสุขหมดทุกข์

รายละเอียด

กายต้องมี 2 ถ้ามันไม่ใช่กายแล้วมันมี 1 เป็น พีชะ มันไม่ทุกข์ไม่สุข นี่เป็นเกณฑ์ของการตรัสรู้เป็นอรหันต์ หมดสุขหมดทุกข์ เอาตรงนี้ไม่สำคัญ ในจิตของคุณจะไปยึดถือสิ่งใดก็แล้วแต่ เป็นเราหรือไม่เป็นเรา ถ้ายึดเป็นเราก็คือเป็นกาย ถ้าไม่เป็นเรามันไม่เป็นกาย

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:40:46 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:05:30 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:01:08 )

พีชะ มีอนุปาทินกสังขาร

รายละเอียด

โดยเฉพาะทำให้เป็น พีชะ ตัวกลาง พีชะ มันมีแต่สัญญากับสังขาร มันไม่มีเวทนามันไม่ใช่วิญญาณ เป็นพลังงานที่ไม่มีวิญญาณครอง ยังไม่บริบูรณ์ เป็นวิญญาณ เรียกว่า อนุปาทินกสังขาร สังขารที่ไม่มีวิญญาณครองและไม่มีกรรมครอง สังขารที่ปรุงแต่งอย่างไรก็ไม่เกิดกรรมวิบาก สั่งสมอกุศลกุศล สั่งสมวิบาก โดยเฉพาะมันทำบุญไม่เป็นหรอก แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ทำบุญไม่เป็น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจด้วยฌานทั้ง 4


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 14:24:13 )

พีชะจิตของพระอรหันต์

รายละเอียด

คุณสมบัติของ พีชธาตุ พระพุทธเจ้าก็เอามาใช้ทำจิตของเราให้เป็นพีชะ ในเป็นๆนี่ เอาไว้อาศัย พระอรหันต์ก็อาศัย ความเป็นพีชะ เพราะยังไม่ได้สลายร่างกาย หากสลาย อาการ 32 ก็แยกเป็นอุตุ ดินน้ำไฟลม ไม่มีธาตุจิตเหลือ จะมีเศษพีชะเหลือนิดหน่อยไม่รวมตัวกันอีกได้ เป็นการสลายไปเลย เมื่อปรินิพพานเป็นปริโยสาน สิ้นรอบสุดท้ายของพระอรหันต์ที่จะตาย 0 หรือพระปัจเจกพระพุทธเจ้าพระพุทธเจ้าที่จะตาย 0 อรหันต์รู้แล้วทำได้ อรหันต์ทุกองค์  ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ จะเป็นพระอรหันต์ นิพพานได้ ถ้าผู้ที่ยังไม่ถึงขั้นอรหันต์ ก็จะเป็นได้แค่อาสวะบางอย่างสิ้น มาดูอาสวะบางอย่างสิ้น ในพระไตรปิฎกจะมีที่เล่ม 36 กับเล่ม 13 อาตมาอธิบายจากสภาวะของตัวเอง ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เลือกเอา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:46:21 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:57:43 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:01:56 )

พีชะธาตุ

รายละเอียด

คำว่าตัวตนของตน หมายถึงสภาพที่มีถ้ารู้เข้าไปในจิต เป็นจิตวิญญาณเลยนี่แหละ เป็นตัวตนที่แท้ เป็นพีชะ เริ่มจะมีธาตุรู้ในตัวเอง ISH สามธาตุรู้ มีบวกมีลบและมีประธานควบคุม ISH ของตนอย่างพืชนี้ ดอกไม้นี้ชื่อรักแรกพบ มี 2 สี สีชมพูกับสีขาวล้วน มีรูปทรงของดอกแปลกดีและเหมือนกัน ชื่อรู้สึกว่าหวานจ๋อยเลยนะ พืชมันเปรียบเทียบแต่ในตัวมันเอง มันมีแต่สัญญากับสังขาร ไม่มีวิญญาณ ไม่มีเวทนา

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 10:06:33 )

พีชะนิยาม

รายละเอียด

นิยาม คือ การเริ่มเป็นชีวิต  แต่เป็นชีวิตที่เป็นธาตุรู้เกิดแค่สัญญากับสังขารในขันธ์ 5  ก็มีพลังงาน ดิน น้ำ ไฟ ลม วิทยาศาสตร์ สามารถแยกแยะเอามาใช้งานได้

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายราย การสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 71  30กันยายน  พ.ศ. 2562


เวลาบันทึก 03 ตุลาคม 2562 ( 17:22:44 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:59:27 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:47:54 )

พีชะมีสรีระ แต่ไม่มีกายะ

รายละเอียด

ในความเป็นพีชะมันมีรูปร่างมันมีสรีระ สรีรัง แต่ไม่มีกายัง ไม่มีกายะ สรีระกับกาย พยัญชนะ 2 ตัวนี้จึงต่างกัน สรีระนั้นมีแต่รูปวัตถุจับตัวกันอยู่เป็นรูปธรรม ส่วนกายะ นั้นมีทั้งรูปและนามไม่แยกกันนะ กายะ ต้องมี 2 เสมอโดยเฉพาะต้องมีจิตเป็นหลัก กายต้องมีจิตเป็นหลัก แต่คนไทยไปเข้าใจว่ากายมีวัตถุเป็นหลักไม่มีจิตเลย หลงทะเลยะเยือกเย็นเลย หมดประตูที่จะมาตรัสรู้ที่จะบรรลุ ถ้าเข้าใจกายผิด เข้าใจกายเป็นวัตถุเท่านั้น น่าสงสาร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนรู้วิญญาณฐิติ 7ให้ถึงอรหันต์ 

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 16:06:21 )

พีชะไม่เบียดเบียนใครเป็นสภาพอิสระ

รายละเอียด

พอพลังงานที่สูงขึ้นเป็นพืช พีชะ มันต้องมีตัวเองแล้วมี ISH  I คือตัวเรา S คือ she  H คือ he ลบคือ she บวกคือ he พีชะมีแล้วแต่มันไม่รู้ตัวมันหรอกมันไม่รู้อัตตาตัวเอง แต่มันก็เป็นอัตตาส่วนนึงแล้ว  มันมี SH เอาสองส่วนนี้มารวมกันเกิดตัวเอง พยายามไม่เบียดเบียนใครเป็นสภาพอิสระ เจอธาตุอันนี้เอา ธาตุอันนี้ไม่เอา แย่งเขาได้ก็เอามันไม่แย่งหรอกมันดูดเอา เป็นพลังงานอุตุที่มันดูดเอา มันก็ไม่ไปแย่งจากพืชเท่าไหร่หรอก มันก็จะแย่งจากอุตุเป็นหลักเป็นดินน้ำไฟลม เป็นตัวเองได้ ได้ไม่พอก็ซูบซีดไปก็ร่วงโรยเหี่ยวแห้งตาย หากพัฒนาขึ้นไปก็เป็นพัฒนาเป็นพืชชนิดที่ ต้นเป็นพืชที่มันมีอะไรในตัวเองเคลื่อนไหวได้เป็นพืชใต้น้ำจะมีเยอะ เคลื่อนไหวตัวเองได้ พืชบนบกเช่นพวกไมยราพเป็นต้น ซึ่งมันมีรายละเอียดเยอะ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 03 มิถุนายน 2563 ( 10:18:19 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 16:00:08 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:02:42 )

พึงสละเพื่อรักษา

รายละเอียด

การสละชีวิตได้นี้เป็นธรรมของสัตบุรุษ 

สัตบุรุษทั้งหลายย่อมมีปฏิญาณเป็นสัจจะโดยแท้

ดูกรพระราชาผู้ประเสริฐสุด พระองค์จงทรงสมบูรณ์ด้วยธรรมข้อนั้นเถิด

นรชนพึงสละทรัพย์เพราะเหตุแห่งอวัยวะอันประเสริฐ  เมื่อจะรักษาชีวิตไว้พึงสละอวัยวะ  เมื่อระลึกถึงธรรมพึงสละทั้งอวัยวะ ทั้งทรัพย์  และแม้ชีวิตทั้งหมด.

 

ที่มา ที่ไป

เล่ม 28 ข้อ 382

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2562 ( 20:20:03 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:02:18 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:48:44 )

พึ่งพาตนเองได้ถึงที่สุดคือใคร

รายละเอียด

ผู้ที่จะพึ่งตนเองสูงสุดได้คือพระอรหันต์เจ้า เอาเกณฑ์นั้น “พระอรหันต์” ถือว่าพึ่งพาตนเองได้ถึงที่สุด ไม่ใช่ที่สุดที่จะให้คนอื่นพึ่งได้นะ แต่พึ่งพาตนเองรอดแล้ว สำหรับตนเองนี่ ไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร เป็นคนที่ทำกิน 

1. ไม่เป็นหนี้ 

2. พึ่งตนเองรอด นี่แหละคือ อรหันต์

3. เพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้เหลือ ทำให้เกิน ให้เหลือ ให้มาก ให้เกิน ที่เรากินเราใช้เอง

4. แจก เผื่อแผ่คนอื่น

นี่คือความสำเร็จของคนที่ยิ่งใหญ่ในโลก ทำได้4ข้อนี้ ขายก็ขายให้ถูกต่ำกว่าทุน แจกได้ก็แจกเลย สุดยอด 4 ประเด็นนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทำไมสายศรัทธาจึงช้าและยากกว่าสายปัญญา วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 31 สิงหาคม 2565 ( 14:35:55 )

พืช

รายละเอียด

พืช คือ ภาษาวิชาการว่า พีชนิยาม เป็นระดับที่ต่างกันระหว่างพืชกับสัตว์

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 68 วันจันทร์  9 เดือนกันยายน 2562


เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 14:17:27 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:03:37 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:03:19 )

