@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ชุมชนชาวอโศกเป็นชุมชนอนาคามี

รายละเอียด

อาตมามีสภาวะพวกนี้เอามาขยายความ อย่างไม่มีในตำรา ในอรรถกถาอาจารย์ต่างๆก็ไม่มี มีแต่ตำราของโพธิรักษ์ อธิบายสาระแก่นสารของพระพุทธเจ้าเลย ถ้าใครเข้าใจที่อาตมาพูดไป ฟังเข้าใจแล้วเอาไปทำก็เป็นพระอรหันต์ทำถูกต้องแล้วพากเพียรจริง นอกจากกิเลสมาก ชาตินี้ไม่ได้เป็นอรหันต์ อย่างน้อยก็เป็นอนาคามี อย่างชุมชนชาวอโศกนี้อาตมาบอกแล้วว่าเป็นชุมชนอนาคามี พวกคุณนี้อย่างน้อย เป็นอนาคามีเกือบทั้งนั้น เป็นแต่เพียงแลบเลียกิเลสกามบ้าง มันมีสัญญา ต้องแยก ความไม่ลืมในสัญญา ที่จริงคุณก็ไม่ได้มีรสชาติมีเรื่องมีราวอะไรมาก แต่คุณที่ยังมีก็ไม่ใช่อนาคามี แต่คุณได้แล้วในเบื้องต้น อบายภูมิไม่มีแล้ว พวกเรานี้โสดาบันเป็นเรื่องขี้ผงทั้งนั้นอย่างน้อยก็สกิทาคามี นี่อาตมาพูดจริงนะไม่ได้พูดเล่นแต่อย่าหลงตัวตรวจสอบให้ได้ ถ้ามันยังไม่ใช่คุณก็ต้อง เจียรกิเลสของคุณให้มันชัดเจน ว่า มันยังงมงาย โง่ ได้ไม่รู้ได้ ได้โสดาบันก็ไม่รู่ว่าโสดาบัน ได้สกิทาคามีก็ไม่รู้ว่าได้ แต่เขาไปเรียนกันไม่รู้ขั้นตอนหรอก ขออภัยที่อาตมาพูด เหมือนกับตีทิ้งดูถูกดูแคลนเพราะมันก็น่าดูถูก เพราะไม่เข้าเรื่องของศาสนาเลย มันเป็นเรื่องของเดียรถีย์ เป็นเรื่องของชาวนอกรีต อาตมาพูดให้เข้าเรื่องของพระพุทธเจ้าเพราะมันไม่ได้เรื่อง มันออกนอกเรื่อง พูดนี่ไม่ได้ดูถูกดูแคลนไม่ได้พูดเล่น มันบาปนะ ถ้าพูดผิด ไปว่าเขาอย่างไม่จริง

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 28 ธันวาคม 2563 ( 15:12:14 )

ชุมชนชาวอโศกเป็นสาธารณโภคีทุกชุมชน

รายละเอียด

เมืองไทยมีแก่นแกนที่มีเศรษฐศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จแล้วอยู่ในสังคมเมืองไทย จะว่าไปแล้ว ชาวอโศกก็มีชุมชนชาวอโศกสาธารณโภคีทุกชุมชน กระจายอยู่ในประเทศนี้ แม้จะไม่ได้มีมากมายเพราะมันไม่ง่าย แต่มันก็เป็นจริงไม่ใช่ว่าเป็นได้แค่กลุ่มเดียว คนทั้งหมดตั้ง 60 ล้าน 70 ล้าน เป็นได้นิดเดียว พันคนก็ไม่ถึงดีก็ไม่ใช่ มันก็มีหลายร้อยหลายพันอยู่ หลายหมู่บ้านเกินกว่า 10 ชุมชนในประเทศ ที่ดำเนินชีวิตอยู่อย่างนี้ เป็นอิสระเสรีภาพสมัครใจเป็นจริงไม่มีใครบังคับให้มาจน พูดให้เข้าเป้า มามีชีวิตอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 03:41:25 )

ชุมชนที่มี สาราณียธรรม 6

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนที่ไม่มาทางโลกุตระนี้คือปุถุชน ปุถุ แปลว่ามากแปลว่ามาก แปลว่าหนา แปลว่าใหญ่ แปลว่าโต อะไรใหญ่ มากและโตรู้ไหมก็คือกิเลส ไม่มีสิ้นสุดปุถุชน ฟังไว้สำหรับท่านผู้ไม่เคยได้ยินที่อาตมาบรรยายเลย หรือได้ยินแล้วก็ยังไม่ชัดฟังให้ชัดๆ ส่วนคนที่นี่ไม่มีปัญหาแล้ว เพราะสมัครใจจะไปเฮือนสุดชีวิตอยู่ที่นี่อยู่แล้ว เฮือนสุดชีวิตคือที่เผา ตายแล้วก็เผากันที่นี่ เพราะว่ามันสบายแล้ว ที่นี่เป็นสังคมชุมชนหมู่กลุ่มที่เป็น มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี ที่เป็นกลุ่มชุมชนที่พระพุทธเจ้าสรุปไว้ว่าเป็นกลุ่มชุมชนที่มี สาราณียธรรม 6 อยู่กันอย่าง สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม 

ทรัพย์สินผลผลิตได้มาก็เอามารวมกัน แล้วกินใช้ร่วมกัน ก็มารวมกันบริหารทรัพยากรพวกนี้ออกไป กินใช้ในพวกเรา ซึ่งก็สบายแล้วอาศัยใช้กินพอเหลือ เผื่อแผ่แก่ผู้อื่น ด้วยการเกื้อกูลแจกจ่ายหรือขายถูก ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา สังคมโลกเขาต้องการที่จะจบกิจเศรษฐกิจเหมือนเราเหมือนกัน เรากล่าวว่าจบกิจได้ ก็มันไม่มีปัญหา ในเรื่องของเศรษฐศาสตร์ของพวกเรา ไม่มีปัญหาทางด้านรัฐศาสตร์ในพวกเรา แต่ทางโลกเขายังวุ่นอยู่เลย ยังแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาการเมือง รัฐกิจ แล้วก็แก้ปัญหาแก้ไปไม่รู้จบหรอก เขาแก้ปัญหาให้ตายก็ไม่มีจบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เกิดมาต้องรู้จักความเป็นคนกับสังคมจึงไม่เสียชาติเกิด วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 เมษายน 2566 ( 11:44:24 )

ชุมชนที่มีชีวิตใฝ่ธรรมตลอดเวลา

รายละเอียด

อาตมาทำให้เกิดสังคมที่เป็นชุมชนมีชีวิตใฝ่ธรรมสำนึกในธรรมะตลอดมา พวกเราเตือนกันตลอดเวลาอันนี้ใช้ได้ ชีวิตไม่สูญเปล่า คนอยู่ข้างนอกจะจมไปกับโลกีย์ จมไปกับกิเลสตลอดเวลา อยู่ในนี้นั้นได้ประโยชน์ได้กำไร เพราะฉะนั้นถึงบอกว่ามาอยู่เถิด ใครที่พอจะมาอยู่ได้แล้ว ต้องมีศีลจึงมาอยู่กับเราได้ คนที่ยังไม่มีศีล ไม่ถือศีลก็มาอยู่กับเราได้ยาก

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ บ้านราช วันจันทร์ที่ 20 มกราคม2563


เวลาบันทึก 01 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:03:18 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:51:17 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 13:55:23 )

ชุมชนที่ไม่ตกเป็นทาสสังคมยืนยันพิสูจน์มาถึง 50 ปี

รายละเอียด

ซึ่งสิ่งนี้อาตมายืนยันมั่นใจว่า อาตมาเป็นจริงและพิสูจน์ยืนยัน ว่าอาตมาเป็นผู้รู้เป็นผู้เข้าใจอธิบายได้นำทางปฏิบัติได้ มีผลตามที่อาตมาอธิบายได้ด้วย สอบทานจากพระไตรปิฎกได้ด้วย อย่างนี้คุณยังไม่ยอมรับอาตมา ผู้ไม่ยอมรับอาตมาว่า อาตมาปฏิบัติถูกต้องตามพระพุทธเจ้าคือคนอวิชชา แปลไทยว่าคุณยังโง่อยู่ คนที่เห็นอาตมายืนยันปฏิบัติมาถึง 50 ปีแล้วจนเกิดเป็นกอบเป็นกำเป็นหมู่เป็นกลุ่มเป็นมรรคผล แม้ที่สุด เป็นชุมชนที่ไม่ตกเป็นทาสของสังคมไม่ว่าจะทางด้านเศรษฐกิจ ทางด้านการเมือง ทางด้านสังคมก็ไม่เป็นทาส เขาเป็นอย่างไรเราก็ไม่ได้รับผลกระทบ อาตมายืนยันความจริงอันนี้เขาก็ไม่รู้สึกสะดุดใจ มันน่าจะเห็นนะ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2563 ( 11:24:19 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:16:27 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 14:14:53 )

ชุมชนที่ไม่หลงในโลกกาม

รายละเอียด

เป็นชุมชนที่ไม่หลงในโลกกาม มาเข้าสู่เรื่องรูป อรูป ในชุมชนชาวอโศก เรื่องกามมันเสพเป็นรูปราคะ อรูปราคะเท่านั้น ไม่ได้หยาบคายเหมือนกามอย่างโลกๆเลย คนจะมีหยาบมากหน่อยก็เอาเถอะ ก็เห็นติดในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสมากหน่อย ก็อาจจะติด แต่ไม่มากเท่ามหาบัว มหาบัว ติดในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสไม่ขาดปากเลย กินไปเคี้ยวไป หมากจืดคาย เดี๋ยวก็หยิบเคี้ยวหมากและก็เทศน์ไปต่อ แล้วไม่รู้ความเสพติดตั้งแต่หมากแล้วไปหลงว่าเป็นพระอรหันต์ เห็นถึงว่าความเสื่อมในศาสนามันเสื่อมหนักจริงๆ ขนาดเสพติดชัดเจนอย่างนั้นยังไม่รู้เลยว่า เบื้องต้นแท้ๆ เสพติดหยาบ อบายภูมิ ยังไม่รู้ แล้วก็ไปหลงกันว่าเป็นอรหันต์ นี่แหละเป็นความเสื่อมของชาวพุทธ ผู้ที่หลงพระอรหันต์อย่างนั้น คือสายหลับตานั่นแหละ 

พูดแล้วเหมือนไปดูถูกดูแคลน ไปข่มไปตีทิ้ง ก็อยากจะให้ทิ้งไปนั่นแหละ จะว่าตีก็ตีแต่ไม่ได้ตีไม่ได้ทุบอะไรหรอก แต่พูดเท่านั้นใช้คำพูด ว่ามันไม่น่าจะไปยึดติด ไม่น่าจะไปปฏิบัติประพฤติเสียเวลา แรงงาน ทุนรอน ถ้าเอาคืนมาได้ เวลา แรงงาน ทุนรอน ที่ไปเสียเวลาอยู่ในป่า หรือ ปฏิบัติหลับตาอยู่ โอ้โห! ประเทศไทยจะเศรษฐกิจดีกว่านี้เยอะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการภาคค่ำ งานอโศกรำลึก 2565 กำจัดผีในตนจึงเป็นคนโลกุตระ วันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 7 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2565 ( 21:42:10 )

ชุมชนสาธารณโภคี มีข้อปฏิบัติอย่างไร

รายละเอียด

ข้อสำคัญมาอยู่ที่นี่แล้ว อย่ามาหาเงิน ทำงานอยู่ในนี้แล้วเข้ากองกลางหมด บอกให้ทราบอย่างนึง คุณมาอยู่ในที่นี้แล้วอย่าไปทำอาชีพข้างนอกแล้วก็อาศัยกินนอนอยู่ในนี้ แล้วทำงานข้างนอกเอาเงินเข้ากระเป๋าคุณคนเดียวเป็นบาปมาก คุณเอาเปรียบที่นี่มาก คนใดที่มีอยู่ที่นี่ มีบ้านอยู่ที่นี่อาศัยอยู่ที่นี่ ดีไม่ดีกินอยู่ที่นี่ เสร็จแล้วคุณก็ไปทำงานส่วนตัวภายนอก ได้เงินทองคุณก็เอาเงินทองเข้ากระเป๋าคุณส่วนตัว ดีไม่ดีไม่เคยทำทานบริจาคให้ที่นี่เลย คุณบาปมากเลย คุณแฝงที่นี่เขา เพราะฉะนั้นคนมาสร้างบ้านในที่นี่อยู่ที่นี่เขาทำงานให้ที่นี่หมด ทำงานเป็นของส่วนกลางหมด ของชุมชนเรา เรียกว่า ชุมชนสาธารณโภคี ผู้ใดทำงานส่วนตัวมีรายได้ส่วนตัว จะมาอยู่ที่นี่ แล้วก็เข้าใจว่า ไม่ถึงกับทำงานส่วนตัวเอาเข้าที่นี่หมดก็ไม่ต้องหรอก คุณก็รู้ว่าจะยักไว้บ้าง ช่วยเหลือส่วนกลางพอสมควรก็พอได้ มันก็เป็นไปด้วยวัฒนธรรมโดยปริยายอยู่บ้าง มันก็ไม่ได้ไปเคร่งครัดจัดจ้านเอาเป็นเอาตายเป๊ะๆ มาอยู่ที่นี่ไม่มีรายได้ส่วนตัวเล็กน้อยไซด์ไลน์อะไรเลยไม่ได้ ก็ไม่ใช่ แต่ถ้าคนจะไม่ได้ทำไซด์ไลน์ทำที่นี่เป็นอาชีพเลย หรือเขาทำข้างนอกเป็นอาชีพ มาอยู่ที่นี่เป็นไซด์ไลน์ มันก็ดูไม่ค่อยจะสอดคล้องเท่าไหร่ คุณก็จะรู้สึกเอง แต่ถ้ามาอยู่ที่นี่ทำที่นี่เป็นหลัก แต่ข้างนอกเป็นไซด์ไลน์บ้าง เราก็ไม่ได้ไปเคร่งครัดเข้มงวดอะไรจนเกินการ แต่คุณไปทำอาชีพหากินจริงๆแล้วเข้าพกห่อ ปีหนึ่งทำงานได้ล้านหนึ่งทำทานให้ที่นี่สักพันนึง มันก็โอ้โห อาศัยที่นี่มากกว่าพันนะ อย่างไร นี่ก็พูดไม่ใช่ไปว่าใคร แต่กระทบใครก็ตัวใครก็แล้วแต่ คือ มันเป็นเรื่องของกรรม กรรมวิบากใครต่อใคร ใครเอาเปรียบเอารัดก็เป็นหนี้ ใครเสียสละมากก็เป็นกุศล เป็นเรื่องสัจธรรม พูดให้เข้าใจ ไม่อยากให้ใครมีวิบากอกุศล อยากจะให้มีแต่กุศล หรือยิ่งมาปฏิบัติที่นี่เข้าใจบุญ ชำระกิเลสออกได้สัจจะก็ยิ่งดี บุญกับกุศลต่างกันอย่างไรอาตมาก็พยายามอธิบายอย่างมาก

ที่มา ที่ไป

เทศน์ ทวช. วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:48:36 )

ชุมชนสาธารณโภคีมีสถานที่สัปปายะอย่างไร

รายละเอียด

เมื่อมาเป็นสาธารณโภคีมีสถานที่สัปปายะ อย่างเช่นปฐมอโศกเป็นสถานที่ของพวกเราไม่ใช่ของใคร เป็นของทุกคนไม่มีใครแบ่งแยกเอาสถานที่นี้ไปได้ สถานที่นี้มีแต่จะอยู่เป็นหลักแหล่งสถิตเสถียรนาน มีแต่จะเพิ่มขึ้นไม่ลดลงเพราะไม่มีใครสามารถแยกออกไปเป็นของส่วนตัว ไม่มีใครสามารถจะเป็นเจ้าของหรือสามารถที่จะเป็นใหญ่เป็นเจ้าของแล้วก็จะทำการแบ่งแยกเขียนพินัยกรรมไว้อย่างนั้นไม่ได้ เป็นของส่วนกลางไปอีกนานเท่านานจนกว่าจะมีคนขี้โกงทุจริตสามารถที่จะโกงเอาที่ของส่วนกลางนี้ไปได้ อันนี้ก็ไม่แนะนำ 

มันขี้โกงจนกระทั่งสามารถโกงได้จนจะต้องติดคุก หรือว่าเก่งจนโกงได้แล้วไม่ติดคุก แต่มันเป็นความชั่วเลวร้าย แต่เขาโกงสำเร็จมันมีได้เหมือนกัน อย่างนี้เป็นต้น แต่มันก็เป็นได้ยาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:01:49 )

ชุมชนสาธารณโภคีแห่งแรกเริ่มเมื่อพ.ศ. 2527 ที่ปฐมอโศก

รายละเอียด

มาถึงพวกเรารวมกันปฏิบัติธรรมตั้งแต่ พ.ศ. 2527 อาตมาเริ่มจะทำชุมชน ก็รวมกันกับคุณจำลองนี่แหละ ไปหาที่ไปหาทางอะไรกัน เริ่มแรกบุกเบิกที่ปฐมอโศก พ.ศ. 2527 ปฐมอโศกเริ่ม พ.ศ. 2527 ก็เกิดเป็นชุมชนมา ตอนแรกก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำสาธารณโภคีได้สำเร็จ 

ในความหมายที่เราทำได้นี่แหละ ทุกวันนี้ก็เป็นสาธารณโภคี ผู้ที่เคร่งในนี้เป็นสาธารณโภคีก็ได้จริงๆไม่ต้องมีเงินส่วนตัวเลย จะใช้ก็บอกส่วนกลางเอาไปใช้เหลือก็คืน แล้วก็สบายอยู่ในนี้ข้าวมีกิน ดินมีเดิน พี่น้องมีเสร็จ เห็ดมีเก็บ จะซื้อข้าวของส่วนกลางบางทีเป็นแสนเป็นล้านก็ซื้อ เช่นซื้อโซลาร์เซลล์เป็นล้าน หรือซื้อเครื่องกลหนัก ราคาหลายล้าน อย่างนี้เป็นต้น ซื้อที่ดินอย่างนี้เป็นต้นก็เป็นธรรมชาติธรรมดา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาวันมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 14:48:16 )

ชุมชนอนาคามีภูมิคือสังคมอโศก

รายละเอียด

แม้จะมีปัญญาถึงขั้นขนาดพวกเรามาเป็นอยู่ร่วมกันเป็นสังคม อาตมาว่าสังคมเราเรียกว่าเป็นสังคม ชุมชนอนาคามีภูมิได้ มีแกนของอนาคามีเยอะ เพราะทำงานฟรี มีศีล 10 เสียภาษี 100% อย่างนี้เป็นต้น ไม่ได้พูดเล่น เราทำอย่างไม่ได้ถูกบังคับไม่ได้ล่อหลอก แต่ใช้ธรรมะพระพุทธเจ้ามาประกาศและพวกเราได้ปฏิบัติประพฤติ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์รายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 22 วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มกราคม 2564 ( 20:28:29 )

ชุมชนอาริยะ คนบรรลุธรรม

รายละเอียด

อาตมาไม่รู้เรื่องหรือไม่ได้ฟังธรรม อาตมาแสดงธรรมะทำให้เกิดความประสบผลสำเร็จพอสมควรทำให้เกิดโลกุตรธรรมขึ้นมา ซึ่งมันหายไปจากสังคมพุทธแล้ว ก็รู้จักโลกุตรธรรมรับโลกุตรธรรม เอาไปปฏิบัติจนเกิดมรรคผลได้ เกิดเป็นคนที่เป็นพระอาริยะเกิดชุมชน ที่อาตมาพูดโดยไม่กระดากปาก ว่าเป็นชุมชนอาริยะ เป็นชุมชนคนบรรลุธรรมถึงขั้นโดยค่ารวมแล้วเป็นถึงขั้นอนาคามี มีคุณธรรมถึงขั้นสาธารณโภคี ซึ่งมันเป็นการพิสูจน์ธรรมะที่ยิ่งใหญ่มาก แต่คนยังไม่ค่อยเข้าใจไม่มีภูมิปัญญามารู้ทันสิ่งเหล่านี้ ยังไม่รู้จักคุณค่าของพฤติกรรมมนุษย์ ที่เกิดในสังคม ที่จะมีเศรษฐกิจที่สุดยอด รัฐกิจก็สุดยอด สังคมกิจก็สุดยอด นี่ไม่ได้พูดหลงเลอะ แต่พูดตามความจริง 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 27 มกราคม2563


เวลาบันทึก 08 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:17:58 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:58:54 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 13:56:34 )

ชุมชนอโศกถือศีลทั้งหมู่บ้าน

รายละเอียด

คนในชุมชนอโศกนี้ ทั้งหมู่บ้านถือศีลทั้งหมู่บ้าน แล้วไม่ใช่พูดเล่นแต่ถือศีลจริงๆด้วย ใครผิดศีลก็ว่ากันเลย ให้เปลี่ยนแปลงปรับปรุง ถือศีลจริงๆ เป็นหมู่บ้านที่ปฏิบัติประพฤติศีล สมาธิ ปัญญา แล้วสมาธิก็เป็น สมาหิโต เป็นสมาธิลืมตา ปฏิบัติด้วยจรณะ 15 วิชชา 8 ของพระพุทธเจ้า มีเจโตปริยญาณ 16 เกิดสมาธิที่ตั้งมั่น สมาหิโต

ด้วยวิธีการเรียนรู้กิเลสราคะ โทสะ โมหะ แล้วลด ราคะโทสะโมหะ เพราะปฏิบัติมีสัมผัสเป็นปัจจัย จึงมีตัวจริงของจิตเจตสิกต่างๆ กิเลสตัวจริงเกิดขึ้น ก็กำจัดกิเลสตัวจริง ไม่ใช่กำจัดกิเลสในสัมภเวสีหลับตา แล้วก็ได้แต่สัญญาความจำ กิเลสก็เป็นตัวผี ตัวสิ่งที่ไม่ได้เกิดจริง เกิดจริงต้องเป็นปัจจุบันธรรม ทิฏฐกาละ ไม่มีปัจจุบัน มันไม่มีของจริง มันเป็นสิ่งที่อยู่ในความระลึก มันเป็นนิรมาณกาย เป็นสิ่งที่คิดเอาอยู่ในความคิด มันเป็นของที่อยู่ในห้วงความคิด มันไม่เป็นของจริง อันนี้ก็เข้าใจไม่ง่ายนะ จะยากอยู่ 

