@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก
@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

อภิธานศัพท์ (Glossary) จัดเป็นฐานข้อมูลด้านโลกุตระที่สมบูรณ์ที่สุดที่คัดมาจากหนังสือ คำเทศน์ ฯ

คู่มือการค้นหาอภิธานศัพท์อโศก หรือ ห้องสมุดโลกุตระ 50 ปี

เอกสาร : https://docs.google.com/document/d/1HLGedxqTAOTOTQKGbO6M4qMremQ8K1jBWKRYDDt6MRQ/edit

วีดีโอ Loom 2 : https://www.loom.com/share/e824e62ec1eb4567848e94af124a7ed5

วีดีโอ Loom 1https://www.loom.com/share/2445744a08e74bca95d2f1d2a0526044

วีดีโอ YouTube : https://youtu.be/QyXcGmzhLmk

 

 

อภิธานศัพท์ (ทั้งหมด) พบ 28,074 รายการ

พลเมืองมากกว่าพันล้านจีนและอินเดีย

รายละเอียด

ตอนนี้มหาอำนาจปล่อยเชื้อมาในโลก คนจีนคนเยอะ คนนี้คงคิดไปถึงอินเดียด้วย มีพลเมืองมากกว่าพันล้าน แต่จีนไม่กินเครื่องเทศ กินแต่เนื้อสัตว์ของคาวเลอะเทอะกินพิสดาร แต่อินเดียเขาไม่กินปรุงแต่งมากแล้วมีเครื่องเทศด้วยเขาจึงไม่สะดุ้งสะเทือน นัยลึกซึ้งพวกนี้นี่อาตมาเข้าใจหมด แต่ไม่มีเวลาเพราะมันเล็กน้อย เขาจัดการกันไปก่อนได้ ตอนนี้ก็ไม่ลุกลามอะไรมากมายแล้ว ก็ดี 

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ชีวิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563


เวลาบันทึก 14 มีนาคม 2563 ( 16:10:03 )

เวลาบันทึก 20 กรกฎาคม 2563 ( 15:18:01 )

พลเอก ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ

รายละเอียด

พลเอก ปรีชา เอี่ยมสุพรรณกับอาตมา
 
พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ กับอาตมานั้นรู้จักกัน
ทั้งที่มีฐานะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น จปร. 7 กับพลตรีจำลอง 
ศรีเมือง ซึ่งพลตรีจำลอง ศรีเมืองนั้นเป็นผู้สนิทชิดเชื้อกับ
อาตมามาก่อนตามที่รู้จักกันอยู่ และทั้งที่พลเอกปรีชา 
เอี่ยมสุพรรณกับอาตมานั้นรู้จักกันในฐานะได้ร่วมงานกอบกู้ชาติด้วยการออกประท้วงขับไล่รัฐบาลที่ไม่สมควรจะบริหารประเทศด้วยกันได้ถึง 5 รัฐบาล ตั้งแต่พ.ศ. 2549 รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร จนถึงรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

จึงไม่ต้องกล่าวถึงความสัมพันธ์และความสนิทชิดเชื้อคุ้นเคยกันกับอาตมาเลย เพราะมันต้องมากลึกซึ้งจนกล่าวคำบรรยายออกมาเป็นภาษาพูดได้ยากแน่นอน หากผู้ยังไม่เคยรู้ อยากรู้ เพียงได้ดูจากภาพต่างๆที่บันทึกไว้ ไม่
ว่าจากภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวทางเทคโนโลยี่ต่างๆประดาที่มี ก็จะเข้าใจได้ดีทันที กว่าบรรยายเป็นไหนๆ

ชีวิตทั้งชีวิตของพลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณนั้นคือนายทหารที่มีเลือดและวิญญาณของความเป็นทหารเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ปานนั้นทีเดียว ออกทำหน้าที่ในสมรภูมิรับใช้ประเทศชาติตามหน้าที่มาจนกระทั่งได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญมากที่สุดกว่าใครในบรรดารทหารที่เคยมีมา ถึง 16 เหรียญ

อาตมาขอบอก“ตามภูมิ”ที่มีของอาตมาว่า พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณผู้นี้ ที่เข้ากับอาตมาสนิทสนมได้ดียิ่งนั้นเพราะพลเอกปรีชา มี“ภูมิโลกุตระ”แท้จริงในจิตวิญญาณมากพอ เมื่อพบอาตมาก็เชื่อว่าอาตมาเป็นสัมมาปฏิปันนา สัมมัคคตา เชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ปฏิธรรมสมควรแก่ธรรมจริง รับธรรมที่เป็นโลกุตระได้ทันที ไม่ข้องใจสงสัยแต่อย่างใด 

ความมีชีวิตเลือดและวิญญาณตามที่พูดมาเพียงแค่นี้ก็สุดยอดแล้วที่ได้เกิดมาเป็นคนในชาตินี้ ได้ใช้พฤติกรรมพลีชีพเป็นประโยชน์ยิ่งต่อประเทศชาติ พระมหากษัตริย์ ได้พบพระพุทธศาสนาและได้รับธรรมสมควรแก่ธรรมในชีวิตไปตลอดชีวิตเกินกว่าคนทั่วไปอีกมากว่ามาก ที่ใกล้เกลือกินด่าง หรือที่เป็นผู้มีชีวิตรับใช้ชาติทั้งหลาย กระทั่งแม้แต่คนผู้บวชในชีวิตแท้ๆด้วยซ้ำ 

กรรมเป็นของของตน ตนเป็นทายาทของกรรม ไม่ต้องไปกล่าวคำสวยอย่างนั้นอย่างนี้กันเลย พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณผู้นี้ย่อมได้ย่อมมี“กรรมเป็นอันทำ”ตามที่ตนได้ทำไปในชาตินี้แล้วประเสริฐเพียงพอ ตามจริงที่ได้ทำมา
 
ไม่ต้องป้อยอ ไม่ต้องร้องขอ ไม่ต้องอวยพรใด
 
พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรมย่อมมีสิ่งที่ตนเองได้กระทำมาจริงนั้นๆแล้วจริง สาธุ! ผู้ประเสริฐ

ที่มา ที่ไป

สมณะโพธิรักษ์ (9 ธ.ค. 2562)


เวลาบันทึก 09 ธันวาคม 2562 ( 08:19:58 )

พลเอกประยุทธ์กับประชาธิปไตยที่แท้จริง

รายละเอียด

พลเอกประยุทธ์ บริหารประเทศต่อเนื่องกันมาตั้งแต่คนเข้าใจว่าเผด็จการทหาร เพราะเข้ามายึดอำนาจ ซึ่งอาตมาจะอธิบายว่ามารับไม้ต่อจากประชาชน เพราะว่าอำนาจที่ได้มาคุณไม่ได้ออกแรงอะไรเลย คุณมาบอกว่ายึดอำนาจแค่นั้น คุณก็ได้ไปแล้ว ซึ่งมีหลักฐานยืนยันอาตมาไม่ได้โมเม ไม่ได้พูดเล่น ทุกอย่างมันจบแล้ว ประชาชนปฏิวั ติประชาชนรัฐประหารให้เรียบร้อยแล้วไม่รู้กี่รัฐบาล ก็ยังพูดอยู่เลยว่า ทำไมพลเอกประยุทธ์เพิ่งมาออกเอาตอนจบเกมแล้ว ยิ่งลักษณ์คนสุดท้ายแล้ว แต่เอาเถอะมันเป็นเหตุปัจจัยที่ต้องเป็นเช่นนั้น เมื่อพลเอกประยุทธ์ยึดแล้ว คนก็ยังเข้าใจว่าเป็นเผด็จการทหารมายึดอำนาจ พลเอกประยุทธ์ก็แสดงออกต่อ แสดงไปแสดงไปจนกระทั่งสุดท้ายมีการเลือกตั้ง เลือกตั้งแล้วพลเอกประยุทธ์ก็ไม่ได้ลงเลือกด้วย แต่สุดท้ายก็รวมกัน โหวตแล้วเอาพลเอกประยุทธ์ขึ้นมาเป็นนายกอีก มันแสดงให้เห็นถึงว่า เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ถามว่าพลเอกประยุทธ์ไปซื้อพรรคต่างๆไปซื้อมือพวกออกเสียง ยกคะแนนให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกหรือเปล่า มีหลักฐานไหมว่า พลเอกประยุทธ์ไปใช้อำนาจบาตรใหญ่อะไร ก็ไม่มี นี่คืออำนาจประชาธิปไตย จนที่สุดเมื่อเลือกตั้งเลย ทีนี้เลือกตั้งแล้วพลเอกประยุทธ์ก็ได้เป็นนายกอีกทำมาเป็น 6 ปีแล้ว 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2563 ( 12:03:34 )

พลเอกประยุทธ์ก็ขึ้นบนภูดูเสือกัดกัน

รายละเอียด

ทีนี้ การเมืองที่เขาเป็นอย่างที่ป้ารัตน์พูดมา คือ เขามีแทคติกอย่างที่รู้กันว่า พิธาเขาใช้กลเม็ดเด็ดพราย เหตุปัจจัยที่จะทำให้เขาได้คะแนน สรุปเข้าเป้าเลย มันมีสารพัดที่จะใช้สื่อสาร วิธีการจิตวิทยาอย่างโน้นอย่างนี้ อย่างเต็มรูปเลย จนกระทั่งชนะได้ 

แต่นั่นแหละเขาเก่งที่ได้คะแนนเสียงจากกลวิธีเลือกตั้ง ซึ่งมันขัดแย้งกับความจริง มันไม่ใช่ของจริง มันไม่เป็นเรื่องเป็นประชาชนยกให้จริงๆ มันจึงยาก ดูละครเรื่องนี้ไปเถอะ มันไม่ใช่เรื่องจริงก็ว่ากันไป ที่จริงก็มาด้วยกันไปด้วยกันอยู่นะกับเพื่อไทย เสร็จแล้วเดี๋ยวนี้ไม่ไปด้วยกันเท่าไหร่แล้ว แล้วจะยังไง คือ มันพะอืดพะอมนะ ยังไม่รู้ได้ว่าจะเป็นยังไง พลเอกประยุทธ์ก็ขึ้นบนภูดูเสือกัดกัน ก็เอาเข้าไป พวกเราพวกชาวดูไป ไม่ใช่พวกดูไบ ก็ดูเขาไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความเป็นอรหันต์นั้นมีลำดับอันน่าอัศจรรย์ วันพุธที่ 28 มิถุนายน 2566 ขึ้น 11 ค่ำเดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 กรกฎาคม 2566 ( 10:55:56 )

พลเอกประยุทธ์ก็ยังเป็นลิงลมอมข้าวพอง

รายละเอียด

แล้วก็มีคนที่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ก็เริ่มต้นตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ทำหน้าที่ตามกฎหมายในขณะนั้น ออกมาทำหน้าที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาทำหน้าที่ นั่นคือออกมายึดอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งมีทั้งรูปและนาม เป็นรูปธรรมตามโลกเขา แต่นามเป็นของพลเอกประยุทธ์ ซึ่งคนยังไม่รู้ หรือแม้แต่พลเอกประยุทธ์ก็ยังเป็นลิงลมอมข้าวพองก็ปรับตัวมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ก็แสดงตัวว่าเป็นนายกตัวจริง และมีทั้งนามธรรมตามที่เป็นพุทธธรรม เพราะคนไทยนี้มีพุทธธรรมเป็นแก่นแกนจริง เป็นประธานสิ่งทั้งปวงเป็นประธานจิตด้วย เป็นธรรมะโลกุตระนี่แหละ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์งานอัฏฐาริยสัจจายุ ประชาธิปไตยแบบไทยโดยเฉพาะ ตอนที่ 3  วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 31 มีนาคม 2566 ( 12:29:11 )

พลเอกประยุทธ์ขอยึดอำนาจเป็นการต่อไม้จากประชาชน 

รายละเอียด

มันมีอำนาจปฏิวัติ ก็ผู้ปฏิวัติก็ พลเอกประยุทธ์เป็นหัวหน้าคสช.เขาบอกว่า ผมขอยึดอำนาจ ก็ชัดเจนอยู่แล้วพลเอกประยุทธ์ปฏิวัติยึดอำนาจ เขาก็ยังถือว่าพลเอกประยุทธ์ปฏิวัติ แต่มีพฤติกรรมอย่างไร ไปบอกแค่ว่า ผมขอยึดอำนาจแล้วก็สำเร็จเลยแล้วก็มาบริหารเลยตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ ลงแรงอะไรล่ะ พลเอกประยุทธ์ลงแรงอะไร พวกเราไปลงแรงตั้งหลายปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 กว่าพลเอกประยุทธ์จะมาต่อ พ.ศ. 2557 รวมทั้งหมด 8 ปี 

เราออกแรง 8 ปี พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ออกแรงเลย ดูเหมือนรถถังก็ไม่ได้เอาออกมานะ มาบอกแต่ว่า ผมขอยึดอำนาจเท่านั้น ก็พฤติกรรมนั้นบอกได้เลย นักรัฐศาสตร์ทั้งหลาย เป็นการต่อไม้จากประชาชน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเอกีภาวะประชาธิปไตยโลกุตระ วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:37:11 )

พลเอกประยุทธ์จะเป็นตัวอย่างของโลกในอนาคต

รายละเอียด

คนอย่างพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เป็นอย่างที่ประเทศทั้งหลายเขาเป็น ว่าอยู่พรรคนั้นพรรคนี้ นี่ก็เป็นเครื่องส่อแสดง อยู่ได้นานด้วย 6-7 ปีแล้ว และไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจบาตรใหญ่อะไร ใช้การทำงานการเมืองนี่แหละประชาธิปไตยแก่ประชาชนนี่แหละ ที่อาตมายังพูดไม่เก่งนะยังเอาความละเอียดลออที่พลเอกประยุทธ์มีอยู่มายืนยันไม่ได้ แต่ว่าขนาดนี้อาตมาก็ว่า หลายแล้ว ศึกษาให้ดีศึกษาเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมา พลเอกประยุทธ์จะเป็นตัวอย่างของโลกในอนาคต นักประชาธิปไตยในอนาคตจะระลึกถึงพลเอกประยุทธ์เป็นหลัก เพราะพลเอกประยุทธ์ทำงานการเมืองมา 6-7 ปีแล้วจะต่อไปอีกถึง 10 ปีถึง 20 ปี ก็จะมีข้อมูลหลักฐานมีเรื่องราวที่ได้ประพฤติปฏิบัติไปให้คนได้เข้าไปศึกษา ไปเรียนรู้ว่า อ๋อ...

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:43:08 )

พลเอกประยุทธ์ชัดเจน เข้าใจเรื่องประชาธิปไตยที่วิเศษ

รายละเอียด

พลเอกประยุทธ์บริหารแล้วประชาชนก็ไม่ได้ออกไปประท้วงต่อ ตอนนั้นที่สมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาเป็นนายก เราก็ออกไปประท้วงไม่ยอมอีก จากนั้นเป็นยิ่งลักษณ์ก็ผ่านการเลือกตั้งมา เข้ามาเป็นนายก ประชาชนก็ไม่เห็นด้วยเพราะเป็นนอมินี ก็ไปขับไล่อีก แต่พอพลเอกประยุทธ์ขึ้นมา ประชาชนไม่ได้ไปไล่ ก็เห็นว่าไม่ใช่เป็นนอมินีทักษิณ และเป็นผู้ที่มีบทบาทเข้าตาประชาชน ไม่ใช่ไม่รู้จัก แต่ประชาชนรู้จัก ก็เลยไม่ได้ไปขับไล่ ถ้าพลเอกประยุทธ์มาบริหารเหมือนกับทักษิณหรือว่านอมินีของทักษิณอีก ประชาชนจะไปขับไล่อีกไหม ก็ไป ถ้าพลเอกประยุทธ์ไปทำแบบนั้น แต่มันไม่ใช่ พลเอกประยุทธ์บริหารก็เข้าตาประชาชน 

สรุปแล้วรายละเอียดที่พูดนี้ก็คือ มันไม่มีการยึดอำนาจของพลเอกประยุทธ์เลย เพราะว่าไม่มีใครมีอำนาจสักคน นิวัฒน์ธำรง บุญทรง ไพศาลก็ไม่มี ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่มี ไม่มีอำนาจอะไรเหลือแล้วเป็นแต่เพียงพูดออกปากให้เกียรติกันเท่านั้นเอง มันเป็นสุญญากาศมันว่างหมดแล้ว พลเอกประยุทธ์บอกว่าผมขอยึดอำนาจเป็นการพูดปากเปล่า พลเอกประยุทธ์จึงไม่ใช่เผด็จการ พลเอกประยุทธ์จึงไม่ใช่คนยึดอำนาจ 

แต่ที่จริงนั้นผู้ยึดอำนาจจริงๆคือประชาชน ไปทำการประท้วง ประชาชนเป็น โปรเทสแทนท์ที่แท้จริง ประชาชนเป็นจอมประท้วงที่แท้จริง ไม่ใช่ไปทำม็อบด้วย ไปทำ protest ไปทำการประท้วงอย่างดี อย่างสงบไม่มีอาวุธ อย่างสุภาพ เอาความจริงไปยืนยันเป็นธรรมาวุธไล่สิ่งที่มันเป็นอธรรมออกไป อย่างบริสุทธิ์อย่างงดงาม อย่างชนะ Absolute เลย เป็นประชาธิปไตยที่ประท้วงโดยประชาชนเป็นตัวอย่างของโลก ไม่ได้ไปประท้วงเฉพาะยิ่งลักษณ์ ยิ่งลักษณ์เป็นตัวปลายแต่ประท้วงตั้งแต่ทักษิณ ไปถึงสมัคร ทักษิณถูกยึดอำนาจโดยพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ก็แล้วไป 

จากนั้นมาสมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ ประชาชนทั้งนั้น ของทักษิณมีทหารมาปฏิวัติ ของสมัครนั้นเป็นตุลาการภิวัฒน์ ต้องมีอะไรช่วยตามหลักเกณฑ์สังคมหลักเกณฑ์กฎหมายมันก็เป็นเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นจะเอาที่เป็นนามธรรมล้วนๆไม่มีอะไรเลย เป็นเรื่องที่จะเอามาพูดกันได้มันก็ไม่ได้ มันก็ต้องใช้มันก็ต้องสอดคล้องกัน มีทั้งรูปธรรมและนามธรรม มีทั้งกฎหมายมีทั้งพฤติกรรมที่สมบูรณ์แบบ 

ถ้าพูดไปจริงๆแล้ว การเมืองประชาธิปไตยไทยนี่เป็นตัวอย่างที่สวยงามสมบูรณ์แบบจริงๆ ไม่ได้แกล้งพูด แต่พูดความจริงเลยว่า มันเป็นตัวอย่างของโลกที่เกิดขึ้นมา เป็นปรากฏการณ์ให้แก่โลก ที่สุดยอด ใครจะว่าอาตมาเป็นคนอยู่ในมุมแคบๆมองไม่กว้าง ที่อื่นเขามีตัวอย่างสวยกว่านี้ ก็ไม่เป็นไร อาตมาก็เห็นอันนี้ อันอื่นไม่เห็นก็เลยยกอันนี้แหละ แม้แต่อาตมาก็ไปเป็นส่วนร่วมในกระบวนการนั้น จนเขาหาว่าเป็นพระเป็นเจ้าจะมายุ่งอะไรกับการเมือง อาตมาเห็นว่าเป็นหน้าที่ เห็นเป็นสิ่งควรทำ อาตมาก็เป็นคน ประชาชนคนหนึ่งในประเทศไทยอาตมาก็ทำหน้าที่ 

จนกระทั่งทำหน้าที่แล้วได้ผล ก็ดีแล้ว ก็ถึงจะเกิดความเป็นจริงของพฤติกรรมมนุษย์ จริงๆ มันก็เสร็จ สำเร็จรูปสภาพ จนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้ ที่การบริหารเป็นนายกมาตั้งแต่สำเร็จอำนาจตอนนายกสมัคร สำเร็จตอนอำนาจของนายกสมชาย สำเร็จตอนอำนาจของนายกยิ่งลักษณ์สำเร็จ พลเอกประยุทธ์ขึ้นตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ 8 ปีกว่าแล้ว 

ประชาชนทุกวันนี้ว่ากันไปแล้ว อาตมาว่ากระแสของพลเอกประยุทธ์นี้สูงมาก อาตมาไม่อยากเป็นนักพยากรณ์ ว่าการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมนี้ ผลจะออกมาอย่างไร ไม่อยากเป็นนักพยากรณ์ ก็คอยดูก็แล้วกัน โพลต่างๆ ปากกาเซียนต่างๆ อาตมาว่างวดนี้จะหักประกาศเซียน ทุบโพลต่างๆ แตกระเนระนาดไปหรือเปล่า ปากกาเซียนหักไปไม่รู้กี่ด้ามหรือเปล่า ก็ไม่ต้องไปถึงดูไบหรอกไปดูไป อีกไม่กี่วันก็ถึง 14 พฤษภาคม เหลืออีก 16 วัน เอง ใจเย็นๆ แต่แม้กระนั้นก็ดี ตามกระแสของสังคมขณะนี้ ใครก็เห็นแล้วว่า ประชาชนเอาประยุทธ์ทั้งประเทศ แล้วพลเอกประยุทธ์ก็วางตัวได้สวยมาก สวยอย่างไร คือไม่ยอมไปเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นอิสระ ดีมาก นี่เป็นประชาธิปไตยแท้ ไม่ใช่ไปอยู่ในพรรคจะต้องให้พรรคอุ้มชู ไม่เกี่ยว 

แสดงว่าพลเอกประยุทธ์มีความรู้ในเรื่องประชาธิปไตยลึกซึ้งดีทีเดียว พวกที่มีความรู้ประชาธิปไตยประดักประเดิดไม่จริง ก็จะว่าอะไรวะ ให้เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของรวมไทยสร้างชาติ ประกาศเป็นสมาชิกของรวมไทยสร้างชาติแต่ไม่ลงปาร์ตี้ลิส พวกนักการเมือง นักรัฐศาสตร์ประดักประเดิดยังไม่ค่อยเข้าใจ ก็บ๊องๆๆ ไปตามประสาเขา

ยิ่งเห็นเลยว่า พลเอกประยุทธ์ชัดเจน เข้าใจเรื่องประชาธิปไตยที่วิเศษ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปแย่งชิงอะไรในพรรค แม้ว่า สมมุติว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ รทสช. ชนะ แคนดิเดตเบอร์ 1 ก็คือพีระพันธ์ใช่ไหม ที่เขาใช้ Party List เบอร์ 1 แล้วดูซิว่าถ้า รทสช. ชนะ แล้วก็มีสิทธิ์เสนอชื่อนายก เขาจะยกพีรพันธ์ไหม เขาจะเสนอพีระพันธ์ไหม แล้วพลเอกประยุทธ์จะอกหักไหม คอยดูกันต่อไป ซึ่งไม่ใช่ต้องดูต่อไป ลึกๆคนไทยก็พอรู้เรื่องอยู่แล้ว นอกจากคนตาเขตาเอียงตาบอดตาถั่ว ก็ไม่เห็น 

เพราะอะไรก็เพราะสัจจะเพราะความจริง อันนี้แหละเป็นการยืนยันประเทศไทย ว่าประเทศไทยนี้จริงใจ และมีดวงตาที่เห็นความจริง นี่เป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีความคิดกันอย่างนี้หรือ นี่เป็นโพธิรักษ์โพลนะ นี่อ่านเป็น โพลของโพธิรักษ์เอามาพูด ไม่ใช่โพลของสำนักไหน แต่สำนักโพธิรักษ์ อาตมาเห็นอย่างนั้นจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ แพ้แน่ๆถ้าพลังเงียบไม่ช่วย

วันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2566 วันขึ้น 9 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2566 ( 13:02:11 )

พลเอกประยุทธ์ตัดสินใจยึดอำนาจการปกครอง

รายละเอียด

คือ ประชาชนออกมาปฏิวัติแล้ว เอาความจริงมาอธิบายยืนยันอ้างอิงว่ารัฐบาลไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ไม่เหมาะสมอย่างนั้น อย่างนี้ ที่จะทำลายประเทศไทย รัฐบาลเองเป็นขบถต่อประชาชน ไม่ได้นำพาให้ประเทศไทยเป็นอยู่อย่างสงบอบอุ่นอะไร คือรัฐบาลทักษิณนั่นแหละ ทำอำนาจบาตรใหญ่ พ่ายแพ้แล้วก็ยังไม่รู้จักแพ้ ไม่สามารถจะอยู่ในประเทศได้แล้ว เป็นนักโทษแล้วก็ยังเบ่งอำนาจ เอานอมินีขึ้นมาอีก 3-4 คน แต่ประชาชนก็ทำรัฐประหารด้วยวิธีประชาธิปไตยแท้ๆ ชนะสมบูรณ์แบบ 

