คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี
เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit
วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5
วีดีโอ Loom 1 : https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044
วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk
รายละเอียด
กามคุณ5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ต้องเรียนรู้ ลดกิเลส กามคุณ5 จนมันทำอะไรกันไม่ได้ก็เหลือแต่กิเลสภายในเป็นรูปภพ อรูปภพ แล้วก็ลดละไปอีก กิเลสแม้มีภายในก็ต้องลดละสมมุติว่า คนที่เป็นช่างเพชร ช่างทอง แต่ไม่รู้การโกลนหินมาก่อน แต่จะไปทำเจียระไนเพชรขั้นตอนสุดท้ายใครเขาจะให้คุณทำ ยังไม่ดูรายละเอียดตั้งแต่โอฬาริกอัตตา จะไปเรียนรู้มโนมยอัตตา อรูปอัตตา ได้อย่างไร
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 09 ตุลาคม 2562 ( 08:44:26 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:18:08 )
รายละเอียด
คือสิ่งที่น่าใคร่น่าพอใจ อย่าง
1. รูป (รูปะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยตา (จักขุ)
2. เสียง (สัททะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยหู (โสตะ)
3. กลิ่น (คันธะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยจมูก (ฆานะ)
4. รส (รสะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยลิ้น (ชิวหา)
5. สัมพัส (โผฏฐัพพะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยกาย (กายะ)
ที่มา ที่ไป
พระไตรปิฎกเล่ม 9 "เตวิชชสูตร" ข้อ 377
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก
เวลาบันทึก 20 มิถุนายน 2562 ( 21:33:35 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:34:34 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:41:35 )
รายละเอียด
คือสิ่งที่น่าใคร่น่าพอใจ 5 อย่าง
1. รูป (รูปะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยตา (จักขุ)
2. เสียง (สัททะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยหู (โสตะ)
3. กลิ่น (คันธะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยจมูก (ฆานะ)
4. รส รสะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยลิ้น (ชิวหา)
5. สัมผัส (โผฏฐพพะ) ที่น่าพอใจ รู้ด้วยกาย (กายะ)
หนังสืออ้างอิง
ธรรมพุทธสุดลึก,พระไตรปิฏกเล่ม 4 “เตวิชชสูตร” ข้อ 377
เวลาบันทึก 13 มีนาคม 2565 ( 18:46:31 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 4 มีนาคม 2563
เวลาบันทึก 26 มีนาคม 2563 ( 13:45:49 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:03:09 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 04:32:56 )
รายละเอียด
เรื่องตา อร่อยทางรูป สีสวยเสียงไพเราะ จมูกได้กลิ่นหอม รสอร่อยสัมผัสเสียดสี เป็นเรื่องรวมของโผฏฐัพพะ จะเข้าใจถึงสภาพที่เกิดจากผัสสะสัมผัสเสียดสี แล้วเกิดรสชาติ มันเป็นเรื่องมายาเป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตน เป็นเรื่องปลอม ถ้าไม่ใช่ของปลอมหมดไม่ได้ มันของปลอมจริงๆจึงหมดได้ ผู้ที่ทำได้เห็นจริงๆเชื่อว่า พระพุทธเจ้าสอนสิ่งประสบผลสำเร็จจริง ถ้าคุณเองยังไม่จริงก็ไม่เชื่อสิ่งที่เป็นจริงที่พระพุทธเจ้าท่านสอน คุณจะได้มาก่อนแล้วคุณก็จะไม่เชื่อหรอกว่าพระพุทธเจ้าหลอก คุณว่าพระพุทธเจ้าหลอกหรือว่าคุณโง่ ?
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:52:14 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:11:46 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 04:26:36 )
รายละเอียด
เพราะยังไม่ได้เรียนรู้จัก“โลก”ที่มี“กามคุณ 5” กับ“อัตตา” ที่เป็น“อันตา” 2 ชนิด
ซึ่งต้องเรียนรู้อย่างสำคัญ และหลุดพ้นๆได้ด้วยการเห็นแจ้ง“ความจริงตามความเป็นจริง”ว่า
แท้จริงยิ่งนั้น คนผู้หลง“สุข”อยู่ด้วย“กาม”มันก็เป็น“สุขัลลิกะ”
คือ“สุขเท็จ”แท้ๆ [สุขัลลิกะ = สุข + อลิกะ ; อลิกะ แปลว่า เท็จ สุขัลลิกะก็“สุขเท็จ”]
หรือยังไม่รู้จักรู้แจ้งรู้จริงความเป็น“อัตตา” ก็จะลำบาก
ลำบนยากเย็นแสนเข็ญบำเรอ“อัตตา”ตนเองนี้แลอยู่นิรันดร ไม่พ้น“อัตตา”ไปได้
จึงเป็นชาว“เทฺวนิยม”แท้
ตามที่ชาวโลกเป็นกันเต็มโลกมากมายกว่าชาว“อเทฺวนิยม” ก็ยืนยันกันอยู่เห็นๆ
ชื่อว่ายังเป็นทาสลาภ,ยศ,สรรเสริญ,สุข
โดยเฉพาะ“สุข”อันเป็น“อารมณ์หรือความรู้สึก”ของจิตที่ชาว“โลกีย์”ยังยึดแท้
ยังหลงเสพติดว่าเป็น“สุขนิยม”กันอยู่นิรันดร นี่ไง!
หนังสืออ้างอิง
หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 44 หน้า 69
เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 16:27:42 )
รายละเอียด
ดูกรวาเสฏฐะ ฉันนั้นเหมือนกัน กามคุณ 5 เหล่านี้ ในวินัยของพระอริยเจ้า เรียกว่าขื่อคาบ้าง เรียกว่าเครื่องจองจำบ้าง กามคุณ 5 เป็นไฉน? คือ รูปที่พึงรู้ด้วยจักษุ เสียงที่พึงรู้ด้วยโสต กลิ่นที่พึงรู้ด้วยฆานะ รสที่พึงรู้ด้วยชิวหา โผฏฐัพพะที่พึงรู้ด้วยกาย น่าปรารถนาน่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก เกี่ยวด้วยกามเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ เตวิชชสูตร ตอน1 วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2561ที่บ้านราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:24:47 )
รายละเอียด
ศีลข้อที่ 3 เป็นเรื่องของรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ละเอียดกว่านั้นอีก เรียกว่า กามคุณ 5 ภายนอกนะ ทางตาหูจมูกลิ้นกาย โผฏฐัพพะ ผู้ยังมีกิเลสราคะ เสพสุขดูดดึงในเรื่องกามมันเป็นโทษเรียกว่า กามาทีนวะ แต่คนยังเห็นเป็นกามคุณ เห็นเรื่องกามเป็นเรื่องดี
นัยยะซับซ้อน กาม เป็นความปรารถนา เป็นความใคร่อยาก เป็นความประสงค์ มันมีนัยยะที่เป็นไวพจน์ซับซ้อนอยู่ ก็มีประโยชน์บ้าง เป็นกุศลเจตนา เป็นความปรารถนาที่ดี แล้วเราก็ทำสิ่งที่ดีนั้นๆ ก็เจริญไป ก็เป็นประโยชน์อยู่
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนถือศีล 5 ได้ ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างยิ่ง วันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 21 มกราคม 2565 ( 17:24:18 )
รายละเอียด
อาหารที่กินนี่ รูปสวยน่ากิน กลิ่นน่ากิน รสน่ากิน สัมผัสเสียดสีเย็นร้อนอ่อนแข็ง อันนี้เย็นดี อ่อนดีอะไรก็แล้วแต่ ติดเสียงน้อยหน่อย คนจีนต้องซดโฮกๆ ถ้าซดเงียบๆเขาหาว่าไม่อร่อย ประกอบด้วยรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส กามคุณ 5 ซึ่งมันไม่ง่ายหรอก แต่ละคน ดีที่ไม่แย่งตรงกันหมด เขาแยกต่างกันเป็นล้านมุมในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส นี่เบื้องต้นกามภพที่ต้องเกี่ยวข้องกับตา หู จมูก ลิ้น กาย ถ้าอันนี้ยังไม่ผ่าน เช่นไปนั่งหลับตาทิ้ง 5 อันนี้เลยแล้วหลงนึกว่าเป็นอรหันต์ ก็จบเลย คุณยังไม่ได้เรียนรู้เลยว่าเป็นอย่างไรที่คุณเคยติดมา ตั้งแต่ปางไหน คุณก็ว่าไม่แล้วพ้นแล้วเอาสิ้นอาสวะเลย แต่คุณยังไม่รู้จักอาสวะเลย ยิ่งอนุสัยยิ่งไม่รู้จักเลย อาสวะต้องกระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย อาสวะที่หมักหมมในจิตก็ไม่รู้ แม้อาสวะหยาบ กลาง ละเอียด คุณก็ยังไม่รู้เลย โอรัมภาคิยสังโยชน์ เบื้องต่ำก็ยังไม่รู้เลย จากภายนอกคุณยังไม่ได้เริ่มเลย ซึ่งมากมายเยอะแยะ คุณจึงต้องหลุดพ้นก่อนจึงมีตาละเอียด แต่คุณปิดบังกลบแน่นจมจะไปรู้ส่วนกลางส่วนละเอียดไม่ได้หรอก ต้องใช้พลังปรมาณูระเบิด ไอสไตน์ก็สอนให้คนทำอย่างนั้นไม่ได้ พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าการเป็นลำดับอันน่าอัศจรรย์ ลาดลุ่มเหมือนฝั่งทะเล เป็นลำดับอันน่าอัศจรรย์ อาหารเป็นเรื่องใหญ่ แม้เป็นพระพุทธเจ้าเป็นอรหันต์ก็ยังต้องกินอาหาร ปัจจัย 4 ข้าว ผ้า ยา บ้าน ผ้า ยา บ้านไม่จำเป็นต้องใช้ก็ยังมีชีวิตได้ แต่อาหารไม่กินก็ตาย อาหารจึงเป็นหนึ่งในโลก อาหารคนไทยปรุงแต่งเก่ง หลอกคนต่างชาติมาหลงอาหารไทย เมนูมากมาย
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 25 ธันวาคม 2562 ( 14:53:03 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:13:39 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:42:51 )
รายละเอียด
กามคุณ 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เรื่องการติดอร่อยลิ้น ติดรูปสวย ติดความไพเราะทางเสียง ติดกลิ่นเหม็น กลิ่นหอม สัมผัสร้อน อ่อน แข็ง ชอบ ไม่ชอบ มันเป็นกิเลสที่พระพุทธเจ้าสอนให้ละเรื่องนี้ศาสนาอื่นไม่มี
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 69 วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2562
เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 11:36:18 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:15:11 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 04:23:59 )
รายละเอียด
