@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

โพธิสัตว์เป็นผู้รู้ธรรมะพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

เหมือนกับนิยายของกามนิตที่นอนคุยกับพระพุทธเจ้าทั้งคืนรุ่งเช้าก็บอกว่าจะไปขอตามหาพระพุทธเจ้าต่อไป ก็ไปหาพระพุทธเจ้าอีก คนทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนี้ อาตมาบอกว่าอาตมาเป็นพระโพธิสัตว์เป็นผู้รู้ธรรมะพระพุทธเจ้ามาประกาศในยุคนี้ จะเรียกว่าเป็นประกาศก จริงๆ ก็เป็นศาสดาองค์ใดองค์หนึ่งนั่นแหละ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 19 วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

ที่ปฐมอโศก สื่อธรรมะพ่อครู(โพธิปักขิยธรรม 37) ตอน ตีให้แตกแยกให้ออกในธรรมะ 2


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:57:40 )

โพธิสัตว์เหนือกว่าอรหันต์

รายละเอียด

พระโพธิสัตว์ต้องได้อรหัตตผลก่อนถึงจะเป็นโพธิสัตว์ ถ้าหากยังไม่ได้อรหัตตผล ไม่ได้เป็นโพธิสัตว์แม้แต่ขั้นโสดาบัน โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

อาตมาอธิบายไปเข้าใจดีไหม เป็นสภาวะเป็นขั้นตอนเข้าใจไปตามลำดับ คนที่ไม่ติดใจอะไรก็ได้รับความรู้ความจริง โดยใช้พยัญชนะของท่านแหละ อาตมาไม่ได้บัญญัติเอง อาตมาอธิบายจนกระทั่งทุกวันนี้เขาก็เข้าใจว่าโพธิสัตว์นั้นเหนือกว่าอรหันต์ แล้วโพธิสัตว์ระดับ 7 ด้วย ทุกวันนี้เขาก็เลยตาเหลือก ที่แท้เขาพูดอวดตัวมาตั้งแต่ต้น คนเข้าใจก็จะชัดเจนว่าท่านได้ถ่อมตนมาตั้งแต่ต้น 

50 ปีแสดงตัวเต็ม กว่าจะมาบอกว่าเป็นอรหันต์ ทั้งๆ ที่บอกว่าเป็นโพธิสัตว์มาตั้งแต่ไม่รู้เท่าไหร่ ตั้งแต่ 2528 ตั้งแต่เริ่มออกบวชก็บอกว่าเป็นโพธิสัตว์ เห็นไหม ต้องรู้กาลเทศะที่จะต้องพูด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาอย่างอวดตัวแต่ถ่อมตน ด้วยความจริง วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 แรม 7 ค่ำ เดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2564 ( 21:58:44 )

โพธิสัตว์เหนือกว่าอรหันต์อย่างไร

รายละเอียด

อรหันต์แล้วก็น่าจะเข้าใจกิเลส จริง อรหันต์นี้ต้องเข้าใจกิเลสของตนเองหมด หมดอาสวะ แล้วก็ดับอาสวะกิเลส กิเลสละเอียดไปถึงปลายสุดเรียกว่า อาสวะ หมดแล้วก็ดับได้หมด ก็จบ เป็นอรหันต์ คำว่าโง่ก็คือ มันรู้แต่ของกิเลสตัวเองที่มันฉลาด ฉลาดในกิเลสตัวเองและจบ แต่ไม่ได้รู้ว่า คนอื่นเขามีกิเลสอย่างอื่น แตกต่างจากเรา หรือคล้ายกับเราก็มี อย่างนี้เป็นต้น โดยเฉพาะมันแตกต่างจากเรา มีเยอะแยะมหาศาลที่แตกต่างจากเรา เพราะฉะนั้นที่ยังไม่รู้อันอื่นก็คือยังโง่อยู่ เพราะฉะนั้นพระโพธิสัตว์นั้นรู้ทั้งของตนเองหมด แล้วก็รู้ทั้งของคนอื่น จึงเหนือชั้นกว่าอรหันต์ ชัดเจนแล้วนะ

อรหันต์นั้นคือเป็นผู้ที่เอากิเลสตนเองคนเดียว โดยนิยามจำกัดความเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น อย่างเถรวาทเมืองไทยเอาแต่อรหันต์ มุ่งแต่อรหันต์ไม่ศึกษาโพธิสัตว์ แล้วสุดโต่งเลยเถิด กลายเป็นตัวตนที่ลึกลับอยู่ในเพราะมันสุดโต่ง เป็นตัวตนที่อยู่ในภพ อาตมาก็พยายามดึงฟื้นขึ้นมาให้กลับเข้ามาหาความสมบูรณ์แบบ ของความรู้ที่จะรู้สภาวะสัจธรรมครบ ซึ่งมันก็ยังยากอยู่ ประเด็นที่หนักหนาก็คือไปหลับตาปฏิบัติและไม่รู้ความจริงที่ครบ ตาหูจมูกลิ้นกาย มันก็ไม่มีวันที่คุณจะบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ได้ เพราะคุณไปรู้อยู่หนึ่งเดียว อีก 5 ทวาร อีก 5 สัจจะคุณไม่รู้เลย คุณไม่รู้ คุณไม่ได้ศึกษา คุณไม่ยอมศึกษาด้วย แล้วคุณก็ตกเป็นทาส ของตา หูจมูก ลิ้น กายอยู่ตลอดกาล เรียกว่า กามคุณ 5 แต่คุณไม่รู้ ไม่รู้จริงๆไม่ได้ศึกษา แต่นึกว่าตัวเองรู้เผินๆ มันเสพ แอบเสพหรือเสพให้แก่ตัวเอง ซับซ้อนโดยกลบเกลื่อน เขาไม่รู้ตัวหรอก สายหลับตานี่

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สภาพ 2 ของกฎหลักเกณฑ์กับพฤติกรรมจริง วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 29 กันยายน 2565 ( 11:31:42 )

โพธิสัตว์แท้ของพุทธต้องพาคนให้ลดกิเลสได้จริง

รายละเอียด

วันนี้มันวันที่ 1 ธันวาคมเข้าเดือนสุดท้ายของปีแล้วนะ ถ้าวันที่ 5 ธันวาคมก็จะเป็นกึ่งหนึ่งของปีสำหรับอาตมา อาตมาเกิด 5 มิถุนายน ถ้าถึง 5 ธันวา  ก็เป็นกึ่งหนึ่งของปี คือ 6 เดือน อาตมาเกิด 5 มิถุนายน ถ้า 5 ธันวาคมก็ 6 เดือน เพราะฉะนั้นอาตมาอายุ 89 ปี 6 เดือน ในวันที่ 5 ธันวาคม ไปอีก 6 เดือนถึง 5 มิถุนายน 2567 ก็เต็ม 90 

คนอายุ 90 อาตมาก็ว่าขนาดอาตมานี้ มีกำลังวังชา มีความกระปรี้กระเปร่า มีมวลกล้ามเนื้อ มีอะไรต่างๆ นานา ส่วนสรีระ ให้วิญญาณหรือให้จิตมันใช้งานคล่องแคล่ว ได้พอสมควร ก็ถือเป็นโชคดีที่เข้าท่า โชคดีที่ดีแล้วล่ะ ตามวิบากหรือว่าตามบารมี ได้ขนาดนี้ ที่ทำได้อย่างนี้ก็เพราะว่าศึกษาธรรมะพระพุทธเจ้ามา แล้วก็ได้พากเพียรมาจนกระทั่งเป็นโพธิสัตว์ 

ศาสนาพุทธในเมืองไทยนี้ โต่งไปทางเถรวาท โต่งไปทางอรหันต์ ไม่เข้าใจโพธิสัตว์ อาตมานำความโพธิสัตว์มาขยายผลมากในประเทศไทย ยังไม่มีใครอื่นมาขยายเรื่องโพธิสัตว์ 

มีคนตั้งจิตเป็นโพธิสัตว์เยอะเหมือนกัน ธีระ วงศ์โพธิ์พระ เป้าเก็งเต็ง ก็ตั้งจิตเป็นโพธิสัตว์ แล้วก็ไปเข้าใจว่าโพธิสัตว์คือผู้ตั้งจิตเป็นพระพุทธเจ้า ง่ายๆ แต่ไม่มีคุณธรรมอะไร ไม่รู้เรื่องอะไร แต่มุ่งเรื่องเดียวคือเรื่อง”เจ” ธีระ วงศ์โพธิ์พระ เป้าเกงเต็ง สมาคม เสียไปแล้ว ตายไปแล้ว

ไม่ใช่ ไม่ใช่เสถียร โพธินันทะ ส่วนธีระ วงค์โพธิ์พระ เขาก็เลื่อมใสเสถียร โพธินันทะ เขาถือว่าเสถียร โพธินันทะเป็นโพธิสัตว์ เขามีความรู้ในเรื่องของธรรมะมาก ธีระเขาก็ศรัทธาเลื่อมใสเสถียร โพธินันทะ 

เมื่อมีผู้ที่นำเอา”ความตรัสรู้เรียกว่าโพธิ”มา ในโพธินี้มีอรหันต์อยู่ในนั้น ซึ่งโพธิสัตว์ อาตมาก็เอามาขยายความในโพธิรักษ์อธิบายนี่แหละ จนให้เห็นโพธิสัตว์ในระดับหนึ่งคือโพธิสัตว์ในโสดาบัน (ระดับต่อไปเป็น)โพธิสัตว์ในสกิทาคามี โพธิสัตว์ในอนาคามี คือความรู้ในแบบพระพุทธเจ้าเรียกว่าโพธิ รู้ว่าโสดาบันคืออะไร สกิทาคามีคืออะไร อนาคามีคืออะไร อรหันต์คืออะไร 

คนที่มีภูมิรู้โพธิถึง 4 ขั้น ถือว่าเป็นผู้ที่สามารถรู้จักจิต เจตสิก รูป นิพพานได้แล้ว รู้ถึงขั้นไม่ใช่พยัญชนะเท่านั้น แต่รู้ถึงจิตเจตสิกตัวเองจริงๆ แล้วก็มีโพชฌงค์ มีสติ มีธรรมวิจัย ตื่นสัมผัส ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แล้วก็สามารถแยกกายแยกจิต แยกจิตแยกกิเลส แยกเวทนาแยกกิเลส สามารถแยกเวทนาแยกกิเลสได้ก็คือ ความตรัสรู้คือโพธิหรือโพชฌงค์ 

เกิดความรู้ถึงกิเลส จิตใด ธาตุรู้ของคนแต่ละคนแยกกิเลสที่อยู่ในเวทนาของตนเองได้ เห็นหน้า รู้หน้าอาการของกิเลสได้ นั่นชื่อว่าปัญญา แล้วปัญญานั้นจะมีธรรมฤทธิ์ ปัญญากับกิเลสมันเป็นคู่รามกับทศกัณฐ์ ฆ่ากันเลย เจอกันที่ไหนฆ่ากันที่นั่น แต่ของรามเป็นนิทานกับทศกัณฐ์ รามเป็นผู้ดี พอจะฆ่าทศกัณฐ์ก็ฆ่าอย่างอ่อนช้อย ส่วนทศกัณฐ์นั้นก็ฆ่าอย่างดุเดือด เป็นนัยยะซ้อนแสดงถึงลีลา ฆ่าเหมือนไม่ได้ฆ่า แต่มีฤทธิ์ยิ่งกว่าการฆ่าอย่างโหดร้ายรุนแรง ฆ่าอย่างอ่อนช้อยอย่างราม ฆ่าได้อย่างสนิท ฆ่าได้อย่างเรียบร้อย ฆ่าได้อย่างประเสริฐวิเศษที่สุด แล้วจริงกว่าด้วย อย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นในรามเกียรติ์ก็ตามก็เป็นนิทานเรื่องของสัจธรรม

ตั้งแต่เป็นพุทธจนกระทั่งเพี้ยนไปเป็น ที่จริงจะไปเป็นอะไรก่อน พุทธก่อนฮินดู หรือฮินดูก่อนพุทธ ก็ตาม จริงๆ แล้วความรู้อย่างฮินดู ความรู้อย่างเจโต อย่างเทวนิยมมันครองโลก มันครองโลกมาก่อน จนมามีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ พระพุทธเจ้าองค์ที่ 1 เมื่อไหร่เราไม่รู้ล่ะ ตรัสรู้ความจริงขึ้นมาว่า โธ่เอ๋ย เทวนิยมรู้จักจิตวิญญาณไม่ครบ ดูจิตวิญญาณไม่พอ ก็เลยเป็นทาสจิตวิญญาณอยู่ตลอดกาลนาน อยู่นิรันดร พระพุทธเจ้าก็ตรัสรู้ ว่าจิตวิญญาณไม่ใช่ทาสนิรันดร ไม่ใช่เทวะ สุขทุกข์ 

จิตวิญญาณมันเป็นเพียงธาตุปรุงแต่งกันอยู่ 2 ธาตุ เกิดขึ้นมาเป็นธาตุรู้ เรียกด้วยภาษาว่าวิญญาณ แล้วก็ไปยึดว่าเป็นตัวตน เป็นอัตตา เป็นตัวตน แล้วก็หลงอยู่นั้นแหละ ไอ้ตัวตนนั้นแปลงตัวเป็นอาการสุข แล้วก็มันมีคู่คือทุกข์ เพราะฉะนั้นเขารู้ความจริงอันนี้ไม่ได้ ก็เลยติดอยู่กับสุข ที่มันหน้าหลอก แต่ก็ยังมีทุกข์อยู่ตลอด สลับไปมา ไม่หมดไปได้ พอรู้สุขรู้ทุกข์แล้วสุขทุกข์ก็หายไป เมื่อสุขทุกข์ของจิตวิญญาณหายไปเลย จิตวิญญาณก็หายไปด้วย ฟังเข้าใจไหม 

เพราะฉะนั้นอาการที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ถึงสุขทุกข์นี่แหละเป็น”อาริยสัจ” สังเกตอาตมาไม่เรียก”อริยสัจ” แต่อาตมาเรียก”อาริยสัจ”  เพราะ “อริยสัจ” โดยภาษามันเป็นความเฉลียวฉลาดความประเสริฐนั้นแหละ แต่(เขาเอาไปใช้กัน)มันเพี้ยนไปหมดแล้ว กลายไปเป็นเรื่องขลัง เรื่องอริยะ แบบอริยะ อะไรก็ไม่รู้ อาตมาก็เลยขอใช้“อาริยะ” ตามพยัญชนะของ”พระศรีอาริยเมตไตรย” อาตมาขอยืมของพระศรีอาริยเมตไตรยมาใช้ก่อน พระศรีอาริยเมตไตรยก็แปลว่าผู้ประเสริฐจริง เป็นผู้ฉลาดจริง ถึงได้รู้ความจริงอันนี้ได้ 

ความรู้อันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นความรู้เรื่องจิตวิญญาณนี้แหละ ยิ่งใหญ่ที่สุด รู้อาการของจิต ที่มันปรุงแต่งกันขึ้นเรียกว่าสังขาร แล้วก็เรียกเต็มศัพท์ว่าวิญญาณ แต่แท้จริงมันคือสภาพ 2 คือนามรูปหรือนามรูป ปรุงแต่งกันอยู่เข้าไปสนิทเนียนก็เป็นอายตนะ 

อายตนะคือคู่ของ อายะ กับ ตนะ ที่เกิดจาก 2 นั้นแหละ คือนามรูปนั้นแหละ ซึ่งอายตนะก็ไปเข้าใจว่าเป็นหนึ่ง สองมันไปรวมเป็นหนึ่ง ที่จริงมันมี 6 มันมี ฉฬายตนะ 

เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธจึงรู้จัก ฉฬายตนะ อายตนะ ที่เกิดจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 6 คู่ (โดยเป็น)คู่ข้างนอก 5 คู่ กิเลสข้างนอก 5 คู่เรียนรู้กิเลสข้างนอก พอกิเลสข้างนอกจากตาก็ดีหูก็ดีจากกายที่กระทบกับรูป ตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่น ลิ้นกระทบรส โผฏฐัพพะกระทบภายนอก แล้วมันมีกิเลสกับสิ่งเหล่านี้ จนกระทั่งกิเลสมันเจอปัญญา มันหนีหายหมดเลย พอจิตเกิดปัญญาปั๊บ กิเลสวิ่งหนีหูตูบเลย สำนวนโพธิรักษ์ 

