@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

บุญญาวุธ

รายละเอียด

บุญญาวุธ หมายเลข 1. อาหารมังสวิรัติ

บุญญาวุธ หมายเลข 2. ตลาดอาริยะ (พาณิชบุญนิยม)

บุญญาวุธ หมายเลข 3. กสิกรรมไร้สารพิษ

บุญญาวุธ หมายเลข 4. สุขภาพบุญนิยม

บุญญาวุธ หมายเลข 5. การศึกษาบุญนิยม

บุญญาวุธ หมายเลข 6. สื่อสารบุญนิยม

บุญญาวุธ หมายเลข 7. การเมืองบุญนิยม

ที่มา ที่ไป

560808 


เวลาบันทึก 01 มีนาคม 2563 ( 12:38:46 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:04:19 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 08:00:04 )

บุญญาวุธ 7

รายละเอียด

อาตมาเอาบุญญาวุธหมายเลข 1 คือมังสวิรัติ การไม่กินเนื้อสัตว์นี่อาตมาเอาเป็นหมายเลข 1 นำมา เจริญรุ่งเรืองมาเรื่อยๆ

อันดับ 2 คือตลาดอาริยะ

อันดับ 3 คือกสิกรรมไร้สารพิษ

ถ้าสามเส้านี้อาหาร ตลาด กสิกรรม สามเส้านี้จะกลับกัน อาหารมังสวิรัติเป็นที่หนึ่ง แต่ตลาดอาริยะกับกสิกรรมนั้นจะกลับกัน มองตื้นๆว่ากสิกรรมน่าจะเกิดก่อนตลาดอาริยะ แต่กลับกัน คนจะไปซื้อแล้วขอ คนนี้มีสองอย่างแต่คนสร้างมีคนเดียวคนปลูกมีคนเดียว แต่คนซื้อกับคนขอก็มีสองแล้ว

อันดับ 4 สุขภาพบุญนิยม

อับดับ 5 การศึกษาบุญนิยม

อันดับ 6 การสื่อสารบุญนิยม

เป็นอีกสามเส้า

อันดับ 7 การเมืองบุญนิยม

ถ้าสองเส้าแรกได้แข็งแรง การเมืองจะแข็งแรง

ที่มา ที่ไป

591002_วิถีอาริยธรรม อุทยานบุญนิยม บุญญาวุธ 7 ชั้น


เวลาบันทึก 11 ธันวาคม 2565 ( 06:44:51 )

บุญญาวุธ​ หมายเลข 1

รายละเอียด

เรื่องนี้ก็จะพิสูจน์กันต่อไป เมืองไทยยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ อาตมานำเรื่องของมังสวิรัติมาปักหลักลงไป ซึ่งการกินเจเขาก็มีอยู่เก่า แต่เขาว่ามังสวิรัติเป็นภาษาบาลีมังสวิรัตินั้นเขาไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ อาตมาเป็นคนหยิบคำนี้มา ภาษาบาลีแปลชัดเจนมังสวิรัติ แปลว่า ไม่มีเนื้อสัตว์ วิรัติ แปลว่า งดเว้น ไม่มีเนื้อสัตว์ เขาก็มีภาษาแล้วอาตมาก็เอามาใช้เป็นภาษาบาลีนี่แหละ แล้วก็รณรงค์เป็นบุญญาวุธ​ หมายเลข 1 เอาอันนี้นำหน้าเลย ซึ่งทั้งยาก ทั้งลำบากคนก็ไม่เข้าใจต่างๆนานาหาว่า เป็นพระเทวทัตไม่กินเนื้อสัตว์ 

ซึ่งพระเทวทัตก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์ แล้วจะมาออกพระธรรมวินัย ให้พระพุทธเจ้าออกพระวินัยให้ภิกษุทุกรูป ต้องละเว้นเนื้อสัตว์ทั้งหมด พระพุทธเจ้าก็บอกว่า ไม่เอา เพราะว่า คนในยุคนั้น ภิกษุในยุคนั้น เขาก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดแล้ว มีบ้างเท่านั้นเองที่ยังบกพร่องอยู่ ยังฉันเนื้อสัตว์บกพร่องอยู่บ้าง พระพุทธเจ้าก็บอกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องไปออกกฎระเบียบ ต้องมีช่องให้พวกนี้บ้าง หมู่ใหญ่เขาก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์อยู่แล้ว หมู่เล็กนิดๆหน่อยๆก็ต้องให้เขาบ้าง อันนี้เป็นความอนุโลมปฏิโลมของพระพุทธเจ้า ที่สูงสุด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาคนตาบอดชวนคนตาบอดไปดูท้องฟ้าสวย วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2566 ( 13:03:46 )

บุญตัวจบของฌานเหลือแต่จิตสะอาดที่สิ้นอาสวะ

รายละเอียด

สรุปแล้วปุญญะ เป็นตัวชัดเจนว่าเป็นพลังงานที่ต่อจาก ฌาน เป็นตัวจบของฌาน เหมือนคำว่า พละหรือผล อินทรีย์คือพลังงานที่สะสมไปเรื่อยๆ อินทรีย์ 5 พละ 5 

พละ 5 คือตัวจบของผล อินทรีย์คือ 1 2 3 4 ไปถึง 5 ฌานก็เหมือนกัน ฌาน 1 2 3 4 มาถึงตัวผลก็เป็นบุญ จะเรียกว่า 5 หรือไม่เรียก 5 ก็ได้แต่เขาไม่เรียก 5 เขาเรียกว่าบุญจบไปเลย ไม่เรียก 5 เพราะตัวจบคำว่าบุญนี้เมื่อถึงคำว่าบุญมันหายไปเลย มันจบไปเลย มันมีแต่จิตสะอาด ตัวจิตสะอาดเท่านั้นสิ้นอาสวะ ก็ไปเรียกปริสุทธา ไปเรียกว่าบริสุทธิ์รอบ สุทธะ สุทธา สุทธิ ปริสุทธา บริสุทธิ์สะอาดรอบกิเลสตายหมดก็สั่งสมตัวที่หมดอาสวะหมดกิเลสสิ้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 05:09:01 )

บุญต่อเนื่องจากฌานอย่างไร

รายละเอียด

ซึ่งก็ไม่ได้ง่าย มันยากจริงๆ แล้วมันเพี้ยนไปจนไม่มีผลเลยสำหรับบุญไปเข้าใจเป็นกุศลที่สะสมได้อีก ศาสนาพุทธทุกวันนี้จึงไม่มีนิพพาน เพราะคำว่าบุญนี้เป็นตัวตัดสินว่าถ้าคุณตัดกิเลสถึงขั้น  ฌาน คือไฟ เผากิเลส แล้วกิเลสหมดก็คือบุญ บุญก็คือตัวต่อเนื่องจาก ฌาน

แล้วฌาน นี้คือปัญญา ปัญญากับฌานเป็นอันเดียวกันของพระพุทธเจ้า คือความรู้ ฌานอยู่ที่ไหนปัญญาอยู่ที่นั่น ปัญญาอยู่ที่ไหนฌานอยู่ที่นั่น อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาพาตนให้รู้ความเป็นอรหันต์ วันพุธที่ 9 ธันวาคม 2563 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:19:10 )

บุญต่างกับกุศล

รายละเอียด

ผู้ที่ทำบุญถูกต้องของความเป็นพุทธ ทุกวันนี้หาไม่ได้เลย แต่ทุกวันนี้เข้าใจบุญว่าคือกุศล กุศลคือสมบัติสะสมอาศัยไว้ดี พระพุทธเจ้าบอกว่าเราไม่สันโดษในกุศล เราหมดบุญ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2563 ( 15:50:16 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:05:03 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 08:00:30 )

บุญต่างจากกุศลกันคนละโลก

รายละเอียด

เช่น บุญ นี่ เป็นคำที่สุดยอดเลย ที่ไม่มีอะไรจะเหมือนได้ง่ายๆเลย บุญ มันต่างจากกุศล กันคนละโลกเลย แต่ตอนนี้ปนเปไปหมด บุญกับกุศล เอาไปเรียกเป็นกุศลหมดเลย ดีไม่ดีเอาคำว่าบุญไปแทนกุศลด้วย ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้มันไม่ใช่กุศล กุศลมันไม่สูญ แต่บุญนี้สูญ บุญนี้แม้แต่ยังไม่เกิดก็สูญแล้ว มันจะเกิดในปัจจุบันนั้น ชำระกิเลสหน้าที่เดียวด้วย บุญนี่ ชำระกิเลสได้ยังไม่จบเป็นเสขบุคคลก็เป็นส่วนบุญ หากหมดก็เป็นอเสขบุคคล จบหมดเลย หายไปเลยเป็น ปุญญปาปปริกขีโณ อรหันต์คือคนที่ไม่มีบุญอีกแล้ว อรหันต์ขึ้นไปจนถึงอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้สิ้นบุญได้ เป็นผู้ไม่มีบุญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นสวรรค์คนโง่ วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 มีนาคม 2564 ( 13:50:21 )

บุญต่างจากกุศลอย่างไร

รายละเอียด

ตามที่ได้อธิบายความเป็น“บุญ”ว่าแตกต่างกันกับ“กุศล”คนละขั้วอย่างไร จนซ้ำซากมากแล้ว แต่ก็ยังเข้าใจกันไม่ง่ายเลย

ซึ่ง“กุศล”นั้นมันเป็น“โลกียธรรม” ที่“ผลของวิบาก” มันเป็น“ตัวตน” ทรงอยู่ข้ามชาติ

“กุศล”จึงมีคุณลักษณะเป็น“ธรรม”

แต่“บุญ”นั้นคุณลักษณะเป็น“อธรรม” แท้ๆ  ไม่มีคุณลักษณะเป็น“ธรรม”เลย

“กุศล”ยังเป็น“โลกียสัจจะ” 

แต่“บุญ”ไม่ใช่เลย “บุญ”เป็น“โลกุตรสัจจะ”ที่เป็น“ปรมัตถสัจจะ”ระดับ“จิตนิยาม” ของคนที่มีความฉลาดระดับ“ปัญญา”จึงจะสามารถหยั่งรู้“ความจริง”ระดับโลกุตระนี้ได้

ผู้รู้แค่เฉโกจึงสับสน“บุญ”คือ“ความดี”

แต่ที่แท้ “บุญ”เป็น“อาวุธเฉพาะที่ใช้ประหารหรือฆ่ากิเลส”เท่านั้น และเท่านั้น

ซึ่งแน่นอน“การฆ่ากิเลส” ใครๆก็ต้องยอมรับว่า“ดี”แน่ “ดีที่สุด” “ฆ่ากิเลส”ไม่ดีได้ไง!!! แต่ความหมายว่า“ดี”นี้ มันแค่พูดโดยภาษา ขออาศัยภาษานี้ว่า“ดี”เท่านั้นเอง

ที่ว่า“ดี”นี่บัญญัตินะ! ยังไม่ใช่สภาวะ

แยก“บัญญัติ”กับ“สภาวะ”ให้ชัดคม

“ดี”นี้เป็นแค่“ภาษา”เป็น“อธิวจนะ”ที่ตั้งขึ้นบอกถึง“กิริยา-อาการ-กรรม”เชิง“บวก”

ว่า..กิเลสถูกฆ่า! นี้ผู้รู้ต่างก็รับว่า“ดี”

แต่“ภาวะหรือความปรากฏ”ที่มีพฤติ “ฆ่า” มันเป็นเชิง“ลบ”!!! ..ใช่มั้ย?

การฆ่า-การทำลาย มันเป็น“เชิงลบ”

“กุศล”นี้มีแต่“ดี” เป็น“กิริยาเชิงบวก” ทั้งนั้น แต่“บุญ”นี้“ฆ่า!” เป็น“กิริยาเชิงลบ”แท้

“บุญ”นี้คือ“ฆ่า”นะ! มันเชิง“ลบ”มั้ย?แต่“ผลได้”ต่างหากที่“บวก”ให้แก่มนุษย์-สังคม 

“ผล”ที่ได้สำเร็จมันทำ“คนและสังคมดี”

“บุญ”จึงมีนัยสำคัญที่“ทำการฆ่า”

“บุญ”คือ ตัวเสียสละ ยอมเป็น“ผู้ร้าย” 

ส่วน“กุศล”เป็น“ผู้ดี” ตลอดกาล

“กุศล”ทำ“การฆ่า”ไม่ได้เลย

“กุศล”ไม่มีร้าย  “ทำร้าย” ไม่ได้  

เพราะขืน“ทำ” ก็มิใช่“กุศล” 

“ขืนทำ” ผิดภาวะแน่ๆ  ..ใช่มั้ย?

ชัด“นัยสำคัญ”ของบุญกับกุศล..รึยัง?

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561
ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู (สมาธิพุทธ) ตอน บุญคือ อธรรม มิใช่ ธรรมะ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:26:37 )

บุญต้อง “ทำเป็น” คืออย่างไร

รายละเอียด

ฉบับนี้เราจะสาธยายเรื่อง“ภพ”กันให้ละเอียดยิ่งๆขึ้น

โดยเฉพาะคำว่า“บุญ”ตามชื่อหนังสือเล่มนี้นี่แลที่สำคัญนัก “บุญ”คือ พลังงานของจิตใจที่ผู้เรียนรู้จะต้อง“ทำ”ให้เป็น 

“ทำเป็น”คือ เริ่มทำให้มีพลังงาน“ฌาน”ที่เกิดจากการปฏิบัติตามกระบวนการ“จรณะ 15 วิชชา 8”อย่าง“สัมมาทิฏฐิ”

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 1 หน้า 46


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 12:13:39 )

บุญถ้าทำไม่เป็นคืออย่างไร?

รายละเอียด

หากทำไม่เป็น หรือทำอย่าง“มิจฉาทิฏฐิ” ก็ไม่เป็น“พลัง

ฌาน”แบบพุทธแน่นอน ซึ่งมีก็แต่“ฌาน”โลกีย์สามัญทั่วไป นั่นคือ ส่วนมากคนโลกีย์สามัญก็จะทำเป็นแต่“ฌาน”ที่เกิดจาก“หลับตา”ปฏิบัติกัน ตามแบบเดียรถีย์ทั่วไปรู้กันปกติ

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 2 หน้า 46


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 12:15:04 )

บุญทำงานทางเดียวไม่มีส่วน 2

รายละเอียด

ก็เข้าใจยากบุญ เป็น one way Traffic มันทำไปทางเดียวโดยส่วนเดียวไม่มีส่วน 2 เอกังสะ โดยส่วนเดียว ไม่มีส่วน 2 ไม่เป็น เทวะ เอกังสะไม่เป็นเทวะ ไม่มีส่วน 2 ถ้า เทวธัมมา จะทรงไว้ซึ่งส่วน 2 ถ้าเอกังสธรรม มีหนึ่งเดียว เป็น 1 กับ 0 

บุญ นี้ปรากฎตัวเป็น 1 ถ้าทำเสร็จแล้วเป็น 0 มี 0 กับ 1 ทำงานเสร็จแล้วไม่เป็นบุญ อเสขบุคคล ไม่ต้องใช้บุญอีกเลย เป็น อปุญญาภิสังขาร เพราะฉะนั้น จะปรุงแต่งอย่างไรก็ไม่ต้องใช้บุญอีกแล้ว แต่ผู้ที่ยังไม่เป็น One Way Traffic ยังโค้งกลับมาเป็นบาปอีก ก็จะอธิบาย อปุญญะว่าบาป นี่คือไม่เข้าใจสภาวะบุญบาป เป็นมิจฉาทิฏฐิก็ไม่มีทางปฏิบัติธรรมถึงขั้นฆ่ากิเลส ถอนอาสวะสิ้นได้ อาจจะฆ่าได้เป็นคราวๆ ก็จะเวียนกลับ วนอยู่นั่นแหละ ถอนอาสวะสิ้น หมายความว่า  ตายแล้วไม่ฟื้น ดับอาสวะสิ้นแล้ว ตายและไม่ฟื้นมาอีก ถอนดับอาสวะ ผู้ที่ดับอาสวะถูกต้องสัมมาทิฎฐิไม่มีวันฟื้น ถ้ายังฟื้นอยู่ไม่ใช่อรหัตผล อรหัตผล ต้องดับอาสวะ เสขบุคคล ดับอาสวะอย่างเป็นขั้นตอนจนหมด ก็เป็น อเสขบุคคล อย่างนี้เป็นต้น

สรุปแล้วดับกิเลส บุญก็ทำทันที ไม่ต้องดับสัญญาเพราะสัญญาคือธาตุกำหนดรู้อยู่ จะต้องฆ่าคือ กิเลส แต่สัญญาไม่ใช่กิเลส มิจฉาทิฏฐิใช้สัญญาวิปลาส มันก็เป็นกิเลส แต่ตัวที่ถูกแท้ มันเป็นขันธ์ เป็นเจตสิก ที่จะต้องทำงานหนักมากเลยสำหรับสัญญา ทั้งจำไว้ และเอามาใช้กำหนดต้องรู้ตั้งแต่ต้นจนจบเลย กายก็เหมือนกัน กายก็ทำตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนกัน เรียนรู้จนจบ จบโดยการตรวจสอบวิญญาณฐีติ 7 สัญญาบันทึกไว้ มันไม่หายไป สัญญาจะขึ้นมาได้สักวันหนึ่งมันก็จะขึ้นมาได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาไม่ดับสัญญาแต่ดับกิเลส วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ตุลาคม 2565 ( 19:00:17 )

บุญนั้นฆ่ากิเลสตัวเอง

รายละเอียด

ซึ่ง พวกเราคนไทยหรือชาวพุทธ เรียกว่ากุศลมาก เรียกศัพท์โลกๆว่ามีบุญมาก ที่จริงซับซ้อน บุญมันไม่ใช่มีมากหรอก บุญมันต้องน้อย แต่ผลของบุญคืออาวุธฆ่ากิเลส เพราะคุณฆ่ากิเลสได้มากคือผลบุญของคุณทำได้สำเร็จมากก็เลยเป็นคนเจริญ คำว่าบุญคำเดียวเป็นสิริมหามายา 

คุณจะต้องทำบุญได้ฆ่ากิเลสได้ ฆ่ากิเลสตนเองด้วย ไม่ได้เป็นภัยเป็นโทษกับใคร บุญนั้นฆ่ากิเลสตัวเอง ไม่ได้ไปฆ่ากิเลสคนอื่น ฆ่าแล้วบุญก็หายไป บุญก็ไม่มีอีก เพราะว่ากิเลสมันตายแล้วไม่ต้องใช้บุญอีกแล้ว กิเลสตัวนี้ตาย ตายอย่างสมบูรณ์แบบ ตายอย่างไม่เกิดอีกเลย แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือบุญนี้อีกแล้ว คนนั้นก็หมดบุญ เป็นภาวะจริงซับซ้อนเป็นสัจธรรมที่ลึกซึ้ง อาตมาบรรยายซึ่งก็เข้าใจยากอยู่ แต่คนจะค่อยๆเข้าใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

เพราะสัจธรรมสุดท้ายที่เป็นสิทธัตถะ หรือชื่อพระพุทธเจ้าก่อนจะมาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ แก่นธรรมอันนี้มันเป็นคำสิริมหามายา มันเป็นคำเหมือนที่โลกเขาทางฝรั่งเขาเรียกว่า Dialectic มันขัดแย้งกันในตัว แต่เขาจับมันไม่ได้ เขาไม่มีปัญญาพอจะจับสภาพไหนจริงๆแท้ๆว่า อันไหน มันคือด้านที่ถูกต้อง ด้านที่เป็นหนึ่งแท้ ไม่สับสนไม่สงสัย ไม่กลับกลอก ถูกต้องตรงแท้แน่นอนเป็นหนึ่งเดียว 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 22 สงครามข่าวสารกับปรากฏการณ์จริงการเมืองไทย วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 แรม 11 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 21 พฤษภาคม 2566 ( 19:35:17 )

บุญนั้นทำงานเสร็จก็รีบไปไม่มีอ้อยอิ่งนัวเนีย!

