@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

ระบบบริหารประเทศ

รายละเอียด

จริง สส. เป็นตัวแทนประชาชนมีหน้าที่ออกกฎหมายออกกฎระเบียบของประเทศ อาศัยไป ส่วนรัฐมนตรีควรเป็นอีกหน้าที่หนึ่ง เลือกขึ้นไปบริหาร ช่วยกันบริหารประเทศ เป็นคณะรัฐบาล ส่วน สส. ไม่ใช่คณะรัฐบาล ดีไม่ดีเป็นฝ่ายค้านด้วย ก็เป็นเรื่องของระบบบริหารประเทศว่ากันไป 

 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาทำจิตเป็นอุตุไม่เกี่ยวเกาะ  วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2566 ( 08:03:35 )

ระบบบุญนิยม

รายละเอียด

คนจะต้องหันมาเอากับระบบ บุญนิยม เพราะอะไร อาตมาเอาคำนี้มาตรงกันข้ามกับทุนนิยม 

1. คนทุกข์มากขึ้น สาหัสมากขึ้น  เอารัดเอาเปรียบกันมากขึ้น มีวิธีการเอาเปรียบกันมากขึ้น ไม่รู้สึกอบอุ่น  ไร้ความไว้วางใจ หวาดระแวงกันมากขึ้น ทำร้ายกันรุนแรงยิ่งขึ้น ทุจริตหยาบคายยิ่งขึ้น ยกตัวอย่าง… อย่างอเมริกา ซับซ้อน หยาบคายอย่างให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ให้ประโยชน์คุ้มครองผู้อื่น แต่แท้จริงเป็นเล่ห์เหลี่ยมที่กวาดเอาของโลกมา 

2. ทรัพยากรของโลกร่อยหรอลง  ขาดแคลน ไม่พอกันจริงๆ 

3. ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว 

4. มีตัวอย่างของสังคมที่ไปรอดในทิศทางนี้ ให้ดูเป็นการยืนยัน ได้แล้วจริงๆ คือชาวอโศก เป็นพวกที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจตก 

5. ระบบบุญนิยมเป็นระบบที่ยั่งยืนจริง พิสูจน์ได้ด้วยกาละ  จนคนต้องเชื่อในที่สุด

6. กิเลสคนแรงมากขึ้น 

7. บุญนิยมดีจริงเป็นจริงได้

โลกทั้งโลกแสวงหาทฤษฎีหรือระบบอะไรที่จะเป็นระบบที่ทำให้เศรษฐกิจสังคมของโลกดี คุณว่าพวกเราเศรษฐกิจดีหรือเศรษฐกิจแย่ มีคนจนหรือคนรวย …คนจน แต่เศรษฐกิจดี ตรงกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสให้มาเป็นแบบคนจน จนอย่างมหัศจรรย์อุดมสมบูรณ์ มีประโยชน์คุณค่าต่อมนุษย์อื่น จนอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช  วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 17:21:12 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:54:49 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:02:53 )

ระบบบุญนิยมของอโศกเท่านั้นจึงจะทำให้ชาติไปรอด

รายละเอียด

อาตมาทำงานมาเกือบห้าสิบปี ไม่ง่าย เอาแค่ว่าบุญนิยม สัมมาทิฏฐิตามทฤษฎีพระพุทธเจ้า เอาทฤษฎีพระพุทธเจ้ามาเผยแพร่และใช้ เถรสมาคมก็ขวางอยู่กองเบ้อเร่อ รัฐบาลจะไปเห็นด้วยกับอโศกก็ยิ่งยาก ขอยืนยันว่าอโศกใช้ระบบบุญนิยมแน่นอน จะมาทำระบบบุญนิยม มวลของผู้ที่จะมาเป็นชาวอโศก ถ้าจะทำบุญนิยม ก็ต้องอาศัยมวลชาวอโศกมันก็เป็นไปไม่ได้ ก็ปล่อยให้ชาวอโศกทำไปเรื่อยๆอย่างนี้ ดีที่สุดได้เท่านี้ ธรรมะสรุปนะ ดีที่สุดได้เท่านี้

ถ้าหากรัฐบาล ค้านต้านอโศกก็เป็นอีกเรื่อง แต่แค่ให้ทำต่อไปโดยไม่ค้านไม่ต้านก็ขอบคุณสูงสุดแล้ว สูงสุดทำได้แค่นี้ ถ้าหากต้าน ก็แสดงว่าไม่เข้าใจอโศก ไม่เข้าใจบุญนิยม บอกว่าบุญนิยมเท่านั้นจะทำให้ชาติไปรอด ก็ปล่อยให้บุญนิยมรับใช้ชาติเท่านี้ไป แสดงว่ารัฐบาลเข้าใจบุญนิยม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ GDP แบบโลกียะกับแบบโลกุตระ วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 21:59:37 )

ระบบบุญนิยมเป็นทางรอดของมนุษยชาติ

รายละเอียด

ระบบบุญนิยมยังเข้าใจยาก! ระบบ“บุญนิยม”นี้ ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นในใจจริงๆ ว่า จะช่วยสังคมมนุษยชาติที่ถูกพิษและฤทธิ์ของระบบ“ทุนนิยม” กำลังต้อนเข้ามุมอับอยู่ในปัจจุบันนี้ได้แน่ๆ 

หากประชาชนได้ศึกษาช่วยวิจัยกันต่อ และอบรมฝึกฝนร่วมมือสร้างสรรให้เกิดให้เป็นผู้เจริญตามระบบ“บุญนิยม” นี้กัน จนมีคุณภาพ (quality) และปริมาณ (quantity) เพียงพอ 

ตอนนี้คนจะเห็นจะรู้ยังยากอยู่ ยิ่งจะเชื่อตาม ยิ่งยากใหญ่ เพราะยังมีผู้พอรู้พอเป็น หรือ ดำเนินชีวิตในระบบ“บุญนิยม”ได้แล้ว จำนวนน้อยเหลือเกิน

ขอยืนยันระบบบุญนิยมเป็นทางรอดของมนุษยชาติ!

เฉพาะอย่างยิ่ง คนทั้งหลายเกือบทั้งโลกทุกวันนี้ก็ล้วนดำเนินชีวิตกันอยู่ ด้วยระบบ“ทุนนิยม” อย่างสนิทสนมและตายใจว่า ไม่เห็นจะมีระบบอะไรอื่นอีกเลย กันทั้งนั้น 

ส่วนผู้ที่เห็นและเข้าใจถึงได้ว่า ระบบ“ทุนนิยม”กำลังเข้ามุมอับ ไปไม่รอด ช่วยมนุษยชาติในโลกให้เกิดสุขสันติอย่างอุดมสมบูรณ์  เป็นสังคมที่ดีตามอุดมการณ์ ไม่ได้นั้นก็ยังมีน้อยอยู่ด้วย จึงเป็นเรื่องยากที่ยากสุดๆ จริงๆ 

แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่เห็นทางออกอื่นใดเลยที่จะดีกว่า ต้องปรับตัวมาเป็นระบบ“บุญนิยม”นี้ให้ได้  แล้วสังคมมนุษยชาติในโลกไปรอดแน่ๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เปิดยุคบุญนิยมเล่ม 2 ตอน 2 

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564 ขึ้น 4 ค่ำเดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 สิงหาคม 2564 ( 10:42:03 )

ระบบประชาธิปไตยเป็นระบบที่มีข้อด้อยน้อยที่สุด

รายละเอียด

พูดถึงเรื่องสังคมต่อก็แล้วกัน สังคมมนุษย์มีความรู้ความเข้าใจกันว่าระบบของสังคมเป็นระบบประชาธิปไตยระบบเผด็จการระบบคอมมิวนิสต์อะไรอยู่ประมาณอย่างนั้น แล้วก็เข้าใจว่าระบบที่ดีที่สุดอาจจะไม่ดีที่สุด แต่ว่าเลวน้อยที่สุดเขาว่าอย่างนั้น คือระบบประชาธิปไตย เขาก็ยังฝันกันว่าจะมีระบบที่ดีที่สุด ประชาธิปไตยอาจไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุด แต่เป็นระบบที่มีข้อด้อยน้อยที่สุดว่าอย่างนั้น อาตมาก็ขอยืนยันว่า ถ้าจะเรียกประชาธิปไตยก็เป็นภาษา ถ้าไม่เรียกประชาธิปไตย แต่เอาตัวอธิปไตยเป็นอำนาจนี่แหละ และประชาธิปไตยก็แปลว่าอำนาจเป็นของมวลประชาชน ไม่ใช่อำนาจไปเป็นของคนหนึ่งคนใดเรียกว่าสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือแม้แต่จะเป็นอำนาจของกลุ่มหมู่เดียวเรียกว่าคอมมิวนิสต์ ก็ไม่ใช่ เป็นอำนาจของประชาชนที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันที่จะแสดงความเห็น อันแน่นอนโดยสัจจะมันไม่เท่าเทียมกันหรอก แต่ค่อยๆมารวมกันแล้วเฉลี่ย Average มันต้องเป็นอย่างนั้น จะไปบังคับให้ทุกคนมีความเห็นความเข้าใจเท่ากันไม่ได้ บังคับให้ตายก็ไม่ได้ ต้องเอาความเห็นแต่ละคนมารวมกันและเอาตัวเลขค่าเฉลี่ยรวมตรงกลาง 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 21 มิถุนายน 2563 ( 10:00:22 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:32:40 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:42:36 )

ระบบสังคมมนุษย์ 

รายละเอียด

 ระบบสังคมมนุษย์  คือ ระบบที่เป็นอยู่ร่วมกัน มี ศีลสามัญตา  ทิฏฐิสามัญตา  เป็นคุณของสาธารณโภคี  ยิ่งใหญ่จริงๆ  ไม่ได้คำนึงว่าขยะเป็นวัตถุกระจอก  แต่เป็นพญาอินทรีย์นะ  ไม่ใช่แบบเก๊ของอเมริกานะ  แต่พญาอินทรีย์จริงๆ หรือ พญาแร้ง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช   วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 19 ตุลาคม 2562 ( 13:56:24 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:55:46 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:03:29 )

ระบบสาธารณะโภคีเห็นเงินเป็นกระดาษชำระ

รายละเอียด

พวกเราที่ชัดเจนและอยู่ในระบบสาธารณโภคีเห็นเงินเป็นกระดาษชำระเลยไม่ต้องวุ่นวายเรื่องเงิน เงินใช้ในการชำระหนี้พวกเราไม่เป็นหนี้ก็เลยไม่ไปวุ่นวาย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 1 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2563 ( 10:52:52 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:32:59 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:25:09 )

ระบบสาธารณะโภคีเห็นเงินเป็นกระดาษชำระ

รายละเอียด

พวกเราที่ชัดเจนและอยู่ในระบบสาธารณโภคีเห็นเงินเป็นกระดาษชำระเลยไม่ต้องวุ่นวายเรื่องเงิน เงินใช้ในการชำระหนี้พวกเราไม่เป็นหนี้ก็เลยไม่ไปวุ่นวาย 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 1 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 09 เมษายน 2563 ( 10:55:07 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 17:15:17 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:43:08 )

ระบบสาธารณโภคี

รายละเอียด

ระบบสาธารณโภคี  คือ เป็นระบบที่สุดยอดในโลก  ส่วนตนของชาวอโศกจะมีเงินส่วนตน 0 รายได้เท่าไหร่ได้มาก็เอาเข้ากองกลางหมด  คงคลังของคุณ 0  เงินที่จะใช้อยู่กินก็กับส่วนกลาง  เป็นระบบสาธารณโภคีที่สุดยอดของโลกแล้ว  ชุมชนไหนมีหลักบริหารเงินทองทรัพย์สินถึงขั้นสาธารณโภคี เลยคอมมิวนิสต์เลยจากประชาธิปไตย  ทั้งคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตย ก็ต้องการให้เอาเข้ากองกลางให้มากที่สุด  ต้องการให้คนเสียภาษีด้วยความเต็มใจไม่ต้องฝืนไม่ต้องบังคับ  แต่เขาก็บังคับกันอยู่  ก็มีคนจะขี้โกงอยู่  แต่ของชาวพุทธนี้ยินดีเสียภาษีร้อยเปอร์เซ็นต์เข้ากองกลาง นี่คือ ผลสำเร็จที่เป็น Absolute แล้วสูงสุดจบแล้ว จะเรียก Ultimate ก็ได้

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต  สันติอโศก วันพุธที่  2 ตุลาคม  2562


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2562 ( 13:57:45 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:56:35 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:04:22 )

ระบบสาธารณโภคี

รายละเอียด

ระบบสาธารณโภคี คือ เป็นคุณธรรมอันวิเศษของมนุษย์ เป็นประชาธิปไตย คอมมิวนิสต์ เผด็จการ ถ้าถึงสาธารณโภคีก็สุดยอด โดยมีจิตเป็นประธาน หากว่าไม่มีจิตเป็นสาธารณโภคีเป็นประธานก็ไม่สามารถเกิดได้ เป็นจิต พุทธพจน์ 7 คือ สาราณียะ(ระลึกถึงกัน) ปิยกรณะ(รักกัน) คุรุกรณะ(เคารพกัน) สังคหะ(เกื้อกูลช่วยเหลือกัน) อวิวาทะ (ไม่วิวาทกัน) สามัคคคียะ(พร้อมเพรียงกัน) เอกีภาวะ(เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน)  คุณสมบัติพวกเราพิสูจน์ทำได้จริงจึงเกิด สาธารณโภคี คือ มีเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา(สาธารณโภคี) ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา (โสดาฯเสมอโสดาฯ สกิทาเสมอสกิทา อนาคาเสมออนาคา อรหันต์เสมออรหันต์) 

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 05:59:03 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:13:35 )

ระบบสาธารณโภคีสุดยอดแห่งเศรษฐศาสตร์ การเมือง และสังคม

รายละเอียด

วัตถุต่างๆที่เราพยายามทำขึ้นมาในที่นี้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในการใช้สอยไม่ได้เอามาเพื่อค้าขายหาเงิน เท่าที่เรามีเรี่ยวแรง แล้วก็มีความลึกซึ้งซับซ้อนมากที่นี่เป็นระบบสาธารณโภคีทุกคนเป็นแรงงานฟรี ถ้าให้แต่ละคนออกไปต่างสร้างงานเท่าที่คุณทำอยู่ที่นี่ แล้วก็เก็บรายได้เป็นของตนเอง แล้วก็รวมกันเป็นก้อนนั้นมานั่นแหละคือก้อนนี้ ก็บอกว่าได้มาจากไหนก็ได้มาจากพวกคุณ ที่มาทำงานฟรีแต่ไม่เอาเข้าส่วนตัว เอาเข้ากองกลาง นี่แหละคือสาธารณโภคีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คอมมิวนิสต์จะต้องร้องไห้ ยกมือไหว้ว่าเป็นพ่อของเศรษฐศาสตร์ คาร์ลมาร์กซ์ ไม่น่าจะตายก่อนเลยน่าจะพบโพธิรักษ์ก่อน แต่เขาเป็นสายเทวนิยม ไม่ได้มาทางพุทธ ศาสนาพุทธนี้สุดยอดแห่งเศรษฐศาสตร์-การเมือง-สังคมศาสตร์ พร้อมครบแต่คนยังเข้าใจไม่ถึง อาตมาก็พยายามจะขยายความ

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรม บ้านราช จรณะวิชชาที่พาเป็นคนจนอยู่เหนือคนรวย   วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 05 พฤศจิกายน 2562 ( 04:58:55 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:58:12 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:05:38 )

ระบอบกษัตริย์

รายละเอียด

กฎหมายกับพระราชอำนาจ ตามหลักสากลที่เป็นความจริงแท้ (Reality) ความมั่นคง แห่งชาติเป็นกฎหมายสูงสุด (Nation  Security is Supreme Law)  เหนือกว่าหลักนิติธรรม (The Rule  of Law)  เหนือกว่ากฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญ (Principle Law)  และเหนือกว่ากฎหมายสามัญ (Common Law) 

โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ได้รับรองไว้ในหนังสือ International  Law Vol.1 peace โดย H.Lauterpacht Q.C.LL.D.F.BA. (Third Impression 1958)   page 758-761 

แปลได้ใจความว่า... 

“ทุกระบอบกษัตริย์   กษัตริย์ดำรงสถานะเป็นตัวแทนแห่งอำนาจอธิปไตยแห่งรัฐ   ด้วยเหตุนี้จึงทรงดำรงเป็นองค์รัฎฐา-ธิปัตย์ เป็นความจริงที่กฎหมายระหว่างประเทศให้การยอมรับ 

ถึงแม้กฎหมายภายในประเทศ  จะมีข้อความที่แตกต่างกัน กับในบรรดาประเทศทั้งหลาย  ประเด็นนี้ไม่ถือเป็นเรื่องสำคัญ  เพราะฉะนั้น  กฎหมายระหว่างประเทศให้การยอมรับระบอบกษัตริย์ทั้งหลาย  มีอำนาจดังกล่าวเท่าเทียมกัน   ถึงแม้ว่าตำแหน่งพระมหากษัตริย์ที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญจะมีความแตกต่างกัน และขึ้นกับกฎเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ในรัฐธรรมนูญแตกต่างกัน... 

ระบอบกษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะประมุขแห่งรัฐอย่างแท้จริง  และตลอดกาลชั่วนิรันดร...เมื่อ

พระมหากษัตริย์ทรงดำรงฐานะเป็นตัวแทนแห่งอำนาจอธิปไตยแห่งรัฐ 

และเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ (The Head of State)

จึงทรงถือความมั่นคงแห่งชาติ

คืออธิปไตยของปวงชน เป็นกฎหมายสูงสุด (Supreme Law)

อยู่เหนือหลักนิติธรรม (The Rule  of Law)

หลักนิติธรรมอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ (Principle Law)

และรัฐธรรมนูญอยู่เหนือกฎหมายสามัญ (Common Law) 

พระมหากษัตริย์จึงทรงใช้กฎหมายสูงสุด

โดยมีกองทัพอันเป็นกำลัง เป็นฐานแห่งอำนาจปฏิบัติกฎหมายสูงสุด  

เพราะพระมหากษัตริย์ทรงเป็นจอมทัพ.

ที่มา ที่ไป

561112


เวลาบันทึก 10 มีนาคม 2563 ( 12:18:47 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:09:53 )

ระบอบการบริหารปกครองที่ดีที่สุดคือประชาธิปไตย

รายละเอียด

ในชีวิตของคน ในเรื่องสาระทางธรรมะมันเป็นเรื่องสาระธรรมะ แต่สาระของสังคมมาเรียกสาระของสังคมว่า ระบอบการบริหาร ระบอบการปกครอง 

แล้วก็ตั้งชื่อกันไปสารพัด ตั้งแต่เผด็จการคอมมิวนิสต์ประชาธิปไตย ก็เป็น 3 อย่างใหญ่ๆ 

คอมมิวนิสต์หรือสังคมนิยมก็คล้ายๆกัน แล้วก็เป็นประชาธิปไตย มันก็เป็น 3 ความหมายใหญ่ๆ 

ทีนี้คนจะรู้ว่าเรื่องประชาธิปไตย เดี๋ยวนี้มีปฏิภาณปัญญากันทั่วโลก ชัดเจนแล้ว ว่าประชาธิปไตยนี้ดีที่สุด คือให้ทุกคนมีสิทธิ มีอำนาจเท่าเทียมกันหรือพอกัน ซึ่งความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้หรอก คนที่มีความดีงาม มีความถูกต้อง แล้วก็ทำงานให้แก่ประชาชน รับใช้ประชาชน โดยตนเองนั้นเป็นผู้เสียสละจริงๆ เป็นผู้รับใช้จริงๆ โลกานุกัมปายะ หรือ พหุชนหิตายะ เป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 19:31:39 )

ระบอบการปกครองของมนุษย์        

รายละเอียด

“ระบอบการปกครอง”ของมนุษย์        

(1) การปกครองมนุษย์นั้น แสนยาก

เพราะมนุษย์หลายจิตหลาก กิเลสล้น

     แต่ละชาติต่างต้องพาก- เพียรสุด กำลังเฮย

ทั้งพูดทำคิดค้น     เพื่อได้ทางเจริญ

(2)  ไม่เกินกว่ามนุษย์รู้ ศึกษา

ทุกประเทศล้วนเสาะหา ทิศก้าว  

ตามภูมิแห่งเฉกา ที่ฉลาด สุดแล 

ใครไป่ปรารถนาน้าว     ชาติให้เลวเลย

(3) แต่เคยสะดุดบ้าง มีไหม

ว่า“ระบอบ”ดีสุดใด นั่นแท้

มี“ทิฏฐิวิเศษ”ไหน สร้างโลกุตร์

ตรา“กฎธรรมนูญ”แล้ เลิศพร้อมเพ็ญพูน

(4) “ธรรมนูญ”พุทธพิสุทธิ์แท้ รู้เถิด

สามหมวด“ศีล”สุดประเสริฐ ยิ่งล้ำ

“จุลศีล”หมวดหนึ่งเกิด อาริย- ชนเอย 

“มัชฌิมศีล”สองย้ำ ขยายซ้ำละเอียดเสริม

(5) เติม“มหาศีล”เข้าครบ หมวดสาม

ข้อกำหนดห้ามปราม วิเศษนี้

หากใครปฏิบัติตาม พุทธสุด สะอาดแฮ 

ไร้“ดิรัจฉานวิชา”ชี้ ศาสน์แผ้ววิสุทธิ์ธรรม

(6) กำหนดได้ระบอบนี้ ดีวิศิษฏ์

หลักพุทธแสนสุจริต ประสิทธิ์แท้

ปกครองมนุษย์ชนิด “ธรรมาธิ- ปัตย์”เลย

ชัด“อัตตา-โลก”แก้ ปรับได้โดย“ธรรม”

(7) สัมฤทธิ์“อธิปัตย์”ล้วน พิเศษผล

“ระบอบพุทธ”สัมมาชน สำเร็จได้

มี“ศีล”กำกับตน ตัดกิเลส

“สมาธิ-ปัญญา”ไซร้ ชี้มนุษย์เจริญจริง.