จนกระทั่ง พลเอกประยุทธ์เข้ามาแสดงตัวเป็นตัวแทนประชาชน เข้ามากล่าวอย่างสุภาพ คำกล่าวนั้น เขาบันทึกเอาไว้ คุณอมรรัตน์บันทึกไว้บอกว่า พลเอกประยุทธ์เข้าไปกล่าว ในฐานะเป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.)ขณะนั้น ว่าตกลงรัฐบาลยืนยันไม่ลาออกใช่หรือไม่ ซึ่งตอนนั้นนายชัยเกษม นิติสิริ ตอบว่านาทีนี้ไม่ลาออก พลเอกประยุทธ์จึงบอกว่า “ถ้างั้นตั้งแต่นาทีนี้ ผมตัดสินใจยึดอำนาจการปกครอง” ใช้ภาษาสำนวนปฏิวัติหรือเผด็จการด้วย คือยึดอำนาจ มันเป็นภาษาที่สื่อว่ายึดอำนาจ เป็นการใช้อำนาจบาตรใหญ่ 

แต่พลเอกประยุทธ์ไม่ได้พูดต่อว่าในนามของประชาชน เพราะตอนนั้นพลเอกประยุทธ์คงยังไม่ได้นึกถึงอะไรหรอก ตัวเองก็อยู่ในฐานะผู้รักษาตำแหน่งหัวหน้า คสช. เป็นทหาร เป็นพลเอกด้วย อยู่ในหน้าที่หัวหน้า คสช.รักษาความสงบของประเทศไทย ก็ออกมาใช้คำพูดอย่างนี้ต่อผู้ที่ยังดูแลรักษาอยู่ตรงนั้นคือคุณชัยเกษม “ถ้างั้นตั้งแต่นาทีนี้ ผมตัดสินใจยึดอำนาจการปกครอง” เพราะฉนั้น ต่อจากนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงจำเป็นจะต้องเข้าไปควบคุมอำนาจการปกครองประเทศตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16:30 น เป็นต้นไป อย่างนี้เป็นต้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  Neo Protest ประชาชนปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 12:42:16 )

พลเอกประยุทธ์ถูกต้องเป็นผู้มารับไม้ ได้อย่างถูกต้อง

รายละเอียด

อาตมาเอง อาตมาจำตัวเองได้ว่าออกไปร่วม ท่านจะเริ่มกันอยู่บ้างแล้ว แต่เราไปเริ่มต้นร่วมตั้งแต่ที่สนามหลวง พ.ศ. 2549 จบเกมจริงๆก็ พ.ศ.2557 ทั้งหมด 8 ปี ถือว่าจาก พ.ศ.2557 ถึงวันนี้ทั้งหมดกี่ปีแล้ว 7 ปี มาแล้ว 

พลเอกประยุทธ์ก็รับมาตั้งแต่ พ.ศ.2557 จนถึงบัดนี้ อาตมาก็เห็นดีเห็นงามว่าพลเอกประยุทธ์ถูกต้องเป็นผู้มารับไม้ได้อย่างถูกต้องแล้ว และทำงานมาเจริญดีขึ้น ตัวของพลเอกประยุทธ์ก็เจริญดีขึ้น แม้จะเหน็ดเหนื่อยขึ้นบ้างแต่ก็ใจสู้ ทำด้วยความเอาใจใส่จริง จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ก็ยังมีความเจริญอยู่ คนที่พยายามจะโค่นล้ม ซึ่งเขาก็ต้องพยายามเป็นธรรมชาติที่ต้องทำก็ไม่มีปัญหาอะไร มันก็เป็นการพิสูจน์สัจธรรม

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม หนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก


เวลาบันทึก 21 มีนาคม 2564 ( 14:46:46 )

พลเอกประยุทธ์ทำถึงขั้นไหน

รายละเอียด

นี่เขาอยู่ในวงการเขาดูว่า พลเอกประยุทธ์ทำถึงขั้นไหน แต่คนที่ไม่มีความรู้จะเป็นนักกฎหมายจะเป็นนักการเมืองที่เขาอยู่นี้เขาไม่รู้ ลึกละเอียดเหมือน ดร.อัษฎางค์ เขาเข้าใจเขาก็พูดตามหลักวิชาการออกมาเลย และสัจจะเป็นอย่างนี้ด้วยหลวงปู่เข้าใจ หลวงปู่ไม่ได้เรียนรัฐศาสตร์ ไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์หรอกชาตินี้ แต่ก็พูดกับเขารู้เรื่องนักวิชาการพวกนี้ฟังหลวงปู่พูดแล้วไม่ได้เป็นเรื่องเละเทะ แต่คนทั่วไปเขาก็ดูถูกก่อนเขาก็ไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อก็เข้าใจไม่ได้ 

แต่ว่านักวิชาการถ้ามีอคติก็จะฟังหลวงปู่ไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าไม่มีอคติแล้วจะฟังหลวงปู่พูดเข้าใจ แม้แต่ความหมายคำว่า กฎหมายมหาชนกับกฎหมายเอกชน ก็ตาม 

เขาบอกว่าพลเอกประยุทธ์กำลังพยายามไม่ให้กฎหมายมหาชนไปครอบงำกฎหมายเอกชน พยายามให้เกื้อกูลกัน มันก็เป็นสุดยอดแล้วในการบริหารประเทศ เพราะคนทำตามกฎหมายเป็นหลัก นอกนั้นก็เป็นเรื่องนิสัยใจคออย่างเช่นทักษิณ กฎหมายจะว่าอย่างไรกูไม่ฟังเสียงกูทำของกู ตามความโลภความเห็นแก่ได้ อำนาจบาตรใหญ่ของกู ก็ทำไป 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเอื้อไออุ่นกับลูกๆหลานๆ งานมหาปวารณา มหาบิ๊กคลีนนิ่ง

วันอาทิตย์ที่  6 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ธันวาคม 2565 ( 12:30:25 )

พลเอกประยุทธ์ทำเศรษฐกิจการเมืองแบบของพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

มาถึงวันนี้แล้วอาตมากำลังนำเสนอเศรษฐกิจแบบของพระพุทธเจ้า กับเศรษฐกิจแบบทุนนิยมแบบโลกโลกีย์ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจ การเมือง เรียกกันว่าเศรษฐกิจการเมืองแบบทักษิณ แม้แต่ของพระพุทธเจ้าซึ่งพลเอกประยุทธ์ทำอยู่ตอนนี้ก็เป็น เศรษฐกิจการเมือง ที่แตกต่างกัน อย่างเห็นได้ถ้ามีความเข้าใจ มันก็ซับซ้อนลึกซึ้งอยู่บ้าง มันก็ได้ขนาดนี้ อาตมาถึงเชียร์พลเอกประยุทธ์ ในยุคนี้ได้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว เพราะว่าที่ทำมาเรื่องเศรษฐกิจหรือว่าพยายามแก้ไขปัญหาประชาชน ที่ไม่พอกินพอใช้ อาตมาไม่ไปใช้คำว่าแก้ปัญหาประชาชน ให้ไม่เป็นคนจน อาตมาไม่พูด อาตมาให้พออยู่พอกินเลี้ยงตัวเองให้รอดเป็นเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์แบบนั้น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ GDP แบบโลกียะกับแบบโลกุตระ วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 เมษายน 2564 ( 07:44:26 )

พลเอกประยุทธ์นี้เป็นโพธิสัตว์หรือเปล่า

รายละเอียด

ในสถานการณ์โควิด ชาวอโศกเอาตัวรอดด้วยธัมมาธิปไตย วิถีพุทธ เศรษฐกิจพอเพียง อยากทราบว่าสังคมโลกและประเทศจะใช้วิธีไหนเอาตัวรอดหลัง covid  ใช้อันนี้แหละใช้แบบศาสนาพุทธนี่แหละมันเป็นไปได้โดยที่ว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 เราเป็นพระโพธิสัตว์และท่านก็ใช้ธรรมะของศาสนาพุทธ แต่ท่านเป็นในหลวงเป็นพระเจ้าแผ่นดินของประเทศที่มีคนหลายศาสนา ฟังความนี้ให้ดีๆ ท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดินของประเทศที่ประชากรของพระองค์มีคนหลายศาสนา เพราะฉะนั้นท่านจะไปลงความเห็นเอาแต่ของพุทธเต็มที่เลยไม่ดี ดูไม่ดี ท่านก็ไม่ทรงปฏิบัติอย่างนั้น ก็เป็นหน้าที่ของอาตมาที่จะต้องขยายสัจธรรม คุณธรรมพวกนี้ ติดตามไป เป็นเรื่องที่อาตมารับผิดชอบต้องทำหน้าที่นี้ ประเทศไทยจะไปด้วยอะไร ไปด้วยอันนี้ ขณะนี้ประเทศไทยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำพาสังคมประเทศชาติไป พลเอกประยุทธ์เป็นทหารในยุคนี้ ที่มีคุณสมบัติมีคุณธรรม จะบอกว่าพลเอกประยุทธ์นี้เป็นโพธิสัตว์หรือเปล่า ทำงานเพื่อมวลประชาชนหรือเปล่า? อาตมาพูดอย่างนี้ไปแล้ว คงมีคำตอบในใจของคนทันทีว่า พลเอกประยุทธ์นี้ทำงานเพื่อประชาชนหรือเปล่า พลเอกประยุทธ์ทำงานเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีรายได้ตามอัตรา คนทำงานมีรายได้ตามเท่าที่ควร ไม่มีการใช้ความฉลาดแกมโกงที่จะหารายได้เพิ่มอีก คนซื่อสัตย์แบบนี้แล้วก็มีชีวิตอยู่ขนาดนี้เป็นชีวิตพอเพียงเท่านี้ก็พอ ไม่ต้องไปทำที่เห็นแก่ตัวเองไม่ต้องทำเลยไม่ คนอย่างนี้เป็นคนซื่อสัตย์สุจริตเป็นคนที่อยู่ในแกนของธรรมะ คำว่าโพธิสัตว์ เนื้อแก่นลึกชัดๆก็คือผู้รับใช้ผู้อื่น โพธิสัตว์ ผู้เพื่อผู้อื่น ส่วนอรหันต์นั้นผู้เพื่อตน 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 28 กรกฎาคม 2563 ( 11:08:36 )

เวลาบันทึก 29 กรกฎาคม 2563 ( 07:05:09 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:46:03 )

พลเอกประยุทธ์พิสูจน์ตัวเองเป็นนักการเมืองมีฝีมือ

รายละเอียด

แล้วพลเอกประยุทธ์ก็ค่อยๆปรับตัว ตอนแรกก็โดนว่าเป็นเผด็จการบอกว่าทหารปฏิวัติ จนพลเอกประยุทธ์ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าผมเคยเป็นทหาร แต่ตอนนี้ผมเป็นนักการเมือง ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมไม่ใช่ทหาร แต่ผมเคยเป็นทหาร เอาตำแหน่งทหารออกไม่ได้เพราะเป็นยศพระราชทาน อะไรต่างๆก็พูดไปหมด คนก็ยังเข้าใจไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เพราะมันฉีกกันไม่ออกมันเหมือนเหรียญสองด้าน เหมือนสิริมหามายา พูดอย่างไรมันเป็นทหาร บอกว่าไม่ใช่ทหารอย่างไร แล้วบอกว่าผมขอปฏิวัติยึดอำนาจแล้วไม่ใช่ได้อย่างไร คือมันไม่ได้ มันก็มีอะไรซับซ้อนอยู่ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่จริงๆโดยสาระสัจจะของมันคือ ประชาชนปฏิวัติรัฐประหารสำเร็จเรียบร้อย พลเอกประยุทธ์มารับไม้ต่อ แล้วก็บริหารมาตั้งแต่ยังไม่ได้เลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์ก็มีฝีมือ มีความสามารถ ประชาชนก็ เฮๆๆ กี่โพลๆ จนปัจจุบัน ก็ยังเป็นที่หนึ่งอยู่ จริงมั้ยล่ะ ไม่ใช่เป็นเรื่องเล่นเมื่อไหร่ ไม่ใช่เรื่องลิเกละครเขียน script ขึ้นมานะ แต่เป็นเรื่องจริงทั้งนั้น นี่ 6-7 ปีผ่านมาแล้ว พลเอกประยุทธ์ก็พิสูจน์ตัวเอง แม้แต่อาตมาก็ยังยอมรับว่า พลเอกประยุทธ์นี้ไปอีกหลายสิบปีเลย ตอนนี้อายุไม่ถึง 70 ปีเอาไปเลย บริหารร่างกายหน่อย แต่ดูท่าทีแข็งแรงอยู่ เป็นทหารรู้จักวิธีบริหารร่างกาย ก็คงจะแข็งแรงกว่าอาตมาได้ อายุ 80 ปีแล้วแข็งแรงเหมือนอาตมานะ บริหารไปเลยอายุ 80 ปี Joe biden ก็อายุ 78 ปี

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเอกีภาวะประชาธิปไตยโลกุตระ วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2564 ( 14:42:26 )

พลเอกประยุทธ์มารับไม้ต่อ จากประชาชน

รายละเอียด

เหมือนอย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้รับเลือกเป็นนายกนี้ ไม่ได้รับเลือกมาจากการเป็น ส.ส. ได้รับเลือกมาจากเหตุปัจจัยที่มาจากประชาชน ในรอบ 4 ปีแรก ประชาชนเราไปปฏิวัติ ไปประท้วงไล่จนเรียบร้อย แล้วอาตมาก็ยืนยันว่า รัฐบาลถูกล้มด้วยประชาชน แต่คนเขาไม่เชื่อไม่เข้าใจอย่างนั้น พอเราไปประท้วงจนจบแล้ว เราก็รอผู้มารับไม้ช่วง พลเอกประยุทธ์มารับไม้ต่อในฐานะตอนนั้นพอดี ก็มาใช้ภาษาบอกว่า ผมขอยึดอำนาจ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงไม่ได้ใช้มีดใช้ปืนใช้รถถัง มันสงบเรียบร้อยหมดแล้วก็ยึดไปเลย 

แล้วนายกประยุทธ์ก็บริหาร 4 ปีนั้นมา เขาก็เอาพฤติการณ์นี้ มายืนยันว่า เป็นเผด็จการทหาร ทหารยึดอำนาจแล้วมาบริหาร 4 ปี หลังจากนั้นก็มีเลือกตั้ง เลือกตั้งเสร็จก็ได้นายกประยุทธ์อีกทั้งที่ไม่ได้เป็น ส.ส เขาเลือกตั้ง ส.ส.กันแล้วมาโหวตเสียงให้นายกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ตอนนี้นายกประยุทธิ์ จึงเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบเลย แต่คนเขาก็ยังไม่เข้าใจ นักรัฐศาสตร์ก็ยังไม่รู้ บอกว่า เขาเป็นทหารอยู่นั่นแหละ ทั้งที่นายกประยุทธ์เอง บอกว่าตอนนี้ผมไม่ใช่ทหารแล้วนะ ใช่ผมเคยเป็นทหารมา แต่ตอนนี้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี คนก็ยังบื้อไม่เข้าใจความจริงอันนี้ นี่คือความซับซ้อน ที่ทำให้คนแยกไม่ออก ว่ามันคืออะไรแท้ มันเป็นลักษณะสิริมหามายา เป็นสภาพสอง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ศีลกับอปัณณกปฏิปทา 3 ในวิชชาจรณะ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ที่บวรสันติอโศก  


เวลาบันทึก 17 มกราคม 2566 ( 12:07:30 )

พลเอกประยุทธ์เป็นนักประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบแล้ว

รายละเอียด

เดี๋ยวนี้จะว่าไปแล้วก็อยู่ในร่องในรอยหมดแล้ว พลเอกประยุทธ์เป็นนักประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบแล้ว ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเดียว เพราะฉะนั้นเสียงนกเสียงกา เสียงหมาเสียงหมูแล้วไป ฟังเขาบ้างไม่ได้ตีทิ้ง อันนี้เข้าท่าก็เอา อันนี้ไม่เข้าท่าก็แล้วไป ก็ฟังเขาติงก็ดีแล้ว ประชาธิปไตยต้องมีการตำหนิติเตียน 

แม้แต่ศาสนาพุทธก็ต้องมี นิคฺคเณฺห นิคฺคหารหํ ปคฺคเณฺห ปคฺคหารหํ  ควรข่มคนที่ควรข่ม  ยกย่องคนที่ควรยกย่อง การชมก็ชมไปการตำหนิก็ต้องตำหนิและตำหนิหนักด้วย ศาสนาพุทธให้มีการตำหนิ การชื่นชม การยกย่องสรรเสริญไม่มีค่าควรแก่ความเจริญใดเลย มีแต่ความเสื่อมต่ำ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎกชัดเจน คำสรรเสริญ ไม่มีค่าใดๆเลยที่จะให้คนเจริญ มีแต่ความเสื่อมต่ำการสรรเสริญนั้น ฟังธรรมะพระพุทธเจ้าให้ชัดๆแล้วมันจริงที่สุดเลย 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม พ่อครูตอบปัญหาผู้ชมทางบ้าน วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2565 ( 14:07:57 )

พลเอกประยุทธ์เป็นประชาธิปไตยแท้อย่างไร

รายละเอียด

พอทักษิณ และนอมินี เราไปไล่ แต่ประยุทธ์มาเราก็ไม่ได้ไล่ เขาปกครองด้วยประชาธิปไตยมาได้ครบเทอม ปีที่ 6 ค่อยเลือกตั้งเลือกตั้งเสร็จ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ไปอยู่ในพรรคไหนเลย พลเอกประยุทธ์เป็นประชาธิปไตยแท้เมืองไทยเป็นประชาธิปไตยแท้ แม้พรรคต่างๆก็ยอมให้คนนอกพรรคมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้เดี๋ยวนี้ พลเอกประยุทธ์ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไหนนี่คือประชาธิปไตยแท้ไม่ได้ทำเพื่อพรรค แต่ประชาชนยอมรับอำนาจพลเอกประยุทธ์ ไม่ใช่อำนาจพรรค พรรคก็พยายามแย่งให้นายกฯประยุทธ์ไปเป็นหมู่ พรรคพลังประชารัฐ อาตมาไม่รู้ข้อมูลลึก แต่รู้เลาๆ ก็เอาเข้าไป ก็ที่จริงพรรคพลังประชารัฐเป็นของพล.เอกป้อม ก็แสดงว่าพลเอกประยุทธ์ไม่ใช่เป็นของป้อมแต่เป็นของประชาชน รายละเอียดเหล่านี้ จะบังเอิญหรือเจตนา ทำให้เป็นอย่างนี้อยู่ เต็มมือ ปรากฏการณ์จริง ประเทศไทยปฏิวัติกี่รัฐ คนนะคนไทยด้วยคนไทยปฏิบัติแสดงว่าคนไทยรู้ว่าคุณเอกประยุทธ์บริหารนี่แหละคือประชาธิปไตยเขาก็ให้บริหารด้วย พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ได้เข้าพรรคใด ก็ทำงานอยู่ ทำตั้งแต่พวกตื้นๆของโลกว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำรัฐประหาร เป็นผบ.ทบ.มายึดอำนาจ เราก็ว่าไม่ได้ยึดอำนาจจากประชาชน แต่มารับไม้ต่อจากประชาชน ก็กว่าจะมาทำงานตรงนี้ เราก็รอเสียเหนื่อย แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์บริหารแบบทักษิณ เราจะไปไล่กันไหม…ไป เราเอาที่เนื้อหาสาระ คนมีมันสมองปฏิภาณปัญญารู้ว่า ประยุทธิบริหารแบบใด คนไทยมีปฏิภาณปัญญา แสดงว่าคนไทยรู้ว่า ที่ทำนี้เป็นประชาธิปไตยเขาก็ให้บริหารต่อ มีแต่พวกโง่เย้วๆอยากได้อำนาจก็ออกมาตะโกน ก็ต้องมีคนโง่ๆแบบนี้อยู่ หากไม่มีก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องมีฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 9 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2563 ( 09:47:17 )

พลเอกประยุทธ์เป็นหัวหน้าประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ

รายละเอียด

สรุปอีกทีนึงว่า สิ่งที่เขาเข้าใจพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ยังมีอีกหลายมุม มุมที่ว่า เผด็จการนี้ยิ่งไม่ใช่ แม้จะมาเป็นหัวหน้ารัฐประหารก็ไม่ใช่ ประชาชนทำรัฐประหาร เพราะฉะนั้นในความถูกต้องก็คือ เป็นผู้ที่เป็นหัวหน้าประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์แบบ พลเอกประยุทธ์ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเข้าใจได้ง่ายๆว่าประชาธิปไตยโลกุตระนั้นมันยิ่งใหญ่ขนาดไหน 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 15:08:03 )

พลเอกประยุทธ์เป็นหัวเจาะประชาธิปไตย

รายละเอียด

ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆนะ ประชาชนก็ยังไม่เข้าใจ นักการเมืองก็ยังไม่เข้าใจ ซึ่งมันไม่ง่าย จะไปอธิบายการเมืองก็ไม่ได้เท่าไหร่ แล้วมีแต่ต้องทำงานลุยไป เพราะว่าภาระที่มันทับถมไว้ เขาหมกเรื่องการเมืองเก่าๆมา มีแต่เรื่องเน่าๆมาเยอะ เพราะฉะนั้นพลเอกประยุทธ์เป็นไพโอเนียร์เป็นหัวเจาะประชาธิปไตย ซึ่งแต่ละประเทศในโลกไม่มี มีแต่ในประเทศไทย อาตมาจึงเห็นใจมากเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม พระอรหันต์มาตอบปัญหาประชาธิปไตยแท้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 กุมภาพันธ์ 2564 ( 18:44:40 )

พลเอกประยุทธ์เป็นอิสรเสรีภาพสมบูรณ์แบบ

รายละเอียด

อาตมาขอบอกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องที่อาตมามองพลเอกประยุทธ์ว่า อันนี้ดีมาก อันนี้เป็นประชาธิปไตย อันนี้เป็นอิสรเสรีภาพสมบูรณ์แบบ คือพลเอกประยุทธ์ไม่เข้าเป็นสมาชิกของพรรคใดๆ ยืนหยัด ยืนยัน แล้วเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีพรรค นี่เป็นประชาธิปไตยที่ absolute ที่สุด ultimate ที่สุด
นี่แหละประชาธิปไตยที่แท้ และก็สามารถทำงานมาได้ อยู่ในกรอบกฎหมายเก่าอ้างว่าจะหมดเวลาเท่านี้

รองนายกฯวิษณุก็ออกมายืนยันว่า 8 ปีแล้วหมด ไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นได้แล้วอะไรในกฎหมาย อาตมาเห็นว่าถ้าแก้ กม.ตัวนี้ได้ ไม่ใช่ว่าจะเอาแค่ 8 ปี แต่ถ้าเอาตัวบุคคลและผลงาน และแถมประชาชนยังต้องการอยู่ด้วย ตัวบุคคลเอง ผลงานดี ประชาชนก็เห็นด้วยต้องการด้วย แค่ 3 เส้าแค่นี้ พลเอกประยุทธ์ก็เป็นคนที่อาตมาเห็นว่าเป็นคนที่สมควรได้ทำงานต่อไป แต่ถ้าไม่แก้ พลเอกประยุทธ์ก็ไม่ได้ทำงาน ก็ทำงานแค่ข้างเคียง อาจเป็น รมต. กลาโหมอยู่เท่านั้น ซึ่งก็ไม่เต็มที่ ก็แล้วแต่ อาตมาก็ดูว่าประเทศไทยจะยังไงต่อไป อาตมาไม่ได้ไปร่วมไม้ร่วมมือกับเขาหรอกการบริหารประเทศ อาตมาทำตามประสาอาตมา จะมีคนฟังบ้างด่าบ้าง คนด่ามากกว่าคนเห็นด้วย อาตมาทำอยู่ทุกวันนี้ ก็ไม่ได้ท้อแท้อะไร ไม่ได้ย่อหย่อน เพราะอาตมาเข้าใจอยู่แล้ว

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ ปลุกธรรม ครั้งที่ 3 พ่อครูพบ ดร.สุริยะใส กตะศิลา

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2565 ( 20:50:42 )

พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่คนดันทุรัง

รายละเอียด

จนกระทั่งรัฐบาลประยุทธ์ ขึ้นมาบริหาร เราก็ไม่ได้ไปประท้วงอีก ให้ทำงานมาถึง 8 ปี แล้วถึงวันนี้เราก็ยังเห็นดีอยู่ว่า ท่านประยุทธ์น่าจะได้ทำต่อตามที่ความตั้งใจของพลเอกประยุทธ์เองว่า ต้องการจะทำต่อ แต่พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่คนดันทุรัง เขาจะให้หยุดก็หยุด ไม่ใช่คนดันทุรัง เขาจะให้ทำต่อ ก็พูดไว้แล้วว่าทำต่อมีสิ่งต่อที่จะต้องทำอย่างนี้เป็นต้น ก็ดูไปก็แล้วกันว่าหวยจะออกอะไรในประเทศไทย ตอนนี้ก็ยัง โอ้โห ..มีตั้งหลายคนที่เป็น candidate จะขึ้นมาเป็นนายกอยู่นี่ อย่างมีพิธา โอ้โห ชูมาเด่น กระนั้นอุ๊ง
อิ๊งก็ยังมาแทรกอยู่ เศรษฐาก็ยังเป็นแคนดิเดต เป็นตัวที่จะเข้ามาชิงตำแหน่งนายกกัน มีพิธา มีอุ๊งอิ๊ง มีเศรษฐา แม้แต่อนุทินก็มีชื่อในนั้น ใครอีกล่ะ บิ๊กป้อมประวิตร แหมลืมไปได้ไงคนนี้ บิ๊กป้อมนี้มากับเพนกวินนะ เดินท่าทางเหมือนเพนกวิน นี่ก็อีกอย่างนี้เป็นต้น 