รายละเอียด

เมื่อ“บุญ”ได้ทำหน้าที่“ชำระกิเลสนั้นๆเสร็จ จบกิจ-จบหน้าที่แล้ว “บุญ”ก็“สูญสิ้นไป”ทันที “บุญ”นั้นพลันหายวับไป ไม่เหลือ

อยู่อีก ไม่มีอะไรตกค้างเป็นเศษของ“บุญ”อีกเลย เมื่อกิเลสาสวะหมดสิ้นหรือสิ้นอวิชชานุสัย สิ้นแม้ธุลีหมอง(อโศก)หรือธุลีเริง(วิรช) จึงเกษมยอดสุดตลอดกาลนาน “บุญ”ก็หมดสิ้นในจิตผู้นั้นนิรันดร

“บุญ”ทำงานเสร็จหน้าที่ลง ก็จะหมดหน้าที่ และไม่มี ไม่อยู่ 

ไม่เกิดในที่ไหนอีกต่อไป 

“ความรู้”เช่นนี้เป็น“โลกุตรธรรม”รู้ได้เฉพาะชาวพุทธอาริยะ 

ขอย้ำว่า “บุญ”คือ ความถึงพร้อมด้วย“สูญ” ความถึงพร้อมด้วยความหมดสิ้น ถึงพร้อมด้วยความไม่มี  สะสม“บุญ”ไม่ได้

“บุญ”เป็น“วิบัติ”ถ่ายเดียว อย่าหลงว่าบุญเป็น“สมบัติ”ที่มีได้เด็ดขาด  คนที่ทำ“บุญ”สำเร็จเป็น“ผล”จึงคือผู้ทำ“สูญ”แท้ๆ

ความเป็น“สูญ”ของกิเลส จึงจะ“สูญ”นิรันดร เป็นนิพพานได้

“นิพพาน”จึงเป็น“สูญ”ที่ไม่มี“บุญ”ในคนผู้นั้นอีกเลยนิรันดร

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 55 หน้า 75


เวลาบันทึก 14 มิถุนายน 2564 ( 19:34:01 )

บุญนิยม

รายละเอียด

ต่างคนต่างไม่เอา จึงจะเหลือ ก็แบ่งเท่ากันได้อย่างสบาย เพราะต่างคนต่างศูนย์ก็ได้แล้ว หรือเรามีน้อยก็ได้แล้วเราขาดทุนก็ได้

นี่เป็นสุดยอดปาฏิหาริย์ของโลกที่ทำให้คนมาอยู่รวมกัน แล้วทุกคนไม่แย่งชิงกันแต่เอาเข้าส่วนกลางแบ่งกินแบ่งใช้อยู่ในนี้ ไม่ต้องเอาเงินเป็นตัวตั้งด้วย ต่างคนต่างมาสร้าง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาส่งท้ายปีเก่า 2566 เรื่องปฏิจจสมุปบาท ตอน 1 วันวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 แรม 4 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2567 ( 15:14:05 )

บุญนิยม คืออะไร

รายละเอียด

บุญนิยม นิยม แปลว่าเที่ยง คนไทยก็ว่านิยม แปลว่าชมชอบใจ นิยมชมชอบ นิยมเที่ยง หรือนิยม แปลว่า ลัทธิ ก็คือคนนิยมเหมือนกัน 

บุญ หรือ บาลีว่า ปุญญะ หมายถึงการชำระกิเลสจากสันดานให้หมดจด หรือเครื่องชำระกิเลสจากสันดานให้หมดจด สันตานังปุนาติ วิโสเทติ บาลีว่าอย่างนั้น

บุญ เวลาปฏิบัติแล้ว เราปฏิบัติธรรม การปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าก็คือ เราเป็นคนมีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น มีกาย มีใจ ท่านก็ให้สำรวมอินทรีย์ ท่านก็ให้สำรวมสังวรระมัดระวังตา หูจมูก ลิ้น กาย ใจ นี่คือคนปฏิบัติธรรมข้อที่หนึ่งในศาสนาพุทธ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหารย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน บุญนิยม คืออะไร และอปันกธรรม 3


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 13:34:05 )

บุญนิยม เหมือนทำอะไรก็จะงกแต่บุญ ไม่ได้บุญไม่ทำถูกไหม

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นคุณยังไม่เข้าใจคำว่า บุญ อย่างสัมมาทิฏฐิ อย่างดีจริงๆ คุณก็จะเอามาตู่มาท้วง ทุกอย่างนั้นอาตมาเห็นใจว่าคุณเข้าใจไม่ได้ มันยังมีมุม
เหลี่ยมมีนัยยะสำคัญที่มันละเอียดลอออีกเยอะ บุญนี่นะ แค่มุมเหลี่ยม บุญกับกุศลนั้นคนละขั้วเลย กุศลนั้นต้องมีตลอดนิรันดร ส่วนบุญนั้นไม่เลย มีหนึ่งเดียวและต้องสั้นที่สุดเท่าที่จะสั้นได้ ไม่ให้ยาวด้วย ตัวเองก็ไม่ยาว แล้วตัวเองไม่มีในอดีตไม่มีในอนาคต มีแต่อยู่ในปัจจุบัน และปัจจุบันที่สั้นที่สุดด้วยบุญ ทำงานต่อจากฌาน เหมือนกับอินทรีย์ ทำงานหมดจบ พละ ก็เป็นผลสุดท้ายจบ เหมือนกันตัวที่ตีสรุปบอก อันสุดท้าย แต่อันเดียวกันนั่นแหละ แต่อันนี้เป็นผลสุดท้ายผลสมบูรณ์แบบ 

ที่มา ที่ไป

พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ
วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

บุญกับฌานเป็นเรื่องทวนกระแสโลกีย์


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 20:00:54 )

บุญนิยมกับทุนนิยม หรือโลกุตระกับโลกียะ

รายละเอียด

เอาศัพท์คำว่าบุญนิยมกับทุนนิยม คำว่าปุญญะ ภาษาอังกฤษไม่มี แต่ทุนนิยม คือ capitalism คำว่าทุนนิยมเป็นเรื่องสามัญชาวโลกที่จะต้องไปหลงไปรวย หลงลาภยศสรรเสริญโลกียสุขเป็นโลกียะ แต่เขาไม่เข้าใจว่ายังมีโลกที่เป็นโลกุตระ โลกที่คนไม่ต้องไปเป็นทาสของกิเลส ไม่ต้องไปอยากรวยไม่ต้องไปอยากดังไม่ต้องไปอยากได้มาให้แก่ตัวเองอะไรอย่างนี้ เขาไม่เชื่อว่าคนจะคิดเช่นนี้ได้ แต่คนที่คิดเช่นนี้ได้ทำเช่นนี้ได้คือโลกโลกุตระที่พระพุทธเจ้าค้นพบ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูสนทนากับท่าน Lopen Gembo Dorji แห่งภูฏาน

เรื่อง การพัฒนาโรงเรียนและการวางรากฐานพุทธศาสนาในระดับมัธยมศึกษา วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ลานหินนั่งหน้าน้ำตกบวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 21:00:10 )

บุญนิยมทีวีเลิกใช้ดาวเทียมแล้วเปลี่ยนมาใช้อินเตอร์เน็ตแทน

รายละเอียด

เพราะเราเลิกดาวเทียมแล้วก็เลยหาย หายไปไหน ก็ไม่รู้เราไม่ได้ใช้ มันก็ต้องหายไปสิ เราเลิกที่จะใช้ดาวเทียมแล้ว เราไม่มีวาสนาจะไปเช่าดาวเทียมแล้วเงินทองมันร่อยหรอลงไปมากเราก็เลยต้องพัก ก็เลยต้องเลิกดาวเทียม มาใช้ทางด้านอินเทอร์เน็ตกัน ตอนนี้เราก็ใช้ช่องทางภาษาวิชาการเทคนิค อาตมาก็ไม่ค่อยถนัด จะใช้คำเรียกอะไร Line Facebook ดูอะไรต่ออะไรทาง youtube ก็ว่ากันไปก็ชมได้อย่างนั้น

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 17:01:20 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:32:14 )

บุญนิยมอย่างสุดยอดคือสาธารณโภคี 

รายละเอียด

อาตมาเป็นผู้นำโลกุตรธรรมเข้ามาประกาศในที่นี้ ในประเทศไทย ไม่ใช่ประกาศคำว่า โลกุตระ เฉยๆ เหมือนท่านพุทธทาสที่กล่าวพยัญชนะโลกุตระ แต่ท่านไม่มีสาระ ไม่มีเนื้อหาของโลกุตระ ขออภัย เท่าอาตมา อาตมามีเนื้อหาโลกุตระ ละเอียดกว่า ชัดเจนกว่าและเป็นจริงกว่า อธิบายให้พวกคุณเข้าใจ พวกคุณเอามาปฏิบัติตาม มีมรรคผล จึงได้ความจริงเป็นความบรรลุธรรม เป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ มารวมเป็นชุมชนอโศก ในอนาคตรู้ในโลกเขาแสวงหา จุดสูงสุดคือโลกุตรธรรม เขาจะค่อยๆรู้ อาตมาทำมา 50 ปีแล้ว ก็มีพวกคุณ คนไม่รู้มีเจ็ดพันล้านในโลก รู้แค่เจ็ดร้อย เจ็ดพัน เจ็ดหมื่นอย่างหลวมๆ เจ็ดแสนคิดว่ายังไม่ถึง โลกุตรธรรม อย่างหลวมๆ เจ็ดหมื่น

อาตมาก็ไม่มีปัญหาอะไรก็ทำงานพาพวกเราทำไป พยายามลากสังขารให้ยืนยาว มันก็เติมทั้งภาษาและสภาวะ เติมทั้งบุคคลที่เป็นจริงทั้งวัฒนธรรม จนถึงที่สุดแล้วเป็นสาธารณโภคี มีสาราณียธรรม 6 แต่ละคนเข้าใจวรรณะ 9 มีพุทธพจน์ 7 ติดตามศึกษาแล้วจะรู้ว่าสังคมมนุษยชาติ นี้แหละคือสังคมศาสตร์ นี้แหละคือเศรษฐศาสตร์ นี้แหละคือรัฐศาสตร์ แบบบุญนิยม สุดยอดเรียกว่า สาธารณโภคี บุญนิยมอย่างสุดยอดคือสาธารณโภคี ไม่มีสังคมอะไรที่เยี่ยมยอดกว่าสาธารณโภคีอีกแล้ว ด้านเศรษฐศาสตร์ก็ตาม ด้านการเมืองก็ตาม สุดยอดสาธารณโภคี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 51เป็นผู้แพ้ผู้รับใช้ได้ไม่ยาก ด้วยฌานทั้ง 4 วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 กันยายน 2565 ( 14:53:45 )

บุญนี้คือเครื่องประหารตัวตน

รายละเอียด

ประหารของของตน คุณยังไม่มีนะ แต่บุญจะฆ่าคุณประหารคุณ โหดนะบุญนี่ นักฆ่ามือหนึ่ง เป็นนักฆ่าตัวตน นักฆ่าของของตน นักฆ่ากิเลสโลภโกรธหลง ฟังแล้วรู้สึกว่าประหลาดไหม พวกคุณก็คงจะไม่ประหลาดแต่มันเป็นจริงไหม …จริง ใช้พยัญชนะคำว่าบุญ เดี๋ยวจะได้เทศน์เรื่องทานที่ไม่มีบุญ หรือรักษาศีลที่ไม่ได้บุญ​ก็มีทานกับศีล เป็นตัวภาคปฏิบัติที่ยิ่งใหญ่ ทำทานถือศีลก็มีแบบที่เป็นบาปก็ได้ ต้องเอาที่สภาวะเป็นหลัก

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช ทานและบุญที่ฆ่าตัวตนและของๆตน วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2562 ( 19:48:42 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:05:47 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 08:01:21 )

บุญบาปกับสัตว์

รายละเอียด

ทำบุญแต่ได้บาป 5 ลำดับ (ย่อมประสบบาป  มิใช่บุญ)

1. ผู้นั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านทั้งหลายจงไปนำสัตว์ชื่อโน้นมา” (อุทิศ, อุททิสสะ คือ เจาะจงมุ่งหมายไปที่สัตว์ชื่อนั้น)

2. สัตว์นั้นเมื่อถูกเขาผูกคอนำมา  ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัส

3. ผู้นั้นพูดอย่างนี้ว่า  “ท่านทั้งหลายจงไปฆ่าสัตว์นี้”

4. สัตว์นั้น เมื่อกำลังถูกเขาฆ่าย่อมเสวยทุกข์โทมนัส

5. ผู้นั้นยังตถาคตและสาวกตถาคต  ให้ยินดีไปด้วยเนื้อ   ย่อมประสบบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก (ตถาคตํ วา   ตถาคตสาวกํ  วา   อุทฺทิสฺส   ปาณํ   อารภติ   โส  อิเมหิ    ปญฺจหิ   ฐาเนหิ  พหุง   อปุญฺญํ   ปสวตีติ)    

ทำบุญแต่ได้บาป 5 ลำดับ (ย่อมประสบบาป  มิใช่บุญ)

1. ผู้นั้นกล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านทั้งหลายจงไปนำสัตว์ชื่อโน้นมา” (อุทิศ, อุททิสสะ คือ เจาะจงมุ่งหมายไปที่สัตว์ชื่อนั้น)

2. สัตว์นั้นเมื่อถูกเขาผูกคอนำมา  ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัส

3. ผู้นั้นพูดอย่างนี้ว่า  “ท่านทั้งหลายจงไปฆ่าสัตว์นี้”

4. สัตว์นั้น เมื่อกำลังถูกเขาฆ่าย่อมเสวยทุกข์โทมนัส

5. ผู้นั้นยังตถาคตและสาวกตถาคต  ให้ยินดีไปด้วยเนื้อ   ย่อมประสบบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก (ตถาคตํ วา   ตถาคตสาวกํ  วา   อุทฺทิสฺส   ปาณํ   อารภติ   โส  อิเมหิ    ปญฺจหิ   ฐาเนหิ  พหุง   อปุญฺญํ   ปสวตีติ)     ชีวกสูตร  ล.13  ข.60

 

คนสั่งฆ่าวิบากมากกว่าคนฆ่าเพราะคุณเป็นนาย ดีไม่ดีให้ค่าจ้างเป็นเนื้อนิดหน่อยแก่คนฆ่า แต่นอกนั้นของคนสั่งฆ่า บาปจึงเพิ่มเติมมากขึ้น

ข้อที่ 5 นี้ดูเบา แต่หนัก สัตว์ตายแล้วเอาสัตว์ไปทำอาหาร อาหารอย่างปราณีตเยี่ยมเลย ปรุงแต่งหลอก มาประเคนพระพุทธเจ้าและสาวกเพื่อให้ท่านยินดี เป็นกัปปิยะ จะมาลากภิกษุสาวกพระพุทธเจ้าดึงลงไปติดอาหารอย่างนี้ด้วย คุณปรารถนาเจตนาดีหรือเจตนาร้าย คุณนึกว่าเจตนาดีอยากให้ติดอาหารเนื้อสัตว์นะ เนื้อสดก็ไม่เอาแต่ปรุงแต่งมาให้ติด จริงๆแล้วเป็นอกัปปิยะไม่ควรเลย บาปแล้ว

คนสั่งฆ่าวิบากมากกว่าคนฆ่าเพราะคุณเป็นนาย ดีไม่ดีให้ค่าจ้างเป็นเนื้อนิดหน่อยแก่คนฆ่า แต่นอกนั้นของคนสั่งฆ่า บาปจึงเพิ่มเติมมากขึ้น

ข้อที่ 5 นี้ดูเบา แต่หนัก สัตว์ตายแล้วเอาสัตว์ไปทำอาหาร อาหารอย่างปราณีตเยี่ยมเลย ปรุงแต่งหลอก มาประเคนพระพุทธเจ้าและสาวกเพื่อให้ท่านยินดี เป็นกัปปิยะ จะมาลากภิกษุสาวกพระพุทธเจ้าดึงลงไปติดอาหารอย่างนี้ด้วย คุณปรารถนาเจตนาดีหรือเจตนาร้าย คุณนึกว่าเจตนาดีอยากให้ติดอาหารเนื้อสัตว์นะ เนื้อสดก็ไม่เอาแต่ปรุงแต่งมาให้ติด จริงๆแล้วเป็นอกัปปิยะไม่ควรเลย บาปแล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2562

หนังสืออ้างอิง

ชีวกสูตร  เล่ม13   ข้อ 60


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 21:32:49 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:11:38 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 08:03:54 )

บุญบาปที่เป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อน

รายละเอียด

เช่นคำว่าบุญเป็นเครื่องชำระบาป เมื่อบุญเกิดพลังงานทำลายบาปหมด หมดแล้ว บุญบาปก็หมดไป มาขึ้นใหม่ บุญ บาป ก็จะชำระกิเลสขั้นละเอียดขึ้นไปอีก คำว่าบุญ บาปที่จะใช้เรียกในชั้นที่ 2 3 4 จึงไม่ใช่บุญบาปตัวเก่า ดีไม่ดี คนไม่เข้าใจสภาพหมุนรอบเชิงซ้อนจะวนไปวนกลับ บุญ บาป ก็ไม่ใช่บาปก็บุญ ไม่ใช่บุญก็บาปแต่ที่จริงมันเป็นอันใหม่ ไม่ใช่บุญอันเก่าและไม่ใช่บาปอันเก่า แต่บุญสลับไปมาเลยสับสน เลยกลายเป็นว่าบุญคือกุศลไปอีก

พอบุญไม่ใช่บุญก็คืออกุศลเป็นสมบัติ ก็เลยแยกไม่ออกว่า บุญบาปรอบของก้นหอยเป็นอย่างไร ถึงสูงสุด บุญ บาป จึงเป็นปุญญปาปปริกขีโณ สิ้นบุญสิ้นบาป บุญก็จะทำลายบาปหมดไปเป็นรอบๆ ได้ส่วนบุญคือส่วนเสีย ส่วนทำลายกำจัดไป ได้วิบัติ ได้บุญเป็นตัวทำลายเป็นตัวฆ่า เมื่อฆ่าหมดก็เป็นการหมดสิ้นอนุสัยอาสวะ บุญก็ไม่มีบาปก็ไม่มี

ดีที่มีพยัญชนะเหล่านี้อยู่ ถ้าหากมาพูดโดยไม่มีหลักฐานเขาเอาตายแน่ บุญ อันนี้ไม่ใช่บุญอันเดียวกันกับรอบที่หนึ่งนะ แต่ว่าเขาก็ว่าบุญต้องสะสม แต่ที่จริงบุญทำแล้วมีแต่สูญๆ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:13:56 )

บุญมีฤทธิ์ทำให้คนนิพพาน ในทานสูตร

รายละเอียด

ขออธิบายตรงนี้ คำว่าบุญไม่ได้มีฤทธิ์ทำให้คนสุข บุญมีฤทธิ์ทำให้คนนิพพาน บุญนั้นฆ่าสุขฆ่าทุกข์ 

ฟังดีๆ สอนกันมาอย่างนั้นนะ มันไม่ได้เป็นโลกุตระ สายเทวนิยมหรือสายพุทธศาสนากระแสหลักส่วนใหญ่แหละ ก็สอนกันผิดมาอย่างนี้ 

บุญไม่ได้ทำให้เกิดความสุข แต่นี่บอกว่า ”บุญที่มีความหมายเป็นชื่อแทนคำว่า สุข” นั้นน่ะ แทนกันด้วย บุญนั้นฆ่าสุขฆ่าทุกข์  นี่ต้องฟังโพธิรักษ์อีกมาก 

ทุกข์กับสุขตัวเดียวกัน แยกไม่ได้ มันเป็นเทวะ เป็น 2 สภาพ ฆ่าอันใดอันหนึ่งก็ตายทั้งคู่ เพราะมันอันเดียวกันเหมือนแผ่นกระดาษ อย่างกระดาษแผ่นนี้(ในมือพ่อครู) นี่ฉีกปั๊บ ขาดหมดทั้ง 2 หน้า ข้างหน้า ข้างหลัง ฉีก
ปั๊ปก็ทำลายอันเดียวกันหมดนะ ศึกษาดีๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ถือศีลให้รู้รูปนาม ให้เกิดปัญญาจนอวิชชาหายไป วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2566 แรม 2 ค่ำเดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 มีนาคม 2567 ( 18:51:25 )

บุญมีวันปลดเกษียณใช่ไหม

รายละเอียด

อธิบายอย่างนี้ก็เข้าใจง่ายขึ้น บุญมีวันปลดเกษียณ แต่ฌานไม่มีวันปลดเกษียณจนกว่าจะสลายร่างไปเป็นดินน้ำ ไฟ ลม ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ฌานถึงจะหมดไปด้วย แต่ถ้าเผื่อว่า บุญนั้นเป็นพระอรหันต์ก็หมดแล้ว ปลดเกษียณตั้งแต่เป็นพระอรหันต์แล้ว 

นี่ขยายความละเอียดลึกซึ้งเข้าไป สับสนไหม?..