        “สไมย์ จำปาแพง”                                           

12 ก.ค. 2560  [นัยปก “เราคิดอะไร” ฉบับ 325 ประจำเดือนสิงหาคม 2560]

เป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุดในมหาจักรวาลพูดเป็น The Great Word เลย 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบการปกครองของมนุษย์ ที่สุดยอด วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 10:50:46 )

ระบอบการปกครองในสากล

รายละเอียด

ระบอบการปกครองในสากล คือ ระบอบการปกครอง 3 อย่าง

1.  แบบเผด็จการ

2.  แบบคอมมิวนิสต์

3.  แบบประชาธิปไตย

ระบอบประชาธิปไตยนี่แหละดีที่สุด

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2562 ( 06:20:14 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:59:21 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:26:45 )

ระบอบคอมมิวนิสต์

รายละเอียด

ระบอบคอมมิวนิสต์ คือ มีความเห็นของหมู่กลุ่มมาเอาเป็นใหญ่ แต่จะให้ประชาชนทั้งหมดมาเห็นร่วมกันคงไม่ได้  ก็ต้องให้คณะหนึ่งให้ปัญญาชนคนฉลาดคณะหนึ่งมารวมกันบริหารอย่างซื่อสัตย์เห็นแก่มวลประชาชน  มีทั้งคอมมิวนิสต์แบบไม่กี่คน  คนอื่นถูกบริหาร  หรือว่ามีคณะที่กว้างขวางขึ้นให้อำนาจแก่ประชาชนมากขึ้น ทำให้เกิดความเสมอภาคมากขึ้นได้เท่าไหร่คอมมิวนิสต์ก็เจือจางมากขึ้นเท่านั้น

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2562 ( 06:23:51 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:01:06 )

ระบอบบริหารประเทศ แบบที่ 2 ประชาธิปไตยทุนนิยมสามานย์ ขาเดียว

รายละเอียด

2. ประชาธิปไตยทุนนิยมสามานย์ ขาเดียว เช่น อเมริกา

คำว่า สองขา กับขาเดียวนี่ยิ่งใหญ่ กว่าจะรู้ว่า ประชาธิปไตยต้องมีกษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้อง 2 ขา อาตมาก็เคยบอกว่าต้องมีทั้งกายทั้งใจ ต้องมีทั้งสองส่วนเป็นสภาพสองในความเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นจะมีระบบ มีวิธีแล้วก็ทำสำเร็จรูปว่าเป็นประชาธิปไตยขาเดียว มันเป็นความไม่เต็มเต็งของความเป็นคน ของความเป็นมนุษย์ ของความเป็นจิตนิยาม เพราะฉะนั้นมันจึงกลายเป็นความไม่ฉลาด อวิชชา

ประชาธิปไตยที่แท้ก็คือ พยายามจะมีอำนาจ อำนาจนายทุน อำนาจที่จะทำให้คนอื่นเขากลัวเรา ก็สร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ เป็นเหมือนเขี้ยวเล็บ เป็นเครื่องมือที่จะข่มขู่คนอื่น นั่นแหละคุณก็ทำอย่างนั้น คุณฉลาดที่ไหน อย่างนั้นมันเป็นคนไม่เจริญมันเป็นคนเถื่อน อย่างนี้เป็นต้น 

ที่เรียกว่าทุนสามานย์ จึงเป็นประชาธิปไตยที่รวมทั้งทุนสามานย์ ผู้ที่สร้างตนเองด้วยเขตและอาวุธยุทธภัณฑ์ ให้ฆ่าคนได้เก่งๆยิ่งกว่าหนังจีน ปล่อยแสงยิ่งกว่า หรือไม่เห็นแสง แค่ยกมือก็ตายระนาว ยิ่งกว่าสตาร์วอร์ เครื่องไม้เครื่องมือก็ฝันไป สารพัดต่างๆนานา จะไม่ได้มีความคิดว่าประชาชนเป็นลูกเป็นหลานที่ต้องดูแล 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 แบบ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2564 ( 10:43:20 )

ระบอบบริหารประเทศ แบบที่ 5 ประชาธิปไตยที่เริ่มมีปัญญาแต่ยังขาเดียว

รายละเอียด

4. ประชาธิปไตย ที่เริ่มมีปัญญา แต่ยังขาเดียว เช่น ฝรั่งเศส โหยหากษัตริย์ เขาก็ขาเดียวอยู่นั่น ประธานาธิบดี หรือแม้แต่อินเดียก็ไม่มีกษัตริย์แล้ว แต่จิตลึกๆมีศักดินา เชื่อผู้มีศักดิ์สูง เชื่อมั่นและเคารพผู้ที่มีคุณธรรม ยกย่องผู้ที่มีคุณธรรม เพราะฉะนั้นผู้ที่มีคุณธรรมนั่นแหละคือเนื้อแท้ของผู้ที่สูงศักดิ์จริงๆ อย่างเช่น เขาเคารพมหาตมะคานธี เป็นต้น ประชาธิปไตยอย่างนี้เริ่มมีปฏิภาณปัญญา ยังเป็นขาเดียวแต่ก็เริ่มรู้ว่ามันมียอดคน มีผู้ที่สูงยอด ผู้ที่มีคุณค่าประโยชน์จริงๆ อย่างมหาตมะคานธี มีรูปธรรมชัด กอบกู้ประเทศ ปลดแอก ทำอะไรต่ออะไรมาได้มากมายเลย เพราะฉะนั้นเริ่มมีปัญญาเข้ามา จนกระทั่งเป็นข้อ 5 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 แบบ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2564 ( 10:55:16 )

ระบอบบริหารประเทศ แบบที่ 5 ประชาธิปไตยมีปัญญาเริ่มเข้าข่ายโลกุตระและเข้าใจประชาธิปไตย 2 ขา 

รายละเอียด

5. ประชาธิปไตย มีปัญญาเริ่มเข้าข่ายโลกุตระและเข้าใจ ประชาธิปไตย 2 ขา 

สิ่งเหล่านี้มีนัยยะอย่างนี้ในจิตวิญญาณ แต่ในประเทศต่างๆ มันยังไม่มีตัวอย่างครบ 9 ข้อนี้ อย่าง ประชาธิปไตย สองขา อย่างประเทศไทย เข้าข่ายโลกุตระสำหรับผู้มีสัจธรรมที่เรียกว่าโลกุตระ แม้ไม่มีบัญญัติ อย่างอาตมารู้บัญญัติ รู้ภาษา รู้ลักษณะด้วย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านเข้าใจโลกุตตรธรรมและท่านก็ทำ แต่มวลยังไม่รู้ยังตามท่านไม่ได้ แต่มันก็เกิดพลัง มีฤทธิ์ที่ค่อยๆเป็น รับถ่ายทอดกันมา ออสโมซิส กันมา ซึมซับกันมาอย่างลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ  ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 แบบ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2564 ( 10:57:30 )

ระบอบบริหารประเทศ แบบที่ 6 คอมมูนิสต์ที่กำลังผนวกประชาธิปไตยแต่ยังขาเดียว 

รายละเอียด

6. คอมมูนิสต์ ที่กำลังผนวกประชาธิปไตย แต่ยังขาเดียว 

เข้าใจแล้ว ว่า ที่จริงจะต้องให้อำนาจแก่ประชาชนเฉลี่ยกันไป คอมมิวนิสต์นี้เป็นอำนาจเฉพาะกลุ่ม แล้วก็บังคับคนอื่นก็ไม่ค่อยดี เขาก็พอจะมีปฏิภาณปัญญาขึ้นมา ก็เลยได้พยายามที่จะให้ประชาชนได้รับอำนาจเพิ่มขึ้นบ้าง ให้มีพลังอำนาจ เป็นของตัวเอง ก็กลายเป็นคอมมิวนิสต์ที่กำลังผนวกประชาธิปไตยเข้าไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังเป็นขาเดียว ยังไม่มีกษัตริย์ที่สืบทอดสันตติวงศ์ ซึ่งความเป็นกษัตริย์สืบสันตติวงศ์นี้ลึกซึ้งมาก มันเป็นเรื่องของกรรมวิบาก เป็นเรื่องของ DNA ทางจิต ซึ่งเป็นเรื่องของ อจินไตยที่ เกี่ยวกับกรรมวิบากที่เขาไม่เข้าใจกันได้ง่ายๆ ที่อาตมาพูดนี้ ผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนาก็อาจจะไม่เข้าใจได้ทันทีหรือง่ายๆ 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 แบบ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2564 ( 10:59:34 )

ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 แบบ

รายละเอียด

อาตมาพยายามอธิบายเรื่องการบริหารปกครอง รัฐของตนเอง ประเทศของตนเอง

ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน

1. สมบูรณาญาสิทธิราช เต็มรูปคือเผด็จการ

2. ประชาธิปไตยทุนนิยมสามานย์ ขาเดียว เช่น อเมริกา

3. คอมมูนิสต์ สืบสันตติวงศ์ เช่น เกาหลีเหนือ

4. ประชาธิปไตย ที่เริ่มมีปัญญา แต่ยังขาเดียว 

5. ประชาธิปไตย มีปัญญาเริ่มเข้าข่ายโลกุตระและเข้าใจ ประชาธิปไตย 2 ขา 

6.  คอมมูนิสต์ ที่กำลังผนวกประชาธิปไตย แต่ยังขาเดียว

7. ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เจริญโลกุตระตามลำดับ 

8. คอมมูนิสต์ ที่มีการเลือกตั้ง ปรับตัวเป็น  “ประชาธิปไตยคอมมูน” (คือมีทั้งประชาธิปไตย + คอมมูน) ข้อดียังไม่มีในสังคมโลก แต่ต่อไปเขาจะมี 

9. ประชาธิปไตยที่เป็นคอมมูน พร้อม “ภาวะ 2” คือ “ราชประชาสมาสัย” ที่สัมบูรณ์ เป็น “สาราณียธรรม 6” ชัดเจนถึงที่สุดแห่ง “บุญนิยม” นั่นคือ เป็น “สังคมสาธารณโภคี” ที่มี “กายปาคุญญตา” และ “จิตปาคุญญตา” เจริญทั้ง “กาย” และ “จิต” สัมบูรณ์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 แบบ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2564 ( 10:39:51 )

ระบอบบริหารประเทศแบบที่ 3 คอมมูนิสต์สืบสันตติวงศ์

รายละเอียด

3. คอมมูนิสต์ สืบสันตติวงศ์ เช่น เกาหลีเหนือ  คอมมิวนิสต์ที่จริงไม่มีระบบสืบสันตติวงศ์ แต่สุดท้ายเขาก็จะสืบสันตติวงศ์ อย่างเช่น ประเทศเกาหลีเหนือ เพราะมันเป็นอวิชชามันก็มีลักษณะความเห็นแก่ตัวอย่างถอดไม่ออก เมื่อได้อำนาจแล้วมันก็ทำหมด 

อย่านึกว่า อเมริกา จะไม่มีการสืบสันตติวงศ์นะ ลึกๆเขาก็ยังมีการสืบสันตติวงศ์ ประธานาธิบดีที่ถูกปลดแล้ว ก็ยังกุมอำนาจอยู่อย่างนั้น ต้องเป็นอาวุโส ต้องเป็นภันเตของประธานาธิบดีรุ่นต่อไป แล้วอวดดีด้วยนะว่าฉันเหนือกว่า อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นต้นแสดงออกมาเต็มรูป ข้อ 3 นี้ คอมมิวนิสต์สืบสันตติวงศ์ก็คือ จิตวิญญาณที่มันอวิชชา เป็นตัวกูของกู เป็นตระกูลของกูอยู่อย่างนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบบริหารประเทศที่โลกมีกัน 9 แบบ วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2564 ( 10:51:41 )

ระบอบประชาธิปไตย

รายละเอียด

ระบอบประชาธิปไตย  คือ  เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง  คนมาบริหารต้องเอาให้ประชาชนเป็นน้ำหนัก  น้ำหนักที่มันสุดโต่ง  ก็เลยเอาประชาชนไปเลือกตั้งอย่างเดียวมีกลวิธีแค่การเลือกตั้งถือว่าเป็นประชาธิปไตย  มีแทคติกกลไกเลือกตั้งคนมีอำนาจก็ร้อยจมูกประชาชน ซื้อหาด้วยเงินใช้อำนาจบาตรใหญ่  เพื่อหลอกล่อให้ได้มวลชน  มันก็ยังไม่บริสุทธิ์

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2562 ( 06:24:36 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:01:44 )

ระบอบประชาธิปไตยแบบพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

ระบอบประชาธิปไตยแบบพระพุทธเจ้า  คือ  จิตทุกคนเท่าเทียมกันกันหมดมีอิสรภาพเสรี ทุกคนมีสิทธิ์ทำ  ไม่ต้องครอบงำความคิดซึ่งกันและกัน นี่คือสูงสุดพระพุทธเจ้าทำมาแล้ว  ไม่ต้องมีอัตตาตัวตนเอาความเห็นของหมู่เป็นหลัก  แล้วมีทฤษฎีวิธีการระบบเผื่อแผ่เจือจานจะต้องรู้จักฐานะทางจิตวิญญาณว่าคนนี้เขามีความเป็นประชาธิปไตยหรือเห็นแก่ตัวมากน้อยเท่าไหร่  แต่ละคนแต่ละคนจะมีความรู้ความสามารถลึกๆ เรียกว่าหยั่งรู้จิตคน  หยั่งรู้ความยึดติดของแต่ละคนได้ดีมากขึ้นๆ แล้วก็บริหารให้ได้ลงตัวเท่าที่คนเขายึดมาก  ก็ใช้วิธีการใช้ความสามารถที่จะมีศิลปะในการที่จะให้คนเหล่านั้น  เขาปฏิบัติตามที่เราเองเป็นผู้ที่กำหนดแต่มีจิตใจไม่เห็นแก่ใคร  ไม่มีอคติ  ไม่เห็นแก่ตัวเอาตามฐานะตามความเป็นจริงของคนที่เหมาะสม บริหารอย่างได้สัดส่วนที่เหมาะสมที่สุด  ความละเอียดของคนและสังคมมีความละเอียดลึกซึ้งซับซ้อนเกี่ยวกับคุณธรรมภูมิปัญญาของแต่ละคน

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2562 ( 06:27:00 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:31:54 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:29:52 )

ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นเผด็จการ

รายละเอียด

คนส่วนใหญ่นี่แหละ ระบอบการปกครอง สมัยโบราณสมบูรณาญาสิทธิราชย์ อำนาจใหญ่อยู่ที่คนผู้เดียว ระบอบการบริหารปกครอง ใหญ่ผู้เดียว เป็นแบบพระพรหม ข้านี่แหละใหญ่ รู้หมดทุกอย่าง เผด็จการ อำนาจใหญ่ สั่งฆ่าทั้งตระกูลอำนาจใหญ่ เสร็จแล้วก็ยืนอยู่บนฐานของลาภสรรเสริญโลกียสุข  มีอำนาจเด็ดขาดจะริบสมบัติผู้ใด สั่งฆ่าทั้งตระกูล เอาสมบัติมายึดเป็นของพระเจ้าแผ่นดินเลย เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์เผด็จการเด็ดขาด ระบอบอย่างนั้นก็ถูกโค่นล้มกันเพราะใครก็อยากเป็นเจ้าอำนาจเผด็จการ เป็นเจ้าอำนาจเขาก็โค่นล้มฆ่าตัวเผด็จการ จนกระทั่งลูกออกมาก็พยายามฆ่าพ่อที่เผด็จการจะได้ขึ้นไปเผด็จการแทน มันก็เป็นอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไร ลูกหลานญาติข้างๆนั่นแหละข้าราชบริพารที่อยู่ใกล้ตัวโค่นล้มเลย สกุล เปลี่ยนราชวงศ์ใหม่กันไปเรื่อยๆ 

ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติเป็นอย่างนั้นมา มาถึงเมืองไทยมันก็เป็นอย่างนั้นห้ามไม่ได้มาถึงเมืองไทยในยุคนี้ ผู้ที่เป็นผู้ดูแลปกครองเมื่อถึงยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ คนทั้งหลายแหล่ต่างก็ไม่ค่อยจะอยากให้เป็นหรอก เมื่อยิ่งเข้าใจว่าตัวเองเกิดมาเป็นทาส นอกจากพระเจ้าแผ่นดินเป็นนายทาสใหญ่ก็มีนายทาสย่อย มีอำนาจรองลงมาก็สะสมอำนาจย่อยลงไปซ้อนลงไป ประชาชนไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชนไม่เข้าใจสิทธิความเป็นคน ก็เหมือนเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งเขาซื้อขาย เขาจะฆ่าแกงยังไม่มีกฎหมาย อยู่กันอย่างนั้นมา จนกระทั่งบอกว่ามีความรู้กันขึ้นมามันเกิดหลายชาติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบการปกครองของมนุษย์ ที่สุดยอด วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 12:17:14 )

ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์แบบฮ่องเต้ไปไม่รอด

รายละเอียด

จีน เป็นประเทศโบราณที่มีฮ่องเต้มีกษัตริย์ในทุกยุคสมัยมา เป็นระบอบปกครองเข่นฆ่ากันไป แม้แต่ในราชวงค์ก็แย่งชิงอำนาจก็เลยยากขึ้น ไปไม่รอด ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์แบบฮ่องเต้ไปไม่รอด ต่อมาถึงยุค Last Emperor ที่ผูกสายรองเท้าตัวเองก็ไม่เป็น จักรพรรดิองค์สุดท้าย มันส่อให้เห็นถึงความตกต่ำของความเป็นมนุษยชาติ ผูกสายรองเท้าตัวเองไม่เป็นจะไปปกครองประเทศชาติอย่างไร ขออภัยวิจารณ์เป็นวิชาการ  เมื่อเหมา เจ๋อตุงเอาวิธีการใหม่ แทนวิธีปกครองเดิมที่ฮ่องเต้ไม่มีทศพิธราชธรรมไม่มีคุณธรรม วิจัยไปมากจะไม่ค่อยสวย เพราะจะไปตำหนิสถาบันกษัตริย์ เปรียบเทียบไปจนที่ญี่ปุ่นก็ดีเขาก็ยังดี ตะวันออกกลางเขาก็ยังมีสถาบันกษัตริย์กันอยู่ทั้งนั้น พูดไปมันก็จะยาวและเยอะ สถาบันขอพูดนิดหน่อย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิต์ที่ 3 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 19 มิถุนายน 2563 ( 10:23:09 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:33:53 )