แต่ว่า สังเกตดีๆเถอะ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้แสดงตัวว่าจะมาชิงเป็นชื่อในแคนดิเดต ไม่มี มีแต่ทำงานไป อาตมาถึงบอกว่า ผู้ที่เอาแต่พูดอวดชูนโยบายเหมือนพิธา แต่ประยุทธ์ไม่ต้องชูอะไรมากก็บอกบ้าง ไม่บอกก็ทำเลยทำๆๆ เพราะมันมีคณะบริหารอยู่แล้วเห็นว่าควรทำก็รีบทำไป ก็ได้ผลงานทุกวันนี้ก็เจริญงอกงามแม้แต่ในทางวัตถุ ทางจิตวิญญาณก็นำอยู่อย่างประพฤติให้ดู พลเอกประยุทธ์นี้ประพฤติธรรมะโลกุตรธรรมให้ดู จนกระทั่งอาตมาเห็นว่าคนนี้เป็นโพธิสัตว์ บอกไปแล้วคนเข้าใจไม่ได้ อาตมาก็ไม่ได้พยายามอธิบายขยายความอะไรเพราะมันไม่ง่าย แต่ยังไงพลเอกประยุทธ์ก็ทำอยู่  แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นคนเอาตัวตนมาแสดงโด่เด่เป็นหลักยึดมั่นถือมั่น ใครยินดีอยู่ให้ทำก็ทำ ใครไม่ยินดีให้อยู่ให้ทำก็เลิก จนกระทั่ง 8 ปีก็มีผลงาน เรื่องนี้ดูไปเถอะอย่าเพิ่งไปหยุด พวกเราพวกชาวดูไป บอกแล้วไม่ใช่ชาวดูไบ 

คุณรัฐพลบอกว่าอิงการเมือง เราไม่ได้อิง เราไปทำการเมืองอย่างเต็มสภาพอย่างระมัดระวัง แล้วไม่ได้ไปแย่งชิงตำแหน่งหน้าที่ อาตมาบอกไว้เลย อาตมาไม่ได้ไปเอาตำแหน่งในทางการเมือง แน่นอนคุณชาตินี้ตามดูอาตมาไปเถอะ อาตมาบอกอีกคำ อาตมาโชคดีมากเลย กรรมมหาวิบากในชาตินี้ อาตมาไม่ได้เข้าไปเป็นคนมีตำแหน่งหน้าที่อะไรที่จะเป็นยศศักดิ์เป็นตำแหน่งหน้าที่ทางโลกเลย มีแต่ถูกคนดูถูกดูแคลน มีแต่คนเขาตั้งให้เลยนะ ตั้งให้เป็นเทวทัต ตั้งให้เป็นศาสดามหาภัย แม้แต่ว่า นักการเมืองที่เขาว่าไปเป็นตัวตั้งตัวตี ไม่ อาตมาก็พาทำเป็นมวลประชาชนเพราะพวกเราประชาธิปไตย ไม่มีปัญหาอะไรเป็นแต่เพียงว่าอาตมา อาตมามีการแนะว่าจะเอาอย่างนี้ด้วยไหมถ้าเอาด้วยก็ไปทำกัน ถ้าพวกคุณไม่ไปอาตมาก็ไม่ไปแต่ถ้าพวกคุณมีมวลมากพอบอกว่าอาตมาจะพาทำอย่างนี้จะไปกันไหม ถ้าไปก็ไปกันเป็นหมู่มวล ไม่ได้ไปคนเดียวโด่เด่ แล้วไม่ได้ใช้การบังคับด้วย ไม่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ด้วย มันลึกซึ้งค่อยๆ ดูกันไป 

ที่มา ที่ไป

รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #27 ตอบปัญหาให้ถึงสัมมาธิปไตย วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 สิงหาคม 2566 ( 13:50:33 )

พลเอกประยุทธ์ไม่ใช่หัวหน้าปฏิวัติแค่มารับช่วงไม้ต่อจากประชาชน

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นนายกฯประยุทธ์นี้ ไม่ได้มาทำปฏิวัติอะไรเลย บอกให้ทราบพวกที่เห่าๆ อยู่นี่ ไปลงโทษว่า นายกฯประยุทธ์เป็นหัวหน้าปฏิวัติ ไม่ใช่ เป็นหัวหน้า คสช. ที่มารับตำแหน่งที่ จะต้องมาทำตามหน้าที่ในขณะนั้น อย่างสมรูปสมรอย ต่อเชื่อมอย่างสมรูปสมรอย เท่านั้นเอง พอมาทำแล้วก็พิสูจน์ตัวเองจนถึงทุกวันนี้ พูดอย่างสง่าเลย แน่นอนมีข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆ แต่อยู่ในเกณฑ์เกรด A ทั้งนั้น ขอยืนยัน อยู่ในเกณฑ์เกรด A ทั้งนั้น ไม่มีใครเลียนแบบได้อย่างนี้ทีเดียว ไม่ได้ ขอยืนยันเลย 

สรุปแล้ว อยากจะให้คนที่ไม่รู้เรื่องก็ตาม พลเอกประยุทธ์ก็ตาม รู้ตัวบ้างว่าตัวเองไม่ใช่หัวหน้าปฏิวัติ ไม่ได้ทำปฏิวัติ แต่ประชาชนต่างหากเป็นผู้ปฏิวัติ แล้วพลเอกประยุทธ์มารับช่วงไม้ต่อจากประชาชน อันนี้คือสัจจะ ไม่ใช่ภาษา ไม่ใช่รูปแบบ แต่เป็นสัจจะที่เป็นนามธรรมสภาวธรรมที่แท้จริงของประชาธิปไตย สวยที่สุด ไม่มีอะไรสวยเท่าอีกแล้ว เลียนแบบไม่ได้ง่ายๆ คุณจะไปสร้างหนัง ทำลีลาอย่างไรก็ไม่เหมือน เหตุปัจจัยทุกอย่างมันสุดยอด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เป็นคนจนแบบเป็นไท จึงมีประชาธิปไตยดีสุด วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 มีนาคม 2564 ( 14:25:12 )

พลเอกประยุทธ์ไม่ได้บริหารด้วยเผด็จการ

รายละเอียด

เช่นเดียวกับประชาธิปไตยเมืองไทย ขอลงตรงนี้อีกนิดนึง คนยังไม่เข้าใจตรงนี้กันนัก นักรัฐศาสตร์ซึ่งเรียนมาจากตะวันตกจบด็อกเตอร์มาจากตะวันตกทั้งนั้นนักรัฐศาสตร์ จบรัฐศาสตร์เป็นด็อกเตอร์ของเมืองไทยก็ตามก็ยังไม่เข้าถึงโลกุตรธรรมเท่าไหร่ เขาก็จะยืนยันว่า อย่างเมืองไทยนี่ ยังเป็นเผด็จการ นายกฯประยุทธ์ พลเอกประยุทธ์ เขาก็ยังถูกยืนยันว่าเป็นเผด็จการ เอาละใน 4 ปีแรก ที่พลเอกประยุทธ์บริหารเป็นนายกฯ เพราะพลเอกประยุทธ์บอกว่าผมขอยึดอำนาจ มีพฤติการณ์อันนี้ แล้วก็มาบริหารไป แต่พอ 4 ปีหลัง เลือกตั้ง แล้วเขาก็เลือกเอา พลเอกประยุทธ์ซึ่งไม่ได้สังกัดพรรคไหนเลย เป็นคนนอก แม้แต่พรรคพลังประชารัฐเขาก็ไม่ได้อยู่ เขาเลือกพลเอกประยุทธ์มาเป็นนายกฯ นี่ก็ 8 ปีเข้าไปแล้ว 

เพราะฉะนั้น 4 ปีหลังเป็นประชาธิปไตยแล้วไม่ใช่เผด็จการ ซึ่งนักรัฐศาสตร์ก็ยังไม่เข้าใจตรงนี้ เพราะมันซ้อน พลเอกประยุทธ์คนเดียวกัน ทั้งๆที่พฤติกรรมของการเลือกตั้ง แล้วสภา ก็โหวตให้ประยุทธ์เป็นนายก นี่คือรายละเอียดของความจริง เพราะฉะนั้นเมืองไทยไม่ใช่เป็นเมืองเผด็จการเลย เป็นเมืองประชาธิปไตย 100% ประชาธิปไตยเต็มใบ แล้วบริหารประเทศมา 4 ปี มีผลงาน รัฐบาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะรัฐบาลทักษิณอุจจาระกองโตไว้ ต้องมาล้างความเหม็นและก้อนอุจจาระ โอ้ย ล้างไปได้เท่าไหร่แล้วล่ะ มันยังไม่หมดเลยนะ แต่ก็มีผลงานว่า ล้างออกไปจริงๆ 

ภูมิธรรม ความรู้ของอาตมามองเห็นเช่นนั้น อาตมาก็เลยว่า มันต้องพิสูจน์กันนะ ก็เลยยุ พลเอกประยุทธ์เลยว่า พยายามตั้งอกตั้งใจทำต่อไปอีก 20 ปี ยังหนุ่มอยู่ ยังไม่ 70 อีก 20 ปี ก็ 80 ก็เหมือนอาตมา 88 ปี อาตมาว่าบริหารได้นะ มหาเดย์ยัง 90 กว่า โจไบเดนก็ตั้ง 70 กว่า อายุ 78 ปี เอาน่าทำไปดู ตั้งอกตั้งใจ อย่าไปท้อแท้ มันยังพอมีกำลังวังชาก็คงยังไม่เมื่อยเร็วนัก 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 40 ทางเสื่อมวิชชาและจรณะ 4 ประการ วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 06 สิงหาคม 2565 ( 14:06:14 )

พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ปฏิวัติ

รายละเอียด

ในชีวิตพฤติกรรมจิตวิญญาณอาตมาไม่ได้มี ฝ่ายอำนาจนิยม เขาคงคิดว่าเราไปเชียร์นายกตู่ เชียร์รัฐบาลในปัจจุบันนี้ ก็เลยหาว่าเป็นฝ่ายอำนาจนิยม   ปัจจุบันพลเอกประยุทธ์เป็นฝ่ายอำนาจนิยมเผด็จการทหารอะไรอย่างที่คุณเข้าใจ อาตมาก็อธิบายอยู่ พยายามอ้างอิงหลักฐานต่างๆนานาในที่สุดว่า พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ทำการปฏิวัติ เป็นแต่เพียงมารับลูกต่อจากประชาชน อันนี้คือสภาวะจริง แต่พฤติการณ์บัญญัติมันเหมือนว่า พลเอกประยุทธ์บอกว่าผมขอยึดอำนาจ เป็นแค่เพียงบัญญัติ มันรวม เป็นสิริมหามายา คำว่าผมขอยึดอำนาจนี้เป็นภาษาสิริมหามายา เป็นภาษาที่ทำให้เกิดสิทธัตถะ ทำให้เกิดสิ่งที่จริงที่สุด เนื้อแท้ที่สุด แต่คนเข้าใจสิริมหามายานี้ไม่ได้ เพราะว่ายังไม่พ้นจากกรอบของมายา ไม่หลุดจากกรอบของมายาจึงเป็นสิริมหามายาไม่ได้ ก็มีแต่พวกคุณไม่เข้าใจประชาธิปไตย เอาเถอะ ก็ดูกันไปก็แล้วกัน อาตมาก็ไม่บอกว่า อโศกจะแข็งแรงหรือยังยืนอย่างไร อาตมาตั้งใจจะอยู่อีกนานไป 151 ปี คุณก็อยู่ดูก็แล้วกัน 

ที่มา ที่ไป

รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563


เวลาบันทึก 13 กันยายน 2563 ( 11:20:58 )

พวก Meditation จะบรรลุได้ต้องมีภูมิเก่า

รายละเอียด

พวก Meditation สะกดจิตได้เป็นล้านปี เหมือนอาฬารดาบส ที่จริงไม่ได้เป็นอาจารย์ของพระพุทธเจ้าแต่อย่างใด พระพุทธเจ้าเพียงแต่ไปดูนิดหน่อยเท่านั้นก็ทำได้แล้ว เขาก็ถือว่าเป็นอาจารย์ ที่จริงแล้วท่านผ่านมาแล้ว

สรุปว่าเรื่อง Meditation ก็เป็นฐานของเขา เขาสนใจเทวนิยมมานาน ตอนนี้ก็มาสนใจทางพุทธ ก็ไปนั่งหลับตา แต่ทางพุทธนั้นจะมีความหมายจะทำอีกเยอะที่เขาจะมีปฏิภาณรู้อีก เขาจะค่อยๆเข้ามา ก็อย่าเพิ่งไปตีเขาทิ้ง ต้องใช้อาศัยติดตั้งเป็นฐานก่อนศึกษาไปแล้วเขาจะได้รับประโยชน์

คนที่จะเอาแต่ Meditation แล้วจะบรรลุนั้นเป็นไปไม่ได้ ผู้ที่ทำ Meditation แล้วบรรลุนั้นจะต้องมีภูมิเก่า เช่นเป็นพระโสดาบันมาแล้วนั่งหลับตาก็เป็นพระโสดาบันได้ ถ้าหากไม่มีภูมิเก่านั่งหลับตาอีกเป็นล้านชาติก็ไม่มีทางบรรลุได้ เพราะธรรมะพระพุทธเจ้าบรรลุอย่าง 3 อัน มีตาหูจมูกลิ้นกายใจกระทบสัมผัสแล้วเกิดธรรมะ 2

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:03:40 )

พวกกะเทยหลงกิเลสอย่างลึกแล้วติดอยู่อย่างไม่รู้ธรรมะเลย

รายละเอียด

อาตมาถามหลายทีแล้ว คุณอยู่ทางนี้แล้วจะกลับไปเป็นทางโน้นอีกไหม ไปแย่งลาภยศสรรเสริญโลกียสุขอีกไหมเขามีความสุขของเขาเยอะนะที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ๆ พยายาม ครีเอท ดีไซน์ออกมา เป็นความสุขแบบใหม่ๆแกะกล่องมีเยอะ โดยเฉพาะพวกกะเทยนี้มัน Design อีกเยอะ จริง เขาบอกว่าแสนสุขกรี๊ดกร๊าด เลยพวกกะเทย ทั้งความเป็นอยู่ทั้งเสื้อผ้าทั้งสังคมของเขา เป็นความซับซ้อนของสัจธรรม คือ พวกที่ไม่รู้จักความสุขความทุกข์ไม่รู้จักสังขารธรรม ไม่รู้จักเครื่องปรุงแต่ง ไม่รู้จักการปรุงแต่งที่ซับซ้อน ของตัวเองไม่รู้กี่ชั้น พวกกะเทยนี้จะซับซ้อน เรื่องการประดิษฐ์ประดอยประดับประดาปรุงแต่ง จนเวอร์ไม่รู้กี่เวอร์​ มันหลงกิเลสอย่างลึกแล้วติดอย่างไม่รู้ธรรมะเลย มีแต่โลกกับโลกๆๆ ซับซ้อนโลก เพราะอะไร เพราะว่ากะเทยนั้นติดในเรื่องกิเลสพวกนี้มากไม่รู้กี่ชาติสักกี่ชาติ จนสลับกลับไปกลับมาจนไม่มีธรรมชาติเลยไม่รู้ตัวผู้ตัวเมีย ไม่รู้ธรรมะ 2 มันซับซ้อนอีกไม่รู้เท่าไหร่ 

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 29 มิถุนายน 2563 ( 12:14:58 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:47:49 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 04:10:01 )

พวกกายสักขี

รายละเอียด

อาสวะบางอย่างหมด แต่นี่อยู่ในคำอนุโลม พระพุทธเจ้าตรัสถึงผู้ที่มีบารมีพอศึกษา ก็ไม่หลงอาจารย์ที่มีบารมีมา ไม่ได้พบอาจารย์ที่เป็นสัตบุรุษ ก็เลยไปนั่งหลับตาปฏิบัติ ก็ได้อาสวะบางอย่างหมดได้ แต่เป็นบารมีเก่า คุณไม่ได้ของใหม่เลย อันนี้ก็รู้ยาก อย่าไปย้อนแย้งคำสอนพระพุทธเจ้าโดยท่านสอนไปตามลำดับอย่างน่าอัศจรรย์

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 07 พฤศจิกายน 2562 ( 16:15:36 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:48:24 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:46:42 )

พวกกินเจสูงกว่ามังสวิรัติหรือ

รายละเอียด

เป็นธรรมชาติของคนที่ยังเข้าใจอะไรไม่ได้ เขาก็จะเอาแต่เปลือก ต้องไปยึดชุดขาว เขาบอกว่ากินเจสูงกว่ามังสวิรัติ เพราะพวกเขาไม่กินกระเทียม ไม่กินของที่เป็นกลิ่นฉุนจัด เขาเอาประเด็นที่เขาเคร่งจัดพวกนี้มาตีข่ม ซึ่งเราเองไม่ติดยึดสิ่งเหล่านี้ เพราะเราเรียนรู้เหนือรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสอยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้เรียนรู้รายละเอียด มันเป็นเรื่องของจารีตประเพณีเสียจน มันเสื่อม ความรู้ทางธรรมะโลกุตระของจีนมันเสื่อม เสื่อมจนกระทั่งคำว่า เจ จริงๆที่ถูกต้องมันก็เหมือนกับมังสวิรัตินี่แหละ แต่เสร็จแล้วก็ไปมีผู้ที่เคร่งขึ้นมา ไม่เอารส ไม่เอากลิ่น 5 อย่างนี้ พืช 5 อย่างนี้ เขาไม่เอา มันจัด ทำเคร่งเหมือนเทวทัต ทำเคร่งต้องกำหนดอะไรไปอีกอย่างนั้น ไม่ต้อง เพราะฉะนั้น เขาก็บอกว่า นี่ เคร่งกว่าสูงกว่า ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกว่า จะสูงจะต่ำอะไร 

(พ่อครูหยิบหนังสือปัญญา 8 ขึ้นมา และบอกว่า) เป็นหนังสือที่ควรอ่านอย่างยิ่ง ควรมี ใครยังไม่มีก็ขอมา 

อาตมายังเขียนหนังสือค้างเอาไว้ได้ 100 กว่าหน้า จะไปรื้อฟื้นให้จบปัญญา 8 นี้ก่อน เรื่องประชาธิปไตยไทยที่ใครก็ไล่ไม่ทัน 

ถ้าอาตมายังทำงานนี้ไม่เสร็จจะพยายามไม่ยอมตาย มันจะเอาให้ตาย บางทีมันจะขาดใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็พยายามฝืนสังขาร อาตมาต่ออายุขัยฝืนสังขาร อิทธิบาท มันก็เป็นสัจธรรมของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาไม่ดับสัญญาแต่ดับกิเลส วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 ตุลาคม 2565 ( 18:49:58 )

พวกขิฑฑาปโทสิกะรู้ง่ายกว่าพวกมโนปโทสิกะอย่างไร

รายละเอียด

ที่จริงแล้ว ขิฑฑาปโทสิกะ รู้ง่ายกว่าเพราะปรุงแต่งภายนอกบานเบิกกว่า ส่วนมโนปโทสิกะ มันดิ่งเข้าไปหาจิต ข้นเข้มแน่น ยิ่งตีไม่แตกใหญ่ ยิ่งดึกดำบรรพ์ยิ่งนานยิ่งตกเข้าไปในจิตนานๆๆๆ นานกว่าทางกามอีก เพราะมันมืดมันเข้าไปหาความมืด ทางกามยังออกมาหาความกว้างความสว่างบ้าง มันยังพอมีดวงตา แต่ทางอัตตาทางนั้น มันไปทำให้ตาบอดหูหนวกอีก มันบอดมันมืดมันไปใหญ่เลย 

แต่พวกที่ปฏิบัติธรรม หลงว่าปฏิบัติธรรมคือไปทำให้ดับให้หมด ด้วยความมืดไปหลงหลับตามืด ส่วนพวก ขิฑฑาปโทสิกะ พวกกามเขายอมรับว่าเขาไม่ได้ปฏิบัติธรรม เขาต้องการแบบโลกๆ เขาก็เปิดเผย แต่ทางโน้นสิหลงตนเองทางนั่งหลับตาไปหาทางมืดหลงตนเอง 

 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครูคือพ่อครัวผู้ปรุงอาหารโลกุตระ วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 สิงหาคม 2565 ( 15:17:16 )

พวกจนไม่เสร็จคือพวกคนรวย

รายละเอียด

นอกจากคนขี้โลภขี้หวง พวกจนไม่เสร็จคือพวกคนรวยนี่แหละ คนรวยคือคนจนไม่เสร็จ พวกคนรวยนี่คือคนจนที่จนไม่เสร็จ ไม่เคยหยุดจน นึกว่าตัวเองจนตลอด ไม่เคยพอไม่เคยหยุดเลย พวกคนรวยนี่ คือเป็นคนที่หน้ามืดตามัว เป็นคนโง่ดักดาน ที่ไปแย่งชิงเขามาได้มากเท่าไหร่ ไม่เคยจบ ไม่เคยหยุด ไม่เคยพอ ไม่เคยระลึกนึกเห็นแก่ผู้อื่นเลย จึงเป็นคนที่ชั้นต่ำมากเลยคนรวยนี่ ขออภัยอาตมาพูดชัดๆ ไม่ได้ไปด่าไปว่า ไม่ได้ไปเสียดสีอะไรเลย แต่พูดความจริงตามความเป็นจริงสู่กันฟัง แต่เขาอวิชชากันเอง ไม่รู้ อาตมาก็ไขความจริงที่เป็นสัจจะให้ฟัง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 28 จะเป็นสาธารณโภคีต้องไม่มีพญานาค วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 18:55:38 )

พวกตาทิพย์กับพวกตาบอด

รายละเอียด

เห็นถูกไม่ถูกก็แล้วแต่ บางทีถูกบางทีไม่ถูก ไอ้ที่ถูกก็พูดกันรู้เรื่อง ไอ้ที่ไม่ถูกก็โมเมไปเลยว่า พวกคุณไม่มีซิกเซ้น ไม่มีตาทิพย์ คุณไม่รู้หรอก มันเป็นเรื่องลึกลับ เรื่องไกล เป็นเรื่องพิเศษ คนตาทิพย์จึงสามารถจะรู้ ไม่มีตาทิพย์ไม่รู้ไม่เห็น หนักเข้าก็สอนลงไปถึงขั้นมีเพื่อนพวกตาทิพย์ด้วยกันโมเมด้วยกัน พวกตาบอดพากันดูท้องฟ้าอันสวยงาม ตาบอดมาแต่กำเนิดทั้งนั้น ชวนกันไปเป็นหมู่ เป็นพวกตาบอดหมู่ ชมท้องฟ้า เห็นท้องฟ้า พูดกันอย่างสอดคล้องกันเลยว่าเมฆก้อนนั้นสวยอย่างนั้นอย่างนี้ เออ พอไปด้วยกันได้ ก็เดี๋ยวจะหาว่าเราตาบอด พูดอย่างไรก็คล้อยตามกันหมด พวกบอดด้วยกันก็โมเมด้วยกัน แล้วมันจะไปรู้เหรอ ทั้งหมู่เขาเห็นกันอย่างนั้นหมด ตัวเองก็เลยอ๋อด้วย ตัวเองก็บอด คนอื่นเขาเห็น คนตาบอดสอดตาเห็นอย่างนี้ ขออภัยนะคนตาบอดไม่ได้ไปว่าหรอก คนตาบอดเขามีกรรมวิบากก็น่าสงสาร แต่ก็ขอยืมมาใช้อธิบายสัจธรรมนี้หน่อยนึง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อรหันต์ตีตราด้วยปัญญา 8 ประการ วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 23 พฤษภาคม 2564 ( 12:12:08 )

พวกติดแป้น

รายละเอียด

พวกติดแป้นก็หยุดไม่พัฒนาตนต่อ แบบนี้อีกล้านชาติดีไม่ดีจะตกต่ำด้วยก็ต้องพัฒนาขึ้นไปมันจะมีเครื่องรับประกันได้ว่าจะไม่ตกต่ำสูงเกินไปเท่าไหร่ก็มีเนื้อหาสาระที่แท้จริง มันยิ่งเป็นสัตว์จะป้องกันไม่ให้ลงต่ำได้หากไม่เอาสูงเสียทีเอาแต่แค่นี้พื้นฐานแค่นี้สักวันหนึ่งก็จะต้องหลุดไปแน่นอน

ที่มา ที่ไป

รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราช วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 06 ธันวาคม 2562 ( 16:44:33 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:49:40 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:47:45 )

