คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี
เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit
วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5
วีดีโอ Loom 1 : https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044
วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 1 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 09 เมษายน 2563 ( 10:56:35 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 08:30:58 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:38:50 )
รายละเอียด
การบรรยายธรรม คือ สมณะโพธิรักษ์ทำงานจะ 50 ปีแล้ว การบรรยายไปก็ยิ่งรู้สึกว่าพวกเราจะรำคาญไหม รู้สึกเบื่อไหม เพราะมันวนเวียน ซ้ำซากไป พูดไปก็วนไป ไปไหนไม่รอด ก็มาหาศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ เดี๋ยวก็มาที่อัตตา ตัวตน ไปว่าพวกนั่งหลับตาอีก ไปว่าเขาทำไม? ท่านก็ต้องทำงาน ทำงานอะไร? ก็งานว่า ท่านไม่ได้ไปทำงานแบกขน ทำงาน ว่า พูด บรรยาย อะไรผิดก็ว่าผิด ข่ม อะไรถูกก็ยก ชม มีหน้าที่นี้ ก็ทำหน้าที่ ตอบตรงๆ ที่ว่าไปว่าเขาทำไม ก็ทำงาน ก็ต้องว่า เพราะทำงานเป็นนักว่า แล้วจะไม่ให้ว่า คำว่า “ว่า” คือ การตำหนิ และ ชม
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:25:39 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:30:51 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:39:43 )
รายละเอียด
การปฏิบัติแล้วสามารถทำให้ผลเกิด บรรลุของตนเองตามระดับขั้น บรรลุตั้งแต่ศีลข้อ 1 ไม่ฆ่าสัตว์ ศีลข้อ 2 ไม่เอาของของคนอื่นที่ไม่ใช่ของเราเป็นวัตถุดิน น้ำ ไฟ ลมหรือไม่แต่พืช
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:33:08 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 06:45:28 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:40:39 )
รายละเอียด
การบรรลุด้วยสภาวะ คือ ยกตัวอย่างอบายมุข เราก็รู้เหตุปัจจัยองค์ประกอบ เช่นการพนันต้องรู้ว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง เล่นไพ่ เป็นต้น ก็มีตัวตนคุณไป แล้วคุณ ไปร่วมกับเขาไหม แต่ทุกวันนี้ก็มีคนเล่นการพนัน แต่คุณไม่ได้ไปร่วมกับเขาเลย นอกจากไม่เอาร่างกายไปร่วมกับวงนั้นแล้วใจคุณก็เฉยๆ นี่คือบรรลุแล้ว ก็เห็นเขาเล่นเหน็ดเหนื่อย ฉิบหายวายป่วง คนเล่นได้บ้างก็มีสมบัติผลัดกันชม คนโกงเก่งก็มีคนที่โกงเก่งกว่าอีก สักวันก็มีคนเก่งกว่าเอ็ง ดีไม่ดีดวงไม่ดีก็หมด เก่งต่อเก่งแต่ดวงไม่ดีก็โทษดวงท่านเล่นมานักแล้วการพนัน เราก็ว่าเราเก่ง แต่ทำไมดวงไม่ดี เล่นส่วนมากขาดทุน
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 09:44:58 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 06:46:14 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:41:43 )
รายละเอียด
คือ การบรรลุธรรมนี้ ต้องเห็นด้วยปัญญา ต้องมีปัญญาอันยิ่ง หากว่าไม่มีปัญญา มีแต่ศรัทธา มีแต่สัญญา มีแต่เจโต ไม่ถือว่าเป็นการบรรลุของศาสนาพุทธ ปัญญานั้นอาตมากำลังนำมาขยายความ ปัญญา 8 ปัญญา 6 คือปัญญา ปัญญินทรีย์ ปัญญาพละ ธรรวิจัยสัมโพชฌงค์ องค์แห่งมรรค สัมมาทิฏฐิ คนผู้นี้จะไม่ทำด้วยความประมาท ความประมาทเป็นอุปกิเลสข้อสุดท้าย ในอุปกิเลส 16 แม้แต่ในสุริยเปยยาล 7 ความประมาทก็อยู่ที่ข้อ 6 หากประมาทอยู่จะทำโยนิโสมนสิการในข้อที่ 7 ไม่ได้ถ่องแท้ หากยังมีความประมาทก่อน คุณจะโยนิโสฯไม่ได้ นี่คือความละเอียดลึกซึ้งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสดักไว้หมด ประมาทเป็นอกุศลจิต ต้องไม่ประมาท จึงทำกุศลต่อไปได้
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ สันติอโศก วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 01 ธันวาคม 2562 ( 12:22:53 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 06:48:30 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:42:12 )
รายละเอียด
ใช่ และต่อเนื่องกันเลย ถึงบอกว่ามาทำงานโพธิสัตว์ ตลอดเวลา
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:21:51 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:38:22 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 14:34:48 )
รายละเอียด
พระพุทธเจ้าเคยหลงเป็นลิงลมอมข้าวพองเข้าไปปฏิบัติในป่า และไปตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ ต้นอัสสัตถพฤกษ์ ที่จริงการบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้านั้น ไม่เหมือนกับคนอื่นบรรลุหรอกเพราะท่านบรรลุมาแล้ว แต่ท่านไม่รู้ว่าท่านบรรลุ ท่านตรวจสอบผู้มาทำของท่านท่านตรวจสอบแล้วว่าท่านบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณมาไม่รู้กี่ชาติชาตินี้ก็จะมาประกาศตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าทั้งนั้น ท่านไม่ได้มาเพิ่มเติมความรู้ของท่านเองเลย
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 12:43:34 )
รายละเอียด
เพราะว่าการบรรลุธรรมนี่คือใจมันเป็นจริง ใจมันบรรลุโสดาบัน ใจมันหลุดพ้นจริงๆ หลุดพ้นจากสิ่งที่แต่ก่อนนี้เราโง่ ไม่รู้ ไปหลงผิด ไปหลงเสพหลงติดอยู่ไปหลงเป็นทาสมัน มันหลุดพ้นออกมาเลย ความหลุดพ้นในจิต มันรู้เลยว่า ไอ้ที่ชัดๆก็คือมันยังต่ำ ไอ้นี่ยังต่ำ ไอ้นี่ไม่สูง ไอ้นี่ยังไม่น่าที่จะไปติดยึดอยู่เลย ไม่น่าไปคลุกคลีเกี่ยวข้อง ควรจะต้องละหน่ายคลาย หลุดพ้นออกมา
เพราะฉะนั้นยิ่งมีสิ่งที่อยู่กับโลกเขาเป็นลำดับๆๆ เป็นลำดับลำดา ต่ำแล้วก็สูงขึ้นจากโลกต่ำแล้วก็สูงขึ้นแล้วก็โลกสูงขึ้นสูงขึ้นสูงขึ้น จะมีกี่ชั้นก็แล้วแต่ จะเป็นคนรู้จักรู้แจ้งรู้จริงในความเป็นโลก พอรู้จักรู้แจ้งรู้จริงในโลกแล้วก็หลุดพ้นออกจากโลกมาเรื่อยๆ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 3 วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2566 ( 20:08:51 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 13:32:23 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:40:41 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 14:38:19 )
รายละเอียด
บรรลุมี วสวัตตี มีอำนาจทางจิตที่จะทำให้มันไม่เคลื่อน ให้มันระงับให้มันไม่เคลื่อน มันไม่ไปตีหัวคนได้เก่ง ก็ทำการไม่ฆ่าสัตว์ได้ แต่ไม่ฆ่าสัตว์เพราะมันเกิด ญาณหรือปัญญา ไปรู้ว่าไปฆ่าเขามันไม่ดีนะ มันไม่เกิดเมตตา ไม่รู้ด้วยสติปัญญาว่า เขาก็ชีวิต เราก็ชีวิต หวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ มีความเอ็นดูมีความกรุณาจริง มันก็ละเอียดเนาะ
แต่ค่อยๆศึกษาไป โดยเรียนรู้ตามลำดับ เกี่ยวกับสัตว์ อาตมาก็พูดไปหมดแล้ว สัตว์เดรัจฉานไม่ต้องไปพูดถึงมันไม่ต้องไปเสียเวลา แม้แต่คน เวไนยสัตว์พวกหนึ่งสอนไม่ได้ พวกนี้เป็น ปทปรมะ พวกเนยยะเน่าๆ ใต้โคลนตมใต้โคลนมันพูดกันไม่รู้เรื่อง แล้วก็คัดคนที่พอพูดกันรู้เรื่อง ก็คัดจากเนยยบุคคลนี่แหละที่พอได้
ยิ่งเป็นวิปจิตัญญู เป็นผู้ที่ได้รับแสงสว่างขึ้นมาสักวันสองวันสามวันก็บาน หรือยิ่งเป็นอุคติตัญญู พรึ่บ บานเอง ไม่ต้องรับแสงก็บานก่อนแสงหรือแสงนิดเดียวก็บานได้เลย มันก็เป็นบารมีหรือว่าเป็นตามกรรมวิบากตามสิ่งที่แต่ละคนได้สะสมมา ตามตระกูลศรัทธาหรือ เจโตกับตระกูลปัญญาหรือพุทธิจริต
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 46 วิญญาณกับวิญญัติ วันมาฆบูชา วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 28 พฤษภาคม 2565 ( 19:39:27 )
รายละเอียด
คือ ทำให้ธรรมะ 1 หรือ อกุศลธรรม, บาปนั้นๆ ตายพ้นไปจากจิตใจ ธรรมะ 1 ที่เป็นกิเลสตายสนิทจนกิเลสเป็น 0 แล้วในจิตใจก็จะเหลือเป็นธรรมะ 1 (เอกัคคธรรม)อยู่ในจิตใจ เป็นจิตใจที่สะอาดจากกิเลส ผลที่จิตใจหลุดพ้นจากกิเลส หรือกิเลสตายไปจากจิตใจนี้เอง คือ การตายที่เรียกว่า"วิมุติหรือนิพพาน" ผู้ทำสำเร็จได้จริงก็เป็นผู้มีนิพพาน เป็นเจ้าแห่งการตาย อันยิ่งใหญ่ของวิชาการทางศาสนาในโลก
หนังสืออ้างอิง
คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 368
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 15:09:59 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:51:09 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:43:14 )
รายละเอียด
คุณทำได้แล้วหรือใครทำได้แล้ว มีจิตบรรลุธรรมอย่างนี้แล้ว เช่น บรรลุสาธารณโภคีด้วยจิตจริงๆ มาอยู่แบบอยู่กับสังคมส่วนกลาง ไม่ต้องยึดติดว่าเป็นของของเรา ไม่ต้องมีอะไรเป็นสัดส่วนของเรา ไม่ได้หลงว่าเป็นของเราเลยก็มีอยู่มีกินมีใช้ เพราะของเรามันสำเร็จบรรลุทั้งสังคม ทั้งพฤติกรรมสังคมทั้งตัวบุคคลมันเป็นของจริงหมดแล้ว มันพิสูจน์ยืนยันได้เลย พูดยังไงก็เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เป็นเรื่องโกหก ไม่ใช่เรื่องผิดเพี้ยนไปจากความจริงเลย เป็นความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์เลย พิสูจน์ได้ อกาลิโก เอหิปัสสิโก ใครเขาอาจจะบอกว่าขี้โม้ มีที่ไหนมาทำงานฟรี อยู่ในสังคมสาธารณโภคี อยู่กันอย่างเมตตาเกื้อกูลกัน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์จากพ่อครูผู้ตามรอยบาทพระศาสดา วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 พฤษภาคม 2565 ( 11:01:53 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2563 ( 11:29:54 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 06:49:39 )
รายละเอียด
ไม่ได้พูดอย่างหลงใหลคลั่งไคล้ยกยอปอปั้นเล่น มันเป็นสัจจะ แล้วมันเป็นตัวอย่างของโลก มันเป็นการบริหาร ซึ่งเข้าหลักของโลกุตรธรรมมา จะว่าสืบทอดในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก็สืบทอดโลกุตรธรรมมาจริงๆ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ ในประเทศไทยที่มีอยู่ในโลก ซึ่งคนเขายังมองไม่ออก คนมองออกก็มีน้อย
เหมือนอย่างดูอาตมาไปเข้าตารางวัลแมนเฮ กับองค์กรย่อยๆให้เป็นรางวัลมา อาตมาได้รับรางวัลมา 3 รางวัล รางวัลหนึ่งมาจากอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ให้มาเป็นโล่ อาตมาก็ลืมไปแล้ว แต่เขาไปเก็บมาได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 20 ความมหัศจรรย์กองกลางสาธารณโภคีของชาวอโศก วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564 ขึ้น 9 ค่ำเดือนอ้ายปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 ธันวาคม 2564 ( 21:38:33 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 08 พฤษภาคม 2563 ( 14:55:22 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 06:51:25 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 13:08:06 )
รายละเอียด
แล้วเราก็รู้ตามโลกที่เขารู้ว่า คนนี้เขายึดอย่างนี้ๆ เราเข้าใจเขาแล้ว ถ้าอยู่ด้วยกันก็พยายาม เราก็อยากให้เขาได้ตามชอบก็แบ่งแจกเฉลี่ย
เพราะฉะนั้นจะบริหารประเทศ เพื่อให้คนแต่ละคนชอบแต่ละอย่างแตกต่างกันเพื่อจะไกล่เกลี่ยให้อย่าทะเลาะกันอย่าตีกันอย่าแย่งกัน มันก็อันเดียวกันกับการมาเรียนศาสนาพระพุทธเจ้าให้ไม่ติดยึดความสุขความทุกข์ ไม่ติดว่าจะต้องน่าได้น่ามีน่าเป็นอย่างโลก สุภะอสุภะ ไม่มีอะไรน่าได้น่ามีน่าเป็นหรอก
มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าได้ไม่น่ามีไม่น่าเป็นน่าจะปรินิพพานเป็นปริโยสานทั้งนั้นแหละ ถ้าคุณไม่ศึกษาจริงๆคุณก็จะต้องยึดติด น่าได้น่ามีน่าเป็นทั้งนั้น เป็นสุภะทั้งนั้น แต่แท้จริงมันอสุภะ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:01:25 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 18 มิถุนายน 2563 ( 10:10:45 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 06:53:15 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:43:54 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 11:17:20 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2563
เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 12:57:16 )
รายละเอียด
คือ เป็นคำตรัสของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่9 พูดต่อสาธารณะนักบริหารรัฐมนตรีต่างประเทศ คือ เกาหลี ประธานาธิบดีที่เป็นเพื่อนของรัฐมนตรีเกาหลีให้มาถามว่าให้บริหารแบบไหน ท่านก็บอกให้บริหารแบบคนจน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาบอกให้ไปบอกประธานาธิบดีของคุณให้บริหารประเทศแบบคนจน คือ มันล้ำยุค ก้าวเกินหน้า Advance ก้าวเกินหน้าจนคนตามไม่ทัน เกินหน้าไปไกล