พืช

รายละเอียด

คือเป็นชีวะ ไม่มีเวทนา ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2562 ( 12:49:37 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:04:35 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:03:45 )

พืช

รายละเอียด

“พืช”ยังแยก“ดี”แยก“ชั่ว”ใน“กรรมกิริยา”ไม่ได้เลย “พืช”มันก็แค่พัฒนาเนื้อหาสาระของตัวมันเองเท่านั้น

      “พืช”ก็พัฒนาหรือเสื่อมไปตามเหตุปัจจัยแวดล้อม มากกว่า เพาะพืชมันยังไม่มีความเป็น“ตัวตน”แข็งแรงพอ

      “สัตว์”ก็จะมี“พลังความเป็นตัวตน”แข็งแรงกว่า“พืช”

      “สัตว์”เริ่มพอรู้ว่า อะไรควร-อะไรไม่ควร จึงมีพัฒนา

การ คือ“สัตว์”เริ่มจะสามารถแยก“กุศล”แยก“อกุศล”ได้ไปตามลำดับของ“สัตว์”ที่เจริญสูงขึ้นตาม“ขั้นชั้น”แต่ละขั้นๆ

      แต่“สัตว์”ก็ยังไม่ยึดถือจริงจัง“ดี-ชั่วเป็นเรื่องสำคัญ ทำชั่วก็ได้ขอให้ได้ทรัพย์สินเงินทองลาภยศอย่างที่เห็นกันในนักการเมืองเจ้าประคุณเอย ดูแล้วเบื่อไม่ลงเลยนะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาต้อนรับปีใหม่ 2567 เรื่องปฏิจจสมุปบาท ตอน 2 วันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567 แรม 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 มกราคม 2567 ( 20:01:53 )

พืช (พืชนิยาม)

รายละเอียด

มีขันธ์ 3 คือ รูปขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ ไม่มีกรรมวิบาก พืชยังไม่มีวิญญาณสืบต่อชาติข้ามชาติไปได้ พืชสืบต่อ DNA ของอรูปเท่านั้น ซึ่งความเป็นพืชนั้นๆหมดพลังงานที่จะหมุนวนชีวะต่อไป พืชก็จบสิ้น DNA ที่เป็นแค่พีชนิยาม พืชจึงยังไม่มีพลังงานแห่งอัตตา ข้ามชาติยังจองเวรจองกรรมกันไม่ได้ รักโกรธกันไม่เป็น ที่สำคัญยิ่ง คือ ยังไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ ที่พุทธศาสนาศึกษาเป็นโลกุตระ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:04:45 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:08:03 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:49:35 )

พืช มีตัวตน ไม่แน่นถึงขั้นถึงตน

รายละเอียด

ใช่ ไม่ยึดตัวตนทีเดียว คำว่า เป็นชีวะในระดับพืช มันก็ยึดตัวในตนของมัน ยึดตัวเองอย่างเป็นตัวเอง เป็นตัวกูของกูขึ้นมา เริ่มมาแต่ยังไม่ยึดมากจนกระทั่งใครมาแตะไม่ได้ ใครมาเบียดเบียนไม่ได้ อาฆาตมาดร้าย มีวิบาก ยัง คือพืชนี่ เริ่มเป็นชีวะแล้ว มีธาตุรู้ เริ่มมี I แล้ว มีตัวตนแล้ว มีตัวกูของกูขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่ยึดมั่นถือมั่น ยึดแต่แค่ตัวเอง ไม่ไปยึดไม่มีพลังเข้าไปถือสาอันอื่น 

เพราะฉะนั้น ถ้าเรากินพืช เราเด็ดพืช เราฆ่าพืช ไม่มีกรรมไม่มีวิบาก ไม่ต้องเวียนวนมาใช้หนี้บาปใช้หนี้บุญกัน ตรงนี้แหละเป็นเรื่องที่สุดยาก ในเทวนิยมจะไม่เข้าใจในเรื่องต้องเวียนวนมาใช้หนี้บาปหนี้บุญ ในเทวนิยมในศาสนาที่เป็นพระเจ้า ไม่รู้เรื่องกรรมเรื่องวิบาก ไม่รู้เรื่องการใช้หนี้บาป ใช้หนี้บุญอะไรเลย ใช้หนี้กุศลอะไรกันเลย ไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นเขาจะยากที่จะรู้เรื่อง บุพเพสันนิวาส การเกิดหมุนเวียนมาใช้หนี้กรรมวิบากชาติแล้วชาติเล่า เขาจะไม่รู้ 

ฉะนั้นมันไม่แปลกประหลาดหรอกในขณะนี้ ละครของหนังใหญ่หรือซีรีย์ที่มันไปชนะในระดับประกวดโลกตอนนี้ บุพเพสันนิวาส 2 มันชนะรางวัลที่ 1 เลย ของโลกเลย มันไม่ใช่เรื่องแปลก มันเป็นเรื่องใหม่ มันเป็นเรื่องที่ทำให้คนเขาตาพองโต ทึ่งเลย มนุษยชาติเป็นอย่างนี้ด้วยหรือ โลกเทวนิยมโลกข้างนอกเขาเริ่มเปิดแล้ว ละครหนังเรื่องที่ไปประกวดบุพเพสันนิวาส 2 ไปชนะมานี่ มันกำลังเบิกตาชาวโลกขึ้นมา 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 60 ยากที่สุดในโลกนี่แหละคือความเป็น 2 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2565 ( 12:03:54 )

พืช ไม่มีบุพเพสันนิวาสกับใคร 

รายละเอียด

เรามาพูดถึง ชีวะกับพืชกับจิต พืช ธาตุรู้ของมันยังไม่ชื่อว่าเป็นนามธรรม ไม่ข้ามภพข้ามชาติ ไม่รักไม่ชัง ไม่ผูกพัน กับตัวอื่น รักชังของตัวเองก็เกี่ยวกับตัวเองเท่านั้น ยังไม่เรียกว่านามธรรม มันตายมันเกิดก็เฉพาะตัวของมัน จะเรียกว่ามันข้ามภพข้ามชาติ ตัวมันเองก็ในเชื้อของมันข้ามของมันเอง แต่มันไม่เกี่ยวกับใคร ไม่มีบุพเพสันนิวาสกับใคร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 60 ยากที่สุดในโลกนี่แหละคือความเป็น 2 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2565 ( 13:07:48 )

พืชคืออาหารของคนของมนุษย์ที่ดีที่สุด

รายละเอียด

พวกเราน่าจะภาคภูมิใจว่าพวกเราเป็นคนที่มีศีลตั้งแต่ศีลข้อที่ 1 ไม่มีการบกพร่องไม่มีการละเมิด พวกเราเป็นคนมีศีลจริงๆสังวรศีลระวังจริงๆอยู่ในเครื่องกินเครื่องใช้ที่เราทำอยู่ก็สังวรศีลลดละจริงๆ พยายามตื่นรู้อย่าไปหลงหลับใหล ตรงกันกับจรณะ 15 แล้วก็มีความเชื่อว่ามีศรัทธาจริงๆ ว่าเราเป็นคนมีศีลเราเป็นคนดี ไม่ใช่ว่าถือศีลเท่ๆโก้ๆ เขื่องๆไม่ใช่ แต่ถือศีลแล้วจะเป็นคนดีเป็นคนบริสุทธิ์เป็นคนเจริญขึ้นมามีจิตที่เมตตาสัตว์จริง คุณจะมีจิตเมตตาอย่างไรก็แล้วแต่ คุณจะรู้ตัวเอง ก็อยู่กับสัตว์เป็นเพื่อนทุกข์ไม่ใช่พูดแต่ปากแม้แต่สัตว์ใจสัตว์เล็กสัตว์น้อย ก็มีความเอ็นดูหวังประโยชน์ต่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ ไม่ทำร้ายมันจริงๆไม่ละเมิดกันแม้กระทั่งว่า ไม่ต้องกินเนื้อสัตว์เลย กินแต่พืช ก็มั่นใจว่ามันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย กินแต่พืชก็อยู่ได้ แล้วจริงๆก็จริงด้วย เพราะว่าพืชคืออาหารของคนของมนุษย์ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นพวกเรานี่ทำแล้ว โลกทั้งโลกเขาก็จะค่อยๆเข้าใจว่าพวกนี้มันเป็นความรู้ที่ เผินๆตื้นๆ หรือที่จริงมันเป็นความรู้ที่ลึกมาก เป็นคนไม่กินเนื้อสัตว์ ที่มันสำคัญก็คือไม่กินเนื้อสัตว์แล้วเรารู้ได้ว่าเราติดใจในเนื้อสัตว์หรือไม่ เพราะว่าเราไปติดใจในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ไปติดใจในอุปาทานต่างๆ เราไม่มีทางอุปาทานไม่มีทั้ง กาม รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสไม่ติดเลยอันนี้ต่างหาก คือปรมัตถสัจจะที่สุดยอดที่เราไม่กินเนื้อสัตว์ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 8 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 23 เมษายน 2563 ( 13:35:59 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 16:00:54 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:05:45 )