พวกที่กำลังชุมนุมประท้วงได้แต่เพ่งโทษผู้อื่นเท่านั้น

รายละเอียด

มันเหมือนกันกับพวกที่กำลังชุมนุมประท้วง พวกสามนิ้วนี่ไม่กลัวอะไรเลย หมูไม่กลัวปังตอ ไม่กลัวน้ำร้อน คือไม่กลัว เขาประมาณแล้วว่า อย่างไรๆ รัฐบาลก็ไม่กล้าทำรุนแรงกับเขา ถ้าหากทำรุนแรงก็จะมีพวกสิทธิมนุษยชน ต่างประเทศก็จะมาเลย เขาถือว่าอิสรเสรีภาพทุกคนมีสิทธิแสดงออกอย่างไรก็ได้(วะ) ไม่มีกรอบขอบเขตจนมากเกิน คือได้แต่เพ่งโทษผู้อื่นเท่านั้นเอง   

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาที่เลยปัญหาของคนหลงความรู้มาก วันพุธที่ 31 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 20:39:10 )

พวกที่ก่อความวุ่นวายขณะนี้เรียกว่าพวกม็อบถูกแล้ว

รายละเอียด

ใช้ภาษาคำว่าม็อบ มันเป็นการก่อความวุ่นวาย แต่ที่พวกเราออกไปประท้วงจนชนะเรียกว่า protest แล้วม็อบก็มีเจตนาประท้วงเพื่อให้ชนะตอนนี้ประท้วงไล่ให้รัฐบาลออกพลเอกประยุทธ์ลาออก ซึ่งมันก็ยังไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นพวกที่ยังทำตามยืนยันตามก็ถือว่าเขานั่นแหละ เป็นม็อบ วุ่นวายไม่ได้protest เพราะฉะนั้นพวกนี้ต้องเรียกว่าพวกม็อบนั้นถูกแล้วพวกนี้ยังไม่ได้ถูกเรียกว่าโปรเทสต์(protest) ใช้ภาษาอังกฤษ 2 คำตามความรู้ของอาตมา แบบไส้เดือนกิ้งกือ ยังไม่ถึงงูปลาๆเลยนะ

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 21 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 20 พฤศจิกายน 2563 ( 15:07:36 )

พวกที่บรรลุถึงความเป็นพรหมใช้เจโตวิมุติหรือเปล่า

รายละเอียด

ถ้าเข้าใจชัดว่าปัญญาวิมุติ กับเจโตวิมุตินั้นต่างกันแน่ ก็จบ พระพุทธเจ้าบอกว่ามีแต่ปัญญาวิมุติก็เป็นพระอรหันต์ แล้วอาสวะทั้งหมดสิ้นไปในบุคคล 7 ไปอ่านให้ดีๆ ถ้าอาสวะสิ้นหมดเป็นปัญญาวิมุติได้แล้ว แต่ครบเจโตวิมุติปัญญาวิมุติก็เป็น อุภโตภาควิมุติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปัญญาแยกแยะนามรูปได้เป็นเช่นไร วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 มีนาคม 2564 ( 20:42:58 )

พวกที่หลอกคนที่งมงายจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวเป็นบาปทั้งนั้น

รายละเอียด

นี่คือความหมายแท้ ไม่งั้นพูดเป็นภาษานิยายไปบอกว่าทำบุญส่งไปให้พ่อแม่ที่ต้องการไม่มีอยู่มีกินก็ส่งไปให้ ไม่เชื่อเรื่องกรรมเป็นของตนก็ตัวเองเป็นทายาทของกรรมตัวเอง ส่งให้ใครก็ไม่ถึงหรอก แต่มันเป็นทางสมมุติสัจจะว่าคุณมีกตัญญูกตเวที แม้ว่าพ่อแม่ตายแล้วก็ยังนึกถึง ควรจะได้อะไรก็ส่งไปให้อะไรอย่างนี้ มันก็เป็นลักษณะคุณธรรมชนิดหนึ่งเท่านั้นเองโดยสัจจะมันไม่ถึง มันไม่มีจริง แต่โดยพฤตินัยที่คุณเองกตัญญูต่อผู้มีพระคุณต่อเรานั้นมันดีใช่ไหม แยกแยะให้ออกสิตรงนี้ คุณทำดีก็น่าส่งเสริมในสมมติสัจจะ ทำอย่างนี้เป็นคนเผื่อแผ่เพื่อผู้มีคุณต่อเรา คุณก็ตอบแทนผู้มีคุณต่อเรามันก็ดี แต่สัจจะจริงๆนั้นคุณส่งไปให้ใคร พ่อเราชอบกินตับไก่หมก เราก็ได้ตับไก่มาหมก อย่างปรุงรสอร่อย ให้มันถูกปากพ่อเลยนะพ่อชอบรสไหนก็ปรุงให้ เสร็จแล้ววิธีจะให้ก็ทำอย่างไร เอาไปถวายพระ พระก็บอกว่าอะไรโยม …ตับไก่อ่อม …เสร็จแล้วก็เอามาถวายพระ พระก็กินบอกว่าแซ่บอีหลี ส่งไปให้พ่อหน่อย พ่อมัก ตับไก่ เออ ส่งไปให้แล้ว ตับไก่นี้พระก็กินใส่ไปในท้อง หน้าที่ของน้ำย่อยมันก็ย่อยไปเอาธาตุอาหารไปเลี้ยงขันธ์ พระก็บอกว่าพ่อได้รับแล้วเด้อ พระตอแหล มันไปได้อย่างไร ถามว่าตับไก่นั้นออกจากท้องพระไหม ไม่ ไปด้วยพาหนะอะไร อย่างดีก็เหลือเศษกากออกที่ เวจ พรุ่งนี้ พูดให้หนำใจ คือมันงมงายแล้วหลอกกันก็ต้องเปิดโปงพวกที่หลอก คุณหลอกจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม รู้ว่ามันไม่ถึงหรอก แต่คุณก็ทำเพื่อคุณจะได้ หรือคุณไม่รู้ ก็พอทำเนา ทำไปตามประสาคนไม่รู้ก็เหมือนเด็กมันไม่รู้เรื่องทำตามประสาไปอย่างนั้น บาปลดราคาหน่อย แต่มันก็ยังบาปอยู่ดี ก็หลอกล่อกันอยู่ก็โง่อยู่อย่างเดิม 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 15 พฤศจิกายน 2563 ( 11:23:55 )

พวกที่ไม่ทำตามลำดับคือพวกหลับตาปฏิบัติธรรม

รายละเอียด

อาตมาอธิบายอันนี้เหมือนกับคนจะเข้าไปสู่กลางภูเขาเป็นโพรงอยู่ในกลางภูเขาสว่างไสวสวยงามพื้นที่น่าอยู่มาก คุณจะทะลุภูเขาไปสู่ตรงนั้น แล้วคุณไม่ได้ผ่านตั้งแต่เปลือกภายนอกจนไปถึงข้างในคุณจะไปเข้าไปได้อย่างไร ฉันใดก็ฉันนั้น อย่างนี้ คุณจะทำอย่างไรให้ตัวเข้าไปได้ คุณต้องผ่านสัจจะของมัน คุณต้องทำให้มันทะลุผ่านจากภายนอกคุณถึงจะเข้าไปได้ 

เพราะฉะนั้นคนที่ไม่ทำตามลำดับดังนี้เช่นพวกหลับตาปฏิบัติธรรมไม่ได้เรียนรู้กายภายนอกเลย  อย่างมหาบัว รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสภายนอก ยังไม่รู้ว่าอันนี้คือการติดสิ่งเสพติดแล้วคุณไปนั่งหลับตา เล่นกับกิเลสสู้ตายให้กิเลสตายหมดเป็นอรหันต์ จ้อย แต่กิเลสภายนอกก็ยังมีเยอะอยู่ ก็ยังไม่รู้ตัวเลยแล้วจะไปรู้กิเลสภายในได้อย่างไร กิเลสหยาบก็ไม่รู้ สัมผัสก็อ่านไม่ออก แล้วกิเลสภายในเป็นเรื่องละเอียดกว่าคุณจะไปสัมผัสได้หรือ คุณจะไปเอาภูมิปัญญาหรือความเฉลียวฉลาดทางธรรมะไปสัมผัสที่เป็นนัยยะละเอียดที่เป็นกิเลสละเอียดได้อย่างไร หยาบคุณก็ไม่รู้แล้วจะไปรู้ละเอียดได้อย่างไร 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 23 กันยายน 2563


เวลาบันทึก 14 พฤศจิกายน 2563 ( 11:41:40 )

พวกทุนนิยม

รายละเอียด

เศรษฐศาสตร์ของโลก ที่ขี้โลภเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวเป็นนักเศรษฐศาสตร์บอกว่าตัวเองร่ำรวยตัวเองได้เปรียบมากๆ ทำวัตถุอะไรออกมาหรือแม้แต่จะทำกับข้าวทำอาหารพืชพันธุ์ธัญญาหารให้ผู้อื่นก็จะต้องขายจะต้องแลกด้วยธนบัตรและสมบัติอะไรก็แล้วแต่ ได้วัตถุอะไรต่างๆขึ้นมา ก็จะต้องให้ได้มาก ตีราคาแล้วจะต้องได้เกินกว่าราคาข้าวพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันเป็นคิดของพวกทุนนิยม แนวคิดคนเป็นบาป คนที่ไม่รู้จักสัจธรรมที่แท้จริง แล้วไปลงในสิ่งที่แลกกับคืนมาว่าเราเป็นผู้ที่ได้ ที่จริงนั้นเราเป็นผู้เสีย เอาไปแลกกับคืนมา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์เปิดงานอโศกรำลึก วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563


เวลาบันทึก 11 กรกฎาคม 2563 ( 09:16:35 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:50:18 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:30:18 )

พวกนอมินี

รายละเอียด

ต่อจากนั้นเขาก็มีอำนาจเอานายสมัคร สุนทรเวชขึ้นได้อีก ตัวเองเผ่นไปอยู่ข้างนอกแล้ว เอาสมัครมาเป็นนอมินี เป็นตัวแทน เป็นตัวสำรอง แล้วสมัครก็ถูกปฏิวัติ ประชาชนก็ไปประท้วงเหมือนกัน แต่ไม่ได้เป็นผู้ที่ถูก หมดอำนาจไป อย่างตัวเองผิดจนกระทั่งต้องหนีออกไปเหมือนกัน แต่มันตก ไม่ได้เป็นนายกต่อ เพราะตัวเองไปผิดกฎหมาย ซึ่งเขาห้าม กฎหมายเขาแค่ห้ามนายกไปหากินหาเงิน ทางรายการโทรทัศน์ ชิมไปบ่นไป ตุลาการก็ตัดสินให้ตกจากตำแหน่งนายกซะ เสร็จแล้วก็ไม่สบาย เป็นมะเร็ง ไปตายอยู่เมืองนอก 

เขาก็เอานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ขึ้นมาอีก สมชายก็มาบริหารไม่ได้เข้าทำเนียบเลย พวกประชาชนไปปฏิบัติยึดทำเนียบ เสร็จเลย ไปปลูกข้าว ทำนาอยู่ในทำเนียบ สมชายเป็นน้องเขยไม่ได้เข้าเลย ไม่ได้เข้าทำเนียบเลย  

จนกระทั่งสุดท้ายเขาก็ต้องจบ สมชายถูกปฏิวัติเสร็จ แล้วมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเข้ามาคั่น มาเป็นนายก นายกอภิสิทธิ์ เขาก็ทำตัวเองหลุดออกมา ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ทักษิณได้อีก เอาน้องสาวมา 49 วันจับมาจากไหนก็ไม่รู้ เอาขึ้นมา เป็นคนแรกที่เป็นผู้หญิงเป็นนายกคนแรกในประเทศไทยเลย เก่งจริงๆเลย เอามาเลือกตั้งเสร็จ แหม ได้เป็นนายกผู้หญิงคนแรกด้วย ซึ่งมาก็มาแสดง Thank you 3 ครั้ง คอ นก รีต อะไรก็แล้วแต่เลอะๆเทอะๆ จังหวัดหาดใหญ่ ประเทศซิดนีย์  คือ แกก็เด๋อๆด๋าๆ ตามประสาแกเนาะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ  Neo Protest ประชาชนปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 03 ธันวาคม 2565 ( 12:20:25 )

พวกนักส่อเสียดคือใคร

รายละเอียด

ท่านทั้งหลายพูดส่อเสียดกันตลอดเวลา ส่อเสียดคือทำให้ทะเลาะกัน ส่อเสียดนี้ใครผิดใครถูกคุณก็ไม่รู้ ก็เลยพูดเข้าข้างทางนั้นเข้าข้างทางนี้ เพื่อให้คนฟังแล้วก็เกิดความยึดถือ เพ่งโทษกัน ก็ทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าส่อเสียด พวกที่พูดส่อเสียดตลอดเวลา คือพวกนักข่าว พวกบรรณาธิการ พวกหาเรื่อง ถ้าเขาไม่มีเรื่องก็ไม่มีเป็นข่าวมาให้พูด เขาก็เป็นคนทำให้เกิดเรื่อง เพราะฉะนั้นนักข่าว นักงานหนังสือพิมพ์ เสี่ยงกับบาปมากเลย เพราะเป็นพวกนักส่อเสียด อันนี้ไม่ได้ใส่ความนะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 15:07:17 )

พวกนั่งหลับตาจะเกิดมาพบสัตบุรุษเท่านั้นไม่พบพระพุทธเจ้า

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นถ้าคุณไม่แก้ไขว่า ต้องเชื่อสัตบุรุษ คุณไม่ใช่หรอก ต้องเชื่อสัตบุรุษนี้จะฟื้น ถ้าสายหลับตาไม่มาเชื่อโพธิรักษ์ แก้ไม่ได้ เพราะคุณเกิดไม่ทัน พระพุทธเจ้าเกิดไม่ทันคุณ เพราะคุณชิปหายแล้วหนอ อย่างที่พระพุทธเจ้าอุทานก่อน น่ากลัวไหมฟังดีๆถ้าเข้าใจแล้วคุณจะสะดุ้งเฮือกๆเลย แล้วคุณก็ดูถูกอาตมาอย่างมากด้วย นั่นแหละ ถ้าคุณรู้สึกจริง สำนึกจริง คุณจะละอายอย่างแรงกล้าเลย ว่า โอ้โห.. เราไปดูถูกดูแคลนพระโพธิรักษ์ เสร็จแล้วชาตินี้ไม่ต้องอายอาตมาหรอก อาตมาไม่ได้ติดยึด ไม่ได้ติดใจใคร อาตมาจะภูมิใจ จะดีใจมากที่คุณรู้สึกตัว ไม่ต้องบอกอาตมาก็ได้ แก้กลับเถิด

นี่เป็นโอกาสฟื้นตรงนี้ ถ้าคุณไม่ฟังสัตบุรุษและคุณไม่เห็นสัตบุรุษ ทั้งๆที่คุณฟังสัตบุรุษอยู่ ได้ยินอยู่ แต่คุณไม่เชื่อ ถ้าหากคุณเริ่มจาก 180 องศามา 179 องศา คุณทำตามแทนที่จะตรงดิ่งไป ไม่ยอมรับอาตมาเลยก็โค้งให้หน่อย สัก 1 องศา 179 องศามา มันก็อีกนานนะ กว่าจะมาบรรจบกันอีกที ควรให้มากหน่อย เข้ามาหา 170 160 150 จนมาถึงร้อยเข้ามาเถอะ จนเป็นองศาที่ใกล้กันเท่าไหร่ ก็จะพากันไปได้อย่างดีมากเท่านั้น 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาท ชาติ 4-5-10

วันพุธที่ 17 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 07 กันยายน 2565 ( 21:22:20 )

พวกนั่งหลับตาจะไปเก่งที่สุดเหมือนอุทกดาบส หรืออาฬารดาบสเท่านั้น

รายละเอียด

เทวนิยมเป็นภาษารวม จิตจะสร้างพลังงานที่ตัวเองหยุดๆๆๆ ทำให้แน่ให้นิ่งได้ มันก็ได้ ความสามารถนั้นมันก็ทำได้ ตายแล้วก็เป็นอย่างนี้ นรกไม่รู้ไม่เห็นอะไร 

เหมือนพระพุทธเจ้าอุทานว่า ฉิบหายแล้วหนอ จะช่วยได้อย่างไรกับ อาฬารดาบส อุทกดาบส เพราะตัวเองติดในความแข็ง สร้างเกราะไม่ให้ใครเข้าไปช่วยได้เลย แข็งแน่นนานไกล หนีออกจากคนอื่นไม่ให้เกี่ยวข้อง ตัวเองก็ไปของตัวเองไม่รู้อยู่ไหน พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าฉิบหายแล้ว อันนี้ช่วยไม่ได้เลย ต้องปล่อยเขาไปตามวิบากเขาเอง ซึ่งมันเป็นตัวอย่างที่สุดโต่งขนาดหนัก 

สรุปลง พวกนั่งหลับตาจะไปเก่งที่สุดเหมือนอุทกดาบส หรือ อาฬารดาบส เท่านั้น เลิกได้แล้ว อย่าดันทุรังเลย อาตมาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร พูดแล้วพูดอีกก็เหมือน โจรที่พระราชาให้เอาไปฆ่าด้วยหอก 100 เล่มเช้ากลางวันเย็นก็ยังเฉย ใครจะแทงอย่างไร ท้วงติงอย่างไร ใครจะมาเตือนอย่างไร ก็ติดยึดของตนเองอยู่ ที่ติดยึดของตน ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเลย ก็ตายๆๆ

ซึ่งอาตมาก็ได้แต่สงสาร ได้แต่พูด อาตมาพูดยิ่งกว่าหอก 100 เล่มเช้ากลางวันเย็น

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธ‌ศาสนา‌ตาม‌ภูมิ‌ ‌ชาติ‌ ‌5‌ พา‌พ้น‌ขิฑฑาป‌โท‌สิ‌กะ‌และ‌มโน‌ป‌โท‌สิกะ‌ ‌วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 มกราคม 2565 ( 20:14:55 )

พวกนั่งหลับตาบ้าอยู่กับสิ่งที่ไม่มีอะไรจริง

รายละเอียด

ภูเขาหรือ อัตตา คุณไม่ได้อยู่เลยคุณไปอีกกายใหม่ นิรมาณกายใหม่ ลมๆแล้งๆ ปั้นขึ้นมาของใครของมัน เสร็จแล้วพวกนี้ก็มีลัทธิร่วมกันเรียกว่าสัมโภคกาย แล้วต่างคนต่างบอดกันหมดเลยเรียกว่าอทิสมานกาย ต่างคนต่างไม่รู้เรื่องกันและกันของใครของมันบ้ากันไปเอง บ้าอยู่กับสิ่งที่ไม่มีอะไรจริงเลยงมงายอยู่อย่างนั้น พวกนั่งหลับตาน่าจะสะดุ้ง 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บ้านราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน โจรปล้นศาสนาที่ฆ่าด้วยหอกหลายร้อยเล่มก็ยังไม่ตาย


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 11:49:51 )

พวกนั่งหลับตาลัดขั้นตอนในการปฏิบัติอย่างไร

รายละเอียด

รู้กาย ทั้งภายในภายนอก รู้อัชฌัตตังคือภายใน พหิทาคือภายนอกรู้กิเลส กามคุณ 5 เป็นผู้อยู่เหนือสิ่งเหล่านี้ อภิภู เป็นผู้ครอบงำ อภิภุยยะ มีอิทธิพลครอบงำ กามใดๆก็ทำอะไรเราไม่ได้ กามเป็นนิวตรอน จึงเจริญมาสู่ รูปจิต มาอ่านกิเลสในรูปจิตที่เหลือ กิเลสหยาบให้หมดไปก่อน จึงจะรู้กิเลสที่เหลือ 

พวกนั่งหลับตา ลัดขั้นตอน อย่างพวกมหาบัว เสพติดรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสกามคุณ 5 อยู่ก็ไม่รู้ เข้าใจผิวเผินแต่เพียงว่า กามนี่คือเรื่องเมถุน เรื่องมีผัวมีเมียเท่านั้น แต่นั่งหลับตาเขาเคร่งครัดเหมือนกันเรื่องผู้หญิงผู้ชายเรื่องผัวเมียนี่ เขาว่ากามมีแค่นั้น ตาหูจมูกลิ้นกายเขาไม่รู้ว่าคือกามคุณ 5 

อย่างเช่นสิ่งเสพติดกินหมากปากเปรอะเขาไม่รู้เรื่องหรอก อาหารการกิน โภชเนมัตตัญญุตาเขาไม่รู้เรื่อง ก็รู้แต่ว่า ไม่มีเมียไม่มีผัว ถ้าผู้ชายก็ไม่มีเมีย นี่ใช้ได้แล้ว อย่าไปละเมิดเชียว พ้นแล้วบาป เห็นไหมมันผิวเผินมากเลย 

เพราะฉะนั้นเมื่อไม่รู้ผิด มันก็ผิดไปใหญ่เลย รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสเยอะไปหมดตั้งแต่สิ่งเสพติดก็ไม่รู้ แล้วมันจะไปรู้อะไรในเรื่องรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสของสิ่งที่ไม่ถึงขั้นเสพติด ขั้นอาหารการกิน ขั้นรสชาติของสิ่งนั้นสิ่งนี้จะไปรู้เรื่องอะไร เขาไม่รู้เรื่องหรอก 

ตกเย็นมาก็ น้ำอัฐบาน (โอชะบาน อาตมาตั้งประชดเขา) น้ำอัฐบาน ก็คือน้ำเปรี้ยวน้ำหวาน อาตมาตอนเป็นสามเณรอยู่วัดสุปัฏฯ ตัวดีเลย พอถึงเย็นแล้วตั้งโต๊ะปรุงน้ำอัฐบานแจกพระนั่งซดกันโฮกๆๆ ใส่พริกนิดๆ มะนาวเป็นหลัก น้ำตาล เกลือ มีครบรส มีพริกเหยาะ ซัดกันโฮกๆๆๆ หรือใช้สมอบ้าง มะขามป้อมบ้าง เขาไม่ได้ถือเป็นเรื่องอะไรใหญ่ กินกันสนุกสนาน สบาย นี่ไม่ได้พูดใส่ไคล้หาความ แต่เป็นจริงเป็นอย่างนั้น ไม่รู้ประสีประสาเลยในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส เพราะไม่รู้จัก กายภายนอก มีจิตควบคู่ไปด้วย กาย จะต้องมีภายในภายนอกแยกกันไม่ได้ 

กิเลสภายนอกหมด ก็ลืมตาสัมผัสสิ่งที่เป็นภายนอกอยู่นั่นแหละ แต่กิเลสมันไม่มีแล้วเหลือแต่กิเลสภายในก็ล้างกิเลสภายในเหลือขั้นรูป พอล้างขั้นรูป ก็เหลือปลายท้าย ขั้นอรูป ในจิต แล้วก็ยังอยู่กับวัตถุนั่นแหละ แต่อยู่เหนือหมดแล้ว ชั้นในที่เป็นมโนมยอัตตา

ข้างนอกเรียกว่า โอฬาริกอัตตา มโนมยอัตตา ข้างในก็อย่างนึง มโนมยอัตตาข้างนอกก็อย่างนึง ก็ล้างกิเลสที่ยังเหลือนอกอยู่ หมดเหลือภายใน ละเอียดอีกก็หมดเป็นรูปจิต เหลืออรูปจิตละเอียดภายในก็ล้างไปอีกจนหมด 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาเปิดตาพญานาคลงสู่การเมืองไทย วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 12 พฤษภาคม 2565 ( 19:51:17 )

พวกนั่งหลับตาหลงความมืดความดำเป็นนิโรธ

รายละเอียด

กิณหา แปลว่ามืดแปลว่าดำ สุภะ แปลว่า น่าได้ น่ามี น่าเป็น 

ผู้ที่มิจฉาทิฏฐิจะเห็นความมืดความดำยังไม่ได้ แต่เขาก็จะเอาความมืดความดำ หลงแค่ความมืดความดำเป็นนิโรธ นี่คือพวกนั่งหลับตา มิจฉาทิฏฐิตรงนี้ เพราะฉะนั้นได้แต่ความมืดความดำ ไม่ใช่นิโรธ นิโรธคือกิเลสหมดจากจิต สว่างด้วย เพราะฉะนั้นผู้ที่ชัดเจนว่าสว่างกับมืด กับนิโรธดับกิเลส กิเลสหมด กับยังมี คือยังมีอุปาทานนั่นเอง 

เพราะฉะนั้นผู้ที่ยังมีอุปาทาน มิจฉาทิฏฐิ แล้วหลงความมืดเป็นนิโรธจึงผิด ไปหลง อสัญญีสัตว์บ้าง เป็นต้น หรือแม้จะหลง อากิญจัญญายตนะ นิดนึงน้อยนึงก็ไม่มี แล้วไปตีความเหมือนอาฬารดาบส ได้แค่ฌาน 7 ดับแค่อากิญจัญญายตนะ ไม่ถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ เหมือนกับอุทกดาบส แต่อาฬารดาบสได้แค่ อากิญจัญญายตนะ นิดหนึ่งหน่อยหนึ่งก็ไม่มี ตายมืดอยู่ตรงนั้น แล้วก็ไปเข้าใจว่าเป็นนิโรธ ผิด