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายพ่อครู จากรายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 14:24:25 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:56:36 )
รายละเอียด
ดูเหมือนเขาว่า พูดถึงประเด็นนี้การที่จะบริหารลักษณะให้คนไปรวยแล้วก็จะเพิ่มราคาเพิ่มเงินทองไปเรื่อยๆไม่มีวันสำเร็จ เศรษฐศาสตร์ที่จะต้องให้มากขึ้น ๆๆ เพิ่มให้คนได้มากขึ้น ไม่มีวันสำเร็จ แต่ถ้าทำให้คนรู้จักมักน้อยสันโดษลงมา อันนี้สำเร็จ ฟังที่อาตมาพูดประโยคเท่านี้แหละไปคิดดีๆ นักเศรษฐศาสตร์ในโลกเขาไม่ได้เข้าใจอย่างนี้ แต่นักเศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้าที่เป็นโลกุตระจะเข้าใจอย่างนี้ เหมือนกับที่พระเจ้าแผ่นดินของไทย รัชกาลที่ 9 ที่ท่านตรัส พอเพียง และขาดทุนของเราคือกำไรของเรา ท่านตรัสเท่านี้ แต่อาตมาขยายความอันนี้มากมาย และพามาทำให้เห็นจริงด้วย สำเร็จจริงด้วย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาไม่ดับสัญญาแต่ดับกิเลส วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 ตุลาคม 2565 ( 18:25:02 )
รายละเอียด
ทรายมันอยู่ที่นี่ ตัดสินกันที่นี่ได้เลย ถ้าจะตักทรายมาขอสัมปทานให้ถูกเรื่อง ถ้าไม่มีปัญญาตัดสินเรื่องนี้ ก็ออกจากกรรมการเถิด เรื่องไม่ควรต้องถึง 9 องค์กร มันเกินไปแล้วต้องไปหา 9 องค์กรต้องไปประชุมที่โน่น กรรมการไม่มีความมั่นใจตัวเอง กลัวจะผิด กลัวเข้าคุก อาตมาว่าถ้าอ่อนแอก็ออกจากกรรมการให้ผู้แข็งแรงไปทำงานแทน พูดให้ชัดเจนไม่อย่างนั้นไม่รู้ขอบเขตการทำงาน ดีไม่ดีจะต้องไปถึงรมต.ที่ดูแล
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ฌานวิสัยของอรหันต์และโพธิสัตว์ (ศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2562)
เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2562 ( 16:15:17 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 13:58:11 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 14:41:39 )
รายละเอียด
การบวชเป็นอรหันต์ง่ายกว่า เพราะว่าเป็นทางที่สะอาด บริสุทธิ์ดุจสังข์ขัด แต่เป็นฆราวาสก็สามารถเป็นพระอรหันต์ได้ แต่เป็นพระนั้นมีศีลวินัยที่เป็นข้อบังคับมาก ไม่ใช่ว่าฆราวาสทำผิดพระวินัยของพระแล้วจะไม่บาป มันก็มีบาป แต่มันมีน้ำหนักที่เจตนาน้อยกว่ากัน เจตนาตั้งใจมาบวชเพื่อปฏิบัติธรรมมันก็เต็มรูป แล้วก็ประกาศต่อสาธารณชนว่าจะมาปฏิบัติงาน แล้วผู้ที่มาบวชเป็นพระเป็นผู้ที่สัญญากับประชาคม สัญญากับทุกๆ คนว่าจะมาบวชโดยที่ตัวเองสละทรัพย์ศฤงคารบ้านช่องเรือนชาน สละญาติ โภคขันธาปหายะ ญาติปริวัตตังปหายะ ให้ประชาชนเลี้ยงดูไว้ มันมีอะไรหลายๆอย่างซับซ้อน เสร็จแล้วก็มาบวช บวชเสร็จแล้วไม่อยู่ในพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าก็มีความบาปซ้ำซ้อน ก็เหมือนกับบวชแล้ว สัญญากับประชาชนว่าจะมาปฏิบัติธรรมให้หมดกิเลส เพราะฉะนั้นไม่ได้มาสะสมลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข แม้แต่ญาติโกโยติกา มีลูกมีเต้า มีผัว มีเมีย ไม่รับผิดชอบแล้ว ออกมาแล้วก็หมายความว่ายกให้ประชาชนยกให้ แต่เสร็จแล้วเราก็มาละเมิด มาสะสมทรัพย์ ดีไม่ดีก็มาวุ่นวายเรื่องผู้หญิงผู้ชายอะไรกันอีก เป็นการทำบาปซ้ำซ้อน ตัวเองก็โกหกสังคม
ที่มา ที่ไป
พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2562 ( 14:32:38 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 06:55:21 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:46:57 )
รายละเอียด
ได้โดยเอาประเทศเป็นเครื่องมือหากิน ช่วยประเภทที่ช่วยแล้วใช้เป็นเหยื่อเป็นเครื่องมืออาศัย ที่จริงก็น่าสงสาร เขาทำไปโดยไม่รู้ตัวก็เป็นวิบากบาปของตน อาตมาก็พูดด้วยจริงใจจะช่วย เพราะมันเป็นโลกียะ ไปบวชนี้ได้อภิสิทธิ์นะ ชาวไทยที่ไปบวช ก็อย่างธัมมชโยอาศัยความเป็นนักบวช อาศัยพูดเก่งฉลาดเฉโก หลอกล้วงตับกินไส้ ผู้คนหลอกกันพามาบาปซ้ำซ้อนเยอะแยะ เดี๋ยวนี้คนก็ยังหลง จะได้วิมานสารพัดที่จะทำอุปาทานมาหลอกคนซับซ้อน แล้วคนก็ขี้โลภอยากได้ แล้วตนก็ไม่รู้ว่าที่ตนอยากได้จะมีจริงไหม เป็นเรื่องถูกหลอกเข้าใจผิดกัน เขามีคนไปเยอะนะ จะบวชเป็นล้าน แต่ดีที่รัฐจัดการก็เลยลดลงไปเรื่อยๆในบทบาท ประเทศไทยใจดีจัดการไปตามลำดับ ไม่ทำอย่างหักด้ามพร้าด้วยเข่า ก็ค่อยๆเป็นไป
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2562 ( 14:44:45 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:03:46 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:47:38 )
รายละเอียด
พวกคุณนั่นแหละเก่ง พวกคุณเก่งที่ฟังแล้วเข้าใจ ยินดี แล้วเอามาปฏิบัติตามจนเกิดจริง เกิดเพราะคุณเป็นคนทำ อาตมาไม่ใช่เป็นคนที่บังคับคน แล้วก็มาเคี่ยวเข็ญ เหมือนลัทธิอีกหลายๆลัทธิจะต้องบังคับ อาตมาว่าเรื่องบังคับนี้อาตมาถือมาก อาตมาไม่ชอบบังคับใครๆเลย อาตมาถือว่าเป็นความเลวร้ายชนิดหนึ่งเลยในการบังคับคน จริงๆนะ อาตมาถืออย่างนั้น จะเห็นได้ว่าตลอดเวลาอาตมาจะไม่จู้จี้จุกจิกใคร ถ้าจะบอกก็บอกไป ทำก็ทำ ไม่ทำก็แล้ว ถ้ามันสำคัญมากก็อาจจะบอก 2 ครั้ง 3 ครั้งเป็นสูงสุด บอกก็บอกอย่างที่ บอกธรรมดาไม่ได้หมายความว่าบอกอย่างนั้นอย่างนี้ บอกหลายครั้งแล้วนะ... จะไม่ส่งเสียงสำเนียงอย่างนี้ อย่างนี้เป็นต้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 26 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:43:19 )
รายละเอียด
คือ การรับใช้ช่วยเหลือสังคม ด้วยการทำงานเป็นกลุ่มตามฐานงานต่างๆใน 4 วันแรก จะมีการอบรมธรรมะ โดยวัดผลการปฏิบัติออกมาในรูปของคะแนน มีการเก็บคะแนนระหว่างเรียนด้วย
หนังสืออ้างอิง
“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” น.186
เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 11:35:30 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:13:56 )
รายละเอียด
คือ การอบรมธรรมะหลักสูตร "วิชชาลัยบรรดาบัณฑิตบุญนิยม"ครั้งแรก 7 วัน 4 วันแรก เป็นการบำเพ็ญคุณ 3 วันหลัง เป็นการบำเพ็ญธรรม ได้สร้างความกระตือรือร้นในการอบรมธรรม ผู้สมัครมากันคับคั่งตรงเวลาพร้อมเพรียงทุกรายการ ทุกกิจกรรม ผู้สมัครมีอายุตั้งแต่ 5 ปี ถึง 83 ปี เป็นหลักสูตรระยะสั้น
หนังสืออ้างอิง
“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 186
เวลาบันทึก 27 ตุลาคม 2562 ( 11:37:51 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:14:42 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 8 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 10:45:08 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2561
เวลาบันทึก 31 ธันวาคม 2563 ( 12:37:37 )
รายละเอียด
การเมืองที่อาตมาพาทำมา มันถูกพวกมิจฉาทิฏฐิ พวกที่มีเล่ห์เหลี่ยม มากรอกความไม่จริง เป็นความเท็จ ความขบถ ความไม่ถูกต้องบอกว่าการเมืองกับธรรมะไม่ต้องมายุ่งกัน แยกการเมืองกับธรรมะออกจากกัน นี่เป็นเล่ห์เหลี่ยมของนักการเมืองตัวเลวร้าย ก็เป็นแต่เพียงว่าขยายความกันมาหลายทีแล้ว
ถ้าสังคมไหน การบ้านก็ตาม การเมืองก็ตาม ถ้าไม่มีธรรมะแล้วมันจะอยู่สุขอย่างไร เข้าใจบ้างสิ แค่นี้เข้าใจไม่ได้โง่ตายซะ แค่นี้เข้าใจไม่ได้ใช่ไหม คำว่าธรรมะหมายถึงอะไรก็ไม่ต้องอธิบาย ไม่มีคุณธรรมไม่มีธรรมะมีแต่อธรรม อยู่ในบ้าน 2 คนมันก็แย่แล้ว มีแต่อธรรมทั้งคู่ มันจะเป็นอยู่สงบจะอยู่สบายอบอุ่นได้อย่างไร มันก็เดือดร้อนกันตลอดกาลนาน
ยิ่งเป็นระดับประเทศโดยเฉพาะระดับโลก ระดับโลกก็จะมีเครือข่าย เป็นนานาชาติระดับชาติที่รวมกันจับมือกันผสมผสานกัน แม้จะมีอะไรต่างก็พยายาม มันบังคับไม่ได้ในสิ่งที่มันมากอย่างขึ้นไปแล้ว จะบังคับให้เหมือนกันเลยไม่ได้ ตั้งแต่วัตถุรูปจนไปถึงนามธรรม การยึดถือในจิตใจ จะไปบังคับกันทีเดียวไม่ได้ มันก็ต้องอนุโลมปฏิโลมให้มันกลมกลืนพอจะประสานกันได้ เรียกว่ากลมเกลียวกลมกลืนกันได้ อย่างพอสมควร มันถึงขั้นสงบ ก็ถึงจะใช้ได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรม พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึกครั้งที่ 40 ปี 2564 วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 01 สิงหาคม 2564 ( 19:46:11 )
รายละเอียด
ทางผู้รู้ท่านนั้นบอกมาว่าทุกรกิริยาคือการบําเพ็ญอะไรที่ยากไม่ผ่านบรรลุธรรม มันหลอกกันซับซ้อนเป็นคนละเรื่อง เพราะฉะนั้นไปแสวงหาโพธิญาณในทางที่ผิด พระพุทธเจ้าก็ยืนยันว่าโพธิญาณไม่ได้ได้ด้วยวิธีนั้นทำแบบนั้น ให้ตื่นเสียทีสิพุทธศาสนิกชนท่านอาจารย์ที่สอนศาสนาทั้งหลาย ตื่นเสียที สงบกายสงบจิตยิ่งเป็น กายปาคุญญตา ยิ่งคล่องแคล่วว่องไวทั้งกายทั้งจิต กายวิญญัติ วจีวิญญัติ
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 18:06:17 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:06:23 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:56:17 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 6 มิถภุนายน 2563
เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 15:28:56 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 06:58:05 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 14:35:30 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 12:13:11 )
รายละเอียด
มีกี่หมู่บ้านชุมชนชาวอโศกในประเทศไทยที่เป็นฆราวาส เป็นสาธารณโภคีได้ทั้งสิ้น นักรัฐศาสตร์ควรจะศึกษาให้ดีว่าเศรษฐกิจอย่างสาธารณโภคีเป็นอย่างไร รัฐกิจการบริหารปกครองอย่างสาธารณโภคีเป็นอย่างไร สังคมศาสตร์อย่างสาธารณโภคีเป็นอย่างไร สังคมของชาวอโศกเป็นอย่างไร มีทะเลาะเบาะแว้งไหม มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลไหมในชาวอโศก จะ 50 ปีแล้วทำงานมา เกิดชุมชนสาธารณโภคี ไม่มีราคะหรือโลภะ ก็ต้องถึงขั้นขโมยขึ้นศาล โทสะถึงขั้นศาลไม่มีแม้ครึ่งครั้ง ใน 50 ปีจะถึงแล้ว นี่คือการบริหารสังคมเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ขออภัยที่พูดเหมือนดูใหญ่โต แต่ฟังด้วยดีจะเข้าใจ เป็นวิชาการของศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าแท้ๆ ความรู้ของพระพุทธเจ้า อาตมาได้มาแต่ชาติก่อน ชาตินี้ก็เอาของพระพุทธเจ้ามาทำต่อ มีพระไตรปิฎกอ้างอิงได้ อันไหนผิดไปจากพระไตรปิฎก ก็ค้านมาได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 11:50:24 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 14:29:26 )
รายละเอียด
"กาม" ต้องมีสัมผัสภายนอก ถ้าไม่มี "ภายนอก" ก็เรียนรู้ "กาม" ไม่ได้ ฉะนั้นอย่าหลงผิด "หลับตา"แล้วเรียน"กาม"เป็นอันขาด การปฏิบัติ "หลับตา" กันนั้น มันไม่สามารถเกิด "ปัญญา-ปัญญินทรีย์-ปัญญาพละ" ที่จะรู้กามได้เลย เพราะมันขาดกระบวนการของ "ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์-สัมมาทิฏฐิ-มัคคังคะ" อันเป็น "องค์ 6" ที่จะเกิด "ปัญญา" การปฏิบัติธรรมของพุทธต้อง "ลืมตาปฏิบัติเสมอ"
หนังสืออ้างอิง
คนจะมีธรรมะได้อย่างไร ? หน้า 21
เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 11:44:20 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:15:23 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:57:14 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติ อปัณณกปฏิปทา 3 เป็นการปฏิบัติของศาสนาพุทธ ถ้าไม่มี 3 ข้อนี้ ไม่มีศาสนาพุทธ ฟังอีก ไม่มีการสำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะ นี้เป็นการผิดไปจากศาสนาพุทธ 3 ข้อนี้ อปัณณกปฏิปทา แปลว่าความไม่ผิดไปจาก ศาสนาพุทธ ถ้าไม่มี 3 ข้อนี้คือผิดหมด หลับตานั้นไม่ตื่นเลย เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปพูด โภชเนมัตตัญญุตา ไม่ต้องพูดถึงการสำรวมตาหูจมูกลิ้นกายใจ ไม่มี หลับตาไม่ตื่น สำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 ก็ไม่มีไปนั่งหลับตา ไม่มีตาจะเป็นอย่างไร หูจะเป็นอย่างไร จมูกลิ้นกายจะเป็นอย่างไร เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสกับอุตรมานพ ถามว่าอาจารย์เธอสอนอย่างไร อุตรมานพตอบว่าสอนให้หูอย่าได้ยินเสียง ตาอย่าได้เห็นรูป พระพุทธเจ้าก็เลยบอกว่า สอนให้ตาบอดหูหนวกเหรอ เท่านั้นแหละอุตรมานพก็คอตกซบเซา