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 46 บุญกับฌาน มีพลังงานต่างกันอย่างไร วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ขึ้น 1 ค่ำเดือน 12 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 มีนาคม 2567 ( 20:08:26 )

บุญมีหน้าที่เดียว

รายละเอียด

“บุญ”คือ“การฆ่า” “บุญ”คือ“พลังงาน” ไม่ใช่“สสาร” ไม่ใช่“วัตถุ” ไม่ใช่“สิ่งของ”“บุญ”ไม่ใช่“สมบัติ..สสาร..วัตถุ”จริงๆ 

“บุญ”ไม่ใช่แม้แต่ความเป็น“อากาส”“บุญ”เป็นแค่“อาการของพลังงาน”ที่มีหน้าที่ทำ“ความวิบัติ”ให้แก่“กิเลส”เท่านั้น ไม่มีหน้าที่อื่นใดด้วย มีหน้าที่เดียวทำความเข้าใจตรงนี้กันให้ชัดแท้ให้ได้

“บุญ”เป็นแค่“พลังงาน”เท่านั้น “พลังงาน”ใดๆ ทำหน้าที่แล้วก็สลายไปทั้งนั้น “พลังงาน”ไม่มีตกผลึกเป็น“อดีต”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561
ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู (สมาธิพุทธ) ตอน บุญคือ อธรรม มิใช่ ธรรมะ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:52:38 )

บุญมีหน้าที่และภาวะต่างกันอย่างไร

รายละเอียด

เมื่อจิตชำระกิเลสออกไปแล้ว มันดีแน่นอน เป็นความหมายลักษณะที่บุญ ทำหน้าที่ไม่ดีไม่ได้ แต่ตัว ภาวะบุญไม่ใช่เป็นภาวะที่ดีเป็นพลังงานภาวะระเบิดอาวุธทำลายฆ่า

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:23:36 )

บุญมีเพียงภาวะ 1 ทำหน้าที่เสร็จแล้วหายไป

รายละเอียด

เช่น บาป กับบุญ พอคุณมีบาปก็ต้องมีบุญ ก็บอกว่าไม่มีบุญแล้วก็ต้องไปมีบาปวนเวียนอยู่แค่นี้ เลยไม่รู้ว่าคำว่าบุญนี้ไม่มีที่จะไปบาปอีก บุญมีหน้าที่ข้าบาปอย่างเดียวแล้วก็จบหมดเรื่อง บุญจะไม่วนไปมีบาปอีกเลยบุญเป็น one way Traffic มีเดินหน้า หน้าที่เดียวทำงานฆ่ากิเลสท่าเดียวแล้วไม่เหลือเชื้อไม่เหลือเศษอะไรอยู่อีกเลยทำหน้าที่นั้นเสร็จแล้วก็หายไปเลย ผู้ที่ไม่รู้ความจริงอันนี้ก็เลยแปลคำว่าบุญด้วยความรู้ของเขา ว่าบุญคือความหมายของสภาวะโลกียะเทว มีสอง แท้จริงแล้วบุญมีเพียงภาวะ 1 ทำหน้าที่เสร็จแล้วหายไปเลยศูนย์ บุญเกิดในปัจจุบัน บุญเป็นพลังงานที่ผู้ที่สามารถนำพลังงานจิตให้เป็นพลังงาน ฌาน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 04 มิถุนายน 2563 ( 10:19:27 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:32:53 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 08:04:16 )

บุญส่งให้คนตายไม่ได้

รายละเอียด

ตอบ ไม่ได้ บุญไม่ได้ส่งให้คนตาย บุญคำนี้ในภาษาของศาสนาพุทธ แปลว่าเครื่องชำระกิเลส ที่เดิมหน้าตักมาให้ความหมายเปรียบเทียบไว้กับกิโยตินไว้ตัดคอคนหรือเครื่องประหารหัวสุนัขที่เอาไว้ตัดหัวคนของเปาบุ้นจิ้น มันคือเครื่องมือฆ่าคน 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2563 ( 11:44:33 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 13:02:14 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:18:06 )

บุญหายไปเหลือแต่ปัญญา

รายละเอียด

ปัญญาจึงเป็นตัวครองโลกหมดเลย เพราะฉะนั้นนิพพัตติเป็นการเกิดเครื่องมือทำให้กิเลสดับ พลังงานที่ทำให้กิเลสดับ การสร้างพลังงานปัญญา ที่ไปกำจัดกิเลสได้ คนที่สามารถสร้างพลังงานทางจิตให้เกิดธาตุปัญญาได้ แล้วก็กำจัดเสร็จเป็นบุญ จบ บุญจะหายไปเหลือแต่ปัญญา ปัญญาก็เป็นธาตุรู้ที่ใช้งาน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ชาติ 5 โดยพิสดาร วันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 เมษายน 2564 ( 13:53:37 )

บุญอยู่ฌาน 4 หรือฌาน 5

รายละเอียด

นี่คือความเสื่อมของโลกุตรธรรม บุญเป็นโลกุตระเป็นพลังงานที่ลึกซึ้ง อาตมาอธิบายไว้แล้วว่าต่อจากพลังงานฌาน 1 2 3 4 เพราะฉะนั้นบุญอยู่ที่ฌานที่ 4 หรือฌานที่ 5 ก็ได้ 

ฌานที่ 1 คือพลังงาน ที่เผากิเลส หรือประหารกิเลส ใช้คำว่าเผาเป็น อุณหธาตุ ไม่ได้ใช้เป็นวัตถุ ด้วยมีดพร้าด้วยง้าวด้วยขวาน เป็นดาบเป็นง้าว ไม่ใช่ แต่เป็นพลังงาน พลังงานปัญญา ฌานคือปัญญาปัญญาคือฌาน ฌานคือพลังงานปัญญาที่สร้างความเฉลียวฉลาดโลกุตระที่จะอยู่เหนือ ไฟเหมือนกัน อุณหธาตุ เหมือนกัน ราคะ โทสะ โมหะ แต่ฌาน เป็นตัวปัญญาที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ฌาน เป็นปัญญาเป็นพลังงานไฟ อุณหธาตุ ที่มันเหนือชั้นกว่าไฟราคะ โทสะ โมหะ มันเป็นความจริงจึงทำลายกันได้ ถ้าคุณทำไม่ถูกไม่จริง ทำลายไม่ลง มิจฉาทิฏฐิทำผิด ทำไม่ลง ทำไม่ได้ ต้องถูกต้องจริงๆจึงเป็นพลังงานฌาน พลังงานปัญญา หรือ พลังงานบุญ ที่จะกำจัด สลายกิเลสลงไปได้ เผากิเลสไปได้ ท่านใช้คำว่าไฟ ท่านใช้คำว่าเผา มันทำให้เป็นจุลเป็นขี้เถ้าไปเลยนะ เป็นผุยผงไปเลย เอาวัตถุมาเรียกชัดเจนดี มันสลายสภาพนั้นไปเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บุญกิริยาวัตถุ 7 ข้อที่เป็นเนื้องอกของศาสนาพุทธ วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2565 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2565 ( 13:38:42 )

บุญอยู่ในปัจจุบันชาติอย่างไร

รายละเอียด

คุณสร้างพลังงานจิตที่เป็นบุญให้เป็น แล้วบุญเกิดเป็นในปัจจุบันธรรม เกิดในขณะปัจจุบันทันทีทันใด ทำได้อย่างนี้ประกอบบุญขึ้นมา ในปัจจุบันทำงานฆ่ากิเลส ทำหน้าที่ ก็ทำเดี๋ยวนี้ ทำแล้วได้ผลหรือไม่ได้ผลได้ผลเท่าไหร่ ทำแล้วอยู่ที่ปัจจุบันหมดปัจจุบันไม่มีแล้ว บุญที่นอกปัจจุบันไม่มีบุญเลย อนาคตก็ไม่มี อดีตก็ไม่มี บุญอยู่ที่ปัจจุบัน ทิฏฐธรรมทิฏฐกาล อยู่ในปัจจุบันชาติ กระทบสัมผัสแล้วก็จัดการสร้างพลังงานนี้ขึ้นมาจัดการกิเลส คือสร้างพลังงานฌาน ฌานที่สำเร็จผลก็คือบุญ เป็นตัวที่ 4 ของฌาน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 10 วันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2565 ( 20:04:54 )

บุญเกิดแล้วจบในปัจจุบัน

รายละเอียด

และที่สำคัญจริงๆอีกก็คือ “บุญ”อยู่ใน“ปัจจุบัน” ทำงานได้ในปัจจุบัน แล้ว“จบ”

รู้จัก“จบ”สักที กันมั่งมั้ย?

“บุญ”..เกิดในปัจจุบัน-จบในปัจจุบัน

“อนาคต”เมื่อมาถึง“กาละใหม่”มันเปลี่ยน“กาละ”ไปเป็น“ปัจจุบัน” คนละกาละ

ผู้ทำบุญ“เป็น”แล้ว จะทำ“บุญ”ทีไร ก็ทำในจิตตนขณะนั้นทุกที จึงจะมี“พลังงานบุญ”ภาวะใหม่ ที่ทำใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็น“บุญ”ดังที่เคยทำได้ขึ้นมาทำงานให้แก่เจ้าของพลังงานใหม่อีกที คือ“ชำระกิเลสได้”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:47:17 )

บุญเกิดได้อย่างไร

รายละเอียด

บุญไม่ได้เป็นกุศล ถ้าเข้าใจว่าบุญเป็นกุศลมันก็ไม่มีนิพพานเพราะกุศลมันเป็นสมบัติแต่บุญมันเป็นวิบัติ บุญมันฉิบหาย กุศลมันมากมาย งอกงามไพบูลย์ มันมีอยู่ตลอดกาลนานกุศล บุญจะเป็นได้ในปัจจุบัน บุญเกิดได้ในปัจจุบัน เป็นพลังงานที่เกิดในปัจจุบัน ถ้าคนที่ไม่สามารถทำพลังงานให้เกิด ฌานได้ ไม่เป็นบุญ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุภกิณหาอย่างพุทธดับสุดสิ้นอาสวะ วันพุธที่ 2 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 31 มกราคม 2564 ( 14:25:52 )

บุญเกิดได้อย่างไร

รายละเอียด

บุญไม่ได้เป็นกุศล ถ้าเข้าใจว่าบุญเป็นกุศลมันก็ไม่มีนิพพานเพราะกุศลมันเป็นสมบัติแต่บุญมันเป็นวิบัติ บุญมันฉิบหาย กุศลมันมากมาย งอกงามไพบูลย์ มันมีอยู่ตลอดกาลนานกุศล

บุญจะเป็นได้ในปัจจุบัน บุญเกิดได้ในปัจจุบันเป็นพลังงานที่เกิดในปัจจุบัน ถ้าคนที่ไม่สามารถทำพลังงานให้เกิดฌานได้ไม่เป็นบุญ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุภกิณหาอย่างพุทธดับสุดสิ้นอาสวะ วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 31 มกราคม 2564 ( 17:14:27 )

บุญเกิดได้ในปัจจุบันของผู้มี รูปนามขันธ์ 5 เท่านั้น

รายละเอียด

“บุญเกิดได้ในปัจจุบัน”ของผู้มี“รูปนามขันธ์ 5”นี้เท่านั้น ไม่มี“บุญเกิดนอกปัจจุบัน”เลย  “บุญ”ไม่มีใน“อดีต” ไม่มีใน“อนาคต”

ขอย้ำ ..“บุญ”เกิดนอก“ขันธ์ 5”ก็ไม่มี“บุญ”มีขึ้นได้ในขณะที่คนผู้สามารถทำ“พลังงานจิตนิยามของตนจนเป็น‘บุญ’ในปัจจุบันของกาล”ที่มีพร้อมทั้ง“ขันธ์ 5”นี้ เท่านั้น ทุกปัจจุบันที่“ทำ” จนชำระกิเลสมีประสิทธิผลได้ คือ“บุญ”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561
ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู (สมาธิพุทธ) ตอน บุญคือ อธรรม มิใช่ ธรรมะ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 15:02:45 )

บุญเก่าบุญใหม่ไม่มี มีแต่บุญปัจจุบัน

รายละเอียด

อาตมาหยิบสภาวะมาขยายเป็นภาษาไทยๆแปลให้ฟังแต่ละคำ บุญเก่า มันเป็นคำสองคำ คำว่า บุญตามมาใหม่ บุญเก่าตามมาไม่มี บุญเก่าไม่มี บุญมีแต่บุญปัจจุบัน จะเรียกว่าใหม่ก็ใหม่ปัจจุบัน หมดปัจจุบันแล้วไม่มีบุญ อนาคตยังมาไม่ถึง คุณกำลังทำพลังงานฆ่ากิเลส ขณะนี้มันกำลังทำสงคราม สรณะ ประกอบสงครามกันอยู่เลย กำลังทำปฏิกิริยาของเหตุปัจจัยที่กำลังเกิดทันทีทันใดบัดนี้ คุณก็ล้างกิเลสขณะนี้ปัจจุบัน มันก็คือพยายามสร้างพลังงานให้เป็น ไฟฌานขึ้นมาล้าง สู้กับกิเลสทำลายกิเลส คุณทำลายกิเลส จบได้ เผด็จศึกได้ จึงชื่อว่าบุญ ฌานกับบุญ ตัวเดียวกัน แต่คำว่าบุญมันคือตัวสำเร็จงานของฌาน ไฟเท่านี้ จัดการสลายกิเลสสำเร็จเรียกว่า บุญ 

เพราะฉะนั้นคำว่าบุญเก่าและบุญใหม่เป็นพยัญชนะที่คลุมเครือ ถ้าไม่รู้สภาวะแล้วอ้างอธิบาย บุญเก่าบุญใหม่ จะอธิบายไม่ได้ง่ายๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 19:14:22 )

บุญเปรียบเป็นระเบิดปรมาณูคุณภาพขั้นสุดท้าย

รายละเอียด

อาตมาก็มองตัวเองเป็นจริงอย่างที่ท่านฟ้าไทเข้าใจหรือไม่ มันเป็นจริงไหมว่าอาตมาเป็นอย่างนี้ แต่ทำไมเขาไม่รู้นะ เขาก็รู้แต่ทำไมเขาไม่รู้อย่างที่เราบอก เราอธิบายสาธยายจนแย่ เหนื่อย ทำงานมา 50 กว่าปีแล้ว ทำไมเขาไม่รู้นะ เขาก็ฉลาด ทำไมเขาไม่รู้ เราก็ทบทวนไอ้ที่เรารู้มันดีจริงหรือเปล่า อาตมาว่าก็ไม่มีอะไรจะตรวจสอบนอกจากพระไตรปิฎก ตรวจสอบมันก็ตรง ก็พระไตรปิฎกคำเดียวกัน ประโยคเดียวกัน วลีเดียวกัน กายเป็นต้น บุญเป็นต้น สมาธิก็คงเข้าใจได้ง่ายกว่า กายก็ยากกว่า บุญก็ยาก ทำไมเขาเข้าใจอย่างเราไม่ได้ เอามาอธิบายให้พวกคุณฟัง กาย มันเป็นอย่างนี้นะ บุญมันเป็นอย่างนี้นะก็เข้าใจกัน กายก็ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองที่มีคุณสมบัติสำคัญ แต่มันไม่มีฤทธิ์มาก แต่ว่าบุญมีฤทธิ์มากเพราะมันมีฤทธิ์ฆ่ากิเลส เพราะว่าบุญมันมีปัญญาในตัวของมันเอง มันแยกกันไม่ได้ ปัญญานี้มันมารวมกันตั้งแต่ฌาน บุญนี่เป็นตัวยิ่งใหญ่ตัวสุดท้าย ถ้าเป็นระเบิดปรมาณูก็เป็นระเบิดปรมาณูคุณภาพขั้นสุดท้าย เมื่อระเบิดตูมแล้วมันก็หาย ไม่มีพลังงานที่เหลืออยู่เลย ถ้าระเบิดปรมาณูระเบิดแสดงอำนาจสูงสุดจบ พลังอำนาจที่ใหญ่สูงสุดนั้นมันไม่เหลือ หมดหายไปแล้ว ก็เหลือแต่พลังงานความร้อนแสงเสียงแม่เหล็กไฟฟ้าที่เหลืออยู่ ตกค้างอยู่ ดีไม่ดีก็ยังเป็นพิษเป็นภัยต่อมนุษย์อยู่กับร่างกายมนุษย์ได้เป็นกัมมันตภาพรังสีอะไรพวกนี้อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 10:35:38 )

บุญเป็นนักฆ่าพลังงานฌานเป็นอาวุธ

รายละเอียด

ไม่ต้องเปรียบหรอก มันเป็นอย่างนั้นเลยอย่างที่คุณพูด บุญ เป็นนักฆ่าใช้พลังงานฌานเป็นอาวุธ ฆ่าพลังงานโลภะโทสะโมหะ

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2563 ( 14:59:07 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 13:03:25 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 08:04:35 )

บุญเป็นพลังงาน

รายละเอียด

พลังงานที่กำจัดกิเลสได้นั่นแหละบุญ กำจัดนิดหน่อยก็ได้ส่วนแห่งบุญ กำจัดหมดสิ้นอาสวะแล้วก็หมดบุญ พระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ทุกองค์เป็นผู้สิ้นบุญสิ้นบาป ผู้ใดไม่เข้าใจความหมายและสภาวะจริงของบุญ คนก็จะยิ่งอยากได้บุญ หาบุญมาใส่ตัว คนนั้นเป็นคนงมงายไม่รู้เรื่อง บุญเป็นเครื่องมือฆ่าแล้วเอามาไว้ทำไม ไม่ได้ฆ่าอะไรนอกจากฆ่ากิเลสแก่ตัวเอง แสดงว่าตนเองมีกิเลสอยู่ จึงเอาเครื่องมือฆ่ามาไว้กับตัว ถ้าหากทำถูกวิธี กิเลสนั้นก็มาอยู่ในตัวคุณอีก แล้ว บุญมีลักษณะจริงที่ทำหน้าที่เสร็จแล้ว ก็จบกิจไม่มีอยู่

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2562


เวลาบันทึก 13 กุมภาพันธ์ 2563 ( 15:53:21 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:12:49 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 08:05:02 )

บุญเป็นพลังงานชำระกิเลส

รายละเอียด

บุญเป็นพลังงานที่ไม่หมุนเวียนเป็นพลังงานที่ใช้ชำระกิเลสในทุกปัจจุบันเท่านั้น ทำลายกิเลสหมดจดแล้วไม่มีบาปให้ทำอีกบุญก็จะไม่มีเลยเรียกว่าสิ้นบุญสิ้นบาป คำว่า อปุญญาภิสงขาร คนที่ไม่มีภาวะสัจธรรมโลกุตรธรรมจะไปแปลอปุญญาภิสังขารว่าสังขารเป็นบาปอีก คนที่ไปแปลอย่างนี้ก็รู้แล้วว่าเขายังไม่มีสภาวะโลกุตรธรรม ถ้าหากว่าต้องวนเวียนเป็นบาปอีกก็จะไม่มีกิเลสสูญนิพพานไม่มีเลย บุญมีหน้าที่ตัดกิเลสอย่างเดียวตัดกิเลสแล้วจบ จึงมีการสิ้นบุญสิ้นบาป พระพุทธเจ้าบอกว่าเราเป็นผู้ที่สิ้นบุญสิ้นบาปแล้ว ท่านได้ตรัสพยัญชนะอย่างนี้เลย แม้แต่พระอรหันต์ พระโมฆราชว่า อาตมาสิ้นบุญสิ้นบาปแล้ว (ปุญญปาปปริกขีโณ) คนที่เข้าใจสภาวะธรรมถึงขั้นสิ้นบุญสิ้นบาปแล้วไม่ได้ก็ยังไม่ใช่อรหัตตผล ไม่รู้จักนิพพาน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 24 พฤศจิกายน 2562 ( 12:31:03 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:13:38 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 08:05:30 )

บุญเป็นพลังงานตัวปลายของฌานที่เป็นปัญญาตัวสุดท้าย

รายละเอียด

บุญนี้จบในตัวเอง บุญมีเส้นตรงเส้นเดียว มีแต่ฆ่ากิเลสอย่างเดียว บุญเป็นพลังงานตัวปลายของฌาน ฌานคือพลังงานไฟ พลังงานที่มีฤทธิ์ มีอำนาจ มีคุณสมบัติเป็นไฟ เหนือกว่าไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ เพราะฉะนั้นผู้ที่สัมมาทิฏฐิทำฌานเป็น มีฌานวิสัยที่เป็น อจินไตย คาดคิดเดาไม่ได้ ปุถุชนไม่รู้ฌานวิสัยที่เป็นอจินไตยของพระพุทธเจ้าได้ง่าย เข้าใจแต่ฌานโลกีย์ แต่ฌานโลกุตระเข้าใจไม่ได้ คำว่าฌาน เข้าใจไม่ได้ง่ายๆ 