แม้แต่อุทกดาบสนั่งหลับตาแล้วดับได้ดิ่ง สุดท้ายหมดฤทธิ์ของความกดดันมันก็แว้บขึ้นมา นิดหนึ่งน้อยหนึ่ง เนวสัญญานาสัญญายตนะ อุทกดาบสจับได้ ว่ามันยังไม่มีหมด มันยังมีแว้บขึ้นมาเป็นสัญญา แต่เขาก็กดข่มไปอีก เพราะฉะนั้นนิโรธของอุทกดาบสก็ดี จึงเป็นนิโรธของการสะกดจิตดับ แล้วดับได้นานๆ สะกดจิตได้นาน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อานาปานสติอย่างพุทธ ไม่มี

นัตถิกทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 สิงหาคม 2565 ( 19:18:50 )

พวกนั่งหลับตาเป็นพวกสัมภเวสี

รายละเอียด

วิญญาณฐิติ 7  วิโมกข์ 8  สัตตาวาส 9 และอนุปุพพวิหาร 9  4 หัวข้อนี้อาตมาจะมาอธิบายให้เห็นความปฏิสัมพันธ์ ของ 4 หัวข้อนี้อย่างลึกซึ้ง วิญญาณฐิติ 7 คือวิญญาณที่ตั้งอยู่ตรงนี้ปัจจุบันนี้ก็มีวิญญาณ แล้วก็ต้องตั้งอยู่ ณ บัดนี้ ตั้งอยู่อย่างไ รตั้งอยู่ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทั้งตาหูจมูกลิ้นกายก็ไม่มีที่ตั้งและเป็นเวรสัมภเวสี แต่ถ้าวิญญาณที่ไม่มีที่ตั้ง คุณมีแต่ใจก็เป็นวิญญาณสัมภเวสี ไม่มีตาหูจมูกลิ้นกายเป็นที่เกิดที่ตั้งเป็นสัมภวะเป็นแดนเกิดเป็นที่ตั้ง เป็นฐีติ เป็นสัมภาวะหรือปภวะ มันไม่มีสภาพนี้อยู่ก็พูดกันไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นพวกนั่งหลับตานี้ตีได้เลยสัมภเวสีทั้งนั้น ไม่มีสัมภวะ ไม่มีปภวะ พวกสัมภเวสีแสวงหาที่เกิดหรือพวกงมงายไม่ยอมแสวงหาที่เกิด เพ้ออยู่กับอะไร เอามาพูดกับเขาไม่ได้หรือเขาก็มาพูดด้วยได้ใครจะมารับรองด้วยได้ เพราะคุณไม่ได้แสดงออกมา พอแสดงออกก็อยู่กับของคุณคนเดียว ต่างๆคุณก็ไม่ได้แสดงออกอย่างนี้ เพราะคุณจะไม่พูดเรื่องทางตาเป็นรูป ทางหูเป็นเสียง คุณจะไม่พูด คุณก็จะมีแต่อยู่ในภพ กายทิพย์ไปนู่นเลย เป็นพวกนิรมาณกาย สัมโภคกาย เป็นพวกอาทิสมานกาย พวกที่ต่างคนต่างตาบอดพูดกับคนตาบอดแล้วไปดูหนังใบ้ ที่ไม่มีภาพด้วย บอกว่าสนุกจัง คนตาบอดก็บอกว่าเห็นภาพสนุก คนหูหนวกเขาบอกว่าได้ยินเสียงสนุกจัง ทั้งที่มันไม่มี มีสิ่งเปรียบเทียบถึงถึงอย่างนี้ พระพุทธเจ้าท่านเปรียบเทียบอะไรไว้สุดยอดเลยอย่างเช่นในอาหาร 4 อุทาหรณ์เปรียบเทียบของท่าน ในอาหาร 4 ยิ่งวิญญาณาหาร เจ้าประคุณเอ๋ยทำไมมันดื้อด้านมันโง่เง่าขนาดนั้น

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2563


เวลาบันทึก 25 พฤศจิกายน 2563 ( 08:38:43 )

พวกนั่งหลับตาเมื่อตายไปแล้วจะเป็นอย่างไร

รายละเอียด

อาฬารดาบส ได้น้อยกว่า อุทกดาบส ได้เก่งกว่า ก็สะกดไปได้เก่งๆๆ เมื่อตายไปแล้วเป็นสัมภเวสี ก็จมอยู่อย่างนั้นแหละ ดับจิต เหมือนคนหลับ นอนหลับแล้วคุณก็ดับสนิทเลยนะ แบบนั้นแหละ แล้วพอคุณนอนหลับหรือตายไม่มีร่างแล้วก็ตาม จิตของคุณก็จะอยู่เดี่ยวๆไม่มีอะไรมาปลุก ไม่มีอะไรที่จะเตือนให้คุณตื่นขึ้นมาเลย แล้วคุณก็ตั้งใจดับมันดับมันไม่ให้มันรู้สัญญาณ มันก็เป็นอสัญญีสัตว์

เพราะฉะนั้นเมื่อตายแล้วไม่ได้ไปพบกับใคร แต่เขาก็เดาว่าไปพบกัน ไปเจอกันโอภาปราศัยกัน จนกระทั่งพวกเทวนิยมเขามีโลกทิพย์กายทิพย์ ใครเคยอ่านหนังสือโลกทิพย์บ้าง โอ้! ฟุ้งซ่านไปมีการเจอกัน มีวิบากอะไรเป็นของตัวเองค้างอยู่ในโลกทิพย์ขึ้นมา สารพัด ซึ่งมันก็เป็นความคิดความเพ้อฝันทั้งนั้น ไม่มีสัจจะความจริงอะไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมพิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2565 ณ ราชธานีอโศก วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2565 ( 20:07:56 )

พวกนั่งหลับตาแล้วไปดับสัญญาเป็นสัตตาวาส 

รายละเอียด

สัตตาวาสข้อที่ 1 2 3 4 ยังพออธิบายผสมผสานกับวิญญาณฐิติ 4 ก็อาศัยศึกษากันได้บ้าง แต่อันที่ 5 สำหรับพวกที่นั่งหลับตาปฏิบัติเป็นการเข้าไปดับสัญญาหรือเป็น อสัญญีสัตว์ คือดับการกำหนดรู้ สัญญีคือ ตัวเองกำหนดรู้ แต่ไปดับธาตุกำหนดรู้ไม่ให้กำหนดรู้ตัวเองแล้วเข้าใจว่า เป็นการนิโรธนั่งดับปี๋ ไม่ได้ลืมตามีตาหูจมูกลิ้นกาย มีแต่จิต แล้วดับจิตอีก ดับเจตสิกสัญญา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาความเข้าใจเรื่องกายของอ.แปลง วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2564 ( 14:42:51 )

พวกนั่งหลับตาไม่มีปรโตโฆษะ เป็นพวกโง่สมบูรณ์แบบ

รายละเอียด

นั่นสิ..กลับไม่ฟัง พวกนี้ไม่มี ปรโตโฆษะ ก็ไม่มีโยนิโสมนสิการ ก็ปิดประตูที่จะมีสัมมาทิฏฐิ นอกจากโง่แล้วไม่ฟังผู้ที่เขาฉลาดจริง คนที่มีความรู้จริงพูดถูกจริงอย่างอาตมาเขาไม่ฟัง ใครไม่ฟังอาตมาก็คือผู้ที่โง่ได้ระดับ โง่สมบูรณ์แบบ ผลักไสด้วย ไม่เชื่อไม่รับเรียกว่า โง่สมบูรณ์แบบ 

ขออภัยพูดจริงๆชัดๆไม่ได้พูดดูแคลนไม่ได้ข่ม ที่พูดนี้เป็นสัจธรรม ที่บอกว่าโง่สมบูรณ์แบบก็เป็นสัจธรรม อาตมาไม่ได้ยกตัวเองข่ม แต่ อาตมาว่าอาตมาถูกต้องก็บอกความถูกต้องบอกว่าอันนั้นผิด พูดความจริงให้ตรงๆอย่างนี้ แต่ไปเข้าใจเองว่าไปข่มคนนั้นดูถูกคนนี้ คุณก็เข้าใจของคุณเองอาตมาไม่ได้มีจิตแบบนั้น อาตมามีแต่ใจสงสารมีแต่ความเห็นใจ ทำอย่างไรจะให้พวกคุณเข้าใจกันหนอ 

อาตมาไม่ได้โกรธเคืองถือสา ไม่ได้จริงจังอะไรเลยเหมือนคนไม่เดียงสา จะไปถือสาก็ไม่ได้ มันทำไปอย่างไม่รู้ความจริง มันจะจับไฟเราก็บอกว่าอย่า พูดแรงๆด้วย มันจะไปคว้า อะไรที่ทำผิดไปให้แก่ตัวเองเราก็พยายามป้องกันจะช่วยก็ยาก 

ต้องรีบควักออกจะเจ็บต้องทนเลือดออกก็ต้องยอม ต้องช่วยไม่อย่างนั้นตายกำลังกลืนกระเบื้องเข้าไปก็ตาย พวกนี้ก็เป็นคำจากพระพุทธเจ้าสอนเอาไว้ เพราะฉะนั้นสติปัฏฐาน 4 จึงเป็นเบื้องต้นของโลกุตรธรรม ถ้าเข้าใจคำว่ากายผิด ทุกอย่างผิด เหมือนกับการกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด ต้องเข้าใจให้ถูกก่อน 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิบัติ รูป 28 ในสติปัฏฐาน 4

วันพุธที่ 21 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 ตุลาคม 2565 ( 15:45:12 )

พวกปฏิบัติหลับตาเป็นพวกโมฆะเลิกได้แล้ว

รายละเอียด

โสดาบันรู้กาย เรียนรู้กายที่มีรูปนาม มี 2 มีนอกมีใน แล้วก็มารู้จักสภาวะเป็นจิต ที่ต้องมีปัจจัยคือข้างนอกเกิดด้วย มีวัตถุมีทุกอย่าง ที่กระทบสัมผัสข้างนอกแล้วก็มีข้างนอกปฏิบัติด้วยเสมอ พวกปฏิบัติหลับตาจึงเป็นพวกโมฆะ เลิกได้ โง่อย่างเดียรถีย์เท่านั้นไปยึดถืออยู่ แล้วคุณก็จะเป็นเดียรถีย์ไปตลอดกาล คนที่ไปหลับตา พูดแล้วก็นึกถึงพวกที่นั่งหลับตา ท่านเอาชีวิตมาทิ้งเลยนะบางทีบวชมาตั้งแต่เป็นเณร จนทุกวันนี้เป็นพระแก่อายุ 90 จะร้อยก็มี บางคนก็เป็นร้อย แล้วก็หลงหลับตาอยู่นั่นแหละ จะทำอย่างไร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 13:16:47 )

พวกปรุงแต่งแบบใหม่ๆขึ้นมาได้ก่อนเขาก็เก่ง หาทางดับสุขทุกข์เป็นปรินิพพานก็ได้

รายละเอียด

เรารู้แล้วก็ปรุงแต่งกันขึ้นมา หาอะไรแบบใหม่ๆขึ้นมาได้ก่อนเขาก็เก่ง มาหาทางดับสุขดับทุกข์ ดับ ปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ แล้วคุณจะยังไม่ยอมปรินิพพานเป็นปริโยสานจะอยู่แข่งกับพระอวโลกิเตศวร เชิญ อาตมาไม่เอาแล้ว หรือ ถ้าเป็นผู้หญิงก็บอกว่าอวตารเป็นเจ้าแม่กวนอิม เชิญ จะเป็นเจ้าแม่กวนอิมนิรันดร หรือว่าเป็นพระอวโลกิเตศวรอยู่นิรันดร ก็เชิญ ถ้าเป็นเพศหญิงก็เป็นเจ้าแม่กวนอิม ถ้าเป็นเพศชายก็เป็นพระอวโลกิเตศวร จะเป็นก็เชิญเลย อาตมาไม่เอา พัฒนาปรุงแต่งความรู้ที่สูงสุดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ก็พอแล้ว เลิกแล้ว หยุดแล้ว 

อาตมามีวิบากที่ต้องไอ เพราะว่าอาตมาเกิดมาในยุคนี้ เป็นยุคที่ผิด อาตมาเข้ามาตำหนิสิ่งที่ผิดให้เขารู้ตัว แล้วตำหนิพวกที่ หอกแทงเช้า 100 เล่ม ก็ไม่รู้สึก กลางวันอีก 100 เล่มก็ไม่รู้สึก ก็ยังเป็นโจรปล้นศาสนา ยังทำผิดอยู่เหมือนเดิม เย็นอีก 100 เล่ม ก็ไม่รู้สึก อาตมาก็เลยจำเป็นต้องหาหอกมาแทงอยู่เรื่อยๆ เลยเป็นการทำร้ายเขา เป็นวิบาก แล้วมันหนังเหนียวจริงๆ แทงแล้วยังไม่รู้สึกรู้สา มันสุดดื้อด้านสุดทนเลย อาตมาก็เลยต้องใช้ภาษา ว่า มันง่านโด้ ทั้งโง่ทั้งด้าน ง่านนี่คือโง่กว่าด้าน โด้คือด้านกว่าโง่

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมพิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ งานอโศกรำลึก ปี 2565 วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 18 สิงหาคม 2565 ( 20:41:55 )

พวกผู้รู้ทั้งหลายไม่กล้าเปิดเผยยอมรับว่าตนเป็นผู้มิจฉาทิฏฐิ

รายละเอียด

โอ้โห! ละอายอย่างแรงกล้า เกรงกลัวอย่างแรงกล้า เคารพอย่างแรงกล้า รักอย่างแรงกล้า มันมีสภาวะจริงที่สุดเลย ถ้าคนที่เห็นจริงอย่างนั้นเลย ยกตัวอย่างปัจจุบันเลย 

เช่น ขณะนี้พวกผู้รู้ทั้งหลายจะเห็นโพธิรักษ์เป็นมิจฉาทิฐิ ถ้าเขารู้สึกว่าเขาต่างหากที่เป็นมิจฉาทิฐิ เขาเห็นตรงกันข้ามกับโพธิรักษ์ เขารู้สึกอย่างนั้นเมื่อไหร่เขาจะเป็นอย่างนี้ แล้วคิดว่าเขาจะเกิดไหม อาการนี้จะเกิดไหมในชาตินี้จะเกิดไหม มีหวังไหม 

มันซ้อน เขาอาจจะพอเข้าใจได้ แต่เขาไม่กล้าเปิดเผยยอมรับว่าใช่ แต่ก่อนนี้เข้าใจว่าโพธิรักษ์มิจฉาทิฏฐิ เดี๋ยวนี้เข้าใจแล้วว่าโพธิรักษ์เป็นสัมมาทิฏฐิ เขาเองเป็นผู้มิจฉาทิฏฐิ มันจะไหวหรืออย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม คนจนโลกุตระมีประชาธิปไตยที่ดีสุดในโลก วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 เมษายน 2564 ( 16:11:32 )

พวกพญาครุฑคือพวกปทปรมะบุคคล

รายละเอียด

ที่นี้พวกตื่นก็ตรงกันข้ามกันเป็นพวกพญาครุฑ เตลิดไปทางปริยัติ เตลิดไปทางความรู้ไม่รู้จักจบ ไม่รู้จักหยุด แต่ก็จะต้องหลงใหลอยู่กับความรู้นั่นแหละ เป็น ปทปรมะก็แล้ว ปทปรมะคือใคร คือคนที่เรียนรู้ธรรมะพระพุทธเจ้ามามาก ท่องจำได้มาก สั่งสอนคนอยู่ก็มาก แต่ไม่ได้บรรลุธรรม ยังไม่พอนะ ปทปรมะ แล้วไปสะสมของอาจารย์ต่างๆ ไม่ใช่แต่ของธรรมะพระพุทธเจ้าเท่านั้น ไปเอาของอาจาริยวาท ของใครต่อใครเอามาเรียน มาสะสม มาเก็บไว้หมดเลย มากๆๆๆ สะสมทำเล่มกี่เล่มใหญ่ๆ 

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ พุทธธรรมอะไรต่างๆที่สะสม ก็จะไปอย่างนั้นเป็นพญาครุฑ เหินหาว ใครจะพูดอย่างไร ฉันพญาครุฑ ฉันอยู่สูงกว่าคุณนะ ปัดโถ่..พวกชั้นต่ำ ไม่รู้จักอะไร มันเป็นอย่างนั้น อาตมาก็สุดสงสารพญานาคพญาครุฑทั้งหลาย จริงๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็ช่วย ก็ทำอย่างที่ทำได้ สุดวิสัยก็ทำได้ขนาดนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 28 จะเป็นสาธารณโภคีต้องไม่มีพญานาค วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:56:53 )

พวกพญานาค คือพวกหลับตาปฏิบัติ ไม่เป็นลำดับอันน่าอัศจรรย์

รายละเอียด

อาตมายังตั้งใจจะอธิบายเรื่อง ความมหัศจรรย์ที่ไม่เคยมีมาใน ปหาราทสูตร พระไตรปิฎกเล่ม 23 ข้อ 109 

_ข้อที่ 1 พ. ดูกรปหาราทะ ในมหาสมุทรมีธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาสักเท่าไร ที่พวกอสูรเห็นแล้วย่อมอภิรมย์ ฯ   

ป. มี 8 ประการ พระเจ้าข้า พ่อครูว่า...มีความรอบรู้อย่างยิ่ง ที่จริงความมหัศจรรย์ 8 ประการนี้เป็นของศาสนาพุทธ แต่ก่อนพราหมณ์เป็นผู้ที่มี สุรภาโว แต่ต่อมาได้เสื่อมไปเป็นอสูรแล้ว ไม่กล้าจะมาเป็นโลกุตระไม่กล้าจะมาศึกษาศาสนาพุทธ ไปเอาศาสนาอะไรที่ตัวเองหลงไปนานกับอสูร ไปเป็นอสูรกับเขาหมด 

8 ประการเป็นไฉน ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มหาสมุทรลาด ลุ่ม ลึกลงไปโดยลำดับ หาได้โกรกชันเหมือนเหวไม่ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้อที่มหาสมุทรลาด ลุ่ม ลึกลงไปโดยลำดับ หาได้โกรกชันเหมือนเหวไม่ นี้เป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมาประการที่ 1 ในมหาสมุทร ที่พวกอสูรเห็นแล้วๆ จึงอภิรมย์อยู่ ฯ 

ขนาดเป็นอสูรยังอภิรมย์กับความมหัศจรรย์ที่เป็นลำดับ ข้อที่ 1 เป็นลำดับ ไล่เรียงมา ตามลำดับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ไล่ลำดับไม่สลับ ไม่ก้าวกระโดด ไม่ใจร้อน ไปตามลำดับ อันนี้แค่นี้ พระพุทธเจ้าถือว่าเป็นความมหัศจรรย์แล้ว เพราะฉะนั้นอาตมาก็ขอขยายความ แค่เป็นลำดับไม่ลัดขั้นตอน 

เช่น จรณะ 15 มีศีล ข้อ 1 สำรวมอินทรีย์เป็นข้อที่ 2 โภชเนมัตตัญญุตาเป็นข้อที่ 3 ชาคริยานุโยคะเป็นข้อที่ 4 ศรัทธาข้อ 5 หิริข้อ 6 โอตตัปปะ ข้อที่ 7 พหุสัจจะข้อที่ 8 วิริยะเป็นข้อที่ 9 สติเป็นข้อที่ 10 ปัญญา ข้อที่11

ฌาน 1 2 3 4 เป็นข้อที่ 12 13 14 15 เป็นลำดับไล่เรียงไป ไม่ลัดไม่ตัด ไม่ตัดทิ้งอะไร นี่คือความมหัศจรรย์ของศาสนาพุทธแต่ทุกวันนี้ชาวพุทธเสื่อมไปจากศาสนาพุทธแล้ว 

จะปฏิบัติฉันเป็นอย่างไร ไม่มีอะไรเลยนั่งหลับตา จึงจะเกิด ฌาน 1 2 3 4 อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับพระไตรปิฎกก็อย่าไปอ่าน ทำฌานจะเกิดฌาน นั่งหลับตาสมาธิอย่างเดียว เดี๋ยวก็มีเอง นี่คือมิจฉาทิฏฐิ หรืออวิชชาที่ตกขอบ ออกนอกศาสนาพุทธไปไกล สุดโลกเลย เป็นโลกเดียรถีย์ เป็นโลกที่ออกนอกศาสนาพุทธไปไกลลิบแล้วเอามาใส่ในศาสนาพุทธ ทำให้ศาสนาพุทธเสื่อมต่ำผิดพลาดไปไกล 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 23 ความมหัศจรรย์ของการแยกกายแยกจิตได้ วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 มกราคม 2565 ( 10:49:09 )

พวกพญานาคที่โง่ดักดานคือพวกหลับตาปฏิบัติ

รายละเอียด

จะพอรู้มีความรู้ทางพระพุทธศาสนาก็เพียงแต่ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา 1 องค์จะมีการลอยถาดลงไป ถูกถาดของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนมีเสียงดัง พญานาคนั้นเฝ้าถาดทองมาตั้งแต่องค์ที่ 1 ใบที่ 1 พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา 1 องค์ ลอยถาดไปกระทบกันจึงจะตื่นขึ้นมา รู้สึกตัวว่าพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมาอีก 1 พระองค์แล้วหรือเท่านั้นแล้วก็หลับต่อไปอีก หลับต่อไม่มีรู้สึกตัวขึ้นมาได้อีกเลย ก็เอาแต่หลับตา พูดอย่างไร ใครจะพูดอย่างไร ใครจะมากระตุกอย่างไร ใครจะมาแทงด้วยหอกร้อยเล่ม 300 เล่มอย่างไร กูก็เป็นพญานาคของกูอยู่อย่างนี้ หลับตาปฏิบัติ 

ทุกวันนี้อย่าว่าแต่ 300 เล่ม เลย 3หมื่นเล่ม คุณก็หลับตาเป็นพญานาคอยู่อย่างนั้น คุณฟังเข้าหูที่ไหน คุณก็มืดบอดเป็นพญานาคอยู่อย่างนั้น นี่มันสุดยอดเป็นอุทาหรณ์ ไม่ได้ไปใส่ความนะแต่เป็นเรื่องจริง 

พวกพญานาคที่โง่ดักดาน หลับตาปฏิบัติอยู่ทั้งหมด คือพญานาค พวกดักดาน ไม่ได้ไปว่าไปด่าแต่เป็นอย่างนั้นจริงๆ ฟังที่อาตมาอ้างอิงพระไตรปิฎก หลักฐาน แล้วปฏิบัติให้เห็นเป็นอยู่ ผู้บรรลุอรหันต์จริงๆเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่หลับตาแล้วหลงเป็นอรหันต์ มันคนละเรื่องกันเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 28 จะเป็นสาธารณโภคีต้องไม่มีพญานาค วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 19:53:17 )

พวกมักน้อยเกินไปไม่ใช่ของพระพุทธเจ้าเพราะไม่สมกับยุค

รายละเอียด

อย่างพวกเชน ไม่ใช้อะไรเลย ลงท้ายก็ใช้ใบเดียวเป็นภาชนะ กับแส้เอาไว้ปัด แต่ต้องกิน ภาชนะนี้ต้องใช้ใส่ของกิน เขาถือว่าเขาหลุดพ้น ไม่ติดอะไรในโลกเลยพวกมักน้อยเกิน

แม้แต่ในศาสนาพุทธนี้น้อยเกิน อย่างพวกพระกรรมฐานหรือพระป่าก็น้อยเกิน มันไม่สมกับยุค ยุค พระพุทธเจ้ามีบริขาร 8 ทุกวันนี้มีบริขาร8 แต่ได้ที่ไหนคุณต้องมีมากกว่านั้นแม้แต่พระป่าก็เถอะ พระป่าก็มีบริขารเกินกว่า 8 นอกจากเป็นพระธุดงค์ที่เลยเถิดไปทั้งน้อยจริงๆเลยซึ่งไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สุภกิณหาอย่างพุทธดับสุดสิ้นอาสวะ วันพุธที่ 2 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 31 มกราคม 2564 ( 15:11:26 )

พวกมักน้อยเกินไปไม่ใช่ของพระพุทธเจ้าเพราะไม่สมกับยุค

รายละเอียด

อย่างพวกเชน ไม่ใช้อะไรเลย ลงท้ายก็ใช้ใบเดียวเป็นภาชนะ กับแส้เอาไว้ปัด แต่ต้องกิน ภาชนะนี้ต้องใช้ใส่ของกิน เขาถือว่าเขาหลุดพ้น ไม่ติดอะไรในโลกเลยพวกมักน้อยเกิน

แม้แต่ในศาสนาพุทธนี้น้อยเกิน อย่างพวกพระกรรมฐานหรือพระป่าก็น้อยเกิน มันไม่สมกับยุค ยุค พระพุทธเจ้ามีบริขาร 8 ทุกวันนี้มีบริขาร8 แต่ได้ที่ไหนคุณต้องมีมากกว่านั้นแม้แต่พระป่าก็เถอะ พระป่าก็มีบริขารเกินกว่า 8 นอกจากเป็นพระธุดงค์ที่เลยเถิดไปทั้งน้อยจริงๆเลยซึ่งไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ สุภกิณหาอย่างพุทธดับสุดสิ้นอาสวะ วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่บ้านราชฯ