อาตมาถึงบอกว่า คนที่ไปหลับตาเข้าไปมันไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย สัมผัส พระพุทธเจ้าก็สอน ในพระไตรปิฎกเล่มแรกเลยเล่ม 9 ไม่มีสัมผัสเป็นปัจจัยไม่มีฐานปฏิบัติ ไม่มีวิญญาณฐีติ มันเป็นจิตสัมภเวสี มันเป็นจิตที่อยู่ในภพชาติไหนๆ ไม่มีที่ตั้งทางหูตาจมูกลิ้นกายใจ ที่เป็นของจริง ล่องลอยตุ๊บป่องอยู่ในห้วงความคิดจินตนาการ ซึ่งมันไม่มีตัวตนเลย มันจับไม่ติด แล้วจะไปเอาจริงกับมันอย่างไรได้ มันเป็นของลอยลม เป็นลมๆแล้งๆ อยู่ ต้องให้มีตัวที่สัมผัสได้สิ ยืนยัน อาตมาก็ว่าพูดชัดแล้วนะ พวกนั่งหลับตาคือพวกคว้าลมคว้าแล้ง ไปทำอยู่ทำไม เลิกกันซะที แค่นี้ก็พูดกันไม่เข้าใจ สิปึกสิหนากันฮอดไสหนอ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 55 ธรรมิกราชแจกแจงสังขารในปฏิจจสมปบาท วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2565 ( 18:41:59 )

ชุมชนอโศกมีสภาพความจริงที่เป็นโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

เมื่อชุมชนของชาวอโศกเจริญพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นกลุ่มหมู่ที่มีทั้งประสิทธิภาพ ทั้ง Quality และ Quantity ทั้งปริมาณและคุณภาพที่มากพอจนกระทั่งคนเห็นได้ แม้คนตาบอดเห็นได้ อาตมาใช้สำนวนโวหารนี้ ขนาดคนตาบอดเห็นได้ เมื่อนั้น แต่ที่จริงคนตาบอดจะไปเห็นได้อย่างไร ซึ่งมันเป็นโวหาร ซึ่งก็ตาแต่ละคนก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ พัฒนาภูมิธรรม ภูมิปัญญาจนกระทั่งรู้จริง อันนี้เป็นของจริง นี่เป็นโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้า อ๋อ มีความจริงทั้งสภาพเลย อยู่กันอย่างสาราณียธรรม 6 มีทั้งสาธารณโภคี ลาภได้มาโดยธรรมก็เอามาร่วมกันกินกันใช้เหลือเฟือ ต่างคนต่างมักน้อยสันโดษ มีคุณธรรมวรรณะ 9 อยู่ในตัว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณกินข้าวได้ไหม อย่างไรคือสัมมาทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2564 ( 19:33:18 )

ชุมชนอโศกเป็นชมพูทวีป

รายละเอียด

อาตมาไม่ได้บอกว่าโลกนั้นมีอยู่ที่นี่ อาตมาประกาศว่าที่นี่เป็นชมพูทวีป ไม่ใช่แค่โลกเท่านั้นนะ อาตมาประกาศว่าชาวอโศกชุมชนชาวอโศกเป็นชมพูทวีป มีสุรภาโว สติมันโต อิธพรหมจริยวาโส

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้างานเพื่อฟ้าดิน เพื่อฟ้าดิน สร้างคนจนสุขสำราญฯ ตอน 4 วันที่ 1 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 17:05:46 )

ชุมชนอโศกเป็นตัวอย่างของมนุษย์โลก

รายละเอียด

ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีพื้นที่ อยู่เท่านี้ก็ตาม ต้องพยายามทำให้พื้นที่ประเทศไทย ที่จะไปสร้างสถานอะไรใหญ่ๆโตๆ ทำให้สร้างตึก สร้างอะไรสูงๆแหลมๆ อะไรต่ออะไรขึ้นมาสักวันหนึ่งเถอะ แผ่นดินไหวมากๆ ตึกพวกนี้ สักวันจะล้มลงมาทับกันระเนระนาดหมดเท่านั้นล่ะ ลมพัดเข้าไปในโน้นก็แย่แล้ว หลงทาง ฝนตกลงมาน้ำก็ไม่มีทางไหลออก แม่น้ำอยู่ที่ไหนโว้ย ไม่มีทางไปก็เน่าอยู่ในนั้น ลมเข้าไปก็เป็นลมเสีย เป็นพิษหมด น้ำตกลงไปก็เน่าหมด นั่นหรือบอกว่าเมืองเจริญ ที่นี่ทำร่องน้ำทำน้ำภูเขาตกลงมาให้ไหลลงไปเร็วๆ ฝนตกลงมาถูกภูเขาไหลลงน้ำเลยน้ำมีร่องน้ำไปอีก ไม่ต้องไปไหลเลอะเทอะพื้นที่น้ำครำ น้ำเน่า ไปลงลำธาร ลำธารใหม่ลำธารเก่าให้ลงไปแม่น้ำใหญ่ ไปหาแม่น้ำมูล แม่น้ำมูลก็ไหลลงทะเล เรามาทำอย่างนี้ ไม่ไปทำอย่างโน้น สิ่งที่เราทำกันอยู่ มันเป็นตัวอย่างของมนุษย์โลก ไม่ใช่เฉพาะเอเชียนะ มนุษย์ทั้งโลกเลย ทั่วทุกทวีป เป็นตัวอย่างของความเป็นมนุษย์โลก

อาคารสูงเฮือนศูนย์สูญของเรานี้ใหญ่แล้ว อาคารเฮือนบวรใหญ่แล้ว อาตมายังนึกเล่นๆ เลยว่า จังหวัดอุบล ทุกวันนี้จะประชุมกันที่ไหน ก็มาประชุมที่ เฮือนศูนย์สูญ หากมันไม่พอก็ไปที่อาคารบวร มีเนื้อที่ 11 ไร่ 

ที่มา ที่ไป

ธรรมะรับอรุณโดยพ่อครู งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 8 วันพฤหัสบดีที่ 31ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:36:16 )

ชุมชนอโศกเป็นประโยชน์อย่างไร

รายละเอียด

ทุกชุมชนชาวอโศกทั่วประเทศเป็นประโยชน์ช่วยสังคมประเทศชาติอยู่ เพราะเป็นชุมชนที่ไม่ก่อเรื่องราวไม่แย่งชิงกับสังคมไม่ไปเบียดเบียนสังคม พึ่งพาตนเองรอด แล้วทำให้เหลือแล้วก็แจกจ่ายเพื่อผู้อื่น ขายก็ขายขาดทุน ไม่เอากำไร หรือทำงานฟรีได้เลย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 10:10:34 )

ชุมชนอโศกเป็นอนาคามีขึ้นไปถึงอรหันต์

รายละเอียด

เพราะสังคมอโศก ชุมชนอโศก เป็นอนาคามีขึ้นไปถึงอรหันต์ อนาคามีนี่ถึงขั้น ศีล 10 เราทำได้ถึงขั้นดีมาก ขณะที่ทั้งโลกนี้เสื่อมไปจากศีล สมาธิ ปัญญา ของพระพุทธเจ้า นี่เอาแต่ขั้นศีล มาเปรียบเทียบตรวจสอบ เห็นชัดเจนว่าไปไม่รอด เป็นเรื่องไสยศาสตร์จารีตประเพณีต่างๆนอกรีตมาก พูดไปแล้วจะหาว่า อาตมาเพ่งโทสมาก ซึ่งมันไม่ใช่มันจริง จึงยากจริงๆ คนที่จะช่วยฟื้นฟูให้เกิดความสงบเรียบร้อยอบอุ่นจึงยาก จริงๆประเทศไทยสงบอบอุ่นขนาดนี้ก็ถือว่าดีหนักหนา แต่ถ้าทำอย่างที่ชาวอโศกเป็นนี้ จะเป็นตัวอย่างของโลก อันยิ่งยอดสูงสุดเลย น่าเสียดายที่ว่า ศาสนานี้ ในยุคกาล คนก็เสื่อมไปตามธรรมชาติเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปค่อน 2561 ก็เสื่อมขนาดนี้ เมื่อถึงพ.ศ.3561 ไปอีก 1,000  ปี มันจะเสื่อมขนาดไหน ยิ่ง พ.ศ.4561 คงไม่เหลือซากอะไรของศาสนาพุทธ คงเป็นศาสนาอุจจาระแพะ

ที่มา ที่ไป

ทำวัตรเช้า วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 มกราคม 2564 ( 11:43:17 )

ชุมชนอโศกเป็นแกนหลักของโลกุตรธรรมในประเทศไทย

รายละเอียด

ทุกวันนี้เพิ่งกระเตื้องขึ้นโลกุตระ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีจริงมีโลกุตรธรรมจริงแล้วก็พูดจริงเป็นไปจริง โดยมีพวกเราเป็นแกนหลัก กลุ่มหมู่ ชุมชนในประเทศที่ทำกันอย่างมีปัญญามีความรู้ ปฏิบัติได้มรรคได้ผล เกิดเป็นสังคมกลุ่มหมู่ที่เป็นพฤติการณ์ของมวลมนุษย์รวมตัวกันอยู่ เป็นพลังงาน เป็นรูปเป็นร่าง แต่เขาก็ยังมองเห็นยากเพราะตาเขาก็ยังไม่ดี ยังตาถั่วตามัว ตาบอดอยู่ ก็ไม่รู้จะไปบังคับกันอย่างไรได้ จนกว่าจะเห็น จนกว่าเขาจะรู้จะเห็น จนกว่าตาบอดจะเห็นได้ นี่เป็นโศลกเป็นคำที่อาตมาเคยใช้ มันเป็นภาษาโวหารที่สะกิดให้คิด แล้วตาบอดจะเห็นได้อย่างไรนั่นสิ มันก็ต้องตาดีขึ้นมาก่อน ตาบอดอยู่จะไปเห็นได้อย่างไร ตาดีขึ้นมาถึงจะเห็นได้ 

เพราะฉะนั้นทำอย่างไรแม้คนตาบอดก็ทำให้เป็นคนตาดี ให้มีแสงสว่างเข้าไปได้ ไปกระทบไปสัมผัส ให้รู้สึกให้เห็นแจ้ง ก็ต้องเปลี่ยนให้ได้พัฒนาให้ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ ทำวัตรเช้า วันขึ้นปีใหม่ งาน ว.บบบ เพื่อฟ้าดิน วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 19:34:01 )

ช่วง Lock down โควิดชาวอโศกอยู่กันอย่างสุขสำราญ

รายละเอียด

ที่โรงเรียนผู้นำอย่างที่ภาพได้เห็น แม้จะโควิด จะปิดสถานที่ ส่วนไหนเหมือนกับครอบครัว แต่ละแห่งแต่ละแห่ง โรงเรียนผู้นำก็เหมือนกับครอบครัวใหญ่มีผู้อยู่เป็นชุมชน 1 เท่าที่อยู่ ก็คงอยู่กันอย่างสำราญเหมือนกับที่ราชธานีอโศก ปิดก็เหมือนกับครอบครัวอยู่ในนี้ คนที่เข้ามาตกอยู่ในนี้ในขณะที่ไปไหนไม่ได้เพราะว่าถูกกำหนดไม่ให้เคลื่อนย้ายออกจากที่แล้วล็อคดาว ใครอยู่ที่ไหนก็อยู่ที่นั่น ก็มีคนต่างประเทศคนต่างจังหวัดต่างถิ่นที่ตกอยู่ในราชธานีอโศกตอนนี้ก็มีไม่ใช่น้อย ก็เลยอยู่กันอย่างสุขสำราญไปเลย แต่ละคนจะรู้สึกอย่างไรคงได้ถามกันคนที่ตกค้างอยู่ในช่วงโควิด มีทั้งคนที่อยู่ต่างประเทศแล้วมาเมืองไทย มีคนต่างประเทศจริงๆมีคนต่างชาติ แล้วก็มีคนไทย ที่ไปอยู่ต่างประเทศแล้วก็กลับมาในช่วงระยะเวลานี้พอดีอยู่ที่นี่ เมื่อตอนท้ายหายไปแล้วคงจะได้ ก่อนจะไปก็สัมภาษณ์ไปหน่อยว่าเป็นอย่างไร ตกอยู่ที่นี่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งจะกี่วันกี่เดือนกี่ปีก็ยังไม่รู้เลย จะเกิดความรู้สึกอย่างไรได้รับความรู้อย่างไรคงจะได้เปิดเผยกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 17:17:43 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 05:07:16 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 13:57:57 )

ช่วงที่ไม่มีศาสนาพุทธเลย เป็นช่วงที่คนเลวร้ายที่สุด 

รายละเอียด

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ในศาสนาพุทธเรามีผู้รู้ มีผู้เรียน มีผู้ประกาศอธิบายมา มาถึงยุคนี้เป็นยุคกึ่งพุทธกาลของพระพุทธเจ้าสมณโคดม มันเสื่อมมากเลย เสื่อมมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงกึ่งพุทธกาล 2,500 พุทธกาลของพระสมณโคดมจะมี 5,000 ปีอันนี้เป็นเรื่องแน่นอน ไม่ใช่อาตมาเป็นผู้รู้แต่ผู้รู้ท่านอื่นท่านบอกกันมาต่อๆกัน ว่า ศาสนาพุทธของพระสมณโคดมจะมีอายุถึง 5,000 ปี จากนั้นโลกทั้งโลกจะว่างจากศาสนาพุทธไปเรียกว่าพุทธันดรเป็นช่วงที่ไม่มีศาสนาพุทธเลยเป็นช่วงที่คนเลวร้ายที่สุด 

เป็นกลียุคที่คนจะฆ่ากันทำร้ายกันคือคนชั่วจัดเต็มไปหมดจนศาสนาพุทธช่วยอะไรไม่ได้เลย ไม่มีฤทธิ์พอจะช่วยคนชั่วเลวนั้นได้ในยุคนั้น ยุคนี้ก็ร้ายแรงไปเรื่อยๆคนไม่รู้หรือคนทำชั่วทุกวันนี้ แม้แต่ในชาวพุทธหรือแม้แต่ในคนที่เคยเป็นพุทธ แล้วก็ไม่นับถือพุทธขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกล่าวว่าจะไม่มีศาสนา ถึงขั้นจะไม่มีชาติ ไม่มีศาสนา ไม่มีพระมหากษัตริย์ เขากล้ากล่าวได้ถึงปานนี้ก็ตาม ก็เป็นความนึกคิดของเขา เป็นทิฏฐิของเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่จะเป็นโทษเป็นภัยของสังคมมนุษยชาติ 

ที่มา ที่ไป

พิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2566 วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ที่บวราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2566 ( 17:30:34 )

ช่วงบทสวดมนต์ ท่อนสังฆานุสสติ มีคู่แห่งบุรุษ

รายละเอียด

เป็นโสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล อรหัตตมรรค อรหัตตผล

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 66  วันจันทร์ที่26 สิงหาคม2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 19:16:52 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:02:00 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 14:15:42 )

ช่วงปัจจุบันยาวะกับยามะ

รายละเอียด

อาตมาพูดของอาตมา อาตมาใช้ของอาตมา คุณคือคุณแล้วคุณจะเข้าใจอย่างอาตมาใช้อย่างอาตมามันยังไม่ได้หรอก คุณก็พูดถูกแล้ว คุณเข้าใจก็ยังไม่ได้แล้วจะมาใช้อาศัยอีกมันเป็นความเป็นไปไม่ได้เลย ก็เข้าใช่แล้ว…คุณเข้าใจแต่คุณก็ยังสับสนไม่เข้าใจ เริ่มเข้าใจ สภาวะที่เป็นอย่างที่พูดนั้น พูดอย่างหนึ่งสภาวะก็อย่างหนึ่ง คุณเข้าใจ แต่ก็ยังทำไม่ได้ก็เลยไม่แม่น หากทำได้ก็ไม่สงสัย ก็หัดทำปัจจุบันที่ตัวเอง พยายามที่จะไม่เอาจุดเล็ก เข้าใจความหมายของคำว่าปัจจุบันที่ได้ ปัจจุบันจะมีความต่างกับอีก 2 คำคือคำว่าอดีตกับคำว่าอนาคต ก็ต้องทำใจให้ได้ว่าสภาวะของอดีตกับสภาวะของอนาคตนั้นมันไม่ใช่ปัจจุบัน เพราะฉะนั้นปัจจุบันของคุณจะทำให้มันยาว ยาวะ  ให้มันยาวมีความต่อเนื่องของปัจจุบันไป เช่นคุณสนใจลูกแตงโมคุณก็แตงโมแตงโมแตงโมแตงโมของคุณต่อไปอีกหลายวินาทีเป็นนาทีเป็นชั่วโมงก็แตงโมไม่ไปไหนอันนี้ก็ ยาวไปเรื่อยๆ หรือคุณจะไม่ให้มันยาวก็เป็นช่วงๆยามะ ช่วงหนึ่งสักสองวิ ห้าวิ แล้วไม่ต่อก็จบ แต่ถ้าต่อก็เป็น ยาวะ ถ้าไม่ต่อก็เป็นยามะ เท่านั้นเอง  นี่เขาก็ไปเถียงกันในวินัย ภิกษุจะเอายาไว้กับตัวเองได้ไม่เกิน 7 วันก็เป็นยามะ แต่สิ่งที่เก็บได้เกิน 7 วันก็คือ ยาวะ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 11:27:14 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:17:25 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 13:59:03 )

ช่วงพุทธันดรกับช่วงกลียุค

รายละเอียด

ส่วนพระสมณโคดมนี้ เป็นหลังสุดที่จะไม่มีพระพุทธเจ้าอีกแล้วต่อไปนี้ หมดอีก 5,000 ปีนี้ ศาสนาพุทธจะไปเป็นช่วงพุทธันดร เป็นช่วงที่ว่างจากศาสนาพุทธไปอีกนาน นานเท่าไหร่ไม่รู้ เพราะจะเกิดกลียุค หลัง 2,500 กว่าปีไป จะเลวร้ายไปเรื่อยๆ โลกจะเลวร้ายจะฆ่าแกงกัน นี่มันเตรียมระเบิดปรมาณูไว้เดี๋ยวมันก็พลิกล้างโลก ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไร รุ่นต่อไปก็จะกดดันเพิ่มขึ้น ต่างคนต่างหมกสร้างอาวุธต่างๆ มันจะร้ายแรงกว่าไอ้ที่มันคิดได้อยู่เดี๋ยวนี้ มันจะคิดให้ยิ่งร้ายแรงไปเรื่อยๆ เลย ทิ้งลูกเดียวประเทศทั้งประเทศนั้นหมดเลย กวาดทิ้งหมดเลยตายเรียบหมด ไปเรื่อยๆ ตอนนี้พวกเรายังไม่ถึงกาละนั้น แต่ในยุคนั้นพระพุทธเจ้าไม่มาเกิด เพราะเสียของ เพราะจะโปรดคนได้แค่นี้ มาฆบูชาก็ได้ 1,250 รูปแค่นี้ 

อย่างอาตมาไม่เกี่ยวเลยก็ยังไม่ใช่พระพุทธเจ้าก็ได้อย่างพวกคุณ อรหันต์ยังไม่รู้ตัวเลย ใครเป็นอรหันต์บ้าง สรุปยังไม่รู้ตัวเลย แต่ก็มีอนาคามีเยอะ อนาคามีแก่จนเป็น อรหัตตมรรค จนเป็นพระอรหันต์ก็ไม่รู้ตัวเพราะสรุปไม่เป็น อาตมาก็ไม่เก่งกว่านี้ที่จะบอก เพราะฉะนั้นก็เป็นไปตามยุคสมัย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาวันมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 14:37:30 )

ช่วงวิกฤติโควิดปฏิบัติงานภายในที่เป็นประโยชน์ที่ควรทำ

รายละเอียด

เราก็ปฏิบัติงานเราออกไปปฏิสัมพันธ์กับข้างนอกไม่ได้มันเป็นข้อจำกัดในเหตุการณ์มันบังคับให้เราไปทำไม่ได้ เราก็ทำกรรมกิริยาภายในของเรานี่แหละ งานภายในของเราที่มันจะต้องทำอยู่แล้ว เราก็ทำงานนะ ต้องคิดให้ดีก็ยิ่งดีเราก็ยิ่งมีเวลาจะทำงานส่วนตัวส่วนในของเราให้เต็มที่ งานจัดสร้างสรรงานผลิตอะไรที่ก่ออะไรของเรา ไม่มีอะไรก็เช็ดปัดกวาดถูทำ 5 ส.ในบ้านตัวเองเลย จะซ่อมแซมจะแก้ไข ตามที่เราประสาช่าง ก็เป็นโอกาสที่เราจะต้องได้ทำไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคนอื่น เราก็ทำในสิ่งที่ควรทำ มันก็เป็นประโยชน์ ไม่ใช่จะสิ้นไร้ไม้ตอก อั้นตู้ที่เราจะทำอะไรไม่ได้ มีเรื่องราวเยอะแยะไปที่เราจะต้องทำ ไม่มีอะไรจะทำก็นอน พักผ่อน พักผ่อนพอแล้วก็ลุกขึ้นมาหาเรื่องทำ หางานที่ควรทำ จะเป็นประโยชน์เป็นสิ่งที่รังสรรค์ เราก็ทำกันไป 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 16:47:54 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:01:19 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 14:00:13 )

ช่วงเวลาใดเป็นพุทธันดร

รายละเอียด

จึงไม่ใช่“ศาสนา”ที่จะมีอยู่ใน“กาลของโลก”ประจำโลกนิรันดร มีบางช่วงที่เป็น “พุทธันดร” หมายความว่า “ระหว่างกาลเวลาช่วงใดที่ไม่มีศาสนาพุทธอยู่เลย  ช่วงนี้แหละคือ “พุทธันดร” เป็นช่วงที่โลกกาละนั้น“ไม่มีศาสนาพุทธ”

คนมีกรรมเป็นของของตน จัดการกรรมของตนอยู่กับกาละ ผู้รู้จัก kamma and time of continuum นี่เป็นสูตรของอาตมา แต่สูตร ไอสไตน์ คือ  Space and time of continuum เขารู้จักวัฏฏะ พลังงาน continuum ที่สังเคราะห์สังขารต่อเนื่องทุกปัจจุบัน continuum คือสันตติ ปัจจุบัน ใน continuum ของ Space and Time นี่คือ ทฤษฎีของไอสไตน์ อาตมาสรุปว่า Kamma and Time of continuum 

ในโลกทุกกาละนั้นมีแต่ศาสนา“เทฺวนิยม”ที่ไม่ใช่พุทธ คือ มีแต่ศาสนาที่เป็น“โลกียธรรม”ทั้งหลายมากมายหลากหลาย ศาสนามีอยู่ในโลก เรียกว่าในโลกตลอดกาลจึงมี“เทฺวนิยม” ประจำโลก ไม่ขาดหายไปจากโลกในกาละไหนๆเลย มี“ศาสดา เทฺวนิยม”ในทุกยุคทุกสมัย แข่งกันมากมายหลายองค์ ต่างแยกเป็น“ศาสนาเทฺวนิยม”ในยุคเดียวกัน คนละศาสนามากหลายองค์ ซึ่งต่างแยกกันคนละศาสดา ทุกศาสดาล้วนมี “โลกียธรรม” ยังไม่มี      "โลกุตรธรรม"ทั้งนั้น ดังที่เห็นๆกันยืนยันอยู่แม้ปัจจุบันนี้ไง!