เดี๋ยวนี้เราเอาของพระพุทธเจ้ามาพูดก็คำความเดียวกับของพระพุทธเจ้า เขารู้สึกกันที่ไหน เขาดูถูกด้วย ก็อาตมาพูดคำของพระพุทธเจ้าแท้ๆ ไม่ได้เอาคำของตัวเองมาพูด แต่เขาฟังไม่เป็น ไปยึดถือสิ่งที่เขายึดถือ แต่ความถูกต้องคุณไม่เอา ก็น่าสังเวชใจไม่รู้จะทำอย่างไรก็ช่วยกันไป
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติ
เวลาบันทึก 18 มกราคม 2566 ( 12:17:01 )
รายละเอียด
ในการปฏิบัติของพระพุทธเจ้ามาจากจรณะ 15 วิชชา 8 หรือศีล สมาธิ ปัญญาหรือ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา อธิมุติ ขยายความเป็นจรณะ 15 วิชชา 8 ก็มีศีล อปัณณกปฏิปทา 3 แล้วมีสัทธรรม 7 ฌาน 4 วิชชา 8 ขยายเป็นจรณะ 15 วิชชา 8 ก็คือศีล สมาธิ ปัญญา หรือ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา อธิมุติ เขาบอกว่า ศีลปฏิบัติควบคุมกายกับวาจาได้เท่านั้น สมาธิเขาไปนั่งหลับตาเอา คนที่ฟังอาตมาอยู่นี้ถ้านั่งหลับตาฟังก็ไม่รู้เรื่องนะ อาตมาพูดให้ลึกซึ้งนะ
เขาอธิบายว่ากายกรรม วจีกรรมก็คือศีล สมาธิก็ไปนั่งหลับตานี่คือ ความเสื่อม เป็นความผิด ของศาสนาพุทธที่เสื่อมแล้วจริงๆ สมาธิของพระพุทธเจ้าไม่มีนั่งหลับตา หลับตาไม่มีสมาธิของพระพุทธเจ้า พูดให้ดังๆเลย โว้ย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติ
เวลาบันทึก 17 มกราคม 2566 ( 13:07:47 )
รายละเอียด
การปฏิบัติจะให้เกิดอธิจิต หนึ่งคุณต้องมี รูปีรูปานิปัสสติ นี่คือวิโมกข์ 8 ข้อที่ 1 สำนวนที่ท่านใช้กำกับว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าจะต้องสัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกายจึงจะบริบูรณ์ทุกอย่างสมบูรณ์ เป็นวิมุติ วิมุติตัวแรกคือปัญญาวิมุติ ถ้ายังไม่มีกายอย่างชัดเจนอย่างสมบูรณ์ ยืนยันได้อย่างเป็นสักขี แม้จะมีกายเป็นสักขีที่ยืนยันได้ แต่ไม่ได้สัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกายจะไม่มีวันเรียกว่า บุคคลนั้นปฏิบัติมาในวิธีใดก็แล้วแต่จะไม่เรียกบุคคลนั้นว่าอรหันต์ ส่วนบุคคลที่วิมุติสมบูรณ์คือ อุภโตภาควิมุติ แต่อรหันต์เริ่มต้นได้คือปัญญาวิมุติ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน มีเวทนาเป็นกรรมฐานให้สัมผัสวิโมกข์
เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:13:54 )
รายละเอียด
การปฏิบัติจิตนิพพาน คือ การปฏิบัติให้ได้ จึงจะเข้าใจจริง เรียนสุข ทุกข์ จะได้นิพพาน แล้วต้องดับสุขดับทุกข์ไม่ให้จิตมีอาการสุข ทุกข์ในจิต เรียกว่า จิตนิพพาน เป็นที่ตั้งของ ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา ใครทำคุณสมบัติ 5 ประการนี้ได้ถาวรมั่น คือ ผู้นั้นเป็นอรหันต์กระทบกับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็ไม่หวั่นไหว มีคุณสมบัติ ทั้งรู้ก็เร็ว เปลี่ยนแปลงได้เร็ว เหมือนนักมายากล กลับไปกลับมา คนหมุนสมองไม่ทัน ท่านพูดกลับไปกลับมาก็จะงง ตอนนี้พูดถึงความมี หรือความไม่มี ก็ได้
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 14:20:07 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:11:50 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:49:46 )
รายละเอียด
คือ สมณะโพธิรักษ์ต้องแก้ความเห็นนี้ที่บอกว่าพระปฏิบัติ คือ พระออกป่าและต้องนั่งหลับตาสมาธิ เรียกว่า 99.99% เลย
1. กายวิเวกเขาเข้าใจว่าต้องหลีกไปอยู่ป่า
2. จิตวิเวก คือ ต้องทำสมาธินั่งหลับตา ที่จริงการปฏิบัติจิตวิเวกก็ไม่ต้องไปนั่งทำ แต่ทำทุกเวลา อานาปานสติทุกลมหายใจเข้าออก แม้ว่าทำอาชีพอยู่ ทำการงานทุกอย่างอยู่ คุณกำลังคิดอยู่ ก็ทำจิตอ่านให้รู้เวทนาในเวทนาเป็นกรรมฐาน มันจะมีกายกับจิต เวทนาเป็นตัวกลาง เวทนาเป็นเจตสิกต้องเรียนรู้ เวทนา เพราะความสุข ความทุกข์ หรือโลกุตระมันอยู่ที่เวทนา ไม่มีเวทนานั้น ไม่มีฐานแห่งการปฏิบัติ พรหมชาลสูตรก็ท่านเอามาอ่านขยายความท่านจะกระเตื้องไหมหนอ ท่านย้ำแล้วย้ำอีกว่า พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ไม่ใช่สมณะโพธิ์รักษ์พูด ล.9 ข้อ (87) ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณะพราหมณ์เหล่าใดมีทิฎฐิว่า นิพพานในปัจจุบัน ย่อมบัญญัติว่า นิพพานในปัจจุบันเป็นธรรมอย่างยิ่งของสัตว์ ผู้ปรากฏอยู่ด้วยเหตุ 5 ประการ เขาเหล่านั้นเว้นผัสสะแล้วจะรู้สึกได้ นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 13:17:30 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:17:42 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:50:34 )
รายละเอียด
ถ้ามีผัสสะก็จะมีเวทนามีรูปนามให้เรียนรู้ ศึกษารูป 28 นาม 5จะได้ความรู้ไปตามลำดับ จะรู้จักกิเลส รู้จักธรรมะที่จะทำให้เหตุคือกิเลสดับไปตามขั้นตอนของศีล ตั้งแต่ศีลข้อ 1สัมผัสกับสัตว์ ศีลข้อ 2สัมผัสกับพืช กับของ ศีลข้อ 3 สัมผัสรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสทางตาหูจมูกลิ้นกาย ก็จะได้เรียนได้ศึกษาเมื่อมีผัสสะจึงเกิดเวทนา เวทนา จึงเกิดตัณหา 3 เวทนาเกิดแล้วมีปัจจัยให้เกิดคือตัณหา 3 ตัณหามันอยู่ในมโนสัญเจตนา ในนาม 5 มีเวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการในนาม 5หากปฏิบัติธรรมไม่มีผัสสะก็มนสิการไม่ได้ ทำใจในใจไม่ได้ ไม่มีผัสสะก็ไม่มีเวทนาไม่มีสัญญา หากมีผัสสะก็มีเวทนาก็ทำใจในใจได้ เวทนาเป็นฐาน สัญญาเป็นตัวกำหนดรู้ แล้วหาตัวมโนสัญเจตนาในเวทนาให้ได้ก็จะมีมโนสัญเจตนาคือ 1ามตัณหา2. ภวตัณหา 3. วิภวตัณหาตัณหา3นี้ เรียนรู้ไปตามลำดับตั้งแต่กามตัณหา เป็นต้น แต่เมื่อเรียนผิดไปนั่งหลับตาปฏิบัติแล้ว กามตัณหาไม่ได้เริ่มต้นเลย ไม่หลับตาปฏิบัติแล้ว รีบลัดไปหาจิตสงบ ดับ ออกนอกรีตพระพุทธเจ้าไปเลย ไม่มีการศึกษา 3 ไม่มีจรณะ 15ไม่มีสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 ไม่มีโภชเนมัตตัญญุตา ไม่มีชาคริยานุโยคะ ซึ่งผิดไปจากธรรมะพระพุทธเจ้า ถ้าปฏิบัติไม่ผิดก็ต้องมี 3 อันนี้ แต่ถ้าไม่มี 3 อันนี้ คือปฏิบัติผิด ไม่ใช่ศาสนาพุทธ ไม่มีการสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 ต้องมีการสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 จึงจะเป็นการปฏิบัติที่ไม่ผิด ต้องมีโภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคต้องตื่นไม่ใช่ไปหาที่หลับ ตื่นมีสติทั้งภายนอกและภายใน ไม่เคยให้มีสติแต่ภายในเท่านั้นไม่มี คุณจะมีสติแข็งแรงตั้งแต่ภายนอกไปแล้วก็ล้างกิเลสกามได้ กิเลสของคุณหมด จิตคุณจะแข็งแรงยิ่งขึ้นเป็นสมาธิ แล้วก็เรียนรู้มีทั้งปัญญาทั้งเจโต ศึกษา รูปราคะ อรูปราคะต่อ ลึกซึ้งเป็นมานะ อุทธัจจะ ล้างละเอียด หมดอวิชชา หมดสังโยชน์เบื้องสูงเลย มีลำดับ อันน่าอัศจรรย์ แต่นี่เบื้องต้นก็ทิ้งไปหมดแล้ว ในจิตวิเวก เริ่มต้นปฏิบัติผิด เป็นผู้ไกลจากวิเวกเข้าใจกายวิเวกก็ตื้นๆเอาร่างออกป่า บิณฑบาตแต่เพียงผู้เดียวกินผู้เดียวอยู่แต่เพียงผู้เดียว มิหนำซ้ำก็ไปนั่งหลับตาเข้าไปอีกแล้วหลงเป็น รูปฌาน อรูปฌาน โดยไม่มีภายนอก แต่จิตวิเวกนี้ต้องมีภายนอกพระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้มันซับซ้อน ถ้ามีภายนอก หากคุณเอาร่างออกป่า สองนั่งหลับตาปฏิบัติก็ไม่มีภายนอก ก็ไกลแสนไกลจากวิเวก คุณหมดสิทธิ์ที่จะรู้จักกิเลสหมดสิทธิ์ที่จะรู้จักขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เมื่อทิ้งรูปไปแล้วไม่มีกายภายนอก ไม่ต้องพูดถึงอภิสังขาร
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 21 มกราคม 2563 ( 20:24:19 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 11:52:34 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:58:17 )
รายละเอียด
ไม่รู้ ขันธ์ 5 อุปาทาน ไปนั่งหลับตามีแต่อดีตกับอนาคต ซึ่งมันไม่ใช่ของจริง คุณไปนึกเอาว่ามีกิเลส เคยมีราคะโทสะ แต่ไม่มีจริงตอนนี้ กามคือ ผัสสะตาหูจมูกลิ้นกาย ก็ไม่ได้ผัสสะจริงเลย ต้องล้างกามภายนอกแล้วจะล้างภายในต่อ กิเลสภายนอกดับสนิท เป็นอนาคามี เหลือแต่ภายใน รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา อะไรของคุณที่เหลือ แล้วก็ไม่ได้หลับตา อนาคามีไม่ได้หลับตาในภพ แต่เหนือกามภพได้แล้ว ก็ล้างต่อไป
ที่มา ที่ไป
วิถีอาริยธรรม บ้านราช เศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม2563
เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 13:52:01 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 11:59:00 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:58:44 )
รายละเอียด
ความรู้พุทธศาสนามันเสื่อมมากจริงๆ อาตมางานหนักมาก ที่จะทำความเข้าใจนี้ฟื้นขึ้นมาในยุคๆกึ่งพุทธกาลที่พระพุทธเจ้าท่านพยากรณ์เอาไว้แล้วว่ามันจะเสื่อม แล้วต้องมีผู้มากอบกู้ ก็ยืนยันหลักฐานทุกอย่างว่า อาตมาอยู่ในข้อที่ 10 ของสัมมาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิ 10 อะไรต่ออะไรยืนยันหลักฐานทุกอย่าง
หรือแม้แต่ที่พูดนี้ ไม่มีครูอาจารย์แล้วมาอธิบายสมาธิ ฌาน เรื่องบุญ เรื่องกาย ไม่เหมือนเขานี่นะ มีคนก็รับได้แล้วก็ทำได้ปฏิบัติได้จนกระทั่งปฏิบัติถึงขั้นสำเร็จเป็นวรรณะ 9 เป็นสาราณียธรรม 6 ขอสรุปเข้าเรื่องก็แล้วกันหลักฐานพระพุทธเจ้าทั้งนั้น สาราณียธรรม 6 ก็ของพระพุทธเจ้า วรรณะ 9 ก็ของพระพุทธเจ้าอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นหัวข้อหลักเลยมันได้ยืนยันอย่างนี้คุณจะเถียงได้ไหมล่ะ
พวกคุณจะมาแกล้งมีวรรณะ 9 คุณจะมาแกล้งอยู่ใน สาราณียธรรม 6 นี้ แกล้งไป แกล้งให้เหมือนนะ แกล้งให้มันคล้ายจริงที่สุดเลยนะ ถ้าไม่งั้นเดี๋ยวคนจับได้นะ
คือ จริงๆจะแกล้ง หรือว่าจะประพฤติ ไม่ว่าคุณจะฝืนใจเรียกว่าแกล้งทำ มันพอทำได้ คุณก็ทำไปเรื่อยๆ มันหนักสุดฝืนแล้วคุณจะทนหรือ ใช่ไหม โอ้โห มันไม่ไหวสุดทนแล้วคุณก็ออกไป
เพราะฉะนั้นคนที่อยู่ได้จนกระทั่งปีหนึ่งก็แล้ว 5 ปีก็แล้ว 10 ปีก็แล้ว 20 ปีก็แล้ว 30 ปีก็แล้ว 40 ปีก็แล้ว อาตมาทำงานศาสนามา 50 ปี หลายคนก็อยู่ถึง 50 ปีแล้ว ตั้งแต่แรกมาจนป่านนี้มี 50 ปีอยู่บ้างแล้ว มันก็ยืนหยัดยืนยันต่อจาก50 ปีไปอีก อาตมาถึงบอกว่ามันยังพิสูจน์ไม่จริงให้ต่อไปอีก 53 ปีแค่นั้น 54 ปีย่างแค่นั้น แม้ ถ้าอาตมาอยู่ไปได้อีกสัก 47 ปี เป็นร้อยนะทำงานศาสนาครบ 100 ปีนี่ รับรองเขาต้องซูฮกอาตมา
สรุปตรงนี้ว่า ชาตินี้อาตมาได้ยืนยันพิสูจน์ตัวเองว่า อาตมาเป็น สยังอภิญญา ที่ไม่ได้มีครูบาอาจารย์เอาโลกุตรธรรมขึ้นมาสถาปนาลงไปในยุคที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในอาณีสูตรว่า มันเสื่อม และอาตมาก็ขอย้ำยืนยันว่าไม่ได้พูดเล่น จริง คนไม่เชื่อก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่คนเชื่อก็แล้วแต่ ที่คุณเชื่อ และเชื่อแล้วทำด้วย แล้วทำได้ บรรลุธรรมด้วย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ปลุกธรรม ตอบปัญหาผ่ามิจฉาอาชีวะ 5 วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 แรม 12 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 12 มกราคม 2567 ( 19:21:30 )
รายละเอียด
เวทนาจึงเป็นกรรมฐานที่แท้จริงตาม พรหมชาลสูตร ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ไม่มีผัสสะก็ไม่มีเวทนาไม่มีฐานให้ปฏิบัติ ต้องมีผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา เวทนาจึงจะเกิดเป็นฐานให้ปฏิบัติได้ ถ้าไม่มีผัสสะ ไปหลับตาเสีย ปิดผัสสะเสีย ก็ไม่สามารถมีเวทนาต่อ ซึ่งหากมีแต่ภายใน มันก็ยากที่จะแยกที่จะเรียนรู้ จัดการได้ ไปหลงความเป็น 2 คุณทำ 2 ให้เป็น 1 อาศัย เพราะคุณรู้ว่า 2 จริงๆแล้วมันมี 0 กับ 1 แล้วคุณก็ทำ0ได้ คุณยังไม่ตายคุณก็เลยอาศัย 1 อยู่ นี่คือคนจบ รู้จักเครื่องอาศัย รู้จักความเป็นจริงที่ว่าเรายังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน
อย่างอาตมา อาตมาทำ 0 ได้ แต่อาตมา ยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน อาตมายังเกิดอยู่ อาตมายังเกิดอยู่อย่างวิภวตัณหา
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือพ่อครัวผู้ปรุงอาหารโลกุตระ วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2565 ( 15:15:55 )
รายละเอียด
ต้องมีภายนอกเสมอ จะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ จะต้องมีภายนอก ถ้าไม่มีภายนอกร่วมด้วย ไม่ได้ชัดเจนไหมพวกหลับตาทั้งหลาย ต้องมีภายนอกมาทั้งสิ้น พวกที่ไปหลับตาประพฤติ ไม่มีเบื้องต้นเลยสรุปว่า เบื้องปลายก็ไม่ได้