เวลาบันทึก 31 มกราคม 2564 ( 17:02:29 )

พวกมิจฉาทิฏฐิ

รายละเอียด

เขาให้หยุดพูดหยุดคิด มันคนละเรื่องกันเลย พวกที่มิจฉาทิฏฐิ อาชีพก็ไม่ทำ การกระทำอะไรทำกิริยาอะไรก็ไม่ทำ พูดก็ไม่พูด คิดก็ไม่ให้คิด แล้วบอกว่าสงบแล้วโว้ย คุณจะตะโกนว่าสงบดังขนาดไหนจิตใจคุณก็ไม่สงบหรอกมันไม่ถูกต้อง ฟังไม่ขึ้นหรอก เพราะคุณเข้าใจผิด คุณปฏิบัติผิด ต้องมาปฏิบัติศีลและมีหลัก 3 ประการนี้ ถ้าไม่มี 3 ประการนี้ผิด รู้ตัวบ้างไหมไปนั่งหลับตาแล้วมันจะไปมีสำรวมอินทรีย์ขี้หมาอะไร อยู่แต่อินทรีย์ทวารเดียว ทิ้งไปอีก 5 ทวารอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตาไม่เกี่ยวเลย สำรวมไม่ได้แปลว่าปิดทวารอินทรีย์ แต่นี่ปิดไปหมดเลย ไปผูกมัดมันด้วย สรุปแล้วเข้าใจผิด ปฏิบัติผิด ก็ไม่เริ่มศีลได้

ที่มา ที่ไป

รายการทำวัตรเช้า งานว.บบบ.เพื่อฟ้าดิน บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2562


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2563 ( 18:10:22 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:51:22 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:48:56 )

พวกมิจฉาทิฏฐิ ใช้สัญญาเป็นตัวสร้างเป็นตัวกำหนดอย่างไร

รายละเอียด

พวกมิจฉาทิฏฐิ ใช้สัญญาเป็นตัวสร้างเป็นตัวกำหนดผู้ที่ยังยึดติดอยู่แค่หยาบใหญ่ แล้วก็ติดอยู่อย่าว่าแต่ฌาน 1 2 3 4 เลย หลงแม้แต่กาม รสเต็มที่เลย อย่างมหาบัวเป็นต้น รสอร่อย แล้วไม่มีอะไรมากหรอก หมากพลู ซึ่งมันไม่ดีเลยหมากพลู พลูก็ยัน หมากก็ฝาด มียาเส้นหรืออะไรอีกมาก จะรู้จักหรือไม่รู้จักก็เห็นอยู่แล้วว่าติดจนตายคาปาก

หมากพลู นี่ร้ายแรงกว่าหมากฝรั่ง หมากฝรั่งก็มีแต่ยางเหนียวกับน้ำตาล เคี้ยวจนน้ำตาลหมด ก็ไปเอาอันใหม่ แต่บางคนก็ติดยางเหนียวก็เคี้ยวอยู่อย่างนั้น 

แม้แต่ฌาน 4 เป็นรูปฌาน เขาก็ไม่รู้เรื่อง เขาก็ติดอยู่ตรงนี้ อาจจะมีละเอียดขึ้นมาบ้างปล่อยวางหยาบ ลงมาหาปิติ ลดปีติ ก็จะมาหาสุข แล้วไปอยู่กับไม่สุขไม่ทุกข์แต่ไม่ใช่อุเบกขาที่เป็นโลกุตระแท้นะ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 3 วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 กรกฎาคม 2564 ( 19:45:33 )

พวกมิจฉาทิฏฐิถูกพระหลอกล้วงกระเป๋า

รายละเอียด

นี่เห็นไหมมิจฉาทิฏฐิ สรุปได้ว่าถูกพระหลอกล้วงกระเป๋า เก่งนะ อาตมาคงไม่มีฝีมือไปสอนแม่คุณหรอก เท่าที่ดูแล้ว มันติดลึก ติดหนัก ติดตื้น ติดทั้งตื้นทั้งลึก ติดหนัก ยังไม่เข้าใจแม้แต่เรื่องคำว่า ทาน ของที่ควรทานแก่สงฆ์ อะไรที่เป็นของเหมาะสมที่ควรทานแก่สงฆ์ ให้แก่สงฆ์บริจาคแก่สงฆ์ คือมันมีรายละเอียดเยอะเรื่องพวกนี้ ให้ไปอ่านหนังสือเล่มไหน  อาตมาก็ว่าอ่านทุกเล่มนั่นแหละ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ใครคือผู้ถึงแก่น ใครเป็นผู้หลงกิ่งใบดอกผล วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 กรกฎาคม 2565 ( 15:07:40 )

พวกมิลักขะ 

รายละเอียด

พวกมิลักขะ  คือ  เป็นพระแบบป่าเถื่อน งมงาย

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 12:51:27 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:52:12 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:49:35 )

พวกมีแสนล้านแต่ยังไม่พอคือพวกจนไม่รู้จักเสร็จ

รายละเอียด

เคยมีแสนล้านแล้วหรือ  รู้แล้ว ทุกข์ฉิบหายเลย โอ้โห นี่เป็นสัจจะที่คนอย่างพระพุทธเจ้านี่แหละค้นพบแล้วก็เอามาขยาย จนกระทั่งมาทำให้คนรู้ตาม อย่างพวกเรานี่รู้ตามและเป็นไปได้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 10:41:33 )

พวกมืดในสัตตาวาสข้อที่ 4

รายละเอียด

ข้อที่ 4 เป็นพวกมืด สัตว์มีกายอย่างเดียวกันสัญญาอย่างเดียวกัน ได้แก่พวกเทพชั้นสุภกิณหา สุภะ คือน่าได้น่ามีน่าเป็น กิณหะคือความมืดความดำ

ความมืดความดำที่จริงมันไม่ใช่ความดับสนิทของกิเลส แต่มันดับสะกดจิต เพราะฉะนั้นคำว่า “ดับ” ก็รู้ความต่างกันตรงที่ว่า ดับแบบสะกดจิตกับดับเพราะเผากิเลสให้จางคลายจนหายเกลี้ยงไม่เหลือกิเลส อันนั้นดับสนิทอย่างชัดเจน ไอ้ดับอย่างไม่มีอาการนิวรณ์ เขาก็ดับได้อย่างสะกดจิตเอาเก่งกันได้นาน เป็นอาฬารดาบส อุทกดาบสไป เป็นฌาน 7 ฌาน 8

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ วิถีอาริยธรรม เรียนรู้วิญญาณฐิติ 7 ให้ถึงอรหันต์ 

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 พฤษภาคม 2564 ( 15:47:32 )

พวกยังซื้อหวยอยู่แสดงว่าเป็นคนไม่รู้จักความจน 

รายละเอียด

คนจนแบบอวิชชา พวกเราจะเข้าใจกันอยู่แล้ว คนจนโลกียะ มันจำนน ตนเองแย่งเขาไม่ได้ มีความสามารถเท่านี้ได้เท่านี้ แล้วก็จำนนอยู่เท่านี้ ก็จนอยู่ไป แต่จิตใจอยากได้ เพราะฉะนั้นจึงไปซื้อหวย พวกยังซื้อหวยอยู่นี่เป็นคนส่อแสดงชัดเจนว่า มันไม่รู้จักความจน 

ขนาดคนรวยบางคนยังซื้อหวยเลย คนรวยในฐานะปานกลางซื้อหวยแต่ละทีเป็นหมื่นๆ ทุกงวด ก็ถูกกินแต่ไม่เข็ด ก็มันอยากได้ ซื้ออยู่นั่นแหละ โง่ให้เจ้ามือหวย ก็คือรัฐบาลเอาเงินไป 

อาตมาเคยเล่นหวยตั้งงบประมาณไว้ ตั้งแต่สมัยก่อนโน้น ทอง 1 บาทมีค่า 400 บาท อาตมาตั้งงบประมาณไว้ 10,000 บาท แล้วก็ซื้อเรียงลำดับเลย เพราะฉะนั้นล็อคเลข 2 ตัว 3 ตัวหมด ต้องถูกทุกงวด จะมีรางวัลหางเลข ก็จะได้เงินพวกนั้นมาเพื่อที่จะเอามาหมุนเงินหมื่นให้หมดได้ ปรากฏว่าหมด มันไม่ได้คืนมา มันถูกหางเลขทุกงวด จนมันไม่มีซื้อครบเล่ม มันก็ไม่ถูกหางเลขสิทีนี้ ก็หมดสิ อาตมาทำมาแล้ว ตั้งงบประมาณไว้ซื้อเป็นเล่มเลย ล็อคหางเลขเพื่อจะถูกรางวัล ถ้ามันถูกรางวัลที่ 1 ก็ไปได้อีกนาน แต่มันไม่ได้ หมด หมื่นหมด จริง คุณไปลองเถอะ เชื่อไหม? เขาเรียกสลากกินเรียบ กินรวบ ซึ่งประเทศไทยก็มีหวยพวกนี้แหละ มันแสดงถึงความสิ้นไร้ไม้ตอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คนจน 2 แบบ คนจนอวิชชากับคนจนโลกุตระ ตอน 3 วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 ธันวาคม 2564 ( 10:57:42 )

พวกยึดอวิชชาเป็นวิชชาเท่านั้นจึงจะแย้งพระอรหันต์

รายละเอียด

ขออภัยที่อาตมาพูดตรงมากพูดถูกหน้าแงเขาตลอดเวลา อาตมาไม่ได้พูดด้วยความโกรธเคืองชิงชัง แต่พูดด้วยความสงสาร 

อาตมาพ้นสงสารแล้ว คนไม่ต้องสงสารอาตมาหรอก คืออาตมาพ้นวัฏฏะต่างๆ อาตมาสะดวกมากในการบอกความจริงทุกวันนี้ เพราะอาตมาเป็นพระอรหันต์ พูดอย่างผู้ไม่มีอวิชชาก็พูดอย่างผู้มีวิชชาจริงๆตรงๆ 

พวกยึดอวิชชาเป็นวิชชาเขาก็แย้งๆๆ สัจจะมีหนึ่งเดียว ผู้ที่มีปฏิภาณปัญญาจะแย้งอาตมาไม่ได้จะฟังอย่างสงบแต่ผู้ที่ไม่มีปัญญาก็จะแย้งๆๆ มันเป็นสัจจะนะตรงนี้ อาตมาพูดก็ยกอ้างธรรมะพระพุทธเจ้าสัจจะมีหนึ่งเดียว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ มรรคมีองค์ 8 ทำให้พ้น

จากอัญญเดียรถีย์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 01 พฤษภาคม 2564 ( 11:04:37 )

พวกวิตกจริต

รายละเอียด

ก็คุณเมธีนี้เขาอยู่ในภพฟุ้งซ่าน มั่วมาหมดเลย มีทั้งเหมาเจ๋อตุง ทั้งพระพุทธเจ้ารวมทั้งเขาเองด้วยมันก็เลยมากมาย คนที่ใฝ่รู้จะเป็นเช่นนี้จะวุ่นวายสับสนเป็นพวกวิตักจริต เสียเวลายาวนานมากเลย 80 อสงไขย

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563


เวลาบันทึก 18 มิถุนายน 2563 ( 10:48:28 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:52:40 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:50:05 )

พวกวิปริตไปเป็นนิรมาณกาย

รายละเอียด

ก็เข้าใจคำว่า กาย เป็นข้างนอกอย่างเดียว เพราะฉะนั้น กายสังขารก็คือปรุงแต่งแต่เพียงภายนอก จิตของท่านก็เลยไม่ไปปรุงแต่งด้วยเพราะคำว่า กาย ยังไม่สัมมาทิฏฐิในสังโยชน์ข้อที่ 1 นี้คือพวกที่ยังไม่พ้นกาย

เพราะกาย มันแยกข้างนอกข้างในไม่ได้ กาย ต้องมีภายนอกและภายในพร้อมกัน ซึ่งยากมากเลยตรงนี้ แต่ไปเข้าใจว่า กาย คือข้างนอกอย่างเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อหลับตาเข้าแล้ว มีแต่ลมหายใจเข้าออกกับความรู้สึก แต่ก็ไปตัดลมหายใจเข้า ลมหายใจออกด้วย เข้าไปอยู่แต่ข้างใน ซึ่งที่จริงก็ยังมีลมหายใจนะ แต่ไม่มีเวทนาร่วมรับรู้ ไม่มีสัญญาร่วมรับรู้กับลมหายใจออกลมหายใจเข้า ก็ยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจเข้าหายใจออกอยู่ แต่ไม่เอาความรู้สึกหรือไปกำหนดหมายกับลมหายใจเข้าออกข้างนอกแล้ว และแม้ภายในก็ไม่ได้เห็นลมหายใจเข้าออกอะไร เขาจะวิปริตไปเป็นนิรมาณกายเลย 

บอกว่าให้เดินลมหายใจเข้าลมหายใจออกอยู่ภายในจิตนั่นแหละ เดี๋ยวลมขึ้นลมลง ลมบนลมล่าง เป็นนิรมาณกาย เป็นความสมมุติเนรมิตเอาเอง ซึ่งมันไม่มีความจริงเลยเป็นอุปาทานทั้งสิ้น แล้วการสร้างอุปาทานในจิตขึ้นมา พวกนั่งหลับตานี้ทั้งนั้นเลย 

ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่บรรลุสมบูรณ์แบบแล้ว เป็นพระอรหันต์สมบูรณ์แบบจริงๆแล้ว ไม่มีอุปาทานใดๆ นั่งหลับตาเข้า ในความมืดตอนกลางคืนในที่มืด ถ้ามันมีแสงก็จะมีแสงมามันก็จะสะท้อนเข้าไปข้างในอยู่บ้าง 

เอาให้ชัดๆ นั่งในที่มืด ดับอยู่ในความมืดจริงๆ หลับตามันก็มีความมืดจะไม่เห็นแสงอะไรเลย ผู้ที่หลับตาลงไปแล้วเห็นแสงอยู่ นั่นคือนิรมาณกาย นั่นคือสมมตินั่นคือคนอุปาทานยึดผิด ว่ามันยังมีแสงสีมีภาพมีความสว่าง ที่จริงแล้วไม่มี หลับตาแล้วมีแต่ความมืดอย่างเดียว นี่แหละคือวิญญาณฐีติข้อที่ 4 สุภกิณหา 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อานาปานสติอย่างพุทธ ไม่มี
นัตถิกทิฏฐิ วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 19 สิงหาคม 2565 ( 19:15:32 )

พวกสายเทวนิยมอย่างเช่นแม่ชีเทเรซ่าเป็นพระโพธิสัตว์ไม่ได้เพราะอะไร

รายละเอียด

ถูกต้องแล้วที่คุณเข้าใจ มันเป็นงานสังคมสงเคราะห์ งานช่วยมนุษย์โลกมันเหมือนโพธิสัตว์นะ โพธิสัตว์ช่วยมนุษย์โลก แต่นี่ก็ช่วยมนุษย์โลก แต่ช่วยทางสังขารร่างกาย ฟังประเด็นตรงนี้ให้ชัด ช่วยสังขารร่างกายที่ได้รับทุกข์ทรมานเจ็บป่วย โดยเฉพาะแม่ชีเทเรซ่า ช่วยคนเจ็บป่วย รักษาคนเจ็บป่วยอย่างไม่รังเกียจรังงอนเลย จนกระทั่งมันเห็นได้ง่ายชัด เป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่สูงส่งมีผลงานมาก จริง 

สายเทวนิยมยังไม่เข้าใจเรื่อง จิตนิยาม ปรมัตถ์ เรื่องกิเลส ยังไม่เข้าใจ เขาก็รู้สิ่งนี้ ยกย่องสิ่งนี้ก็ถูกแล้ว เขายกเป็นนักบุญ ซึ่งจริงๆแล้วคำว่า นักบุญ คำว่า บุญ เป็นของศาสนาพุทธแต่ทางโน้นเขาเอาไปใช้ เขาเข้าใจยังไม่ถูก ยังไม่ได้เป็นบุญ ยังไม่ได้กำจัดกิเลส ยังไม่รู้จักปรมัตถ์ ยังรู้แต่เรื่องของความดีความงาม ความดีความเจริญ ความดีความชั่ว ยังไม่รู้จักความสุขความทุกข์ ยังไม่รู้จักโลกุตรธรรม 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ความมี ความไม่มี สิทธัตถะและสิริมหามายา วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 27 กันยายน 2565 ( 19:46:51 )

พวกสื่อสารพวกบรรณาธิการคือพวกหาเรื่องที่จะต้องยกย่องคนดีถล่มคนชั่ว

รายละเอียด

พวกสื่อสารจะต้องหาเรื่องบอกว่าคนชั่วคนดีทะเลาะกัน เขาก็ต้องมีเรื่องเขียน ถ้าไม่มีเรื่องเขียนเขาก็ไปไม่ได้ พวกสื่อสารพวกบรรณาธิการคือพวกหาเรื่อง ถ้าไม่มีเรื่องก็ไม่มีที่จะเขียน ถ้าจะเขียนโชว์ ก็โชว์ไป ให้รู้ว่าเป็นหนังสือที่เป็นกลางแล้วเข้าข้างคนดี ส่วนที่ไม่ดีก็จะถล่ม นิคคัณเห นิคคหารหัง ปัคคัณเห ปัคคหารหัง จะยกย่องคนดีถล่มคนชั่ว

แล้วก็มีพวกสู่รู้กลัวว่าเขาจะเหลิง ก็เลยติงไว้ แล้วเอ็งใหญ่กว่าเขาหรือ เขาไม่รู้ตัวหรือว่าเขาเจริญหรือไม่เจริญ นั่นคือพวกสู่รู้ ทำเป็นสู่รู้อะไรมากมาย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ GDP แบบโลกียะกับแบบโลกุตระ วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ที่บ้านราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 03 เมษายน 2564 ( 21:26:12 )

พวกสุขนิยม พวกมีพระเจ้าเป็นพวกหลง หลงอย่างไร

รายละเอียด

เขาคิดว่ามีพระเจ้า แล้วพระเจ้าเป็นเจ้าของความสุขอยู่ในแดนสุข คนตายแล้วต้องไปอยู่กับพระเจ้าหมด เพราะพระเจ้าเป็นเจ้าของจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกอย่าง ซึ่งเป็นความเชื่อถือที่โอเวอร์ เป็นความเชื่อถือที่มันเป็นจริงไม่ได้ แล้วก็ไม่มีจริงอย่างนั้น อาตมาก็พูดหนักแล้ว เขาไปหลงคิดว่าพระเจ้ามีจริง ซึ่งไม่มีหรอก เอาความไม่เป็นจริงไม่เป็นไปได้มานึกว่าเป็นจริง มีจริง เป็นความเพ้อฝันชนิดหนึ่ง มันเป็นจริงไม่ได้ 

เขาคิดว่าพระเจ้าบันดาลได้ทุกอย่าง ซึ่งมันไม่เป็นจริง มันตรงกันข้ามกับของพระพุทธเจ้า ของพระพุทธเจ้านั้น คนเราไปบันดาลทุกอย่างไม่ได้ แต่เขาบอกว่าพระเจ้าบันดาลทุกอย่างได้ หรือจิตวิญญาณยิ่งใหญ่ คนไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้าไม่ใช่คน พระบุตรก็ไม่ใช่คน มันก็เลยแยกแล้วว่า ตกลงจิตวิญญาณไม่ใช่คนใช่ไหม ประเด็นนี้ไปคิดให้ดีๆ จิตวิญญาณไม่ใช่คนใช่ไหมตกลง พระเจ้าไม่ใช่คน เป็นสิ่งที่พิเศษ ยกไว้ต่างหาก แล้วก็บอกว่า พระเจ้า คนต่างๆเป็นลูกของพระเจ้า อ้าว คนต่างๆที่มีกิเลสนี่เป็นผี เป็นซาตาน เป็นนรก แล้วตกลงพระเจ้ามีลูกเป็นซาตานหรือ เป็นอย่างไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปรียบเทียบนายกฯ พลเอกประยุทธ์กับคุณทักษิณ วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 ตุลาคม 2565 ( 11:58:53 )

พวกสุขนิยมวนเวียนอยู่กับกรรมวิบากอย่างไร

รายละเอียด

พวกสุขนิยมก็วนเวียนกับกรรมวิบาก กรรมจำแนกสัตว์เขาก็ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้กัมมโยนิ กัมมทายาโท ฯ ก็จะเป็นความสุขใจที่สุดคือเป็นเจ้าของ เป็นเจ้าของที่จะมีอำนาจให้ลาภยศสรรเสริญแม้ที่สุดให้ความสุข สรุปที่ตัวให้ความสุข ต้องการสุขเป็นทาสข้า ต้องอ้อนวอนข้า ข้าสั่งอย่างไรทำตามทุกอย่าง อย่ากระดิก อย่าแก้ไข อย่าเปลี่ยนแปลง เป็นอำนาจใหญ่เป็นเช่นนี้ หลงอันนี้กันจริงๆไม่เชื่อไปถามโดนัลทรัมป์ ไปถามคิมจองอึน หรือไปถามปูติน จะไปถามสีจิ้นผิงก็ได้ ลองไปถามสิจะเข้าใจอย่างที่อาตมาเข้าใจไหม เขาจะวางไหม ถ้าเขาวางได้ข้ามฟากมาเกิดเมืองไทย มาเป็นโพธิสัตว์รูปใดรูปหนึ่งเลย ถ้าวางไม่ได้เขาก็จะวนเวียนอยู่กับบริวารเขาอีกเยอะ สี บริเวารเยอะนะ ไม่ใช่มีแต่เฉพาะเมืองไทยนะ บริวารของสีจิ้นผิงอยู่ในเมืองนอกก็เยอะแยะ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ธรรมบรรยาย คุหัฏฐกสุตตนิทเทส ตอน 3 วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2564 ขึ้น 13 ค่ำเดือน 7 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 08 กรกฎาคม 2564 ( 19:43:35 )

พวกสุดโต่งสองทาง มหายานกับหินยาน

รายละเอียด

คนที่บรรลุอรหันต์แล้วก็จะรู้ว่าเราจบแล้ว เราก็เห็นคนตาดำๆ ก็น่าสงสาร อรหันต์จริงๆนี่ มันจะมีเชื้อของโพธิสัตว์ เป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์อยู่ด้วย แม้จะเป็นคนเห็นแก่ตัวขนาดไหนไม่เอาใครเลย จะเอาแต่ตัวเองนี่แหละ จะเอาอรหันต์ให้ได้อย่างเดียวไม่ช่วยใคร โพธิสัตว์คือผู้ช่วยผู้อื่นบ้าง หรือตั้งใจช่วยผู้อื่น หรือไปด้วยกัน ช่วยกันไปต่างคนต่างช่วยกัน มันคือมนุษย์ธรรมดา ต่างคนต่างช่วยกันไปด้วยกัน เพื่อเราเพื่อเขาด้วยกัน ถ้าเข้าใจแล้วมันก็เท่านี้แหละมันลงตัวที่สุด ช่วยกันไป จะเห็นแต่แก่ตัวเอาแต่ตัวเองมันก็มีเอียงอย่างนั้นบ้าง แล้วก็ไปเข้าใจว่าปฏิบัติอย่างนี้แหละ ได้อรหันต์อย่างตัวเองไม่เกี่ยวกับใครมันก็สุดโต่งไป มันก็จะโต่งไป มันก็จะกลายเป็นเดียรถีย์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้น้ำหนักของศาสนาพุทธ พระปฏิบัติอรหันต์คือพระปฏิบัติเพื่อจะช่วยตัวเองเท่านั้น หนีออกไปหลบออกไป แล้วไปอย่างไรไปออกนอกรีตหมดเลย พวกนี้ไม่ได้อรหันต์ เพราะสุดโต่งไปหาตัวเอง 

พวกนึงช่วยเขาช่วยเขาเป็นมหายาน จนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรก็เป็นพวกสุดโต่งไปอีกฝั่งนึง สุดท้ายศาสนาพุทธก็ไม่มีเลย ไม่มีแล้วมีแต่มหายานกับหินยาน มีแต่ยานเล็กกับตัวเอง มีแต่ยานใหญ่กับผู้อื่น สิ่งที่จะต้องรู้ผู้อื่นกับรู้ตัวเองให้ครบ แล้วก็อยู่ด้วยกัน ต่างช่วยเหลือกัน ต่างเป็นประโยชน์แก่กันและกัน เป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่กันและกัน ไม่ได้เลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 14:00:49 )