ก็สำเร็จเรื่อง ตา หู จมูก ลิ้น กาย เหลือภายในก็มาเรียนรู้ภายในต่ออีก ถ้าไม่มีลำดับที่จะล้างกิเลสภายนอกออกก่อน ไปงมงายอยู่ในภายในหลับตา ไม่มีทางที่จะบรรลุธรรม เพราะลัดไม่เป็นลำดับอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่มีทางที่จะบรรลุได้ นี่คือความเสื่อมจนไปนั่งหลับตาแบบ เดียรถีย์ ซึ่งมีมาเก่าก่อน 

พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อันนี้ มาลืมตาปฏิบัติ มามีฌานแบบลืมตา ฌานที่เกิดจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คือ ตากระทบรูปแล้วก็รู้จักกิเลส แล้วก็สร้างพลังงานจิต ให้เป็นพลังงานปัญญากำจัดกิเลสนั้นได้ อย่างลืมตา ถ้าไปหลับตาไม่มีฌานของพระพุทธเจ้า แต่เป็นฌานแบบเดียรถีย์ เป็นฌานมิจฉา อันนี้อาตมาก็ว่าได้อธิบายอย่างนี้ อธิบายชัดเจนแล้วนะ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือผู้สถาปนาโลกุตระปัญญา ล้างอวิชชาในยุคนี้ วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2567 ( 18:40:36 )

โพธิสัตว์ในประเทศไทยขณะนี้มีไม่น้อย

รายละเอียด

จนพระอานนท์ พ้อว่า ทำไมรีบตาย พระพุทธเจ้าบอกว่าอานนท์ เราจะอยู่ได้ถึง 1 กัปหรือเกินกว่ากัปก็ได้ แต่เราพอแล้ว เพราะท่านพอจริงๆท่านสอนมามากท่านสู้มามาก จนกระทั่งเข้าถึงใกล้กลียุค นี่เป็นยุคสุดท้ายแล้วนอกนั้นจะเป็นโพธิสัตว์รับหน้าที่ต่อจนหมดพุทธกัปของสมณโคดม มีอาตมาเป็นต้น แล้วจะมีโพธิสัตว์องค์อื่นๆ ซึ่งจะร่วมกัน มีอาตมามีพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มีโพธิสัตว์เล็กโพธิสัตว์น้อยอีกเยอะ โพธิสัตว์ในประเทศไทยขณะนี้มีไม่ใช่น้อยก็ช่วยกันทำไป รายละเอียดพวกนี้เป็นอจินไตยที่พูดเดาเอาไม่ได้มันเป็นบาป ถ้าไม่แน่ใจว่าถูกต้องไม่พูดออกมา อาตมาพูดนี้รับรองว่าถูกต้องควรพูด ที่ยังไม่แน่ใจอาตมาจะไม่พูด เพราะผิดแล้วกรรมเป็นอันทำ เราก็ซวยเราก็ได้รับกรรมวิบาก วิบากผิดใครจะไปทำทำไมอยู่ดีๆ ไปหาเรื่องใส่ตัว พูดแล้วก็ไม่ได้อะไรไม่ได้ประโยชน์อะไร พูดแล้วได้บาป เราไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทนด้วย เพราะคนก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ มีคนเข้าใจบ้างก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องเอาอะไรมาตอบแทนหรอกเข้าใจแล้วก็ดีแล้วก็จบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณาครั้งที่ 39 คุณธรรมยิ่งใหญ่กว่าอาวุธ วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2564 ( 04:29:25 )

โพธิเป็นความรู้ขั้นใด

รายละเอียด

คำว่า“เทฺว” ที่หมายถึง“ธรรมะ 2”หรือเป็น“ภาวะคู่”ในอะไรต่ออะไรต่างๆ นั้นจึงมีความพิสดารลึกล้ำหลากหลาย มากมายมิติ ล้นเหลือนัยะที่วิเศษสุดจริงๆ ซึ่งต้องมีพร้อมทั้ง“จักษุ-ปัญญา-ญาณ-วิชชา-อาโลก”จึงเป็นผู้“ตรัสรู้”ที่เป็นความรู้เรียกได้ว่า“โพธิ” ด้วยประการอย่างนี้

“โพธิ” จึงไม่ใช่“ความรู้”สามัญปุถุชน แต่หมายถึง ความรู้ขั้น“ปัญญา-ญาณ-วิชชา”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส
วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชฯ
สื่อธรรมะพ่อครู(จรณะ 15 วิชชา 8) ตอน ไฟฌานทำลายกิเลสได้อย่างไร


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:32:07 )

โพล จริงใจ เที่ยงตรงหรือเปล่า

รายละเอียด

โอ้โห…อุ๊งอิ๊ง นิด้าโพลไปถึง 31% พลเอกประยุทธ์ 18.82 เอง โอ้โห.. พิธาสิ เก็บได้ 17.36% แต่ยังหาคนเหมาะสมไม่ได้คือ 9.55 

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ก็ 6.91 โอ้โห..คุณหญิงสุดารัตน์ก็มากับเขาได้ 4.64 

อนุทินทำไม 3.18 อันนี้เป็นนิด้าโพล เป็นโพลใหญ่เลยนะ สำรวจจากคนชลบุรี ก็ทำไมไม่ทำทั่วประเทศ เฉลี่ยแล้วให้มันได้สัดส่วนที่สมบูรณ์แบบหน่อย 

คือโพล มันเป็นโพล ที่จริงใจ เที่ยงตรงหรือเปล่าเท่านั้นเอง ซึ่งก็ยาก พวกที่จะไปทำงานโพล นี่นะ อาตมาว่า เป็นพวกมือปืนรับจ้างมากกว่าเยอะ ที่จะไปทำงานโพลจริงๆ ยังไม่มีโพลที่ตั้งใจทำอย่างบริสุทธิ์ใจอย่างมีความรู้ มีเหตุปัจจัยองค์ประกอบได้สัดส่วนที่ค่าเฉลี่ยที่ดีมาก ยังใช้ได้อยู่ ก็ไม่เป็นไรก็พัฒนาไป 

สรุปแล้วประเทศไทยนี่ ประชาธิปไตยไทยนี้เจริญมากจริงๆ เจริญกันอย่างให้อิสรเสรีภาพ นี่มีแคนดิเดตนายกตั้ง 5-6 คน ประเทศไหนเขาจะมี ขนาดขออภัยจริงๆนะ ขนาดอย่างอุ๊งอิ๊ง ยังเข้าเป็นแคนดิเดตกับเขาได้ มันยอดจริงๆ อิสระเสรีภาพประเทศไทยนี่สุดยอด สุดยอดจริงๆ ขออภัยที่ต้องใช้ภาษาพูดอย่างนี้จริงๆ 

อาตมาว่า แม้แต่พิธากับอุ๊งอิ๊ง อาตมายังให้คะแนนพิธาบ้างนะ แต่อุ๊งอิ๊งนี้เออเห็นไหม แต่มันก็เป็นสัจจะ อันนี้เป็นโลกุตระเป็นสัจจะ เป็นอจินไตยอย่างหนึ่งว่ามันต้องมีอย่างนี้แหละ ถ้าไม่มีอย่างนี้ มันจะไม่ชัด มันต้องมีอย่างนี้ 

นี่ใครว่าไงอุ๊งอิ๊งมีหนาว เช็คเรทติ้งวันนี้ประชาชนเลือกใครนายก ฯ แล้วไม่บอกมาอมไว้ทำไม อุ๊งอิ๊งมีหนาว หนาวเรื่องอะไร อันนี้คือ ซุปเปอร์โพล

คนชลบุรีเลือกอุ๊งอิ๊ง บิ๊กตู่ไล่บี้อุ๊งอิ๊ง จะว่าเป็นเกมการเมืองก็เป็นเกมการเมืองที่สนุก เป็นการเมืองที่อิสระเสรี บริสุทธิ์ดี คนที่เขาจะทำความซับซ้อนที่จะไม่บริสุทธิ์ ก็เรื่องของเขา แต่ค่ารวมแล้วมันเป็นเกมประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์สะอาดดี ใช้ได้เลย 

ส่วนบุคคลที่เขาจะมีตุกติก มีทุจริต มีการใช้เล่ห์เหลี่ยมใช้อะไรต่ออะไร เป็นความซับซ้อนอยู่ เพราะฉะนั้นคนตรงๆ เลย ทำงานตรงๆ บริหารตรงๆ แสดงพฤติกรรมตรงๆ ออกมา คนก็จะเห็น คนก็จะรู้เองรู้ดี เอาละ สรุปไว้ก่อน คอยดูไปก็แล้วกัน

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 12 สัจจะยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติที่เรียกว่าการเมือง วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 4 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2566 ( 17:14:44 )

โพลกับความเห็นของพ่อครู

รายละเอียด

แต่ตัวจริงที่ประชาชน ยกตัวอย่าง พลเอกประยุทธ์ ขณะนี้โพลแต่ละโพล ก็คะแนนนำ โพลนี้ไม่มีวิธีบังคับเหมือนจะต้องไปลงคะแนนเสียงเป็นกฎหมาย ไม่ใช่ โพลนี้ เอาจิตวิญญาณอิสระของคน เพียงแต่ว่าโพลกลุ่มไหนเขาจะมีประชากรกระจายทั่วไปมากหน่อย ไม่ใช่เอาแต่กลุ่มมวลประชาชนของตัวเองที่มีแนวคิดเดิม อันนั้นก็เป็นโพลเก๊ โพลใช้ไม่ได้

โพล จะต้องไม่จำกัดว่าเป็นใครก็ได้ตลอดเวลา ต้องเป็นโพลที่ประชากรผู้ที่ จะมาให้เก็บคะแนนทำสถิติต้องเป็นคนทั่วไปเสมอ ไม่ใช่ไปกระจุกอยู่ที่กลุ่มเก่า ก็คิดอยู่ในกรอบเดิมมันก็ใช้ไม่ได้ มันก็ต้องเปิดอิสระทั่วออกไปหมด เมื่อใดก็เอาไปกระจายไปขว้างไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ ยิ่งกว้างไกลเท่าไหร่ได้ยิ่งเป็นอิสระ เป็นโพลที่ได้ความจริงของประชาชนมากกว่า 

โพลกับลงคะแนนเสียง การลงคะแนนเสียงเป็นเรื่องของการบังคับหรือเป็นเรื่องของกฎหลัก แต่ว่า โพล เป็นเรื่องอิสระ นี่ก็ต่างกัน ฉะนั้นอาตมาเชื่อ
โพลมากกว่าเชื่อการลงคะแนนเสียง เป็นแต่เพียงว่าต้องดูสำนักไหนที่
แสดงโพล ถ้าหากมีกลุ่มประชากรตายตัวเป็นแนวคิดเดิมกรอบเก่า มันก็เท่านั้นเองมันก็ไม่ไปไหน มันก็อยู่ในกะลาครอบ เสียงเดิมเพราะความคิดเป็นแนวเดิมอย่างเดิมไม่กว้างออกไป 

สรุปแล้วมันจะเข้าลึกไป มันจะมากมายไปอีก สรุปง่ายๆ อีกทีว่า ตอนนี้อาตมาเห็นว่าให้พลเอกประยุทธ์ทำงานไปอีกดีกว่า แม้แต่กฎหมายจะไปไม่ได้แล้ว ก็น่าจะแก้กฎหมายให้พลเอกประยุทธ์ทำ นี่คือความเห็นของอาตมานะ สรุปไว้เท่านี้ก่อนก็แล้วกัน ใส จะมีอะไรว่ามา 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 3 พ่อครูพบ ดร.สุริยะใส กตะศิลา วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2565 ( 20:28:52 )

โพลทุกโพลคะแนนของนายกประยุทธ์นำ

รายละเอียด

จะเห็นได้ว่าตอนนี้นอกจากเสียงของพวกฝ่ายแดงหรือพวกนักการเมืองที่อยากจะขึ้นมา ทำงานบริหารบ้าง ก็พูด เพื่อจะให้นายกฯตู่หยุด แต่ขณะนี้โพลทุกโพล คะแนนของนายกฯประยุทธ์มาอันดับหนึ่งหมด ขึ้นหมดเลย เพราะฉะนั้นคะแนนเสียงจะเป็นโพล หรือคะแนนเสียงของสังคม ตอนนี้เหมาะสมที่สุดที่จะทำ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 10:39:38 )

โภคขันธาปหายะ

รายละเอียด

โภคขันธาปหายะ  คือ ฐานนักบวชที่สละทรัพย์สิน  เงินทอง  บ้านช่อง  เรือนชานไม่มีเป็นอนาคาริกชน

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2562 ( 06:57:12 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:11:20 )

โภคะ

รายละเอียด

สินทรัพย์ จะได้รับพรหมวิหาร 4 เป็นพรให้แก่ชีวิต

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 60


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 08:20:20 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:24:10 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:21:16 )

โภคักขันธัง ปหายะ ญาติปริวัฏฏัง ปหายะ

รายละเอียด

ละกองสมบัติน้อยใหญ่ ละเครือญาติที่ยังเป็นญาติแคบ ๆ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 245


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 08:21:11 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:24:55 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:35:52 )

โภคักขันธาปหายะ

รายละเอียด

ละสมบัติวัตถุ ละทรัพย์สมบัติน้อยใหญ่

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 86


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 08:21:45 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:26:02 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:21:35 )

โภคี

รายละเอียด

คือ การบริโภค

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 559


เวลาบันทึก 02 พฤศจิกายน 2562 ( 13:32:33 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 17:00:04 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:21:55 )

โภชน

รายละเอียด

การบริโภค

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 261


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 08:22:17 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:26:44 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:38:44 )

โภชนียะ

รายละเอียด

ประมาณเครื่องบริโภค

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 210


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 08:22:48 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:27:15 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:22:10 )

โภชเน – โภชนะ

รายละเอียด

การบริโภค – อุปโภค การใช้การสอย การเป็นอยู่ที่เราพึ่งพาเครื่องยังชีวิตให้อยู่ทั้งหลายทั้งปวง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 150


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 08:23:23 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 02:43:46 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:22:42 )

โภชเนมัตตัญญุตา

รายละเอียด

1. รู้ประมาณในอาหาร 

2. จะต้องรู้แจ้งความจริงด้วยการฝึกหัดปฏิบัติ หัดละ หัดเลิก หัดหยุดสิ่งที่เราได้หลงบริโภคตามโลกีย์ ๆ

3. การประมาณการกินการอยู่ การแต่งกายในการดำเนินชีวิต การเป็นอยู่อันประกอบไปด้วยเครื่องอุปโภค – บริโภค

4. ให้ปฏิบัติเกี่ยวกับการกินอาหาร ต้องรู้จักประมาณทั้งสังวร – ปหาน – ภาวนา – อนุรักขนา ปฏิบัติให้มีสัมมัปปธาน 4 ในการกิน

5. การรู้จักยับยั้งกำหนดจิตในเรื่องอาหารการกิน

6. ประมาณการกินการใช้อย่าให้เกิดกิเลส

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 209, ทางเอก ภาค 3 หน้า 366, สมาธิพุทธ หน้า 343ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 57, รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 147,เปิดโลกเทวดา หน้า 65


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 08:25:58 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:29:24 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:24:55 )

โภชเนมัตตัญญุตา

รายละเอียด

คือ การประมาณในของกินของใช้ ของใช้นี้มากกว่าของกิน เอาแต่ของกินก่อนเถอะ คุณสำรวมให้ดีพิจารณาให้ดีกับของกินนี่แหละ กวฬิงการาหาร คุณต้องรู้จักเจตนาของคุณ เจตนานั้นแบ่งเป็น 3  1.กาม 2. ภว 3. วิภวะ

ที่มา ที่ไป

รายหารพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 20 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 23 มิถุนายน 2563 ( 09:49:30 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 14:16:16 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:43:00 )

โภชเนมัตตัญญุตา

รายละเอียด

โภชเนมัตตัญญุตา สัมผัสกับเครื่องกินเครื่องใช้ มนุษย์ก็มี 2 อย่างนี่แหละที่สัมผัส อย่างหนึ่งกิน อีกอย่างหนึ่งสัมผัสแล้วประกอบการ แม้จะประกอบการแค่เล็กๆน้อยๆ สัมผัสในการทักทาย สัมผัสกันในการเล่น สัมผัสอย่างเป็นเรื่องเป็นราว อย่างนั้นอย่างนี้อะไรก็ต้องรู้ว่า การสัมผัสเหล่านั้น มันควรหรือไม่ควร ในขณะที่มีกรรมกิริยา ทางกายก็ดี ทางวาจาก็ดี มันไม่ควรก็ลดเลิก มันควรเป็นประโยชน์ เป็นคุณค่าก็ทำไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน บุญนิยม คืออะไร และอปันกธรรม 3


