เปรียบเทียบ "สัมมาสมาธิ" กับ "สมาธิทั่วๆไป"

@หลักสูตรพุทธปัญญาตรี,โท,เอก @ไม่มีสอนในโรงเรียน @ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย @เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาของมนุษย์ที่ประเสริฐและครอบคลุมความจริงสูงสุด @คือความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์และความไม่รู้ทางออกจากทุกข์ @สัจจะนี้เป็นวิทยาศาสตร์ @มีลำดับ มีต้น มีกลาง มีปลาย @ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา @ไม่ขึ้นอยู่กับภาษา @ไม่ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ @ไม่ขึ้นอยู่กับการนับถือใดๆ @ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดๆในโลก @สิ่งนั้นเรียกว่า "จิต" เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง @เชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ @มีความลุ่มลึกยิ่งกว่านิยายยูโทเปีย UTOPIA แต่เกิดจริง มีจริง แล้วในโลก

บุคคล : เปรียบเทียบ "สัมมาสมาธิ" กับ "สมาธิทั่วๆไป"

	สัมมาสมาธิ	สมาธิทั่วๆไป
มีศีลเป็นพื้นฐาน	จะต้องมีศีลเป็นฐานตัวตั้งเท่านั้น*	มีก็ได้ ไม่มีก็ได้
สัมมาทิฐิ (ความเข้าใจ)	จะต้องเข้าใจอย่างน้อย ๑๐ อย่าง ⇒ จนเกิดสัมมาทิฐิ ๑๐*	เข้าใจก็ได้ ไม่เข้าใจก็ได้
สัมมาสังกัปปะ (ความคิด)	จะต้องเข้าใจและพัฒนาความคิดเห็น ⇒ จนเกิดสัมมาสังกัปปะ ๗*	พัฒนาก็ได้ ไม่พัฒนาก็ได้
สัมมาวาจา (การพูด)	จะต้องพัฒนาการพูดอยู่เสมอๆ ⇒ จนเกิดสัมมาวาจา	พัฒนาก็ได้ ไม่พัฒนาก็ได้
สัมมากัมมันตะ (การกระทำ)	จะต้องพัฒนาพฤติกรรมเสมอๆ ⇒ จนเกิดสัมมากัมมันตะ	พัฒนาก็ได้ ไม่พัฒนาก็ได้
สัมมาอาชีวะ (อาชีพชอบ)	จะต้องพัฒนาให้มีอาชีพสุจริตขึ้นเสมอๆ ⇒ จนเกิดสัมมาอาชีวะ	พัฒนาก็ได้ ไม่พัฒนาก็ได้
สัมมาวายามะ (พยายาม)	จะต้องพยายามพัฒนากายกรรม,วจีกรรม,มโนกรรมอยู่เสมอๆ ⇒ จนเกิดสัมมาวายามะ	พัฒนาก็ได้ ไม่พัฒนาก็ได้
สัมมาสติ (สติ)	จะต้องพยายามพัฒนาให้มีสติระลึกรู้สึกตัวในปัจจุบันเสมอๆ ⇒ จนเกิดสัมมาสติ	พัฒนาก็ได้ ไม่พัฒนาก็ได้
สัมมาสมาธิ (ตั้งมั่น)	จะต้องพัฒนาจนถึงสภาวะเบิกบานตั้งมั่นไม่หวั่นไหว ⇒ เรียกว่าเกิดเป็นสัมมาสมาธิ*	ไม่สามารถเข้าถึงสัมมาสมาธิ
สัมมาญาณ (ปัญญา)	จะต้องเกิดปัญญาเสมอๆในขณะพัฒนากาย,วาจา.ใจ ⇒ จนเกิดสัมมาญาณ	ไม่สามารถเข้าถึงสัมมาญาณ
สัมมาวิมุติ (ยั่งยืน-อมตะ)	จะต้องพัฒนาพฤติกรรมแม้ใน ๑ พฤติกรรม ⇒ จนไม่เวียนกลับไปอีกเป็นสัมมาวิมุติ*	ไม่สามารถเข้าถึงสัมมาวิมุติ
เป็นวิทยาศาสตร์	สามารถบันทึก ลำดับ ขั้นตอน การพัฒนา อย่างมีลำดับ จับต้องได้ ⇒ เป็นวิทยาศาสตร์	ไม่เป็นวิทยาศาสตร์
หลับตา-ลืมตา	เน้นมีชีวิตลืมตา มีอาชีพ มีการงาน รับผิดชอบ ⇒ ต่อตน ครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศ	เน้นหลับตา ไม่ยุ่งเกี่ยวกับภายนอก