พวกสุดโต่งเลยความเป็น 0 ไม่รับรู้แม้วิโมกข์ 8 ข้อที่ 1 ก็ไม่บรรลุธรรม

รายละเอียด

เข้าใจภาวะสองละเอียดได้เท่าใดก็เข้าใกล้อภิภู ก็ดู sms กัน ซึ่ง หากเราพูดไปคนเดียว ไม่มีคนรับฟังโต้ตอบด้วยเลย  ก็คงจะพูดไปจนกว่าจะหมดแรงพูดไป ซึ่งก็คงไม่ได้อะไรให้รับรู้สึกว่า มีอะไรที่จะได้พูดกัน จะได้รู้ร่วมกัน จะได้ทำร่วมกัน เหมือนกับพวกเชน เขาคิดจะปลีกเดี่ยวจนกระทั่งไม่มีอะไรเลย สุดโต่งไปเลย 1 ไม่เหลือ 0 แม้ 0 ก็ยังจะไม่ให้มี 0 เลยนะ เขาโต่งไปถึงขนาดนั้น แต่เขาก็จำนนว่าตัวเขายังมีตัวตน เขาเอาตัวตนออกไปให้ห่างจากทุกอย่างเลย แต่เขาก็ใช้บาตรหรือกะลาอันนึง เพื่อจะใส่อาหารกิน ทิ้งไม่ได้ แล้วเขาก็ยังมีความคิดอีกว่า มันยังมีชีวิตร่วม  เขาก็อาศัยบิณฑบาตเลี้ยงชีพไป แล้วเขายังมีความคิดอีกอย่างหนึ่งว่า เหลือชีวิต ชีวะเล็กๆ เขาก็จะไม่เกี่ยว มีบาตรอันเดียว คือ มันประเภทคนที่คิดสุดโต่งได้ ไม่มีใครคิดสุดโต่งได้เท่ากับ พระมหาวีระหรือเชน โอ้โห อยู่กับความไม่มี ไม่เอา ไม่เป็นอะไรเลย ปฏิเสธ 0 เลย 

พระพุทธเจ้าท่านรู้จักความเป็น 0 แล้วก็รู้จักความมี เป็น 2 แต่พวกเชนนี้ไม่รับรู้อะไร คุณยังมีสิ่งหนึ่งเป็นตัวรู้และอีกสิ่งที่ถูกรู้ ธาตุรู้ของคุณก็คือนาม และมีอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องกระทบกัน คู่ เทวะ แล้วมันก็ต้องถูกรู้ วิโมกข์ 8 ข้อที่ 1 รูปี รูปานิ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์ 4 ประการ วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 20 กันยายน 2565 ( 14:31:17 )

พวกหลงผิดจิตเกาะเกี่ยวไม่ให้ออกจากร่าง

รายละเอียด

มันอยู่กับร่างกายอยู่ มันยังเป็นชีวะ มันยังจะยาวออกมาได้ อาหารเลี้ยงได้ เหมือนคน ปฏิบัติเป็นมิจฉาทิฏฐิ จิตเกาะเกี่ยวจิตวิญญาณตนเอง ไม่ยอมให้จิตวิญญาณออกจากร่าง หลงผิดจิตก็ไม่ออกง่ายๆ ตายไปแล้วก็ยังไม่ออก ตายไปแล้วก็ยังอยู่ สัตว์เดรัจฉานตายไปแล้วจิตวิญญาณมันก็ออกจากร่าง สัตว์เดรัจฉานมันยังรู้เลย แต่พวกหลงผิดนี่ ยึดกายเป็นของเรา เสร็จแล้วก็เลยยังไม่เน่าง่าย หรือยิ่งต่อท่อใส่อาหารเข้าไปให้ ตายเป็นพืชแล้วเป็นมนุษย์พืชใส่ท่ออาหารไป ก็ยังยืดไปอีกนานเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาความเข้าใจเรื่องกายของอ.แปลง วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 29 พฤศจิกายน 2564 ( 14:52:54 )

พวกหลงผิดยึดติดในการปฏิบัติกับยึดติดในความรู้

รายละเอียด

มาในตัวเองฝังหัวมาเลย คุณเข้าใจคุณก็พูดได้ถูก คนไม่เข้าใจก็ฟังไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจไม่เข้าท่า อาตมาพูดเรื่องโลกุตระ เขากล่าวหาว่าอาตมาจะมาทำลายศาสนาด้วย ตามที่เขาติดอยู่ในลาภยศสรรเสริญโลกียสุขและความรู้ 

1. ยึดติดในการปฏิบัติ 

2. ยึดติดในความรู้ 

   ข้อ 1 พวกยึดติดในการปฏิบัติก็หลงผิดไปออกป่าเขาถ้ำนับถือกันว่า เป็นพระปฏิบัติต้องหลับตาและออกป่าเขาถ้ำ เป็นเดียรถีย์เป็นมิจฉาทิฐิ ซึ่งมันออกนอกประเทศไปเลย 

   ส่วนข้อ 2 พวกที่หลงความรู้ หลงบัญญัติภาษาพยัญชนะก็ไปกันใหญ่เลย ในคำสอนของใครต่อใครเอามารวมกัน หลงในความรู้อยู่นั้น น่าสงสาร

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ หมู่บ้านสาธารณโภคีมีจริงได้แม้ใกล้กลียุค วันพุธที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 09 พฤษภาคม 2564 ( 19:33:42 )

พวกหลงสว่างหลงมืดเป็นสภาวะของสสาร แต่จิตที่เอากิเลสออกหมด ยิ่งหมดยิ่งสว่าง

รายละเอียด

พวกที่หลงความสว่างจากนั้นก็คิดว่าเหนือกว่าสว่างก็คือ มืด แต่พรหมแบบมีปัญญาจะรู้ว่า ความดับที่แท้จริงไม่มืด มีแต่สว่างกับสว่าง เพราะว่าจิตวิญญาณที่เอากิเลสออกหมดแล้วมีแต่สว่างไม่ใช่ดับดำมืด ดับดำมืดเป็นสภาวะของสสารไม่ใช่สภาวะของจิต กิเลสยิ่งหมดไปยิ่งสว่าง ยิ่งสว่างตลอดกาล ไม่มีดับ ไม่มีดำ ไม่มีมืดเลย ส่วน สุทธาวาส 5 มันเป็นของแต่ละบุคคล ถ้าไปตกอยู่ในแดนนั้นแล้วตามบารมี บารมีของผู้ที่ไปตกอยู่ในภูมิของอนาคามีแล้วไม่ยอมเกิดมาอีก ก็จะตกอยู่ในสุทธาวาส 5 ประการ ตามจริตของตัวเอง 

12) อวิหา (เหล่าท่านผู้ไม่เสื่อมจากสมบัติของตน หรือผู้ไม่ละไปเร็ว, ผู้คงอยู่นาน — realm of Brahmas who do not fall from prosperity)

13) อตัปปา (เหล่าท่านผู้ไม่ทำความเดือดร้อนแก่ใคร หรือผู้ไม่เดือดร้อนกับใคร — realm of Brahmas who are serene)

14) สุทัสสา (เหล่าท่านผู้งดงามน่าทัศนา — realm of Brahmas who are beautiful)

15) สุทัสสี (เหล่าท่านผู้มองเห็นชัดเจนดี หรือผู้มีทัศนาแจ่มชัด — realm of Brahmas who are clear-sighted)

16) อกนิฏฐา (เหล่าท่านผู้ไม่มีความด้อยหรือเล็กน้อยกว่าใคร, ผู้สูงสุด — realm of the highest or supreme Brahmas) คือ เมื่อเป็นอนาคามี ตายไปแล้วไม่กลับมาเกิดอีกอยู่ในภพของจิตที่จะสลายไปตามนี้ ซึ่งนานมากเพราะไม่มีอุปกรณ์ที่จะปฏิบัติ

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วิชชาจรณสมบัติ และพรหม 20 ชั้น วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 25 กรกฎาคม 2565 ( 14:16:48 )

พวกหลงเชื่อข่าวปลอมเป็นพญานาคหรือพญาครุฑ

รายละเอียด

เป็นได้ทั้งสองอย่าง เป็นได้ทั้งพญาครุฑและพญานาค ที่จริงพญานาคไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ เชื่อไม่เชื่อมันก็เอาแต่ตัวเองมุดเงียบ ไม่ฟังหรอกข่าวคราว จะเป็นพวกพญาครุฑมากกว่าที่มีข่าวมากมาย ฟังข่าวมากมาย ยุ่งกับเขาไปหมด

ที่มา ที่ไป

พ่อครูตอบปัญหา พุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์แห่งพุทธ ครั้งที่ 46 วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 23 กุมภาพันธ์ 2565 ( 11:03:53 )

พวกหลงโลกธรรมสุขทุกข์เป็นเรื่องเดียวกัน

รายละเอียด

สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ คนเราเกิดแก่เจ็บตายแล้วก็มีชีวิต ยึดมั่นถือมั่น ถือเป็นโลกธรรม มีชีวิตก็ไปหลงอยู่กับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มันเอาชีวิตไปทิ้งเปล่า อยู่ก็เท่านั้น มันต้องมาเรียนรู้กันจริงๆ ไม่ต้องไปแบก ลาภ ยศ สรรเสริญ คนแบกสรรเสริญ มันน่าเห็นใจเพราะเขาไม่รู้ตัวเขาได้ง่ายๆ เขาติดสรรเสริญ แล้วยิ่งสุข ยิ่งเนียนใหญ่เลย โลกียสุข เคหสิตสุขเนียน 

สุข ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกข์กับสุขเป็นเรื่องเดียวกัน เขาก็ยึดทุกข์เป็นสุขยึดสุขเป็นทุกข์ เพราะมันเป็นเรื่องเดียวกันเลย ซึ่งยากที่จะเข้าใจ  คนที่ไปเข้าใจทุกข์ว่าเป็นสุข ไปยึดความทุกข์กับยึดความสุข ถ้ายึดสุขก็เป็นยึดทุกข์ เพราะฉะนั้นจึงเป็นความวิปลาสชนิดหนึ่ง เป็นคู่หนึ่งที่เรียกว่า ไปยึดทุกข์ว่าเป็นสุข ซึ่งมันมีหลอก เป็นภาษาพยัญชนะหลอก

คิดถึงอาการที่เกิดขึ้นมันเป็น ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป ทุกข์คืออะไร ทุกข์คือสิ่งที่ตั้งอยู่ทนอยู่ไม่ได้มันจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย เดี๋ยวก็แปลงเป็นสุข เดี๋ยวก็แปลงเป็นทุกข์มากทุกข์น้อย ทุกข์หนักหนา โง่หนักก็ทุกข์หนัก คนที่ไปหลงเอาลาภแล้วก็เป็นสุข มีลาภเยอะแล้วเป็นสุข 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 05 ตุลาคม 2565 ( 11:56:16 )

พวกหลับตา อยู่ในภพสัมภเวสี อย่างไร

รายละเอียด

วิสาขบูชาตั้งแต่ 2555 อะไรอย่างนี้ แล้วเขาก็รวบรวมคำสอนของธัมมชโยมาพิมพ์เพื่อประกาศคำสอนของอาจารย์เขา ก็คือธัมมชโยนั่นแหละ เดี๋ยวอาตมาจะได้เอามาประกอบคำสอนไม่ใช่เพื่อต้องการข่ม แต่ต้องการยืนยันว่ามันมีของจริง ไม่ใช่ว่าอาตมาพูดลอยลม มันเป็นทั้งภาษา ทั้งตัวบุคคล ทั้งพฤติกรรม ที่จะต้อง อธิบายรายละเอียดต่างๆ

มันมีคนจริง มันมีพฤติกรรมจริง มันมีคำสอนจริง มันมีคำพูดคำอธิบายจริง มากกว่านั้นที่มันมีจริงๆ มีรายละเอียดอีก ก็เอามายืนยันกัน เอามาบอกกันให้รู้แล้วผู้ที่มีปฏิภาณปัญญารับรู้ก็จะได้เห็นว่า อ๋อ.. คนที่รู้ในมุมนั้นมิตินี้นัยละเอียดอย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนคนดูช้าง จะรู้ทั่วตัว ไม่ใช่เหมือนคนตาบอดคลำช้าง จะรู้ว่าช้างทั่วตัวเลยเป็นอย่างไร ครบ ก็เป็นคนตาดีตาใสตาเปิดธรรมดา ไม่ใช่ว่าเอาคนตาบอดมาคลำ คนไหนคลำได้กี่ด้านก็จะรู้ว่าช้างเป็นแบบนั้น อย่างไรก็ไม่ประกอบเป็นตัวช้างสมบูรณ์ เป็นรูปช้างสมบูรณ์หรอก เพราะเขาคลำไปทีละส่วน คนตาบอดจะไปเห็นตรงไหน เสร็จแล้วเอามาปะติดปะต่อ ตรงไหนโค้ง ตรงไหนบาง ใหญ่ตรงนั้น ตรงไหนหนา ตรงนี้สูง ในรายละเอียดของตัวช้าง เขาก็คลำได้แค่ภายนอกของตัวช้างนั่นแหละ เขาก็คลำได้เฉพาะภายนอกที่เขาจะสัมผัสได้ เขาไม่รู้ติดต่อกันเป็นรูปเป็นร่างเหมือนคนตาดีที่เห็นช้างทั้งหมดหรอก นี่คือเฉพาะรูปนะ ไม่ต้องไปพูดถึงเสียงถึงกลิ่นถึงรส รายละเอียดของสัจธรรมอีกหลายทวาร 

เพราะฉะนั้นพวกที่ปิดตาหลับตา อย่างสายธรรมกายก็หลับตา หลับตาเป็นหลักเลย พวกหลับตาเป็นหลักนี้ปิดทิ้งทวาร 5 ไปได้ทวารเดียว อยู่ในภพสัมภเวสี เป็นภพนึกคิด ก็ปั้นเป็นนิรมาณกายไป แตกต่างกัน กายต่างกันสัญญาต่างกัน มันนับไม่ถ้วน แม้แต่พวกเดียวกันเอง สายหลับตาทางอาจารย์มั่นก็ตาม สายมหาบัวก็ตาม สายมหาบัวนั้นสายมืดสายธรรมกายนั้นอาภัสรา อีกสายหนึ่งเป็น กิณหา อาตมาทั้งเขียนและอธิบายไว้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาคนตาบอดชวนคนตาบอดไปดูท้องฟ้าสวย วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 24 กุมภาพันธ์ 2566 ( 12:04:46 )

พวกหลับตาทิ้งกายภายนอกจึงเป็นโมฆะบุรุษ

รายละเอียด

อย่างพวกหลับตานี้ทิ้งกายภายนอกเลย จึงเป็นโมฆะบุรุษ เป็นพวกโง่งมงายดักดานเลยจะไม่มีสิทธิ์ได้บรรลุอรหันต์ เพราะว่าทิ้งกายทิ้งส่วนนอก เมื่อทิ้งกายทิ้งส่วนนอกแล้ว มันเป็นเหมือนคนพิการแล้ว มีแต่จิตพิการ จิตไม่มีกาย คือจิตพิการ สำหรับคนที่เป็นคน เพราะเป็นคนต้องมีทั้งร่างภายนอกต้องมีธาตุรู้รับรู้ภายนอกอยู่ ถ้าไม่รู้มันก็ไม่ครบแต่ภายในแล้วหลงผิดอีกว่าไปตรัสรู้อยู่แต่ภายในข้างนอกไม่ต้องเกี่ยวเลยอย่าไปรับรู้ อย่างพวกที่สอนหลับตากันหลงผิดหนักๆ บอกว่าอย่าให้จิตส่งออกนอก จิตต้องอยู่แต่ข้างในข้างใน มันก็เลยยิ่งโง่งมงายหนักเข้าไปใหญ่เลย ไม่มีวันที่จะบรรลุเลย แล้วเขาก็หลงว่านั่นแหละคือสิ่งที่ถูกต้อง แล้วเขาก็ดับได้ด้วยนะ ดับเขาก็ว่านั่นแหละคือนิโรธนิพพาน ดับไม่รับรู้อะไรเลย ดับเวทนา สัญญาเป็นอสัญญีสัตว์ ไม่กำหนดรู้สัญญากำหนดรู้อะไรเลย 

ที่มา ที่ไป

พ่อ‌ครู‌เทศน์‌ ‌ทำวัตร‌เช้า‌ ‌ส่ง‌ท้าย‌ปี‌เก่า‌ ‌งาน‌ ‌ว‌.‌บบบ‌ ‌เพื่อ‌ฟ้า‌ดิน‌ ‌สวด‌อภิธรรม‌ส่ง‌

ท้าย‌ปี‌เก่า‌ให้‌เข้า‌ถึง‌นิพพาน‌ วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 มกราคม 2565 ( 12:28:07 )

พวกหลับตาปฏิบัติคือพวกกาย 3

รายละเอียด

อาตมาเคยอธิบายซ้อนด้วยซ้ำว่า ภูเขาลูกนี้คุณจะเข้าไปในกลาง คุณก็พยายามทำจิตให้เป็นทิพย์ หายตัวปั๊บเข้าไปอยู่ตรงกลางเลย คุณคิดเอาเอง คุณก็จะทำพิธีนั่งสะกดจิตนั่งหลับตาเข้าไปถึงใจกลางภูเขา คุณเข้าไปตั้งภพใหม่ ตั้งชาติใหม่ ตั้งภูเขาลูกใหม่ แต่ภูเขาลูกนั้นเป็นภูเขาลมๆแล้งๆ เป็นนิรมาณกาย เป็นรูปนามที่ปรุงแต่งกันเอง เจ้าของรูปนามปรุงแต่งเป็นวงวนเป็นรูปภูเขาเอง คิดเอาเอง เพ้อพก สร้างสิ่งที่ไม่มีให้มามีเอง พวกนั่งหลับตาจึงเป็นพวกนิรมาณกายทั้งหมด และพวกนี้ก็เชื่อว่าอย่างนั้นจริงจึงเป็นสัมโภคกาย ก็ไปร่วมกลุ่ม ร่วมสมาชิก ร่วมเอาด้วยว่าอย่างนี้ใช่ อย่างนี้ดี ไม่ต้องไปนั่งเสียเวลากับของหยาบ เอาไปอย่างนี้แหละดีแล้ว คุณก็เป็นสัมโภคกายก็ร่วมกันด้วยกันไป แต่ตาบอดทั้งหมด อทิสมานกาย พวกนี้ตาบอดหูหนวกไม่รู้จักความจริง ต่างคนต่างมืดบอด หลงเลอะไปกับสิ่งสมมุติ ไม่มีแก่นแท้จริงจังอะไรเลย อทิสมานกายเป็นคนไม่มีเหตุไม่มีรู้อะไรหรอก ดับไม่มีเหตุไม่มีรู้อะไร 

แล้วนั่งทำกันอยู่อย่างนั้น พวกหลับตาทั้งหลายแหล่คือพวก กาย 3 นิรมาณกาย สัมโภคกาย อาทิสมานกาย อาตมานำมาฉีกหน้าว่า พวกคุณคือพวกนี้ทั้งหมดไม่รู้กาย ไม่รู้จักนิรมาณกาย ไม่รู้จักสัมโภคกาย ไม่รู้จักอทิสมานกาย แต่คุณเป็นครบทั้ง 3 กายเลย น่าสงสารจริงๆ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปฏิจจสมุปบาทสลายอวิชชาให้สิ้นอาสวะอนุสัย วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 16 มีนาคม 2564 ( 19:49:33 )

พวกหลับตาปฏิบัติธรรมเป็นโจรทำลายศาสนาพุทธ

รายละเอียด

พูดไปจนถึงขนาดนี้ ผู้ที่นั่งหลับตาปฏิบัติ แหม พวกนั่งหลับตาปฏิบัติธรรมเป็นโจรทำลายศาสนาพุทธ อาตมาเป็นเจ้าหน้าที่ พระพุทธเจ้าเป็นพระราชาให้ไปจัดการฆ่าโจรพวกนี้ มันอยู่ก็ทำลายศาสนาพุทธ อย่าให้มันอยู่ทำลายศาสนาพุทธ มันเป็นบาป หรือแทงเพื่อให้รู้สึก ให้ตื่นตัว ให้หันกลับมารู้ มาฟังที่พูดนี้บ้าง มีปรโตโฆษะบ้าง ยึดอยู่อย่างนั้น มันผิดมาตั้ง 2,500 กว่าปีแล้วนะ หมดศาสนาพุทธหมดเพราะพวกหลับตา เป็นเดียรถีย์อย่างเดิม พูดเท่าไรเขาก็เชื่อยาก เพราะว่าอาตมาไม่มีเปรียญธรรม ไม่มีนักธรรมตรี โท เอก แต่คนมี
ดวงตาอย่างพวกคุณ มีธุลีในดวงตาน้อย ที่รู้แจ้งเห็นจริงฟังรู้เรื่อง

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 19:10:04 )

พวกหลับตาปฏิบัติมีความโง่ 3 ประการ

รายละเอียด

เพราะว่า 1.ไปยึดถือครูบาอาจารย์เก่าแก่ที่ยึดถือกันมา 

2. ดูถูกดูแคลนผู้ที่เป็นสัตบุรุษจริง 

3. เพราะความโง่ โง่เอง ไม่รู้ความจริงว่าสิ่งที่เคยยึดถือเป็นครูบาอาจารย์นั้นจะเป็นคนมิจฉาทิฏฐิ 

คนสัมมาทิฏฐิจริงๆที่มาประกาศก็ไม่รู้ เพราะเป็นคนโง่เป็นคนอวิชชาจริงๆเป็นธรรมชาติของเขา ก็น่าสงสาร อาตมาก็พยายามที่จะบอกเตือนสติ ให้มีปรโตโฆษะ เปิดจิตฟัง อย่าไปจมยึดติดแต่ครูบาอาจารย์เก่านักฟังธรรมะ 2 อย่างให้ได้ จะได้มีคู่เปรียบเทียบว่าอะไรมันเข้าท่ากว่ากัน ตั้งแต่อาตมาสอนมาก็มีผู้รู้แล้วปฏิบัติตามได้ จนถึงบัดนี้ก็มีผู้รู้แล้วปฏิบัติตามได้ มีผู้รู้ตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอยู่ เขาจะต่อต้านล้มล้างอย่างที่อาตมาอธิบายถ่ายทอด ว่าอย่างนี้สัมมาทิฏฐิ อย่างโน้นมันเป็นมิจฉาทิฏฐิ 

เขาก็ยังล้มล้างว่าอย่างอาตมานั้นมิจฉาของเขาสัมมา อาตมาก็ยืนยันว่าของอาตมาสัมมา ก็เป็นสัจจะอย่างนี้ต่างคนต่างยึดถือ ยึดถือกันอย่างนี้แหละพระพุทธเจ้าก็ให้จบกันที่นานาสังวาส ความเห็นของคุณก็เป็นอย่างหนึ่งความเห็นของเราก็เป็นอย่างหนึ่ง ต่างคนก็ต่างแสดงกันไป ใครเห็นอันไหนดีก็มาเอา เขาก็ว่าอาตมาอาตมาก็ว่าเขามันก็เป็นธรรมดา 

เพราะว่าความเห็นมันคนละอย่างอาตมาก็ต้องบอกว่าเห็นถูกมันเป็นอย่างนี้ ของเขาบอกว่าเห็นถูกมันเป็นอย่างของเขา มันก็ไม่เห็นตรงกัน มันก็ขัดแย้งกันก็เป็นธรรมดา จะไปห้ามไม่ให้มันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร มันเป็นตถตา มันเป็นเช่นนั้นแหละ มันต้องเป็นอย่างนั้นไม่เป็นอย่างนั้นก็ไม่ใช่ มันก็เป็นความจริงอย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ อภิภูผู้รู้จบสัตตาวาสและวิญญาณฐีติ วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 15 กรกฎาคม 2565 ( 13:49:07 )

พวกหลับตาปฏิบัติไม่มีเวทนาแต่ควรมีปรโตโฆษะ

รายละเอียด

การหลับตาปฏิบัติ ไม่มีเวทนา ไม่มีภาษา พูดไปแล้วมันไปว่าเขากันนักกันหนาก็คือมันโง่กันนักกันหนานั่นแหละ ทำไมไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ว่าเท่าไหร่ก็ยังดื้อ มีปรโตโฆษะบ้างสิ ฟังพระโพธิรักษ์บ้าง ไปฟังแต่ครูบาอาจารย์อย่างเดิมอยู่อย่างนั้น พระโพธิรักษ์สอนอย่างที่แตกต่างจากที่คุณยึดถือนะ ฟังอันใหม่บ้าง ตั้งใจฟังดีๆจะรู้ว่าอ๋อ ถ้าอย่างนี้ไปรอดถ้าอย่างนั้นจมอยู่อย่างเก่า เก่งที่สุดก็ไปเท่ากับอาฬารดาบส อุทกดาบส อยู่แค่นั้นจะไปไหน ไปตรงที่พระพุทธเจ้าท่านอุทานว่า ชิบหายแล้วหนอ เท่านั้นแหละ จบแล้วไปอยู่ที่ไหนก็ไปที่ชิบหายแล้วหนอ ที่พระพุทธเจ้าอุทานไว้ น่าสงสารจริงๆเลย นี่คือสายหลับตา พูดจริงๆเลยเห็นใจไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เขาไม่เห็นใจเราเลยว่าเราเองสงสาร ช่วยเขาแท้ๆเขาก็หาว่าเราไปดูถูกเขา จริงๆมันถูกนะ แต่เขาถือดีถือตัวมีกิเลสมีอุปาทานยึดมั่นถือมั่นกันเกินไป 