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 13:47:20 )

โภชเนมัตตัญญู

รายละเอียด

ประมาณ กำหนดรู้ชัด ทำปัญญาในเรื่องบริโภค อุปโภคในสิ่งต่าง ๆ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 246


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 08:26:32 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:27:55 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:25:16 )

โมกข์

รายละเอียด

ความหลุดพ้น

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 315


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 20:56:39 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:30:33 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:00:48 )

โมฆบุรุษ

รายละเอียด

คือ ผู้ที่ไม่ได้ในสิ่งที่ควรได้ ควรเป็น ควรมี เกิดอีกกี่ชาติๆก็วนเวียนแย่งชิง เกินพอแล้วที่จะเกิดมาในวัฏฏสงสารโลกีย์

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า.476


เวลาบันทึก 02 พฤศจิกายน 2562 ( 11:36:44 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:34:16 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:34:45 )

โมฆบุรุษ

รายละเอียด

หมายความว่า เกิดเป็น "คน" เสียเปล่า หรืออุตส่าห์ได้เกิดเป็น "คน" กับเขาแท้ๆ แต่ได้ตายไปอย่างสูญเปล่า มีชีวิตไปทั้งชาติไม่ได้ประโยชน์อัน "คนพึงได้พึงมี" บ้างเลย ไม่สมกับที่ได้เกิดมาเป็น "คน" และได้เป็นพุทธศาสนิก ตายจากร่างที่ได้เป็น "คน" กับเขาทั้งที ก็เสียชาตคนไป "เปล่าๆ" (โมฆะ) น่าเสียดายจริงๆ

หนังสืออ้างอิง

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 7


เวลาบันทึก 01 พฤศจิกายน 2562 ( 11:57:47 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 18:32:46 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:25:44 )

โมฆบุรุษ

รายละเอียด

คือ คนเราเกิดมาแล้ว ไม่มีความนึกคิดที่จะศึกษา ฝึกฝน สั่งสม อบรมตนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตและจิตใจ ไม่รู้จักตั้งศีลตั้งกฎ (หลักกฎเกณฑ์อันพอเหมาะ) ให้แก่ตนเอง เพื่อลดละ ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ความเห็นแก่ตัว ความหลงผิดให้ลดน้อยลงไป, คือ บุคคลที่เกิดมาสูญเปล่าจากคุณความดี ไม่ได้ทำดี ไม่ได้ดี , คือ บุคคลที่ไม่ทำชั่ว และไม่ทำดี คือ ฤๅษี เดียรถีย์ ไม่ทำชั่ว แต่ก็ไม่ได้ทำดีอะไร ไม่มีหลักการ ศีล-สมาธิ-ปัญญา วิมุติ วิมุติญาณทัศสนะ อันชัดแจ้ง จึงเป็นโมฆบุรุษ 100%

หนังสืออ้างอิง

“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า.105, หน้า.106 และ หน้า.107


เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 15:11:41 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:52:59 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:39:09 )

โมฆบุรุษ

รายละเอียด

1. คนที่เกิดมาเสียชาติเกิด

2. คนสูญเปล่า

3. คนที่เกิดมาสูญเปล่า , คนที่เกิดมาเสียชาติเกิด

4. คนเปล่า , คนที่เกิดมาเสียชาติ เสียเวลาเปล่า ๆ เพราะพลาดจากประโยชน์อันคนพึงได้พึงถึง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 14-15, รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 204 , สมาธิพุทธ หน้า 53)

เปิดโลกเทวดา หน้า 113 , วิถีพุทธ หน้า 124


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 20:58:48 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:32:04 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:26:18 )

โมฆะคู่

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นเมื่อตรวจของตัวเองว่ามันยังไม่มีมรรคผลนั้น มันยังไม่มีความจริงอันนั้นได้แล้ว คุณก็ต้องทำสิ เพราะคุณจะต้องรู้ว่าความไม่มี เราไม่มีสภาวะ เรามีแต่พยัญชนะ ถ้าคุณไปสับสนหลงว่ามีสภาวะแต่คุณได้แต่พยัญชนะ นี่คือพวกที่เรียนเปรียญ 9 เรียนด็อกเตอร์ ท่องบ่นอะไรต่ออะไร  หรือผู้ที่เอาแต่สภาวะนั่งหลับตาๆๆ ไม่ออกมาสู่กายข้างนอกเลย ก็เหมือนกันโมฆะทั้งคู่ ต้องกลับมามี 2 ต้องมีภายนอกภายใน เพราะฉะนั้นการแยกกายแยกจิต จึงเป็นเรื่องแรกที่พระพุทธเจ้ากำชับให้อุปัชฌาย์ให้มูลกรรมฐานแก่พระนวกะ สิ่งที่แยกง่ายๆคือภายนอก 

ที่มา ที่ไป

รายการกายนี้คือวิญญาณ วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 03 มีนาคม 2563 ( 10:56:25 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:11:56 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:40:46 )

โมฆะจากศาสนาพุทธ

รายละเอียด

การไปนั่งปฏิบัติหลับตาอยู่ในภพ ยิ่งพูดยิ่งชัด มันโมฆะจากศาสนาพุทธอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ พันเปอร์เซ็นต์ ล้านเปอร์เซ็นต์ เป็นพวกที่ฆ่าด้วยหอกร้อยเล่มเช้ากลางวันเย็นก็ไม่ตาย แต่เราเข้าใจสัจธรรมแล้วก็จะรู้ ก็มันน่ากลัว พระพุทธเจ้าสั่งให้ฆ่า ฟังแล้วน่ากลัวนะ คนที่พระพุทธเจ้าสั่งให้ฆ่ามันจะเป็นยังไง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2563 ( 16:53:36 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:12:30 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:27:37 )

โมฆะจากศาสนาพุทธ

รายละเอียด

เมื่อไม่มีผัสสะ จึงหมดประตูที่จะปฏิบัติ มีผัสสะมีเวทนาให้ศึกษา เวทนาจึงเป็นการให้ศึกษาศาสนาพุทธ ก็มีเวทนา ก็ตามหาเจตนาในเวทนาได้ หากว่าปิดประตูไม่มีเวทนาไม่มีผัสสะก็โมฆะจากศาสนาพุทธ มีผัสสะแล้วก็เจาะลึกไปถึงเวทนา ถึงตัณหา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:57:31 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:12:57 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:27:58 )

โมฆะจากศาสนาพุทธคือหลับตา

รายละเอียด

การปฏิบัติธรรมหนีไปหลับตาอยู่แต่ภายในถึงภายนอกมันเป็นโมฆะจากศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธไม่ได้กาย แม้ในอานาปานสติสูตร ของเดียรถีย์ ไปนั่งหลับตาคุณต้องมีความรู้สึกอยู่กับลมหายใจเข้าหายใจออก ซึ่งมันเป็นภายนอก เป็นส่วนเหลืออยู่ในร่างกาย ไม่ต้องรับรู้สึก หาความไม่รับรู้แม้แต่ลมหายใจเข้าออกแล้วจึงไม่มีกาย จึงเรียกลมหายใจเข้าออกนี้ว่า หากคุณไม่รู้สึกแม้แต่ลมหายใจเข้าออกตอนไปนั่งหลับตาสมาธิ คนคนนั้นปฏิบัติผิดทันที ลมหายใจเข้าหายใจออกนิดเดียว เป็นส่วนของกาย 

ที่มา ที่ไป

รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 ผู้ข้องอยู่ในถ้ำอันไกลจากวิเวก วันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:03:42 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:13:32 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:42:47 )

โมฆะในศาสนาพุทธ

รายละเอียด

ถ้าเราแยกกายแยกจิตไม่ออก รู้ความเป็นกายไม่ชัด จบ โมฆะในศาสนาพุทธ คุณจะปฏิบัติอย่างไรก็ไม่มีผลอะไร คุณก็ปฏิบัติธรรม เหมือนกับชาวโลก ศาสนาไหนเขาก็สอนให้บรรลุความดี ให้เราเจริญให้มีพฤติกรรมดีขึ้นมา อย่าชั่ว ตามกำหนดสมมติของสังคมกลุ่มนี้ประเทศนี้จะถือว่าอย่างนี้ดี สังคมกลุ่มนี้ถือว่าอย่างนี้ดี แตกต่างกันคนละขั้วเลยก็ได้ เช่นสังคมกลุ่มอโศกถือว่า มาจน ดี ไปรวยไม่ดี ถืออย่างนี้เห็นอย่างนี้จริงๆ เอาแต่แค่จนกับรวยเป็นเรื่อง 2 เรื่อง กายก็คือ 2 แยกเป็นรูปกับนาม

ที่มา ที่ไป

รายการกายนี้คือวิญญาณ วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2563 ( 11:03:47 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:13:55 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:28:26 )

โมทนา

รายละเอียด

ความยินดี

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 423


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 20:59:38 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:32:39 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:44:21 )

โมหคต

รายละเอียด

จิตวิญญาณที่ยังไม่มีปัญญาแท้ ยังไม่รู้จริง(อวิชชา) ในความเป็นไปที่มันยึดมั่นถือมั่นอยู่ แม้อย่างต่ำสุดไปหาสูงสุด หรืออย่างใหญ่สุดไปหาเล็กสุด

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 151


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:00:35 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:33:13 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:48:08 )

โมหจิต

รายละเอียด

จิตที่ยังหยาบกระด้างมาก พร้อมสันดานจิตยังมัวเมาและเพ่งโลกีย์-หลงโลกีย์จัด

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 175


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:01:29 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:33:43 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:28:46 )

โมหบุคคล

รายละเอียด

ผู้โง่ ผู้หลง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 460


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:02:17 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:34:29 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:49:20 )

โมหะ

รายละเอียด

1. การยึดชั่ว มุ่งบาป หมายเลว ตรึงเอาความหลงผิดไว้นั้น

2. หลง มืด

3. ไม่รู้

4. ความหลง หลงผิด

5. หลงใหล

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 374,จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 84, จากหนังสือทางเอก ภาค 1 หน้า 86

คนคืออะไร? หน้า 37, ทางเอก ภาค 3 หน้า 12, ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 34,85 , อีคิวโลกุตระ หน้า 45,ทางเอก ภาค 3 หน้า 464


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:03:13 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:36:40 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:51:30 )

โมหะ

รายละเอียด

หลง แยกออกเป็น 5 หลงผิด หลงลืม หลงใหล หลงเหลือ หลงตัว

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:53:48 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:15:45 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:29:06 )

โมหะ 5

รายละเอียด

โมหะ 5 (ความหลง 5 อาการ) 
1. หลงผิด  (เห็นดีว่าชั่ว  เห็นชั่วว่าดี) 
2. หลงลืม  (สติกำหนดรู้ไม่ได้) 
3. หลงใหล  (คลั่งไคล้) 
4. หลงเหลือ (โมหะยังไม่สิ้นเกลี้ยง)
5. หลงตัว  (หลงดี  มีมานะยึดดีในตนเอง)

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 26 กรกฎาคม 2562 ( 14:44:36 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:16:52 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:54:02 )

โมหะ แปลว่า หลง หลงอะไร

รายละเอียด

นั่นก็โมหะเหมือนกัน หลงผิด หลงเลอะเทอะ หลงนี่โมหะ ท่านแปลว่า หลง

อาตมาเคยไล่ มี หลงลืม หลงผิด หลงใหล หลงเหลือ หลงตัว 

หลงผิด นี่มันเห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิดเลย 

หลงลืม คือ ลืมไป มันจำไม่ได้ สัญญามันไม่เกิด 

หลงใหล คลั่งไคล้เลย ละเมอเพ้อพกเรียกว่า ดีไม่ดีเหมือนพวกติดยา คลั่ง 

หลงเหลือ ทีนี้ คือ มันค่อยๆ เจริญไปก็เหลือเศษ หลงเหลือ มันยังไม่หมดเกลี้ยง 

อันสุดท้าย หลงตัว อันนี้หมดเนื้อหมดตัวเลย ครอบคลุมหมดเลย นึกว่า ตัวเองบ้าก็ไม่รู้ว่าตัวเองบ้า ตัวเองดีก็ไม่รู้ว่าตัวเองดี ยกตัวอย่างเช่น ทักษิณ หลงตัว หรือ ธัมมชโย อย่างนี้เป็นต้น หลงตัว เต็มสภาพเต็มสตีม ไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้น หลงลืม หลงผิด หลงใหล หลงตัว หลงเหลือ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมให้เกิดปัญญาเพื่อสละตัวตน วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2565 ( 19:55:42 )

โมหะสองแบบ ของการเดินทางไปนิพพาน

รายละเอียด

กวฬิงการาหาร เหมือนพ่อแม่คู่หนึ่งพาลูกเดินทางไกลกันดารไปหานิพพาน เหมือนกับคนนั่งหลับตาปฏิบัติจะไปนิพพาน พ่อแม่คู่นี้เดินทางไปเสบียงหมดก็ต้องฆ่าลูกตนเองทำเป็นเนื้อแห้งไว้เป็นเสบียงเดินทาง โดยโมหะ เสร็จแล้วก็ยังมาพูดว่าลูกที่น่ารักของเราหายไปไหน ทั้งที่กินอยู่หมับๆ มันโมหะไม่รู้กี่ชั้นซับซ้อนเป็นมิจฉาทิฏฐิที่ยังมืดบอด

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภุมิ บ้านราช วันพุธที่ 8 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 20 มกราคม 2563 ( 18:02:29 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:17:22 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:54:16 )

โมหะเป็นไฉน

รายละเอียด

1. ความไม่รู้ในทุกข์ (ทุกเข อัญญาณัง)

2. ความไม่รู้ในเหตุเกิดทุกข์ (ทุกขสมุทเย อัญญาณัง)

3. ความไม่รู้ในความดับทุกข์  (ทุกขนิโรเธ อัญญาณัง)

4. ความไม่รู้ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา 

5. ความไม่รู้ในส่วนอดีต (ปุพพันเต อัญญาณัง)  

6. ความไม่รู้ในส่วนอนาคต (อปรันเต อัญญาณัง)

7. ความไม่รู้ทั้งในส่วนอดีตและส่วนอนาคต (ปุพพันตาปรันเต

8. ความไม่รู้ในปฏิจจสมุปปาทธรรม ว่า เพราะธรรมนี้เป็นปัจจัย ธรรมนี้จึงเกิดขึ้น 

ความไม่รู้  ความไม่เห็น  ความไม่ตรัสรู้  ความไม่รู้โดยสมควร  ความไม่รู้ตามเป็นจริง   ความไม่แทงตลอด   ความไม่ถือเอาโดยถูกต้อง   ความไม่หยั่งลงโดยรอบคอบ  ความไม่พินิจ   ความไม่พิจารณา   การไม่กระทำให้ประจักษ์  

ความทรามปัญญา   ความโง่เขลา   ความไม่รู้ชัด  ความหลง  ความลุ่มหลง  ความหลงใหล  โอฆะคืออวิชชา  โยคะคืออวิชชา  อนุสัยคืออวิชชา   ปริยุฏฐานคืออวิชชา   ลิ่มคืออวิชชา  อกุศลมูลคือโมหะ  มีลักษณะเช่นว่านี้ อันใดนี้  เรียกว่า โมหะ.