มีศาสนาใหม่ที่จะขึ้นมาคือศาสนาบาไฮ ของพระบาฮาอุลล่าห์ แต่อาตมาบอกเลยว่าไม่ขึ้น และมีศาสนา static อย่างศาสนาอิสลาม เชื่อแต่พระเจ้าอย่างเดียว จนอีกนานกว่าจะหลุดพ้นจากความแน่นแข็งตรงนั้น จะเห็นได้ว่าที่กำลังเกิดสงครามตอนนี้ก็เป็นสายอิสลามทั้งนั้น สายที่เขารู้จักตัวตนขึ้นมาเรื่อยๆ ก็จะค่อยๆ เลิกมา พวกไม่รู้จักตัวตนจะเป็นอย่างนี้อีกนานแสนนานและบังคับเขาไม่ได้ด้วย พูดอย่างไรเขาก็ไม่รู้เรื่อง ดีไม่ดีก็เป็นพิษเป็นภัยแก่เราด้วยถ้าพูดมากๆเดี๋ยวโดน เพราะฉะนั้นก็ต้องระมัดระวัง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 32 ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาที่มีอยู่ประจำโลก วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2565 ( 14:39:09 )

ช่วงแสวงหา 6 ปี ไม่ใช่การปฏิบัติธรรม

รายละเอียด

เราเป็นผู้ชื่อว่า โชติปาละ ได้เคยกล่าวกับพระสุคต พระนามว่า กัสสปะ ว่า  “การตรัสรู้เป็นของได้โดยยาก   ท่านจะได้จาก โพธิมณฑลที่ไหน  โพธิญาณท่านได้ยากอย่างยิ่ง”   ด้วยผลแห่งกรรมนั้น  เราได้บำเพ็ญทุกกรกิริยาเป็นอันมาก สิ้นเวลา6ปี   เราได้ถูกบุรพกรรมตักเตือน (ปุพพกัมเมนะ  โจทิโต)  จึงแสวงหาโพธิญาณโดยทางผิด   เรามิได้บรรลุการตรัสรู้โดยทางนั้น   บัดนี้เราเป็นผู้สิ้นบาปและบุญ (ปุญฺญปาปปริกฺขีโณ). เป็นผู้ไม่มีอาสวะ...ฯลฯ 

ที่มา ที่ไป

พระไตรปิฎกเล่ม 32 ข้อ 392,ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 01 สิงหาคม 2562 ( 21:37:17 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:03:16 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 14:16:41 )

ช่วยกันขยายผลแพร่มังสวิรัติไปสู่มนุษยชาติ

รายละเอียด

ที่หนูน้ำมนต์ถามมา หลวงปู่พยายามอยู่แล้ว ก็ขอตอบแค่ว่าทำอย่างหลวงปู่พาทำนี้ก่อน ใครที่จะฉลาดกว่าหลวงปู่หรือว่ามีมุมแง่นัยยะสำคัญดีกว่า ก็มาช่วยกันส่งเสริมให้เกิดขยายผล แพร่มังสวิรัติไปสู่มนุษยชาติ มันจะได้ลดการฆ่าสัตว์ การทำร้ายสัตว์ แล้วคนก็จะมาอ้างว่าแล้วสัตว์มันจะท่วมโลกมันก็จะอยู่อย่างแออัด จะทำให้พวกเรามีที่อยู่ลำบากซึ่งไม่ต้องกลัวหรอก สัตว์มันกินกันและกัน ไม่ต้องกลัว มันกินกันและกันเก่งกว่าคนไปกินสัตว์ 

จำนวนพลเมืองคนน้อยกว่าพลเมืองสัตว์อย่างเทียบกันไม่ติดหรอก เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่คุณหลงไป เอาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาพูด อาตมาว่าอย่าเพิ่งไปกังวลไปห่วงเรื่องแค่นั้นเลย มาเข้าใจสิ่งนี้ให้ดีๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 32 วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 มีนาคม 2564 ( 21:41:13 )

ช่วยกันคัดค้านนโยบายทำลายชาติของรัฐบาลเลว

รายละเอียด

ก็เป็นการออกความเห็น ก็เชิญ อาตมาก็ว่า ไม่น่านิ่งดูดายสำหรับสิ่งที่มันจะเกิดสิ่งที่ไม่ดี ไม่ชอบมาพากลอะไรก็ช่วยกันจะคัดค้านก็ทำ หลักประชาธิปไตยพวกเราชาวไทยไม่รุนแรงอยู่แล้วใช้เหตุใช้ผล ใช้หลักฐาน ใช้ความจริงอะไรๆ มาสู้กัน ก็เชิญ 

อาตมาก็อายุ 90 กว่า จะหาว่าแก้ตัว ก็ไม่เชิงหรอก ก็คิดว่าน่าจะให้พวกเราช่วยกันทำ เหลือบ่ากว่าแรงอย่างไรก็ค่อยดูกันในอนาคตนะ  ตอนนี้ก็ดำเนินกันไปดูดีอยู่ แต่มันก็ไม่ทันใจคนที่ใจร้อน อยากให้เห็นผลเร็วๆ ให้มันรู้ดำรู้แดงกันสักที อะไรอย่างนี้ พวกชอบดูมวยน็อค แต่พวกชอบดูมวยลีลานี้ โอ้โห เก็บคะแนน ได้ทีละ 1 คะแนน 2 คะแนน 5 คะแนนไปเรื่อยๆ เก็บคะแนนกว่าจะครบ 5 ยกหรือ 12 ยก ชนะคะแนนกันสวย ได้ดูกันเต็มอิ่ม ส่วนมวยน็อคนั้นได้ดูกันเต็มแรง น๊อคขึ้นปั๊บ 5 วินาทีน๊อค เสียดายสตางค์บางทีราคาที่ตั้งหลายพันหลายหมื่น ไม่ถึงกี่วินาที ตายๆๆ น็อคแล้ว นอกนั้นได้ดูแต่คู่รอง คู่เอกน๊อคไม่ถึงกี่วินาทีแย่เลย อ้าว ก็สารพัดอธิบายผสมไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ผู้จบกิจ 4 ประการเป็นผู้อยู่เหนือกาละได้ วันพุธที่ 25 ตุลาคม 2566 วันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2567 ( 03:02:05 )

ช่วยกันป้องกันโควิด ประมาทไม่ได้

รายละเอียด

ความรู้ของชาติอื่นก็เป็นความรู้ของชาติอื่น ไม่ใช่ของชาติไทย ก็เอามาตรวจเปรียบเทียบตรวจสอบความเป็นจริง จริงๆ ประเทศไทยตอนนี้ก็ประมาทไม่ได้เลย รู้สึกว่า covid มันเก่ง ดูตามสถิติแต่ละวันมันเพิ่ม เพราะฉะนั้นประมาทไม่ได้ ก็ขอให้กำลังใจ ให้สติแก่ผู้ที่ท่านทำงานอยู่อย่างหนัก ก็ต้องทำยิ่งขึ้นแหละ ให้กำลังใจ ต้องพัฒนา ต้องพยายามช่วยกันมากยิ่งขึ้น เพราะว่ามันดูตามเป็นจริง วันนี้ก็ 1,700 กว่าคน ที่ได้รับเชื้อ แต่ก็ยังพอไปได้ตรงที่ยังรักษาประคอง การตายยังไม่ทวีมากมายนัก แต่มันก็ไม่ดี คนไข้เพิ่ม เตียงคนไข้ก็ถูกใช้เพิ่มเป็นภาระ

สรุปแล้วก็คือ มันประมาทไม่ได้ ถ้าจะว่าจริงๆ จะต้องเก่ง ต้องมีความสามารถ มีความเก่งเพื่อที่จะรับมือกับโควิดงวดนี้ เพิ่มเติมขึ้นที่มันรุก มันไม่ไว้หน้า ไม่รู้ใครเป็นใครชาติไหนมันไม่ไว้หน้า มันมีหน้าที่ทำงานของมัน จะว่ามันโหดเหี้ยมก็ไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม ผู้อยู่ป่าเป็นผู้เสื่อมผู้อยู่เมืองเป็นผู้เจริญ วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 21:15:33 )

ช่วยกันส่งเสริมให้เมืองไทยดีเด่นทางกสิกรรม

รายละเอียด

ปราชญ์ทั้งหลาย ผู้รู้ทั้งหลายช่วยกันหน่อย มาทำสิ่งที่ควรจะต้องสนับสนุนส่งเสริมกันนี้ คือส่งเสริมกันให้รู้ว่าเมืองไทย จะเอาเด่นเอาดีทางกสิกรรม ในเรื่องของประมงหรือปศุสัตว์ก็เป็นเรื่องรอง เป็นเรื่องเคียง อาศัยกันไปสำหรับผู้ที่ยังต้องอาศัย สำหรับผู้ที่ยังติดยึดอยู่ ถ้าจิตมนุษย์ไม่ต้องไปทำอะไรกับสัตว์ สัตว์ก็ปล่อยตามยถากรรมเขา เพราะสัตว์มันมีจิตนิยาม มันมีรักมีชัง มันมีผูกพยาบาท มันมีแก้แค้น มีความรัดรึง ก็จะเสียพลังงานซ้อน แต่ถ้าพืชก็ไม่มีปัญหา อาศัยพืชเป็นอาหาร ไม่ต้องไปอาศัยสัตว์เป็นอาหารได้อย่างนี้ก็ลึก ไกล แต่ก็ต้องเดินไปสู่จุดสูงสุด ผู้ใดได้แล้วก็นำพากันไป ผู้ที่ยังไม่ได้ก็ค่อยๆศึกษาฝึกฝนขึ้นมาช่วยโลก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 6 วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม 2564 แรม 5 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2564 ( 13:43:58 )

ช่วยกันอย่าให้ออกกฎหมายทำแท้งได้

รายละเอียด

เราออกไปไล่รัฐบาลตั้ง 3-4 รัฐบาล เรื่องทารกการฆ่าคนมันเป็นเรื่องเอามาเฮ็ดไร้ศีลธรรม ทั้งระเริงไปในกาม ต่างๆนานาพวกนี้ แค่ 3-4 อย่างก็เหลือแล้ว เมืองไทยเป็นเมืองพุทธพระพุทธเจ้าละเอียดลออเรื่องกรรมวิบาก เรื่องกามพวกนี้มากเลย ชาติไหนไม่มีศาสนาไหนเทียมเท่าแม้แต่กามก็เถอะ ศาสนาพระพุทธเจ้านี่สุดยอด อย่างไรก็ใครมีอะไรจะออกไปทาง Social Media จะเพิ่มเติมก็ขยายผล ให้มีฤทธิ์มีอำนาจเหมือนธนาธรเขาใช้บ้าง ธนาธรเขาเก่งนะใช้โซเชียลมีเดียได้เก่งได้ผล ของเราไม่ค่อยได้อันนั้นลองพยายามดูหน่อยพวกเราถ้าขยันช่วยกัน 

ขอย้ำว่าทางรัฐบาลทางรัฐมนตรีก็ช่วยกันเรื่องนี้อย่าปล่อยปละละเลยเลย อย่าเพิ่งให้มีกฎหมายทำแท้งเลยสรุป เพราะว่ามันจะไปกันใหญ่เลยแล้วมาโอดโอยเป็นปัญหาสังคมที่มากมายทั้งเด็กทั้งผู้อำนวยการละเมิดเด็กม 2 ม 3 ก็เป็นเรื่องราวอยู่ในสังคมเป็นข่าวอยู่ขณะนี้ มันไม่ได้เรื่องหรอกยิ่งจะเป็นปัญหาบานปลาย ถ้าหากอันนี้ไม่ปล่อยปละละเลยให้เข้มไว้อย่าให้ออกกฎหมายทำแท้งได้ มันจะช่วย กดทางนี้ไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นมันจะบานปลายมันจะเสื่อม กฎหมายหรือว่าสังคมจะเบาลงจางลง ช่วยกันหน่อยเถอะ ผ่านแล้วหรือ?.

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาให้ปัญญาคนไร้ศรัทธาต่ออโศก วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:46:44 )

ช่วยกันเลือกเฟ้นพระดีจับสึกพระปลอม

รายละเอียด

มันเป็นมันมีจริงๆคนที่พูดมาไม่ได้พูดอะไรเลยแล้วมันก็เลอะเทอะ ศาสนามันผ่านมา 2500 กว่าปีแล้วก็ย่อมหย่อนยานและเสื่อมไปแล้วก็น่าเห็นใจมหาเถรสมาคม ไปบังคับไปจำกัดเกินก็ไม่ได้ ก็ได้ข้อจำกัดประมาณนึง แต่คนก็ เฉโก ฉลาดเรื่องมันก็มาจนได้แล้วก็แอบเลี่ยง ทำปลอมเป็นนักบวช ถึงจะไม่ปลอมแต่ว่ากิเลสมันพาให้เป็นก็มีเรื่องราวอยู่เสมอ ก็เลือกเฟ้นสำหรับผู้ที่ใส่ใจก็ช่วยกัน สามารถทำให้สิ่งที่ไม่ดีหยุดไปเลิกไปได้ก็ไม่ดี หรือแม้แต่ทางบ้านเมืองทางกฎหมายจะช่วยจับสึกบ้างจับเข้าคุกบ้างเพราะว่ามันไปทำลายสิ่งที่

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 19:32:08 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 07:08:10 )

ช่วยคนนั้นดีแต่ต้องประมาณตน ไม่งั้นจะตายไปด้วยกัน 

รายละเอียด

จริง ช่วยเขาช่วยเขา แล้วตัวเองก็ช่วยตัวเองไม่ได้ ตายด้วยกันพร้อมกับคนที่ช่วย คนตกน้ำตัวเองก็ช่วยไม่ไหว ตกน้ำไปด้วยกัน ต้องประมาณตน อย่าอวดดีอวดเก่ง เราจะสามารถทำ ตัวเราก็เท่านี้ ตัวเราเท่าใด จริง มีใจอยากจะช่วยคน มันเป็นจิตที่ดี เป็นจิตประเสริฐ แต่ต้องประมาณตน ถ้าประมาณตนไม่ได้พอดี ตายไปด้วยกัน แต่ถ้าประมาณตนได้พอดี จะช่วยกันได้ นี่ก็เป็นนัยยะสำคัญที่จะต้องรู้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรื่องง่ายที่แสนยากของการเพาะพันธุ์จิตอรหันต์ วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 ธันวาคม 2565 ( 13:19:01 )

ช่วยด้วยการตำหนิแล้วตำหนิอีกเพื่อให้รู้ชัด

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนที่โกหกทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองโกหก พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าคนคนนี้น่าคบหายาก เหมือนอย่างธัมมชโย โกหกทั้งๆ ที่รู้ อุตตริมนุสสธรรมที่มีในตน เขาจับเท็จได้ ออกมาทางสื่อสารมวลชนอย่างชัดเจนแล้วด้วย แต่ก็ยังหน้าตาเฉย ยังโกหกหลอกลวงคนต่อไปอย่างนั้น สิ่งเหล่านี้อาตมาไม่ได้พูดด้วยความเกลียดชัง แต่สงสารทั้งมหาบัวและธัมมชโย ก็ได้แต่บอกความจริงแล้วสงสาร แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยช่วยด้วยการตำหนิให้รู้ชัด ตำหนิแล้วตำหนิอีก เราจะตำหนิแล้วตำหนิอีก พระพุทธเจ้าบอกว่าเราจะขนาบแล้วขนาบอีกตำหนิแล้วตำหนิอีกไม่หยุดมือ อานนท์ ผู้มีมรรคผลย่อมทนอยู่ได้ ถ้าไม่มีมรรคผลอยู่ไม่ได้หรอก เราจักขนาบแล้วขนาบอีก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมในงานพิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2564 วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2564 ( 15:55:48 )

ช่วยตัวเองให้พ้นทุกข์ถึงจะช่วยคนอื่นได้จริง

รายละเอียด

คุณอย่าไปมีนิสัยที่จะไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเขามาก พระพุทธเจ้าว่า อย่าเที่ยวไปทำนาคนอื่น ให้ทำนาของตนก่อน ทุกคนนั้นมันมีวิบาก มีงาน มีกิจ มีเรื่องราวของเขาแต่ละคนแต่ละคน แล้วเขาก็ไม่รู้ทุกข์ ไม่รู้สมุทัย ไม่รู้เหตุแห่งทุกข์ ไม่รู้วิบาก ไม่รู้กรรมอะไรๆ ต่างๆ เขาก็เป็นไปตามวิบาก 

คุณมาเรียนรู้ตนเอง พอสมควรแล้วคุณจะได้ไปช่วยเขาได้ เอาตอบอย่างนี้ก่อนก็แล้วกัน “จะช่วยยังไงได้ครับ” ช่วยตนเองก่อน สรุปแล้วคุณช่วยคนเองให้เป็นผู้รู้จริงๆ ก่อน ไม่อย่างนั้นมันเรื่องเยอะคุณจะไปช่วยใครไหวเหรอ จะไปช่วยใคร ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ตัวเอง ช่วยตัวเองยังไม่รอด แล้วจะไปช่วยใคร ไม่ได้ ต้องช่วยตัวเองให้พ้น ให้จบกิจของการช่วยตัวเองแล้ว ถึงจะไปช่วยคนอื่นได้ เป็นอรหันต์แล้วช่วยคนอื่นต่อ นั่นคือกิจที่สมควรที่สุด 

ต่อมาประเด็นสุดท้าย การไม่เชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลก ตอบไปแล้ว ไม่บาปหรอก เขาก็เชื่อของเขา เราก็เชื่อของเรา 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ นิยามของเศรษฐศาสตร์ฉบับโพธิรักษ์ วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2566  ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2567 ( 17:17:32 )

ช่วยที่ควรช่วย 

รายละเอียด

แล้วจิตวิญญาณยิ่งคล่องแคล่ว จิตวิญญาณยิ่งปราดเปรียว จิตวิญญาณยิ่งผ่องใสสะอาด สว่างแจ้ง รู้หมดโลกเป็นยังไง หมุนเร็วหมุนช้า มีสะดุดยังไงรู้หมดก็ช่วย ช่วยสิ่งที่ในโลกที่มันน่าช่วยที่ควรช่วย เพราะฉะนั้นจึงเป็นผู้ที่อยู่อย่างเสียสละ เพิ่มพูนการเสียสละช่วยคนที่ควรช่วยไปเรื่อยๆ อันนี้โพธิสัตว์จะรู้ดีเลย เป็นผู้ที่พัฒนาเพิ่มพูนการเสียสละ เพราะมันเยอะเหลือเกิน คนที่ควรจะช่วย ตกอยู่ในภาวะ 

คนที่จะช่วยนั้น คนที่พระพุทธเจ้าสุดท้ายต้องให้ประหารทิ้ง ช่วยไม่ได้ต้องให้ประหารทิ้ง ในวิญญาณาหารข้อที่ 4 คือคนมาอยู่ มาเข้ารีตศาสนาพระพุทธเจ้าแล้ว กลายมาเป็นโจรปล้นศาสนา เพราะฉะนั้นจึงเป็นผู้ที่จะต้องประหารทิ้ง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประกาศสิทธิสำเร็จสูงสุดคือสิทธัตถะ วันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 สิงหาคม 2566 ( 17:34:42 )

ช่วยประกาศสิ่งที่ถูกต้องไปเกี่ยวกับพระอรหันต์

รายละเอียด

อันนี้คงจะจริงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วตกกระไดพลอยโจน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีฤทธิ์ไ ม่มีอำนาจ ไม่มีประสิทธิภาพตัวเองพอเพียงที่จะดึงตัวเองขึ้นมายังไม่ได้เลย ตัวเองก็ต้องจมอยู่อย่างนั้น อย่าไปว่าจะไปช่วยศาสนาองค์รวมให้ดีขึ้นได้ ตัวเองยังดึงออกมาจากตรงนั้นไม่ได้เลย ผู้ใดที่ปลีกออกมาได้คนนั้นคือคนเก่งขึ้นมาได้นี่ก็ต้องช่วยกัน ดำเนินสิ่งที่ถูกต้อง ช่วยประกาศสิ่งที่ถูกต้องไปให้ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2563 ( 09:55:50 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:02:09 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 14:17:17 )