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2563


เวลาบันทึก 22 พฤศจิกายน 2563 ( 10:28:28 )

พวกหลับตาปิดประตูไม่ออกมาทิฏฐิปัตตะ

รายละเอียด

พวกหลับตามีแต่หลับตามันปิดประตู มันไม่มีโอกาสที่จะออกมาทิฏฐิปัตตะอะไรเลย คุณต้องออกมาภายนอกมาทำกายให้สัมมาทิฏฐิ กายของคุณ สักกะของคุณเอง กาย ก็คือภายนอกภายใน 

นี่หอกหักไปอีก 600 เล่มแล้วนะ เมื่อไหร่จะออกจากความดักดานตรงนี้ ผู้ที่หลับตาทั้งหลายแหล่ ถ้าเผื่อว่าผู้ที่ทางหลับตาฟังอาตมาแล้วสะดุดตรงนี้แล้วหยุดหลับตาแล้วมาสนใจ ศีล สมาธิ ปัญญา อย่าไปหลับตา มาลืมตา ปฏิบัติ อปันกปฏิปทา 3 ตา หู จมูก ลิ้น กาย ออกมารับภายนอกเริ่มเลย มาผัสสะ มีผัสสะ เป็นปัจจัยแล้วค่อยมนสิการ คุณมัวแต่ไปนั่งหลับตาเมื่อไหร่มันจะคล่องแคล่ว เมื่อไหร่มันจะชำนาญ เมื่อไหร่มันจะรู้ดี ออกมาเสียทีสิ มาเรียนรู้ตามลำดับศีล สมาธิ ปัญญานี่ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 17 มีนาคม 2564 ( 05:22:06 )

พวกหลับตาสมาธิ 

รายละเอียด

พวกหลับตาสมาธิ  คือ ผู้ปฏิบัติ มิจฉาทิฏฐิ ปฏิบัติธรรมไปไม่ได้  พวกหลับตาสมาธิ ไม่เชื่อว่า ผู้ติดยึดพวกนี้จะกระเตื้อง  แต่จะมีผู้ฟังไปจนกระทั่ง ฟังไปๆ ก็ค่อยๆ เข้าใจตามรู้  ตามจะเข้าใจได้  เลยเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น  จะไม่เสียหายสูญเปล่า  ส่วนผู้ปิดประตูฉลาดแล้วเอาแต่ประตูโง่มาประตูเดียวก็หมดทางจะช่วย  ไม่มีปรโตโฆษะ  ไม่มีการฟัง  แม้แต่ผู้ที่เราเองเชื่อว่า ผู้รู้ก็ปิดประตูสัมาทิฏฐิเลย  เพราะปรโตโฆษะก็ไม่เกิด โยสิโนมนสิการ ก็ไม่เกิดคุณปิดประตูแล้ว ไม่รับฟัง เช่น ไม่รับฟัง สมณะโพธิรักษ์  จะโยนิโสมนสิการไม่ได้ไม่ได้ลงไปถึงที่เกิด ไม่ได้มรรคผล  ภาษาแบบบังคับ คือ คุณต้องมาฟังสมณะโพธิรักษ์

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 17:03:22 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:53:39 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:51:41 )

พวกหลับตาสมาธิปิดประตูที่จะมีนิพพาน

รายละเอียด

พวกหลับตาสมาธิจึงเป็นคนปิดประตูที่จะมีนิพพาน ก็มันไม่บริบูรณ์ มันเป็นจิตอยู่ในภวังค์ เป็นสัมภเวสีอยู่ที่ตัวเอง จะนึกจะคิด นึกถึงอดีต นึกถึงอนาคต จะฟุ้งซ่านจะเป็นนิรมาณกายอย่างไรๆๆๆ ก็เพ้อพกไปได้เองสารพัด ฟุ้งซ่านไปได้เต็มที่ เพราะคุณตัวคนเดียวและก็ไม่มีใครรับรอง 

เพราะฉะนั้น คนที่นอนหลับ จิตอยู่ในภวังค์ มันก็เป็นสัมภเวสีไปคนเดียว ไปเดี่ยวๆ แม้ คุณออกจากร่างแล้ว ตายไปแล้วเป็นจิตสัมภเวสี ยังหาร่างเกิดไม่ได้ คุณก็อยู่ในภพของคุณเป็นอย่างนั้นแหละ เพราะฉะนั้น ถ้าจิตของคุณไม่ดี คุณก็มีนรก ถ้าจิตคุณดี หลงไม่ดี เป็นนรกชั่ว หลงดีก็เป็นสวรรค์

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 37 อภิภายตนสูตร ตอนที่ 1

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก 


เวลาบันทึก 04 สิงหาคม 2565 ( 16:08:30 )

พวกหลับตาอวิชชาเป็นพญานาคดำมืดนิรันดร

รายละเอียด

เพราะฉะนั้นการนั่งหลับตาเขาก็เข้าไปทำใจในใจของเขา อันนั้นทำใจให้เละ เลอะ มันไม่เป็นมันไปไม่ได้มันมืด มีแต่เป็นพญานาคดำมืด สุดท้ายก็กลายเป็นพญานาคนอนหลับไม่รู้คู้ไม่เห็น อวิชชาอยู่ตลอดกาล หลับนานมากเลยนะ นอนหลับไม่รู้คู้ไม่เห็นมืดดับอยู่ใต้ก้นบึ้งมหาสมุทร ที่มีถาดทองคำ เฝ้าถาดทองคำพระพุทธเจ้าอยู่เป็นล้านล้านถาดกองนอนเฝ้าอยู่นั่นแหละนิรันดร พวกหลับตาอวิชชา นอนหลับไม่รู้คู้ไม่เห็น พวกนี้นิรันดร โง่นิรันดร ไม่รู้เรื่องนิรันดร มืดนิรันดร มืดอยู่อย่างนั้นแหละ 

จนกว่าจะมีเสียงวิเศษของพระพุทธเจ้าที่ลอยถาดทองคำมากระทบถาดทองคำของพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ดังกริ๊ก ก็จะรู้สึกขึ้นมา 1 ครั้ง ในนิรันดรที่คุณหลับ หลับไม่รู้ว่า โธ่เอ๋ย พระพุทธเจ้ามาเกิดทำไม พระพุทธเจ้ามาเกิดอีกแล้วหรือ ? หรือไม่ก็รู้แค่ว่า พระพุทธเจ้าเกิดอีกพระองค์แล้วหรือ แล้วก็นอนหลับต่อ หลับไม่รู้คู้ไม่เห็นอยู่ในใต้ก้นมหาสมุทรนั้นอยู่ไปอีกนิรันดรนิรันดร โอ้ย หอก 300 เล่มแทงไปเช้ากลางวันเย็นมันหักจริงๆ ไม่เหลือเลยคนพวกนี้ ไม่เหลือหรอก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ พญานาคมีจริง พญานาคไม่มีจริง วันพุธที่ 8 ธันวาคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 10 ธันวาคม 2564 ( 21:09:26 )

พวกหลับตาอวิชชาโง่ดักดาน

รายละเอียด

ก็ให้เจ้าพนักงานเอาไปฆ่าด้วยหอกร้อยเล่ม อย่างอาตมาเป็นเจ้าพนักงานของศาสนาพุทธ เอาไปฆ่าด้วยหอกร้อยเล่ม เช้ากลางวันเย็น มันก็ไม่ยอมตายเลย นอกจากไม่ยอมตายแล้วมันไม่รับรู้ไม่รับฟังอะไรเลย ปิดหูปิดตาหมด พูดอย่างไรมันก็ลืมตาหลับ ทำหูหนวกในขณะมีหูรับเสียงได้ ไม่รับกลิ่นในขณะที่จมูกได้รับกลิ่นสัมผัส ทั้งนั้นทั้งโผฏฐัพพะทั้งลิ้น ไม่รับรู้อะไร มันโง่จนกระทั่งด่าเอ็งอย่างไรดี โขกเคาะอย่างไรมันก็ไม่รู้เลยว่าอวิชชาหนักมาก โง่ดักดานจริงๆ ไม่รู้จักความเป็นตัวเองตัวตน ถูกด่าขนาดนี้แล้ว โดยเฉพาะมาแฝงอยู่ในศาสนาพุทธ

อาตมาก็เอาความจริงของพระพุทธเจ้าหรือคำสอนของพระพุทธเจ้านี่แหละมาเปิดเผย มันก็ไม่รู้จักความจริง มันก็ว่าความจริงของข้าก็ต้องหลับตาแล้วไม่รับรู้อะไร แล้วข้าก็ต้องยึดมั่นถือมั่นอย่างนี้ อย่างที่ข้ายึดมั่นถือมั่นแล้ว ข้าไม่เปลี่ยนแปลงโว้ย ข้าไม่รับฟังเอ็งหรอก เอ็งเป็นใครอย่ามาพูดเลย อาตมาก็บอกว่าอาตมาเป็นพระโพธิสัตว์นะ เป็นลูกพระพุทธเจ้านะ เอาคำสอนมาเปิดเผยนี่ คุณนั้นยึดถือผิด เอ็งอย่ามาอวดดี เอาน่าคุณนั่นแหละยึดถือผิด เอ็งอย่ามาทำ Tiger G เขาไม่เชื่อน้ำหน้าอาตมา หาว่าเป็นพวก Tiger G 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า งานพุทธาภิเษกสุดยอดปาฏิหาริย์ ครั้งที่ 45 ออนไลน์ วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก

สื่อธรรมะพ่อครู ตอน โจรปล้นศาสนาที่ฆ่าด้วยหอกหลายร้อยเล่มก็ยังไม่ตาย


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 11:22:48 )

พวกหลับตาเป็นพวกไม่รู้จักแก่น เลยแก่นไป

รายละเอียด

เพราะมันชัดเจน ผู้ที่ยังหลงในเรื่องของปลีกย่อยพยัญชนะหรือเปลือกของมันก็จะไป ผู้ที่เห็นว่าอะไรเป็นแก่นก็ปฏิบัติเข้าสู่แก่น ทีนี้พวกไม่รู้จักแก่น เลยแก่นไป คือ พวกหลับตาน่ากลัวมากพวกเลยแก่น เป็นพวกมืดเรียกว่า กิณหา พวกมืดแล้วหลงมืดจริงๆเลย ยิ่งกว่าหลุมดำ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า พูดกันไม่รู้เรื่องเลย ยึดติดในความมืด มืด มันไม่มีปฏิภาณปัญญา มันไม่มีไหวพริบอะไร มันตื้นมันบื้อ ยิ่งโง่งมงายไปเรื่อย มันน่าสงสารไม่รู้จะช่วยอย่างไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ วันนี้พ่อครูบอกทางรอดของมนุษยชาติ วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:20:52 )

พวกหลับตาเป็นภพสัมภเวสีไม่มีทางบรรลุธรรม

รายละเอียด

พวกหลับตานั้นมันไม่รู้ทั้งหมด มันรู้แต่เพียงทวารเดียว มันไม่เห็น มันไม่ได้ยิน มันไม่ได้กลิ่น ไม่ได้รับรส ไม่ได้สัมผัสอะไร เพราะฉะนั้นรู้แต่เพียงหลับตาอยู่ในภพไม่จริง ไม่มีตาหูจมูกลิ้นกาย เป็นภพสัมภเวสี เป็นภพแห่งจิตวิญญาณที่ไม่รู้อะไรกับใคร เอ็งอยู่ของเอ็งคนเดียว หลับตาเข้าไปแล้วคุณก็อยู่ของคุณคนเดียว อยู่ในภพของคุณ หลับตาเข้าไปแล้วคุณก็อยู่ของคุณคนเดียวอยู่ในภพของคุณคนเดียว คุณไม่รู้กับของใคร มันไม่เป็นความจริง มันก็เพ้ออยู่อย่างนั้นนานเท่านานนิรันดร มันไม่มีทางตรัสรู้ ไม่มีทางที่จะบรรลุธรรมอะไรเลย

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 18 วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 02 ธันวาคม 2564 ( 19:08:31 )

พวกหลับตาเป็นอสัญญีสัตว์ที่ต้องนานาสังวาสกัน

รายละเอียด

พออาตมาอุบัติขึ้นและอธิบายไม่เหมือนเขา ไม่เหมือนอย่างที่เขายึดไว้ และเถรสมาคมก็เป็นคณะใหญ่แกนหลักที่เขายอมรับนับถือกันทั้งประเทศ หมดทุกสถาบัน อาตมามาพูดหัวเดียวกระเทียมลีบ เขาก็จัดการตั้งแต่ต้นมา ที่จะเอาให้ตายไม่ให้อาตมาอธิบายธรรมะได้ ไม่ให้อาตมาขยายความธรรมะพระพุทธเจ้าได้ เขาถือว่าอาตมาผิด จนอาตมาก็ไม่มีปัญหาก็ให้เขาทำไป อาตมาก็บรรยายอธิบายไป อาตมาทำไปทำมา ด้วยสัจธรรม อาตมาก็หลุดรอดมาเป็นนานาสังวาสตามธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสัจจะชนิดหนึ่ง 

อาตมาก็มีสิทธิ์เป็นนานาสังวาสแล้ว สมบูรณ์แบบแล้ว อาตมาก็อธิบายได้อย่างที่อธิบายมาตลอด แม้ยังไม่เป็นนานาสังวาสอาตมาก็อธิบายอย่างเดิมมาแล้ว ยิ่งเป็นนานาสังวาสอาตมาก็ยิ่งอธิบายได้ง่าย เพราะตกลงตัดสินกันแล้ว มีข้อตกลงกันสมบูรณ์แบบแล้ว Approved แล้ว จบแล้ว อนุมัติแล้ว อาตมาก็สบายแล้วได้ทำมาตลอดอย่างนี้ 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ สังวรศีล สำรวมอินทรีย์ สติ สันโดษอันเป็นอาริยะ วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 15 สิงหาคม 2565 ( 14:48:51 )

พวกหลับตาในภพ เป็นการข้องอยู่ในถ้ำ

รายละเอียด

ลึกซึ้งซับซ้อนไปลงในป่าเขาถ้ำที่เป็นวัตถุแต่ติดอยู่ในนั้นทุกอันเลย แม้แต่เกาะยึดติดอยู่ที่ฝี ท่านก็ว่าข้องอยู่ในถ้ำ ไม่เอาอะไรเพราะปวดฝี ไม่รับรู้อะไรใครจะมาเอาอะไรให้ก็ไม่เอา เพราะปวดฝี  จะอธิบายเรื่องสายหลับตาเป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ ไกลแสนไกลจากวิเวก หากประเทศไทยชัดเจนในเรื่องนี้เลิกนั่งหลับตาแล้วมาลืมตาศึกษาโพธิปักขิยธรรม 37 ศึกษามรรคมีองค์ 8 ศึกษาพิจารณาเป็นขั้นตอนของศีลสมาธิปัญญาไปตามลำดับขั้น แล้วก็รู้จักกิเลสไปทีละลำดับทำแบบตามลำดับ ประเทศไทยจะนำโลกจริงๆ สงสารโลกเขาจริงๆ อย่างโดนัลด์ทรัมป์ จะพยากรณ์แกก็ไม่ได้ ก็ค่อยๆเป็นไป

ที่มา ที่ไป

รายการพุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2563


เวลาบันทึก 11 มกราคม 2563 ( 10:37:22 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:55:03 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 03:53:37 )

พวกหลับตาไม่มีกายเลยปิดประตูนิพพาน

รายละเอียด

เมื่อแยกไม่ได้ก็เลยดับมันทั้งคู่เลยทั้งสุขและทุกข์ เป็นธาตุที่ไม่เป็นชีวะ เริ่มตั้งแต่พืชก็ยังเป็นไม่ได้เพราะไม่มีเวทนา พืชมันไม่มีเวทนา เราจึงต้องอาศัยฐานพืชเป็นชีวะ แม้แต่จิตนิยามของเรา เราก็ทำให้จิตมันเป็นพืช อาศัย หรือ อาสยะ อาศัยฐานพืชนี้ยังชีวิตอยู่ นี่มันไม่ง่ายอย่างนี้มันยาก อธิบายไว้แค่นี้พอสังเขปก่อน

ขอยืนยันเลยนะหากใครแยกแยะเช่นนี้ไม่ได้ไม่มีสิทธิ์เป็นอรหันต์ ขอยืนยันเลยนะพวกหลับตาไม่มีภายนอกเลยไม่มีกายเลยปิดประตูนิพพาน สายนั่งหลับตาปิดประตูนิพพานทั้งหมด ใครไปเข้าใจว่าพวกหลับตาแล้วบรรลุธรรมนิพพานได้ พวกนี้เป็นพวกเดียรถีย์ โมฆะ หลอกกันทั้งนั้น อาตมาได้แต่ปรามตำหนิ มาฟังอาตมาพูดเสียบ้าง ปรโตโฆษะ เสียเวลาไปเป็นชาติ มันยิ่งจะเสื่อมลงไปอีกนะแล้วศาสนาพุทธก็จะหมดไปนะ ถ้าเกิดในช่วงระยะ 2,000 ปีนี้ ถ้าไม่ฟังอาตมา อาตมาไม่มาเกิดอีกก็จะเบาบาง เนื้อหาก็จะน้อยกว่านี้ แล้วคุณจะได้อะไร ขนาดอาตมาจ้ำจี้จ้ำไชปากเปียกปากแฉะ ขนาดนี้ยังไม่เอา แล้วคนไม่จำจี้จ้ำไชไม่มาพยายามอุตสาหะยัดเยียดอยู่อย่างนี้ แล้วคุณจะเอาหรือ แล้วจะไปได้อะไร 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ เปิดยุคบุญนิยม เล่ม 2ตอน 4

วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2564 ( 15:58:35 )

พวกหัวก้าวหน้าอยู่ในหลุมอเวจี

รายละเอียด

พวกหัวก้าวหน้านึกว่าตนก้าวหน้าแต่ที่จริงอยู่ในหลุมอเวจี ถ่านเพลิงไม่ได้ก้าวหน้าแต่อย่างใดเลย ไม่ใช่แค่ก้าวพลาดแต่ก้าวอย่างตาบอดพูดอย่างข่ม ดูถูก ให้เขารู้ตัว แต่เขาอาจนึกว่าด่าเขา ก็ต้องด่าเพราะโง่นัก

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 20:54:03 )

พวกอนุรักษ์นิยมไม่รู้จักมีอนาคตใหม่หรือ

รายละเอียด

พวกเราก็อนุรักษ์สิ่งที่ควรอนุรักษ์ แต่ไปอนุรักษ์ในสิ่งที่ไม่ควรอนุรักษ์ก็โง่ แต่หากไม่อนุรักษ์อะไรเลยก็เสียหายหมดสิ อย่างเช่นถนอมอาหาร 

คุณไม่รู้กรรมวิบาก ไม่รู้การเวียนวน คุณไม่รู้จักดีชั่ว ไม่รู้จักการเวียนว่ายตายเกิด สั้นแค่นั้น เขาก็รู้ในกรอบบารมีเขา ก็รู้แค่ในกรอบนั้น แต่เราก็ข่มให้เห็นว่าคุณต้องศึกษาดีๆ แค่นั้นมันเล็กน้อยมาก

อาตมาว่าไม่ได้ติดใจหางด้วนหรือหางยาว แล้วแต่พันธุ์ของหมา มีหางต่างกัน

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ประชาธิปไตยไทยดีที่สุดเพราะมีโลกุตระ วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 04 มีนาคม 2564 ( 21:00:44 )

พวกอาริยกะ

รายละเอียด

พวกอาริยกะ คือ  เป็นพระแบบพุทธที่เป็นพระที่มีสังคม  มีความเจริญมีพัฒนาการ

ที่มา ที่ไป

รายการวิถีอาริยธรรม  บ้านราช วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562


เวลาบันทึก 26 ตุลาคม 2562 ( 12:50:48 )

เวลาบันทึก 23 กรกฎาคม 2563 ( 15:55:44 )

เวลาบันทึก 14 สิงหาคม 2563 ( 06:30:44 )

พวกอุจเฉททิฏฐิ กับสมสีสี

รายละเอียด

ผู้ที่เข้าใจว่าบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ตายแล้วสูญเป็นพวกอุจเฉททิฏฐิ คนๆนี้ไม่มีสิทธิ์ได้บรรลุอรหันต์ อีกกี่ชาติกี่ชาติก็ตาม เพราะว่ามิจฉาทิฐิแต่ต้นทาง คุณจะไม่มีทางพบพระอรหันต์จริง เพราะพระอรหันต์จริง ที่ไม่สอนคนคือ สมสีสี คือ บรรลุอรหันต์แล้วก็ตายพร้อมกับการบรรลุ คนที่บรรลุอรหันต์แล้วยังไม่ตายก็จะสอนมนุษย์ แล้วจะเข้าใจว่า อรหันต์นี้ตายแล้วไม่สูญ เพราะว่าเป็นอรหันต์จริงแล้วจะตายไม่สูญได้

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ สำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 31 วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2561


เวลาบันทึก 09 กุมภาพันธ์ 2564 ( 11:59:36 )

พวกเชนฉลาดไปในเชิงเดรัจฉาน

รายละเอียด

ทางเชนเขา กินให้น้อยแล้วเข้าป่าไม่ต้องไปอะไรกับใคร ว่างๆก็เดินแก้ผ้าโทงๆไม่ใช้อะไร มีแต่ภาชนะที่ใส่อาหารกินเท่านั้น ก็รอดแล้วชีวิต มันก็สุดโต่งขนาดนั้น แต่ของพระพุทธเจ้าก็อยู่ธรรมดาพึ่งพาตนเองรอด ฉลาดกว่าเดรัจฉาน อันนั้นมันฉลาดกว่าเดรัจฉานสำหรับพวกเชน ฉลาดไปในเชิงเดรัจฉาน อย่างของพระพุทธเจ้าศึกษาความเป็นมนุษย์ เหตุปัจจัยที่จะอยู่กับชีวิต มีข้าวผ้ายาบ้าน เป็นต้น สบายแล้ว

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ตอบปัญหาอย่างอวดตัวแต่ถ่อมตน ด้วยความจริง วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 แรม 7 ค่ำ เดือน 12 ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 30 พฤศจิกายน 2564 ( 21:06:51 )

พวกเชียร์เงียบๆ อย่าเงียบเลย

รายละเอียด

นี่แหละมันจะซวยที่ตรงขอเงียบๆนี่แหละ นี่แหละนี่แหละ เชียร์เงียบๆนี่แหละ เอาน่า..ออกมาหน่อย เห็นใจหน่อย คุณคิดแบบนี้อาตมาว่าเป็นมิจฉาทิฏฐินะ พวกเราเคยพูดว่า บ้านเมืองไม่เจริญเพราะคนดีท้อแท้ หรือว่าคนดีไม่แสดงตัว ต่างคนต่างอยู่หรือปล่อยไปเถอะบ้านเมืองไม่ใช่ของเราคนเดียว อันนี้แหละ 

ยิ่งขณะนี้นี่ เกมเข้มข้นโดยเฉพาะการเมืองของประเทศไทยขณะนี้ ต่างคนต่างเฉยไม่ได้นะ เงียบไม่ได้นะ เห็นแก่ตัวไม่ได้นะ ต้องออกมาเห็นแก่สิ่งที่ดีที่สุด 

ถ้าคุณไม่เห็นด้วย นายกตู่ก็แล้วไป หรือเอาเถอะ คุณไม่เห็นด้วยกับนายกตู่ คุณเห็นด้วยกับคนอื่น คุณก็ไม่ควรเงียบ ออกมาเถอะ จะได้รู้กันเต็มๆครบๆเลยว่า พลังทั้งหมดที่เงียบและเปิดเผย ออกมาให้เต็มที่เลยทั้ง 2 ฝ่าย มันจะได้รู้จำนวนเต็มเลยว่าใครมันเหนือกว่ากัน ใครแท้ๆ อาตมาก็อยากรู้ความจริงอันนี้เหมือนกันนะ 

มันจะเป็นความจริงเพราะคนออกมาแสดงความจริง เพราะฉะนั้นก็ขอร้องผู้ที่เอาแต่เงียบๆขอร้องเถอะ ไขลานหน่อย อย่างไรก็อุตสาหะวิริยะหน่อยมาช่วยลงคะแนน คุณจะเห็นฝ่ายไหนก็ไม่ว่ากัน อาตมาก็ไม่ได้ไปกำหนดบังคับอะไรหรอก ก็อิสรเสรีภาพ ใครจะเห็นของใครยังไงก็แน่นอนของคนนั้น ขอร้องนะพวกเชียร์เงียบๆ อย่าเงียบเลย มาเถอะ! 

ที่มา ที่ไป

พ่อครูแสดงธรรมรายการ พุทธศาสนาตามภูมิ ปลุกพลังเงียบช่วยกันทำให้การเมืองเจริญ วันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 14 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บวรราชธานีอโศก


เวลาบันทึก 06 พฤษภาคม 2566 ( 18:44:38 )

statistics

ติดต่อสอบถาม

Facebook : test

Youtube : Name

Twitter : Name

Line : Name

Telegram : Name

Wechat : Name

Skype : Name

Copyright © 2018 Borvornsocial.net all right are reserved. developer สงวนลิขสิทธิ์