พืชที่ยิ่งใหญ่คือข้าวส่งออกนอกเป็นสินค้าต่างประเทศต้องการที่สุด

รายละเอียด

ข้าวเป็นพืชที่ยิ่งใหญ่ ข้าวคุณปลูกให้ดีแล้วอย่าขายราคาแพง ปลูกให้คุณภาพดีปริมาณมาก ขายให้ถูกให้เป็นราชาข้าวของโลกให้ได้ อาตมาว่าเน้นจุดเด่นนี้ให้ได้ พยายามเน้นแล้วต้องสอน สอนชาวนาให้รู้จักว่าคุณทำนานี้คุณมีเกียรติ จะให้เหรียญให้ Honour เหรียญเกียรติยศ ขออภัย แม้แต่ทางด้านสถาบันก็ให้เหรียญตั้งตระกูลขึ้นเป็นตระกูลใหญ่ที่เป็นอาชีพชาวนาเลย เป็นคุณหญิงคุณนายชาวนา ให้เลย แล้วก็ต้องสอนให้ความรู้ว่า อย่าหลงว่าฉันไฮโซนะ ชาวนานะ ทำนาให้ดี วิจัยการทำนาให้มีคุณภาพปริมาณที่ดี พัฒนาให้เป็นเมืองข้าว มีข้าวส่งออกนอกเป็นสินค้าที่ต่างประเทศต้องการที่สุด อาตมาว่ามันไม่เฟ้อง่ายๆหรอก ข้าว ถ้ามันเหลือคุณก็เอามาทำให้มันเหมือนหญ้า เอามาหว่านให้มันขึ้นหมดเลย ตกลงไม่ต้องทำนา เพราะข้าวมีไปทั่วมันเหมือนหญ้า ถึงเวลาคุณก็ไปเกี่ยวเอาเหมือนในสมัยพระพุทธเจ้ายุคสมัยก่อน ที่มีข้าวสาลีให้คนกินเต็มไปหมด อยู่ไหนก็มีข้าวกินเต็มไปหมดในประเทศไทย อยู่ที่ไหนก็มีข้าวเต็มไปหมดเลย หอมข้าวเต็มประเทศเลย นี่คิดแบบฟุ้งซ่านนะ เป็นนโยบายที่ดี คำว่าพอ เราสันโดษด้วยการมีข้าว เราไม่ต้องไปคิดว่ามีทองคำมีเพชรพลอย เราจะมีข้าวแล้วมีพืชพันธุ์ธัญญาหาร ยังน่าคิดกว่าเราจะไปมีทองคำเราจะไปมีเพชรพลอย แต่เอาเถอะทองคำมันก็มีไม่น้อยหน้าน้อยตาหรอกมีพอสมควร ไม่ต้องไปงมงาย ที่จะต้องไปพิมพ์ธนบัตรออกไปมากในโลก อย่าอย่างไม่มีลิมิตเหมือนกับเงินดอลลาร์อเมริกาทำอย่างทุกวันนี้ ทำไมถึงบอกว่าโลกมันจำนน ให้อเมริกาพิมพ์กระดาษเปื้อนสีแล้วตีราคา เมืองไทยก็ให้ราคาตั้ง 30 กว่าบาทอะไรกันนักกันหนา อาตมาว่าไปเป็นทาสน้ำเงินเขา ไม่เข้าเรื่อง หากเราสันโดษเรามั่นใจว่าใจพอ มีอยู่มีกิน ไม่ต้องไปเอาคุณค่าของเงินมาก 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 15:22:10 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 16:01:16 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:51:04 )

พืชผักภายนอกจะเป็นกายได้อย่างไร

รายละเอียด

ได้ ไปยึดภายนอกตัวตนด้วยซ้ำ ไปยึดเอาโลกทั้งโลกเป็นเรา คุณโง่ อาตมาไม่ได้บอกว่าไอ้โง่นะ เห็นไหมเขาจะยึดอย่างนั้นแล้วเขาก็ทำจริงๆจังๆใช่ไหม อย่างนี้ มันนอกกายตั้งไกลเลยมันเป็นของคนอื่น ส่วนอื่นไม่ใช่ติดอยู่ที่ตัว กายจะต้องสัมผัสอยู่ที่ตัวเอง กาย จะต้องมีสัมผัส กาย หมายถึงสภาพทั้ง 2 อย่าง ต่างกับเทวะ 

เทวะ ก็แปลว่า 2 เทวะนั้นอันอื่นก็ได้ แต่กาย ต้องมีผัสสะติดอยู่ที่ตัวเรา นี่คือนัยะสำคัญที่มันต่างกันประเด็นนึง สงสัยว่าต้นไม้นี่เป็นพีชะหรืออุตุกันแน่ ไขความมาตั้งหลายทีแล้ว นี่ผลไม้ มันกองอยู่หน้าเวทีเลย กองเจ้งเพ่ง ถามพวกเราว่าอันนี้มันเป็นอุตุหรือมันเป็นพีชะ ตัดออกไปแล้วมันเป็นอุตุ  แต่ถ้ามันอยู่ที่ต้นมันเป็นพีชะ แต่ถ้าผลไม้นั้นเราไปยึดว่าเป็นเราเป็นของเรานั้นมันเป็นกายแล้ว ทั้งๆที่อุตุมันตั้งไกล มันไม่ใช่เราเลย มันไม่ใช่ยังติดอยู่กับที่ตัวเรา อยู่ที่ร่างกายสรีระของเรา มันออกไปจากสรีระของเราแล้ว มันไม่ใช่สรีระของเราด้วยซ้ำไป พืช แต่เราไปยึดว่าเป็นเรา 

ผู้หญิงรักผม คนมาตัดผมไป ก็ร้องใหญ่ เขาเอาผมเราไป มันเป็นของเรา เล็บของเรา มันหักหลุดออกไปแล้ว โอ้ยตาย.. มันหลุดไป ไม่ใช่เราแล้วยังยึดว่าเป็นเราอีก เจ็บปวด ใครมาทำเล็บเราเสีย ถ้าตัวเองทำหักทำพังก็เจ็บใจตัวเอง คนอื่นมาทำพังเอาเรื่องเลยนะ ดีไม่ดี เล็บคนที่ทำอย่างสวย รักษา ใครมาทำหักทำพัง ดีไม่ดีถึงฆ่ากันเลยนะ มันหนักหนาสาหัส มันยึดจัดมันจะเป็นขนาดนั้น อย่างนี้เป็นต้น งานปลุกเสกนี้ อาตมาจะอธิบายเรื่อง กาย บอกไว้ก่อน เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ประชาธิปไตยจะอธิบายก่อนไปถึงงาน ในงานปลุกเสกพระแท้ๆ ตั้งใจเตรียมไว้แล้วจะอธิบายเรื่องกาย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เคล็ดวิชา 9 ประการ ของจอมยุทธโลกุตระ วันพุธที่ 22 มีนาคม 2566 ขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 เมษายน 2566 ( 20:13:15 )

พืชพันธุ์ธัญญาหาร จะชนะอาวุธอย่างไร

รายละเอียด

นี่พืชพันธุ์ธัญญาหาร ก็ส่งกันมาจากหลายที่ อาตมาว่าเป็นผลสำเร็จชาวอโศกตั้งใจทำกสิกรรมกัน มะเขือขาว มะเขือยาว มะเขือลูกกลมๆ  มะเขือเทศเล็กๆ มะเขือเทศสีดา ดอกกะหล่ำปลี นี่มาจากดอนตาล ดอกกะหล่ำปลี แตงกวาของบ้านราชเอง เอามาโชว์ไป เราก็อวดสิ่งที่คิดว่าน่าอวด 

เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้นี่ อาตมาอยากจะพิสูจน์ พากันพิสูจน์ จริงๆนะอาตมามั่นใจว่ามันจะชนะอาวุธ พืชพันธุ์ธัญญาหารที่เป็นอาหารของมนุษย์ มันจะชนะอาวุธในอนาคต การเก่งฆ่าคนกับการเก่งทำให้ชีวิตคนยืนยาวไปด้วยอาหาร ใครมันจะเก่งกว่ากัน ใครมันจะมีคุณค่าประโยชน์กว่ากัน ง่ายๆไม่เห็นยากตรงไหนเลย เด็กๆก็เข้าใจได้ ไม่ต้องเป็นผู้ใหญ่อะไรเลย แล้วไปตั้งหน้าตั้งตาทำอะไร อันนั้นมันเป็นกิเลสของเขา มันเป็นอวิชชาของเขา เขาก็ต้องทำตามอวิชชา ตามกิเลสของเขา เรารู้แล้ว เราชนะแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชนะมารอย่างไร้สารพิษ สุจริตแท้ ด้วยพหุงฯ 8 วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:52:01 )

พืชพันธุ์ธัญญาหารยิ่งใหญ่กว่าสัตว์

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นมาเข้าเป้าตรงที่ว่าสมุนไพร พวกเราชาวอโศก อาตมาขอบอกเลยว่า มาเป็นกสิกร ในเรื่องของคนในเรื่องของงาน มหาวิทยาลัยเกษตรเขาเรียนทั้งประมงทั้งปสุสัตว์ของเราไม่เรียนประมงปศุสัตว์ เราเรียนกสิกรรมอย่างเดียว เขาเรียกมหาวิทยาลัยเกษตร ซึ่งครอบคลุมทั้งประมงและปศุสัตว์ ของเราเรียนกสิกรรม เอาอันนี้ให้ยิ่งใหญ่ เอาอันนี้ให้เด่น ทำจริงๆ ทำขยายผลไป ให้มันเกิดผลผลิตทั้งหมด แล้วคนกิน คนอาศัยเลี้ยงชีวิต 

คนกินแต่พืชไม่กินสัตว์เลย มีอายุยืนตรงกับความเป็นคน เพราะคนเป็นสัตว์มีเล็บแบบ nail ไม่ใช่เล็บแบบ claw ที่เป็นเล็บเหยี่ยวเล็บเสือ มีเขี้ยว แต่นี่มัน nail มีกรามไม่ได้มีเขี้ยว มีฟันกราม ไม่ใช่ฟันเขี้ยวเป็นหลัก แม้แต่ต่างๆนานา น้ำย่อย ลำไส้อวัยวะต่างๆ คนคือสัตว์กินพืชไม่ใช่สัตว์กินเนื้อสัตว์แต่ก็ไปหลงไปกินเนื้อสัตว์หลายพันปีมาแล้ว เลยหลงติด จนกระทั่งสอนทางจิตวิญญาณไม่รู้ได้ง่ายๆแล้วติดยึดไม่รู้ง่ายว่าติดยึดกินเนื้อสัตว์ พูดไปเถอะ เพราะฉะนั้นคนกว่าจะเป็นคนศิวิไลซ์กว่าจะเจริญมา มารู้จักว่า พืช พืชพันธุ์ธัญญาหารยิ่งใหญ่กว่าสัตว์ เพราะสัตว์ต้องอาศัยพืช 