ฌาน คือปัญญา ปัญญาคือฌาน 

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ฌานอยู่ที่ไหนปัญญาอยู่ที่นั่น ไม่มีปัญญาก็ไม่มีฌาน ไม่มีฌานก็ไม่มีปัญญา ฌานกับปัญญาหรือบุญก็ต้องเป็นตัวปัญญาแท้ ปัญญาสุดท้าย ตัวที่ตีหัวเข้าบ้านเป็นตัวจบ เป็นพลังงานฌานอันสรุปผล อันนี้เดาไม่ได้นะ หากไม่มีสภาวธรรมแท้ก็จะไม่เข้าใจ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 4 วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564 แรม 2 ค่ำเดือน 7 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 กรกฎาคม 2564 ( 11:22:36 )

บุญเป็นพลังงานแค่ไฟกับลม

รายละเอียด

บุญคือสภาวะพลังงานที่เป็นพลังงาน อะ อิ อุ เป็นสามเส้า พวกนี้สร้างขึ้น อะ อิ อุ เป็นเส้าหนึ่ง เป็นวงวนหนึ่งพลังงานลม กับไฟ มีประสิทธิภาพ อุณหธาตุ สามารถ ล้าง ราคะโทสะโมหะ ได้ มันไม่ใช่จิตดี บุญไม่ใช่จิต วันนี้จะบอกว่า เป็นอุตุก็ไม่ใช่ ดินไม่ใช่น้ำ เป็นพลังงานแค่ ไฟ กับลม เป็นพลังงานที่เอามาทำงานแป๊บเดียว แล้วสลายทันที ลมคือแรง ไฟคือร้อน มันมีประสิทธิภาพของมัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:25:48 )

บุญเป็นวิบัติไม่ใช่ไปสั่งสมเป็นสมบัติ

รายละเอียด

ทั้งๆที่บุญนี้เป็นวิบัติ เป็นตัวทำให้วิบัติ ไม่ใช่ไปสั่งสมเป็นสมบัติ เป็นตัวที่ปฏิบัติให้สลายหายสูญไป ไม่ใช่เป็นตัวปฏิบัติให้เจริญงอกงามไพบูลย์ ไม่ใช่ นี่คือสัจจะที่ไม่ใช่จะรู้ได้ง่ายๆ เดาเอาไม่ได้ ถ้าไม่มีภูมิรู้และปฏิบัติจนถึงผล จนรู้ได้เองแล้วจึงจะชัดเจน ถึงจะมั่นใจถึงจะพูดถูกไม่มีผิดเพี้ยน ไม่มีอะไรแย้งกับพระพุทธเจ้าเลย ตรงกับพระพุทธเจ้าหมด แล้วรู้โลกโลกะวิทู เพราะฉะนั้นจะเป็นโลกเล็กโลกใหญ่หมุนเวียนจนถึงขั้นโลกที่เป็นรูป โลกที่เป็น กามโลกเป็นอบายต่ำสุด หมุนเวียนอยู่ในโลกต่ำ ฆ่ากิเลสที่ไปติดโลกต่ำๆได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 46 จรณะและวิชชาคือพุทธคุณภาคปฏิบัติ วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 พฤษภาคม 2565 ( 19:06:24 )

บุญเป็นศัตรูของอกุศลจิตเท่านั้น

รายละเอียด

บุญเป็นศัตรูของอกุศลจิตเท่านั้น มีหน้าที่จัดการกับเจ้านี่เท่านั้น มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ต้องจัดการ บางทีทำไม่ได้รอบนี้ต้องทำต่ออีกสร้างขึ้นมาอีกเสริมขึ้นมาเรื่อยๆ

ที่เขาบอกว่าบุญเป็นสิ่งดี แต่อาตมาขยายความ บุญไม่ใช่ภาวะที่ดีเลยบุญเป็นภาวะที่ร้าย หมายถึงภาวะปรากฏการณ์ในเหตุปัจจัยนั้นๆ เป็นพลังงานที่สร้างได้ในปัจจุบัน ทำงานเสร็จแล้วก็หายวับ ไม่เสร็จก็หาย คุณสร้างใหม่ในปัจจุบันใดมันก็เกิดมาทำงาน ทำงานได้ถึงขั้นไหนก็แล้วแต่ บางทีทำลายยังไม่ได้ ก็ไม่ถึงกับบุญ เป็นแค่ แบ ก็ บะ บา บิ บี ยังไม่บุญเลย ก็เป็นพลังงานที่ไม่ถึงขั้น บุญ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:29:45 )

บุญเป็นอธรรม

รายละเอียด

ซึ่งถ้าจะพูดให้ถูก “บุญ”เป็น“อธรรม” ด้วยซ้ำไป  นี่คือ“ความจริง”แท้ๆทีเดียว

เพราะ“บุญ”ไม่เคย“ทรงอยู่-ทรงไว้” ณ สถานที่ใด แม้แต่ใน“กาละ”ก็ทรงแค่เฉพาะ “พลังงาน”เท่านั้น อยู่ เป็นกิริยา-อาการ”ให้สามารถ“ศึกษา”ได้ ไม่สถิตย์เสถียรเลย“บุญ”จึงมิใช่“ธรรม”ที่จะมีอยู่ใน“อดีต”ยิ่ง“อนาคต” “บุญ”ยิ่ง“เกิดไม่ได้”แน่ๆ

“บุญ”เป็นพลังงานที่“ไม่สถิตย์อยู่ข้ามปัจจุบัน” แม้จะเป็น“อรหันต์”แล้วปานใด“บุญ”จึง“ไม่สถิตย์”เด็ดขาด แม้ท่านจะเป็น“อรหันต์หรือพระพุทธเจ้า”สำเร็จแล้ว “บุญ”ก็ไม่สะสมเป็น“อัตตา”ทั้งนั้น อย่าเผินๆตื้นเขินหลงว่า อรหันต์หรือพระพุทธเจ้าคือ ผู้“มีบุญ”เป็นอันขาด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:50:31 )

บุญเป็นอาวุธฆ่ากิเลส

รายละเอียด

บุญ ไม่ใช่สิ่งที่คนควรจะมีเพราะว่าเป็นอาวุธที่ใช้ฆ่ากิเลส อาตมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะว่าศาสนาพุทธนั้นได้ผิดเพี้ยนไปจนเสื่อม จึงต้องพูดอย่างหนักเหนื่อยและยาก เปิดคอลัมน์หนังสือเราคิดอะไร ชื่อ เปิดยุคบุญนิยมจนกระทั่งหนังสือปิดไปแล้ว ก็กำลังจะรวมเล่มคอลัมน์ 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 24 เมษายน 2563 ( 14:28:13 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:33:21 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:54:58 )

บุญเป็นเพชฌฆาตมือสุดท้าย

รายละเอียด

สรุป ยุคนี้เขาไม่รู้จักบุญก็ต้องมาเปิดยุคบุญ ให้รู้ให้เข้าใจทำใจในใจทำบุญให้สำเร็จ จะเข้าใจบุญว่าเป็นผลงานสำเร็จของตนที่ทำได้ คือมันรู้จักกิเลส มันมีอำนาจมีพลัง มีสมรรถนะมีประสิทธิภาพ ทำให้กิเลสตายไป เป็นเพชฌฆาตมือสุดท้าย ฌาน เป็นเพชฌฆาตมือ 1 2 3 บุญ เป็นเพชฌฆาตมือที่ 4 ฟันฆ่าตัดคอมาแล้ว มือ 1 มือ 2 มือ 3  มือที่ 4 ตัดเอง ตายสนิท เกิดสามเส้ามาสู่เส้าที่ 4 แค่อธิบาย 1 2 3 4 ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อาตมาพยายาม อย่าว่าแต่เรื่องบุญเรื่องกาย อาตมานำมาขยายทั้งพยัญชนะสภาวธรรม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาความเข้าใจเรื่องกายของอ.แปลง วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2564 ( 14:11:58 )

บุญเป็นโลกุตรธรรม

รายละเอียด

เพราะฉะนั้น สันดานของปุถุชนคนที่ยังไม่ได้ศึกษาทุกคนไม่ว่าศาสนาไหน ถ้าไม่ได้เรียนรู้จิตเจตสิกที่มีกิเลส ล้างกิเลสออกจนกระทั่งหมดจากสันดานแล้ว ไม่ว่าศาสนาไหนศาสนาเทวนิยม ยังไม่มีคนสักคน ไปเรียกนักบุญอะไรต่างๆ นักบุญเทเรซาเช่นนี้ เป็นต้น 

เอาคำว่าบุญของพระพุทธเจ้าไปใช้ผิด ไม่ได้เคยเรียนรู้กิเลส ไม่ได้เคยสัมผัสกิเลสเป็นอะไรเลย แม้แต่ชาวพุทธ ทุกวันนี้ก็เรียกคำว่าบุญ พูดกันไปเลอะเทอะ ไปหมายถึงกุศลไปหมายถึงคุณงามความดี ที่เป็นโลกียธรรม บุญนั้นมันเป็นโลกุตรธรรม มีในศาสนาพุทธศาสนาอื่นไม่มีหรอก อันนี้เป็นความรู้ที่มันเสื่อม ความรู้ที่คนเสื่อมไปจากความรู้ของพระพุทธเจ้านี้ไป ทุกวันนี้มันเสื่อม นี่แหละคือความเสื่อมของศาสนาพุทธ 

เพราะฉะนั้นที่พูดกันอยู่ในวงการของศาสนาที่บอกว่าทำบุญ ทำบุญ ทำบุญ อาตมาว่า 100 ทั้ง 150 ผิดหมด ไม่ใช่ 100 ทั้ง 100 นะ 100 ทั้ง 150 ที่ว่า 100 ทั้ง 150 ก็คือว่าในร้อยคนที่เข้าใจผิดนั้น ไปทำความออกนอกรีตที่บานปลายออกไปอีกเกินกว่าที่เคยผิดมา ฉลาด โง่ ฉลาดที่เป็นความผิดฉลาดโง่ ฉลาดที่เป็นความผิด มากเกินกว่าอาจารย์เก่าอีก ปรุงแต่งวิธีการบอกว่าเป็นการแสวงบุญมาทำบุญ ขี้หมาอะไรก็ไม่รู้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนาธรรมส่งท้ายปีเก่า 2565 งานตลาดอาริยะครั้งที่ 41 วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ขึ้น 9 ค่ำเดือน 2 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 มกราคม 2566 ( 14:08:41 )

บุญเป็นโลกุตระ 100 % อย่างไร

รายละเอียด

อีกนัยสำคัญหนึ่งก็คือ “บุญ”นี้มิใช่แม้แต่แค่จะเป็น“ธรรมะ” ..ตรองตามดีๆ 

เพราะ“บุญ”นั้นไม่“ทรงอยู่”ไม่“ตั้งอยู่”“บุญ”ไม่ทรงไว้ ไม่ตั้งไว้ ณ ที่ใดเลย

“บุญ”เป็นแค่พลังงานที่ทำการในปัจจุบันนั้นๆเท่านั้น ทำเสร็จกิจแล้ว“บุญ”ก็ไม่ตั้งอยู่ ณ แดนใดเลย ไม่ทรงอยู่ ณ ที่ไหนๆทั้งสิ้น มีหน้าที่ทำงานใน“ปัจจุบัน”เท่านั้น และ“จบตนเองลงในทุกๆปัจจุบัน”ก็หมดสิ้น“บุญ”หายวับไป ไม่เหลือ“บุญ”อีกเลย

แล้ว“บุญ”จะ“สะสมตัวเอง”ตรงไหน?“บุญ”เป็นโลกุตระ 100 % ไม่มีตัวตนไปหลงเอา“ความไม่มีตัวตน”มาสะสม แล้วคิดว่ามันยังเป็น“บุญ” หรือเป็น“ของดี”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561
ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู (สมาธิพุทธ) ตอน บุญคือ อธรรม มิใช่ ธรรมะ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:49:35 )

บุญเป็นโลกุตระ เป็นวิบัติ

รายละเอียด

ทีนี้ เข้าสู่เนื้อของปรมัตถ์โลกุตระ ภาษาสองคำ คือคำว่านักบุญ กับนักกุศล นักบุญนี้แพร่หลาย แต่นักกุศลนี้ไม่แพร่หลาย แต่นักการกุศลนี้มี ถ้าบอกว่า เอาแต่แค่นักกุศลไม่ค่อยคุ้นหู แต่นักการกุศลนี้คุ้นหู นักบุญกับนักการกุศล 2 คำนี้ ถ้าเข้าใจสัจธรรมของพระพุทธเจ้าไม่บกพร่อง กุศล, การกุศลเป็นโลกียะเป็นสมบัติ บุญ เป็นโลกุตระ เป็นวิบัติ จะไม่มีใครเขามาพูดอย่างที่อาตมาพูดเลย อาตมาก่อนจะพูดอย่างนี้ได้และก็ไม่ตาย ถ้าอาตมาพูดอย่างนี้ตั้งแต่ 5 ปีที่บวชใหม่ๆอาตมาตายไปตั้งนานแล้ว เขาเอาตายเลย เขาจะบอกว่าไอ้คนนี้บ้าบอ มาบอกว่าบุญนี้คือนักฆ่า นักบุญคือนักฆ่า

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 07 มีนาคม 2564 ( 11:39:25 )

บุญเป็นโลกุตระเต็มรูปแบบ

รายละเอียด

แต่ก่อนเราเข้าใจคำว่าบุญก็ได้กุศล แต่เดี๋ยวนี้อีกอย่างนึง ที่จริงคำว่ากุศลมันก็ไม่ผิดมันเป็นความดีงาม แต่ความดีงามที่เป็นโลกียะเท่านั้น อาตมาเอามาอธิบายทุกวันนี้ไม่ใช่แค่กุศล แต่เป็นคนดีที่ยิ่งกว่าความดีมากมายมันไม่เป็นโลกีย์เลยมันเป็นโลกุตระเต็มรูปเพราะมันได้ครบ บุญแล้ว พลังงานบุญคือ สันตานัง ปุนาติ วิโสเทติ มันเป็นพลังงานที่กำจัดกิเลสจากสันดานให้บริสุทธิ์สะอาด เพราะฉะนั้น บุญ ถ้าพลังงานมันเกิดฌาน ฌานคือไฟโลกุตระ เป็นไฟที่จะมาฆ่าไฟโลกียะ ไฟราคะโทสะโมหะ อุณหธาตุ ไฟที่มีฤทธิ์สามารถกำจัดพลังงานราคะโทสะโมหะได้ เมื่อกำจัดได้หมด ก็คือบุญ บุญคือพลังงานพิชิตประหารกิเลสสำเร็จ เป็นนัยละเอียดที่รู้เพิ่ม หากว่ารู้ไม่เต็มไม่ครบบ้างก็ค่อยศึกษาไปให้รู้เพิ่มเติม 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช ครั้งที่ 85


เวลาบันทึก 19 มกราคม 2563 ( 15:32:22 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:14:39 )

บุญเหมือนกุศล เป็นมิจฉาทิฏฐิ

รายละเอียด

ซึ่งคำว่า“บุญ”คำนี้แหละที่“มิจฉาทิฏฐิ”กันมาก เพราะหลงผิดกันเยอะ มันยากมากจริงๆ ที่จะเข้าใจคำว่า“บุญ”นี้ได้  จึงเป็น“อจินไตย”แท้ๆ จึงมีการเข้าใจผิดกันว่า“บุญ”นี้ถ้าทำแล้วจะมี“ผล”เป็น“สมบัติ”ในชาตินี้หรือในชาติหน้า เหมือนกับ“กุศล”ประเด็นนี้แหละ “บุญเหมือนกุศล” นี้แหละ ที่มัน“ผิด”แท้ๆ “ผิด”จริงๆ“บุญ”ทำ“วิบัติ” แต่“กุศล”ทำ“สมบัติ”“ผิด”อย่างมหามหันต์เลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบอโศก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 28 มีนาคม 2564 ( 22:04:50 )

บุญแบบสัมมาทิฏฐิ

รายละเอียด

บุญเกิดได้เพราะคุณมีฌาน ฌานเป็นพลังงานไฟ พลังงานอุณหธาตุ พลังงานทำลายไฟ ราคะโทสะโมหะ ซึ่งก็เป็นของร้อน ฌานก็เป็นของร้อนยิ่งกว่า ทำลายราคะ โทสะ โมหะได้ ทำลายได้ก็เป็นบุญ บุญเป็นตัวจบของกิเลส ราคะ โทสะ โมหะ หมดแล้วก็ อปุญญาภิสังขาร จากนั้นก็ยังต้องปรุงแต่งมีกรรมกิริยาทำงานอยู่ก็ทำงานสั่งสมเป็นความตั้งมั่นไม่หวั่นไหว เป็นอเนญชาภิสังขาร 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 05 มีนาคม 2563 ( 13:34:38 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 13:04:01 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:51:49 )

บุญแปลว่า Big cleaning 

รายละเอียด

เข้ากับยุค ทันสมัยเปี๊ยบเลย ใช่ บุญคือ การทำให้จิตสะอาดบริสุทธิ์ Big cleaning มหาBig cleaning เลย ไม่ใช่ Big cleaning แต่ Great cleaning เลย 

สุดยอด ทำความสะอาดให้จิตปราศจากกิเลสละอองธุลีเท่าไหร่ หมดไม่เหลือ เป็นจิตแท้ๆเหลือแต่จิตแท้ๆแล้วบุญก็ไม่อยู่แล้ว บุญประหารตัวที่เป็นตัวร้ายกับจิต ทำลายเสร็จแล้วบุญ ไม่ทวงหนี้ ไม่เอาบุญเอาคุณอะไรเลย บุญทำสำเร็จแล้วหายไปเลย ผลสำเร็จเป็นจิตสะอาด บุญหายไปเลย ผู้ที่ช่วยเรา ผู้ที่ช่วยประหารตัวร้าย ประหารตัวกลิ เอ้า ไปไหนแล้วตัวช่วย หายไปเลย 

คุณลักษณะของบุญนี่แหละ เป็นตัวที่ทำงานแล้วไม่เป็นตัวตน ไม่ทวงบุญคุณ ไม่เห็นตัวหายไปเลย ซ้อนลึกไหม รู้จักหน้าตาของบุญ สูงขึ้นอีกไหม One way Traffic บุญนี่ ทำงานหน้าที่เดียว เอกังสะ โดยส่วนเดียว ไม่มีโค้ง ไม่มีงอ ไม่มี Boomerang ไม่มี loop ไม่มี turn อะไรเลย ไม่โค้งไม่งอ ไม่กลับไม่วกกลับ ไม่วนอะไรเลย 

อสังกุปปัง ไม่กลับกำเริบด้วย จบในตัวเลย เป็นหนึ่งยิ่งกว่า 1 หนึ่งเดียว เอกังสะ 1 เสร็จแล้วก็เป็นศูนย์เลย หายไปแล้วผู้ช่วยเรา ยิ่งกว่านายชัช อุบลจินดา ที่ช่วยฝรั่งขึ้นจากโคลน ได้โดยตัวเองนอนราบ ให้ฝรั่งผัวเมียขึ้นมารอดได้ เสร็จแกก็ลุกไปหายจ้อย พายเรือหนีไปเลย นี่คือลักษณะ เป็นอจินไตยอันนึงในประเทศไทย คนไทยแสดงให้ฝรั่งเห็น แล้วก็กระจายไปทั่วโลกเลย เป็นเรื่องดี เป็นเรื่องประเสริฐ คนเข้าใจแล้ว เข้าใจถึงความไม่มีตัวตน  เข้าใจถึงความเป็นบุญ บุญ ทำพลังงานจิตที่ทำงานฆ่ากิเลสแล้ว หายตัวไปไม่มีใครเห็นเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศนากัณฑ์พิเศษ เริ่ม 53 ปี โพธิกิจ ยังเป็นรองต้องอุตสาหะ วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 19:15:57 )