สัมผัส ผัสสาหาร มันเนื่องกัน อาหารคือคำข้าวมันก็เนื่องไปถึงผัสสะ กระทบสัมผัส จึงจะต้องศึกษา เพราะฉะนั้นผู้ที่ปฏิบัติธรรมไม่ได้ศึกษาการสัมผัสเลย ไม่ได้ศึกษาการออกมารับรู้ตาหูจมูกลิ้นกายที่เป็นกามคุณ 5 ไม่ใช่เรื่องแค่มีผัวมีเมียเหมือนอย่างมหาบัวเท่านั้น
กามคุณ 5 ไม่ได้หมายถึงเรื่องเฉพาะผัวเมีย แต่เป็นเรื่องการติดยึดของใจด้วย แต่จริงๆเรื่องผัวเมียก็ติดในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสทวารทั้ง 5 ทั้งหมด กวฬิงการาหาร ก็เนื่องมาจากผัสสะ หากว่าไม่ได้เรียนรู้เรื่องผัสสะเลยจะไปเรียนรู้เรื่องมโนสัญเจตนา ที่จะเป็นตัณหา เจตนาที่จะไปสู่ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ไม่มีทางที่จะไปเรียนรู้วิภวตัณหาเลย เพราะว่ากามก็ไม่ได้เรียนรู้ ภวตัณหาก็ไปนั่งหลับตาดับ ซึ่งไม่มีทางเรียนรู้ได้เพราะว่ามันเป็นโมฆะ นั่งหลับตาไม่มีทางเรียนรู้ได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูฝืนตายฝืนกินอยู่ด้วยอาหาร 4 วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 18 พฤษภาคม 2565 ( 12:39:44 )
รายละเอียด
ใครเคยได้ยินไหมพระไตรปิฎก ว่ากามคุณ 5 เป็นเบื้องต้นของพรหมจรรย์ หากว่าเริ่มต้นไปนั่งหลับตาก็ไม่ได้เรียนรู้กามคุณ 5 ตั้งแต่เริ่มต้น ก็จมในความหลงไม่งมเงยได้เลย น้ำมันลึกและเน่า เหม็น งมยากมากเลย มีคนถามว่า ทำไมเรียกกามคุณทำไมไม่เรียกว่ากามโทษ พ่อครูว่า..ก็คนไม่เรียนรู้ธรรมะพระพุทธเจ้า คนทั้งหลายหลงอวิชชาจึงไปเห็นว่ามันเป็นคุณ คุณแปลว่าดี พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาจึงเรียก กามนั้นว่าเป็น กามาทีนวะ นี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่ปุถุชนคนโง่จะเรียกว่ากามคุณ เหตุที่เรียกเพราะว่ามันโง่ ใครยังโง่ ยังหลงอยู่กับกามคุณ พอได้ยินพระพุทธเจ้าสอนว่า กามนั้นไม่เป็นคุณ กามนั้นมันเป็นโทษ แล้วไปหลง
ที่มา ที่ไป
รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 ผู้ข้องอยู่ในถ้ำอันไกลจากวิเวก วันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 16:50:19 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:16:43 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 04:30:01 )
รายละเอียด
กามคุณ ภาษาบาลีท่านก็ใช้ว่า ธัมมกาโม เป็นความใคร่อยาก อยากในอะไร อยากในธรรมะ หรือธรรมะอันเป็นกาม ธรรมะไม่ใช่อธรรม เพราะฉะนั้นคุณจะต้องเข้าใจสภาวะ อย่าไปติดใจพยัญชนะกลับไปกลับมา มันหลอกเรา เป็นสิริมหามายา หรือเป็นมายาแท้ คุณจับมันไม่ถูกก็หลอกคุณอยู่ตลอดเวลาเป็นมายา หากว่าคุณจับได้ถูกแม่นแม้จะสลับเร็วอย่างไรมีมุมต่างอย่างไรคุณก็รู้ถ้วนรอบว่าอะไรคือมุมที่ถูกต้อง ส่วนที่ถูกต้องสิ่งที่ถูกต้องได้ครบ นั่นแหละคุณถึงจะครบได้
เพราะฉะนั้น กามคุณ คือ ความใคร่อยากที่จะมาบำเรออารมณ์ สั้นๆ อย่างนี้ก็แล้วกัน
ที่จริงแล้วมันเป็นโทษเป็นกามทีนวะ ไม่ใช่กามคุณ แต่เพราะคนมันเสื่อม จึงไม่เรียกกามทีนวะ ทั้งที่เป็นอนุปุพพิกถา ท่านให้เรียนเป็นเบื้องต้นเรียกว่า กามทีนวะ ไม่มีคำว่า กามคุณ แต่ไม่เอาแล้ว ก็มันเสื่อมเลยไม่หยิบมาใช้เหมือนกับ เฉโก ความรู้ทางโลกีย์ที่ตนเองหลงใหลก็ไม่หยิบมาใช้ แต่ใช้คำว่าปัญญาเท่านั้น เลยลืมเฉโก มาเอาแต่ปัญญาใช้กัน สลับไปสลับมา ถ้าไม่มีสภาวะแท้ พูดไม่ถูกหรอกแล้วจะสลับไปสลับมาจับตัวไม่มั่นคั้นไม่ตาย
ติดตามดีๆแล้วจะรู้ว่าอาตมาเป็นผู้ที่รู้จริง
ที่มา ที่ไป
พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ กามโทษ กามาทีนวะไม่ใช่ให้เสพกามคุณ วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 20:07:07 )
รายละเอียด
จิตที่มีกิเลสกาม
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:38:45 )
รายละเอียด
จิตที่เป็นกิเลสกาม
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 99
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:38:18 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:00:07 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:43:12 )
รายละเอียด
1. โลภะ
2. จิตที่ทำงานปรุงอารมณ์ไปกับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส มาให้ตนเสพสมใจ
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 3 หน้า 6,485
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:39:22 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:00:35 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:43:50 )
รายละเอียด
1. ความอยากในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส,ความอยากได้รสอร่อยต่างๆ มาเสพตรง ๆ ให้ทางทวาร 5 ที่เราเรียกว่ากามคุณ 5
2. ความอยากได้กาม
3. ความอยากในกาม
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 257,370
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 38
รวมคนจะมีธรรมะได้อย่างไร เล่ม 2 หน้า 11
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:41:04 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:01:04 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:44:39 )
รายละเอียด
ความทะยานอยากในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส,ความอยากได้รสอร่อยต่างๆ มาเสพตรง ๆ ให้ทางทวาร 5 ที่เราเรียกว่ากามคุณ 5
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:41:01 )
รายละเอียด
ตัณหา 3 กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา แจกแจงตัณหา 3 ให้ฟังดีๆ
กามตัณหา เป็นขั้นต้น เบื้องต้น เรียนรู้ทางตาหูจมูกลิ้นกาย5 ทวาร มันมีสวรรค์นรกกับสวรรค์นรกอยู่เนี่ย สัมผัสแล้วเกิดกามคุณ 5 ก็มีสวรรค์กับนรกในกามคุณ 5 เพราะสวรรค์กับนรกแยกกันไม่ได้ มันมีสวรรค์นรกก็มีภพชาติอยู่อย่างนี้ เพราะไม่รู้จักเวทนา ไม่รู้จักจิตของตัวเองเสพติด ในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ทั้งๆที่ไม่ใช่อาหาร แต่ก็ยังเอามาลิ้มรสในปาก เสพรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส
อันนี้ลึกซึ้ง อย่างเช่นมหาบัว เสพติดหมาก ไม่ใช่อาหารสำคัญสำหรับชีวิต แต่ติดในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ไม่ได้เรียนเลย มีแต่ไปนั่งหลับตาเป็นเดียรถีย์ มันไม่มีทางที่จะมารู้เรื่องอะไรเลย มันต้องมาเรียนรู้ตาหูจมูกลิ้นกายใจ ขั้นต้น กามตัณหา แล้วล้างกำจัดกิเลสกามตัณหาออกก่อน ถึงจะเข้าไปถึงเนื้อใน ต้องหมดกิเลสกามแล้วจึงเข้าไปถึงเนื้อในได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 13:41:52 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:26:08 )
เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:52:24 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:48:35 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2563 ( 10:20:15 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:18:51 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:49:50 )
รายละเอียด
ขออธิบาย มโนสัญเจตนาหาร มี กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
ตัณหาแรกคือ กาม ซึ่งคนจะต้องเรียนรู้เป็นเบื้องต้นก่อนทั้งนั้น จะเรียนรู้เรื่องกามตัณหาก็ต้องไปเรียนรู้จาก กวฬิงการาหาร เป็นตัวสำคัญ แล้วจะเรียนรู้ได้ต้องมีผัสสะ อาศัยผัสสะจึงจะเรียนรู้เรื่องกามได้ แล้วจะเรียนรู้ได้ต้องมีผัสสะ อาศัยผัสสะจึงจะเรียนรู้เรื่องกามได้ ศาสนาพุทธตกต่ำจนไปนั่งหลับตาไม่เรียนรู้เรื่องกาม
กาม เกิดจากการสัมผัสภายนอก 5 ทวารแล้วเกิดจากอาการของกามตัณหา ต้องเรียนรู้อันนี้ก่อนแล้วเรียนรู้ให้ดีที่สุดคืออาหารการกิน รู้สิ่งที่สัมผัสเข้าทางปากแม้คุณจะไม่กิน เช่น หมากพลู คุณไม่ได้กลืนกินหรอกแต่คุณกิน มันกลืนกินไม่ได้หรอก มันแรง
ที่มา ที่ไป
รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูพบอาจารย์หมอเขียวและทีมงานแพทย์วิถีธรรม วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2565แรม 6 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2565 ( 19:31:19 )
รายละเอียด
คือคุณที่ไม่ทำมันได้ตั้งแต่เริ่มต้น กามทั้งหลาย อันบุคคลผู้จะละได้โดยยาก คุณไม่ทำก่อนเบื้องต้น อย่างหยาบมาก ต้องรู้รายละเอียดทั้งหมดได้จากที่ไหน อย่าดันทุรังเลยมาดันสุรังกันดีกว่า ไม่มีเบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลายอันน่าอัศจรรย์ คนที่ไปนั่งหลับตาแล้วรู้ ปึ้งปั้งๆ จะไปอธิบายอะไรได้ ขออภัยอย่างเช่นหมากพลู บุหรี่ ก็ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งเสพติด ทั้งที่มันก็เป็นกามหยาบที่ใครๆ ก็รู้ แต่แค่นี้คุณก็ยังไม่รู้เลย แล้วยังมาบอกว่า คุณเป็นพระอรหันต์ ขอภัยพูดอย่างนี้หมายถึงใครก็น่าจะรู้ ขออภัยผู้ที่เคารพนับถือท่าน ก็มีเยอะ ท่านหาเงินเข้าพระคลังหลายล้านบาทได้ แต่ท่านยังตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ข้องแค่ในหมากพลู ไม่รู้ในสิ่งเสพติดที่เป็นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แค่นี้ เพราะฉะนั้น จะไปละกิเลสละเอียดไปมันเป็นไปไม่ได้ ขออภัยเหมือนไปลบหลู่ครูบาอาจารย์เขา แต่อยากให้ตื่นชาคริยะ ตื่น ๆๆ