พืชไม่ต้องอาศัยสัตว์เลยก็ได้ แต่สัตว์มันต้องอาศัยพืช แม้ว่าเป็นสัตว์ที่กินเนื้อสัตว์มันก็เป็นเรื่องของวิบากกรรมชนิดหนึ่ง เพราะว่ากินเนื้อสัตว์มันยังมีวิบากอีกมาก เพราะมันจะแก้แค้นกันไปอีกนานนับชาติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 49 ตอบไทยรัฐทีวีเรื่องสมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 10 กันยายน 2565 ( 14:11:26 )

พืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นที่หนึ่งกว่าเนื้อสัตว์

รายละเอียด

แม้แต่ที่สุดอาหารพืชพันธุ์ธัญญาหารกับอาหารเนื้อสัตว์ คู่นี้ก็คู่นึง รับรองว่าอาหารพืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นที่หนึ่งกว่าเนื้อสัตว์แน่นอน จริงๆ พืชพันธุ์ธัญญาหารกับเนื้อสัตว์นี่ ไม่เอายากหรอกเอาง่ายๆ คุณจะเลี้ยงสัตว์มากินกับปลูกพืชผักมากินอะไรมันจะเร็วกว่ากัน ก็ผักพืช แค่นี้ก็ชนะขาดแล้ว เขาได้เทียบกันแล้ว เคยได้ยินมา ว่าจะเลี้ยงสัตว์ตัวหนึ่งได้เนื้อสัตว์มา 1 กิโลกรัม กับจะทำพืช 1 กิโลกรัม ต้องใช้องค์ประกอบ พื้นที่แรงงาน รวมเข้าไปสูงกว่ากันถึง 9 เท่า เพราะฉะนั้นกว่าจะได้เนื้อสัตว์มากินแล้วได้ประโยชน์แค่นั้น แล้วยิ่งมีโทษแฝงมากกว่าด้วย กับได้พืช 1 กิโลเท่ากัน แล้วมีโทษต่างกัน อันนี้เดินเร็วกว่าสะดวกกว่าโทษน้อยกว่าอะไรต่างๆนานาซับซ้อน สถิติข้อเปรียบเทียบพวกนี้ เอาเถอะพิสูจน์กันไปต้องใช้เวลาหน่อย ทุกวันนี้ก็เพิ่มขึ้นนะ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 07 กันยายน 2563 ( 09:56:46 )

พืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นอาหารกลาง

รายละเอียด

มนุษยชาติแม้แต่สัตว์โลกก็ยังอาศัยกินพืชพันธุ์ เราปลูกไว้มันก็มากิน วัวควายบางทีมันก็มากิน พืชพันธุ์ธัญญาหารเป็นอาหารกลาง สัตว์ทั้งหลายแหล่กินหมด คนก็กินพืชพันธุ์ธัญญาหาร แม้แต่แมลงเล็กแมลงน้อยยังกินเลย จนกระทั่งถึงสัตว์ใหญ่ ขนาดระดับไดโนเสาร์มันก็กินพืชพันธุ์ธัญญาหาร หรือในแม่น้ำ สัตว์ใหญ่จริงๆมันก็กินเล็กๆ เช่น แพลงตอน กินแหนแดง ตอนนี้เรากำลังพยายามเผยแพร่สร้างแหนแดงขึ้นมา 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 19:49:14 )

พืชมีบวกกับลบ

รายละเอียด

ก็เหลือ ย แล้วเขาก็เลยเอา อะ มาใส่เป็นอะยะ ก็เริ่มเป็น 2 ธาตุ เป็นบวกกับลบ 2 ถ้าบวกกับลบเข้ามาสัมพันธ์กันเกี่ยวกับการ ดูดกันก็เรียกว่า ยางเหนียว อะยะ มันจะเริ่มต้นไปต่อไปเรื่อยๆเลย อยะ สยะ เริ่ม อะ แล้วก็มี ย ร ล ว ส เดี๋ยวมันจะละเอียดเกินไป เมื่อเป็นพืชมีบวกกับลบ เป็นสองธาตุ แน่นอนเป็นพลังงานบวกกับลบ มาเป็นพืชก็มีบวกลบ มาเป็นสัตว์ก็มีบวกลบ มีสภาพ 2 ขึ้นมา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 60 ยากที่สุดในโลกนี่แหละคือความเป็น 2 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2565 ( 13:13:28 )

พืชมีแต่ขันธ์ 3 ไม่มีเวทนากับวิญญาณครอง

รายละเอียด

ธรรมะเดียว โดยเฉพาะไม่มีธรรมะที่เป็นรูปธรรม มีแต่อุตุนิยามหรือพีชนิยามก็ไม่มีวิญญาณ เพราะพืชมีแต่สัญญากับสังขาร ไม่มีเวทนากับวิญญาณครอง สัตว์จะมีขันธ์ 5 ครบ พืชมีแต่ขันธ์ 3 ไม่เจ็บปวดไม่รักไม่ชังไม่สะสมอาฆาตพยาบาท ไม่สะสมกามพยาบาท พืชไม่มีแบบนั้น

อาตมาไม่เคยเห็นพระที่ไหนสอนอย่างนี้ อย่างอาตมาสอนเรื่องนิยามชีวิต 5 อาตมามั่นใจ ยืนยันว่าไม่ผิด ถ้าผิดอาตมาบาปมหาศาล จะไปทำผิดทำไม เพราะทำงานไม่ได้แลกลาภยศสรรเสริญ มีแต่ถูกด่าด้วย แล้วอาตมาไม่ใช่มาโซคิสม์ที่ยินดีเมื่อถูกเขาด่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 16:09:13 )

พืชเป็นธาตุรู้ไม่มีกรรมครอง ไม่มีบุญบาป

รายละเอียด

ก็อย่าไปรวมกันมันต้องแยกกัน  ทำความเข้าใจให้ได้ว่าเวทนาคืออะไรตั้งแต่รูป รูปคือสิ่งที่ถูกรู้ รูปจะเกิดมาถ้าเป็นอุตุธาตุมันไม่มีวิญญาณธาตุร่วมด้วย มีธาตุจิตร่วมด้วยมันก็เป็นดินน้ำไฟลม เพราะเริ่มมีชีวิตมีชีวะเข้ามันก็มีธาตุรู้ที่เข้าไปกำหนดเป็นสัญญาสังขารเป็นพืช เป็นพืชที่มันไม่มีชีวิตอยู่เมื่อตัดออกมาแล้ว เช่นน้ำเต้า แตง ส้มโอ พวกนี้เป็นพืชเป็นชีวะ อาตมาก็แยกแยะขยายให้ฟังแล้วว่าอุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยามเป็นอย่างไร พืชเป็นธาตุรู้ที่ไม่มีกรรมครองไม่มีบาปไม่มีบุญ ไม่มีการจองเวรจองกรรม ไม่มีการยึดมั่นถือมั่น ก็ยึดพอสมควรให้ตัวมันอยู่ได้ หากมันหาธาตุมาปรุงแต่งตัวเองไม่ได้ก็เสื่อมสลายไป

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 11:23:56 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 15:27:24 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:06:17 )

พืชเป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสัตว์โลก

รายละเอียด

คุณลักษณะอันวิเศษของพืชที่ไม่เบียดเบียนใครเลย มีแต่สร้างตนเองเพื่อประโยชน์ผู้อื่น พืชเป็นอาหารให้แก่สัตว์ เป็นอาหารให้แก่คน ก็ยิ่งใหญ่แล้ว พืชเป็นอาหารให้แก่สัตว์และคน หรือพืชใหญ่ๆ ยังเป็นที่พักพิงอาศัย กลายมาเป็นต้นไม้กลายมาเป็นแก่นแกนใช้ได้หมด ใช้ทั้งใบทั้งดอกทั้งต้นให้คนอาศัยทั้งนั้นเลย พืช พีชนิยาม จึงเป็นตัวประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสัตว์โลก ตั้งแต่เล็กจนกระทั่งใหญ่ที่สุด 

มีพืชอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็คนนี้แหละเป็นตัวเอามาใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่ามันไม่ใช่คน ก็เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของสัตว์ต่างๆได้มาอาศัยทุกอย่างเลยนะ เพราะฉะนั้นพืชจึงยิ่งใหญ่ในโลกที่เป็นประโยชน์คุณค่า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนรู้โลก 9 แบบ จนเป็นมนุษย์พืชมหัศจรรย์ วันพุธที่ 19 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 มีนาคม 2565 ( 21:26:37 )

พืชและสัตว์ยังไม่มีธาตุรู้ที่วิเศษถึงขั้นรู้บาปบุญ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นจะเปลี่ยนจนกระทั่งรู้ว่ามันปรุงแต่งกันอยู่อย่างไร ตั้งแต่อุตุมันปรุงแต่งกันอย่างไร เป็นพืชมันปรุงแต่งกันอยู่อย่างไร ปรุงแต่งกันขนาดนี้มันมีสิ่งที่เป็นธาตุรู้ อ๋อ.. พืชมันมีธาตุรู้ที่ยังไม่สามารถรู้เวทนา ความรู้มันจะเป็นสังขารที่ยังไม่มีวิญญาณครอง ยังไม่มีเวทนาครอง ยังไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่มีวิญญาณครอง ไม่มีบาปไม่มีบุญ ไม่มีธาตุรู้ที่วิเศษถึงขั้นรู้บาปบุญได้ 