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 34  ข้อ 391อกุศลเหตุ 3 ว่าด้วยโมหะ

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2562 ( 19:45:21 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:18:24 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:30:16 )

โมเดลของสาธารณโภคี

รายละเอียด

ส่วนเรื่องของสาธารณโภคี ขอสารภาพว่ายังอธิบายให้กว้างขวางออกไปไม่ได้ เราเอาชีวิตของสาธารณโภคีไปแสดง พอจะจำได้ไหมว่าเราพยายามจะสร้างโครงสร้างขึ้นที่สวนลุมพินี จะทำให้เป็นสังคมสาธารณโภคี มีความเป็นอยู่ กินอยู่หลับนอนในนั้นเลย แล้วอยู่ในนั้นเป็นสนามรบหมดเลย ทั้งคนแก่ คนเฒ่า เด็กเล็ก อยู่ในนั้นหมดเลย ซึ่งเป็นการสร้างโมเดลของสาธารณโภคีขึ้นให้ดู เราไม่เรี่ยราย แต่มีคนบริจาคมา เสร็จแล้วแล้วก็กระจายเลี้ยงดูกัน เกื้อกูลกัน ช่วยกันคนละไม้คนละมือทุกอย่าง แล้วแต่ความรู้ความสามารถ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องลึกลับ ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีมากมายอะไร ก็อาจอาจจะมีเครื่องไม้เครื่องมือเทคโนโลยีบ้าง ในการสื่อสารเท่านั้นเอง เป็นเรื่องใหญ่ อย่างอื่นไม่ค่อยมี ยิ่งจะใช้เป็นอาวุธยุทธภัณฑ์เทคโนโลยีรุนแรงที่ต้องไปปราบไม่มีเลย มีคนแอบมาทำระเบิดปิงปองแทรกก็ถูกจับ มีอยู่ครั้งหนึ่ง นี่เป็นเป้าหมายการชุมนุม

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 11:07:03 )

โมเลกุลยอดเยี่ยมที่สุด คืออะไร

รายละเอียด

คือทำเพื่อเป็นรูปธรรม ที่จะนำพาคำสอนอธิบายได้ พวกคุณก็จะอธิบายกันได้ ไม่ใช่แค่อาตมาเท่านั้น พวกคุณก็จะอธิบายได้ว่า ที่เอาทองมาปิดนั้น ให้เห็นว่าทองมันไม่ใช่ของที่มีค่าอะไรมากมาย มันก็เป็นหิน มันก็เป็นวัตถุ ดินน้ำไฟลมนี่แหละ แต่มันสังเคราะห์ตัวมันจนกระทั่งมันเป็นโลหะ และเป็นโลหะชนิดที่ยกย่องที่สุด เป็นโลหะที่จับตัวกันได้ โมเลกุลของมันยอดเยี่ยมที่สุด ถึงขนาดเอาน้ำกรดมาละลายโลหะที่ละลายได้ทุกอย่าง นอกจากทองคำ น้ำกรดลงไปอย่างไรก็ไม่ละลาย มันควบแน่นกันถึงขนาดนั้น จึงยกให้เป็นโลหะชั้น 1 ของโลก ทุกประเทศในโลก ก็เข้าใจทั้งนั้นว่า ทองคำนี้คือโลหะที่ 1 อันดับที่ 1 ถ้าถ่านมันก็คือเพชรอันดับที่หนึ่ง เพชรก็คือคาร์บอนคือถ่าน อย่างนี้เป็นต้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2565 ( 12:35:17 )

โย ธัมมัง ปัสสติ โสมังปัสสติ

รายละเอียด

ผู้ใดเป็นธรรม ผู้นั้นเห็นพระพุทธเจ้า

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 377


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:26:23 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:38:10 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:30:34 )

โยคะ 4

รายละเอียด

คือกิเลสที่ผูกพันในไว้

1. กาม (กามโยคะ) ความใคร่อยากผูกพันใจไว้

2. ภพ (ภวโยคะ) ความวนเกิดผูกพันใจไว้

3. ทิฏฐิ (ทิฏฐิโยคะ) ความเห็นผิดผูกพันใจไว้

4. อวิชชา (อวิชชาโยคะ) ความหลงไม่รู้กิเลสผูกพันใจไว้

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 21  "โยคสูตร"  ข้อ  10

หนังสืออ้างอิง

หนังสือธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2562 ( 14:19:08 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:51:24 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:56:29 )

โยคะ 4

รายละเอียด

คือ กิเลสที่ผูกพันใจไว้

1. กาม(กามโยคะ) ความใคร่อยากผูกพันใจไว้

2. ภพ(ภวโยคะ) ความวนเกิดผูกพันใจไว้

3. ทิฏฐิ ทิฏฐิโยคะ) ความเห็นผิดผูกพันใจไว้

4. อวิชชา(อวิชชาโยคะ) ความหลงไม่รู้กิเลสผูกพันใจไว้

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 21 “โยคสูตร” ข้อ 10


เวลาบันทึก 12 มีนาคม 2565 ( 21:38:06 )

โยชน

รายละเอียด

การประกอบ การปรุงต่อก่อต่อ ความยาวไกล ความใหญ่จนลืมตัว

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 579


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:27:05 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:38:39 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:55:52 )

โยนิ

รายละเอียด

1. ความเกิด

2. การเกิด

3. บ่อเกิด

หนังสืออ้างอิง

คนคืออะไร? หน้า 443, เปิดโลกเทวดา หน้า 19, ค้าบุญคือบาป หน้า 225


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:28:05 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:39:18 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:57:20 )

โยนิ 4

รายละเอียด

คือการกำเนิดของสัตว์โลก 4 ลักษณะ

1. ชลาพุชโยนิ (กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในครรภ์)

2. อัณฑชโยนิ (กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในไข่ -ทิชาชาติ)

3. สังเสทชโยนิ (กำเนิดในของปฏิกูล. กำเนิดของสัตว์ที่เกิดจากการแบ่งตัว)

4. โอปปาติกโยนิ (กำเนิดในจิตวิญญาณ, เกิดใหม่ทางจิตวิญญาณเปลี่ยนภพทันที เกิดนิโรธ  ไม่มีอะไรมาคั่น  เกิดแทนสิ่งดับโดยไม่มีซาก)   

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 12   "มหาสีหนาทสูตร"  ข้อ  169, พระไตรปิฎก เล่ม 11 ข้อ 263

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2562 ( 14:36:10 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:48:44 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:58:03 )

โยนิ 4

รายละเอียด

คือการกําเนิดของสัตว์โลก 4 ลักษณะ

1. ชลาพุชโยนิ (กําเนิดในครรภ์)

2. อัณฑชโยนิ (กําเนิดในไข่)

3. สังเสทชโยนิ (กําเนิดในของปฏิกูล)

4. โอปปาติกโยนิ (กําเนิดในจิตวิญญาณ)

หนังสืออ้างอิง

ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฎกเล่ม 12 “มหาสีหนาทสูตร” ข้อ 169


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 04:54:04 )

โยนิโส

รายละเอียด

1. ให้แยบคาย

2. ความรอบรู้แยบคายยิ่ง

3. ที่เกิด

4. ลงไปถึงที่เกิด

หนังสืออ้างอิง

อีคิวโลกุตระ หน้า 78, หน้า 82, รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 186 , พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 46

 


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:29:27 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:40:11 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 15:59:47 )

โยนิโส กับอโยนิโสมนสิการ เป็นไฉน

รายละเอียด

เริ่มต้นมีจิตยินดีแล้วผู้มีจิตยินดีจึงจะแสวงหามาฝึกหัดทำให้เกิด มนสิการ เป็นข้อที่ 2 ของมูลสูตร มาทำให้เกิด จิตทำจิตในจิตเป็น 

มนสิการ อาตมาแปล เป็นพยัญชนะของสภาวะเลยว่าแปลว่า เรามาทำจิตในจิตของตน มนสิการเป็นคำกลางๆ ศาสนาพุทธเข้าหาจิตไม่ใช่แค่กายวาจา เข้าหาที่จิต

เพราะฉะนั้นเมื่อทำจิตในจิตตัวเองเป็น เป็น ก็หมายความว่ามีโยนิโส มนสิการ ในมูลสูตรมีแต่คำว่ามนสิการ ไม่มีคำว่าโยนิโส

การทำจิตในจิตก็มี 2 แบบมาทำจิตในจิตที่ไม่โยนิโส คืออโยนิโสมนสิการ ก็คือชาวพุทธที่โมฆะไปนั่งหลับตาปฏิบัติเป็นต้น มีความศรัทธามีความยินดีในนิพพานนะแต่ข้อ 2 สอบตก มนสิการสอบตก เพราะว่าอโยนิโสมนสิการ ปฏิบัตินอกทางพุทธ ปฏิบัติมิจฉาทิฏฐิเป็นการปฏิบัติแบบโลกีย์ไปหมด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 21 วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2563
ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:58:49 )

โยนิโสนมสิการ

รายละเอียด

การปฏิบัติทำที่ใจเรานี้ให้เกิดผลเรียนรู้ให้ถ่องแท้เข้าใจ จับต้นเหตุที่พาเกิดกิเลส ตัณหา อุปทาน แล้วดับตัวที่พาเกิด(สมุทัย) ตามหลัก อาริยสัจ4

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 61


เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 12:23:23 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:47:20 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 19:54:34 )

โยนิโสนมสิการ

รายละเอียด

ทำใจในใจให้แยบคาย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:43:49 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:19:38 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 19:54:55 )

โยนิโสมนสิการ

รายละเอียด

แปลว่าทำ มนสิทำที่ใจนี้ ผู้ที่ทำใจได้อย่างถ่องแท้ โยนิโสแปลว่าถ่องแท้ถูกต้องแยบคาย แปลว่าลงไปถึงที่เกิด ลงไปถึงที่เกิดอะไร ที่ที่กิเลสเกิด เป็นหทยรูป แล้วเราก็แยกภาวรูปนี้ออกได้ เป็นธรรมะ 2 มีกิเลสเป็นอิตถีภาวะดิ้นด๊อกแด๊กอยู่ในจิตเป็นธรรมะ 2 ตัวที่เป็นกิเลสเป็นจิตเก๊จิตปลอมอยู่ในนี้ คุณก็จัดการเป็นรูปทั้งรูปเลย ตั้งแต่ปสาทรูป 5 โคจรรูป 5 ผัสสะและเกิดภาวะ 2 ที่หทยรูป แล้วก็มีอาหารรูป ตรวจชีวิตรูป อะไรคือชีวิต กิเลสมันยังมีมันยังไม่ตาย กิเลสมันยังมีชีวชีวิตอยู่ อ่านกิเลสได้ กิเลสเป็นจิตนิยาม ชีวิตของกิเลสเหนือกว่าชีวิตของ พีชะ ไม่ใช่แค่อุตุเท่านั้น เราอ่านออก ตัวกิเลสนี้เป็นชีวิตินทรีย์ ก็จัดการมันมีอะไรเป็นอาหาร อ้อ อาหารของมันคือกามคือพยาบาท อาหารของเจ้ากิเลสมันมีชีวิตก็จัดการมันได้ กามหรือพยาบาท

 

จัดการปริเฉทรูป อย่างเป็นหมวดหมู่ จัดการปริเฉทรูป แล้วก็สามารถที่จะแยกแยะความเป็นตัวกิเลสที่มันปรุงแต่งอยู่ในนี้ได้ จับได้ตั้งแต่ข้างนอกที่สัมผัสทางกาย สัมผัสทางวจี เป็นวิญญัติ 2 ก็เอามาจัดการเกิดการสังเคราะห์สังขาร จับกิเลสได้ก็ประหารๆๆๆ ประหารได้ ล้างกิเลสได้ กิเลสลดลงๆๆ จนจิตมันสะอาดจิตว่าง จนจิตอยู่ในลักษณะ วิการรูป 5

จิตก็เบาสบายมี มุทุ ความเร็วไวคล่องแคล่ว ลหุตา ก็ทำงาน มีกรรมที่เกิดจากจิตลหุตา ว่างเบา ก็ทำงานอย่างมี อัญญา ปัญญาเข้าร่วมกับกรรม ก็เป็นผลงานออกมาเป็น กัมมัญญา เป็นการงานที่เหมาะควรดีงามทุกอย่าง เพราะเราได้ล้างกิเลสออก ก็มีจิตที่ ลหุตา มุทุตา ก็เกิด กายวิญญัติ วจีวิญญัติ เกิดจากมโนคือจิตใจเรานั่นแหละ

 

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอังคารที่ 1 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 12:49:26 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:21:48 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:03:59 )

โยนิโสมนสิการ

รายละเอียด

โยนิโสมนสิการ  คือ  การเน้นที่มนสิการ คือ ทำใจในใจ ให้มันถ่องแท้โยนิโสฯ จงไปถึงที่เกิดถูกต้องสมบูรณ์

1. ทำใจในใจอย่างแยบคาย

2. น้อมใจตรองตามให้แน่วแน่

3. พยายามควบคุมใจให้จริง ๆ ให้มันเป็นจิตที่รู้เท่าทัน จิตที่อยู่กับจิต ไมให้ฟุ้งซ่านไปตามแรงเคยชินและแรงชอบ แรงติดนั่นเอง

4. การทำใจในใจให้ถ่องแท้

5. ทำใจในใจจนลงไปถึงที่เกิด

6. ทำจิตในจิตถ่องแท้ สามารถชำระกิเลสในสันดานลงได้ คือทำบุญเป็นบุญ-ได้บุญ[กิเลสถูกชำระ คือมีผล]

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ

หนังสืออ้างอิง

ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 137) , คนคืออะไร? หน้า 147

ทางเอก ภาค 1 หน้า 280 ,รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 114, ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 234)

เปิดโลกเทวดา หน้า 42 , ค้าบุญคือบาป หน้า 197


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:31:46 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:41:57 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 19:56:57 )

โยนิโสมนสิการ

รายละเอียด

แปลว่าการทำใจในใจอย่างถูกต้องลงไปถึงที่เกิดเหตุ ถึงหทยรูปจับอาการจิตได้  แยกแยะกิเลสออกมาได้ แยกได้ถูกต้องแล้วกำจัดกิเลสได้ เชิญคุณทำทานคุณตามจิตคุณไม่ได้ คุณทำทานตามจารีตประเพณีแล้วก็บอกว่าจะได้บุญ แต่คุณทำใจในใจอย่างไรก็ทำทานแล้วเปล่งอะไร ขอให้มีได้สมบัติสวรรค์ ทั้งร่ำรวย อายุ วัณโณ สุขัง พลัง ซึ่งมันยังมีความหวังยังมีการต้องการสิ่งตอบแทนจะได้

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 15:57:09 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:22:36 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 19:58:49 )

โยนิโสมนสิการ

รายละเอียด

คือ "ทำใจในใจ" ของตนถูกต้องบริบูรณ์คือ "ปฏิบัติใจในใจของตนเป็น" และถูกต้องตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจริง ภาษาเรียกว่า "โยนิโสมนสิการ"

"โยนิโสมนสิการ" นั้นหมายถึง "ทำใจในใจ" สำคัญเป็นหลักใหญ่ ไม่ใช่หลงผิดว่า "โยนิโสมนสิการ"คือการคิดพิจารณาให้ถ่องแท้ ต้องมีทั้ง 2 อย่าง แต่เน้นหนักไปที่ "การทำใจให้เกิดให้พัฒนาขึ้น" เป็นใหญ่

หนังสืออ้างอิง

รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 161


เวลาบันทึก 08 ธันวาคม 2562 ( 15:57:20 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:46:30 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 19:59:24 )

โยนิโสมนสิการ

รายละเอียด

youtube : https://www.youtube.com/watch?v=PFoqt6cOukw&feature=youtu.be 

ที่มา ที่ไป

630612 สนทนาธรรมยามเช้า เรื่องโยนิโสมนสิการ


เวลาบันทึก 15 มิถุนายน 2563 ( 07:41:10 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 13:46:09 )

โยนิโสมนสิการ

รายละเอียด

เอาไปปฏิบัติได้ก็มนสิการเอาไปปฏิบัติ ปฏิบัติจนข้างนอกที่หยาบก็ทำได้ง่ายกว่า ทางกายทางวาจาจนทำได้ถึงใจมนสิการของใจที่เป็นตัวประธานเปลี่ยนแปลงใจที่เป็นมิจฉาทิฏฐิที่มันไปติดยึดก็ล้างกิเลสได้ ใจก็มีอำนาจควบคุมกายวจีอีก อย่างถูกต้องถ่องแท้เป็นโยนิโสละเอียดแยบคาย ลงไปถึงที่เกิดลงไปถึงที่จะเปลี่ยนแปลง จุดมูลกา จุดต้นรากของมัน ถอนรากถอนโคนกิเลสให้หมด ปลูกอาริยธาตุลงไปใหม่ คุณก็ทำสำเร็จโยนิโสมนสิการ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ปฏิบัติศีลให้ถึงอรหัตตผลโดยลำดับ

วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 พฤษภาคม 2564 ( 15:27:50 )

โยนิโสมนสิการ ตัวสำคัญหลักอยู่ที่มนสิการ

รายละเอียด

คำว่าโยนิโสมนสิการ ในวงการศาสนาท่านไปเน้นแต่เพียงว่า โยนิโสมนสิการเป็นการพิจารณาให้ถ่องแท้มีแต่ตรรกะ มีแต่เหตุผลพิจารณาให้ถ่องแท้ จริงๆแล้วโยนิโสมนสิการไม่ใช่ตัวการหลักอยู่ที่โยนิโสแต่ตัวสำคัญหลักอยู่ที่มนสิการอยู่ที่ต่อการทำใจในใจ เพราะว่าที่ทำใจกันไม่ถูกต้องสัมมาทิฏฐิอย่างพระพุทธเจ้าจึงไปกันใหญ่อย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 20 มิถุนายน 2563 ( 13:39:08 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 13:47:02 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:24:48 )