ช่วยประเทศชาติ ก็พอใจแล้ว

รายละเอียด

เกิดมาเป็นคนที่มีประโยชน์อย่างนี้ คนที่เขาไม่รู้ว่าประโยชน์คืออะไรของมนุษยชาติ เขาไม่รู้ เขาก็ไม่แสวงหาประโยชน์นั้น แต่คนที่รู้ว่าประโยชน์คืออะไรแล้วก็แสวงหา  ประโยชน์นั้นจนได้ประโยชน์นั้น แล้วเอาประโยชน์นั้นมารับใช้โลกรับใช้มนุษย์ อาตมาเห็นว่าความรู้นี้เป็นประโยชน์แก่มนุษยชาติ อาตมาก็เอามารับใช้มนุษย์ เอามาสอนเอามาพาทำ จนกระทั่งมีคนเกิดได้ธรรมะของพระพุทธเจ้า เกิดเป็นสังคมชุมชนมีวัฒนธรรม มีพฤติกรรม เป็นสังคมกลุ่มชาวอโศก ที่เป็นบวรหรือไม่ถึงขั้นบวร เป็นชุมชนชาวอโศกที่อยู่ในสังคมประเทศ ทั่วประเทศไทย 

อาตมาเกิดมามีชีวิตขนาดนี้ก็ได้ช่วยมนุษยชาติ ช่วยประเทศชาติ ก็พอใจแล้ว เกิดมาจะยังมีชีวิตอยู่เพื่อศึกษาให้รู้สูงสุดเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ก็จะทำอย่างนี้ไปจนถึงวาระนั้น นอกจากไม่ไหวจะรีไทร์ก่อน แต่อาตมาคิดว่าไม่รีไทร์ก่อน ขออภัยอาตมาไม่สุขไม่ทุกข์แล้วในแต่ละชาติ เกิดมาในชาติต่อไปก็ไม่สุขไม่ทุกข์แล้ว

แล้วอาตมายืนยันอันหนึ่งมันเป็นบารมี อาตมามีบารมีที่จะได้เสวยบารมีนี้ไป อย่างชาตินี้ อาตมาเป็นโพธิรักษ์มีบารมีขนาดนี้ มีบารมีขนาดที่ว่าชีวิตนี้ไม่เรี่ยไรเป็นขอทานเด็ดขาด แล้วอาตมาก็มีกินมีใช้มีทำประโยชน์คุณค่าต่างๆนานาอยู่ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 53 ประโยชน์อันสูงสุดจากศาสนาที่มนุษย์พึงได้ วันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2565 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 ธันวาคม 2565 ( 13:36:50 )

ช่วยผู้ที่แสวงหาให้เกิดภูมิปัญญาไม่ใช่หลับตา

รายละเอียด

พวกหลับตาอาตมาก็จะได้ย้ำซ้ำพูดด้วยความสงสาร น่าสงสารสังเวชจริงๆ ท่านจะจมไปอีกนานเท่าไหร่  ที่จะติดยึดอยู่กับการหลับตานี่หนอ ก็เอาก็ช่วยกันไป 

ผู้ที่แสวงหาไม่มีอคติไม่ติดยึดจมอย่างพวกนั่งหลับตา ก็จะค่อยๆเกิดภูมิปัญญาว่ามันน่าลองดูอย่างนี้ หรือเกิดปฏิภาณว่าอย่างนี้แหละใช่  ถ้าอย่างนั้นยังหลงอยู่เลย มันสมบูรณ์แบบนั้นมันจะเป็นปัญญาปฏิภาณที่ฉลาดเฉลียวเลย มันมีเหตุปัจจัยอะไรต่ออะไรที่อาตมาขยายความแล้วมันชัดมันครบ ผู้ที่มีปฏิภาณปัญญาเกิดหลับตามันพร่อง มันไม่ครบ

ก็หลับตาแล้วตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มันก็ไม่มีแล้ว อันนี้มันก็ไม่อยากตื่นชัดอยู่แล้ว ยากจะบอกว่าหลับตาแล้วจะเกิดปัญญา อาตมาก็อ้างอิงที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้หลายแห่งหลายหนว่าปัญญาจะเกิด แบบนั่งหลับตาแล้วโผล่ขึ้นมานั้น มันไม่ใช่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ผู้ไม่รู้ตัวเองไม่รู้ทั้งหมด ผู้รู้ทั้งหมด รู้ตัวเอง วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 เมษายน 2564 ( 11:33:55 )

ช่วยพวกหลับตาให้เกิดสัมมาทิฏฐิ

รายละเอียด

อเทวนิยมมีพระพุทธเจ้าองค์เดียวจริงๆ โดยที่ท่านไม่บอกนะว่าท่านเป็นหนึ่ง แต่เทวนิยมนั้นแยกพระเจ้ามากมาย เทวะจะมีนิกายมากมายจนกระทั่งไม่นับนิกายกันเลย เรียกว่าอย่าเจอกันนะ ถ้าหากเจอกันก็จะฟาดฟันกัน ซึ่งมันผิดไปหมดแล้ว คนเราจะไปฟาดฟันกันทำไม ช่วยกันต่างหาก ไม่มีฟาดฟันกันมีแต่ช่วยกัน เขาเป็นศัตรูเราเราก็ช่วยให้ศัตรูเจริญได้ดีๆ โดยเฉพาะให้จิตของเขาเป็นสัมมาทิฏฐิให้ได้ ถ้าเป็นสัมมาทิฏฐิแล้วก็จะไปได้ ถ้ายังไม่ สัมมาทิฏฐิ ก็ต้องช่วยกันให้เกิดสัมมาทิฏฐิ 

เหมือนอย่างที่อาตมาช่วยพวกหลับตาให้เกิดสัมมาทิฏฐิ ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มมาก กลุ่มที่หนัก 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เรียนอาหาร 4 ให้ถึงนาม รูป ทะลุสุภกิณหา วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2564 ( 15:35:32 )

ช่วยสังคมโลกด้วยอนุสาสนีปาฏิหาริย์

รายละเอียด

อาตมาก็พยายามบูรณะองคาพยพ อาการ 32 นี้ต่อไป พระพุทธเจ้าท่านรู้แจ้งครบ สัตว์โลก อุตุนิยามพีชนิยาม

ความรู้ที่เอามาขยายความ ด้วยความจริงใจปรารถนาดี ให้แก่มนุษยชาติ พระพุทธเจ้าท่านมีความรู้ยอด ที่รู้อย่างประเสริฐสุดคือรู้เรื่องมนุษย์และความเป็นสังคม มนุษย์ที่ดีที่สุดสังคมที่ดีที่สุด ยอด นอกนั้นอื่นๆท่านก็เก่ง ความรู้อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหารย์คนไปติดยึดเสียผล ให้คนมามุ่งเอาอนุสาสนีปาฏิหาริย์ดีกว่า อาตมาก็ใช้ได้แต่ก็เข้าใจแล้ว อิทธิปาฏิหาริย์อาเทสนาปาฏิหาริย์นั้นไม่ใช้ ใช้แต่ อนุสาสนีปาฏิหาริย์

เราจะช่วยสังคมโลก คนที่มีสื่อสาร ตอนนี้ไม่ปิดกั้น รับกันได้เร็วไม่ว่าที่ไหน มีคุณภาพดีด้วย จะช่วยมาก อัตราความเร็วจะมีเพิ่ม เราก็ถนอมชีวิตไว้ไม่ช้าไม่นาน จะเห็นสิ่งที่ดีๆ แม้แต่ตัวเราก็พยายามพัฒนาตัวเอง ให้ตัวเองมาเป็นมวลมาช่วยเหลือเป็นตัวจักรเป็นเฟืองเป็นข้อต่อ อะไหล่ส่วนเครื่องกลเครื่องยนต์ช่วยกันคนละมุมเหลี่ยมคนละข้อต่อ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ก่อนฉัน ที่โรงเรียนผู้นำ จ.กาญจนบุรี สัปปายะ 4 ที่มีสัมประสิทธิ์ วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:13:12 )

ช่วยสัตว์แล้วมันตายโดยเราไม่เจตนาจะมีวิบากไหม

รายละเอียด

จิตเราบริสุทธิ์ จิตใจเรามีความเมตตาช่วยเหลือเขาด้วย เราไม่บาป เรามีแต่กุศลมีแต่จิตที่ดี แต่เราไปบังคับใจมดไม่ได้ มันไม่รู้หรอกว่าเราช่วยมันหรือฆ่ามัน ถ้าสัตว์มันมีไหวพริบรู้ว่าเราจะช่วยหรือเราจะฆ่า แต่ถ้ามดตัวนี้มันมีไหวพริบรู้ว่าเราจะช่วยมัน ช่วยแต่ไม่สำเร็จ มันก็จะรักเราด้วยเพราะเราช่วยมัน แต่ช่วยไม่สำเร็จก็ตาม มันก็มีสองนัยะ บังคับมันไม่ได้มันไม่รู้ แล้วก็มีเจตนาดีแล้วเราก็ทำดีนั้น ส่วนคนอื่นจะเข้าใจไม่ได้ก็ตาม หลวงปู่นี้สบายใจมีแต่เจตนาดีพยายามทำให้คนดีทุกวิถีทาง เขาจะเข้าใจผิดว่าเราไปว่าเราไปด่าเขาด้วย ต่อไปทำแรงกับเขาก็ขออภัยอยู่นะ มันจะแรงไปก็ขออภัยเขาก็ถือสาเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรไปห้ามเขาก็ไม่ได้ แต่เราจริงจังที่เจตนาเราดีอย่างบริสุทธิ์ใจ อาตมาจบที่ตรงนี้ เจตนาเป็นกรรมก็จบไม่มีปัญหาอะไรเลย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2563 ( 11:36:51 )

ช่วยอะไรก็ไม่ดีเท่ากับให้ชีวิตพัฒนาเป็นอรหันต์

รายละเอียด

ช่วยอะไรไม่ดีเท่ากับให้มีชีวิตเป็นมนุษยชาติแล้ว มันจะวนอยู่กับความสุขทุกข์ ดีๆชั่วๆ รวยๆจนๆ ชอบๆชังๆ เป็นคู่สองอยู่อย่างนี้จนกระทั่งค่อยๆลดได้ มาเป็นอรหันต์ แล้วก็ใครจะไปข้างไหนก็แล้วแต่ยังมีข้างเรียกว่า อันตา แปลว่าส่วนปลายข้างใดข้างหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าใช้อธิบายในธรรมจักรกัปปวัตนสูตร อธิบาย กาม กับ อัตตา คนก็เข้าใจได้ยาก

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 25 มิถุนายน 2563 ( 09:30:26 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:02:35 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 14:17:55 )

ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ

รายละเอียด

ทุกวันนี้ชาวอโศกเขาเฉลี่ยแล้วพวกเรานี้ ตีราคาแล้ว รับค่าตัว ทั้งที่จริงๆ ไม่ได้รับ แต่เขาประมวลเงินเข้าออก มาหารตามหลักเศรษฐศาสตร์ ประมวลว่า คนหนึ่งได้ประมาณ 35.7 บาท เฉลี่ยแล้วแต่ละคน แต่อยู่เป็นสุข ตอนนี้ประเทศไทยกำลังจะเพิ่มค่าแรงเกิน 300 กว่าบาท แต่ชาวอโศก 35.7 บาทเท่านั้น ทั้งที่ชาวอโศกแต่ละคนไม่ได้รับมีเงินเดือน 0 บาท แต่มีการรับ การรับ เรานับรายได้ที่เอามาจากสังคม เราทำงานมีร้านค้า มีสิ่งแลกเปลี่ยนเอาเงินเข้าออก เขาก็เอามาเฉลึ่ย ได้มวลของอโศก คนละ 35.7​ บาทต่อคน แต่จริงๆแล้วคนไม่ได้รับเลยเอาเข้ากองกลางหมด อย่างนี้เป็นต้น จริงๆแล้วถ้าคนในอโศกนี้ขยัน ก็ขยันทำงานควรได้รับค่าตัววันละ 300 ไหม ก็เกินได้ แต่เอาแค่ 300 มาหักจาก 35.7 ซิ ได้เท่าไหร่ ที่เหลือคือสะพัดต่อสังคม นั่นคือ ชาวอโศกช่วยเศรษฐกิจของประเทศ 264 บาทต่อคนต่อวัน นั่นคือชาวอโศก ช่วยเศรษฐกิจประเทศชาติ ให้ไปหมดเลยนะ ในบ้านราชฯนี้คนมาทำงานรับจ้าง เดือนหนึ่งเราจ่ายไปเป็นล้าน ตลอดเวลาตลอดมา ตั้งแต่ไหนแต่ไหน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 12:00:47 )

ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างจริงใจสังคมนั้นเป็นความเจริญ

รายละเอียด

อาตมาเคยเทศน์ว่า ถ้าประเทศใด สามารถที่จะทำตนเป็นกลางแล้วก็ประกาศต่อโลกเลย ว่าเราเป็นกลาง เราไม่รบราฆ่าฟันใคร ใครรุกรานเรา เราก็ให้รุกราน แต่เราอยู่อย่างกลาง และทำประโยชน์ให้ผู้อื่น 

เพราะฉะนั้นคุณที่ทำประโยชน์ ที่ทำให้แก่ผู้อื่นอยู่ แล้วเราก็มีประโยชน์ที่จริงโดยเฉพาะ 1. ประโยชน์อาหาร  2. ประโยชน์ความช่วยเหลือเกื้อกูล  ประโยชน์อาหารกับประโยชน์ความช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นอยู่อย่างแท้จริง 2 อันนี้แหละยิ่งใหญ่ที่สุดเลย 

จนทุกวันนี้ถึงโลกจะเสื่อมลงมาก โลกโลกียะมันใกล้กลียุคมันเสื่อมแล้วก็ตาม เขาก็จะยังรู้อยู่ว่า สังคมหรือประเทศใดที่มีคุณค่าประโยชน์ทางอาหารและความช่วยเหลือผู้อื่นอย่างจริงใจอยู่ อาตมาใช้คำว่าช่วยเหลือผู้อื่นอย่างจริงใจนะ คือช่วยเหลืออย่างไม่ต้องการอะไรตอบแทน ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างจริงใจ  สังคมนั้นเป็นความเจริญ เป็นสังคมสูงส่ง เป็นสังคมที่มีค่า อย่างน้อยก็สร้างอาหารให้คนอื่นเขาพึ่งพา ไม่ต้องไปพึ่งพาหรอกอาวุธ เราพึ่งอาหารนี้เป็นหลัก เราก็พุ่งแต่ความช่วยเหลือนี้เป็นหลัก จะช่วยเหลืออะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะช่วยเหลือด้านความเจ็บป่วย ช่วยเหลือด้านความบกพร่องลำบากลำบนอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งเป็นสัจจะที่พิสูจน์ได้ 

เพราะฉะนั้น ในเมืองไทยนี้ก็ตาม ยังมีพวกที่ต้องการอำนาจ ต้องการเบ่ง ต้องการ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข มันก็จะไม่หมดไปง่ายๆ หรอก แต่มันก็น้อยลงๆ และก็มีคนประชากรส่วนใหญ่เข้าใจด้วยว่า มีอย่างที่เป็นพวกไม่แสวงอำนาจ ไม่แสวงการยิ่งใหญ่ ซึ่งเห็นๆ อยู่นี่ 

ขออภัยที่อยากจะยกตัวอย่างของจริง คนจริง มันจะได้เข้าใจง่ายๆ อย่างคณะทักษิณ คณะก้าวไกล นี่ยังหลงแบบโลกียะแบบเทวนิยมเข้ามา ยาก.. เพราะฉะนั้นจะเกิดในเมืองไทยนี่มันก็เหลือเชื้ออยู่เท่านั้นเอง แต่ยาก 

แล้วอาตมาก็เห็นว่า เมืองไทยมีตัวอย่างอันสุดเลวร้าย แล้วก็ยังมีฤทธิ์มีเดชอยู่ แต่มันไม่มีสิทธิ์ที่จะมีอำนาจครอบงำประเทศไทยได้ อาตมาขอพูดโดยมั่นใจของตัวเองเลย ไม่ได้หรอก ยอมเสียเถอะ แต่เขายอมไม่ได้ เพราะกิเลสของเขาจริงๆ กิเลสมันหนา มันแน่น มันหนัก มันแน่น มันยอมไม่ได้ อย่างที่เห็นนี่ ดิ้นจนสุดดิ้นเลยนะ ดิ้นจนกระทั่งทุกวันนี้อาตมาก็เห็นเลยรู้สึกว่าเขาไม่เหน็ดไม่เหนื่อยเนาะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 42 ประชาธิปไตยโลกุตระที่มีอายะ 3 และ อธิปไตย 3 วันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2566 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 10 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2567 ( 19:46:26 )

ช่วยให้ออกมาจากสงสาร

รายละเอียด

เขาโง่ อาตมาให้ความรู้ ตำหนิสิ่งที่ถูกต้อง แต่เขาฟังไม่ได้ อัตตามานะ เขาเยอะ เขาโง่ เขาก็ว่าอาตมาเบียดเบียน อาตมามีเมตตามีสงสาร รู้จักว่าคุณตกอยู่ในสงสาร แน่นอนก็จะช่วยให้ออกมาจากสงสาร แต่คุณโง่คุณไม่เข้าใจธรรมะที่อาตมาพูดนี้ ถ้าเข้าใจก็จะรู้สึกตัวเลยแล้วคุณจะละอาย เมื่อได้ฟังสัตตบุรุษหรือได้ฟังพระพุทธเจ้าตรัส พระพุทธเจ้าตรัสสิ่งที่เป็นโลกุตรธรรม ได้ฟังโพธิสัตว์ หรือได้ฟังสัตตบุรุษพูดถึงโลกุตรธรรม คุณจะละอาย เพราะคุณได้ยึดถือมาผิดๆมานานแล้ว ถ้าใครไม่รู้สึกจะไม่มี สัทธรรม 7 

คนที่รู้สึก มีศรัทธา มีปัญญา เข้าใจ ดีไม่ดี เราละลาบละล้วงไปด่าท่านด้วย จะละอายเหนียมก่อน ต้องละอายอย่างน่ากลัว หิริโอตตัปปะอย่างแรงกล้า จะต้องถอดถอนตัวตนจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างแท้จริง สัจจะพระพุทธเจ้านี้ลึกซึ้งมาก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ทศพิธราษฎรธรรมมีจริงในชาวอโศก วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 แรม 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2565 ( 12:39:32 )

ช่วยได้เฉพาะคนที่เขาใส่ใจมีฉันทะที่จะมาเอาโลกุตระธรรม

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนถึงจะต้องวนอยู่ในโลกอันเสียเวลาที่อวิชชาที่โง่ อาตมาก็ถือว่าเกิดมาเป็นคนกับเขาคนหนึ่งในมหาจักรวาลนี้ พวกคุณแต่ละอัตภาพแต่ละอัตตาก็เป็นของของตัวเองคนคนหนึ่งเหมือนกัน นี่มาในนี้ มาเอาชีวิตทั้งชีวิตมาทางนี้เลย โอ้โห สุดประเสริฐเลย 

คนที่ยังไม่รู้งมงายอยู่กับพวกเขา ก็น่าสงสาร แต่ก็ไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร ก็ช่วยได้เท่านี้แหละ ช่วยเฉพาะคนที่เขาใส่ใจ เขามีฉันทะ มีความยินดีที่จะมาเอา ถ้าไม่มีความยินดีแล้วเลิก มีความยินดีเสร็จแล้วก็ต้องมาเรียนรู้เรื่องจิตวิญญาณ เรื่องมโนวิญญาณ แล้วก็ต้องทำจิตทำวิญญาณ ทำมโนให้เป็นมนสิการ จัดการจิตวิญญาณให้เป็น เรียนรู้จัดการตัวนี้ได้จบแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานปลุกเสกพระแท้ๆ ของพุทธ ครั้งที่ 44 พาปฏิญาณศีล 8 วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 เมษายน 2564 ( 21:01:21 )

ช่องบุญนิยมจะคุยหรือสอบถามปัญหาเรื่องใดได้บ้าง

รายละเอียด

ฟังไปอีกหน่อยเถอะคุณจะรู้ว่าคุยหรือถามปัญหาได้ทุกเรื่อง หรือไม่ทุกเรื่อง ก็ตอบนิดหน่อย ที่นี่เขาหนักไปทางโลกุตระ ปัญหาทางโลกีย์ ที่เขาถกกันเต็มไม่รู้ต่อกี่ช่องเอาออกมากันเต็ม ปัญหาแย่งลาภยศ ใครผิดใครถูกจะไปตัดสินอะไรกัน ทางเราไม่เอาด้วยแล้ว เรื่องนั้นเรื่องแบบนั้นเป็นเรื่องเด็กๆ เรื่องคนยังเยาว์ยังอ่อนเป็นพาลชน ไม่ประสีประสาทางโลกุตระเลย คนก็ทำกันเยอะแยะออกข่าวมากมายเป็นข่าวเรื่องพวกนี้ทั้งนั้น ส่วนโลกุตระนั้นเป็นข่าวที่คนฟังแล้วก็หัวเราะ ขุดมัน ไปรีบเอามันขึ้นน้ำจะท่วม เขาก็บอกว่าจะบ้าหรืออย่างนี้ก็เป็นข่าว นี่กำลังออกข่าวกันสดๆ ฟังแล้วเหมือนตลก ต้องเอาข่าวที่สังคมสนใจซึ่งเรื่องพวกนั้นเป็นเรื่องที่พวกเราผ่านกันมาหมดแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 1 วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 10 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 กรกฎาคม 2564 ( 10:30:02 )