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 27 พฤศจิกายน 2562 ( 12:10:46 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:31:17 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:51:26 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันอังคารที่ 9 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 08:51:32 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:06:05 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:52:18 )
รายละเอียด
เช่นมันมี 2 สุขกับทุกข์ คุณก็ทำเหตุแห่งทุกข์ให้มันลดลงก็จะเหลือเรียกอนุโลมว่ามันเป็นสุข เอาพยัญชนะมาเรียกนะ มันก็จะเหลือเช่น กามสุข ที่แท้มันเป็นทุกข์เป็นกามทุกข์ ไม่ใช่กามสุข แต่คุณใช้มายาหลอกตัวเองเท่านั้น พระพุทธเจ้าให้จับตัวใดตัวหนึ่งให้จับตัวทุกข์ก่อนก็มารู้จัก กามทุกข์ แต่เขาไม่รู้จักเขาเรียกว่ากามสุขแล้วดันเรียกว่ากามคุณด้วย ก็โง่ ที่จริงมันกามทีนวะต่างหาก เป็นกามโทษไม่ใช่กามคุณ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม เรียนรู้ปฏิจจสมุปบาทที่ ชาติ ภพ ตัณหา วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2564 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 19 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:44:02 )
รายละเอียด
รูปรอยของกามที่ตนได้สั่งสมกำหนดหมาย ตีตราลงอย่างลึกสุดก้นบึ้งของจิต
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค 2 หน้า 260
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:41:52 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:01:32 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:52:41 )
รายละเอียด
รูปรอยของกามที่ตนได้สั่งสมกำหนดหมาย ตีตราลงอย่างลึกสุดก้นบึ้งของจิต
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:51:48 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2563
เวลาบันทึก 05 กันยายน 2563 ( 08:43:22 )
รายละเอียด
1. ถิ่นที่ผู้เสพกามหลงอยู่
2. กามภูมิ คือภพภายนอกอันเป็นที่เกิดของผู้เสพกาม
3. ของที่ใหญ่เห็นชัดเจน รู้ได้ง่าย ต้องเป็นวัตถุ เป็นกายหยาบออกมาส่วนนอก
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 105,406
ทางเอก ภาค 2 หน้า 449
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:44:19 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:02:04 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:53:27 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการกายนี้คือวิญญาณ วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2563 ( 13:27:07 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:23:44 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:53:49 )
รายละเอียด
ภพอันเป็นที่เกิดกิเลสของผู้เสพกามคุณ 5
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:53:58 )
รายละเอียด
ที่อธิบายไปนี้เป็นการอธิบายให้เห็นว่า ศีลเป็นเบื้องต้น พูดแค่ศีลข้อที่ 1 สัมผัสกับสัตว์ ศีลข้อที่ 2 สัมผัสกับของ ซึ่งท่านแยกไว้ 3 ข้อ รวมหมดแล้วในโลกนี้ก็มีสัตว์กับของ แม้แต่พืชพันธุ์ธัญญาหารก็อยู่ในสิ่งของ นอกนั้นเป็นของทั้งนั้น ดินน้ำไฟลมวัตถุเป็นมหาภูตรูป เสร็จแล้วก็มีความรู้ทางทวาร 6 ตา หู จมูก ลิ้นกาย ใจ เกิดกามเรียกว่ากาม กามภพ เราก็รู้เท่าทันอาการ กาม กามภพ ตัวปฏิบัติแท้ก็มาลดอาการของกาม อาการของกามเป็นอย่างไร คู่ของมันก็คือ ลิงคะ มีราคะมูล โทสะมูล(ปฏิฆะ) ก็รู้ว่าอาการเหล่านี้มันเกิดก็กำจัด มีอุบายเครื่องออก มีวิธีกําจัดเนกขัมมะ
ที่มา ที่ไป
เทศน์ ทวช. วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561
เวลาบันทึก 28 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:38:09 )
รายละเอียด
กาม หมายความว่า รสความอยากใคร่ ซึ่งถ้าคำว่ากามแล้วคือภายนอก ภายนอกมี 5 เรียกว่า กามคุณ 5 หรือ กามโทษ 5 เราได้ยินแต่คำว่ากามคุณเป็นส่วนใหญ่ แต่กามโทษ เราไม่ค่อยได้ยินกัน กามโทษ ภาษาบาลีคือ กามาทีนวะ อาทีนวะ แปลว่าโทษ ที่จริงแล้วมันไม่ใช่คุณ มันเป็น อาทีนวะ กามคือโทษ แต่ก็ไปชอบกันไปยินดีกันไปมีกันเสียส่วนใหญ่ทั้งโลกเลย เทวนิยม ถึงขั้นศาสดาของศาสนาเทวนิยม ก็ยังไม่รู้จักเรื่อง กาม ยังเสพรสกามกันอยู่ แม้แต่ศาสดาที่เป็นศาสดาของศาสนา ก็ยังมีเรื่องกาม ยังมีคู่สามีภรรยาอะไรอย่างนี้เป็นต้น
ซึ่งต้องเรียนรู้ว่า ศาสนาพุทธนั้น หมดกาม หมดความอยากความใคร่อันนี้ ความใคร่ ความอยากอันนี้แหละมันใกล้กัน ส่วนคำว่าภพ นั้นเป็นแดนเกิด ถ้าจะเรียกด้วยภาษาวิทยาศาสตร์ ภพเป็น Static ตัณหาเป็น Dynamic หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภพ เป็นรูป ตัณหาเป็นนาม ต่างกันอย่างนี้ เหมือนกันอย่างไร?…มันยังไม่จบ มันเป็นกิเลสทั้งคู่ ต้องหมดภพหมดชาติหมดตัณหาหมดอุปาทาน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิชาวอโศก มีความมหัศจรรย์ได้ตาม ปหาราทสูตร วันพุธที่ 5 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 21:06:30 )
รายละเอียด
ตอนนี้กำลังพูดถึงเรื่องเทวะเรื่องของภพชาติ
ฉบับที่ 342 เรายังพูดถึงเรื่อง“ภพ”กันอยู่ ซึ่งทุกวันนี้ชาวพุทธทั้งหลายได้ทำ“สมาธิ”
ผิดขั้นตอนของการปฏิบัติไปอย่างสำคัญมาก มันตรงกันข้ามกับคำสอนพระพุทธเจ้านั่นคือ ไปยึดถือเอาการ“หลับตา”ปฏิบัติแล้วหลงผิดสนิทใจว่าจะเกิดผล“สัมมาสมาธิ”ซึ่งหลงผิดกันตั้งแต่เริ่มต้นไปทีเดียว จาก“กามภพ”ขั้นต้น ก็ยึดผิดทำผิดกันแล้ว
เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ที่“ภพ”ในโลกมีตั้ง 6 ภพ” คือจะตัด“ภพ”ทิ้งไปตั้ง“5 ภพ”
ที่เป็น“กามภพ”ภายนอกอันคนหลงติดยึด“กามคุณ 5”นี้สาหัส ทั้งหยาบทั้งหนาทั้งแน่น และเป็นเบื้องต้นด้วยซ้ำ แล้วจะหลงเผิน ไม่นำพา ไม่จัดการก่อนไปเป็นลำดับๆ โดยเริ่มกันที่“หยาบ”ก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วจึง“กลาง” ขั้นสุดถึงจะ“ละเอียดที่เป็น“ปลาย”ไปหลงผิด ไปเอาแต่“ภายใน” โดยมักง่ายเกินไป รวบเอาแต่“ปลาย”แค่นั้นเป็นจบ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาอย่างนานาสังวาส สื่อธรรมะพ่อครู(จรณะ 15 วิชชา 8) ตอน ไฟฌานทำลายกิเลสได้อย่างไร วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่บ้านราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 16 กุมภาพันธ์ 2564 ( 05:27:40 )
รายละเอียด
1. ภูมิที่ปุถุชนของเทวดาทั้งหลายหลงอยู่ในกาม หลงอยู่ในวังวนของภพโลกธรรม 8 จะเวียนว่ายตายเกิดอยู่
2. โลกกาย
3. ภูมิที่มนุษย์ และเทวดาทั้งหลายหลงอยู่ในกาม จะเวียนว่ายตายเกิดอยู่
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 118,143,336
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:45:51 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:02:36 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:54:40 )
รายละเอียด
ภูมิที่มนุษย์ และเทวดาทั้งหลายหลงอยู่ในกาม จะเวียนว่ายตายเกิดอยู่
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:55:21 )
รายละเอียด
1. ราคะในทวาร 5
2. อาการใคร่ อาการอยากมาให้แก่ตนเพื่อเสพสมใจอยาก อาการต้องการได้มาสนองกิเลส สนองตัณหาของตน
หนังสืออ้างอิง
ทางเอก ภาค1 หน้า 223
สมาธิพุทธ หน้า 244
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:46:53 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:03:07 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:55:07 )
รายละเอียด
อาการใคร่ อาการอยากมาให้แก่ตนเพื่อเสพสมใจอยากทางทวาร 5 หรือ คืออาการต้องการได้มาสนองกิเลส ตัณหาของตน
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 07:58:09 )
รายละเอียด
อาตมาพูดมากในเรื่องที่ไปนั่งหลับตาสมาธิ เพราะมันเสื่อมมากจริงๆศาสนาพุทธไม่ใช่การนั่งหลับตา สมาธิเกิดจากนั่งหลับตาไม่ได้ สมาธิของพุทธ สมาธิของพุทธที่เป็นสัมมาสมาธิท่านเรียกด้วยภาษาบาลีว่า สมาหิตะ
สมาหิตะ ซึ่ง คือ จิตที่ตกผลึก จากการเรียนรู้ เจโตปริยญาณ 16 คือจิตนี่ เรียนรู้ตั้งแต่จิต มันเกิดกามคุณ 5 กามราคะ
กามราคะ มี 5 คือ เกิดทางตากระทบรูป หูกระทบเสียง กามคุณมี 5 แล้วเรียนรู้ ทำอย่างไรให้ กาม มันลดลง มันไม่มี มันหมด เรียกว่า วีตราคะ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศนาธรรมส่งท้ายปีเก่า 2565 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 ที่บวรราชธานีอโศก วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 2 ปีขาล