แม้มาเป็นสัตว์แล้ว ก็ยังไม่รู้บาปบุญ สัตว์ประเภทที่ศาสดายังไม่สามารถที่จะรู้ถึงขั้นพระพุทธเจ้า ก็รู้แต่ว่า ดีและชั่ว กุศลกับอกุศล บุญ บาป ยังไม่รู้ เขาก็เอาภาษาคำว่าบุญและบาปไปใช้เหมือนกับใช้คำว่ากุศล อกุศล

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

พระอรหันต์เป็นผู้มีความรู้เรื่องอาหารดีกว่าคนโลกีย์


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 15:58:18 )

พืชไม่มีวิบาก สัตว์เป็นจิตนิยาม มีวิบาก

รายละเอียด

ที่ถามมา ก็เคยอธิบายไป พืชไม่มีวิบาก ไม่มีกรรม ไม่มีบาปไม่มีบุญ ไม่มีกุศลอกุศล แต่สัตว์ตั้งแต่เริ่มเซลล์เดียว เป็นจิตนิยามไม่ใช่พีชนิยาม มีวิบาก 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2563 ( 09:38:13 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 16:01:45 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:51:29 )

พืชไม่มีวิบากกรรม

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น มันเป็นชีวะ ยังเป็นชีวิตอยู่ แต่ถ้าจิตวิญญาณมัน สามารถทำให้มีความเป็นพืชหรือเป็นพีชะ เป็นพีชนิยามหรือเป็นพีชธาตุได้ เป็นลักษณะเหมือนพืชได้ พืช ไม่มีเวทนา ไม่มีวิญญาณ เพราะฉะนั้น พืชจึงไม่มีวิบากกรรม จิตวิญญาณที่ตกลงไปถึงขั้นพืช หมดแล้วที่จะมีจองเวรจองกรรม จองบาปจองบุญอะไร ไม่มีแล้ว พืชจึงไม่เกิดบาปเกิดบุญจะเป็นจะตายอย่างไร แล้วจัดการกับชีวะของพืช พืชก็ไม่มีตัวที่จะมาจองเวรจองกรรม ไม่มีบาปมีบุญอะไร แต่คนที่ยังสับสนอยู่ว่ามันเป็นชีวะ มันก็ต้องมีบาป ก็ว่าไป เขายึดถืออย่างนั้น เข้าใจอย่างนั้นก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรกันต่อ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาโยมบุญ ให้รู้จักทำบุญอย่างถูกพุทธ วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565 แรม 6 ค่ำ   เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 ธันวาคม 2565 ( 11:33:02 )

พืชไม่มีเวทนามีแต่สัญญากับสังขาร

รายละเอียด

ที่จริงพีชะจะเรียกอัตตาก็ไม่เต็ม มีสภาพปรุงแต่งเป็นตัวเองได้แต่ไม่มีเวทนา ไม่มีวิญญาณ มีแต่สังขารกับสัญญา ปรุงแต่งด้วยธาตุ 2 มีชีวะ เป็นประธานตัวมันเองในกรอบขอบพีชะหรือพืชเท่านั้น 

1.เป็นเอกธรรม 2.เป็นเทวธรรม อรหันต์หรือโพธิสัตว์สามารถจัดการจิตให้เป็น 0 1  2 ได้ 

“พีชนิยาม”ซึ่งเริ่มเป็น“สังขาร”ที่เป็น“ชีวะ”ขั้นหนึ่งแล้ว 

คนบางคนก็เถียงว่า กินพืชก็ยังกินชีวิตอยู่ แต่เขาไม่รู้ถึงว่าพืชไม่มีเวทนา มีแต่สัญญา สังขาร เหมือนอุตุ มีพลังงานบวกกับลบ แต่พลังงานพืช มีสัญญา สังขาร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มนุษย์ที่ยังมีทุกข์มีสุขอยู่ก็คือโง่กว่าพืช วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มิถุนายน 2564 ( 20:37:53 )

พืชไม่ระรานแย่งชิงทำพิษภัยแก่สัตว์

รายละเอียด

เรื่องของความเป็นสัตว์อื่น พืชไม่ไประรานแย่งชิงทำพิษภัยแก่สัตว์อื่นเลยนอกจากเขาไม่รู้ก็ไปกระทบ สัตว์เล็กแม้เซลล์เดียวไม่รู้ตัวมันก็หนีเองได้ สัตว์มันหนีได้ก็ไม่ให้ทำ ดีไม่ดีจะโต้ตอบ ต่อสู้ คุณสมบัติพวกนี้ อาตมาเรียนรู้ตามพระพุทธเจ้าก็เข้าใจและเห็นจริง เอามาอธิบายให้เข้าใจ เป็นเรื่องประเสริฐอาตมาเห็นว่าคนเป็นมนุษย์ไม่มีอะไรประเสริฐเท่ามาเรียนรู้สิ่งนี้ แล้วจะทำให้โลกทั้งโลกอยู่กันสุขสบาย อยู่กันดีทั้งพืชและสัตว์ ดินน้ำลมไฟ อยู่กันอย่างดีงามเป็นสุขสำราญ เป็นเรื่องสุดยอด อาตมามีความรู้ตามพระพุทธเจ้าพาทำ ทำมาหลายปี มาปางนี้ทำต่อ ก็อยากจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าที่ท่านได้รู้ทั้งหมดเป็นได้ถึงขนาดไหนสุดยอดแล้วเป็นพระพุทธเจ้า  อาตมาก็อยากจะเป็นอย่างนั้นบ้างก็เลยทำตามมา จนถึงปางนี้ ก็พูดไป ประกาศไปว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ทำตามพระพุทธเจ้ามาจนถึงปางที่ 7 ก็มีคุณสมบัติระดับที่ 8 บ้าง แต่ก็ไม่ต้องไปพูดหรอก ทำจริงก็เป็นจริง จะเป็น 8 เมื่อไหร่ก็ไม่เป็นไรรู้ตัวก็สูงเสียแล้ว ยังไม่รู้ตัวก็ไม่เป็นไรเพราะคุณสมบัตินั้นเป็นจริงอยู่ที่เรามาเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นจริง

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 23 มกราคม 2564 ( 10:43:38 )

พืชไม่ไปรุกรานใคร

รายละเอียด

คือพระพุทธเจ้าจับเอาคุณสมบัติของพืชที่ไม่ไปรุกรานใคร เป็นจิตที่มีประโยชน์  คุณค่ามาก เรียนรู้แล้วเลิกพลังงานเบียดเบียนด้วยพลังงานปัญญา  พลังงานปัญญา เป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่ ร่วมมือกับพลังงานญาณ ฌานเป็นพลังงานไดนามิค

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37บ้านราช วันเสาร์ ที่ 9 พฤศจิกายน 2562)


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 14:38:38 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:11:26 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:07:06 )

พื้นฐานการศึกษาศาสนาพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ถ้ามีพื้นฐานเป็นที่ตั้งอย่างแข็งแรงแล้ว มันไม่มีล้ม เพราะฉะนั้น ศีลเป็นพื้นฐาน ต้องเรียนรู้รายละเอียดของความเป็นจริงที่ว่า 

ศีลข้อที่ 1 หมายความว่าอะไร ประพฤติอะไร ประพฤติแล้วจะได้ผลอะไร 

เอาคำตรัสของพระพุทธเจ้ามาอธิบาย ง่ายๆ ไปเรื่อยๆ

ศีลข้อที่ 1 ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางทัณฑะ วางศาสตรา มีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่.

ศีลข้อที่ 2 ละการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ รับแต่ของที่เขาให้ ต้องการแต่ของที่เขาให้ ไม่ประพฤติตนเป็นขโมย เป็นผู้สะอาดอยู่.

ศีลข้อที่ 3 ละกรรมเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติห่างไกล เว้นขาดจากเมถุนอันเป็นกิจของชาวบ้าน.

เอา 3 ข้อนี้มาสาธยาย ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางทัณฑะ วางศาสตรา มีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่.

อาตมาอ่านเนื้อความคำตรัสคำสอนของพระพุทธเจ้าอันนี้นี่เป็นพื้นฐาน เป็นพื้นฐานของการศึกษาเป็นพื้นฐาน มีพื้นฐานที่เป็นที่ตั้งในการศึกษาศาสนาพระพุทธเจ้า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิธรรม‌ของ‌ศีล‌ข้อ‌ ‌1‌ ‌ที่‌ชาว‌อโศก‌ปฏิบัติ‌ได้‌ ‌วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน2 ปีฉลู


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:53:37 )

พื้นฐานที่ตั้งหลักคือได้อรหันต์ 9 องค์ตรงปณิธาน

รายละเอียด

ท่านก็ไม่เอาแล้วขอจบแล้ว จนกระทั่งโพธิรักษ์มารับผิดชอบ 2,500 กว่าปี อาตมาก็ตั้งใจว่าได้อรหันต์ 9 องค์ก็ดีแล้ว เกินกว่านั้นเกินขีดแล้ว ไม่ใช่ 1,250 นะ ถ้าได้ 9 องค์ก็ถือว่าตรงปณิธานแล้ว ถ้าได้กว่านั้นก็ยิ่งดี แต่ได้ 9 แล้วถือว่าเป็นพื้นฐานที่ตั้งหลัก เป็น Minimum เอาแค่นี้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:53:20 )

พื้นที่โซนเกษตรกรรม

รายละเอียด

ประเทศไทยตั้งอยู่ในพื้นที่โซนเกษตรกรรมก็ใช้ปัจจัยนี้ทำกสิกรรมให้เด่น เป็นสิ่งสำคัญ เป็นสิ่งที่ประเสริฐ เพราะว่าคนต้องอาศัยพืชพันธุ์ธัญญาหาร ไม่ว่าจะที่ไหนขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ อยู่ที่อลาสก้า ปาปัวนิวกินี