ช่ำชองให้หยุดเร็วให้มีปัจจุบันเร็วที่สุด

รายละเอียด

อาตมาก็พูดแล้วนะว่าอาตมาอยู่กับปัจจุบันที่จุดลงไป”จิ๊ก”แล้วยกขึ้นเลยนะ เข็มแหลมปัจจุบันจุดลงไปแล้วยกเลยอาตมามีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นอะไร ไม่ยืดยาวกว่าสองจุดสามจุดนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจุดไปแล้วไม่รู้เรื่อง สัญญามีอยู่ มันก็ยังไม่เก่งที่ไม่ต่อเนื่องกันบ้างแต่ก็ฝึกอยู่ว่า ให้สัญญาเก่งขึ้นจำได้หมายรู้เก่งขึ้นได้มากขึ้น แต่อาตมาจะฝึกให้หยุดเร็ว ให้มีปัจจุบันที่เร็วที่สุด อันนี้อาตมาช่ำชอง ความจำไม่มีปัญหาหรอก วันนี้มีอะไรเก็บให้

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 27 มีนาคม 2563 ( 11:45:30 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 14:19:13 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 14:05:30 )

ช้างสารชนกันหญ้าแพรกแหลกราญหมายถึงอะไร

รายละเอียด

ขณะนี้จีนก็ยอมสีจิ้นผิงอยู่ได้ ถ้าไม่ยอมเมื่อไรก็รับรองเลย ถ้าเกิดสงครามการเมืองระหว่าง 2 พรรคของจีน เรียกว่าช้างสารชนกันหญ้าแพรกแหลกราญเลยนะ 

ทุกวันนี้จีนส่งผลผลิตออกมาให้แก่โลกใช้กินได้เยอะ ถ้าเกิดรบกันต้องเอาแรงงานไปทุ่มกับการฆ่ากันนั้น ช้างสารชนกันหญ้าแพรกแหลกราญ..ใช้สำนวนนี้เลย ประเทศอื่นๆต่างๆ นานา ก็พังไปไม่ออกเลย 

อาตมามีภูมิธรรม ไม่ได้มาบริหารสังคมใหญ่แต่ก็ผ่านมาทั้งนั้นเข้าใจทั้งนั้นเขาจะเป็นตัวอย่างให้อาตมาชี้บอกเอามาเป็นตัวอย่างได้สำหรับอาตมานั้นทำแต่ธรรมะที่เป็นโลกุตระธรรมอธิบายแล้วสร้างอันนี้ขึ้นไปยังได้รูปนิดเดียวเลยรูปร่างยังไม่มากยังเป็นเด็กขี้ตาขี้มูกเกรอะกรังอยู่เลย ยังต้องเช็ดขี้มูกขี้ตายังไม่น่าเอ็นดูเท่าไหร่เลย 

ถ้าอาตมาทำสาธารณโภคีของชาวอโศกเป็นที่น่าเอ็นดูแก่ชาวโลกเมื่อไร เมื่อนั้นอาตมาไม่อยากรับรางวัลเลย รางวัลจะมากันทุกทิศเลยจริงๆ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:45:42 )

ช้างใส่บาตรพระ ก็พระรับบาตรจากสัตว์ได้

รายละเอียด

คงเป็นคนใกล้ชิดอันนี้ จะให้ช้างใส่บาตรพระ ก็พระรับบาตรจากสัตว์ได้ เขาทำกันอยู่ก็ไม่ได้เป็นความเสียหาย เป็นการให้ ในตำนานก็มี ทุกวันนี้ก็มีอยู่ ก็ไม่เป็นไร ก็ระวังช้างของคุณจะให้ไปทำร้ายพระก็แล้วกัน อย่าให้ตกใจ ก็ดีก็น่าเอ็นดูดี อนุโมทนา

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 11:20:20 )

ช้าทำไมเมื่อแน่ใจว่าหมู่นี้ดี

รายละเอียด

ไปก่อวิบากกับคนข้างนอกกับก่อวิบากกับคนข้างในหมู่เรา คุณควรก่อวิบากกับใครมากกว่า กับคนข้างนอกบาปน้อยกว่า

คนข้างในบาปมากกว่า วิบากมากกว่า แต่จะได้มิตรดีสหายดี แต่ข้างนอกก่อบาปน้อยกว่า แต่ไม่ได้มิตรดีสหายดี เบื้องต้นควรอยู่กับใคร...ก็อยู่กับหมู่

มาอยู่ในนี้แม้จะมีวิบากแรงเพราะทำกับพระอาริยะ แต่อยู่กับอาริยะ อาริยะก็ช่วยกันไป ยังมีโอกาสพัฒนา แต่อยู่ทางโน้นเขาไม่คิดจะช่วยคุณหรอก แล้วจะอยู่กับมันทำไม

อยู่ข้างนอกจะอธิบายอย่างไรก็เหมือนไปเร่งรัด แต่สัจจะมันเป็นอย่างที่ว่า คุณแน่ใจว่านี่คือ หมู่ดี จะช้าทำไม ถ้าคุณภูมิไม่ถึง เขาขจัดออกเอง แต่ถ้าถึงก็จะเดินได้เร็วในนี้ จะไปเสียเวลาทำไม ตั้งใจมาเอานิพพานแล้ว แต่ถ้าไม่ตั้งใจมาเอานิพพานก็ช่างใครช่างมัน

ที่พูดนี้อาศัยหลักธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า ไม่ออกนอกขอบเขตพุทธหรอก คุณไม่เชื่อว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าก็แล้วไปเถอะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:56:27 )

ซากศพไม่ใช่ผี ผีจริงๆ อยู่ในตัวคน

รายละเอียด

ในโลงนั้นมีผีหลอกไม่ใช่ผีจริง มีซากศพซากคนตาย เป็นดินน้ำไฟลม ผีนี่คือไม่ใช่ซากศพ ซากศพนั้นเป็นวัตถุเป็นร่างกาย แต่ผีนี้เป็นนามธรรม เป็นจิตวิญญาณ ซากศพไม่ใช่ผี ซากศพเป็นดินน้ำไฟลมธรรมดา ตายแล้วไม่มีพลังงานเดินเองไม่ได้ไม่มีพลังงานขับเคลื่อน ใครจะยกไปไหนใครจะทำอะไรก็ทำเองไม่ได้กระดิกตัวเองไม่ได้ ถามว่าผีในโลงมีไหม ไม่มี ผีนอกตัวคนไม่มี ผีจริงๆอยู่ในตัวคน ผีนอกตัวคนเป็นผีหลอกทั้งนั้น ผีนอกตัวคนเป็นผีหลอกทั้งนั้น และผีหลอกจริงๆอยู่ในตัวคน อยู่ในตัวเรานี่แหละ เราหลอกตัวเอง หรือคนอื่นหลอกเรา ผีอยู่ในตัวคน คนไหนหลอกเรา ผีก็อยู่ในตัวเขา ถ้าอยู่ในตัวเรา เราก็มีผีอยู่ในตัวเรา 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 22 กันยายน 2563 ( 19:11:10 )

ซาตาน

รายละเอียด

อบาย

หนังสืออ้างอิง

ค้าบุญคือบาป หน้า 235


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 10:27:41 )

เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2563 ( 16:12:45 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 14:53:05 )

ซาตาน

รายละเอียด

ซาตานก็คือตัวกูว่ะ ซาตานกับตัวกูมันไม่ต่างกันเทวดากับซาตานมันอันเดียวกัน เทวดาคือตัวสุข ซาตานคือตัวสัตว์นรกตัวทุกข์มันตัวเดียวกัน หนึ่งเขาไม่รู้ว่ามันเป็นตัวเดียวกันเขาไม่อยากแยกเขาเอาแต่ความสุข อย่าให้ซาตานมาวอแว เขาไม่เกี่ยวเลยซาตานจะมาอย่างไรเขาก็หนีเขาก็หลบเลี่ยง หรือใช้พลังงานที่มีแต่ดี ไม่ศึกษาพลังงานชั่ว เขาก็เลยทำได้ ใช้พลังงานมีเท่าไหร่ ดีดซาตานทิ้ง หนีไปไกลจากซาตานไปเสพอยู่ที่วังแห่งความสุข แต่ไม่ได้ทำซาตานให้หายไปไม่ได้เรียนรู้จักซาตานไม่ได้รู้จักหัวใจซาตาน ทำร้ายหรือฆ่าซาตานเด็ดขั้วหัวใจของซาตานให้ดับสนิทไปเลยไม่เป็น เพราะฉะนั้นจึงไม่มีจบ

ที่มา ที่ไป

รายการบ้านราช กายนี้คือวิญญาณ วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 17:55:29 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:40:59 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:01:53 )

ซาบซึ้งในคำว่า นานาสังวาส และคำว่า นิกาย ที่สุด 

รายละเอียด

อาตมาก็สรุปตีหัวเข้าบ้านไปหลายทีแล้ว ก็ขอสรุปว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีมาก ที่คุณนกเขากับคุณตู่มาวันนี้ ก็คิดว่า ก็คงจะมีผู้อื่นอีกที่จะมาที่นี่ มาเที่ยวที่นี่ มาพักผ่อนที่นี้ มาเยี่ยมที่นี่บ้างเพื่อเป็นเกียรติอย่างคุณนกกับคุณตู่มาเป็นเกียรติจริงๆ นะ ไม่ได้พูดเล่น พูดไม่ใช่แกล้ง ไม่ได้มาแกล้งยอฉันว่าฉันเป็นดวงจันทร์ที่ถูกเมฆบัง 

เพราะฉะนั้นก็เป็นนิมิตหมายอันดี ที่สังคมประเทศไทยมันมีอะไรเกิดขึ้นแล้วตอนนี้ ก็คิดว่า สิ่งที่จะสว่าง สิ่งที่จะพัฒนา สิ่งที่จะเจริญอีกต่อไป ในเรื่องของความเป็นอาริยบุคคล หรือเป็นอาริยะประเทศ อาริยธรรม อาตมาใช้คำว่า อาริยะ ไม่ได้ใช้คำว่า อริยะหรืออารยะ ก็เป็นนัยยะละเอียดลึกซึ้งที่อาตมาสื่อถึงพยัญชนะ ยังไม่มีเวลาขยายความตอนนี้ ซึ่งก็คือ ศิวิไลซ์ เป็นภาษาสากล แต่มันเป็นศิวิไลซ์ขั้นโลกุตระ กำกับตรงนี้ด้วย 

สรุปแล้วอาตมามั่นใจว่าโลกุตระธรรมของพระพุทธเจ้าปักลงตรงนี้แล้ว ชมพูทวีป แล้วมันก็จะเจริญงอกงามต่อไป ก็เริ่มต้นมีผู้ที่มาเป็นตัวอย่าง ต่อไปก็คงจะมีคนเข้าใจ เราไม่ได้ปฏิเสธผู้ที่เป็นศัตรู อริของเราทั้งหมด ไม่เคยปฏิเสธ อาตมานี้ ซาบซึ้งในคำว่านานาสังวาสของพระพุทธเจ้าที่สุด และซาบซึ้งในคำว่า นิกาย ที่สุด 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบคุณตู่-จตุพร และทนายนกเขา ดำเนินรายการโดย คุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 21:29:39 )

ซาอุบลฯ

รายละเอียด

อาตมาว่า เมื่อกี้นี้ มีอันนี้มา ที่บอกว่า ชาวบ้านต่างๆ ที่ไม่ใช่ชาวอโศกเข้ามาหากินอยู่ในซาอุบลฯ เป็นซา ของอุบลฯ ชาวอโศกนี่คือ ซา รู้จักซาไหม ซา คือผู้ใหญ่ของทางตะวันออกกลาง เขาเป็น ซา พระเจ้าซาร์ นี่แหละคือ ซาอุบลฯ ซาอุ ไม่ใช่ ซาอุส พระเจ้าซาร์คือพระเจ้าแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่นะ 

ที่บอกว่าชาวบ้านเขาร่ำลือว่าเราร่ำรวย จริงๆเลยนะมันเป็นเรื่องลึกซึ้ง เป็นเรื่องสิริมหามายาที่สุด พวกเรานี้จนที่สุด และจนด้วยความจริงด้วย ไม่ใช่พูดเล่น จนจริงๆแต่เรารวยจริงๆ เป็นสิริมหามายาอย่างยิ่งกว่านักมายากล จนจริงๆแต่รวยจริงๆ ยิ่งกว่ามายากล แต่เป็นสัจจะด้วย ใช่ไหมเราเป็นคนจนจริงๆ แต่เราอุดมสมบูรณ์ เราไม่ได้ขาดแคลน เราไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร มีแต่เราเอื้อเฟื้อเจือจานแจกจ่ายคนอื่น นี่เป็นคุณสมบัติคุณธรรม คุณวิเศษ ของสัจธรรมพุทธ ของศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าค้นพบ แล้วเราก็นำมาศึกษาจนสำเร็จ ปฏิบัติได้ผลสำเร็จด้วย บรรลุอริยสัจจริงด้วย นี่คือสุดยอด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ การวัดคุณค่าของมนุษย์กับสิ่งสร้างขึ้นของมนุษย์ วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 ขึ้น 1 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 มกราคม 2566 ( 12:25:52 )

ซื้อสัตว์มาปล่อยทำไมจึงบาป

รายละเอียด

ซื้อสัตว์มาปล่อยเป็นบาป เพราะว่าร่วมมือกับผู้ที่ขายสัตว์ แล้วก็มาหลอกเอาเงินคนซื้อ ซื้อสัตว์มาแล้วก็ปล่อยไป โดยเฉพาะสัตว์ที่เป็นนก เขาจะเลี้ยงด้วยยาเสพติดเอาไว้ นั่นคือต้องกลับไปกินที่บ้านเขาอย่างเดิม พอมาปล่อยนกก็กลับไปบ้านอย่างเดียว แล้วเอามาขาย หลอกกินอยู่อย่างนั้น อย่างนี้เป็นต้น มันก็เป็นบาป ซื้อสัตว์มาปล่อย โดยเฉพาะนก ชัดเจนเลย จะปล่อยปลา ปล่อยอย่างอื่น ที่มันเวียนกลับมาได้ หลอกคืนมาได้ มันก็บาปอยู่อย่างนั้น หรืออาจจะมีนัยยะอื่นก็แล้วแต่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณกินข้าวได้ไหม อย่างไรคือสัมมาทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2564 ( 18:28:54 )

ซื้อหวยเล่นหวยเป็นทุกข์โทษภัยอย่างไร

รายละเอียด

หนังสือคนจนที่มีแบบฉบับนี้ มีเรื่องใหม่หลายเรื่องที่จะอธิบายเช่น การซื้อหวยหากคุณมีบารมี บารมีเป็นเรื่องของกุศล แต่หวยเป็นเรื่องนรก เป็นเรื่องอบายมุข การได้ไม่ได้ด้วยบารมีหรอก การไปเล่นหวยซื้อหวยเป็นเรื่องต่ำ เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่ มันไม่อยู่ในตระกูลเดียวกัน มันคนละขั้ว มันไม่ใช่กุศลอะไรหรอกมันเป็นหนี้ เอามาฟรีทำไม เอามาเป็นหนี้เขา แล้วคนพวกนั้น คนซื้อหวยส่วนมากเป็นคนจนคนเสี่ยงทาย คนที่ยังขี้โลภอยู่ แม้จะมีเงินมีฐานะก็อยากจะได้เพิ่มก็ต้องซื้อหวย 1.คนขี้โลภ 2.คนจน คนที่รวยแล้วไม่ขี้โลภเท่าไหร่เขาไม่ซื้อหวยหรอก เสียสตางค์ไปทำไม เอามาด้วยน้ำพักน้ำแรงภูมิใจกว่า ก็ให้คนจนที่เสี่ยงทายกับคนขี้โลภ โลภไม่เสร็จ ได้เงินหวยมาเป็นหนี้ทั้งนั้นเป็นหนี้บาป ได้มาทางการพนัน เอาเงินคนจนมาแล้วให้คุณไป คุณก็ได้ใช้ไปในชาตินี้ คนจนก็ยิ่งหมดไปเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นเรื่องเศรษฐกิจดี ถ้าเลิกได้ประเทศนี้สุดยอดเลย แต่คนก็ไปอาศัยเงินหวยมาทำงาน มันแทบจะสิ้นไร้ไม้ตอกแล้วต้องอาศัยเงินหวยมาทำงาน เอาเงินจากสิ่งที่ดีกว่านี้ดีกว่า เรื่องหวยเป็นเรื่องทรมานซับซ้อน ให้คนจนทุกข์เข้าไปอีก คนซื้อหวยคือคนทั้งโง่และจน มันก็เลยไปกันใหญ่ไปทรมานคนโง่ด้วยทรมานคนจนด้วย ทรมานคนขี้โลภด้วย ใครที่เข้าใจแล้วก็จะไม่ทำ เลี้ยงตัวเองสร้างสรรทำมาหากินอย่างเป็นประโยชน์

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2561


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2563 ( 13:05:58 )

ฌ วิการรูป 3

รายละเอียด

คือ  1.  ลหุตา 2. มุทุตา 3. กัมมัญญา  สามเส้านี้เป็นประธานของ กายวิญญัติ วจีวิญญัติ เป็นตัวนิวเคลียส  ที่มีประธานที่แท้จริง จัดการเลย  อย่างอุตุมี ภายนอกจัดการ  เป็นพีชะ  จัดการมันเองได้ ISH แต่ได้แค่ตัวเอง ไม่เก่งอะไร  คนอื่นเบียดเบียนก็สูญไป แต่จิตนี้เก่งกว่าพีชะ จนเก่งกว่าอะไรได้หมด  มีชีวิต  ก็จะมีกายกรรม  วจีกรรม  มโนกรรม  ครบ  วิการรูป 5 จะทำให้สูงสุด คือ เบา เท่าที่คุณต้องการ  แรงเท่าที่คุณต้องการ  เบาที่สุสดเท่าที่จะทำได้  สุขภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้เร็วไวที่สุด  หากคุณเป็นนักยิ่งปืน  นักแม่นปืน  เสือกับสิงห์  ทั้งเร็วไว  แม่น  หันหลังชนหัน  เดินหันกลับมายิงกัน  ตามสัญญาณ  มันเร็วไวทั้งคู่  ก็ตายพร้อมกันเลย  เราควบคุมดูแลจิตเราได้  เป็นเจ้าของพลังงานที่ยิ่งใหญ่ ของตัวเอง  พลังงานนี้  ไม่รังแกใคร  แต่ใครมารังแกไม่ได้สูงสุดแล้ว  ไม่รังแกใคร  แต่ใคร รังแกไม่ได้  โดยไม่ต้องไปทำอะไรมัน  จะมีพลังงานพิเศษที่เป็น  มหาฤทธิ์อำนาจ  ซึ่งคนไม่สามารถทำอะไรผู้นี้ได้  ไม่ใช่ภาษาที่ลึกลับ แต่มีเหตุปัจจัยทั้งนั้น คนจะเป็นอย่างนี้ได้  ต้องสร้างพลังงานของตัวเอง  ไม่ใช่อยู่ดี  ๆ  ไปซื้อ เอามาจากห้างขายยา  หรือเอามาจาก เซเว่น จากห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต เทียบกับลูกข่างนอนวัน หมุนเร็วนิ่งที่สุด  มีประสิทธิภาพสูงสุด  นี่เป็นพลังงาน 2 ที่เป็นหนึ่ง ที่เข้าคู่กันอย่างสมบูรณ์แบบ  เพราะฉะนั้น ความสงบ ก็จะยิ่งมีแรงที่มาก  เร็วมาก  มีประสิทธิภาพมาก มีรังสี มีคุณสมบัติ ของ dynamic  เต็มที่เลย  พลังงานที่เร็วที่สุด  หั่นคุณไม่เจ็บหรอก   มันเร็วกว่าความเจ็บของคุณ  เป็นเลื่อยที่หั่น เร็วที่สุด  คุณไม่เจ็บหรอก  เป็นความสงบ สยบ  ความเคลื่อนไหว  เป็นฤทธิ์ที่คนเข้าใจยาก  มันประกอบกับคุณธรรม ความดี  คุณเอาความสงบไปสยบความเคลื่อนไหว  จะไปสยบกับคนที่หยาบ  ๆ  จ้างก็ทำไม่ได้  มันเอาคุณตาย  มันไม่รู้เรื่องหรอก  ความดีงาม  ความสงบอะไร  แต่คนที่มีภูมิธรรมทางจิตใจ  เขาเป็นคนที่ไม่ทำร้าย เขาให้อภัย เขายกให้ แม้จะถูกฆ่าตายเขาก็ไม่อาฆาตอีก  คนที่มีภูมิธรรมเท่านั้น  จะรู้สึกคุณค่าของความรู้สึกอย่างนี้  ความคิดอย่างนี้ ความรู้อย่างนี้ใช่ไหม  เราออกไปประท้วง คนไทยเป็นคนที่มีภูมิธรรมสูง  เราจึงประท้วงได้สำเร็จ  เอาความสงบสยบความเคลื่อนไหว พระโพธิรักษ์ไปสยบที่ฮ่องกงโพธิรักษ์ตายแล้ว ถ้าโพธิรักษ์ไปเป็นผู้นำประท้วงที่ฮ่องกงก็ตายไปแล้ว  หรือประท้วงอยู่ที่ ซีเรีย  ตายไปแล้ว  แต่นี้ไม่ใช่ต้องมาทำที่นี่ ต้องมีองค์ประกอบสำหรับคนที่มีภูมิธรรม  แต่อาตมาก็ยกตัวอย่างง่ายๆ  ผู้การแต้มถูกสั่งมาให้ปราบ ให้ถอนให้เรียบ พลตำรวจตรี วิชัย  สังข์ประไพ   คือเป็นปานที่หู  เลยเรียกผู้การแต้ม  เรียกผู้การหูดำ  รับคำสั่งมาให้ปราบเรียบ จากรัฐบาลอภิสิทธิ์  ที่จริงแล้วผู้การแต้มเป็นคู่แคนดิเดตจะเป็น ผบ.ตร. กับผู้การแป๊ะ  กำลังแข่งขันกันอยู่เลย  พลตรีเหมือนกันแล้ว  กำลังจะขึ้นเป็น พลโท  เสร็จแล้วผู้การแต้มแพ้  แพ้เพราะเรา มาทำดีนะมาช่วย  ถูกสั่งมาจะให้ปราบให้เรียบ แต่พวกเราก็สงบ  คุณธรรมผู้การแต้มมี  ถ้าไม่มีคูณธรรมพวกเราไม่เหลือแล้ว  ราบพนาสูรแน่นอน  นี่แหละ คือสภาพที่เป็นสิริมหามายากลับไปกลับมา  ความดีงาม  ความร้าย มันพึ่งกัน  ถ้าหากคุณธรรมของผู้การแต้มไม่มี  และผู้การแต้มไม่ดีเราก็อาจจะตายไปแล้วก็เป็นได้   แต่นี่ผู้การแต้มทำไม่ลง ทำไม่ได้ ก็เป็นคนดีจะไปทำได้อย่างไร  เข้าใจดีว่าพวกเราปรารถนาดีต่อประเทศชาติ  ผู้การแต้มก็มีปฎิภาณ  แสดงออกของพวกเรานั้นไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อสังคมประเทศชาติ  โดยเฉพาะเกี่ยวข้องไปถึงรัฐบาล ผู้การแต้มก็ต้องชัดเจนว่า จะเอารัฐบาลหรือไม่เอารัฐบาล ตัวเองก็ต้องตัดสิน  ตกลงเขาก็อยู่กับที่ไม่เอารัฐบาลดีกว่า ตัดสินอย่างนั้น จึงยอมไม่ทำเรา  แล้วตัวเองก็เลยเสียคะแนนก็เลยต่อมาเลิกจากการ  เป็นตำรวจ  มาเล่นทางการเมือง  ตอนนี้เป็นมหาดเล็กในวังแล้ว  ก็ไปตามเส้นทาง  ผู้การแต้มเป็นคนดี