โยนิโสมนสิการ ถึงที่เกิดดับของอัตตา

รายละเอียด

คุณจะต้องมาฝึกมาเรียนรู้จริงๆ เลย ทำความเข้าใจก่อนให้เป็นสัมมาทิฏฐิ ว่าจะต้องทำอย่างนี้ให้มาเรียนรู้ดีๆ ไม่ง่ายนะ มันยากนะ แม้คุณจะมีสัมมาทิฏฐิแล้ว มีข้อปฏิบัติแล้ว คุณก็ต้องเรียนรู้และปฏิบัติตาม ฝึกฝนจริงๆ คุณถึงจะค่อยๆ เข้าใจ อ๋อ.. อัตตา เป็นอย่างนี้ แล้วคุณจะค่อยๆ ทำ ทำได้เป็นได้เรียกว่า มนสิการ ทำอะไร? ใจในใจ ทำใจในใจ กว่าจะโยนิโสฯ กว่าจะถูกต้องถ่องแท้ละเอียดแยบคาย กว่าจะลงไปถึงที่เกิดที่ดับของมัน รู้ที่เกิดที่ดับ อาการที่เกิดอาการที่ดับ จับตัวพวกนั้นได้ จนกระทั่งสามารถทำให้อาการนั้นไม่มี มันก็ไม่เกิด ถ้าอาการนั้นยังเหลืออยู่ก็เกิดอยู่ ก็ต้องทำ เรียนรู้ปฏิบัติแล้วทำ ประมาทไม่ได้ ทำทิฏฐิให้ถ่องแท้เข้าใจ จึงสามารถทำให้อัตตาหมดไปได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ เปิดยุคบุญนิยมระดม ปัญญา-อนัตตา ตอน 4 งานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44  วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 เมษายน 2564 ( 19:33:21 )

โยนิโสมนสิการ 

รายละเอียด

โยนิโสมนสิการ  คือ  ความสามารถจัดการกิเลส  ตรงที่มันเกิดนี่แหละ  หากไม่ถึงโยนิโสมนสิการคุณแก้ไขมันไม่ได้  จะทำใจในใจต้องไปถึงจุดนี้

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต  สันติอโศก ครั้งที่ 69  วันจันทร์ที่ 16 กันยายน  2562


เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 08:48:04 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:24:32 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 19:59:46 )

โยนิโสมนสิการทำอย่างไร

รายละเอียด

การมนสิการโดยแยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมทำให้ . . สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ ที่จะรู้ทันผัสสะ รู้ทันเวทนา พระพุทธเจ้าตรัสถึงโยนิโสมนสิการไว้ตรงไหนบ้าง

ในอวิชชาสูตร มีอยู่ใน ปัจจัย สองอันแรกเลยคือ ปรโตโฆษะกับโยนิโสมนสิการ

ผู้ที่ฟังธรรมะแล้วมี ปรโตโฆษะ อาตมาบอกว่าอาตมาคือผู้ที่อธิบายธรรมะให้คุณฟัง คุณเคยรู้ไหม ฟังแล้วมันมีแปลกมีใหม่จากที่เคยฟังมาไหม บอกว่าวิธีทำใจในใจคือทำอย่างนี้ ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาสะกดจิตอย่างเดียว แต่ทำอย่างตื่นรู้ ชาคริยาแล้วมีธรรมวิจัย แยกแยะ ในตักกะ แล้วแยกแยะกิเลส กาม พยาบาท มีสิ่งรู้ได้แยกแยะ อ่านหทยรูปแล้วเอาอาการอกุศลนี้ออกได้ ทำทีละปริเฉท ทีละกรอบตากระทบรูป หูกระทบเสียงก็ทำทีละอันให้แม่นๆจะไม่สับสน แต่ถ้าทำอันนี้ยังไม่รู้แล้วไปทำอย่างอื่นอีกก็จะไม่รู้เรื่องเสียที จับจนเลอะ กระทบตามีกิเลสไหม มีกิเลสก็ทำให้มันลด กระทบหูก็เช่นกัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานเพื่อฟ้าดิน เพื่อฟ้าดิน สร้างคนจนสุขสำราญฯ ตอน4 วันที่ 1 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 16:52:16 )

โยนิโสมนสิการที่ถูกต้องถ่องแท้ต้องมีที่มา 6 อย่าง

รายละเอียด

เมื่อมีฉันทะมาศึกษา ถึงจะปฏิบัติมนสิการ ทำใจในใจเก่ง มีมรรคผลโลกุตรธรรม ถ้าไม่อย่างนั้นทำไม่ได้ คนที่จะมนสิการได้อย่างถูกต้องถ่องแท้ โยนิโสมนสิการ ก็จึงต้องมีที่มา 6 อย่าง ใน สุริยเปยยาลสูตร 7 ข้อ ข้อที่ 7 คือโยนิโสมนสิการ เพราะฉะนั้นคุณจะโยนิโสมนสิการได้ องค์ประกอบอีก 6 คุณต้องมีก่อน 

สุริยเปยยาล7 

[129]  มิตรดี เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค

[131]  สีลสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค 

[132]  ฉันทสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค 

[133]  อัตตสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค

[134]  ทิฐิสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค 

[135]  อัปปมาทสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค 

[136]  โยนิโสมนสิการสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค 

หากไม่เอาจริงประมาท แม้รู้ก็ไม่เกิดผล ไม่มีทางได้หรอก กว่าจะทำโยนิโสมนสิการได้ถูก โยนิโสคือถ่องแท้ แยบคาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 10 วันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:25:43 )

โยนิโสมนสิการนี้เป็นตัวสำคัญ

รายละเอียด

อาตมาเคยขยายความมนสิการการทำใจในใจแล้วก็ยกพระสูตรต่างๆที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสถึงโยนิโสมนสิการมาขยายความให้ฟัง ผู้ที่ฟังเป็นมีไหวพริบดีๆก็จะเข้าใจเลยว่าโอ้โห โยนิโสมนสิการนี้เป็นตัวสำคัญ ภาษาแปลว่า การทำใจในใจ เป็นคนที่สามารถจัดการใจของเราทำใจในใจของเราได้ อย่างโยนิโสฯ แปลว่าแยบคายละเอียดลงไปถึงที่เกิด ทำได้เก่งทำได้สามารถมาก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 07 กรกฎาคม 2563 ( 08:23:19 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 13:45:38 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:22:11 )

โยนิโสมนสิการปฏิบัติอย่างไร

รายละเอียด

แต่ละคำที่อาตมาขยายความนี้ชัดเจน พูดไปนี้ไม่ได้หมายความว่าให้มาปฏิบัติอย่างนี้อาตมาจะมา ยกตัวยกตนเป็นคนยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ แต่พูดความจริง อาตมากำลังขยายความจริงสู่ฟัง ผู้ใดเข้าใจจะเกิดปัญญาขึ้นก็เรื่องของเขา เขาจะสำนึก แล้วเขาจะกระทำตามควร ไม่ต้องมาหาอาตมาอย่างนั้น หรือจะมาหาตามพระพุทธเจ้าท่านว่า โอ้ รู้แล้วว่าท่านเป็นสัตบุรุษ ก็ต้องเข้าใกล้ พบให้บริบูรณ์ แล้วก็ซักถามท่านให้บริบูรณ์ รับซับซาบจากท่านให้บริบูรณ์จนเกิดความเข้าใจความเชื่อเป็นศรัทธาที่บริบูรณ์ คุณก็เอาความรู้ที่ได้เชื่อรู้ศรัทธาเชื่อถือดีแล้วว่าจะปฏิบัติอย่างไร 

โยนิโสมนสิการปฏิบัติอย่างไร เข้าใจจากท่านแล้ว เรามิจฉาทิฏฐิแม้แต่โยนิโสมนสิการก็มิจฉามานาน นึกว่าการทำใจในใจก็คือการทำสะกดจิตหลับตา หรือทำความเข้าใจเฉลียวฉลาดวิเคราะห์วิจัยรู้ให้มากๆๆ นี่คือโยนิโส จะให้มากเท่านั้นไม่ใช่ 

โยนิโสคือ การปฏิบัติลงให้เกิดถึงจุดเกิดจุดตายของต้นธาตุต้นธรรมของจิตเลย แล้วก็จับตัวกิเลสได้เลย แยกแยะตัวกิเลสได้ และมีวิธีกำจัดกิเลสด้วยพลังปัญญาอันยิ่ง หรือสะสมพลังงานฌาน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 22:21:48 )

โยนิโสมนสิการอย่างสมาธิแท้

รายละเอียด

การทำใจในใจหากไม่เข้าใจโยนิโสมนสิการอย่างสมาธิที่แท้ คุณจะไม่สามารถปฏิบัติมรรคมีองค์ 8ได้ เพราะว่าโยนิโสมนสิการจะเป็นข้อที่ 7 ของแสงอรุณทั้ง 7

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 15:52:29 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:25:44 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:22:46 )

โยนิโสมนสิการไม่เป็นจึงเกิดเหตุขัดแย้งได้

รายละเอียด

คำว่า โยนิโสมนสิการ ก็ติดตามฟังให้ดีๆ วันนี้จะไม่ลงรายละเอียดของ โยนิโสมนสิการ เพราะเป็นรายละเอียดที่ลึกซึ้งมาก 

ขออภัยแม้แต่ท่านประยุทธ์ ปยุตโต หรือสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ ที่คนไทยนับถือมากเป็นปราชญ์เป็นผู้รู้ ก็ยังนิยามคำว่าโยนิโสมนสิการต่างกันกับอาตมา ก็บอกไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน 

เพราะฉะนั้นท่านประยุทธ์ ปยุตโต จึงขัดแย้งอาตมา แล้วก็เป็นผู้ที่ เป็นหัวเรือใหญ่ จัดการเปิดฉากจัดการอาตมา ตั้งแต่พ.ศ. 2532 เป็นเรื่องเป็นราวกันมา จนกระทั่งแยกดำแยกขาวออกไป เพราะอาตมาออกมาได้สำเร็จตามพระธรรมวินัย อาตมาได้ประกาศนานาสังวาสแล้ว แต่ท่านประยุทธ์ก็ไม่เข้าใจนานาสังวาส ไปรื้อคดี ไปรื้ออาตมากลับมา อาตมาประกาศตั้งแต่ 2518 ประกาศนานาสังวาสแล้วก็อยู่ดีมาเรื่อยๆ แต่เมื่อ พ.ศ. 2532 ท่านประยุทธ์ ปยุตโต เขียนหนังสือซัดอาตมา ซัดไปได้ 3 เล่ม อาตมาก็มีอยู่เพียง 1 เล่มอยากได้ทั้ง 3 เล่ม ใครมีนะ หามาให้อาตมาหน่อย 

แล้วท่านยังทิ้งท้ายไว้ในเล่มที่ 3 ว่า เดี๋ยวจะยังมีอีกที จะซัดอีก แต่จากนั้นท่านก็ไม่ได้เขียน ซัดอาตมาต่อ อันนี้อาตมาจะเข้าใจเอาเองว่าท่านอาจจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง ยังดีใจลึกๆอยู่ว่า แหม.. จะไปพูดถึงขั้นที่พระพุทธเจ้าตรัสกับโกณฑัญญะก็ไม่ได้นะ โอ้! โกณฑัญญะ รู้แล้วหนอ คงจะยังไม่ได้ถึงขั้นนั้น ถ้ารู้ได้ถึงขั้นนั้นนะ เกิด อัญญธาตุ ขึ้นในจิตท่านประยุทธ์ ปยุตโต แล้วก็สุดยอด เมืองไทยไปลิ่วเลย 

ขออภัยที่อาตมาพูดเหมือนคนอวดดี หลงตัวตนมาก มันพูดเหมือนคนอย่างนั้น แต่อาตมาพูดอย่างมีน้ำหนัก พูดอย่างจริงใจ พูดอย่างเชื่อมั่นว่าอาตมาเจตนาดี แล้วก็พยายามที่จะพูดเพื่อให้เข้าใจกันด้วยดี 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนถือศีล 5 ได้ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มกราคม 2565 ( 13:01:00 )

โยนิโสและมนสิการ

รายละเอียด

การจะมีสัมมาทิฏฐิได้จะต้องมี ปรโตโฆษะ และโยนิโสมนสิการ ซึ่งเป็นตัวที่ 7 ของแสงอรุณและเป็นตัวที่ 2 ของ สัมมาทิฏฐิ 2 แล้วก็เป็นตัวที่อยู่ในหลายสูตร ในอวิชชาสูตร อยู่ในตัวที่ 4 ของความบริบูรณ์ ได้คบสัตบุรุษบริบูรณ์ ได้ฟังสัทธรรมบริบูรณ์ ได้มีความศรัทธาที่บริบูรณ์แล้วจึงมีโยนิโสมนสิการที่บริบูรณ์ โยนิโสมนสิการจึงมีความยิ่งใหญ่มาก อยู่ในปัญญาวุฒิ 4 ความเข้าใจโยนิโสมนสิการยังมีความเหลื่อมเพี้ยนกันอยู่ ฝ่ายเถรสมาคม อธิบายตามท่านประยุทธ์ที่อธิบายว่าเป็นความเฉลียวฉลาดรอบรู้คือการโยนิโสฯ แต่อาตมาเน้นที่ มนสิการ คือทำใจในใจได้ อย่างรอบรู้ ไม่ใช่รู้แต่ทำใจในใจไม่ได้ ไม่ไปสำคัญที่การทำใจในใจ อันนี้แหละบกพร่องเพราะการทำใจในใจเป็นรากเค้าเป็นข้อที่ 2 ของมูลสูตร 10 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 05 เมษายน 2563 ( 11:28:37 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:39:04 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 20:00:26 )

โรคกระดูกพรุนเกิดจากวิบากกรรมอะไร

รายละเอียด

อาตมาก็จะต้องเอาความรู้ทางหมอมาตอบ อาตมาไม่มีความรู้ทางหมอมาตอบ มีคนให้ข้อมูลมาบ้างว่า มันเกิดจากพฤติกรรมไม่ค่อยเคลื่อนที่เคลื่อนตัว ชอบนอน ชอบอยู่นิ่งๆ ออกกำลังกายน้อย เพราะฉะนั้นเมื่อผู้หญิงหมดเมนส์ ฮอร์โมนก็จะลดลงกระดูกก็จะพรุนง่าย เอาละอาตมาพูดมากเดี๋ยวจะผิดเอา แค่นี้ก็แล้วกัน อาตมาไม่เก่งทางนี้เท่าไหร่ ทางเรื่องสรีระเท่าไหร่  อาตมาไปเก่งทางเรื่องนามธรรม สรีระนี้ให้ทางพวกกายภาพ ทางด้านที่เขาเรียนรู้กันจริงๆ เขาเรียนรู้กันรายละเอียดเยอะแยะเลย กายวิภาคเขาเก่งกว่าอาตมาเยอะ อาตมากายวิภาคไม่ค่อยไหว 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การเมืองบุญนิยมโลกุตระที่เป็นปรากฏการณ์จริง วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2566 ( 15:05:35 )

โรคที่น่ารำคาญที่สุดคือ เอาแต่คิดกับพูด

รายละเอียด

จริงๆแล้วนี่ ไอ้เรื่องลงมือทำงานกับเอาแต่คิดกับพูด โรคที่น่ารำคาญที่สุดคือ เอาแต่คิดกับพูด แต่คนทำงานนี้ไม่น่ารำคาญเท่าไหร่ พูดไม่เป็นเลย คิดก็ไม่ค่อยเก่ง แต่ทำได้ สิ่งที่เขาทำได้นั้นเขาก็ทำได้ สิ่งใดเขาทำไม่ได้ทำเสียๆหายๆ คุณรู้คุณก็บอกเขาแล้วก็ช่วยกันทำ มันก็จะเจริญ ยิ่งคนไม่ได้เรียนอะไรมาก เขาก็ทำตามที่เขาทำได้ ก็ดีแล้ว แต่ไอ้เรียนมากๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรได้เลยนี่ คิดเอาเองก็แล้วกัน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 13:37:13 )