ระบอบเผด็จการ

รายละเอียด

ระบอบเผด็จการ คือ

           เป็นระบบการบังคับ มันไม่อิสระ ยิ่งเป็นเผด็จการฟาสซิสต์ อำนาจแต่เพียงผู้เดียวเลย เป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว สั่งการให้ทุกคนอยู่ในอำนาจหมดเหมือนกับทุกคนเป็นทาส เราจะสั่งการอย่างไรก็ได้  ดีไม่ดี ฆ่าทิ้งได้สบาย เป็นเผด็จการสูงสุดซึ่งไม่มีแล้ว คนรู้ดีหมดแล้ว ไม่เอาแล้ว

คำอธิบาย

  

 

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2562 ( 06:21:39 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:33:58 )

ระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน

รายละเอียด

เศรษฐกิจที่เป็นตัวอย่าง เช่นชาวอโศกเป็นเศรษฐกิจที่ดีงาม แล้วรักษา แล้วทำให้เจริญได้ดีกว่านี้ อาตมายังไม่เก่งอธิบายรายละเอียดทั้งหมดอย่างชัดเจน พวกคุณก็ฉลาดช่วยอธิบายอยู่ อาตมาก็พยายามฉลาดอธิบายพวกคุณก็พยายามช่วยอธิบาย หลายคนมีแง่มุมที่ฉลาดและเข้าใจได้ดีกว่าอาตมา สามารถอธิบายได้ดีกว่าอาตมา   แต่ละคนๆ ก็ช่วยกันอย่างนี้แหละเพื่อให้คนอื่นได้รับประโยชน์ต่อ คนได้รู้ความจริงก็มาร่วมกันในสาระที่ตรงกันได้เป็นปึกแผ่น มันก็จะยิ่งมีอำนาจมีฤทธิ์เดชเป็นพลังช่วยคนอื่น คนอื่นก็จะเอาตาม โลกทั้งโลกกำลังพุ่งมารู้จุดนี้กัน บางคนมาบ้างแล้วบางคนยังไม่รู้ตัวบางคนก็เป็นสายเจโต หรือสายศรัทธาถูกนำมา บางคนสายปัญญา รู้แล้วแต่ยังไม่มา อย่างนี้มีหมด นัยยะต่างๆ เพราะฉะนั้นต้องอาศัยกาลเวลาพิสูจน์คน ระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน อาตมาถึงต้องหนักหนาเหน็ดเหนื่อยขอต่อเวลาตามอายุขัย ตัวอย่างที่จะเกิดในโลกเรื่องเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่จะเกิดที่ประเทศไทย เป็นเศรษฐกิจอย่างสำคัญไม่ใช่เศรษฐกิจที่เข้าใจกันอย่างที่โลกเขาเข้าใจ ลึกซึ้งซับซ้อน มาจนแค่นี้ก็ยังเข้าใจไม่ได้ สร้างเศรษฐกิจด้วยความจนเขาก็ยังอยากจะเข้าใจ ที่มีความลึกซึ้งซับซ้อนอีกหลายชั้นจึงต้องอาศัยเวลา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:58:03 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:36:39 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:46:32 )

ระลึกชาติอย่างไรให้เป็นประโยชน์ต่อปัจจุบัน

รายละเอียด

ระลึกชาติอย่างไรให้เป็นประโยชน์ต่อปัจจุบัน เพราะฉะนั้นในความหมายของการระลึกชาติ ระลึกชาติอย่างไรให้เป็นสัมมาทิฏฐิ เกิดประโยชน์ในปัจจุบัน ระลึกถึงความจริงที่อาตมาพูดแล้ว ปัจจุบันคือความจริง ความจริงคือปัจจุบัน ระลึกอย่างไรคุณจะอยู่ในปัจจุบัน นี่แหละเป็นประโยชน์ คุณคิดดีๆ ไตร่ตรองดีๆ ว่าคุณหนีปัจจุบันไปไหม เผลอไปกับอดีต เผลอไปกับอนาคตไหม 

ก็ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้มีอนาคต คุณต้องมี คุณต้องคำนึงถึงอนาคต อนาคตนั่นแหละที่จะเป็นสิ่งที่เป็นไปต่อไป ส่วนอดีตนั้นคุณอย่าไปกังวล อย่าไปอะไรกับมันเลย มันจบไปแล้ว มันแก้ไขอะไรก็ไม่ได้ มันก็ได้แต่เป็นความจำ ที่คุณเอามาเตือนตนเอง เป็นตัวอย่างให้แก่ตนเองว่า อย่างนี้มันเคยออกวิบากให้แก่เรานะ อย่าทำนะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุดยอดวิชาที่เป็นความจริงแท้ๆของพุทธ วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2565 ( 13:18:25 )

ระลึกชาติอย่างไรให้เป็นสัมมาทิฏฐิ

รายละเอียด

ระลึกชาติอย่างไรให้เป็นสัมมาทิฏฐิ ประเด็นที่ว่า ระลึกชาติอย่างไรให้เป็นสัมมาทิฏฐิ เกิดประโยชน์ต่อปัจจุบัน ปัจจุบันนี้ระลึกชาติอย่างไร เราก็ระลึกชาติอดีตอนาคตบ้าง อย่างอาตมานี้ ระลึกชาติเอาอดีตมา จริงๆแล้ว พูดตรงๆเลยมาในปางนี้ชาตินี้ของอาตมา อาตมาได้ปัจจุบันที่มันมีเหตุปัจจัยแบบใหม่ ที่โลกยุคนี้มี ยุคนี้เกิดองค์ประกอบขึ้นมา ก็ถือว่าอันนั้นใหม่ 

แต่ในความใหม่นี้ ในปัจจุบันใหม่ เหตุปัจจัยโลกยุคนี้มันเป็นอย่างนี้ โลกยุคพระพุทธเจ้าไม่มีคอมพิวเตอร์ อย่างนี้เป็นต้น ไม่มีความไวความเร็วของการติดต่อกัน เชื่อมโยงกัน เป็นต้น แม้แต่หนังสืออย่างนี้ก็ไม่มีเหตุปัจจัยในยุคพระพุทธเจ้า อย่างนี้เป็นต้น แต่ในยุคนี้มี แล้วก็ทำประโยชน์ขึ้นมาได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุดยอดวิชาที่เป็นความจริงแท้ๆของพุทธ วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กันยายน 2565 ( 14:46:50 )

ระลึกชาติได้ดีไหม

รายละเอียด

ก็คงหมายความว่า ระลึกชาติก่อนได้ว่าเราเกิดเป็นคนหรือสัตว์เป็นใครก่อนมาชาตินี้ ถ้าหมายอย่างนั้นก็อย่าไปคิดนึกเลย มันไม่มีประโยชน์อะไรแม้ว่าเราจะระลึกได้มันก็ไม่มีใครมายืนยันกับเรา มันจะผิดหรือถูกก็เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เราก็ฝันเฟื่องอยู่อย่างนั้น ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับสิ่งที่ผ่านมาแล้วอย่างนั้น ต่อให้คุณเป็นอะไรก็แล้วแต่ สมมุติว่าคุณเลอะเทอะหน่อย ระลึกได้ว่าชาติที่แล้วเป็นพระอรหันต์องค์ใดองค์หนึ่ง มาเกิดในชาตินี้ดันไม่ใช่อรหันต์ เพราะรู้ว่าตนเองยังไม่ใช่อรหันต์ในชาตินี้จะสมน้ำหน้าคุณบ้างไหม?

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน ทำไมไม่อยากให้ลูกมีแฟน


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:22:43 )

ระลึกถึงวันประกาศนานาสังวาส

รายละเอียด

วันนี้เป็นวันที่ 7 สิงหาคม 2563 วันนี้เป็นวันที่ชาวอโศกประกาศอิสรภาพ ตั้งแต่วันที่ 6 คือเมื่อวานนี้ วันที่ 6 สิงหาคมเป็นวันประกาศอิสระเสรีภาพของชาวอโศก คือประกาศนานาสังวาส ประกาศในวันที่ 6 วันที่ 7 ก็ถือว่าเป็นวันอิสระเสรีภาพสมบูรณ์ของเราตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนถึงวันนี้ก็เป็นอิสระเสรีภาพตลอด แต่ก็ยังมีคนไม่ยอมรับอิสระเสรีภาพของเรา อย่างเหตุการณ์ที่เคยเกิดมา ทั้งๆที่ประกาศแล้ว ตอนแรกเขาก็ยังไม่ทันตั้งตัวเขาก็ยังไม่ทันรู้สึกว่ามันจะเป็นอะไร เราก็อยู่สบายมาตั้งแต่พศ. 2518 ประกาศตั้งแต่ 6 สิงหาคม 2518 เราก็ทำงานมาเรื่อยๆสบายๆจนถึงพ.ศ. 2525 ก็ พันตำรวจตรีอนันต์ เสนาขันธ์ ก็คึกขึ้นมา อาละวาดท่านพุทธทาส อาละวาดพระโพธิรักษ์ อาละวาดไปทั่ว เขาถือดีว่าบรรลุธรรมอะไรของเขาก็ไม่รู้ ก็เขียนหนังสือและทำอะไรมาอาละวาดเป็นข่าวคราวเยอะ อาละวาดเราต่างๆนานาไปกันใหญ่เลย ก็เป็นการจุดชนวนให้ทางเถรสมาคม ซึ่งก็เงียบสบายเราก็ทำงานมาดีเราประกาศนานาสังวาสแล้ว ก็รู้สึกว่ายอมรับด้วย ในตอนนั้นก็ยอมรับมีหลักฐานด้วย มีหลักฐานที่ กรมรถไฟ ผู้อำนวยการกรมรถไฟ มันมีเรื่องราวก็เพราะว่า เราไปซื้อตั๋วรถไฟ สมณะตอนนั้นเป็นพระอยู่ ซื้อตั๋วรถไฟ ธรรมดาเขาก็ลดราคาให้ครึ่งนึงแต่เขาไม่ยอมลดให้เรา เราก็บอกว่าทำไม เขาก็บอกว่าเราไม่ใช่พระ เพราะเขาได้เขียนจดหมายไปถามกรมการศาสนา แล้ว อธิบดีกรมการศาสนา คุณธนู แสวงศักดิ์ เป็นอธิบดี ได้ตอบจดหมายมาว่า เราไม่ใช่พระสงฆ์ในสังกัดของเถรสมาคม เพราะฉะนั้นต้องเสียค่ารถไฟต้องจ่ายเต็มราคา เขาไม่ถือว่าเป็นพระสงฆ์ของเถรสมาคม ซึ่งอาตมาก็เคยตั้งข้อสังเกตว่า พระต่างชาติมาอยู่ที่นี่ก็เสียครึ่งราคาได้นะ แต่พระอโศกไม่ได้ครึ่งราคา นี่แหละคือเรื่องของความ แล้วแต่จะตีความจะตัดสินอย่างไร เราก็เลยต้องใช้ตั๋วเต็มราคาตั้งแต่บัดนั้นมา จะขึ้นเครื่องบิน จะขึ้นรถไฟ ยังดีนะรถเมล์เขาใจดีสำหรับพวกเราเขาเชิญขึ้นเลย แล้วก็จัดที่ให้อย่างดีเลย ดีไม่ดีพระทางโน้นเก็บเงินด้วยนะ แต่ถ้าเราเขาดูดี ไม่เก็บ ที่พูดขึ้นมาเป็นการระลึกถึงไม่ใช่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่เป็นเพียงให้รู้ว่ามันมีเรื่องที่ลึกซึ้งเป็นเรื่อง อจินไตย หลายอย่างที่เราคิดเองไม่ได้ ถ้าไม่ใช่วิสัยของผู้ที่มีภูมิถึงขั้นพุทธวิสัย เราไม่มีภูมิเข้าเขตถึงพุทธะทีเดียว จะพึงคิดถึงสิ่งที่เป็นสัญญาตอนนั้นเลยไม่ได้หรือแม้แต่ฌานวิสัย ซึ่งเป็นอจิณไตย ถ้าผู้ใดไม่มีความสัมมาทิฏฐิแล้ว จะไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้จักฌานของศาสนาพุทธ จะรู้จักแต่ฌานของโลกีย์ทั้งนั้นเลย เช่นเดียวนี้เป็นต้นไป อาตมาพูดได้เต็มคำเลยว่า ยังหายากมาก ที่จะมี พระ เจ้า แม้แต่จบเปรียญ 9 จบเปรียญ 18 จบด็อกเตอร์ 5 ใบทางพุทธศาสนาก็ตาม หรือได้รับความยกย่องทางพุทธศาสนา ยังเข้าใจ ฌาน แท้ๆของพุทธไม่ได้ ไม่ง่าย ซึ่งอาตมาก็พยายามอธิบายให้ฟัง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 04 กันยายน 2563 ( 09:51:18 )

ระลึกเป็นตัวตนบุคคลเราเขามันไม่ใช่ธรรมะ

รายละเอียด

ไม่ต้องระลึกถึงแบบมหาบัวหรอก อาตมาระลึกถึงได้ง่ายๆ บรรยายมาตั้งแต่สมัยก่อนที่เขาเอามารีรัน บรรยายอยู่กับมหาเถรสมาคม บรรยายกับพระนิสิต พูดเร็ว แต่เย็นนี้ไม่ต้องขนาดนั้น ตอนนั้นไม่ต้องคิดเลย และรู้เองเป็นสยังอภิญญา

แต่คุณเดชาบอกว่า ระลึกเป็นภาพขาวดำหรือภาพสี แสดงว่าคุณระลึกเป็นบุคคลตัวตนทั้งนั้น มีทั้งเสียงพูดอีก อาตมาระลึกถึง เป็นภาษาบาลีได้ ระลึกถึงเป็นอนุสาสนีของพระพุทธเจ้าได้ อาตมาก็ระลึกถึงพยัญชนะเหล่านั้นได้ อาตมาเล่าให้ฟังแล้วว่า อาตมาเข้าใจไปไกลกว่าคุณ คุณยังต้วมเตี้ยม สับสนระหว่างธรรมะสภาวะกับตัวตนบุคคลเราเขา คุณยังไปยึดตัวตนบุคคลเราเขามาเป็นธรรมะอยู่เลย เพราะฉะนั้นจะอธิบายจะพูด คุณก็ยังเข้าใจไม่ได้ พูดไปอีก คุณก็ยังเข้าใจไม่ได้ 

ที่อาตมาสอน อธิบายต่างๆมา ตลอดเวลาที่อาตมามาบวชและทำงานมา 52 ปี อาตมาสอน อาตมาเล่า อาตมาสาธยาย อาตมาพูดถึงสัจธรรม ที่เป็นปรมัตถ์เป็นโลกุตระทั้งนั้น คุณยังต้วมเตี้ยมงมงายวนอยู่ในโลกียธรรม เพราะฉะนั้นต้องพยายามหน่อย

เป็นตัวตนบุคคลเราเขาทั้งนั้น มันไม่ใช่ธรรมะ ไม่ใช่อนุสาสนีปาฏิหาริย์ กลายเป็นสมมุติธรรมไป อาตมามีจิต อภิปโมทยังจิตตัง มีจิตใจเบิกบานร่าเริงสนุกสนานอยู่เสมอ ไม่ใช่คนจิตใจเศร้าหมอง อาตมาเคยพูดแล้วพวกเราพ้น โศก ปริเทว ทุกข โทมนัส อุปายาสะ แล้วจริงๆ จึงชื่อว่าอโศก ไม่เศร้าโศกแต่เบิกบานร่าเริงแต่ไม่ ร่าซ่า แบบทางโลกเขา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประสบการณ์พ่อครูในอิทธิปาฏิหาริย์และการออกป่า วันพุธที่ 22 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2565 ( 05:27:10 )

ระวังติดแป้นอยู่ในฌาน 3!

รายละเอียด

หรือยังทำให้“สงบสนิท”ยิ่งไปกว่านี้ ถึงขั้น“ไม่มีสุข”เลยไม่ได้ ก็จะหลงเสพติดอยู่เป็น“ฌาน 3”นี้แหละเป็น“สุข” ไม่สูงขึ้นไปเป็น“ฌาน 4”  ก็เป็น“เทพเจ้า”องค์ใดองค์หนึ่งที่“ติดแป้น”ไปเลย นี่คือ เสพติด“ฌาน 3”หรือไม่ก็หลง“ฌาน 3”เป็นนิพพานก็มี ซึ่งผู้ที่หลงอารมณ์ต่างๆเป็น“นิพพาน”นี้มีทั้งหลง “กาม” เป็น “นิพพาน”มันก็หลงผิดได้จริงๆ คิดดูเถิด หลง“ฌาน 1”เป็นนิพพานก็หลงได้ หลงแต่ละ“ฌาน” ไม่ว่า ฌาน 2 ก็ตาม ฌาน 3 ก็ตาม ฌาน 4 ก็ตาม ว่าเป็นนิพพาน ล้วน“หลงผิด”กันได้ทั้งนั้น 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 294 หน้า 226


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 14:30:27 )

ระวังถูกหลอกว่าหลับตาพาบรรลุ! แถมสร้างอุปาทานใหม่!

รายละเอียด

เพราะเชื่อว่า“หลับตา”ปฏิบัตินี้แหละคือ วิธีปฏิบัติที่ยอดยิ่งแต่แท้ๆมันแค่“มายา”ที่ทำให้นิ่งให้แน่นเข้าไป แล้วหลงผิดกันว่าอะไรต่ออะไรก็จะเกิดขึ้นมาเองหมดแหละทั้งปัญญา ทั้งศรัทธา

นี่แหละ“มายา”ที่ผู้ไม่มี“วิชชา” หรือไม่“สัมมาทิฏฐิ”ได้แท้ ก็จะหลงถูก“มายา”นี้หลอกให้หลงว่า “หลับตา”ปฏิบัตินี้เป็น“หลักแท้” หลักใหญ่ หลักเดียว แล้วจะพาบรรลุอรหันต์

ที่จริงผู้จำเป็นต้อง“หลับตา”ปฏิบัติกันก่อนนั้นคือ คนที่จิตฟุ้งซ่านมากเท่านั้น ที่ต้องปฏิบัติ เพราะตัวเองไม่สามารถใช้“สติ”เรียนรู้ปฏิบัติใขณะ“ลืมตา”

สามัญของคนธรรมดาได้จริงๆ จึงต้องฝึกสมถะกันก่อน แต่ถ้าคนผู้มีสัมมาทิฏฐิ ปฏิบัติตามหลัก“ไตรสิกขา”ของพระพุทธเจ้าตามลำดับกันจริงๆ ก็จะไม่ต้องปฏิบัติ“หลับตา”เลย

ปฏิบัติตาม“ศีล”ทีละข้อ ที่มี“สัมผัส”ให้เรียนรู้“เวทนา” ที่“หลับตา”ปฏิบัติกันนั้น แถมสะกดจิตให้แน่น ให้แข็ง ให้หยุดให้นิ่งยิ่งๆเข้าไปๆๆ แล้วจะมีอะไรต่ออะไร“โผล่ผุดขึ้นมาเอง” 

หลงละเมอเพ้อพกตลกขนาดว่าจะมี“ปัญญา”ขึ้นมาเองได้ คนที่ไม่รู้ทันก็งมงายจมหลงใหลไปกับ“ลัทธินอกพุทธนอกรีต”นี้กันเป็นธรรมดา เพราะยังไม่รู้ฤทธิ์ร้ายของ“อุปาทาน”

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 182 หน้า 157


เวลาบันทึก 26 มิถุนายน 2564 ( 19:15:44 )

ระวังมารหลอกให้หลงผิดตลอดเวลา “สัมมาทิฏฐิ” จึงสำคัญอย่างยิ่ง!