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ   บ้านราชฯ   วันศุกร์ที่ 29  พฤศจิกายน  2562


เวลาบันทึก 27 ธันวาคม 2562 ( 12:42:51 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:08:56 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:12:03 )

ฌ. วิการรูป 3

รายละเอียด

1.ลหุตา  2.มุทุตา 3.กัมมัญญา สามเส้านี้เป็นประธานของกายวิญญัติ วจีวิญญัติ เป็นตัวนิวเคลียสที่มีประธานที่แท้จริงจัดการเลย อย่างอุตุ มีภายนอกจัดการ เป็นพีชะ จัดการมันเองได้ ISH แต่ได้แค่ตัวเองไม่เก่งอะไร คนอื่นเบียดเบียนก็สูญไป แต่จิตนี้เก่งกว่าพีชะ จนเก่งกว่าอะไรได้หมด  มีชีวิตก็จะมีกายกรรมวจีกรรมมโนกรรม ครบ วิการรูป 5 จะทำให้สูงสุดคือเบา เท่าที่คุณต้องการแรงเท่าที่คุณต้องการ เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้สุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้เร็วไวที่สุด หากคุณเป็นนักยิงปืนนักแม่นปืน เสือกับสิงห์ ทั้งเร็วไวแม่น หันหลังชนกัน เดินหันกลับมายิงกันตามสัญญาณ มันเร็วไวทั้งคู่ ก็ตายพร้อมกันเลย เราควบคุมดูแลจิตเราได้ เป็นเจ้าของพลังงานที่ยิ่งใหญ่ของตัวเอง พลังงานนี้ไม่รังแกใครแต่ใครมารังแกไม่ได้ สูงสุดแล้ว ไม่รังแกใครแต่ใครรังแกไม่ได้ โดยไม่ต้องไปทำอะไรมันจะมีพลังงานพิเศษที่เป็น มหาฤทธิ์อำนาจ ซึ่งคนไม่สามารถทำอะไรผู้นี้ได้ ไม่ใช่ภาษาที่ลึกลับแต่มีเหตุปัจจัยทั้งนั้น คนจะเป็นอย่างนี้ได้ต้องสร้างพลังงานของตัวเอง ไม่ใช่อยู่ดีๆไปซื้อเอามาจากห้างขายยาหรือเอามาจากเซเว่น จากห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต เทียบกับลูกข่างนอนวัน หมุนเร็วนิ่งที่สุด มีประสิทธิภาพสูงสุด นี่เป็นพลังงาน 2 ที่เป็นหนึ่งที่เข้าคู่กันอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้นความสงบก็จะยิ่งมีแรงที่มาก เร็วมากมีประสิทธิภาพมากมีรังสีมีคุณสมบัติของ dynamic เต็มที่เลย พลังงานที่เร็วที่สุดหั่นคุณไม่เจ็บหรอก มันเร็วกว่าความเจ็บของคุณ เป็นเลื่อยที่หั่นเร็วที่สุดคุณไม่เจ็บหรอก เป็นความสงบสยบความเคลื่อนไหวเป็นฤทธิ์ที่คนเข้าใจยาก มันประกอบกับคุณธรรมความดี คุณเอาความสงบไปสยบความเคลื่อนไหว จะไปสยบกับคนที่หยาบๆ จ้างก็ทำไม่ได้มันเอาคุณตาย มันไม่รู้เรื่องหรอกความดีงามความสงบอะไร แต่คนที่มีภูมิธรรมทางจิตใจเขาเป็นคนที่ไม่ทำร้ายเขาให้อภัยเขายกให้ แม้จะถูกฆ่าตายเขาก็ไม่อาฆาตอีก คนที่มีภูมิธรรมเท่านั้นจะรู้สึกคุณค่าของความรู้สึกอย่างนี้ความคิดอย่างนี้ความรู้อย่างนี้ใช่ไหม เราออกไปประท้วง คนไทยเป็นคนที่มีภูมิธรรมสูง เราจึงประท้วงได้สำเร็จเอาความสงบสยบความเคลื่อนไหว พระโพธิรักษ์ไปสยบที่ฮ่องกงโพธิรักษ์ตายแล้ว ถ้าโพธิรักษ์ไปเป็นผู้นำประท้วงที่ฮ่องกงก็ตายไปแล้วหรือประท้วงอยู่ที่ซีเรีย ตายไปแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ ต้องมาทำที่นี่ต้องมีองค์ประกอบสำหรับคนที่มีภูมิธรรม แต่อาตมาก็ยกตัวอย่างง่ายๆ ผู้การแต้มถูกสั่งมาให้ปราบให้ถอนให้เรียบ พลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ คือเป็นปานที่หู เลยเรียกผู้การแต้ม เรียกผู้การหูดำ รับคำสั่งมาให้ปราบเรียบ จากรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่จริงแล้วผู้การแต้มเป็นคู่แคนดิเดตจะเป็นผบ.ตร. กับผู้การแป๊ะ กำลังแข่งขันกันอยู่เลย พลตรีเหมือนกันแล้วกำลังจะขึ้นเป็นพลโท เสร็จแล้วผู้การแต้มแพ้ แพ้เพราะเรา มาทำดีนะมาช่วย ถูกสั่งมาจะให้ปราบให้เรียบ แต่พวกเราก็สงบ คุณธรรมของผู้การแต้มมี ถ้าไม่มีคุณธรรมพวกเราไม่เหลือแล้ว ราบพนาสูรแน่นอน นี่แหละคือสภาพที่เป็นสิริมหามายากลับไปกลับมา ความดีงามความร้าย มันพึ่งกัน ถ้าหากคุณธรรมของผู้การแต้มไม่มี และผู้การแต้มไม่ดีเราก็อาจจะตายไปแล้วก็เป็นได้ แต่นี่ผู้การแต้มทำไม่ลงทำไม่ได้ก็เป็นคนดีจะไปทำได้อย่างไร เข้าใจดีว่าพวกเราปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ผู้การแต้มก็มีปฏิภาณ แสดงออกของพวกเรานั้นไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อสังคมประเทศชาติ โดยเฉพาะเกี่ยวข้องไปถึงรัฐบาล ผู้การแต้มก็ต้องชัดเจนว่าจะเอารัฐบาลหรือไม่เอารัฐบาล ตัวเองก็ต้องตัดสิน ตกลงเขาก็อยู่กับที่ไม่เอารัฐบาลดีกว่า ตัดสินอย่างนั้นจึงยอมไม่ทำเรา แล้วตัวเองก็เลยเสียคะแนนก็เลยต่อมาเลิกจากการเป็นตำรวจ มาเล่นทางการเมือง ตอนนี้เป็นมหาดเล็กในวังแล้ว ก็ไปตามเส้นทาง ผู้การแต้มเป็นคนดี 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2563 ( 14:31:33 )

ฌา

รายละเอียด

เผา  ไหม้  ไฟ  เพ่ง ทำให้สูญสิ้นไป

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 339


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 10:28:40 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:02:28 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:18:31 )

ฌาน

รายละเอียด

พลังงานไปเผา มีอำนาจมีฤทธิ์เหนือกว่ากิเลสที่เป็น ราคะ โทสะ โมหะ คนนั้นก็มีความสามารถที่จะทำการอภิสังขารที่เป็นปุญญาภิสังขาร

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562 


เวลาบันทึก 10 พฤศจิกายน 2562 ( 12:13:41 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:20:50 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:20:12 )

ฌาน

รายละเอียด

ไม่ใช่การเพ่ง เป็นพลังงานความร้อนไม่ใช่พลังงานหยุดนิ่งแข็ง นี่คือ ความรู้ที่ผิดพลาดความเสื่อมจากสัจธรรมมันผิดพลาดหายไป อาตมานี้ยากๆ กลับมารื้อฟื้นความถูกต้องความจริงในวงการศาสนาพุทธที่เขาได้ทำบาปทั้งความเสื่อมทำความผิดไปจากธรรมะพระพุทธเจ้าไปเรื่อยเปื่อย ก็มากอบกู้ขึ้น นี่อาตมาก็พูดวันนี้ขณะนี้วินาทีนี้ ก็คือคำพูดที่ได้สาธยายธรรมในวันปีใหม่

 

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอังคารที่ 1 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 12:40:08 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:24:53 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:21:44 )

ฌาน

รายละเอียด

ฌาน ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาวิตกวิจาร แบบเจโตสมถะ อาตมาก็เคยนั่งมันว่างนิ่ง ลดวิตกวิจาร มีปีติ บางทียินดีมากเป็นอุพเพงคาปีติผางๆ จนมาบางเบาเหลือผรณาปีติ มันก็ยินดีไม่ผางๆอะไรหรอก ผรณาปีติ อธิบายเหมือนกับเอาจุนสีมาแช่ในน้ำละลายลงไปแล้วเอาตัวลงไปแช่ จุนสีก็จะแทรกเข้าไปในทุกรูขุมขนทุกซอกมุม ไม่มีเอกเทศไหนที่จุนสีจะไม่เข้าไปแทรกได้ โดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว อย่างนี้แหละเป็นที่อาศัย ใช้ผรณาปีติ เป็นที่อาศัยเราก็รู้ว่ามันเบาไม่ทำให้เราเสียหายได้ไม่แรงจนกระทั่งเสียหายได้ เป็นแต่เพียงใช้อาศัย

หรือคำว่า ผรณาปีติ หรืออภิปโมทยังจิตตัง อีกคำหนึ่งในอานาปานสติสูตร หากสามารถ อภิปโมทยัง ปราโมท แปลว่า ยินดี, ยินดีอย่างยิ่ง อภิปราโมท ยินดีมากหรือน้อยก็รู้ ยินดีน้อยๆ น้อยแค่ไหนก็อนุโลมได้ บางทีต้องยิ้มแย้มบางทีต้องมีเสียงหัวเราะ ต้องปรับอนุโลมตามใจบุคคล มันไม่ได้เสพรสนั้น กรรมกิริยาที่เราเลิกแล้วหลุดพ้นแล้ว ผรณาปีติ หรืออภิปโมทยังจิตตังมีนัยที่ต่างกัน

อภิปโมทยังจิตตัง เรายังสามารถกำหนดความแรงหรือเบาได้ แต่ว่า ผรณาปีติ มันเบา เป็นฐานสุดท้าย ธรรมดาสามัญก็อยู่ที่ ผรณาปีติ ไม่ใช่คุณเฉยๆไปแบบใครก็ไม่กล้าเข้าไปพูดด้วยไม่เข้าไปยุ่งด้วยได้ คนอย่างนี้คุณจะกลัว มันไม่กล้าไปปฏิสัมพันธ์ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ ปฏิสันฐาน มันไม่มีเลย 

หากตีหน้าเคร่ง สบายนะไม่ต้อนรับแขกอะไรเลย หน้าไม่รับแขกเลย มันก็ทำได้นะ แต่ก็ต้องยิ้มแย้มโอภาปราศรัยดีไม่ดีต้องหัวเราะบ้างตามสมควรไปกับเขาเหมือนกับเล่นหม้อข้าวหม้อแกง แม่เล่นให้ลูก หรือแม่ครัวทำกับข้าวให้เขากินตามที่เขาชอบ แต่เราก็ไม่ได้ชอบกินอย่างที่เราปรุงเลย เรากินง่ายๆจืดๆ เราก็ต้องพยายามช่วยเขาหน่อย อยากให้เต็มที่อย่างที่เขาชอบเลยทั้งหมด แม่ครัวทางโลกเขาก็ต้องปรุงให้เขาติดยึดให้เขามากินของฉันตลอด ฉันก็ได้ลูกค้าตลอดกาลนาน 

เราจึงต้องมีจุดสัมพันธ์กันอย่างเฉลียวฉลาดกับคนในโลกนี้อย่างเหมาะสมควร ซึ่งเป็นเรื่องลึกซึ้งที่สุดเลย

 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช 2 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 13:24:53 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 15:28:25 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:48:50 )

ฌาน

รายละเอียด

ฌาน จริงๆแล้วไม่ได้ไปยึดถือในฌาน แต่เข้าใจว่าจิตเราทำให้เป็นพลังงานฌานกำจัดกิเลสได้ กำจัดกิเลสกาม ได้เป็นฌาน 1 ทำได้ยิ่งขึ้นเป็นฌานที่ 2  3  4 ก็ยิ่งว่าง ฌาน 4 เป็นอุเบกขา ว่างจากกิเลสจนเป็นจิตบริสุทธิ์ ปริสุทธา ปริโยธาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา ต้องเข้าใจฌาณของพระพุทธเจ้าลืมตาทำ การมีศีลมี อปัณณกปฏิปทา 3 แล้ว จะเกิดศรัทธา หิริ โอตัปปะ พหูสูต วิริยะ สติ ปัญญา 

ที่มา ที่ไป

รายการุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 19:40:22 )

เวลาบันทึก 03 สิงหาคม 2563 ( 07:08:33 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:43:38 )

ฌาน

รายละเอียด

ฌาน คือ พลังงานไฟ(ทางจิต)  ซึ่งเป็นไฟวิเศษที่มีปัญญา เผา (ฌายติ, ฌาน) กิเลส หรือ ฆ่า ไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ ได้จริงๆ  ฌานในโลกนี้มี 2 แบบ คือ ฌานทั่วไป กับ ฌานแบบพุทธที่สัมมาทิฏฐิ

ฌานทั่วไปไม่เป็นพลังงานไฟ

ฌานแบบพุทธที่สัมมาทิฏฐิ เท่านั้นเป็นพลังงานไฟ  กำจัดกิเลสได้จึงชื่อฌาน  แม้แต่ฌานในศาสนาพุทธที่มิจฉาทิฏฐิกันอยู่ก็ไม่สามารถเป็นพลังงานไฟเผากิเลสได้  มีแต่เสริมเติมกิเลส ทับถมกิเลสเข้าไปอีกอย่างโมหะ หรือหลงผิดกันอย่างหน้าตาเฉย  ไม่รู้สึกรู้สาว่าตนเองทำผิดอะไร

คือ  ไฟที่เพ่งเผากิเลส ฌาน พระโสดาบัน พระสกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ทำได้  ทำให้จบกิจ ฆ่ากิเลสได้  ก็ยังทำฌานเป็น  แต่บุญเป็นตัวยอดของการประหารกิเลสเท่านั้น  ทำพลังงานฌานนั่นแหละ  ฆ่ากิเลสในปัจจุบันเสร็จ  แม้กิเลสไม่หมดบุญก็ไม่ตกค้างทำใหม่อีก  เป็นฌานฆ่ากิเลสอีก  เมื่อกิเลสตัวสดฆ่าไปได้ครึ่งก่อนแล้ว  ก็ทำฌานมาฆ่ากิเลสอีก  กิเลสตัวใดจบหมดบุญก็หมดด้วยเป็นผู้หมดบุญ ปุญญปาปปริกขีโณ

 

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2562

ธรรมาธิบายราย การสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 71    30 กันยายน  พ.ศ. 2562


เวลาบันทึก 30 กันยายน 2562 ( 09:35:44 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 16:57:06 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:52:01 )

ฌาน

รายละเอียด

=  เป็นไฟ ไฟแบบพิเศษที่เป็นไฟฌาน แต่เขาแปลฌานว่าคือการเพ่ง จะว่าเพ่งก็ต้องจดจ่อในการทำการศึกษาทำใจในใจไม่ใช่ไปเพ่งกสิณดินน้ำไฟลม เพ่งข้างนอกเหมือนนักสะกดจิตมันไม่ใช่ เพ่งต้องรวมที่หทยรูปจิต คุณต้องทำให้จิตมีบทบาทมีพลังงาน ไม่ใช่เพ่งให้เป็น  static แต่ต้องเพ่งให้เกิด dynamic ไม่ใช่เพ่งให้เป็นก้อนให้หยุดนิ่ง มันเข้าใจคนละทิศทางก็เลยไปกันใหญ่ คนละเรื่องเลย 

เพราะฉะนั้นทำไฟฌานได้แล้ว มีพลังงานจริง มีพยัญชนะเอาไปแทนสภาวะธรรม เอาภาษาไทยว่าคือไฟเอาภาษาบาลีว่า ฌาน ภาษาไทยก็คือพลังงานอันนั้นไฟเป็นสภาวะอันนั้น คุณก็ทำใจในใจของคุณเป็นมนสิการเป็น ทำการโยนิโสมนสิการ ฟังธรรมะแล้วคนก็เอาไปศึกษาเมื่อเกิดการกระทบสัมผัสคุณก็พยายามทำใจในใจให้มันเกิด 

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:55:18 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 17:00:32 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:52:59 )

ฌาน

รายละเอียด

1. เพ่งเผา 

2. เพ่ง , ความคิด , เผา 

3. การเพ่งจิตอ่านรู้และเกิดการทำลาย  หรือเผาอกุศลจิตที่ได้รู้นั้น ๆ ลงไปสำเร็จ 

4. ทำจิตให้ปราศจากนิวรณ์ 5 ได้ 

5. ความเริ่มก่อไฟในขั้นปฐมและเผาไหม้ลงจนสูญสิ้นเรียบร้อยในขั้นสุดท้าย

6. จิตสงบเพราะได้เผานิวรณ์ 5 สัมบูรณ์แล้ว

7. ไฟปัญญา

8. จิตที่ไม่มีกิเลสนิวรณ์ 5 ในขณะนั้น ๆ , จิตไม่มีกิเลสนิวรณ์ อยู่ในภพก็ได้ จิตตื่นเปิดทวารขึ้นสู่วิถีทุกทวารก็ได้ , สภาพที่ผู้นั้นมี-สติสัมปชัญญะควบคุมใจตนอยู่พร้อมด้วย และสามารถทำใจตนให้ปราศจากนิวรณ์ 5 ได้ 

9. การเพ่งและเผากิเลส 

10. ความสามารถในการปฏิบัติไตรสิกขา หรือปฏิบัติจรณะ 15 หรือหลักธรรมอื่น ๆ จนกระทั่งจิตพัฒนาเป็นฌาน นั่นคือเกิดอธิจิตเจริญ-ขึ้น ๆ หรือกิเลสลดลง ๆ จนกระทั่งไม่มีกิเลสนั้น ๆ ในจิต

11. อาการของจิตที่ทำงานเพ่งพิจารณาวิจัยไตร่ตรองตัดสินตัวตนของกิเลสได้ แล้วทำการกำจัดหรือเผากิเลสนั้น ๆ สำเร็จไปตามลำดับ

12. ไฟ , กองเพลิงใหญ่ 

คำอธิบาย

ฌานแปลว่าไฟ พลังงานของจิตเป็นไฟที่มีฤทธิ์อำนาจสูงกว่าไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 243

ทางเอก ภาค 2 หน้า 146

ทางเอก ภาค 3 หน้า 12 , 339

สมาธิพุทธ หน้า 269

รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า145

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 251

คนคืออะไร? หน้า 211,216,217

อีคิวโลกุตระ หน้า 75

เปิดโลกเทวดา หน้า 53

พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 100

ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ265


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2562 ( 10:35:06 )

เวลาบันทึก 02 พฤษภาคม 2563 ( 18:03:57 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:54:39 )

ฌาน

รายละเอียด

แล้วพยายามสร้างจิตให้มันเกิดพลังงานไฟธาตุ มาละลายไฟราคะ โทสะ โมหะ ฌานเกิดจากข้อ 1-11 เป็นจรณะข้อที่ 12-15 เกิดจากการปฏิบัติศีลให้ถูกต้อง แล้วมีปัณกธรรม 3 ฌานจึงเป็นพลังงานที่มันจะไปกำจัดพลังงานไฟราคะ โทสะ โมหะ เมื่อกำจัดได้ก็เป็นบุญเป็นผลสำเร็จ ฌานกับบุญเป็นซินโนนีม (Synonym) เป็นตัวที่แทนกันได้ เป็นพลังงานของจิตวิญญาณที่ผู้สร้างเป็น ทำเป็น ก็จะเกิดจริง แล้วพลังงานนั้น ก็เอามาชำระกิเลสออก เพราะฌานก็ดี บุญก็ดี ต้องมีปัญญา ปัญญาไม่มีฌานไม่ได้ ปัญญาอยู่ที่ไหน ฌานก็อยู่ที่นั่น ฌานอยู่ที่ไหน ปัญญาก็อยู่ที่นั่น

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 20:01:49 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 17:04:39 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 15:59:38 )