บุญและกุศล

รายละเอียด

การรับคำสรรเสริญ ก็เหมือนกับคำว่าบุญ คำว่าบุญนี้คนเขาเข้าใจว่าเป็นความดี ที่จริงมันก็ใช่ ความดีก็เป็นกุศลแต่เป็นโลกียะ ส่วนบุญนั้นเป็นโลกุตระ ซึ่งคนจะเข้าใจไม่ได้ง่ายๆเลย แยกแยะระหว่างบุญกับกุศล แยกแยะระหว่างวิบัติกับสมบัติ แยกแยะระหว่างสิ่งที่มีกับไม่มี แยกระหว่างความเป็นในปัจจุบันธรรมจบแล้วหายตัว กับความเป็นในปัจจุบันไม่หายตัวก็มีสั่งสมวิบากก็มี  กุศลเป็นขึ้นมาแล้วกรรมก็เป็นอันทำ จะเป็นกรรมชั่วก็สะสมกรรมดีก็สะสมไม่มีปัญหา กรรมดีหรือกรรมชั่วแม้นิดน้อยหนึ่ง ก็สะสม 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 12 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 05 กันยายน 2563 ( 09:22:38 )

บุญใช้ดับสิ้นอาสวะไม่เกี่ยวกับอนุสัย

รายละเอียด

พอปุญญะนี่มาลงตรงนี้ จบตรงนี้สั้นๆก่อนก็แล้วกัน ปุญญะ จบพลังงานฌานแล้วมาจบที่ปุญญะ เสร็จหน้าที่ คำว่าปุญญะ หมดหายไป พยัญชนะ คำว่าปุญญะพอจบกิจ ทำให้อาสวะสิ้น 

คำว่าอาสวะสิ้นเท่านั้น เป็นหน้าที่ของบุญ ส่วนอนุสัย ไม่ต้องเกี่ยวกับบุญ ไม่ต้องเอาบุญมาพูดกับอนุสัย เพราะฉะนั้นคำว่าอนุสัยนั้น ก็เข้าใจเป็นคนโลกีย์ ไม่เป็นคนโลกุตระก็เข้าใจคำว่าอนุสัยเหมือนกับอาสวะ ก็พยัญชนะสองตัว มันจะเหมือนกันได้อย่างไร 

จัดหมวดอาสวะก็เข้าไปในสังโยชน์ 10 ส่วนจัดหมวดอนุสัยก็เป็นอนุสัย 7 

สภาวะภายในที่มันจะเป็นลำดับก็ต่างกัน อนุสัย 7 กับอาสวะ 10 ไม่เหมือนกัน แม้แต่ 3 อาสวะแรก สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส ของอาสวะมี แต่อนุสัยไม่ต้องเพราะในอนุสัยมี 3 อย่างนี้แล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 05:17:42 )

บุญในการปฏิบัติไตรสิกขาคืออย่างไร

รายละเอียด

“บุญ”ในการปฏิบัติ“ไตรสิกขา” คือ ทำตาม“ศีล”ที่ผู้นั้นๆกำหนดสมาทานของตนๆ เท่าที่พอสมควรกับ“ฐานะ”ตน

หนึ่งสัตว์คน สองสิ่งของ สามรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสภายนอก เอาแค่นี้ก่อน เรียนรู้ไปตามศีล อย่าไปตะกละอวดดี ทำไปแต่ทีละน้อย ถ้าสามข้อนี้ได้ครบสภาพภายนอก แบ่งไว้แล้ว

หนึ่งสัตว์ สองของอุตุนิยาม+พีชนิยาม สามผัสสะ ก็ผัสสะกับอุตุ พีชะ จิตนิยาม ผัสสะทางตาก็คือรูป รส กลิ่น เสียงสัมผัส กายสัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็ง พระพุทธเจ้าเรียบเรียงรวบรวมไว้หมดแล้ว อย่าไปตะกละทำมากมายเลอะเทอะเละเทะ ให้เป็นลําดับอันน่าอัศจรรย์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561
ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู (สมาธิพุทธ) ตอน บุญคือ อธรรม มิใช่ ธรรมะ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:54:48 )

บุญไปทางเดียวเป็นนิวเคลียร์ฟิชชัน

รายละเอียด

การไปการมา ก็เป็นสภาวะของทุกอย่าง ลมออกลมเข้าก็ไปๆมาๆ ก็มีทิศทาง 2 ทางอนุโลมปฏิโลม เป็นธรรมชาติ ใช่ระบบจราจรไหม ใช่ การจราจรที่บอกว่า One Way Traffic คือบุญ มันไปทางเดียวนะ คุณจะสวนไปสวนมาไม่ได้นะมันผิด แล้วเป็นทางเดียวยังไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี loop ไม่มี turn ที่โค้งที่งอเลย “บุญ” เป็น One Way Traffic ที่เป็นนิวเคลียร์ฟิชชัน ไม่ใช่นิวเคลียร์ฟิวชั่น เป็นพลังงานตรงถ่ายเดียวสูงสุด ค่อยๆเรียนไป 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 49 ตอบไทยรัฐทีวีเรื่องสมุนไพรกับการพึ่งพาตนเอง วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 กันยายน 2565 ( 15:22:13 )

บุญไม่ต้องอยากได้แต่ต้องผลิตขึ้นมาให้ได้

รายละเอียด

ที่อาตมาอธิบายนี้ไม่ใช่ภาวะ ภาวะที่ปรากฏเป็นภาวะดีไม่ใช่ ไม่ใช่สิ่งดี แต่เป็นพลังงานที่ร้าย มันไม่ใช่ดีเลย หากไปเข้าใจว่าดี ก็เลยไปอยากได้ คุณไม่ต้องอยากได้ แต่เรียนรู้เพื่อสร้างพลังงานนี้ขึ้นมาในจิตในปัจจุบันนั้นให้ได้ มันไม่ใช่ไปซื้อได้ตามร้านขายยาหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ไม่ใช่เป็นชิ้นเป็นอันจะไปหาเอาได้ในสวนในไร่นาในท่อนไม้ในสายลม ...มันไม่ใช่ ..มันเป็นพลังงานที่คุณจะต้องสร้างขึ้นในแต่ละคน ต้องผลิตพลังงานนี้ขึ้นมาให้ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:33:42 )

บุญไม่มี 2 มีแต่ 1

รายละเอียด

เพราะว่าบุญมันไม่มี 2 มันมีแต่ 1 บาปมันก็บาป ลักษณะคนไม่รู้บาปมันรวมทั้งอกุศลรวมทั้งกิเลส ทีนี้ ของพระพุทธเจ้าตรัสรู้กิเลสด้วย รวมทั้งกุศลและอกุศลบาปหรืออกุศลด้วย ก็ไม่ทำอกุศล แล้วก็ล้างกิเลสด้วย เมื่อล้างกิเลสหมด บาปก็หมด แต่กุศล อกุศล อกุศลหมดได้เหมือนกัน แต่มันไม่หมดกุศล มันก็ไม่จบ ก็มีแต่กุศล ทำแต่ดีๆๆๆ แล้วมันก็ไม่เที่ยง จะดีอย่างไรอย่างไร มันก็จะต้องตั้งอยู่กับไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ตั้งอยู่นานเท่าไหร่ก็ตาม มันก็ต้องถึงวาระเสื่อมได้ ไม่มีอะไรเที่ยง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 45 ออนไลน์
วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

นิพพานเป็นอย่างไร


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 15:28:54 )

บุญไม่มีชาติไม่มีภพ

รายละเอียด

“บุญจึงไม่มี“ภพ” ไม่มี“ชาติ”ตั้งขึ้นในที่ไหน นอกจากมี“อาการ”ในปัจจุบันแค่นั้น จะว่าเกิดว่าเป็นว่ามี ก็เกิด-ก็เป็น-ก็มีในขณะที่“พลังงาน”กำลังทำหน้าที่“บุญ” ณ  ปัจจุบันนั้น เท่านั้น  ทำหน้าที่เสร็จก็สิ้นไป จึงมิใช่“การเกิด”ที่เป็น“ชาติ”ข้ามชาติ “บุญ”จึงเป็น“พลังงาน”เพียงชั่วขณะ “ปัจจุบันกาล”เท่านั้น ก็จบตัวเองลง “หาชาติ-หาภพ”ของ“บุญ”ที่จะ“ข้ามปัจจุบัน”ไปไม่ได้เลยสัก“ภพ”สัก“ชาติ”  “บุญ”จึงแค่“อาสัย”เท่านั้น แม้“นิสัย”ก็มิใช่ ถ้า“อนุสัย”ก็ยิ่งไกล ถ้าจะมี“บุญใหม่” เจ้าของ“ชาติ”ใดต้องสร้าง“บุญ”นั้นขึ้นมาใหม่ “บุญ”นั้น“ดับชาติ-ดับภพ” มิใช่พาเกิด แต่ผู้ยังไม่มีภูมิสูงถึงขั้นเก่ง“อยู่เหนือ” (อุตตระ) วิภวตัณหา “ชาติ”เกิด“ภพ”เกิดทุกคน

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 21 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 06 มีนาคม 2564 ( 12:05:29 )

บุญไม่มีสองคืออย่างไร

รายละเอียด

คำว่าบุญนี้เป็นภาษาของศาสนาพุทธเป็นโลกุตระ บุญไม่มีสอง แม้บาป จะเกิดมาคู่กับบุญ จริงๆแล้วไปฟปุโลปุเลเท่านั้น เมื่อบุญทำงานเสร็จ บุญทำงานล้างบาป บาปคือกิเลสเพราะฉะนั้น ผู้ที่เกิดกิเลสแล้วกระทำกรรมขึ้นมา ปั๊บ ทำสำเร็จลง เกิดบาป บุญต้องกำจัดตัวนี้ บาป บุญจริงๆไม่ใช่กุศล บุญมีหน้าที่กำจัดบาป แต่เอาไปปนเปเลอะเทอะ บอกว่าบุญดี

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 12:37:29 )

บุญไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต บุญเป็นปัจจุบันเท่านั้น

รายละเอียด

บุญนี้ภาษาคำว่า ปุญญะ ระบุถึงสภาวะธรรมที่อาตมาอธิบายยังขยายความยากมากเลยที่จะเข้าใจตรงนี้ให้ถ้วนรอบ บุญไม่มีอดีต บุญไม่มีอนาคต บุญเป็นปัจจุบันเท่านั้น กรรมที่เป็นปัจจุบันคือบุญ แล้วก็ปัจจุบันที่เล็กที่สุดสั้นที่สุด น้อยที่สุด จิ๊กเดียวก็จบแล้วบุญ บุญนี้คือ พลังงานจิตที่ตัดขาดกิเลสได้ ชำระกิเลสได้ บุญต่อเนื่องจากฌาน 

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2563 ( 11:17:02 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:33:58 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:48:34 )

บุญไม่มีใครขอใครได้ บุญไม่มีใครแจกใครได้

รายละเอียด

บุญไม่มีใครขอใครได้ บุญไม่มีใครแจกใครได้ บุญเป็นอาการของพลังงานจิตผู้ที่ทำจิตให้เกิดพลังงานที่มันสามารถกำจัดกิเลสได้ ขณะที่ทำให้พลังงานจิตรู้จักกิเลสแล้วก็ชำระกิเลสลงไป กิเลสก็จางคลายลงไปเรื่อยๆ กิเลสจางคลายลงไปเรื่อยๆนี้เรียกว่า ฌาน พอกำจัดกิเลสลงไปได้เรื่อยๆ ได้เท่าไหร่ก็ได้ก็เรียกว่าได้ส่วนบุญ ได้ส่วนที่ถูกชำระได้กำจัดไปเท่านั้นเท่านั้นเรียกว่า ปุญญภาคิยา ได้ส่วนแห่งบุญที่ได้กำจัดกิเลสไป หากกำจัดกิเลสได้หมดสิ้นในเรื่องนี้เรื่องนี้ ก็เป็นบุญ การชำระกิเลสด้วย ฌาน สำเร็จผลจบเรียกว่า บุญ เป็นผู้ที่ทำบุญจบเป็นผู้ที่ทำบุญสำเร็จ เป็นผู้ที่ทำบุญได้จริง นี่คือนิยามคำว่า บุญ ทุกวันนี้เข้าใจคำว่าบุญหมายถึงเรื่องกุศล หมายถึงเรื่องสมบัติ หมายถึงคุณงามความดีที่เราได้ทำคุณงามความดีแล้วก็ได้เป็นสมบัติเป็นกุศล เพื่อที่จะให้เป็นเครื่องอาศัยในชีวิตในวิบาก ของอัตภาพซึ่งมันไม่ใช่ บุญคือชื่อของพลังงานที่ทำหน้าที่กำจัดกิเลส เสร็จ เรียกว่าบุญ ต่อจากฌาน

ที่มา ที่ไป

รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 30 มิถุนายน 2563 ( 17:12:46 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:34:33 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:46:12 )

บุญไม่ใช่กุศล

รายละเอียด

บุญไม่ใช่กุศล ผู้ที่มีการปรุงแต่งให้เกิด จิต เป็น รูปนามนี่แหละ ให้เกิดจิตเป็นสังขารนี่แหละ อย่างอภิ คุณมีคุณภาพถึงขั้นบุญคือชำระกิเลสได้ กิเลสก็ตาย กิเลสหมดแล้ว บุญก็หมด เป็นอปุญญาภิสังขาร เป็นอภิสังขารข้อที่ 2 คือไม่มีแล้วบุญ แต่ไม่ใช่ไปมีบาปอีกนะ กิเลสหมดแล้วจะไปมีบาปอีกได้อย่างไร แต่ผู้ไม่รู้ก็ไปติดในพยัญชนะ ก็ไปแปล อปุญญาภิสังขาร ว่า ไม่ใช่บุญ ก็ไปวงเล็บตามหลังว่าก็คือบาป อย่างที่ท่านประยุทธ์ ปยุตโตแปลแสดงว่าท่านไม่รู้ว่าบุญคืออะไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐิติ 7 ปฏิจจสมุปบาท และวิชชา 8 วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 วันแรม 14 ค่ำเดือนยี่ ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:27:56 )

บุญไม่ใช่ความดีแต่มีปัญญา

รายละเอียด

แม้แต่ศาสนาเทวนิยมก็ทำบุญไม่เป็น แต่เขาไม่รู้ไม่เข้าใจ เขาก็ขี้ตู่ เอาคำว่าบุญไปเรียก แปลบุญว่าทำความดี ซึ่งผิด บุญ ไม่ใช่ความดี ถ้าจะว่าแล้วเป็นความร้ายด้วย เป็นนักฆ่า บุญนี้เป็นนักฆ่าตัวยง แต่เป็นนักฆ่ากิเลสเท่านั้น ไม่ใช่ฆ่าดาษดื่น สะเปะสะปะไปทั่ว ไม่ใช่ 

บุญ รู้จักหน้าตาของกิเลสดี บุญ นี่มีปัญญา มีปัญญาฆ่ากิเลสได้ ตั้งแต่เริ่มชื่อว่าทำพลังงานเป็น เริ่มจัดการทำพลังงานจิตให้เป็น เป็นอะไร เป็นพลังงานที่มีฤทธิ์เรียกว่าไฟ แปลเป็นไทยว่า ไฟ ภาษาบาลีว่า ฌาน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บ้านราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจด้วยฌานทั้ง 4


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 12:03:15 )

บุญไม่ใช่ตัวดีเพราะอะไร

รายละเอียด

ถ้าเข้าใจลึกๆแล้ว บุญไม่ใช่ตัวดี บุญคือเครื่องประหาร เป็นกิโยติน เป็นเครื่องประหารหัวหมาของเปาบุ้นจิ้น น่ากลัว เป็นของน่ากลัวไม่ใช่ของดีเป็นของน่ากลัว เพราะฉะนั้นคนที่จำเป็นจะต้องสร้างพลังงานบุญนี้ให้ได้ เป็นของจำเป็นนะ ต้องสร้างพลังบุญให้เกิดให้ได้ ต้องสร้างสภาวะธรรมที่เป็นฤทธิ์ บุญเป็นผลของการสร้างฌาน ฌานคือพลังงานไฟ เผาไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ พอเผาได้ ก็เป็นบุญ เผาได้ไม่จบ ได้บางส่วน ก็เรียกว่าส่วนแห่งบุญ 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 19 พฤศจิกายน 2563 ( 12:40:27 )

บุญไม่ใช่ธรรม

รายละเอียด

 “จิต”ที่เป็น“ภาวะดี” เมื่อ“จิต”ได้ถูกชำระกิเลสออกไปเสร็จแล้ว “บุญ”คืออาวุธฆ่ากิเลส ก็หายไป 

“จิต”ส่วนที่ถูกชำระ“กิเลส”ออกไปจากจิตนั้นต่างหาก ที่เป็นจิต“เหลืออยู่” คือ“จิตดี” 

ก่อนที่“จิต”จะถูกชำระกิเลสออกไป ก็ยังไม่เป็น“จิตดี” “ภาวะดี”นั้นยังไม่เกิดขึ้น ก็ไม่มี“ภาวะดี”นั้น“ตั้งอยู่”หรือ“ทรงอยู่”

ธรรม คือ ภาวะ“ทรงไว้”หรือ“ตั้งอยู่” ก็มันยังไม่มีขึ้น มันก็ยังไม่มีภาวะ“ธรรม”นั้น 

“ธรรม”คือ “การทรงอยู่” คือ“มี”ใช่มั้ย“มี-ไม่มี”คนละสภาวะ คนละกาละกัน

ส่วนความเป็น“บุญ”นั้น มันแค่“กิริยาปัจจุบัน” เมื่อมันทำหน้าที่เสร็จ มันก็ดับไป

“บุญ”เมื่อเสร็จกิจ จบมันก็“ไม่มี”ทันที

“บุญ”ไม่ใช่อะไรที่“ทรงอยู่-ทรงไว้”เลย

ดังนั้น “บุญ”ก็ไม่ใช่“ธรรมะ” เห็นมั้ย!