เวลาบันทึก 09 มกราคม 2566 ( 14:19:47 )
รายละเอียด
จิตที่เกิดต่อเนื่องจากกายหยาบของเราเลยทีเดียว ก็เป็นครั้งแรก เป็นจิตขั้นกามภพ สัมผัสตัวตนร่างกายแท้ ๆ จากทวารทั้ง 5 จริง ๆ รับรสออกมารู้ตัวนั้นแหละ จิตขั้นหยาบ
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 386
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:48:22 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 14:25:47 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:55:32 )
รายละเอียด
จิตที่เกิดต่อเนื่องจากกายหยาบของเราเลยทีเดียว ก็เป็นครั้งแรก เป็นจิตขั้นกามภพ สัมผัสทวารทั้ง 5 จริง ๆ รับรสออกมารู้ตัวนั้นแหละ จิตขั้นหยาบ
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 08:01:10 )
รายละเอียด
ความดำริอยากได้
หนังสืออ้างอิง
จากพุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 174
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:51:27 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:03:35 )
เวลาบันทึก 27 กรกฎาคม 2563 ( 14:00:18 )
รายละเอียด
ความดำริอยากได้ในกาม พระพุทธเจ้าตรัสว่า กามทั้งหลายเกิดได้เพราะการดำริ
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 08:02:24 )
รายละเอียด
ความดำริคิดใคร่อยากเสพสุขทางกาม
หนังสืออ้างอิง
เปิดโลกเทวดา หน้า 60
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:01:03 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 17:08:04 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:55:52 )
รายละเอียด
ความดำริในกาม
หนังสืออ้างอิง
จากหนังสือสมาธิพุทธ หน้า 114
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:01:43 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:04:39 )
รายละเอียด
เครื่องผูกมัดความเป็นสัตว์ที่ยังเสพกาม
หนังสืออ้างอิง
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 278
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:02:26 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 14:26:19 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:56:20 )
รายละเอียด
สัญญาที่ยังเป็นกาม
หนังสืออ้างอิง
จากชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉ.278
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:03:08 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 14:26:48 )
รายละเอียด
ความจำในเรื่องกาม
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 08:03:47 )
รายละเอียด
ฟังดีๆ เรียนไปเรื่อยๆ ค่อยๆเข้าใจภาษาที่จะสื่อสภาวะธรรม สัญญาแปลว่าการกำหนดหมายหรือความจำ ส่วนดำรินั้น คือการ ตริตรึก ไตร่ตรองนึกคิด สังกัปปะ เป็นภาษาบาลี
ส่วนสัญญาเป็นการกำหนดรู้ เรียกว่าสัญญา กำหนดรู้อันนั้น ส่วนดำรินั้นจะเกิดขึ้นที่จิตอะไร สังกัปปะ
โดยธรรมชาติเลย สัญญาก็เป็นธรรมชาติ กำหนดรู้อันนั้นอันนี้เป็นธรรมดาที่ก็ใช้กันมาประจำ สัญญานี้ใช้มากในคน สัญญาหรือสัญญาณ สัญชาตญาณอย่างนี้เป็นต้น มันจะเกิดไปโดยอัตโนมัติเลย
ความดำริในกาม กับกามสัญญา
กาม การกำหนดลงไปเลย มันจะมีเจตนามุ่งหมาย ต้องการ
ส่วน ดำรินี้เริ่ม เริ่มเกิดแล้วก็เข้าไปไตร่ตรองดำริ มีความหมายหลายอย่างในสังกัปปะ ไตร่ตรอง ตรวจตรา แยกแยะต่างๆ ซึ่ง สังกัปปะ พระพุทธเจ้าแยกไปถึงสังกัปปะ 7 เรียนรู้ให้ดีแล้วจะเรียนรู้ถึงสังกัปปะ 7
สรุปแล้ว กามสัญญาก็คือกำหนด จะเรียกว่า หยาบกว่ากามสังกัปปะ ความดำริในกาม ก็หยาบกว่ากัน กามสังกัปปะ ละเอียดลออกว่าเยอะเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิชาวอโศก มีความมหัศจรรย์ได้ตามปหาราท สูตร วันพุธที่ 5 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศ
เวลาบันทึก 14 มกราคม 2565 ( 21:12:57 )
รายละเอียด
1. สุขเพราะยังมีกาม
2. สุขจากการได้บำเรอกาม
3. สุขในกามคุณ 5
หนังสืออ้างอิง
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 167,184
เปิดโลกเทวดา หน้า 29
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:04:03 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:05:09 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:57:01 )
รายละเอียด
1. สุขโลกีย์ , สุขไม่เที่ยง , สุขหลอก ๆ ชั่วระยะหนึ่งแล้วก็จะจางหายไป แล้วก็จะเวียนวนมาอยากใหม่
2. อาการกามสุข
หนังสืออ้างอิง
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 115
รู้คนขังสุข รู้คุกขังสัตว์ หน้า 165
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:04:55 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:05:46 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:57:36 )
รายละเอียด
คือ กามที่เป็นสุขเท็จ
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 น.36
เวลาบันทึก 08 พฤศจิกายน 2562 ( 13:30:27 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:36:47 )
รายละเอียด
การประกอบตนให้พัวพันด้วยกามสุขในกามทั้งหลาย , ความพากเพียรให้พัวพันอยู่ในกามสุข
หนังสืออ้างอิง
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 36,38
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:06:23 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:06:19 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:58:00 )
รายละเอียด
ความพากเพียรประกอบตนให้พัวพันในกามสุข อันเป็นของหลอก
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 08:06:35 )
รายละเอียด
กามนี่ หมายถึงข้างนอกเลยบำเรอทาง 5 ทวาร รสทาง 5 ทวาร ถ้าหมดรสอันนี้แล้วก็หมดหยาบแล้วเหลือแต่ข้างใน รูปราคะ ก็ลดในอาการบำเรอใจ จนเข้าไปถึงตรงปลายเป็น อรูปราคะ หมดเกลี้ยงจนเหลือเป็นเรื่องคุณธรรม เป็นทางมานะ ทางกระจายเป็นอุทธัจจะ หรือทางถีนมิทธะ ก็ลดลงไปอีก จะเหลือเป็น อรูปสุดท้าย คุณจะรู้ได้ด้วยตนเอง อาตมาพูดอย่างนี้คุณต้องรู้เอง จะกลับไปกลับมาเป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อนคัมภีราวภาโส หรือ
ปฏินิสสัคคะ
มันจะสลับซับซ้อนเป็นมายา สิริมหามายา อาตมาอธิบายธรรมะอยู่ตลอดเวลา ติดตามดีๆแล้วค่อยๆปฏิบัติ
ที่มา ที่ไป
พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ กามโทษ กามาทีนวะไม่ใช่ให้เสพกามคุณ วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 20:13:44 )
รายละเอียด
อนุสัยของกาม
หนังสืออ้างอิง
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 178
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:07:10 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:07:20 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:58:22 )
รายละเอียด
กามาวจร หมายความว่า กำลังดำเนินบทบาทของกาม มันดำเนินบทบาทอยู่ในกามภพ ดินแดนสถานที่องค์ประกอบ เจ้ากามก็มีบทบาทตัวตน มีอวจร คือมีปฏิกิริยาดำเนินอยู่ตลอดเวลา ว คือตัวพฤติ มันยังมีพลังงานดำเนินหมุน ทำงานอยู่ในโลกของกาม เรียกกามาวจร
ในตัวภพ ที่มัน วจร อยู่เรียกว่ากามภพ หากกามภพเป็นรูป กามาวจรก็เป็นนาม
ซ้อนลึกลงไป เป็นตัณหา เป็นราคะ เรียกกามตัณหา หรือกามราคะ
ราคะเป็นตัวบอกชื่อ แทนคำว่า กิเลส ถ้ากิเลสด้านนอกเรียกว่ากาม หมดกิเลสด้านนอก รูปราคะก็เรียกว่าด้านใน อรูปราคะก็เรียกว่าในเข้าไปอีก แทนความใคร่อยาก (กามภพ)
กามราคะ จริงๆแล้วภาษาคำว่า ราคะใช้แทนกับคำว่า กามได้ทั้งนอกและในด้วยซ้ำ กามราคะก็ใช้ รูปราคะ อรูปราคะก็ใช้
หากว่าไปติดในภาษาก็จะยุ่ง ต้องเข้าใจภาษาเป็นสิ่งแทนซึ่งสลับไปสลับมาได้ เอาสภาวะให้ชัด ตอนนี้เรียก กามภพหรือกามาวจร
ต่อมา รูปภพ อรูปภพ เป็นรูปาวจร อรูปาวจร มันดำเนินอยู่ในขั้นรูป หรืออรูป
ตัณหา คือ ความใคร่อยาก ตั้งแต่กามตัณหา เรียกรูปราคะ อรูปราคะ ก็ตาม คือความใคร่อยากในรูป ในอรูปอีก แต่ภาษามันดูหยาบ พอเอาไปใช้กับสิ่งละเอียดจะยากขึ้นเท่านั้นเอง
พยายามศึกษาให้ได้สภาวะ อย่าไปหลงยึดพยัญชนะ หากอาตมาไปหลงเอาแต่พยัญชนะ ก็ถูกตี แต่ท่านผู้รู้ทั้งหลายก็ไปยึดถือในพยัญชนะเสียส่วนใหญ่ สภาวะยังเข้าไม่ถึง ก็สงสารท่านแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร แม้แต่คำว่ากาย ไปติดในพยัญชนะภาษาไทยว่าคือร่างกายก็ได้แค่นั้น
อาตมาอธิบาย กาย มีความลึกซึ้งซับซ้อน แล้วกายต้องเป็นจิต แต่ถ้าเป็นรูปธรรม ตั้งแต่พีชะไปก็ไม่ใช่กายแล้ว พวกเราเข้าใจได้ แต่ท่านที่ไม่กระเตื้องก็ไม่รู้จะทำยังไง เป็นความไม่รู้ ก็ว่าไปศึกษาไป
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 34 วันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 16 เมษายน 2564 ( 21:29:48 )
รายละเอียด