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 14:07:39 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:12:38 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:51:55 )

พื้นที่ในโลกไม่มีสิ่งที่ไม่มีชีวิตอาศัยอยู่

รายละเอียด

นำโดย   พูริกาซิโอย โลเปซ  การ์เซีย ผู้อำนวยการแผนกวิจัย  ของ FNCSR  เผยแพร่ผละการสำรวจที่ยืนยาว  พื้นที่บางจุด  ในบริเวณน้ำพุร้อน  ดัลลอล  ทางตอนเหนือของประเทศเอธิโอเปีย  เป็นพื้นที่หนึ่ง  ซึ่งจนถึงขณะนี้ เป็นพื้นที่เดียวเท่านั้นที่พบว่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย  เนื่องจากสภาพของพื้นที่ไม่เอื้อต่อการดำรงอยู่  ของสิ่งมีชีวิต แม้จะมีองค์ประกอบ  สำคัญ  คือ  น้ำอยู่ก็ตาม  ดัลลอล เป็นพื้นที่ แอ่งน้ำพุร้อนที่เกิดจากความร้อนภายในเปลือกโลก  ถูกยึดถือมาเป็นเวลานานว่า เป็นพื้นที่ ที่มีสภาพ แวดล้อมสุดโต่งที่สุดเท่าที่มีบนโลกในเวลานี้   โลเปซ  การ์เซีย  ระบุว่าในหลายพื้นที่  ซึ่งมีสภาพแวดล้อมสุดโต่งที่ยากลำบากสูงสุดเหล่านั้น อาทิ  ร้อนจัด ระดับสุดโต่งทั้งหลายบนโลก ล้วนปรากฏสิ่งมีชีวิต  สามารถปรับตัวอยู่รอดได้ ในสภาวะแวดล้อม มียากลำบากสูงสุดเหล่านั้น  อาทิ ร้อนจัด  ระดับ  Super  hot   มีสภาพความเป็นกรดสูงสุด  หรือมีสภาพความเค็มจัดที่สุด เป็นต้น  หลังจากนั้น จึงนำตัวอย่างทั้งหมดมาวิเคราะห์หาวัตถุ  พันธุกรรม ในตัวอย่างแต่ละกลุ่ม  เพื่อจำแนกว่าสิ่งมีชีวิตใดอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมไหนได้บ้าง  จะไปนอกโลกอีก จะออกโฉนดก็ไม่ได้ จะไปตักดินมาก็ไม่ได้ แต่เขาก็จะไป  คือเขาอยากรู้

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ ปฐมอโศก วันพุธที่  20พฤศจิกายน  2562


เวลาบันทึก 16 ธันวาคม 2562 ( 16:50:23 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:14:56 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:10:20 )

พุทธ

รายละเอียด

1. ผู้รู้  ผู้ตื่น  ผู้เบิกบานสดใสอยู่

2. ผู้รู้แจ้ง  ผู้พ้นพิเศษ  ผู้จบอย่างรู้  ผู้หลับอย่างตื่น  ผู้ไม่หลับใหล ดับดิ่ง นิ่งจมอยู่อย่างไม่รู้โลกไหน ๆ

3. ผู้เบิกบาน  แจ่มใส ที่มีรู้ ที่มีตื่นอยู่จริง คือผู้ถึงพุทธแท้

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 277

ทางเอก ภาค 2 หน้า 99

ทางเอก ภาค 3 หน้า 424


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:15:41 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 12:00:04 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:52:31 )

พุทธ ธรรม สงฆ์

รายละเอียด

สัมมาทิฏฐิ ก็คือ ความรู้ความเข้าใจในความเป็น "พุทธ-ธรรม-สงฆ์" ที่ถูกต้องแท้จริง

พุทธ คือ ศาสนาที่เป็น "อเทวนิยม"

ธรรม  ของพุทธคือ "โลกุตรธรรม"

สงฆ์ คือ "อาริยบุคคล"

หนังสืออ้างอิง

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 165


เวลาบันทึก 06 พฤศจิกายน 2562 ( 11:41:01 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:53:12 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:53:33 )

พุทธกระแสหลักปฏิบัติมิจฉาทิฏฐิเพื่อไปสู่ความสงบ

รายละเอียด

แต่นี่เขาให้หยุดพูดหยุดคิด มันคนละเรื่องกันเลยกับพวกที่มิจฉาทิฏฐิ อาชีพก็ไม่ทำ การกระทำอะไรทำกิริยาอะไรก็ไม่ทำ พูดก็ไม่พูด คิดก็ไม่ให้คิด แล้วบอกว่าสงบแล้วโว้ย คุณจะตะโกนว่าสงบดังขนาดไหนจิตใจคุณก็ไม่สงบหรอกมันไม่ถูกต้อง ฟังไม่ขึ้นหรอก เพราะคุณเข้าใจผิด คุณปฏิบัติผิด ต้องมาปฏิบัติศีลและมีหลัก 3 ประการนี้ ถ้าไม่มี 3 ประการนี้ผิด รู้ตัวบ้างไหมไปนั่งหลับตาแล้วมันจะไปมีสำรวมอินทรีย์ขี้หมาอะไร อยู่แต่อินทรีย์ทวารเดียว ทิ้งไปอีก 5 ทวารอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตาไม่เกี่ยวเลย สำรวมไม่ได้แปลว่าปิดทวารอินทรีย์ แต่นี่ปิดไปหมดเลย ไปผูกมัดมันด้วย สรุปแล้วเข้าใจผิด ปฏิบัติผิด ก็ไม่เริ่มศีลได้

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 25 มกราคม 2563 ( 15:14:35 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:17:59 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:11:42 )

พุทธกระแสหลักปฏิบัติเดียรถีย์นอกรีต

รายละเอียด

คนหลับตากับลืมตา คนไหนมืดบอดกว่ากันก็ต้องคนหลับตา เชิญไปเรียนกับพวกตาบอด ขออภัยพูดแรง พูดชัดนะก็เลยแรกปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้าเขาก็ปฏิบัติไปเพื่อคนตาบอด พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อินทริยภาวนาสูตร ..เขาสอนกันก็เหมือนกับเอาอะไรไปทิ่มตาให้บอด ทำให้หูหนวก ขนาดนั้นเขาก็ยังไม่สะดุ้งสะเทือนเลย ที่อาตมาต้องพูดเนี่ย  ศาสนาพุทธทุกวันนี้ไปนับถือกัน นั่งหลับตากันแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เดียรถีย์นอกรีต อาตมาพูดไปเท่าไหร่โทรทัศน์ที่เขาพานั่งหลับตาจะเลิกไหม…ไม่เลิก

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 25 มกราคม 2563 ( 14:49:21 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:20:18 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:12:53 )

พุทธกระแสหลักหลงผิด ยึดถือสิ่งผิด นั่งหลับตา น่าสงสาร

รายละเอียด

ซึ่งอาตมาอธิบายเอาของพระพุทธเจ้ามาอธิบายยืนยันแต่คนออกนอกรีด ลืมธรรมะพระพุทธเจ้าไปหมดแล้วไปนั่งหลับตา พระพุทธเจ้าจะไปสอนยากอะไรถ้านั่งหลักการและได้นิพพาน ก็พานั่งหลับตากันหมด ทั้งศาสนาพุทธเลยมันก็จบแล้ว แต่นี่สอนละเอียดลออเยอะแยะหมดทำตั้งเยอะแยะ อาตมาเอามาแยกแยะไม่เท่าไหร่เลย เขาก็ว่าเอาอะไรมาพูดอาตมาก็เอาของพระพุทธเจ้ามาพูดยังไม่หมดเลยนะนี่ ซึ่งเขาได้หลงผิดไปยึดถือสิ่งที่ผิด จนกระทั่งไปไกลเลยจึงน่าสงสาร 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 01 กุมภาพันธ์ 2563 ( 12:56:13 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:22:39 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:13:44 )

พุทธกระแสหลักหากปรับปรุงอนุโมทนา

รายละเอียด

คุณเอามาก็ยังไม่ครบ แต่คงมีมากกว่านี้ ทุกวันนี้ศาสนากลายเป็นอาชีพทำมาหากินของคนชนิดหนึ่ง กลุ่มบางคนก็ไปอาศัยวิธีการเลี้ยงชีวิต บางคนก็ไปอาศัยเรียนให้ได้เปรียญธรรมทางพุทธศาสนาได้รับเสื้อแล้วก็ใช้สิ่งใดเป็นเครื่องชีวิตไปค่ายพุทธธรรมที่เป็นอะไรให้แก่ชีวิตน่าสังเวชใจสงสาร มันเป็นอย่างนั้นมันเป็นหลักเป็นกระแสหลักอาตมาพูดแรงพูดตรงพูดจริง หากปรับปรุงก็อนุโมทนาสาธุ หากเขาอยู่ในกลุ่มนั้นก็ต้องถูกครอบงำ สวดมนต์อวยพร รดน้ำมนต์ เป็นเดรัจฉานวิชชา มันยังต้องไปอย่างนั้นกับเขาก็จะยากทุกวันนี้อาตมาก็เลยให้คนมาปฏิบัติทางนี้เสียว่าก็ว่ากันไปคุณยังไม่มีบารมีพอจะไปว่าเขาก็ปล่อยให้ประมาณว่าไปตามฐานะที่พอได้ซึ่งอาตมาก็ประมาณอยู่ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 11:43:35 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 16:27:13 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:54:08 )