รายละเอียด

ถ้าไม่เรียนรู้ให้“สัมมาทิฏฐิ”ตาม“จรณะ 15 วิชชา 8”ก็ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน“ทิฏฐิ 62” ข้อสุดท้าย“ทิฏฐธรรมนิพพานทิฏฐิ 5 ประการ” ซึ่งจะหลงติดหลงเสพไม่หลุดพ้นไปจาก“ทิฏฐิ 62”นี้ไปได้เป็นอันขาด  [พระไตรปิฎก เล่ม 9 ข้อ 62.(5)ที่ปรารภขันธ์อนาคต] ก็นัยนี้เอง ผู้พ้น“มิจฉาทิฏฐิ”ทั้ง 62 บริบูรณ์แท้จริงเท่านั้น จึงจะปฏิบัติบรรลุนิพพานได้บริบูรณ์สัมบูรณ์แท้จริง

เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นมั้ยว่า แม้แต่“ทิฏฐิ 62”นี้เอง ก็มีความลึกซึ้งยิ่งนัก

(คัมภีรา)ใน“สัมมาทิฏฐิ”หรือ“มิจฉาทิฏฐิ” เห็นตามได้ยาก (ทุทฺทสา) รู้ตามได้ยาก(ทุรนุโพธา) สงบชนิดพิเศษ(สันตา) สุขุม(ประณีต)

ยิ่งนัก ใช้แค่การขบคิดแม้จะอัจฉริยะก็ไม่ได้(อตักกาวจรา) ละเอียดขั้นนิพพาน(นิปุณา) บัณฑิตแท้เท่านั้นจึงจะรู้จักรู้แจ้งรู้จริง(ปัณฑิต เวทนียา)

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 295 หน้า 227


เวลาบันทึก 02 สิงหาคม 2564 ( 14:32:44 )

ระวังอย่าหลงวิชาการ หลงอัตตาให้เอาสภาวะจริงเป็นหลัก

รายละเอียด

ระวังอย่าไปหลงวิชาการ หลงอัตตา หลงวิธีการ หลงคำอธิบายละเอียดต่างๆมากจนกระทั่ง ไปงมอยู่แต่ไอ้บัญญัติอันละเลียดต่างๆนั้นน่ะ จนกระทั่งอ่านสภาวะของตนไม่ออก อ่านสภาวะไม่เป็นเหมือนอย่างที่นักปราชญ์ของศาสนานั่นแหละ โดยเฉพาะสายพุทธคำสอนของพระพุทธเจ้าละเอียดลออมากมาย ไปงมอยู่นั่นแหละยังไม่พอ แถมเอาคำสอนเพิ่มเติมที่ขยายความเพิ่มอีก จากอาจาริยวาท จากอรรถกถาจารย์ ผู้รู้อีกเยอะแยะก็เลยช้ามาก ผู้นี้จะติดอยู่และช้ามาก เพราะมันเยอะ มันละเลียดละเอียด จนหยิบความรู้ที่ตัวเองมีมากหลายเอามาตรวจสอบยังไม่ทันเลย ว่าไปถึงไหนแล้ว ผู้ที่หลงบัญญัติมากรู้มากช้านานยากนานเป็นอย่างนี้แหละ มีอยู่หลายคนในพวกเรามีอุปนิสัยพวกนี้ ชอบใจติดใจในรายละเอียดอันพิสดารอันวิจิตรลึกซึ้งอะไรมากมายเกินจนกระทั่ง ไม่ค่อยดิ่งเข้าหาสภาวะให้เป็นหลัก 

สิ่งเหล่านี้ถ้าจะว่าแล้วบัญญัติเป็นรอง สภาวะจริงเป็นหลัก เพราะฉะนั้นคนที่ดิ่งเข้าไปหาสภาวะจริง บางทีไม่ละเอียดดีหรอก แต่เขาจบแล้ว เขานิ่งเขาดับแล้ว ตรวจอีกทีมันมีเศษเล็กเศษน้อยก็ค่อยๆเก็บไปอย่างนี้ มันจะไม่เสียเวลาไปงมอยู่กับอะไร โดยเฉพาะบัญญัติมันไม่เข้าหาตัวสภาวะแท้ คงพอเข้าใจนะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เจโตปริยญาณ 16 และ
ปฏิจจสมุปบาทโดยพิสดาร วันพุธที่ 21 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 เมษายน 2564 ( 20:34:01 )

ระวังอันตรายอันแสบเผ็ดใน ลาภ ยศ สรรเสริญ

รายละเอียด

ทีนี้ เราเองต้องระวังอันตรายอันแสบเผ็ดใน ลาภ ยศ สรรเสริญต่างๆ อย่าไปหลง ให้รู้ว่า เขาสรรเสริญเขารับรองความถูกต้องของเราเท่านั้น ไม่ใช่ เป็นเรื่องยกย่องป้อยอ หลงติดในคำสรรเสริญนั้น กลายเป็นการลบหลู่ดูถูกขึ้นไปอีก เราก็จะ วูบวาบกับมัน แต่ถ้าเราไม่วูบวาบก็ชัดเจน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 30 วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 19:23:28 )

ระวังเถอะ เพ่งกสิณได้สมถะ ได้ตัณหา ได้โลกียะ!

รายละเอียด

การปฏิบัติเพ่ง“กสิณ”นั้นคือ การปฏิบัติ“สมถะ”เท่านั้น ยิ่งเพ่งกสิณแล้วจิตเป็น“สมถะ”คือสงบ แล้ว“หลับตา”ซ้ำเข้าไปอีกก็เป็นอันหมด“เวทนา”ภายนอกสนิทไปเลย 

ก็เลยเป็น“ผู้ไม่รู้ไม่เห็น เป็นความแส่หา(ปริตสฺสิตัง) เป็นความดิ้นรน(วิปฺผันทิตเมว) ของคนที่ตกอยู่ใต้อำนาจของตัณหา เป็นคนมีตัณหา(เวทยิตัง ตัณหาคตานัง)”เท่านั้น (พระไตรปิฎก เล่ม 9 ข้อ 51 ถึงข้อ 63) จึงชื่อว่า นอกรีต!นั่นคือ ไม่มี“เวทนา”นี่เอง จึงไม่มี“ฐาน”ปฏิบัติธรรมถูกตรงตามพระพุทธเจ้าตรัส 

ดังนั้น พวกที่“หลับตา”ปฏิบัติ ไม่มี“สัมผัส(ผัสสะ)”ภายนอกไม่มี“เวทนา” ก็เป็นพวกนอกรีตศาสนาพุทธไปจริงๆ(ไม่ได้ใส่ความนะ) ศึกษาตามพระอนุสาสนีกันให้รอบถ้วนเถิด

ผู้ปฏิบัติที่เว้นจาก“เวทนา”ไปแล้ว หรือไม่มี“เวทนา”เป็น“ฐาน (ตำแหน่ง)”ปฏิบัติ ไปยึดกสิณอย่างอื่น ก็ล้วนเป็นแต่เพียงคนที่มีแต่“ความแส่หา(ปริตสฺสิตัง) ความดิ้นรน(วิปฺผันทิตเมว)” 

ซึ่งเป็นคนที่ตกอยู่ใต้อำนาจของตัณหา เป็นคนจมอยู่กับตัณหาแล้ว(เวทยิตัง ตัณหาคตานัง)ทั้งนั้น

คนเช่นนี้อาการมิจฉาทิฏฐิหนักมาก แก้ไขลำบาก ดังที่ชาวพุทธส่วนใหญ่ แม้แต่ในกระแสหลักของวงการศาสนาพุทธประเทศไทย ในปัจจุบันนี้ก็หลงจมงมงายกันหนักอยู่

ต้องมี“นาม 5” มี“รูป 28”ปฏิบัติ อยู่ครบครันนะ! อย่าเอาแต่“หลับตา”ปฏิบัติ นั่นออกนอกขอบเขตพุทธแล้ว

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนืยม เล่ม 2 ข้อ 170 หน้า 150


เวลาบันทึก 22 มิถุนายน 2564 ( 12:03:49 )

ระหว่างตาย หรือตายแล้วจะหลงลืมเหมือนแก่หรือไม่

รายละเอียด

ถามลึกมากเลย ก็ตอบยากแต่พอตอบได้ คุณถามช่วงที่ระหว่างตาย ตายไปแล้ว ตอนก่อนตายอายุมากหลงลืม ตอนตายแล้วจะหลงลืมหรือไม่ ตอบ เขาจะไม่หลงๆลืม เหมือนตอนแก่ เพราะตอนแก่นั้นเขาใช้สรีระร่าง เพราะฉะนั้นมันสมองเขาเสื่อมเส้นประสาทเขาเสื่อม บางคนเป็นอัลไซเมอร์ สมองบางส่วนเสียจะเป็นอัมพาตเป็นอัลไซเมอร์ไป เป็นผลของความเสื่อมมันไม่คงที่ มีร่างกายมันก็เลยใช้ไม่ได้ เมื่อตายไปแล้วไม่มีร่างกาย จิตก็ทำงานของตัวเองเต็มที่ เพราะฉะนั้นความหลงลืมหายไป ความจำได้มีอยู่ จะแสดงอะไรออกมาทั้งกายกรรม วจีกรรมอะไรไม่ได้เลย ก็มีแต่จิต เพราะฉะนั้นก็เลยมีจิต ไม่หลงลืม มีเท่าไหร่ก็เท่าที่ของเรามี มา รีเซ็ตใหม่ ตอนเป็นๆ มันขึ้นอยู่กับร่างกายองค์ประกอบสรีระสมองของคนด้วย มันก็เลยใช้อุปกรณ์อันนี้ แต่เมื่อตายแล้วไม่ใช้อุปกรณ์พวกนี้มันก็เลยกลับไปเป็นมีเท่าไหร่ เราจะมีความรู้ที่ดึงมารู้ได้โดยไม่ต้องถูกพวกนี้ต้าน มาทำให้ใช้ไม่ได้ ก็กลับไปใช้เท่าที่มีได้เต็มที่เลย

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 13 พฤศจิกายน 2563 ( 11:11:38 )

ระหว่างศาสนาไม่ควรมีสงคราม เราควรทำสงครามกับกิเลสเพียงอย่างเดียว 

รายละเอียด

คุณเก่าสมัยพูดมานี้ แสดงถึงความเข้าใจ ว่าทำสงครามเพื่อศาสนา สงครามฆ่ากันเพื่อศาสนา นั้นมันไม่ใช่เพื่อศาสนา มันเพื่อก็ได้เพื่อศาสนาที่มันไม่ได้พาเจริญ ศาสนาที่พาให้เสื่อม ศาสนาที่พาให้ทุกข์ ศาสนาที่พาให้ทำลาย นะ ฆ่าแกงกัน แค่คำว่า “ฆ่า” อย่าว่าฆ่ากันที่เป็นฆ่าคนเลย อย่างที่เขาทำสงครามกันแล้วอ้างศาสนา 

เพราะฉะนั้นผู้ที่ยังเข้าใจว่าทำสงครามศาสนาแล้วฆ่ากันเนี่ย ยังอีกนาน ยังอีกนานที่จะเข้าถึงศาสนาที่ควรจะเป็นอาริยบุคคล อีกนาน  

เอาละ พูดไปมากก็ไม่ได้ เพราะคนที่เป็นเทวนิยมยังทำสงครามอย่างนี้อยู่ เยอะ ไม่ต้องพูดไปมาก เพราะพูดไปเขาก็ยังเข้าใจไม่ได้ นอกจากไม่ได้แล้วเป็นโอษฐ์ภัยด้วย ก็ขอวรรคไว้เท่านี้ก็แล้วกัน 

เพราะฉะนั้น เรื่องสงครามทางศาสนานี้เลิกเลย ศาสนาไม่มีสงคราม มีแต่สงครามในใจของเราเอง ทำสงครามของตัวเราเอง เราทำสงครามกับกิเลส อันนี้คุณทำสิ ประหารกิเลสให้ได้ทำสงครามโดยประหารเลย นี่ใช้พยัญชนะใช้ภาษาตรงๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คณะสงฆ์เมืองไทย ใครได้ดอกไม้พลาสติก ใครได้มูลสูตร 10 วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 แรม 12 ค่ำ เดือน 11 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2567 ( 19:37:30 )

ระเบิดแห่งรักจะเกิดได้เฉพาะกับพระโพธิสัตว์

รายละเอียด

ไม่ได้หรอก คนธรรมดามีไม่ได้ อาตมาเคยพูดหลายทีแล้ว ประเทศไทยคนไทยเป็นคนมีภูมิปัญญา ความเจริญของคนไทยที่มองถึงคุณค่าของในหลวงรัชกาลที่ 9 ออก เพราะฉะนั้นเมื่อท่านสวรรคตลง ก็โอ้โห ความเห็นตรงกันอันเดียวกัน มันเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ถึงได้แสดงออกมาอย่างที่ปรากฏ ที่เราเรียกด้วยคำรวม เป็นคำของไอน์สไตน์ที่ได้พูดไว้ว่าเป็น bomb of love เป็นความรักองค์รวมของมนุษยชาติ โดยเฉพาะประชาชนคนไทย หลอมรวมความรักเข้ามาสู่จุดนี้แสดงออกถึงความเสียดายสิ่งที่สูญเสียไปอันนี้ ตรงกันยิ่งใหญ่เป็นความเสียดายอันยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีที่อื่นใดทำได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 14:05:18 )

ระแวงอะไรพ่อครูผู้เป็นพระอรหันต์

รายละเอียด

พวกเรานี้ ทุกวันนี้ คนชาวพุทธก็ตาม ไม่เข้าใจแล้วว่า อรหันต์คืออะไร อาตมาเป็นพระอรหันต์นะ บอกไปจนกระทั่งบอกจริงใจ ไม่ได้บอกเล่นด้วย ถ้าบอกเล่นก็ปาราชิกไม่เหลือแล้ว ก็สังเกตไปว่าอาตมาเป็นอรหันต์คืออะไร อาตมาประพฤติไป มันจะขัดแย้งกับความเป็นอรหันต์อย่างไรเมื่อไหร่มันจะเห็น ซึ่งก็ยังไม่มีอะไรขัดแย้ง ยังไม่มีอะไรที่จะเป็นเรื่องจับมาเป็นประเด็นอะไรได้ แต่ก็ระวังเอาความเป็นสามัญมาใช้กับอาตมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ใช่สามัญ เป็นวิสามัญแล้ว เป็นอรหันต์แล้วก็น่าจะยกไว้ แม้แต่พระพุทธเจ้า ก็มีการสวดสติวินัย ให้พระอรหันต์ ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะผิดวินัยได้แล้ว เป็นเรื่องลึกซึ้งมาก เป็นอรหันต์แล้วจะกังวลทำไมกับเรื่องพวกนี้ เชื่อไหมว่าอาตมาเป็นอรหันต์ อาตมาไม่มีเรื่องกาม แล้วจะมาระแวงอะไร ขนาดพวกเรายังไม่เชื่อ พวกข้างนอกก็คงไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่คนข้างในนี่สิ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูผู้ปราบมารเพื่อยังพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี วันพุธที่ 10 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 04:42:47 )

รัก ชัง อร่อยเป็นเวทนา

รายละเอียด

การกำหนดพยัญชนะกับสภาวะมันไม่ใช่ง่ายๆ มันเป็นเรื่องยากมากเลย กำหนดสภาวะให้มันลงตรงกับพยัญชนะ คือจะเรียนรู้คำพูดหรือพยัญชนะก่อน กำหนดพยัญชนะอย่างนี้คือลักษณะอย่างนี้ เช่นยกตัวอย่างคำว่ารูปกับนาม คำว่ารูปคือส่ิงที่ถูกรู้ และในขณะเรากำหนดรูปภายนอก รูปทางวัตถุ เราก็กำหนดได้แล้วก็จะพูดกันรู้เรื่องง่าย ตากระทบรูป หูกระทบเสียง พอเข้าไปเป็นรูปภายในจิต รูปจิต อรูปจิต เช่นเวทนา สัญญา เจตนา พวกนี้ต้องเกิดจาก ผัสสะ แล้วจึงมนสิการได้ ทำเวทนาในเวทนา กรรมฐานของศาสนาพุทธคือเวทนา ที่พระพุทธเจ้าแยกแยะไว้ชัดเจนเป็นกระบวนการเวทนา 108 ถ้าเข้าใจแล้วปฏิบัติบรรลุอรหันต์ได้ตรงเวทนา 108 ปฏิบัติได้ แล้วก็ต้องลืมตาปฏิบัติ ถ้าอย่างนี้แล้วจะเกิดสัมมาสมาธิ อย่างแท้จริง หากกำหนดรัก ชัง ไม่ใช่เวทนา รัก ชัง เป็นอาการเป็นอารมณ์ของเวทนา 100% รัก ชัง คือตัณหา ตัณหาคือกิเลส กิเลสกับอารมณ์ เวทนานี่คืออารมณ์ กิเลสนี่คือเหตุให้เกิดอารมณ์ รัก บอกว่า รัก ชัง ไม่ใช่เวทนา รักชังคือตัณหา อร่อยก็ไม่ใช่เวทนา คุณเพี้ยนไปหมดเลย เป็นความผิดของอาตมาว่าคุณกำหนดผิด ให้ศึกษาดูความเห็นมันต่างกันได้ อาตมาไม่ได้เถียงไม่ได้แย้งไม่ได้ ข่มคุณนะ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 30 สิงหาคม 2563 ( 12:12:49 )

รัก รักพงษ์ คือโพธิรักษ์

รายละเอียด

ผู้รู้ถึงบอกว่าศาสนาพุทธจะยืนยาว 5,000 ปี เป็นต้น ทุกอย่างก็ต้องจริง ต้องลงตัวหมด สภาพลงตัวทั้งรูปทั้งนามยุคนี้ชัดเจนที่สุด องค์นี้เกิดมาจะต้องชื่อว่าสารีบุตร องค์นี้ต้องชื่อโมคคัลลานะ องค์นี้ต้องชื่อพระอานนท์ อย่างอาตมาชาตินี้ต้องชื่อรัก หรือชื่อมงคล มันต้องชื่อนี้ อาตมานี่พยายามจะเปลี่ยนชื่ออีกเยอะแยะ มันก็เละเทะไป เอาเข้าจริงก็มาลงตัวที่ โพธิรักษ์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ไปเปลี่ยนในทะเบียนว่านายโพธิรักษ์ ก็ยังชื่อนายรัก รักพงษ์ แต่ก็มีฉายาที่รู้จักกันคือโพธิรักษ์ ยิ่งในขณะนี้คนรุ่นหลัง รู้จัก รัก รักพงษ์ คือโพธิรักษ์ แต่รู้จัก โพธิรักษ์ก็คือโพธิรักษ์ แต่รัก รักพงษ์นั้นเป็นอดีตผ่านไปแล้ว 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 13:22:30 )

รักขส (รากษส)

รายละเอียด

จิตวิญญาณที่มันก่อกำหนดขึ้นด้วยอารมณ์ที่ไม่ใช่จิตชั้นสูง ไม่ใช่อารมณ์อันประเสริฐ

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 155


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:38:05 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 08:23:07 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:06:27 )

รักต้องมีใยต่อกันที่ควรเป็นประโยชน์ต่อกัน

รายละเอียด

ไม่ว่าเขาจะรักเรา เราก็ไม่รักตอบ ใครเขาจะโกรธเรา เราก็ไม่โกรธตอบ  

เขามารักเราแล้วเราไม่รักตอบมันจะดีหรือ ...ดี แต่รู้ว่า สิ่งที่ควร ควรมีใยอย่างรัก มีใยอย่างโกรธเกลียด แต่โกรธเกลียดไม่มีใยเลยก็ได้ แต่รักต้องมีใยต่อกันที่ควรเป็นประโยชน์ต่อกัน เราก็มีปฏิภาณรู้ แต่เราไม่ได้รักผูกพันติดยึด จะต้องเป็นวาสิฏฐีกามนิตต่อภพชาติไป ไม่เอา มันก็เป็นเพียงปัจจุบันนี้ ก็ช่วยเหลือกันไปเท่านี้ก็พอแล้ว อะไรอย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 16:32:32 )

รักมาทางโลกุตระต้องญาติปริวัตตังปหายะ

รายละเอียด

พ่อแม่ตายแล้ว จะเปลี่ยนภพชาติเปลี่ยนสิ่งที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเราไปหรือจะกลับมาสัมพันธ์กับเราอีกก็ได้ แต่ถ้าเอาแต่เกี่ยวเกาะกันอยู่ พ่อแม่ตายเราก็จะเกี่ยวเกาะกันอยู่มันจะผูกพันกันไปอีกนานนับชาติ ถ้าคุณรักจะมาทางโลกุตระ มาทางนิพพาน คุณต้องตัด ญาติปริวัตตังปหายะ ต้องตัดญาติ แต่มิตรดีสหายดีขาดไม่ได้ แต่ญาตินี้ตัดได้ โดยเฉพาะญาติทางสายเลือด อันนี้ไม่ใช่ใจดำแต่เป็นอจินไตย 

ทางสายเลือดเกิดจากวิบากทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อคุณเองเกิดมาเป็นคน ทุกคนต้องพัฒนา เราก็ต้องช่วยลูก ช่วยพ่อ ช่วยแม่ ให้มาทางโลกุตรธรรมได้ดีที่สุดจึงต้องจบแค่นี้ก่อน ต่อจากนี้ก็เป็นไปตามยถากรรม คุณก็ต้องรู้ ระหว่างที่ควรจะต้องตัด อะไรควรจะต่อ ถ้าคุณควรตัดก็ควรตัด ควรต่อก็ควรต่อ ถ้าขืนต่อไปอีกมันก็ลากจูงคุณลงไปอีก ยิ่งคุณจะต้องไปเกี่ยวไปเกาะพาคุณดึงลงไปหาโลกีย์ ยิ่งหนักไปทางโลกีย์ด้วย เช่น ยกตัวอย่างมันยังอยู่ในทางอบายมุขก็ต้องตัดเลย ปล่อยไปตามยถากรรมเลย แล้วแต่วิบากจะจัดการของเขาเอง เราช่วยเขาไม่ได้หรอก อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาคุยกับเทวดาเอากิเลสล้างกิเลส วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2564 แรม 7 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 กรกฎาคม 2564 ( 16:10:03 )

รักร่วมเพศผิดด้วยหรือ

รายละเอียด

เขาลงท้ายว่า ไม่มีนี่แหละถูกที่สุดแล้ว เขาก็ยังมีน้ำหนักความเข้าใจความเชื่อว่าไม่มีดีกว่า ถ้ามันมีมันก็พิลึก มันไม่เหมือนสามัญไม่เป็นสามัญ จับประเด็นตรงที่ว่ามันไม่เป็นสามัญ มันวิสามัญ หรือพูดให้หนักว่ามันวิตถาร ออกไปนอกเรื่องนอกทางนอกรีต วิตถารพิสดาร แปลกกว่าธรรมดา ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมชาติไม่ใช่เรื่องสามัญ เป็นคนผิดปกติ คำว่าผิดปกตินี่ก็ชัดเจนเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นอย่าอยากเป็น อย่าไปคิดเข้าข้าง อย่ามาให้คะแนนของความผิดปกติ อย่าไปให้คะแนนของความผิดปกติของสามัญธรรมชาติธรรมดาของมนุษย์ สัตว์ก็แล้วแต่ แต่เราไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องสัตว์ เราพูดถึงเรื่องมนุษย์ มันมีเรื่องปกติสามัญของมนุษย์ธรรมดา เป็นอย่างปกติธรรมดาสามัญของมนุษย์ก็แสนถูกแล้ว ในความเกิดแล้วเกิดเล่าในความเป็นมนุษย์ กว่าจะล้างกิเลสความผิดในความเป็นมนุษย์ที่เราติดยึดสารพัด 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 10:01:21 )

รักษาขันธ์ ทำงานให้แก่มนุษยชาติ

รายละเอียด

รักษาขันธ์ไป เพื่อที่จะให้ได้เป็นที่รองรับความเป็นอำนาจ ความเป็นพลังงานที่จะทำงานให้แก่มนุษยชาติ เรารู้แก่นสารสาระแม้แต่อำนาจหรือพลังงานทางกายทางจิต เราก็เอามาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ได้ ไม่ใช่เอาไปทำทิ้งทำขว้าง ทำสิ่งที่มันเลวร้าย ดีไม่ดีเป็นโทษเป็นภัย ไปสร้างอาวุธเป็นต้นไปสร้างยาพิษเป็นต้น ไปสร้างสิ่งมอมเมาเป็นต้น มันทำลายมนุษย์ มันได้บาป แต่เขาไม่รู้ความไม่รู้ความจริงเขาก็ทำไป คนไม่รู้ก็ทำบาปทำความไม่ถูกต้อง ทำสิ่งที่เป็นพิษเป็นภัยต่อมนุษย์ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 2 

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 7 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 มีนาคม 2566 ( 12:23:03 )

รักษาความสมดุลของชีวิตตามปัญญาของตัวเอง

รายละเอียด

ถ้าไม่มีภาวะของการออกกำลัง การใช้พลังงานทางกายทางใจทางสมองอย่างหมุนเวียนสมดุลดีนะ มันก็จะเสื่อม มันก็จะไม่เจริญไปอีกได้ อาตมาก็ว่าอาตมาพยายามมีความรู้ รู้ความสมดุลระหว่างพวกนี้ แล้วก็ทำให้มันสมดุลอยู่ ไม่ได้มีเจตนาอยากให้อายุสั้น ก็มีเจตนาให้อายุยืน ต้องรักษาความสมดุลตามปัญญาของตัวเองที่มีสูงสุด คนอื่นก็ช่วยด้วย แต่เราก็ต้องตัดสินเองนั่นแหละ สุดท้ายแล้วก็พยายามทำอยู่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 32 วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 มีนาคม 2564 ( 21:15:32 )

รักษาจิตให้เป็นปัจจุบันได้อย่างไร

รายละเอียด

ต้องฝึกฝน ต้องเรียนรู้จริงๆ คำถามของคุณได้เป็นสุดยอด เราจะรักษาจิตให้เป็นปัจจุบัน สุดยอด คนที่สามารถเรียนรู้จิตเจตสิกของเราให้ไม่มีอดีต มันมีอดีตแต่เราไม่วอกแวกไปกับอดีตและอนาคต รู้ว่าอดีตก็เกิดแล้ว อนาคตก็มาไม่ถึงแต่เราอยู่กับปัจจุบันได้อันนี้สัมผัสอันนั้นอันนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราโง่ไม่รู้อดีตเรารู้เปรียบเทียบได้ และเราจะเปรียบเทียบได้เร็วขึ้นด้วย มันเป็นอย่างนี้อย่างนี้เปรียบเทียบกับอดีตที่เราเคยโง่ มันก็จะฉลาดขึ้นมาเรื่อยๆ เราเคยโง่อย่างไร อะไรที่มันดีมันฉลาดมันสมควร เราก็จะค่อยๆตัดสิน แล้วเราก็จะได้พัฒนาจิตของเราขึ้นมาสู่ความถูกต้องของสิ่งที่ถูกที่ควร และสิ่งที่ถูกที่ควรของแต่ละกาล แต่ละเวลา แต่ละวินาที มันไม่เที่ยงหรอก มันเกิดจากองค์ประกอบที่ปรุงแต่งกันอยู่ในทุกปัจจุบันที่เร็วที่สุด ที่เล็กที่สุด อย่างนั้น 

รักษาจิตต้องดูองค์ประกอบที่เกิดในปัจจุบันและเรียนรู้เปรียบเทียบกับสิ่งที่ควรที่สุด ดีที่สุด ในทุกปัจจุบันนั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ระบอบการปกครองของมนุษย์ ที่สุดยอด วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 10:31:59 )

รักษาประโยชน์ตน

รายละเอียด

คือ ปฏิบัติให้เจริญในกุศลธรรมให้ยิ่งๆขึ้น

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” หน้า 494


เวลาบันทึก 02 พฤศจิกายน 2562 ( 11:53:28 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:33:04 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:46:56 )

รักษาพรหมจรรย์

รายละเอียด

ภาษาคำว่าพรหมจรรย์ไม่รู้ว่าคุณสว่างแสง จะหมายถึงบริบทใด ในความหมายของชาวโลก ที่บอกว่าพวกนี้เป็นผู้มีพรหมจรรย์ผู้บริสุทธิ์เขาก็หมายถึงว่าเป็นคนโสด จะรักษาได้อย่างไรคุณก็รักษาให้ดีก็แล้วกัน คุณก็อย่าไปเผลอไผลไปใจอ่อน อย่าไปเกิดกิเลสจนกระทั่งเมื่อรู้ตัวก็สายเสียแล้วก็แล้วกัน การรักษาพรหมจรรย์ของคุณไป แต่ถ้าเผื่อว่าเป็นพรหมจรรย์ที่หมายถึงศาสนา พรหมจรรย์หมายถึงศาสนา ก็มีเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลายโดยมีศีลสมาธิปัญญามีไตรสิกขา ซึ่งทุกวันนี้ได้ผิดเพี้ยนไปหมดแล้ว ไม่มีสินค้าแล้วสมาธิก็ผิดเพี้ยนไปนั่งหลับตาปัญญาก็ไม่เกิดเลย มีแต่การฟุ้งฝัน ก็มาศึกษาให้ดีๆศีลเป็นอย่างไรที่เป็นอริยะ สมาธิที่เป็นอริยะ ปัญญาที่เป็นอารยะเป็นอย่างไร 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 12 สิงหาคม 2563 ( 12:42:00 )

รักษาฟันโดยทำเหตุให้ถูกต้องอย่างไร

รายละเอียด

วันนี้ให้หมอฟันตรวจเขาก็บอกว่าฟันอายุได้ถึง 150 แน่นอน แต่เหงือกไม่ค่อยดี บอกว่าสีฟันสะอาดดีครับ อาตมาได้คำชมจากหมอฟันมาหลายคนว่าสีฟันสะอาด  มีหมอฟ้ารัก และอีกหลายคน บอกว่าทำอย่างไรรักษาฟันได้ดีอย่างนี้ วิธีของอาตมาก็คือกินอาหารมื้อเดียวและแปรงฟันทีเดียว อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรทำให้ฟันไม่สะอาดอีก เหตุมันถูกต้องผลมันก็เลยเป็นอย่างนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก

วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 11:59:03 )

รักษาโควิดตามหลักพุทธทำได้อย่างไร

รายละเอียด

ถ้าอาตมามีวิธีการรักษาโควิด โดยเอาความรู้ทางศาสนามารักษาได้ อาตมาป่านนี้ดังไปทั่วโลกแล้ว คุณเข้าใจผิดมากเลยว่าอาตมาฉลาดขนาดนั้น เป็นหมอสามารถรักษา covid ได้ อาตมาไม่รู้หรอก ไม่มีปัญญารู้เลย ยังปฏิบัติตามเขาอยู่เลย ยังจะต้องใส่แมสตามผู้ที่เขามีความรู้กว่าอาตมา อาตมาไม่มีความรู้เรื่องแพทย์เรื่องการรักษา อาตมาไม่ได้เน้นเรื่องนั้น ชาตินี้อาตมามาเน้นเรื่องธรรมะ อาตมาเอาจริงเอาจังและมั่นใจว่าตัวเอง ขออภัยต้องใช้คำนี้ อาตมามีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้พอตัวทีเดียวในเรื่องธรรมะ แต่เรื่องอื่นๆนั้นไม่มีอะไรจะไปอ้างที่จะไปแสดงว่าเป็นอะไรกับเขาได้เลย อาตมาเคยพูด แม้แต่ขันน็อตตัวนึง อาตมาก็มิบังอาจว่าอาตมาจะขันให้มันแน่นได้เก่ง คลายน็อต อย่าว่าแต่น็อตเลย บางทีฝาอะไรบางอย่างอาตมายังเปิดไม่ได้ คนอื่นเขาเปิดเก่ง อาตมาไม่ได้ไปเชี่ยวชาญเรื่องอื่น อาตมาเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ เพราะเห็นว่ามันขาด มันเป็นหน้าที่ของอาตมา มันเป็นเรื่องสำคัญ และก็เหมาะสมกับยุคสมัยด้วย ว่ายุคสมัยที่กำลังจะเปิดเผยโลกุตรธรรม เผยแพร่โลกุตรธรรมไปซึ่งก็ไม่ง่ายเลย จึงได้พยายามเลี้ยงขันธ์ให้มันยาวไป พยายามลากไปให้ยาวที่สุด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ โสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 34 วันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 21:22:50 )

รักหรือชังต้องผูกพันจึงเกิดได้

รายละเอียด

พูดมาคงแสดงความเห็นไม่ได้ถาม ถามมาก็ใช่ แค่เคยพบกันครั้งแรกก็ได้ ยังไม่ได้เกิดปฏิกิริยา ถ้ามีปฏิกิริยาแรง 1สายราคะแรง พบกันครั้งหนึ่ง ราคะแรงแล้วก็จะมาต่อไปได้ โทสะแรงก็มาต่อไปได้ แต่ถ้าไม่แรงก็นานๆมาต่อ ถ้าไม่ได้แรงเลยไม่ได้มีอำนาจดูดของราคะ โทสะ ที่เป็นเหตุอะไรกระทบกันแล้วก็ห่างหายกันไปตามวิบากของใครของมันไปตามประสา เหมือนกันกับวัตถุ มันเป็นคนละเรื่อง ไม่มีพลังงานแม่เหล็กแรงไฟฟ้าอะไรทำงานอะไร กระทบกันแล้ว พลังงานแม่เหล็กก็ไม่มี ทำปฏิกิริยาอะไรก็ไม่ทำ ก็ต่างคนต่างไปไม่มีอะไรต่อติดกันเลย จนกว่ามันจะมีธาตุอะไรที่สามารถผลักหรือดูดกัน ถ้ามันผลักและดูดกันก็เกิดปฏิกิริยา ถ้ามีอีกเพิ่มขึ้นมากขึ้นก็จะหนัก หรือมีในตัวมันเองก็แรงในตัวมันเองก็แรงนี้มันก็เป็นพลังงานที่แม้แต่เป็นวัตถุก็มีพลังงานบวกหรือลบ อย่างใดอย่างหนึ่งแยกเป็นสองเท่านั้น ก็จะมีพลังงานบวกลบ แรกๆก็เป็นอันเดียวกันมาเจอกันก่อนเสร็จแล้วพอทะเลาะกันไปทะเลาะกันมารักกันไปรักกันมาทะเลาะกันไปทะเลาะกันมารักกันไปรักกันมา จนกระทั่งมันจะมีปฏิภาณ ทะเลาะกันก็ไม่ดี รักกันก็ไม่ดี แต่กว่าจะรู้ได้ว่ารักกันก็ไม่ดี ทะเลาะกันก็ไม่ดี ต้องมีความรู้จากผู้มาบอก ถ้าไม่มีผู้มาบอก ไม่มีพระพุทธเจ้าหรือผู้มีสัมมาทิฐิจากพระพุทธเจ้ามาบอก คุณจะรักกัน ทะเลาะกันไปอีกนานมากเลย ตามวิบาก มันรู้แล้วว่าต้องเลิกอันใดอันหนึ่ง แล้วทะเลาะกับรักอันเดียวกัน ผลักหรือดูดอันเดียวกัน ก็เลิกกันเถอะหนึ่งถ้าทะเลาะกันมีแต่ทำร้าย แต่รักกันมีแต่มีการสร้างสรรค์อยู่ การทะเลาะกันต้องเลิกก่อน เหลือรัก รัก จึงเป็นเรื่องของมนุษยชาติ นายมงคล หรือเด็กชายมงคลต้องมาชื่อ รัก เพราะว่ามงคลเป็นสิ่งที่นำพาไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดก็เลยมาชื่อ รัก ด้วยประการฉะนี้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 11:18:58 )

รักหลวงปู่แล้วจะเจริญต้องทำอย่างไร

รายละเอียด

รักหลวงปู่นี้ดีแล้ว ก็ฟังธรรมะ แล้วออกไปปฏิบัติตามที่บอก แล้วจะเจริญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน หลวงปู่สู้ใจตนเองอย่างไร


เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 13:50:09 )

รักแบบยกย่องเชิดชูบูชากับรักแบบกาม

รายละเอียด

คืออย่างพวกเรา(ญาติธรรม) อยากรักสมณะโพธิรักษ์  รักมี 2  แบบ รักแบบยกย่องเชิดชูบุชากับรักแบบกาม  อย่างบางคน อาตมา(สมณะโพธิรักษ์) อย่างกามก็มี  เขาก็ต้องรู้ตัวว่าไม่ควร  พยายามหยุด รักอย่างชูบูชาก็มี  แต่ก็ไม่ต้องยึดมั่นถือมั่น  แต่ก็ควรต้องมี  เพราะเราควรต้องมีคนที่เรารักเคารพบูชา  แม้จะมีตัวตนหรือไม่มีตัวตน  พระพุทธเจ้าไม่มีตัวตนแล้วขณะนี้  แต่เราก็เคารพบูชาเชิดชู  หรือผู้ที่มีคุณค่า  คุณงาม  ความดี ที่เราควรจะรักเชิดชูบูชา เพื่อที่จะเอาอย่างตาม  เป็นตาม เดินทางตาม  ท่านจะสอนให้เราเดินทางตาม เพื่อให้เป็นอย่างนั้น  แม้แต่เป็นได้ที่สุด  แล้วเราก็ไม่ควรเอาที่ เราเป็น เราได้แล้ว ดีกว่าเขาเอาไปข่มเขาเอาไปเบ่งเอาไปทำร้ายเขา  ไม่ทำ  มันก็จะมีสภาวะซับซ้อนกันอย่างนี้ ตลอดเวลาเยอะแยะมากมาย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปิ๋ซี่วิต บ้านราช  วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562


เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 13:57:33 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:38:45 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:48:48 )

รักแบบยกย่องเชิดชูบูชากับรักแบบกาม

รายละเอียด

อย่างพวกเราอยากรักอาตมา รักมีสองแบบ รักแบบยกย่องเชิดชูบูชากับรักแบบกาม อย่างบางคนรักอาตมาอย่างกามก็มี เขาก็ต้องรู้ตัวว่าไม่ควร พยายามหยุด รักอย่างเชิดชูบูชาก็มี แต่ก็ต้องไม่ยึดมั่นถือมั่นแต่ก็ควรต้องมี เพราะเราควรต้องมีคนที่เรารักเคารพบูชา  แม้จะมีตัวตนหรือไม่มีตัวตน พระพุทธเจ้าไม่มีตัวตนแล้วขณะนี้ แต่เราก็เคารพบูชาเชิดชู หรือผู้ที่มีคุณค่าคุณงามความดีที่เราควรจะรักเชิดชูบูชา เพื่อที่จะเอาอย่างตาม เป็นตาม เดินทางตาม ท่านจะสอนให้เราเดินทางตามเพื่อให้เป็นอย่างนั้น แม้แต่เป็นได้ที่สุดแล้วเราก็ไม่ควรเอาที่เราเป็นเราได้แล้ว ดีกว่าเขาเอาไปข่มเขา เอาไปเบ่งเอาไปทำร้ายเขา ไม่ทำ มันก็จะมีสภาวะซับซ้อนกันอย่างนี้ตลอดเวลาเยอะแยะมากมาย 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 พฤศจิกายน 2563 ( 10:29:25 )

รักและเคารพโลกุตระได้เพราะเหตุใด

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคนที่มีพลังของความแรงกล้า ความละอาย พลังของความแรงกล้าของความกลัวสิ่งที่เราไปถลำ โง่หลงมาตั้งนานแสนนาน มันชัดเจน มันหยั่งถึงรากแห่งความจริง มันจึงอาย มันจึงกลัว เพราะฉะนั้นจึงเต็มไปด้วยความรู้ เต็มไปด้วยความรู้จึงเกิดความรัก เกิดความเคารพ สิ่งที่เราเพิ่งจะเห็น โลกุตระ

รักโลกุตระ เคารพโลกุตระ นี่ อาตมามีพยัญชนะแค่ไม่กี่คำ ขยายความละเอียดลออของสัจธรรมพวกนี้ให้ฟัง คลี่ความให้ฟัง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 19:17:17 )

รักโดยไม่มีเงื่อนไขเป็นความรักมิติที่เท่าไหร่

รายละเอียด

อาตมาคิดไม่ถึงไม่ได้จัดในมิติเท่าไหร่ รักไม่มีเงื่อนไขนี้โง่ไม่มีเงื่อนไข เลยไม่ได้จัดในมิติไหน อาตมาไม่เอาน่ะมันโง่หนักเกินไป แก้ไขคงยาก เพราะมันเจอปั๊บรักปุ๊บหากไปเจอโจรใหญ่รักแรกพบก็คงจะซวยตายเลย

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2564 ( 11:30:55 )