กามาวจร คือการดำเนินชีวิตอยู่กับสิ่งนี้ ก็ไม่เข้าใจกามคุณ ก็ไม่เข้าใจสภาวะกามาวจรคืออะไร และทำให้เป็นลำดับ เมื่อหมด กามาวจร หมดทั้ง ปสาทรูป โคจรรูป วิสยรูป ศึกษาหทยรูปตรงไหน จัดการ ถ้าชีวิตของอินทรีย์ของกิเลส กิเลสกาม ในกามาวจร กามคุณนี่ เอาให้หมดก่อน ล้างให้เกลี้ยงตามลำดับก่อนคือกามาวจร
กามคุณก็ไม่รู้ กามาวจรก็ไม่รู้ กามตัณหาก็ไม่รู้ เมื่อทำ อย่างนี้ไม่ได้ แล้วคุณจะไปนึกว่าตัวเองจะไปทำข้างใน รูปาวจร อรูปาวจร จิตหลงว่า ตัวเองนั่งตัดขั้วของกิเลสแล้วดับหลับตาเข้าไปสู่ภพที่เป็น อสัญญีสัตว์ นึกว่าตัวเองได้ตัดกิเลส รูปาวจร อรูปาวจร กามาวจร หมดแล้ว เป็นชาติสุดท้ายแล้ว อุจจาระสุนัขสิครับ ขออภัยนะอาตมาพูดให้มันสนุกด้วย และให้มันเข้าใจง่ายๆด้วย เปรียบเทียบไปนี้ให้สนุกไม่ซีเรียส ธรรมะ ลึกซึ้งนะที่พูดนี้ เป็นธรรมะปรมัตถ์ธรรมะโลกุตระที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะฉะนั้นเมื่อขั้นกามาวจร รูปาวจร อรูปาวจรไม่เข้าใจ แล้วจะไปเข้าใจถึง อัตตา อนัตตา เมินเสียเถิด อย่าคิดถึง เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นหลับตาเข้าไปมีแต่นิรมาณกาย สัมโภคกาย อทิสมานกาย กายเก๊ ไม่มีรูป ไม่มีนาม ไม่มีภาวะภายนอกภายในไม่มีการกระทบสัมผัส สร้างภพสร้างชาติ ขึ้นมาเอง แล้วให้ไป อวจรในภพชาติเก๊ๆ มีแต่ของเก๊ทั้งนั้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ชีวิตหนอพออยู่พอกิน เพราะมีอาหาร 4 วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 แรม 10 ค่ำเดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2565 ( 21:12:47 )
รายละเอียด
ใช่ เน้นกามาวจร ผู้ที่ปฏิบัติรูปาวจร อรูปาวจร ก็อยู่ใน กามาวจร อวจร คือ กระทบอยู่หน้าไม่ใช่อยู่ในภพ อวจรคือ เป็นคำบอกว่า มันยังดำเนินอยู่ กระทบอยู่ รูปาวจร เป็นรูปก็อยู่ในกามภพ ภพ ทางตาหูจมูกลิ้นกายหมดเลย อรูปก็มีกามาวจร กามภพที่ไปอยู่ข้างในได้ รูปภพ อรูปภพ อยู่ข้างในได้ แต่ว่า อวจร คือ มันต้องดำเนินอยู่ จรมาให้เห็นได้รู้ ร่วมกันได้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรม พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาสื่อสภาวธรรมโลกุตระ วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565 แรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 11 ธันวาคม 2565 ( 12:05:21 )
รายละเอียด
จิตที่เป็นอยู่ในกามภูมิ หรือจิตที่ยังเกี่ยวข้องอยู่กับกาม
หนังสืออ้างอิง
เปิดโลกเทวดา หน้า 29
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:07:52 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:07:54 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:58:41 )
รายละเอียด
จิตที่เป็นอยู่ในกามภูมิ หรือจิตที่ยังเกี่ยวข้องอยู่กับกาม
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 08:08:07 )
รายละเอียด
เทวดาที่ทำความดี ทำกุศลแล้วก็เป็นสุข
หนังสืออ้างอิง
เปิดโลกเทวดา หน้า 29
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:08:50 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:08:29 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:59:14 )
รายละเอียด
สัมผัสอันเกี่ยวเนื่องกับกามาวจรจิต
หนังสืออ้างอิง
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 50
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:09:28 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:09:19 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 06:59:47 )
รายละเอียด
1. อาสวะที่เป็นกิเลสกาม
2. อาสวะที่เป็นกามแท้ ๆ สัมผัสจับต้องกันจริง ๆ
3. อาสวะของกามซึ่งเป็นกิเลสกามขั้นปลาย
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 310,404
พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ หน้า 39
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:10:37 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:10:09 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:00:26 )
รายละเอียด
คือ ยังติดยึดในกามคุณทั้งหลาย
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม 1 น.223
เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 15:50:59 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:55:39 )
รายละเอียด
คือ ยึดด้วยความใคร่จนมีรสกามเก๊
หนังสืออ้างอิง
“คนจน” ที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เล่ม น.197
เวลาบันทึก 09 พฤศจิกายน 2562 ( 15:18:29 )
เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 14:56:37 )
รายละเอียด
การยึดมั่นถือมั่นเป็นตน ในกามารมณ์ หรือรสกาม
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 08:09:10 )
รายละเอียด
1. การยึดถือในกาม
2. สภาวะที่ยึดในกาม
3. ยึดมั่นถือมั่นในกามารมณ์ หรือรสกาม
4. การยึดกาม(ความปรารถนาของตน)เป็นตัวตน
5. ยึดกามเป็นตนในปัจจุบันโดยไม่รู้ตัว
หนังสืออ้างอิง
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 14,34,69
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 153
ยอดนิยายของโลกที่ไขความเป็นมนุษย์ หน้า 295
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:12:34 )
เวลาบันทึก 29 เมษายน 2563 ( 16:10:40 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:01:31 )
รายละเอียด
กาม คือ ความใคร่อยาก ตัณหาก็คือความใคร่อยาก แต่ตัณหานั้น มันยังเข้าไปถึงทางลึกทางธรรม ทางใน ส่วนกามนั้นมาทางนอก จึงมีกามคุณ 5 ทั้งๆที่มันเป็นโทษมันเป็น กามาทีนวะไม่ใช่กามคุณ แต่ยังไม่เข้าใจแม้แต่กามคุณ 5 เป็นโทษ
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ จบกิจทั้ง 4 อย่างมีปาฏิหาริย์ของพุทธ วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2566 ขึ้น 10 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 07 มกราคม 2567 ( 18:53:21 )
รายละเอียด
กามุปาทาน เป็นเรื่องหยาบขั้นต้นไม่ใช่เขายังไม่รู้เรื่องเลย ทวาร 5 ความเป็นกายเขายังอีกไกล อธิบายมาแล้วนะ เรื่องกรรมเรื่องกาย
แม้แต่ศีลพรตหลักการประพฤติปฏิบัติเขาก็ยังยึดผิดอุปาทาน เขายังไม่ได้มีศีลพรตที่เป็นสัมมาทิฏฐิสมบูรณ์แบบ ที่อาตมาเอามาย้ำแล้ว คือจรณะ 15 วิชชา 8 ยังเลย ยังไกลจากจรณะ หรือศีลสมาธิปัญญาหรือ อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา อธิมุติ เขาพูดบัญญัติพวกนี้ได้หมด บัญญัติที่อาตมาพูดไปเขาพูดได้หมดรู้เหตุผลของบัญญัติพวกนี้หมด เขาไม่ได้เข้าถึงเลยเพราะศีลพรตของเขายังไม่สัมมาทิฏฐิ
แม้ อัตตวาทุปาทาน เขาก็ยังมิจฉาทิฏฐิอยู่ ฉะนั้นไม่ต้องไปพูดถึงเลย อัตตวาทุปาทาน ขั้นที่ 4 นี้แย่กว่าเพื่อนนะ ศีลพรตนี้ ขั้นที่ 3 เขาจะไม่สูงไปขึ้นขั้นศีลพรตได้ไง
ยิ่งขั้นที่2 ทิฏฐุปาทาน ความเห็นถูกพ้นมิจฉาทิฏฐิเป็น ทิฏฐุปาทาน เขาก็ยิ่งไกลเลยเพราะฉะนั้นไม่ต้องไปพูดถึงตัวเนื้อแท้เนื้อจริงของกามที่จะต้องมีทวารทั้ง 5 ปฏิบัติตั้งแต่ ตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่น ลิ้นกระทบรส โผฏฐัพพะกระทบภายนอก แล้วก็จะรู้จักกายถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิ
เพราะฉะนั้นเขาจะไม่รู้จักกายยังไม่พ้น สักกายทิฏฐิ ข้อที่ 1 ของสังโยชน์ไม่ได้ กำลังอธิบายตรงนะ ไม่ได้ไปหาเรื่อง ไม่ได้ไปใส่ความใคร แต่เขารู้เรื่องอธิบายพยัญชนะเหล่านี้ได้หมด เขายังไม่เข้าใจถึงกายเขา ยังไม่ได้เข้าใจถึงกาม
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ สภาวะบวร(บ้าน-วัด-โรงเรียน) ที่พ้นอัตตวาทุปาทาน 5 วันพุธที่ 20 ธันวาคม 2566 ขึ้น 8 ค่ำเดือนอ้าย ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 13 มกราคม 2567 ( 14:43:12 )
รายละเอียด
กามุปาทาน กามคือภพข้างนอก กามาวจร กามภพ การเดินทางไปอยู่ของชีวิต โดยเฉพาะคน ไม่ต้องไปพูดถึงสัตว์หรือ อเวไนยสัตว์ มันก็เรียนรู้ไม่ได้แล้ว ต้องสัตว์ที่เรียนรู้ได้คือคนนี่แหละ คนในฐานะที่ต้องมาเรียนรู้ธรรมะโลกุตระ จะเรียนรู้ กาม หรือเรียนรู้กาย กามคุณ 5 เกิดจากทางตาหูจมูกลิ้นกาย 5 นี่เป็นพื้นฐานเลยเบื้องต้น
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายกายพุทธศาสนาตามภูมิ ชาวอโศก ทำแล้ว ทำอยู่ และกำลังทำโลกุตระต่อไป วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 4 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 14 มิถุนายน 2566 ( 12:53:27 )
รายละเอียด
คำว่า “กามุปาทาน” คือยังยึดติดไปด้วยกาม กามมันของหยาบขั้นต้นเลยเป็นรสชาติโลกีย์ หยาบตั้งแต่อบายคือกาม อบายมุข หยาบ ผู้ที่หลงใหลโลกียรสในระดับหยาบ เรียกว่าอบายมุข ไม่ต้องขึ้นในทำเนียบของอุปาทานหรอก อบายมุข มันเศษสวะของกามภายนอก หยาบ ของใครก็ของมัน