“บุญ”ไม่ใช่สิ่งที่“ทรงอยู่-ทรงไว้”จริงๆ

ฟังใหม่อีกที..ฟังดีๆ  “บุญไม่ใช่ธรรม”

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ขั้นตอนการสร้างพลังงานบุญโดยพิสดาร วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 11 กุมภาพันธ์ 2564 ( 04:41:21 )

บุญไม่ใช่ธรรมอย่างไร

รายละเอียด

“บุญ”ไม่ใช่“ธรรม” ไตร่ตรองตามดีๆ

“บุญ”ไม่ทรงไว้หรือทรงอยู่ในที่ไหนๆเลย “บุญ”ทำหน้าที่ในปัจจุบันเสร็จก็จบแล้วหายวับไปทันที  ไม่มี“ฤทธิ์”เป็น“บุญ”

กล่าวคือ มันไม่มีประสิทธิภาพที่จะ“ฆ่ากิเลส”ได้อีกแล้ว “บุญ”จึงตกค้างอยู่เป็น “อดีต” แม้เป็น“ปัจจุบัน”ก็ไม่ได้เลย

แล้ว“บุญ”จะมีสภาวะเป็น“ธรรม”ได้อย่างไร? เพราะ“ความทรงไว้หรือทรงอยู่” ของ“บุญ” มันไม่มีอยู่แล้วออกอย่างนี้..หือ

เหมือนที่เคยเปรียบเทียบให้ฟังมาแล้วว่า “บุญ”เหมือน“ระเบิดปรมาณู” เมื่อใช้งานมัน ให้มันทำงานระเบิดไปแล้ว “ลูกระเบิดลูกนี้”ก็หมดความเป็นระเบิดไปสิ้น จะนำกลับมาใช้ระเบิดอีกไม่ได้แล้ว

มีก็แต่เศษระเบิด อันหา“ชิ้นดี”ไม่ได้

“บุญ”ไม่ใช่“ธรรม” ไตร่ตรองตามดีๆ

“บุญ”ไม่ทรงไว้หรือทรงอยู่ในที่ไหนๆเลย “บุญ”ทำหน้าที่ในปัจจุบันเสร็จก็จบแล้วหายวับไปทันที  ไม่มี“ฤทธิ์”เป็น“บุญ”

กล่าวคือ มันไม่มีประสิทธิภาพที่จะ“ฆ่ากิเลส”ได้อีกแล้ว “บุญ”จึงตกค้างอยู่เป็น “อดีต” แม้เป็น“ปัจจุบัน”ก็ไม่ได้เลย

แล้ว“บุญ”จะมีสภาวะเป็น“ธรรม”ได้อย่างไร? เพราะ“ความทรงไว้หรือทรงอยู่” ของ“บุญ” มันไม่มีอยู่แล้วออกอย่างนี้..หือ

เหมือนที่เคยเปรียบเทียบให้ฟังมาแล้วว่า “บุญ”เหมือน“ระเบิดปรมาณู” เมื่อใช้งานมัน ให้มันทำงานระเบิดไปแล้ว “ลูกระเบิดลูกนี้”ก็หมดความเป็นระเบิดไปสิ้น จะนำกลับมาใช้ระเบิดอีกไม่ได้แล้ว

มีก็แต่เศษระเบิด อันหา“ชิ้นดี”ไม่ได้

แล้ว“บุญ”มันจะเหลือความเป็น“บุญ”กันตรงไหน?..หา! ..ไตร่ตรองกันให้ดีๆเถิด

ซึ่งชาวพุทธทุกวันนี้“งมงาย”ในความเป็น“บุญ”ว่าคือ“สมบัติ”ที่ดี ก็สะสมกันนี่ 1 และ 2. เป็นสิ่งที่“ทรงอยู่(ธรรม)” สะสมได้ นี่อีกประเด็น ซึ่งมันผิดมหามหันต์ที่สุด

“บุญ”สะสมไม่ได้ “ไม่ทรงอยู่(มิใช่ธรรม)”

“ธรรม”ต่างหาก คือภาวะที่“ทรงอยู่-ทรงไว้”  แต่“บุญ”มิใช่เลย “บุญไม่ทรงอยู่” 

“บุญ”เป็นพลังงานเท่านั้น ทำงานในปัจจุบันเสร็จจบกิจก็หายวับไปกับตาทันที

“บุญ”จึงมีในปัจจุบันแค่นั้นเอง

แล้ว“บุญ”มันจะเหลือความเป็น“บุญ”กันตรงไหน?..หา! ..ไตร่ตรองกันให้ดีๆเถิด

ซึ่งชาวพุทธทุกวันนี้“งมงาย”ในความเป็น“บุญ”ว่าคือ“สมบัติ”ที่ดี ก็สะสมกันนี่ 1 และ 2. เป็นสิ่งที่“ทรงอยู่ (ธรรม)” สะสมได้ นี่อีกประเด็น ซึ่งมันผิดมหามหันต์ที่สุด

“บุญ”สะสมไม่ได้ “ไม่ทรงอยู่ (มิใช่ธรรม)”

“ธรรม”ต่างหาก คือภาวะที่“ทรงอยู่-ทรงไว้”  แต่“บุญ”มิใช่เลย “บุญไม่ทรงอยู่” 

“บุญ”เป็นพลังงานเท่านั้น ทำงานในปัจจุบันเสร็จจบกิจก็หายวับไปกับตาทันที

“บุญ”จึงมีในปัจจุบันแค่นั้นเอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561
ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู (สมาธิพุทธ) ตอน บุญคือ อธรรม มิใช่ ธรรมะ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:35:54 )

บุญไม่ใช่สมบัติ บุญเป็นวิบัติอย่างเดียว

รายละเอียด

พวกคุณเข้าใจได้กันไหม อาตมาอธิบายไปละเอียดลออแล้ว บุญ ไม่ใช่สมบัติ บุญ เป็นวิบัติอย่างเดียวถ่ายเดียวเป็น one way Traffic ท่าเดียว เอกังเสนะอย่างเดียว บุญนี่ 

บุญ มีหน้าที่ฆ่า ฆ่าแล้วก็จบ ฆ่าแล้วก็หยุดหมดหายไป ไม่สะสมไม่เป็นสมบัติ ถ้าเสร็จแล้วหมดหน้าที่ก็หายไปเลย ปริกขีโณ สิ้นไป 

นี่ อาตมาก็ใช้พยัญชนะใช้สภาวะอธิบายพวกนี้ เดาไม่ได้หรอก ต้องอาศัย อาตมาเป็นสัตบุรุษเป็นผู้รู้ในฐานะครู ผู้ที่ได้มาปฏิบัติค้านแย้งกับที่อาตมาอธิบายไปแล้วต่อต้านหาว่าไม่ใช่สัตบุรุษ เขาก็จะละอาย แต่พวกคุณไม่ได้เป็น พวกคุณก็ไม่ได้เกิดจะต้องมีอาการนี้ ที่จะต้องมีอาการละอาย ก็คุณไม่ได้เป็น ใครเคยเป็นบ้าง ดูถูกอาตมาเลย ปฏิเสธเลยแล้วมารู้ทีหลัง ไอ๊หยา! คุณจะก่อเกิดความละอายนั้นจริงๆเลยมีไหมใครเคยเป็นบ้าง ....มีคนยกมือไม่กี่คน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญา 8 ประการ 3 ข้อแรก โดยพิสดาร วันพุธที่ 9 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2565 ( 21:31:42 )

บุญไม่ใช่โลกอย่างไร

รายละเอียด

“บุญ”คือ “เครื่องใช้ฆ่ากิเลส” เมื่อใช้แล้ว บุญก็หมดหน้าที่ หายวับไปเลย

แต่ผู้มิจฉาทิฏฐิก็“วนกลับ”ไปเป็นว่า

มี“บุญ”นั้นสะสมกันแล้วกันอีกอยู่นั่นแหละ

“บุญ”ไม่ใช่“โลก” “บุญ”จะไม่“วนกลับ” ไปเป็น“โลก(วน)” บุญไม่เป็น“โลกีย์”อย่างนั้น

“บาป”มีใน“โลก” มีใน“โลกีย์”

แต่“บุญ”ไม่มีใน“โลก” ไม่มีใน“โลกีย์”

“บุญ”มีใน“โลก”ใน“โลกีย์”ไม่ได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561
ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู (สมาธิพุทธ) ตอน บุญคือ อธรรม มิใช่ ธรรมะ


เวลาบันทึก 15 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:45:12 )

บุพเพกตปุญญตา

รายละเอียด

บุพเพกตปุญญตา คนเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ บุพพะ กับ กตนะ 
กตะ ที่บุญ มันจัดการมาแล้ว กตะ แปลว่า เสร็จแล้ว จบแล้ว 
บุญที่ทำหน้าที่แต่ก่อน ชาติไหนก็แล้วแต่ คุณได้ทำพลังงานเป็นบุญกำจัดกิเลสนั้นหมดมาแล้วเสร็จแล้วนะ กตญาณ เสร็จแล้วจบแล้วได้แล้วนะ คุณไม่ต้องใช้บุญอีกแล้ว บุญไม่มีมานะ ซับซ้อนไหม คุณเสร็จแล้ว บุพเพกต บุญสำเร็จเรียบร้อยแล้วไม่มีมาอีกนะ มีแต่จิตสะอาดจากกิเลสอันนั้นมาอย่างแข็งแรง

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

ตอน กลียุค กับ บุญเก่าและบุญใหม่เป็นเช่นไร


เวลาบันทึก 06 มีนาคม 2564 ( 07:01:21 )

บุพเพกตปุญญตา

รายละเอียด

บุญเก่า บุญใหม่ ก็ยากที่จะเข้าใจกัน เมื่อกี้พูดถึงบุญเก่า บุญใหม่ 

เช่น บุพเพกตปุญญตา คนเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ บุพพะ กับ กตนะ 

กตะ ที่บุญ มันจัดการมาแล้ว กตะ แปลว่า เสร็จแล้ว จบแล้ว 

บุญที่ทำหน้าที่แต่ก่อน ชาติไหนก็แล้วแต่ คุณได้ทำพลังงานเป็นบุญกำจัดกิเลสนั้นหมดมาแล้วเสร็จแล้วนะ กตญาณ เสร็จแล้วจบแล้วได้แล้วนะ คุณไม่ต้องใช้บุญอีกแล้ว บุญไม่มีมานะ ซับซ้อนไหม คุณเสร็จแล้ว บุพเพกต บุญสำเร็จเรียบร้อยแล้วไม่มีมาอีกนะ มีแต่จิตสะอาดจากกิเลสอันนั้นมาอย่างแข็งแรง นี่คือบารมีของผู้ที่ทำ บุพเพกตปุญโญ 

เพราะฉะนั้นคำว่า ปุพเพกตปุญญตา คนไม่มีความรู้ละเอียดอย่างนี้ จะบอกว่าบุญมีแท่งมีก้อนมีแต่บุญเก่ามา ซึ่งบุญไม่มีตามมา ยากไหม? ...เงียบ แสดงว่ายาก บางคนบอกไม่ยาก เห็นไหมยาก ตรงที่ว่า ถ้าว่าไม่ยากทำไมไม่รีบตอบ แสดงว่า ยาก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 19:07:20 )

บุพเพกตปุญญตา อธิบายกันอย่างไร 

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นยิ่งไปถึงคำๆหนึ่ง อยู่ในหนังสือเปิดยุคบุญนิยม เล่ม2 ข้อ 486 หน้า 361 หัวข้อบอกว่า บุพเพกตปุญญตา อธิบายกันอย่างไร 

บุพเพกตปุญญตา ที่มีอยู่ใน จักรสูตร เล่มที่ 21 ข้อ 31 จักร 4 นั้น บรรดาผู้รู้ ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ได้แปล บุพเพกตปุญญตา หรือให้ความหมายกันมาว่า ความเป็นผู้ที่ทำบุญไว้ในกาลก่อน หรือ ความเป็นผู้มีบุญ ได้กระทำไว้แล้วในปางก่อน บุพเพ แปลว่า ปางก่อน อดีตที่ผ่านมาแล้ว ปุพพะ ปุพเพ แปลว่า ก่อน ปุพเพกต แปลว่าทำไปแล้ว เพราะฉะนั้น ความเป็นบุญที่ทำผ่านไปแล้วเกิดจากคนพวกนี้ 

ผู้ใดเข้าใจคำว่า บุญเป็นกุศลเป็นสมบัติ บุญก็คือสิ่งที่ได้มาใส่ตน ความเป็นบุญก็เติมเพิ่มขึ้นใส่อัตตาของตนเป็นสมบัติ ข้ามภพข้ามชาติมาด้วยเลย นั่นผิดถนัดแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ บุญนั้นก็ไม่ใช่วิบัติ อันหมายถึง ทำความฉิบหายให้กิเลสไป กิเลสเสื่อมสิ้นไปจากจิตผู้นั้นแน่ะ ก็จะกลายเป็นว่า ผู้นั้นทำบุญก็สะสมบุญ บุญ ก็เป็นสมบัติที่ยิ่งทำบุญ บุญก็ยิ่งมากขึ้น ๆ บุญก็ไม่ใช่วิบัติ บุญก็กลายเป็นตัวสมบัติ ก็เลยไม่เป็นอัน สิ้นบุญสิ้นบาป (ปุญญปาปปริกขีโณ) ก็เป็นอันไม่ได้สำเร็จ สิ้นบุญสิ้นบาปกันได้สักที 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมให้เกิดปัญญาเพื่อสละตัวตน วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 ธันวาคม 2565 ( 12:21:28 )

บุพเพกตเหตุวาทะ

รายละเอียด

คือ ลัทธิที่มีการยึดถือว่า ทุกคนมีวิบากกรรมเก่า มีสิ่งเก่าที่ได้กระทำไว้แล้วเป็นเหตุ เมื่อมีเหตุอย่างนี้แล้ว ก็ต้องเป็นไปตามนี้ ตายแบบนี้ อายุเท่านี้ แก้ไขไม่ได้

หนังสืออ้างอิง

 “สัจจะชีวิต ของ สมณะโพธิรักษ์ ภาค 4” “โพธิรักษ์”…“โพธิกิจ” น.172


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 15:39:14 )

เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2563 ( 07:18:26 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:22:34 )

บุพเพนิวาส

รายละเอียด

1. เป็นเรื่องที่เคยผ่าน เคยเกี่ยวข้อง หรือเคยเป็นมาแล้วจริง ๆ

2. เรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้วเมื่อกี้ วินาทีที่แล้ว เมื่อวานนี้ อาทิตย์ที่แล้ว ปีที่แล้ว หลายปีที่แล้ว หรือชาติที่แล้ว

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 3 หน้า 14, หน้า 187


เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2562 ( 12:26:18 )

เวลาบันทึก 28 พฤษภาคม 2563 ( 13:53:38 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:43:06 )

บุพเพนิวาสานุสติญาณ

รายละเอียด

1. การระลึกย้อนไปเพื่อรู้ว่าแต่ปางก่อน ๆ ที่เราจะเกิดมาเป็นคน เป็นร่าง เป็นกาย เป็นแท่งนี้ ท่อนนี้นั้น เราได้เกิดมามีร่าง มีกายเป็นอะไร(ก็เท่านั้น ไม่มีประโยชน์ทางธรรมอันเป็นที่สุดได้เลย)...

2. การระลึกได้ หยั่งย้อนไปได้ไกล ๆ ข้ามชาติ ข้ามภพ ข้ามช่วงชีวิต ข้ามร่างกายขันธ์นี้ไปได้มาก ๆ ชีวิต

3. การระลึกย้อนทวนอดีตมารู้ มาเห็น มาเข้าใจ

4. ญาณระลึกชาติเก่าก่อนได้

หนังสืออ้างอิง

ทางเอก ภาค 1 หน้า 15, ทางเอก ภาค 3 หน้า 179 - 180, เปิดโลกเทวดา หน้า 159


เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2562 ( 12:28:25 )

เวลาบันทึก 28 พฤษภาคม 2563 ( 13:58:09 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:40:54 )

บุพเพนิวาสานุสติญาณ

รายละเอียด

การระลึกถึงของเก่า ก็นึกถึงสิ่งที่เกิด สิ่งที่ดับแล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2562 ( 15:30:34 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:15:56 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:38:50 )

บุพเพนิวาสานุสติญาณ

รายละเอียด

มีปัญหาที่เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องชาติก่อน ศาสนาที่ไม่สามารถล่วงรู้เรื่องชาติที่แล้ว เพราะไม่รู้ชาติที่แล้วไม่ได้ มันเป็นเรื่องลึกซึ้ง เป็นบุพเพนิวาสานุสติญาณ เป็นญาณที่จะต้องระลึกข้ามชาติได้จริงๆ เป็นเรื่องยิ่งใหญ่จึงเป็นเรื่องยากมากเลย แต่มันต้องพูดแล้วต้องให้ความสำคัญจริงจัง อาตมาก็เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญต้องกำชับกำชา ไม่อยากให้ไปเติมไม่อยากให้ไปสร้างวิบากข้ามไปในชาติต่อๆไป ชาตินี้มันมาเป็นอย่างนี้แล้วก็หนักหนาสาหัสแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 16 พฤศจิกายน 2563 ( 09:58:18 )

บุพเพนิวาสานุสติญาณ

รายละเอียด

บุพเพนิวาสานุสติ คือ ระลึกถึงอดีตที่ผ่านมาแล้ว อดีตที่จะระลึกได้คือสิ่งที่เราผ่านมาเอง สิ่งที่ผ่านมากับตัวเราสิ่งที่เราได้สัมพันธ์ สิ่งใดที่เราได้สัมผัสผ่านมา ยิ่งเป็นชาติที่แล้ว เรียกว่าชาติแต่ปางก่อน เรานี่เกิดมาไม่รู้กี่ชาติแต่ปางก่อนกว่าจะมาได้ฟังธรรมะที่อาตมาพูด โลกุตระระดับนี้ ไม่รู้กี่ล้านชาติมาแล้ว เกิดเป็นคนเป็นอเวไนยสัตว์ก็มี เต็มโลก จะไม่มีสิทธิ์บรรลุธรรมะพระพุทธเจ้าเลย กว่าจะได้มารู้ศาสนาพุทธนั้น ยากแสนยาก คนในโลกนี้ 7 พันล้าน จะได้ยินเรื่องศาสนาพุทธไม่มากนักหรอก แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ แต่น้อยกว่าศาสนาอื่นๆเช่น อิสลาม คริสต์ หรือฮินดูยังมากกว่าพุทธเลย เพราะฮินดูนี้เก่าแก่มาก

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 26 ธันวาคม 2563 ( 09:52:15 )

บุพเพนิวาสานุสติญาณ

รายละเอียด

บุพเพนิวาสานุสติญาณ จิต ตามเกิด เป็นเทวดาเป็นสัตว์นรกเป็นมนุษย์อะไรก็แล้วแต่คุณก็ตรวจสอบความจริงพวกนี้ ตรวจเป็น จุตูปปาตญาณ ระลึกอันที่มันผ่านมาแล้ว เป็นบุพเพนิวาสานุสติญาณ ตรวจสอบกิเลสมันเกิดมันดับคือจุตูปปาตญาณ ไม่ใช่อธิบายไปเป็นตัวตนบุคคล เกิดเป็นบุพเพสันนิวาสอะไรตอน 2 โอย…พูดกันไปเป็นนิยาย มันก็เป็นนิยายเพราะว่าตัวเราเองก็คือตัวละครของนิยายจริงของเรามากี่ชาติต่อกี่ชาติ แล้วอยู่กับแต่ละชาติเกิดมา ทุกชาติ คุณก็บุพเพของคุณระลึกได้ 

แล้วจะไประลึกถึงชาติที่มันผ่านไปในชาตินี้มันง่ายหรือ… คุณก็ระลึกในชาตินี้ เมื่อวานนี้ ปีที่แล้ว เรื่องสารพัด นิยายของตัวเองตั้งแต่เกิดมาจนอายุป่านนี้ เกิดเรื่อง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส(โผฏฐัพพะ) โอย… เรื่องรักเรื่องใคร่ เรื่องชัง อะไรๆ แล้วแต่คุณจะมีอยู่ตามบารมีของแต่ละคน อย่างอาตมาในชาตินี้ไม่บู๊มีแต่เรื่องโรแมนติกอิสซึม ไม่มีพวกซาดิสซึมไม่มี ปลอดจากซาดิสซึม ไม่มีใครมาต่อยมาเตะเลยในชาตินี้ อย่างเก่งก็มีคนโยนแก๊สน้ำตา อาตมาก็เผลอเดินเข้าไปเจอมันก็แสบตา เป็นวิบาก 

ตรุษจีนก็ตรุษจีนไปสิจะไปเกี่ยวอะไร ที่พูดไปนี้เป็นพรทั้งนั้นฟังแล้วให้เข้าใจเอาไปปฏิบัติได้แล้วจะได้เป็นอรหันต์ จะมีผลอะไรที่สูงกว่านี้อีกละ อาตมาสอนให้เป็นอรหันต์ ฟังให้เข้าใจและปฏิบัติให้ได้ เป็นอรหันต์ให้ได้ ที่เขียนในหนังสือทุกเล่มนั่นแหละ ย่อก็เป็นศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติอยู่ในนี้หมด เอาละ เลยเวลาเขาไปแค่ 15 นาที เขาให้เลิก 19.30 ตอนนี้ 19.45 นแล้ว เอาแค่นี้ก็แล้วกันนะอย่าเพิ่งต่อเลย ไปพักก่อนก็แล้วกันพรุ่งนี้ว่าใหม่ พรุ่งนี้อาตมาจะไป เดินทางเข้าบ้านราช วันนี้ก็พบกันเท่านี้สาธุ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิญญาณฐิติ 7 ปฏิจจสมุปบาท และวิชชา 8 วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 วันแรม 14 ค่ำเดือนยี่ ปีขาล ที่บวรสันติอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2566 ( 14:22:58 )

บุพเพสันนิวาส

รายละเอียด

วาทกรรมก็เป็นอาวุธอย่างหนึ่ง ฟังคนจะเป็นนายกฯ พูดถูกต้อง เขาจะแยกทุกอย่างเท่าที่ดูแนวความคิดของว่าที่นายก ฟังแล้ว เขาจะทำไหวไหมนี่แต่เขาก็ยังหนุ่ม อาจจะเป็นนายกฯสัก 30 ปีได้ ก็คงแย่ ดูซิว่าเขาแยกแล้วจะจัดส่วนการแยกธาตุเหล่านั้น ดีหรือไม่ดีก็ไม่รู้ ประเทศไทยจะต้องมีผู้ที่มาทำงานนี้ให้แก่ประเทศหรือไม่ อาตมาก็ไม่ใช่คุณฟองสนานเนาะ ก็เลยรู้ไม่ได้ ไม่สามารถรู้ ไม่ใช่หมอมอ ไม่สามารถตัดสินรู้ได้ว่าเป็นอย่างนั้นได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ก็ยังเห็นเขากำลังทำ MOU กันเต็มที่ ผนึกพรรคต่างๆ พยายามอยากจะได้กระทรวงนั้น กระทรวงนี้ อะไรต่ออะไรอยู่คึกคักกัน 