พุทธกับพราหมณ์สภาวะเดียวกันแต่เข้าใจผิดต่างกัน 

รายละเอียด

เทวะ เป็นพยัญชนะสำคัญมากรวมไว้ทั้งหมด ผู้ที่อวิชชาก็รวมไปเป็นเทวะยิ่งใหญ่ เป็นเทวดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พระเจ้าทางพระพรหมก็เรียกว่ากูนี่แหละใหญ่ๆ พระเจ้าทางด้านไม่ใช่พระพรหม เป็นอีกไม่รู้กี่ศาสนาทางเทวนิยม ที่เป็นมิจฉาทิฐิ พรหมของพระพุทธเจ้า ก็มาแยกจากของพวกฮินดู ศาสนาพราหมณ์กับศาสนาพุทธสลับไปสลับมา ต่อไปศาสนาพุทธผิดเพี้ยนไม่เหลือศาสนาพุทธแล้ว ก็ไปใช้ชื่อศาสนาพราหมณ์ ก็เลยกลายเป็นศาสนาพราหมณ์ ศาสนาพุทธกับศาสนาพราหมณ์จึงเป็นคู่กันอย่างนี้ ไปตลอดกาลนาน สภาวะเดียวกันแต่เข้าใจผิดต่างกัน 

ยกตัวอย่างเช่น พราหมณ์ทั้งหลายที่เรียนพระเวท ก็คือเรียนศาสนาพุทธนี่แหละอันเดียวกันพระเวทกับพุทธ ไตรเพทกับไตรวิชชาของพระพุทธเจ้าอันเดียวกัน ไตรเวท กับ ไตรวิชชา ของพระพุทธเจ้าอันเดียวกัน แต่เขาเข้าใจผิดก็เลยกลายเป็นอีกอย่าง พยัญชนะก็สลับกันไปเป็นสิริมหามายา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ปฏิจจสมุปบาทเริ่มอธิบายที่ชาติ 5 วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 16:37:29 )

พุทธกับพราหมณ์เนื้อแท้แก่นแท้อันเดียวกัน

รายละเอียด

 แต่ความเข้าใจคนได้ผิดเพี้ยนกลับไปกลับมา อัมพัฏฐะ เป็นลูกศิษย์ของโปกขรสาติพราหมณ์ก็เรียนพระเวทย์มาทั้งนั้น ศาสนาพุทธกับศาสนาพราหมณ์นั้นมันหมุนเวียนไปมา เนื้อแท้แก่นแท้อันเดียวกัน แต่ความเข้าใจคนได้ผิดเพี้ยนกลับไปกลับมา พยัญชนะอันนี้ก็ไปเอาเนื้อหาอีกอย่างหนึ่ง เนื้อหาอย่างนี้ก็ไปเอาพยัญชนะอีกอย่างหนึ่งสำหรับเป็นสิริมหามายา กลับไปกลับมา สมาธิของเดียรถีย์ ก็ไปยึดถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกในยุคนี้ อาตมาว่ามันเป็นมิจฉาสมาธิของพระพุทธเจ้าไม่เป็นอย่างนั้นก็ต้องมาอธิบาย ก็รื้อพราหมณ์กับพุทธสลับไปมา ในยุคพระพุทธเจ้าบอกว่าอันนั้นเป็นของคนนุ่งขาวห่มขาว ผู้ที่นุ่งห่มขาวนั้นไม่ใช่พุทธ มันเป็นของพวกที่มุ่นผม มันไม่ใช่พวกโกนหัวใช้ผ้าบังสุกุลย้อมน้ำฝาด แล้วพวกพราหมณ์นั้นมีเยอะเหมือนกับในยุคนี้ พระมหาศาลก็มีเยอะ สมณะนั้นมีน้อยเดียวอโศก เหมือนกันมันล้อเลียนกัน เพราะฉะนั้นเขาก็จะว่า ว่าพวกโกนหัวนุ่งผ้าย้อมน้ำฝาดว่าเป็นพวกนอกรีต เป็นพวกสมณะโล้นเป็นพวกสมณะน่ารังเกียจเขาโกนหัวแล้วเอาขี้เถ้ามอม แล้วไล่ออกจากเมืองเนรเทศไป ที่ยกเอาความเสื่อมมา ตอนนั้นศาสนาพุทธยังเพิ่งเริ่มต้นพระพุทธเจ้ายังอยู่นะ ยังไม่เสื่อม แต่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสถึงความเสื่อมไว้แล้ว ก็เอาพระเวทย์เอาเนื้อหาสาระความรู้ของศาสนาพุทธมานั่นแหละ บัญญัติเป็นศาสนาพุทธแต่เขาเข้าใจผิดแล้ว ศีลก็เข้าใจอีกอย่างสมาธิก็เข้าใจอีกอย่างปัญญาก็เข้าใจอีกอย่าง อย่างที่เราสอนนี่แหละสมาธิเราก็สอนสมาธิอีกอย่างปัญญาก็อีกอย่างแต่เขาก็อีกอย่าง วิธีปฏิบัติก็ต่างกันแล้วผลที่ได้ก็ต่างกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2563 ( 09:07:23 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 16:02:38 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:14:57 )

พุทธกัป

รายละเอียด

ศาสดาเทวนิยมหลายองค์ เป็นศาสดาของแต่ละศาสนา ไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างก็ว่าดีๆๆๆ ไม่ลงเป็นหนึ่งเดียว แต่ศาสนาพุทธ อเทวนิยมหรือโลกุตตระหนึ่งเดียวไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในยุคไหนที่อุบัติขึ้นมาเป็นพระศาสดา องค์ใดองค์หนึ่งในยุคใดยุคหนึ่ง กาละของแต่ละองค์ อย่างพระสมณะโคดมก็มี 5,000 ปี องค์อื่นๆ ท่านก็มี 8,000 ปี หมื่นปี หลายหมื่นปีแล้วแต่ แต่ละองค์แต่ละองค์ จะมีอายุของกัป เรียกว่าพุทธกัป ของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ พระสมณะโคดมมี 5,000 ปี 

แต่ศาสนาพุทธของพระสมณะโคดม 5,000 ปีนี่อย่าไปเข้าใจผิดว่า 5,000 ปีนี้ เป็นพระพุทธเจ้าองค์เล็กองค์ต่ำไม่ใช่ แต่เท่ากันหมด ลักษณะของพระองค์ 5,000 ปีหรือ 8 หมื่นปีหรือแสนปี พระพุทธเจ้าบางองค์นี่ โอ้โห.. อายุศาสนาของท่านแสนปี 80,000 ปีอะไรพวกนี้ ก็เหมือนกัน พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ แต่มันเกิดจากองค์ประกอบของ กาละ เทศะ ฐานะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงาน ปฏิญาณศีล 8 งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 47 วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566 ที่บวรปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 13 เมษายน 2566 ( 20:14:07 )

พุทธกัปต่างกับพุทธันดรอย่างไร

รายละเอียด

พุทธกัป คือ รอบของศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ บางรอบ 80,000 ปีบางรอบก็น้อยกว่า 60,000​ หรือ 40,000 หรือ 25,000 มาถึงพระสมณโคดมเหลือแค่ 5,000 ปี เสร็จแล้วก็มีช่วงที่ว่างในกาละของโลก โลกว่างจากศาสนาพุทธเรียกว่าพุทธันดร ในยุคนั้นช่วงนั้นไม่มีศาสนาพุทธไม่มีใครรู้จักศาสนาพุทธเลย 

ส่วนศาสนาเดียรถีย์หรือลัทธิเป็นเทวนิยมเป็นพระเจ้ามันมีอยู่ตลอดกาล มันไม่เคยว่างไปจากโลก  แต่ศาสนาพุทธมีเป็นกัปๆ ไม่ใช่มีอยู่ตลอดกาลเหมือนศาสนาเทวนิยม 

ในยุคนี้ไม่มีใครมาย้ำ มาพูดกันเท่าไร อาตมาก็เลยต้องพูดให้เข้าใจ เสร็จแล้วชาวอโศก อาตมานำเอาโลกุตรธรรมที่เป็นพุทธ พุทธคือสิ่งที่เป็นโลกุตรธรรม ที่ไม่ใช่โลกุตรธรรมไม่ใช่พุทธเป็นศาสนาเทวนิยม ต้องเข้าใจเทวนิยมกับอเทวนิยม หรือ โลกุตระกับโลกีย์ว่าต่างกันอย่างไร ชัดๆ ก็จะแยกออกและจะรู้ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก ครั้งที่ 41 อาหารเป็น 1 ในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 20:03:07 )

พุทธกัปป์

รายละเอียด

คือ ความรู้เรื่องพุทธศาสนาขององค์พระพุทธเจ้าสมณโคดม จึงยังจะต้องฟื้นคืนชีพความเป็นสัมมา ทิฏฐิ-สัมมาปฏิบัติ-สัมมาปฏิเวธของศาสนาพุทธขึ้นมา สืบทอดความเป็นพุทธต่อไปอีกให้ได้

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 314


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 13:42:41 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:25:01 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:15:46 )