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม ดับชาติ 5 ด้วยวิชชา 8 วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564 ที่บ้านราชฯ
เวลาบันทึก 20 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:44:33 )
รายละเอียด
กาม คือหนี้ ไปเรียกเป็นกามคุณ เน้นว่ามันไม่ใช่ ไปหลงเป็นกามคุณถึงบ้าอยู่ทุกวันนี้ที่จริงแล้วมันเป็นกามโทษ กามาทีนวะไม่ใช่กามคุณ แต่ไปหลงเป็นสวรรค์ ทาน ศีล สัคคะ กามาทีนวะ เนกขัมมะ
เขาไปหลงกามเป็นสวรรค์ ที่จริงแล้วเป็นโทษเป็นทุกข์เป็นนรกไม่ใช่สวรรค์ อธิบายไปเท่าไหร่เขาก็ยังยากมากเพราะมันเป็นโลกุตรธรรม เรื่องความดีความชั่วเป็นโลกียะ สอนกันแค่ความดีความชั่ว ส่วนความสุขความทุกข์นั้นเป็นโลกุตระเป็นอาริยสัจ ความสุขกับความทุกข์มันแยกกันไม่ได้ มันยาก เป็นสิริมหามายา ยังโง่ก็ติดเป็นจอมมายา เอาความสุขความทุกข์มาหลอกกัน ทุกวันนี้ก็เอาความทุกข์มาหลอกมาเป็นความสุขทั้งนั้น เอาทุกข์มาให้กัน
เช่น มารวยกัน อย่างนี้เป็นต้น เป็นการหาเรื่องทุกข์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านก็บอกว่ามาเอาแบบคนจน เอามาออกอากาศมาหลายสิบปีแล้ว เขาฟังกันก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ ก็น่าสงสาร อาตมาก็เห็นใจนะว่ามันยังไม่มีภูมิรู้ที่จะฟังเข้าใจหรือฟังได้ บังคับกันก็ยาก บังคับกันไม่ได้ อาตมาเข้าใจ เพราะภูมิไม่ถึง ก็ค่อยๆไป
นักบวชของเราเรียกว่าสมณะ ไม่เรียกว่าพระ เราตกลงกับเถรสมาคมกันแล้วไม่ให้เราไปเรียกพระ เราก็ไม่เรียก เราก็เรียกว่าเป็นสมณะ เราไปทำพาสปอร์ตเขาจะให้ใช้คำนำหน้าว่านาย แต่เราไม่ใช่นายเราเป็นสมณะ เขาไม่ออกพาสปอร์ตให้ เราก็ไม่ออกไปต่างประเทศ เราก็ทำงานในเมืองไทยนี้ก็งานเยอะไม่ใช่น้อยอยู่แล้ว
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 49 ตอบไทยรัฐทีวีเรื่องสมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 01 กันยายน 2565 ( 15:03:32 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นเหตุที่มันจะเกิดผีหลอก ก็คือ กาม ที่มัน เป็น เทพบุตรมาร แปลงตัว เป็นเทพบุตรมาร ชะๆ เอ็งเป็นผีแท้ๆชื่อว่ากามเทพ ที่จริงเป็นเทพบุตรมาร มันเป็นมารไม่ใช่เทพ เราก็จับตัวการนี้ได้ อาการกาม แล้วลดหรือกำจัด ชําระลงไปได้ ชำระได้แข็งแรงหมดเลย เร็วๆแข็งแรง แกร่ง ถ้ามันไม่ได้ก็ค่อยๆจางคลาย เราจะเห็น
ที่มา ที่ไป
พ่อครู เทศน์ ทวช.อโศกรำลึก ครั้งที่ 37 นาม 5 รูป 28 ให้ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ วันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่สันติอโศก
เวลาบันทึก 14 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:25:29 )
รายละเอียด
คำว่า “กาม” จะพูดซ้ำพูดซากอย่างไรก็ต้องฟัง เพราะว่า “กาม” นั้นเป็นเบื้องต้นของกิเลสเลย ที่จะไปละเลยไม่ได้ ต้องรู้ก่อน เพราะฉะนั้นผู้ใดไม่สามารถละกามไปได้แล้ว แต่ไปนั่งหลับตาเป็น รูปราคะ อรูปราคะเลย มันเป็นไปไม่ได้ เหมือนกับทุเรียน คุณไม่ได้ปอกเปลือกออก จะไปกินเนื้อในของมันได้อย่างไร กามต้องเอาทิ้งไปก่อน แล้วค่อยถึงภายใน
อาตมาต้องซ้ำซาก ใครจะเบื่อก็เป็นคนที่ไม่เข้าใจธรรมะ เบื่อ แต่คุณเองจะหมดง่ายๆหรือกาม มันไม่ได้หมดง่ายๆนะกาม แม้ว่าเหลือภายในเป็นรูปราคะอรูปราคะมันก็เป็นเชื้อของกามทั้งนั้น แหละ เป็นความใคร่ความติดความอยากทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นจะต้องรู้ว่าคำว่า “กาม” คือ สิ่งที่ติดยึดสิ่งที่ไปสร้างรส รสกิเลส รสตัณหา รสสุข รสอร่อย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 4 วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564 แรม 2 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2564 ( 11:11:44 )
รายละเอียด
อย่างอบายภูมิก็อยู่ในกาม ภพมี 2 กามภพ รูปภพ อรูปภพเบื้องต้นมีกามภพต้องเรียนรู้ ผู้จะประพฤติพรหมจรรย์ต้องเรียนรู้ กามภพเป็นเบื้องต้น ต้องรู้ความหมาย ความหยาบของเราคืออบายของเรา กามภพที่หยาบของตนคือเรื่องอะไร กาม คือ กิเลสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย กามคุณ 5 ผู้เรียนรู้ธรรมะจะเรียนรู้ กามคือโทษ กามมาทีนวะ ไม่น่ายินดีเป็นโทษ พระพุทธเจ้าสอนกามโทษ ไม่ใช่กามคุณ ผู้ที่ยังเห็นว่าเป็นคุณ คือคนอวิชชา ไปได้กามทางตา ได้ดูสิ่งที่สวยงามสิ่งที่น่าดู ไปฟังสิ่งที่น่าฟังเสียงเพราะๆ เสียงบางทีมันไม่เพราะหนวกหูจะตายแต่ก็บอกว่าเพราะ ไปดมกลิ่นน่าดม ได้ไปแตะลิ้มรสที่น่าลิ้มรส ได้มาเมืองไทยนี่ มีแสนล้านเมนูอาหาร ไปสัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็งทางกาย โผฏฐัพพารมณ์ คือรวมแล้วการสัมผัสภายนอกตาหูจมูกลิ้นกายทั้งหมดเรียกว่ากามคุณ 5 และต้องมีนามเสมอเป็นตัวที่ 6 คือจิต แยกกันไม่ได้ หากว่าไม่ได้เรียนรู้ตั้งแต่กาม ไปหลับตาปฏิบัติ จะเป็นคนปฏิบัติผิด ปัณณกปฏิปทา จะไม่ตื่น เป็นการปฏิบัติที่ไกลแสนไกลจากวิเวก
ที่มา ที่ไป
รายการ ทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน ครั้งที่ 7 ผู้ข้องอยู่ในถ้ำอันไกลจากวิเวก วันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 17:00:31 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:25:05 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:02:45 )
รายละเอียด
ต้องหมดกามก่อนจะเหลือรูปราคะ อรูปราคะเชื้อของกาม ก็อย่าไปไม่ศรัทธา เราก็ไม่เชื่อถือแต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องไปมีความชัง แต่รู้ความจริงตามความเป็นจริงว่าคนนี้มีสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 17 ธันวาคม 2562 ( 20:48:47 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:26:49 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:03:24 )
รายละเอียด
เพราะฉะนั้นภายนอกฆ่ากิเลสกามก่อน ตัณหาตัวแรก ที่เป็นลำดับ
เป็นลำดับนี้ อาตมาพยายามยกตัวอย่าง ภูเขา คุณก็จะต้องจัดการกับเนื้อภูเขาภายนอกก่อน จึงจะเข้าไปจัดการภายในเรื่อยๆได้ จัดการสิ่งที่เป็นพิษภัยของภูเขา ตั้งแต่ภายนอก เอาออกไปคุณก็เข้าไปข้างในได้เรื่อยๆ ก็ไล่เข้าไป ก็จะหยาบไปละเอียดตั้งแต่กาม รูป อรูป
โอฬาริกอัตตาตั้งแต่หยาบ อัตตาหยาบ คุณไม่ได้เอาออกคุณต้องเอาออก หมดอัตตาหยาบแล้วจะมีส่วนเหลือเป็นมโนมยอัตตาเป็นรูป ก็เอาตั้งแต่มโนมยอัตตาตั้งแต่ที่กระทบภายนอกก็หยาบ หมดมโนมยอัตตาภายนอก ก็เหลือ
มโนมยอัตตาภายใน ก็ล้างมโนมยอัตตาภายในก็หมด หรือละเอียดเล็กเรียกว่า อรูป คุณก็ทำส่วนเหลืออรูป นอกนั้นมันทำได้คล่องแล้วนี่จะถึงใจกลางภูเขาแล้วนะ เหลือ อรูป ก็ล้างอรูป มันต้องทำตามลำดับอย่างนี้
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ สื่อธรรมะพ่อครู ตอน โจรปล้นศาสนาที่ฆ่าด้วยหอกหลายร้อยเล่มก็ยังไม่ตาย วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บ้านราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 11:46:56 )
รายละเอียด
รู้ตัวแล้วก็พยายามลดลง คนนี้เข้าใจเรียกคำว่ากามโทษ คือกามาทีนวะ เพราะไปหลงกามเป็นคุณ แต่แท้จริงมันเป็นกามโทษ ในอนุปุพพิกถา พระพุทธเจ้าสอน ทาน ศีล สัคคะ เนกขัมมะ อาทีนวะ การเสพสวรรค์ในกาม กามหยาบคืออบาย หมดอบายก็มากาม หมดกามก็มาล้างรูปภพ อรูปภพ จนหมดความอยากสิ้นความเสพ
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563
เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:26:02 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:30:22 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:03:55 )
รายละเอียด
กามปรุงเองในจิต
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 376
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 13:42:30 )
เวลาบันทึก 30 เมษายน 2563 ( 12:12:30 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:04:16 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563
เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2563 ( 13:25:58 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:31:03 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:04:51 )
รายละเอียด
“กาม” เป็นคำใหญ่ เป็นความใคร่ใหญ่ในโลก โลกนี้ โลกโลกียะ ทั้งหมด ซึ่งในกามใหญ่ มีกามกลาง กามน้อยเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นเมื่อรู้จัก กามใหญ่ ก็จะได้รู้กามกลาง กามน้อยไปด้วย เพราะฉะนั้น กามกลาง กามน้อย มันอยู่ข้างใน แต่กามใหญ่ อยู่ข้างนอกเหมือนเปลือกไม้ คุณต้องถากเปลือกกระพี้ออกไปก่อน ก็จะหมดความยินดีกับกามนอกได้ แล้วจึงเป็นที่เหลือก็มาถากทำลายกามต่อไปอีก เรียกว่า รูปราคะก็ตาม แล้วจึงจะเหลือกาม ภายในเลย ก็ทำลายให้จนหมดจนหมดแก่น พระพุทธเจ้าต้องทำลายให้หมดเลย กามใหญ่ กลาง เล็ก หมดสูญเลย
ที่มา ที่ไป
พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ เรียนรู้ อาหาร ให้บรรลุถึง อรหันต์ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก
เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:51:55 )
รายละเอียด
กาย คือ ธาตุรู้ ที่สัมพันธ์อยู่กับภายนอกและภายใน สัมพันธ์กับภายนอก และให้พิจารณาภายใน ท่านจึงสอนให้พิจารณา กายในกาย มันต้องมีภายนอกนะ แต่เนื้อแท้ที่จะพิจารณาอย่างสำคัญ ข้างนอกก็สัมพันธ์ กาย คือ จิต มโน วิญญาณ
คำอธิบาย
กาย คือ รูป นาม คือ ธรรมะ 2 แยกกันไม่ได้ กายวิเวก คือ การเอาตัวออกห่าง กายวิเวก หากเอาร่างกายออกป่า ก็ไม่ได้กายวิเวก แล้วก็ไม่มีกายภายนอกอีก หลบนั่งหลับตา ทำฌานก็หลับเข้าไปไม่มีภายนอกเลยที่บอกว่า กายภายนอก ถึงมีจิตวิเวก คุณก็ไม่ใช่ การเอาจิตไปทำซ้ำๆ อยู่ในป่าอีก ลึกเข้าไปอีก ห่างจากวิเวก ก็กำลังถอยออกไปอีก แล้วก็ไม่มีอุปธิวิเวก ไม่เห็นกิเลส ขันธ์ก็ไม่เห็น อภิสังขารไม่มี อุปธิก็ไม่เห็น แล้วจะไปทำอมตะนิพพาน ไม่มีทางเป็นไปได้ อุปธิวิเวก ยกทิ้งทั้งยวง นี่คือการนั่งหลับตาปฏิบัติ ออกป่านี้มันไม่ใช่ศาสนาพุทธ
จิตตวิเวก คือ ทำรูปฌาน อรูปฌาน อย่างลืมตา ขั้นอรูปฌานก็ลืมตาหมด แม้จะต้องล้างอนุสัย กิเลสจากสังขารนิมิตภายนอกทั้งหมด ทำจิตวิเวกภายนอก
คือ 2 รูป กับ นาม (รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 68 วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2562)
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 68 วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2562
เวลาบันทึก 22 ตุลาคม 2562 ( 09:04:31 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:34:29 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:06:10 )
รายละเอียด
กาย คือ ในพจนานุกรม คือ กอง ฝูง หมู่ มีความประชุมกันอยู่ของเวทนา สัญญา สังขาร กาย คือ หมวดแห่งเจตสิก คือ เวทนา สัญญา สังขาร
กาย คือ จิต อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ กาย คือ จิต มโน วิญญาณ ดีนะมีในพระไตรปิฎกว่าไว้ หากเข้าใจกายคือวัตถุ คือร่างอย่างเดียวก็ผิดมากเลย แต่เข้าใจกายเป็นแค่จิต ก็ยังผิด แต่ดีกว่า เข้าใจกายว่า คือ วัตถุ
คำอธิบาย
คือ คำเดียวในศาสนาพุทธที่เข้าใจผิดว่า กายนี้ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่มีธาตุรู้ไปร่วมด้วยเลย อันนี้อันเดียวสูญเลย ศาสนาพุทธล้มเหลวแล้ว สำคัญมาก เพราะฉะนั้นภิกษุทุกรูปที่มาบวช พอเริ่มบวชอุปัชฌาย์จะให้แยกกายแยกจิต เป็นมูลกรรมฐานอันแรกให้เข้าใจความหมายของกายของจิตถูกต้อง หากเข้าใจไม่ถูกต้องไปไม่ออกปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้าไม่ได้เลย ขอบอกเลยใครก็ตามที่ไม่มีสัมมาทิฎฐิไม่เข้าใจ กาย จิต โดยเฉพาะคำว่า กาย ความเป็นกายเมื่อไหร่ ไม่ใช่กาย เมื่อไหร่ใช่กาย ท่านให้พิจารณา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง
คือ ตถาคต เรียกว่า กาย ว่า คือ จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง (พระไตรปิฎกเล่ม 16 ข้อ 230)
(รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 69 วันจันทร์ที่16 กันยายน 2562)
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 09 ตุลาคม 2562 ( 08:24:45 )
เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2563 ( 04:58:42 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:07:15 )
รายละเอียด
กาย คือ หมวดหมู่กองของเจตสิก กายต้องมีองค์ประชุมไม่ใช่ 1 ต้องมี 2 ขึ้นไปของกองเวทนา กองของสัญญา กองของสังขารในพจนานุกรมเขาก็แปลกันถูกแต่ในความเข้าใจทั่วไป “กาย”ของเขาเป็นเพียงวัตถุ ดิน น้ำ ไฟ ลม อันนี้แหละเป็นความมิจฉาทิฏฐิที่ตัวเองไม่รู้ตัวมันเผินๆ
คำอธิบาย
กาย คือ รูป นาม
กาย คือ ตถาคต หมายถึง จิต มโน วิญญาณ เป็นหลัก แต่ไม่ได้หมายความว่าทิ้งภายนอก เป็นความซับซ้อนลึกซึ้งที่มันมี แต่มันร่วมกัน เพราะฉะนั้นถ้าขาดไป ไม่เป็นเทวฺ (เทวฺ แปลว่า สอง)
(รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช ครั้งที่ 68 วันจันทร์ที่ 9 เดือนกันยายน 2562)
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่ 2 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2562 ( 13:50:12 )
เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2563 ( 12:21:21 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 13:39:49 )
รายละเอียด
กาย คือ เอา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ที่เป็นตัวอย่างในการแยกกายแยกจิต
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า กายเรา หมายถึง จิต มโน วิญญาณ
คำอธิบาย
กาย คือ ธาตุรู้ ที่สัมพันธ์อยู่กับภายนอกและภายใน สัมพันธ์กับภายนอก และให้พิจารณาภายใน ท่านจึงสอนให้พิจารณา กายในกาย มันต้องมีภายนอกนะ แต่เนื้อแท้ที่จะพิจารณาอย่างสำคัญ ข้างนอกก็สัมพันธ์
(รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 69 วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2562)
ที่มา ที่ไป
ธรรมาธิบายราย การสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 71 30 กันยายน พ.ศ.2562
เวลาบันทึก 24 กันยายน 2562 ( 05:16:20 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:42:24 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 13:44:43 )
รายละเอียด
หมวดแห่งเวทนา สัญญา สังขาร เป็นตัวงานแท้ๆของวิญญาณ วิญญาณมีเจตสิก 3 เวทนา สัญญา สังขาร ตัวงานแท้ๆของวิญญาณคือ เวทนาสัญญาสังขาร เวทนาคือความรู้สึก สัญญาคือตัวกำหนดรู้ เวทนาเข้าไปเป็นสังขารปรุงแต่งเป็นบทบาท เป็นพลังงานนิวเคลียส เป็นพลังงานนิวเคลียร์ เกิดพลังงานอยุ่ในนั้นเสร็จเลย 3 เส้า
ที่มา ที่ไป
รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562
เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 18:07:50 )
เวลาบันทึก 31 กรกฎาคม 2563 ( 12:21:48 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:08:51 )
รายละเอียด
กาย คือ ต้องมีภายนอกกับภายใน แล้วไม่แยกกันด้วย แยกเมื่อไหร่หมดทางศึกษาเพราะฉะนั้นผู้ที่เริ่มบวช อุปัชฌาย์จะต้องให้ไปพิจารณาแยกธรรมนิยาม5 แยกกายแยกจิตให้ได้
รูปนาม เป็นเทวะ กายต้องครบ 2
1. รูป
2. รูป คือ วัตถุ
3. ประกอบด้วยธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม และมีพลังงานอยู่ในกาย นั้นคือจิต
4. องค์ประชุม , จำนวนที่รวมกัน
5. ความประชุม , เป็นความประชุมกัน หรือความเป็นกลุ่มของสภาวธรรมที่สัมผัสได้เหมือนเป็นตัวเป็นตนชัด ๆ เจน ๆ
6. ความประชุมแห่งนามธรรม อันหมายเอาตัวความรู้สึก ความนึก หรือตัวอารมณ์
7. สิ่งที่เกี่ยวข้องและประชุมร่วมกันอยู่เป็นหมู่ เป็นรูปชัด
8. องค์ประชุมของวิบากกรรม
9. องค์ประชุม , กลุ่มของสิ่งที่รวมกันอยู่
10. กลุ่ม
11. องค์ประกอบที่ยังประชุมกันอยู่ของนามธรรม
12. องค์ประชุมของทั้งรูปและนาม ทั้งจากภายนอกและจากภายใน
13. องค์ประกอบของรูปและนาม , คนที่มีตา หู จมูก ลิ้น ผิวหนังทั่วสรรพางค์ และมีนามร่วมอยู่ด้วยเสมอ[ผม ขน เล็บ ฟัน และหนัง(ที่ไม่รู้สึกแล้ว)ไม่ใช่กายเพราะขาดวิญญาณอันเป็นธาตุรู้ร่วม]
14. องค์ประชุมของขันธ์ 5
15. องค์ประชุมภาวะธรรม
หนังสืออ้างอิง
คนคืออะไร? หน้า 23,55,272,422
ธรรมที่เป็นพุทธ หน้า 57 ,คนคืออะไร? หน้า 423 , อีคิวโลกุตระ หน้า218
ทางเอก ภาค 1 หน้า 9,79,217
ทางเอก ภาค 3 หน้า 82
ถอดรหัสอัตตา อนัตตา นิรัตตา หน้า 103,182
ค้าบุญคือบาป หน้า 133,205,232,239
ชีวิตนี้มีปัญหา / เราคิดอะไร ฉบับ 275
เวลาบันทึก 09 กรกฎาคม 2562 ( 14:17:18 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:51:51 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:12:36 )
รายละเอียด
ที่มา ที่ไป
พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563
เวลาบันทึก 17 กรกฎาคม 2563 ( 14:56:28 )
เวลาบันทึก 21 กรกฎาคม 2563 ( 07:42:54 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 13:51:14 )
รายละเอียด
องค์ประชุมของทั้งรูปและนาม(ธรรมะ 2) ทั้งจากภายนอกและจากภายใน ของคนที่มีตา หู จมูก ลิ้น ผิวหนังทั่วสรรพางค์ และมีนามร่วมอยู่ด้วยเสมอ (ผม ขน เล็บ ฟัน และหนัง ที่ไม่รู้สึกแล้วไม่ใช่กายเพราะขาดวิญญาณอันเป็นธาตุรู้ร่วม) หากมีแต่สรีระร่างไม่ใช่ กาย
ที่มา ที่ไป
รวมศัพท์อโศก
เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2563 ( 08:13:46 )
รายละเอียด
เป็นทั้งรูป และนาม เสมอ
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่11 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:10:37 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:54:40 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:13:31 )
รายละเอียด
เอาที่วิญญาณ หรือมโน หรือจิต เป็นหลัก