มันดูบุพเพสันนิวาสจริงๆ มันเป็นเรื่องราวเหตุ นิทาน สมุทัยปัจจัยของโลกจริงๆเลย เป็นเรื่องราวของพฤติกรรมของมนุษยชาติในระดับประเทศ ไม่ใช่ในระดับครอบครัวเท่านั้น อยู่กับธรรมะก็ไม่ต้องไปวูบวาบกับโลกเขานักมันเป็นธรรมชาติของโลกฟังไปก็รู้ความจริงตามความเป็นจริงเขา 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 23 การเมืองไทยวันนี้คือ สงครามความรู้กับการกระทำ วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 3 ค่ำเดือน 7 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 มิถุนายน 2566 ( 16:08:05 )

บุพเพสันนิวาส ควรระลึกอย่างไร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นในเรื่องของความจำหรือการบันทึก การเกิดการตายหรือชีวิตที่จะผ่านไปเรียกว่า บุพเพสันนิวาส เป็นการระลึกความเป็นไปของตัวเองก่อนเก่า มันจำไม่ได้หมดหรอก เพราะฉะนั้นมันจะยาวนานไปก็ลืมแล้ว แล้วก็นึกว่าใหม่อีก มันก็ไม่เที่ยง แล้วก็เปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย ตามสมมุติ 

แต่พระพุทธเจ้าของท่านนั้นเที่ยง แม้ทำดี ปฏิบัติดีอย่างโลกียะ ก็ดีอย่างเที่ยง ไม่ได้มีการตกต่ำเป็นธรรมดา อวินิปาตธรรม นิยตะ เที่ยง สัมโพธิปรายนะ มีแต่ไปสู่ที่สูงที่สุดถ่ายเดียวอย่างนี้เป็นต้น ธรรมะโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าจึงเป็นธรรมะที่พิเศษ วิเศษ เกินกว่า โลกียะ เกินกว่าศาสดาเทวนิยมทั้งหลาย ที่ท่านก็รู้ของท่านตรัสรู้ของท่าน แล้วท่านก็เอามาสอน เป็นศาสนาของท่าน 

แต่ของพระพุทธเจ้านี้ ชัดๆจริงๆก็คือ อย่างที่ศาสดาเทวนิยมทั้งหลายรู้ พระเจ้าเคยเป็นหมดแล้ว ศาสดาแบบใดพระพุทธเจ้าก็เคยเป็นมาหมดแล้ว เกิดตายตายเกิด ไปเป็นจริงๆเลยนะ ไม่ได้หมายความว่า เชื่อเอา คิดเอาว่า ท่านเป็น ไม่ใช่ แต่ไปเป็นจริงๆ

เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้มาพูดเอาแต่เฉพาะว่า อย่างนั้นฉันรู้ แต่ว่าฉันเคยเป็นมาแล้วด้วย ได้มาแล้วด้วย ทำอย่างนั้นทำมาแล้วได้มาแล้วด้วย เหมือน
อาตมาหลายๆอย่าง อาตมายังไม่อยากพูดเกินไป เพราะโลกียะมันต้องเป็นมาก่อน รู้มาก่อน มันเป็นฐานสามัญของโลกียะ เมื่อมีฐานโลกียะแล้ว ถึงจะมีอีกอันหนึ่งเป็นโลกุตระ แปลกแยกแตกต่างไป

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 ตุลาคม 2565 ( 12:28:44 )

บุรพกรรมของสมณโคดม

รายละเอียด

ตอนนั้นพระพุทธเจ้ากัสสปะกำลังหาที่นั่งเพื่อตรวจสอบระลึกตัวเอง โพธิญาณของตัวเอง โชติปาละสู่รู้ว่า จะได้โพธิญาณอย่างไรกับการมานั่งใต้ต้นไม้นี้ 

ต้นไม้ต้นนั้นที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ก็เรียกว่าเป็นต้นโพธิ์ 

โชติปาละไปจาบจ้วงท่าน เท่านี้ ทำไมโชติปาละรู้ว่าคนนี้จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ก็เหมือนพระสมณโคดมเขาก็รู้กันทั้งหมดว่าองค์นี้จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแต่ก็รอ ปัญจวัคคีย์ก็ไปรอ แต่ไม่เห็นเป็นพระพุทธเจ้าสักที พวกพราหมณ์ 7 รูปก็ทำนายไว้แล้ว องค์นี้อุบัติขึ้นมาจะเป็นพระพุทธเจ้าอนาคต ก็รอกันอยู่อย่างนั้น 

ทรมานกับกิริยาที่ไม่เข้าท่าถึง 6 ปี ไปนั่งเขย่งเก็งกอยไปกินขี้ เป็นกิริยาที่อุบาทว์เรียกว่าทุกรกิริยา หรือไปเดินธุดงค์สู้กับเสือสิงห์กระทิงแรด เพราะปิดไม่มีสักบทเลยพระไตรปิฎก พระกรรมฐานธุดงค์เอามาคุยแข่งกัน แต่ไม่เคยมีที่สอนกันในพระไตรปิฎกเลย เขาก็ไปนิยมชมชื่นว่าเป็นพระธุดงค์บุกมาไม่รู้กี่ป่าแล้ว สร้างพระเครื่องที่ขลัง เลยเต็มไปด้วยศาสนาพระเครื่องเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่รู้แล้วก็ส่งเสริมกันอีก 

เหมือนตอนนี้ลูกน้องทักษิณกำลังทยอยเข้าคุกกัน แล้วลูกในไส้จะเข้าคุกกันไปด้วยไหมนี่ 

พระพุทธเจ้าถูกบุพกรรมทวงหนี้เอาต้องใช้หนี้ถึง 6 ปี ทุกรกิริยาคือกิริยาที่นอกรีต ไม่พาไปนิพพานก็เป็นทุกรกิริยาทั้งนั้น นั่งหลับตาสมาธิก็เป็นทุกรกิริยาโดยหลงว่านั่งหลับตาสมาธิแล้วจะบรรลุพระอรหันต์นี่เป็นทุกรกิริยาชั้น 1 

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 18:05:33 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:17:19 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:36:47 )

บุรุษที่เป็นสัตตะระดับ 7 ขึ้นไปจะสาธยายได้ชัดเจนมาก

รายละเอียด

สัตตะ แปลว่า 7 จะเอาหลักแท้ๆเลยว่า ผู้ที่จะสาธยายได้อย่างชัดเจนมากพอ วิจิตรพิสดาร ก็ ระดับ 7 ขึ้นไป คือบุรุษที่เป็น สัตตะ คือระดับ 7 ขึ้นไป จะได้เป็นเรื่องจริง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 48 อยากหมดอวิชชาต้องเริ่มคบพ่อครูผู้สัตบุรุษ วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 สิงหาคม 2565 ( 20:07:40 )

บูชาผิดฝาผิดตัวฉิบหายแน่ชีวิตเรา!

รายละเอียด

ก็จะหลงยึดถือ“มาร”นี้แล ว่า เป็น“เทฺว”ผู้ยิ่งใหญ่แท้เที่ยงยั่งยืน ตลอดกาล ก็จะสยบสิโรราบยกย่อง“คำสอนของผู้สุดยอดแห่งสุขนิยม”นี้ว่า เป็นเจ้าของ“ความรู้-ความจริง”ที่ยิ่งยอดใหญ่ไม่มีใครเทียมในมหาเอกภพจักรวาลนี้ ก็จะงมงายดำมืดอยู่ดังเดิม ทั้งๆที่ไม่มีใครเลยได้“สัมผัส”กับ“ตัวตน(อัตตา,อาตมัน หรือภาวะที่ยิ่งใหญ่เป็นปรมาตมัน)”ของ“ผู้เป็นเจ้าของคำสอน” ด้วยตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,ใจของคนในโลก จึงไม่สามารถรู้จักรู้แจ้งรู้จริงความเป็น“อัตตา,อาตมมัน”หรือ“ปรมาตมัน”ของ“ผู้เป็นเจ้าของคำสอน”นั้น อย่างสิ้นความ“ลึกลับ” อยู่นั่นเอง 

หนังสืออ้างอิง

หนังสือ รวมเปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2 ข้อที่ 23 หน้า 56


เวลาบันทึก 13 มิถุนายน 2564 ( 14:36:41 )

บูชาผิดฝาผิดตัวฉิบหายแน่ชีวิตเรา!

รายละเอียด

ก็จะหลงยึดถือ“มาร”นี้แล ว่า เป็น“เทฺว”ผู้ยิ่งใหญ่แท้เที่ยงยั่งยืน ตลอดกาล ก็จะสยบสิโรราบยกย่อง“คำสอนของผู้สุดยอดแห่งสุขนิยม”นี้ว่า เป็นเจ้าของ“ความรู้-ความจริง”ที่ยิ่งยอดใหญ่ไม่มีใครเทียมในมหาเอกภพจักรวาลนี้ ก็จะงมงายดำมืดอยู่ดังเดิม ทั้งๆที่ไม่มีใครเลยได้“สัมผัส”กับ“ตัวตน(อัตตา,อาตมัน หรือภาวะที่ยิ่งใหญ่เป็นปรมาตมัน)”ของ“ผู้เป็นเจ้าของคำสอน” ด้วยตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,ใจของคนในโลก จึงไม่สามารถรู้จักรู้แจ้งรู้จริงความเป็น“อัตตา,อาตมัน”หรือ“ปรมาตมัน”ของ“ผู้เป็นเจ้าของคำสอน”นั้น อย่างสิ้นความ“ลึกลับ” อยู่นั่นเอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2ตอน 4

วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 16:41:45 )

บูชาพระพุทธรูปให้สัมมาถูกต้อง

รายละเอียด

ศาสนาพุทธ ไม่ใช่ศาสนาแบบ “เทวนิยม”  แต่เป็นแบบ “อเทวนิยม”   จึงอย่าบูชาพระพุทธรูป “ผิด” ไปเป็นแบบที่บูชาพระเจ้า หรือเทพเจ้าที่จะบันดาลสิ่งต่างๆ ให้ได้

จงบูชาพระพุทธด้วยธรรมบูชา อย่าบูชาพระพุทธด้วยอามิสบูชา ตามแบบเทวนิยมที่บูชาเทพเจ้าหรืออาตมัน

เช่น.. อย่าจุดธูปเทียนไฟบูชา (เป็นอัคคียัญ)

อย่าใช้น้ำทำพิธีบูชา หรือทำน้ำมนต์ (สิญจนยัญ)

อย่าเอาดอกไม้ของหอมบูชา (เป็นวัตถุอนามาส)

และ อย่าอธิษฐานโดยอ้อนวอน ขอให้พระพุทธรูป หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดลบันดาล ให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้

เพราะพุทธ” ไม่ใช่ศาสนาที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้แบบศาสนาที่นับถือเทพเจ้า ซึ่งเป็นเทวนิยม

เพราะพุทธนับถือ กรรมเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

พุทธจึงมีการพัฒนากรรมไปเป็นที่พึ่งแท้ (ไตรสรณะ)

กรรมนั้นจึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง.

ที่มา ที่ไป

ธรรมาธิบายจากพ่อครู  รายการพุทธศาสนาตามภูมิ


เวลาบันทึก 07 สิงหาคม 2562 ( 14:09:59 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:18:28 )

บูชาไฟ

รายละเอียด

จุดไฟเป็นสื่อบูชากัน แล้วก็อ้อนวอนร้องขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ดลบันดาล

หนังสืออ้างอิง

ป่ากับพุทธศาสนา หน้า 52


เวลาบันทึก 13 กรกฎาคม 2562 ( 12:29:20 )

เวลาบันทึก 28 พฤษภาคม 2563 ( 13:58:46 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:23:16 )

บูรณะความรู้กันใหม่

รายละเอียด

อยู่ในลืมตาทั้งหมดเลย แม้แต่ลืมตาพ้นกามคุณ 5 ภายนอกจากตาหูจมูกลิ้นกายแล้ว พ้นแล้ว แม้จะเข้าไปล้างกิเลสในรูปภพ อรูปภพ เป็น รูปาวจร อรูปาวจร ก็ต้องตาเปิดๆ หูเปิดๆ ตาเปิดๆ ทวาร 5 เปิด เปิดสัมผัสอยู่นี่แหละ แต่ทางนี้เรามีอุตรธรรมแล้วเหนือกามเหนือโลกภายนอกหมดแล้ว กามหรือว่า กิเลสในภายนอกทำอะไรเราไม่ได้แล้ว ไม่ต้องไปหลับตาไม่ต้องหนีเลย อยู่เหนือ อุตระ 

ซึ่งคนเข้าใจไม่ได้แล้ว มันเสื่อมไปจนกระทั่งภูมิธรรมความเฉลียวฉลาดมันพิการไปหมดแล้ว ฟังอย่างไรก็ไม่รู้เรื่องแล้วมันพิการจริง ต้องมาบูรณะประสาทใหม่ บูรณะสมองใหม่บูรณะความรู้กันใหม่เลย มันเป็นเรื่องเหน็ดเหนื่อยมากเลย อาตมาเห็นความเสื่อมของศาสนาพุทธแล้ว ทำมา 50 ปี อาตมาก็พอใจที่มีคนข้าม โอฆะสงสาร ข้ามที่มันพาผิดกันมาได้ ถึงขั้นนี้ ถึงขนาดนี้ แล้วก็มาบรรลุธรรม ในตาเปิดๆ หรือ บรรลุธรรมอย่างมีปัจจุบันชาติ 

จนกระทั่งได้หมู่ได้มวล มา อาตมาก็บัญญัติศัพท์ ให้พวกเราเข้าใจในยุคนี้ ไม่ใช่ไปบัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ แต่มันเป็นเนื้อหาของพระพุทธเจ้าแท้ๆ แต่เป็นบัญญัติสมัยใหม่คำว่า “บุญ” กับคำว่า “นิยม”

นิยม คือเที่ยง บุญ คือฆ่ากิเลสตายจนเที่ยงแท้ เป็นสมาธิที่แท้ เป็นต้น แล้วก็พาปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา หรือ จรณะ 15 วิชชา 8 ที่เป็นพุทธคุณแท้ๆ ของพระพุทธเจ้า ในพุทธคุณ 9 มีข้อเดียวนี่แหละเป็นข้อเรียนรู้ ข้อปฏิบัติ และการปฏิบัติ จนเกิดทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ก็อยู่ในข้อ วิชชาจรณะสัมปันโน นี่แหละ ทั้งนั้น 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 7 พ่อครูพบ ดร.นพ.มโน เลาหวณิช เรื่อง บาปของทุนนิยม วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม 2565 แรม 11 ค่ำเดือน อ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 ธันวาคม 2565 ( 19:14:09 )

บ้าน วัด โรงเรียน

รายละเอียด

อาตมาอยู่ บวร ราชธานีอโศก คือรวมทั้ง บ้าน วัด​ โรงเรียน หากคุณมาแล้วจะหาวัด รับรองหาไม่เจอ หากจะหาโรงเรียนก็หาไม่เจอ เป็นแต่เพียงเรามีอาคารที่จดทะเบียน รร.ตามกระทรวง แต่เราก็ใช้เรียนได้หมดพื้นที่ชุมชนไม่ได้เรียนแต่ในกล่อง ก็มาสิ เชิญ ยินดีต้อนรับ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563


เวลาบันทึก 27 มีนาคม 2563 ( 11:55:30 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 13:05:33 )

บ้าน วัด โรงเรียน คืออะไร? (ตอบคำถามเด็ก ป.1)

รายละเอียด

อธิบายยังไงหนอ 

บ้าน ก็คือสถานที่ที่เราเป็นอยู่ เราอาศัยอยู่เรียกว่า บ้าน ที่เราอาศัยอยู่ ทีนี้ของพวกเราชาวอโศก อย่างบ้านราชนี้ เป็นบ้านราชธานีอโศก ก็เป็นที่อาศัยของคนในนี้ มีพื้นที่พันกว่าไร่ได้ เป็นบ้านใหญ่ รวมแล้วเป็นบ้าน โดยเฉพาะพวกเราสาธารณโภคี มันก็เลยเป็นบ้านหลังใหญ่ เป็นหมู่บ้านเลย รวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก บ้านเป็นอย่างนั้น เอาละ..อาศัย ดช.ธัมโม อธิบายสู่คนอื่น  เป็นประโยชน์ฟังไปก็แล้วกัน

วัด คือ สถานที่ที่ภิกษุ นักบวช อาศัยอยู่ จำเพาะเลยว่าเป็นภิกษุอาศัยอยู่ แต่ทีนี้ของเรา บ้าน วัด โรงเรียน ภิกษุของเราก็อาศัยในที่อันควรของเราตามภูมิธรรม ไม่ได้ไปจำกัดเขตเหมือนอย่างทางโลกเขา เพราะพวกเรานี่ ขออภัยต้องพูดความจริง ภูมิธรรมของนักบวชเรานี่สูง จึงอาศัยอยู่ร่วมกันกับบ้าน ไม่ได้จำเพาะเจาะจง แต่ก็มีที่ที่เป็นสัดส่วน สัดส่วนที่พำนักของสมณะ แต่ก็อยู่คละเคล้ากันในนี้ โดยไม่มีการกั้นเขตมีกำแพงล้อมรอบว่านี่เป็นเขตของภิกษุ สมณะนะ เหมือนอย่างกับที่อื่นๆเขามีกัน แต่ที่พวกเราของอโศกเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น ก็คละเคล้าอยู่กับพวกเราชาวฆราวาส ซึ่งต้องขออภัยอีกที พวกเรานั้นภูมิธรรมสูง 

ฆราวาสก็รู้จักสมณะนักบวช แม้แต่ สิกขมาตุ ว่าอยู่ในฐานะที่ควรเคารพ ฐานะที่ท่านมีศีลสูง ปฏิบัติธรรมมีภูมิธรรมจริง ก็เคารพกัน ไม่ละลาบละล้วงกัน แต่ที่อื่นเขาภูมิธรรมไม่สูงอย่างที่นี่ จึงทำไม่ได้หรอก เละเลย รับรองเละ ขนาดจัดแบ่งสัดส่วนล้อมกำแพงยักษ์ ยังยุ่งเลย โดยเฉพาะเรื่องเพศ ยุ่งเลย แต่ของอโศกเรา ขออภัยอีกที เป็นคนมีภูมิธรรมสูง มันจึงไม่มีปัญหา 

ส่วนคำว่า โรงเรียน คือการศึกษา เป็นสถานที่มีการศึกษา มีการเรียนรู้กัน และโรงเรียนของเราก็ตามกฎระเบียบของเขา จะต้องมีโรงเรือน จะต้องมีอันนั้นอันนี้ยืนยันว่าเป็นโรงเรียน จะต้องมีเขต มีกฎระเบียบ เราก็ทำไปตามเขา แต่แท้จริงเราก็เป็นอิสระของเรา ห้องเรียนของเราไม่ได้เรียนเฉพาะในห้องเท่านั้น ที่อื่นๆก็เรียนเช่นตามโคนไม้ตรงนั้นตรงนี้ หรือแม้ที่สุดเรียนรู้ปฏิบัติ ทำงานด้วย เรียนรู้ด้วย เพราะการเรียนของเรามี ศีลเด่น เป็นงาน ชาญวิชา เราไม่ได้เรียนเฉพาะวิชาการ แต่เราเรียนเรื่องศีลธรรมด้วย แล้วก็เรียนรู้เรื่องการงานด้วย วิชาการที่เขาเรียนรู้ทางโลกเราก็เข้าใจ เราก็เรียนรู้ให้เกิดความชำนาญ เชี่ยวชาญด้วยอย่างนี้ เป็นต้น ของเราจึงบริบูรณ์ ครบ

ทีนี้การอยู่ร่วมกันเป็นบ้านวัดโรงเรียน มันจะมีการซึมซับ  มันจะมี ทั้ง Absorb ทั้ง Osmosis ขออภัยที่ใช้ภาษาอังกฤษอย่างเท่ๆกับเขา มันจะซึมซับ มันจะไหลเข้าหากันได้อย่างมาก อย่างบอกไม่ถูกเลย มันจะเกิดจากกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มันจะมีผลสูง  เพราะฉะนั้นเด็กๆที่ได้มาเรียนที่นี่เป็นกุศลของเขาอย่างยิ่งที่เรียกด้วยภาษาโลกว่าเป็นบุญอย่างยิ่ง เป็นบุญมากที่ได้มาเรียนที่นี่ เรียนรู้ 6 ปีแล้ว ได้ ไม่มากก็น้อยติดตัวไป ได้ศีล ได้ธรรม ได้สิ่งที่เจริญต่างๆนานา 