รังสีของสุนทรียภาพและ สุญญภาพ

รายละเอียด

ใน 5 ภาพนี้ อิสรเสรีภาพ ภราดรภาพ สันติภาพ สมรรถภาพ บูรณภาพ สังคมไหนมีก็คือสังคมที่มีประชาธิปไตย จะมีรังสีของสุนทรียภาพและ สุญญภาพ รังสีแห่งความน่าชื่นชมสุนทรียภาพ ชวนชม สุญญภาพ คือสิ่งที่หมดที่จะมีภัยมีพิษ อะไร ไม่มีตัวตนสุญญภาพ ไม่มีพิษภัย มีแต่คุณภาพที่จะมีประโยชน์ ไม่มีพิษภัยมีแต่คุณค่าประโยชน์ พูดแบบนี้เหมือนความเพ้อฝัน เหมือนกับความเป็นสิ่งที่สวยงาม มองโลกสวย ใช้วาทกรรมหรูหรา มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่พูดนี้ แต่ขอยืนยันว่าเป็นไปได้และเราได้ปฏิบัติมาจริงแล้วด้วย เอาเถอะน่าอาตมาพูดนี้เหมือนการรื้อฟื้นเอาดีใส่ตัว เพราะเราได้ไปร่วมทำมา เราไม่ได้เป็นตัวใหญ่  ถ้าเราไปเป็นตัวหลักที่ยืนยันสัจจะ เป็นตัวเล็กๆที่ยืนยันท่ามกลางสนามรบใหญ่ คนมองไม่เห็นตัวด้วยซ้ำไป อย่างเช่นอาตมานี้คนตาดีถึงจะเห็นว่ามีโพธิรักษ์อยู่ในนั้น เขาก็จะเห็นหมู่ใหญ่ เห็นกองทัพของ กปปส. ของสุเทพ เทือกสุบรรณ เห็นพันธมิตรของ สนธิ ลิ้มทองกุล แต่เขาไม่เห็นโพธิรักษ์หรอก พูดเมื่อไหร่เขาก็ต้องพูดถึงพวกนี้แหละโดยเฉพาะของ กปปส. ของสุเทพ มาเป็นมวลนับล้านที่ออกมา เกิดจากพลังงานทางจิตที่เขาเห็นร่วมกัน ทำสิ่งร่วมกันเป็นมวลใหญ่ เป็นรูปโชว์ที่เต็ม ตัวที่เล็กก็ถูกลบไปเลย ตัวใหญ่เขาก็เห็นได้ชัดธรรมดา   อาตมาไม่ได้สงสัย แต่ที่พูดนี้ไม่ได้รื้อฟื้นจะเอาดีใส่ตัว แต่เราเองร่วมกับอันนี้อยู่เรารู้ เพราะว่าอาตมาจำได้แม่นว่า อาตมาพาออกไปตั้งแต่ พ.ศ. 2549 ไปปักหลักที่สนามหลวง พาไหว้พระสวดมนต์ไปทางวัดพระแก้วก่อนเลย ทำงานตั้งแต่บัดนั้นมา กลับมาพักยกหลายยกและออกไปใหม่ อันนี้อาตมาจำไม่ได้หมดแต่มีหลักฐาน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 16:08:55 )

รัชกาลที่ 9

รายละเอียด

รัชกาลที่ 9 คือ ท่านมีพลังงาน Bomb of love แสดงออกมาที่ท่านสวรรคตแต่ท่านสมณโพธิรักษ์จะตายไปคนจะไม่ฮือฮา  ท่านไม่เสียใจ ไม่แปลกใจ เพราะท่านจะไม่ตีตนเทียบเท่าในหลวงรัชกาลที่ 9  สิ่งที่มันจะเกิดจะเกิดตามจริงท่านมีหน้าที่ทำความจริงให้ดีที่สุดอย่างไร  ท่านพยายามสร้างสัมประสิทธิ์ให้มากงานจะเป็นสิ่งชี้บ่ง

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก  วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม  25692


เวลาบันทึก 07 ตุลาคม 2562 ( 12:35:48 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:57:23 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:07:13 )

รัชกาลที่ 9

รายละเอียด

เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ในหลวงท่านก็ทรงงานสำเร็จไปแล้ว สวรรคตไปแล้ว พระองค์ท่านเป็นสายรูปธรรม

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25  สิงหาคม  2562


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 19:48:18 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:51:44 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:53:30 )

รัชกาลที่ 9 ตรัสพออยู่พอกิน

รายละเอียด

มาเข้าเรื่อง เราแก้ปัญหาเศรษฐกิจ นักแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่าไปยุแหย่ให้คนไปรวย รวยไปมันเป็นบาป รวยไปมันไม่ได้ดีอะไรกับสังคม ต้องมีพออยู่พอกินอย่างในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านตรัสเอาไว้แหละ พออยู่พอกิน ไม่ต้องรวย เราก็รวยพอสมควรท่านตรัสไว้ชัดเจน   จะบอกว่ารวยก็ไม่รวยแต่มันพอมีเหลือ รวยก็คือพอมีเหลือไม่ได้ขาดแคลน ไม่ได้ขัดสนอะไร พอจะแบ่งพอจะแจกกันได้ตามฐานะ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม  2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:43:14 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:00:54 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:54:36 )

รัชกาลที่ 9 เป็นทางรูปธรรม สมณะโพธิรักษ์เป็นทางนามธรรม

รายละเอียด

เมืองไทยมีสิ่งนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นทางรูปธรรม อาตมาเป็นทางนามธรรม ไม่ใช่เรื่องลบหลู่หรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและเป็นเรื่องสัจธรรม เรื่องการบำเพ็ญบารมีจริงๆ แล้วก็จะพยายาม ในหลวงท่านอายุถึง 89 พรรษา อาตมานี่จะต้องให้ยาวกว่านี้อีกหลายปี ทั้งๆที่อาตมาจะอายุสั้นกว่านี้ด้วยซ้ำแต่พิสูจน์ทางสัจธรรม ทุกคนก็ช่วยกันให้อาตมาอายุยืนยาว อาตมาไม่ได้ผลาญพร่าทำลายมีแต่ให้ประโยชน์คุณค่า เค้าเห็นอย่างนั้นเค้าก็ช่วยคนก็อาจจะเข้าใจผิดมีบางคนหาว่ามาแย่งลาภยศสรรเสริญสุขและตอนนี้ดีขึ้นแล้วเข้าใจว่าอาตมาไม่ได้ไปแย่งพวกนี้หรอก อาตมารู้แล้ว ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็ขี้หมูขี้หมา 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม  2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:56:08 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:12:40 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:56:34 )

รัชกาลที่ 9 เป็นโพธิสัตว์

รายละเอียด

คำว่าโพธิสัตว์เป็นเรื่องอจินไตย วิสัยของฌาน วิสัยของความเป็นพุทธ วิสัย นี้สูงกว่านิสัย สูงกว่าอาศัย คนธรรมดาก็อาศัยสิ่งที่ตัวเองรู้ตัวเองเข้าใจทำชีวิตให้เป็นไปตามนั้น  อาศัยไป จนเป็นนิสัย คำว่านิสัยก็สูงกว่าอาศัย ส่วนวิสัยก็สูงขึ้นไปอีก โพธิสัตว์มีขั้นพุทธวิสัย ฌานวิสัย มีกรรม มีวิบาก จึงชัดเจนเรื่องโลกจินตา คืออจินไตย 4 ความคิดของโลกตัวเองเข้าใจโลก อยู่กับโลกอย่างดีไม่เป็นโทษเป็นภัยกับโลก โดยทำอัตตาตัวเองจิตวิญญาณตนให้มีปัญญา หลุดพ้น แล้วตัวเองก็อยู่กับโลกเขาได้ พูดกับโลกจินตาที่เขาจะคิดจะพูดจะทำอย่างไรก็เข้าใจเขาโดยไม่เป็นโทษภัยกับเขา จริงๆแล้วในหลวงท่านทรงมีวิสัยแห่งพุทธอย่างเห็นๆเลย แล้วมีวิสัยของความเป็นฌานอย่างเห็นๆด้วย ท่านมาในปางนี้ ท่านก็ทรงมีสัมภาระวิบาก แต่มีภาวะโพธิสัตว์ที่เข้าใจเห็นได้อย่างชัดเจนตลอด 70 พรรษาที่ทรงพระจริยวัตร แต่คุณเห็นไม่ได้เอง ท่านทรงความเป็นธรรมิกราชด้วยรูปธรรม ช่วยรื้อขนสัตว์มา 70 พรรษาชัดเจน อาตมาเห็นเต็มๆ จึงพูดและยืนยันว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นโพธิสัตว์ พูดอย่างมั่นใจจริงใจอย่างรู้ไม่ใช่นั่งเดา มุขเล่นไม่ใช่ แต่อย่างชัดเจนมั่นใจว่าทรงทำความเป็นโพธิสัตวภูมิ แต่คนไม่เข้าใจ คนรู้ได้ยาก อาตมาในฐานะโพธิสัตว์ก็รู้ได้ ก็เอามายืนยันเอามาขยายความอธิบาย ให้ผู้ที่ตามศึกษาพยายามเรียนรู้ศึกษา ก็จะรู้ตามไป 

ทรงงานตลอด 70 พรรษาไม่ได้ยัดเยียดแต่ให้ความรู้ ทำให้ดู พาปฏิบัติ พาสอน อธิบาย นำไปไปก่อน 70 พรรษา จนสวรรคตไป ผู้รู้มีดวงตาเห็นจะเห็น เศรษฐกิจเมืองไทยเกิดจากพระจริยวัตรของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทุกวันนี้ใช้คำพูดว่า ดำเนินตามศาสตร์พระราชา ขานรับคำพูดนี้ ยอมรับ และกระทำกันอยู่ คนไทยที่มีดวงตามีปัญญาก็รับได้มาก ชาวอโศกรับได้ ได้เศรษฐกิจที่เป็นโลกุตระที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานโลกุตระ

ที่มา ที่ไป

วิถีอาริยธรรม บ้านราช เศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกอยู่ที่นี่ วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม  2563


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 10:07:35 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:55:11 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:32:41 )

รัญชิต

รายละเอียด

ครบรอบแล้ว , ย้อมแล้ว , กำหนัดแล้ว , ยินดีแล้วตามมีตามได้เพราะหมดเหตุ หมดปัจจัย ถึงอย่างไรก็ต้องจบ ต้องพอลงเสียทีหนึ่ง หรือต้องแล้ว ต้องสำเร็จกิจนั้นลงเสียทีหนึ่ง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 433


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:38:40 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 08:23:47 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 04:01:07 )

รัฎฐาธิปัตย์

รายละเอียด

รัฎฐาธิปัตย์  คือ เราเป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ไม่ใช่ประชาธิปไตยขาเดียวที่คัดเลือกใครก็ได้มาเป็นประธานาธิบดี  แล้วเขาก็มองเองว่า  อย่างนั้นเป็นประชาธิปไตยแท้ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 17 กันยายน 2562 ( 14:54:32 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:03:29 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 03:58:49 )

รัฏฐ

รายละเอียด

แว่นแคว้น , อาณาบริเวณที่ยึดครอง

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 2 หน้า 245


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2562 ( 21:39:19 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 08:24:54 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 04:04:39 )

รัฏฐาธิปัตย์ในเมืองไทย เป็นอจินไตย

รายละเอียด

รู้จบใน 0 1 2 3 4 ที่สุดไปถึง 5 พอถึง 5 แล้ว จะวนอย่างไรก็จบ จบตรง 0 เจริญสุดตรง 9 

จบลง 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 เจริญสูงสุด แล้วไป 0 จบ มีที่จบนี่คือที่จบ พูดไปพูดมาอธิบายที่จบได้แล้ว จบกิจ เป็นอรหันต์ มีสุญญตา รู้จัก 0 รู้จักเจริญสุดคือ 9 

อจินไตย ในเมืองไทย ผู้บริหารประเทศคือกษัตริย์ที่มีรัฏฐาธิปัตย์สูงสุด ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็น อจินไตย เลข 9 แต่ต้องให้โพธิสัตว์ระดับ 7 มาสาธยาย กระจายให้เข้าใจให้รู้ ก็อาศัยกันเป็นธรรมิกราช 2 องค์ 7 องค์หนึ่งและ 9 องค์นึง ทำงานหนักกันคนละอย่าง 

อาตมาทำงานหนักอย่างเบา แต่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทำงานหนักอย่างหนัก ท่านทำอย่างครุตา แต่อาตมาทำอย่าง ลหุตา อาตมามี มุทุตา มีกัมมัญญา ปภัสสราที่ชัด จึงทำงาน อันนี้ได้ครบ ทั้งลหุตา มุทุตา กัมมัญญา ได้บริบูรณ์ 3 เส้านี้ได้ อย่างสมบูรณ์แบบ นี่เป็นสัจจะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมต้อนรับปีใหม่ 2566 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 มกราคม 2566 ( 16:05:09 )

รัฐก็ต้องรู้จักราษฎร

รายละเอียด

จริงๆใช้คำนี้ก็ไม่น่าจะสวย รัฐมีฐานะเหนือราษฎร มันมีชั้น จะว่าไปแล้ว รัฐไม่มีตัวตน รัฐเป็นวัตถุ ถ้าหมายรัฐคือเจ้าหน้าที่ คือบุคคลเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วก็มีเหนือราษฎร อันนี้ก็ซวยสิ 

ในฐานะรัฐ รัฐคำนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า รัฐ หมายถึงแผ่นดินได้ไหม แล้วจะเอาแผ่นดินที่ไหน รัฐก็ต้องหมายถึงรัฐบาลนั่นแหละ แล้วจะมาปกครองคนก็ต้องคือตัวบุคคล 

ถ้าบอกว่ารัฐอยู่เหนือราษฎรนั้น ซึ่งมันดูไม่ดี รัฐก็ต้องรู้จักราษฎร รัฐบาลก็ต้องใช้ราษฎร แล้วไม่ต้องไปข่มไปเหนือ จริง โดยสัจจะอาจจะมีความรู้หรือเป็นผู้ที่เป็นพระอรหันต์เลย ไม่มีตัวตนด้วย ยิ่งไม่ทำตัวเหนือราษฎร ยิ่งไม่ข่มราษฎร แต่จะยิ่งเป็นผู้ให้เป็นผู้รับใช้ราษฎร ถ้าหากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างๆเป็นอรหันต์ รับใช้ประชาชนที่แท้จริงๆโดยไม่ได้พูดแค่โวหาร วาทกรรมเท่ๆ ว่ามารับใช้ประชาชน เริ่มตั้งแต่เป็น สส.หาเสียงไปจนกระทั่งเป็นนายกรัฐมนตรีบอกว่ารับใช้ประชาชน ขี้หมานะครับ 

เพราะถ้าไม่มีสัจจะจริง ไม่มีธรรมะที่เป็นโลกุตระของพระพุทธเจ้า พูดไม่จริงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นศาสนาไหน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ของมหาวิทยาลัยไหนในโลก นอกจากมหาวิทยาลัยโลกุตระของพระพุทธเจ้า จริง พูดวาทกรรมโก้ทั้งนั้น ไม่หมดตัวตนหรอก เพราะไม่ได้เรียนรู้ปรมัตถ์ จิต เจตสิก รูป นิพพาน 

เพราะงั้นพูดมาถึงตรงนี้แล้วเนี่ย ประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์สูงสุดเลย รับใช้ประชาชน 100% มีศาสนาพุทธศาสนาเดียว 

ศาสนาพุทธอยู่ในเมืองไทย โลกุตระอยู่ในเมืองไทย แม้ว่าจะเสื่อมแต่ยังมีเชื้อ เชื้อโลกุตระของเมืองไทย เพราะฉะนั้นหลวงปู่เคยพูดว่าเมืองไทยนี้มีประชาธิปไตยที่ดีที่สุด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่นกับลูกๆหลานๆ งานมหาปวารณา มหาบิ๊กคลีนนิ่ง

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 ธันวาคม 2565 ( 22:24:28 )

รัฐฐาธิปัตย์

รายละเอียด

คือ  เป็นผู้มีอำนาจในรัฐ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นกษัตริย์

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบาย รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่  71


เวลาบันทึก 04 ตุลาคม 2562 ( 15:01:23 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:05:10 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:34:10 )

รัฐธรรมนูญหากออกกฎหมายจากศีล 5 สบายเลย

รายละเอียด

อาตมาเคยบอกว่ารัฐธรรมนูญออกกฎหมายจากศีล 5 นี่แหละเป็นกฎหมายลูกสบายเลยไม่ต้องไปแก้ธรรมนูญ ไม่เหมือนอินเดีย รัฐธรรมนูญมีอยู่ฉบับเดียวไม่ต้องแก้ นอกนั้นเป็นกฎหมายลูกเท่านั้นก็พอแล้ว เขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเลยนะกฎหมาย ก็ไม่เป็นไร บังคับกันไม่ได้ อาตมาไม่ได้ทำงานด้านกฎหมายไม่ได้เป็นผู้คุมกฎ เอาแค่สอนธรรมะก็เหลือแหล่แล้ว

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก และบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ปี 2564

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2564 แรม 10 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2564 ( 21:11:12 )

รัฐบาล คสช. ดีกว่ารัฐบาลที่เคยมีมา

รายละเอียด

คนนี้เขาก็มีมุมมองของเขาอย่างนี้เนาะ ที่เห็นก็เห็นจริงว่า รัฐบาลนี้ก็ดี ดีกว่ารัฐบาลที่เคยมีมา จนอาตมาบอกว่าใน 29 รัฐบาลที่ผ่านมา รัฐบาลนี้ดีที่สุดเดี๋ยวนี้ก็ยังดี แม้จะมีเรื่องราวที่ตีรวน มีเรื่องราวอะไรอีกเยอะแยะก็ตาม มันก็เป็นธรรมชาติของคน ที่มีกิเลส แย่งอำนาจ ยังหลงตนเองว่าเก่ง ว่าดีกว่า เข้ามาเป็นนายกแล้วจะดีกว่านายกคนนี้ มันก็เป็นธรรมชาติของกิเลสของคน เป็นธรรมดา เราก็ทำไป ตามหลักเกณฑ์ของประชาธิปไตยมันมีอยู่แล้ว ก็ดำเนินไปไม่มีปัญหาอะไร 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภุมิ บ้านราช วันพุธที่ 2 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 26 กันยายน 2563 ( 11:12:36 )

รัฐบาลควรพัฒนาประชาชนมาเป็นแบบชาวอโศก

รายละเอียด

หากรัฐบาลพัฒนาประชาชนมาเป็นแบบชาวอโศก ชาวอโศกไม่ได้เอาเงินเอารายได้มาเป็นตัวเร่ง แต่ชาวอโศกมีปัญญามีสำนึกมีความรู้ในตัวเอง ว่าเราควรขยันเราควรทำอะไร เราก็ทำ ไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไช เราก็ทำกันขยัน ยังไม่พอนะ คนยังน้อย หากมีชาวอโศกมากกว่านี้ เรามีพื้นที่เราก็จะทำได้สมบูรณ์กว่านี้ ถ้าหากทำได้มากพอ จะสามารถส่งออกนอกประเทศได้ เราจะส่งได้ราคาถูก ไม่ต้องการแย่งตลาด แต่มันมาก เราไม่อยากจะไปขายแพงรีดนาทาเร้น เราไม่ได้ตั้งใจกดราคา แต่เราขายถูก เพราะว่าเรามีเยอะ แล้วเราไม่ต้องการไปเอาเปรียบใครด้วย แนวคิดอย่างที่อาตมาพูด เป็นโลกุตรธรรม ที่คนโลกีย์คิดไม่ทันอย่างอาตมาพูด แม้เขาคิดทันรู้เข้าใจ แต่เขาก็จะยอมรับว่าทำตามนี้ไม่ได้ ถ้าหากเขาทำตามได้ก็จะมาร่วมกับอโศก คนที่เข้าใจทำตามได้ ก็มีพอควร แต่คนที่ไม่รู้เรื่องมีเยอะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สุดยอดวรรณะกรรมโลกุตระของโลก วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2561ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2564 ( 15:38:34 )

รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ

รายละเอียด

นี่ ดร.อัษฎางค์ รับรองนะ รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ หลวงปู่ไม่ได้พูดต่อหน้าทนายนกเขาและคุณจตุพรเมื่อวาน เดี๋ยวเขาจะขึ้น เขาจะไม่เชื่อ เพราะเขาจะไม่เข้าใจปรมัตถ์ที่ลึกซึ้งและมันเป็นจริง หลวงปู่บอกว่าเมืองไทยเป็นเมืองประชาธิปไตยที่ดีที่สุด แล้วสำเร็จ กว่าในโลกเลย นี่ไม่ใช่พูดเว่อร์ๆ นะ พูดสัจจะซึ่งมันเข้าใจยากมาก 

นี่คือนักวิชาการที่เข้าใจสภาพความเป็นจริง ไม่ใช่แบบหมาเห่าใบตองแห้ง ดิสเครดิตพลเอกประยุทธ์อยู่ มันไม่ใช่ ไม่มีความรู้และพูดไปเพื่อที่จะข่มพลเอกประยุทธ์ เพื่อจะแย่งชิงอำนาจ ความเด่นอะไรก็ไม่รู้ ริษยาเขาหรืออย่างไร ไม่เอาความจริง 