พุทธกัปป์ของพระพุทธเจ้าสมณโคดม 5,000 ปี

รายละเอียด

สรุปว่าอาตมาเองพยายามจะมีชีวิตอยู่ไปอีกให้มากที่สุดเท่าที่จะยาวยืนได้ ก็อย่าเพิ่งไว้ใจว่าอาตมาจะอธิบายธรรมะพุทธเจ้าให้เป็นแก่นแกน เพื่อให้คนได้รับรู้แล้วเอาไปปฏิบัติประพฤติ และรักษาศาสนาพุทธ- ไว้อีก 2 พันกว่าปี จะหมด พุทธกัปป์ของพระพุทธเจ้าสมณโคดม 5000 ปี 5,000 นี้เป็นของจริง พระสมณโคดมจะมีอายุศาสนาไป 5,000 ไม่ใช่พระพุทธเจ้าตรัสเอง แต่เป็นโบราณาจารย์ผู้รู้จริง อาตมาเชื่อและจริงที่สุดมั่นใจเพราะว่าอาตมานี่ จริงๆอาตมาไม่ได้เป็นผู้พยากรณ์หรอก อาตมาไม่ใช่โพธิสัตว์องค์ใหญ่ แม้แต่พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ก็ตาม แม้แต่พระโพธิสัตว์จากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆจากพระพุทธเจ้าสมณโคดมก็มีที่อยู่ในวัฏสงสารนี้ แต่ตอนนี้เกิดบ้างไม่เกิดบ้างเท่านั้นเอง ตอนนี้ในประเทศไทยมี 2 องค์ ที่ชัดเจนก็คือในหลวงกับอาตมา นี่ก็พูดหมดแล้วนะไม่ได้หมายความว่าไปโหนในหลวงนะ อาตมามีหลักฐานพอสมควรว่าอาตมาสอนอะไรตรงกับในหลวงไหม ตรงกันอย่างน้อยที่สุดเรื่องคนจน เรื่องพามาขาดทุน อาตมาทำจึงทำให้เกิดผลปรากฏการณ์จนเกิดเป็นสังคมหมู่บ้าน ที่เป็นหมู่บ้านคนจน มีพฤติกรรมมีบวรมีการศึกษามีชีวิตอยู่จริง เป็นหมู่บ้านคนจน เป็นคนจนชนิดโลกุตระ เป็นคนจนชนิดพิเศษไม่ใช่คนจนแบบโลกีย์ เป็นคนจนที่สุดวิเศษ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 13:08:49 )

พุทธการกธรรม

รายละเอียด

ธรรมะที่ทำให้เป็นพระพุทธเจ้า

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 119


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:17:10 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 12:00:46 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:16:09 )

พุทธการกธรรมคือ...

รายละเอียด

พุทธการกธรรมคือ ธรรมะที่จะทำให้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งมีอะไรบ้าง ก็ยังไม่พูดถึงตอนนี้ ส่วนพุทธุปาทกาละ คือ ตรวจดูว่าบุคคลในตอนนี้ มันควรพอที่จะประกาศศาสนาได้ไหม ประกาศไปแล้วมันจะคุ้มไหม ประกาศไปแล้วเสียของเปล่าๆหรือไม่ มีคนจะรับได้เป็นจำนวนพอสมควรหรือไม่ คนน้อยไปก็ไม่ควรประกาศ​ หรือประกาศแล้วคนรับได้ไม่เพียงพอก็ไม่ควรประกาศ 

กลับมาที่ การตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ จึงเป็นคำที่รวบ รู้ตอนใต้ต้นโพธิ์ แล้วเสวยวิมุติ 49 วัน กว่าจะเดินทางไปเทศนา ในวันเพ็ญเดือน 8 แล้วจึงมีผู้ได้รับธรรมะ การตรัสรู้จึงเกิดในวันอาสาฬหบูชา เพราะท่านตรัสธรรมะที่เป็นโลกุตตรธรรม มีคนฟังแล้วรับรู้ได้ ในวันอาสาฬหบูชามีผู้รู้ได้คืออัญญาโกณฑัญญะ เป็นพระสงฆ์องค์แรกของศาสนาพระสมณโคดม อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์กัณฑ์พิเศษ เนื่องในวันวิสาขบูชา พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้วันเพ็ญเดือน 6 วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ปีขาล ตรงกับวันวิสาขบูชา ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 18:53:34 )

พุทธของไทยเป็นตัวอย่างของโลก ลัทธิการเมืองต่างๆก็จะเห็นได้

รายละเอียด

แม้แต่สีจิ้นผิง เขาก็ยังมีสุขอยู่ แต่ความสุขของเขาค่อนข้างไปทางความสงบ เพราะว่าพลเมืองอยู่กันอย่างเรียบร้อยสงบ สงบอย่างคอมมิวนิสต์บังคับด้วยกฎหมาย เหมือนอย่างเกาหลีเหนือ ถ้าหากค้านแย้งก็จัดการฆ่าเลย มีอำนาจบาตรใหญ่ขนาดนั้น ยิ่งกว่าสมบูรณาญาสิทธิราชย์อีก เพราะมันบวกเอาทั้งสมบูรณาญาสิทธิราชย์กับประชาธิปไตยเก๊ ต้องใช้คำเช่นนั้นไปร่วมอยู่ในนั้น สมบูรณาญาสิทธิราชย์กับประชาธิปไตยเก๊อยู่ที่เกาหลีเหนือ 

มีสิทธิ์ขาด เด็ดขาดยิ่งกว่าพระเจ้า สั่งประหารชีวิตได้หมด แล้วก็มอมเมาว่า พวกคุณน่ะมีสิทธิ์ แต่ว่าต้องช่วยประเทศชาติ โดยเอาชีวิตเข้าแลก มันซับซ้อนหลายชั้น ก็เป็นตัวอย่างของโลก ยกตัวอย่างเกาหลีเหนือ นอกนั้นก็ยังไม่เข้าใจอะไร เป็นเรื่องของ magical อย่างมีพลเมืองมาก เช่น ในตะวันออกกลาง หรือในแอฟริกาก็ยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่ 

อย่างแอฟริกา พระเจ้ายังไม่เป็นตัวตน แต่เป็นอะไรอย่างอื่นไปแล้วแต่อุปาทาน เป็น ผีสาง เป็นสิ่งลึกลับมีอำนาจพิเศษสั่งการ แล้วก็ไม่ได้ยึดถือแรงเหมือนตะวันออกกลางที่ยึดถือพระเจ้าองค์เดียว แล้วต้องตามคำสอนนี้อย่าออกนอกคำสอน แล้วต้องหาบริวาร แผ่มา พยายามหาบริวารต่างๆนานา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติผู้กอบกู้ศาสนาพุทธในยุคกึ่งพุทธกาล วันพุธที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 สิงหาคม 2565 ( 06:59:05 )

พุทธคือศาสนาโลกุตรธรรมอย่างไร

รายละเอียด

ผู้ที่รู้สาระสัจจะก็มาเอา ไม่รู้ความจริงก็ไม่ได้ไม่เอา พูดไปไม่ได้ยกตนข่มท่านไม่ได้ดูแคลน ว่าศาสนานั้นมันผิดเพี้ยนไปหมดแล้ว ไม่เหลือโลกุตรธรรม ศาสนาพุทธคือศาสนาโลกุตรธรรม ไม่ใช่โลกียธรรมที่ดีชั่วอยู่แค่โลกีย์ แต่เป็นอีกอันหนึ่ง เป็นเรื่องที่ทำให้ลดกิเลสเป็นเรื่องของจิต เจตสิก รูป นิพพาน เข้าใจอกุศลเจตสิกได้ แล้วรู้เหตุ ที่เป็นอกุศลจิต อย่างรู้ อาการ ลิงค นิมิต อุเทส รู้อาการนี้ จับตัวมันได้ก็หมายเอาเป็นนิมิต ก็รู้ว่ามันต่างกัน ราคะกับโทสะต่างกันมีลิงคะ เป็นคนที่แยกแยะได้เห็นหน้ากันจับอาการได้ อาการของจิตเป็นเรื่องนามธรรม อาการอย่างนี้คือราคะ โทสะ รู้แยกแยะได้ลิงคะ หรือแม้แต่มันมากหรือน้อยกลางๆ ก็ต่างกันนะ เป็นลิงคะ หยาบ กลาง ละเอียด เราเลิกหยาบได้ก็มาขั้นกลางปริยุฏฐานเหลือละเอียดคืออนุสัยก็เข้าใจ มีสภาวะแล้วทำได้ถูกต้องจริงก็จะสมบูรณ์ หากไม่รู้จักอย่างที่ว่าก็ไม่สมบูรณ์ไม่ถูกต้อง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 10:26:10 )

พุทธคือโลกุตระ โลกียะนั้นเป็นศาสนาทั่วไป

รายละเอียด

นี่เอาสภาวะมาอธิบายให้ฟังว่าอย่างนั้นก็ไม่รู้สักทีว่าโลกียะโลกุตระคืออะไร 

ส่วนคนที่ไม่ได้เรียนรู้เรื่องโลกุตระเลยในชาวพุทธหรือในทั่วประเทศไทยหรือในประเทศอื่นก็ตาม ถ้าไม่มีความรู้อย่างที่อาตมาอธิบายไปคร่าวๆเมื่อกี้นี้ แล้วปฏิบัติเป็นจริงได้ นั่นคือยังไม่พบโลกุตระ 

ต่อให้จบเปรียญ 9 จบปริญญาเอกเป็นศาตราจารย์ใหญ่มโหฬาร เป็นเจ้าสำนักขนาดไหน ถ้าไม่ได้มีอย่างที่อาตมาว่า ก็ไม่ใช่พุทธ เพราะว่าพุทธนั้นคือโลกุตระ โลกียะนั้นเป็นศาสนาทั่วไปทั้งหมด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 21 วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2563
ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:47:11 )

พุทธคุณ

รายละเอียด

1. คือปัญญาธิคุณ ซึ่งหมายเอาตัวจิตปัญญาที่จะต้องรู้จริง รู้จัง รู้ถูก รู้ตรง รู้ตัวจิตที่โลภะ โทสะ โมหะน้อยลง

2. ความบริสุทธิ์ในมลทินกิเลสต่าง ๆ บริสุทธิ์ในความทุกข์ คือไม่มี-ความทุกข์

3. พระบริสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณเท่านั้น ไม่ใช่คุณวิเศษอย่างอื่นจริง ๆ

4. มีคุณลักษณะเป็นพุทธแท้ ๆ จริง ๆ มีปัญญาธิคุณ มีกรุณาธิคุณ มีบริสุทธิคุณ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 68, หน้า 293, หน้า 303

ทางเอก ภาค 3 หน้า 9


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2562 ( 21:19:10 )

เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 12:03:57 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 05:16:46 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์