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 16:05:59 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:03:32 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:51:12 )
รายละเอียด
ในจรณะ 15 อาตมาก็พยายามอธิบายโดยความหมาย ท่านระบุบัญญัติไว้ถูกต้องหมดแล้ว ในจรณะ 15 มีศีลเป็นหลักธรรม แล้วก็ปฏิบัติตามศีลนี่แหละ โดยการปฏิบัติ
การปฏิบัติที่ปฏิบัติไม่ผิดก็มีการสำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะ แค่ 3 ข้อเท่านี้ จำไม่ได้หรืออย่างไรไม่รู้จักหรืออย่างไร ไม่เอา ไม่มีอันนี้ไม่ใช่ศาสนาพุทธ ต้องครบ 3 องค์นี้ด้วยคือสำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะ ต้องครบ 3 องค์นี้ นี่คือพุทธคุณของพระพุทธเจ้า วิชชาจะระณะสัมปันโนถึงจะเข้าถึงศาสนาพุทธ ถ้าไม่มีอันนี้ไม่เข้าถึงศาสนาพุทธเพราะฉะนั้นการไปหลงว่าได้ฌาน โดยที่ฌานไม่มี 3 องค์นี้ก็เป็น ฌานของเดียรถีย์ออกนอกรีต มันไม่ใช่ฌานของพระพุทธเจ้า ฌานพระพุทธเจ้าต้องปฏิบัติ 3 องค์นี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 14:07:46 )
รายละเอียด
การปฏิบัติที่ผิด คือ หลงยึดติดแน่นอนหนักหนาแล้ว ก็คือ สายหลับตาแล้วมาปฏิบัติ ยิ่งออกมาแล้วบอกว่าเป็น." กายวิเวก" ก็เป็นการไกลออกจากวิเวก มองเผินๆ เราปลีกออกจากที่วุ่นวายไปที่เงียบเหมือนเราจิตเป็นหนึ่ง วิเวก แต่พระพุทธเจ้าบอกว่า กาย คือ จิต มโน วิญญาณ
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 16 ตุลาคม2562
เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 13:16:52 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:08:35 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:59:27 )
รายละเอียด
ก็น่าจะมีปฏิภาณเข้าใจ นั่งหลับตาสะกดจิต ให้มันแข็ง ให้มันนิ่ง ให้มันแน่น ให้มันนานแบบนั้น มันไม่ใช่ผลทำให้จิตเจริญ จิตประเสริฐ จิตมีคุณค่า จิตมีประโยชน์อะไรเลย มันทำให้ตัวเองทั้งร่างกายทั้งพฤติกรรม กิริยาต่างๆ หยุดแข็ง ยิ่งกว่าเป็นแท่งเป็นก้อนอะไรไป จิตก็หยุด วาจาก็หยุด กายกรรมก็หยุด หยุดให้นิ่งไปได้นาน ฝึกนั่งสมาธิไปเข้าสมาบัติ 7 วันเขาก็เรียกว่าเก่ง ตัวเลข 7 เป็นเลขที่เป็นพลังงานสูงสุดแล้ว นั่งให้มันเก่งนั่งได้ 7 วัน ออกมาแล้วโอ้โห ยอดสมาธิ มานั่งเลี้ยงกัน เอาอะไรมาเลี้ยงกันบอกว่าสุดยอดแล้ว เข้าสมาบัติเข้านิโรธ ก็ไปหลงความเลอะเทอะนอกเรื่องนอกราวอย่างนั้นกัน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ชาติ 5 พาพ้นขิฑฑาปโทสิกะและมโนปโทสิกะ วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2564 ที่บ้านราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 01 มกราคม 2565 ( 20:16:53 )
รายละเอียด
การปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ขาดภายนอกไม่ขาดภายใน เช่น สายที่นั่งหลับตา มิจฉาทิฏฐิขาดภายนอก ไปหมดเลย เขาจะทำจิตในจิตให้หมดกิเลส ก็ไปนั่งหลับตาเขาทิ้งภายนอก 5 ทวารไว้ แล้วก็งมกับการนั่งสมาธิทำจิตอยู่อย่างนั้น ไปกันใหญ่ทิ้ง 5 ทวารไปหมด
เริ่มต้นจากขั้นแรก เบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ คือ การสงัดจากกาม เขามีที่ไหนเบื้องต้นเริ่มต้นแห่งพรหมจรรย์ในการสงัดจากกาม แล้ว กามคุณ 5 มันอยู่ภายในหรือ กามคุณ 1 ไม่มี
เพราะฉะนั้นคุณจึงไกลแสนไกลจากวิเวก เพราะข้องอยู่ในถ้ำแห่งใจ พวกนั่งหลับตา คือ พวกไกลจากวิเวกตลอดกาลนิรันดร คือ พวกนอกรีตของศาสนาพุทธ เดียรถีย์ นั่งหลับตาปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้านอกรีตหมด
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 18:00:33 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:14:49 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:51:50 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 20 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 23 มิถุนายน 2563 ( 09:20:50 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 06:59:40 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:00:17 )
รายละเอียด
มี 3 ข้อเป็นหลัก การปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า ผู้ปฏิบัติธรรมถ้าคำนึงถึง 3 ข้อนี้ แล้วก็สังวร สำรวม มีสติ พยายามที่จะระลึกรู้ตัวทั่วพร้อมในขณะที่มันกำลังสังวร ก็รู้ว่าเรากำลังสัมพันธ์สัมผัสกับอะไร เราสัมผัสสัมพันธ์อยู่กับตามันกระทบรูปอย่างนี้ หูก็กำลังได้ยินเสียงอันนี้ เสียงนี้ว่าอะไรเสียงนี้คือคำพูดเสียงนกเสียงกา เสียงนี้คือเสียงดนตรี เสียงนี้คือเสียงคนด่า เสียงนี้คือเสียงคนชม เสียงนี้คือเสียงที่พูดกำลังสื่อสารสาระต่างๆ หรือกำลังสื่อที่ไร้สาระต่างๆอย่างนี้เป็นต้น เราก็ทั้งเห็นภาพ ทั้งได้ยินเสียง ทั้งได้กลิ่น กลิ่นอย่างนี้ก็คืออย่างนี้ จะเรียกว่าหอมว่าเหม็นก็เรียกไป มันจะมีประโยชน์ให้เราดม หรือไม่มีประโยชน์อย่าให้ดมเลย หนีเสียหรือทำลายมันเสียมันไม่ดี เปลี่ยนแปลงมันซะ กลิ่นก็ตาม รสก็ตาม สัมผัสภายนอกโผฏฐัพพะสัมผัสเสียดสีกับตัวเราทั้งหมด ทางตาก็สัมผัส ทางหูก็สัมผัส แต่มันมีระยะ ตาก็มีระยะทาง หูก็มีระยะทางเข้ามา กลิ่นก็มีระยะทางเข้ามา ลิ้นต้องแตะซึ่งจะได้รับรส โผฏฐัพพะก็ต้องแตะ
เมื่อสัมผัสแล้ว ตาเห็นคน คนนี้สวย ก็ระมัดระวังเหมือนกันระมัดระวังสวย อันนี้สัมผัสอันนี้เราก็ระมัดระวังเป็นอัตโนมัติอยู่แล้ว ระมัดระวังอะไร ระมัดระวังกิริยาอาการที่เราจะไปเกี่ยวข้อง ที่เราจะไปทำลายหรือทำตามชอบหรือชัง ไม่ใช่ว่าสัมผัสแล้วไม่ชอบก็ซัดพัวะเลย ไม่ใช่ สัมผัสแล้วอะไรชอบก็จะคว้าหมับเลย มันก็ไม่ได้อะไร อย่างนี้เป็นต้น เป็นธรรมดาธรรมชาติทุกคน เป็นทุกคน รู้เป็นอัตโนมัติมีทุกคน ถ้าคนที่ไม่ค่อยระมัดระวังมันก็ทำตามใจมาก ชอบก็เอาเลย ดีไม่ดีอยากได้ก็ขโมยเลย เขาไม่ให้ก็แย่งเลยหรือฆ่าเลยแล้วก็เอาของมันมา ซึ่งมันก็มีน้อยสำหรับพวกที่รุนแรงจัดจ้าน โลภจัด โกรธจัด อะไรถึงขนาดนั้นก็มีน้อย โดยสามัญสำนึกจะต้องระมัดระวัง สัตว์มันยังต้องระมัดระวังเลย ตามควรของมันเป็นคนก็ยิ่งต้องระมัดระวังยิ่งกว่าสัตว์ เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ สื่อธรรมะพ่อครู ตอน บุญนิยม คืออะไร และอปันกธรรม 3 วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บ้านราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 13:36:37 )
รายละเอียด
การปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้หนีไปจากกามาวจร คุณจะต้องอวจร คุณจะต้องอยู่กับสังคม เปิด(ทวารทั้ง 6) มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีกามคุณ 5 ให้รู้กามาทีนวะ 5 กาม+อาทีนวะ ไม่ใช่กามคุณแต่เป็นกามโทษ
กามาทีนวะแปลว่ากามโทษ ให้รู้ว่ากามเป็นโทษ ไม่ใช่กามเป็นคุณ แต่เพราะอวิชชาจึงสังขาร (วงจรปฏิจจสมุปบาท) แล้วคุณก็หลงสังขารนี้ว่ามีกามเป็นคุณ คุณก็เสพกาม วิญญาณของคุณจึงเป็นวิญญาณผี
เมื่อเป็นวิญญาณผี คุณก็ไม่รู้ ถ้าคุณรู้ตัวอีกว่า เฮ้ย! ศึกษาดีๆวิญญาณผีนะ ต้องเอาวิญญาณจริงที่มันเป็น 2 นะ มีนาม-มีรูป ศึกษาให้ดีๆนะ แล้วนาม-รูปนี้ปลอมตัวกันเป็นอายตนะ อายตนะก็คือจับคู่กันเข้าไป
ที่จริงอายตนะก็คือสังขารนั้นแหละ ที่ปรุงแต่งกันขึ้นไป จับตัวกันจากนามรูปไปเป็นอายตนะ เป็น 2 โดย”หลง” อาตมาวิจัยพยัญชนะ หลงประโยชน์”อายะ”+”ตนะ” (คือ)ตนะ ตนุ ตัวตน ตัวเอง ภาษาไทยกับภาษาบาลีมันใกล้กันมาก ภาษาไทยเอาคำมาจากภาษาบาลีกันเยอะ “อายตนะ” มาตัวเองนี่แหละ ตน หรือ ตะนะ นึกว่าเป็นประโยชน์โดยอวิชชา
มีกาม มีราคะ ตัวแรก ไม่ต้องไปพูดถึงตัวอื่นเลย รูปราคะ อรูปราคะ ยังไม่ต้องพูดถึง ตัวต้นนี้คุณยังไม่ปอกเปลือกเลย ยังเอาออกไม่ได้ คุณก็ล้มเหลวไปหมดอีก ไม่มีอะไรที่จะเป็นมรรคเป็นผลเลย ดันทุรังทำทู้ที้ๆๆไป เลอะเทอะไปทั้งนั้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ นิยามของเศรษฐศาสตร์ฉบับโพธิรักษ์ วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2567 ( 16:28:48 )
รายละเอียด
เรียนรู้หลักโพธิปักขิยธรรม ซึ่งเป็นทางเอกของศาสนาพุทธให้เป็น-สัมมาทิฏฐิ
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 325
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 15:03:15 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 14:38:49 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:00:44 )
รายละเอียด
พวกนั่งหลับตาปฏิบัติทั้งหลาย ทิ้งกามภพ แต่ไม่ได้อยู่เหนือมัน ต่างจากอนาคามีที่ท่านหลุดพ้นจากกิเลสกามภพ จึงเหลือกิเลสรูปภพ อรูปภพ ภายใน ให้เลิกได้เลยการนั่งหลับตา แล้วศาสนาพุทธ เป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามีก็ไม่ได้หลับตาปฏิบัติ ตั้งแต่พระโสดาบันก็ลืมตาปัจจุบัน ก็เรียนรู้กิเลสขั้นต่อไปเป็น สกิทาคามี แล้วก็เรียนรู้ว่ากิเลสจนเป็น อนาคามี คุณก็ยังลืมตาอยู่กับโลกโลกีย์ แล้วคุณก็ล้างกิเลสที่เป็น อนาคามีอีกไม่รู้เป็นอรหันต์แล้วก็ยังลืมตา เป็นวิชชาจรณสัมปันโน มีอปัณณกธรรม 3 ข้อ ซึ่งเป็นการปฏิบัติธรรมของศาสนาพุทธ ต้องเรียนรู้การสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6 มีการประมาณในการบริโภคในเรื่องการกินการใช้ แล้วเกิดกิเลสก็ต้องฆ่ากิเลสอย่างตอนตื่นๆนี่แหละ แล้วก็ตื่นจากกิเลสเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน แต่การหลับตาปฏิบัติไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์เหล่านี้ของพระพุทธเจ้าเลย อาตมาพูดมาขนาดนี้แล้ว เสียดายหอกสามร้อยเล่ม เช้ากลางวันเย็นฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย มันจมยังไม่ผุดโผล่
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 10:43:20 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:18:50 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:01:18 )
รายละเอียด
แม้คุณลืมตาปฏิบัติธรรม กิเลสกามลด คุณก็ไม่ต้องหลับตา หมดกามาวจร หมดกามภพ เป็นอนาคามี คุณก็ลืมตาอยู่บนรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสอยู่กับกามภพ มีกามาวจร แต่กิเลสคุณไม่มีแล้วเหลือแต่กิเลสรูปภพ อรูปภพภายในเท่านั้น คุณไม่ได้หลับตาสักอย่างเลย เห็นไหมว่ามันตรงกันข้ามเลย แต่นั่นนั่งหลับตาไม่ลืมตาเลย อันนี้ลืมตาไม่หลับตาเลย เห็นไหม สอนกันคนละขั้วเลย น่าสงสารนะ
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 18:01:19 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:20:29 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:01:46 )
รายละเอียด
ทีนี้มาเข้าสู่ตัวลึก การปฏิบัติธรรมต้องมีกรรมฐาน มีกรรมฐานเดียวของศาสนาพุทธ คือเวทนา แต่ทุกวันนี้ศาสนาพุทธไปหลงสมถะ ก็เลยเอาจุดที่จิตสงบ เป็นสมาธิว่าเป็นสมถะสงบ จิตจดจ่อจ้องสะกดจิต ให้จิตเข้าไปยึดเหนี่ยว แล้วไปจดจ่อนิ่งกับตรงนั้น ซึ่งเป็นความรู้สามัญ เดียรถีย์ ของใครก็เข้าใจได้ง่ายฝึกเข้าก็สำเร็จ ซึ่งมันต่างจากสมาธิของศาสนาพุทธที่จิตเป็นสมาธิ จะยิ่งคล่องแคล่วปราดเปรียวมีประสิทธิภาพสูง เป็นกายกัมมัญญตา กายปาคุญญตา ยิ่งคล่องแคล่ว ในเจตสิก 3 วิญญาณก็ยิ่งคล่องแคล่ว เจตสิกก็ยิ่งคล่องแคล่ว ยิ่งสงบก็ยิ่งคล่องแคล่วมีประสิทธิภาพ 2 อย่างพร้อมกัน
ทีนี้พุทธเจ้าสอนในพระไตรปิฎกเล่ม 10 ของ 60 ดูกรอานนท์ ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ ) ล.10 ข.60
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน มีเวทนาเป็นกรรมฐานให้สัมผัสวิโมกข์ 8
เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:08:34 )
รายละเอียด
ถ้าไม่มี“กาย”เป็นพื้นฐานในการปฏิบัติ ก็โมฆะ สูญเปล่า เช่น ไป“หลับตา”ปฏิบัติ หรือ“พระเจ้า”ก็“ลึกลับ” ไม่สามารถสัมผัสทาง“กาย”กันได้
มันก็ไม่มี“เวทนา”อันเป็น“กรรมฐาน”ให้เราปฏิบัติ
“กิเลส”ที่เราจะจัดการกับมันอย่างสำคัญ มันก็คล้ายกับ“เจตสิก” คือ ส่วนหนึ่งที่หลอกแฝงเป็น“เจตสิก”อยู่ในจิต
เราจัดการกับ“เวทนา”นั้น คือ เราจัดการกับ“เจตสิก” เพียงแต่เราทำบางส่วนของ“จิต” คือ ทำส่วนที่เป็น“เจตสิก”ที่แยกละเอียดไปกว่า“จิต” แล้วก็ทำใน“เจตสิก”ส่วนนี้ นั่นคือ ปฏิบัติตาม“โพธิปักขิยธรรม 37” ที่เริ่มด้วยการกระทำ“กายในกาย-เวทนาในเวทนา-จิตในจิต-ธรรมในธรรม”