ถ้าให้เปลวสีเงินมาสรุปตรงนี้คงบาดน่าดูเลย สำนวนเขาคือคำที่จะปั้นขึ้นมาเป็นคำสรุปอันนี้ แต่นี่ ดร.อัษฎางค์ ไม่ใช่เปลวสีเงิน ก็เลยสรุปแค่นี้ 

นี่คือผู้ที่มีปัญญาหรือมีความรู้ในเรื่องของกฎระเบียบกับพฤติการณ์ พฤติกรรม กฎระเบียบกับพฤติการณ์ มัน 2 อย่าง 

กฎเกณฑ์ กฎระเบียบ ก็คือ คนตั้งขึ้นมาตามปัญญา ให้เข้าใจตาม เหมือนพระพุทธเจ้าได้ตั้งกฎเกณฑ์ ตั้งศีล ตั้งวินัย ตั้งธรรมะ ขึ้นมาเป็นปริยัติ เป็นสมมติ แล้วพฤติกรรม กาย วาจา ใจ ก็ไปเรียนรู้และปฏิบัติให้ได้ตามนั้น 

เมื่อได้ทั้งสมมุติได้ทั้งปรมัตถ์ ได้ทั้งกฎเกณฑ์ได้ทั้งพฤติกรรมจริงๆ จนกระทั่งถึงจิตใจจริง จิตใจก็เป็นไปได้จริงเลย จบเลย สำเร็จสุด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่นกับลูกๆหลานๆ งานมหาปวารณา มหาบิ๊กคลีนนิ่ง วันอาทิตย์ที่  6 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ธันวาคม 2565 ( 11:24:35 )

รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เป็นรัฐบาลได้อย่างไร

รายละเอียด

สรุป การปฏิวัติอันนี้ นักศึกษาประชาธิปไตยจะศึกษาวิจัย จะทบทวนความจริงอันเป็นฟีโนมีนอน ตั้งแต่พศ. 2549 ถึง 2557 ผู้มารับไม้ต่อก็เป็น คสช.ทำตามหน้าที่ไม่ได้เอาระเบิดเอาอาวุธออกมาปฏิวัติ ก็แค่บอกว่าผมขอยึดอำนาจ ไม่ได้ใช้อำนาจทหาร แต่ว่ามันติดที่ตัวพลเอกประยุทธ์เคยมีอำนาจเป็นผบ.ทบ. แต่ไม่ได้ใช้อำนาจนั้นมายึด มันก็ยากนะ เป็นสิริมหามายา เลยไม่ยอมรับเป็นสากล ผู้ที่เจริญแล้วก็จะรู้ว่า การชนะสงครามที่รบด้วยปุญญาวุธ มันยิ่งกว่าการใช้อำนาจอาวุธทหารสมัยเจงกิสข่านหรืออเล็กซานเดอร์ มันตกยุคแล้ว คนมันเจริญมากเลย คนเราไม่ต้องทำร้ายกันหรอก เอาความจริงออกมา เอาความเจริญความประเสริฐของมนุษย์มาเป็นเครื่องชี้บ่งยืนยันว่าเป็นผู้ชนะเป็นผู้ประเสริฐเป็นผู้ควรจะยกไว้ ไม่ใช่ไปใช้อำนาจบาตรใหญ่ อำนาจความรุนแรงแบบสัตว์เดรัจฉานอย่างนั้นที่ใช้เขี้ยวใช้งาใช้กำลังข่มขี่ กดดันกัน มันไม่ใช่ เอาสัจจะความจริง เอาความดี ความเสียสละ ความเอื้อเฟื้อเจือจานเกื้อกูล เลี้ยงดูช่วยเหลือ เอาอำนาจพรหมธรรม อันนี้สิยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นคนที่รักมนุษยชาติ อธิบายไปก็คืออำนาจพระเจ้านั่นแหละ เขาก็เข้าใจ พระเจ้าเป็นผู้ดีสูงสุด แล้วนี่คนจริงๆแสดงบทบาทได้จริง ส่วนพระเจ้าไม่เคยเห็นแสดงบทบาทเลย ประวัติศาสตร์ของศาสดาของแต่ละศาสนา ศาสดาแต่ละศาสนาก็เสียสละเหมือนกัน มีการรบราฆ่าฟัน มีการฆ่าแกงกัน มีการทำร้ายกันขนาดไหน สุดท้ายตัวพระศาสดาเองเสียสละพระองค์เอง จึงยิ่งใหญ่ เหมือนศาสนาคริสต์ นอกนั้นก็รองลงไปมีผู้ช่วยอะไรไปตามแต่ แต่ก็มีคำสอน มีความรู้ มีทฤษฎีที่จะทำให้ประชาชนเป็นอยู่เจริญ ประเสริฐดี ก็ต้องมีความรู้ความจริงอันนั้น ในทุกพระศาสดา ถ้าไม่มีก็เป็นศาสดาไม่ได้ อาตมาสะสมความถูกต้องความดีจะไปเป็นศาสดาในอนาคต ซึ่งอาตมาก็เดินตามแนวศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนศาสดาที่เป็นเทวนิยมนั้นอาตมาไม่พูดดีกว่า อย่างนั้นอาตมาเข้าใจผ่านพ้นมา ไม่เอาเสียเวลา เพราะว่ามาอย่างนี้มันอีกรอบนึงเลย มันเหนือชั้นกว่าอย่างโน้น มาเอาอย่างนี้ดีกว่า อาตมาก็พามาทำ แม้แต่ในชาตินี้ก็พาให้เห็นว่าเรารบด้วยความสงบด้วยมือเปล่า รบด้วยการเสียสละ ตายเป็นตาย โดยไม่ตอบโต้เลย เพราะฉะนั้นสรุปแล้ว ประชาชนแสดงอธิปไตยชนะแล้ว แล้วพลเอกประยุทธ์เข้ามารับไม้ต่อ มารับไม้ เชื่อมต่อจากประชาชน แล้วก็ทำหน้าที่ต่อไป เป็นผู้บริหาร และก็บริหารเข้าตาประชาชนด้วย จนกระทั่ง อยู่ไปตั้งแต่ยังไม่มีการเลือกตั้ง เขาก็ตราไว้ ว่าเป็นเผด็จการทหารตั้งแต่ยังไม่เลือกตั้ง เพราะเขาเข้าใจว่าการเลือกตั้งนี่คือประชาธิปไตย ซึ่งพวกประชาธิปไตยขาเดียวมีความรู้ตื้นๆ เขาก็บอกว่าประชาธิปไตยต้องมีการเลือกตั้ง เพราะมันแสดงพฤติกรรมประชาชนมาแสดงความเห็นมาหย่อนบัตร เอาคะแนนมานับใครชนะ บอกว่านี่ไงเสียงของประชาชนตั้ง เป็นอำนาจประชาชนตั้งผู้นี้ ถ้าไม่มีประชาชนไปเลือกตั้งเขาก็บอกว่าไม่เป็นประชาธิปไตยเขาเข้าใจแค่ตื้นๆอย่างนี้ ไม่ไปดูที่พฤติกรรมจริง นักประชาธิปไตยที่ชนะเลือกตั้งและบริหาร คุณภาพคุณสมบัติคุณธรรม สารัตถะแท้ๆในการบริหารคุณเนี่ย มันเข้าข่ายอีกหลายประการเลย มันเป็นการบริหารแบบ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ใช้ความขี้โลภ สะสม ได้ประโยชน์ทุนรอน ฉันจะต้องใหญ่ต้องรวยต้องเป็นหนึ่งเหมือนกับโดนัลด์ทรัมป์พูดดีและประชาธิปไตยอย่างนั้นนะมันตกยุคแล้ว ไม่ ไม่เอาแล้ว มีเงินมากกว่าก็ไม่ต้องอยากได้ อย่างในหลวง ร.9 ตรัสไว้ชัด มาจนไม่ต้องไปแข่งเลยแค่นั้นยางหลังยางหน้ารั่ว ทรัพย์สินเงินทองมาเป็นของตัวของตน หรือแม้แต่เป็นประชาธิปไตยที่เห็นแก่ประเทศชาติของตนเท่านั้น ประเทศชาติของตัวเองต้องใหญ่ต้องรวยต้องเป็นที่หนึ่ง เหมือนกับที่โดนัลด์ ทรัมป์พูดนี่แหละ ประชาธิปไตยอย่างนั้นมันตกยุคแล้ว ไม่เอาแล้ว จะมีเงินมากกว่าก็ไม่ต้อง อย่างในหลวง ร.9 ตรัสไว้ชัด มาจนๆนี่แหละ ไม่ไปแข่งอย่างนั้น ก็มันจะเสื่อมอย่างถอยหลังน่ากลัว เพราะฉะนั้นแม้แต่เงินไม่เอามากกว่าเขา ยิ่งมีปืนยิ่งมีอาวุธยุทธภัณฑ์ยิ่งไม่เอา แต่ในหลวงไม่ทรงตรัสเรื่องนี้เท่านั้นเอง สรุปเข้าเป้าอีกทีว่า พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่นักเผด็จการ ไม่ได้เอาอำนาจทหารมาปฏิวัติ แต่ประชาชนปฏิวัติ พลเอกประยุทธ์มารับไม้ต่อ ขอยืนยัน การปฏิวัตินี้เป็นการปฏิวัติของประชาชน ไปศึกษากันเถอะ นักรัฐศาสตร์ทั้งหลายเอ๋ย ประชาชนจะไปเข้าใจอย่างไร ทักษิณเขามีอำนาจมีด มีปืน มีระเบิด แต่อำนาจประชาชนเขาไม่ได้ก็จะไม่เข้าข้างเขา แต่เขาหลงตัวว่าเขามีกำลังประชาชนมาก เขาก็ขี้โม้ว่าพวกเขามาก แต่ประชาชนมือเปล่า แต่พวกคนมีอำนาจทางรัฐบาล ฆ่าคนก็ได้ ฆ่าพวกกบฏไม่มีความผิดด้วย แต่ของไทยมันเป็นกบฏไม่ได้ มันไม่ใช่กบฏ มันเป็นผู้ชนะไง ผู้แพ้ถึงเป็นกบฏ ในประเทศไทยก็เมตตา ให้คุณอยู่ข้างนอกตายเอง ถ้าไม่ใช่พุทธศาสนาไม่เหลือแน่ เหมือนอย่างคิมจองอึน แม้แต่พี่ชายก็ถูกฆ่า ถูกตามฆ่า นี่คือหลักฐานที่อาตมาไม่ได้พูดลอยลมแต่เป็นจิตมนุษย์เท่านั้นที่ทำ แต่เมืองไทยไม่ทำ เมืองไทย ถึงบอกว่ามีความกรุณา มีความปรานี มีความยิ่งใหญ่ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 10:56:52 )

รัฐบาลร้ายที่สุดคือรัฐบาลทักษิณ

รายละเอียด

ผู้ที่มาบริหารบ้านเมือง ขออภัยที่ต่อไปจะพูดเหมือนยกตัว

อาตมามาทำงานศาสนาออกไปต่อต้านการเมืองมากี่รัฐบาล หลายรัฐบาล ด้วยความสงบสยบความเคลื่อนไหว สยบความรุนแรง เสี่ยงตาย เอาความสงบสัจธรรมทั้งนั้น ไปสยบความเลวร้ายของการเมืองหลายรัฐบาล จนกระทั่งดีขึ้น รัฐบาลร้ายที่สุดก็คือรัฐบาลทักษิณ จากทักษิณมา มาถึงสมัคร สมชาย มาถึงยิ่งลักษณ์ อโศกออกไปต่อต้านประท้วงทุกรัฐบาล จนเบาลง เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น สุดท้ายนายกตู่มาปฏิวัติ ถ้าอย่างนั้นผมขอยึดอำนาจ จบง่ายดายสะดวกเพราะเราทำมา ประชาชนไม่มีใครค้านแย้งแล้ว ต้องแบบนี้ ถึงจะเข้าหลักเกณฑ์แบบนี้ จนประชาชน 1 ชัดเจนแล้ว เอือมเต็มทีแล้วแบบทักษิณ สมัคร สมชาย ยิ่งยิ่งลักษณ์เห็นเนื้อหนังเลย กี่แสนล้าน เขาจะเอาประเทศทั้งประเทศไปขาย ถ้าหากว่าช้ากว่านี้หน่อยเขาเอาไปขายหมด มันชัดเจนทุกอย่างในหลักฐานตามความรู้ของอาตมา ไม่ว่าจะเป็นสังคม เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ เป็นความรู้ที่อาตมามีมาแต่เก่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐีติ 7 สัตตาวาส 9 วิโมกข์ 8 วันพุธที่ 17 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 เมษายน 2564 ( 15:24:19 )

รัฐบุรุษ 

รายละเอียด

รัฐบุรุษ  หมายถึง พลเอกเปรม ติณศูลานนท์  เป็นรัฐบุรุษ ท่านบอกว่า ป๋าพอแล้วลูก ท่านเป็นคนรู้จักพอ  รู้จักขีดที่พอ  คนที่สะสมเงิน เช่น เรามีเงินตั้งล้านหนึ่งเยอะนะไม่ใช่น้อย  หากเกินล้านเขาก็จะสะพัดออก ไม่เอาแล้ว  เอาแค่นี้รู้แล้วว่าวงชีวิตของตนใช้สะพัด  คงคลังแค่ล้านหนึ่งก็พอในชีวิตตน  มันก็จะมีสมรรถนะที่ทำให้เกินได้  มันก็จะเอาไว้ก็จะสะพัดออก 

ยกตัวอย่าง เช่น ตอนนี้ปฐมอโศกเขาได้ตั้งคงคลังไว้เท่านี้  เขาทำได้แล้วแต่ก่อนนี้เขาทำยังไม่ได้ก็เลยถวาย อาตมาเดือนละล้านมาเรื่อยๆ  จนเขาได้เงินคงคลังครบที่จะเอาไว้  หากมีเกินนั้นเขาจะให้ส่วนเกินหมดเลย  ยกให้หมดเลย เช่น เดือนนี้สองล้านกว่า  ก็ให้หมด  อย่างนี้เป็นต้น  อย่างนี้เป็นวิธีการปฏิบัติส่วนตน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่  2 ตุลาคม  2562


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2562 ( 13:57:15 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:08:51 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 04:11:37 )

รัฐประหารคือ

รายละเอียด

ในคนที่ไม่เข้าใจอาตมา ขอให้อาตมาอย่าไปยุ่งกับการเมือง อาตมาก็ขอคืนว่าขอเถอะขอยุ่ง แล้วอาตมาบอกแล้วไม่ใช่เล่นลิ้น ไม่ได้ไปทำให้การเมืองยุ่ง แต่ไปช่วยให้การเมืองหายยุ่ง อาตมาพาทำ  อาตมาพยายามเข้าไปร่วม ก็ไปยุ่งนี่แหละกับการเมือง เช่นเข้าไปเป็นผู้ประท้วงหรือไปขับไล่ หรือเรียกว่าไปปฏิวัติ ไปรัฐประหาร 

รัฐประหารคือ ประหารรัฐบาลที่เป็นรัฐบาลทรราช เป็นรัฐบาลที่ไม่ถูกต้อง เป็นรัฐบาลที่ไม่ควรจะบริหารต่อไปเรียกว่าทรราช ซึ่งก็จริงที่ได้ทำมาแล้วตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อย่างนี้เป็นต้น ก็ทำไปแล้ว อาตมาได้ร่วมมือมาทั้งนั้น พาพวกเราไปแล้วก็มีคณะมวลประชาชนเข้ามาร่วมและเป็นผู้ที่รู้จักเป็นผู้ที่มี Goodwill มี Favorite ทางสังคมมากกว่าอาตมาในเรื่องทางการเมืองก็ช่วยกันนำอย่างที่เห็นที่เป็น ผ่านไปแล้วมีหลักฐานต่างๆ นักรัฐศาสตร์จะอธิบายได้ แต่อาตมาเอง อาตมาไม่ได้เป็นตัวจะมายึดว่าเราเป็นผู้มีอำนาจ เราเป็นผู้ที่มีฤทธิ์มีเดช มีความเก่งกล้ามา อาตมาไม่ได้ยึด ไม่ได้ติดใจเรื่องนี้ อาตมามีแต่พฤติกรรมจริงเท่านั้นแหละ ที่จะว่ามาจะต้องได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ จะต้องมีตำแหน่งยศศักดิ์ฐานะอย่างนั้นอย่างนี้ อาตมาไม่มีปัญหาอะไร อาตมาไม่ต้อง มี Insert ภาพ คุณหมาแก่ หรือคุณดนัยมาสัมภาษณ์ ก็มีภาพเก่าๆมาร่วมบ้าง 


 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 27 ตอบปัญหาให้ถึงสัมมาธิปไตย วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 สิงหาคม 2566 ( 18:54:57 )

รัฐประหารคือประหารรัฐบาล

รายละเอียด

อ้าว ทัวร์ลงอาตมาก็ไม่มีปัญหา

คนอย่างพลเอกประยุทธ์ทำงานมาไม่ต้องถึง 8 ปีหรอก อาตมาเคยพูด ยังไม่มีคนเข้าใจ ประชาธิปไตยสุดยอดนั้นอยู่ที่ประเทศไทย เป็นตัวอย่างที่คนยังงงๆอยู่ทั้งนั้น นักรัฐศาสตร์เทวนิยม ไม่ใช่นักรัฐศาสตร์อเทวนิยมอย่างพระพุทธเจ้า ยังอีกนานกว่าจะเข้าใจ

ประชาธิปไตยประชาธิปไตยไทย ประชาชนปฏิวัติ ประชาชนรัฐประหาร อาตมาร่วมขบวนการรัฐประหารนั้นอยู่ด้วย ลงถนนราชดำเนิน ลงถนน มีหลักฐานหมด 

ทำตั้งแต่ พ.ศ. 2549 - 2557 แล้วพลเอกประยุทธ์ถึงมารับไม้ต่อเท่านั้น ก็บอกว่ามาขอยึดอำนาจเท่านั้นเอง หลักฐานมีหมด เขาไม่ได้ทำอะไร เขาไม่ได้เป็นนักรัฐประหาร ประชาชนทำรัฐประหาร รัฐประหารคือประหารรัฐบาล รัฐ คำนี้ คือ รัฐบาล

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบคุณตู่-จตุพร และทนายนกเขา ดำเนินรายการโดย คุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 13:23:00 )

รัฐศาสตร์ของประเทศไทย เป็นประเทศที่เป็นไพโอเนียร์

รายละเอียด

แต่ทางพวกที่เขายังตื้นๆ ขออภัยทางโลก ทางโลกียะ ทางเทวนิยมหรือทางตะวันตก ไม่ต้องพูดถึงทางตะวันออก ยิ่งไม่รู้เรื่อง เพราะจมอยู่กับน้ำมันแล้วมีแต่เพชรพลอย เขารวยมหาศาล ไม่จนง่ายๆหรอกตะวันออกกลาง เพราะฉะนั้น ประเทศต่างๆในโลก จะมีประเทศไทย ที่เป็นประเทศที่ประสบผลตัวอย่างทั้งหมดทางเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ 

อาตมาเคยพูด วันนี้ก็ขอพูดต่อหน้าอาจารย์ยักษ์นี่แหละ ว่า รัฐศาสตร์ของประเทศไทย เป็นประเทศที่เป็นไพโอเนียร์ของการปฏิวัติโดยประชาชน ปฏิวัติรัฐบาล ที่ควรจะต้องปฏิวัติออกไปตั้งแต่ทักษิณมา 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 5 พ่อครูพบ อ.ยักษ์​ วิวัฒน์ ศัลยกำธร วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 ขึ้น 12 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2565 ( 12:15:37 )

รัตนะในธรรมวินัยนี้มีอะไรบ้าง

รายละเอียด

ดูกรปหาราทะ มหาสมุทรมีรัตนะมากมายหลายชนิด รัตนะในมหาสมุทรนั้นมีดังนี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ สังข์ ศิลา แก้วประพาฬ

เงิน ทอง ทับทิม มรกต ฉันใด ดูกรปหาราทะ ฉันนั้นเหมือนกัน ธรรมวินัยนี้ก็มีรัตนะมากมายหลายชนิด รัตนะในธรรมวินัยนั้นมีดังนี้ คือ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อาริยมรรคมีองค์ 8 ดูกรปหาราทะ ข้อที่ธรรมวินัยนี้มีรัตนะมากมายหลายชนิด รัตนะในธรรมวินัยนั้นมีดังนี้ คือ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา

ประการที่ 7 ในธรรมวินัยนี้ ที่ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมหัศจรรย์ 8 ประการในชาวอโศกบุญนิยม วันพุธที่ 12 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 มกราคม 2565 ( 21:45:55 )

รับความรู้ใหม่ไม่ได้ ย่อมเกิดพลังไร้สภาพ ผลักสิ่งดีๆกระเด็นกระดอน!