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม (วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562)
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:11:58 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:55:27 )
รายละเอียด
ต้องมี 2 แยกกันไม่ได้ คือ รูปกายหรือนามกาย
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:34:09 )
เวลาบันทึก 19 กรกฎาคม 2563 ( 14:56:21 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:14:00 )
รายละเอียด
จิต มโน วิญญาณ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 62 วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:50:13 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:07:42 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 05:11:54 )
รายละเอียด
แปลว่า หมวดหมู่ ฝูง กอง กายนี้ ไม่ได้แปลว่า 1 แต่กายนี้รวมตั้งแต่ 2 ขึ้นไป หรือ กอง หมวดหมู่ แห่งเจตสิก หมวดหมู่ของธาตุ เวทนา สัญญา สังขาร เป็นธาตุรู้รวมๆกันอยู่จึงเรียกว่า กาย ก็คือ จิต มโน วิญญาณ
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562
เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2562 ( 19:29:05 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:09:39 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:15:22 )
รายละเอียด
กาย ไปเข้าใจว่ามีแต่เพียงภายนอกเท่านั้นเป็นเรื่องดินน้ำไฟลม ก็หมดแล้ว เขาเข้าใจว่าไม่เกี่ยวกับจิตเจตสิก เท่านี้ก็จบเห่ ในพจนานุกรมก็ยังแปลไว้ดีเลย แต่มีบางอัน กาย แปลว่า กอง ฝูง หมู่ องค์ประชุม คือหมวดของเจตสิก ก็คือ เวทนาสัญญาสังขาร นี่คือกาย ตถาคตเรียกกายว่าคือจิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง (พระไตรปิฎก เล่ม 16 ข้อ 230)
คนไทยทั่วไปก็ตามหรือในวงการศาสนาพุทธก็ตามเมื่อบอกว่ากายก็จะหมายถึงร่างภายนอก ไม่ได้เกี่ยวกับจิตวิญญาณ มันเป็นภาษาไทยไปแล้วก็มาจากบาลี เมื่อจะปฏิบัติธรรมก็ต้องเอาตามภาษาบาลี กายของภาษาไทยจะแปลว่าร่างก็ช่างเขาเถอะ ศพคนตายมีแต่ร่าง ศพคนตายไม่มีกาย พระพุทธเจ้าสอนให้แยกกายแยกจิตให้ชัด พอบวช อุปัชฌาย์ต้องอธิบายการแยกกายแยกจิตให้ชัดเจน ถ้าแยกกายแยกจิตไม่ชัดเจนถ้าไม่รู้จักธรรมนิยาม 5 ไม่รู้จักความเป็นอุตุ พีชะ จิต กรรม ธรรมะ เมื่อคุณไม่เข้าใจคุณไม่สามารถบรรลุแยกกายแยกจิตให้เป็นอุตุได้คุณก็ไม่มีอรหันต์ คุณจะต้องรู้จักนิยาม 5 รู้จักการแยกกายแยกจิต ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เอามาอธิบายได้ เล็บอธิบายได้ง่าย เเล้วเมื่อใดเป็น อุตุ พีช จิต หากแยกไม่ได้ก็ทำจิตให้เป็นอุตุ พีชะไม่ได้ ทำจิตเป็นพีชะได้ก็หมดความสุขความทุกข์ได้แล้ว ชีวะเป็นพีชะมี ISH มีประธาน พลังงาน 2 ตัวที่ดูแล พืชมันก็ดูแลพลังงาน 2 ตัวมันก็มีประธานของมันเอง ปรุงแต่งเอาธาตุที่มันรู้มีสัญญาสังขารรู้ มันไม่มีเวทนาไม่มีวิญญาณ เป็นสังขารไม่มีวิญญาณครองไม่มีกรรมวิบากไม่มีความสุขความทุกข์ เวลาเราปฏิบัติจิตของเรา เราก็ต้องทำจิตของเราให้เป็นพลังงานระดับ พีชะได้ ล้างกิเลสหมด บุญบาปก็จบ พระอรหันต์จิตเป็น พีชะแท้ ไม่มีบาปไม่มีบุญไม่มีสุขไม่มีทุกข์ หัดทำจิตให้เป็น พีชะไม่ได้ เป็นอรหันต์ไม่ได้คุุณไม่หมดความสุขความทุกข์ แล้วคุณยังมีชีวะอยู่ ถ้าคุณตายคุณทำให้เป็นอุตุนิยามไม่สุขไม่ทุกข์ได้ ทำให้เกิดหนึ่งได้ไม่สุขไม่ทุกข์ อรหันต์ไม่ใช่โง่ว่าไม่รู้จักความสุขความทุกข์ แต่จิตของเราทำได้แล้ว อย่างเช่นจิตของอาตมาไม่มีสุขไม่มีทุกข์สบายมีแต่ อภิปโมทยังจิตตัง จิต อภิปโมทยังจิตตังคือจิตเบิกบานร่าเริงเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน ไม่มีภาษาจะเรียกไม่มีเศร้าไม่มีหมองไม่มีโศก ปริเทวะ ไม่มี วิรชะ อาศัยความเบิกบานร่าเริงอยู่เท่านั้นเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน อาศัยภาษา มันไม่มีความสุขไม่มีทุกข์ ไม่มีโศกปริเทว ทุกข โทมนัส อุปายาสะ อาตมามีสภาวะแล้ว เนื้อยาเอามาแปะก็ง่าย อาตมามีสภาวะมากกว่าเนื้อยา คำว่า กาย ต่างๆ …มีอีกมาก หากเอามาใช้หมดคุณเวียนหัวเลย
ที่มา ที่ไป
รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 17 พฤศจิกายน 2562 ( 11:03:25 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:21:02 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:14:54 )
รายละเอียด
กาย นี้แปลว่า กลุ่มกอง ไม่ใช่เดี่ยว เป็นกอง หมู่ กลุ่ม ฝูง ประชุม อะไรประชุม ก็คือเจตสิกธรรม เจตสิกคือนาม ไม่ใช่ร่าง คือ เวทนา สัญญา สังขาร องค์ประชุมของเวทนาสัญญา สังขาร นี่คือกาย พจนานุกรมแปลว่าชัดเจนอย่างนี้ ไม่ได้แปลว่าร่างหรือเอาเฉพาะภายนอก
เราเคยเอาพระไตรปิฎกยืนยัน ตถาคตเรียกกายว่าคือจิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง (เล่ม 16 ข้อ 230)
เขาจะเข้าใจ คำว่า กาย มี Concept ความหมายถึงร่างกายภายนอก นี่เป็น Concept ของคนส่วนใหญ่จะเข้าใจเช่นนี้ ซึ่งในพระไตรปิฎกแปลไว้ถูก กายต้องไม่ได้หมายความว่าร่างโต้งๆ แต่เขาไม่ได้หมายถึงจิตเลย เขาจึงไม่ได้บรรลุธรรม
“ภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้มิได้สดับ จะพึงเบื่อหน่ายบ้างคลายกำหนัดบ้าง หลุดพ้นบ้าง ในร่างกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง 4 นี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเหตุว่า ความเจริญก็ดี ความเสื่อมก็ดี การเกิดก็ดี การตายก็ดี ของร่างกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง 4 นี้
ย่อมปรากฏ ปุถุชนผู้มิได้สดับจึงเบื่อหน่ายบ้าง คลายกำหนัดบ้าง หลุดพ้นบ้าง ในร่างกาย
นั้น แต่ตถาคตเรียกร่างกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง 4 นี้ว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง ปุถุชนผู้มิได้สดับ ไม่อาจเบื่อหน่าย คลายกำหนัด หลุดพ้นในจิต เป็นต้นนั้นได้เลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าจิตเป็นต้นนี้ อันปุถุชนมิได้สดับ รวบรัดถือไว้ด้วยตัณหา ยึดถือด้วยทิฐิว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา ดังนี้
ตลอดกาลช้านานฉะนั้น ปุถุชนผู้มิได้สดับ จึงไม่อาจจะเบื่อหน่าย คลายกำหนัด หลุดพ้นในจิตเป็นต้นนั้นได้เลย ฯ
ที่มา ที่ไป
รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2562 ( 11:32:34 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:24:35 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 13:54:35 )
รายละเอียด
คือ รูปนาม คือ ภายนอกภายใน พิจารณากายในกาย ก็ต้องมีข้างนอก เพราะกายหมายถึงภายในและภายนอก ขาดภายนอกไม่ได้ต้องมี 2 แต่เวลาไปปฏิบัติก็เน้นจิต เจตสิก เน้นจิต มโน วิญญาณ แก้ไขตรงที่จิต มโนวิญญาณ จิต เจตสิก ก็ไปจับที่อารมณ์ อารมณ์ก็มีจิตที่เป็นกุศล และอกุศลจิต ที่เป็นราคะ โทสะ แล้ว ทำให้มันไม่มี ราคะโทสะ โมหะ จะเป็นจริตไหนก็ตาม เป็นจริตที่เป็นศรัทธา หรือปัญญาก็ตามถ้าไปทางศรัทธา ก็เป็น สังขิตตังจิตตัง เป็นก้อนแข็งแน่น ไม่ฟุ้งกระจาย ถ้าสายปัญญา ก็เป็นวิกขิตตังจิตตังไปทางฟุ้งซ่าน กระจ่ายจับไม่ติด จะเป็นแค่ไหนก็ตาม ก็ต้องทำให้เจริญ หรือ มหัคคตา ถ้าทำให้เจริญได้มากยิ่งขึ้นมหัคคตะ ทำได้ทั้งเจริญ คุณสมบัติ และปริมาณ Quality Quantity ทำได้เจริญขึ้นก็เป็นมหัคคตะ ทำไม่ได้ก็อมหัคคตะ แล้วก็จะเป็นจิตที่ดี แล้ว กับจิตที่ดีกว่านี้ยังมีอีก สอุตตรจิต กับอนุตตรังจิตตัง คือจิตดีจบแล้ว ครบ แล้วแยกอีกสองคู่ คือ สมาหิตังจิตตัง กับ อสมาหิตตจิต กับ วิมุติกับ อวิมุติ
ที่มา ที่ไป
รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 81 วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562
เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2562 ( 14:04:44 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:47:11 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 13:59:49 )
รายละเอียด
รูป นาม ในพรหมโลก 16 หรือ 20 ที่คนติดยึดบัญญัติภาษา แล้วไปมาส่วนที่เมืองพรหมแต่ละชั้น ในพรหม 20 ชั้น
ที่มา ที่ไป
พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 15:27:43 )
เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 14:48:10 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 14:00:39 )
รายละเอียด
คือรูปนามตัวเราไปตลอดพรหมโลกเป็นการอธิบายอิทธิวิญญาณใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกได้
ที่มา ที่ไป
พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562
เวลาบันทึก 22 ธันวาคม 2562 ( 15:34:11 )
เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 14:31:07 )
เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2563 ( 07:17:08 )
Facebook : test
Youtube : Name
Twitter : Name
Line : Name
Telegram : Name
Wechat : Name
Skype : Name