อันเป็นการกระทำ“สติปัฏฐาน 4”นั่นเอง จึงจะทำ ให้“กิเลส”ในจิตลดลง หรือ“กิเลส”ดับไปหรือ“ตาย”ได้สำเร็จ
การทำให้“กิเลส”ตาย จึงเป็น“การเกิด”ของ“จิตในจิต”แท้จริง ทั้ง“ละชั่ว-ทำดี” ทั้ง“ดับสุข-ดับทุกข์”ได้สำเร็จ การทำ“จิตในจิต”ให้“เกิด”ได้ด้วยสามารถปานฉะนี้ คือการทำ“การเกิด”ได้ถึงขั้น“นิพพัตติ”และ“อภินิพพัตติ”
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ตอน 3 วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 แรม 9 ค่ำเดือนอ้ายปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 08 มกราคม 2567 ( 18:43:40 )
รายละเอียด
ฟังสัมมาทิฏฐิจากอาตมาดีๆ ถามว่าจำเป็นแค่ไหน จำเป็นที่สุด ยิ่งกว่าอะไรใดๆทั้งหมดในความเป็นชีวิต โปรดฟังอีกครั้ง การปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรมนี้ จำเป็นแค่ไหน จำเป็นที่สุด ของชีวิตคนทุกคน
ถ้าใครๆไม่เข้าใจ ไม่ปฏิบัติศีลไม่ปฏิบัติธรรม ชีวิตจะขึ้นๆลงๆ ชีวิตจะตกต่ำได้ดีตกต่ำ หมุนเวียนแล้ววนเวียนอีก อยู่ในโลกีย์อยู่อีกนาน มาก นานเท่านานเลย โดยเฉพาะศีลธรรมที่เป็นโลกุตระของพระพุทธเจ้า จริง มีศีลธรรมของศาสนาอื่นๆอีกหลายศาสนาแต่เป็นโลกียธรรมทั้งนั้น มีศาสนาพุทธเท่านั้น ที่เป็นโลกุตระ โลกุตรธรรม หมายความว่า เป็นธรรมะของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ แล้วพระพุทธเจ้านี้เป็นผู้ที่ตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง ตรัสรู้โลกุตรธรรมนี้แหละ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 06 ตุลาคม 2565 ( 12:06:43 )
รายละเอียด
คือ การสัมผัสเกี่ยวข้องกับบุคคล วัตถุ แต่ไม่ให้เกิดกิเลส การงานสุจริตก็ต้องทำเหมือนกับชาวโลก แต่เหนือชั้นตรงที่ต้องมี สติ ธัมมวิจัย วิริยะ (โพชฌงค์ 3) มีการวิจัยธรรมอันใดเป็น มิจฉา สัมมา
หนังสืออ้างอิง
“สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ”หน้า 108
เวลาบันทึก 25 ตุลาคม 2562 ( 15:18:57 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 15:15:59 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:02:22 )
รายละเอียด
ในพระไตรปิฎกเล่ม ที่บอกว่ารูป 28 นาม 5 ตามปฏิจจสมุปบาท พอถึงข้อ 14 ก็จำแนก รูป 28 นาม 5
การปฏิบัติธรรมต้องปฏิบัติที่รูป 28 นาม 5
นาม 5 มี เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ การปฏิบัติธรรมต้องทำใจในใจให้โยนิโส ให้ถ่องแท้ให้ละเอียดลออให้แยบคาย ให้ลงไปถึงที่เกิด โยนิโส แปลว่าอย่างนั้น ให้ลงไปถึงที่เกิดที่ฐานจิตที่เกิดที่ตั้งของจิต กิเลสก็จะตั้งอยู่ตรงนี้แหละ คุณจับอาการของจิตได้ว่าจิตของเราคืออันนี้ คุณก็รู้ หทยรูป มันเป็นนามธรรม
แปลตามพระอภิธรรมเขาเรียนกันว่า หทยรูป อยู่ที่หัวใจ ห้องที่ 4 มีน้ำหล่อเลี้ยงสีน้ำเงินอยู่ อธิบายกันอย่างเป็นรูปธรรม เป็นรูปวิมานเลยทั้งๆที่มันไม่มีรูป เป็นนามธรรม แต่เขาก็ว่ากันไป
เพราะฉะนั้น ผู้ที่สามารถอ่านจิตตัวเองได้ รู้จิตตัวเองเป็น นี่แหละคือนามธรรม อยู่ในกายยาววา หนาคืบ กว้างศอก คือคูหาสยังของใครของมัน เสร็จแล้วคุณเข้าใจแล้วก็ทำ การทำใจต้องมีสติสัมโพชฌงค์ตื่นเต็ม มีสติตื่นเต็มๆทั้งตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สัมผัสนอกสัมผัสในรู้พร้อมหมด มีสติสัมโพชฌงค์แล้วก็วิจัย กาย รูปนามเลย จากกายก็เป็นเวทนา วิจัยเวทนา ในเวทนาจะมีตัวจิต เข้ามาเป็นตัวการเรียกอกุศลจิต เข้ามาเป็นเหตุปรุงแต่งจิต อันเกิดกิเลส เป็นเวทนาสุขทุกข์ไม่สุขไม่ทุกข์ ตัวเหตุ ทำให้สุขทุกข์คือตัวตัณหาหรืออุปาทาน
ที่มา ที่ไป
พ่อครู เทศน์ ทวช.อโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ
วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่สันติอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 28) ตอน นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ
เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:26:08 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
เทศน์ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563
เวลาบันทึก 23 พฤศจิกายน 2563 ( 09:07:48 )
รายละเอียด
ของพระพุทธเจ้านั้นหยิบเอาธาตุวิญญาณหรือธาตุจิตธาตุรู้ ซึ่งมีคนมีรูปนาม เรียกว่านามธาตุ เอามาศึกษา โดยมาแจกวิภัตติ มาแจกแจงให้เรียนให้ปฏิบัติ เช่น มาแจกนาม 5 รูป 28 ให้มาปฏิบัติ การปฏิบัติต้องรู้จักนาม 5 กับรูป 28
นาม 5 มี เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ เพราะฉะนั้นต้องมาเรียนรู้ใน เวทนาสัญญา สังขาร วิญญาณ โดยเฉพาะมาเรียนรู้ อาการนี้คือเวทนา อาการอย่างนี้คือสัญญา เป็นตัวกำหนดรู้ เวทนา กำหนดจะรู้ตัวมันเองในตัวสัญญากำหนดว่าอาการอย่างนี้เรียกว่าเวทนานะ อาการอย่างนี้เรียกว่าสังขารนะ
ในสังขารนี้มีเจตนา เป็นเจตนา 3 กามตัณหา1 ล้างอาการของกามก่อน ล้างอาการของกามหมดไป ก็จะเหลือ รูปราคะ อรูปราคะ แล้วก็ล้างต่อ แล้วก็มาล้างรูปราคะต่อ
ที่มา ที่ไป
เทศน์ทำวัตรเช้าโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันที่ 2 มกราคม 2564 ที่บ้านราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 27 มกราคม 2564 ( 15:18:37 )
รายละเอียด
นี่คือความรู้คำสอนพระพุทธเจ้า ที่เอาธรรมะทั่วไปมาเลยไม่ได้ ต้องเรียนรู้จากสัตบุรุษจริงๆจึงจะเกิดปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิติ การปฏิบัติธรรมไม่มีผัสสะ ก็ไม่มีเวทนา ไม่มีเวทนาก็ไม่มีวิญญาณจริง เป็นวิญญาณสัมภเวสี วิญญาณล่องลอย ไม่มีที่ตั้ง มันต้องมีที่ตั้งทางตาหูจมูกลิ้นกาย กระทบสัมผัสจริง ทางตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่น ลิ้นกระทบรส โผฏฐัพพะกระทบภายนอก มันต้องมีสติปัฏฐานจริงๆจึงจะมีที่ตั้งให้การปฏิบัติ มีของจริงให้ปฏิบัติ ไม่อย่างนั้นไม่มีของจริงให้ปฏิบัติเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาเอกีภาวะประชาธิปไตยโลกุตระ วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:09:10 )
รายละเอียด
บอกอุปัชฌาย์ผู้บวชภิกษุขึ้นมา จะต้องสอนเรื่องกาย แยกกายแยกจิตให้ชัด เป็นมูลกรรมฐาน 5 หมายความว่า จะใช้ผมขนเล็บฟันหนัง 5 อย่าง เด็กๆ รู้จักผมไหม รู้จักขนไหม รู้จักเล็บไหม รู้จักฟันไหม รู้จักหนังไหม ภาษาไทยทั้งนั้น
ผมนี่ หมายความถึงตัวผู้ชายคนหนึ่ง ผมก็ตาม เพราะฉะนั้นภาษาไทยนี่ยาก ผม หมายถึงเส้นผมที่อยู่ที่ศีรษะ ก็ได้ เรียกว่าเส้นผม
ขน เรียกว่า กำลังยกอันนี้ไปใส่อันโน้น ยกของ เป็นต้น เรียกว่าขึ้นมาขนตามเนื้อหนังมังสาตัวเราก็ขน แม้แต่ขนริมฝีปากก็ขน แต่เขาเรียกว่าหนวด ตรงคางก็เรียกว่าเครา ต่างๆนานา แยกเรียกไปหลายที่ก็ได้
เล็บ มันไปเรียกอันอื่นไม่มี ฟัน ที่อยู่ในปาก หนัง ที่เรากำลังดูภาพยนตร์ก็เรียกว่าหนัง มันมาจากหนังวัว หนังควาย เป็นแผ่นแล้วเอามาสลักทำเป็นหนังเชิดหนังใหญ่ หนังตะลุงเป็นต้น ก็เลยเป็นคำว่า หนัง แต่ก่อนจะเกิดหนังเคลื่อนที่ก็มีหนังเงาๆอย่างนี้ดูกัน แต่เดี๋ยวนี้เป็นรูปร่างเลยก็เรียกว่าหนัง แต่ภาษาเท่ๆเรียกว่า ภาพยนตร์ แต่จะเอาไปเรียกภาพยนตร์ตะลุง มันฟังไม่เข้าแก๊ป ไม่มีใครเอาไปใช้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรม รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 26 ทำปาฏิหาริย์ให้ชีวิตมีค่า สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ วันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:12:22 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 เมษายน 2563
เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2563 ( 11:13:41 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 07:13:46 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:02:52 )
รายละเอียด
การปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้านี้ สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ผู้สำเร็จสูงสุดพึงกระทำ มีอย่างหนึ่งคือ “ให้” สูงสุด คือ “ทาน” ที่เป็นตัวต้นตัวใหญ่ตัวจบ ทั้งตัวต้นและตัวจบคืออยู่ที่ทานคือการให้ เป็นบารมีใหญ่ เป็นสิ่งที่ประพฤติปฏิบัติแล้วจะได้สิ่งนี้ พระอรหันต์จะมีสมบัติอยู่ 3 อย่าง 1. ให้ 2.เมตตา 3.อุเบกขา พระอรหันต์จะมีอยู่ 3 อย่างนี้เท่านั้น อยู่กับ 3 อย่างนี้ มีจิตเมตตา คือ ตัวประพฤติ อยู่กับใครก็มีเมตตา ต้องการให้เขาเป็นไปได้ด้วยดี พ้นทุกข์มีสุข หรือหวังประโยชน์เพื่อสัตว์เพื่ออะไรทั้งปวง ถ้าอยู่กับของดิน น้ำ ไฟ ลมก็หวังให้มันเจริญพัฒนาไปดี มีจิตเมตตา ช่วยแล้วก็มีมุติตา จบแล้วก็อุเบกขา อย่างนี้เป็นต้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน มีเวทนาเป็นกรรมฐานให้สัมผัสวิโมกข์
เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:12:31 )
รายละเอียด
สรุปแล้วการปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติธรรมนี่ เลิกได้ไหมไปหลับตาปฏิบัติมันไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า ศาสนาพระพุทธเจ้านั้น ไม่เกิดอย่างนั้น อาตมาพูดนี้เมตตาเห็นใจ ทำไมไปหลงผิดงมงายกับการนั่งหลับตา เมื่อไหร่จะรู้สักที มันป่วยการและเสียเวลา และยังพากันหลงผิดงมงายเลอะเทอะไปหมด มันเลยเสียศาสนาพระพุทธเจ้า อาตมายากจริง เกิดมาในชาตินี้คนยังหลงผิดอีกมาก ที่พอรู้กันก็มีแค่นี้ น่าสงสารน่าเสียดาย มันเสียศาสนาเสียเวลาเสียแรงงานเสียทุนรอน โดยเฉพาะ เสีย Effectiveness เสียประสิทธิผลที่ควรจะเกิดควรจะมี มันไม่เข้าท่าเลย เสียดายศาสนาพุทธ ซึ่งมีประสิทธิภาพที่เยี่ยมยอดแล้ว กลายเป็นเสียประสิทธิผลไป มันน่าเสียดาย เราพูดในวงของพวกเรา พูดออกอากาศไปฝากสายลมแสงแดดไป เผื่อหูกระทะจะกระทบบ้างกระทบกระทอ เครื่องสานชนิดหนึ่ง กระทะกระทอมันมีหูแต่มันไม่รู้เรื่อง
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน มีเวทนาเป็นกรรมฐานให้สัมผัสวิโมกข์
เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:25:57 )
รายละเอียด
คือ การปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่แบบเดียรถีย์ พระพุทธเจ้าสอนมา ผ่านไป สองพันห้าร้อยกว่าปี ก็เลยเสื่อมกลายเป็นเหมือนยุคก่อนพระพุทธเจ้า สมณะโพธิ์รักษ์รับงานในยุคนี้ ท่านว่ามันหนักกว่ายุคพระพุทธเจ้า ในยุคของพระพุทธเจ้าเป็นเดียรถีย์ ที่หนักไปทางเทวนิยม แต่ยุคนี้มันมีอะไรอีกเยอะแยะ เช่นบริโภคนิยม อบายมุขนิยม ทุนนิยม ฟุ้งซ่านนิยม หนักกว่าของยุคพระพุทธเจ้า เพราะว่าค่านิยมของสมัยพระพุทธเจ้า เขาไม่มีรสนิยมพิสดารอะไรมากมาย สังขารโลกยุคโน้น กับ ยุคนี้มันปรุงแต่งกันหนัก ยุคนี้หนักกว่าอาการยุคพระพุทธเจ้าท่านจึงต้องซ้ำซากตลอดเวลา
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 12:49:49 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:23:52 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:52:45 )
รายละเอียด
คนไหนมืดบอดกว่ากัน ก็ต้องคนหลับตา เชิญไปเรียนกับพวกตาบอด ขออภัยพูดแรง พูดชัดนะก็เลยแรง
ปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้าเขาก็ปฏิบัติไปเพื่อคนตาบอด พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อินทริยภาวนาสูตร ..เขาสอนกันก็เหมือนกับเอาอะไรไปทิ่มตาให้บอด ทำให้หูหนวก ขนาดนั้นเขาก็ยังไม่สะดุ้งสะเทือนเลย
ที่อาตมาต้องพูดเนี่ย ศาสนาพุทธทุกวันนี้ไปนับถือกัน นั่งหลับตากันแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เดียรถีย์นอกรีต อาตมาพูดไปเท่าไหร่โทรทัศน์ที่เขาพานั่งหลับตาจะเลิกไหม...ไม่เลิก
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม2562
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 18:01:57 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:25:32 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:03:24 )
รายละเอียด
อาตมาเคยบอกว่าแค่ อปัณณกปฏิปทา 3 มันก็บังคับเลยว่า นี่คือการปฏิบัติธรรมะอันไม่ผิดของพระพุทธเจ้า อปัณณกปฏิปทามันก็หมายความอย่างนั้น แปลอย่างนั้นเลย คือธรรมะของพระพุทธเจ้าอันไม่ผิด เพราะฉะนั้นต่างจากอันนี้ไปมันก็ผิดแล้ว คุณไม่สำรวมอินทรีย์ 6 คุณไปสำรวมอินทรีย์เดียว คุณไม่ได้พิจารณาในการกินการอยู่ คุณไปหลับตาไม่ได้กินได้อยู่อะไร (โภชเนมัตตัญญุตา) คุณไม่ได้ตื่นชาคริยา แต่คุณไปหลับอยู่ในภพ(ชาคริยานุโยคะ) มันไม่มีอปัณณกปฏิปทา 3 มันผิดไปหมดเลยแล้ว