รายละเอียด

ซึ่งในจิตคนผู้ใดยังไม่สามารถรับรู้“ความรู้ใหม่”นี้ได้ แม้แค่เข้ามากระทบสัมผัสกับตน มันก็จะรู้สึกว่า “มันรับไม่ได้” มันจะ“ขัดใจ”ร้อนเดือดถึงขนาดผลักไสอย่างแรงกระเด็นกระดอนออกไปเลย ปานนั้นเลย แล้วก็จะรู้สึก“ไม่ชอบใจ”เอามากๆถึงขั้นมี“อาการโกรธ-เกลียด-ชัง”ขึ้นมาหนักจัด

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อ 475 หน้า 353 


เวลาบันทึก 25 มิถุนายน 2564 ( 08:56:00 )

รับจ้าง

รายละเอียด

คือ มีสิ่งแลกเปลี่ยน ยิ่งได้มามาก ยิ่งต่ำตาม จำนวนที่ได้ เอามาน้อยก็ลบ“คุณค่า”ของตนลงน้อย ยิ่ง“เอา มา”มาก ก็ยิ่งลบ“คุณค่า”ของตนมากตามที่มากขึ้นๆนั้นๆ

หนังสืออ้างอิง

 คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 489


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:29:58 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:11:17 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 04:12:42 )

รับปัญญาหรืออัญธาตุจากพระอรหันต์ยังแคบไป

รายละเอียด

แม้แต่ในระดับ 4 ที่เป็นพระอรหันต์ก็เฉพาะตน อรหันต์คือผู้ที่บรรลุกิเลสได้เฉพาะตน เพราะฉะนั้นก็จะแคบๆ รับไปก็ยังแคบ ผู้ที่รับไปก็เป็นคนอื่นแล้วด้วย เพราะฉะนั้นมันจะตรงกันกับพระอรหันต์หรือไม่ พระอรหันต์บอกอย่างนี้ และอีกคนหนึ่งคือคนอื่นไม่ใช่พระอรหันต์ เพราะฉะนั้นกรรมวิบากหรืออัตตา ก็เฉพาะตน แล้วพระอรหันต์รูปนี้จะรู้กิเลส จะมีทฤษฎีมีความรู้ที่จะไปครอบคลุมให้ผู้นี้เอาไปใช้ลดกิเลสเขาได้หรือ เห็นไหมมันละเอียดซับซ้อนลึกซึ้งอย่างนั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณกินข้าวได้ไหม อย่างไรคือสัมมาทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 สิงหาคม 2564 ( 19:03:02 )

รับผิดชอบศาสนาพุทธให้ไปถึง 5,000 ปี

รายละเอียด

อาตมาก็น่าจะเจริญภาษาอังกฤษแค่นี้ คนกระจอกๆยังพูดภาษาอังกฤษเก่งกว่าอาตมา ธนาธรยังพูดเก่งกว่าอาตมาเยอะแยะเลย แต่ว่าอาตมาไม่ได้เห็นเป็นความต่ำต้อย จะต่ำต้อยหรือสูงส่งอาตมาก็ไม่มีปัญหาสำหรับตัวอาตมาแล้ว ก็ทำงานเพื่อที่จะสร้างสรรค์ให้เกิดโลกุตรธรรม พากเพียรอยู่ทุกวันนี้ให้มันเกิดสัจจะหยั่งลง ให้มีมากขึ้น ให้มีความเป็นจริงมากขึ้นให้มากพอ เพราะอาตมารับผิดชอบศาสนาพระพุทธเจ้าให้ไปถึง 5,000  ปี ถ้าหากปล่อยปละละเลยไม่มีเนื้อแท้อยู่ในศาสนาพุทธ ก็ยังไว้ใจไม่ได้ อาตมาถึงบอกว่า ต้องเผื่อให้พอไม่อย่างนั้นไม่ไหวมันจะไปถึงหรือดูแล้ว เพราะฉะนั้นต้องไม่ประมาท ต้องเผื่อพอไว้มันจะเกิน 5,000  ปีก็ไม่เสียหาย แต่มันไม่พอ อาตมาผิดนะ เพราะอาตมาเอง เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้มา พูดแล้วก็เหมือนกับอวดตัวตน  หลายคนก็จะหมั่นไส้เอา ไม่เป็นไรอาตมาก็พูดความจริงของอาตมาเอง ไม่มีอะไรไม่จริง แต่คนเข้าใจไม่ได้ เขาเข้าใจของเขา อย่างนั้นอาตมาจะไปบังคับเขาได้อย่างไร

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม  2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 14:50:39 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:18:14 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 04:31:25 )

รับผู้หญิงมาบวชมีผลอย่างไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าบางองค์ ไม่รับหญิงมาบวช แต่ พระสมณโคดม เอาละ อนุโลมยอมรับ ผู้หญิงมาบวช ท่านก็บอกว่า ศาสนาจะไปไม่ไกลนะ หากว่าเอาผู้หญิงมาบวช นี่พูดเป็นเรื่องอจินไตย คิดเอาไม่ได้ มีในหลักฐานตำราอยู่นะ พระพุทธเจ้าก็ยอม แทนที่ศาสนาจะอยู่เป็นหมื่นปี เอาแค่ 5,000 ก็ได้เพราะเห็นใจผู้หญิง อย่างนี้เป็นต้น 

นี่คือ ผู้หญิงจงสำนึกให้ดี อย่างพระน้านางที่บอกว่า เป็นสุดยอดที่ท่านจะมีเมตตาให้ผู้หญิงได้มาบวช เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผู้หญิงจะต้องปฏิบัติ คุรุธรรม 8 ประการ พระอานนท์ถามว่าผู้หญิงบรรลุอรหันต์ได้ไหม โดยสัจจะแล้วผู้หญิงก็ไม่ได้กำหนดว่าไม่ให้ปฏิบัติจรณะ 15 วิชชา 8 บอกแล้วว่าไม่ได้กำหนดใคร ใครสามารถปฏิบัติจรณะ 15 วิชชา 8 ก็มีสิทธิ์บรรลุจนสิ้นอาสวะได้ทุกคน ท่านบอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ได้จำกัดโคตร ไม่ได้จำกัดใคร ใครเข้าถึงธรรมะก็บรรลุธรรมะได้ทุกคน ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย พระพุทธเจ้าก็ปฏิเสธไม่ได้ พระแม่น้านางมาก็ต้องให้บวช จึงจำนนต่อสัจจะ ให้ผู้หญิงมาบวช แล้วก็มีผู้หญิงที่บรรลุอรหันต์ได้จริงๆ แต่ศาสนาอายุจะลดลง เพราะมันจะเป็นสหศึกษา 

เหมือนอย่างชาวอโศก พวกเรานี้ผู้หญิงผู้ชายอยู่ร่วมกัน คนเขาหวั่นใจมากว่าจะมีลูกเณรออกมา คอยดูๆ แต่เราทุกวันนี้ก็ยังปลอดภัยกันดีอยู่ สะอาดสะอ้าน ใช้ได้ ไม่ดูเปรอะๆเลอะเทอะอะไร อย่างนี้เป็นต้น นี่คือสิ่งที่พูดได้เพราะว่าผ่านมา 50 กว่าปี มีหลักฐาน มีสิ่งที่ผ่านมาอ้างอิงยืนยันได้ว่า เราพูดอย่างมีหลักฐาน ที่ได้พิสูจน์มาแล้วนี่ ไม่ได้หมายความว่าเลอะเทอะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิชชาจรณสมบัติ และพรหม 20 ชั้น วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2565 ( 13:41:19 )

รับฟังความเห็นที่ต่างกันคนละขั้ว

รายละเอียด

แล้วจะเอาอย่างไรผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ (โยมว่ากระเทยแน่นอน ถ้าพูดจิกๆอย่างนี้เป็นที่หวังได้ว่า) ก็ฟังผู้ที่รับฟังความเห็นต่างกัน ไม่มีปัญหาอะไร อาตมาก็รับฟัง ก็พอมีสมองรับรู้คุณได้ว่า คุณกระทบสัมผัสแล้วรู้สึกอย่างไรคุณก็เป็นความเห็นที่ต่างกับอาตมาคนละขั้วเท่านั้นเอง มันก็เป็นธรรมดาคุณก็ต้องเห็นอย่างที่คุณเห็น ไปกระทบจุดคุณก็มีปฏิกิริยาก็ขอบคุณที่สนใจศึกษา

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตำหนิให้เขาดื่มได้คือหน้าที่ของผู้ทำงานศาสนา วันพุธที่ 28 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 พฤษภาคม 2564 ( 18:42:59 )

รับรองว่าเป็นอรหันต์

รายละเอียด

ตอนเป็นๆ อาตมาไม่ได้ไปรับรองว่าเป็นอรหันต์มีเยอะ แต่ตอนตายแล้วอาตมารับรอง เพราะ อาตมาก็เขาบอกตรงๆว่าอาตมาเองก็เคยพลาดมาแล้ว อาตมาเคยพยากรณ์ว่า พระยันตระเป็นอาริยะ อาตมาก็ไม่ได้อะไรนักหนา แต่บางทีก็ต้องให้รู้สึกว่ามันต้องชัดๆ อรหันต์คือตัดกิเลสสิ้นอาสวะไม่เวียนกลับจริงๆ เพราะฉะนั้นจะไปรับรองแทนเขาจริงๆ อวดเก่ง อาตมาว่า อาตมาไม่จำเป็นต้องอวดเก่งขนาดนั้น ขนาดพระสารีบุตร ลูกศิษย์ท่านเป็นอรหันต์ท่านยังไม่รู้เลย จนกระทั่ง พระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นอรหันต์แล้ว อาจารย์ก็เลยบอกว่า อ๋อเหรอ ซึ่งมันไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ถ้ามันเป็นจริงก็คือเป็นจริง ถ้าเราเป็นอรหันต์แม้ใครจะบอกว่าเราไม่เป็นอรหันต์ ไม่เห็นจะต้องเสียหน้าเสียตาอะไรเลย ใครจะบอกว่าไม่ใช่อรหันต์ ถ้าเราบรรลุจริงเป็นอรหันต์แล้ว ขอยืนยันว่า จะไม่มีจิตประหลาดอะไรเลย จะไม่ตกอกตกใจเสียใจเศร้าใจ เว้าใจแหว่งใจเลยเพราะว่าเป็นได้แล้ว เราทำได้เป็นจริงรู้ตรวจสอบอะไรทุกอย่าง มันชัดเจนกิเลสสูญจนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว เป็นขั้นๆมาแต่ละขั้น อรหันต์ คือ โลกียะในตัวเรา อาสวะสิ้นแล้ว ส่วนโพธิสัตว์ก็ค่อยๆดูของคนอื่นไปตามลำดับ อันนั้นสิไม่ค่อยแม่น ต้องไปรู้ของคนอื่นว่าจะหมดกิเลส มันไม่ใช่ของเรา แต่ของเราเองเราต้องชัดเจนก่อน ถ้าเราเองไม่ชัดเจนในตัวเองก็ไม่ใช่ของตัวเอง ตัวเองยังรู้ไม่ชัดของตัวเองแล้วจะไปชัดของคนอื่นได้อย่างไร มันไม่ใช่ในความรู้สึก ในเวทนาของเราเองเลย มันไม่ได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 24 มิถุนายน 2563 ( 11:27:56 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:34:42 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 15:47:29 )

รับวิบากไปก่อน

รายละเอียด

ก็ศึกษาแล้วก็เข้าใจให้ได้ ถ้าคุณเป็นคุณก็อย่าทำ ถ้าคนอื่นเขาเป็นก็บอกเขาได้เตือนได้แนะนำได้ก็แนะนำ แนะนำกันไม่ได้ก็ให้เขารับวิบากไปก่อน ก็มีอยู่แค่นั้น 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2563


เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 14:06:07 )

รับใช้

รายละเอียด

คือ ไม่รับสิ่งแลกเปลี่ยน แลกเอาคืน“ค่า”มา “ค่า”ก็ยิ่งลดลง ทำงานเพื่อผู้อื่นบริสุทธิ์เท่าใดๆ “ค่า”ยิ่งสูง มากเท่านั้นๆ ยิ่งไม่“รับค่าตอบแทนเลย” ยิ่ง“หาค่าบ่มิได้”

หนังสืออ้างอิง

คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 หน้า 488


เวลาบันทึก 29 ธันวาคม 2562 ( 16:31:02 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:29:31 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 04:32:22 )

รับใช้โลกคือประชาธิปไตยจริงๆอย่างไร

รายละเอียด

ในยุคก่อน พวกโสเครติส พลาโต ก็ไม่รู้เก่งเท่ายุคนี้หรอก ยุคนี้เก่ง ทำได้ แล้วมันอยู่ที่ใค อำนาจเร็วๆหลายคนเข้ามาให้ประชาชนและจัดสรรปกติคือประชาชนไม่ได้เข้าไปแย่งใครจะมาที่หมอชิต อย่างที่ชัดเจน ทักษิณ monomials จนหมดเลยประยุทธ์มาก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวนี้ รอยู่ที่ประเทศไทย แต่เพราะความรู้ประชาธิปไตยของโลกเขายังคลุมเครือ แต่เขาพอรู้ ตอนนี้เมืองไทยได้รับความยอมรับในประชาธิปไตย ทั้งโลกนี่แหละ จะเห็นได้ว่าประชาธิปไตยจริงๆ คืออะไร เอารูปนี้ก็ได้ รับใช้โลก…คือเรามาปฏิวัติรัฐประหาร เรามารับใช้เขา มาทำงานเพื่อสังคม ไม่ว่างานกวาดถนน ถูพื้นสร้างส้วม ไม่ได้ไปแย่งตำแหน่งหัวหน้ากอง รัฐมนตรีอะไร แต่เราไปทำประชาธิปไตย แล้วก็จัดสรรให้คนเหมาะสมไปทำงานแทน เราก็ไม่ได้ไปเอาตำแหน่งอะไร

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 09:45:23 )

รับใช้ไม่ใช่รับจ้าง

รายละเอียด

คุณสมบัติของคน แล้วสมาชิกของสังคมนั้นๆมีอิสระการทานอย่างจริง มีปัญญาโลกุตระจริงมี อนุกัมปา คือส่งเสริมรับใช้ผู้อื่น รับใช้อย่างบริสุทธิ์ใจไมใช่รับจ้าง เห็นดีไม่มีใครบังคับ ทำทานอย่างบริสุทธิ์ และจบสุดถึงอนัตตา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์วันมาฆบูชา  บ้านราช เนื้อแท้ประชาธิปไตยพุทธ 5 ประการวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 29 กุมภาพันธ์ 2563 ( 11:20:36 )

เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 15:32:59 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 04:37:24 )

รากของมนุษย์

รายละเอียด

ศีล 5 เป็นแก่นแท้หรือราก (root) ของมนุษย์ การมีศีล 5 จึงเป็น "การเกิดราก-การหยั่งราก" (rootage) ในคน เพราะมนุษย์คือสัตว์ที่มีจิตสูงแท้จริง

หนังสืออ้างอิง

ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 43


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2562 ( 11:52:34 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 16:36:46 )

เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2563 ( 04:45:17 )

รากฐานการศึกษาต้องพัฒนาจากบวร

รายละเอียด

เราเห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกันจึงทำการศึกษาแบบ บวร ให้อยู่ร่วมกันซึมซับกัน แต่การศึกษาแบบโลกนั้นเป็นการศึกษาที่ผิดเป็นการแยกส่วนทำให้เด็กไม่รู้จักสังคมไม่รู้จักความเป็นไปของสังคมไม่รู้จักว่าอะไรคือสิ่งที่เราจะต้องอยู่ร่วม นี่คือการศึกษาที่ล้มเหลวการศึกษาที่ผิดพลาด เราจึงเอาการศึกษามารวมกัน ชีวิตคนเป็นชีวิตสามัญ นักเรียนอยู่กับชีวิตคนตั้งแต่คนเด็กคนแก่คนหนุ่มคนสาวทำงานอะไรกัน นักเรียนของเราจะอยู่ร่วมกันหมดเลยช่วยกันคนละไม้คนละมือ ศึกษาไป รู้ซึมซับไปตลอดเวลาเลยว่าชีวิตอย่างนี้คือชีวิตจริง ส่วนตำราที่จะเรียนตามโลกเขากำหนดมามีหลักสูตรเท่านั้นเท่านี้เป็นเรื่องขี้ผง สอบเพื่อให้ได้ตามเขาเท่านั้นเองอันนี้เป็นเรื่องของชีวิต

ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาลจนไปถึงจบปริญญาเอก เขาไม่รู้จักสังคมไม่ได้ศึกษาความเป็นจริง

เราจึงเรียกว่าบ้านวัดโรงเรียน รวมกันอยู่ด้วยกันหมดเลย การประสบความสำเร็จที่เราได้ประพฤติปฏิบัติแบบนี้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสนทนากับท่าน Lopen Gembo Dorji แห่งภูฏาน

เรื่อง การพัฒนาโรงเรียนและการวางรากฐานพุทธศาสนาในระดับมัธยมศึกษา วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ลานหินนั่งหน้าน้ำตกบวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 21:04:12 )

รากฐานของประเทศไทยคือศาสนาพุทธที่มีพระมหากษัตริย์ข้ามชาติ

รายละเอียด

ที่นี้ของศาสนาพุทธเมืองไทยเป็นศาสนาพุทธ รากฐานของผู้ที่เป็นกษัตริย์ ข้ามชาตินะ อย่างราชวงศ์จักรี มา 200กว่าปีเกือบ 300 ปี อายุยาวกว่าอเมริกา แล้วยังมีราชวงศ์ก่อนหน้านั้นอีกหลายราชวงศ์ตั้งแต่สร้างประเทศไทยมา เกือบ 1,000 ปี ก็มีการสืบสันตติวงศ์มาทั้งนั้น แม้จะเป็นแต่ละวงศ์ เหมือนหนังจีนไม่รู้กี่วงศ์ต่อกี่วงศ์ อย่างจีนเขามีฮ่องเต้ไม่รู้กี่วงศ์ แต่จีนมันหลายพันปีมีประวัติศาสตร์นานกว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์จริงๆ แล้วก็เป็นประวัติศาสตร์ข้ามชาติไปเลย อย่างผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนาอย่างอาตมา อาตมารู้ประวัติศาสตร์ข้ามชาติ แต่อาตมาไม่มาพูดมากเพราะพูดแล้วมันไม่มีใครรู้ด้วย พูดไปเหมือนคนบ้าก็ไม่เข้าท่า ต้องพูดความจริงออกไปที่พูดได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 21 พฤศจิกายน 2563 ( 13:52:35 )

รากฐานของสังคมสาธารณโภคีแบบชาวอโศก

รายละเอียด

สังคมสาธารณโภคีชาวอโศกอาตมาวางรากฐานไว้อย่างนี้ เมื่อมีวรรณะ 9 จึงเกิดเป็นสาราณียธรรม 6 อยู่กันอย่างเป็นสังคมสาธารณโภคี อยู่กันอย่างมีเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม มีสาราณียธรรม 3 ข้อนี้ ข้อที่ 4 อยู่กันต่างคนต่างขยันหมั่นเพียรเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่ชั่วสิ่งที่ไม่ควรเรียกว่าอบายมุขเราไม่ทำ เราทำแต่เป็นสิ่งที่เป็นสาระ สิ่งที่บำรุงกาม เราก็ไม่สร้างเท่าไหร่ เราก็สร้างสิ่งที่เป็นสาระที่เป็นรูปธรรม เพื่อกินเพื่อใช้ ที่มีสาระแก่ชีวิตแก่สังคม เราก็สร้างสรรมาเกื้อกูลแบ่งกันกินแบ่งกันใช้แจกจ่ายเจือจาน ไม่สะสม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เอื้อไออุ่น วันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ปฐมอโศก 


เวลาบันทึก 04 กุมภาพันธ์ 2564 ( 19:37:41 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์