โรคประสาทหลอนเรียกว่าอุปาทาน

รายละเอียด

เอ้าทีนี้ มีคนเขาเห็นจริงๆ ตาเขาเห็นเลย ไอ้สิ่งที่เห็นนี่แหละเป็นเรื่องของความรู้ของพระพุทธเจ้า ท่านตรัสรู้ ความจริงก็คือความไม่จริง ตาเราหลอกตัวเอง เราสร้างตัวนั้นขึ้นมาเอง เห็นเองเป็นเองมีเอง ไอ้สิ่งที่เห็นที่มีที่เป็นนั้นมันไม่มีของจริงแต่เราเห็น เพราะเราหลอกตัวเองได้ ทางหมอทางแพทย์ วิทยาศาสตร์ เขาก็รู้ว่านี่เป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่ง โรคประสาทหลอน ได้ยินเสียง แต่มันไม่มีเสียง มันไม่มีรูปแต่เห็นรูป โรคประสาทหลอน ภาษาพระเขาเรียกว่า อุปาทาน หรือมโนมยอัตตา เป็นรูปที่สำเร็จขึ้นด้วยจิต จิตมันปั้นขึ้นสำเร็จด้วยจิตได้จริง อย่างนี้เข้าใจง่าย 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2563 ( 16:01:08 )

โรควิบาก เป็นอจินไตย

รายละเอียด

ก็ตอบอย่างสนุกหน่อยก็คือ ที่ไม่สบายคือวิบากอาตมา ก็อย่าคิดมาก เป็นเรื่องจริงแต่เป็นอจินไตย ที่บอกว่าเป็นกรรมวิบากได้เพราะอาตมาไม่ได้ไปหาโรคมาใส่ตัว ไม่ได้ตะลอนไปกินใช้ไปเที่ยวติดเชื้อจากข้างนอกมา อาตมาไม่ได้เป็นคนไปท่องเที่ยวสัมผัส ผู้ดูแลป้องกันดี แล้วอาตมาไม่ได้ดิ้นรนแสวงหาเชื้อโรคใส่ตัว ไม่พยายามเข้าไปในที่มีเชื้อ อาตมาจึงไม่มีโรคภัยที่เกิดจากการได้เชื้อในปัจจุบัน มันป่วยเพราะวิบากขันธ์ที่มันมา ซึ่งเป็นอจินไตย บรรยายยาก ของอาตมาไม่มีใครเหมือนได้ง่ายๆ เป็นโรคที่หมอสั่นหัวเลย หมอขนาดเป็น specialist เจ้าของโรงพยาบาลวิชัยยุทธ เชี่ยวชาญด้านหูคอจมูก ไปรักษาอยู่เป็นปี สุดท้ายท่านก็บอกว่าคงได้แค่นี้แหละครับท่าน ถือว่าเป็นโรค Aging ตามวัยก็แล้วกัน ที่จริงคือบอกให้อาตมาเลิกรักษาเสียทีคือมันทรงอยู่อย่างนั้นเอง   หมอก็ไม่รู้จะทำให้ดีขึ้นอย่างไร ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้มันก็ยังทรงๆ แม้แต่หมอที่เก่งๆ ได้แต่ดูๆกับชะลอรักษาตามอาการไป เท่านั้นเอง เหตุไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร เรียกว่ารักษาแบบ symptomatic treatment แค่นั้นเอง ไม่รู้เหตุต้นทาง มันรู้ แต่ไม่รู้จะแก้อย่างไร ก็ได้แต่รักษาตามอาการชลอให้มันบรรเทาเท่านั้นเอง นี่คือรายละเอียดที่บอกว่าเป็นโรควิบาก 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2563 ( 18:15:04 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:26:42 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:26:26 )

โรควิบากรักษาไม่หาย

รายละเอียด

จริงๆแล้วอาตมาก็ยังไม่มีโรคอะไรนอกจากมีกระเปาะที่คอ มันไอ ก็มีอีกอันที่โรคเจ็บเหมือนเข็มแทงเป็นโรคทางปลายประสาท มันทำงานไม่เต็มที่ อันนี้อาตมาก็รู้ดี เพราะอาตมาไปเร่งพลังงานที่มันต้องอาศัยเส้นประสาท เส้นประสาทมันโตไม่ทันพลังงานนึกออกไหม มันก็เลยเจ็บจิ๊กๆ ทิ่มแทงภายใน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไรแต่มันเจ็บ เขาก็บำบัดไปตามอาการ symptomatic treatment ไป ไม่สามารถแก้ไขที่ตัวเหตุและ Radical Treatment ทำตามเหตุปัจจัยไม่มีปัญหา รักษาตามอาการไป เพราะเหตุปัจจัยของเราดันสุรังมันอยู่ เราก็ดันมันไปเรื่อยๆเพื่อให้เกิดประโยชน์ไม่ใช่เป็นไปเพื่อแย่งลาภยศสรรเสริญ อายุยืนยาวเพื่อจะแย่งชิงลาภยศสรรเสริญ ไม่มี สุขก็ไม่มีแล้ว สรรเสริญก็มีคนด่าอยู่เรื่อยๆ เขาก็รับวิบากกรรมของเขาไปเราก็ไม่รู้จะทำอะไรเขาได้ เขาเชื่อมั่นอย่างนั้นจริงๆ เราก็ไม่ได้ไปจองเวรจองกรรมไม่ได้โกรธเกลียดเขาหรอก อาตมาเลิกจองเวรจองกรรม ขณะนี้ก็ยังมีวิบากจะไปจองเวรหาอะไรอีก อาตมาไม่สร้างการจองเวรจองกรรมอีกแล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการบ้านราช กายนี้คือวิญญาณ วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:43:32 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:27:15 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:27:12 )

โรคโควิด 19 ร้ายกาจ 1 เปอร์เซ็นต์

รายละเอียด

อาตมาว่าก็คงไม่ต้องถึงขนาดนั้นนะขนาดนี้ก็นั่งห่างกัน 1-2 เมตร พวกเราห่างจากกันประมาณ 5-6 เมตร ทิ้งช่วงกันขนาดนี้ก็ดีแล้วล่ะ มีคนพิจารณาแล้วตัดสินแล้วว่าโรคนี้มันมีความร้ายกาจ 1 เปอร์เซ็นต์ แต่มีโรคประสาทแทรก 50% มีโอกาสตาย 1% โอกาสติดต่อ 50% แต่โรคประสาทนั้น 100% ไม่มีจะกินพันเปอร์เซ็นต์ ไม่ละมั้ง ถ้าไม่มีจะกินพันเปอร์เซ็นต์ก็คงจะปล้นกันทั่วโลก เมืองไทยเรายังพอมีพอกินกันไป 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 05 เมษายน 2563 ( 11:08:05 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:42:00 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 20:01:03 )

โรคโควิด ติดแพร่หลายไว กินนุ่มลึก

รายละเอียด

พวกเราเอง ชาวอโศกก็ไม่จำเป็นจะต้องงดหรือไม่งด เพราะเราอยู่ในแวดวงของพวกเรา อย่างน้อยคุณก็นั่งฟังกันสบายอย่างนี้นี่ก็คือกิจกรรม กิจกรรมของธรรมะ ทุกวันฟังธรรมทุกวัน เพราะฉะนั้นถึงบอกว่าอย่าประมาทนะพวกเราชาวอโศก ใครไปติดเชื้อมาสักคนหนึ่งนี่นะ ถ้ารู้แล้วนี่กรุณา รีบอย่าเข้ามาในนี้กักตัวอยู่ที่ไหนๆ เห็นใจหน่อย ขันเจอหว่อ อย่าเอาเข้ามาแพร่ในนี้เลย ถ้าใครรู้ตัวแล้ว ถ้าไม่รู้ตัวก็สุดวิสัย ก็ต้องระมัดระวังอย่าประมาท ใครรู้สึกไม่สบายรีบไปตรวจ อาการที่เป็นอย่างไรเขาก็อธิบายไว้ เริ่มสงสัยว่าจะเป็นก็รีบไปหาหมอไปหาผู้รู้เขาเลย แล้วก็พากันไปตรวจให้แน่ใจ รีบจัดการแยก ไม่เช่นนั้น มันเก่ง โควิดติดเร็วมากเลย แต่ฝีมือมันไม่เท่าไหร่ ไม่เอาตายเหมือนอหิวาห์ตกโรคตายมากกว่ารอด แต่นี่รอดมากกว่าตาย แต่มันติดแพร่หลายไวเหลือเกิน มันเข้ากับยุคสมัย ยุคสมัยก่อนนั้นหยาบชัด แต่นี่ อาตมาให้ชื่อโควิดว่า นุ่มลึก โอ้โห กินนุ่มมากแต่ลึก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2563 ( 13:11:11 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 13:47:40 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:28:00 )

โรคโควิดมันมาล้างความโสโครกให้แก่สังคมโลก

รายละเอียด

พลังงานของธรรมชาติพลังงานของสัจธรรมพวกนี้มันก็จะไม่เกิดสภาพเป็นอย่างนี้ เหมือนกันอย่างกับโควิด เป็นพลังงานธรรมชาติที่จะสังเคราะห์โลกสังเคราะห์มนุษย์ไป เพราะฉะนั้นอย่าไปเสียดายหรือไปเสียใจว่ามันมีโรคนี้มาทำไม โควิดนี้ อย่าไปเสียดายอย่าไปเสียใจ อาตมาบอกให้ว่า โรคโควิดมันเกิดมานี่นะ มันล้างความโสโครกให้แก่สังคมโลกมันเป็นของดีนะ แต่ไม่ต้องรักษามันไว้สงวนไว้ให้มันหมดไปเถอะ ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่าต้องรักษามันไว้ ไม่ใช่ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 22 เมษายน 2563 ( 13:48:04 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 13:49:39 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:28:28 )

โรงบุญฯ ชาวอโศก

รายละเอียด

โรงบุญมังสวิรัติของชาวอโศก หรือ บุญญาวุธหมายเลข 1 มีลักษณะ ดังนี้

1.แจกอาหารมังสวิรัติเท่านั้น

2.แจกฟรี ไม่มีการซื้อขายใดๆบริเวณโรงบุญฯ

3.ไม่เรี่ยไร ไม่รับบริจาคเงินนที่โรงบุญฯ ยกเว้นบริจาคเป็นพืชผักผลไม้

4.ผู้ให้พึงไหว้ผู้รับ

หนังสืออ้างอิง

สรรค่าสร้างคน


เวลาบันทึก 28 มิถุนายน 2562 ( 12:59:41 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:45:16 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:29:15 )

โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์จังหวัดอุบลเป็นผลดำริสร้างของลุงพ่อครู

รายละเอียด

แม่ป่วยเป็นวัณโรคลุงก็เอาไปรักษา ทั้งๆ ที่ลุงอยู่ในสายแพทย์ทางจิต โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ลุงของอาตมาก็เป็นผู้ดำริสร้างขึ้นมาเป็นน้ำมือเลย โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์จังหวัดอุบลราชธานี เป็นโรงพยาบาลรักษาทางจิตประสาท แต่แม่ป่วยเป็นวัณโรคก็เอาไปรักษาที่โรงพยาบาลนั้นเพราะลุงเป็นคนดูแลเองอย่างนี้เป็นต้น สุดท้ายก็เสีย เป็นโรคอยู่ตั้ง 2 ปีกว่า 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:17:35 )

โรงเรียนที่สอนรู้ตน รู้ปม คลายปม

รายละเอียด

มีสามอย่างที่ตั้งมานี้ ก็ได้เป็นวิธีการของตนที่ตั้งขึ้น ให้ไม่ต้องไปหลงเสียเงิน เราอยู่ที่นี่สอนอยู่แล้วไม่ต้องเสียเงิน คนไหนมีเงินทองก็ปล่อยเขา พวกเราก็สอนกันอยู่ไม่ต้องจ่ายเงิน คนของเราโง่เองที่ไปเสียเงิน เราไม่ศรัทธาพวกเรากันเอง ที่นี่คือโรงเรียนที่สอนรู้ตน รู้ปม คลายปม อย่างเป็นมหาลัยใหญ่ที่สุดเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561

สื่อธรรมะพ่อครู(เทวดา นรก สวรรค์) ตอน คู่หูของสุขกับทุกข์


เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2564 ( 17:39:32 )

โรงเรียนสมบูรณ์แบบ 

รายละเอียด

โรงเรียนสมบูรณ์แบบ  คือ โรงเรียนสัมมาสิกขาของชาวอโศกมีหลายแห่ง เป็นโรงเรียนที่ผ่านมาตามเกณฑ์มาตรฐานสากล  ประถม  มัธยม  จากที่นี่  ผู้ที่เป็นนักเรียนได้เรียนผ่านที่นี่เป็นผู้มีกุศลมาก บารมีมาก  ที่ได้มาเป็นนักเรียนชาวอโศก  เพราะการเรียนของที่นี่ ทำเป็นโรงเรียนสมบูรณ์แบบ  คือ

1.  มีทั้งการเรียนตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการตามหลักสูตร

2. ได้ทั้งมาเรียนรู้  การเรียนรู้  การงาน  การมีชีวิตมนุษย์ได้ฝึกตามสังคมมาอยู่กับเรา  เหมือนเด็กในบ้าน  ในครอบครัว  มีงานก็ช่วยกันทำก็เป็นงาน

3.  มีคุณธรรมได้ศึกษา  ศีล สมาธิ  ปัญญา  มีกำไร 3 ต่อ  ศีลเด่น  เป็นงาน ชาญวิชา

4.  แถมให้อยู่ฟรี  กินฟรี  เลี้ยงดูฟรี  ไปจนจบวิทยาลัย แม้จะจบวิทยาลัยแล้ว จะทำปริญญาก็ได้  จะต่อถึงปริญญาเอกก็ได้  ส่งให้เรียนได้หรือที่นี่ใครจะใฝ่เรียนก็เรียน ใครจะเรียนต่อธรรมะก็ได้

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการสำมะปี๋ซี่วิต


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2562 ( 17:18:22 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:28:20 )

โรบอท หรือหุ่นยนต์

รายละเอียด

คนพยายามทำหุ่นยนต์ให้เหมือนคนจริงๆเลย มีความใกล้เคียงความรู้สึกตอบรับสั่งการตัวเองได้ให้เข้าใกล้ความเป็นคน มันก็ข้ามเขตความเป็น อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม จนมาเป็นกรรมนิยาม มันยังไม่มีความรู้อย่างนี้ได้ เขายังไม่มีความรู้ในเรื่องของพลังงานระดับ อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม จิตก็ต้องสามารถควบคุมกรรมของตัวเองเข้าไปอีกเพื่อให้ทรงเป็นสิ่ง Static มีจิตนิยามเป็นประธานก็จัดพลังงาน Dynamic Static ของตัวเอง พลังงานคู่ในนิวเคลียสของตัวเองได้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 18:15:24 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:29:14 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:04:52 )

โรแมนติกอิซึ่ม ซาดิสซึ่ม เป็นอย่างไร

รายละเอียด

คนมันพยายามที่จะต้องรับรู้อะไรที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่มนุษย์เป็นได้ ลึกๆสัญชาตญาณ หรือว่าปฏิภาณของคนเขาก็รู้ เอ็งเป็นอย่างนี้มีอย่างนี้ด้วย
เหรอ ข้าจะต้องเป็นอย่างนี้ด้วยหรือ ข้ารู้หรือไม่รู้ เป็นหรือไม่เป็นข้าไม่รู้ มันต้องมีอย่างนี้ด้วยหรือ มันเริ่มต้นจุดประกาย ตัวอัญญธาตุ เพราะฉะนั้นอัญญธาตุ คือธาตุใหม่ ธาตุรู้ ที่โลกเขายังไม่ค่อยรู้ ไทยจะเริ่มแพร่ความรู้ของพระพุทธเจ้าที่เป็นโลกุตรธรรม จะค่อยๆ เริ่มแพร่ๆๆ ไปเรื่อยๆ 

เขาเรียกคำอย่างเท่เลยว่า Soft Power จริง มันไม่ใช่ Hard Power มันไปอย่างนิ่งๆ เย็นๆ เป็นแบบโรแมนติกอิซึ่ม จะไม่ไปอย่างซาดิสซึ่ม จะไปอย่างโรแมนติกอิซึ่ม มันรับง่าย ซาดิสซึ่ม มันรับไม่ง่ายหรอก เพราะฉะนั้น คนที่มีจิตในระดับซาดิสซึ่มแล้วยังอีกนาน นาน พวกนี้จะแก้ไขได้ยากได้นาน จะเปลี่ยนแปลงยากนาน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 60 ยากที่สุดในโลกนี่แหละคือความเป็น 2 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2565 ( 12:07:52 )