ฌาน

รายละเอียด

ฌาน ของศาสนาพุทธ ฌานของศาสนาอื่นเขาก็ต้องนั่งหลับตาปฏิบัติ แต่ฌานของพระพุทธเจ้าเกิดจากศีล เกิดจากอปัณกปฏิปทา 3 เกิดจากศรัทธา แล้วก็จะเกิดพลังงานของฌานที่ 1 2 3 4 คือ จรณะ 15 วิชชา วิชชาแทรกในการปฏิบัติจรณะ 15 ซึ่งจะทำให้กิเลสหมดสิ้นอาสวะได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2562 ( 10:53:59 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 17:08:18 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:00:20 )

ฌาน

รายละเอียด

คำว่าฌานนี้ไม่ใช่อธิบายได้ง่ายๆ คำว่าฌานเป็นโลกุตระ อุตริมนุสธรรม คนทุกวันนี้อธิบายผิด อธิบายแต่ฌานโลกีย์ ไม่เป็นฌานโลกุตระ คนรู้จริงไม่กล้าอธิบายฌานได้ง่ายๆหรอก อาตมาอธิบาย พวกคุณก็เข้าใจได้มาเรื่อยๆ แต่เข้าใจฌานยังไม่สมบูรณ์หรอก ฌาน เป็นการทำใจในใจของคนให้เกิดพลังงานมีอำนาจมีประสิทธิภาพ มีฤทธิ์ที่จะทำให้พลังงานราคะโทสะลดลงไปได้ ลดได้แล้ว เป็นพระอรหันต์แล้ว ฌานก็ต้องมาใช้อีก สำหรับทำงานแก่คนอื่น ก็ต้องประมาณพลังงานที่เป็นฌานนี้แหละ แม้ไม่ได้เผากิเลสก็ต้องทำงานกับคนอื่นอีก ใช้คำว่าพลังงานจิตก็คืออำนาจหรือประสิทธิ์พลังงานจิตวิญญาณคุณ คุณต้องปรุงมาขนาดนี้ทำงานต่างๆนานา คำว่าทำใจในใจ คุณต้องปรุงใจคุณมาทำงานมากน้อยก็ต้องใช้ ถ้าหากจะหยุดคิดไม่นึกอะไรเลยแล้วทำงานได้อย่างไร อาตมาก็ว่า ไม่ควรทำดีกว่า เอาไม้หน้าสามมาทำงานก็ไม่ได้  ต้องมีคนจัดการให้มันทำงานได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 18 พฤศจิกายน 2562 ( 15:55:43 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 17:10:57 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:01:11 )

ฌาน

รายละเอียด

คือ ตามพจนานุกรมบาลีไทย ในพจนานุกรมฉบับภูมิพโลภิกขุ ก็อธิบายชาญยาวกว่าอันอื่นและทำให้เข้าใจได้ว่า Concept ของคนในยุคนี้ ได้เข้าใจว่า ฌานคืออย่างนี้ เข้าใจว่าฌานคือการเพ่ง

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:18:10 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 17:12:47 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:02:42 )

ฌาน

รายละเอียด

คือ ตัวรากต้น แปลว่าเพลิงไฟ ไฟกองใหญ่ ไฟพิเศษ ฌานต้องประกอบด้วยปัญญา ฌานอยู่ที่ไหนปัญญาอยู่ที่นั่น ไม่มีปัญญาไม่มีฌาน ฌาน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในวิชาจะระณะสัมปันโน ซึ่งเป็นพุทธคุณของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ถ้าไม่มีวิชาจะระณะไม่ใช่พระพุทธเจ้านี่ยิ่งใหญ่นะ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะต้องบรรลุในวิชชาและจรณะ ผู้ที่รู้จักวิชชามาจากเหตุคือจรณะ การปฏิบัติและมีความรู้ตั้งแต่ต้นจนสุดท้าย อาสจักขยญาณนี่คือความรู้ทั้งหมดที่ประมวลไว้คือวิชชาจะระณะสัมปันโน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:19:06 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 17:15:14 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:03:36 )

ฌาน

รายละเอียด

ฌานแปลว่าไฟ พลังงานของจิตเป็นไฟที่มีฤทธิ์อำนาจสูงกว่าไฟราคะไฟโทสะไฟโมหะ ไฟฌานที่กำจัดไฟราคะหน้าราคะมาเผา หน้าโทสะมาเผา หน้าโมหะมาเผา พลังงานฌานมีฤทธิ์กว่า คนที่ไปทำพลังงานนั้นก็มีไฟหรือ ฌานนี้จริง ฌานไม่ใช่พลังงานเย็น แต่เป็นพลังงานที่ร้อนกว่าราคะโทสะโมหะมันมีพลังงานสูงยิ่งกว่า สูงกว่าไฟราคะโทสะโมหะ ทำเป็นเล่นไป นั่งหลับตาได้ฌานเย็น มันคนละทิศทางเลยคนหนึ่งวิ่งไปสู่ท้องฟ้าอีกคนหนึ่งวิ่งไปสู่ก้นเหวเลย ฌานฤาษีกับฌานพุทธคนละเรื่องเลย ทำฌานก็ต้องทำพลังงาน มีวิตกวิจารเป็นต้น

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2562 ( 04:20:55 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 17:17:28 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:04:14 )

ฌาน

รายละเอียด

เป็นพลังงานไฟ ไปเผาไฟราคะโทสะโมหะ หมดจากจิต จิตก็สะอาดบริสุทธิ์ ปริสุทธา สะอาดแม้กระทบกับเหตุที่เคยเกิดกิเลส ก็ไม่เกิดกิเลสอีกเรียกว่า ปริโยทาตา จิตก็ยิ่งมุทุ เป็นวสิปัตโต เป็นจิตมีอำนาจ จิตมุทุอยู่กับชีวิต จัดการกรรม กาย วาจา ใจได้ดี ทำการงานไม่มีบาปอกุศลมีแต่กุศล จิตทำงานอย่างไรก็ปภัสสรตลอด คุณธรรม5ประการของอุเบกขาทำได้เพราะจิตเป็นสมาธิ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่66 วันจันทร์ที่26สิงหาคม2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 19:26:21 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 19:34:27 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:05:10 )

ฌาน

รายละเอียด

ตามพจนานุกรมบาลีไทย ในพจนานุกรมฉบับภูมิพโลภิกขุ ก็อธิบายชาญยาวกว่าอันอื่นและทำให้เข้าใจได้ว่า Concept ของคนในยุคนี้ ได้เข้าใจว่า ฌานคืออย่างนี้ เข้าใจว่าฌานคือการเพ่ง

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 20:22:56 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 19:37:11 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:05:44 )

ฌาน

รายละเอียด

ตัวรากต้น แปลว่าเพลิงไฟ ไฟกองใหญ่ ไฟพิเศษ ฌานต้องประกอบด้วยปัญญา ฌานอยู่ที่ไหนปัญญาอยู่ที่นั่น ไม่มีปัญญาไม่มีฌาน ฌาน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในวิชาจะระณะสัมปันโน ซึ่งเป็นพุทธคุณของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ถ้าไม่มีวิชาจะระณะไม่ใช่พระพุทธเจ้านี่ยิ่งใหญ่นะ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะต้องบรรลุในวิชชาและจรณะ ผู้ที่รู้จักวิชชามาจากเหตุคือจรณะ การปฏิบัติและมีความรู้ตั้งแต่ต้นจนสุดท้าย อาสจักขยญาณนี่คือความรู้ทั้งหมดที่ประมวลไว้คือวิชชาจะระณะสัมปันโน

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 20:25:37 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 19:40:40 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:06:32 )

ฌาน

รายละเอียด

คือสิ่งที่ต้องสั่งสมจากการปฏิบัติจรณะ 11 คือเหตุที่ทำให้เกิด ฌาน4 ฌาน 4 ของพุทธ  ฌานวิสัยเป็นอจินไตย  ขบคิดเอาไม่ได้ ต้องเรียนรู้ ให้สัมมาทิฎฐิ  และเอาไปปฏิบัติให้สำเร็จเป็นฌาน เป็นบุญ ปหานกิเลสสำเร็จ

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานมหาปวารณา ครั้งที่ 37 บ้านราช วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 14:42:44 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 19:43:46 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:07:32 )

ฌาน

รายละเอียด

1.      คือพลังงานไฟ  ก่อนบุญ ไปเผากิเลส  เมื่อเบาราคะไปได้ก็เป็นส่วนบุญ เผาได้หมดก็หมดบุญ  บุญก็จบ  บุญก็ไม่มีอีก  บาปอกุศลก็ไม่มีอีก กิเลสก็หมด คำว่า สติ จึงต้องใช้ในองค์ธรรม  จรณะ  15   ที่ทำจิตให้เป็นพีชะ จิตที่ไม่มีอาการไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีบาป ไม่มีบุญ   คุณทำจิตให้ ไม่สุข  ไม่ทุกข์ได้  จิตก็เป็นพีชะ  แต่จิตจะทำงานได้เก่ง เพราะมีพลังงานสูง  กว่าพีชะ  จิตเราไม่ทำบาปทำบุญแล้ว    ก็เอาจิตมาทำงานสร้างสรรค์  สัพฺพปปสฺสอกรณํ     กุลสสูปสัมปนา   ก สจิตปริโยทปนัง  กรรมกิริยาของอรหันต์จึงมีแต่กุศล

1.      การไม่ทำบาปทั้งปวง  (สัพพปาปัสสะ อกรณัง)

2.    บำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม (กุสลัสสูปสัมปทา)

3.     ความชำระจิตให้ผ่องแผ้ว (สจิตตปริโยทปนัง)

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 82 วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน2562

หนังสืออ้างอิง

พระไตรปิฎก เล่ม 25 ข้อ24 โอวาทปาฏิโมกข์  3  คือ จิตอรหันต์


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2562 ( 14:41:09 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 19:54:09 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:10:03 )

ฌาน

รายละเอียด

ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาวิตกวิจาร แบบเจโตสมถะ อาตมาก็เคยนั่งมันว่างนิ่ง ลดวิตกวิจาร มีปีติ บางทียินดีมากเป็นอุพเพงคาปีติผางๆ จนมาบางเบาเหลือผรณาปีติ มันก็ยินดีไม่ผางๆอะไรหรอก ผรณาปีติ อธิบายเหมือนกับเอาจุนสีมาแช่ในน้ำละลายลงไปแล้วเอาตัวลงไปแช่ จุนสีก็จะแทรกเข้าไปในทุกรูขุมขนทุกซอกมุม ไม่มีเอกเทศไหนที่จุนสีจะไม่เข้าไปแทรกได้ โดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว อย่างนี้แหละเป็นที่อาศัย ใช้ผรณาปีติ เป็นที่อาศัยเราก็รู้ว่ามันเบาไม่ทำให้เราเสียหายได้ไม่แรงจนกระทั่งเสียหายได้ เป็นแต่เพียงใช้อาศัย หรือคำว่า ผรณาปีติ หรืออภิปโมทยังจิตตัง อีกคำหนึ่งในอานาปานสติสูตร หากสามารถ อภิปโมทยัง ปราโมท แปลว่า ยินดี, ยินดีอย่างยิ่ง อภิปราโมท ยินดีมากหรือน้อยก็รู้ ยินดีน้อยๆ น้อยแค่ไหนก็อนุโลมได้ บางทีต้องยิ้มแย้มบางทีต้องมีเสียงหัวเราะ ต้องปรับอนุโลมตามใจบุคคล มันไม่ได้เสพรสนั้น กรรมกิริยาที่เราเลิกแล้วหลุดพ้นแล้ว ผรณาปีติ หรืออภิปโมทยังจิตตังมีนัยที่ต่างกัน อภิปโมทยังจิตตัง เรายังสามารถกำหนดความแรงหรือเบาได้ แต่ว่า ผรณาปีติ มันเบา เป็นฐานสุดท้าย ธรรมดาสามัญก็อยู่ที่ ผรณาปีติ ไม่ใช่คุณเฉยๆไปแบบใครก็ไม่กล้าเข้าไปพูดด้วยไม่เข้าไปยุ่งด้วยได้ คนอย่างนี้คุณจะกลัว มันไม่กล้าไปปฏิสัมพันธ์ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ ปฏิสันฐาน มันไม่มีเลย หากตีหน้าเคร่ง สบายนะไม่ต้อนรับแขกอะไรเลย หน้าไม่รับแขกเลย มันก็ทำได้นะ แต่ก็ต้องยิ้มแย้มโอภาปราศรัยดีไม่ดีต้องหัวเราะบ้างตามสมควรไปกับเขาเหมือนกับเล่นหม้อข้าวหม้อแกง แม่เล่นให้ลูก หรือแม่ครัวทำกับข้าวให้เขากินตามที่เขาชอบ แต่เราก็ไม่ได้ชอบกินอย่างที่เราปรุงเลย เรากินง่ายๆจืดๆ เราก็ต้องพยายามช่วยเขาหน่อย อยากให้เต็มที่อย่างที่เขาชอบเลยทั้งหมด แม่ครัวทางโลกเขาก็ต้องปรุงให้เขาติดยึดให้เขามากินของฉันตลอด ฉันก็ได้ลูกค้าตลอดกาลนาน เราจึงต้องมีจุดสัมพันธ์กันอย่างเฉลียวฉลาดกับคนในโลกนี้อย่างเหมาะสมควร ซึ่งเป็นเรื่องลึกซึ้งที่สุดเลย 

เมื่อเข้าถึงฌาน คำว่าฌานของพระพุทธเจ้าคือ ไฟ คือ พลังงานจิต ที่ปรุงอยู่ในปัจจุบันเท่านั้นนะ เกิดอยู่ในปัจจุบัน คุณนั่งหลับตาทำฌาน คุณก็ได้ความว่าง ฌานของคุณติดเกาะ แต่ฌานพระพุทธเจ้าไม่ได้ติดเกาะ ฌาน จะรู้เร็วรู้ไวชัดเจนทำได้โดยไม่ยากไม่ลำบากในฌานทั้ง 4 ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาสะกดจิตอะไร

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช สภาวะของวิชชาจรณสัมปันโน วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม2562


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2562 ( 12:57:26 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 19:58:55 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:11:11 )

ฌาน

รายละเอียด

พลังงานไฟ  ก่อนบุญไปเผากิเลส  เมื่อเผาราคะไปได้ก็เป็นส่วนบุญ เผาได้หมดก็หมดบุญ  บุญก็จบ  บุญก็ไม่มีอีก  บาปอกุศลก็ไม่มีอีก กิเลสก็หมด คำว่า สติ จึงต้องใช้ในองค์ธรรมจรณะ 15 ที่ทำจิตให้เป็นพีชะ จิตที่ไม่มีอาการไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีบาป ไม่มีบุญ คุณทำจิตให้ไม่สุข  ไม่ทุกข์ได้  จิตก็เป็นพีชะ  แต่จิตจะทำงานได้เก่ง เพราะมีพลังงานสูง กว่าพีชะ  จิตเราไม่ทำบาปทำบุญแล้ว ก็เอาจิตมาทำงานสร้างสรรค์  สัพพปาปัสสอกรณัง กุสลัสสูปสัมปทา สจิตตปริโยทปนัง  กรรมกิริยาของอรหันต์จึงมีแต่กุศล

1. การไม่ทำบาปทั้งปวง  (สัพพปาปัสสะอกรณัง)

2.บำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม (กุสลัสสูปสัมปทา)

3.ความชำระจิตให้ผ่องแผ้ว (สจิตตปริโยทปนัง)

(พตปฏ.  เล่ม 25  ข้อ 24  )   โอวาทปาฏิโมกข์  3  คือ จิตอรหันต์)

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 25  พฤศจิกายน 2562

หนังสืออ้างอิง

พระไตรปิฎก  เล่ม 25  ข้อ 24


เวลาบันทึก 20 ธันวาคม 2562 ( 20:07:27 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 20:04:16 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 16:13:22 )

ฌาน

รายละเอียด

คือ“ไฟ” เมื่อเผาไหม้กิเลสลดละได้ก็คือ“บุญ”

หนังสืออ้างอิง

คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 321 


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 14:01:17 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 20:11:03 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:04:28 )

ฌาน

รายละเอียด

อันเป็น“พลังงานทาง จิต(พลังงานไฟธาตุหรืออุณหธาตุ)ที่ชำระกิเลสยึดของตน”จึงล้วนยังมี “สุข-ทุกข์”บำเรอ“ความต้องการอยู่ในใจ”อยู่ตราบที่ยัง“อวิชชา” และยังมี“สุข”บำเรอตามที่“อยากได้”เมื่อกระทบสัมผัสทาง “ทวาร 6”อยู่ตลอดที่ยังไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงความเป็น“สุขเท็จ” จึงมีชีวิตที่อยู่กับ“ผีหลอก(สุขัลลิกะ)”ที่ชื่อว่า“สุข”อยู่ ตลอดไปชั่วกาลนานใน“กรรม”กับ“กาล” ทั้งๆที่มันคือ“เท็จ” “ฌานโลกุตระ”เท่านั้นที่จะมี“ปัญญา”กำจัด“สุข”ได้แท้

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1  หน้า499


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:50:54 )

เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 20:13:57 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:05:17 )

ฌาน

รายละเอียด

ฌาน แปลว่า พลังงานไฟ เผากิเลสความโง่ให้หมดไป พอหมดไปแล้ว พลังงานฌานก็เผาให้สะอาดได้  คำว่า ฌาน มี 2 อย่างในตัวมันเองคือ

1. ทำลาย (เผา)

2. ทรงไว้ ได้โดยไม่ยากไม่ลำบากซึ่ง ฌาน ทั้ง 4  คือ จะอาศัย ฌาน เรียกขึ้นมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ฌาน 1-2-3-4 ก็ดึงมาอาศัยใช้ได้ ต้องการฌานไหนก็ใช้ได้ ต้องการฌาน 1 ก็มีการปรุงแต่งมากอยู่มีวิตกวิจารปีติสุข พอฌาน 2 ก็มีปีติมีสุขไม่ต้องมีวิตกวิจารแล้ว พอฌาน 3 ก็มีแต่สุขกับอุเบกขา พอฌาน 4 ไม่สุขแล้วมีอุเบกขา จะให้เป็นฌานที่ 1 2 3 4 ก็ทำได้โดยไม่ยากไม่ลำบากซึ่ง ฌาน ทั้ง 4 มีจิตวสวัตตี ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ตามที่ต้องการ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ปฏิรูปศาสนามีมากว่า 50 ปีที่ชาวอโศกนี่ไง วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2563 ( 17:30:15 )

ฌาน

รายละเอียด

คือสิ่งที่ต้องสั่งสมจากการปฏิบัติจรณะ 11 คือเหตุที่ทำให้เกิดฌาน 4 ฌาน 4 ของพุทธ ฌานวิสัยเป็นอจินไตย ขบคิดเอาไม่ได้ ต้องเรียนรู้ให้สัมมาทิฏฐิและเอาไปปฏิบัติให้สำเร็จเป็นฌานเป็นบุญ ปหานกิเลสสำเร็จ

ที่มา ที่ไป

เทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2563 ( 18:32:57 )

ฌาน

รายละเอียด

ซึ่งเป็นชีวิตที่ง่าย สุโปสะ เป็นความรู้ที่รู้ฉลาดโลกุตระ ไม่ใช่เป็นความรู้โลกียะที่พัฒนาให้รู้ยากเข้าใจยาก ให้มีฌาน ก็ได้โดยยากได้โดยลำบาก เพราะไม่เข้าใจในคำว่า ฌาน แต่เข้าใจฌานแบบโลกีย์ที่เรียนกันอยู่ในโลก ฌาน ของพระพุทธเจ้ากับฌานโลกียะ มันคนละโลกเลย ฌาน ของพระพุทธเจ้าเป็น ฌานวิสัย เป็น อจินไตย เป็นเรื่องที่เดาไม่ได้หรอก ฌาน คือ พลังงานของจิต ที่มีฤทธิ์ มีน้ำหนักถึงขั้น รู้จักอาการของกิเลสในจิต แล้วกำจัดกิเลสลงได้ ด้วยฌาน 1 ,2 ,3 ,4 จบเรียกว่าบุญ บุญคือเพชฌฆาตมือสุดท้ายของฌาน หั่นหัวกิเลสขาดแล้วตายไม่มีฟื้น บุญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เกิดมาต้องรู้จักความเป็นคนกับสังคมจึงไม่เสียชาติเกิด วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 เมษายน 2566 ( 11:32:57 )

ฌาน

รายละเอียด

เมื่อได้ฌานที่ 1 แล้วเมื่อเราทำได้วิตกวิจารได้ผลขึ้นมาก็ยินดี มีปิติ 

ปีติก็ยังเป็นอุปกิเลส หรือจริงๆแม้ปิติ มันมีขึ้นเรื่อยๆมากขึ้นมันก็เกิด ชิน ชา ภาษาไทยก็เอามาตีกินเป็นชินชา 

ชินชาเป็นไง มาเป็นภาษาไทยแล้วที่จริง ชิน-ชา เป็นภาษาบาลี ภาษาไทยชินชา มันก็เฉย มันก็อุเบกขา มันก็ว่าสบายแล้วชินชาแล้วได้แล้ว ชินะคือชนะ ชา แปลว่า รู้ ภาษาบาลี แปลว่าชนะด้วยความรู้มันรู้ว่าชนะแล้ว 

เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีชินชา ผู้ที่มีความชนะทางธรรมะ จึงเกิดสภาพสงบ สงบอันนี้เรียกด้วยภาษาฌานขั้นที่ 3 ว่า สุข มันเป็นความสงบเป็นความสุขที่สุขเพราะสงบ ไม่ใช่สุขเพราะบำเรอกิเลส นี่ต้องต่างกัน 

เป็นวูปสโมสุข มันสุขที่กิเลสลด ไม่ใช่สุขที่เกิดจากบำเรอกิเลสมากขึ้น สนุกสนานมากขึ้น ตื่นเต้นมากขึ้น จัดจ้านมากขึ้น ไม่ใช่ มันหายไป โลกโลกียะหายไปแล้วมันสงบ 