มันต้องมีศีลเป็นหลัก แล้วคุณจะต้องเรียนศีล แล้วต้องเอามาปฏิบัติ อปัณณกปฏิปทา 3 ศีลนี่แหละ ชัดเจนต้องเป็นแบบนั้น
ศีลข้อ 1 คุณก็ต้องปฏิบัติอปัณณกปฏิปทา 3 แล้วคุณถึงจะเกิดสัทธรรม 7 แล้วก็มีความสำนึก แล้วคุณก็สังวรระวัง ปฏิบัติแล้วมันถึงจะเกิดคุณภาพของจิตเจริญเป็นฌานที่ 1 2 3 4
เพราะฉะนั้นฌานที่เกิดนี่ เกิดจากศีล อปัณณกปฏิปทา 3 และสัทธรรม มีวิชชา หรือความรู้ที่เป็นยาดำ ช่วยในการเจริญพัฒนา มันไม่ได้มืดได้บอดอะไร มันรู้ละเอียดไปตลอดเวลา มี จักษุ ญาณ มีปัญญา มีวิชชา มีอาโลก(แสงสว่าง) คือมีแสงสว่าง อยู่เปิดๆ มีพระอาทิตย์ มีแสงสว่างสาด และสัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นคนตื่น จักษุ โสตะ ฆานะ ชิวหา โผฏฐัพพะ ทั้ง 6 ทวารนี้แหละ ตื่นหมดทั้ง 6 ทวารนั้นแหละแล้วก็เกิดปัญญา ญาณ วิชชา อาโลก ไม่ใช่ไปอยู่ในที่มืดที่ไม่มีแสงไปอยู่ในที่มีแสงตื่นรู้ทั้งตาหูจมูกลิ้นกายใจ รู้ตื่นๆ ตื่นหมดทั้ง 6 ทวาร รู้ว่าต้องตื่น
อาตมาก็เอาจากคำตรัสพระพุทธเจ้านี่แหละ 5 คำนี้อันเดียวกัน เกิดในอาโลกในแสงสว่างแจ้งๆ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รับรส ย้ำอีกว่า ที่ไปนั่งหลับตาทำนั้น พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ใน ”อินทริยภาวนาสูตร” อุตตรมานพ (พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามดังนี้ว่า ดูกร อุตตระ ปาราสิริยพราหมณ์แสดงการเจริญอินทรีย์แก่สาวกหรือเปล่า)
พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า อาจารย์เธอสอนว่าอย่างไร (อุตตรมานพบอกว่า)อย่าได้ยินเสียงด้วยหู อย่าเห็นรูปด้วยตา พระพุทธเจ้าตรัส อ้อ! สอนให้ทำตาบอดหูหนวกเหรอ เท่านั้นนะ อุตตรมานพก็คอตก ซบเซา พูดไม่ออก เขามีปฏิภาณปัญญา ฟังแค่นี้เขาก็สะดุ้งแล้ว “นี่เราหลงผิดไปเหรอ ไปเรียนรู้วิชาการทำตาบอดหูหนวก อั๊ยหยา!” พูดแค่นี้น่าจะสะดุ้งนะ ไปหลงผิดทาง ไปงมงายวิชาเรียนรู้การทำตาบอดหูหนวก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูบวชมาครบ 53 ปี มีอะไรจริง พ่อครูเทศนาภาคค่ำ งานมหาปวารณา ครั้งที่ 41 วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 15:01:42 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้น สติปัฏฐาน 4 จึงเป็นการปฏิบัติธรรมแท้ๆของพระพุทธเจ้า ของศาสนาพุทธ ถ้าคุณเข้าใจสติปัฏฐาน 4 พิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม ไม่แยกกัน เนื่องต่อกันอยู่ตลอด
และต้องมีกาย ลืมตามีกายมีภายนอกเป็นหลัก กำจัดกิเลสภายนอกที่ หยาบเรียกว่า กามคุณ 5 ได้แล้ว แล้วคุณก็อยู่เหนือกาม เหลือกิเลส รูปภพ อรูปภพต่อไป ท่านแบ่งเป็น 3 อย่างง่ายๆคือ กาม รูปภพ อรูปภพ
ดำเนินปฏิบัติอยู่เรียกว่า อวจร อยู่ในกามาวจร ก็ลดกามได้หมด คุณก็เหลือรูปาวจร ลดกิเลสในรูปาวจร ก็ยังมีตาหูจมูกลิ้นกาย แต่อยู่เหนือกามแล้ว
ลดรูปได้หมดอีก ก็เหลืออรูปาวจร ละเอียดไปอีก แต่ไม่ได้ไปหลับตาอะไร ลืมตา แล้วก็ลดกิเลส ในอรูป ได้หมดเกลี้ยง สมบูรณ์แบบ ก็จบ
อธิบายอันนี้ต่อให้จบแล้ว ถ้าอธิบายต่อไปก็ต้องเป็นโพธิปักขิยธรรม 37 เริ่มใช้สติปัฏฐาน 4 และสัมมัปปธาน 4
อิทธิบาท 4 ก็คือ คุณต้องโถมความพยายามทุกอย่าง ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา แล้วจึงจะเกิดอินทรีย์ 5 พละ 5 เกิดคุณภาพ ของคุณธรรมที่คุณจะได้ ไม่ว่าจะเป็นศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
เพราะฉะนั้นคำว่า สมาธิ อยู่ตรงที่อินทรีย์หรือพละนี้ จึงไม่ใช่สมาธิหลับตา สมาธิลืมตาก็อธิบายมาตั้งแต่ต้น แล้วก็จะเกิดความเชื่อ เข้าใจ ตัวศรัทธา คุณก็จะมีวิริยะ มีสติแข็งแรงขึ้น เจริญขึ้น มีกำลังอินทรีย์ และมีปัญญาเป็นตัววิชชาที่จะเป็นยาดำอยู่ไปทั้งหมดเลย อินทรีย์เจริญขึ้นจบเรียกว่าพละหรือผล พละ 5 หรือ พละ 8 เป็นโลกุตระ 37 ท่านตรัสว่าอันนี้เป็นโลกุตรธรรม 37
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบพุทธ ตอน 1 วันพุธที่ 29 มีนาคม 2566 วันขึ้น 8 ค่ำเดือนห้าปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 20:08:07 )
รายละเอียด
ผู้มิจฉาทิฎฐิคิดว่าปฏิบัติธรรมแล้วไม่ปรารถนาจะเกิดอีกก็เลยไม่แสวงหาภพภูมิที่สูงขึ้น ก็เลยเอาแต่นั่งหลับตา
พวกคุณนั่งหลับตาก็ไกลจากวิเวก ในคุหัฏฐกสุตตนิทเทส อาตมาว่าครบ ตั้งแต่ผู้ไกลจากวิเวก ไปหลงในป่าข้องอยู่ในถ้ำ แล้วก็นั่งหลับตาอีก อาตมาว่าอธิบายละเอียดได้อีก
คนที่จมอยู่ในถ้ำก็จะไม่แสวงหาที่เกิด เหมือนกับคนที่จมในการนั่งหลับตา ยึดในป่า เป็นเดียรถีย์ อาตมาจะพูดให้ตายอย่างไรเขาก็จมอยู่ในถ้ำ เป็นสัมภเวสีที่ไม่ได้ออกจากถ้ำ เขาก็เป็นคนที่จะพายเรือแล้วไม่แก้เชือก เชือกมัดอยู่ที่ฝั่ง เขาพายจ้ำพายๆเป็นอย่างนั้น ก็ดูน่าสงสาร เป็นอุทาหรณ์ที่จะชัดเจนขึ้น เหมือนกับพระพุทธเจ้ายกตัวอย่างพ่อแม่กินเนื้อบุตร วัวไม่มีหนัง คนเขาช่วยหิ้วปีกกลับก็วิ่งลงหลุมนรกอีก ฟังแล้วมันชัดเจนทำไมโง่ วิ่งไปลงหลุมนรกใหม่ คนที่ไม่รู้จักเจตนา ที่เป็นอาหารข้อที่ 3 ก็ยังไม่เท่าไหร่นะ เขาอยากขึ้นจากนรก แต่ตัณหามันจะพาไปลงนรก อาตมาพูดกลับกันแต่พวกคุณก็เข้าใจได้
ก็ยังไม่เท่าอันที่ 4วิญญาณาหาร ไม่รู้จักนามรูป แยกไม่เป็น จมอยู่กับวิญญาณเหมือนหนอนกินขี้ แล้วคนก็ไปชี้ให้ ว่าขึ้นมาเถอะ แล้วมาล้างตัวจากสิ่งสกปรกก็ไม่เอา จะจมอยู่กับสิ่งนั้น จมอย่างไม่รู้ อย่าว่าแต่แยกนามรูปเลย คุณรู้ได้พยัญชนะภาษาเป็นได้ แยกเป็น 2 คุณก็พอเข้าใจได้เหมือนกัน Static Dynamic แต่ไม่เข้าใจถึงขั้นที่ว่าแรงเคลื่อนนี้มันเป็นนามธรรมมันเป็นธาตุรู้นะ ธาตุรู้ก็ต้องเป็นธาตุรู้ที่เข้าใจในรูปต่างๆ รูปเป็นอุตุ เป็นพีชะ เป็นจิตนิยามก็มีกรรมจัดการ เราตีแตกธรรมะ 2 เทวธัมมา ฟังไม่เป็น อาตมาอธิบายธรรมะเขาฟังไม่เป็นหรอก เขาไม่รู้ว่าพูดอะไร แล้วจะให้อาตมาไปพูดภาษาที่ไม่ใช่ธรรมะ อาตมาก็ไม่พูดไม่ไหวมันยาวมากจะใช้เวลานาน จะต้องไปยกตัวอย่างแม่น้ำร้อยสาย ไม่ใช่แม่น้ำ 5 สาย
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 31 ธันวาคม 2562 ( 15:47:43 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:29:27 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:53:51 )
รายละเอียด
การปฏิบัติธรรมโดยฟังธรรมจากพ่อครูและสมณะสิกขมาตุสำคัญอย่างไร
มาพูดที่คุณซึ้งซื่อบอกว่า การฟังธรรมจาก พ่อครู สมณะ สิกขมาตุ จำเป็นแค่ไหนกับการปฏิบัติธรรม อันนี้ก็อีกประเด็น ฟังจากอาตมาหรือฟังจากสมณะ สิกขมาตุ ซึ่งจะเป็นธรรมะที่เป็นสามัญญตา เป็นศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา แปลว่า เป็นความเห็นไปในทางเดียวกัน อธิบายธรรมะหัวข้อก็จะไปทางเดียวกันไม่ขัดแย้งกัน เป็นหนึ่งเดียวกันไป แต่มีคนละระดับเท่านั้นเอง แต่ไปในทางเดียวกัน ทั้งข้อศีล ทั้งความเห็น ทั้งทิฏฐิ ทั้งศีล เป็นไปในทางเดียวกัน
ถามว่าจำเป็นแค่ไหน ตอบว่า จำเป็นที่สุด เพราะว่าแนวทางของอาตมาก็ดี ของสมณะของสิกขมาตุก็ดี เป็นแนวทางโลกุตระที่เป็นสัมมาทิฏฐิที่สุดแล้ว เป็นหนึ่งเดียว ขอย้ำ เป็นหนึ่งเดียว เป็นที่สุดเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ในปัจจุบันนี้อาตมาขอรับประกัน ตัวเองเป็นผู้รับประกัน แล้วผู้อื่นที่ปฏิบัติธรรมบรรลุได้ ก็รับรองช่วยอาตมา ผู้ที่เป็นชาวอโศก ชาวอโศกจะรับรองอาตมา แม้แต่ผู้ที่ยังไม่เข้ามาเป็นชาวอโศกที่ เข้าใจแล้วก็ยังมีที่จะรับรองว่า อาตมาเป็นโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าในยุคนี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 06 ตุลาคม 2565 ( 12:14:59 )
รายละเอียด
ตอบตรงๆถ้าทำได้ก็ง่าย ถ้าทำไม่ได้ก็ยาก เราก็เอาใจของเรานี่แหละ ใจเราเป็นอย่างไรเราต้องรู้ใจ การปฏิบัติธรรมของพุทธ พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เรารู้จักใจของเรา ให้มันไม่มีตัวตน ใจมันไม่มีรูปร่าง แต่เราต้องรู้ว่าใจของเรานี้คืออาการของจิต อาการของใจ มันมีอาการอย่างไร มันได้คิดไปในอดีตคิดไปในอนาคตฟุ้งซ่านไปที่นู่นที่นี่หรือมันอยู่กับปัจจุบัน ก็ต้องดูอาการของมันให้ชัด เมื่อคุณรู้คุณต้องฝึกต้องเรียน ต้องให้รู้ อ๋อ..อาการจิตของเราเป็นอย่างนี้ นี่มันฟุ้งซ่านไปหาอนาคต ฟุ้งซ่านไปหาอดีต เราก็ให้มันมาอยู่กับปัจจุบัน เราควรจะกำหนดรู้อยู่กับอะไรในปัจจุบันที่เราอยู่นี้ เรื่องอะไรที่ตาหูจมูกลิ้นกายเรากระทบสัมผัสอยู่ในเรื่องนี้อันนี้ควรจะเป็นเรื่องที่ควรสำคัญ ควรจะต้องเอาเรื่องเอาราวกับอันนี้ ปฏิบัติกับอันนี้ในปัจจุบันนี้ ที่เป็นเรื่องจริงและปฏิบัติได้ดี ส่วนอดีตอนาคตนั้นเป็นเรื่องที่มันเกิดผลตามปัจจุบันนี้ทั้งนั้นแหละ ปัจจุบันนี้ให้มันดี อดีตมันก็ดี อนาคตจะมาอีก อะไรอะไรมันก็จะดีไปได้ทั้งนั้น มันจะเกิดความชำนาญ ที่ถามนี่ก็ตอบไปด้วยซื่อๆชัดๆง่ายๆ เราจะต้องรู้ คำว่าปัจจุบันคืออะไร อาการของจิตเราคืออะไร เราต้องรู้ตัวเรา เมื่อเรารู้ว่าอาการจิตของเราเป็นอย่างไรเราก็ต้องมนสิการหรือทำใจในใจทำจิตในจิตของเรา ต้องทำจิตของเราเอง ใจของเราก็จะอยู่กับปัจจุบัน จบคำตอบ
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 16:46:10 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 07:02:28 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 13:54:39 )
รายละเอียด
คุณก็พยายามดูอาการของความเครียด และเคร่งครัด เคร่งครัดคือคุณพยายาม ตรง ตามความตั้งใจที่จะให้ได้ตามนั้น แต่ใจคุณอย่าไปเร่งอย่าไปมุ่งแรงจนเกินเลยความพอเหมาะพอดี มันก็จะเครียด ถ้าคุณทำได้พอดี มันก็เคร่งครัดได้แต่ถ้าคุณหย่อนก็ไม่เคร่งครัด ให้มันได้พอดี แล้วจะไม่เกิดเครียด เคร่งครัดเต็มที่
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช ธรรมะคือเครื่องถ่วงดุลยุคทุนนิยมเคออสวันพุธที่ 11 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2562 ( 14:29:42 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:35:31 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 14:06:14 )
รายละเอียด
คือพระสูตรคุหัฏฐกสุตตนิทเทส อธิบายถึง ความวิเวก หากเขาทิ้งจากกาย ทิ้งจากกาม ไม่สัมผัสกาม เป็นลำดับ เขาทิ้งกามคุณ 5 ก็เอาแต่ปฏิบัตินั่งหลับตา พวกนี้หมดประตูที่จะบรรลุธรรม เพราะว่า ออกป่า จะไปนั่งหลับตาอยู่ในป่าทั้งหมด สรุปง่ายๆ คือ พระป่านี่ปิดประตูบรรลุธรรมของศาสนาพุทธ จะบรรลุเป็นมิจฉาผล แล้วหลงว่า เป็นอรหันต์ นี่หลอกกันอยู่ในโลก จึงจำเป็นที่อาตมาต้องแก้กลับว่า อันนั้นมันผิด มาตู่ธรรมะพระพุทธเจ้า มันบาป บาปไม่ใช่เล่นๆ มันบาปหนัก เพราะว่า อรหันต์เก๊ มาบอกว่า เป็นอรหันต์จริง บาปหนักมากเลย อาตมาไม่ช่วยไม่ได้ คนไม่รู้ก็จะหาว่าอาตมาอวดดี อวดเก่ง อวดโต เก่งไปว่าเขา ตัวเองจะได้ ขนาดไหน ทำได้อย่างเขาหรือไม่ แม้ชาตินี้ อาตมาก็หลงไปนั่งหลับตา กับเขา ดีว่ามีปฏิภาณลึกๆ อาตมาออกป่าครั้งเดียวไปอยู่ไม่นาน ไม่กี่เดือนแล้วแล้วก็กลับมา เป็นลิงลมอมข้าวพอง ตามเขา เมือชัดเจนแล้ว รู้ว่าพระพุทธเจ้าปฏิบัติธรรมอย่างไร พระพุทธเจ้าท่านไปนั่งหลับตากับเขาในตอนแรก ท่าน ก็ได้แล้วก็รู้ว่า ไม่ใช่ อาตมาก็เหมือนกันรู้ว่า มันไม่ใช่ เมื่อไม่ใช่ก็เลยมาบอก ก็เลยพยายาม ที่จะให้ตื่นรู้ ศึกษาให้ดีแล้ว รู้เสีย ว่าศาสนาพุทธนั้น ไม่ใช่ศาสนาออกป่าเลย อย่างกายวิเวก เขาว่าต้องเอาตัวออกป่า บิณฑบาต ผู้เดียว อยู่ผู้เดียว กินผู้เดียว อย่างนั้น มันไกลจากวิเวก ไกลหมดเลย ไม่ได้กายวิเวก จิตวิเวก อุปธิวิเวก เพราะคุณจะไม่เห็นกิเลส
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 05 ธันวาคม 2562 ( 10:42:41 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:38:16 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 14:05:44 )
รายละเอียด
การปฏิบัติพุทธทั้งโลกมี 2 แบบ คือ ผู้ศึกษาที่มีใจเป็นกลาง ข้อมูล คนที่มีการเป็นอยู่ประพฤติ ปฏิบัติตนเอง 2 แบบ คือ
1. แบบที่มีทฤษฎีหลักปฏิบัติและหลับตา เกิดจิตเป็นฌาน สมาธิ โดยไม่มีการสัมผัสทางอินทรีย์ 6 ไม่มีโภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะ หรือเขาว่า เขามีปัญญาเกิดในการหลับตาปฏิบัติ ทั้งที่ไม่ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหูสูต วิริยะ สติ ปัญญา ไม่มีอปัณกธรรม 3 ไม่มีสัทธรรม 7 แม้ฌานที่เกิดจากจรณะ ของเขาไม่มี อิทัปจยตา ไม่มีเหตุปัจจัยที่กล่าวตามหลักวิชชาจรณสัมปันโน แต่เขาก็เชื่อว่าได้ทำกิเลสลดแล้ว เขาว่าเขาวิมุติหลุดพ้นจากโลกและอัตตา กามภพ รูปภพ อรูปภพ เราถามเขาก็ว่าได้ ลด ละหมดแต่สรุป ฌาน สมาธิ วิมุติ เขาไม่ได้เกิดจาก วิชชาจรณะ