อาตมาก็ภาคภูมิใจที่พระพุทธเจ้าได้สอนธรรมะเอาไว้ ให้เอามาให้มนุษยชาติได้เรียนรู้ฝึกฝน แล้วอาตมาก็นำมา นำมาของพระพุทธเจ้ามาประกาศให้พวกเราได้ศึกษาฝึกฝน และพวกเราเข้ามากันเอง อาตมาไม่ได้ไปหาวิธีป่าวประกาศหรือว่าไปมีอะไรโฆษณา หาเสียง หาพรรคหาพวกอะไร พวกเราพูดกันตรงๆก็คือมีบุญบารมีเอง ก็มากันอยู่อย่างนี้จำนวนไม่มากให้ต้องลำบาก ถ้ามากเกินไป มีแต่คนเกเร มีแต่คนภูมิไม่ถึง เกเรมาก มันยากนะ เด็กๆข้างนอกนี่อาตมาสงสาร เห็นใจ แล้วเราก็ไม่สามารถที่จะไปโอบอุ้ม ไปช่วยเหลือได้ เขาก็ทำกันไปตามประสาเขา ก็เห็นใจนะ บางคนก็จะต้อง โอ้โห ต้องเข้ม ต้องแรง ต้องกดข่ม ต้องใช้กฎระเบียบ ของเราในระเบียบของเรานั้นก็เป็นชั้นคลาสสิค เป็นชั้นสูง เขาบอกว่าพวกนี้มันเคร่ง มันถือศีล แต่มันดูเหมือนกับไม่เหมือนข้างนอกเขา ข้างนอกต้องบังคับกัน มันมีนัยยะสำคัญซ้อนๆลึกๆกันอยู่ มันหยาบ ของเรานี้มันละเอียดเนียน มันคลาสสิคพูดภาษาง่ายๆว่ามันเป็นผู้ดี มันชั้นสูงกว่ากันเยอะ ขออภัยพูดยกตัวยกตนเกินไป ต้องขออภัย นี่เป็นสัจจะที่อาตมาพาทำมา ได้มรรคได้ผลมา 

ก็ยิ่งเห็นว่าพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้สิ่งที่ประเสริฐมา ทุกวันนี้อาตมาก็ยังนำมา แล้วเอามาประกาศให้พวกเราได้รู้ แล้วก็ยังรับได้และเอาไปปฏิบัติได้ เท่าที่ได้เนี่ยอาตมาก็ถือว่าโชคมหาศาลแล้ว ได้ช่วยมนุษยชาติ ได้ช่วยประเทศชาติ สังคมประเทศชาติ อาตมาทำงานนี้ก็ได้ช่วยประเทศชาติ ทำให้คนเป็นพลเมืองดี เป็นประโยชน์แก่สังคมประเทศชาติ แล้วเราก็ทำไป ซึ่งเราไม่ได้เป็นพวกที่จะต้องไปโวยวายหาคนให้ยอมรับอะไรต่ออะไรมากมาย แล้วเขาก็ยอมรับยากเพราะพวกเราเป็นพวกโลกุตระ เขาหัวไม่ถึงกัน ขออภัยต้องพูดความจริง เขาว่ามันได้อะไรพวกอโศก มันได้ศีลแล้วศีลมันเป็นอย่างไร มันพากันมาจนทำไม หรือทำเท่ๆ ได้เสียสละ ของพวกเขาก็เสียสละ ทำทานทีละ 10 ล้าน 100 ล้าน ชาวอโศกมีบ้างหรือเปล่า จ้างก็ไม่มี เพราะพวกเรา ไม่ได้สะสมเงิน 10 ล้าน 100 ล้านเพื่อจะมาเสียสละให้เท่ๆให้โก้ ๆอะไร มีแต่ทุกวันสละออกๆ ไม่สะสม แล้วมันจะมีเงินสะสมอะไรมาให้แบบเท่ๆโก้ๆ

แล้วคนที่เขามีมากๆเขาก็ไม่กล้ามาที่นี่ เพราะเขากลัว เขากลัวว่าที่นี่จะไปหาทางเอาอะไรของเขา ขอบอกว่าที่นี่ไม่หรอก เพราะฉะนั้นคนที่ฐานะดีบ้าง เป็นคนมีเงินร้อยล้านขึ้นไปก็มี มา แต่น้อยคน กล้า กล้าเข้ามาคบคุ้น เพราะเขาเข้าใจว่านี่ดี เขาก็ไป เราก็ไม่ได้บอกว่าคุณมีเงินกี่ล้านเอามาปิดบัญชีกับเราเหมือนธัมมชโย เราก็ไม่เคย คุณจะบริจาคคุณก็ช่วยก็ทำ ตามคุณ ไม่ช่วยไม่บริจาคก็ไม่เป็นไร เป็นอิสรเสรีภาพ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ อาตมาเห็นว่า อาตมาชาตินี้ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่นี้ ดีมากเลย 

 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 29 พ่อครูฝืนสังขารเพื่อต้องการลูกๆได้ PI(โพธิรักษ์ Intelligence)วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566 แรม 8 ค่ำเดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2566 ( 17:10:46 )

บ้าน วัด โรงเรียน เป็นเรื่องลึกซึ้งยิ่งใหญ่

รายละเอียด

ทีนี้ก็มีผู้ที่มีความบริสุทธิ์ด้วยอาชีพ ก็จะมารวมกันอยู่เป็น บวร บ้าน วัด โรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งยิ่งใหญ่ ทางด้านสำนัก องค์กรหลายๆที่เขาก็พยายามจะทำบ้าน วัด โรงเรียนเหมือนกัน แม้แต่ต่างประเทศ ก็เข้าใจบ้าน วัด โรงเรียนพยายามจะทำ ไม่ง่าย ในนัยยะลึกซึ้งละเอียด มันจะต้องมีแกนของธรรมะเป็นหลัก บ้านหมายถึงสังคมส่วนรวม ที่เป็นเสนาสนะสัปปายะ บุคคลสัปปายะ อาหารสัปปายะ ธรรมะสัปปายะ นั่นคือคำว่าบ้าน มีสถานที่มีบุคคล เหมือนอย่างนี้สถานที่ของราชธานีอโศก เป็นต้น แล้วก็มีบุคลากร มีบุคคล มีสมาชิกอยู่อย่างนี้ แล้วก็มีเครื่องอาศัย อาหารคือเครื่องอาศัย เป็นอาหาร 4 จนเป็นเครื่องอาศัยที่เป็นวัตถุ วัตถุภายนอกอื่นๆ สมบัติต่างๆอาศัย ซึ่งเราก็จะเห็นว่าพวกเราเข้าใจ ว่าจริงๆแล้วมันไม่สำคัญเท่าไหร่ อาหารที่เรากินใช้ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 05 พฤษภาคม 2563 ( 12:03:01 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:36:01 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:25:11 )

บ้านราชจะเปิดต้องถามโรคโควิด 19

รายละเอียด

ยังไม่รู้เหมือนกัน อยากรู้ต้องไปถามคุณโควิด ว่าจะให้เปิดเมื่อไหร่มันต้องอยู่ที่เขาให้อนุญาต จะใช้ภาษาอะไรคุยกับเขาตอนนี้คุยไม่รู้เรื่อง 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 29 เมษายน 2563


เวลาบันทึก 10 พฤษภาคม 2563 ( 10:53:12 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 06:36:17 )

บ้านราชเป็นเสนาสนะสัปปายะ

รายละเอียด

เสนาสนะสัปปายะเราก็ไปได้ที่บ้านราช ชื่อเต็มตามทะเบียนว่า หมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก ไปขอตัดคำว่าชุมชนเขาก็ไม่ให้ตัด ขอแล้วขอเลย ตั้งแล้วตั้งเลยเป็นภาระจริง อย่างไรอาตมาว่า ก็ต้องทำองค์ประกอบ Landscape ทุกอย่างของพื้นที่ ที่เราจะจัดสรรให้เป็นประโยชน์ หรือดีไม่ดีก็เป็นศิลปะ มีสุนทรียศิลป์ เชิญชวนผู้ที่ต้องการรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส แต่ไม่จัดจ้านไม่จี๋จ๋า พอสมควรให้คนเข้ามา แต่เราไม่ต้องการให้เขาติดในสุนทรียะ เราต้องการให้เขาได้สาระ ทุกวันนี้ น่าสงสารคนที่แสวงหา มีรถทัวร์มา เอาเด็กใส่มาทีละ 3 คัน 4 คัน 5 คัน เอามาลงก็ไม่มีอะไรให้เด็กเข้าดูก็น่าสงสาร ผู้ใหญ่ก็ตาม คือต้องติดเครื่องล่อก่อนแล้วให้เขาซึมซับ เอาโอสถแทรกซึมเข้าขุมขนไปเรื่อยๆ แทรกยาเข้าขุมขน คนไม่เข้าใจก็จะบอกว่าอย่าไปเอาแบบเล่นเลยเอาแบบแก่นเลย มันก็ยาก จะบอกว่าเปลืองในลักษณะคนจนก็ใช่แต่ถ้าลักษณะคนรวยก็ แค่ขนหน้าแข้ง ถ้าจะช่วยเอาขนหน้าแข้งแค่ 2 3 เส้นก็ได้แล้ว แต่เขาไม่ให้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ก่อนฉัน ที่โรงเรียนผู้นำ จ.กาญจนบุรี สัปปายะ 4 ที่มีสัมประสิทธิ์ วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2561


เวลาบันทึก 10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 17:17:46 )

บ้านราชเป็นแผ่นดินพุทธที่มีชาวอโศกเป็นแก่นชีพของศาสนาพุทธแล้ว

รายละเอียด

ในทฤษฎีพระพุทธเจ้าวิชาการพระพุทธเจ้ามันยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะฉะนั้นในสังคมประเทศยังสามารถทำเศรษฐศาสตร์สู้ชาวอโศกยังไม่ได้ ก็พยายามศึกษา ขออภัยที่ยกตนสูงไม่ได้ข่ม แต่พูดความจริงวิชาการให้ฟัง ฉะนั้นศึกษาให้ดี อโศกเดินหน้านำไปแล้วเป็นตัวอย่างที่ดี ศึกษาให้ดีในรายละเอียดแล้วก็เป็นเช่นนี้ไป มันมีแกนหลักมีแก่นชีพ ของศาสนาพุทธแล้ว เพราะฉะนั้นขยายเชื้อชาติต่อไป มีโอกกันติ มาอุ้มบุญ เลี้ยงให้เกิดจากครรภ์ของเราออกไป แล้วเราจะเกิดมวลลูกเต้าเหล่าหลานมาเป็นตระกูลนี้ตระกูลพุทธ ที่นี่คือแผ่นดินพุทธ นี่อุตส่าห์ลงทุนไปเหน็ดเหนื่อยหนักหนาไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ เอาแผ่นสแตนเลสไปติดบนหลังคาแผ่นดินพุทธ มาสิ ถ้าทำให้บ้านราชมีจำนวนคนเป็นพันเป็นอเนก มากกว่า 1000 2000 3000 จะเห็นอัตราการก้าวหน้าการพัฒนาพุทธธรรม อย่างมีประสิทธิผลให้เห็นเลย

ใครพอเข้าใจไหมเชื่อว่าจริงไหม จะมีใครไหมอยู่ไหนที่ใจว่าจริง เอาใจฟ้ามาแข่งกับใจเพชรเขา แม้เนื้อหาเราสู้ไม่ได้แต่เราก็มีบ้าง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ มาทำแก่นชีพ-เชื้อชาติพุทธให้รุดหน้าเกินพัน วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 20:32:02 )

บ้านราชเป็นแผ่นดินพุทธที่ยืนยันเรื่องใด

รายละเอียด

พวกเราฟังธรรมะแล้ว อาตมาก็เห็นได้ว่าพวกคุณเข้าใจได้ เอาไปปฏิบัติได้จริงๆเกิดผลขึ้นมา โดยคนที่ปฏิบัติตนกิเลสลดจริงๆ ทีนี้คนที่ไม่เชื่ออาตมาก็จะบอกว่าหลงตัวหลงตน บอกว่าเป็นเมืองพระพุทธเจ้าเป็นเมืองอาริยะ หลงตัวกิเลสหมด มีพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ข้างนอกนี้เขาไม่เชื่อนะ เขาก็ใส่ใจศึกษาฝึกฝนแสวงหา เรียนจบเปรียญ 9 เรียนจบ ดร.ทางศาสนา หรือไม่ก็ปฏิบัติอย่างคร่ำเคร่งบวชมาตั้งแต่เป็นเณร จนกระทั่งเป็นพระอายุมากคนนับถือ สามารถที่ไปไหนคนก็ตามฮือฮา เคาะหัวใครเขาก็ยอม บอกว่าเป็นสิริมงคลอย่างทางเหนือมี ครูบาบุญชุ่ม ไปไหนก็ไม่รับเงินคนก็เลยศรัทธามาก มีการ์ดมาคอยป้องกัน

อาตมาไม่เห็นจะมีการ์ดมาคอยป้องกันเลย ซึ่งมันซับซ้อนหลายอย่าง อาตมาอธิบายไม่เก่ง ว่า คนที่เขาได้รับนับถือ เชิงโลกียะเทวนิยม เขาชื่นชมจริงๆนะ ฮือฮา เป็นถึงระดับปัญญาชนนะ ไม่ใช่ธรรมดา ถือว่าเป็นปราชญ์ เป็นผู้เฉลียวชาญฉลาดในระดับสมองเพชร เป็นอัจฉริยะต่างๆ แต่ก็มองไม่ออกว่าอาตมานี้คือ เอาโลกุตรธรรม เอาศาสนาพุทธเข้ามาสถาปนาลงไป ในยุคนี้ จนเป็นโล้เป็นพาย จนเป็นเรื่องจริง 

จนกระทั่งอาตมายืนยันในที่นี้ว่าเป็นแผ่นดินพุทธ ที่นี่มีมนุษย์ที่ปฏิบัติธรรมมะพระพุทธเจ้า จนได้เนื้อแท้เป็นโลกุตระ เอากลองอานกะคืนมาได้จริงๆ จนกระทั่งยืนยันถึงขั้นมีสาราณียธรรม 6 อยู่เป็นชุมชนที่มีเศรษฐกิจระดับสาธารณโภคี 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุภกิณหาอย่างพุทธดับสุดสิ้นอาสวะ วันพุธที่ 2 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 31 มกราคม 2564 ( 14:48:55 )

บ้านราชเมืองเรือ จะเป็นอะไรอันหนึ่งในอนาคต

รายละเอียด

ใช่…เข็มขัดคุณก็สั้นจริงๆ คาดไม่ถึง อาตมารู้อยู่แล้วว่า มาอยู่ที่นี่น้ำท่วม ไม่ได้หมายความว่ามาอย่างมืดบอด มาอย่างงมงาย เพราะฉะนั้นจะต้องเจอกับน้ำ อาตมาจึงสอนให้พวกเราอยู่กับน้ำ เตรียมอุปกรณ์ อย่างที่มีเรือเยอะแยะ ดีไม่ดีจะกลายเป็นเรือบกไปเยอะแยะแล้ว อย่างนี้เป็นต้น แล้วเอาเรือบกมาทำเป็นเรือนเรือ ไม่ต้องไปปักเสาเลย อยู่กันสบาย มีเรือนเรือก็เยอะ ถึงเรียก บ้านราชเมืองเรือ ก็เป็นไปได้อย่างที่มันเป็น ก็จะเป็นอะไรอันหนึ่งในอนาคตว่า ในประเทศไทยมีหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่ง หมู่บ้านบ้านราชเมืองเรือ แล้วบ้านเขาไม่ได้ตั้งเสาเหมือนบ้านทั้งหลายแหล่ เอาโครงเรือ แล้วก็ตั้งเข้าไป ทำแท่นทำที่ตั้งเป็นเรือนเรืออยู่กันได้ 20 30 40 ปี ได้ เพราะเรือมันมีแต่ไม้ทน ไม้หนาๆมาทำ ก็หาไม้หนาๆมาทำ ไม้เก่าๆก็เอา อาตมาหมดไปเยอะนะ หมดไปกับเรือ ไม่รู้กี่ร้อยล้านแล้ว แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะว่า 

1. เราอนุรักษ์ เพราะทุกวันนี้เราอยู่ข้างแม่น้ำมูล พยายามจะปลุกแม่น้ำมูล แต่เสร็จแล้วมันก็ไม่ขึ้น เพราะคนอื่นเขาไม่เอาด้วย คนอื่นเขาไม่หือไม่อือด้วย แม้แต่องค์กรเจ้าท่า อาตมาก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร ทำที่เราก็แล้วกัน ก็ใช้อยู่อาศัย ก็ไม่ต้องเสียเวลาอะไรมากมาย อาศัยใช้เป็นเครื่องอาศัยในชีวิตไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ฟังธรรมให้เกิดปัญญาเพื่อสละตัวตน วันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 ธันวาคม 2565 ( 12:31:42 )

บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีคนสองกลุ่มมีความเห็นต่าง

รายละเอียด

ไม่ดู 2 ส่วน ไม่ดูโลกอันกว้างขวางเขาและไม่เปรียบเทียบ ไม่เห็นนัยสำคัญมันมีอะไรแตกต่างกัน คนพวกนี้ก็อยู่ในโลกแคบถือว่าถูกครอบงำก็ดี คนที่อ่อนเยาว์ต่อโลกก็ถูกเขาครอบงำ ถูกเขาเอาไปเป็นบริวาร เป็นลูกกะโล่ แบบนี้แหละ เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อว่าคนที่เป็นอย่างนั้น เราก็ไม่รู้จะไปบังคับเขาได้อย่างไร เขาสมัครใจเขามีภูมิธรรม เขาเป็นเช่นนั้นได้แค่นั้น เพราะฉะนั้น คนที่จะพยายามศึกษาธรรมะดีๆแล้วก็จัดสรรตัวเองให้อยู่ในพวกบัณฑิต อยู่ในพวกหมู่กลุ่มที่จะนำพากันไปให้มีสัมมาทิฏฐิให้ได้ ต้องใช้ศัพท์วิชาการว่าต้องพยายามมีสัมมาทิฏฐิให้ได้ อย่าให้มันผิดเพี้ยน แล้วมันถึงจะเป็นไปได้ 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม ครั้งที่ 35 ที่สุดแห่งที่สุดที่จะเกื้อกูลโลกได้คือโลกุตรธรรม วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2566 แรม 6 ค่ำเดือน 8(2) ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 สิงหาคม 2566 ( 13:02:57 )

บ้านในราชธานีอโศก

รายละเอียด

ส่วนมากจะมาสร้างบ้านเรือน แต่บ้านสร้างแล้วคนก็ไม่เข้ามาอยู่ ควรจะมาอยู่ให้อบอุ่นให้เกิดสังคมอบอุ่น อ๋อ มีคนอยู่อย่างอบอุ่นสนุกสนาน ให้เป็นตัวอย่างของพฤติกรรมสังคม อย่าว่าแต่สร้างบ้านหลังเล็กเลย หลายคนสร้างบ้านใหญ่โตมโหฬาร เราไม่อยากให้สร้างบ้านใหญ่โตเท่าไหร่หรอก แต่กิเลสประจำตัวก็บอกว่าฉันมีเงิน ขอแช่งเอาไว้ ใครไม่มีเงินแล้วไปกู้หนี้ยืมสินเขามาไปสร้างใหญ่โต ไปกู้หนี้ยืมสินมาทรมานตัวเองทำไม เอาเถอะ คุณมีเงินทองของคุณบ้างจะสร้างใหญ่โตก็แล้วไป แต่ให้เอื้อเฟื้อคนอื่นนะ ใหญ่โตแล้วอยู่กันอย่างหลวมหลวมไม่ดี ให้คนอื่นอาศัยอยู่ด้วยก็ดี สร้างใหญ่โตแล้วกินที่เปล่าๆไม่เผื่อแผ่คนอื่นไม่ดี จะติดแอร์ที่บ้านก็อย่าเพิ่งเลย ที่นี่หมู่บ้านคนจนไม่ใช่หมู่บ้านคนรวย อย่าเพิ่งติดแอร์หรอกสบายที่นี่ สบายเย็น ดีเป็นคำถามที่จะได้รู้กัน ที่จริงด้วยปัจจุบันปัญญาสำนึกซะมันก็น่าจะพอรู้อยู่แล้ว ไปเอาแต่ถามเผื่อคนอื่นบ้างก็ว่าไป

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งาน ว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอังคารที่ 1 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 13:06:06 )

เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2563 ( 07:19:54 )

เวลาบันทึก 11 สิงหาคม 2563 ( 07:27:23 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์