สงบพวกนี้ไม่ได้จืดๆชืดๆ แต่มันแจ่มใส สงบแจ่มใส สงบอบอุ่น สงบชื่น ชื่นใจ ใช้ภาษาไทยว่า สงบชื่นใจ ไม่ใช่สงบจืดๆ ชืดๆ แห้งๆ แข็งๆ ไม่ใช่ ร่าเริงเบิกบานได้สมบูรณ์แบบ ร่าเริงเบิกบาน มันสงบร่าเริงเบิกบาน 

นั่นแหละทั้งหมดเลยทั้ง 7 8 คำ อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูนการเสียสละ 

เพราะฉะนั้นเมื่อมันเริ่มได้ฌาน 3 เป็นคุณธรรมเป็นลักษณะอาการของฌาน ชั้นที่ 1 2 3 อธิบายมาแล้วทำในองค์ประกอบที่มีความชัดครบ ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาไม่รู้เรื่องรู้โลก ไม่ใช่เลยแต่มีครบเลย โลกุตรชนมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย และมีใจ สัมผัสอันโน้นเดี๋ยวนี้แล้วใจเรามีสภาวธรรมที่เป็นฌานอย่างลืมตา อย่างมีคุณธรรมมีคุณสมบัติแข็งแรงเป็นฌานที่แข็งแรงจนถึงฌานที่ 4 เป็นอุเบกขา แล้วตบท้ายด้วยบุญ ประหารกิเลสเกลี้ยง สั่งสมเป็น อาเนญชา แข็งแรง แข็งแรง 

เพราะฉะนั้นคำว่า ฌาน นี้จึงเป็นคุณสมบัติที่รู้ทุกอย่าง ปหานกิเลสหมด ทุกอย่างและมีคุณสมบัติมีประสิทธิภาพของฌานสมบูรณ์แบบขึ้นทุกอย่าง ใช้ในชีวิตของผู้ปฏิบัติเป็นฌานวิสัยที่เป็น อจินไตย

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พระอภิธรรมของ ฌาน และเวทนา 108 วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2567 ( 18:56:31 )

ฌาน 1

รายละเอียด

คือ  มี วิตก วิจาร อ่านพฤติกรรมออกว่าตอนนี้ไม่มีกิเลสแล้ว จะเหลือปิติสุข ต้องเบาลงหา ฌานที่ 3 ท่านถึงเรียกว่ามีสุข สงบ มีฐานอุเบกขา หมด ฌาน 3 แล้วไม่ยึดมั่นถือมั่นในสุข ก็อ่านจิตปราศจากกิเลสจริง เป็นอุเบกขา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชธานีอโศก วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม2562


เวลาบันทึก 15 ตุลาคม 2562 ( 15:14:13 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:09:42 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:05:46 )

ฌาน 1

รายละเอียด

วิตก วิจาร ปีติ สุข

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่25 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 19:41:32 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:10:15 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:06:07 )

ฌาน 1

รายละเอียด

คือ  จะมีวิตก  วิจาร  ปิติสุข  เอกัคคตา  ไม่ถึงอุเบกขา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 79 วันจันทร์ที่ 11พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 15:18:49 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:10:48 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:06:26 )

ฌาน 1

รายละเอียด

จะมีวิตก  วิจาร  ปิติสุข  เอกัคคตา  ไม่ถึงอุเบกขา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราชฯ  วันจันทร์ที่ 11  พฤศจิกายน2562                           


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 19:27:49 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:11:41 )

ฌาน 1

รายละเอียด

จะมีวิตกวิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา ไม่ถึงอุเบกขา

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2563 ( 09:51:57 )

ฌาน 1 - 4 เป็นจิตที่ไม่มีนิวรณ์ 5 เป็นจิตที่ดีที่สุดแล้วเอามาทำงานกับคนอื่น

รายละเอียด

ฌาน 1 ก็คือ ทำงานปรุงแต่ง มีวิตกวิจาร มีรูปมีนาม เป็นคู่ที่ทำงานร่วมกับคนอื่น โดยจิตนั้น ฌาน 4 ท่านอธิบายว่า วิตกวิจารคือฌาน 1 เอกัคคตา คือฌาน 4 

เอกัคคตา คือฌาน 1 ที่ยิ่งใหญ่ คือไม่มีนิวรณ์ ในฌาน 1 ไม่มีนิวรณ์ แล้วเอาไปทำงาน วิตกวิจาร แล้วจิตมีปีติ ยินดี ทำได้ดี มีสิ่งนี้ดีในตัวเรา ไม่มีอะไรดีเท่ากับจิตของคุณเป็นฌานหรอก จิตไม่มีนิวรณ์นี้ดีที่สุด ในการเกิดมาเป็นมนุษย์ จิตสะอาดจากนิวรณ์ 5 นี้ดีที่สุด คือให้รู้ความจริงและทำได้ 

แล้วเอามาใช้งานกับคนอื่น จิตก็ยังไม่มีนิวรณ์ก็ดีใจ ปีติ จิตไม่มีนิวรณ์คือจิตสงบ ฌานที่ 3 สงบที่ไม่มีนิวรณ์ ไม่ใช่สงบเพราะถูกกดข่มไว้ สงบเพราะจิตสะอาดจากนิวรณ์

ฌาน 3 ก็ไม่นิ่งสนิท ยังมีอุปกิเลสปรุงร่วม ฟุ้งบ้าง ตามสภาพ 2 คือผลักกับดูด ติดกับกระจาย หรือ ผลักกับดูด คุณก็ทำให้มันคล่องตัวทุกอย่าง เป็นมุทุภูตธาตุ เป็นจิตที่เบาง่ายคล่อง มุทุตา กัมมัญญตา สมบูรณ์แบบเลย แล้วแต่จะต้องการแบบไหน มุมไหน มีอยู่ 3 มุม 1.ลหุตา 2.กัมมัญญา 3.มุทุตา 

มุทุตา นี้เป็นองค์รวม เบากับทำงาน เบาๆก็ไม่ทำงาน ทำงานก็มีงาน มันก็ไม่ใช่ลหุตาก็เท่านั้นเอง แล้วมุทุตา ทำได้ต้องการเมื่อไหร่ได้เลย คล่องแคล่วว่องไว นี่คือคุณสมบัติวิเศษของจิตวิญญาณมนุษย์ อาตมามีสภาพนี้ของตัวเองจริงก็เอามาพูด ถ้าเป็นโพธิสัตว์เหนือกว่าอาตมาจะเก่งกว่าอีก อาตมารู้ว่าจิตดีกว่านี้ยังมีอีก อาตมายังไม่จบ อนุตรจิตเหนือกว่าสอุตรจิต 

สอุตรจิต ดีแล้ว แต่ดีกว่านี้มีอีก ยังไม่จบ เราเรียนมานี่ อาตมาเรียนธรรมะ พระพุทธเจ้า ก็รู้ว่ามีดีกว่านี้อีก ทุกวันนี้อาตมายังมีตัวเจริญก้าวหน้า ได้สูงขึ้นทุกวัน ขออภัยไม่มีใครไล่ทันอาตมาหรอก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์ 4 ประการ วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 กันยายน 2565 ( 14:04:51 )

ฌาน 1 2 3 4

รายละเอียด

ฌานที่ 1 2 3 4

ฌาน 1 ก็เป็นสร้างพลังงานในระดับต้องมีวิตกวิจาร ต้องมีการคิดต้องมีการรู้พฤติกรรมของจิตต่างๆ แล้วก็ต้องรู้ขนาดแล้วรู้วิธีทำ ทำได้ เมื่อทำได้ก็ได้ผล เมื่อได้ผลคุณก็ดีใจเป็นปิติ ฌาน 1 มีทั้ง วิตกวิจาร ปีติ สุขก็มีรวมหมด เอกัคคตา เป็นจิตที่ยิ่งใหญ่ 

ฌาน 2 จะต้องทำงาน ได้ง่ายขึ้นเก่งขึ้นเบา ขึ้นแล้ววิตกวิจารที่ยากลำบากหมดไปเหลือที่ทำได้ง่ายขึ้นแล้วก็มีปีติ เริ่มมีสุขจริงมากกว่า จนถึง

ฌาน 3   จึงชื่อว่า ปีติ สุข และ อุเบกขา

ฌาน 4 จึงเป็นอุเบกขาเต็มที่หรือสุขอุเบกขา สุขด้วยความว่าง สุขด้วยจิตที่ไม่มีกิเลสจนกระทั่งความสุขนี่มันเนียนกลาง 

คุณต้องอ่านจิตที่เป็นเนกขัมมสิตะ 18 ในภาคปฏิบัติ ธรรมชาติก็เป็นเคหสิตะ 18 มโนปวิจาร18มีอะไร ก็มีสุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ 3 อย่างนี้ เป็นสภาพของจิตแล้วไม่สุขไม่ทุกข์ก็เป็นเคหสิตะได้ ปุถุชนก็ทำได้ ยิ่งไปนั่งหลับตาสะกดจิตก็ยิ่งทำได้ ถ้ามันไม่ใช่แล้วมันก็ฟื้นใหม่กลับ หมุนเวียนกลับ กดข่มได้มากก็ได้นานหน่อยหลายชาติก็เป็นได้ แต่แล้วไม่ได้ฆ่าตัวเหตุ ต้องฆ่าตัวเหตุ จะฆ่าตัวเหตุได้ต้องอาศัย สัมผัส 6 ตาหูจมูกลิ้นกายกับใจ ที่จะเกิดอาการ เวทนาเป็นตัวความรู้สึกที่จะต้องปฏิบัติตรงนี้แหละ ถ้าไม่มีเวทนาก็ไม่มีฐานปฏิบัติ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช  2 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 13:18:03 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 16:47:46 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:07:28 )

ฌาน 1 ฌาน 2 ฌาน 3 ฌาน 4

รายละเอียด

ฌาน 1 มีวิตกวิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา 

วิตกวิจารก็คือ ถ้าเข้าใจฐานจิต ตักกะ วิตักกะ สังกัปปะ แยกกิเลสออกจากจิตให้ได้ จะมีจิตแฝงปนเป็นราคะโทสะ ก็มีทฤษฎีมีวิธีการกำจัดกิเลสให้ได้กิเลสนี้ก็ลดได้ ก็คือตักกะ ตัวที่จิตดำริแล้วมีกิเลสผสมก็จัดการกิเลสให้ลดลงพฤติกรรมก็ดีขึ้นเรียกว่า วิจาร

จาระ แปลว่าพฤติ อาการของจิต เราทำได้ยิ่งขึ้น กิเลสที่มีทำให้มันไม่มี เรียกว่า วิ เชิงไม่ เจริญมากยิ่งขึ้น วิ มีความหมาย 2 อย่าง 1 จัดการสิ่งที่ไม่มีไม่ให้มี ได้แล้วก็ให้มีสิ่งที่เจริญสิ่งที่ดีมากยิ่งขึ้น  วิ จึงเป็นเทวดาที่ยอดเลย

เป็นเทวะคือ ลักษณะ 2 ลักษณะ แล้วเราก็รู้จักด้วยปัญญา แยกใช้ภาวะคู่นี้ได้ ทำให้มันไม่ ปฏิเสธทำลาย แล้วทำให้มันมี ทั้งไม่ ทั้งมี นี่ จะสำเร็จผลทั้งคู่ มีดีมากยิ่งขึ้น ไม่ หมดลงไปหมดลงไป แยกยาก วินี่แยกยาก เพราะเป็นเทวะแท้ ๆ

มันจะ ดวิ หรือ เทวฺ คือตัว ท คือตัวพลังงาน ท คือพลังงานหนุ่มแน่นแข็งทน ทหาระ คือแข็งแรงหนุ่มแน่น 

สรุปแล้ว สามารถที่จะกำจัดกิเลสได้จริงสั่งสมเป็นพหูสูตก็เป็นจิตที่สะอาดแล้วตกผลึกสะสม การตกผลึกของจิตสะอาดสั่งสมลง มากเข้าๆ ก็แข็งแรงเป็นผลึก ปึกแผ่น แน่นหนาเรียกว่าตั้งมั่นแข็งแรง จิตตั้งมั่นอันนี้แหละเรียกว่าสมาธิ 

ฌาน 1 2  ไม่ต้องวิตกวิจารมากแล้ว เพราะการรู้จักแล้วรู้จักได้เก่งรู้จักได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพรู้ได้เร็วขึ้นทำได้เร็วยิ่งขึ้นรู้ทั้งวิตกและวิจาร พฤติการณ์ของจิต สมรรถนะของจิตมันดียิ่งขึ้นเก่งยิ่งขึ้นเร็วยิ่งขึ้นมันก็ไม่ต้องไปกังวลเพราะมันทำได้จนกระทั่งเป็นอัตโนมัติทำได้เร็ว เราก็จะมีปิติยินดีที่เราทำได้เรียกว่ามีความเจริญ ปีติ ลดลงเป็นอุปกิเลส ปีติ ลด 

ฌาน 3 ก็จะเหลือแต่ความสุข  สุคือดี ข คือว่าง มันก็ลดลงเหลือแค่สุข กับเอกคตาหรือเรียกว่าภาวะสงบแล้วอุเบกขาก็จะเข้ามา
พลังงานของอุเบกขาก็จะเริ่มต้นที่ฌานที่ 3 แล้วยิ่งเจริญเป็นฌานที่ 4 แม้จะอาการยินดีในว่างก็จะลดลงๆเฉย ไม่มีแม้แต่ยินดีกลางๆไม่ผลักไม่ดูดจึงเรียกว่าอุเบกขา 

ปริสุทธา บริสุทธิ์อยู่ ทำยิ่งขั้นก็เก่งยิ่งขึ้นปริโยทาตา อุเบกขาก็ยิ่งเก่งยิ่งเรามีสมรรถนะสูงไม่ต้องทำอะไรมาก มุทุภูตธาตุ ทำให้เกิดอุเบกขาที่เก่งยิ่งขึ้นก็เป็นแรงที่เสถียรสถิตย์ เป็นแกนของจิตที่เป็นปัสสัทธิไม่ใช่สมถะ เป็นอัปปนา พยัปปนา เจตโสอภินิโรปนา แนบแน่น แน่วแน่ ปักมั่น เป็น 3 ตัวของสังกัปปะ 7

สั่งสมทั้งความเร็วไวคล่องแคล่วเรียกว่า กายปาคุญญตา มีรูปนามที่คล่องแคล่วของเวทนาสัญญาสังขาร ในกระบวนการสามเส้าเร็วไว มีผลสำเร็จที่เก่งขึ้นๆ ทำอย่างนี้ได้ เป็นพหูสูต แล้วมีสัมประสิทธิ์ของวิริยะสติปัญญา สามเส้าเป็นตัวหนุนเสริมทำให้เจริญขึ้นอีก มีวิริยะไม่ถอย เก่งเตือนสติที่รับรู้ได้เร็วทำงานได้เร็วด้วยปัญญาเป็นตัวประธาน ปัญญาเป็นตัวฉลาดรู้รอบ สามเส้า วิริยะ สติ ปัญญา เป็นสามเส้าที่เป็นสัมประสิทธิ์ทำให้เสริมความเจริญมากยิ่งขึ้น 

ฌาน 1 ลดลงก็เป็นฌาน 2 เหลือ ปีติ สุขแล้วเอกัคคตา เป็นฌาน 4 ปีติ สุขหมดไปเหลือแต่เอกัคคตา กับปัญญา เป็นจิตเป็นหนึ่งอย่างยิ่ง เป็นเอกัคคะ อัคคะ แปลว่ายิ่งใหญ่ ยอด เลิศ ไม่ใช่เอกธรรมแต่เป็นเอกัคคตาธรรม ถ้าเอกธรรมมีแต่ธรรมะ 1 ที่นั่งหลับตา ไม่ยุ่งอะไรกับใครมันต่างกันคนละความหมายต่างคนลักษณะ ต่างคนละสภาวะ ถ้าไม่รู้ ลิงคะ อาการ เพศที่ต่างกัน ที่กำลังอธิบายความแตกต่างกันคุณก็ไม่ชัดเจนคุณก็แยกไม่ออกว่าเราจะทำพลังงานจิตของเรามันถูกต้องตามพระอนุสาสนีย์ของพระพุทธเจ้าตามคำสอนพระพุทธเจ้าหรือเปล่า 

มันลงร่องลงรอยตามคำสอนพระพุทธเจ้าหรือเปล่าถ้าไม่ถูกมันก็ไม่ได้เรื่องแต่ถ้ามันถูกมันก็ได้ผล มันก็เป็นธรรมะเป็นสวากขาตธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นสัมมาทิฏฐิสัมมาปฏิบัติสัมมาปฏิเวท 

หลักการพยัญชนะบอก ศรัทธาวิริยะสติสมาธิปัญญา หรือ หิริโอตตัปปะพหูสูตวิริยะสติปัญญา จะเกิดเสริมหนุนกัน เป็นหิริโอตัปปะ เป็นพหูสูตวิริยะสติปัญญาที่มากยิ่งขึ้น 

ฌาน 1 วิตกวิจารลดลง ไม่ใช่ให้หยุดคิดหยุดนึกไม่ใช่เลยแต่ยิ่งคิดยิ่งนึกได้เร็วยิ่งเป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้นสำหรับวิตกวิจารแล้วรู้จักการลดละปล่อยวาง ปีติ เรารู้แล้วเราเพิ่มขึ้นพลังงานในตัวเพิ่มขึ้นปีติมันก็ไม่ต้องไปผลักดันมันก็จางลงไป ไม่เสียแคลอรี่ต้องไปใช้พลังงานกับตรงนี้ ก็จะมีพลังงานไปทำสิ่งที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งพลังงานชั้นที่ 3 ที่ 4 จึงเป็นพลังงานอุเบกขาพลังงานที่สงบของความวางเฉยมากยิ่งขึ้น ฌาน 4 สุดท้ายจึงจบด้วยอุเบกขา ความเป็นอุเบกขาคือความไม่ใช่ไม่รู้อะไรแล้วก็วางเฉย แต่รู้ยิ่งรู้จริงรู้ครบรู้คล่องรู้รอบ เวทนาก็เร็ว สัญญาก็เร็วสังขารปรุงแต่งก็เร็ว ไม่เปื้อนด้วยนะ เป็นอภิสังขาร ปรุงแต่งอย่างเจริญยิ่งเลย ไม่ใช่ไม่นึกไม่คิดไม่ทำงานอะไรเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม สันติอโศก วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2562 ( 04:28:43 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 15:13:46 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:08:31 )

ฌาน 1-4 เป็นเช่นไร

รายละเอียด

ปฏิบัติ อปัณณกปฏิปทา 3 จึงเกิดลักษณะจิต สัทธรรม 7 เกิดขึ้นเรื่อยๆ คือคุณธรรมของฌาน

ฌาน ไม่ใช่ไปเข้าฌาน-ออกฌาน ไปนั่งหลับตาเอา ไม่ใช่ นี่คือ ฌาน ฌาน 1 ก็เริ่มมีคู่วิตก-วิจาร มีสภาพที่วิจัยวิจารณ์ แล้วแยกกิเลส ลดกิเลส ลดกิเลส ลดกิเลส ฌาน 1 พอเราลดได้ ปิติขึ้น ลดได้เก่งขึ้น ปิติขึ้น ฌาน 2 กิเลสดับได้มากขึ้นก็สุข ฌาน 3 เสร็จแล้วจนกระทั่งสุดท้าย ฌาน 4 อุเบกขา เป็นพลังสูงสุด มีพลังอำนาจ ทำความบริสุทธิ์แห่งจิตได้เรียกว่าอุเบกขา ปริสุท
ธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา ซึ่งองค์ธรรม 5 นี้อาตมาก็เคยอธิบาย อุเบกขา องค์ธรรม 5 นี้ให้ฟังแล้ว คือพัฒนาการของจิตก้าวหน้าขึ้นถึงขั้นบริสุทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ อุเบกขา 5 เป็นต้น นี่คือการปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า ถึงขั้นฌานที่ 4 ก็สมบูรณ์แบบ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ถือศีลให้รู้รูปนาม ให้เกิดปัญญาจนอวิชชาหายไป วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2566 แรม 2 ค่ำเดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 มีนาคม 2567 ( 18:34:21 )

ฌาน 1 

รายละเอียด

ฌาน 1-4 อยู่ในจรณะ 15 ข้อที่ 12-15 เห็นกิเลสลดไม่ใช่อนิจจานุปัสสีมัน ควรจะเป็นวิราคานุปัสสี อนิจจานุปัสสีควรจะเห็นตั้งแต่ฌานที่ 1 ตามเห็นความไม่เที่ยง ความไม่เที่ยงมี 2 นัยยะ 1. ความไม่เที่ยงเพราะเห็นกิเลสเพิ่มมันไม่อยู่อย่างเดิม 2.เห็นกิเลสลด ไม่เที่ยง 2 อย่าง เพราะฉะนั้น ความไม่เที่ยงควรอยู่ในฌาน 1 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูตอบปัญหาผู้ชมทางบ้าน วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 13:32:15 )

ฌาน 2

รายละเอียด

คือ ก็วิตกวิจาร  ลดลง ทำวิตก วิจารในสังกัปปะให้ได้ผล  จัดการทำให้เรียบร้อย  ให้เจริญ  ก็เรียบร้อยเบางานลง  เรียกกันว่า วิตกวิจาร  สงบ  วิตกวิจารหมดไป  ทำได้แล้ว ก็ไม่ต้องวิตกวิจาร  เหลืออุเบกขาเป็นแกนสุดท้าย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 79 วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2562 ( 15:19:54 )

เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 16:48:28 )

เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2563 ( 18:27:16 )

ฌาน 2

รายละเอียด

ก็วิตกวิจารลดลง ทำวิตกวิจารในสังกัปปะให้ได้ผล จัดการทำให้เรียบร้อยให้เจริญก็เรียบร้อยเบางานลง เรียกกันว่า วิตกวิจารสงบ วิตกวิจารหมดไปทำได้แล้วก็ไม่ต้องวิตกวิจาร เหลืออุเบกขาเป็นแกนสุดท้าย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 28 พฤศจิกายน 2563 ( 09:52:50 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์