2. แบบสมาธิลืมตา แล้วเกิดอย่างที่เขาว่า เกิด ฌาน สมาธิ มีจรณะ 15 มีปัญญาทำเพิ่มก็สั่งสมเป็นอธิจิต สูงขึ้นๆ นี่คือแบบที่สอง
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายพ่อครู รายการสำมะปี๋ซี่วิต
เวลาบันทึก 27 กันยายน 2562 ( 16:49:07 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:44:20 )
รายละเอียด
คือมีสัมมาทิฏฐิ สัมมสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากับมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ทำให้ถูกต้องตามสัมมาทิฏฐิ10 ในกระบวนการที่กล่าวไปคร่าวๆ คุณทำอารมณ์ที่เวทนา
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราชฯ วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 13:39:25 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 12:46:56 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:04:31 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการบ้านราช เรื่องบุคคล 7 วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 10:48:27 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 08:34:00 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 14:05:07 )
รายละเอียด
พระพุทธเจ้าท่านสอนรูป 28 นาม 5 นาม 5 มี เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ คุณจะมนสิการได้เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นโยนิโสมนสิการ คุณต้องมีผัสสะ นาม 5 มี เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ คุณจะมนสิการ คุณจะทำใจในใจ คุณนั่งหลับตาคุณก็ทำใจในใจ เป็นการทำใจวิธีของเดียรถีย์ วิธีเทวนิยม ของโลกโลกีย์ แต่ของพระพุทธเจ้าจะทำใจในใจได้ถูกต้องลงไปถึงที่เกิด โยนิโสลงไปถึงที่เกิด หรือถูกต้องถ่องแท้อย่างแท้จริง ไม่ใช่อยู่แค่ โยนิโสคือการพิจารณาให้ถ่องแท้ มนสิการถ่องแท้เลย ทำใจในใจได้อย่างถ่องแท้แยบคาย ลงไปถึงที่เกิดเลย ไม่ใช่อยู่แค่เหตุผล ความรู้ ความแตกต่าง ได้รู้แค่พิจารณาเท่านั้น ไม่ใช่ แต่ปฏิบัติถึงเลย เปลี่ยนแปลงได้เลย นี่เรียกว่ามนสิการ อย่างเป็นรากเหง้าเลย ในมูลสูตร 10 ซึ่งเป็นข้อ 2 ธรรมะพระพุทธเจ้าต้องเอามาทำใจในใจทั้งนั้น ข้อที่ 1 ยินดี มีฉันทะ แล้ว 2 ก็มีมนสิการ มนสิการแล้วต้องมีผัสสะ ข้อที่ 3 ของมูลสูตร 10 จึงจะมีเวทนาเป็นข้อที่ 4 ของมูลสูตร 10 อย่างนี้เป็นต้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาไม่ดับสัญญาแต่ดับกิเลส วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 17 ตุลาคม 2565 ( 12:44:57 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 20 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 23 มิถุนายน 2563 ( 09:50:57 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 07:04:19 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:05:09 )
รายละเอียด
อธิบายยากที่ว่าภายนอก 4 ภายนอก 5 คำว่า กาย คือโผฏฐัพพะ คือการสัมผัสแตะต้อง หากไม่มี โผฏฐัพพะ จิตคุณไม่มีธาตุรู้เกิด เพราะฉะนั้น ธาตุรู้กับ โผฏฐัพพะ ต้องไปด้วยกัน ถ้าไม่มีภายนอก ไม่มีสัมผัสนอกจิตก็ไม่รู้เรื่องมันรู้แต่ภายใน พวกรู้แต่ใน คุณเองจะล้างกิเลส พระพุทธเจ้าอนุโลมว่า อาสวะบางอย่างหมดได้สำหรับผู้ที่มีบารมี เคยล้างกิเลสมาก่อนแล้วในอดีต แล้วเอาสัญญาขึ้นมาพิจารณา ก็นึกว่าตัวเองหลุดพ้นจากการนั่งหลับตาสมาธิ ที่จริงแล้วมีของเก่าของตัวเอง ติดอยู่ในจิตไม่ออกมาข้างนอก ข้างในมีแค่ 1 ทวาร ภายนอกมี 5 ทวาร หากไม่เลิกภายนอกก่อนแล้วจะไปเลิกภายในก่อนมันเป็นไปไม่ได้ จะต้องเลือกจากภายนอกก่อนแล้วจึงไปเก็บละเอียดภายใน ข้างในคุณเก็บไม่ได้หรอก ไม่มีเบื้องต้น เพราะฉะนั้นทำให้ตายอาสวะสิ้นก็แค่ที่คุณเคยทำได้ แต่ถ้าคุณไม่เคยทำได้คุณไม่มีทางบรรลุ คุณไม่เคยพบสัตบุรุษ ไม่เคยเข้าใจโลกุตระคุณคิดเองไม่ได้ เกิดโลกุตระเองไม่ได้ นอกจากพระพุทธเจ้าหรือสัตบุรุษที่เคยมีมาก่อนแล้ว แต่ก็ต้องเคยได้มาจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งนั้น ถ้าคุณไม่ได้ฟังจากพระพุทธเจ้า สัตบุรุษ คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้เองเลย
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช ศิลปะในการใช้ชีวิตให้เกิดปัญญามัชฌิมา วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 12 ธันวาคม 2562 ( 17:27:16 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:01:41 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 14:07:01 )
รายละเอียด
ทีนี้ มาเข้าสู่การปฏิบัติ การปฏิบัติก็ให้ละเอียด เป็นศีล แล้วจะเกิดอธิจิต อธิจิต อธิปัญญา อธิมุติหรืออธิโมกข์ ท่านแปลว่า มีจิตโน้มไป ไปสู่วิโมกข์ธรรมวิมุตธรรม มันมีกระแสมีพลังมี Trend โน้มไป มีทิศทางไปสู่ความเจริญ เรียกว่าอธิมุติหรืออธิโมกข์ ผู้ที่เข้าใจและสามารถอ่านได้ อ่านกระแสจิตอันพลังงาน อ่านอาการของจิตมันมีทิศทางของมันได้ นั่นแหละคือผู้ที่เข้าถึงธรรม เป็นผู้รู้จักธรรมะ ขั้นจิตเจตสิกที่มีทิศทางมีกระแส ทวนกระแสจากโลกีย์ ไปทางโลกุตระ อ่านอาการนั้นออกจริงๆรู้จริงๆเห็นจริงๆ ที่พูดแบบนี้พอเป็นได้ไหม (โยมตอบว่าได้) ที่สื่อภาษานี้สภาวะตรงกันนะ ถ้าตรงกัน อาตมาประสบความสำเร็จจริงๆ effectiveness มีประสิทธิผลจริงๆ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน การปฏิบัติอย่างมีลำดับของศีล 5
เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:03:47 )
รายละเอียด
อาตมาก็ย่นย่อมาสรุปให้ฟัง จริงนะไม่ใช่พูดเล่น พระพุทธเจ้าสรุปมาในศีล 5 ข้อนั้น 3 ข้อนี้แหละเป็นหลัก ข้อที่ 4 ก็เป็นคำพูด ข้อที่ 5 ก็เป็นเรื่องของจิต ที่คุณเข้าใจแล้วทำไปตามลำดับ สุราเมระยะมัชชะ ปะมาทัฏฐานา ไปตามลำดับ คุณทำได้ขนาดไหน
คุณทำได้ขนาดนี้ วันนี้ต้อง 1 ก๊ง ต่อไป 2 ก๊ง หรือสามก๊ง สุรา คุณก็เล่นซะ วันหนึ่งหลายขวด ก็ลดลงมา สุรามันก็เยอะ เมรยะ ก็ลดลงมา เอาเหลือวันละขวด มัชชะ ลดลงมาอีกไม่ถึงขวด วันละเป๊ก จนกระทั่งไม่ประมาทแล้วเลิกเลย อย่างนี้เป็นต้น ก็หายเมาไปตามลำดับ ติดยึดความเมาก็เลิกเมาไปตามลำดับ นั่นคือข้อ 5 แหม ข้อที่ 7 นี้สุดยอด เนื้อๆเลย ฝากไว้ก่อนโอฬาร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณลักษณะของไก่ตัวพี่ที่มาสืบสานศาสนา วันพุธที่ 7 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 30 กันยายน 2565 ( 18:30:26 )
รายละเอียด
การปฏิบัติศีลจะทำให้ถึงซึ่งพระอรหันต์ตามลำดับ ถูกต้อง จำความนี้ได้ ที่บอกการปฏิบัติศีลนี้แหละ จะทำให้บรรลุอรหัตผล บรรลุอรหันต์ไปตามลำดับ ในกิมัตถิยสูตร
กิมัตถิยสูตร พระไตรปิฎกเล่ม 24 ข้อ 1 กับข้อ 208 อาตมาจำได้ อันนี้จำได้แม่น ผู้ที่ปฏิบัติศีลจึงจะเป็นพระอรหันต์ได้ ผู้ไม่ได้ปฏิบัติศีล ไปนั่งหลับตาสมาธิโดยไม่มีศีล การไปนั่งหลับตานั้น ไม่มีศีล อปัณณกปฏิปทา 3 ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นปิดประตูที่จะบรรลุอรหัตผลตามลำดับ มันปิด สูตรนี้อ่านดีๆ ให้แตกฉาน ให้เข้าใจให้ได้ ถ้าเข้าใจแล้วก็จะรู้ว่า อั๊ยหยา! ไปนั่งหลับตานี้ เป็นพวกโง่เง่าเต่าตุ่น ปิดประตู
เพราะหลับตาแล้วไม่มีศีล ไม่ได้ปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา หรือไม่มี อปัณณกปฏิปทา 3 แล้วก็จะเกิดสัทธรรม 7 ฌานจะเกิดจากการลืมตาปฏิบัติศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3
แล้วไปเข้าใจฌานที่ไปได้จากการเข้า ๆ ออก ๆ หลับตาเข้าฌาน-ออกฌาน นั่นมันเป็นฌานของพวกเดียรถีย์ ฌานนอกพุทธ แล้วก็งมงายอยู่อย่างนั้น พูดเตือนเท่าไหร่ก็เฉย โอ้ย! แทงด้วยปากหอกมาจนกระทั่งหอกอาตมาหักเสียจนไม่รู้เท่าไหร่ เช้า 100 เล่ม กลางวัน 100 เล่ม เย็น 100 เล่ม แทงไปเถิด หอกอาตมาจนทำหอกไม่หวาดไม่ไหว แต่ก็ไม่รู้จะทำไง จำเป็นต้องแทงอยู่อย่างนี้ เผื่อคนอื่นที่หนังไม่เหนียวเท่า เขาจะพอรู้บ้าง
ฝึกปฏิบัติศีลจะทำให้เกิดความเป็นอรหันต์ไปตามลำดับ อันนี้จริงที่สุด เดี๋ยวค่อยอธิบาย อาตมาตั้งใจจะอธิบายอันนี้อยู่ เพราะปฏิบัติศีลนี้แหละ จะได้เกิดความเป็นอรหันต์ไปตามลำดับ ตามจรณะ 15 วิชชา 8 ตามธรรมะทุกอย่างของพระพุทธเจ้า
แต่ความเสื่อมของคนของชาวพุทธ เสื่อมไปจากความเป็นพุทธเสื่อมจริงๆ มันไม่เข้าใจ ไม่เห็นความสำคัญในเรื่องศีล อาตมาตั้งใจอยู่ว่าจะอธิบายให้ละเอียด แต่มันไม่ง่าย มันยากอยู่เหมือนกัน ที่จะค่อยๆ อธิบายให้เห็นจริงเห็นจัง
อย่างพวกเรานี้ พวกคุณไม่รู้สึก แต่พวกคุณได้รับแล้ว ไม่รู้สึกคำนี้ ไม่ใช่ดูถูกพวกคุณหรอก คุณไม่รู้ละเอียดลึกซึ้งเท่าอาตมาเท่านั้นเอง คุณก็พอรู้บ้าง แต่คุณไม่รู้ลึกซึ้งละเอียดเท่าอาตมาว่า พวกคุณนี้ได้ดิบได้ดีมาเพราะศีล แล้วก็ได้บรรลุอรหัตผลมาตามลำดับ ได้บรรลุอาริยธรรมมาตามลำดับ เพราะศีล
เรามาอยู่ในสังคมชาวอโศกนี้ ปฏิบัติศีลไหม ทุกคนปฏิบัติศีลทั้งนั้น น้อยมากก็แล้วแต่ ผู้ใดปฏิบัติโดยมี อปัณณกปฏิปทา 3 ดี มันก็ได้ผลใช่ไหม ได้มรรคได้ผลดีใช่ไหม สำคัญนะ อปัณณกปฏิปทา 3 สำรวมอินทรีย์ 6 โภชเนมัตตัญญุตา ชาคริยานุโยคะ นี้ ซึ่งคลุมหมดแล้ว ซึ่งเคยพูดไปหมดแล้วนะ ก็จะค่อยๆ อธิบายอีก ฝากไว้ก่อน โอฬาร
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ จุดที่เลิศยอดยิ่งใหญ่ที่สุดของคนคือพ้นสุขพ้นทุกข์ วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2567 ( 12:33:49 )
รายละเอียด
คือให้ปฏิบัติไปตามลำดับของศีลแต่ละข้อ แล้วจะเกิดบรรลุธรรมอย่างน่าอัศจรรย์ หากว่าคุณไม่มีลำดับแบบแผน ทำไม่ได้หรอก มาเรียนให้ดี อย่าออกนอกศีล สมาธิ ปัญญา แล้ว ถามอย่างนี้ ก็คือ เขาทำแบบสมถะไม่ได้รู้จักกิเลสที่เกิดปัจจุบัน
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 81 วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 13:47:35 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:11:09 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:05:36 )
รายละเอียด
การปฏิบัติศีล ยิฏฐัง เป็นศีลพรต เป็นการปฏิบัติ ปฎิบัติศีลกิเลสเหลือ หรือไม่ได้ล้างกิเลสหรือไม่ หากเราไม่สามารถยุติ ก็ไปทำอย่างผิดวิธี ไปทรมานร่างกายทุกรกิริยาต่างๆสารพัดทุ ที่จริงไม่ใช่แค่ทรมานอย่างเดียว แต่มันไม่ถูกต้องด้วย เป็นทุกรกิริยา ไม่ใช่สุกรกิริยา ก็ไม่ได้ผลการล้างกิเลส แต่ผลกุศลคุณได้ คุณอดทน คุณไปทำทุกรกิริยาก็เก่งนะ ทำทุกรกิริยา อดทนได้ สู้กับเสือสิงห์อะไรต่างๆ นานา สารพัด ก็เหมือนได้ฝึกกายกรรม คุณเก่งทางโลก คุณก็ทำเป็น แต่มันไม่เกี่ยวกับ การลดกิเลสเลย ไม่ได้ล้างลดกิเลสเลย แยกกันชัดจนไหม หากแยกไม่ชัดก็หลงกายกรรมเปียงยาง แล้วก็นึกว่าได้ผลล้างกิเลส ก็ได้แต่เก่งกายกรรมเปียงยาง เหาะเหิน เดินน้ำ ดำดินได้ ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก อะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องของนิพพานเลย มันเป็นเรื่อง กิเลสหนา ซับซ้อนขึ้นเท่านั้น
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 19:55:16 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:13:10 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:07:44 )
รายละเอียด
ปฏิบัติศีลก็เป็น สีลัพพตุปาทาน หมายความว่าปฏิบัติไปตามจารีตประเพณีเก่าๆสืบทอดกันมา บอกว่าปฏิบัติศีลธรรมอย่างไรก็ไปถือศีล แม้ฆ่าสัตว์ก็ไปทำอย่างดื้อๆ เฉยๆ เหมือนกับ สูงสุดก็เหมือนกับเชน นี่ไม่ฆ่า สัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก สัตว์น้อย แต่ไม่รู้ว่า ไม่ฆ่าสัตว์แล้วจะเกิดผลที่จิตอย่างไร จิต ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ไม่รู้จัก
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 25 ปาฏิหาริย์ของคนจนมหัศจรรย์ วันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 26 พฤษภาคม 2565 ( 18:10:35 )
รายละเอียด