โลก

รายละเอียด

1. ความวนเวียน

2. ดาวเคราะห์ในมหาจักรวาลที่มนุษย์อาศัยอยู่บนนี้

3. แผ่นดิน  มวลมนุษย์ในโลก , สรรพสิ่งทั้งหลายบนโลก , เรื่องของโลกโลกีย์และความหมายอื่นอีกมากมาย

4. องค์ประกอบของสรรพสิ่งทั้งมวลและสังคมของมวลมนุษยชาติที่มนุษย์เกี่ยวข้องอยู่ทั้งกว้างทั้งลึก

5. จิตใจคนที่มีความหมุนวนไปมา สัมผัสสัมพันธ์กัน ปรุงแต่งอยู่ในจิต(สังขาร) มีความหมุนวนไปมาเป็นความรู้สึกสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ไม่สุขไม่ทุกข์บ้างอยู่ในจิตใจ(เวทนา) เป็นต้น

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 433, รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 59, ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 22


เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2562 ( 08:12:27 )

เวลาบันทึก 22 กรกฎาคม 2563 ( 08:43:21 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:30:43 )

โลก

รายละเอียด

คือความหมุน เริ่มมีสามเส้า หากมีสองเส้าหมุนไม่ได้เรียกว่าระนาบแม้จะออกมีองศา ถ้าเผื่อว่าไม่ถึง 3 มีแค่ 2 ไปอีกก็หมุนไม่ได้ เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสหมุนไม่ได้ มันจะมีมุม จนกว่ามุมคุณจะหมด เมื่อมุมของคุณลดลงคุณก็จะโค้ง ถ้าองศาของมุมเกิดนิดหนึ่งก็โค้งออกไปไกลเลย ถ้าองศาน้อยมากก็จะเป็นวงรีมาก องศาของคุณเล็ก เมื่อองศาของคุณใหญ่ขึ้นวงรีของคุณก็จะกว้างขึ้น หรือไม่ตรงสนิทก็ตาม ก็จะมาหากลม จะรู้แม้แต่คำว่าโลกแม้เล็กน้อย โลกวงรี โลกวงกลม ไม่ใช่เล่นๆ เทวนิยม อย่างตัวเลขอารบิกมีแต่เป็นเส้น 1 2 3 4 5  เลข 5 จะมีความโค้งมากขึ้นเลข 6 จะมีความโค้งมากขึ้นเลข 7 กลับไปมีเหลี่ยม 8 ก็จะมีความโค้งเมื่อถึง 9 ก็ชักจะมี 2 ความโค้งบรรจบกัน แต่ถึงกระนั้น เลขอารบิก เลข 9 ก็ยังรี แต่ ของอเทวนิยมของเอเชียเลข 1 มีจุดแล้วก็หมุน กลม 2 ก็มีอะไรมาคั่นยัก แต่ที่จริง  2 ต้องเขียนมนๆ ทางเทวนิยมจะแยกมาหาความวนไม่ค่อยได้ มันจึงช้ากว่าจะรู้จักวัฏสงสาร

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 12 มกราคม 2563 ( 17:00:50 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:31:51 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 16:06:09 )

โลก 6

รายละเอียด

1.อบายโลก (ความวนเสพติดยึดอยู่กับความเป็นโลกที่เสื่อมต่ำ)

2.มนุษย์โลก (ความวนเสพติดยึดอยู่กับความเป็นมนุษย์)

3.เทวโลก (ความวนเสพติดยึดอยู่กับความเป็นเทวดา 6 ภูมิ พรหม 20 ภูมิ)

4.ขันธโลก (ความวนเสพติดอยู่กับความเป็นขันธ์ 5)

5.ธาตุโลก (ความวนเสพติดอยู่กับความเป็นธาตุ 18 ของเวทนา)

6.อายตนโลก (ความวนเสพติดอยู่กับความเป็นอายตนะ 12)

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎก เล่ม 29 ข้อ 14

หนังสืออ้างอิง

คนจะมีธรรมะได้อย่างไร?


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2562 ( 15:42:23 )

เวลาบันทึก 18 กรกฎาคม 2563 ( 16:44:13 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 20:02:21 )

โลก หมายถึงอะไร

รายละเอียด

คำว่าโลก หมายถึง ความหมุนเวียน วนเวียน ความยังวนไมรู้จักจบ ตราบที่ยังมีเอกภพมหาจักรวาล จักรวาลน้อยจักรวาลใหญ่ มีเนบิวลากาแล็กซี่ มีดวงดาวหมู่กลุ่มจักรวาลใหญ่ กลุ่มของจักรวาลน้อย ที่จะแตกออกมากำเนิดออกมาเป็นดวงดาวที่เล็กลงไปอีกเป็นล้านๆๆๆดวง ก็เรียกว่าโลก มันจะหมุนเวียนไปตามวงวนที่จะมีแกนกลางดึงดูด ดูดสิ่งที่เป็นบริวารเอาไว้ ถ้าสิ่งที่เป็นแกนกลางมีความใหญ่ก็จะดูดสิ่งเล็กๆไว้มากขึ้นมากขึ้น ก็จะมีแรงเหวี่ยง ถ้าหากเหวี่ยงออกไปก็จะเข้าไปสู่หมู่ย่อยอีก เป็นจักรวาลน้อยจักรวาลใหญ่ซ้อนลงไป จักรวาลน้อยจักรวาลใหญ่ก็ไม่ใช่เป็นตัวของตัวเอง ก็จะมีแรงดึงดูดหมุนเวียนจะไม่ชนกัน สิ่งที่จะชนกันคือส่วนที่ไม่อยู่ในวงโคจรอะไร เรียกว่าอุกกาบาต อุกกาบาตไม่ได้ตกในวงโคจรของอะไร สะเปะสะปะ ไปชนอะไรเข้าก็ถูกอันนั้นดูดเข้าไปในโลกลูกไหนในวงอะไร ก็จะถูกดึงดูดไปในวงนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของอันนั้นได้ ส่วนอะไรที่ไม่ถูกดูดก็จะชนไปเรื่อยๆ ก็เหมือนกับเสียงพวกที่เห่า บ๊องๆ นี่ เป็นอุกกาบาตไม่ได้เป็นแกนอะไร 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 22 กันยายน 2563 ( 18:52:20 )

โลกกับมนุษยชาติกับพฤติกรรมมนุษย์

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในการเป็นอยู่ในสังคมหรือในโลกมนุษย์ อาตมาไม่ได้อยู่ในรู ไม่ได้อยู่ในวงแคบ กรอบเล็กๆ เท่านั้น อาตมาอ่านความสัมพันธ์ ความสัมพัทธ์ ปฏิกิริยาต่อกันและกันของมนุษยชาติในโลก มีให้เราเห็นความจริงที่เราสามารถจะเรียนรู้ได้ จากความจริง ไม่ใช่ไปนั่งนึกคิดลมๆ แล้งๆ จินตนาการ เพ้อๆ ฝันๆ ไปคนเดียว ไม่ใช่ 

มันมีเหตุปัจจัยที่ยืนยันได้กับโลกกับมนุษยชาติกับพฤติกรรมมนุษย์ ตัวอย่างของสังคม ตั้งแต่จุดเล็กไปถึงสังคมที่กว้างจุดใหญ่ เป็นประเทศที่ใหญ่ สิ่งเหล่านี้เป็นสัจธรรมของธรรมชาติ

เช่น ในโลกมีประชาชน ประเทศที่มีประชาชนมากที่สุด 2 ประเทศ เป็นต้น มันจะมีคู่ แล้วลักษณะของ 2 ประเทศนี้เป็นคนละลักษณะ อินเดียก็อย่างหนึ่ง จีนก็อย่างหนึ่ง ประเทศ 2 ประเทศนี้มีพลเมืองประเทศละ 1,000 กว่าล้าน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ งานโพธิบูชากตัญญู ครั้งที่ 3 วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565  แรม 15 ค่ำ เดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2565 ( 13:59:03 )

โลกกับอัตตาตามสมมุติและปรมัตถ์

รายละเอียด

มาเข้าสู่บทเรียน…เราเน้นทางจิตวิญญาณ ก็เอาทฤษฎีการศึกษาของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ทฤษฎีหลักที่อาตมาสรุป ทฤษฎีไตรสิกขา ทฤษฎีสามเส้า ถ้าสองมิติไม่ใช่สามมิติ มันจะไม่เหมือนกับความกลม ความรีก็สู้กลมดิ๊กไม่ได้ กลมดิ๊กสูงสุด เหลี่ยมน้อยลงเท่าไหร่ก็คล่องมากเท่านั้น ถ้าเหลี่ยมมากที่สุดคือสี่เหลี่ยม พอสามเหลี่ยมองศาก็ลดลง อันสี่เหลี่ยมนี้ 90 องศา พอสามเหลี่ยมก็มาเป็น 45 องศาหรือ 60 องศา สามเหลี่ยมด้านเท่า 60 องศา มันก็จะแคบกว่า สี่เหลี่ยม ที่มี 90 องศา ถ้าคนยังมีเหลี่ยม มีเพลงคนหน้าด้านคือคนหน้าเหลี่ยม เป็นเรื่องจริงเลย แต่กลมกลิ้งก็ยากอีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นความบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะชนะทุกสิ่งทั้งโลกในที่สุด เราทำความบริสุทธิ์กัน ความบริสุทธิ์ที่สุดของจิตวิญญาณคือ กิเลส หยาบ กลาง ละเอียด นี่เป็นความบริสุทธิ์ที่สุด มาเข้าสู่บทเรียน ในพระไตรปิฎกเล่ม 9 ข้อ 20 ท้ายๆ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 23 มกราคม 2564 ( 12:04:59 )

โลกกับอัตตาปรุงแต่งเป็นสมมุติสัจจะกับปรมัตถสัจจะ

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ปรุงแต่งอยู่ในโลก ท่านก็แยกเป็น 2 มีโลกกับอัตตา ปรุงแต่งกันขึ้นก็เป็นสภาพตัวตนบุคคลเราเขา เป็นสมมติสัจจะที่รู้ร่วมกันได้หมด ความจริงที่เป็นปรมัตถสัจจะสำหรับตัวเราเองเท่านั้น เป็น 1 ก็ตามเป็น 0 ก็ตาม หรือเป็น 2 ครบ 3 เส้า 0 1 2 เป็นสามเส้าของ cyclic order วนปรุงแต่งกันครบเป็นพลังบวกพลังลบ พลังงานของประธานเป็น ISH 

I เป็นประธาน S เป็นอิตถีภาวะ H เป็นพลังงานปุริสภาวะเพศชาย เป็นพลังงาน 3

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานอโศกรำลึก 2564 วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2564 ( 14:47:28 )

โลกกาม

รายละเอียด

เหลือโลกกาม เป็นโลกใจพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนที่มีห้าทวาร ตาหูจมูกลิ้นกายกระทบสัมผัสแล้วยังติดยึดอยู่ ติดยึดกามคุณ 5 นี่คือโลกสามัญที่มนุษย์ที่ไม่ได้ศึกษา แม้แต่สัตว์เดรัจฉานมันก็ไม่รู้มันก็ติด แต่พูดกันไม่รู้เรื่องมันก็ติดของมัน คนนี่ก็พอสอนได้ เป็นเวไนยสัตว์สอนได้ แล้วให้ฆ่า ทำลายเหตุที่ไปหลงติดยึด ฆ่ากิเลสตายกิเลสหมดสิ้นอนุสัย ตายหมดก็จบ ทั้งๆ ที่ตอนคนเป็นๆ ไม่ตายมีชีวิตอยู่ทำได้ ฆ่ากิเลสตายหมดสิ้น ตอนเป็นนี้ได้ จนหมดสิ้นหมดเลยเป็นอรหันต์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 จรณะและวิชชาคือพุทธคุณภาคปฏิบัติ วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2565 ( 19:07:39 )

โลกกุตรบุคคล

รายละเอียด

ชาวอโศกเราทำงานมา 49 ปีจะ 50 ปี เพราะอาตมาเกิดปี 2477  บวชพฤศจิกายน 2513  เวลาก็เป็นสื่อให้รู้ ก็นับไป ท่านไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเวลาและอายุ ทำงานอย่าให้สังขารร่างกายแข็งแรง ทำงานอย่างจริงใจ ตั้งใจเห็นคุณค่าและประโยชน์ว่า เกิดมาเป็น มนุษย์ไม่มีอะไรดีเท่ากับการมีธรรมะ แล้วเอามาให้ศึกษาให้ประพฤติให้ได้ แต่ละคนให้ได้ธรรมะ แล้วจะเป็นประโยชน์แก่กันและกันต่อไปอีกจะทำให้สังคมอยู่อย่างมีคุณค่า พึ่งพาอาศัยกันช่วยเหลือ กันอย่างที่เราเป็น เราอยู่ สุขสำราญเบิกบานใจสบาย ผู้ที่รู้ตัวเห็นว่าเรามาอยู่ที่นี่เอาเปรียบเอารัด มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี มันเป็นวิบาก เราจะชัดเจนเชื่อมั่นแล้วจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี จะทำสิ่งที่ดีแล้วล้าง สิ่งที่ไม่ดีออกให้จริง เราก็จะได้เป็นคนเจริญจริง เป็นโลกุตรบุคคล เป็นอาริยบุคคล

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 14:33:00 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:32:53 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:32:15 )

โลกของความสะอาดมันแพงกว่าโลกของความสกปรก

รายละเอียด

พวกเราหลายคนก็ยังมีงุบงิบ ยังมีอกุศลในตัวเองอยู่โดยเฉพาะแม้แต่แค่ลาภยศ วัตถุสมบัติเงินทอง ยังมีตุกติกทั้งที่รู้ยังไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ บางคนก็อยู่ในที่นี้ด้วย เอ๊..ก็เท่าที่อาตมามีข้อมูลบางคน ก็มาอยู่ที่นี่มาตั้งใจแล้ว จะมาอยู่ แล้วก็จะเป็นชีวิตที่ไปหานิพพานสูงสุดให้ได้ ก็ไม่รู้จะไปสะสมอะไรทำไม สะสมแล้วมันมีเชิงทุจริตอยู่ด้วยอย่างที่กล่าวไปแล้วมากหรือน้อยก็แล้วแต่ แล้วก็สะสม สะสมข้าวของ สมบัติ เงินทอง ธนบัตร เอาไปใส่ธนาคารไว้ ก็ไม่มีอะไรนะ ลูกเต้าเหล่าหลาน เมียผัวอะไรก็ไม่มีไม่เป็น อาตมาก็ว่าทำไมยังไม่ชัดเจน จะสะสมไปทำอะไร แล้วสะสมแล้วมีทุจริตกรรม ที่ทำที่คิดแล้วลงมือทำมันเป็นจริงอยู่แล้วทำไปทำไมมาทางนี้แน่ๆแล้ว ถ้าจะเสียทางนี้ก็ไปสะสมทางโน้นเลย ทางบุญนี้มันบาปราคาแพงกว่าทางโลกนะ ไปสะสมแย่งชิงกับทางโลกยังบาปน้อยกว่า การแย่งชิงกันแล้วได้นี่นะ ถ้าว่าแย่งชิงมาได้ ที่จริงมันได้บาปนะ ไม่ใช่กุศล แต่แย่งชิงทางโลกีย์บาปมันยังราคาไม่แพงเท่าไร ยิ่งแย่งชิงกับตัวที่ท่านไม่แย่ง ทางโลกแห่งบุญนี่ราคาบาปมันแพงนะ ฟังธรรมะดีๆ มันซับซ้อนอย่างนี้ เข้าใจยาก อาตมาก็ว่า ทำไปทำไม ไปมุบมิบสั่งสม สะสม ทำทุจริตกรรม ทั้งวัตถุด้วย ทำทำไม มาศึกษาขนาดนี้ยังไม่ชัดขณะนี้ยังไม่ชัด ตายไปน่าจะได้สิ่งที่เป็นคุณค่าของธรรมะ โดยเฉพาะโลกุตระ กลับไปได้อกุศลใส่ตัวเองไป แล้วบอกว่าราคาอกุศลนี้ โลกของความสะอาด มันแพงกว่าโลกของความสกปรก อกุศลตัวเดียวกันของโลกสะอาดกับอกุศลตัวเดียวกันของโลกสกปรก มันแพงกว่ากัน ของโลกสกปรกนี้มันไม่แพงเท่าหรอก ของโลกสะอาดนี้แพงกว่าไม่รู้กี่ต่อ ก็ให้สติกันไป ใครระลึกรู้ว่าตัวเราเรามีสิ่งนี้นะ ก็คิดว่าคงไม่ใช่คนเดียว น่าจะมีอีกอยู่บ้าง แต่คงไม่มากมายนักเท่าที่ดูแล้ว แต่ก็ต้องให้สติ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 25 มิถุนายน 2563 ( 09:33:26 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 13:50:15 )

เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2563 ( 14:37:52 )

โลกคือความวนเกิดเป็นคนต้องอยู่ให้ดี ตายดี แล้วเกิดดี

รายละเอียด

แล้วท่านตรัสรู้ว่า โลก คือความวน เกิดแล้วก็ตาย ตายแล้วก็เกิด เกิดแล้วใช้เวลาตั้งอยู่ สั้นยาวแล้วแต่ แล้วก็ตาย เกิดแล้วมาตั้งอยู่ สั้นยาวแล้วก็ตายแล้วแต่เหตุปัจจัย แล้วก็ตาย วนเวียน ก็เลยมารู้ว่า อ๋อ.. ไอ้สิ่งที่วนเวียนอยู่นี่ ถ้าวนเวียนไม่รู้จักจบ เกิดมาแล้ว ก็จะตั้งอยู่ แล้วจะตั้งอยู่อย่างไร ตั้งอยู่ก็ต้องตั้งอยู่ให้มันเป็นสิ่งที่ดี เป็นภาวะที่ดี ตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่อย่างมีกรรมกิริยา เพราะเป็นสัตว์ เป็นมนุษย์คือสัตว์ชนิดหนึ่ง เป็นสัตว์ที่มีปัญญาด้วย สูงกว่าสัตว์ทั้งปวงฉลาดกว่าสัตว์ทั้งปวง รู้ดีกว่าสัตว์ทั้งปวง ก็เป็นอยู่ให้ดี แล้วก็ตายดี ตายดีแล้วก็จะเกิดดี เกิดดีมาก็ยังอยู่ ก็ทำให้ดีไปเรื่อยๆ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ตายดีขึ้นเรื่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่ง เกิดมาอีกก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ดีสูงสุดก็ได้เป็นศาสดา เป็นคนที่เหนือคน สูงสุด สามารถรู้ สามารถมีเหตุมีผล สามารถรู้อะไรมากมาย แล้วก็ปฏิบัติตนได้ตามที่รู้ ก็สอนคนอื่น คนอื่นเห็นด้วย เมื่อเข้าใจเชื่อถือ ก็บอกสอนเขา แนะนำเขา พาเขา เจริญตามแต่ละศาสดาเห็นว่า หรือมีความรู้เห็นว่าอย่างนั้นความรู้อย่างนั้น ก็วนเวียนอยู่ เป็นสภาพที่ไม่จบ ไม่มีจบไม่รู้จักจบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สังขารกับการเวียนว่ายตายเกิด


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 14:43:09 )

โลกคือความวนเวียน ปรุงแต่ง

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น สัจจะพวกนี้ ผู้ที่แสวงหาความจริงสูงสุด ความจริงก็คือสัจจะความจริงที่สูงสุด ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นตัวตน ไม่เป็นนามธรรม ไม่เป็นวัตถุธรรม อะไรทั้งนั้น มันเป็นสิ่งที่หายไปเลยสูงสุด สุญญตา เขาจะแสวงหาสิ่งนี้ แล้วเขาสามารถทำจิตวิญญาณ เปลี่ยน สลาย ทำตนเอง ทำให้จิตวิญญาณตัวเองให้สลายกลายเป็นดิน น้ำ ไฟ ลม ไปได้ มันก็หมดเลยตัวตน 

ถ้าคนสามารถเข้าใจตัวนี้ โดยลำลอง สำรอง โลกและอัตตาซึ่งเป็นเทวะคู่อันนี้ โลกคือความวนเวียน ปรุงแต่ง กับตัวเราเข้าไปอยู่ในนั้นเป็นตัวร่วมปรุงแต่งอยู่ในนั้น เช่น เราไปปรุงแต่งเกี่ยวกับโลก เอาง่ายๆ อยู่ในโลกเขาแข่งขันฟุตบอล โลกกีฬาแข่งขันฟุตบอล มันมีรส มีชาติ มีสภาพสุข สภาพทุกข์ กับสิ่งนั้น เราไปเรียนรู้ แล้วก็หัดมนสิการทำใจในใจเรียนรู้สัจธรรมให้เกิดจริง มันเป็นมายา มันเป็นของหลอก มันไม่มีจริง รสชาติสุข รสชาติอร่อย สนุกสนาน สะใจมันจริงๆ ผู้ชนะก็แทบจะเส้นประสาทแตก อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ลักษณะอันสูงสุดของมนุษยชาติ 7 ประการ วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 แรม 13 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 มกราคม 2566 ( 11:02:39 )

โลกคือความหมุนเวียนไปแล้วหมุนเวียนเล่า

รายละเอียด

โลกคือความหมุนเวียนไปแล้วหมุนเวียนเล่า พิสูจน์ได้ตั้งแต่ตอนเป็นๆ โลก ที่เป็นอบายมุข โลกที่เป็นนรกต่ำ เราเคยไปหลงวนเวียนเป็นสุขเป็นทุกข์ เป็นความสำคัญกับชีวิตเหลือเกิน เช่น โลกอยู่ในอบายมุขต้องไปเล่นการพนัน ต้องไปหลงเล่นอยู่กับละเม็งละครไป หลงในความมัวเมาไปดื่มน้ำเมา ไปท่องเที่ยว ไปดูละเม็งละคร ไปเล่นการพนันแก่งแย่งทรัพย์ศฤงคารสมบัติผลัดกันชมหลงกันอยู่อย่างนั้น เป็นอบายมุข แล้วเขาก็ไม่รู้อบายมุขหรอกทั้งโลก เขาไม่ได้เรียน เทวนิยมเขาไม่ได้เรียน แย่ง สมบัติเพื่อที่จะมีเยอะๆ มากๆ แล้วเอาอำนาจสมบัติ เสร็จแล้วเขาก็ตายจากสมบัติกันไป คนอื่นก็มาหลงอำนาจต่อ รักษาสมบัติไว้ได้ก็ได้ รักษาสมบัติไว้ไม่ได้ก็เปลี่ยนมือไปเป็นคนอื่น ก็วนเวียนอยู่แค่นี้ 

เพราะฉะนั้นผู้ที่จะรู้จบเขารู้แล้วว่าปัดโธ่เอ๋ย มันวนเวียนไม่รู้จักจบเสียที จนกระทั่งพระพุทธเจ้าตรัสรู้ว่า มันจะจบได้อย่างไรจบได้จนกระทั่งรู้ว่าโลกอบายมุข เราก็เลิกไม่เวียนกลับไปอีกมันก็มีอยู่ในโลก อบายมุขอันที่ หยาบ  ที่สุดก็คือ ฆ่าผู้อื่นแสดงอำนาจบาตรใหญ่ นี่คืออบายมุขที่เลวร้ายที่สุดในโลกเขาไม่รู้ เขาจะเป็นเจ้าโลกเป็นต้น นั่นแหละคือยอดอบายมุข แย่งเอาทรัพย์สินในโลกมา รวยให้มากที่สุดและเป็นเจ้าหนี้เขาให้หมด ทุกคนเป็นลูกหนี้เรานี่คืออบายมุขที่เลวร้ายที่สุด อันหนึ่งโทสะ อันหนึ่งเป็นโลภะ

หรือมัวเมาในราคะ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เสพบำเรอตัวเองในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส จนกระทั่งไม่รู้ปรุงแต่ง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ไปขนาดไหนขนาดไหนก็ไม่รู้ บำเรอตัวเองรู้สึกว่าสุขก็ปรุงมากยิ่งขึ้น มันไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกันเพราะมันเป็นสมมุติ สมมุติว่าตรงนี้แล้วก็สมมุติต่อไปมากยิ่งขึ้นยิ่งขึ้น ลืมแล้วตรงนี้ก็มายิ่งขึ้นมาตรงเก่าอีก นี่ย่อมาให้เห็นว่ามันวน ไอ้ที่เก่าก็ลืมไปเรื่อยๆ จนเลื่อนมาถึงตัวเก่าเป็นใหม่มาก วนอยู่อย่างนี้เก่าๆ ใหม่ๆใหม่ๆ เก่าๆ ไม่รู้จัก ซ้ำซาก 

เหมือนแฟชั่นผู้หญิง ส้นสูงแล้วก็ส้นเตี้ย ส้นเตี้ยแล้วก็ส้นสูง นุ่งสั้นแล้วก็นุ่งยาว นุ่งยาวแล้วก็นุ่งสั้น นั่นแหละเหมือนกันอยู่อย่างนั้น ไม่มีอะไร ยึดถือกันไป เสื้อผ้าหน้าแพรก็ใส่เพื่อกันร้อนกันหนาว กันแมลงสัตว์กัดต่อย กันอุจาด เท่านั้นเองก็จบแล้วอย่างพวกเรานี้ก็จบ เสื้อผ้าหน้าแพรก็ใช้กันร้อนกันหนาว กันแมลงสัตว์กัดต่อยกันอุจาด สบาย แต่ซักบ้างนะเด็กๆ ผู้ใหญ่ก็เถอะ ซักๆ บ้าง สงสารคนอื่นบ้าง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 25 ปาฏิหาริย์ของคนจนมหัศจรรย์ วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 พฤษภาคม 2565 ( 14:58:36 )

โลกคือความไม่รู้สึก อัตตาคือความรู้สึก

รายละเอียด

คนโลกุตระจึงสามารถจัดการกรรมนิยาม การกระทำของตนที่จะเป็นประโยชน์เจริญได้ เจริญกับเสื่อมนี้กลับกัน ถ้าเราจะทำให้เจริญมันต้องทำให้เสื่อม ถ้าเราจะทำให้เสื่อมก็ต้องทำให้เจริญ เสื่อมตัวนั้นก็คือตัวเรา เจริญนั้นก็คือตัวเรา อย่าไปทำของคนอื่นจะซวย ทำให้เสื่อมคือสูญไป คืือไม่มี เจริญก็คือทำให้ก้าวหน้าที่จะมีประโยชน์ ที่ไม่มีประโยชน์ก็อย่าให้มันเจริญ ใช่จะว่าเสื่อมหรือเจริญก็ต้องตั้งอยู่ แต่จะให้สูญถาวรก็ต้องเป็นกลางถาวร จึงเรียกว่าสูงสุด กลาง ภาษาบาลีว่า มัชฌิมา กลาง โดยไม่มีปลายข้างไหน ภาษาบาลีว่า ไม่มีอันตา คุณก็ต้องอ่านอาการกลางๆนี้ให้ได้ ในขณะมีชีวิต ก็ต้องอ่านความไม่มี ตรงกลาง ตรงว่าง นอกนั้นคุณก็ต้องวัดและประเมินเอาเองรู้เอง หยาบ กลาง ละเอียด ก็ตาม ก็ต้องรู้ให้ได้ว่า 2 ข้างนี้จะต้องเท่ากัน ถ้าเอียงโต่งไปมากเท่าไหร่ก็จะต้องถูกเหวี่ยงในวัฏสงสารยาวนานเท่านั้น ถ้าทำให้สั้นลงมา จนให้มันถ่วงดุลเท่ากันสองข้างไปเรื่อยๆ โดยใช้คำว่า กาม กับ อัตตา ใช้ภาษาสองคำ กาม ก็จะโตไปเป็นโลก อัตตาก็จะโตไปเป็นตัวตน เป็นจิต เป็นธาตุรู้ เป็นความรู้สึก ลงไปเรื่อยๆๆ เมื่อเกิดมาเป็นชีวะเราก็เรียนรู้โลกกับเรียนรู้อัตตา โลกกับอัตตา โลกคือความไม่รู้สึก อัตตาคือความรู้สึก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 23 มกราคม 2564 ( 12:10:43 )

โลกจะสันติภาพด้วยโลกุตระโลกียะนั้นเป็นสันติภาพผี

รายละเอียด

ประเทศเกาหลีเป็นแหล่งที่รับอารยธรรมแบบโลกุตระนี้ได้แล้ว มีหลักฐานที่ว่า เกาหลีรับอารยธรรม หรือความรู้แบบโลกุตระได้แล้วก็คือ มีมูลนิธิแมนเฮ มองเห็นอาตมาว่าอาตมาได้ทำเรื่องของโลกุตรธรรมขึ้นมาให้แก่โลก โลกจะสันติภาพด้วยโลกุตระ เขามองเห็นว่า โลกจะสันติภาพด้วยโลกุตระ ด้วยโลกียะนั้นมันเป็นสันติภาพผี เป็นสันติภาพหลอก เป็นสันติภาพไม่จริง มันมีแต่สันติภาพแบบเปลือกปากเปล่า แต่จิตจริง ต่างคนต่างจะเป็นเจ้าโลกกันทั้งนั้น ไม่ว่าเจ้าโลกในประเภทใด เจ้าโลกในอำนาจ เจ้าโลกในวัตถุ ในอะไรก็แล้วแต่ แม้แต่จะปั๊มธนบัตรกระดาษเปื้อนสีออกมากระจายทั่วโลก ตั้งค่าไว้ให้สูงแล้วก็ใช้แทคติกต่างๆ เพื่อที่จะให้ธนบัตรที่จะเรียกว่าเป็นแบงค์ Note เป็นตัวแทนเป็นค่าเงินทองพวกนี้ ให้มันมีค่าสูง ให้มันมีฤทธิ์เดชที่จะสามารถ แทนค่า แล้วก็ซื้อหาแลกเปลี่ยนต่างๆ นานา ได้เปรียบอะไรมาได้ ได้วัตถุอะไรมาได้ต่างๆ นานา

อย่างเช่น ประเทศอเมริกาทำดอลล่าร์ออกมา จนกระทั่งไม่มีใครสามารถเช็คได้เลยว่ามีหลักสำคัญ  ใช้ทองคำเป็นหลักประกัน อเมริกาจะมีเท่าไหร่เขาเช็คไม่ได้ แต่ว่าดอลลาร์เต็มกันหมดทั่วโลกแล้วตอนนี้ อเมริกานั้นซับซ้อน ตอนนี้อเมริกา ดอลลาร์ก็ชักแย่แล้วล่ะ อีกหน่อยเขาก็จะได้รู้ความจริงกัน มันจะยาวไปอีก 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 3 พ่อครูพบ ดร.สุริยะใส กตะศิลา วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2565 ( 19:15:03 )

โลกจะอยู่เย็นเป็นสุข และสงบอบอุ่นได้อย่างไร

รายละเอียด

สรุปแล้วชีวิตของเราเกิดมา กิน ใช้ จนกระทั่งมีเครื่องใช้ เครื่องประกอบ เป็นคอมพิวเตอร์ อะไรต่างๆ ซึ่งมากเกินไปแล้ว คอมพิวเตอร์เทคโนโลยีเหล่านี้ยิ่งสร้างให้มากอีกเท่าไหร่ก็ยิ่งเกิดการแก่งแย่งให้ได้เปรียบเสียเปรียบกัน เพราะฉะนั้นสร้างเก่งในทางอุตสาหกรรม ไม่ช่วยให้สังคมสงบได้ ให้มาเก่งทางสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารให้มาก แล้วอย่าหวงแหน อย่าขี้เหนียว เผื่อแผ่แจกจ่ายออกไป โลกจะอยู่เย็นเป็นสุขและสงบอบอุ่นกันมากกว่า สร้างเทคโนโลยี ทุกวันนี้ยิ่งแข่งกัน 

ต่อไปจะเห็นชัด เทคโนโลยีทางอุตสาหกรรม มันไม่ได้ช่วยให้ความสงบในแนวลึก ไม่ได้สงบเท่า มันดูเหมือนสงบนะ สร้างอาวุธมาขู่กัน สร้างเครื่องไม้เครื่องมือ จนกระทั่งสงบคืออะไร ทุกคนก็จดจ้องอยู่ตรงนี้ วันๆก็อยู่แต่ตรงนี้ เสียแรงงาน เสียกายกิริยา วจีกิริยา ที่จะเอาไปทำประโยชน์แก่มวลชน ก็ได้แต่กดอยู่ตรงนี้ มีแต่ชิบหายกับชิบหาย เสียเวลาให้มันไปตรงนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานมหาปวารณา ครั้งที่ 39 สร้างอาหารให้กับโลก วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 12 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2564 ( 20:32:44 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์