ทีนี้ มาเข้าสู่การปฏิบัติ การปฏิบัติก็ให้ละเอียด เป็นศีล แล้วจะเกิดอธิจิต อธิจิต อธิปัญญา อธิมุติหรืออธิโมกข์ ท่านแปลว่า มีจิตโน้มไป ไปสู่วิโมกข์ธรรมวิมุตธรรม มันมีกระแสมีพลังมี Trend โน้มไป มีทิศทางไปสู่ความเจริญ เรียกว่าอธิมุติหรืออธิโมกข์ ผู้ที่เข้าใจและสามารถอ่านได้ อ่านกระแสจิตอันพลังงาน อ่านอาการของจิตมันมีทิศทางของมันได้ นั่นแหละคือผู้ที่เข้าถึงธรรม เป็นผู้รู้จักธรรมะ ขั้นจิตเจตสิกที่มีทิศทางมีกระแส ทวนกระแสจากโลกีย์ ไปทางโลกุตระ อ่านอาการนั้นออกจริงๆรู้จริงๆเห็นจริงๆ ที่พูดแบบนี้พอเป็นได้ไหม (โยมตอบว่าได้) ที่สื่อภาษานี้สภาวะตรงกันนะ ถ้าตรงกัน อาตมาประสบความสำเร็จจริงๆ effectiveness มีประสิทธิผลจริงๆ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 2 วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน การปฏิบัติอย่างมีลำดับของศีล 5
เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:57:15 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 8 กรกฎาคม 2563
เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 10:41:34 )
รายละเอียด
การปฏิบัติสัมผัสเกี่ยวกับสัตว์ คือ สัมผัสกับสัตว์ก็เกิดกิเลสตัณหา อะไรกับสัตว์ เราก็แยกกาย แยกจิต แยกกิเลสตัณหามาได้แล้ว ก็ทำด้วยวิปัสสนา เห็นไตรลักษณ์ จริงๆ แล้วเอ็งไม่ได้มีตัวตน ธาตุปัญญามันจะฉลาดอย่างนี้ พอเห็นกิเลสเราก็บอกว่าไอ้โง่ ในสัทธรรม 7 ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ พหูสูต วิริยะ สติ ปัญญา ไม่เกิดในการนั่งหลับตาสมาธิ อย่างเราเห็นไก่ก็จะเอามาลงหม้อแกง ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเกิดจิตไม่ดี เห็นคนแล้วไม่ชอบใจ ก็จะไปตบเขาก็ไม่ได้ดูจิตใจที่ไม่ดีมีกิเลสสัมผัสกับสัตว์ต่างๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่คนนี่แหละตัวดี สัมผัสแล้วกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง เกิดเยอะแยะไปหมดให้เป็นรู้จริง นี่แหละคือโจทย์แล้วก็ล้างกิเลสพวกนี้มันไม่มีตัวตนหรอก มันก่อเหตุแห่งความทุกข์ ความสุขอยู่อย่างนั้น ถ้าคุณจะดูอาการของกิเลสตัวนี้แล้วก็บอกว่า เอ็งอย่ามาเสนอหน้า เอ็งไม่ใช่ตัวจริง เอ็งเป็นอนัตตา ถ้าหากธาตุปัญญาของคนแรงมาก กิเลสมันจะหายไปหมด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 09 ตุลาคม 2562 ( 08:39:08 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:19:01 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 14:07:38 )
รายละเอียด
ในธรรมะของพระพุทธเจ้านี้จึงละเอียดรอบถ้วนหมด ยกตัวอย่างข้อที่ 1 เมื่อเราอยู่ในโลกก็จะมีการสัมผัสสัมพันธ์ การปฏิบัติของพระพุทธเจ้าไม่ให้ไปนั่งหลับตาแล้วสร้างจิตที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ จะต้องลืมตาแล้วเกี่ยวข้องกับสัตว์เกี่ยวข้องกับของ เกี่ยวข้องกับการสัมผัสทวารภายนอก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ต้องมี 5 ทวารนี้ เป็น ปสาทรูป ก็พร้อมที่จะทำงาน โคจรรูป 5 พร้อมที่จะทำงานสัมผัสสัมพันธ์กับอะไรที่เราจะมีชีวิตอยู่จริง ไม่ใช่ไปนั่งหลับตากลายเป็นคนไม่เต็ม ไปนั่งหลับตาก็เหมือนกับคนตาบอด แต่นั่งหลับตานั้นไม่ใช่ตาบอด อย่างเดียว ตาก็ไม่รับรู้หูก็ไม่รับรู้ เช่น ไม่ได้ยินไม่ได้รู้ไม่ได้รับรสไม่รู้สึกทางกาย แล้วบอกว่านั่นคือการทำจิตให้ยิ่ง อธิจิต หรือว่าเป็นสมาธิ มันจะเป็นการปฏิบัติที่หลงทางอย่างสนิท ตรงกันข้ามตีลังกากลับ ไม่ใช่การปฏิบัติสัมมาสมาธิที่เป็นสมาธิของพระอาริยะ อริโยสัมมาสมาธิ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 2 วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน การปฏิบัติอย่างมีลำดับของศีล 5
เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:45:16 )
รายละเอียด
พวกปฏิบัติพระป่า แม้แต่หมากพลูก็ยังเสพติดคาปากจนตาย ขออภัยที่ต้องพูดความจริง หมายถึงใครก็คงจะเข้าใจ ที่เอาเป็นตัวอย่างมายืนยัน ก็ต้องขอบคุณมหาบัวสมณะโพธิรักษ์ถือว่ามหาบัวไม่อาการหนักคือคงพอรู้อยู่ หลงตัวเองจริงคงพอรู้อยู่ว่า สิ่งเหล่านี้มันไม่เกี่ยวกับการติดการยึด เข้าใจกันหลับตาปฏิบัติปิ๊งๆๆ มีอาการโลดโผนฆ่า กับกิเลสนี่หกคะเมนตีลังกา ดูแล้วเหมือนหนังจีนหนังตลก มันไม่เป็นระบบไม่มีภาษา ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เป็นลำดับอย่างน่าอัศจรรย์เขาเรียนเปรียญมาบ้าง ก็เลยเอามาเป็นตัวอย่างก็ต้องขอบคุณที่ให้ท่านเอามาอ้างอิงยืนยันประกอบ ก็สงสารไม่ได้ไปลบหลู่ ไม่ได้ไปถล่ม ที่พูดนี้ฟังดูเหมือนถูกถล่ม เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด มันเป็นสัจจะ ท่านถล่มสัจจะที่มันผิด แต่ที่ตัวมหาบัวนั้นท่านสงสาร แม้แต่ธัมมชโยหรือทักษิณท่านก็สงสาร ก็เป็นสิ่งที่ผิด จึงต้องพูดกระหน่ำ ซ้ำซากพูดให้แรง ให้เข้าใจให้ได้ว่าติดหยาบอยู่เลย จะไปไหนไม่รอด สรุปจิตวิเวก คือไม่ต้องไปออกป่าเข้าถ้ำ ซึ่งเป็นกายวิเวกที่ผิดตั้งแต่เบื้องต้น ไปอยู่ในเข้าถ้ำนั่งหลับตาสะกด จิตไม่มีผัสสะเป็นปัจจัย ต้องเปิดทวาร 5 มีกามคุณ 5 แต่นี่ไม่ได้เรียนตั้งแต่เบื้องต้นหู ตา จมูก ลิ้น กาย ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้พิจารณาไม่ได้เข้ามาปฏิบัติเลย จมเข้าไปในจิต แล้วจมแบบมิจฉาทิฏฐิด้วย มีการสะกดจิต สมถะ ไม่มีทางเป็นวิเวกไม่มีทางได้ปัสสัทธิ ได้แต่สมถะอย่างเดียวที่เป็นของเดียรถีย์ หากสัมมาทิฏฐิจะวิเวกอย่างสัมมาทิฏฐิ ปัสสัทธิ แต่คุณไกลจากวิเวกแล้วจะเอาปัสสัทธิมาจากไหน ได้แต่สมถะอย่างเดียวเป็นสงบแบบเดียรถีย์ สรุปสมถะไม่มีทางหมดไป จากโลกหรอกแต่ สงบปัสสัทธินั้นหากไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติไม่มีหรอก หรือว่าสัตบุรุษที่ สื่อสารสืบทอดธรรมะ พระพุทธเจ้าที่สัมมาทิฏฐิมีอยู่ก็ไม่มีโลกุตระ หากไม่มีโพธิสัตว์ก็จะไม่มีอะไรหากไม่มีอรหันต์ ก็จะมีพระอนาคามี หนักเข้าไม่มีพระอนาคามี ก็มีแต่พระสกิทาคามี หนักเข้าไม่มีพระสกิทาคามี ก็มีแต่พระโสดาบัน หนักเข้าก็ไม่มีพระโสดาบันอีก ก็มีแต่มิจฉาทิฏฐิปุถุชน ศาสนาพุทธโลกุตระก็หมดสิ้น
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 12:48:10 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:31:37 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 14:08:09 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นคนที่จะทำจิตของตัวเองให้รู้จักทุกข์ นี่แหละเป็นสิ่งที่จะต้องมีตัวต้นเหตุแห่งความรู้ทุกข์อริยสัจ4 ต้องรู้จักอาการของจิตเราที่เป็นความทุกข์เป็นอย่างไร คนเรามักจะกลบเกลื่อนตัวเอง ทำจิตใจเราก็แสวงหาแต่ความสุข ไปสัมผัสอะไรต่างๆไปทำกิริยาต่างๆ สัมพันธ์กับอะไรอย่างนั้นอย่างนี้ก็เพื่อความสุข มันก็เลยไม่มีวันจะรู้ความทุกข์สักทีเลย แล้วที่จะสุขมันก็เป็นอุปาทาน สัมผัสอย่างนี้แล้วก็ตรงกับตัณหาของเรา ตรงกับอุปาทานของเรา เราก็เลยรู้สึก เรียกมันด้วยภาษาว่าความสุขความพอใจ สมใจบำเรอกิเลสตัณหา บำเรออุปาทานแล้วก็เป็นความสุข ที่จริงความสุขความทุกข์มันตัวเดียวกัน คุณยังแสวงหาสิ่งที่จะมาบำเรอให้เกิดความสุข มันก็ยังมีความทุกข์ เพราะเป็นตัวที่คุณต้องไปแสวงหามาบำเรอความต้องการที่จะเสพสุข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภายนอกที่เรียกว่ากามภพ หรือภายในเรียกอัตตา ตามที่พระพุทธเจ้าสอนในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร กามกับอัตตา เราต้องลดลงมาให้มันเหลือน้อยลงน้อยลง จนหมดกามหมดอัตตา จนหมดเลย ไม่มีแล้วกามไม่มีแล้วอัตตา ก็เลยแต่ความว่างๆกลางๆ ศูนย์สูญ เรียกว่ามัชฌิมา การอธิบายมัชฌิมาปฏิปทาแปลว่าทางสายกลาง ก็เหมือนกับถนนเส้นใหญ่ๆแล้วก็เดินไปกลางกลางถนนจะไปไหนก็ไม่รู้ ฟังแล้วตลก ธรรมะพระพุทธเจ้าก็เลยไม่มีผล ไม่รู้ว่ามัชฌิมาคือความเป็นกลาง แล้วก็มีวิธีปฏิบัติให้สู่ความเป็นกลาง ลดกามลดอัตตาได้ก็จะได้ความเป็นกลาง มัชฌิมา เดี๋ยวนี้ก็ไม่รู้กันแล้ว ที่อธิบายไปนี้มันยังน้อย ต้องค่อยๆเรียนรู้เบื้องต้นตั้งแต่ ศีล แล้วปฏิบัติตามลำดับ จนเกิดอาการจริงแล้วทำให้จิตของเราสามารถทำให้ลดกิเลสได้ๆ เป็นอุเบกขา แล้วสั่งสมเป็นสมาธิๆ ก็จะเกิดผลไปเรื่อยๆ ที่จริงแล้วหัวใจศาสนามีแค่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคเท่านั้นแหละ
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563
เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 16:59:52 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 07:06:31 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 14:08:52 )
รายละเอียด
หลับตา คือ การไปอยู่ในภพ มีแต่สัญญาไม่มีปัจจุบัน
การหลับตา เป็นการตื่นอยู่ในภพ เป็นการมีโลกอยู่ในกะลาครอบ จะฉลาดอยู่ในโลกกะลาครอบ แต่กับคนที่มีโลกวิทู รู้โลกกว้าง รู้มากมาย ผู้ใดรู้มากกว่ากัน
การหลับตา คือ การหลงโลกในกะลาครอบว่ามันเกิดปัญญารู้มากมาย แล้วก็ไม่มีทางรู้ว่าปัญญาที่รู้นั้นมันเป็นเพียงสัญญาเท่านั้น จากความจำของตัวเอง และตัวเองก็ไม่ได้รู้อะไรใหม่เลย ตามที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ใน พรหมชาลสูตร นั่งหลับตาทำเจโตสมาธิที่เขาทำกันอยู่ มันจะมีอยู่แต่อดีต 18 หรือ ฟุ้งซ่านไปในอนาคต 44 มีเท่านั้นไม่มากกว่านั้นแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีปัจจุบัน ไม่มีทางเป็นอรหันต์
คำอธิบาย
คือ เดียรถีย์ต่างๆ เป็นพวกมิจฉาชีพแท้ๆ ของศาสนาพุทธ
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 69 วันจันทร์ที่ 16กันยายน 2562
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายจากพ่อครู รายการพุทธศาสนาตามภูมิ
เวลาบันทึก 18 กันยายน 2562 ( 17:33:19 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:34:07 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:08:19 )
รายละเอียด
คือ ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิแล้วจะหลับตาก็ได้ ปฏิบัติเป็นอุปการะก็ได้ อุปการะแต่ไม่ใช่แก่นแท้ สมณะโพธิรักษ์ก็ใช้อยู่มาก ตอนนอนหลับก็ใช้ทวารนอกไม่เกี่ยวแม้แต่นอนหลับท่านก็ปรุงแต่งธรรมะได้ยิ่งมีสติ ก็แน่นอน ตื่นอยู่ก็ทำได้แม้จะตัดภายนอกก็ปฏิบัติได้ การหลับก็หลับแบบไม่ฝันเลยก็ได้ แต่ไม่ได้เรื่องก็ติดยึดกันไปแบบดับ
ที่มา ที่ไป
พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 18 ตุลาคม 2562 ( 16:25:09 )
เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 13:36:01 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 08:08:58 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 14:14:30 )
รายละเอียด
ทีนี้มาสู่การปฏิบัติโดยลำดับ การปฏิบัติที่มีความพร้อมและถูกต้องอย่างดี ยกตัวอย่างเป็นข้อๆ ศีล 5 เอาข้อ 1 เลย
ศีล 5 ข้อ 1 เป็นต้น บอกว่า ไม่ฆ่าสัตว์ คนที่ไม่ฆ่าสัตว์ได้ เห็นสัตว์ หรือมีสัตว์อยู่ต่อหน้าสัมผัสกันเลย และก็เป็นโอกาสอย่างยิ่งที่จะฆ่าได้ จริงๆ มีความจำเป็นมีความสำคัญที่จะฆ่าด้วยแต่ก็ไม่ฆ่า เป็นคนอย่างไรก็ไม่ฆ่า แม้ที่สุด พระพุทธเจ้าตรัสว่าแม้จะถึงชีวิต ผู้ที่มีศีลข้อ 1 นี่แหละ จะไม่ทำการละเมิด แม้จะเป็นอันตรายถึงชีวิตก็ให้ชีวิตนั้นเป็นอันตรายไปเลย ซื่อบื้อถึงขนาดนั้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 2 วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน การปฏิบัติอย่างมีลำดับของศีล 5
เวลาบันทึก 25 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:28:01 )
รายละเอียด
ทีนี้มาสู่การปฏิบัติโดยลำดับ การปฏิบัติที่มีความพร้อมและถูกต้องอย่างดี ยกตัวอย่างเป็นข้อๆ ศีล 5 เอาข้อ 1 เลย
ศีล 5 ข้อ 1 เป็นต้น บอกว่า ไม่ฆ่าสัตว์ คนที่ไม่ฆ่าสัตว์ได้ เห็นสัตว์ หรือมีสัตว์อยู่ต่อหน้าสัมผัสกันเลย และก็เป็นโอกาสอย่างยิ่งที่จะฆ่าได้ จริงๆ มีความจำเป็นมีความสำคัญที่จะฆ่าด้วยแต่ก็ไม่ฆ่า เป็นคนอย่างไรก็ไม่ฆ่า แม้ที่สุด พระพุทธเจ้าตรัสว่าแม้จะถึงชีวิต ผู้ที่มีศีลข้อ 1 นี่แหละ จะไม่ทำการละเมิด แม้จะเป็นอันตรายถึงชีวิตก็ให้ชีวิตนั้นเป็นอันตรายไปเลย ซื่อบื้อถึงขนาดนั้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเชัา พุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 42 ปฐมอโศก ความจนที่มีสัมประสิทธิ์ ตอน 3 วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรปฐมอโศก
สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน การปฏิบัติอย่างมีลำดับของศีล 5
เวลาบันทึก 27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:40:04 )
Facebook : test
Youtube : Name
Twitter : Name
Line : Name
Telegram : Name
Wechat : Name
Skype : Name